เดือนอิงดอย Chapter 35 : เดือนอิงดอย (END)[190619]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เดือนอิงดอย Chapter 35 : เดือนอิงดอย (END)[190619]  (อ่าน 306626 ครั้ง)

ออฟไลน์ mkianit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 301
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-3
พยายามเข้าทาท

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ผีเห็นผี55555555

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
พี่หมอวิน มันร้ายยยยยย

ขบวนการ ผีเห็นผี

ออฟไลน์ Nung66669

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 422
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
หมอวินนนนนนนน...ร้ายนะเรา ผีเห็นผีเอาให้นิสัยจริงๆของคีรีแสดงออกมาให้หมอเต้เห็นเลยหมอวินคงสนุกน่าดู :hao3:

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
อยากรู้มากคีรีเป็นใคร ไปรู้จักเต้ตอนไหน
แถมรู้จักวินด้วย คือรู้จักครบคนมาก
แล้วยังหลอนกลัวเจอคนรู้จักด้วย ไม่ธรรมดา

5555 วินคงรู้สึกชนะมากเลยนะ แกล้งน้อง
คีรีเอ้ย อย่าพึ่งแพ้ค่ะ ยังไงเต้ก็แพ้หน้าหงอยนะ


ออฟไลน์ M_M

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ยังๆๆๆยังๆม่มาต่ออีก

ออฟไลน์ PupleBetterfly

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ชอบพี่หมอวิน เวอร์ชั่นนี้มากอ่ะ :haun5: :m12:

ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4


Chapter 8 : บุกจับโป๊ะ


หลังเลิกงาน รวินท์กับเตชิตเก็บข้าวของเสร็จก็เดินกลับไปยังหอพักของพวกเขา

วันนี้ทั้งวันเตชิตอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เดินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ โปรยยิ้มได้ตลอดวันจนรวินท์รู้สึกหมั่นไส้ คนไข้และผู้ช่วยทันตแพทย์ก็ยังตกใจกันเป็นแถบๆ เพราะหมอเต้ที่ทุกคนรู้จักน่ะ ถึงแม้จะใจดี แต่ปกติจะเก๊กขรึมทำหน้าเครียด คุมโทนพูดเสียงดุๆ ให้ดูน่าเคารพ และจะยิ้มแฉ่งหน้าบานได้ก็ต่อเมื่อคุยกับรวินท์เท่านั้น

“อารมณ์ดีจังนะมึงน่ะ โดนไอ้เด็กนั่นปล่อยของใส่แหงๆ”

“จะบ้าเรอะ กูอารมณ์ดีที่มึงคอยหวงห่วงกูต่างหาก แหม เมื่อคืนก็จะมานอนด้วย วันนี้ก็มาหาถึงห้องแต่เช้า ทำโจ๊กมาให้แดก รอเดินไปทำงานพร้อมกันอีก โห เหมือนฝัน”

“สัส โจ๊กนี่น่าปลื้มมากเลยมะ มึงรู้รึเปล่าว่ายุคนี้เขามีโจ๊กสำเร็จรูปอะ แค่ต้มกับน้ำร้อนใส่แล้วใส่หมูสับแค่เนี้ยะ”

“กูปลื้มจนลืมถ่ายรูปไปอวดไอ้พิงค์เลยนะเนี่ย”

รวินท์เบ้ปากใส่ “พอๆ ไม่ต้องตอแหลใส่กูละ แล้วเด็กนั่นล่ะ”

“รออยู่ที่ม้านั่งใต้ตึกหอพัก เขาเมสเสจมาบอกเมื่อกี้” เตชิตยกมือขึ้นโอบไหล่เพื่อนรัก “ไอ้วิน วันนี้ไปหาไอ้พิงค์ช้าหน่อยได้มั้ยวะ กูมีไรอยากให้มึงช่วย”

“ช่วยไรวะ”

“เดี๋ยวไปเชียงใหม่ แวะไปส่งคีรีแล้วกูจะหาเรื่องบุกไปดูห้องของเขาสักหน่อยว่ะ มึงไปกับกูก่อนนะ ไปดูกับกูหน่อย”

“มึงจะไปเสือกห้องเขาทำไมเนี่ย มันพื้นที่ส่วนตัวของเขานะเว้ย”

“ก็กูสงสัยอะ อยากรู้ว่าเขาเป็นอยู่ยังไง”

“แล้วมึงจะอยากรู้ไปทำไม จะสนใจเขาทำไมนักวะ”

เตชิตตีหน้าขรึมพลางถอนหายใจหนักๆ “บอกตรงๆ ว่ากูเป็นห่วงเขาว่ะ เขาเป็นเด็กชาวเขาจากเชียงราย ห่างครอบครัวมาทำงานตามลำพังในเมืองใหญ่แบบนี้...”

รวินท์พยักหน้าหงึกๆ ขณะถอนหายใจตามเพื่อนรักอีกหลายๆ รอบ ก็ได้ยินแบบนี้เขาจะใจจืดใจดำได้อย่างไร “อือๆ กูเข้าใจละ ไปก็ไป แล้วเขาอยู่คนเดียวรึเปล่าอะ”

“เห็นว่าแชร์ห้องอยู่กับเพื่อน เป็นหอพักที่ทางโรงแรมที่เขาทำงานอยู่ซื้อไว้ให้พนักงานมาเช่าพักได้ว่ะ”

รวินท์ขมวดคิ้ว คือมันก็เป็นไปได้แหละ โรงแรมใหญ่ๆ ก็คงมีสวัสดิการดีล่ะมั้ง “เออ โอเค” เขาชำเลืองมองเพื่อนรัก แต่เมื่อคิดทบทวนคำพูดอีกฝ่ายก็ชักรู้สึกตงิดๆ “เดี๋ยวนะ แชร์ห้องอยู่กับเพื่อนก็ไม่ลำพังแล้วมั้ยวะ มึงจะไปจับโป๊ะเด็กนั่นก็บอกมาตรงๆ”

“เป็นห่วงเฉยๆ โว้ย เขาอาจจะอยู่กับเพื่อนแต่ก็ห่างครอบครัวอยู่ดีมะ”

“เออๆ ถ้ามึงคิดงั้นแล้วสบายใจ ห่วงก็ห่วง ไอ้บ้า”

เตชิตพูดเสียงค่อย “กูแค่อยากจะไปดูว่าที่เขาพูดมาเป็นเรื่องจริงรึเปล่าเท่านั้นแหละ”

“นั่นไม่เรียกจับโป๊ะรึไงสัส” รวินท์พึมพำอย่างอ่อนใจ



เมื่อเดินไปถึงหอพัก คีรีก็มานั่งทำตัวเจี๋ยมเจี้ยมรออยู่แล้ว ทันตแพทย์ทั้งสองจึงแยกย้ายกันไปเก็บของ ก่อนจะลงมาเจอกันที่รถของเตชิต

“เอารถมึงไปอีกแล้วอ่อ” รวินท์ทำหน้าเซ็ง พลางชำเลืองมองเด็กหนุ่มที่ขึ้นไปนั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋อบนเบาะหลังรถเรียบร้อย

“ถ้าเอารถมึงไป คีรีไม่ต้องเกาะหลังคาไปรึไงวะ คิดสิคิด” เตชิตหันไปเปิดประตูรถให้เพื่อนรัก “เชิญครับคุณชาย”

“เออๆ” รวินท์ทำหน้าเซ็งๆ แล้วก้าวขึ้นไปนั่งตรงที่ข้างคนขับ

จากนั้นเตชิตก็เดินอ้อมตัวรถไปนั่งตรงที่ของคนขับ สตาร์ตเครื่องรถ แล้วขับออกไปช้าๆ

ภายในรถมีเสียงเพลงเบาๆ เปิดคลอไว้ ทันตแพทย์ทั้งสองหันไปคุยกันบ้าง คุยกับเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างหลังบ้าง พยายามทำตัวเป็นปกติไม่ให้อีกฝ่ายสงสัย

จนกระทั่งเข้าเขตเมืองเชียงใหม่ รถของเตชิตมุ่งหน้าตรงไปยังคอนโดมิเนียมใกล้ที่พักของเด็กหนุ่ม ใช้เวลาไม่นานก็ไปจอดอยู่ในที่จอดรถเรียบร้อย

“ขอบคุณครับ” คีรียกมือไหว้ แต่พอจะก้าวลงจากรถ ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านหลังพวงมาลัยก็พูดขึ้น

“ไม่ต้องรีบๆ ผมกับวินจะช่วยคุณถือของไปที่หอนะ”

“เอ่อ ไม่ต้องลำบาก...”

รวินท์แจกยิ้มการค้า “ไม่เป็นไร นิดหน่อยเท่านั้น อีกอย่างน่ะ ผมกับเต้จะได้รู้ว่าคุณพักที่ไหนนะ เวลามีอะไรจะได้ช่วยเหลือกันได้สะดวกขึ้น”

“แต่ว่า... มันน่าอายอะครับ ห้องผมเป็นแค่ห้องเล็กๆ แคบๆ เท่านั้น สกปรกด้วย”

“ไม่ต้องอายหรอกน่ะ เราคนกันเอง”

คีรีอ้ำอึ้งพอเป็นพิธี จากนั้นก็พยักหน้าหงึกๆ “งั้นก็ได้ครับ ขอบคุณมาก”

รวินท์หรี่ตามอง เขาคิดว่าอีกฝ่ายตกลงง่ายไปนิดนะ แต่ก็ช่างมันก่อนละกัน ตอนนี้ขอให้ได้ไปดูห้องก่อนเถอะ

“เดินตัดสวนไปก็ถึงแล้วครับ ตามผมมาเลย”

ทันตแพทย์ทั้งสองสบสายตากัน แล้วถือของเดินตามหลังเด็กหนุ่มไปเรื่อยๆ ผ่านสวนสาธารณะไปก็พบกับตึกแถวอย่างที่เด็กหนุ่มเคยบอกไว้ พอเดินเข้าไปในตัวตึก ขึ้นบันไดไปอีกสี่ชั้นก็ไปหยุดอยู่ที่หน้าห้องห้องหนึ่ง

ขณะที่ทันตแพทย์ทั้งสองหอบแฮกๆ คีรียังไม่ทันจะเปิดประตูออกก็ได้ยินเสียงพูดคุยกันดังแว่วมาจากข้างใน


“พับโวยๆ วันนี้ต้องเอาหื้อได้สองพันใบหนา”

“เมื่อยหลังแล้วเนี่ย”



เมื่อเปิดประตูห้องออก คนในห้องหันมาเห็นเด็กหนุ่มก็ยิ้มกว้างพร้อมกับกวักมือเรียก “มาปอดี คีรี มาจ่วยกันพับถุงหน่อย!”


เตชิตและรวินท์เลิกคิ้วขึ้น ในห้องพักของเด็กหนุ่มก็แคบอย่างที่อีกฝ่ายเคยบอกไว้ หากไม่ใช่แค่แคบ แต่แออัดด้วย เมื่อมองเข้าไปภายในห้องก็เห็นเด็กหนุ่มสองคนกับเด็กสาวอีกสองคนนั่งอยู่บนพื้น ทุกคนใส่ชุดชาวเขาเต็มยศ มีหมวกมีพู่ สร้อยเงินห้อยระโยงระยางครบเซตแบบที่เคยเห็นตามสถานที่ท่องเที่ยวบนดอย ดูท่าจะอดหลับอดนอนพับถุงกันจนขอบตาดำคล้ำหน้าซีดเลยทีเดียว นอกจากนั้นบนพื้นห้องก็ยังมีกองกระดาษและกองถุงกระดาษวางระเกะระกะ ด้านหลังของพวกเขามีเตียงนอนขนาดใหญ่ซึ่งมีที่นอนพับวางซ้อนทับอยู่ทางด้านบน ด้านในสุดมีประตูอีกบาน ที่ข้างๆ ประตูบานนั้นมีตู้เสื้อผ้าทำจากไม้เก่าๆ ตั้งอยู่ ฝั่งขวามือมีตู้เย็นสุดโทรมกับไมโครเวฟ พื้นปูเสื่อน้ำมันและมีพัดลมหมุนติ้วๆ อยู่บนเพดาน

“คือ... เปิ้นพา...” เด็กหนุ่มพูดขึ้น ยังไม่ทันจะพูดอะไรต่อ ทั้งสี่คนก็ลุกขึ้นโวยวาย วิ่งชนกันให้วุ่น

“คนแปลกหน้ามา! ลี้เร็ว!” สองสาววิ่งไปหลบใต้เตียงกับหลังเตียง เด็กหนุ่มคนหนึ่งวิ่งไปหลบในตู้เสื้อผ้า และเด็กหนุ่มอีกคนวิ่งไปหลบข้างตู้เย็น

“ใจเย็นๆ พวกผมไม่ใช่คนร้ายนะ!” ทันตแพทย์ทั้งสองตกใจยิ่งกว่า

“นี่เปื่อนเปิ้น! บ่าต้องต๊กใจ๋!” คีรีถลาเข้าไปหาพวกเพื่อนๆ ในห้อง ทำให้ยิ่งวุ่นวายเพราะทุกคนโวยวายเสียงดังหนักกว่าเดิมไปอีก

“บ่าดียะเปิ้น เปิ้นเป๋นคนไทย เปิ้นมีบั้ดประชาชนหนา!” สองสาวตะโกนแล้วกรีดร้องเสียงดังลั่น

“เปิ้นอู้ไทยได้หนา~” เสียงของเด็กหนุ่มแว่วมาจากข้างตู้เย็น ตามมาด้วยเสียงอู้อี้จากในตู้เสื้อผ้า “บ่าดียับเปิ้นเลย!”

เตชิตเห็นท่าไม่ดี เพราะดูเหมือนว่าการมาเยือนของพวกเขาจะทำให้ทุกคนตกใจเอามากๆ ถ้าอยู่นานกว่านี้ทุกคนอาจจะกระโดดชั้นสี่หนีได้ ตายห่ากันหมดพอดี “พวกผมออกไปรอข้างนอกก่อนดีกว่า” พูดจบก็คว้าแขนรวินท์ถอยออกจากห้องไป

ทันตแพทย์ทั้งสองหันมองหน้ากันอย่างงงๆ ไอ้ความวุ่นวายเมื่อกี้มันคืออะไรวะเนี่ย

สักพักคีรีก็เปิดประตูห้องออกมา ทว่ายังมีเสียงสะอึกสะอื้นไห้เบาๆ ดังมาจากในห้องเป็นแบ็กกราวด์มิวสิค “เชิญครับ ขอโทษที เมื่อกี้เพื่อนๆ ผมตื่นตูมไปหน่อย พวกเขาขี้ตกใจน่ะครับ สมัยอยู่เชียงรายเคยโดนตำรวจบุกเข้ามาตรวจในหอพัก พวกเขาเลยกลัว ไม่ค่อยคุ้นกับคนแปลกหน้าเท่าไหร่”

โห พูดซะขนาดนี้ ถ้าพวกเขายังดึงดันจะบุกเข้าไปนั่งด้วยก็ดูจะใจร้ายกับเจ้าของห้องไปหน่อยไหมล่ะ!

เตชิตสบตากับรวินท์ พออีกฝ่ายพยักพเยิดหน้าหงึกๆ เขาก็ถอนหายใจเบาๆ “น่าสงสารนะ งั้นพวกผมไม่กวนแล้วดีกว่า”

“เอ่อ จะไม่เข้ามานั่งพักสักแป๊บเหรอครับ ผมยังไม่ได้แนะนำเพื่อนผมให้พวกคุณรู้จักเลย”

“ไม่ล่ะ เดี๋ยวพวกเขาจะยิ่งตกใจ” เตชิตรีบปฏิเสธ

คีรีทำหน้าเศร้าใส่ “แย่จัง ยังไม่อยากให้คุณกลับเลย”

รวินท์ขมวดคิ้ว ขณะมองเด็กหนุ่มทำหน้าอ้อนใส่เพื่อนรักของตน ไอ้เด็กนี่แม่งมารยาชัดๆ! เขาเบ้ปากเล็กน้อย “ไปเหอะเต้ อย่ากวนเขาเลย เขายังต้องไปช่วยเพื่อนพับถุงกันอีกนะเว้ย มึงรีบร่ำลาให้เสร็จๆ” เมื่อพูดจบก็เดินออกไปหยุดรออยู่ห่างๆ

“เออ จริงด้วย ถ้างั้นก็พยายามเข้าละกันนะ ผมไปล่ะ”

คีรีคว้าชายเสื้อของทันตแพทย์หนุ่มไว้ “คุณเตชิตครับ ผมจะโทรไปหา จะส่งข้อความไปหาคุณทุกวันนะ”

“อือๆ” เจ้าของชื่อพยักหน้าเออออ ก่อนเขาจะนึกขึ้นได้ “แต่อาทิตย์หน้าผมไปออกหน่วย อาจจะไม่มีสัญญาณโทรศัพท์นะ บอกไว้ก่อน จะได้ไม่งอแงว่าผมไม่รับโทรศัพท์”

“ถ้างั้นผมจะส่งข้อความทิ้งไว้ เวลาคุณเตชิตมีสัญญาณโทรศัพท์อีกครั้งจะได้เห็นว่าคุณสำคัญกับผมมากขนาดไหน”

เตชิตหัวเราะ เขายกมือขึ้นตบไหล่คนอ่อนวัยกว่าเบาๆ “แล้วเจอกัน”

“ครับ” คีรีตอบเสียงอ่อย “อะ! คุณเตชิตรอเดี๋ยว!” เด็กหนุ่มผลุบหายเข้าไปในห้อง ตามมาด้วยเสียงดังโวยวายแว่วมาจากภายในห้องนั้นอีกครั้ง สักพักก็กลับออกมา เขายัดธนบัตรใบละหนึ่งร้อยใส่มือทันตแพทย์หนุ่ม จากนั้นก็กุมมือข้างนั้นไว้

เตชิตสบตาอีกฝ่าย ทว่าก็ไม่ได้พูดอะไร

“คุณเตชิตครับ ผมคืนให้คุณสี่ร้อยแล้วนะครับ”

“อืม”

คีรีบีบมือที่เขากุมอยู่เบาๆ “คุณเตชิต...”

“ปล่อยมือได้แล้ว ผมต้องไปล่ะ ให้ไอ้วินรอนานเดี๋ยวโดนด่า” เตชิตรับเงินไว้ บอกลาแล้วหันหลังเดินไปหาเพื่อนรัก

พอคีรีหันไปทางรวินท์ก็เห็นว่าอีกฝ่ายยิ้มให้เขาเล็กน้อย แต่มันดูไม่ค่อยจะเป็นรอยยิ้มที่เป็นมิตรสักเท่าไหร่ เหมือนเป็นรอยยิ้มของสิงโตตอนหลอกให้เหยื่อตายใจ ก่อนจะขย้ำให้ตายซะมากกว่า

ผีย่อมเห็นผีด้วยกัน และถือไพ่เหนือกว่าทุกตา ท่าทางของทันตแพทย์หนุ่มกำลังบอกเขาอย่างนั้น

รวินท์โบกมือลา เขายกแขนขึ้นโอบไหล่เตชิตแล้วเดินจากไปพร้อมกัน ปล่อยให้เด็กหนุ่มมองตามตาละห้อย หูลู่หางตกอยู่ที่หน้าห้องไปแบบนั้น



ทันตแพทย์ทั้งสองจ้ำอ้าวๆ กลับไปยังรถที่จอดไว้ พอเข้าไปนั่งในรถก็หันมองหน้ากัน

“มึงคิดว่าไง หายสงสัยหรือยิ่งสงสัยมากขึ้นกันวะ” รวินท์ชิงถามก่อน

เตชิตขมวดคิ้ว ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่จึงตอบ “แวบแรกไอ้ที่เห็นก็ตรงกับที่เขาเล่าให้ฟังอยู่นะ”

“ทำไมต้องมีแวบแรกวะ แล้วอีกแวบล่ะ”

“ไม่รู้เหมือนกันว่ะ รู้แต่ว่าในห้องนั้นวุ่นวายฉิบหาย”

รวินท์พยักหน้าหงึกๆ แล้วพูดเสียงเครียด “ก็จริง วุ่นวายเว่อร์ๆ”

“แต่ช่างมันก่อนละกัน ขอบใจมึงมากนะเว้ย” เตชิตเอื้อมมือไปตบลงบนตักเพื่อนรักเบาๆ “ไปกันเหอะ เดี๋ยวเด็กมึงคอยนานจะจิตหงุดเงี้ยว”

รวินท์ชูนิ้วกลางสวนกลับไปทันควัน “สัส! จริงจังได้ไม่เคยถึงห้านาทีเลยมึงเนี่ย!”



ทางฝ่ายคีรีนั้น เด็กหนุ่มยืนคอตกอยู่หน้าห้องของเขาไปอีกสักพักบานประตูห้องก็เปิดออก แล้วเพื่อนพ้องในห้องก็ชะโงกหน้าออกมา

“คีรี หมอเขาสงสัยอะไรรึเปล่าวะ”

“แล้วมึงเป็นไร ทำไมไม่เข้าห้อง ยืนเป็นเสาตกน้ำมันรอคนมาไหว้เหรอวะ”

เจ้าของชื่อเรียกหันไปทางเพื่อนๆ ช้าๆ “กูจะเอาชนะหมอวินได้ยังไงวะ”

“โห กูว่ามึงตายแล้วเกิดใหม่สามชาติยังยากเลย ใจเย็นก่อนไอ้ลูกหมา เข้าห้องก่อนเว้ย”

คีรีเดินไปนั่งลงท่ามกลางกองถุงกระดาษและเพื่อนพ้อง นัยน์ตากวาดมองสภาพห้องรวมไปถึงเพื่อนทั้งสี่หน่อ ยุ้ย ฟลุค ปิ๊กและเจนี่ที่ทุ่มทุนแต่งตัวแต่งหน้าเป็นชาวเขาผู้ลำบากตรากตรำทำงานจนหน้ามืดแบบเต็มยศมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ ก่อนจะพูดเสียงอ่อย “ขอบใจทุกคนมากนะ”

พอเห็นว่าคีรีเศร้า ทั้งสี่คนก็พากันเศร้าไปด้วย แล้วทั้งห้าคนก็นั่งห่อเหี่ยวกันไปแบบเงียบๆ จนกระทั่งปิ๊กพูดขึ้น “ใจเย็นสิวะไอ้คีรี เรื่องแบบนี้มันต้องใช้เวลามะ เขาสนิทกันมานานตั้งเท่าไหร่ มึงยังไม่เกิดเลยมั้ง”

“มึงว่าหมอเต้ของกูแก่ขนาดนั้นเลยเหรอวะไอ้ปิ๊ก!” คีรีขึงตาใส่

“แต่หมอวินก็หล่อมากจริงๆ นะคีรี คือแบบ... ยุ้ยเห็นแค่ปลายเงานี่ยุ้ยยังเพ้อเลย” เด็กสาวในชุดชาวเขาพูดบ้าง

“หมอวินสำคัญกับหมอเต้มากๆ หมอเต้ทั้งแคร์ ทั้งเกรงใจที่สุด ส่วนหมอวินก็ดูจะหึงหวงหมอเต้อยู่เหมือนกัน เขาไม่ชอบให้เราเข้าใกล้ เราว่าพวกเขาอาจจะยังไม่ได้เป็นแฟนกัน แต่ก็น่าจะดูใจกันอยู่” คีรีพูดเสียงอ่อย

เจนี่เอื้อมมือไปตบไหล่เพื่อนเบาๆ “ไม่หรอกน่ะ ไอ้บ้า พวกเขาคบกันมาเป็นสิบปี ถ้าจะเป็นแฟนกันก็เป็นไปนานแล้วล่ะ หมอวินคงจะเป็นห่วงเพื่อนมากกว่า ก็จู่ๆ มีเด็กดอยที่ไหนไม่รู้มาตามเพื่อนเขาต้อยๆ”

“ใช่ เจนี่พูดถูกนะ อีกอย่าง ถ้าเป็นแฟนกันหมอเต้ก็คงไม่ยอมให้หมอวินไปเป็นคู่จิ้นกับพี่ภูพิงค์วิดวะคนนั้นหรอก”

ฟลุคพยักหน้าเห็นด้วย “กูว่าถ้ามึงเข้าถึงหมอวิน ดึงเขามาเป็นพวกได้ มึงก็ผ่านฉลุยไปค่อนทางแล้วล่ะ”

“แล้วกูจะเข้าถึงเขาได้ยังไงวะ จะทำยังไงให้เขาเปิดใจให้กู หมอวินสงสัยกูมาก ระแวงกูมากด้วย”

“มึงก็น่าระแวงจริงมะ แม่ง... ชาวเขาอะไรไม่อยู่บนเขา หน้าตาจะไทยก็ไม่ไทย จีนก็ไม่จีน จะว่าออกฝรั่งก็เหมือนฝรั่งไม่สุก นอกจากภาษาอังกฤษแล้วมึงก็พูดไม่ชัดสักภาษา ผลุบๆ โผล่ๆ เป็นผีบ้า แถมทำตัวลับๆ ล่อๆ อีก”

“ทำตัวลับๆ ล่อๆ ห่าไร กูก็ต้องไปเรียนเหมือนพวกมึงมะ แถมยังต้องช่วยคุณตาเล่นหุ้น ไปช่วยงานโรงแรมด้วย ไม่ได้ว่างตลอดนี่หว่า แล้วก็ถ้ากูไม่เออออเป็นชาวเขาไป หมอเต้จะยอมให้กูเข้าหาขนาดนี้เหรอวะ” คีรีโวยวาย “กูพยายามใช้ทุกทริกแทรกตัวเองเข้าไปในความคิดหมอเต้มากที่สุดแล้ว แต่ไม่ว่าจะทำยังไง ดูเขาก็ยังจะเอาคิดถึงแต่หมอวินอยู่คนเดียวเหมือนเดิม พวกมึงรู้มั้ย พวกเขาแม่งเหมือนเป็นแฟนกันมากเลยนะเว้ย กอดกัน อ้อนกันต่อหน้ากูนี่เลย กูแทบจะลุกขึ้นฉีกเสื้อ กลายเป็นฮัคต่อหน้าพวกเขาหลายรอบแล้ว”

“โอ๋... ไอ้ลูกหมาขี้เรื้อน” ปิ๊กเอื้อมมือไปลูบศีรษะเพื่อนปลอบใจ เสียงกระดิ่งบนชุดชาวเขาดังกรุ๋งกริ๋งทุกจังหวะการขยับมือ “แบบนี้มึงก็ต้องสู้ให้หนักขึ้นอีกเป็นสองเท่าสิเว้ย จะต้องพิชิตใจหมอเต้ให้ได้ แล้วก็ต้องทำให้หมอวินเปิดใจให้มึงด้วย”

ฟลุคพยักหน้าหงึกๆ “ไอ้เรื่องเข้าหาหมอวิน พวกกูก็น่าจะพอช่วยมึงได้อีกแรง อย่างน้อยที่สุดก็คงจะพอสืบเรื่องอะไรของเขามาได้บ้าง รู้เขารู้เราไว้ก่อนดีที่สุดเว้ย”

“มึงจะทำยังไงวะฟลุค”

“มันต้องมีวิธีสิวะ กูได้ยินมาว่าหมอวินไปที่คณะวิดวะบ่อยๆ นั่นน่าจะเป็นโอกาสให้พวกเราเข้าหาหมอวินตอนอยู่คนเดียวได้” เจ้าของชื่อเรียกทำท่าเกาคางครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ “อืม... กูว่าพวกเราต้องส่งกะเหรี่ยงไปเบิกทางไว้ก่อนเว้ย เผื่อว่าหมอวินยังโสด จะได้จัดการจีบซะ ยังไงผู้ชายก็ต้องใจอ่อนกับผู้หญิงสวยๆ อยู่แล้วมะ ถ้าจีบติดก็ดีไป ถ้าไม่ติด ก็น่าจะพอเกลี้ยกล่อมให้คายความลับอะไรออกมาได้บ้าง แต่ถ้าไม่โสดก็จะได้รู้กันไปเลยว่าเขากำลังคบใครอยู่กันแน่”

“กะเหรี่ยง?” ปิ๊กขมวดคิ้ว แต่ก็หันไปทางเพื่อนสาวสองคน “มึงจะส่งเจนี่กับยุ้ยไปจีบหมอวินเหรอวะ”

“ไอ้ปิ๊ก! ไอ้ฟลุค! กะเหรี่ยงพ่อง! พวกเราแค่มาจากต่างจังหวัด ก็เหมือนพวกนายสองคนมะ” เด็กสาวทั้งสองโวยวาย “แต่ไอ้เรื่องสวยนี่ไม่เถียง แถมเรื่องเข้าหาหมอวินนี่ก็น่าสนอย่างแรง เผื่อฟลุคได้ขยับขั้นเป็นแฟนหมอด้วย” แล้วพวกเธอก็หันหน้าเข้าหากัน หัวเราะคิกๆ

“ระวังนะเว้ย เราว่าหมอวินไม่ธรรมดาเลย” คีรีพูดเสียงขรึม

“ยังมีใครไม่ธรรมดากว่านายอีกเหรอวะคีรี พวกเราก็ชินกับนายแล้วมะ”

“โหย พวกนายชอบว่าเราร้ายอย่างนั้นอย่างนี้ใช่มะ พวกนายคูณไปอีกร้อยอะ ถึงจะดีกรีเท่าหมอวิน เราอะ โดนมาหมาดๆ เมื่อเช้าเลยแม่ง” เด็กหนุ่มยกมือขึ้นกุมขมับ “หน้าตาเขาโคตรมีเสน่ห์ มองนิดเดียวยังหลง ตาของเขาคือแบบ... เหมือนสะกดจิตคนได้ พวกนายอย่าเผลอจ้องตากับเขาเชียว แล้วเวลาเขายิ้มนะ แบบ... ยิ้มร้ายมากอะ เหมือนคนถือไพ่เหนือกว่าแม่งทุกตา”

ปิ๊กถอนหายใจใส่ “เขาก็ถือไพ่เหนือกว่ามึงจริงๆ ปะวะ ถ้าสมมติเขามีใจให้หมอเต้อะนะ มึงก็เลิกเรียนไปถางป่าบนดอยแล้วทำไร่แห้วได้เลยอะ”

“นี่พวกนาย” ยุ้ยพูดเสียงเครียด

“อะไรวะ”

“คือจู่ๆ ยุ้ยก็นึกขึ้นมาได้... เคยอ่านในนิยายบ่อยๆ แบบเพื่อนกัน คบกันมานาน ตอนแรกยังไม่รู้ใจตัวเอง แต่มารู้เอาตอนที่มีคนอื่นเข้ามาชอบเพื่อน มันเป็นพล็อตคลาสสิกเลยนะเว้ย”

“นี่จะปลอบมันหรือจะกระทืบมันให้จมดินอะยุ้ย” ฟลุคติง แล้วหันไปปลอบเพื่อนรักที่นั่งทำหน้าเศร้า “หมอเต้ก็ให้โอกาสมึงไม่ใช่เหรอวะ เขาให้มึงเข้าใกล้ได้ขนาดนี้แล้ว มึงได้ค้างที่ห้องพักเขาเลยนะเว้ย กูว่ามึงก็ไม่แดกแห้วซะทีเดียวหรอก”

“นั่นเพราะในสายตาเขา กูเป็นเด็กดอยตาดำๆ เท่านั้นละ” คีรีเอนหลังลงนอนแผ่ทับกองถุงกระดาษ “มันคงเป็นกรรมของกูที่ไม่เคยจริงจังกับใคร พอถึงคราวที่กูหลงรักใครจริงจังบ้าง เลยต้องอยู่ในสภาพแบบนี้” เขาหันหน้าไปมองข้อมือตนเองซึ่งสวมสร้อยข้อมือที่เตชิตให้อยู่ ก่อนจะยิ้มบาง “แต่กูจะพยายามต่อ”

“มองสร้อยแล้วยิ้มปากบานเชียวนะมึง หมอเต้ให้มารึไง”

“อือ ไม่ใช่แค่สร้อยนะเว้ย ชุดนี้ทั้งชุดหมอเต้ก็ซื้อให้”

“แหม~ อยากจะแหมจากเชียงใหม่ไปถึงยะลา” เพื่อนทั้งสี่เบ้ปากอย่างพร้อมเพรียงเรียงกันเป็นลูกคลื่น “นาย/มึงมันร้าย!”

เจนี่สะกิดเพื่อนหนุ่ม “แต่ว่านะคีรี หมอเต้ใจดีกับนายขนาดนี้ ถ้าเขารู้ความจริง เขาจะไม่โกรธนายใช่มั้ยเนี่ย”

รอยยิ้มของคีรีจางหายไปทันควัน “แต่ถ้าเราไม่ทำแบบนี้ เราก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้วจริงๆ ว่ะ”

ฟลุคกับปิ๊กถอนหายใจหนักๆ พวกเขานั่งเงียบกันไปอีกสักพักก่อนจะลุกขึ้น “เฮ้ย เก็บของกันดีกว่า ไอ้คีรี ลุกๆ”

คีรีลุกขึ้น แล้วช่วยเพื่อนๆ เก็บถุงกระดาษทั้งหลายรวมใส่ถุงกระสอบใหญ่เรียงไว้ติดฝาผนัง

“เผื่อต้องใช้อีก มึงเก็บไว้ก่อน”

คีรีพยักหน้า “นี่ไปหาซื้อถุงพวกนี้มาจากไหนวะเนี่ย”

“ซื้อในตลาดมาน่ะสิ มีทั้งถุงที่พับแล้วกับแบบ First kit พร้อมพับ ป้าคนขายเปิดคอร์สวิธีพับถุง101 แบบเร่งรัดให้ด้วย เจ๋งมะ” ยุ้ยตอบ

“แล้วเสื้อผ้า...”

“เออ ก็ซื้อในตลาดเดียวกันนั่นแหละ บอกพี่แม่ค้าให้จัดชุดใหญ่ไฟกะพริบมาเลยนะเนี่ย” เจนี่หัวเราะคิก “อยากแต่งชุดชาวเขาเป็นเซตแบบนี้มานานแล้ว มีของคีรีด้วยนะ คราวหน้าแต่งให้ครบห้าคนแล้วไปถ่ายรูปริมอ่างแก้วกัน”

เจ้าของชื่อยิ้มแห้ง “ขอบใจว่ะ”

“เนี่ย ตอนแรกพวกกูก็ว่าจะแค่แต่งตัวเฉยๆ แต่ยุ้ยกับเจนี่ไม่ยอมว่ะ บอกว่าหัวข้อที่มึงขอมาคือต้องดูลำบากตรากตรำทำงานหนัก ปล่อยหน้าสดเดี๋ยวไม่ผ่านแคมเปญแรก นี่พวกกูยอมลงรองพื้นหน้าลอยครั้งแรกในชีวิตเลยนะเว้ย” สองหนุ่มบ่นกระปอดกระแปด “พวกคุณนายเลยสนุกเลย หน้าขาวขอบตาดำแบบนี้ กูว่าทาแก้มแดงอีกหน่อยไปเล่นละครลิงได้เลยเนี่ย ส่วนกำเมืองพวกเราก็รู้อยู่ไม่กี่คำ ถ้าพูดมากกว่านี้ก็กลัวว่าจะเป็นพม่าหลงมาเลยสัส”

คีรีหัวเราะร่วน “ขอบใจทุกคนมากนะเว้ย ก็หมอเต้เพิ่งเปรยเมื่อคืน กูเลยเดาว่าวันนี้น่าจะแจ็คพอตแตกเพราะหมอเต้จะมาเชียงใหม่กับหมอวินพอดี เขาคงไม่เปิดโอกาสให้กูได้ตั้งตัวแน่ๆ โชคดีชะมัดที่กูรีบเช่าห้องนี้ไว้ตั้งแต่ตอนที่หมอเต้มาส่งกูแถวนี้ครั้งแรก แล้วนี่ซื้อของมาเยอะขนาดนี้ก็เกินงบสิวะเนี่ย เกินมาอีกเท่าไหร่ เดี๋ยวกูคืนให้”

ปิ๊กโบกมือห้าม “เกินมาหน่อยเดียว ไม่ต้องหรอกมึง พาพวกกูไปเลี้ยงสักมื้อละกัน เซ็นทรัลมะ”

คีรีส่ายหน้ารัว “ไปกินกันที่รีสอร์ตคุณตากูดีกว่า กูจะได้ไม่ต้องเสียวสันหลัง เกิดหมอเต้กับหมอวินไปกินข้าวที่เซ็นทรัลเหมือนกัน กูตาย”



*TBC*



เกือบโป๊ะแตกแล้วมั้ยล่ะคีรีเอ๊ย~

เดี๋ยวตอนหน้าฮัสกี้จะพาน้องคีรีและเพื่อนๆ มาแนะนำให้ทุกคนรู้จักนะคะ ให้รู้เรื่องทางฝั่งเด็กดอยบ้างว่าเป็นไงมาไง ถึงเดินมาสะดุดรักพี่หมอเต้ได้ค่ะ อยากรู้แล้วใช่มั้ยล่าว่าตัวจริงเป็นใครกันแน่ อิอิ แต่หลายๆ คนก็เดาถูกแย้ว~

ขอบคุณคนอ่านที่น่ารักทุกคนนะคะ จุ๊ฟฟฟฟ แผล่บๆ :mew1:

ปล. เวลาคีรีคุยกับเพื่อนผู้หญิงจะสุภาพขึ้นมานิดนุง เลยให้ใช้เรา-นาย ส่วนกับเพื่อนชายก็มึง-กูปกตินะก๊ะ


ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
เกือบแล้ววว เกือบจับโป๊ะล้าวว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เดือนอิงดอย Chapter 8 : บุกจับโป๊ะ [231018]
« ตอบ #279 เมื่อ: 23-10-2018 19:17:17 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ fahdekkom

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ว่าแล้ววววว เชื่อว่าพอรู้ความจริงหมอเต้ต้องโกรธมากแน่ๆ

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
แต่ถ้าพี่หมอเต้จับได้คงไม่ยกโทษง่ายๆ  :mew4:

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1340
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
ไม่ธรรมดา​จริงๆ คีรี แต่ยังห่างชั้นกับหมอวินอีกเยอะ ไม่นานต้องโป๊ะแตกแน่ๆ ถ้ายังดึงหมอวินมาเป็นพวกไม่ได้

ออฟไลน์ Rateesiri

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 143
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
โกหกทำมัยน้อนู๋คีรี จบตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลยอ่ะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
เล่นใหญ่กันมาก

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
รอวันคีรีได้หมอวินมาเป็นพวก

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ muiko

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-3
รู้ความจริมะไหร่
คีรี เตรียมตัวง้อหมอเต้ยาวๆไปเลย
ขอให้จีบติดไวๆ แล้วรีบบอกความจริงละกันน้า
 :เฮ้อ:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
หมอเต้เขาเป็นผู้ใหญ่แล้วนะ แต่หนูคีรียังเล่นเป็นเด็กอยู่เลย
ิต้องส่งหมอวินมาสั่งสอนเสียหน่อยแล้ว

ออฟไลน์ Ti0590

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
คีรีีี​ เจ้าเด็้กนี่มันร้ายยยยยยยยย​

วร้ายยยยยยยย

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0
 :laugh:


 :L2: :pig4: :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เดือนอิงดอย Chapter 8 : บุกจับโป๊ะ [231018]
« ตอบ #289 เมื่อ: 23-10-2018 20:26:21 »





ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
โห แผนเนียนกันจริงๆ
อยากรู้ว่าแก็งเด็กดอย(ปลอม)เรียนปีไหนน๊าาา

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
จะเอาพี่วินเป็นพวกต้องเข้าทางพิงค์กับเพื่อนก่อนดิ ลองดูๆๆๆ แต่คีรีน่าจะบอกความจริงพี่เต้ แล้วก็จีบตรงๆเลยดีที่สุด

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ร้ายนักนะคีรี ระวังหมอเต้รู้ความจริงแล้วจะโดนโกรธยาวนะ

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
แก๊งเด็กดอยน่าสนุก

เอาใจช่วยนะคีรี
ยังไงก็เตรียมง้อหมอเต้ยาว ๆ เลย
ถ้าหมอรู้ความจริงขึ้นมา


 :L2: :L2:

ออฟไลน์ fammykiki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 329
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เด็กมันร้ายนะคะคุณหมอ  :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ killua1a

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 138
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :pig4:

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1789
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
แก๊งเด็กดอยเล่นใหญ่ไฟกระพริบมาก โอยยย ขำ :laugh:

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 658
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1

……

อยากรู้จักตัวจริงของคีรีอ่ะ.

แล้วอะไรที่ทำให้คีรีรักหมอเต้ยขนาด

รอ รอ รอ รอ เฉลย


 :katai5:  :katai5:  :katai5:  :katai5:  :katai5:  :katai5:  :katai5:







ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
สนุกมั้ยละ หึหึ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด