*-*-*-*-*-*-INTERNAL LOVE-*-*-*-*-*-* #แฟนหมอแมน (Mpreg)เปิดพรี 2/12/61 p86
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: *-*-*-*-*-*-INTERNAL LOVE-*-*-*-*-*-* #แฟนหมอแมน (Mpreg)เปิดพรี 2/12/61 p86  (อ่าน 632661 ครั้ง)

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
รอตอนต่อไป~

ออฟไลน์ Pe_no

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 375
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ตัดจบได้แบบ..... :mew2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-04-2018 11:52:44 โดย Pe_no »

ออฟไลน์ GAZESL

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 675
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
หึงแล่วหมอเพลิง :mew4:

ออฟไลน์ fannan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-6
พี่เพลิงมาแล้วจ้า รอๆๆๆอ่านต่อค้าบ

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
ความหึงทำให้ สติหายหมด  :z2:
เป็นกำลังใจให้นะครับ + ไม่ได้ เพื่ง + เรื่องพี่รามไป  :L2:

ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk
Internal Love

ตอนที่19

Wait for the person that would do anything to be your everything.



 

 

 

 

 

 

 

            “หยุด!...บอกให้หยุดไง”

            เมืองแมนพูดดังลั่น  ถลาเข้าไปยึดแขนล่ำสันของรูมเมทเอาไว้  อีกฝ่ายทำท่าจะสะบัดออกแต่ยั้งเอาไว้ทัน  หันมามองหน้าเขาด้วยดวงตาวาวโรจน์แบบมีเมืองแมนไม่เคยเห็นมาก่อน

            “ปล่อยกู”  เพลิงกัลป์พูดเสียงต่ำ

            “จะทำอะไรเค้า  เป็นบ้าไปแล้วเหรอ”  เมืองแมนไม่ยอมปล่อยมือจากแขนของอีกฝ่าย  ขณะที่เพื่อนสนิทของเขายังนอนอยู่ที่พื้นพลางสะบัดหัวอย่างมึนงง

            “เกิดอะ..ราย ขึ้น..โอ้ย”  เจมส์อุทานเพราะถูกแขกไม่ได้รับเชิญกระชากคอเสื้อขึ้นมา

            “เพลิง ...ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ  บอกให้ปล่อยไง”  เมืองแมนตวาดเสียงสั่น  ขอบตาร้อนผ่าว....เขาทั้งโกรธทั้งไม่เข้าใจจนอยากจะร้องไห้ออกมาดังๆ  “ปล่อยเจมส์  จะทำอะไร  อย่าทำเค้า..”

            อาจเป็นเพราะเสียงสั่นเครือกับดวงตากลมคลอด้วยหยาดน้ำตาสองข้างกระมังที่ทำให้เพลิงกัลป์ได้สติ  ชายหนุ่มปล่อยมือจากคอเสื้อของเพื่อนสนิทรูมเมท  ถอยไปยืนห่างหลายก้าว  หัวใจเต้นเร็วแรงด้วยความรู้สึกที่ยังพลุ่งพล่านอยู่ข้างใน

            “เกิดอะไรขึ้นครับคุณ  เกิดอะไรขึ้นครับ”  ผู้จัดการร้านวิ่งมาถึงถามกระหืดหระหอบ  แขกคนอื่นในร้านพากันเหลือบมองมาอย่างสนใจ  บ้างก็ซุบซิบพร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายเอาไว้

            “ไม่มีอะไรครับ  เข้าใจผิดกันนิดหน่อย”  เป็นเพลิงกัลป์ที่ตอบกลับไปเป็นคนแรก  ชายหนุ่มเดินไปหิ้วปีกเจมส์ให้ลุกขึ้นจากพื้นแล้วพยุงเอาไว้  “เพื่อนผมมันเมาครับ  ผมจะพาเพื่อนกลับแล้ว  ไม่ทราบว่าทั้งหมดเท่าไหร่ครับ”

            บริกรรีบส่งบิลมาให้

            “ไม่เป็น  เดี๋ยวเราจัดการเอง”  เมืองแมนพูดขึ้นบ้าง  หางเสียงยังสั่นอยู่แบบควบคุมไม่ได้  รีบล้วงมือหยิบกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาเปิด  “พาเจมส์ไปที่รถเถอะ...ไม่เอาดีกว่า  เดี๋ยวไปด้วย”  เมืองแมนยังไม่มั่นใจว่าถ้าปล่อยให้เพลิงกัลป์พาเพื่อนของเขาออกไปจะเกิดอะไรขึ้นอีก  เขาไม่อยากเป็นกรรมการห้ามมวยหรอกนะ  ถึงจะยังไม่รู้สาเหตุว่าอะไรขึ้นก็เถอะ

            เมืองแมนจ่ายเงินเสร็จก็รีบเดินตามหลังเพื่อนทั้งสองคนออกมา  เพลิงกัลป์กึ่งพยุงกึ่งลากเจมส์เดินดุ่มๆไปที่รถโดยไม่รอเขา  จัดการดันตัวเพื่อนของเขาเข้าไปในที่นั่งตอนหลังสำเร็จ  ชายหนุ่มก็ปิดประตูรถดังปัง

            “...................”  ผู้ชายสองคนยืนมองหน้ากันในความมืดสลัวของที่จอดรถ

            “ไปขึ้นรถ”  เจ้าของรถพูดเสียงห้วน

            “กูจะขับรถเจมส์กลับ”

            “ช่างหัวรถมันเถอะ”

            “เดี๋ยว...มาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน”  เมืองแมนคว้าแขนเสื้อของอีกฝ่ายเอาไว้  “มึงจะต่อยเจมส์ทำไม”  เมืองแมนถามตรงเผง  เขายังตกใจไม่หายที่จู่ๆเพื่อนสนิทที่กอดปลอบกันอยู่ก็ตัวลอยละลิ่วไปอยู่ข้างใต้ร่างสูงใหญ่ของรูมเมทของเขาเอง  แถมฝ่ายนั้นยังกำมือเงื้อหมัดเต็มที่ด้วยหน้าตาถมึงทึงเหมือนไปโกรธใครมาสิบชาติ

            “แล้วมึงกอดกันทำไม”

            “เพื่อนกัน ทำไมจะกอดกันไม่ได้”  เมืองแมนย้อนเสียงห้วนไม่แพ้กัน  “แล้วกูจะกอดกับใครมันไปหนักหัวมึงตรงไหน  ที่มึงไปกับสาวกูยังไม่ว่าอะไรสักคำ”

            คนฟังอ้าปากแล้วก็หุบลง  จากนั้นก็อ้าอีกแล้วก็หุบ  สีหน้าของเพลิงกัลป์ดูเหมือนปลากำลังสะลักน้ำ  มันมีทั้งความโกรธเกรี้ยวประหลาดใจตามมาด้วยความตกใจ   ชายหนุ่มมองหน้าเมืองแมนเหมือนเห็นผี

            “อะไร?”

            “เออ....จบเรื่องนี้ไปเถอะ”  อีกฝ่ายตัดจบแถมทำท่าจะเดินหนีซะงั้น  เมืองแมนไม่ยอมดึงแขนเสื้อเอาไว้ไม่ยอมปล่อย

            “เดี๋ยวสิ  มึงจะไม่มีคำอธิบายให้กับเรื่องนี้หรือไง  ถ้ากูห้ามไม่ทันมึงก็คงต่อยเพื่อนกูงั้นสิ”

            “เป็นห่วงกันมากก็ไปดูแลกันเองเลย”  เพลิงกัลป์ตวัดเสียง

            “งั้นก็ถอยไป  กูจะพาเจมส์กลับเอง”

            “อย่าทำเป็นเก่งเลยน่า  ไปขึ้นรถ  กูง่วงแล้ว...เหนื่อย”  มือแข็งๆคว้าที่ต้นแขนของเมืองแมนแล้วลากไปที่ตอนหน้าของรถ  เพลิงกัลป์เปิดประตูรถออกแล้วรุนหลังอีกฝ่ายให้เข้าไปนั่ง  “คาดเข็มขัดด้วยล่ะ”

            เป็นประโยคที่โคตรไม่เกี่ยวกันชะมัด...เมืองแมนคิดในใจอย่างโกรธกรุ่นขณะที่เอื้อมมือไปดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดเอว  คนขับขึ้นมานั่งข้างๆแล้วสตาร์ทรถ  ได้ยินเสียงกรนคร่อกมาจากด้านหลัง  เพื่อนสนิทของเขาคงหลับสนิทไปแล้วเรียบร้อย

            นั่งคอแข็งมาจนเกือบครึ่งทางถึงเพิ่งสังเกตว่าอีกฝ่ายเลี้ยวรถไปยังทางที่ไม่คุ้นเคย

            “จะไปไหน”

            “..............”  เพลิงกัลป์ไม่ตอบ  ชายหนุ่มขับรถไปเรื่อยๆ  เข้าซอยนั้นทะลุออกซอยนี้  เลี้ยวเข้าถนนเล็กออกถนนใหญ่วนขึ้นสะพานเหมือนไม่มีจุดหมาย  คิ้วเข้มขมวดมุ่นราวกับเจ้าตัวกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก

            “จอดเดี๋ยวนี้”

            “เป็นเจ้านายเหรอมาสั่ง”  เสียงห้าวๆรวนกลับมา

            เมืองแมนเม้มปากแน่น  อยากจะเถียงกลับ  ความโมโหแกมน้อยใจที่อีกฝ่ายทำร้ายเพื่อนตัวเองยังคงอยู่  แต่ประสาทที่ตึงเขม็งกลับสวนทางกับหนังตาที่เริ่มหนักขึ้นอย่างไม่มีสาเหตุ

            ชายหนุ่มใช้มือดันเปลือกตาตัวเอง  ฝืนถ่างตาเอาไว้  ทว่าแอร์เย็นๆที่เป่าอยู่ก็ชวนให้ง่วงนอนเหลือเกิน  ความเหน็ดเหนื่อยที่สะสมมาตลอดทั้งวันทำให้ร่างกายของเขาล้าเต็มที 

            อยากจะพูด  อยากจะเคลียร์กับคนข้างๆให้รู้เรื่องกันไป  แต่ว่า...

            เสียงลมหายใจสม่ำเสมอดังมาจากคนที่นั่งข้างๆ  คนขับเหลือบมองผ่านกระจกแลเลยไปยังข้างหลังที่มีร่างของเพื่อนสนิทเมืองแมนนอนอยู่  นายแพทย์หนุ่มถอนหายใจเฮือก  เลี้ยวรถเข้าข้างทางจอดที่ริมแม่น้ำสายหลักที่ไหลผ่านใจกลางจังหวัด  เปิดกระจกลงให้ลมจากด้านนอกพัดเข้ามา  หวังว่าลมเย็นๆจะช่วยดับอารมณ์ร้อนของเขาได้บ้าง

            ...เป็นบ้าไปแล้วเหรอ?.... คำถามที่เมืองแมนถามเขาดังก้องอยู่ในหูราวกับมีคนมากรอเทปซ้ำ   ช่างเป็นคำถามที่แทงใจเขาเหลือเกิน  เป็นบ้าไปแล้วเหรอ  เพลิงกัลป์  เป็นอะไรกันแน่

            แค่เห็นคนสองคนกอดกัน  ทำไมเขาจะต้องร้อนไปทั้งตัวขนาดนี้  ร้อนชนิดที่อยากจะเผาทำลายทุกอย่างตรงหน้าให้วอดวายกลายเป็นขี้เถ้า  ยิ่งเห็นเมืองแมนปกป้องเพื่อนจนออกนอกหน้าเขาก็ยิ่งโกรธ

            นี่เขาเป็นอะไรไป...

            มึงรู้คำตอบอยู่แล้ว  เพียงแต่ไม่กล้ายอมรับมันเท่านั้น...เสียงเล็กแหลมดังขึ้นจากซอกหลืบในหัวใจของเขา  เพลิงกัลป์ขมวดคิ้วแล้วคลายออก  ทอดสายตามองกระแสน้ำที่ไหลเอื่อยอยู่เบื้องล่าง 

            ไม่...เขาไม่รู้

            ไม่รู้แน่เหรอ...เจ้าเสียงนั้นยังดังขึ้นมาอีก

            ไม่...แน่ใจ

            เสียงยืนยันหนักแน่นของเขากลับอ่อนลงอย่างประหลาด

            ไม่....เขาไม่ใช่พวกรักร่วมเพศ  เขาชอบผู้หญิงมาตลอดชีวิต  ถึงจะเกิดพลาดพลั้งทำผู้ชายคนหนึ่งท้องเข้า  แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะชอบผู้ชายอยู่ดี  แค่นึกถึงกล้ามเนื้ออก  หลังไหล่บึกบึน  กล้ามขากล้ามท้อง ไหนจะหนวดอีก....เขาก็อยากจะอ้วกแล้ว   มันไม่เหมือนร่างอรชรอ้อนแอ้นของหญิงสาวที่มีส่วนเว้าส่วนโค้งเร้าใจเอาเสียเลย  ไหนจะผิวละเอียดขาวผ่อง  แขนขาเรียวบาง  ริมฝีปากสีสดสีเดียวกับยอดทรวงสองจุดบนแผ่นอกเรียบเนียน...

            อกเรียบเนียน...เดี๋ยวนะ  ต้องอกตู้มๆหน่อยสิ  ถึงจะสเป็คของเขา  ให้ตายเถอะ   ภาพของรูมเมทคอยแต่จะแทรกเข้ามารบกวนกันอยู่เรื่อย

            ถ้าสมมุติว่า...แค่สมมุตินะ  ว่าเขาเกิดชอบผู้ชายขึ้นมา

            แล้วมันจะยังไงต่อวะ

            ถ้าบังเอิญว่าผู้ชายคนนั้นเกิดตั้งท้องลูกของเขาด้วย

            โลกต้องแตกแน่ๆไอ้เพลิงกัลป์  พ่อแม่จะต้องด่าแหลก  เพื่อนฝูงคงจะยอมรับไม่ได้  ต้องมีคนเก็บไปล้อกันเป็นที่สนุกสนาน....ถึงจะบอกว่ายุคนี้เป็นยุคที่เปิดกว้างแต่ก็ต้องยอมรับว่ายังมีคนอีกมากที่ยังเห็นเรื่องรักร่วมเพศเป็นเรื่องน่ารังเกียจ  อย่างน้อยก็เขาคนหนึ่งล่ะ  อาจไม่ถึงกับรังเกียจแต่ก็ไม่ได้ชอบ

            จะทำยังไงในเมื่อมัน...ชอบ...ไปแล้ว

            ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือก

            ในที่สุดเขาก็จำต้องยอมรับกับตัวเองหลังจากเฝ้าเพียรปฏิเสธตัวเองมาพักใหญ่นับตั้งแต่เริ่มมีความรู้สึกกังวลแปลกๆกับเมืองแมนตลอดเวลา   ถึงจะพยายามปัดออก  พยายามไม่ใส่ใจแต่สุดท้าย...ดูเหมือนจะหนีไม่พ้น

            เขาคงปฏิเสธตัวเองต่อไปไม่ไหวอีกแล้วว่าอาการที่แสดงออกมาทั้งหมดเมื่อกี้ไม่ได้เกิดจากความหึงหวง  จะอ้างต่อว่าหน้ามืดขาดสติเพราะเป็นห่วงเด็กในท้องของเมืองแมน  มันก็ดูเป็นคำแก้ตัวที่ไม่เข้าท่าเอาเสียเลย

            เลิกโกหกตัวเองได้แล้วเพลิงกัลป์....มึงชอบเมืองแมน  รูมเมทของมึง...คนที่อุ้มท้องลูกของมึงอยู่นั่นแหละ  แต่จะชอบเมื่อไหร่  ชอบได้ยังไง  ก็ไม่รู้เหมือนกัน

            ไม่รู้จะไปหาคำตอบยังไงด้วย  ปลุกเมืองแมนขึ้นมาถามก็คงจะไม่ได้คำตอบ  มีหวังอีกฝ่ายคงหาว่าเขาเพี้ยนไปแล้ว  ไม่ก็อาจจะหัวเราะก๊ากพร้อมกับสมน้ำหน้าเขา 

            หรือว่าเจ้าตัวจะยิ้มจนตาหยีแล้วตอบกลับมาว่าชอบเขาเหมือนกัน

            ตื่นเถอะไอ้เพลิงกัลป์  ชักจะเลอะเทอะไปกันใหญ่แล้ว...

            เมืองแมนขยับตัวแล้วลืมตาขึ้น  เขากระพริบตามองภาพข้างหน้าผ่านกระจกรถครู่หนึ่งอย่างงงๆ  รถจอดสนิทแต่ไม่ใช่หน้าแฟลตหรือหน้าโรงแรมอย่างที่ต้องการ  แต่กลับเป็นริมแม่น้ำสายยาวที่มีเพียงแสงไฟข้างทางมืดๆประกอบฉากเท่านั้น

            “ที่ไหนเนี่ย”  เขาอุทาน  หันไปมองหน้าคนขับที่ซ่อนอยู่ในเงามืด  เห็นเพียงปลายคางรกครึ้มด้วยหนวดเคราเขียว

            “รถเสียเลยจอดพักนิดนึง”   เสียงห้าวๆตอบกลับมา

            “อ้าว  ต้องเรียกช่างมั้ย  แล้วจะกลับยังไงล่ะ”  เมืองแมนตื่นเต็มตาแล้วก็เริ่มกังวล  “ดึกป่านนี้คงไม่มีช่างมาดูให้แล้วมั้ง”  เขาเปิดกระเป๋าควานหานามบัตรของช่างที่เคยเก็บเอาไว้ทว่ามือใหญ่ของอีกคนกลับยึดเอาไว้แน่น  มือของเพลิงกัลป์อุ่นจนเกือบร้อนทีเดียว

            “มีอะไร?”  เมืองแมนพยายามจะดึงมือออก

            “ขอโทษนะ”

            “หืม?”   ตอนแรกก็ตามไม่ทันเพราะมัวแต่คิดเรื่องรถเสีย   ครั้นพอเห็นแววตาคมเข้มที่มองมา  เมืองแมนก็กลับรู้สึกว่าความร้อนจากมือข้างนั้นดูจะแผ่ซ่านขึ้นมายังใบหน้าอย่างรวดเร็ว 

            “กู...ขาดสติไปหน่อย”

            “ขาดไปมากเลยแหละ  โมโหหิวหรือไง”  เมืองแมนพยายามเบนประเด็น  ดึงมือออกจากมืออีกฝ่ายได้สำเร็จ  “ เดี๋ยวกูหานามบัตรช่าง...”

            “ไม่ต้องหรอก...เดี๋ยวก็สตาร์ทติดแล้ว”  พูดไม่ทันขาดคำ  เสียงเครื่องยนต์ก็ดังกระหึ่ม  “ให้ไปส่งเพื่อนของมึงที่โรงแรมก่อนมั้ย”

            “ที่โรงแรมไม่มีใครอยู่เลย  แล้วเจมส์ก็เมามาก  กูกลัวว่าไปอยู่โรงแรมคนเดียวเดี๋ยวจะแย่เอา”  หลังหลับไปตื่นหนึ่ง   อารมณ์ที่ขุ่นมัวในตอนแรกก็ดีขึ้นมาก  ไม่รู้ว่าสัมพันธ์กับสัมผัสอุ่นจัดกับคำขอโทษเมื่อครู่หรือเปล่า

            “เพื่อนมึงเป็นผู้ชายนะครับเผื่อลืม  เมาเละยังไงก็ไม่เป็นอะไรหรอก”

            “ได้ไง  สมัยนี้จะผู้ชายหรือผู้หญิงก็ไว้ใจไม่ได้ทั้งนั้น  ดูอย่างกูสิ...มานั่งอุ้มท้องอยู่นี่ไม่ใช่เพราะเมาเละเรอะ”  เมืองแมนพูดแกมหัวเราะด้วยน้ำเสียงขมขื่น

            เพลิงกัลป์อึ้งไป 

            “งั้นก็พากลับไปค้างที่แฟลตของเราแล้วกัน  เช้าค่อยพาไปส่ง”  เขาตัดสินใจ

            ขับรถมาจนถึงแฟลต  เพลิงกัลป์หิ้วปีกพาเจมส์เข้าไปในห้องพัก   เขายืนยันจะให้แขกนอนที่ห้องของตัวเองแม้ว่าเมืองแมนจะค้านอย่างไรก็ตาม

            “ห้องกูใหญ่กว่าห้องมึง  ให้เพื่อนมึงนอนนี่แหละ”

            “เดี๋ยวนอนห้องกูเอง”

            “ไม่ต้องเถียงแล้ว  ไปอาบน้ำแล้วก็เข้านอนซะ  มันกี่โมงกี่ยามเข้าไปแล้ว”  เพลิงกัลป์พูดเหมือนคนแก่ดุลูกหลานที่เพิ่งกลับจากเที่ยวเล่น  “พรุ่งนี้ก็ต้องตื่นเช้าไปทำงานอีก”

            “แต่..”

            “ไม่มีแต่  ไปอาบน้ำหรือจะให้อาบให้?”  เพลิงกัลป์พูดเสียงแข็ง

            พออีกฝ่ายแข็งเข้า  เมืองแมนเลยต้องจำยอมโดยปริยาย  ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมตัวเองจะต้องทำตามที่อีกฝ่ายสั่งด้วย 

            “ขอเช็ดตัวให้มันก่อน”  เจมส์ยังอยู่ในชุดเดิมพร้อมกับกลิ่นเหล้าคลุ้ง

            “ไม่ต้อง  เดี๋ยวกูจัดการเอง”   เพลิงกัลป์ตัดบท

            เมืองแมนเข้าไปอาบน้ำแล้ว  เจ้าของห้องอีกคนถึงได้หันมาดูแขกไม่ได้รับเชิญที่นอนหมดสภาพอยู่ที่พื้นตรงหน้า  ...เมาเหมือนหมา  น่าจะปล่อยทิ้งเอาไว้ตรงสะพานชะมัด

            เมืองแมนกลับออกมาจากห้องน้ำ  เจอรูมเมทกำลังนั่งหน้าเคร่งอยู่ตรงโต๊ะกินข้าว  ท่าทางเพลิงกัลป์เหมือนคนกำลังตกอยู่ในห้วงความคิดหนัก

            “ไปอาบน้ำสิ”  เมืองแมนพูด  อีกฝ่ายเพียงแต่เหลือบตามอง

            “อืม  ไปแต่งตัวเถอะ”  ฝ่ายนั้นพูด

            “ตกลงมึงจะบอกกูได้หรือยังว่าวันนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”  เมืองแมนถาม  แว่วเสียงอีกฝ่ายถอนหายใจเบาบาง  “มึงมีปัญหาอะไรกับเจมส์  เคลียร์กันสิไม่ใช่มาใช้กำลังแบบนี้”

            “กู...แค่เข้าใจผิดนิดหน่อย”  เพลิงกัลป์ตอบกลับไป  “ไม่มีอะไรหรอก  เข้าห้องไปได้แล้ว”  เขาไล่ซ้ำอีกรอบ

            “เข้าใจผิด?  เกือบต่อยหน้าเพื่อนกูเพราะเข้าใจผิดเนี่ยนะ  เข้าใจผิดว่าอะไร”  แมนพยายามควบคุมอารมณ์  เขาอยากคุยกันด้วยเหตุผลมากกว่า

            “จะถามให้ได้อะไรขึ้นมา”

            “พวกมึงเป็นเพื่อนกูทั้งคู่  กูก็ไม่อยากให้มึงมีปัญหากัน”  เมืองแมนตอบกลับ  เดินเข้าไปใกล้อีกฝ่ายมากขึ้น  มองหน้าฝ่ายนั้นอย่างค้นหาทว่าอีกฝ่ายกลับไม่สบตาเขา  “มีอะไรก็พูดกันตรงๆดิ  ไอ้เจมส์มันเป็นคนใจกว้างนะ  คุยกันตรงๆได้”

            “คำก็เจมส์สองคำก็เจมส์”  เพลิงกัลป์ตอบ  ปิดบังหางเสียงเยาะเอาไว้ไม่มิด  “มันเป็นเพื่อนสนิทมึงหรือเป็นมากกว่านั้นกันแน่”

            “หมายความว่าอะไร”

            “ต้องให้แปลด้วยเหรอ  มึงน่าจะรู้อยู่แก่ใจ”

          “กูรู้แค่มันเป็นเพื่อนสนิทที่กูรักมาก...แค่นั้น”  เมืองแมนตอบเสียงห้วนจัด  “มีแต่คนคิดอกุศลเท่านั้นแหละที่คิดเป็นอย่างอื่น”

            “อกุศล?”  คนฟังทวนคำแล้วหัวเราะออกมา  “รู้หรือเปล่าว่าอกุศลแปลว่าอะไร”

            “แปลว่าคนที่มีความคิดอย่างมึงไง”  เมืองแมนตวัดเสียง  ไม่ทันสังเกตถึงสายตาของอีกฝ่ายที่มองตรงมาที่ส่วนบนของเขาที่ปราศจากเสื้อผ้า

            ผิวขาวเนียนที่เห็นในระยะใกล้ทำให้หัวใจของเพลิงกัลป์เต้นเร็วขึ้นโดยไม่รู้ตัว  หยดน้ำยังเกาะอยู่ตามผิวให้เห็น   รูปร่างผอมบางที่เริ่มมีหน้าท้องปรากฏคาดทับด้วยผ้าเช็ดตัวที่เอว  ดูเหมือนเจ้าตัวจะยังไม่รู้สึกเลยว่าความคิดของเขาห่างไกลจากเรื่องที่กำลังโต้เถียงมากขึ้นทุกที

            มันวนเวียนอยู่กับแอ่งชีพจรตรงลำคอเนียนผ่องที่เต้นตุบๆให้เห็น   ไล่เลยลงมายังแผ่นอกและรอยบุ๋มตรงสะดือ  เพลิงกัลป์กลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ

            “...นี่  ฟังกันอยู่หรือเปล่า  กูตั้งใจจะถามดีๆ  ทำไมต้องโยกโย้ด้วย”

            “ไป...เปลี่ยนเสื้อผ้า”  เขาพูด  พยายามเบนหน้าหนีไปทางอื่น  กำมือแน่น

            “พรุ่งนี้กูจะไปส่งเพื่อนเอง  ไม่ต้องลำบากมึงหรอกนะ”  เมืองแมนตบท้าย  หมุนตัวเดินกลับเข้าไปในห้อง  พอประตูห้องปิดสนิทลง  คนที่นั่งเกร็งอยู่ก็ถอนหายใจเฮือก

            บางทีเขาอาจจะคิดอกุศลอยู่จริงๆ

            .....................................................................................


ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk









            เจมส์จะกลับในเช้าวันถัดมา  เจ้าตัวเอาแต่บ่นว่ามึนหัวแล้วก็โทรเรียกให้ป๊อกมารับ  ไม่ยอมให้เมืองแมนไปส่งที่โรงแรม

            “มึงไปทำงานเหอะแมน  เดี๋ยวไปราวน์ไม่ทันนะ”  เจมส์ไล่เพื่อนไปทำงานอีกรอบ

            “มึงจะกลับแล้วนี่  กูอยากไปส่งมึงก่อน”   เมืองแมนก็ยังไม่ไปเสียที  เอาแต่ละล้าละลัง  อยากไปส่งเพื่อนแต่ก็ต้องไปทำงานด้วย  มองนาฬิกาก็เกือบแปดโมงเช้าแล้ว  รูมเมทเปิดประตูออกมาจากห้องส่วนตัวพอดี  คิ้วเข้มเลิกขึ้นมองหน้าทั้งสองคนแทนคำถาม

            “เจมส์จะกลับแล้ว  กูจะไปส่งที่โรงแรม”

            “ไม่ต้องไป  กูไปเองได้  ไม่ใช่เด็กเล็กๆนะไอ้แมน”  เจมส์พูดขึ้น  “มึงรีบไปทำงานเหอะ  ได้ข่าวว่าลาเยอะจนเวลาจะไม่ครบไม่ใช่เหรอ  ขืนมึงขาดอีกวันล่ะก็ได้วนซ้ำใหม่แหงๆ”

            “เออๆกูไปก็ได้   ดูแลตัวเองด้วยนะมึง  ไว้มีอะไรก็โทรมาได้”

            “มึงก็ดูแลตัวเองเหมือนกัน  เจอกันที่งานรับปริญญานะ”  เจมส์พูด  กางแขนออกกว้างเหมือนจะกอดแต่แล้วก็เปลี่ยนใจเป็นล้วงกระเป๋ากางเกงแทน  “ต้องมาถ่ายรูปหมู่ให้ครบนะ  ห้ามขาดห้ามลาห้ามตาย”  เขาพูดแกมหัวเราะ

            “เจอกันเพื่อน”  เมืองแมนโบกมือให้พลางรีบใส่รองเท้าแล้วเดินออกไปจากห้อง

            คนที่ยืนนิ่งดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขยับตัว  เดินไปเปิดตู้เย็น  หยิบนมกล่องขึ้นมาดื่ม

            เกิดความเงียบขึ้นภายในห้องพัก  ต่างคนต่างลอบสังเกตท่าทางของอีกฝ่ายเงียบๆ  เพลิงกัลป์ถอยไปยืนคุมเชิงที่ประตูห้อง  เลิกคิ้วมองแขกของรูมเมทตนเองนิ่งๆ

            “มึงมีเรื่องจะคุยกับกูใช่มั้ย”  เจมส์เป็นฝ่ายโพล่งขึ้นมาก่อน  “ความจริงกูต้องเป็นฝ่ายถามมึงมากกว่าว่าเมื่อวานมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่  ถึงกูจะเมามากแต่ก็ยังรู้สึกตัวอยู่นะ   รู้ด้วยว่ามีคนคิดจะต่อยกู   กูกับมึงไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน  จู่ๆมาทำแบบนี้ต้องมีสาเหตุ  ถ้ามึงแมนพอก็พูดออกมาตรงๆ เคลียร์กันไปเลยก่อนที่กูจะกลับเนี่ย”

            “..............”  เพลิงกัลป์ยักไหล่ตอบด้วยท่าทางที่แสนจะขัดตาคนมอง  เจมส์บอกตัวเองว่าหมั่นไส้ท่าทางมั่นอกมั่นใจของอีกฝ่ายชะมัด

            “มึงตอบกูมาตามตรงนะ  มึงชอบเพื่อนกูใช่มั้ย”  เขาตัดสินใจดับเครื่องชน  “กูสังเกตมาสองวัน  ถ้าไม่ตาบอดก็ต้องเห็น  เมื่อวานที่มึงจะต่อยกูก็เพราะหึงไอ้แมน”  เขาสังเกตเห็นตั้งแต่วันแรกแล้ว  สายตาที่มองมายังเพื่อนของเขา  ไหนจะตามไปรับกลับมาจากโรงแรมกลางดึกอีก  ...ไม่มีทางเป็นรูมเมทธรรมดาๆแน่

            “ใช่”  ฝ่ายนั้นกลับตอบรับหน้าตาเฉย  ง่ายดายผิดคาดจนคนถามงง

            “แล้ว..?”

            “แล้ว?”  เพลิงกัลป์ยิ้มมุมปาก  “กูชอบเพื่อนมึง  ก็เป็นเรื่องของกูกับเพื่อนมึง  ไม่ใช่เหรอ  หรือว่าเป็นเรื่องของมึงด้วย”

            “แมนไม่เคยมีใคร”  เจมส์พูดเรียบๆ  “มันใช้ชีวิตในกรอบของที่บ้านมาตลอด   ถ้ามึงคิดจะจีบแมนล่ะก็  บอกเลยว่ายาก”

            “แล้วไง  กูไม่สนอยู่แล้ว”

            “กูรักแมนมาก  เป็นห่วงมันในฐานะเพื่อนคนหนึ่ง  กูไม่อยากให้มันเสียใจ”   คนพูดถอนหายใจ  “กูพอรู้ชื่อเสียงของมึงอยู่บ้าง..เพลิงกัลป์  ถ้ามึงคิดจะ ‘เล่นๆ’ กับเพื่อนกู  กูคงยอมไม่ได้”  หางเสียงของเจมส์แข็งกร้าวขึ้น  “ถ้าแมนเสียใจเพราะมึงล่ะก็  มึงได้เห็นดีกัน   เพื่อนกูเป็นคนจริงจัง  ถ้ารักใครก็คงรักจริง  เทียบกับมึงแล้วคงเป็นคนละแบบ  กูไม่อยากให้มึงเข้ามายุ่งกับเพื่อนกู   กูไม่อยากให้เพื่อนกลายเป็นของเล่นของใคร”

            “กูไม่เคย ‘เล่นๆ’ กับเมืองแมน”  เพลิงกัลป์พูด

            เจมส์พิศดูแววตาคมเข้มของคนพูด  เห็นแววหนักแน่นจริงจังตามที่พูดมา

            “กูไม่เชื่อมึงจนกว่าจะพิสูจน์ด้วยการกระทำ  แต่พนันได้เลยว่าไม่เกินสามเดือน   ถึงวันนั้น...มึงเตรียมตัวนอนโรงพยาบาลหยอดน้ำข้าวต้มได้เลยเพลิงกัลป์”

            เพื่อนของเมืองแมนออกไปจากห้องแล้ว  เพลิงกัลป์พ่นลมหายใจออกมาแรงๆ  ...หยอดน้ำข้าวต้ม?   เหอะ  ไม่มีทาง

            คนอย่างเพลิงกัลป์  ทำอะไรทำจริง

            ถ้ายอมรับกับใจแล้วว่าใช่...เป็นไงเป็นกัน

            ชายหนุ่มออกไปทำงานตามปกติ  วุ่นวายอยู่บนวอร์ดจนบ่ายจัดถึงได้ยินเรื่องซุบซิบจากพยาบาลดังเข้าหู  เป็นเรื่องอื่นที่ไม่ใช่ข่าวลือเรื่องเขาทำผู้หญิงท้อง

            เรื่องผี

            “พี่นวลที่อยู่พิเศษชั้นห้าเขาก็ได้ยินเสียงนะพี่  เป็นเสียงผู้ชายร้องไห้  ได้ยินตอนประมาณตีสาม  แถมยังมีเสียงทุบกำแพงหรืออะไรประมาณนี้อีกนะ  หนูละกลั๊วกลัวว่าจะเป็นผีนักโทษที่เขาว่ากัน”

            “ผีที่ไหนหรอครับ”  เพลิงกัลป์หูผึ่ง  เข้าไปร่วมวงด้วย

            “ผีที่ตึกพิเศษค่ะหมอ  หมออยู่เวรดึกๆกลางคืนระวังนะคะ  ไม่รู้เคยได้ยินเสียงบ้างหรือเปล่า  ช่วงนี้เขาได้ยินกันทุกคืนเลย”

            เพลิงกัลป์นั่งฟังพี่พยาบาลพูดกันอยู่พักใหญ่  คิดว่าคงเป็นเรื่องเล่าประจำวันแก้เบื่อเหมือนทุกทีเลยไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมาย  ทว่าข่าวลือเรื่องผีที่ห้องพิเศษชั้นห้านั้นกลับไม่จางหายไปเหมือนข่าวลืออื่นๆ เป็นเพราะยังมีคนได้ยินเสียงปริศนานั้นอยู่เรื่อยๆ

            “เคยได้ยินเรื่องผีที่ชั้นห้าพิเศษมั้ย”  จู่ๆเมืองแมนก็พูดขึ้นในวันหนึ่ง  ขณะที่กำลังจะออกไปทานข้าวเย็นกัน   

            “เคยได้ยินอยู่เหมือนกัน  ทำไมเหรอ”  เพลิงกัลป์ตอบกลับมา  ท่าทางไม่สนใจนัก  “วันนี้ร้านราดหน้าปิด  อยากกินอย่างอื่นอีกหรือเปล่า”  เขาถามเรียบเรื่อย   เลี้ยวรถออกมาจากหน้าร้านราดหน้าเจ้าประจำที่คนข้างๆบ่นอยากกิน  เป็นเรื่องปกติไปแล้วที่เขาจะทำหน้าที่เป็นสารถีพาเมืองแมนไปกินข้าวเช้า กลางวัน เย็น  บางทีก็มีมื้อดึกด้วยแล้วแต่ถ้าอีกฝ่ายเกิดหิวขึ้นมา 

            “กินอะไรก็ได้”

            “งั้นไปกินบะหมี่”

            “ไม่อยากกิน  เบื่อ”

            “กินข้าวมันไก่มั้ย”       

            “วันก่อนเพิ่งกิน”

            “งั้นกินก๋วยเตี๋ยวเรือ”

            “มันเผ็ดอ่ะ  ร้านร้อนด้วย”

            “ไหนบอกว่ากินอะไรก็ได้ไง”  เพลิงกัลป์อุทานฉุนๆแกมขัน  “อันนี้ก็ไม่เอา อันนั้นก็ไม่เอา”

            เมืองแมนเลยหัวเราะออกมา

            “จริงด้วยแฮะ  ไม่รู้ตัวเลย  ขอโทษนะ”   เมืองแมนยกมือขึ้นเกาจมูก  “ให้มึงเลือกแล้วกัน”

            “เดี๋ยวเลือกแล้วก็ไม่ถูกใจ  ไม่ยอมกิน  นั่งเขี่ยช้อนอีก”   เพลิงกัลป์ย้อนอย่างรู้ทัน  “คราวที่แล้วกูต้องนั่งกินคนเดียวสองชาม  แถมยังต้องพาไปกินร้านใหม่  เสียเวลาสองต่อ”

            “ทำไมมึงเป็นคนตามใจเพื่อนจังวะ”   เมืองแมนคิดตามแล้วก็ปรารภออกมา   

            “แค่บางคนเท่านั้นแหละ”

            “เป็นเพราะกูท้องลูกของมึงเหรอ”

            “ก็มีส่วน”  เขายอมรับ

            “แล้วตอนที่มึงจีบสาว  มึงตามใจเค้าแบบนี้มั้ย  หรือว่ามากกว่า”

            “ก็ขึ้นกับว่าถูกใจมากน้อยแค่ไหน”  เพลิงกัลป์เลี้ยวรถเข้าไปจอดหน้าร้านข้าวต้มกุ๊ยร้านโปรดของเมืองแมน  “กินข้าวต้มแล้วกันนะ  เบาๆดีได้หลับสบาย”

            ...แล้วแบบนี้เรียกว่ามากหรือน้อยเหรอ...จู่ๆเมืองแมนก็นึกสงสัยขึ้นมาในใจ

            “ไอ้เพลิง  ไอ้แมน  ทางนี้”

            เสียงเรียกดังมาจากโต๊ะข้างในสุดของร้าน  เมืองแมนพบว่ามีเพื่อนๆอินเทิร์นหนึ่งจับจองโต๊ะกันอยู่ก่อนแล้วเกือบเต็ม  ทุกคนมีถ้วยข้าวต้มและกับข้าววางตรงหน้าเรียบร้อย  คงมาถึงก่อนพวกเขาสักพักแล้ว

            “ลมอะไรหอบมาเจอกันได้  เดี๋ยวนี้ตอนเย็นพวกมึงหายหัวเลยนี่หว่า  ไม่มาเจอเพื่อนเจอฝูง”  โย่งทักทาย

            เพลิงกัลป์เบี่ยงตัวหลบให้เมืองแมนขยับเข้าไปนั่งข้างในจะได้ไม่มีใครเดินชน  ชายหนุ่มเลื่อนเก้าอี้ให้รูมเมทนั่งก่อนเหมือนทุกครั้งเวลาไปทานข้าวด้วยกัน  เขายกมือเรียกบริกรมาสั่งอาหารเพิ่มอีกสองสามอย่างโดยไม่ต้องถามเมืองแมนเลยสักคำเพราะจำเมนูโปรดของอีกฝ่ายได้ดี

            ไม่รู้ตัวเลยว่าอยู่ในความจับสังเกตของใครบางคนอยู่เงียบๆ

            “เดี๋ยวนี้ตัวติดกันจังนะ  ทั้งคู่เลย”  หวานพูดขึ้นยิ้มๆ  “แมนหายดีแล้วใช่มั้ยเอ่ย”

            “หายดีแล้วล่ะ”

            “ดีแล้วล่ะ  ไม่ต้องกินยาอะไรแล้วใช่มั้ย”

            “ก็มีบ้าง  ถ้ามีอาการ”   เมืองแมนตอบอย่างระมัดระวัง  อดรู้สึกแปลกๆไม่ได้กับแววตาของหวานที่มองมายังเขา

            “ไม่ใช่อะไร  วันก่อนบังเอิญเห็นใบยาของแมนในห้องคุณเภสัชเลยงง  คงชื่อเหมือนกันล่ะมั้ง”  หญิงสาวพูดแล้วเปลี่ยนเรื่อง  “อาทิตย์หน้าต้องฝากด้วยนะ  เราไปรับปริญญา”

            มหาวิทยาลัยของหวานรับปริญญาก่อนทุกคนในโต๊ะ  บทสนทนาเปลี่ยนไปเป็นเรื่องของการเตรียมตัวรับปริญญาแทน  ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่และวุ่นวายกว่าที่เมืองแมนคาดคิดเอาไว้

            “หวานจองช่างภาพไว้แล้ว  จองช่างแต่งหน้าแล้วด้วย  เหลือแค่ชุดตอนงานเลี้ยงบายเนียร์  ยังหาไม่ได้  กลัวแต่จะอ้วนขึ้นเนี่ยสิ”

            “กำลังพอดีแล้วครับ”  โย่งรีบเสริม

            “มีเวรที่ต้องแลกอีก  มีใครสนใจอยู่เวรแทนเรามั้ย”

            “ลองถามไอ้เพลิงดู  มันชอบอยู่เวรแทนเพื่อน”

            “กูอยู่แทนแมนคนเดียว”  เพลิงกัลป์พูดเรียบๆ  “ลองถามคนอื่นดู”

            “นี่ถ้าแมนเป็นผู้หญิง  เราจะสงสัยแล้วนะเนี่ยว่าคู่นี้มีอะไรกันหรือเปล่า”  หวานพูดทีเล่นทีจริง  “พี่พยาบาลยังบอกเลยว่าหมอเพลิงดูแลเพื่อนดี๊ดี  ตามใจทุกอย่าง”

            “ผมก็ดูแลเพื่อนๆเท่ากันหมดแหละครับ”   เพลิงกัลป์ตอบเลี่ยง   “พอดีไอ้แมนมันอยู่ด้วยกันตลอด  ก็เลยเหมือนมากกว่าคนอื่น”

            “ค่อยยังชั่ว  นึกว่าหมอเพลิงสุดหล่อเปลี่ยนเป้าหมายไปเสียแล้ว  ไม่งั้นสาวๆคงเสียใจแย่”   เพื่อนล้อเลียน

            เมืองแมนวางช้อนลงกับถ้วย รู้สึกอิ่มเอาดื้อๆ

            กว่าทุกคนจะจัดการอาหารตรงหน้าหมดก็เกือบครึ่งชั่วโมงต่อมา  เมืองแมนกลับออกมาจากร้านพร้อมกับทุกคน  แยกย้ายกันกลับเหมือนขามา  ชายหนุ่มเดินเงียบจนเพลิงกัลป์เหลือบมอง

            “รออยู่ตรงนี้ก่อนนะ”  เพลิงพูด  ก่อนจะแวบหายไปในกลุ่มฝูงชนในตลาด  สักพักก็กลับมาพร้อมกับถุงใส่ขนมเบื้องในมือกับโอเลี้ยง  “ขนมเบื้องน่ากิน   ลองกินดูสิ  ถุงนี้โอเลี้ยง”  เขายื่นถุงเครื่องดื่มบรรจุน้ำสีดำเข้มให้

            เมืองแมนรับไปถือเอาไว้  ไม่ได้กิน

            อันที่จริงเขาก็บอกไม่ถูกว่าตัวเองเกิดเป็นอะไรขึ้นมา  โทษอารมณ์แปรปรวนของคนท้องก็แล้วกันนะ  รู้สึกผิดหูผิดตาไปหมด

            “อร่อยนะ  ลองกินดู”   เพลิงกัลป์พูดขึ้น  มองหน้าเขา  พอเห็นนิ่งก็พูดขึ้นลอยๆ   “ตามใจกับเอาใจมันไม่เหมือนกันหรอกนะ   เราอาจจะตามใจใครก็ได้  อาจจะเพื่อตัดรำคาญหรือว่าขี้เกียจคิด”  ชายหนุ่มหยิบขนมเบื้องชิ้นเล็กน่ากินออกมาจากถุง   ยื่นมาจนเกือบชิดริมฝีปากของเขา  “แต่เอาใจมันต้องใช้อะไรมากกว่านั้น  เพราะมันมาจากคำว่าเอาใจใส่ไง”

            เมืองแมนเม้มปาก   

            “เอาใจขนาดนี้แล้ว  ยังไม่รู้ตัวอีกเรอะ”   พูดจบแล้วเพลิงกัลป์ก็ยิ้มใส่ตาของเขา

            คนฟังอ้าปากค้าง  อีกฝ่ายได้ทีเลยส่งขนมเบื้องเข้าปากแล้วพาจูงมือข้ามถนนมาอีกฝั่งหนึ่งที่รถจอดอยู่

            ............................................................................................

            มาอัพต่อแล้วจร้า

            เอาแล้วไงพ่อเพลิง  เป็นไงเป็นกันนาจา

            ตอนนี้พ่อคงเข้าใจว่าตัวเองชอบเมืองแมนเข้าแล้ว

            แต่คงยังไม่ถึงขั้นรักหรอกนะชั้นว่า  พ่อคนความรู้สึกช้า

            อย่างน้อยก็ยังเร็วว่าหมอแมนคนดีที่หนึ่งของชั้นล่ะนะ5555

            เจอกันตอนหน้าค่ะ

            #แฟนหมอแมน

             

           

           

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1678
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
ยอมรับความจริงไปแล้วหนึ่ง ทีนี้ก็เหลือน้องแมน :katai1:

ออฟไลน์ แม้วธวัลหทัย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
เตงจะมาต่อตอนต่อไปให้เค้าพน.เลยใช่มั้ยคะ? 555555555

ไปหวีดในทวิตแปบบบบบ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
คงจะมีคนจับสังเกตได้อีกเยอะเลยล่ะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ตอนนี้ยังไม่หมั่นใจว่าชอบแมน ก็จะไปต่อยเจมส์เลย ถ้ารู้ว่าชอบว่ารัก คงถีบเจมส์กระเด็นไปให้ห่างแมนแล้วล่ะ  :katai3:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
เอาแล้วๆ เริ่มแล้วๆ เหลือก็แต่แมนนี่แหล่ะที่ยังไม่รู้ใจตัวเอง

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
แน่ใจขนาดนี้ ดับเครื่องชนเลยค่ะหมอเพลิง

ออฟไลน์ pktherabbit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ปรบมือสิคะจะมัวรออะไร

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1915
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
น้ำหวานนี่ชอบยุ่งจริง

ออฟไลน์ aurusma

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2
จัดไปชุดใหญ่เลยนะเพลิง รู้ใจตัวเองแล้วอ่ะ

ออฟไลน์ ciaiwpot

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
พ่อเดินหน้าเต็มที่ ยอมรับว่าชอบแล้ว
ลุย

ออฟไลน์ T_TARS

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
บอกไปเลยว่าหวงเมียหวงแม่ของลูก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ fannan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-6
โอ้ยพี่เพลิงหวานมาก รออ่านตอนต่อไปค้าบ

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
เพลิงควรรุกจีบแมนนะ  คุยให้เข้าใจลูกจะได้อบอุ่น

รอตอนต่อไปค่ะ อยากเห็นอะไรหวานๆ :3123:

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
แหม..หมอเพลิง เดินหน้าใหญ่เลยนะ
ขอบคุณเจมส์ที่ทำให้เพลิงรู้ใจตัวเอง
แมน ก็เล่นตัวหน่อยนะ อย่าให้อีกคนได้ใจ
 :really2: :really2:

ออฟไลน์ janny_j

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
โอ้ยยยยยย หมอเพลิงขาาา บทจะรู้ใจตัวเองก็รุกสุดๆเลย ที่แล้วๆมาเราให้อภัยหมอเพลิงหมดเลย ถ้าจะแสดงออกตรงๆขนาดนี้ ลุยค่ะ ไม่ต้องกลัวใคร เราจัดการให้เอง

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
โอ้ยยยยหมอเพลิงงงงกว่าจะยอมรับได้ว่าชอบเรานี่ก็นั่งลุ้นจนเกร็งไปหมด อย่างน้อยก็โล่งใจไปนิดนึงว่าหลังจากนี้หมอเพลิงจะทำอะไรคงคิดถึงแมนนิดนึงบ้างแล้วแหละ ยิ่งเดินหน้าจีบขนาดนี้ยิ่งน่าลุ้นหน่อย หมอแมนก็ยอมรับเร็วๆเถอะนะรู้ใจเร็วๆ

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
อุ้ยยย ทำไมรู้สึกว่าขยันหยอด
ดีแล้วล่ะ พอรู้ตัวจะได้ชัดเจนสักทีเนอะ สู้ๆ เอาใจช่วยทั้งคู่เลยยยย

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
เริ่มรุกแล้วคุณพ่อ ทำดีมากค่ะตอนนี้

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เพลิง รู้ตัวซะทีว่าชอบแมน   :mew1:
เหลือแต่แมน แล้วที่ยังไม่รู้ตัว :hao3:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ aha_aha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
สนุกๆ ชอบเรื่องนี้จัง ^^

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด