Internal Love
ตอนที่ 40
If nothing lasts forever,
Will you be my nothing?
“แมนยังไม่ตื่นหรอลูก” แม่ยายถามเขาเสียงอ่อนด้วยความเป็นห่วงลูกชาย เพลิงกัลป์ตอบกลับไปยิ้มๆ
“ตื่นแล้วครับ กำลังอาบน้ำ”
“ดีแล้วล่ะ แล้วเป็นอย่างไรบ้าง ปรับความเข้าใจกันได้หรือยัง แมนดีขึ้นไหม” เธอถามต่อ
“อ๋อ” ชายหนุ่มยิ้มกว้างกว่าเก่า “น่าจะดีขึ้นแล้วนะครับ เมื่อคืนก็คุยกันแล้ว” เขาละไว้ไม่อธิบายว่า 'คุยกัน' อิท่าไหน
“ค่อยยังชั่วหน่อย แม่ก็เป็นห่วงแมน นอนไม่หลับเลย”
“คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงครับ ผมจะดูแลแมนเอง แต่คงต้องฝากคุณแม่ดูแลหนูพริมก่อนช่วงนี้”
“สบายมาก แม่กับคุณเพตราแล้วก็คุณป่านคุณอุ้มช่วยกันดูได้ พวกหนูจะไปเที่ยวพักผ่อนที่ไหนก็ไปเถอะจ้ะ” เธอโบกมือ “ไว้แมนสบายใจแล้วค่อยกลับมา”
“เดี๋ยวผมถามแมนก่อน ถ้าเขาอยากไปค้างบ้างก็จะพาไป ไม่งั้นก็เที่ยว กล้ๆแถวนี้แหละครับ” เพลิงกัลป์ตอบ
“ไปเถอะลูก ตามใจเขาหน่อย” คนเป็นแม่เออออ คุยกันอีกครู่หนึ่งลูกชายก็ขอตัวไปดูคนรัก
พอเปิดประตูเข้าไปในห้องก็เจอร่างบอบบางกำลังนอนตะแคงอยู่บนเตียง ใบหน้ารูปหัวใจงอง้ำ พอเห็นหน้าเขาก็ทำท่าจะพลิกตัวหนีทันที ติดตรงที่ความปวดปลาบที่ช่วงล่างทำให้ขยับไม่ได้ดั่งใจ
“ยังไม่อาบน้ำอีก จะไปเที่ยวหรือเปล่า?” เพลิงกัลป์ทัก
“จะอาบไหวได้ไงเล่า ทำเราซะ. .” เมืองแมนหน้าแดงซ่านลงมาถึงช่วงอก สัมผัสเมื่อคืนยังทิ้งความวาบหวามเอาไว้ในความรู้สึกพอๆกับอาการเจ็บปวด “ยังมีหน้ามาถามอีก ถุงก็ไม่ยอมใส่” พอพูดมาถึงตรงนี้ ขอบตาก็ชักร้อนผ่าว เมืองแมนเบะปากปล่อยโฮออกมา “ถ้า…ถ้า ฮึก ถ้าถ้ากู ท้องอีก จะทำยังไงฮึ ฮือ”
เพลิงกัลป์ถอนหายใจเฮือก ก้าวยาวๆเข้าไปหา ก้มลงสวมกอดอีกฝ่ายเอาไว้แน่น
“เพลิงขอโทษ เพลิง…ลืมตัวไปหน่อย แต่หลังจากนั้นเพลิงก็ใส่ตลอดนา” เศษซากอารยธรรมถุงยางในถังขยะเป็นพยานได้
เมืองแมนดันตัวออกอย่างโกรธๆ
“ฮึ…มันก็ไม่ทันแล้ว มันไม่ทันแล้วไง” ความเหนียวเหนอะหนะเมื่อคืนทำให้เขามั่นใจว่าพลาดเข้าจนได้
“ครั้งเดียวไม่ท้องหรอกน่า” คนรักปลอบใจ ไม่มีความมั่นใจอยู่ในน้ำเสียงเลยเพราะรู้ดีว่าคราวหนูพริมก็คืนเดียวเท่านั้น
“ถ้าท้องนะ” เมืองแมนสูดน้ำมูก
“ก็เลี้ยงไง ดีออกหนูพริมได้มีเพื่อน”
“เพื่อนอะไรเล่า กว่าจะคลอดได้เกือบตาย” เมืองแมนทุบอกคนรักหลายตุ้บระบายความแค้นเคือง ทำอะไรไม่รู้จักคิดก่อน ไร้สติจริงๆ
“โอ๋ ทุบอีกกี่ทีก็ได้ เพลิงจะขอทำคืนแค่ครั้งเดียว” ดวงตาคมเข้มแพรวพราว เมืองแมนเลยบิดเนื้อที่ต้นแขนอีกฝ่ายเต็มแรง
“ออกไปเลยนะ ไม่ต้องมาให้เห็นหน้า” เมืองแมนถลึงตาใส่
“ล้อเล่น เพลิงขอโทษนะครับ อย่าโกรธเพลิงเลยนะ” เพลิงกัลป์พูดเสียงอ่อนแกมออดอ้อนอยู่ในที ซ่อนยิ้มเมื่อเห็นว่าท่าทีอีกฝ่ายเริ่มอ่อนลง “ไปอาบน้ำไม่ไหวใช่มั้ย เดี๋ยวเพลิงช่วย” พูดจบก็ช้อนตัวอีกฝ่ายขึ้นมาในวงแขน อุ้มพาไปห้องน้ำ เมืองแมนตัวเล็กอยู่แล้วยิ่งมากินไม่ได้อีกเลยยิ่งผอมซูบไปกันใหญ่
“ปล่อยนะ จะเดินเอง” คนพูดพูดไปอย่างนั้นเอง เดินไหวเสียก็ดี ปวดสะโพกร้าวไปหมดเเล้ว เพลิงกัลป์วางร่างคนรักไว้ในอ่างอาบน้ำแล้วช่วยถอดเสื้อคลุมตัวยาวออกอย่างคล่องแคล่ว จะไม่คล่องได้อย่างไรในเมื่อตัวเขาเป็นคนใส่ให้เองเมื่อคืน
เมืองแมนนั่งหน้าบูด ดูไปดูมาก็เหมือนหนูพริมตอนเบะปากร้องหิวนมไม่มีผิด
“เจ็บ”
“เดี๋ยวดูให้ คุกเข่าหน่อยสิ” เพลิงกัลป์พูดเสียงขรึมเอาการเอางานเพราะกลัวคนรักอาย เมืองแมนอิดเอื้อนนิดหน่อยก่อนจะยอมหันหลังให้เขาดูให้
ร่องรอยของความรักเมื่อคืนยังปรากฏอยู่เห็นได้ชัด ความบวมแดงและรอยถลอกเขียวช้ำรอบๆทำให้คนทำรู้สึกผิด เมื่อคืนตอนที่พามาล้างตัวยังไม่ชัดขนาดนี้ เห็นทีคงต้องหายาแก้อักเสบมาให้กินคู่กับยาคุมฉุกเฉินเสียแล้ว
“บวมนิดหน่อย” เพลิงกัลป์บอกเจ้าของ “นิดเดียว ไม่น่ากลัวอะไร” เขาปลอบใจ กลัวอีกฝ่ายใจเสีย ยิ่งเป็นพวกขี้กลัวอยู่ด้วย
“นิดเดียวแน่นะ ทำไมเจ็บอ่ะ”
“ก็คงมีเคล็ดๆบ้าง นอนลงมาเดี๋ยวนวดให้” เขาเสนอแต่อีกคนยังมองอย่างระแวง
“แค่นวดแน่นะ”
“ด้วยเกียรติของลูกเสือเลย นวดเฉยๆจริงๆ” เพลิงกัลป์ยืนยัน
กว่าจะอาบน้ำฟอกสบู่ แช่น้ำอุ่นนวดเนื้อนวดตัวอีกฝ่ายเสร็จก็เกือบสองชั่วโมง เพลิงกัลป์ปวดหนึบตรงกลางตัวจนต้องพาร่างขาวนุ่มมือนั้น ออกมานอกห้องน้ำก่อน
“ไปไหน?” เมืองแมนงง จู่ๆก็โดนอุ้มออกมาวางที่เตียงเฉย
“กูปวดท้อง สงสัยท้องเสีย มึงแต่งตัวไปก่อนนะ ถ้าแต่งไม่ไหวก็รอก่อน” เพลิงกัลป์พูดเร็วปรื๋อ ผลุบกลับเข้าไปในห้องน้ำครู่ใหญ่ถึงได้กลับออกมา
เจอเมืองแมนนั่งหวีผมอยู่ที่หน้ากระจก หน้าตาสดชื่นแจ่มใสขึ้นมาก
“อยากไปเที่ยวที่ไหน คิดไว้แล้วหรือยัง”
“ไม่อยากไปไหน อยากอยู่กับลูก” เมืองแมนตอบกลับมา
“ลูกเบื่อหน้าจะแย่แล้ว ให้หนูพริมอยู่กับย่ายายบ้าง เอ้า คิดเร็วๆ ไม่งั้นจะพาไปดูแม่คะนิ้งนะ” เพลิงกัลป์อมยิ้ม
คนฟังค้อนขวับตาเขียว
“ไม่ไป!”
เพลิงกัลป์หัวเราะชอบใจ
“คิดช้า เดี๋ยวจะพาไปอีกรอบ” ชายหนุ่มเดินเข้าไปหา ร่างเล็กผุดลุกขึ้นยืนรีบขู่ฟ่อ
“ถ้าเข้ามาจะโกรธจริงๆด้วย”
“จะไปเปลี่ยนชุดเอง” เพลิงกัลป์โอดครวญ “ทำเป็นกลัวไปได้ ทีเมื่อคืนล่ะก็….เพลิง..เอาอีก เร็วอีก..” ชายหนุ่มบีบเสียงให้เล็กลงเลียนแบบเสียงของเมืองแมนอย่างน่าหมั่นไส้ “โอ๊ย!!”
เมืองแมนต่อยเข้าที่หน้าท้องแข็งๆนั้นเต็มแรง หน้าร้อนจัดถึงใบหู อายจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนี ก็ใครกันล่ะที่แกล้งจนทำให้เขาต้องหลุดคำพูดบ้าบอแบบนี้ออกมา
“หยุดเอาเรื่องเมื่อคืนมาพูดได้แล้ว”
“นั่นสิ พูดเรื่องคืนนี้และคืนต่อจากนี้กันดีกว่า” เพลิงกัลป์พูดหน้าตาเฉย
“จะไม่มีคืนต่อไปแน่ จนกว่าจะแน่ใจว่ากูไม่ท้อง” เมืองแมนพูดเสียงเข้ม ตีมืออีกฝ่ายที่ยื่นมาแตะเอวดังเผี้ยะ
“ไม่ท้องหรอก ยาก็กินแล้ว อีกอย่างมึงยังให้นมลูกอยู่ โอกาสท้องน้อยมาก”
“กูไม่ได้มีนมเยอะเหมือนเมื่อก่อนนี่ เกิดท้องขึ้นมาอีกจะทำไง” เมืองแมนยังกังวล “กูไม่อยากมีลูกแล้ว”
“กูเข้าใจ” เพลิงกัลป์พูดเรียบๆ “กูก็ไม่อยากให้มึงมีแล้วเหมือนกัน มีลูกคนนึงเกือบตาย”
เมืองแมนรู้สึกดีขึ้นที่อีกฝ่ายเข้าใจ แต่ก่อนเขาคิดมาตลอดว่าเพลิงกัลป์อยากมีลูกอีก ในขณะที่เขายังไม่พร้อมเลย แค่ลูกสาวคนเดียวยังทำท่าจะเลี้ยงไม่รอด
“อยู่เลี้ยงหนูพริมคนเดียวก็พอแล้ว” เพลิงกัลป์พูดเนิบๆ ก้มลงมาจุมพิตเขาที่หน้าผาก “แค่นี้กูก็ไปไหนไม่รอดแล้วแมน อยู่กันสามคนพ่อแม่ลูกนะครับ”
“เหอะ ทำมาพูด แล้ววันก่อนนั้นคืออะไร …เบื่อเป็นเสือ อยากเป็นเหยื่ออะไรนั่น” เมืองแมนพูดเสียงขึ้นจมูก ทั้งน้อยใจทั้งโกรธ
“อ๋อ” เพลิงกัลป์หัวเราะหึๆ “ก็บอกแล้วไงว่าไม่มีอะไร แคปชั่นเรื่ิอยเปื่อย….นี่อย่าบอกว่าหึงจริงนะ”
“ไม่ได้หึง แค่…แบบ..” เมืองแมนส่ายหน้าหวือ อึกอักในคอ “มันไม่สบายใจ” เจ้าตัวพูดเสียงเบา ซุกหน้าลงกับอกของเขา
เพลิงกัลป์หัวเราะ เอ็นดูคนพูดจนอยากจะจับอีกฝ่ายเคี้ยวกลืนลงท้องเสียเลย เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดกล้องถ่ายรูป
“ไหนขอดูหน้าหน่อยซิ ดีมาก ยิ้มหน่อยเร็ว เดี๋ยวเขานึกว่ากูหลอกเด็กมาปล้ำนะ” เมืองแมนยู่หน้า แต่สุดท้ายก็ส่งยิ้มให้กล้อง เพลิงกัลป์เซลฟี่เสร็จแล้วก็ส่งโทรศัพท์มาให้เขา “ตั้งแคปชั่นให้หน่อย จะอัพเฟส”
“เฟสใครก็ตั้งเอาเองสิ” เมืองแมนส่ายหน้า รู้สึกหัวใจพองโตชอบกล
“คิดไม่ออก ช่วยหน่อยนะ” อีกฝ่ายยืนยัน เขาเลยรับมาอย่างเสียไม่ได้ พิมพ์ได้สองสามคำก็เปลี่ยนใจ ลบออกแล้วส่งกลับคืนเจ้าของ
“พิมพ์เอาเถอะ ไม่รู้จะเขียนอะไร”
เพลิงกัลป์อมยิ้ม รับมาพิมพ์สองสามคำแล้วก็กดโพสต์
“เขียนว่าอะไร” เมืองแมนชะโงกเข้ามาดู
“ไม่บอก ไปเปิดดูเอาเอง” ชายหนุ่มทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ “ไปกินข้าวข้างล่างกัน”
เพลิงกัลป์เดินลงไปแล้ว ตอนที่เมืองแมนกลับไปหาโทรศัพท์มือถือของตัวเองมาเปิดเข้าเฟสบุ๊ค ภาพคู่ของเขากับอีกฝ่ายกอดเอวกันในห้องที่ใครๆก็เดาได้ว่าเป็นห้องนอนโชว์หราอยู่ในnews feedsรูปแรก แคปชั่นสามคำปรากฏอยู่เหนือภาพ
He said ‘Yes’
จำนวนคนไลค์เพิ่มขึ้นจากหลับสิบเป็นหลักร้อยอย่างรวดเร็วจนแตะเข้าหลักพันในไม่กี่นาที เมืองแมนอ้าปากค้าง ถือโทรศัพท์มือถือเดินลงมาจากชั้นบนอย่างมึนงงแกมตกใจ
“เพลิง?”
“ถูกใจไหม” คนตอบนั่งหัวโต๊ะ กำลังตักข้าวต้มใส่ปากอย่างเอร็ดอร่อย “หรือว่าสั้นไป”
“แล้วเพื่อนมึงไม่ตกใจตายเหรอ”
“เดี๋ยวกูพาไปเจอเพื่อนกู”
“เป็นไงบ้างแมนลูก ทานข้าวจ้ะ” เเม่เดินเข้ามาหา
เสียงโทรศัพท์มือถือของเมืองแมนดังขึ้น ชื่อที่ปรากฏอยู่คือ เจมส์ เพื่อนรัก เขารู้ทันทีว่าเพื่อนโทรมาทำไม
“ไอ้แมน มึงจะแต่งงานแล้วเหรอ ทำไมไม่บอกเพื่อนบอกฝูงบ้างเลย ยินดีด้วยนะเพื่อน…” เสียงเพื่อนสนิทตะโกนดังออกมาจากในสาย “นี่พวกกูตกใจมาก แต่ก็ดีใจด้วย ไม่นึกเลยจริงๆว่ามึงจะเป็นคนที่แต่งก่อนคนแรก..” เพื่อนโวยวายมาอีกหลายคำโทษฐานที่เขาไม่ได้บอก เพลิงกัลป์เอียงหูเข้ามาฟังแล้วก็อมยิ้มอย่างพอใจ
“บอกมันไปเลยว่ามีลูกแล้วด้วย” เพลิงกระซิบ “แต่งเดือนหน้า”
“ไม่ต้องมายุ่ง” เมืองแมนย่นจมูกใส่
“หึๆ บอกด้วยนะว่าลูกสาวของเราน่ารักมาก” ชายหนุ่มพูดอย่างเป็นต่อ ถูกใจที่เห็นบรรดาเพื่อนของเมืองแมนทยอยกันโทรมาหาเจ้าตัวอย่างต่อเนื่องเพื่อแสดงความยินดี
ส่วนของเขาก็มีเพื่อนมาคอมเม้นท์กันอย่างดุเดือด บ้างก็พนันว่าเขาจะถอดเขี้ยวเล็บได้นานเท่าไหร่ บ้างก็อวยพรให้รักกันนานๆจนตายกันไปข้างเลย ..เอ้ะ อ้อ เจ้าของคอมเม้นท์นี้มันสาวที่เขาบอกเลิกไปเมื่อปีกลายนี่หว่า ชายหนุ่มรีบกดบล็อคเฟสบุ๊คทันที ส่วนใหญ่เพื่อนสนิทของเขาไม่ได้แปลกใจมากเพราะชายหนุ่มเล่าให้ฟังอย่างเปิดเผยไปแล้ว แค่ยังไม่ได้พาไปเมืองแมนไปอวดเฉยๆ
เรื่องการพาเมืองแมนไปเจอเพื่อนเป็นอะไรที่เขาคิดหนักมาก คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ตก ไม่อยากให้อีกฝ่ายเจอเพื่อนของเขาเลย ไม่ใช่เพราะไม่อยากเปิดตัวแต่เป็นเพราะไอ้เพื่อนกลุ่มเขามันก็นิสัยเดียวกันทั้งกลุ่ม ไม่งั้นจะคบกันมาได้เหรอ เรื่องกินเหล้าเมายาเที่ยวหญิงขอให้บอก ไม่เคยยั่น
ถ้าเจ้าพวกนั้นเจอเมืองแมนไม่ตาโตเป็นไข่ห่านเลยเหรอ ออกน่ารักซะขนาดนี้ เกิดมีใครหลงเสน่ห์เมียเขาขึ้นมาทำไง
“ไอ้เพลิงเหรอ นั่งเป็นบ้าอยู่นี่ไง จะคุยไหมล่ะ” เสียงเมืองแมนพูดอยู่แว่วๆก่อนจะส่งโทรศัพท์มาให้ “ไอ้โย่งโทรมา”
“ฮัลโหล ว่าไงมึง …” เพลิงกัลป์รับโทรศัพท์ไปคุยต่อเสียงดัง เมืองแมนเลยฉวยโอกาสนั้นหลบแวบเข้ามาหาหนูพริมในห้องของคุณไกรสร ยัยหนูกำลังดูดนมจากขวดที่คุณปู่ป้อนให้พอดี
“อ้าวเเมนมาพอดี หนูพริมกำลังกินเลย” คุณไกรสรพูดด้วยสีหน้าแช่มชื่น “กินเก่งจริงๆหลานปู่”
“ไม่เป็นไรครับ” เมืองแมนปฏิเสธเมื่ออีกฝ่ายจะส่งลูกสาวมาให้ “อยากจะมาฝากคุณปู่คุณย่าคุณยายช่วยดูหนูพริมให้หน่อยช่วงนี้น่ะครับ”
“ได้อยู่แล้ว ไอ้ตัวเล็กนี่เดี๋ยวพ่อดูเอง ไม่ต้องห่วง เนอะ..หนูพริมเนอะ” คุณไกรสรก้มลงไปคุยกับหลานตัวจ้อยในอ้อมแขน
“อุ้มไม่ยอมวางเชียวล่ะ” คุณเพตราหัวเราะ “ผลัดกันบ้างสิคะคุณ”
“คุณต้องไปต่อคิวซิ ผมจองแล้วเช้ากลางวันเย็นก่อนนอน”
เห็นแบบนั้นเมืองแมนก็ค่อยเบาใจ ช่วยอุ้มลูกสาวพาเดินเล่นครู่หนึ่งคนรักก็เข้ามาตาม
“โย่งกับหวานจะมาเยี่ยมเราเดือนหน้า”
“จริงหรอ” เมืองแมนดีใจ
“จริงสิ พอดีทันงานแต่งเราด้วย” เพลิงกัลป์ตอบ “ไปกันหรือยัง ไหนขออุ้มหนูพริมหน่อย ดูซิตัวเล็กของพ่อปู้ดๆหรือยังครับ”
กว่าจะได้ออกจากบ้านก็อีกพักใหญ่ๆ เพลิงกัลป์อุ้มลูกสาวพาเดินรอบบ้านอีกสองรอบจนพอใจนั่นแหละถึงได้ออกมาได้
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ลูกอยู่กับปู่ย่าแล้ว ไม่เป็นไร” เพลิงกัลป์พูด
“ใครกันแน่ที่ห่วงไม่เลิกฮึ อุ้มเล่นอยู่นั่นแหละ” เมืองแมนค่อนขอด “ว่าแต่เรา ตัวเองก็ไม่แพ้กันหรอก”
“ครับผม เพลิงผิดเองแหละที่หลงลูกมากไปหน่อย แต่หลงลูกยังไงก็ยังน้อยกว่าหลงแม่ของลูกนะครับ”
“ฮึ ทำมาพูด”
“จริงๆก็ไม่ค่อยชอบพูดหรอก ชอบทำมากกว่า” เพลิงกัลป์หัวเราะ เอื้อมมือไปจับที่ต้นขาของคนรักที่นั่งข้างๆอย่างมีนัย เมืองแมนตาเขียว ดึงขาออก
“สรุปจะไปไหนเนี่ย ไม่ค้างคืนนะเป็นห่วงลูก” คนเป็นแม่พูด
“ไม่อยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้างเหรอ …เอ้าท์ดอร์อะไรอย่างเงี้ย” คนขับพูดด้วยน้ำเสียงเชิญชวน “เล่นน้ำตก ล่องแพกัน นอนดูดาว”
“ไม่” เมืองแมนไม่หลงกล พอจะเดาออกแล้วว่าเอ้าร์ดอร์ที่อีกฝ่ายว่าต้องไม่ได้หมายถึงแค่นี้แน่ๆ
“ก็ได้ อยากไปไหนล่ะ เลือกมา” เพลิงกัลป์ถอนหายใจเฮือก
“อยากไปสวนสัตว์”
“อะไรนะ?”
“ไปสวนสัตว์ อยากไปให้อาหารยีราฟ” เมืองแมนพูด “ดูในทีวีแล้วมันน่ารักดี”
“อยากไปให้อาหารหรืออยากไปหาอาหารกันแน่” เพลิงกัลป์ถามอย่างหวาดๆ สารพัดเมนูที่อีกคนอยากกินตอนท้องยังหลอกหลอนเขาอยู่ …เอ้ะ..เดี๋ยวนะ “อยากกินอะไรแปลกๆหรือเปล่า?”
“เปล่า บ้าเหรอ อยากไปเดินเล่นสวนสัตว์แค่นี้เอง” เมืองแมนพูด
“ค่อยยังชั่ว”
เพลิงกัลป์พาคนรักไปเที่ยวสวนสัตว์สมใจ วันนี้คนเยอะพอสมควร เมืองแมนนั่งรถรางฟังไกด์นำเที่ยวเล่าเรื่องสัตว์ต่างๆไปเรื่อยๆ
“ทางด้านซ้ายจะเป็นส่วนของยีราฟนะคะ ที่สวนสัตว์แห่งนี้เรามียีราฟด้วยกันห้าตัว….”
“อืม” เพลิงพยักหน้าเมื่อคนข้างตัวสะกิดขายิกๆ
“ลงมาเร็วๆ เดี๋ยวคนเยอะ ยีราฟอิ่มก่อนทำไง” เมืองแมนลากเขาลงมาจากรถราง ตรงรี่ไปยังจุดที่ขายอาหารที่เอาไปเลี้ยงสัตว์ตัวสูงปรี้ด เพลิงกัลป์ยกกล้องขึ้นถ่ายรูปตอนที่คนรักให้อาหารยีราฟ เจ้ายีราฟก็แสนรู้ยื่นหน้าเข้ามาร่วมเฟรมอย่างน่ารัก เมืองแมนยิ้มกว้าง
ความเศร้าหมองเคร่งเครียดก่อนหน้านี้ค่อยๆจางหายไป เพลิงกัลป์อมยิ้ม ปฏิบัติตัวเป็นผู้ตามที่ดี เดินตามหลังร่างโปร่งบางเข้าไปสำรวจดูสัตว์นานาชนิดจนกระทั่งมาถึงกรงนกขนาดใหญ่
“ไม่เข้าไปล่ะ นกสวยดี” เขาพูด นึกแปลกใจที่เห็นอีกคนถอยกรูด
“ไม่เอาอ่ะ เบื่อนกแล้ว” เมืองแมนตอบกลับมาเมินๆ
“นั่นมันไม่ใช่นกกระจอกหรือนกพิราบที่เห็นทั่วไปนะ ป้ายบอกว่ามีนกเงือกด้วย เหยี่ยวก็มี ไม่อยากดูเหรอ”
“ไม่อยาก เอ้ะ…ตัวเองอยากดูก็เข้าไปดูเองสิ จะลากไปด้วยทำไม รออยู่ตรงนี้แหละ” เมืองแมนยืนจังก้าปักหลักมั่นอยู่หน้ากรงนก ยังไงก็ไม่มีทางเข้าไปในนั้นเด็ดขาดแล้วก็ไม่มีทางให้อีกคนรู้ความลับน่าอายนี้ด้วย
“โอเค ก็ได้ งั้นไปดูแพนด้ากัน”
เพลิงกัลป์ยอม พาเมืองแมนไปดูหมีจากจีนแทน เจ้าหมีแพนด้าเอาแต่นั่งจุ้มปุ๊กกินไผ่อย่างเพลิดเพลิน
“เหมือนมึงตอนท้องไม่มีผิด นั่งกินนอนกินแบบนี้เลย” เพลิงกัลป์กระซิบ
“ออกจะน่ารัก” เมืองแมนว่า
“ไม่เถียง เพราะน่ารักจริงๆ” คำตอบรื่นหูจนเมืองแมนอารมณ์ดีมาก พยักหน้าหงึกๆ “หมายถึงแพนด้านะ” เพลิงกัลป์พูดต่อกลั้วหัวเราะ
คนฟังฉุนกึกขึ้นมาฉับพลัน ปรายตามองคนที่กำลังหัวเราะอยู่อย่างหมั่นไส้
“คืนนี้นอนนอกห้องนะ” เขาพูด สะใจที่เสียงหัวเราะหายไปทันที
“พูดเล่นนิดเล่นหน่อยก็ไม่ได้ ถ้าแมนไม่น่ารักแล้วเพลิงจะรักได้ไงล่ะ”
“จะอ้วก”
“ถ้าอ้วกตัวเหม็นนี่กลับบ้านเองเลยนะ ห้ามขึ้นรถ” เพลิงกัลป์ขู่ “อดกินไอติมก่อนกลับด้วย”
“ไม่เห็นอยากกิน” เจ้าตัวตอบด้วยประโยคคุ้นเคย เพลิงกัลป์ไม่แปลกใจเลยสักนิดที่ขากลับเมืองแมนมีไอศกรีมโคนติดมือมาด้วย
“คนเรา ซื้อมาโคนเดียว ใจคอจะไม่แบ่งเราเลยเหรอ”
“ไม่ชอบไม่ใช่หรอ”
“ไม่ได้พูดสักคำ”
“อ้วนแล้ว กินไปก็ลงพุงหมดนะ ลองนึกภาพลุงหัวเถิกแถมลงพุงดูสิ” เมืองแมนจุ๊ปาก ส่ายหน้าดิก “ไม่ไหวๆ”
คนฟังกัดฟันกรอด
“แล้วตัวเองไม่กลัวลงพุงเลยเหรอ”
“ไม่อ่ะ” เมืองแมนลากเสียง กัดโคนเสียงดังกรอบแทนการเยาะเย้ย
“เดี๋ยวคืนนี้พี่จะจัดให้หนักเลย” คนขับรถพึมพำ
“หืม? นอนนอกห้องไงอย่าลืม” เมืองแมนยิ้ม ชี้นิ้วไปยังร้านอาหารข้างหน้า “อยากกินไข่นกกระจอกเทศ”
“คอลเลสเตอรอลสูงจะตาย”
“อยากกิน”
เหตุผลสั้นๆของเมืองแมนยังใช้ได้เสมอ เพลิงกัลป์เลี้ยวรถเข้าไปจอดในร้านอาหารที่คนแน่นสมเป็นร้านดังของจังหวัด
พวกเขาไม่ได้จองไว้แต่ไม่รู้ทำไมเหมือนกันถึงได้มีโต๊ะนั่งจนได้ เมืองแมนเดาเอาว่าน่าจะเกี่ยวกับบารมีของคุณไกรสรที่ทุกคนเรียกว่าพ่อเลี้ยงเป็นแน่
สั่งอาหารเสร็จ กำลังนั่งคุยเพลินๆก็มีเสียงแหลมใสของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้นข้างโต๊ะ เมืองแมนเงยหน้าขึ้นมองอย่างตกใจ เธอเป็นผู้หญิงที่สวยเซกซี่มาก
“เพลิงมาอยู่ที่นี่เอง ฝนพยายามติดต่อหาคุณตั้งนาน คุณเปลี่ยนเบอร์หรอคะ ไปหาที่บ้านก็ไม่อยู่”