บทที่4
“มึง...มึงคือคนที่ชื่อเอมใช่ไหม” เสียงเข้มที่ดังมาจากด้านหลังทำให้ผมที่กำลังก้มๆ เงยๆ เก็บขวดเหล้าที่หมดแล้วแยกลงถังขยะอยู่ด้านหลังร้านแถวๆ ที่นั่งพักพนักงานต้องหันไปมอง
ผู้ชายรูปร่างสูงโปร่ง ส่วนสูงน่าจะประมาณไม่เกิน180 อาจจะสัก177ถึง178เซน ประมาณนี้ ผิวออกขาวเหลือง ตัดผมทรงรองทรงสูงและแต่งตัวไม่ต่างจากผมตอนนี้ ก็คือชุดพนักงาน
“มึงใคร?”
“กูชื่อโก้” โก้ ... โก้ไหนวะ กูว่ากูไม่รู้จักคนชื่อนี้นะ แต่ก็รู้สึกเหมือนว่าเคยได้ยินชื่อนี้มาจากที่ไหนเลยว่ะ และเหมือนว่าอีกฝ่ายจะอ่านสีหน้างงงวยของผมออก เจ้าตัวจึงอ้าปากพูดต่อ
“เจ๊ดานี่บอกว่าคืนนี้ให้มึงนอนกับกู”
“ห๊ะ”
“หมายถึงมาพักห้องกู”
“อ๋ออออ นึกออกแล้ว มึงคือไอ้โก้ที่ไอ้อิฐพูดถึง” โพล่งออกไปแบบนั้นด้วยรอยยิ้มกว้างๆ หวังจะสร้างสัมพันธไมตรี แต่อีกฝ่ายกลับขมวดคิ้วนิดๆ
“ไม่ถงไม่ถามอายุกูสักคำ มาถึงก็เรียกไอ้เลยหรอมึง”
“อืม ต้องถามหรอวะ มึงอายุเท่าไหร่ไอ้โก้”
“ถ้าจะเรียกมึงขนาดนี้ก็ไม่ต้องถามอายุกูแล้วไอ้สัด เอาที่มึงสบายใจเลยแล้วกัน” มันที่ทำหน้าหน่ายๆ ออกมาแบบนั้น
“ใจมึง” ตอบมันออกไปแล้วยิ้มให้กว้างๆ อยากสนิทกับคนในที่ทำงานครับ อย่างน้อยๆ ก็ได้เพื่อนใหม่ ให้มีคนรักเข้าไว้ก็ดีกว่ามีคนเกลียดใช่หรือเปล่าล่ะ
“มึงเรียนอยู่หรือเปล่า ปีไหน”
“เรียนสิวะ กูเรียนปี2” บอกมันออกไปแบบนั้นแล้วหันมาโยนกล่องเหล้าแยกใส่ถุงดำเอาไว้ แยกเอาไว้เพื่อเอาไปทิ้งที่ถังขยะใหญ่ด้านนอกร้านทีเดียวตอนปิดร้าน
“อืม กูปี3”
“อ๋อหรอวะ”
“ไม่สำนึก ไม่คิดจะเรียกกูว่าพี่จริงๆ สินะ”
“มึงพูดไรนะไอ้โก้” ได้ยินมันบ่นพึมพำๆ อะไรสักอย่างอยู่ตรงนั้น ฟังไม่ค่อยจะถนัดเลยถามออกไปแบบนั้น เห็นมันที่หันกลับมาแล้วส่ายหัวหน่อยๆ พร้อมถอนหายใจ
“กูล่ะเชื่อเลย”
“เชื่อไรวะ เชื่อว่ากูหล่อหรอ ถ้าอันนั้นน่ะรู้ตัวนะ” ว่าออกไปแบบติดตลก แต่จริงๆ ก็คิดว่ามันใช่อยู่นะ
“แล้วแต่มึงเลยละกันไอ้สัด แล้วนี่มึงทำไรอยู่”
“โถ่โก้ มีตาก็มองสิวะ แยกขยะอยู่ไง มาช่วยกันไหมกูจะได้รีบเสร็จ”
“อยากเสร็จไวมึงก็ถอดกางเกงในออก กูจะได้รีบช่วยชักให้”
“ห๊ะ...” กูนี่อุทานออกมาแบบนั้นเลย หันไปมองหน้ามันแบบเลิ่กลั่ก อีกฝ่ายที่มองหน้ากันแล้วค่อยๆ ไล่สายตามองกันไปทั้งตัว ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ... เดี๋ยวก่อนนะ มึงกำลังอยากจะลวนลามตูดกูอีกคนหรือเปล่าวะ ใช่ใช่ไหม มึงมองตูดกูอยู่ใช่หรือไม่ กูนี่เด้งตัวลุกขึ้นยืนแล้วเอามือปิดตูดเลยครับ ... รู้สึกเจ็บไข่เลย!
มองเห็นมันที่เดินเข้ามาใกล้พร้อมหัวเราะขำหน่อยๆ ตอนที่เห็นผมทำแบบนั้น เอ๊ะ ไอ้เวรนี้มันกวนตีนกันอยู่ใช่ไหม สักฝุ่นไหมสาดดดด ...
“ทำไมทำหน้าแบบนั้น กลัวกูหรอวะ” ถามมาได้ มึงมองตูดกู กูต้องกลัวไหมสาด ... ช่วงนี้มันเกิดอะไรขึ้นกับตูดกูวะครับ อยู่ๆ ก็ดูเหมือนจะได้รับความนิยมขึ้นมาแบบก้าวกระโดด
“ไม่ต้องเข้ามาช่วยกูแล้วสาด ไปไหนก็ไป กูทำเองได้ ชิ่ว”
“แต่กูอยากช่วยนี่หว่า มา ถอด”
“ถอดก็เหี้ย! ”
“
พูดคุยอะไรกันอยู่คะ อะไรถอดๆ กูได้ยินไม่ถนัดเลยค่ะ”
ในจังหวะที่ผมโพล่งออกไปแบบนั้นและไอ้โก้ที่ก็กำลังเดินเข้ามาใกล้ๆ กัน เสียงของคนมาใหม่ก็ทำให้ผมเบาใจขึ้นในตอนที่เห็นร่างใหญ่ๆ เดินกรีดกรายเข้ามาพร้อมเสียงสองที่พูดจาจีบปากจีบคอนั่น ... ทั้งผมและไอ้โก้ที่หันไปมองพร้อมๆ กันแต่สีหน้าต่างกันลิบ กูนี่เบาใจ แต่ไอ้โก้ดูจะขัดใจหน่อยๆ ไม่เข้าใจเท่าไหร่ แต่ก็ขอบคุณที่เจ้าของร้านมันว่างงานมากจนเดินมาถึงหลังร้านนี่
“อ้าว เจ๊ดานี่”
“ใช่ค่ะพ่อหนุ่มทั้งหลาย มึงอู้หรอคะไอ้สัดโก้ ไปทำงานสิคะ มาเม้าท์มอยทำเหี้ยไรอยู่ตรงนี้”
“โถ่เจ๊ ก็แค่มาทักทายเด็กใหม่ไง เห็นไอ้อิฐบอกว่าเจ๊ให้มันมานอนกับผมนี่” ไอ้โก้ที่ว่าออกไปแบบนั้น เจ๊ดานี่ที่แค่เลิกคิ้วมองมาที่ผม
“แล้วทักทายกันพอรึยังคะ”
“พอๆ แล้วครับเจ๊ แหม ผมหายไปนิดเดียวคือคิดถึงกันสินะครับคนสวย” ไอ้โก้ที่ยิ้มประจบพร้อมพูดชมออกไปแบบนั้น ได้ยินแล้วกูอยากจะอ้วกออกมา ยิ่งมองเห็นอิเจ๊ตุ๊ดยักษ์นี่ทำหน้าตาแวววาวมีความสุขกับคำชมว่าสวยนั่นยิ่งขนลุกหนักเลย
เขาโกหกมึงอยู่ดูไม่ออกหรอวะ“ไปค่ะ นอกจากเจ๊จะคิดถึงแล้ว แขกก็คิดถึงมึงค่ะอิโก้ ไม่ใช่ว่ามีกล้ามล่ำๆ แล้วกูจะยอมใจดีนะคะ ไปเสริฟค่ะ เดี๋ยวแม่ตบเข้าให้เลย”
“ไปแล้วครับเจ๊คนสวย ... ส่วนมึง เดี๋ยวเจอกัน” มันที่หันมาบอกผมแบบนั้นแล้วหันมายกยิ้มให้เป็นการส่งท้ายก่อนจะเดินออกไป เห็นรอยยิ้มนั่นแล้วกูขนลุกซู่ซ่าออกมาเลย เชี่ยเอ๊ย หลอนสัด กูไม่อยากจะเจอมึงโว้ย ...
มองตามหลังไอ้โก้ที่เดินออกไปแล้วถอนหายใจออกมาหนักๆ ก่อนจะสะดุ้งเมื่อหันหน้าไปเจอคนที่ยังยืนตัวใหญ่สิงสถิตกอดอกมองกันอยู่ตรงนี้
“เชี่ย”
“มึงด่ากูหรอคะอิน้องบ๋อย”
“ผ..ผมแค่ตกใจ แล้วเจ๊จะมาจ้องกันทำไมล่ะวะ” เถียงออกไปแบบนั้นแล้วหันหลังหนี ไม่อยากมองหน้าเจ๊มันครับ หลังจากที่โดนเรียกขึ้นไปข้างบนแล้วโดนอบรมด้วยคำพูดแบบนั้น ตอนนี้ก็ไม่อยากเห็นหน้าเจ๊พี่มันชั่วคราว ไม่ได้โกรธที่ถูกสอนแบบนั้น แต่คำพูดของมันยังดังอยู่ในหูจนไม่กล้าจะมองหน้า ... แต่บอกกันตรงนี้ผมไม่ได้เขินนะครับ
เขินตุ๊ดยักษ์นี่ก็แปลกแล้วไหมวะ
“กูจะมองตรงไหนก็ได้ค่ะ นี่มันร้านกู”
“แต่เจ๊มองผม ไม่ได้มองร้านสักหน่อย” หันกลับไปเถียงเจ๊มันทั้งแบบนั้น ก็เห็นอีกคนที่ยกยิ้มหน่อยๆ ตอนที่ผมเผลอไปสบตา ไอ้สัด ลืมเลยว่าจะไม่มอง เผลอจนได้ กูนี่รีบก้มตัวลงเก็บขวดอีกใบใส่ลงในตระกร้าข้างๆ เลย มันเป็นตระกล้าเอาไว้สำหรับใส่ขวดเหล้าที่หมดแล้ว ...ทำงานครับทำงานๆ
“แหม สำคัญตัวผิดค่ะ กูไม่ได้มองมึงค่ะ กูมองขวดเหล้า” เงยหน้าขึ้นไปมองอีกครั้งแบบอดไม่ได้ เจ๊มันก็ยักคิ้วใส่กันอีกที สรุปเลยตรงนี้ ร้านนี้แม่งมีแต่คนกวนตีนกูครับ ...
เลือกที่จะไม่พูดกับเจ๊มันต่อแล้วก้มหน้าก้มตาเก็บขวดตรงนี้ต่อไป เราที่เงียบกันอยู่แบบนั้น ในที่สุดอีกฝ่ายก็เป็นฝ่ายเปิดปากพูดออกมาก่อน
“นี่ อิหนูบ๋อยคะ”
“ว่าไงครับเจ๊” ยืดตัวขึ้นมาจ้องหน้าอีกฝ่ายในตอนที่เก็บขวดสุดท้ายเสร็จพอดี คนตรงหน้าที่กอดอกขมวดคิ้วมองหน้าผมแบบเครียดๆ ... เป็นอะไร ปวดขี้หรอ? ห้องน้ำว่างนะจ๊ะ
“มึงอ่อยกู”
“ห๊ะ! อะไรนะ” ขี้หูกูเต้นระบำหรือเปล่า เมื่อกี้มึงว่าอะไรออกมานะ พูดออกมาก็เหี้ยเลยนะ
“มึงอ่อยกู”
“มึงบ้าหรอเจ๊ กูไม่ได้อ่อยมึง” ขึ้นมึงกูแม่งเลยครับ กูทำงานของกูอยู่ดีๆ มึงจะมาว่ากูอ่อยอะไรวะเห้ย เป็นตุ๊ดปลอมตัวใหญ่ไม่พอ มึงยังเป็นบ้าแถมมาด้วยหรอเจ๊
“มึงอ่อยกูค่ะ”
“เอาอะไรมาพูด เจ๊อย่ามากล่าวหาผมแบบนี้นะ สักทีไหมวะ” โมโหแล้วนะเว่ย ต่อยกับกูสักทีให้มันจบๆ ไปดีไหมวะ
“สักทีอะไรคะ เนี่ย มึงจ้องจะล่อลวงกูอยู่ใช่ไหม”
“โว้ย อิเจ๊” หนหวยเหลือเกิน เท้าเอวแม่งเลย ไอ้เอมขึ้นละนะครับ เหนื่อยก็เหนื่อยยังจะมาบ้าอะไรกับกูอี๊ก
“ก็มึงก้มอยู่ตรงหน้ากู แล้วเนี่ยๆๆๆ ดูเสื้อมึงนะคะ คืออะไรทำไมต้องปลดกระดุมมากมายขนาดนี้ ก้มที่กูมองเห็นหัวนมมึงเลย คือมึงตั้งใจอ่อยกูอยู่
ดูออก! ” ดูออกก็เหี้ยแล้วเห้ย!
“ไม่ต้องมาดูออก ผมไม่ได้อ่อยเจ๊เถอะ ผมแค่ร้อนอ่ะ แล้วผมก้มแล้วเจ๊จะมามองหัวนมผมทำไม โรคจิต”
“ก็มันชมพู วับๆ แวมๆ ล่อตากู กูก็มองสิ” ว่าออกมาแบบไม่สะทกสะท้าน .. มึง....มึงนี่มันนนน
“เจ๊ลวนลามหัวนมผม”
“กูเปล่า มึงสิคะที่อ่อยกูอยู่ ดูออก! ”
“เจ๊เข้าใจผิดไปใหญ่แล้วโว้ย ผมไม่ได้อ่อยเจ๊ผมแค่ร้อน แล้วนี่เจ๊มองอะไรอีกวะ” ผมที่โพล่งออกไปแบบนั้นแล้วรีบยกมือขึ้นมาปิดหน้าอกตัวเองตอนที่มองเห็นสายตาของคนตรงหน้าที่ค่อยๆ ไล่มองคอ ลงมาที่หน้าอก และหยุดสายตาอ้อยอิ่งมองกันอยู่ที่...หัวนมกูอีกแล้ว!
“ก็มอง.....” อีกคนที่ลากเสียงพูดออกมาแบบนั้นแล้วค่อยๆ เดินก้าวเข้ามาหา สายตาคมนิ่งๆ ที่ไม่ละสายตาไปจากจุดโฟกัส เห็นแบบนั้นก็เผลอหายใจกระตุกแล้วก้าวถอยหลัง
‘ผลึก’
อีกแล้ว! ซีนหนังไทย ตัวกูแปะอยู่กับกำแพงอีกแล้ว แตกต่างจากฉากโรมานซ์ตรงที่ทางด้านขวามือกูคือถังขยะที่กำลังส่งกลิ่นยั่วยวนใจมาให้กันสูดดม
“จ...เจ๊” เงยหน้ามองอีกคนที่เดินตามเข้ามาชิดตัวพร้อมกับยกแขนข้างนึงค้ำไว้กับกำแพง
“อ่อยอยู่ ดูออก”
“ผมเปล่านะ...” เถียงออกไปแบบนั้น ตอนที่อีกคนก็ก้มหน้าเข้ามาใกล้ สายตาที่มองกันนิ่งๆ ไม่เข้าใจว่ากำลังคิดอะไร แต่เพราะว่าใบหน้าที่เลื่อนเข้ามาหากันแบบไม่หยุดแบบนั้น ทำให้ต้องเผลอหลับตาหนี ผ่านไปหลายนาทีถึงค่อยรู้สึกว่ามีอะไรมายุ่งวุ่นวายกันอยู่ที่หน้าอก
“เจ๊! ” ตะโกนออกมาแบบนั้นพร้อมๆ กับเอื้อมมือเข้าไปคว้าฝ่ามือแกร่งเอาไว้ ในตอนที่อีกฝ่ายก็ล่ะมือออกจากเสื้อผมพอดี
“ถ้าไม่อยากโดนมองด้วยสายตาแบบนั้นอีก ก็อย่าปลดกระดุมให้มันเยอะแบบนี้...ทำงานกลางคืนแบบนี้ มันมีไม่กี่คนหรอกที่จะทนได้”
เสียงเข้มที่พูดออกมาแบบนั้น ไม่มีเสียงสองเสียงสามตามมาด้วยเหมือนก่อนหน้านี้ ผมไม่เข้าใจในการกระทำของอีกฝ่ายเลยจริงๆ ยังไม่ทันที่จะได้พูดถามอะไรออกไป อีกฝ่ายก็ผละตัวออกจากกันไปก่อนแล้ว เจ๊มันที่หันหลังเดินออกไป ก่อนจะหยุดเดินแล้วพูดขึ้นมาอีก
“กับไอ้โก้ มึงก็ระวังหน่อย อย่าทำตัวสบายให้มากนัก” มันที่ว่าออกแค่นั้นโดยที่ไม่หันมามองหน้าผมแล้วเดินออกไปจากบริเวณนี้ ทิ้งผมให้ยืนนิ่งๆ อยู่คนเดียวตรงนี้ ก่อนจะค่อยๆ ก้มหน้าลงมองที่หน้าอกเสื้อของตัวเอง กระดุมสามสี่เม็ดที่ก่อนหน้านี้ผมเป็นคนปลดมันออกเอง ตอนนี้ถูกติดเรียบร้อยแล้วทุกเม็ด
“บ..บ้า” ว่าออกมาแบบนั้น ทั้งๆ ที่ก็รู้สึกร้อนๆ ที่หน้า ... บอกกันดีๆ กูติดเองก็ได้หรอกเว่ย ไม่เห็นจะต้องมาติดให้กันเลยนี่หว่า
...
ในช่วงเวลาใกล้เลิกงาน เหลือบมองเวลาที่บอกเวลาประมาณตี3 ตอนนี้ป้ายร้านDANIWORLDที่เป็นสีชมพูฟรุ้งฟริ้งที่ติดอยู่ด้านบนสุดของตัวร้าน ตอนนี้ได้ปิดไฟลงแล้ว บ่งบอกให้รู้ว่าเป็นเวลาปิดร้าน
ผมนี่อ้าปากหาวเลยครับ ทั้งเหนื่อยทั้งง่วงแต่ว่ายังรู้สึกดีที่วันนี้จะได้รับเค่าจ้างเพื่อต่อชีวิตไปอีกวัน พรุ่งนี้ต้องไปเรียนด้วย ขืนไม่มีเงินใช้ล่ะยุ่งเลย ... หันสายตาไปมองรอบร้านเห็นบรรดาแขกนักท่องเที่ยวยามราตรีที่ทยอยเดินออกจากร้านกันไป รวมถึงตัวผมด้วยที่เริ่มขยับตัวแล้วแบกถุงดำออกมาทิ้งด้านนอกร้านเป็นรอบที่สามของวันนี้แล้ว ...
ต้องเอาขยะที่แยกไว้ไปทิ้งที่ถังขยะใหญ่ที่อยู่แถวๆ ลานจอดรถครับ
“โอ๊ะโอ๋ ไอ้เอม นั่นมึงใช่ไหมวะ”
หันหน้ากลับไปมองและได้แต่ถอนใจออกมาตอนที่เห็นหน้าคนที่ทักทายกัน ได้แต่กำมือแน่นๆ อย่างหงุดหงิดใจ ... คุณเคยเป็นไหม เวลาที่คุณไม่ได้แต่งตัวแต่งหน้าออกจากบ้านแล้วชอบเจอคนที่คุณไม่อยากจะเจอ ถ้าเคยเป็นคงจะเข้าใจความรู้สึกของผมตอนนี้ได้ไม่ยาก...ก็เพราะไอ้คนตรงหน้านี่ กูนี่โคตรไม่อยากจะเจอ และไม่อยากจะให้มันเจอตอนที่กูกำลังอุ้มถุงขยะอยู่แบบนี้ด้วยโว้ย
“มึง”
พูดออกไปแบบนั้นแล้วถอนหายใจออกมาหนักๆ กับโชคชะตาชีวิต วันนี้มันเป็นห่าอะไรถึงต้องมีคนมาทักกูที่ข้างกองขยะแบบนี้ตลอดเลย
“แหม่ๆ โดนแม่กูไล่ออกจากบ้านวันเดียวก็หางานได้เลย เก่งจริงๆ เลยนะมึง แต่ก็นะเป็นได้แค่เด็กเก็บขยะหรอวะ ฮ่าๆ”
ไอ้ม่อน ลูกพี่ลูกน้องมหาภัยที่อยู่ในชุดแบรนด์เนมแบบที่มันชอบเอาเงินไปถลุงและซื้อมาใส่ทั้งตัว
“ไม่ต้องเสือกหรอก เรื่องกู” ว่าออกไปแบบนั้นแล้วหันไปโยนขยะทิ้งลงถังต่อ ไม่อยากจะเสวนากับมัน
“หยิ่งจังนะมึง กูอยากจะรู้เหมือนกันว่าคนแบบมึงมันจะหยิ่งไปได้นานแค่ไหน ตอนนี้ก็ไม่มีที่ซุกหัวนอนแล้ว ไม่ใช่ว่าจะไปเอาตัวเข้าแลกกับใครต่อใครเพื่อให้ตัวเองมีที่นอนไปวันๆ ล่ะมึง”
“นี่ไอ้สัดม่อน มึงจะไปไหนก็ไปเลยไป กูไม่อยากเสวนากับคนปากเน่าปากหนอนแบบมึง แล้วอีกอย่างนะ กูไม่ใช่มึง”
“มึงอย่าเอามึงมาเปรียบกับกู ไอ้ลูกไม่มีพ่อไม่มีแม่ กาฝากบ้านกู! ”
‘พลัก’
“อย่ามาลามปามพ่อแม่กูนะไอ้สัด” กำมือแน่นในตอนที่ปาถุงขยะไปเฉียดหน้าไอ้ม่อนหน่อยเดียว
“มึง มึงกล้าเขวี้ยงของสกปรกแบบนี้ใส่กูหรอหา ไอ้เกย์! ”
“กูเป็นเกย์ก็ไม่ได้หนักหลังคาบ้านมึงนะ เพราะกูย้ายออกแล้ว แต่ถ้ามึงยังลามปามพ่อแม่กูอีก กูจะเอาตีนไปเหยียบขี้แล้วเอาไปอุดปากมึง”
“เกิดอะไรขึ้นน่ะม่อน” เสียงของคนมาใหม่ที่ทำให้ใจของผมตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม มันเป็นอีกคนที่ผมก็ไม่อยากเจอ อาจจะไม่อยากเจอหน้ามากกว่าหน้าไอ้สัดม่อนด้วยซ้ำมั้ง
“มาร์ช” ไอ้ม่อนที่พูดออกมาแบบนั้นแล้วปั้นหน้ายิ้มใส่คนมาใหม่ ผู้ชายร่างสูงหน้าตี๋ที่ดูดีแบบลูกคนมีเงิน และใช่...มันมีเงิน มันยังหล่อและดูดีเหมือนเดิมในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงยีนส์มียี่ห้อสีดำแบบขาดเข่า การแต่งตัวง่ายๆ สบายๆ แต่ดันทำให้มันดูดีมากๆ เหมือนเดิม
“เอม” มันที่เดินเข้ามาแล้วชะงักไปตอนที่เห็นหน้าของผม เราที่มองหน้ากันและกันด้วยความรู้สึกที่แตกต่าง ... ผมไม่รู้ว่ามันกำลังรู้สึกแบบไหนอยู่ แต่ที่รู้ๆ สำหรับผมเลยก็คือ ... กูอย่างวิ่งเข้าไปเอาตีนลูบหน้ามึง!
“เหอะ” ผมที่แค่นหัวเราะออกมาแบบนั้น ถ้าทำได้กูอยากจะอ้วกรดหน้าพวกมึงทั้งสองคนด้วย
“ปากดีด่ากูเป็นเกย์ แล้วมึงล่ะม่อน ยืนควงกันหน้าสลอนแบบนี้ มึงคิดว่ามึงเป็นผู้หญิงหรอไอ้สัด กูล่ะอยากจะให้แม่มึงมาเห็นจริงๆ กูอยากจะรู้ว่าป้าจะรับได้หรือเปล่า” ยกยิ้มมุมปากแล้วด่าออกไปแบบนั้น
“มึง ไอ้เอม! ” มันที่ตะคอกผมออกมาแบบนั้นแล้วตั้งใจจะตรงเข้ามาหาเรื่องกัน แต่มาสิมึงเข้ามา กูจะถีบให้จุกเลยไอ้สัด
“ไม่เอาน่าม่อน อย่าทำแบบนี้” ไอ้มาร์ชที่ดึงแขนของไอ้ม่อนไว้แน่น ก่อนจะหันมาหาผม
“ขอโทษแทนม่อนด้วยนะเอม ...เอม...เอมสบายดีไหม”
“เสือก” พูดออกไปแบบที่ใจคิดโดยไม่คิดจะรักษามารยาท จะถามเอาอะไรวะ ตอนมึงทิ้งกูไปหามัน มึงคิดว่ากูจะสบายดีอยู่ไหมล่ะไอ้หน้าสัด แม้ว่าเรื่องมันจะผ่านมาเป็นปีแล้วก็ตาม แต่ถามว่าผมจะให้อภัยได้ไหมน่ะหรอ มึงฝันเถอะ กูจะตามแช่งชักหักกระดูกพวกมึงอยู่แบบนี้แหล่ะ
“มึงนี่หยาบคายจริงๆ เลยนะ ต่ำ มาร์ชไม่ต้องไปถามมันหรอก ถามทำไมให้เสียปากกับคนแบบนี้” ไอ้ม่อนที่ว่าแบบนั้น มันที่ใช้สายตามองผมเหมือนมองสิ่งสกปรกอะไรสักอย่าง ได้แต่กำมือเข้าหากันแน่นๆ มองเห็นมือของมันสองคนที่กุมกันแน่นๆ แล้วรู้สึกร้อนๆ ที่ขอบตา ผมไม่ได้อาลัยอาวรณ์มันหรอกนะ จริงๆ ผมแค่เจ็บใจที่ความเชื่อใจของผมที่มอบให้ สุดท้ายแม่งเป็นได้แค่คนโง่ที่ให้ลูกพี่ลูกน้องกับแฟนตัวเองมาสวมเขาใส่หัว จับๆ หัวดูแล้วก็เจ็บครับ ...เขาตัวเองทิ่มมือ
“เอม...มาร์ชขอโทษ”
“......”
ไม่รู้ว่าได้ยินคำนี้เป็นครั้งที่เท่าไหร่ แต่ไม่ว่าจะได้ยินมามากแค่ไหน สุดท้ายความเจ็บของผมก็ไม่สามารถให้อภัยพวกมันได้อยู่ดี ผมที่คบกับมาร์ชมาตั้งแต่ม.5 มันเป็นเหมือนทุกอย่างในชีวิตของผม คนที่อยู่ข้างๆ และให้กำลังใจ พูดจริงๆ มันเหมือนเป็นคนที่ทำให้ผมอยากใช้ชีวิตอยู่ต่อไปแม้ว่าโลกนี้จะโดดเดี่ยวแค่ไหนก็ตามแต่ผมก็ยังมีมัน...แต่สุดท้ายก็เป็นมัน มันที่ทำลายโลกทั้งใบของผม ผ่านมาจนถึงทุกวันนี้ได้ ก็เพราะมีเพื่อนดีๆ แบบไอ้เก้อกับไอ้หยีอยู่
“อย่าร้องไห้ออกมาล่ะเอม กูเห็นน้ำตามึงปริ่มๆ แบบนั้น ทำไม มึงดีใจมากหรอที่เจอหน้าแฟนกู” ไอ้ม่อนที่ว่าแบบนั้นแล้วหันไปคว้าหมับเอาแขนของไอ้มาร์ชมากอดไว้ สัด นึกว่าปลิงควายกับเหาฉลาม
“มีเรื่องอะไรกัน” ผมที่ยังไม่ทันจะตอบอะไรออกไป แต่เสียงของคนมาใหม่ที่วันนี้ผมได้ยินจนชินหูก็ดังเข้ามาซะก่อน คนมาใหม่ที่ยกคิ้วขึ้นข้างนึงมองมาแบบหน้าตาพร้อมตี เห็นไอ้ม่อนกับมาร์ชถอยตัวออกห่างผมไปหลายก้าวตอนที่เจ๊ดานี่เดินแหวกฝ่าเข้ามาแบบไม่สนใจใครหน้าไหน ... ไม่สนใจแม้กระทั่งว่าเค้ากำลังมีเรื่องอะไรกันอยู่
เจ๊ดานี่ที่ตอนนี้อยู่ในชุดเสื้อยืดคอกลมสีดำธรรมดาแบบพอดีตัวกับกางเกงยีนส์สีดำอีกเหมือนกัน รวมถึงหน้าตาของเจ๊มันที่ไม่มีสีสันต์เหมือนอย่างเคย คิดว่ามันคงไปล้างออกเพราะกำลังจะกลับบ้านแล้ว ... พอเป็นแบบนั้น หน้าตาหล่อๆ ดิบๆ เข้มๆ ก็ปรากฏออกมาให้เห็นจนต้องแปลกใจ
“เอม เป็นอะไร” เสียงเข้มๆ ของเจ๊ดานี่ที่ถามออกมาแบบนั้นทำเอาผมใจกระตุก เหมือนจะเป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่รู้จักกันที่มันเรียกชื่อผม ชื่อผมที่เป็นชื่อของผมจริงๆ ไม่ใช่อิน้องบ๋อย แบบที่เจ้าตัวชอบเรียก
“ว่าไง บอกมาสิ” ถามออกมาอีกพร้อมๆ กับวงแขนแกร่งที่พาดเข้ามาที่ไหล่ของผมแบบถึงเนื้อถึงตัว ทำเอาผมสะดุ้งหลุดออกจากภวังค์
“จ..เจ๊...” ในตอนที่ผมกำลังจะเรียกเจ๊ดานี่แบบที่เคยชิน อีกฝ่ายก็ขัดขึ้นมาซะก่อน
“บอกพี่ดาบมาสิ มีใครทำอะไรเอมหรือเปล่า หื้ม” ว่าแบบนั้นแล้วหันสายตาคมไปมองคนที่เผชิญหน้ากับเราอยู่ตอนนี้แบบเอาเรื่อง
“หึ นี่เป็นคนที่จะหิ้วมึงไปคืนนี้หรอไอ้เอม”
“นี่ มึงพูดจาให้มันดีๆ หน่อยนะไอ้หนู” เจ๊ เอ่อ...คือหมายถึงพี่ดาบมันว่าออกไปแบบนั้น แล้วก้าวขาเข้าไปหาทั้งคู่ก้าวนึง จนทั้งไอ้ม่อนและไอ้มาร์ชต้องขยับถอยหลังหนีไปอีกสองก้าว
“ล...แล้วทำไมจะพูดไม่ได้ มันก็แค่เด็กเสริฟหิ้วขยะ”
“เหอะ เป็นเด็กเสริฟในร้านหิ้วขยะแล้วไงวะ มึงจะเที่ยวไปดูถูกคนทำอาชีพสุจริตได้หรือไง
อย่าปากดีถ้ามึงยังแบมือขอเงินแม่ไม่ได้หาเงินเลี้ยงตัวเองแบบมัน”
“นี่มึง...มึง...” ไอ้ม่อนที่โกรธจนตัวสั่นชี้หน้าใส่เจ๊มัน แต่อีกฝ่ายเหมือนจะไม่สนใจ พร้อมอ้าปากพูดต่อหน้าตาเฉย
“แล้วอีกอย่าง ถึงมันจะเป็นแค่เด็กเสริฟเก็บขยะในร้านแล้วจะทำไมวะ เพราะมันเป็นเด็กเสริฟเก็บขยะในร้าน
ที่เป็นแฟนเจ้าของร้านอีกทีนึง”
“ห๊ะ แกหมายถึงอะไร...” ไอ้ม่อนที่หน้าเหวอออกไปตอนที่ได้ยินคำพูดนั้น ผมที่หันไปมองหน้าด้านข้างของคนข้างตัวที่ตอนนี้ยกยิ้มมุมปาก หน้าตาที่บ่งบอกว่ากำลังสะใจแล้วอ้าปากพูดต่อ
“ก็หมายความว่า มัน...” ชี้มือมาทางผม แล้วดึงตัวผมให้ขยับเข้าไปใกล้ วงแขนแกร่งที่โอบพาดบ่าลงมาในตอนนั้นแล้วพูดต่อ
“เป็นแฟนกู และกู....ก็เป็นเจ้าของร้านนี้ไงวะ” ว่าแบบนั้นพร้อมชี้มือไปที่ร้านที่อยู่ด้านหลังพวกเราอีกที
“ม..ไม่จริง! ” ไอ้ม่อนที่เหวอมากกว่าทุกทีแล้วว่าออกมาแบบไม่เชื่อ เห็นหน้าตามันในตอนนี้แล้วกูอยากหัวเราะให้ฟันร่วงกราว สะใจไอ้เอมนัก
“จริง”
“แกอย่ามาโกหก เจ้าของร้านนี้เป็นตุ๊ดใครๆ ก็รู้”
“อันนั้นก็จริงจ๊ะ แต่คงไม่รู้สินะว่าแกล้งเป็น ก็ให้ทำไงได้ล่ะวะ ก็เอมมันขี้หึงนี่ มันกลัวมีสาวๆ เข้ามายุ่งน่ะ เลยต้องแอ๊บเป็นตุ๊ดให้เอมสบายใจ เป็นไง เจ๊เนียนใช่ไหมคะหนู”
“ไม่จริง! ”
“อะ ถ้าไม่เชื่อก็เรื่องของมึงจ้า ... แต่ว่านะ ถ้าวันหลังอยากมาร้านนี้แบบดีๆ ก็ขอแนะนำว่าอย่ามามีเรื่องกับแฟนเจ้าของร้านอีก จำนะคะหนู” บอกแบบนั้นแล้วทำจริตออกสาวและขยิบตาให้อีกฝ่าย ทั้งไอ้ม่อนและไอ้มาร์ชที่อ้าปากค้างไปในตอนนั้น
“เอม กลับบ้านกันเถอะพี่ง่วงแล้ว” ก้มหน้าลงมาหาผมแล้วว่าแบบนั้น ส่วนผมที่ยืนงงเป็นไก่ตาแตกก็ต้องสะดุ้งตอนที่อีกฝ่ายแอบหยิกกัน
“อะ....อื้มม พี่ดาบง่วงแล้วใช่ไหม กลับกันเถอะครับ”
“ดีครับ ...บายนะจ๊ะหนู และ อดีตแฟนเก่าแฟนผมอีกที ...อ้อ แล้วก็ขอบคุณมึงด้วยนะ ที่โง่ทิ้งไอ้เอมมาให้ผมได้เจอมัน เพื่อที่มึง จะไปคว้าเอาไอ้นั่น ไอ้เด็กไม่มีสมองน่ะ”
พี่มันที่หันไปโบกมือให้คนทั้งคู่แล้วโอบไหล่ผมเดินจากมาทั้งแบบนั้น ได้ยินเสียงไอ้ม่อนแหกปากโวยวายดังมาจากทางด้านหลัง เป็นครั้งแรกที่ไม่ได้หันไปมองแม้ว่าจะสะใจมากแค่ไหนก็ตาม ผมที่ได้เดินตามคนที่โอบไหล่ผมให้เดินมาพร้อมกัน ก่อนจะหันหน้ามามองกัน สายตาที่พี่มันส่งมากำลังบอกผมว่า
‘กูแสดงดีแบบควรให้ออสก้าเลยสินะคะ’ ส่งมาให้กัน
เห็นแบบนั้นแล้วก็อดยิ้มกว้างๆ และเผลอขำออกมาไม่ได้ ... บางทีการกลับมาเจอกันอีกครั้งระหว่างผมกับเจ๊มัน ก็ไม่ได้แย่เหมือนอย่างที่คิดนะ บางที...นรกอาจไม่ได้ลิขิตแบบที่ผมเคยคิดก็ได้ล่ะมั้ง
มองหน้าอีกฝ่ายแล้วก็เหมือนจะมีแว๊บนึงที่มันเผลอคิดไปว่า มันคงจะดีกว่านี้นะ ถ้าจริงๆ แล้วพี่มันไม่ได้เป็นตุ๊ด ...
ถ้ามันไม่ได้อยากได้ผู้ชายคนอื่นเป็นผัว บางทีตอนนี้ ผมเองก็อยากจะเผลออ่อยมันขึ้นมาบ้างแล้วเหมือนกันล่ะ
“ขอบคุณนะครับพี่ดาบ”
“หึ พอได้ยินมึงเรียกชื่อนี้แล้วก็แปลกดีเหมือนกัน...แต่ก็นะ กูเคยบอกมึงแล้วไง ว่ามึงพึ่งกูได้”
--------------To be continued--------------
ขี้ขัด ขี้แทรก ตามติดเก่ง
เอ๊ะ...หมายถึงใครนะ
อ่อยอยู่ดูออก!
มาแล้วจ้า มาไม่ยาวเท่าตอนเก่า เพราะเหมือนคนอ่านจะไม่ค่อยชอบยาวๆ เหมือนยาวไปไม่อ่าน
มาเบาๆ9หน้าพอ โดยรวมทั้งหมดทั้งมวลในตอนนี้ พูดแค่ว่า ถ้าน้องเอมไม่เอาอิเจ๊ ฉันเอานะ!
ปล.ขอบคุณคนอ่านทุกท่านที่เข้ามาเม้นให้แคทเลยนะคะ รักกกกก
ขอขอบคุณ
เจ้ดาบโคตรเท่
บ้าน่าาา อย่าพูดเสียงดังเดี๋ยวเจ๊แกเผลอกรี๊ด 5555
ขอบคุณมากๆนะคะ มาอ่านอีกนะคะ
เจ้ดานี่ เปลี่ยนเป็นเฮียดาบจะเหมาะกว่านะฮะ.
แมนได้ใจไปเลย
มาช่วยกันปลุกความเป็นพี่ดาบกันค่ะ 55555
ขอบคุณมากๆนะคะ แล้วมาอ่านอีกนะคะ
เจ้ดาบนี่สุดยอดไปเลย,,,
เจ๊ดาบยืนหนึ่งในดงเครื่องสำอางค์เลยค่าาา อิอิ