เสื้อกาวน์เก่าๆ.......กับเราสองคน
ตอนที่ 97
ความอ่อนแอ ของนายเพียวจนดึกสองว่าที่คุณหมอก็ขอตัวเข้าไปนอนก่อน
และผมก็รู้สึกปวดเมื่อยกล้ามเนื้อไปหมดแล้วจึงขอตัวเข้านอนก่อนทิ้งให้สองหนุ่มได้เล่นกีต้าร์กันไปสองคน
ความรักกับรองเท้า
เคยได้ยินไหม
ที่ใครเคยบอกว่ารัก..
เป็นดั่งรองเท้าคู่หนึ่ง
ฉันได้ลองหา
เพื่อมีวันหนึ่งที่ฉัน..
ได้เจอรองเท้าที่ถูกใจ
บางทีก็ดูคับเกินไป
บางที่ไม่เหมาะสมกับฉัน..สักเท่าไหร่
จนได้มาพบได้เจอรองเท้าคู่หนึ่ง...
ที่ดูแล้วเข้ากับฉัน
มาถึงวันนี้... ก้าวเดินด้วยกันก็นาน...
และตัวฉันยังพอใจ
บางคนบอกไม่สวยเท่าไหร่
แต่นี่คือที่ฉันมั่นใจ
ว่าฉันไม่เคยจะเปลี่ยนใจ
จากรองเท้าที่ฉันใส่
อาจจะดูว่าเก่าเกินไป
แต่ฉันก็ผูกพัน
ตื่นเช้าขึ้นมา ก็ใส่เดินไป
ก้าวไปกับฉัน
ได้ออกไปเจอกับสิ่งดีดี
ที่มีด้วยกัน ..... ตลอดไป
แม้หนทางที่เดินไป
มันจะดูไม่ง่ายดาย
แต่ฉันก็ยังจะก้าวไป
กับรองเท้าคู่ใจของฉัน .... ต่อไป
บางทีก็ดูคับเกินไป
บางที่ไม่เหมาะสมกับฉัน
บางคนบอกไม่สวยเท่าไหร่
แต่นี่คือที่ฉันมั่นใจ
ว่าฉันไม่เคยจะเปลี่ยนใจ
จากรองเท้าที่ฉันใส่
อาจจะดูว่าเก่าเกินไป
แต่ฉันก็ผูกพัน
ตื่นเช้าขึ้นมา ก็ใส่เดินไป
ก้าวไปกับฉัน
ได้ออกไปเจอกับสิ่งดีดี
ที่มีด้วยกัน ..... ตลอดไป
เอาละซิ หนึ่งบทเพลงผ่านพ้นไปที่ผมรู้สึกว่ามันทะแม่งๆ มันแทงใจผมจี๊ดๆ
แต่ต้องยอมรับอยู่อย่างหนึ่งว่านายเพียวคนนี้ร้องเพลงและเล่นกีต้าร์เพราะเอามากๆทีเดียว
นี่ถ้าไม่บอกผมคงคิดว่านักร้องมาร้องเองแล้วซะอีก
แต่เอ….. ความหมายสื่อถึงการคิดถึงคนรักเก่า
อะไรเก่าๆ ที่เคยผูกพัน มันชักจะยังไงๆอยู่นะ และผมคงจะไม่คิดอะไรมาก
ถ้าเพลงนี้ผมไม่ได้ยินหมอติ๊บเปิดจากคอมอยู่บ่อยๆเพลงเดียวซ้ำไปซ้ำมา
ตอนนี้ผมเปิดเต็นท์ออกมาและนั่งพิจารณานายเพียวที่กำลังหันหลังเล่นกีต้าร์ให้ผมอยู่ในตอนนี้
รวมถึงนายม่อนที่สลับสับเปลี่ยนกันเป็นคนร้อง อย่างถึงอารมณ์กันทั้งสองคนเลยทีเดียว
ผมอาจจะคิดมากไปก็ได้น่ะที่คิดว่านายเพียวจะร้องเพลงที่สื้อความหมายถึงอะไรเก่าๆ
การเลิกรา ลองกลับคิดในอีกแง่ว่าเพลงสมัยนี้ก็มีแต่เนื้อหาแบบนี้ทั้งนั้นอกหักรักคุดกันแทบจะทุกเพลงนั่นแหละ
แต่ผมต้องใจเต้นตุ๊บๆต่อมๆ เมื่อเจ้าตัวเล็กมุดออกมาจากเต็นท์ไปนั่งข้างๆนายเพียว
ในขณะเดียวกันที่นายม่อนขอตัวไปเข้าห้องน้ำ
ส่วนผมก็นั่งอยู่ในเต็นท์ฟังสองคนคุยกันเพราะจากตรงที่ผมนั่งอยู่ก็ไม่ได้ไกลจากเตาไฟนั่นเท่าไหร่นัก
หากแต่ความมืดช่วยบดบังและทั้งสองก็นั่งหันหลังให้กับเต็นท์นั่นเอง
ติ๊บเองจ้องหน้านายเพียวเนิ่นนานก่อนเริ่มการสนทนา
'' ทำไมเพียวยังไม่นอนอีกละ ไม่ง่วงเหรอจะเที่ยงคืนแล้วนะ ทุกคนหลับกันหมดแล้ว ''
'' พอดีเพียวยังไม่ง่วงอ่ะ มาเที่ยวทั้งทีก็อยากจะดูดซับบรยากาศซะหน่อย ว่าแต่เสียงกีต้าร์เนี่ยรบกวนการนอนของติ๊บหรือเปล่า ''
'' อ๋อ ไม่เป็นไร ปกติติ๊บก็นอนดึกอยู่แล้ว เห็นเพียวนั่งร้องเพลงอยู่เลยลุกมานั่งเป็นเพื่อน ว่าแต่เพียวไปหัดเล่นกีต้าร์มาตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอ ไม่เห็นบอกติ๊บมั่งเลย ''
'' ก็เราเล่นตั้งแต่มัธยมแล้ว เป็นพวกจับปลาหลายมือ อยากเล่นดนตรีหลายๆอย่างให้เป็น แค่ติ๊บไม่มีโอกาสได้ฟังเพียวเล่นเท่านั้นเอง ''
'' อื้อ นั่นซิน่ะเพราะนี่ก็คงสองปีกว่าแล้วที่เราไม่ได้ติดต่อกันเลย ''
'' ติ๊บ เคยคิดถึงเรามั้ย '' จู่ๆนายเพียวก็เอ่ยขึ้น
แต่ติ๊บยังคงนิ่งเงียบ เนิ่นนานเสียจนผมเริ่มอึดอัด
นายเพียวฮำเพลงนี้ขึ้นอย่างไพเราะ และเป็นเพลงที่เศร้าและความหมายดีเพลงนึงเลยทีเดียว
หลับตาลงยังรู้สึก
ท่ามกลางความอ้างว้าง ในหัวใจ
ค่ำคืนยาวนาน กับความเดียวดาย
และลมหายใจที่ว่างเปล่า
อยากให้เธอได้สัมผัส
กับความห่วงใยที่มีให้เธอ
ได้ยินเสียงของพระจันทร์ กล่อมเธอฝันดี
ให้เธอได้รู้ตลอดไป
ว่าทุกเวลา …ที่เราห่างกันแสนไกล
ยังมีอีกคำในหัวใจ
ที่จะบอกเธอ
ให้เธอได้รู้และเข้าใจ
ว่าคิดถึงเธอ ….เมื่อเราห่างกันแสนไกล
มีคำหนึ่งคำจะพูดไป ให้เธอได้รู้
จะแทนความหมาย ความห่วงใย
ฉันคิดถึงเธอ
ฉันคิดถึงเธอ
ก็ฉันมีเพียงเธอ
หลังจากนายเพียวร้องจนจบเพลง
'' เพียวคิดถึงติ๊บ ติ๊บหายไปไหนมา รู้มั้ยว่าเพียวคิดถึงติ๊บมากแค่ไหน ''
พูดจบนายเพียวก็โผเข้าซบตรงไหล่ติ๊บ
และตอนนี้ถ้าผมดูไม่ผิดมันคงสะอื้นไห้อยู่กับไหล่ของติ๊บ เป็นนานสองนานจึงผละออกมาพร้อมเช็ดน้ำตาตัวเอง
'' เพียว เป็นอะไรหรือเปล่า '' ติ๊บถามเมื่อนายเพียวตั้งสติได้และผละออกไปนั่งที่เดิม
'' อ๋อ ไม่เป็นไรขอโทษทีติ๊บ เราฟุ้งซ่านไปหน่อย '' นายเพียวตอบ
'' เดี่ยวติ๊บปอกมันนี่ให้น่ะ หวานดีน่ะ '' ติ๊บบอกก่อนกุลีกุจอไปปอกมันเทศเผาร้อนๆก่อนส่งให้นายเพียว
'' ขอบคุณนะติ๊บ ขอบคุณจริงๆ '' เพียวตอบ
'' ไม่เป็นไรหรอกเพียวเราเป็นเพื่อนกันน่ะ แค่นี้ไม่เห็นลำบากเลย '' ติ๊บตอบ
'' ติ๊บอยากร้องเพลงนี้ เพียวเล่นให้ติ๊บหน่อยได้มั้ย ''
นายเพียวเกลากีต้าร์ อินโทรขึ้น
ทำให้หัวใจของผมพองโตหลังจากเหี่ยวฟีบไปกับการโผกอดของนายเพียวเมื่อสักครู่
เจ้าตัวเล็กเขาก็เข้าใจคิดเหมือนกันน่ะนี่ ผมคิดในใจ
อาจเพราะว่าเธอไม่เคยถาม อาจเพราะว่าฉันไม่เคยรู้
เราสองคนที่เป็นอยู่ ก็เพียงแค่เพื่อนกัน
อาจเพราะว่าเธอไม่เรียกร้อง ไม่เคยต้องการไม่เคยใส่ใจ
ฉันจึงคิดไป ว่าเธอไม่มีใจให้กัน
จนผ่านเวลามาเนิ่นนาน เธอกลับมาทำให้ไหวหวั่น
บอกกัน ว่ารักฉันหมดหัวใจ
ฉันเปลี่ยนไปแล้ว สายไป เธอควรเก็บใจไว้
ให้กับคนที่เขารอเธออยู่เสมอ
มันไม่ทันแล้วขอเธอ อย่าเสียเวลา กลับไป
กลับไปหาคนที่เขารอ
เมื่อเขารอเธออยู่ตรงนั้น และรักเพียงเธอตลอดมา
เลือกเขาจะดีกว่า อย่าเปลืองเวลากับฉันเลย
ให้เขาเป็นคนที่ได้รัก และเธอกับฉันก็เป็นอย่างเคย
ให้เราสองคน เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเรื่อยไป
จนผ่านเวลามาเนิ่นนาน เธอกลับมาทำให้ไหวหวั่น
บอกกัน ว่ารักฉันหมดหัวใจ
ฉันเปลี่ยนไปแล้ว สายไป เธอควรเก็บใจไว้
ให้กับคนที่เขารอเธออยู่เสมอ
มันไม่ทันแล้วขอเธอ อย่าเสียเวลา กลับไป
กลับไปหาคนที่เขารอ
หลังจากเพลงของหมอติ๊บผ่านพ้นไป
คงสร้างความเข้าใจให้กับทั้งสองคนได้เป็นอย่างดีนายเพียวจึงกลับไปเล่นเพลงเดิมอีกครั้งและคราวนี้มีหมอติ๊บร่วมร้องไปด้วยกัน
จะเก็บใจไว้ เก็บเพื่อรอ
ขอรอ รอจนกว่า
จนกว่าที่ฟ้าจะมีเวลาให้เรารักกัน
ไม่มีทางซะหรอกเพราะผมนี่แหละจะอ้อนวอนฟ้าไม่ให้มีเวลาสองคนนี้รักกันเด็ดขาด หมอไม้ไม่ยอมมมมมมมม