คริสกลับออกมาจากห้องของคนไข้ด้วยความกังวลหนักอึ้ง เขามองออกว่าอีกฝ่ายคงจะต้องหาวิธีกำจัดเลือดในท้องก้อนนี้อย่างแน่นอน คุณหมอหนุ่มแวะกำชับคุณพยาบาลให้คอยจับตาดูคนไข้คนนี้เป็นพิเศษ และอนุญาตให้มัดตรึงกับเตียงได้ถ้าคนไข้ไม่ยอมนอนนิ่งๆ
เขาไปตรวจโอพีดีตอนบ่ายจนเสร็จ พอกลับออกมาก็พบว่าอินเทิร์นหนึ่งอีกคนมาดักรออยู่ที่หน้าห้องตรวจก่อนแล้ว
“ว่าไงเพลิง”
“พี่คริสครับ ผมมาถามอาการของเพื่อนครับ เมืองแมน” ชายหนุ่มเข้าเรื่องโดยไม่อ้อมค้อม “ตกลงมันเป็นอะไรกันแน่ครับ ผมรู้ว่ามันไม่ได้เป็นริดสีดวง”
“ทำไมเธอถึงมั่นใจอย่างนั้น” อาจารย์ย้อนถาม ทำเอาคนเด็กกว่าอึ้งไป ตอบอึกอัก
“มันถ่ายทุกวันครับ ไม่เป็นหรอก”
“แล้วคิดว่าเพื่อนเราเป็นอะไรล่ะเพลิง”
“ผม...ไม่แน่ใจ” เจ้าตัวดูสับสนไม่น้อยเช่นกัน เพลิงกัลป์หันไปมองซ้ายขวาเห็นพยาบาลเดินอยู่สองสามคนก็พูดด้วยเสียงกระซิบ “ผมขอคุยกับอาจารย์สองคนได้มั้ยครับ”
“ได้สิ”
พวกเขาเข้ามานั่งกันในห้องทำงานของอาจารย์คริสที่เป็นส่วนตัว ท่าทางของชายหนุ่มรุ่นน้องดูร้อนรุ่มอย่างมากจนผิดสังเกต
“เมืองแมน เค้าเป็นเนื้องอกหรือมะเร็งอะไรใช่มั้ยครับอาจารย์”
“เธอคิดว่ายังไงล่ะ”
“ผมไม่ชัวร์ คือที่อัลตราซาวน์เห็นวันนั้นมันแบบ...โอย” ชายหนุ่มยกมือขึ้นกุมศีรษะ “มันเหมือนมดลูกมากๆจนผมงง”
“แล้วคิดว่าใช่มั้ย”
“มันจะเป็นไปได้ยังไงล่ะครับพี่ เมืองแมนมันเป็นผู้ชาย” เพลิงกัลป์พูด
“ก็ใช่ไง มันจะเป็นมดลูกได้ไงเล่า” พี่คริสหัวเราะออกมาเบาๆ “เป็นห่วงเพื่อนจนสติสตังหายหมดแล้วมั้งเพลิง พี่ว่าที่เราอัลตราซาวน์เห็นก็คือกระเพาะปัสสาวะนั่นแหละ แต่ว่ามันเห็นไม่ชัด เครื่องอัลตราซาวน์ที่อีอาร์ก็รู้ๆกันอยู่ว่าชัดขนาดไหน” เมืองแมนเป็นคนไข้ของเขาแล้ว การปกปิดความลับของคนไข้คือจรรยาบรรณของแพทย์ทุกคน
“ครับ” เพลิงกัลป์ถอนหายใจเฮือก ไม่รู้ว่าโล่งอกหรืออะไรกันแน่ มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก “แล้วมันจะกลับมาทำงานได้เมื่อไหร่ครับ”
“ก็รอให้เลือดหยุดดีๆก่อน”
“ผมไปเยี่ยมได้มั้ยครับ”
“ได้สิ ไปด้วยกันมั้ยล่ะ..” พูดยังไม่ทันขาดคำ โทรศัพท์ของอาจารย์คริสก็ดังขึ้น อาจารย์หนุ่มกดรับพูดคุยครู่เดียวก็วางสาย หันมาบอกเขาเสียงเครียด “พี่ต้องไปดูเคสที่ห้องคลอดก่อนนะ มีเด็กคลอดไหล่ติด”
เพลิงกัลป์มองตามหลังอาจารย์ที่รีบวิ่งไปห้องคลอดทันทีเงียบๆ ชายหนุ่มเดินเรื่อยๆวกกลับมายังตึกด้านหลังที่เป็นอาคารผู้ป่วยพิเศษ
ขึ้นลิฟต์มาจนถึงชั้นที่เพื่อนนอนรักษาตัวอยู่ ผ่านเคาท์เตอร์พยาบาลที่มีนางพยาบาลสาวสวยส่งยิ้มมาให้เขาพร้อมกับทักทาย
“คุณหมอเพลิงมาเยี่ยมคุณหมอแมนหรอคะ”
“ครับ แมนเป็นไงบ้างครับ”
“ดื้อไม่ยอมนอนค่ะ แป๋วพูดเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง” เธอเรียกตัวเองด้วยชื่อเล่นอย่างสนิทสนม “แป๋วเลยขู่ว่าจะมัดติดเตียง เพราะอาจารย์คริสสั่งไว้”
“แล้วยอมนอนมั้ยครับ”
“ยอมก็ดีสิคะ นู่น..ลุกขึ้นมาเดินเข้าออกห้องน้ำ แป๋วก็ขี้เกียจพูดแล้ว แกเป็นหมอคงดูแลตัวเองเป็น ปล่อยแก หมอเพลิงลองเข้าไปพูดให้หน่อยสิคะ”
“เดี๋ยวผมเข้าไปดูให้ครับ ขอดูชาร์ตหน่อยได้มั้ยครับ”
“หมอคริสแกไม่ยอมให้ใครดูค่ะนอกจากแกกับพี่หัวหน้าพยาบาล คนไข้วีไอพีก็แบบนี้ล่ะค่ะ” หางเสียงของเธอห้วนกว่าปกติ
“ผมเป็นเพื่อนสนิทเมืองแมน คงเป็นข้อยกเว้นนะครับ” เพลิงกัลป์พูดเสียงอ่อน สบตาคุณพยาบาลสาว อีกฝ่ายหลบตาเขาอย่างเขินๆ ตอบอ้อมแอ้ม
“ดูนิดหน่อยคงไม่เป็นอะไรมั้งคะ ยังไงหมอเพลิงก็เป็นหมออยู่แล้ว”
เพลิงกัลป์รับเอาชาร์ตของเมืองแมนมาเปิดดู เขาดูผลเลือดของเพื่อนอย่างละเอียด ไล่มาทีละหน้าจนกระทั่งมาถึงผลตรวจปัสสาวะ
“เอ๊ะ!” คิ้วเข้มขมวดมุ่น เหลือบมองคุณพยาบาลที่เดินหายเข้าไปในห้องน้ำแวบหนึ่ง ชายหนุ่มเปิดผลแลปหน้าต่อไปที่เป็นผลตรวจฮอร์โมนการตั้งครรภ์ในเลือด
ชายหนุ่มนิ่งไปนาน จ้องมองผลในมือตัวเองอย่างไม่เชื่อสายตา
มีใครปริ้นท์ใบผลแลปของเพื่อนเขาสลับกับเตียงอื่นหรือเปล่า
“หมอเพลิงทานขนมก่อนมั้ยคะ....หมอเพลิง” เสียงแหลมๆของคุณพยาบาลดังขึ้น เพลิงกัลป์สะดุ้งตื่นจากภวังค์ วางชาร์ตลงที่เดิม เงยหน้าขึ้นมองคนพูดงงๆ
“อะไรนะครับ” เสียงเขาแหบพร่า
“ทานขนมก่อนค่ะ”
“ผมขอตัวก่อน” คุณหมอหนุ่มลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินตรงไปที่ห้องพักของคนไข้ที่เป็นรูมเมท
หัวใจของเพลิงกัลป์เต้นแรงแทบไม่เป็นจังหวะตอนที่ก้าวเท้าไปหยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องของเมืองแมน สมองประมวลผลอย่างมึนงงอีกรอบ รู้สึกเหมือนเพิ่งถูกค้อนโตๆทุบหัวมาสามที
เขาคิดอะไรไม่ออก นอกจากจะต้องมาถามเพื่อนให้รู้เรื่อง
เพลิงกัลป์เปิดประตูเข้าไปในห้องโดยไม่เคาะ เขาพบว่าคนข้างในกำลังนั่งห้อยขาอยู่ที่ข้างเตียง ทอดสายตามองออกไปยังหน้าต่างข้างนอกอยู่
“อ้อ” อีกฝ่ายอุทานแทนคำทักทายแล้วก็เงียบไป
ชายหนุ่มก้าวเข้าไปในห้องพักผู้ป่วย เดินตรงเข้าไปหยุดยืนตรงหน้าเมืองแมน เขาสูดหายใจเข้าปอดลึกๆหลายครั้ง ระบายความรู้สึกอึดอัดพุ่งพล่านออกไป
“เป็นยังไงบ้าง” เพลิงกัลป์รู้ว่าเสียงของเขาผิดปกติแน่นอน แต่ว่าเขาไม่สามารถบังคับให้มันปกติได้
“ก็ดี หายแล้ว” อีกฝ่ายตอบ มองไปทางอื่นที่ไม่ใช่ใบหน้าของคนฟัง
“ตกลงเป็นอะไร”
“ริดสีดวง”
“แค่นั้น?”
ดวงตากลมโตเหลือบขึ้นมองเขาแวบหนึ่งแล้วก็เมินไปทางอื่น
“ใช่”
“อาจารย์คริสไม่ได้บอกอย่างนั้นนี่” เพลิงกัลป์พูดหน้าตาย กำมือแน่น มองหน้าอีกฝ่ายอย่างค้นหาความจริง “เขาบอกกับกูอีกอย่าง”
อีกฝ่ายหันขวับมามองเขาทันที
“พี่คริสบอกว่าอะไร”
“ก็บอกความจริงที่มึงเป็น”
ใบหน้าเรียวเล็กนั้นแดงขึ้น
“ไม่จริง”
“แสดงว่ามึงเป็นอะไรที่มากกว่าริดสีดวงใช่มั้ย” เขาถามต่อทันควัน
“มึงอย่ามาหลอกถาม ความลับคนไข้ ทำไมกูต้องบอก”
“เพราะว่า...” เพลิงกัลป์ขยับจะพูดแต่ก็เปลี่ยนใจ เขาลอบระบายลมหายใจยาว พิศดูร่างผอมๆที่นั่งห่อไหล่อยู่บนเตียงด้วยความรู้สึกประหลาด
เสื้อของโรงพยาบาลหลวมจนดูโคร่ง ทำให้อีกฝ่ายยิ่งดูผอมบางกว่าที่เคย เส้นผมสั้นๆกระจายยุ่งเหยิงทั้งศีรษะเพราะไม่ได้หวีเหมือนทุกวัน ใบหน้าเรียวมีถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่ามีรอยกระอยู่ตรงโหนกแก้มจางๆ สองมือกำชายผ้าห่มเอาไว้แน่น
ริมฝีปากสีซีดเม้มสนิท
“กินอะไรหรือยัง” แขกไม่ได้รับเชิญเปลี่ยนเรื่องกะทันหันจนอีกฝ่ายตามไม่ทัน เมืองแมนมองหน้าคนพูดอย่างงงๆ ฝ่ายนั้นถามซ้ำด้วยเสียงที่กลับเป็นปกติ “หิวหรือเปล่า อยากกินอะไรมั้ย”
เมืองแมนสั่นศีรษะ
“เขาไม่ได้งดน้ำงดอาหารนี่” เพลิงกัลป์พูดแล้วพลิกนาฬิกาข้อมือดูเวลา “งั้นรออยู่นี่ก่อนนะ จะลงไปซื้อของกินแถวตลาดมาให้ แต่ว่าตอนนี้คงต้องนอนลงก่อนแมน” เขาดันไหล่อีกฝ่ายให้เอนลงนอน
เมืองแมนไม่ได้ต่อต้าน เขาดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมจนถึงคอ
“กูไปแปบเดียว เดี๋ยวมา”
คนบนเตียงไม่มีปฏิกิริยาตอบรับใดๆทั้งสิ้น
เพลิงกัลป์ถอยกลับออกมาจากห้อง เขาเดินล้วงกระเป๋าเสื้ออย่างใจลอยจนเกือบชนกับคนเข็นเปล ชายหนุ่มครุ่นคิดกลับไปกลับมาในสมองอย่างว้าวุ่น
สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจแวะที่ห้องคลอดก่อน มีเพียงคนเดียวที่จะให้คำตอบเขาได้
“พี่คริสว่างไหมครับ”
“หมอคริสยังทำคลอดไม่เสร็จเลยค่ะ เด็กตัวใหญ่มาก” พยาบาลห้องคลอดตอบกลับมา “คุณหมอมีธุระอะไรหรือเปล่า เข้าไปบอกก็ได้นะคะ”
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมจะรอตรงนี้”
ตรงนี้ของเขาคือในห้องพักแพทย์สูตินรีเวชที่เขากับเมืองแมนเคยมาใช้อาศัยนอนแทนแฟลตอยู่พักใหญ่ ทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงนอน พิศดูนิ้วมื้อตัวเองทั้งสิบนิ้วราวกับไม่เคยเห็นมาก่อน
...เป็นความจริงหรือเปล่า
หรือว่าเขากำลังอยู่ในรายการเรียลลิตี้อะไรสักอย่าง
เมืองแมนคนนั้นเนี่ยนะ...
“ขอโทษทีรอนานเลย เพลิงมีอะไรหรือเปล่า ไปเยี่ยมแมนมาแล้วเหรอ” พี่คริสกลับเข้ามาในห้องด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อนเล็กน้อย “พี่เพิ่งทำคลอดเสร็จ เด็กสี่โลเจ็ด ทำช่องคลอดแม่เปิงหมดเลย ต้องเย็บซ่อมกันนานจนปวดหลังไปหมด”
“อาจารย์ครับ”
“ว่าไง”
“ผมมีเรื่องจะถาม อาจารย์อย่าปิดบังผมเลยนะครับ” ชายหนุ่มแลบลิ้นเลียริมฝีปากที่แห้งผาก “เมืองแมนเค้า....ท้องใช่มั้ยครับ”
เกิดความเงียบขึ้นระหว่างเขากับอาจารย์
“ทำไมเธอถามอย่างนั้น ก็รู้อยู่แล้วนี่ว่าเป็นไปไม่ได้”
“ผมทราบครับว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ว่าผมก็เชื่อสายตาตัวเองเหมือนกัน อัลตราซาวน์ที่ผมทำวันนั้นมันเหมือนมดลูกที่มีถุงตัวอ่อนอยู่ข้างในจริงๆครับ”
“แล้วแมนเค้าว่ายังไงบ้างล่ะ” พี่คริสพูดเนิบๆ “ถ้าคนไข้ไม่ยอมบอกเอง พี่ก็บอกให้ไม่ได้หรอกนะ มันผิดจรรยาบรรณเธอก็รู้”
“ก็ถ้าเขาเป็นโรคทั่วๆไปแค่ริดสีดวงหรือแม้แต่มะเร็ง ทำไมจะบอกไม่ได้ล่ะครับ” เพลิงกัลป์เถียง “ผมก็เป็นเพื่อนเขานะครับ”
“ก็ต้องไปถามเขาดูเอง ถ้าเขาไม่บอกก็แปลว่าเขายังไม่อยากให้รู้” อาจารย์หนุ่มพูดอย่างลำบากใจ ตั้งแต่เห็นหน้ารุ่นน้องก็ทำให้เขารู้ทันทีว่าอีกฝ่ายคงรู้อะไรบางอย่างมาแล้วแน่ๆ
“แม้ว่าผม...อาจจะเป็นพ่อของเด็กในท้องเขาน่ะเหรอครับ”
.............................................................................
มาต่อแล้วจร้า ใครรออ่านเรื่องนี้อยู่บ้าง 5555
เรื่อยๆตามสไตล์ เจอกันตอนหน้า
ใครเล่นทวิต #แฟนหมอแมน นะคะ
บ้ายบายยย
ปล.ขอฝากนิยายเรื่องใหม่ด้วยค่ะ
โอกาสรัก#แอบพักตร์ 