เดือนอิงดอย Chapter 35 : เดือนอิงดอย (END)[190619]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เดือนอิงดอย Chapter 35 : เดือนอิงดอย (END)[190619]  (อ่าน 306402 ครั้ง)

ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4
อ้างถึง
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
 
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


**นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายวาย อ้างอิงมหาวิทยาลัยเชิงดอยกับสถานที่ท่องเที่ยวทางภาคเหนือมานิดหน่อยนะคะ อาจมีบางส่วนที่เปลี่ยนแปลงไปเพื่อให้เข้ากับเนื้อเรื่องและจริตของฮัสกี้เองค่ะ 55555555
 
 
 
Talk
 
 
คิดถึงหมอเต้กันมั้ยค้าาา~ ฮัสกี้พาหมอเต้คนอาภัพความรัก(ในภูสอยเดือน) มาส่งให้ทุกคนแล้วนะคะ ฝากเอ็นดูหมอเต้กันด้วยน้าาาา

 
ขอแนะนำตัวละครในเรื่องนิดนึง
 
 
เตชิต สุทธากุล 25 ปี เป็นทันตแพทย์ใช้ทุน
 
คีรี (ไร้คำจำกัดความ 555555)

 
 
แล้วพบกันในเรื่องนะคะ



สารบัญ

Chapter 1 Chapter 2 Chapter 3 Chapter 4 Chapter 5 1/2 Chapter 5 2/2
Chapter 6 Chapter 7 Chapter 8 Chapter 9
Chapter 9.1 Chapter 9.2 Chapter 9.3 Chapter 9.4 Chapter 9.5
Chapter 10 Chapter 11 Chapter 12 Chapter 13 Chapter 14 Chapter 15
Chapter 16 Chapter 17 Chapter 18 Chapter 19 Chapter 20 part1/2 Chapter 20 part2/2
Chapter 21 Chapter 22 Chapter 23 Chapter 24 Chapter 25
Chapter 26 part 1/2 Chapter 26 part 2/2 Chapter 27 Chapter 28 Chapter 29 Chapter 30
Chapter 31 Chapter 32 Chapter 33 Chapter 34 Chapter 35




 :mew1: เพจสำหรับอัปเดตนิยายของฮัสกี้ค่ะ -->Facebook


อ้างถึง
นิยายของฮัสกี้เรื่องอื่นๆ ค่ะ  :กอด1:

Nisreen, the white rose of the desert
เงาจันทร์ในม่านหมอก
เบลอ
เหนือเมฆ
แต่กาลก่อน
ภูสอยเดือน


**นิยายทุกเรื่องของฮัสกี้ ไม่อนุญาตให้นำออกจากเล้า และไม่อนุญาตให้ใครนำไปโพสต์ที่บอร์ดอื่นๆ เด็ดขาดค่ะ

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-05-2021 05:43:47 โดย huskyhund »

ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4


Chapter 1 : เหตุเกิดที่เชียงราย



เสียงเพลงจากวงดนตรีและนักร้องในร้านอาหารกึ่งผับของโรงแรมขนาดใหญ่ระดับห้าดาวแห่งหนึ่งในเมืองเชียงรายดังก้อง ภายในร้านมีแสงไฟสลัว หากบรรยากาศครึกครื้น มีคนนั่งเต็มทุกโต๊ะ หนึ่งในโต๊ะเหล่านั้นเป็นของทันตแพทย์บางส่วนที่มาประชุมกันในโรงแรมแห่งนี้ และก็มี เตชิต สุทธากุล ทันตแพทย์จากโรงพยาบาลลำพูนนั่งร่วมอยู่ด้วย

ที่นั่งของเตชิตมีทันตแพทย์หญิงขนาบซ้ายขวา และนอกจากภาคภูมิซึ่งเป็นหัวหน้าของเตชิตแล้ว ในโต๊ะก็มีแต่ทันตแพทย์หญิงเท่านั้น แต่ละคนตื่นเต้นดีใจเพราะไม่บ่อยนักที่จะมีทันตแพทย์หนุ่มหล่อซึ่งเคยมีดีกรีเป็นลีดมหาวิทยาลัยชื่อดังในกรุงเทพฯ มาเข้าร่วมในงานประชุม

“ไม่น่าเชื่อเลยว่าหมอเต้จะยังโสดน่ะค่ะ โม้รึเปล่าเนี่ย”

ผู้ถูกกล่าวถึงยิ้มหวานรับ ใจอยากจะตอบไปว่าแดกแต่แห้วจนหัวแหลมแล้วเนี่ยครับ หากจะตอบไปตามตรงก็สงสารตัวเอง “ไม่มีใครสนใจผมน่ะสิครับ สงสัยคงต้องอยู่เป็นโสดไปตลอดชีวิตแน่ๆ เลย”

“ที่พูดเนี่ย ได้มองตาสาวๆ ในร้านรึยังคะ” พวกเธอหัวเราะคิกคัก

ทันตแพทย์สาวคนหนึ่งหันไปถาม “หมอภูมิคะ หมอเต้พูดจริงรึเปล่าคะ”

ภาคภูมิพยักหน้าหงึกๆ “ผมรับประกันได้นะว่าหมอเต้โสดจริงๆ ที่โรงบาลไม่เคยเห็นไปไหนมาไหนกับใคร วันๆ ทำแต่งาน ตัวติดอยู่กับแต่เพื่อนเขานั่นละ”

“ว้าย น่ารักจังเลยค่ะหมอเต้”

เจ้าของชื่อยิ้มแห้ง เพราะไอ้ที่แดกแต่แห้วจนพัฒนาไปเป็นเจ้าของไร่แห้วอยู่ทุกวันนี้ได้ ก็เพราะเพื่อนเขาคนที่ว่านี่แหละ

ในระหว่างนั้นก็มีพนักงานถือถาดใส่แก้วค็อกเทลสีเหลืองส้มปนแดงมาเสิร์ฟให้ “Kiss on the lips ครับ มีคนฝากมาให้คุณหมอ”

เตชิตเงยหน้าขึ้นขณะที่สาวๆ ในโต๊ะวี้ดว้าย เขาไม่ได้ถามอะไร เพียงแค่ยิ้มพร้อมกับรับค็อกเทลแก้วนั้นมา เพราะคิดว่าถ้าหากคนให้อยากให้เขารู้ว่ามาจากใครก็คงให้พนักงานเสิร์ฟบอกโต๊ะหรือที่นั่งมาแล้ว แต่นี่อาจจะต้องการลองเชิงดูก่อน “ขอบใจ”

นั่งดื่มไปอีกสักพัก ภาคภูมิก็เอ่ยขึ้น “หมอเต้ อย่าดื่มหนักนักนะครับ เดี๋ยวคืนนี้โดนใครหิ้วไปผมช่วยอะไรไม่ได้นา โดนหมอวินต่อว่าเอาผมไม่รู้ด้วย”

“โอย ผมดื่มนิดเดียวครับ ไม่เมาหรอกครับหมอภูมิ”

ภาคภูมิหัวเราะ “งั้นเชิญหมอเต้ตามสบายดีกว่า ผมแก่แล้ว ขอขึ้นไปพักก่อนล่ะ พรุ่งนี้ตื่นให้ทันรถออกนะครับ”

ทันตแพทย์หนุ่มพยักหน้าหงึกๆ “ครับ ราตรีสวัสดิ์ครับ”

“ผมไปนะทุกคน เชิญดื่มกันตามสบาย เดี๋ยวผมจัดการบิลให้เอง”

“ขอบคุณค่ะ/ครับหมอภูมิ”

ผู้เป็นหัวหน้าก้าวห่างออกจากโต๊ะไปไม่กี่เก้า พนักงานก็นำค็อกเทล Kiss on the lips แก้วใหม่มาเสิร์ฟให้

เตชิตยกแก้วค็อกเทลในมือซึ่งเกือบจะหมดแก้วแล้วขึ้นมอง เขากวาดสายตามองไปรอบๆ ตัวช้าๆ เพราะคิดว่าคนที่ส่งมาให้น่าจะต้องคอยสังเกตเขาอยู่ถึงได้ส่งแก้วใหม่มาพอดีเวลาแบบนี้ ทว่ามองไปทางไหนก็เห็นมีคนมองมาทางเขาเต็มไปหมด ทันตแพทย์หนุ่มขมวดคิ้ว แต่ก็หันไปยิ้มให้พนักงานเสิร์ฟ “ขอบใจนะ” ก่อนจะรับแก้วค็อกเทลซึ่งเขาได้มาฟรีเป็นแก้วที่สองไว้

หลังจากนั้นไม่นานก็มีค็อกเทลแก้วที่สาม สี่และห้าตามมา หากไม่ใช่ค็อกเทลแบบเดียวกันกับสองแก้วแรก น่าแปลกที่สามแก้วหลังนี่มาพร้อมทั้งเบอร์โทรศัพท์และรอยยิ้มจากคนที่ส่งมาให้ ทันตแพทย์หนุ่มพับกระดาษที่เขียนเบอร์โทรศัพท์ไว้ใส่กระเป๋าเสื้อ พลางยิ้มตอบสาวๆ โต๊ะที่ส่งเครื่องดื่มมาให้ตามที่พนักงานชี้บอก

ขนาดว่าเขานั่งกับสาวๆ เต็มโต๊ะนะเนี่ย ยังขายดีขนาดนี้ ถ้านั่งคนเดียวคงโดนฉุดไปแล้ว เขาดื่มไปยิ้มกรุ้มกริ่มไป เนื่องจากนานๆ จะได้สัมผัสความรู้สึกแบบนี้สักที เพราะในยามปกติ ไอ้วินเพื่อนรักของเขาจะโกยความสนใจจากสาวๆ ไปที่ตัวมันหมด

ถึงจะไม่ได้อยากถูกจับแยก แต่งานนี้ก็คงต้องขอบคุณโรงพยาบาลที่ไม่ได้ส่งพวกเขามาประชุมพร้อมกัน ไม่อย่างนั้นเขาคงลืมไปแล้วว่าตัวเองก็ดูดีพอไปวัดไปวากับเขาได้เหมือนกัน

เตชิตมองเงาสะท้อนของตัวเองในช้อนพลางอมยิ้ม

อาห์ กูนี่ก็หล่อเหมือนกันเนอะ

เสียงดนตรีของเพลงใหม่เริ่มต้นขึ้นแล้ว เป็นทำนองเพลงที่ชวนให้รู้สึกคึกคัก ตามมาด้วยเสียงวี้ดว้ายจากสาวๆ โต๊ะใกล้ๆ เวที หากนั่นก็ไม่ได้ทำให้เตชิตสนใจจะหันไปมอง เขาจิบค็อกเทลในแก้วไปฟังเพลงไปเรื่อยๆ

“อดใจไม่ไหว เมื่อได้พบหน้า ยิ่งเธอส่งยิ้มคืนมายิ่งหวั่นไหว”**

เสียงเพราะดีจังแฮะ

น้ำเสียงนุ่มทุ้มสะดุดหูนั่นเรียกให้ทันตแพทย์หนุ่มหันมองไปทางเวที และพบว่าคนที่กำลังร้องเพลงอยู่ก็มองมาทางโต๊ะที่เขานั่งอยู่เช่นกัน เขาขมวดคิ้ว แล้วหันมองไปรอบๆ ตัว ก่อนจะมองไปที่เวทีอีกครั้ง

“อดใจไม่ไหวทุกทีที่เจอ เพียงแค่แอบเผลอมองตาจะผิดไหม เก็บเอาไปฝันอยู่ทุกคืน ฉันต้องทำตัวเช่นไร”**

(**หวั่นไหว ศิลปิน : บอดี้แสลม)


เนื่องจากที่นั่งของเตชิตอยู่ไกลจากเวทีพอสมควร เขาจึงมองเห็นใบหน้าของคนที่ร้องเพลงอยู่บนเวทีได้ไม่ชัดเจนนัก รู้แต่ว่าอีกฝ่ายใส่เสื้อยืดกับกางเกงยีนและบนศีรษะสวมหมวกแก๊ปสีดำเท่านั้น

สักพักสาวๆ โต๊ะข้างหน้าเวทีก็ลุกขึ้นไปยืนออล้อมเวทีซึ่งก็เป็นเวทีที่ไม่ได้สูงนัก เป็นผลให้เตชิตมองเห็นเพียงแค่ท่อนบนของเด็กหนุ่มนักร้อง พวกเขากระโดดและเต้นไปด้วยกัน ถึงอย่างนั้นอีกฝ่ายก็ยังคงมองมาที่เขาเป็นระยะๆ

ที่เขาเหรอ? คงไม่หรอกมั้ง ไม่รู้จักกันสักหน่อยนี่หว่า

“น่าอิจฉาสาวๆ นะคะ ครึกครื้นดีจัง” ทันตแพทย์สาวที่นั่งอยู่ข้างกันพูดขึ้น แต่เพราะเห็นว่าเตชิตทำหน้างงๆ หันมองไปหันมองมาจึงเอ่ยถาม “มีอะไรเหรอคะหมอเต้”

“เอ้อ เปล่าหรอกครับ” พอเตชิตกวาดตามองไปในโต๊ะก็เห็นว่าทันตแพทย์สาวๆ พร้อมใจกันหันไปดูนักร้องกันหมดแล้ว

หรือนักร้องคนนั้นจะรู้จักกับใครแถวนี้วะ?

แต่แล้วเด็กหนุ่มนักร้องก็ลงจากเวทีไปทันทีที่ร้องเนื้อร้องจบ ก่อนที่ทำนองเพลงจะจบลงเสียอีก เป็นผลให้สาวๆ ตรงหน้าเวทีโวยวายกันเล็กน้อย แล้วนักร้องประจำของวงก็ขึ้นมาบนเวทีแทน

“เพลงเมื่อกี้ทุกคนคงรู้จักกันดีใช่มั้ยครับ ชื่อเพลง หวั่นไหวมอบให้กับคุณผู้ชายเสื้อเชิ้ตสีฟ้าโต๊ะสิบเก้าเป็นพิเศษเลยนะคร้าบ โห ต้องหล่อมากแน่เลยเนี่ย คุณผู้ชายโต๊ะสิบเก้าลุกขึ้นโชว์ตัวนิดนึงคร้าบ” นักร้องบนเวทีเอ่ยแซว

สาวๆ ในโต๊ะกรี๊ดกร๊าด พวกเธอรีบสะกิดให้เตชิตลุกขึ้นกันเป็นพัลวัน ซึ่งอันนี้เขาก็ไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไร

เตชิตลุกขึ้นโปรยยิ้ม ผงกศีรษะเล็กน้อยแล้วรีบนั่งลง หากทำให้ภายในร้านคึกคักมากขึ้นไปอีก สายตานับสิบคู่พุ่งตรงเข้ามาที่เขาตลอดเวลา

ขณะเดียวกันโทรศัพท์มือถือที่วางไว้บนโต๊ะก็สั่นเบาๆ ทันตแพทย์หนุ่มจึงรีบหยิบขึ้นมากดรับสาย “ว่าไงครับ”

“มึงเป็นใครเนี่ย!”

“ก็คุณรวินท์โทรมาหาใครละครับ” เตชิตพูดกลั้วหัวเราะ

“ขนลุกเว้ย แดกอะไรผิดสำแดงเหรอวะถึงพูดแบบนี้กับกูเนี่ย แล้วมึงอยู่ไหน ทำไมเสียงดังชะมัด”

“ตอนนี้อยู่ในร้านอาหารของโรงแรมอะ เดี๋ยวโทรกลับนะ รอแป๊บ” เตชิตกดวางสายพร้อมกับลุกขึ้น จากนั้นก็บอกลากับสาวๆ ในโต๊ะ “ผมคงต้องขอตัวก่อน พรุ่งนี้เจอกันครับ” แล้วก้าวฉับๆ ออกจากร้านไป โดยไม่สนใจคำคัดค้านของสาวๆ ในโต๊ะเลย

ทันตแพทย์หนุ่มเดินไปบอกพนักงานโรงแรมให้จัดหาแท็กซี่ให้ ระหว่างนั้นก็เดินไปหามุมสงบรอ เขานั่งลงบนโซฟาแถวนั้น แล้วกดโทรศัพท์ออกไปหาคนที่เพิ่งโทรมาเมื่อครู่ “คุยได้ละเว้ย รอนานมั้ยวะ”

“นานมาก!”

“สัส ยังไม่ถึงห้านาทีเลย!”

“มึงอยู่ไหนแล้วเนี่ย ยังอยู่ในร้านรึเปล่าวะ ทำไมเงียบๆ”

“ตอนนี้ออกมานั่งข้างนอกแล้ว”

“แหม โรงบาลเขาให้ไปประชุมนะเว้ย มึงไปนั่งแรดอะไรในร้านอาหาร ทีไอ้ตอนจะไปงี้ทำเป็นงอแง โวยวายสารพัด ตอนนี้ไม่อยากกลับละดิ”

“ก็ไม่ได้ประชุมทั้งวันทั้งคืนป่ะวะ กูก็ต้องพักผ่อนบ้างไรบ้าง อีกอย่างนะ หมอภูมิเลี้ยงทั้งที สาวๆ ก็คะยั้นคะยอ กูจะปฏิเสธก็ยังไงอยู่ คนมันฮ็อตด้วยอะมึง” เตชิตหัวเราะร่วน

“เมารึยังล่ะ”

“ยังเว้ย แค่กึ่มๆ”

“อย่าเมามากนะเว้ย เดี๋ยวตื่นมาก็ได้เมียหรอก”

“กูไม่นอกใจมึงหรอกน่าไอ้วิน คิดถึงกูอ่อ โทรมาแต่หัววันเลยเนี่ย”

“เป็นห่วงหรอกเว้ย กลัวว่าถ้ามึงอยู่คนเดียวจะเดินบื้อหาทางกลับห้องไม่ถูก แล้วนี่มึงจะกลับเข้าไปในร้านอีกมั้ย”

“ไม่ละ ว่าจะไปเดินเล่นที่ไนต์บาร์ซาสักหน่อย ไปดูของฝากให้มึงไง”

“โห ซึ้ง ถ้าเจอหมูยอก็ซื้อมาด้วยนะ”

“เออๆ”

“แล้วอย่าเตร็ดเตร่นานนักล่ะมึง”

“คร้าบพ่อ”

“สัส!”

ไอ้วิน หรือ รวินท์วางสายไปแล้ว แต่เตชิตยังคงยิ้มหน้าบาน เขาเดินอาดๆ ออกจากโรงแรม ขึ้นแท็กซี่ตรงไปยังไนต์บาร์ซาซึ่งอยู่ไม่ไกลออกไปนัก

รวินท์เป็นเพื่อนรักตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลายของเตชิต จนเข้ามหาวิทยาลัยและมาเป็นทันตแพทย์ใช้ทุนด้วยกัน แน่นอนว่าอีกฝ่ายไม่ได้เป็นแค่เพื่อนรักธรรมดา แต่ยังเป็นคนที่เขาหลงรักมาตลอดด้วย หากก็เป็นเพียงแค่การหลงรักอยู่ฝ่ายเดียวเท่านั้น

แม้จะได้แค่รักข้างเดียว แต่เตชิตก็มีความสุขในแบบของเขา

แค่ได้มีรวินท์อยู่ข้างกาย คอยดูแลห่วงใยกัน สำหรับเขามันก็ดีมากแล้ว



ทันตแพทย์หนุ่มเดินไปเลือกซื้อของฝากที่ไนต์บาร์ซาอยู่เป็นชั่วโมง เดินเข้าเดินออกหลายร้าน จนได้ช้างไม้แกะสลักตัวเล็กๆ มาเป็นของฝากให้เพื่อนรัก เขานั่งรอให้ชาวเขาที่เป็นคนขายสลักชื่อรวินท์ลงไปด้วย เมื่อได้ของที่ถูกใจแล้วก็เดินเล่นในบริเวณไนต์บาร์ซาต่อ

ทว่าจู่ๆ ก็มีเสียงคล้ายระเบิดดังลั่น เป็นผลให้ผู้คนในบริเวณนั้นแตกตื่น วิ่งเบียดกันไปในทิศทางตรงกันข้ามกับเสียงดังนั้น บ้างก็ชนกันล้มระเนระนาด เตชิตไม่ทันตั้งตัว เขาจึงถูกผลักถูกดันให้ไหลไปตามกระแสผู้คน

ขณะที่กำลังหันรีหันขวาง สายตาของทันตแพทย์หนุ่มก็ไปสะดุดอยู่ที่เด็กหญิงในชุดชาวเขาซึ่งถูกเบียดมาอยู่ใกล้ๆ กัน เขารีบอุ้มเธอขึ้นก่อนที่จะถูกใครเหยียบเอา จากนั้นก็มองหาตรอกเพื่อวิ่งเข้าไปหลบ

เด็กหญิงร้องไห้จ้า ดูเหมือนเธอจะพลัดหลงกับบิดามารดามา

พอเข้ามาหลบในตรอกได้ ทันตแพทย์หนุ่มก็วางเธอลง เขากอดเธอไว้หลวมๆ พลางลูบหลังให้อย่างอ่อนโยน “ไม่ต้องร้องนะครับ เดี๋ยวพี่จะพาไปหาพ่อแม่นะ” เขารอให้เด็กหญิงหยุดร้องไห้อย่างใจเย็น แล้วจึงเอ่ยถาม “ชื่ออะไรครับ”

“น้ำอิงเจ้า”

เตชิตยิ้มบาง พร้อมกับใช้ปลายนิ้วเกลี่ยน้ำตาออกจากพวงแก้มสีชมพู “พี่ชื่อเต้นะ น้องน้ำอิงไม่ต้องร้องไห้ เดี๋ยวพี่จะพาไปหาพ่อแม่นะ”

เด็กหญิงสะอึกสะอื้นเบาๆ “ข้าเจ้ากั๋วขนาด มีคนล่นมาจน เฮาต้าวเจ็บแข้ง อยากปิ๊กบ้านแล้วเจ้า”(หนูกลัว มีคนวิ่งชนหนูหกล้ม เจ็บขาด้วย อยากกลับบ้านแล้วค่ะ)

ทันตแพทย์หนุ่มยิ้มแห้ง ภายในศีรษะเร่งแปลปนเดาความหมายของกำเมืองที่เพิ่งได้ยินให้เป็นภาษากลางที่เขาคุ้นเคย จากนั้นก็อึ้งไปอีกเล็กน้อย เพราะกังวลว่าจะสื่อสารกับเด็กหญิงไม่เข้าใจ แล้วเขาจะจะพาเธอไปหาบิดามารดาได้อย่างไรกันล่ะ ต้องพาไปส่งตำรวจแทนหรือเปล่าวะ แต่จะอธิบายกับเธอยังไงไม่ให้ตื่นตกใจ ถ้าเธอร้องไห้ คนจะมองว่าเขาจะลักพาตัวเด็กไหม

“เจ็บแข้งเจ้า ฮือ...” (เจ็บขาค่ะ ฮือ...)เด็กหญิงชี้ไปที่ท่อนขาของเธอ แล้วถลกกระโปรงขึ้นเล็กน้อย ตรงหัวเข่ามีรอยถลอกและเลือดไหลซิบ

“เจ็บขาเหรอ คงล้มสินะ ไม่เป็นไรๆ เดี๋ยวค่อยกลับไปทำแผลนะ” เตชิตตบๆ ตามกระเป๋าเสื้อกระเป๋ากางเกงดู โชคดีที่เขามีกระดาษทิชชูของโรงแรมติดมาด้วย ก็ที่สาวๆ เขียนเบอร์โทรศัพท์ใส่มาให้เขานั่นล่ะ เขาใช้ด้านสะอาดซับเลือดให้เธออย่างเบามือ “อดทนก่อนนะครับ”

พอเห็นว่าเด็กหญิงเม้มปากฮึบ เขาก็หลุดหัวเราะออกมาเบาๆ “เก่งมาก... แล้วน้ำอิงมาทำอะไรที่ตลาด มาเที่ยวเหรอ”

“ตวยอีป้ออีแม่มาขายของเจ้า”(ตามพ่อแม่มาขายของค่ะ)

“อ้อ โอเค งั้นคงหากันได้ไม่ยาก”

ทันตแพทย์หนุ่มยืนหลบอยู่ในตรอกนั้นจนกระแสคนทางด้านนอกค่อยๆ สงบลง จากนั้นจึงอุ้มเด็กหญิงขึ้น “ปะ เดี๋ยวพี่ชายจะพาไปหาพ่อแม่นะ จำได้มั้ยว่าร้านอยู่ที่ไหน” พอเดินออกจากตรอกก็หันซ้ายขวา พร้อมกับชี้ถาม “ไปทางไหนครับ ซ้ายหรือขวา”

เด็กหญิงชี้ไปทางขวา เขาจึงรีบอุ้มเธอเดินไป

“ฮ้านของอีป้ออยู่ใกล้ฮ้านแกะสลักตี้อ้ายนั่งตะกี้เจ้า”(ร้านของพ่ออยู่ใกล้กับร้านแกะสลักที่พี่ชายนั่งอยู่เมื่อกี้ค่ะ)

เตชิตหยุดกึก “แกะสลัก? ร้านไม้แกะสลักน่ะเหรอ?”

เด็กหญิงพยักหน้าหงึกหงัก พร้อมกับชี้บอกทาง “ไปทางเพ้เจ้า”

เมื่อไปถึงเพิงร้านก็พบว่าบนแผงมีผ้าคลุมปิดไว้และไม่มีคนเฝ้า ร้านรอบข้างก็ปิดไว้เช่นกัน บนถนนคนเดินมีข้าวของล้มกลิ้งระเนระนาด ผู้คนเหลือเพียงหรอมแหรม แต่ละคนเดินช้าๆ พร้อมกับหันมองไปรอบๆ อย่างหวาดระแวง แต่แล้วจู่ๆ ก็มีเสียงตูมดังขึ้นอีก เป็นผลให้คนที่หลงเหลืออยู่บริเวณนั้นตื่นตระหนกอีกครั้ง เตชิตเองก็หวาดๆ เขาจึงรีบพาเด็กหญิงหลบออกไปก่อน

“ดูไม่ค่อยปลอดภัย เราไปหาที่หลบก่อนดีกว่า เดี๋ยวค่อยกลับมาใหม่นะ”

เด็กหญิงร้องไห้จ้า “อีป้ออีแม่มีไหนบ่าฮู้!”(พ่อแม่ หายไปไหน)

“อย่าร้องครับ ใจเย็นๆ ตรงนี้มันอันตราย พี่พาไปหลบก่อนนะ”

“อีป้ออีแม่!”

โอย กรรมอะไรของกูนี่! ที่นี่มันเกิดอะไรขึ้นวะ!สภาพตอนนี้ดูแล้วเหมือนลักพาตัวเด็กมั้ยวะเนี่ย! เตชิตวิ่งไปก็หันมองข้างหลังไปด้วย เขาเองก็หวาดๆ เหมือนกันนะ ตัวเองยังไม่รู้จะเอาตัวรอดไหม ยังเสือกกระเตงลูกใครเขาก็ไม่รู้มาอีกคน

ขณะที่ชะลอฝีเท้าลงพลางหอบหายใจก็มีใครบางคนวิ่งเข้ามาคว้าแขนเขา

“มาทางนี้!”

เตชิตยังไม่ทันมองว่าเป็นใครเพราะมัวแต่ตื่นตกใจ อีกฝ่ายพาเขาวิ่งเข้าไปในตรอกใกล้ๆ ไปหลบอยู่ข้างหลังถังขยะขนาดใหญ่

“น้ำอิง ป้อแม่เปิ้นตวยหาตั๋วอยู่ฮู้ก่อ”(น้ำอิง! พ่อแม่ตามหาตัวอยู่รู้มั้ย)

“อ้ายคีรี”(พี่คีรี)เมื่อเด็กหญิงเห็นใบหน้าของคนที่พาไปหลบ เธอก็โผเข้ากอดทั้งที่เตชิตยังอุ้มเธออยู่

เด็กหนุ่มคนที่เข้ามาพาทันตแพทย์หนุ่มไปหลบใส่เสื้อยืดสีดำ สวมทับด้วยเสื้อผ้าฝ้ายสีน้ำเงินเข้มหรือที่เรียกกันว่าม่อฮ่อม ท่อนล่างสวมกางเกงผ้าขาสั้นแค่เข่ากับรองเท้าแตะแบบสาน บนศีรษะสวมหมวกแก๊ปสีดำ ใบหน้าภายใต้หมวกใบนั้นเคร่งขรึม เขามีผิวขาวอย่างคนเหนือทั่วไป พูดคุยกับเด็กหญิงเข้าใจและดูเหมือนจะรู้จักกันดี ทำให้เตชิตคิดว่าบางทีเด็กหนุ่มคนนี้อาจจะเป็นพี่ชายของน้ำอิง ถ้างั้นก็คงจะเป็นชาวเขาที่นำของมาขายในไนต์บาร์ซาเหมือนกัน

เมื่อเตชิตวางเด็กหญิงลง เธอก็ถลาเข้าไปกอดเด็กหนุ่มไว้แน่น ร้องห่มร้องไห้ไม่ยอมหยุด ดูท่าจะกลัวเอามากๆ ซึ่งก็ไม่แปลก ขนาดเขายังกลัวเลย สรุปว่าไอ้เสียงดังข้างนอกนั่นคืออะไรก็ยังไม่รู้

“เจ็บแข้งเจ้า”เธอเอ่ยกับเด็กหนุ่มทั้งน้ำตาเปื้อนแก้ม

พอเด็กหนุ่มย่อตัวลงนั่งบนเข่าแล้วก้มลงมองแผลบนหัวเข่าของเธอ ทันตแพทย์หนุ่มจึงส่งกระดาษทิชชูในมือเขาให้

“ขอบคุณ”

แต่เขาคิดว่าเมื่อส่งเด็กหญิงคืนให้พี่ชายได้แล้ว ก็ควรจะหาทางกลับสักที “น้ำอิงเจอพี่ชายแล้วก็ค่อยยังชั่วหน่อย คราวหน้าดูแลน้องดีๆ อย่าพลัดหลงกันอีกล่ะ”

คนตรงหน้านิ่งอึ้งไป จ้องมองเขาเขม็ง ราวกับว่าเขาเพิ่งไปปล้นใครมาอย่างไรอย่างนั้น “มีอะไรรึเปล่า” เมื่อเด็กหนุ่มไม่ตอบอะไร เขาจึงรีบพูดตัดบท “เอ้อ งั้น... ผมไปก่อนล่ะนะ”

ทว่าเตชิตยังไม่ทันก้าวออกไป อีกฝ่ายก็คว้าแขนเขาไว้

“ท่าจิ่ม ตางนอกมันยังมีคนล่น ลุ้มๆ อาจจะยังอันตราย กำเด่วไปส่งน้ำอิงหื้อป้อแม่ก่อน แล้วจะไปส่งอ้าย”(รอเดี๋ยว ข้างนอกยังมีคนวิ่งพลุกพล่าน อาจจะยังอันตราย เดี๋ยวส่งน้ำอิงไปให้พ่อแม่ก่อน แล้วจะไปส่งคุณ)

เตชิตชะงัก ฟังรู้เรื่องครึ่งไม่รู้เรื่องครึ่ง แต่ก็พอจะจับใจความได้ เขาจึงหยุดยืนอยู่กับที่เช่นนั้น

เด็กหนุ่มหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรออกไป เขาพูดรัวๆ กับคนในโทรศัพท์ จากนั้นจึงนั่งลงบนพื้นข้างถังขยะนั่นล่ะ แล้วให้เด็กหญิงนั่งตัก

ทันตแพทย์หนุ่มยืนงง หันรีหันขวาง ไม่เข้าใจว่าทำไมอีกฝ่ายถึงเลือกปักหลักข้างถังขยะแบบนี้ มันสกปรกนะเว้ย!

“นั่งก่อนอ้าย” (นั่งก่อนสิคุณ)

เตชิตก้มลงมองคนพูด พอเคลื่อนสายตาไปมองบนพื้นข้างๆ เด็กหนุ่มก็นิ่งอึ้ง ก็แบบว่าจะนั่งตรงไหนวะ พื้นสกปรกอะ แล้วข้างๆ ก็เป็นกองขยะ

เด็กหนุ่มหันมองไปรอบๆ หยิบกระดาษหนังสือพิมพ์เก่าๆ มาวางลงบนพื้นตรงหน้าทันตแพทย์หนุ่มแล้วชี้บอก“เอ้า นั่งบนกระดาษก่อได้” เขาเงยหน้าขึ้นสบตากับทันตแพทย์หนุ่ม “กะว่า จะนั่งตักผม”(เอ้า นั่งบนกระดาษก็ได้ หรือว่าจะนั่งตักผม)

เตชิตอยากจะด่ากลับ แต่เพราะใบหน้าที่ดูซื่อๆ นัยน์ตาสีน้ำตาลใสที่ดูไม่มีพิษมีภัยอะไร และน้ำเสียงนุ่มนวลเนิบช้าแบบนั้น ทำให้เขาคิดไปเองว่าอีกฝ่ายอาจจะแค่ถามเฉยๆ ไม่ได้กวนประสาทเขาก็ได้ เขาจึงหยิบกระดาษหนังสือพิมพ์มาคลี่ออกแล้วนั่งลงกุมขมับ

ไม่น่าออกมาเลยกู จะได้กลับไปเจอไอ้วินอีกไหมวะเนี่ย

ทันตแพทย์หนุ่มหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กะว่าจะโทรไปหารวินท์ อย่างน้อยถ้าเขาไม่ได้กลับไปก็ยังได้คุยกับคนที่เขารักก่อนตายล่ะวะ พอกดโทรศัพท์ออกไป เสียงเรียกเข้าดังขึ้นไม่กี่ครั้งคนที่ปลายสายก็รับสาย

“กลับโรงแรมยังวะเนี่ย”

“ยังว่ะ พอดีมี...” เขาชะงัก จะบอกความจริงกับเพื่อนรักก็กลัวว่าจะทำให้เป็นห่วง เดี๋ยวไอ้วินมันเล่นใหญ่ แจ้งตำรวจ โทรบอกที่บ้านเขาให้วุ่นวายกันไปทั่วแน่

“มีอะไรวะ มึงอยู่ไหนเนี่ย กลับโรงแรมยัง”

“ยังว่ะ”

“ยังอยู่ไนต์บาร์ซาเหรอ ทำไมเงียบจังวะ มีอะไรรึเปล่า”

“เปล่าเว้ย พอดีเจอเด็กหลงทางว่ะมึง เลยรอพาเขาไปเจอพ่อแม่ก่อน”

“ใจดีจังว่ะ ยังไงก็รีบกลับห้องนะเว้ย ถึงห้องแล้วโทรมาบอกด้วย”

“เป็นห่วงกูอ่อ”

“ห่วงคนรอบๆ ตัวมึงอะ เดี๋ยวไปก่อเรื่องวุ่นวาย”

“สัส รักกูก็บอกดีๆ มะ”

“รักดิ ไม่รักจะด่ามึงอย่างนี้เหรอ” รวินท์หัวเราะ

ทันตแพทย์หนุ่มอมยิ้ม “เออ กูก็รักมึง”

“กลับห้องแล้วอย่าลืมโทรมาล่ะ เมสเสจมาก็ได้”

“ครับๆ” เตชิตกดวางสายไปพลางถอนหายใจยาวเหยียด พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นว่าเด็กหนุ่มกับเด็กหญิงจ้องมาทางเขาเขม็ง เขารีบเสตาหลบ ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ กว่าจะนึกขึ้นได้ว่าควรจะถามอีกฝ่าย ว่าพวกเขามานั่งจุมปุ๊กกันที่ข้างถังขยะแบบนี้ทำไม เด็กหนุ่มก็ลุกขึ้นพรวด

“เอ้า มีอะไรอีกเนี่ย” ทันตแพทย์หนุ่มทำหน้างง แต่ก็ลุกตามอีกฝ่ายไปด้วย เมื่อชะเง้อมองไปด้านหลังถังขยะ ก็เห็นว่ามีชายหญิงในชุดชาวเขาวิ่งเข้ามาตรงที่พวกเขายืนอยู่

“อีป้ออีแม่!” เด็กหญิงร้องลั่นพลางวิ่งเข้าไปสวมกอดบิดามารดาของเธอ ทั้งสามกอดกันกลม แล้วสักพักชายหญิงในชุดชาวเขาก็เดินเข้ามาสวมกอดเด็กหนุ่มด้วย

ภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้เตชิตยิ้มกว้าง ครอบครัวได้พบกันเรียบร้อย เห็นแบบนี้ก็ค่อยยังชั่ว

น้ำอิงชี้ไปที่ทันตแพทย์หนุ่ม “อ้ายเค้าเป็นคนจ่วยไว้เจ้า แล้วก็มาป่ะอ้ายคีรีพอดี”(พี่ชายเป็นคนช่วยไว้ค่ะ แล้วก็ได้มาเจอพี่คีรีพอดี)

บิดามารดาของเด็กหญิงจูงลูกสาวตรงเข้ามาหาเตชิต พวกเขายกมือไหว้ ขอบอกขอบใจกันเป็นการใหญ่

“ไม่เป็นไรครับ น้ำอิงปลอดภัยก็ดีแล้ว”

“แล้วตางนอกเปิ่นมีอะหยังกั๋น”(ตกลงข้างนอกมีอะไรกันเหรอ)เด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างกันถามขึ้น

“บ่าตำเห๊าะตัวไหนเล่นบ่าถ้บก็บ่าฮู้ ละกะมีคนฮ้องว่าเป๋นเสียงระเบิด คนกะสะดุ้ง ล่นกัน หิมตาย นี่ก็ตำหนวดมาแล้ว แต่ยังเสาะหาคนจุดบ่าถ้บบ่าได้เตื่อ” (ใครมันทะลึ่งจุดประทัดก็ไม่รู้ครับ แล้วก็มีคนตะโกนว่าเป็นเสียงระเบิด คนเลยตกใจ วิ่งชนกันตลาดแทบพังเลย นี่ตำรวจมาแล้ว แต่ยังตามหาคนจุดประทัดไม่ได้)

เด็กหนุ่มพยักหน้าหงึกๆ ก่อนจะหันไปหาคนที่ยืนอยู่ข้างกัน “อั้นเด่วผมไปส่งอ้าย”(งั้นเดี๋ยวผมไปส่งคุณ)

เตชิตยังไม่ทันตอบ บิดาของเด็กหญิงก็คว้าแขนเขาไว้

“แวะไปตี้ร้านผมก่อนน่อ ผมอยากตอบแทนน้ำใจ๋”(แวะไปที่เพิงร้านของผมก่อนนะครับ ผมอยากตอบแทนน้ำใจ)

“ฮะ!?” ทันตแพทย์หนุ่มยังไม่ทันอ้าปากตอบ บิดาของน้ำอิงก็กึ่งลากกึ่งจูงเขาให้เดินตามไปแล้ว พอเขาหันกลับไปทางเด็กหนุ่ม อีกฝ่ายก็พยักพเยิดหน้าบอกว่าให้ตามไปก่อน แล้วเดินตามหลังเขามาติดๆ


(มีต่อค่ะ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-09-2018 12:14:57 โดย huskyhund »

ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4


สถานการณ์ภายในไนต์บาร์ซากลับมาเป็นปกติแล้ว หากผู้คนบางตาลงไปมาก บิดาของน้ำอิงพาทันตแพทย์หนุ่มไปที่เพิงขายของของตน จากนั้นก็ชักชวนให้เข้าไปนั่งทางด้านใน

พื้นที่ด้านในเพิงร้านแคบนิดเดียว มีเสื่อเก่าๆ ปูไว้หนึ่งผืน พวกเขาทำท่าเชื้อเชิญให้เตชิตนั่งลง เขาจึงค่อยๆ ย่อตัวลงนั่ง

“เอ่อ...” ทันตแพทย์หนุ่มหันรีหันขวาง

บิดามารดาและเด็กหญิงนั่งลงบนเสื่อด้วย รวมเด็กหนุ่มอีกคนและเตชิตก็แทบไม่เหลือพื้นที่ว่าง พวกเขาต้องนั่งเข่าชนกันเลยทีเดียว

“คืนนี้ท่าจะบ่าค่อยมีลูกก้าแล้ว กิ๋นอะหยังกันก่อนแล้วค่อยปิ๊กเน่อคับ”(คืนนี้คงไม่ค่อยมีลูกค้าแล้ว กินอะไรสักหน่อย แล้วค่อยกลับนะครับ)บิดาของน้ำอิงเอ่ยพลางเปิดย่ามผ้าทอ หยิบขวดแก้วออกมา แล้วเทของเหลวสีใสลงในแก้วพลาสติก เขาส่งแก้วใบนั้นให้เตชิตก่อน “เหล้าข้าวโพดคับ ขอบคุณจ้าดนักตี้จ่วยน้ำอิงนะครับ”(เหล้าข้าวโพดครับ ขอบคุณที่ช่วยน้ำอิงนะครับ)

ใจเตชิตอยากจะปฏิเสธ แต่ก็เอื้อมมือไปรับแก้วมาก่อนเพื่อถนอมน้ำใจ หากขณะที่เขาอ้ำอึ้ง บิดาของน้ำอิงก็รินเหล้าใส่แก้วอีกใบส่งให้เด็กหนุ่มข้างกัน

เมื่อเห็นอีกฝ่ายยกดื่มอั้กๆ ทันตแพทย์หนุ่มก็เลยลองชิมบ้าง ก่อนจะเบิกตาโพลง ทำหน้าเบ้ เพราะไอ้เหล้านี่มันบาดคอเขาโคตรๆ แค่จิบเดียวก็รู้สึกร้อนผ่าวจากลิ้นไก่ไล่ลงไปตามหลอดอาหารเลย “โอ้โห!” เขาหลุดปากอุทาน

“แฮงไปก่อคับ อั้นผสมน้ำส้มหน่อยเนอะ” (แรงไปเหรอครับ งั้นผสมน้ำส้มหน่อยนะ)คนพูดจัดการเปิดกล่องน้ำส้ม นำมาผสมให้เสร็จ

เตชิตลองชิมอีกรอบ จะว่าไปมันก็อร่อยดี ขณะที่จิบๆ เหล้าในแก้วอยู่มารดาของน้ำอิงก็ลุกออกไปจากเพิงร้าน แป๊บเดียวก็เดินกลับมาพร้อมห่อใบตองใส่ขนมสีดำๆ ที่ตัดเป็นชิ้นๆ แล้วส่งให้เขาได้ชิม

ทันตแพทย์หนุ่มเหงื่อตกเพราะไม่เคยเห็นขนมแบบนี้มาก่อน อันที่จริงก็ไม่แน่ใจว่าเป็นขนมด้วยซ้ำ หากพอเขาปฏิเสธ หญิงสาวก็คะยั้นคะยอ

ทำไมกูต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยเนี่ย~เขาครวญครางอยู่ในใจ แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจ ใช้ไม้จิ้มชิ้นขนมขึ้นมาดมๆ และส่องดู

มันก็หอมดี 

“เอาใส่ปากเตอะน่า”(เอาใส่ปากเหอะน่ะ)เด็กหนุ่มพูด

ทันตแพทย์หนุ่มชำเลืองมองไปทางคู่ชายหญิงชาวเขาซึ่งจ้องเขากันเขม็ง จากนั้นจึงค่อยๆ เอาขนมใส่ปาก

“ข้าวปุกลำก่อเจ้า”(ข้าวปุกอร่อยมั้ยคะ)มารดาของน้ำอิงยิ้มกว้าง

เตชิตขมวดคิ้วขณะเคี้ยวหยุบหยับ มันกรอบๆ เหนียวๆ มีกลิ่นหอมในปาก จะว่าไปก็อร่อยดี “ก็... ก็ดีครับ” ความจริงอาจจะอร่อยกว่านี้ แต่เขาคิดว่าลิ้นเขาตายด้านไปกับเหล้าเมื่อครู่แล้วแหละ

ทันตแพทย์หนุ่มนั่งกินขนมไปอีกสามสี่คำ ดื่มเหล้าไปอีกนิดหน่อยเท่านั้น เขาอ้างว่าอิ่มแล้ว เพราะก่อนหน้าก็เพิ่งกินมื้อเย็นมา ไหนจะดื่มค็อกเทลไปตั้งหลายแก้วอีก “ผมต้องขอตัวกลับล่ะครับ พรุ่งนี้ต้องเดินทางแต่เช้า”

บิดามารดาของเด็กหญิงพยักหน้า พวกเขายกมือไหว้ “ขอบคุณจ้าดนักคับ/เจ้า”

เตชิตลูบศีรษะน้ำอิงอย่างอ่อนโยน “คราวหน้าระวังให้ดีๆ นะ อย่าพลัดกับพ่อแม่พี่ชายอีกล่ะ”

“ขอบคุณเจ้า” น้ำอิงยิ้มกว้าง

เมื่อเตชิตลุกขึ้น เด็กหนุ่มที่นั่งข้างกันก็ลุกขึ้นมาด้วย ทว่าเหล้าที่ดื่มเข้าไปดูท่าจะแรงกว่าที่คิดไว้ เป็นผลให้เขาเสียหลักเซไปเล็กน้อย อีกฝ่ายจึงช่วยพยุง

“ผมจะไปส่ง”

“ไม่ต้องก็ได้ ผมไม่เป็นไร”

“เซขนาดนี้บ่าเป๋นหยังได้ได ไปเตอะ จะไดผมก็ต้องไปตางนั่นอยู่แล้ว”(เซขนาดนี้ไม่เป็นไรได้ไง ไปเถอะ ยังไงผมก็ต้องไปทางนั้นอยู่แล้ว)

ทันตแพทย์หนุ่มทำหน้างง แต่อีกฝ่ายก็คว้าแขนเขาเดินออกไปแล้ว เขาจึงรีบหันกลับไปโบกมือลาครอบครัวชาวเขา พร้อมกับก้าวตามเด็กหนุ่มออกไป

เด็กหนุ่มพาเตชิตไปยังมอเตอร์ไซค์เก่าๆ คันหนึ่งซึ่งจอดไว้ไม่ไกลจากตลาดนัก เขาขึ้นไปนั่งก่อนแล้วจึงหันไปพยักหน้าเป็นเชิงบอกให้ทันตแพทย์หนุ่มขึ้นมานั่งซ้อนท้าย

เอาก็เอาวะ ดีกว่ารอแท็กซี่

เมื่อคิดได้เช่นนั้นทันตแพทย์หนุ่มก็ก้าวขึ้นนั่งซ้อนท้าย เขาจับเสื้อคนข้างหน้าไว้หลวมๆ แล้วอีกฝ่ายก็ขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปช้าๆ

ระหว่างที่ขี่ไป เตชิตก็ชำเลืองมองเด็กหนุ่มไปเรื่อยๆ ก็แบบว่าเขายังไม่ได้บอกเลยว่าพักที่ไหน

“เอ่อ ไปโรงแรมXXXนะ”

“ผมฮู้” (ผมรู้)

อ้าว ทำไมรู้วะ?

อ้อ บางทีอาจจะเพราะเห็นชื่อโรงแรมบนกระดาษทิชชูที่เขาใช้เช็ดเลือดให้น้ำอิงละมั้ง ช่างสังเกตเหมือนกันแฮะ

แต่เพราะอีกฝ่ายเงียบเสียจนน่าอึดอัด เตชิตจึงชวนคุย “จริงสิ คุณชื่อคีรีใช่มั้ย เห็นน้ำอิงเรียกแบบนั้น”

เจ้าของชื่อไม่ตอบ แค่พยักหน้าหงึกๆ

“ผมชื่อเตชิตนะ”

เด็กหนุ่มทำเฉย นิ่งสนิทเหมือนไม่ได้ยินที่ทันตแพทย์หนุ่มพูดเลยด้วยซ้ำ ปล่อยให้เจ้าของชื่อยิ้มแห้ง

สัส เหมือนโดนตอกหน้ากลายๆ ว่า ไม่ได้ถาม เลยเว้ย ไม่น่าชวนคุยด้วยให้เสียฟอร์มเลยแม่ง เตชิตบ่นในใจ

สักพักเด็กหนุ่มก็ขี่มอเตอร์ไซค์เข้าไปจอดด้านหน้าโรงแรม

เตชิตก้าวลงมาจากมอเตอร์ไซค์ “ขอบใจที่มาส่งนะ” ทว่าอีกฝ่ายก็ยังไม่พูดอะไร ทำหน้านิ่งไม่หือไม่อืออะไรทั้งสิ้น ทันตแพทย์หนุ่มจึงได้แต่ทำหน้าเจื่อนๆ อีกรอบ “ผมไปล่ะ”

แต่เมื่อเตชิตจะเดินเข้าไปในโรงแรม เด็กหนุ่มก็ดับเครื่องยนต์มอเตอร์ไซค์ ส่งกุญแจให้พนักงานต้อนรับของโรงแรมที่เดินเข้ามาหา จากนั้นก็เนียนเดินเข้าไปในโรงแรมพร้อมกันกับเขาด้วยซะงั้น

เตชิตขมวดคิ้ว จอดมอเตอร์ไซค์ทิ้งไว้อย่างนั้นอะเหรอ มอเตอร์ไซค์ก็มี Valet Parkingด้วยเหรอวะ หรือว่าเด็กนี่ก็พักที่นี่วะ แล้วพ่อแม่กับน้องล่ะ?

แต่เดี๋ยวก่อน ถ้าเป็นคนที่นี่ ก็ไม่น่าจะพักโรงแรมไม่ใช่เหรอวะ

ทันตแพทย์หนุ่มหยุดยืนอยู่ในบริเวณห้องโถงใหญ่ของโรงแรม แต่พอเขาหยุด อีกฝ่ายก็หยุดด้วย

อะไรวะเนี่ย?

“เอ่อ คุณตามผมมาทำไม”

เด็กหนุ่มไม่ตอบ แถมยังทำเมินเขาต่อได้อีก

เตชิตงงหนัก ในเมื่อไม่อยากคุยเขาไม่คุยด้วยก็ได้วะ คิดไปพลางสาวเท้าตรงไปยังลิฟต์โดยสาร ระหว่างทางก็เดินผ่านทั้งพนักงานโรงแรมและแขกเหรื่อมากมาย แต่เด็กหนุ่มก็ยังเดินตามเขามาติดๆ แล้วก็ไม่มีพนักงานคนไหนหยุดทักอะไรอีกฝ่ายเสียด้วย จะมีก็แต่ผงกศีรษะและส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร

หรือพวกพนักงานในโรงแรมอาจจะคิดว่าเด็กหนุ่มมากับเขา?

แย่แล้วกู!เหมือนหิ้วเด็กเข้าโรงแรมไหมวะเนี่ย!

พอหันไปมอง อีกฝ่ายก็ยังทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อยู่ข้างๆ กัน

ไอ้เด็กนี่มันอะไรกันวะเนี่ย!

ขณะที่ยืนรอลิฟต์ เตชิตก็ถามเด็กหนุ่มอีก “คุณตามผมมาทำไม”

คนอ่อนวัยกว่าส่ายหน้า แล้วก็เบือนหน้าไปอีกทาง

“คุณพักที่นี่ หรือทำงานที่นี่เหรอ”

“อือ”

“อย่างไหนล่ะคุณ”

“ตึงสองอย่าง”(ทั้งสองอย่าง)

เตชิตทำหน้ายุ่ง แต่ก็ช่างเถอะ เขารีบกลับห้องของตัวเองดีกว่า เมื่อประตูลิฟต์โดยสารเปิดออก เขาก็รีบก้าวเข้าไปทันที แล้วก็เป็นอย่างที่คิด เด็กหนุ่มก้าวตามเขาเข้ามาด้วย

ทันตแพทย์หนุ่มชักจะระแวงหนัก คิดว่าถ้าไอ้เด็กนี่เดินตามเขาออกจากลิฟต์ไปที่ห้องพักอีก เขาจะเรียกพนักงานมาจัดการหิ้วออกไปทิ้งหน้าโรงแรมเลยแม่ง

พอลิฟต์โดยสารไปหยุดอยู่ที่ชั้นที่เขาพัก เขาก็รีบเดินออกจากลิฟต์ไป พร้อมกับหันกลับไปมองว่าอีกฝ่ายตามมาด้วยหรือไม่ ทว่าเด็กหนุ่มยังคงยืนนิ่งอยู่ในลิฟต์ ไม่หันมองมาทางเขาเลยด้วย แล้วบานประตูลิฟต์ก็ปิดไป

“เออ สงสัยคงทำงานที่นี่จริงๆ แหละ” เตชิตหัวเราะพลางส่ายหน้าไปมา “ไอ้เด็กบ้า บอกกันดีๆ ก็ไม่ได้ ปล่อยให้ระแวงอยู่ได้”

ทันตแพทย์หนุ่มเดินกลับไปที่ห้องพักของตน เมื่อเข้าไปในห้องได้ก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรไปรายงานเพื่อนรักตามที่อีกฝ่ายสั่งไว้

เสียงเรียกเข้าดังขึ้นสี่ห้าครั้งแล้ว กว่าคนที่ปลายสายจะกดรับ ทว่าเสียงในโทรศัพท์กลับไม่ใช่ของคนที่เตชิตรอคอย เขาถอนหายใจหนักๆ ใส่คนในสาย

“ไอ้น้องพิงค์ บ้านไม่มีที่นอนรึไง ใครปักธูปเรียกมา ไอ้วินไปไหนแล้วล่ะ” เขาถามเสียงขุ่น

“แหม ไม่ต้องทำเสียงดุใส่ผมก็ได้พี่ ก็พี่เต้ไม่อยู่ พี่วินเหงาอะ ผมเลยต้องมานอนเฝ้า แต่ตอนนี้พี่วินเหนื่อยจัด หลับไปแล้วคร้าบ”

“แล้วทำไมคุณไม่หลับไปด้วยล่ะวะ!”

“ก็เห็นพี่วินเป็นห่วงพี่ ผมเลยอยู่รอให้ ไอ้ผมก็กลัวว่าพี่จะหน้ามืดไปฉุดใครเขาเข้าแล้วไม่ยอมกลับโรงแรมอะดิ๊”

“ไอ้เด็กเวร ไปนอนเลยไป ผมจะนอนแล้ว พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้ามากด้วย”

“ฝันดีนะพี่ แต่ไม่ต้องฝันถึงพี่วินนะ ผมขอร้อง เดี๋ยวฝันเปียกขึ้นมา สงสารคนเปลี่ยนผ้าปูที่นอนโรงแรมว่ะ” คนที่ปลายสายหัวเราะร่วน ชวนให้เตชิตอยากจะกลับไปเตะปากเขาที่เชียงใหม่เสียเดี๋ยวนั้น เด็กหนุ่มรีบวางสายไปก่อนจะโดนด่าชุดใหญ่

“ไอ้เด็กผี!ไอ้วินเห็นอะไรดีในตัวมันนักวะเนี่ย!” เตชิตพึมพำ จากนั้นก็ทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงพลางทอดถอนใจ

ใช่ คนที่เขารักน่ะ มีแฟนเป็นตัวเป็นตน แถมยังรักกันมากด้วย ส่วนเขาก็แดกแห้วไปวันๆ อยู่นี่ไง แดกจนมีแห้วฝังลึกในดีเอ็นเอแล้วเนี่ย เวลานี้แค่ได้อยู่ใกล้ชิด ได้เป็นเพื่อนสนิทก็ดีถมไป แต่ก็ต้องอดทนมองดูคนที่เขารักมีความสุขกับแฟนไปเรื่อยๆ แบบนี้นี่ล่ะ

จะเรียกหมามองเครื่องบินก็ยังใกล้ไป เรียกหมามองดาวพลูโตเลยเหอะ คิดแล้วรันทด ปวดใจฉิบหาย

เตชิดล้มตัวลงนอน ตอนแรกก็อยากจะนอนนิ่งๆ หายใจทิ้งไปเรื่อยๆ แต่คิดไปคิดมา หรือเขาจะลงไปหาอะไรดื่มแก้กลุ้มที่ผับข้างล่างดีวะ

ระหว่างนั้นเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น ทันตแพทย์หนุ่มจึงผงกศีรษะขึ้นมอง

ดึกป่านนี้ใครมาเคาะประตูห้องเขาวะ พวกทันตแพทย์ที่มาประชุมเหมือนกันงั้นหรือ

เตชิตจำใจต้องงัดตัวเองจากเตียง เขาเดินโซเซไปที่ประตูห้อง พอเกาะบานประตูมองออกไปทางช่องตาแมวแล้วก็สะดุ้งเฮือก “เฮ้ย!”

เด็กหนุ่มที่ยืนอยู่หน้าห้องยกถุงในมือขึ้น ซึ่งคนที่อยู่ในห้องจำได้ดีว่าเป็นถุงของฝากที่เขาซื้อไว้ให้รวินท์ ทันตแพทย์หนุ่มจึงเปิดประตูห้องออกทันที แล้วทั้งสองก็ยืนประจันหน้ากัน

“เอ้อ ผมคงทำหล่น ขอบ...” ทว่าพอเตชิตเอื้อมมือไปหยิบ อีกฝ่ายกลับชักมือหนี เป็นผลให้ทันตแพทย์หนุ่มชักสีหน้าทันควัน “เฮ้ย! คุณ!”


*TBC*


สวัสดีค่าาาา~ ได้ฤกษ์เปิดตัวหมอเต้สักที อิ๊_อิ๊ แล้วคีรีคนนี้เปงใครกันน้าาาา ฮี่ๆๆ

เรื่องนี้เป็นตอนต่อจากภูสอยเดือนนะคะ ให้หมอเต้ของเราได้มีความรักบ้างไรบ้าง แต่จะไหวมั้ยน้าาาา ใครจะทำให้หมอเต้ลืมหมอวินได้ลง 555555

อาจจะลงช้านิดนึงนะคะ หรือไม่ก็คงต้องแบ่งลงบ้าง เพราะเขียนไม่ทัน อย่าว่ากันน้าาาา~

ขอบคุณคนอ่านทุกคนมากๆ ค่า รักหมอวินกับน้องพิงค์แร้วก็แบ่งใจมาให้หมอเต้กับน้องคีรีมั่งนะค้า

ปล. ขอบคุณเพื่อนสาวชาวเจียงฮายที่ช่วยเขียนเป็นภาษาเหนือให้ แต่ถ้าหากมีออกเสียงผิดเพี้ยนไปตรงไหน บอกกันได้นะค้า เพราะเพื่อนฮัสกี้อยู่ต่างประเทศเหมือนกัน วรรณยุกต์อาจมีผิดไปบ้างค่ะ แหะๆ
:mew1:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-09-2018 12:14:24 โดย huskyhund »

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
คีรีนี่ยังไงดูแปลกๆอ่ะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
หมอเต้ซึนๆ นะ  :laugh: จะเสียตัวเพราะเหล้ามั้ยล่ะ

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
 :mc4: คู่หมอเต้ยังบอกลักษณะนิสัยไม่ได้ แต่ก็ดีใจที่เจ้าของไร่แห้วจะมีคนมาช่วยทำไร่แห้วให้เป็นไร่อะไร รอลุ้นจ้า
เอ๊ะๆๆๆ จะโดนคีรีทำไรน้า มโนดีไม่ได้เล้ย  :z1:
 :mc4:  :L1:  :pig4:  :L1:  :mc4:

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
หมอเต้ เจ้าของไร่แห้วมาแล้ว เย้ๆ

ชูป้ายไฟ

เชียร์ๆ

ออฟไลน์ clairon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
หุหุ สงสารหมอเต้จะโดนรุกอย่างเร็วและแรง
น้องคีรีเป็นเจ้าของโรงแรมเป็นนักร้องที่ร้านและเป็นคนซื่อดริ้งให้หมอเต้แน่ๆ  :impress2:
หมอเต้คนหล่ออิ

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
หมอเต้จะมีปั๋ววววแล้ววววอิอิ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
จะได้เมียหรือผัวกลับไป  :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
คิดถึงพี่หมอเต้มากเลย ถึงคราวพี่เต้จะมีแฟนแล้ววววว :m11:

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
เอาใจช่วยหมอเต้ให้ได้เจอคนรักจริงสักที  :mc4:

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
งื้ออออ พี่เต้จะมีหลัวตามรอยพี่วิน

ออฟไลน์ killua1a

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 138
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ ooomukooo

  • AngieAngel
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
    • AngieAngel
รอตอนต่อไปค๊าาาาา  :katai2-1:
มาไวๆน๊าา

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
กรี๊ดดดด หมอเต้มาแล้ว ว่าแต่คีรีนี่ดูมึนๆดีนะ ชอบๆ :laugh:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
คีรีแลดูกวนไม่เบา
อาจทำให้หมอเต้มึนๆ
จนเลิกรักหมอวินแบบคนรักก็ไเ้นะ

ออฟไลน์ Panizzz3838

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
อ่ะปักมุด/// ที่ยอมปักเนี๊ยเห็นว่าดีกับน้องพิงค์แล้วหรอกนะ เชอะ!!!!! :m16:

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
ท่าทางจะเป็น เจ้าของ ..

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ชูป้ายไฟ หมอเต้ได้คู่ อิอิ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ไอ้เด็กนี่มันยังไง จะรุกพี่เต้เราเหรอ ไม่เอาอ่ะเราอยากเห็นพี่เต้รุกนะ

ออฟไลน์ 19th

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ในที่สุดหมอเต้ก็มีคู่กับเขาสักที น่อววว
ว่าแต่คีรีก็แปลว่าภูเขาเหมือนกัน โพสิชั่นจะตามรอยภูสอยเดือนรึเปล่า  :laugh:

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2

ออฟไลน์ bradpitt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
  ดีใจๆๆๆๆ Husky ออกเรื่องใหม่ :กอด1:

  หมอเต้ ฉายเดี่ยวแล้ว   เร่ืองนี้ไม่มี พี่หมอวิน มาจองพื้นที่หัวใจแระ  . เกร้วกราด ได้เต็มที่ :hao3:

   
 ว่าแต่ คีรี เนี่ยเด็กกก่า ใช่มะ... จะ เป็น รักแรกพบ ขาดนั้นเลยเหรอ :กอด1:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ทำไมมีกลิ่นอายของความที่หมอเต้จะถูกกดหว่า?

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
หว่ายยๆๆๆ ชอบ คีรีนี้ลึกลับน่าดู เอ้ะ รึเเปลกหว่า

ออฟไลน์ Destiny

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
งื้ออออ พี่เต้จะมีหลัวตามรอยพี่วิน

ไม่ตามรอยแค่จะมีหลัวนะคะ แต่ยังจะได้หลัวเด็กเหมือนกันด้วย 55+  :m20:

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
คีรีสงสัยจะเป็นเจ้าของแน่ๆเลย นางดูแปลกๆมึนๆ เหมือนคีรีจะรู้จักหรือไม่ก็แอบสนใจเตชิตมาก่อน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด