Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ ตอนพิเศษ {22/05/21}]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ ตอนพิเศษ {22/05/21}]  (อ่าน 159690 ครั้ง)

ออฟไลน์ Chucream.nabi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :z6: :z6: :z6: นังพาพวยแกกกกกกกกกกกกกกกก
เอมหนูต้องเชื่อใจพี่ดาบนะลูก

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :pig4: :pig4: :pig4: หวังว่าควายน้อยจะเป็นแค่ชื่อฉายาของเอม อย่าโง่เลยนะหนู สงสารควาย

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
น่าสงสารมาก,,,

ออฟไลน์ jum1201

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-5
สู้ค่ะคนเขียนเนื้อเรืองสนุกและเข้าใจทุกคนในเรื่องค่ะ  ปวดท้องหายหรือยังค่ะคนเขียนรักษาสุขภาพด้วยปวดท้องเป็นอาทิตย์แล้วให้คุณหมอตรวจละเอียดหน่อยก็ดีนะคะ  :L2: :กอด1: :L1:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
สงสารน้อง แค่น้องเสียพ่อแม่ไป แค่นี้ต้องว่ากันขนาดนี้เลยเหรอ แล้วนั้นใครมาเรียกน้องกันล่ะ

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
เอ็นดูน้องเสืออะ :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
ไม่ใช่น้องรหัสเอมมาเจออีกนะ จะบังเอิญพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกน้องเอมอีกหรือเปล่าน้อ

ออฟไลน์ Yoghurt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
    • แฟนเพจ

บทที่34



“มองอะไร ซู๊ดดดดด”



“กลืนก่อนก็ได้พี่ ค่อยๆกินครับ”



“ฮ้า อร่อยอ่ะ”



“ผมคิดแล้วว่าพี่ต้องชอบ”



“อื้อ ชอบมากๆ” พยักหน้าเป็นคำตอบ ก่อนจะใช้ช้อนตักน้ำซุปในถ้วนเข้าปากตามไปอีกคำ เย็นตาโฟว์ต้มยำรสเด็ดที่มีทั้งเปรี้ยวหวานเผ็ดเค็มจัดจ้าน ที่พอซดน้ำซุปเข้าไปคำนึงก็รู้สึกตื่นตัวขึ้นมาทันทีเลย เป็นร้านเล็กๆที่อยู่ในซอยไม่ไกลจากคอนโดของอิเจ๊พี่มัน ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามีร้านอะไรแบบนี้ด้วย ไว้วันหลังผมจะชวนอิเจ๊พี่มันมากิน



“ผมเห็นพี่ชอบกินเย็นตาโพร์ที่โรงอาหารคณะบ่อยๆ เคยคิดว่าอยากพาพี่มากินที่นี่ให้ได้ วันนี้ก็ได้พามาแล้ว” เงยหน้าขึ้นมามองทั้งๆที่ปากยังคาบลูกชิ้นกุ้งอยู่ มองตรงไปที่ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มของไอ้ม็อบ มันที่กำลังยิ้มทั้งหน้าทั้งตาทั้งปากของมันและมองผมแบบมีความสุข



“กูเป็นพี่รหัสที่แย่ใช่ป่ะ ไม่เคยเทคไรมึงเลย แต่โทษทีนะ กูไม่ค่อยจะมีเงินหรอก”



“พี่ไม่ต้องมาดูแลผมหรอก ให้ผมดูแลพี่ก็พอครับ”



“พูดเหี้ยอะไรของมึงวะ กูดูแลตัวเองได้”  บอกปัดคำพูดของมันทิ้งแล้วหันกลับมาซดเย็นตาโพร์ตรงหน้าต่อ



“โอเค ไม่พูดเรื่องนี้แล้วก็ได้ถ้าจะทำพี่เขินอ่ะนะ”  คือกูบอกหรอว่ากูเขิน คือใช่หนังตาปลาดูหรอครับ เขินอะไรก่อนเอ่ย เอ้อ ถ้าเปลี่ยนจากไอ้ม็อบเป็นอิเจ๊พี่มันอันนั้นก็ไม่แน่



“ว่าแต่ทำไมพี่ไปนั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้นล่ะ”  ตั้งใจจะเงยหน้าขึ้นมาด่ามัน แต่ก็เป็นผมเองที่ต้องเงียบเสียงลงตอนที่มันถามออกมาแบบนั้น จ้องหน้าอีกฝ่ายที่มองตรงมา สีหน้าสายตาที่ของคนที่แค่สงสัยเลยถามออกมา ... ผมถอนหายใจก่อนจะส่ายหน้า



“ไม่มีไรหรอก”



“คือพี่จะบอกว่าอย่าเสือกใช่ไหมล่ะ”



“ก็รู้นี่หว่า ไม่เห็นน่าถามนะ” เงยหน้าขึ้นไปมองมันอีกแล้วแล้วยักคิ้วให้ มันที่ก็ทำแค่ยิ้มแล้วหัวเราะไปตามเรื่องตามราว ก็ดูเป็นเด็กนิสัยดี ก็คงเป็นน้องรหัสที่น่ารักอยู่ ผูกมิตรไว้ก็ไม่เสียหายครับ



“พี่เก็บตังค์ด้วยครับ” เป็นผมที่ตะโกนเรียกลุงเจ้าของร้านเองครับ บอกเลยว่าไอ้เอมใจปล้ำมากๆ ตั้งใจจะเลี้ยงน้องรหัสด้วยเย็นตาโพร์ต้มยำ2ถ้วนนี้รวมน้ำและน้ำแข็งเปล่าอีกคนละแก้ว รวมเป็นหนึ่งร้อยบาทถ้วน



“กูจ่ายเอง”



“เห้ย ไม่ต้องดิพี่ ผมเป็นคนชวนพี่มาเองนะ”



“ถือเป็นการเลี้ยงน้องรหัสครั้งแรกของกูไง เป็นไง เท่ล่ะสิ” ยักคิ้วส่งไปให้มันตอนที่ผมยื่นแบงค์สีแดงๆไปจ่ายตังค์เสร็จเรียบร้อยแล้ว



“พี่ไม่เท่หรอกพี่เอม”



“เอ้า ไอ้เด็กนี่” ผมที่ยกมือขึ้นเตรียมจะโบกหัวมันให้ทิ่มอยู่ที่หน้าร้าน แต่ติดที่ว่าไอ้เด็กนี่ก็ยื่นมือขึ้นมาจับมือของผมเอาไว้ได้ทันซะก่อน ถอนหายใจใส่มันเลยทีนึง แต่อีกฝ่ายก็เอาแต่ยิ้ม





“พี่ไม่เท่จริงๆครับ”



“นี่มึงขยี้กูชะ?”



“พี่ไม่เท่ แต่พี่น่ารักมากๆ”  บอกจบประโยค พร้อมๆกับที่มันก็ปล่อยมือออกจากแขนของผม ก่อนจะส่งยิ้มให้กัน เป็นรอยยิ้มที่พอเห็นแล้วต้องหันหน้าหนี



“กูกลับละ ขอบใจมากนะที่พากูติดรถมาด้วย”



“พี่ เดี๋ยวผมไปส่ง”



“ไปส่งไร กูอยู่ใกล้ๆแค่นี้เอง แล้วมึงก็บอกว่ามาทำธุระแถวนี้ด้วย แค่นี้ก็ขอบใจมากๆแล้ว” ตอนที่เจอมันตรงหน้าบ้านพี่ดาบ ไอ้ม็อบมันบอกผมว่ามันจะพามาส่ง เพราะว่ามันต้องเข้ามาทำธุระแถวพร้อมพงษ์ครับ เพราะแบบนั้นผมเลยกลับมาด้วย ยังไงก็ไม่ไกลจากคอนโด แต่ถึงแบบนั้นมันก็ดึงดันจะพาผมมากินของอร่อย เท่านี้ผมก็รบกวนมันมากพอแล้ว เพราะงั้นกลับเองง่ายๆก็ไม่อยากจะกวนอีก



“แต่ ธุระผม เอ่อ...”



“น่า กูกลับได้ ขอบใจมากๆนะไอ้ม็อบแม็บ” บอกมันแบบนั้นพร้อมๆกับยกมือขึ้นตบไหล่มันไปสองที ก่อนจะยกมือขึ้นบ๊ายบายแล้วเดินออกมา



“พี่เอม!”



“หื้ม?” หันไปหาไอ้คนที่ตอนนี้ก็ยังยืนอยู่หน้าร้าน มันที่ตะโกนเรียกผมจากตรงนั้น



“พี่น่ะเหมาะกับรอยยิ้มมากๆเลยนะ อย่าให้ใครมาทำรอยยิ้มพี่หายไปง่ายๆนะพี่” รู้สึกใจกระตุกตอนที่ได้ยินคำพูดของมันแบบนั้น ผมที่ยืนมองมันจากตรงนี้ แต่กลับมองเห็นแววตาจริงจังของมัน ถึงแบบนั้นก็ทำได้แค่ยิ้มให้มันแล้วยกมือขึ้นโบกให้มันอีกครั้ง แล้วเดินหันหลังกลับออกมาจากมัน



แต่คำพูดของมันก็ถูกนะ ผมจะไม่ยอมให้ใครเอารอยยิ้มของผมไปหรอก



.

.

.



‘ตื่อดึ๊ง’



เสียงข้อความไลน์ที่แจ้งเตือนเข้ามาพร้อมๆกับตอนที่ผมนั่งลงที่โซฟาในห้องของอิเจ๊พี่มันพอดี ถอนหายใจออกมาเบาๆแล้วมองไปรอบๆห้องแบบไม่อยากจะทำอะไร ... ผมคิดถึงอาหารฝีมือพี่มัน คิดถึงมันที่ชอบนั่งอยู่ตรงนี้ข้างๆผมพร้อมๆกับที่ต้องมาร์คหน้าไปด้วยแล้วอีกมือก็กดดูทีวีไปด้วย แต่ตอนนี้มันกลับไม่อยู่



‘ตื่อดึ๊ง’



เสียงข้อความที่ดังเข้ามาอีกทำให้ต้องขมวดคิ้ว เหนื่อยยังไม่อยากตอบอะไร แล้วถ้ายิ่งเป็นไอ้เสือหรือไอ้หยี ในตอนนี้ผมก็ไม่อยากจะตอบเพื่อน ... แต่ถึงแบบนั้นเสียงที่ดังมาถี่ๆก็ทำให้ต้องล้มเลิกความตั้งใจ งัดมือถือรุ่นพระเจ้าสามหรรมของผมขึ้นมาดู แล้วข้อความที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าก็ยิ่งทำให้ผมคิดถึงมากขึ้นไปอีก



[[DANI: เอมอยู่ไหน ]]



[[DANI: พี่เป็นห่วงตอบพี่หน่อย ]]



[[DANI: พี่โทรไปถามน้องหยี แต่หยีบอกเอมไม่ได้โทรหา  ]]



[[DANI: อยู่ไหน ]]



[[DANI: พี่เป็นห่วง ]]



ข้อความรัวๆของคนที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันในตอนนี้ทำเอาผมรู้สึกอยากจะร้องไห้ ผมทำให้พี่มันกระวนกระวายใจขนาดนี้เลยหรอวะ



[[เอม: เจ๊ ผมถึงห้องแล้ว]]



[[DANI: ทำไมพึ่งมาตอบกูคะหนู!! ]]



[[DANI: ถ้ามึงอยู่ใกล้ๆกูจะตีให้นะคะ ]]



ได้แต่อ่านข้อความของมันแล้วยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้ เป็นคำพูดที่ผมรู้ว่าถ้ามันอยู่ด้วยกันมันก็ไม่มีทางที่จะตีผมหรอก



[[เอม: จะตีผมลงจริงๆหรอ]]



[[DANI: อุ๊ย มันร้ายจังเลยนะคะ ถามแบบนี้คือจะลองใจกูหรอคะ ]]



[[เอม: พี่ดาบจะตีน้องเอมจริงๆหรอครับ น้องเอมจะเจ็บนะ ]]



[[DANI: อ่ะอิดอก ลาก่อนค่ะ กูตายแล้ว ขออนุญาตหนีไปกรี๊ด เมียกูแทนตัวเองว่าน้อง น้องเอมๆๆอ่ะเอดอก กรี๊ดๆๆๆ กูจะหนีไปกรี๊ดค่ะ ]]



ขนาดแค่เป็นข้อความที่พิมพ์ส่งมา ผมก็ยังนึกออกว่าเสียงของอีกฝ่ายจะเป็นยังไง ผมที่ยิ้มออกมาแบบห้ามไม่อยู่ และยิ่งเป็นแบบนั้น ผมก็ยิ่งคิดถึงมันมากขึ้นไปอีก ... พอมาถึงช่วงเวลาแบบนี้ ในตอนที่เราต้องห่างกันแม้ว่าจะไม่นานอะไรเลย แต่เรื่องที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้ ก็ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่ามันเป็นเรื่องที่ทำให้เราอึดอัด ผมเชื่อว่าพี่มันที่ตอนนี้กำลังอยู่บ้าน ก็คงอึกอัดไม่ต่างกัน



[[DANI: กูขอพักหายใจก่อน แล้วนี่มึงกลับยังไง ทำไมไม่ให้น้องหยีมารับ ตอบค่ะ ]]



คำถามของมันที่ทำให้ผมต้องเม้มปาก ถ้าพี่มันรู้ว่ากลับกับไอ้ม็อบ องค์พี่ดาบต้องลงมันแน่ๆ แล้วอีกอย่าง ในช่วงที่มันกำลังเครียดแบบนี้ ผมก็ไม่อยากให้มีเรื่องอะไรมาทำให้มันไม่รู้สึกไม่ได้ดีเพิ่มขึ้นอีก



[[เอม: เอมกลับเองน่ะ ไม่อยากกวนหยีมัน]]



[[DANI: มึงแม่งห่วงแต่คนอื่นอ่ะ หัดห่วงตัวเองบ้างสิคะ ]]



[[เอม: ผมต้องห่วงอะไรอีกล่ะ ก็ผมรู้อยู่แล้วว่ามีพี่เป็นห่วงผมอยู่แล้วไง]]



[[DANI: อุ๊ยตาย อย่าเอาเรื่องจริงมาพูดสิคะ ได้ยินแล้วอยากพุ่งไปกอดมึงเลยว่ะเอม ]]



ผมยิ้มให้กับข้อความของมันที่ว่ามาแบบนั้น ... ก่อนจะพิมพ์ข้อความที่ผมอยากรู้มากที่สุดในตอนนี้ส่งไปหา



[[เอม: พี่ดาบ ... โอเคใช่ไหมครับ ]]



เลือกที่จะถามออกไปแบบนั้น ผ่านไปหลายนาที ที่มองเห็นคำว่าอ่านแล้วบนข้อความ แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่ตอบกลับมา



[[DANI: เอม...พี่คิดถึง ]]



พี่คิดถึง



สามคำสั้นๆที่ทำให้ผมน้ำตาคลอ .... เพราะผมเองก็คิดถึงพี่มันมากๆเหมือนกัน



[[เอม: เอมก็คิดถึงพี่ มากๆเหมือนกันนะ ]]



[[DANI: ทุกอย่างจะเรียบร้อย รอพี่อยู่ที่บ้านของเรานะ พี่จะรีบกลับไปหา ]]



[[เอม: ครับ เอมจะรอ ]]



บทสนทนาของเราจบลงแค่ตรงนี้ พี่มันไม่ได้ตอบกลับอะไรออกมาอีก มีแค่ผมและตัวผมที่ยังนั่งอยู่ตรงนี้ ได้แต่เลื่อนสายตาไปมองที่หน้าประตู แค่หวังว่าประตูบ้านนี้จะถูกเปิดออกพร้อมๆกับพาใครอีกคนนึงกลับมาหาผมให้เร็วที่สุดก็เท่านั้น



...



“ดาบ ทำอะไร”



“จริงๆก็อยากจะให้แม่เรียกว่าดานี่อ่ะนะคะ แต่ว่าดาบก็ได้เพราะตอนนี้แฟนหนูก็เรียกงั้น”



หันหน้าไปมองแม่ที่เดินเข้ามาหาผม พร้อมๆกับเก็บมือถือลงในกระเป๋ากางเกง ผมเห็นแม่ที่ถอนหายใจออกมาอย่างหนัก ในแววตาของท่านที่ดูจะแก่ลงเพียงเพราะเจอผม เพราะเป็นแบบนี้มาตลอดผมเลยเลือกที่จะออกไปใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกตั้งแต่สมัยเรียน และนานๆทีถึงจะกลับมาบ้าง ...ครั้งนี้ถ้าไม่เป็นเพราะพายโทรมาบอกว่าเจอแม่ แล้วแม่ผมพูดถึงเรื่องเอม ผมจะไม่กลับมาหรอก คำพูดของพายวันนั้นทำให้ผมรู้ว่าแม่ตามสืบเรื่องของผมอีกตามเคย



“แม่ว่าเราต้องมาคุยกันหน่อยนะ”



“จริงๆดานี่ก็พร้อมจะคุยกับแม่เสมอนะ ถ้าแม่เปิดใจจะรับฟังกันน่ะค่ะ” พูดออกไปแบบนั้นพร้อมยกขาขึ้นไขว่ห้าง ยกมือขึ้นพร้อมๆกับเอาผมทัดหูไปอีกหนึ่งที มองเห็นว่าแม่คิ้วกระตุกจากเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม แต่จริงๆแล้วผมตั้งใจทำแบบนี้เลยล่ะอยากจะบอก



“เลิกเป็นแบบนี้สักทีจะได้ไหม จะเป็นตุ๊ดจะเป็นเกย์ เป็นอะไรผลุบๆโผล่ๆอยู่ได้ เลิกลูกทำแบบนี้จะได้ไหม ลูกเป็นคนนะไม่ใช่ไส้เดือน!” แม่ที่ตะคอกออกมาเสียงดัง และคำพูดของแม่ก็ทำให้ผมต้องหน้าตึง สายตาของแม่ที่เหนื่อยล้า ผมรู้ว่าแม่เหนื่อย แต่ผมเองก็เหนื่อยเหมือนกัน



“ผมไม่ใช่ไส้เดือน แต่ถ้าแม่จะคิดแบบนั้นก็ได้ ตามใจแม่”



“เลิกประชดกันสักที แม่ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมลูกถึงต้องทำแบบนี้ ทำไมต้องเป็นแบบนี้ กลับมาเป็นผู้ชายสักทีได้ไหม”



“แม่!...” ผมที่เผลอตะคอกออกไป รู้ดีว่ามันไม่สมควร คิดว่าถ้าไอ้เอมอยู่มันคงต้องตีผมแน่ๆ แต่ถึงแบบนั้นผมก็ทนไม่ไหวเหมือนกัน



“ผมชอบผู้ชายครับแม่ ผมอยากให้แม่เข้าใจนะว่าผมชอบผู้ชาย ผมไม่ได้ป่วยที่จะกินยาก็หายแล้วกลับมาเป็นผู้ชายที่ชอบผู้หญิงให้แม่ได้”



“เรื่องแบบนี้มันหายได้นะลูก แบบทัพเห็นไหม ทัพก็ยังมีเมียเป็นผู้หญิงได้” แม่พูดออกมาแบบนั้น สายตาของแม่ที่เริ่มมีน้ำตาคลอขึ้นมาที่นัยต์ตา แววตาที่บอกว่าอยากให้ผมเปลี่ยนแปลงตัวเอง เผื่อให้ทุกอย่างมันดีขึ้น สายตาที่เหมือนกำลังมองคนป่วยอย่างอยากจะหาวิธีรักษาให้หาย



“แต่ตอนนี้เฮียทัพมีเมียเป็นผู้ชาย ถ้าแม่จะลืมแล้ว เมียเค้าเป็นผู้ชายชื่อเมล เราไปงานแต่งงานเค้าด้วย ผมยังเห็นแม่อวยพรป้าใหญ่อยู่เลย”



“แต่ถึงแบบนั้นทัพก็เคยมีเมียเป็นผู้หญิงนะลูก”



“ผมว่าแม่ไม่เข้าใจนะ แม่ไม่เข้าใจอะไรเลยว่ะ”



“อย่ามาวะมาว่ะกับแม่นะ”



“ผมก็ไม่อยากพูดไม่ดีกับแม่หรอกครับ ผมไม่อยากทะเลาะกับแม่เลยด้วยซ้ำ แต่แม่ไม่เข้าใจอะไรเลย แม่ไม่เข้าใจว่าผมไม่ได้ป่วย ผมก็แค่ไม่ชอบผู้หญิง และใช่ ตอนนี้ผมมีแฟนเป็นผู้ชายด้วย แล้วมันทำไมอ่ะแม่ แม่อายหรอที่มีลูกชอบผู้ชายด้วยกัน แม่เอาแต่บอกว่าผมกลับไปชอบผู้หญิงได้ แม่เป็นผมหรอถึงมารู้มากกว่าตัวผม แม่อย่าทำตัวเหมือนมนุษย์ป้าข้างบ้านจะได้ไหมครับที่เอาแต่พูดว่าเข้าใจเรื่องผู้ชายชอบผู้ชายด้วยกันดี แต่พอมาเป็นเรื่องของลูกตัวเองกลับยอมรับไม่ได้ จริงๆแล้วมันก็แค่คำพูดตอแหลของมนุษย์ป้าแก่ๆที่ไม่เคยเข้าใจอะไรเลย”



‘เพี๊ยะ!’



“จะมากไปแล้วนะดาบ!”



“คุณป้า ใจเย็นๆนะครับ”



เป็นพายที่วิ่งเข้ามาจากหน้าประตู พายมาดึงตัวแม่ของผมให้ออกไปห่างจากผม มองเห็นพ่อที่ยังยืนมองนิ่งๆจากหน้าประตูโดยไม่พูดอะไร หน้าของผมหันไปตามแรงตบจากฝ่ามือของแม่ผมเอง จริงๆตั้งแต่จำความได้แม่ไม่เคยตีเราสามคนพี่น้องเลย ยิ่งตอนเด็กๆผมจำได้ดีว่ากอดแม่อุ่นกว่าใคร ผมเข้ากับแม่ได้ดีเสมอ จนมาช่วงมัธยมปลายที่ผมชอบทำตัวเป็นตุ๊ดเล่นๆ และนับมาตั้งแต่ตอนนั้น ผมก็จำไม่ได้เลยว่า กอดกับแม่ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่



“ผมขอโทษนะครับที่ผมพูดกับแม่ไม่ได้”  บอกออกไปแบบนั้นแล้วยกมือไหว้ แม่ร้องไห้ออกมา น้ำตาที่อาบแก้มอยู่ตอนนี้ทำให้ผมยิ่งรู้สึกร้อนๆที่ขอบตา  แม่ที่เอาแต่มองมาที่ผมแล้วร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของพะพาย



“แม่จะขออะไรดาบก็ได้ ดาบจะทำให้ แต่ถ้าแม่ขอให้ดาบกลับไปเป็นผู้ชายปกติ ดาบทำให้ไม่ได้ และอีกข้อ ถ้าแม่ไม่โอเคกับเอมแล้วอยากให้ดาบเลิกกับเอม ดาบก็ทำให้ไม่ได้เหมือนกัน”



“ลูกชอบผู้ชายด้วยกันมันก็แย่แล้วนะ ตอนนี้ลูกยังจะให้แม่ยอมรับเด็กที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้า ไม่มีอะไรเลยสักอย่างน่ะหรอ”



“ใช่ครับ เพราะผมรักเอม ... ถึงมันจะไม่ได้รวย ถึงมันจะตัวคนเดียว แต่มันเป็นคนดี”



“คนดีๆที่ไหนจะกล้าสาดขาหมูใส่คนอื่น คนดีๆที่ไหนที่จะกล้าทำคนอื่นบาดเจ็บกันห๊ะ! แม่ไม่เข้าใจเลยว่าลูกเป็นอะไรไป ความคิดลูกเป็นอะไรไป ฮึก แม่เลี้ยงลูกมาไม่ดีตรงไหนหรอดาบ” แม่ที่พูดออกมาแบบนั้นแล้วเริ่มตัวสั่นแล้วเริ่มสะอื้น



“แม่ไม่ได้เลี้ยงผมมาไม่ดี แม่เลี้ยงผมมาดีมาก แต่ความชอบและรสนิยมของผม มันก็เกิดขึ้นเอง มันก็เป็นแค่เรื่องของความรู้สึกครับแม่ ถ้าแม่จะเปิดใจบ้าง แม่จะรู้ว่าผมยังเป็นลูกแม่คนเดิม ผมไม่ได้เปลี่ยนไปจากเด็กตัวเล็กๆคนนั้นที่แม่เคยกอด ผมก็ในตอนนี้ก็แค่มีความรัก แค่ผมรักกับผู้ชายด้วยกันแค่นั้นเอง ... ถ้ามันผิดมากขนาดนั้น แม่ก็ไม่ต้องมองว่าผมเป็นลูกแม่อีกคนก็ได้



“ดา...บ ฮึก”



“แล้วเอม ถึงมันจะดื้อบ้าง แต่ทุกการกระทำของมันไม่เคยคิดจะทำร้ายใคร มันก็แค่ปกป้องตัวมันในแบบของมันเอง นี่เป็นอีกเรื่องที่แม่ควรจะเปิดใจ เหรียญมันยังมีสองด้าน ถ้าแม่ฟังและมองแค่ด้านเดียว แม่จะไปเห็นอะไรล่ะครับ...ผมจะให้เวลาแม่นะ ถ้าแม่พร้อมกว่านี้ เราค่อยมาคุยกันใหม่ละกันครับ”



ผมที่พูดออกไปแบบนั้น มองแม่ที่มองหน้าผมพร้อมน้ำตาอาบแก้มแบบคนที่กำลังเสียใจ ผมที่เดินผ่านแม่และพะพายที่มองมาทางผมแบบไม่สนใจอะไร เดินผ่านพ่อของผมที่จ้องหน้าของผมอยู่นิ่งๆ



“ขึ้นไปบนห้องของแกก่อนไป พ่ออยากคุยอะไรด้วย”



“ครับ” ตอบรับพ่อแค่นั้นแล้วเดินขึ้นห้องไป ... ผมคิดถึงไอ้เอม



มันเองก็ไม่ชอบที่ผมเป็นดานี่ แต่ตอนที่เราตกลงคบกัน และผมบอกว่าผมจะเป็นผมในแบบของผมเพื่อเรา มันเองก็ไม่ว่าอะไรสักคำ และจนถึงในตอนนี้ที่บางทีผมก็ชอบทำจริตออกสาวใส่มันบ้าง มันก็ไม่บ่นอะไรแล้ว จริงๆผมคิดว่ามันคงชิน แต่อย่างน้อยๆนั่นก็คือข้อยอมรับที่ว่ามันเองก็รักผมในแบบที่ผมเป็นผม ... แล้วทำไมวะ ทำไมแม่ถึงไม่เข้าใจกันสักที



.

.

.


(มีต่อจ้า)

ออฟไลน์ Yoghurt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
    • แฟนเพจ

“คุณป้าใจเย็นๆนะครับ นี่ทิชชู่ครับ”



“ฮึก ฮื่อออ”



“สงบจิตสงบใจหน่อยเถอะคุณ ลูกมันไม่ได้ตายนะ”  เสียงของประมุขในบ้านว่าออกมาแบบนั้น ทำให้ผู้ที่เป็นภรรยาที่กำลังนั่งเช็ดน้ำตาอยู่ที่โซฟาต้องเงยหน้าขึ้นมามองสามีแบบไม่พอใจทั้งน้ำตา



“คุณพูดอะไรของคุณ ลูกเรากำลังรักกำลังชอบอยู่กับผู้ชายนะคะ ที่สำคัญคือผู้ชายที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าและนิสัยแย่ๆแบบนั้น คุณจะให้ฉันอยู่เฉยๆ แล้วมองดูลูกเดินลงเหวหรอคะ ฮึก คุณเป็นพ่อประสาอะไรคะ!”



“ผมก็เป็นพ่อที่พยายามทำความเข้าใจความเป็นลูกอยู่น่ะสิ”



“คุณจะบอกว่าฉันเป็นแม่ที่ไม่ดีหรอ ทั้งๆที่ฉันกำลังทำเพื่อลูกของเราอยู่นะ!”



“เปล่า คุณเป็นแม่และเป็นภรรยาที่ดีมาก ผมเข้าใจว่าคุณเป็นห่วงลูกมากแค่ไหน แต่ลูกเราโตแล้วคุณ แล้วโลกมันเปลี่ยนไปมากแล้ว ถ้าเราที่เป็นพ่อเป็นแม่ยังไม่เข้าใจลูก ยังไม่เข้าใจตัวตนที่เค้าเป็น แล้วแบบนี้เรายังจะสมควรเป็นพ่อแม่เขาอยู่หรือเปล่า” ผู้เป็นประมุขของบ้านพูดออกมาแบบนั้น ก่อนจะก้าวเท้าเดินไปทรุดตัวนั่งลงข้างๆภรรยาที่ยังคงร้องไห้อยู่ในตอนนี้



“เปิดใจหน่อยเถอะ มันไม่มีอะไรแย่มากขนาดที่คุณกลัวหรอก”



“แล้วคนรอบข้างล่ะคะ ถ้าเค้าดูถูกลูกเราล่ะคะ ถ้าเค้าดูถูกคนรักของลูกเราล่ะคะ สังคมที่พูดว่ายอมรับได้ มันจะจริงแค่ไหนกันเชียว จะมีใครมาเข้าใจกันคะ” เธอที่ร้องไห้และว่าออกมาแบบนั้น จริงๆในใจที่กังวลและกลัดกลุ้ม มันก็มีแต่ความเป็นห่วงและอยากหาทางที่ดีที่สุดให้กับลูกของเธอ



“เราปิดปากคนทั้งโลกไม่ได้หรอกคุณ ต่อให้ใครมันจะพูดอะไรเราก็ห้ามไม่ได้”



“แต่...”



“แต่ถ้าใครมันมาพูดต่อหน้าเรา ถึงตอนนั้นมันก็ต้องเป็นเราแล้วที่ต้องปกป้องลูกของเราไหม”



“คุณคะ ฮึก... ฉัน...”



“ผมรู้มันไม่ง่าย มันไม่ง่ายสำหรับผมเหมือนกัน แต่มันจะดีขึ้นนะคุณ” เขาที่ดึงตัวภรรยามากอดแนบอกแล้วลูบหลังให้กำลังใจ ความรู้สึกของคนเป็นพ่อเป็นแม่ที่ต้องแบกรับไว้ ในจุดๆนึงที่มันทั้งหนักและยากเต็มที แต่สิ่งที่ดีที่สุดที่จะทำให้ลูกได้ ... ก็คือการเปิดใจยอมรับ



“เอ่อ แต่เอมเค้าก็ไม่ใช่ไม่ดีหรอกนะครับคุณป้า” 



“ฮึก หื้ม”



“เค้าอาจจะใจร้อนที่ทำแบบนั้นกับผม แต่ผมคิดว่าเค้าก็รักดาบนะครับ....ผมรู้ว่าเค้าเคยทำงานที่ร้านของดาบ จนตอนนี้มาคบกัน เค้าคงผ่านอะไรมาด้วยกันมาก”



“เคยทำงานที่ร้านหรอ แล้วยังไง คือตอนนี้มาอยู่กับดาบ แล้วก็ใช้เงินดาบแบบนั้นน่ะหรอ” ผู้เป็นแม่เด้งตัวขึ้นมาจากอกของสามีแล้วยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาด้วยความตกใจ



“ก็...คงจะแบบนั้น แต่เค้าก็คงรักกันแหล่ะครับ”



“คุณคะ เห็นไหมคะ ฉันบอกแล้วว่าเด็กนั่นมัน....”



“อย่าพึ่งคิดอะไรไปเองเลยคุณ คุณเอาแต่ตั้งแง่กับเอม ไม่เคยถามเค้าสักคำแล้วจะมาโวยวายไปก่อนมันก็จะดูเป็นผู้ใหญ่ใจแคบมากไปนะ”



“ก็พะพายเคยเจอ พะพายพูดอยู่ ใช่ไหมลูก ไหนเล่ามาอีกสิ”



“คือ...”



“พอๆเถอะคุณ ไร้สาระมากพอแล้ว ถ้าอยากรู้วันหลังก็ให้ไอ้ดาบพามา ส่วนพาย ลุงว่าวันนี้กลับบ้านไปก่อนเถอะ วันนี้วุ่นวายมาก เราเองก็ได้ข่าวว่าพึ่งกลับมาจากเมืองนอกนี่ พ่อแม่น่าจะอยากเจอนะ”



“เอ่อ ... ครับคุณลุง”  ตอบรับออกมาแบบนั้นพร้อมรอยยิ้มนิดๆ ก่อนจะลุกขึ้นยกมือไหว้แบบมีมารยาท



“ผมว่าจะขึ้นไปหาดานี เอ่อ ดาบน่ะสักหน่อยก่อนกลับน่ะครับ” พะพายที่บอกออกมาแบบนั้นแล้วมองขึ้นไปที่ชั้นสองของตัวบ้าน คนเป็นแม่ที่มองหน้าสามีชะงักค้างไปนิดๆ ก่อนที่จะหันกลับมาด้วยรอยยิ้มเศร้าๆ



“ป้าว่าดาบคงยังไม่อยากคุยหรอก พายกลับไปก่อนเถอะ เดี๋ยวป้าให้คนขับรถไปส่งนะ”



“เอ่อ...งั้นก็ได้ครับ” ตอบรับออกมาพร้อมรอยยิ้ม แล้วหันหลังออกไป แต่ก็ต้องชะงักขาเรียวนั้นไว้ ในตอนที่ผู้เป็นใหญ่ของบ้านพูดขึ้นมาอีกครั้ง



“ขอบคุณมากๆที่เป็นเพื่อนที่ดีให้ดาบ ดาบก็เห็นพายเป็นเพื่อนรักไม่เปลี่ยนหรอกลูก”



“อ่ะ...ครับ ผมกลับก่อนนะครับ สวัสดีครับ”



ตอบรับออกมาพร้อมรอยยิ้มน่ารัก แล้วหันหลังเดินออกจากบ้านไปพร้อมๆกับหัวหน้าป้าแม่บ้านที่นำทางไปส่ง มือเรียวสวยที่กำเข้าหากันแน่นๆแบบแนบเนียนจนไม่มีใครสังเกตเห็น สายตาสวยที่เดินออกมาจากตัวบ้าน เงยหน้าขึ้นไปมองที่หน้าต่างของห้องนอนที่ชั้นสองที่มีระเบียงยื่นออกมา ดาบยืนอยู่ตรงนั้นแล้วก้มหน้ามองลงมานิ่งๆ เขาที่ส่งยิ้มไปให้ แต่อีกฝ่ายแค่มองตาสบกันนิ่งๆจากบนนั้น ไม่มีรอยยิ้ม ไม่มีแต่คำทักทายที่เมื่อก่อนอีกคนชอบทำและกระตือรือร้นที่จะทำเสมอเวลาเจอกัน



“เปลี่ยนไปมากจริงๆนะดานี่ แต่พาย...พายไม่เคยเปลี่ยนเลย” พึมพำกับตัวเองเบาๆ แล้วแค่นยิ้มเยาะน้อยๆให้ตัวเอง ก่อนที่เจ้าตัวจะขึ้นไปบนรถที่ถูกเตรียมเอาไว้ให้อย่างเงียบเชียบ



...



“อิดอกกกกก นี่มันคือเรื่องราวของแม่ผัวลูกสะไภ้มากๆเลยค่ะอิเอม ยอมไม่ได้รึป่ะคะมึง”



“ยอมไม่ได้แล้วจะให้ทำยังไงวะป้า นั่นแม่เจ๊มันนะ”  ถอนหายใจแล้วฟุบหน้าลงบนกระเป๋าเป้ที่เอามาตั้งไว้แทนหมอนบนโต๊ะเรียน อนาคตของชาติแบบกูไม่ควรจะทำแบบนี้นะครับ



“แต่แม่อิพี่ดาบนี่ก็ไม่เปลี่ยนเลยนะ เป็นโรคเจ้ากี้เจ้าการชีวิตลูกมาตั้งแต่ไหนแต่ไรจริงๆเลยเชียว” ไอ้หยีที่พูดออกมาแบบนั้นพร้อมๆกับเบะปาก ก่อนที่มันจะหยิบลิปแท่งใหม่ขึ้นมาเปิดฝาออก แท่งสีทองๆที่มีอักษรภาษาอังกฤษตัวYอยู่บนนั้น



“มึงพูดแบบนี้หมายความว่าไงวะป้า คือมึงรู้จักแม่อิเจ๊พี่ดาบหรอ” กูนี่เงยหน้าขึ้นมามองหูผึ่งเลยครับ



“ก็ไม่ได้รู้จักหรอกจ้า แต่ตอนที่กูเคยเรียนปี1ตอนนั้นที่เป็นน้องรหัสพี่มันอ่ะนะ คือชื่อเสียงเรื่องการควงชะนีหลีดมหาลัยและเด็กผู้ชายของพี่มันนี่เยอะมาก สาวๆหนุ่มๆแวะเวียนมาคณะกูไม่ซ้ำหน้า แต่ก็ได้ข่าวว่ากระเด็นออกไปเพราะบางทีก็เจอฤทธิ์เดชของแม่พี่ดาบว่ะ”



“คือไรวะ ลูกเรียนมหาลัยแล้วยังตามมาดูพฤติกรรมอีกหรอ”



“คือมึงต้องเข้าใจนะคะว่าแม่พี่ดาบนี่มีตำแหน่งในมหาลัยด้วยนะจ๊ะ อดีตคณะบดีคณะบริหารเก่านะจ้า”



“เป็นอาจารย์หรอวะ”



“ใช่จ้า แซ่บๆมีความรู้เลยจ้า”



“ถึงว่าล่ะ กูตายแล้วป้า เค้าไม่มีทางชอบกูหรอก กูจน แล้วก็โง่”



“มึงโง่แล้วใครฉลาดล่ะอิเอม มึงเด็กทุนนะคะ สติ” มันที่ว่าผมแบบนั้นแล้วเอื้อมมือมาผลักหัวกันให้โขกลงกับโต๊ะ กูเจ็บมาก อิผู้หญิงใจร้าย



“แต่พวกอาจารย์ก็คือหัวโบราณอ่ะป้า”



“ก็อาจจะจริง แต่ว่าพ่อพี่ดาบเค้านักธุรกิจนะมึง มึงบอกเองนี่ว่าพ่อเค้าโอเคกับมึง”



“แต่แม่เขาไม่โอเค”



“เออน่า...โอเคหนึ่งคน ก็ถือว่าหายใจคล่องไม่ใช่หรือไงวะ ส่วนอีกหนึ่ง ถ้าเค้าได้รู้จักมึงจริงๆ กูเชื่อว่าเค้าก็จะรักมึงเหมือนกัน”



“ขอบคุณนะป้า” หันไปยิ้มให้มัน เป็นความรู้สึกที่ขอบคุณจริงๆ ขอบคุณที่อย่างน้อยผมยังมีเพื่อนดีๆ



“ไม่เป็นไรค่ะ มึงก็เหมือนลูกกูอ่ะค่ะอิเอม ถ้าใครมาทำอะไรลูกกู กูจะไปฟาดให้ ขอแค่มึงบอกค่ะ”



“มึงแม่งน่ารักว่ะป้า”



“แน่นอนค่ะ กูไม่ปฏิเสธหรอกนะคะ เพราะกูรู้ตัวว่ากูน่ะทั้งสวยและน่ารักมากๆ”



“ถือซะว่ากูไม่ได้ชมเมื่อกี้ละกัน” บอกออกไปแบบนั้น ไอ้หยีก็หันมามองแรงใส่ เห็นแบบนั้นแล้วก็อดจะหัวเราะออกมาใส่กันไม่ได้



“แล้วไอ้เก้อมันยังไม่มาอีกหรอวะ” ผมถามออกไปแบบนั้น ไอ้หยีก็ถอนหายใจออกมารัวๆ



“ยังค่ะ กูว่ามันหลบหน้ามึงนะคะอิลูก”



“เฮ้อ แค่เรื่องบ้านพี่ดาบกูก็เหนื่อยแล้ว”



“กูรู้ค่ะ แต่ก็อย่างว่าแหล่ะ เรื่องแบบนี้ใครมันจะไปทำใจได้ไวคะ มันรักมึงมาตั้งแต่รับน้อง แต่มึงก็เก่งนะคะ แกล้งไม่รู้ไม่ชี้เก่งเหลือเกิน”



“ก็จะให้กูทำไรได้มากกว่านี้วะป้า ไม่รู้สึกก็คือไม่รู้สึก ถ้าทำเป็นรู้ไปแล้วเสียเพื่อน ให้กูแกล้งโง่ไม่รู้ว่ามันชอบแบบนี้ต่อไปน่ะดีแล้ว ... ก็ได้แต่หวังว่าสักวันมันจะเจอคนที่มันชอบมากกว่ากูสักที”



“สาธุเลยค่ะ ใครแม่งจะเป็นคนซวยคนต่อไป”



“มึงก็พูดเกินไปอ่ะป้า”



“อิเก้อขี้เอาจะตาย”



“มึงพูดอะไรของมึงเนี่ยป้า มึงเป็นผู้หญิงนะเว้ย”



“เอ้า เรื่องธรรมชาติอ่ะค่ะ มึงเองก็รู้ว่าอิเก้อน่ะไม่ว่างเว้นชายหญิง ขนาดชอบมึงนะคะ”



“กูว่ามันแค่สงสารกูมากกว่า ถ้ามันเจอคนที่มันรักจริงๆ กูว่าคนแบบมันจะหยุดได้นะ”



“ถ้าวันนั้นมาถึง กูจะคิดว่าผีสิงมันค่ะ” ไอ้หยีที่พูดแบบนั้นแล้วส่ายหัวแบบไม่อยากจะเชื่อ



“แต่ว่านะอิหนูเอม แต่ถ้าคนนั้นแซ่บมากจริงๆมันอาจจะหยุดได้ก็ได้นะ” ไอ้หยีที่จีบปากจีบคอใส่ผมพูดออกมาด้วยสีหน้ากรุ้มกริ่ม



“ใครแม่งจะแซ่บในแบบที่มันชอบได้วะ”



“ก็คง...จะเป็นคนที่ศีลเสมอกับมันล่ะมั้ง อิอิ”



“โวะ กูล่ะเหนื่อยใจ” ผมส่ายหน้าให้กับความคิดทะลึ่งๆของไอ้หยี เฮ้อ...คิดถึงพี่ดาบว่ะ คิดถึงมากจริงๆนะ คิดถึงจนต้องหยิบมือถือขึ้นมาดูบ่อยๆ แต่วันนี้ก็ยังไม่มีข้อความใหม่ส่งมาจากมันเลย



“เอ้ออิหนูเอม พรุ่งนี้เรามีไปค่ายอาสานะคะมึง มึงจัดกระเป๋าหรือยัง”



“อะไรนะป้า ค่ายเหี้ยไรนะ”  หันไปถามมันแบบงงๆ หน้าตากูคงเหวอและโง่มาก เพราะไอ้หยีถึงขั้นต้องถอนหายใจออกมาและส่ายหน้าให้กันเบาๆ



“ค่ายอาสาค่ะมึง ไปดอยนะ ไปทำห้องสมุดให้เด็กบนดอย ... ยังกับนิยาย เอะอ่ะไปค่ายๆ จริงๆกูว่าคณะแค่อยากเอางบออกมาผลาญค่ะ เหมือนประเทศเราที่ชอบเอางบออกมาผลาญอ่ะ”



“เงียบๆๆ มึงเงียบเลยป้า พูดห่าไรของมึงนัก”



“เอ๋า...”



ผมไม่ได้ฟังคำพูดของมันต่อ แต่กำลังนึกถึงใครอีกคนที่ยังไม่ได้ทักมาหากันในวันนี้ แต่เพราะพรุ่งนี้จะต้องไปค่าย เลยตัดสินใจส่งข้อความไปก่อน



[[เอม: เจ๊พี่มึง จะได้กลับบ้านหรือยัง ... พรุ่งนี้เอมต้องไปค่ายนะ พี่จะกลับมาไหมคืนนี้ ]]



ส่งไปแบบนั้น แต่ก็ไม่มีข้อความขึ้นว่าอ่าน ... มันอาจจะกำลังยุ่งล่ะมั้ง แต่หวังว่าเย็นนี้ผมกลับไป จะเจอพี่มันอยู่ในครัว และยิ้มให้กันเหมือนที่เคย



...



“เดินอะไรแบบนั้นวะมึง เดินไวๆสิวะ กูจะสายแล้วเนี่ย”



“มึงรีบมึงก็ไปก่อนกูเลยไอ้สัดพี่เก้อ ส้นตีน”  ด่ามันออกไปแบบนั้น พร้อมยกนิ้วกลางขึ้นมาส่งให้มันด้วย แต่อีกคนก็แค่ยกยิ้มมุมปากขำๆ มันที่เดินกลับมาหา พร้อมเอื้อมมือมาโอบเอว



“ทำเหี้ยอะไรของมึง”



“ก็ประคองมึงไง นี่กูกำลังทำหน้าที่พี่รหัสที่ดีของมึงอยู่นะ”



“สัด ดีกับผีน่ะสิ K”



“เด็กมันเกรี้ยวกราดจังวะ มาเดินดีๆ”



“ไม่ต้องมากอดเอวกู มึงจะไปเรียนก็เดินไปก่อนเลย เดี๋ยวกูไปเอง” บอกมันไปแบบนั้นแล้วพยายามดึงตัวมันให้ออกห่าง แต่มันก็ทำแค่โอบเอวของผมให้แน่นขึ้นแบบคนกวนตีนกัน



“ไอ้พี่เก้อ”



“อย่าเรื่องมากน่า เดินช้าแบบนี้เมื่อไหร่จะถึงหรือให้กูอุ้ม”



“ตีนกูนี่ อุ้มพ่องมึง”



“ฮ่าๆ แบบนี้อ่ะน้า เดินตกบันไดก็จะจุก เอ้ยเจ็บแบบนี้น่ะนะ” มันที่หันมามองหน้าผมแล้วเน้นคำว่าจุกใส่หน้าเต็มๆ โมโหจนอยากจะยกมือขึ้นต่อยแม่ง ติดแค่ว่าอยู่ที่มหาลัยหรอกนะสัดเอ้ย



“ไปตายเลยไปไอ้สัดพี่เก้อ”



“กูตายแล้วมึงจะหาคู่ขา เอ้ย...พี่รหัสดีๆจากไหนล่ะครับน้องเสือ”



“มึงต้องโดนตีนกูไอ้สัดเก้อ!”



“โอ้ยๆๆ อย่าถีบกูๆ!!”





--------------To be continued------------



ตอนนี้เขียนยากมากกกกกกก มากๆค่ะสำหรับเรื่องของครอบครัว แต่แคทก็พยายามมากๆที่จะตีความออกมาให้ชัดเจนมากที่สุดเท่าที่

แคทจะทำได้ค่ะ ถ้าคนอ่านสนุกและชอบไปด้วยกันก็คงจะดีค่ะ ส่วนน้องม็อบ มาดีหรือมาร้ายอิอิ ยังไงในตอนนี้

มาค่ะ มาวิเคราะห์กันเถอะค่ะคนอ่านที่น่ารักของแคท ยังอยู่อ่านกันไหมมมม ยู้ฮู

ฝาก #สวยๆเป็นผัว ในทวิตด้วยนะคะ   :hao7: :mew1:


ขอขอบคุณคนอ่านในเล้าเป็ดที่ยังอยู่ด้วยกันด้วยนะคะ ขอโทษที่ไม่ได้ตอบคอมเม้นท์คนอ่านซะหลายตอนเลยค่ะ
บางทีแคทมาอัพดึกแล้วแต่ยังไม่ได้กินข้าวเลยไม่ทันได้ตอบ ต้องขอโทษจริงๆนะคะ

ส่วนคอมเม้นท์ตอนที่แล้วน้านนนนน อิอิ

:กอด1:
 :pig4:
ขอบคุณมากๆนะคะ ขอบคุณที่มาอ่านมาเม้นท์ให้แคทเสมอเลยนะคะ


:z6: :z6: :z6: นังพาพวยแกกกกกกกกกกกกกกกก
เอมหนูต้องเชื่อใจพี่ดาบนะลูก
น้องเชื่อพี่ดาบๆ น้องเชื่อนะคะ อิอิ


:pig4: :pig4: :pig4: หวังว่าควายน้อยจะเป็นแค่ชื่อฉายาของเอม อย่าโง่เลยนะหนู สงสารควาย
เลือกไม่ถูกเลยว่าจะต้องสงสารควายหรือสงสารน้อง แง้  :hao5:


น่าสงสารมาก,,,
แคทฝากเอ็นดูน้องด้วยนะคะ  :mew1:


สู้ค่ะคนเขียนเนื้อเรืองสนุกและเข้าใจทุกคนในเรื่องค่ะ  ปวดท้องหายหรือยังค่ะคนเขียนรักษาสุขภาพด้วยปวดท้องเป็นอาทิตย์แล้วให้คุณหมอตรวจละเอียดหน่อยก็ดีนะคะ  :L2: :กอด1: :L1:
แคทขอบคุณมากๆนะคะ ขอบคุณคำชมดีๆที่ให้แคทนะคะ ส่วนเรื่องปวดท้อง ตอนนี้แคทหายแล้วค่ะ (คือแคทปวดท้องแบบวันนั้นของเดือนค่ะ เหมือนจะตายให้ได้เลยค่ะ ขอบคุณจริงๆที่เป็นห่วงแคทนะคะ)  :mew1:



สงสารน้อง แค่น้องเสียพ่อแม่ไป แค่นี้ต้องว่ากันขนาดนี้เลยเหรอ แล้วนั้นใครมาเรียกน้องกันล่ะ
น้องเอมน่าสงสาร ฝากเอ็นดูน้องด้วยนะคะ (แต่สำหรับคนบางคนในยุคปัจจุบันนี้ มันจะมีที่ลูกฉันดีสุดเธอไม่ดีไม่คู่ควร มันมีจริงๆ แคทเลยอยากจะนำเรื่องนี้มาเขียนน่ะค่ะ แคทหวังว่าจะชอบไม่มากก็น้อยนะคะ)



เอ็นดูน้องเสืออะ :katai2-1: :katai2-1:
  แง้ ดีใจ ฝากเอ็นดูน้องเสือด้วยนะคะ :mew1:


ไม่ใช่น้องรหัสเอมมาเจออีกนะ จะบังเอิญพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกน้องเอมอีกหรือเปล่าน้อ
  เนี่ย แคทเขียนนิยายง่ายไปใช่ไหมล่าา คนอ่านเดาได้หมดเลย โถ่เอ้ย หวังว่าเดาถูกแบบนี้จะยังสนุกอยู่นะคะ :hao5:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-06-2020 22:35:10 โดย Yoghurt »

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
พี่ดาบคนจริงอะ ขนาดแม่ก้อไม่เว้น  :laugh: :laugh: :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1

ออฟไลน์ Chucream.nabi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
นังพาพวย อินังยุแยงตะแคงรั่ว เค้าไม่ชอบมึงแล้วโว้ยยยยยยยย
เลิกมโนหลอกตัวเองสะที :angry2: :angry2:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
คุณแม่ต้องลองคุยกับน้องเอมก่อนนะคะ  แล้วจะนึกเอ็นดูจิตใจที่บริสุทธิ์ และเข้มแข็งของน้องเอม


ส่วนพาพวยน้านนนน ขอให้นางคิดได้ก่อนจะเสียดานี่ไปจริงๆ นะ

ออฟไลน์ jum1201

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-5
ลูกก็เลี้ยงได้แค่ตัวและค่ะคุณแม่ต้องเขาใจนะคะ

ออฟไลน์ Yoghurt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
    • แฟนเพจ

บทที่35


“อยากกลับคอนโดๆๆๆ” พูดออกไปแบบนั้นทันทีในตอนที่เห็นพ่อเดินเข้ามาในห้องทำงานของท่าน เป็นคนมีอายุที่ยังคงดูดีในสายตาของผมเสมอ หน้าตาหล่อเหลาคมคายที่พูดกันตรงนี้เลยว่าผมได้มาจากพ่อ ... ถึงแม้ว่าจริงๆแล้วตอนนี้ผมจะอยากได้ความสวยๆของแม่มาบ้างก็เถอะ ...



ถอนหายใจอย่างเซ็งๆแล้วเอนตัวลงพิงพนักพิงเก้าอี้



“อยากกลับไปหาแฟนมึงว่างั้น”



“โอ้โหหห ไม่น่าถามหรือเปล่าเอ่ย ดูก็น่าจะรู้หรือเปล่าคะ คนเค้าข้าวใหม่ปลามัน ถามมาได้อ่ะค่ะคนแก่”



“เดี๋ยวกูจะฟาดหน้ามึงนะไอ้ดาบ”



“ดานี่! โปรดเรียกสวยว่าดานี่ จะเก็บชื่อพี่ดาบไว้ให้ไอ้น้องเอมเรียกคนเดียว”



“ดานี่พ่องมึง”



“อ๊ะๆ ก็ใช่ไง พ่องเลยไงคะ” พูดตอบแบบนั้นพร้อมชี้มือใส่คนที่กำลังนั่งกำหมัดอย่างข่มอารมณ์อยู่ตรงหน้า เห็นแล้วก็รู้สึกสนุกดีอยู่หรอก ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้มีเรื่องราวให้รำคาญใจอยู่ก็อยากจะเล่นให้ใหญ่มากกว่านี้ คิดถึงอิน้องเอมแล้วจ้าเอดอก!



“อะๆ เลิกเล่น ป๊ามีไรก็รีบพล่ามมานะ จะกลับ”



“แต่กูยังไม่ให้มึงกลับ”



“เห้ยได้ไงวะป๊า บอกว่าจะกลับไปหาไอ้เอม อายุมากแล้วไปโรงพยาบาลเช็คหูหน่อยไหม ยังไงดีวะป๊า”



“ตั้งสติแล้วฟังฉันก่อนไอ้ดาบ ฉันเคยสอนให้แกเป็นคนใช้อารมณ์หรอวะ”  พ่อพูดออกมาแบบนั้น ท่าทางที่เหมือนอยากจะยกมือขึ้นมาโบกหัวกันยังไงอย่างงั้น แต่สายตาของพ่อที่มองมาก็ทำให้ผมต้องหุบปากลงก่อน พร้อมๆกับถอนหายใจ



“ป๊ามีอะไรก็พูดมา มาห้ามไม่ให้กลับคอนโดด้วยเรื่องอะไรไม่ทราบวะ ที่นี่ไม่มีแผ่นมาร์คหน้าหรือครีมสลีบปิ้งมาร์คด้วย เดี๋ยวผิวหน้าผมจะไม่ฉ่ำวาว มันจะไม่โอเค ป๊าเข้าใจป่ะ”



“เลิกตลกสักที พรุ่งนี้จะมีงาน ฉันอยากให้แกไปกับฉันและแม่”



“พูดออกมาซิว่ามันจะไม่ใช่งานเลี้ยงที่ชอบเอาลูกไปโชว์ตัวอวดกันใช่หรือไม่ยังคะ ถ้าใช่สวยจะกรี๊ดเดี๋ยวนี้เลยนะป๊านะ”



“อืม ใช่”



“กรี๊ดดดดดดดดดดด”



‘ผลั้วะ’



“โอ้ย เจ็บนะเว้ยป๊า”  ร้องออกมาแบบนั้นในตอนที่หัวของผมโยกไปอีกฝั่งด้วยฝ่ามือของพ่อ ดูเหมือนว่าพ่อจะหมดความอดทนที่พยายามข่มมันไว้มานาน ทำไมกันนะ ทำไมต้องทำร้ายคนสวยๆแบบกูด้วยครับ



“เลิกทำตัวแด๊ะแด๋สักที”



“ทำไมอ่ะ คนมันจะสวย”



“กล้ามมึงใหญ่กว่าหัวกูอีกไอ้ดาบ เลิกแกล้งทำซักที”



“โอ้ยป๊า เจ๊าะแจ๊ะจัง แล้วงานอะไรนั่นทำไมต้องให้ไปวะ ไม่อยากไป ป๊าก็ไปกับสัดเฮียปืนดิ” ถอนหายใจออกมาแรงๆก่อนจะกระแทกหลังลงไปพิงกับพนักเก้าอี้ บอกเลยว่าสวยหงุดหงิด สวยจะไม่ทน



“ไอ้ปืนมันไม่ว่าง หรือแกจะให้ฉันกับแม่แกลากกุญแจไป”  ขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินแบบนั้น จ้องหน้าคนเป็นพ่อที่ยกยิ้มมุมปากเหมือนรู้อยู่แล้วว่าผมกำลังคิดอะไร



“ป๊าอย่าไปบังคับน้อง”



“ไม่ให้บังคับ ก็ต้องเป็นแกที่ไป”



“รำคาญฉิบหาย น่าเบื่อ แล้วนี่ไม่ใช่จะหาผู้หญิงบ้านไหนมาจับคู่กับผมอีกนะ ขอบอกเลยว่าถ้าป๊าทำงั้น ผมจะกรี๊ดกลางงานเอาให้อายกันไปสามบ้านแปดบ้านเลยนะเว้ยป๊า”



“ปกติมึงก็ไม่ได้ดื้อด้านเหมือนควายแบบนี้นะไอ้ดาบ ทำไมตอนนี้เป็นแบบนี้วะ ฉันว่าฉันไม่เจอหน้าแกมาแค่สี่ห้าเดือน” พ่อบ่นออกมา พร้อมๆกับทำหน้าระอาใส่ ผิดกับผมที่พอได้ยินแบบนั้นแล้วรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมานิดหน่อย อาจเป็นเพราะได้ยินคำว่าเหมือนควาย ... ก็อาจจะจริง ตอนนี้ผมเริ่มเหมือนควาย เพราะควายเท่ากับความน่ารัก ... น่ารักแบบไอ้น้องเอม



“ยิ้มอะไรของมึง อย่าบอกว่ามึงพี้ยานะไอ้ดาบ”



“โอ้ยป๊า ผมไม่ยุ่งกับอะไรแบบนั้นป๊าก็รู้ป๊ะวะ” ทำหน้าเซ็งๆใส่คนเป็นพ่อตอนที่ได้ยินแบบนั้น แต่ท่านกลับเปลี่ยนท่าทีเป็นนั่งหลังตรง แล้วเอามือสองข้างประสานกันแล้ววางมันลงบนโต๊ะ พร้อมจ้องตรงมาที่ผมด้วยท่าทางจริงจัง



“มึงไม่ยุ่งกับมัน แต่คนใกล้ตัวบางคนอาจจะยุ่งก็ได้”



“ป๊าหมายถึงอะไร”  ขมวดคิ้วในตอนที่ได้ยินแบบนั้น ไม่เข้าใจเท่าไหร่แต่คิ้วกระตุก



“เรื่องรีสอร์ทที่สุราษฎร์...”



“ก็บอกแล้วว่าผมไม่เอา ไม่ทำอ่ะป๊า ป๊ายกให้เฮียปืนไปเลย ใหญ่ขนาดนั้นใครจะไปดูแลไหววะ” แค่ได้ยินชื่อสุราษฎร์กูก็เหนื่อยละ พื้นที่ติดทะเลบนเกาะที่ป๊าซื้อไว้ให้ผม ตั้งใจจะให้ไปทำธุรกิจที่นั่น แค่คิดก็เหนื่อย



“มันเป็นของมึงไอ้ดาบ”



“งั้นป๊าก็เก็บไว้งั้น ไม่บูดหรอก มันไม่ใช่สลิ่ม”



“เดี๋ยวกูตบมึงตกโต๊ะ รู้ไหมว่าพื้นที่นั้นมันราคาเท่าไหร่ ติดทะเลที่สามารถขนส่งสิ่งของต่างๆออกไปได้ เป็นพื้นที่เศรษฐกิจอย่างดี”



“ก็เพราะว่ามันเป็นแบบนั้นไง ผมเลยไม่อยากจะไปทำ ดูแลอะไรยุ่งยากไปหมด”



“อืม...แล้วแบบนั้นมันเลยยิ่งสำคัญ”



“แล้วไงวะป๊า” จ้องหน้าคนเป็นพ่อแบบที่ไม่เข้าใจ เอาจริงๆก็ไม่ค่อยเข้าใจสีหน้าของตาแก่นี่เท่าไหร่ พ่อผมเป็นนักธุรกิจ ตระกูลของพ่อผมแทบจะไม่ต่างจากมาเฟีย แต่ดีหน่อยที่พ่อของผมไม่ใช่ลูกคนโตของปู่ ไม่งั้นครอบครัวเราคงจะเคร่งเครียดกว่านี้



“ช่างเถอะ เอาเป็นว่าพรุ่งนี้แกต้องไป แล้วคืนนี้ก็นอนที่นี่ซะ”



“ผมอยากกลับไปหาไอ้เอม” ทำไมตาแก่นี่ไม่เข้าใจกันบ้างวะ คิดถึงตัวนุ่มนิ่มน่ารักของไอ้น้องเอม นอนคนเดียวจะไปหลับอะไรวะ



“อย่าให้พูดมากได้ไหม ขึ้นห้องไปซะ”



“ปัดโถ่เอ้ย ตาแก่นี่รุงรังจังวะ โอ้ย...ผมเจ็บนะป๊า”  ฟาดเข้าหัวมาเต็มๆที่นึงจนน้ำตากูซึม เห็นหัวกูเป็นลูกบาสหรอวะตีเอาๆ สวยเจ็บค่ะสังคม!



“กุญแจยังไม่กลับบ้านด้วย มึงจะกลับตอนนี้แน่หรอ”



“จิ๊ เออ เล่นแบบนี้ผมก็ต้องอยู่สิวะ” ถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ได้แต่ยกมือขึ้นเสยผมที่ลมาปรกหน้าแบบเซ็งๆ มองดูหน้าพ่อตัวเองที่ดูจะถูกใจกับการตอบรับของผม น่ารำคาญชะมัด



“งั้นผมไปล่ะ จะไปส่งข้อความหาไอ้เอม”



“เดี๋ยวก่อนไอ้ดาบ” ผมที่กำลังจะลุกออกไป แต่ก็ถูกพ่อรั้งไว้อีกรอบ เป็นรอบที่เท่าไหร่ของวันวะถามจริงๆ ... ได้โปรดปล่อยสวยไปค่ะตาแก่ เบื่อโว้ย กรอกตาใส่พ่อไปอีกหนึ่งทีติด



“อะไรอีกซิคะ พูดมาทีเดียวเลยนะคะ แล้วอย่ารั้งสวยอีก จะรีบไปโทรหาเมีย ปั๊ดโถ่วเอ้ย” ฉุนเฉียว มันเป็นฉุนเฉียวแล้วนะตอนนี้



“แกอย่าโกรธแม่แกเลยนะไอ้ดาบ มันไม่ง่ายหรอกที่จะต้องยอมรับกับเรื่องนี้” ผมที่กำลังแกล้งเล่นทำตัวเป็นตุ๊ดออกสาวเอาผมทัดหูอยู่ก็ต้องชะงักไปเลยในตอนนี้ที่พ่อพูดออกมาด้วยเรื่องนี้ ผมที่เงยหน้าขึ้นมองหน้าพ่อที่กำลังพูดเรื่องนี้อย่างจริงจังเป็นครั้งแรก ก่อนพาไอ้เอมมาที่นี่ผมโทรคุยกับพ่อเรื่องเอมแล้ว แต่กับแม่...เราไม่เคยได้คุยอะไรกัน



“ผมไม่ได้โกรธแม่ป๊า” ตอบกลับออกไปแบบนั้นแล้วเสหน้าหนีไปทางอื่น  “มันก็แค่....”  มันก็แค่เสียใจที่เค้าเลือกที่จะไม่ฟังอะไรเลย ก็แค่นั้นแหล่ะ



“ฉันรู้ว่าแกเองก็เสียใจ แต่แม่แกเค้าไม่เคยคิดร้ายกับแกนะ มันอาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อยกับเรื่องนี้ แต่ฉันเชื่อว่าเค้าจะเข้าใจได้ในสักวัน เพราะสำหรับฉันและแม่แก มันไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าพวกแกสามคนพี่น้องแล้ว”



“ผมไม่เข้าใจว่ะป๊า ป๊าบอกผมสามคนพี่น้องสำคัญ แล้วการที่ผมชอบผู้ชาย การที่ผมรักไอ้เอม มันผิดหรอวะ”



“มันไม่ได้ผิด แต่แกก็ต้องเข้าใจนะ ว่าตอนที่แม่คลอดแกออกมา เค้าคงไม่ได้คิดล่วงหน้าว่าจะได้ลูกสะใภ้ที่เป็นผู้ชายเข้าบ้าน ... ฉันรู้ดีว่าการรักชอบผู้ชายด้วยกันมันไม่ใช่เรื่องผิด ฉันรู้” พ่อที่พยายามพูดออกมาอย่างใจเย็น แต่ถึงแบบนั้นผมก็ยังไม่ได้รู้สึกดีขึ้นเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยป๊าก็ยังดูพูดเข้าใจง่ายมากกว่าแม่ เพราะแบบนั้นผมเลยมักจะคุยกับพ่อบ่อย



“แม่แกเค้าก็แค่หวังว่าอนาคตแกจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์ มีพ่อ แม่ ลูก และสามารถขยายครอบครัวออกไปให้ได้เจริญรุ่งเรืองต่อไปข้างหน้าได้อีกอย่างมั่นคง มีเมียที่ดีและมีความสุขในตอนที่ฉันกับแม่แกไม่ได้อยู่ด้วยแล้ว ... แต่ใช่ ฉันเข้าใจ คำว่าสมบูรณ์ของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน สำหรับแกมันอาจจะแค่การที่ได้อยู่กับใครสักคนที่แกรักก็แค่นั้น”



“แล้วทำไมแม่ถึงไม่เข้าใจอะไรง่ายๆแบบป๊าบ้างวะ”



“ฉันเองไม่ได้เข้าใจง่าย มันเองก็อยากสำหรับฉันเหมือนกัน ตอนที่เห็นแกอยู่ม.ปลายแล้วเริ่มทาปาก แกล้งทำตัววี๊ดว้ายตอนนั้นมันก็ไม่ง่าย แต่พอเวลาผ่านมาจนถึงตอนนี้ ฉันเห็นหลานฉันหลายๆคนเป็นตัวอย่าง เห็นพี่ชายฉันที่ยอมรับกับเรื่องพวกนี้ได้ ทั้งๆที่เค้าไม่น่าจะทำได้เลยด้วยซ้ำ ก็เลยต้องลองมองย้อนมาหาตัวเองดู ว่าแกเองก็ลูกฉัน แล้วมันมีอะไรที่ต้องรับไม่ได้วะ... จริงๆผู้ชายรักกับผู้ชายมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร มันก็เป็นความรู้สึกอย่างหนึ่ง เป็นหนึ่งในรูปแบบของความรักรูปแบบหนึ่ง ...”



ได้ยินแบบนั้นแล้วกูอยากจะวิ่งไปกราบเฮียทัพ ไอ้รบ ไอ้รุกจริงๆเลยแม่งเอ้ย มึงเป็นตัวอย่างให้พ่อกูเปิดใจ แต่ถึงแบบนั้น...



“ป๊าแม่งโคตรเท่เลยว่ะ”



“จริงๆเรื่องนี้ฉันรู้ตัวอยู่”  บอกออกมาแบบนั้นแล้วยักคิ้วให้ ... จะพูดไปแล้วก็เหนื่อยใจกับพ่อตัวเองนะครับ มั่นใจอะไรขนานดนั้นวะ แต่ถึงจะรู้สึกแบบนั้น ผมก็อดจะยิ้มมุมปากให้กว้างขึ้นไม่ได้เลยจริงๆ รู้สึกสบายใจขึ้นมานิดหน่อย



“แม่แกไม่ใช่คนโง่นะไอ้ดาบ แกเองก็น่าจะรู้”



“แล้วที่แม่เป็นอยู่ตอนนี้...”



“ก็รอดูต่อไปสิ แต่ฉันมั่นใจว่าถ้าเค้าได้รู้จักเอมจริงๆ เค้าน่าจะรักเอมได้ไม่ยาก”



“ผมเองก็มั่นใจแบบนั้น ก็ควายน้อยของผมน่ะมันน่ารักจะตาย ป๊าว่าป่ะ”



“เอาเถอะ มึงไปคลั่งรักไกลๆกูไป จะอ้วก”



“แบบนี้แหล่ะเนอะ คนชราอ่ะ จะพูดถึงความรักหวานซึ้งก็ผ่านมานานแล้ว เข้าไม่ถึงหรอกค่ะ ดูออก” พูดออกไปพร้อมๆกับส่งยิ้มหวานเจี๊ยบไปให้แล้วค่อยๆยกมือขึ้นทัดหูเป็นสเต็ปแห่งความน่ารักที่ใครๆเห็นก็ได้แต่พูดว่า...



“ออกไปไกลๆตีนกู!”



               ผมที่เดินออกจากห้องทำงานของพ่อด้วยความเซ็ง ... พ่อไม่เข้าใจความน่ารักนุ่มนิ่มของผมเลยว่ะ ตั้งใจว่าจะขึ้นไปอาบน้ำนอน แต่ได้ยินเสียงรถที่ขับเข้ามาจอดที่ประตูหน้าบ้าน



“ใครแม่งมาตอนนี้วะ”  ผมที่เดินลงไปชั้นล่าง โถงทางเดินยังคงเปิดไฟเอาไว้ แต่ไฟที่ห้องกินข้าว และโซนด้านหลังบ้านถูกปิดไฟหมดแล้ว เดินออกไปที่ทางเข้าบ้านก็เห็นไอ้กุญแจ ... น้องชายคนเล็กของผมเองครับ มันที่ใส่ชุดนักศึกษาและยืนอยู่ข้างๆรถยี่ห้อหรู และมีผู้ชายคนนึงยืนอยู่ข้างๆตัวมัน ผู้ชายที่ผมเองก็เคยเห็นหน้าคาตามาก่อน



“ทำไมกลับเอาป่านนี้ กี่โมงกี่ยามแล้วรู้บ้างไหมแจ”



“ขอโทษครับ ผมผิดเองที่พาแจไปกินข้าวมา เลยกลับมาดึกขนาดนี้”



“ที่บ้านเราไม่มีข้าวกินหรอแจ แล้วเธอ ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่ามายุ่งกับลูกฉันอีก”



“ผมรักแจครับ และเราก็คบกัน”



“เธอนี่มันพูดไม่รู้เรื่องใช่ไหม...”



“แม่พอเถอะฮะ แจขอโทษที่กลับบ้านดึก แจก็แค่หิว”



“แกก็หิวตลอดอยู่แล้วกุญแจ ส่วนเธอ กลับไปได้แล้ว” แม่ของผมที่ว่าออกมาแบบนั้น ท่าทางที่ทำให้ผมต้องถอนหายใจออกมาหนักๆอีกรอบ



“พี่อู๋พี่กลั...”



“ฮายยยย หนุ่มๆ ฮัลโหลลลล” เป็นผมที่ร้องตะโกนออกไปแบบนั้น พร้อมๆกับการปรากฏตัวอย่างยิ่งใหญ่ ฉีกยิ้มกว้างๆพร้อมๆกับโบกมือไปทางกุญแจ ผมเห็นไอ้อู๋ที่ทำหน้าตกใจที่เห็นผมนิดหน่อยก่อนจะยกมือไหว้



“พี่ดา เอ้ย เจ๊ดานี่ สวัสดีครับ”



“ฮายจ๊ะน้องอู๋ พาไอ้หมูนี่ไปไหนมาเอ่ย” ผมที่ถามออกไปแบบนั้นแล้วยิ้มกว้างๆ



“พาไปกินข้าวมาครับ”



“เข้าใจๆ อิเด็กผีนี่หิวตลอดอ่ะแหล่ะค่ะ เป็นแฟนเด็กผีก็ลำบากหน่อยนะคะ”



“ผมไม่ลำบากเลยครับ ผมยินดี”



“อั๊ย พูดจาน่ารัก คนดีอ่ะโน๊ะ อยากหยิกแก้มจุม” ว่าแบบนั้นแล้วตั้งท่าจะเดินเข้าไปแกล้งหยิกแก้มไอ้อู๋ แต่น้องชายของผมที่มาขวางเอาไว้ซะก่อน แก้มกลมๆขอมันดูเหมือนจะพองขึ้นนิดหน่อย แกล้งนิดแกล้งหน่อยทำเป็นหวง ปั๊ดโถ่



“พี่อู๋ ลุงมึงกลับไปก่อนเถอะ เดี๋ยวแจโทรหา”



“กุญแจ!” แม่ผมที่ได้ยินเข้าพูดออกมาด้วยเสียงที่เรียกได้ว่าขุ่นมัว แจมันสะดุ้งนิดหน่อย แล้วเดินมาหลบที่หลังของผม ผมหันไปมองหน้าแม่แล้วละสายตาหนีมา



“กลับบ้านดีๆนะไอ้อู๋ เอ้ย หนุ่มอู๋ จุ๊บๆจ้ามึง” ขยิบตาให้มันหนึ่งที ไอ้อู๋ที่หัวเราะขำออกมาหน่อยๆหันไปยกมือไหว้แม่ผม ก่อนมันจะขับรถออกไป และความเงียบก็โรยตัวลงมาที่เราสามคน แม่มองมาที่ผมและกุญแจอย่างเงียบๆ



“ทำไมถึงทำแบบนี้แจ แม่ขอแล้วใช่ไหม แม่ขอมานานแล้วนะว่าให้เลิกทำแบบนี้ เลิกยุ่งกับนายคนนี้...”



“แต่แจกับพี่อู๋ไม่ได้ทำอะไรเสียหายเลยนะฮะ แจก็แค่ไปกินข้าว แล้วพี่อู๋มันก็ไม่เคยพาแจไปเสียหาย”



“ถึงจะแบบนั้นแม่ก็ไม่...”



“แม่พอสักทีได้ไหม” ผมที่พูดออกไปแบบนั้นด้วยเสียงเรียบๆ และนั่นก็ทำให้แม่เงียบเสียงลง ฝ่ามือเล็กๆของไอ้แจกำอยู่ที่ชายเสื้อของผม มันที่ยืนอยู่ข้างหลังของผมไม่ต่างจากสมัยเด็กๆ ไม่ว่ากี่ปีต่อกี่ปีที่ผ่านมา กุญแจก็ยังคงเป็นน้องชายตัวเล็กๆของผมเสมอ มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก จริงๆค่อนข้างขี้อายและเพื่อนน้อย ชีวิตมันมีแค่ของกิน



“เมื่อไหร่แม่จะเลิกบงการพวกเราสักที ตั้งแต่เด็กจนโตแจมันแทบจะไม่มีเพื่อนเล่นอยู่แล้วเพราะความกลัวของแม่”



“ก็แล้วมันจริงไหม ความกลัวของแม่มันจริงใช่ไหมล่ะ มันเป็นจริงทั้งๆที่แม่ก็พยายาม...”



“ใช่ มันเป็นจริง แม่ต้องยอมรับได้แล้วว่าแจมันไม่ได้ชอบผู้หญิง ต่อให้แม่กันมันออกมาจากผู้ชายทั้งโลกมันก็ไม่ชอบผู้หญิงหรอก และใช่ ผมเองก็ด้วย”    ผมพูดออกไปแบบนั้น มองเห็นสายตาที่สั่นไหวของแม่ที่มองมาที่ผมและแจอย่างสับสน ความรู้สึกของแม่ที่กำลังเจ็บปวด แต่ทั้งผมและแจก็ไม่ต่างกัน



“แจมันอาจจะไม่พูดอะไรและทนๆไป แต่มันจะไม่ใช่กับผม และผมก็จะไม่ยอมให้น้องต้องมาเจอแบบผมด้วย! ไอ้อู๋มันเป็นคนดี การที่เราจะรักใครสักคนมันไม่ได้มาจากนิสัยเค้าหรอครับ มันไม่ได้มาจากเพศ ไม่ได้มาจากฐานะอะไร มันก็แค่มาจากความรู้สึกของเราครับแม่ ผมอยากให้แม่ยอมรับ และปล่อยผมกับน้องไปได้แล้ว”



“ฮึก ...พี่ดาบ”



“ไป ขึ้นห้องนอนได้แล้วแจ”  ผมพูดออกมาแบบนั้นแล้วดึงมือมันให้เดินตามผมขึ้นบ้านไป ผมที่ไม่ได้หันไปมองหน้าแม่อีก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเค้ากำลังเสียใจมากแค่ไหน แต่คนทุกคนก็มีหัวใจ ไม่ใช่มีแต่แม่หรือเปล่า ถ้าพูดดีๆกันไม่ได้ ไม้แข็งก็อาจจะเป็นวิธีที่ดีกว่า





“เข้าห้องไปอาบน้ำนอนได้แล้วค่ะอิหมู อ้อ...หรือจะคุยกับไอ้ไม่หล่อนั่นก่อนก็ได้แล้วแต่ใจมึงค่ะ”  บอกไอ้แจแบบนั้นตอนที่เรามาหยุดอยู่ที่หน้าห้องมัน มันที่น้ำตายังไหลแต่ไร้เสียงสะอื้น มือป้อมๆของมันที่จับมือของผมเอาไว้แน่นๆ มันอ้วนน่ะค่ะนิ้วมันเลยป้อม



“พี่ดาบ เลิกทำแบบนี้เพราะผมเถอะพี่” มันที่พูดออกมาพร้อมๆกับเงยหน้ามองหน้าผมพร้อมน้ำตา ผมชะงักไป ก่อนจะส่ายหน้า



“กูชอบของกู ไม่เกี่ยวกับมึงค่ะอิหมู”



“พี่ ... ผมรู้ ผมรู้มาตั้งแต่เด็กแล้ว เพราะผมไม่มีค่อยเพื่อน เพราะแม่ที่ชอบดุผม พี่เลยพยายามแกล้งเป็นตุ๊ดให้แม่ด่าพี่แทน ผมรู้นะว่าเหตุผลมันมาจากผม พี่ไม่ต้องปิดหรอก พี่ทำเพื่อผมมามากพอแล้วนะ พี่เป็นคนหล่อมากๆเลย” มันที่เม้มปากเข้าหากันแน่นๆ คำพูดของมัน สายตาของมันที่มองมาที่ผมทำเอาผมชะงักคำพูดตัวเอง สายตาคาดคั้นที่บังคับให้ผมยอมรับความจริงกับมัน



“อยากตบจังค่ะ กูคนสวย”



“พี่ดาบ”



“ไอ้แจ ไม่ต้องห่วงกูหรอก กูไม่เป็นไร มึงก็รู้ว่ากูจะไม่ทำอะไรที่ไม่สุขใจ เพราะงั้นที่กูทำอยู่กูก็สุขดี ตอนนี้กูอยากซื้อลิปสีใหม่ของดิออร์ด้วยนะรู้เปล่า” ยื่นมือไปยีผมมันเบาๆ มองไปที่มันเมื่อไหร่ก็ไม่ต่างจากมันตอนสามขวบ ยังคงเป็นเด็กตาใสแก้มกลมน่ารักที่มีรอยยิ้มเยอะๆ แต่มันก็เริ่มไม่ยิ้มตอนที่มันเริ่มเอาลิปสติกของแม่มาทาแล้วโดนดุ กว่ามันจะกลับมาเป็นแบบนี้ได้อีกครั้งมันยากมากๆ และเพราะแบบนั้น ผมจะไม่ยอมให้น้องต้องเสียรอยยิ้มไปอีกหรอก



“พี่เป็นพี่ที่ดีมากเลย ฮึก ... แจขอโทษนะ เพราะแจเลย เพราะแจ ฮึก”  ร้องไห้ออกมา ก่อนจะโผเข้ามากอดตัวผมไว้แน่นๆ ได้แต่กอดตอบมันไป ก่อนจะลูบหลังเบาๆ ไอ้แจที่ผมไม่ได้เห็นมันร้องไห้นานแล้ว เพราะหลังๆเวลามันโกรธหรือเสียใจมันจะไม่ร้องไห้ วิธีของมันคือการไปหาอะไรกิน แล้วมันจะมีความสุขมากขึ้น



“คนเรามันเป็นอะไรก็ได้นะแจ เราจะเป็นอะไรก็ได้โดยที่ไม่ต้องรู้สึกผิด มันไม่ควรมีใครโดนคนอื่นชี้หน้าว่าเราควรเป็นแบบนั้นแบบนี้ และถึงกูจะเป็นตุ๊ดหรือไม่ได้เป็น มันก็เรื่องของกู เพราะกูเป็นกู และนั่นมันคือความพอใจของกู ... กูเองก็อยากให้มึงคิดแบบนี้นะ เป็นตัวของตัวเอง อยากทำอะไรก็ทำไป กับไอ้อู๋น่ะ...มันเองก็รอมึงมานานแล้วนะ เสียเป็นแสนแขนมึงมันได้จับหรือยัง”



“ก็ต้องมากกว่าจับแขนสิวะ”



“เดี๋ยวนะ มึงหมายความว่าอะไรคะ กรี๊ดดดด อิอู๋ทำไรน้องกู มึงไปบอกมันเลยนะ ถ้ามากเกินกว่าจับแขนกูจะไปตุ๋ยตูดมัน”



“โว้ยยย พี่ดาบแม่งบ้าบอจริงๆ”



“เอ้า อิเด็กนี่!”



...

มีต่อจ้า

ออฟไลน์ Yoghurt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
    • แฟนเพจ


“พรุ่งนี้มึงจะมายังไง รถออกแต่เช้านะ” ไอ้หยีที่ถามผมตอนที่พวกเราเดินลงมาจากตึกเรียน มีไอ้เก้อเดินตามมาด้วย มันที่ไม่ได้ทำหน้าตึงหรือห่างเหินอะไรกับผมมากเท่าไหร่ แต่จะบอกว่าสนิทชิดเชื้อกันเหมือนเดิมก็ไม่ใช่ครับ เราสองคนที่ยังคุยกันแต่ยังมีระยะปลอดภัยที่เข้าใกล้กันมากไปไม่ได้ และผมเองก็คิดว่าดีแล้วที่เป็นแบบนี้



“พี่ดาบอาจจะมาส่งมั้งป้า”



“ทำไมมึงมั้งล่ะคะอินี่”



“ก็...ยังไม่แน่ใจอ่ะ แต่คิดว่าคงเป็นพี่มันแหล่ะ วันนี้มันอาจจะกลับมาแล้ว”



“แฟนมึงไปไหน” ไอ้เก้อถามออกมาแบบนั้น พอหันหลังกลับไปก็เห็นมันทำคิ้วขมวดใส่ ดูเหมือนจะไม่ชอบใจที่รู้ว่าพี่ดาบไม่อยู่ คือมึงเป็นห่วงแฟนกูหรอเก้อ คือมึงตกหลุมรักอิเจ๊เรอะ!



“กลับบ้านเค้า”



“แล้วมันยังไม่กลับมา”



“อื้ม” ตอบรับพร้อมๆกับพยักหน้าเป็นคำตอบให้ ไอ้เก้อเบ้ปากขัดใจนิดหน่อย



“แล้วมึงจะกินอะไรวันนี้”



“แดกไรก็แดกสิวะ ทำไม”



“ก็ปกติแฟนมึงหาอาหารให้มึงแดกไม่ใช่รึไง” 



“สัด กูไม่ใช่หมานะโว้ย ดูแม่งใช่คำ”  แต่ก็ถูกของมัน ผ่านมาแค่คืนเดียว ผมเองก็คิดถึงอาหารฝีมือพี่มันมากๆเลยว่ะ



“เอาเหอะ กูหาอะไรแดกได้น่า กูโตแล้วมึงไม่ต้องห่วงกูหรอก”



“มึงแม่งน่าห่วงตลอดแหล่ะเอม”



“เอาเถอะๆ ถ้าพรุ่งนี้มึงมาเองไม่ได้ มึงโทรบอกกู เดี๋ยวกูไปรับมึงเองค่ะ”  ไอ้หยีตัดบทแบบนั้น กูอยากมอบโล่แม่ดีเด่นของไอ้เอมให้มึงเลยจริงๆป้า ขัดได้ทันเวลาอย่างกับรู้ใจกูเลย



“ไม่ต้องอ่ะ บ้านมึงกับคอนโดพี่ดาบแม่งคนละทางเลย เสียเวลามึง เดี๋ยวกูนั่งหนูด่วนไปเองได้”



“แต่มึงต้องแบกหนังสือที่จะเอาไปบริจาคที่ดอยมาด้วยไม่ใช่หรือไงคะอิเอม”  เออว่ะ ...ลืมคิดไปเลย



“เดี๋ยวกูไปรับเอง ทางผ่านกูอยู่แล้ว” ไอ้เก้อพูดออกมาแบบนั้น หันไปมองหน้ามันแล้วคิดอะไรขึ้นมาได้สักอย่าง คิดแล้วก็อยากจะพูดไป ไอ้เอมไม่สามารถหยุดปากตัวเองได้ ถามแม่ง



“มึงมารับกูได้แน่นะ ไม่ใช่ว่าจะไปรับใครนะ”  ไอ้เก้อหันมามองหน้าผม มันที่ดูเหมือนจะชะงักไปเล็กน้อย แต่มันก็แค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น



“กูจะไปรับใครวะ ยังไงกูไปรับมึงละกัน กูรู้มึงลำบาก”



“ห่วงกู ดูออก”



“เปล่า กูสงสารคนอื่นที่มึงจะไปชนเค้าในรถไฟฟ้า”



“สัดเอ้ย” ถอนหายใจแล้วเบ้หน้าใส่มัน แต่มันก็แค่ยักคิ้วกวนตีนใส่กันก็เท่านั้น สาธุเถอะ ปากดีแบบนี้ กูขอให้มึงเจอคนที่จะทำให้มึงปากดีไม่ออกบ้าง



“กูกลับแล้วนะ พรุ่งนี้เจอกัน” ผมหันไปบอกไอ้หยีกับไอ้เก้อแบบนั้น มันสองคนที่ก็แค่พยักหน้ากลับมาให้ ... ได้แต่หวังว่ากลับไปถึงบ้านแล้วจะเจอกับอิเจ๊พี่มัน แต่อะไรที่เราหวังมันก็มักจะไม่เป็นแบบนั้นเสมอเลย



“เฮ้อ...ยังไม่กลับอีกหรอวะ ผมคิดถึงพี่แล้วนะเว้ย”  บ่นกับตัวเองแบบนั้นตอนที่ทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ในห้องครัว ห้องที่เงียบมากกว่าปกติ รอบๆห้องไม่ได้รกอะไร เพราะไอ้ตัวทำรกไม่อยู่ ผมที่ทำแค่เช็ดๆถูๆไม่กี่อย่างห้องก็สะอาดเหมือนเดิมแล้ว ปกติถ้าอิเจ๊พี่มันอยู่ด้วยก็ต้องคอยเก็บที่มาร์คหน้า แปรงหวีผม ลิปสติก และอะไรไร้สาระของมันที่ชอบวางทิ้งไว้ไม่เป็นที่ไม่เป็นทางอยู่เรื่อย แต่ตอนนี้ไม่ต้องทำแบบนั้น



“เฮ้อ...หิวจังวะไอ้เอม มีอะไรแดกบ้างวะเนี่ย”  ถอนหายใจออกมาเป็นรอบที่หนึ่งร้อยด้วยความหงอยเหงาเศร้าซึม ทำไมกูรู้สึกตัวเองไม่สดชื่นเลยวะ เหมือนควายที่ไม่ได้ไปกินหญ้าเลย คิดเอาเองว่าผมคงจะหิว



“มีมาม่าหรอวะ” หยิบมันออกมาจากชั้นสูงๆที่อยู่ข้างบนสุดของตู้บิวท์อินในห้องครัว รสต้มโคล้ง ...ที่ตอนแรกกูขอสารภาพว่าอ่านว่ารสต้มโค แม่งเอ้ย นึกว่าจะได้กินสัตว์ใหญ่แล้ววันนี้



“ต้มน้ำร้อนๆ กูต้องต้มน้ำร้อนก่อน กระติกๆน้ำอยู่ไหนวะ” มองซ้ายมองขวาแต่หาไม่เจอ ปกติจะเป็นอิเจ๊พี่มันที่เอาออกมาตั้งเสียบปลั๊กและเก็บเองเรียบร้อยในทุกๆวัน เพราะพี่มันชอบกินกาแฟตอนเช้า



“แม่ง ต้มเอาเองก็ได้”



เดินไปหยิบหม้อ ตั้งน้ำแล้วเอามาต้มกับเตาแก๊สอย่างเซ็งๆ เสร็จแล้วผมก็ออกมานั่งอยู่ที่โต๊ะด้วยความรู้สึกว่างเปล่า เอื้อมมือหยิบมือถือที่เหมือนเศษซากวัตถุจากนอกโลกของผมออกมาดู ยังไม่มีข้อความตอบกลับมาจากพี่มัน และมันก็ยังไม่ได้เปิดอ่านด้วย จริงๆผมอยากโทรหา แต่คิดว่าถ้าโทรไปแล้วมันเกิดอยู่กับแม่มันก็คงจะไม่ดีนัก ถึงไอ้หยีจะบอกว่าจะไปกลัวอะไรกับแม่ผัว ให้สู้ไป แต่ผมก็ยังคิดว่าการทำแบบนั้นมันดีแต่จะทำให้อิเจ๊พี่มันอึดอัด มันคงไม่ดีนักหรอกที่ผมต้องเป็นอีกหนึ่งคนที่ต้องเป็นคนบีบให้พี่มันเลือกระหว่างผมกับแม่มัน



“เฮ้อ ทำไมแม่พี่มึงต้องเป็นมนุษย์ป้าด้วยวะ คอยดูเถอะ กลับมาจากค่ายไอ้เอมจะไปจ๊ะเอ๋ให้ป้าแกหมอบเลย หึ่ย” เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันกับตัวเองอย่างมุ่งมั่น .. แต่เดี๋ยวนะ



“กลิ่นอะไรเหม็นๆวะ”  หันหน้าไปที่ครัว กูก็รู้เลย ...



“สาดดดดด เจ็บไข่!!” แหกปากออกมาตอนเห็นควันขี้น ไอ้แม่ย้อยหอยแมลงภู่!! หมอไหม้!!!



วิ่งเข้าไปปิดวาล์วแก๊สก่อนจะกดปิดแก๊สที่เตา รีบเอื้อมมือไปยกหม้อลงจากเตาทันทีเพื่อจะโยนลงซิงค์อ่างล้างจาน แต่ลืมไปว่า



“ร้อนโว้ยยย ร้อนไข่!!” หม้อไปทาง ตัวกูไปทาง เจ็บโว้ยยยยยยย



เจ็บมือจนน้ำตาไหลเลย เพราะว่าลืมไปว่าหม้อมันร้อนมากๆเลยเอื้อมมือไปจับมันทั้งแบบนั้น ตัวผมที่ถอยออกมาจากห้องครัว แล้วมองดูภาพตรงหน้าที่มีควันจางๆลอยคลุ้งไปในอากาศ มีกลิ่นเหม็นไหม้ที่เกิดจากน้ำเดือดจนงวดลงไปจนหมดแล้วก็ไหม้ และตอนนี้ถ้วยมาม่าของผมก็กระจายเลอะเทอะไปหมด รวมถึงหม้อน้ำที่ไหม้ ก็ถูกโยนลงพื้นคว่ำหงายไปแล้วตอนนี้



เละเทะสัดๆ



“แม่ง ... “ ได้แต่สบถออกมาแบบนั้น แล้วก็ได้แต่ก้มลงไปมองที่พื้น อยู่ๆความรู้สึกว่างเปล่า โหวงๆก็เข้ามาแทนที่ เมื่อก่อนผมก็ใช้ชีวิตผ่านมาด้วยตัวเองมาได้ แต่กับอิแค่เวลาสามสี่เดือนผ่านมาทำไมตัวผมถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้วะ ผมที่แค่ไม่มีพี่ดาบอยู่ด้วยแค่วันเดียว ทำไมมันถึงกลายเป็นช่วงเหลือตัวเองไม่ได้แบบนี้วะ



“มึงแม่งอ่อนฉิบหายเลยว่ะไอ้เอม” ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นแล้วกอดเข่าตัวเองเอาไว้ทั้งๆที่ฝ่ามือก็เจ็บเพราะถูกลวก



“เอมคิดถึงพี่มึงจนเจ็บไข่แล้ว ฮึก...”



“ขนาดนั้นเลยหรอหนู” เสียงเข้มๆที่ดังขึ้นมาจากด้านหลังทำให้ผมค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปมองก็เห็นใครอีกคนที่มายืนอยู่ตรงนั้น ในมือสองข้างของเค้าเต็มไปด้วยข้าวของพะรุงพะรัง



“เจ๊...”



“ไปนั่งทำอะไรตรงนั้นคะ มาให้กูกอดหน่อยดิ๊หนู”



“ฮึก เจ๊!” ลุกขึ้นมากอดจะโผเข้ากอดมันเต็มแรง อีกคนที่ยกยิ้มมุมปากนิดๆ ก่อนที่วงแขนแข็งแกร่งนั่นจะยกขึ้นกอดผมแน่นๆไม่ต่างกัน



“ท...ทำไมไม่ตอบผม ฮึก ผม...ผมคิดว่า...”



“คิดว่ากูจะทิ้งมึงหรอ กูไม่ได้เป็นบ้านะไอ้สัด จะทิ้งมึงไปไหนได้ไงวะ แล้วนี่ร้องไห้ทำไมวะเอม ไหนขอดูหน้าเด็กขี้แยหน่อยครับ” ว่าแบบนั้นแล้วพยายามดันตัวผมออกมาจากอกตัวเอง แต่ไม่เอาหรอก ผมไม่ปล่อยหรอก ถ้าปล่อยตอนนี้พี่มันก็เห็นดิว่าตาปูด



“อื้อ ไม่เอา”



“ทำไมดื้อจังวะ”



“ก็อยากกอด เจ๊พี่มึงให้กอดไม่ได้หรอวะ” พูดออกไปแบบนั้นทั้งๆที่ตอนนี้ก็ยังเอาหน้าจุ่มอยู่ที่อกของมันไม่ยอมขยับไปไหน ผมรู้สึกถึงแรงขยับตัวของคนตรงหน้า ได้ยินเหมือนเสียงมันวางของ ก่อนจะรู้สึกได้ถึงฝ่ามืออุ่นๆของคนตรงหน้าที่ลูบเบาๆไปตามแผ่นหลังของผม นิ้วเรียวยาวอุ่นๆที่ลูบไล้เส้นผมของผมเบาๆ



“กอดได้...พี่เองก็คิดถึงเอมครับ”



“ฮึก ทำ...ทำไมไม่ตอบเอม เอมคิดว่า...เอม ฮึก”



“ไหนวะดื้อ ขอดูหน้าหน่อยสิ” ดันตัวผมออกมา พร้อมๆกับที่นิ้วเรียวยาวช้อนปลายคางของผมให้เงยขึ้นไปสบตากัน ตาของผมพร่าเพราะน้ำตาที่คลอเบ้า มองเห็นหน้าพี่มันไม่ชัด แต่ถึงแบบนั้นก็ยังรู้ว่าคนตรงหน้ายิ้มให้กันอยู่



“พี่ไม่ทิ้งเอมอยู่แล้ว”



“ฮึก อย่าทิ้งเอมนะ ถึงแม่พี่จะไม่ชอบผม แต่...แต่ว่า” 



“พอแล้ว ไม่ร้องแล้ว ดูสิเขาสั่นไปหมดแล้วเนี่ย” เขาพ่อง! ... อ้อมกอดแข็งแกร่งที่เอื้อมมากอดตัวผมอีกครั้งก่อนจะดึงแขนผมให้เดินตามพี่มันไปที่โซฟา อีกคนที่ทรุดตัวลงนั่งแล้วดึงตัวผมให้ขึ้นมานั่งคล่อมตักของมัน



“ทำไมต้องนั่งแบบนี้ด้วยวะ” พยายามดิ้นลงจากตัวมัน แต่อีกฝ่ายก็เอื้อมมากอดเอวกันไว้แน่นๆซะก่อน



“นั่งแบบนี้กูจะได้มองเห็นหน้ามึง” คือกูนั่งข้างๆก็เห็น นั่งท่าแบบนี้คือมัน...มัน...



“ตาบวมเลยลูกควาย”



“อย่ามาล้อนะ”



“หึๆ หน้างอเลย ไม่ล้อก็ได้ครับ” ถึงจะบอกไม่ล้อแต่รอยยิ้มของมันก็ไม่ละไปไหนเลย กูมองมาจากนอกโลก มนุษย์ต่างดาวๆข้างๆกูก็ดูออกอ่ะว่ามึงล้อกูอยู่อิเจ๊ แม่ง ชอบแกล้ง



“ผมคิดว่าเจ๊จะกลับมาไม่ทัน”



“ไม่ทันเรื่อง?”



“พรุ่งนี้ผมจะไปค่ายอาสา ผมไลน์ไปบอกแล้วแต่เจ๊ไม่อ่าน” บอกออกไป พี่มันก็ขมวดคิ้วเข้าหากันทันที ก่อนจะหยิบมือออกมาจากกระเป๋ากางเกง มันที่กดเข้าแอพให้ผมเห็นแล้วเปิดข้อความแชทของผมขึ้นมา แต่...ว่างเปล่า



“ทำไมไม่มีวะ”



“แต่ผมส่งแล้วนะ เนี่ย” หยิบมือถือตัวเองมาเปิดให้พี่มันดู อืดนิดหน่อย ช้าเหมือนเครื่องตาย แต่จริงๆก็ยังใช้ได้อยู่



“เอม”



“หื้ม” เลิกคิ้วทำหน้างงๆส่งไปให้มัน ตอนที่อีกคนโยนมือถือผมไปไว้ไกลๆตา เชี่ย มือถือกูปุ่มจะหลุดเปล่าวะเนี่ย



“มันส่งมาไม่ถึง มึงไม่เห็นลูกศรที่มันบอกให้กดส่งใหม่หรอวะ”  มันที่บอกผมออกมาแบบนั้น เงยหน้ามองกันแบบระอา ... ปัดโถ่วเอ้ย มันก็แค่ แบบว่ามันก็แค่...



“มึงใช้เน็ตที่ไหนส่งวะ”



“ก็...ก็เน็ตมออ่ะ” ยกมือขึ้นเกาหัวตัวเองนิดๆ แล้วส่งยิ้มแหยๆไปให้ พี่มันถอนหายใจออกมาอีกนิด แล้วเอื้อมมือมาผลักหัวกัน



“มึงนี่นะ แม่ง ทำแต่ให้กูเป็นห่วง แล้วจะไปค่ายเหี้ยอะไร กูจะปล่อยควายกูไปเผชิญโลกกว้างได้ไงวะแบบนี้ เกิดมึงไปกินหญ้าผิดชนิดขึ้นมากูทำไง”



“สัดพี่ดาบ มึงเห็นกูเป็นตัวอะไรวะเนี่ย”  ฟาดอกแม่งไปทีนึงตอนที่พูดออกมาแบบนั้น พี่มันที่ก็แค่ขำออกมาในลำคอนิดหน่อยแล้วก็นิ่งไป ไม่รู้ทำไมผมถึงรู้สึกว่ามันดูจะกังวลแปลกๆ



“พี่ดาบ เป็นอะไรหรือเปล่า”



“เปล่าหรอก แต่มึงจะไปค่ายแล้วกลับวันไหน”



“กลับวันจันทร์ครับผม”



“มึงไปตั้งแต่วันศุกร์แบบนี้เลยหรอวะ”



“ใช่แล้ว อยู่คนเดียวเหงาๆ เอาไข่สีหมอนไปก่อนนะ” ยักคิ้วให้มันทีนึง อีกคนที่ก็ขมวดคิ้วให้กัน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มชั่ว



“เดี๋ยวนะ พี่มึง ใจเย็นๆก่อนนะจ๊ะวัยทอง” ยื่นมือไปดันอกมันไว้ ตั้งใจจะก้าวขาลงจากตักอีกฝ่ายแต่ก็ไม่ทัน



“มึงด่ากูวัยทอง เดี๋ยวมึงได้ท้องไอ้เอม”



“กูไม่มีมดลูก มึงลืมหรา ปล่อยๆ ปล่อยโว้”



“กูจะปล่อยให้โง่รึ ปากดีแบบนี้มึงต้องเจอ!”



“อึก อื้อออ”


...



“มึงจัดกระเป๋ายัง”



“จัดแล้ว พี่มึงเถอะ กูดูจากหนังหน้ามึงแล้ว กูคิดว่าพี่มึงต้องยังไม่ได้จัด” หันไปหาไอ้คนขับรถข้างตัว มันเองที่ทำแค่ยกยิ้มขำๆใส่ผมแทน



“มึงก็มาช่วยกูจัดดิวะเสือ กูขี้เกียจ”



“เรื่องดิ สันดาน กระเป๋าใครกระเป๋ามันสิโว้ย”  บอกมันออกไปแบบนั้น มันเองก็ทำแค่ส่ายหัว ทำหน้าทำตาที่เหมือนว่ามันคิดไว้อยู่แล้วว่าผมต้องบอกมันแบบนี้



“มึงแม่งโคตรจะลูกเสือ”



“ถ้ากูเป็นลูกเสือ มึงก็เป็นแค่เนตรนารีอ่ะอิสัดพี่เก้อ”



“ฆวยครับ คนละลูกเสือกันแล้ว .... นี่มึงกวนตีนกูป่ะวะ” ผมยกยิ้มขำตอนที่เห็นอีกคนส่ายหัวแบบขัดใจ วันนี้ไม่ได้ขับรถมาเพราะเมื่อเช้ามันไปลากมาจากหอ เพราะแบบนั้นตอนกลับก็เลยต้องให้มันไปส่ง สมน้ำหน้าแม่ง ลากกูไปนู้นมานี่ดีนัก



“ถ้ากูกวนตีนแล้วมึงจะทำไม”



“กูก็จะกวนใจมึงแทนอ่ะสิวะ”



“สัดเถอะ มึงฝันเอานะ”



“แต่กูว่า ตอนเอามึงกูก็ไม่ได้ฝันนะ”



“เลิกพูด แยก!!”



“ฮ่าๆๆ รู้สึกดีว่ะเวลาที่มึงเขินแบบนี้อ่ะ”  ยื่นมือมาเขี่ยแก้มกันไปด้วย กวนส้นตีนจนอยากเอาตีนลูบหน้า เอียงหน้าหนีแม่งแล้วแต่นิ้วมือมันก็ยังตามมาเขี่ยๆแบบไม่เลิกลา น่ารำคาญจนกูเซ็ง เพราะแบบนั้นก็เลยปล่อยให้มันทำตามใจ แค่รำคาญแค่นั้นแหล่ะ ไม่ได้ชอบที่มันมาเขี่ยแก้มอะไรเลยนะจริงๆ



ไอ้พี่เก้อที่ตบไฟเลี้ยวซ้ายเข้ามาที่ลานจอดรถของหอผม มันที่หันมายักคิ้วให้กันสองที ตั้งใจจะเปิดประตูลงรถไปเลยทั้งแบบนั้น แต่ในใจมันก็รู้สึกแปลกๆบางอย่าง เพราะปกติมันจะไม่นั่งนิ่งๆแบบนี้แล้วเอาแต่จ้องหน้ากัน ... ปกติจะเป็นมันที่หน้าด้านกระโดดลงรถไปก่อนแล้วเดินลอยหน้าลอยตาขึ้นห้องผมไปแบบไม่ได้เชื้อเชิญ ... และเมื่อวานมันบอกว่าวันนี้จะมานอนห้องผม



“มึงไม่ขึ้น?” 



“หึ อยากให้กูขึ้นหรอวะ”  ยกยิ้มมุมปากแล้วเลื่อนตัวเข้ามาใกล้ ลมหายใจอุ่นๆที่รดอยู่ข้างๆแก้มจนต้องเสหน้าหนี



“กูถามเฉยๆหรอกโว้ย ไม่ได้อยากจะให้มึงขึ้นห้องหรอกนะ บอกเลย”



“ฮ่าๆ เออ ไม่ต้องห่วงวันนี้กูไม่ขึ้นหรอก วันนี้จะกลับไปนอนคอนโดว่ะ...พรุ่งนี้กูต้องไปรับไอ้เอมด้วยว่ะ” มันพูดไปยิ้มไป ผมได้แต่จ้องหน้ามองมัน มันที่พูดถึงพี่เอมด้วยรอยยิ้มนิดๆ เป็นความรู้สึกเหมือนถูกต่อยเข้าแรงๆที่ท้อง รู้สึกจุกแปลกๆ แต่ยังไหวอยู่



“อ้อ...หรอวะ เอ้อ...งั้นมึงรีบไปเหอะ” ผลักตัวมันออกไปห่างๆ แล้วหันตัวมาเปิดประตูรถ แต่ติดตรงที่แขนขวาของผมถูกมันดึงเอาไว้ซะก่อน



“เสือเดี๋ยว...”



“ปล่อย กูจะขึ้นห้อง” ไม่ได้หันไปมองหน้ามัน แต่ก็ตอบมันออกไปแบบนั้น ไม่รู้ด้วยว่ามันทำหน้ายังไงอยู่ แต่ถ้าพูดจริงๆตอนนี้ก็ยังไม่อยากเห็น กลัวเผลอยกตีนถีบหน้ามัน



“กู...พรุ่งนี้มึงจะไปยังไง คือ...”



“เมื่อวานมึงบอกว่ามึงจะไปพร้อมกู แต่ไม่เป็นไร กูไปเองได้ ง่ายๆแค่นี้กูมีขา มึงไม่ต้องห่วง”



“มึง กูขอโทษกูลืม...คือกูลืมไปเลยว่านัดมึง ไอ้เอมมันไม่มีคนไปส่งไง กูเลย...”



“ช่างเหอะมึง มึงจะลืมก็ไม่แปลกป่ะวะ กูก็ไม่ได้สำคัญอะไรกับมึงมากขนาดนั้นอยู่แล้วป่ะ”



“มันไม่ใช่แบบนั้น คือมึงเข้าใจไหมว่ากูแค่ลืม”



“จะแค่ลืมหรือลืมจริงๆเหี้ยไรก็ช่างแม่งเหอะ! ... มึงลืม ก็คือมึงลืมอะเก้อ” หันไปจ้องหน้ามันตาเขม็ง จริงๆกูพยายามแล้วนะ พยายามที่จะไม่พูดอะไรแล้วจริงๆ มองตาคนตรงหน้าที่มีแววรู้สึกผิด แต่มึงมารู้สึกตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วไหมวะ



“มึงก็ต้องลืมกูอยู่แล้วป่ะ กูที่ไม่ได้เป็นอะไรกับมึง กับพี่เอมคนที่อยู่ในใจมึง มันจะแปลกเชี่ยไรวะ”



ดึงแขนตัวเองออกจากมือของมัน แล้วผลักประตูรถเปิดออก เดินลงจากรถของมันแล้วปิดประตูชนิดที่ว่าไม่กลัวรถหรูของแม่งจะพัง ... ประตูรถมันจะพังก็ช่างแม่งดิ ทีเวลาความรู้สึกกูพังแม่งยังไม่มาซ่อมให้กูเลย



...



“อ๊ะ อึก ด..เดี๋ยว เจ๊...”



“เวลาแบบนี้มึงจะมาเจ๊กับใครวะหนู” เสียงกระเส่าที่ดังอยู่ข้างหู มาพร้อมๆกับริมฝีปากที่ไล่ประทับลงมาตามลำคอและลาดไหล่ของผม



“คิดถึง” ฝ่ามือหนาที่รวบข้อมือของผมเอาไว้ที่ด้านหลังได้ด้วยมือข้างเดียว ขาของผมที่ฉีกออกกว้างเพราะนั่งคล่อมตักของพี่มันอยู่ มืออีกข้างของมันที่ดึงรั้งเอวผมให้เข้ามาแนบชิดกับหน้าท้องแกร่งของมันมายิ่งขึ้นไปอีก กางเกงขาสั้นที่ผมเปลี่ยนตอนกลับมาจากมหาลัย’ที่ใส่อยู่ เนื้อนิ่มกับกางเกงชั้นในที่ถูกถลกลงไปกองอยู่ที่หัวเข่า ความรู้สึกวูบโหวงถูกแทนที่ด้วยนิ้วเย็นๆที่โดนอุณภูมิของแอร์ในห้อง พอสัมผัสเข้ากับช่องทางด้านหลังอุ่นๆของผมก็ยิ่งทำให้ต้องสะดุ้ง



“พี่...”  พูดออกมาแบบนั้นในตอนที่ช้อนตาขึ้นไปมองดวงตาคมที่ตอนนี้ดูจะร้อนแรงจนผมต้องหน้าแดง นิ้วเรียวยาวของพี่มันที่กำลังเอาเข้าไปในปากช้าๆ ก่อนที่มือมันจะเลื่อนมาที่ช่องทางด้านหลังของผม สัมผัสเปียกชื้นจากช่องทางด้านหลังทำเอาเสียวจนต้องพยายามขยับตัวหนี แต่มันก็ล็อคเอวกันเอาไว้ นิ้วเรียวสองนิ้วที่ค่อยๆแทรกเข้ามาในช่องทางจนผมสะดุ้ง ทั้งอึดอัดทั้งเสียวจนต้องขมิบถี่ๆ



“เอม ชอบหรือเปล่า”



“อึก อื้ออ พ...พี่ดา...บ อ๊ะ” ร้องสะดุ้งออกมาตอนที่นิ้วเรียวนั่นกระแทกกระทั้นเข้ามาตรงจุด เสียวจนสะดุ้ง เกร็งตัวจนต้องซี๊ดปาก



“อ๊าาา ใส่เหอะ ใส่เถอะพี่ดาบว่ะ เลิ..ก แกล้งสักที” มันที่พอได้ฟังแบบนั้นก็ยกยิ้มถูกใจ เป็นห่าอะไรถึงต้องแกล้งกูทุกที่ทุกโอกาส จะเอาก็เอาสิวะ แกล้งกูอยู่ได้ เจ็บไข่แบบไม่มีอะไรมากั้น!



ที่มองหน้าผมตาวาว ก่อนจะค่อยๆถอนนิ้วออกอย่างอ้อยอิ่ง ยิ่งมันทำแบบนั้นผมก็ยิ่งเสียว เสียวจนต้องเผลอขมิบช่องทางด้านหลังแบบห้ามไม่ได้ และนั่นดูเหมือนจะถูกอกถูกใจพี่มันมากๆ มันที่ค่อยๆปลดซิบกางเกงมันลงแล้วดึงกางเกงลงไปกองไว้ที่ปลายเท้า ดึงเอวผมลงมาใกล้แกนกายของมันที่ก็ถูไถอยู่ที่ช่องทางด้านหลังของผมให้รู้สึกมวนท้องจนต้องกัดปาก สายตาคมที่เอาแต่จ้องหน้าผมไม่เลิก ในตอนที่รู้สึกว่าส่วนหัวเริ่มเข้าไปช้าๆก็ได้แต่เงยหน้ามองเพดานแล้วกัดปากแน่นๆ พี่มันพยายามผ่อนแรง ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติสอดเข้ามาจนสุด ถึงตอนนั้นกูถอนหายใจโล่ง แลใบหน้าได้รูปของมันก็จูบไปตามซอกคอของผม รู้สึกพร้อมๆกับแรงส่วนกลางของมันที่เริ่มขับเคลื่อน ฝ่ามือหนาที่วางอยู่ที่สะโพกของผม มันก็บังคับให้ขยับจนต้องค่อยๆโยกสะโพกขึ้นลงตามแรงอารมณ์ ทุกครั้งที่กระแทกสะโพกลงได้แต่สูดลมหายใจเข้าปาก



“เสียวหรอเอม กระแทกลงมาแรงๆให้พี่หน่อยสิครับ” มึงก็รู้ว่ากูเสียว จะให้กระแทกอะไรลงไป ใจบาป มึงมันใจบาปปปปป



“อ๊า เสียว เอมเสียว เบาๆดิว่ะ... พี่ดาบ อ๊าา "



แรงกระแทกสอดเข้ามาในตัวถี่ยิบความรู้สึกร้อนจะถูกเข้ามาตัดกับความเย็นของอุณภูมิของห้องที่ผมเปิดแอร์ไว้จนเย็นฉ่ำ



จับไหล่มันไว้มั่น ก้มหน้าลงหอมแก้มมันสองสามครั้งจนพี่มันยิ้มอย่างชอบใจ พร้อมๆกับแรงที่กระแทกเข้ามามากขึ้นตามความสุขใจของมัน จนตัวผมลอยขึ้นจากส่วนกลางที่เรากำลังสอดใส่กันและกัน



" อ๊ะ..พี่ดาบ อื้มม จะเสร็จแล้ว จะเสร็จแล้ว.."



พูดออกไปแบบนั้นทั้งๆที่รู้สึกเบลอไปหมดในตอนที่จมูกของมันกดจูบไล่ลงมาจนถึงหัวนมที่กำลังตั้งชัน กัดเบาๆพร้อมๆกับมืออีกข้างที่กำลังบี้หัวนมของผม รู้สึกเหมือนร่างของผมกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆตอนที่มันใช้เลียหัวนมแบบหยอกล้อเบาๆช้าๆจนรู้สึกร่างทั้งร่างหดเกร็ง มืออีกข้างลูบไปตามตัวของผม



“พร้อมกัน อึก ซี๊ด”



เสียงทุ้มเข้มที่พูดเบาๆ รู้สึกเซ็กซี่กับเสียงหอบหายใจถี่ของมัน ทุกอย่างของผมดูพร่ามัวจนผมต้องซบหน้าลงไปบนไหลมันอย่างหมดแรง รู้สึกเหมือนมีน้ำฉีดเข้ามาในตัวอีกสองสามครั้งพร้อมๆกับแรงกระตุกของตัวเอง ในตอนนั้นก็รู้สึกถึงฝ่ามือหนาที่ประคองข้างแก้มของผมให้เลื่อนหน้าเข้าไปรับจูบที่พุ่งเข้ามาดูดดึงลิ้นของกันอย่างร้อนแรง ปลายลิ้นที่ดูดเบาๆทำเอาได้สติ ผละหน้าออกมามองด้วยสายตาที่พร่าเบลอเพราะยังมีน้ำตาคลอๆอยู่ที่นัยต์ตา แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดๆก็คือรอยยิ้มของพี่มัน



“พี่รักเอม รักเอมคนเดียวนะ”



เป็นคำพูดสุดท้ายที่ชัดเจนและดังไปถึงหัวใจของผมก่อนที่จะหลับไปทั้งแบบนั้น


.

.

.


‘ครืดๆ’

[[TGer: เอม...พรุ่งนี้ให้กูไปรับกี่โมงวะ]]



[[เอม: ไม่ต้อง เมียกู เดี๋ยวกูไปส่งเอง]]



วางมือถือของไอ้เอมลงไปที่วางหัวเตียงตอนที่พิมพ์ส่งตอบไอ้ล่ำไปแบบนั้น ได้แต่ขมวดคิ้วตอนที่เห็นข้อความนั่น



“สาระแนมากๆค่ะอิดอกล่ำ”



‘ครืดๆ’



“แม่ง มึงจะเอากับกูใช่ไหมอิล่ำ”  บ่นออกไปเบาๆเพราะกลัวไอ้เอมที่หลับอยู่จะตื่นขึ้นมาในตอนนี้ เอื้อมมือไปหยิบมือถือของมันมาอีกครั้ง แต่ข้อความที่ส่งมาไม่ใช่ของไอ้ล่ำแบบที่คิด หัวคิ้วยิ่งขมวดเข้าหากันมากกว่าเดิมตอนที่เห็นชื่อของคนที่ส่งมาใหม่



[[MOB: พี่เอมจะมายังไงครับพรุ่งนี้ให้ผมไปรับไหม]]



[[เอม: ไม่ต้อง เมียกู เดี๋ยวกูไปส่งเอง]]



ข้อความเดียวกันกับของไอ้ล่ำถูกส่งไปให้ไอ้เด็กเหี้ยน้องรหัสไอ้เอมอีกครั้ง กดปิดเครื่องมันทันทีที่ส่งข้อความไป พร้อมๆกับโยนมือถือของมันไปไกลๆสายตา



“กูว่าสันติคงไม่ใช่ทางเลือกแล้วล่ะ ... สาระแนกับเมียกูนักอิดอก!”



--------------To be continued------------

มาแล้วค่ะ จริงๆมีหลายประเด็นที่เฉลย มีหลายประเด็นที่อยากให้คนอ่านสงสัยและหาคำตอบไปพร้อมๆกัน และก็สำหรับฉากNCเก้อเสือ ต้องขอโทษคนอ่านที่แคทบอกบางท่านไว้ว่าจะมาในตอนนี้ ต้องขอโทษจริงๆ แต่คิดว่ามันยังไม่เหมาะเลยขอเลื่อนออกไปก่อน ... สำหรับบางท่านที่อ่านแล้วรู้สึกหนหวยหัวใจ รู้สึกว่าเนื้อเรื่องมันอิหยังวะทำไมมันยังไม่ไปไหน แคทต้องขออภัยจริงๆค่ะ อาจผิดที่แคทเองมาเขียนช้า พออ่านแต่ละตอนเลยคิดว่ามันช้า แต่แคทวางเรื่องไว้แบบนี้จริงๆ แค่หวังว่าถ้าคนอ่านได้มาอ่านกันจะสนุกไปด้วยกันนะคะ

ในทุกๆวันเสาร์ เดี๋ยวนี้แคทค่อนข้างเครียดมากๆ ไม่รู้ว่าที่คนอ่านบ่นๆกันเพราะอินกับเนื้อเรื่องหรือแคทเขียนนิยายแย่ลง

ต้องขอโทษจริงๆที่อาจจะทำให้คนอ่านรู้สึกรำคาญใจว่าอิคนเขียนมันบ่นอะไรบ่อยๆ แต่คือถ้าไม่พูดกับคนอ่าน แคทก็ไม่รู้จะพูดคุยกับใคร

หวังว่าคนอ่านของแคทจะสนุกกับเรื่องนี้ไม่มากก็น้อย ... ทุกวันนี้ยังคงอยากอ่านคอมเม้นท์ของทุกๆคนเสมอค่ะ แต่ก็กลัวมากๆด้วยเช่นกัน

เห็นคนอ่านหายๆไปก็ใจหายเหมือนกัน แต่ขอบคุณหลายๆท่านที่ยังอยู่ด้วยกัน

ขอบคุณมากๆ และรักนะคะ-


 :mew1:

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
เจ้พี่ดาบกลับมาหาควายน้อยแล้ว  สรุปว่าองค์เจ้ดานี่มาเพราะน้องกุญแจ ไม่ได้มาเพราะพาพวยใช่ไหม

ส่วนอีกคู่ยังคงสถานะไม่ชัดเจนเช่นเคย สงสารน้องเสือเดี๋ยวดีใจ เดี๋ยวน้อยใจเพราะคิดว่าพี่เกอร์ยังรักเอมอยู่ โถลูก ให้เวลาพี่เค้าหน่อยนะ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
อิพายนี่สะตอมากเข้าทางอิพี่ไม่ำด้เข้าทางแม่แทนเหอะอ อิเจ้พี่มึงกะหวงน้อง 555  หึงออกหน้าขนาดนี้น้องมันจะไปไหนรอดรักพี่มึงจะตายห่าแล้วค่า

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1

ออฟไลน์ Yoghurt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
    • แฟนเพจ
บทที่36




“มึงเช็คดูดีๆ รึยัง ลืมอะไรหรือเปล่า”





เป็นรอบที่ร้อยที่ผมได้ยินประโยคนี้ออกจากปากของคนที่กำลังยืนเอามือกอดอกมองผมจัดการกับของกินตรงหน้า ได้แต่ยิ้มออกมาแล้วส่ายหัวหน่อยๆ กับเหตุการณ์นี้ ใจนึงก็เอือมครับ อีกใจก็รู้สึกใจฟูที่พี่มันใส่ใจกันขนาดนี้ ... อาหารเช้าวันนี้ก็เป็นพี่มันที่ตื่นขึ้นมาก่อน แล้วมาทำไว้ให้ ก็แค่ข้าวผัดกุ้งง่ายๆ แต่ทำเอาใจฟูแบบหยุดไม่อยู่ทุกทีเลย





“ไม่ลืมหรอกพ่อ ดูรอบที่สามพันเก้าแล้ว” เงยหน้าขึ้นไปมองพี่มัน อีกคนที่ขมวดคิ้วทำหน้าขัดใจ คืออะไร คือโกรธที่กูเรียกพ่อ กลัวแก่งี้หรอ





“หยุดเลยนะมึง พ่อพ่อง กูต้องแม่ค่ะอิหนู จัม!” กูนี่กรอกตาเลย เจ็บไข่นัก!





“กรอกตา กูเห็น ... รีบกิน เดี๋ยวกูจะไปส่ง”





“เห้ย ไม่เป็นไรพี่ๆ ไม่ต้องไปส่งหรอก” พอได้ยินแล้วก็รีบโบกไม้โบกมือเป็นคำตอบไปให้เลย จำได้ว่าเมื่อวานไอ้เก้อมันบอกว่ามันจะมารับ อิเจ๊พี่มันตื่นมาแต่เช้าเพื่อทำกับข้าวให้ผม จริงๆ ช่วงนี้พี่มันเหนื่อยครับ มีหลายเรื่องให้ต้องคิด และแน่นอนว่าเรื่องพวกนั้นมันมาจากผมทั้งนั้นเลย แล้วยังจะต้องให้พี่มันเหนื่อยเพิ่มขึ้นอีก ผมว่าผมก็ดูจะเห็นแก่ตัวมากไปละ





“ทำไม” พี่ดาบที่กำลังจับเก้าอี้จะเลื่อนเพื่อนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับผมชะงักฝ่ามือพร้อมๆ กับจ้องตาผมดุๆ น้ำเสียงที่พูดออกมาแค่สองคำก็เข้มยิ่งกว่ากาแฟที่มันถืออยู่ซะอีก





“ก็เดี๋ยวไอ้เก้....”





“มึงห้ามพูดออกมานะว่าจะให้มันมารับ”





“เอ่อ...”





“ถ้ามึงพูดออกมามึงไม่ต้องไปเลยเอม ไม่ต้องไปแม่งละค่ายเหี้ยอะไร”





“เดี๋ยวๆ พี่เจ๊พี่มึงเป็นอะไร โกรธอะไรกันวะ” เอื้อมมือไปคว้าข้อมือพี่มันไว้ หัวคิ้วได้รูปของมันที่ขมวดเข้าหากันแบบบอกได้เลยว่ามันกำลังหงุดหงิดมากแค่ไหน





“กูจะไปส่งมึงเอง กูเป็นแฟนมึงนะ ไม่ใช่คนอื่นเผื่อมึงลืม”





“ไม่ใช่แบบนั้นนะ ผมก็แค่เกรงใจ...”





“มึงจะเกรงใจกู แต่ไม่เกรงใจไอ้ล่ำเพื่อนมึงหรอวะ มันเป็นไรกับมึง แล้วกูเป็นไรกับมึงเอม” พี่มันที่พูดออกมาแบบนั้น มองหน้าผมด้วยสายตาที่บอกว่าอีกนิดนึงมันจะไม่ทน เห็นแบบนั้นก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมาทันที





“พี่ก็ต้องเป็นอะไรที่สำคัญกว่ามันอยู่แล้วไหมอ่ะ” รีบตอบออกไปทันที อีกฝ่ายที่เห็นผมพูดแบบนั้นมันก็สูดหายใจเข้าปอดยาวๆ วางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะ ก่อนจะยกมือเสยผมขึ้นแบบสงบสติอารมณ์





“พ..พี่ดาบ”





“ว่า”





“พี่สำคัญกว่าใครทั้งหมดนั่นแหล่ะ เพราะพี่สำคัญผมเลยยิ่งเกรงใจไงล่ะวะ ทุกวันนี้ก็เหมือนผมเอาเปรียบพี่มากพอแล้วอ่ะ ผมทำอะไรให้พี่ก็ไม่ได้สักอย่าง มาอยู่กับพี่งานก็นิดๆ หน่อยๆ เงินเดือนก็ได้ตั้งเยอะ น้ำไฟอาหารอะไรๆ อีกเยอะแยะ ถ้าอะไรที่ผมทำเองได้แบบไม่ต้องรบกวนพี่ผมก็อยากจะทำ”





“มึงอย่าพูดแบบนี้ มึงไม่ได้เอาเปรียบอะไรกูเอม ที่กูได้จากมึงมา มันมากกว่าเงินทองอีกจำไว้”





เราสองคนที่สบตากันในตอนนี้ คำพูดหนักแน่นที่ส่งตรงจากริมฝีปากได้รูปของพี่มัน ส่งตรงมาถึงหัวใจของผม รู้สึกเหมือนหัวใจผมกำลังสูบฉีดความรู้สึกดีๆ แบบห้ามไม่อยู่ มีความสุขจนต้องยิ้มกว้างๆ ออกมาในตอนที่เรามองหน้ากัน





“งั้นพี่ไปส่งเอมนะ”





“มันก็แน่อยู่แล้วครับหนู”

...


“สัด”




สบถออกมาพร้อมๆ กับโยนโทรศัพท์มือถือไปไว้เบาะข้างๆ มองหน้าปัดนาฬิกาที่คอนโซลหน้ารถ บอกเวลาว่า7โมง แต่คนที่ผมพึ่งส่งข้อความหามันกลับไม่อ่าน ไม่ตอบ ถ้าพูดจริงๆ ก็คือมันไม่ตอบกันมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ตอนที่มันเดินลงจากรถไปเหมือนมันทิ้งหินก้อนใหญ่มาใส่หัวผมด้วยเต็มๆ ก็ไม่ใช่ไม่รู้สึกผิด แต่มันลืม...เป็นคำแก้ตัวสิ้นคิด แต่มันก็คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้น ผมลืมไปว่านัดกับไอ้เสือมันไว้ว่าจะไปรับมันไปมหาลัยในวันไปค่ายด้วยกัน





“ทำไมแม่งไม่อ่านวะ โทรไปก็ไม่รับ” ปกติไอ้เสือไม่เป็นคนแบบนี้ พูดตรงๆ คือมันไม่เหมือนใครที่ผมเคยเจอ มันนิสัยแมนๆ เลยครับ ไม่เจ๊าะแจ๊ะ ไม่เรื่องมาก ง่ายๆ ลุยๆ แต่ติดใจร้อนและปากเสีย และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่ามันเป็นอะไรของมันวะ





ได้แต่เคาะพวงมาลัยรถแล้วมองออกไปที่ตัวตึกหอพักที่ผมเคยมานอนบ่อยๆ หลังๆ มาที่นี่ถี่ยิ่งกว่าห้องตัวเองซะอีก ถ้าจะพูดตรงๆ ก็อาจจะมีแค่เมื่อคืนนี้ที่ได้กลับไปนอนห้องตัวเอง





“แม่ง” หงุดหงิดสัดๆ แต่ทำอะไรไม่ได้ เหลือบมองดูว่า7โมง10นาที นี่ผมนั่งโง่ๆ อยู่ในรถมาสิบนาทีแล้วหรอวะ ... สุดท้ายตัดสินใจเดินลงไปจากรถ แล้วตรงไปหาลุงยามคนเฝ้าหอ แกจำผมได้แล้วเพราะมาสิงที่นี่บ่อยแบบที่ว่า





“ลุง”





“อ้าว ทำไมวันนี้มาแต่เช้าเลยล่ะหนุ่ม”





“ลุงพาผมเข้าหอได้ไหม ผมจะมาหาไอ้เสือ พามันไปมหาลัยครับ”





“หื้ม เสือหรอ ... ลุงเห็นเค้าออกไปตั้งแต่หกโมงเช้าแล้วนะหนุ่ม หอบกระเป๋าอะไรเยอะแยะ...เอ้า ไปไหนล่ะพ่อ”





“ขอบคุณมากครับลุง กลับมาเดี๋ยวผมเลี้ยงกระทิงแดงนะ” หันหลังแล้วก้าวยาวๆ มาขึ้นรถแบบหัวเสีย แม่งเอ้ย!





“ไปแล้วก็ไม่เสือกบอกกูสักคำ เอื้อมมือไปหยิบมือถือขึ้นมาดูก็ไม่เห็นมีข้อความอะไรตอบกลับมาจากมันสักอย่าง อย่าว่าแต่ข้อความตอบกลับ เปิดอ่านแม่งยังไม่อ่านเลย





“ไอ้เสือ มึงนี่มัน...”





ทำกูรู้สึกหยุบหยิบๆ ในใจฉิบหายเลยเว้ย!”


...



“อุ๊ยตายยยยยย พกผัวมาด้วยหรอ พกผัวมาด้วยหรอเนี่ย แหมมาแค่เนี้ยก็พกผัวมาด้วย ฮิ้ววว” เสียงต้อนรับผมดังขึ้นมาเป็นจังหวะเพลง ไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่าใคร ผมนี่เผลอกรอกตาใส่แม่งไปทีนึง





“เสียงดังทำห่าอะไรวะป้า”





“อายหรอคะ อายทำไมวะคนเยอะแยะ พี่ดาบบบบบ พี่ดาบของอิหยี สวัสดีค่ะ เรียกพี่ดาบได้แล้วใช่ไหมเอ่ย” ไอ้หยีที่ดันตัวผมหนี แล้ววิ่งหน้าสลอนเข้าไปฉีกยิ้มกว้างๆ ให้พี่มันใกล้ๆ อิเจ๊พี่มันที่วันนี้มันแต่งตัวง่ายๆ แค่เสื้อยืดสีดำธรรมดาๆ กับกางเกงยีนส์สีซีดมาแค่นั้น กูงงมากๆ ว่าแค่นี้ทำไมแม่งดูดีจังวะ หรือเป็นเพราะแหวนที่มันใส่ หรือจะเป็นนาฬิกา หรือสร้อยข้อมือ... ไม่อยากจะสงสัยต่อ เพราะจริงๆ หลักฐานที่ว่าอาจจะเป็นแค่หนังหน้าหล่อๆ ของมันก็แค่นั้นแหล่ะ





หล่อฉิบหาย หล่อวัวตายควายล้ม หึ้ย หล่อจนเจ็บไข่ไปหมด





“สวัสดีค่ะน้องหยีคนสวย”





“กรี๊ด ปากหวานจังเลย ชอบจังพี่รหัสกูเนี่ย”





“ใจเย็นนะคะ ขอกูวางกล่องนี่แล้วค่อยแทะโลมกันนะ หนักฉิบหายหลังจะแตก แบกไปทำเหี้ยอะไรวะ” พี่มันว่าแบบนั้นแล้ววางกล่องลังที่พี่มันแบกมาแทนผมวางลงบนพื้นเสียงดัง





“ก็มันกล่องหนังสืออ่ะ” ผมบอกมันอีกครั้งแล้วตั้งท่าจะแบกไปเก็บที่รถบัสต่อ แต่พี่มันก็ทำแค่ปัดมือของผมออก





“ไม่ต้อง กูแบกเอง ... เอาไปไว้ไหนคะน้องหยี”





“กรี๊ด อิเหี้ยหล่อแท้วะ กร๊าวใจกับคำว่าคะ มาค่ะพี่ดาบทางนี้ค่ะพี่ตามหนูมา” ประโยคแรกคือหันมาทำหน้าฟินใส่กู แล้วประโยคต่อไปก็คือจับมืออิเจ๊พี่มันให้มันเดินตามไป คือจับทำไมมันต้องแบกลังโว้ย!





“พี่ เดี๋ยวผมไปซื้อน้ำแป๊บนะ”





“มึงจะเอาไร เดี๋ยวกูไปซื้อให้”





“ไม่ต้องน่า ผมไปได้ พี่อยู่กับอิป้ามันละกัน” ผมบอกมันแบบนั้นตอนที่เห็นมันทำท่าจะเดินผละไปก่อน ไอ้หยีที่มองเราสองคนสลับกันไปมา แล้วกรอกตาออกมาในตอนสุดท้าย





“หมั่นค่ะ ริษยาตาร้อนมากๆ มันจะอะไรกันขนาดนั้น ชะนีอิจฉาโว้ย”





“ใจเย็นๆ นะน้องหยี ถ้ายังไม่มีเราต้องทำใจ อย่าร้ายนะหนู”





“เอ๊ะ!”





“หยอกครับ”





“ตอนแรกกูจะโมโห แต่กูต้องหยุดเพราะกูจะตายตรงคำว่าครับอ่ะอิเอม” ไอ้หยีที่ทำหน้าเพ้อแล้วเอามือจับนมฟองน้ำของมัน ผมส่ายหน้าระอา จริงๆ พวกมันก็อดีตสายรหัสกันนะครับ ก็ไม่รู้ว่าจะถูกอกถูกใจอะไรกันขนาดนั้น ผมเลิกสนใจมันกับอิเจ๊พี่มัน ปล่อยให้มันสองคนเดินไปนั่งรอผมที่โต๊ะม้าหิน ตอนนี้เรารวมตัวกันอยู่หน้าตึกอธิการตรงหน้าทางเข้าของประตูแรกของมหาลัยเลยครับ ไปครั้งนี้ไปแบบยิ่งใหญ่ แห่กันไปทั้งคณะ...ผมหวังว่าการไปครั้งนี้ นอกจากจะได้คะแนนแล้ว ก็ขอให้ได้บุญกลับมาด้วย เผื่อส่วนกุศลไปถึงเรื่องแม่พี่ดาบมันด้วย ผมกับมันจะได้มีความสุขกันสักที





“ขอชาขาวสองขวดแล้วก็น้ำเปล่าขวดนึงครับป้า”





“พึ่งมาหรอครับพี่เอม” เสียงที่ดังอยู่ข้างๆ หูขวาทำให้ต้องสะดุ้ง พอหันกลับไปก็ต้องผงะถอยหน้าหนีออกมา แถมกูต้องถอยหลังหนีไปอีกสองก้าวเพราะหน้าที่ยื่นมาใกล้ แล้วแผ่นหลังของผมที่ชิดกับหน้าอกของมันจนเกิดไป





“สัดม็อบ พ่อง!”





“ฮ่าๆๆ อะไรกันครับเนี่ย ทักทายผมแบบนี้หรอ” มันที่ยิ้มตาหยีแบบเป็นเอกลักษณ์ พร้อมๆ กับยกมือขึ้นเกาหัวแบบงงๆ แบบที่มันชอบทำบ่อยๆ





“แล้วมึงจะมายืนสิงกูทำห่าอะไรล่ะวะ”





“อยากสมสู่มั้ง”





‘เพี้ยะ’





“โอ้ยพี่เอม ผมเจ็บนะพี่ ตบหัวผมทำไม”





“กวนตีนกูนัก” ถอนหายใจใส่มันแบบระอาแล้วหันไปรับน้ำจากป้าคนขายมาพร้อมยื่นเงินไปให้





“มึงอ่ะจะซื้ออะไร”





“มาซื้อน้ำครับ เจอพี่เลยทักไง”





“จะแดกอะไร มากูเลี้ยง”





“โหยพี่ ใจปล้ำมากๆ”





“เท่ใช่ไหมล่ะพี่รหัสมึงน่ะ” ยืดเลยในจังหวะนี้ ยืดพร้อมยักคิ้วส่งให้มันไปด้วยสองทีติดๆ ไอ้คนตรงหน้าที่ก็ทำแค่ยิ้มตาหยี ก็ไม่รู้ว่าแม่งจะยิ้มอะไรนักหนา





“เมื่อคืนผมไลน์ไปหาไม่เห็นพี่จะตอบเลย” มันที่ไม่เออออห่อหมกไปกับผม กลับเปลี่ยนเรื่องพูดซะหน้าตาเฉย ว่าแต่ไลน์อะไรวะ ไม่เห็นรู้เรื่อง





“ครับ” มันว่าแบบนั้นแล้วยังคงยิ้มให้กัน ส่วนตัวผมนั้นคือกูขมวดคิ้วแรงละ งง ไลน์อะไรก่อนเอ่ย





“มึงไลน์มา”





“ใช่ครับ” ยิ้มตาหยีแล้วพยักหน้าแข็งขัน





“พี่ลองเปิดดูดิ” มันบอกแบบนั้นและใช่ กูก็หยิบขึ้นมาทันทีแบบที่เชื่อคนง่ายๆ เลยๆ ล่ะ ...





ปรากฏว่ามือถือผมปิดเครื่อง





คืออะไรเอ่ย??





กดเปิดเครื่องแล้วรอเครื่องพร้อมเป็นเวลาสักพักเพราะแม่งอืดมาก เข้ามาในแอพไลน์ หน้าแชทยังอยู่เหมือนเดิม คืออันบนสุดคือของไอ้หยีเมื่อหลายวันก่อน ... ก็ไม่เห็นมีข้อความของไอ้ม็อบนี่หว่า





“มีไหมครับพี่” มันที่ถามย้ำผมอีกที พร้อมๆ กับเตรียมจะชะโงกหน้าเข้ามาใกล้ เห็นแบบนั้นผมก็กดปิดหน้าจอมือถือของตัวเองทันทีแล้วเก็บเข้ากระเป๋าไป





“มีๆ เห็นแล้ว โทษทีนะไม่ได้ตอบ” มันขมวดคิ้วนิดๆ แต่สักพักก็เปลี่ยนเป็นยิ้มเหมือนเดิม อะไรของมัน ... แต่ว่านะ กูนี่คิดออกเลยครับ มือถือผมไม่เคยแม้แต่จะปิดเสียงปิดสั่น แล้วยิ่งปิดเครื่องนี้ไม่ต้องพูดถึง ผมไม่เคยทำครับ และคนๆ เดียวที่จะทำแบบนั้นกับมือถือของผมได้ก็ไม่ใช่ใคร ... อิเจ๊พี่ดาบเล่นกูแล้ว





“อ่า...ไม่เป็นไรครับ แต่คราวหลังไม่เอาแล้วนะ คนรอก็ท้อเป็น”





“เล่นใหญ่นะมึงเนี่ย”





“ก็อยากให้พี่สนใจมั้ง” มันยกยิ้มแล้วว่าออกมาแบบนั้น สายตาที่ส่งมาพร้อมรอยยิ้มของมันทำให้ผมต้องเสหน้าหนี ... พอเถอะพอ ในตอนนี้ที่คิดว่าควรจะบอกลามันได้แล้ว ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ใครอีกคนพูดขึ้นมาพอดี





“ทำไมช้าจังวะเอม” เหยดแหม่ จังหวะละครอ่ะโน๊ะ ... แผ่นหลังของผมสัมผัสได้ถึงอกแข็งๆ ที่ยืนซ้อนอยู่ที่ด้านหลังของผม เสียงเข้มที่ไม่เบาไม่ดังแต่ฟังแล้วมีอำนาจในแบบที่พี่มันไม่ค่อยจะชอบใช้ เพราะใช้ทีไรกูเห็นมีคนโดนตีนทุกที ครั้งสุดท้ายก็ตอนในร้านเหล้าที่มีคนมาจับตูดผมนั่นล่ะนะ





“พี่...”





“ว่าไง ทำอะไรอยู่หื้ม” เงยหน้าไปมองหน้าของพี่มัน ใบหน้าคมที่ดูหล่อเหลามากกว่าปกติ อาจเป็นเพราะว่าวันนี้มันไม่ได้แต่งหน้าอะไรมาเลยมั้ง ตื่นมาล้างหน้าก็มาแบบหน้าสดๆ ไม่ต้องพูดถึงรองพื้น เพราะขนาดครีมกันแดดมันก็ไม่ได้ทา วันนี้เลยดูดิบๆ มากกว่าทุกที ... เชี่ย หล่อว่ะ





“ว่าไงครับ”





“อ...เอ่อ ผมมาซื้อน้ำนี่ไง ได้แล้ว”





“หรอ แล้ว....ไอ้นี่ใคร” ยกยิ้มมุมปากเท่ๆ พร้อมๆ กับแขนข้างนึงที่วางพาดลงมาบนไหล่ของผม สายตาคมของพี่มันที่มองตรงไปที่ไอ้ม็อบ มือวางๆ อีกข้างของอีกฝ่ายก็ชี้ไปที่หน้าของน้องมันทั้งแบบนั้น ปัดโถ่เว้ยพี่มึง





“น้องรหัสผมเองพี่” บอกแบบนั้น แล้วคว้าแขนที่ชี้หน้าไอ้ม็อบลง ไอ้พี่ดาบที่เอียงหน้าเอียงคอเล็กน้อยพร้อมยกยิ้มมุมปาก





“อ๋อออ ที่แท้ก็แค่น้องรหัสอ่ะเนาะ” เออน้องรหัสไง มึงย้ำทำไมวะ ... ไอ้ม็อบมองตรงมาที่พี่มันไม่ต่างกัน แต่เด็กนั่นก็ไม่ได้ยิ้มอะไรแล้ว

“สวัสดีครับน้อง พี่เป็นแฟนเอม” แนะนำตัวเสร็จสรรพแบบที่ไม่มีใครได้เชื้อเชิญมัน





“แล้วนี่เสร็จยังครับ” ก้มหน้าลงมามองกูตาหวาน หวานเกิ๊น มึงแสร้งทำอ่ะพี่ กูกลัวนะ... เห็นแบบนี้ผมเลยรีบพยักหน้าเออๆ ออๆ ทันที





“เสร็จแล้วๆ เดี๋ยวๆ ผมเลี้ยงน้ำน้องแป๊บ”





“ไม่ต้อง เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง” พี่มันว่าแบบนั้นแล้ววางเงินแบงค์ร้อยลงตรงหน้าเคาร์เตอร์ร้านของซุ้มขายน้ำที่พวกเรายืนอยู่





“ถือว่า เป็นของขวัญจากแฟนพี่รหัสนะครับ น้องม็อบ ... ปะเอม หยีรอนานละ” พูดเองเสร็จสรรพพร้อมยื่นมือมาจับมือของผมแล้วดึงให้เดินไปด้วยกัน





“เอ่อ กู กูไปก่อนนะ” ได้แต่หันไปพูดกับไอ้ม็อบแบบนั้น แล้วก้าวยาวๆ ตามพี่มันไปทันที





“ร้อยนึงนี่ เดี๋ยวผมจะดูแลพี่เอมที่ค่ายให้เป็นอย่างดีเลยครับ!” เสียงตะโกนที่ดังมาจากด้านหลังทำเอาขาของพี่ดาบมันหยุดชะงัก ผมเองก็เช่นกัน เงยหน้าไปมองคนข้างๆ ที่ตอนนี้หน้าบอกอารมณ์ที่ผมรู้เลยว่ามันไม่โอเคมากๆ





“สัด...กวนตีนกูนักนะ” มันพึมพำว่าแบบนั้น แล้วหันหลังพรวดกลับไปมองทันที เป็นผมที่ดึงแขนของพี่มันไว้แน่นเลยตอนนี้ สายตาคมที่มองตรงไปที่ไอ้ม็อบแบบไม่เป็นมิตร





“พี่ดาบ ไม่เอา ไปกัน”





“เดี๋ยวก่อน...” บอกผมแบบนั้นนิ่งๆ แล้วโอบเอวผมขยับเข้ามาใกล้ๆ ตัว ก่อนที่พี่มันจะพูดตอบไป





“แบบน้องก็ทำได้แค่นั้นแหล่ะครับ ก็แค่ได้ดูแลชั่วคราวแค่ที่ค่ายนั่นแหล่ะ เพราะที่ตรงนี้ที่เป็นตลอดไปน่ะ...มันคือที่ของกูจ๊ะ” พูดจบพร้อมกระพริบตาปิ๊งๆ และส่งยิ้มเหยียดกลับไปให้ไอ้ม็อบ ผมเห็นที่แว๊บนึงน้องมันผงะๆ เล็กๆ ด้วย ไม่ทันจะได้มองไอ้ม็อบต่อ พี่มันก็คว้าเอวผมแล้วดึงให้เดินออกไปจากบริเวณนี้ไวๆ เลย





“พี่ดาบ ใจเย็นสิพี่”





“สัดเอ้ย ไม่ติดว่ามหาลัย กูจะเอาตีนไปนาบหน้าแม่ง”





“น้องมันก็แค่แหย่เล่น”





“ไม่ได้แหย่เล่น มันอยากได้มึง สัด”





“พี่ดาบ” ได้แต่ส่งเสียงอ่อนใจตอบกลับไปแบบทำอะไรมากกว่านั้นไม่ได้ ผมรู้แหล่ะ พอมองออก แต่ถึงแบบนั้นก็พยายามทำไม่ใส่ใจไอ้ม็อบมันมาก





“มีอะไรกันหรอคะ ... ผัวมึงเป็นอะไรอ่ะอิเอม” ไอ้หยีที่เอียงหน้ามากระซิบผมตอนที่พวกเราเดินมาถึงโต๊ะแล้ว ผมได้แต่ยิ้มแหยๆ ส่งไปให้ไอ้หยีมันแทนคำพูด ก่อนจะคว้าน้ำที่ซื้อมามาเปิดให้พี่มัน แล้วยื่นไปตรงหน้า





“หึงผมหรอ”





“มึงแฟนกู มึงเมียกู มึงของกูป่ะ” หันหน้ามามองแรงพร้อมพูดออกมาแบบนั้น กร๊าวใจมากๆ ... ขอโทษนะครับ กูหนีไปกรี๊ดได้ไหมไอ้สัด ดิบๆ ไม่มีสุกผสมเลยครับ





“อิเหี้ย กร๊าวมาก” ไม่ต้องหวีดแล้วกู ไอ้หยีหวีดแทนไปหมดแล้ว





“อะ ดื่มน้ำก่อนจะได้ใจเย็นๆ นะ”





“มึงแม่ง เลิกทำตัวเหมือนควายได้ไหมวะ”





“เหมือนควายคืออะไรวะพี่ แม่ง มีแต่พี่มึงนี่แหล่ะที่ว่ากูอ่ะ” ด่ากูเป็นควายแม่งทุกวัน





“ก็ควายสำหรับกูคือความน่ารักอ่ะ กูรักควายของกูมึงจะทำไมอ่ะคะ บอกก่อนเลยนะ ถ้าไปที่นั่นใครมาวุ่นวายกับมึง มึงต้องเอาเขาขวิดมัน สัญญากับกูมา”





“สัดพี่ แม่ง!” กูควรจะเขินก่อนหรือโมโหก่อนดีวะ มันที่ทำหน้าจริงจังแล้วจับมือผมไว้ บอกให้รู้ว่ากูต้องสัญญา ไอ้หยีที่นั่งอยู่ข้างๆ กันมันขำพรืดออกมาแบบไม่สนใจว่าท่าทางจะอุบาทว์มากแค่ไหน กูแอบเห็นน้ำลายมึงกระเด็นด้วยอ่ะ ทุเรศฉิบ





“พี่ดาบห่วงว่าจะมีใครมาจีบไอ้เอมหรอคะ พี่ไม่ต้องห่วงหรอก”





“ห่วงดิน้องหยี ไอ้เด็กหัวไม้ถูพื้นแม่งกวนส้นตีน มันตั้งใจจีบไอ้เอม ดูออกค่ะ!”





“ใครวะคะ เด็กหัวไม้ถูพื้น”





“น้องรหัสกู มันชื่อม็อบ” หันไปบอกไอ้หยีที่ทำหน้างงๆ มาใส่กัน ... ไอ้พี่แม่ก็สร้างสรรค์ฉิบหาย





“อ๋อออ พี่ดาบไม่ต้องห่วง หยีสัญญาว่าจะไม่ให้ใครหน้าไหนแม่งมาไต่ไอ้เอมได้ สัญญา”





“ดี กลับมาพี่ถอยBalenciagaใบใหม่ให้”





“กรี๊ดดด บ้าน่า น้องทำให้ด้วยใจนะคะ”





“งั้นไม่เอาเนอะ”





“บ้าน่า ผู้ใหญ่ให้ของจะปฏิเสธทำไม ขอบคุณนะคะพี่ดาบขา ... ผัวมึงดีมากอิเอม ถ้ามึงไม่เอา กูเอานะบอกเลย”





“มึงฝันหรอ” ตอบมันกลับไปแบบนั้น ไอ้หยีที่ทำท่าเวอร์ผงะถอยหลังไปนิดหน่อยพร้อมๆ กับทำปากรูปตัวโอ





“โอ้ววว มันไม่ธรรมดานะคะหัวหน้า”





“ก็จริงของหยีนะ เอมมันไม่ธรรมดาจริงแหล่ะ น่ารักเป็นพิเศษ แบบนี้ไงเลยหวง”





อิเหี้ยเอ้ย พี่แม่งเล่นแบบนี้ เจ็บไข่ไปหมดเลยครับสังคม!



.

.

.

‘ตุบ’





เสียงโยนกระเป๋าลงข้างๆ โต๊ะของพวกเรา ทำให้ผมสามคนต้องหันไปมอง เป็นไอ้เก้อ





“กูก็ว่ามึงหายไปไหน มาช้าตลอดเลยนะคะอิผัว” ไอ้หยีพูดออกมา มันที่หันมามองหน้าพวกเราสามคน ก่อนจะคิ้วกระตุกตอนเห็นหน้าพี่ดาบ และไอ้คนข้างๆ ตัวของผมก็ไม่ทำให้ผิดหวังครับ พี่มันที่เอาข้อศอกยันไว้กับโต๊ะแล้วเอาหัวพิงฝ่ามือตัวเอง เอียงหน้ามองไอ้เห้อพร้อมยิ้มหวานยั่วตีน





“สวัสดีจ้าพ่อน้องล่ำ” ทักทายได้ดักตีครับ ไม่ใช่แต่ไอ้เก้อที่จะอยากดักตีพี่มันนะ กูก็ด้วยอ่ะแบบนี้





ไอ้เก้อมองพี่มันแบบหงุดหงิดหน่อยๆ มันที่หายใจเข้าออกแบบพยายามอดทน สักพักมันก็ยกมือขึ้นไหว้พี่ดาบ





“หวัดดีพี่” พูดแค่นั้นแล้วทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ แล้วหันหลังให้พวกเรา ในมือของมันยังคงกดๆ จิ้มๆ พิมพ์ๆ อะไรสักอย่างแบบไม่สนใจเรานอกจากมือถือ ผมหันไปมองไอ้หยีที่ตอนนี้ทำหน้าแบบประหลาดใจฉิบหาย แอบเห็นมันชะโงกหัวไปมองจอไอ้เก้อด้วยตอนนี้ เรื่องเสือกก็คือไว้ใจได้ครับ





และในเวลาตอน8โมง ก็ถึงเวลาที่เราจะต้องออกเดินทาง น้องๆ ปี1ที่แยกนั่งรถหมายเลข1-7 เพราะเป็นรถบัสสองชั้น ส่วนปีอื่นๆ ก็ทยอยขึ้นคันต่อๆ ไป พี่ปี3ปี4มาไม่ครบครับ เพราะฉะนั้นรถก็เลยมีรถสำหรับปี2-4อีกแค่3คัน





“พี่เอม เจอกันที่ค่ายนะครับ” เป็นไอ้ม็อบที่เดินเข้ามาหาแล้วพูดแบบนั้น พี่ดาบที่ยืนอยู่ข้างๆ ผมกำมือแน่น แต่เป็นผมที่เอื้อมมือไปจับมือพี่มันเอาไว้ซะก่อน ไอ้ม็อบเห็นแต่มันก็ทำเป็นมองผ่านไปแล้วเดินขึ้นรถไป





“กูว่าไอ้เด็กเหี้ยนี่แม่งอยากกินตีนกู”





“ไม่เอาน่าพี่ ไหนบอกเป็นคนสวยไง คนสวยต้องไม่ใช้ความรุนแรงสิครับ”





“กูไม่สวยเหี้ยทั้งนั่นล่ะ ตอนนี้กูจะเป็นผัว”





สาดดดดดดดด ทีแบบนี้มึงผัวขึ้นมาเลยนะ ห้าวสุดในน่านน้ำผับร้านDANI WORLD





“โอ๊ะ น้องเสือ ขึ้นคันนี้หรอ” ไอ้หยีตะโกนออกมาแบบนั้นเลยทำให้ผมกับไอ้เก้อที่ยืนอยู่ข้างกันหันไปมองพอดี ไอ้น้องเสือหันมา มันที่ยกมือไหว้พวกเราแล้วยิ้มออกมาบางๆ แปลกตรงที่มันดันมองผ่านหน้าไอ้เก้อไปซะแบบนั้น ได้ยินเสียงไอ้เก้อสบถในลำคอเบาๆ ด้วย





“แม่ง”





“มึงบ่นไรนะเก้อ”





“เปล่า มึงไปขึ้นรถก่อนเลยนะเดี๋ยวกูมา” มันที่บอกแบบนั้นแล้วเดินหนีออกไป มองทางก็คือทางที่น้องเสือพึ่งเดินออกไปเมื่อกี้



“กูว่ามีกลิ่นแปลกๆ นะคะอิเอม” ไอ้หยีหันมายักคิ้วหลิ่วตาให้ผม ตามันเป็นประกายลุกโชนมากๆ เหมือนต่อมความเสือกกำลังพลุ่งพล่าน น่ากลัวเหี้ยๆ



“กลิ่นตัวมึงหรือเปล่า เปรี้ยวๆ นะ มึงลืมอาบน้ำมาหรอหยี”



“โอ้ยยยอิเอมอิเวน กูทาสารส้มมาแล้วค่ะ จำ!”



“ฮ่าๆๆๆ” ทั้งผมและพี่ดาบที่ขำลั่นออกมาแบบนั้นอย่างไม่อายใคร ไอ้หยีที่กรอกตาทีนึงแล้วหันไปลาพี่ดาบ พร้อมบอกแบบเป็นมั่นเป็นเหมาะว่ามันจะดูผมแบบไม่ให้คลาดสายตา ไอ้หน้าไหนเข้ามาวอแวมันจะเอาตีนยันไว้ให้



“พี่ฝากไอ้เอมด้วยนะน้องหยี”



“ได้เลยค่า” บอกแบบนั้นแล้วมันก็ลาไปขึ้นรถก่อน แต่คือกูเป็นตัวอะไรครับ ใครแม่งจะอยากได้อะไรกูนักหนาเอ่ย ไม่ต้องหวงต้องห่วกูขนาดนั้นก็ได้อ่ะครับ



“พี่ก็ห่วงผมเกินไป ผมดูแลตัวเองได้น่า”



“พูดมาสิว่าไม่ได้ชินที่ตอนนี้มีกูดูแลไปแล้วน่ะ” ยิ้มออกมาพร้อมๆ กับเอื้อมมือมาลูบหัวผมเบาๆ ความรู้สึกอบอุ่นแปลกๆ วาบเข้ามาที่หัวใจของผม สายตาและท่าทางของพี่มันที่อยู่ๆ ก็ทำให้ผมอยากจะร้องไห้ คล้ายๆ กับตอนที่เราจะไปออกค่ายสมัยประถมแล้วมีพ่อแม่คอยไปส่งแล้วยิ้มใจดีบอกว่าจะรอเรากลับบ้าน ... แต่ความรู้สึกแบบนั้น ผมก็แทบจะลืมมันไปแล้ว เหมือนนานมากๆ จนมาตอนนี้ วินาทีนี้ที่ผมมีพี่มัน



“พี่ดาบ”



“รู้ใช่ไหมว่ากูรักมึงเอม” ได้แต่ก้มหน้าลง รู้สึกอายชะมัดที่ตอนนี้น้ำตาคลอๆ พี่มันดึงตัวผมเข้าไปกอดเอาไว้ ก้มลงจูบเบาๆ ที่หัวของผม



“พี่จะรอเอมกลับบ้านนะ” มันพูดออกมาแบบนั้นในตอนที่เรากอดกันแน่นอยู่ข้างๆ รถบัสคันที่ผมต้องนั่งไป ผมร้องไห้ออกมาเงียบๆ ไม่รู้ทำไม แต่ผมดีใจที่ผมได้รักพี่มัน ดีใจที่มีมันอยู่ในทุกๆ วันของผม เป็นพี่ เป็นเพื่อน เป็นแฟน เป็นคนรัก...และเป็นครอบครัว



“เอมจะรีบกลับนะ”



“อื้ม พี่จะรอที่บ้านเรานะ”



เรามองหน้ากันในตอนนี้ที่พี่มันก็เลื่อนมือมาเช็ดน้ำตาออกจากหน้าของผมเบาๆ เราที่มองตากัน ก่อนจะยิ้มและขำออกมาให้กันเบาๆ



“ควายน้อยเอ้ย กูต้องคิดถึงมึงมากๆ แน่ๆ เลย”



“เอมไม่อยู่ห้ามนอกใจนะ”



“รักมึงคนเดียว สัญญาเลยครับ”



“ดีมาก เป็นเด็กดีน้า” ว่าแบบนั้นแล้วเอื้อมมือไปลูบหัวพี่มัน กูต้องเขย่งเท้าขึ้นมาเลยตอนที่ลูบ



“กวนตีนแล้วนะคะอันนี้”



“ฮ่าๆ ผมไปแล้วนะครับ” บอกมันแบบนั้นในตอนที่ตัวเองก็พยายามสืดน้ำมูก เป็นความรู้สึกที่โคตรจะน่าอาย แต่มันก็อดไม่ได้อยู่ดี



“ครับ เดินทางปลอดภัย ถึงแล้วพยายามหาสัญญาณติดต่อกูด้วยนะ”



“อื้ม พี่ด้วยนะ ไปงานกับที่บ้านดีๆ นะ”



“อันนี้ไม่สัญญา ถ้ารำคาญมากๆ กูจะแกล้งกรี๊ดออกมากลางงาน” บอกแบบนั้นแล้วทำหน้าเหม็นเบื่อ แต่พอพูดออกมากูนี่นึกภาพออกเลย ได้แต่ภวานาว่าพี่มันจะไม่ไปกรี๊ดกลางงานแบบที่ว่าจริงๆ ผมที่เดินขึ้นรถไปนั่งที่ริมหน้าต่างของรถบัสที่ชั้นสอง ผลักผ้าม่านออกแล้วมองลงมา พี่ดาบยังยืนอยู่ตรงนั้น พี่มันที่เงยหน้ามองมาที่ผมแล้วส่งยิ้มให้กัน ค่อยๆ ยกมือขึ้นมาโบกผ่านหน้าต่าง เป็นวินาทีที่รวดเร็วในตอนที่รถค่อยๆ เคลื่อนตัวออกไป และสายตาและความรู้สึกในหัวใจของผมมันกลับชัดเจน ... มันชัดเจนมากขึ้นไปกว่าครั้งไหนๆ ในตอนที่เราต้องห่างกัน





มันเป็นใครไม่ได้อีกแล้ว ... ต้องคนนี้ ต้องเป็นแค่พี่มัน ต้องเป็นแค่พี่ดาบคนเดียวจริงๆ





...


(มีต่อจ้าาาา)


ออฟไลน์ Yoghurt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
    • แฟนเพจ
“เดี๋ยวไอ้เสือ...หยุด กูบอกให้มึงหยุดก่อน”



“จะมาจับกูไว้ทำไมวะพี่ กูจะขึ้นรถ” ถอนหายใจใส่มันไปครั้งนึงแล้วพยายามดึงกระเป๋าตัวเองออกจากมือของมันอีกครั้ง


“ทำไมกูทักไปแล้วมึงไม่ตอบวะ เป็นอะไรทำไมต้องหลบหน้ากู” มันถามออกมาเสียงเข้ม รอบๆ ตัวของเราที่มีแต่เด็กปีหนึ่งรุ่นๆ ผมที่เริ่มมองมาเพราะไอ้เก้อมันเสียงดัง



“มึงเป็นบ้าอะไรวะพี่ ปล่อยกู อย่ามาเป็นหมาบ้าตรงนี้นะ” บอกมันแล้วดึงกระเป๋าออกจากมือมัน



“มึงนั่นแหล่ะเป็นบ้าอะไรของมึงวะ กูไลน์หามึงก็ไม่อ่านไม่ตอบ มาถึงก็ไม่ทักไม่คุย มึงเป็นอะไรวะ” ถามออกมารัวๆ ตั้งใจจะเอาคำตอบ แต่กูไม่ตอบ กูจะไม่ตอบอะไรแบบที่มึงอยากได้ออกมาหรอกสัดเก้อ



“ผมไม่เห็น”



“มึงไม่เห็น”



“เออ ก็ไม่เห็นไงวะ แล้วนี่เลิกเป็นบ้าได้ละ กูจะไปขึ้นรถ”



“เดี๋ยว แล้วมึงมายังไง” มันที่ตามมาคว้าข้อมือของผมเอาไว้ แล้วดึงรั้งเอาไว้อีกครั้งในตอนนี้ ถอนหายใจออกมาหนักๆ เลยตอนนี้ กูแค่อยากจะไปจากตรงนี้ กูแค่ยังไม่อยากจะเจอหน้ามึงในตอนนี้มึงไม่เข้าใจหรอวะไอ้สัด สมองมึงเล็กเท่าเม็ดแตงโมหรอสัด



“เสือ เดี๋ยวกูเอากล่องนี้ไปเก็บให้เลยนะ อ้าว โทษที สวัสดีครับพี่”



“เออ มึงเอาไปเก็บเลย” หันไปบอกแบบนั้น พร้อมๆ กับที่ไอ้พี่เก้อก็มองไปด้วยเช่นกัน มองด้วยสายตาข่มขู่จนเพื่อนผมทำหน้าเลิ่กลั่กแล้วต้องรีบเดินหนีไป



“ใคร”



“ห๊ะ อะไรของพี่มึง” สุดท้ายก็ต้องหันไปมองหน้ามัน เพราะอีกฝ่ายไม่ยอมปล่อยแขน ยิ่งไปกว่านั้นก็คือดึงแขนผมให้ต้องหันไปมองมันอยู่แบบนั้นด้วย



“กูถามว่าไอ้เหี้ยนั่นใคร”



“เพื่อนกู”



“เพื่อนมึง มึงมีเพื่อนที่ไหนวะ มันเป็นใครกันแน่” มันที่ถามออกมาแบบนั้น คำพูดที่ทำให้ผมยิ่งฟังยิ่งรู้สึกหงุดหงิด แต่ใช่ กูก็ไม่ค่อยจะมีเพื่อนอยู่แล้วนั่นแหล่ะ ถูกของมัน



ผมกระชากแขนของตัวเองกลับมาในตอนนี้ ไอ้พี่เก้อที่ยิ่งขมวดคิ้วมองผมแบบไม่สบอารมณ์



“เออ กูมันคนเพื่อนน้อย แต่ไม่ใช่ว่ากูจะมีเพื่อนคนสำคัญคนเดียวแบบมึงที่มีพี่เอมนะไอ้สัด ถอย กูจะขึ้นรถ”



“เดี๋ยวเสือ เกี่ยวเหี้ยอะไรกับไอ้เอมวะ นี่มึงพาลเหี้ยไร”



“เรื่องของกู”



“เดี๋ยว ทำไมมึงงี่เง่าจังวะ เป็นอะไรวะเสือ” มันที่เอื้อมมือจะมาดึงแขนผมไว้ แต่ติดตรงที่กูไว้กว่า ผมยันมือไปผลักอกมันทันที จนมันต้องเสถอยหลังไปอีกหลายก้าว



“กูจะเป็นอะไรก็เรื่องของกู แต่ที่แน่ๆ กูกับมึงไม่ได้เป็นไรกัน มึงอย่าเสือก”



“ไอ้เสือ!”



ผมที่ไม่สนใจมันแล้ว แต่ก้าวยาวๆ ตรงไปขึ้นรถทันที ไอ้เก้อที่วิ่งตามมาแต่ไม่ทัน เพราะพอผมขึ้นรถ เพื่อนใหม่ของผมมันก็ปิดประตูรถในทันที เหมือนจะเป็นผมที่เป็นคนสุดท้ายที่ยังไม่ได้มาขึ้นรถ



“มึง...เป็นไรเปล่าวะ”



“ไม่เป็นไร ขอบใจมึงมากไอ้อิฐ”



“สบายจ๊ะมึงจ๋า”



เพื่อนต่างคณะของผมครับ แต่มันมาค่ายอาสาด้วย เพราะคะแนนกิจกรรมของมันยังไม่พอ เห็นว่ามันโดดทำกิจกรรมบ่อยๆ เพราะต้องไปทำงาน ... รู้จักกับมันที่ร้านเหล้าครับ ก็ไม่ได้นิสัยแย่อะไร ก็เลยวานให้มันมารับและมาด้วยกันในวันนี้



“ไปหาที่นั่งกันเหอะ” เสียงของคนมาใหม่ที่ผมต้องเงยหน้าไปมอง เพื่อนสนิทไอ้อิฐ



“ได้เลยจ้าน้องจูน นำไปเลยพะยูนเพื่อนรัก”



“ครวย!”



“กูมี ดูไหมใหญ่นะ”



“ไปไกลๆ ไอ้หน้าสัด”



เสียงของไอ้อิฐไอ้จูนที่เถียงกันไปตลอดทางแบบนั้นทำเอาผมต้องส่ายหัวระอา ... แต่อย่างน้อยก็ยังพอเป็นเรื่องดีๆ บ้าง ผมหันไปมองนอกรถในตอนที่รถเริ่มเคลื่อนตัวออก ไอ้พี่เก้อยังยืนอยู่ตรงนั้น มันที่มองมาที่ผมด้วยสายตาที่ผมอ่านไม่ออกและไม่เข้าใจ ... มันก็เป็นเหมือนกับความสัมพันธ์ของเรานั่นแหล่ะที่ไม่เคยจะชัดหรือเข้าใจอะไรสักอย่าง





“ถ้าเป็นแบบนี้ก็อย่าเข้าใจเหี้ยอะไรแม่งเลยละกัน” บอกกับตัวเองแบบนั้นแล้วตัดสินใจก้าวขายาวๆ เดินขึ้นไปที่รถชั้นสอง ปล่อยให้มันยืนอยู่แบบนั้น เพราะผมมั่นใจ ว่าสุดท้ายไม่ว่าเมื่อไหร่ มันก็เลือกพี่เอมมากกว่าผมอยู่ดี



...



“ฮ้า อากาศดีมากๆ เลยมึงเอ้ย” ไอ้หยีที่บิดขี้เกียจแล้วสูดอากาศเข้าปอดแบบเต็มปอด แต่ก็ถูกของมันสดชื่นจริงๆ ครับ ค่ายอาสาครั้งนี้ เรามากันที่ศูนย์การเรียนรู้ที่ตั้งอยู่ที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เป็นพื้นที่ที่ยังมีแต่ดินลูกรัง ดินแดงๆ โรงเรียนของเด็กๆ ถูกทำด้วยไม้ สภาพไม่แข็งแรงเท่าไหร่ แต่เพราะว่าอยู่ในต่างจังหวะในพื้นที่ห่างไกลมากๆ พื้นที่ของโรงเรียนเลยใหญ่มากๆ แบบสุดลูกหูลูกตา แต่เด็กนักเรียนและโรงเรียนมีอยู่กระจิ๊ดเดียว ผมเชื่อว่าพวกเรามาในครั้งนี้จะสามารถสร้างอะไรใหม่ๆ ให้กับเด็กๆ ที่นี่ได้เยอะ และหวังว่ามันจะเป็นประโยชน์กับเด็กๆ ที่นี่ให้ได้มากที่สุดล่ะครับ




“เอาล่ะ น้องๆ ปี1ตั้งเต้นล์ฝั่งนี้ พวกปีอื่นตั้งอีกฝั่งนึงนะครับ” พี่ปีสี่ที่เตรียมรายละเอียดมาเรียบร้อย พวกเราก็เตรียมตัวตั้งเต้นล์กัน แบ่งฝ่ายจัดกลุ่มทำอาหาร รวมถึงแบ่งน้องๆ ไปทำโรงเรียน ทำโซนห้องน้ำต่างๆ คือหน้าที่มีกันสารพัดและเริ่มกันเลยจากตรงนี้



“พี่เอม ร้อนไหมพี่” ไอ้ม็อบที่เดินเข้ามาพร้อมๆ กับยื่นผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดที่หน้าผากให้ผม กูผงะเลยตอนนี้ น้องๆ ปีหนึ่งที่เหมือนจะเป็นเพื่อนของมันก็โห่แซวในตอนนั้น คือมีใครบวชนาคหรอสาด




“เห้ย ไม่ต้องกูไม่ร้อน”


“พี่ไม่น่าจะมาเลื่อยไม้อยู่ตรงนี้เลยว่ะ” มันว่าแบบนั้นแล้วทำท่าจะแย่งเลื่อยไปจากมือผม



“มาผมทำเอง”





“เห้ยไม่ต้องๆ กูทำได้ไอ้สัด” บอกมันแบบนั้นแล้วสะบัดมือหนี เป็นความรู้สึกที่ว่าตกใจมากกว่าเลยทำแบบนั้น ไอ้ม็อบชะงักตัวไปนิดหน่อย ผมมองหน้ามันที่ทำหน้าเสีย ... รู้สึกผิดเลยแม่ง ทั้งๆ ที่มันหวังดีแท้ๆ



“เอ่อ ไอ้ม็อบ”



“อ่า ขอโทษครับ ผมคงทำพี่อึดอัด” มันพูดออกมาแบบนั้นด้วยสีหน้าแหยๆ พร้อมเดินถอยหลังไปอีกสองสามเก้า



“เห้ยมึง กูแค่ตกใจอ่ะ”



“หรอครับ ...แต่ผมว่าไม่”



“เห้ย มึงคิดมาก กูตกใจจริงๆ มึงอยากช่วยหรอ อะนี่ เอาไม้ไปวางตรงนู้นไป” บอกมันแบบนั้นแล้วตบไหล่มันปุๆ ไม่อยากทำให้มันรู้สึกไม่ดีกับท่าทางของผมครับ จริงๆ แล้วมันก็แค่หวังดี



“ผมทำด้วยได้แน่นะ”



“เออสิวะ ไปๆ แล้วกลับมาช่วยกู”



“ขอบคุณครับ” มันตอบรับเสียงดัง ก่อนจะยิ้มกว้างออกมาอีกครั้ง เป็นรอยยิ้มกว้างๆ แบบที่ผมได้เห็นบ่อยๆ จากหน้าของมันที่มักจะส่งมาให้กันเสมอ ... ได้แต่ส่ายหัวออกไปตอนที่เห็นมันวิ่งหอบไม้ที่ผมเลื่อยไปกองตรงซุ้มตรงนู้นอย่างร่าเริง จริงๆ มันก็เป็นแค่เด็กคนนึงที่อยากจะสนิทกับรุ่นพี่แค่นั้นเอง พี่ดาบแม่งก็คิดมากไปอ่ะ



“พี่เอม คืนนี้เรามีรอบกองไปด้วยนะครับ น่าสนุกมากๆ เลย”



“หรอวะ ก็น่าสนุกนะ”



“ดีจัง คืนนี้จะได้อยู่กับพี่ด้วย”



“อยู่กับกูเหี้ยไร คนอยู่เป็นร้อย” ตอบออกไปแบบนั้น แต่ไอ้เด็กนี่ก็ดูจะไม่ฟังเท่าไหร่ ดูสนใจแค่สิ่งที่มันกำลังคิด เฮ้อ เหมือนจะไม่มีสติเท่าไหร่ เรื่องนี้ต้องเหยียบไว้ให้ไอ้หยีรู้ไม่ได้ ดีนะที่มันได้ทำอยู่ที่โรงครัว ไม่งั้นเรื่องนี้ถึงหูพี่ดาบแน่ๆ มึงเอ้ย แค่คิดว่าพี่มันรู้ กูก็เจ็บไข่แล้วครับ!


...



“ไอ้เหี้ยเอ้ย ร้อนฉิบหาย” กูบ่นออกมาเป็นรอบที่ร้อยของวัน เพราะวันนี้ผมได้อยู่ช่วยในโซนทาสีโรงเรียนแล้วก็ตีหลังคา กูปีนตากแดดมาทั้งวัน แต่ถึงแบบนั้นก็รู้สึกสนุกครับ ได้ทำอะไรแบบออกแรงก็เพลินๆ ดี ที่สำคัญโซนตรงนี้ที่ผมทำเป็นแค่พวกปีหนึ่งเท่านั้น ไม่มีพี่ปีอื่นมายุ่งด้วย กูเลยรอดพ้นจากไอ้สัดพี่เก้อมาได้แบบหวุดหวิด





“มึงบ่นเก่งจังวะ”



“ก็กูร้อน หรือมึงไม่ร้อนวะ” หันไปถามไอ้อิฐ มันที่แค่ยักไหล่นิดๆ เราสองคนที่เหงื่อทั่วโทรมกายกันไปหมดแล้วในตอนนี้



“กูน่ะถึก แข็ง ทน”



“พูดอะไรของมึงนะไอ้สาดด”



“ฮ่าๆ กูหมายถึงกูน่ะทั้งถึก แข็งแรงและอดทน ไม่ได้บอบบางเหมือนมึงหรอกจ๊ะ กูสบ๊าย” ยิ้มหน้าระรื่นส่งมาให้กูทั้งแบบนั้น หมั่นไส้แม่ง



“ไม่ไหวแล้วว่ะ ตอนนี้ก็ห้าโมงละ หยุดแล้วไปอาบน้ำกันเหอะ” ผมชวนไอ้อิฐ มันพยักหน้าเห็นด้วย เพราะแบบนั้นเราเลยพากันไปหยิบข้าวของพวกเสื้อผ้าและสบู่ต่างๆ นาๆ เตรียมไปอาบ ห้องน้ำมีจำกัดครับ อยู่ที่หลังโรงเรียน



“พวกมึงจะไปอาบน้ำกันแล้วหรอวะ”



“ใช่จ๊ะน้องจูนจ๋า มึงก็ไปด้วยกันดิวะ” ไอ้อิฐพูดออกมาแบบนั้น วันนี้ไอ้จูนมันได้ไปอยู่โซนห้องสมุดครับ ไม่ได้ทำกับพวกเรา มันเลยพึ่งเดินมา สงสัยพึ่งเลิก



“แต่กูยังไม่ได้เอาเสื้อผ้าห่าไรเลย”



“งั้นมึงรอจูน เดี๋ยวกูนำไปก่อน กูไม่ไหวละ” ผมหันไปบอก ไอ้อิฐที่ทำท่าอึกอัก



“ไม่ต้องเป็นห่วงกู กูไปได้”





“เอางั้นหรอวะ”



“เออดิ กูไปได้” บอกออกไปอีกครั้งแบบให้มันมั่นใจ ไอ้อิฐหันไปมองหน้าไอ้จูนที่กำลังจ้องมันอยู่ แค่เห็นกูก็เข้าใจในความสัมพันธ์ ผมยกยิ้มมุมปากนิดๆ แล้วยกมือโบกบ๊ายบายแล้วเดินออกมา ให้มันไปด้วยกันอ่ะดีแล้ว ผมน่ะทำอะไรด้วยตัวเองมาตั้งแต่ไหนแต่ไร อีกอย่างก็ไม่ใช่เด็กประถมไหมวะที่จะไปอาบน้ำก็ต้องชวนๆ กันไป



เดินมาหยุดที่หน้าห้องอาบน้ำที่ทำเพิ่มออกมาหลายห้องในวันนี้ จริงๆ ก็แค่ตีกำแพงสังกระสีไว้ก่อนเฉยๆ พอให้ไม่อุจาดตาครับ ยังทำอะไรไม่ได้มากในวันนี้ แต่ถึงจะมีเยอะขึ้นแล้ว แต่ก็ยังไม่พอกับจำนวนคนอยู่ดี



“น้อง ข้างหลังโรงเรียนมีธารน้ำตกนะ รอไม่ไหวไปอาบก่อนก็ได้” มีรุ่นพี่กลุ่มนึงที่เหมือนพึ่งจะเดินกลับมาจากน้ำตกที่ว่าบอกผมแบบนั้น



“น้ำตกหรอวะ ... ก็ดีเหมือนกัน ขอบคุณมากครับพี่” ผมบอกออกไปแบบนั้นแล้วเดินตรงเข้าไปตามทางที่พวกพี่เค้าพึ่งออกมา เดินเข้าไปไม่ลึกเท่าไหร่ก็เจอเลย น้ำอย่างใส แต่เหมือนจะเป็นที่ๆ พวกรุ่นพี่มาอาบน้ำกันมากกว่าว่ะ ... แม่ง รุ่นพี่เจอที่ดีๆ ก็ไม่บอกหรอก อุ๊บอิ๊บไว้อาบกันเอง





ผมที่เดินลึกเข้าไปอีกหน่อย เพราะทางด้านหน้านี้เห็นพี่ๆ กลุ่มนึงอาบกันอยู่ คิดว่าคงไม่ดีเท่าไหร่ถ้ามาอาบรวมกับพวกพี่มัน ถึงแม้จะเป็นผู้ชายเหมือนกันก็เถอะ ผมที่เดินลึกเข้าไปตรงด้านหลังก้อนหินก้อนใหญ่ เป็นบริเวณที่ลับตาคน ที่ใช้อาบน้ำได้แบบเหมาะเจาะพอดี ค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าออกแล้วเอาเท้าจุ่มลงไปในน้ำ





“อ้า เย็นจังเลย” สดชื่นทั้งกลิ่นสายน้ำ และน้ำเย็นๆ ที่สำผัสได้ ค่อยๆ ทิ้งตัวลงไปแหวกว่ายอยู่แถวบริเวณนั้น เย็นชื่นใจแบบสุดๆ ความเหนื่อยล้าทั้งวันที่ผ่านมานี้ดูจะหายไปเป็นปลิดทิ้ง นี่แหล่ะนะที่เค้าว่าธรรมชาติจะเยียวยาเรา ผมดำลงไปในน้ำครั้งนึง ก่อนจะผุดขึ้นมา สะบัดผมที่เปียกจนปรกหน้าให้ทิ้งตัวไปทางด้านหลัง



“อ๊ะ เห้ย! อื้อออ” ความรู้สึกถูกกระชากที่เอวอย่างแรง พร้อมๆ กับฝ่ามือที่ถูกยกมาปิดที่ปากทำให้ผมต้องดิ้นรนต่อสู่



“ชู่วว กูเอง” เสียงกระซิบทุ้มต่ำๆ ที่ดังอยู่ข้างๆ หูทำให้หยุดดิ้น แรงรัดตรงเอวของผมที่เต็มไปด้วยวงแขนคุ้นเคย พอผมเลิกดิ้น อีกฝ่ายก็ปล่อยมือที่ปิดปากผมออก



“สัด ไอ้เหี้ยพี่เก้อ”



“อย่าเสียงดังสิวะ” มันที่ว่าแบบนั้น ผมหันไปมองมันที่ตอนนี้มันเองก็ถอดเสื้อมาลอยคออยู่ตรงหน้าผมเหมือนกัน กูยกมือต่อยแม่งไปที แต่ติดที่มันก็ไวจนหลบได้อยู่ดี



“สัด ทำเหี้ยอะไรของมึงวะ”



“แล้วมึงจะต่อยกูทำไม”





“ไปไกลๆ กูจะอาบน้ำ”



“แล้วมึงจะมาแก้ผ้าอาบแบบนี้เนี่ยนะ บ้าป่ะ ขึ้นไปใส่เสื้อผ้าดีๆ แล้วค่อยลงมาอาบ” มันบอกแบบนั้น กูนี่ขมวดคิ้วเลย





“ประสาท เป็นเหี้ยอะไรของมึงวะ กูจะอาบน้ำ ใส่เสื้อผ้าแล้วจะอาบเหี้ยอะไร มึงน่ะไปไกลๆ กู” บอกมันแบบนั้นแล้วพยายามว่ายน้ำหนี แต่ไอ้ตัวข้างๆ ก็ไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น มันที่เกี่ยวเอวผมไว้ได้ทันในตอนนั้น



“ทำเหี้ยอะไรวะ”



“มึงไม่ใส่ เพราะตั้งใจยั่วกูหรอ”



“สัด สติ กูจะอาบน้ำ ปล่อย” บอกมันแบบนั้น แล้วพยายามดันตัวหนีในตอนที่ตอนนี้รับรู้ถึงอะไรบางอย่างที่เริ่มดุนดันแข็งขืนอยู่ที่ตูดของผม เสียววาบขึ้นมาทันที เริ่มรู้สึกผิดแล้วที่กูแก้ผ้าลงมาเล่นน้ำแบบนี้ กูก็ว่าแถวนี้ไม่มีใครแล้วนะ ไอ้สัดหน้าเหี้ยพี่เก้อนี่มาได้ยังไง



“เสือ” เสียงกระซิบแหบต่ำที่ดังอยู่ข้างๆ หูที่ดังมาพร้อมๆ กับลมหายใจร้อนๆ ที่คลอเคลียอยู่แถวๆ ลำคอของผม ได้แต่กลืนน้ำลายลงคอแบบฝืดฝืนในตอนที่ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้เบาๆ มาที่หน้าท้อง ผมหายใจกระตุกในตอนที่นิ้วเรียวยาวลูบเบาๆ ที่สะดือ



“ไอ้พี่เก้อ”





“กูอยากว่ะเสือ” เบาราวเสียงกระซิบ พร้อมๆ กับที่มันกดจูบลงบนใบหูของผม ได้แต่ถอดหายใจออกมาแบบสั่นระรัวฃ เป็นความรู้สึกทั้งอยากผลักไสทั้งอยากจะระเบิดจนแทบจะทนไม่ไหว มือของมันที่เอื้อมมือดึงใบหน้าของผมให้หันไปหาใบหน้าของมันที่เข้ามาใกล้ และก็เหมือนกับทุกๆ ทีที่เราเริ่มจูบกัน เป็นแรงดึงดูดที่เหมือนกับไฟและน้ำมัน ที่พอสาดน้ำมันเข้ากองไฟก็ลุกโชนขึ้นแบบห้ามไม่อยู่ มันที่ส่งลิ้นเข้ามากดจูบดุนดันปลายลิ้นของกันและกัน ทุกอย่างในที่นี่ขาวโพลนไปหมดทุกอย่าง



“วันนี้ไม่มีถุงว่ะเสือ”



“อือ มึงเอาเข้ามาเลย”



“มึงมั่นใจ” ถามออกมาด้วยเสียงกระเซ่า มองหน้าผมด้วยสายตาพราวระยับ เป็นความต้องการของมันในทุกๆ ครั้งที่ผมรู้ดีว่ามันต้องการ แต่ไม่เคยให้



“อืม ใส่เข้ามาเลยเก้อ”



“มึงน่ารักจัง” พูดออกมาเบาๆ พร้อมๆ กับเอียงหน้าหล่อเข้ามาหอบแก้มของผมเบาๆ เสียงน้ำเคลื่อนไหว ได้ยินเสียงคนจอแจคุยกันไม่เป็นภาษาดังมาจากที่ไกลๆ รู้สึกหัวใจเต้นระส่ำ ทั้งกลัว แต่ถึงแบบนั้นก็ยังตื่นเต้นจนห้ามไม่อยู่



“เอาท์ดอร์มันตื่นเต้นแบบนี้เองหรอวะ”



“มึงอยากเอาก็ไวๆ”


.

.

.


“อื้อออ " ผมครางยาวๆ แต่แผ่วเบาพยายามคุมเสียงของตัวเองเอาไว้ให้มากที่สุดเพราะแถวนี้มีแต่ความเงียบ ร่างของผมเปลือยเปล่าแนบลงไปบนก้อนหินขนาดใหญ่ที่บดบังเราจากสายตาของคนโดยรอบ รอบๆ ตัวมีแต่ต้นไม้ขนาดใหญ่ สายน้ำ เสียงน้ำ สายลม และเรา .... มันเป็นความสวยงามที่ดูเงียบเหงา ความวุ่นวายรอบตัวที่ดังจากที่ไกลๆ ไม่มีใครสนใจเรา มีแค่ตัวเราเองไม่มีคนอื่น มือข้างนึงของมันที่เลื่อนขึ้นมาจากเอว เลื่อนมาที่ขยี้ลงหัวนมของผม ฝ่ามืออีกข้างของมันที่ก็กำลังจับเข้าที่ต้นขาอีกข้างของผมให้ยกขึ้นสูง





แรงกระแทกที่กระแทกเข้ามาอย่างรุนแรง ทั้งจุกทั้งเสียวจนต้องกัดปาก




"อ๊ะ เก้อ...อื้อ"





"ซี๊ด ดีจังเสือ ดีจังเลยวะ"




ท่อนเอ็นแข็งขืนที่สอดเข้ามาในทุกๆ จังหวะ รับรู้ได้ถึงตัวตนของมัน สะโพกแกร่งที่โยกขยับอย่างรุนแรง หมุนควงทำองศาที่ตั้งใจกระแทกเข้ามาให้ตรงจุดให้ผมต้องได้ครางออกมา ทั้งๆ ที่ตอนนี้ก็พยายามมากๆ ที่จะเงียบเสียงให้มากที่สุด แต่เหมือนอีกฝ่ายจะไม่ต้องการแบบนั้น



มันที่ค่อยๆ ดึงสะโพกขยับออกช้าๆ รู้สึกเสียวซ่านจนต้องกัดปากแรงๆ มันที่ดึงตัวผมให้หันหน้ากลับเข้าไปหามัน ดึงขาผมขึ้นไปจับไว้มั่นคงเหมือนเดิม



แล้วค่อยๆ กดส่วนล่างของมันเด้งตัวถี่กระชั้นเข้ามากดจุดสำคัญภายในช่องทางอุ่นของผมอีกครั้งแบบถี่ระรัว



"อ๊ะ อื้ออ" มันก้มหน้าลงไปดูดเบาๆ หัวนมของผม ใช้ริมฝีปากบี้เบาๆ จนผมต้องหลับตา



"เบา เก้อ อื้ออ"





“เบาแค่นี้ พอไหม " มันใส่แรงเข้ามาจนสุด พร้อมอมยิ้มมุมปากตอนที่พูดแบบนั้นแต่การกระทำกลับสวนทาง ทำให้ผมได้แต่อ้าปากค้างกลั้นเสียงไว้จนแทบจะขาดใจ



แต่นั่น ก็ทำให้ถึงจุดสูงสุดของความสุข ผมที่สุดท้ายแล้วก็ร้องเรียงชื่อมันออกมาก่อนปลดปล่อยออกมาจนเปื้อนท้องของตัวเองและหน้าท้องของมัน และในตอนนั้นที่รับรู้ได้ถึงน้ำอุ่นร้อนที่ทะลักเข้ามาที่ช่องทางด้านหลังแทบจะพร้อมๆ กัน



"อึก อื้ออ"





"ซีดดด"



เสียงลมหายใจถี่ๆ ของกันและกันที่ดังคลอกันอยู่ไม่ห่าง ใบหน้าหล่อคมของมันที่ซุกอยู่ตรงไหล่ของผม ทำให้ได้ยินเสียงหายใจหนักๆ นั่นได้ดี วงแขนหนาที่โอบกอดเอวของผมเข้าไปแนบชิดตัวของกันและกันมายิ่งขึ้น มันที่ยังไม่ยอมปล่อยตัวของผมให้ออกจากอ้อมกอดของมันในตอนนี้




"ปล่อยกูได้แล้ว"





"เดี๋ยวสิวะ"




"เก้อ"




"หื้ม...ว่าไง"




ผมหายใจเข้าปอดไปลึกๆ กำมือที่ยังสั่นของตัวเองเอาไว้แน่นๆ ก่อนจะค่อยผ่อนลมหายใจแล้วพูดออกไป




"มึยังรักพี่เอมอยู่ใช่ไหม"




"หื้ม มึงถามถึงเรื่องนี้ทำไมวะ" มันที่ผละหน้าออกมามองหน้าผมแบบงงๆ ในสายตาที่ไม่เข้าใจ




"ถ้ามึงชอบพี่เค้าก็ไปจีบพี่เค้าเถอะว่ะ มาทำแบบนี้กับกูแม่งก็ไม่ได้ไรหรอก กูไม่ใช่ตัวแทนเค้านะ" ขยับตัวออกจากมัน ในตอนที่แกนกายของมันหลุดออกไปจากตัว เสียวจนต้องขมิบถี่ๆ รับรู้ได้ถึงน้ำอุ่นร้อนที่ไหลลงไปตามขาอ่อน แต่ทำเป็นเฉยเอาไว้




“กูไม่เคยเห็นมึงเป็นตัวแทนเอมเสือ”





“พอเหอะว่ะ กูรู้ว่าเค้าสำคัญกับมึง และเราเองก็เป็นความสัมพันธ์ที่ผิด มึงไม่ได้รักกู และเราก็ควรจะจบความสัมพันธ์แบบนี้ได้แล้ว”




“มึงพูดอะไรของมึงวะเสือ”





“พอเถอะเก้อ จบกันแค่นี้ กลับไปเป็นพี่น้องกันแบบที่ควรจะเป็นเหอะ ใจมึงอยู่กับใคร ก็ไปหาเค้า เอากูเป็นตัวแทนแบบนี้ กูก็เจ็บเป็นนะไอ้สัด”



-TBC-


เอาเด้อออออ เอาแล้วเด้ออออออ อิอ๊ะ หืดหาด และทิชชู่จ๊ะ

จริงๆตอนนี้มาเขียนเพิ่ม เลยพึ่งเสร็จค่ะ

ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะยาวขนาดนี้ แต่คิดว่า เอาวะ ... เลยเขียนเพิ่มแล้วมาจบที่ตรงนี้ หวังว่าคนอ่านจะชอบนะคะ

(ก่อนจะชอบคือต้องหวังว่าให้ยังมีคนอ่านน้า สาธุบุญ)

ฝากแฮชแทค #สวยๆเป็นผัว ในทวิตเตอร์ด้วยจ้า

 :mew1: :L1:


ขอขอบคุณคนอ่านที่ในเล้าที่ยังอยู่ด้วยกันด้วยค่ะ 



:hao6: :hao6:
  ขอบคุณนะคะที่ยังเข้ามาอ่านมาเม้นท์ให้แคทเสมอๆเลย


เจ้พี่ดาบกลับมาหาควายน้อยแล้ว  สรุปว่าองค์เจ้ดานี่มาเพราะน้องกุญแจ ไม่ได้มาเพราะพาพวยใช่ไหม

ส่วนอีกคู่ยังคงสถานะไม่ชัดเจนเช่นเคย สงสารน้องเสือเดี๋ยวดีใจ เดี๋ยวน้อยใจเพราะคิดว่าพี่เกอร์ยังรักเอมอยู่ โถลูก ให้เวลาพี่เค้าหน่อยนะ
  ใช่ค่ะ จริงๆแล้วอิเจ๊พี่ดาบเป็นคนน่ารักนะคะ เนื้อแท้ของพี่เค้าเป็นคนดี คนดีที่สวยมาก(ยัง)
ส่วนเก้อเสือน้านนน มามะมาอ่านตอนนี้น้า ทุกอย่างต้องเดินต่อ อิอิ ... แต่ว่าแคทขอขอบคุณมากๆจริงๆนะคะ ขอบคุณจริงๆที่อยู่อ่านและคอมเม้นท์ให้แคทมาเสมอในทุกๆตอนเลยค่ะ ตอนนี้ก็มาอ่านอีกน้าาา จุ๊บๆเลยค่ะ


รอตอนต่อไป~
  แคทมาแล้วววว มาอ่านนะคะ ขอบคุณจริงๆที่ยังอยู่ด้วยกัน


:pig4: :pig4: :pig4: มารอค่า
  น่ารักกก มาแล้วนะคะ ตอนใหม่มาแล้วนะคะ


อิพายนี่สะตอมากเข้าทางอิพี่ไม่ำด้เข้าทางแม่แทนเหอะอ อิเจ้พี่มึงกะหวงน้อง 555  หึงออกหน้าขนาดนี้น้องมันจะไปไหนรอดรักพี่มึงจะตายห่าแล้วค่า
องค์พี่ดาบต้องมาแล้ว พี่ก็รักของพี่ ส่วนพวยน้านนน ในตอนนี้ยังไม่มา คิดถึงหรือเปล่า มีใครคิดถึงพาพวยหรือเปล่า


รอคอยค่า
แคทมาแล้วนะคะ ขอบคุณและขอโทษมากๆที่มาช้า แต่ยังมีคนรออยู่ ขอบคุณจริงๆนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-06-2020 22:49:16 โดย Yoghurt »

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

ออฟไลน์ Chucream.nabi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :katai1: หาไม้เตรียมฟาด เอาใครก่อนดี
พี่เก้อ หรือเด็กหัวไม้ถูพื้น

ออฟไลน์ นางฟ้าน้อย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
สงสารลุ้นคู่นี้ :mew2:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
อิเก้อมึงควรชัดเจนได้แล้ว! สงสารเสือ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด