เสื้อกาวน์เก่าๆ กับเราสองคน(Dr.Mike) จากนี้ จนนิรันดร์ [+อวสาน+] P.218
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เสื้อกาวน์เก่าๆ กับเราสองคน(Dr.Mike) จากนี้ จนนิรันดร์ [+อวสาน+] P.218  (อ่าน 2030828 ครั้ง)

aim

  • บุคคลทั่วไป
ไม่มีเลยสักตอนที่อ่านแล้วไม่ยิ้ม ขอบคุณสำหรับรอยยิ้มที่ส่งมาให้นะ
กดบวก บวก ให้แล้ว และมาต่อไว ๆ นะคะ


ออฟไลน์ nonae

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3260
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +361/-1
อ่านตอนนี้ อยากไปแจมสาโทด้วย แฮะ...

Loidelohm

  • บุคคลทั่วไป
อยากรู้ว่า หมอไม้ เว้าลาว ได้หรือยังนิ
ได้เมียคนอิสานมาหลายปีแล้ว

dr.mike

  • บุคคลทั่วไป
หายไปตั้งหลายวัน  กลับมาด้วยความคิดถึง

ว่าแต่นายแฮคหายไปไหนอีกละเนี่ย

เห็นอัพตั้งแต่เมื่อหลายวันก่อนละ

ยังไงแวะมาเป็นกำลังใจให้กันต่อๆไปอย่าเพิ่งเบื่อกันซะก่อนน่ะคับ



ปล.น้องแฮคพี่อัพในเฟสบุคไปล่วงหน้าหลายตอนละคับ  เอามาลงต่อได้เลยไม่ต้องกั๊กกกก

dr.mike

  • บุคคลทั่วไป
เสื้อกาวน์เก่าๆ.......กับเราสองคน

ตอนที่ 141

ความทรงจำครั้งเก่าที่บ้านริมน้ำ








วันใหม่ที่นครพนม

ผมและนายม่อนตื่นมาในตอนสายๆของวัน และตอนนี้ผมรู้สึกว่าโลกทั้งใบมันหมุนติ้วๆ

และหัวของผมหนักราวกับมีใครเอาหัวโขนหนักเป็นสิบๆกิโลมาครอบหัวผมเอาไว้ซะอย่างนั้น   

ยังดีที่เจ้าของบ้านไม่ใจจืดใจดำกับผมมากนัก

เมื่อเจ้าตัวเล็กเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดไปตามหน้าตาและลำคอของผมให้พอรู้สึกดีขึ้นมาบ้างก่อนจะปลุกผมมากินข้าวต้มร้อนๆ

นั่นแหละจึงพอเงยหัวขึ้นมาจากที่นอนได้บ้าง

 

ป้าบอกกับผมว่าเหล้าโท  นี่ฤทธิ์มันร้ายอย่าบอกใครเชียว

เป็นเหล้าที่หวาน  หอม  รสชาติไม่เหมือนเหล้า และวิธีการทำยุ่งยากซับซ้อน

และเอาไว้ใช้ต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองในงานพิธีหรือวันสำคัญๆเท่านั้น

แต่ไม่มีใครกินกันจนเมามายเพราะมันหวาน  แต่ทว่าเมานานและจะเมาหนักขึ้นเรื่อยๆ

อาการเมาค้างก็เมาอยู่นานหลายวันเลยทีเดียวต้องหาอะไรกินเข้าไปเยอะให้เจือจางฤทธิ์ของเหล้าจะได้ไม่เมาค้างอยู่หลายๆวัน

 

เข็ดแล้วคับ  พี่น้อง  ผมนึกอยู่ในใจก่อนหันไปดูอาการน้องชายที่ดูท่าจะอาการหนักกว่าผมเพราะโดนแม่สาวแรกรุ่นกลุ่มนั้นเชียร์ให้ดื่มด้วยซะเป็นเรื่องเป็นราว

กว่าจะมารู้เอาตอนท้ายว่ากลายเป็นเรื่องตลกของเด็กๆกลุ่มนี้ไปทั้งคืนนนนน

 

'' เมื่อคืนพี่เมามากมั้ยติ๊บ  '' ผมเอ่ยถามเจ้าตัวเล็กที่กำลังเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ผมอีกรอบ

'' ก็คงจะเมาพอสมควรแหละ  แต่ดีนะที่พี่ไม้เป็นประเภทเมาแล้วหลับ  ไม่เมาแล้วโวยวายชวนทะเลาะแบบลุงบ้านข้างๆ '' เจ้าตัวเล็กให้คำตบอกลับมา

'' ก็คงจะเมามากเอาการอยู่ เพราะพี่ไม่รู้ตัวเลยว่ามานอนอยู่ในมุ้งนี้กับนายม่อนได้ยังไง  ''

'' ก็ติ๊บนี่แหละเป็นคนพาเข้ามา  กับไอ้ปุ๋มทุลักทุเลเอาการเลยแหละตัวก็ไม่ใช่เล็กๆ ''

'' แล้วน้องปุ๋มไปไหนแล้วละเนี่ย ''

'' มุดรั้วกลับบ้านไปตั้งแต่เช้าแล้ว  บอกว่าวันนี้จะพาแม่ไปในตัวอำเภอพอดี ''

'' อ้อ  เลยเหลือกันอยู่เท่านี้ ''

 

ผมพูดจากับเจ้าตัวเล็กไม่เท่าไหร่ป้าก็ถือตะกร้าพร้อมอยู่ในชุดชาวสวนบอกจะไปเก็บข้าวโพดที่สวน  ที่อยู่ห่างจากบ้านไม่มากนักแกไปปลูกไว้พร้อมกับเพื่อนบ้านคนอื่นๆ หลังจากเสร็จสิ้นการทำนา

แต่ที่ผมคาดคิดไม่ถึงคือนายม่อนที่นอนหลับไม่รู้ไม่รู้ราว

จู่ๆ ก็ตื่นลุกพรวดพราดขึ้นมาเดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำอาบท่าก่อนจะออกมานั่งบนโซฟาจ้องหน้าผมเขม็งราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

'' อ้าว  ไมม่อนสร่างเมาไวจังวะ  พี่ยังมึนๆอยู่เลย ''

'' ก็มันยังมึนๆอยู่บ้างแต่ถ้ายิ่งนอนก็จะยิ่งหนักหัว  ลุกมาอาบน้ำอาบท่าหาไรกิน  ออกกำลังกายนิดๆหน่อยเดี๋ยวก็สร่างเมาแล้ว  รู้จักที่จะเมาก็ต้องรู้จักที่จะทำให้หายเมาด้วยซิ ''

เอาละซิคับไอ้น้องชายบังเกิดเกล้าสั่งสอนผมซะงั้น

ผมจึงต้องลุกเดินดุ่มๆ จากที่นอนไปอาบน้ำอาบท่า  ก่อนจะมานั่งเล่นกับเจ้าตัวเล็กใต้ต้นมะปรางหน้าบ้าน

 

'' เอาละนายม่อน  ไหนลองเล่าให้พี่ฟังหน่อยซิว่าไปไงมาไงถึงมาหาพวกพี่ที่นี่ได้อะ ''         ผมได้ทีเอ่ยถามกับน้องชายตัวดีของผมทันที

 

'' ก็แพลนไว้ตั้งนานแล้วว่าอยากไปเที่ยวเมืองลาว  พอดีว่างๆช่วงปีใหม่คิดว่าคนคงออกจาก กทม. เยอะแน่เลยลองทำในสิ่งที่อยากทำมานาน แบกเป้ สะพายกล้อง แล้วลองโบกรถมาจนถึงหนองคาย  ก่อนจะข้ามไปเที่ยวเมืองลาวครบกำหนดก็กลับมา  แต่พอดีว่ามันเป็นช่วงเย็นไม่มีรถกลับเข้า กทม.แล้วไง เต็มหมดแล้วแน่ๆ  ก็เลยโทรหาพ่อแม่และรู้ข่าวว่าทั้งสองคนกลับมาพรอดรักกันที่นครพนม  เลยตามมานี่ไง ''

 

'' อืม  แล้วจะกลับเข้ากรุงเทพวันไหนเปิดเรียนวันไหน ''  ผมเอ่ยถามน้องชายตัวดีต่อ

 

'' นั่นซิม่อน  จะกลับเข้ากรุงเทพช่วงปีใหม่แบบนี้หายากหน่อยน่ะ  เพราะเป็นช่วงที่ชาวบ้านเขาก็ทยอยกลับกันด้วยอะ  ตั๋วรถต้องจองล่วงหน้าเป็นเดือนๆ  '' เจ้าตัวเล็กออกโรงแนะนำนายม่อน

 

'' ก็กะว่าจะกลับเย็นนี้ หรืออย่างช้าที่สุดก็เย็นพรุ่งนี้เพราะเปิดเรียนวันที่ 4 วันนี้ก็วันที่ 2 แล้ว ''

นายม่อนแถลงการณ์ถึงแผนการของตนในการเดินทางกลับ

 

'' งั้นเอางี้มั้ย  พี่ว่าม่อนลองไปจองตั๋วรถทัวร์ปรับอากาศที่หน้าตลาดนี่ดูก่อน  เผื่อจะยังมีที่ว่างบ้าง ''

 

'' แล้วถ้าไม่มีที่ว่างอะพี่  ''  เจ้าม่อนถามพร้อมทำหน้าตาเซ็งๆ

 

'' ถ้าในตลาดไม่มีรถว่างแล้ว  ม่อนก็ต้องนั่งรถเข้าในเมืองไปลุ้นที่ในเมืองต่อว่าจะยังพอมีรถที่มีที่ว่างอยู่มั้ย ''

 

'' โห  ไม่ค่อยคิดถึงน้องนุ่งเลยแฮะคนเราตัวเองนั่งรถจี๋จ๋า  อี๋อ๋อ ไปกับแฟนอย่างมีความสุขทิ้งน้องชายตกรถทัวร์เข้ากรุงเทพ  ว่าแต่ที่นครพนมนี่มีรถไฟมั้ยพี่ติ๊บ ''

 

ติ๊บทำหน้าเหรอหราใส่นายม่อนแทนคำตอบก่อนจะอธิบาย

'' นครพนมไม่มีรถไฟหรอกม่อน  จังหวัดในภาคอิสานแถบนี้ก็มีเพียงไม่กี่จังหวัดหรอกที่มีรถไฟไปถึง แต่พี่ว่าม่อนกลับรถทัวร์นี่แหละดีแล้ว  ราคาแพงกว่าหน่อย  แต่ถึงไวแล้วก็นั่งสบายกว่ากันเยอะ   หรือม่อนจะโบกรถกลับเหมือนตอนมาก็ได้นะเจ้าตัวเล็กแนะนำก่อนยิ้มน้อยๆให้นายม่อน ''

 

ครู่ใหญ่ๆต่อมาผมก็ทำหน้าที่ในการเป็นพลขับอีกครั้ง

ไม่ใช่ซิต้องเรียกว่าพลถีบ  เมื่อเจ้าตัวเล็กนำจักรยานคันใหญ่ของป้าออกมาจากหลังบ้านก่อนให้ผมพาปั่นจักรยานไปตลาด  รถก็มีขับสบายๆก็ไม่ให้ผมพาขับมา  คนยิ่งเมาๆอยู่เดี๋ยวก็ได้พากันลงคลองพอดี

 

ผมปั่นจักรยานโดยมีเจ้าตัวเล็กซ้อนท้ายมาตามถนนเล็กๆของหมู่บ้านแบบโวซัดโวเซ

ผ่านทุ่งนาของชาวบ้านที่ตอนนี้เหลือเพียงตอซังข้าวเหลืองอร่ามที่หลงเหลือจากการเก็บเกี่ยว  มีวัว ควาย ของชาวบ้านกินฟางและตอซังข้าวอยู่เป็นระยะ

 

ผ่านทุ่งนามาก็เป็นชุมชนเล็กๆมีบ้านคนเรียงราย

ก่อนที่เจ้าตัวเล็กจะบอกทางให้ผมปั่นตรงเข้าไปในถนนที่ตัดผ่านวัด

ถนนคอนกรีตเล็กๆ ตัดเลียบไปกับริมแม่น้ำสีครามใส ที่มีชื่อว่า แม่น้ำสงคราม

มีกระชังปลาของชาวบ้านประปายและเรือประมงวิ่งผ่านไปมาเป็นระยะๆ

ตอนนี้หน้าวัดทำเป็นแนวเขื่อนคอนกรีตกันตลิ่งพังเรียบร้อยแล้ว

 

เจ้าตัวเล็กยังเล่าติดตลกให้ผมฟังว่า

'' เมื่อตอนเด็กๆ บ้านของตากับยายของตนก็ปลูกอยู่บนที่ดินที่ติดกับวัดนี้แหละ

ตาเป็นผู้ใหญ่บ้านจึงเป็นที่นับหน้าถือตาของคนในหมู่บ้าน  และเป็นคนเรียกว่ามีฐานะดีคนนึงในหมู่บ้านมีลูกสาวๆสวยๆอยู่สี่คนโดยมีแม่ของติ๊บเป็นลูกสาวคนโต  ที่หมายหมั้นปั้นมือจะให้แต่งงานกับคนมีหน้ามีตา  แต่แม่ของติ๊บกลับมาแต่งงานและรักกับชายชาวบ้านผู้มีฐานะยากจน  จึงทำให้ตาของติ๊บพาลไม่ชอบหน้าพ่อของติ๊บรวมไปถึงตัวติ๊บเองด้วย ''

 

'' สมัยเด็กๆเวลาที่ติ๊บเดินทางจากบ้านที่อยู่กับป้าและย่าเข้ามาในตลาดเพื่อขายผัก

หรือพืชผลจากสวนที่ป้าทำ  หรือบางทีก็มาซื้อหมูซื้อปลากลับไปให้ป้าทำกับข้าว

เวลาที่เดินผ่านบ้านของตากับยายซึ่งกำลังนั่งทานข้าวเย็นกันอยู่  เจ้าตัวเล็กก็ไม่เคยเห็นตากับยายเรียกตนเข้าไปกินข้าวเหมือนตายายคนอื่นๆ เลยแม้แต่น้อย  ''

 

'' จากเด็กจนโตที่ไปเรียนในโรงเรียนในอำเภอ   เวลาลงรถเมล์หน้าตลาดผ่านบ้านตากับยายที่ทานข้าวเย็นกันอยู่แทบทุกวัน ก็ไม่เคยมีน้ำเสียงเจื้อยแจ้วเอ่ยทักทายปราศัย  ราวกับคนที่ไม่รู้จักกันเลยแม่แต่น้อย จะมีโอกาสดีก็นานๆทีที่ตาไม่อยู่  เมื่อติ๊บเดินผ่านบ้านที่มียายอยู่บ้านคนเดียวยายก็จะโยนถุงขนมไปให้ตน  พอรู้สึกดีใจได้บ้าง ''

 

'' วันดีคืนดีเมื่อถึงคราวน้ำหลากซัดตลิ่งหลังบ้านของตากับยายหายไปวันละเล็กวันละหน่อย

จนในที่สุดบ้านทั้งหลังก็อันตรธานหายไป  ตาและยายกลับกลายเป็นคนไม่มีแม้ที่จะอยู่อาศัย

ตาเครียดมากจนถึงขั้นเส้นเลือดในสมองแตก  กลายเป็นอัมพฤกษ์ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ในที่สุด จากคนที่เป็นนับหน้าถือตาของชาวบ้านเมื่อหมดวาระการเป็นผู้ใหญ่บ้านและช่วยเหลือตัวเองไม่ได้แล้ว  ภาระการหาเงินเข้าบ้านจึงตกไปอยู่ที่ยายที่ต้องทำกับข้าวไปขายตลาดตอนนี้การเป็นอยู่ของสองตายายเริ่มลำบาก  ลูกสาวก็แยกย้ายกันไปมีครอบครัวและลูกหลานกันหมดแล้วเหลือเพียงแต่สองตายายอยู่กันตามประสา  แต่ยังดีที่มีเงินส่งมาทุกสิ้นเดือนจากลูกสาวแต่ละคนบ้างเป็นระยะๆ ''

 

'' จากที่เป็นตาที่ถือทิฐิไม่เคยเรียกหลายชายมาร่วมวงกินข้าว  หรือหยิบยื่นเศษเงินให้เป็นทุนการศึกษาแล้ว   ช่วงที่ตาเป็นอัมพฤกษ์กลับกลายเป็นหลานนอกไส้ที่ตาไม่เคยแยแสนั่นเอง

ที่หลังจากเลิกเรียนและเดินผ่านบ้านตากับยายแล้วจะมาช่วยยายป้อนข้าวป้อนน้ำ  เช็ดเนื้อเช็ดตัว  เปลี่ยนเสื้อผ้าจัดที่หลับที่นอนให้ตาที่รังเกียจตนนักหนา   บีบนวด  หรือแม้กระทั่งเดินเข้าไปขอไม้เท้าที่ประชาสงเคราะห์จังหวัดเพื่อห้าของตนได้ช่วยเหลือตัวเองได้บ้างได้เดินไปไหนมาไหนด้วยไม้เท้าได้บ้างเป็นบางครั้งก็ยังดีกว่าไม่ได้ช่วยเหลืออะไรเลย ''

 

ติ๊บบอกผมจอดรถจักรยานริมตลิ่งที่ตอนนี้เป็นทำนบเขื่อนป้องกันการพังทลายของดินริมตลิ่งครั้งหนึ่งที่นี่เคยเป็นบ้านของตากับยายและความทรงจำต่างๆของตัวเองเมื่อวัยเด็ก

เจ้าตัวเล็กหลับตานิ่งสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะยิ้มเหมือนจะยิ้มให้กับตัวเองและปล่อยน้ำตารื้นไปกับแพขนตางอนงามนั้น

 

ก่อนจะให้ผมทำหน้าที่ปุ่นจักรยานมุ่งหน้าสู่ตลาดที่อยู่ไม่ไกลจากจุดนี้แล้ว

พร้อมกับเล่าให้ผมฟังว่าหลังจากตาเป็นอัมพฤกษ์และอาการทรุดหนักลงเรื่อยๆ

น้าสาวคนรองซึ่งแต่งงานมีครอบครัวอยู่อีกหมู่บ้านหนึงก็มารับตากับยายไปอยู่ด้วย

ช่วงหลังตนจึงไม่ได้มีโอกาสไปเยี่ยมตากับยายจนเมื่อตาเสียจึงได้ทำหน้าที่หลานเป็นครั้งสุดท้ายด้วยการบวชหน้าไปอโหสิกรรมให้แก่กันและกัน

 

 

ติ๊บเล่าจบก็พอดีกับที่ผมมาถึงร้านขายของชำร้านใหญ่ในหมู่บ้าน  ซึ่งเป็นที่จองตั๋วรถทัวร์ปรับอากาศเข้ากรุงเทพ

ยังถือว่านายม่อนโชคดีที่รถทัวร์ออกจากหมู่บ้านนี้เข้า กทม วันละสองเที่ยวคือตอนสามโมง และสี่โมงเย็น

แต่ช่วงเทศกาลแบบนี้ก็มีการจัดรถเสริมอีกหลายคันจึงไม่เป็นปัญหาสำหรับการเดินทางกลับเข้ากรุงเทพของน้องชายตัวดีของผมแต่อย่างใด

ออฟไลน์ z-Time

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
หมอติ๊บน่ารักที่สุดเลย เป็นเด็กกตัญญูมากๆ (ถึงตายายไม่สนใจ แต่สุดท้ายก็ได้หมอติ๊บดูแล)  :man1:

ความดี ความกตัญญู นี่แหละ ทำให้ได้เจอหมอไม้ (เกี่ยวกันม่ะ? ) แล้วก็เป็นคนที่มีความเจริญก้าวหน้า ได้เจอสิ่งดีๆ คนดีๆ

(ใช่มั้ยค่ะหมอไม้  :o8:) มีแต่คนรัก  (เค้าก็รักและชื่นชมหมอติ๊บ  :กอด1: )


ปล. น้องแฮคหายตัวไป....... ไหนจ๊ะ

 :L1: :กอด1:

ออฟไลน์ 8X

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 541
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
ตอนแรกๆ ก็งงว่าแม่ของหมอติ๊บเป็นคนต่างหมู่บ้านรึปล่าวความจริงก็มากระจ่างในตอน 141 นี้
ตั้งแต่เด็กหมอติ๊บเจอไรมาเยอะเหมือนกันนะคะแต่หมอติ๊บก็ผ่านมันมาได้ น่านับถือจริงๆ
ต้องยกย่องและชมเชยย่ากับป้าที่เลี้ยงดูมายังไงน๊าถึงได้เป็นหมอติ๊บที่น่ารักในวันนี้
แต่ท้ายที่สุดก็เป็นด้วยตัวหมอติ๊บเองด้วยที่รักดีใฝ่ดี เป็นบุคคลที่นับว่าหายากมาก 555
ว่าแล้วก็อยากเจอตัวเป็นๆ ของหมอซะแล้วซิ  o13

Loidelohm

  • บุคคลทั่วไป
จะไปเจอตัวเป็นๆหมอติ๊บเมื่อไหร่ ขอเค้าไปด้วยนะ อยากเจอเหมือนกันอ่ะ
ป่านนี้คงหน้าใสปิ๊งๆ และมีความสุขที่สุดแล้วนะครับ

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
ติ๊บ..เป็นคนดีจริงๆ อ่านแล้วน้ำตาซึมเลยเรื่องของติ๊บและตายาย

 o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






dr.mike

  • บุคคลทั่วไป
หมอติ๊บนะคับแวะมาทักทายแฟนคลับหมอไม้

เพิ่งได้อ่านรีพลายๆก่อนหน้า

ไมหมอไม้เขาชอบหาว่าติ๊บโหดร้ายกะเขาอยู่เรื่อยเลย   เดี๋ยว :z6: ซะเลย

ไม่ได้โหดร้ายซะขนาดนั้น  พูดซะเสียเลยยย





ปล.หมอติ๊บขอเม้าท์   ตอนก่อนหน้านี้ผู้เขียนแอบเล่าข้ามชอต

เมาอ๊วกแตกอ๊วกแตน   ไม่ได้เมาแล้วหลับอย่างที่เล่ามาแต่อย่างใดจ้า 

กว่าจะหลับได้  หมอต้องคอยเช็ดหน้าเช็ดตาให้ทั้งคืนนนน

ไปละ  ได้เวลาเลิกงานละเม้าท์เค้ามากๆเดี๋ยวงอนไม่มารับติ๊บละแย่เลย   ขาดพลขับไม่ได้อยู่ด้วยช่วงนี้


ออฟไลน์ 8X

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 541
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
แอบจิ้มหมอติ๊บอีกแล้ว หมอไม้เล่าไม่หมดเหรอเนี๊ย
ต่อไปหมอติ๊บต้องแอบมาพิสูจน์ตัวอักษรในแต่ละตอนแล้วหละ 555

จะไปเจอตัวเป็นๆหมอติ๊บเมื่อไหร่ ขอเค้าไปด้วยนะ อยากเจอเหมือนกันอ่ะ
ป่านนี้คงหน้าใสปิ๊งๆ และมีความสุขที่สุดแล้วนะครับ
คุณ Loidelohm เราแอบไปยกกระชับหน้าที่...กันเถอะค่ะ
จะได้ใสเด้งเหมือนหมอติ๊บกัน  :really2:

dr.mike

  • บุคคลทั่วไป
 :a5:  อะจ๊ากกกกกกกก  :a5:

เลิกงานขับรถไปรับตามคำสั่งแป๊บเดียว

กลับมาเข้าบอร์ด  โดนเผาซะหมดหล่อไปเรียบร้อยยยยย

เอานะ  เหตุการณ์มันผ่านมาหลายปีมันก็มีหลงๆลืมกันบ้างแหละ

มีหล่นหายไปบ้าง  มีตัดแต่งต่อเติมบ้าง  ให้เรื่องราวดูน่าสนใจไง  เนอะ.....

ไม่งั้นอายชาวเล้าตายเลยรับบทพระเอกแต่เมาเหล้าโท อ๊วกแตก อ๊วกแตน  เขาก็เขินน่ะ........... :o8:

scubii

  • บุคคลทั่วไป
คนอะไรคิดบวกได้ใจมาก  น่ารักที่สุด ^^

Sabaijai

  • บุคคลทั่วไป
ทำไมหมอติ๊บน่ารักอย่างนี้ ทำให้ซึ้งตลอด   :กอด1: :กอด1::กอด1:

nemesis

  • บุคคลทั่วไป
 :3123: :3123: :3123:


สู้ๆๆนะคับบ

dr.mike

  • บุคคลทั่วไป
 :angry2:  มันติดโปรเจค  หรือไปติดเด็กที่ไหนกันแน่วะนายแฮค  :angry2:

เห็นในเฟสอัพเดทรูปเด็กเต็มประดา  สารภาพมาซะดีๆ

แต่น่ะไหนๆก็สู้แต่งมาซะขนาดนี้แล้ว

เดี๋ยวจะลองทำหน้าที่นักโพสต์แทนนายแฮคไปก่อนละกัน

จนกว่าจะโปรเจคกินเด็กจะเสร็จสิ้น

แต่ถ้าผมมาอัพเดทตอนต่อไปไม่ได้  ก็ต้องขออภัยมาล่วงหน้าด้วยสาเหตุเพียงสองประการ

1.หมอติ๊บใช้งานอินเตอร์เนต

2.หมอติ๊บไม่ให้ผมใช้อินเตอร์เนต  อาจมีที่มาจากหลายสาเหต  เช่น  ล้างจาน ถูบ้าน ทำงานค้าง จ้างลงไปซุปเปอร์

และเธอกำลังจะวีน   เป็นต้นนน  แฮะๆ

dr.mike

  • บุคคลทั่วไป
เสื้อกาวน์เก่าๆ.......กับเราสองคน

ตอนที่ 142

ของขวัญปีใหม่จากผู้ชายหน้าตาดี ฮาฮา






หลังจากได้ตั๋วรถปรับอากาศชั้นหนึ่งเข้ากรุงเทพให้นายม่อนในราคา 571 บาท ( สมัยนั้น )

เจ้าตัวเล็กก็เดินข้ามฟากถนนไปยังตลาดที่ขายของกินและของสดมากมาย

ก่อนที่ผมจะรับบทหนักอีกรอบด้วยการหิ้วของ  เดินตามเจ้าตัวต้อยๆ ราวกับคนรับใช้ยังไงยังงั้น 

แต่ผู้อ่านจะเชื่อมั้ยครับว่าของที่เจ้าตัวเล็กถือมานี้มาจากการซื้อหานิดหน่อย

ส่วนใหญ่มาจากการเข้าไปไหว้ทักทายแม่ค้าในตลาดแล้วเขาก็มีน้ำใจหยิบยื่นของที่ตัวเองขายให้แบบฟรีๆเสียมากกว่า
เช่น กล้วยปิ้ง  ข้าวต้มมัด

ถ้าเป็นสมัยนี้เจ้าตัวเล็กของผมคงประหนึ่งอาหมวยรถเมล์ หรือไม่ก็เจ๊หนูแหม่ม  จากตลาดสดสนามเป้าเป็นแน่   ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลมันก็มาจากความเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนไม่หลงตัวจนลืมผู้มีพระคุณ  และความเอ็นดูของแม่ค้าในตลาดที่มีให้เจ้าตัวเล็กนั่นเอง

 

จากนั้นเจ้าตัวเล็กก็เดินมาซื้อของฝากขึ้นชื่อของคนแถวนี้  ส้มปลาโด  ไชยบุรี( เป็นชื่อตำบล )

เจ้าตัวเล็กเล่าให้ผมฟังว่าส้มปลาโดของไชยบุรีนี่  ขึ้นชื่อลือชามานานนักแล้ว  ใครได้กินก็ติดใจ

ทั้งส้มปลาโดที่อยู่ในห่อใบตองเขียวเหมือนข้าวต้มมัดยังไงยังงั้น  นอกนั้นยังมีปลาส้มเป็นตัวๆที่เจ้าตัวเคยทอดให้ผมกินเมื่อคราวก่อนอร่อยนักหนา  มาคราวนี้พบอีกอย่างคือส้มไข่ปลา  คือลักษณะการทำเหมือนปลาส้มทุกอย่าง  แต่จะใช้เฉพาะไข่ปลาเท่านั้นและมีกินในช่วงฤดูนี้เท่านั้น  ราคาก็เล่นเอากิโลละหลายร้อยกันเลยทีเดียว

 

หลังจากได้ของฝากแล้วเจ้าตัวก็เฉลยกับผมว่าจะฝากนายม่อนไปให้พ่อกับแม่ผมที่กรุงเทพด้วย ดูซิ  เป็นลูกสะใภ้ที่น่ารักจริงๆ  เอิ๊กกส์

 

จากนั้นเจ้าตัวก็เดินมาซื้อขนมจีนเส้นสดที่กลับบ้านทีไรเป็นต้องมาซื้อไปกินทุกที

และขนมจีนที่นี่ก็จะบีบกันสดๆ มีทั้งน้ำแจ่ว( น้ำยาปลาป่นแบบชาวบ้าน ) น้ำยากะทิ  น้ำปลาร้า  ตลอดจนน้ำกะปิ ให้ผู้ที่ชื่นชอบได้จัดการตามความชอบแต่ละคน  เจ้าตัวเล็กซื้อใส่ถุงกลับไปฝากป้าและนายม่อนที่คงนอนเป็นลิงอยู่ใต้ต้นมะปรางในเวลานี้

 

แต่เมื่อผมกลับมาถึงบ้านก็พบสิ่งเหนือความคาดหมายครั้งยิ่งใหญ่เมื่อน้องชายคนดี

ตอนนี้กลายร่างเป็นชาวสวนไปช่วยป้าขุดแปลงผักเตรียมดิน เพื่อที่จะปลูกผักสวนครัวรอบใหม่อยู่ในแปลงผักหลังบ้านเป็นที่เรียบร้อย

 

'' เฮ้ย ม่อนไปทำอะไรกวนป้าเขาหรือเปล่านะ  ''  ผมเอ่ยถามเมื่อเห็นน้องชายตัวดีขุดแปลงผักอย่างขยันขันแข็ง

'' กวนบ้าอะไรละ  เขาเรียกว่าช่วยป้าต่างหากไม่เคยได้ยินเหรอภาษิตที่ว่า อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย  เป็นวัวเป็นควายช่วยท่านทำนา ''  นายม่อนตอบติดตลกก่อนได้รับรางวัลเป็นก้อนดินที่ถูกปาไปจากมือผมเฉียดหน้าหล่อๆของมันไปไม่ไกล

 

'' พักมากินขนมจีนกับส้มตำกันก่อน  ตอนเย็นค่อยลงไปทำมาทำอะไรตอนสายๆแดดร้อนเปรี้ยงแบบนี้ละ  ''  เจ้าตัวเล็กเอ่ยแกมบังคับ ก่อนที่ป้าจะยิ้มและส่ายหัวทำตามคำสั่งอย่างง่ายดาย

( เห็นมั้ยละขนาดป้าเขายังยอมหลานเลย  แล้วทุกวันนี้ผมเป็นใครจะไปกล้าขัดคำสั่งเค้า  )

 

เราสี่คนกำลังเอร็ดอร่อยอยู่กับขนมจีน  ส้มตำ  และของกินอีกหลายอย่างที่เจ้าตัวเล็กไปซื้อหามาจากในตลาด  ก่อนเจ้าตัวเล็กจะยื่นตั๋วรถเที่ยวเย็นนี้ตอนห้าโมงให้นายม่อน  แต่ไม่รู้ไปไงมาไง นายม่อนกลับบอกมาคิดตังค์ที่ผมซะงั้น 

เฮ้อ  ไอ้น้องชายคนนี้มันน่าตื้บให้จมดินซะจริง

 

หลังจากอาหารเที่ยงสุดแซ่บผ่านพ้นไปนายม่อนก็เข้าไปจัดการเก็บเสื้อผ้ากระเป๋าข้าวของของตัวเองอยู่ในบ้าน   
ส่วนผมกับเจ้าตัวเล็กก็นั่งกินกล้วยปิ้งของโปรดของเจ้าตัวเล็กกันต่อ

'' แล้วเราสองคนจะกลับวันไหน  '' ป้าเอ่ยถามขึ้นมาพร้อมกับนั่งลงในเปลญวนข้างๆแคร่

 

'' โหย  เพิ่งได้พักไม่กี่วันจะไล่กลับซะแล้ว ''  เจ้าตัวเล็กตอบทำหน้าบึ้งๆเหมือนจะงอนป้าซะงั้น

 

'' ไม่ทำการทำงานกันหรอกเหรอ ''  ป้าถามต่อ

 

'' ทำ  ติ๊บว่าจะกลับพรุ่งนี้เช้าไปถึงที่มหาวิทยาลัยตอนค่ำๆได้พักหนึ่งคืน  ตื่นเช้ามาก็ไปเรียนไปทำงานกันเลย ''  เจ้าตัวเล็กให้คำตอบ

 

'' ตอนแรกก็กะว่ากลับวันนี้  จะได้พักซักวันหลังจากขับรถไกลๆ   แต่เห็นคนขับรถยังเมาค้างอยู่เลยยังไม่กลับดีกว่าให้มั่นใจก่อนค่อยกลับ ''  เจ้าตัวเล็กตอบป้าไปแต่ไม่วายหันมาแว้งกัดผมซะอย่างงั้น

 

'' จะเอากลับไปกินอีกซักไหมั้ยละ  เดี๋ยวป้าไปขอเขาให้คงยังพอมีหลงเหลือบ้าง ''

ผมรีบปฏิเสธแทบไม่ทัน   และไม่คิดจะเอากลับไปด้วยอย่างเด็ดขาดเท่านี้ก็พอละคับ

ผมคิดในใจก่อนจะเดินเข้าบ้านไปดูน้องชายเก็บกระเป๋า

 

 

ตกบ่ายแก่ๆใกล้เวลารถออกจากตลาดผมขับรถออกมาส่งนายม่อนขึ้นรถ

'' อ้าว  พี่ไม้  ติ๊บ  ม่อน  มาส่งใครกลับเหรอค่ะ ''

เสียงเจื้อยแจ้วดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของที่พักผู้โดยสาร  ที่เป็นม้านั่งเล็กๆหน้าร้านขายของชำที่เป็นที่ขายตั๋ว   หมอปุ๋มนั่นเอง

 

'' มาส่งม่อนกลับ  นี่แกกลับเที่ยวไหน ''

 

'' ก็เที่ยวห้าโมงนี่แหละ  ดีนะที่พ่อกับแม่จองตั๋วล่วงหน้าให้ชั้นเรียบร้อยไม่งั้นคงหาตั๋วยากน่าดู ''

 

'' ไม่ยากนะเมื่อเช้าชั้นออกมาซื้อให้ม่อนยังได้เลย  '' เจ้าตัวเล็กค้านเพื่อนสนิท

 

'' แล้วทำไมไม่กลับด้วยกันละ  '' ปุ๋มหันมามองม่อนและพวกผมด้วยความสงสัย

 

'' กลับด้วยกันได้ไงละแก  คนละทางกันชั้นจะไปพิษณุโลกม่อนจะเข้ากรุงเทพ  ไกลสุดที่ไปส่งได้คือสกลนครแค่นั้นนอกนั้นก็ใช้เส้นทางคนละเส้นแล้ว ''  เจ้าตัวเล็กตอบแบบติดตลก

 

'' แล้วพี่ปุ๋มได้ที่นั่งตรงไหนอะคับ ''  นายม่อนถามพร้อมหยิบตั๋วโดยสารของตัวเองขึ้นมาดู

ก่อนได้รับคำตอบว่าไม่ได้ใกล้เคียงกับว่าที่คุณหมอคนสวยเลย  เพราะน้องเขาจองตั๋วล่วงหน้าจึงได้นั่งด้านหน้าๆของรถ  ในขณะที่เจ้าม่อนที่มาจองตั๋วเอาแบบปุบปับเมื่อเช้าได้ที่นั่งเกือบหลังสุดเลยทีเดียว

 

'' ม่อนหิวอะไรมั้ยเอาขนม หรือเอาไรหรือเปล่า  เดี๋ยวพี่ข้ามถนนไปซื้อในตลาดให้ ''

 

'' ไม่เอาอะคับขึ้นรถผมก็หลับเป็นตายแล้ว ''  นายม่อนตอบยิ้มๆก่อนขอบคุณเจ้าตัวเล็ก

 

'' แกล่ะเอาไรหรือเปล่า ''  เจ้าตัวเล็กหันมาถามเพื่อนสาวคนสวย

 

'' ไม่เอาของฟงของฝากก็ไม่ต้องเพราะมาคราวนี้พี่ชาย  พี่สาวชั้นกลับมาพร้อมกันหมด

แต่พวกเขายังไม่กลับกันชั้นเลยต้องนั่งรถทัวร์กลับ  ส่วนของฝากก็ไม่เอาไปฝากใครเพราะพี่น้องก็กลับมาเหมือนกันอยากกินอะไรก็ซื้อกลับไปกินเอง  ''

 

'' ไม่หิวระหว่างทางแน่นะแก ''  ติ๊บถามเพื่อนต่อ

 

'' นี่ติ๊บแกจะไฮโซไปหน่อยมั้ย  ทำยังกะไม่เคยนั่งรถทัวร์เข้ากรุงเทพ  พอขึ้นรถเดี๋ยวเขาก็มีน้ำ

มีขนมให้กล่องใหญ่  ไปถึงอุดรก็แวะพักกินข้าวย่ะ  ไม่ต้องห่อข้าวพกเนื้อทอดไปกินบนรถทัวร์หรอกยะ ''

เป็นไงละครับ  คำตอบของว่าที่สัตวแพทย์คนสวย เจ็บแสบมิใช่น้อย

 

ไม่นานนักรถก็เข้ามาจอดเทียบและเชคสัมภาระของผู้โดยสารก่อนที่ผมจะส่งเจ้าน้องชายตัวดีและว่าที่สัตวแพทย์คนสวยขึ้นรถออกไปเมื่อถึงเวลาเดินทางและผมสังเกตว่าผู้โดยสารเต็มทุกที่นั่งตั้งแต่ต้นทางกันเลยทีเดียว  เดินทางปลอดภัยแล้วกันนะไอ้น้องชายตัวดีของพี่

 

หลังจากที่ส่งเจ้าน้องชายตัวดีและว่าที่คุณหมอเดินทางกลับแล้ว

เราสองคนก็ขับรถกลับเข้าบ้านในช่วงเย็นของวัน และพบว่าป้าเตรียมกับข้าวมื้อเย็นไว้รอเราเป็นที่เรียบร้อยแล้ว








วันนี้ป้าเตรียมของโปรดของเจ้าตัวเล็กไว้หลายอย่างเลย  และแน่นอนมันเป็นของโปรดของผมไปด้วย  เพราะมันอร่อยทุกอย่างจริงๆ

 

ต้มส้มปลาช่อน  ใส่ยอดมะขามอ่อนและไข่มดแดง  กินกับน้ำจิ้มแจ่วรสเด็ดของปลาข้าวเหนียวร้อนๆ  ซดน้ำต้มร้อนๆอร่อยอย่าบอกใครเชียว  ครบรสชาติทั้งเปรี้ยว  ทั้งเผ็ด แถมน้ำแกงร้อนๆให้ซดลื่นคอดีนักเชียว

 

 

ส้มไข่ปลาทอด  อาหารท้องถิ่นของที่นี่ที่ผมกับเจ้าตัวเล็กซื้อมาคราวก่อนป้าบอกว่ามันยังไม่ค่อยเปรี้ยวดีให้ทิ้งไว้อีกซักคืนสองคืน  จะออกรสเปรี้ยวๆเค็มๆ กำลังดี  และตอนนี้มันถูกทอดพร้อมกับกระเทียมเจียว  หอมเจียว  พริกแห้ง  อร่อยได้ใจคนต่างถิ่นอย่างผมไปเต็มๆ

 

และเมนูสุดท้ายที่ป้าเตรียมไว้ให้เจ้าตัวเล็กวันนี้เป็น

แกงไก่บ้านใส่ฟักทอง  ที่เจ้าตัวเล็กชื่นชอบเหลือเกินไม่ว่าจะกลับมาบ้านหรือเดินที่ตลาดในมหาลัยถ้ามีเมนูฟักทอง  เจ้าตัวเล็กจะต้องซื้อกลับมาด้วยเสมอๆ

 

ส่วนเมนูของหวานวันนี้ไม่มีอะไรมากยังคงเป็นข้าวหลามที่เราทำเมื่อคืนก่อน

ยังเหลืออยู่อีกหลายกระบอกทีเดียว   เล่นเอาผมอิ่มแปร้ไปกับเมนูบ้านทุ่งที่ตอนนี้มัดใจผมไปเต็มๆจากที่ไม่ค่อยนิยมข้าวเหนียว  นอกจากนานๆจะกินกับหมูปิ้งทีนึง

แต่ตอนนี้ผมสามารถกินข้าวเหนียวกับเมนูอาหารทุกอย่างได้อย่างไม่มีปัญหา

เหตุผลต้นตอก็มาจากความรัก

ถ้าเรารักใครซักคนก็ต้องการการยอมรับจากเขา   และแน่นอนเราก็ต้องยอมรับในสิ่งที่คนที่เรารักเป็นด้วย  จริงมั้ยคับ

 

 

 

พรุ่งนี้เรามีแพลนกันว่าจะกลับตอนสายๆหน่อยอาจจะถึงมหาวิทยาลัยค่ำหน่อย

แต่ผมก็ต้องทำความเร็วในการขับรถมากมายเหมือนกัน

เพราะพรุ่งนี้เช้าป้าบอกว่าอยากพาผมและเจ้าตัวเล็กไปสูตรรดน้ำ

( พิธีกรรมและความเชื่อของคนในท้องถิ่น คงเหมือนๆกับการสะเดาะเคราะห์และต่อชะตา  ประมาณนี้ )

 

วันนี้คงต้องพักผ่อนกันแต่หัววัน  เก็บแรงเอาไว้ในวันพรุ่งนี้ที่คงต้องใช้พลังงานอีกเยอะเลยเรา

 

ในขณะที่ป้าตระเตรียมพวกของกินของฝากให้เจ้าตัวเล็กกลับไปกินที่มหาวิทยาลัย

ส่วนเจ้าตัวเล็กเองก็เก็บข้าวของใส่กระเป๋าเตรียมตัวเดินทางกลับในวันรุ่งขึ้น 

ผมซึ่งอิ่มจากอาหารเย็นแสนอร่อยเอามากๆ ก็ขอตัวอาบน้ำเข้านอนเก็บแรงไว้ในวันรุ่งขึ้น

 

เช้าตรู่เราออกไปวัดทำบุญตักบาตร

ก่อนทำพิธีสูตรรดน้ำที่เป็นความเชื่อของป้าและติ๊บเองเพื่อเป็นการเสริมสิริมงคลให้ตัวเองในช่วงปีใหม่ 

ใช้เวลาในการนั่งพนมมือและให้พระท่านทำพิธีร่วมชั่วโมง

เราสองคนก็ได้เวลาเดินทางกลับโดยใช้เส้นทางเดิมที่เราเดินทางมาแต่คราวนี้เราตัดสินใจจะไม่แวะเที่ยวที่ไหนแล้วเพราะต้องทำเวลาหน่อยจะได้กลับไปพักผ่อนเพราะพรุ่งนี้ทั้งผมและเจ้าตัวเล็กเองก็ต้องเริ่มใช้ชิวิตปกติกันแล้ว

 

เราเดินทางกลับมาถึงห้องในตอนพลบค่ำพอดีก่อนจะขนข้าวของลงมาจากรถอาบน้ำอาบท่าให้หายจากความเหนื่อยล้า  ก่อนจะตกลงกันว่าเราคงไม่ทานมื้อเย็นกันแล้วเพราะเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางกันทั้งคู่

 

พิษณุโลกหลังปีใหม่อากาศยังคงเย็นสบายในตอนค่ำคืน

ร่างบอบบางของเจ้าตัวเล็กตอนนี้อยู่ในอ้อมกอดผมบนเตียงนอนเรียบร้อยแล้ว

ผมโอบกอดเจ้าตัวเล็กจากทางด้านหลัง 

ส่งผ่านความรักความอบอุ่นที่มีท่วมท้นหัวใจไปให้อีกฝ่ายรับรู้และสัมผัสได้ถึงความรู้สึกทุกอย่างที่ผมมี

 

'' ปีใหม่ปีนี้  ติ๊บอยากได้อะไรเป็นของขวัญปีใหม่มั้ย ''  ผมกระซิบข้างหูเบาๆ

 

'' ก็เหมือนเดิมที่บอกพี่ไม้ทุกปีนั่นแหละคับ  ขอให้พี่ไม้เป็นพี่ไม้คนเดิมแบบนี้ตลอดไปก็พอ ''

 

'' ขอบคุณนะติ๊บ ที่เป็นของขวัญปีใหม่ที่พิเศษที่สุดของพี่มาตลอดสามปีนี้ ''  ผมหยอดคำหวานไปข้างหูเจ้าตัวเล็กอีกหนึ่งที

 

'' ปีที่ผ่านมาถ้าติ๊บทำอะไรให้พี่ไม้เคือง หรือขุ่นข้องใจอะไร  ติ๊บขอโทษนะครับและติ๊บสัญญาปีนี้จะทำหน้าที่คนรักของตัวเองให้ดีที่สุด  ดีกว่าปีที่ผ่านมา  ติ๊บสัญญาคับ ''

 

'' พี่ไม่ได้หวังจะให้ติ๊บเป็นคนรักที่ดีที่สุดนะ  แต่พี่ขอแค่ให้ติ๊บเป็นคนที่ใช่ที่สุดสำหรับพี่แบบนี้ไปตลอดก็พอ ''

 

'' ทำไมเหรอคับ  ทำไมไม่อยากได้แฟนที่ดีที่สุดเหรอ ''  เจ้าตัวเล็กหันแก้มมาหาผมเล็กน้อยเพื่อรอฟังคำตอบ

 

'' ติ๊บเคยได้ยินคำกล่าวนี้มั้ยที่เขาบอกว่า  บางครั้งอะไรที่ดีที่สุดอาจไม่ได้เหมาะสมกับเราที่สุดเสมอไป  ''

 

'' อืมม  อาจจะจริงเนาะเหมือนเพลง ความรักกับรองเท้าที่เพียวเคยร้องให้ติ๊บฟังไง ''  เจ้าตัวเล็กตอบพลางหลับตาพริ้ม  ยิ้มน้อยๆอย่างคนมีความสุข

 

'' ไม่เอาวันนี้มีแต่เราสองคนไม่พูดถึงคนอื่น  คิดถึงคนอื่นก็ไม่ได้  ติ๊บต้องมีพี่และเป็นของพี่คนเดียว ''  อารมณ์ขุ่นเคืองและหึงหวงเข้ามาครอบงำผมเล็กน้อย  แต่ก็ไม่มากพอที่จะทำให้ผมขาดสติได้

 

ผมพลิกตัวขึ้นทับร่างบางของเจ้าตัวเล็กที่จ้องผมเขม็งด้วยความกลัว

คงกลัวว่าผมจะหึงหวงรุนแรง

ผมแกล้งยิ้มให้เจ้าตัวเล็กเบาๆ ก่อนก้มลงไปจูบดูดดื่มอย่างนุ่มนวล  แผ่วเบา และทะนุถนอมเพื่อเป็นการบอกว่าผมไม่ได้โกรธหรือหึงหวงเจ้าตัวเล็กขนาดนั้น

 

'' สัญญานะติ๊บจะเป็นของพี่คนเดียว ''  ผมละปากออกจากปากบางนั้นก่อนสบตาเจ้าตัวเล็กเพื่อรอคำตอบ

'' สัญญาคับติ๊บจะเป็นของพี่ไม้คนเดียวตลอดไป  ติ๊บสัญญา '' แทนคำขอบคุณมากมายผมเลยแสดงความเป็นเจ้าของเจ้าตัวเล็ก  และมอบของขวัญปีใหม่ไปในตัวซะเลย  ฮ่าฮ่าฮ่า…………


 :3123:

Kiss Koki

  • บุคคลทั่วไป
ุ^
^

:sad4: :mc4: กรี๊ดดดดดดดดดด หวัดดีค๊า พี่ไม้ ของน้องติ๊บ.....
เพิ่งได้เข้ามาอ่านนะค่ะ อ่านไปได้นิ๊ดหนึ่งคะ ชอบมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ชอบน้องติ๊บบบบบบบบบบบบบบบบ มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ น่าัรักมากๆๆ(ขอเป็นแฟนไ้ด้เปล่า...555 ).....พี่ไม้ก็น่ารักค่ะ แต่น้อยกว่าน้องติ๊บ อิๆๆๆ
เดียวแวะมาเรื่อย ๆๆ นะค่ะ น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกก

ปล. ๆๆ ใครไปตามน้องหมอติ๊บ แจ้งด้วยยยยยยยย ขอไปด้วยค๊า อยากเจอคนดี ๆๆๆๆๆๆๆๆน่ารัก ๆๆๆ มากๆๆๆๆๆๆๆพี่ไม้ของน้องติ๊บด้วยค่ะ

หวัดดี น้องแฮ๊ค นักโพสด้วยค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-01-2011 15:30:42 โดย Kiss Koki »

myxname

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีปีใหม่ครับ


ขอบคุณเรื่องราวดี ๆ ที่เป็นแบบอย่าง
คงต้องกลับไปที่บ้าน แล้วจะดูแลคนพิเศษที่บ้านแบบนี้บ้างครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






Loidelohm

  • บุคคลทั่วไป
แอบจิ้มหมอติ๊บอีกแล้ว หมอไม้เล่าไม่หมดเหรอเนี๊ย
ต่อไปหมอติ๊บต้องแอบมาพิสูจน์ตัวอักษรในแต่ละตอนแล้วหละ 555

จะไปเจอตัวเป็นๆหมอติ๊บเมื่อไหร่ ขอเค้าไปด้วยนะ อยากเจอเหมือนกันอ่ะ
ป่านนี้คงหน้าใสปิ๊งๆ และมีความสุขที่สุดแล้วนะครับ
คุณ Loidelohm เราแอบไปยกกระชับหน้าที่...กันเถอะค่ะ
จะได้ใสเด้งเหมือนหมอติ๊บกัน  :really2:


ตายล่ะ เราต้องเสียเงินทั้งทำหน้าและทำฟันด้วยใช่มั้ยเนี่ยะ
ไม่ได้แระ ไม่ได้แระ ต้องรีบคบค้ากับคนใบ้หวยก่อนแล้วตอนนี้ ต้องรีบสะสมเงิน
เรามีที่รักทั้ง 2 หมอนี่นา ทำกะใครคนใดคนหนึ่งก็กลัวอีกฝ่ายเสียใจ
ต้องซื้อหวยเก็บเงินแล้วหล่ะ ฮี่ ฮี่
หมอติ๊บกะหมอไม้น่ารักทั้งคู่เลย
หมอติ๊บมีซะมีตั้งแต่ก่อนจบอีกแน่ะ อิอิ โชคดีจัง
มี....เป็นของตัวเองด้วย เอิ๊ก เอิ๊ก

Sabaijai

  • บุคคลทั่วไป
มีความสุขทุกครั้งกับเรื่องราวของคุณหมอ  อบอุ่นหัวใจ

aim

  • บุคคลทั่วไป
ขนาดราคาตั๋วรถทัวร์ ยังจำได้เลย แล้วทำไมจำว่าตัวเองเมาแล้วอ๊อกไม่ได้น้อ
ขอตอนหวาน ๆ อีกนะคะ เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ

SoYiLovE

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ StillLoveThem

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +295/-10
...หมอติ๊บ นี่มีอดีตที่ขมขื่น และน่าชื่นชมเยอะเนอะ
...ทำหน้าที่ ศรีภรรยา พี่สะใภ้ และ ลูกสะใภ้ ได้ดีเสมอต้นเสมอปลาย หมอไม้จะไปไหนได้
...คุณน้องแฮ็ค มิต้องเป็นห่วงเรื่องโพส เอาเรื่องเรียนไว้ก่อน ยังไงก็ยังมีมือสำรองอยู่
...แต่ถ้ามือสำรอง ไม่ว่างเพราะคอมไม่ว่างหรือ ไปทำหน้าที่เป็น..แจ๋ว อยู่ พี่รอได้จ้า
:laugh:

สายลมเดียวดาย

  • บุคคลทั่วไป
อ่านกี่ตอนๆ ก็ประทับใจ ทั้งพี่ติ๊บ พี่ไม้  :o8: :pig4:

dr.mike

  • บุคคลทั่วไป

มาเพิ่มให้วันละตอน  จะได้ไม่ลืมกัน

ว่าช่วงนี้แฟนคลับหมอติ๊บหายไปไหนกันหมดนี่

แสดงตัวตนหน่อยก็ดีนะคับ  จะได้มีกำลังใจว่ามีคนติดตามอยู่

คนเขียนก็จะได้มีกำลังใจเอาตอนต่อๆไปมาอัพโหลดให้อย่างต่อเนื่อง



แวะมาทักทายหมอติ๊บกันก็ได้นะคับ

วันนี้ป่วยไม่ได้ออกไปทำงาน

เห็นเมื่อคืนไอทั้งคืนเลย    สงสัยจะโดนอากาศหนาวเล่นงานเข้าแล้ว

ออฟไลน์ Bee_YJ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-0
ยังติดตามอยู่ค่ะ

เหมือนได้ไปเที่ยวด้วยเลย

ฝากเยี่ยมไข้หมอติ๊บ :L2:

หายเร็วๆนะคะ

หมอไม้ก็รักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ

ออฟไลน์ ปีศาจน้อยสีชมพู

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 411
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
มาแว๊วววว ค่า FC พี่หมอไม้กะพี่หมอติ๊บบบ
คุณหมอป่วยเหรอค๊า ไม่กล้าแนะนำอ่ะค่ะ 5555
งัยก็รักษาสุขภาพนะคะ


ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
+1 ให้หมอไม้กับหมอติ๊บ  :L1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด