( จบแล้ว ) Throw UP #ผับชั้นสาม :: {ตอนพิเศษ: up! 31-12-62} #หน้า 58
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ( จบแล้ว ) Throw UP #ผับชั้นสาม :: {ตอนพิเศษ: up! 31-12-62} #หน้า 58  (อ่าน 502511 ครั้ง)

ออฟไลน์ Nung66669

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
สงสารเมด สงสารอาฟ ต่างคนต่างเจ็บเมดมั่นใจตัวเองได้แล้วนะอย่าเอาคนเหี้ยๆมากดดันตัวเองสนใจอาฟเป็นพอ อาฟสู้ๆ อยากเอานังยันส์ไปทิ้งทะเล คือนางเป็นไรมากป่ะนางอิจเมดเหรอที่เมดมีแต่คนสนใจ เก่งกว่า ดีกว่าตัวนาง ชอบใครเขาก็ไม่สนจนต้องไปเสนอตัวเอาแบบนี้สงสัยนางกลัวเมดได้ดีกว่า ชอบประโยคของเมด“ ถ้ามึงคิดว่าขี้มีค่า ก็เอาไปเถอะยีนส์ กูยกให้ “(อยากให้น้องวิวมาอยู่ด้วยจังคงดุเด็ดเผ็ดมันน่ดู)เมดถ้าคิดแบบนั้นจริงๆเลิกจมปรักได้แล้วนะมองคนข้างๆได้แล้ว
คนเขียนสู้ๆ :ped149: :ped149: :ped149:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
พี่อาฟได้ใจสุดๆเลยตอนนี้    :กอด1:

ชอบที่พูดกับเมดตรงๆแบบนี้ อยู่ที่เมดแล้วจะคิดจะทำยังไงต่อ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8891
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 888
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
อื้อหืออ :z6: ฝากกระโดดถีบยีนส์ จิงก็ทนได้เนาะ

สงสารอาฟ ก็ทำใจยากเนาะ เข้าไปในช่วงเวลาที่เค้าเจ็บมา
เมดก็ยังเศร้าไม่เลิก เพราะยังเจอและยังเจ็บกับคำพูด
แถมเมดก็เป็นคนย้ำคิดเพราะเจอมาเยอะ เจ็บมาหนัก
การเริ่มต้นใหม่มันยากนะ กับเวลาที่เจอมา

อาฟเอ้ยย เคลียร์กันก่อนนะ อย่าพึ่งปล่อยมือกัน

ออฟไลน์ Mamieweiei

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สงสารเฮียอาฟเยยยยยยงื้อออ

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
ยีนส์นี่แบบ โอ้โหมากอ่ะ  :z6:  :beat: ร้าย ร้ายมากๆ

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1
อยากอ่านแล้วค่ะ
คิดถึงอาฟ คิดถึงเมด
เอาใจช่วยให้ฝ่าฟันไปให้ได้นะ

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
อีพี่อาฟมันน่าสงสารจริงๆนะเว้ยย
เฮ้อเมดทเราเข้าใจนะแต่ก็ฮือสงสารสัดพี่อาฟอเ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
โอ๊ยยย พึ่งตามมาอ่านค่ะ

รู้สึกตัวเองมาช้าไป


เรื่องนี้ดีงามมากค่ะ

ตอนยิ้มก็ยิ้มแก้มบาน ตอนดาม่า ก็เครียดตามไปด้วย


เรารู้สึกได้เลยว่า ปูเนื้อเรื่องมาดีมากเลย


รักแรกมันลืมยากจริงๆอ่ะแหละ


ทั้งในส่วนของ อาฟ และในส่วนของ เมด


แม้แมดอาจจะไปรู้เลยว่า รักแรกของเมด ก็อาจจะเป็นอาฟเหมือนกัน แค่โดนอีกคนคว้าตัดหน้าไป


เฮ้อออ เข้าใจทั้งสองคนเลย 


ติดตามค่ะ

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
ตอนที่ 24


   ความเงียบปกคลุมไปทั้งรถความอึดอัดที่แทรกซึมเข้ามาทำให้รถคันเล็กที่เคยมีแต่ความสุขในตอนขามา หายไปหมดในตอนขากลับ ผมแอบผ่อนลมหายใจแล้วหลับตาลงช้าๆอย่างรู้สึกผิด ก็เคยคิดเอาไว้แล้วว่าสักวันแผลในใจต้องทำให้คนข้างๆเจ็บปวด และนี่คือสิ่งที่ผมกลัวมาตลอดตั้งแต่ตอบรับความสัมพันธ์กับอาฟ ‘ มันจะไม่เร็วไปหน่อยเหรอ เราเพิ่งรู้จักกันเองนะ ’  แล้วเหตุการณ์ภายในวันนี้ก็ตอกย้ำความรู้สึกนั้นให้ชัดลงไปอีกว่า  บางทีรักของเรามันอาจจะเร็วไป

“ มึงยังเจ็บอยู่กับอดีตเมด กูเข้าใจ แต่กูก็เจ็บอยู่กับปัจจุบันเหมือนกัน ปัจจุบันที่กูรู้สึกว่า มึงไม่ได้มีกูอยู่ในหัวใจเลย แล้วก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อไหร่จะมี  “


สีหน้าเจ็บปวดของอีกคนยังคงฉายชัดอยู่ในแววตาของผม แม้ขณะนี้มันจะมองออกไปนอกรถเพื่อขับรถไปบนถนนเส้นตรงหน้าก็ตาม

ผมมองออกไปนอกหน้าต่างรถ เอ่ยถามกับตัวเองว่า แท้จริงแล้วตัวเองกำลังเจ็บปวดอยู่กับอะไร เจ็ดปวดอยู่กับความรักที่ไม่วันหวนกลับมา เจ็บปวดกับการที่ตัวเองเคยทุ่มเทกับความเชื่ออย่างสุดตัว หรือกำลังเจ็บปวดเพราะเพิ่งมาได้รู้ว่า จริงๆ ตัวเองก็เป็นแค่คนดีคนนึง ที่น่าหมั่นไส้ในสายตาคนอื่น แถมยังน่าเบื่อและน่ารำคาญเพราะความดีนั้นก็เท่านั้น

มันก็คล้ายกับคลื่นที่ซัดเข้ามาอย่างจัง และไม่ทันได้ตั้งตัว คิดไว้แล้วว่าต้องเจ็บแน่ สำหรับการที่เราไปเจอกันวันนี้แต่ไม่คิดว่าจะเจ็บขนาดนี้ ตั้งรับไม่ทันเลยตอนเห็นสีหน้าของยีนส์ที่เอ่ยพูดออกมา อาจเพราะมันไม่ใช่แค่พูดเพื่อให้สะใจ แต่เหมือนมันเก็บ เก็บทุกความรู้สึกนั่นไว้มานานแล้วและวันนี้มันก็เลือกที่จะพูดทุกอย่างที่มันรู้สึกออกมา และก็เป็นตัวผมเองที่ตลอดมาไม่เคยได้รับรู้

‘ การที่เป็นคนดีแล้วใครสักคนจะรักเราอย่างที่สุดนั้นไม่จริง บางทีความดีนั้นมันอาจจะทำให้เรากลายเป็นคนที่น่าเบื่อ และน่ารำคาญ ทั้งในฐานะเพื่อนและแฟน เช่นกัน การที่คุณเป็นคนดีไม่ได้หมายความว่าจะไม่ถูกทำร้าย เหมือนที่ใครเคยบอกว่า การที่คุณไม่กินเนื้อเสือ นั่นไม่ได้หมายความว่า เสือมันจะไม่กินเนื้อคุณ ’ และนี่คือสิ่งที่ยีนส์พูดให้ผมฟังในวันนี้

   หันไปมองหน้าคนที่อยู่ข้างกันอีกครั้ง มีคำขอโทษร้อยพันคำที่อยากจะเอ่ยบอกกับมัน ถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะไม่พูดอะไรออกมาให้มันต้องเจ็บปวดเลยสักคำ คำพูดที่เหมือนหัวใจของผมยังผูกไว้ตรงนั้น ผูกไว้กับใครสักคนตรงนั้น

มันก็จริงอยู่ที่ผมยังรู้สึกเสียใจแต่ก็ไม่ได้รู้สึกเสียดายเลยสักนิด มันก็เหมือนแค่ พอเราหวนกลับไปคิดถึงช่วงเวลานั้น ช่วงเวลาที่เรารู้สึกว่าเราดีมากๆ แต่มันกลับไม่ใช่อย่างที่เราคิด ช่วงเวลาที่คิดว่า เค้าคงรักเรามากและสักวันเค้าจะกลับมาเป็นของเราคนเดียวถ้าเราดีพอ แต่มันไม่ใช่.. ความดีที่ทำให้ด้วยรัก กลายเป็นแค่คนที่น่าเบื่อ น่ารำคาญเท่านั้น

 บางทีถ้าความเสียใจถูกลบล้างได้หมดด้วยความสุขมันคงดี แต่น่าเสียหายที่มันไม่ใช่แบบนั้น ทุกความรู้สึกแยกส่วนกันและทางเดียวที่ทำให้มันหายไป ก็คือลืม .. แต่มันก็ไม่ง่ายเลย

“ แวะกินอะไรกันหน่อยมั้ย “

“ จะกินอะไร “

“ ไม่รู้เหมือนกันวะ “ หันไปยิ้มให้คนข้างๆ ผมไม่ได้รู้สึกหิวหรอกแต่ก็แค่อยากจะชวนมันคุย ไม่อยากจะให้บรรยากาศมันเงียบไปมากกว่านี้แล้ว ผมคิดว่าเราต้องคุยกันให้ชัดเจนสำหรับความรู้สึกที่กำลังรู้สึก

รถชะลอลงช้าๆ ผมหันไปมองเบื้องหน้าก่อนจะพบว่ามันคือไฟแดงที่ฉายขึ้นพอดี ตัวเลขสามหลักที่กำลังนับถอยหลัง มือหนาตั้งไว้บนเกียร์ไม่ได้ผละมันไปไหน ก่อนจะปรับขึ้นไปที่ตัวบนสุดเพื่อสั่งให้รถหยุดนิ่ง ตอนที่เห็นว่ามันผ่อนเท้าออกจากเบรค ผมเอื้อมมือไปจับมือนั้นไว้

สอดมือเข้าไปกุมมือนั้นแบบเงียบๆ ใจของผมสั่น รู้สึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้นจนอยากจะร้องไห้ออกมา ในตอนที่เห็นว่ามันเจ็บปวด  ‘ ทำไมต้องเอาอดีตมาทำร้ายคนที่รักกันขนาดนี้ด้วยวะเมด’ ผมผ่อนลมหายใจออกมาตอนที่บีบมือนั่นแน่นขึ้น

ตั้งแต่ที่เราเจอกัน อาฟเป็นคนที่คอยอยู่ข้างๆผมมาตลอด ต่อให้วันนั้นจะเกิดอะไรขึ้น มันจะแค่ยืนอยู่ข้างกัน เป็นคนง่ายๆที่เหมือนแค่อยากจะใช้ชีวิตอยู่กับผม ไม่ใช่คนกินยาก ไม่ใช่คนเรื่องมาก เป็นคนที่กินอะไรก็ได้ ก็คืออะไรก็ได้จริงๆ เป็นคนที่ยิ้มให้กับทุกการกระทำของผม และแคร์กันในทุกความรู้สึก แม้ว่าตัวมันจะไม่ใช่คนแบบนั้น และเพราะมันเป็นแบบนั้น ก็เลยทำให้ผมรู้สึกอยากจะรักษามันไว้ ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้รู้สึกแย่หรอก แต่ผมเองก็ไม่ต่างจากมันเท่าไหร่ ผมเองก็ไม่รู้ว่าการรักษาให้ใครสักคนรักเราไปตลอดมันต้องทำกันยังไงเหมือนกัน

“ อาฟ กูขอโทษ “ ใบหน้าคมที่ไม่ได้หันมามองผม อาฟแค่จ้องไปยังทางข้างหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ กูไม่ได้ตั้งใจพูดให้มึงรู้สึกไม่ดี กูแค่รู้สึกว่ายีนส์แม่งพูดถูกทั้งหมดเลย กูรู้สึกเสียใจ ทั้งที่กูพยายามขนาดนั้น แต่กลับเป็นได้แค่คนที่น่าเบื่อน่ารำคาญในสายตาของคนพวกนั้น กูขอโทษที่กูคิดถึงมันจนพูดอะไรแบบนั้นออกมา ทั้งๆที่กูไม่น่าคิดแบบนั้น ไม่น่าโง่ไปเอาคำพวกนั้นเก็บมาเสียใจ เพราะมันไม่มีอะไรจริงเลย แต่ตอนนั้นมันเหมือน กูควบคุมความรู้สึกตัวเองไม่ได้ ” ผมบีบมือมันให้แน่นขึ้น “ ขอโทษนะมึง “

“ กูไม่ได้โกรธ ไม่ต้องห่วง “ พูดเสียงเรียบมันถอนหายใจออกมา “ ถึงกูจะไม่อยากจะเข้าใจยังไง กูก็เข้าใจมันอยู่ บางทีกูก็ผิดเองที่เข้ามาหามึงเร็วเกินไป “

“ อาฟ..”

“ เลิกพูดเรื่องเหี้ยนี้เถอะ มึงอยากจะแดกอะไรก็ว่ามา “ อาฟบอกปัดเหมือนไม่อยากจะใส่ใจกับเรื่องนั้นแล้ว ผมได้แต่ถอนหายใจ ก็พอรู้ว่าตอนนี้อารมณ์มันไม่ได้อยู่ในช่วงเวลาเจรจาปรับความเข้าใจ แต่ผมก็ไม่อยากจะปล่อยให้เราโกรธกันไปแบบนี้

“ พูดเรื่องนี้ก่อน กูอยากพูดให้รู้เรื่อง ไม่อยากให้เรารู้สึกไม่ดีต่อกัน “ ผมอธิบาย “ ทำไมเราไม่เคลียร์ให้มันจบๆไปเลยวะ ทำไมต้องพักไว้ก่อน ถ้าต้องทะเลาะกันก็ทะเลาะกันให้จบๆไปเลยไม่ดีกว่าเหรอมึง จะได้ไม่เอาไปติดค้างในอนาคตไง ถ้าดีกันแบบยังมีอะไรค้างคา มึงไม่เข้าใจกู กูไม่เข้าใจมึง เดี๋ยวเราก็ต้องเอามาทะเลาะกันในอนาคตอีกหรอก กูไม่อยากจะทะเลาะกับมึงนะอาฟ มึงไม่อยากให้เรามีความสุขด้วยกันทุกวันรึไง “

“ แล้วมึงจะให้กูพูดอะไร “ อาฟหันมามองผม มันถอนหายใจ “ มึงทำเหมือนว่าถ้าพูดออกไป เราเคลียร์กันแล้ว มึงจะเลิกคิดถึงมัน เลิกเจ็บเพราะมัน ก็ไม่ใช่เปล่าวะ สุดท้ายมันก็มีแค่กูที่ต้องเข้าใจว่ามึงยังต้องคิดถึงมัน ยังเจ็บปวดกับมัน เพราะเพิ่งเลิกกับมันได้ไม่นาน แล้วแบบนั้นมึงจะให้กูเคลียร์อะไรวะ คือมันไม่มีอะไรให้เคลียร์ไงเมด มันมีแค่ต้องเข้าใจ กูที่ต้องเข้าใจ แล้วมึงละเข้าใจกูมั้ย “

“ เข้าใจ “

“ เข้าใจว่า “

“ เข้าใจว่าไม่มีใครอยากให้แฟนตัวเองคิดถึงแฟนเก่า ใครๆก็อยากจะเป็นคนเดียวของแฟนทั้งนั้น “ อีกคนถอนหายใจออกมาตอนที่ผมพูดแบบนั้น อาฟหันออกไปมองนอกรถอีกครั้ง “ ขอโทษนะมึง ที่กูยังเป็นอะไรแบบนั้นให้มึงไม่ได้ “

ทุกอย่างมันคือสิ่งที่เราต้องยอมรับ ผมต้องยอมรับว่าตัวเองยังเจ็บปวด แล้วอาฟก็ต้องยอมรับว่าตัวเองต้องเจ็บปวด ราวกับเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เหมือนไม่ว่ายังไงก็ต้องเสียใจกับเรื่องนี้อยู่ดี

ผมก้มหน้าลงทุกอย่างมันจุกอยู่ในอก ไม่อยากจะทำให้อีกคนเสียใจเลย ไม่อยากจะให้อาฟที่ไม่ผิดอะไรต้องมาเสียใจกับเรื่องในอดีตของผม แต่ผมที่ยังเจ็บแบบนี้ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อไหร่จะหาย

อยากหายเร็วๆเหมือนกัน อยากลืมทุกอย่างเหมือนกัน เหนื่อยกับการเจ็บปวดเหมือนกัน เลือกได้ก็อยากจะรักมันคนเดียวเหมือนกัน แต่เพราะมันเร่งรัดไม่ได้  ทุกอย่างต้องใช้เวลา

“ กินชาบูแล้วกัน “ อาฟพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบนั้น ผมสบสายตาของมันก่อนจะพูดความต้องการของตัวเองอีกครั้ง

“ อาฟ กูอยากคุยเรื่องนี้ให้มันจบๆไป จริงๆนะ ไม่อยากให้เราค้างคาเลย “

“ มันจบไม่ได้หรอกเมด ถ้ามึงยังคิดถึงไอ้เชี้ยนั่นอยู่ ทุกอย่างมันจบไม่ได้ “ เสียงที่เถียงกลับมา อาฟถอนหายใจออกมาก่อนจะหลับตาลง แล้วหันมามองผมอีกครั้งก่อนจะเอื้อมมือตัวเองมาลูบหัวกันเบาๆ “ เชื่อเถอะว่ากูเข้าใจจริงๆ ว่ามึงมีสิทธิ์ที่จะคิดถึงรักครั้งเก่าของมึง  และยังเสียใจกับเรื่องพวกนั้น มึงเพิ่งเลิกกับมันมาเพิ่งผ่านช่วงเวลาเหี้ยๆพวกนั้นมา เวลาผ่านไปไม่นานจะให้มึงลืมทั้งหมด กูเข้าใจว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่เมด มึงก็ต้องเข้าใจด้วยว่ากูเองก็มีสิทธิ์เสียใจ แล้วกูก็มีสิทธิ์รู้สึกแย่ ก็เหมือนที่มึงบอกว่ามึงเข้าใจกู “

“ อื้ม “

“ กูไม่ได้ใจดี ไม่ได้รู้สึกว่าไม่เป็นไร สบายๆ ในตอนที่มึงกำลังเสียใจ เสียงของมึงตอนที่พูดถึงมัน กูรู้สึกว่าเหมือนมึงกำลังเสียดายมันเลยต้องนึกถึงมันตลอด “

“ กูไม่เคยเสียดายมันนะ “ ผมเถียงมันกลับ “ กูแค่รู้สึกว่าทั้งๆที่กูทำดีขนาดนั้น ทุ่มเทขนาดนั้น แต่ทำไมมันถึงออกมาเป็นแบบนี้ กูไม่ได้เสียดายมัน มันเหมือนทั้งๆที่ตอนนั้นกูรักมันมากขนาดนั้น รักมากจนทำให้ได้ทุกอย่างแต่สุดท้ายกูเป็นแค่คนน่าเบื่อคนนึง แล้วกูก็ไม่คิดว่ากูจะมาได้ยินอะไรแบบนั้น ไม่คิดว่าเพื่อนที่กูไว้ใจจะเกลียดกูมาตลอด ทั้งๆที่กูคิดมาตลอดว่า มันดีแล้ว”

“ มึงดีแล้ว “ อาฟย้ำบอกผม “ สำหรับคนอย่างพวกมัน มึงดีเกินไปด้วยซ้ำ อย่าให้พวกมันจูงจมูกมึงง่ายๆ อย่าให้พวกมันโยนความผิดให้มึง มึงไม่ได้ผิด เพราะต่อให้มึงน่าเบื่อน่ารำคาญยังไง มันก็ไม่สิทธิ์นอกใจมึงไปเอาเพื่อนมึง แล้วเพื่อนมึงก็ไม่มีสิทธิ์จะแอบนอนกับแฟนมึง ถ้ามันเบื่อ มันรำคาญ มันแค่ต้องเลิกกับมึง ไม่ใช่มาทำเหี้ยกับมึงแบบนี้ “

“ อื้ม “ ผมพยักหน้ารับ ก็จริงของอาฟ ผมอ่อนไหวเกินไป อ่อนไหวไปกับคำพูดพวกนั้น ทุกอย่างมันเลยเป็นแบบนี้ “ แล้วเราจะทำยังไงกันดี กูไม่อยากจะให้มึงอยู่ในความรู้สึกแบบนี้เลย กูไม่อยากจะให้มึงเสียใจ “

“ ไม่เห็นยาก “ อาฟบอกผมมันยกยิ้ม “ มึงเลิกคิดถึงไอ้เชี้ยบินเมื่อไหร่ กูก็เลิกเสียใจเมื่อนั้นแหละ ” คำที่เอ่ยออกมาตรงๆนั้นทำให้ผมนิ่ง มันเป็นความจริงที่เถียงออกไปไม่ได้เลย จริงอย่างที่อีกคนบอกผมไม่มีข้อโต้แย้งอะไรทั้งนั้น

“ งั้นก็..รอหน่อยนะมึง “ ผมพูดได้แค่นั้น บอกไม่ได้ด้วยว่าเมื่อไหร่ แต่สัญญาว่าสักวันมันจะมาถึง วันที่ผมจะไม่คิดถึงใครคนอื่นเลยยกเว้นมัน

“ ก็รอมาตลอด “ คำตอบสั้นๆที่เอ่ยออกมา แววตาที่มองสบกันของเรา อาฟนิ่งไปสักพักก่อนจะหันกลับไปมองสัญญาณไฟจราจรข้างหน้าที่ตอนนี้ขึ้นเป็นสีเขียวแล้ว

น่าแปลกที่ผมรู้สึกว่า คำพูดของมันไม่ได้หมายถึงแค่ว่า มันรอผมเลิกรู้สึกเจ็บกับอดีตอยู่ แต่เหมือนมันกับรอมานานแล้ว นานกว่าที่ผมรู้

.........................................................

ขับรถมาที่ผับเราไม่ได้แวะกินอะไรทั้งนั้นเหมือนอย่างปกติ แม้แต่ชาบูที่อีกฝ่ายบอกว่าอยากจะกิน สุดท้ายก็ไม่ได้กินเพราะหลังจากนั้นกลับไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักคำ ผมที่ได้แต่นั่งนิ่งอยู่ในรถ อาฟเองก็ขับรถตรงมาที่ผับอย่างเดียว บรรยากาศอึมครึมในตอนนั้น เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่าการนั่งรถจากมหาลัยตัวเองไปถึงผับใช้เวลานานกว่าทุกวัน

“ วันนี้มากันเร็วจังวะ “ เสียงของน้องเดย์ที่เอ่ยทักเราจากส่วนของบาร์ “ ยังไม่ได้กินอะไรกันมาแน่ๆ “ ผมยิ้มให้น้องที่ก็มองผมสลับกับคนเป็นพี่ชายตัวเอง “ ทะเลาะกันมาเหรอวะ “ อาฟไม่ได้ตอบอะไร มันแค่เดินขึ้นไปที่ห้องตรงชั้นสามแบบเงียบๆ ผมที่ก็ได้แต่มองตามเผลอถอนหายใจออกมากับท่าทีนั่นของมัน

“ โกรธอยู่แท้ๆ แล้วก็บอกว่าไม่โกรธนะไอ้สัด “ บ่นออกมาเบาๆกับตัวเอง แต่ก็ทำได้แค่นั้น ความจริงก็เป็นผมเองที่ผิด ก็ถ้าไม่เผลอพูดเรื่องนั้นออกไปด้วยอารมณ์อีกฝ่ายก็คงไม่ต้องรู้สึกแย่ ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้น อาฟมันก็ปกป้องผมจากไอ้ยีนส์ด้วยซ้ำ แต่เหมือนว่าผมจะไม่ได้ใส่ใจอะไรมันเลยสักนิดเดียว มัวแต่เสียใจกับเรื่องเก่าๆอยู่อย่างงั้น

“ นี่โกรธกันเหรอพี่สะใภ้ “ น้องเดย์ถามผมที่ก็ชะงักไปนิดหน่อยกับสรรพนามตัวที่ถูกเปลี่ยนไปตั้งแต่วันที่คบกับไอ้อาฟ

เอาเข้าจริงด้วยเหตุผลนี้แหละที่ทำให้ผมไม่อยากลงมาชั้นหนึ่งเลย ทุกครั้งที่มาก็เลยพุ่งตรงขึ้นชั้นสามอย่างเดียวอยากจะสั่งงานอะไรกับใครก็ไลน์กรุ๊ปสต๊าฟเอา ทำใจไม่ได้จริงๆกับคำว่า ‘ พี่สะใภ้ ’ แล้วฝืนใจให้ชินไม่ได้ด้วย

“ อย่าเรียกแบบนั้นสิวะน้องเดย์  “ ผมบอกน้องอีกคนก็หัวเราะขำ ถอนหายใจเดินเข้าไปใกล้ที่บาร์เซ็งๆ น้องอัยย์ที่กำลังเช็คแก้วก็พูดขึ้น

“ ตกลงซ้อทะเลาะกับเฮียเหรอ “ นี่ก็อีกคน ผมถอนหายใจออกมาแรงๆ กับความช่างแกล้งของคนในบาร์ ที่ถ้าทำได้ก็อยากจะเอื้อมมือไปบีบคอให้หยุดพูดแบบรู้แล้วรู้รอด แต่เสียดายที่มีเค้าเตอร์กั้นกลางอยู่แบบนั้นเลยทำได้แต่ทำหน้าดุส่งไปอย่างงั้น “ โอ๋ๆ เก๊าสองคนก็ล้อเล่น อย่าตะบบเค้าน้า “

“ ตะบบอะไร ไม่ใช่แมวสักหน่อย “

“ เหมือนอยู่นะแต่ว่า ไหนร้องสิ เมี๊ยว “ น้องเดย์เอียงหัวแซวผมก็ได้แต่ถอนหายใจแล้วบ่นเบาๆ

“ ไม่เห็นตลกเลย “

“ ทะเลาะกันหนักแน่ๆ “

“ อาฟบอกไม่โกรธนะ อาฟบอกเข้าใจ แต่อาฟไม่คุยอะไรกับพี่เมดเลยสักคำเดียวหลังพูดเสร็จ “ ยกยิ้มแห้งๆให้น้องก่อนนั่งลงที่เก้าอี้ตัวที่ตั้งอยู่ข้างหน้า

“ ปากไม่ตรงกับใจไง “ น้องอัยย์บอกก่อนจะยักคิ้วให้ “ เค้าฟอร์ม เพราะอยากให้พี่เมดง้อเปล่า “

“ แล้วจะง้อยังไงอะ “

“ เรื่องนี้ต้องถามพี่เจ พี่เจเชี่ยวชาญ เรียกได้ว่า เป็นปรมาจารย์เลยก็ว่าได้สำหรับการรับมือสัดพี่ “ เดย์บอกก่อนจะยักคิ้วให้ผมที่ก็ยิ้มก่อนจะหันไปมองรอบๆ แต่กลับไม่เห็นคนที่อยากจะคุยด้วย

“ แล้วนี่เจไปไหน “

“ วันนี้พี่เจหยุดอะพี่เมด “

“ อ้าว “ เผอลสบถออกมาเซ็งๆ แต่เหมือนน้องสองคนจะแค่หัวเราะกับท่าทางนั้น

“ เป็นเหมือนกันหมดเลยจริงๆ “ น้องอัยย์ว่าก่อนจะเหลือบมองผมที่ก็จ้องมองหน้าอยู่ สายตาของผมคงมีคำถามสำหรับคำพูดนั้นที่น้องพูด “ หมายถึงว่าสาวๆของเฮียทุกคน หรือไม่ว่าใครเวลามีปัญหาอะไรกับเฮียก็ชอบมาปรึกษาพี่เจทั้งนั้น ขนาดพี่ซองผู้จัดการร้านจะคุยกับเฮียทีนึงยังมาปรึกษาพี่เจเลยว่าต้องพูดขึ้นต้นว่าอะไร “

“ แต่สัดพี่นี่ก็ปรมาจารย์เหมือนกัน “ น้องเดย์เสริม “ แต่เป็นด้านของความน่ากลัวน่ะ ฮ่าๆ “

“ จริงๆ อาฟก็ไม่ใช่คนน่ากลัวสักหน่อย มันก็แค่ไม่ยิ้มก็เท่านั้น “

“ นั่นมันในมุมมองของแฟนอย่างพี่เมด ของน้องอย่างเราสองคน แล้วก็ของเพื่อนอย่างไอ้พี่เจ แต่ไม่ใช่ในมุมมองของคนอื่นไง สัดพี่ไม่ว่ายังมันก็น่ากลัวสำหรับคนอื่นอยู่ดีอะ “

“ เพราะเวลาเฮียไม่ยิ้ม เฮียหน้าดุม๊ากกก เหมือนพร้อมต่อยตลอดเวลา “ อัยย์เสริมเพื่อนตัวเองที่ก็พยักหน้ารับ แต่ผมกลับมีเรื่องนึงที่ยังสงสัยอยู่

“ แล้วที่บอกว่า สาวๆชอบมาปรึกษาพี่เจด้วยละ “

“ หึงอ๋อออออออ “ น้องเดย์แซวผมก็เบิกตาพลางยกมือขึ้นปฎิเสธแบบที่ชอบทำ แต่นั่นแหละมันคงเป็นท่าทางที่เชื่อไม่ได้เท่าไหร่

“ ไม่ใช่สักหน่อย “

“ โกหกไม่เนียนไปเรียนใหม่นะจ้า “

“ คนผับนี้ขี้แกล้งวะ “ ผมบ่นกับน้องสองคนที่ก็หัวเราะขึ้นมา

“ อะ โอ๋ๆ ล้อเล่นครับ “

จะว่าไปคนเราก็มีอดีตกันทั้งนั้น แต่มันอยู่ที่ว่าอดีตนั้นอยู่ในรูปแบบไหนของหัวใจก็เท่านั้น อาฟอาจจะมีเรื่องผู้หญิงเยอะ แต่ตอนนี้มันไม่มี เหมือนกับว่ามันไม่มีใครที่ตัวมันผูกพันเลยในอดีต ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ถ้าคิดอีกแง่คือ เพราะมันไม่เคยจริงจังกับใครมาก่อน แล้วการที่เรามาคบกัน อีกคนจะจริงจังด้วยมากแค่ไหน

“ ถามอะไรหน่อยสิ อาฟเคยมีแฟนแบบคบกันจริงจังมั้ย “ เอ่ยถามสิ่งที่อยากจะรู้ออกไป สองคนตรงหน้าก็ทำท่าคิดก่อนที่น้องเดย์จะตอบ

“ ก็มีอยู่นะ จำได้ว่าเดือนนึงที่คบกัน “

“ ไม่มีไม่ใช่เหรอวะ “ น้องอัยย์ว่าขัด “ คนนั้นก็แบบวันไนท์แต่เค้าจะจับเฮียเลยตามมาวอแวจะเป็นตัวจริงอยู่พักใหญ่ “

“ เหรอวะ “

“ เออ เฮียมันไม่เคยจริงจังกับใครสักหน่อย ถึงมีแต่สุดท้ายก็ไม่ค่อยรอดอะ มึงถามกูนี่ กูคือคนที่ยืนเสิร์ฟเหล้าให้พี่เจตอนผู้หญิงพวกนั้นมาคุยเรื่องเฮียให้ฟังบ่อยๆ “

“ ไม่เคยจริงจังกับใครสินะ “ ผมพูดออกมาเบาๆ

“ มันก็แค่ไม่มีคนถูกใจอะพี่เมด “ เดย์บอก “ แบบว่าสัดพี่มันเป็นพวกไม่ชอบให้ใครมาผูกมัด ไม่ชอบให้ใครมาวอแว ไอ้พวกที่ต้องไปรับไปส่งกินข้าวกันทุกวัน เทคแคร์กัน ส่งข้อความหากันบ่อยๆ คือมันไม่ชอบอะไรแบบนั้น ก็เลยชอบคบแบบวันไนท์มากกว่า แต่ว่าตอนนั้นคงเพราะไม่เจอคนที่ถูกใจด้วยแหละ “

“ อย่างงั้น “ ผมพยักหน้ารับก่อนจะยิ้มแห้งให้น้อง ไม่รู้ทำไมแต่กลับรู้สึกว่า อาฟเตอร์ อารยะ ที่ผมรู้จักจะไม่ได้เป็นเหมือนที่เด็กสองคนตรงหน้าพูดเลยสักนิด

ก็ตั้งแต่ที่เรารู้จักกันมา อาฟเป็นคนไปรับไปส่งผมตลอด ต่อให้บอกว่าไม่ต้องยังไงมันก็ยังยืนยันว่าจะไปส่ง เรื่องกินข้าวก็ดูจะเป็นฝ่ายมันอีกนั่นแหละ ที่คอยแต่ชวนผมไปกินนู้นกินนี่ แต่ก็แค่ให้ผมเลือกว่าตัวผมจะกินอะไร ส่วนเรื่องส่งข้อความอันนี้พอเห็นด้วยอยู่ว่ามันเป็นคนที่ไม่ค่อยส่งข้อความจริงๆ แต่นั่นก็เพราะว่าส่วนใหญ่เราก็อยู่ด้วยกัน เลยไม่รู้จะส่งหากันทำไม ก็คุยด้วยกันต่อหน้าดีกว่า

“ ซ้อกำลังคิดว่าทำไมเฮียไม่เห็นเป็นแบบนั้นเลย “

“ ก็นะ “ ผมบอกยิ้มๆก่อนจะหุบยิ้มลงตอนที่ได้สติว่าอีกคนเรียกว่าอะไร “ ก็บอกว่าอย่าเรียกซ้อไงว่ะ ไอ้เด็กนี่ “

“ ฮ่าๆ “ น้องอัยย์หัวเราะ ก่อนที่น้องเดย์จะพูดขึ้นด้วยเสียงเรียบๆ มือที่เช็ดแก้วไปทำเหมือนไม่สนใจแต่ก็มองกันเป็นระยะ

“ ที่สัดพี่มันดูไม่เหมือนตัวเอง นั่นก็เพราะว่ามันอยู่กับพี่เมดไง “

“ ยังไง “

“ พี่เมดก็แค่เป็นคนที่มันอยากอยู่ด้วย คำถามที่ว่าทำไมมันถึงไม่เหมือนอย่างที่น้องเดย์เล่า คำตอบมันก็มีอยู่แค่นั้น เพราะนั่นคือพี่เมดไง “

“ ฮั่นน้ออออออออ “ อัยย์เอ่ยแซวผมที่ก็เม้มริมฝีปากไว้จนหน้าแดง

“ งานนี้สัดพี่ต้องให้โบนัสกู กูต้องไม่พลาด “ น้องเดย์ว่าขำก่อนจะกำมือแน่นแบบมุ่งมั่น “ ฮ่าๆ “

“ อย่าที่ใครเค้าบอกไว้จริงๆ ที่ว่า วันนึงเราจะได้เจอคนที่มาฉีกกฎทุกข้อของเรา คนที่อยู่เหนือเหตุผลทุกอย่าง แต่เรากลับรู้สึกว่ารักเค้ามาก อย่างไม่เคยเป็น “

“ คนที่มาฉีกกฎทุกข้อของเราเหรอ “ ผมถามน้องอัยย์ที่กำลังยักคิ้วให้ก็อธิบายต่อ

“ ก็เหมือนกับว่าเฮียไม่ชอบไปรับไปส่งใคร ไม่ชอบต้องคอยเทคแคร์ใคร แต่ตอนนี้ทุกอย่างที่เคยไม่ชอบ เฮียทำให้พี่เมด นั่นก็เพราะว่า พี่เมดคือคนที่เฮียอยากทำให้ พี่เมดคือคนที่มาฉีกกฎทุกข้อของเฮียไง “

“ แล้วพี่เมดละ “ เดย์ถามผมบ้าง “ สัดพี่มันฉีกกฎข้อไหนของพี่เมดบ้างยัง “

   เงียบไปกับคำถามนั้น จะว่าไปมันก็มีอยู่บ้างละมั้ง

ผมไม่ชอบคนปากหมา ไม่ชอบคนกวนตีน ไม่ชอบคนที่พอถามอะไรก็เอาแต่บอกว่า เสือก แล้วพอเวลาเขินก็ตัดบทด้วยคำว่า รำคาญ แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้สิ่งที่ไม่ชอบทั้งหมด มันดันรวมอยู่ในตัวของคนคนเดียว แล้วนั่นก็คือ อาฟ และน่าแปลกที่ว่า พอเป็นอาฟทุกอย่างที่เคยคิดว่าไม่ชอบ ตอนนี้กลับรู้สึกแค่ว่าก็ไม่เห็นว่ามันจะเป็นอะไร

ถ้ามันจริงอย่างที่น้องอัยย์บอกว่า คนเราจะมีใครบางคนที่เข้ามาฉีกกฎทุกข้อของชีวิต สำหรับผม ตอนนี้ก็คงเป็นอาฟ
“ จะว่าไปก็รู้สึกอยู่นิดหน่อยนะ “

“ สัดพี่น่ะไม่เคยจริงจังกับใครเลยนะพี่เมด “ น้องเดย์พูดเสียงเรียบก่อนจะหันมายิ้มให้ผม แววตาของเด็กขี้เล่นที่ชอบแซวกันหายไปเหลือไว้แค่ผู้ชายคนนึงที่เป็นน้องชายของแฟนผม “ พูดไปก็เหมือนกดดัน แต่พี่เมดน่ะ เป็นคนแรกเลยนะพี่สัดพี่มันจริงจังด้วย พี่เมดเป็นเหมือนโลกใบใหม่ของสัดพี่เลย สัดพี่ดูมีความสุขขึ้นมาตั้งแต่เจอพี่เมด จริงๆนะ “

“ รักพี่ชายเหมือนกันนี่น่า เป็นห่วงพี่อาฟเหรอน้องเดย์ “ ผมแซวอีกคนที่ก็เปลี่ยนสีหน้าทันที

“ พูดอะไรแบบนั้น น้องเดย์แค่พูดเรื่องที่น้องเดย์รู้สึกเว้ย แล้วก็ ไม่ใช่น้องเดย์แค่คนเดียวนะ ทุกคนก็รู้สึก ไอ้อัยย์ พี่เจอะไรแบบนี้ก็รู้สึกอะ “ ผมเผลอยิ้มก่อนจะพยักหน้ารับกับคนที่เถียงออกมาแบบพัลวัน “ น้องเดย์นี่อะนะจะรักสัดพี่ พี่เมดเอาอะไรมาพูด ไม่เลยยยยยยยย โหหห ใครจะรักมันลงชอบใช้น้องเดย์จะตาย เดย์เอารถกูไปซ่อม เดย์ไปลงเหล้า เดย์กลับบ้านไปรับแม่ไปทำเล็บแทนกู เดย์นั่น เดย์นู้น เดย์นี่ ไม่รู้เกิดเป็นน้องหรือเกิดเป็นทาสอะเอาจริง “

“ รู้สึกเหมือนมีคนเขินวะน้องอัยย์ “

“ ฮ่าๆ “ คนที่ถามหัวเราะออกมาก่อนจะยักไหล่ “ มันฟอร์มเยอะ “

“ แต่น้องเดย์ พี่เมดก็จริงจังกับพี่อาฟนะ ไม่เคยคิดเลยสักครั้งว่าจะคบกับพี่อาฟเล่นๆ แค่ตอนนี้มัน.. “ ผมเว้นเสียงไปก่อนจถอนหายใจออกมา “ เรียกว่าไงดี ไม่รู้จะทำยังไงกับเรื่องที่เกิดขึ้นดีก็เท่านั้น พี่เมดอยากจะให้มันมีทางออกสำหรับเราสองคน ถึงอาฟบอกว่ามันไม่มีก็ตามเถอะ “

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
ผมก็แค่อยากจะคุย ถ้าทำได้ตอนนี้ก็อยากจะขึ้นไปชั้นสามจับมันมัดแล้วคุยกันให้รู้เรื่อง แต่ไม่รู้ว่าอารมณ์ของมันจะหายขุ่นมัวพร้อมจะคุยกันแล้วหรือยัง มันอาจจะจริงอยู่ที่มันมีทางออกเดียวคือการที่ผมต้องลืม แต่ในเมื่อมันลืมมันลบไปในตอนนี้ไม่ได้ เราก็ต้องมาคุยกันเพื่อที่จะหาทางอยู่กับมันให้ได้ แต่เหมือนอาฟจะไม่อยากจะคุยเรื่องนี้แล้ว

“ ถามจริง ทะเลาะกันเรื่องอะไรวะ “ อัยย์เป็นคนเอ่ยถามผมขึ้นมา “ เรื่องใหญ่มากเลยเหรอ พี่เมดไม่สดใสเลยวันนี้คุยกันไปตั้งเยอะแต่พี่เมดก็ไม่ค่อยคุยเล่นเหมือนปกติ “

“ ก็ไม่ใหญ่หรอกมั้ง “ บอกน้องยิ้มๆแต่เหมือนอีกสองคนจะไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่

ก็อยากจะระบายความรู้สึกที่อัดอยู่ในใจให้ฟังเหมือนกันแต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นที่จุดไหน ไม่ได้อยากจะเล่าเรื่องอะไรพวกนั้นที่ดูน่าสมเพชให้ใครฟัง เพราะถ้าทำได้ตอนนี้ก็อยากจะลืมๆมันไปซะ แล้วเสกให้สี่ปีที่มา เป็นแค่คนโสดธรรมดาที่ดันถอยรถชนรถเจ้าของผับนี้จนป็นรอย

“ ไม่สบายใจก็ไม่ต้องเล่าหรอก เข้าใจได้อยู่พี่เมด “

“ ทะเลาะกันเรื่องที่พี่พูดถึงแฟนเก่าน่ะ “ ผมบอก “ คือพี่เมดไม่ได้ตั้งใจจะพูดพอดีวันนี้ไปทำรายงานกับเพื่อน แล้วโดนเพื่อนพูดประมานว่าจริงๆพี่เมดเป็นคนยังไง คือก่อนหน้านี้พี่เมดคิดว่าตัวเองดีแต่เพิ่งมารู้ว่าเพื่อหมั่นไส้มาตลอดน่ะ ฮ่าๆ “ ผมหัวเราะกลบเกลื่อนความรู้สึกของตัวเอง “ แล้วก็โดนปั่นหัวเรื่องแฟนเก่าด้วย สุดท้ายตอนนั่งรถกลับมาก็เลยเผลอพูดเรื่องแฟนเก่ากับไอ้อาฟไปแบบไม่ทันคิด ก็นั่นแหละ เราเลยทะเลาะกัน “

“ แต่ก็พอเข้าใจได้นะ “ เดย์บอก ก่อนจะยกไหล่ให้ผม “ ก็พี่เมดเพิ่งเลิกกับแฟนมามันก็ไม่แปลกไม่ใช่เหรอวะ ที่พี่เมดยังเจ็บกับเรื่องนั้นแล้วเสือกมาโดนปั่นอีก ใครมันจะทนไม่เสียใจได้ ถ้าเป็นแบบนั้นน้องเดย์ก็ยอมพูดออกมาดีกว่า ทนอยู่ก็เจ็บปวดตายพอดี “

“ แต่พี่ก็ไม่สมควรพูดอะไรแบบนั้นกับอาฟรึเปล่า มันมีแฟนคนปัจจุบันคนไหนอยากจะให้แฟนเราคิดถึงแฟนเก่าวะ ก็ไม่มีใช่มั้ยละ “ มันก็จริงอยู่ที่เรามีสิทธิ์เสียใจกับคนเก่า ในเหตุผลที่ว่าก็แค่เสียใจแต่เราไม่ได้เดินกลับไปหา ต่อให้โอกาสจะมีหรือไม่มี แต่แบบนั้นเราก็ไม่ควรให้คนมาใหม่ มาเจ็บปวดกับเรื่องเก่าๆของเรามั้ยวะ อาฟมันก็ไม่เกี่ยวอะไร มากสุดก็แค่รู้สึกชอบผมก็เท่านั้น เลยต้องมาเจ็บปวดกับเรื่องพวกนี้ด้วย “ รู้สึกแย่ชิบหายเลยวะ ไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย บอกว่าไม่โกรธแต่ก็ไม่คุยกัน นี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะต้องทำยังไงต่อไป ”

“ ก็แค่เพิ่งเคยทะเลาะกันครั้งแรก ก็ไม่แปลกมั้ยวะที่ยังรับมือไม่ได้ อีกอย่างให้สัดพี่มันอารมณ์เย็นลงก่อนแล้วค่อยคุยก็น่าจะดี “  ผมถอนหายใจออกมาก่อนจะพยักหน้ารับน้องไปก่อนจะก้มหน้าลงบ่นกับตัวเอง

“ ไม่น่าพูดเลย น่าจะเก็บความรู้สึกได้เก่งกว่านี้ ตอนนั้นแม่งคิดอะไรอยู่วะ ทำไมต้องพูดอะไรแบบนั้นออกไปด้วย “

 “ มันไม่มีใครผิดหรอกพี่เมด ไม่ต้องโทษตัวเอง ทุกอย่างมันก็ปกติที่ต้องเกิดขึ้น พี่เมดไม่ได้จะเดินกลับไปหาเค้าสักหน่อย แต่แค่ก้าวเดินต่อไปกับสัดพี่แบบเต็มกำลังไม่ได้ เรื่องมันก็มีเท่านั้นอะ แล้วน้องเดย์ก็คิดว่าสัดพี่มันเข้าใจเรื่องนี้แหละ แต่เพราะมันไม่เคยต้องยอมใครขนาดนี้ไง พี่เมดก็ให้เวลามันปรับตัวเองหน่อย เดี๋ยวก็ดีขึ้น “

“ อื้ม “

“ แต่น้องเดย์ก็อยากให้พี่เมดเข้าใจด้วยนะว่า ถ้าเป็นพี่เมดมาได้ยินสัดพี่มันพูดถึงแฟนเก่าว่าดีแบบนั้นแบบนี้ พี่เมดก็คงเสียใจเหมือนกัน แม้จะเข้าใจยังไง ก็ยังเสียใจอยู่ดี ก็เราเป็นแฟนใหม่อะ แต่เค้าเอาแต่พูดถึงแฟนเก่า ยังไงแม่งก็รู้สึกแย่อะ ไม่ใครมันแบบ พูดถึงแฟนเก่าเหรอ ดีจังเลย พูดอีกๆ หรอก จริงมั้ย “

“ คบกับมึงมาก็นานนะเดย์ แต่วันนี้มึงแม่งโคตรมีสาระอะ ดูฉลาดผิดกับปกติที่มึงจะดูโง่ “ อัยย์ชมพูดตัวเองก่อนที่ทั้งสองคนจะหันมาจับมือกันก่อนที่หันมาบอกผมให้สบายใจ “ พี่เมดไม่ต้องกังวลหรอก เฮียไม่ได้โกรธพี่เมดหรอก เพราะท่าทางนี้มันไม่ใช่ท่าทางตอนเฮียโกรธ “

“ ใช่ๆ เพราะตอนสัดพี่โกรธนะพี่เมด น่ากลัวมากๆ แต่ว่ามันมีหลายระดับอะสำหรับความโกรธของสัดพี่ “

“ เหรอ “

“ อย่างงี้ก็คงแค่งอนๆ เพราะถ้าโกรธจริงคงไม่พาพี่เมดมาด้วยอะ พี่เมดพูดเรื่องแฟนเก่าตรงไหนคงเปิดประตูปล่อยพี่เมดทิ้งไว้ตรงนั้นแล้ว “ น้องอัยย์เสริม “ แล้วก็จะไม่มองพี่เมดด้วยเหมือนพี่เมดเป็นธาตุอากาศไปเลย “

“ แต่สัดพี่มันไม่โกรธใครง่ายๆหรอกพี่เมด ใจร้อนก็จริงแต่รายนั้นก็โกรธคนยากอยู่ แต่ว่าถ้าต่อยก็ต่อยเลยนะไม่รอให้พูดมากเหมือนกัน ฮ่าๆ “ น้องชายของคนที่งอนผมอยู่บอก “ แต่น้องเดย์ไม่เคยเห็นสัดพี่โกรธใครสักครั้งเลยนะ แต่พี่เจคงเคยอะ รายนั้นสนิทกันมาตั้งแต่เด็กๆ “ 

“ อ้อๆ มีอีกคนที่ถามได้นะพี่เมด แต่พี่เมดคงไม่รู้จักอะ เฮียมีเพื่อนสนิทอีกคนนึงแต่ตอนนี้อยู่เมืองนอก ชื่อ.. “

“ ไอ้อัยย์! “ เสียงดังที่ทักขึ้นมาทำเอาเราสามคนสะดุ้งด้วยความตกใจ ไม่เว้นแม้แต่พนักงานที่กำลังจัดร้านก็หันมามองกันเป็นตาเดียว ก่อนจะหันกลับไปทำงานของตัวเอง ในตอนที่อาฟเดินเข้ามาใกล้พวกเรา สายตาคมที่กำลังมองหงุดหงิดมองเด็กสองคนในบาร์ก่อนจะหันมามองผม “ ว่างมากนักเหรอพวกมึง ถึงมานั่งจับกลุ่มคุยเรื่องไร้สาระกันอยู่แบบนี้ “ 

“ มึงมานานแล้วเหรอ “ ผมเอ่ยถามมันยิ้มๆ แต่เหมือนอีกฝ่ายจะยังนิ่ง

“ กูถามว่างานเสร็จแล้วเหรอ “

“ กูทำงานเสร็จหมดแล้วนะ “ ยิ้มให้มันแบบใจดีสู้เสือแต่ข้างในกลับสั่นไปหมด “ สต๊อกเหล้าก็ทำแล้วเรียบร้อย บัญชีของเมื่อวานก็เสร็จแล้วด้วย “

“ ก็เลยมานั่งจับกลุ่มคุยกับคนที่ต้องจัดบาร์รับลูกค้าทั้งๆที่ผับกำลังจะเปิดอีกยี่สิบนาที “

“ ก็..” เหลือบมองเด็กๆที่ก็เม้มริมฝีปากไว้ไม่ได้พูดอะไร ทุกอย่างเงียบไปหมดแม้แต่เสียงจัดแก้วที่ดังอยู่เมื่อครู่ก็แทบจะไม่ได้ยินราวกับทุกคนกำลังทำทุกอย่างให้เงียบที่สุดเพื่อไม่ให้โดนหางเลขจากสายตาคมของคนที่กำลังพูดกับผม “ งั้นกูขึ้นไปทำงานข้างบนก็ได้ จริงๆ ก็เหลืองานอีกนิดหน่อย “

“ อื้ม ดี “ ลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่นั่งผมเดินขึ้นไปที่ชั้นสามทันทีโดยที่ไม่พูดอะไรมากกว่านั้น 

ผมผ่อนลมหายใจออกมากับความอึดอัดตอนที่อยู่ด้วยกันเมื่อครู่ สายตาของอาฟไม่ได้โกรธหรอกผมรู้ แต่ก็เป็นผมนี่แหละที่กล้าจะเข้าไปคุยอะไรกับมันก่อนอยู่ดี

หย่อนตัวลงนั่งลงที่โต๊ะหน้าคอมพิวเตอร์ประจำตำแหน่งของตัวเอง งานทุกอย่างเสร็จหมดแล้ว เสร็จตั้งแต่ตอนที่อยู่บนรถด้วยซ้ำ เพราะไม่รู้จะคุยอะไรกับคนข้างๆเหมือนปกติ ผมเลยตัดสินใจทำงาน ทำบัญชี แล้วก็สั่งของจนเสร็จ น่าแปลกที่เสร็จเร็วกว่าตอนที่อยู่ผับหลายเท่า คงเพราะไม่ต้องเอาเวลาไปนั่งเม้าส์กับเจ้าของผับที่ชอบมากวนตีนใกล้ๆ ไม่ก็ตัวผมเองที่ชอบเอาสมาธิออกจากงานไปดูรีวิวของกินที่ชอบบ่อยๆ

[ วิว พี่มีเรื่องจะปรึกษา ] หยิบมือถือขึ้นมาพิมพ์ลงไปในโปรแกรมแชท แต่อีกฝั่งก็เงียบสนิท [ เงียบไปเลย ทำไงดี คือพี่เผลอไปพูดเรื่องไอ้บินกับอาฟว่ะ ทำไงดีวะ ง้อยังไงดีอะมึง ]

ผ่อนลมหายใจออกมากลับคำถามที่ไม่มีคำตอบ ผมออกจากแชทของน้องชายตัวเอง มีแจ้งเตือนจากอดีตเพื่อนสนิทอย่างไอ้จิงที่ส่งเข้ามาด้วยอีกหนึ่งแชท จริงๆผมเห็นมันตั้งแต่เย็นแล้วแต่เพราะไม่อยากจะอ่านเลยทิ้งมันไว้แบบนั้น

[ เมด กูขอโทษแทนยีนส์ด้วยนะ ขอโทษจริงๆที่ทำให้มึงรู้สึกไม่ดีอีกแล้ว กูจะไม่มาขออะไรมึงอีก กูเข้าใจแล้วว่าพวกเราก็คงเป็นได้แค่นี้แหละ แต่ที่กูอยากบอกคือ มึงเป็นเพื่อนที่ดีนะ มึงเป็นคนดี เป็นคนน่ารัก กูไม่ได้มองว่ามึงเชิดหรือหยิ่งอะไรแบบที่ไอ้ยีนส์มันพูดหรอก  ส่วนเรื่องที่จะทักมาคือกูจะมาพูดเรื่องรายงาน รายงานส่วนของกูกับยีนส์ พวกกูทำเสร็จแล้วนะ ส่งไฟล์มาให้มึงในเมล์แล้ว ยังไงก็ฝากทำส่วนของมึงให้เสร็จ รวมเล่มแล้วก็ส่งกลับมาที่เมล์กูนะ ไอ้ยีนส์มันจะเป็นคนปริ้นท์แล้วเอาไปส่งคาบหน้านี้ โอเคมั้ย ถ้ายังไงอ่านแล้วก็ส่งข้อความกลับมายืนยันด้วยนะ ขอบคุณมากๆ แล้วก็ขอโทษด้วย ]

[ อื้ม เข้าใจแล้ว ] ผ่อนลมหายใจออกมาตอนที่ส่งข้อความไป ข้อความที่ขึ้นมาว่าอ่านแล้วแต่หลังจากนั้นจิงก็ไม่ส่งอะไรมารบกวนผมอีก 

เปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นมาไฟล์รายงานที่ถูกทำค้างไว้ ก่อนอื่นก็ต้องทำมันให้เสร็จจะได้เลิกสนใจเรื่องอะไรที่ทำในใจขุ่นเคืองนั่นสักที  ผมนั่งทำงานทั้งหมดเสร็จภายในสามชั่วโมง แล้วตอนที่เปิดไฟล์ของเพื่อนร่วมกลุ่มที่ส่งมาเพื่อรวมงาน ผมกลับพบว่า ไฟล์ของจิงเรียบร้อยดี แต่ที่เหี้ยสุดคือไฟล์ของไอ้ยีนส์ที่ดูเหมือนไม่ได้ตั้งใจทำเท่าไหร่ จัดหน้าไม่ได้ระเบียบแถมยังวางสลับกันไปมา อักษรบางตัวก็เหมือนพยายามตั้งใจทำออกมาให้เป็นภาษาต่างดาวแถมยังมีคำสะกดผิด

“ ส้นตีน “ พิงหลังตัวเองกับเก้าอี้ที่นั่ง ทำรายงานก็ว่าเพลียแล้วแต่มาเจอแบบนี้มันยิ่งรู้สึกเพลียยิ่งกว่า

มันเหมือนพอเรามีความคิดที่จะหยุด เลิกสนใจ แต่ฝั่งตรงข้ามเรากลับไม่คิดอะไรแบบนั้น ยีนส์คงไม่หยุดแค่นั้นผมรู้สึกได้ ทำไมวะ ผมอยากรู้ว่ามันจะเอาอะไรจากผมอีก ที่ได้ไปมันยังไม่พอรึไง 

“ บ่นอะไร “ อาฟที่เปิดประตูเข้ามา มันถามผมที่หันไปมองหน้ามันพอดี ส่ายหน้าไปมาให้มัน ผมเริ่มแก้งานที่ไม่ใช่ของผมเพราะไม่อยากจะส่งกลับไปให้มันแก้แบบวุ่นวาย เพราะดูทรงแล้วคงต้องเจรจากันอีกนาน ไม่ก็คงโดนอีกฝ่ายพูดกลับมาว่า ตัวเองอยู่กับบิน ไม่ว่างจะทำ จากจะนิสัยของมันในตอนนี้ ก็พอเดาได้ว่าคำตอบจะเป็นยังไง

“ เปล่า “

“ ตอแหล “ มันว่าแค่นั้นก่อนจะเดินมานั่งที่เก้าอี้ของตัวเอง ผมมองตามมันที่เปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นมาแล้วก็เป็นเหมือนทุกครั้งในช่วงนี้ที่มันจะเปิดเกมส์เล่นตามปกติ จริงๆเวลาที่มันว่างไม่มีอะไรทำ อาฟก็ชอบเล่นเกมส์อยู่แล้ว แต่ที่น่าแปลกคือ ช่วงนี้ผมรู้สึกมันเริ่มติดเพราะเล่นทุกวัน “ มีอะไรจะพูดก็พูด เครียดเรื่องอะไรอีก “

“ พูดได้เหรอ “

“ เรื่องเกี่ยวกับไอ้เหี้ยนั่น ? “

“ ก็ไม่เชิง เพราะมันเกี่ยวกับไอ้ยีนส์ “

“ อยากพูดก็พูดมา “

“ เหมือนไอ้ยีนส์จะแกล้งกู ด้วยการทำรายงานแบบส่งๆมาให้ ทั้งหน้าของมัน เนื้อหารายงานสลับกันไปหมด บางอันเป็นตัวอักษรเหี้ยอะไรก็ไม่รู้ สะกดก็ผิด “  ถอนหายใจออกมาผมดึงตัวเองเข้าไปใกล้จอคอมพิวเตอร์มากขึ้น “ เกลียดมันชะมัดเลยไอ้สัดเอ้ย ทำไมกูต้องมานั่งแก้รายงานในส่วนของมันที่ก็พยายามทำให้ผิดเพื่อแกล้งกูด้วยวะ “

“ เพื่อคะแนนของมึง “ อีกคนบอกสั้น ๆ “ ก็ลองคิดดูง่ายๆว่า ถ้ามึงโทรไปหามัน บอกให้มันจัดการรายงานของมันให้เรียบร้อย มึงจะหัวเสียกว่านั่งทำเองตอนนี้รึเปล่า “

“ คิดว่าคงหัวเสียกว่า และกูก็ไม่อยากจะเสวนากับมันด้วย “

“ งั้นก็ทำเอง คิดซะว่าทำเพื่อคะแนนตัวเอง “ ผมพยักหน้ารับก่อนจะเหลือบมองอีกคน “ มองอะไร “

“ ก็คิดว่าปกติมึงไม่น่าจะใช่คนยอมคนอะไรแบบนี้ แต่หนนี้แปลกที่มึงมาสั่งให้กูยอม “

“ กูแค่ไม่เห็นว่ามันจะมีอะไรดี ถ้ามึงไม่ยอม “  ก็คงจริงอย่างที่อาฟพูด แค่คิดว่าต้องไปนั่งเถียงกับคนแบบมันก็หงุดหงิดแล้ว “ ฤทธิ์อย่างเพื่อนมึง เดี๋ยวก็พูดอวดอีกว่าอยู่กับผัวเก่ามึง  แล้วมึงก็เศร้าอีก “

“ กูไม่ได้เศร้าแล้ว “ เถียงบอกอีกคน อาฟที่หันมามองหน้าผมที่ก็สบตามัน

“ งั้นเหรอ “ เป็นคำตอบสั้นๆของอีกคนที่ดูก็รู้ว่าไม่ได้เชื่อในสิ่งที่ผมพูดกันสักเท่าไหร่

อาฟหันไปเล่นเกมส์ของตัวเองในตอนที่ผมจะพูดอะไรต่อออกไป มันไม่ได้กำลังจะหนีหรอกผมรู้ แต่อาฟแค่รู้สึกว่ามันไม่รู้จะพูดอะไร เพราะพูดไปก็คงรู้สึกว่าทุกอย่างมันเหมือนเดิม

ผมที่ยังคิดเหมือนเดิม อาฟก็คิดเหมือนเดิม นั่นคือ ผมต้องเสียใจอยู่และมันก็ต้องเข้าใจ


ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
นั่งทำรายงานเงียบๆจนเสร็จ ผมใช้เวลาแก้และรวมเล่มเกือบสองชั่วโมง จัดการเซฟงานไว้ในไฟล์และส่งไปให้เพื่อนร่วมกลุ่มตามคำสั่ง ไม่ลืมปริ้นท์ออกมาหนึ่งชุดตามไอ้อาฟเคยบอกกันเอาไว้ว่าทำอะไรก็ต้องเก็บไว้หนึ่งชุดเพื่อกันอีกฝ่ายตุกติก

“ อาฟไปหาอะไรกินกันมั้ย “ เอ่ยถามคนที่กำลังนั่งเล่นเกมส์อยู่ด้วยความเมามันส์ สายตาของมันไม่ได้ออกจากหน้าจอเลย ผมเผลอยิ้มออกมากับอีกมุมนึงของมันที่ภายนอกดูเคร่งขรึม แต่จริงๆก็แค่เด็กติดเกมส์คนนึงในบางที

“ หิวเหรอ “ มันถามทั้งๆที่ตาก็เอาแต่มองเกมส์ ความจริงก็เปล่าหรอกผมไม่ได้หิวอะไรก็แค่อยากจะคุยกับมันเท่านั้น เพราะรู้สึกว่ายิ่งปล่อยให้ทั้งผมทั้งมันเงียบใส่กันแบบนี้ก็ยิ่งอึดอัด

“ ก็ไม่เท่าไหร่หรอก แค่อยากกิน “

“ งั้นรอแปป กูขอเล่นเกมส์นี้ก่อน เกมส์นี้พอมันเข้าแล้วมันออกไม่ได้ “

“ งั้นกูลงไปรอข้างล่างนะ “  อาฟพยักหน้ารับกับหน้าจอคอมเพราะไม่สามารถผละสายตาออกจากเกมส์ของมันได้

   เดินลงไปชั้นล่างของผับที่วันนี้ก็มีคนเยอะเหมือนทุกวัน พนักงานทุกคนที่กำลังหัวหมุน แม้แต่พี่ผู้จัดการที่ก็กำลังช่วยพนักงานเสิร์ฟแบบมือไม่ว่าง ผมพาตัวเองมานั่งที่บาร์ เพราะคิดว่าอีกนานกว่าคนที่ติดเกมส์จะเล่นจบ

“ น้องอัยย์ “ เอ่ยทักบาร์เทนเดอร์ที่กำลังดูอะไรบางอย่างอยู่บนไอแพตที่ติดไว้เค้าเตอร์ ถ้าจำไม่ผิดมันเป็นพวกวิธีทำเครื่องดื่มต่างๆ อาฟเคยบอกว่ามันติดไว้ให้เผื่อเวลา บาร์เทนเดอร์ของผับเกิดจำสูตรขึ้นมาไม่ได้กะทันหัน  “ ทำอะไรอยู่ “

“ กำลังดูสูตรค๊อกเทลอันนึงอยู่อะพี่เมด ว่าจะลองทำดู ฝึกไว้ระหว่างไม่มีคนเข้าบาร์เท่าไหร่ “

“ ขยันจัง “

“ ขอโบนัสด้วยครับ “ แบบมือมาตรงหน้าผม ที่ก็มีแต่จะยื่นทิชชูที่อยู่แถวนั้นให้

“ ไปขอจากเจ้าของผับสิวะ มาขอพี่เมดทำไม “

“ อ้าว ขอพี่เมดก็เหมือนขอเฮียนั่นแหละ แค่พี่เมดพูดว่า อาฟเพิ่มโบนัสให้น้องอัยย์หน่อย เฮียคงโอนให้เลยตอนนั้นสองหมื่น “

“ จะเอาสองหมื่นเลย “ ทำสีหน้าตกใจใส่คนน้องที่ก็หัวเราะออกมาจนเห็นฟันเขี้ยว

“ ได้ก็ดี “

“ ฝันเหรอ ปลุกมั้ย “ เอื้อมมือไปเขย่าไหนอีกคนน้องอัยย์ก็หัวเราะลั่น

“ ทำมาเป็นตลก ดีกับเฮียแล้วเหรอ “

“ เรียกว่าไม่โกรธ แต่ก็ยังไม่สามารถที่จะพูดคุยได้เหมือนเดิม “ ยิ้มแห้งๆให้น้องอีกคนก็ขมวดคิ้วงงๆ ผมก็อธิบายเพิ่ม “ มันก็เหมือนกับว่าอาฟมันก็เข้าใจพี่เมดนั่นแหละ แต่ว่าเข้าใจแบบไหนไม่รู้ แต่พี่เมดคิดว่ามันเข้าใจแบบ ต้องเข้าใจอะ ไม่ใช่เข้าใจแบบเข้าใจจริงๆ “

“ งงนิดนึง “ น้องบอกผมก็ยิ้ม “ คือเฮียพูดปัดว่าเข้าใจ คือพี่เมดรู้สึกว่าเค้าแค่ปลงๆ ว่าเค้าต้องเข้าใจ แต่ทำใจให้เข้าใจไม่ได้จริงๆแบบนั้นถูกมั้ย “

“ อื้ม พี่เมดคิดว่าอาฟก็คงเป็นแบบนั้นแต่พี่เมดก็อยากจะให้เราเข้าใจกันจริงๆอะ คุยกันจริงจัง แต่เหมือนว่า อาฟมันจะไม่ค่อยอยากจะคุยเท่าไหร่ “

“ คงคิดว่า มันแก้อะไรไม่ได้ และต้องเข้าใจแหละ พูดไปก็เสียอารมณ์ไม่มีอะไรเปลี่ยน เฮียเค้าเลยไม่พูดแล้ว “

“ อื้ม แบบนั้นแหละ “ ผมพยักหน้ารับอีกคน น้องก็ยิ้ม

“ เอาน่าๆ อย่าเครียด เดี๋ยวก็ได้เคลียร์กันเองนั่นแหละ แล้วนี่พี่เมดลงมาทำอะไร “

“ ว่าจะชวนอาฟไปกินข้าวซอยข้างๆ แต่พี่เค้าติดเกมส์เลยเบื่อจะนั่งรอที่ห้อง พี่เมดก็เลยขอลงมาก่อน เดี๋ยวมันเล่นเสร็จมันก็คงลงมา “ บอกแบบนั้นน้องก็พยักหน้ารับ 

“ พี่เมดอยากจะคุยกับเฮียจริงๆเปล่า น้องอัยย์มีวิธีนะ “

“ ยังไง มีแผนเด็ดเหรอ “ ถามน้องด้วยความสนใจอีกคนก็ยักคิ้วให้

“ พี่เมดรู้เปล่า มันมีอย่างนึงนะที่ทำให้คนเราพูดในสิ่งที่อยากจะพูดแบบไม่ต้องคิดอะไรให้เยอะ ไม่ต้องสนใจอะไรด้วย รู้มั้ยสิ่งนั้นคืออะไร “

“ ไม่รู้อะ “ ผมส่ายหน้า “ คืออะไรเหรอ “ ถามอีกคนกลับน้องอัยย์ที่ก็ไม่ได้พูดอะไร แค่ยื่นแก้วใบนึงขึ้นมาก่อนจะรินอะไรบางอย่างสีขาวใสลงไปในแก้วใบนั้น ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไรแล้วในตอนนั้นคนที่รินให้ก็บอกให้เข้าใจ

“ เหล้าไง “

“ ไม่เอาอะ “ ผมบอกปัดก่อนจะดึงตัวเองออกห่างจากโต๊ะพลางโบกมือไปมา “ พี่เมดไม่กินเหล้า “

“ เอาจริงดิ “ สายตาที่มองมาแบบไม่เชื่อผมพยักหน้ารับ “ ไม่เคยกินเลยเหรอ “

“ ก็เคยกิน แต่ว่าเวลากินแล้วเมาง่ายเลยไม่ค่อยกิน ไม่ชอบด้วย รู้สึกว่ามันไม่อร่อยน่ะ “

“ ฮ่าๆ น่ารักจังว่ะ “ อีกคนบอกก่อนจะหยิบแก้วที่ตั้งอยู่ตรงหน้าผมกินเข้าแทน “ งั้นเดี๋ยวทำแบบน้ำผลไม้อร่อยๆให้เอามั้ย “

“ เหรอ มีด้วยเหรอ “

“ มีสิครับ มันต้องมีอยู่แล้ว บางคนมาผับก็ไม่ได้อยากจะเมาสักหน่อยเค้ามาเอาบรรยากาศ ที่บางทีก็ได้ผู้ชายถูกใจกลับไปด้วยเป็นผลพลอยได้ “ น้องว่าขำๆก่อนจะก้มลงทำอะไรสักอย่างแบบขะมักเขม้นและไม่กี่วินาทีต่อมาแก้วสีชมพูดูน่ารักก็ถูกยื่นมาตรงหน้าผม “ อันนี้อร่อยแน่นอน พี่เมดต้องชอบ “

“ เหรอ “ ขยับตัวขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น ผมชิมแก้วที่น้องอัยย์ทำให้กิน รสชาติมันก็แปลกอยู่ กินแล้วแยกไม่ออกว่าเป็นผลไม้อะไรโดยรวมก็อร่อยดีถึงจะขมอยู่หน่อยๆแต่ก็มีรสเปรี้ยวๆหวานๆที่นำขึ้นมามากกว่า “ อร่อยจัง “

“ ใช่มั้ย “

“ มันเรียกว่าอะไรเหรอ “

“ ไม่บอก ความลับผับฝั่งบาร์ “ น้องบอกแบบนั้นก่อนจะเชิดเหมือนบอกให้ผมกินให้หมด “ กินเข้าไปให้หมดเดี๋ยวจะให้ลองอีก มีอีกหลายรสเลย “

“ เหรอ ไม่เมาแน่นะ “ ผมถามย้ำอีกคนก็พยักหน้ารับแบบจริงจัง

“ ผสมนิดเดียวไม่เมาหรอก เหมือนหยดน้ำหยดนึงลงไปในโอ่งอะ เมาได้ไง “

“ หน้าตาดูไม่น่าเชื่อถือ รสชาติก็ด้วย ถ้านิดนึงจริงๆมันจะมีรสขมได้ไง “ 

“ นิดๆหน่อยๆ ไม่เมาหรอกเชื่อน้องอัยย์ “ เขยิบตาให้อีกครั้ง ผมก็ก้มลงกินต่อจนหมดจะว่าไปก็อร่อยดีเหมือนกัน “ คราวนี้เอาสีอะไรดี เหลืองมั้ย พี่เมดชอบสีอะไร “

“ ขาว “

“ แรงไป “ น้องอัยย์ว่ายิ้มๆ “ เอาสีเหลืองสีกว่า ปกติมันมีแต่แก้วใหญ่แต่คราวนี้จะทำแก้วเล็กให้พี่เมดนะ “

“ ขออร่อยๆนะ “

“ ระดับบาร์เทนเดอร์ผับ throw up มันต้องไม่ให้เสียชื่อ “

“ รอๆ “

ผมนั่งดูอีกคนทำเครื่องดื่มสีต่างๆมาให้ผมชิมแบบไม่ขาดสาย รสชาติอร่อยๆของมันที่ค่อนข้างหวานๆเปรี้ยวๆไม่ต่างอะไรจากน้ำเกรปฟรุ๊ตที่ผมชอบเลยสักนิด แม้จะผสมความขมลงไปนิดหน่อย แต่หลังจากที่กินหลายแก้วเข้าผมกลับไม่รู้สึกอะไรถึงความขมนั่นเท่าไหร่แล้ว เหมือนหลงเหลือไว้เพียงแค่รสชาติหวานๆของผลไม้ก็เท่านั้น

“ น้องอัยย์หมดยัง “ ผมถามน้องก็เงยหน้าขึ้นมามองก่อนจะยื่นแก้วสีฟ้ามาให้ “ คราวนี้สีฟ้าด้วย สวยจัง “

“ ใช่ ตัวนี้แรงขึ้นมาหน่อย แต่พี่เมดคงกินได้แล้วแหละ “

“ งั้นเหรอ โอเค เชื่อใจน้องอัยย์เสมอ “ พยักหน้ารับอีกคนยิ้มๆ ไม่ต่างอะไรกับคนตรงหน้าที่ก็ยิ้มมาให้เช่นกัน ผมหยิบแก้วที่อยู่ตรงหน้าขึ้นมาดูใกล้ๆก่อนจะยิ้มให้มันแล้วพูดอยู่คนเดียว “ แก้วเหล้าสวยจังเลย มีเชอรี่ด้วย “ หยิบเชอรี่ขึ้นมากินเป็นอย่างแรกรสชาติของเชอรี่สดแต่ก็ไม่ใช่แบบที่ชอบซะทีเดียว แต่ผมว่าอย่างน้อยมันก็ดีกว่าเชอรี่ในสเวนเซ่นละ “ อร่อยจังเลย เชอรี่นี่ก็อร่อยนะ อร่อยกว่าในสเวนเซ่นอีก น้องอัยย์ น้องอัยย์ชอบกินเชอรี่ในสเวนเซ่นมั้ย พี่เมดนะไม่ชอบเลย ยกให้น้องชายกินประจำ “

“ พี่เมดมีน้องชายด้วยเหรอ “

“ มีสิ น่ารักด้วยน้า จะจีบเปล่า “

“ จีบได้อ๋อออออ “

“ ม่ายด้ายยยยย “  โบกมือให้น้องไปมาผมหัวเราะ ก่อนจะวางแก้วที่กินหมดขึ้นไปบนเค้าเตอร์ “ เอามาอีกๆ ขออีกแก้ว “ 

“ มึง..พี่เมดเมาเปล่าวะ “ น้องเดย์ขยับมายืนข้างๆเพื่อนตัวเองพลางมองมาที่ผม แววตาห่วงใยของน้อง ผมยิ้มจนตาปิดก่อนจะ โบกมือไปมาปฎิเสธ

“ ไม่เมาๆ ไม่ต้องห่วง สติยังดีอยู่ครบทุกประการ “

“ น้องเดย์ว่าน่าจะครบที่ 70 นะครับ ไม่ใช่ 100 “

“ ลดลงไปให้เหลือ 40 เป็นไงมึง “ น้องอัยย์บอกก่อนจะยื่นแก้วใบนึงมาให้ผม เหล้าสีขาวใสที่ข้างในมีอะไรก็ไม่รู้สองอันสีเขียว ผมยิ้มน้องเดย์ก็บอก

“ นี่มึงเล่นให้พี่สะใภ้กูแดกมาตินี่เลย ไอ้เชี้ย “

“ ได้ไม่ได้ไม่รู้ แต่ที่รู้งานนี้เฮียต้องตบรางวัลกูอย่างงาม “

 “ ตบอะไรกัน ไม่เอา ไม่ทะเลาะ “ โบกไปตรงหน้าคนสองคน สีหน้าที่ดูขึงขังนั้นผมยื่นมือไปตรงกลางแต่ก็ไม่ถึงตัวของบาร์เทนเดอร์ที่อยู่ข้างในหรอก เลยใช้วิธีปัดทางขวาทีซ้ายทีรู้สึกว่าต้องห้ามจะมาตบตีกันในนี้ไม่ได้ มันไม่เหมาะสม “ อย่าตบกัน แยกๆ ไม่น่ารักนะ “

“ ไม่ตบหรอก พี่เมดกินเถอะ แก้วสุดท้ายละ “

“ กินอีกก็ได้นะ เอามาอีกก็ได้ อาฟยังไม่มาหรอก วันนี้อาจจะไม่มาแล้วก็ได้ “ ผมรู้สึกแบบนั้นก่อนจะฟุบลงที่โต๊ะ รู้สึกแน่นๆอยู่ในอก มันร้อนที่ขอบตายังไงก็ไม่รู้ ผมรู้สึกเหนื่อย มันแย่ไปหมด เหมือนอยู่ๆก็อยากจะร้องไห้ออกมาในตอนนั้น ทั้งๆที่แค่นั่งมองแก้วค๊อกเทลสีใสที่อยู่ตรงหน้า “ อาฟคงไม่อยากจะคุยกับพี่เมดแล้ว อาฟโกรธพี่เมด “

“ ไม่โกรธหรอกน่า ไม่ได้มีเรื่องอะไรน่าโกรธเลย “

“ ไม่โกรธแต่ก็ไม่เหมือนเดิม ไม่คุยด้วยเหมือนเดิมด้วยนะ “ ผมดึงตัวเองขึ้นจากโต๊ะมาเถียงน้องสองคนที่ก็ไม่รู้แล้วว่าเมื่อครู่ใครเป็นคนพูด

“ กินดีกว่านะ กินๆ “ น้องเดย์ยื่นแก้วให้ผม ที่ก็ซัดไปรวดเดียวแบบไม่ต้องจิบชิมให้เสียเวลา “ เชี้ยๆ กินรวดเดียวได้ไง น้ำเปล่าๆ “

“ พี่เมด น้ำเปล่าๆ “ ในสถานการณ์ที่ยังไม่ค่อยเข้าใจ ผมโบกมือปัดความห่วงใยของน้องสองคนที่ยื่นแก้วน้ำมาให้

“ ไม่เอา ไม่อยากกินน้ำเปล่าสักหน่อย “ หมุนตัวเองไปทางฝั่งประตูสต๊าฟที่ยังไม่มีแม้เงาของคนที่บอกว่าจะมาหาสักที “ ไปหาอาฟดีกว่า อยากไปหาอาฟอะ “ ผมดึงตัวเองให้ลุกขึ้นยืน แต่ทว่าวินาทีที่เท้าแตะพื้นร่างทั้งร่างมันก็ไร้เรี่ยวแรงลงเสียอย่างงั้น
 

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27

ผมล้มลงไปกองที่พื้นท่ามกลางเสียงตกใจของคนแถวนั้นที่ดังขึ้นมา ผมไม่รู้ว่าใครตกใจบ้าง แต่เท่าที่รู้มีมือเย็นๆมาจับที่แขนผม ตอนที่เงยหน้าขึ้นไปดูก็พบว่าเป็นพี่ซองผู้จัดการร้าน

“ น้องเมด ไหวมั้ย “

“ ไหว “ ผมพยักหน้ารับบอกยิ้มๆ “ พี่ซองอย่าทำหน้าอย่างงั้น เมดไม่ได้เป็นอะไร แค่เข่าอ่อนนิดนึง “

“ อัยย์กับเดย์ มอมเหล้าน้องเมดเหรอวะ “ เสียงนิ่งดุๆหันไปถามคนสองคนข้างหลังที่ก็แค่ยิ้มน่ารักออกมา ผมบอกพี่ซอง

“ พี่ซองน้องไม่ได้มอมเหล้าเมด เมดกินเอง “ ตบอกตัวเองย้ำกับอีกคนก่อนจะลุกขึ้นจากพื้นด้วยตัวเอง “ แล้วเมดก็ไม่ได้เป็นอะไรด้วยเห็นมั้ย ปล่อยๆ เมดจะไปหาอาฟก่อน “ ผมพยายามเดินตรงๆไปที่ประตูทางขึ้นไปชั้นสามแต่ไม่ว่าจะเดินตรงยังไงก็รู้สึกเหมือนมันจะโซเซไปเรื่อยเสียแบบนั้น หยุดยืนแล้วถอดหายใจออกมาอยู่ที่หน้าประตูสักพักใหญ่ ผมพยายามหาป้ายคีย์การ์ดเปิดประตูที่แขวนอยู่ที่คอ ก่อนจะดึงมันขึ้นมาจากด้านในของเสื้อพยายามเอามันไปแตะที่เครื่องเพื่อปลดแต่ทว่า ประตูนั้นก็ถูกเปิดออกมาก่อนจากด้านใน

“ อ๊ะ อาฟมาแล้ว รอตั้งนาน ทำไมเพิ่งมาวะ คิดถึงนะรู้เปล่า “ ดึงตัวเองเข้าไปกอดอีกคนไว้แน่นก่อนจะซบลงที่ไหล่ไม่มีเหตุผลอะไรเลย รู้แค่ว่าอยากจะทำก็เลยทำแบบนั้น แต่เหมือนคนที่ผมกอดไว้จะนิ่งไปแล้ว อาฟพยายามดึงผมให้ออกห่างตัว แต่ผมเองก็ยังดันตัวเองกอดมันไว้แบบนั้นไม่ปล่อย รู้สึกเหมือนว่าถ้าไม่กอดอาฟไว้แบบนี้ อาฟต้องไม่หายโกรธแน่ๆ แล้วผมก็ไม่อยากจะให้เป็นแบบนั้นเลย “ กอดกันหน่อยสิ มึงยังไม่หายโกรธกูเหรอ ไหนอาฟบอกว่าไม่โกรธไง ตอแหลเมดเหรอ “

“ นี่มึงเมา “ คำถามเดียวกันกับที่ทุกคนถาม ผมทำหน้างอก่อนจะถอนหายใจออกมา

“ ก็บอกแล้วไง ว่าไม่เมา!” ย้ำท้ายประโยคกับอีกคนที่ก็ยกยิ้มขึ้นมา

“ งั้นนี่เลขอะไร “ นิ้วที่ยื่นขึ้นมาตรงหน้า คำถามเด็กๆเพื่อทดสอบคนเมา ทำไมจะไม่รู้

“ สองไง “

“ อื้ม กลับบ้านเถอะ “ อ้าว...  ไม่ถูกเหรอวะ

ไม่มีคำเฉลยจากคำตอบที่ผิดพลาด ผมโดนลากมาที่รถ รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ประตูรถถูกปิดลง คนขับเข้ามานั่งประจำรู้สึกเสียใจนิดหน่อยเหมือนกันที่ไม่ได้ไปกินบะหมี่หมูตุ๋นที่ตั้งใจไว้ เครปก็ด้วย โตเกียวอีก ผมพิงกับเบาะที่นั่งก่อนจะถามอาฟด้วยความมั่นใจ

“ อาฟ วันนี้เราจะไม่ได้ไปกินบะหมี่หมูตุ๋นเหรอ เครปอะ โตเกียวด้วย อุตส่าห์รอตั้งนานสรุปว่าไม่ได้กินเหรอ “

“ อยู่ในสภาพนี้ยังจะกินอีกเหรอไง “ อาฟหันมาถามผมก็เอียงหน้าใส่

“ สภาพไหน นี่ก็ปกตินะ ทำไมอะ ทำไมไม่พาไปกินหมูตุ๋นตอบก่อน ไม่ตอบไม่ให้ขับรถนะ “ เอื้อมมือไปจับมืออีกคนไว้แน่นทั้งสองข้าง แต่ผมไม่เข้าใจทำไมอาฟยิ้มกว้างอย่างงั้น “ มึงยิ้มทำไมอะ ตอบก่อนเร็ว ทำไมไม่พาเมดไปกินบะหมี่หมูตุ๋นอะอาฟ เพราะเมดตอบเลขผิดเหรอ “

“ อื้ม “

“ งั้นถามใหม่ได้มั้ย ในนั้นมันมืดอะเมดเลยตอบผิด ขอตอบใหม่ได้มั้ย นะ น้า ขออีกข้อนึง “

“ งั้นนี่เลขอะไร “ ผมมองดูเลขนั้นอยู่นาน แค่สงสัยว่าทำไมมันมีเยอะอย่างงั้น พยายามเอื้อมมือไปจับแต่อีกคนกลับหลบทัน “ ตอบมา “

“ ห้า “

“ หนึ่ง แค่มันส่ายไปมา “ อีกคนบอกแบบนั้นก่อนจะดึงผมให้กลับมานั่งพิงเบาะของรถ โคตรเซ็งเลยทำไมต้องตอบผิดด้วยวะอดไปกินของอร่อยๆเลย

“ อาฟคาดเข็มขัดให้เมดด้วยนะ เดี๋ยวเมดจะเป็นอันตราย เข้าใจมั้ย “

“ โอเคครับ “

“ งื้อออ “ ส่งเสียงออกจากในคอ คนที่เอื้อมมือมาหยิบเข็มขัดนิรภัยให้ก็ขมวดคิ้ว

“ เป็นอะไรของมึง “

“ อาฟพูดว่าครับ เมดชอบอะ ขอให้รางวัลได้มั้ย “ ไม่ต้องรอให้อีกคนอนุญาติ ผมดึงหน้าคนที่กำลังจะดึงตัวเองกลับไปที่เดิมมาจูบที่ริมฝีปากก่อนจะส่งยิ้มกว้างไปให้ “ ทำดีต้องมีรางวัลแม่เคยบอกไว้ “

“ อื้ม “ตอบแค่นั้นก่อนจะดึงตัวเองไปนั่งนิ่งๆสักพัก ผมเห็นอาฟยิ้มก่อนจะถอนหายใจออกมา
 
“ อาฟเป็นอะไรอะ หันมายิ้มกับเมดก็ได้นะ หันมายิ้มให้เมดดูก็ได้นะ “ สะกิดบอกมันอีกคนก็หันมายิ้มให้ตามที่บอก “ พอยิ้มดูหล่อเหลาใจดีสุดๆไปเลย ยิ้มบ่อยๆนะ “

“ นั่งนิ่งๆ จะพากลับบ้าน “

“ ถ้าไม่ดื้อจะได้อะไรอะ เพราะว่าเด็กดีต้องได้รางวัลนะ “

“ อื้ม เดี๋ยวกูให้รางวัล นั่งนิ่งๆแล้วกัน “

“ โอเคเลย “ บอกมันแบบนั้นอาฟก็หันไปคาดเข็มขัดให้ตัวเองเรียบร้อย ผมเอื้อมมือหันไปเช็คเข็มขัดของอีกคน ดึงมันอยู่สักพักเพื่อดูว่าแน่นดีเหมือนกับของผมมั้ย ก่อนที่อาฟขับรถออกจากผับ เสียใจอยู่หน่อยๆที่ไม่ได้กินบะหมี่หมูตุ๋น เครป แล้วก็โตเกียว แต่ก็ต้องทำใจ วันนี้ทำอาฟเสียใจ อาฟก็เลยไม่ตามใจเหมือนปกติ

   รถที่ขับมาเรื่อยๆ วิวที่ผ่านไปตลอดทางผมมองมันจะต้องหลับตาลงเพราะความปวดหัว ก่อนจะลืมตาขึ้นมาอีกทีตอนที่รถจอดลงสนิทที่ใต้คอนโดเดิมที่คุ้นตา เข็มขัดของผมถูกปลดล็อคให้จากคนขับ ดึงตัวเองขึ้นมานั่งอยู่สักพัก ทำไมรู้สึกหัวมันหนักๆยังไงก็ไม่รู้ เอื้อมมือไปเปิดประตูรถผมเดินออกไปก่อนจะปิดประตูแล้วยืนพิงมันอยู่แบบนั้น จนคนขับที่ล็อครถเสร็จก็เดินมายืนอยู่ข้างกัน

“ เป็นไง แวะซื้ออะไรที่เซเว่นให้สร่างเมาหน่อยมั้ย “

“ กูไม่เมาสักหน่อย “ ผมย้ำกับอีกคนก่อนจะเอียงหน้าซบไหล่คนที่ยืนข้างกัน “ อาฟ..ขี่หลังหน่อย “

“ กลัวหลังหัก “

“ ไม่หักหรอก กูตัวเล็กนิดเดียว “ หันไปเถียงอีกคนที่ก็หลุดหัวเราะออกมา

“ อีกนิดเดียวก็เหมือนช้างน่ะเหรอ “

“ ไม่เอาอาฟ ไม่ว่าเมด “ ผมส่ายหน้าไปมาให้กับอีกคนก็เอาแต่ยิ้ม “ แล้วอาฟจะให้อะไรเมด “

“ อะไรให้อะไร “

“ ก็อาฟบอกว่าถ้าเมดนั่งนิ่งๆ  อาฟจะให้รางวัลที่เมดไม่ดื้อ “

“ ลืมไปเลย “ อีกคนพูดแบบนั้นก่อนที่ผมจะรู้สึกถึงความเย็นที่แนบลงบนริมฝีปาก แล้วก็แก้มทั้งสองข้าง “ เรียบร้อย “

“ รางวัลคือจูบเหรอ “ ถามออกไปออกจะถอนหายใจ “ คิดว่าจะพาไปกินบะหมี่หมูตุ๋นซะอีก เซ็งเลยเนี้ย “ 

เสียงหัวเราะของคนข้างๆก่อนที่มือของอาฟจะเอื้อมมาจับมือผมไว้ ถูกดึงเข้าไปในตึกตอนที่เดินเข้าไปในลิฟต์ ผมแย่งมันกดปุ่มลิฟต์ แต่อีกคนกลับไปกดอีปุ่มก่อนจะหันมาจับมือทั้งสองข้างของผมไว้

“ วุ่นวายจริงมึง ”

“ ดุกันอีก “

   ไขประตูเข้ามาในห้องผมเดินตรงไปในห้องน้ำทันที ปวดฉี่เหลือเกินตั้งแต่อยู่ข้างล่างแล้ว กดล้างน้ำเรียบร้อยผมพาตัวเองมาที่เตียงหนุนตัวลงนอนบนเตียงกว้างแบบกางแข้งกางขา ผ่อนลมหายใจออกมาก่อนจะถอดเสื้อนอกทั้งๆที่นอนอยู่แบบนั้น วางมันไว้ข้างตัวแบบไม่ใส่ใจ

“ ร้อนจังเลย อาฟเปิดแอร์ให้หน่อย “

“ อยู่ดีๆ ทำไมถึงเมาขึ้นมาวะ “

“ บอกว่าไม่ได้เมา กูไม่ได้เมานะจริงๆ “ ลุกขึ้นมานั่งขัดสมาธิบนเตียง เถียงคนที่เดินเข้ามาเปิดแอร์ก็นั่งลงบนเตียงข้างกัน อาฟมองหน้าผมจดจ้องอยู่นานก่อนจะถอนหายใจออกมาแล้วหันไปทางอื่น

“ เมาแบบนี้กูจะคุยกับมึงรู้เรื่องมั้ยวะ “

“ อาฟจะคุยกับเมดเหรอ “ ผมดึงตัวเองเข้าไปใกล้มันอีกคนก็พยักหน้ารับก่อนจะเอื้อมมือมาลูบหัว

“ แต่มึงเมา กูไม่คิดว่าพูดแล้วมึงจะรู้เรื่อง กลัวพรุ่งนี้ตื่นขึ้นมาแล้วมึงลืม แบบนั้นพูดไปก็กลัวจะเปลืองน้ำลาย “

“ ไม่เปลืองๆ เมดจะจดจำไว้ว่าพูดอะไรกับอาฟไป จะจดจำไว้ในนี้เลย “ ชี้ที่อกข้างขวาของตัวเองคนที่มองอยู่ก็หลุดหัวเราะก่อนจะเลื่อนนิ้วผมไปไว้ที่อกข้างซ้าย

“ หัวใจมึงอยู่ตรงนี้ “

“ อ้าว ไม่ได้อยู่กับอาฟเหรอ ฮ่าๆ “ ดึงตัวเองไปกอดมันไว้ผมหัวเราะออกมาเสียงดังที่ทำให้มันยิ้มได้ ชอบเวลาที่อาฟยิ้มที่สุดเลย ผมซบลงที่ไหล่นั้นหลับตาลงแล้วนิ่งอยู่แบบนั้น อาฟไม่ได้กอดผม เราแค่นั่งแบบนั้นนิ่งๆ นิ่งจนผมรู้สึกกลัว มือที่กอดมันไว้ให้แน่นขึ้น “ มึงจะไม่หายไปใช่มั้ย จะไม่หายไปไหนใช่มั้ย “

“ อยากให้อยู่ตรงไหนละ “ อาฟถามก่อนจะก้มลงมามองผมที่ก็เงยหน้าขึ้นมามองมันเช่นกัน

“ อยากให้อยู่ด้วยกันตรงนี้ ข้างๆกัน  “

“ อื้ม งั้นก็จะอยู่ตรงนี้ “ ใบหน้าที่พยักหน้ารับกันผมยิ้มออกมา แต่ต่างจากอีกคนที่มองผมด้วยสายตานิ่งๆมองไม่ออกว่ากำลังรู้สึกอะไร


“ ขอโทษ ขอโทษนะอาฟ “ ผมกอดมันไว้แน่นไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ราวกับว่าความรู้สึกของผมมันล้น ล้นออกมาจากใจที่อยากจะพูดทุกอย่างออกมา “ ขอโทษที่กูพูดถึงบินออกมาแบบนั้น กูไม่ได้ตั้งใจจะพูด ก็ตอนนั้นกูกำลังเสียใจมาก เสียใจที่ยีนส์มันพูดกับกูแบบนั้น กูคบกับมันมานานกูไม่เคยคิดเลยว่ามันจะเกลียดกู  กูขอโทษที่พูดเรื่องไม่เป็นเรื่อง ขอโทษที่ทำให้มึงต้องเจ็บปวด กูขอโทษนะมึง ขอโทษจริงๆ กูรู้ว่าพูดออกไปเป็นร้อยครั้งมึงก็ไม่หายเจ็บ แต่กูอยากให้มึงรู้ไว้ว่า กูไม่ได้คิดจะกลับไปหาบิน กูไม่เคยคิดอะไรแบบนั้นเลย มันก็แค่เสียใจกับสิ่งที่เคยทำ แล้วมันยังรู้สึกแย่ในตอนที่กูยังคิดถึงในสิ่งที่กูทำมาตลอด คือมันเหนื่อยมากๆเลยเว้ยตอนนั้นอะ กูเหนื่อยแต่กูไม่ได้อะไรกลับมาเลย เหมือนกูวิ่งมาตลอดแล้วสุดท้ายมันไม่มีอะไร แถมยังมาถามกูอีกว่า วิ่งมาทำไม กูพยายามทำไม กูแค่รู้สึกอะไรแบบนั้น “


“ อื้ม กูรู้ กูเข้าใจแล้วสำหรับเรื่องนี้ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว “ อาฟบอกผมมันที่ยื่นมือมาลูบหัวกันและผมกลับร้องไห้ออกมา

“ แต่มึงยังเหมือนไม่เข้าใจ มึงยังโกรธ มึงไม่คุยกับกูเหมือนเดิม กูอยากให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิม กูต้องทำยังไงวะ ต้องทำยังไงมึงถึงจะเชื่อว่ากูไม่ได้รู้สึกว่าอยากจะกลับไปหาไอ้บินเลย ไม่เลยสักนิด “ น้ำตาที่ไหลออกมาผมดึงตัวเองเข้าไปใกล้มันอีกสองแขนที่กอดมันไว้ ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะกล้าทำอะไรแบบนั้น เหมือนมันเป็นส่วนลึกในจิตใจที่บอกกันแค่ว่า ถ้าทำให้อีกฝ่ายเชื่อได้ไม่ว่าอะไรก็จะทำ “ มีอะไรกันมั้ย เรามามีอะไรกันเถอะ มึงจะได้เชื่อไง ว่ากูไม่ได้คิดจะกลับไปหาไอ้บินจริงๆ “

“ เมด “ แววตาที่ดูตกใจหันมาเรียกผม แล้วในวินาทีนั้นผมก็แค่ดึงตัวเองเข้าไปใกล้อีกคนมาขึ้น จูบลงไปบนริมฝีปากของอีกฝ่าย พยายามลุกล้ำเข้าไปด้านใน อยากจะมอบจูบแบบที่มันชอบทำให้ แต่เพราะทำไม่เป็นก็เลยทำได้แค่จูบอีกคนซ้ำๆอยู่แบบนั้น

ก่อนที่ร่างสูงจะดึงตัวเองผมให้นอนราบลงกับเตียง อาฟที่ขึ้นมาค่อมทับกับไว้ ผมเอาแต่มองมันในตอนที่เอื้อมมือไปจับที่คอเสื้อแล้วพยายามจะปลดกระดุมนั้นแต่อีกคนแค่เอื้อมมือมาจับมือผมห้ามไว้

“ อย่าทำแบบนี้ ไม่เอา “

“ ทำไมวะ มึงโกรธกูขนาดนี้เลยเหรอ งั้นกูจะทำยังไงดี บอกกูสิ กูจะทำทุกอย่างเลย กูไม่อยากให้เราเงียบกันแบบนี้ กูไม่อยากให้มึงเสียใจ กูอยากให้มึงเชื่อกู ว่ากูจะไม่กลับไปหามัน กูอาจจะเสียใจอยู่ก็จริง แต่มันไม่ใช่เสียใจเพราะเสียดายที่อยากจะกลับไปมันไม่ใช่แบบนั้นเลยนะ ทำไงดี ต้องทำยังไงให้มึงเชื่อกูอะอาฟ “

ผมรู้สึกหมดแรงสองมือที่กำเสื้อมันไว้แน่น ไม่รู้แล้ว ไม่รู้ว่าต้องทำอะไรแล้ว รู้แค่ว่า ไม่อยากจะเสียไปเลย ถึงใครจะบอกว่าโง่ ไร้ค่า ผมก็ไม่อยากจะสนใจแล้ว

“  กูทำให้มั้ย ตรงนั้น ถ้ามึงชอบ จะทำให้เลยก็ได้ แต่เชื่อกูเถอะ หายโกรธกูนะ อาฟ “

ดึงตัวเองขึ้นพยายามจะทำตามที่พูดด้วยการเอามือจับที่ส่วนกลางแต่อีกคนก็แค่ยึดสองมือของผมไว้เหนือหัว ขามันที่ค่อมร่างของผมไว้ กดลงที่ส่วนล่างแบบไม่ได้ผมสามารถเคลื่อนตัวไปไหนได้

“ ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น มึงนิ่งแล้วฟังที่กูจะพูดเมด “ อีกคนบอกพลางสบสายตาของผมที่ตอนนี้มันแดงไปหมด น้ำตาหยดใสไหลออกมาจากตา อาฟในตอนนั้นก้มลงมาจูบที่บริเวนหางตาของผม ก่อนจะดึงตัวเองขึ้นมาพูด “ กูไม่ได้โกรธ กูเข้าใจมึงว่ามึงเสียใจมากแค่ไหนในสิ่งที่เพื่อนมึงพูด กูเข้าใจว่ามึงยังเจ็บ ไม่ต้องพูดแล้ว ไม่ต้องอธิบายอะไร กูเข้าใจมันดี แล้วก็ต้องขอโทษด้วย ตอนนั้นกูพูดให้มึงรู้สึกไม่ดีเหมือนกัน “

“ ไม่เป็นไร “ ผมบอก “ กูเข้าใจว่ามึงเจ็บที่ได้ยินอะไรแบบนั้น มันก็สมควรแล้วที่มึงจะโกรธกู “

“ ตอนที่มึงพูดกับกูในรถ ว่าให้เราเคลียร์กัน อยากจะให้มันจบเรื่องนี้ ตอนนั้นที่กูไม่พูดเพราะกูรู้ว่าถ้าพูดไปก็คงพูดด้วยอารมณ์โกรธมึง กูเลยไม่พูดก่อน แต่ไม่ใช่ว่ากูไม่เห็นด้วย เรื่องที่เราควรเคลียร์จบ คือกูเห็นด้วยนะ กูเห็นด้วยกับมึง “

“ งั้นเรามาเคลียร์กันตอนนี้เลยนะ “

“ กูเข้าใจว่ามึงยังเสียใจ เข้าใจว่ามึงยังกลัว แต่ขออะไรอย่างหนึ่งได้มั้ยเมด “

“ อื้ม “

“ เป็นตัวเองที่อยากเป็น ให้กูได้มั้ย “ ผมเงียบไปตอนที่สบสายตานั้นผมรู้สึกว่าอาฟกำลังเจ็บปวด เจ็บปวดเพราะผมเอาแต่กลัวและเอาอดีตมาตัดสินปัจจุบันจนไม่กล้าที่จะทำอะไรให้มันสักอย่าง “ ถ้ามึงอยากจะทำอะไรให้กูมึงก็แค่ทำ อยากจะบีบยาสีฟันให้ก็แค่บีบ อยากจะใส่เสื้อผ้าแบบไหนก็แค่จัด ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องกังวลว่ากูจะไม่ชอบ เพราะถ้ากูไม่ชอบ กูสัญญาว่ากูจะบอกมึงเอง จะบอกมึงว่ากูไม่ชอบ แต่ตอนนี้กูชอบทุกอย่างที่มึงทำให้ เพราะงั้นช่วยเป็นตัวเองที่อยากจะเป็นให้กูได้มั้ย “

“ ได้ “ ผมพยักหน้ารับ “ แต่ต้องบอกนะ ถ้ามึงไม่ชอบแม้แต่นิดเดียวมึงต้องบอกนะ ถ้าอดทน ห้ามรักษาน้ำใจของกู บอกมาเลยว่าไม่ชอบ ไม่ชอบที่กูเป็นแบบนี้ เพราะกูจะได้เปลี่ยนทันที กูไม่อยากจะเป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว กูไม่อยากให้เราต้องจบแบบที่กูเคยจบ กูอยากให้มึงเป็นคนสุดท้ายของกู กูไม่อยากเริ่มใหม่แล้ว “

“ เหมือนกัน “ อาฟที่กอดลงมากอดผมได้ยินเสียงถอนหายใจออกมามันที่ดังออกมา “ กูก็ไม่อยากจะเริ่มใหม่แล้ว กูอยากจะจบอยู่ตรงนี้ที่มีมึงอยู่ข้างกัน ”

“ อาฟ “

“ ส่วนเรื่องที่เพื่อนมึงพูด อย่าไปให้ราคาคนแบบนั้น ตอนนี้ชีวิตมันเลวร้ายกว่ามึงมาก ไอ้บินก็ไม่รู้จะนอกใจอีกเมื่อไหร่ เผลอๆคงกลัวด้วยซ้ำว่ามันจะมาเอาไอ้จิงเพื่อนรักคนเดียวที่มี ไหนจะโดนทุกสายตาด่าว่าแย่งแฟนเพื่อนอย่างมึงที่เป็นคนดีในสายตาคนอื่นอีก แล้วเพราะเป็นแบบนั้น มันเลยพยายามจะโยนความผิดทั้งหมดให้มึง มันอยากจะให้มึงรู้สึกผิดไปกับมัน แต่มึงไม่ผิดเมด มึงไมได้แย่เลย อย่าคล้อยตามมันสิวะ จำที่กูบอกในรถได้มั้ย “ 

“ ได้ “ ผมพยักหน้ารับมัน

“ กูพูดว่าอะไร “

“ มึงพูดว่า ถึงกูจะเบื่อจะน่ารำคาญยังไง ไอ้บินก็ไม่สิทธิ์ทิ้งกูไปเอาเพื่อนกู มันไม่ใช่ข้ออ้าง แล้วเพื่อนกูก็ไม่สิทธิ์มานอนกับไอ้บินเพราะเหตุผลนั่นเหมือนกัน เพราะถ้าเบื่อที่กูน่ารำคาญ ก็ต้องบอกเลิกกูไม่ใช่ทำแบบนี้ “

“ ใช่ เพราะงั้นไม่ผิด ไม่มีอะไรที่มึงผิดทั้งนั้น แต่ถ้าจะมีอะไรที่มึงผิดสักข้อ กูว่าเพราะมึงเลือกไอ้ยีนส์เป็นเพื่อนและเลือกไอ้บินเป็นแฟนมากกว่า นี่แหละความผิดเดียวของมึง แล้วตอนนี่มันก็จบแล้วเข้าใจมั้ย “

“ เข้าใจแล้ว “ ผมพยักหน้ารับอีกคน “ อาฟไม่โกรธกูแล้วนะ ขอโทษนะมึง “ เอื้อมมือไปกอดอาฟไว้ เรากอดกันอยู่แบบนั้นสักพักก่อนที่ร่างสูงจะดึงตัวเองขึ้นมามองผมอีกครั้ง

“ แล้วก็มีอีกอย่างที่มึงควรรู้ไว้ ทีหลังอย่าง้อกูด้วยเซ็กส์อีก เข้าใจมั้ย “ สายตาคมที่จ้องมามันชวนให้ผมนิ่ง “ ครั้งแรกของเรามันต้องไม่เป็นแบบนี้เมด กูอยากให้เรามีอะไรกันในตอนที่เราพร้อม อยากมีตอนที่เรารักกันมากพอจนอยากจะทำเรื่องแบบนั้น กูอยากให้มึงจดจำครั้งแรกของเราเอาไว้ กูอยากให้มันเป็นความทรงจำที่ดีระหว่างเรา  เพราะกูจะถนอมมึงอย่างที่สุดในตอนนั้น แล้วจะบอกรักมึงหลายสิบครั้งผ่านทุกการกระทำของกู “

“ อาฟ “

ผมเอ่ยเรียกอีกคนตอนที่ได้ฟังคำพูดนั้น ดวงตาของผมมันสั่น  น้ำตาหยดใสที่ไหลออกมา หัวใจที่กำลังบีบรัดจนเจ็บปวด ผมถามตัวเองว่า คนตรงนี้มีอยู่จริงๆเหรอ  ก็ไม่เคยคิดเลยว่าตัวผมที่ถูกโยนทิ้งจะมีใครทะนุถนอมได้ถึงขนาดนี้  ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้มาเจอคนที่แคร์กันในทุกความรู้สึก คนที่อยู่ข้างๆกันไม่ไปไหนตั้งแต่วันแรกที่เราได้เจอกันจนถึงวินาทีนี้ 

สองมือเอื้อมขึ้นจับที่แก้มตอบ โครงใบหน้าคมที่ผมลูบเบาๆ อาฟในตอนนั้นเอียงหน้าลงซบที่ฝ่ามือของผม ไม่มีคำพูดอะไร นอกเสียจากรอยจูบของอีกคนที่จูบลงบนฝากมือของผมในตอนที่น้ำตามันไหลออกมาไม่หยุด

“ มึงไปอยู่ไหนมาวะอาฟ มึงหายไปไหนมา ทำไมเราเพิ่งมาเจอกันตอนนี้ ทำไมไม่มาให้เร็วกว่านี้วะมึง  “

“ บางทีอาจจะอยู่อีกฝากถนนนึง แต่กูไม่ได้ข้ามไป “

“ งั้นเหรอ “ อาฟเงียบไปตอนที่ผมตอบ รอยยิ้มอบอุ่นที่ส่งมาให้ใบหน้าคมนั้นก้มลงมาจูบที่หน้าผากของผม แก้มสองข้างก่อนจะจบลงตรงที่ริมฝีปาก

“ บางทีมันอาจจะดีที่สุดแล้วก็ได้ ที่เราเจอกันตอนนี้  “

“ ก็อาจจะจริงของมึง “

เคยมีคนบอกผมว่า คนที่เข้ามาหาเราตามลำดับเวลาต่างๆ ย่อมเข้ามาในช่วงเวลาที่เหมาะสมทั้งนั้น เพราะเหมือนทุกอย่างถูกกำหนดไว้แล้วจากใครสักคน คนที่ขีดเส้นให้วันนี้ผมกับอาฟได้เจอกันในตอนนี้ เพราะเค้าก็คงคิดมาแล้วว่า ช่วงเวลานี้คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับเรา

....................................................

ยาวมากจริงๆ  หนมชอบตอนนี้นะ ไม่รู้คนอ่านบางคนจะตะขิดตะขวดกับบางฉากรึเปล่า
เราพยายามลบและเขียนอยู่หลายครั้ง ไม่ค่อยแน่ใจ ยังไงฝากด้วยนะคะ
ฝากแท็ก #ผับชั้นสาม ในทวิตด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์จ้า

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
อิยีนส์นี่เหมือนจะไม่จบใช่มะ
ตบบบบบเลยย
 :beat: :beat: :beat:

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1
รอวันรู้ความจริง ...
อาฟ คนส่งนมที่อยู่อีกฟากของถนน

ออฟไลน์ onlyplease

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
เมดต้องรักอาฟมากๆนะ แคร์คนที่รักเรา อย่าทำร้ายความรู้สึกคนที่อยู่ข้างเรา
.
ถ้าใครไม่เห็นความรู้สึก เราต้องปล่อยมันไป มันไม่มีค่าให้เราคิดถึงหรอก เชื่อสิ แล้ววันนึงเมื่อเราผ่านไปได้ แล้วย้อนกลับมาดู จะรู้ว่า มันไม่ยากถ้าเราจะปล่อย

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
เมดเมาแล้วพูดมากกว่าเดิมอีก

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3066
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
 :sad4:ซึ้ง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
ทุกอย่างต้องใช้เวลา

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
ขอให้นังย่นส์โดนดักตบ :katai1:

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
ชอบทีมมอมเหล้า  :laugh:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8891
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ PsychePie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เวลา+การปรับตัวเข้าหากันเท่านั้นจริงๆ กฎข้อแรกๆ สำหรับการอยู่ร่วมกัน ตัวเองไม่ชอบอะไร ก็ทำอย่าทำกับอีกฝ่าย

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
้เขาดีกันแล้ว ส่วนคนชงเหล้าจะได้โบนัสหรือป่าวน่ะ  :hao3:

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
 :mew6: :mew6: :mew6: :mew6:

สงสารพี่อาฟฟฟฟ
ฮือออออ
สู้ๆนะน้องเมดดด
ลืมคนเหี้ยได้เร็วๆ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
จะรอวันที่เมดรู้ว่าเจ้าของนมคืออาฟไม่ใช่บินนะ

วันนั้นคงจะเป็นอะไรที่ดีใจมากๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด