เดือนอิงดอย Chapter 35 : เดือนอิงดอย (END)[190619]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เดือนอิงดอย Chapter 35 : เดือนอิงดอย (END)[190619]  (อ่าน 307169 ครั้ง)

ออฟไลน์ FrozenSnow2019

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ฉันมารอพี่ที่ท่าน้ำทุกวันเลย
เมื่อไหร่เด็กดอยกับหมอเต้จะมา ฮือๆๆ คิดถึง

ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4


Chapter 9.2 : ใจสั่นและหวั่นไหว


ในตอนสายของวันอาทิตย์หลังจากการพบกันกับเตชิตครั้งแรก คีรีลุกขึ้นมานั่งสะลึมสะลืออยู่บนเตียงนอนของตน เขาเพิ่งนอนไปได้ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น เมื่อคืนเป็นอะไรก็ไม่รู้ นอนไม่หลับ แถมยังเอาแต่นึกถึงใบหน้าตอนดุกับรอยยิ้มของทันตแพทย์หนุ่มคนที่เจอเมื่อวาน เขาก็เลยลุกขึ้นมานั่งอ่านหนังสือสอบไปเรื่อยๆ มารู้ตัวอีกทีก็เกือบจะเช้าแล้ว

เสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์มือถือดังแว่ว เด็กหนุ่มจึงเอื้อมมือไปหยิบมากดปิด วันนี้เขามีนัดกับมินนี่ เด็กสาวที่รู้จักมาตั้งแต่เมื่อครั้งยังเรียนที่โรงเรียนนานาชาติ เขากับเธอสนิทสนมคุ้นเคยกันดี เคยนัดเที่ยวด้วยกันหลายครั้ง หากไม่ได้คบหาหรือเป็นแฟนกัน จะให้พูดตรงๆ ก็เป็นแบบที่เขาเรียกกันว่า friends with benefits นั่นล่ะ

คีรีรีบอาบน้ำแต่งตัว ขับรถคันหรูของเขาไปหาเธอที่บ้าน และก็เหมือนทุกครั้งที่นัดพบกัน มินนี่แต่งตัวสวยเซ็กซี่ ใส่เลอบูแตงส้นสูงปรี๊ดโชว์ท่อนขาเรียวขาว พรมน้ำหอมกลิ่นที่เขาบอกว่าชอบ เธอออกมาต้อนรับเขาด้วยรอยยิ้มหวานเชื่อม และก้าวเข้ามาแต้มจูบทักทาย

ถ้าเป็นทุกครั้งเขาคงจะดึงเธอเข้ามาสวมกอด แต่วันนี้ไม่รู้เป็นยังไง เมื่อได้จูบและสัมผัสลิ้นกัน เขากลับรู้สึกแปลกๆ ร่างกายปฏิเสธจูบนั้นแล้วผลักเธอออกโดยอัตโนมัติ

“มีอะไรเหรอ” เธอถามเป็นภาษาอังกฤษที่พวกเขาใช้พูดคุยกันประจำ

เจ้าของชื่อนิ่งอึ้ง น่าแปลกที่เขาไม่มีอารมณ์เหมือนอย่างเคย ทุกทีแค่เข้าใกล้กัน ไอ้ตรงนั้นเขาก็เตรียมตัวพร้อมปฏิบัติการ แทบจะอุ้มเธอขึ้นห้องแล้ว แต่ทำไมวันนี้มัน...

“ไปห้องมินนี่กันเหอะ”

“ใจร้อนจัง จะไม่ดื่มอะไรก่อนหน่อยเหรอ”

“ไม่ล่ะ”

แล้วพอเข้าไปในห้อง ทั้งสองก็กอดจูบกันอย่างเคยๆ ทว่าเขาก็ต้องชะงักเมื่อจู่ๆ ดันเห็นใบหน้าของทันตแพทย์หนุ่มคนเมื่อวานซ้อนทับใบหน้าของเด็กสาว “เฮ้ย!”

“คีรี?”

เจ้าของชื่อทำหน้าเครียด “เปล่าๆ ไม่มีอะไร”

เมื่อถอดชุดบางเบาของเด็กสาวออก คีรีก็กดเธอลงบนเตียง บดจูบไปพร้อมกับถอดเสื้อของตัวเองออก

มินนี่ยกมือขึ้นกดคลึงตรงส่วนไวสัมผัส ค่อยๆ รูดซิปลง แล้วสอดมือเข้าไปปลุกเร้าส่วนนั้น

แต่... ไม่ว่าจะทำอย่างไร ไอ้ตรงที่ว่านั่นก็ยังหลับสนิท กระตุ้นแล้วกระตุ้นอีก มันก็ยังไม่ยอมลุกขึ้นมาปฏิบัติงาน

คีรีสบถออกมาเบาๆ ก่อนจะถอยออกไปนั่งงงๆ อยู่ข้างเธอ “ขอโทษนะ ขอเวลาแป๊บ”

เด็กสาวขมวดคิ้ว “วันนี้มีเรื่องอะไรรึเปล่า”

“ไม่... ไม่มี ผม...” คีรีนิ่งอึ้ง ไม่รู้ว่าทำไมเวลานี้เขาถึงไม่รู้สึกอยากทำเรื่องอย่างว่ากับเธอเลยสักนิด ทั้งๆ ที่ตอนนัดกัน เขาอยากพบเธอมากจนแทบทนไม่ไหว แต่พอเมื่อวานไปเจอกับทันตแพทย์คนนั้นเข้า... ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะเปลี่ยนไป

ขณะที่เขากำลังครุ่นคิด เด็กสาวก็ลูบไล้ฝ่ามือไปบนหน้าท้อง ค่อยๆ ลากลงสู่ที่ต่ำ ก่อนจะโน้มใบหน้าลงมาที่ตัก ทว่ายังไม่ทันได้ทำอะไร เขาผลักศีรษะของเธอออกเสียก่อน “เฮ้ย! มินนี่! อย่า!”

มินนี่ชักไม่สบอารมณ์ เธอนิ่วหน้าใส่ “คีรีเป็นอะไรเนี่ย! ไม่อยากทำแล้วมาหาเราทำไม!”

“ผม... ผมขอโทษ”

“ไปทำอะไรมา คีรีไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลยนะ”

นั่นสิ เขาเป็นอะไรวะ

เด็กหนุ่มยกมือขึ้นคลึงขมับ พอหลับตาลงภาพใบหน้าพร้อมรอยยิ้มของทันตแพทย์ในเสื้อกาวน์สีขาวคนนั้นก็มาหลอกหลอนอีกเขาแล้ว เขาส่ายหน้าไปมาอย่างอ่อนใจ “ผมขอโทษนะมินนี่ ไม่รู้เป็นอะไรเหมือนกัน ผมอาจจะเครียดกับการสอบน่ะ”

“แน่ใจเร้อ มีเรื่องอื่นด้วยแน่ๆ”

“....”

“บอกมาเถอะ”

“คือ... เมื่อวานผมไปเจอคนคนนึง...”

“คนนึง?”

คีรีทำหน้าขรึม “ตั้งแต่เจอเขา อะไรๆ ก็แปลกๆ ไปหมด ผมเหมือนไม่ใช่ตัวผมยังไงก็ไม่รู้” เขาหยุดไว้แค่นั้น แต่ก็มากพอที่จะทำให้อีกฝ่ายเข้าใจ

เด็กสาวถอนหายใจ แต่ก็ใช่ว่าจะง้อ เธอลุกออกจากเตียง หยิบเสื้อผ้าขึ้นมาสวม จากนั้นก็เดินมาทิ้งตัวลงนั่งข้างกัน “เราพบกันครั้งนี้คงเป็นครั้งสุดท้ายแล้วสินะ”

คีรีหันขวับ รีบพูดกับเธอเสียงอ้อน “คุณโกรธผมเหรอ”

“เปล่า แต่คิดว่ามันคงถึงเวลาที่จะหยุดแล้วล่ะ ที่จริงเราก็คิดมาสักพักแล้วว่าถ้าไม่มีอะไรคืบหน้าก็ควรจะหยุดสักที พวกเรารู้จักกันมาเกือบสองปีแล้วนะ ตลอดเวลาเรามีคีรีคนเดียว แต่คีรีก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะหยุดอยู่ที่เรา”

“มินนี่...”

“อีกอย่าง ดูจากอาการแล้ว เราว่าคีรีน่าจะเจอคนที่อยากทำเรื่องแบบนี้ด้วยมากกว่าเราแล้วล่ะ” เธอพูดกลั้วหัวเราะ ก่อนจะเอื้อมมือไปลูบศีรษะเขา “น่าเสียดายที่คนคนนั้นไม่ใช่เรา แต่ที่ผ่านมาเราก็มีความสุขมากนะ อย่างน้อยก็ยังเป็นคนพิเศษ คนที่คีรีกลับมาหาบ่อยๆ ต่อไปเจอคนที่ใช่แล้ว ก็อย่าทำตัวเหมือนที่เคยทำอีกล่ะ”

“คุณพูดอะไร ผมไม่เข้าใจ”

“อย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่องเลย ที่คีรีทำไม่ได้ ก็เพราะหัวใจคีรีไม่ได้อยู่กับตัวแล้วไง”

“บ้าน่ะ พูดอะไรบ้าๆ เรื่องแบบนี้มันไม่เกี่ยวกันสักหน่อย”

“เอ้า ไม่ยอมรับความจริงไปอีก เรายังยอมรับเลย” เธอดึงเด็กหนุ่มเข้ามาสวมกอด “เรารักคีรีนะ แต่ก็รู้ตัวว่าเราเป็นได้แค่เพื่อนกันเท่านั้น เราเสียใจ แต่ก็ขอให้คีรีได้พบกับคนดีๆ ที่ไม่เป็นอย่างคีรีก็แล้วกัน”

“ขอบใจ ผมเองก็ไม่อยากเจอคนแบบผมเหมือนกัน” คีรีโอบกอดเธอตอบ “ผมยังโทรหา ยังมาเจอคุณได้ใช่มั้ย เรายังเป็นเพื่อนกันนะ”

“อย่าเลย ขอเวลาเราทำใจก่อนเถอะ”

เด็กหนุ่มผละออก เพื่อให้มองเห็นใบหน้าเศร้าและนัยน์ตาชื้นน้ำของเธอชัดๆ ซึ่งเป็นผลให้หัวใจกระตุกอย่างแรงจนรู้สึกเจ็บ “ผมขอโทษ” เขาพูดเสียงแหบแห้ง “นั่นสินะ มินนี่ควรจะได้เจอคนที่ดีกว่าผม”

“ผู้ชายทั้งโลกก็ดีกว่าคีรีทั้งนั้นล่ะ” เธอผลักเขาออกไปเบาๆ “กลับไปได้แล้วไป”

คีรีลุกขึ้น หยิบเสื้อของตนขึ้นมาสวม ทว่าก่อนจะเดินออกจากห้อง เขาหันไปสวมกอดเด็กสาวแล้วจูบศีรษะเธอเบาๆ “ผมขอโทษจริงๆ นะ ขอให้คุณโชคดี”

มินนี่ยิ้มบาง แล้วเม้มปากแน่น “อือ”

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาต้องบอกลาใครสักคน กับคนอื่นๆ เหมือนแค่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ทว่ามินนี่พิเศษกว่าคนอื่นนิดหน่อย เพราะเธอเป็นเหมือนโอเอซิสให้เขามาตลอด เธอเป็นคนสวยน่ารัก คุยสนุก แถมยังอ่อนหวานและฉลาด แต่เวลานี้ก็เด็ดขาดกับเขาอยู่เหมือนกัน เขายอมรับว่ารู้สึกโหวงเหวงในใจเล็กน้อย หากก็คิดว่าเลิกยุ่งเกี่ยวกัน น่าจะเป็นผลดีกับทั้งเธอ... และก็เขา

“ลาก่อนนะ”

เมื่อปิดประตูลง เสียงร้องไห้ก็ดังมาแว่วๆ คีรีหันกลับไปมอง แต่ก็เลือกที่จะเดินออกมา ตรงไปที่รถของเขาแล้วขับออกไป


หลังออกมาจากหมู่บ้านของเด็กสาว เด็กหนุ่มก็เคลื่อนรถเข้าไปจอดเทียบฟุตบาท เขายกมือขึ้นกุมใบหน้า นิ่งคิดอยู่สักพักจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกไป

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในห้องของปิ๊กกับฟลุค ซึ่งทั้งสองอยู่หอนอกด้วยกัน คนละหอกับยุ้ยและเจนี่ แต่ก็อยู่ในระยะที่เดินถึงกันได้

“ว่าไงไอ้เสือ มือยังว่างกดโทรศัพท์หาพวกกูได้อีกเหรอวะเนี่ย”

“สัส วันนี้พวกมึงไปอ่านหนังสือที่ไหนวะ”

“ก็ว่าจะอ่านที่หออะ”

“ออกมาอ่านข้างนอกสิวะ กูจะไปอ่านด้วย”

“ฮะ!” ปิ๊กเบิกตาโพลง “เดี๋ยวๆ มึงมีนัดไม่ใช่เหรอวะ”

“เออ แคนเซิลไปละ เจอกันใต้ตึกที่เดิมได้มะ”

“ก็...ก็ได้ สักสิบเอ็ดโมงนะ”

ฟลุคเพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ เห็นเพื่อนยืนทำหน้าตกใจเหมือนเห็นผีจึงเอ่ยถาม “เป็นไรวะมึง ผีหลอกอ่อ”

“เออ ผีไอ้คีรี แม่งยกเลิกนัดกับสาวแล้วจะมาอ่านหนังสือด้วย”

“ฉิบหาย! วันนี้ฝนจะตก แผ่นดินจะไหว ธรณีจะสูบมั้ยเนี่ย” สองหนุ่มทั้งงงทั้งหวั่นใจ เพราะตั้งแต่รู้จักคีรีมา ทุกวันอาทิตย์มันจะไม่เคยมาสุงสิงกับเพื่อนในกลุ่ม ถ้าไม่ไปหาคุณตาก็มีแต่จะไปเดตกับสาวๆ เท่านั้น แล้วเมื่อวานมันก็ยังบอกว่าจะไปหาสาวอยู่เลยแท้ๆ

แต่วันนี้คีรีอยู่ติวหนังสือกับเพื่อนๆ จนถึงเวลาบ่ายแก่ๆ แถมยังตั้งใจเป็นพิเศษเสียด้วย เมื่อติวส่วนของตัวเองเสร็จเขาก็นั่งอ่านหนังสือต่อไปด้วยสีหน้าเคร่งขรึม แทบไม่เงยหน้าขึ้นพูดคุยกับใคร


หลังจากส่งสายตาถามกันไปถามกันมาอยู่นาน เจนี่ก็เป็นคนเปิดประเด็นขึ้นก่อน เธอขยับแว่นแล้วยื่นหน้าเข้าไปหาเพื่อนหนุ่ม “คีรี ถามจริงเหอะ ทำไมวันนี้ไม่ไปเดตแล้วอะ”

“ไปมาแล้ว แต่โดนไล่ให้กลับ” เจ้าของชื่อทำหน้านิ่งตอบกลับไปเสียงเรียบ

ปิ๊กโพล่งถามทันที “เซ็กส์เสื่อมเหรอวะ”

“สัส!” คีรีขึงตาใส่ “ไม่รู้ว่าเป็นอะไรเหมือนกันว่ะ แต่กูไม่อยากทำอะไร นอกจากอ่านหนังสือนี่แหละ”

“นายกินยาผิดมาเหรอ” ยุ้ยขยับเข้ามาร่วมวงด้วย

“ทำไมวะ เราจะตั้งใจอ่านหนังสือสักวันไม่ได้เลยเหรอ อาทิตย์หน้าสอบนะเว้ย”

“เออ... ก็จริง” เจนี่ขยับเข้าไปกระแซะฟลุค “เจนี่ว่ามันโดนของ พวกนายมีพระมั้ย”

“ไอ้ปิ๊กมี” ฟลุคสะกิดเจ้าของชื่อเรียกอีกต่อ “มึงจัดการเลย”

ปิ๊กค่อยๆ ถอดสร้อยคอหนักสามบาท ห้อยพระเลี่ยมทองออกจากคอ พอคีรีเผลอเขาก็เอาสร้อยพระสวมให้ “ออกไปจากเพื่อนกูเดี๋ยวนี้!”

คีรีเงยหน้าขึ้นอย่างงงๆ “สัส! มึงเป็นเหี้ยอะไร้!” เขาถอดสร้อยออกจากคอแล้วโยนคืนให้เจ้าของ “เดี่ยวกูเอาไปจำนำเลยนี่!”

“มึงรู้จักคำว่าจำนำด้วยเหรอวะ!” สองหนุ่มตกใจหนักไปอีก

“กูก็ไม่ได้โง่มะ! ภาษาไทยกูก็เคยเรียนนะโว้ย!”

ยุ้ยขมวดคิ้ว พลางยื่นหน้าเข้าไปกลางวง “ยุ้ยถามจริงๆ นะคีรี เกิดอะไรขึ้นกับนายวะเนี่ย วันนี้นายท่าทางแปลกๆ จริงๆ นะ พวกเราเป็นห่วงว่ะ” 

คีรีถอนหายใจหนักๆ “เราแค่ไม่มีอารมณ์ไปเดต มันแปลกมากเหรอวะ”

“เม็นส์มาเหรอ”

เด็กหนุ่มทอดถอนใจยืดยาว “ถ้ามีก็อาจจะดีเหมือนกัน อย่างน้อยมันก็มีวันหมด”

คราวนี้ทั้งสี่คนแตกฮือไปคนละทิศละทาง พวกเขาโวยวายเสียงดัง “สัส พวกกูกลัวแล้วไอ้คีรี ไปวัดรดน้ำมนต์หน่อยมั้ยวะ”

คีรีนั่งนิ่ง เมินอาการช็อกของเพื่อนพ้องอยู่สักพัก ก่อนจะหยิบกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาเปิดออกนับเงิน “เฮ้ย ใครมีแบงค์ยี่สิบสวยๆ บ้างวะ ขอแลกหน่อย”

“เจนี่มีๆ” เจนี่หยิบธนบัตรใบละยี่สิบออกมาหลายใบ ยังไม่ทันส่งให้คีรีก็ต่อว่า “นี่สวยแล้วเหรอ ทำไมแบงค์นายเหมือนโดนรุมโทรมมาเป็นสิบปีอย่างนี้วะ เป็นผู้หญิงประสาอะไรเนี่ย เราอยากได้แบงค์ใหม่ๆ อะ”

“เรื่องมากอีกไอ้เวร แล้วแบงค์ยับเกี่ยวอะไรกับเป็นผู้หญิงวะ!”

ลำบากอีกสามคนที่เหลือต้องรื้อหาธนบัตรออกมาให้คีรีได้เลือก แล้วเด็กหนุ่มก็เลือกธนบัตรใบละยี่สิบบาทมาสองใบ แต่ก็ยังไม่ค่อยใหม่สะใจเขาสักเท่าไหร่ เขาเอามือรีดๆ เรียงธนบัตรให้เรียบร้อย แล้วค่อยๆ บรรจงพับใส่กระเป๋าเสื้อไว้

ทั้งสี่คนมองตามตาปริบๆ “จะเอาไปซื้ออะไรวะ”

“เอาไปคืน เมื่อวานยืมคนนึงมา”

ไม่ต้องหันหน้าปรึกษากันทุกคนก็เห็นพ้องต้องกันเป็นเสียงเดียว ดูจากอาการของคีรีแล้ว คนที่มันยืนเงินมาเมื่อวานต้องเป็นสาเหตุของความผิดปกติทั้งหมดของมันแน่นอน “ไปยืมเงินใครมาวะ จะเอาไปคืนเมื่อไหร่”

“ว่าจะแวะไปคืนก่อนไปกินมื้อเย็นว่ะ”

“งั้นไปเลยมะ พวกเราไปด้วย อยากเห็นคนที่นายติดเงินว่ะ”

“ทำไม เราติดเงินใครนี่แปลกมากเลยเหรอวะ”

“เออ แปลกมาก ไปๆ ลุกๆ จะได้รีบเอาไปคืน”

รถสามคันเคลื่อนออกจากมหาวิทยาลัย มุ่งหน้าไปยังคลินิกรักษาฟันที่หมาย พอจอดรถแล้วทั้งห้าคนก็ลงจากรถมายืนพร้อมหน้ากัน

คีรีรู้สึกว่าหัวใจตัวเองเต้นแปลกผิดปกติ เขาหันไปมองเพื่อนๆ อย่างงงๆ แล้วยกมือขึ้นกุมอก

“มึงเป็นอะไรวะ”

“รู้สึกใจหวิวๆ ว่ะ”

“มึงไม่สบายเหรอวะ” ปิ๊กเอื้อมมือไปแตะหน้าผากอีกฝ่าย

“ไม่ใช่เว้ย” คีรีปัดมือเพื่อนออก เป็นผลให้ปิ๊กชะงัก

“ไอ้คีรี มือมึง... เย็นเหมือนคนตายเลยว่ะ”

“คนตายพ่อง นายเคยจับมือคนตายเหรอ” เจนี่หันไปต่อว่า แล้วคว้ามือเพื่อนหนุ่มมา “เฮ้ย! มือเย็นเจี๊ยบเลยจริงๆ ด้วย”

“เราไม่เป็นไร” คีรีชักมือกลับ เขาสูดหายใจเข้าปอดลึก แต่พอนึกถึงใบหน้าทันตแพทย์หนุ่มกับรอยยิ้มเมื่อวานแล้วก็เสือกเกิดอาการเข่าอ่อน ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าแค่เอาเงินไปคืน ทำไมเขาต้องตื่นเต้นถึงขนาดนี้ด้วยวะ “โอย... กูว่ากูจะบ้าแล้วแน่ๆ”

“ใจเย็นๆ” เจนี่หันไปเปิดรถของเธอซึ่งจอดไว้ใกล้ที่สุดออกให้คีรีเข้าไปนั่ง แล้วเอายาดมมาจ่อจมูก ส่วนฟลุคช่วยเอายาหม่องทาขมับให้

“เดี๋ยวไปหาหมอดีกว่ามั้ยวะ อีกสองวันจะสอบวันแรกแล้วนะเว้ย”

คีรีส่ายหน้า “เราไม่ได้ป่วย ไม่ได้เป็นไร”

“ตอบมาได้ขัดกับหน้าตาและท่าทางของมึงมาก” ปิ๊กบ่น

เมื่ออาการของเด็กหนุ่มทุเลาลง เขาก็ดันเสือกนึกถึงทันตแพทย์หนุ่มขึ้นมาอีกจนได้ แน่นอนว่าหัวใจก็เต้นโครมครามแบบไม่บันยะบันยังอีกแล้ว


ทำไม? ทำไมวะ! 


“เอ้าๆ ใจเย็นคีรี เอามือกุมอกหายใจฟืดฟาดแบบนี้ เราว่าใกล้ต้องเข้าไอซียูแล้ว” ยุ้ยหยิบพัดมาช่วยพัดให้ “ไม่เคยเห็นนายเป็นแบบนี้มาก่อนเลย เป็นไรวะเนี่ย ตื่นเต้นเหรอ”

ตื่นเต้น? คนอย่างเขาเนี่ยนะ แค่จะไปพบทันตแพทย์คนนั้น ถึงกับต้องตื่นเต้นเชียวเหรอ?

คีรีเงยหน้าขึ้นมองคนถาม “เราก็อยากรู้เหมือนกันว่ะ” เขานั่งสงบจิตสงบใจต่อไปอีกสักพัก พอตั้งหลักได้ก็ก้าวออกมาจากรถใหม่ “เอาล่ะ เราไม่เป็นไรละ ไปกันเหอะ”

ทั้งห้าคนเดินเข้าไปข้างในคลินิก บนโซฟาด้านนอกมีคนไข้นั่งรออยู่สามคน ตรงหน้าเคาทน์เตอร์มีหญิงวัยกลางคนกับบุตรสาวยืนอยู่ ทั้งสองกำลังขอร้องให้สลับคิวให้เด็กสาวก่อน เนื่องจากพวกเขาอาจจะไปไม่ทันเครื่องบินได้ และเอาตั๋วเครื่องบินมาเป็นหลักฐานพร้อมสรรพ

วันนี้ทันตแพทย์หนุ่มที่ออกมารับมือเป็นคนละคนกับเมื่อวาน เขายิ้มโปรยปรายให้คนไข้ที่นั่งรออยู่ แล้วพูดอย่างใจเย็น “ช่วยน้องเขานิดนึงนะครับ น้องเขาจะไม่อยู่เป็นสัปดาห์เลย แค่ตรวจฟันซี่ที่ใส่ยาไว้แป๊บเดียว ไม่ถึงห้านาที”

“ได้ค่าหมอวิน” คนไข้ดูจะหลงเสน่ห์ทันตแพทย์หนุ่มกันเต็มๆ ชนิดที่ว่าเขาว่าอย่างไรก็ว่าตามกัน ให้รอทั้งวันก็ทำได้

รวินท์หันไปทางเด็กหนุ่มและเด็กสาวที่ยืนออกันอยู่ห้าคน แล้วก็แจกยิ้มการค้าให้ตามแบบฉบับของเขา “มาหาหมอรึเปล่าครับ”

คีรีพยักหน้า “เอ่อ มาหาหมอเต้ครับ”

“หือ หมอเต้ไม่อยู่ นัดไว้รึเปล่าครับ”

“เปล่าครับ มาหาเฉยๆ”

“ถ้างั้นมีอะไรก็ฝากพี่พนักงานไว้ละกันนะ” ทันตแพทย์หนุ่มชี้ไปที่พนักงานสาว ซึ่งเป็นคนละคนกับเมื่อวาน และไม่รู้จักคีรีมาก่อน แล้วเขาก็ผลุบกลับเข้าห้องตรวจฟันไป

สีหน้าของคีรีห่อเหี่ยวลงไปทันใด เขาอุตส่าห์ถ่อเอาเงินมาคืน นึกว่าจะได้เจอกันอีกครั้ง แต่หมอเต้ก็ดันไม่อยู่ซะได้นี่

พนักงานสาวยิ้มกว้างรับ “จะนัดทำฟันกับหมอเต้ใช่มั้ยคะ มีอาการอะไรรึเปล่าคะ” เธอพูดพลางเปิดตารางงานดูให้ “อ่า อาทิตย์หน้าหมอเต้คิวเต็มเอี้ยดเลย อาทิตย์ถัดไปก็ไม่เข้า...”

เด็กหนุ่มทำหน้าเศร้า เขาหยิบเงินในกระเป๋าเสื้อส่งให้พนักงานสาว “ไม่ได้จะนัดครับ แต่ฝากเอาเงินคืนหมอเต้หน่อยนะครับ เมื่อวานผมยืมมา”

“อ๋อ ได้ค่า เดี๋ยวฝากหมอวินไปคืนให้นะคะ ยังไงหมอวินกับหมอเต้ก็เจอกันน่ะค่ะ”

“ขอบคุณครับ” คีรีพูดเสียงจ๋อย แล้วเดินหน้ามุ่ยนำเพื่อนอีกสี่ชีวิตออกจากร้านไป

พอก้าวออกจากคลินิกไปเท่านั้น ยุ้ยกับเจนี่ก็ตะปบแขนเพื่อนหนุ่มไว้ทันควัน นัยน์ตาของพวกเธอพราวระยับ “คีรี หมอคนเมื่อกี้หล่อฉิบหายวายวอดเลยอะ”

“เออ ยุ้ยก็ไม่เคยเห็นใครหน้าตาดีขนาดนี้เลย แม่งหล่อออร่ากระจายไปสิบแปดทิศเลยเนี่ย”

“แต่กูว่าหน้าคุ้นๆ ชอบกลนะ เหมือนเคยเห็นที่ไหน” ฟลุคออกความเห็นบ้าง

ทั้งสี่คนพูดถึงรวินท์กันไม่หยุดปาก จนพวกเขาเดินไปนั่งร้านบะหมี่หมูแดง สั่งบะหมี่มากินกันแล้วก็ยังเม้ามอยไม่หยุด

คีรีถอนหายใจ เขาก็ยอมรับแหละว่าหมอวินที่ทุกคนฮือฮาอยู่เนี่ย หน้าตาดีผิดมนุษย์มนาจริงๆ แถมยังใจดี วิธีจัดการกับคนไข้ก็ต่างกับหมอเต้แบบฟ้าเหว แต่สำหรับเขาน่ะ คิดว่า... “หมอเต้น่ารักกว่าเป็นกอง”

“ฮะ!” ทั้งโต๊ะเงียบสนิท

คีรีเลิกคิ้วขึ้น “กูคิดดังไปใช่มั้ยวะ”

“ดังพอที่พวกกูจะได้ยินเต็มสองรูหูเลยอะ สรุปว่าคนที่ทำให้มึงเซ็กซ์เสื่อมสมองเพี้ยนนี่คือหมอเต้เหรอวะ”

“สัส! กูไม่ได้เซ็กซ์เสื่อมโว้ย”

“เดี๋ยวๆ กูถามก่อน หมอเต้นี่ผู้หญิงหรือผู้ชายวะ”

“ผู้ชายสิวะ แต่น่ารักมาก... น่ารักแบบ เห็นแล้วใจสั่นเลยอะ” คีรีเพ้อตาลอย “ในชีวิตกูนี่ เจอคนมาก็เยอะนะเว้ย แต่กูก็ไม่เคยติดใจใครเท่าหมอเต้มาก่อนเลยว่ะ”

ทั้งสี่คนอ้าปากค้าง จ้องเพื่อนรักเขม็ง

“จะตกใจกันเว่อร์ไปมะ”

“ที่ว่าน่ารักนี่ น่ารักยังไงวะ”

“ก็หน้าตา ท่าทาง คำพูด วิธีดุ การยิ้ม...” พอบรรยายไป หัวใจก็เต้นโครมครามขึ้นมาอีก เด็กหนุ่มยกมือขึ้นกุมอก “โอย ทำไมนึกถึงเขาทีไร หัวใจก็เต้นแรงทุกทีเลยวะ”

เพื่อนทั้งสี่ชีวิตยกเก้าอี้ถอยกรูดออกห่าง หน้าตาตกใจยิ่งกว่าเจอผี

“มึง... อาการมึงเหมือนตกหลุมรักมากเลยอะไอ้สัส” ปิ๊กโวยวายก่อนเป็นคนแรก

“จะบ้าเหรอวะ กูแค่คิดว่าหมอเขาน่ารักดี อีกอย่าง กูไม่เคยตกหลุมรักใครเว้ย” คีรีเถียงทันควัน พลางเอื้อมมือไปสะกิดเพื่อนที่นั่งใกล้ที่สุดให้ช่วยสนับสนุน “ใช่มะๆ”

ฟลุคพยักหน้าหงึกๆ แม้ในใจจะเห็นด้วยว่าคีรีตกหลุมรักแน่แล้ว แต่ก็ช่วยเพื่อนเถียงไปงั้นๆ ทำหน้าที่เพื่อนที่ดีสักหน่อย “นั่นน่ะสิ ไอ้คีรีไม่เคยมีแฟน แล้วหมอเต้ก็เป็นผู้ชายด้วยนะเว้ย”

เจนี่สวนกลับไปทันที “ตกหลุมรักมันไม่จำเป็นจะต้องจำกัดเพศป่ะวะ อีกอย่างนะ คนอย่างไอ้คีรีน่ะ มันเอาหมดนั่นละ จะชายหรือหญิง จะแก่หรือเด็ก จะหมาหรือแมว เพราะงั้นแค่เรื่องเพศน่ะ ลืมไปได้เลย”

“เอาอะไรวะ! นายเห็นเราเป็นคนยังไงเนี่ย!” ถึงจะเถียงไปแบบนั้น แต่ใบหน้าของคีรีก็เปลี่ยนเป็นสีแดง “หมอเต้น่ะ... หมอเต้...” เขายังไม่ทันได้เถียงอะไรต่อก็โดนคำพูดของยุ้ยเตะสะกัดขาเสียก่อน

“แล้วที่ทำเป็นเกรี้ยวกราดนี่ ยุ้ยถามจริงๆ ถ้ามีโอกาสได้เข้าใกล้หมอเต้คนนั้น ถ้าหมอเขาเปิดโอกาสให้จีบ นายจะว่าไง จะจีบมั้ยล่ะ”


ถ้าหากมีโอกาส


ถ้าหากได้ใกล้ชิด...   


คนถูกถามชะงัก แล้วตอบไปเสียงตะกุกตะกัก “โอกาส... อะไรวะ อย่า... อย่าบ้าน่ะ กินกันดีกว่า ไม่คุยเรื่องนี้แล้วเว้ย” คีรีเบือนหน้าหนี พยายามปรับสีหน้าให้นิ่งที่สุด

ระหว่างที่ก้มหน้าก้มตากินบะหมี่กันไป คนอื่นเริ่มหันไปสั่งชามที่สองกัน แต่คีรีไม่

“คีรี... อิ่มแล้วเหรอ”

“เออ กินไม่ค่อยลงเลยว่ะ” คนถูกถามทอดถอนใจ หากขณะที่นั่งเหม่ออยู่นั้นก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

คีรีหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู พอเห็นว่าเป็นคุณลุงซึ่งเป็นเจ้าของคลินิกทันตกรรมหลังมหาวิทยาลัย เขาก็รีบกดรับสาย “สวัสดีครับลุงภูมิ”

“เมื่อวานลุงติดธุระด่วน ขอโทษทีที่ไม่ได้เอาของไปให้เองนะ”

“ไม่เป็นไรครับ แค่ลุงภูมิฝากของมาให้ ผมก็ขอบคุณมากแล้ว”

“แล้วได้แกะดูรึยัง ของชอบคีรีทั้งนั้นเลยนะ”

“ครับ เมื่อวานกินลูกชิดอบแห้งไป อร่อยดีครับ”

“ดีๆ แล้วคีรีมีนัดตรวจฟันกับลุงจำได้ใช่มั้ยลูก สอบเสร็จเมื่อไหร่นะ”

“อังคารนู้นเลยครับ”

“สอบเสร็จแล้วจะกลับเชียงรายเลยมั้ยนี่ ตั้งแต่อาทิตย์หน้าถึงสิ้นเดือนหน้าลุงไม่เข้าเชียงใหม่ซะด้วยสิ”

“ยังครับ หลังสอบเสร็จผมจะไปอังกฤษกับคุณตา ไปสามอาทิตย์ก็ต้องกลับมาเชียงใหม่เพราะคุณตามีประชุม แล้วผมค่อยกลับไปบ้านที่เชียงรายพร้อมกับคุณตา กะว่าจะอยู่ที่บ้านสักสองอาทิตย์แล้วใกล้ๆ เปิดเทอมค่อยกลับเชียงใหม่น่ะครับ”

“อืม... งั้นเอาไว้ก่อนก็ได้ แต่ช่วงคุณตาประชุมคีรีก็น่าจะว่างใช่มั้ย ก่อนจะกลับเชียงรายก็แวะมาเยี่ยมลุงกับป้าที่ลำพูนบ้างสิ ป้าเขาบ่นคิดถึงคีรีประจำเลย”

เด็กหนุ่มเลิกคิ้วขึ้น “ไปเยี่ยม... ลำพูน...” จริงสิ หมอเต้ทำงานที่โรงพยาบาลลำพูน ที่เดียวกับคุณลุงนี่หว่า! “ลุงภูมิครับ ถ้าผมไปลำพูน ผมไปตรวจฟันที่โรงบาลลำพูนด้วยเลยได้มั้ยครับ”

“หือ ได้น่ะได้อยู่ แต่ห้องทำฟันไม่หรูเหมือนที่คลินิกลุงนา จะดีรึ”

“ไม่เป็นไรเลยครับ”  คีรีกดโทรศัพท์ดูปฏิทิน เลือกนัดวันแรกหลังกลับจากอังกฤษทันที “xx มิถุนาได้มัยครับ”

“ลุงดูตารางแป๊บ... ได้ๆ สักเกือบๆ สี่โมงได้มั้ย แล้วตอนเย็นลุงจะพาไปกินของอร่อย คีรีก็ค้างบ้านลุงสักสองสามคืนนะ ป้าเขาจะได้หายคิดถึง”

“ครับ แล้วก็... ผมอยากเห็นการทำงานในแผนกลุงภูมิน่ะครับ ผมว่าน่าสนใจดี ลุงพาผมทัวร์ในแผนกหน่อยได้มั้ย”

“โอ้ ได้เลยๆ เดี๋ยวลุงจะพาไปเดินดูทุกซอกทุกมุมในแผนกเลยนะ” ภาคภูมิหัวเราะอย่างพอใจ

“ขอบคุณลุงภูมิมากนะครับ” คีรียิ้มกริ่มพลางกดวางสาย เขาหันไปสั่งบะหมี่มาเพิ่มอีกชามท่ามกลางสายตางุนงงของเพื่อนๆ

เพื่อนทั้งสี่หรี่ตามอง “แหม ไหนว่าแดกไม่ลงไงวะ”

“แดกลงแล้ว จู่ๆ ก็หิว” คีรีกินไปก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เวลานี้อยากให้สอบเสร็จไวๆ ใจเร่งวันเร่งคืนเหลือเกินแล้ว เขาอยากไปโรงพยาบาลลำพูน อยากเห็นเวลาหมอเต้ทำงาน คงจะดูดีมากแน่ๆ

ยุ้ยชำเลืองมองเพื่อนสนิทห่างๆ อย่างห่วงๆ “คีรี”

“อะไร”

“หมอเต้ของนายนี่หน้าตาเป็นไงอะ”

“ก็แบบ... น่ารักอะ ตัวขาวจั๊วะ ตาโตๆ ปากแดงๆ จมูกโด่งมาก ท่าทางนิ่งๆ ขรึมๆ ดูสงบเสงี่ยมเรียบร้อย เวลาดุก็ดูน่ากลัวอยู่ แต่เวลายิ้มนี่ หวานจ๋อยเลย”

“สัส! มึงบรรยายออกมาได้เหมือนเขาเป็นแอฟ ทักษอรเลย!” เพื่อนหนุ่มทั้งสองคนเบ้ปาก

ส่วนเพื่อนสาวก็พยักหน้าหงึกๆ “เออ แล้วยิ้มหวานจ๋อยนี่อะไรอะ คือเวลายิ้มแล้วมีน้ำหวานไหลจากปากเหรอวะ”

หากเพราะสาวๆ ที่คีรีเคยไปไหนมาไหนด้วย มีแต่สวยใสไฮโซหุ่นนางแบบกันทั้งนั้น พวกหนุ่มๆ ที่เคยมาขอเบอร์โทรศัพท์แล้วได้เบอร์ไปก็มีแต่หนุ่มหน้าสวยเอวบางร่างน้อย ทั้งสี่คนจึงเหมาเอาว่า หมอเต้คนที่ว่าน่าจะจัดอยู่ในกลุ่มหลัง แบบว่าเป็นผู้ชายตัวเล็กๆ ผิวขาวๆ รูปร่างผอมบางอ้อนแอ้น ปากนิดจมูกหน่อย หน้าสวยกว่าผู้หญิงจริงๆ ตามเสป็กมันแหงแซะ ไอ้คีรีถึงไปเดินสะดุดตกหลุมรักได้



*TBC*


เป็นห่วงพิหมอเต้จังเรยค่ะ เด็กดอยของพิเซะเสื่อมซะแร้ว พิหมอเต้ต้องทดลองดูนะคะว่าเสื่อมจริงมั้ย~ /โดนเตะ

ยังย้อนเล่าอดีตของทางเด็กดอยอยู่นะคะ เดี๋ยวตอนหน้าเด็กดอยจะบุกไปลำพูน มาดูกันว่าความหล่อที่สะสมมายี่สิบปีจะมีประโยชน์อะไรมั้ยค่ะ 55555555555555555 เอาใจช่วยเด็กดอยกันนิ้ดดดดดดนะคะ

ขอบคุณคนอ่านทุกคนมากค่าาาา  :mew1:



ออฟไลน์ PsychePie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
อยากให้บุกไปลำพูนแล้วเจอเทพรวินท์ทำทุกอย่างผิดแผนไปหมด
ให้สมกับเป็นก้างชิ้นโตของเรื่อง

ออฟไลน์ toomild

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
เด็กดอยบรรยายหมอเต้ซะสาวน้อยเลย รู้เลยนะคะว่าหลงเค้าขนาดไหน :laugh:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
 :laugh: อุปสรรคมันเยอะคงจะได้เจอง่ายๆหรอก

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
หมอเต้นี่คนละคนกับเรื่องที่แล้วใช่ไหมครับ ทำไมฟังเด็กดอยบรรยายแล้วไม่คุ้นเลย 55

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ฮาาา หมอเต้เหรอ จะเหมือนแอฟ 55555

ออฟไลน์ Destiny

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
โถวว เด็กดอยของแม่ อาการน่าจะหนักแล้วลูก  :o8:

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
สงสารหมอเต้ 55555 บรรยายซะหมดความแมนเลย
ขนาดหมอวินหล่อออร่าเวอร์วังขนาดนั้น คีรียังไม่สน ท่าทางจะหลงหมอเต้จริงๆ  :laugh:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

อุต้ะ   อิเด็กดอยนี่  ตกหลุมรักแบบโงหัวไม่ขึ้น  ถึงขนาดเซะเสื่อมเลยอ่ะ 

สงสัยอิพี่หมอเต้ตายแน่  ถ้าไดฟิเชอริ่งกัน  เพราะอิเด็กดอยคงจัดหนักจัดเต็มแน่ ๆ  ก็นะ อดอยากปากแห้งมานานนี่โนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ FrozenSnow2019

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ว๊าว!! เด็กดอยตกหลุมรักพี่หมอเต้เข้าเต็มเปาเลย ตื่นเต้น อยากให้ถึง EP. หน้าไวๆ

ออฟไลน์ Ti0590

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
หมอเต้นี่ไม่น่าจะ​เอวบางร่างน้อยนะคะ

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
เด็กดอยเป็นเอามากนะ ขำเพื่อนๆ มโนหมอเต้ซะเป็นเคะน้อยร่างบางเฉยเลย :laugh:

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
อิเด็กดอย มีความมองข้ามความหล่อของพี่หมอวิน

ออฟไลน์ Rateesiri

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 143
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
เห่ยยย เห็นผู้ชายแมนๆ เหมือนแอฟ ตาบอดเพราะหลงเจ็งคีรี

ออฟไลน์ imac

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
หมอเต้จะรู้ตัวมั๊ยว่าโดนเล็งอยู่

ออฟไลน์ fammykiki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
โถๆ เด็กดอยเอ็นดูหมอเต้ซะเหลือตัวนิดเดียวเลย 5555

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
น้องคีรีจะไหวไหมครับเนี่ย

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ muiko

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-3
คือ คีรี เพ้อมากค่ะ
บรรยายซะพี่หมอเต้ หมดความแมนไปเลย
 :m20:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
หึหึ ไปไม่เปงเลยจ้า

ออฟไลน์ Sky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 933
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
ทำไมหมอเต้ดูละมุน ตัวเล็กน่ารัก /ตัดภาพมาที่ความเป็นจริง..... :laugh:

ออฟไลน์ Destiny

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ทำไงดีทนรอตอนต่อไปไม่ไหวล้าวว  :ling3:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
หมอเต้ในมโนของเพื่อนๆคีรีนี่5655555
 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
กว่าจะได้เจอกัน

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
บรรยายแบบหมอเต้เป็นหนุ่มน้อยกุ๊งกิ๊งเลย 55555

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ที่คีรีบรรยายนี่ใช่พี่หมอเต้คนเดียวกันกับเรื่องพี่หมอวินป่าวนิ ทำไมอารมณ์มันต่างกันมากกกก :laugh:

ออฟไลน์ Nung66669

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
อาการหนักนะคีรี หมอเต้ภาคนีัไม่หมดความแมนเลยอ่ะเจอคำบรรยายของคีรีเข้าไปสาวน้อยเลย555 เอาใจช่วยๆ

ออฟไลน์ tomnub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
สู้ๆนะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด