Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ ตอนพิเศษ {22/05/21}]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ ตอนพิเศษ {22/05/21}]  (อ่าน 159198 ครั้ง)

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
พระพายมาแล้ว~

ออฟไลน์ Rungzanaka

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
โง้ยยยพาพวยมาแล้วอึ้งไปเลยนะเจ้ฮึถ้าทำน้องเสียใจหล่ะน่าดู  :z6:

ออฟไลน์ u_cosmos

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1
น้ำตาจะไหล หัวใจปลื้มปริ่มมาก พาพวยออกมาแล้ว !!!!
(กะว่าถ้าอีกสักสองตอนยังไม่มา เราจะเขียนจดหมายลูกโซ่ส่งให้คนเขียนแล้ว ><)

เมื่อเช้าพึ่งจะสนุกกุ๊กกิ๊กกันอยู่แท้ๆ เย็นมาก็เซอร์ไพรซ์เลยทันที
โอเคเจ๊อาจจะมีตกใจไปบ้าง ก้มันกะทันหันนะ แต่เจ๊อย่าทำอย่างอื่นให้น้องเอมน้อยใจนะ

ออฟไลน์ Yoghurt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
    • แฟนเพจ
บทที่18



“สัดพี่เก้อ คือมึงจะตามกูทั้งวันทั้งคืนเลยหรอ ขอถามกันแค่นี้”



“ใช่ แล้วมึงมีไรสัดเสือ”



“มึงก็ถามไม่คิด คือที่มึงนั่งอยู่นี่มันห้องกูไงครับ”



คนตรงหน้ากันที่ก็ถอนหายใจออกมาเป็นครั้งที่หนึ่งร้อย แต่ผมก็เลือกที่จะทำเป็นมองไม่เห็นแทน ต่อให้มันจะไล่ผมทางสายตามาตั้งแต่ตอนเลิกเรียน แต่แล้วไงวะ กูไม่ไปอ่ะ...กูมีเรื่องค้างคาใจแปลกๆ



ตอนนี้ผมกำลังนั่งเหยียดขาเอาหลังพิงเตียงนอนของไอ้เก้ออยู่แบบสบายอารมณ์ ตรงหน้ามีพัดลมขนาดตั้งพื้น ไม่ได้ใหญ่มากเปิดอยู่ กูนี่ล่ะที่เป็นคนไปกดให้แม่งไม่ส่ายไปมาเอง เอาให้มันตรงกูคนเดียวเลย ห้องแม่งร้อนฉิบหาย ห้องพักไอ้เสือเป็นห้องพักแบบสตูดิโอ ขนาดไม่ใหญ่มากมาย เดินเข้าห้องมันมาก็เจอเตียงนอนขนาดสามฟุตครึ่งตั้งพิงกำแพงห้องอยู่ ปลายเตียงมีตู้เสื้อผ้าไม้ใบไม่ใหญ่ ข้างๆกันเป็นโต๊ะเขียนหนังสือที่เหมือนแม่งไม่ค่อยได้ใช้งาน บนนั้นมีกาน้ำร้อนและถ้วยมาม่าสำเร็จรูปวางอยู่ ข้างๆไม่ใกล้ไม่ไกลมีทีวีตั้งอยู่ คิดว่าเป็นของแถมสำหรับห้องเช่าห้องนี้อยู่แล้ว และที่พื้นก็มีกล่องรองเท้าผ้าใบแบรนเนมหลายคู่ตั้งใส่กล่องไว้แบบเป็นระเบียบอยู่เป็นตั้ง ถัดๆกันที่วางต่อมาเห็นเป็นขวดน้ำหอมแบรนด์แพงๆที่ผมเคยได้กลิ่นจากตัวมันวางไว้อีกหลายขวด .... หันกลับไปมองหน้ามันที่เดินออกมาจากในห้องน้ำตอนนี้ มันที่เปลี่ยนเป็นชุดไปเที่ยวในเสื้อยี่ห้อAdidasและกางเกงยีนส์รัดรูปแบรนด์แพงอีกแบรนด์นึง ... แปลกฉิบหาย .... อดขมวดคิ้วกับสิ่งที่เห็นนี้ไม่ได้ เพราะแบบนี้เลยอดนึกไปถึงคำพูดของพวกปี1ที่อยู่ในคลาสเรียนของไอ้เสือวันนี้ไม่ได้เลยจริงๆ



“มองกูแบบนั้นคืออะไรวะ”



“นี่มึงมีเสี่ยเลี้ยงหรอวะไอ้เสือ”



“เสี่ยเลี้ยงพ่องพี่มึงสิสัด”  ด่ากูออกมาเป็นชุด หน้าตาที่ถมึงทึงขึ้นในตอนที่ได้ยิน คิ้วเรียวของมันที่ขมวดเข้าหากันทันทีที่ผมพูดจบ ท่าทางของมันที่ทำเหมือนอยากจะพุ่งออกมาหากันแล้วเอาตีนขยี้หน้าผมให้บี้จนเละ เห็นแบบนั้นแล้วอดจะยกยิ้มออกมาไม่ได้เลยจริงๆ



“หัวเราะเหี้ยไร”



“แล้วมึงจะเปรี้ยวไปไหนวะ กูก็แค่ถามดู”



“ถามเหี้ยไรล่ะ ปากหมาว่ะ” โกรธจริงจังนะผมว่า มันที่เดินมากระแทกตัวนั่งลงที่เตียงนอนแบบไม่สบอารมณ์หน่อยๆ



“ขอโทษๆ ก็แค่งงว่าทำไมมึงมาอยู่ห้องแบบนี้ แต่ข้าวของมึงแม่งแพงกว่าค่าห้องเดือนๆนึงอีกนะ” หันไปหามันแล้วเอาแขนเท้าเข้ากับขอบเตียงของมัน ไอ้เสือที่นั่งไขว่ห้างและหยิบจิวหูขึ้นมาใส่ สายตาของมันที่ปรายตามามองกันหน่อยๆก่อนแค่นเสียงหัวเราะออกมา



“เหอะ มึงไม่ได้สงสัยหรอกไอ้สัดพี่เก้อ”



“มึงก็แค่ได้ยินพวกปี1มันพูดมาวันนี้ล่ะสิถึงได้สอดปากพูดออกมาแบบนี้”



“งอนกูหรอวะ” ถามมันออกไปแบบนั้นตอนที่ไอ้เสือขมวดคิ้วหันหน้าไปทางอื่น มันที่ไม่ยอมมองหน้ากันทำเอากูต้องเลิกคิ้วสงสัย



“งอนพ่อง!”  กระแทกเสียงใส่ หันมาตะโกนใส่หน้ากันจนน้ำลายมันกระเด็นเข้าตาผม ด่ากูจบก็หันหน้าหนีกันไปอีก ท่าทางที่มาได้งอนของมันทำเอาผมอดขำออกมาไม่ได้ ยันตัวลุกขึ้น ก่อนจะเอื้อมมือไปจับคางเรียวของมันให้หันมามอง



“อย่ามาจับกูนะไอ้สักพี่เก้อ! เฮงซวยนี่!!”



“ใจเย็นครับสัดน้องเสือ ก็คือกูผิดไรนักวะ ด่ากูเหมือนกูเอามึงอ่ะเสือ”



“เอาที่หน้ามึงสิสัดพี่ มึงเอากูกูกระทืบมึงอ่ะ ฟ้าผ่าไอ้เหี้ย”



“แน่แหล่ะ ใครจะกล้าเอาคนตัวสูงแบบมึงเป็นเมียวะ”



“กูด้วย แค่คิดก็ขมคอ เป็นเมียมึงนี่ยอมตาย หวาดระแวงตายห่า ได้คนเหมือนกันขนาดนี้ วันๆกูไม่ต้องกังวลตายหรอว่าวันนี้มึงจะไปตีกรี่อยู่ที่ไหน” 



มันที่เบะปากใส่แล้วว่าออกมาฉอดๆ เป็นเด็กสีเทาๆ ที่พอมองมันแล้วก็นึกถึงตัวเองฉิบหาย ... แต่ผมตอนที่อายุเท่ามันก็ยังไม่ได้เจนจัดขนาดนี้



“มึงก็เว่อร์ไอ้เสือ”



“หรือไม่จริง กูรู้ว่ามึงก็ทำ”  มันที่จ้องตากันแบบไม่ละสายตา สายตาที่มองมาบอกผมว่า อย่าตอแหลกูนะ กูรู้กูเห็น อ่านได้แบบนั้นจนอดจะยิ้มออกมาไม่ได้



“ก็จริง”



“เหอะ”



“แล้วไง ... คืนนี้ออกไม่ล่ะไอ้น้อง”  เด้งตัวขึ้นไปนั่งข้างๆมันบนเตียงก่อนจะวาดวงแขนไปวางลงบนไหล่มันแล้วดึงตัวมันเข้ามาหาตัว



“หนักนะโว้ย!”



“กูถามน่ะว่าไง จัดไม่จัด”



“มึงเห็นชุดกูไหม กูพร้อมจะออกล่าแล้วครับสัดพี่รหัส อิอิ” อิพ่ออิแม่มัน มันที่ตอบออกมาแบบนั้นพร้อมยิ้มสดใส เป็นรอยยิ้มทะเล้นๆที่ไม่ค่อยได้เห็นจากมันเท่าไหร่ เห็นแล้วก็เผลอยิ้มตามออกมาไม่ได้ จริงๆพอมันยิ้มแบบนี้แล้วก็ดูเป็นเด็กสมอายุดี ไม่เหมือนกับเวลาที่มันชอบทำหน้านิ่ง ปั้นหน้าให้ดูคูลดูหยิ่งแบบที่ชอบทำ



“มึงยิ้มแบบนี้น่ารักดี”



“พูดเหี้ยไร”



“นั่นดิวะ กูพูดเหี้ยไร ... เออไอ้เสือ มีเสื้อให้กูใส่ไหม”



“มึงดูสารร่างมึงด้วย เหมือนหมีควายที่เล่นกล้ามขนาดนี้ มึงคิดว่ากูจะมีหรือไงล่ะ” ด่ากูซะกูเห็นภาพตัวเองเป็นหมีควายตัวสีดำเลยไอ้สัด



“ก็แค่ถาม ไม่มีก็ไม่มีสิวะ บนรถกูมีอยู่ เดี๋ยวไปเปลี่ยนก่อนไป”



“พร้อมตลอดเลยนะพี่มึงน่ะ บ่อยหรอวะ” มันที่ว่าแบบนั้นแล้วลุกออกไปจากเตียง หน้ากูนี่วืดคะมำไปกับที่นอนเลย จะลุกก็ไม่บอกกูก่อนไอ้สัดเสือ



“กูก็คนโสดไหมวะ มันก็ต้องหาที่ปล่อย แต่ถ้าจะไปหาคนที่ผ่านไปผ่านมาบางทีแม่งก็จับผิดจับถูกเจอคนมีผัวงี้ กูเหนื่อยจะหนี”



“เออ ผมเคยเจอนะพี่ เอาอยู่ดีๆมีคนมาเคาะประตู ผู้หญิงคือบอกให้กูปีนหน้าต่างออกมา สัดเอ้ย สุดยอดประสบการณืเสียว” มันว่าออกมาแบบนั้น เล่าออกมาแบบร่าเริง

“ประสบการณืหนีตีนล่ะสิมึง เสียวห่าไรล่ะ”



“ก็ตื่นเต้นดีนะพี่”  ขยิบตาให้กูผ่านทางหน้ากระจกที่มันกำลังส่อง กวนตีนกูฉิบหายไอ้หน้าตาแบบนั้น



“เบาๆหน่อยมึง ระวังจะตายเพราะตีนก่อนติดเอดส์”



“เอดส์น่ะไม่ติดหรอก เห็นแบบนี้ยืดอกพกถุงนะครับ พี่มึงเถอะ อย่าบอกว่าไม่ใส่”



“ใส่สิไอ้สัด เห็นแบบนี้กูก็เรียนหนังสือนะ”



“ฮ่าๆ ก็เห็นหน้าตาโง่ๆอ่ะนะเลยห่วง”



“ฆวย!”  ด่ามันออกไปแบบนั้นพร้อมส่งนิ้วกลางไปให้มัน ไอ้เสือที่หัวเราะลั่นตอนที่มองผ่านกระจกหน้าโต๊ะเครื่องแป้งของมันเห็นผมทำท่านั้นใส่ ได้แต่ส่ายหน้าตอนที่เห็นพฤติกรรมแบบนั้นของมัน ... เด็กแบบนี้หรอวะ จะมีเสี่ยเลี้ยง



“พี่เก้อ”



“ไร”



“วันนี้ขอบใจนะพี่”



“เรื่อง”



“เรื่องของกู้ววว”



“เดี๋ยวมึงเจอกูไอ้สัดเสือ กวนตีนนัก”



“ฮ่าๆๆๆๆ ขอโทษคร้าบ” มันที่ขอโทษออกมาแบบขอไปทีแล้วหัวเราะหน้าดำหน้าแดง มันที่เปิดไดร์เป่าผมจัดทรงผมยาวๆละต้นคอของมันไปด้วย ... เด็กฉิบหาย



.

.

.



“อ้าวไอ้เก้อ พาใครมาวะมึง” เสียงคนรู้จักของผมดังทักขึ้นมาในตอนที่พวกเราเดินเข้ามาในช่วงกลางร้าน เป็นผับที่คนเยอะๆ เวลาเดินแล้วนมชอบสีหลัง ก็ฟินๆดี



“เอ้าไอ้จั๋น”



“มาๆเพื่อน มีโต๊ะยังวะ มานั่งด้วยกันมา”  เพื่อนผมสมัยม.ปลายที่เคยไปเรียนซัมเมอร์ที่อเมริกาแล้วเจอกันครับ ตอนนี้มันเรียนอยู่ที่มหาลัยอีกที่นึงคนละที่กับผม มันเป็นผู้ชายหล่อลูกครึ่งไทยจีน เฟรนลี่ร่าเริงเข้ากับคนง่ายดี และแน่นอนว่าก็เป็นคนพอๆกันกับผม มันที่หันไปยิ้มให้ไอ้เสือที่เดินตามหลังผมเข้ามา



“เด็กมึงหรอเพื่อน”



“เด็กพ่อมึง นี่ไอ้เสือ น้องรหัสกู”



“เหยดดด มีน้องระหงน้องรหัส ดีครับ กูจั๋น”



“ดีพี่ ผมเสือ”



“โง้ว ชื่อมันร้ายๆอ่ะเนอะ นั่งๆพวกมึงนั่งกับกูนี่ล่ะ กูมากับสัดบีกับสัดแมทแค่นั้น”



“เออๆ มึงโอเคเปล่าวะเสือ” หันไปถามไอ้เสือที่ก็มองไปรอบๆ มันที่ก็ดูชิลๆกับบรรยากาศรอบๆดี



“ได้หมดอ่ะพี่ ผมไม่ซี” มันที่ว่าแบบนั้น ผมเลยพยักหน้าตอบตกลงไอ้จั๋นไป



“แล้วไอ้แมทไอ้บีไปไหนวะ” ถามมันออกไป เพราะทั้งโต๊ะไม่มีใครนอกจากไอ้จั๋นที่นั่งชงเหล้าอยู่คนเดียว



“ไปเยี่ยว แต่กูว่าแม่งตอแหลกู แม่งต้องดีลเด็กได้แล้วปล่อยให้กูนั่งเหงาๆเศร้าๆอยู่คนเดียวแน่ๆ” ว่าออกมาแบบเครียดแค้นเพื่อน เรื่องเล่นใหญ่เล่นโตก็คือยกให้มัน ไอ้จั๋นที่ส่งแก้วที่ชงใหม่ให้ไอ้เสือกับผมคนละใบ



“แล้วมึงอ่ะวะ ทำไมไม่ดีล มานั่งชงเหล้าเชี่ยไรคนเดียววะ”



“กูยังไม่อยากตายครับเพื่อน”



“มึงหมายถึง” เลิกคิ้วไม่เข้าใจ แต่ไอ้จั๋นก็เสือกยิ้มออกมา ในรอยยิ้มของมันที่ผมมองเห็นทั้งหน้าทั้งตาที่ดูมีประกายบางอย่างที่ผมไม่เข้าใจและไม่เคยเห็นมาก่อน



“เดี๋ยวเมียกูเอาตายอ่ะดิ”



“นี่มึงมีเมียแล้วหรอวะ! เป็นไปไม่ได้ไอ้สัดจั๋น มึงตอแหลกู”  ผมที่เสียงดังออกมาแบบนั้นจนไอ้เสือที่อยู่ข้างๆสะดุ้งและก็ต้องหันมาชะโงกหน้าเสือกกับเรื่องนี้ด้วย



“เสียงดังทำเหี้ยไรวะสัดพี่เก้อ ตกใจไอ้สัด”



“มึงไม่ต้องมาตอแหลตกใจ กูเห็นมึงมองนมน้องโต๊ะนู้นอยู่” หันไปผลักหัวแม่ง กูเห็นเถอะ



“เอออ จะได้อยู่แล้ว มึงจะเสียงดังทำไม ตกใจหมด”  มันที่เบ้หน้าใส่ผมแบบเซ็งๆ



“กูมาด้วยอย่าหวังมึงจะได้”



“แม่ง พี่เก้อแม่งตัวขัดลาภไอ้สัด น้องโต๊ะนั้นแม่งก็เอาแต่มองพี่”



“กูหล่อ อยู่ข้างกูมึงไม่ได้ครึ่งของกูหรอกครับ”



“เอ่อ...โทษนะ พวกมึงเห็นหัวกูอยู่ไหมเอ่ย ฮัลโหลนี่จั๋นเองนะ จั๋นคนหล่ออยู่นี่เองนะ” เสียงไอ้จั๋นที่แทรกบทสนทนาของเรามาในตอนนี้ ทำเอาทั้งผมและไอ้เสือต้องหันไปมอง ไอ้จั๋นที่ยกมือโบกไปโบกมาอยู่ตอนนี้ พอเห็นก็ทำเอาทั้งผมทั้งไอ้เสือขำออกมาทันที ไอ้สัดนี่หล่อครับ แต่เสือกตลก



“ขำอะไรกันวะไอ้จั๋น แล้วนี่ใครวะ โอ้วววว ไอ้เก้อเพื่อนรักนี่หว่า สัด Hey what’s up man?” เสียงของคนมาใหม่ที่ทักทายทำให้ทั้งผมและไอ้เสือต้องเงยหน้ามอง หน้าหล่อๆของเพื่อนร่างสูงหุ่นลีนที่เดินเข้ามาแท็กมือทักทายกับผม เป็นท่าทางประจำที่พวกเราชอบทักกันในกลุ่มเพื่อน



“มึงไปดีลเด็กมาหรอสัดแมท ไอ้จั๋นบอกกู”



“มึงก็ไปฟังมัน กูไปเยี่ยวเถอะ อ่ะ...แล้วนี่มึงพาใครมาด้วยวะ”  ไอ้แมทที่นั่งลงข้างๆไอ้จั๋น มันที่ปรายตาเลิกคิ้วมามองคนที่หันหน้าไปทางอื่นอยู่ข้างๆตัวผม เห็นแบบนั้นเลยใช้ข้อศอกกระทุ้งสีข้างไอ้เสือให้แม่งเลิกดีลเด็กแล้วหันมาในวงสนทนาหน่อย



“อะไรวะสัดพี่”



“หันมาทักทายเพื่อนกูหน่อย นี่ไอ้แมทเพื่อนกู ส่วนแมท นี่ไอ้เสือน้องรหัสกู”



“สวั...เอ๊ะ”



“เชี่ย นี่ไม่ใช่น้องเสือเด็กเสี่ยหรอวะ”  ไอ้แมทที่โพร่งออกมาแบบนั้นทันทีที่เห็นหน้าไอ้เสือ เหมือนมันจะเบรคปากมันเอาไว้ไม่อยู่ ทั้งๆที่ปกติมันไม่ได้เป็นคนพูดมาก ติดจะนิสัยนิ่งๆด้วยซ้ำ แต่เหมือนว่าครั้งนี้จะเริ่มเมาแล้วตื่นเต้นมากไปจนคุมตัวเองไม่อยู่



‘ปัก’



ไอ้เสือที่วางแก้วเหล้าลงบนโต๊ะทันทีในตอนที่ได้ยินแบบนั้น มันที่จ้องหน้าไอ้แมทแบบไม่สบอารมณ์



“What the heck! มึงพามากับมึงได้ไงวะเนี่ย”  ไอ้แมทยังคงตกตะลึงแล้วพูดออกมาแบบนั้น ไอ้เสือที่กำมือแน่นอยู่ข้างตัวผม ผมที่คว้ามือของมันเอาไว้ เพราะขืนไอ้เสือซัดหน้าไอ้แมท ผมว่ามันไม่รอดหรอก ไอ้แมทไอ้จั๋นพวกนี้ถ้าสู้กับมันก็ยากครับที่จะมีใครรอดไปด้วยสภาพดีๆ



“เสือ มึงใจเย็น” หันไปกระซิบมันแบบนั้น ไอ้เสือที่ขมวดคิ้วมองหน้าผมนิ่งๆ



“เย็นไรวะพี่ มาบอกผมเป็นเด็กเสี่ยเพื่อนพี่แม่งรู้มากแค่ไหนวะ!” มันที่ตะคอกออกมาแบบนั้น จ้องไอ้แมทเหมือนพร้อมจะพุ่งเข้าใส่ ไอ้แมทที่ก็เลิกคิ้วมามองนิ่งๆแล้วในตอนนี้ สัดเอ้ย



“เห้ยน้อง ใจเย็น ถ้าปากพี่แม่งไม่ดีก็ขอโทษละกัน”



“พวกพี่แม่งก็แค่ได้ยินจากคนอื่นแล้วก็พูดกันไป เวลาที่จับกลุ่มคุยกันแม่งก็สนุกดีอ่ะนะ แต่ไม่เคยจะคิดหรอกว่าคนที่ถูกพูดถึงแม่งต้องเจอกับอะไร รู้จักกูจริงๆก็ไม่ เสือกพูดเหมือนเป็นเหาฉลามอยู่ใต้จักแร้กู!”



“เห้ยน้อง”



“มึงจะอยู่กับเพื่อนมึงก็อยู่ไป กูกลับล่ะ” มันที่บอกออกมาแค่นั้นแล้วลุกออกไปจากโต๊ะเดินออกไปในทันที ผมที่หันไปมองไอ้แมทกับไอ้จั๋นในตอนนี้



“ไอ้เสือมันไม่ได้เป็นเด็กเสี่ย ฝากพวกมึงไปแก้ข่าวให้ด้วย ถ้าแม่งจะเป็นเด็กใคร แม่งก็เป็นได้แค่เด็กกู”



บอกมันออกไปแบบนั้นแล้วหันหลังเดินออกมา ไม่สนใจเพื่อนๆที่นั่งมองหน้ากันเลิกลักในตอนนี้



“เห้ยไอ้เก้อ!” เสียงของไอ้แมทที่ดังตามมาทำให้ผมหยุดเดิน อย่างน้อยแม่งก็เพื่อนกัน



“กูฝากขอโทษน้องมันด้วย ปากกูแม่งหมางี้อ่ะ เจอกันครั้งหน้าเดี๋ยวกูเลี้ยงเหล้าเอง ส่วนเรื่องข่าวมึงไม่ต้องห่วง เดี๋ยวกูจัดการให้”  ไอ้แมทที่ว่าออกมาแบบนั้น หน้าตาที่แม่งก็ดูไม่ได้สบายใจ แต่ผมกลับสบายใจขึ้นมานิดหน่อย เพราะรู้ดีว่าไอ้แมทแม่งจัดการข่าวพวกนี้ได้แน่



“Thank”



พยักหน้าให้พวกมันแล้วรีบเดินหนีออกมา ไม่รู้ว่าไอ้สัดเสือโมโหไปแดกตีนใครที่ไหนแล้วในตอนนี้ เวลามันโมโหมันยิ่งไม่สนใจว่าปากแม่งจะเรียกตีนใครด้วย



“ไอ้เสือ!”  ตะโกนเรียกมันตอนที่เห็นขายาวๆของมันกำลังก้าวเดินออกไปที่ถนน คงกำลังมองหาแท็กซี่ วิ่งตามมันออกไปก่อนจะคว้าแขนของมันเอาไว้ได้ทัน



“ปล่อยกู ตามมาทำเหี้ยไรวะ”



“มึงจะไปไหน มานี่ มากับกูก็กลับกับกู”



“เสือก! กูไม่อยากกลับกับมึง”



“ไอ้เสือ”



“อย่ามายุ่งกับกู มึงแม่งก็ไม่ต่างกับเพื่อนเหี้ยของมึงนั่นแหล่ะ แล้ววันนี้เข้าไปเรียนกับกูยังไม่เข้าใจอีกหรอวะ อย่ามายุ่งกับกู”



มันที่ว่าออกมาแบบนั้น สายตาที่มองกันเหมือนกับศัตรู เหมือนกับสายตาในวันแรกๆที่เราเจอกัน มันไม่เป็นมิตร ไม่เหมือนก่อนหน้านี้ที่พูดเล่นกันได้ ... เหมือนเป็นเด็กเล็กๆที่พยายามปกป้องตัวเองจากคนที่จะเข้ามารังแกด้วยท่าทางรั้นๆจนกลายเป็นเด็กนิสัยเสีย



“กูไม่เคยเชื่อว่ามึงเป็นเด็กเสี่ย! แล้วกูก็ไม่สนใจด้วยว่ามึงจะเป็นเด็กใคร ที่กูรู้ คือมึงเป็นน้องกู!!” ผมที่จับแขนมันสองข้างให้หันเข้ามาหาตัว ตะโกนใส่หน้ามันออกไปแบบนั้น ไอ้เสือที่หัวร้อนๆชะงักตัวไปในตอนนี้ มันที่จ้องหน้ากันนิ่งๆแต่ในแววตาของมันกลับสั่น



“กูเชื่อมึง...กูไม่เชื่อใคร”



...

(มีต่อจ้า)


ออฟไลน์ Yoghurt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
    • แฟนเพจ
“เอ๋?”



คนตรงหน้าที่ยังจับมือของพี่มันไม่ปล่อย แต่ก็ยังคงหันมามองหน้ากันแบบงงๆ แววตาใสๆที่ดูน่ารักแบบนั้น พอทำหน้างงๆกลับดูไม่น่าเกลียด จริงๆแล้วต้องยอมรับว่าน่ารักเลยแหล่ะ



“พาพวยคืออะไรหรอ? เอ๊ะ...ว่าแต่นี่ใครหรอดานี่ แล้วดานี่ไปไหนมาหรอ เราน่ะนะมารอตั้งนานแล้วนะ ตั้งใจมาเซอร์ไพรส์ดานี่โดยเฉพาะเลย เซอร์ไพรส์ไหม”  ว่าออกมารัวๆแบบนั้นพร้อมเอียงหัวไปซ้ายทีขวาทีแย้มยิ้มแบบร่าเริงถามอิเจ๊พี่มันด้วยรอยยิ้มสดใส เป็นคนที่ดูแล้วทำให้บรรยากาศรอบๆตัวสดชื่นขึ้นมาแบบบอกไม่ถูก



พาพวย ผมหมายถึงพระพายอะไรนั่นน่ะแหล่ะครับ ... พระพายตัวจริงกับในรูปโปรไฟล์ที่ผมเคยเห็นในตอนนั้นไม่ได้แตกต่างกันมากนัก แต่ถึงจะบอกแบบนั้น แต่จริงๆแล้วความแตกต่างก็อาจจะมีอยู่ตรงที่ ในรูปโปรไฟล์ที่สดใสแต่จับต้องไม่ได้ ไม่เหมือนกับคนที่อยู่ตรงหน้า...ที่ตอนนี้ทั้งเค้าและอิเจ๊พี่มันก็ยังคงกุมมือกันไม่ปล่อย



“พาย”



“อื้ม พายเองนะ”  ตอบรับเสียงเรียกของคนที่อยู่ข้างๆตัวผมด้วยรอยยิ้มแล้วพยักหน้าหงึกหงักสองสามที น่ารักมากมั้ง ได้แต่คิดในใจคนเดียว เหอะ .... ก็น่ารักกว่ามึงเยอะมากอยู่อ่ะไอ้เอม เจ็บไข่!



ผมอดไม่ได้ที่จะต้องหันหน้าไปมองคนที่ก่อนหน้านี้ยังโอบไหล่กันไว้ แต่ตอนนี้ก็ดึงแขนลงแล้วเอาแต่มองคนตรงหน้าตัวเองแบบงงๆอยู่แบบนั้น อาการเหมือนคนพี้ยาดูลอยๆชอบกล ลอยจนกูอยากจะยกมือขึ้นโบกหัวแม่งให้ทิ่มสักทีนึงเผื่ออาการจะดีขึ้น



“ดานี่เซอร์ไพร์สไหม”



“อ่อ...อ่า ค่ะๆ เซอร์ไพร์สมากๆเลยล่ะค่ะ” อีกคนที่ตอบออกไปแบบนั้น ท่าทางที่เหมือนพึ่งตื่นขึ้นมาในตอนที่ตอบ ตะกุกตะกักจนอยากจะตบให้สมองพี่มันเข้าที่เข้าทางกว่าที่กำลังเป็นอยู่



“อ่า ฮ่าๆๆ มึงไปไหนมาวะไอ้ดาบ” เสียงของคนมาใหม่ เป็นพี่เมฆที่เดินตามหลังพะพายเข้ามาหาพวกเรา หน้าตาหล่อเหลาของพี่มันที่ผมเคยเห็นบ่อยๆตอนนี้ก็ยังหล่อเหมือนเดิม ติดแต่ตรงที่ว่าเสียงหัวเราะแบบฝืนๆของพี่มันนี่แหล่ะที่ทำให้ดูออกว่ากำลังพยายามแก้สถานการณ์ที่ชวนกระอักกระอ่วนตรงหน้าตอนนี้อยู่ .... จริงๆก็ไม่รู้ว่ามันน่าอึดอัดตรงไหนอ่ะนะ แต่ถ้าถามว่าอึดอัดมากไหม ในใจผมก็ตอบได้แค่ว่ามากอยู่



“เรียกดาบได้ไงอ่ะเมฆ ต้องเรียกดานี่สิ เนอะดานี่เนอะ” พาพวยที่ว่าขัดออกมาแบบนั้นพร้อมหันมาพยักเพยิกกับอิเจ๊พี่มันแบบดูน่ารักน่าชังส่งรอยยิ้มสดใสให้กันและมือเล็กๆน่ารักนั่นที่ก็ยังไม่ยอมปล่อยมือออกจากมือของกันและกันเลยตั้งแต่ที่มาถึง ... ก็คือจะจับกันไว้จนวันตายเลยไหมวะ นี่ไอ้เอมไม่ได้หงุดหงิดไรนะ กูก็แค่สงสัยสักนิดนึง



“นี่มึงไปไหนมาวะ เอ่อ น้องเอมถือของหนักไหม มาพี่ช่วยนะ” พี่เมฆที่ว่าออกมาแบบนั้นส่งยิ้มมาให้กันแล้วเดินตรงมาหาผม พี่เมฆที่คว้าตระกร้าใส่อาหารเช้าเบาหวิวที่ผมถือมาแค่ใบเดียวไปไว้ในมือ  ไม่ได้หนักอะไรสักนิด คนที่หนักน่าจะเป็นอิเจ๊พี่มันมากกว่าเพราะถือของมาหลายอย่าง ดูจากเจตนาแล้วคิดว่าพี่เมฆไม่ได้อยากจะมาช่วยผมถือของอะไรหรอก แต่น่าจะอยากหยิบยื่นความมีตัวตนมาให้ผมมากกว่า



ใช่... พวกมึงมองเห็นกูไหม หรือมองเห็นกันแค่สองคน



“เข้าห้องกันเถอะมึง กูหนัก”  พี่เมฆที่พูดแบบนั้น หน้าตาหล่อๆที่ตอนนี้ก็ดูหลุกหลิกร้อนรนแบบบอกไม่ถูก



“เออ ดีค่ะ ฮ่าๆ พายเหนื่อยไหม”



“ไม่เหนื่อย แค่เจอดานี่ก็ไม่เหนื่อยแล้วน้า พายน่ะรอเซอร์ไพรส์ดานี่มาตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะ เมื่อคืนไปที่ร้านด้วยแต่ว่าอยู่ๆดานี่ก็หายไปซะงั้นอ่ะ อดเจอกันเลย วันนี้เลยบุกมาหาที่ห้องเลย แต่ดานี่ก็ไม่อยู่ หูย เสียใจมากๆเลยเนี่ย”



อ้อ...แขกที่พี่จิตบอกเมื่อวานคงจะเป็นพาพวยกับพี่เมฆแน่ๆ



“พายไปที่ร้านด้วยหรอ ไปทำไม ดานี่เคยบอกแล้วไงคะว่าไม่ให้ไปที่แบบนั้น” คำพูดของคนข้างตัวที่ทำให้ผมอดจะขมวดคิ้วตอนได้ยินไม่ได้



“ก็ดานี่อยู่ที่นั่นนี่นา พายอยากไปเซอไพรส์น้า”



“บอกแล้วว่าที่นั่นอันตราย”



“ดานี่ห่วงพาย ดูออกน้า”



อยู่ๆก็รู้สึกอึดอัดแบบบอกไม่ถูก ท่าทีที่คนทั้งคู่คุยกันสนิทสนมจนไม่มีใครแทรกบทสนทนาได้นี่มันทำให้ผมอึดอัด อิเจ๊พี่มันที่วันนี้อยู่ในมาดหล่อๆไม่ได้ทาปากแดกกับสายตาที่มองคนตรงหน้ามันเหมือนห่วงตอนที่รู้ว่าพาพวยไปร้านเมื่อคืนก็ทำให้ใจผมคันยุบๆยิบๆ แล้วไหนจะบทพูดของกูที่หายไปแบบไร้ล่องลอยนี่อีกล่ะ ... พวกมึงเห็นกูไหม ฮัลโหล นี่ไอ้เอมไง ไอ้เอมที่เมื่อกี้มึงยังหัวเราะคิกคักกับกูอยู่เลยไง



“มา ผมเปิดห้องเอง” ผมที่เลือกจะพูดออกไปแบบนั้นแล้วเดินหนีตรงไปเปิดประตูห้องเพราะผมเองก็มีการ์ดเข้าห้องอยู่ใบนึงเหมือนกัน



“เอ๋”  ได้ยินเสียงใสๆดังไล่หลังตามมา คิดว่าสายตากลมบ๊อกน่ารักนั่นก็คงจะเอาแต่มองตามหลังผมมาไม่หยุดเหมือนกัน ท่าทางน่ารักๆที่เหมือนกำลังสงสัยว่าผมเป็นใครทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ ท่าทางที่อยากรู้แต่ก็ไม่ถามออกมาแบบคนที่มีมารยาทแบบนั้น ... หมั่นไส้ไปหมด



“ทำไมมึงพาพายมาไม่บอกกูไอ้สัด”



“กูโทรกูไลน์หามึงเป็นร้อยสายแล้วไอ้โง่”



ได้ยินเสียงของพี่เมฆกับอิเจ๊พี่มันที่กระซุบกระซิบกันอยู่จากทางด้านหลัง ไม่รู้สึกอยากรู้อะไรมากไปกว่านี้ ผมก็ทำแค่ตัวเหมือนปกติแล้วเดินนำคนพวกนั้นเข้ามาในห้องก่อนใคร



“ว้าววว ห้องดานี่ไม่เปลี่ยนเลย คิดถึงที่นี่จัง”



“อ่า ฮ่าๆ”



“โอ๊ะ นาฬิกาเลือนนี้ก็ยังอยู่หรอ พรหมเช็ดเท้าสีชมพูน่ารักนี่ก็ด้วย พายจำได้ๆ ดานี่บอกไปขโมยเฮียๆมาใช่ไหม”



“อ่า ใช่ค่ะ”



“สัดดาบแม่งขี้ขโมยแบบนี้แหล่ะพาย”



“อย่าว่าดานี่นะ เมฆนี่นิสัยไม่ดีเลย”



“ใช่ค่ะ ห้ามว่าคนสวยๆแบบกูนะคะอิเมฆ”



“สวยตายล่ะไอ้สัด”



“เมฆ พายตีนะ บอกว่าอย่าว่าดานี่ แล้วนี่ก็พูดไม่เพราะอีก เดี๋ยวเถอะๆ เดี๋ยวเราจะฟ้องจั๊มจริงๆด้วย”



“ฮ่าๆ ว๊ายโดนแน่ๆค่ะ”



“เกลียดฉิบหายเลย พอพายมามึงก็กร่างหรอสัดดาบ”



“พายยยยยย ไอ้เมฆมันเกลียดสวยค่ะ”



เสียงพูดคุยของคนสามคนที่ดังมาจากห้องรับแขกทำให้ผมรู้สึกอึดอัดแปลกๆ คนสามคนที่เหมือนไม่ได้เจอกันมานานเลยพูดคุยกันอย่างสนุกสนานแม้กระทั่งกูที่เดินไปเอาถุงกับข้าวและพวกของแห้งที่เราซื้อกันมาจากทะเล อิเจ๊พี่มันมันยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าผมหยิบของพวกนั้นเข้ามาในครัวแล้ว ค่อยๆหยิบถุงอาหารต่างๆออกมาวางไว้ มีพวกปลาหมึกแห้ง ปลาทาโร่ หรือปลาหมึกอบเนยที่ผมอยากกิน ค่อยๆเก็บเข้าตู้เย็นทีละอย่าง



“อ่า ดานี่พายหิวน้ำจังเลย”  เสียงใสๆที่ผมได้ยินในตอนนั้น แล้วก็เผลอถอนหายใจออกมาไม่ได้ จะว่าอคติก็ได้ แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องมาแล้วเอาแต่นั่งอ้อนกันอยู่ตรงโซฟาตรงนั้นด้วยวะ



“อ่า น้ำหรอคะ”  เสียงของอิเจ๊พี่มันที่ว่าออกมาแบบนั้น ผมที่ก็เงยหน้าขึ้นแล้วหันไปมองหน้ามันที่มองมาพอดี สายตาที่เรามองกัน เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกไม่อยากจะมองหน้ามันเลยในตอนนี้



“เอม...” เสียงอิเจ๊พี่มันที่ก่อนหน้านี้เมื่อไม่กี่นาที มันยังคงเป็นเสียงที่ผมอยากได้ยินและเราสองคนก็อยากคุยกันแบบไม่หยุด แต่ในตอนนี้ ผมก็ไม่อยากได้ยินเสียงของมันเหมือนกัน



“เดี๋ยวผมเอาออกไปให้เอง”  เลือกที่จะเป็นฝ่ายพูดออกไปแบบนั้นโดยที่ไม่ต้องให้อีกคนพูดสั่ง ... อ้า....มันก็หน้าที่ผมอยู่แล้วไหมอ่ะ ก็ผมเป็นคนทำงานของอิเจ๊พี่มันนี่หว่า หน้าที่ที่ต้องหาน้ำออกไปให้แขกก็ควรจะเป็นผม ก็ถูกต้องแล้ว



“นี่ครับ” วางแก้วน้ำสามแก้วลงบนโต๊ะหน้าทีวี พี่เมฆที่เป็นคนคว้าขวดน้ำกับแก้วน้ำไปจากมือผมซะก่อน



“เอมไม่ต้อง เดี๋ยวพี่รินเอง”



“อ่า ขอบคุณนะฮะ ว่าแต่ดานี่เดี๋ยวนี้ไม่มีน้ำส้มหรอ ปกติดานี่กินน้ำส้มทุกเช้านี่นา พายอยากกินน้ำส้มแบบนั้นน่ะ”  คนที่นั่งอยู่ข้างๆอิเจ๊พี่มัน แขนเรียวนั่นที่ก็คล้องกันอยู่ที่แขนของอิพี่มันว่าออกมาแบบนั้น คำพูดที่ทำให้พี่เมฆชะงักตอนที่กำลังจะเทน้ำ และก็เป็นผมที่เงยหน้าขึ้นมาจ้องคนหน้าตาน่ารักนั่นแบบตรงๆเป็นครั้งแรก



อิเจ๊พี่มันชอบแดกน้ำส้มหรอ ... ไม่เห็นจะรู้ ทุกเช้าที่เห็นก็มักจะเป็นพี่มันที่ตื่นก่อนแล้วมาทำอาหารไว้รอผม



มันชอบกินน้ำส้มหรอวะ .... รู้สึกใจกระตุกแปลกๆ นี่ผมไม่รู้เลยว่ามันชอบไม่ชอบอะไรงั้นหรอวะ



“พายกินน้ำเปล่าไปก่อนได้ไหม เดี๋ยวนี้ดานี่ไม่ชอบกินน้ำส้มแล้วล่ะ”



“ทำไมอ่ะ ไหนดานี่เคยบอกพายว่าต้องกินน้ำส้มทุกเช้าไง ผิวจะได้สวยๆไง” ว่าออกมาพร้อมทำปากจู๋ ท่าทางงอนๆที่ชวนให้คนต้องง้อ ผมถอนหายใจออกมาทันทีในตอนนี้ ก็ไม่รู้ว่าทำไมกูถึงต้องมายืนดูภาพเหตุการณ์แบบนี้ด้วยวะ คิดแบบนั้นเลยตัดสินใจหันหลังเดินหนีแม่ง



‘หมับ’



“เดี๋ยวเอม” ฝ่ามือแกร่งที่เอื้อมมือมาคว้าแขนของผมไว้ในตอนนี้ ผมที่ค่อยๆหันหน้ากลับมาแบบงงๆ ก้มมองแล้วเลื่อนสายตามามองที่ข้อมือของผม สายตาคมที่ช้อนตามองกันอยู่ในตอนนี้



“หื้ม? มีอะไรหรอดานี่” เป็นพาพวยพระพายที่เอียงคอมามองกันแล้วว่าออกมาแบบนั้น เจ๊พี่มันที่ถอนหายใจหนักๆก่อนจะขยับตัวออกน้อยๆ ดึงแขนของพระพายออกเบาๆแบบไม่ให้ดูน่าเกลียด ก่อนที่เจ้าตัวจะขยับตัวลุกขึ้นมายืนข้างๆผม มองเห็นสายตากลมบ็อกน่ารักของพระพายที่มองมาแบบไม่เข้าใจ แต่ก็ดูเหมือนจะไม่พอใจอะไรสักอย่าง



“พระพายนี่เอมนะ” เสียงเข้มที่ว่าออกมาแบบนั้น แนะนำตัวผมกับพระพายให้ได้รู้จักกัน ผมหันไปมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของอีกคน อดจะไม่เข้าใจในการกระทำนี้นิดหน่อย แต่เพราะสัมผัสอบอุ่นที่ฝ่ามือของผมในตอนนี้ ฝ่ามือแกร่งที่เลื่อนจากข้อมือไปกุมประสานกับนิ้วทั้งห้าของผมไว้แน่นๆในตอนนี้แล้วว่าออกมาแบบนั้น



“อ่า ดีจ้า นี่พระพายนะ”



“อ่า...เอ่อ ครับ” เพราะอีกคนที่ก็ฉีกยิ้มน่ารักส่งมาให้กัน มันก็คงจะไม่ถูกต้องนักถ้าผมจะไม่ยิ้มกลับไป ส่งยิ้มแบบจริงใจไปให้ พระพายที่ผละหน้ากลับไปมองหน้าอิเจ๊พี่มันแล้วในตอนนี้ ... อ้าว คือนี่มึงเมินไอ้เอมหรอ เอ๊!



“ดานี่ นี่ใครงั้นหรอ” เสียงเล็กใสที่ถามออกมาเป็นครั้งที่สองหลังจากเลิกยิ้มให้กู นิ้วเรียวที่ชี้มาที่ผม



“พาย น้องเอมน่ะ...”



“เราถามดานี่นะเมฆ เมฆอย่ายุ่งซี่” ปรายตามองพี่เมฆนิดหน่อยแล้วว่าออกมาแบบนั้น เห็นพี่เมฆที่ถอนหายใจออกมาหน่อยๆก่อนเจ้าตัวจะขยับกลับไปพิงโซฟาพร้อมนั่งไขว่ห้างเท่ๆ สีหน้าที่มองมาทางอิเจ๊พี่มันที่อ่านได้ ‘แล้วแต่มึงจะตอบเลยเพื่อน กูช่วยมึงได้แค่นี้’



“คนนี้คนงานใหม่หรอ” พระพายที่ถามออกมาอีกครั้ง ก่อนจะหันมาจ้องหน้าผมด้วยรอยยิ้มกว้างๆอีกหนึ่งที ... อืมเอาล่ะ



ผมที่หันไปมองหน้าอิเจ๊ดานี่เต็มๆตาแล้วในตอนนี้ อีกคนที่ก็ขยับนิ้วมือและบีบมือผมอีกที



“เอมไม่ใช่คนงานใหม่ของดานี่หรอกค่ะพาย เอมเป็น...”



“อ่า ช่างเถอะๆๆ พระพายไม่อยากรู้ล่ะ ตอนนี้นะพายอ่ะหิ้วหิว ดานี่ซื้อไรมาเยอะแยะ พายขอไปดูหน่อยล่ะกันน้า” อีกคนที่ชิงพูดตัดหน้าคำพูดของเจ๊พี่มันแบบนั้น ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงของเจ้าตัวและก็วิ่งหนีไปเข้าครัวทั้งแบบนั้นหน้าตาเฉยๆ ผมที่มองตามแผ่นหลังน่ารักๆนั่นไปแบบไม่เข้าใจ ...แต่สิ่งหนึ่งที่มันคันยุบคันยิบในหัวใจอยู่ตอนนี้ มันบอกได้แค่ว่า



‘เอาล่ะ...กูไม่ชอบไอ้นี่!’



::::::::::::::::::-- to be continued --:::::::::::::::::::::::::



มาช้าแต่มานะคะ แคทมาแล้วนะ ต้องขอโทษมากๆนะคะ เพราะว่าไข้ขึ้น38.5ทั้งอาทิตย์เลย ตอนนี้ก็ยังไม่ดีขึ้น

แคทเลยปั่นมาได้แบบช้าๆอืดๆ ต้องขอโทษด้วยนะคะ

หวังว่าคนอ่านของแคทจะรักษาสุขภาพด้วยนะคะ ... ส่วนตอนนี้น้านนนนน

เอาล่ะคะ ฉันไม่ชอบอินี่ 55555

ส่วนใครคิดถึงเก้อเสือ พามาแล้วน้าาา อิอ๊ะ

ฝาก #สวยๆเป็นผัว ในทวิตด้วยนะคะ

ยังมีใครรออ่านไหม เราคิดถึงทุกคนนะคะ
 :mew1: :mew2: :katai4:



ขอขอบคุณคนอ่านจากเล้าเป็ดนะคะ



น่ารัก
  ขอบคุณมากๆนะคะ มาอ่านอีกน้าาา



:pig4: :pig4: :pig4:
ขอบคุณมากๆเลยนะคะ แคทมาอัพแล้วน้า



อิเจ้เพิ่งจะมาจีบน้องเอมเป็นแฟนหลังจากได้กันไปตั้งหลายทีแล้วอ่ะนะ   :laugh:
ถ้าอย่างนั้นให้องพี่ดาบเข้าแล้วเข้าเลย ไม่ต้องออกได้ไหมอ่า
แถมคราวนี้พะพายกิ๊กเก่ามาเจออีก น้องเอมจะมิคิดหนีไปอีกรึ รีบๆ เคลียร์นะเฮียนะ
  เจ๊ไม่ได้ตั้งใจได้น้องค่ะเมื่อก่อน แต่ตอนนี้เจ๊ก็ค่อนข้างมุ่งมั่นกับการจะได้น้องมากๆเลยค่ะ (น้องเอมหนีไปปปป) และใช่ค่ะ พาพวยมาแล้วววว



พระพายมาทำไมมมม กลับไปเดี๋ยวนี้!!!!
 :katai1:
  เนี่ยๆ มีแต่คนบ่นหาพระพายมาก แคทเลยพามาแล้วน้าาา55555


:katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
  ขอบคุณมากๆนะคะ แคทมาอัพตอนใหม่แล้วน้า



พระพายมาแล้ว~
ใช่ค่ะ จะมาดีมาร้าย ยังไงน้า


โง้ยยยพาพวยมาแล้วอึ้งไปเลยนะเจ้ฮึถ้าทำน้องเสียใจหล่ะน่าดู  :z6:
ทีมแม่น้องเอมใช่ไหมเอ่ยยย ถ้าทำน้องเสียใจ ฟาดค่ะต้องฟาด


น้ำตาจะไหล หัวใจปลื้มปริ่มมาก พาพวยออกมาแล้ว !!!!
(กะว่าถ้าอีกสักสองตอนยังไม่มา เราจะเขียนจดหมายลูกโซ่ส่งให้คนเขียนแล้ว ><)

เมื่อเช้าพึ่งจะสนุกกุ๊กกิ๊กกันอยู่แท้ๆ เย็นมาก็เซอร์ไพรซ์เลยทันที
โอเคเจ๊อาจจะมีตกใจไปบ้าง ก้มันกะทันหันนะ แต่เจ๊อย่าทำอย่างอื่นให้น้องเอมน้อยใจนะ
  แง้ อย่าพึ่งงงง แคทพาพาพวยมาแล้วจ้าาา คราวนี้พามาแล้วนะคะ ถ้าพามาแล้วห้ามมาตีแคทนะคะ อิอิ
ขอบคุณคอมเม้นท์ยาวๆที่น่ารักๆเสมอแบบนี้ในทุกๆตอนเลยค่ะ แคทดีใจมากๆจริงๆ
ส่วนอิเจ๊จะทำน้องเสียใจไหมน้านนน มาจ๊ะ มาอ่านไปด้วยกันนะคะ อิอิ

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
พาพวยไม่น่ารักเลอ พี่เมฆพามาทำไมเนี่ย

อิเจ้เคลียร์ด่วนๆ เลยจ้า

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
อิเจ๊มึงต้องชัดเจนกับน้องมากกว่านี้! :z6:

ออฟไลน์ u_cosmos

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1
ต่อไปนี้ชั้นจะเรียกเธอว่าพาพวยอย่างเดียวแล้ว
ชื่อจริงๆของเธอมันน่ารักเกินไป ไม่เหมาะกับกิริยาที่เธอทำกับน้องเอมเอม
ไม่ว่าเธอจะมาลองใจน้องหรือจะมาทำครอบครัวเขาร้าวฉานจริงๆฉันก็ไม่โอเคกับเธอ
ส่วนอิเจ๊พี่ดาบ ทำไมทำงี้อ่ะ นั่นน้องเอมเลยนะ คนที่พี่ดูแลอย่างดี
แต่พอพาพวยมาก็เป็นแบบนี้เลยเหรอ มึนงง สับสน ลังเล
ไม่ๆๆ จะมาถนอมกายแต่ไม่ถนอมใจกันแบบนี้ไม่ได้

เหมือนไม่ได้เจอพี่เก้อน้องเสือนานมากกกก
ถึงจะมาแบบเริ่มดีแต่ก็จบที่น้องเสือถูกเข้าใจผิดอีกแล้ว
พี่ช่วยน้องเร็วเด้อ สงสารเด็ก

คนเขียนหายไวๆนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
น่ารำคาญเนอะเอม

ออฟไลน์ LifePo-YuGu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
แรกๆคือจะตามไปตบอิ๊เจ๊นะ แต่หลังๆจะไปตบพาพวยแล้วววว  :katai4:
โถ่วววว หนูเอม มากอดปลอบ  :กอด1:

ออฟไลน์ KizzllKizz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
เอาล่ะ นี่ก็เกลียดนังพาพวยแล้วเหมือนกัน 555555555 เฮ้ย แอ๊บอ่ะ ดูออก

ออฟไลน์ Yoghurt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
    • แฟนเพจ
บทที่19





“ไอ้เมฆ มึงเข้าไปดูพายให้กูหน่อยค่ะ”



เป็นคนร่างสูงข้างๆ ตัวผมที่พูดออกมาแบบนั้น หลังจากที่พวกเราไม่มีใครพูดอะไรออกมาเลยหลังจากที่คุณพาพวยวิ่งหนีหน้าตั้งเข้าครัวไปแบบหน้าตาเฉย ... กูนี่ขมวดคิ้วมองตามแผ่นหลังบางๆ นั่นไปเลยนะ



“เออ...เดี๋ยวกูไปดูเอง” พี่เมฆที่ก็ขยับตัวลุกขึ้นมาทันที หน้าตาหล่อๆ ของพี่มันมองมาที่ผมกับเจ๊พี่มันนิ่งๆ ก่อนจะยกมือขึ้นตบไหล่เพื่อนตัวเองเบาๆ



“ให้พี่เมฆไปทำไมวะเจ๊ ไมไม่ไปดูเอง” เป็นผมที่พูดออกมาแบบนั้นในตอนที่กำลังจะเดินออกไป เหลือบมองไปเห็นอิเจ๊พี่มันที่ยืนอยู่ข้างๆ ตัวผม ส่ายหัวให้พี่เมฆหน่อยๆ ทำหน้าเชิงบอกว่าอย่าสนใจคำพูดผม



“เอม” พี่เมฆหายไปแล้ว และเหลือแค่ผมกับมัน ... เป็นช่วงเวลาที่น่าอึดอัดเพราะอีกคนทำเสียงเครียดๆ ตอนเรียกชื่อกัน และเหมือนจะเป็นผมเองที่ก็ยังไม่อยากจะหันหน้าไปมองมันชัดๆ ในตอนนี้



“......”



“หนูคะ”



“.......”



“น้องเอม”



“เรียกทำไม หรือเจ๊มีอะไรอยากจะใช้ผมหรือเปล่า ถ้ามีก็บอกมาเลย”



ไม่ได้หันหน้าไปมอง แต่ก็ตอบออกไปแบบนั้น ก็แค่ก้มหน้ามองเท้าตัวเองไป ก็ไม่ได้อะไรมากนะ แค่รู้สึกว่าตอนนี้ยังไม่อยากจะเห็นหน้ามันเฉยๆ กำลังใช้สมองเค้นความคิดอย่างหนักอยู่ในตอนนี้ ... มันเป็นหนหวย มันเป็นตะขิดตะขวงยุบๆ ยิบๆ ในหัวจิตหัวใจดวงน้อยๆ ของไอ้เอม



“มองหน้ากูหน่อยค่ะ”



“เจ๊มีอะไร” ตอบออกไปแบบนั้นพร้อมเงยหน้า แต่ก็แค่มองผ่านมันไปไวๆ ... ก็ไม่รู้ทำไมอยู่ๆ ถึงรู้สึกอึดอัดแบบนี้วะ



“เอม”



“ถ้าจะเอาแต่เรียกงั้นผมไปนะ มีการบ้านต้องทำ” บอกแบบนั้นแล้วขืนตัวหนี ไม่อยากอยู่ตรงนี้ ถ้าเจ๊มันต้องรับแขกก็อยากจะให้รับกันเอาเอง คิดแบบนั้นเลยคิดว่าจะหนีไปอยู่ห้องทำงานมันแทนในตอนนี้ แต่ฝ่ามือหนาก็ยังจับแขนกันไว้ไม่ปล่อย คนที่ดึงแขนผมให้เข้าไปชิดตัว แรงดึงที่มากจนกูเซไปหาตัวของอีกคนจนหน้าแนบไปกับอกแกร่ง



“มีอะไรทำไมไม่พูด จะเงียบไปทำไม จะหนีไปทำไม”



“แล้วเจ๊อยากให้ผมพูดอะไรวะ”



“อย่ากัดปาก”



“เรื่องของปากผมอีกล่ะ”



“ไม่ใช่ปากมึง นั่นปากกู”



“ไม่ใช่แล้วป่ะ นี่ปากกูเจ๊”



“กูเคยจูบแล้ว ก็ถือเป็นของๆ กู กูเลียจองไว้แล้ว” เจ็บไข่!



“เจ๊พูดเชี่ยไรเนี่ย ถ้าคุณพาพวยมาได้ยินอ่ะ เจ๊จะทำไง”



“มึงมานี่มา” พี่มันที่พูดแบบนั้นแล้วดึงแขนผมให้เดินตามมันไป เราสองคนที่ออกมายืนอยู่ที่ระเบียง พี่มันที่จัดการปิดประตูกระจกเรียบร้อยแล้วหันหน้ามามองกัน



“มึงเป็นอะไร”



“ผมเปล่า....” บอกแบบนั้นแต่ก็เลือกจะเสหน้าหนีออกไปด้านนอก มองออกไปไกลๆ ที่เห็นเป็นวิวตึกมากมาย มองเลยไปไกลๆ ก็มองเห็นรางรถไฟฟ้าบีทีเอสที่จะต้องขับผ่านไปผ่านมาเพราะสถานีมันอยู่ไม่ได้ไกลมากจากคอนโดของพี่มัน



“กูไม่ได้คิดอะไรกับพายแล้ว....” พี่มันที่ถอนหายใจหนักๆ แล้วพูดออกมาแบบนั้น แต่เป็นผมเองที่เลือกจะไม่ตอบอะไรกลับไป ก็แค่เงียบฟังว่ามันอยากจะพูดอะไร และเพราะแบบนั้นอีกฝ่ายก็เลยยิ่งพูดรัวๆ ออกมาแบบร้อนรนมากกว่าเดิม



“กูไม่รู้เรื่องที่พายจะมาวันนี้...กูไม่ได้รู้สึกอะไรจริงๆ เอม....”



“เจ๊ พอเถอะ” สุดท้ายเลยเป็นผมที่ถอนหายใจออกมา หลับตาลงนิดๆ แบบใช้ความคิดก่อนจะหันกลับไปมองหน้าอีกคนที่ตอนนี้กำลังขมวดคิ้วแน่นอยู่ คิ้วเรียวสวยของพี่มันที่ผ่านการจัดทรงมาเป็นอย่างดีกำลังขมวดเข้าหากัน แน่นจนอีกนิดนึงกูอยากจะยืมเอาไปผูกเป็นโบว์ห่อของขวัญ นี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นท่าทางร้อนรนของอีกคน ปกติเคยเห็นแต่ท่าทางแรดๆ



“มึงห้ามให้กูพออะไรวะ ถ้าห้ามไม่ให้กูเดินหน้าต่อไปกับมึงคือมึงฝันเลยนะ” ว่าแบบนั้นแล้วก็บีบแขนผมแรงขึ้น ก็รู้สึกเจ็บจนต้องเผลอขมวดคิ้วเลยอ่ะ



“เปล่า”



“แล้วมึงหมายถึงอะไรก็พูดออกมาสิวะเอม เป็นอะไรก็พูด”



“มึงดูร้อนรนนะเจ๊” คือจริงๆ ควรจะเป็นกูไหมที่ต้องกระวนกระวายแบบนี้อ่ะ



“ไม่ให้กูรนได้ไง นี่มันเป็นเรื่องของเรานะเว้ย”



“เรื่องของเรา?”



“ก็ใช่นะสิวะ มันเป็นเรื่องของมึงกับกู กูที่กำลังพยายามจีบมึง แล้วถ้าตอนนี้มึงกำลังรู้สึกไม่ดีเพราะกู มันก็ต้องเป็นหน้าที่กูแล้วหรือเปล่าที่ต้องทำอะไรสักอย่าง แต่อยู่ๆ มึงจะมาบอกให้กูพอ พอก็เหี้ย”



“ทำไมพูดมากจังอ่ะ”



“เอม นี่มึงกวนตีนกูป่ะ กูร้อนใจอยู่นะ” ว่าแบบนั้นแล้วเอื้อมมือมาดึงมึงผมเข้าไปกุมเอาไว้อีก ทำแบบนั้นทั้งๆ ที่คิ้วก็ขมวดเข้าหากัน



“ผมยอมรับ ผมอึดอัด”



“กูขอโทษ...แต่เดี๋ยวพายก็คงกลับแล้ว”



“ผมแค่อึดอัดที่ต้องเป็นส่วนเกิน ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับอดีจของเจ๊ ไม่เคยรู้ว่าเจ๊ชอบแดกน้ำส้มตอนเช้า ไม่เคยรู้ว่าพรหมสีชมพูนั่นเจ๊ก็ยโมยมันมาตั้งนาน ไม่เคยรู้ว่าใครเคยมาอยู่ที่นี่มาก่อน ที่ผ่านมาผมก็แค่ดีใจว่าเราอยู่ด้วยกัน แต่จริงๆ แล้วผมแม่งไม่รู้อะไรเลย เจ๊กับเค้าที่เคยมีความสุขด้วยกันขนาดนั้น แล้วผมล่ะวะ...ผมเป็นใครที่ต้องยืนฟังอยู่ตรงนั้น ไม่ได้เป็นอะไรเลย นอกจากเป็นลูกจ้างเจ๊แค่นั้นเอง”



ไม่ได้ตั้งใจว่าจะพูด แต่ผมมันก็เป็นคนแบบนี้ เคยคิดอยากจะทำตัวชิคๆ คูลๆ ดูซับซ้อนให้คนหลง แต่สุดท้ายแล้วผมมันก็เป็นไอ้เอม ไอ้เอมที่ชอบเจ็บไข่ ง่ายๆ และเก็บความรู้สึกไม่เก่งอยู่ดี ... ได้แต่กำมือตัวเองแน่นๆ แล้วช้อนตามองคนตรงหน้าที่ก็มองหน้ากันอยู่ในตอนนี้



“มึงไม่ได้เป็นไอ้เอมที่เป็นลูกจ้างกู”



“ผมเป็น...เจ๊ให้ผมเอาน้ำมาให้พาพวย”



“เค้าชื่อพระพาย”



“เค้าน่ารัก”



“อืม”



“เจ๊ชอบคนเอ๊าะแอ๊ะน่ารักแบบนั้น”



“อืม...ชอบ”



“อ่อ...” แล้วกูจะพูดอะไรได้อีกวะ พอได้ยินมันยอมรับแบบนี้แล้วหน้าก็ชาๆ ก้มหน้ามองตีนอีกรอบ แต่สักพักฝ่ามือคนตรงหน้าก็เอื้อมมาเชยคางให้ขึ้นไปมองตามันอีกที



“ชอบมึงอ่ะเอม ทำไมน่ารักจังวะ พูดออกมาแบบนี้คือหึงอยู่ดูออกอิดอก อิดานี่เค้ามีใจให้มึงค่ะ คือมึงต้องได้ต้องโดนแล้วในจุดๆ นี้ กรี๊ดๆ”



“เป็นเหี้ยอะไรของมึงอีกอ่ะเจ๊” ดึงมือออกจากมือมันแล้วผลักอกให้แม่งถอยหนีไปอีกหลายก้าว อยู่ๆ กรี๊ดออกมาทำไม กูซีเรียสอยู่อ่ะ



“ดีใจมึงหึงกู”



“กูไม่ได้พูด...”



“หนู มึงอย่าปฏิเสธค่ะ ชัดกว่านี้ก็คือมึงตะโกนบอกคนทั้งโลกว่ากูคือผัวมึงแล้วอ่ะเอม พูดรัวๆ ไม่พักหายใจเลยนะคะ อึดอัดมากสินะคะ ไม่เบะนะคะหนู ... แล้วอีกอย่าง กูไม่ได้ใช้มึงเอาน้ำมาให้เค้าเลย มึงสาระแนเอามาเองเลยค่ะ”



“มึงมองหน้ากู เหมือนอยากจะบอกว่าเอมเร็วค่ะเค้าคอแห้ง”



“อิดอกมโนตุตะ กูแค่จะหันไปหาให้มึงเดินมาหากู กูจะแนะนำมึงให้เค้ารู้จักเฉยๆ เถอะ” จีบปากจีบคอกรีดกราย หน้าตาก็ไม่ได้ขมวดคิ้วเหมือนเดิมแล้ว สายตาแพรวพราวของพี่มันและรอยยิ้มกว้างๆ ที่ผมก็ไม่เข้าใจว่าเป็นเหี้ยไรของมัน



“หนู”



“หื้ม”



“ขอโทษที่ทำให้อึดอัดนะ ... กูก็แค่ตกใจที่เห็นพายกลับมา เค้าไปเรียนต่อนานแล้ว ไม่รู้เลยว่าจะกลับมาวันนี้ ก็แค่ตกใจที่เจอเพื่อนเก่า...ในอดีตกูอาจเคยชอบกินน้ำส้มตอนเช้า เพราะกูเคยคิดว่ามันดีกับสุขภาพที่สุด แต่ตอนนี้กูไม่ได้คิดแบบนั้นแล้วว่ะ น้ำส้มมันอาจจะดี แต่บางทีมันก็ไม่ได้เหมาะกับทุกคน .... มึงเข้าใจที่กูจะสื่อไหม กูกินมันตลอดไปไม่ได้หรอก มันไม่เหมาะกับกู และที่สำคัญ ตอนนี้กูไม่ชอบกินน้ำส้มแล้ว”



คนตรงหน้าที่ว่าออกมาแบบนั้น เสียงเข้มๆ ทุ้มต่ำที่มีสเน่ห์พูดออกมาด้วยเสียงจริงจัง สายตาคมที่จ้องมองมาที่ผม ในสายตาที่สะท้อนภาพของผมตรงหน้าอยู่ในตอนนี้ อยู่ดีๆ ก็รู้สึกไม่อยากทนขึ้นมาซะแบบนั้น



“เจ๊...”



“หื้ม ว่าไงคะ”



“ไม่ได้เป็นแฟนกันมันหึงไม่ได้”



“แล้ว? ...”



“อยากหึงได้แล้ว”



“งั้นมึงรออะไร”



“รอทนไม่ไหวมั้ง...”



“งั้นใกล้ยัง...”



“ก็น่าจะใกล้แล้วนะ”



“หึ งั้นพายกลับมาก็ดีสินะ เหมือนใครบางคนจะทนไม่ไหวไวดี” ฝ่ามืออุ่นที่เอื้อมมาแนบแก้มผม เป็นทุกครั้งที่พอโดนมืออุ่นๆ แนบแก้มแล้วต้องเผลอหลับตาลงแบบทนไม่ไหว ก็ได้แต่เอียงหน้าเข้าไปซุกไซร้กับฝ่ามือนั้นอยู่ทุกที



“ไม่ชอบเลย ไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้”



“งั้นก็ทนไม่ไหวสักทีสิคะ กูก็ไม่อยากทนแล้วเหมือนกันนะ” เสียงที่กระซิบข้างๆ หู ลมหายใจอุ่นๆ ที่รดอยู่ข้างแก้ม ในตอนที่ลืมตาขึ้นมาก็เห็นสายตาคมอยู่ตรงหน้า ริมฝีปากหยักที่ยกยิ้มขึ้นมา สายตาที่อบอุ่นมองมาที่ผมและใบหน้าคมก็เอียงหน้าเข้ามาหากัน ลมหายใจร้อนๆ ที่มาพร้อมริมฝีปากหยักทำให้ผมต้องหลับตาลงช้าๆ ในตอนที่ริมฝีปากแนบลงปิดสนิทลงที่ปากของผม แค่จุ๊บธรรมดาที่ไม่ได้รุกล้ำใดๆ แต่กลับอบอุ่นหัวใจแบบบอกไม่ถูก



“เราออกไปข้างนอกกันไหม รู้สึกดีขึ้นรึยัง” เป็นพี่มันที่ถามออกมาแบบนั้นในตอนที่ผละหน้าออกจากกัน



“ก็...”



“อย่ากังวลเลย กูจะทำให้มึงรู้สึกดีขึ้นเอง” พี่มันที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วยิ้มให้กันออกมานิดๆ นิ้วเรียวยาวที่ค่อยๆ ลากไล้ไปตามแขนของผม ก่อนจะเลื่อนมากอบกุมเข้ากับฝ่ามือของผมอีกที



“ผมจะรอดูนะ”



“ตามคนสวยมาเลยค่ะหนู”



ว่าแบบนั้นแล้วขยิบตาให้กันอีกหนึ่งที รู้สึกว่าองค์พี่แด็ปโดโรทรีจะออกจากร่างมันไปอีกแล้ว เหลือไว้แต่ร่างเจ๊ดานี่คนเต๊าะแด๋คนเดิมแล้วล่ะมั้ง



“เจ๊...”



“อะไรคะ”



“ถ้าองค์พี่ดาบอยู่กับเจ๊ตลอดผมคงหมดความอดทนเร็วกว่านี้นะ”



“มันสำคัญขนาดนั้นเลยหรอคะ” อีกคนที่หันมามองหน้ากัน รอยยิ้มที่เคยมีหายไปตอนไหนไม่รู้ ในสายตาแว๊บนึงที่ดูนิ่งๆ ทำเอาผมอ่านไม่ออกจนไม่กล้าตอบอะไรออกไป



“ก็...”



“ไปกันเถอะ” เจ๊มันที่ไม่พูดอะไรออกมาอีก ทำแค่เอื้อมมือมาดึงแขนของผมไว้ แล้วดึงให้เราเดินออกไปพร้อมๆ กัน ... ช่างเถอะ คิดมากไปก็เจ็บไข่เปล่าๆ อ่ะนะ



.

.

.



“ดานี่ หายไปไหนมาหรอ” เสียงใสๆ ที่ดังมาพร้อมๆ กับใบหน้าน่ารักที่เงยขึ้นมาจากถุง ‘ปลาหมึกอบเนย’ ในปากยังคาบปลาหมึกอบเนยอยู่สองเส้น



“ปลาหมึกอบเนย!” เป็นผมที่โพล่งออกมาแบบนั้น สายตามองจ้องปลาหมึกอบเนยเส้นขาวๆ อมสีเหลืองนวลๆ ที่อยู่ในปากเล็กๆ จิ้มลิ้มนั่นไม่เลิก ปลาหมึกอบเนย!! ปลาหมึกอบเนยของไอ้เอมที่วอแวให้เจ๊มันซื้อมาให้กินเลยนะ



พาพวยยยยยย จิตใจมึงหยาบช้ามาก!!



“เอ๋ ใช่ ปลาหมึกอบเนยไง อร่อยมากๆ เลยนะ” ว่าแบบนั้นแล้วยิ้มตาปิด ฝ่ามือเรียวที่ยกถุงปลาหมึกอบเนยนั่นขึ้นมาชูให้ผมดูเป็นหลักฐาน ภาพปวดใจ แถมยังมารีวิวให้กูฟังด้วยว่าอร่อยแค่ไหน



เอมยังไม่ได้แม้แต่แกะออกมาชิมสักเส้นเลยนะเว้ย!



“ของเอมมันน่ะคะพาย” เป็นคนข้างตัวผมที่พูดออกมาแบบนั้น ผมที่ค่อยๆ ช้อนตามองหน้าอิเจ๊พี่มันแบบหงอยๆ เรื่องอะไรไอ้เอมก็พอทนได้ แต่พอเป็นของกินแล้วมันไม่ได้ไหมวะ ทำไมไม่ขอก่อนอ่ะ



“เอ้า พายขอโทษนะ พายนึกว่าของดานี่อ่า ก็ปกติอะไรในห้องดานี่พายก็กินได้หมด ขอโทษนะเอม” อีกคนที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วลุกขึ้นเดินมาหาผม หน้าตาน่ารักที่ดูสลดลงเหมือนรู้สึกผิด เดินหน้าหงอยๆ เข้ามาหาผมก่อนจะยื่นถุงขนมนั่นมาให้



รู้สึกเหมือนกูเป็นเด็กร้ายๆ ที่แม้กระทั่งขนมก็แบ่งเพื่อนกินไม่ได้งั้นอ่ะ



“อ่า ไม่เป็นไร” บอกออกไปแบบนั้นแต่ตาก็ยังจ้องถุงขนมไม่เลิก หายไปครึ่งถุงเลยนะ



‘หมับ’



“ไม่น่างอนะคะ เดี๋ยววันหลังกูพาไปซื้อมากินใหม่นะ ไว้วันหยุดมึงไปกันใหม่นะ” เสียงเข้มๆ ที่ดังอยู่ข้างตัวมาพร้อมๆ กับฝ่ามืออุ่นที่ลูบลงที่หัวของผม ทำเอาอุ่นวาบไปทั้งตัว ช้อนตามองพี่มันที่ส่งยิ้มให้กันแบบให้กำลังใจ ... จริงๆ ก็แค่ขนมเองไหม กูก็ไม่น่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่แบบนี้เลยนี่หว่า



“อื้ม ไม่เป็นไรกินเถอะ แค่ขนมเอง แบ่งกันกินเนอะ” ผมที่ตัดสินใจพูดออกมาแบบนั้น ก็เพราะไม่อยากจะดูเป็นเด็กไม่มีความคิดและหวงแม้กระทั่งของกินที่กูไม่ได้เสียเงินซื้อ ส่งยิ้มออกไปให้แล้วตัดสินใจไม่เอื้อมมือไปรับขนมนั่นกลับมา



“อื้ม แค่ขนมมันแบ่งกันกินได้ล่ะ ... แต่ของบางอย่างก็แบ่งกันไม่ได้เหมือนกันนะเอมรู้ไหม”



ผมที่ชะงักมือที่กำลังจะหดกลับมาในตอนนั้น คำพูดบางอย่างที่ทำให้ผมรู้สึกไม่ต่างจากก่อนหน้านี้ ได้แต่จ้องหน้านิ่งๆ ไปที่คนน่ารักตรงหน้าที่ก็เอาแต่ส่งยิ้มเริงร่ามาให้กันแบบสดใส เม้มปากแน่นๆ ในตอนนี้ก่อนจะตัดสินใจพูดออกไป



“ใช่เล้ย! บางอย่างมันก็แบ่งกันไม่ได้จริงๆ โดยเฉพาะคนที่ไม่ใช่สิ่งของ ถ้าเผลอทิ้งเอาไว้อยู่ๆ เกิดเสียดายอยากได้คืนก็เสียใจด้วย มันแบ่งกันไม่ได้จริงๆ โทษที



ตอบออกไปแบบนั้นแล้วยักคิ้วส่งไปให้สองจึก เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นคนน่ารักตรงหน้าที่ยิ้มค้างไปสองวิ ใบหน้าน่ารักๆ ที่ชอบส่งยิ้มไปให้พี่เมฆทีให้อิเจ๊ดานี่ทีตอนนี้ชะงักอยู่ตรงหน้าผม เป็นสองวิที่กูอยากโห่ร้องแล้วลงไปดิ้นขำ เอาไข่สีพื้นให้สนุกไปเลย ...



ไอ้สัด สะใจมาก! ... พูดมาได้ พี่แด็ปกูไม่ใช่สิ่งของนะเว้ยอยากจะบอก



หน้าตาก็ดี ทำไมความคิดน้อยจังวะ ไอ้เอมล่ะไม่ชอบเลยนะคนแบบนี้ แมนๆ มาเลย มึงอย่ามาแอ๊บ กูดูออกหมดแล้วนะพาพวย!



“อ่ะ เอ๋...เอมพูดเรื่องอะไรหว่า พายงงเลย”



“หูยยย งงเก่งจัง หน้าตาก็ไม่น่าโง่เลยนะเนี่ย เนอะเจ๊เนอะ” กรอกตาแล้วหันไปหาเจ๊มัน คนที่อยู่ข้างๆ ผมที่ทำหน้าเหมือนคนกลั้นขำจนเจ็บปอดพยักหน้าหงึกหงักออกมาอีกที พอหันไปมองหน้าพี่เมฆที่ก็เหวอหนักมากในตอนนี้ ... เอ้า กูพูดไรผิดหรอ



“เอมพูดงี้หมายความว่าไง” พาพวยที่ว่าแบบนั้นแล้วโยนปลาหมึกอบเนยลงบนโต๊ะก่อนจะเดินเข้ามาหาผม หน้าตาน่ารักที่ก่อนหน้านี้ยิ้มแย้มตอนนี้ถมึงทึงลงจนผมต้องเผลอยิ้มอ่อน



“เปล่านะ ไม่ได้หมายความว่าไงเลยนะเนี่ย หูย พาพวย เอ้ย พระพายก็คิดมากจัง”



“เอมนี่ไม่ธรรมดาเลยนะ”



“ก็แน่แหล่ะค่ะ ถ้ามันธรรมดา ดานี่จะชอบหรอคะ” เสียงสองที่อยู่ๆ ก็พูดขึ้นมาแบบนั้น ก่อนที่ฝ่ามือหนาจะเอื้อมมาโอบที่เอวของผม พอช้อนตามองหน้า คนข้างๆ ตัวก็ฉีกยิ้มหวานแล้วกระพริบตาปริบๆ ส่งมาให้ผม แถมเผื่อแผ่เลยไปให้พาพวยและพี่เมฆอีกหนึ่งที



ในช่วงจังหวะที่ไม่มีใครพูดอะไร และพระพายที่ยืนชะงักนิ่งอยู่ตอนนี้ ก็เป็นพี่เมฆที่พูดแทรกแหวกอากาศออกมาแบบได้จังหวะพอดี



“หูยยย เหยดแม่ มันเอาว่ะ”



“ไม่เอาได้ไงล่ะคะ กลัวอิหนูนี่มันคิดมาก ... เป็นไงหนู เจ๊แซ่บๆ ยั่วๆ บดๆ ชัดเจนไหมคะ” ว่าแบบนั้นพร้อมไหล่แกร่งที่กระแซะเข้ามาที่ไหล่ผมเบาๆ ... เบาๆ ของมันที่เล่นเอาตัวกูโยก แต่ถึงแบบนั้นผมกลับเป็นคนที่ตอนนี้ดันยิ้มไม่หุบ



“หมายความว่าไงอ่ะดานี่...พาย พายไม่เข้าใจ”



“หูยยย เข้าใจยากจังอ่ะ เจ๊ดานี่อ่ะจีบเราอยู่นะพาพวย ไม่ได้อวดนะ แค่บอกชัดๆ อีกทีเผื่อไม่เข้าใจ”



“เอาว่ะ...เด็กไอ้ดาบแม่งเอาเรื่องว่ะ”





::::::::::::::::::-- to be continued --:::::::::::::::::::::::::



หูยยยยยย แซ่บๆ เลย เรื่องนี้ใครพูดใหม่ ขอเสียงอีกที!!!

น้องเอมไม่ได้มาเล่นๆ นะจ๊ะ แม่ๆ น้องเอมขอเสียงหน่อยจ้าาา

ปล.จริงๆ ส่วนตัวเลยแคทก็รู้สึกว่าตัวเองเขียนไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไม่รู้ทำไม แต่ถ้าคนอ่านยังชอบอยู่ แคทก็ขอบคุณมากจริงๆ ค่ะ

ฝากแฮชแทค #สวยๆ เป็นผัว เช่นเดิมจ้า


ขอขอบคุณคนอ่านจากทางเล้าเป็ดที่ยังอยู่ด้วยกันนะคะ จุ๊บๆเลยยยย


:katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
  ขอบคุณมากๆนะคะ แล้วมาอ่านอีกน้าาา


พาพวยไม่น่ารักเลอ พี่เมฆพามาทำไมเนี่ย
อิเจ้เคลียร์ด่วนๆ เลยจ้า
มาจ้าาา มาดูกันว่านางจะน่ารักจริงๆไหมยังไงเอ่ย


อิเจ๊มึงต้องชัดเจนกับน้องมากกว่านี้! :z6:


ต่อไปนี้ชั้นจะเรียกเธอว่าพาพวยอย่างเดียวแล้ว
ชื่อจริงๆของเธอมันน่ารักเกินไป ไม่เหมาะกับกิริยาที่เธอทำกับน้องเอมเอม
ไม่ว่าเธอจะมาลองใจน้องหรือจะมาทำครอบครัวเขาร้าวฉานจริงๆฉันก็ไม่โอเคกับเธอ
ส่วนอิเจ๊พี่ดาบ ทำไมทำงี้อ่ะ นั่นน้องเอมเลยนะ คนที่พี่ดูแลอย่างดี
แต่พอพาพวยมาก็เป็นแบบนี้เลยเหรอ มึนงง สับสน ลังเล
ไม่ๆๆ จะมาถนอมกายแต่ไม่ถนอมใจกันแบบนี้ไม่ได้

เหมือนไม่ได้เจอพี่เก้อน้องเสือนานมากกกก
ถึงจะมาแบบเริ่มดีแต่ก็จบที่น้องเสือถูกเข้าใจผิดอีกแล้ว
พี่ช่วยน้องเร็วเด้อ สงสารเด็ก

คนเขียนหายไวๆนะคะ
แคทรักเอเนอร์จี้นี้ รักในการคอมเม้นท์แล้วอินไปด้วยกันเสมอ ขอบคุณมากๆนะคะที่ยังอยู่กับแคท
ขอบคุณมากๆจริงๆที่รู้สึกสนุกแล้วมาอ่านมาเม้นท์ให้กันทุกตอนเลย เป็นอีกหนึ่งกำลังใจดีๆที่แคทได้รับเสมอเลยค่ะ
ส่วนตอนนี้ไม่ได้พาพี่เก้อน้องเสือมา ตอนหน้าจะพามานะคะ ว่าพี่จะช่วยน้อง น้องจะให้ช่วยไหมยังไงเอ่ย
ส่วนพาพวยนั้น ไม่รู้พาพวยหรือพาซวยกันแน่ หึ่มๆ

น่ารำคาญเนอะเอม
คือด่าเอม ด่าพาพวย หรือด่าหนู อย่าด่าหนูน้าใจบางงงงง


แรกๆคือจะตามไปตบอิ๊เจ๊นะ แต่หลังๆจะไปตบพาพวยแล้วววว  :katai4:
โถ่วววว หนูเอม มากอดปลอบ  :กอด1:
ทีมแม่น้องเอมใช่ไหมเอ่ยยย มาค่ะมาอ่านตอนนี้เร็วววว จะหอมหัวใครน้าา


เอาล่ะ นี่ก็เกลียดนังพาพวยแล้วเหมือนกัน 555555555 เฮ้ย แอ๊บอ่ะ ดูออก
ใช่ไหมคะ ดูออก ต้องโดนไหมยังไง อิอิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-02-2020 21:31:45 โดย Yoghurt »

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 o13 ตอนนี้อีเจ๊น่าร้ากกกกกก ทำดีมั่กๆ

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
น้องเอมสู้เค้าลูก ไหนๆ อิเจ้ดานี่องพี่ดาบก็สารภาพมาแล้วว่าจีบหนูแล้ว แสดงตัวเลยลูก ให้พาพวยอยู่ไม่ได้ รีบกลับเมืองนอกไปอย่างไวเลย  :katai2-1:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ตบมือรัวๆให้เอมจ้า

ออฟไลน์ LifePo-YuGu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
ปรบมือสิค่ะรออะไร  หนูแอมแซ่บเน้ออออ :katai2-1: :katai2-1:
แบบนี้สิค่อยรักอิ๊เจ๊ขึ้นหน่อย

(สิ่งที่รักอีกอย่างคือ ชอบที่คนเขียนจะตอบกระทู้อยู่ตลอดเลย น่ารักมากจ้าาา เป็นกำลังใจให้น่าา)  :กอด1:

ออฟไลน์ Chucream.nabi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
  :angry2: ฟาดมันกลับไปเลยลูก สวย สวย  :katai3: :katai3:

ออฟไลน์ KizzllKizz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
แซ่บๆจ้า หน้าแหกไปเลยยัยหนูน้อย แอ๊บเก่งนัก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Rungzanaka

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
น้องเอมมมมมันต้องอย่างงี้สิคะแซ่บๆไปเลยยยยตอกหน้าพาพวยไปเลยทำเป็นใสนะคะ เริ่ดไม่หยุดดดด  :katai2-1:

ออฟไลน์ u_cosmos

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1
เด็กกำลังโตก็แบบนี้แหละ ต้องมีคิดแบบนู้น มโนแบบนี้บ้าง
แถมคุณพี่ยังไปทำตัวอึ้งๆ เงียบๆ แบบนั้น น้องจะเข้าใจผิดก็ไม่แปลกร้อกกก
(เข้าข้างน้องเอมเอมสุดฤทธิ์ ลูกอิชั้นใครแตะไม่ด้ายยย)
และคนอ้อมค้อมแบบพาพวยก็ต้องเจอพูดตรงๆแบบนี้แหละ หน้าม้านไปเลยล่ะสิ อิอิ

นี่ขนาดยังไม่เป็นแฟนกัน ยังหึงไม่ได้ น้องเอมก็ออกอาการขนาดนี้แล้ว
ถ้าตกลงคบกันน้องจะขนาดไหนน้อ

ออฟไลน์ Yoghurt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
    • แฟนเพจ
บทที่20


“บ๊ายบายน้าพาพวย”



“ไปกันเถอะเมฆ”



“อะ เอ่อ...กูไปก่อนนะเพื่อน เดี๋ยวค่อยคุยกัน บายนะครับน้องเอม”



“ธุจ้าพี่เมฆ”



ไอ้เด็กข้างตัวที่ว่าออกมาอีกรอบพร้อมรอยยิ้ม มันที่ยกมือขึ้นไหว้ไอ้เมฆแบบท่วมหัว แล้วหันไปโบกมือหยอยๆใส่พระพายอีกครั้งพร้อมรอยยิ้ม พระพายที่ไม่มองมันแม้แต่น้อย ดวงตากลมโตน่ารักๆที่ปกติผมมักจะเห็นความสว่างสดใสในดวงตาคู่นั้น แต่ตอนนี้มันกลับหม่นแสง พระพายที่เอาแต่มองมาที่หน้าผม สายตาคู่นั้นเอาแต่จ้องมามองกัน เป็นสายตาที่ผมอ่านมันออก แต่ก็เลือกจะทำเป็นไม่เห็นมันแทน



“พาพายกลับบ้านดีๆนะคะอิเมฆ”



“รู้แล้วไอ้สัด”



ไอ้เมฆที่บอกออกมาแบบนั้น หน้าตาของมันที่ดูจะเหนื่อยมากกว่าปกติเพราะวันนี้มันต้องเผชิญหน้ากับอะไรหลายอย่าง น่าจะตั้งแต่เมื่อคืนก่อนด้วยซ้ำเพราะมันเป็นคนไปรับพายมา



“บ๊ายบายจ้า” เสียงร่าเริงสดใสที่ตะโกนออกมาแบบนั้นตอนที่ไอ้เมฆและพระพายหันหลังเดินออกไปจากประตูห้องของเรา แขนเรียวของมันที่โบกไปมาท่วมหัวเหมือนเชียร์คอนเสิร์ตแบบนั้นมองแล้วชวนให้คนหมั่นไส้ ... แต่คงไม่ใช่ผม



“เยอะไปไหมคะอิหนู”



“ไม่เยอะเลยจ้าอิดอก”



“อิดอกอะไรของมึ๊ง!!” อึงไปสองวิก่อนจะถลึงตาใส่มันตอนที่มันว่าออกมาแบบนั้น ไอ้เด็กตรงหน้าที่หันมามองกันแล้วเริ่มหัวเราะคิกคักตอนที่เห็นผมขึ้นเสียงใส่



“ก็เจ๊พี่มึงชอบพูด อิดอกกกก”



“นั่นมันซิกเนเจอร์กูค่ะ มึงอย่ามาลอก เดี๋ยวกูตีปากให้”



“ดีด้วยปากเจ๊พี่มึงป่ะล่ะ”



“คือนี่ท้าทายกู”



“ก็มาดิคร๊าบบบ”  กวนตีนกูน้อยซะเมื่อไหร่



“เอม” เรียกชื่อมันด้วยเสียงนิ่งๆ มองตาเด็กตรงหน้าที่ยังยิ้มตาปิดมองส่งไอ้เมฆกับพระพายหน้าระรื่นอย่างเอาจริง ก่อนที่มันจะหันมามองกัน ดวงตาครึ่งเสี้ยวของมันที่ยิ้มอยู่ตอนนั้นชะงักนิ่งก่อนจะเบิกกว้างขึ้นมานิดนึงตอนหันมาเห็นหน้าผม



“หยอกกกกกก กูหยอกให้แด็ป!” แหกปากใส่กันแบบนั้นด้วยหน้าเหวอๆก่อนจะถอยหลังหนีกันไปอีกสามก้าว มันที่หันหลังวิ่งเข้าห้องไปหน้าตาตื่น กวนตีนกูน้อยล่ะไม่มี



“กูนึกว่าจะแน่”



“ได้ยินจ้าอิดอกกกก”



“ไอ้เอม เดี๋ยวมึงจะโดนกูจริงๆนะ”



“กลัวแล๊วววว” แหกปากโหยหวนดังมาจากทางห้องครัว เห็นแบบนั้นแล้วอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าเอือมเพราะมัน แต่ถึงแบบนั้นผมก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้เช่นกัน หันหน้าไปตั้งใจจะปิดประตูห้อง แต่ก็อดจะเหลือบมองทางเดินที่ตอนนี้ว่างเปล่าลงแล้วไม่ได้ คิดว่าเมฆกับพายคงลงไปแล้ว ตอนนี้มันถึงเหลือแค่ทางเดินวางๆ ก็เป็นแค่ทางเดินว่างๆสายหนึ่ง ที่ผมเองก็ไม่ควรเดินไป เพราะแบบนั้นเลยเลือกที่จะปิดประตูลงเงียบๆ หันหน้าเข้ามาในห้องที่ตอนนี้เริ่มจะวุ่นวายเพราะใครบางคนเข้าแล้ว



“ทำอะไรคะ”



“ย่างปลาหมึก” เดินเข้าไปหาไอ้เด็กที่มือถือกอดถุงปลาหมึกแห้งเอาไว้ และตอนนี้ก็กำลังก้มๆเงยๆอยู่หน้าเตาย่างในห้องครัวของผมแบบกำลังหาปุ่มเปิด



“ย่างปลาหมึกแห้ง? อยากกินหรอ”



“เอ๊เจ๊ คิดยังถามก่อน ถามมางี้คิดยังเอ่ย ไม่อยากจะทำหรอวะ” หันมามองหน้ากันแบบหงุดหงิด เหมือนกูผิดที่เข้ามาขัดจังหวะการหาของกินของมัน ริมฝีปากบางๆนั่นเชิดขึ้นมาน้อยๆตอนที่อ้าปากเถียงกัน เป็นเด็กรั้นๆที่ไม่ยอมคน แค่เห็นหน้าก็บอกยี่ห้อแล้วครับ



“กูก็นึกว่ามึงจะแดกหมึกอบเนยไงคะ อันนั้นแดกได้เลยนะไม่ต้องเสียเวลาย่าง” พยักเพยิกหน้าไปให้มันเห็นปลาหมึกอบเนยที่ตั้งอยู่บนโต๊ะกลางห้องครัว ไอ้เอมที่หันมองตามก่อนจะทำปากยื่น มันที่สะบัดหน้าหนีแล้วหันไปหาเตาย่างเหมือนเดิม พยายามก้มๆเงยๆ หนุนนู่นบิดนี่ไปเรื่อย อะ...เครื่องย่างกูจะพังก็วันนี้แหล่ะ



“พอๆค่ะ มึงจะทำของกูพัง ถอยๆออกมานี่ค่ะ” เดินเข้าไปหามันแล้วดึงแขนมันให้ออกมาห่างๆจากเตาย่าง แต่ไอ้เด็กตรงหน้าก็ดื้อไม่เลิก มันที่ขืนแรงเอาไว้แล้วหันหน้ามามองกันแบบหงุดหงิด



“อะไร มันอะไรกันนักคะหนู”



“เจ๊พี่มึงอย่ามายุ่ง กูไม่แดกอันนั้นนะ จะแดกอันนี้แล้ว” ว่าแบบนั้นแล้วทำปากยื่นปากยาว หน้าตาดื้อๆที่ดูเอาเรื่อง ท่าทางที่บอกว่าจะไม่ยอมกันจริงๆ เห็นแบบนั้นแล้วมันอดขำออกมาไม่ได้จริงๆ



“อย่ามาขำนะเว้ย”



“โอเคๆ ไม่ขำ แล้วก็ไม่แดกอันนั้นด้วย”



“ใช่!” ว่าแบบนั้นแล้วพยักหน้าแรงๆจนผมมันขยับ ผมหน้าม้าที่ขยับแรงจนตอนนี้กลายเป็นทรงกะลาครอบไปแล้ว กูล่ะไม่ไหว กลั้นขำจนหน้ากูแดงไปหมดไอ้สัดเอ้ย ... แม่ง น่ารัก



“โอเค งั้นมึงออกมายืนนี่”



“ก็บอกจะแดกอันนี้ไงเจ๊ ทำไมอ่ะ ทำไมตามใจกันไม่ได้ไง!”  อะ โวยวายใส่กูซะเสียงดัง หน้าตาคือพร้อมเอาเขาขวิดพุงกู แบบสู้ฟัดมาก โมโหเหมือนตอนควายไม่ได้กินหญ้ายังไงอย่างงั้น



“กูเคยไม่ตามใจมึงหรอคะ ออกมา กูจะทำให้ แม่ง ปรับไฟแรงแบบมึงไม่ต้องย่างแม่งหรอกปลาหมึกแห้ง มึงย่างห้องครัวกูไปเลยให้มันจบๆ!”



“เอ๋า...โกรธอะไรก่อนอ่ะดาบ บอกกันดีๆเอมก็ไม่ดื้อหรอกจริงๆ”



“สัด”



ทำหน้าตาบ้องแบ๊วใส่กูพร้อมยื่นถุงปลาหมึกแห้งที่มันถืออยู่มายัดใส่มือผมทั้งแบบนั้น ... ได้แต่ส่ายหัวใส่มัน แต่สุดท้ายก็ต้องเป็นคนไปจัดการย่างให้มันอยู่ดี กูก็ไม่เข้าใจว่ามึงหรือกูที่ถูกจ้างมาทำงาน ปรายตามองมันก็เห็นมันเดินผ่านหลังผมไปนั่งที่โต๊ะกินข้าวในครัวหน้าตาเฉย สายตาของมันที่แอบเหลือบๆมองปลาหมึกอบเนยเป็นรอบที่สาม เห็นแบบนั้นก็อดจะแอบขำมันไม่ได้ ผมที่ตั้งไฟยางปลาหมึกแห้งให้มันเรียบร้อยเดินเข้าไปนั่งตรงข้ามมัน



“อยากกินทำไมไม่กินคะ ไหนมึงขอให้กูซื้อให้ไงคะ”



“ไม่เอา” ว่าแบบนั้นแล้วทำปากยื่นออกมา ท่าทางงอนๆชวนให้ยื่นมือไปดึงปากมัน และแน่นอนว่าไม่แค่คิด กูทำด้วย



“โอ้ย เจ็บนะเจ๊”



“จะกินก็กิน อย่าลีลา มากูพากิน” ไม่สนคำโวยวายของมัน ผมก็แค่เอื้อมมือไปแกะถุงปลาหมึกอบเนยนั่นมาแล้วเอาเข้าปาก ไอ้เอมที่มองตามอ้าปากค้างพงาบๆ ทำหน้าทำตาโคตรน่าสงสาร ท่าทางอยากกินแต่ไม่ยอมแตะ



“อร่อยน้า”



“ไม่เอา กินปลาหมึกแห้ง”



“อันนี้มันทำไมคะ อย่าบอกว่าเป็นเพราะพายกินแล้วมึงเลยไม่อยากกินนะ” เป็นผมที่เลิกคิ้วถามมันแบบนั้น ไอ้เอมที่ก็ยู่ปากออกมาทันที ก่อนจะหันหน้าหนีไปมองเตาย่าง



“โคตรจะเด็ก”



“ก็ใครมันจะไปโตแบบเจ๊ แบบพาพวยอ่ะ” เอ้าสัด...อาการแบบนี้คืออะไรนะ คุ้นๆแถวบ้านเรียกหึงแล้วพาล



“หึงแล้วพาล ดูออก”



“ไม่ใช่นะโว้ย”



“ร้อนตัวไปหมด”



“โอ้ย เจ๊แม่ง ไม่อยากจะคุยด้วย” ฟึดฟัดๆ ทำท่าทางที่ตั้งใจจะลุกหนีกันออกไปจากครัวเพราะเถียงสู้ไม่ได้ เห็นแบบนั้นก็เลยดึงแขนมันเอาไว้ก่อน มึงอย่าฝันว่าจะไวกว่ากู



“นั่งลงเอม” บอกมันด้วยเสียงนิ่งๆ ไม่ได้แกล้งทำเสียงสองเสียงสามใส่มันแบบทุกที ไอ้เด็กตรงหน้าที่ลุกขึ้นยืนดูจะชะงักไปเล็กน้อย มันที่หันกลับมามองกันแบบงอแงสุดๆ



“ทำไม ไม่เอา” 



“นั่งลง”



“หึ่ย อะไรเล่า” กระแทกตัวลงบนเก้าอี้แรงๆ พร้อมยกแขนมากอดอก ท่าทางที่ผมไม่เคยเห็น อาการแบบนี้ของมันที่ไม่เคยแสดงออกมา เพราะโดยปกติถึงมันจะกวนประสาทบ้าง แต่จริงๆมันค่อนข้างวางตัวดี เหมือนเป็นเด็กที่มีความคิดที่โตเลยพยายามรักษาท่าทีอยู่เสมอแบบคนที่ดูแลตัวเองมาตั้งแต่เด็ก แต่ตอนนี้...



“มึงงอแงอะไรกับอิแค่พายกินก่อน”



“เจ๊จะมาใช้คำว่ากับอิแค่ไม่ได้นะเว่ย! ก็นี่มันเป็นของชอบผมอ่ะ ผมชอบผมอยากกินผมให้เจ๊ซื้อให้ แล้วสุดท้ายคนอื่นคาบไปกินอ่ะ แล้วจะให้ผมมากินต่อ แม่งไม่ใช่ป่ะวะ”



“มึงหมายถึงขนมนี่หรืออย่างอื่น” ถามมันออกไปแบบนั้น เด็กตรงหน้าที่ทำท่าจะเถียงออกมาอีกครั้งก็เงียบเสียงลง ปากเล็กๆของมันที่เม้มเข้าหากัน ท่าทางที่ไม่อยากตอบและก็เริ่มจะน้อยใจแบบนั้น เห็นแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา ส่ายหัวหน่อยๆส่งไปให้มัน



“มันก็แค่ของกินเอม พายมันไม่ได้ถุยน้ำลายลงไปในถุงสักหน่อยใครถึงจะมากินต่อไม่ได้ มันก็แค่ของกิน ... แบบนี้มันไม่ได้เรียกว่ากินต่อ มันไม่ใช่ของเหลือ แต่มันคือของมึง ... ของที่กูซื้อให้มึง ก็คือของมึง มึงแค่มีน้ำใจให้คนอื่นกินก่อน แต่ของของมึงมันก็คือของมึงอยู่ดี ไม่ใช่ของคนที่มากินก่อน”



“แต่...”



“ขืนมึงคิดเล็กคิดน้อยกับของกินแล้วจะทำยังไงถ้าเจอเรื่องหนักกว่านี้ แยกให้ออกหน่อยเอม ของๆมึงก็คือของมึง ต่อให้ใครแย่งไปแดก เขาก็ไม่ใช่เจ้าของมัน”



“จะบอกว่ากูเป็นเจ้าของรึไง”



“เริ่มฉลาดขึ้นมาเหมือนได้กินหญ้าแล้วเลย ... ก็แน่นอนสิคะ มึงเป็นเจ้าของ ทั้งอิปลาหมึกนี่และตัวกู”



“อยากเขินเลย”



“ก็เขินได้เลยค่ะ” บอกมันออกไปแบบนั้นแล้วยกยิ้มให้ ไอ้เด็กที่ย่นจมูกใส่แล้วมองตรงมา



“แต่อยากด่ามากกว่า มึงด่ากูเป็นควายอ่ะเจ๊ กูแปลออกนะ!”



“หูววว ฉลาดขึ้นจริงๆด้วย”



“อิเจ๊พี่มึง! สักฝุ่นไหมสาดดด กวนกูจัง”



มันที่ว่าแบบนั้นพร้อมถกแขนเสื้อ ก็คือแขนก้างๆที่แค่กูง้างนิ้วดีดมันก็กระเด็น ผมที่ได้ยินเสียง ‘ติ๊ง’ ที่บอกเวลาว่าปลาหมึกแห้งสุกพอดีลุกขึ้นยืนในตอนนั้น ก่อนจะดันถุงปลาหมึกอบเนยไปให้มันแล้วเดินหนีไปดูปลาหมึกที่เตาแทน ... กลิ่นปลาหมึกแห้งที่ถูกย่างหอมอ่อนๆ ควันร้อนๆที่ยิ่งชวนให้น่ากินนั่นทำให้ผมยิ้มออก จัดใส่จานเรียบร้อย พอหันไปหาไอ้เด็กที่นั่งอยู่ที่โต๊ะก็ต้องชะงัก



“มองไรอ่ะ ง่ำๆ” มันที่เงยหน้าขึ้นมาจากถุงปลาหมึกอบเนยแล้วเคี้ยวจนแก้มตุ่ยถามผมออกมาแบบหน้าตาใสซื่อ



“ไหนบอกไม่แดกไงคะ”



“เจ๊บอกของเอม เอมแดกหมด แดกไหม แบ่งกันนะเอมใจดี”



“สัด ตามสบายเลยจ้าอิดอก”



“ดอกจ้า”



กวนตีนกูนักนะ อยากหยิกด้วยปาก กระชากด้วยลิ้นจริงๆเลย ฮึ่ม


.

.

.


“กูนึกว่าคืนนี้มึงจะไม่มาร้าน น้องเอมไม่งอแงหรอวะ”



“ไม่งอแง มันแดกเสร็จก็ตาปรือๆ นอนหลับไปแล้วค่ะ”



“แล้วนี่มึงออกมาน้องรู้ไหม”



“รู้ ... พยักหน้าส่งๆพร้อมกวักมือไล่กูด้วยค่ะ มันบอกกูกวนมัน มันจะหลับจะนอน” บอกไอ้เมฆแบบนั้นพร้อมส่ายหัว แค่นึกถึงแม่งก็ต้องส่ายหัวแล้ว เพลีย ความไอ้เอมมันเป็นแบบนั้น ... แต่ถึงแบบนั้นก็อดจะยิ้มออกมาไม่ได้ นึกถึงตอนที่ผมจะออกมาร้านเมื่อก่อนหน้านี้ เดินเข้าไปบอกมันที่นอนหลับตาอยู่บนเตียง เอานิ้วเขี่ยแก้มมันสองทีแบบหมั่นไส้ กูอยากจะกัด พอบอกว่าจะออกมาที่ร้าน มันที่ไม่ได้ลืมตา แต่ก็เอื้อมมือมาคว้าเอวผมที่นั่งอยู่ข้างเตียงทั้งแบบนั้น ก่อนจะบอกว่า



‘ของเอมนะ ของเอมหมดเลย ห้ามสนใจคนอื่นนะ ห้ามสนใจพาพวยด้วย สนใจแต่เอมนะ’



ก็เป็นซะแบบนั้นแหล่ะ แล้วไม่ยอมคบกูให้มันจบๆไป ดื้อฉิบหาย ... แต่ก็น่ารักจนใจกูเจ็บ



“ยิ้มเหี้ยไรไอ้สัดดาบ กูหลอนรอยยิ้มมึงฉิบหาย พี้กัญชาตามนโยบายหรอสัด”



“ใจเย็นค่ะอิเมฆ พูดเสียงดังออกสื่อเหี้ยไร เดี๋ยวพ่อมึงก็มาลงร้านกูหรอกค่ะ กูไม่หารนะคะอิเพื่อนเวน”



“ก็กูเห็นมึงยิ้มหลอนๆอ่ะ เป็นเหี้ยไรนักวะ ... อย่าบอกกูว่านึกถึงน้องเอม” มันที่มองตรงมาแล้วทำหน้านิ่งๆมองกันแบบรู้ดี สัด... เบื่อความเป็นเพื่อนของมึงกับกู สาระแนรู้ใจ สวยเบื่อค่ะ



“เรื่องกูไหม สาระแน สาระแนไปทุกเรื่องเลยค่ะ”



“รวมถึงเรื่องไปรับพายด้วยใช่ไหมที่มึงว่ากูสาระแน”  ไอ้เมฆที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วยกยิ้มมุมปาก มันที่เอนตัวลงพิงพนักโซฟา แขนสองข้างที่พาดลงบนพนักโซฟาแล้ววาดขายาวๆขึ้นมาไขว่ห้าง หล่อแบบหมาต้องวิ่งเยี่ยวรอบร้านกู เปรี้ยวสุดค่ะ



“สวยขอไม่ตอบออกสื่อนะคะ”



“กูไม่ใช่สื่อไอ้สัด ... แต่ถึงมึงไม่ตอบกูว่าวันนี้คำตอบมึงก็ชัดเจนมากแล้ว จริงๆกูก็รอมึงตัดใจจากพายสักที แต่พอมาเห็นแบบนี้กูก็อดช็อคไม่ได้ว่ะ”



“คนเรามันต้องมูฟออนไงคะ มึงก็บอกกูเอง”



“มึงก็มูฟเร็วไป”



“จริงๆกูไม่ได้มูฟเร็ว มึงก็รู้ว่ากูพยายามตัดใจจากพายมานานแล้ว ก่อนหน้านี้กูก็เคยไปจีบน้องกุ๊กมึงจำได้ไหมคะ”



“กุ๊ก กุ๊กไหนวะ คุ้นๆ”



“ไม่คุ้นก็เหี้ย น้องกุ๊กเพื่อนน้องเมลเมียของเฮียทัพ เฮียกูไงไอ้สัด ... คนที่ทำให้กูเป็นพระรอง แล้วหนีไปร้องไห้เหมียนหมาไงคะ ให้เธอได้กับเค้าแล้วจงโชคดี~~” กูร้องเพลงแถมให้เลย ... ไอ้เมฆที่ทำหน้าเบ้ใส่ตอนที่ผมร้องเพลงออกมา ท่าทางที่เหมือนอยากยกตีนข้ามาถีบกัน เป็นKอะไรอ่ะ เสียงกูเพราะมากนะ



“ก็มึงยอมถอยเองไหมวะตอนนั้นอ่ะ”



“กูไม่ได้ยอมถอย แค่รู้ว่าดันทุรังไปก็ไม่มีประโยชน์ อีกอย่างกูก็ทำเต็มที่ของกูแล้ว แต่น้องเค้ามีคนที่ชอบอยู่แล้วไหม กูก็อยากให้น้องได้มีความสุขกับคนที่น้องรัก เพราะกูรู้ว่า การรักใครแล้วได้ความรักตอบกลับ มันเป็นอะไรที่โคตรโชคดี”



“เหมือนมึงวัดจากตัวเอง ที่ชอบพาย”



“ตอนนั้นก็คงใช่”



“หมายความว่าไงวะ ตอนนั้น?”



“ก็ตอนนั้นกูมีแค่พาย ก็วัดจากที่ตัวเองชอบพาย” บอกมันง่ายๆพร้อมยักไหล่ แล้วเอื้อมมือไปหยิบแก้วเป๊บซี่ขึ้นมาซด



“คือจะบอกว่าตอนนี้มึงมีน้องเอมแล้ว ความรู้สึกมันเลยไม่เหมือนกับตอนน้องกุ๊กว่างั้น”



“อืม...เพราะถ้าเป็นไอ้เอม กูจะไม่ปล่อยมันไปให้ใคร”



“สัด เป็นไรกับเค้าอ่ะครับเพื่อน เจ้าเข้าเจ้าของสุดๆ”  อยากตอบออกไปว่าเป็นผัว แต่กลัวแม่งเสือกแล้วล้อว่ากูเป็นตุ๊ดแต่ไปแอบเสียบเค้า นิ่งไว้ตัวกู นิ่งไว้ไอ้ดาบ เอ้ย! ดานี่ ... กูต้องสวยๆสงบสติ คิดแล้วก็นั่งไขว่ห้างแล้วยกนิ้วขึ้นเอาผมทัดหู



“ท่าทางมึงมีพิรุธสัด”



“จะบ้า นี่สวยนะคะ สวยๆเอาผมทัดหู”



“ท่าทางมึงมีพิรุธ เหมือนมึงกำลังปกป้องความจริงอยู่”



“ปกป้องความจริง ปกป้องทำไมคะอิดอก บ้าน่า ฮ่าๆๆ” อย่า อย่าเลิกลั่ก นี่กูดูมีพิรุธหรอคะ หน้าตากูบอกอาการกูออกหรือ ยังไง



“พอ เลิกหลุกหลิกสักทีไอ้ห่า จากกูจะไม่สงสัย กูจะสงสัยก็ตอนนี้แหล่ะ”



“ฮ่าๆ กูก็แกล้งเล่น”



“แต่นะ...กับพายอ่ะ มึงจะไม่ตัดแบบนี้หรอวะ” ไอ้เมฆที่ว่าออกมาแบบนั้น มันที่เปลี่ยนเป็นท่าทางจริงจังแล้วมองหน้ากันนิ่งๆ ผมที่มองตอบกลับไป ก่อนจะถอนหายใจออกมาแล้ววางแก้วเป๊ปซี่ลงบนโต๊ะ



“แล้วให้กูทำไง ถ้าเป็นมึง ต้องเลือกระหว่างพาย กับทำให้ไอ้จั๊มไม่สบายใจ มึงจะเลือกอะไร”



“สัด ถามเหี้ยไรวะ”



“กูดูออกเถอะไอ้เมฆ มึงเป็นเพื่อนกูมากี่ปี ลีลาอยู่ได้ไอ้จั๊มจะไปอ่อยคนอื่น มันยิ่งชอบคนรวยอยู่”



“จะมีใครรวยกว่ากูอีกไอ้สัด มันไม่ไปไหนหรอก”



“พูดดีไปเหอะ คนเรามันทนรออะไรไม่ได้นานหรอกนะมึง ... กูไม่ได้ตัดสินจากใคร กูตัดสินจากตัวเอง”



“มึงจะหมายถึงตอนที่พายไปเรียนต่อ?”



“อืม ... คนที่สมหวังเท่านั้นแหล่ะ มันถึงจะบอกว่าการรอมันคุ้มค่า แต่ใครแม่งจะรู้วะว่าสุดท้ายรอแล้วมันจะสมหวัง ไม่ใช่ทุกคนหรือเปล่าที่จะได้รับมัน ... และคติกู ถ้ารักก็ต้องสู้ มีแค่ไม่รักเท่านั้นแหล่ะ ถึงจะต้องปล่อยไป”



“เชี่ย คมบาดหน้าเลยสัด”



“ก็มันจริง”



“พูดมาแบบนี้แสดงว่ามึงไม่ได้รักน้องกุ๊กมากขนาดนั้นอ่ะดิ”



“กูชอบนะ ชอบน้อง อยากทำให้น้องยิ้มมากกว่าร้องไห้ กูเห็นน้องมันเศร้าบ่อยด้วยแหล่ะ ... แต่ก็นะ อาจจะจริงแบบมึง กูอาจจะไม่ถึงกับรักน้องขนาดนั้น แต่ในตอนนั้น กูก็ทำเต็มที่ของกูนะ กูสู้กับไอ้บินเต็มที่แล้ว”



“แฟนน้องชื่อบิน?”



“ใช่ ชื่อบินแต่บินไม่ได้นะ กูนี่ที่บินได้ นกจิ๊บๆเลยไอ้สัด”



“ฮ่าๆ แต่เรื่องตอนนั้นมึงหล่อเลยนะ ไม่ได้ลูซเซอร์เหมือนตอนที่พายบอกจะไปเรียนต่อ”



“เพราะมีประสบการณ์จากพายไงวะ ตื้อยังไงก็ได้แค่เพื่อน”



“แล้วถ้าตอนนี้พายไม่ได้อยากเป็นเพื่อนกับมึงแล้วล่ะวะ”  ผมที่กำลังเอื้อมมือไปคว้าน้ำแข็งมาใส่แก้วต้องชะงักอีกครั้ง เลิกคิ้วมองหน้าไอ้เมฆแบบไม่เข้าใจ



“มึงหมายความว่าไง”



“ก็ถ้าครั้งนี้พายไม่อยากจะเป็นเพื่อนแล้วล่ะวะ ... มึงจะไม่เปลี่ยนใจจากน้องเอมแน่หรอ พายน่ะ...คนที่มึงเปลี่ยนตัวเองจนถึงตอนนี้ มึงจะตัดไปได้จริงๆหรอวะ”



...

(มีต่อจ้า)



ออฟไลน์ Yoghurt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
    • แฟนเพจ

“เรื่องราวมันก็เป็นงี้อ่ะป้า”



“โอ้โหหหหหห แซ่บไม่หยุด หนูชะเอมลูกแม่โตเป็นสาวแล้วหรอคะ แซ่บๆนัวๆไปเลยค่ะมึง กูนี่อยากลุกขึ้นรัวมือให้มึงค่ะ”



“ลูกสาวเหี้ยไรอ่ะป้า กูมีไข่ พูดละเจ็บไข่เลย”



“ใครบีบใครมึงคะ ไหน ขอกูดูหน่อย!” ไอ้หยีที่พูดจบแบบนั้นแล้วก้มตัวลงมา พร้อมยื่นมือมาที่เป้ากางเกงนักศึกษาของผม กูนี่พลิ้วตัวหลบแทบไม่ทัน ไอ้แม่ย้อย หลบทันตอนที่มือมันห่างจากเป้าแค่สองมิล เกือบไปแล้วไข่น้อยๆของไอ้เอม



“เชี่ย! ป้า!! มึงเป็นผู้หญิงยังไงเนี่ย” ด่ามันออกไปแบบนั้น แต่ผู้หญิงสวยตรงหน้าผมก็ทำแค่ยักไหล่นิดๆแบบไม่สนใจ มันที่วันนี้อยู่ในรองเท้าผ้าใบและกระโปรงนักศึกษาทรงเอผ่าหน้าที่สั้นฉิบหาย คือถ้ามึงนั่งวินมอไซต์มา กูพนันได้เลยว่าตอนมึงก้าวขึ้นมอไซค์กระโปรงมึงต้องแหก เพราะแม่งทั้งสั้นทั้งแน่น กูมองแล้วอึดอัดแทนอ่ะเอาจริงๆ



“กูเป็นผู้หญิงยุคใหม่ไงคะหนูลูกกก กะอิแค่ไข่มึงเนี่ยทำหวง ถ้าไข่เจ๊ดานี่มึงไม่แหกแกกูหรอ”



“แล้วเป็นเหี้ยอะไรต้องไปยุ่งกับไข่มันอ่ะ”



“อันนี้หวงไข่ผัวอ่ะเนอะ”



“กูไม่ใช่จงอางไอ้สัด”



“ฮ่าๆ อิเหี้ย เปรี้ยวมาก มีเล่นมงเล่นมุก แต่จะว่าไปนะ พี่พระพายนี่ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเป็นคนแบบนั้น”



“มึงรู้จักหรอป้า”



“ก็ไม่ได้สนิทหรอก ตอนกูอยู่ปี1ก็เห็นพี่เค้าบ่อยไง มากับพี่ดาบ เอ้ย เจ๊ดานี่บ่อย”



“สนิทกันมาก”



“เรียกได้ว่าถ้าอมเข้าปากได้อิพี่ดานี่คงทำอ่ะค่ะมึง ... มองจากดาวอังคารก็รู้ว่ามีซัมติง”



“หรอวะ...”



“เอ้า หงอย เอ้าหงอยเลยอิน้องเอม”



“หงอยไรวะ เปล่าสักหน่อย” บอกออกไปแบบนั้นแล้วฟุบหน้าลงบนกระเป๋าที่วางไว้บนโต๊ะไม้ตรงหน้า ลมพัดเย็นๆจากต้นหูกวางบนหัวก็ไม่ได้ทำให้ใจสงบ



“ช่วยไฟท์หน่อยได้ไหมอิหนู นั่นผัวมึงนะ!”



“แต่ยังไม่ได้เป็นอะไรกันไงป้า ทำไมไม่เข้าใจวะ”



“เอ้า แล้วมึงรอหินรอแดดอะไรอยู่คะ ก็เป็นซะสิ เจ๊ดานี่คือแทบจะพร้อมรอกระแทกมึงไม่ไหวแล้วมั้ง เมื่อเช้ากูเห็นนะคะ มาส่งมึงน่ะ แค่จะถอดหมวกกันน็อคเป็นเหี้ยอะไรต้องหอมแก้มกันอ่ะ งงมาก ริษยาสุดๆ”



“มึงเห็นหรอป้า!”



“โอ๊ยย มีตาค่ะ แล้วคือหอมกันขนาดนั้น เยกันไปแล้ว มึงรออะไรเอ่ย”



“ตอนนั้นมันแค่ผิดพลาดเหอะ ไม่นับไหมวะ” บอกออกไปแบบนั้นแล้วขมวดคิ้วกับเรื่องนี้ไม่หาย ตอนนั้นไม่นับไง มันแบบผ่านๆมาแล้วไง ตอนนี้ก็ต้องเริ่มใหม่เปล่าวะ แบบยังไม่ได้เป็นไรกันอ่ะ ... ว่าออกไปแบบนั้นแล้วหันไปมองไอ้หยีที่ตอนนี้หยิบน้ำผลไม้ที่เหมือนมันจะปั่นใส่กระติกมาจากบ้านตัวเองขึ้นมาจิบ จิบแบบสวยๆอ่อยผู้ชายโต๊ะข้างๆ ดูออก



“หรอคะ แล้วไม่ได้เป็นอะไรกันแบบที่มึงว่านี่ไปถึงขั้นไหนเอ่ย จูบ?” ผมส่ายหัวหน่อยๆเป็นคำตอบให้มัน



“ค่อยยังชั่ว แค่หอ...”



“ก็ช่วยกันปล่อยน้ำไปสองครั้งเอง”



‘พรู้ดดดด’



“โว้ยยยย ป้า สกปรกฉิบหาย พ่นน้ำออกมาได้ แล้วนี่น้ำไรวะสีส้มๆเหลือง”



“กรี๊ดดดดด อิเหี้ยน้องเอม ถึงขนาดนี้แล้วมึงรออะไร เจ้านายลูกน้องไม่ช่วยกันรีดน้ำค่ะมึง” ไม่สนใจว่าแขนเสื้อนักศึกษาข้างนึงของกูจะกลายเป็นจุดสีส้มๆเพราะน้ำผลไม้ของมันไม่พอ ยังพูดเรื่องอื่นหน้าตาเฉย คือช่วยสนใจเสื้อนักศึกษากูด้วยครับ



“เออ ก็นั่นแหล่ะน่า”



“นั่นแหล่ะเหี้ยอะไร ชักช้าเพื่อ รอพี่พายมาแย่งไปหรอมึง”



“แย่งก็เหี้ย ไม่ยอมหรอก”



“แล้วมึงรออะไร”



“รอพี่ดาบ”



“ห๊ะ!”



“กูก็แค่อยากได้แฟนที่มาดูแลกู กูชอบผู้ชายนะป้า ก็แค่อยากได้ผู้ชายสักคนมาดูกูให้ดีกว่าตอนกูอยู่คนเดียว ไม่ได้อยากได้เพื่อนสาวที่ชวนกูมาร์คหน้าหรือทาปากสีแดงเวลาออกไปด้วยกันไหมวะ”



“ไอ้เอม” หยีที่ถอนหายใจออกมาหนักๆในตอนนั้นแล้วเรียกชื่อผมด้วยเสียงเครียดๆ เงยหน้ามองหน้ามันที่ทำท่าทางอยากจะพูดอะไรออกมาสักอย่าง ติดก็ตรงที่



“ฮ่าๆๆๆ อย่าแกล้งจะได้ไหมวะไอ้พี่เก้อ”



“แกล้งเหี้ยไร กูก็แค่เอานิ้วจิ้มเอวมึง”



“ก็กูบอกว่ากูบ้าจี้ไอ้สัดพี่ จิ้มกูหาพ่อง!”  เสียงโวยวายของคนมาใหม่สองคนที่ทำให้ทั้งผมและไอ้หยีหยุดคำพูดของตัวเองในตอนนั้น เราที่หันหน้าไปทางเดียวกันและมองเห็นคนมาใหม่สองคนที่กำลังเดินเข้ามา ไอ้เก้อที่พยายามกอดคอไอ้น้องเสือ แต่ไอ้เด็กเสือกลับพยายามเบี่ยงตัวหนี และไอ้เก้อก็พยายามจะยื่นนิ้วชี้ไปจิ้มเอวไอ้เสือ



“นี่มันเรื่องเหี้ยอะไร มึงเห็นเหมือนที่กูเห็นไหมป้า”



“เห็น เหมือนผีหลอกกูตอนกลางวัน”



“คือมันไปดีกันตอนไหนเอ่ย ก่อนหน้านี้มันต่อยกันแทบตาย” ผมที่ถามออกมาแบบนั้นแล้วหันไปมองหน้าไอ้หยีแบบขอความเห็น แต่คนข้างๆตัวที่ก็ทำเพียงส่ายหน้า



“พี่ๆ หวัดดี” ไอ้เสือที่วิ่งหนีไอ้เก้อเข้ามาทางพวกเรา แล้วยกมือไหว้แบบท่วมหัว ... เป็นเด็กมีมารยาทอ่ะเนอะ



“วิ่งหนีกูทำเหี้ยไรวะไอ้เด็กเปรต”  ไอ้เก้อที่เดินตามเข้ามา มันที่เอื้อมมือไปผลักหัวไอ้เสือแรงๆที่นึงจนหัวน้องมันโยก คือเอ่อ...คอมึงเคร็ดไหมเสือ สงสารฉิบหาย



“พี่หยี คนบางคนแม่งมีของมาฝากว่ะพี่” ไอ้เสือที่โพล่งออกมาแบบนั้น ก่อนจะยื่นพาเรทแต่งตาออกมาให้ไอ้หยี



“กรี๊ดดดดด LAURA MERCIER รุ่นออกใหม่!” ลอล่า เมอๆมาซิเอ้อ เหี้ยไรนะ  คือกูฟังไม่ค่อยจะชัด แต่ชื่อเทือกๆนี่ล่ะ ได้แต่คิดในใจว่าถ้าเป็นอิเจ๊พี่มันอยู่ตรงนี้มันคงเข้าใจ และดีไม่ดีอาจจะกรี๊ดไม่ต่างกับไอ้หยีตอนนี้ก็ได้ล่ะมั้ง



“มีคนเอามาง้อพี่อ่ะ” ไอ้เสือที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วหันหน้าไปยักคิ้วให้ไอ้เก้อ ... หื้ม ยังไงนะ?



“มึงง้อกูหรอคะอิผัว”



“เปล่าสักหน่อย ก็แค่คิดว่ามึงคงชอบแหล่ะ” ไอ้เก้อที่ว่าออกมาแบบนั้น มันที่ยังคงทำท่าทางแข็งๆเหมือนไม้แบบที่ถ้าเด็กเห็นต้องวิ่งร้องไห้ไปฟ้องแม่เพราะกลัวไอ้เก้อจะแย่งลูกอม เป็นผู้ชายห่ามๆที่ไม่น่าจะรู้จักอิพาเรทแต่งตาอะไรนี่ได้



“จริงๆกูก็ไม่ได้ถือโทษโกรธอะไรมึงนะคะ แต่ของที่มึงเอามาง้อ กูจะรับไว้งั้นๆล่ะกันนะ”



“หรอ ถ้าไม่โกรธงั้นกูเอาคืน”



“กรี๊ดดดดดด อิสัด ให้แล้วให้เลยค่ะ!” ว่าแบบนั้นพร้อมยื่นมือไปตะคลุบไว้แล้วเอามากอดไว้แนบอก ไม่ค่อยหวงเท่าไหร่จริงๆ



“สามพันจุกๆเลยนะพี่หยี”



“อิผัวคือทุ่มสุด ว่าแต่มึงรู้จักอะไรแบบนี้ได้ไงอิเก้อ”



“กูไม่รู้ ถามไอ้เด็กเหี้ยนี่ไง หญิงแม่งเยอะ มันรู้ดี” ไอ้เก้อที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วยื่นมือไปผลักหัวไอ้เสืออีกที แรงผลักไม่ได้เบาลงจากเดิม แต่ทำไมมองจากมุมนี้ ไอ้เก้อดูยิ้มอบอุ่นพิกล



“ว่าแต่พวกมึงไปทะเลาะกันตอนไหนวะ ทำไมกูไม่รู้”  ในที่สุดกูก็มีบทพูด ถามมันออกไปแบบนั้น ไอ้หยี ไอ้เก้อ ไอ้เสือที่ก็หันมามองผมกันตาเดียว และก็เป็นไอ้หยีกับไอ้เก้อที่ตะโกนออกมาพร้อมๆกันแบบไม่มีพิรุธ



“บ๊า! โกรธกันตอนไหน”



“โกรธกันตอนนู้น หายแล้ววันนี้!”



ตอบได้ดี ... คำตอบเดียวกันเป๊ะ ... แล้วแต่พวกมึงเลยจ้า ไอ้พวกเพื่อนตัวดีของกู



.

.

.



 ‘วี๊ดวิ้ว ฮู้ว ฮู’



ผมที่เดินผิวปากลัลลาออกมาจากลิฟท์ในช่วงเวลาประมาณ5โมงเย็น วันนี้กลับมาจากมหาลัยไวกว่าปกติ ตั้งใจมาเซอร์ไพรส์เจ๊มันเลยนะเนี่ย ปกติจะถึงบ้านประมาณ6โมง คิดว่าวันนี้เจ๊มันคงยังไม่ได้ทำอะไรไว้ให้กินแน่ๆ เพราะงั้นวันนี้เลยซื้อข้าวขาหมูที่โรงอาหารกลับมาด้วย เจ้านี้นะอร่อยที่สุด อยากให้เจ๊พี่มันได้ลิ้มลอง ลองแล้วจะติดใจ หนังฟินๆที่กินคู่กับผักกาดดองแล้วก็ผักคะน้า ฟินจนต้องร้องขอชีวิตเลยล่ะครับ



‘ติ๊ด’



ผมที่แทบบัตรเข้ากับประตูห้อง ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปในห้อง กลิ่นหอมๆของเนื้อย่างที่ตัดคู่กับเนยทำให้ผมต้องทำจมูกฟุดฟิด



“หื้ม สุดแสนใจหอม ... เจ๊ทำอะไรไว้รอไอ้เอมวะ น่ารักจังเลย” พูดกับตัวเองเบาๆก่อนจะวิ่งเข้าไปในห้องครัวตามกลิ่นอาหารไป



“เจ๊! ไอแอมกลับมาแล้ว เจ๊ทำอะ....!!”



ผมที่ยิ้มกว้าง ก่อนจะยิ้มค้างอยู่ตรงหน้าประตูห้องครัวในตอนนี้ แผ่นหลังกว้างๆที่หันหน้าเข้ากับเตาแก๊สแบบที่ผมเคยเห็นบ่อยๆ แต่วันนี้มันกลับไม่ปกติตรงที่มีแผ่นหลังบางๆที่อยู่ในเสื้อกันเปื้อนสีชมพูที่ยืนเกาะหลังกอดเจ๊พี่มันอยู่ในตอนนี้ และในตอนที่ผมเรียกแบบนั้นออกมา คนทั้งสองคนก็หันหน้ามามองผมในทันที ต่างกันตรงที่อิเจ๊พี่มันที่ทำหน้าเหวอๆ และพาพวยที่ก็ทำแค่ส่งยิ้มมาให้ผมแบบหวานเจี๊ยบ



“อ้าว น้องเอม กลับมาแล้วหรอ ดานี่กำลังทำเนื้อผัดเนยให้พี่พอดี มากินด้วยกันสิ”



“เอม”



มึง...!!



เดี๋ยวมึงเจอกูทั้งคู่เลยสาดดดดดดดด



::::::::::::::::::-- to be continued --:::::::::::::::::::::::::



กรี๊ดดดด เดี๋ยวมึงเจอน้องเอมแน่!

ตอนนี้คือพูดถึงน้องกุ๊ก ถ้าใครจำน้องได้ ต้องนึกถึงพี่ดาบในเรื่องนั้นนะคะ

พี่ดาบเค้าไม่เคยเปลี่ยนเลย ถ้าเค้าชอบเค้าลุยตลอด

แล้วครั้งนี้ทุกคนว่าไง พี่เค้าจะยังไง

แต่ที่แน่ๆ...ต้องเจอชะเอม!

ฝากแฮชแทค #สวยๆเป็นผัว ในทวิตเตอร์ด้วยจ้า




ปล.ขอขอบคุณคนอ่านจากเล้าเป็ดที่อยู่ด้วยกันมาเช่นเดิมจ้า





o13 ตอนนี้อีเจ๊น่าร้ากกกกกก ทำดีมั่กๆ
ฝากเจ๊กับน้องเอมด้วยนะคะ อิอิ


น้องเอมสู้เค้าลูก ไหนๆ อิเจ้ดานี่องพี่ดาบก็สารภาพมาแล้วว่าจีบหนูแล้ว แสดงตัวเลยลูก ให้พาพวยอยู่ไม่ได้ รีบกลับเมืองนอกไปอย่างไวเลย  :katai2-1:
น่านสิๆๆ แต่พาพวยจะกลับไหมยังไงเอ่ย อิอิ


ตบมือรัวๆให้เอมจ้า
  ฝากรักน้องเอมด้วยนะคะ อิอิ


ปรบมือสิค่ะรออะไร  หนูแอมแซ่บเน้ออออ :katai2-1: :katai2-1:
แบบนี้สิค่อยรักอิ๊เจ๊ขึ้นหน่อย

(สิ่งที่รักอีกอย่างคือ ชอบที่คนเขียนจะตอบกระทู้อยู่ตลอดเลย น่ารักมากจ้าาา เป็นกำลังใจให้น่าา)  :กอด1:
แคทมาอัพตอนใหม่แล้วน้าาา ตอนนี้จะรักเจ๊หรือจะตบพระพายยังไงบอกแคทหน่อยน้า อิอิ
(แคทดีใจที่ชอบที่แคทตอบกระทู้นะคะ จริงๆอยากตอบบ่อยๆเลยแต่กลัวคนอ่านรำคาญ ถ้าชอบแคทก็ดีใจมากๆเลยค่ะ)


  :angry2: ฟาดมันกลับไปเลยลูก สวย สวย  :katai3: :katai3:
  ทีมแม่น้องเอมใช่ไหมคะ ดูออกน้า


แซ่บๆจ้า หน้าแหกไปเลยยัยหนูน้อย แอ๊บเก่งนัก
หน้าแหกแต่ยัง ยังไม่หยุด หูยยยย


น้องเอมมมมมันต้องอย่างงี้สิคะแซ่บๆไปเลยยยยตอกหน้าพาพวยไปเลยทำเป็นใสนะคะ เริ่ดไม่หยุดดดด  :katai2-1:
น้องต้องแซ่บๆเลยนะคะ เด็กเจ๊ดานี่มันจะไปเบากว่าเจ๊ได้งายยย หูยยย



เด็กกำลังโตก็แบบนี้แหละ ต้องมีคิดแบบนู้น มโนแบบนี้บ้าง
แถมคุณพี่ยังไปทำตัวอึ้งๆ เงียบๆ แบบนั้น น้องจะเข้าใจผิดก็ไม่แปลกร้อกกก
(เข้าข้างน้องเอมเอมสุดฤทธิ์ ลูกอิชั้นใครแตะไม่ด้ายยย)
และคนอ้อมค้อมแบบพาพวยก็ต้องเจอพูดตรงๆแบบนี้แหละ หน้าม้านไปเลยล่ะสิ อิอิ

นี่ขนาดยังไม่เป็นแฟนกัน ยังหึงไม่ได้ น้องเอมก็ออกอาการขนาดนี้แล้ว
ถ้าตกลงคบกันน้องจะขนาดไหนน้อ
ทีมแม่น้องเอมใช่ไหมคะ ดูออกเลยเนี่ย ลูกข้าใครอย่าแตะ (แต่พี่ดาบแตะได้ชิมิ อิอ๊ะ)
ส่วนพาพวยน้านนน  ต้องรอดูกันนะ อิอ๊ะ ฟาดไหม ฟาดเลยจ้าา
ขอบคุณคอมเม้นท์น่ารักๆ ยาวๆให้แคทได้อ่านในทุกๆตอน แคทรักและขอบคุณมากๆจริงๆค่ะ
ดีใจทุกครั้งที่ได้อ่าน และเห็นว่ายังอยู่ด้วยกันน้าา


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-02-2020 22:03:54 โดย Yoghurt »

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :z6: :z6: :z6: อิเจ๊ต้องโดนแบบนี้

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
อ้าวๆๆๆ เจ้ดานี่ไหงพาพาพวยมาทำกับข้าวที่บ้านกันสองคนอีกอ่ะ ก็รู้อยู่ว่าน้องเอมไม่ชอบ   :angry2:

น้องเอมอย่าแพ้นะลูก ลุยเลย ป้าเอาใจช่วย.  :L2:

ออฟไลน์ Chucream.nabi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :katai1: :katai1: :katai1: อิเจ้...พานังพาพวย มาทำห่าไร

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
พายไม่ได้ใสๆไร้สมองอย่างที่คิด!

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ LifePo-YuGu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
อิ๊เจ๊โว๊ยยยยยยยย
ถ้าทำตัวไม่ชัดเจนแบบนี้อยู่อีก จะพาน้องเอมหนีไปแล้วนะ !!!!!  :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด