เดือนอิงดอย Chapter 35 : เดือนอิงดอย (END)[190619]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เดือนอิงดอย Chapter 35 : เดือนอิงดอย (END)[190619]  (อ่าน 306652 ครั้ง)

ออฟไลน์ Destiny

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อาร้ายยก๊านน พี่หมอเต้ค่าตัวแพงเหรอคะ คิดถึงๆอะ ไม่มีบทเลย ส่วนพี่วินกับร้องพิงค์นี่ พวกนางออกมากันซีนเด็กดอยโม้ดด 55  :laugh:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
จะโป๊ะแตกก็ตรงนี้แหละ  :m20:
พี่ๆหมอเขาระดับเทพ หนูๆ ฝึกหัดเทพจะไปทันได้ไง  :katai3:
   :L1:   :pig4:   :L2:

ออฟไลน์ cookie8009

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 109
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ไม่รู้ว่า ไรท์วางพล๊อตไว้ยังไง

แต่เรารู้สึกว่า หมอวินต้องจับโป๊ะอีแก๊งเด็กดอยนี่ได้ อาจจะให้เด็กๆวิดวะ ช่วยสืบตัวมา
น้องคีรี ต้องฝ่าด่านพี่วินก่อน ถึงจะเข้าคลุกวงในหมอเต้ได้

ออฟไลน์ Nung66669

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 422
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
นึกว่าอ่านเรื่องของพิงค์วินหวานซะ :hao3: ขำสองสาวอ่อยจนได้เรื่องลุ้งว่าสองหนุ่มจะมีไม้เด็ดอะไรไปสืบ

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ใครจะสู้พี่วินได้อ่ะ :laugh:

ออฟไลน์ FrozenSnow2019

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
รออ่านฉากหมอเต้กับคีรีหวานใส่กันบ้าง จะหวานสู้คู่นี้ได้ไหม อิออ

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
เด็กดอยก่อนโป๊ะแตก ไปทำให้ภูพิงค์หึงหน่อยเร็ว เอาใจช่วยนะ อิอิอิ
 :z2: :z2:

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1725
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
จะโป๊ะมั้ยรอบนี้ ระวังหน่อยพวกเธอ 5555555555555555

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
สองสาวเจ้าทางหมอวิน ไม่รอดได้เพราะหมอวินน่ะไม่ธรรมดา
ส่วนสองหนุ่มแนะนำเข้าทางพิงค์ดีกว่า เพราะพิงค์ก็ไม่ธรรมดา แต่แบบหึงไม่ธรรมดานะ 5555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1340
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
ใครจะโป๊ะก่อนกันล่ะงานนี้

ออฟไลน์ iikol

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 60
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ภูพิงค์น่ารักอะฮือออออออ พี่วินด้วย ตามสองคนนี้มาเลยนะ
คีรีก็น่ารักโคตรรรร

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
พยายามเข้านะ

ออฟไลน์ Ti0590

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ลุ้นอีก2หนุ่มมมมมมมม  ลมพัดหึงมันแรงนะคะ ขอเตือน

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
หมอวินนี่ตัวท็อปนะ

ยากหน่อย


แต่หลังจากที่กลายเป็นเด็กดอยกันมาแล้ว

อาจพอมีหวัง


55555

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
จ้า รอดูคารมคมหอกของเพื่อนฟลุคปิ๊ก 55555

คิดถึง~ น้องพิงค์พี่วิน มาหวานเเย่งซีน ง่าวววว :impress2:

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
ความหล่อออร่าของพี่วินคงมีแค่คีรีคนเดียวที่ไม่หลงรักสินะ 555555

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
เด็กพวกนี้ จะโป๊ะแตกกันหมดไหมเนี่ย

ออฟไลน์ junlifelove

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
หมอวินกับพิงค์นี่หวานกันมาก ฮืออ เขิน  :mew3:
น้องคีรีสู้เค้านะลูกนะ

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4067
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6
กว่าจะรู้ความจริง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ M_M

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :กอด1: :กอด1: มาต่อได้แล้วครับ

ออฟไลน์ FrozenSnow2019

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
รอดูหมอเต้จะจับโป๊ะเด็กดอยยังไง อิอิ

ออฟไลน์ Destiny

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ความหล่อออร่าของพี่วินคงมีแค่คีรีคนเดียวที่ไม่หลงรักสินะ 555555
เห็นด้วยกับเม้นนี้เลยย คีรีคงเป็นคนเดียวที่มองว่าหมอเต้น่ารักกว่าหมอวินตั้งเยอะ 55 (แต่อาจมีพวกคุณลุง คุณป้าชาวเขา ทีมเดียวกับคีรีด้วย คึคึ) เราว่ามันคงเป็นกลิ่นหรือบรรยากาศบางอย่างของคีรีกับพี่วินที่เป็นแม่เหล็กขั้วเดียวกันแล้วผลักกันอะแหละนะ คนเราย่อมมองหาคนที่มีในสิ่งที่เราขาดมา fulfill ชีวิตเราทั้งนั้นหล่ะเนอะ

ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4


Chapter 11 : โอกาสเหมาะเจาะ


เสียงร้องเพลงเชียร์ดังแว่วมาจากสนามข้างตึกเรียนที่เต็มไปด้วยนักศึกษาปีหนึ่ง รวินท์นั่งอยู่แทบจะตามลำพัง มีนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์เดินผ่านไปมาบ้างเป็นครั้งคราวเท่านั้น เพราะส่วนใหญ่จะไปยืนดูน้องปีหนึ่งประชุมเชียร์กัน

ที่จริงเขาก็อยากไปยืนดูใกล้ๆ นะ แต่เขาเป็นคนนอก อยู่ห่างๆ ไว้ดีกว่า อีกอย่างภูพิงค์ก็ขอไว้ด้วย เพราะอีกฝ่ายจะเขินเก๊กแตกถ้าเขาไปนั่งจ้องน่ะสิ

รวินท์เท้าแขนลงกับโต๊ะ เล่นเกมบ้าง กดดูนู่นนี่ในโทรศัพท์มือถือบ้าง แต่เมื่อภูพิงค์เข้าประจำที่ เขาจะหยุดทุกอย่างแล้วสนใจเด็กหนุ่มเพียงคนเดียว

พิงค์ตอนทำหน้าดุนี่น่ารักจังน้า~

สักพักโทรศัพท์ที่ทันตแพทย์หนุ่มวางไว้บนโต๊ะก็สั่นเบาๆ เพื่อเตือนข้อความเข้า เขาจึงหยิบขึ้นมาดู ข้อความที่ปรากฎขึ้นบนหน้าจอเป็นของเตชิตซึ่งวันนี้ไม่ได้มาที่เชียงใหม่ด้วยเนื่องจากต้องไปออกหน่วย

‘น่าจะกลับถึงคืนนี้ ราวๆ เที่ยงคืนได้’

รวินท์พิมพ์ข้อความตอบกลับไป ‘แล้วพรุ่งนี้จะมาเชียงใหม่มั้ย’

‘ดูก่อนว่ะ เหนื่อยฉิบหาย’

‘เหนื่อยก็พักเยอะๆ กลับถึงแล้วบอกด้วย’

‘อือ คิดถึงมึงว่ะ’

‘เออๆ กูก็คิดถึง’

แล้วเตชิตก็ส่งหัวใจกลับมาให้รัวๆ เป็นผลให้รวินท์ส่ายหน้าไปมาพลางหัวเราะเบาๆ แต่จู่ๆ ก็รู้สึกว่ามีคนเดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ใกล้ๆ เขาจึงเงยหน้าขึ้นมอง

เด็กหนุ่มสองคนในชุดนักศึกษายืนฉีกยิ้มกว้างอยู่อีกฝั่งหนึ่งของโต๊ะ ในมือของฟลุคถือดอกกุหลาบสีแดงดอกใหญ่เท่ากำปั้นมาหนึ่งดอก “สวัสดีครับหมอวิน” สองหนุ่มพูดพร้อมกันราวกับท่องมา จากนั้นปิ๊กก็ดึงดอกกุหลาบออกมาจากมือเพื่อน ยกขึ้นมากัดก้านไว้แล้วยื่นหน้าเข้าไปหาคนที่นั่งอยู่ “โอย อ๋ามอิ้ม” (โอย หนามทิ่ม)

รวินท์คิ้วกระตุก ทำไมวันนี้เขาเจอแต่คนแปลกๆ วะเนี่ย! “สวัสดีครับ มีอะไรรึเปล่า”

“ผมชื่อฟลุค นี่เพื่อนผมชื่อปิ๊กครับ” ฟลุคเขกศีรษะเพื่อน คว้าดอกไม้จากปากอีกฝ่ายออกมายื่นให้ทันตแพทย์หนุ่ม “ดอกไม้สวยๆ ให้หมอวินจากใจพวกผมเลยครับ”

เจ้าของชื่อขนลุกซู่ไปทั้งตัว เขาจ้องสองหนุ่มเขม็ง

โห ไอ้เด็กสองคนนี่เกิดมาเคยจีบใครบ้างเปล่าวะเนี่ย อย่าว่าแต่จีบเลย เคยดูเกิลหาวิธีจีบบ้างหรือเปล่าหรอก ไอ้วิธีที่ใช้นี่ก็โคตรเชย ทันตแพทย์หนุ่มส่ายหน้าอย่างอ่อนใจและปฏิเสธไปพร้อมกันด้วย “ขอบคุณ แต่ผมไม่รับดีกว่า”

สองหนุ่มยิ้มเจื่อน “เอ่อ... หรือ... หรือว่า... หมอวินแพ้เกสรดอกไม้เหรอครับ”

“ผมว่าผมไม่จำเป็นต้องชี้แจงเหตุผลที่จะไม่รับอะไรก็ตามจากคนแปลกหน้านะ”

“โธ่ๆ พวกผมอยากรู้จักหมอวินนะครับ”

“แต่ผมไม่ได้อยากรู้จักพวกคุณนี่ครับ”

“โห อย่าเพิ่งใจร้ายสิครับ พวกผมก็แค่อยากเป็นเพื่อนด้วยเอง” ปิ๊กถือวิสาสะนั่งลงตรงที่นั่งฝั่งตรงข้ามกัน แล้วหันไปกระตุกแขนฟลุคให้นั่งลงมาด้วย “ให้โอกาสพวกผมพาหมอวินไปเลี้ยงข้าวสักมื้อนะครับ หมออยากกินอะไรบอกเลย สั่งได้ทุกอย่างไม่อั้น”

รวินท์ชำเลืองมองไปทางด้านหลังสองหนุ่ม ก่อนจะตีหน้าซื่อใส่ “ผมไม่เข้าใจ พวกคุณจะอยากรู้จัก อยากเป็นเพื่อนกับผมไปทำไม แล้วพวกคุณจะเลี้ยงข้าวผมทำไม มีสาเหตุอะไร ต้องการอะไรจากผมเหรอครับ”

“โธ่! พวกผมลงทุนบุกมาขนาดนี้แล้ว ก็เพราะจะจีบหมอวินน่ะสิครับ! หรือว่าหมอวินมีแฟนแล้วกันครับ! ถ้ามีแล้วก็บอก...” ฟลุคโพล่งออกไป แล้วก็ชะงัก เมื่อรู้สึกว่าใต้ตึกในบริเวณนั้นเงียบกริบลงทันควัน คนที่เดินไปเดินมากันอยู่ก็หยุดหันมองมาที่พวกเขากันหมด

ปิ๊กกระซิบ “ซวยแน่แล้วไอ้ฟลุค!” สมพรปากเด็กหนุ่ม เพราะทันทีที่เขาพูดจบ เสียงฝีเท้าของคนกลุ่มหนึ่งก็มุ่งตรงเข้ามาที่พวกเขา

รวินท์เงยหน้าขึ้นมองเด็กหนุ่มนักศึกษาปีสี่ที่ยืนออกันอยู่ด้านหลังสองหนุ่มจากคณะบริหาร “พวกเขาจะจีบผมว่ะพิงค์”

พิงค์!? จากภูพิงค์หรือเปล่าวะ!

ปิ๊กและฟลุคเสียววาบไปถึงปลายไส้ติ่ง พวกเขาหันไปทางด้านหลังช้าๆ แล้วก็พบรุ่นพี่ปีสี่ซึ่งเป็นพี่ว้ากของคณะวิศวะด้วยยืนทำหน้าขรึม

“อยากมีเพื่อนคุยด้วยเหรอ พวกผมจะช่วยเอง” ภูพิงค์พูดเสียงเรียบ “เชิญคุณสองคนทางนี้หน่อย”

“เอ่อ...” สองหนุ่มหน้าซีด ในใจอุทานฉิบหายรัวๆ

“ลุกสิคุณ หรือต้องให้อุ้มไปวะ”

“ลุกแล้วครับพี่”

“ตามมา”

รวินท์ส่ายหน้าไปมา “อย่าเล่นกับน้องแรงๆ นะพิงค์” เขาว่ามันแปลกๆ นะ ที่จู่ๆ จะมีคนเพี้ยนหนักพอที่จะบุกเข้ามาถึงในตึกด้านในสุดของคณะวิศวะนี่เพื่อจีบเขา ถ้ารู้จักเขาและรู้เรื่องเกี่ยวกับเขาได้ยังไงก็น่าจะต้องเคยเห็นเพจของคณะวิศวะผ่านตามาบ้าง เพราะงั้นจะไม่รู้เลยจริงๆ หรือว่าใครๆ ก็จิ้นเขากับภูพิงค์ จิ้นจนกลายเป็นเรื่องจริงไปแล้วเนี่ย

เพราะงั้นก็ไม่น่าจะเข้ามาหาเขาเพราะจะจีบจริงๆ น่าจะใช้เหตุผลนี้เพื่อบังหน้าเท่านั้น

แต่เอ... ก่อนหน้าก็มีผู้หญิงมาสองคนนี่นะ จากคณะเดียวกัน แก๊งเดียวกันหรือเปล่าวะ อาจจะเข้ามาหาเขาด้วยจุดประสงค์เดียวกันก็ได้

ทันตแพทย์หนุ่มขมวดคิ้วมุ่น “แปลกว่ะ มันต้องมีเบื้องหลังอะไรแหงๆ”



ฝ่ายภูพิงค์นั้น เมื่อเดินนำสองหนุ่มไปในที่ลับตาคนแล้ว เขาก็ยืนประจันหน้ากับสองหนุ่ม โดยมีเพื่อนๆ กลุ่มใหญ่ยืนเป็นแบ็กกราวน์อยู่ทางด้านหลัง

“พวกคุณเป็นใครวะ ชื่ออะไร อยู่คณะไหน”

“เอ่อ... ผมชื่อปิ๊ก ไอ้นี่ฟลุคครับ อยู่บริหารปีสองครับพี่”

“แล้วมีธุระอะไรกับคนของผม คุยกับผมแทนก็ได้นะ”

“เปล่า... เปล่าครับพี่”

“เมื่อกี้ไม่ได้พูดแบบนี้นี่”

“พวกผมไม่มีจริงๆ คร้าบ แค่อยากรู้จักกับหมอวินเท่านั้นจริงๆ ไม่ได้ตั้งใจจะจีบเลย”

“นี่พวกคุณเห็นพี่วินเป็นของเล่นรึไง!” เสียงของภูพิงค์ดุขึ้นไปอีก พอเขาก้าวเข้าไปหาพวกเด็กหนุ่ม อีกฝ่ายก็ถอยหลังหนี ถอยไปจนหลังชนกำแพงแล้ว

“ผู้หญิงสองคนที่มาก่อนหน้าก็เพื่อนพวกคุณใช่มั้ย”

ปิ๊กกับฟลุคอยากจะร้องไห้แล้วตอนนี้ พวกเขาพยักหน้าหงึกๆ พอสบสายตารุ่นพี่ ใจก็หดเหลือเท่ามดลูกปลาซิว จะหนีก็ท่าจะไม่รอด จะสู้ก็... สี่ตีนจะสู้รุ่นพี่เป็นสิบตีนได้ยังไง

“บอกความจริงมา พวกคุณต้องการอะไร มายุ่งกับพี่วินทำไม”

“เอ่อ พวกผม แค่...อยากรู้ว่าหมอวินมีแฟนรึยังน่ะครับ” พวกเขาตอบเสียงอ่อย แต่กลับทำให้ภูพิงค์พูดเสียงดังขึ้น ดุขึ้นไปอีกเลเวล

“จะรู้ไปทำไมวะ!”

“คือ... เพื่อนพวกผมอยากรู้คร้าบ”

“ใครวะเพื่อนพวกคุณน่ะ! คนไหน! ชอบพี่วินเรอะ!”

“เปล่าครับเปล๊าาา!” สองหนุ่มยกมือขึ้นกุมศีรษะ หลับตาปี๋ แล้วสารภาพบาปทันที “เพื่อนผมมันชอบหมอเต้น่ะคร้าบ!”

คำตอบที่ได้รับเป็นผลให้ภูพิงค์ชะงัก นิ่งไปชั่วครู่

“ฮะ ชอบไอ้พี่เต้เหรอ”

น้ำเสียงที่อ่อนลงไปมหาศาลทำให้สองหนุ่มกล้าพอที่จะลืมตาเงยหน้าขึ้น แล้วพยักหน้าหงึกๆ “ครับ มัน... มันอยากรู้ว่าหมอเต้ยังโสดมั้ย จะถามตรงๆ ก็ไม่กล้า แต่เพราะหมอเต้ตัวติดกับหมอวินตลอดเลย ก็เลยกลัวว่าที่จริงหมอวินจะเป็นแฟนกับหมอเต้น่ะคร้าบ แล้ว...แล้วมันก็อยากรู้จักกับหมอวินมากด้วย อยากให้หมอวินช่วยมันจีบหมอเต้น่ะคร้าบ” สองหนุ่มสารภาพซะหมดเปลือก

ภูพิงค์อ้ำอึ้ง คือเขาควรจะโกรธที่ไอ้พวกนี้ริอาจมาอ้อร้อกับพี่วินของเขา แต่ก็แบบ... “เพื่อนคุณจะจีบพี่เต้เหรอ”

“มันจีบอยู่ครับพี่ ตามจีบมาสักพักใหญ่ๆ แล้ว”

“พี่เต้รู้ตัวรึเปล่า”

“รู้...คิดว่ารู้นะครับ”

“แล้วได้พบกันบ่อยมั้ย?”

“ก็...แทบทุกอาทิตย์นะครับ”

ภูพิงค์ขมวดคิ้ว เขานึกย้อนไปถึงตอนที่เห็นพี่เต้คุยโทรศัพท์ท่าทางแปลกๆ ลับๆ ล่อๆ เหมือนแอบค้ายาบ้าเมื่อครั้งก่อนนู้น หรือว่าที่รีบรุดออกไปคราวนั้นโดยไม่ให้บอกใครก็เพื่อไปพบกับเพื่อนของน้องกลุ่มนี้วะ มิน่าล่ะ ไอ้พวกเพื่อนเขาถึงว่าช่วงนี้โดนพี่เต้ลอยแพบ่อยๆ คงหายไปกับเพื่อนของไอ้เด็กพวกนี้แหงๆ

โห ไอ้พี่เต้ก็ร้ายเหมือนกันแฮะ!

“เพื่อนคุณที่จีบพี่เต้เป็นใครวะ ไม่ใช่ผู้หญิงสองคนก่อนหน้าใช่มั้ย”

“ไม่ใช่ครับ” สองหนุ่มส่ายหน้ายิก “พวกผมบอกไม่ได้จริงๆ ครับ แต่เพื่อนผมมันจริงจังนะครับ มันชอบหมอเต้มาก ชอบจนเพี้ยนหนักไปเลย ทำให้พวกผมเพี้ยนไปด้วยเลยเนี่ย พี่ลองคิดดูสิครับ ถ้าพวกผมไม่เพี้ยนไม่บ้าก็คงไม่กล้าเสี่ยงบุกมาถึงที่นี่แน่ๆ”

“แล้วทำไมเพื่อนคุณไม่มาเอง ขี้ขลาดเหรอวะ”

“ไม่นะครับ มันใจกล้าหน้าด้านจะตาย! คือ... ที่จริงมันก็อยากมาน่ะแหละ แต่ตอนนี้มันยังแสดงตัวไม่ได้ มันมีความจำเป็นมากจริงๆ”

“พวกคุณนี่ก็เป็นเพื่อนที่ดีเนอะ” ภูพิงค์ยกมือขึ้นตบไหล่สองหนุ่ม แล้วถอนหายใจหนักๆ “ผมฝากไปบอกเพื่อนคุณด้วย ถ้าอยากจีบพี่เต้ผมก็ไม่จะยุ่ง แต่ถ้าเขากล้าพอที่จะแสดงตัวกับผม ผมก็ยินดีที่จะได้รู้จักกับเขา และถ้าเขาจริงใจพอ พิสูจน์ตัวเองได้ว่าชอบพี่เต้มากจริงๆ ผมก็ยินดีจะช่วยเหลือ”

“ฮะ!?” สองหนุ่มเบิกตากว้าง ไม่อยากจะเชื่ออะไรที่ผ่านเข้ามาในรูหูเลยตอนนี้

“เพราะงั้นไม่ต้องตามสืบตามยุ่งอะไรกับพี่วินอีก! เข้าใจมะ!” ภูพิงค์ดุเสียงเข้ม “ไปเว้ย!” จากนั้นก็หันหลังเดินกลับออกไปพร้อมกับเพื่อนๆ ของตน

สองหนุ่มยืนทำตาปริบๆ เข่าทรุดลงไปนั่งกองอยู่กับพื้น ใจนึกว่าต้องโดนยำตีนแน่แล้ว แต่ก็รอดมาได้แบบฉิวเฉียด

“หมอวินต้องเป็นสมบัติของคณะนี้แหงๆ แม่งหวงกันยิ่งกว่าจงอางหวงไข่อี้กกก~”

“รีบกลับคณะก่อนเหอะมึง เดี๋ยวพี่ภูพิงค์วกกลับมาอีกรอบ ซวยตาย”

สองหนุ่มจูงมือกันใส่ตีนหมาโกยแน่บ พอไปถึงรถที่จอดไว้ก็ขับกลับไปที่คณะทันที



ภายใต้ตึกเรียนคณะซึ่งอยู่ไม่ไกลจากลานจอดรถนัก คีรีและเพื่อนสาวอีกสองชีวิตนั่งชะเง้อจนคอแทบจะยาวเป็นกะเหรี่ยงคอยาว

“คีรี นายว่าจะได้เรื่องมั้ยอะ”

เจ้าของชื่อส่ายหน้าไปมา “อันที่จริง ตั้งแต่รู้จักกันมา เราไม่เคยเห็นฟลุคกับปิ๊กจีบใครเลยนะ รู้สึกเหมือนส่งหมูไปให้สิงโตเชือดเล่นๆ ยังไงก็ไม่รู้ว่ะ”

เสียงเตือนข้อความเข้าโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เด็กหนุ่มรีบตะปบขึ้นมาดูทันที ก่อนจะยิ้มหน้าบานเท่ากระจาด เพราะบนหน้าจอปรากฎข้อความของคนที่เขารอให้ตอบกลับมาตลอดทั้งสัปดาห์ หลังจากที่เพียรส่งไปหาทุกวัน วันละเป็นสิบข้อความ

‘ผมจะกลับถึงลำพูนประมาณเที่ยงคืน ยังไม่รู้ว่าอาทิตย์นี้จะไปเชียงใหม่รึเปล่า’

คีรีขมวดคิ้ว สีหน้าสลดลงทันควัน หมอเต้บอกเขาว่าจะไปออกหน่วย ไปทำฟันในพื้นที่ทุรกันดาร กลับดึกแบบนี้คงจะเหนื่อยมากเลยทีเดียว อาจจะไม่มาเชียงใหม่ด้วย แบบนี้ก็ไม่ได้เจอกันน่ะสิ เขาไม่ได้เจออีกฝ่ายมาเป็นสัปดาห์แล้วนะ คิดถึงจะแย่

อยากเจอชะมัด

แต่หมอเต้ส่งข้อความมาหาเขาแบบนี้ ก็น่าจะหมายความว่านึกถึงเขาบ้างเล็กน้อยหรือเปล่านะ พอคิดแบบเข้าข้างตัวเองไปก็ยิ้มออกมาได้เล็กน้อย

สองสาวที่นั่งอยู่ด้วยกันจ้องเพื่อนหนุ่มเขม็ง “มันใกล้บ้าแล้วมั้ง เดี๋ยวยิ้ม เดี๋ยวเศร้า เดี๋ยวบึ้งได้ในหนึ่งนาที ต้องพาไปฉีดวัคซีนกันพิษหมาบ้ามั้ยเนี่ย”

“พวกนายนินทาระยะเผาขนไปมั้ยวะ” คีรีหันไปต่อว่า เขายังไม่ทันพิมพ์ข้อความตอบทันตแพทย์หนุ่มไป เพื่อนรักอีกสองชีวิตที่เพิ่งกลับมาจากคณะวิศวะก็เดินอ่อนระโหยโรยแรงเข้ามาหา เด็กหนุ่มเลิกคิ้วขึ้น “เฮ้ย ทำไมทำท่าเหมือนไปโดนรุมโทรมมาแบบนี้วะ”

ปิ๊กและฟลุคทรุดตัวลงนั่ง “ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงอะมึง เพื่อนมึงเกือบเอาชีวิตไปทิ้งไว้ที่คณะวิดวะแล้วเนี่ย ฮือ น่ากลัวฉิบหาย”

“หมอวินทำอะไรพวกมึงเหรอวะ” คีรีหยิบน้ำส้มชุดเดิมที่ซื้อไว้ส่งให้ “เอ้า ใจร่มๆ ดื่มน้ำก่อน”

สองหนุ่มส่ายหน้าไปมาก่อนปิ๊กจะโวยวาย “เปล่าเว้ย! แต่พวกพี่ภูพิงค์จะกระทืบพวกกูไส้แตกน่ะสิ! ตอนแรกพวกกูก็นั่งคุยกับหมอวินอยู่ดีๆ แต่พอเสือกหลุดปากว่าจะจีบหมอวินนะ พี่ภูพิงค์แม่งก็โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ แล้วทำหน้าเหมือนจะต้องเอาเลือดออกจากหัวพวกกูให้ได้อะ!”

ฟลุคพูดต่อ “เอาจริงๆ นะ กูว่าถ้าพี่เขาไม่ดูใจกับหมอวินอยู่ก็คบกันแล้วแหงๆ แม่ง หวงฉิบหาย หวงเว่อร์! กูฟันธงได้เลยว่าพี่ภูพิงค์ชอบหมอวิน!”

“เออ เจนี่เห็นด้วยนะ ยุ้ยว่ามะ” เธอหันไปถามเจ้าของชื่อที่นั่งอยู่ข้างกัน ซึ่งอีกฝ่ายก็พยักหน้ารัว “ใช่ๆ”

“อีกอย่างนะ พี่ภูพิงค์น่ะ น่าจะสนิทกับหมอเต้พอสมควร เห็นเรียกพี่เต้งี้ ไอ้พี่เต้งี้” สองหนุ่มผลัดกันเล่าประสบการณ์ขนตูดลุกที่เพิ่งได้รับมาหมาดๆ “แต่พอบอกว่ามึงจะจีบหมอเต้ เสียงพี่ภูพิงค์เปลี่ยนไปแบบหลังตีนเป็นหน้ามือเลยเว้ย”

“พวกมึงว่าพี่ภูพิงค์จะตามหาตัวกูมั้ยวะ” คีรีชักจะเป็นกังวล

“คงไม่หรอกมั้ง พี่เขาหวงหมอวินคนเดียวนี่หว่า แถมยังบอกด้วยว่าถ้ามึงกล้าพอที่จะไปทำความรู้จักกับเขา และพิสูจน์ความจริงใจของมึงได้ พี่เขาก็จะช่วยมึงด้วย แต่ไม่ให้ไปยุ่งกับหมอวินอีก”

“บางทีหมอเต้ก็อาจจะเป็นศัตรูหัวใจพี่ภูพิงค์เหมือนกันนะ ยุ้ยว่าดีไม่ดีถ้าเข้าทางพี่ภูพิงค์ อาจจะง่ายกว่าหมอวินซะอีก”

“เออ ถึงไม่ได้หมอวินช่วย แต่ถ้าได้พี่ภูพิงค์มาแทนก็ไม่แย่ปะวะ”

คีรีกัดริมฝีปากพลางขมวดคิ้ว “ถ้ากูไม่ติดว่ารับบทเป็นชาวเขาทำงานโรงแรมอยู่ กูจะบุกไปหาพี่ภูพิงค์แม่งเดี๋ยวนี้เลย”

“แต่มึง...ไม่กลัวเหรอวะ พี่ภูพิงค์แม่ง ดุแบบตรงข้ามกับหน้าตาฉิบหาย”

“ไม่กลัว ถ้าพี่เขาจะช่วยกูจริงๆ กูก็ยอมเสี่ยง” คีรีนิ่งไปชั่วครู่ แล้วหันไปสบสายตาเพื่อนๆ “พวกมึงว่าหมอวินรู้ตัวมั้ยวะ ว่าพี่ภูพิงค์หวงมาก”

“รู้ดิ เป็นคนฟ้องเองซะขนาดนั้น”

เด็กหนุ่มพยักหน้าหงึกๆ “อืม... หมอวินมาหาพี่ภูพิงค์ถึงคณะบ่อยๆ ส่วนพี่ภูพิงค์ก็หวงหมอวินมาก ถ้าขนาดนี้จะไม่มีใจให้กันเลยก็คงแปลกมั้ยวะ”

“จริงของมึงว่ะ บางทีอาจจะเป็นคู่จิ้นกันจนกลายเป็นของจริงแล้วก็ได้”

ยุ้ยขมวดคิ้ว “อือ... แต่นายบอกว่า ตอนหมอวินอยู่กับหมอเต้ หรือเวลาเขาพูดคุยกันก็หวานมากเหมือนเป็นแฟนกันนี่นา”

คีรีชักจะลังเล เขานึกย้อนไปถึงคำพูดของหมอวินที่ตรงตู้เย็นในหอพักหมอเต้ที่ลำพูนครั้งนั้น ฟังดูยังไงก็ไม่น่าจะเป็นแค่เพื่อนกันแน่ๆ แถมหมอวินยังดูจะหวงหมอเต้มากซะด้วย

“บางทีหมอวินอาจจะยังเลือกใครไม่ได้ แบบ... อารมณ์รักคนนึงแต่ก็ห่วงอีกคนนึง อยากเก็บไว้ทั้งสองคนอะไรแบบนี้” เจนี่เสริม

นั่นสินะ หมอเต้ก็เคยบอกเขาว่าหมอเต้กับหมอวินน่ะเป็นเพื่อนสนิทกันเฉยๆ ถ้าอย่างนั้น ก็อาจจะเป็นรักสามเส้าจริงๆ

“ถ้าหมอเต้เป็นมารหัวใจของพี่ภูพิงค์ นายก็ยิ่งควรร่วมมือกับพี่เขาเข้าไปใหญ่เลยนะ”

“แต่ตอนนี้เรายังเข้าไปหาพี่เขาไม่ได้น่ะสิ” คีรียกมือขึ้นกุมศีรษะ “โอย ทำไมมันอีรุงตุงนังแบบนี้วะเนี่ย”

“ใจเย็นไว้เพื่อน อย่างน้อยก็ได้รู้อะไรเกี่ยวกับหมอวินหมอเต้มากขึ้นอีกนิดนึงแล้วนะ พี่ภูพิงค์ก็ออกปากว่าจะช่วยเหลือมึงด้วย ไม่ต้องเสี่ยงตายเข้าไปหาหมอวินอีกแล้ว ตอนนี้ก็เหลือแค่รอโอกาสดีๆ เท่านั้น”

“อือ ขอบใจทุกคนมากนะ” เด็กหนุ่มยิ้มบาง

“ไปเหอะ ไปหาอะไรกินกันดีว่า กองทัพเดินด้วยท้องเว้ย” ปิ๊กลุกขึ้นพลางตบไหล่เพื่อนรักเบาๆ 


(มีต่อค่ะ)



ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4


หลังจากไปกินมื้อเย็นกันเสร็จ คีรีก็ขับรถ BMW ของตนกลับไปยังคอนโดมิเนียม ระหว่างทางที่ขับไปก็เห็นว่าเกือบสามทุ่มแล้ว เขาชำเลืองมองสร้อยข้อมือที่สวมอยู่ ใจนึกไปถึงทันตแพทย์หนุ่ม ความคิดถึงอัดแน่นอยู่ในอก เขาไม่ได้พบหมอเต้มาครบสัปดาห์แล้ว ถ้าหากหมอเต้ไม่มาเชียงใหม่อีก อาทิตย์นี้ก็คงไม่ได้พบกันยาวไปถึงอาทิตย์หน้า มีหวังเขาขาดใจตายแน่ๆ

และที่สำคัญที่สุด ในเมื่อหมอวินอยู่ที่เชียงใหม่ แสดงว่าหมอเต้ต้องอยู่ลำพูนคนเดียว ทางสะดวกราบรื่นกว่านี้เขาคงหาไม่ได้แล้วล่ะ

พอถึงที่พักเด็กหนุ่มจึงรีบขึ้นห้องไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนจะเดินกลับลงมาที่รถอีกครั้ง แล้วขับออกไป มุ่งหน้าสู่เมืองลำพูน

คีรีแวะซื้อของกินระหว่างทางไว้ให้ทันตแพทย์หนุ่ม เขาไปถึงโรงพยาบาลลำพูนในตอนเกือบๆ ห้าทุ่ม  เอารถไปจอดแอบไว้ในที่จอดรถด้านหน้าโรงพยาบาล นั่งเล่นอยู่ในรถสักพักจนเกือบเที่ยงคืนจึงค่อยหอบถุงของกินลงมา แล้วเดินดุ่มๆ ไปที่หอพักของอีกฝ่าย

เขานั่งลงรอที่โต๊ะม้าหินใต้ตึกหอพักตัวเดิม จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดส่งข้อความออกไป

‘มาถึงหอพักรึยังครับ’

‘ใกล้ถึงแล้ว มีอะไรรึเปล่า’

‘คิดถึงครับ’

ไม่มีคำตอบกลับมาจากทันตแพทย์หนุ่ม คีรีจึงส่งข้อความไปอีก ‘ผมคิดถึงคุณ คิดถึงมากๆ เลย’

หากอีกฝ่ายอ่านแล้วก็ยังคงเงียบไปอีกพักใหญ่ ปล่อยให้เด็กหนุ่มตบยุงรอแบบเหี่ยวๆ ต่อไป

คีรีหยิบซองใส่เงินที่เตชิตเคยให้ไว้ขึ้นมาดู ข้างในซองนั้นเหลือธนบัตรใบละร้อยใบสุดท้ายแล้ว ถ้าหากระหว่างเขากับทันตแพทย์หนุ่มไม่มีอะไรคืบหน้าขึ้นในการพบกันครั้งนี้...

หมอเต้จะยังจำได้มั้ยนะ ความหมายของการคืนเงินนี่

เด็กหนุ่มขยุ้มซองใส่ธนบัตรอย่างลืมตัว

เขาไม่น่ากำหนดอะไรแบบนี้ขึ้นมาเลย มันเป็นแค่กลไกในการปกป้องตัวเองของเขาเท่านั้น เพราะกลัวว่าจะต้องเจ็บ จะต้องอกหัก กลัวว่าตนเองจะถลำลึกแล้วถอนตัวไม่ขึ้น

แต่มันก็สายไปแล้วล่ะ

คีรีเก็บซองธนบัตรกลับใส่กระเป๋ากางเกง เอนหลังพิงพนักม้านั่งพลางถอนหายใจ 



ฝ่ายทันตแพทย์หนุ่มที่นั่งอยู่ในรถตู้ร่วมกับทันตแพทย์อีกสองสามคน พอเห็นข้อความของเด็กหนุ่มก็อมยิ้มเล็กน้อย เป็นผลให้ทันตแพทย์คนอื่นๆ ในรถเอ่ยปากแซว

“แหม ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เลยหมอเต้ แฟนรออยู่สินะครับ”

“ไม่มีหรอกครับ แฟนอะไร” เตชิตหัวเราะ

“โห ไม่เชื่อหรอกครับ นี่ตอนที่โรงบาลผมรู้ว่าผมจะมากับหมอเต้ สาวๆ ในแผนกตื่นเต้นกันใหญ่ นี่ถ้ารู้ว่าหมอเต้ยังโสดคงจะต้องมีการย้ายโรงบาลกันแหงๆ”

ไม่นานรถตู้ก็เลี้ยวเข้ามาจอดในเขตโรงพยาบาลไม่ไกลจากหอพักแพทย์นัก เตชิตบอกลาทุกคนแล้วก้าวลงไปจากรถ เขาถือกระเป๋าเป้เดินฉับๆ ตรงไปยังหอพักของตน

ระหว่างทางที่เดินไปก็ส่ายหน้าไปมา ไอ้เหนื่อยก็เหนื่อยอยู่หรอกนะ ตอนแรกคิดว่าคงจะไม่ไปเชียงใหม่แล้ว เสาร์อาทิตย์นี้จะขอนอนพักให้เต็มอิ่มสักหน่อย แต่... พอนึกถึงดวงตาลูกสุนัขคู่นั้นก็รู้สึกสงสาร เขาไม่ได้เจอเด็กหนุ่มมาครบสัปดาห์แล้ว คราวนี้อีกฝ่ายหมั่นส่งข้อความมาหาเขาบ่อยๆ อย่างที่พูดจริงๆ ส่งรูปตัวเองบ้าง รูปของกินบ้าง บางครั้งก็เป็นรูปทิวทัศน์ข้างทาง ตึกหรือตลาด และปิดท้ายวันด้วยข้อความบอกราตรีสวัสดิ์เป็นประจำทุกคืน น่าเสียดายที่สถานที่ที่เขาไปออกหน่วยไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ตอนเดินทางกลับมานี่ พอเข้าเขตที่มีสัญญาณโทรศัพท์ ข้อความก็เด้งขึ้นพรวดๆ เลยทีเดียว

พอกดอ่านข้อความดูก็อดยิ้มไม่ได้ เขาคิดว่าน่ารักดีนะ อีกฝ่ายขยันส่งมาทุกวันอย่างที่พูดไว้ ถึงแม้เขาจะไม่ได้ตอบกลับไปเพราะไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ก็ตามที

คีรีค่อยๆ แทรกตัวเองเข้ามาในความคิดของเขา จากที่เคยคิดถึงแต่รวินท์คนเดียวอยู่ตลอด เขายอมรับว่าก็มีบางครั้งที่นึกถึงเด็กหนุ่มอยู่บ้าง

“เฮ้อ...” เตชิตถอนหายใจหนักๆ อีหร็อบนี้ พรุ่งนี้มีหวังเขาคงต้องถ่อสังขารไปเชียงใหม่แหงๆ

เมื่อเดินเข้าใกล้ประตูทางเข้าในตึก เขาก็เห็นคนที่ท่าทางคุ้นๆ ใส่เสื้อผ้าฝ้ายคอจีนกับกางเกงขายาว นั่งเท้าแขนลงกับโต๊ะแล้วเอาคางเกยไว้ สายตาดูจะจับจ้องอยู่ที่บางสิ่งบางอย่างบนโต๊ะ ตรงหน้ามีถุงพลาสติกมากมายวางเรียงอยู่

เตชิตเลิกคิ้วขึ้น คีรีเหรอ? มาได้ไงวะเนี่ย

พอทันตแพทย์หนุ่มเดินเข้าไปใกล้ ก็เห็นว่าสิ่งที่อีกฝ่ายจ้องอยู่นั้นคือโทรศัพท์มือถือ

เสียงฝีเท้าของเขาเรียกให้คนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะหันมามอง แล้วยิ้มกว้าง

“คุณเตชิต!”

“คุณมาได้ยังไงเนี่ย นี่มันดึกมากแล้วนะ แล้วทำไมมานั่งเลี้ยงยุงแบบนี้ เดี๋ยวก็ไม่สบายพอดี” เตชิตพูดเสียงดุ พอชำเลืองดูโทรศัพท์มือถือก็เห็นว่าหน้าจอมืดสนิท นั่งจ้องโทรศัพท์ทำไมวะ? รอข้อความตอบกลับจากเขางั้นหรือ?

“ก็คิดถึงคุณเตชิต ผมเลยนั่งรถมาจากเชียงใหม่ ซื้อของกินมาให้คุณด้วย”

สีหน้าของเด็กหนุ่มหลังจากถูกเขาดุเอาไม่ได้สลดลงไปเลย ถ้ากระดิกหูกับหางได้ อีกฝ่ายคงทำไปแล้ว ทันตแพทย์หนุ่มนึกพลางยิ้มกริ่มอยู่ในใจ 

“คิดว่าคุณเตชิตกลับมาดึกๆ คงจะเหนื่อยแล้วก็หิว จะออกไปหาอะไรกินตอนนี้ก็คงลำบาก”

เจ้าของชื่อทำเป็นถอนหายใจหนักๆ “ขอบใจที่นึกถึง เจอผมแล้วก็รีบกลับไปได้ละ”

 คีรีหน้าเสีย เขายืนอ้ำอึ้ง ไม่นึกว่าจะโดนไล่กลับไวปานสายฟ้าฟาดขนาดนี้ “แล้ว... ของกิน...”

“ผมกินมาแล้ว คุณเอากลับไปกินที่ห้องกับเพื่อนคุณเถอะ”

เด็กหนุ่มชะงักค้าง สีหน้าเศร้าหนักลงไปอีก ก็นั่นสินะ หมอเต้ไม่มีเหตุผลที่จะให้เขาตามขึ้นห้องไปด้วยสักหน่อย หมอวินไม่อยู่เหมือนเมื่อครั้งที่แล้วนี่หว่า เขาหลุบตาลงต่ำ เจ็บเสียดในหัวใจ

พอเห็นท่าทางของคีรีก็คิดว่าตัวเองล้อเล่นแรงไปหน่อย เตชิตยกมือขึ้นวางบนหัวไหล่ของเด็กหนุ่ม “ผมล้อเล่นน่ะ ทำหน้าอย่างกับจะร้องไห้”

คีรีเงยหน้าขึ้นสบสายตากับทันตแพทย์หนุ่ม “ล้อเล่นเหรอครับ”

เมื่อประสานสายตากับแแววตาที่สั่นไหวและได้ยินน้ำเสียงเศร้าเช่นนั้น ทันตแพทย์หนุ่มก็ใจอ่อนยวบ รู้สึกผิดหนักกว่าเดิมไปอีก “คุณไม่ควรมาตอนดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้ มันอันตราย ยุงก็เยอะ ถ้าไม่สบายขึ้นมาจะแย่นะ ไปเถอะ หยิบของขึ้นมาสิ จะได้ขึ้นไปข้างบนกัน”

“คุณเตชิตเป็นห่วงผมเหรอครับ”

คราวนี้คนถูกถามเลยชะงักไปบ้าง เขาถอนหายใจเบาๆ “เออ” แล้วเดินนำออกไป

คีรียิ้มออกมาได้ แค่คำตอบสั้นๆ แต่ทำให้ขุมพลังเต็มทะลุเพดาน เขารีบลุกขึ้น รวบถุงทั้งหมดมาไว้ในมือ จากนั้นก็เดินตามทันตแพทย์หนุ่มเข้าไปข้างในตึก

ขณะที่ยืนอยู่ข้างในลิฟต์โดยสาร เตชิตก็ถามขึ้น “มานานรึยัง”

“มาถึงก่อนคุณเตชิตประมาณชั่วโมงนึงได้ครับ”

“ถ้าผมไม่กลับขึ้นมาจะทำไง”

“ก็คุณเตชิตบอกว่าจะกลับนี่ครับ”

“บางทีผมอาจจะเปลี่ยนใจไปเชียงใหม่ก็ได้”

คีรีขมวดคิ้ว มือขยุ้มหูหิ้วของถุงพลาสติกแน่น จะไปเชียงใหม่ เพราะว่าหมอวินอยู่ที่เชียงใหม่อย่างนั้นสินะ

เมื่อบานประตูลิฟต์เปิดออก ทันตแพทย์หนุ่มก็เดินไปเปิดประตูห้อง แล้วให้เด็กหนุ่มเข้าไปข้างในก่อน

“นั่งก่อนนะ คุณจะดื่มอะไรมั้ย”

“คุณเตชิตนั่งดีกว่า คุณเพิ่งมาเหนื่อยๆ เดี๋ยวผมจัดการให้” คีรียกถุงในมือให้ดู “มีข้าวเหนียวหมูทอด ข้าวมันไก่ ลูกชิ้นปิ้งแล้วก็ทอดมัน มีเฉาก๊วยเป็นของหวานด้วยนะครับ”

เตชิตยิ้มบาง “ซื้อมาทำไมเยอะแยะ คุณเห็นผมมีกี่กระเพาะกันวะ แล้วคุณกินอะไรมารึยัง”

“กินเมื่อตอนเย็นมานิดหน่อยครับ”

“งั้นก็ไปอุ่นมากินด้วยกันละกันนะ ไปล้างมือก่อน” เจ้าของห้องวางกระเป๋าเป้ลง พอจะเดินออกไปก็เห็นว่าเด็กหนุ่มยืนนิ่งเป็นเสาหิน สายตาจับจ้องไปที่บางสิ่งบางอย่าง “มีอะไร” เมื่อมองตามสายตาของคีรีไปจึงเห็นว่าอีกฝ่ายจ้องมองไปตรงจุดที่เขาเคยตั้งกระถางต้นเอื้องแซะไว้

“หายไปไหนเหรอครับ คุณเตชิตทิ้งไปแล้วเหรอ” คีรีถามเสียงอ่อย

“จะบ้าเรอะ ผมไม่อยู่เป็นอาทิตย์ เลยเอาไปฝากวินไว้ จะได้ดูแลรดน้ำให้ได้” เตชิตเขกศีรษะเด็กหนุ่มไปหนึ่งโป๊ก “ไปล้างมือกัน จะได้อุ่นของกินกันสักที ผมหิว”

ฝากหมอวินเหรอ... ก็เกือบแย่เท่าๆ กับทิ้งไปนั่นล่ะ

คนอ่อนวัยกว่าหน้าสลดลงไปอีก เขาตอบรับเบาๆ “ครับ”

ทันตแพทย์หนุ่มเดินนำเข้าไปในห้องน้ำ หยิบสบู่มาฟอกมือ ถูทุกซอกนิ้วและเล็บตามความเคยชิน จากนั้นจึงล้างออก ขณะที่หันไปหยิบผ้าเช็ดมือก็หันมาเห็นเด็กหนุ่มกำลังล้างมือแบบลวกๆ เขาจึงคว้าข้อมืออีกฝ่ายไว้ “นี่ หัดล้างมือให้สะอาด จะได้ไม่เป็นหวัดง่ายๆ”

คีรีมองตามไปอย่างงงๆ

เตชิตดึงมือคนอ่อนวัยกว่าข้างที่ใส่สร้อยข้อมือที่เขาให้มาฟอกสบู่ ค่อยๆ ถูไปทีละนิ้วช้าๆ “ล้างแบบนี้ หัดล้างให้เป็นนิสัย ทำให้เป็นประจำเวลากลับถึงห้อง เข้าใจมั้ย” พอสอนเสร็จเงยหน้าขึ้นก็เห็นว่าใบหน้าของเด็กหนุ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงแปร๊ด นัยน์ตาจ้องมาที่เขาเขม็ง

ทันตแพทย์หนุ่มถอนหายใจ “คิดอะไรทะลึ่งรึเปล่าวะเนี่ย” เขาเขกศีรษะเด็กหนุ่มไปอีกครั้ง “ล้างมือไป เสร็จแล้วตามมาในครัวนะ”

“คะ...ครับ”

ไอ้เด็กนี่มัน... เตชิตพึมพำ หากก็ยิ้มออกมาได้

น่ารักดีเหมือนกันนะ



หลังจากอุ่นอาหารเสร็จสองหนุ่มก็ยกจานชามไปนั่งกินที่โต๊ะกัน เตชิตนั่งกินไปแบบเงียบๆ ส่วนคนที่นั่งตรงข้ามกัน กินไปก็จ้องมองเขาไปอย่างไม่วางตา

“มีอะไร”

“ครับ?”

“จะจ้องผมทำไมนัก”

“ผมคิดถึงคุณนี่ครับ”

“เออๆ รู้แล้ว ไม่ต้องบอกหลายรอบก็ได้” เตชิตถอนหายใจหนักๆ

“ผมสงสัยตัวเองมาก อดทนมาได้ยังไงเป็นอาทิตย์”

ทันตแพทย์หนุ่มยกมือขึ้นกุมขมับ คือคำพูดแบบนี้น่ะ ถ้าสมมติว่าไอ้วินเป็นคนพูด เขาคงจะคิดว่ามันพูดไปอย่างนั้น คงจะกอดคอมันแล้วก็หัวเราะ แต่ไอ้เด็กนี่ ทำหน้าจริงจังเหมือนกำลังยืนอยู่หน้าแท่นสาบาน เขาทำตัวไม่ถูกเลยแม่ง

“พอคุณเตชิตนั่งอยู่ตรงหน้าแบบนี้ หัวใจผมเต้นแรงชะมัดเลย”

โอย กูอยากจะบ้า... เตชิตคร่ำครวญอยู่ในใจ

ขณะที่เตชิตมัวแต่กลุ้มใจ คนอ่อนวัยกว่าก็ดึงมือเขาไปวางทาบบนแผ่นอก

“ผมไม่ได้โกหกนะ คุณเตชิตรู้สึกใช่มั้ย”

ทันตแพทย์หนุ่มประสานสายตาอีกฝ่าย แล้วก้มลงมองฝ่ามือตน ซึ่งเขารู้สึกได้ถึงหัวใจที่กำลังเต้นรัวแรงอยู่ใต้ฝ่ามือนั้น

“อือๆ เชื่อแล้ว” เตชิตรีบดึงมือกลับ

“คุณเตชิตไปออกหน่วยได้เจอชาวเขาอีกรึเปล่าครับ”

“เจอสิ”

คีรีขมวดคิ้ว “แต่ไม่มีใครน่ารักเหมือนผมใช่มั้ย”

คนถูกถามหัวเราะออกมาเบาๆ “ชมตัวเองก็ได้เนอะคนเรา”

“แล้วเหนื่อยมั้ยครับ”

“ก็นิดนึง”

คนอ่อนวัยกว่าค่อยๆ ขยับเข้าไปหาทันตแพทย์หนุ่ม “ผมนวดให้เอามั้ย”

พอเห็นอีกฝ่ายเข้ามาทำหน้าทำตากะลิ้มกะเหลี่ยใส่เขา เตชิตก็รู้สึกอยากจะถีบให้กลับไปนั่งที่เดิม “ไปออกหน่วยก็ไม่ต่างจากที่ไปทำงานทุกวันนั่นละ แค่เปลี่ยนสถานที่เท่านั้น ไม่ได้เหนื่อยอะไรขนาดนั้นเว้ย”

“ไม่เมื่อยเลยเหรอครับ ผมนวดเก่งนะ”

จะหาเรื่องแต๊ะอั๋งเขาน่ะสิไอ้เด็กเวร “ไม่ต้องๆ” เตชิตปฏิเสธ แล้วพอเขาปฏิเสธ อีกฝ่ายก็นิ่งไปชั่วครู่ ดูท่าคงจะหามุกใหม่มาตะล่อมเขาอีก

“คุณเตชิตครับ”

นั่นไง ขาดคำไหมล่ะ “อะไรอีก”

“คืนนี้ผมขอนอนด้วยนะ”

ทันตแพทย์หนุ่มถอนหายใจ “ผมไม่ใจดำขนาดจะไล่เด็กกลับบ้านตอนเที่ยงคืนกว่าๆ หรอกน่ะ แต่นอนบนโซฟาที่เดิมนะ”

คีรียิ้มกว้าง “ครับ” เขาลุกขึ้นเก็บจานชามแล้วยกขึ้น “ผมล้างให้นะ”

“อือ ขอบใจ” เตชิตย่นคิ้วเข้าหากัน เขาหันไปมองตามเด็กหนุ่ม ก่อนจะลุกขึ้นบ้าง “ผมไปอาบน้ำก่อนนะ”

เด็กหนุ่มเดินเข้าครัว ยืนล้างจานชามอยู่สักพักแล้วเอาคว่ำไว้ พอเดินออกมาจากครัวก็ชำเลืองมองไปทางห้องอาบน้ำ เขายืนลังเลอยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็เดินไปหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องน้ำ แล้วค่อยๆ เอียงหูฟังเสียงคนที่อยู่ข้างใน

หมอเต้จะทำอะไรอยู่นะ จะถูตรงไหนอยู่ จะอาบน้ำเสร็จหรือยัง คิดไปพลางใจเต้นตึกตัก

แต่แล้วบานประตูก็เปิดออก เตชิตซึ่งเปลี่ยนใส่ชุดนอนแล้วชะงักกึก “มายืนทำไรตรงนี้วะ! ไอ้เด็กทะลึ่ง!”

คนอ่อนวัยกว่าตีหน้าซื่อ “พอดีเดินผ่านหน้าห้องน้ำอะครับ”

“เดินผ่านยังไงวะ ยืนหันหน้าเข้าหาประตูเนี่ย สีข้างถลอกหมดแล้วมั้ยวะคุณ”

คีรีเสหลบตา ยกมือขึ้นเกาศีรษะ ไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไรดี

“ถอยไปได้แล้ว จะให้ผมยืนคาอยู่ในห้องน้ำนี่อีกนานมะ”

เด็กหนุ่มรีบถอยไปอีกทาง “ขอโทษครับ”

“จะอาบน้ำรึเปล่า”

“ผมอาบมาแล้วครับ”

“มีแปรงสีฟันกับยาสีฟันมามั้ย”

คนอ่อนวัยกว่าส่ายหน้าช้าๆ “ไม่มีครับ”

เตชิตถอนหายใจ อยู่กับไอ้เด็กนี่ เขาถอนหายใจบ่อยจริงๆ แก่ลงทุกสิบนาทีเลยแม่ง ทันตแพทย์หนุ่มเดินเข้าไปในห้องนอน เปิดตู้รื้อหาแปรงสีฟันกับยาสีฟัน หยิบผ้าขนหนูออกมาอีกผืน แล้วเอาออกมาให้เด็กหนุ่ม “เอ้า ไปล้างหน้าล้างตา แล้วก็ไปนอนซะ”

คีรียกมือขึ้นรับของจากเจ้าของห้องพร้อมกับจับข้อมืออีกฝ่ายไว้

“คุณจะจับไว้ทำไม...วะ”

เด็กหนุ่มก้มลงจูบฝ่ามือของเตชิตอย่างแผ่วเบา ที่จริงก็อยากทำมากกว่านี้ แต่บอกตรงๆ เลยว่าใจป๊อด “ขอบคุณครับ”

เตชิตดึงมือกลับ แล้วเดินฉับๆ กลับไปที่ห้องนอน พอเปิดประตูห้องออกก็หันไปบอกกับคนที่ยืนจ้องตนเองอยู่ “แล้วไม่ต้องมายืนเฝ้าหน้าห้องผมอีกนะเว้ย”

คีรีหัวเราะ “ฝันดีนะครับ”



*TBC*



ในที่สุดเด็กดอยก็หาคนแท็กทีมได้แล้วววว พี่พิงค์ช่วยน้องด้วยนะคะ 55555 (จะไปรอดมั้ยเนี่ยคู่นี้)

และแล้วหมอเต้ก็มีบทสักที ตอนนี้กุ๊กกิ๊กกันพอหอมปากหอมคอไปก่อนนะคะ เดี๋ยวตอนหน้าให้เด็กดอยรุกจีบต่อรัวๆ

ขอบคุณคนอ่านทุกคนมากค่า



ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

หวัย ๆ  หมอเต้เริ่มมีใจ  เริ่มมีเด็กดอยในความคิดคำนึงบ้างแล้วเว้ย

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
อ๋อยอ๋อยอยู่เนี่ย รุกเลยเด็กดอย  :L2:

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
จริงๆ แล้ว คีรีก็จีบเก่งเหมือนกันนะ ทำคะแนนได้ตั้งเยอะ
สงสารแต่เพื่อนที่ี่คอยช่วย เกือบโดนรุมสกรัมซะแล้ว

ออฟไลน์ Ti0590

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
รุกหนักแบบหน้าซื่อตาใสมากๆๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด