IN CONTROL ... ในปกครอง : Special Chapter : NubNab : July 17, 18 : P.115
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: IN CONTROL ... ในปกครอง : Special Chapter : NubNab : July 17, 18 : P.115  (อ่าน 703807 ครั้ง)

ออฟไลน์ bambooiihallo

  • ยู้ฮู >w<
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1503/-19
อ้างถึง
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม



IN CONTROL {ในปกครอง }


เล่ม 1


เล่ม 2


เล่ม 3


เล่ม 4


Box

สั่งซื้อได้ที่ https://siamintershop.com/ หรือร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป

-----------------------------------------------------------------------

นิยายเรื่องนี้แต่งมาก่อนหลายเรื่อง แต่ก็ไม่พอใจสักทีเลยดองไว้มาสักพัก ปรับไปแก้มา จนตอนนี้ก็ยังปรับอยู่…แหะๆ

 

ด้วยความที่เรื่องนี้จะมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ ตัวละคร อาจจะซับซ้อน(อีกแล้ว) อิอิ

 

ชอบไม่ชอบยังไงฝากไว้ในอ้อมอกอ้อมใจ

 

ขอคอมเม้นเป็นกำลังใจ และฝาก

#ในปกครอง

ในทวิตเตอร์ด้วยค่า

 

...กราบ...



ปล. นิยายเรื่องนี้ไปไม่ถึงโทนสีเทาค่ะ ... เอาเป็น สีฟ้าจางๆ แล้วกัน  :กอด1:



------------------------------------------------
ถ้าเลือกได้พี่คงอยากให้เจ้าจันทร์เป็นแค่นกค๊อกคาเทล...มีชีวิตอยู่แค่ในกรงให้พี่ได้...รัก
------------------------------------------------



Content

Prologue(เลื่อนลง)

Act 1 The Emperor

Chapter 1 The Bless (เลื่อนลง)
Chapter 2 Morning Care (เลื่อนลง)
Chapter 3 Outside the cage
Chapter 4 Night Care
Chapter 5 The wings
Chapter 6 Utopia
Chapter 7 Biter
Chapter 8 Time
Chapter 9 Make Love
Chapter 10 Q
Chapter 11 Chocolate
Chapter 12 Forgiveness
Chapter 13 Dream
Chapter 14 No Kiss
Chapter 15 Jealous
Chapter 16 Family Time
Chapter 17 New Moon
Chapter 18 Hide and seek
Chapter 19 As a Cockatiel
Chapter 20 Grand papa
Chapter 21 Body Language
Chapter 22 Fortune Teller
Chapter 23 Dad&Mom
Chapter 24 Third Party
Chapter 25 MoonyPeeDubPeeDoo
Chapter 26 Realistic
Chapter 27 Punishment
Chapter 28 The After
Chapter 29 Healing
Chapter 30 The Answer
Chapter 31 Mom
Chapter 32 If
Chapter 33 The Winner
Chapter 34 Love Plan
Chapter 35 Bride Price
Chapter 36 Deal
Chapter 37 Closer
Chapter 38 Moreover
Chapter 39 Life's goal

Act 2 The Empress

Chapter I Begin Again
Chapter II Rabbit Fever
Chapter III Daddy Rabbit
Chapter IV Another Kiss
Chapter V Sexy
Chapter VI Happy Machine
Chapter VII Levels of relationship
Chapter VIII Definition
Chapter IX Paranoid
Chapter X Party Boy
Chapter XI Surprise
Chapter XII Damn Hot
Chapter XIII Amphawa
Chapter XIV Fourth Party
Chapter XV Milky Moon
Chapter XVI Rumor
Chapter XVII Your Bird
Chapter XVIII Out Of Control
Chapter XIX Eclipse
Chapter XX Shortcut
Chapter XXI Game Over
Chapter XXII Willing Victim
Chapter XXIII Rebel
Chapter XXIV Engage
Chapter XXV Kanticha
Chapter XXVI Bad Moony
Chapter XXVII Trainee
Last Chapter Ever After

Special Christmas day
Special New Year
Special Thanks : A day with the one
Special Chapter NubNab
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-03-2019 11:17:16 โดย bambooiihallo »

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
Re: IN CONTROL ... ในปกครอง
«ตอบ #1 เมื่อ01-10-2017 23:00:01 »

ปาดดดดดด

ออฟไลน์ bambooiihallo

  • ยู้ฮู >w<
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1503/-19
Re: IN CONTROL ... ในปกครอง : PROLOGUE : Oct 1, 17
«ตอบ #2 เมื่อ01-10-2017 23:00:47 »

PROLOGUE



ถ้าเจ้าจันทร์อยากได้ดาวหรือเดือน พี่จะคว้ามาให้

ถ้าเจ้าจันทร์อยากมีปีก พี่ก็จะหาปีกให้

แต่ถ้าเจ้าจันทร์อยากได้อิสระ พี่จะไม่ให้

อิสระมันน่ากลัว...มันจะขโมยเจ้าจันทร์ไปจากพี่

มันจะทำให้โลกทั้งใบของเจ้าจันทร์ไม่ได้มีแค่พี่...แล้วเจ้าจันทร์จะหนีพี่ไป

โลกของพี่กว้างกว่าของเจ้าจันทร์ แต่เจ้าจันทร์มีค่ากว่าทุกอย่าง

แต่โลกของเจ้าจันทร์ที่เคยมีแค่พี่....พี่ไม่มั่นใจว่าเจ้าจันทร์จะยังเลือกพี่เหมือนกันไหม

ถึงวันนั้น...พี่คงกลายเป็นคนใจร้าย...ที่จะกระชากปีกเจ้าจันทร์ และขังเอาไว้เหมือนนก..

นกค๊อกคาเทลที่เจ้าจันทร์ชอบนักหนา...

แต่มันก็อยู่ได้แค่ในกรง….มีชีวิตแค่ให้พี่ได้รัก…

 

 

เจิ้น...ชื่อที่เรียกบ่อยที่สุด

เจิ้นเป็นผู้ชายผมยาวและมักจะใส่ชุดสีดำ

เจิ้นไม่ได้ชอบสีดำ แต่เจิ้นต้องใส่เพราะเป็นหน้าที่

เจิ้นต้องไว้ผมยาวทั้งๆที่ไม่ชอบเพราะมันเป็นหน้าที่

มีอะไรอีกหลายอย่างที่เจิ้นต้องทำเพราะหน้าที่

ผมสงสัยว่าจริงๆแล้วเจิ้นอยากทำอะไร หรือ ชอบอะไรกันแน่

คำตอบคือ..ผม

แค่ผมอยู่กับเจิ้นไม่ทิ้งเจิ้นไป

ผมจะทำแบบนั้นได้ยังไงในเมื่อเจิ้นเป็นทุกอย่างของผม

ผมกลัว...กลัวว่าถ้าวันหนึ่งเจิ้นไม่ต้องการผมแล้ว

ผมคงเป็นคนนิสัยไม่ดีที่ไม่เลือกวิธีการ

…แค่เจิ้นอยู่กับผม จะเกลียดก็ไม่เป็นไร


 

ออฟไลน์ bambooiihallo

  • ยู้ฮู >w<
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1503/-19
Re: IN CONTROL ... ในปกครอง : PROLOGUE : Oct 1, 17
«ตอบ #3 เมื่อ01-10-2017 23:01:10 »

ปาดดดดดด


มาไวมากค่า 5555+

ออฟไลน์ onlyplease

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
Re: IN CONTROL ... ในปกครอง : PROLOGUE : Oct 1, 17
«ตอบ #4 เมื่อ01-10-2017 23:03:05 »

 :z1: :z1: งือออ ขอตอนแรกรัวๆ  :mew1:

ออฟไลน์ catka12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
Re: IN CONTROL ... ในปกครอง : PROLOGUE : Oct 1, 17
«ตอบ #5 เมื่อ01-10-2017 23:04:47 »

 :mc4:  :mc4:  :mc4: คุณbam. ..... เปิดเรื่องใหม่แล้ว....  :katai2-1: ดีใจมากค่ะ....เอออ....ถามนิดนึงค่ะ..... มีแนวโน้มน้ำตาแตกทั่วทุ่งนาน...ไหมค่ะ ?

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
Re: IN CONTROL ... ในปกครอง : PROLOGUE : Oct 1, 17
«ตอบ #6 เมื่อ01-10-2017 23:05:38 »

เรื่องก่อนๆนี่ก็ว่าสีของนิยายมันหม่นๆแล้วนะ เปิดอินโทรเรื่องนี้มามันหม่นกว่าเดิมอีก

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
Re: IN CONTROL ... ในปกครอง : PROLOGUE : Oct 1, 17
«ตอบ #7 เมื่อ01-10-2017 23:33:07 »

แง่มมม ตามมมม

ออฟไลน์ me_toey

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: IN CONTROL ... ในปกครอง : PROLOGUE : Oct 1, 17
«ตอบ #8 เมื่อ01-10-2017 23:40:24 »

 :katai2-1:

ออฟไลน์ Veesi3

  • coHon3 {ต้นฝ้าย}
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
Re: IN CONTROL ... ในปกครอง : PROLOGUE : Oct 1, 17
«ตอบ #9 เมื่อ01-10-2017 23:58:56 »

ติดตามมมมมมม  :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: IN CONTROL ... ในปกครอง : PROLOGUE : Oct 1, 17
« ตอบ #9 เมื่อ: 01-10-2017 23:58:56 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
Re: IN CONTROL ... ในปกครอง : PROLOGUE : Oct 1, 17
«ตอบ #10 เมื่อ02-10-2017 10:34:16 »

ว้าว ว้าว ว้าว  :mc4: :mc4: :mc4: รอค่า

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
Re: IN CONTROL ... ในปกครอง : PROLOGUE : Oct 1, 17
«ตอบ #11 เมื่อ02-10-2017 15:37:17 »

 เข้ามานั่งรอด้วยคนค่ะ  :mew1:

ออฟไลน์ Petit.K

  • Petit parapluie
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
Re: IN CONTROL ... ในปกครอง : PROLOGUE : Oct 1, 17
«ตอบ #12 เมื่อ02-10-2017 17:59:20 »

 :katai4: :katai4:
กรี๊ดดดดดดดด มาติดตามด้วยความเร่งด่วน เรื่องนี้แค่โทนฟ้าๆ จริงๆใช่ไหมคะ //ระแวง55555555

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
Re: IN CONTROL ... ในปกครอง : PROLOGUE : Oct 1, 17
«ตอบ #13 เมื่อ02-10-2017 20:26:20 »

แม้คุณแบมจะบอกว่าไม่เทา แค่ฟ้าจางๆ ~~~ เดี๊ยนก็จำต้องฝึกความสตรองของหัวใจไว้ เผื่อต้องใช้ในยามจำเป็น ซึ่ง มันคงต้องมีแน่ๆเลยยยย แต่ยังไงก็ขอหวานปนมามั่งนะจ๊ะ เวทๆกันไปโน๊ะ  :mew2:

ออฟไลน์ bambooiihallo

  • ยู้ฮู >w<
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1503/-19
Re: IN CONTROL ... ในปกครอง : Chapter 1 : Oct 3, 17
«ตอบ #14 เมื่อ03-10-2017 22:33:17 »

ตอนที่ 1 พรหนึ่งประการ

ภาพความทรงจำในวัยเด็กที่จำได้ชัดที่สุดคือเหตุการณ์ที่ส่งผลต่อความรู้สึกเราที่สุด



อืม... ผมว่าผมก็มีเหตุการณ์ที่จำติดตาอะไรอย่างนั้นเหมือนกัน มันเกิดขึ้นครบสิบห้าปีในวันนี้พอดี แต่ผมก็ยังจำได้ชัดจนน่าแปลกใจที่ความทรงจำวัยหกขวบจะยังติดแน่นในหัวมาได้นานขนาดนี้



ตอนนี้ผมอายุ 21 ... แต่ดีเทลต่างๆไม่ได้หายไปเลยตามกาลเวลาอันยาวนานขนาดเปลี่ยนเด็กชายคนหนึ่งกลายเป็นผู้ชายที่ใกล้จะเรียนจบในวันนี้ เรื่องวันนั้นมันก็คล้ายๆกับวันนี้แค่คนละปี พ.ศ.



ในเขตเศรษฐกิจอย่างสุขุมวิทมีตึกสูงสามสิบเก้าชั้นแห่งหนึ่ง อาคารนี้ไม่ถึงกับติดรถไฟฟ้าพอดีแต่ก็ใช้เวลาแค่สิบนาทีจากสถานียอดนิยมสถานีหนึ่ง




สิ่งที่ได้รับความสนใจคงจะเป็นสิงห์คู่ตัวใหญ่ยักษ์สูงถึงสองเมตร หล่อจากเหล็กเนื้อดีขัดจนเงาวับ ทางฮวงจุ้ยเขาเชื่อกันว่าเจ้าของบารมีไม่ถึงก็เลี้ยงสิงห์ไม่ได้ หลายกิจการปิดตัวลงเพราะเอาสิงห์มาตั้งไว้ด้านหน้า.. บางที่ก็มีได้แค่สิงห์ตัวเล็ก ใหญ่ไปก็หายนะ แต่วันนี้เมื่อในอดีตกลับมีพิธีตั้งสิงห์คู่ขนาดเชิญซินแสชื่อดังถึงเก้าคนมาทำพิธี ทั้งทางจีน ทางไทย... กว่าจะได้ตั้งสิงห์ทุกคนล้วนต้องยืนยันว่าเจ้าบ้านบารมีถึง... ขนาดสูงสองเมตรกินพื้นที่ลานหน้าตึกในย่านเศรษฐกิจได้อย่างสง่างาม



สิงห์คู่ตั้งอยู่ตรงนี้มาสิบห้าปีแล้ว... ผมอยู่ด้วยในวันนั้น คงเพราะบรรยากาศ ความโลกแคบของเด็ก ทำให้งานทำบุญตึกใหม่ของ ‘เยว่’ ดูยิ่งใหญ่ราวกับงานเลี้ยงจักรพรรดิ...



เยว่... ตระกูลเชื้อสายจีนที่ร่ำรวยมาจากการค้าขายกับคหบดีใหญ่ของไทยและจีนมาตั้งแต่คนจีนเดินทางมายังประเทศไทยสมัยแรกๆ... ปักหลักจนกระทั่งการค้าของ...กลายเป็นการค้าเงิน.. สุดท้ายก็กลายเป็นธนาคาร



แม้จะไม่ใช่แห่งแรกของประเทศ แต่ธนาคารช่อฟ้าก็อยู่คู่กับสังคมไทยมาช้านาน... ช่อฟ้า ชื่อแสนเชยแต่เป็นหนึ่งในธนาคารพาณิชย์ที่มีสาขาทั่วประเทศ ตู้เอทีเอ็มกระจายไปทั่วทุกพื้นที่แม้แต่พื้นที่ชนบทห่างไกล ตราธนาคารเป็นรูปหัวพญานาคเลียนแบบมาจากช่อฟ้าแบบสถาปัตยกรรมไทยสีทอง ช่อฟ้า...ไม่ใช่ดอกไม้ แต่คือช่อฟ้าใบระกา



เพราะมันงานยิ่งใหญ่ขนาดนักข่าวเศรษฐกิจมากันแน่นปึ้ก คนชื่อดังในวงการการเงิน หุ้นส่วน และธุรกิจต่างๆที่ล้วนเป็นลูกค้าต่างเดินทับมากันแน่น



ผมเลยลืมไม่ลงสักที...เพราะบรรยากาศแบบนี้มันเกิดซ้ำๆทุกปี





ในวันนั้นผมอายุหกขวบ ไม่รู้หรอกว่าอะไรสำคัญไม่สำคัญ... ผมเพิ่งย้ายมาอยู่ในรั้ว ‘เยว่’ ได้ไม่เต็มอาทิตย์ดีด้วยซ้ำ... ผมเป็นเด็กที่ถูกเก็บมาเลี้ยง




ไม่หรอก มันไม่ได้ดราม่าขนาดว่าเป็นเด็กกำพร้า โดนเก็บได้ในสถานการณ์ส่วนหดหู่ใจแล้วเป็นหนูตกถังข้าวสารมาอยู่ในตระกูลเศรษฐี... เรื่องแบบนั้นมันมหัศจรรย์เกินไปหน่อย



ผมแค่บังเอิญเป็นลูกของคนงานในตระกูล ‘เยว่’



พ่อเป็นเลขาของเจ้าบ้านรุ่นก่อน ผมเองก็ไม่ได้มายุ่งกับทางนี้หรอกเพราะถึงพ่อจะสนิทก็ใช่ว่าครอบครัวเราจะสนิทกัน แต่บังเอิญ...



ลูกชายเจ้านายพ่อหรือเจ้าบ้านคนปัจจุบันดันเกิดมาพร้อมกับโชคชะตาสะท้านสะเทือนวงการซินแสเหลือเกิน... หมอดูที่สั่งสมชั่วโมงบินมาสูง สำนักเลื่องชื่อลือชาในวงการธุรกิจล้วนโหนกระแส... ‘เจิ้น’



เจิ้น เยว่... ชื่อที่อาจจะติดโผคนชื่อสั้นที่สุดแต่คนทั้งประเทศดันรู้จักแถมเล่นข่าวนานเป็นเดือน... เจ้าบ้านคนใหม่ของเยว่ เจ้าของสิงห์คู่ ผู้ที่เกิดมาพร้อมบารมีเทียมเท่าจักรพรรดิขนาดต้องชื่อเจิ้น… เจิ้นที่หมายถึงคำแทนตัวของฮ่องเต้จีนสมัยก่อน



แค่วันที่เจิ้นเกิดผลประกอบการของธนาคารช่อฟ้าก็พุ่งสูงลิบลิ่วอยากไร้เหตุผลแม้ในยุคเศรษฐกิจชะลอตัว แถมเข้ามารับตำแหน่งเจ้าบ้านคนใหม่ด้วยอายุเพียงสิบหกปี เจ้าบ้านคนก่อนไม่ได้จากไปแต่เพราะความนับถือซินแสที่ทักให้ก้าวลงจากตำแหน่งเพื่อเปิดทางให้มังกรขึ้นบัลลังก์ในวันที่เหมาะสมที่สุด...



เจิ้น…เจ้าของอาณาจักรหมื่นล้าน... หรือมากกว่านั้นก็ไม่รู้ ส่วนผมก็แค่เด็กชายวัยหกขวบที่ร้องไห้งอแงเพราะโดนจับใส่ชุดจีนแสนอึดอัด อยากจะเล่น อยากจะดูการ์ตูน



ชีวิตผมถูกทิ้งไว้อยู่กับ...’เจิ้น’



หรือเจิ้นอาจจะถูกทิ้งไว้อยู่กับผมก็ได้.... เจิ้นอายุสิบหกได้รับมอบหมายให้พกผมที่อายุหกขวบและติดการ์ตูนโคนันไปด้วยทุกที่...



ผมไม่ร้องไห้เลยตอนที่โดนขังไว้ในโลกของเจิ้น แต่พอเห็นคนมากมายในวันงานผมกลับแหกปากลั่นเพราะตกใจเสียงปะทัด เจิ้นเดินนำหน้าผมอยู่สองสามก้าว... แผ่นหลังกว้างในชุดจีนชายยาวถึงข้อเท้าสีดำสนิทปักลายมังกรดิ้นทอง... ชายแขนทิ้งตัวยาวจรดข้อมือ รองเท้าแบบจีนและเส้นผมยาวทิ้งตัวราวกับผ้าม่านแกว่งไกวไปตามจังหวะการเดิน



วันนั้นเจิ้นไม่ยิ้ม... ไม่หัวเราะ หน้าตาเหมือนหุ่นยนต์กันดั้มในการ์ตูน ส่วนผมร้องไห้ตั้งแต่ก่อนเราจะเดินออกจากบริเวณรับรองไปยังพื้นที่หน้าตึก ผมถูกบอดี้การ์ดหน้าตาหน้ากลัวจับจูง พยายามจะดึงมือออก



เจิ้นหันมามองผมที่กริ๊ดแหกปากลั่น มองมือผมที่ถูกบอดี้การ์ดดึงเอาไว้ เขาคุกเข่าลงจนเราสูงเท่ากัน ดึงมือผมออกจากการดึงรั้งมากุมไว้ เจิ้นในวันนั้นมือเย็นเฉียบและสั่นน้อยๆ มาปีหลังๆผมถึงรู้ว่านั่นคืออาการตื่นเต้นและประหม่า



“ร้องไห้ทำไม”



“ฮึก... ฮืออออ”



ศศิมณฑลร้องไห้ทำไม”



เป็นครั้งแรกที่เจิ้นเรียกชื่อจริงผมซะเต็มยศ... ชื่อที่เจิ้นเลือกให้ ศศิมณฑล...ดินแดนของพระจันทร์ สอดคล้องกับ ‘เยว่’ ที่แปลว่าพระจันทร์



ผมอยู่ในดินแดนพระจันทร์…ดินแดนของเยว่…ดินแดนของเจิ้น



“จันทร์ ฮึก กลัว..”



ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่ากลัวหรือเปล่า แต่ผมในตอนนั้นไม่รู้จักคำแทนความรู้สึกมากนัก เลยบอกได้แค่กลัว



“ไม่ต้องกลัว พี่อยู่ตรงนี้ เดินอยู่ข้างหน้าจันทร์ ถ้ามีอะไรน่ากลัวพี่จะปกป้องจันทร์เอง จันทร์แค่ต้องอยู่ข้างหลังพี่ อย่าหนีไปไหน หน้าที่ของจันทร์คือปล่อยให้พี่ปกป้องและเดินตามมา หยุดร้องนะ”



“ฮือออ ฮึก น้ำตามันไม่หยุดเอง ฮึก”



“อยู่ต่อหน้าคนเยอะๆอย่าแสดงอารมณ์ อย่าร้อง อย่ายิ้ม... เพราะพี่จะหันมาปลอบจันทร์ไม่ได้ กอดจันทร์ไม่ได้ จันทร์ต้องเดินด้วยตัวเอง พอทุกอย่างจบจันทร์จะร้องพี่ก็จะปลอบ จันทร์อยากจะยิ้มพี่ก็จะยิ้มด้วย อยากจะดื้อพี่ก็จะตามใจ เข้าใจไหม?”



“อื้อ... เข้าใจ”



“ดี จำไว้...จันทร์มีสิทธิ์จะร้องไห้เพราะพี่เท่านั้น อย่าไปให้คนอื่นแกล้ง ปล่อยมือคุณจันทร์ ให้เธอเดินเอง”



“ขอรางวัล ฮึก รางวัล”



เจิ้นกับผมมีข้อตกลงกันตั้งแต่วันแรกที่พบหน้า ผมแผดเสียงลั่นเพราะต้องมาอยู่ในสภาวะที่ไม่คุ้นเคย คนแปลกหน้า ไม่มีพ่อ ไม่มีแม่



เจิ้นพยายามทำทุกอย่างให้ผมหยุดร้อง จนกระทั่งเรื่องของเราจบลงด้วยการดีล ถ้าผมเป็นเด็กดีผมจะได้รางวัล ในวันนั้นผมได้สมุดภาพระบายสีรูปโคนันหลายเล่ม



ถ้าผมไม่ร้องผมก็ต้องได้รางวัลเหมือนกัน



“ถ้าไม่ร้องจนจบงาน จะยอมให้ขออะไรก็ได้หนึ่งข้อ”



และนั่นคือที่มาของพรหนึ่งประการที่จะมาปีละครั้ง…



ผมไม่รู้ผมเข้าใจเจิ้นไหม แต่เขาดันตัวลุกขึ้นเดินอีกครั้ง มังกรดิ้นทองกางกรงเล็บตรงหน้าผมเช่นเดิม ผมไม่ได้มองใครด้วยซ้ำ มองแค่ผมยาวสีดำของเจิ้น น้ำตาผมแห้งไปตอนไหนก็ไม่รู้ รู้อีกทีก็ตอนที่ผมถูกซินแสบอกให้ทำพิธีไปตามเรื่องตามราวก่อนจะจบลงด้วยการถ่ายภาพคู่กับเจิ้น ผมยืนอยู่ข้างเจิ้นท่ามกลางสายตาคนมากมาย แสงแฟลชกระแทกตาจนต้องหันหน้าหนี แต่เจิ้นยังยืนอยู่ตรงนั้น ปักหลักสู้กับแสงแฟลชและปล่อยให้ผมได้แอบหลบมาอยู่ข้างหลังเขา



เสียงซินแสประกาศลั่น.... อาณาจักรเยว่จะยิ่งใหญ่ ดวงชะตามังกร... ที่มาพร้อมกับลูกแก้วมหาอำนาจ...



ผมเป็นลูกแก้วของมังกร... ดวงชะตาเกื้อหนุนเจิ้น... ตัวนำโชค.... ที่ผมก็ไม่ได้ทำอะไร



นอกจากให้เจิ้นเลี้ยง....








เจิ้นเลี้ยงผมจนตอนนี้ผมอายุ 21... และผมก็เคยตัว...



เป็นสมบัติของเจิ้นจนจินตนาการตัวเองยามไม่มีเจิ้นไม่ออกเหมือนกัน...



แต่เจิ้นบอกว่าไม่ต้องใส่ใจ อย่าไปคิดมาก แค่อยู่กับเจิ้นก็พอ...



แล้วผมก็เชี่อ เชื่ออย่างหมดหัวใจ



แค่อยู่กับเจิ้น...มีความสุขไปวันๆ



ผมอาจจะนำโชคจริงๆก็ได้... ผลประกอบการธนาคารช่อฟ้าดีขึ้นทุกปีๆอย่างไม่น่าเชื่อ...  รางวัลแห่งความโชคดีคือผมสามารถ


ขออะไรก็ได้หนึ่งอย่างในวันนี้ของทุกปีๆ



ปีแรกๆผมน่าจะขอรถบังคับ หนังสือการ์ตูน ขนม... ความต้องการผกผักไปตามวัย ขอไปเที่ยวกับเพื่อน ขอเรียนคณะที่ต้องการ ขอไปค้างบ้านเพื่อนติวหนังสือ ส่วนปีนี้...



ผมจะขอมีแฟน...



ผมไม่รู้ต้องขอไหม...เพื่อนๆบอกว่าผมโตพอจะมีแฟนโดยไม่ต้องขอเจิ้น... แต่ไหนๆปีนี้ผมก็ไม่ได้อยากได้อะไรเป็นพิเศษ ก็แค่ใช้สิทธิ์ที่พึงมีไปตามสมควร



ผมทำถูกแล้วใช่ไหม?












พิธีการวันนี้ผ่านไปเหมือนปีก่อนๆ พนักงานธนาคารต่างยิ้มแย้มยามเจิ้นเดินทักทายคนทุกชั้น นอกจากจะตรงกับวันสถาปนาตึกแล้วก็ยังเป็นวันขอบคุณพนักงานของเจิ้น จะมีภัตรคารชื่อดังพื้นที่ใกล้เคียงทำกล่องอาหารมาแจกเลี้ยงพนักงานทั่วประเทศ แม้จะเป็นข้าวกล่องขนาดพอเหมาะแต่ก็เป็นเมนูขึ้นชื่ออย่างดีที่ทุกคนต่างปลื้มปริ่มเพราะมันไปทั่วถึงพนักงานทั่วประเทศอย่างแท้จริง



ผมเดินตามเจิ้นอยู่ค่อนไปทางขวามือ พนักงานแผนกต่างๆพากันยืนยิ้มสวัสดีเจิ้นไปตลอดทาง เจิ้นเอ่ยทักทายบ้างกับบางคน จะหยุดแวะคุยนานสักหน่อยกับระดับหัวหน้า



   แม้จะเสียเวลาและต้องเดินจนทั่วแต่เจิ้นก็ไม่เคยบ่นแถมกำชับว่าหากมีการทำงานที่ไม่เป็นธรรมสามารถรายงานโดยตรงได้ตลอด คงเพราะเจิ้นใจกว้าง



   พนักงานเลยรักเจิ้น ค่าเฉลี่ยความสุขของพนักงานสูงขึ้นทุกปี ส่วนผมก็ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรนอกจากยกมือไหว้คนนั้นคนนี้ตามเจิ้น



   ทุกคนเรียกผมว่าคุณจันทร์ บ้างก็เจ้าจันทร์…แต่เรียกเจิ้น แค่ เจิ้น ไม่มีคุณเจิ้น พี่เจิ้น หรืออะไรอื่นๆ เพราะความเชื่อว่าเจิ้นบารมีเทียมจักรพรรดิไม่สมควรแสดงความสนิทสนม ในยุคเศรษฐกิจแบบนี้จะย้อนกับไปใช้คำโบราณเรียกราวกับพระราชาก็ไม่ถูก



   เพราะเทียมจักรพรรดิที่ว่าไม่ได้หมายถึงในแง่ของการปกครอง แต่เป็นจักรพรรดิในโลกเศรษฐกิจ…ก็เลยกลายเป็น เจิ้น แค่เจิ้นเฉยๆ




   ทุกอย่างจบลงยามบ่ายแก่ๆ เราเดินกันจริงๆแค่ไม่กี่สิบชั้น เพราะพนักงานบางส่วนต้องทำงานในเวลาดังกล่าว มีแค่กลุ่มหัวหน้าที่จะลงมายังพื้นที่ส่วนกลาง ส่วนผมกับเจิ้นก็กลับขึ้นไปชั้นบนสุด…ชั้นที่ห้าสิบเก้า



   เราอยู่กันบนนี้ในใจกลางมหานครชื่อดังของโลก จริงๆมันมีหกสิบชั้นแต่เป็นแค่ชั้นลอยไปบนห้องกระจกทรงพีรามิดสำหรับนอนดูดาว เป็นห้องของผมกับเจิ้น



   เจิ้นอนุญาตให้เรียกห้องนอนดูดาวนี้ว่าของผมได้ให้เจิ้นเป็นเพียงคนพักอาศัย เพราะผมเคยงอแงว่าทำไมเจิ้นได้เป็นเจ้าของทั้งตึกแต่ผมไม่เห็นมีตึกสวยๆเป็นของตัวเอง



   เจิ้นถามว่าผมอยากได้อะไร



   ผมเลยอยากได้ดาวดาวเพราะผมชื่อเจ้าจันทร์…ท้องฟ้าตอนกลางคืนต้องมีพระจันทร์และดวงดาว…ผมเลยได้เจ้าห้องกระจกสามเหลี่ยมนี่มา ตอนเด็กๆผมตื่นเต้นขนาดระบายสีทำป้ายว่าบ้านของเจ้าจันทร์และไม่ให้ใครเข้าก่อนได้รับอนุญาตด้วยซ้ำ



   ‘พี่กลัวผี…จันทร์จะทิ้งพี่นอนคนเดียวหรอครับ ถ้าผีมาหลอกพี่หรือพาพี่ไปอยู่ด้วยล่ะ?’



   ผมก็เลยใจอ่อนให้เจิ้นเข้ามานอนด้วย ไม่ต่างอะไรกันที่เราใช้ชีวิตปกติ ปีหลังๆผมถึงรู้ว่าเจ้าของเขาดูจากโฉนดไม่ใช่แค่ป้ายลายมือเด็กๆของผม และผมก็เห่อห้องดวงดาวอยู่ได้ไม่นานก็กลับไปนอนห้องเจิ้นเหมือนเดิม



   เจิ้นในวันนี้ยังคงไว้ผมยาวถึงกลางหลังแต่มัดรวบต่ำที่ท้ายทอย ใบหน้ามีเอกลักษณ์เฉพาะตัวบางอย่าง ที่เพื่อนๆผู้หญิงผมบอกว่าไม่ได้หล่อ แต่มีเสน่ห์บางอย่างที่ชวนมอง ส่วนพวกผู้ชายก็บอกเจิ้นมีรังสีเหมือนมีอำนาจและข่มคนรอบข้าง ส่วนผม…ผมอยู่กับเจิ้นมานานจนไม่อาจเข้าใจอะไรทำนองนั้น



   ผมรู้แค่เจิ้นก็คือเจิ้น จะใส่ชุดจีนแบบสมัยก่อนหรือสูทสมัยนิยมสีน้ำเงินเข้มแบบตอนนี้…เจิ้นก็ยังเป็นเจิ้นคนเดิม



   เจิ้นนั่งลงบนชุดโซฟาไม้มะเกลือสีดำขัดมัน บ้านของเรากินอาณาเขตทั้งชั้นตกแต่งแบบจีนแท้ๆ ผิดกับอาคารสำนักงานด้านล่างที่เน้นความทันสมัย ชุดสูทของเจิ้นดูไม่เข้ากับบรรยากาศเท่าไหร่



   มือหนาดึงเนคไทออกจากคอ โยนลงไปบนโต๊ะไม้ด้านหน้าและตบเบาะด้านข้าง ผมเดินไปนั่งตรงนั้นให้เจิ้นได้พิงหัวลงมาที่ไหล่



   “เหนื่อย”



   แขกของเจิ้นมากมายไม่แปลกที่จะเสียพลังงานมหาศาล ผมยกมือขึ้นลูบหลังกว้างนั้นอย่างเคย



   “จันทร์รู้ พักผ่อนนะ”



   เจิ้นบอกว่าการกอดคือการชาร์จแบต ผมยกมือกอดเจิ้นไว้ สักพักก็กลายเป็นเจิ้นโอบเอวผมยกขึ้นนั่งตัก ตัวผมไม่ได้เล็กแต่ถ้าเทียบกับเจิ้นก็จัดว่าส่วนสูงเราต่างกันเยอะ ผมตัวผอมๆ แต่เจิ้นมีเทรนเนอร์คอยดูแลสุขภาพ ประกอบกับความสูงทำให้เจิ้นตัวสูงและหนาไปสักหน่อยสำหรับคนทำงานออฟฟิศทุกวัน



   “ไหน พรวิเศษหนึ่งประการปีนี้อยากได้อะไร หืมมูนนี่”



   เจิ้นพูดทั้งๆที่ยังซุกหน้าลงกับซอกคอผม ผมไม่ค่อยบ้าจี้ติดจะชอบใจที่มีลมหายใจอุ่นๆของเจิ้นสัมผัสอยู่ที่ลำคอเช่นนี้



   มูนนี่… คือชื่อเล่นที่เจิ้นเรียกยามเราอยู่กันสองคน ไว้หยอกเย้า ไว้แหย่ เมื่อก่อนผมก็โกรธเพราะมูนนี่มันดูตลก แต่หลังๆก็มักจะชินเมื่อเจิ้นใช้เรียกผมเวลาอารมณ์ดี…และมีรอยยิ้มแต้มอยู่ในนัยน์ตาของเจิ้น



ผมยอมเป็นมูนนี่โง่ๆก็ได้ถ้าเจิ้นอารมณ์ดี



“จันทร์…อยากมีแฟน”



เจิ้นเกร็งตัวทันที ตาที่หลับอยู่ลืมขึ้นก่อนจะนั่งยืดหลังตัวตรง ตาเรียวที่มักจะทอแสงอ่อนฉายความไม่พอใจ คิ้วขมวด แม้ปากจะไม่ขยับแต่ผมก็ดูออกว่าเจิ้นไม่พอใจ



“จันทร์ขอพี่มีแฟน?”



ผมพยักหน้า…ผมอายุยี่สิบเอ็ดแล้ว ผมสามารถสร้างพันธะทางความสัมพันธ์กับใครก็ได้ในวัยบรรลุนิติภาวะแล้ว



“จันทร์มีคนที่ชอบแล้ว?”



ยังไม่มี…แต่ผมพยักหน้าไป ผมไม่อยากตอบเพราะผมไม่เคยโกหกเจิ้นได้ เสียงผมมันจะสั่นถ้าผมไม่พูดความจริง เจิ้นเลี้ยงผมมาเป็นเด็กดี…เพราะการเป็นเด็กดีจะได้รางวัล



“อ้อ…พามาให้รู้จักบ้าง”



“จันทร์…จีบอยู่”



พยายามฝืนไม่ให้เสียงสั่น ตาเผลอหลุบลงไปเองจนเหมือนคนทำผิด



“พี่ช่วยสอนไหม?”



“หือ”



คำตอบของเจิ้นยอมรับว่าคาดไม่ถึง แต่ก็ไม่ได้ให้ความคล้ายกับการดีใจยามได้พรหนึ่งประการ ออกไปทาง…ผิดหวัง …ทำไมเจิ้นยอมง่ายๆ



หรือจริงๆแล้วการมีแฟนก็เป็นเรื่องปกติจริงๆ



“การเป็นแฟนที่ดีก็ ถ้าจันทร์คบกับใครสักคนแบบไม่ถูกต้อง มันก็ต้องเลิกอยู่ดี ให้พี่สอนการเป็นผู้ชายที่ดีไหม?”



เจิ้นดูตั้งใจจนผมรู้สึก…ว่าตัวเองทำอะไรพลาดไป ผมไม่คิดว่าเจิ้นจะใส่ใจการมีแฟนของผมเลยด้วยซ้ำในเมื่อเจิ้นก็มีแฟนเหมือนกัน



ใช่…เจิ้นมีแฟน



เจิ้นเป็นข่าวกับผู้หญิงคนหนึ่งแม้เขาจะไม่บอกแต่พวกเพื่อนก็เอามาเล่า หนึ่งคำถามที่ถูกถามคือถ้าเจิ้นแต่งงานผมจะต้องย้ายออกไปไหม



เพื่อนบอกว่าผมต้องมีครอบครัวของตัวเองเหมือนกัน วันหนึ่งเราทุกคนก็ต้องแต่งงาน เจิ้นอาจจะแต่งกับคนนี้ก็ได้เพราะเธอเป็นนางเอกเบอร์หนึ่งของช่องดัง



ผมเคยเห็นเธอตามโฆษณาและต้องยอมรับว่าเธอสวยเหมาะกับเจิ้นจริงๆนั่นแหละ…



เจิ้นไม่เคยมีแฟนให้ผมเห็นมาก่อน อาจจะเพราะกลัวผมจะรู้ตัว…ว่าวันหนึ่งผมจะต้องโดนทิ้ง ผมจะต้องย้ายออกจากที่นี่ไป



ชื่อเจ้าของโฉนดที่นี่ไม่ใช่ผม เจิ้นคงไม่ย้ายออกจากบ้านตัวเอง ตึกตัวเอง ธนาคารตัวเอง ผมต่างหาก…ผมที่ไม่ได้มีสิทธิ์อะไรสักอย่างแม้แต่ห้องกระจกดูดาว



ชีวิตผมไม่มั่นคง…



ผมต้องเตรียมตัว เจิ้นเลี้ยงมาให้ผมเป็นคนรอบคอบระมัดระวัง



ผมต้องหาครอบครัวใหม่ของตัวเองให้ได้ก่อน คนเราเป็นครอบครัวจากการแต่งงาน แม้จะเจ็บปวดแต่ผมก็ต้องทำ ผมต้องแงะตัวเองออกจากเจิ้นให้ได้



ไม่อย่างนั้น…ผมคงจะกลายเป็นคนนิสัยไม่ดีที่ไม่ยอมให้เจิ้นมีแฟน…



มันมีพลังบางอย่างกัดกินอยู่ข้างในหัวใจผม มันคล้ายๆความโกรธ อิจฉา ไม่พอใจ และหวงปะปนรวมกันเป็นความรู้แน่นๆตรงอก



การมีแฟนอาจจะทำให้ผมสามารถเปลี่ยนจุดโฟกัสจากเจิ้นไปที่อื่นได้และก้อนในอกก้อนนี้คงจะหายไป แต่เพราะผมโดนสปอยล์มาอย่างเต็มขั้น การยืมมือเจิ้นในช่วงแรกให้ช่วยสอนเทคนิคเล็กๆน้อยก็คงเป็นประโยชน์



ผมตอบรับเจิ้นไป



เจิ้นยกยิ้มก่อนจะลูบหัวผมเบาๆและอุ้มผมลงจากตัก มือหนาประสานกุมมือผมไว้เช่นยามเราอยู่กันสองคน เจิ้นพาผมไปที่ลานด้านนอกตัวบ้านที่มีเก๋งจีนกับน้ำตกจำลอง เราชอบนั่งกันตรงนี้



มีกรงนกค๊อกคาเทลแขวนอยู่ทีต้นไม้ริมเก๋ง เจ้านกที่ราคาแสนแพงแต่น่ารักและฉลาด มันร้องเพลงได้…และสั่งคำสั่งง่ายๆสองสามอย่างให้มันทำตามก็ได้ ผมชอบนกค๊อกคาเทล เจิ้นซื้อมาสองตัวให้อยู่เป็นคู่กัน



ตัวผู้ชื่อหลักทรัพย์ ตัวเมียชื่อออมทรัพย์…ผมตั้งตามสิ่งที่ผมคุ้นเคย



“เอาล่ะ เราจะเริ่มบทเรียนแรกตั้งแต่วันนี้…การเป็นผู้ชายที่ดีคือการทำงานหาเลี้ยงครอบครัวได้ ต่อไปนี้พี่จะตัดเงินค่าขนมจันทร์ วันหยุดจันทร์ต้องทำงาน ถ้าไม่ทำงานก็ไม่ได้เงิน”



“หา ไม่เอานะ! แรกๆอลุ้มอล่วยให้จันทร์ไม่ได้หรอ…ขอจันทร์ปรับตัวก่อน”



ผมรีบดึงแขนเจิ้นไว้ การอ้อนเจิ้นไม่ยากเลยแค่ทำตาแป๋วๆ ทำหน้าน่าสงสาร



   “ไม่ได้ จันทร์จะอดไปกินข้าวกับเพื่อน ไปดูหนัง ไปซื้อของ แต่จันทร์ยังเรียนไม่จบ พี่เป็นผู้ปกครองของจันทร์อยู่ ถ้ากิจกรรมใดๆก็แล้วแต่ จันทร์ไปกับพี่หรือพาพี่ไปด้วย…ทุกอย่างพี่จะจ่ายให้ ตกลงไหม?”



   “ค่ากันดั้มที่จันทร์สั่งจากญี่ปุ่น…เจิ้นจ่ายให้ด้วยได้ไหม…จันทร์อยากได้รุ่นลิมิเต็ด มันจะออกมาแค่แบบเดียวเดือนหน้า นะ…”



   “ในฐานะอาจารย์ที่กำลังสอนจันทร์ พี่ไม่ให้ จันทร์ต้องรู้จักประหยัด”



“งั้น…ฐานะผู้ปกครองนะ เจิ้นบอกเองนะว่าเป็นผู้ปกครองของจันทร์ กันดั้มเราต่อด้วยกันก็ได้ เจิ้นกับจันทร์ทำด้วยกัน มีเจิ้นในกิจกรรมนี้แล้ว นะ นะครับ น้า…”



“ก็ได้…งั้นค่ากันดั้มพี่ขอแลกกับ…”



เจิ้นลากหากเสียงแต่มือกลับยกขึ้นไล้ปากผมเบาๆ… ผมรู้สึกถึงความร้อนผ่าวบนใบหน้า ทั้งๆที่มันก็ไม่ใช่ครั้งแรก เจิ้นบอกนี่คือรางวัลของเจิ้น ซึ่งนานๆทีเจิ้นจะอ้อนขอรางวัล



และครั้งนี้ผมต้องพึ่งพาเจิ้นด้วย…



เราเลยต้อง….จูบกัน


===================================

จ้า เจิ้น จ้า ตามสบายเลยจ้าเจิ้น

ออฟไลน์ Veesi3

  • coHon3 {ต้นฝ้าย}
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
Re: IN CONTROL ... ในปกครอง : Chapter 1 : Oct 3, 17
«ตอบ #15 เมื่อ03-10-2017 23:00:15 »

ทำไมดูละมุนนนนนน  :hao7: :hao7: :hao7: อ่านแล้วเขินค่ะ แต่กลัวดราม่ามาก เพิ่งร้องไห้กับรากนครามา

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
Re: IN CONTROL ... ในปกครอง : Chapter 1 : Oct 3, 17
«ตอบ #16 เมื่อ04-10-2017 00:07:17 »

คุณแบมเนี่ยท่าจะชอบพระจันทร์จริงๆเลยน้า เรื่องก่อนนั้นก็พระจันทร์ มาเรื่องนี้ก็จันทร์
นอกจากจันทร์แล้วยังชอบนกด้วยเรื่องก่อนนกบินหลามาเรื่องนี้ก็นกร้องเพลง

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
Re: IN CONTROL ... ในปกครอง : Chapter 1 : Oct 3, 17
«ตอบ #17 เมื่อ04-10-2017 00:48:09 »

        พี่ฟ้าจ๋าเราเลิกกันนะเพราะเราเจอพระเอกที่ชอบมากกว่าพี่เเล้ว555
แค่ตอนแรกก็เอาใจเราไปแล้วเจิ้น :mew1: :mew1: :mew1:
รออ่านตอนต่อไปนะค่ะ

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
Re: IN CONTROL ... ในปกครอง : Chapter 1 : Oct 3, 17
«ตอบ #18 เมื่อ04-10-2017 08:33:21 »

แง่มม มาแบบสีอ่อนๆเกือบๆเทา เค้ากลัวดราม่าาา

ออฟไลน์ Petit.K

  • Petit parapluie
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
Re: IN CONTROL ... ในปกครอง : Chapter 1 : Oct 3, 17
«ตอบ #19 เมื่อ04-10-2017 09:15:50 »

ฮือออออออ น่ารัก พี่น้องละมุนมาก แต่ก็ขมุกขมัวเหลือเกิน กลัวใจจันทร์มาก ในความคิดจันทร์ ตัวจันทร์ไม่มีความมั่นคงเลย กลัวจัทนร์จะปล่อยมือเจิ้นง่ายๆ จนม่ามาเยือน
ส่วนเจิ้น ก็กลัวน้องจะทิ้ง หวังว่าจะค่อยๆกล่อมน้องนะ อย่ารุนแรงมากเดี๋ยวน้องช้ำหมด

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: IN CONTROL ... ในปกครอง : Chapter 1 : Oct 3, 17
« ตอบ #19 เมื่อ: 04-10-2017 09:15:50 »





ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
Re: IN CONTROL ... ในปกครอง : Chapter 1 : Oct 3, 17
«ตอบ #20 เมื่อ04-10-2017 09:58:03 »

อ๋อยยยยยยย ฉันตกหลุมรักเรื่องนี้ งือออออออ  :-[   ชอบอ่ะ มันนวลๆ ชอบอารมณ์ละมุนๆ สไตล์แบม แบบนี้ จะหน่วงจะเทา มันก็จะหวานๆ เป็นโทนสีเบจ แบบนี้อ่ะ รักแล้ว โอ๊ยยยย อ่านแล้วใจบาง น้องหนูมูนนี่ของเจิ้น   :o8:

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
Re: IN CONTROL ... ในปกครอง : Chapter 1 : Oct 3, 17
«ตอบ #21 เมื่อ04-10-2017 14:36:14 »

 :-[ :mew1: :-[ :mew1:

ออฟไลน์ JellyKei

  • ✧٩(の❛ᴗ❛ の)۶
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: IN CONTROL ... ในปกครอง : Chapter 1 : Oct 3, 17
«ตอบ #22 เมื่อ04-10-2017 14:57:42 »

ต่างคนดูต่างหวงกัน แต่ไม่พูดออกมา พี่น้องที่ไหนเค้าจูบกันเล่า  :katai1:

ออฟไลน์ khwanruen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1051
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3
Re: IN CONTROL ... ในปกครอง : Chapter 1 : Oct 3, 17
«ตอบ #23 เมื่อ04-10-2017 17:03:24 »

ต่างคนต่างหวงกันเนาะ เจิ้นก็เจ้าเล่ห์นะ หลอกเด็กให้หลงกลจนได้  :katai2-1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: IN CONTROL ... ในปกครอง : Chapter 1 : Oct 3, 17
«ตอบ #24 เมื่อ04-10-2017 19:20:24 »

 :mc4:

ออฟไลน์ awfsp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: IN CONTROL ... ในปกครอง : Chapter 1 : Oct 3, 17
«ตอบ #25 เมื่อ05-10-2017 12:03:46 »

โอ้ยเจิ้้้น  คืองานดีมาก

ออฟไลน์ khungyf

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: IN CONTROL ... ในปกครอง : Chapter 1 : Oct 3, 17
«ตอบ #26 เมื่อ05-10-2017 16:40:46 »

 :-[

เจิ้นนน

ร้ายกาจจจจจ

ออฟไลน์ Faii0518

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: IN CONTROL ... ในปกครอง : Chapter 1 : Oct 3, 17
«ตอบ #27 เมื่อ05-10-2017 21:55:13 »

น้องจันทร์คนซื่อ ตามพี่เจิ้นไม่ทันหรอก โดนหลอกแล้วลู๊กกกกก ชอบเนื้อเรื่องแบบนี้นะ คนขี้หวง รักมากจนอยากจะขังไว้ให้อยู่แค่กับตัวเอง ถึงจะดูเห็นแก่ตัวก็เถอะ หึหึ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-10-2017 21:59:05 โดย Faii0518 »

ออฟไลน์ THiiCHA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-4
Re: IN CONTROL ... ในปกครอง : Chapter 1 : Oct 3, 17
«ตอบ #28 เมื่อ06-10-2017 01:58:16 »

เจิ้นนนนรีบตัดงบ 
กลัวน้องมีเงิน + เวลาไปเปย์ให้สาวใช่มะ ฮั่นน่อวววว
ร้ายนะเนี่ยย
 
ชอบแนวนี้มากเลย ค.สัมพันธ์ระหว่างคนสองคนที่ยังหาคำนิยามไม่ได้ 

ออฟไลน์ bambooiihallo

  • ยู้ฮู >w<
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1503/-19
Re: IN CONTROL ... ในปกครอง : Chapter 1 : Oct 3, 17
«ตอบ #29 เมื่อ06-10-2017 16:35:02 »

Chapter 2 Morning Care


   เจิ้นแก่กว่าผมสิบปี ความบังเอิญบางอย่างทำให้เราเกิดวันเดียวกันในช่วงเวลาเดียวกัน คือตอนใกล้รุ่งยามที่พระจันทร์กำลังเลือนหายไปพร้อมกับแสงอาทิตย์...เขาว่ากันว่าเป็นยามเสี้ยววินาทีที่พระอาทิตย์กับพระจันทร์พบกันพอดี เขาที่ว่าผมก็ไม่รู้ว่าใคร เจิ้นก็ไม่รู้... เกิดมาก็มีแต่คนกรอกหูเจิ้นแล้วว่าเป็นเวลามงคลนั่นนี่โน่น ส่วนผมก็เป็นลูกแก้วดราก้อนบอลนำโชค


   ผมสงสัยว่าเจิ้นรู้สึกยังไงกับการที่ถูกคาดหวังตั้งแต่ลืมตาดูโลก ความหวังที่เจิ้นแบกมันดันไม่ใช่แค่จากครอบครัว แต่รวมถึงคนทั่วไปที่รับรู้จากข่าวดัง พนักงาน ประชาชนที่บ้างก็เชื่อบ้างก็รอพิสูจน์ว่าจักรพรรดิที่ว่าน่ะหมอดูหรือหมอเดา


   แต่เพราะผลประกอบการธนาคารช่อฟ้ามันสูงขึ้นทุกปีและการเติบโตอย่างก้าวกระโดด เจิ้นบอกว่าจริงๆแล้วเจิ้นก็ไม่ได้ทำอะไร เด็กวัยสิบหกจะไปสู้รบอะไรกับวงการธุรกิจได้ขนาดนั้น ประสบการณ์ก็น้อย ความซับซ้อนของธุรกิจก็ยังไม่เข้าใจ แต่เป็นเพราะเจ้าบ้านของเยว่คนก่อนต่างหาก... เจ้าบ้านที่มีศักดิ์เป็นปู่ของเจิ้นใช้ความตื่นตัวนี่เป็นข้อได้เปรียบ ประโคมข่าวต่างๆนาๆ แผนการทางธุรกิจที่เอาความเชื่อและความงมงายมาช่วย...มันก็เลยยิ่งไปไกล


   ตระกูลเยว่เป็นตระกูลจีนแท้ ค้าขายอยู่ในประเทศไทยมายาวนาน แม้ช่วงเปลี่ยนสกุลในรัชกาลหนึ่งก็ยังใช้นามสกุลจีนต่างจากหลายๆบ้านที่เปลี่ยนไปใช้นามสกุลไทย ช่วงหนึ่งก็ใช้ แซ่เยว่ ... แต่สุดท้ายรุ่นหลังๆก็ตัดออกไปเหลือแค่ เยว่ เลยกลายเป็น


   เจิ้น เยว่..


   ผมอยู่กับเจิ้นมานานจนซึมซับขนบธรรมเนียมเฉพาะตัวหลายอย่างของที่นี่ไปแล้ว แม้จะทำธุรกิจธนาคาร ใส่สูท เป็นนายแบงค์ใหญ่
อย่างที่คนรุ่นเก่าชอบเรียก แต่ยามอยู่บ้าน บนชั้น 59+1 นี่เจิ้นก็มักจะใส่ชุดผ้าไหมสีดำคอจีนกระดุมเชือกป้ายด้านข้างแขนยาวจรดข้อมือ ชายเสื้อยาวจรดข้อเท้าที่ด้านข้างผ่ามาถึงช่วงบนกับกางเกงขายาวสีเดียวกัน ปักลายมังกรสีทอง ผมยาวก็ทิ้งตัวไม่ผูกมัดอะไร




   เจิ้นบอกว่ามันเป็นความเคยชินที่จะใส่ชุดจีนแบบนี้อยู่บ้าน เพราะถูกจับใส่ตั้งแต่เด็ก มันดูรุ่มร่ามและแปลกตากับยุคสมัยนี้ ผมว่ามันเหมือนพระเอกหนังจีนย้อนยุค แต่ผมก็ใส่ชุดจีนเหมือนกัน แม่บ้านคนสวนก็ใส่... มันเป็นขนบของเยว่ที่ทุกคนปฏิบัติกันมา



   ชุดของผมจะสีขาว และชายเสื้อไม่ยาวแบบเจิ้น ก็เหมือนเสื้อแบบจีนสีแดงตามเทศกาลวันตรุษแค่มันสีขาว กางเกงขากระบอกสีเดียวกัน



   ผมโดนจับใส่สีขาวแต่เด็กเพื่อความปลอดภัย ถ้าเล่นจนเลอะ หรือซนจนล้มเลือดออก สีขาวจะฟ้องทุกการกระทำสารพัดของผม และมันก็คือคอร์สฝึกมารยาทชั้นดี เพราะผมจะขยับตัวเยอะๆหรือทำอะไรก็ต้องระวัง



   ผลที่ได้จากการใส่สีขาวมาอย่างยาวนานคือการที่ผมเดินช้า กินช้า ทำอะไรก็ช้าเพราะต้องค่อยๆทำกลัวมันเลอะเทอะและผมจะไม่ได้รางวัล...เด็กดีต้องไม่เลอะเทอะ นอกจากจะใส่ชุดออกกำลังกาย
   


“จันทร์ มากินนม”



   วันหยุดผมจะได้รับอนุญาตให้ตื่นสาย แต่ต้องมากินนมทุกเช้า แต่กินเท่าไหร่ก็ไม่สูงต่างจากเจิ้นที่กินแต่กาแฟ ผมว่ากาแฟต่างหากที่เพิ่มแคลเซียม



   มื้อเช้าของเราต่างกัน เจิ้นมีแค่กาแฟกับครัวซองหรือขนมปังเปล่าๆ ส่วนผมต้องกินข้าวต้มปลา หรือโจ๊ก หรืออะไรก็แล้วแต่ที่มันอุ่นๆและย่อยง่าย กับนมอุ่นๆ เจิ้นบอกว่ากลัวผมปวดท้องถ้ากินอะไรเย็นๆและย่อยยาก ผมเคยปวดท้องอยู่บ้างเวลาไปกินอาหารข้างนอกกับเพื่อน หรือข้าวโรงเรียน หนักสุดก็ท้องเสียเพราะแอบกินน้ำอัดลม นับตั้งแต่นั้นมาผมก็มีข้าวกล่องของเยว่ติดตัว



   เรานั่งกินกันสองคน เจ้าบ้านคนก่อน...คุณปู่ของเจิ้นวางมือไปตั้งแต่เจิ้นอายุยี่สิบห้า กลับไปใช้ชีวิตวัยเกษียณที่ประเทศจีน



   คุณพ่อของเจิ้นยังคงทำงานเป็นหนึ่งในบอร์ดบริหาร คุณพ่อของเจิ้นแต่งเข้าเยว่...เพราะคุณปู่ไม่ยอมให้คุณแม่แต่งออก คุณพ่อของเจิ้นเป็นผู้ชายธรรมดาตัวเปล่าแต่เป็นคนขยันทำงานจนได้ตำแหน่งสูงๆ และดันไปตกหลุมรักดอกฟ้าถึงยอดช่อฟ้า(การเปรียบเปรยกับชื่อธนาคารที่มักจะมีคนแซวคุณพ่อของเจิ้น) และเจิ้นก็เกิดมา... คุณปู่ที่ควรจะเป็นคุณตาก็ถือเคล็ดว่าหลานตาก็เหมือนเสียของรักให้บ้านอื่น เป็นหลานปู่นี่แหละ...



   คุณพ่อคุณแม่ของเจิ้นย้ายไปอยู่เรือนหอในหมู่บ้านจัดสรรขนาดกลางเพราะคุณแม่อยากเป็นแม่บ้านเต็มตัว เจิ้นเป็นหลานรักก็มักจะถูกปู่ดึงมาอยู่ด้วยที่บ้านใหญ่ ผมก็เคยอยู่ที่นั่น แต่พอเจิ้นอายุยี่สิบ ผมอายุสิบขวบก็ย้ายออกมาอยู่กันสองคนที่นี่



   เจิ้นต้องเรียนรู้งานการนอนที่นี่เลยก็สะดวกกว่า ส่วนผมเป็นแพคเกจเสริมอยู่แล้วก็เลยต้องมาด้วย อยู่แถวนี้ก็สะดวกดีมีรถไฟฟ้า แม้ผมจะไม่ได้ขึ้นมันนักก็ตาม



   ช่วงสายแบบนี้เจิ้นมักจะไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสส่วนกลางของธนาคาร มีฟิตเนสชื่อดังมาตั้งสาขาที่นี่สำหรับพนักงานหรือลูกค้าที่อาศัยบริเวณนี้



   การออกกำลังกายกับพนักงานบ้าง คนนอกบ้างเป็นการสร้างภาพลักษณ์ผู้บริหารที่เข้าถึงได้อย่างหนึ่ง แต่ผมรู้ว่าเจิ้นไม่ได้ชอบคนเยอะ ก็เลยไปแค่วันเสาร์ตามนโยบายสร้างภาพลักษณ์ที่ดี



   ในช่วงเวลาที่เจิ้นไม่อยู่ผมก็จะทำการบ้าน รายงาน ไม่มีใครบังคับผมให้เรียนคณะไหน แต่ผมก็เลือกเรียนการเงิน ตอนสมัยเจิ้นเรียนเขาก็เลือกเศรษฐศาสตร์



   ตัวเลขกับผมเราเหมือนคู่อริกัน จะคณิตศาสตร์พื้นฐานหรือคณิตศาสตร์เพิ่มเติมผมก็ผ่านความเจ็บปวดมาสะบักสะบอมทุกครั้ง แต่ผมก็เลือกเรียนมันต่อ



   เพราะเจิ้น...






   ช่วงรอยต่อระหว่างการเข้าสู่วัยอุดมศึกษา เจิ้นเปิดโอกาสให้ผมเลือกทำกิจกรรมากมายเพื่อค้นหาตัวเอง ผมสามารถเลือกเรียนคอร์สดำน้ำก็ได้ ศิลปะก็ได้ หรือวิชาการก็ได้



   อาจารย์ที่ถนัดด้านต่างๆถูกเชิญมาให้สอนผม แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรเป็นพิเศษ อาจารย์ทุกคนรายงานเจิ้นเหมือนกันหมดคือผมอยู่ในเกณฑ์ค่าเฉลี่ยปานกลาง



   ไม่โดดเด่น ไม่อ่อนด้อย และไม่สนใจเป็นพิเศษ...



   มันทำผมเครียดว่าควรจะไปทางไหนต่อ เจิ้นบอกว่าไม่เป็นไรจะเข้ามหาลัยช้าไปหนึ่งหรือสองปีก็ได้ แต่เพื่อนร่วมห้องต่างคุยกันแต่เรื่องมหาวิทยาลัย คณะ สาขา พฤติกรรมหยุดเรียนไปก่อนของผมดูจะเป็นแกะดำ



   อาจารย์แนะแนวบอกว่าผมลองเริ่มจากสิ่งที่ชอบที่สุดดูก่อน สิ่งที่อยากอยู่ด้วยทั้งวัน สิ่งที่คิดว่าถ้าไม่ได้ทำจะเสียใจ และตัดสิ่งที่ไม่อยากทำออกไป แล้วเราจะเจอสิ่งที่เราต้องการจริงๆ...



   ผมชอบห้องดูดาวของผม แต่ผมก็ไม่ได้อยากจะนอนห้องนั้นทุกคืน ผมชอบนอนห้องเจิ้น



   ผมชอบเจ้าหลักทรัพย์ ออมทรัพย์ แต่ผมไม่ได้ชอบนกตัวอื่น ผมชอบแค่เจ้าค๊อกคาเทลที่เจิ้นซื้อให้



   ผมชอบอยู่กับเจิ้น ถึงบางทีเจิ้นจะเอาแต่นั่งทำงานและผมพูดคนเดียว



   ความชอบของผมมักจะมีเจิ้นเป็นองค์ประกอบ ผมเลยวาดมายแมพที่มีชื่อเจิ้นอยู่ตรงกลาง คำตอบที่ได้คือถ้าผมอยากจะใช้ชีวิตกับเจิ้นตลอดเวลาผมคงต้องเป็นเลขาหรือบอดี้การ์ดของเจิ้น



   เจิ้นมีเลขาสี่คน ชายสองหญิงสอง และคนติดตามอีกสองคน ผมขยาดตัวเลขมากๆเลยเลือกถามพี่บอดี้การ์ดก่อน และผมก็ค้นพบว่า...การเป็นบอดี้การ์ดมันเหมือนหลักสูตรออกรบดีๆนี่เอง



   ส่วนคุณเลขาทั้งสี่ก็คล้ายๆกัน การเงิน เศรษฐศาสตร์ บริหาร บัญชี ล้วนแล้วแต่มีตัวเลข ผมขอตามเจิ้นเข้าประชุมบอร์ดครั้งหนึ่ง



   เขาดูแปลกใจ แต่ก็อนุญาต ผมลองเข้าไปนั่งในโลกการทำงานของเจิ้น ทุกคนล้วนแต่คุยเกี่ยวกับตัวเลข ทุกคำถามที่เจิ้นสงสัยล้วนเกี่ยวกับตัวเลข ทุกคนต่างคุยกันราวกับผมหลุดมาอยู่อีกห้วงอวกาศ



   โลกการทำงานของเจิ้น...ไม่มีผม



   มันยิ่งชัดเจนยามผมสังเกตกิจวัตรประจำวันของเจิ้นอย่างจริงจัง ประชุม กินข้าวกับลูกค้า ออกงาน เจรจาธุรกิจ เจิ้นทำงานวันละแปดชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ และกิจกรรมนอกห้องทำงานเหล่านั้น...ผมไม่มีโอกาสเข้าไปเกี่ยวข้อง



   หนึ่งวันที่ 24 ชั่วโมง แปดถึงสิบห้าชั่วโมงที่เวลาของเจิ้นถูกแย่งไป เกิน 50 เปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำ



   ผมไม่พอใจ...



   เป็นครั้งแรกที่เจ้าหลุมดำเริ่มก่อตัวในอกผม เจิ้นก็เหมือนเดิมแต่ผมต่างหากที่รู้สึกว่ามันไม่พอ พอเริ่มงอแงอย่างไร้เหตุผล เกิดการกระทำแสดงความไม่พอใจหลายอย่างจนเจิ้นถามว่าผมเป็นอะไร



   ผมตอบไม่ได้



   ผมจะกล้าบอกได้ยังไงว่า...หวง...น้อยใจ ไม่อยากให้กลับบ้านดึก



   เจิ้นต้องทำงานและพฤติกรรมไม่ดีเหล่านั้นคือความเอาแต่ใจที่จะสร้างความลำบากใจ ดังนั้นผมต้องเริ่มจากการเปลี่ยนตัวเองก่อน



   ผมต้องเข้าไปอยู่ในโลกของเจิ้น...



และสุดท้ายผมก็ต้องมาสู้กับวิชาคณิตศาสตร์ ผมเลือกเรียนสาขาการเงินในมหาวิทยาลัยเอกชนเพราะผมแอดไม่ติด จริงๆก็สอบตรงติดแต่เป็นมหาลัยต่างจังหวัด




   ก็นึกว่าจะได้ไปอยู่หอ ไปรับน้อง ใช้ชีวิตวัยรุ่นแบบคนอื่นที่สอบติดไกลบ้านกัน...
เพราะเพื่อนบอกว่าที่บ้านตีกรอบชีวิตผมเกินไป ผมควรได้ไปใช้ชีวิตและโตเป็นผู้ใหญ่ ผมก็เห็นด้วย



   ‘ถ้าจันทร์อยากเรียนมหาลัยต่างจังหวัด ก็เรียนพวกมหาลัยที่ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพเกิน 1 ชั่วโมง หรือถ้าอยากอยู่หอ คอนโดของเราก็ว่างหลายที่ ไม่มีใครดูแลด้วย จันทร์ไปอยู่จะได้ดูห้องแล้วก็ฝึกดูแลตัวเองแบบที่จันทร์อยากทำ’   



ผมตื่นเต้นที่เจิ้นเริ่มให้ผมได้ลองใช้ชีวิต แต่พอเล่าให้เพื่อนฟังทุกคนกลับกรอกตา...ต่างจังหวัดที่ไกลกรุงเทพไม่เกิน 1 ชั่วโมง มันไม่เรียกว่าต่างจังหวัดนะ เขาเรียกปริมณฑล….



เพื่อนคนหนึ่งเสนอว่า ไม่เกินเนี่ย...นั่งเครื่องบินก็ได้ ก็จริง ตรงเงื่อนไขของเจิ้นเหมือนกัน เชียงใหม่ก็เดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ผมอาจจะลองสอบไป มช. ไปวิ่งขึ้นดอยสุเทพเหมือนที่เคยเห็นในทีวีทุกปี



   ‘แล้วถ้าจันทร์...นั่งเครื่องบิน...’



   ‘พี่เป็นห่วงจันทร์ พี่มีแค่จันทร์คนเดียว ขอพี่เป็นห่วงได้ไหม?’



   …แล้วผมจะไปทำไรได้นอกจากตอบตกลง...เจิ้นมีผมคนเดียว ผมก็มีแค่เจิ้นคนเดียว



   เจิ้นไม่เคยบังคับผม แต่มักจะมีคำถามที่ทำให้ผมต้องทำตามเพราะรู้สึกว่าตัวเองได้เปรียบ...แต่มาคิดๆดูแล้วอาจจะเป็นผมที่เสียเปรียบหรือเปล่านะ?



   เพราะผมไม่แน่ใจว่าตกลงผมได้เปรียบหรือเสียเปรียบ ผมแลยเปิดอกคุยเรื่องนี้กับเจิ้นอย่างจริงจัง เจิ้นกลับขำแล้วพูดว่า



   ‘ความเป็นห่วงของพี่กลายเป็นเอาเปรียบจันทร์ใช่ไหม งั้นพี่จะพยายามลดความเป็นห่วงของพี่ลงดีไหม? จันทร์จะได้ไม่อึดอัด’



   การไม่เป็นห่วงของเจิ้นผ่านไปได้แค่อาทิตย์เดียว ผมก็รู้สึกเหมือนถูกทิ้งอยู่กลางทะเลทราย.... เจิ้นไม่นั่งรถไปส่งผมที่โรงเรียน มีแค่คนขับรถไปส่ง ไม่กินข้าวเช้าด้วยกัน ไม่มีบอกกู้ดไนท์ ไม่มีนมอุ่นก่อนนอน ไม่มีแม้แต่ morning care



   Morning care เป็นกิจกรรมที่เราต้องตื่นมากอดกันห้านาทีทุกเช้า เจิ้นบอกว่าเป็นการชาร์จแบตสำหรับวันใหม่และเช็คกันและกันว่าไม่สบายหรือเปล่า



หน้าผากต้องแนบกันเพื่อดูว่าอีกคนตัวร้อนหรือเปล่า



ต้องสบตากันว่าตาแดงไหมอาจจะมีแมงยุบยิบและไรฝุ่นมาทำให้ระคายเคือง



   ต้องเอาจมูกชนกันส่ายไปส่ายมาเผื่อเช็คว่ามีน้ำมูกหรือเป็นหวัดฮัดชิ่วไหม



   และอีกกิจกรรมที่ผมมักจะหน้าร้อนผ่าวอย่างไร้สาเหตุ...การตรวจฟัน



เจิ้นกลัวผมฟันผุเพราะผมชอบกินขนม... ผมกลัวหมอฟัน หมอฟันชอบให้อ้าปากแล้วก็ทำอะไรเจ็บๆ แต่เจิ้นบอกว่าเราแค่ตรวจพื้นฐานไม่ต้องทำแบบหมอ...



   ...เราจูบกัน



   ลิ้นของเจิ้นจะเลาะเล็มไปในปากผม...ผมคิดว่าเจิ้นคงตรวจลิ้นด้วย...เจิ้นบอกไหนๆตรวจฟันแล้วลิ้นอยู่ใกล้ๆกันก็แถมไป



   ผมก็คิดว่า...ไหนๆก็ไหนแล้ว ก็ทีเดียวไปเลย...



   แต่ฟันกับลิ้นมันอยู่ลึกมั้ง...เจิ้นเลยเสียเวลากับริมฝีปากผมก่อนทุกที



   เป็นกิจกรรมที่เป็นทั้งผู้ให้และผู้รับ...และผมก็ทำมันมาตลอด เจิ้นตัดมันออกไปเพราะเจิ้นบอกว่ามันคือความเป็นห่วงอย่างหนึ่ง..



   สุดท้ายผมก็ทนไม่ไหว ต้องเดินไปง้อเจิ้นถึงห้องทำงาน ทุกครั้งผมสามารถเข้าไปได้ทันที แต่เลขาของเจิ้นกลับบอกว่าถ้าไม่นัดมาก่อนก็เข้าพบไม่ได้



   เจิ้นปล่อยให้ผมนั่งรอถึงสองทุ่ม เลขากลับกันไปหมดแล้วถึงจะยอมออกมา ผมถามว่าทำไมผมเข้าไปเลยเหมือนทุกทีไม่ได้



   ‘ทุกครั้งจันทร์เข้าไปได้เลยเพราะพี่เป็นห่วง กลัวจันทร์เจอเรื่องไม่ดี ไม่สบายใจถึงรีบมาบอกพี่ แต่ตอนนี้จันทร์ไม่อยากให้พี่ห่วงแล้ว พี่ก็ต้องทำงานสำคัญก่อน จันทร์โตแล้วจันทร์ต้องรู้นะว่าพี่ยุ่ง ต้องนัดมาถ้าจะมาเจอที่ทำงาน’



   “เจิ้นเกลียดจันทร์แล้วหรอ”



   เสียงผมแห้งผาก น้ำตามากมายมาจากไหนก็ไม่รู้ ผมไม่เคยอึดอัดขนาดนั้นมาก่อน เจ้าหลุมดำกินผมไปทั้งร่าง และผมก็ล้มลง...



   เป็นเจิ้นที่คว้าผมไว้ แขนแข็งแรงโอบเอวผมไม่ให้ร่วงหล่น และผมก็กลั้นเสียงสะอื้นไว้ไม่อยู่ ผมร้องให้อยู่กับอกเจิ้น ขยำสูทของเขาจนยับย่น



   “ชู่ว...ร้องไห้ทำไมหืม”



   “เจิ้นเกลียดจันทร์แล้ว ฮึก... ไม่ไปส่งจันทร์ ไม่กินข้าวด้วย ไม่กู้ดไนท์ ฮึก ไม่มอนิ่งแคร์ ไม่ให้จันทร์มาหา ฮึก”



   “จันทร์ต่างหากที่เกลียดพี่... ไม่ยอมให้พี่เป็นห่วง พี่ก็กลัวว่าจันทร์เจอพี่แล้วจันทร์จะอึดอัด”



   “ไม่เอาแล้ว ฮึก ห่วงจันทร์เยอะๆก็ได้ ฮืออ จันทร์ขอโทษ เราง้อกันนะ จันทร์จะเป็นเด็กดี”



   “ไม่ไล่พี่แล้วนะ?”



   “ไม่ไล่แล้ว ฮืออ”



   “มูนนี่เด็กดี ไหน...ขอพี่แทรกกิจกรรมมอนิ่งแคร์ตอนนี้ได้ไหม?”



   ผมรีบพยักหน้า กำลังจะยื่นหน้าไปทาบหน้าผากกับเจิ้น... กิจกรรมตรวจฟันก็ถูกแทรกเข้ามาก่อน... ปากผมถูกเจิ้นตรวจจนรู้สึกได้ว่ามันจะบวมช้ำ... ทั้งลิ้น และฟัน...



   เจิ้นตรวจมันจนผมยืนแทบไม่ไหว...จนถูกเจิ้นอุ้มขึ้นนั่งตัก



   มอนิ่งแคร์หน้าห้องทำงานในยามสองทุ่มของเรายังคงดำเนินต่อจนผมหูตาลาย สองมือทำได้แค่โอบรอบคอเจิ้นไว้เป็นหลักยึด



   สงสัยเพราะว่าตั้งแต่ผมไม่ยอมให้เจิ้นเป็นห่วง...สุขภาพผมอาจจะไม่ค่อยดีเจิ้นเลยตรวจนานกว่าปกติ แก้มผมร้อนผ่าวตอนเจิ้นผละออกช้าๆแต่ยังคลอเคลียอยู่กับใบหน้าผม...



   “จันทร์สบายดี พี่ตรวจทั้งหน้าผาก ทั้งแก้ม อุณหภูมิปกติ พี่ลองงับจมูกเบาๆแล้วยังหายใจโอเคนะ?”



   “ฟันจันทร์ไม่ผุใช่ไหม...เจิ้นตรวจนานจัง”



   “ช่วงนี้ปวดฟันหรือเปล่าล่ะ?”



   “จันทร์ไม่แน่ใจ...ไม่ไปหาหมอนะ ได้ไหม?”



   “งั้น...ขอพี่ตรวจอีกทีดีกว่า”



   “แต่..อื้อออ”



   ผมเริ่มหายใจติดขัด กอดของเจิ้นรัดผมแน่นกว่าปกติที่มักจะแค่ยกมือแนบแก้มผมเบาๆ ผมรู้สึกแปลกประหลาดจนต้องขยับตัวไปมา เสียงเจิ้นดังต่ำในลำคอ ผมพยายามเขยิบหนีแต่เจิ้นรวบเอวผมไว้แน่น...



   “จันทร์มีแมลงที่คอ...”



   เจิ้นกระซิบเสียงพร่าก่อนจะก้มหน้าลงไปจัดการแมลง...ผมกลัวพวกมดและแมลง จึงรีบเอียงคอให้เจิ้นเอามันออก พวกมันชอบยุบยิบและจับตัวยาก



   เจิ้นคงกำลังไล่จับมัน จูบของเจิ้นถึงขยับเปลี่ยนที่ไปมา... ผมหลุดครางออกมาคงเพราะแมลงมันแอบกัดผม ผมถึงรู้สึก...หน่วงๆ ปน...ตื่นเต้น



   “อ้ะ..”



   เจิ้นกัดผม...



   “จับได้แล้ว”



   เขาจูบย้ำๆตรงลำคอผมก่อนจะผละออก...



   การตรวจของเจิ้นทำผมหมดแรง..... เขาอุ้มผมขึ้นไปที่ลิฟต์ส่วนตัวที่จะพาไปชั้นบน ตาผมพร่ามัวพูดอะไรไม่ออก ... การไม่ตรวจสุขภาพเป็นประจำทำให้เราไม่คุ้นเคยและหมดแรง



   ผมจะไม่ละเลยการตรวจสุขภาพอีก



   “ไม่โกรธผมแล้วนะ...”



   ผมเงยหน้ามองเจิ้นตอนเขาวางผมลงบนเตียง



   “พี่เคยโกรธจัทร์ที่ไหนกัน...จันทร์คิดมากไปแล้ว”



   เจิ้นพูดเสียงนุ่ม....คนโกรธคงไม่พูดกันดีๆ



...ผมคงคิดไปเอง
   

========================================

ทำไมพี่เจิ้นรายกาจแบบเน้ 555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด