*-*-*-*-*-*-INTERNAL LOVE-*-*-*-*-*-* #แฟนหมอแมน (Mpreg)เปิดพรี 2/12/61 p86
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: *-*-*-*-*-*-INTERNAL LOVE-*-*-*-*-*-* #แฟนหมอแมน (Mpreg)เปิดพรี 2/12/61 p86  (อ่าน 632354 ครั้ง)

ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.เมื่อนิยายจบแล้วให้แก้ไขหัวกระทู้ต่อท้ายว่าจบแล้ว


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
 


ยินดีต้อนรับเข้าสู่นิยายเรื่องใหม่ของเรา

Internal Love

เป็นแนวดราม่าโรเเมนติก

ลองอ่านดูก่อนนะคะ

ถ้าใครเคยอ่าน #แอบลักษณ์

มีตัวละครมาจากเรื่องนั้นด้วยค่ะ  อิอิ

แต่เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในชุดแอบรักนะ

ไรท์มโนขึ้นมาเองล้วนๆ5555

ศัพท์แพทย์อะไรในนี้ถ้ามี และพบว่าใช้ผิดก็โปรดแจ้งด้วยนะคะ

เรื่องอื่นๆ เผื่ออยากอ่าน






เจอกันค่ะ

:katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:


สารบัญ
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-12-2018 18:08:41 โดย ็Hollyk »

ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk
Re: *-*-*-*-*-*-INTERNAL LOVE-*-*-*-*-*-* อัพบทนำ 19/9/60
«ตอบ #1 เมื่อ19-09-2017 23:34:18 »

Internal Love



บทนำ

 

 

 

          “เลือกได้ยังครับ  จะไปใช้ทุนจังหวัดไหนไอ้คุณแมน”

          เสียงเพื่อนสนิทของเขาดังขึ้นพร้อมกับแขนหนักๆที่พาดมาที่ไหล่  ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งหันไปขมวดคิ้วดันตัวออกจากท่อนแขนของฝ่ายนั้น  ตอบกลับไปเสียงหงุดหงิด

            “กูจะไปเหนือ”

            “ทำไมไม่ลงใต้กับกูวะแมน  นี่กูพูดจนปากเปียกปากแฉะแล้วนะ  ภาคใต้ติดทะเล  มีซีฟู้ด  ที่เที่ยวเยอะอีก  ไหนตอนปี 5 มึงยังบอกกูอยู่เลยไงว่าเราจะไปใช้ทุนที่เดียวกัน”

            ...ก็ถ้ามึงไม่คบกับน้ำ  กูก็ว่าจะไปด้วยหรอก....คนชื่อแมนคิดในใจแต่ไม่ได้พูดออกไป  พยายามทำหน้าเฉยๆ  ไม่ให้อีกฝ่ายรู้ว่าตัวเองใจสั่นแค่ไหนเมื่อเพื่อนทิ้งตัวลงนั่งข้างๆแล้วชะโงกหน้าเข้ามาพูดด้วยเสียงออดอ้อน

            “ก็กูเปลี่ยนใจ  อยากไปเหนือมากกว่า  กูมีญาติอยู่เหนือด้วย  จะให้ทำไงวะ  มึงก็ไม่ยอมไปเหนือกับกูนี่”  คนพูดก้มหน้าลง  อดรู้สึกแปลบนิดๆในหัวใจไม่ได้  รู้อยู่แล้วว่ายังไงก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจอีกฝ่ายได้หรอก

            ทำใจมาสองปีแล้ว  ยังไม่สำเร็จสักที....

            “ก็น้ำไปฟิกวอร์ดที่ใต้  จะให้กูทำไงวะ”  เจมส์พูดเสียงอ่อย  แฟนสาวของฝ่ายนั้นสมัครเป็นแพทย์ใช้ทุนที่รพ.หนึ่งในภาคใต้  ทำให้เจ้าตัวซึ่งแทบจะตัวติดกับแฟนตลอดเวลาเลือกไปใช้ทุนภาคใต้เช่นกันอย่างไม่ลังเล

            แมนยักไหล่

            “ก็ไม่ยังไง  มึงแจกการ์ดเมื่อไหร่ก็อย่าลืมส่งไปให้กูด้วยก็แล้วกัน”

            คำพูดประโยคสุดท้ายของตนเองเมื่อสองอาทิตย์ก่อนแว่วกลับเข้ามาในหู  ชายหนุ่มก้มลงมองลูกปิงปองในมือของตัวเองนิ่ง...อธิบายความรู้สึกในใจตอนนี้ไม่ถูก  จะว่าดีใจที่จับลูกปิงปองได้แต้มเยอะที่สุด  เป็นเลข 99 ซึ่งแปลว่าได้สิทธิ์ตีตั๋วไปจังหวัดที่ตนเลือกแน่นอนแล้วก็เถอะ   แต่อีกใจหนึ่ง...เขาเงยหน้าขึ้นสบตาเพื่อนสนิทที่มายืนลุ้นอยู่ด้วยใกล้ๆนั้น

            “ดีใจด้วยมึง  กูลุ้นแทบตาย  จริงๆก็อยากให้มึงได้ 00นะ  จะได้ไปใต้กับกู”  เจมส์พูดแล้วหัวเราะ  เพราะจังหวัดที่ตนเองเลือกไปนั้นไม่มีคนแย่งเลยไม่ต้องจับลูกปิงปองเลย

            “อืม...”  เขายังพูดไม่ออก

            “นี่พวกเราต้องแยกกันแล้วจริงหรือเนี่ย  กูยังไม่อยากเชื่อเลย”  เพื่อนสนิทของเขายังพูดต่อไป  ฝ่ายนั้นลากตัวเขาออกมาจากฮอลล์ขนาดใหญ่ที่จุแพทย์จบใหม่เอาไว้ในวันสำคัญที่สุดในชีวิตการทำงานหลังจากนี้...วันจับฉลากจังหวัดใช้ทุน

            แมนเดินผ่านกลุ่มคนที่กระโดดโลดเต้นดีใจที่ได้ไปใช้ทุนในที่ที่ต้องการ  ผ่านเสียงร้องไห้และความเงียบที่แสนตึงเครียดของเหล่าคนที่พลาดหวังจากรอบแรกและรอบสอง  หลายคนเลือกจะจ่ายเงินชดใช้ทุนแทนท่ามกลางสีหน้าเศร้าหมองไม่มั่นใจในอนาคตข้างหน้า  บางคนก็เลือกที่จะลองไปยังที่ๆไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าอยู่ส่วนไหนของประเทศไทย

            “เย็นนี้กินข้าวด้วยกันนะ  พรุ่งนี้กูต้องเดินทางแล้ว”  เจมส์พูด  โบกมือให้เพื่อนสนิทอีกห้าคนในกลุ่มที่แต่ละคนเลือกทางเดินในชีวิตของตนเองไม่เหมือนกันเลย

            เช่นเดียวกันกับเขา  เมืองแมน..ที่เลือกไปใช้ทุนที่จังหวัดหนึ่งในภาคเหนือโดยที่ไม่มีเพื่อนจากสถาบันเดียวกันไปด้วยเลย   อาศัยดวงล้วนๆจับฉลากสู้กับคนอีก 8 คนจนได้เป็นหนึ่งในสี่ที่เปิดรับสมัคร

            “ไอ้แมน  ทำหน้าดีใจหน่อยสิวะ  ไม่เอาน่า”  ป๊อกเพื่อนอีกคนของเขาพูดเสียงดัง  ตอนนี้พวกเขากำลังอยู่ในห้องคาราโอเกะกันอยู่  ฉลองให้กับการเริ่มต้นใหม่นอกรั้วโรงเรียนแพทย์ และดื่มให้กับการจากลา  เพื่อนๆที่คบกันมา 6 ปี  และบางคนก็นานกว่านั้น

            “เอ้า ชนแก้วหน่อย   ดื่มให้น้ำกับไอ้เจมส์ที่จะสละโสดเป็นคู่แรกของกลุ่มเรา”           

            หญิงสาวที่ชื่อน้ำหน้าแดงจัด  เธอนั่งอยู่ข้างๆคนรักที่คอยเอาใจใส่ไม่ห่าง  แมนมองภาพนั้นแล้วก็เมินไปทางอื่น   กัดริมฝีปากด้านในเอาไว้แน่น

            ...เขาคิดถูกแล้วที่เลือกจะไปให้ไกลจากสองคนนั้น  ถ้าเขายังคงทู่ซี้อยู่ใกล้ๆเจมส์อีก  เขาก็ไม่มีทางที่จะตัดใจได้  สู้จากไปตอนนี้ยังดีกว่าปล่อยให้หัวใจถลำลึกลงไปอีก

            “เห้ยยังหรอกๆ  น้ำยังไม่ยอมใจอ่อนเลย”  เจมส์ยิ้มใส่ตาคนรัก  เธอค้อนใส่แล้วหันมาทางเพื่อนสนิทของแฟนที่นั่งเงียบแทน

            “เปาะเปี๊ยะทอดหน่อยมั้ยแมน  เราหยิบให้”  น้ำหันมาพูดกับเขา  คนฟังฝืนยิ้มสั่นศีรษะน้อยๆ

            “ไม่เป็นไร  ขอบคุณมาก  เดี๋ยวผมจะกลับแล้ว”

            “อ้าวไรวะ  จะรีบไปไหนเนี่ยมึง”  เพื่อนโวยวายขึ้นมาทันควัน

            “กูยังไม่ได้เก็บของเลย  ต้องไปรายงานตัวมะรืนนี้แล้ว  ไว้เจอกันเว้ยมึง”

            “อย่าลืมตอบไลน์ด้วย  มีอะไรโทรมา  ไว้นัดเที่ยวกัน  อย่างน้อยปีละครั้งต้องเจอหน้านะเว้ย”

            ร่ำลาถ่ายรูปกันอยู่นานกว่าเขาจะปลีกตัวออกมาได้สำเร็จ  ชายหนุ่มเดินล้วงกระเป๋ามองภาพถ่ายที่มีเขายืนกอดคอกับไอ้เจมส์เป็นรูปสุดท้ายก่อนจะแยกย้ายกันไปตามทางของตัวเอง

            ....กูจะคิดถึงมึงนะ....

            ........................................................................................

 

            เมืองแมนนั่งเก็บของอยู่นานแล้ว  ข้าวของที่สำคัญถูกแพ็คใส่ลังย้ายไปเก็บไว้ในรถเก๋งเรียบร้อย  มีเสียงคุณจุไรมารดาของเขาคอยเตือนเป็นระยะว่าให้เอาอะไรไปเพิ่มบ้าง

            “อย่าลืมเสื้อกันหนาวนะแมน  แม่ว่าน่าจะหนาวมาก”

            “ไว้ไปซื้อที่โน่นก็ได้แม่ กระเป๋าแมนแน่นจนจะแตกแล้ว”

            “งั้นก็เอาใส่ถุงไปก็ได้  หรือจะเอากระเป๋าเจ้าเมย์ไป  เมย์...เมย์ลูก  มีกระเป๋าอีกมั้ย”

            “แม่พอก่อน....นี่ของแมนเยอะแล้วนะ  ไม่รู้ว่าเค้าจะให้พักที่ไหน   เอาไปเยอะเดี๋ยวไม่มีที่วางของ”  คนเป็นลูกพยายามคัดของที่คิดว่าไม่จำเป็นออก   แต่ไม่นานของพวกนั้นก็กลับเข้ามาใหม่ด้วยฝีมือของมารดา

            “ขนไปเถอะ  ของเหลือดีกว่าขาดนะลูก  บอกให้เลือกใช้ทุนใกล้ๆภาคกลางก็ไม่เชื่อ  ไปซะไกลเลย แล้วแม่จะไปเยี่ยมยังไง  เครื่องบินก็ไม่มีต้องขับรถลูกเดียว  เจ้าเมย์ก็เพิ่งขึ้นปีสองไปไหนไม่ได้อีก”

            “โธ่  ก็ไว้แมนลงมาเยี่ยมไง  แมนสอนแม่โทรไลน์แล้วนี่  แม่ก็โทรมาหาแมนได้เลย”

            “แล้วแม่จะรู้มั้ยล่ะว่าแมนว่างหรือเปล่า  เกิดขึ้นวงขึ้นเวรตรวจคนไข้อยู่ขึ้นมา  แม่ก็ไม่อยากโทรไปกวน”  หญิงวัยกลางคนพูดอย่างกังวลแกมน้อยใจนิดๆที่ลูกชายคนโตไม่มีเวลาให้เท่าที่ควร  ตั้งแต่สมัยเรียนก็เรียนหนัก  อยู่เวรสลับกับสอบจนไม่มีเวลากลับบ้าน  ครั้นพอเรียนจบก็ยังต้องไปใช้ทุนไกลๆอีก

            “เอางี้  เดี๋ยวแมนจะโทรมาหาบ่อยๆล่ะกันนะแม่นะ”  ชายหนุ่มเดินเข้าไปกอดมารดา   หอมแก้มไปหลายที...ความจริงเขาก็อดใจหายไม่ได้  พ่อก็เสียไปหลายปีแล้วด้วยโรคมะเร็ง  ที่บ้านก็เลยเหลือเขาเป็นผู้ชายคนเดียว  น้องสาวก็เพิ่งเข้าเรียนคณะทันตะฯอยู่ปีสอง  จะให้แม่ไปอยู่ด้วยกันที่นู่นก็คงลำบาก  เป็นห่วงน้องสาวอีก

            “ว่างๆเดี๋ยวแมนจะขับรถมารับไปเที่ยวเหนือด้วยกัน รอให้เมย์ปิดเทอมด้วย”

            “ให้มันจริงเถอะ  ไปนุ่นก็หาเวลาพักผ่อนบ้างนะลูก  อย่าโหมงานหนักนักล่ะ  แม่เห็นในข่าวที่มีหมออยู่เวรหนักจนป่วยตายแล้วไม่สบายใจเลย”

            “แมนรู้ลิมิตตัวเองน่าแม่ แมนจะไม่ฝืนตัวเองหรอก  สัญญา”

            “เอาชีวิตรอดกลับมาก่อนนะลูก  เรื่องเงินเรื่องรองไม่ต้องสนใจมาก”

            “ยังไงแม่ก็เลี้ยงแมนไหว”  ลูกชายต่อประโยคให้แล้วหัวเราะจนเห็นลักยิ้มสองข้างแก้ม  จุไรลอบถอนหายใจยาวด้วยความเป็นห่วงลูกสุดหัวใจ  “ขับรถขับราก็ระวังด้วย  ลงเวรมาดึกๆง่วงๆอย่าฝืนขับนะ  นอนเอาแรงก่อน”

            “ครับแม่  แม่ย้ำมารอบที่สิบแล้ว”

            “ก็คนเป็นห่วงนี่”

            ชายหนุ่มยิ้มนิดๆ  เอื้อมมือไปเปิดเพลงในรถฟังเป็นเพื่อนระหว่างการเดินทางไกล  เขาไม่เคยขับไปจังหวัดที่ตนเองจะไปใช้ทุนมาก่อน   แต่ก็ศึกษาเส้นทางมาแล้วอย่างดี  คิดว่าน่าจะพอไหวอยู่

            ออกจากกรุงเทพฯมาได้สองชั่วโมงเขาก็แวะพักรถ  หาอะไรกินรองท้องที่ร้านอาหารในปั้มน้ำมัน  พักจนหายล้าก็ขับต่อ  คราวนี้ทางเริ่มขึ้นเขามากขึ้น  แต่อย่างน้อยถนนก็ดี  สองข้างทางก็วิวสวยพอใช้ได้ 

            ชั่วโมงสุดท้ายของการเดินทางทำให้ชายหนุ่มตื่นเต้นกว่าปกติ  วิวสองข้างทางเป็นภูเขาสีเขียวชอุ่มดูอุดมสมบูรณ์  มองไปไกลๆเห็นหมอกลอยระยอดไม้   หนทางขึ้นเขาสูงขึ้นไปเรื่อยๆจนกระทั่งทางเริ่มลดลงต่ำเข้าสู่เขตจังหวัด   เขาแวะจอดถามทางจากคนข้างทางสองครั้ง  ในที่สุดก็เลี้ยวรถเข้าไปภายในรพ.ประจำจังหวัด

            ลงมาจากรถ  ทอดสายตามองไปรอบด้านอย่างพอใจ  เมืองเล็กๆที่น่าอยู่ล้อมด้วยหุบเขาที่มีหมอกปกคลุมตลอด  ลมเย็นๆพัดเอื่อยตลอดทั้งวัน  บรรยากาศดีน่าอยู่ทีเดียว

            เขาโทรหาพี่เจ้าหน้าที่ที่ให้เบอร์เอาไว้ในวันจับฉลาก  ถือสายอยู่ครู่หนึ่ง ฝ่ายนั้นก็รับสาย

            “ผมเมืองแมนครับ  มาถึงที่รพ.แล้วฮะ  ต้องไปติดต่อตรงไหนครับ”

            “คุณหมอมาแล้วเหรอคะ  รออยู่ตรงไหนเอ่ย  ...รอสักครู่นะคะเดี๋ยวพี่กุลลงไปรับ”  ยืนรออยู่ไม่นาน  หญิงสาวร่างผอมบางผิวคล้ำก็เดินออกมาจากตึกอำนวยการ  ตรงเข้ามาหาเขา   “หมอมาคนแรกเลยนะคะเนี่ย   แฟลตแพทย์อยู่ด้านหลังนะคะ  ขับตรงไปทางนี้  เลี้ยวขวาแยกหน้าแล้วตรงไปเลยจะมีป้อมยามอยู่  ให้ขับเข้าไปอีกจะเจออป้ายเขียนว่าแฟลตแพทย์ค่ะ   หมอขับรถนำไปก่อนได้เลยค่ะเดี๋ยวพี่กุลเข้าไปเอากุญแจก่อน”

            เมืองแมนฟังคำพูดเร็วปรื๋อนั้นแทบไม่ทัน   เขาทวนคำอีกรอบแล้วก็กลับขึ้นรถขับไปตามทางที่อีกฝ่ายบอกเอาไว้  ไม่ถึงห้านาทีก็มาถึงอาคารสีขาวที่ตั้งเรียงเป็นแถวสี่แถวสูงสามชั้น  คะเนดูจากภายนอกน่าจะเพิ่งสร้างใหม่ไม่เกินสองปี  บรรยากาศข้างๆล้อมด้วยต้นไม้ร่มรื่น  ข้างหน้าเป็นบ้านไม้แถวน่าจะเป็นที่พักของเจ้าหน้าที่ในรพ.

            พี่กุลขี่มอเตอร์ไซค์ตามหลังมาจอดอยู่ใกล้ๆ  เธอพาเขาขึ้นไปบนแฟลตชั้นบนสุด  แมนกวาดตามองสำรวจรอบระเบียงที่สะอาดสะอ้านอย่างพอใจ ...เขาออกจะเป็นคนบ้าความสะอาดอยู่สักหน่อย

            “ห้องนี้ค่ะหมอ  หมอมาคนเดียวใช่มั้ยคะ  พี่กุลเลยจัดห้องให้พักกับแพทย์อีกท่าน  เค้าก็มาคนเดียวเหมือนกัน  ส่วนอีกสองท่านเป็นผู้หญิงทั้งคู่  อยู่ห้องข้างล่าง”  เธอไขกุญแจห้องเปิดให้เขาเข้าไปดูภายใน

            แฟลตของเขาแบ่งห้องเป็นห้องนอนสองห้อง  ห้องรวมที่มีโทรทัศน์กับตู้เย็นอย่างละหนึ่งตั้งอยู่  ข้างๆเป็นห้องน้ำเล็กๆที่มีเคาน์เตอร์กับซิงค์ล้างจ้านอยู่ข้างหน้า   แมนจามออกมาสองทีเพราะฝุ่นที่ลอยเข้าจมูก

            “เอ่อ...พอดีแม่บ้านเขามาทำความสะอาดเอาไว้เมื่ออาทิตย์ ก่อน  อาจจะมีฝุ่นไปบ้าง  เดี๋ยวพี่กุลมากวาดให้ก็ได้”

            “ไม่เป็นไรครับ  เดี๋ยวผมจัดการเอง”  เขารีบบอกอย่างเกรงใจ  “แล้วเพื่อนอีกคนยังไม่มาหรอครับ”

            “ยังค่ะ  เห็นไลน์บอกพี่กุลว่าจะมาเย็นๆหน่อย  คุณหมอเมืองแมนจะขนของเลยมั้ยคะ  เดี๋ยวพี่กุลช่วย”

            “ไม่เป็นไรครับพี่  ของผมไม่เยอะ  ขอบคุณมากนะครับ...ไว้ถ้าขัดข้องตรงไหนจะโทรไปรบกวนนะครับ  แล้วพรุ่งนี้ผมต้องไปที่ไหนยังไงครับ”

            “พรุ่งนี้ไปรายงานตัวที่ตึกอำนวยการก่อนค่ะ  หลังจากนั้นเราจะไปเข้าค่ายอบรมข้าราชการที่ดีก่อนเข้าทำงานกัน”

            “อบรม?  เอ่อ...ไปกี่วันครับ”

            “ห้าวันค่ะ  สนุกนะ  ได้เพื่อนใหม่เยอะเลย”  ท่าทางเธอกระตือรือร้นจนเขาไม่อยากขัด  ได้แต่เออออไปตามเรื่อง  พี่กุลกลับไปแล้ว  เหลือเขากับห้องโล่งๆที่ห้องนอนมีเฟอร์นิเจอร์สองอย่างเท่านั้นคือตู้เสื้อผ้ากับเตียงนอนที่มีแค่ฟูกให้   แมนอยากจะกลับไปกราบมารดาสักสามรอบสำหรับความรอบคอบที่ท่านยัดเครื่องนอนใส่ท้ายรถมาเต็มพิกัด  ถึงจะหยิบผิดเอาของเมย์มาให้แทนก็เถอะ

            ชายหนุ่มลงมาขนของจากรถไปกลับชั้นล่างกับชั้นสามอยู่หลายรอบจนกระทั่งเสร็จเรียบร้อย  เหงื่อแตกชุ่มแผ่นหลังจนต้องเข้ามานั่งเปิดแอร์ในห้องนอน(ใช้สิทธิที่มาถึงก่อนได้เลือกก่อน)  เลือกเอาห้องที่บรรยากาศดีกว่าเล็กน้อย  ไม่มีรังนกพิราบตรงหน้าต่างไป

            ช่วยไม่ได้...  ก็คนมันกลัวนกนี่หว่า...อืม  ไม่ใช่เรื่องตลกหรอกนะ  ลองมาโดนนกแก้วจิกจนเป็นแผลเป็นที่หลังมือดูบ้างสิ  ช่างเป็นฝันร้ายวัยเยาว์จริงๆ

            เมืองแมนค่อยๆแกะข้าวของที่บรรจุหีบห่อมาอย่างแน่นหนาออก  หาผ้าขี้ริ้วกับไม้กวาดมาทำความสะอาดห้องและตู้จนไร้ฝุ่น  ออกจะหงุดหงิดไม่น้อยที่ในห้องไม่มีชั้นวางของหรือโต๊ะบ้างเลย  เก้าอี้ก็ไม่มี

            “นี่จะให้นั่งพื้นหรือไงวะ”

            เขาเปลี่ยนใจกลับออกมาจากแฟลต  โทรหาพี่กุลเพื่อถามร้านเฟอร์นิเจอร์ที่เขาจะไปซื้อมาได้  พอพี่กุลบอกพิกัดในเมือง  ชายหนุ่มก็ขับรถออกไปทันที  แอบหลงนิดหน่อยก่อนจะมาจอดรถที่หน้าร้านเฟอร์นิเจอร์ในตัวเมือง 

            เลือกซื้อโต๊ะ  เก้าอี้ ชั้นวางของราคาย่อมเยาแล้วก็ให้ทางร้านขับไปส่งที่รพ.ให้  ไม่มีสีให้เลือกมากนักหรอกนอกจากสีชมพูกับสีแดง  เขาเลยเลือกสีแดงอย่างละหนึ่งเข้าชุดกัน  จากนั้นก็แวะซื้ออาหารเย็นกลับเข้าไปด้วยพร้อมกับขนมนมเนยที่แช่ตู้เย็นได้สองสามอย่าง

            ขับรถกลับมาที่แฟลตแพทย์  จัดการให้คนงานช่วยยกโต๊ะเก้าอี้ขึ้นไปบนห้อง   กว่าจะเรียบร้อยก็ปาเข้าไปเกือบทุ่มหนึ่ง  เมืองแมนเหนื่อยจนแทบจะล้มตัวลงนอนถ้าไม่ติดว่าท้องร้องอยู่ล่ะก็

            ชายหนุ่มตักข้าวกินอย่างหิวโหยพริบตาเดียวก็หมดกล่อง  หอพักเงียบเหงาเหมือนหอร้างเพราะยังไม่มีใครเข้ามาอยู่นอกจากเขา  ตึกข้างๆกันนั้นเป็นที่อยู่ของเจ้าหน้าที่และพยาบาล  ได้ยินเสียงพูดคุยกันมาแว่วๆ  เห็นแสงไฟวับแวม  ท้องฟ้ามืดครึ้มเหมือนฝนจะตก

          วูบหนึ่งที่เขารู้สึกเหงาขึ้นมาจับใจ





ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk
Re: *-*-*-*-*-*-INTERNAL LOVE-*-*-*-*-*-* อัพบทนำ 19/9/60
«ตอบ #2 เมื่อ19-09-2017 23:37:14 »






            ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดเปิดไลน์  ข้อความเป็นร้อยๆข้อความค้างอยู่ยังไม่ได้อ่าน  ทั้งกรุ๊ปเล็ก กรุ๊ปใหญ่  กรุ๊ปห้อง กรุ๊ปคณะฯ เต็มไปหมด   ชายหนุ่มกวาดตาไล่อ่านผ่านๆไม่มีอารมณ์จะพิมพ์ตอบใครทั้งนั้น 

            คนที่เขาอยากคุยมากที่สุดกลับเงียบสนิท  หายจ้อยเข้ากลีบเมฆไปเลย....ป่านนี้ไอ้เจมส์จะทำอะไรอยู่กันนะ

            มือไวกว่าความคิด  เขากดเข้าไปที่แอพเฟสบุ๊ค   โพสแรกสุดกระทบเข้ากับสายตา...เป็นชายหญิงคู่หนึ่งนั่งเคียงกันอยู่ริมทะเล  ดูพระอาทิตย์ตกด้วยกัน  เป็นโมเม้นท์ที่โรแมนติกเหลือเกินในความรู้สึกของเขา  ชายหนุ่มมองแผ่นหลังกว้างของคนในรูปด้วยหัวใจที่ปวดหนึบ

            เหมือนทุกครั้งที่เห็นสองคนนั้นอยู่ด้วยกัน  ฝ่ายนั้นคงไม่รู้หรอกว่าเขาอิจฉา ‘เธอ’ คนนั้นแค่ไหน ที่ได้เป็นเจ้าของสายตาเอื้อเอ็นดูปานจะกลืนกินเช่นนั้น

            เจมส์กับเขาเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ม.ปลายแล้ว  และเขาก็ยอมรับกับตัวเองว่าแอบรักเพื่อนสนิทมาตั้งแต่ขึ้นชั้นปี 4  มันเป็นกำลังใจสำคัญของเขา..

            แคปชั่นเป็นรูปหัวใจสองดวงผูกกันเอาไว้  มีคนเข้ามาคอมเม้นท์ใต้ภาพมากมายล้วนแต่ชื่นชมในความสัมพันธ์ของทั้งคู่  ไม่ก็แซวกันเล่นๆเหมือนทุกที 

            เมืองแมนถอนหายใจยาว  กดออกจากแอพริเคชั่น  เปลี่ยนเป็นเปิดเพลงเบาๆฟังแทน  ....เขาใช้เวลาหลายปีกว่าจะแน่ใจว่าตัวเองรักเจมส์   แต่เขาไม่รู้เลยว่าต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไหร่ถึงจะตัดใจจากเค้าได้สำเร็จ

            หวังว่าระยะทางที่ห่างไกล เหนือกับใต้ของประเทศจะทำให้เขาลืมเรื่องความรู้สึกพวกนั้นได้  และเหลือเอาไว้แต่ความเป็นเพื่อนที่ดีเหมือนเดิม...

            ชายหนุ่มทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้วก็มานั่งกอดเข่าอยู่บนเตียง  เกือบสามทุ่มแล้ว  เขาเดาเอาว่าแม่น่าจะอาบน้ำเสร็จแล้วเหมือนกันจึงกดโทรไปหา  อีกฝั่งรับสายทันทีราวกับเฝ้ารออยู่

            “แมน  เป็นไงบ้างลูก”  แค่ได้ยินเสียงมารดา  ขอบตาก็ร้อนผ่าวโดยไม่ทันตั้งตัว  หลายปีที่ผ่านเขาอยู่หอมาตลอดก็จริง  แต่ไม่เคยจากบ้านมาไกลถึงขนาดนี้เลย

            “แม่....ดีครับ  ที่นี่ดีมาก  แมนอยู่ในแฟลตที่พักแล้ว  น่าอยู่มากเลย”  เขาตอบกลับไป

            “เจอเพื่อนยังลูก  ดึกแล้วอย่าออกไปไหนนะ  เราแปลกถิ่นยังไม่คุ้นทาง  ไม่คุ้นคน  เดี๋ยวอันตราย”  แม่ยังคงเป็นห่วงเขาตลอดเวลา  “กินข้าวแล้วใช่มั้ย”

            “กินแล้วครับ  แม่ล่ะ  ไอ้เมย์กลับมายัง  เย็นนี้กินอะไรครับ”

            “ก็ไข่เจียว แกงส้ม ธรรมดานั่นแหละ  เมย์ยังไม่กลับเลย  เห็นว่ามีติวเตรียมสอบปลายภาค”  หางเสียงของแม่มีความกังวลแฝงอยู่  “แต่โจ้คงมาส่งแหละ  นี่แม่ก็รออยู่”  โจ้เป็นแฟนของน้องสาวเขา  คบกันมาสามปีแล้ว

            “ครับ  แม่อยู่บ้านก็ล็อคประตูด้วย  น้ำไฟดูดีๆ ปิดแก๊สยังเนี่ย”

            “ปิดแล้วน่า  นี่แม่นอนดูละครเล่นอยู่  รอเราโทรมานั่นแหละ”

            “คิดถึงแม่จังครับ”

            “อืม  แม่ก็คิดถึง  ว่างแล้วก็โทรมานะลูก”

            เขาคุยกับแม่เรื่องสัพเพเหระอยู่พักใหญ่จนน้องสาวกลับมาบ้านถึงได้วางสาย  นั่งจับเจ่าอ่านหนังสือนิยายแนวสืบสวนสอบสวนที่พกติดตัวมาด้วยฆ่าเวลาเล่นจนเริ่มง่วงนอน  ก็วางหนังสือลงบนหัวเตียง

            เขาเปิดไฟห้องทิ้งเอาไว้อย่างนั้นเพราะเป็นนิสัย  ไม่ชอบนอนมืดๆ  จะว่ากลัวผีก็ไม่เชิงเพราะขนาดตอนเรียนอนาโตมี่ปี 2 เขายังผ่านมาได้สบายๆ  เอาเป็นว่าแมนแค่กลัวเงาๆดำๆที่ชอบปรากฏขึ้นเวลาที่ปิดไฟ

            ยกมือขึ้นพนมสวดมนต์ต่อด้วยฝากเนื้อฝากตัวกับเจ้าที่เจ้าทางเสร็จสรรพ  กำลังจะล้มตัวลงนอนแล้ว เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นหน้าห้อง  ตามด้วยเสียงไขกุญแจกุกกัก

            ชายหนุ่มลุกขึ้นมานั่งอย่างมึนงงก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าคงเป็นเพื่อนร่วมห้องที่เดินทางมาถึงแล้ว  กระนั้นเขาก็หยิบขวดน้ำลิตรครึ่งมาถือเอาไว้เผื่อว่าจะเกิดพลิกล็อคเป็นผู้ไม่ประสงค์ดีคนอื่นฉวยโอกาสเข้ามา

            เดินออกไปยืนหน้าประตู พอดีกับตอนที่ประตูหน้าห้องถูกไขเปิดออกได้สำเร็จ  คนๆหนึ่งยืนอยู่ข้างหน้าประตู  ในมือหอบของเอาไว้เต็มอ้อมแขน  ดวงตาคู่นั้นมองมาที่เขาอย่างแปลกใจ

            “อ้าว...ลูกพี่กุลยังไม่กลับอีกเหรอ”  เสียงทุ้มๆถามขึ้น 

            “ลูกพี่กุล?”  คนฟังทวนคำอย่างมึนงง

            “ไม่ใช่หรอ   ก็เห็นพี่กุลบอกว่า... เออ  ช่างเหอะ  ขอโทษ  นายอยู่ห้องนี้เหรอ”  ท่าทางของอีกฝ่ายเปลี่ยนไป  แมนขยับตัวเบี่ยงหลบให้อีกคนก้าวเข้ามาในห้อง

            “ใช่ แล้ว....”  เมืองแมนไม่แน่ใจว่าจะใช้สรรพนามแทนว่าอะไรดี  เลยใช้วิธีพยักพเยิดแทน  “...อยู่ห้องนี้เหมือนกันหรอ”

            “อืม  นายอยู่ห้องไหนนะ  เราจะได้เลือกอีกห้องนึง”

            “ห้องซ้ายของเรา”  แมนตอบ  รู้สึกแปลกๆชอบกล  อีกคนเลยหัวเราะตอบกลับมาว่า

            “ไม่ต้องเกร็งงั้นก็ได้  กูชื่อเพลิง  มาจากมอ....”  เขาบอกชื่อมหาลัยดังทางภาคเหนือ  “มึงมาจากไหน  ชื่ออะไร”   แมนช่วยเปิดประตูห้องนอนให้ฝ่ายนั้นขนของเข้าไปวางกองเอาไว้

            “ชื่อแมน  มาจาก....”  เขาบอกที่ๆเขาเรียนจบมา

            “อ้อ....เป็นคนที่นี่หรอ  ถึงมาใช้ทุน”

            “เปล่า  แค่อยากมา”  แมนตอบ  อีกฝ่ายพยักหน้ารับ  ท่าทางไม่ใส่ใจอะไรมากนัก  ร่างสูงกว่าเขาเกินคืบหมุนตัวเดินออกไปจากห้อง   พูดเสียงดังว่าจะขนของที่รถขึ้นมา  เขาเลยเดินตามลงไปด้วยหวังจะแสดงน้ำใจช่วยเพื่อนใหม่ขนของเสียหน่อย  เป็นการผูกมิตรไปด้วยในตัว

            “ไม่ต้องลงมาหรอก  ฝนจะตกแล้วเดี๋ยวเปียก”  อีกฝ่ายพูดพลางโบกมือไล่  แต่ว่าแมนส่ายหน้ายืนยันจะลงมาช่วยขน   ท่าทางฝ่ายนั้นเลยเป็นมิตรขึ้นกว่าเดิมมาก 

            รถของอีกฝ่ายเป็นรถเก๋งรุ่นใหม่ป้ายแดงทีเดียว   ของข้างในที่เตรียมมาน้อยกว่าของเขาเกือบครึ่งต่อครึ่ง   ช่วยกันขนสองคนสองรอบก็เสร็จ

            สายฝนเทซู่ลงมาพอดี  เพื่อนร่วมแฟลตของเขาถอนหายใจเฮือก  ยกมือขึ้นบิดตัวไล่ความเมื่อยขบได้ยินเสียงกระดูกลั่น  ชายเสื้อลอยพ้นเอวเห็นหน้าท้องเป็นลอนแข็งแรงแบบคนออกกำลังกายสม่ำเสมอ

            วูบเดียวที่สายตาของแมนเผลอมองไปที่ชายเสื้อของฝ่ายนั้นไม่สามารถหลุดรอดสายตาคมเข้มที่ลอบสังเกตอยู่ได้   เพลิงกัลป์ขมวดคิ้วนิดๆ ความสงสัยอย่างหนึ่งแวบกลับเข้ามาในใจเหมือนทุกครั้งเวลาที่เห็นคนท่าทางเหมือนหรือคล้าย....

            พิศดูรูปร่างผอมๆ ผิวขาวจัดเหมือนไม่เคยเจอแดดในชุดเสื้อยืดสีเหลืองกับกางเกงสีชมพูอ่อนแล้ว   บวกกับใบหน้าอ่อนผิวใสเหมือนผ่านการบำรุงผิวมาอย่างดีนั้น....ชายหนุ่มก็อยากจะสรุปกับตัวเองว่าสงสัยเขาจะหนีเสือมาปะจระเข้เข้าเสียแล้วสิ

            ก็คณะนี้มันมีชายแท้อยู่กี่เปอร์เซ็นต์กันล่ะ.... มีความเป็นไปได้สูงที่อีกฝ่ายอาจจะเป็น...

            “รีบอาบน้ำสิ  ฝนตกแล้ว  ไม่รู้ที่นี่จะไฟดับหรือเปล่า”  ฝ่ายนั้นพูดงึมงำ....เสียงนั่นก็ด้วย  ไม่ได้หวานใสเหมือนผู้หญิงก็จริง  แต่ก็ห่างไกลจากคำว่าห้าวอยู่มาก

            “เอ่อ....ห้องน้ำอยู่ไหน”  เขาถาม  ตาก็ลอบจับสังเกตอีกฝ่ายไปด้วย   เห็นเดินไปที่ตู้เย็น  ก้มลงค้นอะไรกุกกักสักพักก็หยิบโยเกิร์ตถ้วยออกมา

            ชัดเลย.....เหมือนอดีตรูมเมทเขาเป๊ะ  แม่งมาร์กหน้าก่อนนอนแน่ๆ

            “อยู่ตรงนั้นไง  ข้างห้องนอนกู”

            เพลิงกัลป์กลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดๆ  ห้องน้ำอยู่ข้างห้องของอีกฝ่ายงั้นหรือ....เอาแล้วไง  นี่ถ้าเขาอาบน้ำอยู่จะโดนถ้ำมองมั้ยวะ

            “ตามสบายนะ  พรุ่งนี้เจอที่ตึกอำนวยการแปดโมง”  อีกฝ่ายพูด  หมุนตัวเดินเข้าห้องนอนไปหน้าตาเฉย  ทิ้งให้เพื่อนร่วมห้องอีกคนยังคงมองตามหลังไปอย่างระแวง

            เพลิงกัลป์ตัดสินใจเดินไปเคาะประตูห้องอีกฝ่าย   พอประตูเปิดก็ลอบมองเข้าไปสำรวจภายในห้องอย่างรวดเร็ว...โต๊ะเก้าอี้สีแดง  ผ้าปูที่นอนสีฟ้าลายดอกไม้เล็กๆสีขาวเข้าชุดกันทั้งหมอน หมอนข้าง  ผ้าห่ม  ตัดกับโคมไฟสีแดงเข้ม....อืม   ชัดเลย  ชัดกว่านี้ไม่มีอีกแล้วล่ะ

            “มีอะไรหรือเปล่า”  อีกฝ่ายถามด้วยท่าทางง่วงนอน

            “คือ....จะขอยืมยาสีฟันน่ะ”  เขาแต่งเรื่องอย่างรวดเร็ว  “ขอโทษทีนะ  ลืมเอามาด้วย”

            “หยิบใช้ได้เลย  อยู่ตรงซิงค์  มีอะไรอีกเปล่า...พอดีเราจะนอนแล้ว”

            “ไม่มีแล้ว  ขอบคุณมาก”

            ฝ่ายนั้นปิดประตูห้อง   เขายืนมองอยู่นานเจ้าตัวก็ไม่ยักจะปิดไฟนอนเสียที  ...หรือว่าจะทำเป็นเข้านอนไปงั้นเองวะ  จริงแล้วถ่างตาตื่น  รออะไรอยู่หรือเปล่า

            เขายอมรับว่าตัวเองออกจะหลงตัวเองอยู่สักหน่อย  แต่ช่วยไม่ได้เพราะมีคนหลงเขามากกว่าที่เขาหลงตัวเองเยอะ  ก็คนมันฮอตทำไงได้  ถึงได้เกือบถูกรูมเมทที่อยู่ด้วยกันมาตั้งสามปีปล้ำเอาในคืนสุดท้ายที่หอไงล่ะ  หนอยแน่ะ  ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บใจ  เล่นหลอกให้เขาดื่มจนเมา   โชคดีที่เพื่อนในกลุ่มเอะใจเลยมาเคาะเรียก  ไม่อย่างนั้นเขาคงเสร็จ  ตกเป็นของฝ่ายนั้นอย่างจำยอมไปแล้ว

            แค่คิดก็ขนลุกซู่  แต่ก่อนเขาก็ไม่ได้อะไรกับคนที่ชอบเพศเดียวกันหรอกนะ  แต่หลังจากเหตุการณ์ชวนขวัญหนีดีฝ่อนั้นแล้ว  เพลิงก็ไม่คิดจะเสี่ยงอีก

            “ปวดหัวโว้ย”  เขาคว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำที่อยู่ติดกับห้องนอนของฝ่ายนั้น   มือก็อาบตาก็คอยมองอย่างระแวง

            แต่งตัวออกมาจากห้องน้ำ  ชายหนุ่มกลับเข้าไปในห้องนอนเพื่อจะพบว่าในห้องนั้นไม่มีเครื่องนอนอะไรเลยแม้แต่ฟูก

            ตอนแรกเขาไม่ทันสังเกต  พอเดินกลับออกมาข้างนอกตรงห้องรวมก็ไม่มีฟูกเหมือนกัน   แถมเขาก็ไม่ได้เตรียมเครื่องนอนอะไรมาเลยด้วย  เอาแค่เสื้อผ้ากับลังหนังสือมาอย่างเดียว

            แสงไฟที่เปิดสว่างลอดออกมาจากใต้ประตูห้องนอนฝ่ายนั้น   ชายหนุ่มเม้มปากแน่นครุ่นคิดอยู่อึดใจ  ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปเคาะที่ประตูห้องเบาๆ

            “โทษนะ  รบกวนอีกนิด”  เขารีบพูดเมื่อเห็นอีกฝ่ายเดินมาเปิดประตูด้วยสีหน้าหงุดหงิดเล็กน้อย  ผมสั้นๆสีน้ำตาลอ่อนบนหัวฝ่ายนั้นยุ่งเหยิง  “กูไม่มีเครื่องนอนเลยอ่ะ  ที่ห้องก็ไม่มีฟูก  มีแต่โครงเหล็กที่เป็นเตียง  มึง...เอ่อ  นายพอมีให้ยืมมั้ย”

            “มีแค่หมอนอิง  พอหนุนได้ล่ะมั้ง  แต่ไม่มีฟูกหรอก  หรือจะเอาผ้าห่มปูแทน  เราเอามาสองผืน”  เขายืนมองอีกฝ่ายหายกลับไปเข้าไปค้นของในห้อง  และกลับมาพร้อมหมองอิงใบเล็กสีฟ้าอ่อนกับผ้าห่มสีครีมนวล  แน่นอนว่าทั้งสองอย่างเป็นลายดอกไม้

            “ของแม่กับน้องสาวเราเอง”  ดูเหมือนอีกฝ่ายจะอ่านสายตาของเขาออกเลยพูดขึ้นมา  แต่ว่าเพลิงก็รู้สึกเหมือนว่าฝ่ายนั้นร้อนตัวอย่างไรชอบกล

            เขารับมาถือไว้

            “ขอบใจมากนะ  รบกวนมึงมากเลย”

            “ไม่เป็นไรหรอก  พรุ่งนี้ค่อยไปซื้อก็ได้”

            คนฟังพยักหน้า  อุ้มหมอนกับผ้าห่มกลับออกไปจากห้อง  เมืองแมนมองตามหลังพลางรู้สึกหงุดหงิดนิดๆที่โดนปลุกให้ตื่น  แถมอีกฝ่ายยังเอาแต่มองที่นอนของเขาด้วยแววตาพิกลอีก

            ท่าทางออกจะประสาทหน่อยๆ

            ต่างคนต่างอยู่ก็สิ้นเรื่อง

            เมืองแมนคิดว่าตัวเองนอนหลับสนิทไปแล้ว  ตอนที่ได้ยินเสียงกุกกักเหมือนมีใครมาเดินวนอยู่ในห้องนอนของตนเอง  จมูกได้กลิ่นหอมอ่อนๆที่ไม่รู้ว่าคือกลิ่นอะไรลอยมาตามลม   ตามด้วยเสียงหัวเราะเบาๆกังวานใสเหมือนระฆัง

            “เธอได้ยินเสียงฉันใช่มั้ยล่ะ”

            เปลือกตาของเมืองแมนขยับหยุกหยิก  แต่ไม่กล้าลืมตาขึ้น 

            ..............................................................................................



คนเรา นึกอยากเปิดเรื่องใหม่ก็เปิดเนอะ555  มีคนอ่านมั้ยอีกเรื่องนึง

ลองอ่านกันดูนะ

ตอนนี้ยังคิดแฮชแท็คไม่ออกอ่ะ 

ไว้เจอกันตอนหน้านะ


ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
Re: *-*-*-*-*-*-INTERNAL LOVE-*-*-*-*-*-* อัพบทนำ 19/9/60
«ตอบ #3 เมื่อ19-09-2017 23:44:00 »

น่าอ่านมากครับ.

ออฟไลน์ cheezett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: *-*-*-*-*-*-INTERNAL LOVE-*-*-*-*-*-* อัพบทนำ 19/9/60
«ตอบ #4 เมื่อ20-09-2017 00:15:49 »

เดี๋ยววว ทำไมเรารู้สึกหลอนตอนท้ายๆ  :mew5: :mew5:
น่าติดตามมากค่ะ :mew1:

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
Re: *-*-*-*-*-*-INTERNAL LOVE-*-*-*-*-*-* อัพบทนำ 19/9/60
«ตอบ #5 เมื่อ25-09-2017 00:55:15 »

อ่านตอนท้ายร้องเหี้ยหนักมากกกกก

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: *-*-*-*-*-*-INTERNAL LOVE-*-*-*-*-*-* อัพบทนำ 19/9/60
«ตอบ #6 เมื่อ25-09-2017 07:57:01 »

รอ คนแต่งมาต่อ  ชอบบบบบบบบบบบ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

เพลิง แค่เห็นแมนมองเสื้อที่เลิกขึ้นของตัวเอง
มองสีของใช้ โยเกิร์ต สีชุดนอน ลายผ้าปู
ก็เข้าใจแมน ออกนอกโลกไปและ
แถมกลัวแมนถ้ำมอง ตอนอาบน้ำ เชอะส์......หมั่นไส้ หลงตัวเองปะ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-08-2018 21:11:18 โดย oaw_eang »

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: *-*-*-*-*-*-INTERNAL LOVE-*-*-*-*-*-* อัพบทนำ 19/9/60
«ตอบ #7 เมื่อ25-09-2017 08:36:44 »

เดี๋ยวนะ มีสิ่งลี้ลับด้วยเหรอเรื่องนี้
เพลิงระแวงจริง แต่เดี๋ยวอยู่กันไปก็คงปรับเข้าหากันเอง

ออฟไลน์ MayuYume

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: *-*-*-*-*-*-INTERNAL LOVE-*-*-*-*-*-* อัพบทนำ 19/9/60
«ตอบ #8 เมื่อ25-09-2017 16:33:24 »

ต้องจ้างน้องรว(กว)มาแล้วค่ะ //มีความผดเรื่อง  :ling3:

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: *-*-*-*-*-*-INTERNAL LOVE-*-*-*-*-*-* อัพบทนำ 19/9/60
«ตอบ #9 เมื่อ25-09-2017 17:27:00 »

ติดตามจ้า  :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: *-*-*-*-*-*-INTERNAL LOVE-*-*-*-*-*-* อัพบทนำ 19/9/60
« ตอบ #9 เมื่อ: 25-09-2017 17:27:00 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Bradly

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
Re: *-*-*-*-*-*-INTERNAL LOVE-*-*-*-*-*-* อัพบทนำ 19/9/60
«ตอบ #10 เมื่อ25-09-2017 19:20:57 »

ติดตามค่ะ

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
Re: *-*-*-*-*-*-INTERNAL LOVE-*-*-*-*-*-* อัพบทนำ 19/9/60
«ตอบ #11 เมื่อ25-09-2017 22:26:05 »

 ชุดเครื่องนอนกับสีเฟอร์นิเจอร์มันยิ่งตอกย้ำความคิดเพลิงไปอีกก 55 ถ้าพระเอกจะระแวงขนาดนี้ 5555

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
Re: *-*-*-*-*-*-INTERNAL LOVE-*-*-*-*-*-* อัพบทนำ 19/9/60
«ตอบ #12 เมื่อ22-10-2017 13:12:41 »

เหยยยยยพลิกมากอะอ่านตอนบทนำนึกว่าจะเป็นแนวนศพ.หนีรักมาใช้ทุนไกลแล้วพบรักกับพระเอกไรงี้ แต่ไม่ใช่อะพลิกตั้งแต่พระเอกระแวงคิดว่าแมนไม่ใช่ชายแท้แล้วไหนจะเรื่องหลอนตอนท้ายอีก น่าติดตามมากๆค่ะ มาต่อตอนต่อไปเร็วๆน้า

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: *-*-*-*-*-*-INTERNAL LOVE-*-*-*-*-*-* อัพบทนำ 19/9/60
«ตอบ #13 เมื่อ05-11-2017 10:42:01 »

 :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ MayuYume

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: *-*-*-*-*-*-INTERNAL LOVE-*-*-*-*-*-* อัพบทนำ 19/9/60
«ตอบ #14 เมื่อ05-11-2017 12:27:50 »

รอเรื่องนี้อยู่นะคะคนแต่ง  :hao5:

ออฟไลน์ yanaanay

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: *-*-*-*-*-*-INTERNAL LOVE-*-*-*-*-*-* อัพบทนำ 19/9/60
«ตอบ #15 เมื่อ05-11-2017 12:45:18 »

เดี๋ยวววว ตอนท้ายคืออารายย  o22  o22

ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk
Re: *-*-*-*-*-*-INTERNAL LOVE-*-*-*-*-*-* อัพบท1 23/11/60
«ตอบ #16 เมื่อ23-11-2017 01:09:00 »

Internal Love

ตอนที่ 1

 

 

 

         

          “พี่ว่าหมอน่าจะฝันมากกว่านะคะ   ไม่มีหรอกค่ะผีเผออะไร  บางทีหมอเพิ่งย้ายมาใหม่อาจจะผิดที่”  พี่กุล...พี่เจ้าหน้าที่ที่คอยดูแลบรรดาแพทย์จบใหม่พูดพลางหัวเราะนิดๆ  ท่าทางไม่เชื่อสิ่งที่หมอแมนเล่าเลยแม้แต่น้อย

            “ผมไม่ได้ฝันนะพี่กุล  ตอนนั้นผมมั่นใจว่าตัวเองตื่นอยู่แน่ๆ  เสียงเขาชัดเลยเป็นเสียงผู้หญิง  น่าจะสาวๆหน่อย  แถมมีกลิ่นหอมๆด้วย”

            “กลิ่นดอกปีบหรือเปล่าคะ   ต้นปีบหน้าแฟลตกำลังออกดอกอยู่  หอมเลย”

            “ผมอยู่ห้องแอร์  ปิดประตูหน้าต่างหมด  กลิ่นมันจะลอยเข้าไปมาได้ยังไงล่ะครับ”  เมืองแมนยกมือขึ้นกุมขมับ  “ไม่เคยมีใครเจอแบบผมเลยใช่มั้ย”

            “พี่กุลไม่เคยได้ยินนะ  จริงๆห้องนั้นไม่ได้เปิดให้พักมาหลายปีแล้วล่ะค่ะ  เพราะส่วนใหญ่แพทย์ที่มาประจำที่นี่จะเป็นคนในพื้นที่อยู่แล้ว  มีบ้านกันก็เลยไม่ได้อยู่แฟลต  เพิ่งมาปีนี้นี่แหละที่เป็นคนต่างจังหวัดมา”

            “งั้นผมขอย้ายห้องได้ไหมครับ”  นายแพทย์หนุ่มพูดเสียงเบาอย่างเกรงใจ 

            “เดี๋ยวพี่จะลองดูห้องอื่นให้ก่อนแล้วกันนะคะ”  พี่กุลมีท่าทางยุ่งยากใจก่อนจะขอตัวเดินจากไป

            “ทำไมอยู่กับกูไม่ได้  มีปัญหาอะไรหรือไง”  มือหนักๆกดเข้าที่ไหล่ของเมืองแมน  ชายหนุ่มนิ่วหน้าเล็กน้อย  เบี่ยงตัวหลบจากมือของรูมเมทที่เดินเข้ามาข้างหลัง  ในมือของเพลิงกัลป์ถือแซนวิชที่เพิ่งซื้อจากเซเว่นเอาไว้ด้วย

            “เปล่า  ไม่มีอะไร”  เมืองแมนตอบปัด

            “ไม่มีแล้วทำไมถึงต้องขอย้ายห้อง”  อีกฝ่ายยังถามต่อไม่เลิก  คิ้วเข้มขมวดแล้วคลายออกเป็นรอยยิ้มที่ทำให้คนมองไม่สบายใจเลยสักนิด  “หรือว่าจะกลัวอะไร”  ดวงตาคมคู่นั้นมีแววสงสัยแกมหวาดระแวงในส่วนลึก  “...กลัวโดนกูปล้ำเหรอ”  เสียงห้าวๆที่กระซิบทำให้เมืองแมนเกือบอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ  เพราะสิ่งที่อีกฝ่ายคิดไม่ได้อยู่ในสมองของเขามาก่อนเลย

            “อะไรนะ?”  เขาทวนคำ

            “จริงๆแล้วคนที่ควรจะกลัวคือกูมากกว่าไม่ใช่หรือไงฮึ”

            “พูดบ้าอะไร  หรือว่าพูดภาษาเหนือวะ”  ประโยคหลังเมืองแมนลดเสียงลงคล้ายพูดกับตัวเอง  บางทีเขาอาจจะฟังผิด  “เมื่อกี้พูดว่าปล้ำหรือเปล่า”   มันอาจจะมีความหมายอื่นที่เขาไม่รู้ก็เป็นได้

            “หรือบ้านมึงเรียกเอากันล่ะ”

            คนฟังเบิกตากว้าง  สบถออกมาอย่างหัวเสีย

            “ไม่ใช่โว้ย  คนอย่างกูไม่เอามึงหรอกครับ  ไหนๆก็ไหนๆแล้ว  จะบอกให้เอาบุญแล้วกันนะ  เมื่อคืนนี้...กูเจอผีในแฟลต  ชัดมั้ย”

            “ผี?”  อีกฝ่ายทวนคำ  อึ้งไปนิดก่อนจะหัวเราะก๊ากออกมา  “ผีเนี่ยนะ  มึงบ้าหรือเมาครับ  มึงเป็นหมอนะเพื่อน  เชื่อเรื่องผีสางเทวดานางไม้ด้วยหรือไง  โอ๊ย... นี่ช่วยหาข้ออ้างที่มันดีกว่านี้หน่อยได้ป่ะ”

            “กูเจอจริงๆ  มาทั้งเสียงทั้งกลิ่น  กูไม่ได้เมาด้วย  เมื่อคืนมึงไม่ได้ยินล่ะสิ”  เมืองแมนเล่าเรื่องเมื่อคืนให้เพื่อนใหม่ฟัง  รู้สึกหงุดหงิดที่ถูกมองเป็นตัวตลก  แถมฝ่ายนั้นยังไม่มีท่าทางจะเชื่อเลยสักนิด

            “เมื่อคืนกูก็หลับสบายดี  ไม่เห็นมีอะไร  มึงแค่แปลกที่  ก็เท่านั้นแหละ....เลิกฟุ้งซ่านแล้วก็ไปขึ้นรถได้แล้วครับ  ทุกคนรอมึงอยู่  เร็วๆ”   รูมเมทตบไหล่เขาดังป้าบทำเอาเกือบหน้าคะมำใส่ถังขยะหน้าเซเว่น  เมืองแมนย่นหน้าใส่เพื่อนใหม่อย่างลืมตัว  เดินฉับๆนำหน้าไปขึ้นรถอย่างรวดเร็วโดยมีร่างสูงใหญ่เดินตามมาข้างหลัง

            เพื่อนแพทย์อีกสองคนที่เป็นผู้หญิงนั่งรออยู่ในรถก่อนแล้ว  พวกเธอเป็นคนในจังหวัดนี้ด้วยกันทั้งคู่  คนหนึ่งสูงปราดเปรียวเหมือนนางแบบชื่อแพท   ส่วนอีกคนดูเรียบร้อยน่ารักไปอีกแบบชื่อเฌอ  นอกจากนั้นยังมีทันตะแพทย์อีกสองคนและเภสัชใหม่อีกสองคนที่จะไปเข้าค่ายอบรมก่อนเริ่มทำงานจริงด้วยกัน

            รถตู้พาพวกเขาข้ามไปยังอีกจังหวัดหนึ่งเพื่อเข้าค่าย ที่พักและจัดงานเป็นโรงแรมอย่างดีที่เมืองแมนไม่เคยมาพัก  อันที่จริงพูดให้ถูกคือเขาไม่เคยย่างกรายขึ้นมาถึงจังหวัดนี้เลยด้วยซ้ำ  เหนือสุดของประเทศที่เขาเคยไปก็คือลพบุรี  เคยไปฝึกสมัยเป็นนักศึกษาแพทย์

            “ไอ้แมน  ดีใจชิบ  นอนห้องเดียวกับกูนะ”  ป๊อกเพื่อนสนิทในกลุ่มที่เลือกไปใช้ทุนที่จังหวัดเหนือสุดของประเทศเดินมาทักเขาเสียงดัง  แถมยังดึงเขาไปกอดแน่นราวกับไม่ได้เจอกันนานทั้งๆที่เพิ่งเจอกันไปเมื่อสองวันก่อน

            “ปล่อยกูก่อน  หายใจไม่ออก”  แมนรับรู้ได้ว่ามีสายตาของใครบางคนจับสังเกตอยู่  เขาดันตัวเพื่อนออกไป  “มึงนอนห้องไหน  กูนอนด้วยดิ”

            พอได้เจอเพื่อนสนิทอีกครั้ง  เมืองแมนก็รู้สึกผ่อนคลายลงไปมาก  มีเพื่อนที่มาจากสถาบันเดียวกันมาใช้ทุนในเขตภาคเหนือด้วยกันอีกเกือบสิบคน  พวกเขารวมกลุ่มพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน  ความรู้สึกอบอุ่นกลับคืนมาในหัวใจของแมนอีกครั้ง

            กิจกรรมส่วนใหญ่ของค่ายเป็นการอบรม  นั่งโต๊ะฟังวิทยากรพูดคุย  แมนฟังบ้างหลับบ้างไปจนถึงวันที่สี่ของการเข้าค่ายที่จะเป็นกิจกรรมกระโดดหอ  ซึ่งแมนก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามันเกี่ยวกับการเป็นข้าราชการที่ดีตรงไหน

            “ฝึกความกล้ามั้ง  ถ้ามึงกล้ากระโดดหอได้  ต่อไปมึงจะโดดงานเมื่อไหร่ก็เป็นเรื่องเล็ก”  เสียงห้าวๆดังขึ้นข้างหลังทำให้เมืองแมนเหลียวไปมอง  เห็นเพลิงกัลป์รูมเมทคนใหม่ของเขากำลังเดินเข้ามาพร้อมกับเพื่อนๆอีกกลุ่มใหญ่  สังเกตได้ว่าอีกฝ่ายคงจะเป็นแนวหัวโจกหรืออะไรประมาณนั้น  เพราะทุกคนดูสนใจฟังเขาเหลือเกิน

            “คนนั้นใช่เพลิง  เดือนมอ....มั้ยแก”  เพื่อนผู้หญิงที่นั่งติดกับแมนหันมาถามเขา  ท่าทางตื่นเต้นกว่าปกติ  เอ่ยชื่อตำแหน่งเดือนพร้อมมหาลัยแห่งหนึ่งทางภาคเหนือเสร็จสรรพ

            “ใช่มั้ง”  เขาตอบ

            “ได้ข่าวว่าเขาไปใช้ทุนจังหวัดเดียวกับแกไม่ใช่เหรอแมน”

            “อืม”

            “แล้วนิสัยเป็นไงบ้าง  ได้ข่าวมาว่าเปลี่ยนหญิงควงไม่ซ้ำหน้าเลยนี่”  เพื่อนผู้หญิงอีกคนชะโงกเข้ามาร่วมวงด้วย  “ก็น่าอยู่หรอกนะ  หล่อซะ..”  เธอลากเสียงให้เห็นภาพ  “ไม่รู้ตอนนี้โสดหรือเปล่า  เห็นเดินคู่กับคนเสื้อฟ้ามาหลายวันแล้ว”  เมืองแมนมองตามเห็นหญิงสาวร่างโปร่งบางสวมชุดกระโปรงสีฟ้าดูอ่อนหวานเข้ากับใบหน้าของเธอกำลังเดินเคียงข้างเพลิงกัลป์ไปทางห้องอาหาร

            “ไม่รู้เหมือนกัน  เพิ่งเจอกันน่ะ”  เขาบอกปัด  ไม่อยากเล่าให้อีกฝ่ายฟังว่าถึงความประสาทของผู้ชายคนนั้น   

            เมืองแมนเลิกสนใจเรื่องคนอื่น  เขาหันมาจดจ่ออยู่กับภารกิจโดดหอตรงหน้า  จริงๆเขาเคยโดดมาแล้วตอนเรียนรด.  แต่นั่นนับเป็นอีกหนึ่งความทรงจำอันเลวร้ายเลยก็ว่าได้   เพราะเขาไม่ยอมโดดสักที  ครูฝึกก็เลยส่งเขาลงมาจากหอด้วยฝ่าเท้าแข็งๆของรองเท้าคอมแบ็ท

            “ผู้ชายไปต่อแถวเลยครับ  ผู้หญิงโดดเสร็จหมดแล้ว”

            เสียงตะโกนเรียกบรรดานายแพทย์จบใหม่ให้ไปต่อแถวกระโดดหอทำให้ใจเต้นแรงด้วยความตื่นตระหนกอย่างช่วยไม่ได้  เมืองแมนหันซ้ายหันขวากะว่าจะขอหลบไปห้องน้ำเพื่อทำใจอีกสักพักก่อน  แต่ด้วยความรักความหวังดีของเพื่อนๆก็ช่วยกันทั้งผลักทั้งดันจนเขากระเด็นไปอยู่คนแรกสุดของแถว

            “พร้อมหรือยังครับ!”  ครูฝึกตะโกนถามเสียงดัง  มือก็ใส่ชุดให้เขาไปด้วยพลางรัดเชือกอย่างแน่นหนา

            “มะ..ไม่”

            “พร้อมมั้ยครับ!!”

            “มะ...พร้อมครับ”  กูบอกไม่พร้อมยังไงก็จะส่งกูโดดอยู่แล้วไม่ใช่หรือไงวะ  เขาคิดในใจอย่างกราดเกรี้ยว  แต่ความเป็นจริงทำได้แค่รับคำอย่างหงอยๆ  เดินต๊อกๆขึ้นบันไดเหล็กสูงหลายชั้นขึ้นไปบนหอด้านบนที่มีทหารฝึกรออยู่ 

            “สูดหายใจลึกๆแล้วโดดเลย”  พี่ทหารแนะนำเหมือนจะหวังดี  แต่เขารู้ว่าถ้าไม่โดดงานนี้คงมีถีบส่งอีกแน่ๆ

            “เดี๋ยวๆ  ผมขอทำใจก่อน”  เมืองแมนยกมือขึ้นเป็นปางห้ามญาติ  กันไม่ให้ทหารตัวโตเข้ามาผลักเขาตกหอไปเสียก่อน

            ก้าวออกมายืนอยู่จนชิดขอบ  มองไปเบื้องล่างสูงลิบแล้วก็รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง  มือจับราวเหล็กเอาไว้มั่นไม่ยอมปล่อย

            “โดดเลยครับ  อย่าช้า  มีคนรอต่อ”  ครูฝึกตะโกนบอก

            ....จะเป็นหมอนี่มันต้องเสี่ยงชีวิตขนาดนี้เลยเหรอวะ...

            “ไปได้แล้วครับ”  สัมผัสหนักๆกระแทกด้านหลังจนเซหน้าทิ่ม

            “อ้าก” 

            รู้ตัวอีกทีเขาก็ใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม  ตัวลอยเคว้งอยู่กลางอากาศ  ลมพัดตีหน้าจนลืมตาแทบไม่ขึ้น  รู้สึกเจ็บที่หว่างขาเพราะถูกเชือกรัดเอาไว้แน่นตึงไปหมด  เมืองแมนร้องออกมาสุดเสียง

            เขาไม่เคยชอบกิจกรรมเสี่ยงตายที่ใครๆเรียกว่าท้าทายแบบนี้เลย

            ชั่วอึดใจลูกรอกก็พาเขามาถึงจุดหมายที่เป็นบันไดสูงๆมีเพื่อนๆรอรับตัวของเขาอยู่   มีคนเข้ามาช่วยแกะเชือกที่รัดกับห่วงเหล็กเอาไว้ 

            “เห้ยมึง  ใจเย็นๆ  ถึงแล้ว”   เสียงห้าวๆดังขึ้นเหนือหัว  แต่เขายังไม่สามารถรวบรวมสติกลับมาได้   “ตัวสั่นเป็นลูกนกเลยแฮะ  มึง...ไอ้เมืองแมน  กลัวอะไรขนาดนั้นวะ”  ฝ่ายนั้นบีบแขนของเขาแรงๆแล้วเขย่าเล็กน้อย

            เมืองแมนกระพริบตา

            “เอ่อ...ปละ..ปล่อย  จะ..ลงแล้ว  ลงทางไหน”  พอก้าวขาออก  มือแข็งๆก็ปล่อยเขาเป็นอิสระ  เมืองแมนแทบจะคลานลงมาจากบันไดสูงที่เป็นจุดรับนั้น

            เพลิงกัลป์อยากจะหัวเราะออกมาดังๆให้กับความป๊อดของเพื่อนใหม่ที่เป็นรูมเมทของเขา  เป็นอันว่าที่เขาสงสัยเรื่องมันไม่แมนเหมือนชื่อนั้นคงจะเป็นความจริงเสียแล้ว  ดูจากร่างที่สั่นเทิ้มเป็นเจ้าเข้า  หน้าซีดเหมือนกระดาษ  เหงื่อแตกพลั่กแล้วคงไม่ต้องสาธยายว่าอีกฝ่ายกลัวการโดดหอแค่ไหน

            ....ไม่แมนเลยนี่หว่า...โดดหอแค่นี้มันเรื่องจิ้บๆ

            ดวงตาโตๆของมันเหลียวลอกแลกเหมือนกวางระแวงภัย  ท่าทางยามปีนลงจากบันไดก็งกๆเงิ่นๆดูน่าขัน  กว่าจะต้วมเตี้ยมลงไปถึงตีนบันไดได้  เพื่อนอีกคนก็โดดหอลงมาถึงพอดี

            ไหนจะเรื่องที่มันบอกว่าเจอผีในแฟลตอีก 

            ท่าจะบ๊องๆ

            อาจจะไม่เป็นพิษเป็นภัยอะไรหรอกมั้ง...

            เขาคิดผิดไปหน่อยเมื่อพี่กุลคนดูแลโทรมาหาเขาตอนเย็นวันนั้นหลังเสร็จกิจกรรมโดดหอและกลับถึงโรงแรมแล้ว

            “หมอเพลิงใช่มั้ยคะ  พี่กุลโทรมาจากโรงพยาบาล...นะคะ  พอดีว่าจะโทรมาคุยเรื่องที่หมอแมน เพื่อนของหมอจะขอย้ายห้องน่ะค่ะ  คือหมอแมนเล่าให้ฟังหรือยัง”

            “เล่าแล้วครับ  ที่ว่าเจอผีใช่มั้ยฮะ”

            “ใช่ๆ  ห้องหมอเพลิงเจอผีบ้างไหมคะ”

            “ก็ไม่นะครับ”

            “ถ้างั้นแลกห้องนอนกับหมอแมนได้มั้ยคะ   พี่กุลไปดูแล้ว  ห้องอื่นมันไม่พร้อมเลยค่ะ  ห้องที่ดีก็มีคนนอน”

            คนฟังขมวดคิ้ว  หางตาเห็นร่างผอมๆเหมือนคนไม่มีแรงเดินเข้ามาในห้องประชุมกับกลุ่มเพื่อน  ใบหน้าเล็กๆนั้นหายซีดเซียวแล้ว  ดูดีกว่าตอนหลังโดดหอขึ้นมาก

            “ก็น่าจะได้นะครับ”   เขายังไม่ได้จัดของ  จะให้ย้ายอะไรก็ได้หมดนั่นแหละ   ขออย่างเดียวอย่าย้ายมานอนห้องเดียวกันก็พอ

            “ถ้าอย่างนั้นก็ตามนี้นะคะ  เดี๋ยวพี่โทรบอกหมอแมนก่อน”  พี่กุลวางสายไป

            เพลิงกัลป์เห็นรูมเมทของเขารับโทรศัพท์แล้วก็เหลือบมองมาทางที่เขาอยู่แวบหนึ่งก่อนจะมองเมินไปทางอื่น   เขาไม่ได้คิดเรื่องนี้อีกจนกระทั่งไปเจอเมืองแมนในห้องน้ำโรงแรมตอนเย็น

            “พี่กุลบอกแล้วใช่มั้ย  ให้ย้ายมานอนห้องกูแทน”

            “บอกแล้ว”  ฝ่ายนั้นตอบกลับมาสั้นๆ

            “ถ้ายังเจอผีในห้องอีกนี่คงต้องไปนอนระเบียงแทนแล้วมั้ง”

            “มึงจะไปนอนระเบียงเหรอ”

          “หมายถึงมึงนั่นแหละ” 

            อีกฝ่ายเบ้ปากแทนคำตอบ   เมืองแมนทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้วก็เดินมาล้างมือข้างๆเขา

            “เมื่อตอนบ่ายกลัวมากหรือไง”   จู่ๆคนที่ล้างมือไม่เสร็จซักทีก็ถามขึ้น   คนฟังเหลือบตามองแวบหนึ่ง

            “เออกลัว   กูกลัวความสูง   จบมั้ย”   คำตอบตรงๆทำให้คนหาเรื่องเงียบไป

            “กลัวความสูง  กลัวผี  แล้วกลัวอะไรอีกมั้ย”

            “ทำไมกูจะต้องบอกมึงด้วย”

            “ก็อยากรู้”

            “เรื่องของกู”  คนตอบสะบัดน้ำในมือใส่เขาก่อนจะเดินลิ่วๆออกไปจากห้องน้ำ   เพลิงกัลป์มองตามพลางส่ายหน้า   แค่ถามดีๆทำไมต้องเหวี่ยงกันด้วย

            เขาก็แค่อยากรู้

            คืนสุดท้ายของการอบรมมีงานเลี้ยง   แถมยังมีการแสดงจากทุกจังหวัดด้วย   เมืองแมนหาวหวอดเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่ทราบ   เขาเพลียมากเพราะเมื่อคืนดันนอนไม่หลับ   พอมาวันนี้ก็ดันมีกิจกรรมนู่นนี่ทั้งวันจนไม่มีเวลาไปงีบเหมือนเคย 

            การแสดงของจังหวัดเขาจบลงไปนานแล้วเมื่อชั่วโมงก่อน  เป็นการเต้นแบบเด็กอนุบาลสองเพราะทุกคนลงความเห็นว่าทำอะไรก็ได้ที่ง่ายที่สุด  จะได้กลับมานั่งกินอาหารบนโต๊ะเร็วๆ

            แต่ขนาดว่าเป็นการเต้นแบบโคตรเด็กแล้ว  เสียงกรี้ดที่มีให้กับรูมเมทของเขาก็ยังดังลั่นจนหนวกหู   และตอนนี้เพลิงกัลป์ก็กำลังถ่ายรูปและพูดคุยกับบรรดาเพื่อนใหม่ที่เข้ามาทำความรู้จักอยู่ไม่ขาดสาย

            “แมนๆ  ฝากบอกเพลิงให้ถ่ายรูปกับเราหน่อยดิ”  เพื่อนสาวที่แอบปลื้มชายหนุ่มรายนั้นเข้ามากระซิบ

            “บอกมันเองสิ”  เขาตอบกลับไป

            “เค้าเขินอ่ะ”  เธอยิ้มอายๆ

            “ไม่ต้องเขินหรอก  ถือโทรศัพท์เดินเข้าไปใกล้ๆเดี๋ยวก็ได้ถ่ายรูปเอง”   เมืองแมนคิดว่าตัวเองคงไม่ได้พูดเกินความจริงมากไป  เพราะดูจากทักษะของเพื่อนใหม่ของเขาแล้ว  เข้าขั้นเสือเลยก็ว่าได้  รอยยิ้มและมุขตลกที่เลือกมาพูดกับสาวๆที่เพิ่งรู้จักกันนั้นถึงไม่อยากยอมรับ  แต่ก็ต้องยอมว่ามันมีเสน่ห์จริงๆ

            “ตกลงคนที่ชื่อฟ้าเค้าเป็นแฟนเพลิงมั้ย  หรือว่าดูๆกันอยู่”

            “ไม่น่าใช่นะ  ถ้าดูๆกันคงไม่ยอมให้เพลิงคุยกับสาวดะซะขนาดนั้นหรอก”   คนตอบไม่เมืองแมน  หากเป็นเพื่อนอีกคนที่เข้ามาร่วมวงด้วย

            เขาค่อยๆแยกตัวเองออกมาจากวงสนทนา  ปาร์ตี้ยามดึกดำเนินต่อไปอย่างสนุกสนาน  มีบางกลุ่มออกไปต่อข้างนอกรวมถึงป๊อก  เพื่อนในกลุ่มที่นอนห้องพักเดียวกันกับเขา

            “ไม่ไปด้วยกันวะแมน  เปิดหูเปิดตา  คืนสุดท้ายเขาปล่อยฟรีแล้ว  อยากไปไหนก็ไป”

            “ไม่เอา  กูขี้เกียจ”   เขาตอบตรงๆ

            “โอกาสสุดท้ายที่จะได้เที่ยวด้วยกันแล้วนะเว้ย”

            เพื่อนในกลุ่มโน้มน้าวมาอีกหลายคำ  สุดท้ายเขาก็พ่ายแพ้ให้กับลูกตื๊อของเพื่อน  เมืองแมนออกมาจากโรงแรม  แวะเที่ยวที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งในตัวเมือง

            “ที่นี่เด็ดจริงๆ  ดนตรีก็ดี  เหล้าก็เยี่ยม”

            “มึงเป็นหมอแต่กลับกินเหล้าเองเนี่ยนะ”  เมืองแมนเคาะ   เหมือนทุกครั้งเวลาที่เพื่อนชวนมาดื่ม

            “กูนานๆกินทีมั้ยล่ะ  ไม่ได้ดื่มทุกวันนี่หว่า”  เพื่อนก็ตอบเหมือนเดิมทุกครั้ง   “มึงเอาอะไร โค้กล่ะสิ  ไอ้เด็กอนามัย   เห็นมึงแล้วคิดถึงไอ้เจมส์  ไม่รู้ป่านนี้เป็นไงบ้าง  มันยิ่งบ้าๆบอๆอยู่  แต่มีน้ำไปด้วยคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง”   ชื่อของคนๆนั้นทำให้หัวใจของเขาเจ็บแปลบ   เมืองแมนเม้มปาก

            ...แผลของเขายังสดเกินไปสินะ...

            “มึงได้คุยกับมันมั่งมั้ย”

            “น้อง...พี่ขอแบบนี้แก้วนึง”  เมืองแมนไม่ตอบ  แต่หันไปสั่งเครื่องดื่มสีสวยให้ตัวเองแทน   ป๊อกมองอย่างงงๆ

            “มึงจะดื่มเรอะ”

            “เออ”  เขาตอบหนักๆ

            “เดี๋ยวก็เมาพับอยู่ตรงนี้หรอก”

            “กูไม่ได้ขับรถนี่”

            “ก็ดี   เดี๋ยวกูพามึงกลับเอง”

            “นิดเดียว  กูไม่เมาง่ายๆหรอก”

            เมืองแมนจำไม่ได้ว่าเขาดื่มไปเท่าไหร่  รู้แต่ว่ารสขมปร่าที่ปลายลิ้นนั้นช่วยบรรเทาอาการเจ็บแน่นที่หน้าอกให้ลดลงได้อย่างน่าประหลาด  เป็นเพราะไอ้ป๊อกพูดชื่อนั้นขึ้นมา  ก็เลยทำให้เขารู้สึกเหมือนย้อนกลับไปเป็นบุคคลที่สามระหว่างเจมส์กับน้ำอีกครั้ง  เขาเกลียด...เกลียดตัวเองที่ต้องทำเหมือนไม่รู้สึกอะไร  ทั้งๆที่ในใจเขาอยากจะตะโกนบอกเจมส์ทุกวันถึงความรู้สึกข้างใน 

            สมองของเขาเริ่มพร่าเบลอ  ยิ่งดึกเสียงดนตรีกับเครื่องดื่มในมือก็ยิ่งทำให้รู้สึกเคลิบเคลิ้ม  เหมือนมีคนมาเรียกชื่อเขาอยู่แว่วๆ พร้อมกับที่พยุงเขาลุกขึ้นยืน

            เขาจำอะไรไม่ค่อยได้  ภาพเบื้องหน้าดูฝ้ามัวเหมือนดูผ่านกระจกที่มีหยดน้ำเกาะ  หรือจะเป็นเพราะน้ำตาที่ไหลออกมาจากสองตาของเขาก็อาจเป็นได้   หัวหนักราวกับมีอะไรมาทับ  เสียงสุดท้ายที่เขาได้ยินนั้นคล้ายกับเสียงของเจมส์เพื่อนรักของเขา

            “ร้องไห้ทำไม...เมืองแมน”

            ......................................................................



ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk
Re: *-*-*-*-*-*-INTERNAL LOVE-*-*-*-*-*-* อัพบท1 23/11/60
«ตอบ #17 เมื่อ23-11-2017 01:09:54 »



            เปลือกตาหนักอึ้งพอกับๆความปวดที่จู่โจมเข้ามาสองข้างขมับ  ชายหนุ่มรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาบนเตียงนอน  รู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่พาดหนักๆอยู่ที่เอว   เมืองแมนผงกศีรษะขึ้นดูอย่างยากลำบาก

            เป็นท่อนขาแข็งแรงของใครบางคนพาดอยู่ที่เอวของเขา

            “เชี่ย”  เขาอุทาน  รู้สึกเสียงแหบกว่าปกติ  ออกแรงผลักขาข้างนั้นให้ออกไปจากตัว  เจ้าของขาเริ่มขยับตัว  คนๆนั้นนอนพังพาบอยู่ข้างๆเขาในสภาพเปลือยอก  ส่วนท่อนล่างสวมกางเกงบ็อกเซอร์สีเหลืองขาดๆเอาไว้

            “อะไรวะ  เช้าแล้ว”  เสียงห้าวๆดังขึ้นงัวเงีย  ผู้ชายคนนั้นลืมตาขึ้น  กวาดสายตามองไปรอบๆรวมถึงหน้าของเมืองแมนด้วยอย่างงงๆเหมือนจับต้นชนปลายไม่ถูก   สักพักแววแห่งความรับรู้ก็ค่อยๆปรากฏขึ้นในแก้วตาสีเข้ม  เพลิงกัลป์เบิกตากว้าง   มองหน้าเขาเหมือนเห็นผี

            “ชิบหาย  มึงปล้ำกูเหรอไอ้แมน”  เจ้าตัวอุทานดังลั่น  ก้มลงมองตัวเองพลางลูบมือไปตามเนื้อตัวที่อุดมไปด้วยกล้ามเนื้อนั้น   ท่าทางเลิ่กลั่กของอีกฝ่ายทำให้เขารู้สึกฉุน   ร่างสูงใหญ่กระโดดออกจากเตียง  มือคลำที่ด้านหลังสำรวจอย่างหวาดระแวง

            “กูต้องถามมึงมากกว่า”   เมืองแมนหาเสียงตัวเองจนเจอพูดตอบกลับไป  เขายกผ้าห่มขึ้น  ทว่าพอก้มลงดูตัวเองก็เห็นว่าเสื้อผ้าของตนแม้จะหลุดลุ่ยไปบ้าง  แต่ก็ยังอยู่บนร่างกายครบทุกชิ้น   ความรู้สึกปวดแสบที่ด้านหลังจู่โจมเขาจนต้องนิ่วหน้า  เนื้อตัวก็เหนียวเหนอะชอบกล       

            “มึงใส่ครบแต่กูแก้ผ้า  จะให้กูเข้าใจว่ายังไงวะ”   คนตรงหน้ายังโวยวายไม่จบ  มือก็คลำสะโพกของตัวเองป้อยๆ  “กู...กูรู้สึกเคล็ดๆยอกๆที่เอวด้วย   แถม..แม่งเจ็บๆเวลาเดิน   มึงทำอะไรกูตอนเมาใช่มั้ยไอ้แมน  ตอบกูมานะ”   มือใหญ่รวบเข้าที่คอเสื้อของแมน  ดึงทีเดียวคนตัวเล็กกว่าก็ลอยลิ่วติดมือขึ้นไปเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย

            “กูไม่ได้ทำ  มึงจะบ้าหรือไง”

            “บ้าไม่บ้าไม่รู้แหละ  แล้วทำไมมึงถึงมาอยู่ที่ห้องกูได้ฮึ”

            “นี่มันห้องกูตะหาก”   เมืองแมนเถียง  ชี้นิ้วไปที่หมายเลขห้องที่แปะอยู่หน้าประตู   เพลิงกัลป์อึ้ง  เขาสะบัดหน้าแรงๆ  ปล่อยคอเสื้อของเมืองแมนเป็นอิสระ

            “จำอะไรไม่ได้เลยโว้ย”  ร่างสูงใหญ่ก้าวดุ่มๆเข้าไปในห้องน้ำ  ปิดประตูดังปัง   ทิ้งให้อีกคนค่อยๆดึงตัวลุกขึ้นมานั่ง  เมืองแมนยกมือขึ้นนวดขมับนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน  แต่ก็นึกไม่ออก

            เขาคงเมามาก  เดาจากอาการเมาค้างที่ยังหลงเหลืออยู่ในวันนี้   ชายหนุ่มยกมือขึ้นจับเอวแล้วขมวดคิ้ว

            ฝ่ายนั้นกลับออกมาจากห้องน้ำในสภาพเปียกโชก   กางเกงตัวเดียวเปียกแนบเนื้อชนิดเห็นไปถึงไหนต่อไหน เพลิงกัลป์คว้าผ้าเช็ดตัวที่พาดเอาไว้บนเก้าอี้มาพันรอบเอวเอาไว้พลางหันมามองเขาอย่างระแวง

            “อย่าขยับนะ”   เสียงห้าวๆพูดทันทีที่คนบนเตียงขยับตัว  “ชุดกูอยู่ไหนก็ไม่รู้  โทรศัพท์กระเป๋าตังค์  กุญแจห้องก็หายหมด”

            “ยืมโทรศัพท์ไปโทรก่อน  บอกเมทมึงให้รีบๆมารับซะ”  เมืองแมนส่งโทรศัพท์ของตัวเองไปให้   เขาหงุดหงิดกับท่าทางประสาทกินของอีกฝ่ายจนชักจะเริ่มโกรธขึ้นมาจริงๆ  “เลิกเอามือปิดหัวนมแบบนั้นด้วย  มันปัญญาอ่อน”

            “มึงก็อย่ามองสิ”  เพลิงกัลป์ตอบเสียงห้วน  ยอมลดมือที่ปิดหน้าอกตัวเองลงนิดนึง  พิศดูใบหน้าขาวซีดรูปหัวใจที่ล้อมด้วยเส้นผมสีน้ำตาลอ่อนยุ่งๆของอีกฝ่ายแล้วก็ชักรู้สึกว่าตัวเองอาจจะออกอาการมากไป   ทำไงได้ก็คนมันเคยมีเรื่องฝังใจนี่หว่า...

            หลังจากเข้าห้องน้ำไปสำรวจตัวเองอยู่พักหนึ่งจนมั่นใจว่าคงไม่มีเรื่องบัดสีบัดเถลิงอะไรเกิดขึ้น   เขาก็คิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนจนปวดหัว  นึกออกแค่ตัวเองไปต่อกับก๊วนเพื่อนแล้วก็โดนท้าดื่มกับรุ่นพี่คณะฯที่เวียนมาเจอกันโดยบังเอิญ   

            ดื่มไปดื่มมา  ชนแก้วเฮฮา  อ้อ...จริงสิ  แล้วเขาก็ไปเจอกับกลุ่มของเมืองแมนด้วยนี่   จำได้เลาๆว่าเข้าไปทักอีกฝ่าย....แล้วยังไงต่อ

            นึกไม่ออก..

            “ไอ้ยอด  ช่วยกูด้วย  กูไม่รู้มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง  ทำไมเมื่อคืนมึงทิ้งกูฮึ”   เขาโอดครวญไปตามสายทันทีที่เพื่อนซี้รับสาย

            “มึงต่างหากล่ะทิ้งเพื่อน  กูกลับมาที่โต๊ะอีกที  หมวยก็บอกว่ามึงออกไปแล้ว   ตกลงไปกับใคร  ฟ้าหรอวะ”

            “ฟ้าอะไรล่ะ  เหวตะหาก  กูจะเป็นบ้าแล้ว  มึงรีบมารับกูเร็ว  เอาชุดมาให้ด้วย”

            “อย่าบอกนะว่ามึง..โดน”   เพื่อนถามมาด้วยเสียงกระซิบ  ตอนนั้นเองที่เพลิงกัลป์คิดได้ว่าเรื่องนี้ไม่ควรจะปล่อยให้ถึงหูเพื่อน  โดยเฉพาะเพื่อนอย่างยอดยิ่งที่มีฉายาว่ามันรู้โลกรู้ด้วย

            “ไม่ใช่โว้ย  ชุดกูเปียกน้ำ”  จริงๆเขายังหาชุดตัวเองไม่เจอเลย  ไม่รู้ไปทิ้งไว้ไหน  แล้วทำไมตัวเองถึงอยู่ในสภาพล่อนจ้อนอยู่คนเดียว  ขณะที่อีกคนกลับยังอยู่ในชุดเสื้อกางเกงครบ

            ถ้าจะถอดก็ช่วยถอดให้มันเท่าเทียมหน่อยเซ่

            “เชื่อตายละ  รุนแรงขนาดฉีกเสื้อทิ้งกันเลยเหรอวะ  กูชักอยากจะเห็นหน้าสาวของมึงเมื่อคืนแล้วสิ  มึงอยู่ห้องไหนนะ”

            “มึงไม่ต้องมาละ  เดี๋ยวกูกลับไปเอง”  เขารีบปฏิเสธ  ขืนเพื่อนตัวดีมาเห็นหน้า ‘สาว’ ของเขาเมื่อคืน  เรื่องคงยิ่งไปกันใหญ่

            “แน่ะๆ  มีหวงๆ  เออ...กระเป๋าตังค์มึงกับโทรศัพท์แล้วก็กุญแจรถกูฝากพวกจอร์จเอาไว้นะ  เมื่อคืนเล่นทิ้งข้าวของหมดเลยนี่หว่า   หึๆ   งั้นไว้เจอกันใหม่เพื่อน  กูกลับออกมาล่ะ  พวกหมวยก็กลับแล้วเหมือนกัน   มึงก็ดูแลตัวเองนะ  อย่าเป็นเอดส์ตายก่อนล่ะ”  เพื่อนอวยพรให้เขาอย่างรู้นิสัยดี 

            เพลิงกัลป์ด่ากลับไปอีกสองสามประโยคก็วางสาย

            เขาหันกลับมาพบว่าเพื่อนร่วมเตียงเมื่อคืนกำลังกลับออกมาจากห้องน้ำในชุดผ้าขนหนูคาดเอวเหมือนกับเขา  แต่แผ่นอกที่มีหยดน้ำเกาะพราวและรูปร่างผอมๆบวกกับใบหน้านั้นกลับดูเหมือนเด็กหนุ่มมัธยมมากกว่าจะเป็นผู้ใหญ่วัยทำงาน

            ฝ่ายนั้นชะงักนิดหนึ่งเมื่อเห็นสายตาของเขา   แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร  เมืองแมนเดินช้าๆไปเปิดกระเป๋าเสื้อผ้าหยิบชุดออกมาสวมใส่ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

            “แล้วเพื่อนมึงไปไหน  คนที่ตัวสูงๆโย่งๆ”

            “ไม่รู้ดิ  แต่กระเป๋าเสื้อก็ยังอยู่นะ”   อีกฝ่ายตอบกลับมาเรียบๆ  ดวงตากลมโตเหลือบมาทางเขา  “แล้วจะไม่ใส่เสื้อผ้าเหรอ”

            “มีให้ใส่ก็ดีสิ  เอาเสื้อผ้ากูไปซ่อนหรือเปล่า  บอกมานะ”

            “จะซ่อนเพื่อ...ว่าแต่บ็อกเซอร์นั่นยังใส่ได้อีกเหรอ  ทั้งเน่าทั้งขาด...เห็นแล้วอุบาศก์ลูกตา”

            คนฟังแยกเขี้ยว  ก้มลงมองกางเกงของตัวเอง  นึกขึ้นได้ว่ามีผ้าขนหนูคาดทับอยู่   เพลิงกัลป์อ้าปากจะแก้ต่างว่ามันเป็นตัวที่เขาหยิบผิดมา  อีกฝ่ายก็เขวี้ยงเสื้อยืดมาปะทะใบหน้าของเขาอย่างแรง

            “ใส่ไปก่อน”

            เขากางเสื้อออก  มันเป็นเสื้อยืดย้วยๆเหมือนเสื้อนอนที่ใส่เมื่อชาติที่แล้ว  เขาตัดสินใจสวมไปเพราะไม่มีทางเลือก  มันคับนิดหน่อยแต่ก็ยังดีกว่าเดินถอดเสื้อออกไป

            “มีแต่กางเกงวอร์ม   ส่วนบ็อกเซอร์....”

            “กูใส่ของมึงไม่ได้หรอก   มันคนละไซส์”   คนฟังนิ่วหน้า  เบ้ปากพอให้รู้ว่าหมั่นไส้คนพูดเต็มทน  เมืองแมนกวาดตาดูคนร่างสูงที่สวมเสื้อยืดตัวเก่าของเขากับผ้าขนหนูคาดเอว  หัวหูยุ่งเหยิง  เหอะ....

            “งั้นก็ไม่ต้องใส่  เชิญเดินออกไปจากห้องกูได้เลยครับ”

            “ฝากไว้ก่อนเถอะ”  อีกฝ่ายพึมพำ  ก้มลงพยายามจะใส่กางเกงวอร์มสวมทับบ็อกเซอร์ที่ยังชื้น  “อย่าเข้ามานะเว้ย”  เขารีบพูดเมื่อเห็นเจ้าของห้องขยับเข้ามาใกล้ 

            “ประสาท”   ฝ่ายนั้นพูดลอยๆ  ทำท่าจะก้มตัวลงใส่ถุงเท้าทว่ากลับเปลี่ยนท่าเป็นค่อยๆนั่งลงบนเตียงแทน

            “เป็นอะไรน่ะ”  เขารู้สึกผิดสังเกตกับท่าทางแปลกๆของอีกฝ่าย

            เมืองแมนยังไม่ทันตอบ  เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นหน้าห้อง   ชายหนุ่มลุกขึ้นจากเตียงเพื่อเดินไปเปิดประตู  แต่ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น  เจ้าตัวถึงได้ทรุดฮวบลงไปกองกับพื้นเสียอย่างนั้น  คนมองอุทานออกมาอย่างตกใจ  ก้าวเข้าไปหา

            “เป็นอะไร...”  เพลิงกัลป์ถามคำถามเดิม

            อีกคนไม่ตอบแต่กลับผลักเขาออกเต็มแรง

            .......................................................................................


แวะมาอัพต่อตอนแรก  หลังจากลงบทนำไปนานมาก55555   ใครชอบเรื่องนี้อย่าลืมแชร์นะ  เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับแพทย์ใช้ทุนที่เรียกว่าอินเทิน 1  ข้อมูลในเรื่องได้มาจากการสอบถามผู้รู้นาจา  ผิดพลาดตรงไหนก็แอบกระซิบบอกกันด้วยเด้อ 

เรื่องนี้ค่อนข้างหลากหลายอารมณ์  และมีปรากฎการณ์เหนือธรรมชาติด้วย5555    เอาซี่  จะยังไงต่อ  เจอกันตอนหน้าเลยนะคะ

ปล.  ขอไปปั่น ยักษ์ยอกรักต่อก่อนนะ
ปล2 ใช้เเทค  #แฟนหมอแมน   คิดแทคอื่นไม่ออกล่ะ5555
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-11-2017 01:38:39 โดย ็Hollyk »

ออฟไลน์ Apinnoolek

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ชอบบบบ รอติดตามตอนต่อไปค่าาา :)

ออฟไลน์ Shonteen

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
สนุกคาาาาาาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
รอตอนต่อไปจ้า  :L2:

ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 542
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
สนุกดี ว่าแต่จะเขียนจนจบไหมน้อเห็นใครๆที่เขียนเรื่องแนวหมอๆไม่ค่อยมาต่อจนจบเลย

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
เห็นอัพตอนต่อแล้วดีใจมาก ชอบเรื่องนี้ตั้งแต่อ่านบทนำแล้ว ทั้งเรื่องเหนือธรรมชาติทั้งเรื่องพระเอกที่กลัวนายเอกจะปล้ำอีกแต่ตอนล่าสุดนี่ไม่ใช่ว่าพระเอกปล้ำนายเอกไปแล้วหรอกนะ อิอิ รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1006
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
บวกเป็ด  o13

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
อะไรหว่าา

ออฟไลน์ o4u0n7

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :hao5: น่าติดตาม

ออฟไลน์ MayuYume

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตอนแรกก็คดอย่างนั้นพออ่านจบใช่...เราคดถูกแล้ว----  :hao7: //คนอ่านหื่นที่แท้ทรู  :z6:
แล่วๆๆๆ เพลงกัลป์นายต้องรับผดชอบเมืองแมนนะ!!!!!  :z3: :z3:
ขอบคุณที่มาต่อนะคะคนแต่งคดถึงเรื่องนี้มากแอบมาเม้นท์ให้คนแต่งรู้ว่ามาต่อเรื่องนี้จากเรื่องอื่นที่อัพหน่อยยยย //เป็นการทวงแบบอ้อนๆ?---  :o8:
 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
เฮ้ยเป็นไร?? ถึงกับล้ม

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
เกิดอะไรขึ้นอ่ะ. อยากรู้,,,,

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด