เสื้อกาวน์เก่าๆ กับเราสองคน(Dr.Mike) จากนี้ จนนิรันดร์ [+อวสาน+] P.218
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เสื้อกาวน์เก่าๆ กับเราสองคน(Dr.Mike) จากนี้ จนนิรันดร์ [+อวสาน+] P.218  (อ่าน 2030188 ครั้ง)

ออฟไลน์ น้ำแข็งใส

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 274
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +130/-1
 เข้ามาตามอ่านเรื่องราวน่ารัก น่ารักเรื่องนี้เสมอค่ะ  o13

แต่อาจจะนาน นานทีถึงเม้นท์  :o8: อายๆๆๆ

ยังไงก็ติดตามตลอดนะคะ  :bye2:
 

ออฟไลน์ nonae

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +361/-1
ไม่หายไปไหนกันหรอก หมอไม้ ตามติดกันอยู่
หมอไม้ นั่นแหละ เงียบไป...คงจะยุ่งงงงง

ออฟไลน์ thehackzzi

  • <?php echo "Hello world!";?>
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1144
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-31
เสื้อกาวน์เก่าๆ.......กับเราสองคน ตอนที่ 120 หมอติ๊บกลับมาแล้ววว
โดย Dr.Mike ณ วันที่ 16 กันยายน 2010 เวลา 20:35 น.

กลางเดือนตุลาคม  หัวใจผมเต้นตูมตามและพองโตด้วยความดีใจ เมื่อ ได้ยินเสียงเจ้าตัวเล็กออดอ้อนมาตามสายว่าจะเดินทางกลับมาเย็นนี้และพูดจา ด้วยน้ำเสียงออดอ้อนให้ผมไปรับที่ขนส่งในตัวจังหวัดเอาในตอนเกือบๆเที่ยง คืน 

วันนี้ผมจึงทำงานด้วยความตื่นเต้นและเฝ้ารอเวลาให้ถึงเวลานัดกันอย่างเร็วที่สุด การรอคอยจะได้สิ้นสุดลงเสียทีเพราะผมเฝ้ารอการกลับมาของเจ้าตัวเล็กร่วมสอง อาทิตย์แล้ว  แม้จะรู้ทั้งรู้ว่าอีกไม่นานเขาก็จะกลับมาแต่ความคิดถึงมันท่วมท้นเอาเสีย เหลือเกิน พาลให้วิตกจริตไปเลยทีเดียวเมื่อนึกถึงคราวที่เราจะต้องห่างกันแสนไกลในอนาคตอันใกล้ ผมจะอยู่ได้อย่างไรกันหนอนี่

''เป็นอะไรหมอไม้ยิ้มทังวัน” เสียงหมอกิ๊กเอ่ยขึ้นหลังจากที่ได้เวลาพักวางมือจากการทำงานไปรับประทานอาหารในช่วงเที่ยงวัน

“เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร” ผมตอบหมอกิ๊กแต่ก็ยังไม่ไม่หยุดเผยรอยยิ้มกว้างๆให้หมอกิ๊กได้งุนงง

“หรือว่า  เย็นนี้มีข่าวดีอะไรหรือเปล่าบอกมานะ”

“ไม่มี๊” ผมตอบเสียงสูงปรี๊ด

“ฮั่นแน่  แฟนจะกลับมาละซิ  ยิ้มหน้าบานแบบนี้” หมอกิ๊กเดินมากระแซะข้างๆตัวผม  เขินแฮะ

“อืมม  ไปกินข้าวกันเหอะเที่ยงละ  อย่ามัวแซวกันอยู่เลย” ผมตัดบทก่อนเดินลากหมอกิ๊กไปยังโรงอาหารด้านหลังโรงพยาบาล

เมื่อ ได้ที่นั่งและได้อาหารเที่ยงตามชอบของแต่ละคนแล้วผมกับหมอกิ๊กก็จัดการอาหาร เที่ยงกันอย่างเอร็ดอร่อย  ก่อนตบท้ายด้วยไอติมสำหรับเราสองคน

“หมอไม้  ถามอะไรหน่อยซิ”  กิ๊กหันมาถามผมหน้าตาจริงจัง

“อืม  มีอะไรเหรอ”  ผมรับคำก่อนหันไปตักไอติมเข้าปากพร้อมด้วยความคิดถึงเจ้าตัวเล็กที่ชื่นชอบไอติมเสียเหลือเกิน

“หมอไม้  คบกับน้องติ๊บนี่คบกันจริงจังป่าวอะ  หรือว่าเล่นๆ ตามกระแสแฟชั่น” กิ๊กพูดจบก็ทำเอาผมหยุดชะงักกับคำถามของเธอทันที

“ก็ไม่รู้อะ  ดูๆกันไปใช่ก็คบกันต่อ แต่ถ้าไม่ใช่ก็ต้องยอมรับอะ”  ผมตอบกิ๊กไปแบบนั้นแต่ในใจนี่สิ  มันกลับคิดสวนทางกับคำตอบที่ให้หมอกิ๊กไปเล็กน้อย  คบมาจะสามปีขนาดนี้  คิดถึงขนาดนี้  รักมากขนาดนี้ยังจะให้ตอบว่าไม่จริงจังได้อีกเหรอ

“งั้นเราขอถามกิ๊กมั่งดิ”  ผมชะโงกหน้าเข้าไปใกล้เพื่อนสาวคนสวยที่นั่งอยู่ตรงข้าม

“เมื่อไหร่กิ๊กจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนกับเขาสักทีล่ะ” ผมถามจริงจังมากๆ

“แหม  หมอไม้จะไปรู้อะไร บางทีเราอาจจะมีคนที่คบๆ อยู่แล้วก็ได้แต่ปิดข่าวไม่ให้ไม้ได้รู้”

“โห  ใครวะ” ผมถามจริงจังหนักขึ้นไปอีก

“ไม่รู้ว่ะ พูดเผื่อๆไว้แต่ตอนนี้มันยังไม่มีเท่านั้นเอง   แต่หมอไม้ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ  สวยๆอย่างชั้นนี่ใครๆก็หมายปอง  ขึ้นอยู่ที่ว่าชั้นจะเลือกใครมากกว่า”  เอากับเธอซิ  พอได้รับคำตอบของหมอกิ๊กเข้าไปผมถึงกับส่ายหัวในความมั่นใจในความสวยของเธอเลยทีเดียว  สวยจริงๆเพื่อนผมคนนี้

และ หลังจากทานไอติมเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาที่เราสองคนจะต้องกลับไปทำงาน กันต่อในช่วงบ่าย ซึ่งผมเองก็มีงานรออยู่อีกไม่น้อยในช่วงบ่ายของวัน…

แต่ เมื่อกลับมาทำงานผมก็ต้องพบกับความแปลกใจไม่น้อยเมื่อพบว่ามีหนึ่งบุคคลที่ ผมไม่ค่อยอยากพบอยากเจอมันซักเท่าไหร่นั่งรออยู่หน้าเค้าท์เตอร์  และผมเองก็เลี่ยงไม่ได้เสียด้วยที่จะต้องสนทนากับบุคคลดังกล่าว

“อ้าวพี่ไม้หวัดดีครับ”  ชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง ใบหน้าคมคายลุกขึ้นพร้อมกับยกมือขึ้นไหว้ทักทายผม

“หวัดดีครับ  มาทำไรอ่ะเราวันนี้”

“พอดีผมว่าจะมาให้พี่ไม้ฟัน  เอ้ย  ขอฟันพี่ไม้  เอ้ยให้พี่ไม้ตรวจฟันให้หน่อยอ่ะคับ”  ดูท่าทางเหมือนมันจะมาเล่นซิทคอมมากกว่ามาให้ผมตรวจฟันให้นะนี่

“งั้นเบสนั่งรอแป๊บนึงนะ  เดี๋ยวพี่ขอทำคนไข้อีกคนนึงพอดีเขามารอแต่เช้าแล้ว”

จะว่าโชคดีก็เป็นโชคดีของนายเบส ที่คนไข้รายก่อนหน้านั้นแค่มาถอนฟัน  ผมจึงใช้เวลาไม่นานในการทำคนไข้คนก่อนหน้า  แต่ก็คงเป็นโชคร้ายของนายเบสที่ดันมาเจอหมออย่างผม  ผมเลยแกล้งทำงานอื่นที่คั่งค้างไว้ก่อนหน้านี้จนเสร็จเรียบร้อยจึงเรียกนาย เบสหน้าหล่อนั่นเข้าไปทำฟัน

“พอดีพี่บอยแนะนำมาอะคับ  ว่าให้มาทำกับพี่ไม้เพราะพี่ไม้ทำฟันเก่งมาก”  ไม่ทันได้ทำไรนายเบสที่นั่งลงบนยูนิตทำฟันก็จ้อขึ้นมาทันที

“พี่ว่าแล้วเชียว  คราวก่อนพี่ทำให้นายบอยไปหลายชั่วโมงไม่เมื่อยเหรอวะมาบอกว่าพี่ทำดีอีก”

“ไม่รู้เหมือนกันคับพี่ เขาบอกให้มาผมก็มา  พี่ไม้อย่าแกล้งทำนานแล้วกันนะ ผมขี้เมื่อย”    อ้าว  ไอ้นี่ออกคำสั่งหมอซะงั้น  เดี๋ยวได้โยนเครื่องมือให้ทำเองเลยดีมั้ยนี่

ก่อนที่นายเบสจะพูดพล่าม ไปมากกว่านี้ผมปรับยูนิตทำฟันลงให้อยู่ในแนวถนัดและให้คนไข้ได้นอนสบายๆบน ยูนิตนุ่มๆ  แต่ความสูงของมันก็เป็นปัญหาสำหรับผมไม่น้อยเพราะมันออกจะเกินระยะถนัดของผม อยู่ไม่น้อย  ผมสั่งให้นายเบสถอยตัวลงนิดหน่อยก่อนจัดการคลุมหน้าหล่อของมันด้วยผ้าสีม่วง และเว้นช่องไว้ให้เฉพาะช่วงปากเท่านั้น

เมื่อผมตรวจฟันของนายเบสเป็น ที่เรียบร้อยแล้วก็ไม่พบว่ามีปัญหาใดๆ นอกจากอาการเสียวฟันที่เจ้าตัวบ่นว่ามีเมื่อดื่มน้ำเย็นๆหรือไอศกรีม ดีแล้วปล่อยให้มันเสียวต่อไป จะได้ไม่กล้าชวนหมอติ๊บไปกินไอติม   ความคิดชั่วร้ายแว๊บเข้ามาในสมอง

แต่ไม่ดีกว่า  แกเป็นหมอนะไม้รักษาจรรยาบรรณหน่อย   ความคิดด้านดีในสมองค้านขึ้นมา และสุดท้ายก็จบลงด้วยการทายาแก้เสียวให้ไปก่อน  หากมีอาการอีกคราวหน้าคงต้องเอ๊กซเรย์ดูเผื่อมีฟันที่ผุซ่อนอยู่ด้านใน

“เดี๋ยววันนี้พี่ทายาแก้เสียวให้ไปก่อนเพราะดูแล้วไม่มีฟันผุ  ไม่มีหินปูนพี่เลยไม่ได้ทำไรให้แต่อาจมีปัญหาจากเหงือกร่นนิดหน่อย  อย่าแปรงฟันแรงมากแล้วกัน”  ผมสั่งกำชับก่อนเก็บผ้าและอุปกรณ์ทำฟันส่งให้ผู้ช่วย

“พอดีผมชอบทำแรงๆอะคับพี่  จะได้เสียวๆ”  เอากับมันซิไอ้เด็กคนนี้พูดจาพร้อมกับทำหน้าทะเล้นมาทางผมซะงั้น

“งั้นถ้าเสียวมาคราวหน้าพี่ก็ไม่ทายาให้แล้วนะ  ถ้าชอบเสียวๆ”   ผมตอบห้วนๆกลับไป

“เสียวอย่างอื่นพอว่าครับ  แต่เสียวฟันนี่ไม่ไหว  ทรมาน” นายเบสบอกพลางกุมหน้าหล่อๆของมันไว้ คงจะเมื่อยน่าดูเพราะผมเล่นทายาแก้เสียวให้แบบพิถีพิถันเป็นพิเศษ จะได้อ้าปากนานๆ

“ทะลึ่งใหญ่ละ  เรียบร้อยแล้วกลับไปเรียนต่อได้แล้วเดี๋ยวพี่มีคนไข้คนอื่นต่อ”  ผมเริ่มจะออกเสียงดุดันกับไอ้เด็กที่ผมเดาใจมันไม่ถูกว่าจะมาแนวไหน

“แล้วว่าแต่พี่ติ๊บกลับบ้าน จะกลับมาวันไหนเหรอพี่” ไอ้เบสยังไม่วายยื่นคำถามก่อนลุกออกจากยูนิตทำฟัน

“ไม่รู้เหมือนกัน  พี่ไม่ได้คุยกันหลายวันแล้ว” ผมแกล้งตอบทั้งที่ใจจริงคุยกันทุกคืนแต่ก็ไม่เห็นความจำเป็นว่าผมจะ ต้องบอกรายละเอียดให้มันมาเกาะแกะเจ้าตัวเล็กเลยนี่

“ไม่ได้คุยกันแสดงว่าใกล้เลิกกันแล้วใช่มั้ยพี่  เลิกกันเมื่อไหร่บอกนะผมรอเสียบ” ไอ้ เบสสื่อความหมายสองแง่สามง่ามก่อนรีบวิ่งผลุนผลันออกไปก่อนที่ขายาวๆ ของผมจะ ฟาดลงที่ร่างกายมันซักแห่งแน่ๆถ้าอยู่นานกว่านี้  กวนประสาทผมต่อไปอีกนิดได้โดนดีเป็นแน่…

หลังจากเสร็จคนไข้คนสุดท้ายในช่วงเย็นของวันแล้วผมก็รีบกลับห้องอาบน้ำแต่งตัวเสียตั้งแต่หัว ค่ำ  จนออกมาหล่อลากกกกกกก  ไม่รู้จะตื่นเต้นอะไรแค่จะไปรับเจ้าตัวเล็กที่ขนส่งในช่วงเที่ยงคืนแต่นี่ หัวค่ำอยู่เลยผมก็แต่งตัวมาทำหน้าหล่ออยู่หน้ากระจกเรียบร้อยแล้ว  ยังกะเป็นวัยรุ่นนัดเดทคราวแรกเลยวุ้ยยย

สองทุ่มผ่านไป   กับการแต่งหล่ออยู่หน้ากระจกแม้ความหล่อจะมีมากเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็เหอะ

สามทุ่มผ่านไป   กับการจัดห้องรอคอยการมาถึงห้องของใครบางคน

สี่ทุ่มผ่านไป      กับการเหงื่อแตกเพราะจัดห้องเลยต้องอาบน้ำใหม่  แล้วผมจะแต่งหล่อไปตั้งแต่หัวค่ำทำไมว่ะเนี่ยยย….

ห้าทุ่มผ่านไป    กับการนั่งรอการมาถึงของคนหนึ่งคนท่ารถขนส่งในเมืองพิษณุโลก

เที่ยงคืนผ่านไป กับการคิดถึงวันวานครั้งแรกเมื่อเจอกับเจ้าตัวเล็กที่นี่เมื่อสองสามปีก่อน

ทำไมอารมณ์ตอนนี้มันตื่นเต้น ใจเต้นโครมครามกว่าเมื่อคราวก่อนเยอะเลยละ

เที่ยงคืนเศษๆ รถปรับอากาศนครพนม – เชียงรายก็เข้าเทียบท่ารถพร้อมกับพาดวงใจของผมกลับมาด้วย

เจ้า ตัวเล็กเดินลงมาจากรถด้วยชุดสบายๆ แต่ตาปรือๆไม่บอกก็รู้ว่าคงหลับในรถมานานพอสมควร  ผมเดินไปรับกระเป๋าจากเจ้าตัวเล็กที่เดินก้าวลงมาจากรถอย่างสลึมสลือ  ขยี้หูขยี้ตาเป็นการใหญ่ ผมหัวเราะให้กับภาพที่ได้เห็นก่อนเดินลากแขนเจ้าตัวเล็กมานั่งยังที่พักผู้ โดยสารก่อนเดินไปซื้อผ้าเย็นให้เช็ดหน้าเช็ดตาจะได้หายจากอาการง่วงเหงาหาว นอนขึ้นมาบ้าง

“ทำไมลงรถมาสภาพอย่างงี้ละ” ผมเอ่ยถามพร้อมกับใช้ผ้าเย็นเช็ดไปตามใบหน้าและลำคอให้เจ้าตัวรู้สึกสดชื่นขึ้นมา

“ไม่รู้เหมือนกันตั้งแต่รถออกมาจากเมืองเลยแล้วติ๊บก็หลับมาแบบไม่รู้เรื่อง นี่แหละ  ดีนะที่ไม่หลับจนเลยขนส่งไปถึงเชียงราย” เจ้าตัวเล็กตอบก่อนหาวกว้างๆออกมาให้เห็นถึงความง่วง

“งั้นก็กลับกันเถอะจะได้รีบกลับไปนอน” ผมลากเจ้าตัวเล็กไปยังรถที่จอดอยู่ด้านข้างขนส่งทันที

เมื่อ เข้ามานั่งในรถหลังจากใช้ผ้าเย็นเช็ดหน้าเช็ดตาแล้ว  ก็ยังมีตัวช่วยเป็นคาเฟอีนจากชาเขียวเย็นเจี๊ยบในมือเจ้าตัวเล็กนั่นแหละที่ ทำให้สดชื่นขึ้นมาได้บ้าง

ผมหัวเราะพลางส่ายหน้ากับภาพที่ได้เห็นไม่คิดว่าคนเราจะหมดสภาพเพราะความง่วงได้ขนาดนี้

“ไปอดหลับอดนอนจากไหนมาเนี่ย”  ผมเอ่ยแซวขำๆหลังจากที่เจ้าตัวเล็กดูสดชื่นขึ้นมาบ้าง

“ก็ไม่ได้อดหลับอดนอนที่ไหนน่ะ  ก็คนมันง่วงก็คือง่วง” เจ้าตัวเล็กตอบค้อนๆ

“กลับบ้านไปสองอาทิตย์  คิดถึงพี่มั่งป่าว”  ผมแอบกระแซะถามแหย่เจ้าตัวเล็กเล่นๆหลังจากขับรถออกมาจากขนส่ง

“นิดนึง” เจ้าตัวตอบกลับมาเขินๆ ผมจึงบีบมือเจ้าตัวเล็กที่ผมชอบเกาะกุมมันตลอดเวลาที่ขับรถ

“แต่พี่คิดถึงติ๊บจังเลย” ผมหยอดไปหนึ่งดอกพร้อมกับหันมาจ้องหน้าเจ้าตัวเล็กให้ได้แสดงอาการเขินเล็กน้อย

“ไม่อยากคิดถึงมากเดี๋ยวคิดถึงมากก็จะเป็นห่วงมาก  กังวลมาก  คิดถึงน้อยๆวันละนิดวันละหน่อยก็พอ”  ติ๊บตอบกลับมายิ้มๆ

“อ่ะ  ก็ยังดีที่ยังคิดถึงกันอยู่บ้าง  คนเรา”  ผมเอ่ยขึ้นพลางทำสีหน้าผิดหวังสุดฤทธิ์

“ว่าแต่ช่วงที่ติ๊บไม่อยู่ไปเถลไถลที่ไหนมาบ้างหรือเปล่า”  เอาละซิ  เจ้าตัวเล็กหันหน้ามาจ้องผมแบบต้องการคำตอบอย่างจริงจัง  แอบน่ากลัวแฮะ

“ไม่ได้ไปไหนเลยทำงานตลอด  ไปไหนก็โทรบอกตลอดเลยนี่นา” ผมตอบกลับไป

“อย่าให้รู้นะ”  เจ้าตัวเล็กไม่หยุดแค่จ้องแต่ยังทำหน้าดุใส่ผมอีกด้วย

“ทำไมเหรอ “  ผมถามด้วยความอยากรู้  แต่คำตอบที่ได้กลับมานี่ซิ

“จะจับเจี๋ยนซะให้หมดปัญหาไปเลย”  เจ้าตัวเล็กให้คำตอบพร้อมกับยกมือขึ้นมาทำท่าเป็นกรรไกรตัดฉับๆเข้าที่น้อง ชายผม  อูยยยย  น่ากลัวได้อีก

“อย่าใจร้ายซิ  พี่ไม่มีใครหรอกสาบานได้  จริงๆนะ”  ผมระล่ำระลักบอกด้วยอาการกลัว

“งั้นก็รอดตัวไป  แต่ว่าดูท่าทางพี่ไม้แล้ว  ติ๊บคงไม่ใจร้ายพอจะจับพี่ไม้เจี๋ยนหรอก”

“อืมมม  พี่ก็ว่างั้นแหละ  หมอติ๊บใจดีจะตายไม่ทำร้ายคนไข้หน้าหล่อๆแบบพี่ได้หรอก “

“เปล่า  ไม่ได้ใจดี  แต่ติ๊บว่าอย่างเคสของพี่ไม้ตัดไม่ตัดก็มีค่าเท่ากัน  เพราะมันคงไม่สั้นไปกว่านี้แล้วละ”   เจ้าตัวพูดจบก็หัวเราะร่ากับมุกที่ปล่อยออกมา  แต่ผู้ชายอย่างผมซิ  ลมขึ้นหูเลยครับถือเป็นการสบประมาทอย่างแรงเลยเนี่ยยย  เดี๋ยวกลับไปต้องให้ทบทวนหน่อยแล้วว่าหมอไม้อ่ะไม่ได้มีดีแค่หน้าตาอย่าง เดียวเหมือนกันนะเฟ้ยยยยย
มิสเตอร์ไม้ เขียน
แฮกค์ พิสูจน์

ปล.
อ้างถึง
“เปล่า  ไม่ได้ใจดี  แต่ติ๊บว่าอย่างเคสของพี่ไม้ตัดไม่ตัดก็มีค่าเท่ากัน  เพราะมันคงไม่สั้นไปกว่านี้แล้วละ” 
อะจึ๊ย...

b27072010

  • บุคคลทั่วไป
ติ๊บเตรียมตัวอ่วมได้เลย

หมอไม้เค้าจะพิสูจน์นะ

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
 :m20: :m20: :m20:หมอไม้สงสัยสั้นจริงๆอ่ะดิ

teukkie

  • บุคคลทั่วไป
ห๊าาาาาาาาา

พี่หมอไม้มาลบคำสบประมาทด่วนๆๆๆเลยคร่าาาา อิอิ

หมอติ๊บนี้ พูดความจริงออกมาได้ไงเนี่ย

คิคิ   :laugh:


Panda-Ba

  • บุคคลทั่วไป
กะจะเข้ามาดู ก่อนไปอ่านหนังสือสอบ
แล้วก็ได้อ่านตอนใหม่สมใจ

หมอเบสนี่เค้าไม่เลิกลาจริง ๆ
กลับไปถึงห้องพี่ติ๊บจะเป็นปลาหมอตายเพราะปากมั้ยคะเนี่ย ?

ขอบคุณพี่ไม้กับพี่แฮคด้วยคะ
ไปอ่านหนังสือแล้ว TT.

ออฟไลน์ nonae

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +361/-1
พึ่งรู้...หมอไม้สั้นนนน...
หมอติ๊บรับศึกหนักแน่...ไม่อยู่หลายวัน อิอิ

Pra2

  • บุคคลทั่วไป
นายเบสนี่ช่างกล้าตลอด มาขอเสียบถึงที่เลย ๕๕๕

มาสะดุดกับประโยคสุดท้ายหนิ  :haun5: พี่หมอติ๊บสบประมาทพี่หมอไม้เต็มๆเลย  :m20:

MaeMoo

  • บุคคลทั่วไป
ที่มาของการจับ ไม้สั้น (ไม้ไม่ยาว) อ่ะ...ล้อเล่นนนน

มาตามอ่านตลอดนะคะ ไม่เบื่อหรอกค่ะ
ชีวิตคนเรา มีหลายช่วง หลายจังหวะ
การที่เรียบๆ เรื่อยๆ ก็ยังบอกได้ว่า มีความสุขอยู่นี่นา ใช่มั้ยคะ

ขอบคุณน้อง hackz ด้วยจ้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






icyblue

  • บุคคลทั่วไป
หมอไม้สั้นจริงเหรอค่ะหมอติ๊บ  :m20:

อย่างนี้หมอไม้ต้องออกปฏิบัติการบ่อยๆ หมอติ๊บจะได้พิสูจน์เอาไม้เมตรมาวัดเลย หรือจะวัดด้วยตัวเองคร่า :-[


 :กอด1: :L2:

aim

  • บุคคลทั่วไป
หมอไม้ เกลียมัว แต่แรกเลยหรอ โหอำนาจเบ็ดเสร็จอยู่ที่น้องซะแล้ว 55
ไหนหมอไม้โชว์ให้ดูหน่อยสิ ว่าไม่ได้มีดีที่หน้าตาอย่างเดียวเนี่ย มีอะไรอย่างอื่นที่ดีมั่งเอ่ย

ออฟไลน์ DraCo_SLa13

  • I swear that, will love Super Junior forever..........
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2124
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +314/-3
อ๊าววววววววววว...พี่หมอไม้

สั้นก็ไม่บอกนะพี่ :laugh:

ส่วนแก คุณเบส  เป็นไรมากป่ะ :angry2:

ปล. พี่หมอ Avatar พี่หมอไม้  รูปใครเหรอค่ะ :-[

ออฟไลน์ pukpra

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1997
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-0
เชื่อละ ว่าทั้งหมอไม้ กับหมอติ๊บ ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา 555

ห่างหายกันไป 2 อาทิตย์ ต้องชดเชยให้สมกับที่คิดใช่มะหมอไม้ หุหุ

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7

ออฟไลน์ lomekung

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1762
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1

ออฟไลน์ evilheart

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-3
มาดิทเม้นท์ให้แล้ว
เบสเนี่ยไม่เบาเลยนะ
มาหาข้อมูลแล้วทิ้งท้ายไว้แบบนี้
มันน่าจับเจี๋ยนแทนหมอไม้จิงๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-09-2010 07:46:04 โดย evilheart »

Loidelohm

  • บุคคลทั่วไป
ครับๆ รอครับผม
นานเท่าไหร่ก็จะรอ....

ขออย่างเดียว...ว...................ว.........................................ว



อย่าสั้น  เหมือน........เหมือน.......................เหมือนคนนั้นอ่ะ

ออฟไลน์ aehJTS

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +216/-8
โอ้ยยยย...ขอหายใจก่อนคะ วิ่งสี่คูณร้อยตามเรื่องราวของหมอไม้ และหมอติ๊บ มาวันกว่า ๆ
อื่มมมม...แต่ยังไม่ทันเจ้าคะแบบว่าเพิ่งได้ 13 หน้าเองคะ :m17: แต่อยากมาแสดงตัวก่อน
แบบว่าอึดอัดอะอยากบอกว่ามันหน้ารักเกินไปแล้วนะความรักของคุณหมอทั้ง 2 ทำให้อิจฉา...มากกกก...
มาเหมือนตัวอิจฉาเลยเรา ยังไงจะพยายามอ่านตามให้ทันแล้วกันนะคะ (แม้มันจะอีกยาวนานมาก ๆ) และจะขอตามติดชีวิตของทั้งคู่ต่อไปคะ

มาขอ :กอด1: น้อง hackz แน่ ๆ ซักทีคะ และขอบคุณที่เอาเรื่องราวดี ๆ ของคนทั้งคู่มาให้อ่านกันคะ

 :pig4: คะ

ปล.ตามทันแล้วจะเม้นตอนปัจจุบันนะคะ แต่ถ้ายังไม่ทันขอเข้ามาเพ้อเจ่อย้อนหลังไปเลื่อย ๆ แล้วกันคะ

ออฟไลน์ kokikung

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1594
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-3
น่ารักเนอะไม่มีตอนไหนที่ไม่สวีตหวานกันเลยจิงๆๆๆ

หมอติ๊บเข้มแข็งที่สุดเลย

ใกล้แล้วจิที่หมอไม่้จะไปอ่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ sweetener

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
เบสนี่ยังไม่เลิกอีก มีช่องหน่อยเป็นจะเสียบทุกที

คิดสภาพตอนลงรถได้เลยอ่ะ  เพราะเป็นแบบนี้ประจำ

puenfriend

  • บุคคลทั่วไป
อยากจะ  :beat: เบสจิงงง

นึกว่าจะหยุดเเล้วซะอีก มันน่านัก

อารัยสั้นๆๆ เอ๊ะ!!อารัยยังไง

 :confuse: ฮ่าๆๆ


gtower

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ โดดเดี่ยวแต่ไม่

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-6
 :haun4:หมอไม้เนี่ยร้ายไม่เบานะเนี่ย55555+

ท่าทางงานนี้หมอติ๊บเจอสึกหนักแน่นอน เอากำลัใจมาฝากครับ

สวัสดีครับน้องแฮค สบายดีนะครับ ดูแลสุขภาพด้วยละ

ห่วงใยเสมอนร้าครับ :L1:

aim

  • บุคคลทั่วไป
โอม 144 จงมา จงมา จงมา
ไปและ ฝนตกรักษาสุขภาพกันทุกคนนะ

รอคอยตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ

gtower

  • บุคคลทั่วไป
Re: เสื้อกาวน์เก่ū
«ตอบ #4255 เมื่อ19-09-2010 18:13:06 »

 :z13: จิ้มให้ 144 ขึ้นมาฮึบๆ


แอร๊ยยย เปิดซิง 144

ออฟไลน์ fanfic2010

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-7
หมอไม้ค้าบ ลูกผู้ชายฆ่าได้ หยามไม่ได้
จัดไปให้หนักเลยค้าบ

kanda53

  • บุคคลทั่วไป
น้องหมอติ๊บ....ขี้ลืมน้า...แบบนี้พี่หมอไม้ต้อง
ทบทวนบ่อย ๆ หน่อยเนอะ.... :z1:

 :pig4: คุณหมอ ๆ กะ น้อง hackz :pig4:
กด + ให้กำลังใจค่ะ

ออฟไลน์ thehackzzi

  • <?php echo "Hello world!";?>
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1144
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-31
เสื้อกาวน์เก่าๆ.......กับเราสองคน ตอนที่ 121 ประสบการณ์ ณ ภูขัด
โดย Dr.Mike ณ วันที่ 16 กันยายน 2010 เวลา 22:50 น.

“พี่ไม้ครับ  ติ๊บมีเรื่องจะขออนุญาตพี่ไม้หน่อย” เจ้าตัวเล็กเอ่ยขึ้นมาขณะที่เราสองคนนั่งทานอาหารกันอยู่หลังห้อง  พร้อมด้วยกับข้าวแสนอร่อยจากเจ้าตัวเล็ก

“มีอะไรเหรอ” ผมทำหน้างงเพราะนานๆเจ้าตัวเล็กจะเอ่ยปากขออนุญาตผมไปทำโน่นนี่นั่นซักที

“พอดีวันเสาร์นี้ทางชมรมทุนการศึกษา เขาจะมีไปออกค่ายที่ ‘ภูขัด’ ไปมอบทุนการศึกษาอุปกรณ์การเรียนให้น้องๆ ติ๊บก็เป็นเด็กในชมรมถ้าไม่ไปช่วยงานอะไรเขาบ้างมันก็จะดูน่าเกลียดเพราะ ติ๊บก็ได้ทุนมาหลายทุนจากชมรมนี้เหมือนกัน”

“อืม  ก็ดีนะ  ว่าแต่ภูขัดนี่มันอยู่ที่ไหนอ่ะพี่ไม่รู้จัก ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย”

“เห็นพี่หัวหน้าชมรมแกบอกว่าอยู่ที่ ‘นครไท’  แต่อยู่ส่วนไหนของนครไทติ๊บก็ไม่รู้เหมือนกัน” เจ้าตัวเล็กให้คำตอบแต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้ผมเข้าใจอะไรมากขึ้นนัก

“แล้วมีเพื่อนในคณะไปด้วยหรือเปล่า  หรือมีแต่คนในชมรมเท่านั้น”

“พี่เขาบอกว่าเป็นคณะอื่นๆ ไปด้วยกันเดี๋ยวก็รู้จักกันเองนั่นแหละ  พี่ไม้จะไปด้วยก็ได้นะเพราะพี่เขาไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นคนในชมรมเท่านั้น ซื้อขนมหรืออุปกรณ์การเรียนไปแจกเด็กๆด้วยก็ได้ พี่ไม้ก็ไม่มีโปรแกรมไปไหนอยู่แล้วนี่คับวันเสาร์นี้อะ”

“วันเสาร์นี้ใช่มั้ย “  ผมถามเพื่อความแน่ใจ

“ครับ  วันเสาร์นี้”  ติ๊บตอบกลับมาให้ผมได้มั่นใจและตอบตกลงจะไปร่วมกิจกรรมดีๆครั้งนี้ด้วย…

เช้าตรู่วันเสาร์ของปลายเดือนตุลาคม  ผมขับรถคู่ใจมาจอดยังลานจอดรถของมหาวิทยาลัยก่อนเดินตามเจ้าตัวเล็กที่หอบ ขนมพะรุงพะรังพร้อมกับอุปกรณ์การเรียนเดินตรงไปยังกลุ่มคนที่นั่งกันอยู่ที่ หน้าโรงอาหาร พร้อมกับมีรถขนหมู ( ขอเรียกว่ารถขนหมู เพราะเป็นรถหกล้อหน้าตัดคันใหญ่ที่ใช้ในการขนหมู  ตามที่ผมเคยเห็นมา  แต่ปรับให้ด้านข้างมีที่นั่งสำหรับการขนคนอาสาในครั้งนี้เรียบร้อย )

ส่วนผม หมอฟัน ฮ่าฮ่า  เดินถือกล่องแปรงสีฟันที่เหลือจากที่แผนกที่มีสปอนเซอร์หลักให้มาเพื่อไว้ ใช้แจกคนไข้หลายโหลจึงขอแบ่งจากพี่ๆที่แผนกมาและได้รับความร่วมมือเป็นอย่าง ดี

หมอติ๊บยกมือไหว้หญิงวัยกลางคนก่อนแนะนำให้ผมรู้จักว่า เป็นเจ้าหน้าที่หน่วยทุนการศึกษาของทางมหาวิทยาลัย  และหลายๆคนที่ติ๊บเริ่มคุ้นเคยเพราะรู้จักกันที่ชมรมบ่อยๆและเล่าให้ผมฟัง ว่าหลายๆทุนก็ต้องแก่งแย่งกันเองในบรรดาเพื่อนๆในชมรม จนรู้จักและคุ้นเคยกันโดยปริยายและผมก็เพิ่งรู้จากเด็กๆพวกนี้เองว่า ติ๊บเองก็มีฉายาจากเพื่อนๆในชมรมว่า เจ้าตัวเขมือบทุน ชื่อฟังดูน่ากลัวดีเหมือนกันแฮะ

เจ็ดโมงตรง  บรรดาเด็กๆและเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยรวมทั้งผมด้วยก็ออกเดินทางด้วยรถขน หมูมุ่งหน้าสู่เป้าหมายที่ได้แจ้งให้ทราบกับนนรถนั่นก็คือที่ ภูขัด เป็นภูเขาที่เคยมีการสู้รบกันในสมัยที่ประเทศไทยยังมีกองกำลังที่อยู่ตามป่า เขา  และยากแก่การจัดการของเจ้าหน้าที่รัฐและเหตุการณ์ดังกล่าวก็เพิ่งจะมาสงบเอา ในยุคหลัง

ในระหว่างที่เรากำลังเดินทาง  เด็กๆก็สนุกสนานไปกับการแนะนำตัวและร้องรำทำเพลงจนทำให้ทุกคนสนุกสนานและ สนิทกันมากขึ้นจากการแนะนำตัวและพูดจาทักทายกัน

ช่วงสายของวันรถก็มา ถึงยังอำเภอนครไท  ก่อนรถมุ่งหน้าขึ้นภูขัด เมื่อมาถึงตีนเขาพวกเราต้องเปลี่ยนรถจากรถขนหมูเป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อ เนื่องจากเป็นพื้นที่เขาสูงชัน  ขนาดเป็นรถยนต์แบบขับเคลื่อนสี่ล้อแต่ผมยังเห็นจากหน้าที่ของที่นี่ยังต้อง ใช้โซ่พันเข้ากับล้อรถยนต์คงไม่ธรรมดาแน่ๆ 

และก็เป็นจริงดังคาดเพราะทางที่เราขึ้นสู้โรงเรียนที่ตั้งอยู่บนยอดเขานั้น เส้นทางสูงชันและคดเคี้ยวเอาเสียมากๆ บางทีก็เป็นธารน้ำ  บางช่วงเป็นโคลน ทุลักทุเลกันพอสมควรแต่ทิวทัศน์ข้างทางก็สวยมากทีเดียวเป็นป่าใหญ่เขียวชะ อุ่ม ผ่านน้ำตกบ้าง  ผ่านยอดเขาให้มองลงมาเห็นยอดไม้ให้ได้เสียวไส้กันเล่นๆ  กว่าจะมาถึงยังโรงเรียนภูขัดกันในตอนสายๆของวันอย่างสะบักสบอมกันเลยทีเดียว…

ตอนสายๆ ของวันแดดออกแล้ว แต่ทว่าอากาศบนดอยสูงแห่งนี้ยังคงเต็มไปด้วยความเย็นจากสายลมแรงที่ปะทะเรา เป็นระยะ  พี่ๆอาสาทุกคนเข้าแถวแนะนำตัวกับน้องๆที่ผมสังเกตเห็นว่าบางคนก็มีชุดนักเรียนเก่ารุ่งริง  มอมแมมมาเข้าแถว  บางคนก็เป็นชุดเสื้อผ้าธรรมดามอมแมมเก่าๆ  หรือที่หนักไปกว่านั้นเด็กๆบางคนแก้ผ้ามาโรงเรียนก็มี  นี่ประเทศไทยยังมีที่แบบนี้อยู่อีกเหรอเนี่ย  คือแก้ผ้านี่เข้าใจว่าเป็นเด็กนะแต่บางคนวัยขนาดนี้แล้วก็ไม่น่าจะมีการแก้ ผ้าออกนอกบ้านแล้วนะในความคิดของผม  แต่ก็อย่างว่าแหละคนเราเกิดมาในวิถีที่แตกต่างกันจะเอากฎเกณฑ์ของสังคมหนึ่ง สังคมใดมาเป็นตัววัดไม่ได้

เด็กๆพาพวกเราเดินดูบรรยากาศรอบ โรงเรียนที่ตั้งอยู่บนยอดดอยสูง  ด้านหลังโรงเรียนสามารถมองลงไปเห็นเบื้องล่างได้เป็นอย่างดีแสดงว่าภูขัดนี้ ต้องตั้งอยู่บนยอดเขาที่สูงที่สุดของละแวกนี้เป็นแน่  โรงเรียนเป็นอาคารคอนกรีตหนึ่งหลัง  อาคารไม้ชั้นเดียวอีกหนึ่งหลังที่ใช้เป็นทั้งห้องเรียนและโรงอาหารด้วย   ด้านข้างเป็นแปลงพืชผักสวนครัวที่เด็กๆช่วยกันปลูกและมีบ้านพักครูหนึ่ง หลัง  เด็กๆต้องเดินเท้าขึ้นมาจากด้านล่างตีนเขาเพื่อขึ้นมายังโรงเรียนในแต่ละ วัน  และต้องมาฝากท้องไว้กับอาหารมื้อกลางวสันที่โรงเรียนเพราะพ่อแม่มีฐานะยากจน

การมาออกค่ายแบบนี้ก็ทำให้ผมเรียนรู้อะไรได้มากมายเหมือนกันนะนี่ พวกพี่อาสาแบ่งออกเป็นฐานๆให้เด็กเวียนกันไปเรียนรู้ในแต่ละฐาน  ส่วนผมก็ติดสอยห้อยตามไปกับเจ้าตัวเล็กด้วย  โดยที่ฐานนี้เนื่องจากมีว่าที่คุณหมอและหมอฟันจึงตกลงกันว่าจะสอนเด็กดูแล ความสะอาดของร่างกาย  ส่วนผมก็สอนการแปรงฟันและแจกแปรงสีฟันยาสีฟันให้เด็กๆกลับไปใช้ที่บ้าน ด้วย   ดูมันเป็นสิ่งมีค่าที่เด็กๆได้รับเอาเสียเหลือเกิน

ตอน นี้ผมแอบมานั่งฟังว่าที่คุณหมอสอนเด็กๆดูแลความสะอาดของร่างกายอยู่หลังห้อง ร่วมกับพวกเด็กๆ จนเสร็จสิ้นการสอนของว่าที่คุณหมอจึงได้รับเสียงปรมือจากเด็กๆ

“พี่หมอขา  จะเป็นหมอต้องทำยังไงบ้างคะ” เสียงเด็กหญิงรุ่นพี่ของเด็กๆในกลุ่มยกมือเอ่ยถาม

“จะเป็นหมอก็ต้องขยัน  อดทน  และอดทนจ๊ะ” ติ๊บตอบยิ้มๆ

“ทำไมต้องอดทนด้วยค่ะ”

“ก็อดทนอ่านหนังสือ   อดทนขยัน   อดทนกับแรงกดดัน  อดทนกับคนไข้ก็มีนะ” ติ๊บตอบยิ้มๆ

“แล้วหนูจะมีโอกาสเป็นหมอแบบพี่หมอได้มั้ยค่ะ”

“ได้คับถ้าน้องมีความขยันและอดทนมากพอ  พี่เชื่อว่าน้องทุกคนเป็นหมอได้” หมอติ๊บพูดจบก็ได้รับเสียงปรบมือเกรียวกราวก่อนที่เจ้าตัวเล็กจะได้ใจเด็กๆ มากขึ้นไปอีกด้วยการแจกขนมที่ให้ผมไปกว้านซื้อมาให้เมื่อวันก่อน

“หมอติ๊บ  ช่วยด้วยค่ะ  มีเรื่องด่วนที่ซุ้มข้างนอกโน่น”  เสียงหญิงสาวที่มาเป็นพี่อาสาวิ่งมาหยุดที่หน้าประตูก่อนพูดจาด้วยน้ำเสียง เหนื่อยหอบเพราะต้องวิ่งขึ้นเนินมาไกลพอสมควร

ไม่ต้องรอให้เธอพูดจบหมอ ติ๊บก็วิ่งพรวดออกไปนอกห้องเรียนวิ่งลงไปยังซุ้มด้านล่างทันทีพร้อมกับเด็กๆ ที่วิ่งกรูตามกันออกไปรวมถึงผมที่วิ่งตามก้นเด็กๆไปติดด้วย

ภาพที่ เห็นทำเอาผมจะเป็นลม   เด็กชายตัวน้อยลื่นล้มบนพื้นลูกรังเลือดไหลโชกไปทั้งข้อศอกและหัวเข่า  ความจริงก็คงเป็นแผลถลอกธรรมดาแต่คงโดนหินบาดเข้าไปด้วยเลือดเลยไหลโชกเสีย จนน่ากลัว  แต่ก็อย่างว่าแหละเนาะคนเขาจะเป็นหมอเขาก็ตั้งสติได้ก่อนคนอื่นๆเสมอ

เจ้า ตัวเล็กให้ผมอุ้มเด็กชายตัวน้อยเข้าไปยังอาคารไม้ที่ใช้เป็นโรงอาหารก่อน เอ่ยถามคุณครูถึงเครื่องมือปฐมพยาบาลเบื้องต้น  และขอให้เด็กๆไปเอาน้ำสะอาดใส่กะละมังมา

ตอนนี้ผมถอยออกมายืนอยู่ห่าง เพราะเห็นเลือดไหลขนาดนั้นก็ไม่ไหวเหมือนกันพาลทำเอาผมมือไม้อ่อนปวกเปียก แข้งขาสั่น  ผมจึงเลี้ยงออกมานั่งดูอยู่ห่างๆพร้อมกับเด็กและพี่อาสาคนอื่นๆที่ลุ้นและ เอาใจช่วยว่าที่คุณหมออย่างใจจดใจจ่อ

“น้องชื่ออะไรครับ”  หมอติ๊บเอ่ยถามเด็กชายที่ทำหน้าตาเหยเกด้วยความเจ็บปวด

“ผมชื่อ อาจู คับ”  เด็กชายตอบพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมามองหน้าหมอติ๊บ

“งั้นเดี๋ยวพี่หมอติ๊บจะล้างแผลให้อาจูก่อนน่ะ  อาจจะแสบหน่อยน่ะแต่เดี๋ยวพี่จะเอาเชื้อโรคออกถ้าอาจูเจ็บอาจูบอกพี่ติ๊บนะ”

“คับผม” เด็กชายตัวน้อยยิ้มรับกับว่าที่คุณหมอที่กำลังใช้น้ำอาดล้างแผลตรงหัวเขาที่เลือดไหลโชก

“อาจูกลัวเลือดมั้ย”  หมอติ๊บเอ่ยถามยิ้มๆ

“กลัวครับ”  เด็กชายตัวน้อยตอบแต่ก็ไม่ละสายตาไปจากเข่าตัวเองที่มีเลือดไหลโชก หมอติ๊บล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าถือของตัวเองก่อนยื่นยาดมให้เด็กชายอาจู

“งั้นอาจู  ดมยาดมนี่น่ะ  แล้วถ้ากลัวก็หลับตาเดี๋ยวพี่หมอติ๊บขอดูแผลหน่อยนะคับ”

เด็ก ชายตัวน้อยรับยาดมไปดม  ก่อนหลับตาปี๋ด้วยความแสบหรือความเจ็บไม่รู้ได้เมื่อหมอติ๊บใช้น้ำสะอาดล้าง แผลที่ถูกปกคลุมด้วยเลือด  และใช้คีมคีบเอาเศษหินเศษดินที่ติดค้างอยู่บนรอบถลอกนั้นออกจนสะอาดเกลี้ยง ก่อนจะพบว่าที่เลือดไหลออกมานั้นน่าจะเป็นแผลจากการถูกหินหรือเศษแก้วบาด เป็นแน่   แต่ดีที่แผลไม่ใหญ่มาก

“สงสัยต้องเย็บแผล”  ติ๊บทำท่าครุ่นคิดครู่ใหญ่ก่อนหันไปถามคุณครูที่ทั้งโรงเรียนมีเพียงสองคน

“จากนี่ไปโรงพยาบาลหรืออนามัยที่ใกล้ที่สุดนี่ต้องใช้เวลานานแค่ไหนครับ”

“ก็ลงไปยังจุดที่ไปรับคุณหมอเมื่อกี้อะค่ะ  แล้วก็ต่อรถไปยังอนามัยตำบลห่างออกไปประมาณแปดถึงเก้ากิโลเห็นจะได้”

“แล้วที่นี่มี อสม. หมู่บ้านมั้ยครับ”

“มีค่ะพี่ให้คนไปตามให้แล้วเดี๋ยวคงขึ้นมา”  ครูสาวตอบด้วยอาการตื่นเต้น

ตอน นี้หมอติ๊บใช้ผ้าก๊อตปิดปากแผลที่โดนบาดบริเวณหัวเข่าของเด็กชาย  แต่เพียงไม่นานผ้าก๊อตก็ชุ่มไปด้วยเลือด  ในขณะที่ติ๊บล้างแผลและทำแผลบริเวณข้อศอกให้เด็กชายเป็นที่เรียบร้อยเหลือ จุดที่น่าเป็นห่วงอยู่จุดเดียวนั้น  ตอนนี้คนที่เป็น อสม ของหมู่บ้านก็เดินเข้ามาพร้อมอุปกรณ์การแพทย์พื้นฐานครบชุด

“งั้นเราคงไม่มีเวลามากเพราะน้องก็เจ็บมากแล้ว”  เจ้าตัวเล็กพูดเมื่อนำเครื่องมือแพทย์ออกมาจัดวาง

“พี่ไม้  ช่วยติ๊บหน่อยได้มั้ย” เอาละซิ  งานเข้าผมอีกจนได้

ผมเดินลงมาหยุดข้างๆเจ้าตัวเล็ก  ก่อนก้มลงไปดูแผลเด็กชายที่แผลไม่ใหญ่มากนักแต่ทว่าเลือดก็ไหลไม่หยุด  เพราะปากแผลเปิดอยู่นั่นเอง

“ติ๊บยังเย็บแผลไม่เก่ง   พี่ไม้ช่วยหน่อยนะ”  ติ๊บตอบก่อนยื่นเข็มและไหมเย็บมาให้ผมแบบไม่ทันให้ผมได้ตั้งตัว  และไม่ทันที่ผมจะตอบรับหรือปฏิเสธอุปกรณ์ก็วางอยู่ตรงหน้าผมเรียบร้อย  จะว่าไปเรื่องการเย็บแผลก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับผมเท่าไหร่หรอกเพราะบางทีใน วิชาชีพของผมก็ต้องเย็บแผลในช่องปากให้คนไข้อยู่บ้าง  แต่ไม่คิดว่าจะต้องมาเย็บแผลนอกช่องปากนี่ซิ

หมอติ๊บจัดการใช้น้ำยา ล้างแผลเช็ดรอบขอบแผลก่อนที่ผมจะจัดการเย็บสด  และตอนนี้ผมยอมรับในตัวเด็กชายอาจูคนนี้เหลือเกินว่าใจเด็ดมากๆ  ไม่มีร้องซักคำ  นอกจากยิ้มให้กับหมอติ๊บที่ยิ้มให้คนไข้ตัวน้อยเป็นระยะ  จำได้ว่าวันนั้นผมเย็บไปทั้งหมดหกเข็มถ้าเป็นหมอที่ไม่ใช่หมอฟันเขาคงไม่ เย็บหลายเข็มขนาดนี้แต่เพราะผมชินกับการเย็บแผลในช่องปากที่ต้องเย็บถี่ๆ เผื่อให้แผลหายไว  ผลจึงออกมาดังกล่าวแต่ก็สร้างความพอใจให้หมอติ๊บที่ดูอยู่ห่างๆไม่น้อย   

ผลการรักษาผ่านไปด้วยดีเลือดหยุดไหล  แผลถลอกถูกล้างแผลและทำความสะอาดปิดแผลเรียบร้อย  ส่วนผมเมื่อเย็บแผลเสร็จก็ออกมาดมยาดมพงาบๆ  ทำให้เพื่อนอาสาที่มาด้วยถึงกับออกปากแซวกันเลยทีเดียว   ตอนนี้เจ้าตัวเล็กก็ให้เด็กชายอาจูกินยาแก้ปวดก่อนให้นอนพักและรอผู้ปกครอง มารับกลับบ้านในที่สุด…

หลังจากกิจกรรมอันน่าตื่นเต้นผ่านพ้น ไป  ก็ได้เวลาพักทานอาหารเที่ยงร่วมกันระหว่างๆพี่อาสา  กับน้องๆที่ทำกับข้าวไว้ต้อนรับพวกเรา  พร้อมกับการแสดงน่ารักๆของเด็กตัวน้อย  ก่อนที่เราจะย่อยอาหารด้วยการทำกิจกรรมร่วมกับเด็กๆก่อนจะมีการมอบทุนการ ศึกษาและอุปกรณ์การเรียนให้กับทางโรงเรียน  และล่ำลาเด็กๆกันในตอนบ่ายๆ  เพราะกว่าพวกเราจะกลับไปถึงมหาวิทยาลัยก็คงค่ำมืดกันพอดี

ถือเป็นประสบการณ์การออกค่ายที่ผมไม่เคยได้รับมาก่อนซิน่ะเนี่ย  ทั้งตื่นเต้น  ทั้งอิ่มใจ  สุดๆไปเลยครับงานนี้แต่ที่ได้รับคำชมไม่ขาดปากคงเป็น ว่าที่คุณหมอหนึ่งเดียวของคนอาสาชุดนี้นั่นแหละมั้ง  รับคำชมไม่ขาดปากกันเลยทีเดียว

“วันนี้ติ๊บว่าคนที่เก่งกว่าติ๊บอีกก็คือพี่ไม้นี่แหละ  ถ้าไม่ได้พี่ไม้คงต้องเดินทางไปเย็บแผลอีกหลายกิโลเป็นแน่” ติ๊บเอ่ยขึ้นขณะที่เราเดินทางกลับมาถึงหอพัก

“แต่คราวหลังไม่เอาแล้วนะ  ไม่ทันได้เตรียมตัวแบบนี้มือไม้สั่นไปหมด”  ผมตอบแบบเข็ดๆ

“อ้าว  เวลามีคนไข้ใครจะไปรู้ว่าคนไข้จะมาตอนไหน  รูปแบบไหน”  เจ้าตัวเล็กค้านขึ้นมา

“ไม่รู้ละพี่เป็นหมอฟัน  นัดคนไข้เป็นเวลาแน่นอนว่าจะมาตอนนี้ชั่วโมงนี้  ทำโน่น นี่ นั่น รู้ก่อนล่วงหน้าว่าจะทำอะไรกับคนไข้บ้าง  ไม่ใช่มานั่งลุ้นเอาแบบหมอ”

“เอานะ  อย่างน้อยพี่ไม้ก็เป็นซุปเปอร์ฮีโร่ของเด็กๆไปแล้วละสำหรับคืนนี้” เจ้าตัวเล็กเดินมากอดรอบคอผมก่อนให้รางวัลผมด้วยการหอมแก้มไปหนึ่งที 

ดีนะที่วันนี้เหนื่อยล้ากันมาทั้งวันไม่เช่นนั้นคงได้มีการให้รางวัลว่าที่คุณหมอกลับไปเป็นแน่  อิอิ

มิสเตอร์ไม้ ขีดๆ เขียนๆ
แฮกค์ เกลาๆ ขัดๆ

ปล. จะว่าผมมีความสุขมากนะครับ ที่ได้ไปเข้าค่ายอาสาแบบนี้ ไปมอบของ ไปร่วมกิจกรรมกับเด็กน้อยต่างถิ่นที่ห่างความเจริญแบบนี้ มันเป็นประสบการณ์ที่ดีมากครับ ว่าแล้วก็แอบคิดถึงช่วงเวลานั้นจริงๆ

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด