IN CONTROL ... ในปกครอง : Special Chapter : NubNab : July 17, 18 : P.115
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: IN CONTROL ... ในปกครอง : Special Chapter : NubNab : July 17, 18 : P.115  (อ่าน 705748 ครั้ง)

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
 :katai2-1:

ออฟไลน์ ก้มหน้าก้มตา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
เข้ามาเม้นต์ว่า อยากจะเก็บเป็นอีบุ๊คมากเลยค่ะ
ที่บ้านเก็บนิยายเป็นเล่มไม่สะดวก

ตามานาน อยากอุดหนุนค่ะ

ออฟไลน์ Pam_ban

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-2
แบดมูนนี่เปรี้ยวจี๊ดได้ใจมาก   :laugh:  เจิ้นตกลงหลุมเบ้อเริ่ม  ขึ้นไม่ไหวแน่นอน



รอข่าวการรวมเล่มมานาน  รออุดหนุนอยู่นะคะ


 :katai3:

ออฟไลน์ bambooiihallo

  • ยู้ฮู >w<
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1503/-19
Chapter XXVII Trainee



   “เสื้อเจิ้นไว้ตรงนี้เลยครับ เดี๋ยวจากนี้ผมจัดการเอง”



   ตอนนี้ปิดเทอมแล้ว ผมจบเทอมสองของปีสามด้วยเกรดเฉลี่ย 2.99 อย่างไม่น่าเชื่อ จากที่ไม่เคยถึง 2.3 มาก่อนเลยตอนนี้ผมกำลังเรียนเก่งแบบก้าวกระโดด ที่ลุงหยางทำหน้าเอือมตอนพ่อชมว่ากระโดดไกลมาก



   “เข้าข้างลูกตลอด กระโดดหรือกระดื้บ?”



   “พี่ซันอย่ายุ่ง จันทร์อย่าไปฟัง เก่งมากเลยลูกดูสิได้บีบวกวิชานี้ด้วย”



   “มันวิชาภาษาอังกฤษไม่ใช่วิชาหลัก...แล้วเอไปไหน ได้ดีมาตั้งสองตัว”



   “เอ๊ะ คุณสุริยะ คุณจะเอายังไง?”



   “แล้วคุณกันติชาจะทำไมครับ?”



   กลายเป็นพ่อกับลุงทะเลาะกันเพราะลุงล้อเกรดผม ผมก็อยากจะโมโหอ่ะแต่ดูพ่อโมโหกว่าแล้วเลยโมโหไม่ลง ลุงถูกพ่อบ่นเยอะมาก เยอะแบบ...ต้องพาตัวเองหนีไปชั้นบน ส่วนพ่อก็มาดีใจกับผมต่อ



   แต่ถึงเกรดผมจะเติบโตแบบกระดื้บไม่ใช่กระโดดผมก็ดีใจอ่ะ อวดคนทั้งบ้านเลย ปู่ก็พาไปกินข้าวอร่อยๆอีกแล้ว เจิ้นก็...ก็หาพวกเสื้อผ้าน่ารักมาเพิ่มอีก!



   การอยู่ช่อฟ้าในช่วงปิดเทอมผมเลยได้ใส่แต่ชุดน่ารักของเจิ้น กับดูแลเรื่องทั่วไปของเขา ยิ่งช่วงนี้คุณแม่บ้านที่บ้านใหญ่ป่วยเจิ้นเลยให้คุณป้าแม่บ้านกลับไปดูแลปู่



   กลายเป็นว่าผมได้ใส่เสื้อผ้าน่ารักของเจิ้นนอกห้องนอนด้วยเพราะเจิ้นชอบ! ผมมีกางเกงขาสั้นขาพองๆขอบลูกไม้ตัวใหม่ กับถุงเท้าที่ยาวถึงหน้าแข้ง แล้วไหนจะเสื้อตัวโคร่งที่หล่นจากไหล่...เจิ้นไปหามาจากไหนไม่รู้ ที่คาดผมแบบผ้าที่มีหูกระต่ายเล็กๆนี่อีก



   เจิ้นบอกผมเป็นกระต่ายของเจิ้น...แต่เขาอารมณ์ดีจริงๆนะพอผมใส่เสื้อผ้าน่ารักของเขาน่ะ ขนาดผ้ากันเปื้อนผมยังได้อันใหม่เป็นสีชมพูมีโบว์อันใหญ่ตรงหน้าอกด้วย



   แต่ถ้าวันไหนมีคนมาบ้านห้ามแต่งตัวน่ารักเด็ดขาด เขาหวงอะไรยุบยิบไปหมด อย่างวันนี้ผมส่งสูทกับชุดจีนของเจิ้นไปซักมาก็ต้องแต่งตัวขายาวแขนยาวมารอรับซึ่งพี่เอ็มก็เป็นคนไปเอาให้



   กับพี่เอ็มก็ห้ามเห็นผมใส่ชุดน่ารักอะไรของเขาเด็ดขาด แต่ผมรู้หรอกว่าเจิ้นไม่มีทางหาซื้อชุดเหล่านี้เองถ้าไม่ได้พี่เอ็มไปซื้อให้! ยิ่งชุดพยาบาลเมื่อวันก่อน เจิ้นชอบยูนิฟอร์มแบบลุงหยางจริงๆด้วย!
   





   “ให้พี่ยกเข้าไปในห้องให้เลยดีไหมคุณจันทร์ มันหนักนะ”



   “มะ ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง”



   ในห้องยังยุ่งเหยิงเพราะเจิ้นยุบยิบผมแต่เช้าอยู่เลย ขืนเข้าไปผมไม่กล้ามองหน้าพี่เอ็มแล้ว...ซากถุงน่องที่เจิ้นฉีกเป็นเศษขยะยังกองอยู่หน้าประตูห้องนอน เปิดไปก็เจอเลยด้วย



   “งั้นพี่ลงไปทำงานต่อแล้วนะ”



   ผมยืนส่งพี่เอ็มหน้าลิฟต์ก่อนจะเริ่มทำงานบ้านต่อ ผมต้องหัดทำนั่นทำนี่ด้วยตัวเองชั่วคราวไปก่อน งานบ้านไม่ยากแค่เยอะ แล้วบางอย่างผมก็ไม่แน่ใจว่าทำถูกไหม อย่างเครื่องเงินก็ต้องดูแลอีกแบบ เครื่องแก้วก็อีกแบบจำได้ว่าคุณป้าแม่บ้านเคยพูดอยู่ แต่ผมยังทำไม่เป็นเลยเน้นแค่ดูดฝุ่น ล้างจาน เช็ดโต๊ะ เก็บห้องนอน



   เจิ้นเป็นอุปสรรคการทำความสะอาดบ้านของผมมาก ห้องนอนเราไม่ได้เรียบร้อยสักที เหมือนกับว่าพอคุณป้าแม่บ้านไม่อยู่เจิ้นยิ่ง...ยิ่งไม่ระวังอะไรเลย!



   พอผมบ่นเขาก็อุ้มมายุบยิบหน้าทีวีแทน พอผมท้วงว่ามันจะเลอะเทอะเขาก็แค่...แค่หยิบถุงยางมาใส่ อะไรก็ไม่รู้กับผู้ชายคนนี้ เหนื่อยใจ!



   ผมเคยแกล้งๆถามเขาว่าไปเตะบอลกับเพื่อนๆบ้างดีไหม คือเตะบอลมันทำให้อารมณ์ทางเพศลดลงด้วยหรือเปล่า แบบว่าเหนื่อยอะไรแบบนี้ กลายเป็นว่าเจิ้นหาว่าผมแอบไปปลื้มนักบอล มาหึงยุบยิบอีก



   เจิ้นยิ่งแก่ก็ยิ่งเอาใจยาก ต้องแก้ด้วยการตามใจนั่นแหละ...การตามใจเจิ้นผมก็ไม่ได้ลำบากใจอะไร พอเขามีความสุขผมก็แฮปปี้ไปด้วย ช่วงนี้อะไรๆมันก็เลยดีไปหมดเลย



   ผมได้สำรวจตัวเองแล้วพบว่าการจะดูแลบ้านให้เจิ้นได้นั้นผมต้องพัฒนาอีกมาก เจิ้นไม่ได้บังคับให้ผมทำงานหรือว่าอยู่บ้านจัดการแค่เรื่องในบ้านไป



   ก็ยังคิดไม่ตกเหมือนกันว่าอยากทำอะไรกันแน่ แต่ที่ชัวร์ๆคืออยากดูแลบัญชีให้เจิ้นอ่ะ จะว่าไปตอนนี้เจิ้นก็หยอดกระปุกตามที่ผมบอกทุกวันเลยนะ พาเจิ้นไปฝากเงินดีกว่า กระปุกอาจจะใกล้เต็มแล้ว



   “จันทร์?”



   “อ๊ะ มาแล้วหรอ กินข้าวกัน”



   เจิ้นจะขึ้นมากินข้าวกลางวันกับผมทุกวัน วันนี้ผมทำข้าวผัดง่ายๆเพราะเสียเวลาทั้งเช้ากับการจัดการห้องนอนของเรา เจิ้นก็กินง่ายไม่ดื้อเลย ชงชาให้ก็ดื่ม ให้กินผลไม้ก็กิน เหนื่อยก็แค่ตอนเขาจะกลับไปทำงาน โดนจูบจนหัวหมุนไม่พอ ยังบังคับให้ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ดูอีก



   แล้วชุดที่เลือกก็มีแค่เอี๊ยมผูกคอผูกหลังที่ปิดอะไรไม่ได้เลยกับกางเกงขาสั้นที่เปิดก้นไปครึ่ง!



   “เจิ้น มันโป๊นะ”



   “พี่ชอบให้จันทร์โป๊ให้พี่ดู”



   เขาบีบก้นผมแล้วก็จับผมจูบอีกรอบถึงลงไปทำงาน พอจะสรุปรสนิยมของเจิ้นออกแล้วล่ะ ช่างมันด้วยแหละเพราะก็ใส่ให้เขาดูคนเดียวไม่ได้ไปไหนสักหน่อย
   



   “จันทร์”



   “อ้าว ทำไมขึ้นมาไวจังยังไม่สี่โมงเลยนะเจิ้น อื้อออออ”



   “ง่วง”



   เจิ้นจับผมจูบทั้งๆที่ผมกำลังจะเล่นกับหลานๆลูกน้องนุ่มแล้วก็แบกผมกลับเข้าไปนอนด้วยในห้องนอนเฉย แต่เขาไม่ได้นอนเฉยๆ มันเรียกว่าช่วงเวลาลวนลามผมยามบ่ายชัดๆ



   เขาก็ไม่ได้ทำแบบฟูลคอร์สหรอกเพราะต้องไปทำงานต่อ ก็แค่นอนบีบก้นผมเล่นกับทำตาวิบวับใส่ชุดโป๊ๆบนตัวผมนั่นแหละ ปลาหมึกหื่นเอ้ย!



   “ตอนเย็นไปกินข้าวข้างนอกกันไหม?”



   “ที่ไหนหรอ”



   “อาหารญี่ปุ่นไหม กินไอติมด้วยไม่ได้ไปด้วยกันนานแล้วนะ”



   เจิ้นดึงมือผมไปจูบ เขาจะทำแบบนี้เวลาจะอ้อนให้ผมตามใจแบบน่ารักๆ



   “อื้อ ไปกินไอติมชิดลมกันเนอะ”



   “ขอกินนมจันทร์ก่อนได้ไหม?”



   “เจิ้น ทะลึ่ง!”



   แต่เขาก็ไม่สนใจ ดึงทีเดียวเอี๊ยมบนตัวผมก็หลุดแล้ว แล้วผมก็ต้องนอนหมดแรงให้เขาดูดนม จนมันบวมแดงไปหมดเขาถึงพอใจแล้วหยิบเอี๊ยมมาใส่ให้ผมเหมือนเดิม



   ซึ่งนมผมมันบวมแล้วอ่ะพอใส่ผ้ารัดๆแบบนี้มันก็เห็นชัดเลย แต่เจิ้นกลับบอกว่าน่ารัก! เขาลงไปทำงานแบบอารมณ์โคตรดี ส่วนผมก็หงุดหงิดกับอารมณ์ที่ไม่ยอมลงง่ายๆ ต้องไนท์แคร์ตัวเอง...



   แผนการเรียนของผมไม่มีการเรียนการสอนในปีสี่ แต่ต้องทำงานหนึ่งปีเต็ม ผมก็เลือกมาฝึกงานที่ช่อฟ้าต่อ จริงๆคือเจิ้นไม่ยอมให้ไปไหนด้วย จะไปฝึกร้านชาของปู่ก็ไม่ตรงสาขาที่เรียน ก็เลยกลายเป็นผมตื่นลงมาทำงานพร้อมเจิ้น



   แต่เจิ้นลงมาแค่ชั้นเดียว ส่วนผมเปลี่ยนลิฟต์จากลิฟต์ผู้บริหารไปเป็นลิฟต์ปกติ...ลิฟต์ผู้บริหารของเจิ้นจะเปิดแค่สามชั้น คือชั้นทำงานของเจิ้น บ้านเราข้างบนแล้วก็ชั้นล่างสุดเลย



   จริงๆเจิ้นจะมาส่งผมเองด้วยแต่ผมไม่ยอม เขินจะตายอ้ะ...พนักงานไม่ค่อยได้เจอเจิ้นหรอกแล้วเขาจะพากันเกร็งหมดถ้าเจิ้นลงมาชั้นล่าง เพราะผมฝึกงานที่ธนาคารสาขาช่อฟ้า ไม่ได้ฝึกอยู่ในตัวสำนักงานใหญ่



   หน้าที่ผมก็เริ่มจากเป็นพนักงานกดบัตรคิวเลย นึกว่าคนจะไม่เยอะแต่พอธนาคารเปิดคนกลับมาจากไหนไม่รู้เต็มไปหมด พี่ๆชวนผมไปกินข้าวเที่ยงที่แคนทีนของช่อฟ้าด้วยกัน ผมเลยโทรหาเจิ้นว่าคงไม่ได้ไปกินด้วยเพราะผมอยากสนิทกับพี่ๆที่ทำงานไวๆ



   “แล้วพี่จะกินกับใคร?”



   “เจิ้นก็กินข้าวกับพี่เอ็มก่อนนะ จันทร์อยากไปกินกับพี่ๆนี่นา เจิ้นห้ามมาด้วยเดี๋ยวทุกคนเกร็ง ไม่งอนเนอะ”



   ผมไม่ทันได้ฟังเจิ้นพูดหรอกต้องรีบตัดสายหนีไปงั้นพ่อปลาหมึกแก่ผมจะพ่นหมึกแน่ๆ



   นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ผมได้มากินข้าวที่แคนทีนของช่อฟ้า ถึงจะเคยมาฝึกงานกับพี่เลขาของคุณพ่อเจิ้นผมก็กินข้าวข้างบนหรือไปข้างนอกกับคุณพ่อตลอด ในแคนทีนมีพนักงานในชุดยูนิฟอร์มเดินกันเต็มไปหมดเลย



   พนักงานเยอะมาก แล้วโรงแคนทีนก็ใหญ่มากด้วย เป็นอาคารหลังเล็กๆที่เชื่อมต่อจากอาคารหลัก ผมก็เดินไกลหน่อยเพราะธนาคารที่ผมทำมันแยกออกไปด้านหน้าตัวอาคารหลัก



   ผมสั่งก๋วยเตี๋ยวกินตามพี่ๆ ผมไม่กล้ากินพวกข้าวราดแกงเพราะว่าผมกินอะไรแปลกๆแล้วจะปวดท้อง ถ้ามันเผ็ดไปหรือว่ารสจัดไป กินของร้อนไว้ก่อนน่าจะปลอดภัยกว่า



   เราได้ที่นั่งกินแถวกลางๆแคนทีน ผมกินก๋วยเตี๋ยวของผมไปเรื่อยๆแต่ปรากฏว่าผมกินช้ามากเมื่อเทียบกับทุกคน ตอนกินข้าวกับเจิ้น เจิ้นก็จะกินช้าๆไปกับผมแต่ทุกคนที่นี่ดูรีบกันหมดเลย



   เสียงพูดคุยเงียบลงนิดหน่อยกับทุกสายตาที่มองตรงไปที่เดียวทำให้ผมมองตามไปด้วย...เจิ้นกับพี่เอ็ม!! แล้วก็พี่เลขาอีกสามคน!! กำลังต่อแถวแลกคูปอง



   คือมันก็ปกติมั้งที่ผู้บริหารจะลงมาทานข้าวแต่ว่าเจิ้นไม่เคยนี่ แล้วบรรยากาศรอบตัวเจิ้นมันดูชวนเว้นระยะห่างมากเลย วันนี้เขาใส่ชุดจีนด้วยทำให้มันดูเด่นออกมาจากทุกคน



   เจิ้นไม่ได้อยากมากินข้าวที่แคนทีนหรอกเพราะเขาถูกจ้องเยอะเกินไป แล้วคนก็เยอะซึ่งเขาไม่ชอบ แต่เขาประชดผมต่างหาก เพราะสุดท้ายผมก็จะทนไม่ไหวที่ต้องเห็นเขามานั่งอึดอัด



   “เดี๋ยวผมไปหาเจิ้นก่อนนะครับ แล้วเดี๋ยวเจอกันที่ธนาคารเลยก็ได้ ผมจะไม่ไปสายแน่นอน”



   ทุกคนไม่ได้ว่าอะไรแล้วมันก็เพิ่งจะเที่ยงกว่าๆ เจิ้นเห็นผมเดินไปหาแล้วแต่เขากลับหันหน้าหนี ต่างจากพี่เอ็มที่ยืนล้วงกระเป๋าสบายใจ



   “ทานข้าวอร่อยไหมครับคุณจันทร์”



    “ยังไม่อิ่มเลยอ่ะ เจิ้นมานี่เลยขึ้นไปข้างบนกัน”



   “หิวข้าวจะกินข้าว”



   “เจิ้น”



   “ต่อแถวตั้งนานนะกว่าจะได้แลกคูปอง”



   ดูคำพูดคำจาคนแก่ขี้งอน ผมเลยต้องคล้องแขนลากเขาออกไปด้วยกัน เจิ้นไม่กล้าขืนตัวไว้หรอกเขากลัวผมเจ็บจะตาย มีแค่ตอนเขาเอายุบยิบนั่นแหละที่ไม่กลัว



   “เนี่ยแล้วมันก็เสียเวลาเห็นไหม เจิ้นไม่กินข้าวกับจันทร์มื้อเดียวจะเป็นอะไรไป”



   ผมไม่ได้บ่นเจิ้นจริงจังนัก แถมยืนพิงเขาในลิฟต์มันก็สบายดี ลิฟต์ไม่ได้เปิดที่ชั้นไหนเลยด้วยเพราะเป็นลิฟต์ขึ้นไปบ้านเรา



   “เจอเพื่อนใหม่ก็ลืมพี่”



   “ฮื่อ ไม่ได้ลืมมม แต่จันทร์ต้องมีแบบว่าเมคเฟรนด์กับเพื่อนๆด้วยนี่ เดี๋ยวจันทร์ไม่มีคนคบ”



   “พี่นี่ไงคบจันทร์”



   “ฮึ่ย มันคนละแบบนะ ทำไมเจิ้นดื้อจัง”



   ผมหันไปกอดเอวเขาช้อนตามองคนแก่ขี้งอน เขาขมวดคิ้วแล้วก็บีบแก้มผม



   “จันทร์ทิ้งพี่ พี่ก็ต้องดื้อ”



   “ไม่ได้ทิ้งสักหน่อย แค่ไม่กินข้าวด้วยมื้อเดียวเอง”



   “นั่นล่ะทิ้ง พี่จะกินข้าวกับเมียพี่ทุกมื้อ มีปัญหาอะไรไหม?”



   ผมย่นจมูกใส่เจิ้น เขาเริ่มพ่นหมึกแล้วจริงๆด้วย แล้วเขาก็บ่นๆๆๆๆจนเดินออกจากลิฟต์ก็ยังบ่นๆๆๆๆ หาว่าผมไม่ใส่ใจ ไม่ให้ความสำคัญกับครอบครัว ไปเรื่อยนั่นล่ะ



   ผมขี้เกียจจะเถียงเลยปล่อยเขานั่งบ่นแล้วไปทำแซนวิชง่ายๆกับชงชาให้เจิ้นเป็นมื้อกลางวันแทน จะให้หุงข้าวเตรียมของก็คงไม่ทันแล้ว



   “โอ๋ จันทร์ป้อนนะ ดีกัน”



   หั่นแซนวิชเป็นคำเล็กๆป้อนเขานั่นล่ะเขาถึงเลิกบ่น เลิกทำท่าน้อยใจแล้วอารมณ์ดีขึ้น โมโหหิวชัดๆ!








   เจิ้นงอแงอยู่ช่วงวันแรกๆเพราะผมยืนยันว่าเจิ้นต้องปล่อยผมไปกินข้าวกับเพื่อนร่วมงานบ้าง แล้วเราก็จะเจอกันตอนเย็นทีเดียว



   “มันไม่เหมือนตอนจันทร์ทำงานในตึกนี่ พี่ไปหาจันทร์ตรงบันไดหนีไฟไม่ได้นะ?”



   “จันทร์ฝึกงานนะเจิ้น ทำไมคิดแต่จะยุบยิบ หืมมมม”



   เจิ้นดึงผมไปนั่งตักเขา เลิกสนใจข่าวในทีวีแล้วมาเอาแต่ใจกับผมแทน ตัดพ้อน้อยใจอะไรก็ไม่รู้ ทำเหมือนผมหายไปไกลก็เหลือเกิน



   “พี่คิดถึงเมียพี่ตลอดเวลาไม่ได้หรอ?”



   “ทำไมเวอร์จังเลย”



   ผมจุ้บคางเขาสองสามที พยายามให้เจิ้นเลิกงอแงแต่เปล่า มันไม่ได้ผล เจิ้นจับผมเปลี่ยนท่านั่งเป็นนั่งคร่อมตักเขาแทน และการโต้เถียงของเราก็จบลงเพราะเขาใช้ความหนุบหนับเบี่ยงเบนความสนใจผม



   หลังจากเถียงกันไปมาไม่จบด้วยข้อสรุปแต่จบที่ความยุบยิบหลายวันเจิ้นก็เลิกงอแง แต่...เขาย้ายผมเข้าไปทำงานในสำนักงานแทน! คือจริงๆผมต้องวนฝึกอยู่แล้วแต่มันยังไม่ถึงกำหนดย้ายสักหน่อย คราวนี้โต๊ะทำงานผมอยู่ติดโต๊ะพี่เอ็มเลย



   ผมโมโหจนโทรไปฟ้องคุณปู่ แต่ปู่ก็ทำอะไรเจิ้นไม่ได้เพราะเจิ้นไม่สนใจ ตอนนี้เจิ้นดื้อมาก สู้กับทุกคนแม้กระทั่งผม พี่เอ็มบอกว่าตามใจเจิ้นไปเถอะ เขาจะได้ไม่เครียด ช่วงนี้งานเครียดมากการได้เจอหน้าผมจะทำให้เจิ้นรู้สึกดีขึ้น



   ก็เลยกลายเป็นว่าผมมาให้พี่ๆเลขาเป็นพี่เลี้ยงแทน ได้ช่วยทำเอกสาร ได้ดูแลเจิ้น พี่ๆแต่ละคนก็ยุ่งกันคนละแบบ บางทีผมก็ตามพี่ๆเข้าไปประชุมกับหัวหน้าแผนกนั้น แผนกนี้



   พอมาทำงานหน้าห้องเจิ้น เจิ้นก็เลิกดื้อแล้ว เขาไม่ได้ทำให้ผมลำบากใจจำพวกเรียกเข้าไปหาบ่อยๆหรือออกมาบ่อยๆ พี่เอ็มบอกว่าเจิ้นแค่ไม่อยากให้ผมไปอยู่ไกลตัวเขาเท่านั้นเอง



   การทำงานกับพี่ๆเลขาทำให้ผมรู้สึกว่าผมไม่เก่งเลย ทุกคนดูทำงานเร็ว แล้วก็รอบครอบกันหมด มันมีเรื่องยากๆที่ผมไม่เข้าใจด้วยเยอะไปหมด เวลาพี่ๆปรึกษางานกันเขาพูดกันเร็วมากแล้วทุกคนก็ดูเข้าใจกันเอง



   ก็รู้มาตลอดว่าตัวเองไม่ใช่คนเก่ง แต่ก็ไม่เคยคิดว่าจะอยู่ห่างจากจุดที่เจิ้นยืนขนาดนี้ ความคิดที่ว่าผมจะเป็นผู้ช่วยเจิ้นมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยในเมื่อผมยังทำงานได้ไม่ถึงครึ่งของๆพี่เลขาเจิ้น



   เจิ้นจะอยากได้ผมไปช่วยทำไม? ในเมื่อผมไม่น่าช่วยอะไรเจิ้นได้เลย ผมกับรู้สึกว่าไปเป็นพนักงานกดบัตรคิวที่แบงก์ยังเหมาะกับตัวเองมากกว่า พูดคุยกับลูกค้าก็ยังได้ แต่พอมาอยู่ตรงนี้แล้วมันอึดอัดมากเลย


   ยิ่งการทำงานทำให้ผมอึดอัดการทำกับข้าวกลายเป็นเพิ่มแต้มความสุขอ่ะ คือเหมือนผมหาทางออกไม่ได้ก็เลยแก้เครียดด้วยการทำกับข้าว ตอนประชุมครั้งล่าสุดที่เหมือนผมเป็นคนโง่คุยคนละภาษากับเจิ้นมันเครียดมากจนผมทำหม้อไฟสำหรับสี่คนด้วยตัวคนเดียว



   แต่ถึงผมจะทำซูเปอร์หม้อไฟสำเร็จมันก็ไม่ได้ช่วยให้ผมทำงานเก่งขึ้นเลย มันมีรายละเอียดเยอะมากจนผมอยากจะไปเริ่มที่การเป็นพนักงานตัวเล็กๆใหม่



   ตอนทำงานกับคุณพ่อเจิ้นมันไม่เครียดขนาดนี้อาจจะเพราะมันไม่ได้ประชุมเยอะเหมือนตอนมาอยู่กับเจิ้น ไม่แปลกใจเลยอ่ะทำไมวิธีแก้เครียดของเจิ้นเป็นการจับผมใส่ชุดน่ารักพวกนั้น
   







   ผมตัดสินใจบอกเจิ้นตรงๆว่าผมรู้สึกยังไง เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่มีผลต่อชีวิตคู่ของเรามากๆ ผมกลัวเจิ้นจะคาดหวังถึงแม้จะรู้ว่าเขาไม่ได้คาดหวังให้ผมเป็นคนที่อยู่เคียงข้างช่วยเขาคิดเรื่องงานได้ก็ตาม



   แต่ว่าเราก็ควรจะทำความเข้าใจกันไว้ เผื่อในอนาคตเจิ้นเกิดเบื่อผมขึ้นมาเพราะผมไม่ได้เรื่องจะทำยังไง? เขาจะต้องยินยอมรับความเสี่ยงตรงนี้ไปด้วย ไม่รู้แหละ ถึงผมจะไม่ได้เรื่องก็ห้ามเลิก!



   ถ้าเกิดเขาอยากให้ผมลองพยายาม ผมก็จะพยายามอย่างสุดๆเพราะผมก็ไม่อยากเอาเปรียบให้เจิ้นเหนื่อยคนเดียว ถึงผมจะช้าแต่ก็จะไม่ช้าไปตลอดชีวิตหรอกมั้ง ผมอาจจะต้องอดทนเรียนรู้งานมากกว่าคนอื่นหลายปี แต่...มันก็ต้องถึงจุดที่เข้าที่เข้าทางในที่สุดนั่นแหละ แค่ผมจะต้องเหนื่อยเยอะๆหน่อย



   “จันทร์กังวล...กลัวว่าจันทร์จะทำเจิ้นผิดหวังนะ เพราะจันทร์ไม่เก่งเลย เจิ้นอดทนกับจันทร์หน่อยได้ไหม จันทร์จะพยายามทุกวัน จะเก่งแบบพี่เลขาของเจิ้นให้ได้ จะเป็นมูนนี่คนเก่งให้ได้”



   ผมนั่งจุมปุ๊กบนตักเจิ้น เสียงอ่อยๆนี่ก็ไม่ได้พยายามทำเลยเพราะผมหงอยจริงๆอ่ะ มันเจ็บใจมากเลยนะที่เราเห็นคนเก่งกว่าอยู่รอบตัวแต่เรากลายเป็นจุดแปลกแยกจุดเดียว ถึงทุกคนจะทำเป็นมองผ่านแล้วไม่ได้รังเกียจ แต่เวลาคุยงานแล้วหยุดชะงักเวลาผมถาม...มันก็ดูออก สุดท้ายก็กลายเป็นผมไม่กล้าถามอะไรเพราะมันดูโง่มาก



   “จันทร์ของพี่เก่งอยู่แล้ว”



   “จันทร์ฟังเขาคุยไม่รู้เรื่องเลย ประชุมอะไรจันทร์ก็เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง มันไม่เก่งสักหน่อย”



   “คนเราก็มีเรื่องที่ถนัดแตกต่างกัน จันทร์อาจจะไม่ถนัดเรื่องนี้เฉยๆ จันทร์เก่งกว่าพี่ตั้งหลายอย่าง ทำกับข้าวได้ เลี้ยงกระต่ายได้ อยากเป็นเจ้าของฟาร์มกระต่ายไม่ใช่หรอ”



   เจิ้นกอดผม เขาหอมเหม่งให้กำลังใจ เจิ้นก็เป็นแบบนี้ตลอดแต่เขาแค่...แค่พูดปลอบใจผมชัดๆ ฟาร์มกระต่ายอะไรนั่นผมลืมไปนานแล้ว เลี้ยงกระต่ายพูดแล้วก็อายง่ะ ตอนนี้เป็นคุณป้าแม่บ้านเลี้ยงไปแล้ว แถมคนนัดหมอมาฉีดวัคซีนก็เป็นพี่เอ็ม เหลือแค่ทำกับข้าวนี่แหละที่ผมยังทำด้วยตัวเองอยู่



   “จันทร์เป็นคนเหยาะแหยะจัง”



   “อย่าโทษตัวเองสิ...จันทร์เก่งเรื่องจัดการพี่ไงครับ ไหนบอกว่าพี่ดื้อ?”



   “เจิ้นก็แค่ขี้เกียจทะเลาะกับจันทร์เลยตามใจจันทร์ต่างหาก...จันทร์รู้หรอก”



   “จันทร์...ฟังพี่”



   เจิ้นดันตัวผมที่ซุกกับไหล่เขาออก ตาคมสบตาผมจนผมเห็นเงาตัวเองในนั้นชัดแจ๋ว



   “พี่ไม่ได้คิดว่าการที่จันทร์ทำงานกับพี่ไม่ได้จะเป็นเรื่องใหญ่อะไร ช่อฟ้าเป็นองค์กรขนาดใหญ่ พนักงานรวมถึงพี่ก็เป็นเหมือนตัวต่อเลโก้ชิ้นเล็กๆมาประกอบกันเป็นอันใหญ่ อันไหนขาดไปก็หาอันใหม่มาทดแทน ขาดใครคนใดคนหนึ่งไปองค์กรก็เดินต่อไปได้ เราไม่ใช่ธุรกิจขนาดเล็กแล้วจันทร์ เราไม่ต้องสู้กับอะไรเลยนอกจากปัญหาธุรกิจประจำวันที่มีแต่เรื่องเดิมๆ พี่ก็ทำงานเดิมๆ ที่พี่จ้างคนมาเยอะเพราะพี่ไม่อยากเสียเวลาไปคิดเรื่องงานให้รกสมอง พี่ให้คนเก่งๆเขาคิดไป พี่เอาเวลามาใส่ใจจันทร์ของพี่ดีกว่า เพราะพอเราคิดอะไรสักอย่างเสร็จก็ต้องเอาเข้าห้องประชุมต่อ ในนั้นก็มีคนช่วยคิดต่ออีกเป็นสิบ เผลอๆที่อุตส่าห์คิดตั้งนานก็โดนปัดตกไปด้วยซ้ำ”



   “ทำไม...ฟังเหมือนเจิ้นขี้เกียจเลยอ่ะ”



   “ใช่ ขี้เกียจ มีแต่เรื่องเดิมๆ พี่ไม่อยากให้จันทร์เข้ามาอยู่ในลูปนี้หรอก...จันทร์ไม่ถนัดเรื่องงานธนาคาร จันทร์อาจจะทำอย่างอื่นได้ดีก็ได้ ช่อฟ้าไม่ใช่โลกทั้งใบของเรานะครับ”



   “จันทร์ไม่ได้เห็นช่อฟ้าเป็นโลกทั้งใบนะ จันทร์แบบว่าอยากช่วยเจิ้นต่างหาก เจิ้นเหนื่อยจะตายแต่จันทร์ช่วยอะไรไม่ได้เลย แบบว่าจันทร์เป็นคนรักที่ไม่ได้น่าภูมิใจเท่าไหร่เลยอ่ะ”



   “พี่ภูมิใจมูนนี่ของพี่ทุกอย่าง...ไม่มีตรงไหนที่จันทร์ของพี่ขาดเลย เป็นจันทร์แบบนี้สมบูรณ์แบบที่สุดแล้ว”



   “ฮึก...เจิ้นก็เป็นแบบนี้ แล้วจันทร์ก็ดีใจไปวันๆ แต่มันทรมานมากเลยนะ ฮือออ จันทร์ทำอะไรไม่ได้เลย ทำได้แค่ถ่ายเอกสาร ฮือออ”



   มันเครียดจริงๆนะ การทำงานมันเป็นความกดดันเหมือนมีอะไรบีบอัดในตัวเราตลอดเวลา สายตาคนมันก็น่ากลัว...ถึงเขาจะไม่พูดอะไรแต่สายตามันบ่งบอก



ถ้าไม่ใช่เจิ้น ไม่ใช่พี่ๆเลขาหรือคุณพ่อเจิ้น ผมคิดว่าสังคมในช่อฟ้ามันโหดร้ายมากเลย ยิ่งมาอยู่ชั้นสูงขึ้น ภาระก็หนักหนาขึ้นต่างจากตอนอยู่สาขาเล็กๆหน้าช่อฟ้าเยอะเลย



“จันทร์...อยู่บ้านอย่างเดียวไหม? ดูแลบ้านเรา ดูแลพี่...ดูแลเงินส่วนตัวของบ้านเรา เลี้ยงนกเลี้ยงกระต่าย เรียนทำอาหาร อยู่บนนี้...จันทร์จะมีความสุขกว่าไหม?”



“เจิ้นอยากให้จันทร์อยู่เฉยๆหรอ”



เขาส่ายหน้าแล้วค่อยๆเช็ดน้ำตาให้ผม ผมซุกหน้าลงกับไหล่เจิ้นอีกครั้ง มันมืดแปดด้านไปหมดเลยแล้วผมก็เครียดมากด้วย



“พี่อยากให้จันทร์ทำอะไรที่มีความสุข แต่ก็อย่างที่จันทร์เห็น พี่ให้จันทร์ไปไหนไกลพี่ไม่ได้เลย...แค่ไปอยู่สาขาเล็กข้างหน้าพี่ก็ใจจะขาดแล้ว ต้องพาจันทร์มาอยู่หน้าห้องอย่างน้อยจันทร์ก็อยู่ใกล้ๆพี่ พอเป็นเรื่องของจันทร์พี่ก็กังวลไปหมด แต่พี่ก็ไม่อยากให้จันทร์รู้สึกว่าพี่ขังจันทร์ไว้ในบ้านเหมือนกัน...แต่ก็กลัวไปทุกอย่าง กลัวข้างนอกนั้นจะไม่ดีกับจันทร์ จะไม่รักเหมือนที่พี่รัก”



เราต่างกลัว...ผมกลัวว่าเจิ้นจะมองผมไร้ค่า ส่วนเจิ้นกลัวว่า...ผมจะไม่มีความสุข



เราต่างหวาดระแวงเพราะว่าเรารักกันมาก...ผมรักเจิ้นมากจริงๆแล้วเจิ้นก็รักผมมากด้วย ผมไม่ได้มีปัญหาเลยกับการอยู่บ้าน ดูแลบ้านของเรา เตรียมทำกับข้าวให้เจิ้น ดูแลเสื้อผ้าเขา ของใช้ต่างๆ



ถ้า...ถ้าเจิ้นมีความสุข ผมก็มีความสุข



“ถ้าจันทร์อยู่บ้าน เป็นแม่บ้านให้เจิ้น...เจิ้นจะไม่ทิ้งจันทร์ไปใช่ไหม เพราะจันทร์ทำอะไรอย่างอื่นไม่เป็นแล้วนะ วันหนึ่งถ้าเจิ้นเบื่อขึ้นมา จันทร์ก็คง...คงอยู่ไม่ได้”



“พี่จะเบื่อจันทร์ได้ยังไง...พี่รักของพี่ขนาดนี้...กลัวแต่จันทร์จะอึดอัดแล้วทิ้งพี่ไปในที่ที่พี่มองไม่เห็น สัญญาได้ไหมว่าหนีพี่ไปไกลสุดก็แค่บ้านใหญ่ ให้พี่ได้ปีนกำแพงไปหาได้ อย่าไปไกลกว่านั้นนะ...”



“ฮึก...จันทร์รักเจิ้น ฮืออออ จันทร์จะไม่ไปไหนไกล แต่ถ้าจันทร์งอนเจิ้นต้องง้อนะ ต้องตามใจเยอะๆ ฮึก...ต้องห้ามขัดใจ ละ แล้วก็ต้องรักจันทร์คนเดียวด้วย”



“พี่ก็ตามใจจันทร์ทุกอย่าง...ไม่ร้องไห้แล้วคนดี พี่จะขาดใจแล้ว...เดี๋ยวตาบวมนะ”



ความอึดอัดของผมลดลงไปเยอะเลย เจิ้นก็บอกว่างั้นให้ผมไปฝึกงานเป็นผู้ช่วยเลขาของคุณพ่อเจิ้นแทนดีกว่าเพราะน่าจะสบายใจกว่าอยู่กับพวกพี่เอ็ม เพราะพวกพี่เอ็มเก่งกันมากเกินไปแล้วงานหนักกว่าฝ่ายที่พ่อของเจิ้นดูแลเยอะ



“เจิ้นจะไปแอบหาจันทร์ตรงบันไดหนีไปใช่ไหม? จันทร์รู้นะ”



“ก็จันทร์ชอบไม่ใช่หรอ...หึหึ โดนฉุดแน่ รู้ไหมช่อฟ้าโจรดุนะ”



ผมหัวเราะทั้งน้ำตานั่นแหละ เจิ้นทำหน้าเจ้าเล่ห์เป็นปลาหมึกตามมุมตึกไปแล้ว



“ฮื้อออ จันทร์อยากเป็นเมียโจรจังเลย น่าจะตื่นเต้นกว่าเป็นเมียเจ้าของธนาคารเนอะ”



เจิ้นหรี่ตาลงก่อนจะสบถว่ามูนนี่ตัวแสบทำเอาผมหัวเราะเยอะกว่าเดิม เขาทำหน้าอ่อนอกอ่อนใจมากเลย แต่แค่แปปเดียวเขาก็กลายร่างเป็นปลาหมึกยุบยิบอย่างว่องไว



แรกๆผมก็เขินที่มาใช้คำพวก ผัว เมีย ง่ะ แต่พอพูดตอนเจิ้นหนุบหนับกับผมแล้วเจิ้นกลับชอบ ถึงเขาจะไม่บอกแต่ตาแวววับวุบวิบนั่นบอกเลยว่าถูกใจมาก...



แล้วผมก็ถนัดตามใจเจิ้นด้วยอ่ะ...ก็เลยพูดบ้างอะไรบ้าง...เจิ้นว่าดีผมก็ว่าดีนั่นแหละ




====



ตกลงยัยน้องรับปากเป็นแม่บ้านเต็มตัวล้าวววว ดีแล้วลูก อย่าไปยุ่งเรื่องงานเขาเลย ให้เจิ้นเขายุบยิบไป เรารอใช้ตังค์พอ 555+

ออฟไลน์ พิศตะวัน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-3
 :pighaun: :pighaun:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
 :pig4:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
จันทร์ เป็นแม่บ้าน ดูแลบ้าน ดูแลเจิ้นก็พอแล้ว  :mew1: :mew1: :mew1:
เพราะเจิ้น ทั้งหวง ทั้งคิดถึง
ขนาดไปไหนไม่ไกล เจิ้นก็งอนแล้ว   :mew2:

ขำเกรดจันทร์ทำให้พ่อตองบ่นลุงหยางที่ล้อเรื่องเกรด :katai2-1:
จนลุงหยางยอมแพ้หนีขึ้นชั้นบน  น่ารัก  ชอบบบบ  :m20: :laugh:

จันทร์ เจิ้น   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ MR.J

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มูนนี่ร้ายกาจจจจจจจจจจจจจ

ออฟไลน์ newone

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
แอร๊ นุ้งจันทร์น่ารักเบอรแรงอีกแล้วค่ะ กร๊าววววใจเรามาก  :hao7: มิน่าเจิ้นหลงเอาๆๆๆๆ ดีใจจังได้อ่านสองตอนติดเลยอ่า แบบว่าใจเราสดใสมากๆเลยค่ะ ตอนก่อนนี้คือช๊อคเราเหมือนกันนะที่จันทร์ไว้ผมยาว555555 เหนือคาดมากๆค่ะ อิพี่ก็ยิ่งเอ็นดูหนักไปอีก แบบว่าโดนใจเจิ้น น่ารักไปอีก :hao7:
พอมาตอนนี้ฝึกงานก็แบบ ยุบยิบหนุบหนับกันน่ารักอ่า เจิ้นก็งอนซะน่ารักเชียว ไปต่อแถวแคนทีนด้วย โว๊ะ เจิ้นนะ แล้วก็ลากน้องไปนั่งหน้าห้องให้อึดอัด หวงมากก็เป็นงี้หนอ
ชอบมูนนี่เวอร์ชั่นนี้นะคะ เป็นเวอร์รู้ทันโลกและเข้าใจอะไรมากขึ้นเยอะเลย โตแบบนี้แล้วก็ ออกเรือนได้จ้าาาาาา5555555 อยากอ่านไปเรื่อยๆไม่มีวันจบเลยอ่ะค่ะ :z3: สนุกน่ารักมากจริงๆ ขอบคุณนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: IN CONTROL ... ในปกครอง : Chapter XXVII : Trainee : June 4, 18 : P.113
« ตอบ #3369 เมื่อ: 04-06-2018 22:12:12 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ JanJanIsHappy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อาการหนักพอกัน55555

ออฟไลน์ Mayana

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 424
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
เป็นแม่บ้านเต็มตัวแล้วมูนนี่  :impress2:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
 :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
เจิ้นชอบคอสเพลย์ ..... เขินอ่ะ  :impress2 :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ คุณซี

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
มูนนี่จะเป็นแม่บ้านเต็มตัวแล้ว

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ร้ายกาจมาก!

ออฟไลน์ Y-Darkness

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
 :pig4:

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
สุดท้ายเจิ้นก็ตะล่อมให้น้องเป็นแม่บ้านอย่างเดียวจนได้

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
จันทร์หนูมาถูกทางแล้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: IN CONTROL ... ในปกครอง : Chapter XXVII : Trainee : June 4, 18 : P.113
« ตอบ #3379 เมื่อ: 05-06-2018 08:14:35 »





ออฟไลน์ WaterProof

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :o8: :-[  :-[  :impress2:

ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1
จันทร์เด็กดี o13

ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2940
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
สงสารจันทร์นะรอบตัวมีแต่คนเก่ง แต่น้องไม่เก่งแต่ก็มีความพยายาม เป็นแม่บ้านดูแลให้เจิ้นหยอดกระปุกก็พอแล้ว 555+
เรื่องเงินให้เจิ้นเป็นคนหาเถอะ นี่เมียเจ้าของธนาคารเชียวนะ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
เหมาะกับจันทร์แล้วละ

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
 :katai2-1: :katai2-1:
รอเล่มแล้วคร่าาาา..
อยากอ่านยาวๆ รีอ่าน วนไป..
 :katai5:

ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
 :o8:

ออฟไลน์ LomaPakpao

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-1
 :mew5: ระบบเป็นอะไรคะ รึเครื่องเราพัง เน็ตเสีย

ออฟไลน์ TheWanFah

  • ความใกล้ชิด บางครั้ง ทำให้เราเผลอคิดไปเอง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
ทำงานที่เรามีความสุขดีกว่านะจันทร์
ดูแลบ้าน ดูแลเงินของสามี คือความสุขของจันทร์ 555

ออฟไลน์ LomaPakpao

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-1
มีความเจ้าจันทร์มาก

ออฟไลน์ Pam_ban

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-2
น่าเห็นใจเจ้าจันทร์อยู่กับคนเก่ง ๆ แล้วกดดันตัวเองเหมือนทำอะไรไม่ถูก  แต่คิดว่าเจิ้นวางแผนมาดีที่ให้น้องได้รู้ว่าตัวเองทำงานอะไรได้แค่ไหนบ้าง  ได้ค้นหาในสิ่งที่ได้ทำ  และทำได้แบบมีความสุข  ทั้งรักทั้งอยากปกป้องก็ต้องทำให้น้องได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง  เป็นความรักที่ช่วยเสริมเกราะป้องกันให้น้องได้เยอะเลย   o13


รอตอนต่อไปค่ะ


 :katai3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด