( จบแล้ว ) Throw UP #ผับชั้นสาม :: {ตอนพิเศษ: up! 31-12-62} #หน้า 58
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ( จบแล้ว ) Throw UP #ผับชั้นสาม :: {ตอนพิเศษ: up! 31-12-62} #หน้า 58  (อ่าน 502459 ครั้ง)

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
 

- - - -- - - - - -- - - - - - -



※ นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นตามจินตนาการของผู้แต่ง ตัวละครเป็นเพียงฉากสมมุติเพื่อความสมจริงเท่านั้น ※

►►   สารบัญ  ◄ ◄

Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 1
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 2
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 3
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 4
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 5
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 6
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 7
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 8
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 9
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 10
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 11
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 12
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 13
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 14
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 15
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 16
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 17
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 18
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 19
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 20
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 21
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 22
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 23
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 24
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 25
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 26
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 27

Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 28
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 29
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 30
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 31
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 32
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 33
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 34.1 SP.HBD'minmade
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 34.2 SP.HBD'minmade
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 35
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 36
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 37
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 38
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 39
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 40
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 41
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 42
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 43
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 44
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 45
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 46
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 47
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 48
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 49.1
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 49.2
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 50.1
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนที่ 50.2 ( ตอนจบ )
Throw UP #ผับชั้นสาม :: เปิดจองนิยาย

Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนพิเศษที่ 1 [/color]
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนพิเศษที่ 2 [/color]
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนพิเศษที่ 3 [/color]
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนพิเศษที่ 4 [/color]
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนพิเศษที่ 5 [/color]
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนพิเศษที่ 6 [/color]
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนพิเศษที่ 7 [/color]
Throw UP #ผับชั้นสาม :: ตอนพิเศษ ของพิเศษ [/color]

  o18  twitter : @realkanom  facebook : หนมมี่ผู้ใสซื่อ
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-12-2019 22:08:14 โดย patwo »

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
# How to read [....เนื้อหา.... ] :: เนื้อหาในช่องแบบนี้ คือ แชทคุยกันนะคะ ไม่เห็นหน้า

ตอนที่ 1

' ขอโทษด้วยนะครับคุณเจ้าของรถ ผมถอยรถชนรถยนต์ของคุณจนเป็นรอย แต่เพราะผมรีบไปทำธุระเลยไม่สามารถรอคุณกลับมาที่รถได้ ผมยินดีจ่ายค่าเสียหายเพื่อรับผิดชอบ ติดต่อมาที่ line : minmade นะครับ ขอโทษด้วยนะครับ '

“ ไอ้สัด " ผมสถบออกมาตอนที่อ่านข้อความนั้นจบลง เกาหัวตัวเองแรงๆอย่างไม่รู้จะไประบายความหงุดหงิดนี้ลงกับอะไร มองดูรอยขีดยาวข้างประตูคนขับ ก็ได้แต่นิ่ง รถสปอร์ต GTR สีดำที่ถูกส่งไปขัดล้างมาอย่างดีเมื่อเช้าแต่ตอนนี้มันเสือกมีรอยน่ากวนใจประดับอยู่ทั้งๆที่ก็จอดอยู่ดีๆอย่างถูกระเบียบในลานจอดรถห้าง วิเคราะห์จากรอย คิดว่าน่าจะเป็นรอยจากรถอีกคันที่ขับเข้ามาจอดแบบเบียดชิดเกินไป กระจกก็เลยมาขูดรถผม

' สัดเอ้ย กูจอดรถกูอยู่ในที่ของตัวเองแท้ๆ ยังจะเสือกมีไอ้พวกหน้าโง่ ขับมาสร้างรอยให้ถึงที่ K ' บ่นกับตัวเองในใจตอนที่ถอนหายใจออกมา ผมก็ก้มลงมอง ไอดีไลน์ที่แนบมา " กูจะแอดไลน์ไปเรียกค่าเสียหายให้ยับเลยไอ้สัด "

[ เฮียอยู่ไหนแล้ววะ วันนี้จะไม่เข้าร้านเหรอ ] ไลน์กรุ๊ป ' Throw UP Staff ' ดังขึ้นมาตอนที่ผมแอดไลน์คนที่บังอาจมาฝากรอยไว้บนรถผมเสร็จพอดี คนทักก็ไม่ใช่ใคร เพื่อนของน้องชายที่ทำงานเป็นบาร์เทนเดอร์อยู่ในร้าน

[ เข้า กำลังไป แต่รถกูโดนฝากรอยเนี้ยไอ้สัด ขนาดจอดไว้เฉยๆ ] ผมตอบไอ้อัยย์ไปแบบนั้น ก่อนไอ้เจเพื่อนสนิทที่รู้จักกันมาตั้งแต่ม.ปลาย คนดูแลฝ่ายพีอาร์ของร้านจะถามขึ้นมาบ้าง

[ ไอ้เชี้ย ใครกล้ามาบังอาจฝากรอยไว้กับ GTR ไบรอัน ของเฮียกู ไม่รู้ซะแล้วว่าใครเป็นใคร ขนาดวันก่อนขนาดไอ้เชี้ยเดย์น้องเฮียแท้ๆ เอาแมวขึ้นไปบนรถ เฮียยังด่ายับเลย แล้วมึงเป็นคร๊ายยยยย ]

[ ชะตาขาดแน่ๆ ] ไอ้เดย์น้องชายผมที่ทำงานเป็นบาร์เทนเดอร์ผู้ถูกพาดพิงถึงพูดขึ้น [ ขนาดแมวกูน่ารักขนาดนั้นมันยังรังเกียจ ]

[ เปล่า กูรังเกียจมึง ] ผมตอบมัน ก่อนจะยกยิ้มผ่านหน้าจอไป

[ ไอ้สัดพี่ ]

[ แล้วคนชนใครวะ ถ่ายหน้ามันมาให้กูดูเฮีย กูจะไปตบกระโลหกมัน ] ไอ้เจถาม

[ แล้วถ้าเป็นผู้หญิง ] ไอ้เดย์ถามมันกลับ

[ กูก็จะไปจุ๊บเหม่งเค้าสักทีสองทีแล้วบอก หนูทำดีที่สุดแล้วลูก ขวัญเอ้ยขวัญมานะคะ ]

[ สัด ถ่ายหน้าอะไร มันทำรถกูเป็นรอยแล้วฝากไว้แค่กระดาษ เขียนบอกว่าให้แอดไลน์ไปคิดค่าเสียหาย มันไม่ว่างรอกู ]

[ อ้าว แล้วเฮียแอดไปยังอะ กูว่าผู้หญิงแน่ๆ ขนาดจอดเฉยๆยังมาเบียดได้ ]ไอ้อัยย์เสริมขึ้นมา [ งั้นแล้วถ้าเป็นสาวสวยๆ นมตู้มๆ เฮียกูจะคิดจะค่าเสียหายเค้ายังไงอะ ]

[ คงไม่ให้จ่ายด้วยเงิน ]

[ ไอ้สัดพี่ มองมาจากดาวอังคารยังรู้ว่ามึงคิดอะไร ] น้องชายที่รู้ทันพิมพ์สวนขึ้นมา

[ ทำไม ? เสือกมาทำรอยไว้กับรถกู กูก็แค่ต้องทำรอยกลับไป มันก็เท่านั้น ]

[ สมเป็นเฮียอาฟ คลำดูไม่มีหางก็เอาหมด ]

[ สัดเจ นี่มึงด่ากู ? อยากโดนไล่ออก ]

[ ไม่บังอาจจ้า ]

[ แล้วนี่พี่มึงแอดยังอะ ] อัยย์ถาม

[ แอดแล้ว ]

[ งั้นก็ดูรูปดิสเค้าสิ จะได้รู้ว่าผู้ชายหรือผู้หญิง ]

[ เออวะ แปปนึง ] กดออกจากไลน์กรุ๊ปร้าน แล้วก็เข้าไปดูเพื่อนใหม่ที่ผมแอดไปแต่ยังไม่การตอบรับกลับมา จ้องลงไปในภาพ กดขยายให้ใหญ่ขึ้น ขมวดคิ้วกับภาพที่เห็นเพราะไม่ใช่ภาพที่เห็นหน้าชัดสักเท่าไหร่ แต่กลับรู้สึกว่าเค้าเป็นใครสักคนที่ผมค่อนข้างคุ้นตา

[ ว่าไงเฮีย ตกลงชายหรือหญิง ] อัยย์ถามเข้ามาในกรุ๊ปไลน์หลังจากที่ผมเงียบไปอยู่นาน

[ น่าจะผู้ชายวะ ]

[ อ้าว มึงก็ไปซะนานสัดเฮีย กูนี่ก็คิดไปแล้วว่าแจ๋ม แบบ นมๆเนื้อๆ ]

[ งั้นเก็บมันมาเยอะๆเลยเฮีย สามแสน!! ] ไอ้เจบอก ผมถอนหายใจออกมาตอนที่เห็นแชทที่เอาแต่เล่นของพวกมัน
[ รอยขูดมันจะขนาดให้มึงเรียกเก็บได้สามแสนเปล่าเถอะ ไหนสัดพี่ มึงถ่ายรูปมาหน่อย ]

[ เออ กูต้องถ่ายเก็บหลักฐานไว้ก่อน แปปนึง ] กดมือถือถ่ายรอยขูดนั่นไว้ ยิ่งเห็นก็ยิ่งเสียอารมณ์แม้มันจะไม่ใช่รอยใหญ่อะไรมากมาย แต่รถกูขับทุกวันไม่เคยทำเป็นรอย มาจอดนิ่งๆที่ลานจอดในห้างเสือกเป็นรอยได้ [ สัดเอ้ย รับแชทกูเมื่อไหร่มึงเจอดีแน่ กูจะเอาให้ยับเลย ]

ส่งภาพประกอบไปในคนในห้องแชท ก่อนที่ผมจะเปิดประตูรถเข้าไปนั่งด้านใน สตาร์ทรถเตรียมตัวออกไปทำงาน แต่ตอนนั้นมือที่หยิบมือถือขึ้นมาดูอีกครั้ง แชทของคนที่ผมแอดไปเค้ายังไม่ตอบรับมันอยู่ดี ภาพของเจ้าของแชททำให้ผมคิดไม่ตก เสี้ยวหน้าแบบนี้เคยเห็นที่ไหนวะ คุ้นจริงๆวะ แต่เสือกคิดไม่ออก

[ ห้าพัน ] ไลน์กลุ่มเด้งขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้เป็นไอ้เดย์ที่พิมพ์ขึ้นมาหลังจากประเมินสภาพความสียหายของรถผม

[ ห้าพันพ่อง นี่ GTR ไม่ใช่ฮอนด้าซิตี้ ไอ้สัด ]

[ เชี้ยเฮีย อย่ามาว่าซิตี้ลูกกู ยังผ่อนไม่หมดเลยนะมึง ] ไอ้เจโวย [ งั้นมึงจะเก็บเท่าไหร่ ]

[ แสนนึง ]

[ ไอ้สัดเฮีย มากไปเปล่าวะ ] ไอ้อัยย์ถาม

[ นี่ก็เก็บถูกแล้วนะสัด กูไม่นิยมทำสีแค่ที่รอยถลอก กูนิยมทำทั้งคัน แล้วนี่ GTR รถกูเกือบเจ็ดล้าน ]

[ แล้วรถเจ็ดล้านไม่ทำประกันชั้นหนึ่งรึยังวะ ถึงจะไปเก็บเค้าขนาดนั้น ]

[ แล้วทำไมกูต้องส่งเคลมให้ประกันจ่าย เพื่อให้งวดหน้ากูต้องไม่ได้ส่วนลด ทั้งๆที่กูไม่ใช่คนทำ ]

[ เนี้ย ความเรียนบริหารของเฮียกู เข้าใจแล้วว่าทำไม throw up แม่ง ไปรอด ]

[ ความเลีย ] ไอ้เจส่งข้อความตามมา ไอ้เดย์ก็เช่นกัน

[ ความเลีย ]

[ ไม่ต้องเรียนบริหารหรอกไอ้สัด ไม่ว่าใครแม่งก็ไม่ควรเสียเงินเรื่องที่ตัวเองไม่ผิดอยู่แล้ว ]

[ อะจ้า แต่ยังไงก็รีบเข้ามาทำงานเนอะ วันนี้ดีเจสาวเข้าแหละ ตู้มมาก ยังกับดีเจโซดา ]

[ เออได้อยู่ ] ไอ้เดย์เสริมอีกคน [ แต่คนนี้กูว่าน่าจะดีเจเหล้า ]

[ ทำไมวะ ] ผมถาม

[ เพราะดีกรีน่าจะแรงกว่านั้นมาก กรี๊ดดดดดด เดย์ขอตัวเกาะขอบเวทีนะฮะ ]

[ สัดเดย์ กลับมาดูแลลูกค้า!! อีบาร์เทนเดอร์ !! ] ไอ้อัยย์ที่พิมพ์ขึ้นมาคนสุดท้าย ผมส่ายหน้าไปมากับความบ้าบอของพนักงานในร้านตัวเอง ก่อนจะถอนหายใจออกมา

[ อัยย์ฝากบอก พี่ซองว่าเดี๋ยวกูเข้าไปจัดการเรื่องเอกสาร ]

[ ได้ครับ ว่าแต่นะเฮีย ทำไมเฮียไม่ลากพี่ซองเข้ามาในกลุ่มสต๊าฟอะ ]

[ กูไม่สนิทกับเค้าขนาดนั้นมั้ย ไม่ชอบเล่าเรื่องส่วนตัวให้ใครฟัง ]

[ โงยยยย พวกกูดูแลสำคัญเลยอะ มีความเชิดคอได้อะไรได้ เมื่อสนิทกับเฮียอาฟแห่ง throw up ]

[ แต่ในความคิดกูนะอาฟ ] ไอ้เจพิมพ์ขัดขึ้นมา

[ โหมดจริงจังวะ 555555555 ] ผมแซวมัน

[ เออ จริงจัง กูว่ามึงควรสร้างไลน์กรุ๊ปของสต๊าฟใน throw up ไว้รวมกันสักกรุ๊ปนึงนะ คือมีอะไร จะสั่งงานอะไร มึงก็ไปส่งเอากับตรงนั้น ใครรายงานอะไรกับมึง ก็รายงานมาจากตรงนั้น เอาไว้แบบทำงานจริงจัง ประกาศอะไรก็จะได้ประกาศจากตรงนั้น ไม่ต้องพิมพ์แล้วเอาไปก๊อปวางให้แชทแยกแต่ละคน ]

[ อีกอย่างจะได้สนิทกันด้วย เนี้ย ไม่มีใครกล้าสนิทกับเฮียก็เพราะแบบนี้แหละ ]

[ กูก็ไม่ได้อยากจะได้เพื่อนสนิทเพิ่มนี่ ] ผมบอก

[ มึงยังจำวันที่มึงได้เงินสามล้านจากป๊ามึงมาได้มั้ย วันนั้นมึงบอกกูว่าอะไร ตอนปีสองที่เราเรียนคาบบริหารด้วยกัน ]

[ บอกว่าจะเอาเงินสามล้านไปทำให้เป็นสิบล้านภายในหนึ่งปี เพราะกูจะเอาไปซื้อ GTR ]

[ สัด! ไม่ใช่สิ มึงบอกว่า จะทำผับที่มีแต่คนที่สนิทๆทำด้วยกันเอง ทำงานเหมือนครอบครัว ]

[ เฮีย มึง กูฟังพี่เจแล้วกูจะร้องTTTT เฮียเห็นว่ากูเป็นคนในครอบครัวอะ ] ไอ้อัยย์พิมพ์แทรกขึ้นมาในโหมดดราม่า
[ มึงลากไอ้อัยย์มา เพราะมันชงเหล้าถูกใจมึง ส่งไอ้เดย์ไอ้อัยย์ไปเรียนบาร์เทนเดอร์ แล้วก็ให้กูลงเรียนพีอาร์คอร์สสั้นๆ ส่วนมึงก็ไปขอป๊าให้เค้าหาเส้นสายกับตำรวจ เพื่อเปิดผับ throw up ]

[ ที่ตอนแรกเงียบแข่งกับเสียงหมาเห่า แต่ตอนนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก throw up ของเฮียอาฟนะฮับ!! ]

[ เออ นั่นแหละ แล้วพอมันดังขึ้นมา อะไรมันก็เปลี่ยนไปนะเว้ย มึงจะคิดว่าเริ่มแค่นี้ก็เอาแค่นี้ไม่ได้ ทุกฝ่ายแม่งก็ทำให้งานเดินเหมือนกันทั้งนั้นอะ พี่ซองมึงก็เลือกเค้ามาทำงานเอง ส่วนพี่แบล็คป๊ามึงหามาให้แล้วไงวะ เค้าก็ทำงานดี เป็นการ์ดที่โคตรดี มีเค้าไม่ต้องกลัวเรื่องเด็กอายุไม่ถึงเข้ามาเลย ]

[ เพราะแม่งเซ็นส์ดียิ่งกว่าต.ม. มองปาดเดียวรู้หมดใครอายุเท่าไหร่ ] ไอ้อัยย์เสริมซึ่งผมก็เห็นด้วยกับพวกมันนั่นแหละ สองคนนั้นก็ทำงานดีจริงๆ

[ จริงๆนะอาฟ ถ้ามึงอยากจะทำให้มันเป็นครอบครัวอย่างที่มึงคิดตอนแรกจริงๆ มึงควรเริ่มจากจุดนี้ก่อน แค่ไลน์กลุ่มเล็กๆนี่แหละ ]

[ งั้นมึงทำ ] ผมบอกปัด

[ สัด ]

[ ขอท้าเลยว่าเฮียแม่งต้องเข้าไปคุยในกรุ๊ปนั้น แค่สามครั้งในหนึ่งปี เพราะขนาดกรุ๊ปนี้นานๆทีถึงจะมาตอบ นี่บางทีกูต้องแชทไปในไลน์ส่วนตัว แล้วบอก ' เฮียๆ ตอบกรุ๊ปด้วย ' ความเฮียกู ]

[ แล้วนี่มึงว่างกันรึไง วันนี้ดีเจเหล้าอะไรของพวกมึงขึ้น บาร์แม่งไม่หัวหมุนเหรอวะ ] เปลี่ยนเรื่องน่าเบื่อของเพื่อน ผมไม่อยากจะใส่ใจเรื่องแบบนี้เท่าไหร่ พวกมันบ่นไปก็เท่านั้น สำหรับผมไม่อยากทำก็คือไม่อยากทำ

[ หน้าที่กูมันคือดูแลดีเจไงสัด บาร์อะไม่ค่อยเท่าไหร่หรอก แต่เด็กเสิร์ฟแม่งจะแยกร่างแล้ว มีแต่คนสั่งเบียร์ไปยืนเต้นกันหน้าโซนดีเจเปิดแผ่น ]

[ รวมถึงน้องมึงด้วยเฮีย ] ไอ้อัยย์บอก [ บาร์เบออะไร ไม่สนใจ มึงเข้ามาลากมันได้แล้ว บอกให้มันมาทำงานช่วยกู ]

[ เออ ไปเดี๋ยวนี้ กูก็มัวแต่คุยกับพวกมึง ความผิดพวกมึงแหละสัด ตัดเงินเดือน! ]

[ K ]

[ olo ]

กดปิดหน้าจอมือถือ ผมก็ขับรถออกไป ในระหว่างทางไลน์มือถือของผมก็ดัง สายตาที่หันไปมองหน้าจอตอนแรกคิดว่าจะเป็นคนที่มาทำให้รถเป็นรอย แต่ก็เปล่า เป็นแค่การสร้างกรุ๊ปใหม่ที่ไอ้เจบอกไว้ว่าผมควรทำ เอากันตามความจริง ผมก็ไม่ได้คิดเลยว่า throw up มันจะมาถึงจุดนี้ ผมเองยังจำวันนั้นได้เลย วันที่เดินเข้าไปขอเงินป๊า

" ป๊าขอเงินสักแปดล้านสิ " พูดด้วยเสียงเรียบๆในห้องทำงานของคนเป็นพ่อที่ยังจดจ่อกับเอกสาร เค้าเงยหน้าขึ้นมา ขมวดคิ้วแล้วมองผมลอดผ่านแว่นมา

" แปดล้าน ? มึงเอาไปทำไมตั้งแปดล้าน "

" อยากได้ GTR "

" รถ ? "

" อื้ม คันนึงเกือบเจ็ดล้าน แต่คิดว่าพอตกแต่งนู้นนี่นั่นคงตกราวๆ แปดล้าน "

“ กูให้มึงได้แค่สามล้าน " เค้าบอกแค่นั้นก่อนจะเริ่มทำงานต่อ " แต่กูไม่ได้ให้มึงไปซื้อรถนะ ให้มึงไปทำธุรกิจอะไรสักอย่าง เพื่อไปซื้อ GTR ของมึง "

“ แล้วจะให้ทำอะไรวะ "

“ เรื่องของมึง คิดจะให้เงินขนาดนั้นก็ไปวางแผนว่าจะทำยังไงให้สามล้านเป็นสิบล้าน จะซื้ออะไรก็ไปเอามาจากตรงนั้น กูให้มึงได้เท่านี้ "

“ ไม่ใจ "

“ มึงว่าไงนะ " เค้าหันมามองผม ที่ก็ยักคิ้วแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

“ โอเค จะทำอะไรก็ได้ใช่มั้ย แค่ทำให้มันเป็นสิบล้านก็พอ "

“ ต้องไม่ผิดกฏหมาย "

“ โอเค " พยักหน้ารับส่งๆ ตอนที่เดินออกมาจากห้องทำงานป๊า จะว่าขัดใจก็ขัดใจอยู่ แต่มันก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เป็นแบบนี้ ป๊าผมเป็นนักธุรกิจ ก็คิดอยู่แล้วว่ามันต้องออกมาเป็นแบบนี้ ป๊าไม่มีทางให้เงินมาแบบง่ายๆหรอก เพราะเค้ารู้ว่าผมต้องไม่เห็นค่าของเงิน " ประเด็นคือ แล้วกูจะเอาเงินสามล้านนี่ ไปทำอะไรวะ "

ตอนนั้นในสมองมันว่างเปล่าไปหมด ผมที่ยังเรียนอยู่แค่ปีสอง มีแค่ไม่กี่อย่างที่ชอบทำ และหนึ่งในนั้นก็คือการกินเหล้า แล้วพอคิดได้แบบนั้นก็วางแผนทำร้านเหล้าขึ้นมาแทบจะทันที ที่ดินก็ขอซื้อจากป๊า รูปแบบร้านก็ไปหาไอเดียจากเมืองนอกมา ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับคนไทยลงทุนจ้างสถาปนิคมาทำ หนำซ้ำยังส่งพวกคนที่สนิทอย่างไอ้เจ ไอ้เดย์ ไอ้อัยย์ ไปเรียนในสิ่งที่จำเป็นต้องมีในผับ ส่วนเรื่องผู้มีอิทธิพลก็เป็นเรื่องที่ป๊าจัดการให้เพราะยังไงเค้าก็สนิทกับพวกตำรวจแล้วก็ทหารอยู่แล้ว เส้นสายเยอะแยะ และเมื่อทุกอย่างเข้าที่ throw up คลับบาร์ของผมก็ถูกเปิดอย่างเป็นทางการ

ตอนนั้นคิดแค่ว่าอยากจะได้ GTR เฉยๆ คิดแค่ว่ายังไงกูก็ต้องได้รถคันนี้มาให้ได้ แต่ไม่มีความคิดเลย ว่ามันจะมาได้ถึงจุดนี้ จุดที่ throw up ติดหนึ่งในห้าผับดังย่านทองหล่อยอดนิยม

“ คุณอาฟ สวัสดีครับ "

“ สวัสดีครับ " ผมก้มลงทักทายพี่แบล็คหัวหน้าการ์ดร่างหนาหน้าโหดแต่นิสัยจริงๆโคตรใจดี ไอ้เจบอกมาแบบนั้นเพราะมันสนิทด้วย พ่อแนะนำเค้ามาให้ผมเห็นว่าเป็นลูกชายของคนในบริษัทพ่ออีกที เพิ่งเรียนจบแถมยังพ่วงด้วยนักกีฬาต่อสู้มหาลัยดัง

" พี่อาฟ " เสียงของสาวคนนึงที่เอ่ยเรียกผม เธอที่นั่งอยู่ที่โต๊ะตัวนึงที่อยู่ใกล้ประตูเข้าร้าน ผมหันไปยกยิ้มให้ก่อนจะเดินผ่านไปคนทั้งโต๊ะนั้นก็กรี๊ดกร๊าดขึ้นมา " มึงพี่อาฟยิ้ม อีเหี้ยยยยยย หล่อ สัด แต้มบุญกูถึงขีดสุดแล้ว มา throw up แล้วเจอพี่อาฟ "

“ มาถึงก็เรียกเสียงกรี๊ดเชียวน้าาา " ไอ้อัยย์ทักตอนที่ผมนั่งลงที่ส่วนบาร์ตรงหน้ามัน ก่อนแก้วเหล้าสีทองที่บรรจุน้ำแข็งก้อนใหญ่ก้อนเดียวจะถูกส่งมาให้ผม

“ นี่ครับ On the rock ของเฮีย "

“ ขอบใจ " หยิบแก้วขึ้นมาชิมพลางมองไปที่ดีเจสาวคนที่เล่นแผ่นอยู่ " นั่นเหรอวะ ดีเจเหล้าอะไรของพวกมึง "

“ ช่ายยยยยย สวยแซ่บไปเลยถูกมั้ย แล้วก็นั่นน้องชายเฮียอะ " นิ้วที่ชี้ไปที่คนด้านหน้าสุดของโซนผมส่ายหน้าไปมาให้กับภาพไอ้เดย์น้องชายตัวเองที่กำลังสุดเหวี่ยงอยู่กับเพลงแล้วก็ผู้หญิงข้างกาย

“ ปล่อยมันไปเถอะ "

“ อะ ตามใจไปอี๊ก "

“ เอามาอีกแก้วดิ๊ " เขย่าแก้วเหล้าที่มีแต่น้ำแข็งยื่นไปให้ไอ้อัยย์ มันที่ขมวดคิ้วก่อนจะถอนหายใจยิ้มๆ

“ สัดเฮีย กูยังไม่ทันปิดฝาขวด มึงเล่นเพิ่มแล้วเหรอ "

“ เอามาน่า กูอยากกิน "

“ อะครับ นี่ครับ " รินให้มาอีกแก้วผมเขย่าแก้วไปมาก่อนจะบอกอีกคน

“ อัยย์ เรียกพี่ซองให้กูหน่อย " บาร์เทนเดอร์คนสนิทเงยหน้าขึ้นจากขวดเหล้าที่กำลังผสมอยู่ มันส่ายหน้าไปมาก่อนจะพยักหน้ารับแบบยิ้มๆ จนเห็นฟันเขี้ยวที่โคตรกวนตีนของมัน " ยิ้มเหี้ยอะไร "

“ หัดสนิทๆ กับคนอื่นไว้บ้างเถอะ นี่เจ้าของนะเว้ย ปล่อยให้พนักงานสนิทกันเอง สักวันไอ้เดย์จะเทคโอเว่อร์ร้านเข้าให้ "

“ หึ ถ้าไอ้เหี้ยนั่น บอกมันหัดนับเลขให้ครบร้อยก่อนเถอะ แล้วค่อยคิดจะเทคโอเว่อร์ร้านกู "

“ แรงไปอี๊ก " มันพูดประโยคสุดท้ายก่อนจะหันหลังไป " พี่ซองครับ พี่อาฟเรียกน่ะ "

“ ครับ คุณอาฟ " พี่ซองที่เป็นผู้จัดการร้านกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามา เค้าหอบหายใจน้อยๆแล้วยิ้มใจดีให้ผม จะว่าไปในบรรดาสต๊าฟคนที่แก่ที่สุดในร้านเราก็คือพี่ซองนี่แหละ เรียนจบบริหารแต่ก็ดันมาทำงานในผับที่เจ้าของยังเรียนไม่จบด้วยซ้ำ ตอนนั้นเค้าหางานไม่ได้ผมเองก็โคตรยุ่งกับเอกสารที่ก็ไม่อยากจะทำเท่าไหร่ พอได้ลองคุยก็ดูเหมือนเค้าจะไม่แคร์กับการที่คนอายุน้อยจะมาเป็นหัวหน้างาน ผมเลยจ้างเค้ามาทำงาน ตอนนี้เลยกลายเป็นว่า พี่ซองก็ทำงานแทบจะทุกอย่างมีฉายาที่ไอ้เดย์ตั้งว่า ' พี่ซองเป็นทุกอย่างให้ throw up แล้ว '

" วันนี้เป็นยังไงบ้าง "

" ก็ดีครับ ลูกค้าเยอะ ส่วนใหญ่วันนี้เบียร์เป็นขวดจะขายดีกว่าเหล้า แล้วก็พวกวอดก้าแต่งกลิ่น ส่วนเอกสารที่คุณอาฟต้องเซ็นพี่เอาไปวางไว้ที่ห้องแล้วนะครับ เรื่องเกี่ยวกับการจัดซื้อ ซ่อม แล้วก็รายจ่ายทั่วไป "

" โอเค เดี๋ยวขึ้นไปจัดการให้ พี่ไปทำงานเถอะ "

" ครับ " เค้าเดินออกไปตอนที่ผมเองก็หันกลับมาจับแก้วเหล้าเหมือนเดิม ทุกคนในที่นี่ก็ดูเหมือนกลัวผมไปหมดจริงๆนั่นแหละ เพราะแค่มองไปรอบๆพนักงานเสิร์ฟก็หลบตากันไปทางอื่นหมด ยกเว้นแต่ไอ้สามตัวที่อยู่ในกลุ่มไลน์ที่อีกนิดก็จะเล่นหัวกูแล้ว ก็นะ อย่างที่ไอ้เจเคยบอก ทำตัวเป็นเจ้านาย หน้าตาขึงขังทั้งวันใครมันจะไม่กลัว แต่นิสัยกูแม่งก็เป็นแบบนี้จะให้ทำยังไงวะ อีกอย่างกูก็เป็นเจ้านายรึเปล่า ขืนเล่นๆ มีหวังลูกน้องก็ได้มาเล่นหัวสิวะ

“ เออ เฮีย แล้วตกลงคนทำรอยรถเฮียเค้าติดต่อเฮียมายังอะ "

“ ยัง " ผมบอกคนตรงหน้าก่อนจะดึงแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม " มึงอย่าพูดเรื่องที่ชวนให้กูเสียอารมณ์ได้มั้ยสัด "

“ อะเค งั้นหันไปที่เวทีเนอะ นู้นๆ เนื้อนมไข่แบบที่เฮียชอบไง " ผมหันไปมองตามที่มันบอก ดีเจสาวที่ตอนนี้กำลังก้มๆเงยๆจัดการแผ่นเสียง พลางโยกไปตามจังหวะ มือที่เอื้อมขึ้นทัดผมไปข้างใบหูโชว์ช่วงใบหน้าสวย ในตอนที่สายตาของเราสบกันผมยกแก้วเหล้าขึ้นทักเธอที่ก็ก้มหน้าลงทักด้วยรอยยิ้ม

" ยังไงก็อย่าลืมทำเอกสารน้า " ไอ้อัยย์แซวผมก็ได้แต่หัวเราะออกมายิ้มๆ

" น่า ไว้ก่อน หงุดหงิดเรื่องรถเป็นรอย ขอไปฝากรอยไว้แปปนึง "

เสียงเพลงสุดท้ายที่จบลงดีเจที่เดินลงมาจากเวที ผมเองก็ลุกขึ้นจากที่นั่งไม่ต้องมีคำพูดหรือแนะนำตัวอะไรมากมาย ผมรู้ว่าเค้ารู้อยู่แล้วว่าผมเป็นใคร เราเดินขึ้นไปที่ชั้นสามของ throw up บนห้องที่เอาไว้ใช้เป็นออฟฟิศและแน่นอนสำหรับคนอย่างผมบนนั้นมีทั้งเตียงกว้างที่จัดไว้อยู่ในมุมนึงของห้องเช่นกัน ห้องที่มีแต่ผมและคนที่ผมเลือกจะให้ขึ้นไปเท่านั้น

ร่างสองที่ผลัดกับรับและรุกด้วยริมฝีปาก เสื้อผ้าของคนตรงหน้าถูกผมปลดเปลื้องออกไปตั้งแต่ที่ก้าวขาเข้ามาในห้อง หน้าอกกลมถูกคลึงเคล้นด้วยทั้งมือและริมฝีปากของผม จูบไปบนเรือนร่างขาวผ่องที่ผอมไปหน่อยในความรู้สึกแต่ทุกอย่างก็เหมือนถูกลบล้างไปหมด ในยามที่เธอดึงตัวเองขึ้นมาอยู่บนร่างผม จับส่วนกลางที่ตั้งชันนั้นใส่เข้าไปในร่างเธอพลางกัดริมฝีปากล่างเบาๆแล้วขยับตัวเองขึ้นลง

กริ๊ก กริ๊ก กริ๊ก

เสียงไลน์ดังน่ารำคาญที่ดังอยู่ข้างตัว ผมถอนหายใจออกมาตอนที่ผละมือออกจากหน้าอกสวยนั่น หันไปมองมันแล้วพบว่าเป็นไลน์กลุ่มที่ทักเข้ามา ข้อความที่ดูเกรี้ยวกราดของคนพวกนั้นแต่นั่นกับทำให้ผมแค่ยกยิ้ม

[ ไอ้สัดพี่ นั่นมันของกู ไอ้เควี่ยยยยย มึงเคลมน้องดีเจกู!! ] น้องชายตัวดีของผมบอก

[ ถอดเสื้อผ้าแล้ว ไม่เห็นมีป้ายติดจอง ]

[ K กูไปเฝ้าตั้งแต่น้องมันมา แต่สุดท้ายมึงคว้าไปแดกเฉ๊ย คือได้เหรอ ได้เหรอสัด ]

[ ได้สิ ก็กูจะเอาอะ ]

[ กูเห็นมึงคั่วอยู่กับน้องอีกคน กูคิดว่ามึงจะเอากับคนนั้น " ไอ้เจถามไอ้เดย์กลับ " ส่วนมึงไอ้สัดอาฟ ไวนัก กูดิวติดต่อมารับงานยังไม่ได้แม้จับมือ K ]

[ คนนั้นเสร็จตั้งแต่ห้องน้ำแล้วสัด กูรีบเอาที่ห้องน้ำ เพราะจะเอาดีเจหิ้วขึ้นห้องที่ชั้นสามไง แต่พี่มึงกลับ... โอ๊ยยยยยย กูหงุดหงิด ]

[ นี่มึงจะหิ้วดีเจไปกินที่ห้องทำงานเฮียเลยเรอะ ] ไอ้อัยย์ถามเพื่อนมัน

[ กูทำออกบ่อยไป ] ไอ้เดย์ว่า [ ไล่สัดพี่แม่งไปทำเอกสารที่อื่นแล้วกูก็วิ่งไปขึ้นสวรรค์ในห้องนั้น ]

[ เลวทั้งพี่ทั้งน้อง เลวไม่มีใครเกิน ชาติชั่ว ] ไอ้เจว่า

[ มึงว่ากูเหรอเจ คิดดีแล้วนะ ] ผมถาม

[ คิดมาทั้งชีวิต มึงก็มีแต่คำนี้ ไอ้เฮีย กูเห็นเค้าลางตั้งแต่มึงแม่งสร้างให้ชั้นสามเป็นออฟฟิศทั้งชั้นแล้วไอ้สัด แล้วพอเอาเตียงมาแต่ง เอาห้องน้ำมาลง กูก็ไม่เคยคิดว่ามึงจะลากตัวเองมานอนที่ throw up หรือทำงานหามรุ่งหามค่ำหรอก ไอ้ควาย ]

[ 5555555555555 ]

[ ยังจะหัวเราะไอ้สัด แค้นนัก! สัดพี่ สักวันกูจะไปฟ้องป๊าว่ามึงทำ throw up ไว้เคลมสาวที่สนใจในผับ ]

[ โดยเฉพาะดีเจพริตตี้ที่จ้างมา ] ไอ้อัยย์เสริม [ เสร็จเฮียกูหมดทุกคนจ้า ]

[ มีกูด้วย ] ไอ้เจยอมรับ

[ กูก็มี ]

[ ในกลุ่มนี้กูดีสุด ] ไอ้อัยย์บอก

[ มึงก็มีไอ้สัด! ] ไอ้เดย์พิมพ์ตอบ

[ อ๋อเหรอออออออออ ฮิฮิ ]

[ โสมมชิปห้องนี้ ] ผมว่า

[ แล้วนี่มึงพิมพ์ได้ไง เสร็จแล้ว ? ] ไอ้เจถาม

[ น้องอยู่บน ]

[ สัด กูรู้อย่างงี้พาน้องคนนั้นไปต่อดีกว่า Kเอ้ย ]

[ เดย์ ] ผมพิมพ์ไปในไลน์ [ กูว่ามันค่อนข้างดีเลยวะ นมก็ดี แน่นดีด้วย ]

[ K สัดพี่ กูจะสาปมึง ]

[ K ]

[ K ]

[ 5555555555555 ] พิมพ์ตอบไปแค่นั้น ผมยกยิ้มก่อนจะกดล็อคมือถือแล้ววางลงข้างตัวเหมือนเดิม หันไปสบสายตาสาวเจ้าที่อยู่ด้านบนที่ตอนนี้เธอกำลังมองผมด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์เท่าไหร่

" พี่อาฟคุยกับใครอยู่น่ะ "

" ไม่มีอะไรหรอก เรื่องงานน่ะ มาสิ เดี๋ยวง้อ " ดึงตัวเองขึ้นไปเป็นคนควบคุมจังหวะ ผมเร่งมันให้ถี่ขึ้นจนสาวใต้ร่างร้องครางขึ้นมาด้วยความรู้สึกเสียวซ่าน ผ้าปูที่นอนยับยู่ยี้ถูกดึงรั้งด้วยมือของเธอ คืนนี้ยังมีเวลาอีกมาก และผมคิดว่าคงต้องสนุกกับมันให้สุดเหวี่ยง


กริ๊ก

' minmade ' แอดคุณเป็นเพื่อน

กริ๊ก

[ ขอโทษครับ ไม่ทราบว่าคุณคือเจ้าของรถนิสสันคันที่ผมทำเป็นรอยรึเปล่า ]

.............................................................

มาแล้ววว นิยายเรื่องใหม่แกะกล่องของหนมมี่
เรื่องนี้เป้นนิยายแนวใหม่ ถึงขั้นต้องทำฮาวทูการอ่านเพื่อทำความเข้าใจกันก่อน
ได้ไอเดียมาจากการติดจอยลดา มีความคิดว่า อยากมีนิยายแชทสักเรื่องวะ แล้วก็เลยลงมือเขียน
แต่พอเขียนลงไปใน word มันก็กลายเป็นนิยายซะเฉยๆเลย พอเป็นงี้เลยคิดว่า เอาวะ ก็คิดว่าเป็นนิยายเรื่องใหม่เลยแล้วกัน ไหนๆ ก็เขียนแล้ว นิยายเรื่องนี้เราได้อิมเมจจากหนุ่มๆ wannaone ที่เราติ่งอยู่มาแสดง'เกือบ'ทั้งหมดเลยนะคะ ภาพโปสที่เห็น จะเป็นตัวละครหลัก ส่วนคนอื่นๆ จะเห็นได้ในแชทจากทางจอยลดาที่เราไปลงไว้ค่ะ
ลิงค์ไปจอยลดา :: http://www.joylada.com/story/5a8bfb6e007ee30001162ca6
#คิดว่าอ่านแล้วได้คนละฟิวลิ่งเลยนะ ยังไงอ่านซ้ำสองรอบ ไม่เหมือนกันแน่นอน เชื่อน้อง

สุดท้ายนี้ฝากแท็ก #ผับชั้นสาม ไว้ในอ้อมใจ
ฝากแท็กกันเยอะๆนะคะ เดี่ยวจะเข้าไปรี เข้าไปชม
ส่วนใครที่เม้นท์ใต้นี้ หนมตามอ่านทุกคนเด้ออออ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์นะคะ
ป.ล. นิยายจะลง 4 ตอนรวดนะคะ เรียงวันเป็น ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ จันทร์ เพื่อให้ถึงจุดที่เนื้อหาเข้มข้นค่ะ
ขอสัญญาว่าจะไม่ใช่นิยายยาวๆ #เกี่ยวก้อย
แต่ถึงอย่างงั้นก็ไม่ขอบอกว่า จะไม่ผิดสัญญา กรี๊ดดดดดดด

หนมมี่ค่า   :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:

ออฟไลน์ MiewnuoA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ชอบแนวนี้ที่สุดดดดด เดาเลยว่าพระเอกแบดบอยแบบนี้ พอได้รักนายเอกเท่านั้นแหละ ทั้งหลงทั้งหึงทั้งหวงเลยจ้าาาาาา สู้วววววววววววววววววว

ออฟไลน์ PandP

  • Déjame vivir esa fantasía.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-0
    • http://www.facebook.com/iAMpingPINGping
น่าติดตามมากๆเลยค่ะ
หวังว่าจะไม่มีดราม่านะค้าาา

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ที่ว่าดูคุ้น ๆ นี่ มิตร หรือ ศัตรู ฮึ.... :hao3:

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :hao3: ถ้าเฮียเจอหน้าน้องจะเรียกร้องค่าเสียหายแบบไหนกัน

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
 :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27

# How to read [....เนื้อหา.... ] :: เนื้อหาในช่องแบบนี้ คือ แชทคุยกันนะคะ ไม่เห็นหน้า

 
ตอนที่ 2

   ลืมตาตื่นตอนเช้ามาในช่วงที่เกือบจะค่อนไปเที่ยง แสงที่ลอดเข้ามาผ่านม่านในห้องนอน ผมหันคอไปทางขวาทีซ้ายทีก่อนจะมองไปยังข้างตัวแล้วพบว่า ดีเจสาวคนที่หิ้วขึ้นมาเมื่อคืนกำลังอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ หยิบมือถือของตัวเองขึ้นมาดูหน้าจอที่ก็มีข้อความตอบรับขอเป็นเพื่อนของคนที่รอมานาน

“ มาได้สักทีนะสัด " ผมบ่นกับตัวเอง ตอนที่กดเข้าไปในแชทแล้วพบกับข้อความที่ขึ้นมา

[ ขอโทษครับ ไม่ทราบว่าคุณคือเจ้าของรถนิสสันคันที่ผมทำเป็นรอยรึเปล่า ] นิสสัน พ่องมึง นี่ GTR! ไอ้เหี้ย มือที่กำลังกดพิมพ์แต่ทว่ากลับได้ยินเสียงดีเจที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จดังขัดขึ้นมาก่อน

“ พี่อาฟ กลับบ้านแล้วนะ "

“ อ่าห๊ะ " ผมพยักหน้ารับ เธอก็นั่งลงบนเตียงก่อนจะเอียงตัวเข้ามาจูบลงบนริมฝีปากของผมที่ก็มอบกลับไปให้เธอด้วยความดูดดื่มเช่นกัน สายตาอ้อยอิ่งของสาวตรงหน้าที่มองมาทางผม ยกยิ้มให้เธออีกครั้งแล้วในตอนนั้นการดาษแผ่นเล็กๆก็ถูกส่งมาให้ในมือ เธอจูบลงที่ข้างแก้มของผม

“ กลับแล้วนะ  อย่าลืมติดต่อมาละ ถ้าเป็นพี่อาฟว่างเสมอเลยนะ "

“ อื้ม " ผมขานรับในลำคอ ก่อนที่เธอจะลุกออกไป เสียงประตูที่ปิดลงผมหันกลับมามองในกระดาษนั่นอีกครั้ง กระดาษที่เขียนทั้งชื่อ ไอดีไลน์ และเบอร์โทรศัพท์  " ชื่อพิงค์เหรอวะ " เลิกคิ้วขึ้นมาก่อนจะโยนนามบัตรนั่นในลงไปในถังขยะใกล้ตัวเหมือนอย่างทุกทีที่ทำ  ผมหันมาสนใจหน้าจอโทรศัพท์ที่ตอนนี้มีแชทใหม่ขึ้นมา

   กริ๊ก

[ คุณครับ ผมขอโทษนะ ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำให้รถคุณเป็นรอยจริงๆ เรื่องค่าเสียหาย ]

[ แสนนึง ] ผมพิมพ์ตอบกลับคนที่คงยังพิมพ์ข้อความมาไม่จบ ยกยิ้มมองข้อความที่ตัวเองพิมพ์แล้วคิดถึงสีหน้าของคนที่ได้รับข้อความนั้น

[ ห๊ะ ? เดี๋ยวนะครับ อะไรแสนนึง ]

[ ค่าเสียหายรถผม แสนนึง ]

[  หื้อออ แสนนึงอะไร ไหนเพื่อนผมบอก นิสสันจ่ายแค่สามพัน ] มองดูข้อความนั้น ก่อนจะหลับตาลงแล้วกำหมัดตัวเองไว้แน่น ผมพยักหน้ารับกับตัวเองด้วยความข่มใจ  ' เย็นไว้อาฟ คนมันไม่รู้ เย็นไว้นะมึง เย็นไว้ '

[ นิสสันอะไรคุณ นี่ GTR รู้จักมั้ย GTR น่ะ ] 

[ GTR ? ]

[ รู้จักรถของไบรอันใน fast มั้ย นั่นน่ะ GTR ]

[ ขอโทษครับ ผมไม่ค่อยชอบดูหนังอะไรแบบนั้นน่ะ ]

[ งั้นก็รู้ไว้ รถที่คุณทำมันเป็นรอย คือรถผม รถผมคือรถ GTR คันนึง เจ็ดล้าน ]

[ นิสสันคันละ 7 ล้านเลยเหรอครับ ]

[ ก็บอกว่า GTR ! ไม่มีใครเค้าเรียกนิสสันหรอกคุณ แล้วจ่ายมาด้วยนะ ค่าเสียหายรถผมน่ะ เดี๋ยวจะส่งเลขบัญชีไปให้ ]

[ เดี๋ยวก่อนสิครับ คือผมยังเรียนอยู่เลย ผมหาเงินแสนนึงมาให้คุณไม่ได้หรอก เอาแบบนี้ได้มั้ย ผมว่าพิมพ์ไลน์คงไม่สะดวก เราออกมาเจอกันมั้ยครับ ถ้าคุณสะดวกนัดเวลามาเลยก็ได้ครับ ]

[ ทำไมผมต้องคุย  ก็เนี้ย ค่าเสียหาย คุณก็แค่จ่ายมานั่นก็จบแล้ว ]

[ แต่ว่าผมไม่มีเงินจริงๆ คือผมยังเพิ่งเรียนปีสี่เอง ยังขอเงินพ่อแม่อยู่ด้วยน่ะครับ ขอคุยเป็นการส่วนตัวได้มั้ย เผื่อเราจะเจรจาให้ทุกอย่างมันลงตัวกว่านี้ เพราะถ้าให้จ่ายแสนนึงจริงๆ ผมว่า ผมคงต้องชิ่งคุณแล้วละ แต่ผมก็ไม่อยากจะทำอย่างงั้น ผมไม่สบายใจ ]

[ ก็ลองชิ่งดิคุณ คุณได้ดังไปทั้งโชเซี่ยลแน่ๆ เพราะผมจะไปเอาภาพกล้องวงจรปิดที่ห้าง แล้วกระจายข่าวลงไปในโซเชี่ยลให้ตามล่าคุณยังกับฤดูล่าแม่มดเลยละ ] ผมยกยิ้มตอนที่พิมพ์ประโยคนี้ลงไปในมือถือ [ คุณคงไม่รู้ว่าผมเป็นใคร แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยว่า ถ้าคุณชิ่ง ผมไม่ปล่อยคุณไว้แน่ ]

[ งั้นมาเจอกันมั้ยครับ เราจะได้คุยกัน คุณสะดวกที่ไหน ] เหลือบมองนาฬิกาที่แขวนอยู่ในห้อง ผมถอนหายใจออกมา

[ เอกมัย 12 วนิลาการ์เด้น บ่ายสองโมง ฝั่งคาเฟ่ ]

[ อ่า โอเคครับ ]

[ ตรงเวลาด้วยนะครับ ผมไม่ชอบคนไม่รับผิดชอบต่อเวลา ]

[ ครับ ]

   โยนมือถือลงข้างเตียงด้วยความหงุดหงิด จะชิ่งคนอย่างกูเหรอ ? ผมทวนคำพูดที่เห็นพวกนั้นก่อนจะส่ายหน้าไปมา เด็กน้อยมึงไม่รู้ตัวซะแล้วว่ากำลังเล่นกับใคร หันไปมองหน้าจอมือถือตัวเองอีกครั้ง ตอนนี้ 11.30 เหลือเวลาอีกเยอะให้พอจัดการเอกสารเมื่อวานที่ยังไม่ได้ทำ อาบน้ำแล้วก็ออกไปจัดการค่าเสียหายเรื่องรถต่อ

   ผมดึงตัวเองขึ้นจากที่นอน คว้ากางเกงขายาวสีดำที่ตั้งอยู่บนพื้นขึ้นใส่ก่อนจะหยิบม้วนบุหรี่ขึ้นสูบ เดินตรงไปที่โต๊ะที่มีแต่เอกสารกองอยู่มากมาย

   ความเบื่อเดียวในโลกนี้ของผม ก็คือการจัดการกับไอ้พวกกองเอกสารพวกนี้ ไม่ทำก็ไม่ได้ เพราะมันคือเอกสารสั่งจ่าย ไม่ว่าจะเป็นของเข้าร้าน เงินเดือนลูกน้อง ครั้นจะให้พี่ซองผู้จัดการทำทั้งหมด ก็ไม่ได้ไว้ใจขนาดนั้น ส่วนคนที่ไว้ใจได้และทำเอกสารได้อย่างไอ้เจก็งานเยอะท่วมหัว ถ้าให้มันทำอีก ไอ้สัดนั่นคงชิ่งลาออกพอดี ส่วนไอ้อัยย์ไอ้เดย์ ปล่อยให้แม่งเป็นบาร์เทนเดอร์อย่างเดียวก็พอ ถ้าให้มาทำสั่งจ่าย throw up คงขาดทุนยับ ไม่ได้เขียนรายจ่ายเกินหรือแอบซุกเงินเข้าเป๋าตัวเองหรอก แต่คิดว่าคงขาดทุนเพราะบวกเลขผิดมากกว่า

   กริ๊ก

[ ไข่ลวกมั้ยครับเช้านี้ ] ไอ้อัยย์เอ่ยทักผมมาเป็นคนแรก มันที่ส่งข้อความมาพร้อมอีโมค่อนใส่แว่นดำ [ น้องดีเจออกไปแล้วหรือว่ายังแซ่บกันต่ออะ ]

[ ออกไปแล้ว ]

[ มึงไม่มาเรียนเหรอ สัดเฮีย กูมาถึงมหาลัยแล้วแต่ว่างเปล่าไม่เห็นแม้เงามึง  ] ไอ้เจทักขึ้นมาในไลน์กลุ่ม

[ ฝากเช็คชื่อด้วย กูจะทำเอกสารอยู่ที่ร้าน ]

[ ดูไว้นะครับน้องๆ ความชิบหายของการเห็นผู้หญิงดีกว่า การเรียน และการทำงาน ]

[ แล้วถ้าเมื่อคืนน้องไปกับมึง ]

[ กูก็ไปกับน้องจ้า ]

[ สัด ]

[ แล้วตกลงน้องเค้าชื่อไรอะเฮีย ยังไม่รู้ชื่อเลย ] ไอ้อัยย์ถาม

[ พลอยมั้ง ]

[ พิงค์มั้ยละสัด สักแต่จะเอา ชื่อไม่ถามเลยนะไอ้ห่า แล้วนี่คาบบ่ายมึงเข้ามั้ย ]

[ ไม่เข้า ]

[ มาเถอะจ้า ก่อนที่อาจารย์จะแดกหัวมึง ทำเอกสารสั่งจ่ายไม่ได้นานขนาดนั้นกูรู้ เดี๋ยวบ่ายๆพี่ซองเค้าก็ไปจัดการต่อจากมึง มึงก็แค่อ่าน รับรู้ แล้วเซ็นมั้ย ]

[ ไม่ว่างมีนัด ]

[ กับน้องพิงค์ ? ] ไอ้เดย์ที่เหมือนจะอ่านอยู่นานถามขึ้น

[ กับคนที่มันทำรถกูเป็นรอยเนี้ย ไอ้สัด ]

[ อูย องค์พ่อลง อย่าเก็บเค้าแพงมากน้า ใจดีกับเค้าหน่อย ]

[ ถึงขั้นต้องนัดเลยเหรอวะ ] ไอ้อัยย์ว่า [ ทำไมอะ เค้าไม่ยอมจ่ายเฮีย ]

[ เออ อะดิ ]

[ แล้วสัดพี่เก็บเค้าเท่าไหร่ ]

[ แสนนึง ]

[ โอเค จบ แยก ] ไอ้เจว่า [ ไอ้สัด! เก็บขนาดนี้ เป็นกู กูก็ไม่ยอมจ่ายหรอก แล้วรอยมึงไม่ได้แรงมากขนาดแสนนึงเลยสัดเฮีย ]

[ ไม่ให้ประกันมาตีราคาอะ ว่าเท่าไหร่ แล้วก็เอาหลักฐานไปเก็บเงินเค้า ] อัยย์เสริมขึ้นมา

[ กูว่าถ้าประกันมาประเมินมากสุดก็ 10000 น้อยสุด 2000 เชื่อกู ] น้องชายผมบอก

[ สัดเดย์ ]

[ จริงนะสัดพี่ คือกูตามรอยกูว่ามันไม่ได้มากมายจนเค้าต้องจ่ายตั้งแสนนึงอะ เหมือนแค่จะเลี้ยวจอดแล้วเบียดมากไปหน่อยเฉยๆเอง ]

[ งั้นกูจะไม่ให้ประกันมาตีราคา เอาตามที่กูอยากจะให้มันจ่าย แล้วถ้ามันเบี้ยว กูเล่นแม่งในโซเซี่ยลแน่ ]

[ เลว ] ไอ้เจบอก

[ ชาติชั่ว ] ไอ้อัยย์เสริมตบท้ายด้วยไอ้เดย์

[ ต่ำ ไร้การศึกษา สถุน ไม่เห็นแก่เพื่อนมนุษย์ ]

[ ไล่ออก ] ผมพิมพ์ตอบกลับไปสั้นๆ แล้ววินาทีที่ขึ้นอ่านครบทั้งสามคำ มันก็รีบพิมพ์แทรกกันขึ้นมา

[ ทำดีแล้วเฮีย ] ไอ้อัยย์ว่า

[ เออ ดีแล้วมึง ] ไอ้เจเสริมก่อนจะเป็นเดย์คนสุดท้าย

[ ประเสริฐที่สุด ]

[ แล้วมึงคิดว่าเค้าจะยอมเหรอเฮีย ถ้าเค้าเป็นทนายเก่งเรื่องข้อกฏหมาย หรือไม่ก็แบบ เป็นคนมีความรู้สักนิด เค้าจะไม่ปล่อยให้มึงเล่นนะ ]

[ คนอย่างกู เล่นกับอะไร ก็ต้องรู้สิวะ กูไม่ใช่พวกเล่นไม่ดูนี่ ] ผมตอบกลับไอ้เจ [ คนทำรอยเป็นนักศึกษาเรียนปีสี่ จากที่กูฟังนะ มันไม่น่าจะตามทันกูหรอก ]

[ งั้นเหรออออออ อะจ๊ะ พ่อคนเก่ง กูจะรอฟังบทสรุปแล้วกันนะ ]

[ เดย์อัยย์ เดี๋ยวมึงเลิกเรียนแล้วเข้าร้านมาด้วยนะ วันนี้จะมีเหล้ามาลง แล้วก็พวกของที่ขาดในร้าน พี่ซองจะคอยเช็คอยู่ แต่กูอยากจะให้พวกมึงสองคนมาดูด้วย ขาดเหลืออะไรในบาร์จะได้สั่ง ]

[ โอเค ]

[ รับทราบครับผม ] ไอ้เดย์กับไอ้อัยย์ตอบรับ

[ ส่วนไอ้เจ วันนี้มึงให้ใครมาร้องในร้าน ]

[ ไม่มีจ้า วันนี้เปิดแผ่นที่ซื้อลิขสิทธิ์มาเรียบร้อยแล้วจ้า วันนี้ throw up จะกลายร่างจากเสือหนุ่มเลือดร้อน เป็นเสือหนุ่มนั่งชิวจีบสาวใสๆ "     

“ อะจ้า พี่มึงไม่รู้จะเชิญใคร แล้วก็คิดโปรโมชั่นไม่ออกแล้วก็บอกมาจ้า " ไอ้อัยย์ว่าแบบรู้ทัน

“ สัด อย่าพูด เดี๋ยวไอ้อาฟตื่น "

“ กูไปละ มีอะไรส่งข้อความมาละกัน จะรีบเคลียร์งานแล้วไปจัดการไอ้ตัวทำรอยนั่น "

“ จ้า บายเด้อ "

“ เฮียอาฟ ไฟท์ติ้ง "

“ สัดพี่สู้น้า "

   นั่งทำงานจนเวลาล่วงเลยเข้าไปในช่วงบ่าย ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้หลังจากจัดการงานแผ่นสุดท้ายเสร็จ ปิดแฟ้มเอกสารก่อนจะเดินเข้าไปอาบน้ำแล้วก็แต่งตัว เลือกใส่เสื้อเชิ้ตกับกางเกงสีดำแบบง่ายๆ คว้ากุญแจรถก่อนจะเดินออกไป

   กริ๊ก

[ ผมถึงแล้วนะ ไม่ทราบว่า คุณอยู่ไหน ] ไลน์ของคนที่ทำให้รถผมเป็นรอยเด้งขึ้นมา

[ กำลังขับรถไป ]

[ โอเคครับ งั้นผมนั่งรออยู่ในร้านนะครับ ]

[ อื้ม ]

[ แล้วจะสั่งอะไรมั้ย ผมจะได้สั่งให้เลย ] ขมวดคิ้วกับข้อความที่ได้อ่าน [ พอคุณมาถึงจะได้กินเลยไง ]

   ก็เพิ่งเคยเจอเหมือนกันสำหรับคนที่ไม่ทุกข์ร้อนอะไรกับการจะจ่ายเงินแสน นี่ถ้าเป็นคนอื่น คงถูกด่าตั้งแต่ที่ป่านนี้ยังเพิ่งขับรถมาทั้งๆที่เสือกบอกกันไว้ว่าให้ตรงต่อเวลา ไม่มีใครมีจิตใจจะมาสั่งอาหารให้หรอก  หรือว่าจะเจอเรื่องอะไรที่หนักหนากว่าจ่ายเงินแสนมาแล้ว แต่ไม่หรอก อย่างมันคงเตรียมหลักฐานที่ทำให้ตัวเองไม่ต้องจ่ายเงินแสนมาแล้วแน่ๆ

[ ไม่ลดค่าเสียหายให้หรอกนะคุณ ]

[ เห็นคนเยอะตังหาก คิดว่ากว่าจะได้กินคงอีกนาน เผลอๆคุณมา ยังไม่ได้เลยมั้ง ]

[ สปาเก็ตตี้คาโบ  น้ำเปล่า แล้วก็ คาราเมลมัคคิอาโต้ ]

[ โอเค ]

   จอดรถที่ลานจอดรถของร้าน ผมเดินลึกเข้าไปด้านในที่แบ่งออกเป็นสามฝั่งชัดเจน ทั้งฝั่งเค้ก ฝั่งคาเฟ่แล้วก็ฝั่งอาหารจีน เปิดประตูเข้าไปด้านในส่วนคาเฟ่ที่นัดอีกคนไว้ ผมมองไปรอบๆร้านที่วันนี้คนค่อนข้างเยอะเป็นพิเศษ

[ อยู่ตรงไหน ผมถึงแล้ว ] ผมส่งข้อความไปหาเค้า จังหวะนั้นก็คอยมองคนที่อ่านข้อความ ก่อนจะสบสายตาเข้ากับคนคนนึงที่ก็ยกมือขึ้นสูงตอนที่เห็นผม
 
   ความรู้สึกในตอนนั้นทุกอย่างมันชะงัก อย่าเข้าใจผิด เค้าไม่ใช่ผู้ชายหน้าสวยในสเป็คอะไร หนำซ้ำยังตรงกันข้ามกับแบบที่ชอบอีก แต่แค่ที่นิ่งไปเพราะเสือกดันเป็นคนที่เคยอยู่โรงเรียนตรงกันข้าม
' ก็ว่าทำไมคุ้น ' แต่ก็โชคยังดีที่ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวอะไร ไม่งั้นค่าฝากรอยบนรถกู มีหวังได้ชวดแน่ๆ

“ สวัสดีครับ ผมเมดครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ คุณ..”

“ อาฟ "

“ คุณอาฟ " เค้าเรียกชื่อผมก่อนจะยิ้มแล้วก็นั่งลง ผมนั่งลงตรงกันข้าม แต่ยังไม่พูดอะไร อาหารที่สั่งไว้ก็ถูกยกมาเสิร์ฟ คนตรงหน้าเลือกกินสปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศแบบง่ายๆ กับช็อคโกเล็ตเย็น " เอ่อ เรื่องรถของคุณ "

“ กินก่อนแล้วกัน ค่อยพูด " ผมบอกอีกคนที่ก็พยักหน้ารับแบบจำยอม เราก้มหน้าลงกินอาหารตรงหน้าแบบที่ไม่มีใครพูดอะไรกัน ในช่วงเวลาที่ค่อนข้างอึดอัด ทั้งผมทั้งเค้าเลยเอาแต่หยิบมือถือขึ้นมาเล่น ผมกดเข้าไปในไลน์เพื่อนสนิท

[ เจ ]

[ มีเรื่องแน่นอน กูสัมผัสได้ ] เพื่อนสนิทตอบรับมาอย่างรวดเร็ว และแน่นอนมันจับทางผมถูก

[ ยังจำตอนม.ปลายได้มั้ยวะ เรื่องโรงเรียนเรากับโรงเรียนตรงกันข้าม ]

[ สัดอาฟ มีประมานสามล้านห้าแสนเรื่อง ตั้งแต่แม่งร้องเพลงด่า งานกีฬาสี ยันมีเรื่องทะเลาะกันหน้าโรงเรียน มึงจะเอาเรื่องไหน ]

[ เรื่องของคนที่บ๊อปๆ ที่โรงเรียนนั้น มาเป็นแฟนไอ้บินนักบาสเด็กโรงเรียนเรา ]

[ อ๋ออออออ ที่เป็นผู้ชายทั้งคู่ จำได้ว่าอีกคนที่อยู่อีกโรงเรียนโคตรน่ารัก ]

[ อื้ม ]

[ แล้วไอ้บิน ก็คือคนที่ชอบมาอ้างว่าเป็นเพื่อนกูกับมึง ทั้งๆที่ก็ ไม่ได้สนิทเลยสักนิ๊ดดดด ทำพี่เท่ห์กับสาวเวลามาผับเราตลอดๆ บอกรู้จักกับเจ้าของผับ ตามสบายเลย เส้นใหญ่จังครับผม แต่ความจริงทั้งชีวิตคุยไม่ถึงสิบครั้ง ]
[ เออ ไอ้สัดนั่นแหละ ]

[ ทำไม ]

[ คนทำรถกูเป็นรอย คือ แฟนมัน ]

[ สัด ใกล้ตัวไปอีก ไอ้เหี้ย แล้วเค้าชื่ออะไรแล้วนะ ]

[ เมด ] ผมบอกก่อนจะเหลือบมองหน้าอีกคนที่ก็กำลังตั้งใจกินอาหารตรงหน้า

[ เออ จำได้ละ ว่าชื่อเมด ]

[ กูบอกไงเลยจำได้ ]

[ ก็ไม่ได้น่าจดจำมั้ยละสัด เมียกูรึก็ไม่ใช่ แค่เด็กโรงเรียนตรงข้ามที่มีข่าวว่าคบกับผู้ชายโรงเรียนเรา แล้วแค่สมัยนั้นใครชอบผู้ชายด้วยกันเอง แม่งไม่กล้าพูดหรอก แต่พอแม่งกล้า  แม่งก็เลยดัง นี่ถ้ามาเป็นสมัยนี้นะ มันก็ไม่ดังหรอก ผู้ชายคบกับผู้ชายเยอะแยะ ]

[ อื้ม ]

[ แล้วนี่มันรู้จักมึงมั้ย ]

[ น่าจะไม่รู้จัก ]

[ ลืมไป เมื่อก่อนเฮียอาฟกู เป็นแค่ไอ้อาฟห้องสี่ศิลป์คำนวนเฉยๆ แต่ไม่รู้จักก็ดีจะได้เรียกมาเยอะๆ ]

[ อื้ม ]

[ แล้วมึงแชทมาหากูเพื่อบอกแค่นี้ ]

[ ไม่มีไรทำ นั่งกินสปาเก็ตตี้เฉยๆแล้วมันอึดอัด ]

[ ชวนเค้าคุยดิ ] มันพิมพ์ขึ้นมาก่อนจะเสริมต่อ [ อ้อ ลืมไปเฮียอาฟของกูไม่ใช่ พวกช่างเจรจาและเฟรนลี่กับคนทั่วไปที่ไม่คิดจะเอา ขึ้นเตียง ]

[ สัด ]

[ ว่าแต่มึงก็ยังจำมันได้นะ ผ่านไปตั้งหลายปีแล้ว แต่ก็อย่างว่า เมื่อก่อนกูเห็นมึงชอบมองมัน เวลาไปเรียนพิเศษ ]

[ กูอะนะ ]

[ เออ มึงชอบมองเค้า เมื่อก่อนกูยังแซวเลย ]

[ ไม่เห็นจำได้ มึงมั่วแล้วไอ้สัดเจ ชื่อเค้ายังจำไม่ได้มาจำได้อะไรเรื่องเหี้ยนี่ กูไม่เห็นจำได้ ] เหลือบมองคนตรงหน้าอีกครั้ง พอจะจำได้เลือนลางว่าชีวิตเคยมีช่วงเวลาแบบนั้นกับเค้าเหมือนกัน  แต่จะใช่ไอ้คนตรงหน้านี้เหรอวะ อาจจะเจอกันบ่อยเพราะเรียนโรงเรียนตรงข้ามกันมากกว่าละมั้ง ก็อย่างที่บอกตอนนั้นมันดังเรื่องแบบนั้น ก็คงมีแต่คนมองโดยปกติ

[ เอ้า ไม่เชื่ออีก ก็แล้วแต่ ] มันว่าก่อนจะพิมพ์กลับมาอีกหลังเห็นผมเงียบไปนาน [ หรือว่ากูจำสลับกับ น้องผู้หญิงดาวโรงเรียนคนนั้นว่ะ ]

[ นั่นไงไอ้สัด ]

[ เออๆ ช่างเถอะ แต่สรุปเรื่องเป็นไงบอกกูด้วยนะ อยากรู้ว่าระหว่างธรรมะกับอธรรมใครแม่งจะชนะ ]

[ กู ]

[ อธรรมสินะครับ ]

[ สัด ]

   วางมือถือลงตอนที่กินสปาเก็ตตี้คำสุดท้ายเข้าไป หยิบน้ำเปล่าขึ้นมากินก่อนจะหยิบเอาคาราเมลมัคคิอาโต้มากินต่อ พิงร่างลงกับเก้าอี้ที่นั่งก่อนจะมองหน้าอีกคนที่ก็หยิบเอาช็อคโกเล็ตเย็นขึ้นมากินเหมือนกัน

“ ตกลงว่า ค่าเสียหายรถของผม คุณจ่ายมาแสนนึงนะ " ผมเริ่มประโยคนั่นออกไปอีกคนก็ชะงักก่อนจะเม้มริมฝีปากก่อนจะกลืนน้ำลายของความประหม่าลงไป

“ คิดว่าคงไม่มีเงินจ่ายขนาดนั้นหรอกครับ แล้วทางคุณให้ประกันมาเช็คดูแล้วเหรอ ว่าต้องจ่ายถึงแสนเลยน่ะ ผมว่า ไม่น่าจะถึงนะ "

“ แล้วทำไม ผมต้องทำอะไรแบบนั้นละ ผมจอดรถในที่ของผม ตรงเส้น ไม่มีล้ำ จอดอยู่เฉยๆนิ่งๆ แล้วรถคุณมาจากไหนก็ไม่รู้ อยู่ๆก็ขับมาแล้วก็สร้างรอยไว้บนรถผม ทั้งๆที่ผมเองเป็นเจ้าของรถ ยังไม่เคยทำเลย "

“ ขอโทษครับ " คนตรงหน้าก้มหน้าลงบอก “ ขอโทษจริงๆนะครับ แต่ว่าถึงอย่างงั้น นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่คุณจะมาเก็บผมตั้งแสนนึงนะ มันแพงเกินไป นี่มันเข้าข่ายกรรโชกทรัพย์แล้วนะครับ "

“ งั้นเหรอ แล้วคุณนี่เข้าข่ายอะไรดีละ ทำลายทรัพย์สินมั้ย "

“ ยังไงก็ไม่มีเงินจ่ายถึง แสนนึงหรอกครับ " เค้าส่ายหน้าไปมาตรงหน้าผม " ลดให้หน่อยได้มั้ยครับ เหลือสัก 3000 ได้มั้ย "

“ เป็นมุขใช่มั้ยครับ "  รอยยิ้มแห้งๆนั่นส่งมาให้ผมก็ได้แต่เหลือบมองไปทางอื่น

“ คือผมยังเรียนอยู่ คงหาเงินให้คุณไม่ได้ถึงแสนแน่ๆ ถ้าคุณจะกรุณาช่วยลดราคาให้ผมหน่อยได้มั้ย เป็นราคาที่ผมสามารถจ่ายได้ ตอนนี้เลย เราจะได้ไม่ต้องมีเรื่องติดใจกันไงครับ จะได้เคลียร์ให้จบๆไปในวันนี้เลย "

“ พูดง่ายเนอะคุณ เหมือนพูดว่าลดให้เหลือสามพันได้มั้ย แล้วจบแยกย้าย "

“ ก็ผมมีเงินจ่ายแค่เท่านี้ "

“ ห้าหมื่น "

“ ก็ยังแพงไป ผมว่าเราควรไปเรียกให้ประกันมาคิดค่าเสียหายนะครับว่าผมควรจ่ายเท่าไหร่ ”

“ รถฉัน ทำไมต้องให้คนอื่นเค้ามาคิด ฉันอยากจะให้จ่ายเท่าไหร่นั่นก็เป็นสิทธิ์ของฉันเพราะนี่มันรถฉัน ถ้าประกันมาแล้วบอกว่านายต้องจ่ายเจ็ดพัน แล้วนายจ่ายฉันมา เรื่องของนายจบลงตรงนี้แล้วถูกมั้ย แล้วถ้าฉันเอารถเข้าไปทำสีใหม่ ค่าทำสีห้าหมื่น แบบนั้นฉันต้องทำยังไงกับรายจ่ายที่เพิ่มขึ้นละ แบกรับเองงั้นเหรอ ? ทั้งๆที่ไม่ได้เป็นคนทำมันนี่น่ะนะ แล้วคนที่ทำมันละ จ่ายแค่เจ็ดพัน แล้วจบ เหรอ ? แค่นั้นเหรอ ? "

“ แต่ว่าผมไม่มีเงินเยอะขนาดนั้นที่จะจ่ายได้ตอนนี้ "

“ ฉันใจดีให้ได้แค่นี้ ถ้านายไม่โอเค เห็นทีว่าฉันต้องทำตามแบบที่ฉันจะทำแล้วละ แน่นอนว่าไม่ส่งเข้าตำรวจไม่ต้องกลัว แต่เอาเป็นว่า ไปไหนมาไหน คนจะมองนายแล้วพูดถึงนายว่าทันทีเลย ว่าเป็นพวกไม่มีความรับผิดชอบ "

“ งั้นผมขอเวลาหาเงินได้มั้ยครับ ผมจะเอามาจ่ายให้ แต่ขอเวลาผมหาเงิน ผมไม่มีมาจ่ายคุณตอนนี้หรอกครับ "

“ แล้วจะจ่ายได้เมื่อไหร่ "

“ คงไม่ใช่เร็วๆนี้ แต่ว่าผมไม่เบี้ยวแน่นอนครับ ผมจะให้เบอร์ติดต่อคุณไว้ "

“ จะให้ฉันเชื่อคนที่เคยบอกว่าจะชิ่งฉันน่ะเหรอ " คนตรงหน้าเงียบไป ผมก็เลิกคิ้วมองเค้า มือขาวกำเข้าหากันเบาๆ ปากที่กำลังเม้มเหมือนกำลังหาเหตุผลอะไรสักอย่างมาพูดกับผม " งั้นมาทำงานที่ร้านฉัน "

“ ห๊า ? “

“ ฉันเปิดผับ มาทำงานที่ร้านฉัน ห้าเดือน เพื่อจ่ายหนี้ พอครบห้าเดือน ก็แยกย้าย "

“ แล้ว จะให้ผมทำอะไรละครับ "

“ พนักงานเสิร์ฟละมั้ง ท่าทางก็ไม่น่าจะใช่คนซุ่มซ่ามนี่ ทำได้มั้ยละ  "

" คือ "

" นี่ไงทางออก เพราะกว่าจะรอให้นายหาเงินมาใช้คืน ฉันก็คงต้องเอาเงินไปทำสีใหม่เองแล้วละมั้ง ไม่ก็ นายชิ่งไปก่อน "

“ ไม่ชิ่งหรอกครับ ผมไปทำงานที่ร้านคุณก็ได้ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว "

“ งั้นก็รับเงินตามเงินเดือน  เงินเดือนหมื่นบาท ทำงาน หกโมงเย็นถึงตีสาม มีวันหยุดอาทิตย์ละสองวัน ทิปนอกไม่เกี่ยวกับเงินเดือน "

“ ครับ " สีหน้าไม่พอใจปรากฏออกมาตอนที่เอ่ยคำนั้นออกมา คนตรงหน้าคงสุดจะทนแล้ว ถ้าพูดออกมาได้ก็คงอยากจะด่าผมออกมาเป็นคำที่หยาบคายที่สุดในชีวิต เช่นพวกที่ว่า ' ไอ้เหี้ยเอ้ย ' ' สัด ไอ้ส้นตีน ' อะไรทำนองนั้น

“ เงินเดือนนายจะไม่ได้นะ ทิปก็เอาไปแล้วกัน แต่ถ้าอยากจะหลุดหนี้เร็วๆ ได้ทิปแล้วสะสมเป็นก้อนค่อยเอามาให้ฉันก็ได้ ถ้าได้เยอะละก็นะ " มองอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มกวนตีนตามฉบับ " แน่ใจนะ ว่าจะทำ "

“ แน่ใจสิ ยังไงผมก็ไม่อยากโดนใครมาพูดว่าเป็นคนไม่มีความรับผิดชอบอยู่แล้ว " เค้าเว้นเสียงไปสักพักก่อนจะพูดขึ้นมาอีก "  แค่ห้าเดือนใช่มั้ยละ "

“ อื้ม "

“ งั้นก็ตกลงทำครับ จะให้ผมเริ่มงานวันไหนละ "

“ วันนี้เลย "

.......................................................

จ่ายค่าตัวนายเอกแล้ว หลังจากเมื่อวานมีคนแซวว่า ค่าตัวนายเอกแพงไปเปล่า ออกมาท่อนเดียว ฮา
ตอนที่สองนี้จ่ายแล้วเด้ออออ มีคนถามว่า ตกลงพี่อาฟนี่รู้จักเมดมาก่อนเปล่า คงได้รู้คำตอบแล้วเนอะ
แต่เรื่องที่ว่า รู้สึกยังไงกับอีกฝ่ายนั้น ขอให้เป็นปริศนาธรรมต่อไปก่อน
และตามเดิม นิยายเรื่องนี้มีความเป็นนิยายแชท เราจึงต้องมี ลิงค์แชท
ทางไปจอยลดาฮ่ะ :: http://www.joylada.com/story/5a8bfb6e007ee30001162ca6

# ยังคงยืนยันคำเดิมว่า อ่านสองรอบ สองที่ให้ฟิลที่ต่างกัน อ่านได้สองที่เลยนะคะ
สุดท้ายนี้ฝากแท็ก #ผับชั้นสาม ในทวิต ด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์ เจอกันตอนที่สาม จะพาน้องเมดเข้า throw up ละ
ป.ล. พี่อาฟจะพาขึ้นชั้นสามเลยมั้ยคะ #เหล่

หนมมี่ค่า   :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
ตามมมม

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
แผลเดียว จ่ายแสน มันน่าจะไปเจิมให้อีกเก้าแผลนะ จะได้คุ้มแสน  :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Throw UP #ผับชั้นสาม :: { ตอนที่ 2 :: 24-2-61}
« ตอบ #9 เมื่อ: 25-02-2018 01:35:13 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
อาฟมองเค้าขนาดนั้น แต่ยังไม่รู้ตัว
แค่บอกว่าหน้าคุ้น ก็คือต้องมองบ่อยไหม

แล้วทำไมเมดพาซวยแบบนี้ล่ะ งานเข้าไปเต็มๆ
รอย gtr เป็นเหตุ

สามทหารเสือในแชทคือฮามาก

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
ตามค่ะ

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
# How to read [....เนื้อหา.... ] :: เนื้อหาในช่องแบบนี้ คือ แชทคุยกันนะคะ ไม่เห็นหน้า

 

ตอนที่ 3

   กริ๊ก

[ สัดพี่ กูลงเหล้าเสร็จแล้วนะ เซ็นแล้วเรียบร้อย ของครบ โอนเงินให้เค้าด้วย ] ไอ้เดย์ทักเข้ามาในไลน์กลุ่ม ตามด้วยไอ้อัยย์เพื่อนของมัน

[ แต่เหมือนเค้าบอกจะมีเซลล์เข้ามาหาเฮียอะ คงจะเอาเหล้าตัวใหม่มาเสนอ วันนี้จะเข้าร้านกี่โมงจะได้บอกเค้าถูก ]

[ หก ] ผมตอบ

[ สัด มาเร็วเกินคาด ] ไอ้เดย์ว่า [ throw up แม่งจะเจ๊งแล้วเหรอวะ สัดพี่กูเข้าร้านตั้งแต่หัววัน ]

[ ปากมึงเหรอเดย์ เอาตีนกูนาบสักทีดีมั้ย ]

[ ขอโทษจ้า ] น้องชายตัวดีบอก [ พอดีกูตกใจ เห็นปกติมานู้น อีกสี่ชั่วโมงร้านปิด เพราะมาตีหญิงอย่างเดียว ]

[ วันนี้มีธุระจะเข้าไปทำก่อน ]

[ งั้นกูนัดเซลล์ให้เจอเฮียมึง ช่วงทุ่มนึงนะ ] ไอ้อัยย์พูดขึ้นมาผมก็ตอบรับ

[ เออ ]

[ แล้วทำไมวันนี้เฮียเข้าเร็วจังวะ มีธุระไรอะ ใส่ใจได้มั้ย ]

[ จะพาเด็กเสิร์ฟคนใหม่เข้าไปให้พี่ซองเค้าจัดการให้ ]

[ เดี๋ยวๆ เด็กเสิร์ฟอะไร ปกติสัดเฮียไม่เคยยุ่งเรื่องนี้ ] ไอ้เจที่เข้ามาแชทกลุ่มคนสุดท้ายทักขึ้นมา [ เรื่องนี้ต้องมีเงี่ยนงำ ]

[ เงี่ยนกับผีสิ คนที่มันทำรถกูเป็นรอยมันไม่มีตังค์จ่ายค่าทำสีให้กู กูเลยต้องพาแม่งมาเป็นเด็กเสิร์ฟใช้หนี้ ]

[ แล้วสัดพี่มึงเก็บเค้าแสนนึงจริงดิ ] ไอ้เดย์ถาม

[ ห้าหมื่น แต่แม่งบอกมีแค่สามพัน สัด ]

[ 55555555555 ขออนุญาติขำนะครับเฮีย 5555555555555 ]

[ มากไปละสัดอัยย์ ]

[ ก็เฮียแม่งเล่นจะไปเก็บเค้าตั้งแสนอะ ใครมันจะมีจ่ายวะ แล้วนั่นเค้าก็ยอมมาทำงานให้เนอะ ]

[ ทำไมจะไม่ยอม ]

[ เป็นกู กูจะทำเรื่องไปแจ้งตำรวจ บีบบังคับให้แม่งเรียกประกันมาตรวจราคาแล้วจ่ายตามประกันบอกสัด ] ไอ้เจเสริม [ หน้าเนื้อใจเสือจริงๆ จะให้เค้ามาทำงานฟรีละไม่ว่า ค่าทำสีใหม่ตรงรอยนั่นไม่รู้จะสักเท่าไหร่เถอะ ]
[ รถกูมั้ย กูจะคิดเท่าไหร่มันก็เรื่องของกู ]

[ เนี้ย กฏหมายมีไว้ ปกป้องคนดีๆ ที่จะโดนคนแบบมึงไปทำร้ายนั่นแหละสัดพี่ ]

[ แล้วเค้าจะทำได้เหรอวะเฮีย  ] เจถามผมก็ตอบมัน

[ ต้องได้ ]

[ ความเอาแต่ใจของคุณอารยะนี้ ]

[ ได้แต่สวดมนต์และช่วยกันส่งผลบุญผลกุศลให้กับคนคนนั้น ] ไอ้เดย์เสริม

[ สวดมนต์เป็นเหรอเดย์มึงอะ เห็นปกติเข้าวัดแล้วร้อน ทำบุญไม่ค่อยขึ้นนี่ ]

[ เหมือนมึงอะสัดพี่ ]

[ เบื่อไอ้พี่น้องคู่นี้ทะเลาะกันวะ ] ไอ้อัยย์พูดขึ้น [ งั้นเดี๋ยวเฮียจะพาเค้ามาที่ร้านอะดิ ]

[ อื้ม ]

[ แล้วเค้าชื่อไรอะ ]

[ เมด ]

[ กูว่าต้องสวย เฮียถึงรับเข้ามา ] คำพูดของเพื่อนทำให้ผมถอนหายใจออกมาตอนที่คิดถึงหน้าอีกคน ในสมองมันตั้งคำถาม แบบนั้นแม่งเรียกสวยเหรอวะ ไม่น่าจะใช่  [ ความรู้สึกกูมันบอกอย่างงั้น แบบสเป็คมัน ไม่งั้นมันไม่ให้เข้ามาทำงานหรอก ]

[ แหม ไม่อยากจะบอกว่าคิดเหมือนกู ] ไอ้อัยย์เสริม

[ แต่สัดพี่มันบอกว่าเป็นผู้ชายนะ ]

[ งั้นก็ต้องเป็นผู้ชายที่ตัวเล็กๆ ขาวๆ สูงสัก ๅ165 ถึง 167 ราวๆนั้น ร่างบางๆ หน้าต้องสวยเหมือนผู้หญิง สเป็คเฮียอาฟเค้า ]

[ ตรงข้ามกับที่มึงพูดมาทั้งหมด ] ผมบอกสิ่งที่คิดให้พวกมันฟัง [ เค้าสูงกว่ากู แต่ก็ไม่มากหรอก หน้าตาก็งั้นๆ พอพาไปวัดไปวาได้ แต่ไม่ใช่สเป็คกู ถ้าไอ้เหี้ยนี่เป็นสเป็คกู มาตรฐานกูคงต่ำลง ]

[ อ๋อเหรออออออออ ] ไอ้เจว่า [ แหมมมมมมมม นี่ก็ว่าจะเงียบแล้ว แต่จะให้กูบอกมั้ย ความจริงที่มึงทักมาในไลน์ส่วนตัวกูอะ ]

[ สัด เรื่องนี้มีเงี่ยนงำจริงๆ ]

[ เงี่ยนเหี้ยอะไร เอาไม่ลง ]

[ ไอ้สัดพี่เจมึงเล่า ] ไอ้เดย์ถาม [ อะไรยังไง กูจะไม่นอกเรื่อง เล่ากูมา ]


AFTER  ลบ J is J ออกจากกลุ่ม

[ สัดพี่มึง ไอ้เชี้ยยย กูจะไปลากไอ้พี่เจกลับมา ]

[ ถ้ามึงลากมา กูจะไม่จ่ายเงินเดือน ]

[ เงี่ยนงำ ]

[ เงี่ยนงำ ] ไอ้อัยย์นี่แม่งก็ร่วมด้วยทุกอย่าง   

[ กูไม่เงี่ยนกับแม่งหรอก ไม่ได้ดูน่าเอาเลย อีกอย่างคือเค้าไม่ใช่สเป็คแบบที่กูชอบ แล้วที่กูให้แม่งมาทำงาน ก็เพราะคนเราแม่งต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำผิด มันก็เท่านั้น แล้วการรับผิดชอบของกู พวกมึงก็รู้ว่ามันต้องทำให้กูพอใจ อย่างที่มันมาทำรถกูเป็นรอย มันก็ต้องจ่ายในจำนวนเงินที่กูพอใจ เพราะกูไม่ผิด ]

[ แต่บางทีนะเฮีย คนบางคนอะ อาจจะเข้ามาเพื่อฉีกกฏทุกข้อที่เราตั้งไว้ก็ได้นะเว้ย ]

AFTER ลบ Ai ออกจากกลุ่ม


[ ไอ้เดย์ ]

[ สัดพี่ มึงไม่ต้อง กูจะไปเอง ]

D.DAY ออกจากกรุ๊ป

....................................................................


   ขับรถมาที่ผับตอนช่วงเวลาใกล้หกโมงเย็น ตรงลานจอดรถที่ด้านหลังร้าน ผมจอดเทียบข้างกับรถ Civic สีขาวคันคุ้นตาที่ก็เพิ่งเจอเมื่อช่วงบ่ายสองที่ผ่านมา มองเข้าไปในรถที่ไม่ได้ติดฟิล์มดำมากแตกต่างจากรถผมที่มืดสนิท เจ้าของรถคันข้างๆกำลังนั่งก้มหน้าก้มตา ทำอะไรสักอย่างกับมือถือตัวเอง สีหน้ายุ่งเหยิงที่ถอนหายใจออกมา ชวนให้ผมมองอยู่แบบนั้นจนกระทั้ง

   กริ๊ก

[ ถึงแล้วนะครับ จะให้ผมไปรอที่ตรงไหนเหรอ ] อ่านข้อความเข้าใหม่ของคนที่กำลังมองไปรอบๆ ผมเผลอยกยิ้มขึ้นมาก่อนจะส่ายหน้า มึงจำไม่ได้แม้แต่รถที่มึงไปสร้างรอยไว้เหรอวะ เชื่อเลยคนเรา

[ อยู่ไหนแล้วละ ]

[ อยู่ที่ผับแล้ว ผมต้องเข้าไปทางหลังร้านมั้ย หรือว่าจะให้ผมคอยคุณ ]

[ อื้ม คอยก่อน ] หันไปมองคนที่นั่งอยู่ในรถคันข้างๆอยู่แบบนั้น สีหน้าที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลยนั้น เหมือนกำลังหงุดหงิดอะไรสักอย่าง ริมฝีปากเป็นกระจับที่แหลมออกมายามที่มือพิมพ์ไปบนเครื่องสื่อสารของตัวเอง

   มันน่าแปลกอยู่นิดหน่อยเหมือนกัน ในตอนที่ผมเห็นเค้าหลับตาลงสักพัก ก้มหน้าลงต่ำลงกับพวงมาลัยรถ เหมือนคนกำลังทุกข์ใจอะไรอยู่มากๆ สำหรับเรื่องราวที่ได้อ่านจากข้อความในหน้าจอมือถือ ความรู้สึกไม่อยากจะให้มันเป็นแบบนั้นนาน ผมหยิบมือถือของผมขึ้นมา [ ออกมาจากรถได้ละ ผมถึงแล้ว ]

[ ครับ ]

    เปิดประตูรถแล้วเดินออกมาพร้อมกัน สายตาเรียวที่มองมาทางผม เค้าขมวดคิ้วน้อยๆก่อนจะเอามือชี้มาทางผม " รถคันนี้ มาจอดอยู่ข้างผมตั้งนานแล้วนะ "

“ แล้วจะทำไม ตรงนี้ห้ามจอดเหรอ "

“ ก็เปล่า " เค้าส่ายหน้าไปมา ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าไปในปอด " เข้าไปข้างในกันเถอะครับ "

“ อื้ม " ยักคิ้วเป็นคำตอบให้อีกคน ผมที่เดินนำเข้าไปทางหลังร้าน พนักงานหลายคนที่หันมามองตามเสียงประตู ต่างชะงักไปสักพักตอนที่เห็นผม ก็อย่างว่าเจ้านายไม่เคยมาเวลานี้ใครจะไม่ตกใจ มือที่ยกขึ้นมาไหว้กันแบบเงอะงะของแต่ละคน ผมพยักหน้ารับมัน ก่อนที่พวกเค้าจะหันกลับไปทยอยเอาเก้าอี้ลงจากโต๊ะแล้วเก็บกวาดทำความสะอาดกันต่อ

“ คุณอาฟ สวัสดีครับ " พี่ซองที่เดินตรงมาทางผม เค้าที่ก้มหน้ายิ้มให้ก่อนจะหันไปเอียงยิ้มให้คนด้านหลัง

“ คนนี้เด็กเสิร์ฟใหม่นะ ฝากงานให้ทำด้วย จะมาทำห้าเดือน "

“ ได้ครับ "

“ ส่วนนาย " ผมหันไปด้านหลัง " นี่ผู้จัดการร้าน ชื่อพี่ซอง "

“ สวัสดีครับพี่ซอง  ผมชื่อเมดครับ " มองคนสองคนที่ยิ้มให้กัน ผมถอนหายใจออกมาก่อนจะหันไปมองฝั่งบาร์ที่แน่นอนว่าตอนนี้ ก็อยู่กันครบทีมทั้งสามตัว เห็นปากไอ้เจที่พูดไม่ออกเสียงด้วยความกระตือรือร้นอยู่ตรงนั้นว่า ' แนะนำพวกกู แนะนำเค้ากับพวกกู!! '

“ งั้นผมพาน้องเมดไปเลือกเสื้อผ้านะครับ "

“ อื้ม "

   กริ๊ก

   ไม่ต้องเดาว่าเป็นใคร วินาทีที่เสียงไลน์ดังขึ้นแบบนี้ก็คงมีแต่ไอ้พวกนั้นในกลุ่ม  ' Throw UP  Staff '

[ สัด! ไม่แนะนำคนมาใหม่กับพวกกูเลยไอ้สัดเฮีย!! ] ไอ้เจเป็นคนแรกที่ทักเข้ามาในกลุ่มร้าน ที่ก็ตั้งใหม่เป็นครั้งที่ล้านแล้วในความรู้สึกผม [ นี่ กูยังไม่ได้เคลียร์เรื่องที่มึงถีบกูออกจากกรุ๊ปเลยนะสัด ]

[ ไม่จำเป็น ]

[ กูว่าเค้าน่ารักนะสัดพี่ แทบดูไม่ออกว่าสูงกว่าสัดพี่ เหมือนตัวเท่าๆกัน บางทีมองดีๆเค้าเหมือนตัวเล็กกว่า ]

[ ใช้ตีนมึงมองเหรอเดย์ ]

[ ทำไมต้องเกรี้ยวกราดวะเฮีย ]

[ รำคาญพวกมึง ]

[ พวกกูก็แค่ชมไปตามเนื้อผ้า เนื้อผ้ามันดี เราก็ชมว่ามันดี เค้าก็น่ารักดี แต่พอมาเห็นแบบนี้กูคุ้นหน้าขึ้นมาเลยอะ จำได้เลยว่าเคยอยู่โรงเรียนตรงกันข้าม แต่ตอนนี้มันน่ารักกว่าตอนนั้นอีกนะ ]

[ ถ้าไม่น่ารัก สัดพี่เค้าจะแอบมองต้งแต่ยังเกรียนเหรอ นั่นๆ ตอนนี้ก็ยังแอบมองเค้าเดินไปเลย ตามไปเลยไป๊!  ]

[ สัดเจ นี่มึงเล่าพวกมัน ? ]

[ ช่ายยยยย แบ่งบุญไง เห็นเด็กมันอยากรู้ ]

[ ไม่รู้กูมองใครรึเปล่าตอนนั้น มึงแม่ง โคตรอยากจะเอาส้นตีนเหยียบหน้า ]

[ เฮียโคตรเกรี้ยวกราดอะ 555555555555555 ] ไอ้อัยย์บอก [ ชมว่าเค้าน่ารักนี่ไม่ได้เลย ของมันขึ้นอ๋อ ]

[ กูไม่ได้เกรี้ยวกราด กูรำคาญ! ]

[ เค้าน่ารัก ] ไอ้เดย์ว่า

[ เค้าน่ารัก ] เสริมด้วยไอ้ไอ้เจ

[ เค้าน่ารัก ] ตามด้วยไอ้อัยย์ [ หน้าอะ สเป็คเฮียเลยจะบอกให้ ผิวก็ขาวด้วย แต่ในส่วนของหุ่น มันต้องมินิกว่านี้ ]

[ แต่ก็อย่างที่มึงบอกสัดพี่ไงไอ้อัย บางทีเค้าอาจจะมาเป็นคนที่ฉีกกฏทุกอย่างของสัดพี่ก็ได้ จากที่ไม่ชอบก็กลายเป็นชอบอะไรแบบนี้ ]

[ มนต์รักฝากรอยไว้บนรถเธอเหรอสัด ] ไอ้เจถาม 

[ นาย GTR ตัวร้ายกับยัยเจี๋ยมเจี้ยม ] ไอ้อัยย์เสริม [ 555555555555 ]

[ บันเทิงมากมั้ยพวกมึง ] ผมถามก่อนจะถอนหายใจออกมาแล้วส่ายหน้าไปมากับข้อความที่ได้อ่าน [ ไม่มีอะไรที่ไอ้เหี้ยนั่นเป็นสเป็คกูสักอย่าง กูชอบคนตาโต ขาว จมูกโด่ง ปากสวย ตัวเล็ก นมใหญ่ มีทรวดทรง ]

[ เอาวะ อย่างน้อยก็มีความขาว ความจมูกโด่ง และความปากสวยติดรอดมานะครับท่าน ]

[ ไม่ชอบขาวเป็นแป้งแบบนี้ไอ้สัด ไม่ชอบจมูกโด่งแบบนั้นด้วย ปากแบบนี้ก็แหลมไป ]

[ เรื่องมากไอ้เหี้ย ถามเค้ายัง เค้าเอามึงเปล่าสัดเฮีย ]ไอ้เจถาม [ นู้นก็ไม่เอานี่ก็ไม่เอา นิสัยเหี้ยๆอย่างมึง เค้าไม่เอาหรอก ใครจะมาทนความปากหมา กับนิสัยเอาแต่ใจของมึงได้ ]

[ เชี้ยๆ สองนาฬิกาๆ ] ไอ้อัยย์พิมพ์แทรกขึ้นมาก่อนที่ผมจะตอบกลับไป เงยหน้าขึ้นไปที่ตำแหน่งสองนาฬิกา ผมเจอเข้ากับพนักงานเสิร์ฟคนใหม่ของผับ ที่เดินก้มหน้าออกมาด้วยท่าทางเขินๆ เสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงสีดำ เสื้อกั๊กสีดำแบบคล้องคอด้านนอกกับผ้ากั้นเปื้อนที่ใส่อยู่ทุกอย่างดูเข้ากันไปหมด

[ ตาค้างไปเลยครับท่าน แหมมมม ไม่ชอบแบบขาวเป็นแป้งเนอะ ] ไอ้เจว่า

[ ปากแบบนี้ก็ไม่ชอบ จมูกแบบนี้ก็ไม่โอเค ] ไอ้เดย์ย้ำ [ แต่พอเค้าใส่ฟอร์มชุดเด็กเสิร์ฟออกมา ตานี่มองเค้าไม่กระพริบเลย บ้าจริงๆ ]

[ กูบอกแล้วเรื่องนี้ต้องมีเงี่ยนงำ ไม่งั้นเฮียไม่เอาเค้าเข้ามาหรอก ]

[ บอกเค้าไปสัดพี่ ขอปี้รอบละ 25000 สองรอบ หลุดหนี้ไปเลย ]

[ กูไม่เอา ]

[ แต่พี่เมดใส่ชุดนี้แล้วได้วะ แจ๋มแมว ให้ฟิวแบบชุดคอสเพลย์อะ ] ไอ้อัยย์บอก

[ ก้มลงคุกเข่าตรงหน้าแล้วถาม ให้ผมเลียมั้ยครับ ]  ไอ้เดย์ว่า [ โอยยย ตัวกู ใจกู เย็นไว้ลูกเอ้ย ไม่กล้าหันไปมองพี่เค้าแล้วจ้า คิดดีไม่ได้เลย ]

[ มึงไม่เคยคิดกับใครดีๆอยู่แล้วไอ้สัดเดย์ ]

[ มาเสิร์ฟโต๊ะกู ติปแม่งห้าร้อยเลย ] ไอ้เจพิมพ์ขึ้นมา

[ ชงเหล้าเป็นมั้ยเถอะ ไม่ใช่ชงแล้วแดกไม่ได้ ] ผมบอก

[ ขัดอีกละ ชมไม่ได้เลยเว้ย ] ไอ้เดย์ว่า

[ ไปทำงานได้แล้วพวกมึง ผับจะเปิดแล้ว เตรียมของอะไรรึยัง มั่วแต่เล่นโทรศัพท์ หักตังค์พวกมึงดีมั้ย ]

[ แล้วเฮียไม่ขึ้นไปชั้นสามอะ ] ไอ้อัยย์ถาม [ ปกติมานี่ก็อยู่แต่ชั้นสามไม่ใช่อ๋อออ ]

[ ทำงานอ๋อวะ ] ไอ้เจถามเปิดประเด็นให้ตบมุข

[ เปล่า เอาเด็กถูกใจขึ้นไปปี้ กร้ากกกกกก ]

[ สัด ] ผมบอกก่อนจะเดินตรงไปที่บาร์ [ วันนี้ไม่มีเอกสาร กูเลยจะเฝ้าการทำงานของพวกมึงข้างล่าง ]

[ โอ๊ยแหมมมมมมมมมม ตอแหลกันเหมือนเพิ่งรู้จักกันเมื่อวาน เฝ้าเด็กเสิร์ฟใหม่ก็พรูดดดดดดดดดด ] อ่านคำพูดของไอ้เจ ผมถอนหายใจออกมาก่อนที่มันจะพิมพ์ต่อ [ พี่ซองพามาแนะนำว่ะ แปปๆ ขอไปตั้งใจฟังเสียง ]

[ พวกมึงนี่โคตรเหี้ย ] ผมพิมพ์เข้าไปในไลน์ ตอนที่ได้ยินพวกมันแนะนำตัวกับอีกคนด้วยเสียงดัดแบบหล่อๆ อย่างที่ชอบเอาไปม่อสาวสวยๆ [ นั่นผู้ชายนะสัด  ]

[ ถ้าผู้ชายน่ารักก็กูโอเคนะ มึงอย่ามาทำเป็นพูดสัดพี่ มึงก็ชอบเอากับผู้ชาย มึงยังบอกเลยว่าคับแล้วก็แน่นกว่า มึงเองก็ได้หมดถ้าสดชื่นเหมือนกันอะ ] ไอ้เดย์พิมพ์ตอบกลับมา

[ เค้าสูงกว่าพวกมึงทุกคนนะ ไม่เหมาะสมกันสัดๆ ]

[ ความสูงไม่มีผลต่อแนวราบ ]

[ ความสูงไม่มีผลต่อแนวราบ ]

[ ความสูงไม่มีผลต่อแนวราบ ]

[ สัด ขอไปตบกระโหลกพวกมึงคนละที ]  ปิดโทรศัพท์มือถือ ผมเดินไปนั่งตรงบาร์ยื่นมือตบไอ้พวกกวนตีนที่ร้องโอดโอยขึ้นทั้งกลุ่ม ก่อนจะหย่อนตัวเองลงนั่งที่มุมนึงของบาร์ เหลือบมองไปที่เด็กเสิร์ฟใหม่ที่กำลังเรียนรู้งานจากผู้จัดการ รอยยิ้มที่เอาแต่พยักหน้ารับคำสอนพวกนั้น

“ ไม่ได้มานั่งมองเค้าจริงๆด้วย " ไอ้เดย์ว่าก่อนจะยื่นถาดแก้วใส่ขี้บุหรี่มาให้

“ เอามาให้ทำไม กูไม่ได้จะสูบ "

“ ก็ปกติแขกเข้ามานั่งก็ตั้งไว้ให้อยู่แล้ว ไหนบอกมาเฝ้าการทำงานของพวกกู นี่กูก็ตั้งใจทำงานตามระเบียบ "

“ สร้างภาพ "

“ คล้ายๆสัดพี่มึงที่มานั่งอยู่ที่บาร์ เพราะบอกว่าจะมาประเมินพวกกูนั่นแหละ สร้างภาพ! “

“ แล้วถึงกูจะมานั่งดูเค้ามันผิดยังไง กูเจ้าของผับ รับเด็กมาทำงานวันแรก กูก็ต้องมาดูสิวะ ว่าเค้าทำงานได้ดีรึเปล่า "

“ ไม่ใช่หน้าที่มึงจัดการมั้ย ปกติมึงไม่เห็นสน" ไอ้เจที่เดินมานั่งข้างๆพูดขึ้น มันที่หันไปมองเด็กเสิร์ฟคนนั้นตามผม

“ แปลกยังไง กูพามา กูก็แค่มาดู ว่าเค้าทำได้มั้ย"

“ เหนื่อยเถียงกับสัดพี่มึง ไปชงเหล้าดีกว่า  " ไอ้เดย์ว่าก่อนจะเดินออกไปจัดขวดเหล้าข้างๆ ไอ้อัยย์เพื่อนของมัน

“ จะว่าไป ไม่รู้มันเลิกกับไอ้บินยังนะ " ผมหันไปมองไอ้เจที่อยู่ๆก็พูดขึ้นตอนที่หันไปมองอีกคน " แต่เวลาไอ้บินมาผับเรา ไม่เคยเห็นมันหิ้วมาเลย พาสาวมาตลอด สงสัยมันเลิกแล้วมั้ง "

“ อื้ม "

“ ตอนนั้นกูจำได้ว่าเรื่องนี้ดังสัดๆ เด็กชมรมบาสคนดังเป็นแฟนกับผู้ชาย แต่ตอนนั้นกูยังคิดเลยว่าบ้าเปล่าวะ เปิดเผยคบกันแบบนี้ ใครๆที่ชอบผู้ชายด้วยกันสมัยนั้นกูเห็นแอบกันหมด ไม่กล้าบอก กลัวเพื่อนล้อ มีแต่แม่งละ ที่กล้าบอก ดีนะตอนนั้นใกล้จะจบแล้ว เหลือมาเรียนไม่กี่อาทิตย์ก็จบม.6 ละ ถ้าบอกตั้งแต่ต้นเทอมนะมึง "

" ทำไม "

" อ้าว ไอ้บินก็คงโดนล้อเรื่องเป็นเกย์ เผลอๆ แม่งอาจจะไม่มีเพื่อนคบก็ได้ มึงก็รู้สมัยนั้นเรื่องแบบนี้มันแปลกใหม่ "

" ก็จริง "

" แต่ไม่รู้ว่าฝั่งเมดจะเป็นแบบโรงเรียนเรามั้ยนะ ยิ่งเป็นฝ่ายรับแล้วด้วย "

" มึงรู้ได้ไงว่าเค้ารับ " ผมถามยิ้มๆ อีกคนก็หันมาขมวดคิ้วมองมาแบบไม่สบอารมณ์

" ไอ้บินสูงขนาดนั้นมึงจะให้มันเป็นรับรึไง "

" ไหนบอกว่า ส่วนสูงไม่มีผลต่อแนวราบ "

" มันไม่มีผลเฉพาะตอนที่มึงจะจับคนสูงๆทำเมียเว้ย สัด "

" งั้นเหรอ " ผมยักไหล่ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมา " อย่ามากก็โดนล้อว่าเป็นตุ๊ดมั้ง โดนแกล้งเหมือนเวลาพวกตุ๊ดโดนไง พวกบีบตูด ไม่ก็กอดคอ อะไรทำนองนั้น "

" โคตรเหี้ย กูโคตรเกลียดไอ้พวกเกรียนๆ ที่ทำอะไรแบบนั้นเลย "

" แต่กูคิดว่าเค้าคงไม่เจอหรอก "

" ทำไม "

" กลุ่มเพื่อนที่อยู่กับเค้าตอนนั้นโคตรโหด ใครมันจะไปกล้า "

" เอ๊ะ ? " ไอ้เจหันมามองผมยิ้มๆ มันที่เอามือปิดปาก " ทำไมสัดเฮียมึงรู้อะ มึงมองเค้าอย่างที่กูรู้ ถูกมั้ย เอ๊ะ ? อะไรยังไง  "

" รำคาญมึง " ผมมาก่อนจะยกมือขึ้นเรียกไอ้อัยย์ " เหมือนเดิมมาแก้วนึง "

“ อะ แดกเหล้ากลบเกลื่อนอีก " อีกคนว่าก่อนจะชี้หน้าผม " สารภาพมาไอ้สัดเฮีย ที่มึงใจดียอมให้เค้ามาเป็นเด็กเสิร์ฟที่ร้าน คือวางแผนจะจีบเค้าถูกมั้ย "

“ คำตอบคือ ไม่ใช่ " ผมปัดมือมันออกมา " ฟังกู กูแค่กลัวมันไม่จ่ายเงิน ก็เลยเอามาทำงานแทน เพราะกูรู้ว่ามันคงไปหาเงินห้าหมื่นมาให้กูไม่ได้แน่ๆ แล้วถ้าเป็นแบบนั้น คือกูจะไม่ได้เหี้ยอะไรเลย เหมือนรถต้องเป็นรอยฟรีๆ กูก็เลยเอามันมาทำงานกับกู จบ แค่นั้น "

“ อ๋ออเหรอ " มันแบะปากก่อนจะพยักหน้ารับ " โอเค กูจะยอมเชื่อมึงก็ได้ เพราะเหลือเวลาอีกตั้งห้าเดือน อะไรๆ ก็อาจจะชัดขึ้นจนมึงปฎิเสธไม่ได้เลยก็ได้ "

“ รำคาญมึง " ผมบอกก่อนจะยกแก้วเหล้าที่เอามาเสิร์ฟตรงหน้าขึ้นกิน ตอนที่หันไปมองเด็กเสิร์ฟคนใหม่ที่มีท่าทีเงอะงะอย่างงั้น " แม่งอาจจะอยู่ไม่ถึงวันก็ได้ ใครจะไปรู้ "

...............................................................

หรือว่าเรื่องนี้จะมีเงี่ยนงำ #โดนตบปลิว
พี่เมดดูบ๊อปในสายตาหนุ่มๆของผับนี้นะคะ ทุกคนดูคุกคามทางสายตา
ประดุจส่งนายเอกเข้ากรงเสือกรงจระเข้ แต่เอาเถอะ มันไม่แย่ไปกว่านี้แล้วเมด เชื่อพี่
เอ๊ะ หรือยังไง โอเค เจอกันตอนหน้านะคะ ตอนที่ 4 วันพรุ่งนี้
และนี่คือทางไปแชทจอยลดาค่าา :: http://www.joylada.com/story/5a8bfb6e007ee30001162ca6

#อย่าลืมอ่านทั้งบทบรรยายและแชทนะคะ
สุดท้ายนี้ฝากแท็ก #ผับชั้นสาม ในทวิตด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้าา
 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-02-2018 21:57:07 โดย patwo »

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
55555 ฮาตอนแชทกันนี่แหละ จะรั่วกันไปไหน
แล้วลบเพื่อนออกจากกลุ่มได้ไวมาก และแอดใหม่ได้ไวมาก จริงๆ
แต่ละคน มีความไม่ซื่อทางสายตา และคำพูดนะ

เมดจะต้องเจอไปอีกนานไหมล่ะ
แล้วเมดดูอึกอัก ดูไม่ค่อยปลื้ม เหมือนมีอะไรในใจ

พี่อาฟไม่มีอะไรในกอไผ่หรอกเนาะ
ก็แค่มานั่งดูผลงานเด็กงานเฉยๆ

ตอนนี้หาทางไปจอยไม่เจอค่ะ มันไม่โชว์อะ

ออฟไลน์ MiewnuoA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เรื่องนี้ต้องมีเงี่ยนงำ เอ๊ยย เงื่อนงำ พี่อาฟต้องแอบซ่อนอะไรไว้แน่ๆ น้องเมดลูกที่หนูทำรถพี่เค้าเป็นรอยเพราะมาตามอีพี่บินกับกิ๊กมันใช่ไหมลูก โอ๊ยยยยยยย รอค่ะรอ

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
[ นาย GTR ตัวร้ายกับยัยเจี๋ยมเจี้ยม ] 5555555 ขำหนักมากค่ะ  :laugh:

ออฟไลน์ tae1234

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ติดตามนะครับ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ติดตามๆ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
รอดูตอนหน้าว่าเมดมีหน้าที่ทำอะไรในร้านบ้าง  :กอด1:

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27

# How to read [....เนื้อหา.... ] :: เนื้อหาในช่องแบบนี้ คือ แชทคุยกันนะคะ ไม่เห็นหน้า


ตอนที่ 4

   เพล้ง!

   เสียงแก้วตกแตกเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ของคืนนี้ ผมผละแก้วเหล้าที่กำลังกินอยู่หันไปมองต้นเสียงก็พบว่ามันก็ยังเป็นคนเดิม พนักงานเสิร์ฟคนใหม่ที่กำลังก้มขอโทษลูกค้า พร้อมด้วยผู้จัดการอย่างพี่ซองที่ก็รีบหยิบผ้ามาเช็ด ก่อนจะให้เด็กเสิร์ฟอีกคนเอาไม้กวาดมากวาด

“ ใบที่ 10 “ ไอ้เดย์ว่าก่อนจะหันไปหาไอ้อัยย์เพื่อนของตัวเองที่ยืนเช็ดแก้วอยู่ใกล้ๆ " เป็นไงมึง ห่างจากที่มึงทายไปเรื่อยๆแล้วนะครับ "

“ สัด เมื่อกี้มึงทายเท่าไหร่นะ "

“ 12 ใบ ส่วนมึงทาย 8 ใบ " ไอ้สองคนนี้กำลังพนันกันว่าตัวเลขของใครจะใกล้เคียงจำนวนรวมของแก้วที่อีกคนทำแตกประจำคืนนี้

“ มันอาจจะหยุดที่ใบนี้ก็ได้สัด "

“ ราตรีนี้ยังอีกยาวไกลนัก " ไอ้เดย์ยักคิ้วให้เพื่อนมัน " กูว่าแทนที่จะเอามาทำงานจ่ายหนี้ กลายเป็นสร้างหนี้แล้ววะ สัด แก้วแตกยับขนาดนี้ หรือว่าเค้าจะแกล้งสัดพี่ แบบว่าทำงานไม่ดี สัดพี่จะได้เลิกยุ่ง " ประโยคสุดท้ายน้องชายตัวดีหันมามองผม ที่ก็เลิกคิ้วให้มัน แต่ผมยังไม่ตอบอะไร ไอ้อัยย์ที่ยืนอยู่ข้างๆมันก็พูดขึ้น

" แต่กูว่า ไม่น่าจะเป็นอย่างงั้น เค้าก็ดูพยายามแหละ แต่เหมือนไม่มีสมาธิมากกว่า "

" โคตรรรร ไม่มีสมาธิ กูบอกเลย " ไอ้เดย์ย้ำ " เมื่อกี้พี่ซองบอกเค้าว่าให้เอาเหล้าไปให้โต๊ะที่มีผู้ชายใส่เสื้อสีน้ำเงิน แต่แม่งดันเอาไปให้ผู้ชายใส่เสื้อสีเหลือง คือมึง แบบ น้ำเงินกับเหลือง.. สัด "

" หรือเค้าตาบอดสี " อัยย์หันมาถามก่อนจะเหล่มองผม " ขาดทุนชิบหายแล้วเฮีย แค่วันแรกแก้วก็สิบใบแล้ว นี่ทำห้าเดือน ไม่ต้องดีลกับโรงงานแก้วเลยรึไงวะ "

   เพล้ง !

“ สัด! เหี้ยมึง ขวดแบล็คตกแตก " ผมหันขวับไปยังต้นเสียงตามที่ไอ้เจที่นั่งอยู่ข้างๆเอ่ยบอก ทุกคนที่อยู่ในสถานการณ์ตอนนั้นช็อคไปหมด ทั้งไอ้เดย์ ไอ้อัยย์ หรือแม้แต่ไอ้เจก็หันมามองผม ที่ก็มองไปยังภาพนั้นนิ่งๆ ก่อนจะหลับตาลงควบคุมสติของตัวเองให้สงบจิตสงบใจเอาไว้

   ขวดเหล้าราคาแพงนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น คอขวดที่แตกออกกลิ่นเหล้าคลุ้งขึ้นมา คนที่ทำตกแตกเบิกตากว้างก่อนจะก้มหน้าลงขอโทษแขกซ้ำแล้วซ้ำเล่า พี่ซองผู้จัดการวิ่งไปที่โต๊ะเค้าก้มหัวลงขอโทษแขกคนนั้น ก่อนจะบอกว่า เดี๋ยวจะนำเหล้าขวดใหม่มาให้ ตั้งแต่เปิดผับมา ผมไม่เคยเห็นพี่ซองทำงานหนักเท่าวันนี้ เค้าที่หันไปบอกเด็กเสิร์ฟคนนั้นว่าให้จัดการพื้นกับขวดเหล้าที่แตกให้เรียบร้อย ด้วยสายตาเรียบเฉยแฝงด้วยความรำคาญ ทำให้ผมรู้สึกว่า ความอดทนต่อการทำงานพลาดของไอ้เหี้ยนั่น คงทำให้พี่ซองมาถึงขีดสุดแล้ว

" สัดอาฟ..” ไอ้เจเอ่ยเรียกผม ตอนที่หันไปมองพี่ซองที่กำลังเดินผ่านหลังผมไปด้วยท่าทางหงุดหงิด เค้าเดินไปเอาเหล้าขวดใหม่ให้กับลูกค้า ก่อนจะก้มลงจัดการขวดเหล้าที่แตกเพราะท่าทีเงอะงะของคนมาใหม่ที่ยังทำอะไรไม่ค่อยเป็น

" ตั้งแต่เปิด throw up มา แล้วตั้งแต่ที่มีพี่ซองเข้ามาทำงาน วันนี้กูเพิ่งเห็นสีหน้าหงุดหงิดของพี่แก " ไอ้เดย์พูดขึ้นก่อนจะหัวเราะในคอ " ท่าทางจะถึงขีดสุดแล้วแน่ พี่ซองจะไม่ยกขวดเหล้า ตบหน้าเด็กสัดพี่ถูกมั้ย "

“ ใครเด็กกู "

" คุณอาฟ " พี่ซองเดินเข้ามาหาผม ขัดประโยคที่ไอ้เดย์กำลังพูดตอบกลับมาพอดี ผมที่หันไปหาเค้าในตอนนั้นยกมือขึ้นบอกห้ามสิ่งที่เค้าจะพูด เพราะรู้อยู่แล้วว่าจะพูดอะไร 

" ไปเรียกเค้ามา ผมจัดการเอง "

" ครับ " ตอบรับด้วยคำสั้นๆง่ายๆ ร่างที่เดินไปด้วยความไม่สบอารมณ์ เอ่ยบอกเด็กเสิร์ฟคนนั้นที่ก็ก้มหน้าลงด้วยสีหน้าเศร้า มันถอนหายใจออกมา ก่อนจะเดินตรงมาทางผม ที่ก็ลุกขึ้นจากที่นั่งหลังจากยกเหล้าขึ้นดื่มจนหมดแก้ว

“ ใจเย็นเด้อ สัดอาฟ " ไอ้เจบอกไล่หลังผมที่ก็เดินไปรออีกฝ่ายตรงส่วนสต๊าฟด้านหลังร้าน ไล่พนักงานที่ยืนอยู่ออกไปจากบริเวณโดยรอบทั้งหมด ในการทำงานคนที่ทำผิดต้องถูกลงโทษ แต่ไม่ใช่การด่าเพื่อให้รู้สึกเสียหน้าต่อหน้าคนอื่น

“ คุณอาฟ "

“ วันนี้ทำแก้วแตกไปแล้วกี่ใบ เสิร์ฟผิดไปกี่โต๊ะ แล้วทำขวดเหล้าแตกไปกี่ขวด "  ผมถามอีกคนเสียงนิ่งๆ เค้าที่เงยหน้าขึ้นมาสบสายตาผมเล็กน้อยก่อนจะก้มหน้าลงแล้วยกมือไหว้

“ ขอโทษครับ "

“ ฉันถาม ก็ตอบ "

“ ไม่ทราบครับ แต่รู้ว่าเยอะ "

“ มึงทำงานภาษาอะไรวะ ขนาดของง่ายๆอย่างเสิร์ฟโต๊ะก็ทำไม่ได้ หรือมึงกำลังป่วนประสาทกู แกล้งทำเป็นทำงานไม่ได้เพื่อให้กูบอกว่า อ้อ ไม่ต้องทำแล้วนะ จ่ายมาแค่สามพันเท่าที่มีแล้วจะไปตายไหนก็ไปเถอะ อย่างงั้นเหรอ ? " ผมเอียงหน้าถามอีกคนที่ก็ส่ายหน้าไปมา

“ เปล่าครับ ไม่ใช่อย่างงั้น "

“ แล้วทำไมถึงทำอะไรไม่ได้เลยวะ งานเสิร์ฟโต๊ะง่ายๆที่เค้าไม่ได้บอกหมายเลขโต๊ะเลยเพราะมึงยังจำไม่ได้ เค้าบอกเสื้อของคนที่นั่งอยู่ในโต๊ะด้วยซ้ำ มึงยังผิด คือสมองมีปัญหาหรือว่าอะไร  ทำงานแบบนี้อย่าหวังจะปลดหนี้เลยสัด วันนี้มึงสร้างเพิ่มขึ้นแล้วด้วยกูจะบอกให้ ค่าเหล้า ค่าแก้ว ทุกอย่างมึงทำแม่งพังหมดในวันเดียว ลูกค้าคอมเพลนว่ามึงใจลอย ผู้จัดการสติแทบแตกก็เพราะมึง " ตะโกนใส่หน้าอีกคนที่ก็ยืนก้มหน้าอยู่ตรงหน้า เวลาด่าคนไม่เถียงมันรู้สึกหงุดหงิดแล้วยิ่งกว่าหงุดหงิดเมื่อเป้นคนตรงหน้าที่กำลังทำท่าทางจำยอมทุกอย่าง

   "  นี่มึงเรียนอยู่ปีสี่หรือเด็กป.สอง ทำไมสติปัญญาถึงมีปัญหาขนาดนี้ แล้วแบบนี้จะให้กูทำยังไงกับมึงดี ไปหาเงินมาจ่ายหนี้กูห้าหมื่นภายในวันนี้มึงจะทำได้มั้ย จะได้เลิกเข้ามาทำร้านกูวายวอดอย่างวันนี้ "

" คือ คุณอาฟ ขอโทษ ขอโทษจริงๆครับ " เค้าเงยหน้าขึ้นมาสบสายตากับผม แววตาที่กำลังคลอไปด้วยน้ำตาทำให้ผมหยุดปากที่กำลังจะด่าออกไป " คือว่า ผมไม่ได้ตั้งใจ จริงๆผมเป็นคนที่มีสติมากกว่านี้แต่ว่าช่วงนี้ " อีกคนเว้นเสียงไปก่อนจะถอนหายใจออกมา " คือผมเพิ่งอกหักมา คือ ผมรู้ว่ามันไม่ใช่ข้ออ้างที่จะเอามาพูด แต่ว่า เรื่องที่ผมเจอมามันหนักหนาจริงๆ  " มือที่กำกันแน่นพร้อมกับน้ำตาที่เริ่มไหลลงลงมา " คือ..ผมเห็นแฟนผมที่คบกันมาตั้งแต่ม.ปลาย มีอะไรกับเพื่อนสนิทผม บนเตียงในห้องนอนของผม คือ ผมเห็นมันกับตามันกำลังเอากันอยู่ แล้วคือ ภาพพวกนั้น มัน คือ มัน ยังอยู่ในตาของผมอยู่ ทำยังไงก็ไม่หายไปสักที ผมก็พยายามที่จะลืมแล้ว แต่มันก็ยังทำไม่ได้สักที วันที่ขับรถชนรถคุณจนเป็นรอยก็เหมือนกัน วันนั้นเพราะผมเอาแต่ร้องไห้ ก็เลยไม่ได้ทันมอง ผม ผมขอโทษครับ อึก ผมขอโทษจริงๆ ขอโทษครับ ผมขอโทษนะ อึก ฮือๆ " มือที่ยกขึ้นไหว้ผม แววตาที่ก้มลงร้องไห้สะอึกสะอื้น ชวนให้ผมยืนนิ่งอยู่แบบนั้น อยากจะด่าออกไปอีกสำหรับเรื่องทำของเสียหาย มีหลายอย่างที่ยังอยากจะด่า แต่ว่าตอนนี้ ด่าอะไรออกไปไม่ออกแล้ว

   ผมค้นพบความจริงเข้าให้แล้วว่า ทำไมคนคนนี้ถึงดูไม่ใส่ใจกับปัญหาเรื่องรถเป็นรอยสักเท่าไหร่ นั่นก็คงเพราะ เค้าคงคิดว่า  ปัญหาอื่นที่เกิดขึ้นไม่มีอะไรน่าเสียใจเท่าปัญหาที่เจอตอนนี้แล้ว  " คุณอาฟ "

" จะไปไหนก็ไป ไป " ผมบอกปัดอีกคน ที่ก็มีท่าทางเงอะงะเหมือนไม่เข้าใจความหมายในคำพูดของผม " ไปยืนเฉยๆ ดูแลแขก ไม่ต้องเสิร์ฟ แขกจะเอาอะไร ก็ไปบอกผู้จัดการ แล้วเค้าจะใช้คนอื่นเอง นายแค่ดูไปรอบๆ แค่นั้น "

" ครับ "

" แล้วยืนนิ่งๆ อย่าสร้างปัญหาอีก "

" ครับ " เค้าก้มหน้าลง ตอนที่จะเดินออกไปผมก็คว้าแขนนั่นไว้

" เช็ดน้ำตาก่อน เดี๋ยวใครเค้าจะหาว่ากูรังแกมึง "

" ครับ " ฝ่ามือขาวยกขึ้นเช็ดน้ำตาลวกๆ คราบน้ำตาบางส่วนหายไปแต่บางส่วนกลับติดอยู่บนแก้มขาวๆนั่น ผมถอนหายใจออกมาก่อนจะดึงอีกคนเข้ามาใกล้

" มึงนี่นะ " ยื่นมือขึ้นไปเช็ดน้ำตาให้เค้าบนผิวแก้มนิ่ม สบสายตาของที่กำลังเศร้าอย่างที่สุด ตอนนั้นผมเกิดคำถามในใจที่ว่า ' ใครคนนั้นมันทนเห็นมึงร้องไห้ได้ยังไงวะ '

" คุณอาฟ "

" ออกไปได้ละ เช็ดหมดแล้ว "

" ครับ " ก้มหน้าลงอีกครั้งก่อนจะเดินออกไปจากหลังร้านที่เรายืนคุยกัน ผมเดินกลับมานั่งที่บาร์เหมือนเดิม แต่ยังไม่ทันหย่อนตัวลงนั่งให้ดี คนที่นั่งข้างๆอยู่ก่อนหน้านี้อย่างไอ้เจก็หันมาถามเรื่องที่เกิดขึ้นทันที

" เป็นไง จัดการไล่ออกแล้ว ? “

" กูว่าที่เค้ายังยืนอยู่แบบนี้เพราะเฮียแม่งเสนอ ทีละ 25000 สองทีหลุดหนี้มากกว่า " ไอ้เดย์เสริมก่อนจะเหลือบมองผม

" พี่ซอง " ผมเอ่ยเรียกผู้จัดการร้านที่กำลังจะเดินเข้ามาหา เค้าหยุดชะงักกึกเพราะนี่อาจจะเป็นครั้งแรกก็ได้ที่ผมเรียกเค้าด้วยตัวเอง อยากจะตัดเสียงน่ารำคาญของไอ้พวกช่างจินตนาการที่ก็คิดอะไรไปต่างๆนานาแบบไร้สาระ

" ครับ คุณอาฟ "

" ไอ้เด็กเสิร์ฟใหม่นั่นน่ะ อย่าเพิ่งให้ทำอะไรก่อนนะ ให้มันยืนดูเฉยๆไปก่อน เดี๋ยวถ้าแขกเรียกใช้ มันจะมาบอกพี่ พี่ก็ไปจัดการแทนให้ก่อนแล้วกัน เพราะถ้าขืนให้ทำต่อ คิดว่าคงไม่หยุดอยู่ที่โหลนึง "

" ได้ครับคุณอาฟ "  พยักหน้ารับให้อีกคนที่เดินออกไป  ผมพลิกตัวกลับมาก่อนจะยกนิ้วบอกให้ไอ้เดย์รินเหล้ามาให้อีกแก้ว On the rock วางลงตรงหน้าตามคำสั่ง ผมหยิบมันขึ้นมาก่อนจะเขย่าไปมาก่อนจะชิมมันเข้าไป  วางแก้วลงช้าๆตอนที่หันไปเหลือบมองใครบางคนที่กำลังยืนพิงร่างเข้ากับกำแพง มือที่กอดถาดเสิร์ฟไว้แน่น สายตาก็เหม่อออกไป ท่าทางเศร้าๆแบบนั้นช่างเข้ากันกับเพลงในร้านที่กำลังเปิดขึ้น มันเป็นเพลงยุค 90 ที่ผมไม่ได้คุ้นสักเท่าไหร่ แต่เนื้อหาของเพลงกลับทำให้คนที่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ร้องไห้ออกมาไม่หยุด


   ' อาจมีเหตุผลเป็นร้อยพัน
   ที่เธอคิดจะพูดให้ฉันได้ฟัง
   ที่ในวันนี้ ต้องเลิกรักกัน
   ฉันก็เคยอยากรู้ อยากถามว่าทำไม
   แต่เอาเข้าจริงก็เปลี่ยนใจ ไม่อยากได้ยินถ้อยคำใด
   ไม่จำเป็นแล้ว
   ก็ไม่สำคัญอะไรกับฉันแล้ว ไม่ว่ายังไงก็คงจบลงเหมือนกัน
   ก็ไม่ต้องพูดหรอก เพราะไม่สำคัญ
   จบแบบไหน จากตอนไหน ก็เหมือนกัน

   ให้กี่เหตุผล กี่ร้อยคำ ก็ไม่ทำให้ความเจ็บซ้ำเจือจาง
   และนาทีนี้ ไม่ขอรับฟัง ไม่ว่าเคยอยากรู้ อยากถามสักเพียงใด
   แต่เอาเข้าจริงก็เปลี่ยนใจ ไม่อยากได้ยินถ้อยคำใด ไม่จำเป็นแล้ว
   ก็ไม่สำคัญอะไรกับฉันแล้ว ไม่ว่ายังไงก็คงจบลงเหมือนกัน
   ก็ไม่ต้องพูดหรอก เพราะไม่สำคัญ
   จบแบบไหน จากตอนไหน ก็เหมือนกัน

   ก็ไม่สำคัญอะไรกับฉันแล้ว ไม่ว่ายังไงก็คงจบลงเหมือนกัน
   ก็ไม่ต้องพูดหรอก เพราะไม่สำคัญ
   จบตอนนี้ จากตรงนี้ เลยแล้วกัน '

   เพลงที่จบลงมาพร้อมกับมือที่ยกขึ้นปาดน้ำตาตัวเองแบบลวกๆอีกครั้ง เค้าที่ถอนหายใจออกมา ผมเผลอจินตนาการถึงถ้าเป็นตัวเองในช่วงเวลานั้น ' จะทำยังไงวะ ถ้าเห็นคนที่ตัวเองรักกำลังมีอะไรกับเพื่อนสนิทตัวเอง ' กูจะชักปืนยิงมัน พุ่งเข้าไปต่อยมัน หรือทำยังไงกับช่วงเวลาสั้นๆนั้นที่ทั้งสติและหัวใจขาดไปพร้อมๆกัน

“ วันนี้มึงเปิดเพลงเหี้ยอะไรของมึงวะ สัดเจ " ผมหันไปบอกเพื่อนตัวเอง ที่ตอนนี้กำลังเข้าสู่เพลงมือที่สามที่เข้ามาแย่งผัวชาวบ้าน แต่ยังไม่รู้สึกอะไร ด้วยเหตุผลที่บอกว่ารัก

“ อะไร ออกจากเพราะ นี่เพลงต่อไปก็เพลงตัวสำรองของพี่อ๊อฟปองเลยนะเว้ย " มันหันมาเถียงผมที่ก็ถอนหายใจออกมา ผมเหลือบมองอีกคนที่มีทีท่าว่าจะร้องไห้อีกครั้ง

" เพลงเหี้ย " ดึงแก้วเหล้าขึ้นมากินจนหมดในคราวเดียว วางแก้วลงเสียงดังก่อนจะลุกขึ้นจากที่นั่งในที่สุด

" อ้าว แล้วนี่สัดอาฟมึงจะไปไหน "

“ สัดพี่มันรับไม่ได้  ที่มึงเปิดเพลงสนับสนุนมือที่สามเปล่า " ไอ้เดย์ว่ายิ้มๆ

“ กูว่าไม่น่าใช่ ปกติพี่มึงก็วันไนท์สแตนกับเมียชาวบ้านอยู่บ่อยครั้ง ณ ชั้นสาม " ไอ้เจว่าก่อนจะเหลือบมองตามผมที่เดินออกมา " แต่กูว่าเพราะคนนู้นที่ยืนหลบมุมร้องไห้อยู่มากกว่า "

" น้องเดย์จะได้พี่สะใภ้แล้วเหรอฮะ "

" สัดเดย์ ความแบ๋วไม่เข้ากับหน้ามึง "

   เสียงที่ได้ยินไล่หลัง ผมไม่ได้สนใจหันไปต่อล้อต่อเถียงอะไรกับพวกมัน ขาที่เดินตรงเข้าไปหาอีกคนที่มีสีหน้าสะดุ้งเล็กน้อยตอนที่เห็น ก่อนมือนึงจะรีบยกขึ้นปาดน้ำตาลวกๆพลางก้มหน้าลง

" มานี่ " ผมบอก ก่อนจะดึงมือมันให้เดินออกมาจากมุมตรงนั้นที่ยืน ยึดถาดเสิร์ฟที่อีกคนถือวางไว้บนเค้าเตอร์ใกล้ๆ ผมเดินผ่านสายตาล้อเลียนของไอ้พนักงานคนสนิททั้งสาม แล้วเดินทะลุเข้าไปในห้องสต๊าฟที่เป็นบันไดนำตรงขึ้นไปถึงชั้นสามของร้านที่จะไม่ได้ยินเสียงอะไรใดๆจากชั้นล่างเพราะเป็นห้องเก็บเสียง

" คุณอาฟ "

" มายืนร้องไห้อยู่แบบนั้น เห็นแล้วมันน่ารำคาญ นี่ผับ ไม่ใช่งานศพ "

" ขอโทษครับ " อีกคนบอก ผมก็ถอนหายใจออกมาตอนที่เห็นใบหน้านั้นก้มหน้าลง

“ อยู่ในนี่แหละ วันนี้ข้างล่างมีแต่เพลงไร้สาระ " เค้าเงยหน้าขึ้นมามองผม ในสายตาที่เหมือนตั้งคำถามว่า ตัวผมเห็นด้วยเหรอว่าเค้าร้องไห้กับเพลงที่ได้ฟังพวกนั้น ปากที่กำลังจะเอ่ยถาม ผมก็ขัดขึ้น " อยู่ข้างล่างก็ไม่ได้ทำอะไรอยู่แล้ว งั้นก็ขึ้นมาอยู่ข้างบนนี่แหละ แกะกะคนอื่นเค้า "

“ แล้ว จะให้ผมทำอะไรครับ "

“ ตัวภาระ ก็ควรนั่งเฉยๆ จนกว่าจะเลิกงาน "

“ อ่า.. ครับ " ดึงเก้าอี้สำนักงานที่อยู่ตรงโต๊ะออกมาก่อนจะหย่อนตัวลงนั่ง ผมที่เดินไปนั่งที่เก้าอี้อีกฝั่งนึงมือที่กำลังเปิดแฟ้มเอกสารที่ยังมีงานสรุปบัญชีค้างอยู่แต่เสียงไลน์จากกลุ่มพวกขี้เสือก ก็ดังขึ้นมาไม่หยุดจนต้องดึงขึ้นมาอ่านก่อน


' Throw UP  Staff '

[ พาไปไหนกันเอ๊าะ ชั้นสามใช่หรือไม่ ใช่หรือไม่ ใช่หรือไม่ ] ไอ้เจพิมพ์ทักขึ้นมาคนแรก ก่อนไอ้อัยย์จะพิมพ์เสริมขึ้นมา

[ เห็นเค้าร้องไห้ ยื่นทิชชู่ให้ไม่ได้ไง๊ ถึงขั้นต้องพาขึ้นไปถอดเสื้อแล้วเช็ดให้เลยหรา ]

[ เช็ดธรรมดาโลกไม่จำ  อย่างพี่อาฟแห่ง throw up เช็ดให้ต้องท่าพิเศษ ] ไอ้เดย์ว่า  [ 25000 ต่อคืน มาสองคืน ปลดหนี้ไปเลยจ้า สวยๆรวยๆ ]

[ แล้ว 25000 ให้ทำไรบ้างอะ ] อีโมแว่นตาดำที่ไอ้อัยย์แนบติดมาชวนให้ผมส่ายหน้า [อม เลีย  ยอมให้ดูด ยอมใช้เครื่อง ]

[ สัด ! คิดดีไม่ได้แล้ว ] ไอ้เจว่า

[ พวกมึงแม่ง ว่างกันนักเหรอวะ ] ผมถามเข้าไปในกลุ่มไลน์ [ กูไม่ได้พามาทำเหี้ยอะไรทั้งนั้นแหละสัด คิดว่ากูเป็นคนยังไง ]

[ สารเลว ]

[ ชาติชั่ว ]

[ ต่ำช้า ]

[ K ] ผมพิมพ์ตอบกลับไปในไลน์ ก่อนจะถอนหายใจออกมา ปิดล็อคหน้าจอมือถือตอนที่วางลงข้างตัว เสียงเบาๆที่นั่งอยู่ในห้องเดียวกันก็พูดขึ้นมา

“ เอ่อ คุณอาฟ "

“ มีอะไร "

“ คือ บัญชีตรงนี้ มันผิดอยู่ " นิ้วขาวๆชี้มาที่หน้ากระดาษ ผมก็เงยหน้ามองอีกคน " มันเป็นรายจ่ายใช่มั้ย แต่มันไม่มีช่อง vat มันต้องมีนะ มันสำคัญ เพราะ vat ก็คือค่าใช่จ่ายเหมือนกัน "

“ ทำไมรู้ "

“ ผมเรียนบัญชี " ผมเอียงหน้ามองอีกคนที่ก็เม้มปากตัวเองเบาๆ ตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว ผมรู้สึกว่าคนตรงหน้าเป็นพวกประเภทเวลาประหม่าจะเม้มปากตัวเองทันที

“ งั้นนายก็ทำบัญชีได้สินะ "

“ ก็คิดว่า น่าจะได้ครับ " เค้าตอบรับ ผมก็เชิดหน้าไปที่แม็คบุ๊คแอร์ที่ตั้งอยู่ไม่ไกล

“ งั้นก็ไปหยิบแม็คบุ๊คนั่นมา "

“ ครับ "

“ มานั่งทำบัญชีรายจ่ายให้ฉัน แฟ้มรายจ่ายทั้งหมดอยู่นี่ " ผมยื่นแฟ้มให้เค้าอีกคนก็ลุกไปเอาโน๊ตบุ๊คนั่นด้วยความว่าง่าย มือที่เปิดหน้าจอขึ้น ผมก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินไปช้อนหลังอีกคนก่อนจะก้มลงใส่รหัสปลดล๊อคและล็อคอิน อีเมล์ของร้านที่พ่วงบัญชีงานทั้งหมดไว้

“ คุณล็อคอินให้ใช้งานสองเครื่องแบบนี้เหรอ " อีกคนถามผมก็พยักหน้ารับ

“ ใช่ เพราะบางทีผู้จัดการก็ขึ้นมาช่วยทำเอกสาร ถ้ามันเสร็จไม่ทัน ทำไม มีปัญหาอะไร "

“ ก็เปล่า " เค้าส่ายหน้า " แค่คิดว่ารายรับรายจ่ายของร้าน ควรเป็นความลับรึเปล่าเท่านั้นเอง เพราะมันคืนต้นทุน ที่เกี่ยวกับเงินก็เท่านั้น "

" งั้นต่อไปนี้นายก็ทำ คนเดียว "

" ห๊ะ ? ผมเหรอ “

“ เลิกเป็นเด็กเสิร์ฟแล้วก็มานั่งทำงานที่ออฟฟิศแทน " ยกคิ้วถามอีกคน " หรือว่าอยากจะไปเสิร์ฟ ? “

" คุณไว้ใจผมเหรอ " เค้าถามคำถามนั้นออกมาด้วยสีหน้าซื่อๆ ผมก็ยกยิ้มแล้วก้มหน้าลงสักพักก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบสายตาของอีกคนด้วยแววตาจริงจัง

" แล้วคิดว่าถ้านายโกง ฉันจะปล่อยนายไว้รึไง "
 
" คิดว่าคงไม่ " เค้าตอบก่อนจะถอนหายใจออกมา " ผมจะทำให้ดีครับ ให้คุ้มเงินเดือนที่ต้องจ่ายหนี้คุณ "

" ก็ดี  ทำตัวมีประโยชน์ซะบ้าง ไม่ใช่ถนัดแต่เรื่องล้างผลาญแล้วก็สร้างปัญหาให้ฉัน " สายตาที่กำลังด่าทอผมสักล้านคำอยู่ในแววตานั้นที่ส่งมาให้ผม เค้าถอนหายใจก่อนจะก้มหน้าลงทำงานในคอมพร้อมกับเปิดแฟ้มรายจ่ายของอาทิตย์นี้ที่ผู้จัดการร้านเป็นคนรวบรวมมาให้


' J is J ' 

[ เจ ]

[ เมดอยู่บนถูกมั้ย มึงเลยพิมพ์มาได้ ] อีกคนที่ตอบกลับมาทำให้ผมถอนหายใจออกมา

[ สัด ]

[ อะ จริงจังถูกมั้ย ว่ามา ทำไม แต่ก่อนหน้านี้ กูขอถามนี่ทำอะไรกันอยู่ ]

[ กูให้มันทำบัญชีร้าน มันเรียนบัญชี ]

[ เออ เรียกว่าใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์ ดีกว่ามาทำแก้วแตกยกโหล พร้อมเหล้าเบียร์อีกสิบเช็ต ]

[ มึง ไอ้บินมันนอกใจเมดด้วยการเอากับเพื่อนเมดวะ ]

[ ห๊ะ ? ซีเรียส ]

[ อื้ม ]

[ ไอ้เชี้ยยยยย แล้วนี่มึงรู้ได้ไง ]

[ ตอนที่กูเรียกมันมาคุยเรื่องทำร้านกูชิบหาย กูก็ด่ามัน แล้วมันก็บอกกับกูว่า มันไม่มีสมาธิเพราะเพิ่งเลิกกับแฟนที่คบกันตั้งแต่สมัยม.ปลายมา มันเห็นแฟนมันเอากับเพื่อนสนิทมันอยู่บนเตียงในห้องมัน ]

[ โอยยยยยยย พีคไปอีกไอ้สัด แล้วนี่ที่มันร้องไห้เมื่อกี้ก็เพราะเรื่องนี้ ? ]

[ เพราะเพลงมึงนั่นแหละ บิ๊วมันไอ้เหี้ย ]

[ อุ้ย แล้วน้องจะรู้มั้ยละคะ ว่าเค้าอกหักมาอะ น้องขอโทษษษษ ว่าแต่มันต้องเจ็บแค่ไหนวะ คนที่คบกันมาตั้งหลายปี ทำถึงขนาดนั้น ]

[ อื้ม ]

[ ไอ้เหี้ยนั่นก็เลวเนอะ คนมีเป็นร้อยเสือกไปเอาเพื่อนเค้า ไม่เหี้ยจริงทำไม่ได้ ]

[ อยากรู้ว่าเพื่อนมันที่ไอ้บินไปเอา เป็นใคร ]

[ ถาม แล้วมาบอกกูด้วย กูอยากเสือก ]

[ ไม่ ] ผมบอก [ อยากรู้ก็ถามเอง ]

[ มึงอะตัวอยากรู้เลยไอ้สัดอาฟ ] อีกคนว่า [ ถามจริง นี่ที่ลากเค้าขึ้นไปข้างบน เพราะเป็นห่วงเค้าใช่มั้ย กลัวเค้าฟังเพลงแล้วเอาแต่ร้องไห้ถูกมั้ย ]

[ ไม่ถูก เพราะนี่ผับ ไม่ใช่งานศพ จะมายืนร้องไห้เหี้ยอะไร ]

[ เหรอออออออออออออออออออ มองมาจากดาวเสาร์ยังรู้ว่าตอแหลจ้า กูบอกเลย ] ไอ้เจว่า [ กูคบกับมึงมากี่ปีไอ้สัดอาฟ คนอย่างมึงถ้าใครทำอะไรไม่พอใจ มึงไม่ทนหรอก ถ้าเป็นคนปกติ โดนมึงไล่ไปนอกร้าน แล้วบอกว่าให้หาเงินห้าหมื่นมาจ่ายแล้วสัด แต่นี่เหี้ยอะไร พอรู้เรื่องเค้าก็สงสาร พอเห็นเค้าร้องไห้ก็พาไปหลบ แล้วยังให้นั่งทำบัญชีร้านกับมึงแค่สองคนอีก ใจดีผิดสันดานแบบนี้ ถูกใจแน่ๆ ]

[ กูรำคาญมึงวะ ] ผมบอกก่อนจะปิดแชท แต่ถึงอย่างงั้นไอ้เชี้ยเจก็ยังส่งมา

[ โดนใจทุกคำก็พรูดดดดดดดดดด ] โดนใจเหี้ยอะไร ผมเงยหน้ามองคนที่ก้มหน้าก้มตาทำบัญชีรายรับรายจ่ายด้วยท่าทางขยันขันแข็ง  ก็แค่เห็นหน้าตาตอนร้องไห้แล้วมันน่ารำคาญตาก็เท่านั้น  อย่างที่บอก นี่ผับไม่ใช่งานศพ จะมาร้องไห้ให้กูเห็นทำไม
.......................................................

“ ก็ไม่ต้องพูดหรอก เพราะไม่สำคัญ จบแบบไหน จากตอนไหน ก็เหมือนกัน "
สงสารเมด อยากจะดึงน้องเข้ามากอด ขนาดพี่อาฟยังนิ่งไม่ด่าต่อ เมดต้องสภาพน่าสงสารขนาดไหนวะ
ลองคิดดูเล่นๆว่า เหตุการณ์ของเมดมาเกิดขึ้นกับตัวเรา แม่งจะเป็นยังไงวะ น้องเมดดดดดดด #กรีดร้องสงสารน้อง
นี่แต่งไปก็สงสารอะ อินสุด ยิ่งฟังเพลง ' ไม่สำคัญ ของ ซาร่าผุงประเสิร์ฐ ' แต่งไปด้วยฟังไปด้วยนะ คือแบบ ม่ายยยยยย
เราจะมีพาสน้องเมด ย้อนความตอนไปเห็นแฟนตัวเองกับเพื่อนเอากันแน่นอนค่ะ แต่ขอให้ผ่าน พาสหน้าไปก่อนนะคะ
เพราะงั้นพาสหน้าจะมายาวๆ แบบจุใจไปเลย จะได้เห็นความรู้สึกของตัวละครชัดขึ้นด้วย
และนี่คือลิงค์ สำหรับไป จอยลดาค่าา :: http://www.joylada.com/story/5a8bfb6e007ee30001162ca6

เจอกันตอนหน้านะคะ
บายยยยยย
อ้อออ ใครมีทวิตฝากแท็ก #ผับชั้นสาม ด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่าาาา

 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Throw UP #ผับชั้นสาม :: { ตอนที่ 4 :: 26-2-61}
« ตอบ #19 เมื่อ: 26-02-2018 20:32:54 »





ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
ติดเรืองนี้เข้าแล้วว อาฟปากร้ายใจดี สงสารเมดจัง

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
สงสารเมดมาก เจ็บหนักมา แล้วยังมาเจอเรื่องอีก

อาฟก็ถึงกับไปต่อไม่เป็น และเกิดอาการอยากรู้ขึ้นมาทันที
ว่าทำไมคนนั้นช่างกล้าทำเมดเสียใจ

ทีมสัดพี่คือป่วนตลอด เสื่อมตลอด แต่น่ารักดี 55555

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1087
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
สงสารเมด ที่แฟนกับเพื่อนสนิทหักหลัง
เลวจริง พี่อาฟนี่ปากร้ายใจดีซินะ
ติดตามค่ะชอบเรื่องนี้

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
รอๆ

ออฟไลน์ chaotic69

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
พี่อาฟผู้ปากหนัก จงรักน้องหลงน้องให้หัวปักหัวปำกันไปเล้ยยย :hao7:

ออฟไลน์ Rumraisin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 673
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ขอบคุณมากค่ะ อ่านแบบไหนก็สนุก แต่ตอนล่าสุดสงสารน้องเมด ดึงน้องมากอด  :กอด1:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ถ้าถามน้องเขาตั้งแต่แรกว่าเรียนอะไร คงไม่ต้องสังเวยแก้วและขวดเหล้าให้กับเรื่องเลว ๆ พันธ์นั้นหรอก  :katai1:

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 578
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
 :hao7:  :hao7:  :hao7: อยากจะกรีดร้องให้คอแตก...  :hao7:  :hao7:  :hao7: แบบว่ามันดีอะ...ชอบอะ...มาลงบ่อยๆนะค่ะ รอ....รอ...ค่ะ  :hao7:

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
Re: Throw UP #ผับชั้นสาม :: { ตอนที่ 5 :: 2-3-61}
«ตอบ #28 เมื่อ09-03-2018 16:45:46 »

# How to read [....เนื้อหา.... ] :: เนื้อหาในช่องแบบนี้ คือ แชทคุยกันนะคะ ไม่เห็นหน้า

ตอนที่ 5
   ช่วงเวลาจากทุ่มย้ายเข้าสู่ตีหนึ่ง ภายในห้องเงียบเชียบที่ได้ยินแม้กระทั้งเสียงแอร์ที่เปิดอยู่ เสียงกดแป้นคีย์บอร์ดของคอมพิวเตอร์ดังขึ้นมาเป็นจังหวะ ติดต่อกันยาวๆบ้างขาดช่วงบ้างสลับไปมากับเสียงกระดาษที่เปิดไปมาเช่นกัน

    ท่าทางที่ดูยุ่งเหยิงและวุ่นวายของคนตรงหน้า สวนทางกับผมที่นอกจากจะไม่ได้ตั้งใจทำงานอะไรแล้ว สมองก็ยังตั้งคำถามขึ้นมากมาย เป็นคำถามที่ในความเป็นจริงก็ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมาใส่ใจอะไร เพราะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับตัวเองเลยสักนิด  แต่ว่ามันก็ยังวนเวียนเป็นความอยากรู้อยู่อย่างงั้น

' ใครวะ คนที่ไอ้บินไปนอนด้วย '
' เป็นเพื่อนมาตั้งแต่ม.ปลายเหรอ หรือว่ามหาลัย '
' เหตุการณ์ตอนนั้นมันเป็นยังไง '
' แล้วตอนนี้ละ รู้สึกยังไงกับเรื่องนั้น ไหวรึเปล่า '

“ คุณอาฟ " เสียงที่ดังขึ้นตรงหน้า ชวนให้ผมที่ก้มหน้าอยู่กับกระดาษตรงหน้าเงยหน้าขึ้นไปมอง " อันนี้เป็นรายจ่ายค่าอะไรเหรอครับ มันไม่มีบิลน่ะ " มองดูนิ้วขาวที่ชี้ไปบนหน้าจอมือถือที่เป็นรายจ่ายของวันนี้ สลับกับเอกสารในแฟ้ม

“ อื้ม " ผมที่กำลังคิด อีกคนก็พูดขึ้นอีก

“ เหมือนจะเป็นรายจ่ายล่าสุด "

“ รายจ่ายล่าสุด อื้ม ค่าเหล้า "

“ แล้วบิล ? “

“ คงอยู่กับไอ้เดย์ "

“ งั้นคุณก็ช่วยติดต่อคุณเดย์ว่าให้เอาบิลมาให้ผมได้มั้ย "

“ จำเป็น ? “ ผมถามอีกคนก็ขมวดคิ้ว

“ จำเป็นสิ คุณต้องเก็บบิลทั้งหมดที่เป็นรายจ่ายไว้นะ ไม่งั้นสิ้นเดือนจะทำงบได้ยังไงละ หายไปสักใบก็ไม่ได้หรอก "

“ งั้นก็ไปเอากับไอ้เดย์ ไม่อยู่ที่ไอ้เดย์ ก็อยู่กับไอ้อัยย์ " พอบอกไปแบบนั้นคนตรงหน้าก็ถอนหายใจออกมาช้าๆ เบาๆ เค้าที่หันไปมองขวาทีซ้ายทีก่อนจะเม้มริมฝีปาก " ทำไม "

“ เปล่า แค่กำลังคิดว่าคุณไม่มีไลน์กรุ๊ปของผับรึไง ทำไมไม่ถามไปก่อนว่าอยู่ที่ใคร แล้วเค้าอยู่ตรงไหน ผมจะได้ไปเอาถูก "

“ ก็มี " ผมบอก อีกคนก็นิ่ง

“ งั้นก็ถามสิครับ "

“ นี่ใช้ฉัน ? " ผมจ้องหน้าอีกคน ที่ก็ยื่นมือมาตรงหน้า

“ งั้นก็เอามือถือมา ผมถามเอง "

“ เรื่องอะไร ของส่วนตัว "

“ งั้นก็ลากผมเข้าไปในกลุ่มสต๊าฟ ผมไปถามเองก็ได้ "

“ นายเป็นสต๊าฟเหรอ ? “

“ อ้าว ก็ไหนบอกให้ทำบัญชี พนักงานบัญชีก็เป็นหนึ่งในสต๊าฟไม่ใช่เหรอ " เสียงที่เถียงออกมาด้วยหน้าตาจริงจัง ผมที่หลุดยกยิ้มขึ้นมาอีกคนก็ขมวดคิ้ว " อะไรของคุณอยู่ๆก็ยิ้ม "

“ แค่คิดว่าไอ้คนที่ทำแก้วแตกยกโหลแล้วร้องไห้เพราะผัวไปเอาคนอื่น มันหายไปไหนแล้ววะ " ทุกอย่างนิ่งมือที่ยื่นมาหดกลับไปที่เดิม สีหน้าที่เปลี่ยนไปกะทันหัน ผมเผลอนิ่งไปเหมือนกัน เพราะรู้สึกเหมือนไปสะกิดแผลนั่นเข้าให้ " เดี๋ยวลากเข้ากลุ่มสต๊าฟให้ "

“ คุณรู้ได้ไง ว่าแฟนผมเป็นผู้ชาย " ไอ้ชิบหาย.. ผมคิดอยู่ในใจตอนที่อีกคนถามแบบนั้น หยิบมือถือขึ้นมากดเข้าไปในโปรแกรมแชททำทีเป้นไม่สนใจก่อนจะหันไปมองอีกคน

“ เดา ถูกเหรอ แค่คิดว่า อย่างนาย ไม่น่าจะเป็นผู้หญิง " อีกฝ่ายไปตอบไม่อะไร แล้วนั่นก็ทำให้ผมรู้สึกขึ้นมาว่า หรือว่าแฟนของอีกคนจะเป็นผู้หญิงจริงๆ  บางทีก็อาจจะเลิกกับไอ้บินตั้งแต่อาทิตย์แรกที่คบ แล้วคบผู้หญิงต่ออะไรอย่างงั้น " เออ กฏของการทำงาน ข้อแรก ฉันถามอะไรนายก็ต้องตอบ "

“ ครับ "

“ งั้นก็ตอบ "

“ ตอบ ? ตอบอะไรครับ "

“ ตกลงแฟนนายเป็นผู้ชาย "

“ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องงาน จำเป็นต้องตอบด้วยเหรอครับ " เค้าเลิกคิ้วถาม ผมก็หันไปมองเค้าด้วยสายตานิ่งๆ และแน่นอนว่าอีกฝ่ายก็ไม่ได้กลัวหรอก เค้าก็แค่จ้องกลับมา จนกลายเป็นผมเองก็พยักหน้ารับ

“ ต้องตอบ " ยืนยันแบบนั้นอีกคนก็ถอนหายใจออกมาก่อนจะพยักหน้ารับอย่างจำยอม

“ ครับ เค้าเป็นผู้ชาย " งั้นก็แสดงว่าเป็นไอ้บินแน่นอน  ความคิดของผมพูดประโยคนี้ขึ้นมาทันทีตอนที่อีกคนบอกแบบนั้น

“ ฉันลากนายเข้ากลุ่มสต๊าฟแล้ว ไปดูแล้วกัน "

“ ครับ "

   ' Throw UP  Staff Serious Ver. '

   AFTER เข้าร่วมกลุ่ม Throw UP ' Staff Serious Ver.
   AFTER เชิญ minmade เข้าร่วมกลุ่ม Throw UP ' Staff Serious Ver.
   minmade เข้าร่วมกลุ่ม Throw UP ' Staff Serious Ver.

[ อะ สร้างมาครบวัน พี่แกเพิ่งเข้า ] ไอ้เจทักขึ้นมาคนแรก [ แต่เอ๊ะ ? ว่าแต่ นั่นลากใครมาอะ ]

[ สวัสดีครับ ] คนที่อยู่ตรงหน้าผม พิมพ์ทักเข้าไป

[ พนักงานบัญชี ] ผมบอก [ ต่อไปนี้ เมดจะมาเป็นพนักงานบัญชีของผับนะ นั่นแหละ รายจ่ายอะไรก็บอกเค้า ]

[ โอเคครับ พี่ พี่ซองนะเป็นผู้จัดการ ]

[ ครับพี่ซอง ]

[ พี่ พี่แบล็คนะ เป็นหัวหน้าการ์ด ]

[ อ่า กูต้องแนะนำตัวใหม่มั้ย ] ไอ้เจว่า [ แนะแล้วกัน  เผื่อภาพโปรไม่ตรงกับตัวจริง เจนะครับ ผมเป็นฝ่าย PR มาร์เก็ตติ้ง ยินดีที่ได้ร่วมงานกับเมดนะ ]

[ หล่อเลยครับผม ] ไอ้อัยย์ทักขึ้นมา [ผมอัยย์ครับ พิมพ์ยากพิมพ์ อัย ก็ได้พี่เมด เป็นบาร์เทนเดอร์ครับ @dday มาแนะนำตัวเร็ว ]

[ ผมเดย์ครับ เป็นบาร์เทนเดอร์ เป็นน้องชายเจ้าของผับ และเป็นอีกหลายอย่างตามที่สัดพี่อาฟจะใช้ ]

[ ครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ แล้วก็ขอโทษด้วยครับสำหรับเรื่องวุ่นวายที่ผมทำในคืนนี้ ]

[ ไม่เป็นไรหรอก ครั้งแรกก็เข้าใจได้ ] ไอ้เจพิมพ์เข้ามา ตามด้วยไอ้อัยย์

[ เด็กเสิร์ฟมาเสิร์ฟครั้งแรก เป็นแบบนี้หมด ? ]

[ เมดอะ คนแรกที่ทำแบบนี้ ไม่เป็นไรเข้าใจได้ ] คนที่อยู่ตรงหน้าผมยิ้มขึ้นมาก่อนจะเกาหัวตัวเอง พลางพิมพ์ลงไป

[ ขอโทษด้วยครับ ]

[ เข้าเรื่องสักที มัวแต่คุยอะไรไร้สาระ ] ผมพิมพ์ลงไป อีกคนก็เงยหน้าขึ้นมามองผม

[ น้องเดย์ น้องอัย บิลค่าเหล้าที่ลงวันนี้อยู่ที่ใครครับ พอดีมันไม่อยู่ในแฟ้มน่ะ ]


' Throw UP ' Staff

[ ไอ้สัดดดดดดด น้องเดย์ น้องเดย์ น้องเดย์ ไอ้เหี้ยยยยยยยยย กุมใจ ชื่อนี้แม่เลิกเรียกไปแล้วตั้งแต่อยู่ป.สอง ]

[ แม่งเอ้ยยยยยยยย ใจกู อ่อนยวบไปหมด ชงเหล้าไม่ได้แล้ว ทำไงดี ทำไมเค้าอ่อนหวาน คือพอคิดภาพหน้าเค้ายิ้มๆ แล้วเรียกกูว่า น้องอัย พ่องตาย!! ]

[ ไปตอบ ] ผมพิมพ์เข้าไปในไลน์กรุ๊ปสี่คนที่พวกมันกำลังโวยวายไม่ได้สติ เหมือนคนบ้าที่กำลังไร้สาระ

 ' Throw UP ' Staff Serious Ver. '

[ อยู่ที่เดย์ครับพี่เมด ]

[ งั้นเดี๋ยวพี่ลงไปเอานะ น้องเดย์อยู่ที่บาร์ใช่มั้ย ]

[ ใช่ครับ ]

[ โอเคครับ ]

 ' Throw UP ' Staff

[ โอ๊ยยยยยยย เย็นไว้ตัวกู พี่เมดจะมาหากู พี่เมดจะมาหากู พี่เมดจะมาหากู ]

[ ไอ้เชี้ยเดย์แม่งไหวเปล่าวะ 555555555555 ] ไอ้เจว่า ผมก็พิมพ์ถามไป

[ ทำไม ]

[ พอพี่เมดบอกจะมาเอาบิลที่มัน แม่งจัดผมใหญ่เลยเฮีย 5555555 ถามกูด้วยว่าหล่อยัง ]

[ ไร้สาระพวกมึง ] ผมบอก [ ดี๊ด๊าเหี้ยอะไรกับผู้ชายหน้าตาเหมือนไอ้ตี๋ขายโจ๊กคนนึง ]

[ อย่าว่าพี่เมด ] ไอ้เดย์บอกก่อนจะตามมาด้วยพวกที่เหลือ

[ อย่าว่าพี่เมด ]

[ อย่าว่าพี่เมด ]

[ สัดเจ มึงอายุเท่ากับไอ้เมด ] ผมว่า

[ กูก๊อปพวกมันมา ขี้เกียจพิมพ์ ]

[ สัดพี่อย่ามาว่าพี่เมดนะ น้องเดย์จะปกป้องพี่เมด ]

[ น้องอัยย์ก็จะปกป้องพี่เมด ]

[ น้องเจก็จะปกป้องพี่เมดฮ่ะ ]

[ ส้นตีน ] ผมบอก [ มีเหี้ยอะไรดีว่ะ เจอกันยังไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมง เลียสัด ]

[ ความอ่อนโยนที่มึงไม่มี ]

[ ความอ่อนโยนที่มึงไม่มี ]

[ ความอ่อนโยนที่มึงไม่มี ]

[ รำคาญพวกมึง ] ผมกดปิดหน้าจอมือถือตอนที่วางมันลงบนโต๊ะ คนที่อยู่ตรงข้ามก็ลุกขึ้นจากที่นั่งพอดี " ไปไหน "

“ ไปเอาบิลค่าลงเหล้าจากน้องเดย์ "

“ ทำไมต้องเรียกมันว่า น้องเดย์ " ผมถามอีกคนก็ทำหน้างงๆ

“ ก็..เค้าอายุน้อยกว่า ก็เลยเรียกน้อง ตามมารยาทสังคมที่ควรปฎิบัติต่อคนที่รู้จักกัน "

“ อะ กวนตีน "

“ รูปประโยคตรงไหนที่บอกว่ากวนตีนเหรอ " อีกคนหันมาถาม " คุณอาฟเป็นเจ้าของผับ น้องเดย์เป็นน้องคุณ ผมว่าก็เรียกให้เกียรติก็ถูกแล้วนะ "

“ ฉันว่า ทุกประโยคที่พูดออกมานั่นแหละที่กวนตีน ทั้งกวนตีนแล้วก็ยอกย้อน " ผมว่าอีกคนก็ยกยิ้ม

“ คิดไปเองแล้วครับ ผมไม่กล้าพูดอะไรแบบนั้นกับคุณอาฟหรอก " จบประโยคไว้แค่นั้นก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ผมยกยิ้มขึ้นมาก่อนที่ประตูนั้นถูกปิดลง

“ ก็ใช่ย่อยนี่หว่า โดยเฉพาะปาก "

 ' Throw UP ' Staff

[ ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย มาฟังกูเร็ว ไอ้สัด มาฟังกู มาเดี๋ยวนี้ ] ไอ้เดย์รัวแชทเข้ามาในกลุ่ม ตามด้วยไอ้อัยย์แล้วก็เจตามลำดับ แล้วผมก็ก็รู้ตั้งแต่มันยังไม่พูดแล้ว ว่าเรื่องอะไร ก็คงไม่พ้นเรื่องใครคนนั้นที่บอกว่าจะลงเอาไปบิล

[ ไอ้เหี้ยเอ้ยยยยยยยย ]

[ แม่ง ใจกู ]

[ อะไรของพวกมึง ] ผมถาม

[ คือพวกมึงมาฟังกู ฟังกูนะไอ้สัดพี่ คือเมื่อกี้พี่เมดบอกว่าจะมาเอาบิลจากกูใช่มั้ย เค้าก็ลงมาเว้ย แล้วคือกูอะ หันหลังอยู่เค้าก็เรียกกูว่า น้องเดย์ คือไอ้สัดดดด เสียงตอนนั้นคืออ่อนโยนมาก อีเหี้ย ถ้อยเสียงนี้แม่กูพูดกับกูครั้งล่าสุดคือตอนกูขวบนึงอะ แล้วพอกูหันไปอะ เค้าก็ยิ้มเว้ย เค้ายิ้ม! ยิ้มแบบ ไอ้เหี้ยยยย พี่เมดจะอ่อนหวานกับเดย์ขนาดนี้ไม่ได้ มันอันตรายเกินไป!! เดย์อยากปล้ำพี่เมดแล้วอะ ทำไงดี ]

[ ไอ้สัด ] ผมสบถกลับไปก่อนจะส่ายหน้ากับความบ้าของน้องชายตัวเอง

[ ต่อๆ แล้วคราวนี้กูก็แบบ เบลออะ เลยยิ้มแบบเหวอๆให้เค้าเว้ย แล้วก็ยื่นบิลไปให้ เค้าก็รับแล้วก็ก้มลงอ่าน ก่อนจะหันมายิ้มให้กูอีกครั้งแล้วก็บอกว่า ขอบคุณนะน้องเดย์ แล้วก็ยิ้มกว้างให้กูอีกทีนึง โอเคกูตายได้แล้ว ]

[ ยังไม่พอ เค้าหันมายิ้มให้กูด้วยจ้า วินาทีนั้นนี่แบบ ยิ้มตามครับ รุนแรงกับใจเหลือเกิน ]

[ แล้วก็หันมาก้มหน้าทักกูและยิ้มให้กูด้วย กูก็ยิ้มกลับไปหล่อๆเลยครัช ] ไอ้เจบอกเสริมประโยคของไอ้อัยย์

[ น่ารำคาญพวกมึง ] ผมบอก [ โคตรไร้สาระ ]

[ ทีมอยากปล้ำพี่เมด ] ไอ้เดย์ว่าและแน่นอนว่าทุกคนก็เอาด้วยกันมัน

[ ทีมอยากปล้ำพี่เมด ]

[ ทีมอยากปล้ำพี่เมด ]

[ ส้นตีน แล้วนี่มันขึ้นมายัง ]

[ อะหวง ] ไอ้เจว่า [ ยัง เมื่อกี้เห็นเดินไปหาพี่ซอง ยกมือไหว้แล้วก็ก้มหัวให้อยู่ คงขอโทษกับเรื่องที่ทำอะ ]

[ เค้านิสัยดีวะ ] ไอ้อัยย์ว่า [ แบบ จะหาว่ากูอวยก็ได้ แต่แบบเค้าก็ขอโทษพี่ซองไปหลายครั้งแล้ว ไม่ต้องทำแล้วก็ได้ แต่ก็ยังเดินไปหาขอโทษดีๆเป็นเรื่องเป็นราวอะ หลงรักนะครับ ซารางเฮโย ]

[ ทำไมกูไม่เห็นรู้สึก อยู่กับกูแล้วโคตรยอกย้อน ปากนี่ยังกับกรรไกรทำคลอด พูดอะไรออกมาทีเหมือนพวกฉลาดที่ชอบหลอกด่าคนอื่น ]

[ สัดพี่ไปทำนิสัยเหี้ยๆใส่เค้าก่อนรึเปล่าละ #ทีมอยากปล้ำพี่เมด ]

[ ใช่ กูว่าถ้ามึงพูดกับมันดีๆ มันก็อาจจะพูดกับมึงดีๆก็ได้นะ ดูไม่ใช่คนแบบนั้นเลยอะ ] ไอ้เจว่า [ #ทีมอยากปล้ำพี่เมด ]

[ ร่วมด้วย #ทีมอยากปล้ำพี่เมด ]

[ พวกมึงนี่รับเงินเดือนจากใคร ]

[ เมื่อก่อนอะ จากเฮียมึง แต่ตอนนี้มีพนักงานบัญชีแล้ว ก็ต้องไปรับจากพี่เมดเค้าแล้วอะเนอะ คิคิ ]

[ กูไม่จ่ายให้ไอ้เมดพวกมึงก็อย่าหวังได้  ]

[ กูจะฟ้องกรมแรงงาน!! ] น้องชายผมบอก

[ งั้นกูจะบอกเค้าว่า พวกมึงมัวแต่จะเคลมพนักงานบัญชีไม่ทำงานตามที่กูจ้าง กูเลยไม่จ่าย ]

[ อะ หวง ถูกมั้ย ] ไอ้เจว่า [ นั่น เดินขึ้นไปละ อีกไม่ถึงสามนาทีคงถึงห้องมึง ]

[ อื้ม ] กดล๊อคมือถือตอนที่เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนบานประตูนั้นจะถูกเปิดออกมา กระดาษที่เค้าหยิบติดมาด้วยถูกจัดใส่ไว้ในแฟ้ม ก่อนจะหันมาเปิดคอมแล้วลงมือพิมพ์ข้อมูลที่ได้มาด้วยความตั้งใจ " อยู่กับกูไม่เห็นยิ้มสักนิด "

“ ว่าไงนะครับ " อีกคนที่ถามขึ้น ผมก็เลิกคิ้ว

“ ฉันพูดอะไร "

“ อะไรสักอย่าง เหมือนบ่นๆ "

“ เปล่า ไม่มีอะไร รีบทำงานเถอะ จะเสร็จรึยัง "

“ ใกล้แล้วครับ อีกห้านาทีมั้ง เหลือสรุปยอด "

“ อื้ม " ผมตอบรับเค้า ก่อนที่เราจะเงียบกันไปอีกครั้ง แล้วในตอนนั้นไลน์ของคนตรงหน้าผมก็ดังขึ้นมา สายตาที่หันไปมองกดปิดเสียงทันทีก่อนจะถอนหายใจออกมาเค้าคว่ำมือถือนั่นลงทั้งๆที่มีสายเข้ามาแล้วมันกำลังสั่นอยู่บนโต๊ะ

“ ถ้าไม่รับก็ช่วยปิดสั่นด้วย มันน่ารำคาญ " ผมบอกอีกคนก็เหลือบมามองก่อนจะพยักหน้ารับลง

“ ขอโทษครับ " พอบอกแบบนั้น อีกคนก็ปิดเครื่องของตัวเองไปทันที ถ้าให้สันนิฐานคิดว่าคงเป็นไอ้บินนั่นแหละที่โทรเข้ามา ถ้าไม่ ก็คงเป็นเพื่อน หรือใครสักคนที่อยู่ในเหตุการณ์น่าเศร้าพวกนั้น ขอบตาที่รื้นน้ำตาขึ้นมาอีกคนเม้มริมฝีปาก่อนจะก้มลง สูดลมหายใจแรงๆก่อนจะจ้องหน้าไปที่คอมพิวเตอร์ตรงหน้า ราวกับจะละความสนใจทั้งหมดนั่นออกไป  ท่าทางที่ยิ่งทำให้ผมอยากจะรู้ ให้มากขึ้น ว่าทำไม เพราะอะไร มันถึงเป็นแบบนี้


   ' D.DAY '

[ เดย์ ]

[ ว่า ] อีกฝ่ายตอบ [ มีอะไรสัดพี่ กูยุ่งอยู่ ]

[ บาร์ คนเยอะ ? ]

[ มาก ]

[ ว่างแล้วทักมา ] ผมบอก ก่อนจะผ่านไปสิบนาทีมันก็ทักกลับมา

[ ตอนนี้แหละ ว่ามาเลย เริ่มสงบแล้ว มีอะไร ]

[ กูมีงานให้มึงทำ ]

[ งานไร ]

[ ไปปล่อยยางรถ Civic  สีขาวที่จอดอยู่ข้างๆรถกูที ]

[ ห๊ะ ? เพื่อ ? ]

[ ใช้ ก็ไปทำ 5000 เดี๋ยวกูโอนให้ ]

[ แล้วรถใครกูยังไม่รู้เลย แล้วถ้าเค้ามาขอดูกล้องวงจรปิดมึงจะทำไง หาเรื่องให้กูอีกแล้วสัดพี่ ] คำถามโง่ๆของมันทำให้ผมถอนหายใจออกมาตอนที่อ่าน มันชอบคิดว่าผมเหมือนมัน ที่เป็นพวกชอบวางแผนแต่ทำอะไรไม่เคยรอบคอบ

[ นี่ผับกู กูปิดกลองวงจรปิดให้แล้ว มึงแค่ไปทำ ถ้าไม่กล้าก็ชวนไอ้อัยย์ไป แล้วก็แบ่งเงินให้มัน ]

[ งั้นกูขอถามคำถามเดียว Civic  นั่น รถใคร ]

[ เมด ]

[ โอเค๊ เข้าใจทุกอย่าง ไอ้ตี๋ขายโจ๊กเนอะ ไม่ชอบขาวแป้งๆแบบนั้นเนอะ ปาก จมูก อะไรก็ไม่ชอบสักอย่างเนอะ กูจะมีพี่สะใภ้แล้วถูกมั้ย ]

[ ไม่ถูก ] ผมบอก [ กูแค่มีเรื่องอะไรจะสืบนิดหน่อย เลยต้องให้มันไปกับกู ]

[ไปไหนกันน้าาาาา ไหนบอกคอนโดอย่าพามากินเรี่ยราดสัดพี่ไม่ชอบไง ]

[ กูไม่ได้พาไปกิน ] ผมบอก [ ใช้อะไรก็ทำไอ้สัดเดย์ เสร็จแล้วก็บอกจะได้โอนเงินให้ ]

[ สัดพี่มึงปิดกล้องวงจรปิดด้วยนะ อย่าลืม! อีกห้านาทีกูออกไป ]

[ ปิดแล้ว ]

[ โอเค " มันว่าก่อนจะพิมพ์มาอีกครั้ง " แต่เดี๋ยวนะ สัดพี่ พี่เมดของกูนะ!! ]

[ รำคาญมึง ไปทำ !! เงินจะเอามั้ย ไม่งั้นกูไปจ้างไอ้อัยย์ ]

[ เอาจ้าสัดพี่ ]

[ แล้วเดย์ เรื่องนี้เป็นความลับ ]

[ รับทราบ ]

   นาฬิกาบอกเวลาเลิกงาน ในช่วงเวลาที่ทุกอย่างก็เสร็จพอดี ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวที่นั่ง คนตรงหน้าก็เงยหน้าจากคอมพิวเตอร์ขึ้นมามอง เหลียวมองนาฬิกาที่บอกเวลา ก่อนจะหันมาพิมพ์อะไรสักอย่างในคอมพิวเตอร์ต่อ ลากนิ้วไปบนแผ่นเม้าส์กดอยู่สองสามครั้งก่อนจะปิดคอม

“ งานวันนี้เสร็จแล้วครับ รวมบัญชีรายจ่ายหมดแล้ว "

“ อื้ม " ยักคิ้วบอก " งั้นก็กลับ ร้านปิดแล้ว "

“ ปกติแล้วใครเป็นคนปิดร้านเหรอคุณอาฟ แบบคนสุดท้ายที่อยู่ "

“ พี่ซองจะกลับคนสุดท้าย แล้วก็จะมาคนแรก " อีกคนพยักหน้ารับตอนที่เราเดินออกมาจากห้อง ผมกดล็อคประตูก่อนจะเดินนำอีกคนลงมา เราแยกย้ายกันไปคนละทาง คนข้างหลังผมเดินไปที่ตู้ล็อคเกอร์ฝั่งพนักงานเสิร์ฟ คงไปเปลี่ยนชุดที่ตัวเองกำลังใส่อยู่เป็นชุดปกติที่ใส่มา  ในตอนนั้นผมหันไปที่บาร์ สบตากับไอ้เดย์ที่ก็ยักคิ้วให้ผม มันคงจัดการเรื่องที่สั่งเรียบร้อยแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย
   เดินออกไปตรงลานจอดรถด้านหลัง ผมที่เดินไปถึงรถตัวเองหยุดชะงักมองคนที่เดินออกมาทางหลังร้านเหมือนกัน
 ใบหน้าขาวหยุดนิ่งอยู่สักพัก ขมวดคิ้วก่อนจะเดินตรงไปที่รถตัวเอง มองดูล้อรถทั้งสี่ด้วยสายตาค้างๆ ก่อนจะหลับตาลงแล้วถอนหายใจออกมา

“ ไอ้สัด "

“ เป็นอะไร เหนื่อยกับงานขนาดนั้นเลย " ผมเอ่ยทักคนคนนั้นก็หันกลับมามอง

“ เปล่าสักหน่อย แค่คิดว่าชีวิตแม่งจะเฮงซวยไปถึงไหนวะ แค่นี้ยังไม่พออีกรึไง "

“ ทำไม " เดินเข้าไปใกล้อีกฝ่ายที่ก็ถอนหายใจออกมาก่อนจะเชิดหน้าไปที่ล้อรถของตัวเอง

“ ถูกปล่อยลมยาง สี่ล้อด้วย "

“ อริเยอะนะมึงน่ะ ไปเหยียบหางใครรึเปล่า "

“ ใคร ? ผมไม่มีอริที่นี่หรอก "

“ อาจจะเป็นแขกคนที่มึงทำเหล้าหกใส่กางเกงเค้าก็ได้ "

“ คนนั้นเค้าบอกว่า ไม่เป็นอะไร "

“ แล้วมึงก็เชื่อ ? “ ผมถามอีกคนก็หันมามองแบะปากนิดๆก่อนจะหันไปอีกทางแล้วก็ถอนหายใจออกมา

“ เห้ออ หรือต้องไปทำบุญเก้าวัดเพื่อล้างซวยจริงๆว่ะ " 

“ บ่นงุ้งงิ้งอยู่นั่น " ผมว่า " ขึ้นรถ เดี๋ยวไปส่ง "

“ นิสสันนี่นะเหรอ " อีกคนว่ายิ้มๆ แล้วนั่นก็เป็นรอยยิ้มแรกของเค้าที่ผมได้เห็น วินาทีที่จะหันไปหาเรื่อง รอยยิ้มนั่นผุดขึ้นกว้างขึ้น กว่าเดิม " อ้อ ลืมไปว่า GTR “ สาบานว่าในตอนนั้นผมรู้สึกเหมือน จะเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมเพื่อนสามคนในกลุ่มไลน์ถึงได้ขนาดสติแตกขนาดนั้น

“ กวนตีน จะไปมั้ย " ผมว่ายิ้มๆ

“ แล้วรถผมละ จะจอดไว้อย่างงั้นน่ะเหรอ ไม่ได้หรอก "

“ แล้วจะให้หาช่างที่ไหนมาเอาไปตอนนี้ " ผมถาม " ตีสามแล้วนะคุณ "

“ นั่นก็จริง "

“ ไว้ที่นี่แหละ ที่นี่มียามตลอด พรุ่งนี้ก็ค่อยเอาเข้าอู่ เดี๋ยวบอกพี่แบล็คหัวหน้าการ์ดให้ "

“ งั้น เอางั้น ก็ได้ครับ "

    ' Throw UP ' Staff Serious Ver. '

[ พี่แบล็ค บอกยามวันนี้ด้วยว่า ให้ดูแลรถ Civic สีขาวที่จอดอยู่ข้างหลังด้วยนะ ยางแบนขับกลับไม่ได้ ] ผมพิมพ์บอกไป ไอ้เจก็ถามขึ้นมา

[ รถใครวะ Civic ]

[ รถเมดเองครับ ] เมดพิมพ์ตอบกลับไปเอง ตอนที่หันไปมองคนข้างๆก็กำลังก้มหน้าก้มตาพิมพ์อยู่

[ อ้าว แล้วไหงรถพี่เมดยางแบนได้ละครับ ] ไอ้เดย์ถาม [ แล้วนั่นพี่เมดกลับไง ]

[ เจไปส่งมั้ย ]

[ ให้เดย์ไปส่งมั้ย ]

[ ให้อัยย์ไปส่งมั้ยครับ ] 

[ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมโดนปล่อยยาง แต่ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณนะทุกคน คุณอาฟจะไปส่งน่ะ ]  ประโยคที่ถูกส่งไปจากอีกคน ทำให้ไอ้สามตัวที่เสนอหน้า ตอบกลับมาด้วยความสงสัยอย่างพร้อมเพียงพร้อมด้วยภาพเหี้ยๆกันคนละแบบ

[ เอ๊ะ ? ]

[ เอ๊ะ ? ]

[ เอ๊ะ ? ]

[ แล้วนี่จะจัดการเรื่องรถยังไงอะน้องเมด ] พี่ซองถามขึ้นมา [ มีเบอร์ช่างมั้ย ไม่มีบอกพี่ได้นะ ]

[ คิดว่าพรุ่งนี้จะติดต่อช่างน่ะครับ ส่วนเบอร์ช่างเดี๋ยวเมดลองถามพ่ออีกที แต่ยังไงเดี๋ยวถ้าไม่ได้ เมดทักพี่ซองส่วนตัวไปก็ได้ ขอบคุณนะครับ ]

[ โอเค ยังไงทักมานะ ]

[ ครับ ] เมดตอบรับ

[ คุณอาฟ ผมรับเรื่องและสั่งงานรปภ.ที่จะเข้างานเช้านี้ไว้แล้วครับ น้องเมดไม่ต้องเป็นห่วงรถนะ ส่วนเรื่องที่ใครเป็นคนปล่อยยางรถ ยังไงพรุ่งนี้พี่เช็คกล้องวงจรปิดให้ จะได้เอาไปแจ้งความฐานทำให้เสียทรัพย์ ]

[ ขอบคุณมากครับพี่แบล็ค ]

[ ใครกันวะ โคตรชั่วช้ามาปล่อยยางรถพี่เมดได้ไงอะ ] ไอ้เดย์พิมพ์ขึ้นมา

[ พี่เมดมีอริรึเปล่า ] ไอ้อัยย์เสริม

[ อริไม่น่าจะมีนะ แต่คุณอาฟบอกว่า เป็นแขกที่พี่ทำเหล้าหกใส่อะ ]

[ จะใช่เหรอ ? แล้วเค้ารู้ได้ไงอะ ว่าคันไหนรถของเมด ] ไอ้เจถาม

[ นั่นนะสิ ]  ไอ้อัยย์ว่า

[ ผมก็ว่าอย่างงั้น ]

“ จะกลับได้ยัง หรือจะพิมพ์คุยกันอยู่ตรงนี้ " ผมเอ่ยถามอีกคนที่ก็ยังยืนตอบไลน์ในกรุ๊ปไม่เลิก เมดเงยหน้าขึ้นมามองผมก่อนจะก้มหน้าลงขอโทษ

“ ขอโทษครับ "

“ ไปเช็ครถให้ดีว่าข้างในมีของสำคัญอะไรมั้ย เอาออกมาให้หมด " บอกอีกคนที่ก็หันไปมองในรถก่อนจะส่ายหน้าพลางชูกระเป๋าขึ้นมาให้ดู

“ มีแค่กระเป๋าใบนี้แหละ อย่างอื่นก็ไม่มีอะไรแล้ว "

“ งั้นก็ขึ้นรถมา " ปลดล็อครถอีกคนก็เดินไปนั่งอีกฝั่งในวินาที่อีกคนหย่อนตัวลงนั่งเค้าถอนหายใจออกมาก่อนจะดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดไว้ พิงร่างลงกับเบาะราวกับเหนื่อยมากมาย แต่ก็นะ..สมควรจะเหนื่อยอยู่  " ไม่อยากจะมีชีวิตอยู่แล้วรึไง "

" อื้ม " เค้าตอบสั้นๆ ผมก็หันไปมอง อีกฝ่ายก็หันมามองหน้าผม ใบหน้านั่นยิ้มให้ ยิ้มที่ดูเหนื่อยหน่าย " จริงๆนะ บางทีก็คิดเหมือนกันแบบในวินาทีสั้นๆ ว่าแบบ ไม่อยากจะอยู่แล้ว "

" ชีวิตมันขนาดนั้นเลย " ผมสตาร์ทรถ ถอยหลังออกจากที่จอดก่อนจะขับออกไปยังถนนใหญ่ที่ตอนนี้ถนนดูโล่งต่างจากช่วงเวลากลางวัน คนข้างๆของผมหันไปมองนอกหน้าต่างรถสายตาที่เหมือนจะทอดยาวไปไกล ดูเศร้าจนไม่ว่าเพลงไหนๆก็ไม่สามารถเทียบเทียมความเศร้านี้ได้

" โดนแฟนที่คบมาตั้งแต่ม.ปลาย นอกใจไปเอากับเพื่อนที่ก็คบมาตั้งแต่ม.ต้น เข้าไปเห็นคาตาตอนที่มันเอากันอยู่บนเตียงแถมเตียงนั่นก็เป็นเตียงที่เราก็นอนอยู่ด้วยกันทุกวัน หนำซ้ำเพื่อนในกลุ่มก็รู้ดีอยู่แล้ว ว่ามันแอบคบกัน แต่มันกลับไม่กล้าบอกผม เหี้ยหนักขึ้นไปอีก ก็ตอนที่รู้ว่ามันแอบมาเกือบสี่ปี คบซ้อนมาพร้อมๆกับผม วันที่รู้เพื่อนสนิทที่เหลืออยู่คนเดียวก็เอาแต่เงียบ  ไม่ได้ตกใจอะไร พูดแค่ว่า ให้ใจเย็นๆ ฟังเหตุผลก่อน ตอนนั้นก็รู้สึกแค่ว่า ยังต้องฟังอะไรอีกเหรอ ยังมีเหตุผลอะไรอีกเหรอ แค่ที่เห็นแม่งก็อธิบายทุกอย่างชันเจนแล้วไม่ใช่เหรอวะ  คือ ชีวิตมันต้องเหี้ยขนาดไหน ถึงต้องมาโดนทั้งเพื่อนทั้งแฟนทรยศในเวลาเดียวกัน " อีกคนเม้มริมฝีปากก่อนจะถอนหายใจออกมา " แล้วพอตั้งสติได้ พยายามใช้ชีวิตปกติ ก็ดันมาถอยรถฝากรอยไว้กับรถสุดแพงนี่ เจ้าของแม่งก็เก็บค่าทำสีซะแพงหูฉี่อีก "

" มึงพูดเหมือน มันไม่ใช่กูเลยนะ " อีกคนยิ้มออกมา เมดหันมามองผมก่อนจะถอนหายใจ

" แล้วสุดท้ายก็ต้องมาทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟใช้หนี้เค้า "

" ต่อจากนั้นก็จัดการแก้วในร้านเค้าแตกไปเกือบโหล ไม่รวมเหล้าอีกชุด " ผมเสริมขึ้นไป

" แล้วหลังจากนั้น รถแม่งก็ถูกปล่อยยาง นอนก็ยังไม่ได้นอน แถมพรุ่งนี้ก็มีเรียนเช้าอีก หนำซ้ำอีกนิดคือ ต้องเสียค่าช่างซอมเอง และก็ไม่รู้ว่าเท่าไหร่ บัดซบ " ถอนหายใจออกมาปิดท้าย ผมก็ได้ยกยิ้ม

" เรื่องช่างซ่อม เดี๋ยวจัดการให้ ค่าเสียหายด้วย " อีกคนหันมามองผมตาโต ผมก็หันไปมอง " มองทำไม กูไม่ได้ใจดีหรอก แต่เรื่องมันเกิดขึ้นในพื้นที่ของ throw up เจ้าของอย่างกูก็ต้องดูแล มันก็เท่านั้น "

" กับรถทุกคันใน throw up ก็มีบริการดูแลแบบนี้เหรอ "

" แล้วแต่กรณี " ผมบอกปัดๆ แต่เหมือนอีกคนจะไม่ได้สนใจอะไร เมดที่แค่พยักหน้ารับไปตามเรื่องตามราว

" พรุ่งนี้ไม่รู้จะมีเรื่องแย่อีกมั้ย แต่ คงไม่มีอะไรแย่กว่านี้อีกแล้วมั้ง "

" เดี๋ยวพรุ่งนี้มารับ " ผมบอกอีกคนออกไปโดยไม่ทันคิดให้ดี คนข้างๆหันมามองหน้าด้วยท่าทางงุนงง

" รับไปไหน "

" ไปเรียนไง ไม่มีรถ ไม่ใช่เหรอรึไง " ทุกอย่างเงียบ ก่อนอีกคนก็ยิ้มออกมาแห้งๆด้วยท่าทางงงๆ

" แล้ว นี่มันเป็นบริการดูแลจาก throw up ด้วยเหรอ "

" คงงั้น "
.................................................

แน่จริงก็บอกเค้าไป ว่าดูแลพิเศษจากเจ้าของผับเองแหละ  ชอบก็บอกว่าชอบ.. ร้ายนัก ฟอร์มก็จัด คีพลุคอยู่นั่น หมั่นไส้เว้ยยยย ไม่ได้ชอบเค้าจริงเด่ะ แต่หาแผนอยากไปส่งเค้าที่บ้าน อยากจะอยู่กับเค้าสองต่อสอง เชื่อไม่ค่อยลงเลยอะพี่อาฟ...

จะว่าไปเมดก็น่าสงสารเนอะ โคตรเคราะห์ซ้ำกรรมซัด พี่ว่าเก้าวัดยังลังเลว่าจะพอมั้ย อ่านฉากนี้แล้วรู้สึกมั้ย ว่าเมดก็ไม่ได้อ่อนวานนะคะ จริงๆเราชอบคนไม่อ่อนหวานด้วยละ ชอบคนสู้คน แต่ฉากแรกน้องก็แค่พูดดี เพราะมันเป็นมารยาทของคนที่ได้พบเจอกันครั้งแรกเท่านั้นแหละ ส่วนระหว่างน้องกับพี่อาฟ ต่อจากนี้นั้น......

ไว้เจอกันตอนหน้าเนอะ
ทางไปอ่านฝั่งนิยายแชท  http://www.joylada.com/story/5a8bfb6e007ee30001162ca6

ฝากแท็ก #ผับชั้นสาม ในทวิตด้วยนะคะ ขอบคุณมากคะ
ป.ล. อาฟเตอร์เดย์นี่ สมแล้วที่เกิดมาเป็นพี่น้องกัน ในความหวงพี่เมดของน้องเดย์เงินก็สำคัญเนอะ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เริ่มชอบน้องเข้าแล้วละซิ เฮียอาฟ  :hao3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด