IN CONTROL ... ในปกครอง : Special Chapter : NubNab : July 17, 18 : P.115
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: IN CONTROL ... ในปกครอง : Special Chapter : NubNab : July 17, 18 : P.115  (อ่าน 706058 ครั้ง)

ออฟไลน์ พัดลม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-2
หื่นทั้งคู่เลย :oo1:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ช่อฟ้าเดือด ยังไม่เท่าอัมพวาเดือดกว่า

เจ้าจันทร์จะห้ามแบบนี้ไม่ได้นะ
ห้ามยังไงให้ไข้ขึ้น ช้ำไปทั้งตัว
เรียกร้องให้ยุบยิบยิ่งกว่า และยังป้อนนมไปอีก
ถ้าไปอเมริกาแล้วกลับมาเป็นกระต่ายยั่ว
เจิ้นคงคิดย้อนว่า น่าจะส่งไปตั้งนาน

เจิ้นก็ร้ายมาก มากจริงๆ
ยุบยิบ ยุบยับหนักมือมาก
รู้ว่าชอบ ห่างมือไปนานล่ะสิ

เอ็มตลก ไม่มีใครเท่าเอ็มแล้วจริงๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-03-2018 00:45:25 โดย labelle »

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0
กระต่ายชอบอ่อย กะ ปลาหมึกชอบหื่น  o13 o13

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
  เจิ้นหื่น! หื่นมากด้วย พี่งรู้เหรอ  :jul3: :jul3: :jul3:

ชอบพี่เอ็มจังน่ารักน่าหยิก  :man1: :man1:

ออฟไลน์ gackmanas

  • I Remember your Eyes..
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
5555+ อิโรติกปนซิทคอม ช่วงท้ายอ่ะตอนนี้..
แบมๆ รีบมานะคะ.. รอมูนนี่ฟื้นอยู่นี้...  :katai2-1:

ออฟไลน์ Mayana

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 424
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
มูนนี่หนูโตขึ้นแต่นำภัยจากปลาหมึกยุบยิบมาถึงตัวหนักกว่าเดิมนะลู๊กกกกก  :m11:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
นี่มันคู่หื่นชัดๆ ชอบพี่เอ็ม อิอิ

ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2940
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
เจิ้นกลายเป็นตาแก่โลลิค่อนตัณหากลับแล้ว พี่เอ็มด่าเจิ้นได้โดนมาก เหมาะกับสถานการณ์ เจ้าจันทร์ทำตัวน่ารักขนาดนี้เจิ้นจิทนไหวได้ไง โอ๊ยสงสารเจิ้นนะห่างไปตั้งหลายเดือน ได้อยู่ด้วยกันก็ต้องจัดให้หายคิดถึง 555+

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
ใครมาจีบพี่เอ็มค่ะ !!

ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1
อ่านตอนนี้แล้ว เอิ่ม  :jul1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: IN CONTROL ... ในปกครอง : Chapter XIII : Amphawa : Mar 27, 18 : P.94
« ตอบ #2829 เมื่อ: 28-03-2018 11:14:27 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
เอ็มนี่ก็ปากร้ายนะอิอิ
มีหลอกด่าเจิ้นด้วยเอาไปเลย10แต้ม :mc4: :mc4:

ออฟไลน์ aomy20

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
รักพี่เอ็มมมมมมมมมมมมมมม ปากร้ายได้หน้ารักมากกกกกกกกกกก มีการบอกเจิ้นอย่าอิจฉาอีกมีคนจีบแล้ว โอ๊ยยยยยยยยยย  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ชอบเลขาแบบพี่เอ็ม รู้ใจเจ้านายไปซะทุกอย่างเลย

ออฟไลน์ チイ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มูนนี่ถ้าหนูห้ามเจิ้นแบบนี้เกรงว่าจะไม่ได้ผลเอานะป่วยจนได้เลยลูกกก
แล้วจะเอาเจิ้นไปขายในลาซาด้านี่จริงจังมั้ยพิจะได้เก็บเงินไว้แต่เนิ่นๆ
และยังคงย้ำคำเดิมว่า เจิ้น ดุ :haun4:

ออฟไลน์ ดาวโจร500

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
พี่เอ็มมมมมมมมมมมมมมเป็นแฟนเจิ้นใช่มั้ย55555
นุ้งจันทร์หนูจะเซ็กซี่ไปแล้วลูก

ออฟไลน์ พิศตะวัน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-3
 :hao7: :hao7: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ jing_sng

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 761
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
ตอนนี้น้องดูเปร่งปลั่ง เต็มไม้เต็มมือจริตจกร้านเต็มที่ เจิ้นกฟ้ไปไหนไม่พ้นสิคะ
เรื่องของเอ็มน่าสนใจ เก่งขนาดนี้คนจีบต้องเก่งเลเวลไหนกันน้า

ออฟไลน์ A_Narciso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 879
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
:m25: โถ่วววเจิ้น ยุบยิบเยอะเกินไปจนมูนนี่ป่วยอีกแล้วว

ออฟไลน์ เนเน่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
โอ้ยยยยมูนนี่ลูกช้านนนนนนคุณแม่จะเป็นลมค่ะมาให้ตีก้นเดียวนี้เลย

ออฟไลน์ JanJanIsHappy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เจิ้นหื่นมากกกกกกกกก กราบบบ กราบความเงินเดือนอัพถึงแสนของพี่เอ็มด้วย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: IN CONTROL ... ในปกครอง : Chapter XIII : Amphawa : Mar 27, 18 : P.94
« ตอบ #2839 เมื่อ: 28-03-2018 23:53:43 »





ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
เจิ้นนน เย็นหน่อยยย :pighaun:

ออฟไลน์ Emmaline

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 88
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เจิ้น คน เ ย ดุ!!!

ออฟไลน์ PHA_

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ยัยจัน!!! ทำไมหนูชอบ!!!

ออฟไลน์ may27

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 297
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
 :jul1: ไม่รู้ว่าอัดอั้นตันใจที่ไม่ได้......พบกันนาน หรือ ว่า เจิ้นเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรกแต่แอบไว้กันแน่555

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
 :m25: :m25: :m25:

ออฟไลน์ full

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
หนูจันทร์ขี้ยั่วววว พี่เอ็มกวนประสาทเจิ้นได้เก่งๆจริงๆชอบบบ 555 :pig4:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
มารอคนช่างยั่ว

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
เปลี่ยนชื่อตอนล้าวววว รอฟินอย่างต่อเนื่อง / ใช่ไหม?

ออฟไลน์ bambooiihallo

  • ยู้ฮู >w<
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1503/-19
Chapter XIV Fourth Party



   “เจิ้นกินนี่อีกหน่อยนะ”



   ผมเป็นไข้ไปสามวันเต็มๆ ตอนนี้เลยต้องกลับมานอนห้องเล็กของตัวเองเพราะว่าเจิ้นจะติดไข้แล้วก็ป้องกันเจิ้นยุบยิบด้วย เจิ้นหงุดหงิดมากที่ผมตัดสินใจแบบนั้นเลยขโมยสินเชื่อไปนอนกอด แต่เจิ้นก็ทำตัวน่ารักง่ะ



   เขามายืนตรงประตูเชื่อมห้องของเราสองคนแล้วก็ชะโงกหน้ามา แถมกอดสินเชื่อในอ้อมแขนด้วย วันแรกๆผมก็ใจแข็งให้เจิ้นกลับไปนอนดีๆ แต่พอเริ่มหายไข้แล้วเจิ้นมายืนมองคืนที่สามผมก็ต้องยอมย้ายตัวเองกลับไปนอนกับเจิ้น



   ตอนนี้ผมเพิ่มมารตราการป้อนข้าวเจิ้น เพราะเจิ้นน่ะกินข้าวน้อยช่วงที่ผมไปอยู่อเมริกา เขาดูซูบลงนิดหน่อยแล้วก็ดูอ่อนเพลีย พอผมป้อนมันก็เหมือนบังคับให้เจิ้นกินเข้าไปเยอะๆ



   ตอนนี้เจิ้นเลยต้องการโจ๊กถ้วยเล็กเป็นเพื่อนผม ปกติเจิ้นไม่รับมื้อเช้าแต่ผมบังคับให้กินนิดหน่อย ถึงจะแค่สี่ห้าคำก็ยังดี แต่เจิ้นมีไข่ลวกมาเป็นของคู่กันทุกวันเลย



   “พอแล้ว”



   “น่า...อีกคำนะ นะเจิ้น อ้ามม”



   เจิ้นคิ้วขมวดแต่ก็ยอมรับโจ๊กเนื้อปูที่ผมป้อนคำสุดท้าย คุณป้าแม่บ้านแอบยกนิ้วโป้งให้ผมด้วย ตอนนี้ผมจัดการปฏิวัติอาหารการกินเจิ้นทุกมื้อ แล้วก็เข้าครัวเอง



   ทำกับข้าวเสร็จก็ช่วยคุณป้าแม่บ้านซักผ้ารีดผ้า ผมรีดเก่งขึ้นแล้วแต่พอเป็นพวกสูทของเจิ้นมันต้องบรรจงและตั้งใจกว่าก็ยังฝีมือไม่ค่อยถึง ยิ่งชุดจีนนะ รีดยากมากกกก ชายเสื้อมันยาวทำให้ค่อนข้างลำบาก



   ผมเริ่มรู้สึกว่าการอยู่บ้านทำนั่นทำนี่ให้เจิ้นมันมีความสุขจัง สักพักก็ไปเล่นกับนก แล้วก็ไปเล่นกับกระต่าย แล้วก็มาทำกับข้าว จัดของ ลิสต์รายการวัตถุดิบทำกับข้าว วางแผนช้อปปิ้งซื้อของเข้าบ้าน



   หรือผมกำลังจะเจออาชีพในฝัน แบบว่ารับทำความสะอาดบ้าน? แต่ก็ไม่ได้อยากทำให้คนอื่นนี่นาอยากทำให้เจิ้นคนเดียว แต่ถ้าจะทำเป็นอาชีพทำแค่บ้านเจิ้นก็ไม่ไหวนะ ไว้ก่อนดีกว่า



   พูดเรื่องความฝันผมก็เริ่มคิดจริงๆนะว่าตกลงผมอยากทำอะไรกันแน่ พอไปเรียนเมืองนอกแรบบิทบล็อกเกอร์ก็ชะงัก รีวิวไอติมที่อยากทำก็ยังไม่ได้ทำ มีแต่เรื่องดูแลเจิ้นนี่แหละที่ผมพอจะคอนตินิวต่อไปได้เรื่อยๆ



   สงสัยผมต้องมามุ่งมั่นกับการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินของเจิ้นแบบที่เคยคิดไว้ ไม่ก็เลขา ไม่ก็ดูแลบ้านให้เจิ้นไปเฉยๆ อะไรก็ได้ในลูปนี้ เจิ้นต้องอยากจ้างผมสิเพราะผมเก่ง ถึงเก่งแต่เรียนไม่จบก็ไม่น่าจะได้...เรื่องเรียนมันก็ทำผมท้อแท้อยู่ดี ผมยังเหลืออีกสามเทอมต้องเก็บให้หมด เฮ้อ...



   ผมก็อยากจะอ้างอ่ะว่าคนเรียนไม่จบแต่ชีวิตดี้ดีก็มีเยอะ สตีฟ จ็อบ บิลเกต แต่...เขาสอบติดฮาเวิร์ดนะ!? คนปกติที่ไหนจะสอบติดฮาเวิร์ดได้ถ้าไม่ใช่อัจฉริยะ



   มันต้องมีหนทางสิ...สักทางที่ผมจะประสบความสำเร็จได้ ทางไหนก็ได้ จะทางตรง ทางอ้อม ทางลัด แค่ผมอาจจะยังหาไม่เจอ
   




   เจิ้นหยุดอยู่กับผมแค่ไม่กี่วัน พอผมหายป่วยเขาก็กลับไปทำงานเพราะอยู่บ้านก็ไม่ได้ทำอะไร แต่ตอนเที่ยงเจิ้นขึ้นมากินข้าวกับผม เดี๋ยวนี้เขาไม่ยอมให้ถือกล่องข้าวลงไปที่ห้องทำงานแล้ว เขาบอกว่านั่งกินด้วยกันบนนี้มันดีกว่า แหงสิ...ก็ชอบนั่งลูบขาผมอ่ะ


   ปกติที่นั่งของเราคือเจิ้นนั่งหัวโต๊ะแล้วผมจะนั่งทางขวาของเจิ้น แต่พอต้องบังคับให้เจิ้นกินข้าวเขาก็เขยิบมาใกล้อีก จนเข่าเราชนกัน แล้วเขาก็นั่งลูบขาผม


   กางเกงขาสั้นที่ไม่ชอบให้ใส่ก็ดันเลือกให้ทุกวัน ยุบยิบจริงๆเลยปลาหมึกตัวนี้เนี่ย แต่ผมก็ไม่ได้ไปไหนก็ใส่อยู่บ้านนั่นแหละ แต่ถ้าไปข้างนอกก็จะเปลี่ยนกางเกง



   จริงๆผมว่าช่วงนี้เจิ้นชอบให้ผมโป๊ ยิ่งอาบน้ำตอนเช้าแล้วนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวออกมาเจิ้นจะยังชอบใจ แววตาของเขาวิบวับไปหมด แล้วเราก็ยังมอนิ่งแคร์กันเหมือนเดิม...ที่เพิ่มเติมคือเจิ้นจะงับนมผมด้วยทุกเช้า



   เจิ้นไม่ได้กัด...แค่ดูดๆเพราะกลัวผมจะช้ำอีก คราวก่อนกว่ามันจะหายบวมก็ตั้งหลายวัน บีบก้นนี่อีกอย่าให้เผลอนะเจิ้นจะมาแอบบีบตลอด ผมว่าเจิ้นชอบขยำตัวผมอ่ะ แบบนวดมือหรือเปล่า? หรือเขาคิดว่าผมเป็นดินน้ำมัน เอาแต่ใจมากเลย



   แล้วถ้าวันไหนผมเผลอให้เขายุบยิบเกินความจำเป็นนะ....จบที่เตียงทุกที มือไวมากกกกก เป็นปลาหมึกหนวดยุบยิบไปหมดเลย เจิ้นเป็นแบบนี้ตั้งแต่ผมกลับจากอเมริกา



   แต่มันก็ทำให้หัวใจผมพองโต เพราะผมก็คิดถึงเจิ้น อยากจะกอดเจิ้นบ่อยๆเหมือนกัน เวลาเขามายุบยับบางทีผมก็เป็นฝ่ายใจอ่อนเอง



   มันเหมือนช่วงนี้ระหว่างผมกับเจิ้นมีออร่าสีชมูอ่อนๆ เราคุยกันเยอะแยะไปหมด ผมหัวเราะกับเขา เราจูบกันบ่อย กอดกันบ่อย ไม่อยากให้วันเวลาแบบนี้หายไปเลย เดือนหน้าก็จะวันเกิดผมกับเจิ้นแล้วด้วย ชวนเจิ้นไปกินข้าวที่ไหนดีนะ?







   “ทำบุญช่อฟ้าปลายเดือนหน้า?”



   ฤกษ์ทำบุญประจำปีมาอีกแล้ว ปีนี้มันเลยวันเกิดเราไปประมาณหนึ่งอาทิตย์ มันคือวันแห่งความเหนื่อยอ่ะ



   ซินแสกับออแกไนซ์แล้วก็พี่เอ็มเข้ามาคุยงานกันที่ตึก ทั้งตีมสีชุดต่างๆ ปีนี้เจิ้นต้องใส่สีน้ำเงิน ส่วนผมจะเป็นสีฟ้าอ่อน พี่เลขาที่ดูแลภาพลักษณ์เจิ้นเลยเสนอให้ใส่สูทแบบ double breasted คือมีกระดุมสองแถวแล้วสาบเสื้อเบี่ยงข้างนิดหน่อยเหมือนกระดุมชุดจีน ซึ่งต้องตัดให้พอดีตัว แต่เจิ้นมีสูทแนวนี้อยู่แล้วผมเลยเห็นภาพว่ามันต้องดูดีแน่ๆ แต่ของผมจะแน่นพุงไหมอ่ะ ยิ่งอ้วนๆ



   “อ้วนตรงไหน”



   เจิ้นเอานิ้วมาบีบเนื้อตรงเอวผม



   “อืม อ้วน”



   “ง่ะ ไหนบอกว่าจันทร์อ้วนแล้วดีไง”



   “ก็ดี เป็นลูกหมูของพี่”



   “อะแฮ่ม ทิศไหว้พระอาทิตย์กับเทพเจ้าน่าจะเป็นด้านห้องกระจกดูดาวครับ”



   พี่เอ็มดึงเจิ้นกลับไปคุยกับซินแสเขาถึงเลิกบีบเอวผม แต่ผมก็ไม่ได้เขยิบไปไหนเพราะเขาโอบเอวผมไปเดินข้างกันแทน พิธีปีนี้ไม่ได้อลังการแบบปีก่อนที่ต้องใส่ชุดจีน ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าแต่ละปีมันมีตัวชี้วัดอะไรที่มีผลต่อความอลังการงานสร้าง



   แต่เจิ้นบอกว่าอย่าไปถาม ถามแล้วยาวเพราะเคยถามมาก่อน ซินแสร่ายยาวตั้งแต่เส้นทางดูดาวยันชื่อเทพเจ้า ผมเลยคิดว่า งั้นก็ช่างมันเถอะ





   ผมนัดเจอคิวในช่วงวันศุกร์ตอนกลางวันที่ห้าง เราเลือกกินอาหารไทยกันเพราะผมคิดถึงอาหารไทยมาก กลับมาไทยคราวนี้คิวทำผมสีดำแต่ปลายผมสีเทาซีด การคุยกันทำให้ผมรู้ว่าคิวกลายเป็นเน็ตไอดอลสายอินดี้คนหนึ่ง คนฟอลในอินสตาแกรมเยอะกว่าเดิมมากเพราะคิวได้งานพระเอกเอ็มวีเพลงดัง ซึ่งคิวบอกว่าไม่ต้องเล่นอะไรมากเลย นอกจากนอนในสถานที่ต่างๆ พอดูเอ็มวีแล้วมันก็จริงอ่ะ ฉากมันจะอาร์ตๆเปลี่ยนไปเรื่อย ดาดฟ้า สนามหญ้า ไรพวกนี้ แล้วก็จะมีคิวไปนอนท่าแปลกๆ แบบหัวทิ้งลงกับพื้นมั่ง ยืนมั่ง แต่ที่กลายเป็นกระแสเพราะเวลาถ่ายสีหน้า คิวดูเท่มากเลย



   “เมคอัพไง ดูสภาพดิ โปรเจ็คเพิ่งจะเสร็จ เกือบตาย”



   มันเป็นช่วงกำลังจะหมดเทอมสอง คิวทำโปรเจ็คจบมาทั้งเทอมจะว่าไปหน้าเขาก็โทรมลงนิดหน่อย คนทำโปรเจ็คก็แบบนี้กันทั้งนั้นแต่คิวก็ยังดูเท่อยู่ดี มันดูมีออร่า



   “ฉีดผิว เอเจนซี่บังคับไปหาหมออ่ะ”



   “ง่ะ ไม่เจ็บหรอ”



   “ก็นะ เลือกมาทำงานนี้แล้ว แต่ก็เบื่อๆว่ะ แล้วอเมริกาเป็นไงบ้างยังไม่ได้เล่าเลย?”



   ผมนั่งคุยเรื่องอเมริกากับคิวเยอะแยะ ทั้งเรื่องปาร์ตี้ เรื่องรูปแบบความสัมพันธ์แบบ Friend with Benefit หรือ One Night Stand



   “แหม น้องจันทร์ของพี่คิวโตแล้วว่ะ รู้จักอะไรพวกนี้ด้วย แล้วรู้ยังเรื่องตัวเองกับเจิ้นน่ะยังไง?”



   “ก็คิดแล้วว่าถ้าเจิ้นมีแฟน ก็จะมีมั่ง จะได้แฟร์ๆ”



   “ตกลงยืนยันแน่แล้วนะว่าเจิ้นมีแฟน? ไม่ใช่คิดไปเองนะ แล้วปรากฏว่าแฟนที่เจิ้นหมายถึงก็คือจันทร์เอง”



   “ก็...ไม่ชัวร์อ่ะ”



   เอาจริงๆคือผมเริ่มลังเล เพราะดูจากเรื่องโปรแกรมมอนิ่งแคร์ ไนท์แคร์แล้ว เจิ้นเหมือนพวกพูดอ้อมโลกยังไงไม่รู้ แบบว่าไม่พูดตรงๆ แต่อ้อมๆ ดังนั้นเปอร์เซ็นต์การที่เจิ้นจะไม่พูดตรงๆว่า แฟน กับ คนรัก เป็นคนเดียวกันมันก็มีสูงมาก แต่ผมก็ไม่อยากคิดไปเองนี่...



   ทำไมเจิ้นไม่ชัดเจน



   “ก็พิสูจน์ไปเลย”



   “ยังไงอ่ะ”



   “ก็สู้กันสักตั้ง ถ้าเจิ้นยังไม่อธิบายอะไรก็ให้ตั้งสมมุติฐานไว้ก่อนว่าเจิ้นมีคนอื่น แล้วก็ทำเป็นหาแฟนสักคนไปชนกับเจิ้น ต้องร้ายๆหน่อยแบบนางเอกยุคใหม่ ควงแฟนไปเย้ยเจิ้นด้วย ถึงตอนนั้นก็ต้องไล่ต้อนเจิ้นให้ได้นะ เดี๋ยวเขาก็จนมุมเอง”



   “แล้วเราจะสู้เจิ้นยังไงอ่ะ...เจิ้นเวลาโมโหจริงๆ น่ากลัวมากเลยง่ะ แล้วเราไม่เคยเถียงเจิ้นด้วย ไม่โกหกด้วยอ่ะ โกหกแล้วไม่เป็นเด็กดีนะ”



   “จันทร์โว้ยยยย มันก็ต้องพยายามกันหน่อยดิ พับความเด็กดีไว้ก่อน ไม่งั้นต้องเสียเจิ้นไปให้คนอื่นนะ ยิ่งช่วงนี้เจิ้นมีข่าว เอ่อ ไม่มีอะไร”



   “ข่าว? ข่าวอะไร”



   “ไม่มีอะไร เลอะเทอะ”



   “บอกมานะ คิว...บอกเดี๋ยวนี้เลย”



   ข่าวที่คิวบอกคืออยู่ๆก็มีกระแสว่าเจิ้นคบกับนางเอกอีกแล้ว แต่คนละช่อง ไม่ใช่ทั้งแพร พิมพิลา ไม่ใช่พี่อริญ แต่เป็นนางเอกที่อยู่ในวงการมานาน วางตัวดี และค่าตัวแพงมาก



   ถ้าเทียบกับสองคนแรก คนๆนี้ถือว่าเลเวลสูงกว่าอีก เป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าหลายตัว แล้วยังได้ไปเดินแบบที่เทศกาลหนังต่างประเทศด้วย



   คิวเปิดพวกข่าวที่อยู่ๆก็มาเป็นกระแสให้ผมดู พวกแฟนเพจใหญ่ๆที่ชอบเล่าเรื่องดาราก็ลงข่าวนี้ คอมเม้นต์ก็จะไปทางว่าเจิ้นคงเลิกกับอริญแล้วและมาคบคนนี้ คนนี้สวยกว่าอริญ



   “สวยอ่ะ”



   “มากกกกก ชื่อ ปราง สิปรางค์ เคยเจอตัวจริงสวยโคตรๆ พูดเพราะ บ้านรวย”



   “เศร้าอ่ะ”



   คือผมไม่เห็นเหตุผลสักข้อที่เจิ้นจะไม่เลือก ปราง สิปรางค์ เป็นแฟนเลย ภาพในข่าวที่เจิ้นนั่งร่วมโต๊ะในร้านอาหารกับเขาคือมันเหมาะสมมาก



   “อย่าเศร้าดิ เจิ้นก็ให้สัมภาษณ์ว่าไปกันหลายคน ไม่อยากให้เล่นข่าวนี้เพราะฝ่ายหญิงเสียหาย นักข่าวเลยเล่นข่าวแฟนเจิ้นอีกรอบแต่ไม่มีใครเคยเห็นแฟนเจิ้น เลยคิดว่าอาจจะแค่ตอบเลี่ยงๆแต่สไตล์ดารา ทางผู้หญิงก็ตอบแบบอ้อมๆว่ารู้จักกัน แต่ยังไม่ได้ไปถึงขั้นแฟน แสดงว่าเปอร์เซ็นไม่ใช่มันก็มี”



   “ทำไมยากจังเลย แค่บอกกันตรงๆไม่ได้หรอ ทำไมต้องอ้อมๆด้วย”



   “ชีวิตก็ซับซ้อนแบบนี้แหละ เอาไง? ลองแกล้งทำเป็นหาแฟนดีไหม? เป็นข่าวไปสู้กับเจิ้นบ้าง โตแล้วจะมีพันธะกับใครก็ได้ เรื่องปกติ ถ้าเจิ้นไม่สนใจจริงๆก็คิดซะว่าได้แฟนใหม่มาแทนที่”



   “แล้วคิวมีแฟนยัง?”



   “มีตั้งนานแล้ว”



   “หา ทำไมไม่รู้เลยอ่ะ”



   “ไม่ได้ปิดบัง...จันทร์หัวช้าเรื่องนี้เอง วันๆสนใจแต่เจิ้นจะไปรู้เรื่องอะไร”



   “ใครหรอ?”



   “ไม่บอก ความลับของผู้ใหญ่ อยากรู้ก็รีบโตให้ทัน”



   ผมแยกกับคิวหลังจากเรากินข้าวเสร็จ คิวมีไปถ่ายแบบต่อส่วนผมก็ว่างเลยเดินเล่นต่อ แล้วผมก็ค้นพบว่านางเอกคนนั้น ที่ชื่อปราง เขาเป็นพรีเซ็นเตอร์เยอะจริงๆ ร้านหลายร้านก็มีรูปเขา เยอะกว่าตอนแพร พิมพิลาอีก



   เจ้าตัวร้ายในอกมันกัดผม



แต่...ผมไม่ได้เจ็บเท่าเมื่อก่อน เพราะผมทำใจได้แล้วประมาณหนึ่งตอนไปอยู่ที่อเมริกา หรืออาจจะเพราะผมมีความลังเล...ลังเลว่าจริงๆแล้วเจิ้นไม่ได้มีคนอื่นอีกคน จริงๆเจิ้นมีแค่ผม ดูจากการใช้ชีวิตของเจิ้นมาตลอด ถึงจะห่างจากผมไปแต่พฤติกรรมคนเราไม่ได้เปลี่ยนง่ายๆนะ เจิ้นทำงานหนักแล้วก็กลับบ้าน ไปข้างนอกก็มีพี่เอ็มไปด้วย



เจิ้นเป็นคนติดบ้าน สังคมคับแคบเพราะไม่มีคนคบเท่าไหร่ การที่จะพาตัวเองออกไปกับใครสักคนถ้าไม่ใช่คนในครอบครัวหรือเพื่อนบังคับเขาแทบจะไม่ไปไหน



ว่าด้วยหลักการและเหตุผลผมสิที่เข้าใจนิสัยเจิ้นที่สุด ก็ยังไม่เห็นช่องว่างที่เขาจะมีเวลาให้ใครเพราะขนาดตัวผมเองก็ใช่ว่าเจิ้นจะมีเวลาให้ แล้วเราก็อยู่ช่อฟ้ากันทั้งวันในวันหยุด ตอนอยู่หอเจิ้นก็มาหา



ไอเดียที่คิวเสนออาจจะดีจริงๆก็ได้ ก็แค่ลอง...ลองทำเป็นจะมีแฟน เจิ้นอาจจะยอมพูดความจริง แต่เขาจะพูดหรอ? เรื่องมอนิ่งแคร์ไนท์แคร์ยังเป็นผมเข้าใจเองเลย



หรือที่พี่เอ็มบอกว่าเจิ้นพูดไม่รู้เรื่องมันคือแบบนี้ด้วย?




แต่การวางแผนไล่ต้อนเจิ้นมันไม่ง่ายเลยนะ เจิ้นน่ะยุบยิบไปหมดแล้วผมก็โกหกไม่เก่งด้วย ผมอยากปรึกษาลุงหยางแต่ลุงหยางกับพ่อยังอยู่จีน ที่จีนมีงานเอ็กซิบิชั่นศิลปะอะไรสักอย่าง คนที่ผมพอจะปรึกษาได้ในตอนนี้ก็เลยมีแค่พี่เอ็ม



ผมเลือกปรึกษาพี่เอ็ม เพราะพี่เอ็มเป็นคนที่อยู่ใกล้ตัวเจิ้นที่สุด ท่าทีของเจิ้นผมคิดว่าพี่เอ็มน่าจะมองออก เพราะตอนนี้มันห้าสิบห้าสิบไปหมด เหมือนผมยืนอยู่ตรงทางแยกที่ต้องเลือกว่าจะไปซ้ายหรือขวา ถ้าผมมั่นใจว่าเจิ้นแค่พูดไม่รู้เรื่องผมก็คงไม่ต้องเครียดแบบนี้ ผมก็แค่ปล่อยไปเรื่อยๆเพราะเขามีแค่ผม แต่นี่มันไม่มั่นใจอะไรสักอย่าง มันเป็นจุดที่ผมต้องก้าวผ่านไปให้ได้



ผมนัดพี่เอ็มคุยที่ช่อฟ้าในเช้าวันเสาร์ เป็นเวลาปลอดภัยเพราะเจิ้นไปฟิตเนส ผมเล่าทุกเรื่องของผมกับเจิ้น หรือเรื่องที่ผมปรึกษาลุงหยาง เรื่องวางแผนแต่งงาน เรื่องที่ผมจะไปอเมริกา เล่าทุกอย่าง อธิบายทุกข้อสงสัยให้พี่เอ็มฟัง พี่เอ็มขมวดคิ้วไปสักพักหลังผมพูดจบ



“ประเด็นคือคุณจันทร์อยากได้ความมั่นใจใช่ไหมครับ?”



“อื้อ”



“แล้วทำไมไม่ถามเจิ้นตรงๆไปเลย”



“ผมกลัว...กลัวว่าเจิ้นจะไม่พูดความจริง หรือเขาจะพูดอ้อมๆเพื่อให้ผมสบายใจ”



“ไม่เชื่อใจเจิ้นหรอครับ”



“มันหลายอย่างที่เจิ้นบอกอย่างหนึ่งแต่คนอื่นบอกอย่างหนึ่ง ผมไม่แน่ใจว่าเจิ้นแตกต่างจากคนอื่นจริงๆหรือว่าแค่เจิ้นแกล้งทำ”



“งั้นพี่ก็เห็นด้วยที่คุณจันทร์จะลองหาแฟน หมายถึง ให้เจิ้นเข้าใจว่าจะหาแฟน เพราะพี่ว่าปัญหานี้มันไม่ได้เกิดจากคุณจันทร์หรอกครับ คนที่ผิดน่าจะเป็นเจิ้น”



“แต่...ผมไม่ได้คิดว่าเจิ้นผิดนะ ก็แค่อาจจะไม่เหมือนคนอื่นเฉยๆ”



“ก็ถ้าคำตอบออกมาเป็นเจิ้นไม่พูดความจริง คุณจันทร์ให้อภัยเจิ้นได้ไหมครับ”



“ให้! จันทร์จะให้อภัยเจิ้นเพราะเรารักกัน เป็นแฟมิลี่ ถ้าจันทร์ไม่ให้อภัยเจิ้น เจิ้นจะทำยังไงล่ะก็เรามีกันแค่สองคน”



“พี่คิดว่าอีกปัญหาคือพอทุกคนเห็นตาแป๋วๆของคุณจันทร์แล้วก็ตัดใจพูดความจริงไม่ลง เพราะคุณจันทร์เกิดมาเป็นที่รักของทุกคนจริงๆ ขนาดมิสเตอร์หยางยังต้องยอมแพ้ กลัวพูดไปแล้วคุณจันทร์ร้องไห้”


“ง่ะ จันทร์จะทำยังไงเล่า ก็นี่เป็นปกติแล้วอ่ะ...เรื่องมันร้ายแรงมากเลยหรอ ที่เจิ้นทำผิด”



“ก็ถ้าเล่าให้ใครฟังก็เห็นชัดๆว่าเจิ้นเอาเปรียบคุณจันทร์ แต่พี่ว่าคุณจัทร์ก็ไม่ได้คิดว่าเจิ้นเอาเปรียบใช่ไหม?”



“อื้อ! จันทร์ปกติ”



“งั้นพี่จะเป็นตัวแทนทุกคนพูดความจริงเอง เรื่องมันก็ง่ายๆครับ เจิ้นไม่ได้มีคนอื่น ข่าวนางเอกแต่ละคนอะไรนั่นเจิ้นไม่รู้เรื่องหรอกครับ เจิ้นไม่เคยมีแฟนมาก่อนเลย โสดมาสามสิบปี ครบวันเกิดนี่ก็สามสิบเอ็ดแล้วครับ ไม่มีใครจีบเจิ้นด้วยเพราะอยู่กับพี่ พี่ก็หล่อกว่าเจิ้น สาวๆเขาชอบพี่ก่อนเจิ้นกันหมดล่ะครับ”



“จริงอ่ะ? งั้นพี่เอ็มก็มีสาวๆมาชอบเยอะหรอ”



“เป็นร้อยครับ”



ผมเริ่มคิดว่าพี่เอ็มหลอกผมหรือเปล่า แต่พี่เอ็มก็ยิ้มๆเหมือนทุกครั้งมันเลยดูไม่ออก



“ประเด็นคือเจิ้นก็มีคุณจันทร์คนเดียวนั่นล่ะครับ แต่เขาแสดงออกไม่ถูกวิธีเพราะเจิ้นคุยอะไรรู้เรื่องกับเขาที่ไหน พอคุณจันทร์มีคนมาจีบก็กันท่าในแบบของเขา เลยทำให้คุณจันทร์เข้าใจผิดว่าการมีแฟนมันไม่ดี เพราะเขาหวงคุณจันทร์”



“ละ แล้วทำไมเจิ้นไม่บอกผมตรงๆล่ะ”



“มันก็...เพราะว่าเจิ้นอยากเป็นคนที่คุณจันทร์รักมานาน แต่ก็กลัวว่าคุณจันทร์จะมองว่าเจิ้นเป็นแค่พี่ชาย ถ้าในฐานะพี่ชายที่รักน้องตัวเองมันก็ดูผิดใช่ไหมล่ะครับ แต่ถ้าคุณจันทร์อยากแต่งงานกับเจิ้นเหมือนกัน พี่ว่ามันก็ถือว่าใจตรงกันนะ”



“เจิ้นรักผมนานแล้วหรอ”



“ก็....นานมากแล้วครับ”



ผมเหมือนลูกโป่งที่กำลังโดนสูบลมจนลอยละลิ่วไปบนท้องฟ้า เจิ้นรักผม... เจิ้นไม่ได้มีใคร แล้วก็รักมาตั้งนานแล้วด้วย เราใจตรงกันอ้ะ แต่...แต่ถ้าพี่เอ็มคิดไปเองล่ะ?



“มันจะง่ายแบบนั้นเลยหรอครับ ผมกังวลมากเลย มันน่ากลัวนะพี่เอ็มมันเหมือนว่าจุดที่ผมอยู่มันไม่มั่นคงเลยสักนิด ผมคิดขนาดที่ว่าวันหนึ่งถ้าเจิ้นไม่ต้องการผมแล้ว ผมก็ต้องไปจากที่นี่ หรือสุดท้ายเจิ้นก็ค้นพบว่าตัวเองอยากมีลูก แต่ผมมีให้เจิ้นไม่ได้ เขาก็ต้องไป แล้วเรื่องแฟนของเขาผมเครียดมาเป็นเดือน เครียดจนผมร่วง มัน...มันอึดอัดไปหมด..ถ้าเจิ้นคบกับคนอื่นจริงๆ คบกับคนที่ดีกว่า ละ แล้วผมจะทำยังไง ผมโกรธ ไม่พอใจ ตะ แต่มันก็ทำอะไรไม่ได้อ่ะ มันทำอะไรไม่ได้เลย”



ความสับสนและอึดอัดเกาะกินตัวผมมาเป็นเดือนๆ แล้วพอถึงจุดที่ผมทำใจ...ไม่สิ หลอกตัวเองว่าทำใจได้ถ้าเจิ้นจะมีแฟนจริงๆ พี่เอ็มกลับบอกว่าเจิ้นไม่ได้มีใคร ผมก็อยากจะเชื่อแบบนั้น แต่...แต่ผมก็กลัว ทุกคนบอกให้ผมไปสู้กับเจิ้น แต่ถ้าเจิ้นเขาไม่สนใจล่ะ? ผมกลัวว่าถ้าผมเหลิงไปมากกว่านี้จะทำให้ตัวเองกลายเป็นคนนิสัยไม่ดี ไม่ยอมให้เจิ้นมีแฟน



“เจิ้นไม่ทำแบบนั้นหรอกครับ เขาแค่ไม่อยากเป็นคนไม่ดีในสายตาคุณจันทร์ เรื่องมันถึงซับซ้อนทำให้คุณจันทร์ไม่มั่นใจ”



“งั้นผมบอกเจิ้นดีไหม ว่าผมไม่โกรธนะ เขาจะได้สบายใจที่จะพูดกับผม”



“บางทีผู้ชายวัยสามสิบแบบนี้ ฐานะขนาดนี้ ยิ่งอยู่สูงมาทั้งชีวิตแบบเจิ้น เขาก็มีอีโก้ครับ มันอาจจะทำให้เจิ้นรู้สึกอายก็ได้ ที่เขาไม่อธิบายแต่แรกจนคุณจันทร์หนีไปก็อาจจะเพราะเขาอายด้วย ต้องให้สถานการณ์มันบีบบังคับ...แล้วเราค่อยไปให้อภัยเขาในตอนที่เขาพูดความจริงออกมา”



“แล้วถ้าเขาที่พี่เอ็มคิดมันไม่จริงล่ะ เจิ้นมีคนอื่น เจิ้นไม่ได้รักผมคนเดียว”



“คุณจันทร์ก็แค่เปิดโอกาสให้ตัวเองไปเจอคนอื่นบ้าง ถ้าเจิ้นเขารักเขาก็ต้องเรียนรู้ที่จะรักคุณจันทร์ให้ถูกวิธีด้วย ถ้ามันเป็นความรักเขาจะทำทุกอย่างเพื่อรั้งคุณจันทร์ไว้ครับ”



“ผมต้องลองสร้างพันธะทางความสัมพันธ์แบบที่คิวบอกหรอ ลองไปมีแฟน ลองไปจีบใครสักคน”



“ก็ถ้าจะไล่ต้อนเจิ้นด้วยวิธีนั้น พี่ก็ว่าน่าสนใจ เขาจะได้รู้ว่าถ้าคุณจันทร์จะไม่อยู่ด้วยแล้วเขาก็ต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อรั้งคุณจันทร์ไว้”



 “ผมกลัว...ถ้าเกิดเจิ้นปล่อยผมไปง่ายๆล่ะ ถ้าเกิดเขาแค่รอเวลานี้อยู่แล้วเพราะมีคนอื่นจริงๆล่ะพี่เอ็ม”



“เจิ้นรักคุณจันทร์ครับ”



“ผมคิดว่าตัวเองกำลังเป็นคนโลภมาก...มันต้องมากกว่าแค่รักผม แต่ต้องรักผมคนเดียวด้วย มันเหมือนผมกำลังจะทำทุกอย่างให้เจิ้นเป็นของผมคนเดียว...แล้วมันนิสัยไม่ดีเลยที่จะมัดเจิ้นไว้กับตัวเอง แต่อีกทางผมก็กลัว... กลัวว่าสิ่งที่เจิ้นพูดกับผมมันจะไม่เป็นความจริง กลัวเขาโกหก กลายเป็นผมไม่เชื่อใจเจิ้นไปแล้ว ผมไม่อยากเป็นแบบนั้น ผมไม่อยากระแวงเจิ้น ผมก็แค่... อยากรักเจิ้นไปเรื่อยๆ”



“คุณจันทร์รักเจิ้นมากนะครับ”



“รักสิครับ รักที่สุดในโลกเลย”



“งั้นพี่ว่าก็ถึงเวลาพิสูจน์แล้วครับ ว่าความรักของคุณจันทร์กับเจิ้นมันมากพอจะผ่านจุดนี้ไปด้วยกันหรือเปล่า ถ้ามันไม่ใช่ก็จะได้แยกกันไป แล้วคุณจันทร์จะได้เจอคนใหม่ด้วย โลกนี้ไม่ได้มีแค่เจิ้นครับ...”



   “พี่เอ็มไม่เข้าข้างเจิ้นหรอ?”



   “เปล่าครับ พี่เป็นคนนอก ถ้าเจิ้นมีคนอื่นแบบที่คุณจันทร์คิด คุณจันทร์ก็จะได้ไปเจอคนที่ดีกว่า ถ้าเขาไม่สนใจที่คุณจันทร์จะมีแฟนก็ยิ่งบอกว่าคุณจันทร์ไม่ได้เป็นคนสำคัญ...ที่อื่นนอกจากช่อฟ้าก็น่าอยู่นะครับ ส่วนกับเจิ้น เจิ้นเขาก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองอยู่แล้ว ก็เหลือแค่ต้องมาดูกันว่าคำตอบของเจิ้นจะเป็นแบบไหน แล้วถ้าคุณจันทร์วางแผนจะเดินออกมาเขาจะรั้งไว้ไหม ถ้าไม่...ก็แสดงว่าเขาเลือกแล้ว”



   “มันเหมือน...ผมกำลังคว้าฟางเส้นสุดท้ายเลยพี่เอ็ม”



   “ใช่ครับ...คนเราก็มีจุดนี้กันทั้งนั้น จุดที่หันหลังกลับไม่ได้แล้วนอกจากต้องสู้กับมันสักตั้ง”



   “อื้อ! ผมจะสู้กับเจิ้น!”
   






   เอ็มขำในใจให้คนที่บอกจะสู้แต่สักพักกลับทำหน้าหงอย จริงๆเรื่องมันก็ง่ายนิดเดียวแค่คุยกับเจิ้นแต่จะให้เจิ้นเป็นฝ่ายรับอย่างเดียวก็ไม่ได้ เจิ้นเองก็ต้องรู้จักรักให้ถูกวิธีเหมือนกัน แล้วเกมส์นี้มันก็ดึงกันไปกันมาระหว่าง กันติชา เจิ้น แล้วก็สุริยะ หยางที่ลงมาเกี่ยวข้องเพราะเจ้าจันทร์ไปปรึกษา ดังนั้น...ฝ่ายที่สี่อย่างเขาก็ขอเข้ามาเป็นม้ามืดในเกมนี้บ้างจะเป็นไรไป เป็นนอมินีแทนเจ้าจันทร์ไปซะ...สงครามประสาทที่ไม่มีใครคิดจะเล่นจนจบ ปล่อยให้คาราคาซังมันจะได้จบสักที ถ้าเจ้าจันทร์ที่อยู่ตรงกลามสามเหลี่ยมขยับออกมาเป็นมุมที่สี่เองน่าสนุกกว่ากันตั้งเยอะ



   การแข่งขันมันไม่ได้ตัดสินชัยชนะที่จุดเริ่มต้น...เพราะมันวัดว่าใครจะถึงเส้นชัยได้ก่อน



      แต่ถึงจะบอกว่านอมินีแทนเจ้าจันทร์แต่เอ็มรู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันก็เพื่อเจิ้น...ก็เป็นเลขาเจิ้นไม่เข้าข้างเจิ้น จะให้ไปเข้าข้างใคร? คิวกล้าเสนอแผนการให้เจ้าจันทร์มีแฟนเพราะไม่รู้เรื่องทั้งหมด แต่เจิ้นคงยอมปล่อยคนของตัวเองไปยุ่งกับคนอื่นหรอก ไม่มีทาง

   ปฏิบัติการมีแฟนของเจ้าจันทร์คงไม่พ้นวนเวียนอยู่กับเจิ้นจนครบถ้วนกระบวนความ


=========


กลับมาสู้กันอีกรอบ 55555555+

เจิ้นเอ้ยยย เป็นไงล่ะน้องระแวงแล้วววว จะไปมีแฟนแล้ว ต้องวิ่งตามน้องบ้างแล้วนะ ปล่อยน้องวิ่งตามมานาน ส่วนพี่เอ็มก็ทำเป็นคนนอก เข้าข้างเจิ้นชัดๆ ชัดมากด้วยแบบเอียงสุดๆ !

เรื่องวนเข้าสู่ตอนแรกแล้วน้า ฝากติดตามด้วยนะคะใกล้จบแล้ว(มั้ง)

ขอบคุณทุกคอมเม้นค่ะ เจอกันที่งานหนังสือพรุ่งนี้นะคะ <3






ออฟไลน์ Pam_ban

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1086
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +109/-2
เจ้าจันทร์น่าสงสาร แม้จะโตแค่ไหน  แต่ความไว้ใจที่มีต่อเจิ้นก็ไม่เปลี่ยน  ทุกอย่างต้องมาจากปากเจิ้นเท่านั้น


งานนี้แม้จะบอกว่าพี่เอ็มเข้าข้างเจิ้นมาก  แต่ก็คงจะโดนน้องจัดหนักพอสมควร จะได้วิ่งเหนื่อยแค่ไหนคงต้องถามใจเจ้าจันทร์ดู  ม้ามืดมุมที่สี่นี้ช่างมาแรงยิ่งนัก 


รอตอนต่อไปนะจ๊ะ ออเจ้า



:katai3: :katai3: :katai3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-03-2018 22:20:02 โดย Pam_ban »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด