เดือนอิงดอย Chapter 35 : เดือนอิงดอย (END)[190619]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เดือนอิงดอย Chapter 35 : เดือนอิงดอย (END)[190619]  (อ่าน 306564 ครั้ง)

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ขอบทลงโทษเด็กดอยกลังโป๊ะแตกบ้างนะคะ
เอาพอกรุบกริบๆ 5555

ออฟไลน์ Rateesiri

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 143
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
แหม เถาปิ่นโตก็ไม่เอาออก ฝาปิ่นโตก็แค่แง้มๆ ตรวจเสร็จแล้วเรอะๆๆๆ

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
ตรวจสอบแบบนี้เราชอบ :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ Ac118

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 611
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-0
โอ้ยยยยยย หมดคำจะพูด ไอ้เด็กหื่นตาใสมันร้ายยยย ความเป็นอมตะของพี่หมอเต้ คงอีกไม่นาน555555555555

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ใจอ่อนกับเด็กจริง ๆ เลยนะคะพี่เตชิน

ออฟไลน์ toomild

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
อุแหมมมม แซ่บไม่หยุดเลยคู่นี้ หมอเต้ยอมเด็กดอยมากไปแล้วนะคะ ต้องตี! :o8:

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
ใกล้แล้วๆ น้องคีรีสู้ต่อไปนะครับ เดี๋ยวคุณเตชิตก็ใจอ่อน

ออฟไลน์ ryukazeII

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ที่ปิดปากไว้นี่กลัวได้ยินชื่อคนอื่นป้ะจ๊ะหนู :hao7:

ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4


Chapter 18 : ความรักหนักอก


ตอนเที่ยงๆ ภายในห้องพักทันตแพทย์ หลังจากไปกินข้าวกันมาแล้ว รวินท์ เตชิตและสิงหาก็มานั่งพักรอเวลาเริ่มงานในช่วงบ่าย

สิงหาบ่นกระปอดกระแปดที่รุ่นน้องทั้งสองจะทิ้งให้เขาทำคลินิกคนเดียวในวันเสาร์ เพราะทั้งคู่จะไปดูการรับน้องขึ้นดอยกัน

ขณะที่คุยกันอยู่นั้น ภาคภูมิซึ่งเป็นหัวหน้าแผนกทันตกรรมก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมยิ้มกว้าง “พูดถึงรับน้องขึ้นดอยกันอยู่พอดีเลย ผมก็เป็นศิษย์เก่านะ เสาร์นี้ก็จะไปดูเหมือนกัน กำลังจะมาชวนพวกคุณอยู่เลยเนี่ย พอดีมีคนสำคัญอยากแนะนำให้รู้จัก แล้วก็จะขอรบกวนพวกคุณให้ช่วยต้อนรับหน่อยน่ะ”

“อันนี้ผมคงต้องขอตัว เพราะผมทำคลินิกแทนสองคนนี้ คงไปด้วยไม่ได้นะครับ” สิงหาปฏิเสธก่อนเป็นคนแรก ตามมาด้วยรวินท์

“อ่า... ส่วนผมกับเต้ก็กะว่าจะไปแต่เช้ามืดเลยครับ ไปดูน้องๆ วิดวะวิ่งขึ้นดอยกัน”

“ไม่เป็นไรๆ ก็ไปดูวิดวะก่อน แล้วค่อยลงมาดูเปิดงานด้วยกันนะ”

“แต่...”

เตชิตหันไปมองเพื่อนรักอย่างเข้าใจ อีกฝ่ายคงอยากจะดูคนรักจนจบงานมากกว่า ปีสุดท้ายของไอ้เด็กพิงค์ซะด้วยสิ เขาเข้าใจความรู้สึกของเพื่อนดี แต่จะปฏิเสธไม่ช่วยเหลือเจ้านายก็ลำบากใจไม่ใช่น้อย “ให้วินไปดูพวกน้องๆ วิดวะเถอะครับ เขาซี้กับพวกเด็กวิดวะ โดยเฉพาะพวกปีสี่นี่สนิทกันมาก แล้วก็เป็นปีสุดท้ายที่จะขึ้นดอยแล้วด้วย เดี๋ยวผมไปกับหมอภูมิเอง โอเคมั้ยครับ”

“โอเคๆ โทษทีนะ ผมก็ลืมไปว่าหมอวินซี้กับเด็กวิดวะซะด้วย”

“เอ๋ หมอภูมิรู้ด้วยเหรอครับ” รวินท์เลิกคิ้วขึ้น

“เข้าเฟซไปทีไรก็เห็นรูปคุณกับเด็กวิดวะเต็มไทม์ไลน์ทุกทีเลย” ภาคภูมิหัวเราะ “งั้นตกลงตามนี้ล่ะนะ ขอบใจมากนะ หมอเต้”

“ครับ ว่าแต่คนสำคัญนี่ใครเหรอครับ บอกให้ผมเตรียมใจนิดนึง”

“ท่านเป็นคุณตาของหลานผม เป็นศิษย์เก่าเหมือนกันน่ะนะ นอกจากนั้นท่านก็เป็นผู้บริหารของโรงแรมในเชียงใหม่ และก็เป็นเจ้าของโรงแรมที่เราไปประชุมกันที่เชียงรายไงล่ะ แผนกทันตกรรมของเราท่านก็บริจาคเงินกับของใช้ให้บ่อยๆ นะ แล้วครั้งนี้ท่านได้รับเชิญมาเป็นแขกวีไอพีของทางมหาลัยเพราะเป็นสปอนเซอร์ใหญ่ด้วยน่ะ”

“อ่อ ครับ” เตชิตยิ้มแห้ง

วีไอพีจริงๆ ด้วยว่ะ

“ไม่ต้องห่วงนะ ท่านเป็นคนใจดี คุยง่าย แต่คุยเก่งมากกก แถมยังพลังงานล้นเหลือ ผมถึงต้องการผู้ช่วยไงล่ะ คนเดียวรับมือท่านไม่ค่อยจะไหว”

โอ้โห งานนี้ท่าจะทั้งเหนื่อยทั้งหูชา

เมื่อภาคภูมิเดินกลับออกไป รวินทร์ก็หันไปมองเพื่อนรัก ใบหน้าสลดลงเล็กน้อย ก่อนเขาจะพูดเสียงอ่อย

“ขอบใจนะเต้ มึงช่วยกูอีกแล้ว”

เตชิตยิ้มบาง “เปลี่ยนคำขอบใจเป็นอย่างอื่นได้มั้ยวะ”

สิงหาเบะปาก “พวกมึงสองคนไปจีบกันหลังเลิกงานนู่น หมั่นไส้เว้ย ไปๆ ลุกไปทำงานกันได้แล้ว” พูดจบก็ลุกขึ้นเดินออกจากห้องไปก่อน เขาเบื่อจะเห็นไอ้สองคนนี่สวีตกันละ เห็นมาเป็นปีแล้วเนี่ย!

แต่ทันตแพทย์รุ่นพี่ก็เปิดประตูห้องทิ้งไว้กว้างอ้าซ่าอย่างมีเลศนัย

สองหนุ่มลุกขึ้นบ้าง ก่อนเตชิตจะโอบไหล่เพื่อนรักไว้แล้วเขย่าเบาๆ “มาๆ จุ๊บทีนึง”

รวินท์หัวเราะพลางเอียงแก้มให้ “เอ้า”

“งกว่ะ แต่แค่แก้มก็ยังดีวะ” เตชิตหอมแก้มเพื่อนรักฟอดใหญ่

“ชื่นใจมะ”

“ที่สุดใน...”

ทันตแพทย์ทั้งสองชะงักกึก หุบยิ้มทันควัน เมื่อเห็นว่าตรงหน้าห้องพักมีทั้งพยาบาลและผู้ช่วยยืนยิ้มกรุ้มกริ่ม ในมือถือโทรศัพท์มือถือเรียงกันเป็นแผง

“เฮ้ย! ฉิบหายละ!”

รวินท์รีบแก้ตัวเป็นพัลวัน “เมื่อกี้ไม่มีอะไรนะครับ! ผมกับหมอเต้เล่นกันเฉยๆ!”

“ค่า~ เล่นกันน่าร้ากกก”

“กูแย่แน่ไอ้เต้!” รวินท์กระซิบ

“กูสิแย่! ถ้ารูปถึงไอ้พิงค์เมื่อไหร่ กูโดนกระทืบจมดินแน่นอน!”



เมื่อถึงเย็นวันศุกร์ ก่อนวันรับน้องขึ้นดอยประจำปี ทุกคณะในมหาวิทยาลัยวุ่นวายกับการตระเตรียมงานกัน คีรีเองก็ต้องไปร่วมซ้อมใหญ่ในการเดินขบวนมหาวิทยาลัย โดยมีเพื่อนสาวสองคนมาอยู่เป็นเพื่อนและเป็นตากล้องจำเป็นให้คณะ ส่วนเพื่อนชายสองหน่อไปช่วยรุ่นพี่ดูแลน้องปีหนึ่ง

การซ้อมรอบแรกจบไปแล้ว แต่ยังมีรอบสองอีกรอบ ในระหว่างที่หยุดพักรอเรียกซ้อมอยู่นั้น คีรีก็เดินมายืนแกร่วอยู่กับเพื่อนสาวทั้งสอง ให้พวกเธอช่วยซับเหงื่อและพัดวีให้

“ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อยสิคีรี นายถือป้ายคู่เดือนมหาลัยนา จะหล่อแพ้ไม่ได้เลยนะเว้ย” เจนี่และยุ้ยแซว พอซับเหงื่อให้เพื่อนและตบแป้งให้จนหน้านวลเด้งแล้วก็หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปต่อ

คีรีหันไปแยกเขี้ยวใส่ “ทำไมต้องทาแป้งด้วยวะ นี่ซ้อมนะ พวกนายเข้าใจอะไรผิดรึเปล่าวะ”

“เอ้า ก็เดี๋ยวถ่ายรูปแล้วหน้าหมอง”

“แล้วพวกนายจะถ่ายรูปไปทำไมนัก! หยุดบ้างก็ได้เว้ย!”

“เอาไว้ขายเก็งกำไร” สองสาวหัวเราะร่วน

“ใครจะซื้อวะ!”

“ล้อเล่นน่า แต่จริงๆ เราว่าก็มีคนอยากได้เยอะแยะไปนะ อีกอย่างพี่สโมฯ ก็บอกให้ถ่ายเก็บไว้เยอะๆ ด้วย นายเป็นหน้าเป็นตาของคณะเราเชียวนะเว้ย”

ทั้งสามคนยืนคุยกันตามปกติ ทั้งที่ดูเหมือนจะทะเลาะกันเสียมากกว่า แต่กลับดูไม่ปกติในสายตาคนอื่น พวกนักศึกษาต่างคณะที่อยู่แถวนั้นต่างเข้าใจว่าหนึ่งในสองสาว ไม่คนใดก็คนหนึ่งต้องเป็นแฟนของคีรีแน่ๆ ก็หน้าตาดี โพรไฟล์ดี คงไม่เหลือความโสดไปถึงสาวๆ คนอื่นๆ ในมหาวิทยาลัยหรอก ส่วนสองสาวก็ทั้งสวยและน่ารักไปคนละแบบ

คีรีหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูเป็นระยะๆ เผื่อจะมีข้อความมาจากทันตแพทย์หนุ่มบ้าง

“แหม พะวงหาทั้งวันเลยนะ นัดไว้แล้วยังล่ะวันนี้”

“อือ เราบอกหมอเต้ว่าสองทุ่มจะไปหาที่คลินิก แต่เขายังไม่ตอบอะไรกลับมาเลยว่ะ” เด็กหนุ่มตอบเสียงอ่อย “ซ้อมก็ไม่เสร็จสักที”

“โทรไปหาเขาดิ”

“เขาอาจจะขับรถอยู่”

“เอ๊า ยุคนี้เขาไม่ต้องยกมือถือขึ้นมาก็คุยได้นะ นายรู้ป่ะ”

“เราก็ไม่ได้มาจากยุคหินนะเว้ย”

“พะวงอยู่ได้ ทำหน้าด้านๆ แล้วโทรไปเลย”

คีรีขมวดคิ้ว แต่ก็เดินไปหลบหลังต้นไม้ตรงที่เสียงไม่ค่อยดังนัก แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกไป

เสียงเรียกเข้าที่ปลายสายดังอยู่หลายครั้ง ก่อนจะมีคนกดรับสาย

“คุณเตชิต!”

“เต้ขับรถอยู่น่ะ มีอะไรเหรอ”

เด็กหนุ่มชะงักค้าง ไม่นึกว่าจะเจอหมอวินเข้าอย่างจัง หัวใจเขาร่วงวูบไปอยู่ใต้ฝ่าเท้าแล้ว

“เอ้า มีอะไรก็ไม่พูด”

“เอ่อ คือผม...”

แต่แล้วเสียงคนที่ปลายสายก็เปลี่ยนไป เป็นเสียงของเจ้าของโทรศัพท์เอง “ว่าไง”

“คุณเตชิต... ไม่ตอบข้อความผมเลย”

“อ้อ โทษที วันนี้ยุ่งๆ น่ะ ผมลืมไปเลย”

ลืมเหรอ... โห เขารู้ตัวเลยว่าไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย

“ส่งมาว่าไงนะ”

ทั้งที่เปิดอ่านเรียบร้อยแต่ก็ยังถามเขาอีก แปลว่าไม่ได้ใส่ใจอะไรกับข้อความของเขาเลย คิดแล้วเจ็บชะมัด

“คีรี?”

“ไม่มีอะไรสำคัญหรอกครับ ช่างมันเถอะ ขอโทษที่รบกวน” จากนั้นเด็กหนุ่มก็กดวางสายไป เขายืนจ้องโทรศัพท์ในมืออยู่ครู่ใหญ่ ในใจนึกอยากจะโกรธ อยากจะงอนอีกฝ่าย แต่มันคงไม่มีผลอะไร เพราะนอกจากหมอเต้จะไม่ง้อเขาแล้ว ยังอาจจะดีใจที่เขาไม่ไปหาเสียอีก

“คีรี คุยเสร็จยัง พี่เขาเรียกซ้อมแล้ว”

เจ้าของชื่อเรียกเงยหน้าขึ้น รีบเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋ากางเกง “ไปเดี๋ยวนี้ล่ะ” ก่อนจะก้าวฉับๆ ตรงไปยังกลุ่มนักศึกษาที่ยืนตั้งแถวรอกันอยู่

การซ้อมใช้เวลานานกว่าที่คิด กว่าจะเลิกซ้อมก็ปาไปหนึ่งทุ่มกว่าๆ แต่เสร็จแล้วก็ยังต้องไปรวมตัวทบทวนกำหนดการของวันพรุ่งนี้เป็นครั้งสุดท้าย จนเกือบสองทุ่มจึงได้ฤกษ์แยกย้ายกันกลับ

“หิวชะมัดเลย” เจนี่บ่นอุบ

“ยุงก็เยอะด้วย” ยุ้ยบ่นตาม

“ขอบใจที่มาอยู่เป็นเพื่อนนะ จริงๆ ไม่ต้องก็ได้” คีรีพูดเสียงอ่อยอย่างรู้สึกผิด แต่เขาก็ขอบคุณเพื่อนทั้งสองมากจริงๆ นะ ที่จริงพวกเธอจะกลับไปก่อนก็ได้ แต่จะทิ้งเขาไว้คนเดียวก็คงเป็นห่วง ถึงพวกเธอจะไม่พูดออกมาตรงๆ ก็เถอะ “เดี๋ยวเลี้ยงข้าว แล้วไอ้สองคนนั่นล่ะ”

“เห็นว่าไปส่งน้องๆ กลับหอน่ะ แล้วก็จะไปกินข้าวกับพวกพี่ปีสามปีสี่”

เด็กหนุ่มพยักหน้าหงึกๆ “โอเค งั้นเราไปกินกันสามคนละกัน”

พวกเขาไปกินข้าวกันที่ร้านอาหารใกล้ๆ หอพักของสองสาว พอกินเสร็จพวกเธอก็ไล่คีรีให้รีบกลับ

“นายไม่ไปหาหมอเต้เหรอ สองทุ่มกว่าแล้วนะ”

“ไม่ไปละ ไปทุกศุกร์ เกรงใจเขา”

“อาทิตย์นึงได้เจอกันไม่กี่วัน ไม่ต้องเกรงใจก็ได้มั้ง”

“กับคนที่ไม่อยากเจอสักเท่าไหร่ เจอปีละครั้งยังลำบากใจเลย”

สองสาวนิ่งอึ้ง “คีรี นายดราม่าอะไรวะ งอนอะไรหมอเต้ล่ะเนี่ย”

เจ้าของชื่อถอนหายใจหนักๆ “ไม่ได้งอน แต่คิดว่าเราคงน่ารำคาญมากน่ะ”

“เขาบอกเหรอ”

“เปล่า แต่เขาไม่รับโทรศัพท์เรา ให้หมอวินรับ เมสเสจที่ส่งไป เขาเปิดดูแต่ไม่อ่าน แล้วก็ไม่สนใจจะตอบด้วย”

เจนี่และยุ้ยเข้าใจเพื่อนรักทันควัน พวกเธอหันมองหน้ากัน พยายามหาอะไรมาปลอบใจอีกฝ่าย “เฮ้ย อย่าเพิ่งคิดมาก บางทีหมอเต้เขาอาจจะงานยุ่งมากก็ได้ อีกอย่างถึงวันนี้ไม่เจอ ไว้เจอกันพรุ่งนี้หรือมะรืนนี้ก็ได้ไง เราว่าตอนนี้นายควรรีบกลับไปอาบน้ำนอน เอางานพรุ่งนี้ก่อน นายต้องมาแต่งตัวแต่งหน้าแต่เช้ามืดนะเว้ย เดี๋ยวไม่หล่อเด้ง”

“อือ”

“อย่าทำหน้าเศร้าแบบนี้สิวะ ไม่ชินเลย” เจนี่ตบไหล่เพื่อนหนุ่มเบาๆ “ไปๆ กลับกันเหอะ”

ทั้งสามคนแยกย้ายกันกลับ สองสาวกลับไปด้วยกัน ส่วนคีรีก็เดินกลับไปที่รถของตัวเอง พอเข้าไปนั่งแล้วก็เอนหลังพิงเบาะพลางถอนหายใจหนักๆ

จะไปหาหมอเต้ดีไหมนะ ไหนๆ ก็บอกไว้แล้ว

เด็กหนุ่มหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู เผื่อว่าจะมีข้อความของเตชิตตอบกลับมาบ้าง หากพอกดๆ ดูหน้าจอกลับมืดลงสนิท “อ้าว แบตหมดเหรอวะเนี่ย”

ก็อาจจะดี เพราะถ้าเปิดมาแล้วยังไม่มีข้อความจากหมอเต้ตอบกลับมาเลย เขาคงจะยิ่งโคตรเซ็ง ซึ่งเขาก็คิดว่าไม่น่าจะมีนั่นล่ะ

เอาไว้ไปหาหมอเต้เย็นวันพรุ่งนี้แทนละกัน ขอเวลาทำใจให้หายงอนก่อน คนอย่างเขาต้องมานั่งเลียแผลใจให้ตัวเอง น่าอนาถชะมัด

คีรีขับรถออกไปช้าๆ ไม่ได้ชาร์จโทรศัพท์มือถือเพราะไม่มีอารมณ์จะควานหาสายชาร์จ และคิดว่าเดี๋ยวไปชาร์จที่ห้องทีเดียวก็ได้

งานวันพรุ่งนี้น่ะ คนที่ตื่นเต้นที่สุดก็คงเป็นคุณตาของเขานี่ล่ะ ตื่นเต้นขนาดที่มาถึงเชียงใหม่ตั้งแต่เที่ยง ท่านชวนให้เขาไปพักที่โรงแรมด้วยกันเหมือนทุกที แต่เพราะเขาต้องตื่นเช้ามาก เลยเลือกที่จะกลับมานอนที่คอนโดมิเนียมดีกว่า

ขณะที่ขับรถผ่านสวนสาธารณะก่อนจะถึงที่จอดรถของคอนโดมิเนียม เขาหันไปเห็นรถคันคุ้นตาจอดอยู่ตรงทางเท้าข้างสวนสาธารณะเข้าพอดี เด็กหนุ่มเบิกตาโพลง

“เฮ้ย!”

คีรีรีบขับรถไปหาที่จอด โชคดีที่เขามีเสื้อผ้าพื้นเมืองติดไว้ในรถหลายชุดเผื่อฉุกเฉิน เขารีบเปลี่ยนเสื้อผ้า เสร็จแล้วก็หันมองไปรอบๆ อย่างระมัดระวัง จากนั้นจึงย่องลงมาจากรถ แล้ววิ่งตรงไปยังรถของทันตแพทย์หนุ่ม

เมื่อไปถึงรถก็เห็นว่าเจ้าของรถไม่ได้นั่งอยู่ในนั้น เขาหันรีหันขวาง แล้ววิ่งตัดสวนสาธารณะ ตรงไปยังหอพักที่เขาใช้หลอกอีกฝ่าย

พอเห็นเตชิตยืนอยู่ที่หน้าหอพัก เขาจึงรีบโบกไม้โบกมือร้องเรียก “คุณเตชิต!”

เจ้าของชื่อเรียกหันขวับ สีหน้าบอกบุญไม่รับ “โผล่มาจนได้นะ”

“คุณเตชิตมานานรึยัง” หัวใจของคนอ่อนวัยกว่าเต้นรัวแรง ไม่อยากจะเชื่อสายตาเลย หมอเต้มาหาเขา ยืนอยู่ตรงหน้าเนี่ย ตัวเป็นๆ ด้วย

“เพิ่งมา” คนถูกถามตอบเสียงขรึม

“เอ่อ... คุณเตชิตมีอะไรรึเปล่าครับ”

“มีอะไรงั้นเรอะ ถามมาได้นะ ก็คนที่บอกว่าจะมาหาไม่มาตามนัดน่ะสิ”

คีรีอ้าปากค้าง “ก็... ผมไม่นึกว่าคุณจะรอ”

“โทรไปหาก็โทรไม่ติด” เตชิตพูดพร้อมส่งสายตาดุๆ ใส่

เด็กหนุ่มหน้าเสีย เขารีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาให้อีกฝ่ายดู “แบตหมดครับ ผมขอโทษ”

“แล้วไปไหนมา กินอะไรมารึยัง”

“กินแล้วครับ ผมไปกินข้าวกับเพื่อนมา” คีรีพูดเสียงอ่อย รู้สึกผิดอย่างแรง “คุณเตชิตล่ะ”

“กินมานิดหน่อยแล้ว ขืนรอคุณ ผมก็หิวตายน่ะสิ” ทันตแพทย์หนุ่มถอนหายใจ เขาเองก็เซ็งตัวเองเหมือนกัน ที่แค่รอเด็กหนุ่มไม่ถึงชั่วโมงก็ไม่ได้ พอติดต่อไม่ได้ก็เป็นห่วงสารพัดจนต้องถ่อมาหาถึงหอพักนี่ แล้วยังมาเจอสารพัดพิรุธของอีกฝ่ายอีก

“ผมขอโทษ ขอโทษจริงๆ นะครับ”

“ช่างเหอะ ผมไม่ได้ตอบข้อความคุณ ก็ไม่ถือว่าคุณผิดนัดซะทีเดียวหรอก” เตชิตขมวดคิ้วพลางเม้มปากครุ่นคิด “ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว งั้นผมกลับล่ะ”

“เดี๋ยวสิครับ” คีรีดึงทันตแพทย์หนุ่มเข้าไปสวมกอด “ผมนึกว่าคุณเตชิตไม่ได้อ่านข้อความ ผมก็เลย...”

เตชิตยืนนิ่งให้เด็กหนุ่มกอดเขาไว้ตามใจ จากนั้นก็ผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ “ขอโทษที่ไม่ได้ตอบข้อความ วันนี้คนไข้เยอะมาก ตอนพักกลางวันก็รีบๆ พอเลิกงานไอ้วินก็เร่งยิกๆ จะรีบมาเชียงใหม่อีก มันนัดน้องๆ วิดวะไว้น่ะ ผมได้แค่หยิบโทรศัพท์มาขึ้นมาดูแล้วก็ขับรถออกมาเลย”

หมอเต้รู้... รู้ว่าเขางอน อุตส่าห์มาง้อด้วย

คนอ่อนวัยกว่าส่ายหน้ารัว เขากระชับอ้อมแขนแน่น “แค่คุณเตชิตมาหาผมก็ดีมากแล้ว ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ ผมดีใจจะแย่แล้วเนี่ย”

ทันตแพทย์หนุ่มยิ้มบาง ก่อนสีหน้าของเขาจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย คิ้วทั้งสองข้างย่นเข้าหากัน “พรุ่งนี้บ่ายไปดูหนังกันมั้ย”

เป็นครั้งแรกที่เตชิตเอ่ยปากชวนก่อน คีรีผละออกอย่างงงๆ พร้อมทั้งอ้าปากค้าง “....”

“เอ้า ทำหน้าเหมือนเจอผี จะไปไม่ไป”

“ไปสิครับ! ไป!” ก่อนจะชะงักแล้วนึกขึ้นได้ หลังจากเดินถือป้ายเปิดงาน เขาต้องไปดูแลรุ่นน้องขึ้นดอย ตอนเย็นก็นัดคุณตาไปกินข้าวที่โรงแรมไว้แล้วด้วย เวรกรรมฉิบหาย! “แต่เอ่อ พรุ่งนี้... ดึกๆ เลยได้มั้ยครับ”

“อ้าว ไม่ว่างเหรอ ติดอะไรล่ะ”

“ติด...งานครับ” คนอ่อนวัยกว่าตอบเสียงอ่อย

ติดงาน หรือเพราะมีรับน้องขึ้นดอยกันแน่วะ

“งั้นไว้อาทิตย์หน้าก็ได้”

คีรีทำหน้ายุ่ง ตอนนี้อยากร้องไห้แล้ว แม่งเอ๊ย! ทำไมเขาซวยอย่างนี้วะ “แต่คุณเตชิตอุตส่าห์ชวน”

“อาทิตย์หน้าไม่เรียกว่าชวนรึไงล่ะ”

“ต้องรออีกตั้งอาทิตย์... วันอาทิตย์นี้ไม่ได้เหรอครับ”

“ผมต้องกลับลำพูนนะ”

“งั้นไม่ต้องไปดูหนังก็ได้ ผมไปลำพูนกับคุณดีกว่า แต่ขอค้างด้วยนะครับ” เด็กหนุ่มซุกใบหน้าลงตรงซอกคอคนในอ้อมแขน แล้วพูดเสียงอ้อน “นะครับ ผมคิดถึงคุณ ได้เจอกันแป๊บเดียว ยังไม่พอเลย”

เตชิตยิ้มมุมปาก ไอ้เด็กนี่อ้อนเก่งเสียจริง ช่างพูดช่างหยอด แล้วเขาก็ใจอ่อนมันเสียทุกที “ก็ตามใจ”

“คุณเตชิตน่ารักที่สุด” ไม่พูดเปล่าแต่เนียนหอมแก้มอีกฝ่ายด้วย

ทันตแพทย์หนุ่มเขกศีรษะคนอ่อนวัยกว่า “ไม่อายชาวบ้านเขาบ้างเรอะคุณ”

“ไม่อายหรอก ก็ผมรักของผมนี่”

เตชิตส่ายหน้าไปมา “ไปๆ ขึ้นห้องไปได้แล้ว เดี๋ยวผมเดินไปส่ง”

คีรีกระตุกยิ้มมุมปาก เพราะถ้าขึ้นไปบนห้อง เขาก็จะมีโอกาสได้ทำมากกว่าหอมแก้มแน่นอน และหมอเต้ก็เปิดไฟเขียวสว่างจ้าซะขนาดนี้

หากเพราะกรรมที่ทำไว้น่าจะมีเยอะแบบอินฟินิตี้ ทำให้เด็กหนุ่มนึกขึ้นมาได้ว่ากุญแจห้องทั้งของคอนโดมิเนียมและหอพักด้านหลังอยู่ในเป้ที่ในรถ เขาไม่ได้หยิบมาด้วยเพราะรีบจัด

ฉิบหาย! ทำไมกูซวยขนาดนี้วะ!

“เอ่อ...”

“มีอะไร”

“ไม่ต้องไปส่งผมหรอก ผมไปส่งคุณเตชิตที่รถดีกว่าครับ” คีรีพูดเสียงอ่อย

“หืม?” เตชิตขมวดคิ้ว เพราะปกติเด็กหนุ่มแทบจะลากเขาขึ้นห้อง แต่พอเขาเปิดโอกาสให้ ดันปฏิเสธเสียอย่างนั้น มีพิรุธอย่างแรง “ไม่อยากให้ผมขึ้นไปที่ห้องเหรอ”

“เอ่อ...” เด็กหนุ่มหน้าซีดลงเล็กน้อย

“บนห้องมีอะไร ซ่อนใครไว้รึไง”

คีรีเบิกตากว้าง “เฮ้ย เปล่านะครับ! คุณเตชิตอย่าเพิ่งเข้าใจผิด คือ... คือ... วันนี้ผมไม่นอนห้อง” เขามั่วตอบออกไป

“จะไปนอนไหน”

“ไปค้างกับเพื่อนครับ”

“แล้วคุณกลับมาที่นี่ทำไม”

คีรีอ้ำอึ้ง ไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไรดี จนตรอกมากถึงมากที่สุด แต่ก็ยังพยายามแถต่อ “คือ... จะกลับมาเอาของครับ แต่ลืมกุญแจห้องไว้ที่เพื่อน”

“โทรศัพท์แบตหมด กุญแจห้องก็ไม่มี นี่คุณไปทำอะไรมากันแน่เนี่ย” เตชิตพูดเสียงดุ

“ผม...”

“ให้ผมขับรถพาไปเอากุญแจที่เพื่อนมั้ย”

เด็กหนุ่มทำหน้าเลิ่กลั่ก เวลานี้วางแผน คิดคำตอบอะไรไม่ทันแล้ว “ไม่! ไม่ต้องหรอกครับ!”

“แล้วคุณจะไปยังไง ไปๆ มาๆ ไม่เสียเวลาเหรอ นี่มันดึกแล้วนะ”

“คือ...” คนอ่อนวัยกว่าขมวดคิ้วมุ่น “ผมคงไม่เอาของแล้ว เดี๋ยวไปห้องเพื่อนแล้วจะนอนเลยน่ะครับ”

“งั้นห้องเพื่อนอยู่ไหน เดี๋ยวผมไปส่ง”

คีรีส่ายหน้ารัว “ไม่ต้องหรอกครับ เดี๋ยวผมไปเองดีกว่า ดึกแล้ว คุณเตชิตจะได้พักผ่อน”

ทันตแพทย์หนุ่มรู้สึกหงุดหงิดอย่างแรง ท่าทางที่เหมือนมีอะไรปิดบังอยู่ของเด็กหนุ่ม เห็นแล้วก็ยิ่งอารมณ์เสีย “คุณปิดบังอะไรผมอยู่กันแน่ จะไปค้างกับเพื่อนจริงรึเปล่าวะ”

คนอ่อนวัยกว่าหน้าเสีย เขารีบคว้าแขนของเตชิตไว้ “เพื่อนจริงๆ นะครับ ผมไม่ได้ปิดบังอะไร ไม่มีอะไรเลยจริงๆ ครับ ผมแค่ไม่อยากรบกวนคุณ”

เตชิตประสานสายตากับเด็กหนุ่ม ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ “ช่างเถอะ ที่จริงคุณจะทำอะไรมันก็เรื่องของคุณนั่นละ ผมกลับก็ได้”

“คุณเตชิตอย่าพูดแบบนี้สิครับ”

เจ้าของชื่อดึงแขนตนเองออกจากการเกาะกุม แล้วสาวเท้าตรงไปยังรถที่จอดทิ้งไว้ ส่วนอีกฝ่ายก็เดินก้มหน้าตามมาทางด้านหลัง พอมาถึงรถเขาก็ก้าวขึ้นไปนั่งโดยไม่หันกลับไปทางเด็กหนุ่ม แต่พอจะปิดประตูรถ อีกฝ่ายก็จับประตูไว้

“ผมขอโทษครับ”

น้ำเสียงเศร้าของเด็กหนุ่มทำให้เตชิตต้องเงยหน้าขึ้นมอง 

“ที่จริงผมอยากจะชวนคุณค้างด้วยกันด้วยซ้ำ แต่พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้ามากเพราะผมมีงานแต่เช้า คืนนี้ก็เลยต้องไปค้างกับเพื่อนน่ะครับ”

“อืม”

“วันอาทิตย์ผมจะไปหาคุณแต่เช้าเลย”

“ผมต้องทำงานนะคุณ”

“ให้ผมเฝ้าอยู่หน้าคลินิกทั้งวันก็ยังได้” เด็กหนุ่มเอื้อมมือไปจับมือคนที่นั่งอยู่ด้านหลังพวงมาลัยรถ จากนั้นก็โน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ แล้วจูบตรงมุมปากอย่างแผ่วเบา “อย่าโกรธผมเลยนะ”

ไอ้เด็กนี่อ้อนเก่งชะมัด! เตชิตถอนหายใจยืดยาว

“ขอจูบราตรีสวัสดิ์หน่อยได้มั้ยครับ” คีรีไม่รอให้อีกฝ่ายตอบ เขาแนบจูบริมฝีปากตรงหน้าทันที ทว่าสัมผัสกันเพียงแค่ภายนอกเท่านั้น “ราตรีสวัสดิ์ครับคุณเตชิต”

ทันตแพทย์หนุ่มพยักหน้า เขาไม่ได้พูดอะไร พออีกฝ่ายถอยออกไปก็ปิดประตูรถ แล้วขับรถออกไปอย่างเซ็งๆ

ขณะที่ขับรถไปก็ชำเลืองมองเด็กหนุ่มซึ่งยังคงยืนนิ่งมองมาที่รถ เขาบ่นกับตัวเองเบาๆ

“มึงจะหงุดหงิดอะไรนักวะ ไอ้เต้ ไอ้บ้า!”

เตชิตถอนหายใจเฮือกใหญ่



ย้อนเวลากลับไปเมื่อตอนที่ทันตแพทย์หนุ่มขับรถเข้ามาจอดที่ตรงสวนสาธารณะแห่งนี้ เขาเดินไปยังหอพักของเด็กหนุ่ม ที่ข้างในตึกไม่ได้มีคนเฝ้าจึงขึ้นไปข้างบนได้ง่ายๆ พอไปถึงห้องของคนอ่อนวัยกว่าก็เคาะประตูเรียก ยืนรออยู่สักพักใหญ่บานประตูก็ไม่มีทีท่าว่าจะเปิดออก เขาจึงคิดว่าจะลงไปนั่งรอที่รถดีกว่า ทว่าก่อนจะลงมาก็เดินสวนกับคนที่พักในหอพักชั้นเดียวกับเด็กหนุ่ม

เตชิตสบตากับหญิงวัยกลางคนที่กำลังเปิดประตูห้องพักออก เขารีบรุดเดินเข้าไปหา “ขอโทษนะครับ พอจะรู้จักคนที่พักห้องในสุดนั่นมั้ยครับ”

“ที่เป็นนักศึกษาหน้าตาหล่อๆ ใช่มั้ย”

นักศึกษา?

ทันตแพทย์หนุ่มเลิกคิ้วขึ้น เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดเปิดรูปแล้วส่งให้เธอดู “คนนี้น่ะครับ”

“ใช่ๆ คนนี้แหละ น้าไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวหรอกนะ ไม่เคยคุยกัน แต่เคยเห็นมาที่ห้องกับเพื่อนสองสามครั้งน่ะนะ”

“หือ มาสองสามครั้ง? เขาไม่ได้กลับห้องทุกคืนเหรอครับ”

“ไม่นะ ถ้าน้องเขามาก็ต้องเดินผ่านห้องน้านะ อย่างน้อยก็ต้องได้ยินเสียงอะไรบ้าง ห้องนี้ปกติดูเหมือนว่าจะปิดไว้เฉยๆ คงเอาไว้เก็บของมากกว่าน่ะ เห็นมาแต่ละครั้งก็หอบข้าวของมาทิ้งไว้ที่ห้องเยอะมาก”

“แล้วทำไมคุณน้าถึงรู้ว่าเขาเป็นนักศึกษาล่ะครับ”

“ก็เคยเห็นใส่ชุดนักศึกษามากับเพื่อนๆ น่ะสิ”

“อ่อ ขอบคุณมากนะครับ”

เตชิตเดินลงไปยืนอยู่ที่ข้างหน้าตึก ถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า ขณะที่สายตาทอดมองออกไปยังต้นไม้เล็กใหญ่ภายในสวนสาธารณะ

ดูเหมือนว่าเรื่องที่เขากับไอ้วินสงสัยจะเป็นเรื่องจริงแน่แล้ว มาจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่อาจรู้ได้ว่าเด็กหนุ่มปิดบังตัวตนกับเขาไปเพื่ออะไร แต่ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้กันวะ ทำไมถึงบอกเขาไม่ได้ว่าเป็นนักศึกษา ทำไมต้องโกหกว่าเป็นชาวเขา

แล้วอย่างนี้คำบอกรักที่อีกฝ่ายพร่ำบอกนั่นล่ะ เขาจะเชื่อถือได้ขนาดไหนกัน



ท้องฟ้าในยามค่ำคืนมืดมิด แต่สองฝั่งถนนที่ทันตแพทย์หนุ่มขับรถผ่านเปิดไฟไว้สว่างไสว เวลานี้จำนวนรถบนท้องถนนบางตาลงไปมากแล้ว

สีหน้าของเตชิตเคร่งขรึม ใจเป็นกังวล ครุ่นคิดอยู่แต่เรื่องของเด็กหนุ่มไปตลอดทาง



*TBC*


กรีสสส เห็นแววคนใกล้โป๊ะแตกแล้วใช่มั้ยค้า ขอความกรุณา ช่วยกันกด 99 เป็นกำลังใจให้เด็กดอยด้วยยย 55555

ตอนหน้ารู้กัน บอกแค่สั้นๆ

ขอบคุณคนอ่านทุกคนมากๆ ค่า คืนนี้นอนหลับฝันดีนะค้า~
:katai3:




ออฟไลน์ fammykiki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 329
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ความจริงเริ่มเปิดเผยแล้วววววว  :L1: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1340
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
ไม่รีบสารภาพบาป ให้หมอเต้ต่อติดเรื่องเอง มีแนวโน้มอกหักแน่นอนคีรี

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
:pig4: :pig4: :pig4:


โป๊ะแตก  ใกล้จะถูกเสริฟแล้ว   อิอิ

ออฟไลน์ Chucream.nabi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :serius2: :serius2: :serius2:
โป๊ะแล้วววววววววววว

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
ขอบคุณที่มาส่งเข้านอน ว่าแต่เด็กดอยนี่อ้อนเก่งสุดๆ เลยน้าาา
 :hao3: :hao3:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ใจจดจ่อถึงแต่ตอนหน้าอ่ะบอกเลย

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
เดี๋ยวจะโปะแตกจานใหญ่กว่านี้อีก

ออฟไลน์ lune

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-2

ออฟไลน์ PsychePie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
นั่นไงล่ะ ความจริงที่บอกไม่หมดกำลังแสดงผลละ
โป๊ะแบบจังๆ ตอนขึ้นดอยแน่นอน พร้อมภาพหอมแก้มหมอวิน

ออฟไลน์ imac

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 931
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
คีรีรีบบอกความจริงก่อนก็ดีนะ หมอเต้รู้ทีหลังเป็นเรื่องยาวแน่

ออฟไลน์ Rateesiri

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 143
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
อึดอัดจัง เหมือนสองคนนี้ต่างคนต่างคิด มันเข้ากันได้จริงเหรอกับคนที่ดูไม่จริงใจต่อกันทั้งสองฝ่าย อินๆๆๆๆ :ling1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
จะโป๊ะแตกของจริงแล้ว

ออฟไลน์ chancha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
99 ขอให้รอดปลอดภัยนะคีรี

ออฟไลน์ muiko

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-3
เอาจริงๆ คีรี มีโอกาสบอกความจริงเยอะมากแล้วนะ
แล้วพี่หมอเต้ก็ดูพร้อมรับฟังและเข้าใจสุดๆ
แต่ถ้าให้รู้ความจริงเอง คงมีโกรธบ้างแล้วหล่ะทีนี้
ตอนนี้พี่เต้เริ่มไม่มั่นใจคำว่ารักของคีรีละด้วย
จะสมน้ำหน้าดีมั้ยเนี่ย

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
99 ฮ่าๆ
ยังไงหมอเต้ก็อย่าโกรธน้องคีรีเลยนะครับ ที่ทำไปทั้งหมด ก็เพราะรักนี่แหละ

ออฟไลน์ FrozenSnow2019

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ฉันสัมผัสได้ว่างานกำลังจะเข้าเด็กดอยเร็วๆนี้ R.I.P. ล่วงหน้าเลยจ้า

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
ใกล้จะแดงละวุ้ยยยย

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
คำโกหกกำลัง

ย้อนมาค้ำคอเด็กดอย

ทำไมแกไม่สารภาพความจริงหืมมมม

รอให้หมอเต้รู้ความจริงเองเขาไม่โกรธเรื่อง

ที่ปิดบังเขาหรอกแต่เขาจะเข้าใจผิด

ว่านายกลัวเขาจะหลอกเอาเงินนาย

นายไม่ใว้ใจเขาเลยปิดบังเขาอ่ะดิ

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
99 ขอให้อยู่รอดปลอดภัยนะคีรี และขอให้ง้อหมอเต้ให้ได้ตอนรู้ความจริง

ออฟไลน์ Destiny

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 108
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ชอบความถึงเขาหลอกแต่เต็มใจให้หลอกของหมอเต้  :o8:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด