ตอนที่ 28
[ อยู่ไหน ทำอะไรอยู่ ] ข้อความที่ถูกส่งไปไม่มีคนอ่านและไม่มีคนตอบมาร่วมสิบนาทีแล้ว ผมเลิกคิ้วกับตัวเองก่อนจะยกยิ้มอยู่เงียบๆ กับหน้าจอมือถือตรงเก้าอี้ตัวโปรดส่วนบาร์ที่ก็นั่งอยู่เป็นประจำทุกวัน
“ ท่าทางจะอยากมีคนลองดี “ พูดกับตัวเองก่อนจะพิมพ์ข้อความส่งเข้าไปหาอีกครั้ง [ ถ้ามึงยังไม่ตอบกูภายในห้านาทีนี้แล้วละก็.. ]
[ อยู่ห้อง พึ่งถึงพี่อาฟพี่เมดเพิ่งมาส่งไอ้สัด แล้วถ้ารีบมากทำไมไม่ถามมาตั้งแต่เมื่อวานวะ ]
[ เมื่อวานกูยังไม่มีไลน์มึง แล้วพูดกับกูให้มันสุภาพหน่อยน้อง ]
[ อยู่ห้องครับลุง ]
[ กูอายุเท่าพี่เขยมึงมั้ย ไอ้เด็กเวร ] ผมเผลอยิ้มกับความดื้อของมันในตอนที่อ่านข้อความที่ส่งเข้ามานั้น [ หน้าพี่เขยมึงแก่กว่ากูอีกมั้ง ]
[ เออ กูไม่เถียงมึงเหมือนกันลุง หน้าพี่อาฟแก่จริง ] หลุดหัวเราะออกกับคำพูดตรงๆของมัน [ แต่กูเรียกพี่เขยกูว่าลุงไม่ได้ไง แต่กูจะเรียกมึงได้ เพราะมึงบอกเองว่าอยากจะให้กูสุภาพกับมึง แล้วนี่กูก็สุภาพกับมึงอย่างที่สุดแล้วนะ ไม่ชอบเหรอ ]
[ กวนตีนไอ้สัด ]
[ แล้วส่งข้อความมามีอะไร ว่างมากเหรอสัดลุง ]
[ กูแค่อยากรู้ว่ามึงอยู่ไหน แล้วอย่าโกนะเพราะถ้าโกหก มึงคงรู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้น ]
[ ขู่จังน้า แล้วทำไมกูต้องโกหก มึงเถอะ เก็บความลับกูไว้ให้ดีแล้วกัน ]
[ ยังคิดไม่ออกเลยน้า ว่าจะทำยังไงกับมึงดีเพื่อแลกกับการเก็บความลับ ]
[ กูไม่รู้ แต่ถ้าเงี่ยนก็เอาไปสอดกับซอกโซฟาแล้วกัน ]
[ เอาจริงๆ ตอนแรกกูไม่ได้คิดเรื่องอะไรแบบนี้เลยนะ แต่มึงพูดมาขนาดนี้ก็เหมือนเชิญชวน บางทีนะกูว่า..]
[ หยุดความคิดเหี้ยๆของมึงไว้ตรงนั้น ] ข้อความของคนปากร้ายที่ส่งกลับมาแบบไม่มีที่สิ้นสุด แต่ก่อนที่ผมจะชวนอะไรคุยกับมันมากกว่านั้นอีกฝ่ายก็บอกปัดออกมาก่อนจนผมต้องลบข้อความตัวเองทิ้งไป [ กูจะไปอ่านหนังสือละ พรุ่งนี้มีสอบ บายนะลุงมึง ]
[ อ่านให้จริงแล้วกันสัด ]
[ เสือก ]
[ พูดเสือกมากๆระวังความจริงจะลอยเข้าหูพี่ชายมึง ]
[ เบื่อเถียง บายลุง ] ผมกดปิดมือถือตัวเอง ตอนที่ยกเบียร์ที่อยู่ตรงหน้าขึ้นกิน คนที่ยืนเช็ดแก้วอยู่ตรงบาร์อย่างไอ้อัยย์ก็ถามขึ้น
“ ถามจริงดิ มึงได้กับน้องพี่เมดแล้วจริงๆเหรอ.. คือกูยังช็อค ยังรู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องจริง “
“ เออ “ ผมตอบย้ำอีกคนที่ถอนหายใจออกมา วันนี้หลังจากที่ไอ้อาฟไอ้เมดหันหลังออกไปจากผับ ผมก็โดนรุ่นน้องขี้เสือกสองคนซักจนซีด สุดท้ายเลยต้องยอมเล่าความลับทั้งหมดไป ก่อนจะกำชับไว้ว่า ห้ามเล่าใครเด็ดขาดเพราะมีแค่ พวกเราสี่คนที่รู้ แล้วถ้ามันรั่วไหลเมื่อไหร่ ก็เตรียมตัวตายกันได้เลย “ จะช็อคทำเหี้ยไรวะ “
“ ช็อคเรื่องแรกคือ ไม่คิดว่าน้องพี่เมดจะเป็นคนแบบนั้น เพราะพี่เมดก็ดูเรียบร้อย น้องมันก็ต้องไม่ต่างกันเปล่าวะ ถูกเลี้ยงมาด้วยกันอะ ”
“ ถูกเลี้ยงมาด้วยกัน ไม่ได้จะมีนิสัยเหมือนกันนะมึง “ อธิบายคนตรงหน้าก่อนจะเชิดหน้าไปที่ไอ้เดย์ที่ยืนอยู่อีกฝั่ง “ ไอ้อาฟกับไอ้เดย์ยังไม่เหมือนกันเลย “
“ เออ ก็จริงวะ คนนึงเงียบเกิน อีกคนก็พูดมากเกินไปอีก ไม่รู้ใครแม่งได้สารอาหารไม่ครบ “ ผมหลุดยิ้มกับคำพูดของไอ้อัยย์ก่อนจะหยิบเบียร์ขึ้นมากินอีก “ แล้วพี่มึงจะเอาไงอะ เก็บความลับเค้าไว้แบบนั้นไม่บอกพี่เมดจริงๆเหรอวะ น่าห่วงนะกูว่า “
“ น่าห่วงตรงไหนวะ “ วางแก้วลงกับที่วางพลางขมวดคิ้วถามอีกคนที่ก็ยกยิ้ม
“ มึงคิดเหรอพี่เจว่ามันจะทำอย่างที่มึงสั่งทุกอย่าง มึงไม่ได้เห็นมันอยู่ในสายตาตลอดเวลาสักหน่อย ต่อให้ตอนนี้มันบอกมึงว่ามันอยู่บ้าน แต่จริงๆมันอาจจะนั่งแดกเหล้ากับเพื่อนในห้องแล้วมั่วสุ่มกันก็ได้ พี่เมดก็ไม่อยู่ห้องจะทำอะไรก็ได้จริงมั้ยละ คือเอาจริงๆ กูมองว่าคนเราถ้ามันอยากจะทำอะไร มันหาวิธีได้ทั้งนั้น กูกับไอ้เดย์เมื่อก่อนยังจ้างยามไปซื้อเหล้ามาให้เลย ให้ค่าจ้างพันนึงแม่งก็ไปละ สมัยก่อนพี่มึงก็เคยทำกูรู้ “
“ อย่าเอากูไปเปรียบเทียบกับเด็กเหี้ยแบบพวกมึง “
“ กล้าพูดเนอะ พี่มึงเด็กดีมากเลยสินะ กูเห็นแดกเหล้าเมากับเฮียตั้งแต่กูอยู่ประถม อ้ายยยอัยย์ “ มันว่าเสียงยานเลียนแบบผมสมัยม.ต้น ตอนที่เมาครั้งแรก
“ ไอ้สัด ก็ยังจำได้ “
“ กูจำได้หมดอะ ตอนไอ้เดย์เมาครั้งแรกก็ยังจำได้ ตอนนั้นอยู่ม.สี่ ที่มันเดินโซซัดโซเซไปหาเฮีย แล้วหอมแก้มเฮียอะ “
“ แล้วมันก็วอแวให้ไอ้อาฟหอมแก้มมันกลับ “
“ และสุดท้ายเฮียก็หอมไปฟอดนึง “ ไอ้อัยย์บอก “ กูแทบอ้วก สงสารเฮียสุดๆ เป็นภาพตราตรึงในหัวใจกูที่สุด เป็นความทรงจำที่ตายไปแล้ว ชาติหน้าถ้าระลึกชาติได้เหตุการณ์นี้ก็คงเข้ามาในหัวกูเป็นเหตุการณ์แรก “
“ ฮ่าๆ “ ผมหลุดหัวเราะเสียงดังตอนที่คิดถึงเรื่องราววันนั้น เอาจริงๆผมมองว่ามันสองคนเป็นพี่น้องที่รักกันมาก แม้ภายนอกใครๆจะมองว่ามันดูไม่ค่อยสนใจกันเท่าไหร่ แต่จริงๆก็แค่เป็นคนไม่หวานทั้งคู่ เลยออกแนวเหมือนไม่ใส่ใจกัน แต่ถึงอย่างงั้นมันก็ดูแลกันและกันมาตั้งแต่เด็กๆ
“ หัวเราะอะไรกัน “ เสียงคุ้นทักผมจากด้านหลัง ตอนที่หันไปก็พบเข้ากับคุณมินเมดที่เดินยิ้มเข้ามาหา ก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ตัวข้างกัน
“ กว่าจะมานะพวกมึง “
“ ก็กว่าจะกินข้าวเสร็จ ไปส่งอีก นี่กลับมาเร็วแล้วนะ ขากลับรถไม่ติดเลย ไฟเขียวผ่านตลอด “ อีกคนบอกแบบอวดๆ แต่ก็จัดว่าเป็นเรื่องน่าอวดอยู่สำหรับการขับรถในกรุงเทพแล้วไม่ต้องหยุดรอรถเลยสักแยก ความรู้สึกที่เห็นไฟเขียวผ่านตลอดนั้น เป็นความรู้สึกที่คล้ายกับถูกหวยใต้ดินยังไงอย่างงั้น ผมหลุดยิ้มให้ท่าทางนั้นของเมดก่อนจะหันไปมองเพื่อนตัวเองที่ก็เดินตามเข้ามา
“ มึงไปเลโก้มั้ย “ ไอ้อาฟเอ่ยถามผมที่ก็ขมวดคิ้วมองมัน
“ วันนี้มาไง ชวนกูไปผับอื่นวะ “
“ เฮียจะไปเลโก้เหรอ “ ไอ้อัยย์ถาม คนที่เอ่ยชวนผมก็ยักคิ้ว “ throw up มีให้แดกฟรีก็ไม่แดกเนอะ ชอบแดกแบบเสียเงิน “
“ เสียเงินเหี้ยไร วันนี้วันเกิดพี่โก้ มันชวนกู กูเลยจะไป “ อาฟบอกก่อนจะก้มลงมองผม “ ไปกันมึง “
“ โอเค ไปก็ไป ”
“ ไป “ เมดลุกขึ้นจากที่นั่งเตรียมตัวจะเดินออกไปพร้อมพวกเราไอ้อาฟก็ถาม
“ ใครชวนมึง “
“ อ้าว ไม่มึงจะให้กูไปด้วยเหรอ “
“ ไม่ให้ไป “ ย้ำคำเดิมคนฟังก็ได้แต่ขมวดคิ้วงง ที่ก็ไม่แปลกที่จะรู้สึกแบบนั้น ก็ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด อยู่ๆไม่โดนพาไป คุณมินเมดก็คงจะงงอยู่เล็กน้อยว่าทำไม
“ ให้กูไปด้วยสิ กูอยากไปด้วย “
“ ไม่ให้ไป “ อาฟบอกคนฟังที่กำลังรบเร้าอยู่ก็ได้ถอนหายใจออกมา
“ ทำไมวะ กูอยากไปด้วย ไม่วุ่นวายหรอก สัญญา กูอยากไปดูผับอื่นว่าเป็นไง ไปด้วยสิวะอาฟมึงแม่ง “ ใบหน้างอง้ำที่พูดชวนให้ทั้งผมทั้งไอ้อัยย์ยิ้มแต่ผิดจากไอ้อาฟที่ก็ทำได้แค่ถอนหายใจแล้วหันไปทางอื่น มันคงรู้ตัวว่ามันแพ้ท่าทางอ้อนๆของแฟนตัวเองมากแค่ไหนเลยพยายามไม่มอง ไม่ใส่ใจ
“ ไปทำไม เจ้าภาพเค้าชวนมึงเหรอ “
“ เค้าก็ไม่ได้ชวนเจ มึงยังพาเจไปเลย ก็หนีบกูไปด้วยอีกคนจะเป็นไรไปวะ “
“ มันรู้จักไอ้เจ กูเลยจะพาไอ้เจไปด้วย “
“ งั้นก็เดี๋ยว ตอนไปถึงมึงก็แนะนำกู เค้าก็รู้จักกูละ “
“ ดื้อ “ อาฟมันบ่นเบาๆก่อนจะถอนหายใจออกมาแล้วหันมาย้ำ “ อยู่นี่แหละ กูไม่อยากพามึงไป เกะกะ“
“ เกะกะเหี้ยอะไรพูดให้ดีๆเดี๋ยวกูต่อย “ กำปั้นขาวยกขึ้นมาขู่ก่อนที่มันจะเหล่มองคนตรงหน้าแบบจับผิดด้วยสายตาที่ดูก็รู้ว่ามันเองก็ไม่ได้จริงจังอะไรกับคำพูดนั้น “ ทำไม ? มีผู้หญิงอ๋อออ กลัวกูไปแล้วมึงนัวเนียไม่หนำใจว่างั้นเถอะ “
“ เพ้อเจ้ออะไรของมึง “ ไอ้อาฟบอกปัดผมก็แซว
“ รู้ทันวะ บ้าจริง “
“ มึงอย่ามาหาเรื่องให้กูไอ้สัดเจ “
“ ก็บอกแฟนไปตรงๆ เมดมันก็เข้าใจได้ มึงก็มัวบอกแต่ ไม่ให้ไป ไม่ให้ไป คนมันอยากไปก็มีแต่จะวอแวขอไปด้วยเพราะที่มึงพูดมันไม่ใช่เหตุผลอะสัด “ ผมบอกมันเมดก็พยักหน้ารับเห็นด้วย “ ก็บอกไปเลยว่า หวง “
“ หวงอะไรวะ “ ชะงักหน้าที่พยักขึ้นลง เมดหันมาถามผม “ กลัวกูไปม่อสาวเหรอ ไม่ต้องกลัวนะ กูไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอก จะไม่ทำเด็ดขาดเลย กูสัญญาด้วยว่าต่อให้เป็นสเป็กกูก็จะแค่นั่งมองเค้านิ่งๆ “
“ ถามจริงคิดนานมั้ยถึงบอกว่ากูมึงไปม่อสาว “
“ อ้าว งั้นมึงกลัวอะไรวะ กลัวกูไปวุ่นวาย ? “ คำถามที่ถูกคาดเดาจากอีกคนแบบไม่ได้คิดเวิเคราะห์อะไรใดๆจากนิสัยตัวเองให้ถี่ถ้วนชวนให้เราสามคนถอนหายใจออกมาเอือมๆ “ กูแค่อยากไปดูผับอื่นบ้างเท่านั้นเอง กูอยากรู้ว่ามันเป็นไงกูไม่วุ่นวายแน่นอนจะทำตัวดีๆ สัญญาเลย “ ยื่นนิ้วก้อยขึ้นเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับไอ้อาฟ
“ สาบานกับกูสิ ว่าท่านี้คือท่าคนที่คิดว่า มันจะไปม่อสาว “ ทุกคนหลุดยิ้มกับคำพูดของผมก่อนไอ้อัยย์จะพูดขึ้น
“ เฮียมันไม่ได้กลัวพี่เมดไปม่อสาวหรอก ที่มันกลัวคือกลัวสาวมาฉุดพี่เมดไปปล้ำมากกว่า “
“ เออ กูเห็นสมกับความคิดมึงอัยย์ “ ผมบอก “ แล้วอีกอย่างเลยนะ พี่โก้เจ้าของผับแม่งโคตรหน้าม่อได้หมดทั้งชายทั้งหญิงด้วย สเป็กมันนี่เป็นแบบมึงเลยเมดกูจะบอกให้ ขาวๆตี๋ๆ “
“ แต่กูมีแฟนแล้วนะ “ เสียงเถียงเบาๆที่ดังขึ้นทำเอาเราหลุดหัวเราะอีกครั้ง
“ ถามจริง พี่เมดคิดจริงๆเหรอว่าแค่มีแฟน จะหยุดคนที่เข้ามาหาได้ แบบว่า พอบอกว่า มีแฟนแล้วเค้าก็จะเลิกยุ่งกับเรา “
“ ก็มันไม่ถูกเหรอวะ การที่บอกว่ามีแฟนแล้วก็คือคำปฎิเสธว่าไม่สนใจคนที่เข้ามาจีบไม่ใช่เหรอ “
“ ไม่ถูกหรอก เพราะถ้าเค้าสนใจ ถึงมึงจะพูดว่ามีแฟนแล้ว เค้าก็ยังพยายามจีบมึงต่ออยู่ดีนั่นแหละ ก็เค้าเข้ามาจีบมึงคนเดียว ไม่มีความจำเป็นอะไรต้องสนใจแฟนมึงหรอกจริงมั้ยละ “
“ เป็นงั้นไปอีก “
“ อย่าไปเลย อยู่นี่แหละ “ เสียงจริงจังของเพื่อนผมที่เอ่ยพูดขึ้นตอนที่หันมองแฟนตัวเอง อาฟก้าวขาเดินไปยืนอยู่ใกล้ๆ ไม่ได้ดึงมือขึ้นมาจับ ไม่ได้ลูบหัว หรือสวมกอดอะไรแบบที่ในละครตอนดึกชอบทำ มันมีแค่คำพูดที่เอ่ยออกไปตรงๆพร้อมกับแววตาจริงจังทีสบสายตากับเมด “ กูหวง เป็นห่วงมึงด้วย “
“ โอ้แหมมมมมม “ ส่งเสียงแซวออกมาพร้อมกับไอ้อัยย์ที่จับหน้าตัวเองไว้
“ ไม่ใช่หวงธรรมดานะ เพราะห่วงด้วย ตายแล้วววววว เกิดมาชาตินี้ไม่คิดว่าจะได้ยินอะไรแบบนี้เลยอะ “
“ รำคาญไอ้สัด “คนโดนแซวสบถออกมา
“ แต่ก็ยังอยากไปอยู่ดีอะ “ เมดพูดขึ้นไอ้อาฟก็ถอนหายใจ ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นอีกแบบ สีหน้าหาเรื่องที่บอกกับคนที่กำลังขัดใจมันว่า ‘ หยุดวอแวเดี๋ยวนี้ ’
“ มึงจะเอายังไงเมด “
“ อย่าต่อยกูนะ “ ยกมือสองมือขึ้นห้ามก่อนจะพูดแบบล้อๆ “ นี่แฟนไงอารยะ นี่แฟนเอง มินเมดไง “
“ กวนส้นตีนกูจังนะไอ้แฟน “ อีกคนสถบเมดก็ยิ้มกว้าง ความจริงเมดก็คงตัดใจไม่ไปตั้งแต่ไอ้อาฟบอกเมื่อครู่แล้ว แต่เดี๋ยวนี้เริ่มกวนตีนไง เลยขอดื้ออีกสักหน่อย
“ อย่าไปเลย อยู่นี่แหละ หิวก็ออกไปหาของกินอร่อยๆที่ซอยข้างๆก็ได้ ชวนไอ้เดย์ไอ้อัยย์ไปสักคน “ ผมลุกขึ้นจากที่นั่งพลางบอกอีกคนที่ก็พยักหน้ารับก่อนจะยื่นมือมาจับไอ้อาฟไว้
“ แล้วอย่าเมามากนะมึง “ มันเตือนสั้นๆ “ แต่ถ้าเมามากก็อย่าขับรถ โทรเข้ามาเดี๋ยวให้น้องเดย์น้องอัยย์เข้าไปรับเข้าใจมั้ย “
“ กูไม่เมาหรอก “ อาฟมันบอกก่อนจะจ้องตาแฟนตัวเองที่มีแต่ความห่วงใยส่งมาให้จนสุดท้ายคนที่ไม่เคยยอมใครอย่างมันต้องยอมจำนนให้คนตรงหน้า “ โอเคครับ ผมรู้แล้ว “
“ มึงก็ด้วย อย่าเมามากนักนะเจ “
“ ครับผม ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวกันสาวที่จะเข้ามาวอแวไอ้อาฟให้ด้วย “ ผมบอกแซว ไอ้อาฟก็หันไปบอกไอ้อัยย์ก่อนจะเดินออกไป
“ ฝากเมดด้วยนะมึง “
“ ไม่ต้องห่วงครับเฮียจะดูแลอย่างดีเลยจ้า ยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม “
“ จริงเหรอวะ แต่เมื่อกี้พี่เมดโดนยุงกัดตัวนึงนะ “ เมดยกแขนให้น้องที่รับคำดูก่อนที่ไอ้อัยย์จะรับมุกด้วยการยกมีดขึ้นมาขู่
“ ไหนยุงตัวนั้นมันอยู่ไหน น้องอัยย์จะฆ่ามัน“
“ นี่ก็รับมันทุกมุกเลยนะ “ เสียงหัวเราะที่ดังไล่หลังผม หลุดยิ้มออกมาในระหว่างที่เดินออกมาด้านนอกของผับ civic สีขาวของไอ้เมดถูกปลดล๊อค เอาเข้าจริงทรงของรถรุ่นใหม่คันนี้ชวนให้เสียดายอยู่ไม่น้อย ส่วนหน้ามันออกแบบคล้ายกับรถสปอร์ต ข้างในก็ให้ความรู้สึกไม่ต่างกัน
แอบเสียดายเหมือนกันที่ตอนนั้นไม่ฟังคำแนะนำของไอ้อาฟที่บอกให้ซื้อรถรุ่นนี้ มันบอกว่าสวยกว่าซิตี้ที่ผมเลือกจะซื้อ แถมยังเป็นรูปลักษณ์ที่จะใช้ได้นาน แต่เพราะตอนนั้นผมรู้สึกแค่ว่า ให้มีขับก็พอแล้วอีกอย่างเอาเงินไปลงทุนกับอย่างอื่นดีกว่า เช่น คอนโด ที่ดิน อะไรแบบนั้น ทำงานหมดไปกับการผ่อนรถหมดก็ไม่ไหว ขับไปยังไงมันก็ติดไฟแดงเหมือนกันหมดนั่นแหละ
“ นี่มึงยังไม่ได้รถคืนอีกเหรอวะ “
“ ยัง “ อาฟตอบก่อนจะถอนหายใจออกมา “ เห็นไอ้เดย์บอกว่าอีกสองสามวันก็เสร็จละ “
“ โคตรนาน “
“ ก็ปกติ ทำสีรอบคันมันต้องใช้เวลาอยู่แล้ว สิบ สิบห้าวันเป็นอย่างต่ำ “
“ คิดดูว่าตั้งแต่มึงยังไม่ได้ไอ้เมดเป็นแฟน จนมึงได้ไอ้เมดเป็นแฟน มึงก็ยังไม่ได้รถคืน “ ไอ้อาฟหลุดยิ้ม
“ เหมือนจะนาน แต่มันก็แค่ไม่กี่วันมั้ยสัด “
“ แล้วเป็นไง มึงกับมัน “
“ อย่าพูดเรื่องกูเลย พูดเรื่องมึงดีกว่า มึงคุยกับมันแล้วใช่มั้ยไอ้วิวน่ะ ขู่มันไปว่าไง “ หันไปมองเพื่อนตัวเองผมยิ้ม
“ ไม่ได้ขู่ไรมากมาย แค่บอกให้มันทำตามที่กูสั่งอย่าตุกติกก็แค่นั้น “
“ คิดไงใช้แผนนี้ “ ผมเงียบไปตอนที่อีกคนถาม ไอ้อาฟหลุดยกยิ้มขึ้นมา “ หรือเพราะจะใช้บังคับให้มันไม่แรดจนเป็นอันตรายแบบที่มึงกลัว “
“ มึงก็คิดไป “ บอกปัดอีกคน แต่ก็รู้สึกว่าเหมือนตัวเองจะรู้สึกแบบนั้น ผมแค่อยากจะให้มันหยุดเลิกทำอะไรที่มันดูไม่น่ารักนั่นซะก็แค่นั้น อยากจะทำให้มันเชื่องก่อนแล้วต่อไปคิดจะทำอะไรมันก็จะง่ายขึ้น ถ้าแผนไม่แตกไปก่อนละก็นะ
“ กูว่าไอ้เด็กนั่นมันมีปัญหานะ “
“ ยังไง “
“ วันนี้ตอนไปกินข้าวกัน บางประโยคของมันที่พูดถ้าไม่คิดอะไรก็ไม่คิด แต่ถ้าคิดก็คิด แล้วกูก็รู้สึกว่า เหมือนมันชอบเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับไอ้เมด “
“ คือมึงจะบอกว่า ที่มันกินเหล้า ลากผู้ชายขึ้นห้อง เพราะรู้สึกตัวเองมีปัญหาที่เป็นเด็กดีไม่ได้เหมือนไอ้เมดเหรอวะ “
“ ประมานนั้น “ ผมถอนหายใจออกมาก่อนจะส่ายหน้าไปมา
“ ไร้สาระ คนเราแม่งไม่ดีเหมือนพี่มันก็ควรตั้งใจเรียนสิว่ะ ไม่ใช่ทำตัวให้เหี้ยลง คิดอะไรของมัน “
“ เด็กไง ถ้ามันมีความคิด เค้าจะเรียกมันว่าเด็กทำไม “
“ ไม่เข้าใจไอ้สัด เพราะเด็กบางคนแม่งมีความคิด แต่ก็นะเรื่องนี้ต้องถามคนมีพี่น้อง กูแม่งลูกคนเดียวด้วย ไม่สามารถเข้าใจได้จริงๆวะ พวกอารมณ์กดดันจากครอบครัวที่ทำให้เครียดพวกนั้น “ ผมส่ายหน้าไปมาก่อนจะหันไปมองเพื่อนสนิทตัวเอง “ หรือว่าจริงๆ ไอ้เดย์มันก็คิดว่ามันไม่เก่งเท่ามึง “
“ ไอ้เชี้ยนั่นคิดเหี้ยอะไรแบบนั้นได้ด้วยเหรอวะ ทุกวันนี้นอกจากแดกเยลลี่ เลี้ยงแมว กกหญิง มันคิดอะไรอย่างอื่นด้วยเหรอสัด “
“ มึงก็ไปว่ามัน “ หลุดยิ้มออกมาผมเสริม “ แต่มันก็น่าคิดนะ ถ้ามันจะคิด ตอนมึงอายุเท่ามันมึงเป็นเจ้าของธุรกิจแล้ว เงินที่ป๊ามึงให้ มึงเอามาทำธุรกิจต่อยอด ไอ้เดย์เอาไปซื้อรถ คือแค่นี้ก็บอกวุฒิภาวะของแต่ละคนได้แล้วไม่ใช่เหรอวะ “
“ ที่มันเป็นแบบนั้นเพราะมันไม่มีอะไรที่ทำให้รู้สึกว่า ตัวมันต้องดิ้นรน ต้องพยายาม มันคิดง่ายๆว่ามันมีป๊า และถึงไม่มีก็ยังมีกู ทุกคนซัพพอร์ตชีวิตมันได้ ไม่ต้องเรียนเก่งก็ได้ ไม่ต้องมีอะไรมันก็ไม่อดตาย สมองไอ้เชี้ยนั่นคิดแค่ว่า ยังไงซะ ครอบครัวก็ไม่ปล่อยให้มันตายแน่นอน มันก็เลยใช้ชีวิตแบบลอยตัวสุดๆไง อยากทำอะไรก็ทำ “
“ ใช้ชีวิตเต็มที่ไปเลย พี่มันก็แบกรับไปสินะ ความหวังครอบครัว “
“ แล้วตอนนี้กูก็โยนการสืบทายาทของตระกูลให้มัน จบ “
“ ไอ้สัด “ สถบด่าใส่มันก่อนที่จะหัวเราะกันออกมา
“ นี่ก็ลุ้นอยู่ทุกวัน ว่าจะมีหลุดทะลุถุงยางมาสักคนมั้ย “
“ อย่าเป็นเล่นไปไอ้สัด สงสารเด็ก สงสารผู้หญิงด้วย อีกอย่างกูก็ไม่เห็นทีท่าว่าคนอย่างไอ้เดย์จะหยุดอยู่กับใครสักคน “
“ มันไม่หยุดหรอก มันชอบความสัมพันธ์แบบนั้น “ อาฟบอก “ แต่กูก็บอกมันนะ ว่ามันจะชอบฝ่ายเดียวไม่ได้ ต้องให้ผู้หญิงเค้าชอบด้วย ถ้าเค้าชอบมันชอบกับความสัมพันธ์นี้ ก็โอเค ไม่มีใครห้ามพวกมึงอยู่แล้ว “
“ กูถามจริงๆ ถ้ามันเกิดหลุดทะลุถุงยางมาเกิดสักคนมึงจะทำยังไงวะ “
“ มันไม่ใช่เรื่องที่กูจะตัดสินใจได้มั้ยวะ มันเป็นเรื่องของไอ้เดย์ เรื่องของพ่อแม่กูที่จะช่วยมันตัดสินใจ “ เพื่อนผมหันมาบอก “ แต่ก็คงต้องรับผิดชอบ “
“ มึงดูจริงจังกับไอ้เมดมากนะ “ ผมหันไปยิ้มให้เพื่อนแบบแซวๆ “ จากที่มึงพูด มึงไม่คิดถึงตัวเองที่จะมีครอบครัวแบบมีลูกมีเมียเลย เหมือนสุดท้าย ไม่ว่ายังไงก็จะจบลงกับไอ้เมด “
“ กูก็อยากให้มันเป็นแบบนั้นนะ “
“ กูขอให้มันเป็นแบบนั้น “ ยิ้มให้มันก่อนจะยักคิ้ว “ แต่ว่าถ้ามีทะลุถุงยางขึ้นมาสักคนจริงๆ กูว่าพ่อแม่มึงอาจจะขอให้มึงช่วยวะ ยังไงมึงกับไอ้เมดก็ไม่มีลูก วุฒิภาวะก็สูงกว่า ให้มาเป็นลูกบุญธรรมของมึงกับไอ้เมดก็ไม่แย่นะกูว่า ยังไงก็สายเลือด อีกอย่างไอ้เมดก็ต้องเลี้ยงได้อยู่แล้วมันใจดี “
“ เรื่องอะไร หน้าที่กูมั้ยที่ต้องมารับผิดชอบสิ่งที่กูไม่ได้ทำ “ อาฟหันมาบอกผมด้วยสายตาจริงจัง “ แล้วอีกอย่างคือทำไมกูต้องแบ่งความรักของเมียกูที่จะให้กูคนเดียว ไปให้คนอื่นด้วยวะ บอกไว้ก่อนเลยว่า กูไม่แบ่งแน่นอน “
“ หวงเมียมากเว่อร์ กูยอมใจมึงละจ้า “