เดือนอิงดอย Chapter 35 : เดือนอิงดอย (END)[190619]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เดือนอิงดอย Chapter 35 : เดือนอิงดอย (END)[190619]  (อ่าน 306486 ครั้ง)

ออฟไลน์ FrozenSnow2019

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
อยากรู้ว่าคีรีได้ไปเจอหมอเต้ที่ลำพูนหรือเปล่า แล้วนี่หมอเต้มาเจออีกทีคือไม่คุ้นหน้าสักนิดเลยหรือ อิอิ
สงสัยจะมีแต่เด็กดอยที่เพ้ออยู่คนเดียว

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
หมอเต้ดูสวยหวานน่ารักมากในสายตาคีรีเลย​ เด็กน้อยพึ่งตกหลุมรัก​ หมอเต้แอบเปิดโอกาสให้หมอวินตอนปัจจุบัน​แสดงว่า​ก็ออบมีใจส่วนตอนอดีตหมอเต้ไม่คุ้นหน้าน้องไม่สะดุดตาในความหล่อน้องเลยใช่มั้ยคะ​ แสดงว่า​ไม่สนใครนอกจากหมอวินคนเดียวจริงๆ

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
พอบุกไปก็โดนหมอเต้จับทำเมียเลยใช่ป่ะ :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ Destiny

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อ่านแล้วอยากได้เด็กดอยมาเลี้ยงสักคน เนื้อคงจะหวานกรุบๆดีแท้ พ่อเอ้ยย จองตั๋วไปเชียงรายด่วนห่ะ

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2685
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
55555 พูดซะเพื่อนคิดว่า เต้ตัวเล็ก น่ารัก

คีรีเตรียมตัวมาดี ถึงขั้นจองห้อง ให้เพื่อนมารออยู่
คีรีไม่ธรรมดาจริงๆ เลยค่ะ ไม่แปลกที่เต้กับวินจะไม่เชื่อ
อย่าให้จับได้ก่อนที่จะบอกเองนะ ไม่งั้นเต้คงโกรธแน่

ตลกวิน ทำไมร้ายแบบนี้ มีข่มน้องด้วย
เต้แพ้ทางคีรีหนักมาก และทำเข้มใส่น้องด้วย

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
ตกหลุมรักจนเพี้ยนไปนิดนึงแล้วนะ


555555


ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4


Chapter 9.3 : การพบกันครั้งที่สอง



เมื่อถึงวันนัด คีรีบึ่งรถคันหรูของเขาออกจากเมืองเชียงใหม่ตรงไปยังโรงพยาบาลลำพูนพร้อมกับของฝากจากอังกฤษไปให้ครอบครัวของคุณลุง กะว่าจะไปถึงก่อนเวลานัดสักพักเผื่อว่าจะมีโอกาสได้ไปเดินดูลาดเลาในแผนกทันตกรรมของโรงพยาบาลสักหน่อย

เมื่อมาถึงโรงพยาบาลลำพูน จอดรถแล้วเด็กหนุ่มก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรหาคุณลุง “ลุงภูมิครับ ผมมาถึงแล้วอะครับ มาเร็วไปหน่อย ให้ผมเดินเข้าไปหาลุงภูมิที่แผนกเลยมั้ยครับ”

“เดี๋ยวลุงลงไปรับดีกว่า คีรีเดินไปรอที่ตรงทางเข้าเจ้าหน้าที่ประตูสอง ประตูที่อยู่ด้านข้างโรงบาล ใกล้ลานจอดรถที่สุดนั่นล่ะ”

“ครับ”

เด็กหนุ่มเดินยิ้มหน้าบาน เขาเห็นหมายเลขสองบนหัวประตูลิบๆ แล้ว ยิ่งเข้าไปใกล้ก็หัวใจก็ยิ่งเต้นไม่เป็นส่ำ ยังไงวันนี้เขาต้องได้พบหมอเต้อีกรอบล่ะวะ อุตส่าห์บุกมาถึงที่ทำงานขนาดนี้แล้ว

ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่มีสักวันที่เขาจะไม่นึกถึงหมอเต้เลย ไม่รู้ว่าป่านนี้อีกฝ่ายจะน่ารักขึ้นขนาดไหนแล้วเนี่ย


เขาเดินไปยืนรออยู่แถวประตูทางเข้าตามที่คุณลุงบอก ขณะเดียวกันก็หันมองสำรวจไปรอบๆ แต่แล้วก็ต้องตกใจแทบช็อกเมื่อเห็นคนที่เขาอยากเจอจนต้องถ่อมาถึงที่โรงพยาบาลแห่งนี้กำลังยืนพูดคุยอยู่กับคู่ชายหญิงชาวเขาสูงวัยไม่ไกลออกไปนัก

โอ้โห มายังไม่ทันถึงห้านาทีก็คุ้มที่ขับรถมาแล้วโว้ย!

มือของเด็กหนุ่มเย็นเฉียบ หัวใจเต้นรัวแรง เขาย่องไปหลบหลังรถตู้ใกล้ๆ ทันตแพทย์หนุ่ม แล้วแอบมองแอบฟังอีกฝ่ายจากที่ข้างรถตู้นั่นล่ะ



“ไม่ต้องให้อะไรผมหรอกครับตายาย ผมเป็นหมอฟัน รักษาฟันมันก็เป็นหน้าที่ของผม ตายายเก็บไว้เถอะนะ เอาไปขายให้ได้เงินดีกว่า”

“บ่าได้หรอกหมอ ก่าฮักษา หมอก่อบ่าเอา หมู่เฮาคงบ่ามีความสุขแน่ๆ ถ่าบ่าได้ตอบแทนอะหยังหมอเลย ผ้านี่ก่อบ่าใจ่ของมีก้าอะหยัง แต่อุ้ยเปิ้นทอเองกับมือ”(ไม่ได้หรอกหมอ ค่ารักษาหมอก็ไม่รับ พวกเราคงไม่มีความสุขแน่ๆ ถ้าไม่ได้ตอบแทนอะไรหมอเลย ผ้านี่ก็ไม่ใช่ของมีราคาอะไร แต่ยายเขาทอเองกับมือ)

ทันตแพทย์หนุ่มก้มลงมองผืนผ้าทอในมือชายสูงวัย ตั้งแต่เขากับไอ้วินมาใช้ทุนที่นี่ พวกเขาได้รับของขวัญและของกินจากคนไข้เป็นประจำเลย แม้จะไม่ใช่ของมีราคา แต่ก็เป็นน้ำใจและความตั้งใจดีของคนที่นี่ นี่คงเป็นความสุขอีกอย่างหนึ่งของการเป็นทันตแพทย์ใช้ทุนจริงๆ

“งั้นผมขอซื้อผ้าผืนนี้แทนละกัน”

“บ่าเอาหมอ ยายหื้อ หมอฮับไว้  เก็บไว้กับหมอเน่อ” (ไม่เอาหมอ ยายให้ หมอรับไว้ เก็บไว้กับหมอนะ)

เตชิตยิ้มอย่างอ่อนโยน เขาเอื้อมมือไปรับผ้าทอมือผืนนั้นมา ยกมือไหว้แล้วถือไว้แนบอก “ขอบคุณครับ ผมจะเก็บไว้อย่างดี ตายายก็กลับบ้านดีๆ นะ”

“ขอหื้อเจริญๆ เน่อหมอ” (ขอให้เจริญๆ นะหมอ)

“อีกครึ่งปีมาหาผมให้ตรวจฟันใหม่นะ”

ตายายชาวเขาหัวเราะ “ถ้ามาลุกก่อมา” (ถ้ามาไหวก็จะมา)



คีรีมองเหม่อ หมอเต้... นอกจากจะน่ารักมากแล้ว ยังใจดีชะมัดเลย รอยยิ้มแบบนั้น ถ้ามีให้เขาสักครั้งก็คงดี แต่เขาอาจจะหัวใจวายตายอยู่ตรงหน้าหมอเต้เลยก็ได้ คิดไปพลางจิกมือลงบนตัวรถที่ใช้เป็นที่กำบังอย่างลืมตัว

ทำไมเขาถึงได้ติดใจคนคนนี้ได้มากถึงขนาดนี้กันนะ


“คีรี”


หมอเต้จะจำเขาได้มั้ยนะ ใจหนึ่งอยากให้จำได้ แต่อีกใจ... อย่าจำเลยดีกว่าว่ะ เรื่องที่ร้านข้าวมันไก่นั่นโคตรน่าอาย


“คีรี” คนเรียกเขกศีรษะเด็กหนุ่มเบาๆ “คีรี!”

เด็กหนุ่มสะดุ้งโหยง หันขวับไปทางต้นเสียงทันควัน “ลุงภูมิ!”

“ส่องอะไรหมอเต้น่ะเรา ไปๆ เข้าไปข้างในก่อน”

คีรียกมือไหว้ เดินตามคุณลุงของเขาไป แต่ก็ยังหันหลังกลับไปมองเตชิตอีกเป็นพักๆ จนเข้าประตูไป

“หมอเต้ใจดีกับชาวเขามากใช่มั้ยล่ะ” หมอภูมิเห็นว่าหลานชายสนใจ คิดว่าเพราะคีรีเองก็ใกล้ชิดกับชาวเขาที่ทำงานในศูนย์พัฒนาอาชีพของคุณตา เขาก็เลยเล่าให้ฟัง “ตอนเขาไปออกหน่วยที่เชียงราย ฝนตกหนักมาก มีอุบัติเหตุดินโคลนถล่มปิดทางเข้าออก แล้วพวกชาวเขาในหมู่บ้านใกล้ๆ ที่เขาเคยไปรักษาฟันให้ออกมาช่วยเขาไว้น่ะ เห็นว่าลุยน้ำลุยโคลนเอาอาหารกับยามาส่งให้จนตัวเองบาดเจ็บล้มป่วย หลังจากนั้นมาหมอเต้เขาเลยเซนส์สิถีพกับชาวเขาเป็นพิเศษ ถ้าเป็นพวกชาวเขาที่อายุมากๆ เดินทางมาไกลๆ ไม่มีสัญชาติไทยไม่มีบัตรอะไรมารักษาฟันที่นี่ หมอเต้ก็จะช่วยออกค่ารักษาให้ บางทีก็ให้เงินกลับบ้านไปอีก”

“หือ เอาเงินตัวเองออกให้เลยเหรอครับ”

“ใช่ หมอเขาก็ไม่ได้ออกให้ทุกครั้งหรอกนะ แต่ก็บ่อยๆ เห็นพวกพยาบาลว่างั้น”

“ใจดีจังเลยนะครับ”

หมอภูมิหัวเราะ “โรงบาลนี้มีหมอเต้กับหมอวินเป็นไอดอล หมอสองคนนี่น่ะสนิทกันมากๆ แล้วก็ใจดีมากด้วย ทั้งคนไข้ เจ้าหน้าที่ในโรงบาลและพยาบาลที่นี่ก็แฟนคลับหมอเต้กับหมอวินกันทั้งนั้น รู้จักกันทั้งโรงบาลไปถึงทุกหมู่บ้านบนดอยในลำพูนแล้วมั้งเนี่ย”

คีรีพยักหน้าแล้วยิ้มมุมปากเล็กน้อย หมอเต้... เป็นคนที่น่ารักมากจริงๆ ตอนที่พบกันครั้งแรกหมอเต้ก็ใจดีกับเขา ภายนอกท่าทางขรึมๆ ดุๆ แต่ภายในตรงข้ามกันแบบฟ้าเหว และทั้งที่ไม่รู้จักกันสักหน่อย พอเห็นเขาตกที่นั่งลำบากก็ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ทำให้เขาประทับใจมาจนถึงตอนนี้

เด็กหนุ่มกะว่าเดี๋ยวตรวจฟันเสร็จจะไปเลียบๆ เคียงๆ ในแผนกทันตกรรมของโรงพยาบาลต่อ เผื่อว่าจะได้แอบดูหมอเต้ตอนทำงานบ้าง

ทว่าผิดคาด ลุงภูมิพาเขาไปนั่งรอในห้องทำงานส่วนตัวก่อน ดูเหมือนว่าคุณลุงจะมีคนไข้รออยู่ ตอนแรกเขานึกว่ารอแค่ประเดี๋ยวประด๋าว แต่ที่ไหนได้ต้องรออยู่พักใหญ่ กว่าจะถึงคิวเขาก็เลยเวลาเลิกงานไปแล้ว แถมห้องทำฟันของลุงภูมิยังเป็นห้องเดี่ยวแยกออกมาด้วย เขาจึงไม่ได้พบทันตแพทย์คนอื่นๆ ในแผนกเลย พอตรวจฟันเสร็จ เดินออกมาพร้อมกับคุณลุง ภายในแผนกก็เหลือแต่ผู้ช่วยทันตแพทย์ เจ้าหน้าที่และพยาบาลไม่กี่คนเท่านั้น

คีรีทำหน้าเศร้า เขาอุตส่าห์บุกมาถึงโรงพยาบาลลำพูนทั้งที ได้เห็นหมอเต้แค่แวบเดียวเอง

“ลุงขอโทษที่ทำให้เสียเวลานะ ได้แค่ตรวจฟันเท่านั้น แต่ไม่มีฟันผุก็สบายใจได้”

“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่รู้ว่าลุงภูมิคนไข้เยอะ มารบกวนคุณลุงถึงที่นี่เลย”

“โอย กวนอะไรกัน ลุงดีใจที่คีรีมา ป้าเขาก็อยากเจอคีรีมาก แต่ว่านะ ยังไม่ได้ขูดหินปูนเลย ที่จริงหินปูนก็มีไม่เยอะหรอก แต่ลุงยังไม่ได้ทำให้เพราะมันเลยเวลาเลิกงานไปมากแล้ว สงสารผู้ช่วยน่ะ พรุ่งนี้เช้าคีรีมีแพลนอะไรรึเปล่า”

“ยังไม่มีครับ แต่ลุงภูมิบอกว่าจะพาผมเดินดูในแผนกอะ วันนี้ยังไม่ได้เห็นอะไรเลยนอกจากห้องทำงานคุณลุงกับห้องทำฟัน”

“โทษทีนะ พอดีลุงยุ่งๆ ไปหน่อย งั้นพรุ่งนี้เช้าก็มาโรงบาลพร้อมกับลุงละกัน มาให้ลุงขูดหินปูนให้ก่อน ทำฟันเสร็จแล้วค่อยเดินดูในแผนกนะ”

เด็กหนุ่มเลิกคิ้วขึ้น เขานึกอะไรดีๆ ได้แล้ว “ขูดหินปูนนี่ ให้หมอเต้เป็นคนทำได้มั้ยครับ”

“ฮะ!?” ลุงภูมิทำหน้างง “ทำไมต้องหมอเต้”

“ก็หมอเต้ท่าทางใจดี น่าจะมือเบาน่ะครับ”

“แล้วมือลุงไม่เบาเหรอ”

“เบาครับ แต่อยากลองทำกับหมอคนอื่นบ้าง ผมจะได้บอกลุงได้ไงครับว่าหมอของลุงทำฟันโอเคมั้ย”

“ถ้างั้นก็ต้องให้หมอของลุงลองทุกคนนะ” ภาคภูมิหัวเราะ “เอาเถอะๆ ถ้าอยากลองก็โอเค เดี๋ยวลุงคุยกับหมอเต้ให้นะ”

คีรียิ้มกว้าง “ขอบคุณครับ”



เช้าวันต่อมา คีรีมาถึงโรงพยาบาลพร้อมกับคุณลุงของเขาก่อนเวลาเข้างานเล็กน้อย จากนั้นก็นั่งรออยู่ในห้องทำงานของคุณลุง ก่อนอีกฝ่ายจะมาตามไปที่ห้องทำฟัน

“หมอเต้ละครับ”

“เดี๋ยวมา คีรีนั่งรอบนเก้าอี้ทำฟันเลยลูก” ลุงภูมิยิ้มพลางชี้ไปที่เก้าอี้ทำฟัน

ภายในห้องมีผู้ช่วยทันตแพทย์ยืนอยู่ด้วย พอคีรีนั่งลง เธอก็จัดการเอนพนักเก้าอี้ลงแล้วนำผ้าคลุมหน้ามาคลุมให้

เด็กหนุ่มเบิกตากว้าง เพราะเมื่อวานตอนคุณลุงทำฟันให้ไม่เห็นปิดแบบนี้เลยนี่หว่า! พอเขาจะอ้าปากโวยก็ได้ยินเสียงประตูห้องเปิดออก และคนที่เขารอคอยก็เข้ามาอยู่ใกล้ๆ แล้ว

“ฝากหน่อยนะหมอเต้ ผมจะนั่งดูอยู่ตรงนี้ละ”

“โห หมอภูมิ ผมเกร็งเลยนะครับแบบนี้ เหมือนตอนขึ้นคลินิกแล้วต้องให้อาจารย์มาตรวจว่าผ่านมั้ยเลยอะครับ”

เวรกรรม! ลุงภูมิ! ทำไมทำกับเขากับหมอเต้แบบนี้วะ!

เตชิตพูดคุยกับหัวหน้าของเขาชั่วครู่ จากนั้นจึงเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ เขาก้มลงใช้ปลายนิ้วแตะบนริมฝีปากของเด็กหนุ่มอย่างแผ่วเบา “เอาล่ะ อ้าปากนะครับ”

คีรีทำตามอย่างว่าง่าย แต่มือทั้งสองข้างจิกเกร็ง เพียงแค่ปลายนิ้วในถุงมือสัมผัสถูกริมฝีปาก หัวใจเขาก็หวิวๆ

“โห ฟันเรียงกันสวยเชียว แทบไม่มีหินปูนเลย ฟันผุก็ไม่มี รักษาฟันดีมากเลยนะครับ”

“แน่ละสิ หลานผมทั้งคนนี่นา ผมเป็นคนดูแลเองทั้งปากนั่นล่ะ”

เด็กหนุ่มได้ยินเสียงเตชิตหัวเราะเบาๆ ถึงจะมองเห็นแค่รางๆ แต่ก็รู้แต่ว่าใบหน้าของอีกฝ่ายอยู่ใกล้ๆ และกำลังตั้งใจจัดการกับฟันในปากของเขา

มือเบาชะมัดเลย แทบไม่รู้สึก

บางทีปิดหน้าไว้แบบนี้ก็อาจจะดีเหมือนกัน เพราะถ้าเขาได้เห็นหมอเต้ชัดๆ ในระยะประชิด อาจจะหัวใจวายตายคาเก้าอี้ทำฟันก็เป็นได้

แต่ก็ยังอยากเห็นนะ อยากมองอีกฝ่ายใกล้ๆ ชัดๆ สักครั้ง

ขณะที่เอนหลังคิดอะไรไปเพลินๆ อยู่นั้นก็ได้ยินเสียงของทันตแพทย์หนุ่มที่ใกล้ๆ ใบหู

“ถ้าเสียวมากยกมือบอกหมอนะครับ”

ถ้าหมอเต้จะทำให้ผมเสียวผมก็ยินดีนะ เสียวกว่านี้เยอะๆ เลยก็ได้ คีรียิ้มกรุ้มกริ่มอยู่ในใจ

เวรกรรม! คิดอะไรของกูอยู่วะเนี่ย! แล้วก็ต่อว่าตัวเอง 

“บ้วนปากนิดนึงนะครับ”

หลังจากผู้ช่วยทันตแพทย์หยิบผ้าที่คลุมหน้าเด็กหนุ่มอยู่ออกให้ เตชิตก็กดยกพนักเก้าอี้ขึ้น แล้วเขาก็หันไปพูดคุยกับภาคภูมิซึ่งนั่งเฝ้าอยู่ในห้องด้วย

คีรีเอียงหูฟังทันตแพทย์ทั้งสองคุยกัน แต่ฟังไปก็ไม่เข้าใจ แถมยังไม่ได้เห็นหน้าของหมอเต้เต็มๆ ด้วย เนื่องจากทันตแพทย์หนุ่มสวมผ้าปิดจมูกไว้

“นอนลงอีกทีนะครับ ใกล้เสร็จแล้ว” เตชิตหันกลับมาสบสายตาเด็กหนุ่มแวบหนึ่ง จากนั้นก็กดเอนพนักเก้าอี้ลง เขาหยุดรอให้ผู้ช่วยทันตแพทย์นำผ้ามาคลุมหน้าให้เด็กหนุ่ม แล้วจึงลงมือต่อ

“เอาล่ะ เรียบร้อย บ้วนปากอีกทีครับ”

พนักเก้าอี้ยกขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้ทันตแพทย์หนุ่มก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่ด้วยเช่นกัน เขาหันไปทางภาคภูมิ “หมอภูมิจะตรวจความเรียบร้อยมั้ยครับ”

“ตรวจสิ ถ้าไม่ดีผมจะดุให้เหมือนอาจารย์คุณเลยนะ”

เตชิตหัวเราะแหะๆ “หมอภูมิแกล้งผมรึเปล่าเนี่ย แบบนี้ต้องเรียกหมอวินมาทดสอบบ้างนะครับ”

ภาคภูมิหัวเราะไปด้วย “เอาไว้คราวหน้านะ ให้เวลาหลานผมสะสมหินปูนก่อน” เขานั่งลงแทนที่ทันตแพทย์หนุ่ม พลางหันไปคุยกับหลานชาย “เอ้า นอนลงให้ลุงดูนิดนึง”

คีรียิ้มแห้ง เขาอุตส่าห์หาทางใกล้ชิดหมอเต้ได้ แต่ดันมีคุณลุงมาเป็นก้างชิ้นใหญ่เสียอย่างนั้น คุยกันสักคำยังไม่ได้คุยเลย หน้ายังแทบไม่ได้มองกันเลยด้วยซ้ำ

แล้วพนักเก้าอี้ทำฟันก็เอนลงอีกครั้ง คราวนี้ไม่มีผ้ามาปิดหน้าแล้ว จากนั้นภาคภูมิก็ก้มลงตรวจความเรียบร้อยในปากของหลานชาย “โอเค เรียบร้อยดีครับ”

“ถ้างั้นผมขอตัวนะครับ”

ภาคภูมิพยักหน้าหงึกๆ “ขอบใจนะหมอเต้ เออ เที่ยงนี้ไปกินข้าวด้วยกันมั้ย ชวนหมอวินไปด้วย”

สุดยอดเลยลุงภูมิ! คีรีไชโยโห่ร้องอยู่ในใจ ก่อนจะสลดลงทันทีเมื่อได้ยินคำตอบของทันตแพทย์หนุ่ม

“เที่ยงนี้ผมกับหมอวินจะซิ่งไปซื้อของหน่อยน่ะครับ คงจะหากินง่ายๆ แถวที่ไปซื้อของนั่นละ แล้วจะรีบกลับมาทำงานครับ”

“อ่อๆ งั้นไม่เป็นไร ไปเถอะ”

เดี๊ยว~ มื้อเที่ยงวืดขอเปลี่ยนเป็นมื้อเย็นก็ได้! เด็กหนุ่มคิดในใจ เขาผงกศีรษะขึ้นพลางเอื้อมมือไปจะคว้าแขนลุงภูมิไว้ ทว่าไม่ทัน วืดสนิท แล้วก็ได้ยินเสียงประตูห้องปิดลง

ลุงภูมิหันมาเห็นเข้าก็จับมือหลานชายไว้ “ใจเย็นๆ สิลูก เดี๋ยวลุงยกพนักขึ้นให้นะ” เขากดยกพนักเก้าอี้ขึ้นพร้อมกับส่งกระดาษทิชชูให้ “เจ็บมั้ย หมอเต้ทำให้โอเครึเปล่า”

คีรีพยักหน้าอย่างเซ็งๆ “โอเคครับ ไม่เจ็บเลย”

ภาคภูมิอมยิ้ม เขายกมือขึ้นตบไหล่หลานชายเบาๆ “เอาล่ะ คีรีไปนั่งเล่นในห้องลุงก่อนละกันนะ เดี๋ยวว่างลุงจะพาไปเดินดูในแผนก”

“....”

“หรือเบื่อแล้ว จะให้ป้าเขามารับไปเที่ยวมั้ย”

“ไม่ล่ะครับตอนนี้แดดร้อน ผมไปนั่งรออยู่ในห้องลุงภูมิดีกว่า” คีรีรีบปฏิเสธ

ลุงภูมิพยักหน้าหงึกๆ “โอเค เดี๋ยวลุงให้ใครเอาขนมกับน้ำไปให้นะ”

คีรีไปนั่งเล่นเกมในโทรศัพท์มือถือรอ สักพักใหญ่ๆ คุณลุงก็เดินมาหา แล้วพาเขาไปเดินดูในแผนก

แต่ก็ได้แค่เดินผ่านห้องทำฟันทางด้านนอกเท่านั้น

“ถ้าอยากดูข้างในห้องทำฟัน เดี๋ยวรอพักเที่ยงนะ ตอนนี้มีคนไข้ ไม่สะดวกน่ะลูก”

เด็กหนุ่มยิ้มแห้ง “ครับ”

อดอีกจนได้สิกู! แต่ไม่เป็นไรเว้ย ยังมีตอนบ่าย!


หลังกลับมาจากไปกินมื้อกลางวัน เด็กหนุ่มก็ไปนั่งรอคุณลุงของเขาในห้องทำงานเช่นเคย เขาออกจากห้องไปเดินเล่นบ้าง แต่เพราะหมอเต้ต้องทำงาน เขาเดินจนขาลากก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงา

คีรีถอนหายใจหนักๆ พลางยกมือขึ้นกุมศีรษะ เบื้องหน้าเขามีขนมและเครื่องดื่มจัดวางไว้จนเต็มโต๊ะ มีกองหนังสือนิตยสารและการ์ตูนด้วย ไม่รู้ว่าคุณลุงไปสรรหามาจากไหนนัก

นั่งไปสักพักก็ได้ยินเสียงพูดคุยกันตามมาด้วยเสียงหัวเราะคิกคัก เขาคิดว่าน่าจะเป็นเสียงของพวกพยาบาลกับเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลที่นั่งทำงานกันอยู่หน้าห้องคุณลุง

จะว่าไป หมอเต้น่ารักออกจะขนาดนั้น พวกพี่ๆ พยาบาลต้องรู้จักดีแน่ๆ คุณลุงก็บอกเองด้วยว่าเป็นไอดอลของที่นี่

เอาวะ! ในเมื่อเข้าหาหมอเต้ไม่ได้ เขาก็จะไปเต๊าะพี่ๆ พยาบาลกับเจ้าหน้าที่สาวๆ ให้เล่าเรื่องหมอเต้ให้ฟังแทน มาลำพูนครั้งนี้ อย่างน้อยก็ต้องได้อะไรกลับไปบ้างเว้ย!

เด็กหนุ่มเดินไปเปิดประตู แล้วโผล่หน้าออกไปทางด้านนอกห้อง

เจ้าหน้าที่ข้างหน้าห้องเห็นเด็กหนุ่มเข้าก็ยิ้มหวานรับ “คุณนคินทร์มีอะไรหรือเปล่าคะ”

“เอ้อ...” คีรียกมือขึ้นเกาท้ายทอย ก็จู่ๆ จะโพล่งถามเรื่องหมอเต้ออกไปก็คงแปลกๆ มั้ยล่ะ เขาควรจะเริ่มยังไงดีวะ

ทว่าระหว่างนั้น เตชิตกับรวินท์ก็เดินกอดคอกันผ่านหน้าห้องไป วินาทีนั้นสาวๆ ที่หน้าห้องของภาคภูมิเงียบกริบ พวกเธอจ้องมองตามทันตแพทย์หนุ่มทั้งสองกันอย่างไม่วางตา

แต่เตชิตไม่สนใจสิ่งใดทั้งสิ้น นัยน์ตาของเขาจ้องมองแต่เพื่อนรักเท่านั้น สายตาที่ทันตแพทย์หนุ่มใช้มองคนข้างกัน มันเป็นสายตาที่แสนพิเศษ ทั้งอบอุ่น อ่อนโยน และห่วงหาอาทร

คีรีมองตามพลางยกมือขึ้นกุมอก แล้วขมวดคิ้วอย่างงงๆ ยังไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเองในเวลานี้ดีนัก

“ว้าย ดูสิ หมอเต้กับหมอวินสวีตกันอีกแล้วอะ” เจ้าหน้าที่สาวๆ ขยับเข้ามาวี้ดว้ายด้วยกันอย่างลืมตัว

“ไม่รู้จะอิจฉาใครดี อยากได้ทั้งคู่อะ”

พยาบาลสาวอีกสองคนเดินเข้ามาร่วมวงด้วย “วันก่อนนะเธอ ฉันเห็นหมอเต้ขอหมอวินหอมแก้มด้วย”

“อร๊าย~” แล้วพวกสาวๆ ก็หันมาหวีดใส่กันเบาๆ “แล้วหมอวินว่าไงอะ”

“หมอวินหันมาเห็นฉันจ้องอยู่พอดีน่ะสิ เขาเลยยิ้มๆ แล้วผลักหมอเต้ออกไป ท่าจะเขิน แต่น่ารักมากเลยเธอ~ โอย ใจบางหมดล้าววว”

เด็กหนุ่มถามออกไปเสียงขรึม “เขาเป็นแฟนกันเหรอครับ”

“ว้าย!” สี่สาวที่กำลังหวีดกันอยู่หันขวับ “ขอโทษค่ะคุณนคินทร์ หมอเต้กับหมอวินเป็นเพื่อนสนิทกันค่า เห็นว่าสนิทกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมน่ะค่ะ”

“หือ พวกเขาเรียนมัธยมด้วยกันเหรอครับ”

“ใช่ค่ะ เรียนมหาลัยด้วยกันด้วยนะคะ”

“ยาวมาถึงทำงานใช้ทุนด้วยกันเลยเหรอครับเนี่ย”

“ค่ะ แล้วยังเป็นคนดังของมหาลัยทั้งคู่เลยด้วยนะคะ”

โห สนิทกันแบบมาราธอนโคตรๆ เลย!

คีรีโปรยยิ้มบ้าง “มหาลัยไหนเหรอครับ พี่สาวเล่าให้ฟังหน่อยสิ ผมอยากรู้”

ดูเหมือนว่าเสียงอ้อนๆ และตาเยิ้มๆ ของเขาจะใช้ได้ผล พวกเจ้าหน้าที่และพยาบาลสาวถึงได้คล้อยตาม บรรยายเรื่องของเตชิตกับรวินท์ให้ฟังมากมาย แล้วยังชวนกินขนมที่พวกเธอตุนไว้ในลิ้นชักด้วย โม้กันแหลกจนกระทั่งถึงเวลาเลิกงานและคุณลุงของเขากลับมานั่นล่ะ แต่เขาก็ขอบคุณพวกเธอมากนะ เพราะทำให้เขาได้รู้จักหมอเต้กับหมอวินมากขึ้นเยอะเลยทีเดียว


พอภาคภูมิเสร็จงานก็พาเด็กหนุ่มไปกินมื้อเย็นกับครอบครัว

“น้องคีรีไปโรงบาลมาเป็นยังไงบ้างคะ เบื่อรึเปล่าเนี่ย ป้าจะไปรับน้องคีรีไปไหว้พระสักหน่อย แต่ลุงเขาก็บอกว่ากลัวน้องคีรีจะร้อน” คุณป้า ภรรยาของหมอภูมิเอ่ยถามขณะที่พนักงานนำของหวานมาเสิร์ฟให้หลังมื้ออาหาร

“ไม่เบื่อเลยครับ สนุกดี”

“วันนี้ป้าไปซื้อขนมร้านอร่อยมาเยอะเลย ฝากขนมไปให้คุณตากับทุกคนที่บ้านน้องคีรีที่เชียงรายหน่อยนะคะ”

คีรีพยักหน้าหงึกๆ พลางยกมือไหว้ “โห แบบนี้ต้องเยอะแน่เลย ได้เลยครับ ขอบคุณมาก” เรื่องประจบน่ะ ขอให้บอกเถอะ เขาถนัดนัก

คุณป้ายิ้มกว้างพร้อมกับเอื้อมมือไปรับไหว้ “แหม เดี๋ยวนี้จะชมว่าน่ารักก็ลำบากใจ หลานป้าหล่อซะขนาดนี้ ยิ่งโตยิ่งหล่อเนอะคุณ”

“นั่นสิ ต่อไปคุณตาท่าจะปวดหัวแย่” ภาคภูมิหัวเราะ

ลุงภูมิและภรรยาไม่ได้มีเชื้อสายเดียวกันกับคุณตาของคีรี แต่นับเป็นญาติกับเด็กหนุ่มได้เพราะหมอภูมิเป็นพี่ชายของบิดาเขานั่นเอง

“อ้อ จริงสิ อีกสักสองอาทิตย์ลุงก็จะไปประชุมที่เชียงรายเหมือนกันนะ”

เด็กหนุ่มเลิกคิ้วขึ้น “ประชุมที่ไหนเหรอครับ”

“ที่โรงแรมของคุณตาเรานั่นล่ะ เป็นงานประชุมใหญ่เลยนะ ประชุมรวมทันตแพทย์ทางเหนือ ลุงไปกับหมอเต้ เป็นตัวแทนโรงบาลลำพูนกันสองคน”

คีรีชะงัก คำว่า ‘ไปกับหมอเต้’ สะท้อนก้องอยู่ในศีรษะ เขาพยายามทำสีหน้าให้เป็นปกติ แต่ในใจลิงโลดสุด ตอนนี้เขาอยากจะกลับไปกอดแล้วก้มกราบคุณตาเหลือเกินที่เป็นเจ้าของโรงแรมแห่งนี้


(มีต่อค่ะ)


ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4


คืนนั้น เมื่อเข้าห้องพักที่คุณลุงคุณป้าจัดไว้ให้แล้ว เขาก็รีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเสิร์ชกูเกิลหาดูคลิปและรูปของเตชิตสมัยที่เป็นลีดมหาวิทยาลัยตามที่พี่ๆ พยาบาลและเจ้าหน้าที่สาวๆ ได้เล่าให้ฟัง พอกดเอนเตอร์เท่านั้นก็มีรูปและคลิปขึ้นมาเป็นร้อยๆ ให้เขานั่งดูจนตาแฉะ ดูไปยิ้มไป ยิ่งดูก็ยิ่งรู้สึกว่าหมอเต้นี่... น่ารักฉิบหายเลย

แต่ระหว่างที่ดูรูปไป ไม่ว่าจะเป็นตอนไหนๆ ข้างๆ กายเตชิตก็จะมีเพื่อนสนิทที่ชื่อรวินท์เสมอ คีรีดูไปดูมาก็ชักจะสงสัย คือถ้าบอกว่าเป็นแฟนกันเขาก็เชื่อสนิท อะไรจะตัวติดกันมาเป็นสิบปีแบบนี้ได้วะ แถมพวกเจ้าหน้าที่กับพี่พยาบาลยังว่าไม่เคยเห็นเดินกับผู้หญิงที่ไหน น่าจะยังโสดอยู่ทั้งคู่ด้วย

หรือเป็นเพื่อนแค่บังหน้า แล้วที่จริงเขาเป็นแฟนกันวะ!

คีรียกมือขึ้นดึงทึ้งเส้นผม ยิ่งดูไปก็ยิ่งหวั่นใจ ในอกเจ็บแปลบๆ จนทนไม่ไหวต้องส่งข้อความไปตามตัวเพื่อนๆ ที่แยกย้ายกันกลับบ้านในช่วงปิดเทอม


‘SOS ช่วยกูด้วย มีใครอยู่มั้ย’

‘เกิดอะไรขึ้นวะมึง’ ปิ๊กตอบกลับมาเป็นคนแรก ตามมาด้วยฟลุค ‘ว่าไงมึง’

‘เจนี่กับยุ้ยไปไหนวะ ตอนนี้กูต้องการเบรนสตรอมมิ่งด่วนๆ’

‘งั้นรอเดี๋ยว กูโทรตามพวกมันก่อน’


ใช้เวลาไม่นานเพื่อนทั้งสี่คนก็มาพร้อมหน้ากันอยู่ในแชตเรียบร้อย ‘เปิดกรุ๊ปคอลนะ โอเคมั้ย’

แล้วทั้งห้าชีวิตก็ไปสุมหัวกันในกรุ๊ปคอล แม้ไม่ได้เห็นหน้า แต่ก็ยังดีที่คุยพร้อมๆ กันได้

“อยากเห็นหมอเต้ที่เราพูดถึงใช่มั้ยวะ เสิร์ชเลย ลีดมหาลัย งานบอลประเพณีปีxx ชื่อจริงชื่อเตชิต”

เจนี่ตอบกลับมาทันที “ฮะ! เป็นลีดมหาลัยเลยเรอะ” จากนั้นทั้งสี่คนก็หายไปเสิร์ชหาภาพของเตชิตตามที่คีรีบอก

เมื่อภาพของเตชิตปรากฏขึ้นบนจอโทรศัพท์มือถือ สี่หน่อก็ยิ่งช็อกหนัก ถึงกับผงะหงายหลังไปตามๆ กัน คือไอ้หล่อก็หล่ออะนะ แต่ห่างไกลความน่ารักมุ้งมิ้งในจินตนาการของพวกเขาอย่างที่ไอ้คีรีบรรยายไว้อยู่หลายปีแสง เตชิตไม่ได้เอวบางร่างน้อย ไม่ได้ตัวเล็กบอบบางอ้อนแอ้นน่าทะนุถนอม ไม่ได้มีส่วนไหนคล้ายแอฟ ทักษอร เขาตัวสูงโปร่ง น่าจะสูงพอๆ กับไอ้คีรีเลย ใบหน้าจัดว่าหล่อออกไปทางหวานๆ หน่อย นัยน์ตาโตสีน้ำตาลเข้ม จมูกโด่งเป็นสัน เวลาถ่ายรูปคนเดียวก็ว่าเด่นแล้ว แต่พอยืนคู่กับหมอวินที่พวกเขาเคยเจอที่คลินิก คือรอบๆ ตัวเหมือนกลายเป็นหลุมดำไปเลย

“ไอ้เหี้ย! ไอ้คีรี! หมอเต้ของมึงเนี่ย มันผู้ชายชัดๆ เลยนะมึ้ง!” ปิ๊กร้องลั่น

“ก็ผู้ชายน่ะสิวะ! กูบอกแต่แรกแล้วไงว่าหมอเต้เป็นผู้ชาย!”

“โอ๊ย คีรีเอ๊ย แค่เขาเป็นผู้ชายยุ้ยก็ว่าจีบยากสาหัสแล้ว นี่นายยังคิดจะปีนเกลียว แถมยังเสือกหวังของสูงอีกนะไอ้เพื่อนบ้า~” ยุ้ยร้องเสียงหลง

“ไอ้คีรี กูไม่เห็นความหวังของมึงเลย คือถ้ามึงคิดจะจีบหมอเต้ กูว่ามึงแห้วล้านเปอร์” ฟลุคครางตามเพื่อนสาวไปติดๆ

“พวกมึงเป็นเพื่อนกูมั้ยเนี่ย! เข้าข้างกันหน่อยสิวะ!”

“อ้าว สรุปมึงคิดจะจีบหมอเต้แล้วเหรอวะ” ปิ๊กย้อนถามกลับไปทันที

คีรีชะงัก เขานิ่งอึ้งไปสักพัก แล้วถามเสียงอ่อย “มึงว่ากูไม่มีหวังเลยเหรอวะ”

“มึงส่องกระจกดู hum มึงด้วย มึงมี hum หมอเต้เขาก็มี hum โพรไฟล์เขาระดับนี้ ต้องมีสาวๆ สวยๆ มาให้เลือกเป็นแผง มึงคิดว่าเขาจะเอามึงมั้ยล่ะ!”

“ไหนพวกมึงว่าความรักไม่จำกัดเพศไงวะ แล้วโพรไฟล์กูไม่ดีตรงไหน กูก็เป็นเดือนคณะนะเว้ย ตากูก็มีตังค์ สอบอิ๊งตอนมิดเทอมไฟนอลกูก็ได้เต็มคนเดียวในคณะเลยนะ เกรดเฉลี่ยกูก็ 3.9 นะเว้ย กูก็ไมใช่หมาข้างถนนมั้ยวะ”


ทั้งสี่นิ่งอึ้ง คือไอ้คีรีเพื่อนของพวกเขามันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนะ หน้าตาก็ดี เรียนเก่ง รวยอีกต่างหาก ต่อให้กับผู้ชายด้วยกันก็น่าจะมีหวัง แต่แบบ... หมอเต้ที่มันเพ้อหาเนี่ย ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ


“เขาเป็นลีดมหาลัยที่ดังโคตรๆ เลยนะคีรี”

“เออ เรารู้... ถ้ารู้แบบนี้แต่แรกเราจะยอมไปประกวดเดือนมหาลัย ทำงานกิจกรรมทุกอย่าง ยอมเป็นลีดด้วย เผื่อหมอเต้จะหันมามองเราบ้าง... ไม่น่าขี้เกียจเลยว่ะ”

น้ำเสียงของคีรีเศร้าไปจนเพื่อนๆ นึกสงสาร

“นายนึกยังไงถึงไปปิ๊งหมอเต้เขาได้วะ” เจนี่ถามขึ้นท่ามกลางความเงียบ

“เราก็ยังงงๆ กับตัวเองอยู่... ครั้งแรกที่เราเจอหมอเต้น่ะ เขากำลังดุคนไข้ ดุแบบไม่สนหินสนแดดเลยนะเว้ย ท่าทางจริงจังสุดๆ แล้วเราก็ไปกินข้าวมันไก่ แต่เสือกลืมเอาเงินไป เกือบจะโดนเฮียเจ้าของร้านเอาปังตอฟันคอขาดแล้ว หมอเต้ก็เข้ามาช่วย ดุเฮียเจ้าของร้านนิดเดียว เฮียแม่งหงอ ปังตอแทบร่วงหลุดมือ แล้วเขาก็จ่ายค่าข้าวให้เราเฉย ทั้งที่ไม่ได้รู้จักกัน แค่เพราะเห็นว่าเรากำลังลำบากเท่านั้น”

“อ้อ ที่นายเอาเงินไปคืนที่คลินิกใช่มะ”

“แล้วเมื่อวานตอนที่เจอที่โรงบาล เราเห็นหมอเต้กำลังคุยกับตายายชาวเขา สีหน้าเขาโคตรอ่อนโยน ทำฟันให้ตายายชาวเขาฟรีด้วย เรายืนอยู่ไกลๆ ยังรู้สึกได้ถึงความใจดีของเขาเลย”

เพื่อนๆ ที่ปลายสายนิ่งฟังพลางพยักหน้าหงึกๆ พอได้ยินแบบนี้พวกเขาก็พอจะเข้าใจล่ะนะว่าทำไมคีรีถึงติดใจหมอเต้คนที่ว่านัก

คีรีเล่าความประทับใจของเขาให้เพื่อนๆ ฟังหมดเปลือก เล่าต่อไปจนถึงเรื่องของหมอวินด้วย

“เออ เจนี่นึกออกแล้ว ถึงว่าสิหมอวินนี่หน้าคุ้นชะมัด” เจนี่ตบเข่าฉาด “หมอวินนี่ ที่เขาจิ้นคู่กับพี่วิดวะไฟฟ้าคนนั้นไง คนที่ตีกลองสะบัดชัยตอนยี่เป็งปีที่แล้วอะ”

“อ้อๆ ที่ชื่อภูพิงค์ใช่มะ คู่นี้ดังมากเลยนี่ เขาจิ้นกันสนั่นเมือง แฟนคลับเยอะมากเลยนะ ไม่นึกว่าตัวจริงจะหล่อขนาดนี้เลยอะ สุดยอด”

“นั่นแหละประเด็นสำคัญเลย เราได้ยินว่าทั้งหมอเต้กับหมอวินยังโสด อย่างน้อยที่โรงบาลลำพูนก็ไม่เห็นเคยไปไหนมาไหนกับผู้หญิงคนไหนเป็นพิเศษ แถมยังสนิทกันมาตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียนเลยด้วย”

“มึงเลยกลัวว่า...” ปิ๊กกดไล่ดูรูปของทันตแพทย์ทั้งสองคนไปเรื่อยๆ “ที่จริงแล้วพวกเขาจะคบกันอยู่ใช่มะ มันก็น่าอยู่หรอกนะ ตัวติดกันมาตั้งนานขนาดนี้”

“แต่ถ้าคบกันอยู่ หมอเต้ก็ไม่น่ายอมให้หมอวินมาเป็นคู่จิ้นกับพี่ภูพิงค์มั้ยวะ”

“แต่หมอวินอาจจะอยากช่วยคณะของพี่ภูพิงค์ก็ได้นะ เขาสนิทกันนี่หว่า”

ฟลุคพยักหงึกๆ “เรื่องนี้พิสูจน์ได้ไม่ยาก แต่ต้องรอเปิดเทอม มึงอดใจรอไปก่อนละกันไอ้คีรี ระหว่างนี้พวกกูจะลองถามๆ คนรู้จักดูให้เว้ย”    

“ถ้าสมมติว่าหมอเต้กับหมอวินคบกันจริง นายก็เตรียมทำไร่แห้วจากหน้าบ้านนาย ยาวไปถึงอีกกาแลคซี่เลยนะ” เจนี่พูดเสริม

“ก็ไม่แน่เว้ย อย่างน้อยถ้าพวกเขาคบกันจริง ก็แปลว่าหมอเต้ก็คบผู้ชายมี hum แบบไอ้คีรีได้เหมือนกันปะวะ”

“มึงกล้าเอาเพื่อนมึงไปเทียบกับหมอวินเลยเหรอสัส”

คีรีทั้งเหี่ยวทั้งหด หมดสภาพหนุ่มเจ้าสำอาง เจ้าชู้แปดสาแหรก ไม่เหลือเศษเสี้ยวของความเป็นโอปป้าแล้วตอนนี้ ในอกเจ็บหน่วงแบบแปลกๆ เป็นแบบนี้ตั้งแต่ตอนที่เห็นหมอเต้กับหมอวินอยู่ด้วยกัน และตอนที่โดนอีกฝ่ายเมิน “นี่เรา...จะต้องอกหักตั้งแต่รู้ตัวว่าหลงรักเลยเหรอวะเนี่ย”

เจนี่ได้ทีเลยต้องทับถมเพื่อนอีกสักหน่อย “มันคงเป็นกรรมที่นายไม่เคยจริงจังกับใคร เราเคยเตือนนายหลายทีแล้วใช่มั้ย”

“เรา...ขอโทษ”

“จะบอกให้ว่านี่แค่เริ่มต้นนะ พอได้รักแล้ว ต่อไปอาจจะต้องเจ็บปวดกว่านี้อีกมาก อีกหลายครั้งหลายหนด้วย”

คีรีขมวดคิ้ว พลางยกมือขึ้นกุมอก “เจ็บกว่านี้...อีกหลายหน”

การอกหักนี่...จะเจ็บเหมือนความรู้สึกที่เขามีอยู่ในเวลานี้หรือเปล่า หรือจะเจ็บปวดทรมานมากกว่านี้อีก เด็กหนุ่มได้แต่ถามตัวเองอยู่ในใจ

“เออ พร้อมมั้ยล่ะ รับได้มั้ยล่ะ”

คีรีนิ่งไปชั่วครู่ “เรายังไม่รู้ว่าจะรับได้รึเปล่า เพราะเรายังไม่เคยอกหัก แต่ถ้าถามว่าพร้อมมั้ย ก็คิดว่าพร้อม”

ยุ้ยถอนหายใจหนักๆ “คีรี ยุ้ยจะพยายามช่วยนายเต็มที่นะ แต่นายต้องสัญญากับยุ้ยนะ ว่านายจะทุ่มเทกับหมอเต้เต็มที่ เลิกนิสัยขี้เอา แล้วก็เตรียมใจไว้ให้พร้อมที่จะอกหักด้วย”

“ถ้านายคิดจริงจัง เจนี่ก็จะช่วยเป็นกำลังเสริมให้นายอีกคน” เจนี่พูดขึ้นบ้าง

“พวกกูสองคนยังไงก็อยู่ข้างมึงอยู่แล้ว” ฟลุคกับปิ๊กร่วมวงด้วย

“เราสัญญา” คีรีตอบรับอย่างหนักแน่น ก่อนจะพูดเสียงอ่อย “คนอย่างเรา อกหักซะบ้างก็คงสมควรแล้ว”

“งั้นก็ลองดูกันสักตั้ง อกหักยังดีกว่ารักไม่เป็นเว้ย เชื่อไอ้ปิ๊กเถอะ”

สามคนที่เหลือพูดใส่โทรศัพท์พร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย “ไปยืมคำพูดใครมาวะ เชยฉิบหายเลยไอ้ปิ๊ก!”

คีรีพอยิ้มออกมาได้บ้าง “ยังมีอีกเรื่องทีเรายังไม่ได้บอก ลุงภูมิกับหมอเต้จะไปประชุมทันตแพทย์ที่โรงแรมตาเราที่เชียงราย ตรงช่วงที่เรากลับบ้านพอดี”

“หมอวินไม่ได้ไปเหรอวะ”

“ไม่มั้ง ลุงเราบอกมาแค่นี้”

“ไปประชุมนานแค่ไหนวะ”

“รู้สึกว่าจันทร์ถึงศุกร์เลย น่าจะกลับวันเสาร์เช้าล่ะมั้งนะ”

“ก็สบายเลยสิวะ มีโอกาสดีๆ แบบนี้ มึงต้องบุกเข้าไปจีบเลย” ฟลุคออกความเห็น

เจนี่ค้านทันควัน “จะบ้าเรอะ ไอ้คีรีมันเป็นผู้ชายนะ ถ้าขืนมันเดินแกว่ง hum เข้าไปจีบ หมอเต้จะได้ถีบออกมาน่ะสิ”

“ยุ้ยเห็นด้วยนะ ของแบบนี้มันต้องใช้มารยา”

“แล้วไอ้คีรีมันมีเหรอ มารยาน่ะ มันเคยจีบใครซะที่ไหน” ปิ๊กถามกลับ

คีรีขมวดคิ้ว “เออ นั่นดิ มารยายังไงวะ”

“ก็แบบ ต้องจีบอย่างมีชั้นเชิงสิวะ นายจะเดินโทงๆ เข้าไปหาหมอเต้ บอกว่าจีบนะแล้วขอเบอร์เลยไม่ได้” เจนี่พูดเสียงเครียด จริงจังยิ่งกว่าหาแฟนให้ตัวเองไปอีก “อย่างแรกนะ นายต้องทำตัวให้อยู่ในสายตาเขาให้ได้ก่อน พอรู้จักคุ้นเคยกันถึงค่อยขอเบอร์ พอได้เบอร์มาก็ค่อยหาวิธีกระตุ้นเขา ทำให้เขานึกถึงบ่อยๆ อย่างเช่นทำเป็นโทรไปหาเขา แต่บอกว่ามือกดไปโดน แล้วกดไปโดนสักวันละสี่ห้ารอบ พอรอบที่ห้าก็ค่อยชวนคุย บอกว่ารอบนี้ไม่ได้กดพลาดนะ แต่อยากคุยด้วย อะไรแบบนี้ไง”

“ไอ้เรื่องขอเบอร์นี่ เราถามลุงเอาก็ได้นะเจนี่”

“เฮ้ย! อย่าเชียวนะเว้ย! นายต้องขอจากเขาเอง ให้เขาอนุญาตเอง ไม่อย่างนั้นหมอเต้อาจจะระแวงนาย หรือไม่ก็รู้สึกไม่ดีกับนายไปเลย”

“อือ... แล้ว...อยู่ในสายตานี่ หมายความว่าไง แบบให้หมอเต้เคยเห็นเรางั้นเหรอวะ”

“ไม่ใช่เว้ย หมายถึงให้เขารู้จักหน้ามึงไอ้สัส แบบเห็นหน้าแล้วรู้ชื่อ เรียกทักทายได้อะ” ปิ๊กอธิบายให้

คีรีนิ่งคิด “ฟังดูเหมือนจะไม่ยาก แต่แค่จะเริ่มยังไม่รู้จะทำไงเลย กูควรทำไงให้ได้อยู่ในสายตาเขาวะ เจอกันครั้งนึงแล้วเขาจำกูไม่ได้ ครั้งที่สองเขาเมินกูไปเลยด้วยซ้ำ วันนี้กูอุตส่าห์ขอลุงภูมิให้เขามาทำฟันให้ เขายังมองหน้ากูไม่ถึงสามวิฯ เลย ไม่ถามแม้กระทั่งชื่อกูเลยด้วยนะ”

“มึงก็ใช้ความหล่อของมึงให้เป็นประโยชน์สิวะ ตอนทำฟันหน้ามึงอาจจะเมือกไง อาจจะเกรงใจลุงมึงด้วย แต่ถ้าเขาได้เห็นหน้ามึงตอนหล่อๆ ชัดๆ อาจจะจำได้ติดตาก็ได้นะเว้ย” ฟลุคเสนอ

“หมอเต้เป็นผู้ชายนะเว้ย เจอคนหล่อจะเตะตาเหรอวะ” ปิ๊กย่นคิ้วเข้าหากัน “อีกอย่าง เขาน่าจะชินหน้าตาหล่อๆ จากการเห็นหน้าหมอวินกับส่องกระจกทุกวันแล้วมั้ย”

“ลองนึกดูดีๆ มันต้องมีวิธีแน่ๆ เอาตัวอย่างง่ายๆ นะ เช่น ยุ้ยชอบสีชมพู เวลาเห็นใครใส่เสื้อสีชมพูบ่อยๆ ก็จะสะดุดตา จำเขาได้ นายรู้มั้ยล่ะว่าหมอเต้ชอบอะไรบ้าง”

“อืม” เด็กหนุ่มพยักหน้าหงึกๆ “สิ่งที่หมอเต้ชอบ...”

“หมอวินไง” ฟลุคพูดขึ้น ทำเอาอีกสี่คนในสายนิ่งอึ้ง ก่อนจะรุมต่อว่า “มึงเอาปืนไปยิงไอ้คีรีเลยเหอะ!”

“แต่ยุ้ยว่าฟลุคก็พูดถูกนะ ต่อให้หมอเต้ไม่ได้ชอบหมอวินอย่างแฟน แต่เพราะสนิทกัน ถ้าเขาเห็นใครดูคล้ายๆ หมอวิน เขาก็น่าจะสนใจอะ”

“นี่ไง ประชุมเนี่ย ในเมื่อหมอวินไม่ได้ไป นี่ก็เป็นโอกาสของมึงแล้ว ไอ้คีรี เขาต้องห่างกันหลายวัน เพราะงั้นหมอเต้ต้องเหงาแน่ ก่อนมึงจะกลับเชียงราย มึงรีบถือรูปหมอวินเดินเข้าร้านตัดผมไปเลยสัส ไปตัดผม เปลี่ยนสีผมให้เหมือนหมอวินซะ สลัดลุคลูกครึ่งครึ่งลูกของมึงออกไปให้หมดนะ พยายามเน้นลุคหมอวินไว้ก่อน ถ้ามึงมีโอกาสได้เข้าใกล้หมอเต้ ความคิดถึงของเขาจะทำให้เขาเปิดใจให้มึงมากขึ้นแน่ๆ”

“สุดยอด! ฟลุคร้ายกาจมาก” เจนี่ซูฮกเพื่อนหนุ่ม “นายไปจำวิธีตัวโกงแบบนี้มาจากไหนเนี่ย”

“จำมาจากในซีรีส์เว้ย มันไม่ใช่ตัวตนของฟลุคนะ!”

“โอเค” คีรีตอบรับทันที วินาทีนี้ทำอะไรได้เขาก็ยอมทำแล้วโว้ย

“ยุ้ยว่าถ้านายเปลี่ยนลุคไม่ให้ดูเป็นลูกครึ่งก็ควรต้องพูดให้ชัดกว่านี้อีก คือตอนนี้นายก็พูดชัดกว่าเมื่อตอนเทอมหนึ่งมากแล้ว แต่ก็ยังมีเหน่อบ้างเพี้ยนบ้างเป็นบางคำ นายต้องใจเย็นๆ พูดช้าๆ หน่อยก็ได้ ไม่งั้นนายจะดูไม่เท่ในสายตาหมอเต้นะ”

“ถ้าอย่างนั้นนะ เจนี่ว่าทำตัวเป็นหนุ่มเหนือไปเลยดีกว่า ถ้ามีโอกาสก็พูดคำเมืองบ้าง ทำตัวให้ดูซื่อๆ ใสๆ แล้วก็พูดช้าๆ ทำหน้าอ้อนๆ หน่อย น่ารักจะตาย หมอเต้ต้องเอ็นดูนายแน่ๆ ถ้าหากนายเข้าไปอยู่ในสายตาหมอเต้ได้ในลุคหมอวิน นายก็ควรจะมีอะไรที่แตกต่างเพื่อไม่ให้อยู่ในเงาของหมอวินมากจนเกินไป หมอเต้เขาจะได้สะดุดใจกับนายไงล่ะ”

“โห เจนี่สุดย้อดดด!” เพื่อนอีกสามชีวิตปรบมือชื่นชม

“หนุ่มเหนือ” คีรีทวนคำพูดของเพื่อน จะว่าไป... เขาก็เป็นหนุ่มเหนือนี่หว่า ก็ไม่น่าจะยากนะ

“หาโอกาสร้องเพลงกล่อมหมอเต้ด้วยสิ คีรีเสียงดี เวลาร้องเพลงก็ดูเท่มากด้วย ต้องรู้จักใช้ให้เป็นประโยชน์นะ” ยุ้ยเสนออีก

“แล้วเราจะไปร้องเพลงกล่อมเขาตอนไหนวะ จู่ๆ เดินเข้าไปหาไปร้องเพลงใส่ หมอเต้ได้จับเราส่งโรงบาลบ้าแหงๆ”

“ยุ้ยถึงได้บอกว่าให้หาโอกาสไงไอ้เพื่อนเวร! ตอนนี้นายมีช้อยส์ให้เลือกเยอะนักรึไง อะไรที่ทำให้เตะตาหมอเต้ได้ นายก็ทำไปเถอะ!”

ที่เพื่อนๆ เขาว่ามันก็ถูก คีรีนั่งฟังไปก็พยักหน้าหงึกๆ ตามไป “เราจะพยายาม”


*TBC*


น้องคีรีใกล้จะกลายร่างไปเป็นเด็กดอยแบ๊วๆ เอาใจพิหมอเต้แร้วค่า ตอนนี้วางแผนจะเป็นแค่เด็กเหนือไปก่อนนะคะ 555555

ตอนนี้ลงยาวๆ เลย ฟินมั้ยคะๆ 55555 ส่วนตอนที่แล้ว แรงมโนของกลุ่มเพื่อนน้องคีรีพาหมอเต้ไปเป็นแอฟ ทักษอรเรยทีเดียว คนอ่านหลายๆ คนดูตื่นตกใจ แหม ก็คนอวยกำลังอินเลิฟอะนะคะ 5555 เข้าใจเด็กดอยที่กำลังเพ้อหาหมอเต้หน่อยละกันน้า

ขอบคุณคนอ่านทุกคนมากค่า  :mew1:

ออฟไลน์ Chucream.nabi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :hao7: โอ๊ยยย...เอ็นดูน้องคีรีจริงๆเลย พยายามเข้า

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
คิรี &เดอะแก็งส์

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
อย่างงี้นี่เอง หนุ่มชาวเขาถึงมา... ความแตกจะเป็นไงเนี่ยยย 555

ออฟไลน์ fammykiki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 329
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ FrozenSnow2019

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
โถๆๆๆๆ น้องคีรี น่าเอ็นดู!!!

ออฟไลน์ sweetie009

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ฮ่าๆๆๆ กว่าจะหมอเต้  500 เล่มเกรียนคงไม่พอใช้แล้วว

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
น้องคีรี สู้ สู้  :L2:

ออฟไลน์ toomild

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
วงวารเด็กดอย ภารกิจตกหมอเต้จะสำเร็จมั้ยคะเนี่ย555 เดอะแก๊งเค้าก็ทำงานกันเป็นขบวนการจริงๆ :hao7:

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
มันเป็นอย่างงี้นี่เอง ความเด็กดอยใสซื่อของคีรี มีที่มา

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

อ่อ...ที่มาที่ไปมันเป็นเยี่ยงนี้นี่เอง

คนที่ร้องเพลงให้หมอเต้ที่โรงแรมตอนนั้น ก็คีรีเด็กดอยจอมปลอมนี่สินะ  หุหุ

ออฟไลน์ tomnub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
เพื่อนดีๆทั้งนั้นเลย

ออฟไลน์ PsychePie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เด็กมันร้าย ปลอมเป็นหมอวินในร่างเด็กดอยใจดี
มันต้องโดนร่างจริงแสดงอภินิหารใส่ซักครั้ง กิกิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Destiny

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เด็กดอยเดินแกว่ง hum เข้าไปหา ลุยหน้าต่อเลยลูกกก  :hao7:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
งุ้ยยยยย!!

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ ป้าแก่

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
หนูจะน่ารัก อะไรขนาดนั้น

 :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1340
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
หึหึ แผนก็ได้ผลพอควรนะ แต่ดันมาเจอหมอวินทร์ดักทางได้ก่อนนี่สิ ลุ้นๆ

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ถ้าความแตกพี่หมอจะว่ายังไงน่าาาา

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ให้เจ้าชู้แค่ไหน พอเจอรักแท้ก็กลายเป็นเด็กน้อยเลย น่ารัก :-[ พี่หมอเต้เอ็นดูน้องหน่อยนะ

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
เอาใจช่วยเลย

แผนการณ์มีผู้สมรู้ร่วมคิดเยอะซะด้วย :katai2-1:


ออฟไลน์ junlifelove

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คีรีลูกกกก น่าเอ็นดู เอาใจช่วยน้องเลย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด