( จบแล้ว ) Throw UP #ผับชั้นสาม :: {ตอนพิเศษ: up! 31-12-62} #หน้า 58
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ( จบแล้ว ) Throw UP #ผับชั้นสาม :: {ตอนพิเศษ: up! 31-12-62} #หน้า 58  (อ่าน 486828 ครั้ง)

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
นั่นไง หวานชื่น มีความสุขอยู่ดีๆ
ก็ต้องมีเรื่องให้ทำความเข้าใจกันอีก
เกิดเรื่องขึ้นมาแบบนี้ก็ดีนะ จะได้คุยกัน

เข้าใจเมดนะ ว่าทำไมเราต้องเฉย
แต่เหมือนเดย์กับอาฟบอก
ถ้ายิ่งดิ้น คือยิ่งสนใจ
เหมือนยังผูกติดอยู่แบบนั้น

พี่อาฟอย่าปล่อยให้น้องเมดลอยนวลนะ
และน้องเมดก็พูดกับพี่อาฟให้เข้าใจด้วย

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ก็บางทีไม่ได้สนใจหรอกแต่แบบว่าขอนิดนึงเนอะน้องเมด

ออฟไลน์ HydrA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-2
แง่วๆกะแล้ว เมดต้องอัพรูปโต้ตอบไปแน่ อาฟยิ่งอ่อนไหวกับปมนี้อยู่ ไม่เอานะอย่าอึมครึมกันนานนะ แงๆเค้าชอบให้หวานๆกันมากกว่า เมดอ่ะ อยู่นิ่งๆเงียบๆอย่าไปดิ้นตามคนพวกนั้นเลยนะ บล็อคคนพวกนั้นไปเลย

ออฟไลน์ uyong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
ทำงานเข้าตัวเองแล้วคุณเมด :เฮ้อ:

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
ทีม อารยะ

ออฟไลน์ palm-metto

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
เข้าใจอารยะเลย
อาฟคงรู้สึก .. ว่าเมดยังคิดถึงสองคนนั้นอยู่แน่ๆ แม้เมดจะบอกว่าไม่ใช่ หรือว่าในใจไม่คิดก็ตาม .. แต่คนมอง
ภายนอกก็ยังคิดว่าตัวเองยังแคร์ความรู้สึกสองคนนั้นอยู่
ให้เมดรอรับแรงกะแทกผลกระทบสำหรับการแก้แค้นครั้งนี้ .. เพื่อจะได้คิดเยอะๆ กว่านี้ในการคิดจะทำอะไรต่อ
ประโยคสุดท้าย สงสารจิตใจอารยะขึ้นมาเลย

ออฟไลน์ nsai.ss

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 412
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-2
คนส่งนมแทนพี่อาฟในตอนนั้น...กลับมาได้ล้าวววววว :katai1: :katai1:  :katai1:

ออฟไลน์ TongRung

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ทีมอารยะ เพราะรักเมดที่สุดดดดดด เหมือนได้อยู่ 2 ทีม อิอิ

ออฟไลน์ memozy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
รอติดตามตอนต่อไป  o13 o13

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
#ทีมอารยะ คือบางคนมันก็มีความสุขที่ได้เห็นเราดิ้นตามมัน เราหยุดเขาไม่ได้ แต่ตัวเรา เราหยุดเองได้นะปล่อยให้เขาดิ้นรนแล้วเราเป็นฝ่ายเฝ้ามอง ดีกว่าเราไปดิ้นรนให้เขาดูน้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ยังไงล่ะเมด

ออฟไลน์ Chamind1306

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
แต่นี่ทีมเมดนะ ก็ไม่ได้แคร์ไงแค่อยากจะเอาคืนบ้างนิดๆหน่อยๆเอง

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
รอบนี้ทีมอาฟ ทีมน้องเดย์ค่ะ


ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
ตอนที่ 42

“ ถ้ากูขอ มึงจะทำให้กูได้มั้ย ไม่สนใจพวกมันแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่กับกูได้มั้ย ”

ได้แต่จดจ้องแววตานั้นอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดีกับสิ่งที่ได้ยิน อาฟไม่ได้ร้องไห้ มันไม่ได้ตีหน้าเศร้า และไม่แม้จะใช้สายตาอ้อนวอนกัน แต่ทว่าผมกลับรู้สึกเจ็บปวดราวกับใครฟาดไม้ลงบนแผ่นหลังของตัวเองจนเจ็บจุก พยักหน้ารับลงกับคำถามนั้นอย่างว่าง่ายก่อนนิ่งไปนาน เป็นความรู้สึกที่แทบหายใจไม่ออก

ผมหวนคิดถึงคำพูดที่อาฟเคยพูดไว้ตอนที่เราคบกันใหม่ๆ วันนั้นผมมีเรื่องกับยีนส์ ผมที่ตอนนั้นยังคงเจ็บปวดกับเรื่องที่มันทำ จนเอามาพูดเพ้อเจ้อถึงอดีตที่เสียใจจนทำให้อาฟต้องเจ็บปวด

 ‘ มึงยังเจ็บอยู่กับอดีตเมด กูเข้าใจ แต่กูก็เจ็บอยู่กับปัจจุบันเหมือนกัน ปัจจุบันที่กูรู้สึกว่า มึงไม่ได้มีกูอยู่ในหัวใจเลย แล้วก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อไหร่จะมี ’

ทั้งๆที่เป็นคำพูดที่เคยพูดมานาน แต่ทว่าวันนี้อาฟกลับยังรู้สึกแบบนั้นอยู่  รู้สึกว่าผมยังแคร์คนพวกนั้น แคร์เรื่องราวในอดีตพวกนั้น และไม่ได้รักมันคนในปัจจุบันเลยสักนิด ทั้งๆที่ในความคิดผม มันไม่เกี่ยวกันเลย ในตอนนี้ ไม่มีอะไรที่มันเกี่ยวกันทั้งนั้นอีกแล้ว

ผมไม่ได้เสียใจ มันเป็นแค่ความแค้นที่รู้สึกอยากจะเอาคืนบ้าง ตามความรู้สึกของคนคนนึงที่ไม่อยากจะให้ใครรังแกอยู่ฝ่ายเดียว แต่เหมือนอีกคนจะไม่ได้คิดแบบนั้น

 “ อาฟ ฟังกันก่อนได้มั้ย กูว่ามึงกำลังเข้าใจกูผิด ” อีกฝ่ายไม่ได้ตอบอะไร ผมจึงพูดต่อในสิ่งที่คิด “ กูยอมรับว่ากูลงภาพเพราะอยากจะตอบกลับไอ้ยีนส์มัน  เพราะตั้งแต่ที่เลิกคบกัน ยีนส์ไม่เคยมายุ่งวุ่นวายอะไรในไอจีกูเลย ไม่เคยดูสตอรี่ที่กูอัพทุกวัน ไม่เคยกดไลค์ภาพสักภาพ จนกูคิดว่ามันบล๊อคกูไปแล้วด้วยซ้ำ แต่อยู่ๆ มันก็เข้ามาดูไอจีสตอรี่กู แล้วไม่นานก็เข้ามาไลค์ภาพกูที่ก็อัพไปตั้งนานแล้ว มันเป็นภาพที่กูเขียนข้อความถึงมัน แล้วพอกูเข้าไปดูในไอจีมัน ถึงรู้ว่าที่มันมากดไลค์ภาพกูแบบนั้น ก็เพราะแค่อยากจะให้กูเข้าไปดูไอจีมันที่อัพภาพตัวเองกับไอ้บิน ”

อาฟยังคงเงียบมันแค่ถอนหายใจออกมาหลังจากที่ผมอธิบาย สายตาคมนั้นไม่ได้มองกันอีกแล้ว มันเบือนหนีไปมองถนนตรงหน้าที่ตอนนี้มีนิสิตในมหาลัยเดินผ่านไปมา ผมรู้ว่าอาฟคงคิดต่างจากผม ไม่ว่ายังไงมันก็คงเห็นว่าการกระทำนี้คือการที่ผมยังแคร์อีกฝ่ายอยู่มาก เลยยังเสียใจและต้องการเอาคืนแบบนั้น

“ มึงจะคิดว่ากูเป็นเด็กไม่รู้จักโตที่ทำเรื่องแบบนั้นก็ได้ แต่อย่าคิดว่ากูยังรักแล้วก็ยังแคร์พวกมันอยู่ได้มั้ย เพราะมันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย กูไม่ได้รัก แล้วกูก็ไม่ได้แคร์ ไม่ได้แคร์ว่ามันจะมีความสุข หรือจะรักกันขนาดไหน ต่อให้มันลงภาพเป็นร้อยล้านภาพต่อวันกูก็จะไม่สนใจเลย แต่ทำไมมันต้องมาเชิญชวนกูไปดู ทำไมต้องมาคอยหาเรื่องกู แล้วมึงจะให้กูคนที่ก็มีมือมีตีนเหมือนกัน ทนอยู่นิ่งๆไม่ทำอะไรเลยงั้นเหรอ กูต้องทนให้มันทำอะไรกูก็ได้ เหย้าแหย่กูแค่ไหนก็ได้ มึงคิดเหรอว่าถ้ากูทำแบบนั้นคนแบบยีนส์มันจะหยุด ” ผมยกยิ้มก่อนจะส่ายหน้า “ มันไม่มีวันหยุดหรอก กูรู้จักคนอย่างมันดี ถ้าไม่ตายกันไปข้าง ยีนส์ไม่มีวันหยุดหรอก ”

“ แล้วมึงคิดว่ายีนส์มันรู้สึกยังไงกับการเห็นมึงอัพภาพกูเพื่อตอบกลับพร้อมด้วยสเตตัสที่เหมือนกันกับมัน มึงคิดว่ามันจะรู้สึกเจ็บใจเหรอ ? มึงคิดว่ามันจะรู้สึกว่า ‘ เมดมันมีแฟนที่ดีกว่ากูวะ กูคงต้องถอยแล้ว ’ เหรอ ? มึงคิดว่ามันคิดแบบนั้นเหรอ ” อาฟหันมาถามผมก่อนจะหัวเราะในคอ “ สิ้นคิด.. ตอนนี้เพื่อนมึงคงจะนั่งมีความสุข เพราะทำให้มึงเจ็บปวดได้ มันคงนั่งคิดว่า มึงยังแคร์ ยังเสียใจ ก็เลยอัพภาพกูเพื่อประชด คนที่มันเหี้ย เค้าไม่คิดอะไรอย่างที่มึงคิดหรอกเมด คนเหี้ยก็คือคนเหี้ย มันคิดเข้าข้างตัวเองทั้งนั้น มันทำเพราะอยากให้มึงเจ็บปวด แล้วการที่มึงดิ้นตามมัน นั่นก็คือ มึงกำลังเจ็บปวด แล้วตอนนี้มันก็คิด ว่ามันประสบความสำเร็จแล้ว ก็แค่นั้น ”

“ แต่กูไม่ได้รู้สึกอะไรแบบนั้น กูไม่ได้แคร์มันเลย กูอยากบอกให้มันรู้ว่า กูไม่สน กูมีคนใหม่แล้ว เรารักกันแล้วตอนนี้กูก็มีความสุขดี สุขกว่ามันที่ไม่รู้ว่าจริงๆ มีความสุขอยู่รึเปล่า กูอยากจะให้มันเอาตัวเองให้รอดเถอะ ไม่ต้องมายุ่งวุ่นวายกับกูอีก การอัพภาพของกูมันเป็นแค่ความรู้สึกแบบนั้น กูแค่อยากจะบอกมันแบบนั้น ” ผมพิงหลังกับเบาะรถก่อนจะถอนหายใจออกมา “ ทำไมมันถึงอยู่คนละโลกกันไม่ได้วะ ทำไมมันต้องหาเรื่องกู ทำไมกูต้องเป็นฝ่ายที่ต้องทนคนเดียวด้วย อะไรๆก็กูคนเดียวเลย มันทำกูเจ็บ กูต้องทน ทำเหี้ยแค่ไหน กูก็ต้องทน  กูต้องเข้มแข็งขนาดไหนวะ ทั้งๆที่กูก็เป็นคนคนนึงที่เจ็บเป็น กูเองก็แค้นเป็น ทำไมวะ ทำไมมันต้องเป็นกูด้วย กูแม่งผิดอะไรนักมันถึงไม่ปล่อยกูไปแบบนี้ ” 
 
“ เพราะมันเกลียดมึงไง ” อาฟพูดเสียงเรียบหลังจากที่ผมระบายความรู้สึกในใจออกมา  “ มันเกลียดตั้งแต่ที่มึงคบกับไอ้บิน แล้วมันต้องเป็นเมียน้อยอยู่ลับหลังมาหลายปีทั้งๆที่ก็คงอยากจะได้ชูคอบ้าง แต่ก็ทำไม่ได้เพราะไม่ใช่ตัวจริง แล้วพอมึงจับได้มันก็โดนว่าอีก ว่าแย่งผัวเพื่อน แม้แต่ตอนนี้มึงจะมีคนใหม่แล้ว มันได้ชูคอควงไอ้บินออกนอกหน้าบ้าง แต่มันก็ยังถูกตีหน้าว่าแย่งของเพื่อนมาอยู่ดี มันที่โดนสาปแช่ง ว่าสักวันต้องเลิกกับไอ้บินแน่ๆ สักวันต้องถูกแย่งไปแน่ๆ ลึกๆมันก็กลัว มันไม่ได้มีความสุขหรอกยีนส์น่ะ มันทุกข์กว่ามึงเป็นร้อยเท่า และความสุขเดียวของมันที่มีคือการที่มึงยังแคร์มันกับไอ้บินอยู่ แคร์ทุกๆการกระทำของพวกมัน มันเลยพยายามแหย่มึง พยายามหาเรื่องมึง เพราะนี่เป็นสิ่งเดียวที่มันรู้สึกชนะมึง ชนะด้วยการได้ครอบครองควายโง่ๆอย่างไอ้บิน” อาฟหลุดยกยิ้มออกมาตอนที่พูดจบ ก่อนจะส่ายหน้าไปมาแล้วหันมามองผม “ แล้วตอนนี้มึงก็แพ้มันเมด มึงยังคงเป็นเบี้ยล่างให้มัน ทำไมถึงยอมลดตัวไปเป็นเห็บหมาวะ ทั้งๆที่กูยกให้มึงเป็นถึงราชินี ”

“ อาฟ ” ผมได้แต่อ้าปากค้างตอนที่อีกคนเอ่ยด่าออกมาแบบนั้น “ มึงด่ากูแรงไปเปล่าวะ”

“ เรื่องจริงจะแรงอะไร ก็มึงทำตัวเป็นแบบนั้นเอง ยีนส์มันก็เหมือนหมา ส่วนมึงก็เหมือนเห็บหมา ที่ตามติดหมาไปตลอด ไม่ว่าหมามันจะทำอะไร จะบุกน้ำลุยโคลนเห็บหมามันก็ต้องทำด้วย ต่างอะไรกับมึงที่ยังรู้สึกดิ้นตามไอ้ยีนส์ไม่ว่ามันจะทำอะไรวะ ”

ภายในรถกลับมาเงียบอีกครั้ง ผมเถียงไม่ออกแม้ว่าตัวเองจะโดนเปรียบเทียบว่าเป็นเห็บหมาก็ตาม คงเพราะว่าผมคิดว่ามันก็คงจริง ไม่มีอะไรที่อาฟพูดออกกมาแล้วผิดสักอย่าง มันพูดเรื่องจริง ผมยังคงดิ้นตามยีนส์ ผมคิดว่าตัวเองสะใจ ผมคิดว่าตัวเองได้เอาคืน แต่แท้จริงแล้วมันไม่ใช่ ผมแค่ตกลงไปหลุมที่มันขุดอย่างสมบูรณ์แบบ แล้วตอนนี้ก็เหมือนอย่างที่อาฟบอก    ยีนส์คงกำลังสมน้ำหน้าผม และคงกำลังคิดเข้าข้างตัวเองว่า ‘ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ผมก็ยังคงเจ็บปวดเสมอที่มันแย่งบินไป ’ แม้มันจะไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย

“ ลองคิดดูดีๆ ว่าที่มึงบอกว่า มึงทำแบบนี้มึงสะใจ มึงได้เอาคืน ได้ทำให้มันรู้ว่ามึงไม่ได้งอมืองอเท้าให้มันรังแกอยู่ฝ่ายเดียว จริงๆแล้ว มึงได้อะไรกลับมาบ้าง ลองถามตัวเองว่าที่ทำลงไป มันได้อะไรกลับมา แต่ถ้าคิดไม่ออก สมองยังทึบ ก็ลองหันมามองหน้ากู ” ผมหันไปมองหน้าคนพูดทันที แล้วตอนนั้นอาฟก็พูดแค่สั้นๆ “ สิ่งที่มึงได้ คือมึงทำกูเจ็บปวดเมด มากๆด้วย ”

“ ขอโทษ ” มีเพียงคำนี้ที่พูดออกมา ตอนที่ได้แต่จ้องมองใบหน้านั้นที่เริ่มฉายความเจ็บปวดออกมาทางแววตา สายตาคมเบือนหน้าหนีผม ในตอนนั้นผมก็ทำได้แค่ก้มหน้าลงไม่กล้าแม้จะมองหน้ามันอีก ทุกอย่างในรถเงียบลงอีกครั้ง ผมเหลือบมองมือหนาที่ตั้งอยู่ตรงพวงมาลัยรถ อาฟกำมันไว้แน่น เพราะตอนนี้กำลังพยายามอย่างที่สุดที่จะไม่แสดงสีหน้าเจ็บปวดอะไรออกมาทั้งนั้น

บางทีในมุมนึง ผมเป็นเด็กดื้อ ที่ถูกอีกคนเอาใจและตามใจอย่างที่สุด จนคิดว่าตัวเองจะทำอะไรก็ได้ เป็นเด็กที่ขาดความคิดรอบคอบ เหมือนเด็กที่คิดเอาแค่ความสะใจของตัวเอง โดยไม่ได้หันมองรอบข้าง ไม่ได้สนว่าใครจะเสียใจ สิ่งเดียวที่ผมสนใจเหมือนมีเพียงแค่ใครสักคนที่ซัพพอร์ตความต้องการของผมเพียงเท่านั้น โดยลืมเลือนไปเลยว่า จริงๆแล้ว เราควรมองคนที่เรารักมาเป็นอันดับหนึ่ง ควรมองว่าเค้ารู้สึกยังไง ควรมองว่าเค้าจะเจ็บปวดมั้ย ถ้าเราเผลอทำอะไรสักอย่างออกไป

“ ขอโทษที่เอาแต่ความคิดของตัวเอง ” ผมพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบนั้น ขอบตาของผมร้อนผ่าว น้ำตาเอ่อออกมาคลอเต็มไปหมด แต่ถึงอย่างงั้นผมก็ยังไม่กล้าจะมองหน้าอาฟ  “ ขอโทษที่ไม่ได้คิดถึงมึงเลย ไม่ได้คิดว่ามึงจะรู้สึกยังไงกับการกระทำของกู ขอโทษที่คิดแค่อยากจะเอาชนะ อาฟ กู..”

“ เมื่อคืนตอนที่มึงบอกว่า มาถ่ายรูปกัน กูเผลอยิ้มออกมาเพราะรู้สึกว่าตัวเองกำลังมีความสุขมาก หัวใจกูเต้นแรงสุดๆตอนที่มึงเอียงหัวมาซบกันที่ไหล่แล้วถ่ายรูป ภาพที่มึงบอกว่าสวย ตอนที่เราจับมือกันแล้วมึงตั้งกล้องไว้ข้างหลัง  กูอยากเห็นชัดๆ แต่ไม่กล้าจะขอมึงดู เพราะกลัวมึงจะรู้ว่ากูมีความสุขมากขนาดไหนกับการที่มึงแค่ถ่ายรูปของเรา ”

อาฟยิ้มออกมาหลังจากที่พูดประโยคนั้น มันไม่ใช่รอยยิ้มที่มีความสุขอะไร แต่เหมือนเป็นรอยยิ้มที่อีกคนกำลังรู้สึกสมเพชตัวเองเสียเหลือเกินเมื่อคิดถึงความรู้สึกของตัวเองในตอนนั้น

“ กูกลับมาถึงคอนโด กูรีบเปิดไอจีของตัวเองแล้วเข้าไปที่หน้าหลักของมึง กูกดลากลงเพื่อรีเฟรสหน้านั้นเกือบทุกวินาทีเพื่อรอว่าเมื่อไหร่มึงจะอัพภาพ แล้วสุดท้ายมึงก็อัพ มึงอัพภาพแรกของเราด้วยสเตตัสสั้นๆแบบคำว่า ‘ mine ’ ตอนที่เห็นมัน กูหยุดยิ้มไม่ได้เลย กูออกไปหน้าห้อง กูไปแอบยิ้มคนเดียวอยู่ในครัว เพราะตอนนั้นมึงกำลังอาบน้ำ กูกลัวมึงออกมาเห็นแล้วแซวกู ช่วงเวลานั้นกูคิดนะรู้มั้ย ความสุขแม่งไม่ต้องยาวเลย มันสั้นมากๆ แค่คำว่า mine ก็ทำให้คนอย่างกูมีความสุขมากๆแล้ว ”

“ อาฟ..” ผมบีบมือมันที่กำลังจับอยู่แน่น มันไม่ใช่แค่ความรู้สึกผิดอีกแล้ว มันไม่ได้รักษาได้ด้วยคำว่าขอโทษอีก ผมไม่รู้จะพูดอะไรทั้งนั้น ทำได้อย่างเดียวคือร้องไห้ออกมาเพียงเท่านั้น พร้อมกับคำพูดที่กร่อนด่าตัวเองในสิ่งที่ทำลงไป ผมถามตัวเองเป็นสิบๆครั้ง ผมอยากจะตบตัวเองด้วยซ้ำถ้าทำได้

“ ภาพแรกของเราที่มึงอัพ ภาพที่มันจะไม่หายไปเหมือนสตอรี่ที่มึงอัพทุกวัน ภาพที่จะเป็นความทรงจำของเรา ภาพที่บอกกับเราว่า วันนั้นเป็นวันที่เรามีความสุขมาก แต่หลังจากนั้นไม่นาน ยีนส์ก็ส่งข้อความเข้ามาหากู มันแคปภาพไอจีของมัน มาให้กูดู แล้วก็บอกกับกูแค่ว่า ‘ เมียมึงขาดความรักเหรออาฟ ถึงว่างมาอัพรูปประชดกู ’ ”

“ ห๊ะ ? ” ผมเผลอสบถออกมาตอนที่ฟังประโยคสุดท้ายนั้นจบ ขมวดคิ้วมองอีกคนด้วยความรู้สึกนิ่งค้าง “ กูคิดว่ามึงมีไอจียีนส์มึงถึงรู้ แต่นี่มันถึงขั้นสร้างเรื่องสร้างราวให้เราทะเลาะกันเลยไม่ใช่เหรอ ”

“ ก็ใช่ แต่มันจะเกิดมั้ยเมด ถ้ามึงไม่ไปดิ้นตามมัน แต่เพราะมึงดิ้นตามมันไม่ใช่เหรอ มันถึงทำอะไรแบบนั้นได้ ”  พยักหน้ารับตามคำพูดของอีกคน อาฟหันมามองผม “ ความสุขกูหายไปนะรู้มั้ย แล้วมึงก็เป็นคนทำให้มันหายไป ”

“ อาฟ ”

“ ตอนที่กูรู้ มันเหมือนกูโดนไม้หน้าสามฟาดใส่หน้า มีคำพูดนึงที่เหมือนใครบางคนตะโกนเข้ามาใส่กูว่ากูมันโง่ คิดว่าเมดจะบอกรักกูจริงๆเหรอ เมดไม่ได้รักกูขนาดนั้นมั้ย ”

“ ทำไมมึงคิดแบบนี้วะ มึงอย่าไปดิ้นตามไอ้ยีนส์มันสิ ไหนบอกกูอย่าไปดิ้น มึงเองก็ดิ้นตามมันเหมือนกัน กูจะไม่รักมึงได้ยังไง กูรักมึงนะอาฟ อย่าคิดอะไรแบบนั้นสิวะ ” หันไปเถียงใส่อีกคนเสียงดัง ผมจับแขนมันไว้แน่นในตอนที่พูดคำพูดพวกนั้น จ้องสายตาที่หันมามองกันก่อนจะซบลงไปหัวไหล่ “ กูจะไม่รักมึงได้ยังไง กูรักมึงมากเลยนะ ถึงกูจะงี่เง่าที่เขียนสเตตัสเหมือนยีนส์เพราะจะประชดมัน แต่ไม่ได้หมายความว่า กูจะเขียนไปโดยไม่ได้รู้สึกอะไร กูรักมึงจริงๆ ไม่ได้เขียนเพราะแค่จะประชด กูเขียนเพราะกูรู้สึกว่ากูเองก็มีมึงเป็นของกูเหมือนกัน อึก จะโกรธกูก็ได้ แต่ขอร้องอย่าคิดว่ากูไม่รักมึงเลย อึก กูรักมึงนะ รักจริงๆนะอาฟ ฮือๆ ”

ผมรู้สึกเจ็บ มันเจ็บยิ่งกว่าอะไรคำพูดอะไรทั้งหมดตั้งแต่ได้ฟังอีกคนพูดมา เจ็บอยู่ในใจจนได้แต่ร้องไห้ออกมาอยู่แบบนั้น ผมบีบแขนของอาฟที่จับไว้แน่น คำพูดที่มีแต่คำว่ารักเบาๆ หลุดออกมาจากปากซ้ำแล้วซ้ำเล่า เข้าใจถึงความรู้สึกของคนที่เสียใจเวลาได้ยินคนที่เรารักบอกว่า เราไม่ได้รัก ทั้งๆที่เรารักเองก็รักเค้ามาก ผมรู้แล้วว่ามันเป็นยังไง

“ เมด ”

“ ขอโทษ ขอโทษจริงๆ กูคิดน้อย กูขอโทษอาฟ แต่กูไม่ได้ไม่รักมึงนะ กูรักมึง กูรักมึงจริงๆ เชื่อกูเถอะ ต่อไปนี้กูจะไม่ทำอีก จะไม่ทำอะไรสิ้นคิดแบบนั้นอีก กูจะไม่ยุ่งวุ่นวายกับยีนส์ จะไม่ตอบกลับอะไรมันอีก ต่อให้มันทำอะไรกู กูก็จะอดทนไม่สนใจ อาฟ.. ”

“ พอแล้วไม่ต้องพูด แล้วก็ไม่ต้องร้องไห้ด้วย ” อีกคนบอกแบบนั้นก่อนจะเอื้อมมือมาเช็ดน้ำตาให้ผมที่ยังสะอึกสะอื้นอยู่แบบนั้น “ เมื่อคืนกูไม่ได้ตอบอะไรไอ้ยีนส์ เพราะกูจะไม่เดินตามเกมส์ที่มันวางไว้ กูเลือกที่จะคุยกับมึงด้วยเหตุผลเมด กูพูดกับมึงตรงๆ กูไม่ได้โกรธ ”

“ ตอนที่มึงโกรธกูครั้งแรกมึงก็พูดแบบนี้ มึงบอกว่ามึงไม่ได้โกรธแต่มึงไม่คุยกับกูเลย ” อาฟถอนหายใจออกมาตอนที่ผมบอกแบบนั้น “ กูย้อนเวลากลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว กูขอโทษที่ทำได้แค่ลบรูปนั้น แต่กูทำให้มึงกลับมารู้สึกกับกูเหมือนเดิมไม่ได้อีก กูขอโทษอาฟ ผิดไปแล้วจริงๆ ”

“ คนเราแม่งก็เป็นแบบนี้ทุกคนกันทุกคนสินะ ” อาฟพูดขึ้นมาตอนที่ถอนหายใจออกมาแล้วมองออกไปด้านหน้ารถ “ เราทำผิด แล้วเราก็ขอโทษ กูอธิบายมึงเป็นร้อยเป็นพันว่าทำทำไมตอนที่เราทะเลาะกันแล้วสุดท้ายกูก็จบมันด้วยคำว่า กูขอโทษ ตอนนั้นกูคิดอย่างเดียวคืออยากให้มึงหายโกรธ แต่ตอนนี้พอกูมาเป็นคนที่ต้องฟังคำว่าขอโทษบ้าง กูคิดถึงคำพูดมึงตอนที่มึง ถาม ว่าทำไมถึงพูดแต่คำว่าขอโทษ แล้วกูก็ได้คำตอบว่า แม่งก็พูดได้แต่คำนี้จริงๆ ”

“ อาฟ ”

“ ไม่ต้องพูดขอโทษแล้ว พูดในสิ่งที่กูขอดีกว่า ที่กูขอว่า เพื่อกู อย่าไปยุ่งกับไอ้เหี้ยพวกนั้น มึงทำให้กูได้มั้ย ”

“ ได้ ” ผมบอกมันเสียงหนักแน่น “ กูจะไม่ยุ่งกับพวกมันอีก ”

“ อื้ม ”

“ อย่าโกรธกันเลยนะมึง ถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะไม่ทำอะไรแบบนั้น แต่เพราะทำไม่ได้ กูทำอะไรไม่ได้เลย ยกเว้นยอมรับว่ากูผิด กูขอโทษ แล้วกูจะไม่ทำแบบนั้นอีก ” ผมเช็ดน้ำตาตัวเองที่เริ่มไหลออกมาอีกครั้ง อาฟที่หันมามองหน้ากัน

“ กูไม่โกรธมึงหรอกเมด เพราะกูจะไม่ดิ้นตามเกมส์ของไอ้ยีนส์มัน แต่กูแค่เสียใจ ที่เผลอไปดีใจกับรูปของเราที่มีมึงลง ”

“ ขอโทษ ”

“ เลิกพูดได้แล้ว ใกล้เวลาเข้าเรียนแล้วมึงเองก็ควรลงไปเรียน ” เชิดหน้าไปทางตึกคณะของผม ถอนหายใจออกมาตอนที่อีกคนพูดแบบนั้นผมก็เอาแต่นั่งนิ่ง ไม่อยากจะไปเรียนเลย ตอนนี้สมองผมไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น ในใจมันอัดแน่นไปด้วยความไม่สบายใจ ผมรู้ว่าอาฟยังเสียใจ ยังโกรธ แต่ผมเองก็ทำอะไรไม่ได้ยกเว้นยอมรับว่าตัวเองผิด

“ แต่ว่า..”

“ กูไมได้ขับรถมาเพื่อพามึงกลับไป มันเปลืองน้ำมัน ”

“ โดดสักคาบไม่เป็นไรหรอกมั้ง กูไม่สบายใจอะมึง เราเป็นแบบนี้จะให้กูไปเรียนได้ไง ”

“ มึงทำอะไรไม่ได้เมด ยกเว้นปล่อยให้เวลามันรักษาความรู้สึกของกู มันเกิดขึ้นแล้ว มึงก็ทำเท่าที่ทำได้นั่นคือการขอโทษ จะให้กูรู้สึกดีขึ้นมาฉับพลันโดยไม่รู้สึกอะไรมันไม่ได้หรอก เพราะกูยังเจ็บ แต่เดี๋ยวมันก็หาย ”

“ กูสามารถทำให้มันหายเร็วๆได้มั้ย มีวิธีไหนบ้างวะ ไม่อยากจะให้มึงเจ็บเลย ไม่อยากให้มึงเป็นแบบนี้ ”

“ ทีหลังก็คิดให้มากๆ จะได้ไม่ต้องมานั่งร้องไห้แล้วบอกกูว่า ไม่อยากให้กูเป็นแบบนี้ทั้งๆที่มึงก็ทำมันไปแล้ว ”

“ ขอโทษ ”

“ ลงไปเรียนไป ” อาฟเอ่ยปากไล่อีกครั้ง “ กูก็จะไปเรียนเหมือนกัน ” มองตามคนที่ไม่ว่ายังไงก็ยังคงยืนยันคำพูดนั้น ผมได้แต่ถอนหายใจออกมาเพราะถอดใจจะดึงดันทุกอย่างให้ไปต่อก่อนจะพยักหน้ารับกับอีกคน

“ กูไปก็ได้ ”

“ ให้ไปเรียน แล้วเดี๋ยวจะมารับกลับ ไม่ได้ให้ไปไหนไกลเข้าใจมั้ย ”

“ อื้อ รู้แล้ว กูไม่ไปไหนหรอก ไม่อยากไปไหนแล้ว ” มือหนาเอื้อมมือมาลูบหัวอีกคนขยี้เบาๆ แต่มันไมได้ทำให้จิตใจของผมรู้สึกดีขึ้นมาเลยสักนิด ในใจของผมอยากจะคืนดีกับอีกคนเร็วๆ ทั้งที่ก็รู้ดีว่า สิ่งที่ดีที่สุดที่จะทำให้ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิม คือเวลา และการทำตัวเองให้ดีขึ้น เหมือนอาฟที่ทำให้ผมหายโกรธเพราะมันก็ลดความปากหมาใจร้อนนั่นลงไปเยอะ

“ เดี๋ยว ” อาฟจับแขนผมตอนที่กำลังจะเปิดประตูรถลงไป “ ทำหน้าให้มันดีๆ อย่าให้ไอ้ยีนส์รู้ว่าแผนที่มันอยากจะให้เราทะเลาะกันมันสำเร็จ ”

“ กูไม่มีแรงจะเชิดหน้าหรอกอาฟ ” ผมหันไปบอกอีกคน “ ช่างมันเถอะ กูไม่อยากจะสนใจอะไรอีกแล้ว ต่อให้มันสมน้ำหน้ากู ต่อให้มันหัวเราะสะใจกู กูก็ไม่แคร์แล้ว ”

“ นี่ประชด ? ”

“ เปล่าเลยยยย ” ผมลากเสียงด้วยความรู้สึกเหนื่อยอ่อน จิตใจมันไม่ไหวแล้วตอนนี้ถ้าทำได้ผมแค่อยากจะกลับไปที่คอนโดชวนอาฟนอนลงบนเตียงแล้วกอดอีกคนไว้แบบนั้น กอดจนกว่าอีกคนจะหายโกรธแล้วกลับมารู้สึกกับผมเหมือนเดิม แต่เพราะทำไม่ได้ ก็เลยอยากจะติดทุกอย่างที่ทำให้รู้สึกหนักใจออกไปให้หมด มันพอแล้ว ผมไม่อยากจะแบกอะไรอีก ใครอยากจะคิดอะไรก็ให้เค้าคิดไป เราห้ามอะไรไมได้อยู่แล้ว โดยเฉพาะคนแบบยีนส์ “ มึงดูตากูก่อน บวมขนาดนี้ใครจะไม่รู้บ้างว่าร้องไห้มา แล้วกูคิดว่าถ้ากูลงไปทำหน้าเชิดๆ เหมือนไม่มีอะไรคนแบบยีนส์ก็ยิ่งได้ใจ แล้วก็สมเพชมากกว่าเดิม แล้วอีกอย่าง มึงบอกเองว่าให้เลิกใส่ใจมัน เพราะงั้นเราก็ควรมองข้ามมันไป ไม่ต้องสนว่ามันรู้สึกยังไงจริงมั้ย ”

“ อื้ม ” อาฟตอบเสียงเบา ผมเองที่มองหน้ามันอยู่แบบนั้นสักพักก่อนจะดึงตัวเองยืดขึ้นหอมแก้มอีกคนที่ก็แค่ปรายตามามองกัน

“ ไปนะ แล้วเจอกัน ”

ปิดประตูรถเรียบร้อยผมยืนนิ่งมองอีกคนจนกระทั้งรถคันนั้นขับออกไปจากหน้าตึกคณะ ผมหันตัวกลับมาเดินเข้าตึกเรียน กดลิฟต์เตรียมขึ้นไปชั้นบน แล้วในระหว่างรอก็เผลอถอนหายใจออกมากับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ ผมนวดขมับตัวเองด้วยความปวดหัวเพราะเมื่อครู่ก็ร้องไห้มาอย่างหนัก

“ อ้าว เมด ” เสียงของจิงที่เอ่ยทักผม มันยิ้มให้กันผมก็นิ่งไปสักพัก่อนยิ้มตอบกลับไป “ เป็นอะไรวะ หน้าตามึงดูไม่ดีเลย ”

“ ทะเลาะกับอาฟ ” ไม่รู้ทำไมผมถึงบอกออกไปตรงๆแบบนั้น แต่มันไม่อยากจะปิดอะไรแล้ว ผมเหนื่อยจะสร้างเรื่องราวปิดบังความจริงที่เกิดขึ้น เพราะยิ่งทำก็ยิ่งรู้สึกตัวเองน่าสมเพช

“ มึงไหวนะ ”

“ เพราะเพื่อนซี๊มึงนั่นแหละ กัดกูไม่ปล่อยเลย ”

“ มันทำอะไร ” ผมยกยิ้มขึ้นมาตอนที่อีกคนถามกลับมา ผมกำลังขบขันตัวเองที่อยู่ๆกลับกำลังจะอ้าปากเล่าเรื่องทั้งหมดให้คนของไอ้ยีนส์ฟัง ทั้งๆที่ก็รู้ว่าพอเอ่ยเล่าไปมันก็ต้องเอาไปเล่าต่ออีกคนแน่ๆ

“ กูต้องเล่าด้วยเหรอวะ มึงไม่ได้วางแผนนี้กับไอ้ยีนส์หรอกเหรอ ”

“ แผนอะไรกูไม่รู้เรื่อง ” จิงตีหน้างง ผมไม่รู้มันพูดจริงหรือเล่น จิงเป็นคนคบไม่ได้ตั้งแต่วันนั้นสำหรับผม แต่ถ้าให้พูดจริงๆ ก็คงต้องบอกว่าผมไม่ไว้ใจใครทั้งนั้น ตั้งแต่เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นในชีวิต

“ เดี๋ยวยีนส์ก็เล่ามึงด้วยความสะใจเองนั่นแหละ มึงรอฟังเถอะ ฟังจากกูมันไม่สนุก ไอ้ยีนส์เล่าน่าจะสนุกกว่า ”

“ เมด ” อีกคนพูดเสียงเบา “ เป็นห่วงมึงจริงๆ มีอะไรก็พูดกับกูได้ กูไม่บอกยีนส์หรอก ”

“ จิง กูแม่งจะเชื่อมึงได้ยังไงวะ ” ผมหันไปถามอีกคนยิ้มๆ “ มึงคิดก่อนสิวะ จะพูดอะไรน่ะ กูไม่เชื่อมึงหรอก มึงทำกับกูขนาดนี้กูจะไปเชื่อมึงได้ยังไง ”

“ ก็จริงของมึง ” อีกคนถอนหายใจออกมาก่อนจะก้มหน้าลง แล้ววินาทีนั้นผมก็เห็นรอยแดงที่คอของอีกฝ่าย และด้วยความปากไว ผมก็หลุดถามออกไป

“ มึง มีแฟนแล้วเหรอ ”

“ บ้า ไม่มี มึงคิดอะไรอย่างงั้น ใครมันจะมาสนใจกู ”  ส่ายหน้าปฎิเสธให้กันผมก็ชี้ที่คอของผมเพื่อตอบคำถามที่อีกฝ่ายถามว่าทำไมคิดอะไรแบบนั้น ผมรู้สึกจิงหน้าซีดขึ้นฉับพลัน มันกลืนน้ำลายก่อนจะตั้งปกคอเสื้อนักศึกษาที่ใส่มาเพื่อปิดมันไว้ก่อนจะยิ้มให้ผม “ ยุงกัดน่ะ ”

“ อื้ม ” ตอบแบบนั้นก่อนจะเดินเข้าไปในลิฟต์ตัวที่มาถึงพอดี

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27

เราขึ้นไปถึงห้องพร้อมกัน เปิดประตูทางด้านหลังเข้าไปพร้อมกับคนอีกกลุ่มหนึ่งที่เปิดประตูเข้ามาทางด้านหน้า มองหาที่นั่งที่ตอนนี้ก็ยังมีที่ว่างเหมาะๆอยู่บ้าง ผมเดินเข้าไปนั่งแล้ววินาทีที่หย่อนตัวลงนั่งเรียบร้อย คนที่อยู่เยื้องผมก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นยีนส์ที่กำลังคุยกับเพื่อนร่วมคณะคนอื่นอย่างออกรส

“ มึงคิดว่าเมดจะคบไอ้เจ้าของผับนั่นเพราะรักกันจริงๆเหรอวะ กูว่าไม่หรอกมันก็แค่อยากจะประชดกูกับบินเท่านั้นแหละ ทำให้เห็นว่าไม่แคร์ไม่สนมีคนที่รวยกว่า มันเค้าคบก็เพราะเค้ารวยเท่านั้น แล้วเจ้าของผับคนนั้นก็คงแค่อยากจะได้ตัวมันเหมือนของเล่นนั่นแหละ เค้ารวยขนาดนั้นจะมาสนใจมันจริงๆได้ไง ไม่งั้นเมื่อวานกูอัพภาพกับบินมันจะประชดด้วยการอัพภาพมันกับแฟนกลับมาทำไม ถ้ายังไม่รัก ร้อยวันพันปีไม่เคยอัพ ”

“ ยีนส์ ” เสียงของจิงที่ดังขัดเพื่อนของตัวเองตอนที่เดินไปถึง มันเอื้อมมือไปจับไหล่ของอีกคนแล้วเขย่าก่อนจะเชิดหน้ามาทางผม “ เมดมันนั่งอยู่นะ ”

ทุกคนหันมาหาผมตอนที่ได้ยินแบบนั้น คนที่นั่งฟังอยู่หรือแม้แต่ยีนส์ก็หยุดพูดทุกอย่างไปทันที แต่ผมไม่ได้สนใจอะไร ทำเป็นนั่งนิ่งๆแล้วเปิดไอแพตขึ้นมาเพื่อเตรียมจดวิชาที่ต้องเรียนวันนี้ เพื่อนหลายคนหันมามองทางผมก่อนจะหันไปไปคุยกับคนที่อยู่ข้างตัวในเรื่องราวที่ยีนส์เล่า  ผมเงยหน้ามองไปรอบๆ ก่อนจะหยุดจ้องตากับอีกคนที่ก็เหมือนจ้องผมอยู่นานแล้ว

“ ตาบวมๆ ทะเลาะกับอาฟเหรอเมด ” คงเป็นคำที่มันเตรียมเยาะเย้ยกันตั้งแต่เมื่อคืนที่ตัวมันทำเรื่องแบบนั้น

“ ใช่ ” ผมพยักหน้ารับมัน อีกคนก็แค่ยิ้ม “ ก็เป็นไปตามแผนของมึงนั่นแหละ ร้อยวันพันปีไม่เคยเข้าไปดูไอจีกู แต่พออัพรูปคู่ผัวที่แย่งเพื่อนไป กลับเข้ามากดไลค์ไอจีกูเฉยๆซะอย่างงั้น ไม่บอกก็ยังรู้ ว่ามึงตั้งใจจะให้กูเข้าไปเห็น อยากให้กุรู้สึกอะไรวะ ถามจริง อิจฉามึงเหรอ ? แล้วมันน่าอิจฉาเปล่าวะ ใครมันในห้องนี้อิจฉามึงบ้างวะ โดนด่าว่าแย่งผัวเพื่อน เวลาใครพูดถึงมึง บอกว่ายีนส์บัญชี ไม่มีใครคิดออกหรอก แต่พอบอกกว่า ยีนส์ที่แย่งผัวเพื่อนมันไง ใครๆก็นึกหน้ามึงทั้งนั้น หรือว่าไม่จริง ”

ภายในห้อง ณ วินาทีนั้นมันเงียบไปหมด คงเพราะผมไม่เคยทะเลาะกับยีนส์ต่อหน้าใคร และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผมเปิดปากด่าอีกคนต่อนหน้าเพื่อนๆในห้อง แล้วนั่นก็ทำให้ยีนส์ที่ยิ้มอยู่หุบยิ้มลงทันที มันนิ่งไป แล้วเอาแต่มองหน้าผมนิ่งๆ มือของมันกำแน่นด้วยความรู้สึกโกรธ

“ เอาตัวเองให้รอดเถอะมึง ยังรักคนเก่าอยู่แบบนี้ ระวังคนใหม่มันทนไม่ไหว แล้วเรื่องที่คบเค้าบังหน้ามันจะโป๊ะแตกขึ้นมาจริงๆ ”

“ กูไม่กลัว เพราะกูไม่ได้คบอาฟบังหน้าใครอยู่แล้ว เหตุผลเดียวที่กูคบมัน คือกูชอบมัน แล้วใครจะคิดยังไงกูไม่สน จะเชื่อไม่เชื่อก็เรื่องของเค้า อีกอย่างกูจะทะเลาะกับอาฟมันก็เรื่องปกติ คนเราเป็นแฟนกันใครมันจะมีความสุขกันทุกวัน พูดเหมือนมึงกับไอ้บินมีความสุขกันทุกวัน ”

“ พวกกูมีความสุขกันทุกวันตั้งแต่ไม่มีมึง ” อีกฝ่ายพูดหน้าตายผมก็ได้แต่ยกยิ้ม

“ มีความสุขทั้งๆที่ไม่กล้าแม้จะนั่งกินข้าวในมหาลัยแบบสองต่อสองเพราะมีแต่คนหันมามองน่ะเหรอวะ เป็นความสุขที่แปลกดีเหมือนกันนะมึง ทั้งๆที่แย่งเพื่อนไปได้แล้ว แต่ยังต้องถูกตราหน้าไปไหนก็มีแต่คนมอง วันๆก็คอยแต่กลัวว่าบินมันจะนอกใจมึงไปหาใครอีก  ความสุขของมึงแปลกดี โชคดีที่กูไม่ใช่คนที่ชอบอะไรแปลกๆแบบนั้น ”

“ เมด ” ยีนส์ลุกขึ้นเต็มความสูง “ มึงจะเอายังไงกับกู ”

“ ถามตัวเองสิว่ามึงจะเอายังไงกับกู ” ผมถามอีกคนกลับ “ มึงเชิญชวนกูไปดูภาพมึงกับไอ้บิน เพื่อต้องการอะไรกันแน่วะ ต้องการให้กูอัพภาพของกูกับอาฟ เพื่อที่จะให้มึงแคปภาพนั้นส่งไปให้ไอ้อาฟ หาเรื่องให้เราทะเลาะกัน มึงว่างนักเหรอวะ ขาดความรักความใส่ใจเหรอ กูถามหน่อย ”

“ พวกมึงทะเลาะกันสินะถึงด่ากูขนาดนี้ แต่นั่นมันก็หมายความว่ามึงยังรักบินอยู่ไงไม่ใช่รึไง มึงยังแคร์มัน ที่มันมีความสุขกับกู มึงเลยอัพภาพมึงกับอาฟเพื่อประชดพวกกู ”

“ ยีนส์  บินไม่ใช่ผู้ชายที่ดีขนาดนั้นมึง มันไม่ได้ดีขนาดที่กูต้องเสียดาย เหมือนถมน้ำลายลงไปในคลองน้ำเน่า ใครันจะเก้บขึ้นมาวะถามหน่อย ” ผมเลิกคิ้วถามมัน  “ การที่กูอัพภาพตอบโต้มึง นั่นเพราะมึงหาเรื่องกูก่อน มึงจงใจทำให้กูเห็น แล้วที่กูอัพภาพตอบโต้กลับเพราะกูแค่อยากให้มึงเห็นว่า กูก็มีคนของกูแล้ว ไม่จำเป็นที่มึงจะต้องมาทำอะไรแบบนั้นเพื่อหาเรื่องกู ” สายตาจริงจังของผมจ้องมองมันในตอนที่พักหายใจ

มันมีคำด่าอีกร้อยล้านคำ มีหลายร้อยความรู้สึกที่อยากจะด่าว่ามันออกไปในตอนนี้ อยากหาคำที่ด่าแล้วเจ็บที่สุดในโลกมาตะโกนใส่มัน แต่พอผมคิดถึงอาฟ ผมก็รู้สึกว่ามันก็ไม่ประโยชน์อะไรหรอก แล้วผมก็ควรหยุดได้แล้ว หยุดอย่างที่อาฟขอร้องกับผม ‘ ไม่สนใจพวกมันแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่กับกูได้มั้ย ’

“ เมด ”

“ กูขอได้มั้ยยีนส์ ” เอ่ยประโยคด้วยเสียงจริงจัง ก่อนจะจ้องตาอีกคนด้วยความรู้สึกที่ก็จริงจังไม่แพ้คำพูด  “ ต่อจากนี้ไป ต่างคนต่างอยู่ได้มั้ยมึง มึงก็อยู่กับบินไปไม่ต้องมาสนใจกู ส่วนกูเอง กูก็จะใช้ชีวิตของกู เราไม่ต้องมาวุ่นวายกับชีวิตของกันและกันได้มั้ยวะ ”

“ เมดแม่ง ยอมง่ายว่ะ ด่าอีกสิว่ะ  ” เสียงที่มาจากด้านหลัง แต่เพราะภายในห้องเงียบมันเลยทำให้ทั้งผมทั้งยีนส์ยินชัดแต่ถึงอย่างงั้นเราก็ไม่ได้หันไปมองว่าเป็นใคร

“ ยืนทำอะไร ทะเลาะกันเหรอ” เสียงของอาจารย์ประจำภาควิชาเดินเข้ามาขัดก่อนที่ใครจะพูดอะไรขึ้นมา ยีนส์หันไปมองอาจารย์มันนั่งลงตรงที่นั่งของมันที่อยู่เยื้องกับผม เราไม่ได้ข้อสรุปของเรื่องนั้นในท้ายสุด แล้วนั่นก็ทำให้ผมต้องถอนหายใจออกมา
แผ่นหลังที่คุ้นเคย ชวนให้คิดถึงความเป็นเพื่อนตั้งแต่เด็กของเรา สมัยมีมือถือใหม่ๆผมเคยนอนคุยโทรศัพท์กับมันด้วยเรื่องไร้สาระมากกว่าครึ่งวัน ยีนส์เป็นคนที่เคยยกให้เป็นเพื่อนที่รักที่สุด และเช่นกันวันนี้มันคือคนเดียวกัน ที่ทำให้ผมเสียใจที่สุด เสียใจในการกระทำทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้น ทั้งเรื่องบิน แล้วก็เรื่องของอาฟ

เพราะครั้งนึงผมเคยคิดว่าถ้ามันไม่ใช่ยีนส์ก็คงดี ความเสียใจที่มีในวันนั้น มันคงไม่เจ็บปวดอย่างงั้นก็ได้ ถ้าคนคนนั้นไม่ใช่ยีนส์ เพื่อนรักของผม

บางที พระเจ้าก็ช่างใจร้าย ทำไมถึงทำร้ายผมได้โหดร้ายอย่างงั้น

“ เด็ดมากเลยเมด ตอนมึงด่ามัน ” คนข้างตัวผมสะกิด ก่อนที่เธอบอกจะบอกออกมาแบบนั้น แต่ผมก็ไม่ได้ตอบอะไรทำได้แค่ยิ้ม จนเธอเอ่ยพูดต่อ  “ แต่มึงไม่น่ายอมมันง่ายอย่างงั้น ”

“ กูแค่ไม่รู้ว่าข้อดีของการไม่ยอมมันคืออะไร กูเห็นแค่ข้อเสียของมัน ”

“ หมายความว่าไงวะ ”

“ ไม่มีอะไรหรอก แต่ยอมดีกว่า เรื่องมันจะได้จบๆ จะได้ใช้ชีวิตแบบต่างคนต่างอยู่ กูว่ามันดีที่สุดแล้ว ”  เพื่อนคนนั้นไม่ถามอะไรผมต่ออีก ต่างคนก็ต่างตั้งใจเรียนในเนื้อหาก็ถูกเปิดขึ้นสไลค์อยู่ที่ด้านหน้าชั้นเรียน และผมที่ตอนนี้พยายามตั้งสมาธิกับสิ่งที่เห็นแต่ทว่ามันก็ไม่ได้ผลเท่าไหร่ เพราะสายตาที่หันไปมองมือถือทุกๆสองนาที หวังแค่ว่าใครบางคนจะตอบกลับมา

ผมรู้ว่าอาฟโกรธ แล้วผมก็รู้ว่าเวลาเท่านั้นถึงจะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้น แต่ถึงอย่างงั้นในใจลึกๆก็อดใจไม่ไหวที่อยากจะให้อะไรๆของเรามันกลับไปเป็นเหมือนเก่า แค่เร็วกว่าที่จะเป็นสักหนึ่งวินาที ผมก็ดีใจแล้ว

[ ทำอะไรอยู่ ] ในที่สุดก็ทนไม่ไหวส่งข้อความไปหาอีกคนที่ก็ขึ้นว่าอ่านแล้วแต่กลับไม่มีอะไรตอบกลับมา ผมส่งสติเกอร์หน้าอ้อนไป [ หายโกรธน้องเมดนะพี่อาฟ ]

[ ไปตั้งใจเรียน ] คำพูดสั้นๆนั้นตอบกลับมา ผมก็ได้แต่ถอนหายใจ เผลอนั่งคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น คิดถึงคำพูดของอาฟที่เล่าให้ฟังว่ามีความสุขแค่ไหนที่เห็นว่าผมอัพภาพของมัน นั่งคิดทบทวนว่าถ้าเป็นตัวเองจะรู้สึกเจ็บปวดแค่ไหน และพอคิดแค่นั้นใบหน้าของคนที่ไม่แม้จะร้องไห้ให้กันเห็น และไม่เคยขอร้องอะไร ก็ฉายขึ้นมาในใจจนชวนให้เจ็บซ้ำเหมือนย้ำลงจุด

‘ ถ้าวันนั้น ผมฟังน้องเดย์ก็คงดี ’ แต่เราก็ย้อนกลับไปทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว เป็นแค่คำว่า ‘ ถ้า ’ ที่ใช้ปลอบใจตัวเองเพียงเท่านั้น แต่กลับช่วยอะไรในความจริงให้ดีขึ้นไม่ได้เลย

นั่งรออยู่ที่หน้าคณะของตัวเองเงียบๆ หลังเรียนเสร็จ  ผมแวะซื้อคาราเมลมัคคิอาโต้จากร้านที่อาฟเคยบอกว่าชอบกิน แต่เหมือนจะซื้อเร็วไปหน่อยตอนนี้น้ำแข็งในแก้วมันก็เลยเริ่มละลายออกมาแล้วแต่ทว่าคนที่ผมตั้งใจซื้อมาง้อ ยังไม่มีทีท่าว่าจะส่งข้อความตอบกลับมา แม้ผมจะถามไปนานแล้วว่า [ อยู่ไหนแล้วครับ ]

เวลาโกรธก็ชอบเป็นแบบนี้ ปากบอกไม่โกรธ แต่กลับไม่พูดอะไร ทำทีเป็นนิ่ง แต่พอง้อ ก็ตอบแบบปัดรำคาญว่า ‘ ไม่ได้โกรธ ’

“ ไม่โกรธพ่อมึงสิ งอนแม่งอย่างกับตุ๊ด ” บ่นออกมาเสียงเบาๆก่อนจะฟุบลงกับกระเป๋าที่ตั้งอยู่บนโต๊ะตัวเอง “ แต่กูก็ผิดเอง แม่งก็สมควรแล้ว ”

[ พี่เมด วิวขอโทษ ] ข้อความของวิวเด้งขึ้นมาบนหน้าจอ ผมกดเข้าไปอ่านตอนนั้นอีกคนก็ส่งสติกเกอร์ร้องไห้มาให้อีกครั้ง [ คืนดีกับพี่อาฟยัง วิวขอโทษนะ ไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นแบบนี้อะ ]

[ มึงไม่ได้ผิดอะไรจะขอโทษทำไม ] ผมบอกน้อง มันไม่ใช่ความผิดของวิวเลยถึงมันจะแนะนำมาแบบนั้น แต่ถ้าผมไม่ทำตามคำแนะนำซะอย่างก็คงไม่มีอะไรเกิดขึ้น [ แล้วนี่รู้ได้ยังไงว่ากูทะเลาะกับพี่อาฟ ]

[ ไอ้สัดพี่เจด่ากูน่ะสิ มันบอกว่าพี่อาฟฝากมาบอกกูว่า ถ้ากูเสือกออกความคิดดีๆไม่ได้ให้เงียบปากไปน่าจะดีกว่า แล้วก็จัดการสั่งสอนกูใหญ่โตเลย มันบอกกูว่าทำตามอารมณ์ไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดี ไม่เคยคิดถึงสิ่งที่จะตาม กูเป็นคนที่คิดเอาแต่สะใจเท่านั้น ส่วนอะไรจะเกิดขึ้นตามมาทีหลังก็ค่อยเคลียร์ มันบอกว่ากูจะเป็นแบบนั้นก็ได้แต่เฉพาะเรื่องของกู อย่าเอาเรื่องแบบนี้ไปใส่ในหัวสมองพี่มึงอะ ]

[ สงสารมึง เหมือนทำให้มึงโดนด่าไปด้วย ] ผมยิ้มแห้งๆก่อนจะถอนหายใจออกมา ในตอนที่พิมพ์ไปแบบนั้น [ แต่ไม่ต้องขอโทษกูวิว มึงไม่ได้ผิดอะไรจริง ]

[ กูไม่ระคายหรอกมันด่ากูแค่นี้ แต่มันก็จริงอย่างที่พี่เจพูดอย่างนึง ]

[ พูดอะไรวะ ]

[ มันบอกว่ากูเป็นแค่คนอื่น จะคิดให้ทำแบบไหนก็ได้ จะพูดอะไรก็ได้เพราะมันไม่ใช่เรื่องของกู ไม่ต้องคิดซับซ้อน ไม่ต้องคิดถึงใคร  กูจะคิดถึงแค่ความสะใจอย่างเดียว แต่มึงทำแบบนั้นไม่ได้ มึงคือคนที่ต้องทำ มันบอกว่า มึงต้องคิดให้เยอะ ต้องคิดถึงความร็สึกของพี่อาฟให้มากๆ เพราะความรู้สึกของคนเรามันเปราะบาง ]

[ อื้ม จริงของเจมัน ]

[ แต่ตอนนั้นกูเถียงด้วยนะ ]

[ เถียงว่าไรวะ ]

[ ก็เถียงว่าหน้าตาแบบพี่อาฟ ไม่น่าเปราะบางกับเรื่องแบบนี้หรอก หน้าดูหนา ๆ ไม่น่าสะทกสะท้านง่ายๆ ]

[ ไอ้น้องเหี้ย ] ผมพิมพ์ออกไป ก่อนจะส่งสติกเกอร์หัวเราะไปให้มันเพราะผมก็กำลังยิ้มกว้างอยู่

[ แล้วคราวนี้พี่เจก็ด่ากลับกูอีกว่า ไม่รู้เรื่องเค้าทั้งหมดทีหลังอย่าเสือกออกความคิดเห็น ถึงพี่อาฟจะหน้าเหี้ยแต่กับพี่มึงมันก็เปราะบาง อย่าแนะนำให้พี่เมดทำอะไรแบบนั้นอีก เรื่องแบบนี้มันต้องให้พี่เมดคิดเองว่าจะทำหรือไม่ทำ กูแค่ให้คำปรึกษาเวลามึงทะเลาะกับพี่อาฟพอ แล้วถ้ากูไม่ฟังยังดื้อ มันบอกว่า มันจะหยิกหัวนมกูให้เขียวเลย ฮืออออออ มึงดูมันสิพี่เมด กูจะฟ้องแม่ ]

“ พวกมึงแม่ง ” หลุดสถบออกมาตอนที่อ่านจบ ผมหัวเราะจนไหล่สั่น วิวก็พิมพ์เล่าต่อ

[ แต่กูก็เถียงออกไปอีกนั่นแหละว่า ถ้ามึงกล้าหยิกหัวนมกู กูเองก็จะหยิกไข่มันเหมือนกัน เอาให้ตั้งไม่ได้เลย ]

[ มึงจะลำบากเอานะวิว ] ผมแซว แต่อีกคนก็ส่งสติกเกอร์แบบหน้าไม่ใส่ใจกลับมาให้

[ ไม่ได้มีอันเดียวในโลกไงพี่เมด ไม่แคร์ครับผม ]

[ ให้มันจริง วันก่อนแค่เค้าไม่แนะนำว่าเป็นแฟน กูเห็นร้องไห้ขี้มูกโป่ง กว่าจะอธิบายกันรู้เรื่อง โคตรเปลืองน้ำลาย ]

[ อย่าว่าน้อง ] วิวพิมพ์ตอบกลับมากับคำแซวของผม [ แล้วนั่นดีกับพี่อาฟยัง ]

[ ยังเลย มันไม่คุยกับกูเนี้ย ส่งข้อความอะไรไป อ่านแล้วก็ไม่ตอบ โคตรงอน แต่ปากก็บอกกว่าไม่โกรธ ]

[ ธรรมดา คนปากแข็งก็งี้ พี่มึงก็ขยันง้อหน่อยแล้วกัน ให้เวลาค่อยๆปลอบประโลมเดี๋ยวมันก็ดีขึ้น ]

[ กูไม่ชอบเลย ]

[ ไม่ชอบอะไรวะ ]

[ ไม่ชอบที่เวลาโกรธกัน แล้วมันค้างคาแบบนี้ไง  คืออาฟมันเป็นพวก ปากบอกไม่โกรธ แต่หน้านี่โคตรงอน ทำไมเราไม่เคลียร์กันให้จบๆไปเลยวะ อย่างกูตอนทะเลาะกับมันเคลียร์กันดีกัน ก็คือจบแล้ว ไม่มีอะไรต้องยืดยาวเลย ]

[ แล้วความรู้สึกมึงมันจบจริงๆเหรอวะ หรือแค่ตัดจบไปเพราะ ไม่อยากจะค้างคา ]

ผมอ่านข้อความของวิวไม่ได้ตอบกลับอะไรออกไป หวนคิดถึงตอนที่เรามีปัญหากันในตอนนั้น ผมที่คืนดีกับอาฟเพราะรู้สึกว่าต่อให้งอนมากกว่านั้นหรือโกรธกันมากกว่านี้ อีกคนก็คงพูดได้คำว่า ขอโทษ อนาคตไม่ได้เกิดขึ้นในวินาทีต่อมาเพื่อแสดงให้มั่นใจว่ามันจะไม่ทำอะไรแบบนั้นอีก ผมเลยตัดใจที่จะไม่โกรธมากมายกว่านั้นแล้วเลือกที่จะให้โอกาสมัน แม้ใจที่หวนคิดจะยังหงุดหงิดอยู่มากก็ตาม

[ คนเรามันมีสองแบบนะพี่เมด คือปากบอกหายโกรธแต่ในใจยังโกรธ แล้วก็ทำทีเป็นไม่โกรธเพื่อตัดปัญหา กับอีกอย่างคือ รู้สึกยังไงก็แสดงออกมาแบบนั้น ก็ยังไม่หายโกรธ ยังรู้สึกไม่ดี แล้ววิวคิดว่าแบบหลังมันดีกว่านะ อย่างน้อยเราก็มั่นใจได้ว่า ตอนนี้เค้ารู้สึกยังไงถ้าโกรธก็จะได้ง้อ ดีกว่ายิ้มให้เราคิดว่าเค้าไม่รู้สึกอะไร แต่จริงๆก็รู้สึกไม่ดีกับเราอยู่ ]

[ ก็จริงของมึง ]

[ เพราะงั้น แบบนี้ก็ดีแล้ว อย่างน้อยพี่เมดก็ได้รู้ไง ว่ายังคงต้องง้อพี่อาฟอยู่ ]

[ ประเด็นมันอยู่ที่ว่า กูไม่รู้ว่ามันต้องง้อยังไงนี่น่ะสิ อาฟแม่งง้อโคตรยาก ]

[ เอาน่า พี่อาฟโกรธพี่เมดไม่นานหรอก เค้ารักพี่เมดจะตาย เชื่อสิ ]

[ โอเค ] ผมพิมพ์ตอบกลับไป แต่ในใจก็เอ่ยประโยคเถียงน้องชายออกไปว่า  ‘ มึงคงไม่เคยได้ยินคำว่า รักมากเกลียดมากสินะวิว ’


ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
รถคันคุ้นตาจอดเทียบหน้าคณะ ผมหันไปยิ้มให้คนขับที่แม้จะมองเข้าไปไม่เห็นก็ตาม หยิบกระเป๋ากับกาแฟที่ตั้งใจจะซื้อไปให้อีกคนขึ้นมา ตอนที่จะก้าวเท้าออกจากเก้าอี้ เสียงทุ้มของบินที่คงเดินมาหายีนส์ที่คณะก็เอ่ยทักผม

“ เมด ” ผมทำเป็นไม่ได้ยินเสียงนั้น ไม่แม้จะหันไปมองว่าอีกฝ่ายมีสีหน้าแบบไหน ก้าวขายาวๆเดินมาที่รถเปิดประตูก่อนจะเข้าไปนั่ง แล้วยื่นกาแฟที่ซื้อมาให้อีกคน
 
“ กูซื้อกาแฟมาฝากมึง ” บอกแบบนั้นแต่อาฟกลับไม่ได้หันมามองผมเลย มันมองไปที่บิน ที่ตอนนี้กำลังยืนมองเราอยู่จากด้านนอก “ อาฟ ”

“ มันทักมึง ”

“ ใช่ ” ผมพยักหน้ารับ “ มันทักกูว่าเมด แต่กูไม่ได้ตอบอะไรมันนะ ไม่ได้หันไปมองด้วย ”

“ ยังไม่ได้ว่าอะไร ” คนถามหันมาบอกก่อนจะหยิบกาแฟที่ผมถือไปกิน อาฟดูดก่อนจะเขย่าน้ำแข็งที่ละลายเป็นชั้นให้ผสมกับกาแฟ “ นี่กาแฟหรือน้ำเปล่า ”

“ ก็ส่งข้อความไปมึงก็ไม่ตอบ คนจะซื้อให้ก็กะเวลาซื้อไม่ถูกน่ะสิวะ ” แก้วกาแฟถูกวางลงตรงที่ตั้งแก้ว ก่อนที่อาฟจะขยับปรับเกียร์แล้วเคลื่อนรถไปข้างหน้า

ภายในรถมีแต่ความเงียบเชียบ ทั้งที่ทุกอย่างก็ดูเป็นปกติเหมือนทุกวัน เพลงยังคงเปิดเบาๆเหมือนเดิม ผมเองก็ยังคงก้มหน้าทำงานเหมือนเดิม  แล้วเราก็เงียบไม่ได้พูดอะไรกันเท่าไหร่เหมือนอย่างเดิม แต่ทว่าความรู้สึกทุกอย่างมันกลับไม่เหมือนเดิม คงเพราะคนขับที่ชอบยื่นมือมาบีบแก้มกันระหว่างไฟแดง ไม่ทำแบบนั้นอีก มือที่วางเปล่าของผมมันตั้งไว้นิ่งๆทั้งๆที่ปกติจะถูกดึงไปกุมกันไว้เวลาติดไฟแดง

“ เรากินอะไรกันดี ” เอื้อมมือไปจับมือมันก่อน ผมถามเพื่อทำลายความเงียบนั้น แต่อาฟก็แค่มองออกไปรอบๆแล้วหันมาบอกกันเหมือนทุกที

“ ตามใจมึงแล้วกัน ”

“ มึงไม่มีอะไรที่อยากจะกินจริงๆเหรอวะ ถ้ามึงอยากจะกินอะไรกูก็กินได้นะ ” ผมถามอาฟก็นิ่ง

“ ยังไม่หิวเท่าไหร่ ไว้ค่อยไปกินมื้อดึกแล้วกัน ” บอกปัดกันก่อนจะขยับเปลี่ยนเกียร์ให้ขับขึ้นตรงไปข้างหน้า ผมมองสัญญาณไฟสีเขียวที่ฉายขึ้นมา ก่อนจะดึงตัวเองพิงหลังลงกับเบาะที่นั่ง อาฟยังคงหงุดหงิดอยู่สำหรับเรื่องที่ผมทำ มันยังคงไม่อยากจะพูดอะไรกับผม เหมือนอยากจะจมอยู่กับตัวเองแบบนั้น

“ นี่มึง..”

“ ไม่ต้องพูดเรื่องนั้นแล้ว ” อีกฝ่ายถอนหายใจออกมาก่อนจะพูดขัด “ กูเบื่อจะฟัง แม่งฟังมาทั้งวันแล้ว ” อาฟเงียบไปส่วนผมเองก็ทำให้ได้แต่มองหน้ามันอยู่อย่างงั้น จนอีกฝ่ายหันมามองกัน “ ขอเวลากูหน่อยเมด ขอกูอยู่เงียบๆสักพัก ”

“ อื้ม ” ขานรับอีกคนสั้นๆ อยากถามเหมือนกันว่า แล้วเมื่อไหร่หาย ผมไม่อยากจะปล่อยอาฟไว้เลย อาจจะเห็นแก่ตัว แต่ก็แค่กลัวว่ามันจะหายไปจริงๆ
 
ผมเดินขึ้นไปที่ชั้นบนของผับหลังจากมาถึง เปิดคอมทำงานฆ่าเวลาที่ใจรู้สึกยาวนานเพราะการรอคอยนั่น ผมทำงานทุกอย่างที่ทั้งจำเป็นและไม่จำเป็น ทำมันไปเรื่อยๆโดยไม่พูดไม่จากับคนที่บอกว่า ‘ ขออยู่เงียบๆสักพัก ’ มันน่าหงุดหงิดที่อาฟทำตามอย่างที่พูดได้อย่างดี ต่างกับผมที่ไม่ว่าจะยุ่งแค่ไหน แต่กับหันไปมองคนที่อยู่ตรงกันข้ามทุกสามวินาที เผลอคิดเข้าข้างตัวเองว่ามันอาจจะยิ้มมาให้ แล้วเราก็จะได้คืนดีกันสักที แต่มันก็ไมได้เป็นแบบนั้นจนกระทั่งงานผมเสร็จหมดทุกอย่าง

“ อาฟ ไปกินข้าวกันมั้ย ” ผมหันมองเวลาที่ตอนนี้บอกเวลาห้าทุ่มกว่า คนโดนเรียกหันไปมองนาฬิกามันกดเซฟทุกอย่างก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้

“ ไปสิ ”

“ เรากินอะไรกันดี ” ผมชวนคุยตอนที่เราเดินลงไปจากชั้นสาม

“ เอาของโปรดมึงก็ได้ ”

“ เมื่อวานก็เพิ่งกินไป เราเปลี่ยนเมนูบ้างมั้ย มึงอยากกินอะไร กูอยากให้มึงเลือกบ้าง ” เดินไปยืนข้างมัน แต่อาฟก็แค่ปรายตามอง มันคงไม่เชื่อว่าคนอย่างผมจะเกิดเบื่อก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นขึ้นมากระทันหัน แล้วนั่นก็จริง ผมไม่ได้เบื่อหรอก แค่อยากจะคุยกับมันให้ได้มากขึ้น เลยพยายามจะสร้างเรื่องราวออกไป

“ ไม่รู้ ลองเดินไปดูก่อนแล้วกัน ”

“ โอเคเลย ”

“ ไอ้อาฟ ไอ้เมด พักกันแล้วเหรอวะ ” เจที่นั่งอยู่ที่ตรงโซนบาร์ตะโกนมาถาม อาฟก็หันไปพยักหน้ารับก่อนจะถาม

“ จะไปด้วยกันมั้ย ”

“ ตามสบายจ้า ” คนโดนถามบอกอาฟก็เดินออกไป ผมหันไปยิ้มให้ทุกคนที่นั่งอยู่ตรงที่โซนบาร์ทั้งน้องเดย์น้องอัยย์หรือแม้แต่เจ ในตอนนั้นไม่มีใครพูดอะไรออกมา ทุกคนแค่ยิ้ม ก่อนจะยกสองนิ้วให้ผมเหมือนจะบอกกันว่าให้ ‘ สู้ๆนะ ’

เราเดินหาของกินเข้าไปตั้งแต่ต้นซอย เดินผ่านหน้าร้านหมูตุ๋นที่ผมชอบแวะกิน เข้าไปด้านในลึกๆ ชี้ชวนให้มันดูอาหารหลายๆอย่าง แต่อีกคนก็เงียบไม่ได้ตอบอะไร จนกระทั่งมาหยุดอยู่ที่ร้านโจ๊กหม้อดิน

“ มึงจะกินโจ๊กเหรอ ”

“ อยากกินมั้ย ” อาฟถามผมก็พยักหน้ารับ

“ ได้เลย กูกินได้ทั้งนั้น ” ผมบอกก่อนจะยิ้มกว้าง เราเดินเข้าไปด้านในร้านสั่งโจ๊กคนละถ้วยแล้วนั่งกินมันเงียบๆโดยที่ไม่มีใครชวนใครพูดทั้งนั้น 

เรากินกันจนเสร็จง่ายเงินแล้วก็เดินกลับผับด้วยความเงียบ ผมนั่งลงที่เก้าอี้ตัวเดิม แล้วนิ่งอยู่แบบนั้น มันอึดอัด ภายในใจของผมพร้อมตะโกนออกไปให้สุดเสียง แต่ทำได้แค่ปัดอารมณ์พวกนั้นให้ออกไป ‘ ทำผิดเองก็ทำได้แค่อดทน เดี๋ยวเวลาก็ช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้น ’ ผมเตือนตัวเองครั้งที่หนึ่งว่าอย่าหงุดหงิดและอย่ารีบร้อนอะไรไปมากกว่านี้ เราผิดเอง เถียงอะไรไปเดี๋ยวมันจะพังทุกอย่าง

ความเงียบกลับมาสู่ภายในห้องนี้อีกครั้ง ความอึดอัดที่มีมากขึ้นเพราะจากเดิมที่ยังมีงานทำให้พอวุ่นวาย แต่ตอนนี้งานทุกอย่างมันเสร็จไปแล้ว แม้แต่การบ้านก็ยังไม่มี ผมเปิดหนังสือเรียนขึ้นอ่านทั้งๆที่ไม่มีสมาธิ ก่อนจะทำได้แค่ฟุบหน้าลงไปบนโต๊ะ แล้วไม่นานหลังจากนั้น ผมก็หลับไปอย่างไม่รู้ตัว

“ เมด ” เสียงที่เอ่ยเรียกกัน ผมลืมตาขึ้นด้วยความสะลึมสะลือก่อนจะพบเข้ากับอาฟที่ยืนอยู่ข้างๆ “ กลับบ้าน ” มันพูดแค่นั้นก่อนจะหันหลังเดินออกไป แต่ผมก็คว้ามือมันไว้ก่อนจะเอ่ยถามคำถามแรก

“ หายโกรธกันยัง ”

“ ไม่ได้โกรธ ” อาฟยังคงตอบเหมือนเดิม แล้วตอนที่ผมจะได้เอ่ยเถียงว่าไม่ได้โกรธได้ไง มันที่เหมือนรู้ตัวเลยพูดขัดขึ้นก่อน “ กูแค่อยากอยู่เงียบๆ ”

“ แล้วเมื่อไหร่เราจะกลับมาเป็นปกติวะ ” ไม่มีคำตอบเหมือนจะบอกกันว่า มันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน จนผมได้แต่ถอนหายใจออกมาแล้วเดินตามมันไปนิ่งๆ

เราเข้าไปนั่งในรถที่เคลื่อนตัวออกไปนอกผับเพราะตอนนี้เป็นเวลาปิดร้านแล้ว เพิ่งมารู้ตัวตอนที่เปิดหน้าจอดูเวลา ว่าตัวผมหลับนานหลายชั่วโมงพอดู แต่ไม่รู้เป็นเพราะเหนื่อยสะสมจากงาน หรือเพราะจากความเครียดที่รุมเร้าจิตใจอยู่ตอนนี้กันแน่

ถนนที่ดูเงียบเชียบกว่าเก่า รถขับในอัตราเร็วเท่าเดิม แต่ผมไม่รู้จะพูดอะไรอีก เลยปล่อยให้ทุกอย่างมันเงียบไปแบบนั้น จิตใจที่คิดประชดประชันว่า ‘ ไม่อยากพูดก็ไม่ต้องพูด ’ แต่ถึงอย่างงั้นกับรู้สึกเหมือนมีใครมาขุดหลุมลึกในใจ หลุมที่ทำให้จิตใจมันว่างเปล่าไปหมด จนรู้สึกแค่ว่า ถ้าเลือกได้ก็อยากจะร้องไห้ออกกมาให้หนัก เผื่อความรู้สึกที่อัดอั้นมันจะดีขึ้นมาบ้าง

“ วันนี้กูขอกลับไปนอนที่คอนโดตัวเองนะ ” ผมเอ่ยพูดออกมาเสียงเบาๆ ตอนที่อาฟจอดรถลงใต้ตึกคอนโด ข้างๆกับรถของผมที่จอดนิ่งอยู่

“ อย่าทำตัวเหมือนเด็กที่ไม่ได้ดั่งใจอะไรก็จะกลับบ้านได้มั้ย ” อาฟถาม ผมก็หันไปมองหน้ามันที่เอ่ยพูดคำนั้นออกมา ทั้งๆที่มันไม่ใช่คำพูดรุนแรงอะไรเลย แต่ผมกลับรู้สึกเจ็บ เจ็บเพราะไม่ว่าจะทำอะไรก็กลายเป็นว่าตัวเองผิดไปหมดทุกอย่างแล้วในตอนนี้ ในตอนนั้นผมมองมันอาฟอยู่นาน นานจนอีกคนหันมามองหน้ากัน

“ กูไม่ได้รู้สึกว่า โกรธมึงแล้วจะกลับบ้าน ” ผมบอก “ แต่กูแค่อึดอัดกับการที่จะอยู่กับมึงแบบนี้ เราไม่พูด ไม่คุย มึงทำตัวเหมือนโกรธกู แต่พอกูถาม มึงก็บอกกูว่ามึงไม่ได้โกรธ มึงบอกว่ามึงแค่อยากจะอยู่เงียบๆ งั้นถ้ามึงอยากอยู่เงียบๆ เราก็แยกกันอยู่สักพักดีกว่ามั้ย ไว้มึงอยากจะอยู่กับกูเมื่อไหร่ โทรไปหากูแล้วกัน เราก็ค่อยกลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม ” อาฟถอนหายใจออกมาตอนที่ผมพูด ส่วนผมเองก็ได้แต่เม้มริมฝีปากที่ในใจมันอัดแน่นไปด้วยความรู้สึกที่เจ็บอยู่ในอกนี้   

“ มันอึดอัดนนะมึง ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้วะ กูขอโทษมึง กูรับผิดกับมึง กูบอกว่ากูจะไม่ทำอีก แต่มันเหมือนว่ากูยังไม่ได้ขอโทษมึงเลยสักคำ ทั้งๆที่กูก็รู้ว่าความเสียใจมันไม่ได้จบลงแค่ การพูดว่าขอโทษ หรือการจะบอกว่าไม่ทำอีก แต่ว่ากูก็ทำได้แค่นั้น  แล้วถ้ากูทำได้มากกว่านี้กูก็คงอยากจะย้อนเวลากลับไปให้มึงเหมือนกัน กูอยากกลับไปแก้ไขให้เราไม่ต้องเป็นแบบนี้ ทำไมมันยากนักวะ กับการที่เราจะกลับมาเข้าใจกัน เราที่หันมาคุยกัน ให้อภัยกัน ทำไมมันถึงยากขนาดนี้ กูแม่งไม่รู้จะทำยังไงดีแล้ว มึงไม่พูดแบบนี้ กูอึดอัดนะอาฟ อึดอัดมากๆที่มันต้องเป็นแบบนี้ ”

ผมหอบหายใจออกมากับการพูดความในใจของตัวเองออกไปทั้งหมดนั่น ยกมือสองข้างขึ้นปิดหน้ามันเป็นทั้งความอึดอัดและทรมาน ผมรู้อยู่เต็มอกว่าผมผิด และต้องยอมรับผลที่ทำ แต่มันก็อึดอัดเกินไปที่จะอยู่กันไปแบบนี้ อยู่ไปด้วยความรู้สึกที่ว่าไม่รู้เมื่อไหร่ อีกคนจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม

“ ทำไมมึงไม่ลองมองคนอื่นดูบ้างวะ ” ผมหันไปมองหน้าอาฟที่ตอนนี้หันกลับไปมองตรงทางด้านหน้า “ คนอื่นที่เค้ารักกันเวลาที่เค้าโกรธกัน เค้าจะหันหน้าเข้าหากันเพื่อปรับความเข้าใจกัน ปรับมุมมองหรืออะไรก็แล้วแต่ที่มันเป็นปัญหา แต่มึงกลับหันหน้าเข้ามุม แล้วจมอยู่กับความเสียใจพวกนั้น ทั้งๆที่มึงก็รู้ว่ากูแก้ไขอะไรให้ไมได้ ยกเว้นว่าทำให้อนาคตมันดีขึ้นซึ้งแน่นอนว่ามันบริสูทธิ์ไม่ได้ในวินาทีนี้แน่ๆ เพราะมันยังไม่มาถึง แต่ทำไมมึงไม่ลองหันหน้ามาหากู  มึงจะเงียบอยู่แบบนี้ทำไม มันมีแต่ยิ่งทำให้เราห่างกันไปนะอาฟ ”

“ กูไม่ได้สนใจว่าใครจะเป็นยังไงในโลกใบนี้ ” อาฟพูดขึ้น มันที่หันมามองหน้าผม “ เพราะกูชอบแค่มึง กูไม่ได้ชอบโลกทั้งใบ แล้วถ้าถามว่าทำไมกูถึงยังไม่พูด ทำไมไม่เหมือนเดิม คำตอบของกูก็คือ เพราะมึงคือโลกทั้งใบของกูไงเมด กูเลยยังรู้สึกยังเจ็บอยู่แบบนี้ ”

ความเงียบแทรกซึมระหว่างเราอีกครั้ง สายตาสบตากันแล้วนาน แต่จู่ๆผมก็ร้องไห้ออกมาอย่างหนัก หัวใจของผมมันถูกบีบรัดด้วยคำพูดพวกนั้น และในวินาทีต่อมาอาฟก็แค่ดึงผมเข้าไปกอดไว้ มันดึงให้หน้าของผมซบลงที่ไหล่ของมัน ทั้งๆที่ไม่ใช่ประโยคยืดยาวอะไร แต่กลับอธิบายความรู้สึกทั้งหมดของคนคนนี้ออกมาจนหมดสิ้น

‘  นั่นเพราะว่าคุณคือโลกทั้งใบของผม โลกที่จะกำหนดให้ผมมีความสุขที่สุด  หรือจะมีความทุกข์ที่สุดก็ได้ ’

“ ขอโทษ ขอโทษจริงๆอาฟ ขอโทษที่ทำให้มึงเสียใจขนาดนี้ กูขอโทษ ” แล้วคำถามที่ว่าทำไมตลอดมา ผู้ชายคนนี้ถึงดูร้ายกับคนทั้งโลกแต่กลับแสนดีกับผมอยู่คนเดียว วันนี้ ผมก็ได้คำตอบนั่นแล้ว

......................................................


ฉันไม่ได้ชอบโลกใบนี้ ฉันแค่ชอบเธอ
พี่อาฟฟฟฟ #อุดปากกรี๊ดในใจเงียบๆ เมดไม่รักทักแชทมาหาน้อง
ความรู้สึกตอนนี้มันมีหลายอย่าง แต่หนักหน่วงที่สุดคงเป็นความรู้สึกของพี่อาฟ
ด่าแฟนอย่างมีสติมั้งนะ 5555 นิ่งๆ แบบสั่งสอน โตขึ้นอีกขั้นแล้วคุณอารยะ
แต่ก็เหมือนที่อาฟบอก จะไม่เดินตามยีนส์ เจ็บแค่ไหนก็ไม่โวยวายโกรธเมด ไม่เป็นอารยะคนปากร้ายมากๆ เหมือนวันก่อนที่ทำให้เค้าเสียใจ
แต่ก็ต้องทำให้เมดได้รู้ว่าเมดผิด น้องผิดนะลูก ไม่น่ารักเลย แต่พี่เชื่อว่านี่คือบทเรียนของหนู หนูก็จะเข้มแข็งขึ้นอีก และจะโตขึ้นอีก  ความรักที่ดี จะสอนให้เราโตขึ้นเอง
#ความรักน้องเมด #ความไม่หยาบคายใส่น้อง #ความให้พี่อาฟหยาบใส่คนเดียวก็เกินพอแล้ว
แต่ก็สงสารน้องเมดนะ สงสารอาฟด้วย แล้วก็แอบสงสารยีนส์ตอนที่อาฟพูดว่ายีนส์เป็นยังไง

เรื่องนี้ก็จะดำเนินต่อไป

ฝากแท็ก #ผับชั้นสาม  ในทวิตด้วยนะคะ

และช่วงตอบคำถามจากเม้นท์ ที่แอบอ่านอยู่เสมอ

ร้านหมูตุ๋นอร่อยๆ หนมก็ไม่รู้จ้า รู้แค่ว่าโลเคชั่นที่เอามาทำดินแดนของกินในเรื่องผับคือ สุขุมวิท 38 ไอติมไข่แข็ง อร่อยมากก ท๊อปปิ้งของเชื่อมคือเด็ด   
สุดท้ายนี้ สำหรับคนอ่านที่อยากเลี้ยงข้าว หนมก็อยากให้เลี้ยงจ้า 555555 #ส่งมินิฮาร์ท


 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ qxrb

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
การตอบกลับที่สะใจที่สุดคือการใช้ชีวิตให้มีความสุขนะเมด ทีหลังอย่าทำอีก ความรู้สึกคนมันไม่ได้ซ่อมง่ายเหมือนสิ่งของนะ

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1
ตอนนี้ถ่ายทอดความรู้สึกได้เยอะมาก ...

เข้าใจอาฟมาก เป็นขั้นกว่าของการเปลี่ยนแปลงตัวเองจากเดิมจริงๆ เล่นเอาหายโกรธจากที่เคยด่าเมดแรงๆ ตอนนั้นเลย ความเงียบจะว่าไปน่ากลัวมากสำหรับคู่ต่อสู้ ... ก็เขารักของเขา รักมานาน รักน้องคนเดียว ...

สำหรับเมด ไม่ว่ายังไง อย่าห่างอาฟนะ เอาใจ ง้องอน ชวนคุย ชวนทำการบ้านไปเรื่อยๆ แต่เชื่อเถอะ การทำอะไรเพื่อคนที่เรารัก เราจะได้กลับมาเสมอ และเมื่อเอมกลับมา เมดจะเข้าใจยิ่งกว่านี้ว่าทำไมโลกของอาฟถึงมีแต่เมดคนเดียว ... เอม กลัยมาได้แล้ว ...

ตอนหน้าขึ้นต้นบนเตียงเลยค่ะ อาฟต้องรุนแรงแน่ๆ ...

เอาใจช่วยนะ ...

(บินนี่แอบไปยุ่งกับจิงอีก? สงสัย สงสัย)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-10-2018 21:45:06 โดย arjinn »

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
สุดยอดดดดดดดดดด..........  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ไรท์ สุดยอด  ชอบบบบบบบบบ
เขียนได้กินใจ ถึงแก่น หน่วง เศร้าตาม น้ำตาไหลเลย  :hao5:

“ กูไม่ได้สนใจว่าใครจะเป็นยังไงในโลกใบนี้ ”
 “ เพราะกูชอบแค่มึง กูไม่ได้ชอบโลกทั้งใบ แล้วถ้าถามว่าทำไมกูถึงยังไม่พูด ทำไมไม่เหมือนเดิม
คำตอบของกูก็คือ เพราะมึงคือโลกทั้งใบของกูไงเมด กูเลยยังรู้สึกยังเจ็บอยู่แบบนี้ ”


‘ นั่นเพราะว่าคุณคือโลกทั้งใบของผม โลกที่จะกำหนดให้ผมมีความสุขที่สุด  หรือจะมีความทุกข์ที่สุดก็ได้ ’

อาฟ   น่ารักที่สุด รักเดียว ใจเดียว ซื่อตรงต่อคนรักเท่านั้น  :o8: :-[ :impress2:
อาฟ  เมด   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
จิงเสร็จบินอีกคนหรือเปล่าเนี่ย แบบว่าสันดานแก้ยาก

ออฟไลน์ HydrA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-2
อึมครึม หน่วง อึดอัด เสียใจ แงๆ ค่อยๆเรียนรู้และปรับตัวเข้าหากันเนอะ เมดอย่ากลับไปอยู่คอนโดเลย ยิ่งทิ้งช่วงเวลามันจะยิ่งแย่ลง อยู่กับอาฟนะ เดี๋ยวช่วงเวลานี้มันก็จะผ่านไป

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนอีกบทนะเมดอย่าบ้าจี้ดิ้นตามยีนต์ตัวอิจฉา อาฟถึงจะแข็งกระด้างปากหนักไปมากแต่รักเมดจริงๆ ถึงขนาดให้เป็นโลกทั้งใบในใจอาฟได้แฟนดีขนาดนี้โชคดีมากนะ

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
อึมครึมกันไปอีก แงๆๆ ดีกันไวๆนะ เข้าใจแหล่ะว่ามันต้องไปเจอจุดพีคของความรุ้สึกแต่แบบนี้มันเจ็บอ่ะ ปรับความเข้าใจกันให้ดี เมดก็น้าาไม่น่าทำลงไปเลย เอาใจช่วยแล้วกัน

ออฟไลน์ Nung66669

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
รู้สึกอึดอัดไปพร้อมกับเมดด้วยเลยมีแอบน้ำตาไหลตามด้วยอ่ะสงสารก็สงสารแต่ดีแล้วเมดจะได้เรียนรู้ไปอีกขั้นเอาใจเขามาใส่ใจเรามะเมดเวลาคิดจะทำอะไรจะได้คิดเยอะๆเมดสู้ๆ

“ กูไม่ได้สนใจว่าใครจะเป็นยังไงในโลกใบนี้ ”
 “ เพราะกูชอบแค่มึง กูไม่ได้ชอบโลกทั้งใบ แล้วถ้าถามว่าทำไมกูถึงยังไม่พูด ทำไมไม่เหมือนเดิม
คำตอบของกูก็คือ เพราะมึงคือโลกทั้งใบของกูไงเมด กูเลยยังรู้สึกยังเจ็บอยู่แบบนี้ ”

"นั่นเพราะว่าคุณคือโลกทั้งใบของผม โลกที่จะกำหนดให้ผมมีความสุขที่สุด  หรือจะมีความทุกข์ที่สุดก็ได้ "
เจอประโยคนี้เข้าอยากให้เมดรู้เลยว่าเมดเป็นโลกทั้งใบของอาฟมานานแล้ว เมื่อไหร่เพื่อนอาฟจะกลับมา :mew2:
อย่าบอกนะว่านังยีนส์โดนตีท้ายครัวถ้าเป็นแบบนั้นจริงนี้สั...นหมามาก :katai3:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ปัญหาผัวเมีย   :กอด1:

ออฟไลน์ palm-metto

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
มันหน่วงมาเกือบทั้งตอน
พอเจอย่อหน้าสุดท้ายไป
ยิ้มออกเฉยยยยยย

#ความโลกทั้งใบของอารยะ

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
ร้องไห้ตามไปจ่าาาา

 :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ momonuke

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
แงง น้ำตาคลอตลอดตอนเลย ได้บทเรียนกันนะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด