Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ ตอนพิเศษ {22/05/21}]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ ตอนพิเศษ {22/05/21}]  (อ่าน 177600 ครั้ง)

ออฟไลน์ Yoghurt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
    • แฟนเพจ
บทที่30




“อาหนึ่ง ปล่อยเสือไป” ผมพูดออกมาแบบนั้นด้วยน้ำเสียงที่ทั้งจริงจังและเหนื่อยอ่อน ... ก็แค่อยากให้ปล่อยกันไปได้แล้ว



“เสือ...”  อาหนึ่งที่หันกลับมามองหน้าผม สายตาของเค้าที่กำลังบอกผมว่าเค้าเสียใจ แต่สายตาคู่นี้ ตอนนี้มันไม่ได้มีผลอะไรกับใจผมอีกแล้ว ต่อให้เค้าเสียใจมากแค่ไหน ก็ไม่เท่ากับการเสียใจของผม และผมก็ทนมามากเกินพอแล้ว



“อย่ายุ่งกับผมอีก ผมมีแฟนแล้ว” บอกออกไปแบบนั้นพร้อมจ้องตาคนตรงหน้าแบบไม่กระพริบ คำพูดของผมที่ทั้งหนักแน่นทั้งจริงจังไม่สั่นไหว อย่างน้อยๆก็จะไม่ทำให้เค้าได้รู้ว่าผมกำลังโกหก



“น้องเสือโกหกอา”



“มันไม่ได้โกหก แล้วก็เลิกเซ้าซี้มันสักที”  เสียงเข้มๆที่ติดจะฉุนเฉียวพูดขัดออกมาก่อนที่ผมจะได้ตอบคนตรงหน้ากลับไป หันไปมองก็เห็นสัดพี่เก้อที่กำลังจ้องมองมานิ่งๆด้วยสายตาที่แฝงความกวนตีนเอาไว้แบบเต็มที่ มันที่ยกมือขึ้นมาเท้าเอวพร้อมเอียงคอมองหน้าอาหนึ่ง ใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้มไปด้วยในตอนที่มองมา แค่มองจากตรงนี้ผมเองยังอยากเอาตีนไปลูบหน้ามันเลยครับ



“ผมไม่ได้คุยกับคุณ” แต่อาหนึ่งก็ยังเป็นอาหนึ่ง คนที่เก็บอารมณ์เก่งและวางตัวดี ... ดีจนครั้งนึงผมกลายเป็นไอ้โง่ตัวหนึ่ง



“จะหาว่ากูเสือกว่างั้นเหอะ โทษทีนะ ไม่เสือกไม่ได้จริงๆว่ะ ก็ไอ้คนที่คุณจับแขนมันอยู่น่ะมันเมียกูไงครับ” พี่เก้อที่ยักคิ้วทีหนึ่งส่งมาให้อาหนึ่ง น้ำเสียงที่ติดจะกวนตีนเล็กๆนั่นอีก ... แล้วไอ้สัด ใครเมียมึงวะ



“น้องเสือ”



“อาหนึ่ง เสือไม่ได้โกหก นั่นพี่เก้อแฟนเสือ เสือมีแฟนแล้ว แล้วอาเองก็มีครอบครัวแล้ว อาก็ควรจะเลิกยุ่งกับเสือได้แล้ว”



“แต่อารักน้องเสือ”



“เก็บคำว่ารักของมึงไปบอกเมียมึงเหอะ เสือกไรกับไอ้เสือวะ” ไอ้พี่เก้อที่เริ่มดูจะหมดความอดทนพูดออกมาแบบนั้น มันที่สาวเท้ายาวๆเดินตรงมาผลักไหล่อาหนึ่งแรงๆหนึ่งทีจนทำให้เค้าเซไปหลายก้าว และในที่สุด มือคู่นั้นก็ปล่อยออกจากแขนของผมได้สักที และถูกแทนที่ด้วยฝ่ามือใหญ่ของไอ้พี่เก้อ



“กลับกับกู” มันไม่แม้แต่จะมองหน้าของผมด้วยซ้ำ สายตาของมันที่เอาแต่จ้องเขม็งไปที่อาหนึ่งที่กำลังมองตรงมาที่เรา



“อย่าให้กูเห็นมึงมายุ่งกับไอ้เสืออีก” ยกมือขึ้นพร้อมชี้หน้าอาหนึ่งแบบไม่ไว้หน้า



“มันเป็นเรื่องระหว่างผมกับเสือ ไม่เกี่ยวกับคุณ ผมจะพูดกับเสือ”



“ไม่มีเรื่องของคุณกับไอ้เสืออีก เพราะตอนนี้มันเป็นแฟนผมแล้ว เรื่องง่ายๆแค่นี้ไม่เข้าใจหรือไงวะ ท่าทางคุณก็ดูดีนะ ไม่น่าจะโง่ หรือเพราะความเห็นแก่ตัวมันเกาะกินหัววะ ถึงพูดเหี้ยๆแบบนี้ออกมาได้”



“เหอะ เด็กที่ใช้แต่กำลังแบบเธอ จะมาดูแลอะไรเสือได้”



“แล้วผู้ใหญ่ที่เห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้แบบมึง มีสิทธิ์มาพูดอะไรแบบนี้หรอวะ” อาหนึ่งที่โดนพี่มันว่าออกไปแบบนั้น ผมเห็นสีหน้าที่ปกติมักจะสุขุมอยู่เสมอของเค้า ในตอนนี้มันกลับเริ่มเก็บอารมณ์ไม่อยู่



“เธอมันก็แค่เด็กเมื่อวานซืน”



“เหอะ ขอโทษนะ เป็นแค่คนเก่าอย่าเห่าดัง แล้วก็อีกอย่างอย่ามายุ่งกับมันอีก ไม่งั้นกูจะไม่ไว้หน้าอีกแล้วนะ ... เสือกลับ!”



พี่เก้อมันพูดรัวๆออกมารวดเดียวจบก่อนจะกระตุกแขนของผมให้เดินตามมันไป ผมมองเห็นอาหนึ่งที่มองตรงมาที่เรา เขาที่ไม่แม้แต่จะขยับแม้แต่ก้าวเดียว  ผมมั่นใจว่าเค้าไม่ได้กลัวพี่เก้อหรืออะไร แต่คนแบบเค้า...มันก็แค่คนเห็นแก่ตัวแบบที่พี่เก้อว่าก็แค่นั้น



‘เอี๊ยด!’



เสียงล้อรถที่ครูดไปกับพื้นถนนในตอนที่เจ้าของรถหักหลบแล้วเหยียบเบรกจอดเข้าข้างทางอย่างแรง



“สัด ไอ้หน้าเหี้ยนั่นใคร แล้วมึงเป็นเหี้ยอะไรถึงถ่อออกมาจากห้อง ไล่กูออกมาจากห้องบอกอยากพักแล้วออกมาทำเหี้ยอะไรที่นี่!”   มันที่ตะคอกใส่ผมออกมาแบบนั้นด้วยเสียงดุๆแบบคนไม่สบอารมณ์ ได้ยินเสียงหายใจฟืดฟาดของมันก็ดูรู้ว่ามันหงุดหงิด แต่ดูเหมือนมันจะหงุดหงิดจากเรื่องอื่นๆมากกว่าเรื่องของผม  ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไร แค่เห็นมันขมวดคิ้วมากก่าทุกทีก็เลยเดาเอา แต่ถึงแบบนั้นในตอนนี้ผมก็เลือกที่จะมองออกไปนอกหน้าต่างรถแทนที่จะเป็นมองหน้ามัน ... ตอนนี้ผมเหนื่อย เหนื่อยกับเรื่องที่พึ่งเจอ แล้วก็เรื่องของมัน



“ไอ้เสือ ตอบกูมามึงอย่าเงียบ”



“สัด! เป็นเหี้ยอะไรของมึงวะ!... ตอนนี้กูมีเรื่องเหี้ยมากพอแล้วนะ แค่เรื่องไอ้เอมคนเดียวกูก็เจ็บจะแย่แล้วนะ มึงอย่ามากวนตีนกูนะไอ้เสือ เป็นเหี้ยอะไรของมึงวะ!” แขนของผมที่ถูกกระชากแล้วดึงให้หันหน้าไปหาคนที่อยู่ตรงที่นั่งคนขับอย่างแรง ที่แขนรู้สึกที่ความเจ็บเพราะอีกคนก็กำแขนผมจนแน่นไปหมด



“นี่...มึงร้องไห้หรอวะ ร้องทำเหี้ยอะไร”



“เปล่า ปล่อยกู!”



“เปล่าเหี้ยอะไร ก็เห็นอยู่ อย่าดีดดิ้นนักสิวะ” มันที่พยายามยื้อแขนของผมเอาไว้ ทั้งๆที่ตัวผมก็พยายามจะดึงแขนออกจากมือมันเหมือนกัน แต่แรงของมันใครจะไปสู้ได้วะ และใช่ สุดท้ายก็เป็นตัวของผมที่ถูกมันรวบเข้าไปกอดเอาไว้แน่นๆ ได้แต่ซุกหน้าลงไปบนอกแกร่งนั่น อกที่เมื่อวานนี้ผมรู้ดีว่ามันอุ่นมากแค่ไหน



“เสือ”



“ฮึก ป...ปล่อยกูไอ้สัดพี่เก้อ อึก...”



“ปล่อยได้ไงวะ มึงร้องทำไม ไม่ร้องสิวะ”



เสียงร้อนรนของคนสมองเท่าเมล็ดถั่ว มันที่พูดด้วยเสียงที่ไม่มั่นใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า เหมือนกับคนโง่ที่ไม่รู้ว่าจะปลอบคนไม่เป็น แต่ถึงแบบนั้นก็ยังไม่ยอมปล่อยตัวของผมให้ออกจากอ้อมกอดของมัน ... และใช่ สุดท้ายก็เป็นตัวผมเองที่ปล่อยให้มันกอดต่อไปอยู่แบบนั้น ก็แค่อยากอยากร้องไห้ออกมาหนักๆในอ้อมกอดของใครสักคน ที่พร้อมจะกอดผมจริงๆ



“ดีขึ้นไหม” 



ผ่านไประยะใหญ่ๆ ในตอนที่น้ำตาของผมหยุดไหลและดึงตัวออกมาจากอ้อมกอดของมัน คนที่กอดผมเอาไว้ก็ถามออกมาพร้อมๆกับมันที่เอื้อมมือมาช้อนปลายคางของผมให้ขึ้นไปมองหน้ามัน



“อืม ขอบคุณนะ”



“สรุปมึงอยากจะบอกกูไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น” ผมหลบตาตอนที่มันถาม และพี่มันเองก็ปล่อยให้ความเงียบโรยตัวลงมาในรถตราสี่ห่วงคันหรูของมัน เป็นการกดดันกันแบบที่ผมรู้นิสัยมันดี



“คนนั้นคืออาหนึ่ง”  และสุดท้ายก็เป็นผมที่ทนความอึดอัดไม่ไหว ผมที่ไม่ได้จ้องหน้ามันแค่พิงตัวลงกับเบาะของรถและหันหน้าออกไปนอกหน้าต่างรถฝั่งซ้ายมือ ทอดสายตามองไปไกลๆและนึกถึงเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา



“อาแท้ๆของมึงหรอวะ”



“เปล่า เค้าเป็นลูกชายของคู่ค้าของบริษัทพ่อ พ่อเค้าตายเค้าเลยกลายมาเป็นเจ้าของธุรกิจตั้งแต่อายุไม่มาก และเพราะแบบนั้นกูเลยเรียกเค้าว่าอา จะเรียกพี่ก็คงจะไม่เหมาะใช่ไหมล่ะ”



“อืม”



“กูรู้จักเค้าเมื่อสองปีก่อน เจอเค้าตอนที่เค้ามาพบพ่อกับแม่ของกูเรื่องธุรกิจของที่บ้าน”



“อืม”



“เค้าหน้าตาดีใช่ไหมล่ะ อายุ35ก็ยังไม่ได้ดูแก่อะไรใช่ไหม เป็นคนใจดี การศึกษาดี และก็ดีกับกูมากๆ กูไม่รู้อะไรเลยสักนิดตอนที่เค้าไปรับที่โรงเรียน มันก็เป็นแค่ความรู้สึกดีๆที่รู้สึกว่าเค้าใจดี เค้าชอบโทรมาคุยเล่นด้วยในตอนกลางคืนทุกๆวัน กว่ากูจะมั่นใจถึงเรื่องที่เค้าทำกับกูในทุกๆวัน ก็เป็นตอนที่เค้าบอกว่าชอบกู อยากมีชีวิตร่วมกันกับกู และก็ใช่...ความรู้สึกดีๆของกูมันก็พัฒนามาตั้งนานแล้วเหมือนกัน”



“มึงรักมัน”



“เคยรักเค้า” บอกออกไปแบบนั้นแล้วนึกถึงช่วงเวลานั้น คนที่ไปรับผมที่โรงเรียนแล้วคอยดูแลเอาใจใส่ผมในทุกๆวัน คำพูดคำจาน่ารักที่ทำให้ใจผมสั่น สายตาที่จ้องมองกันและมือคู่นั้นที่คอยจับให้กำลังใจผมในทุกๆเรื่อง เค้าทำงานกับพ่อและแม่ของผม แต่กลับมีเวลาให้ผมมากกว่าคนที่บ้านของผมซะอีก



“ทำไมมึงถึงใช้คำว่าเคย”



“เพราะคำว่ารักมันเป็นอดีตไปแล้ว และกูจะไม่ยอมรักคนที่ทำให้ผมเป็นไอ้หน้าโง่หรอก ....”  บอกพี่มันออกไป ก่อนจะหลับตาลงและสูดลมหายใจเข้าปอดให้ลึกที่สุด ... ถือเป็นการตัดสินใจสุดท้ายว่าจะเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้มันฟัง



“พี่มึงรู้ไหม อยู่ๆวันนึงเมื่อปีก่อน ก็มีผู้หญิงขับรถเข้ามาที่บ้านของกูว่ะ เค้ามาต่อว่าพ่อกับแม่ของกูเสียๆหายๆว่าไม่สั่งสอนลูกให้ดี ลูกที่เป็นผู้ชายแบบกูแต่ยังไม่แย่งสามีของเค้า สามีคนดีที่ทำงานงานหนักเพื่อนเลี้ยงดูเค้ากับลูกที่ยังเล็ก ครอบครัวของเค้ามีความสุขอยู่ดีๆ แต่มันเป็นเพราะกูที่เข้าไปแทรก เข้าไปทำให้ครอบครัวเค้าพัง เค้าว่าแบบนั้นล่ะ”



“ไอ้เสือ” พี่เก้อเรียกผมออกมา แต่ผมก็ไม่หยุดพูด ก็แค่พูดต่อไปแบบที่อยากจะพูด



“ทั้งๆที่กูไม่รู้อะไรสักอย่าง กูไม่เคยรู้ว่าเค้ามีครอบครัว เพราะทุกๆวันเค้าที่บอกว่ารักกูคนเดียว เพราะทุกๆคืนเค้าจะคอยโทรมาหากูและคุยกันก่อนนอนจนหลับ กูไม่เคยรู้เลยว่ะพี่ แต่คำว่าไม่รู้ของกู มันก็ไม่ใช่ข้อแก้ตัวที่ดีที่จะมีใครยอมรับได้ใช่ไหมล่ะวะ” หันไปมองหน้าพี่เก้อมันอีกครั้ง รอคอยสายตาแบบที่เคยได้รับจากคนอื่นมาตลอด



“น่ารังเกียจใช่ไหมวะ เหอะ กูยังรังเกียจตัวเองเลย” บอกมันออกไปแบบนั้นแล้วส่งยิ้มไปให้ คนตรงหน้าที่ก็เอาแต่จ้องมองผมด้วยสีหน้าที่ผมอ่านไม่ออก มันขมวดคิ้วแน่นๆแต่ไม่พูดอะไรสักคำ



“ทำตัวไร้ค่า กูรู้” น้ำตาของผมไหลลงมาอีกครั้งในตอนนี้ ถึงผมจะเคยชินกับสายตารังเกียจ แต่คนตรงหน้าในตอนนี้ ก็เป็นคนสุดท้ายในช่วงเวลานี้ ที่ผมไม่อยากจะได้รับสายตาแบบนั้นจากมัน



ค่อยๆหลับตาลงช้าๆ ก็นึกออกถึงสายตาของเพื่อนที่โรงเรียนตอนที่เมียของอาหนึ่งไปที่โรงเรียน ไปโวยวายที่นั่น ถูกห้องปกครองเรียกพบและกลุ่มเพื่อนสนิทที่ต่อว่า ว่าผมเป็นคนหน้าด้านไม่มีความคิด และสุดท้ายทุกๆคนก็ค่อยๆถอยห่างออกไปจากผม พ่อที่ผิดหวังในตัวผม และเป็นครั้งแรกที่เค้ารู้ว่าผมชอบผู้ชาย เป็นปีสุดท้ายของการเรียนในช่วงมัธยมที่เรียกได้ว่าเหี้ยที่สุดในชีวิต ไม่มีใครสักคนที่จะอยู่ข้างผม ไม่มีใครสักคนที่จะเข้าใจ เรื่องราวมันใหญ่แม้กระทั่งที่บ้านยังรับไม่ไหว และเพราะเรื่องนี้ผมถึงได้รู้ว่า สุดท้ายแล้วก็มีแค่ตัวเราเองที่จะคอยปลอบใจเรา ต่อให้ใครหน้าไหนที่บอกว่ารักเราแทบตาย แต่สุดท้ายทุกคนก็รักตัวเอง เพราะแบบนั้นมันถึงมีแค่ตัวเราที่ต้องดูแลตัวเอง



“มือที่สามผิดเสมอ ทั้งๆที่กูไม่เคยอยากจะเป็น ... ไม่มีใครรู้ว่าเค้าพูดอะไรกับกูบ้างในทุกๆวัน เค้าทำตัวแบบไหนกับกู และไม่มีใครคิดจะถามด้วยซ้ำว่ากูรู้สึกยังไง และสุดท้ายเค้าก็เดินกลับออกไปจากกูพร้อมๆกับเมียของเค้า ทั้งๆที่เค้าบอกว่าจะอยู่ข้างๆกู แต่สุดท้ายก็เป็นเค้าที่ทิ้งกูเอาไว้ที่เดิม พร้อมความเกลียดชังจากทุกๆคน ... เรื่องมันก็เป็นแบบนั้น จบแค่นั้น”



“ไอ้เสือ” พี่เก้อมันเรียกชื่อผมอีกครั้งแต่ผมก็ยังไม่ยอมหันไปมองหน้า ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาตัวเองลวกๆแล้วเลือกที่จะเมินหน้าหนีมัน ทำแค่ชี้มือไปข้างหน้าแทน เพราะมองเห็นป้ายรถเมล์ที่อยู่ไม่ไกล



“ขับไปตรงนั้นพี่ เดี๋ยวกูนั่งรถเมล์กลับหอเอง”



“ไอ้เสือ”



“ขอโทษด้วยที่ดึงพี่มึงมาลำบากนะ แล้วก็...”



“สัด! ฟังกูบ้างสิวะ กูว่าอะไรมึงสักคำหรือยัง เอาแต่พูดขัดกูอยู่ได้”



“แล้วจะให้กูรอฟังอะไรจากพี่มึงวะ กูต้องรอฟังอะไร  ฟังคำพูดที่ว่ากูแม่งไม่มีสมองไม่มีความคิดที่ไปยุ่งกับคนมีเจ้าของแบบที่ทุกคนด่ากูหรอ ไม่ว่าใครมันก็มองเหมือนๆกันทั้งนั้นแหล่ะ!”



“สัด! แต่กูไม่ได้มองมึงเหมือนใคร! ตั้งสติหน่อยสิวะ อย่ามาคิดแทนกู เสือก!” มันที่ตะคอกออกมาเสียงดังแล้วเอื้อมมือมาคว้าจับแขนผมทั้งสองข้างเอาไว้ให้หันไปหามัน



“กูมองเห็นตัวมึง ว่ามึงไม่ได้เป็นคนเหี้ยแบบนั้น ถ้าจะมีใครสักคนที่เหี้ย ก็ต้องเป็นมัน คนที่ไม่รู้จักพอ ส่วนมึงที่ถ้าจะผิด ก็ผิดตรงที่แค่โง่เกินไปที่เชื่อใจคนผิด ก็แค่เลือกจะวางความเชื่อใจไว้ในมือคนที่ไม่คู่ควรที่จะได้รับมันก็แค่นั้นไหมวะ”



“ฮึก ...พี่...กู ฮึก ... กูไม่ได้ตั้งใจ กูไม่ได้อยากเป็นมือที่สามของใคร ไม่ได้อยากเป็นชู้ใคร กูไม่ได้อยากเป็นคนเลว ไม่ได้อยากถูกมองว่าเป็นเด็กเสี่ยแบบนี้ ฮึก และกู กูไม่ได้อยากเป็นคนไร้ค่าที่ไม่มีใครต้องการแบบนี้”



“ใครมันจะไม่ต้องการมึงก็ช่างสิวะ มึงยังมีกู”



“พี่  พี่เชื่อผมใช่ไหม”



ผมที่จ้องตาคนตรงหน้าพร้อมๆกับที่น้ำตายังไหลลงมาไม่หยุด จ้องมองดวงตาคมที่มองสบกับสายตาของผมนิ่งๆ คิ้ว จมูก และรูปปากที่ได้รูป เครื่องหน้าหล่อเหลาที่เหมือนพระเจ้าลำเอียงของมัน ... คนตรงหน้าที่ค่อยๆพยักหน้าลงมาช้าๆ ฝ่ามือแกร่งที่เมื่อคืนนี้มันสัมผัสบีบรัดไปทั้งตัวของผมค่อยๆเลื่อนลงมาจับกุมที่ฝ่ามือ บีบเบาๆเหมือนมันอยากให้ผมมั่นใจ



“กูเชื่อมึง”



ผมมันก็เหมือนกับคนใกล้ตายที่ว่ายน้ำอยู่กลางมหาสมุทร ทั้งเหนื่อยและสิ้นหวัง ก็แค่หอบความหวังเฮือกสุดท้ายว่าจะมีใครสักคนมาช่วยผมขึ้นจากน้ำ หรือแค่หวังว่าจะเจอเกาะสักแห่งที่ให้ผมได้พึ่งพิง ... และใช่ ตอนนี้ผมเจอแล้ว



คนๆเดียวที่เชื่อคำพูดของผม คนที่กำลังบอกว่ามันเห็นคุณค่าในตัวผมจริงๆ



คนที่เป็นคนแรกของมึงไอ้เสือ ผู้ชายหน้าหล่อนิสัยเหี้ยคนนั้นไง ... คนที่มึงนอนอยู่ใต้ร่างของมันเมื่อคืน



“พี่เก้อ”



“หื้ม”



“จูบเสือหน่อย”



 

...



“อึก อืออ ... อ”



ค่อยๆขยับตัวช้าๆพร้อมๆกับชูแขนขึ้นเหนือหัวเป็นการปิดขี้เกียจในตอนตื่น แต่...



“โอ๊ยยย เจ็บโว้ย” ร้องออกมาแบบนั้นในตอนที่เหยียดขาออก ความรู้สึกเจ็บร้าวที่เหมือนเคยเกิดขึ้นเมื่อนานมาแล้วแล่นปรู๊ดขึ้นมาที่สมอง กูตื่นเต็มตา ไอ้เอมเบิกตากว้างๆแบบไม่เมาขี้ตา เจ็บมากๆ เจ็บที่ช่องทางด้านหลังจนน้ำตาซึม เป็นความรู้สึกแสบๆเจ็บๆจี๊ดๆ แต่ไม่ได้เจ็บนิดเดียว



“แหกปากอะไรของมึงหนู”  เสียงที่อยู่ใกล้ๆหู ทำให้ตะวผมเกร็งนิ่ง ก่อนจะตามมาด้วยความรู้สึกถึงฝ่ามืออุ่นที่วางอยู่บนสะโพกของผมในตอนนี้ ขนทั่วตัวลุกพรึบพรับในตอนที่มือแกร่งนั่นเลื่อนไปที่ก้นของผม ....ไอ้สาดดดด ใครเอากางเกงกูไป!



“อื้ออ เจ๊!”



“ก้นมึงนุ่มสู้มือกูจังวะหนู” หันหน้าไปมองคนที่นอนซ้อนหลังกันอยู่ตอนนี้ มองเห็นอกแกร่งเปลือยเปล่าของมันที่เด่นชัดต่อหน้าต่อตากัน และตัวของอิเจ๊มันและผมที่ถูกคลุมทับด้วยผ้าห่มนวมผืนที่เราเคยใช้กันอยู่ทุกคืน



“นี่...นี่...”



“อย่าทำหน้าตกใจเหมือนกูข่มขืนมึงจะได้ไหม กูเปล่านะ มึงยอมเองเลย จำได้ค่ะ”



“ผมไม่ได้จะว่าอะไร แต่เจ๊ปล่อยมือออกจากก้นผมนะโว้ย!” สุดจะอาย แหกปากหน้าดำหน้าแดงใส่แม่ง ทั้งผมและมันที่ก็นอนแก้ผ้ากันอยู่ แถมมือของมันยังอยู่ไม่สุก ลูบนิดลูบหน่อย มันอะไร มันยังไง



“เอาออกจากตรงนี้แล้วไปจับตรงนี้หรอ” พูดจบแล้วก็ลากมือมาจับที่แกนกลางของผมแบบตั้งอกตั้งใจ และในเช้าวันใหม่แบบนี้ ก็เสือกสู้มือมันแบบนั้น ช่วยด้วยครับ ช่วยไอ้เอมด้วย



“เจ๊! ไม่เอา”



“ไม่ได้จะเอา แต่กูก็แข็งนะเอม ใครใช้ให้มึงยั่วกูวะ”



“กูเปล่าเลยเจ๊ ทำไมวะ ทำไมมึงหื่นแบบนี้อ่ะ เมื่อก่อนไม่เห็นเป็นงี้เลยนะโว้ย” ปัดมือมันออกแล้วทุบอกแม่งแรงๆหนึ่งที แต่ร่างถึกทึนแบบมันจะไปรู้สึกอะไรล่ะครับ พี่มันก็แค่ยกยิ้มมุมปาก และใช้มือข้างขวาเท้าหัวตัวเองแล้วก็จ้องหน้าผมนิ่งๆ สายตาที่ทำเอาไอ้เอมร้อนไปทั้งตัว



“เมื่อก่อนกูก็เป็นแบบนี้”



“ไม่จริง เมื่อก่อนมึงชอบลิปสติก”



“ตอนนี้กูก็ชอบลิปสติก แต่กูชอบมึงมากกว่าเลยนะรู้ไหม” เลื่อนหน้ามากระซิบข้างหูเบาๆ ก่อนจะเป่าลมร้อนๆเข้ามาที่หูของผมอย่างแกล้งกันจนผมต้องย่นคอหนี



“มอนิ่งที่รัก” พูดออกมาแบบนั้นในตอนที่ผมช้อนตามองหน้าของพี่มันพอดี และริมฝีปากหยักของคนตรงหน้าก็เลื่อนเข้ามาทาบทับผมเบาๆ เป็นแค่จูบเบาๆที่เคล้าคลึงริมฝีปากของผม ไม่ได้ล้ำลึก แต่ก็อบอุ่นดี



“หวายตายแล้ว ควายน้อยของกูหน้าแดงอีกแล้วว่ะ ... น่ารักจังโว้ย”



“เลิกล้อกูเลยนะ”



“ก็ได้ กูไปหาอะไรให้มึงกินดีกว่า วันนี้มีเรียนไปไหวไหม”



“ไหวน่า ผมน่ะถึกทนจะได้พี่ก็รู้นี่”



“หรอ งั้นอีกรอบก่อนไปก็ไหวน่ะสิวะ”



“ไปไกลๆกูเลยสัดพี่ดาบบบบ”



“ก็มึงอยากได้ดาบไม่ใช่ไง กูอยากเสียบแล้วก็ผิดตรงไหนวะ” พี่มันที่ลุกขึ้นยืนทั้งๆที่ตัวเปลือยเปล่า ยืนแก้ผ้าโชว์สัดส่วนอยู่ปลายเตียงแล้วหันหน้ามาถามผมด้วยคำถามนี้แล้วยกยิ้มมุมปากใส่กัน ... คันไม้คันมือ! เขวี้ยงหมอนใส่แม่ง



“ไป๊!”



“กรี๊ดดด อุ้ย ไม่กรี๊ดสิ สัด กูหลุดหมดแม่ง!” พูดออกมาเหมือนคุยคนเดียวทั้งๆที่มือข้างนึงของมันก็คว้าหมอนเอาไว้ด้วยมือข้างเดียวได้ทันแบบเท่ๆ แต่เมื่อกี้ก็เสือกหลุดกรี๊ดออกมา เห็นแบบนี้แล้วไอ้เอมปวดหัวเลยต้องทิ้งตัวลงนอนบนเตียงต่ออีกครั้ง



“นอนไปก่อน เดี๋ยวพี่ทำอะไรเสร็จแล้วจะมาปลุกนะครับ”



“พี่ดาบ”



“ว่าไงครับ”



“มึงกลับไปกรี๊ดเถอะถ้าจะทำกูใจสั่นแบบนี้อ่ะแม่ง!”  สุดจะทนกับคนอย่างเธอ มองไปที่พี่มันที่พันผ้าเช็ดตัวเรียบร้อยแล้วยืนพิงกรอบประตูกอดอกแล้วยกยิ้มมุมปากส่งมาให้ผมแบบคนเหนือกว่า



“อ่อนจังน้าเมียกูเนี่ย”



ฆ่ากูเลย! จะดาบจะดานี่กูก็แพ้หมดแหล่ะ คนแบบไอ้เอมมันอ่อนนนนนนนน หึ่ย



ผมที่เอื้อมมือไปหยิบมือถือของตัวเองมาจากหัวเตียง ไม่รู้ว่ามาอยู่บนนี้ได้ยังไง แต่คิดว่าพี่มันคงเก็บมาวางไว้ให้เพราะเห็นมือถือของมันก็ถูกเอามาวางไว้ข้างกันแล้วเหมือนกัน ผมไม่ได้อยากหลับต่อแต่แค่ยังไม่อยากลุกตอนนี้เลยเลือกจะหยิบมือถือรุ่นพระเจ้าสามหำของผมมาเช็คดู และแค่เปิดมาก็เจอเลย ข้อความไลน์ที่บอกจำนวนข้อความเข้าด้วยตัวเลขสองหลักแบบน่าตกใจ



“เหี้ยไรวะเนี่ย”



เปิดเข้าไปก็เจอเข้ากับข้อความที่ต้องทำให้เบิกตากว้าง ข้อความของไอ้หยีที่คุยกับไอ้เก้อ และก็ลิ้งค์จากในไอจีของอิเจ๊พี่มันที่ผมพึ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก ... แต่เดี๋ยวก่อนนะมึง ภาพสุดท้ายนี่มันอะไรกันวะเห้ย!



กูนี่ลุกเลย ไอ้เอมนี่ลุกขึ้นจากเตียงแล้วคว้ามือถือของมันมาเปิดดู ในแกลลอลี่ยังมีรูปของผมอีกหลายรูป เป็นรูปตอนที่ผมหลับ แต่ไม่มีผ้าห่มคลุมแบบในภาพที่พี่มันลงในไอจีก่อนหน้านี้ พูดตรงๆว่าคือภาพเรทที่บะละฮึ่มบึ้มบั่มมากๆ



กูนี่ก้าวเดินออกจากห้องอย่างไวออกไปจากห้องเลยครับ สั่นนะแต่กูสู้มาก



“เจ๊พี่ดาบมึง!”



“ว่าไง หิวมากจนต้องเดินออกมาเลยหรอวะ กูว่าจะจัด Breakfast in Bedให้แฟนกูสักหน่อยนะเนี่ย”



“เจ๊พี่มึงแอบถ่ายรูปผมไว้หรอวะ” ถามออกไปพร้อมชูหน้าจอมือถือของพี่มันหันไปให้อีกคนดู พี่มันที่หันมามองแว๊บนึงแล้วยกยิ้มขำๆ



“อ้อ กูถ่ายไว้ดูครับ เก็บไว้ช่วยตัวเอง”



“เจ๊พี่มึงพูดอะไรวะ โว๊ะ!”



“ก็กูพูดเรื่องจริง” ผมที่ได้แต่ทำหน้าไม่ถูกกับคำตอบของพี่มัน ไอ้เอมจะเขินหรือจะอะไรก่อนดี ทำไมเป็นคนแบบนี้วะ โว้ยยย



“แล้วนี่ยเจ๊ มึงถ่ายรูปกูลงไอจีด้วย เนี่ยๆๆๆ รูปเนี้ยเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน”



แล้วแค่นับเวลาดูก็รู้ว่าเป็นตอนที่เราสองคนพึ่งทำกิจกรรมเข้าจังวะ โบ๊ะบ๊ะๆกันเสร็จ นึกมาถึงตรงนี้กูนึกออกเลยว่าเสียงแชะก่อนที่จะหลับไปมันคือเสียงอะไร



“อ่อ ใช่ แล้วทำไม”



“นี่มันรูปที่เราพึ่ง...เราพึ่ง...” กูอึกอักเลยครับ จะพูดว่ายังไงดีวะ



“อืม รูปที่กูพึ่งเอามึงเสร็จ”  อะ...ไอ้หน้าด้าน! แม่ง ใครกินอิเจ๊กูลงไปวะ ทำไมพี่ดาบมันถึงเป็นคนแบบนี้



“นั่นแหล่ะ แล้วลงแบบนี้คนอื่นก็รู้สิวะ”



“จะรู้ได้ไง กูเอาผ้าห่มคลุมปิดแทบถึงหัวมึงอ่ะหนู กูก็หวงของกูไหมครับ” ว่าแบบนั้นพร้อมยักไหล่ใส่กัน แล้วหันไปมองหมอข้าวต้มที่กำลังเดือดตรงหน้าแทน กูนี่เดินเข้าไปหาเลย สู้นะ



“แต่แคปชั่นของเจ๊พี่มึงไงวะ เนี่ยๆ”



“ทำไม ไหนดูสิ กูว่ายังไง อ้อ ...‘ขอโทษที่ทำให้เหนื่อยนะครับ นอนพักเยอะๆนะควายน้อยของพี่ ...แต่ปฏิเสธไม่ได้จริงๆนะว่า ....เวลาแฟนเหนื่อย แม่งโคตรน่ารักเลยว่ะ’”



พี่มันพูดตามประโยคที่ตัวเองเขียนออกมาช้าๆชัดๆ และตรงประโยคสุดท้าย มันก็ใช้สายตาคมๆของมันจ้องมาที่หน้าของผมแล้วพูดออกมาชัดๆว่า แม่งโคตรน่ารักเลยว่ะ ย้ำชัดๆทีละคำแบบให้ผมได้ยินแบบชัดเจน



“ก็มึงน่ารักจริงๆนี่ กูอยากอวดแฟนกู”



“แต่ผมอาย”



“อายที่กูลงรูป หรืออายที่กูบอกมึงตอนนี้ ว่ามึงแม่งน่ารักจริงๆว่ะ โดยเฉพาะในชุดผ้าเช็ดตัวครึ่งเดียวและมีรอยจูบกูอยู่เต็มหน้าอกแบบตอนนี้” พี่มันพูดออกมาแบบนั้นพร้อมๆกับเลื่อนสายตาลงมามองที่หน้าอกของผม และใช่...กูพึ่งรู้ว่ากูมายืนโชว์หัวนมให้มันมองเล่นนานแล้ว



“วี๊ดวิ้ว ยั่วกูอ่ะเนอะ ดูออก” ผิวปากใส่กันแล้วยิ้มล้อ



“โว้ยยย ผมไปอาบน้ำแล้วแม่ง ไม่คุยกับพี่มึงแล้วววว”



แพ้ๆๆ ไอ้เอมแพ้อีกแล้วครับแม่ครับ กูนี่หันหลังหนีแล้วก้าวยาวๆตามสภาพที่ขาจะอำนวยม้วนตัวหนีเข้าห้องน้ำไปแบบไม่สู้เลยครับ ได้ยินเสียงพี่มันหัวเราะตามมาจากข้างหลังแบบผู้ชนะ



“ควายน้อยของกู~”



หึย สักวันเหอะ สักวันกูจะเป็นควายที่ยิ่งใหญ่!



.

.

.


ผมที่มองตามแผ่นหลังบางๆที่เดินหนีหน้าแดงไปแล้วได้แต่หัวเราะ ไอ้เอมเวลามันเขินแล้วมันจะหน้าแดง เพราะจริงๆมันเป็นคนผิวขาวมากๆครับ เป็นผิวขาวที่ค่อนข้างสากเพราะขาดการบำรุง แต่ไม่ต้องห่วง หลังจากวันที่มันตกลงเป็นแฟน ใจผมก็สัญญากับตัวเองแล้วว่าจะเอาครีมมาโบกให้ผิวมันกริ๊งกร๊างให้ได้ เชื่อมือดานี่! เอ้ย ไอ้ดาบคนนี้ได้เลย



ชอบครับ เวลาลูบผิวแฟนตัวเองแล้วกูจะได้ฟิน ... บางทีก็กลัวไอ้เอมมันจะตกใจกับนิสัยจริงๆของผม อยากจะบอกให้รู้ว่าพอไอ้ดาบมันคัมแบล็ค มึงก็ต้องรอรับมือให้ดีอ่ะหนู



“หึ”  คิดถึงว่าอยากจะทำให้เด็กมันแพ้แล้วมีความสุข กูนี่อยากจะตามไปฟัดแก้มมันในห้องน้ำอีกสักรอบ แต่คิดว่าควรพอ เดี๋ยวควายตื่น



ส่ายหน้าให้กับตัวเองหน่อยๆ ก่อนจะผิวปากไปด้วย เหยาะพริกไทยดำลงไปในขั้นตอนสุดท้ายแล้วปิดแก๊ส  เดี๋ยวไอ้เอมออกมาจะได้กินข้าวเช้าก่อนไปเรียน



‘ครืดๆ’



ผมที่กำลังจะเดินกลับเข้าไปในห้องนอนของตัวเองก็ได้ยินเสียงมือถือสั่นซะก่อน เป็นเสียงมือถือของไอ้เอมที่วางอยู่บนโต๊ะกินข้าวข้างๆมือถือของผม เดินเข้าไปดูวัตถุโบราณที่กูนึกว่าเป็นชิ้นส่วนยานUFOจากนอกโลก มองเห็นข้อความไลน์ที่เด้งขึ้นมาที่หน้าจอ เป็นข้อความโนติที่ทำให้มองเห็น



[[MOB: พี่เอม...ผมจับพี่ได้แล้ว พี่เป็นพี่รหัสของผมใช่ไหมครับ]]



“ไอ้สัดม็อบนี่ใครวะ” คิ้วกูกระตุกเลยแม่ง รอไอ้เอมออกมากูจะถามให้รู้เรื่องเลยคอยดู คิดอยากจะเดินไปเคาะห้องน้ำมันในตอนนี้ด้วยจริงๆ ... โรคหลงควายน้อยมันจะหนักไปแล้วนะไอ้ดาบเอ้ย



‘ครืดๆๆๆ’



และในตอนนั้นเองเสียงเรียกเข้าของมือถือผมก็ดังขึ้นมา แต่เพราะเปิดสั่นมันก็เลยครูดไปกับโต๊ะเรื่อยๆ 8โมงเช้าแบบนี้ใครแม่งโทรมาหากูวะ ขัดจังหวะสุขสันต์สัดๆ



“ฮัลโหลใครวะ”



((ดานี่...พายเองนะ))


--------------To be continued------------



อู้ยยยย แซ่บๆเลยน้าตอนนี้

ยังมีคนอ่านอ่านอยู่ไหมจ๊ะ ยู้ฮู แคทพาเจ๊พี่ดาบและผองเพื่อนมาเสริฟแล้วจ้าาา

ทั้งเรื่องของน้องเสือ ทั้งเรื่องของเด็กม็อบ ทั้ง...พาพวยคัมแบล็คคค มาทำไม ใครเชิญมา

อิอิ

แคทขอฝาก #สวยๆเป็นผัว ในทวิตเตอร์ไว้ด้วยนะคะ :mew1: :กอด1:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-05-2020 11:25:10 โดย Yoghurt »

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :hao3: พายมาไมอีก

ออฟไลน์ Tassanee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
โอ้ยยยอีรุงตุงนังงง

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
พี่เก้อประกาศตัวแล้วก็ดูแลน้องเสือด้วยนะ

ดูเหมือนวิบากกรรมน้องเอมยังไม่หมดสินะ หรือจะเป็นของพี่ดาบหวา แพ็คคู่มาเลย  :laugh:

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
ใบพายกลับมาทำไมอีกเนี่ย

ออฟไลน์ Jackson98

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
สิ่งนี้จะทำให้คุณสนใจอย่างแน่นอน - https://mmo.tc/NrLB
 :hao6: :katai2-1:

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
บอกเลยว่าแพ้เจ๊ดานี่เวอร์พี่ดาบหนักมากกกก :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ Chucream.nabi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
อะ นังเสือเครียละ.....พาพวย ถ้ามาครั้งนี้ไม่มาดีนะมึง โดน :z6: :z6: :z6: o18

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
มาทำไมอีก พาย!!!!

น่ากลัว,,,,

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Yoghurt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
    • แฟนเพจ
บทที่31


‘ฟู้วว’



ควันสีเทาจางๆที่ค่อยๆลอยไปในอากาศช้าๆในตอนที่ผมค่อยๆปล่อยควันออกมาทางปาก ที่ปลายมวนยังมีแสงสีไฟอ่อนๆให้มองเห็นอยู่ คีบมวนบุหรี่นั้นไว้ที่ปลายนิ้วก่อนจะเคาะลงบนที่เขี่ยบุหรี่อย่างดี ... น่าหมั่นไส้ฉิบหาย ก็แค่ที่เขี่ยบุหรี่ทำไมต้องแพงวะ



“ตอนกูเจอมึงครั้งแรกก็เห็นมึงสูบแบบนี้ สูบจัดหรอวะ”



“แล้วแต่ หลังๆเบาลง ถ้าเมื่อก่อนก็เกือบซองมั้ง” ตอบคนตรงหน้าที่ตอนนี้มันกำลังยืนโชว์หุ่นท่อนบนของมันพิงกับกระจงใสที่มองออกไปเห็นแสงสียามค่ำคืนในห้องนอนของมัน



“เบาๆลงบ้างเหอะ มึงจะตายก่อนมึงจะเรียนจบ”



“บอกตัวมึงเหอะ” ย้อนมันกลับไป แล้วยกบุหรี่ที่ถืออยู่ขึ้นสูบอีกครั้ง เงยหน้าค่อยๆปล่อยควันออกมาแล้วหลับตาลงช้าๆ รู้สึกสมองโล่งดี



“หึ เดี๋ยวนี้กูไม่ค่อยสูบเท่าไหร่แล้ว ไอ้เอมมันไม่ชอบ” มันบอกผมพร้อมรอยยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่ไม่ได้ยิ้มให้กับผม แต่เหมือนเป็นรอยยิ้มให้กับความทรงจำของตัวเองมากกว่า ผมเลือกจะเมินหน้าหนีมันแล้วเปลี่ยนเป็นตั้งใจสูบบุหรี่ต่อ



“เบาหน่อยมึง เดี๋ยวก็สำลักตายห่าพอดี” มันที่เดินมาดึงบุหรี่ออกจากปากของผม ทรุดตัวลงนั่งบนเตียงของมันข้างๆกัน แล้วเอาบุหรี่มวนนั้นไปสูบต่อซะเอง



“เป็นเหี้ยอะไรต้องมาแย่งกูวะ อยากสูบมึงก็จุดใหม่ดิ” 



“เสือกไรกูล่ะ ของๆกู”



“K”  กรอกตาใส่มันหนึ่งที ก่อนจะลุกขึ้นยืน แต่ติดตรงที่มือหนาของอีกคนคว้าข้อมือของผมเอาไว้ซะก่อน มันที่ดึงตัวผมลงมานั่งลงบนตักของมันแบบพอดิบพอดี



“ทำเหี้ยไร”



“แล้วมึงจะไปไหน” มันไม่ได้ตอบผม ก็แค่ยกยิ้มมุมปากมองมาก็แค่นั้น สายตาคมของมันที่ดูลึกลับแบบที่ยิ่งมองยิ่งละสายตาไปจากมันไม่ได้ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมใครๆก็หลงมัน ไปผับด้วยกันไม่มีคืนไหนที่มันจะไม่มีใครกลับไปด้วย ... เป็นคนในแบบที่ทำให้คนหลงเสน่ห์ได้ง่ายๆ



“เรื่องของกู”



“ยอกย้อนเก่งจังนะปากมึงเนี่ย”



“ก็ปากกูอี...อื้มม”  คำพูดของผมถูกกลืนไปในตอนที่ริทฝีปากได้รูปของมันประกบลงมาอย่างหนักหน่วง ขบเม้มแบบไม่เบาๆ ลิ้นล้อนที่ไร้ไปตามรูปปากของผมอย่างร้อนแรง ก่อนจะแทรกปลายลิ้นเข้ามาในโพลงปากของผมอย่างเอาแต่ใจ ในตอนที่ตั้งใจจะผละหน้าหนี แต่มือของมันก็เลื่อนขึ้นมาจับที่ด้านหลังคอของกัน ล็อคใบหน้าของผมเอาไว้อย่างได้จังหวะ ลิ้นร้อนที่ขบเม้มดูดปลายลิ้นของผมอย่างคนที่จงใจแกล้งกัน



“อื้ออ เจ็บนะเว้ย”



“ก็อยากโดนจูบไม่ใช่หรือไงวะ จูบแล้วทำไมยังงอแง” ละใบหน้าออกมาแล้วยักคิ้วแบบกวนๆส่งมาให้ผม ในสายตาของมันยังคงฉายแววล้อกันไม่เลิกกับคำพูดที่ผมได้พูดไปก่อนหน้านี้



“งอแงพ่อง”  กวนส้นตีน โคตรจะเกลียดไอ้หน้าตาที่เหมือนจะจงใจยิ้มล้อกันแบบนั้น พอหันหน้าหนี มันก็ทำแค่ล็อคเอวของผมเอาไว้ด้วยวงแขนงูหลามของมัน



“ไอ้จมูกรั้นๆนี่มันได้มาจากไหนวะ ทำไมมันถึงดื้อจัง” มันที่พูดแบบนั้นพร้อมๆกับเอื้อมมือมาบีบจมูกกันแบบไม่เบา ส่ายไปส่ายมาจนจมูกกูโยก



“เจ็บนะไอ้สัดพี่เก้อ”



“หึ ไอ้ลูกเสือน้อย”  กูเกลียดไอ้เสียงหัวเราะในลำคอแบบนี้ด้วย หล่อมากมั้งไอ้สัด ... อืม ก็หล่อจริง แต่กูจะไม่มีทางยอมรับกับมึงหรอกนะ เพราะถึงไง กูก็คิดว่ากูหล่อกว่ามึงมากๆอยู่แล้ว



“มึงสิน้อย แล้วเอาบุหรี่ไปไกลๆกู มันจะจี้เอวกูแล้วเนี่ยไอ้สัด” มันที่ยกยิ้มขำผมนิดหน่อย แต่สุดท้ายก็เอี้ยวตัวไปขยี้บุหรี่ให้ดับลงบนที่เขี่ยบุหรี่แก้วคริสตัลของมันจนดับสนิท



“ ...วันนี้คงเป็นวันเหี้ยๆของมึงสิใช่ไหม”



“ของพี่มึงก็ด้วยใช่หรือเปล่าล่ะ”  หันกลับไปมองหน้ามัน จ้องตาคมดุของมันนิ่งๆ และมันเองก็ไม่ได้หลบตาของผมเช่นกัน มันที่ก็แค่ยกยิ้มมุมปากส่งมาให้ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา แค่นั้นก็เข้าใจแล้ว



“เดี๋ยวมันก็ผ่านไปแบบที่มันเคยผ่าน” มันบอกผมแบบนั้นพร้อมๆกับที่ยื่นมือมาลูบข้างแก้มของผม สายตาคมๆของมันทิ่มแทงลงไปในหัวใจของผมเพียงเพราะคำพูดไม่กี่คำของมัน รู้สึกอยากจะร้องไห้ออกมาในตอนนี้



“ถ้าจะร้องก็ร้องไห้ให้พอแค่กับกู มึงไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลกเสือ”



“แล้วมึงล่ะ ไม่อยากจะร้องหรอวะ กับความเสียใจของมึงในตอนนี้”



“กูไม่ร้องหรอก มีมึงร้องแทนกูอยู่แล้วนี่ไง”  น้ำตาของผมไหลลงมาอาบแก้ม ไม่รู้ว่ากำลังเสียใจเรื่องอะไรกันแน่ เป็นความรู้สึกที่สับสนกันไปหมด ทั้งเรื่องในอดีตของตัวเอง และเรื่องของคนตรงหน้าในตอนนี้ แต่ที่แน่ๆมันกำลังทำให้ผมรู้สึกว่า อย่างน้อยผมก็ไม่ได้ร้องไห้เสียใจอยู่ตัวคนเดียวเหมือนที่ผ่านมา



.

.

.

 

“อื้มมมม”



เสียงครางยาวๆในลำคอของผมที่ดังคละเคล้าไปกับกลิ่นเหงื่อ กลื่นเหล้าและเสียงหอบหายใจของอีกคนที่ดังอยู่ข้างๆหู  ได้แต่ทิ้งตัวนอนลงกลางเตียงแล้วครางออกมาแบบห้ามไม่อยู่ในตอนที่ฝ่ามือของคนตรงหน้าก็ไม่ยอมอยู่นิ่งเลยสักวินาที



“..อื้ม...แน่ใจหรอวะเสือ”



ได้แต่หลับตาลงช้าๆในตอนที่เสียงเข้มว่าออกมาแบบนั้นพร้อมๆกับที่สันจมูกโด่งของอีกคนค่อยๆลากผ่านไปตามโครงหน้าของผมมาลำคอ มาที่ไหปลาร้า ก่อนจะไล้ช้าๆมาที่ยอดอก  ทุกๆส่วนที่จมูกโด่งลากผ่าน เหมือนกับมันกรีดผิวของผมไปด้วยจนต้องเผลอหายใจกระตุก



“เสือ...”



“ก็แค่วันไนท์ไม่ใช่หรือไงวะ” .... อืม ก็แค่วันไนท์เหมือนที่ผมกับมันเคยๆทำกันมาในวันก่อนๆ ก็แค่วันไนท์จริงๆ



“หึ มึงอย่าเปลี่ยนใจก็แล้วกัน” 



“หรือมึงอยากจะหยุด”  ลืมตาจ้องมองคนตรงหน้าที่ก็มองตอบกลับมาแบบไม่ไปไหน สายตาของมันที่จ้องมองอยู่ที่แค่ใบหน้าของผม  ดวงตาของมันที่ผมไม่เคยอ่านออก



“แล้วมึงล่ะ อยากให้หยุดหรือเปล่า”  มันถามออกมาแบบนั้นโดยที่ไม่ตอบคำถามของผม ได้แต่เผลอขบเม้มริมฝีปากของตัวเองเบาๆ กลืนน้ำลายหนืดๆลงไปในลำคออย่างช้าๆ จ้องมองไปที่ใบหน้าหล่อคมนี้อย่างไม่มีทางเลี่ยง ... มันที่กำลังบีบให้ผมพูดความในใจของตัวเองออกมา



“ไม่ ก กูไม่อยากหยุด”



จบคำพูดของผมด้วยรอยยิ้มมุมปากของมัน พร้อมๆกับที่ฝ่ามือหนาลากผ่านไปที่ต้นขาของผม มันที่จับขาของผมยกแล้วพาดไปที่บ่าของมัน สายตาวาววับที่มาพร้อมๆกับรอยยิ้มกวนส้นตีนที่ทำให้รู้สึกร้อนหน้าจนต้องเสหน้าหนี



ท่อนเอ็นแข็งขืนที่ถูไถเบาๆไปที่ช่องทางด้านหลังของผมอย่างช้าๆเหมือนจงใจยั่วอารมณ์



“อื้อ เก้อ!”



“ไม่ไหวแล้วหรอวะ งั้นกูใส่สดเลยนะ”



“พ่องตาย! ใส่ถุงด้วยไอ้สัด” ยกขาอีกข้างขึ้นเตะที่ข้างเอวของมันอย่างแรง เห็นมันแอบเบ้หน้านิดๆแต่ก็ไม่ได้บ่นอะไร



“อยากสด”



“มึงไปตรวจเลือดมาก่อนไป กูกลัวติดเอดส์ มึงยิ่งมั่วๆ”



“กูตรวจทุกปีอยู่แล้ว”



“แบบมึงต้องทุกๆเดือนเถอะสัด” ด่ามันออกไปแบบนั้น ก่อนจะเอื้อมมือขึ้นไปหยิบกระเป๋าตังค์ของตัวเองที่วางไว้บนโต๊ะข้างๆหัวเตียงของมัน



“จะใส่ได้เร้อ ของกูใหญ่กว่ามึงอยู่นะ”



“สัด ไม่ได้ใหญ่มากทำเป็นอวด”



“ถ้ากูดันไปพรวดเดียวมึงอย่าร้องละกัน”



“เอาไป!” ไม่อยากฟังมันพูดอีกเลยโยนถุงยางฟาดไปใส่หน้าอกมันแรงๆทีนึง มันที่แค่ขำนิดๆก่อนจะหยิบขึ้นมาดู แล้วตามมาด้วยคิ้วเข้มๆที่ขมวดเข้าหากันแล้วละสายตามาจ้องหน้าผม



“ผู้หญิงคนนึงเคยให้กูมา แต่เป็นไซต์ผัวเค้า”



“มึงไปเอาเมียใครอีกวะ”



“จะรู้ได้ไงล่ะ ตอนไปบอกไม่มีผัว รู้ตอนยื่นถุงยางมาให้กูพร้อมบอกของผัวค่ะ”



“สัดเอ้ย” มันที่ขำออกมาแล้วยกถุงยางขึ้นกัดก่อนจะฉีกมันออก ฝ่ามือหนาอีกข้างที่ก็ขยับแกนกายของตัวเองไปด้วยในตอนนี้ มันที่ปลายตามามองตาผมไปด้วยในตอนที่กำลังชักรูดของมันอยู่เบาๆ เผลอกลืนน้ำลายไปจนได้ในตอนที่เห็นแบบนั้น และก็เหมือนกับว่าท่าทางของผมจะถูกใจใครอีกคนจนมันต้องยิ้มกว้างๆออกมา เป็นครั้งแรกเท่าที่จำได้ ที่เห็นมันยิ้มแบบนี้มาให้กัน



“อึก อื้ออออ สัด!” ได้แต่ร้องครางยาวๆออกมาพร้อมๆกับเชิดหน้าขึ้นครางแบบห้ามไม่อยู่ในตอนที่มันดันแกนกายของมันเข้ามาสุดลำในทีเดียว เจ็บจนจุกจนน้ำตาเล็ด พูดอะไรไม่ออกสักคำเดียว นอกจากสัด



“ไหนใครว่าของกูไม่ใหญ่มากไงครับ หื้ม” พูดพร้อมยิ้มยียวนใส่กัน พร้อมๆกับเอียงหน้าเข้ามาจูบแก้มกันเบาๆอีกหนึ่งที หัวใจของผมเต้นระรัวในตอนนี้กับการกระทำที่มันไม่ได้ตั้งใจอะไร



“อ๊ะ อึก .... เบาๆ อ๊ะ”



“อื้มม...ทำไมแน่นจังวะเสือ ก็พึ่งทำกันไปไม่ใช่หรือไงวะ” พูดพร้อมๆกับที่มันเริ่มโยกสะโพกจากช้าเนิบนาบแต่เน้นตรงจุดแบบหนักๆเปลี่ยนเป็นโยกถี่ๆตามแรงอารมณ์ที่โหมพัดมามากขึ้น ผมหลับตาลงในตอนที่เอื้อมมือไปกอดมันไว้แน่น มันที่โยกแกนกลางของมันเข้ามาจนจมมิดด้ามในทุกครั้งอย่างตรงจุดเหมือนคนที่รู้ทุกซอกทุกมุมในตัวของผมดี แทรกตรงเข้าจุดกระสันในร่างของผมจนต้องตอดรัดถี่ๆเพราะความเซียวซ่าน เสียงเนื้อกระแทกของกันและกันพร้อมด้วยเสียงครางจากคอดังไปทั่วทั้งห้องนี้   สติของเราทั้งคู่ที่รับรู้ได้แค่การเชื่อมต่อของกันและกันของส่วนกลางที่เด้งเข้าหากันอย่างดุเดือด



“อ๊ะ เก้อ อื้ออ”



“ขึ้นให้หน่อยดิเสือ” มันที่พลิกตัวลงไปนอนที่ข้างล่างของผม จับตัวของผมให้ขึ้นมานั่งคล่อมที่กลางตัวของมันแบบไม่ถามกูสักคำ ไม่ชอบท่าแบบนี้ ท่าที่พอก้มหน้าลงไปก็จะเห็นกล้ามท้องและกล้ามอกของมันแบบชัดเจน รวมถึงสายตาแวววาวของมันนั่นด้วยที่จับจ้องมาอยู่ที่ร่างกายของผมแบบที่ผมจะหลบสายตาไม่ได้ ... ตั้งใจจะด่ามันสักที แต่ก็พูดไม่ออกสักคำเพราะอีกคนที่เด้งสะโพกสวนขึ้นมาแบบยียวนกวนส้นตีน



“มึง อ๊ะ ไอ้ อื้ออ” 



“เสือครับ เร็ว ควบให้พี่หน่อย”  พูดออกมาแบบนั้นด้วยน้ำเสียงที่ใครฟังก็ต้องใจสั่น มันที่ยกยิ้มทั้งหน้าทั้งตาในตอนที่พูดออกมา จนผมต้องเผลอกัดริมฝีปากตัวเอง ได้แต่วางฝ่ามือลงบนกลางหน้าท้องที่เป็นลอนได้รูปนั่นแล้วค่อยๆโยกสะโพกลงรับกับจุดกระสันของตัวเอง เสียวจนต้องเผลอซี๊ดปาก เป็นท่าที่พอทำแล้วจะรู้สึกมากกว่าท่าอื่นๆ



“อึก เก้อ เบา...อ๊ะ อ๊ะ”



“เสียวจังวะเสือ” พูดออกมาแบบนั้นแต่ยังคงนอนตาพราวแบบมีความสุข มันที่เอื้อมมือมาจับที่ข้างเอวของผม กดย้ำจังหวะของผมให้กระแทกลงไปที่แกนกายของมันแบบลึกสุดๆ พร้อมๆกับที่เจ้าตัวก็เกร็งสะโพกสวนขึ้นมาสอดใส่กันแบบไม่ออมแรง ได้แต่หอบหายใจถี่ๆ รู้สึกเสียวจนต้องเชิดหน้าขึ้นไปมองเพดาน



“จริงๆมึงก็เซ็กซี่นะเสือ”  เสียงทุ้มเข้มที่ขึ้นมาใกล้ๆ ผมที่ค่อยๆปรือตาขึ้นมองแล้วก็เห็นว่าเป็นมันที่เด้งตัวขึ้นมาหา ก่อนจะก้มหน้าลงไปขบเม้มลงที่หัวนมของผม มืออีกข้างของมันที่กอดเอวของผมเอาไว้แน่นๆ



“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ ตรงนั้นพี่เก้อ อ๊ะ กูจะเสร็จ”



“เสร็จเลย ซี๊ด”



มันที่บอกออกมาแบบนั้นและยังไม่หยุดกระแทกกระทั้นเข้ามาถี่ๆ แต่มันกลับเพิ่มความรุนแรงให้ฝังเข้ามาในร่างของผม ยิ่งเร็วและยิ่งลึกจนผมยิ่งตอดรัดท่อนเอ็นร้อนนั้นมากขึ้นไปอีก ท่อนกายแข็งขืนที่ฝังอยู่ในร่างของผมรับรู้ได้เลยว่ามันกำลังร้อนผ่าวและกำลังเต้นตุบๆของที่ด้านหลัง  และจนสุดท้ายร่างทั้งร่างของผมและของมันก็ทนไม่ไหว ได้แต่ปลดปล่อยหยาดน้ำออกมาเลอะอยู่ที่หน้าท้องของมัน



“อ๊าห์ !”



“อึก ซี๊ดด”



ได้ร้องครางออกมาแบบนั้นพร้อมๆกับที่ซบหน้าลงไปบนบ่าแกร่งของมันอย่างเหนื่อยอ่อน เสียงหอบหายใจถี่ๆทั้งของผมและของมันที่ดังประสานกันไปทั่วทั้งห้อง ทั้งกลิ่นเหงื่อและกลิ่นของกิจกรรมอย่างว่าที่ปนเปไปกับกลิ่นบุหรี่อ่อนๆเมื่อก่อนหน้านี้



‘ครืน..ครืน..ครืนนน’



เสียงสั่นของเครื่องมือสื่อสารเครื่องหรูสีดำที่สว่างวาบขึ้นมาจากที่หัวตัวทำให้ผมต้องปรือตาขึ้นมามองช้าๆ เป็นมือถือของไอ้สัดพี่เก้อ เป็นข้อความสั้นๆที่จับใจความได้ดี ผมที่ยังนั่งอยู่บนตัวของมันและซบหน้าลงกับไหล่ของมันแบบนี้เห็นข้อความจากตรงนี้ได้ชัดเลย



[[หยี: ไอ้เอมมันมีแฟนแล้วจริงๆ กูอยากให้มึงยอมรับ แล้วมาทำตัวเป็นเพื่อนแบบที่ควรจะเป็นได้แล้ว มึงอาจจะเสียใจ แต่อยากให้รู้ไว้ว่ากูเองก็เป็นห่วงมึง แต่กูก็ไม่อยากเห็นไอ้เอมต้องอึดอัดกับการทำตัวเป็นหมาบ้าของมึงเหมือนกัน]]



พี่เอมมีแฟนแล้ว ... และนี่ก็คงเป็นเรื่องราวแย่ๆในวันนี้ของมันสินะ



“อื้อ...โทรศัพท์มึงสั่น”  ผมพูดออกไปแบบนั้นพร้อมๆกับเสียงหอบหายใจ มันที่ยังคงกอดเอวของผมเอาไว้ไม่ปล่อย ฝั่งจมูกโด่งลงบนหน้าอกของผม ขบเม้มและเลียเบาๆไปที่หัวนมอย่างแกล้งๆปลุกเร้าไม่เลิก



“ช่างมันกูไม่อยากสนใจ”



“แต่ นั่นมันพี่หยี...”



“กูอยากสนใจแค่มึง” มันที่ผละหน้าออกมาจากหัวนมของผมแล้วเงยหน้ามองกันนิ่งๆว่าออกมาแบบนั้น เป็นสายตาคมที่เผาไหม้ร่างกายของผมและก็ทำให้ใจสั่นแบบไม่หยุด



“อื้ม” ตอบรับมันออกไปเบาๆแบบนั้น ...เพราะคนเรา ก็มักจะมีคำตอบในแบบที่ตัวเองต้องการให้กับตัวเราเองเสมอ



...



“ทำไมหน้าเครียดจัง ทำไมหน้าเครียดจังงงงง”  ผมที่เดินออกมาจากห้องน้ำร้องทักคนที่นั่งทำหน้าไม่สู้ดีอยู่ที่โซฟากลางห้องรับแขก คิ้วได้รูปที่ได้รับการตกแต่งอย่างดีขมวดเข้าหากันนิดๆ พอผมร้องทักออกไปแบบนั้น มันก็เงยหน้าขึ้นมามองกันก่อนจะกวักมือเรียก



“ไอ้หน้าเหี้ยนี่ใครวะเอม”  เสียงจริงจังที่ถามออกมาแบบนั้นแล้วยื่นมือถือมาให้ผมดู ได้แต่ยื่นหน้าเข้าไปหา ก่อนจะจ้องมองภาพตรงหน้าแบบ...



“ใครวะ”



“มึงถามกู แล้วกูจะถามใครวะหนู”



“อ้าว แล้วอิเจ๊หารูปผู้ชายคนนี้มาจากไหนอ่ะ นี่อย่าบอกว่าเจ๊ส่องผู้ชายอีกนะเว่ย” กูนี่ขมวดคิ้วเลยนะ หรี่ตามองแรงใส่มันเลย แต่ยิ่งพอทำแบบนั้นกลับเป็นว่าอิเจ๊พี่มันยิ่งทำหน้าไม่สบอารมณ์มากขึ้นไปอีก



“เดี๋ยวมึงจะโดนกูฟาดนะหนู”



“อย่านะโว้ย ผมยังเจ็บมากๆอยู่เลยนะเว้ย” ถอยหลังหนีพร้อมเอามือปิดตูดไว้แล้วเดินห่างออกไปไกลจากมันอีกสามก้าวครึ่ง



“ไม่ตลกเอม”



“ผมก็ไม่ตลกเหมือนกันนะเว้ย อะไรของเจ๊อ่ะ”



“ไอ้หน้าเหี้ยนี่ทักไลน์มึงมา”  บอกแบบนั้นพร้อมโยนมือถือของผมลงบนโซฟา ถึงจะเป็นโซฟานุ่มๆแต่กูนี่ก็อ้าปากค้างเลยนะ มันทำไม มันทำไมต้องทำร้ายมือถือกันแบบนั้น เกิดแม่งตายขึ้นมาแล้วผมจะใช้อะไรล่ะเห้ย ปัดโถ่ ใจหยาบ



“หา ทักผมมาหรอ ผมไม่รู้จักนะเห้ย”



“มันทักมึงมา กูไม่ชอบหน้าแม่ง”



“เดี๋ยวๆ ใจเย็นๆนะคนสวย ทักมาว่าอะไรวะ” ถามพี่มันพร้อมๆกับเดินเข้าไปหา



“อ๊ะ ถือว่ามึงเรียกกูว่าสวยนะ กูจะยอมใจเย็นให้มึงเลเวลนึง” อีกคนที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วยกมือขึ้นเอาผมทัดหู ทั้งๆที่ผมมันก็ไม่ได้ยาวมากมาย แต่จริตดั้งเดิมที่เคยมีมานานมันก็ยังไม่หายไปอยู่ดี  กูพูดว่าสวยนิดสวยหน่อยนี่ทำเป็นได้ใจ ตอนเด็กๆไม่มีใครสอนอิเจ๊พี่มันหรอวะ ว่าคนเราเค้าโกหกกันได้อ่ะ



ผมไม่สนใจพี่มันอีก ทำแค่หยิบมือถือของตัวเองขึ้นมาเปิดข้อความอ่าน



[[MOB: พี่เอม...ผมจับพี่ได้แล้ว พี่เป็นพี่รหัสของผมใช่ไหมครับ]]



 “อ้ออ”



“อะ รู้จักเลยใช่ไหม ว่าไง มึงแอบเล่นชู้ลับหลังกูหรอวะอิหนู”



“เล่นชู้เชี่ยอะไรล่ะวะ นี่มันน้องรหัสผมเอง แต่เอาจริงๆผมก็พึ่งจะเห็นหน้าชัดๆนะเนี่ย หล่อดีว่ะ สายผมนี่มันรวมแต่คนหล่อไว้จริงๆนะเนี่ย"



“นี่มึงกล้าชมชายอื่นต่อหน้ากูหรอวะไอ้ควายน้อย”



“ก็น้องมันหล่อจริงๆนะ เจ๊ไม่คิดงั้นหรอ” หันไปถามอีกคนแบบตั้งใจแกล้ง เห็นมันที่ขมวดคิ้วเป็นปมแบบนั้นแล้วอยากจะขำออกมาให้ลั่น



“ใครแม่งจะมาหล่อกว่ากูวะสัด” บ่นงึมงำๆเหมือนหมีหงุดหงิด หน้าหงิกจนผมกลัวว่าหน้ามันจะยับ แล้วจะเดือดร้อนต้องวิ่งไปซื้อสกินแคร์มาบำรุงอีกหลายหมื่น



“ยอมรับหรอวะว่าหล่อ” ผมที่เอียงหน้าเข้าไปถามแล้วยิ้มกว้างๆแบบล้อเลียนพี่มัน  อีกคนที่ถอนหายใจออกมาแบบหงุดหงิดแล้วตอบกลับผมมานิ่งๆพร้อมยื่นหน้าเข้ามาใกล้



“หรือมึงว่าผัวมึงไม่หล่อ เหอะ หลงเสน่ห์กูอยู่เห็นๆทำมาพูด”



“ค ใคร ใครวะ ไม่มี๊”



“โถ่ๆ ควายน้อยตะกุกตะกักจังเลยว่ะ หลงกูดูออก”



“หึย พูดดีไปเหอะ คำก็ควายสองคำก็ควาย ผมไปเรียนแล้วแม่ง! กูจะเป็นควายมีการศึกษาสูง คอยดูเหอะ หึ่ย”  เด้งตัวลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าเป้มาสะพาย



‘เพี้ยะ’



“ซี๊ดดด”  สะดุ้งสุดตัวพร้อมๆกับขมิบก้นแบบทันที เจ็บจนน้ำตาเล็ด ได้แต่อ้าปากค้างในตอนที่ฝ่ามือหนานั่นฟาดเข้ามาที่ก้นผมแบบเน้นๆ หันหน้าที่น้ำตาคลอไปมองอิเจ๊พี่มันแบบโกรธๆ อยากด่า ไอ้เอมอยากด่าแต่ทำไม่ได้ กูเจ็บจนปากสั่น



“กูหึงโหดนะบอกก่อน”



แล้วทำไมมึงไม่บอกกูก่อนค่อยโหดกับกูล่ะไอ้สาดดดด เจ็บไปถึงต่อมใต้สมองจี๊ดๆ มึงลืมหรอว่าเมื่อคืนมึงพึ่งเอาดาบฟาดฟันก้นกูมาแบบหนักหน่วงนะไอ้คนไม่สวย!!



.

.

.



“ตั้งใจเรียน เลิกแล้วเดี๋ยวกูมารับ”



“ไม่ต้องมารับก็ได้ ผมกลับเองได้น่า” ยื่นหมวกกันน็อคที่พึ่งถอดออกเสร็จไปให้คนที่ยังนั่งคล่อมอยู่มอเตอร์ไซค์อยู่ตอนนี้ ใช่ครับอิจุ๊บจิ๊บคันโปรดคันเดิมของพี่มันขี่มาอย่างเท่เลยล่ะ



“ทำไมต้องขัด กูอยากมารับแฟนกู”



“อยากมารับเค้าเพราะหวงเค้าล่ะสิ หูยยย ดูออกนะ” ผมที่ว่าแบบนั้นแล้วแกล้งเอื้อมมือไปเกาคางพี่มันแบบแกล้งๆ



“รู้แล้วก็ดี อย่าให้ไอ้หน้าไหนมาสนตะพายควายน้อยของกูได้นะคะ” ยกยิ้มมุมปากแล้วขยิบตาใส่ สัด ว่ากูอีกแล้ว



“กลับไปเลยไปอิเจ๊พี่ดาบ แม่ง”



“หึหึ รู้ไหมว่ากูชอบแกล้งมึง”



“พี่เป็นโรคจิตหรอวะ”  ทำหน้าหงุดหงิดใส่ แต่อีกคนก็ทำแค่ยิ้มชอบใจไม่สะทกสะท้านต่อความหงุดหงิดของกูเลยแม้แต่น้อย



“โรคจิตอะไรวะ ก็มึงน่ารัก ขนาดโมโหยังหน้ารักเลย หวงมึงวะเอม อยากจะกลืนมึงลงท้อง”



“โวะ ผมไม่อยากคุยด้วยแล้ว”



“เป็นเขิน”  ว่าแบบนั้นแล้วเอื้อมมือมาลูบผมกันเบาๆ สายตาคมที่จ้องกันทำให้แก้มผมขึ้นสี เอาล่ะไอ้เอม นัดนี้มึงก็แพ้เหมือนเดิมเด๊ะๆเลยนะ



“รู้แล้วก็เลิกล้อผมได้ไหมวะ”



“เลิกล้อก็ได้ ไปเรียนได้แล้วไป”



“พี่ก็ขับรถกลับดีๆนะ”  บอกออกไปพร้อมยกมือขึ้นโบกบ๊ายบายไปให้ มันที่มองมาที่ผมแล้วยกยิ้มมุมปาก ในสายตาของมันที่ผมไม่อยากจะคิดเข้าข้างตัวเองเท่าไหร่ว่ามันมีแววเอ็นดูแฝงอยู่ในนั้นด้วย



รู้สึกเขินจนต้องหันหลังเดินหนีออกมาก่อน ไม่อยากจะให้มันเห็นแก้มแดงๆของผมแล้วจะล้อกันอีก ขี้แกล้ง



“เอม!”  เสียงเรียกที่ดังขึ้นมาอีกในตอนที่ผมเดินห่างออกมาไม่กี่ก้าว พอหันกลับไปมองก็เห็นพี่มันที่เอามือเท้าอยู่บนหมวกกันน็อคของตัวเองแล้วมองกลับมาที่ผม  สายตาคมๆที่แฝงไปด้วยความจริงจังจนผมอดจะแปลกใจไม่ได้



“หื้ม”



“เย็นนี้กูจะพามึงไปที่บ้านนะ”



“ห๊ะ!” ร้องออกมาแบบนั้นแล้วเบิกตากว้างขึ้น ตากูตอนนี้เรียกได้ว่าโตเท่าไข่ .... บ้าน พากูไปบ้านไหนก่อนเอ่ย



“อืม กูจะพามึงไปหาพ่อกับแม่กูนะ”



“เห้ย! ไปทำไมวะ จ..เจ๊ คือมันไม่ แบบ...ผม”



“ไม่ต้องตกใจขนาดนั้น ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก”



“เจ๊...ผมไม่ไปได้ไหมวะ”  เดินกลับไปหาพี่มันแบบคอตกๆแล้วเกาะแขนมันไว้แน่นๆ ไปหาพ่อแม่อะไรของมึงวะ ผมว่าผมไม่ไหว คนแบบผม เด็กแบบผมน่ะ ....



“เชื่อใจกูนะ กูจริงจังกับมึง” พี่มันที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วยกมือลูบแก้มผมเบาๆ สายตาคมที่มองมาแบบจริงจังจนสุดท้ายผมทำได้แค่ก้มหน้าลงพยักหน้าตอบพี่มันช้าๆ



“เจอกันตอนเย็นนะหนู”



“ครับ”  ได้แต่ตอบกลับออกไปอ่อยๆแบบไม่มีกะจิตกะใจ ไอ้เอมเจ็บไข่มากๆเลยสังคมมมม~~~~



‘ฟอด’



“พี่ไปนะครับ” เสียงเข้มๆที่ดังข้างๆหูของผมตอนที่อีกคนค่อยๆผละใบหน้าออกไปจากข้างแก้มของผมช้าๆ ในวินาทีที่สบตากันก็เหมือนกับโลกที่หยุดหมุนลงในตอนนี้ ที่เค้าว่ากันว่าเวลามีความรักเราจะรู้สึกเหมือนมีผีเสื้อบินอยู่ในท้อง เรื่องนั้นมันเป็นยังไงไอ้เอมไม่รู้หรอก แต่ถ้าบอกว่ามีควายวิ่งเอาเขาชนท้องแล้วล่ะก้อ~~ ไอ้เอมรู้ดีเลย เขินมากเลยโว้ยยยยย



ได้แต่ยืนมองมอเตอร์ไซค์คันเท่นั่นแล่นออกไปช้าๆ พร้อมๆกับที่ผมค่อยๆยกมือขึ้นมาจับแก้มตัวเองเบาๆ แก้มร้อนแบบที่ไม่ใช่ฤดูร้อนจังเลยวะ ผมหันหลังเดินออกจากบริเวณลานจอดรถอีกครั้ง แต่ก็ต้องชะงักก้าวของการเดินของตัวเองในตอนที่เห็นรถตราสี่ห่วงคันดำที่คุ้นตาที่จอดอยู่ไกลๆตรงนั้น พอเห็นแล้วก็นึกขึ้นได้เลยว่าตั้งแต่เมื่อคืนนี้ยังไม่ได้ตอบกลับไอ้เก้อเลยนี่หว่า คิดมาถึงตรงนี้ก็ขนหัวลุกกันเลยทีเดียว  ไอ้สัดเก้อต้องโมโหมากๆแน่เลยว่ะ คิดมาถึงตรงนี้แล้วตั้งท่าจะย่องหนีแต่ต้องหยุดก่อนเพราะประตูรถฝั่งข้างคนขับถูกเปิดออกมาซะก่อน



“เอ๊ะ!” ได้แต่ร้องออกมาแบบนั้นในตอนที่เห็นขายาวๆของใครบางคนที่ไม่ใช่ขาไอ้เก้อแน่นอน และคนๆนั้นที่อยู่ในชุดเสื้อนักศึกษาที่ดูจะตัวใหญ่กว่าตัวเองไปมากก็ไม่ใช่ใครนอกจาก



“เชี่ย น้องเสือ...มาด้วยกันได้ไงวะ” ต่อมความเสือกมันเต้นตุ่มๆต่อมๆ ไอ้เอมอยากจะรู้เรื่องราวซะเหลือเกิน



“ทำอะไรอยู่ครับ”



“เชี่ย!! มึงใครเนี่ย”  ได้แต่ร้องออกมาแบบนั้นตอนที่หันหน้ากลับมาเจอหน้าของใครอีกคนที่ก้มลงมาใกล้ๆหน้ากัน ผมได้แต่ผงะถอยหนีออกไปจนอีกฝ่ายหัวเราะขำกันออกมา



“พี่เอม ผมม็อบเองครับ”



“ม็อบแม็บเหี้ยอะไร ไม่รู้จักจ้า”



ไอ้สัดนี่คือใครก่อนเอ่ย หันไปมองที่รถของไอ้เก้ออีกทีทั้งมันและน้องเสือก็หายไปแล้ว ปัดโถ่เว้ย! ไอ้ม็อบแม็บนี่แม่งตัวขัดความเสือกไอ้เอมจริงๆ ยังจะมีหน้ามายิ้มหวานอีกนะมึง!



--------------To be continued------------



มาแล้วจ้าาา วันนี้มาดึกหน่อยต้องขอโทษด้วยนะคะ พาร์ทที่มีฉากNCแคทค่อนข้าวเขียนได้ช้าค่ะ เพราะเขียนได้ไม่ค่อยดี

หวังว่าคนอ่านจะชอบในตอนนี้นะคะ  ... ส่วนในตอนนี้ ไม่รู้ว่าจะมีใครขัดใจหรือยังไงหรือเปล่าหว่า

แต่แคทอยากบอกว่า นิยายเรื่องนี้ไม่ได้เป็นนิยายสดใสมากๆหรือหม่นเศร้าแบบมากๆ

มันเป็นแค่นิยายสีเทาๆที่มีทั้งเรื่องดีและไม่ดีปนเปกันอยู่ในนี้

การกระทำของตัวละครบางตัวอาจไม่ถูกใจ ก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

ความสัมพันธ์ระหว่างพี่เก้อและน้องเสือเองก็เช่นกัน เป็นความสัมพันธ์สีเทาๆที่คนศีลเสมอมาเจอกัน

แต่คนศีลเสมอ ก็ใช่ว่าความรู้สึกจะเสมอกันนะเออ

ส่วนพาพวย ถ้าใครคิดถึงล่ะก้อออ ไม่ช้าไม่เร็วก็จะมาจ้าา

ฝากแฮชแทค #สวยๆเป็นผัว ในทวิตเตอร์ด้วยจ้าา
 :mew1: :katai4: :mew2:

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
เอ็นดูน้องเสืออะ คือนางหลงอิพี่เก้อแหละดูออก :katai3:

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1

ออฟไลน์ Chucream.nabi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0

ออฟไลน์ Tassanee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :hao6:  ขอบคุณค่าาาาา
รอตอนต่อไปน้าาา

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
น้องเสือชอบพี่เก้อล่ะดูออก แต่อิพี่เก้อเมื่อไหร่จะตัดใจจากน้องเอมได้ เจ้พี่ดาบเค้าจริงจังขนาดจะพาน้องเอมไปหาพ่อกับแม่แล้วนะจ๊ะ

เอ็นดูสกิลการตั้งชื่อของน้องเอมจริงๆ.  :laugh:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ LifePo-YuGu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
แก้ชื่อตอนที่ 30 ด้วยจ้า แคทใส่ชื่อตอนเป็นตอนที่ 36 น่า

อ่านแล้วหน่วงๆแทนน้องเสือจัง สงสารน้อง
อิ๊พี่เก้อว๊อยยยย ตัดใจจากน้องเอมเลยนะ น้องเสือรออยู่  :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
น้อง MOB ชอบเอมแน่ๆเลย,,,

ออฟไลน์ Yoghurt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
    • แฟนเพจ
บทที่32


“มันน่าน้อยใจจังเลยนะครับ ทำไมพี่ถึงไม่รู้จักผมล่ะ”



ไอ้คนตรงหน้าที่ไม่ได้ทำหน้าเศร้าให้เข้ากับประโยคคำพูด มันที่แค่อมยิ้มแล้วมองมาที่หน้าของผมอยู่แบบนั้น คือต้องการอะไรจากไอ้เอมเอ่ย กูนี่ขมวดคิ้วจนหน้าผากย่นเลย หงุดหงิดครับหงุดหงิด มันเป็นหนหวยนะจะบอกให้ ... มึง ไอ้ม็อบๆแม็บๆ มึงทำกูคลาดสายตาจากเรื่องของเพื่อนเก้อ อยากสปินคิกแม่งสักทีให้หายโมโห ติดตรงมันสูงกว่ากูมากจ้า ดูจากส่วนสูงตอนที่มันยืดตัวขึ้นยืนตรงแล้วยิ้มกรุ้มกริ่มให้กันอยู่ตอนนี้ ผมว่ามันน่าจะสูงเท่าๆอิเจ๊พี่มัน เอ่อ...ผมหมายถึงพี่ดาบนั่นล่ะครับ



“ทำหน้างงก็ยังน่ารักนะเนี่ย”



“เป็นบ้าอ่อ ขอตัวนะ” ตัดบทให้มันจบปัญหากันตรงนี้ พูดตรงนี้เลยว่ากูเหนื่อยจะเสวนาด้วยจ้า น่าลงน่ารักอะไรของมึงเอ่ย



‘หมับ’



“เดี๋ยวก่อนสิครับพี่เอม”  ผมที่ต้องหยุดเดินแล้วหันกลับไปมองมันจับแขนของผมไว้ กูขมวดคิ้วแน่นเข้าไปใหญ่เลยคราวนี้



“ปล่อย”



“ดุจัง”



“นี่ไอ้แม็บ”



“ม็อบครับ”



“เออ เรื่องมึงเถอะนะ แต่ปล่อยมือกู สนิทกันก็ไม่ มารยาทนิดนึงดิวะ” พูดแบบนั้นแล้วกระชากแขนตัวเองกลับมา ไม่ชอบครับ ไม่ชอบเลย เป็นใครวะมึงมาจับมือถือแขนกู ถึงกูจะเป็นผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิง แต่เรื่องแบบนี้มันก็ไม่ถูกป่ะวะ มึงคุกคามคนน่าดีแบบกูอยู่นะโว้ย



“ขอโทษครับ ผมก็แค่ยังอยากคุยกับพี่”



“ทานโทษนะมึง กูไม่รู้จักมึงจ้า”



“แต่พี่เป็นพี่รหัสผมนะ ผมไลน์ไปหาเห็นว่าพี่เปิดอ่านแล้วด้วย อ่านแล้วก็ไม่ตอบ เสียใจเลยนะครับ” รัวๆยาวมา ขอเรียบเรียงประโยคแป๊บนะ ... น้องรหัส อ่านไม่ตอบ คุ้นๆจังวะ ติ๊กตอกๆๆๆๆ ปิ๊งป่อง



“อ๋อออ คิดออกแล้ว มึงนี่เอง ไอ้แม็บ” 



“โถ่ ม็อบครับ ผมชื่อม็อบ” มันที่พูดออกมาแบบนั้นแล้วทำหน้าหนักใจใส่ผมนิดหน่อย มึงดูเหนื่อยใจ กูสิที่ต้องเหนื่อยมาเจอมึงเนี่ย



“เออๆ แต่รูปกับโปรไฟล์มึงนี่ไม่เหมือนกันเท่าไหร่เลยนะ กูจำไม่ได้อ่ะ โทษทีละกัน”



“ไม่เป็นไรครับ แต่พี่ว่าระหว่างในรูปกับตัวจริงอันไหนผมหล่อกว่าหรอ”  ถามกูแล้วส่งยิ้มยิงฟันมาให้ ดูเป็นคนมั่นอกมั่นใจกับรูปร่างหน้าตาของตัวเองอย่างมากนะครับ เพราะในสายตาของมันเหมือนกำลังบอกผมว่า ชมกูสิ มึงชมกูมาเลยครับพี่ ...เฮ้อ ตั้งความหวังกับกูหรอแม็บ งั้นกูตอบไปแบบจริงใจเลยละกัน



“ในรูปสิวะ คือมึงใช้แอพเยอะสินะ หน้าผ่องเกิ๊น แล้วดูไล้จมูกซะเงาเป็นจมูกหมาสุขภาพดีเลยเนี่ย” กูพูดไม่พอ ยังหยิบมือถือของตัวเองขึ้นมาเปิดรูปโปรไฟล์ของมันโชว์ให้มันดูด้วย



“ห๊ะ...หมา หมาอะไรนะครับ”



“งงๆ งงอะไร ก็หมาสุขภาพดีที่ได้กินเพ็ดดีกรีจมูกมันจะเงาๆแล้วขนมันก็จะสวยๆไง เนี่ย เหมือนมึงในรูปเลย” บอกออกไปแบบนั้นแล้วส่งยิ้มจริงใจไม่ไก่กาไปให้



“พี่เอมแม่ง”  มันที่มองหน้าผมแล้วพูดออกมาแบบนั้น เจ้าตัวที่ยกมือขึ้นเกาหัวแล้วยิ้มขำๆส่งมาให้ผมนิดๆ อาการมันเป็นยังไงไหนบอกไอ้เอมสิ



“อะไรของมึงวะ”



“ผมคงจะเหมือนพี่ว่าจริงๆนั่นแหล่ะที่หล่อแค่ในรูป”



“อืมๆ ยอมรับเถอะนะน้องนะ”  มันคงจะเศร้าอะเนอะ เห็นแบบนั้นผมเลยเดินไปตบไหล่มันปุๆ ไม่เสียใจไปนะม็อบแม็บ พี่เข้าใจถึงการเสียใจเรื่องของความไม่หล่อ เพราะทุกวันนี้ที่ผมอยู่กับอิเจ๊พี่มัน ยิ่งหลังๆมานี่มันไม่ค่อยแต่งหน้าทาปากแล้ว ความหล่อของพี่มันยิ่งเด้งโด่งจนไอ้เอมกลายเป็นแค่ผีลูกกรอกเวลาอยู่กับมันเลยครับ



“ไม่เหมือนพี่เลยนะครับ”



“หื้ม”  กูถึงกับต้องเลิกคิ้วแล้วหันไปมองหน้ามันแบบไม่เข้าใจ คือยังไงนะ ... มองหน้ามันด้วยความไม่เข้าใจ ไอ้เด็กม็อบแม็บตรงหน้านี่ก็ส่งยิ้มมาให้ก่อนจะพูดต่อว่า



“ไม่เหมือนพี่เลยที่ไม่ว่าจะในโปรไฟล์หรือตัวจริง พี่ก็น่ารักอยู่ดี” จบท้ายด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจที่ส่งมาให้กระแทกเข้าหัวตาของผมอย่างจัง ...ถุย!



“ตลกหรอมึง” ด่าแม่งแบบนั้นพร้อมเอื้อมมือไปตบหัวหนึ่งที มันที่ไม่โกรธแต่กลับขำตอบกลับมาให้กันซะแบบนั้น



“กูไปละ มีเรียน”



“ครับ แล้วเจอกันอีกนะครับพี่เอม”



“เออๆ” ยกมือโบกบ๊ายบายไปให้ มันเองที่ก็ยังคงส่งยิ้มกว้างๆมาตอบแล้วยกมือโบกหยอยๆมาให้ผมไม่เลิก ดูเหมือนมันจะดีใจมากๆที่ได้พี่รหัสหล่อ



.

.

.



“อุ๊ยตายยยยย น้อนเอมลูกชุ่นแม่ ไหนคะ มามะๆ ขอขุ่นแม่ดูหน้าหน่อยสิคะ คนได้น้ำมันจะอิ่มเอมมากๆอ่ะเนาะ”  เสียงของไอ้หยีที่ตะโกนออกมาจากโต๊ะกลางโรงอาหารของคณะเราอย่างดัง ... สัด



กูอยากจะตะโกนด่า แล้ววิ่งหนีออกไปจากตรงนี้ให้ไว แต่ติดตรงที่มันลุกขึ้นมาหาแล้วยิ้มเริงร่าเข้ามาหาผมแล้ว วันนี้มันยังสวยเหมือนเดิมครับ มัดหางม้าแล้วดัดปลายผมลอนน่ารัก เป็นผู้หญิงน่ารักที่กูอยากวิ่งหนี แม่ง



“พูดเสียงดังจังวะป้า”



“อายหรอลูก แหม มีผัวแล้วมันเป็นหน้าบาง”  ไม่อยากจะพูดกับแม่งละครับ ... ไม่ใช่ไรนะ เถียงมันไม่ได้



“แล้วนี่ไอ้เก้อไปไหนอ่ะป้า” ผมถามออกไปตอนที่ทรุดตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามกับไอ้หยี มองซ้ายมองขวาแต่กลับไม่เห็นเงาของไอ้เก้อ



“จะไปรู้มันหรอคะ มันก็มาช้าตามสไตล์มันนั่นแหล่ะ ว่าแต่มึงเหอะ ถามหามันทำไม อยากให้มันมาแหกอกมึงเรื่องมึงมีผัวหรือไงคะ”  ไอ้หยีที่ด่าผมแบบนั้นพร้อมๆกับหยิบลูกชิ้นเข้าปากหนึ่งลูก เป็นลูกชิ้นทอดร้านป้าต๋อย รสชาติอร่อยๆไม่แพง กรอบนอกนุ่มในแบบว่าใส่น้ำมันทอดทีครึ่งกิโล ถ้าไขมันจะจุกคอกูตายก็ไม่ใช่เพราะใคร เพราะป้าต๋อยนี่ล่ะครับ



“มันยังไม่มาหรอวะ” ผมถามซ้ำอีกครั้ง จะยังไม่มาได้ไงวะ กูเห็นมันมาแล้วชัดๆ



“แหกตาดูสิมึง เห็นมันไหมล่ะ มึงนี่ยังไง ดูงงๆ แต่ก็อย่างว่าอ่ะเนาะ เมื่อคืนคงไม่ค่อยได้นอน พี่ดาบกูแซ่บไหมคะมึง พี่รหัสกูเริศเลยใช่ไหม ไหนรีวิวสิคะ” ระริกระรี้ตาพราวมากๆ แล้วมาถามอะไรกูวะเนี่ย



“อะไรของป้าวะ”



“หูยยย หนูเอมมึงแก้มแดง เขินหรอลูก เข้าใจๆ แค่เห็นมึงกูก็มองออกแล้วว่าต้องดี อิอิ แซ่บๆ พี่ดาบต้องแซ่บแบบไม่มีอะไรกั้นแน่ๆเลยตอนถอดเสื้อ กรี๊ดดด”  มโนแล้วหวีดร้องอยู่คนเดียว เป็นผู้หญิงแบบไหนกันวะอิป้า ได้แต่กรอกตาหนึ่งทีเพราะเหนื่อยใจ ผู้หญิงสมัยนี้เป็นแบบนี้กันหรอวะ น่ากลัวฉิบหาย ... แต่จะพูดว่าสมัยนี้ก็ไม่ได้ครับ ป้าหยีมันแก่แล้ว



“หยุดมโนสักทีสิวะป้า อายคน”



“ก็กูไม่ได้นี่คะ ชะนีแบบกูก็ต้องมโนไหม มึงได้ของดีไปจะไปเข้าใจอะไรล่ะคะ!”



“อืม...แต่ก็จริงนะ พี่ดาบมันก็ดีมากๆจริงๆแบบที่ว่านั่นแหล่ะ ไม่ได้อวดเลยนะป้า กูแค่เล่าให้ฟัง” บอกมันออกไปแบบนั้นแล้วขยิบตาให้ นี่แน่ะ!



“กรี๊ดดดด อิหนูเอม มึงไม่ใสแล้ว อิพี่ดาบทำไรลูกกู มึงกลายเป็นคนรว้ายๆ”



“บอกตรงๆจากใจ กูอยากจะตัดลิ้นมึงทิ้งจริงๆเลยป้า โวะ”



“คิกๆ เรื่องกู มันเป็นการวิบัติเพื่อเสียงเพื่อให้ได้อรรถรสค่ะลูก”  หยักไหล่ส่งมาให้แบบไม่สนใจอะไร ก่อนจะหยิบแก้วโกโก้จากแบรนด์ดังที่มาตั้งร้านที่มหาลัยเราขึ้นดูดแบบหน้าตาเฉย



“ป้ามึงกินน้ำหวาน กินลูกชิ้นทอดด้วยหรอวะวันนี้”



“ค่ะ กูหิว กูอยาก”



“วันนี้มึงไม่กลัวน้ำหนักขึ้นหรอวะ ไหนปีที่แล้วบอกกูว่าจะรักษาหุ่นตลอดชีวิต เอาให้มึงขึ้นเครื่องชั่งแล้วไม่ตกใจกับน้ำหนักไง”



“กูเรียนรู้แล้วว่ามันเป็นการคิดผิดของกูค่ะ”



“ยังไง”



“จะยังไงล่ะอิโง่ ถ้ามึงกลัวน้ำหนักขึ้น มึงก็อย่าขึ้นไปชั่งมันค่ะ เนี่ย เหมือนกูในตอนนี้ อยากแดกอะไรก็แดกได้เลยเพราะกูได้น้ำหนักที่พอใจแล้วจากการชั่งคราวก่อน คราวนี้ใครถามกูว่าน้ำหนักเท่าไหร่กูก็จะบอกอย่างภูมิใจเลยค่ะว่า46”



“46ของมึงนี่เมื่อไหร่”



“เมื่อปีก่อนจ้า” 



“มันไม่ใช่น้ำหนักเรียลไทม์ของมึงไงป้า”



“เนี่ย มึงยังโง่อ่ะเอม ถ้ากูชั่งตอนนี้กูก็อ้วนสิคะ! มันต้องแก้ที่ความคิดมึงเนี่ย ถ้าเราไม่ชั่ง เราก็จะไม่อ้วนไงค่ะลูก บอกน้ำหนักที่มึงพอใจออกไปค่ะ พอใจแล้วก็เลิกชั่งค่ะ ไม่ชั่งเท่ากับไม่อ้วน จำ!”



“ตรรกะมึงเริศ”



“แน่นอนค่ะ เชื้ออิหยีแล้วชีวิตจะสุขใจ แดกไป!” ปณิธานแรงกล้า เป็นคนมีความคิดเป็นของตัวเองครับ ดูออก!



ฟังจบแล้วกูเจ็บไข่เลยครับ



“แล้วนี่ทำไมไม่กิน ลูกชิ้นป้าต๋อยเลยนะเว้ย”



“มึงกินเหอะ กูกินไม่ลงว่ะ” บอกมันออกไปแบบนั้น เพราะตอนนี้เริ่มคิดถึงเรื่องที่เย็นนี้ต้องไปบ้านอิเจ๊พี่ดาบ ผมไม่เคยรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับครอบครัวของพี่มันเลย ไปแล้วจะเป็นยังไง พ่อแม่มันจะยังไง และที่สำคัญ ผมเป็นผู้ชาย



“ทำไมทำหน้างั้นวะ อย่าบอกว่าพี่ดาบเสร็จไวนะ”  วางลูกชิ้นลงในจานเบิกตากว้างๆแล้วยกมือขึ้นทาบอก ถุย!



“มึงเลิกวุ่นวายเรื่องเอากันของกูได้ไหมวะป้า”



“อะๆ ก็อยากให้ขำๆ ว่าแต่มึงเป็นอะไรทำไมทำหน้าแบบนั้นวะ” มันที่ถามออกมาอีกครั้งแบบเป็นจริงเป็นจังอีกที



“พี่มันบอกกูว่าเย็นนี้จะพาไปบ้านว่ะ”



“แค่กๆๆ อ...อะไรนะ”  ไอ้หยีที่สำลักลูกชิ้นที่มันกำลังเคี้ยวไอออกมาด้วยเสียงดัง ลำบากกูต้องเอื้อมมือไปลูบให้



“ใจเย็นๆนะมึง มันต้องเป็นกูที่ตกใจสิวะ ป้ามึงจะตกใจทำไมวะ”



“อิเหี้ย ไปบ้านพี่ดาบหรอวะ มึงจะไม่ให้กูตกใจได้ไง”  ลูบอกตัวเองไปพรางสูดน้ำไปพรางก่อนจะโพร่งออกมาใส่หน้าผมแบบนั้น



“อืม กูก็ตกใจเหมือนกัน”  บอกมันออกไปแบบนั้น แต่หยีมันแค่ขมวดคิ้วแล้วส่ายหัวไปมาจนหน้าม้าของมันกระจาย



“ไม่ใช่ กูไม่ได้หมายความแบบนั้น บ้านพี่ดาบน่ะ ใครๆก็รู้ว่า...”



“หื้ม? รู้อะไรวะป้า”   มองสีหน้าที่เป็นกังวลของมันแบบที่ผมไม่เข้าใจ ไอ้หยีที่มองหน้าผมแล้วทำท่าเหมือนอยากจะพูดอะไร แต่มันก็ไม่ยอมพูดออกมา



“ไม่มีไรหรอกมึง ... เอาเป็นว่า ถ้าพี่มันอยากพามึงไป มึงก็ไปเถอะ กูมั่นใจว่ามันจะดูแลมึงได้”  ผมขมวดคิ้วตอนที่ได้ฟังประโยคนี้ของมันจบ อยากจะถามอะไรต่อ แต่ไอ้เก้อก็เดินเข้ามาซะก่อน มันที่เดินผิวปากเข้ามา ในตอนที่ผมเงยหน้าขึ้นไปมองสบตากับอีกฝ่าย เหมือนมันจะชะงักไปนิดหน่อย แต่สุดท้ายสีหน้าของมันก็ปกติตามเดิม



“พวกมึงมาไวนะ”  มันที่พูดออกมาแบบนั้น ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งข้างๆไอ้หยี ผมที่ยิ้มทักทายมันเหมือนไม่มีอะไร แต่เป็นไอ้เก้อที่พยายามหลบตาใส่กัน



“ใครๆก็มาเช้าค่ะ มีแต่มึงค่ะอิเก้อ มาสายห่าไรนัก นี่อย่าบอกว่าเมื่อคืนก็ไปนอนกกเด็กมาอีกนะ กูไลน์ไปหาก็ไม่ยอมตอบ”  ไอ้หยีที่หันไปมองมันแล้วด่ารัวๆ แต่ไอ้เก้อก็แค่ยักไหล่ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบลูกชิ้นของไอ้หยีเอามาเข้าปาก



“เลวจริง ขโมยลูกชิ้นกู”



“แดกคนเดียวอ้วนนะป้า”



“กรี๊ดดด อิเก้อ อิผัวหล่อ ถ้ามึงไม่หล่อกูจะถอดส้นสูงตีหน้ามึงค่ะ เลิกพูดเรื่องความอ้วนของกูนะคะ กูไม่อ้วน!”



“มึงไม่อ้วนแล้วน้ำหนักมึงเท่าไหร่”



“46ค่ะผู้ชายยย”   ไอ้หยีตอบออกไปแบบมั่นใจพร้อมฉีกยิ้มกว้าง ไอ้เก้อที่เงยหน้าละสายตาจากจานลูกชิ้นมามองมันตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วขมวดคิ้วแน่นๆ



“จริงหรอวะ”



“จริงค่ะ! กูชั่งแล้ว”



“เออๆ 46ก็46”  ไอ้เก้อที่ตอบแบบขอไปทีแล้วหันมาจิ้มลูกชิ้นเข้าปากไปอีกลูกแบบขอไปที แต่เป็นไอ้หยีที่ยิ้มหน้าบาน มันที่หันมาขยิบตาใส่ผม แล้วทำปากขมุบขมิบส่งมาให้ อ่านได้ว่า ‘เห็นไหมคะ กูผอม’ ... แล้วแต่เลยจ้า



“ไอ้เก้อ มึงพึ่งมาถึงหรอวะ” ผมถามมันออกไปหลังจากที่ละสายตามาจากท่าทางที่ดูจะภูมิใจกับเรื่องน้ำหนัก46ของไอ้หยีได้



“หื้ม...อืม ก็ เออสิวะ ทำไม” มันที่เงยหน้าขึ้นมามองผม แล้วตอบออกมาแบบนั้นด้วยท่าทางที่ไม่มีพิรุธอะไร แนบเนียนจนกูอยากจะเชื่อเลยล่ะ แต่ติดตรงที่ว่ากูเห็นว่ามึงมานานแล้ว และที่สำคัญ มึงมากับน้องเสือ อยากจะพูดออกไปแบบที่ใจคิด แต่สุดท้ายก็ต้องอุ๊บอิ๊บเก็บไว้ในใจ ในเมื่อกูยังไม่มีหลักฐานกูก็จะฮึบไว้ละกันนะเพื่อนเก้อครับ



“เปล่า กูแค่คิดว่ามึงมาถึงนานแล้ว”  ตอบมันกลับไป ผมเห็นไอ้เก้อที่กำลังจะเอาลูกชิ้นกุ้งระเบิดชะงักไปนิดหน่อย หูยยย มันเป็นตกใจอ่ะครับ ไอ้เอมอยากจะขำแรงแต่ต้องกลั้นไว้



“เปล่า กูพึ่งมา” 



“อ้อๆ” แบบนี้เองน้า พิรุธสัดๆ จะโกหกกันทำไมวะ



“เอ้อ...เดี๋ยวกูไปหาซื้อน้ำก่อนนะมึง ต้องการกินน้ำแร่สักนิดค่ะ เพื่อผิวผู้หญิงสวยๆอย่างกู” หยีที่ลุกขึ้นแล้วหันมาขยิบตาให้ผม ผมคิดว่าผมเข้าใจว่ามันต้องการอะไร แต่เพราะว่าเข้าใจแบบนี้ถึงได้แต่ถอนหายใจหนักๆอยู่แบบนี้ ผมที่มองไอ้เก้อที่นั่งอยู่ตรงหน้า ท่าทางของมันที่เหมือนปกติดี แต่ผมรู้ดีว่ามันไม่ได้ปกติอะไร ถ้าเป็นปกติมันคงด่าที่ผมไม่ตอบไลน์อะไรมันกลับไป



“เก้อคือกูน่ะ...”



“เอ้อ มึงกินข้าวยังวะเอม กูไปซื้อให้ไหม”  ผมมองหน้ามันที่โพล่งขึ้นมาตัดบทของผมซะก่อน ไอ้เก้อเองที่ก็ลุกขึ้นยืนทำท่าเหมือนจะลุกออกไปจากโต๊ะ ท่าทางของมันที่ทำให้ผมต้องถอนหายใจออกมา



“กูไม่อยากกินอะไรหรอก”



“หรอ งั้นเดี๋ยวกูไปซื้อน้ำก่อนนะ คอแห้งว่ะ”  มันยิ้มแล้วพูดออกมาแบบนั้น รอยยิ้มที่ฝืนของมันทำผมหนักใจ แต่ถึงแบบนั้นผมก็เลือกที่จะเอื้อมมือไปคว้าข้อมือของมันเอาไว้ก่อน



“กูมีเรื่องจะพูดกับมึง ไม่นานหรอก”  ไอ้เก้อที่ยืนหันหลังให้ผม ข้อมือหนาของมันที่ถูกผมกำเอาไว้ไม่ปล่อย รับรู้ได้ว่าตอนนี้มันกำหมัดจนแน่นเกร็งไปหมด



“เดี๋ยวค่อยคุยไม่ได้หรอวะเอม”  มันที่พูดแบบนั้นแล้วตั้งท่าจะดึงข้อมือออกจากฝ่ามือของผม เพราะแบบนั้นผมเลยตัดสินใจที่จะพูดออกไปเลย



“กูอยากบอกมึงก่อน ... กูคบกับพี่ดาบแล้วนะ” 



ความเงียบโรยตัวลงมาบริเวณโดยรอบของเราทั้งสองคน ผมที่ยืนมองแผ่นหลังกว้างๆของมันจากตรงนี้ มองไม่เห็นว่าตอนนี้มันกำลังทำหน้าตายังไง หรือรู้สึกแบบไหน แต่ถึงแบบนั้นผมก็ไม่เสียใจที่ได้พูดออกไป



“เก้อ...”



“มึงคบกับมันจริงๆหรอวะ”



“อืม .. กูอยากให้มึงรู้จากกูเอง แล้วก็แค่หวังว่ามึงจะดีใจกับกูนะ”



“ดีใจหรอวะ อืม...แล้วมึงมีความสุขไหม ดีใจหรือเปล่าตอนนี้”  มันที่ย้อนถามผมออกมา ไม่เข้าใจว่าทำไม แต่ถ้าคิดทบทวนตามคำถามที่มันถาม คำตอบเดียวที่ผมจะมีให้ก็คง



“อืม กูมีความสุขดี อยู่กับพี่มัน ถึงมันจะชอบทำตัวแด๊ะแด๋ทาปากแดงๆบ้าบออะไรของมัน แต่จริงๆแล้วทุกวันที่กูอยู่กับพี่มัน กูมีความสุขดี พี่มันดูแลกูดีมาก” 



“หรอวะ”  มันที่พูดออกมาแบบนั้นและไม่แม้แต่จะหันกลับมามองหน้าผม ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆในลำคอของมันแบบฝืดฝืนหน่อยๆ



“มึงเก่งว่ะเอม”



“หื้ม”



“มึงแกล้งทำเป็นไม่รู้เก่งดี แต่ว่าถ้ามึงมีความสุขดี กูก็ดีใจด้วย แต่ถ้าวันไหน...” มันที่ค่อยๆหันหน้ามามองผมในตอนนี้ สายตาคมดุของมันที่ตอนนี้แดงนิดๆจ้องมาที่ผม มองหน้ามันอยู่ตอนนี้ได้แต่ต้องสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ ถึงผมจะรู้สึกแย่มากแค่ไหน แต่ผมก็จะไม่หลบตามัน



“ถ้าวันไหนมันทำมึงเสียใจ กูจะไม่ยอมอีกแล้วเอม”



“มึงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของกูเลยเก้อ”



“หึ”  มันที่ยกยิ้มมุมปากแล้วมองมาที่ผม หัวเราะเบาๆหนึ่งที่ก่อนจะเอื้อมมือมาหยิบกระเป๋าของมันแล้วเดินออกไป ผมคิดว่าวันนี้คงไม่เห็นมันในห้องเรียนอีกหนึ่งวัน



“เป็นยังไงบ้างมึง”  ไอ้หยีที่เดินกลับมาหลังจากที่ไอ้เก้อเดินออกไปประมาณห้านาที ในมือของมันไม่ได้มีน้ำแร่แบบที่มันบอกว่าจะออกไปซื้อ แน่แหล่ะ ผมรู้แต่แรกอยู่แล้วว่ามันไม่ได้ตั้งใจจะซื้อ ก็แค่อยากให้ผมอยู่กับไอ้เก้อสองคน



“มันไปแล้วว่ะ”



“มึงได้บอกมันไหมคะ” ผมพยักหน้าตอบคำถามของไอ้หยี พร้อมๆกับสูดหายใจเข้าปอดไปอีกรอบ บางทีช่วงนี้ผมอาจจะอยากได้ออกซิเจนมาหล่อเลี้ยงสมองมากๆหน่อย ... ใครๆก็รู้ว่าผมเป็นควาย ควายแบบผมไม่ควรใช้สมองเยอะขนาดนี้ไม่ใช่หรอวะ ปวดหัวจัง



“แล้วมันก็ไปเลยหรอ”



“ไม่หรอก มันพูดอะไรหลายอย่างอยู่ แต่ป้า...มันคงเสียใจ”



“แล้วการที่มันชอบมึงอยู่แบบนี้มันไม่เสียใจหรอ ความรักที่ไม่สมหวังแม่งเจ็บสุดแล้ว ...ไอ้เก้อน่ะมันเป็นคนฉลาด แต่คนฉลาดก็ชอบจะโง่เวลามีความรักเสมอ เพราะแบบนั้นมันเลยไม่เข้าใจสักทีว่ามึงไม่ได้รักมัน ให้มันรู้ว่ามึงรักคนอื่นจากปากมึงเองน่ะดีแล้ว เผื่อมันจะตัดใจได้สักที”



“กูผิดไหมวะป้า”



“ความรักมันไม่มีถูกผิดไหมวะ มันก็มีแค่รักกับไม่รัก มึงแค่ไม่รัก ถ้าจะผิด ก็คงผิดที่ใจไอ้เก้อมันไม่ยอมรับสักทีก็แค่นั้นแหล่ะ”



“ขอบคุณนะป้า มึงพูดให้กูรู้สึกดีขึ้นตลอดเลยว่ะ”



“กูรักมึง”



“เห้ยบ้า กูมีพี่ดาบแล้วนะป้า ทำไงดีอ่ะแบบนี้”



“สัด! มึงขิงกูหรอคะ จากกูจะซึ้งๆก็คืออยากลุกขึ้นไปฉีกอกมึงค่ะ”



“แหมม หยอกจ้า กูการักมึงนะป้า ขอบคุณมากๆเลยนะที่อยู่กับกูตลอดเลย”



“มึงลูกกูไงคะ ส่วนอิเก้อ ผัวที่กูสถาปนามา ถ้ายังบ้าอยู่กูจะปลดแล้วค่ะ ไม่อยากมีผัวปัญญาอ่อน”



“เออนี่ป้า วันนี้กูมาถึงม.น่ะ กูเห็นไอ้เก้อมันมากับน้องเสือวะ”



“หื้ม น้องเสือไหน น้องเสือหล่อๆน้องรหัสมันน่ะหรอคะ”



“ใช่ น้องเสือนั้นแหล่ะ แต่กูน่ะสงสัยมากๆ มันมาถึงตั้งนานแล้ว แต่บอกว่าพึ่งมา มันหายไปไหนกับน้องเสือวะ แล้วทำไมต้องโกหกูด้วย”



“เรื่องนี้ดูมีเงี่ยนงำจังเลยค่ะอิเอม”



“เงื่อนไหมล่ะ”



“เงี่ยนนี่แหล่ะ กูได้กลิ่น”



“โวะ กูล่ะเหนื่อยจะคุยกับป้ามึงว่ะ พูดไปเรื่อย”  บอกมันออกไปแบบนั้น แต่เหมือนไอ้หยีจะยังไม่ฟังคำผม มันเอาแต่พึมพำกรอกหูผมถึงความเงี่ยนของไอ้เก้อ แล้วคือถ้าไอ้เก้อจะเงี่ยนงำจริงๆผมว่ามันก็ไม่น่าจะเกี่ยวกับน้องเสือไหมวะครับ ไอ้หยีก็พูดอะไรตลกไปเรื่อย



.

.

.

(มีต่อจ้า)

           

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Yoghurt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
    • แฟนเพจ

               

                   สี่โมงเย็น ผมกับไอ้หยีเดินลงมาจากตึกเรียนกันสองคน และแน่นอนว่า วันนี้ทั้งคาบไอ้เก้อก็ไม่เข้าเรียน ไม่รู้ว่ามันไปอยู่ไหน แต่ผมก็เลือกจะไม่โทรหา ผมแค่หวังว่ามันจะเข้าใจอะไรได้ไวๆ และกลับมาเป็นเพื่อนของผมเหมือนเดิม



“สวัสดีค่ะพี่ดาบ เอ๊ะ ตอนนี้หยีเรียกพี่ดาบได้หรือยังเอ่ย หรือต้องเรียกเจ๊ดานี่อีกคะ”



“สวัสดีค่ะหนู จะเรียกอะไรก็ได้หมด พี่ไม่ติดครับ” อิเจ๊พี่ดาบที่เดินยิ้มเข้ามาแล้วยื่นชาเขียวปั่นใส่วิปครีมจากร้านเงือกเขียวยื่นมาให้ผม แล้วมันก็หันไปยิ้มให้ไอ้หยี



“ครับขนาดนี้ กูเกือบเรียกผัวแล้วนะอิเอม ไม่อยากเรียกพี่ดาบเลยอ่ะ” กระซิบกู กระซิบแบบดังมากจนอิเจ๊พี่มันขำออกมา



“วันนี้เรียนโอเคไหมครับ หรือเข้าไปหลับกัน”



“หยีตั้งใจเรียนแบบสุดๆไปเลยค่ะพี่ดาบขา แต่อิเอมนี่หลับค่ะ หลับจริงหลับจังค่ะ” ฟ้อง ฟ้องให้สุด นี่เพื่อนกูไหมยังไงเอ่ย ไอ้เอมเป็นเลิกลั่กเลยนะ ผมที่ค่อยๆเงยหน้ามองช้อนตาขึ้นไปมองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมนิดๆ พี่มันที่ยกยิ้มหน่อยๆแล้วส่ายหน้า ก่อนจะยกมือขึ้นมายีหัวผมเบาๆ



“ไม่ตั้งใจเรียนแบบนี้ไงถึงเป็นควายน้อยเนี่ย”



“ก็ผมง่วงนี่หว่า”  กูเหนื่อย กูง่วง ใครมันจะไปสดชื่นสดใสเหมือนเจ๊พี่มึงกันวะ แม่ม



“อ้อ ก็จริงนะ เพราะว่าเมื่อคืนกว่ากูจะปล่อยให้มึงได้นอนก็ดึกมากๆแล้วนี่หว่า ไม่แปลกที่มึงจะง่วง พี่ผิดเองแหล่ะน้องหยี อย่าว่าเอมมันเลยครับ” พูดออกมาพร้อมทำท่านึกขึ้นได้ ก่อนจะหันไปยิ้มแล้วทำหน้ารู้สึกผิดนิดๆส่งให้ไอ้หยี หน้าตาที่กูมองจากดาวอังคารก็รู้ว่ามึงตอแหลอิพี่! มึงจะพูดออกไปทำไมวะแสรดดดดดดดด



“แซ่บๆเลยมึง แซ่บเลย หยีอิจฉามากไม่ไหวแล้ว วันนี้พี่จะพามันไปบ้านใช่ไหมคะ หยีฝากมันด้วยนะพี่ ถ้ามีอะไรโทรหาหยีได้ตลอดนะ”



“ขอบคุณมากนะครับ วันหลังไปที่ร้านพี่นะ เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง”



“กรี๊ดดดดด จำแล้ว จดลงในใจแล้วค่ะพี่ขา อิอิ งั้นหยีกลับก่อนนะคะ แล้วก็ฝากไอ้เอมมันด้วยนะคะ”



“พี่จะดูแลอย่างสุดความสามารถของพี่เลย” 



“อิจฉามากไม่ไหวแล้ว มดลูกหยากไย่ขึ้นของกูคือสั่นระริกด้วยความอิจฉามึงมากๆค่ะอิเอม”  หันมาพูดกับผมแบบนั้น ก่อนจะเดินจากเราสองคนไปขึ้นรถของมันที่ก็จอดห่างไปจากรถของพี่ดาบอีกสองสามคัน



“เจ๊พี่มึงพูดอะไรวะ”



“แก้มแดงอีกแล้วว่ะหนู เขินเรื่องอะไรไหนบอกสิครับ เขินเรื่องมึงเพลียเพราะกูกวน หรือเขินที่กูบอกจะดูแลมึงอย่างดี”



“โวะ ใครเขินวะ ผมน่ะ ผมน่ะแค่ร้อนเว้ย”



“โอเค จะเชื่อก็ได้ว่ามึงไม่เขิน แค่ร้อนแล้วแก้มเลยแดงเฉยๆเนอะ” ขยิบตาให้ผมหนึ่งที สุดแสนจะกวนตรีนกันมากๆ เห็นแบบนั้นแล้วกูต้องยกมือขึ้นต่อยไหล่แม่งแรงๆทีนึงเลย



“หมัดลูกควาย”  อยากจะด่าว่าสัดจังเลยครับพี่ครับ



“เจ๊....จะพาผมไปบ้านจริงๆหรอวะ”  ถามพี่มันขึ้นมาในตอนที่เราสองคนขึ้นมานั่งบนรถแล้ว วันนี้มันเอารถหรูตราสี่ห่วงสีแดงออกมาขับครับ เป็นคันที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนเลยจริงๆ ปกติผมเห็นว่ารถเก๋งที่แพงสุดที่มันขับคือโตโยต้าแคมรี่ แต่วันนี้รถหรูนี่มาจากไหนกันวะ



“ก็กำลังจะพาไปอยู่นี่ไงครับหนู”



“มันจะดีหรอวะเจ๊”



“กูว่าดีก็ต้องดีไหมวะ”



“แล้วถ้าที่บ้านเจ๊ไม่โอเคล่ะ ถ้าเค้าไม่ชอบผม ถ้า...”



“กูชอบมึง ที่บ้านไม่ได้มาเอามึงแทนกูนี่” มันที่ตอบผมออกมาแบบนั้นด้วยความสบายอกสบายใจ พี่มันที่ปล่อยมือซ้ายออกจากพวงมาลัย แล้วเอามือนั้นมาดึงมือผมไปวางไว้ที่ตักของมัน มืออุ่นๆนั่นที่กุมมือผมเบาๆอย่างอยากให้ผมเชื่อมั่น



“ทำไมมึงชิลจังวะเจ๊”



“ถ้ากูรักใคร กูจะไม่ลังเลสักเรื่องที่จะทำให้มันดี กูเป็นคนแบบนั้น ก่อนหน้านี้กูอาจจะเคยรักใครมาก็จริง มันก็เป็นเรื่องในอดีต เป็นความทรงจำหนึ่งเป็นประสบการณ์หนึ่งของกู ไม่ต่างจากมึงที่เคยมีแฟน แต่ตอนนี้กูรักมึงและเรารักกัน ...



เอม จะทำทุกเรื่องไปกับกูไหม ต่อจากนี้น่ะ”



พี่มันที่หันมามองหน้าผมแล้วส่งยิ้มให้ ในสายตาอบอุ่นของมันที่มองมาที่ผม สายตาหนึ่งเดียวที่มีแค่ผมสะท้อนอยู่ในสายตาของมัน ผมยิ้มตอบออกมานิดๆก่อนจะบีบมือพี่มันตอบเบาๆ



“ผมเชื่อใจพี่”



“ดี งั้นเราจะผ่านมันไปด้วยกันนะ”  พี่มันที่ว่าออกมาแบบนั้นก่อนจะเหยียบคันเร่งให้ตัวเลขเปลี่ยนจาก70เป็น90 ก็แค่มุ่งหน้าไปพร้อมๆกันแบบที่มันว่าก็พอ



               ลวดลายฉลุบนบานประตูบ้านขนาดใหญ่ค่อยๆเปิดอ้าออกช้าๆอย่างอัตโนมัติในตอนที่รถคันหรูตรงเข้าไป บ้านหลังใหญ่ที่ผมมักจะเคยเห็นในละครตอนกลางคืนปรากฏอยู่ตรงหน้า บ้านสไตล์โมเดิร์นทรอปิคอล ขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลาง ทางด้านขวาเป็นสนามหญ้าและสวนสวย มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาเป็นแนวยาวตามเขนกำแพงบ้านดูร่มรื่น ส่วนทางซ้ายมือของบ้านถูกทำให้เป็นโรงรถและข้างๆถัดกันไปมองเห็นเป็นสระว่ายน้ำ



“ไปกันเถอะ” มันพูดแบบนั้นในตอนที่เรามายืนอยู่ที่โรงรถ แรงดึงจากฝ่ามือที่เย็นและชื้นเหงื่อของผมทำให้ผมรู้ว่าพี่มันยังอยู่ข้างๆกัน



เดินเข้าไปภายในบ้าน พื้นถูกตกแต่งไว้ด้วยกระเบื้องอย่างดี บรรกาศไม่วุ่นวายและดูทันสมัยด้วยกระจกบานสูงที่เรียงกันตลอดผนังตรงห้องนั่งเล่นทำให้โปร่งและโล่งสบาย จนผมหายใจหายคอได้มากขึ้น เราเดินเข้าไปจนถึงห้องนั่งเล่น ผู้ชายสูงวัยที่น่าจะอยู่ในวัย60ปี แต่ดูไม่แก่เอาซะเลยกำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่บนโซฟาตัวยาวสีเทาอย่างสบายอารมณ์



“ป๊า สวัสดีครับ”



“เอ้า มาแล้วหรอเรอะ เอ๊ะ ทำไมวันนี้มึงไม่แต่งหน้าทาปากแดงวะ”  คำพูดที่ออกมาจากปากของคนตรงหน้าทำเอาผมอ้าปากค้าง หนังสือพิมพ์ในมือค่อยๆวางลง สายตาคมๆดุที่แทบจะเหมือนกับของอิเจ๊พี่มันแบบเด๊ะๆกำลังมองสำรวจลูกชายตัวเองตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าและขมวดคิ้วเป็นการตบท้าย



“มึงเป็นใคร คลายลูกกูออกมาเลย” ว่าออกมาแบบนั้นแล้วทำหน้าตาหงุดหงิด เอ่อ....



“ป๊า อะไรนัก พอไม่ทาปากก็คิดถึงหรอ คือจะบอกให้นะว่าคนสวยๆอยู่ในลุคไหนมันก็สวยไง”  คนข้างตัวของผมพูดขึ้นอย่างอารมณ์ดี ก่อนที่เจ้าตัวจะยกมือขึ้นเอาผมทัดหูแบบมีจริตแล้วกระพริบตาปริบๆส่งให้พ่อของพี่มัน



“กูจะอ้วก สวยตาอ่ะมึง คนที่อยู่ข้างๆมึงถ้าบอกว่าสวยกูยังจะเห็นด้วยกว่า” พ่อของพี่มันพูดขึ้นมาแบบนั้นก่อนจะเลื่อนสายตามองมาที่ผม เป็นสายตาคมๆที่ถึงแม้จะมีรอยยิ้มแต่ก็ยังทำให้ผมรู้สึกโดนแสกนตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า



“อะ...เอ่อ สวัสดีครับ” ผมที่ว่าออกมาแบบนั้นพร้อมๆกับยกมือขึ้นไหว้ พยายามทำตัวให้ถูกกาลเทศะมากที่สุด จะได้ไม่มีใครว่าเอาได้



“ใครวะไอ้ดาบ”



“เมียผมพ่อ ชื่อเอม” พี่มันตอบออกมาแบบนั้นหน้าตาเฉยๆ พร้อมๆกับที่วงแขนแข็งแกร่งนั่นจะวาดมาโอบรอบเอวของผมต่อหน้าต่อตาพ่อของพี่มันทั้งแบบนั้น ... เดี๋ยวนะ มึงทำอะไรเนี่ยอิเจ๊!



“พี่มึง ปล่อย ทำไรวะ” หันไปกัดฟันกระซิบใส่มันเบาๆ แต่อีกคนก็แค่ทำไมสนใจฟัง



“นี่แกมีเมียเป็นผู้ชาย!” พ่อของพี่มันพูดขึ้นมาแบบนั้นด้วยเสียงที่ดังจนผมตกใจ หันหน้าไปมองเห็นสายตาดุๆของพ่อมันที่มองมาที่ผมแบบไม่ชอบใจ ผมได้แต่กลั้นหายใจไปในตอนนี้ พร้อมๆกับเบียดตัวเข้าหาพี่มันมากขึ้น แต่ถึงแบบนั้นผมก็ยังไม่ละสายตาหนี



“ผมขอโทษครับคุณลุง แต่ถ้าคุณลุงจะบอกให้เราเลิกกันแบบในหนัง ผมเลิกไม่ได้หรอกนะครับ เอมบอกก่อนเลย”



พูดรัวๆออกไปแบบนั้น ผมตั้งใจไว้แล้วว่าต้องพูดประโยคนี้ให้ได้ ถ้าเจอสถานการณ์ที่ว่าพ่อแม่พี่มันไม่ชอบผม ผมที่ไม่มีอะไรเลยสักอย่าง พ่อแม่ เงินทอง หน้าตา ฐานะ ผมไม่แปลกใจที่เจอเรื่องแบบนี้ แต่ถึงแบบนั้นผมก็ขอให้ได้สู้ ... สู้เพื่อความรักของผม แบบที่พี่มันบอกให้เราเดินไปด้วยกัน ผมจ้องตาพ่อของพี่มันนิ่งๆ ทั้งๆที่ในใจกลัวพ่อมันจะหยิบอะไรขึ้นมาขว้างใส่ ผ่านไปหลายนาทีโดยที่ไม่มีใครพูดอะไร สุดท้ายก็เป็นพ่อของพี่มันที่ถอนหายใจออกมาและ



“พรูดดด ฮ่าๆๆๆๆ ไอ้เด็กนี่มันน่าเอ็นดูว่ะ”  พ่อพี่มันที่ขำลั่นออกมาแบบนั้น จนผมหน้าเหวอ หันซ้ายหันขวาไปมองแบบไม่เข้าใจในสถานการณ์ตรงหน้าเท่าไหร่ มองหน้าพี่มันที่แค่ทำหน้าเซ็งๆเหนื่อยใจ



“ผมบอกแล้วว่าพ่ออย่าทำแบบนี้ ไอ้เอมมันเกร็งจนขี้จะแตกแล้ว”



“ผมเปล่านะเว้ยพี่”  กูเกร็งจริง แต่ขี้ไม่ได้จะแตกอ่ะขอยืนยัน ไม่มีอะไรปิ๊ดออกมาเลยจริงๆนะ



“ฮ่าๆๆ มาๆ มานั่งด้วยกัน ชื่อเอมใช่ไหม ไอ้ดาบมันโทรมาเล่าให้ฟังนานแล้ว หน้าตาน่ารักดีนี่นา ได้ข่าวว่าเรียนเก่งด้วย”  ผมที่เดินตามพี่มันเข้าไปนั่งลงบนโซฟาที่ฝั่งตรงข้าม ผู้ใหญ่ตรงหน้าที่ยิ้มนิดๆแล้วถามผมออกมาแบบนั้น



“คือ ผม ...เอ่อ ไม่เท่าไหร่หรอกครับคุณลุง พอไปได้ครับ”



“ไม่น่าจะพอไปได้หรอกมั้ง ได้ทุนมาตั้งแต่ม.ต้นไม่ใช่หรอ เกรดของปีที่แล้วก็3.90ไม่ใช่หรอ แบบนี้น่ะไม่ธรรมดาแล้ว”  คุณลุงพูดออกมาแบบนั้นก่อนจะยกขาขึ้นไขว่ห้างแล้วนั่งเอาหลังพิงโซฟาด้วยท่าทางสบายๆที่ดูดีมากๆ เป็นผู้ชายบุคลิคดีแม้ว่าจะอายุมาก



“เอ่อ ครับ แต่...ผมไม่เคยเล่าให้พี่มึงฟังเลยนะ พี่บอกคุณลุงหรอ” ผมหันไปกระซิบถามพี่มันที่นั่งข้างๆกัน อีกฝ่ายก็แค่ยกยิ้มมุมปากหน่อยๆ



“ไปสืบมาหมดแล้วสิท่า” พี่มันที่มองพ่อของมันนิ่งๆแล้วพูดออกมาแบบนั้น แต่คำพูดนั่นก็เล่นเอาผมขนลุกสู้ สืบหรอวะ ... นี่ประวัติและภูมิหลังของผมโดนสืบหรอวะ  แค่คิดมาถึงตรงนี้ก็ต้องเม้มปากแน่นๆแล้ว คนมีเงินมีอำนาจนี่อยากทำอะไรก็ได้ง่ายๆแบบนี้เลยสินะ



“ต้องขอโทษด้วยที่ลุงไม่สุภาพสืบเรื่องเธอ แต่ว่าคนที่ทำให้ไอ้บ้านี่โทรมาที่บ้านแล้วบอกจะพามาแนะนำได้น่ะ มันก็ต้องสนใจกันเป็นธรรมดา”



“ก็แค่แฟนผมไหมวะ”  พี่มันที่ว่าขึ้นมาแบบนั้น รับรู้ได้จากน้ำเสียงว่าไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ แต่ถึงแบบนั้น ผมก็เลื่อนมือไปจับแขนมันเบาๆ อยากให้มันใจเย็นลง และก็ดูเหมือนจะได้ผล



“ก็บอกว่าขอโทษแล้วไงวะ แหม แค่นี้ทำหวง เอมน่ะเรียนดีกว่ามึงสมัยเรียนอีกไอ้ดาบ มึงน่ะโง่จนกูท้อเลยจะบอกให้” พ่อพี่มันที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วยักคิ้วส่งมาให้ผมพร้อมรอยยิ้ม ดูจะมีความสุขกับการได้เผาลูก



“เชื่อไหมว่าพ่อนะไม่ได้เห็นมันในลุคผู้ชายแบบนี้มาหลายปีจนลืมไปแล้วล่ะว่ามีลูกชายอีกคน”



“ผมสวยล่ะสิ จริงๆพ่อก็ชอบในความสวยของผม ผมดูออก”



“เหมือนตุ๊ดหมีควาย เอมเคยเห็นไหม”



“ฮ่าๆๆ คุณลุงก็พูดซะผมนึกออก”



“ใช่ไหมล่ะ น่าสะพรึงกลัว แต่ก็นะ เรียกพ่อเถอะ เรามันคนกันเอง ฮ่าๆๆ”  พ่อของพี่มันที่ว่าออกมาแบบนั้น แล้วก็เป็นผมและคุณลุงที่ขำออกมาแบบอดไม่อยู่ มีแค่คนที่นั่งข้างกันเท่านั้นแหล่ะที่ทำสีหน้าหงุดหงิดเพราะโดนเหยียบย่ำความสวยของมัน



“ขำอะไรกันเสียงดังจังคะ”  เสียงของผู้มาใหญ่ที่ดังกังวานใสที่เดินมาพร้อมกลิ่นหอมอ่อนๆของพายไก่  หันหน้าไปมองก็เห็นหญิงสูงวัยที่อายุหน้าจะอ่อนกว่าพ่อของพี่มันนิดหน่อย แต่ยังสวยปิ๊งหุ่นดีมากๆเหมือนคนอายุแค่40ด้วยซ้ำ ริมฝีปากสีชมพูดที่ถูกแต่งแต้มอย่างลงตัว เดินเข้ามาในชุดอยู่บ้านที่มองดูก็รู้ว่าต้องเป็นเสื้อผ้าแบรนด์ดัง



“แม่ สวัสดีครับ”



“ยังจำได้หรือไงว่าใครแม่เธอ หึ” เธอที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วมองค้อนมาที่พี่ดาบมันทีนึง คนข้างๆตัวผมที่ถอนหายใจออกมานิดหน่อย



“ก็ต้องจำได้สิครับ”



“หึ แล้ววันนี้ไม่แต่งหญิงมาหรือไงล่ะ หรือเพราะมีอะไรพิเศษงั้นหรอคะคุณลูกชาย”  เธอที่ว่าแบบนั้นแล้วปรายตามามองผมเล็กน้อย เห็นแบบนั้นผมเลยรีบยกมือขึ้นไหว้เธอทันที



“สวัสดีครับคุณแม่” ความรู้สึกของผมบอกว่า แม่ของพี่มันคงไม่ได้อารมณ์ดีเหมือนพ่อมันเธอยกมือรับไหว้ผมเล็กน้อยก่อนจะเสหน้ากลับไปหาลูกชายของตัวเอง



“สวัสดีจ๊ะ เรียกป้าก็พอนะ ป้าว่าเราคงไม่ต้องนับญาติอะไรกันขนาดนั้น” เธอบอกแล้วยิ้มออกมานิดหน่อย แต่รอยยิ้มของผมกลับลดลงในตอนนี้



“พูดดีๆก็ได้มั้งครับแม่”  พี่ดาบมันพูดออกมาด้วยเสียงแข็งๆที่ผมไม่ค่อยจะได้ยิน หันไปมองหน้ามันที่ตอนนี้ก็ดูจะไม่สบอารมณ์มากเท่าไหร่



“แม่พูดไม่ดีตรงไหนคะ แล้วนี่ถ้าพะพายไม่โทรมาบอก แม่ก็คงจะไม่รู้เรื่องสินะ” เธอว่าออกมาแบบนั้น แล้วทำให้ขนที่หลังของผมลุกไปทั่วทั้งหลัง สองคำสั้นๆที่ทำให้ผมอดขมวดคิ้วไม่ได้ ‘พะพาย’



“ผมตั้งใจจะบอกอยู่แล้ว แต่ไม่คิดว่าจะมีใครมาตัดหน้าบอกก่อน” 



“หึ ไม่ต้องไปโทษคนอื่น แม่ต้องขอบคุณพายด้วยซ้ำ เค้าโทรมาเยี่ยมแม่เลยหลุดพูดออกมา ถ้าแม่คาดคั้นก็คงจะไม่รู้อยู่ดี”



“พอเถอะแม่ ถ้าในเมื่อแม่ก็รู้เรื่องอยู่แล้ว งั้นผมก็ไม่ต้องพูดอะไรมากแล้ว เพราะยังไงทุกคนก็รู้ว่าเอมเป็นแฟนผม” พี่มันพูดออกมาแบบนั้นโดยไม่สนใจสีหน้าของแม่ตัวเองที่เริ่มจะไม่ดีเท่าไหร่  บรรยากาศที่ทำให้ผมรู้สึกอึดอัด เหมือนกับเป็นอะไรสักอย่างที่ทำให้แม่ลูกเค้าจะทะเลาะกัน



“เอาล่ะๆ เรามาทานข้าวกันดีกว่านะ แล้วค่อยคุยเรื่องอื่นๆกันทีหลังดีกว่า”  เป็นพ่อของพี่ดาบที่ลุกขึ้นยืนแล้วว่าออกมาแบบนั้น คุณลุงที่เอามือวางบนไหล่ผมแล้วยิ้มมาให้



“ไปเถอะ มีอาหารหลายอย่างเลยนะ เอมน่าจะชอบ แม่เจ้าดาบทำอร่อยน้า”  คุณลุงว่าออกมาแบบนั้นแล้วส่งยิ้มมาให้ ผมที่ได้แต่ยิ้มแหยๆกลับไปแล้วเดินตามเข้าไปในห้องทานอาหารที่อยู่ถัดเข้าไปอีกห้องหนึ่ง โต๊ะกระจกยาวที่ถูกคลุมทับด้วยผ้าปูโต๊ะลูกไม้ขนาดใหญ่ที่ถูกตั้งประดับอยู่กลางห้อง บนโต๊ะมีอาหารหลากหลายถูกวางจัดไว้อย่างสวยงามอยู่บนนั้น



“มาๆ มาทานกันดีกว่า”  คุณลุงที่นั่งอยู่ที่หัวโต๊ะว่าออกมาแบบนั้น และตามด้วยแม่ของพี่มันที่นั่งอยู่ฝั่งขวาของคุณลุง พี่มันนั่งอยู่ฝั่งซ้ายตรงข้ามกับแม่ และผมที่นั่งถัดต่อมา



“เดี๋ยวค่ะ น้อย...เธอไปเรียกคุณพายมาจากในครัวหน่อย มาทานพร้อมกัน”  ผมเงยหน้าขึ้นมาจากจานอาหารตรงหน้ามองไปที่หน้าของพี่ดาบที่ขมวดคิ้วจนแทบจะเป็นปมในตอนนี้



“อาหารหลายอย่างบนโต๊ะนี่พายเค้าทำด้วยนะ วันนี้มาช่วยแม่ตั้งแต่เช้าเลย” เธอว่าออกมาแบบนั้นแล้วยิ้มหน่อยๆ



“คุณป้าเรียกพายหรอครับ” เสียงคุ้นเคยที่ดังขึ้นมาจากหน้าประตูห้องทานอาหาร พอผมหันไปก็เห็นคนคุ้นเคยที่พึ่งจะไม่ได้เจอกันไปสักพัก เลื่อนสายตามองลงไปที่เท้าของเจ้าตัว ตอนนี้ยังถูกพันไว้ด้วยผ้าพันแผลแบบที่ยังไม่ได้แกะออกไปไหน



“มาทานด้วยกันสิลูก”



“เอ่อ...”  พะพายที่ทำท่าทางอึกอักแล้วหันมามองผมนิดๆ แล้วหันกลับไปมองแม่ของพี่ดาบแบบไม่แน่ใจ



“มาเถอะ ไม่ต้องกลัวใครทั้งนั้น มาทานกับแม่มา”



“ครับ”



เธอที่ว่าออกมาแบบนั้น และพะพายที่รับคำอย่างมีมารยาทค่อยๆเดินตรงเข้ามานั่งตรงข้ามกับผม พายยิ้มให้นิดๆ เป็นรอยยิ้มที่ดูเศร้าๆส่งมาให้ผม



“มาเถอะ ทานกันได้แล้วค่ะ” แม่ของพี่ดาบว่าออกมาแบบนั้น ข้าวในจานของผมถูกเสริฟและพวกเราก็เริ่มลงมือทานอาหารกันอย่างเงียบๆ รสชาติอาหารอร่อยๆมากๆ อร่อยที่สุดตั้งแต่ผมเคยกินมา วัตถุดิบชั้นดีทั้งนั้นที่ถูกจัดเสริฟขึ้นโต๊ะ แต่ถึงแบบนั้น ผมกลับไม่รู้จักรสชาติที่อร่อยนั่นเอาซะเลย บรรยากาศอึดอัดที่ทำให้ผมไม่อยากนั่งอยู่ตรงนี้ แม่ของพี่ดาบที่เอาแต่หัวเราะคิกคักกับพะพายแล้วทำสีหน้าไม่สู้ดีส่งมาให้ผม



“อะ วันนี้ที่บ้านทำขาหมูด้วยนะจ๊ะ ป้าคิดว่าเอมน่าจะชอบ แต่ว่า...ที่นี่ทานได้อย่างเดียวนะ เอาไปราดหัวใครไม่ได้”



ผมที่เคยหน้าขึ้นมามองทั้งแม่ของพี่มันและพะพายที่นั่งทำหน้ากระอักกระอ่วนอยู่ในตอนนี้ สีหน้าที่กำลังทำท่าว่ารู้สึกไม่สู้ดีของพายไม่ทำให้ผมเห็นใจเลยสักนิด ... และใช่ ในใจของผมตัดสินใจได้แล้วว่า มึงจะไม่จบสินะพาพวย!



‘หมับ’



ฝ่ามืออุ่นๆที่เลื่อนมาจากใต้โต๊ะ แล้วเอื้อมมาจับมือของผมเอาไว้เบาๆ หันหน้าไปมองก็เห็นคนข้างตัวที่หันมามองกัน แล้วส่งยิ้มมาให้ รอยยิ้มที่บอกว่าให้ผมมั่นใจในตัวมัน



“ผมว่ากับข้าวบ้านเราวันนี้ไม่อร่อยเท่าไหร่แล้วล่ะ” พี่มันพูดออกมาแบบนั้น แล้วบีบมือของผมเบาๆ



“ลูกจะบอกว่ามันไม่อร่อยเพราะแม่งั้นสิ”



“ใช่ครับ เพราะแม่กำลังทำท่าทางไม่ดีใส่แฟนผม เพราะแบบนั้นผมเลยไม่อร่อย แฟนผมก็ไม่อร่อย ในที่นี้ไม่มีใครอร่อยถ้ายังจะทำท่าทางกันอยู่แบบนี้”



“ดาบ! ลูกพูดแบบนี้กับแม่หรอ ปกติลูกไม่เป็นแบบนี้เลยนะ หรือเพราะ...” เธอที่หยุดประโยคเอาไว้แค่นั้นแล้วมองมาที่ผม สายตาที่มองออกว่ากำลังบอกว่าผมเป็นเด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้า



‘ครืด’



พี่มันที่ลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วดึงผมให้ลุกขึ้นยืนด้วยกัน แม่ของมันที่มองตรงมาที่เราด้วยสีหน้าไม่พอใจและเสียใจส่งมาอย่างไม่ปิดบัง ก็แน่นอนว่าคงไม่มีแม่ที่ไหนที่จะลุขใจเพราะลูกชายของตัวเองทำพฤติกรรมแบบนี้ใส่แน่ๆ



“ผมจะกลับแล้ว”



“หยุดนะ! มาพูดกันให้รู้เรื่องก่อนดาบ แม่ไม่โอเคมากๆกับเรื่องของเด็กนี่นะ ทั้งก้าวร้าว ทั้งไม่มีหัวนอนปลายเท้าแบบนี้ แถมยังเป็นผู้ชาย ลูกคิดอะไรกันแน่!!” เธอเองที่ก็ยืนขึ้นมาแล้วพูดออกมาแบบไม่คิดจะไว้หน้าผมเช่นกัน มือของเธอสั่น สายตาที่เต็มไปด้วยความผิดหวังนั่นกำลังส่งมาให้พี่มันจนผมใจเสีย



“ผมรักเอม”



“แต่แม่ไม่ยอม!”



“แม่ยอมรับเกย์ไม่ได้ ยอมรับชายรักชายไม่ได้ ยอมรับกระเทยไม่ได้หรอครับ แล้วกับเฮียทัพ เฮียรบ ไอ้รุกแม่ยังหัวเราะยินดีด้วยกับคุณป้า คืออะไร” มันที่ถียงแม่มันออกมาแบบนั้น ในสายตาที่มองตรงไปที่แม่มันแบบไม่ยอม



“มันไม่เหมือนกันไหม ทำไมดาบไม่เข้าใจสักที ก่อนหน้านี้ก็เป็นตุ๊ด แล้วตอนนี้ยังจะเป็นอะไรไปอีก!”



“ใจเย็นๆก่อนคุณ”



“คุณป้าใจเย็นๆนะครับ” พะพายที่ลุกขึ้นประคองหลังแม่ของพี่มันไว้ พร้อมๆกับว่าออกมาแบบนั้น



“ไม่เย็นทั้งนั้น แม่ไม่เข้าใจเลยดาบ ทำไมลูกถึงเป็นแบบนี้ แม่เลี้ยงลูกมาผิดตรงไหน”



“ผมเองก็ไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมแม่ยอมรับตัวตนและการตัดสินใจของผมไม่ได้สักที แม่แค่ยอมรับไม่ได้เพราะเอมมันไม่ถูกใจ หรือแม่ยอมรับไม่ได้เพราะลูกแม่จะรักผู้ชายกันแน่!”



“พี่ดาบใจเย็นก่อน” ผมพูดออกไปแบบนั้น จับมือพี่มันไว้ กับสถานการณ์แบบนี้มันไม่ใช่แล้ว ถึงแม้ผมจะเกลียดรอยยิ้มนิดๆของพะพายที่กำลังมองมาที่ผมมากแค่ไหนก็ตาม แต่ผมก็ไม่อยากทำให้อะไรมันแย่มากไปกว่านี้เพราะตัวผม



“เหอะ คนอื่นพูดลูกเชื่อ แต่ทีแม่ แม่ที่เป้นแม่แท้ๆของลูกพูดกลับไม่เชื่อ นี่มันอะไรกัน แล้วกับเด็กคนนี้ทั้งก้าวร้าว ทั้งไม่มีหัวนอนปลายเท้า ลูก...”



“ถ้าแม่ยอมรับผมไม่ได้ ยอมรับคนที่ผมรักไม่ได้ งั้นแม่ก็คิดว่าผมไม่ใช่ลูกแม่ด้วยก็ได้ครับ”



“ดลธีร์!”



--------------To be continued------------

มาแล้วจ้าาาา มันกำลังจะมาจ้าาา ....

อย่าสงสารคนตายเลยแฮรี่ สงสารพาพวยที่กำลังจะโดนคนอ่านเอาเปลือกทุเรียนฟาดหน้าเถอะ

คนอ่านยังอยู่ไหมมมม มาเถอะมาอ่านมาเม้นท์กันนน กำลังใจของคุณทำแคทเขียนคล่องน้าาา

ฝาก #สวยๆ เป็นผัว ในทวิตเตอร์ด้วยนะจ๊ะๆ .... :hao7: :mew1:

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1

ออฟไลน์ Chucream.nabi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :angry2: อิพาพวยมึงใส่ไฟใช่มั้ย หนูออมนิสัยไม่ดี
มึงมันตอแหลลลลล

ออฟไลน์ jum1201

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-5
ฮึ่ยยย อะไรพาพวยนิสัยไม่ดี  :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ LadySaiKim

  • ▫▪□Dezine'Kim□▪▫
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
ตบมันค่ะอิพาพวย :katai4:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
พาพวยหรอจะพาซวยกันแน่ แต่ที่แน่ๆ เฮียดาบเท่ห์สุดยอดไปเลย

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
ตบอิพายยยย,,,

เกลียด!!!!

ออฟไลน์ Yoghurt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
    • แฟนเพจ
บทที่33


“พี่มาที่นี่หาพ่อพี่หรอวะ”



“อย่ามาทำหน้าตาเบื่อกูมากได้ไหมวะ” คนข้างตัวที่มานั่งไขว้ห้างพร้อมกระดิกตีนไปด้วยพูดออกมาแบบนั้น เห็นแบบนั้นแล้วกูอดไม่ได้ที่จะต้องถอนหายใจออกมาอย่างหน่ายๆ



“กลิ่นไส้กรอกมึงเตะจมูกกูมากสัดพี่เก้อ”



“มึงหมายถึงKกูหรอ” ว่าแบบนั้นแล้วหันมาทำหน้าทำตาน่าตบใส่



“สัด! กูหมายถึงไส้กรอกเซเว้นที่มึงซื้อมาเนี่ย”



“อ๋อออ กูก็นึกว่ามึงชื่นชมกลิ่นไส้กรอกกู” ว่าแบบนั้นแล้วชี้นิ้วลงไปที่เป้ากางเกงของตัวเอง สัด...ใครให้คนบ้ากามมันเข้ามาหากูในห้องเรียนแบบนี้วะ



“มึงอย่าสำคัญตัวเองนักได้ไหม Kมึงไม่ได้หอมสำหรับทุกคนสัดพี่เก้อ”



กรอกตาใส่แม่งหนึ่งทีแล้วหันไปตั้งใจฟังบรรยายจากสไลด์ต่อ วันนี้เป็นวิชาบรรยายที่ไม่ได้สำคัญอะไรมาก เป็นวิชาเรียนรวมของปีหนึ่งที่ต้องนั่งฟังบรรยายในหอประชุมเล็กแบบสโลป เพราะแบบนั้นไอ้ล่ำนี่มันถึงเข้ามานั่งข้างกันได้แบบหน้าด้านๆแบบนี้ยังไงล่ะ



“นี่ สนใจกูหน่อยสิ”



“สัด กูไม่อยากโง่แบบมึงนะ มาเรียนก็ไม่เข้าเรียน เป็นบ้าหรอไอ้สัด”



“นี่มึงก็จะไล่กูหรอวะเสือ กูจ้อยในนะ”



“น้อยใจก็เหี้ย ตัวใหญ่เป็นหมีแบบนี้มึงอย่ามากระแดะ” ว่ามันออกไปแบบนั้น อีกคนที่แค่เท้าคางลงกับโต๊ะแลคเชอร์แล้วหันหน้ามามองผมแล้วยกยิ้ม



“ปากร้ายจังวะ”



“เสือกไรปากกู”



“แต่ปากร้ายๆแบบนี้พอได้ชิมทีก็หวานอยู่นะ โอ้ย สัดเสือเล่นเหี้ยไรเนี่ย” มันที่ร้องออกมาตอนที่ผมหยิบใส่กรอกรมตะวันของมันเขวี้ยงใส่หัวมันไปที

 

“กวนส้นตีน ถ้าไม่หุบปากก็ออกไปเลยไปกูจะเรียน กูไม่อยากโง่แบบมึงนะพี่เก้อ”



“กูไม่โง่นะเว้ย”



“ถ้าไม่โง่ มึงคงไม่โดดเรียนมาหากูแบบนี้หรอกสัด แก่จะตายละทำตัวไร้สาระนะมึงเนี่ย”



“การโดดเรียนมาหามึงอ่ะ มันอาจจะเป็นเรื่องที่ฉลาดที่สุดของกูแล้วก็ได้ ... เพราะอย่างน้อยกูก็ยังเลือกมาหาความสบายใจให้ตัวเอง ไม่ใช่เข้าไปนั่งเรียนแต่ไม่เข้าใจอะไรสักอย่างเพราะอึดอัดใจ” 



มันที่พูดออกมาแบบนั้นด้วยเสียงที่ก็ไม่ได้ดังอะไรมากนัก ได้ยินแบบนั้นแล้วผมต้องขมวดคิ้วหันกลับไปมองหน้ามันเลย มันที่แค่หันหน้าออกไปอีกทางนึง ใบหน้าด้านข้างของมันที่ก็ยังดูดี เป็นเหมือนกับอะไรสักอย่างทียิ่งดูแล้วยิ่งหน้าค้นหา



“อึกอัดใจเหี้ยอะไรนัก”



“แค่รู้ว่ามึงเป็นความสบายใจของกูก็พอแล้วครับน้องเสือ” หันมายิ้มให้กันแล้วยกยิ้มให้หนึ่งที เห็นแบบนั้นแล้วก็รีบเสหน้าหนีมันมา ไม่ได้รู้สึกอะไรมากนักหรอก ก็แค่ไม่อยากมองหน้าตาอ้วนๆของมัน



“สัด”



“หึ ตั้งใจเรียนไป กูไม่กวนแล้ว” มันที่บอกออกมาแบบนั้นแล้วยกมือขึ้นมาขยี้หัวผมเบาๆ ก่อนจะละมือไปหยิบมือถือขึ้นมาแล้วเข้าพับจี ... ความรู้สึกอุ่นๆบนหัวเมื่อก่อนหน้านี้ยังไม่จางไป เป็นสัมผัสที่คนทำไม่ได้รู้สึกอะไร แต่ใจของกูกับฟังบรรยายไม่รู้เรื่องแล้วตอนนี้ ...



เกลียดมึงฉิบหายเลยไอ้สัดพี่เก้อ!


.

.

.



“เอาล่ะนักศึกษา อย่าลืมกลับไปอ่านทบทวนกันอีกครั้งได้ วันนี้เลิกคลาสได้”  เสียงของอาจารย์ที่ดังขึ้นมาทำให้ทั้งผมและเพื่อนร่วมเซคได้แต่ร้องเย่อยู่ในใจ ทั้งคาบก็ไม่รู้ว่าอาจารย์มีความสุขใจอะไรกับการสอนนักหนา พูดตามสไลด์อยู่ได้คนเดียว คือพูดจริงๆว่าถ้าจะสอนกันแบบนี้ก็เอาสไลด์นี้มาให้กูโหลดแล้วกลับไปอ่านเองเถอะครับ



“เลิกแล้ว ไปหาอะไรแดกกัน” ไอ้พี่เก้อที่หยิบหูฟังและมือถือของมันลงกระเป๋าเรียบร้อยหันมาบอกกัน ได้แต่พยักหน้ารับไป เพราะจริงๆตอนนี้กูก็หิวฉิบหายแล้วล่ะ เหลือบตาไปมองนาฬิกาบอกเวลาว่าสี่โมงครึ่งกว่าๆ อาจารย์สอนเกินเวลาอีกแล้วแม่ง



“นี่ทุกคน วันศุกร์นี้พวกเรามีไปเข้าค่ายอาสานะ อย่าลืมล่ะว่ารถออกตอน6โมงเย็น” เสียงของประธานปี1ตะโกนขึ้นมาแบบนั้น แล้วก็ทำให้กูต้องขมวดคิ้ว ค่ายหรอวะ?



“ค่ายอะไรวะมึง” ไอ้พี่เก้อหันมาสะกิดถาม แต่แน่นอนว่าได้คำตอบจากกูเป็นหน้างง จำไม่ได้เลยเว้ย มันที่ถอนหายใจออกมานิดหน่อยก่อนจะหันไปสะกิดคนที่นั่งอยู่แถวข้างหน้าเรา เป็นเพื่อนคนนึงในเซคที่ผมไม่เคยคุยด้วย แต่หน้าตาน่ารักดีครับ



“คะ? เอ่อพี่เก้อ สวัสดีค่ะ” ดูเหมือนว่าจะจำไอ้พี่เก้อได้ซะด้วย ฮ็อตไม่เบา หมั่นไส้แม่งว่ะ เตะขาแม่งไปหนึ่งทีเลย มันที่หันมาทำหน้าดุใส่ แต่ผมก็ทำเป็นแค่ไม่สนใจ



“ค่ายอะไรหรอครับน้อง”



“ค่ายอาสาของคณะเราค่ะ พวกพี่เก้อก็ต้องไปไม่ใช่หรอคะ” เธอบอกออกมาแบบนั้นแล้วยิ้มสวยๆส่งมาให้ ไอ้พี่เก้อที่แค่พยักหน้าเข้าใจ พร้อมยิ้มหล่อๆส่งไปให้เธออีกหนึ่งที



“ขอบคุณมากนะครับ” มันที่ตอบเธอออกไปแบบนั้น สายตาที่ทั้งมันและเธอมองกันก็คือเดาออกว่ากำลังคิดอะไร



“เอ่อ พี่เก้อคะ ... จะเป็นอะไรไหมถ้าแพรจะขอไลน์พี่เก้อไว้ เผื่อตอนไปค่ายมีปัญหา”  โอ้โห ไม่เบาเลยว่ะ ใช่ได้เลยนะเนี่ย มองเห็นไอ้พี่เก้อที่ยกยิ้มมุมปากนิดๆ สัด...หมั่นไส้แม่ง เห็นแบบนั้นผมเลยเด้งตัวลุกจากเก้าอี้ขึ้นมาเลย



“กูไปล่ะ” บอกแบบนั้นแล้วเดินออกมา หงุดหงิดลูกตาพิกล กูหล่อกว่าตั้งเยอะเป็นเหี้ยไรต้องขอไลน์มันด้วยวะ



“เห้ยไอ้เสือ รีบไปไหนวะ” มันที่ร้องตามมาแบบนั้น แต่ผมไม่สนใจ ก็ทำแค่ก้าวยาวๆเดินออกมาจากห้องประชุมนั่นก็แค่นั้น มันเป็นยุบยับยุบยิบในหัวใจกูแปลกๆ  ... หรือว่ากูจะเป็นกรดไหลย้อนวะแม่ง แสบร้อนกลางอกแบบเนี่ย ใช่แน่ๆเลยแม่ง



‘พรึบ’



“จะรีบไปไหนของมึง ทำไมเดินไม่รอกูเลยวะ”  เสียงที่ดังมาพร้อมๆกับวงแขนใหญ่ๆของไอ้สัดพี่เก้อที่พาดลงมาที่ไหล่ของผม หนักฉิบหาย หันหน้าไปมองหน้ามันที่ก็อยู่ห่างออกไปไม่เท่าไหร่ เพราะแบบนั้นเลยต้องหันหน้ากลับมามองทาง เมื่อกี้ปากมันก็จะชนปากของผมอยู่แล้ว จะเอาหน้ามาใกล้เชี่ยไรนัก



“กูหิว”



“หรอวะ”



“เออ แล้วมากอดกูทำเหี้ยไร ปล่อยสิวะ”



“กูสะดวกแบบนี้มึงจะทำไมอ่ะครับน้องเสือ” ยียวนกวนส้นตีนว่ะ เห็นหน้าแล้วอยากเอาเท้าขยี้หน้ามัน



“รำคาญไอ้สัด”



“อะไรวะ เมื่อกี้ยังดีๆอยู่เลยนี่มึงหงุดหงิดอะไร”  มันที่ว่าแบบนั้นแล้วจับตัวผมให้หันไปมองหน้ากันดีๆ แต่ถึงแบบนั้นมึงก็ไม่สามารถหรอก กูหันหนีแม่งเหมือนเดิมเลย



“เป็นอะไรของมึง”



“รำคาญหน้ามึง กูหิว”



“ทำไมวะ เห็นหน้ากูแล้วมึงหิวหรอ” มันที่ถามผมแบบนั้น ยืนเอาหนังพิงอยู่กับตัวลิฟต์แล้วจ้องหน้ากันพร้อมยกยิ้มมุมปากแบบกวนตีน



“กูจะไปหิวทำไม ถ้าเป็นน้องแพรเมื่อกี้ก็คงจะไม่แน่หรอกมั้ง” ปากกูก็ไปไว แค่คิดก็พูดออกไปเลยทั้งแบบนั้น ไอ้พี่เก้อที่ได้ยินผมตอบ มันที่ก็แค่ยกยิ้มมุมปากพร้อมทำหน้าเจ้าเล่ห์ใส่กัน และในตอนนั้นกูก็รู้สึกว่าถูกน็อคยังไงบอกไม่ถูก



“มึงหึงกูหรอวะ ที่น้องเค้าขอไลน์กู ...มึงหึงกูหรอเสือ”



“หึง...หึงเหี้ยอะไรล่ะ เพ้อเจ้อ!”



“หึ ไม่หึงหรอวะ ว้า...”



“น่ารำคาญ เหยิบไป ลิฟต์มาแล้ว”



บอกแบบนั้นแต่ไม่ยอมมองตามันที่มองจ้องตรงมาที่ผมไม่หยุด ได้แต่เดินหลบตัวมันเข้าลิฟต์ไป อีกคนที่เดินตามกันเข้ามาติดๆ มันที่กดลิฟต์ไปยังชั้นหนึ่ง ก่อนจะหันกลับมาหาผมแล้วเดินเข้ามาใกล้ เบียดตัวเข้ามาใกล้จนผมต้องแนบตัวไปยืนชิดกับกำแพงลิฟต์



“เขยิบเข้ามาทำไมวะ”



“มึงไม่หึงจริงดิน้องเสือ”



“ไอ้พี่เก้อ เขยิ...”



“มึงไม่อยากรู้จริงดิว่ากูให้ไลน์น้องเค้าไปหรือเปล่า”  มันที่พูดแทรกประโยคของผมออกมาแบบนั้น และใช่ คำถามของมันก็ทำให้ผมชะงักไป ได้แต่เม้มปากเข้าหากันอย่างห้ามตัวเองไว้ ถึงจะอยากรู้แค่ไหนกูก็จะไม่ตกหลุมมึงอีกหรอกสัดพี่เก้อ



“เสือ...ไม่อยากรู้จริงดิวะ”



“จะบอกก็บอก ไม่บอกก็เรื่องของมึงสิ ใครสนกันวะ” บอกมันแบบนั้น แล้วจ้องตาสู้ มันที่ยิ้มออกมานิดหน่อย ก่อนจะเลื่อนหน้าลงมาจูบปลายจมูกกันเบาๆ ความรู้สึกเสียววาบจากสันหลังขึ้นมาถึงหัว รู้สึกร้อนหน้าจนทำตัวไม่ถูก



“กูบอกว่ากูไม่ให้ว่ะ เดี๋ยวแฟนกูโกรธ”



“ร....เหรอ แล้วไงวะ” เสหน้าหนีดวงตาคมของมันที่เอาแต่จ้องมองกันไม่หยุด กูเกลียด เกลียดสายตายิ้มล้อกันของมันแบบนี้จริงๆ



“ไม่แล้วไงอ่ะ กูแค่บอกว่าแฟนกูหิวเลยรีบเดินหนีออกไปแล้ว ต้องตามมาง้อแฟน เลยให้ไลน์ไปไม่ได้ว่ะ”



“พ่อง! แฟนพ่อง!!” หันไปถลึงตาใส่มัน แต่อีกคนกลับยิ้มขำแบบไม่ใส่ใจ มันที่เอื้อมตัวมาคว้าไหล่ผมแล้วกอดคอผมเหมือนก่อนหน้า



“เอาน่าน้องเสือ ตำแหน่งแฟนกูนี่ใครกูนี่ใครๆก็อยากเป็นนะเว้ย”



“สัด ถามกูก่อนไหม”



“เอาน่า ก็แค่รับสมอ้างไปหน่อยสิวะ เบื่อว่ะไม่อยากโดนกวน อ้างมึงไปแบบนี้อ่ะดีละ” มันที่ว่าแบบนั้นแล้วยิ้มกว้างๆ ได้แต่เม้มปากแน่นๆตอนที่ได้ยินแบบนั้น ....



ใครแม่งจะอยากเป็นวะ แฟนปลอมๆของมึงน่ะไอ้สัด!



...



“ดลธีร์!”



เสียงแม่ของคนข้างๆตัวผมดังขึ้นแบบนั้น เป็นสถานการณ์ที่เรียกได้ว่าอึดอัด สายตาของคนเป็นแม่ที่มองมาที่หน้าของพี่ดาบ มันชวนให้ผมรู้สึกเสียใจ สายตาของเค้าที่กำลังบอกว่าเสียใจและผิดหวัง ผิดหวังในตัวของพี่มัน ... และหนึ่งในความผิดหวังนั้น ... มันเกิดมาจากผม



“พี่...” ผมที่พูดขัดออกไป ก่อนที่คนที่อยู่ข้างๆตัวจะสาดคำพูดแรงๆอะไรออกไปใส่แม่ของตัวเองอีก มือที่จับกันไว้แน่นๆของเรา ผมบีบมือของมันเอาไว้แน่นๆ ถอนหายใจแล้วค่อยพูดออกไป



“ผมว่าพี่ใจเย็นๆก่อนดีกว่านะ” บอกออกไปแบบนั้น ได้แต่ถอนหายใจกับเรื่องเดิมๆซ้ำซากที่เหมือนจะเคยเกิดขึ้นกับตัวผมมาก่อน กับเรื่องของฐานะและครอบครัวของผม คนแบบผมที่ไม่คู่ควรกับใคร อยากจะปลงแต่มันก็ทำไม่ค่อยจะได้ แต่ถึงแบบนั้นก็ไม่อยากให้พี่มันต้องมาโวยวายกับแม่มันแบบนี้ เพราะอย่างน้อยๆในครั้งนี้พี่มันก็ปกป้องผมมากๆแล้ว มากกว่าที่ใครสักคนจะเคยทำเพื่อผม



หันไปมองตาพี่ดาบที่ตอนนี้ก็หันมามองผม ใบหน้าหล่อคมที่ตอนนี้จ้องตาผมแบบดุๆ คิ้วที่เรียงตัวสวยนั่นขมวดเข้าหากันแทบจะเป็นโบว์ เห็นแล้วอยากจะขำ แต่คิดว่าตอนนี้คงไม่เหมาะ



“เดี๋ยวผมจะกลับก่อน พี่ก็อยู่ที่นี่คุยกับแม่พี่เถอะ”



“พูดอะไรของมึง กูจะไปกลับด้วย”



“ดาบต้องมาพูดกับแม่ให้รู้เรื่อง” แม่ของพี่มันพูดขึ้นมาแบบนั้นด้วยเสียงที่เด็ดขาด ผมที่เห็นว่าพี่มันจะพูดอะไรออกไปอีกก็ได้แต่บีบมืออีกฝ่ายเอาไว้แน่นๆมันถึงได้เงียบเสียงลง



“พอเถอะคุณ จะโวยวายอะไรนักหนา นานๆทีมันจะกลับมาบ้าน” เป็นพ่อที่พูดขึ้นมาแบบนั้น ท่านที่ลุกขึ้นจากเก้าอี้ สรุปแล้ววันนี้คงไม่มีคนได้ทานข้าวอย่างอร่อย



“คุณเงียบไปเลยนะ เห็นแบบนี้แล้วยังจะให้อยู่เฉยๆได้อีกหรือไงกันคะ”



“ต่อให้แม่จะไม่อยู่เฉยมันก็ไม่มีประโยชน์หรอกผมจะบอกให้”



“พี่ดาบ พอพี่ ผมว่าแบบนี้มันไม่ใช่แล้วว่ะ”



“มึงหมายถึงอะไร มึงพูดอะไร” มันที่หันหน้ามามองผม ฝ่ามือหนาที่กุมกันไว้คราวนี้บีบให้แน่นจนผมเริ่มเจ็บ ผมที่แค่ส่ายหน้าส่งไปให้มันช้าๆ ค่อยๆปล่อยมือออกจากมือคู่นั้น



“ผมว่าพี่อยู่คุยกับแม่พี่เถอะ แบบนี้มันไม่โอเคแล้วว่ะพี่ เดี๋ยวผมจะกลับไปรอที่ห้องนะ” แค่คิดว่าตัวผมไม่ควรอยู่ตรงนี้ คิดว่าการที่ผมแยกตัวออกไปก่อนในตอนนี้คงจะดีที่สุด



“เดี๋ยวดิเอม พี่กลับด้วย”



“ดาบ!”



“คุณป้าใจเย็นๆก่อนนะครับ ผมว่าให้ดานี่กลับไปส่งน้องน่าจะดีกว่านะครับ ยังไงน้องก็มากับดานี่ น้องไม่ได้มีรถขับมาเองนะครับคุณป้า” เสียงที่พูดขึ้นมาแบบไม่ได้มีใครขอความเห็นทำเอาคิ้วผมกระตุก ได้แต่หันไปมองหน้าใสๆที่ดูจะซื่อๆนั่น  กูก็ได้ข้อสรุปในใจเลยว่า ใครบอกว่าผู้ชายตอแหลไม่เป็น เห็นหน้าใสๆแบบนี้ เล่นละครเก่งกว่าไอ้หยีเวลาแกล้งร้องไห้อีกนะครับ กูอยากให้สิบกะโหลกเป็นรางวัล



“อ๋อเหรอจ๊ะ..”



“ครับ แต่ไม่เป็นไรครับ ผมสามารถพึ่งพาตัวเองได้ครับ พี่ดาบพี่อยู่ที่นี่เถอะ ค่อยๆพูดค่อยๆจากับที่บ้านเถอะพี่ ผมไม่เป็นไร”



“กูไม่อยากพูดอะไรทั้งนั้น กูเป็นคนพามึงมา กูก็ต้องพามึงกลับ ไปเอม กลับบ้านเรากัน” มันที่บอกออกมาแบบนั้น สายตาคมๆนั่นที่ไม่ยอมหันไปมองหน้าพ่อและแม่ของตัวเอง มันที่เอาแต่มองมาทางผม และคว้ามือของผมมากุมไว้อีกครั้งและแน่นยิ่งกว่าครั้งไหนๆที่เคยจับกันไว้ ก่อนจะกระตุกข้อมือของผมให้เดินกลับออกไปตามทางเดินของบ้านมัน พร้อมๆกับเสียงเรียกของแม่มัน เป็นเหตุการณ์ชุลมุนที่ผมไม่อยากจะให้เกิดขึ้น



“ขึ้นรถ”



“พี่ ผมจะกลับเอง”



“เอม! กูบอกว่ากลับบ้านเรากัน กูไม่ได้อยากมาที่นี่อยู่แล้ว แต่กูต้องมาเพราะอยากให้มึงมั่นใจว่ากูจะไม่เปลี่ยนใจจากมึงไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”



“พี่หมายความว่าอะไรวะ”



คนตรงหน้าที่ไม่พูดอะไร เอาแต่มองหน้าผมอยู่แบบนั้น ได้มองหน้าพี่มันแบบนี้แล้วผมรู้สึกอยากจะร้องไห้ออกมา สายตาของมันที่ไม่ได้หันไปทางไหน เอาแต่มองมาที่ผม แค่นี้ผมก็ซึ้งใจมากๆแล้ว เพราะแบบนั้นผมเลยยิ่งไม่อยากเป็นตัวปัญหาที่ทำให้มันกับที่บ้านต้องมีปัญหา แม้ว่าปัญหาจริงๆมันอาจจะเกิดมาจากใครบางคนที่กำลังเดินประคองแม่พี่มันออกมาจากบ้านก็ตาม



“มึงสำคัญกับกูเอม กูรักมึง”  พี่มันที่บอกออกมาแบบนั้น ผมที่ยืนพิงประตูรถของมันอยู่แบบนั้น ได้แต่ค่อยๆยื่นมือขึ้นไปจับใบหน้าคมนั่นเบาๆ



“ผมก็รักพี่นะ”



“กูอยากจะกรี๊ดออกมาเลย เมียบอกรักกูอ่ะค่ะ”



“พี่มึงยังจะตลกอีกนะ” ยิ้มให้กันและขำออกมาเบาๆ มันที่เอื้อมมือไปจะเปิดประตูรถที่อยู่ด้านหลังตัวของผม แต่ก็ติดที่ผมกันเอาไว้ก่อน มันที่ขมวดคิ้วมองหน้าผมแบบไม่เข้าใจ



“พี่ ให้ผมกลับเองเถอะ”



“นี่มึงยังไม่เข้าใจอะไรวะเอม”



“ไม่ใช่ ผมเข้าใจ ผมเข้าใจทุกอย่างดี”



“มึงจะทิ้งกู!...คือมึงได้กูแล้วมึงจะทิ้งหรอวะ” ว่าออกมาแบบนั้นด้วยเสียงที่ดังจนลั่นโรงรถไปหมด แล้วอะไรคือกูได้มึงแล้วทิ้ง กูหรือเปล่าที่ต้องกลัวมึงทิ้งเนี่ย ... ได้แต่ส่ายหน้าพร้อมถอนหายใจออกมาหน่ายๆ



“พี่ดาบ ไม่เล่น”



“กูเล่นที่ไหน กูจริงจังมาก ขึ้นรถ!”



“พี่ ... ฟังเอมก่อน” บอกมันออกไปแบบนั้นแล้วเอื้อมมือไปแตะต้นแขนแกร่งนั่น ช้อนตามองคนตรงหน้าที่ชะงักไปกับการกระทำและคำพูดของผม



“ผมไม่สบายใจหรอก ที่พี่จะต้องทะเลาะกับที่บ้านเพราะเรื่องของผม”



“มันไม่ใช่เพราะมึงเลยเอม บ้านกูแม่งก็เป็นงี้มาแต่ไหนแต่ไร เค้าไม่เคยเข้าใจหรอกว่ากูต้องการหรือไม่ต้องการอะไร เพราะงั้นก็ช่างแม่งเหอะ มันไม่ได้เกี่ยวกับมึงเลยเอม”



“แต่การที่พี่ต้องทะเลาะกับแม่พี่ ต้นเหตุในครั้งนี้ก็เป็นเพราะเรื่องของผมไม่ใช่หรอ” พอพูดออกไปแบบนั้น มันก็ต้องเงียบเสียงลง และใช่ เรื่องราวในวันนี้มันเกิดขึ้นเพราะผม



“พี่อยู่ที่นี่เถอะ อย่างน้อยก็กลับไปพูดกับท่านให้ดีกว่าก่อนหน้านี้ ผมมั่นใจว่าจริงๆแล้วแม่พี่ก็แค่เป็นห่วง”



“ห่วงหน้าตาตัวเองมากกว่าน่ะสิ” คนตรงหน้าผมที่แค่แค่นเสียงพร้อมว่าออกมาแบบนั้น ผมถอนหายใจอีกครั้งแล้วส่ายหน้า นี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นคนตรงหน้าฉุนเฉียวและขาดสติมากขนาดนี้



“พี่ดาบ ...นะ ... อย่างน้อยก็ขอโทษที่พูดไม่ดี”



“ทำไมวะ เป็นแม่แล้วคิดว่าจะถูกหมดทุกอย่างมันก็ไม่ใช่หรือเปล่า”



“แต่นั่นก็แม่พี่ ผมรู้ว่าจริงๆแล้วพี่ก็แคร์นะ แคร์คนที่นี่”  ผมรู้ ผมเห็น...ในสายตาของพี่มัน จริงๆแล้วก็แคร์มากๆ แต่เพราะมันไม่อยากให้ผมต้องเจอกับคำพูดดูถูกแบบนี้ มันเลยเลือกจะปกป้องผม แค่นี้...แค่นี้ผมก็ซึ้งใจมากๆแล้ว



“เอมเชื่อใจพี่ว่าพี่จะไม่โง่นะ” บอกมันแบบนั้น อีกคนที่สบตากันแล้วพยักหน้าให้



“กูรู้เอม กูไม่กลับไปหาคนที่ไม่เห็นค่ากูหรอก อีกอย่าง ตอนนี้กูก็มีของมีค่าที่ดีที่สุดแบบมึงอยู่แล้ว ถ้ากลับไปกูก็ควายแล้วว่ะ”



“นั่นสิ อิมเมจควายน่ะให้กูก็พอ ถ้ามึงเป็นควายเมื่อไหร่ กูจะถือเลื่อยไฟฟ้ามาเลื่อยเขามึงคอยดู” ผมที่ยิ้มออกมาแบบนั้น และก็เป็นพี่มันที่ดึงตัวผมไปกอดไว้แน่นๆ เรากอดกันโดยไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักประโยค ... จริงๆแล้วผมไม่อยากจะผละออกจากอ้อมกอดนี้เลย มันทั้งอบอุ่นและปลอดภัย แต่ในบางครั้ง เราก็เลือกอะไรไม่ได้...โดยเฉพาะกับคนที่ไม่มีอะไรเลยแบบผม มันไม่มีสิทธิ์อะไรมากนักหรอก



“กลับไปคุยกับแม่พี่ดีๆเถอะนะ แล้วพรุ่งนี้ค่อยกลับบ้านเรานะ...เอมจะรอ” ยิ้มบางๆให้มันแบบนั้น ไม่รู้ทำไมตอนนี้ถึงอยากร้องไห้มากๆก็ไม่รู้



“แล้วมึงจะกลับยังไง”



“กูมีขา กูกลับได้”



“ไม่ กูจะโทรบอกน้องหยีให้มารับมึง ถ้ามึงไม่ให้กูกลับด้วย” พูดแล้วก็ดึงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงทันที ผมที่รีบตะคลุบมือของมันไว้ก่อนที่มันจะกดโทรออกไป



“ไม่ต้อง เดี๋ยวผมโทรเอง”



“เอม...”



“ไปเหอะพี่ อย่างน้อยตอนที่ไม่มีผมอยู่ แม่พี่อาจใจเย็นลงก็ได้”



“แม่ง! ทำไมมึงต้องบังคับกูวะเอม กูอยากกลับไปกับมึง”



“นั่นแม่พี่ ผมไม่อยากมีปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้ไง ทำไมแค่นี้มึงไม่เข้าใจล่ะ” บอกติดตลกออกไปแบบนั้น ส่งยิ้มขำๆไปให้มัน แล้วจับมืออีกฝ่ายแน่นๆแล้วพยักหน้าให้ มันที่ถอนหายใจออกมาหนักๆ สุดท้ายถึงยอมที่จะปล่อยมือผม



“ไปนะพี่ดาบ” บอกแบบนั้นแล้วหันหลังเดินออกมาทันที ก่อนจะสาวเท้ายาวๆเดินออกมาจากบ้านของมัน ขนาดไม่ได้หันไปมองผมก็ยังรู้ว่าใครอีกคนยืนมองผมอยู่จากที่เดิม พี่มันที่จะไม่ยอมละสายตาไปจากผมจนกว่าผมจะหายไปจากสายตา อยู่ๆก็รู้สึกร้อนขึ้นมาที่ขอบตาแบบห้ามไม่อยู่ ความรู้สึกว่าทำไมชีวิตกูแม่งถึงไม่มีอะไรดีเลยวะแล่นเข้ามาในใจของผมอีกครั้ง เป็นอีกครั้งกับเหตุการณ์เดิมๆกับความรู้สึกเดิมๆที่เข้ามากระแทกใจ



“ถ้าวันนี้เอมมีพ่อกับแม่อยู่ ฮึก เอมจะโดนดูถูกแบบนี้ไหม” น้ำตาของผมไหลตอนที่ออกมายืนที่ริมฟุตบาตรห่างจากบ้านของพี่มันแล้ว ได้แต่ทรุดตัวลงตรงนั้นแล้วร้องไห้ออกมาแบบสุดจะทน ผมที่พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาตั้งนานแล้ว หลายครั้งที่บอกตัวเองว่าอย่าร้อง



และใช่ ครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่บอกตัวเองแบบนั้น



โดยเฉพาะร้องไห้ต่อหน้าคนแบบไอ้พาพวยนั่น ผมจะไม่มีทางยอมเด็ดขาด ... ถึงแม้ว่าจริงๆแล้วในใจของผมมันกำลังสั่นไหว ทั้งเสียใจ ทั้งตื่นกลัว ในตอนที่แม่ของพี่ดาบบอกว่าเค้าไม่ชอบ เค้ารับไม่ได้ หน้าของผมชา มันชาเหมือนกับโดนน้ำเย็นๆสาดใส่หน้า มันคงไม่มีใครรู้สึกมีความสุขหรอกจริงไหม ที่ครอบครัวของคนที่เรารัก เค้าไม่ชอบเราแบบนั้นน่ะ





“มาร์ช! แม่ไม่ยอมนะ เด็กนี่คือใคร!”



“เอม....เอม...เป็น”



“แม่ไม่เคยจะว่าเลยถ้าลูกจะชอบใคร หรือจะแค่เล่นๆกับผู้ชายคนไหน แต่ขอได้ไหม ขอให้เป็นคนที่มีฐานะเท่ากัน ไม่ใช่เด็กที่ไม่มีพ่อแม่สั่งสอนไม่มีอะไรเลยแบบนี้!”



“แม่”



“เธอเองก็เหมือนกัน ตอนนี้ก็คงรู้แล้วใช่ไหมล่ะจ๊ะ ว่าเธอไม่มีอะไรเหมาะกับตามาร์ชเลย ฉันคิดว่าเธอน่าจะเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่อย่างฉันนะจ๊ะ”





หัวอกคนเป็นแม่ .... กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ผมได้ยินคำๆนี้ คำที่บังคับให้ผมต้องเข้าใจดี ทั้งๆที่ใจของผมไม่ได้เข้าใจอะไรเลยสักอย่าง หัวอกของคนเป็นแม่ที่ไม่เคยยุติธรรมต่อลูกของคนอื่น แค่สงสัยว่าแล้วทำไมแม่ของคนพวกนี้ ถึงไม่คิดถึงใจของลูกคนอื่นบ้างวะ



“ฮึก อึก...เอมคิดถึงพ่อกับแม่ เอมคิดถึงพ่อกับแม่ที่สุดเลยครับ ฮึก” ได้แต่กอดตัวเองแล้วนั่งร้องไห้โง่ๆอยู่ข้างถนนอยู่แบบนี้ เป็นอีกครั้งที่ความเป็นจริงสาดใส่ตัวผม ผมมันเป็นคนที่ไม่มีอะไรเลยจริงๆ ทั้งๆที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมพยายาม พยายามดูแลตัวเอง พยายามตั้งใจเรียน พยายามทำงาน พยายามมาตลอดเพื่อให้ได้หลุดพ้นจากตรงนี้ ... แต่ความพยายามของผม มันก็ไม่เคยพอ .... และใช่ สิ่งเดียวที่ผมมีอยู่ในตอนนี้ก็มีแค่พี่มัน...



“เอมคิดถึงพี่ดาบ ฮึก...เอมอยากกลับบ้านเราพร้อมๆพี่มากๆเลยนะ ฮึก” น้ำตาของผมไหล่ แขนของตัวเองที่กอดตัวเองเอาไว้แน่นๆในตอนนี้ที่ท้องฟ้าก็เริ่มมืดลงจนไฟถนนในหมู่บ้านนี้เริ่มติดขึ้น แต่ถึงแบบนั้น ผมก็ยังทำแค่นั่งร้องไห้อยู่ตรงนี้ ก็แค่อยากขอเวลาให้ผมได้อ่อนแอบ้างก็แค่นั้น สะอึกอื้นอยู่คนเดียวตรงนี้



“ทำไมพี่มานั่งอยู่ตรงนี้ครับพี่เอม”



เสียงเรียกที่อยู่เหนือหัวดังขึ้นจนผมตกใจ เงยหน้าขึ้นไปมองแต่ก็ยังคงมองไม่ชัดเพราะน้ำตาที่เปรอะเปื้อนเต็มหน้าไปหมด ได้แต่ยกแขนขึ้นเช็ดน้ำตาออกจากหน้าช้าๆ และพอเห็นคนตรงหน้าชัดๆก็ได้แต่ชะงักไป





--------------To be continued------------



มาแล้วจ้าาา จริงๆตามพล็อตที่แคทวางไว้ตอนนี้ยังมีอะไรต่อที่ต้องเขียนต่ออยู่ แต่ว่าแคทปวดท้องมากๆ

ปวดมาทั้งอาทิตย์เลยค่ะ ทรมานมากๆ เลยลากมาได้แค่นี้จริงๆ

หวังว่าคนอ่านจะให้อภัยนะคะ  มาน้อยแต่มานะ ขอทางให้พระเอกดิฉันเดินด้วยนะคะ

ส่วนมีคอมเม้นท์ที่บอกว่าทำไมแม่โง่ ไม่รู้ว่าพะพายหวังจะเคลมพี่ดาบหรอ ... ใช่ค่ะ แม่ไม่รู้นะคะ แม่แค่เอ็นดูพะพายจากการที่เคยเจอ

สมัยเรียน เพราะพี่ดาบพามาบ้านบ่อยๆ ... เพราะฉะนั้น ระหว่างคนที่รู้จักมานานอย่างพาพวย กับคนที่พึ่งเจออย่างน้องเอม

แม่เลยเป็นแบบนี้นะคะ คือมันก็ยังมีหลายๆมุมที่แคทพยายามจะตีแผ่และเขียนลงไปนะคะ อยากให้คนอ่านได้อ่านไปพร้อมๆกันนะคะ

ส่วนพี่เก้อ ... สิ่งหนึ่งที่อยากจะบอกก็คือ พี่เค้ายังไม่ได้รู้สึกอะไรกับน้องเสือนะคะ พี่มันจะยังเร้าหรือน้องเอมก็ไม่แปลกน้า

แคทอยากให้ทุกคนเข้าใจในความสัมพันธ์ระหว่างพี่เก้อกับน้องเสือนะคะ เป็นความรู้สึกของคนคล้ายๆกันที่มาเจอกันในวันที่แย่

ถ้าคนอ่านสนุกและชอบไปด้วยกัน แคทจะดีใจมากๆเลยค่ะ ....

ขอบคุณมากๆนะคะ

ฝาก #สวยๆเป็นผัว ในทวิตเตอร์ด้วยนะคะ

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2019
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด