เสื้อกาวน์เก่าๆ กับเราสองคน(Dr.Mike) จากนี้ จนนิรันดร์ [+อวสาน+] P.218
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เสื้อกาวน์เก่าๆ กับเราสองคน(Dr.Mike) จากนี้ จนนิรันดร์ [+อวสาน+] P.218  (อ่าน 2030042 ครั้ง)

ออฟไลน์ thehackzzi

  • <?php echo "Hello world!";?>
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1144
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-31
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ด
1. ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2. ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตก...อ่านต่อ...


สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ต้นฉบับ

Dr.mike เขียน
     ✔ ได้รับอนุญาตให้เผยแพร่อย่างถูกต้องจากผู้แต่งแล้ว
      ไม่มีจุดประสงค์ในการละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด อ่านเพื่อความบันเทิงเท่านั้น
      เจ้าของกระทู้และผู้แต่งมิใช่คนเดียวกัน

Part 1
1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10, 11, 12, 13, 14, 15, 16, 17, 18, 19, 20, 21, 22, 23, 24, 25, 26, 27, 28, 29, 30, 31, 32, 33, 34, 35, 36, 37, 38, 39, 40, 41, 42, 43, 44, 45, 46, 47, 48, 49, 50, 51, 52

Part 2
53, 54, 55, 56, 57, 58, 59, 60, 61, 62, 63, 64, 65, 66, 67, 68, 69, 70, 71, 72, 73, 74, 75, 76, 77, 78, 79, 80, 81, 82, 83, 84, 85, 86, 87, 88, 89, 90, 91, 92, 93, 94, 95, 96, 97, 98, 99, 100, 101, 102, 103, 104, 105, 106, 107, 108, 109, 110, 111, 112, 113, 114, 115, 116, 117, 118, 119, 120, 121, 122, 123, 124, 125, 126, 127, 128, 129.1, 129.2, 130, 131, 132, 133, 134, 135, 136, 137, 138, 139, 140, 141, 142, 143, 144, 145, 146, 147, Specials 1, Specials 2, 148, 149, 150, 151, 152, 153, 154, 155, 156, 157, 158, 159, 160


Part 3
161, Special, 162, 163, 164, 165, 166, 167, 168, 168(ต่อ), 169, 170, 171, 172, 173, 174, 175, 176, 177 และ 178 อวสาน
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-08-2012 00:25:12 โดย zʞɔɐɥ »

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
 :mc4: เรื่องใหม่ น้องติ๊บชื่อน่ารักอ่ะ ชื่อคนแต่งคุ้นๆอ่ะ

ออฟไลน์ thehackzzi

  • <?php echo "Hello world!";?>
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1144
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-31
:z2: :z2: :z2:

.....อยู่ในระหว่างดำเนินการ.....

 :z2: :z2: :z2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-02-2011 22:55:51 โดย hackz »

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
รีบน ผมรู้นะครับที่ว่าชื่อแต่งคุ้นคือใคร

ไม่ใช่อย่างที่คิดแน่นอนครับ

คนล่ะคนกันครับ

สตอรี่นี้ ผมก็เอามาจากเว็บบล๊อกของพี่ไม้ครับ

เรื่องนี้แกเขียนมานานมากแล้วครับ ตั้งแต่ปี 2008

ปล. ย้ำนะครับ ว่าไม่ใช่คนเดียวกับรีบนที่คิดไว้ โอเคนะครับ

โอเช.......พรุ่งนี้มาต่อใช่ป่าวจะรอน๊าาาาาาา

ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
ยินดีต้อนรับค๊าาาา  :mc4: :mc4:

ก่อนอื่น... อยากบอกว่าไอเข้ามาเพราะชื่อเรื่องก่อนเลยนะเนี่ย อ่านแล้วให้ความรู้สึกดี เหมือนกำลังจะเปิดอ่านอัลบั้มความทรงจำเก่าๆ o13

เป็นกำลังใจให้นะคะ :L2: :L2: ทั้งคนเขียนและคนโพสควบตำแหน่งผู้พิสูจน์ตัวอักษร(เหมือนไอเลย)

ติดตามอ่านจ๊ะ  :yeb:

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
 :mc4: รับเรื่องใหม่
น้องกระติ๊บ ชื่อนายเอกน่ารักมาก
+1 เป็นกำลังใจ

ออฟไลน์ Phing

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1489
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-0
เรื่องใหม่ :mc4:
ติ๊บชื่อน่ารักจัง


+1เป็นกำลังใจให้ค่ะ :L2:

ออฟไลน์ N.T.❁

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
โอ๊ะ! เรื่องใหม่~

น่าสนใจจังค่ะ...ชอบผู้ชายในชุดขาว  :-[

จะรอตามอ่านและเป็นกำลังใจให้นะคะ
ขอบคุณทั้งคนแต่งคนโพสต์จ้าา  :L2:

ปล. คำว่า "กาวน์" ที่หมายถึง เสื้อกาวน์ของแพทย์ << มันเขียนแบบนี้อะค่ะ (มาจากภาษาอังกฤษ gown = เสื้อคลุมทั้งตัวยาวถึงเข่าหรือถึงพื้นจ้าาา )

ออฟไลน์ Nabee

  • 너만 사랑해~♥
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-3
ว้าวววววววววววววววววว...เรื่องใหม่อ่ะ...เกี่ยวกับหมอด้วย
รออ่านตอนต่อไปนะฮะ XD

kiwte

  • บุคคลทั่วไป
รอพรุ่งนี้มาต่อน่ะค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ thehackzzi

  • <?php echo "Hello world!";?>
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1144
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-31
เสื้อกราวด์เก่าๆ...กับเราสองคน ตอนที่ 1   

สวัสดีคับเพื่อนๆ ผู้อ่านทุกคน…..

ผมไม่รู้เลยว่าผมจะ เริ่มต้นเรื่องราวของผมกับคนที่ผมรักได้ยังไง  แต่เมื่อลองได้อ่านของเพื่อนๆแล้วผมเลยอยากลองเอาเรื่องราวของผมมาเล่าดู บ้าง เหตุผลที่ผมอยากทำอ่ะเหรอ กล้าบอกเลยว่า เพราะผมอยากให้คนบางคนได้มีโอกาสได้อ่าน เพราะผมเคยได้เห็นคนที่ผมรักแอบเขียนไดอารี่อยู่บ่อยๆ

แต่ผมไม่มีโอกาส ได้เปิดอ่านเลยซักครั้งเดียว ถ้าเจ้าตัวไม่บอกผมคงไม่รู้หรอกว่าเค้าเขียนถึงผมเพราะพอเขียนเสร็จเจ้าตัว ก็รีบเอากุญแจล็อคไว้เรียบร้อยหมดโอกาสที่ผมจะได้อ่านมันทันที….

…นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ผมมาอยู่ที่นี่   

ตอนนี้แสงแดดตอนเช้าของเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย กำลังดี สายหมอกตอนเช้าที่ขาวเป็นหย่อมๆตัดกับทิวสนที่ทอดยาวไปจนแทบสุดสายตา   ผมบรรจงชงกาแฟ ที่เคยมีใครบางคนสอนผมเอาไว้ว่า ให้เอากาแฟชงกับน้ำร้อนก่อนที่จะใส่ครีม  นม  น้ำตาลตามลงไป แต่ไม่ลืมที่จะสั่งผมว่าอย่าใส่น้ำตาลเยอะเพราะมันจะอ้วน  อย่าทานเกินสอง แก้วต่อวันเพราะจะทำให้ระบบประสาททำหนักกว่าที่ควรจะเป็นเสียงที่กึ่งบอก กึ่งดุยังดังในความรู้สึกผมอยู่ทุกครั้งที่นึกถึงกาแฟ

เจ้าตัวไม่ใช่ใครที่ไหนเลย…

ภาพแรกที่ผมนึกถึงเจ้าของสูตรนี้คือ เด็กนักเรียนแพทย์ตัวเล็กๆ สูงซักประมาณ 168 ซ.ม. ได้ แต่น้ำหนักตอนนี้ผมชักจะไม่แน่ใจ เพราะพักหลังๆ มาเห็นบอกว่ากินเก่งเพราะต้องอยู่เวรดึกบ่อยๆ
แต่ก็เป็นคน ที่มีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับผู้ชายวัยกลางคนอย่างผมที่สูง 187 ซ.ม. กับน้ำหนักตัวที่เกือบจะเป็นสองเท่าของคุณหมอตัวเล็กๆ ของผม

ผมหยิบ โทรศัพท์มือถือขึ้นมา แล้วยิ้มให้กับรูปคนบนหน้าจอเล็กน้อย  จะใครซะอีกล่ะหมอน้อยของผม ที่ทำหน้าตาบ้องแบ๊วอยู่หน้าจอนี่ไงที่ผมถ่ายไว้นานเกือบสองปีเห็นจะได้ ผมยิ้มให้กับเจ้าของรูปก่อนเปิดโทรศัพท์โทรกลับมาเมืองไทย ที่ตอนนี้คงได้เวลาเลิกเรียนเรียบร้อยแล้ว

“ว่าไงโย่ง ติ๊บยังกลับไม่ถึงห้องเลย อาจารย์หมอให้แปลผลแลบส่งวันนี้ด้วย ยังทำไม่ได้เลย แล้วนี่เป็นไงบ้างตื่นรึยัง อากาศหนาวมั้ย แต่งตัวไปเรียนรึยัง เมื่อคืนนอนห่มผ้ารึเปล่า แล้วว่าแต่เมื่อคืนได้อาบน้ำก่อนนอนรึเปล่าเห็นบอกว่าเมื่อคืนกลับดึก” ผมยิ้มเล็กน้อยกับคำถามของคนบางคนที่ผมไม่รู้ว่าจะเลือกตอบคำถามไหนก่อน

“จะตอบคำถามไหนก่อนดีอ่ะครับคุณหมออออ…” ผมแกล้งลากเสียงยาวกวนอารมณ์คนเล่น

“งั้น... ก็ไม่ต้องตอบเลย หมอเดาจากประวัติคนไข้ได้เลยว่า เมื่อคืนไม่ได้ห่มผ้า ถึงห่มก็ถีบออกแล้วที่สำคัญอาบน้ำแบบวิ่งผ่านใช่ม่ะ” โอโหหมอนี่ดูแม่นจริงๆ เลยน่ะคับ

“นี่คนเค้าเป็นหมอน่ะเค้ามีการศึกษาประวัติคนไข้ จะมาให้เป็นหมอดูซะแล้ว แล้วจะให้เป็นหมอผ่าศพด้วยเลยมั้ยพอดีจะฆ่าคนแถว นี้อยู่พอดี”

“โอ๋ๆๆ ล้อเล่นครับ คุณหมออย่าโกรธนะๆๆ เดี่ยวแก่หนักขึ้นไปอีก” ผมทำเสียงอ่อนเสียงหวานไปตามสายเดี่ยวเจ้าตัวจะโมโหขึ้นมาจริงๆ

“นี่กำลังดื่มกาแฟอยู่เดี่ยวก็จะออกไปเรียนแล้วล่ะ แล้วติ๊บละ” ผมเปลี่ยนสรรพนามให้ดูคุ้นเคย เพราะปกติผมจะเรียกเค้าว่า ติ๊บตลอด

“ก็เพิ่งลงเวรอ่ะ แต่อาจารย์หมอให้ส่งผลแลปวันนี้ด้วยอ่ะ ติ๊บยังทำไม่เสร็จเลยวันนี้มีหวัง กลับบ้านดึกแหงๆเลย” เจ้าตัวตอบผมมาพร้อมน้ำเสียงที่ดูเหนื่อยจนรู้สึกได้

“ก็ค่อยๆ คิดไป อย่าเครียดมากนะจะยิ่งคิดไม่ออก หมู่นี้พี่ว่าติ๊บเครียดๆ ไปน่ะ” ผมออกอาการเป็นห่วงคนปลายสายอยู่พอสมควร

“คับผม ยังไม่ยอมเป็นบ้าหรอกน่า ยิ่งยังหาแฟนไม่ได้เลยน่ะ” เสียงเจ้าตัวดูร่าเริงขึ้น

“อ้าว ว้า//// แล้วพี่เป็นไรอ่ะไม่ใช่แฟนหรอกเหรอ”

“ไม่รู้ ไม่บอก” เสียงเจ้าตัวดูท่าจะเขินๆอยู่พอประมาณ นี่ถ้าผมอยู่ใกล้ๆ คงจับกอดให้แน่นๆ เหมือนที่เคยเล่นกันเป็นประจำ

“โย่งๆ เดี่ยวติ๊บทำงานก่อนน่ะ เพื่อนๆ เขาเร่งงานอยู่ ติ๊บก็ต้องทำงานเหมือนกันเอาไว้เย็นนี้ค่อยคุยกันใหม่แล้วกันน่ะ”

“แล้วจะนานแค่ไหนอ่ะ เดี่ยวพี่ต้องไปเรียนแล้วน่ะติ๊บ” ผมถามเพราะยังอยากคุยต่อก็คนมันคิดถึงนี่คับ

“ก็ประมาณสี่ทุ่มมั้ง ก็ไม่เป็นไรไม่ได้คุยวันนี้พรุ่งนี้ก็ได้คุยอยู่ดีแหละ”

“โหย ใจร้าย ก็คนมันคิดถึงอ่ะ อุตส่าห์แหกขี้ตาตื่นขึ้นมาโทรหาแต่เช้า” ผมออกเสียงออดอ้อนขอความสงสารเต็มที่

“งั้นเดี่ยวติ๊บทำเสร็จ กลับถึงห้องจะโทรกลับมาหาแล้วกัน แต่ห้ามรับน่ะไม่งั้นงอน” ไม่วายที่เจ้าตัวจะใช้คำสั่งประกาศิตกับผมอีกครั้งนึง

“คับผม อย่าให้หมอที่ไหนมาจีบน่ะ พี่ห่วง หวงมากด้วย” ผมกำชับแบบที่ผมรู้สึกจริงๆ

“ไม่มีหรอกโย่ง บอกแล้วสเปคติ๊บอ่ะต้องเป็นหมอฟันแก่ๆ บ้าๆ หน่อย แถมหื่นกามด้วยน่ะ” เจ้าตัวทำเสียงคิกคักมาตามสาย ทำให้ผมอดยิ้มไปกับความมีอารมณ์ดีของเจ้าตัวไม่ได้

“งั้นรีบไปทำงานเหอะคับ ตั้งใจทำงานน่ะคับ คิดถึงพี่ด้วยน่ะคับ   บาย” ผม วางโทรศัพท์แล้วก็อดคิดถึงคนที่อยู่เมืองไทยไม่ได้ 

ถ้าเป็นนิยายหรือละคร เค้าคงบอกว่านางเอกมีรูปพรรณสัณฐานยังไง  แต่สำหรับติ๊บคนที่ผมรู้สึกดีคน นี้ ภาพที่ผมเห็นได้ชัดเจนที่สุด ก็คงเป็นแค่เด็กนักเรียนตัวเล็กกว่าผมพอสมควร  ไม่ถึงกับอ้วนแต่ไม่ใช่คนผอม แน่ๆ  ผิวขาวดูเนียนใสแบบเด็กแพทย์ทั่วไป แต่ที่แตกต่างจากคนอื่นควงเป็นแววตาใสๆ บ้องแบ๊ว ของว่าที่คุณหมอที่ไม่มีการบดบังจากแว่นตาเหมือนว่าที่คุณหมอคนอื่นๆ และจุดที่ผมชอบที่สุดคงเป็นปากเรียวๆ น่ารักๆ ของติ๊บนี่เอง

อันที่ จริง ชื่อโย่ง  ของผมก็มาจากร่างกายของผมนี่แหละ  ผมอาจจะไม่ใช่คนสูงมากแค่ 187 หากเป็นคนอื่นก็ปกติ แต่เมื่อมายืนกับว่าที่คุณหมอตัวเล็กๆ แบบนี้ผมก็กลายเป็นยักษ์ไปในทันที แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกผมชินแล้ว และรู้สึกว่าชอบที่จะให้ติ๊บเรียกแต่ถ้าคนอื่นเรียกผมแบบนี้คงจะไม่ปลื้มซักเท่าไหร่

ผมจิบกาแฟยามเช้าบนโต๊ะอ่านหนังสือที่หันหน้าออกไปทางหน้าต่างมองหมอกในตอน เช้าอย่างอารมณ์ดี พร้อมๆ กับการคิดถึงใครบางคน ผมจะเริ่มต้นเล่ายังไงดีให้ดูเป็นนักเขียนมืออาชีพกับเขาซักหน่อย  เอาเป็น ว่าวันแรกที่ผมรู้จักกับเด็กคนนี้เลยแล้วกัน

ประมาณปี 46 เทศกาลรับน้องของมหาวิทยาลัย เริ่มครึกครื้นไปด้วยเสียงกลอง และเสียงเพลงของบรรดาพี่น้อง ในรั้วมหาวิทยาลัยสีเทา แสด อันที่จริงผม ไม่ได้เป็นเด็กในมหาวิทยาลัยนี้เลยด้วยซ้ำ และผมเองก็ไม่ได้เป็นคนพิษณุโลก ลูกสมเด็จพระนเรศวรแต่อย่างใด แต่อาจจะเป็นโชคชะตาหรือพรมลิขิต ที่ทำให้ผมต้องมาเป็นหมอฟันคนใหม่ ของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยที่นี่

ผมเดินผ่านเสียงกลองและรุ่นน้องปีสองที่ มารอต้อนรับน้องปีหนึ่งที่หน้าคณะอย่างเร่งรีบ เพราะนี่ก็สายมากแล้วสำหรับการทำงานของผม เพราะเมื่อคืนกว่าจะมาถึงที่นี่กว่าจะเก็บของเสร็จก็เล่นเอาดึก ทั้งที่ตั้งใจจะไม่มาสายในการทำงานวันแรกเป็นอันขาด

“พี่ค่ะๆ รอหนูด้วยค่ะ” หญิงสาวร่างจ้ำม่ำที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งมายังลิฟต์ก่อนที่ผมจะได้ทันกดปิดลิฟต์

“หนูชื่อกิ๊ก ค่ะเป็นทันตแพทย์มาทำงานที่นี่วันแรกค่ะ” เธอแนะนำตัวให้ผมรู้จัก

“อ้อไม่เป็นไรหรอกคับรุ่นเดียวกัน ผมไม้คับมาจากธรรมศาสตร์”

“แล้วกิ๊กมาจากไหนเหรอครับ” ผมเริ่มทำความรู้จักกับเธอ

“อ้อ หนูจบจากที่นี่แหละค่ะ อยู่ที่นี่มา 7 ปีแล้ว” เธอบ่นพร้อมทำหน้าเซ็งก่อนที่เราจะเดินเข้าห้องทำงาน

ผมมาอยู่ที่นี่แบบไม่รู้จักใครเลยนอกจากเพื่อนโรงเรียนเก่าของผมไอ้วิทย์ ที่มันเป็นธุระเรื่องจัดหาหอพักให้ผมแบบราคาถูกแถมดีแบบไม่น่าเชื่อ  อาจจะเป็นเพราะที่นี่คือพิษณุโลกไม่ใช่กรุงเทพฯ ที่เงินสามพันสามารถเปลี่ยนเป็นที่พักผ่อนเป็นหอพักชั้นดีแตกต่างจากใน กรุงเทพฯที่ห้องแบบนี้ไม่ต่ำกว่าห้าพันบาทต่อเดือนเป็นแน่

“ไม้ๆ เปิดประตูให้กูหน่อยดิว่ะ” ไอ้วิทย์มาเคาะเรียกผมอยู่หน้าประตูห้องในตอนสี่ทุ่มเศษๆ

“มีไรของมึง มาเคาะเอาป่านนี้ว่ะ”

“มึงไปในเมืองเป็นเพื่อนกูหน่อยดิ กูต้องไปรับเพื่อนของน้องรหัสกู” มันบอกผมแบบรีบร้อน

“ตอนนี้มาถึงขนส่งในเมืองแล้วว่ะ แต่มอเตอร์ไซด์กูมันไม่ค่อยดีว่ะ เลยจะมาให้มึงพาไป”

“โอเค ได้ๆ รอแป๊บนึงกูเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน” ผมบอกมันก่อนที่จะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำ ถึงมันจะเป็นเพื่อนกันก็เหอะแต่ถ้ามาแก้ผ้าให้ทันเห็นผมก็ยังอายอยู่ดี

“น้องเค้าเป็นเพื่อนกะน้องรหัสกู แต่ว่าเป็นเด็กซิ่วมาที่นี่แล้วเค้าไม่รู้จักใคร น้องรหัสกูเลยขอร้องให้กูช่วย กูก็ไม่รู้จะปฏิเสธยังไง” มันสาธยายให้ผมฟัง

หลังจากผมซักถามเหตุผลที่มันต้องกุลีกุจอไปเร่งรัดผมให้ ขับรถจากมหาวิทยาลัยมาในเมืองก็ประมาณ 16 กิโลเมตร แต่โชคดีที่ผมเอาแจสสีแดงคู่ใจที่แม่เพิ่งถอยให้ใหม่มาใช้ที่นี่ด้วย เลยได้พามันมาถึงในเมืองในเวลาไม่กี่นาที

“สวัสดีคับ พี่วิทย์ป่าวคับ” เสียงของเด็กหนุ่มอายุ 18 ที่ถามเจ้าวิทย์ที่กึ่งนั่งกึ่งหลับอยู่ในขนส่ง

“คับผม พี่…วิทย์คับ   น้อง…..” ไอ้วิทย์เว้นช่องว่างให้น้องตอบ

“กะติ๊บคับ แต่พี่เรียกสั้นๆว่า ติ๊บเฉยๆ ก็ได้คับ”

“เชิญคับ รถพี่จอดทางนี้คับ” เจ้าวิทย์เชิญน้องกลับพร้อมหิ้วกระเป๋าใบเขื่องไปที่รถของผมซึ่งจอดรออยู่ทางด้านข้างสถานีขนส่งทันที

“นี่เพื่อนพี่คับ ชื่อไม้ เป็นทันตแพทย์อยู่ที่นี่”

“สวัสดีคับพี่ไม้” ติ๊บไหว้ผมอย่างมีมารยาท เป็นครั้งแรกที่ผมสังเกตดูเผินๆ ว่าเด็กน้อยคนนี้เค้าก็ดูน่ารักดี แต่จะให้ผมแอบมองจังๆ คงน่าเกลียดตายได้แต่ขับรถไปแอบมองไป หน้าน้องคนนี้แบบว่าคุ้นมากแต่ผมก็ยังนึกไม่ได้อยู่ดีว่าเคยเจอที่ไหน

“ติ๊บเป็นคนที่ไหนเหรอคับ” ผมถามเพราะอยากรู้แกมอยากคุยด้วยแหละจะได้ไม่ง่วง

“เป็นคนนครพนมคับ” ติ๊บตอบ

“พี่นึกว่าเป็นคนเหนือซะอีก เห็นผิวขาวๆ”

“อ้อ คนนครพนมจะผิวแบบนี้กันแทบทุกคนแหละคับ ไม่ใช่คนเหนือหรอกคับ เค้าเรียกว่า แกว”

“อะไรคือแกวคับ” ผมถามเพราะอยากรู้อีกรอบ

“ก็เป็นคนเผ่าหนึ่งที่อยู่ในประเทศลาวแล้วก็เวียดนาม แล้วก็มีบางส่วนอยู่ที่นครพนมคับ ตัวจะขาวๆ แบบนี้ทุกคนแหละ”

“ไม่หรอก ขาวๆ แบบนี้ไงถึงได้สอบแพทย์ติด”   ไอ้วิทย์เอ่ยขึ้นมาบ้างพร้อมเรียกเสียงหัวเราะจากผมและติ๊บแก้ง่วงชั่วขณะ

“แล้วหิวข้าวมั้ยคับ”   ผมถามเพราะเริ่มจะหิวแล้ว

“ก็ ไม่ค่อยหิวคับ พอดีรถที่ติ๊บนั่งมาเค้ามีให้แวะทานอาหารตั้งแต่ตอนสองทุ่มแล้ว แล้วพี่ วิทย์กะพี่ไม้หิวมั้ยคับ จะแวะทานอะไรก่อนก็ได้น่ะ แล้วค่อยไปหาโรงแรมที่พักให้ติ๊บก็ได้”

“ไม่ต้องพักโรงแรมไหนหรอกคับ พักที่ห้องพี่ก็ได้จะได้ไม่เปลืองตังค์” ไอ้วิทย์ออกตัว

“ไม่เป็นไรหรอกครับ ติ๊บเกรงใจแค่ที่พี่วิทย์กับพี่ไม้มารับตอนห้าทุ่มแบบนี้ติ๊บก็เกรงใจแย่แล้วคับ”

“ไม่ ต้องคิดแบบนั้นหรอกติ๊บ เดี่ยวยายปอน้องรหัสพี่มันจะมาว่าพี่ได้ว่าดูแลติ๊บไม่ดีแล้วอีกอย่างถ้า ติ๊บพักที่อื่นแล้วพรุ่งนี้จะไปตรวจร่างกายยังไง ต้องนั่งรถเข้าเมืองน่ะ ไม่มีรถมอเตอร์ไซด์ต้องเดินมาขึ้นรถเมล์ตั้งไกล”

“ไม่เป็นไรคับติ๊บเดินได้”   ติ๊บยังยืนยันจะไปพักโรงแรมให้ได้

“พรุ่งนี้พี่มีธุระต้องเข้ามาในเมืองพอดีคับ ติ๊บพักกะวิทย์มันก็ได้พรุ่งนี้ค่อยติดรถมาในเมืองกะพี่ ที่ทางก็ยังไม่รู้จะมาถูกได้ยังไง”  ผมถามแกมออกคำสั่งจนเจ้าตัวต้องนั่งนิ่งแล้วยอมรับแต่โดยดี

“งั้นต้องรบกวนพี่ไม้แล้วล่ะคับ”   ติ๊บบอกผมก่อนรถจะเลี้ยวเข้ามาสู่มหาวิทยาลัยเพราะหอพักของผมอยู่ทางด้านหลังมหาวิทยาลัย

“ไม่เป็นไรคับ คิดซะว่าพี่น้องกัน” ผมบอกติ๊บก่อนจะพากันขึ้นห้องแล้วผมหลับใหลไปอย่างอ่อนแรงในที่สุด

TBC...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-01-2011 22:06:41 โดย hackz »

ออฟไลน์ thehackzzi

  • <?php echo "Hello world!";?>
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1144
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-31
เสื้อกาวน์เก่าๆ.....กับเราสองคน  ตอนที่ 2     

“ไม้ ไม้ หลับยังว่ะ เปิดประตูให้กูหน่อยดิ” โหจะเที่ยงคืนแล้วใครว่ะมารบกวนการนอนของผมซะจริง

“อ้าว ว่าไงวิทย์” ที่แท้ก็ไอ้วิทย์เพื่อนเจ้าปัญหาของผมนี่เอง

“มึงช่วยไรก็อีกเรื่องดิ น่ะๆๆๆๆ มึงไม่ช่วยกูแย่แน่เลย” ดูมันขอร้องแกมบังคับ

“ช่วยไรว่ะ” ผมถามมันด้วยความสงสัย

“ก็พอดี จ๋า อ่ะจะกลับมหาลัยวันนี้ แล้วก็ตอนนี้ด้วย กูเลยอยากให้มึงช่วยเอาน้องติ๊บมานอนกะมึงได้มั้ยว่ะ กูกลัวน้องเค้าอึดอัด”

จ๋า ที่ว่านี่คือแม่สาวพยาบาลแสนสวยของไอ้วิทย์นี่แหละคับพอดีเป็นนิสิตพยาบาล  ปิดเทอมกลับบ้านช่วงนี้เปิดเทอมเลยกลับมามหาวิทยาลัยอ่ะ

“งั้นก็ได้ พรุ่งนี้จะได้ไปส่งในเมืองเลยเพราะติ๊บต้องตรวจร่างกายในเมืองนี่ใช่ม่ะ” ผมถามมันเพื่อจะช่วยเพื่อนแต่ตอนนั้นไม่ได้คิดไรกับติ๊บจริงๆ

“งั้นเดี่ยวกูไปย้ายน้องเค้ามาที่นี่เลยน่ะ”

“เอางี้มั้ยคืนนี้มึงกับจ๋านอนที่นี่ เดี่ยวก็ไปนอนห้องมึงกับติ๊บก็ ได้ เดี่ยวเค้าจะได้ไม่ต้องคิดว่ามาเป็นปัญหาของแกไง” ผมแสดงความคิดเห็น

เมื่อตกลงดังนี้ผมเลยต้องไปนอนห้องไอ้วิทย์กับติ๊บว่าที่คุณหมอคนใหม่ของผมจริงๆ

เมื่อไปถึงห้องก็ปรากฏว่าติ๊บเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ แต่ใส่ชุดเตรียมจะนอนเรียบร้อยแล้ว พอผมเข้าไปในห้องก็ตั้งใจจะนอนเลยเหมือนกันเพราะง่วงๆ อยู่

“พี่ไม้คับ ตรวจร่างกายนี่เขาตรวจอะไรเรามั่งเหรอครับ” ติ๊บถามผมในตอนที่ผมนั่งลงบนเตียงเตรียมจะนอน

“ก็ไม่มีไรมากคับ ตรวจเลือดตรวจฉี่ธรรมดา ไม่มีไรหรอก”

“แล้วสอบสัมภาษณ์อ่ะคับ เขาจะถามไรเรามั่งอ่ะคับ” ติ๊บถามตามประสาเด็กๆ ที่ไม่ค่อยจะรู้เรื่อง

“ก็ไม่ได้ถามอะไรก็ถามการเรียน การใช้ชีวิตของเราธรรมดา อย่ากังวลให้มากเลย สบายๆ น่ะคับ” ผมบอกติ๊บไปตามที่ตัวเองพอจะมีประสบการณ์

“แล้วพรุ่งนี้ติ๊บนัดตรวจร่างกายกี่โมงคับ” ผมถามกลับ

“แปดโมงเช้าคับผม ที่โรงพยาบาล XXX” ติ๊บตอบผมโดยไม่ได้มองหน้าผมเลยเพราะกำลังรีดผ้า ซึ่งค้านกับความคิดของผม ที่ดูว่าเด็กแบบนี้คงเป็นลูกคุณหนูแหงๆ รีดผ้าเป็นรึเปล่าก็ไม่รู้ เหมือนคนจะทำอะไรไม่เป็นเลย

“ติ๊บรีดผ้าเองเป็นด้วยเหรอ” ผมถามด้วยอาการงง

“คับ ก็แค่รีดผ้าไม่เห็นจะยากตรงไหนเลย” ติ๊บตอบแล้วมองมาทางผมด้วยอาการงงๆ มากกว่า

“ถามแบบนี้แสดงว่าพี่ไม้รีดผ้าไม่เป็นอ่ะดิคับ ให้ติ๊บรีดให้มั้ย”

“ไม่เป็นไรคับพี่ส่งซัก” ผมตอบไปแต่ก็ไม่ได้บอกน่ะว่าจริงๆ แล้วก็รีดไม่เป็นอ่ะแหละ

“ส่งซักนี่คงหลายตังค์เนอะพี่ไม้” ติ๊บกึ่งถามกึ่งเปรยๆ ขึ้นมา

“ก็เดือนละไม่กี่ร้อยคับ”

“ไม่กี่ร้อย พี่ไม้นี่กินข้าวได้หลายจานน่ะ”

“งั้นพี่ไม้ให้ติ๊บรีดให้มั้ย ติ๊บคิดถูกกว่าที่ร้านซักรีดคิดเลยก็ได้คับ” ติ๊บถามมาทำเอาผมแปลกใจว่าล้อเล่นรึจริงๆ

“ติ๊บจะได้มีรายได้ระหว่างเรียนไง กว่าทุนกู้ยืมจะออกคงอีกหลายเดือน” ติ๊บบ่น

โห //// ลูกคนมีตังค์นี่เขางกกันขนาดนี้เลยเหรอ  ผมคิดในใจไหนจะยืมเงินเรียนแล้วไหนจะงกหางานทำอีก  อะไรกันว่ะนี่

และแล้วคืนนั้นผมก็ได้เรียนรู้อะไรจากติ๊บมากขึ้นหลายอย่าง

เด็กน้อยใสซื่อที่ผมรู้จัก  ผ่านเรื่องราวต่างๆ มามากมาย

ติ๊บเล่าให้ผมฟังว่าตอนเด็กๆ ติ๊บเกิดมาเป็นลูกคนเดียวอยู่กับพ่อแม่ที่มีอาชีพทำไร่ยาสูบ แล้วก็มีป้าแล้วก็ย่าแก่ๆ อีกคนนึง

แล้วจู่ๆ วันนึงพ่อกับแม่ก็เป็นหนี้สินจากการทำไร่ยาสูบ ทำให้แม่ต้องเดินทางมากรุงเทพ เพื่อหางานทำในขณะที่ติ๊บเองอายุได้เพียง 6 ขวบ

ติ๊บเลยอาศัยอยู่กับพ่อ ป้า แล้วก็ย่าสามคน ในบ้านหลังเล็กของหมู่บ้านที่ห่างไกลความเจริญ

ติ๊บ เป็นคนเรียนเก่งและทำงานช่วยป้าและย่ามาตลอด จนผมฟังแล้วทึ่งในตัวเด็กคนนึงที่ทำอะไรได้มากมายขนาดนี้ เอาไว้ผมจะเล่าในโอกาสต่อๆ ไปบ้างน่ะ

แล้วคืนนั้นผมก็นอนหลับไป ก่อนที่ผมจะปวดท้องฉี่ในตอนกลางคืน ด้วยสภาพห้องที่ไม่คุ้นที่ทางเลยต้องเปิดไฟก่อนถึงจะเดินไปยังห้องน้ำ

พอผมเปิดไฟขึ้นก็เห็นเด็กน้อยคนนึงนอนขดตัวอยู่ในผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ คงหนาวล่ะสิ เพราะผมเองก็ลืมตัวไปว่าชอบนอนเปิดแอร์เย็นๆ แถมยังดึงผ้าห่มมาห่มซะคนเดียวให้เรียบร้อย จนลืมดูน้องเขาซะสนิทเลย

พอเข้าห้องน้ำทำธุระเสร็จจะกลับมานอน ก่อนปิดไฟเลยห่มผ้าให้เด้กน้อยแล้วหรี่แอร์ลง

แล้วตอนนั้นผมจำได้แม่นเลยว่าเป็นครั้งแรก ที่ผมได้มองหน้าของเด็กน้อยคนนึงที่ตอนนี้ผมรู้สึกสงสารและชื่นชม

เด็กหนุ่มผิวขาวออกเหลืองๆ คิ้วที่ได้รูปรับกับดวงตานี่ขนาดนอนอยู่ยังรู้ได้เลยว่าเป็นคนตาโตเอาการ ใบหน้าเกลี้ยงเกลา และปากที่น่ารักที่สุด

ตอนนั้นผมบอกตัวเองไม่ได้เลยว่าผมรู้สึกกับน้องเขาแบบไหน เพราะผมก็ไม่ได้เป็นเกย์น่ะ ไม่เคยคิดชอบผู้ชายมาก่อนเลยด้วย แล้วอีกอย่างผมก็มีแฟนของผมอยู่แล้ว

....จะไปยุ่งกะเขาทำไม  นอนเถอะไม้ นี่แกเป็นอะไรของแก....

ผมถามตัวเองก่อนเดินไปปิดไฟแล้วหลับไปในที่สุด…

TBC...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-01-2011 22:03:44 โดย hackz »

ออฟไลน์ ohm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 424
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-2
สนุกครับ เรื่องรักแบบอบอุ่นแบบนี้ชอบ

ขอบคุณทั้งคนแต่งกับคนโพสต์ครับ ^^

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
มาตามอ่านด้วยคนนะ  :m13:

kiwte

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ som

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +230/-2
ชักจะหนุกแล้วดิครับอยากอ่านต่อแล้วละ

ออฟไลน์ Na_RimKLonG

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 640
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1

ออฟไลน์ StillLoveThem

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +295/-10
...เนื้อเรื่องน่าติดตามดี ชอบอยู่แล้วเรื่องราวของคุณหมอ ผู้น่าค้นหาทั้งหลาย
...ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของใครเขียน ถ้าอ่านแล้วมีความสุข สนุกไปกับเนื้อเรื่องก็จะอ่านจ้า
...ขอบคุณน้องคนโพส ด้วยที่เอาเรื่องออกจากกรุส่วนตัว พี่ไม้มาให้อ่านกัน
...ว่างๆๆก็ชวนพี่ไม้ มาเที่ยวในเล้าบ้างนะ ไม่ว่าอยู่มุมไหนของโลก ก็เข้ามาคุยกันได้จ้า
:L2:

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
+ ให้จ้า
เราแฟนคลับเรื่องแพทย์ๆ หมอๆ อยู่แล้น
เป็นกำลังใจให้ทั้งคนแต่งและคนโพสจ้า

เจ้าชายรองเท้าแตะ

  • บุคคลทั่วไป
หุหุ
ย่องเข้ามาขโมยกาวน์ไปดม
^
^
โรคจิตว่ะ

ติดตามค้าบบบ~

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






KM

  • บุคคลทั่วไป
อะไรกัน พระเอกนอกใจแฟนฤๅนี่

ออฟไลน์ thehackzzi

  • <?php echo "Hello world!";?>
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1144
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-31
เสื้อกราวด์เก่าๆ.....กับเราสองคน  ตอนที่ 3
11:22  30/12/2008


“พี่ไม้คับตื่นได้แล้วคับ วันนี้ติ๊บมีตรวจร่างกายแต่เช้าน่ะ” เสียงเด็กที่ไหนมาปลุกผมแต่เช้าล่ะนี่

พอลืมตาตื่นขึ้นมาเลยรู้ว่าเจ้าของเสียงมานั่งใกล้ผมแล้วในชุดนักเรียนเรียบร้อย ผมเลยรีบกุลีกุจอตื่นขึ้นมาขอโทษขอโพยก่อนจะลุกเก็บที่นอนให้เรียบร้อยที่สุด

แต่วันนี้ผมรู้สึกว่าห้องผมสะอาดเรียบร้อยเป็นพิเศษหนังสือกองโตที่ผม เคยอ่านกองๆ ไว้  กลับกองเป็นระเบียบเรียบร้อยโต๊ะที่เต็มไปด้วยเอกสารจัดให้ เข้าที่เข้าทางมากขึ้น

“ติ๊บขอโทษน่ะคับที่ไม่ได้ขอพี่ไม้ก่อน แต่คิดว่าน่าจะช่วยให้พี่ไม้หาง่ายขึ้น” เจ้าตัวขอโทษผมแบบเขินๆ

“ไม่เป็นไรคับ” ผมบอกไปด้วยอารมณ์ดีๆ แต่ลืมสังเกตว่าเจ้าน้องชายผมอ่ะดิ ที่เวลานอนผมไม่ได้ใส่เกงในอยู่แล้ว แล้วยิ่งตื่นมาตอนเช้าแบบนี้มันก็เคารพธงชาติดิคับ แข็งโด่ชี้หน้าว่าที่คุณหมอ อยู่นี่อ่ะ

“อิอิ โทษทีคับ” ผมบอกแล้วรีบวิ่งเข้าห้องน้ำอาบน้ำเร็วที่สุด…

ผมมาส่งว่าที่คุณหมอตรวจร่างกายได้ทันเวลาแบบฉิวเฉียด

“เป็นไงมั่งคับ ตื่นเต้นมั้ย” ผมถามไปด้วยความอยากรู้เพราะเห็นเด็กคณะแพทย์หน้าตาใสๆ ทั้งสาวแท้ สาวเทียม มารอรับติ๊บที่หน้าตึกตั้งแต่เช้า

“ก็สนุกดีคับ แต่เจ็บตัวแถมเหนื่อยวิ่งขึ้นตึกนั้นที ตึกนี้ที ติ๊บเลยเหนื่อยอ่ะคับ เพราะไม่ค่อยได้ออกกำลังกายเท่าไหร่อ่ะคับ” เจ้าตัวบอกยิ้มๆ

“งั้นเสร็จแล้ววันนี้ก็หมดธุระแล้วอ่ะดิ”

“คับวันนี้เสร็จแล้วคับ พรุ่งนี้สอบสัมภาษณ์ตอนแปดโมงเช้าตื่นเต้นจังไม่รู้เค้าจะถามอะไรบ้าง”

“ไม่ต้องตื่นเต้นคับ ติ๊บทำได้อยู่แล้ว”

“ขอบคุณคับพี่ไม้ นี่ใจดีเนอะ แบบนี้คนไข้ต้องมาหาหมอฟันบ่อยแน่ๆ เลย”

“ไม่หรอกคับ พี่ก็แบบนี้มาแต่ไหนแต่’ไรแล้ว”

“เอางี้มั้ย วันนี้เราไม่ได้ทำอะไรแล้ว พี่ว่าเราแวะไปไหว้หลวงพ่อใหญ่กันดีกว่า เพราะเป็นทางผ่านกลับมหาลัยเราพอดี”

“ก็ดีซิคับ ติ๊บมานี่ยังไม่เคยได้ไปไหว้หลวงพ่อใหญ่เลย” เจ้าตัวออกอาการดีใจจนผมอดยิ้มไม่ได้เพราะเหมือนเด็กเวลาพ่อแม่ๆ พาไปเที่ยว

แล้ววันนั้นผมก็พาว่าที่คุณหมอไหว้พระวัดใหญ่ หรือพระพุทธชินราชพระคู่บ้านคู่เมืองชาวพิษณุโลกจนทั่วแถมอิ่มบุญเต็มที่

ก่อนกลับผมกับติ๊บเดินช๊อปของกินซะถือกันพะรุงพะรัง  และก่อนที่เราจะเดินขึ้นรถก็มีหมอดูแก่ๆ คนหนึ่งมาทักติ๊บเข้าให้

“ในที่สุดก็มาพบกันจนได้น่ะลูก”

“อะไรคับ ผมไม่เข้าใจ” ติ๊บออกอาการงุนงงกับคำทักทายของชายวัยชราในชุดนุ่งขาวห่มขาว

“มาให้พ่อดูลายมือให้มั้ย ลูกพ่ออยากดูให้หนู”

“พี่ไม้จะว่ามั้ยคับถ้าติ๊บจะแวะให้ท่านดูให้” ผมจะปฏิเสธเหรอคับเพราะผมเองก็อยากรู้ว่าหมายความว่ายังไงกับคำทักทายนั้น

“หนูเป็นคนมาไกล พ่อหนุ่มนั่นก็มาไกลใช่มั้ย”

“คับ” ผมกับติ๊บแทบตอบพร้อมกัน

“หนูลำบากอีกหน่อยน่ะลูก เดี๋ยวก็จะสบาย เดี๋ยวนี้ลูกก็เหมือนเรือในพายุ แต่เมื่อผ่านพ้นไปได้ลูกจะสบาย หนูเป็นคนฉลาดหลักแหลมจะพูดจาพาทีก็ประสบความสำเร็จ หนูมีมันสมองที่ดี แต่หนูจะไม่ได้ยืนบนลำแข้งของตัวเอง จะมีคนมาอุปถัมภ์ค้ำชูหนูตลอด และพ่อหนุ่มคนนี้ก็เหมือนกันชาติก่อนทำกรรมกันไว้เยอะ ชาตินี้เรามาชดใช้เค้าแล้วน่ะ” เออ ...เอากับแกดิ จู่ๆ ก็ไปหาว่าผมทำกรรมกับติ๊บมาเยอะชาตินี้เลยต้องมาชดใช้ซะงั้น

ท่านพูดจบก็เดินจากเราไปปล่อยให้เราสองคนงงเป็นหมอตาแตกกันอยู่ตรงนั้นนั่นเอง

“พี่ไม้คับ พรุ่งนี้ติ๊บต้องเตรียมเอกสารอะไรไปสัมภาษณ์มั้ยคับ”

“อ้อ ไม่มีหรอกติ๊บ ไปแต่ตัวกับอุดมการณ์ที่มุ่งมั่นของติ๊บก็พอแล้ว” ผมตอบไปก่อนเผลองีบหลับไปในค่ำนั้น

มาตื่นเอาอีกทีตอนที่มีโทรศัพท์จากแฟนสาวของผมที่โทรมาทักทายจาก กทม.

ในขณะที่ติ๊บกำลังอาบน้ำ ผมลุกมารับโทรศัพท์หน้าโต๊ะอ่านหนังสือของผม สายตาพลันไปเจอกับแฟ้มสะสมงานของเจ้าตัวที่อยู่ในห้องน้ำ

‘สอบติดแพทย์ แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์’ ข่าวหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ไทยรัฐเลยคับ ทำเอาผมอดประหลาดใจไม่ได้

เมื่อเปิดอ่านดูจึงได้รู้รายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับเจ้าตัว จากการสอดรู้สอดเห็นของผม

ในแฟ้มที่มีเกียรติบัตรผลงานระดับภูมิภาคตลอดจนระดับประเทศกองโต ผมจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเด็กบ้านนอกคอกนาจาก นครพนมคนนี้ถึงสอบติดแพทย์มาได้

.....แต่ที่ผมอดทึ่งไม่ได้คือกระดาษจากหนังสือพิมพ์ ที่มีรายละเอียดของเจ้าตัวคนนี้อยู่ด้วย พร้อมรูปที่นั่งคู่กับป้าหญิงวัยกลางคนและย่าวัยชราอายุล่วง 90 ปีเศษ

‘เด็กน้อยที่เติบโตมาจากครอบครัวที่ยากจน จากการรับภาระเลี้ยงดูของหญิงผู้เป็นป้า ที่ต้องแบกรับภาระเลี้ยงดูแม่วัยชราและหลานชาย ติ๊บเกิดและโตในกระท่อมหลังเล็กๆ กับป้าและย่ามาตั้งแต่เด็กๆ โดยที่ไม่มีโอกาสได้รู้ความเป็นไปของผู้เป็นพ่อแม่ ฐานะทางบ้านเรียกได้ว่ายากจน รายได้ทั้งหมดในครอบครัวมาจากการรับจ้างของผู้เป็นป้าที่มีรายได้ตกไม่กี่บาท .....เหตุผลที่ทำให้ติ๊บอยากเป็นหมอด้วยความหวังว่าซักวันหนึ่งจะกลับมารักษาอาการปวดตามข้อของผู้เป็นย่า’

ผมอ่านมาถึงตรงนี้แล้วก็อดชื่นชมไม่ได้

‘......เด็กน้อยที่มือกุมจดหมายบอกข่าวดีของการสอบติดคณะแพทย์ที่หลายๆ คนใฝ่ฝันที่จะเรียนและจะเป็น แต่กลับนั่งร้องไห้บนรถเมล์ขณะนั่งรถกลับบ้าน เพราะไม่รู้ทิศทางว่าจะทำอย่างไรให้มีโอกาสได้เรียนต่อในมหาวิทยาลัยที่ตัวเองใฝ่ฝัน’

พอผมอ่านมาถึงตรงนี้ผมรู้สึกสงสารเด็กคนหนึ่งได้สุดหัวใจ ประกอบกับการอดชื่นชมในความเป็นคนดีและกตัญญูของเด็กคนนี้เอาเสียไม่ได้

ทั้งๆ ที่ผมยังไม่รู้จักติ๊บมากมายเท่าไหร่ แต่พอผมได้อ่านหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ เพียงหน้าเดียวเล็กๆ กลับทำให้ผมรู้ว่า ผมโชคดีมากมายแค่ไหนที่เกิดมามีครบทั้งพ่อแม่และเงิน ผมแทบจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงกับเด็กที่เป็นข่าวอยู่ตรงหน้าผมตอนนี้

แล้วผมก็อ่านผลงานต่างๆ ของติ๊บไปจนถึงแผ่นสุดท้ายกับรางวัลชนะเลิศการแต่งกลอนสดระดับภูมิภาค

แล้วผมก็พบกระดาษเสษเล็กๆ แผ่นนึงที่บทความเขียนไว้สั้นเพียงแค่ว่า

‘....หนูจะเป็นหมอคนแรกที่จะรักษาย่าจากความเจ็บปวด รักษาป้าให้หายจากโรค และหนูจะเป็นหมอเพื่อรักษาความจนของเรา....’

ผมอ่านมาถึงตอนนี้แล้วบอกได้คำเดียวว่าทึ่งกับความคิดของคนหนึ่งคนที่ทำอะไรเพื่อคนที่รักได้มากขนาดนี้

ในขณะที่เราที่มีพร้อมทุกอย่างกลับไม่เคยทำอะไรเพื่อพ่อแม่เลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-07-2014 17:03:04 โดย thehackzzi »

ออฟไลน์ Phing

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1489
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-0
เเอบน้ำตาตก :sad11:
ติ๊บเป็นคนนครหรอเนี้ย


ขอบคุณคนโพสแล้วก็คนแต่งด้วยคะ



 :L2:

ออฟไลน์ sadness

  • ขอเถอะความเหงา ปลดปล่อยฉันเสียที
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 499
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +759/-1

ออฟไลน์ ohm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 424
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-2
เรื่องนี้มีทั้งมุมน่ารัก แล้วก็มุมเศร้าๆเหงาๆ เลย ^^


แต่งได้น่าอ่านมากครับ

เป็นกำลังใจให้ติ๊บ และเชียร์ไม้ด้วย

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
ซึ้งกับกระติ๊บจริงๆ กตัญญูชนะเลิศ :กอด1:
คิดดี ทำดี ย่อมได้รับสิ่งดีๆตอบแทนแน่นอนค่ะ
+1 ชอบคุณค่ะ รออ่านตอนต่อไปน๊า :L2:

ออฟไลน์ thehackzzi

  • <?php echo "Hello world!";?>
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1144
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-31
เสื้อกราวด์เก่าๆ.....กับเราสองคน  ตอนที่ 4
11:23  30/12/2008


เกือบสองอาทิตย์ผ่านไปสำหรับการมาเป็นหมอฟันฝึกหัดอย่างผม การทำงานที่นี่แตกต่างจากกรุงเทพโดยสิ้นเชิง

ที่นี่ผมเป็นหมอฟันที่มีเกียรติ คนเคารพนับถือ เป็นคนที่คอยช่วยเหลือคนอื่น

ต่างจากกรุงเทพที่ผมเป็นหมอผู้ให้บริการเพื่อหวังผลตอบแทน

แค่ความคิดของคนไข้ก็ทำเอาผมติดใจที่นี่ไม่น้อย อย่างน้อยก็คือความมีน้ำใจของคนไข้ที่ผมไม่เคยได้รับจากเมืองกรุง…

วันนี้เป็นวันเสาร์  แต่ผมต้องมาทำงานไม่ได้พักผ่อนแถมวันนี้งานเยอะซะด้วยซิ งานหนักเหนื่อย  จนไม่มีเวลาให้แฟนสาวที่อยู่ กทม. เอาซะเลย

พักหลังๆ เริ่มมีปัญหาเกิดขึ้นบ่อยทะเลาะกันมากขึ้น เพราะความห่างไกล หรือผมจะโทษใจคนเราที่มันเปลี่ยนแปลง

ผมยังรักเธอเหมือนเดิมไม่ได้เปลี่ยนแปลง แต่ทำไมเธอมีเหตุผลร้อยพันมาหาเรื่องให้ทะเลาะ เฮ้อ  เหนื่อยใจจริงๆ

....พักเที่ยงแล้วไปทานข้าวดีกว่าเรา  กะยายหมูอ้วนเพื่อนผมนี่แหละ จำกันได้ใช่ม่ะคับ

แต่ที่นี่โรงอาหารไกลจากตึกผมมากๆ แถมโรง’บาลในมหาลัยนี่ก็รู้ๆ กันอยู่ว่าของกินไม่ค่อยอร่อย

เอางี้ไปทานตึกแพทย์ดีกว่า ว่ากันว่าของกินทั้งถูกทั้งอร่อย  อันนี้เด็กที่นี่เค้ารู้ดี

ผมเลยตัดสินใจนั่งรถไฟฟ้าหรือที่เด็กๆ ที่นี่เค้าเรียกกันว่ารถอธิการ ไปทานข้าวใต้ตึกแพทย์

“แหมไม้ เห็นเด็กปีหนึ่งแถวนี้แล้วกระชุ่มกระชวยเนอะ”

“ดูดิไหนจะเด็กแพทย์ ทันตะ วิศวะรวมกันที่นี่หมดเลยอ่ะ” ดูเพื่อนสาวของผมเธอชักจะเก็บอาการไว้ไม่ได้แล้วสิ

“พี่ค่ะ พี่อยู่แพทย์ป่าว” เสียงเด็กผู้หญิงในชุดนิสิตถูกระเบียบ แต่งตัวเรียบร้อยน่ารักสมวัยเอ่ยถามผม

“อ้อ ป่าวคับพี่เรียนทันตะ”

“ขอโทษค่ะนึกว่าแพทย์ พอดีพวกรุ่นพี่ให้พวกหนูมาวิ่งขอลายเซ็นรุ่นพี่” สาวน้อยเอ่ยเหตุผลที่ต้องมาวิ่งถามคนทั้งตึก

จะว่าไปการรับน้องที่นี่ก็ถือว่าไม่รุนแรงน่ะ  ตรงข้ามผมมองว่าค่อนข้างสร้างสรรค์ด้วยซ้ำที่ให้พี่น้องรู้จักกัน

“พี่ไม้หวัดดีคับ”   เอ๊ะใครว่ะ เสียงคุ้นๆ มองไปผมถึงได้รู้ว่าน้องติ๊บนั่นเอง

“หวัดดีคับ เป็นไงมั่งสบายดีมั้ยคับ”

“ก็เรื่อยๆ คับแล้วพี่ไม้ล่ะ งานหนักมั้ยคับ”  ติ๊บถามผมตามมารยาทรึป่าวไม่รู้ แต่ผมก็ดีใจที่เค้ายังจำผมได้

“ก็เรื่อยคับ แล้วนี่ติ๊บทานข้าวรึยัง ทานกับพี่มั้ยเดี่ยวพี่เลี้ยงเอง”

“อ้อ ไม่เป็นไรคับ เดี่ยวติ๊บต้องรีบทำแลปส่งอาจารย์ว่าจะขึ้นไปห้องสมุดพอดี”

“คับ งั้นก็รีบไปทำเหอะเดี่ยวส่งแลปไม่ทัน” ผมบอกน้องเค้าไปก่อนว่าที่คุณหมอจะเดินก้มหน้าลิ่วๆไปที่ลิฟท์

“แกรู้จักด้วยเหรอไม้ น่ารักว่ะวันหลังแนะนำชั้นรู้จักมั่งดิ ขาวๆ ตี๋ ๆ แบบนี้ป้าชอบ”

“ก็รู้จักดิ ทำไมแกชอบเหรอ”

“ทำไมสวยๆ แบบชั้นนี่ ชอบเด็กผิดตรงไหนย่ะ” เพื่อนสาวช้างน้ำของผมเธอยังมั่นใจในความสวยของตัวเองจริงๆคับ

เมื่อทานข้าวเสร็จผมก็กลับไปทำงานตามปกติ แต่ยังไม่ทันได้เวลาเลิกงานดี เจ้าของร่างช้างน้ำชุบแป้งทอดก็วิ่งมาที่ห้องผม

“ไม้ๆ แกพาชั้นเอาหนังสือไปคืนหน่อยดิ พอดีวันนี้วันสุดท้ายว่ะ ไม่อยากเสียค่าปรับ”

“โหย... แกก็ไปเองดิ ตึกแพทย์ตั้งไกล” ผมบ่นไปเพราะที่นี่ห้องสมุดทางวิทยาศาสตร์สุขภาพนี่เค้าตั้งอยู่ตึกแพทย์

“แก ไม่กลัวสวยๆ แบบชั้นจะโดนฉุดเหรอว่ะไปคนเดียว”

“โหยใครกันน้อจะโชคร้ายขนาดนั้น” ผมกัดเพื่อนสาวไปตามประสา

“ไม่ใช่ไรหรอกแกนี่มันก็มืดแล้ว แล้วอีกอย่างแกอย่าลืมดิห้องสมุดอ่ะมันต้องผ่านห้องกลอสน่ะ” ผมเลยเพิ่งจะเข้าใจความหมายของเพื่อนผมที่ต้องการให้ผมไปด้วย

เพราะที่นี่เวลาหลัง 5 โมงเย็นค่ำๆ แบบนี้ตึกเค้าจะปิดประตูหลังต้องเข้า ประตูหน้าซึ่งต้องขึ้นลิฟต์ไปชั้นห้าแล้วเดินผ่านห้องกลอส หรือห้องผ่าอาจารย์ใหญ่ของเด็กแพทย์นั่นเอง ผมเลยปฏิเสธไม่ได้ที่จะไปเป็นเพื่อนให้กับแม่ฮิปโปของผม

‘........ชีวิตเธอมีคุณค่า ชาวประชาเขารออยู่ รอเธอเป็นผู้ก้าวไป........’

เสียงเพลงแว่วมาตามลมจากใต้ตึกคณะแพทย์นั่นเอง ค่ำป่านนี้แล้วยังรับน้องกันอีกเหรอ ก่อนที่พวกผมจะเดินผ่านไป สายตาก็ไปบังเอิญพบกับเจ้าของร่างที่สมส่วนผิวขาว  บวกกับรอยยิ้มปนเศร้าที่ผมคุ้นเคย

ใช่แล้วติ๊บนั่นเอง เป็นหลีดกะเค้าด้วย

ผมเดาไม่ผิดแน่ครับ เพราะในกลุ่มนี้มีแต่เด็กที่จัดว่าหน้าตาใช้ได้ แล้วที่แน่ๆ คือท่วงท่าที่ กำลังยืน วาดมือปาดไปมาทั้งจังหวะเข้มแข็งและพลิ้วไหว จนผมเองก็อดมองไม่ได้ หนุ่มน้อยที่ดูค่อนข้างขี้อายที่ผมเห็นและรู้จัก แต่ในตอนซ้อมเอาจริงเอาจังแบบนี้ติ๊บกลับดูสง่า มีราศีในตอนเชิดหน้า

แบบนี้แหละมั้งที่เค้าเรียกว่า ‘ราศีจับ’

ผมเฝ้าดูติ๊บจนซ้อมเสร็จและปล่อยกลับ จนเพื่อนๆ คนอื่นทยอยกันกลับหมด ผมจึงเห็นติ๊บหอบกองหนังสือ แล้วเดินไปรอรถไฟฟ้าทางหน้าตึก  จึงได้ชวนติ๊บกลับด้วยกัน

ระหว่างที่นั่งรถไปนั้นผมจึงทราบว่าติ๊บพักอยู่หอเดียวกับผม แต่คนละชั้น แล้วผมก็ถามติ๊บว่าแล้วเวลามาเรียนมายังไง  ติ๊บก็บอกว่าเดิน

ผมถึงกับอึ้ง จริงอยู่หอผมอาจจะไม่ไกลจากมหาลัยมากนัก แต่เดี่ยวนี้ไม่มีใคร เค้าเดินไปเรียนกันแล้วใครๆ เค้าก็มีรถเครื่องขับกันทั้งนั้น เลยถามว่าทำไมไม่ซื้อรถมอเตอร์ไซด์มาใช้ซักคัน จะได้ไม่ต้องเดิน

“ติ๊บไม่มีเงินขนาดนั้นหรอกครับพี่ไม้ ทุนที่ติ๊บได้มานี่ก็จวนจะหมดอยู่แล้ว”

“ไหนจะค่าเทอม ค่าน้ำค่าไฟ ค่าหนังสือ แล้วนี่พี่ๆ ที่คณะยังจับติ๊บมาเป็นหลีดอีก บอกว่าค่าชุดอีกคนละห้าร้อย ติ๊บไม่อยากทำเลยคับติ๊บเหนื่อยๆ” เด็กน้อยพูดพร้อมกับก้มหน้า แววตาอาบด้วยน้ำตาที่คลอเบ้าตา

ผมเลยทราบเรื่องจากการซักถามว่า

ตอนนี้ติ๊บเข้ามาเรียน แต่เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ติ๊บเพิ่งทำสัญญาไปจะได้ในเทอมหน้า เทอมนี้ติ๊บเลยต้องประหยัดที่สุด เงินทุนที่ทางจังหวัดให้มาเพียงสามหมื่นบาทนั้น หักค่าเทอมเทอมและค่าใช้จ่ายสำหรับการเป็นนิสิตปีหนึ่งก็หมดไปหลายตังค์อยู่ แล้วยังมาเจอเรื่องเป็นหลีดที่ติ๊บไม่อยากทำเพราะติ๊บเต้นไม่เป็น  แถมมีเรื่องค่าตัดชุดอีกเลยไม่อยากทำ

ผมเลยต้องปลอบใจว่า

“ติ๊บรู้มั้ย มหาลัยนี่แหละทำให้เราเรียนรู้จักการใช้ชีวิตด้วยตัวเอง ถ้าแค่สองสัปดาห์ติ๊บยังสู้ไม่ได้เลยแล้วต่อไปติ๊บจะสู้ไหวมั้ยคับ การเป็นหลีดอาจจะหนักเพราะต้องแบ่งเวลา แต่ติ๊บคิดดูน่ะคนกี่ร้อยคนคัดเลือกคนมาทำหน้าที่หลีดเพียงไม่กี่คน ติ๊บคือคนที่ถูกเลือกมาแล้ว ติ๊บจะมายอมแพ้แค่นี้ไม่ได้คับ ติ๊บมีปัญหาใช่ม่ะเรื่องค่าใช้จ่ายเดี่ยวค่าชุดพี่ออกให้เอง” อะไรดลจิตดลใจให้ผมพูดออกไปแบบนั้นไม่รู้เหมือนกัน แต่ที่รู้ตอนนั้นคือผมอยากให้ติ๊บสู้

“ขอบคุณคับพี่ไม้ ติ๊บจะพยายามลองสู้ดู ให้ปัญหามันรายล้อมเข้ามาหากมันย่ามใจ ติ๊บจะลองกัดฟันสู้ดูซักครั้ง แต่เรื่องค่าจ่ายนี่ไม่ต้องน่ะคับพี่ไม้ แค่นี้ติ๊บก็เกรงใจพี่ไม้จะแย่แล้ว ให้ติ๊บลองพยายามดูก่อนน่ะคับถ้าติ๊บไม่ไหวจริงๆจะบอกพี่ไม้น่ะคับ”

“แล้วก็แต่นี้ต่อไปติ๊บมีเรียนเช้าทุกวันใช่มั้ย”

“ใช่คับ ทำไมเหรอคับ”

“ก็พี่จะบอกว่าพี่เองก็ต้องอยู่เวรเช้าทุกวัน เอางี้ เราไปเรียนพร้อมพี่เลยเอามั้ยจะได้ไม่ต้องเดินให้เหงื่อท่วมตัว”

“ขอบคุณครับพี่ไม้ แต่เดินแค่นี้เองไม่เป็นไรหรอก สมัยเรียนมัธยมน่ะติ๊บต้องเดินออกมาจากบ้านตั้งไกลกว่านี้อีก”

ติ๊บเล่าอย่างอารมณ์ดี ทำให้ผมนึกภาพออกมาถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของเด็กหนึ่งคนได้อย่างแท้จริง

“เออ เอางี้ดิ ถ้าติ๊บตื่นแล้ว ก็มีหน้าที่โทรมาปลุกพี่ตอนเช้าได้มั้ย พอดีพี่ขี้เซาน่ะนอนไม่ค่อยจะตื่น” ผมออกข้อเสนอ

“ติ๊บไม่มีโทรศัพท์หรอกคับ คงโทรปลุกพี่ไม้ไม่ได้หรอก” ติ๊บตอบกลับมา

“ก็เอาเบอร์ภายในไง โทรขึ้นมาดิ ที่ห้องติ๊บมีป่าวล่ะ”

“งั้นก็ได้คับ เอาไว้ติ๊บตื่นแล้วจะโทรมาบอกน่ะคับ”

“โอเค แต่นี่ค่ำแล้วน่ะ หิวอะไรรึยัง”

“อ้อไม่เป็น’ไรคับเดี่ยวติ๊บกลับไปทานที่ห้องก็ได้”

“อ้าวทานไรที่ห้องล่ะ พี่รหัสซื้ออะไรมาให้กินเหรอ”

ผมถามแบบนี้เพราะที่นี่มีประเพณีหนึ่งที่น่ารักมากคับ พอเลิกจากห้องเชียร์ พี่รหัสมีหน้าที่ซื้อขนมไม่ก็กับข้าวมาให้น้องๆ ในตอนเย็นเป็นการสานสัมพันธ์พี่น้องที่ดีน่ะผมว่า

“ไม่มีหรอกคับ แต่ติ๊บอ่ะเพิ่งบะหมี่เป็นอาหารเย็นมาจนท้องติ๊บไม่รับอาหารอย่างอื่นแล้วล่ะครับ”

“โห ชีวิตคนเราอะไรจะขนาดนั้น” ผมเปรยเล่นๆ กับติ๊บ

“ก็ชีวิตคนเรานี่แหละครับ ที่เป็นได้มากกว่านิยายน้ำเน่าซะอีก” ติ๊บตอบผมกลับมาพร้อมสายตาที่ทอดยาวออกไปด้านข้างรถอย่างคนเลื่อนลอย

“งั้นคืนนี้ พี่เลี้ยงข้าวติ๊บแล้วกัน มาอยู่นี่เรายังไม่ได้ทานข้าวด้วยกันเลยนะ” ที่ผมชวนไปแบบนี้ไม่ใช่อะไรนะคับ แต่เพราะผมสงสารและอยากรู้จักกับเด็กคนนี้ให้มากกว่าที่เคยอยู่นี่

ผมอยากรู้เหลือเกินว่าเกิดอะไรขึ้นกับเด็กคนนี้นักหนา  แล้วเขาผ่านอะไรมามากมายขนาดไหน

ในเวลานั้นผมคิดแค่นี้จริงๆ คับ ไม่ได้คิดเกินเลยว่าจะรักจะชอบเหมือนที่เป็นอยู่ทุกวันนี้เลย

Quote from blog:
“วันนี้พอแค่นี้ก่อนน่ะคับ  ขอโทษน่ะคับที่มาไม่ต่อเนื่อง พอดีช่วงนี้คนไข้เยอะ ไว้เดี่ยวผมมาเล่าต่อน่ะคับ  ขอคอมเมนท์เยอะๆ นะคับผม
หมอไม้รูปหล่อ”
...>
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-07-2014 17:02:33 โดย thehackzzi »

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
อีป้าแก่ๆ อ่านแล้วชอบคะเรื่องนี้ จะตามอ่านต่อนะคะ +1 จัดให้เป็นขวัญและกำลังใจค่ะ

แต้มที่ 13 ลักกี้ นัมเบอร์ รึเปล่าค่ะ  :impress2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-05-2010 22:59:27 โดย PEENAT1972 »

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
มาเป็นกำลังใจให้ (อีกแล้ว) ค่า จะติดตามแน่นอน เพราะจะเป็น FC หมอกระติ๊บแล้ววว :-[
น่ารัก นิสัยดี แล้วยังมองโลกในแง่ดีอีก  :กอด1:
พี่หมอไม้ก็เป็นคนดีนะค๊า เห็นอกเห็นใจคนอื่นด้วย นี่แหละๆ บ่อเกิดของความรักใช่ม๊า
รออ่านตอนต่อไปนะคะ :bye2:

ออฟไลน์ Phing

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1489
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-0
น่ารักทั้งคู่เลยทั้งพี่ไม้พี่กระติ๊บ
พี่ไม้เป็นคนดีมากเลย


เป็นกำลังใจให้ค่ะ
 :L2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด