*-*-*-*-*-*-INTERNAL LOVE-*-*-*-*-*-* #แฟนหมอแมน (Mpreg)เปิดพรี 2/12/61 p86
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: *-*-*-*-*-*-INTERNAL LOVE-*-*-*-*-*-* #แฟนหมอแมน (Mpreg)เปิดพรี 2/12/61 p86  (อ่าน 633661 ครั้ง)

ออฟไลน์ t152_rakjai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
แม้นเมืองคนแมน  :L1: :L1:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ fannan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-6
โอ้ยน่ารักๆๆๆ ขัดใจจริงพี่เพลิงกะเมืองแมนจะรักกันไงเนี่ย ลุ้นๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ boboaje

  • ไม่ชอบหวาน ชอบครบรส
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4
คิดถึง​หมอแมน

ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk
Internal Love

ตอนที่ 13

Every day is a new start and a chance to make right what went wrong yesterday.

 

 

 

 

 

 

            “กูว่าร้านนู้นดูสะอาดกว่านะ”

            เมืองแมนกระซิบบอกคนข้างๆที่ยืนซื้อมะม่วงดองกับแม่ค้าอยู่  เพลิงกัลป์เหลือบมองตามแล้วกระซิบตอบ

            “เปลี่ยนไปร้านนู้นทันมั้ย”

            “ถ้าไม่กลัวโดนแม่ค้าด่าเอานะ”  เมืองแมนพูดแกมหัวเราะ  ยืนรอให้อีกคนจ่ายเงินจนเสร็จ  ถุงมะม่วงดองและของกินต่างๆนานาเต็มมือของเพลิงกัลป์ไปหมดจนเขาอดพูดไม่ได้  “ไหนใครบอกเดินนิดเดียว  รีบซื้อรีบกลับนะ  ซื้อมาเยอะกว่ากูอีก”  ในมือเขามีแค่ถุงลูกชิ้นหมูปิ้งกับขนมโรตีสายไหมเอง

            “อย่าเห็นว่าแอบกินของกูนะ”  เพลิงกัลป์บอก

            “ใครแอบกิน   เดี๋ยวเขียนชื่อแช่ตู้เย็นเอาไว้เลย”  คนชอบหิวตอนดึกเริ่มร้อนตัว  “ที่กูกินไป..เอ่อ...บางอย่าง  เพราะเห็นมันใกล้จะหมดอายุแล้ว  เดี๋ยวเสียของโว้ย”

            “ครับ  เชื่อมากๆ”  เพลิงกัลป์ตอบ  ร่างสูงหยุดชะงักหน้าแผงขายปลาหมึกย่างตัวอวบอ้วนน่ากิน แถมยังมีไข่ด้วย  เล่นเอาคอปลาหมึกแบบเขากลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่

            “ระวังท้องเสีย”  เมืองแมนดักคอ  เห็นดวงตาคมเข้มเป็นประกายมองปลาหมึกย่างบนเตาแล้วหันมามองเขาพลางกระพริบตาปริบๆ  “มีแมลงวันบินว่อนเลย  ไม่เห็นหรือไง”

            “กูธาตุแข็ง  ไม่ท้องเสียง่ายๆหรอก”

            “เตือนแล้วนะ  อยากกินก็ตามใจ”

            เพลิงกัลป์ซื้อปลาหมึกมาสองไม้  เนื้อปลาหมึกชิ้นหนากับน้ำจิ้มรสเด็ดทำเอาชายหนุ่มสูดปากด้วยความอร่อย  คนที่เดินอยู่ใกล้ๆเหลือบมอง  ชักเริ่มอยากกินบ้าง

            “อย่าแม้แต่จะคิด”  เจ้าของปลาหมึกรีบพูด  “ท้องเสียขึ้นมาเดี๋ยวเป็นเรื่องใหญ่หรอกมึงน่ะ”   พอเห็นสีหน้าคนจะค้าน  เพลิงกัลป์ก็รีบพูดต่อ  “กูท้องเสียได้ไม่เป็นไร  แต่ถ้ามึงท้องเสียเดี๋ยวอันตราย  เข้าใจ๋”

            “ไม่ยุติธรรมนี่หว่า”  เมืองแมนพึมพำ  แต่ก็ไม่ได้รบเร้าขอ ‘ชิม’ ปลาหมึกอีก

            พวกเขาแวะกินบะหมี่เจ้าดังในตลาด  เมืองแมนเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเขาต้องซื้อโทรศัพท์มือถือใหม่ด้วยเพื่อไว้ติดต่อใครๆ  โดยเฉพาะเวลาทำงาน

            “สุดตลาดมีร้านขายโทรศัพท์มือถือ  แต่ไม่มีไอโฟนหรอกนะ”  เพลิงกัลป์เงยหน้าขึ้นจากชามบะหมี่  “น่าจะซื้อมาใช้แก้ขัดไปก่อนได้”

            “เสียดายมือถือชะมัด  น่าจะลงไปงมเนอะ”  เมืองแมนถอนหายใจ   “ตัวเครื่องก็ไม่เท่าไหร่  แต่เมมโมรี่ในเครื่องนี่สิ  เสียดายจัง”

            “มีอะไรให้เสียดายนักเหรอ....รูปถ่ายคู่กับเพื่อนสนิทชื่อเจมส์อะไรนั่นหรือไง”  จู่ๆคนตรงหน้าก็พูดขึ้นมา  เมืองแมนมองหน้าแล้วก็เมินไปทางอื่น

            “ใช่...แต่ไว้กลับไปถ่ายใหม่ก็ได้”

            “อิ่มแล้ว  ป้าครับ  เก็บตังค์หน่อย”  เพลิงกัลป์วางตะเกียบลง  ทั้งที่เมื่อกี้ยังคีบเส้นเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อยอยู่แท้ๆ  “มึงกินเร็วๆ คนเขารอเก้าอี้นั่งกันอยู่”  เขาพยักพเยิดไปทางหน้าร้านรถเข็นที่มีคนยืนรอนั่งเสียบแทนคนที่กินเสร็จแล้ว

            พวกเขาเดินเรื่อยๆตัดตลาดคนเดินที่มีของขายมากมายตั้งแต่แว่นตาแฟชั่นไปจนถึงเสื่อน้ำมันและหนังสือท่องเที่ยว  เมืองแมนเดินไปก็หยุดแวะเป็นระยะๆ  ดูของบ้าง ซื้อของกินเล่นบ้าง  ตอนแรกคนตัวสูงก็ทำท่าจะบ่นที่เดินยังไงก็ไม่ถึงร้านขายมือถือสุดตลาดซักที  แต่ตอนหลังก็เลิกบ่น หันไปสนใจ  ‘อย่างอื่น’ แทน

            อย่างอื่นที่ว่าคือบรรดาสาวๆสาวเล็กสาวใหญ่ที่แต่งตัวสวยงามมาประชันกันสุดฤทธิ์  บ้างก็แต่งสั้นโชว์เรียวขาเรียบเนียน  บางคนก็ใส่สายเดี่ยวเว้าหน้าเว้าหลังอวดเนินอกท้าทายสายตา

            “เช็ดน้ำลายหน่อยมั้ย  จะหยดใส่เสื้อแล้ว”  พอมองตามสายตาของฝ่ายนั้น  เมืองแมนก็อดไม่ได้  หลุดปากพูดออกไป  ได้ยินเสียงอีกฝ่ายหัวเราะเบาๆแล้วหันมายักคิ้วให้

            “ข้างหลังอย่างแจ่มเลย”  คนพูดพูดจบก็ก้มลง ใช้มือจับแขนเสื้อของเมืองแมนขึ้นมาเช็ดปากตัวเองเหมือนล้อเลียน

            เจ้าของแขนเสื้อสีขาวสะอาดที่ตอนนี้มีรอยคราบสีส้มจากน้ำจิ้มอะไรสักอย่างจากริมฝีปากของคนเช็ดถึงกับร้องโวยวาย  ดึงเสื้อออกจากมือ

            “ทำอะไรเนี่ย  เสื้อกูเปื้อนหมด”

            “เอ้า...ก็บอกให้เช็ดปากไม่ใช่หรอ”  เพลิงกัลป์พูดหน้าตาย  “มึงก็เช็ดเหงื่อบ้าง  หน้ามันแผล็บเชียว”  เจ้าตัวไม่พูดเปล่า  จับชายเสื้อของตัวเองขึ้นเช็ดซับเหงื่อของอีกคนให้   ได้ยินเสียงกรีดเบาๆจากสาวๆที่แอบมองซิคแพ็คภายใต้เสื้อยืดที่เลิกขึ้นของเขาอยู่

            เมืองแมนผงะหลบแทบไม่ทัน  อุทานอย่างฉุนเฉียว  รู้ทันทีว่าอีกฝ่ายจงใจโชว์ของให้สาวเห็น

            “สิวขึ้นหมด  ไอ้....  จะโชว์ซิคแพ็คทำไมไม่ถอดเสื้อเลยล่ะ”

            “เดี๋ยวมึงเป็นลมตาย”  ฝ่ายนั้นตอบกลับมาแกมหัวเราะ  ยอมเอาเสื้อลงแต่โดยดี

            เมืองแมนด่าอีกสองสามคำแล้วก็รีบเดินจ้ำหนีออกมาจากตรงนั้น  รู้สึกว่าพวกเขาทำตัวเป็นเป้าสายตามากไปแล้ว  พูดให้ถูกก็คือ  ไอ้รูมเมทของเขาคนเดียวมากกว่า  แค่มันเดินธรรมดาก็โดดเด่นเตะตาชาวบ้านชาวช่องแถวนี้ไปถึงไหนต่อไหน

            “ร้านอยู่ทางซ้าย”  เสียงห้าวๆดังขึ้นข้างหลัง  บอกว่าอีกฝ่ายคงเดินตามหลังเขามาติดๆ

            เมืองแมนก้าวเข้าไปในร้านขายโทรศัพท์เล็กๆที่มีโทรศัพท์มือถือวางเรียงรายอยู่ในตู้กระจกหลากหลายยี่ห้อ  บางยี่ห้อเขาก็ไม่เคยได้ยินชื่อเลยด้วยซ้ำ  ชายหนุ่มก้มๆเงยๆเลือกอยู่นาน  เลือกไม่ถูกซักที

            “จะเหมาร้านเขาหรือไง”  คนมาด้วยกระซิบถาม  “เลือกมาสักเครื่องนึงสิ”

            เมืองแมนกวาดสายตามองโทรศัพท์สองเครื่องตรงหน้าที่เขาเข้าตามากที่สุด

            “เครื่องนี้สเป็คดีอ่ะ แต่เหลือแค่สีเดียวเป็นสีเขียว  ส่วนเครื่องนี้สเป็คต่ำกว่า  ถูกกว่า  แต่ดีไซน์สวย สีดำด้วย...”  เขาพึมพำ  “เป็นมึงจะเอาเครื่องไหน”

            “เอาสองเครื่องเลย  กูรวย”

            “กูจะขอความเห็นมึงดีๆหน่อยไม่ได้เลยใช่มั้ย”

            “เอางี้  เลือกมือถือก็เหมือนเลือกสาว  มึงชอบนิสัยตรงสเป็คหรือชอบสวยๆแต่กลวงหน่อยก็เลือกเอา”

            “งั้นผมเอาเครื่องนี้ครับ”   เมืองแมนเลือกโทรศัพท์สีเขียว   ยังไม่ทันหยิบกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาเปิด  คนข้างๆก็ชิงส่งบัตรเครดิตให้คนขายก่อนแล้ว

            “กูจะสะสมแต้ม”  เพลิงกัลป์ตอบคำถามขุ่นข้องในสายตาคู่นั้น   “จะได้เอาพอยท์ไปแลกตั๋วเครื่องบิน  ไม่ต้องทำหน้างั้น  กูไม่ได้ซื้อให้ฟรีหรอก”

            “เดี๋ยวกูโอนเงินคืนให้”  เมืองแมนบอก  “บอกเลขที่บัญชีมา”

            “ไว้ทีหลัง”  อีกฝ่ายพูดเหมือนไม่ใส่ใจ  “ไหนลองดูเครื่องซิ  มีอะไรติดขัดจะได้รีบเปลี่ยนเครื่องก่อน”  เพลิงกัลป์หยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่มาลองเล่นดู  “ก็ลื่นดีนะ  ดูคุ้มราคา”   ชายหนุ่มกดเข้าแอพต่างๆทดสอบดูโดยมีเจ้าของตัวจริงยืนชะเง้อมองอยู่ข้างๆ  “ไหนลองกล้องถ่ายรูปหน่อย”

            เขาเปิดกล้องหน้าแล้วยกชูขึ้น

            “โผล่หน้าเข้ามาเร็ว  ถ่ายรูป  หนึ่งสองสาม...ยิ้ม”   เสียงแชะดังขึ้นก่อนคำว่าสามเสียอีก  เมืองแมนในรูปหน้าเหวอแบบไม่ทันตั้งตัว  เขาดึงโทรศัพท์กลับมาแต่อีกฝ่ายไม่ยอม

            “ลบรูปเลยนะ”  เมืองแมนพูดเสียงดัง  “ถ่ายใหม่”

            “ทำไมล่ะ  น่ารักดีออก...เหมือนปลาคราฟขึ้นมาฮุบอากาศ”   คนพูดหัวเราะ   จัดการกดส่งรูปเข้ามือถือของตัวเองจากนั้นก็ตั้งรูปนั้นเอาไว้เป็นรูปหน้าจอของโทรศัพท์เมืองแมน  “ตั้งเป็นหน้าจอเลย  ห้ามลบห้ามเปลี่ยน”

            เมืองแมนคว้าโทรศัพท์มือถือของตัวเองกลับมา  หาทางกดเปลี่ยนหน้าจอให้กลับเป็นเหมือนเดิมพลางบ่นพึม   เพลิงกัลป์มองใบหน้าอ่อนใสเหมือนเด็กมัธยมนั้นแล้วอมยิ้ม  ยกโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมาถ่ายรูปอีกฝ่ายยามเผลอ

            “เห้ย...ถ่ายอะไร”  เจ้าตัวได้ยินเสียงแชะเบาๆ เลยเงยหน้าขึ้นมาโวย

            “ไม่ได้ถ่ายมึง  กูถ่ายน้องผู้หญิงขาวๆหลังมึงต่างหาก”   เขาตอบหน้าตาย  เก็บโทรศัพท์ลง

            “......เสมอต้นเสมอปลายจริงๆ”  เมืองแมนด่าต่ออีกหลายคำ

          ขากลับเพลิงกัลป์พาเขาเดินเลาะกลับอีกด้านหนึ่งของตลาดที่คนน้อยกว่า  เส้นทางเลาะเรียบไปกับแนวคูเมืองที่ทางจังหวัดตกแต่งไฟเอาไว้สวยงาม  ลมพัดเย็นสบาย

            “นั่นอะไรน่ะ”  เมืองแมนหยุดเดิน ชี้มือไปยังอีกฟากหนึ่งของคูเมืองที่มีแสงสีประดับประดามากเป็นพิเศษ  แถมยังมีเสียงดนตรีเป็นจังหวะผสมมากับเสียงหัวเราะปรบมือของคนที่รวมกลุ่มกันอยู่ด้วย

            “ไม่รู้เหมือนกันแฮะ  ลองข้ามไปดูก็ได้”  เพลิงกัลป์บอก  เดินนำเขาสะพานไปยังอีกฝั่ง

            “รำวง?”  เมืองแมนอุทาน  เขาอ่านเอาจากป้ายที่ติดเอาไว้ว่า ‘รำวงย้อนยุค’ มองเข้าไปในกลุ่มคนที่ยืนล้อมวงกันอยู่นั้น  กลางวงเป็นหนุ่มสาวหลายคู่กำลังฟ้อนรำกันอยู่อย่างสนุกสนาน   ถ้าสังเกตดูดีๆก็ไม่เชิงหนุ่มสาวนักหรอก  น่าจะค่อนไปทางวัยกลางคนขึ้นไปมากกว่า

            เสียงดนตรีเป็นจังหวะสนุกๆให้ผู้เฒ่าผู้แก่ออกมาโยกย้ายกับลูกหลานที่พามาด้วย  เมืองแมนยิ้มออกมาเมื่อเห็นยายเฒ่ารำคู่กับหนุ่มน้อยที่น่าจะเป็นหลานชาย

            “น่ารักจัง”

            “อยากร่วมวงไหม”  คนข้างๆถามขึ้น   คนฟังส่ายหน้า

            “ไม่ล่ะ  ยืนดูอยู่ตรงนี้ดีกว่า”

            “ไม่ใจเลย  อุตส่าห์มาถึงที่แล้ว  ไม่ได้เห็นกันง่ายๆนะ”  เพลิงกัลป์พูด

            หญิงชราคนหนึ่งแต่งกายสวยงามย้อนวัยเดินตรงมาทางชายหนุ่มทั้งคู่  เธอเอื้อมมือมาหาเพลิงกัลป์แล้วกวักเรียก  ทำเอาคนถูกชวนส่ายหน้าหวือ  รีบโบกมือปฏิเสธ

            “อุตส่าห์มาถึงที่แล้ว  จะพลาดได้ไง”  เมืองแมนย้อนประโยคเดิมที่อีกฝ่ายเพิ่งพูดไป

            “กูรำเป็นเสียที่ไหน”  เพลิงกัลป์กระซิบ

            “ก็โบกมือตามเขาไปน่ะ  สู้ๆนะ”  เมืองแมนพูดจบก็ผลักหลังเพื่อนออกไปกลางวง   ยายเฒ่าหัวเราะร่าจนเห็นฟันดำปี๋เพราะเคี้ยวหมาก  จับมือเพลิงกัลป์พาเข้าไปร่วมวงด้วย

            เพลิงกัลป์หันมาเข่นเขี้ยวชี้หน้าคาดโทษรูมเมททีนึง  ก่อนจะเริ่มโบกมือตั้งวงตามคนข้างๆไป  สักพักชายหนุ่มก็หัวเราะออกมาด้วยความสนุก

            เมืองแมนหยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ขึ้นมาถ่ายรูปร่างสูงใหญ่ที่เดินเก้ๆกังๆอยู่ในวงไปหลายรูป   เพลิงกัลป์รำไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย  ไม่รู้เป็นเพราะแขนขายาวเก้งก้างหรือว่าการเดินคร่อมจังหวะเพลงตลอดเวลากันแน่   ทว่าใบหน้าคมเข้มนั้นก็ดูชอบอกชอบใจมากทีเดียว  หัวเราะพลางจับมือแม่เฒ่าเดินไปเรื่อยๆ

            พอวนมาถึงตรงหน้าที่เมืองแมนยืนอยู่  แม่เฒ่าก็เดินเข้ามาจับมือเมืองแมนจูงออกมาบ้าง  เมืองแมนไม่ได้ปฏิเสธ  เขาตั้งวงเดินคู่กับแม่เฒ่าอย่างสนุกสนาน   หางตาเห็นเพลิงกัลป์มีสาวๆรายอื่นมาขอรำคู่ด้วย 

            จบไปสี่เพลงพอให้เหงื่อชุ่มตัว  เมืองแมนโค้งตัวให้กับคุณป้าที่เขารำคู่ด้วยเป็นคนสุดท้าย  เขาถอยออกมาจากวง เห็นรูมเมทยังคงติดพันอยู่กับสาวน้อยอีกคนที่เขาเห็นรำด้วยกันมาตั้งแต่เพลงที่สาม

            ...สงสัยจะติดใจ

            พิศดูหญิงสาวคู่รำของฝ่ายนั้นก็เห็นว่าขาวๆตัวเล็กน่ารักดีอยู่  คงเป็นสเป็คของฝ่ายนั้นอยู่แล้ว  ...แล้วนี่เขาควรจะต้องยืนรอเพลิงกัลป์อยู่ตรงนี้หรือเปล่า   หรือว่าปล่อยให้อีกฝ่ายได้ ‘ออกรอบ’  ตามสบาย   ส่วนเขาก็หารถกลับโรงพยาบาลเอาเอง

            “คุณหมอหรือเปล่าคะ  มาเที่ยวหรือคะ”  เสียงใสๆดังขึ้นข้างตัว  เมืองแมนเหลียวไปมอง  เห็นสาวน้อยเจ้าของร้านอาหารที่เขาชอบไปกินบ่อยๆยืนส่งยิ้มมาให้อยู่ก่อนแล้ว

            “คุณ...กี้  สวัสดีครับ”  เขานึกชื่อของเธอได้ทัน

            “ไม่ไปรำสักหน่อยหรือคะ  หรือว่ารำเสร็จแล้ว”

            “รำไปหลายรอบแล้วครับ”  เมืองแมนตอบ  “คุณกี้ล่ะครับ”  พูดออกไปแล้วก็รู้สึกเสียใจกับความปากไวของตัวเอง  เพราะหญิงสาวตอบกลับมาทันทีว่า

            “ยังเลยค่ะ  อยากรำสักเพลงจัง”

            จะบอกปัดก็กระไรอยู่  ดูท่าแล้วหญิงสาวคงมาคนเดียวเสียด้วย  เขาก็เลยออกปากชวนเธอไปรำวงด้วยกัน  เธอยิ้มหวานตอบตกลง

            “คุณหมอมากับใครหรอคะ”  กี้เอ่ยปากถามขณะที่รำวงอยู่ด้วยกัน

            “มากับเพื่อนครับ”

            “ใช่คุณหมอเพลิงกัลป์หรือเปล่าเอ่ย...กี้เห็นแวบๆน่ะค่ะ”  เมืองแมนอดรู้สึกแปลกกับคำพูดของเธอไม่ได้  ในเมื่อร่างสูงใหญ่ของเพื่อนเขาออกจะโดดเด่นเสียขนาดนั้น  เรียกว่าแทบจะเป็นยักษ์ในหมู่คนแคระที่รายล้อมอยู่

            “ใช่ครับ”   เขาตอบแค่นั้น

            “กี้มาคนเดียวค่ะ  ชอบมาเดินตลาดคนเดียว  คุณหมอว่าแปลกไหมคะ”  เธอพูดทั้งที่เขาไม่ได้ถาม  “แต่ก่อนมีพี่สาวมาด้วยกันยังพอช่วยกันเลือกของได้   เดี๋ยวนี้พี่ไม่อยู่แล้ว...”

            “พี่สาวคุณกี้ที่เป็นหมอใช่ไหมครับ  เขาทำงานที่โรงพยาบาลไหนครับ  หรือว่าไปเรียนต่อแล้ว”  เมืองแมนถามต่อ  ไม่ให้ดูเงียบจนเกินไป

            “พี่สาวกี้ไม่ได้ไปเรียนต่อหรอกค่ะ  เธอ...อุ้ย  คุณหมอเพลิงกัลป์  สวัสดีค่ะ  ดีใจจังที่ได้เจอกัน”  หญิงสาวเปลี่ยนเรื่องเอาดื้อๆเมื่อรูมเมทของเมืองแมนเดินเข้ามาหาหลังจากเพลงจบลง

            “สวัสดีครับคุณกี้  แปลกใจจังมาเจอกันที่นี่  มาเดินบ่อยหรอครับ”

            “ถ้าว่างก็มาค่ะ  คุณหมอเพลิงกัลป์ล่ะคะ  ชอบมาเดินตลาดนัดหรอ”

            “เรียกเพลิงเฉยๆก็ได้ครับคุณกี้”  ชายหนุ่มตอบ  ส่งยิ้มละลายใจให้หญิงสาว  เมืองแมนไม่รู้ว่าอีกฝ่ายตั้งใจหรือเปล่า  หรือว่ามันเป็นนิสัยที่แก้ไม่ได้ไปแล้วเมื่อเจอผู้หญิงสวยน่ารัก  “คุณกี้มากับใครครับ  ซื้ออะไรมาบ้างครับเนี่ยเยอะเชียว”

            เมืองแมนถอยลงไปเดินข้างหลังทั้งคู่อย่างตั้งใจ  อดรู้สึกไม่ได้ว่าหญิงสาวดูอยากคุยกับรูมเมทของเขามากกว่าจนเห็นได้ชัด  ส่วนเพลิงกัลป์ก็ตอบสนองได้ดีเยี่ยมไม่แพ้กัน

            “แล้วนี่กลับยังไงครับ  เอารถมาหรือเปล่า”  คุณหมอหนุ่มถามขึ้น

            “กี้มาสามล้อค่ะ  ที่บ้านไม่ให้ขับมอเตอร์ไซค์เพราะกลัวอุบัติเหตุ  กี้เคยรถล้มครั้งนึงเกือบตายแน่ะค่ะ  คุณแม่เลยไม่ให้ขับอีก จะไปไหนมาไหนต้องเรียกสามล้อเอา  ไม่ก็คุณแม่ขับพาไปส่ง”

            “คุณกี้ไม่หัดขับรถล่ะครับ”

            “กี้ก็ว่าจะหัดอยู่เหมือนกันค่ะ  คุณเพลิงแนะนำได้มั้ยคะว่าเริ่มขับยังไงดี”

            “ผมเคยเห็นที่นี่มีโรงเรียนสอนขับรถอยู่นะครับ  ลองหาดูน่าจะดีนะ”   เพลิงกัลป์ตอบ  เหลียวมองหารูมเมทเห็นเดินทอดน่องอยู่ข้างหลัง  “แมน...กูว่าจะแวะไปส่งคุณกี้ที่บ้านก่อนค่อยกลับโรงพยาบาล  โอเคหรือเปล่า”

            “อืม”  เมืองแมนรับคำในลำคอ  ก้าวขึ้นไปนั่งข้างหลังรถ  ให้หญิงสาวนั่งคู่กับเพลิงกัลป์ข้างหน้าแทน   คนขับขมวดคิ้วแวบหนึ่งแล้วคลายออก  สตาร์ทรถเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

            คุณหมอหนุ่มขับรถมาส่งหญิงสาวที่ร้านอาหารของเธอ  กี้บอกว่าบ้านของเธออยู่ข้างหลังร้านอาหารนั้น  ถ้าพวกเขาว่างวันไหนก็มาได้  เธอจะพาไปเยี่ยมคุณแม่ของเธอ  เนื่องจากคุณแม่เริ่มมีปัญหาเจ็บหัวเข่าทั้งสองข้าง

            “จริงๆพามาตรวจที่โรงพยาบาลจะมีเครื่องมือพร้อมกว่านะครับ”

            “แม่กี้ไม่ชอบมาโรงพยาบาลน่ะค่ะ  คนแก่ก็ขี้กลัวหมอกลัวพยาบาลอย่างนี้ล่ะ....ขอบคุณมากนะคะที่แวะมาส่ง  ขอบคุณคุณหมอด้วยค่ะที่รำวงเป็นเพื่อนกี้  ไว้เจอกันที่ร้านนะคะ  กี้จะลดให้พิเศษเหมือนเดิม”  เธอก้าวลงจากรถแล้วโบกมือให้  เสียงใสๆที่ทำให้บรรยากาศในรถไม่อึมครึมหายไปแล้ว  เหลือทิ้งเอาไว้แต่ความเงียบที่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์เบากับความขุ่นข้องของเขา

            เพลิงกัลป์เหลือบมองกระจกมองหลัง  เห็นคนที่นั่งเงียบมาตลอดทางกำลังมองวิวนอกกระจกรถนิ่งอยู่




ออฟไลน์ ็Hollyk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +535/-22
    • FanPage Melenalike//Hollyk













            “ย้ายมานั่งข้างหน้า”   เขาพูดเรียบๆ  อีกฝ่ายหันมามอง

            “จะถึงแล้ว  ก็ขับไปสิ”

            “กูไม่ใช่คนขับรถมึงนะ”

            “.......................” 

            “งั้นก็นั่งเล่นอยู่อย่างนี้ล่ะ  ไม่ต้องกลับหรอกโรงพยาบาล”

            “เข้าไปขอนอนบ้านคุณกี้เลยดีมั้ย”  เมืองแมนไม่เข้าใจเหมือนกันว่าหญิงสาวมาเกี่ยวอะไรด้วย  แต่ว่าเขาก็พูดชื่อเธอไปแล้ว   ด้วยน้ำเสียงที่แม้แต่ตัวเองก็ไม่ชอบเอาเสียเลย

            “เป็นอะไร”  อีกฝ่ายไม่เข้าใจ  มองหน้าเขาผ่านกระจกเงาอย่างค้นคว้า  “หรือว่าหิว  มีโรตีสายไหมไม่ใช่เหรอ  แกะกินก่อนสิ”

            “ไม่ได้หิว”

            “งั้น...หึง?”

            “บ้าเรอะ  กูจะหึงมึงเพื่อ?”  เมืองแมนตวัดเสียงกลับ  “จะขับกลับหรือเปล่า  ไม่ขับจะลงแล้วโบกรถกลับเอง”

            เจ้าของรถถอนหายใจเฮือก  ยอมถอยรถออกมาจากซอยนั้น   ชายหนุ่มขับรถออกมาตามเส้นทางกลับโรงพยาบาล  ภายในรถยังเงียบกริบราวกับนั่งขับอยู่คนเดียว

            เพลิงกัลป์เหลือบมองกระจกหลังอีกครั้ง  เห็นอีกฝ่ายยังเท้าคางมองดูวิวข้างนอก

            “คุณกี้เขามาคนเดียว  จะให้ผู้หญิงกลับบ้านเองคนเดียวได้ไงเล่า  เราก็มีรถไม่ได้ลำบากอะไรสักหน่อย  ช่วยเหลือเธอนิดหน่อยจะเป็นอะไรไป   บ้านเธอก็เป็นทางผ่านโรงพยาบาลอยู่แล้ว  ไม่ใช่ว่าต้องวนรถไกลๆ....”   ชายหนุ่มร่ายยาว  “...มึงจะใจร้ายปล่อยเขากลับสามล้อได้เรอะ”

            “.......................”

             

            ไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก....เพลิงกัลป์เหลือบมองกระจกอีกรอบ  พบว่าอีกฝ่ายหลับพับไปแล้วเรียบร้อย

            เขาโคลงหัวกับตัวเองเบาๆ  ...นี่มันเรื่องอะไรกัน  ทำไมเขาต้องมาเสียเวลาพูดอะไรไร้สาระกับคนหลับด้วยวะ

            กลับมาถึงแฟลตแพทย์  พอจอดรถเสร็จ คนที่หลับมาตลอดทางก็สะดุ้งตื่นเดินลงจากรถขึ้นไปบนแฟลตเฉย  ไม่ได้หันมาพูดอะไรกับเขาเลยสักนิด  เพลิงกัลป์มองตามอย่างงงงวย  เดาเอาว่าคงง่วงนอนล่ะมั้ง

            เขาประคองขวดน้ำมนต์สองขวดมาด้วย  เดินมาเคาะเรียกรูมเมทให้ออกมาจากห้องส่วนตัว  เมืองแมนพาดผ้าขนหนูเอาไว้บนบ่าเตรียมไปอาบน้ำ

            “น้ำมนต์ที่หลวงพ่อให้พกเอาไว้  รับไปสิ”

            “อ้อ...เกือบลืม  ขอบคุณมาก”  อีกฝ่ายทำท่าจะปิดประตูห้องแต่เพลิงกัลป์ใช้มือดันไว้ก่อน

            “ขอเข้าไปเอาผ้าห่มกับหมอนหน่อย”  เมื่อคืนเขาทิ้งเครื่องนอนของตัวเองเอาไว้บนพื้นข้างเตียงของเจ้าของห้อง  “คืนนี้คงไม่มีอะไรแล้วล่ะ  มีของดีของหลวงพ่ออยู่ด้วย”

            “อืม  ไว้เจอกันพรุ่งนี้”  เมืองแมนพูดราวกับจะจากไปไหนไกล  เพลิงกัลป์คิด...ก็แค่นอนห้องข้างๆกัน  แต่ไม่รู้ทำไมวันนี้เขารู้สึกว่ามันออกจะห่างเหินยังไงพิกล

            “.........”  ชายหนุ่มกลืนคำว่าฝันดีลงคอไป  บอกรูมเมทไปสั้นๆแค่ว่า “ราตรีสวัสดิ์”

            คืนนั้นเขาหลับสนิทรวดเดียวถึงเช้าโดยไม่ถูกเสียงหรืออะไรรบกวนทั้งสิ้น  มาสะดุ้งตื่นก่อนเสียงนาฬิกาปลุกตัวเองจะดังเพราะเสียงโอ้กอ้ากในห้องน้ำ

            เพลิงกัลป์รีบออกมาจากห้องนอน  เห็นรูมเมทกำลังคุกเข่าอยู่ที่พื้น  กอดชักโครกอยู่พลางก้มหน้าโก่งคออาเจียนหน้าดำหน้าแดง

            “เป็นอะไร  ไหวมั้ย”  เขาเข้าไปนั่งยองๆข้างๆ  มองอีกคนที่อาเจียนจนน้ำหูน้ำตาไหลแล้วก็เอื้อมมือไปหยิบทิชชูมาส่งให้เช็ดหน้า  “หมดหรือยัง  ล้างปากก่อน”  อีกฝ่ายดันตัวลุกขึ้นแต่กลับเซ  เพลิงกัลป์เลยช่วยพยุงให้อีกฝ่ายเอนพิงลงน้ำหนักมาเต็มที่   เขาเปิดก๊อกน้ำ  วักน้ำขึ้นมาล้างหน้าให้เมืองแมน

            คนป่วยหันหน้าหนีจนต้องดุ

            “ยืนไม่ไหวยังจะดื้ออีก  เฉยๆเถอะน่ะ”  เขาวักน้ำล้างหน้าล้างคราบอาเจียนที่เปื้อนอยู่ออกให้  หยิบแก้วน้ำมารองน้ำส่งให้เมืองแมนบ้วนปาก   รู้สึกได้ว่าเนื้อตัวที่แนบชิดอยู่นั้นเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อ  มือของอีกฝ่ายเย็นเฉียบ

            “ทำไมถึงลุกมาอ้วกล่ะ”  พูดออกมาแล้วก็นึกขึ้นได้ ...เหมือนเมื่ออาทิตย์ก่อนที่เขาเริ่มมีอาการไม่มีผิด  ก่อนหน้านี้เมืองแมนยังไม่มีอาการแพ้ท้องเลยนี่นา  “หรือว่าอาหารจะเป็นพิษ  มีถ่ายเหลวด้วยหรือเปล่า”

            “ไม่มี  มันคลื่นไส้...อ้วก”  พูดจบ เจ้าตัวก็ทรุดลงกับชักโครก  โก่งคออาเจียนอีกครั้งทั้งที่ไม่มีอะไรออกมาแล้ว

            เช้าวันนั้นผ่านไปอย่างทุลักทุเล  เมืองแมนอาเจียนจนหมดแรง  แถมยังเวียนหัวลุกไม่ไหว  เพลิงกัลป์เลยต้องโทรไปลางานกับอาจารย์คมศักดิ์หัวหน้าหน่วยแทน  อาจารย์ไม่ได้ว่าอะไรสักคำ  ไม่ถามเพิ่มด้วยราวกับรู้อยู่ก่อนแล้ว  แค่บอกให้เขาส่งใบลาและหาคนมาราวน์วอร์ดแทนเมืองแมนเท่านั้น

            “เดี๋ยวกูน่าจะไปทำงานไหว  ขอนอนพักหน่อย”  คนที่นอนหน้าซีดอยู่พูดพึมพำ  ลืมตาไม่ได้เพราะตาลาย

            “นอนพักยาวไปเลย  ไม่ต้องทำเก่งลุกขึ้นมานะ  อาหารเที่ยงเดี๋ยวกูซื้อมาให้”  เพลิงกัลป์บอก  “ไม่ต้องลุกมานะ  เดี๋ยวดูวอร์ดให้เอง  โทรลาอาจารย์ไปแล้ว  นอนไปนะ”  เขาพูดซ้ำโดยไม่รู้ตัว

            ชายหนุ่มพูดเหมือนเดิมย้ำกับคนป่วยอยู่หลายรอบกว่าจะออกไปทำงานได้  รู้สึกพะวักพะวงแทบไม่มีสมาธิจะทำอะไร  พอตอนเที่ยงเขาก็รีบไปซื้อโจ๊กหน้าโรงพยาบาลเผ่นกลับไปที่แฟลตแพทย์

            คนป่วยยังนอนซมอยู่บนเตียง  เขาเข้าไปสะกิดเรียกให้ตื่นขึ้นมากินข้าว

            “กินไหวมั้ย  หิวหรือเปล่า  หรือว่ายังคลื่นไส้อยู่  กูเอายามาด้วย”  คุณหมอหนุ่มล้วงเอาซองยาขึ้นมา  “หรือจะไปฉีดยา  ไปฉีดยาดีกว่ามั้ย  จะได้หายเร็วๆ....แต่ไม่รู้ยาฉีดจะมีผลต่อเด็กหรือเปล่าแฮะ  เดี๋ยวกูเปิดหนังสือดูก่อน”  เพลิงกัลป์พูดงึมงำในคอเหมือนพูดคนเดียว

            ยิ่งเห็นเมืองแมนหน้าซีดแทบไม่มีสีเลือด  เขาก็ยิ่งกังวลกว่าเดิม

            “กูว่าไปหาอาจารย์ดีกว่า  ให้อาจารย์ดูหน่อย  ทำไมหน้าซีดชะมัด  หรือว่ามีเลือดออก”  คนพูดทำท่าจะเลิกผ้าห่มขึ้นดู  เมืองแมนเลยต้องยึดมืออีกฝ่ายเอาไว้

            “กูไม่ได้เป็นอะไรมาก  มึงช่วยอยู่เฉยๆก่อน  มันเวียนหัว”

            “ก็ได้  งั้นกูจะนั่งตรงนี้  มึงลุกขึ้นมากินยาก่อน  จะได้ดีขึ้น”  เขาประคองอีกฝ่ายขึ้นมากินยาแก้เวียนแก้อ้วก  เมืองแมนพูดเสียงเบาจนเขาต้องเอียงหูลงไปฟัง

            “อยากกินโยเกิร์ต”

            “โยเกิร์ต?  ได้...อยากกินรสอะไร”

            “รส..สตรอเบอร์รี่”

            “โอเค  เดี๋ยวไปซื้อมาให้”   เพลิงกัลป์บอก  “อยากกินอะไรอีก  บอกมา”

            “อยากกิน...กล้วยปิ้ง  ที่มีน้ำหวานๆราด  คู่กับยำมะม่วง”

            “เดี๋ยวก่อนๆ  ขอไปหยิบกระดาษมาจดก่อน”  เพลิงกัลป์รีบห้าม ลุกขึ้นไปหยิบกระดาษมาจดเมนูอีกสามสี่อย่างที่คนท้องอยากกิน   เขามองเมนูที่อีกฝ่ายพูดมาอย่างอ่อนใจ...เมนูชวนท้องเสียชะมัด

            พูดแล้วก็รู้สึกปวดมวนในท้อง

            เขาคะยั้นคะยอจนอีกฝ่ายยอมตักโจ๊กกินไปได้เกือบครึ่งถ้วย  จากนั้นก็ปล่อยให้เมืองแมนนอนพักต่อ  ส่วนตัวเขาเองก็รีบจัดการอาหารกลางวันของตัวเองแล้วกลับเข้าไปหารูมเมท

            “นอนพักไปก่อน บ่ายโมงกว่าแล้วกูต้องไปอยู่เวรอีอาร์ต่อ  เดี๋ยวจะซื้อมาให้ตอนเย็นนะ”

            คนบนเตียงพยักหน้ารับ  ไม่ได้พูดอะไร

            สามวันต่อจากนั้นเป็นวันที่ทรมานมากสำหรับเมืองแมน  เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายกันแน่  ทำไมจู่ๆจากคนที่กินเอาๆ กินได้กินดีถึงได้ลุกขึ้นมาคลื่นไส้  เหม็นอาหารไปหมดทุกอย่างแม้แต่ของที่อยากกินจนถึงกับฝากเพลิงกัลป์ไปซื้อมาให้  พอเอามาเข้าจริงกลับกินไม่ลง

            แค่ลุกขึ้นนั่งก็เวียนหัว  ภาพหมุนติ้วๆ  พอนอนก็ขมปากขมคอ  อาเจียนจนเจ็บคอ ปวดหัว  ไม่มีแรงไปทำงาน  ต้องลาพักต่อกันถึงสามวัน

            “กูว่าไม่ไหวแล้วล่ะ  ต้องได้น้ำเกลือแล้ว”   เพลิงกัลป์พูดซ้ำเหมือนเดิมตั้งแต่วันแรก  กำข้อมือของเขาขึ้นมาชู  “ดูสิ  สามวันเอง  ผอมไปตั้งเยอะ”

            “กูไม่อยากนอนโรงพยาบาล”   เมืองแมนยืนยันคำเดิม  ถ้าเขานอนโรงพยาบาลอีก  คราวนี้ความลับของเขาคงแตกแน่  ไม่ใช่มีแค่เขากับเพลิงกัลป์ที่เป็นหมอนี่นะ  เพื่อนๆของเขา  ไหนจะอาจารย์อีก  ไม่นานทุกคนก็จะต้องรู้ความจริงว่าเขา ‘ป่วย’ เป็นอะไร

            “ก็บอกว่าอาหารเป็นพิษก็ได้  ใครจะรู้”  เพลิงกัลป์ปลอบ  “ไปเถอะ...นี่มึงกินอะไรไม่ได้เลยนะแมน”  ...พลอยทำให้กูกินไม่ลงไปด้วย  ชายหนุ่มคิดอยู่ในใจ  สามวันมานี้ไม่ใช่แค่เมืองแมนที่ซูบลง

            “ไม่อยากเป็นเรื่องใหญ่”

            “เรื่องลูกกูเรื่องใหญ่ทั้งนั้นล่ะ”  เพลิงกัลป์พูด  ชักโมโห  พิศดูใบหน้าของอีกฝ่ายที่เห็นโหนกแก้มขึ้นชัดเจนก็ยิ่งมีอารมณ์  “จะยอมไปเอง  หรือให้อุ้มไป”

            อีกฝ่ายหันหน้าหนี   แนบใบหน้าลงกับหมอนไม่ยอมตอบ  แต่ท่าทางบอกชัดว่าไม่ไปแน่ๆ

            “งั้นกูอุ้มนะ”  เพลิงกัลป์ทำท่าจะอุ้มเอาจริงๆ  พอดีมีเสียงเคาะประตูเรียกหน้าห้องเสียก่อน

            ชายหนุ่มชะงัก  มองหน้ากันอย่างระแวง...กลัวว่าจะเป็นแขกไม่ได้รับเชิญที่หายไปแล้วสามวันหลังจากได้น้ำมนต์ดีมีบูชาที่ห้อง

            “เมืองแมน  เพลิงกัลป์  อยู่หรือเปล่า...นี่พี่คริสเองนะ”

            “พี่คริส?”  เมืองแมนอุทาน

            เพลิงกัลป์เลยรีบเดินมาเปิดประตู  เจออาจารย์หนุ่มยืนอยู่ก่อนแล้วพร้อมด้วยคุณพยาบาลที่เขาจำได้ว่าเป็นหัวหน้าวอร์ดพิเศษ

            “พี่รู้ข่าวเมืองแมนไปทำงานไม่ไหวมาหลายวันก็เลยแวะมาเยี่ยม  นี่พี่อุ๊   พยาบาลพิเศษ  ...เขารู้เรื่องเมืองแมน”  อาจารย์บอกเรียบๆ  ก้าวเข้าไปในห้องพักของอินเทิร์นหนึ่ง   “เมืองแมนอยู่ไหนแล้วล่ะ”

            “นอนพักอยู่ในห้องครับ”  เพลิงกัลป์พูด  เคาะประตูห้องเพื่อนเป็นสัญญาณแล้วเปิดเข้าไป  เมืองแมนรีบยกมือไหว้อาจารย์

            “เป็นไงบ้างเรา  ลุกไม่ไหวเลยเรอะ...ผอมไปตั้งเยอะแน่ะ  กินอะไรได้บ้างมั้ย  ไม่งั้นลูกในท้องจะไม่แข็งแรงเอานะ”  อาจารย์พูด

            “กินไม่ได้เลยครับ  อาเจียนอย่างเดียว  เวียนหัวตลอด  ผมให้ไปนอนรพ.ก็ไม่ยอมไป”  เพลิงกัลป์เป็นฝ่ายฟ้อง  “วันๆจิบแต่น้ำเปล่า  กับโยเกิร์ตสองถ้วย”

            “เป็นมากนะนั่น  คุณอุ๊ครับ  ผมรบกวนช่วยเปิดน้ำเกลือให้หน่อยนะ  กะไว้แล้วเชียวว่าต้องมีคนไม่ยอมแอดมิทแน่ๆ”

            เมืองแมนเม้มปาก   แต่ก็ยอมให้คุณพยาบาลเข้ามาเปิดเส้นให้น้ำเกลืออย่างคล่องแคล่ว  เขารู้ตัวอยู่เหมือนกันว่าเริ่มจะไม่ไหวแล้ว

            “ถ้านับอายุครรภ์ต่อจากที่อัลตราซาวน์วันนั้นก็สองเดือนพอดีแล้วสิ  ไม่ได้มีเลือดออกอะไรใช่มั้ยเมืองแมน”

            “ครับอาจารย์”

            อาจารย์หนุ่มพยักหน้า  ถามไถ่อาการของรุ่นน้องอยู่พักใหญ่จนพอใจถึงได้ขอตัวกลับ  ไม่ลืมบอกทิ้งท้ายว่าถ้าเพลิงกัลป์เห็นท่าไม่ดีให้โทรหาอาจารย์ได้ทันที

            “ส่วนเรื่องผลตรวจโครโมโซม  ผลยังไม่ออกนะ  พี่ปรึกษาอาจารย์ของพี่แล้วคิดว่าจะต้องตรวจเลือดเพิ่มบางอย่าง  ถ้ายังไงพี่ขอเจาะเก็บเลือดเธอไปเลยก็แล้วกันนะ  ไหนๆก็เปิดเส้นแล้ว”

            “มีเคสที่เป็นเหมือนผมมั้ยครับ  ผมหาเปเปอร์อ่านดูแล้วไม่เจอใครที่เป็นเหมือนผมเลย”

            “ก็พอมีอยู่เหมือนกัน”  อาจารย์หนุ่มตอบด้วยท่าทางระมัดระวัง  “แต่ว่ายังไม่เป็นที่เปิดเผย   พี่ก็ยังไม่ทราบรายละเอียด  แต่เดือนหน้าพี่ว่าจะบินไปอเมริกาเพื่อฟังเรื่องนี้”

            “จริงหรอครับอาจารย์”  เมืองแมนตื่นเต้น  ....ยังมีผู้ชายคนไหนบนโลกนี้ที่แจ๊กพ็อตแตกเหมือนเขาอีกงั้นหรือ “แล้วอาจารย์จะเล่าเรื่องผมมั้ยครับ”

            “คงยัง   เธอคงไม่อยากกลายเป็นหนูทดลองหรืออะไรทำนองนั้นหรอกใช่มั้ยล่ะ”  อาจารย์ตอบกลับมา  “เรื่องนี้ต้องเก็บเป็นความลับไว้ก่อน  เพื่อความปลอดภัยของเธอเอง...ของเราทุกคนด้วย”   พูดจบอาจารย์หนุ่มก็หัวเราะออกมาเบาๆเมื่อเห็นสีหน้าของพ่อเด็กที่นั่งกอดอกอยู่  “ไม่ต้องทำหน้าเครียดขนาดนั้นหรอกเพลิง  พี่ก็พูดเผื่อไว้อย่างนั้นเอง”

            เพลิงกัลป์ไม่ตอบแต่ยิ้มบางๆ

            “ถ้าอย่างนั้นพี่กลับก่อนล่ะ  ไว้จะมาเยี่ยมใหม่  น้ำเกลือนี่ถ้าหมดขวดแรกก็ต่อขวดที่สองกันเองนะ  ทำเป็นอยู่แล้วนี่ใช่มั้ย”  อาจารย์คริสพูดยิ้มๆ  “พี่ฉีดยาแก้อ้วกให้  ตัวนี้ปลอดภัย”  เขารีบเสริมเมื่อเห็นคิ้วเข้มๆขมวดฉับ  “พี่ขอแวะเข้าห้องน้ำก่อนได้มั้ย  ปวดจัง”

            “ได้เลยครับอาจารย์”

            อาจารย์หนุ่มเดินออกมาจากห้องของเมืองแมน  เดินผ่านห้องกินข้าว  สายตาคมไวเหลือบไปเห็นสเตโทสโคปสีชมพูอ่อนวางทิ้งเอาไว้บนไมโครเวฟก็เดินเข้าไปหยิบขึ้นมา

            “ทำไมวางสเต็ททิ้งเอาไว้ตรงนี้ล่ะ  สเต็ทเป็นเครื่องมือหากินของหมอเลยนะ  ดูแลดีๆหน่อย....”   เสียงของคนพูดขาดหายไปในลำคอ  อาจารย์คริสเพ่งมองตัวอักษรภาษาอังกฤษที่สลักเอาไว้ตรงหูฟังอย่างประณีตนั้นอีกรอบ  เป็นเพราะใช้วิธีสลักลงไปกับเนื้อโลหะ  ตัวอักษรเลยไม่จางหายไปเหมือนกับสีชมพูที่เคลือบสายเอาไว้

            ‘L I N’

         

          ..............................................................................

 

 

            มาอัพต่อแล้วจร้า

            อัพบ่อยๆให้สาแก่ใจ55555  เรื่องเริ่มเข้าใกล้ความจริงขึ้นทีละนิดล่ะ  (ช้าหน่อยอร่อยแน่55)  ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ทุกโหวต   ดีใจที่มีคนอ่านนะเหวย

            เจอกันตอนหน้า

          #แฟนหมอแมน


 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-02-2018 23:49:20 โดย ็Hollyk »

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ผีผู้หญิงตนนั้นเป็นหมอชื่อลินแล้วก็เป็นพี่สาวของคุณกี้ด้วยใช่ไหมคะ แต่ว่ามันเกี่ยวกับเรื่องของเพลิงแมนยังไงล่ะ

ออฟไลน์ ciaiwpot

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1098
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
ใกล้แล้วใช่ไหม
ดีๆๆกันได้แล้ว

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
อุ้ยสลับกันแพ้ท้อง ความจริงค่อยๆคืบคลานเข้ามาแล้วววว

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ที่ฟังหัวใจสีชมพูกับผี กับพี่คริส เกี่ยวข้องกันอย่างไงนะ  :hao3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
ผีผู้หญิงตนนั้นเป็นหมอชื่อลินแล้วก็เป็นพี่สาวของคุณกี้ด้วยใช่ไหมคะ แต่ว่ามันเกี่ยวกับเรื่องของเพลิงแมนยังไงล่ะ

คิดเหมือนกันเลยค่ะ

ออฟไลน์ SiHong

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 484
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-2
เอ็นดูความห่วงใยของคุณพ่อหมอเพลิง

ออฟไลน์ แม้วธวัลหทัย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
คูมหมอออออออ
ลินคือครายยยยยยย
งือออออออออ

พ่อเพลิงน่ารักกก
ทำไมหวงหึงกันน่ารักจังเลยยยย

ออฟไลน์ masochism2018

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
ตัดจบค้างยิ่งกว่าละครช่องวัน :hao7:

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
เราว่าพี่หมอคริสต้องมีส่วนพัวพันกับเจ้าของสเต็ทแน่ๆ แล้วทำไมคนแพ้ท้องกลายเป็นแมนแล้วละหรือเพราะอิหมอเพลิงมันเจ้าชู้ใส่สาวอื่นลูกเลยเรียกร้องความสนใจให้แทนแมน

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
พี่หมอคริสก็รู้จักกับคุณอดีตมนุษย์ที่ยังอยู่แถวนั้นใช่ไหนคะ? คุณหมอลิน?  (เดาล้วนๆ)

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ wikawee

  • มีชีวิตอยู่เพื่อทำฝันให้เป็นจริง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-7
หมอคริสเป็นคนที่ทำให้ผู้หญิงคนนั้นกลายเป็นผีหรอออออ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ความจริงจงเปิดเผย

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
LIN     นี่ล่ะ คือ กุญแจ

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
หูฟังของน้องผีสาวแน่เลย

ออฟไลน์ vermilion

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ฮือ ติดเรื่องนี้ซะแล้ว ทั้งลุ้น ทั้งอบอุ่น มีเรื่องตื่นเต้นเกิดขึ้นตลอด รออ่านต่ออยู่นะ

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ใกล้ความจริงแล้ว

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
รอลุ้นตอนต่อไปค่ะ^^

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
ชอบเรื่องนี้ :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด