( จบแล้ว ) Throw UP #ผับชั้นสาม :: {ตอนพิเศษ: up! 31-12-62} #หน้า 58
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ( จบแล้ว ) Throw UP #ผับชั้นสาม :: {ตอนพิเศษ: up! 31-12-62} #หน้า 58  (อ่าน 486859 ครั้ง)

ออฟไลน์ LomaPakpao

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-1

อ่านแล้วปวดหัว เครียด ไม่ชอบเลย เลิกติดตามเรื่องนี้ค่ะ!!!!!
.
.
จะทำใจไม่ได้แล้ว//กำพระ
 อบอุ่นเกิ๊นนนนนนนนน

ออฟไลน์ anythinginitt

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ดีนะที่อ่านตอนนี้ที่ห้อง ยิ้มคนเมื่อยแก้ม สลับกับหัวเราะเหมือนคนบ้า 5555555

ออฟไลน์ Nung66669

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ความสุขของเมดคือความสุขของอาฟถึงจะหึงก็ต้องทน โกหกไม่เนียนเลยอารยะ

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
ดราม่าอยู่ที่บรรทัดสุดท้ายใช่ม่ะ
แต่ตอนนี้ขอมีความสุขกับ#คนโกหกไม่เนียนทั้งคู่
 อาฟก็เป็นอาฟอ่ะเนอะ ช่วงนี้นางท็อปฟอร์มขั้นขยันจีบกันอย่างจริงจัง

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
กรี๊ด พี่ส้มฉุนด้วย

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
มันคือสิ่งที่คนโกหกไม่เนียนทำกัน  :laugh:

ออฟไลน์ momonuke

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
หลีกทางให้คนซึนด้วยนะคะ ขอโทษแทนความซึนของพี่พระเอกเราด้วย 55555555555555555555555555555

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ไม่เวิ่นเว้อค่ะ เราชอบ อ่านไปเรื่อยให้อินไปด้วยกัน

วั้ยยยยย พบคนไม่หึงหนึ่งอัตรา
รูปนี้คงต้องจารึกไว้ให้หลานได้ดู 555

พอดีกันแล้ว น่ารักมาก ความเกรียน ความกวน
มีไม่ขาด มาได้ตลอด แบบแหย่ไปเหอะ ไม่โกรธหรอก

เห็นเมดปลื้มอะไรแบบนี้ คือเมดจริงๆ มีความ fc หนักมาก
อาฟคือคนปากแข็ง แต่การกระทำไปหมดจ้า
จ้างร้อยจ้างล้าน ใครเค้าจะเชื่อลง

เจมาในเวลาที่ใช่ตลอดเลย กระตุ้นความคิดได้ดี
วิวก็กวนประสาทไปอีก คนบ้าบอ
ตลกที่อาฟบอก วิวไม่เด็กแล้วนะ

แล้วทิ้งท้ายให้มีดราม่ารอบใหม่อีกไหมคะ
คนมากดหัวใจให้น่ะ มาทำไม

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
จ้าาาา พี่อาฟไม่หึงไร้สาระเลยจ้าาาาา มีสาระสุดๆ :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
ตอนที่ 45

    ‘ อาฟ ช่วยถ่ายภาพกูกับพี่ส้มฉุนให้หน่อย ’   

ข้อความกับภาพที่เห็น ผมเผลอยกยิ้มให้กับมัน อดีตเพื่อนสนิทที่กำลังยืนยิ้มกว้างคนเดียวนั้นข้างๆกายคงเป็นพี่ส้มฉุนนักร้องขวัญใจที่มันชอบเอามากๆมาตั้งแต่สมัยม.ปลาย แต่ดูเหมือนว่าคนถ่ายภาพนี้ให้จะไม่ค่อยอยากจะให้มันมีภาพคู่กับพี่ส้มฉุนสักเท่าไหร่ ก็เลยถ่ายภาพนั้นออกมาเป็นแบบนี้ ผมจดจ้องกับหน้าจอมือถือนั้นอยู่นาน เผลอแบะปากในความสุขพวกนั้น ก่อนจะกดล็อคหน้าจอนั่นแล้ว วางมันลงข้างตัว

ไม่ได้กดถูกใจ หรือแสดงความคิดเห็นอะไรทั้งนั้น เพราะใช้ไอจีอันเก่าที่ไม่ได้ใช้มานานแล้วกดเข้าไปดู อินตราแกรมของเมดตอนนี้มันล็อคทุกอย่างไว้ หนำซ้ำยังบล็อคผมกับจิงไม่ให้เข้ามาดูภาพของมันได้อีก แต่เมดคงลืมไปว่าผมมีแอคเค้าท์อันเก่าอันนี้อยู่ รวมถึงไอจีส่วนตัวอีกอันของไอ้จิงด้วยที่มันลืมบล็อคไป

สำหรับเราสองคน ก็มีแค่นี้ที่ยังคงหลงเหลือให้ได้ติดตามอีกฝ่ายได้อยู่ เพราะหนทางอื่นก็ดูเหมือนเมดจะเป็นคนบล็อคมันไปเสียหมด ไม่ว่าจะเป็นไลน์ ทวิตเตอร์ หรือเฟสบุ๊ค ไม่มีอะไรหลงเหลือไว้อีกแล้ว ‘ ความเป็นเพื่อนก็เหมือนกัน ’

“ ถอนหายใจอะไรนักหนาวะมึง เครียดเหรอ ? ” คำถามที่ทำให้ผมหันไปมองคนพูด ก่อนจะพลิกเอื้อมมือไปกอดเอวอีกคนไว้พลางขยับตัวเข้าไปใกล้แล้วสูดกลิ่นอุ่นจากช่วงคอที่ชอบ

‘ บิน ’ เป็นผู้ชายตัวสูงที่มีดีกรีนักกีฬาบาสของมหาลัย ผมไม่ได้เจอมันครั้งแรกในฐานะของแฟนเพื่อนสนิท แต่ผมเจอมันครั้งแรกที่งานแข่งบาสระหว่างโรงเรียนผมกับโรงเรียนของอีกคนที่อยู่ตรงข้ามกัน

จำได้ว่าวันนั้นเพื่อนในห้องที่เป็นนักกีฬาบาสก็ลงแข่งเป็นตัวจริงด้วย พวกเราสามคนกับเพื่อนในห้องอีกเป็นสิบก็เลยยกขบวนไปเชียร์กันหลังเลิกเรียน 

วันนั้น บนอัฒจันทร์ฝั่งของโรงเรียนที่ผมนั่งอยู่มองลงไปเห็นอีกคนอยู่อีกฝากนึงของสนาม ผมจำได้อย่างดีว่าอีกคนใส่เสื้อบาสสีน้ำเงินเข้าชุดสกีนเลข 4 ข้างหลังพร้อมกับชื่อเล่นของเจ้าตัว ผมจ้องมันอยู่นานอย่างละสายตาไม่ได้ ผมไม่ได้หันไปมองที่อื่นเลยจนสายตาของเราสบกัน และผมก็มั่นใจว่าเรายิ้มให้กัน และมีอีกหลายครั้งในระหว่างการแข่งขันที่บินหันมามองผมก่อน แต่ทว่าผมก็มารู้ความจริงในอีกสองวันให้หลังนั้นว่า คนที่เค้ามองแล้วยิ้มให้ไม่ใช่ผม แต่เป็น เมด เพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ข้างกัน

“ เรื่องจริงเหรอวะ กูยังไม่อยากจะเชื่อเลย ” ผมกรอกเสียงไปตามสายในตอนที่เราโทรรวมสายกัน เมดเล่าเรื่องราวที่มันเจอวันนี้ด้วยน้ำเสียงที่ยังคงตื่นเต้น ปกติหลังเลิกเรียนอีกคนจะไปยืนคอยนมช็อกโกเล็ตที่หลังโรงเรียนทุกวัน นมรสที่ชอบมาพร้อมกับหนุ่มนักกีฬาบาสและคำพูดเดิมๆที่พูดทุกวันก็คือ ‘ เพื่อนฝากมาให้ ’ แต่ผมก็เคยบอกเมดไปว่า ถ้าไม่ใช่เพื่อนจริงๆ ก็คงเป็นของเจ้าตัวเองนั่นแหละ แต่เค้าไม่กล้าบอก และสุดท้ายวันนี้ทุกอย่างก็บอกกับผมว่ามันไม่ใช่เรื่องโกหก แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องน่ายินดีเท่าไหร่ในความรู้สึกนัก

“ แล้วสรุปก็คือ บินฝากนมกับคนที่ชื่อเอมมาให้มึงทุกวันเลยอย่างงั้นสินะ ” จิงที่ถามออกไปในตอนนั้น ผมได้ยินเสียงอ้อมแอ้มที่กำลังเขินอยู่มากมายของปลายสายแค่

“ อื้ม ” เป็นคำตอบ

“ แล้วมึงมั่นใจได้ไงว่าเป็นของไอ้บินจริงๆ ” ผมถาม เพราะรู้สึกว่าจากที่ฟังใครพูดถึง ผู้ชายคนนั้น มันไม่ใช่คนในแบบที่จะทำอะไรแบบนั้นเลย บินเป็นคนมั่นใจในหน้าตาและความโด่งดังของตัวเองในระดับหนึ่ง แล้วผมก็มองว่าคนแบบนั้นกล้าพอที่จะเข้าไปจีบคนที่ชอบตรงๆ เพราะเค้าคิดว่าเค้าเด่นดังพอที่จะไม่ได้รับการปฎิเสธแน่นอน และมันก็ดูเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำที่ผู้ชายที่มั่นใจในตัวเองแบบนั้นจะให้เพื่อนมาเป็นพ่อสื่อส่งนมให้อยู่หลายอาทิตย์

“ กูมันถามแล้ว ”

“ ถามว่า ”

“ ก็ถามว่า มันเป็นคนที่ฝากนมกับเพื่อนในทีมบาสมาให้กูตลอดหรือเปล่า แล้วมันก็ตอบว่าใช่ ”

“ ง่อวววววว  ตอนนั้นเขินมากเลยอะดิมึง ”

“ ก็เออสิว่ะ แม่ง เอาจริงๆกูไม่คิดว่าจะเป็นบินด้วยอะ กูคิดว่าเป็นคนอื่น ไม่คิดว่าจะเป็นคนดังขนาดนี้ ”

“ ไม่คิดยังไง ตอนนี้มึงก็ตอบรับเป็นแฟนเค้าแล้วนะเมด ”

“ ก็กูยังงงๆอยู่ไง ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก พวกมึงรู้มั้ยตอนที่ เอมตรงมาหากูแล้วบินเดินเข้ามาหยิบนมไปอะ กูแม่งใจสั่นไปหมด กูแบบไม่กล้าสบตาเลย ในสมองตอนนั้นมันแบบ ใช่เหรอวะ ไม่น่าใช่น่า ไม่ใช่มั้ง แต่พอมันบอกเท่านั้นแหละ อีสัด ใช่ว่ะ ”

“ มึงพูดเหมือนอวดพวกกูอะเมด ” ผมบอกตามความรู้สึกแต่อีกคนกลับเงียบไป ก่อนจะพูดตอบกลับขึ้นมาเสียงเบาๆ

“ ขอโทษ แต่กูไม่ได้คิดจะอวดพวกมึงนะเว้ย ” สายที่ตอบกลับมานั่นเงียบลง ความสนุกสนานในบทสนทนาเริ่มไม่เหมือนเก่า จนผมที่ฟังอยู่ตอนนั้นรู้สึกผิดขึ้นมากะทันหัน ‘ เพื่อนกำลังดีใจที่มีแฟน แถมยังเป็นคนที่รอมาตลอดหลายอาทิตย์ มันก็ไม่แปลกเปล่าวะที่จะพูดด้วยเสียงที่ทั้งดีใจแล้วก็มีความสุข ’ อีกอย่างเพื่อนก็ไม่ได้มารับรู้ด้วยว่าตอนนี้คนฟังอย่างผมรู้สึกยังไง

“  เมด กูแกล้งเล่น ฮ่าๆ ” ผมทำทีเป็นหัวเราะเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ ก่อนจะได้ยินเสียงถอนหายใจของอีกฝ่ายที่ดังลอดออกมา

“ มึงแม่งชอบแกล้งกูไอ้สัดยีนส์ ”

“ ฮ่าๆ กูมึงแม่งมีความสุขมากเกินไปอะ หมั่นไส้ไอ้สัด ”

“ ก็คนมันเพิ่งเคยโดนสารภาพครั้งแรกอะ มันไม่แปลกเปล่าวะ ” จิงพูดขึ้น “ อีกอย่างมึงก็ดูรอคอยไอ้เจ้าของนมช็อกโกเล็ตอะไรนี่ปรากกฏตัวมาตั้งนานแล้วละ ”

“ ก็เค้าดูมีความพยายามดี ฝนตกแดดออก ยังไงก็มา กูก็แลยอยากเจอเค้า แต่ไม่คิดว่า พอเจอแล้วจะโดนสารภาพรักเลย ”

“ จะอะไรก็ช่างเถอะ แต่ตอนนี้มึงมีแฟนแล้วครับไอ้เมด วิ้วววววววว ” เสียงของจิงที่ล้อมันดังขึ้นเพื่อขัดความเงียบนั้น แต่ในใจผม วินาทีนั้นมันกลับอัดแน่นไปด้วยความรู้สึกเสียใจและความรู้สึกอิจฉาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน หวนคิดโกรธไปถึงพระเจ้า ว่าทำไมถึงทรงมอบสิ่งที่ผมอยากได้อยากมีไปให้กับคนที่ชื่อ เมด  ทำไมถึงไม่มอบให้ผม แต่ถึงอย่างงั้นตามมารยาทของความเพื่อน ก็ต้องตอบมันกลับไปแค่ว่า

“ อื้ม ยินดีด้วยมึง ”

ผมเคยคิดว่าตัวเองเป็นคนเก็บความรู้สึกเก่ง ไม่ว่าจะเจอเข้ากับสถานการณ์อะไรตรงหน้า ผมก็สามารถเก็บทุกความรู้สึกนั้นไว้ได้ ผมทำเป็นเฉยได้แม้จะเห็นคนที่ชอบกับเพื่อนสนิทนั่งยิ้มให้กันอยู่ตรงหน้า ทั้งๆที่เสี้ยวนึงในใจผมกลับรู้สึก ว่าอยากจะให้เป็นผม แต่ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไปในวันนั้น วันที่ผมกับบินกลับบ้านด้วยกันเป็นครั้งแรก

บนเมล์ที่ผู้คนเบียดเสียด สภาพอากาศในวันนั้นแย่เพราะฝนที่เทกระหน่ำลงมาแต่ที่แย่กว่านั้นคือตัวผมที่กำลังแนบชิดอยู่กับบินบนรถคันนี้ และด้วยความสูงของอีกฝ่ายผมเลยอยู่ในระดับอกของอีกคนพอดี เราโอดเอนไปตามรถที่เคลื่อนตัว ทุกอย่างดูเหมือนปกติแต่คงไม่ใช่กับส่วนกลางที่กำลังตื่นตัวของอีกคนที่กำลังแนบชิดอยู่กับขาของผม

ในตอนนั้นเราดูดีว่าความรู้สึกที่ไม่ควรรู้สึกนี้มันกำลังเกิดขึ้น เพราะงั้นจึงไม่มีใครพูดอะไรในคืนนั้น เราทำได้แค่สบตากันตอนที่ผมต้องก้าวลงจากรถเมล์คันนั้นแล้วบินเองที่ต้องเดินทางต่อไป ผมได้แต่เก็บเรื่องนี้เป็นความลับของตัวเองเงียบๆ ผมไม่ได้เจอบินอีกหลังจากวันนั้น แต่คงเพราะอีกฝ่ายหลีกเลี่ยงที่จะมาเจอกันมากกว่าในความรู้สึกผม

จนกระทั่งวันที่เราเรียนจบม.ปลาย งานฉลองเล็กๆของเราสี่คนที่สอบติดมหาลัยชั้นนำแห่งเดียวกันก็ถูกจัดขึ้น ที่คอนโดผม เพราะเป็นคนเดียวในกลุ่มที่ไม่ต้องอยู่กับครอบครัว

“ ยีนส์ เรื่องวันนั้นกูขอโทษนะ ” ผมเผลอนึกอยากจะหันไปต่อยมันตอนที่พูดออกมาแบบนั้น พร้อมกับบอกแค่ว่า ‘ เรื่องมันผ่านมาเป็นเดือนแล้วจะมารื้อฟื้นให้กูรู้สึกอีกทำไมวะ ทั้งๆที่กูพยายามกดมันเอาไว้แล้ว ทั้งๆที่กูกำลังทำเป็นไม่รู้สึกอะไรอยู่ มึงจะมาพูดอีกทำไม ’ แต่ทว่าตอนนั้นผมก็ได้แต่ยิ้มแล้วทำเหมือนไม่รู้สึกอะไร

“ ช่างมันเถอะ ”ผมบอกอีกคน ก่อนจะหันไปยิ้มให้ “ มึงคงไม่ได้ตั้งใจ ” บินไม่พูดอะไรมันปล่อยให้ทุกอย่างเงียบอยู่นาน จนผมเองที่ยิ้มให้มันต้องหุบยิ้มแล้วหันมาจัดการกับของที่กำลังจะเอาใส่หม้อทอดแบบไร้น้ำมัน

“ จริงๆกูพยายามลืมเรื่องวันนั้น แต่มันลืมไม่ได้เลย ” อีกคนพูดพลางเดินเข้ามาใกล้ผม สองมือของอีกคนที่เอื้อมมากอดเอวกันนั้น ทำให้ผมหายใจไม่ออกไม่ชั่วขณะ มันตกใจจนได้แต่นิ่งกว่าจะรวบรวมสติขึ้นมาได้ก็หลายนาที

“ บิน มึงหยุดก่อน ” ผมพยายามดึงมืออีกคนออกตามคำสั่งของสมองที่บอกว่าอย่าไปยุ่งกับแฟนเของพื่อน แต่ทว่าความรู้สึกในใจที่เก็บกักไว้มันกลับล้นทะลักออกมา

ช่วงจังหวะที่โดนจูบลงที่ต้นคอมันชวนให้ผมแข็งทื่อ กลิ่นน้ำหอมของอีกคนที่ได้กลิ่นมันปลุกให้ทุกอย่างในร่างกายของสั่นสะท้านด้วยความต้องการบางอย่าง  ความต้องการที่ปกปิดเอาไว้มาตลอด วินาทีนั้นมันคล้ายกับการปลดล็อกทุกอย่างเหมือนถูกปลอดปล่อย เป็นวินาทีที่ฝ่ามือของอีกคนก็เริ่มรุกล้ำผ่านเข้าไปในขอบกางเกงสีน้ำเงินเข้มของผม

“ กูลืมกลิ่นของมึงไม่ได้เลย กูพยายามแล้วที่จะหลบหน้ามึง ไม่ยอมไปหาเมดที่โรงเรียนเหมือนทุกครั้ง แต่บอกให้มันมาหาแทน กูคิดโง่ๆว่ากูคงลืมกลิ่นของมึง ลืมสัมผัสของเราในวันนั้นได้ จนวันนี้ที่กูมาเจอมึง แล้วก็กำลังกอดมึงอยู่ตอนนี้ กูเพิ่งรู้กูไม่ได้ลืมมึงไปเลย กูแค่ ปกปิดมันไว้ก็เท่านั้น ” โดนดึงให้หันไปเผชิญหน้าอีกคนในตอนนั้น แล้วคำถามที่ไม่อยากตอบก็หลุดออกมาจากปากอีกคน “ แล้วมึงรู้สึกเหมือนกูมั้ยยีนส์ ”

“ กู ..” ผมได้แต่ก้มหน้า ในใจมันมีคำตอบอยู่แล้ว เป็นคำตอบที่ชัดเจนที่สุดในชีวิต แต่ผมก็รู้ว่าตัวผมไม่ควรจะพูดแบบนั้นออกไป ไม่ว่ายังไง บินก็คือแฟนของเมด เค้าเป็นแฟนเพื่อนสนิทของผม

“ ไม่ต้องคิดถึงเมด ลืมเรื่องของกูกับเมดไปก่อน คิดแค่เรื่องของเรา ความรู้สึกของเรา แล้วตอบคำถามของกู ”

“ ไม่ต้องคิดถึงเมดได้ไง มึงอย่าเห็นแก่ตัวสิวะ จะให้กูลืมเมดไปได้ยังไง นั่นเพื่อนกูนะ  แค่สิ่งที่กูรู้สึกกับมึง มันก็เหี้ยพอแล้ว มึงยังจะให้กูพูดมันออกมาอีกเหรอ ว่ากูรู้สึกยังไง ” แต่ทุกอย่างก็ถูกเปิดเผยออกไปแล้ว ผมได้แต่นิ่งตอนที่มองตาอีกคน เราที่เงียบให้กันตรงช่วงเวลานั้น ผมเป็นคนเบือนหน้าหนีไป ก่อนจะถอนหายใจออกมาแล้วขยี้หัวแรงๆกับสิ่งที่พลั้งเผลอพูดออกไป ในตอนนั้น ผมบอกปัดบิน “ ช่างมันเถอะ ต่อให้เรารู้สึกอะไร ก็ควรหยุดไว้ตรงนี้ แล้วมึงก็ควร..”

ประโยคที่กำลังจะพูดว่า ‘ แล้วมึงก็ควรลืมเรื่องนี้ซะ กูเองก็จะลืมด้วย ’ ถูกกลืนลงไปในคอทั้งหมด เพราะริมฝีปากของอีกคนที่แนบชิดลงมา ผมเบิกตากว้างในวินาทีนั้นและพยายามอย่างที่สุดจะเม้มริมฝีปากตัวเองเพื่อไม่ให้อีกคนได้ลึกล้ำเข้ามาดูดดื่มกับความรู้สึกได้มากกว่านี้ แรงมือที่พยายามดันมันไม่ได้ห่างไปเลยแม้แต่น้อย จนกระทั่งเสียงตรงหน้าประตูดังขึ้น

“ เมด มาแล้ว ปล่อยกู ”

“ ยีนส์ กูรู้สึกกับมึงนะ กู..” ยังไม่ทันได้พูดจบแต่อีกคนก็ต้องถอยออกไปยืนให้ไกลจากผมเสียก่อน เพราะประตูบานนั้นถูกเปิดออก จิงเดินเข้ามาคนแรกมันมองผมกับบินสลับกันด้วยท่าทางสงสัย แต่ก่อนที่มันจะได้รู้อะไรมากกว่านั้น เมดก็เหมือนจะช่วยชีวิตของผมไว้ด้วยการสะดุดเท้าตัวเองเกือบล้มลงจนทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นหันไปสนใจมัน แล้วหัวเราะกับท่าทางเด๋อด๋านั่นก่อน

งานฉลองถูกดำเนินไปด้วยความรู้สึกสนุกสนาน เรานั่งดูรายการตลกไปเรื่อยๆ สายตาของทุกคนจดจ้องอยู่ที่หน้าจอแต่หลายครั้งที่ผมรู้สึกว่าบินมองผมอยู่ แต่ผมก็ทำเป็นไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ช่วงเวลาพูดคุยผ่านไปเรื่อยๆ เหล้าถูกลดจำนวนลงจากที่ซื้อมา จนสุดท้ายโซฟาที่เรานั่งดูทีวีด้วยกัน ก็เหลือแค่ผมกับจิงสองคน

“ ดูนู้นสิ ” จิงเอ่ยบอกผมก่อนจะเชิดหน้าไปที่ระเบียงของห้องที่ตอนนี้ เมดกับบินกำลังยืนอยู่ตรงนั้น คนสองคนในชุดนักเรียนกำลังยืนคุยกันด้วยรอยยิ้ม “ หวานซะ ”

“ อื้ม ”

“ จะว่าไปมันก็เหมาะสมกันดีนะ ”

“ อื้ม ” ตอบซ้ำคำตอบแบบเดิม จิงก็เริ่มเอียงหน้ามองผมด้วยท่าทางสงสัย “ มองอะไรของมึง ”

“ เป็นอะไรของมึง ดูไม่เอ็นจอยเลย ”

“ นี่กูยังดูไม่เอ็นจอยอีกเหรอวะ มึงจะให้กูเอ็นจอยยังไงอี๊ก ถอดเสื้อแล้วโบกบนโต๊ะเหรอสัด ” อีกคนหัวเราะออกมาตอนที่ผมบอกแล้วส่ายหน้าไปมา เผลอหันไปมองคนสองคนที่นอกหน้าต่างอีกครั้ง คนทั้งคู่ที่หันหลังให้เรา มองไม่ออกมาแค่กำลังคุยหรือจูบกันอยู่

“ มึงว่ามันสองคนจะจูบกันเปล่าวะ ”

“ ก็เรื่องของมันเปล่าวะ แฟนกันจะจูบกันก็ไม่แปลก ถ้าไม่ใช่แฟนกันสิวะถึงจะแปลก ” ประโยคสุดท้ายที่พูดออกไปเบาๆจิงมันก็ก้มหน้าลงมามองผมเราที่จ้องตากัน

“ แต่กูว่าไม่แปลก ” ผมขมวดคิ้วกับคำพูดของอีกคน “ คนเราจูบกันไม่จำเป็นต้องแฟนกันสักหน่อย บางทีเราแค่รู้สึกชอบ แล้วก็จูบกัน ถ้ามันเป็นความรู้สึกของคนสองคนมันก็ไม่แปลกเปล่าวะ ”

“ เหรอวะ ”

“ อื้ม ” อีกคนพยักหน้ารับก่อนจะหันไปมองทีวีด้านหน้า ที่กำลังฉายหนังเรื่องหนึ่ง “ ถ้าจูบมันจำกัดแค่คนที่มีแฟนเท่านั้น มันก็ไม่มีคำว่า วันไนท์สแตนหรอกจริงมั้ย ”

“ มั้ง ” ตอบแบบนั้นก่อนจะถอนหายใจแล้วพิงหลังลงกับโซฟาที่นั่ง ผมหันเหลือบไปมองด้านนอกนั่นอีกครั้งแล้วภาพที่เห็นก็คือภาพของคนสองคนที่กำลังจูบกัน มันไม่ใช่จูบที่ดูดดื่มอะไร แต่เป็นจูบเล็กๆที่ดูน่ารักสมกับคนที่กำลังโดนจูบ แก้มกลมที่ยกขึ้นตอนที่อีกคนผละออก เมดแก้มแดงจนลามไปทั้งหน้าก่อนที่มันจะหันไปมองทางอื่นแล้วบินก็เอื้อมมือมากอดคอเมดไว้ ก่อนจะให้เข้าไปใกล้ตัว

ภาพที่ชวนให้ผมหลับตาลงเพราะเจ็บปวดใจเกินทนไหว ผมคิดหัวเราะเยาะตัวเอง ที่เมื่อครู่ก็โดนจูบแบบนั้น แต่ต่างกันที่มันไม่ใช่ความรู้สึกน่ารักอะไรแบบนั้นเลยสักนิด เป็นแค่ความใคร่และความต้องการที่ดูไม่ได้น่ารักอะไรทั้งนั้น ผมหันกลับมามองทีวีที่ฉายอีกครั้ง

“ กูถามอะไรมึงหน่อยสิ ”

“ ว่า ”

“ ถ้ามึงแอบชอบแฟนเพื่อน แล้วมีโอกาสได้จูบกัน มึงจะทำมั้ย ” คำถามที่ทำให้ผมชาไปหมดทุกส่วน หัวใจที่เต้นแรงจนแทบจะทะลุกอกนั้น ผมพยายามควบคุมให้ทุกอย่างนิ่งที่สุด ก่อนจะหันไปยิ้มแบบเบิกตากว้างด้วยความรู้สึกที่ว่า ‘ คำถามพวกนี้แม่งหลุดออกมาจากปากมึงได้ยังไง ’

“ ต้องไม่ทำสิวะ แฟนเพื่อนนะเว้ย มึงจะบ้าเหรอไอ้สัดจิง ”

“ อ้าว กูก็แค่ถามเล่นๆ กูรู้ว่าคนแบบมึงไม่ทำหรอก  ” อีกคนบอกยิ้มๆ  “ แต่คนเรา ความรู้สึกมันห้ามไม่ได้หรอกมึง รู้สึกก็คือรู้สึก แล้วถ้าเป็นกูนะ ถ้าโอกาสมันมาถึง กูจะคว้ามันไว้ เพื่อทำตามความรู้สึกของตัวเอง โดยไม่สนใจว่าผิดหรือถูก ”

“ ทำไมมึงเป็นคนแบบนั้นวะจิง ” ผมถามมันเพราะไม่คิดว่าคำพูดพวกนั้นจะหลุดออกมาจากปากเพื่อนที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก

ยอมรับว่าบางครั้ง จิงเป็นคนสุดโต่งทางความคิด มันชอบคิดอะไรที่แปลก และแตกต่าง แต่สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกเลยคือ มันเป็นคนรักเพื่อน ไม่ว่าเราผิดจะถูกยังไง จิงจะเห็นด้วยกับเราเสมอ จนเมดเคยพูดกับผมว่า บางทีแบบนั้นก็ไม่ได้ ผิดก็ว่าไปตามผิด แต่ผมก็บอกอีกคนไปว่า เพราะจิงกลัวไม่มีเพื่อนมันเลยเป็นแบบนั้น

ครั้งหนึ่งผมกับเมดเคยลงความเห็นกันว่า บางทีจิงเหมือนก็โดนกดดันจากที่บ้านมากเกินไปจนน่าสงสาร เพราะพ่อแม่คาดหวังกับทุกอย่างมันและเห็นมันเป็นแค่เครื่องประดับทางสังคมเท่านั้น ต้องเรียนเก่ง ต้องไม่ทำให้ขายหน้า มันเลยต้องพยายามมากกว่าคนอื่นจนบางทีก็เครียดไป และก็หลายครั้งที่มันชอบพูดว่า มันอิจฉาชีวิตที่ไม่ต้องถูกคาดหวังแต่ยังเรียนเก่งและนิสัยดีอย่างเมดเสียเหลือเกิน

“ คนเราทุกคนสามารถมีความสุขไม่ใช่เหรอวะ แล้วมันจะเป็นอะไรไป ถ้าเราเลือกที่จะมีความสุขสักครั้ง โดยที่ไม่ต้องแคร์ใครเลย ”

“ แม้ว่าคนคนนั้นจะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่งของเราน่ะเหรอวะ ”

“ อื้ม ใช่ ” อีกฝ่ายตอบรับ “ เวลาที่เรามีความสุขกับคนที่เรารัก ก็มีแค่เรากับเค้าไม่ได้มีเพื่อนสักหน่อย แล้วแบบนั้นเราจะไปแคร์ทำไมวะ ”

“ กูว่ายังไงมันก็ไม่ควรอยู่ดี ยังไงก็เพื่อน ” ผมส่ายหน้าบอกอีกคน ที่ก็พยักหน้ารับคำพูดของผม

“ เอาจริงๆ มันก็ไม่ควรหรอกมึง มันเหมือนเราทำร้ายเพื่อน แต่กูแค่พูดในมุมมองของคนหนึ่งคน คนที่แอบรักแฟนเพื่อน ” ผมทำทีเป็นหันไปมองทางอื่นตอนที่อีกคนพูดออกมาแบบนั้น “ เราไม่มีสิทธิ์เลือกความทุกข์ที่ต้องเห็นเพื่อนเรารักกับคนที่ชอบก็จริง แต่ถ้าสักครั้ง ที่เรามีสิทธิ์เลือกความสุขได้ เราจะไม่คว้ามันไว้หน่อยเหรอวะ ต่อให้ผิด แต่โอกาสน่ะ มันไม่มีเข้ามาบ่อยๆหรอก แล้วพอเข้ามา ถ้าเป็นกู กูจะคว้ามันไว้ มันก็แค่ครั้งเดียวเองที่เราจะทำตามใจตัวเอง เพื่อให้เรามีความสุขบ้างจริงมั้ย ”

“ ใครแม่งคิดแบบนี้ได้ แม่งโคตรเห็นแก่ตัวเลย ” ผมบอกอีกคนที่ก็ยิ้มออกมา ก่อนจะเอียงหน้างง

“ นี่มึงด่ากูเปล่าวะ ”

“ เออน่ะสิไอ้สัด ” ย้ำแบบนั้น แต่จิงก็แค่หัวเราะเสียงดังออกมา

“ แต่พวกแอบรักแฟนเพื่อนมันก็อนาจนะมึง เราเลือกไม่ได้ว่าจะไม่รู้สึกกับเค้า เราเลยยอมทุกข์อยู่แบบนั้น แล้วมองดูเค้ามีความสุข เรายอมเจ็บ แต่พอทางไหนที่จะทำให้เรามีความสุขได้บ้าง เราก็ทำไม่ได้อีกเพราะว่านั่นคือแฟนเพื่อน ทำได้อย่างเดียวเลย คือ ทุกข์ใจอยู่แบบนั้น โคตรไม่แฟร์เลยว่ะ ว่ามั้ย ”

“ คงเป็นกรรมอะ ”

“ พอทีเถอะคำพูดนี้ หาทางไม่ออก ก็โทษเวรโทษกรรมไว้ก่อน ” อีกคนบอกก่อนจะหัวเราะ

“ ก็ความรักมันเป็นสิ่งที่ห้ามไม่ได้นะมึง ”

“ ก็เลยโทษเวรโทษกรรม ของชาติที่แล้วอะไรแบบนั้นเหรอวะ เหอะ ตลกอะ ” คนข้างผมส่ายหน้าไปมา “ คนที่มึงควรโทษ คือตัวเองที่แอบไปมีใจให้เค้า จำไว้ ”

“ ก็จริงของมึง ” กูเองก็ควรโทษตัวเองมากกว่าที่เสือกไปหลงรักคนมีเจ้าของแล้ว เลยทำให้ชีวิตที่มีมันอนาจแบบนี้

ครืน ครืน ครืน

เสียงโทรศัพท์ที่ตั้งของไอ้เมดดังขึ้นขัดการพูดคุยของเรา ผมหันไปมองอีกคนก่อนที่ไอ้จิงจะหยิบเครื่องสื่อสารเครื่องนั้นไปให้เจ้าของมันที่ยืนอยู่ตรงระเบียง ผมเห็นเมดกดรับแล้วพูดอยู่สักพักก่อนจะเดินเข้ามาพร้อมกับบิน

“ กูกลับบ้านละ พ่อมารับแล้ว ” อีกคนบอกแบบนั้น เราทุกคนก็พยักหน้ารับ บินลงไปส่งเมดที่ด้านล่างพร้อมกับจิงที่ก็มีคนขับรถของที่บ้านมารับแล้วเช่นกัน “ กูขอโทษ ไม่ได้อยู่ช่วยเก็บของมึงเลยไอ้ยีนส์ หรือกูโทรไปบอกพ่อก่อนดีให้รอแปปนึง กูช่วยเก็บของมึงก่อน ”

“ ไม่ต้องๆ ” ผมบอกบอกปัด “ อย่าให้พ่อมึงรอเลย สงสารเค้า มึงกลับไปกันเถอะ ของก็ไม่ได้เยอะ กูเก็บได้ ของใช้แล้วทิ้งทั้งนั้นอะ ได้ได้ล้างเยอะอะไร ”

“ เดี๋ยวกูขึ้นมาช่วยเก็บแล้วกัน ” บินที่ยืนอยู่บอกแบบนั้นก่อนจะหันมามองหน้าผมที่ก็หันไปมองหน้ามัน ในแววตานั้นที่ดูไม่มีอะไรในความรู้สึกของคนอื่น แต่แตกต่างกันในความรู้สึกของผม ราวกับอีกคนจะบอกกันว่า ‘ อีกเดี๋ยวมันจะขึ้นมาเพื่อเคลียร์ความรู้สึกระหว่างผมกับมันแน่นอน ’

“ เออ ก็ดีนะ ” เมดบอกแบบนั้นก่อนจะหันไปยิ้มให้แฟนตัวเอง มันพิจารณาหน้าอีกคนอยู่นาน ก่อนจะเอื้อมมือไปจับแก้ม “ หน้าแดงขนาดนี้ มึงเมาหรือเปล่ากูถามจริง อย่ามาอ้วกให้ไอ้ยีนส์เก็บนะ  ให้ขึ้นมาช่วยทำความสะอาดเข้าใจมั้ยคุณบิน ”

“ ไม่เมาหรอกน่าคุณเมด ”  ตอบรับแบบนั้นผมเห็นคนสองคนที่ยิ้มให้กันก่อนที่บินจะกอดคอเพื่อนผมแล้วดึงเข้าไปหอมลงที่ผมสีเข้มนั้น

“ แล้วเจอกันนะมึง ” จิงบอกผมก่อนจะยิ้มให้

ทุกคนที่เดินออกไปแต่ผมกลับไม่ได้ไปไหนไกลจากหน้าประตูตรงนั้น ในสมองของผมมันสับสน กำลังคิดทบทวนว่าต้องทำยังไงกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น แล้วในช่วงเวลานั้นผมก็ตัดสินใจไปล็อคประตูห้องของตัวเองเอาไว้

หัวใจที่เต้นแรงไม่มีหยุด หลากหลายความคิดแล่นผ่านเข้ามาในสมองของผม ฝั่งหนึ่งมันบอกกันว่า ‘ อย่าคิดที่จะเปิดประตูนี้  อย่าทำในสิ่งที่ผิด คนรักเราหาใหม่ได้ แต่เพื่อนแบบเมด จะไม่มีทางหาใหม่ได้อีก ’ แต่อีกความคิดหนึ่งก็โผล่ขึ้นมา มันเป็นคำพูดของจิงที่สะท้อนก้องอยู่ในหัวของผม ‘ โอกาสน่ะ มันไม่มีเข้ามาบ่อยๆหรอก แล้วพอเข้ามา ถ้าเป็นกู กูจะคว้ามันไว้ มันก็แค่ครั้งเดียวเองที่เราจะทำตามใจตัวเอง เพื่อให้เรามีความสุขบ้าง ’

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูที่ทำให้ผมสะดุ้งตัว ก่อนจะดังขึ้นอีกครั้งในตอนที่เห็นว่าผมเงียบไป ในใจที่อยากจะเอื้อมมือไปเปิด แต่คำพูดนึงของตัวผมมันก็ชวนให้ชะงักมือนั้น  ‘ ใครแม่งคิดแบบนี้ได้ แม่งโคตรเห็นแก่ตัวเลย ’ และมันก็สลับสับเปลี่ยนกับคำพูดของจิงที่พูดอีกครั้ง ‘ มันก็แค่ครั้งเดียวเองที่เราจะทำตามใจตัวเอง เพื่อให้เรามีความสุขบ้าง ’

“ มันก็แค่ครั้งเดียวมั้ยวะ ” ผมพูดกับตัวเอง  โอกาสมาถึงแล้ว ก็แค่ครั้งเดียวที่ผมจะมีความสุขบ้าง   แล้วในตอนนั้นมือของผมก็ตัดสินใจเอื้อมไปเปิดประตูบานนั้น เพื่อให้โอกาส สิ่งที่ตอนนั้นผมเรียกมันว่าความสุขสักครั้งในชีวิตให้เข้ามา

“ กูกับมึงก็แค่เมา ตกลงมั้ย ” แล้วนั่นมันก็เป็นประโยคเห็นแก่ตัวของผม ที่เอ่ยบอกกับอีกคนในคืนนั้น

ผมเคยคิดว่าจะเป็นครั้งแรกและครั้งเดียว ที่เราจะกระทำการกอดจูบอย่างลึกซึ้งบนโซฟาหรือแม้แต่บนเตียงนอนของผม ในตอนนั้นผมคิดว่าตัวผมคงลืมไปว่า ‘ มนุษย์เรานั้นเมื่อกล้าทำผิดในครั้งแรกแล้ว ก็ย่อมต้องมีครั้งที่สองตามมา ’  แล้วครั้งสองมันจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในเช้าวันถัดมาที่เราตื่นนอน และครั้งต่อไปก็ตามเรื่อยๆ จนกระทั้ง วันที่ความจริง มันถูกเปิดเผย ไม่ต่างจากทฤษฎีที่ใครๆต่างก็รู้ดี ‘ ความลับมันไม่มีในโลก ’

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
“ ยีนส์ ” เสียงเรียกของคนที่นอนอยู่ข้างกันในปัจจุบันเอ่ยเรียกผมที่หวนคิดถึงอดีตอยู่นาน ผมหันไปมองบินที่กำลังขมวดคิ้วใส่กัน ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงสงสัย “ เป็นอะไร กูเรียกตั้งหลายครั้ง เหม่ออะไรของมึงอยู่ ”

“ เปล่า ” ผมแค่ส่ายหน้าก่อนจะยิ้มให้มันแล้วลุกขึ้นนั่งบนเตียง “ กูแค่คิดอะไรเพลินๆ ”

“ คิดอะไร ” หันถามคนที่ก็พลิกตัวหันมาหากันด้วยความสนใจ ไม่อยากจะพูดความจริงออกไปเลยทำได้แค่จดจ้องมันอยู่แบบนั้น ก่อนจะเลือกถามคำถามหนึ่งที่อยากรู้มานานแต่ไม่เคยได้ถามมันสักครั้ง

“ บิน กูถามอะไรหน่อยสิ ”

“ ว่า ”

“ ทำไมตอนม.หกมึงถึงซื้อนมช็อกโกเล็ตไปให้ไอ้เมดทุกวันเลยวะ ” คำถามที่ทำให้อีกคนนิ่งไป บินถอนหายใจออกมาก่อนจะเกาหัวตัวเองแล้วยิ้มออกมา ใบหน้าที่กำลังรู้สึกผิดของมันชวนให้ผมขมวดคิ้ว

“ เอาความจริงนะ ”

“ อื้ม ”

“ กูไมได้เป็นคนซื้อนมนั่นไปให้เมดหรอก ”

“ ห๊ะ ? ” ได้แต่อ้าปากค้างกับสิ่งที่ได้ยิน  “ เดี๋ยวนะ หมายความว่ายังไงวะ มึงไม่ได้ซื้อนมไปให้มันหรอกเหรอ ไหนเมดบอกว่า มึงเป็นคนซื้อนมไปให้มันไง นี่โกหกมันเหรอ ” ผมถามอีกคนก็พยักหน้ารับ บินที่ยิ้มออกมาชวนให้ผมหลุดหัวเราะไม่ต่างกับมันที่หัวเราะออกมา “ ไอ้เหี้ย มึงนี่มันจริงๆเลย ”

“ ก็จะให้ทำไงได้วะ ตอนนั้นสถานการณ์แม่งโคตรบีบบังคับกู เพื่อนๆก็มุงดู ทั้งคนในโรงเรียนกู คนในโรงเรียนมึง เมดที่ถามออกมาว่า กูเป็นคนซื้อนมช็อกโกเล็ตนั่นให้มันเหรอ คือตอนนั้นกูรู้เลยไง ว่าถ้าบอกว่า ไม่ใช่ เมดมันก็ต้องปฎิเสธ แบบนั้นมันก็น่าอายสิว่ะ กูแม่งเป็นถึงนักบาสโรงเรียนนะเว้ย จะให้โดนปฎิเสธได้ไง ตอนนั้นก็เลยตอบส่งๆไปก็เท่านั้นอะว่า ใช่ ”

“ เลวจริงๆไอ้สัด ”

“ เอาจริงๆ ทุกวันนี้กูยังไม่รู้เลย ว่าไอ้นมช็อกโกเล็ตเหี้ยนั่นมันยี่ห้ออะไร รู้แค่ว่า กูแย่งมาจากเพื่อนอีกที ”

“ แย่งมาจากเพื่อนเหรอ ”

“ อื้ม ” อีกคนพยักหน้ารับ “ ก็ไอ้เอมเพื่อนในชมรมบาสของกูมันถือนมอยู่พอดี กูตอนนั้นตื่นเต้นไง ไม่ได้ถืออะไรไป เลยไปคว้านมที่มันถือมา ก็ใครแม่งจะรู้วะ ว่านมนั่นคือนมที่ไอ้เอมเพื่อนกูมันเอาไปให้ไอ้เมดทุกวันอยู่แล้ว โคตรโชคดีเลย ถึงจะเสียเพื่อนไปก็เถอะ ”

“ มึงเสียเพื่อนคนนั้นไปเลยเหรอ ” ผมถามอีกคนก็พยักหน้ารับ “ แต่ก็สมควรละ มึงแม่งไปแย่งคนที่มันมาจีบอยู่ตั้งนาน ”

“ ช่วยไมได้เปล่าวะ ใครบอกให้มันจีบช้าๆแบบนั้น ส่งนมให้ทุกวันโคตรปัญญาอ่อน แล้วอีกอย่างตอนนั้นกูเองก็ขายหน้าไม่ได้ด้วย ”

“ รู้อะไรมั้ย วิธีที่มึงบอกปัญญาอ่อน แต่เป็นวิธีที่มัดใจไอ้เมดไว้ได้แน่นมากเลยนะ ” บินหันมามองผมตอนที่พูดคำนั้น “ ตอนนั้นเมดมันก็มีเด็กในโรงเรียนมาจีบอยู่เหมือนกัน แต่เพราะว่ามันดันไปตกหลุมรักไอ้คนที่ให้นมมันนี่แหละ แล้วก็หวังว่าจะเจอเค้าสักวัน ก็เลยปฎิเสธคนคนนั้นไป เมดไปรอรับนมนั่นทุกวัน มันมีความสุขแล้วก็หวังที่อยากจะเจอเค้ามากๆเลยด้วย ”

“ แบบนั้นมันก็เลยตอบรับรักกู เพราะกูบอกว่า กูเป็นคนซื้อนมไปให้มันใช่มั้ย ”

“ อื้ม ”

“ โชคดีเป็นของกูจริงๆ ” อีกคนบอกยิ้มๆ

“ แต่โชคร้ายเป็นของไอ้เมด ไอ้สัด ” ผมบอกก่อนจะต่อยลงไปที่แขนอีกคนเบาๆ “ แต่พอมาคิดๆแล้วก็สงสารมันนะ ”

“ ยังไงวะ”

“ เมดเป็นคนน่ารักนะมึง ไม่เห็นแก่ตัว ชอบช่วยเหลือคนอื่น ไม่เอาเปรียบเพื่อน ไม่อิจฉาใคร นิ่งๆ เงียบๆ ถ้าเสี่ยงจะต้องมีปัญหา มันก็ชอบที่จะยอม บอกกูตลอดว่า ขี้เกียจไปสร้างปัญหา ถึงจะชอบเอาคนนั้นมานินทาเวลาไม่พอใจสุดๆ มากสุดของมันก็แค่เอามาพูดกับเพื่อนสนิทอย่างพวกกูสองคน แต่ก็ไม่เคยไปทำอะไรให้เค้าไม่สบายใจอะ ”

“ อื้ม ”

“ แล้วพอคิดว่า คนอย่างมันต้องมาเจอมึงหลอก แล้วรักมึงอยู่ตั้งหลายปีเพราะคิดว่ามึงคือคนที่ให้นมช็อกโกเล็ตนั่น ทั้งๆที่มันอาจจะได้เจอคนที่รักมันมากแล้วดูแลมันอย่างดีก็ได้ พอคิดได้แบบนั้นก็โคตรสงสารมันเลย ไหนจะเรื่องของเราที่ทำให้มันเสียใจอีกละ ”

“ มันผ่านไปแล้ว ไม่ต้องพูดถึงหรอก ” เอียงหน้ามองอีกคนที่พูดออกมาแบบนั้น

“ แล้วตอนนี้เพื่อนของมึงเป็นยังไง เจ้าของนมตัวจริง ”

“ มันออกจากชมรมไปหลังจากที่กูเป็นแฟนกับเมดได้สักอาทิตย์มั้งแต่ก็ดีนะ ความลับกูไม่แตก ”

“ พูดจริงๆนะ ด่ามึงว่าเหี้ยกูยังสงสารเหี้ยเลยบิน ”

“ ทำไงได้วะ กูตอนนั้นขายหน้าไม่ได้นี่ ” อีกคนบอกย้ำ “ แต่จำได้ว่าตอนนั้นกูกับมันเล่นบาสทีมเดียวกันแต่ไม่คุยกันเลย แล้วตอนเล่นมันก็เสือกไม่ส่งบาสให้กูด้วย จนโค๊ชต้องเรียกถามว่ามีอะไรกัน แต่เอมมันก็ไม่พูดอะไรนะ แล้วก็ออกจากชมรมไปเลย ทั้งๆที่ตอนนั้นมันก็เป็นดาวเด่นในชมรมแล้วก็มีมหาลัยหลายมหาลัยมาติดต่อให้มันไปสอบเพื่อเป็นนักกีฬามหาลัยด้วยนะ ”

“ คงเกลียดขี้หน้ามึงมาก ”

“ แต่ล่าสุดที่กูรู้เกี่ยวกับมัน คือวันที่กูเจอเพื่อนในชมรมตอนม.ปลาย มันบอกว่าไอ้เอมไปเรียนต่อเมืองนอกไม่กลับมาเลยตั้งหลายปีแล้ว ”

“ เหรอวะ ”

“ อื้ม ” บินพยักหน้ารับมันเงียบไปสักพักก่อนจะหันมามองหน้าผมเหมือนกับคิดอะไรขึ้นมาได้ “ เออ แล้วไอ้เชี้ยนั่นมันเป็นเพื่อนไอ้อาฟด้วยนะ ”

“ อาฟไหน ? ” ผมถาม “ อาฟ แฟนไอ้เมดน่ะเหรอ ”

“ เอออะดิ ”

“ มึงพูดจริงดิ ”

“ พูดจริงๆ มันสนิทกันมากด้วยนะ เมื่อก่อนไอ้อาฟกลุ่มมันมีสามคน ไอ้เจเพื่อนมันตอนนี้ที่ทำงานอยู่ในผับ แล้วก็ไอ้เอมเพื่อนในชมรมเดียวกับกูคนที่ส่งนมให้เมด ”

“ แล้วแบบนี้ไอ้เมดมันจะรู้สึกยังไงวะ ”

“ อะไรรู้สึกยังไง ” อีกฝ่ายทำหน้างง ผมก็ยิ้ม

“ ก็ถ้ามันรู้ว่าจริงๆแล้วเจ้าของนมไม่ใช่มึง แต่มันเข้าใจผิดมาตลอด แล้วความจริงคือ เจ้าของนมนั่นเป็นเพื่อนสนิทของอาฟ คนในปัจจุบันของมัน ”

“ อย่าคิดที่จะทำอะไรเหี้ยๆ ” บินพูดแค่นั้นผมก็ได้แต่เหลือบมองมัน

“ ปกป้องจังนะกับคนนี้น่ะ รักเหลือเกินนะ ” เว้นเสียงไป ก่อนจะถอนหายใจออกมา “ รักกูแบบที่มึงรักเมดบ้างสิบิน ”

“ แล้วใครบอกว่ากูไม่รักมึงละ ”

“ การกระทำของมึงมั้ง ” ผมบอกมันอีกคนก็ดึงผมเข้าไปกอด “ กูรู้นะวันที่มึงบอกว่า มึงไปหาเพื่อนที่รังสิต แต่จริงๆมึงไปหาใคร ” หันไปสบตากับบินที่ก็นิ่งไปก่อนอีกฝ่ายจะก้มลงมาหอมแก้มผม

บิน เป็นคนเจ้าชู้ ด้วยท่าทางและลักษณะนิสัยที่เข้ากับคนอื่นง่าย ผมรู้ดีอยู่แล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมา นอกจากเมดที่เป็นตัวจริงของมัน แล้วผมที่เป็นตัวสำรองมันก็ยังมีผู้หญิงและผู้ชายอีกเยอะแยะที่มันแอบคุยแล้วก็แอบคบด้วย มีหลายครั้งที่เมดเอาเรื่องพวกนั้นมาปรึกษาผม และอีกหลายครั้งที่ผมรู้มันด้วยตัวเอง อย่างเรื่องล่าสุดที่มันไปกินข้าวกับเด็กมหาลัยแถวรังสิตนั่น ผมก็รู้มา เพราะไอ้จิง เป็นคนเอามาบอกกัน

“ เลิกได้แล้วมั้ง มึงก็น่าจะรู้ว่ากูไม่ได้ใจดีเหมือนเมดที่จะทนมึงได้ทุกอย่างหรอกนะ ” ขู่ไปแบบนั้น แต่จริงๆ ผมก็ไม่ต่างอะไรกับเมด ที่ก็ทนมันอยู่เสมอมา แม้ทุกวันนี้จะโดนด่าว่า และถูกมองมาด้วยสายตาดูถูกยังไง ผมก็ยังไม่คิดที่จะทิ้งมันไปไหน แล้วข้อนั้น บินก็รู้ดี ว่าคำขู่ของผม มันก็เป็นแค่คำขู่ ทุกอย่างมันก็เลยเป็นแบบนี้

“ กูยอมรับว่าไปหาทางนั้นจริง ” บินพูดออกก่อนจะกดจมูกลงไปผมแก้มอีกครั้ง “ แต่กูไปเพื่อบอกกับเค้าว่า กูจะเลิกยุ่งกับเค้าแล้ว และครั้งนั้นจะเป็นครั้งสุดท้ายที่กูไปหาเค้า ”

“ อื้ม ” ผมตอบรับอีกคนด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูแล้วบินคงรู้ว่าผมไม่ได้เชื่อมัน

“ เชื่อกูหน่อย กูเลิกยุ่งแล้วจริงๆ ต่อไปนี้จะมึงคนเดียว ”

“ ถึงกูไม่เชื่อ กูก็ไม่ไปไหนจากมึงอยู่แล้ว ” หันไปบอกมันก่อนจะยื่นมือขึ้นไปประคองใบหน้านั้น เงยหน้าขึ้นจูบบนริมฝีปากของอีกคน “ แต่วันไหนที่กูหมดความอดทนขึ้นมา จำไว้ว่ามึงก็รั้งกูกลับมาไม่ได้เหมือนกัน ”  อีกฝ่ายไม่ได้ตอบอะไรเราทำได้แค่กอดกันไว้แบบนั้น

ผมไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของเรามันอยู่ในรูปแบบไหน มันเป็นแบบนี้มานานแล้วจนผมเริ่มชินชา ไม่รู้จะเรียกว่า รัก  ผูกพัน หรือแค่เหงา ต้องการ หรืออะไรสักอย่างผมไม่ใจ แต่เราอยู่ด้วยกัน กับความรู้สึกพวกนั้นมาตลอด อยู่ด้วยกัน กับความเข้าใจที่ว่า ผมเป็นรองเมด เรื่องนี้คือความลับ และอีกคนเป็นคนเจ้าชู้ที่ถ้าทนได้ก็ทน ทนไม่ไหวก็ไป แต่จะให้ไปไม่ได้ไปมันก็อีกเรื่อง ไม่ได้จำกัดความรู้สึกชัดเจน แม้กระทั้งตอนนี้ ก็ยังเป็นเหมือนวันนั้น แค่ขยับฐานะขึ้น มาเป็นที่หนึ่งแทนเมด 

“ แล้วเรื่องของเมด ถ้ามึงคิดจะทำอะไร กูขอนะ อย่าไปทำอะไรมัน ” ผมหันไปมองอีกคนยิ้มๆตอนที่บินพูดแบบนั้นท่ากลางเราที่เงียบไปนาน

“ ทำไมวะ ? มึงกลัวว่าเมดจะรู้ความจริงเหรอ เรื่องมึงไม่ใช่เจ้าของนมนั่น ”

“ แล้วมึงคิดว่า ถ้ามันรู้ความจริงกูจะได้อะไรละ ”

“ เมดก็จะเกลียดมึงไง ”

“ ตอนนี้มันก็เกลียดกูอยู่แล้ว แต่กูแค่ไม่อยากจะให้มึงเข้าไปเกี่ยวข้องกับไอ้เมดอีก หยุดได้แล้ว มึงจะไปหาเรื่องมันอีกทำไม มันก็อยู่ของมันนิ่งๆ ”

“ มึงคงไม่เห็นตอนที่มันขึ้นไอจีตอบกลับกูสินะ ”

“ แต่นั่นเพราะมึงไปทำมันก่อนไม่ใช่เหรอ ” บินก้มลงมามองผมตอนที่เงยหน้าขึ้นไปมองมันพอดี ในแววตานั้นผมรู้ดีว่าไม่มีวันเข้าไปแทนคนที่อยู่ในใจมันอย่างเมดได้ไม่ว่านานเท่าไหร่ บินอาจจะรักผม แต่มันรักเมดมากกว่า แล้วผมก็ต้องเป็นคนที่อยู่ในตำแหน่งที่สองแบบนี้ไปตลอด

“ ถามอะไรสักอย่างสิมึง ”

“ อะไร ”

“ ถ้าวันหนึ่ง มึงต้องเลือกระหว่างกูกับเมด มึงจะเลือกใคร ”

“ ไม่มีทางได้เลือกหรอก ” อีกคนพูดยิ้มๆ “ เพราะเมดมันจะไม่มีกลับมาหากูอีกแล้ว ”

“ ใครจะรู้ ”

‘ อะไรที่เราคิดว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ มันอาจจะเป็นไปได้เสมอ ’  ในชีวิตผมคิดแบบนี้อยู่ตลอด ขนาดเรื่องผมกับบินที่เมดยังคิดว่าเป็นไปไม่ได้ มันยังเป็นไปได้ แล้วทำไมเรื่องอื่นที่คิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ มันจะเกิดขึ้นไม่ได้

“ แต่ที่กูขอมึงเรื่องเมด เพราะกูอยากจะให้เราเลิกยุ่งกับเมดได้แล้ว เราอยู่ของเราดีกว่า ก็ปล่อยเมดให้อยู่ของมันไป ถ้ามึงทำได้ ทุกอย่างมันก็จบแล้ว มึงจะไปหาเรื่องกันอีกทำไม มันไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมาเลย ”

“ กูถามจริงนะ ขอถามมึงจริงๆ ที่มึงไม่หยุดพูดเรื่องนี้ ทั้งๆปกติเวลามึงเตือนอะไรกู มึงจะพูดครั้งเดียว มันเป็นเพราะเมดเปล่าวะ ทำไมอะ ? มึงกลัวมันเสียใจเหรอ ถ้ามันรู้ความจริงเรื่องทั้งหมด ”

“ ใช่ แล้วมึงไม่สงสารมันบ้างเหรอ มันเป็นเพื่อนมึงนะยีนส์ ” คำพูดที่ทำให้ผมนิ่งไป “ ไหนมึงบอกว่ามันเป็นเพื่อนที่น่ารัก ไม่เอาเปรียบใคร ช่วยเหลือคนอื่น แล้วทำไมวันนี้มึงถึงจ้องจะทำร้ายมัน เหมือนมันทำร้ายให้มึงเจ็บ แล้วก็เป็นเพื่อนที่เหี้ยแบบไม่มีข้อดีขนาดนั้นวะ หรือทุกอย่างมันเป็นเพราะกู ” หันหน้าไปอีกทางตอนที่บินพูดแบบนั้น

 ก็จริงอย่างที่อีกคนพูด มันถูกต้องทั้งหมด ผมหวนถามตัวเองในวินาทีสั้นๆนั่นเช่นกันว่า ทำไมวะ .. นั่นสิ ทั้งๆที่เมดเป็นเพื่อนที่ดีมาตลอด แต่ทำไมผมเองถึงจ้องที่จะทำร้ายมันอยู่ตลอดเวลาด้วย มันเพราะอะไรวะ เพราะอิจฉามันงั้นเหรอ อิจฉาที่มันมีความสุขกับคนที่มันรัก ผมเลยอยากจะให้รักมันพังเหมือนที่ผมกำลังรู้สึกว่ารักของตัวเองมันไม่ได้เป็นอย่างที่ใจคิด ผมรู้สึกอยากให้มันเป็นขี้ปากชาวบ้านอย่างที่ผมเป็นบ้าง อยากให้ใครต่างก็มองมันด้วยท่าทางรังเกียจ ไม่ใช่สงสารแล้วเห็นใจแบบนี้ หรือเพราะว่า ผมคิดอยู่ตลอดว่าบินรักเมด ผมเลยรู้สึกเกลียดมันอยู่แบบนี้

“ ถ้ามันเป็นเพื่อนที่ดีกับมึง อย่างที่มึงบอกกูจริงๆ เพื่อเพื่อนที่ดีคนหนึ่งในชีวิตของมึง ปล่อยมันไปเถอะ อย่างที่มันพูดขอร้องมึงไง ว่าต่อไปนี้ให้คนต่างอยู่ได้มั้ย มึงทำให้มันเถอะ ตอบแทนความเป็นเพื่อนที่ดีของเมดที่ตลอดทั้งชีวิต มันให้มึงมาตลอด ”

“ แล้วมึงละ ”

“ กูทำไม ”

“ ไม่อยากจะได้เมดกลับมาเหรอ ” คำถามทีทำให้คนฟังถอนหายใจออกมา บินมองหน้าผมอยู่สักพักก่อนจะยิ้มแล้วก็ตอบ

“ ถ้าถามว่าอยากได้กลับมามั้ย ตอนแรกที่มันบอกเลิกกูที่ใต้คอนโด เมดพูดคำหนึ่งกับกู มันบอกว่าถ้ารักมันจริงๆอย่างที่พูดก็ขอให้ปล่อยมันไป ตอนนั้นกูคิดว่า ‘ อื้ม ก็จะทำให้อย่างที่ขอ ’ แต่พอกูมาเจอมันอีกครั้งที่โรงพยาบาลสัตว์ กูเห็นมันมีความสุขอยู่กับน้องชายไอ้อาฟ กูเห็นมันโดนดูแล โดนเอาใจ ทั้งๆที่มันเป็นแค่น้องไอ้อาฟ แล้วลองคิดดูว่าถ้าเป็นไอ้อาฟมันจะดูแลขนาดไหนวะ พอคิดแบบนั้น กูแม่งก็รู้สึกว่ากูอยากทำอะไรแบบนั้นบ้าง กูอยากกลับไปดูแลเมด กูอยากอยู่กับเมด กูเลยตัดสินใจไปหามันที่ throw up กูคิดโง่ๆว่า กูเหนือกว่าไอ้อาฟทุกอย่างเมดต้องกลับมาหากูแน่นอน ” อีกคนยกยิ้มราวกับกำลังจะหัวเราะตัวเอง

“ แล้วนั่นแม่งก็เป็นความคิดที่โง่ที่สุดในชีวิตกูเลย ตอนที่กูได้เจออาฟที่นั่น กูพูดโอ้อวดทุกอย่างทั้งๆที่กูไม่มีอะไรเทียบมันได้สักอย่างเดียว อาฟมีมากกว่ากู ให้ได้มากกว่ากู มันทั้งรัก แล้วก็ปกป้องเมด ผิดกับกูที่แม้ตอนนั้นอยากได้เค้ากลับมา แต่กูกลับพูดให้ร้ายเค้า แล้วพอสุดท้ายกูเจอเมด สิ่งที่กูเห็นจากแววตานั้น คือเมดที่ไม่ได้มองกูเลย มันมองแค่ไอ้อาฟเท่านั้น มันยิ้ม แล้วมันก็หัวเราะให้กับไอ้อาฟ เมดดูมีความสุขโดยที่ไมได้หันมามองกูเลยสักนิด แล้วตอนนั้นมันก็ทำให้กูได้รู้ ว่าเมดไม่ได้รักกูอีกแล้ว คืนนั้นก็โดนพาตัวออกจากผับ กูเข้าไปนั่งในรถตัวเอง กูนั่งอยู่นาน แล้วกูก็คิดถึงคำพูดของเมด ‘ ถ้ารักกันจริงๆ ก็ขอให้ปล่อยมันไป ’ แล้วกูก็ควรทำแบบนั้นไม่ใช่เหรอวะ ในฐานะที่ครั้งหนึ่ง เมดเคยเป็นแฟนที่ดีมากๆ แล้วกูก็ควรปล่อยให้เค้าได้รักกับคนที่มันเหมาะสมแล้วก็รักเค้าจริงๆ ”

“ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคำพูดนี้จะหลุดออกมาจากปากของมึง ” บินยกยิ้มตอนที่ผมพูด มือหนานั่นเอื้อมขึ้นมาลูบหัวผม “ แต่บางทีมึงแม่งก็โคตรใจร้ายนะบิน กล้าสารภาพกับกูตรงๆว่าอยากได้ไอ้เมดกลับมาทั้งๆที่ ตอนนี้กูก็อยู่กับมึง นี่ถ้าเมดกลับมาจริงๆ มึงจะทิ้งกูใช่มั้ย ”

“ คงงั้น ”

“ ก็เหี้ยดี ” บอกอีกคนก่อนจะถอนหายใจออกมาแล้วหันไปมองทางอื่น

“ เราไม่มีอะไรที่ต้องโกหกกันนี่ มึงรู้จักกูดี แล้วมึงก็รู้คำตอบพวกนั้น แล้วจะให้กูโกหกมึงทำไม ” บินจับไหล่ผมก่อนจะดึงให้นอนราบลงกับเตียง ร่างสูงที่พลิกตัวขึ้นมาค่อมทับร่างของผม บินเริ่มกอดและจูบพลางใช้มือข้างนึงสอดเข้าไปใต้เสื้อที่ผมสวมใส่ ก่อนจะกระซิบข้างหูผมในตอนนั้น “ ปล่อยเมดมันไปเถอะ เรามาใช้ชีวิตของเราดีกว่า ”

ช่วงเวลาบ่ายโมงภายโต้ต้นไม้ใหญ่โต๊ะหน้าคณะที่ผมกำลังนั่งอยู่ มันไม่ถึงกับเงียบเชียบแต่ไม่เสียงดังมากมายจนรู้สึกรำคาญ สายตาของผมไล่ไปตามตัวอักษรของหนังสือที่กำลังอ่านทบทวน ข้างๆเป็นไอ้จิงเพื่อนสนิทที่เหลือเพียงคนเดียว และตอนนี้มันกำลังพักสายตาด้วยการเล่นไอแพตของตัวเอง

“ ไอ้เมดอัพไอจีอีกละ ” อีกคนบอกผมก็เงยหน้าจากหนังสือที่อ่านขึ้นไปมองอีกคนที่ก็ยื่นภาพนั้นจากจอไอแพตให้ผมดู “ ขนมปังเนยโสด แต่คนกินไม่โสดแล้วนะครับ วิ้ววว ” จิงอ่านออกเสียงสำหรับแคปชั่นในภาพนั้น ภาพที่ไม่ใช่ภาพของเมด แต่เป็นภาพของอาฟแฟนมันที่กำลังคาบขนมปังเนยสดของร้านดังอยู่ในปากด้วยท่าทางที่นิ่งจนแทบดูไม่ออกว่า อร่อยหรือไม่อร่อย เป็นภาพอีกภาพนึงที่ถ้าไม่อคติก็รู้สึกว่าน่ารักดี

“ มึงไปกดไลค์มันอีกอะดิ ”

“ ไม่อะ รอบที่แล้วแค่เผลอมือมันไปโดนแค่นั้น ” ผมพยักหน้ารับ “ มีคนเม้นท์ถามมันด้วย ว่าตกลงอร่อยหรือเปล่า เพราะหน้าแฟนมันดูเหมือนไม่อยากจะแดกเท่าไหร่ ”

“ แล้วไอ้เมดว่าไง ”

“ มันบอกอร่อย ไอ้อาฟกินไปตั้งสามชิ้น ” จิงเงยหน้าขึ้นบอกผม “ แต่ไอ้เมดมีอะไรบ้างที่ไม่อร่อย เชี้ยนั่นแม่งก็อร่อยทุกอย่าง ”

“ ก็จริงของมึง ”

“ จำตอนสมัยปีสองที่เราไปทัวร์กินที่วังหลังได้มั้ย ”

“ จำได้ ไอ้เชี้ยเมดถึงขั้นต้องซื้อกระเป๋าผ้าแล้วแบกของกินกลับบ้าน มันเคี้ยวไม่หยุดปาก แดกจนปวดท้องเพราะจุก ” ผมกับจิงหลุดยิ้มให้กัน ก่อนอีกคนจะหันกลับไปมองภาพนั้นแล้วพูดขึ้นมา

“ กูถามอะไรมึงหน่อยสิ ”

“ ว่า ”

“ มันเป็นไปได้เหรอวะที่เมดมันจะลืมบล็อกไอจีเก่าของเราแบบนี้ทั้งๆที่มันก็น่าจะจำได้ว่าเรามี ไอจีลับที่ฟอลมันไว้อีกคนละอัน ” ผมหันไปมองหน้าจิงที่ก็เอียงหน้าถามกันยิ้มๆ “ กูว่ามันเหมือนจงใจ ยังเหลือไว้ให้เราได้เห็น ว่ามันมีความสุขมากแค่ไหนกับไอ้อาฟ ”

“ มันอาจจะลืมจริงๆก็ได้ เราก็ไม่ได้เล่นไอจีนี้นานมากแล้วนะมึง ”

“ เหรอวะ ” จิงพูดแบบนั้นก่อนจะพยักหน้ารับ

“ กูว่าเราเลิกสนใจมันเถอะ เราควรทำตามที่มันขอร้อง ” ผมเว้นเสียงไปก่อนจะหันไปมองคนข้างๆ “ อย่างที่เมดบอก ต่างคนต่างอยู่น่าจะดีที่สุด ”

“ อะไรที่ทำให้มึงคิดแบบนี้วะ ”

“ บินบอกว่าให้กูเลิกยุ่งกับเมดได้แล้ว ปล่อยมันไป แล้วก็ใช้ชีวิตของเราดีกว่า ”

“ แล้วที่มันพูดแบบนั้นไม่ใช่ว่ามันยังรักเมดอยู่หรอกเหรอวะ ” ผมหันไปมองจิงที่พูดสิ่งที่อยู่ในใจของผมออกมา

“ มึงก็คิดแบบนั้นเหรอ ”

“ แล้วไอ้บินมันพูดอะไรกับมึงบ้างละ ”  คำถามนั้นชวนให้ผมเล่าทุกอย่างออกไปในคำพูดของบินทั้งหมดที่พูดกับผมเมื่อวันก่อน จิงที่นั่งฟังเงียบๆ มันพูดขึ้นหลังจากที่ผมพูดจบ “ กูว่ามันก็แค่ยังรักเมด ก็เลยต้องปกป้องเมดจากมึง หรือว่ามึงไม่คิดแบบนั้น อย่าโกหกกูเลย กูรู้ว่ามึงรู้สึก มึงเองก็ยังคิดว่าบินยังรักไอ้เมดอยู่ ” 

“ อื้ม กูคิด ” พยักหน้ารับคำพูดของอีกคนก่อนจะถอนหายใจออกมา “ แต่มันก็ควรหยุดได้แล้วหรือเปล่าวะ ไอ้เมดมันก็ไม่ได้มายุ่งอะไรกับเราอีกแล้ว มันก็อยู่ของมัน มีความสุขของมัน กูว่ามันควรจะพอได้แล้ว แบบที่บินว่า ”

“ เกิดเป็นเมดแม่งก็โชคดีนะมึงว่ามั้ย มีแต่คนปกป้อง ”  ผมนิ่งตอนที่อีกคนพูดแทรกขึ้น “ ขนาดไอ้บินที่ตอนนี้เป็นแฟนมึงแล้ว ยังปกป้องเมดมากกว่ามึงเลย ถามจริงๆเถอะวะ มันเคยปกป้องมึงจากคนที่นินทา หรือจากสายตาของคนอื่นแบบที่มันปกป้องไอ้เมดบ้างมั้ยวะ ”

ได้แต่หลับตาลงตอนที่ฟังคำพูดนั้น ผมถอนหายใจเพราะตัวเองไม่มีคำตอบ ไม่รู้จะพูดอะไรออกไปในตอนนั้น มันก็จริงอยู่ที่อีกคนพูด ผมไม่เคยถูกปกป้องเลย ไม่เคยมีใครสงสาร ทุกสายตาที่มองมา มีแต่ความเกลียดชังและสมเพชตัวผม และเพราะแบบนั้น บินกับผมในตอนนี้เลยเลิกที่จะนั่งกินข้าวด้วยกันที่มหาลัย เราห่างกันมากขึ้น และตัดสินใจกินข้าวแค่ในห้อง หรือร้านอาหารข้างนอก เพื่อหลบเลี่ยงสายตาด่าทอของใครๆ ก็อย่างที่เมดเคยบอก ที่นี่ เค้ารู้จักผมในชื่อของ ‘ ยีนส์บัญชีคนที่แย่งแฟนเพื่อน ’ เท่านั้น

“ ถึงมึงจะเหี้ยที่เอากับแฟนเพื่อน แต่ก็ใช่ว่ามึงจะต้องไม่ได้รับการปกป้องนะยีนส์ ” จิงบอกผม “ กูว่าบินมันควรปกป้องมึงมากกว่าเมดไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมมึงต้องยอมฟังคำสั่งบิน เพื่อตอบรับการปกป้องไอ้เมดจากไอ้บินด้วยวะ ”

 “ มึงคิดว่าเมดเป็นเพื่อนที่ดีมั้ยวะจิง ” ผมถามอีกคนที่ก็นิ่งไป “ ตั้งแต่เด็กจนโตที่เรารู้จักกันมา มึงคิดว่าเมดมันเป็นเพื่อนที่ดีมั้ย ”

“ ก็.. ก็ดี ” อีกฝ่ายพูดเสียงเบา ผมก็พยักหน้ารับ

“ นั่นคือคำถามของบิน ตอนที่ขอร้องให้กูเลิกยุ่งกับเมด กูมานั่งคิดว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา มันเป็นเพื่อนที่ดีของกูคนหนึ่ง แล้วกูก็ควรหยุดได้แล้ว ควรหยุดอย่างที่มันขอ หยุด เพื่อตอบแทนความเป็นเพื่อนที่ดีของมัน ชีวิตมันน่าสงสารพอแล้ว ”

“ ยังไงวะ ”

“ บินไม่ใช่คนที่ให้นมช็อกโกเล็ตนั่นกับมัน ไอ้บินโกหกมัน แล้วคนที่ให้จริงๆ คือเพื่อนสนิทไอ้อาฟ ที่ตอนนี้เป็นแฟนมัน แล้วมึงลองคิดดูสิ ตอนนั้นเมดที่ทนไอ้บินมาตลอด เพราะคิดว่าไอ้บินให้นมช็อกโกเล็ตขวดนั้นกับมัน มันจะรู้สึกยังไงถ้ารู้ว่าความจริงแล้ว บินก็แค่โกหกมัน ”

“ แล้วมึงไม่คิดบ้างเหรอ ว่าสิ่งที่ไอ้บินมันกำลังปิดบังอยู่มันไม่ได้กลัวไอ้เมดเสียใจหรอก มันแค่กลัวว่าเมดจะเกลียดมันก็เท่านั้น เพราะสิ่งเดียวที่เมดยังรู้สึกดีกับมัน นั่นก็เพราะ เมดคิดว่า บินเป็นเจ้าของนมนั่น ” จิงเอื้อมมือมาจับไหล่ผม มันกระซิบ “ บินมันก็แค่ยังรักเมดเท่านั้นแหละ มันเลยยังปกป้องเมดแล้วก็ปกป้องตัวมันในความทรงจำของไอ้เมด แล้วมึงคิดดีแล้วเหรอวะ ที่จะปล่อยให้มันเป็นแบบนั้น ความทรงจำดีๆ ก็เหมือนกับความรู้สึกดีๆ ถ้ามันยังอยู่ มันก็มีสิทธิ์กลับมา แล้ววันนั้นมึงคิดว่า บินจะเลือกมึงเหรอ ไม่ทางหรอก ยังไงมันก็เลือกไอ้เมด ”

“ มึงคิดจะให้กูทำอะไรมันกันแน่วะจิง ” ผมหันไปถามอีกคน จิงมองผมด้วยแววตาที่เหมือนจะยิ้มแต่ทว่าสีหน้านั้นกลับเรียบเฉยไร้อารมณ์ใด

“ ถ้าเป็นกู กูจะบอกเมด เรื่องความจริงที่ไอ้บินไม่ใช่เจ้าของนมนั่น ”

“ แต่ไอ้เมดมันจะเสียใจมากนะ เพราะตลอดเวลาที่มันทนไอ้บินได้ขนาดนั้นก็เพราะมันคิดว่า ไอ้บินซื้อนมนั่นให้มัน มันคิดว่าไอ้บินรัก แล้วพยายามเพื่อมัน.. ”

“ หรือมึงจะยอมเสียใจเองละยีนส์ ” จิงพูดขัดผม “ ถ้าสักวันหนึ่งเมดกลับมารักกับบิน มึงเองก็คือคนที่ถูกทิ้งนะ เมดเสียใจไม่ใช่มึงเสียใจสักหน่อย แล้วมันควรขอบคุณมึงด้วยซ้ำ ที่ทำให้มันรู้ความจริง ” ผมเงียบในตอนนั้นตัวเองก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา “ มึงบอกว่าเมดเป็นเพื่อนดี เพราะงั้น เราก็ไม่ควรให้มันเข้าใจผิดอยู่แบบนี้หรือเปล่าวะ ”

“ แต่ว่า ”

“ ลองคิดดูให้ดี ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว เมดจะเกลียดบินและยิ่งไม่อยากจะยุ่งไอ้บินอีก มึงก็ไม่ต้องกลัวว่ามันจะเหลือเหยื่อใยดีๆให้กัน ต่อให้มันเลิกกับไอ้อาฟมันก็ไม่มีวันจะกลับมารักกัน เมดเองมันก็จะได้เลิกเข้าใจผิดสักที ถึงมันจะเสียใจมากก็เถอะ แต่นั่นก็ไม่ใช่มึงปะ ”

ในเสี้ยววินาทีนั้นผมคิดขึ้นมาได้ว่า ‘ เมดจะเกลียดผมได้มากกว่าที่มันเป็นอยู่หรือเปล่า ’

...............................................................................

ไม่รู้ว่าเมดจะเกลียดยีนส์มั้ย แต่ที่รู้ เราเกลียด
เป็นตอนที่เขียนด้วยความรู้สึกเจ็บปวดใจมาก น้องเมดไม่ได้ออกฉากเลย แค่พูดถึง แต่กลับสงสารน้องเมดมาก แล้วก็สงสารยีนส์ในมุมมองหนึ่ง เราตัดสินใจนานมากกับการจะเขียนพาสของยีนส์ เพราะรู้สึกว่า คนอ่านคงไม่อยากอ่านหรอก  ตอนแรกคิดว่าจะไม่เขียนด้วย จะเขียนในมุมมองคนอื่นแทน แต่เราคิดว่า การมองผ่านมุมมองของยีนส์จะทำให้ทุกคนเข้าใจเรื่องราวมากขึ้น มากกว่าใครๆ ( หนมคิดว่างั้นนะ )
 

สุดท้ายนี้ ขอฝากไว้ว่า “ คบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณทิตพาไปหาผล

ฝากแท็ก #ผับชั้นสาม ในทวิตเตอร์ด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์ เจอกันตอนหน้าจ้า ตัวเธอว์

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ตกลงจิงน่าจะร้ายกว่ายีนส์นะเนี่ย

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
จิงนี่คือตัวเสี้ยมเลยอ่ะ ตั้งแต่แรกเลยจนถึงตอนนี้ยีนส์จะไม่บอกเรื่องนมแต่จิงก็ยังเสี้ยมให้บอกอยู่นั่นแหละ ยีนส์ก็คิดเองบ้างดิก็พูดเองว่าเมดเป็นเพื่อนที่ดี อย่าทำร้ายเพื่อนซ้ำๆ ต่างคนต่างอยู่ จบนะ  ส่วนจิงต้องมีปมอะไรซักอย่างแน่เลย

ออฟไลน์ Gokusan

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-1
โอ้โห~~~ คดีพลิก!!
คือบินกับยีนส์ก็ไม่ใช่คนดีอยู่แล้ว
แต่จิงนี่ยิ่งกว่า!! หาความจริงใจใดๆ ไม่ได้เลย ผู้ร้ายตัวจริงที่แท้ทรู!!

คนที่เสี้ยมยืมมือคนอื่นทำให้อีกคนเจ็บใจและสูญเสีย ไม่ควรมีที่ยืนจริงๆ อ่ะ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ตอนแรกยังคิดว่าจิงยังพอหลงเหลือความเป็นเพื่อนให้เมดนะแต่อ่านพาสยีนส์แล้วกลายเป็นว่าจิงคือคนที่เรียกได้ว่ายุให้ยีนส์เหี้ยกับเมดอ่ะ พูดชี้ทางให้ยีนส์แอบแดกแฟนเพื่อน นี่ยังพูดชี้ทางให้ยีนส์ฟ้องเมดเรื่องที่บินไม่ใช่เจ้าของนมอีก
 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ข้าวสวย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
สารภาพเลยว่าไม่ได้ตอนแรกๆเลย กลัวรับไม่ได้ กลัวอินจนคิดมากอีก เพราะเคยอินจนปวดหัวมากๆกับตอนที่ยีนส์พูดแย่ๆใส่เมดว่าเมดดีเกินไปเลยไม่มีใครทนได้
มาครั้งนี้เลือกอ่านเมเนก่อน แล้วค่อยๆอ่านจากล่างขึ้นบน55555555สุดท้ายก็อ่านจากล่างได้นิดเดียวจริงๆไม่กล้าอ่านต่อ เพราะทนไม่ได้55555
หมดคำพูดกับคนแบบจิง ยีนส์ บินแล้วอ่ะ ก็ให้ชีวิตอย่าเจออะไรแบบนี้เลย555555555555555 อยากดูบทเรียนราคาแพงของ3คนนี้อ่ะ โดยเฉพาะจิง ควรต้องซมซานมาขอโทษเมดอ่ะแล้วโดนอิอาฟกระทืบซ้ำ :fire:

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1
หูยยยย จิงสินะที่ร้ายลึก!!
ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวซะเองเลย ไม่ต้องลงมือทำอะไร แค่ยุเบาๆ แถมยุมาตลอด ...

เมื่อเมดรับรู้ เมดจะได้ไม่หวนคืนหาบินหากเลิกกับอาฟ ยีนส์กลัวแค่ตรงจุดนี้ ...

ส่วนยีนส์ ตกเป็นเครื่องมือของจิง ลงมือทำร้ายเมดอีกครั้ง ไม่ฟังบินแม้จะคิดได้ ลืมไปว่าจะส่งผลกับตัวอย่างไร แค่อยากเป็นที่หนึ่ง อิจฉานี่แหละตัวดี ...

สำหรับจิง เธอคงเสร็จบินไปแล้ว เธอร้าย เธออยู่เบื้องหลัง เธอจิตมาก นี่กับคนที่ได้ชื่อว่าเพื่อนนะ เราว่าวิธีคิดแบบนี้ไม่เรียกสุดโต่ง และไม่ควรเรียกว่าเป็นคนรักเพื่อนด้วย ไม่ใช่เลย!! ...

แด่เอม กลายเป็นคนที่มาจีบเมดไปซะแล้ว! เรารออยู่นะว่านายจะกลับไทยเมื่อใด เอมผู้ไขปริศนา ...

อาฟ ถึงวันนั้น เชื่อว่าจะอยู่ข้างเมด คอยอยู่ข้างๆ
อย่างแน่นอน อาฟรักของอาฟ อาฟดูแลได้อย่างดี อาฟจะไม่ปล่อยมือ ว่าแต่ อาฟจะกล้าบอกความจริงไหมเมื่อวันนั้นมาถึง ...

เมด แค่ผิดหวังที่ถูกหลอกก็พอนะ อย่าได้เสียใจ สงสารอาฟ รู้ความจริงเมื่อไหร่เมดจะดีใจ และจะรักอาฟมากขึ้นอีกเยอะ ...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-11-2018 22:47:50 โดย arjinn »

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 578
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
 :m31: โกรธมากกกก ทำไม่จิงเป็นคนที่แย่แบบนี้....  :m31: แล้วนี่ก็นะ... ถ้าน้องโดนทำร้ายจิตใจอีด อาฟก็จะให้น่องเฉยๆอีกเหรอ....   :ling1:  :ling2:  :ling2: คือพาน้องไปบวชไหมมม ถ้าจะเย็นได้ขนาดนี้  :m16:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
โอโหห พลิกล๊อคกันน่าดู ถล่มทลาย อิอิ จิงคือผู้ร้านตัวจริง :z6: :z6: :z6:

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
คือเห็นมาอัพตอนใหม่ กดเข้ามาก็ไถอ่านคห. ก่อนอ่าน

ละคือ จ้าาาา  :z6: จิง! สุดยอดจริงๆ ดีที่อ่านคห.ก่อน

ไม่งั้นหัวร้อนค้างแน่ๆ อ้อหอ ไม่กล้าอ่านเลยค่ะสารภาพ

ขอดองไปอีกตอนนะ แบบรอให้ผ่านพวก 3 คนนี้ก่อน

หัวร้อนมาก ขนาดแค่ยีนส์ก่อนๆ หน้ายังหัวร้อนจนปวดหัว

เจอจิงไปนี่เราคงไมเกรนขึ้น ขอดองค่ะ 555 ขอผ่านก่อน

แต่มาเม้นให้กำลังใจผู้แต่งค่ะ เขียนดีละเกิน

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
โอ๊ะโอ...........จิง เลวที่สุดที่แท้ทรูจิงๆ
สรุปเพื่อนรักร่วมกลุ่มของเมด มีความดำมืดในจิตทั้งยีนส์ ทั้งจิง  o22 o22 o22
เมด ใสซื่อสุด เป็นนางฟ้าเลย  :mew1:
บิน ไม่ใช่มีแค่เมด ยีนส์ ยังมีทั้งชายหญิงอีกเพียบ  :serius2:
ตอนนั้นทำไมทั้งเมด ทั้งยีนส์ยอมรับได้นะ เพราะรักเหรอ  :fire:
รักเราแต่มั่วเซ็กส์ไปหมด ส่ำส่อนอย่างนี้มันเอาเปรียบ เห็นแก่ตัวสัดๆ  :z6:
แล้วจิงจะแค่เสี้ยมแค่นั้นหรือ ไม่ใช่ถูกบินกินเรียบไปแล้วแต่ไม่เปิดเผยนะ   :m20: :laugh:

เอม แน่มาก ตัดเพื่อนกับบินไปเลย  :katai2-1:
จิงแนะนำยีนส์ เพื่อให้เรื่องมันแตกร้าวกันไปอีก
แต่ก็ดีนะความลับสมควรเปิดเผยแล้ว ตัวจริงฝังเก็บเงียบลึกสุดๆซะ   :z3:

อาฟ  เมด  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ HydrA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-2
จิงเป็นคนที่นิสัยไม่ดีมากๆเลย อยากจะบอกเมดกันนักใช่ไหม บอกไปเลย ดีซะอีกเมดจะได้รู้ซะทีว่าแท้ที่จริงอาฟตางหาก แต่ก็นะ อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ อาฟพวกนั้นไม่หยุดที่จะทำร้ายเมด คงต้องให้อาฟให้บทเรียนคนพวกนั้นบ้างแล้วล่ะ

ออฟไลน์ palm-metto

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
สรุปแล้วจิงเหี้ยสุด

ปั่นทุกทาง
เผลอๆ นางก็ชอบบิน แล้วรอยที่คอตอนก่อนหน้านั่น ก็อาจจะเป็นของบิน

พออ่านพาร์ทยีน นี่เข้าใจยีนมากขึ้นนะ .. และได้รู้สันดานจิงเพิ่มมากขึ้นด้วย ว่านางคือผู้อยู่เบื้องหลังทุกอย่าง

แต่นี่คิดว่าให้ยีนบอกเรื่องนมผิดกล่องก็ดีนะ
บางเรื่องหรือหลายๆ เรื่อง อาจจะเฉลยความจริงตอนนั้นเลยก็ได้

อดใจรอทิตหน้าไม่ไหวแล้วอ่ะ
ไม่น่าแวปมาอ่านก่อนเลย
โคตรค้าง

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
ว่าแล้วสงสัยจิงมาแต่แรกแล้วตัวเสี้ยม
ยืมมือยีนต์ทำลายเมดตัวอิจฉาเงียบๆ
แปลกๆทำตัวง้อเมดตลอดเวลาให้เมดมองดูตัวเองเป็นกลางทำให้เมดมองยีนต์เลวแต่เมดกลับเกลียดทั้งคู่นี่ยังสงสัยอยู่นะว่าน่าจะนอนกับบินแล้วด้วย

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด

ออฟไลน์ nsai.ss

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 412
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-2
จิงเป็นแบบนี้เราเลยรู้สึกว่า...จริงๆแล้วจิงกับบินนี่มันต้องมีอะไรแน่ๆ
ยิ่งถ้ายีนส์บอกเมดไป...เราว่าบินต้องไม่โอเคแน่ๆ แล้วสุดท้าย...บินคงมาอยู่กับจิงอ่ะ ไม่ใช่ยีนส์

อยากจะบอกว่า...พี่เอ๊มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม กลับมาได้แล้ววววววววววว~

ออฟไลน์ Yoghurt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
    • แฟนเพจ
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ชอบพาร์ทนี้มากเอาจริงๆ คือพี่ขนมเขียนพาร์ทนี้ดีมาก

ดีใจที่มีพาร์ทของยีนส์อ่ะ อยากรู้มานานแล้วว่า เพราะไรวะอยู่เอาผัวเพื่อนไปกิน เห้ย มันใช่หรอวะยังไง ไหนที่ไปที่มา
นั่น...แล้วมันก็มาค่ะยู้วววววว คือเอาจริงๆ เราสงสารยีนส์อ่ะ สงสารก็ไม่ได้บอกว่ายีนส์ไม่ผิดนะ ยีนส์ผิด แต่ว่าถ้าเราลองมอง
ในมุมมองของยีนส์อ่ะ นี่คิดนะว่ายีนส์คงชอบบินตั้งแต่เห็นแล้ว อยู่ๆวันนึงคนๆนั้นแม่งกลายมาเป็นเเฟนเพื่อนสนิท เวนเอ๊ย
เงิบๆๆๆ o22 เราคิดว่าในโลกนี้ทุกคนต้องมีมุมเห็นแก่ตัวอ่ะ ทุกคนรักตัวเองทั้งนั้น แต่ทุกคนต่างกันในจุดที่ว่าจะมีความเห็นแก่ตัวมากหรือน้อยเท่านั้นเอง แล้วเรื่องของความรักอ่ะ มันยากมากเลยนะ มันเป็นเรื่องที่ควบคุมไม่ได้ ถ้าเราเลือกรักใครได้ นี่คิดว่ายียส์ก็คงไม่เลือกรักบินหรอก แต่แล้วไง ในเมื่อมันทำแบบนั้นไม่ได้อ่ะ ยีนส์มันก็เลือกเลิกรักบินไม่ได้ คือในจุดนี้น่าสงสาร แต่ยีนส์ผิดที่ยีนส์แอบไปอ๊อดๆตะติ้งแกรชแสคชกับบินอ่ะ คือคิดน้อยอ่ะ มันไม่มีหรอกครั้งเดียวถ้ามันได้มี1มันต้องมี2 คือนั่นแหล่ะยีนส์ผิด และอิบินก็ผิดอ่ะ แต่ๆๆๆ จิงแม่งแบบ...มึ๊งงง ตะไมขี้เสี้ยม เป็นไรอ่ะคุณ คำพูดที่จิงพูดกับยันส์โคตรต่างเวลาคุยกับเมดอ่ะ คือมันแบบ...อินี่มันร้ายนะคะหัวหน้า ตบมัน! :z6: ........ เราสงสารยีนส์ หวังว่าสักวันอิบินจะหยุดอยู่ที่ยีนส์จริงๆนะ แต่ว่าตอนนี้พอได้อ่านแล้วก็แบบ เออบินมันก็มีมุมความคิดได้นะ คิดเสมอว่า คนเลว...มันต้องเลวเสมอหรอวะ นี่ไงที่ไปที่มา คือพี่ขนมเขียนได้ดีมาก มันมีแก่น มีเนื้อหามีสาระมีความเป็นไปอ่ะ  ... แล้วนี่ถ้าเป็นยีนส์ก็อยากถามเหมือนกันว่ามึงสงสารเมด แล้วมึงไม่สงสารกูหรอ เราสงสารยีนส์ในจุดนี้อ่ะ ไม่ใช่ว่าคนผิดจะไม่น่าสงสารอ่ะ

รอนะจ๊ะ รอว่าจะอะไรยังไงทำไม จะได้พุ่งเข้ามาตบจิงไหม เอ๊ะๆๆๆๆ

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
กลายเป็นจิงแสบสุด ปั่นหัวยีนส์ให้ทำในสิ่งที่ผิดจนโดนเกลียดไปทั่ว แล้วยังทำตัวเป็นคนดีกับเมดกับคนอื่น ดูเป็นคนรักเพื่อน ที่ไหนได้ปั่นหัวทุกคน
อดสงสัยไม่ได้ว่าจิงก็แอบรักบินไปด้วยอีกคน น่าจะแอบไปมีอะไรกับบินไปแล้ว

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด