พิมพ์หน้านี้ - Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ ตอนพิเศษ {22/05/21}]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Yoghurt ที่ 19-10-2019 20:05:20

หัวข้อ: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ ตอนพิเศษ {22/05/21}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 19-10-2019 20:05:20
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
 

- - - -- - - - - -- - - - - - -


Beauty and the Boy สวยๆเป็นผัว


ตัวละคร

(https://sv1.picz.in.th/images/2020/01/13/RcRtCy.jpg)

(https://sv1.picz.in.th/images/2020/01/13/RcRZoJ.jpg)



ความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนที่เกิดขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ

แต่กลับทำให้หัวใจสั่นไหวทุกครั้งที่นึกถึง

ทั้งๆ ที่อยากลืมแต่กลับจำ ยิ่งหนีก็ยิ่งเจอ ยิ่งอยากห่างกลับยิ่งใกล้

ทั้งๆ ที่ปากบอกไม่ชอบเท่าไหร่ แต่หัวใจดันติดกัน

ความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่ของผู้ชายจริตออกสาวที่เป็นผัวที่สุด

ที่จะทำให้คุณยิ้ม ร้องไห้ และหัวเราะไปด้วยกัน

กับ

#สวยๆเป็นผัว

ดาบ: โปรดเรียกกูว่าดานี่ค่ะ!



:3123:สารบัญ :3123:
MINI INTRO (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4009016#msg4009016)
INTRO (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4009017#msg4009017)
สวยๆเป็นผัว ครั้งที่1 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4009018#msg4009018)
สวยๆเป็นผัว ครั้งที่2 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4009206#msg4009206)
สวยๆเป็นผัว ครั้งที่3 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4010207#msg4010207)
สวยๆเป็นผัว ครั้งที่4 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4011299#msg4011299)
สวยๆเป็นผัว ครั้งที่5 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4012310#msg4012310)
สวยๆเป็นผัว ครั้งที่6 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4013317#msg4013317)
สวยๆเป็นผัว ครั้งที่7 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4014445#msg4014445)
สวยๆเป็นผัว ครั้งที่8 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4015614#msg4015614)
สวยๆเป็นผัว ครั้งที่9.1 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4016649#msg4016649)
สวยๆเป็นผัว ครั้งที่9.2 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4017551#msg4017551)
สวยๆเป็นผัว ครั้งที่10 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4017599#msg4017599)
สวยๆเป็นผัว ครั้งที่11 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4018506#msg4018506)
สวยๆเป็นผัว ครั้งที่12 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4019444#msg4019444)
สวยๆเป็นผัว ตอนพิเศษHappy New again (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4019867#msg4019867)
สวยๆเป็นผัว ครั้งที่13 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4020344#msg4020344)
สวยๆเป็นผัว ครั้งที่14 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4021211#msg4021211)
สวยๆเป็นผัว ครั้งที่15 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4022264#msg4022264)
สวยๆเป็นผัว ครั้งที่16.1 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4023130#msg4023130)
สวยๆเป็นผัว ครั้งที่16.2 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4023976#msg4023976)
สวยๆเป็นผัว ครั้งที่17 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4024865#msg4024865) 
สวยๆเป็นผัว ครั้งที่18 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4025688#msg4025688)
สวยๆเป็นผัว ครั้งที่19 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4026493#msg4026493)
สวยๆเป็นผัว ครั้งที่20 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4027144#msg4027144)
สวยๆเป็นผัว ครั้งที่21 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4027895#msg4027895)
สวยๆเป็นผัว ครั้งที่22 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4028599#msg4028599)
สวยๆเป็นผัว ครั้งที่23 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4029277#msg4029277)
สวยๆเป็นผัว ครั้งที่24 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4030306#msg4030306)
สวยๆเป็นผัว ครั้งที่25 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4031173#msg4031173)
สวยๆเป็นผัว ครั้งที่25.2 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4031925#msg4031925)
สวยๆเป็นผัว ครั้งที่26 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4031985#msg4031985)
สวยๆเป็นผัว ครั้งที่27 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4033744#msg4033744)
สวยๆเป็นผัว ครั้งที่28 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4034855#msg4034855)
สวยๆเป็นผัว ครั้งที่29 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4035846#msg4035846)
สวยๆเป็นผัว ครั้งที่30 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4037063#msg4037063)
สวยๆเป็นผัว ครั้งที่31 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4038176#msg4038176)
สวยๆเป็นผัว ครั้งที่32 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4039289#msg4039289)
สวยๆเป็นผัว ครั้งที่33 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4040280#msg4040280)
สวยๆเป็นผัว ครั้งที่34 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4041168#msg4041168)
สวยๆเป็นผัว ครั้งที่35 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4041835#msg4041835)
สวยๆเป็นผัว ครั้งที่36 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4042764#msg4042764)
สวยๆเป็นผัว ครั้งที่37 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4043557#msg4043557)
สวยๆเป็นผัว ครั้งที่38 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4044221#msg4044221)
สวยๆเป็นผัว ครั้งที่39 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4044719#msg4044719)
สวยๆเป็นผัว ครั้งที่40 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71066.msg4045237#msg4045237)  << ล่าสุด  :L2:


:L2:**ใครไม่มียูสในเล้าเป็ด อ่านแล้วฝากแท็ก #สวยๆเป็นผัว ในทวิตเตอร์ด้วยนะคะ :pig4: **
 


-----------------------------

ผลงานที่ผ่านมา (จบแล้ว)

:L2: One Night...คืนเดียวก็เสียวได้ [รุกฆาตxเลิฟ] (http://www.tunwalai.com/story/37025/one-night%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B9%87%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89-the-end-boys-love-yaoi?page=1)

:L2: No limit...แรงรัก|กระแทก♥|ลึก [นักรบxฝา] (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61195.0)

:L2:Mistakes หลงร้าย [ทัพหน้าxคาราเมล] (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68386.msg3886641#msg3886641)


แฟนเพจอัปเดทนิยาย พูดคุยและทวงนิยายกันได้ทางนี้ทางเดิมนะจ๊ะ
  Yoghurt Duchy (https://www.facebook.com/Yoghurt-Duchy-1592952994260862/)

หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัวครั้งที่1 {19/10/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 19-10-2019 20:08:05
MINI INTRO





“ทำไม มองหน้าทำไม ไม่พอใจหรอคะแหม อย่ามากระเหี้ยนกระหือรือกับเจ๊นะ พูดเลยกูใหญ่สุดค่ะ”

“ก็ไม่เห็นจะใหญ่ไหมอ่ะ”

“มึงพูดอะไรคะ อะไรไม่ใหญ่ อยากโดนฟาดปากมึงอีกสักทีไหมคะ หนอยๆ มันน่านัก! ”

“ใครจะอยากยุ่งด้วยวะอิเจ๊ตุ๊ดปลอม”

“เอ๊ะ...บ่นทำปากมุบมิบอะไรคะ กูเห็นนะ คิดว่าปากเล็กๆ บางๆ สีชมพูจุ๋มจิ๋มของมึงนั่นมันน่าจูบมากงะ อ่อยกูอยู่ ดูออก! ”

“พ่องมึงสิอิเจ๊!! ”



.

.

.



“อิเอมคะ มึงว่าอาทิตย์นี้กูเปลี่ยนสีผมใหม่ดีมะ เอาเป็นสีอะไรดีคะ ทอง ชมพู หรือเป็น....”

“เป็นอะไรก็เป็น แต่ที่แน่ๆ เป็นตุ๊ด”

“เอ๊ะอินี่ บูลลี่กูหรอ ตุ๊ดอะไรแล้วทำไมคะ ตุ๊ดก็เอามึงได้แล้วกันค่ะ”

“เจ๊พี่มึง พูดไรวะ! ”

“อ๊ะๆ ทำเป็นเขินอาย หรือไม่จริง มึงพูดมามึงเถียงมาค่ะว่ากูไม่ได้เอามึง ถามสั้นๆ ว่ากี่ท่าดีกว่าไหม ถ้าเอวไม่เคร็ดอย่ามาเรียกกูอิดานี่”

“ให้เรียกอิดาบแทนสินะ”

“กรี๊ดดดดด แสลงรูหู! ”



.

.

.



“มันจะมีจริงๆ หรอวะ พระเอกที่เหมือนในละคร เหอะ พูดแล้วอยากจะขำ แม่งไม่มีหรอก คนที่รักและทำเพื่อเราได้ขนาดนั้น ...”

“มึงพูดแบบนี้หมายความว่าไงคะ...”

“ก็แล้วมันไม่จริงหรอวะ คนดีๆ ที่จะมาดึงเราให้เข้าไปอยู่ในโลกใบใหม่แบบในละคร แม่งไม่มีหรอกว่ะ”

“ก็กูไงคะ ...เอ๊ะ มองกูแบบนั้นหมายความว่าไง กูไม่เหมาะที่จะเป็นพระเอกหรือไงคะอินี่”

“ก็แล้วพระเอกที่ไหนมันจะปากแดง แล้วก็บล็อคตาแน่นแบบนี้บ้างล่ะวะ”

“แบบกูนี่ไงคะ สวยๆ เป็นผัว มึงไม่เข้าใจหรอคะ โดนเองมากับตัวมึงยังจะมาปากดี ... กูปากแดงสวยๆ แล้วไง ก็เป็นผัวมึงได้ก็แล้วกัน”

.

.

.

“ไม่ว่ากูจะเป็นตุ๊ดออกสาว หรือกูจะเป็นอะไร ทั้งหมดมันก็คือกู ...กูที่เป็นแค่คนๆ นึง ที่แค่รักมึงแค่คนเดียว”



แล้วก็เพราะตั้งแต่วันที่มันก้าวเข้ามาในชีวิตของผม คนที่เปลี่ยนความคิดของผมใหม่ เปลี่ยนให้คนๆ นึง รู้สึกอยากจะเป็นพระเอกที่สวยที่สุดในชีวิตของใครสักคน และคำตอบที่ได้ก็คือมัน ... ก็แค่เพื่อคนแบบมันแค่คนเดียว





-----------------------



เย้เฮ้ ได้เวลาพาพี่ดาบ เอ้ย เจ๊ดานี่มาเจอกับทุกๆคนแล้วจ้าา แคทฝากพี่ดานี่และน้องเอมไว้ในอ้อมอกอ้อมใจทุกคนด้วยนะคะ จุ๊บๆ :mew1: :mew2:[/center]


หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัวครั้งที่1 {19/10/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 19-10-2019 20:11:14

INTRO


     ‘พระรอง’ สองคำสั้นๆ ที่กระแทกเข้ากลางใจ เจ็บลงไปในใจเหมือนโดนถีบหน้า เคยสงสัยมาตลอดว่าทำไมในทุกๆ บทละครหรือในนิยายทุกๆ เรื่องมันถึงต้องมีบทพระรองอยู่ด้วยเสมอ ไม่เคยเข้าใจ จนวันนึงที่ได้มายืนอยู่ในจุดของพระรองถึงได้รู้ว่าบทบาทนี้มันสำคัญมากแค่ไหน ก็เพราะว่าถ้าขาดมันไป พระนางเค้าจะสมหวังกันได้ยังไงจริงไหมล่ะ



แต่ว่า...แล้วมันเพราะอะไรวะ ทำไมต้องเป็นกู ทำไมต้องเป็นไอ้ดาบที่ต้องเสียสละมันทุกที มันเพราะอะไรที่ไม่ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง คนแบบกูมันถึงต้องจบลงที่บทบาทนี้อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเริ่มต้นรักครั้งใหม่กี่หน สุดท้ายตอนจบก็ไม่เคยได้สมหวัง ... มันจะไม่มีสักครั้งหรอวะที่คนแบบกูจะสมหวังกับเค้าบ้าง หรือเพราะว่าบทของพระเอกมันยากเกินกูจะเอื้อม ถ้ามันจะยากขนาดนั้นชีวิตนี้ก็ไม่อยากจะเป็นพระเอกเพื่อใครอีกแล้ว ต่อจากนี้กูจะขอเป็นนางเอกแทนเลยละกัน! กูจะเป็นนางเอกสวยๆ ปากแดงๆ ฟิลลิ่งหวานๆ เหมือนผมยาวไปถึงเชียงใหม่เลยคอยดู! และเพราะว่าคิดแบบนั้น เลยไม่เคยคิดอยากจะเปลี่ยนใจกลับไปเป็นพระเอกเพื่อใครสักคน



จนวันนึงกลับต้องมาตกม้าตายตอนที่มันเดินเข้ามาในชีวิต … ไอ้เด็กคนนั้น คนที่ทำให้ผมลืมมันไม่ลงเลยสักนาที และก็ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตั้งแต่ตอนไหน ที่ผมอยากจะเป็นโลกใบใหม่ที่สวยที่สุดให้มันแค่คนเดียว



----*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*----





     ภายในร้านเหล้ากึ่งผับบรรยากาศดีที่เต็มไปด้วยเหล่านักท่องเที่ยวยามราตรีมากหน้าหลายตาที่ต่างพากันโยกย้ายส่ายสะโพกไปตามจังหวะเพลง เสียงพูดคุยเฮฮาที่ดังมาจากโต๊ะต่างๆ สิ่งเหล่านี้เป็นของคู่กันกับร้านเหล้าแบบนี้ ถือเป็นสิ่งปกติที่เห็นได้บ่อยจนชินตา หากแต่วันนี้กลับมีสิ่งแปลกตาที่ทำให้บรรยากาศภายในมุมหนึ่งของร้านต่างออกไปจากทุกที



คนๆ นั้นไม่ใช่ใครที่ไหน หากแต่เป็นเจ้าของร้านหนุ่ม เจ้าของใบหน้าหล่อคม ดวงตาเรียวตาชั้นเดียวแต่มีสเน่ห์ เจ้าของส่วนสูง180เซนติเมตร และมีไหล่หนากว้าง60เซนต์ ที่มีชื่อเล่นแบบแมนๆ ว่า ดาบ แต่ปัจจุบันเจ้าตัวได้สถาปณาตัวเองด้วยชื่อใหม่ในวงการแบบน่ารักๆ ว่า ดานี่ เพื่อให้เข้ากับคนสวยๆ ในมโนความคิดของตัวเองคนเดียว



คนร่างสูงที่เอื้อมมือขวาไปคว้าเข้าที่แก้วเหล้าก่อนจะยกขึ้นจรดที่ริมฝีปากของตัวเองและนั่งดื่มอยู่คนเดียวเงียบๆ ในมุมส่วนตัวของร้านที่อยู่บนชั้นสองโซนโซฟา หัวคิ้วเข้มที่ขมวดเข้าหากันอยู่ตลอดเวลาเหมือนคนที่กำลังใช้ความคิดอย่างหนัก ท่าทางแบบนั้นทำเอาเหล่าลูกน้องไม่มีใครกล้าเดินเข้าไปหา ได้แต่ปล่อยให้เจ้าของร้านนั่งกินเหล้าเงียบๆ ต่อไปแบบไม่มีใครเข้าไปรบกวนแทน เพราะไม่บ่อยนักที่จะได้เห็นเจ้าของร้านตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ เพราะโดยปกติ...ถือได้ว่าเป็นคนร่าเริงมากเกินไปด้วยซ้ำ



“เฮ้อออ...”



ถอนหายใจออกมาแบบหนักๆ ในตอนที่นึกถึงเรื่องราวที่กวนใจตัวเองอยู่ในทุกๆ วัน และเรื่องที่ว่านั่น มันก็หนีไม่พ้นเรื่องอัปยศอดสูที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ในคืนนึงของช่วงเวลาประมาณสามเดือนก่อน ตอนที่ตัวเขาหนีไปกินเหล้าย้อมใจที่ผับอื่นเพราะดราม่าอกหักจากการที่ตัวเองเสือกไปทำตัวเป็นพระเอกปล่อยให้คนที่ตัวเองชอบไปสมหวังกับคนอื่น และสุดท้ายตัวเองก็เลยเป็นได้แค่พระรองที่ร้องไห้เหมือนหมาหนีไปเมา ถ้ากับอิแค่เมาเหล้าธรรมดาจะไม่ว่าอะไรเลย แต่มันดันมีเรื่องมากกว่านั้น ไอ้เรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้นน่ะ แค่นึกถึงก็ต้องหลับตาลงแน่นๆ พร้อมๆ กับที่ภาพในสมองที่ก็ฉายภาพเรื่องราวของคืนนั้นเล่นซ้ำๆ เป็นฉากๆ แบบไม่มีหยุดเหมือนกำลังกวนตีนแกล้งกันให้จดจำอยู่ตลอด



“มึงรู้ใช่ไหมว่าในแก้วมันมียา”

“ผ...พี่ คือ...ผ..ผมขอโทษครับพี่ ผมขอโทษ”

“มึงมานี่เลย!”

“ป...ปล่อยผมนะพี่ ผม...ผม ผมไม่ได้ตั้งใจ”

“อ๊ะ อึก อื้ออ พ...พี่”

“อ่ะ…อ่าาาาา!”

ท่วงท่าเร่าร้อนที่สะโพกแกร่งขยับเข้าออกแบบหนักหน่วงในช่องทางคับแน่นที่ขมิบตอดรัดกันแบบไม่มีหยุด พร้อมด้วยเสียงครางกระเส่าและสีหน้าของคนใต้ร่างที่กำลังปรือสายตามองหน้ากัน ใบหน้าที่ขึ้นสีแดงจัดเพราะแรงอารมณ์ที่ยิ่งมองก็ยิ่งอยากกระแทกกระทั้นแกนกายเข้าใส่แบบหยุดไม่อยู่

“อึก ซี๊ด..”




“โอ๊ย อิดอกกก เมื่อไหร่จะลืมสักทีนะคะตัวกู ท่องไว้อิดานี่ มึงเป็นตุ๊ดๆๆๆ” ได้แต่สบถโวยวายออกมายาวเหยียดในตอนลืมตาตื่นขึ้นมาตบหน้าตัวเองเพื่อเรียกสติ ... จงลืมๆ ค่ะ



“ไอ้ดาบ มึงนั่งบ่นโวยวายอะไรอยู่คนเดียววะเพื่อน”



เสียงเข้มที่ดังขึ้นเรียกสายตาของเจ้าของชื่อที่วันนี้เจ้าตัวกรีดอายไลน์เนอร์เส้นคมชัดสุดๆ พร้อมทาอายแชร์โดวสีไวน์แดงที่มีกลิตเตอร์น้อยๆ ให้ตวัดสายตาไปมองแรงใส่คนมาใหม่ที่เดินมานั่งลงตรงโซฟาฝั่งตรงข้ามกันในตอนนี้ พอเห็นหน้าอีกฝ่ายก็ได้แต่เบ้ริมฝีปากที่ทาทินสีแดงเข้มออกมาหน่อยๆ ก่อนจะเอ่ยปากออกไปด้วยเสียงสองแบบสุดจะทนกับคำพูดที่พึ่งได้ยิน



“กูชื่อดานี่ค่ะ เรียกให้ถูกเดี๋ยวนี้! คนยิ่งหงุดหงิดๆ อยู่นะอินี่”



“จ้า~~ ดานี่มากมั้งสัด ชื่อพ่อแม่ตั้งมาแมนมาก เสือกจะมาดานงดานี่เชี่ยไรล่ะ เหมาะกับหนังหน้ามากมั้ง หล่อเหี้ยๆ แบบนี้”



“ยัง! อิจู๋เล็ก ถ้ายังไม่เลิกพูดแบบนี้ กูจะลุกขึ้นไปตบปากมึงเท่าอายุเดี๋ยวนี้เลยค่ะ!” ขึ้นเสียงใส่พร้อมๆ กับเอานิ้วชี้ ชี้หน้าด่ามัน โมโหๆๆ ทำไมวันนี้มีแต่เรื่องให้คนสวยๆ แบบกูต้องเกรี้ยวกราดตลอดเวลา ไม่เข้าใจเลย ...



“ด่าอะไรกูไม่โกรธ ด่ากูจู๋เล็กนี่มึงไปวัดไซต์กับกูเลยไหมไอ้สัดดาบ”



“ทำมาเกรี้ยวกราด ตอนเรียนก็เคยวัดกันไปแล้วไงคะไอ้โง่ กูชนะขาดมักๆ ว๊ายๆๆ แพ้ซ้ำซ้อนแพ้ซ่อนเงื่อน ใหญ่ไม่ได้ครึ่งของคนสวยๆ แบบกูเลยค่ะ”  จีบปากจีบคอเยาะเย้ยพร้อมหัวเราะใส่เพื่อนเป็นการซ้ำเติมแบบหนักๆ อีกหนึ่งที เรื่องใหญ่ไว้ใจดาบ ...อุ้ย ดานี่! ดาบเดิบอะไร รมณ์เสีย!



“มึงนี่กวนตีนกูจริง”



“มึงก็กวนตีนกูค่ะอิเมฆ เพื่อนเวน บอกว่าอย่าเรียกดาบๆ เรียกทำเชี่ยไรนักคะดอกนี่ มึงอย่ามาพยายามปลุกอิดาบให้มันฟื้นคืนชีพ กูได้ฝังกลบมันลงไปแล้วค่ะ จำ!”



“ก็กูสดวกแบบนี้ กูเรียกแบบนี้มาตั้งแต่ป.1 มึงจะให้กูมาเปลี่ยนตอนปี3ไม่ได้”



ร่างสูงของเพื่อนหน้าหล่อที่ออกแนวตี๋ขาวใส สไตล์โอปาที่อ้าปากเถียงกลับมาแบบไม่ยอม ไอ้เมฆ เพื่อนสนิทที่รู้จักกันดีมาตั้งแต่สมัยประถม หน้าหล่อ พ่อรวย Kวยเล็กกว่ากู เป็นคนหน้าตาดีที่สูงพอๆ กัน มันที่มีรอยยิ้มผู้ดีไว้ล่อเหยื่อให้ตายใจ ลักษณะนิสัยคือเข้าได้ง่ายๆ กับผู้คน โดยเฉพาะสาวน้อยสาวใหญ่หรือแม้แต่ผู้ชายน่ารักๆ มันก็เข้ามาหมดและอาจจะเข้ามาแล้วหลายท่า



“โอ๊ยยย ลำไยละมุดมังคุดฟักทองมั๊กมาก รำคาญไม่ได้ดั่งใจเลยค่ะ”



“สวยมากมั้งไอ้สัด คะขาจังเลยวะ”



“กูสวย หยุด! ดูปากดานี่นะคะ สวยยยยยยยยยย”



“อ๋อ Kวยยยยยยยยยยย”



“ดอกนี่ จังไร๊!”



“เหอะ แล้วสรุปนี่มึงเป็นอะไร ไหนเล่า เห็นไอ้เหี้ยจั๊มโทรมาบอกกูว่ามึงมีปัญหา”



“มากกกกกก มีมากมายค่ะ คนสวยๆ แบบกูเครียดม๊ากกก เครียดแล้วเดี๋ยวกูจะไม่สวยอ่ะ เนี่ย เครียดซ้ำซ้อนไปอีกค่ะ”



“พอ เลิกเวิ่นเว้อ ไหนมึงเป็นอะไรเล่ามา”



“อิดานี่! กูมาแล๊ววววววววววววเพื่อนนนนน” เสียงของคนมาใหม่ที่ดังมาก่อนตัวดังมาจากทางด้านหลังของไอ้เมฆ ทำเอาคนที่กำลังจะอ้าปากขึ้นต้องหุบปากฉับลงมาอีกครั้งเพราะโดนขัด ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นใคร เสียงสูงสะท้านใจแบบนี้มีอยู่ตัวเดียว



“ไอ้จั๊ม เสียงมึงดังมาก ขนาดเพลงเล่นดังขนาดนี้เสียงมึงยังแสบหูกู” ไอ้เมฆว่าพร้อมทำหน้าเพลียใส่



“ทะไมๆๆ กูเป็นคนเสียงดีอ่ะ ถ้าอยากรู้ลองได้นะ กูจะคร่ำครวญใต้ร่างมึงทั้งคืนเลยจ๊ะเพื่อนจ๋า อยากมีผัวรวยอยู่พอดี อิอิ”



มันที่ว่าออกไปแบบนั้นพร้อมทำตาปริบๆ อ้อนตีนใส่ไอ้เมฆไปด้วย ไอ้จั๊ม เพื่อนกลุ่มเดียวกัน สนิทกับมันมาตั้งแต่ปีหนึ่ง เป็นลูกเจ้าของร้านทอง ที่มีหน้าตากลมบ๊อกใสๆ อมชมพู มองหน้ามันแล้วหิวซาลาเปาไส้ครีมลาวา น่ากัด ตัวเตี้ยกว่าไอ้เมฆหน่อย แต่มีดีที่ขาวมากๆ เพราะเป็นลูกคนจีน ... มันที่ชอบอ้อร้อใส่ไอ้เมฆแบบนี้อยู่เป็นประจำ ถือเป็นความสนุกของมันที่ได้อ้อนตีนไอ้เมฆเล่น ตัวมันที่มีคติประจำใจที่ว่า ‘ถ้าชีวิตนี้หาเมียไม่ได้ ก็พร้อมถวายกายให้ผู้ชายรวยๆ’ ดูเป็นคนมีจุดมุ่งหมายในชีวิต และผู้ชายรวยๆ ที่ได้รับเลือกจากมันโดยที่อีกฝ่ายไม่ยินยอมก็คือไอ้สัดเมฆนี่แหล่ะ



“สัด ไปไกลๆ” ไอ้เมฆที่ทำหน้าหน่าย ก่อนจะยกเท้าใส่หนึ่งที



“ว๊ายๆ ทำหน้ารำคาญคือแพ้อ่ะ อ่อนๆ”   ไอ้จั๊มที่ว่าออกมาพรางชี้นิ้วล้อไอ้เมฆออกไปแบบนั้น ก่อนที่มันจะเดินเข้ามานั่งลงข้างๆ ไอ้เมฆอยู่ดี และค่อยหันมามองกู คนที่เป็นตัวเด่นในคำคืนนี้คือกู เห็นหัวกูบ้างค่ะอิสองตัว เอาบทกูคืนมาค่ะ!



“ว่าไงอิดานี่ มึงเป็นไรไหนแถลงมา แต่ขออย่าโกหกกูแบบในโทรศัพท์อีกนะ”



“กูเครียดมากๆ มึงงงงงง พ่อกูเอาอีกแล้วค่ะและกูก็ไม่ได้โกหกมึงผ่านโทรศัพท์ด้วยนะคะ”



“นี่มึงอย่าบอกนะว่าเรื่องเดิม กูบอกให้มึงตัดใจจากมันไง มูฟออนไงวะเพื่อน”



“อิเมฆ เรื่องนั้นกูมูฟออนแล้วค่ะ แต่มึงเข้าใจไหม กูตัดใจเป็นครั้งที่ร้อยแต่กูก็กลับมารู้สึกกับมันอีกเป็นครั้งที่ล้าน แล้วคราวนี้กูลงทุนไปจีบเพื่อนของแฟนเฮียทัพเลยนะคะ แต่ก็นกมาอีก เป็นเศร้าเป็นท้อ แต่ว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่กูเครียดอยู่ตอนนี้ค่ะ เรื่องที่กูเครียดตอนนี้มันหนักกว่านั้นค่ะ”



“มึงอย่าบอกนะว่าพ่อมึงพาผู้หญิงมาให้มึงดูตัว?”



“กรี๊ดดดด ก็ใช่นะสิคะ แต่ว่ามันเครียดกว่านั้น เครียดกว่านั้นไปอี๊กกกกก”



“เครียดขนาดนั้น มึงอย่าบอกนะ....”



“ใช่! คือ...คือ...คือพ่อจะบังคับให้กูแต่งง๊านนนนนน ทำไมต้องยัดเยียดคนสวยๆ แบบกูให้ไปเป็นผัวด้วย อี๋ๆๆๆ”



“เชี่ย นี่มึงไม่ได้โกหกจริงดิ”



“พีคในพีค”



มันสองคนที่มองมาที่ผมอย่างอึ้งๆ พวกมึงไม่ต้องอึ้ง ... กูยังอึ้งเลยค่ะ อึ้งว่ากูคิดออกไปได้ไงถึงหาข้ออ้างแบบนี้ออกไป จริงๆ ก็แค่ไม่อยากให้เพื่อนๆ รู้ว่าเรื่องเครียดจริงๆ ของคนสวยๆ แบบกูก็คือการเผลอไปซั่มๆ เยดุๆ ใส่ไอ้เด็กบ๋อยที่เจอกันแค่แว๊บเดียวเมื่อหลายเดือนก่อนต่างหากล่ะวะ เผลอซั่มไม่พอเสือกไม่ลืมด้วยประเด็น แล้วพ่อจะบังคับแต่งงานอะไรนั่นกูตอแหลค่ะ ถ้าไอ้เมฆไอ้จั๊มรู้เรื่องที่เผลอไปเยใครเข้า รับรองว่ากูจะไม่สงบสุขอีกต่อไป ให้พวกมันคิดว่าพ่อจะหาชะนีมาให้เหมือนเมื่อก่อนแบบนี้น่ะดีแล้ว

เฮ้อออ...แล้วจะทำไงให้ไอ้ภาพเมื่อคืนนั้นมันกระเด็นออกจากหัวกูดีคะ ดานี่รับไม่ได้! จะให้ใครมารู้ว่าจริงๆ แล้วเป็นคนสวยๆ ที่แอบไปเยดุๆ ได้ไง บร๊าบร๊อออ ... แต่ว่า



“พวกมึงคะ”



“ว่าไงไอ้สัดดาบ”



“ดานี่ค่ะอิเวน”



“เออๆ จะดานี่เหี้ยไรก็เถอะ แล้วมึงเรียกทำไม” ไอ้เมฆที่ถามออกมาอีกครั้งพร้อมจ้องหน้าแบบรำคาญ



“ถ้ากูอยากจะตามหาคนๆ นึง มึงว่า...มันจะพอมีวิธีบ้างไหมคะ” ถามมันออกไปแบบนั้น ไอ้เมฆกับไอ้จั๊มที่มองหน้ากันแบบงงๆ ไม่ต่างจากตัวกูที่ก็สงสัยว่าถามมันออกไปแบบนั้นเพื่ออะไรกันวะ แต่จริงๆ มันก็แค่...



ก็แค่อยากจะเจอไอ้เด็กบ๋อยนั่นอีกครั้งในแบบที่กูไม่เมาบ้าง ...ก็แค่นั้นเอง



.

.

.



“ไอ้ดาบมึงใจเย็น กระดกเอาๆ แล้วมึงจะไปชนเหล้ารับเหล้าจากโต๊ะนู้นโต๊ะนี้แบบนี้ไม่ได้ไอ้สัดเดี๋ยวก็เมาหรอกไอ้เหี้ย มึงเมาแต่ละทีกูเครียด เดี๋ยวก็เกิดเรื่อง แล้วไอ้จั๊มไอ้สัดหมาเอ๊ย ให้มาช่วยแต่เสือกมาเมาเหี้ยไรเนี่ย”



“เอ้าชนๆ อิดานี่ ชนจ้า~~”



“กูไม่เมา ไม่ต้องเสือกมาห้าม ...”   ว่าออกไปแบบนั้นก่อนจะยกมือขึ้นเสยผมที่ปรกหน้าออก มืออีกข้างยกแก้วเหล้าตรงหน้าขึ้นดื่มนิ่งๆ อีกอึก พรางเลื่อนมือไปปลดกระดุมเสื้อตัวเองออกอีกสองเม็ดจนเผยให้เห็นแผ่นอกแกร่ง...ไอ้เมฆที่หันมามองกัน เห็นมันขมวดคิ้วหน่อยๆ แล้วทำหน้าเหมือนอยากจะพูดอะไรออกมาแต่ก็ไม่ทันได้พูดเพราะต้องรีบหันไปด่าไอ้จั๊มต่อ



“ชนก็เหี้ย ไอ้สัดจั๊ม ช่วยอยู่เฉยๆ หน่อย มึงจะไปไหน เชี่ยเอ๊ย ไอ้ดาบ มึงอยู่นี่แป๊บ กูไปลากแรดกระซู่กรูปีก่อนนะ”



“อือ” ตอบรับมันสั้นๆ พร้อมพยักหน้าให้หน่อยๆ แต่เหมือนมันจะไม่ได้สนใจ เพราะเห็นมันรีบเดินตามไอ้จั๊มที่หายไปท่ามกลางฝูงชนแล้ว ... รู้สึกเวียนหัวและมึนเอามากๆ ในตอนนี้ ...อยากจะนอนและนี่ก็ร้านกูนี่หว่า ขึ้นไปนอนชั้นบนก็ได้วะ



คิดแบบนั้นก็ลุกขึ้นเดินเซๆ ไปตามทางเดินที่จะนำไปสู่ชั้นสามของร้านที่เป็นโซนของเจ้าของร้าน ที่มีทั้งห้องทำงานและห้องนอน



‘พลัก ตุบ’



“โอ๊ย สัด!” ร่างสูงที่เมาจนเดินเซไปชนกับใครบางคนจนตัวเองล้มลงไปนั่งลงกับพื้นสบถออกมาแบบฉุนๆ เพราะความเจ็บ



“เอ้ยคุณ ผ..ผม.ผมขอโทษนะครับ” ฝ่ายที่ชนลนลานทรุดตัวลงมาประคองกันไว้แม้ว่าข้าวของของอีกฝ่ายจะหล่นกระจายก็ยังไม่ทันได้เก็บ มองเห็นเหมือนเป็นแฟ้มอะไรสักอย่าง แต่ไม่ได้สนใจ ในตอนที่เงยหน้าขึ้นไปมองก็เป็นจังหวะเดียวกันกับอีกคนที่ก็ก้มลงมามองกันพอดี ปลายจมูกที่แตะกันด้วยความบังเอิญทำเอาคนร่างบางที่ประคองอยู่ชะงักตัวก่อนจะเบิกตากว้างขึ้นในตอนที่เห็นหน้ากัน ...



คนร่างสูงที่จ้องนิ่งๆ ไม่มีการกรี๊ดกร๊าดสาวแตกหรือผลักออกแต่อย่างใด ร่างสูงทำเพียงแค่ยกยิ้มมุมปากเท่ๆ ส่งไปให้พร้อมกับสายตาวาววับที่แสนจะเจ้าเล่ห์



“หึ...มึงน่ารักดีนะ ว่าแต่ ทำไมมึงหน้าคุ้นๆ จังวะ”



“ห๊ะ...อะ..เอ่อ มะ ไม่ๆ ไม่คุ้นหรอกครับๆ ไม่คุ้นเลย ผมไม่เคยเจอกับคุณเลยครับ”



“หรอ”



“ครับๆ ผ...ผม ผมขอตัวนะ”



“เดี๋ยว...” พูดออกไปแบบนั้น พร้อมเอื้อมมือไปคว้าเข้าที่ต้นแขนเล็กนั่นไว้แน่นจนอีกฝ่ายสะดุ้ง ก่อนที่ใบหน้าน่ารักนั่นจะเบิกตากว้างขึ้นมาอีกครั้งในตอนที่ผมพูดประโยคต่อไปออกมา



“ถ้าวันนั้นมันยังไม่คุ้น งั้นวันนี้มาคุ้นกันอีกสักทีดีไหมล่ะ หึ”



“ห๊ะ...มะ...ไม่ อ อื้อออ”




-------------------





ผ่าง!!! อะไรยังไงนะ ปะ ไปอ่านกันต่อที่ตอนที่1กันเลยจ้าาาา



ดานี่: ก่อนไปอ่านก็คอมเม้นท์ให้สวยก่อนนะคะทุกคน ไว ยังอีก ยังไม่เม้นท์ให้สวยอีกนะคะ





หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัวครั้งที่1 {19/10/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 19-10-2019 20:17:56

บทที่1





“มึงออกไปจากบ้านกูเลยไอ้เอม! ไอ้ตัวซวย! ทำงานก็ถูกไล่ออก ไปสมัครงานใหม่ก็ไม่ได้งาน โง่ มึงออกไป๊!!”




‘ฟิ้ว ตุบ’



เสียงตะโกนดุด่า ที่ตามมาด้วยกระเป๋าใส่เสื้อผ้าใบเก่าๆ ที่ลอยละลิ่วตามหลังมา หลังจากที่เจ้าของมันกระเด็นออกมานั่งจุ้มปุ๊กอยู่หน้าบ้านก่อนหน้านั้นแล้ว



“ออกไปจากบ้านกู!!”



‘ฟิ้ว ตุบๆๆ’



“ป้า ป้าอย่าโยนหนังสือเอม” ว่าออกมาแบบนั้นแล้วรีบวิ่งเข้าไปเก็บหน้าตาตื่น ลูบๆ คลำๆ ดูความเสียหาย ก่อนจะรีบเอามากอดไว้แนบอก



“ทำไมกูจะโยนไม่ได้ กับอิแค่หนังสือนิยายผู้ชายเอากัน ทำมาเป็นหวง วิปริต! เงินไม่มีจะแดกแต่กลับไปซื้ออิหนังสือพวกนี้มาอยู่ได้ แดกก็ไม่ได้แถมรกบ้านกู”



“มันไม่ใช่แค่หนังสือเอากันนะ” อย่างน้อยๆ มันก็สอนอะไรหลายๆ อย่างที่ป้าไม่มีวันเข้าใจ อยากจะพูดออกไปแบบนั้น แต่ทำได้แค่เม้มปากแน่นๆ แล้วไม่พูดเถียง



‘ตุบๆ’



“ป้า!” ร้องออกมาอีกครั้งเมื่อหนังสืออีกเล่มถูกโยนลงมาตรงหน้า มองเห็นว่าสันหนังสือมันบุบลงไปนิดหน่อย เห็นแล้วใจหล่นลงไปถึงปลายเท้า ...หนังสือเอมบุบเลย



“ทำไม กล้าขึ้นเสียงกับกูหรอห๊ะ! แค่ชื่อเรื่องก็เหี้ยแล้ว ‘หลงร้าย’ ถุย!”



“ป้าอย่ามาว่านะ! ป้าไม่เข้าใจหรอกว่าหนังสือมันให้อะไรบ้าง ก็ป้าไม่อ่านหนังสือนิ”



“นี่มึงกล้าด่ากูว่าอ่านหนังสือไม่ออกหรอห๊ะ” ก็แค่บอกเฉยๆ เองอ่ะ



“มึงกล้าขึ้นเสียงกับกูอีกแล้วนะอิเอม! ...กูไม่เลี้ยงมึงแล้ว อิตัวภาระ!!” คำพูดที่ได้ยินทำให้ต้องเบิกตากว้างมากขึ้น



“ป้า ป้าอย่าไล่เอมเลยนะ เอมขอโทษ เอมจะไม่เสียงดังแล้ว แล้วเดี๋ยวเอมก็จะหางานทำใหม่นะ ป้าอย่าไล่เอมเลยนะ นะป้านะ” ว่าออกไปแบบนั้นแล้วรีบคลานเข้าไปดึงชายกางเกงของคนตรงหน้าอย่างขอร้อง ไม่สนด้วยว่าสายตาของคนที่อยู่ข้างๆ บ้านจะออกมามุงมองกันด้วยสายตาแบบไหน ก็มีแค่เรื่องนี้ที่ต้องยอมขอ ... แต่หญิงวัยกลางคนตรงหน้ากลับทำแค่เพียงเท้าสะเอวใส่พร้อมๆ กับจ้องหน้าเขม็ง



“มึงไม่ต้องพูดมาก จะไปอยู่ไหนก็เรื่องของมึง!”



“ป้า ป้าทำแบบนี้แล้วเอมจะไปอยู่ที่ไหน”



“ก็เรื่องของมึงสิวะ แม่เข้าบ้านกันเถอะครับ ม่อนรำคาญเสียงมันจะแย่”



เสียงของคนมาใหม่ที่ดังขึ้น พร้อมกับใบหน้าของเด็กผู้ชายที่อายุเท่ากันเดินออกมาพร้อมเอามือคล้องแขนแม่ตัวเองอย่างประจบ สายตาที่มองตรงมาที่เขามีแต่คำว่าสมน้ำหน้าเต็มไปหมด จบคำพูดนั้นสั้นๆ ทั้งสองแม่ลูกก็หันหลังเดินเข้าบ้าน พร้อมๆ กับประตูรั้วเหล็กที่เลื่อนปิดกระแทกใส่หน้า เจ้าของบ้านที่เดินกลับเข้าไปด้านในแบบไม่สนใจใยดีกันอีก ทำเอาคนที่นั่งอยู่กับพื้นได้แต่กำมือแน่น ใบหน้าเรียวได้รูปทำได้แค่ก้มหน้าลงต่ำ มองดูพื้นถนนคอนกรีตนั่นอยู่นิ่งๆ ริมฝีปากบางสีชมพูอมส้มที่เม้มเข้าหากันจนแน่นในตอนนั้นแบบไม่รู้ว่าจะเอายังไงกับชีวิตตอนนี้ดี



“ฮึก! ชีวิตบัดซบกว่ากูก็คือกูยกกำลังสอง”



เม้มปากเข้าหากันแน่นๆ อีกครั้งตอนที่น้ำตาไหลลงมา ได้แต่สูดน้ำมูกให้กลับเข้าไป พยายามข่มน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาอีก ได้แต่บอกตัวเองในใจว่า ห้ามร้องไห้นะมึง แค่นี้ชีวิตก็เฮงซวยพอแรงแล้ว มึงห้ามร้องไห้นะไอ้เอม ยิ้มเข้าไว้ อย่าให้ใครมาสมเพชมึงเพิ่มอีกนะ...



ชะเอม หรือที่ใครๆ ต่างพากันเรียกว่า ไอ้เอม เด็กผู้ชายวัยรุ่นในวัย19ปี ที่ไม่เคยได้มีชีวิตเหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วๆ ไป เรื่องราวชีวิตเริ่มเปลี่ยนไปหลังจากที่พ่อกับแม่ประสบอุบัติเหตุรถคว่ำเสียชีวิตไปตอนที่อายุได้แค่14ปี หลังจากนั้น พี่สาวแม่ก็รับมาเลี้ยงดู แต่ถ้าพูดให้ถูก น่าจะพูดว่ารับมาไว้เพื่อใช้งานเลี้ยงดูลูกชายเธอมากกว่า ไอ้ลูกพี่ลูกน้องเฮงซวยที่ชื่อม่อนนี่ก็จองล้างจองผลาญกันมาจนไม่อยากนับมันเป็นญาติ มีญาติแบบนี้อย่ามีเลยดีกว่า ... แต่ก็นั่นแหล่ะ ถึงจะเฮงซวยแค่ไหนก็ไม่เป็นไร ถือว่าป้าก็มีพระคุณที่ให้ข้าวให้น้ำ และอย่างน้อยผมก็ยังมีที่ซุกหัวนอน เรื่องเงินเรื่องทองผมก็พยายามหาเอาเองมาตั้งแต่อายุ15 รับจ้างทำงานต่างๆ มาตั้งแต่เด็ก เงินที่ใช้เรียนก็คือเงินทุนเรียนดี จนถึงตอนนี้ที่ได้เรียนมหาลัยก็เพราะได้ทุนอีกเหมือนกัน ... ทุนจากมหาลัยชื่อดังที่อยู่ใจกลางกรุงเทพ อย่างน้อยๆ ชีวิตเฮงซวยนี้ ผมก็ยังพอมีสมองและสองมือของตัวเอง ... แต่เพราะสมองและสองมือตัวเองนี่แหล่ะที่มันทำให้เกิดเรื่องขึ้น เรื่องมันเริ่มต้นขึ้นเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ผมที่ทำงานเป็นบ๋อยอยู่ที่ผับแห่งหนึ่งแต่ดันโดนไล่ออกก็เพราะว่าเอาเหล้าผสมยาปลุกอารมณ์ไปให้ลูกค้าดื่ม ดื่มสำเร็จนอกจากกูจะไม่ได้เงินเพิ่มมาให้ป้าแล้ว กูยังมีแต่เสียกับเสีย นอกจากเสียงานแล้วก็ยัง...เสียตัว



ฟังไม่ผิดหรอกครับ ผมเสียตัวให้กับลูกค้าคนนั้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ เหมือนเป็นแค่คนหนึ่งที่อยากระบายส่วนอีกคนก็แค่เผลอไผลอย่างห้ามไม่อยู่ เป็นเรื่องราวที่ลืมไม่ลง แต่มันยังมีเรื่องที่แย่ยิ่งกว่านั้นไปอีกก็คือ ลูกค้าคนนั้นมันเป็นตุ๊ด! ... ตุ๊ดร่างยักษ์ที่เยดุๆ ไอ้ชิพหาย ทั้งๆ ที่ภาวนาขออย่าให้ได้เจอกันอีกแท้ๆ แต่เมื่อคืนก็ยัง...



เอาล่ะ เลิกพูดถึงเรื่องห่าเหวนี่ ไอ้เอมคนนี้สุดแสนจะไม่สนโลก ผมเป็นคนแบบนั้น อะไรที่ผ่านมาแล้วก็ลืมแม่งไปดีกว่า จะคิดอะไรให้มากกับเรื่องที่แก้ไม่ได้ แต่ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ แต่ตอนนี้กูจะไปซุกหัวนอนที่ไหนล่ะวะไอ้ชิพหาย!



เพราะไอ้ตุ๊ดนั่นคนเดียวแท้ๆ ที่ทำให้กูโดนไล่ออก พอโดนไล่ออก ป้าก็เลยไล่ออกจากบ้าน เฮงซวย เฮงซวยทั้งหมด



ได้แต่ควานหาโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบมากดโทรออก เบอร์แรกที่มักจะขอความช่วยเหลืออยู่เสมอ ...



ถึงชีวิตผมบัดซบก็มีมือถือใช้นะ ไม่ไก่กาอาราเร่นะ เป็นซัมซุงกาแลคซี่เอสเลยนะ เอส4 รุ่นตั้งแต่สมัยพระเจ้าสามหำเป็นเพื่อนกับพระเจ้าสี่หำที่ผมซื้อมือสองมาอีกที ช้าบ้างอืดบ้าง เอะอ่ะบอกให้กูลบแอพเพราะเครื่องเต็ม เต็มพ่อเต็มแม่มึงสิ กูแทบจะไม่เหลือแอพอะไรไว้ใช้งานแล้ว!



ถือสายรอไม่ได้นาน เสียงจากปลายสายก็ดังตอบกลับมาอย่างอ่อนโยน ถือว่าเป็นการรับสายที่รู้เลยว่า คนรับสายรักเรามากแค่ไหน



((ฮัลโหล โทรมาทำเหี้ยอะไรไอ้สัดเอม คนจะนอนโว้ยยยย) )



“เอ่อ...ไอ้เก้อ ...คือกู”



((ทำไมเสียงมึงแปลกๆ งั้นวะ มึงเป็นเหี้ยอะไร ร้องไห้หรอ มึงอยู่ไหนบอกกูมาเพื่อน กูจะไปหามึงเดี๋ยวนี้!) )



“ไอ้เก้อ ฮึก คือ...คือกู..อยากขอความช่วยเหลือจากมึง....คือ..” พยายามกั้นเสียงแย่ๆ ไม่ให้ลอดเข้าไปให้มันได้ยิน แต่พอเสียงมันที่ร้อนรนแบบนั้น มันก็ยิ่งทำให้ผมอยากร้องไห้มากขึ้นไปอีก อย่างน้อยก็ยังมีเพื่อนที่เป็นห่วง



((รอกูอยู่นั่น กูจะไปเดี๋ยวนี้ ตู๊ดๆๆ) )



“ฮึก...โหล ไอ้เก้อ ไอ้เก้อ!”   รีบยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาแล้วตะโกนเข้าไปในสายโทรศัพท์ แต่สิ่งที่ได้ยินตอบกลับมามีแค่เสียง ตู๊ดๆๆ ....ยกมือถือออกมาดูที่หน้าจอ ก็มองเห็นว่าอีกฝ่ายวางสายลงไปแล้ว



“อึก ไอ้หน้าหนังสัด! ฮึก วางสายทำเหี้ยไร กูยังไม่ได้บอกเลยว่าอยู่ไหน ฮึก จะโทรกลับไปอีกก็ไม่ได้ เงินกูหมดโว้ย!!”



แล้วก็นะ...ถ้ามีเพื่อนไม่มีสติแบบนี้มันก็ไม่ดีไหมวะ ฮื่ออ เจ็บไข่!



ยินดีต้อนรับสู่ชีวิตบัดซบของไอ้เอม



.

.

.



“เลิกนั่งซึมเป็นหมาแล้วบอกกูมาว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ทำไมมึงถึงหอบกระเป๋ามานั่งหัวกระเซิงอยู่ป้ายรถเมล์แบบนั้นวะ”



“คือกู...”



ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมามองหน้าไอ้เก้อ เพื่อนสนิทที่เป็นผู้ชายหนึ่งเดียวในกลุ่มของผม รู้จักกับมันมาเมื่อปีก่อนตอนเข้าค่ายปฐมนิเทศน์ มันเป็นผู้ชายร่างหนา หุ่นหมีมีซิกแพ็คแซ่บๆ ที่สาวๆ ชอบเรียกมันว่า แด๊ดดี้ที่ไม่ได้แปลว่าพ่อ ...ไม่ได้แปลว่าพ่อแล้วจะแปลว่าอะไรวะ ผมงงมาก ... มันที่สูงประมาณ179 เซนติเมตร และสักคำว่า N’ abandonnez ที่เป็นภาษาฝรั่งเศษไว้ที่หน้าอกฝั่งซ้าย มันบอกว่าเป็นคำที่มีความหมายว่าอย่ายอมแพ้ หล่อแบดๆ แบบพระเอกในนิยาย เป็นลูกคนรวยที่โดนตามใจมาตั้งแต่เด็ก ใช้ชีวิตอิสระโดยการที่พ่อซื้อคอนโดแบบ Duplex 3ห้องนอนไว้ให้โดยที่มันไม่จำเป็นต้องกลับบ้าน ถึงแม้ว่าลุคมันจะดูเหมือนคนที่พร้อมจะเตะหมาด่าคนแก่และขโมยลูกอมเด็กตลอดเวลา แต่จริงๆ แล้วมันเป็นคนดีมากๆ ...มันเป็นเพื่อนคนนึงที่ไม่เคยสนใจความจนของผม แม้ว่ามันจะรวยมากๆ แค่ไหนก็ตาม



“อย่ามาอ้ำอึ้งไอ้สัด” มันที่ว่าแบบนั้นแล้วกอดอกเอนตัวลงไปพิงพนักพิงโซฟาหนังของมันพร้อมยกเท้าขึ้นมานั่งไขว่ห้าง สายตาคมๆ ของมันที่มองมา อ่านได้ว่า ถ้ายังลีลา กูจะเอาตีนงัดปากมึง



“คือกูแค่อยากจะขอยืมเงิ...”



“กูถามว่าเกิดอะไรขึ้นไอ้เอม” กดเสียงต่ำแล้วหรี่ตาลงมองกันแบบกดดัน ทั้งห้องรับแขกตกอยู่ในบรรยากาศอึดอัดทันที ทั้งๆ ที่ห้องของมันเป็นคอนโดแบบDuplexที่บรรยากาศจะคล้ายๆ บ้านเพราะมีสองชั้นที่จะทำให้โล่งโปร่งสบายแท้ๆ แต่ไอ้เก้อก็ทำให้บรรยากาศอึดอัดได้จนต้องเผลอกำมือแล้วเม้มปากเข้าหากันแน่นๆ มันที่มองมาแบบพร้อมจะเอาเท้างัดปากกัน



“ไอ้เอม”



“ก็...ก็ไม่มีอะไรมากหรอกมึง...”



“ไอ้เอม!”



“เออๆ ก็แค่ป้าไล่กูออกจากบ้านอีกแล้ว...ค...แค่นั้นเอง” สะดุ้งตกใจกับเสียงตะคอกของมันก่อนจะรีบตอบออกไปแบบละล่ำละลัก พอสบตาเข้ากับตาดุๆ ที่ถลึงตามองกัน ก็อดจะเบาเสียงในตอนท้ายของประโยคลงไม่ได้ ... น่ากลัวชิพหายเลยแม่ง



“แค่นั้นพ่อง!”



“ก็ไม่เห็นต้องขึ้นเสียงดังเลย กูไม่ดื้อหรอกมึงก็รู้” ว่าออกไปแบบเสียงอ่อยๆ พลางหดคอก้มหน้าลงต่ำ กลัวไอ้เก้อแดกหัว



“มึงนี่แม่ง”



“ไม่ด่ากูไม่ได้หรอวะ กูบอบช้ำนะเก้อนะ”



“น่ารักมากมั้ง เดี๋ยวกูถีบปลิวไปนู่น” มันที่ด่าออกมาอีกพร้อมมองมาเหมือนอยากเอาตีนลูบหน้ากัน เป็นคนหยาบๆ ทั้งหน้าและนิสัย



“น่า มึงจะเครียดแทนกูทำไมวะ เรื่องปกติแหล่ะ กูโอเค” หรอวะตัวกู...



“มึงไม่ต้องมาทำเป็นยิ้มร่า แล้วแบบนี้มึงจะไปอยู่ที่ไหน จะอุ้มกระเป๋าขาดๆ ของมึงเร่ร่อนไปไหน”



“มันไม่ได้ขาดนะเว้ยเก้อ! ...กูนี่โอ้โหกับคำพูดมึงเลย มันก็แค่เก่าเอง คือมึงบูลลี่กระเป๋ากูอยู่ใช่หรือไม่!” บูลลี่อ่ะ บูลลี่กระเป๋ากู เอมจะไม่ทนกับคนอย่างเธอ!



“ใช่ประเด็นหรอไอ้สัด”



“จู้จี้!”



“เดี๋ยวกูจะจี้ปากมึงไอ้สัดเอม!!”



“หูยยย เก้อดุอ่ะ” หดคอกลับมาอีกรอบเลยกู กลัวครับ กลัวมันเอาตีนพาดลงมาที่คอจริงๆ



“แม่ง...จริงๆ ถ้าปกติกูคงให้มึงมาอยู่กับกูแล้ว ห้องกูมันใหญ่ขนาดนี้ ตัวมึงแม่งก็เท่าลูกแมว กูเลี้ยงได้”



“เห้ย ไม่ๆๆ กูไม่อยู่กับมึงหรอก ลำบากมึงเปล่าๆ ....” รีบบอกมันออกไปแบบนั้นพร้อมยกมือขึ้นโบกปฏิเสธ เพราะตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่มาขอรบกวนขอนอนกับเพื่อนแบบนั้น แต่พอทำท่าทางแบบนั้นออกไป ก็เห็นไอ้เก้อที่ถอนหายใจหนักๆ ออกมาใส่หน้ากัน



“กูไม่ได้ลำบากอะไรเลยเว่ย แต่กูแค่...”



“Baby~~ เสียงดังจัง ทำอะไรอยู่หรอคะ” เสียงใสๆ ที่ดังมาจากชั้นสอง พอเงยหน้าขึ้นไปมองก็ชัดเลย ... อู้วหูววว นมชัดๆ เลยจ๊ะแม่จ๋า



“ลาเวียร์ กลับเข้าไปในห้องก่อน”



“อุ๊บ Excusez-moi (เอ็กซ์กูเซ-มัว) โทษทีนะคะ”



เธอที่ยกมือขึ้นมาทาบอก แบบจริงๆ ก็ไม่ได้เขินอายสักนิดก็แค่ทำเป็นจริตเฉยๆ เธอที่ก้มหัวนิดๆ และส่งยิ้มลงมาให้ผม ก่อนจะเดินตัวปลิวกลับเข้าไปในห้องนอนที่อยู่บนชั้นสอง พร้อมผ้าเช็ดตัวที่นุ่งออกมาแบบหมิ่นเหม่ มันแบบโฮกฮากเบบี้มากๆ ผมที่ค่อยๆ หันมาส่งยิ้มล้อใส่ไอ้เก้อที่ทำหน้าตานิ่งๆ เหมือนติดจะรำคาญใจ มึงรำคาญอะไรก่อนอ่ะเพื่อน



“อู้ววว กูเข้าใจนะเพื่อนเก้อ มึงไม่สดวกอ่ะเนอะ แล้วก็คงจะหวงเธอ มึงไม่ต้องห่วงนะๆ กูไม่รบกวนหรอก ... ว่าแต่เมื่อกี้เธอพูดอะไรมัวๆ วะ กระจกมัวหรืออะไรยังไงนะ”



“เอ็กซ์กูเซมัวโว้ย เป็นภาษาฝรั่งเศสแปลว่าขอโทษ แล้วอีกอย่างกูก็ไม่ได้หวงเธอเว้ย”



“อ๋ออออ แต่เอาน่าๆ กูเข้าใจนะเพื่อน” บอกแบบนั้นสำทับอีกหนึ่งรอบแถมยิ้มกว้างๆ ส่งไปให้ด้วย ในตอนที่ไอ้เก้อกำลังทำท่าจะอ้าปากพูดอะไรออกมาอีก แต่ดันติดตรงที่เสียงออดหน้าห้องดังขึ้นมาซะก่อน



‘ติ๊งหน่องๆ’



“สัดเอ๊ย” ได้ยินไอ้เก้อที่สบถออกมาแบบหงุดหงิด ก่อนที่มันจะลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินกระฟัดกระเฟียดออกไปเปิดประตูที่ด้านหน้าห้อง ...หงุดหงิดอะไรขนาดนั้นล่ะแหม ... รอได้ไม่นานก็รู้เลยว่าใครมา



“อิเอมมมมมมมม เกิดอะไรขึ้นคะมึงงงงงงง มึงถูกเนรเทศออกมาอีกแล้วหรอคะลูกกกก โอ้วมายก็อต มึงโอเครึป่ะ ไหนมาให้ยาหยีคนสวยกอดปลอบ มาๆๆๆ”



เสียงโวยวายที่มาพร้อมกับร่างผอมบางของหญิงสาวหุ่นดี ที่มีดวงตาเป็นประกายวิบวับที่เอาไว้สอดส่องเสือกเรื่องคนอื่น และวันนี้มันก็ยังดูดีในสไตล์girl crushแบบที่มันชอบแต่งด้วยการใส่เสื้อครอปตัวสั้นสีขาวไว้ด้านใน แล้วตามด้วยเสื้อเชิ้ตลายสก็อตสวมทับด้านนอก แมตช์กับกางเกงยีนส์ขาเดฟสีดำขาดเข่าแบบที่มันชอบ มันคือไอ้หยี หรือชื่อเต็มๆ ว่ายาหยี ... เป็นผู้หญิงที่มีสไตล์มั่นๆ ตามนิสัยของมัน ... จริงๆ ไอ้หยีมันแก่กว่าพวกเรา2ปี ตอนนี้ควรเรียนจบไปแล้วด้วยซ้ำ มันไม่ได้เรียนช้าแต่เป็นพวกตามหาความฝันไปให้สุด ตอนแรกติดวิศวะแมนๆ เรียนอยู่ปีนึงไม่โอเคเลยซิ่วมาเรียนสถาปัตย์แต่เพราะต้องคอยตัดโมจนหัวฟูขอบตาคล้ำเพราะอดหลับอดนอน มันที่รักสวยรักงามแบบสุดๆ เลยลาออก ตอนนี้เลยซิ่วอีกทีมาเรียนอักษรด้านภาษากับพวกผมแทน สุดท้ายกรงกรรมเลยนำพาให้เรามาเจอกัน ... ฝนตกขี้หมูไหล คนจังไรมารวมกัน ... และเพราะแบบนั้นพวกเราเลยคุยกันแบบเพื่อน ไม่สนใจเรื่องอายุกันเท่าไหร่



“อื้ออ ไอ้หยีปล่อยกู อื้ออ”



“ไม่ๆ มึง กูจะเอานมโอบกอดปลอบประโลมมึงเองนะ”



“ตื่นป้า มึงไม่มีนม มึงมีแต่หัวนมเหี่ยวแห้งของมึง”



“สัดอิเก้อ ถ้าไม่ติดว่ามึงได้รับการสถาปนาจากตัวกูว่าเป็นผัวของกลุ่มนะ กูจะทุบหำมึง” ไอ้หยีที่ผละอ้อมกอดออกจากตัวผมแล้วหันไปชี้ไอ้เก้อแบบหงุดหงิด



“เลิกพูดจาแบบนี้สักทีได้ไหมวะป้า”



“ทำไม กูพูดอะไรผิดตรงไหน ทำเป็นเขินอาย หน้าบางมากหรออิเก้อ ว่าแต่ทางมึงเป็นยังไงอีกอิเอม ชีวิตเหมือนดาวพระศุกร์นะมึงเนี่ย รันทนเหลือเกิน”



“มึงรู้เรื่องได้ไงอ่ะหยี” ผมที่ถามออกไปแบบนั้น ตอนที่ไอ้หยีมันทรุดตัวลงนั่งข้างๆ กัน



“อิเก้อโทรไปถามหามึงกับกูค่ะ โง่จนเหนื่อย เสือกวางสายทั้งๆ ที่ยังไม่รู้ที่อยู่” คงจะเป็นตอนที่ไอ้เก้อวางสายจากผม อื้ม...โง่แบบที่ไอ้หยีมันว่าจริงๆ นั่นแหล่ะ



“แล้วนี่มึงจะเอายังไงต่อ จะมาอยู่กับอิเก้อก่อนหรอ จะไปบ้านกูก็ยากเลย มีอาม่าอยู่”



“ไม่เป็นไรมึง ไม่ต้องลำบากหรอก แล้วกูก็ไม่ได้จะมาอยู่กับไอ้เก้อด้วย” ผมที่บอกออกไปแบบนั้น ไอ้หยีที่เลิกคิ้วขึ้นทำหน้าแบบไม่เข้าใจ ก่อนจะหันไปสบตากับไอ้เก้อที่ทำหน้านิ่งๆ ใส่ตามสไตล์มัน



“อย่าบอกนะว่ามึงเอาชะนีมานอนด้วยอีกแล้วน่ะ”



“อย่าใช้คำพูดหยาบคายแบบนั้นสิวะ เค้าก็แค่มาจากต่างประเทศแล้วมาขอพักด้วย...สักระยะหนึ่ง”



“โอ้โห คำพูดสวยหรู กูมองจากดาวอังคารก็รู้ว่ามึงตอแหลนะ” จีบปากจีบคอชี้นิ้วด่ามันไปด้วยแบบออกรสออกชาติ อินขั้นสุด เป็นผู้หญิงแรงๆ ที่มีอินเนอร์เหมือนสาวประเภทสองครับ



“แล้วแบบนี้มึงจะเอายังไงอ่ะอิเอม ... เอ๊ะๆ กูนึกออกแล้ว ร้านนั้นที่กูแนะนำไง มึงลองไปสมัครรึยัง กูฝากพี่ที่รู้จักไว้แล้ว ยังไงมึงก็ได้งานชัวร์ๆ มึงไปรึยังๆ” คำพูดของคนข้างตัวที่ทำให้ผมต้องสะดุ้งตกใจออกมาตอนที่ได้ยิน แต่ก็พยายามที่จะเก็บสีหน้าให้มากที่สุด ... ไอ้ร้านๆ นั้น...



“เป็นอะไรคะอิเอม ทำไมทำหน้าซีดๆ แล้วสรุปมึงไปหรือยัง เงินดีนะมึง แถมที่ร้านก็มีห้องพักพนักงานให้ด้วยนะ เนี่ย มึงจะได้ไม่ต้องร่อนเร่ไม่มีที่นอนอยู่แบบนี้ด้วย กว่าป้ามหาภัยของมึงจะมาง้อให้มึงกลับบ้านเหมือนทุกครั้ง อย่างน้อยๆ ตอนนี้มึงก็มีที่อยู่นะ”



“ใจจริงกูไม่อยากให้มึงไปทำงานไรแบบนั้นหรอกนะไอ้เอม แต่ว่า...มันก็เป็นทางเลือกที่ดีนะ สำหรับตอนนี้”



ไอ้เก้อที่พูดออกมาแบบนั้น พอได้ฟังแล้วก็ต้องเผลอกลืนน้ำลายลงคอแบบยากลำบาก แค่นึกไปถึงที่นั่นก็ขนลุกขึ้นมาทั้งตัวแล้ว ความรู้สึกของเมื่อคืนนี้ยังไม่จางหายไปเลยสักนิด ไม่ว่าจะเป็นที่หัวไหล่ หน้าอก หัวนม เอว หรือแม้แต่....



“นี่มึงเงียบทำไมคะ ไม่ต้องพูดเชี่ยไรละ เดี๋ยวกูจัดการให้มึงเองเลยค่ะ”



“เห้ย ไอ้หยี! ไม่ต้องๆ มึง...” รีบละล่ำละลักว่าออกไปแบบนั้นตอนที่เห็นมันยกมือถือเครื่องหรูของมันออกมาเตรียมจะกดโทรออก กูนี่รีบตะปบมือมันไว้แทบไม่ทัน



“ทำไมอีกกกก อีกไม่กี่ชั่วโมงก็มืดแล้ว คืนนี้มึงจะไปอยู่ไหนห๊ะ”



“คือกู....” นั่นสิวะ กูจะไปอยู่ไหน เงินติดตัวก็มีอยู่ไม่เท่าไหร่เพราะพึ่งจ่ายค่าเทอมไป แม่ง กูเกลียดความจน ... เอาไงดีวะตัวกู



“พอๆๆ ปกติมึงก็ไม่เลือกงานนี่หว่า ถ้าเรื่องเงินพวกกูช่วยมึงได้ แต่ถ้าเรื่องที่พัก ตอนนี้เวลานี้มันลำบากนะ มึงไม่มีทางเลือกนะไอ้เอม” เป็นไอ้หยีที่มันว่าออกมาแบบนั้นตอนที่มันเห็นผมเอาแต่นั่งก้มหน้าแบบใช้ความคิด



“หรือมึงมีปัญหาอะไรกับร้านนั้นหรอวะ?”



กับร้านน่ะกูไม่มีหรอก ... แต่กับคนที่เจอที่ร้านเมื่อคืนน่ะไม่แน่



เรื่องเมื่อครั้งนั้นมันก็เกิดขึ้นมาหลายเดือนแล้ว ไม่คิดไม่ฝันว่าจะต้องกลับมาเจอกันอีกครั้งเมื่อคืนนี้ แถมเจอกันอีกทีก็ดันไม่ต่างจากเดิมสักนิด ไอ้แม่ย้อยเอ๊ย ทำไมถึงหนีมันไม่พ้นสักทีวะตัวกู! แล้วที่มันน่าอายมากกว่านั้นก็คือ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเมื่อหลายเดือนก่อนหรือเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ มันดันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดจากความเต็มใจ ไม่ใช่การบังคับขืนใจน่ะสิวะ



ทำไมไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ไม่เคยหนีมันพ้นเลยแม่ง! แค่คิดก็เจ็บไข่!



...


(มีต่อจ้า)
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัวครั้งที่1 {19/10/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 19-10-2019 20:19:06


“อือ..”



เจ้าของใบหน้าหล่อที่นอนคว่ำหน้าซุกหมอนอยู่กลางเตียงค่อยๆ ขยับน้อยๆ พร้อมๆ กับหัวคิ้วที่ขมวดเข้าหากันพร้อมส่งเสียงออกมาจากลำคอเบาๆ ในตอนที่เริ่มรู้สึกตัวตื่น ดวงตาที่ปิดสนิทค่อยๆ ปรือตาขึ้นมาช้าๆ ก่อนสายตาจะค่อยๆ ปรับโฟกัสกับภาพตรงหน้าให้เห็นได้ชัด คนที่ยังคงเมาขี้ตาได้แต่ยกมือขึ้นเกาหัวอย่างสับสนในตอนที่พลิกตัวแล้วลุกขึ้นนั่งและมองไปรอบๆ ห้องอย่างมึนงง



“ปวดหัวสัด...”



ปวดหัว เป็นความรู้สึกแรกที่รับรู้ได้หลังจากที่สมองเริ่มประมวลได้แล้วว่าตอนนี้ตัวเองกำลังอยู่ที่ไหน



“กูมานอนที่นี่ได้ไงวะคะ ห้าว”



ว่าออกมาแบบนั้นพร้อมอ้าปากหาวแบบไม่รักษาท่าทีแบบทุกทีที่ชอบทำเวลาอยู่กับคนหมู่มาก ขายาวที่ทำแค่เตะผ้าห่มยับย่นให้ออกไปพ้นๆ จากตัว ก่อนที่เจ้าตัวจะค่อยๆ ลุกและก้าวขาลงมาจากเตียงอย่างคนสะลึมสะลือที่พึ่งตื่นนอน มือซ้ายข้างที่ว่างอยู่ก็เอื้อมลงไปเกาตูดหน่อยๆ รู้สึกคันตะหงิดๆ



‘แฉะ’



ขาแกร่งที่หยุดชะงักในตอนที่ตัวเองก้าวขาลงจากเตียงแล้วรู้สึกได้ว่ากำลังเหยียบเข้ากับอะไรบางอย่าง ความรู้สึกลื่นๆ เมือกๆ แฉะๆ ที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าทำให้ต้องขมวดคิ้วอย่างสงสัย ก่อนที่สุดท้ายจะค่อยๆ ยกเท้าขึ้นและก้มตัวลงไปมองให้เห็นแบบชัดๆ ... ดวงตาคมที่ประสานเข้ากับของสิ่งนั้นนิ่งๆ ก่อนจะกริบพริบตาถี่ๆ อีกครั้ง และ....



“กรี๊ดดดดดด เอดอกกกกกนี่คืออัลไร ถุงยางใช่หรือไม่คะแม่!!”



แหกปากออกมาดังลั่นพร้อมเอามือทาบอก ก้มมองสภาพตัวเองที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้สนใจ ร่างสูงใหญ่ไหล่กว้างพร้อมซิกแพคที่ยืนอวดหุ่นแน่นแบบไม่เหลือเสื้อผ้าสักชิ้น สายตาคมที่เหลือบไปที่เตียงนอนอย่างหวาดระแวง กลัวว่าจะมีใครอีกคนนอนอยู่บนนั้น แต่สุดท้ายก็ไม่มีใคร ได้แต่ถอนใจเฮือกออกมาอย่างโล่งอก ลองสอดส่ายสายตาไปมาในห้องตัวเองอย่างล่อกแล่ก แต่ก็ไม่เห็นใคร พบเพียงแค่เตียงนอนยับย่นที่เหมือนผ่านศึกสงครามมาและถุงยางที่ผ่านการใช้งานมาแล้วถูกโยนทิ้งขว้างอยู่ตามพื้นอีกอัน



“กูอยากจะกรี๊ดแบบมีสแกรนเชียงใหม่ กูเยใครไปคะแม่ กรี๊ดๆ ช่วยดานี่ด้วยค่ะแม่ขา!!”



ค่อยๆ ทรุดตัวลงนั่งลงบนเตียงแบบอ่อนแรง มั่นใจมากๆ ว่าเยเค้า เค้าที่แปลว่าใครก็ไม่รู้ ที่มั่นใจแบบนั้นเพราะสุขภาพช่องตูดกูไม่เจ็บปวดรวดร้าวแต่อย่างใด แต่กลับสบายกายสบายใจมากๆ แบบว่าตัวเบา ไม่สบายได้ยังไงกูเสียน้ำไปนะคะ แต่อิคนที่โดนกูเยน่ะ ยังสบายดีอยู่ไหม อันนี้ดานี่ไม่แน่ใจนะคะพูดเลย อีกอย่างคือขอบคุณที่กูยังรู้จักใส่ถุงยาง มึงคะนี่ไม่ใช่นิยาย เยไปไม่ห่วงโรคภัยไม่ได้นะ คิดจะมีเซ็กต้องรู้จักป้องกัน ยืดอกพกถุง จำ!



แต่ว่า...เรื่องนี้ที่เกิดขึ้นมันผิดผีมากๆ ! คนสวยๆ แบบกู ไปเอาใครมานอนด้วยอีกแล้ววะ! เรื่องเก่ายังไม่เคลียร์ เรื่องใหม่มาอีกแล้ว แดกเหล้าแต่ละทีมีแต่เรื่อง แม่งเอ๊ย! คนสวยซวยตลอด!



.

.

.



      หลังจากที่ตั้งสติ รวมถึงทำใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ก็ไปอาบน้ำล้างคราบเหงื่อไคลต่างๆ ออกจากตัวและเก็บกวาดห้องเสร็จก็เดินลงมาที่ด้านล่างของตัวผับ ร้านที่ถูกจัดแบ่งแยกโซนชัดเจนแบ่งเป็นสองโซนหลัก ที่ด้านนอกร้านจัดเป็นที่เปิดโล่งมีโต๊ะอาหารที่ทำไว้สำหรับเป็นร้านนั่งชิลและเล่นดนตรีสด ส่วนตรงนี้ที่ร่างสูงพึ่งเดินลงมาจากชั้นสามคือโซนของผับ จะเปิดดึกกว่าโซนของร้านอาหารที่เริ่มเปิดตั้งแต่5โมงเย็น แต่ส่วนของผับจะเริ่มเปิดตอน2ทุ่ม ใช้ชื่อร้านเก๋ๆ ว่า ‘DANIWORLD’ ตรงตัวเลยว่า โลกของดานี่คนสวย นั่นก็คือกูจะทำอะไรก็ได้ เรื่องกูจ้า



“เฮ้ยพี่ดาบ!!”



“เหี้ย! ตกใจหมดไอ้สัด”



“โอ้โห วันนี้อุทานแมนจังเลยจ๊ะพี่ดาบจ๋า”



หันหน้าไปมองพร้อมกรอกตาตีลังกาเป็นเลขแปดไทยใส่ไอ้เด็กที่เป็นพนักงานในร้านไปที มันชื่อไอ้อิฐ ทำหน้าที่เป็นบาเทนเดอร์คอยชงคอกเทลของที่ร้าน เป็นเด็กผู้ชายอายุ18 ที่ผิวเข้มหน้าคมและดวงตามีสเน่ห์ สูงราวๆ 176 อะไรมันก็ดี เสียอย่างเดียวตรงที่นิสัยกวนตีนขัดกับหนังหน้าดีๆ ของมัน คนทั่วไปมักเรียกลักษณะนิสัยแบบนี้ว่า ‘เด็กเปรต’



“อะฮึม อีดอกกก กูตกใจหม๊ดดดด ว่าแต่ดาบที่หน้ามึงค่ะ ดานี่เรียกกูดีๆ เดี๋ยวถีบหน้าให้นะคะ”



“พี่มึงก็ยังพยายามจะคีพลุคกระเทยเนอะ” มันที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วทำหน้ายิ้มอ่อนใส่แบบระอา



“ก็กูเป็นกระเทยค่ะอินี่ พูดมาก กูตบนะ”



“อะๆ เป็นกระเทยใช้แรงควายหรอจ๊ะพี่จ๋า”



“แรงขนาดที่ว่า กูถีบมึงออกจากร้านได้เลยล่ะจ๊ะอิสัดอิฐ ไปทำงานค่ะ! ยืนหน้าดำอะไรอยู่ตรงนี้คะ แล้วนี่มีเด็กเสริฟมาสมัครใหม่รึยังคะ อิรุ้งก็คืออยู่ๆ ท้องปุ๊บปั๊บๆ ลาออกไม่บอกไม่กล่าวไม่รอให้คนสวยๆ แบบกูได้หาเด็กใหม่มาก่อนเลย สวยเซ็ง” บ่นออกมาแบบนั้น ก่อนจะเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้ทรงสูงตรงหน้าเคาเตอร์บาร์พร้อมยกขาขึ้นนั่งไขว่ห้างแบบใส่จริตสวยๆ



“อ้าว แล้วเมื่อคืนที่พี่จิตแกพามาสมัครคนนึง ทำไมพี่เจ๊มึงไม่รับไว้ล่ะ?” ไอ้อิฐที่ขมวดคิ้วหันมามองหน้ากันแบบไม่เข้าใจ ... ใช่จ๊ะ กูก็ไม่เข้าใจจ้าอิดอก พี่จิตเป็นผู้จัดการร้านของที่นี่ ว่าแต่...



“พี่จิตพาใครมาสมัครอะไรนะคะตัวมึง กูไม่เห็นจะรู้เรื่องอะไรเลย” ถามมันออกไปแบบนั้นพร้อมจีบปากจีบคอทำเสียงสองใส่แล้วมองหน้ามันแบบงงๆ



“เอ้า จะไม่รู้ได้ไงอ่ะพี่เจ๊มึง กูเห็นเค้าเดินลงมาจากชั้นบนเมื่อคืนตอนตี3 ว่าแต่สัมภาษณ์อะไรกันนานขนาดนั้นวะ”



เดี๋ยวนะคะมึง



เดี๋ยวก่อนนะคะ



ความรู้สึกตอนนี้คือ อรุ่กๆๆ อรั่กๆๆ บุ้งๆๆ อาการเหมือนคนน้ำท่วมปากเลยกู



“ทำไมทำหน้างั้นวะพี่เจ๊มึง ทำหน้าทำตาลอกแลกแปลกๆ”



“ลอกแลกเชี่ยไรมึงคะ กูสวย”



“เกี่ยวหรอวะ?” ไอ้อิฐที่มองมาแบบไม่เข้าใจ มันที่ยกมือขึ้นเกาหัวในตอนที่มองหน้ากันแบบงงๆ



“เกี่ยว คนสวยไม่ผิด กูจะทำอะไรก็ได้ เรื่องกู๊”



“เสียงสูงซะด้วย พี่เจ๊มึงทำเหมือนมีไรปิดบังงั้นล่ะ” ไอ้อิฐที่ว่าออกมาแบบนั้นพรางหรี่ตามองกันแบบจับผิด



ไอ้สัดๆๆๆ กูจะล่อกแล่กไม่ได้ หายใจเข้าลึกๆ ไอ้ดาบ เอ้ย ดานี่สิคะมึง



“ปิดบังไรมึ๊ง สาระแนนะคะ แล้วนี่มึงมาทำไมแต่เช้าคะ ไม่ไปเรียนหรือไงอิเด็กขี้เสือก”



“โอ้โหหห เช้ามากมั้งพี่เจ๊มึง นี่เที่ยงแล้วจ๊ะพี่จ๋า ส่วนวันนี้ผมไม่มีคลาสเถอะ”



“หรอวะ สงสัยกูนอนเพลิน ว่าแต่ มึงเลิกเรียกกูว่าพี่เจ๊มึงสักทีได้ไหมคะ ถ้าหาคำเรียกยากก็เรียกกูคนสวยให้มันจบๆ ไปค่ะอิอิฐ”



“สวยตรงไหนวะ หล่อกว่ากูอีกเนี่ย”



“บ่นพึมพำเชี่ยไร กูไอ้ยินไอ้สัด!” ว่าแบบนั้นพร้อมยกเท้าไปถีบเอวมันไปแบบไม่ออมแรง ไอ้อิฐที่เซถลาออกไปอีกหลายก้าว



“โทษจ้าพี่เจ๊มึง” มันที่ตะโกนออกมาแบบนั้นแล้ววิ่งหน้าตั้งหนีหายเข้าไปในห้องสต็อกด้านหลังร้าน



“สัด มีลูกน้องแต่ละคนก็มีแต่สติไม่ดี เวรกรรมไรของกูวะแม่ง...”



บ่นออกมาเบาๆ พลางใช้นิ้วเคาะไปตามโต๊ะหน้าเคาเตอร์บาร์อย่างใช้ความคิด ก่อนสายตาคมจะเลื่อนขึ้นไปมองที่เหนือหัวตรงมุมฝ้าเพดานที่ติดกล่องวงจรปิดเอาไว้ ริมฝีปากที่กระตุกยกยิ้มขึ้นมานิดๆ ในตอนนั้น



“เด็กคนเมื่อคืนงั้นหรอวะ”



มันมีความรู้สึกบางอย่างที่แว๊บเข้ามาในความรู้สึก คุ้น



และเพราะแบบนั้นเลยอยากจะรู้จริงๆ ...ว่ามันจะใช่คนเดียวกับคนที่วนเวียนอยู่ในหัวกูมาตลอดหลายเดือนหรือเปล่า



“หึ เดี๋ยวก็รู้”





--------------To be continued--------------





กรี๊ดดดดดด มาแล้วค่ะเรื่องของเจ๊ดานี่ มันก็จะแบบ...บะลุกอุกอรั่กหน่อยๆ อิย๊ะฮ่าๆๆๆ

ตอนแรกก็จะขอปูกันหน่อย ว่าแต่มันเป็นยังไงบ้างเอ่ย ดีไม่ดียังไงบ้างคะ จริงๆจะลงวันนี้คือเครียดมากๆ

กลัวมันไม่ดีเท่าที่คนอ่านหวังไว้ แคทหวังว่าคนอ่านจะชอบไม่มากก็น้อยนะคะ

ขอดูฟีตแบล็คหน่อย ถ้าดี...เดี๋ยวพรุ่งนี้แคทมาลงต่อให้เป็นพิเศษนะคะ อิอิ :mew1: :pig4:




ปล.อัพเดทนิยายทุกๆวันเสาร์ของสัปดาห์เช่นเดิมนะคะ จุ๊บๆ



หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัวครั้งที่1 {19/10/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 19-10-2019 21:05:40
ลัทธิปากแดงก็ผัวเธอจงจาเรินน!! เจ๊ฮามาก คีพลุคกะเทยสุดๆ :katai3:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัวครั้งที่1 {19/10/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 20-10-2019 04:37:33
 :m16: อิเจ๊ มึงจำทำเป็นจำอะไรแบบนี้ไม่ได้
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัวครั้งที่1 {19/10/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 20-10-2019 12:12:43
 :z1:

 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัวครั้งที่1 {19/10/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 20-10-2019 14:38:56
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่2 {20/10/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 20-10-2019 19:21:35
เจ้เมาแล้วแมนตลอดอ่ะ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่2 {20/10/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 20-10-2019 19:36:37
บทที่2



“เดินไวๆ อิเอม ขามึงหนักอะไรนักถึงเดินช้าขนาดนี้”



เสียงเรียกที่ดังมาจากทางด้านหน้าของผมไม่ใช่ใครที่ไหน นอกจากไอ้หยีเพื่อนสนิทในตำนาน มันที่หอบหิ้วผมให้ขึ้นรถมากับมัน แล้วเจ้าตัวก็ขับรถบึ่งตรงมาที่ร้านที่จะให้ผมมาทำงาน ไอ้เก้อไม่ได้มาด้วยกัน เนื่องจากว่าแขกวีไอพีของมันค่อนข้างจะงอแง



“แล้วนี่ทำไมท่าเดินมึงถึงแปลกๆ งี้วะคะ กูก็พึ่งสังเกตเห็นนะเนี่ย”



“แปลกเชี่ยไรล่ะเอ๊อ! มึงนี่พูดอะไรตลกนะเนี่ย ตาฟ่าฟางนะมึงเนี่ย ฮ่าๆๆๆๆ”  ใครเชื้อเชิญให้มึงมาสังเกตวะ อยากจะพูดออกไปแบบนั้นแต่สิ่งที่ทำได้ก็มีแค่กูที่ยืนหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังอยู่คนเดียว ขำเหมือนวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่กูจะได้ขำ ขำทั้งๆ ที่แม่งไม่มีเรื่องอะไรให้ตลก .... เลิ่กลั่กลนลานเลยไงไอ้สัดเอม



“เอิ๊ก....มองไรกูอีกวะ ไปสิๆๆ ไหนบอกจะพากูมาสมัครงานไงครับ นำพาตัวกูไปเลยจ๊ะอิหยีจ๋า” เปลี่ยนเรื่องแบบหน้าด้านๆ หลังจากหัวเราะเป็นบ้าอยู่คนเดียวแต่ไอ้หยีมันไม่เล่นด้วย กูก็เปลี่ยนเรื่องแบบนี้ล่ะ ใช่แล้ว คนหน้าด้านคือไอ้เอมเองจ้า



“เออๆ ไม่มีอะไรก็ไม่มีอะไรค่ะ งั้นมึงรีบเดินตามมาให้ไวเลยค่ะอิหนูเอม”



มันที่ว่าแบบนั้นแล้วหันหลังเดินนำผมไปอีกรอบ พอเห็นแบบนั้นแล้วก็อดที่จะถอนหายใจออกมาแบบหนักๆ ไม่ได้ ตัวผมที่ยืนอยู่ที่ลานจอดรถและภาพตรงหน้าที่เห็นก็คือภาพของร้านอาหารที่แบ่งออกเป็นโซนด้านนอกที่จัดเป็นร้านนั่งชิล และติดกันข้างๆ ที่เป็นตัวตึก3สามชั้นขนาดใหญ่โตที่ทำไว้สำหรับเป็นโซนของผับ ป้ายตัวหนังสือใหญ่ๆ ที่ตั้งไว้ด้านบนสุดของตัวตึกที่ถ้าตอนกลางคืนคงเปิดไฟสีชมพูวิ๊บวับๆ เขียนไว้ว่า  ‘DANIWORLD’  ทั้งๆ ที่คิดไว้ตั้งแต่เมื่อคืนวานแล้วว่ากูจะไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีก แต่แม่งเอ๊ย ... สุดท้ายก็เป็นกูที่เดินกลับเข้ามาเอง



“อิเอม ไวๆ มึง”



“เออ รู้แล้วโว้ย! ” นี่ก็เร่งกูจัง!!



คิดว่าง่ายนักไงวะที่จะเดินกลับเข้าไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆ ที่เมื่อคืนตอนดึกๆ กูยังถูกไอ้ตุ๊ดปลอมนั่นขยับสะโพกโยกเอวจนกูหัวสั่นหัวคลอนอยู่บนเตียงที่ชั้นบนของผับนี้อยู่เลย แค่คิดมาถึงตรงนี้ ความรู้สึกร้อนๆ วูบวาบก็วิ่งเข้ามาปะทะร่าง ความรู้สึกที่เหมือนมีอะไรเต้นตุบๆ สอดคาอยู่ที่ช่องทางด้านหลังยังไม่หายไปเลยแม้แต่น้อย ... ไม่ใช่ไม่รู้สึกอายหรือไม่เสียใจ แต่เพราะเป็นผู้ชายและตอนนี้ก็เป็นผู้ชายที่จนมาก เลยเลือกที่จะทำตัวให้เป็นปกติที่สุดเพื่อเอาชีวิตรอดก็แค่นั้น



“เหอะ เอาวะ!  คนแบบกูแม่งก็ไม่ได้มีทางเลือกไรมากนักอยู่แล้วนี่หว่า” แค่นยิ้มออกมานิดๆ พร้อมบอกตัวเองแบบนั้น ก่อนจะกระชับกระเป๋าในอ้อมแขนให้แน่นขึ้นแล้วถอนหายใจออกมาหนักๆ อีกหนึ่งที ...



สู้โว้ยยยย คิดในทางที่ดีกูอาจจะไม่เจอไอ้ตุ๊ดปลอมคนเมื่อคืนอีกแล้วก็ได้ไหมวะ ... ถึงจะไม่รู้ว่าเมื่อคืนมันมาทำอะไรที่ผับนี่ก็เถอะ

แต่ถ้าได้เจอกันอีกจริงๆ มันก็คงจะเป็นพรหมลิขิตมากเกินไปแล้วไหมวะ



.

.

.



กูขอคิดใหม่ว่าพรหมอาจไม่ได้ลิขิต แต่นรกอาจจะเป็นผู้ลิขิตชีวิตกู



เจ็บไข่ไปหมด! ...นี่มันอะไรกันวะเนี่ย



“เอ๊ะๆๆๆๆ เด็กผอมกะหร่องนี่หน้าตาคุ้นๆ จังเลยนะคะ ว่าแต่คนนี้อ่ะหรอคะที่ว่าจะมาทำงานที่นี่” ผอมกะหร่องพ่อง!



อยากจะตะโกนออกไปแบบนั้น แต่สิ่งที่กูทำได้แม่งกลับตรงกันข้ามกับหัวใจ ตอนนี้ไอ้เอมอยากจะร้องไห้ให้เป็นภาษาปาตาลิโก้ อย่าถามว่าภาษาอะไร กูไม่รู้กูพูดไปเรื่อย!  แต่ที่รู้ๆ คือกูอยากวิ่งออกไปจากตรงนี้!!



เสียงสองที่มาพร้อมกับท่าทางจีบปากจีบคอที่ดังอยู่ตรงหน้าในตอนนี้มาจากคนร่างสูงที่กำลังนั่งไขว่ห้างพร้อมๆ กับกอดอกแบบมีจริตอยู่บนเก้าอี้ทรงสูงที่นั่งอยู่ที่ด้านหน้าเคาเตอร์บาร์น้ำ เป็นผู้ชายตัวสูงใหญ่ไหล่กว้างหน้าหล่อที่ทาปากสีแดงจัด แดงชนิดที่เหมือนแดกเลือดนกมา พร้อมทั้งทาตาและปัดแก้มให้มีสีวิบวับแบบที่ผู้ชายส่วนใหญ่เค้าไม่ทำกัน แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันหล่อมาก อาจจะเป็นเพราะสัดส่วนและกล้ามเนื้อที่สมกับความเป็นผู้ชายนั่น หรือดวงตาเรียวคมเข้มที่แฝงไปด้วยสเน่ห์แบบที่มองแล้วน่าค้นหานั่นล่ะมั้งที่ทำให้ต้องพูดตรงๆ เลยว่ามันหล่อโคตรๆ หล่อพ่อหล่อแม่หล่อแบบวัวตายควายล้ม การแต่งตัวที่ดูจัดจ้านนั่นก็ด้วย ยิ่งดูไปนานๆ ยิ่งดูเหมือนนายแบบในนิตยสารที่หลุดออกมายังไงยังงั้น ติดอยู่แค่อย่างเดียวก็เห็นจะเป็นจริตที่ออกสาวเกินหน้าเกินตาที่ดูจะขัดกับความหล่อนั่นแหล่ะ ที่แค่เห็นใครๆ ก็คงจะบอกว่านี่คือตุ๊ด!



แต่สำหรับผม มันเป็นได้แค่ตุ๊ดปลอมเท่านั้นแหล่ะ!!



“แล้วนั่นเป็นอะไรอ่ะคะ คอเป็นอะไรทำไมถึงต้องยืนหัวห้อยตาตกพื้นตลอดเวลาแบบนี้ล่ะคะหนู หื้มมม”



“หนูพ่อง! ” เชี่ย!  ยกมือขึ้นปิดปากแทบไม่ทัน และใช่...ไม่ทันแล้วด้วย ไอ้เรื่องปากไวไม่มีใครเกินกู



“หื้มม ว่าอะไรนะคะ ได้ยินไม่ค่อยจะชัดเลย” คนตรงหน้าที่ยกยิ้มมุมปากแล้วทำนิ้วกรีดกรายขึ้นไปแคะหูนิดๆ พรางจ้องตรงมามองกันด้วยสายตาที่ทำให้ผมรู้สึกร้อนวูบไปทั้งหน้า



ไอ้ตุ๊ดปลอมคนเมื่อคืนกับลูกค้าที่ผมเผลอไปมีความสัมพันธ์แบบไม่ตั้งใจเมื่อหลายเดือนก่อนนั้นมันคือคนๆ เดียวกันกับที่กำลังนั่งมองหน้ากันอยู่ตอนนี้ แต่ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ มันดันเป็นเจ้าของร้านนี้!  อยากร้องไห้เหมียนหมา เจ็บไข่แม่มึง!



“ผ...ผม ผมพูดว่าหนูท่อน่ะครับ อย่าสนใจเลยผมก็พูดไปเรื่อย ฮ่าๆๆๆ” กูจะแถยังไงก็ได้ถ้ากูหน้าด้านพอ เยี่ยม!  ชะเอมถูกใจสิ่งนี้



“หึ หรอคะ แหม แถเก่งไม่เหมือนสภาพพิกลพิการภายนอกที่มองเห็นเลยนะคะ อิ” อิพ่ออิแม่มึงสิ! สักฝุ่นไหมสาดดด



กวนตีนเหลือเกิน อยากจะท้ามันต่อยสักที กูหมั่นไส้ไม่ไหวแล้วนะ แต่พอเงยหน้าขึ้นไปมองกลับพบว่าไอ้ตุ๊ดนั่นดันมองกันอยู่ก่อนแบบไม่ละสายตา เชี่ยๆๆๆ กูนี่หุบปากฉับทันทีเลย รู้สึกร้อนวูบๆ วาบๆ ไปทั้งตัวในตอนที่เห็นสายตาของมันมองมาที่หน้าและสายตาที่ค่อยๆ เลื่อนมาที่คอลามมาที่หน้าอกของผมและจบท้ายด้วยรอยยิ้มกระตุกมุมปากขึ้นนิดๆ แบบนั้น สาดดดดดด ...



กูนี่รีบเสหน้าหนีไปทางอื่นแทนเลย อย่านะอย่ามามองหน้ากันเหมือนมึงจำเรื่องเมื่อคืนได้นะเว้ย!



บ้าน่า เมาขนาดนั้นจะจำได้ได้ยังไง ไม่ใช่หรอกน่า ...ใช่ไหม ใช่สิ กูว่าใช่ก็ต้องใช่สิวะ ...



แค่เรื่องเมื่อหลายเดือนก่อนก็แย่พอแรงแล้ว ถ้าขืนมันยังจำเรื่องเมื่อคืนได้อีกเรื่องก็ไม่ต้องทำงานด้วยกันแล้วครับ เอากูไปฝังกลบในดินแทนเถอะแบบนั้นน่ะ!



“โหยพี่ดาบ พี่รับๆ เพื่อนหยีเถอะน่า มันน่ะทำได้ทุกอย่างเลยนะ พี่จะเอามันไปทำห่าอะไรมันก็ทำได้หมดเลย”



ไอ้หยีที่โพล่งออกมาในตอนที่ไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักที ... ใครเชิญให้มึงเปิดปากวะป้า!



และนี่คืออีกหนึ่งในความโลกกลมที่พรหมไม่ได้ลิขิตที่ทำให้ผมอยากกัดลิ้นตาย ถ้าผมรู้ว่าไอ้เจ้าของร้านที่ไอ้หยีมันรู้จักคือไอ้ตุ๊ดปลอมที่เคยเยดุใส่ผมเมื่อหลายเดือนก่อน เมื่อคืนนี้กูจะไม่มาเหยียบที่นี่ให้โดนมันเสียบอีกรอบหรอกแม่ง



ไอ้ตุ๊ดปลอมนี่มันเป็นอดีตพี่รหัสในคณะวิศวะที่ไอ้หยีมันเคยเรียนมาครับ ... กูท้อกับความโลกกลมนรกลิขิตนี้



“ได้โปรดเรียกกูว่าดานี่ค่ะ!  ว่าแต่เอาเพื่อนมึงมาทำอะไรก็ได้เลยหรอคะอิหนูหยี”



“แน่นอนค่า จะเอามันไปทำไรก็ได้เลยจ้า” ไม่ได้สิเว้ยยย มึงปรึกษากูก่อนสิอิป้า!



“ได้ทุกอย่างเลยสินะคะ หึ”



“แค่พี่ให้ที่อยู่และเงินมันก็พอ รับมันนะพี่นะ เพื่อนหยีมันกำลังลำบาก ป้ามหาภัยของมันไล่มันออกจากบ้านเพราะหลายเดือนก่อนมันเสือกโดนผู้จัดการร้านในผับไล่ออกเพราะแม่งเอาคอกเทลที่ใส่ยาปลุกไปให้ลูกค้า ทั้งๆ ที่มันไม่อยากทำแท้ๆ แต่เสือกโดนขู่ไง” พอไอ้หยีพูดเรื่องนี้ออกมา ก็เห็นว่าคนที่นั่งฟังอยู่ดูจะสนใจเป็นพิเศษ ก่อนที่จะขมวดคิ้วนิดๆ ตอนที่ได้ฟัง



“เนี่ยพี่ดาบเพื่อนหยีมันเป็นคนดีมากๆ นะ พี่รับมันเถอะนะ...เอ๊ะ อิเอมมึงอย่ายืนเอ๋อ อ้อนวอนพี่กูสิมึง”  ไอ้หยีที่พูดออกมารัวๆ แบบนั้นก่อนจะหันมาหาผมที่ยืนเอ๋ออยู่ข้างๆ และก็ต้องเหวอหนักขึ้นไปอีกเพราะถูกมันดันหลังให้ถลาไปหาคนที่นั่งหน้าแรดอยู่ที่หน้าเคาเตอร์ในตอนที่ไม่ตั้งตัว และผลที่ได้ก็คือ



“เหวออ”



“อ๊ายย”



‘หมับ’



“อื้มม...เอวเล็กๆ แบบนี้มันคุ้นมือดีจังเลยนะคะ ว่าไหม



สายตาคมที่ก้มลงมาใกล้พร้อมๆ กับริมฝีปากสีเลือดนกที่กระซิบอยู่ใกล้ๆ หูกันในตอนนี้ ลมหายใจร้อนๆ ที่เป่ารดอยู่ข้างแก้มทำเอาหน้าร้อนไปทั้งหน้า พอเผลอช้อนสายตาขึ้นไปมองก็เห็นอีกหน้าของอีกฝ่ายที่อยู่ใกล้กันมากๆ จนเผลอลมหายใจกระตุก ในตอนที่มองตาของอีกคนไม่รู้เลยว่าต้องทำยังไงต่อไปดี จนเมื่อรู้สึกถึงฝ่ามืออุ่นที่ลูบไล้เบาๆ อยู่ที่ช่วงเอวของกูนี่ล่ะ ไม่ลูบเปล่า ให้เดี๋ยวบีบเดี๋ยวลูบนี่มันยังไงนะ



“อ๊ากกก ไอ้สัดปล่อยเอวกูเลยนะอิตุ๊ดปลอม! ”



‘ผลั้ว’



“กรี๊ดดดดดดดด”



...



   เหตุการณ์ชุลมุนก่อนหน้านี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก แต่เสือกไม่จบลงไวเหมือนตอนเกิด ถ้าถามว่าเพราะอะไรน่ะหรอ มันก็เป็นเพราะ...



“สวยไม่ยอม สวยไม่โอเคกับเหตุการณ์นี้!”




“พี่ดาบ พี่ใจเย็นก่อนนะพี่นะ”



“ใจเย็นเหี้ยอะไรล่ะอิหยี เพื่อนมึงค่ะ เพื่อนมึ๊ง เพื่อนมึงต่อยตาสวยๆ ของกูจนกูกลายเป็นหมีแพนด้า หมีแพนด้า หมีแพนด้าหมีๆ แพนด้าแล้วค่ะเอดอก”



เสียงโหวกเหวกโวยวายที่ดังแบบเอาเรื่องนั่น ทำเอาผมต้องหนีมานั่งแอบอยู่ตรงมุมแคบๆ ตรงข้างๆ ซอกเก้าอี้พร้อมกอดกระเป๋าใส่เสื้อผ้าไว้แนบอก ทำได้แค่ค่อยๆ แอบเหลือบมองสถานการณ์ไปด้วย ในตอนนี้ก็มองเห็นไอ้เจ๊ตุ๊ดนั่นกำลังเอาน้ำแข็งมาทำเป็นลูกประคบเพื่อประคบลูกตาตัวเอง ... ก็แค่เผลอต่อยตาไปนิดหน่อย ก็ไม่เห็นจะต้องโวยวายอะไรขนาดนั้นเลยไหมอ่ะ



“มึงไม่ต้องแอบมองเลยนะคะอิน้องบ๋อย อิเด็กผี กูไม่ยอมจริงๆ ด้วยนะคะ”



“ก็ใครใช่ให้พี่มึงมากอดเอวผมแบบนั้นล่ะวะ กอดแล้วลูบๆ ผ..ผม...ผมตกใจ! ”



“แหมมม ขวัญอ่อนเหลือเกิน แต่เอ๊ะ อย่ามาใส่ร้ายกูนะคะ ก็มึงถลาเอาหน้ามาแนบท้องกูขนาดนั้น กูก็ต้องรับไว้ไหมคะ ถ้าไม่รับอีกนิดนึงปากมึงก็จะพุ่งลงไปจุมพิตเข้าเป้ากูแล้วค่ะ กูต้องปกป้องดานิจุ๋มจิ๋มของกูที่ยังบริสุทธิ์ผุดผ่องเอาไว้สิคะ”



คำพูดคำจาที่ว่าออกมาแบบนั้น พอได้ฟังแล้วอดใจไม่ไหวต้องกรอกตาใส่ ดานิจุ๋มจิ้มบริสุทธิ์เชี่ยไรล่ะ ถ้าบริสุทธิ์แล้วอะไรที่กระแทกเข้ากระแทกออกตัวกูเกือบทั้งคืนวะห๊ะ!



“กรอกตาทำไมคะ ทำหน้าทำตาเหมือนไม่เชื่อ ทำหน้าทำตาเหมือนอยากเถียง แต่แน่ใจนะคะว่ามึงจะเถียงจริงๆ”  มันที่เลิกคิ้วมองหน้ากันแบบกวนอวัยวะเบื้องล่างแบบสุดๆ แล้วใครแม่งจะกล้าอ้าปากเถียงออกไปเพื่อให้ตัวเองเสียเปรียบล่ะวะ



“ยืนอมลิ้นเงียบเลย ดีค่ะ อย่าเถียงกูนะคะ ถ้าเกิดเถียงกู กูไม่รับมึงเข้าทำงานจริงๆ ด้วยนะ หึ่ย”  พี่มันที่ว่าออกมาแบบนั้น ทำเอาผมนี่ต้องเด้งตัวลุกขึ้นยืนเลย คนที่ยังเอาน้ำแข็งประคบลูกตาอยู่ลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วมองมาที่ผมไม่ต่างกัน



“พี่ดาบ แบบนี้ก็หมายความว่าพี่รับอิเอมเพื่อนหยีแล้วใช่ไหมเอ่ย”



“อื้ม พอดีคนสวยๆ แบบกูก็แค่สงสารลูกนกลูกกาตัวจ้อยหรอกนะคะ” เบ้ปากใส่แม่งเลย ก็เพราะพี่มึงไม่ใช่หรือไง กูถึงต้องตกงานน่ะห๊ะ



“พี่เจ๊มึงก็ลีลาเหลือเกิน ตัวเองเด็กเสริฟก็ไม่พอแล้วยังจะลีลาอีกนะ” เสียงของคนที่เดินเข้ามาใหม่พูดออกมาแบบนั้น ดูแล้วท่าทางจะเป็นพนักงานของร้านนี้เหมือนกัน แต่ดูแล้วคงจะสนิทกับอิเจ๊เจ้าของร้านนี่พอดูเลยล่ะ ถึงได้กล้าพูดเล่นพูดหัวกันได้แบบนี้



“หุบปากค่ะอิอิฐ สาระแนมากๆ ไสตูดมึงออกไปจากพื้นที่ตรงนี้เลยนะใครเชื้อเชิญให้มึงเข้ามาไม่ทราบคะ”



“ดีจ้า ชื่ออิฐนะจ๊ะ อายุ18หน้าตาดีมีหนี้สินเป็นของตัวเอง ยินดีที่ได้รู้จักจ๊ะพี่จ๋า” คนมาใหม่ที่ถลาเข้ามาหาผมพร้อมส่งยิ้มหวาน รอยยิ้มร่าเริงที่มาพร้อมๆ กับฝ่ามือแกร่งของเจ้าตัวที่คว้ามือกูไปจับแล้วเขย่าทำความรู้จักกันแบบสนิทสนม ...เอ่อ...



“พอค่ะอิสัดอิฐ สาระแนจับมงจับมือ” อิเจ๊เจ้าของร้านร่างใหญ่ที่ว่าแบบนั้นพร้อมเดินเข้ามาคว้าหลังคอเสื้ออิฐแล้วเหวี่ยงมันให้ออกไปให้ห่างจากผม



“ก็ทำความรู้จักกันไว้ไงพี่เจ๊มึง ว่าแต่ชื่ออะไรหรอจ๊ะ อมชมพูจุง” ...ห๊ะ อะไรนะมึง?



“ชื่อเอม”



“อู้ยย หน้าตาดีแถมชื่อก็น่ารักจังเลยจ๊ะ”



“ไม่เห็นจะน่ารักตรงไหนเลยค่ะ ดานี่น่ารักกว่าเยอะค่ะ” นิดนึงก็ขอให้ได้ค่อนขอดกู หึ่ย อิตุ๊ดยักษ์



“พอๆๆ พอค่ะมึง จบการทักทายปราศัยกันเพียงเท่านี้ ว่าแต่มึงไม่มีที่อยู่หรอคะ?”  มันที่หันมาถามกูแบบนั้นพร้อมเดินเข้ามายืนแทนที่ของอิฐที่ถูกดีดปลิวไปแล้ว คนร่างสูงที่ค่อยๆ ก้มหน้าลงมามองกันพร้อมเลิกคิ้วถาม เห็นแบบนั้นแล้วได้แต่เม้มปากเข้าหากันแน่นๆ แล้วกอดกระเป๋าเอาไว้อย่างอับจนหนทาง



“ไอ้หยีบอกว่าร้านนี้มีที่พักให้ฟรี” ค่อยๆ ช้อนตาเงยหน้ามันแล้วบอกออกไปแบบนั้น



“ก็คือมึงไม่มีที่อยู่จริงๆ สินะคะ”



“ผมมี!  ...แต่แค่ ...แค่ตอนนี้ไม่มี” อยากจะเถียงออกไปว่ากูไม่ใช่คนจรจัดนะเว้ย .. แต่จริงๆ ตอนนี้สภาพกูก็ไม่ต่างเท่าไหร่ พอคิดมาแบบนั้นแล้วโคตรน่าอดสู หดหู่ชิพหายเลยตัวกู



ผมเกลียดการโดนดูถูก เกลียดการถูกมองเหมือนสงสาร แต่เรื่องจริงมันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าผมมันโคตรจะน่าสมเพช



คนตรงหน้าที่จ้องมองกันด้วยสายตานิ่งๆ ตอนที่เห็นผมก้มหน้าหนี อิเจ๊ที่แค่ขมวดคิ้วนิดหน่อย แต่สุดท้ายก็ยืดตัวขึ้นไปยืนดีๆ แล้วไม่ถามต่อๆ



“โอเคกูเข้าใจแล้วค่ะ แต่ว่าจะทำยังไงดีวะ ตอนนี้ห้องพักพนักงานมันเหลือห้องเดียว เพราะอีกห้องตอนนี้กูเอาเหล้าล็อตใหม่มาลงเกลื่อนไปหมดน่ะสิ” พอได้ยินแบบนั้นแล้วจิตใจกูฟีบเหี่ยวเลย แล้วกูจะไปอยู่ที่ไหนวะคืนนี้



“คืนนี้ให้พี่เอมไปอยู่กับไอ้โก้ไปก่อนได้ไหมอ่ะเจ๊พี่มึง” ไอ้อิฐที่เสนอความคิดเห็นออกมาแบบนั้น



“จะดีหรอคะ”



“ทำไมอ่ะเจ๊พี่มึง อย่างน้อยก็คืนเดียวน่า เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมกับไอ้จูนช่วยกันเก็บห้องนั้นแล้วค่อยให้พี่เอมเข้าไปอยู่” ตัวละครใหม่เยอะจนกูงง ไอ้โก้ไอ้จูนไหนกูก็ไม่รู้จัก ผมที่ได้แต่หันไปมองไอ้หยีแบบอยากตาย กูจะมีที่อยู่ไหมเพื่อนรัก



เหมือนมันเองก็จะเข้าใจเลยได้แต่เดินเข้ามาหาแล้วจับมือผมไว้แบบให้กำลังใจหน่อยๆ



“สรุปยังไงอ่ะพี่ดาบ จะให้เพื่อนหยีอยู่ไหนอ่ะ”



“ดานี่ค่ะอิน้องหยี เรียกกูให้ถูกๆ หน่อยจะตายหรอ ถ้าไม่สวยนี่กูตบแล้วนะคะ ... ส่วนเรื่องอิเด็กนี่ คืนนี้มึงทนนอนกับคนแปลกหน้าไปก่อนละกันนะคะคืนนึง มันเป็นเด็กในร้านนี่ล่ะ ยังไงเลิกงานคืนนี้ก็ใกล้จะเช้าอยู่แล้ว ไม่กี่ชั่วโมงก็ตื่น มึงโอเคไหมคะ”



แล้วกูเลือกอะไรได้ไหม เลือกที่จะไม่นอนได้หรือเปล่า



“ครับ”  สุดท้ายก็ทำได้แค่พยักหน้าลงแบบทำอะไรไม่ได้ อย่างน้อยก็ได้งาน มีเงินใช้ และอาหารฟรี ... ถึงแม้กูจะต้องแลกมากับการที่ต้องทนเห็นหน้าคนที่มีอะไรกันมาแบบไม่ได้สติหรือรักกันมาสองรอบแล้วก็ตาม พอคิดมาถึงตรงนี้แล้วก็เผลอเงยหน้าขึ้นไปจ้องหน้าเจ๊มันแบบไม่ได้ตั้งใจ และก็เห็นอีกฝ่ายที่มองหน้ากันอยู่ก่อนแล้วด้วยสายตานิ่งๆ ดวงตาคมๆ ที่ไม่ต่างไปจากครั้งก่อนที่ผมเคยเห็นตอนที่นอนอยู่ใต้ร่างของอีกฝ่าย อดไม่ได้ที่ต้องเผลอเม้มริมฝีปากเข้าหากันแล้วเสหน้าหนีเพราะรู้สึกร้อนๆ หน้า

 

คิดเหี้ยไรมากล่ะไอ้เอม ... มันก็แค่SEX

และใช้ กูมีเซ็กซ์กับตุ๊ดร่างยักษ์ที่มันอยากได้ผู้ชายมาเป็นผัว!  ไม่ใช่กู...



...


(มีต่อจ้า)
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่2 {20/10/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 20-10-2019 19:38:23


“มึง คืนนี้พี่สาวกูไม่อยู่บ้าน อาม่าอยู่คนเดียว คืนนี้กูเลยอยู่กับมึงไม่ได้นะอิเอม”  ไอ้หยีที่ว่าออกมาแบบนั้นในตอนที่ผมเดินออกมาจากร้านเพื่อมาส่งมันกลับบ้าน



“ไม่เป็นไรป้า กูมาทำงานนะเว้ย อีกอย่างงานแบบนี้กูก็เคยทำมาบ่อยจะตาย ไม่เป็นไรหรอกมึง”  บอกมันออกไปแบบนั้นแต่ไอ้หยีที่เอื้อมมือมาจับมือสองข้างของผมเอาไว้แน่น มันที่ทำหน้าเหมือนมันกำลังจะส่งลูกเข้าเรียนอนุบาลในวันแรก



“แต่กูไม่อยากปล่อยมึงอยู่คนเดียวในการเข้างานวันแรก มึงอาจจะหว่าเว้ มึงอาจจะไหวหวั่น”



“หยี”



“ว่าไงจ๊ะเพื่อนรัก”



“วันนี้มึงไม่ได้กินยามาสินะ อาการมึงดูเพ้อๆ”



“เอ๊ะอิสัดนี่ กูไม่ห่วงแม่งแล้วค่ะ! ” ว่าแบบนั้นแล้วสะบัดมือกูทิ้งแบบไร้เยื่อไย โถ่ แม่สาววัยเหลือน้อยผู้ขี้งอนของพี่



“ฮ่าๆ ขอบใจนะป้ามึง เอาน่าไม่ต้องห่วงกูหรอก กูอยู่ได้”  ว่าแบบนั้นแล้วยิ้มกว้างๆ ให้มันสบายใจ แม้ในใจจะคิดว่า อิเหี้ยเอ๊ยยย กูจะรอดพ้นไปจนถึงสิ้นเดือนไหม จะทำงานยังไงกับคนที่เคยเยกันดุๆ มาก่อน แค่มองหน้าตรงๆ แต่ละทีก็ร้อนๆ หนาวๆ แล้วอิเชี่ย เจ็บไข่!



“แต่นะ...อย่างน้อยก็มีพี่ดาบอยู่ด้วยกูก็เบาใจ” เบาใจเชี่ยไรล่ะ มีมันอยู่นี่ล่ะมึงยิ่งต้องเป็นห่วงกูโว้ย!



“เอ้อ แต่มึงอย่าเผลอไปเรียกว่าพี่ดาบเชียวล่ะ เดี๋ยวพี่แกจะของขึ้น”



“แล้วจะให้กูเรียกไรล่ะ เรียกไอ้สัดหรอ”



“เอ๊ะมึงนี่ เรียกมันเจ๊ดานี่สิมึง เรียกถูกใจดีไม่ดีมันจะขึ้นเงินเดือนให้นะกูบอกเลย”



“นี่ป้ามึง กูถามจริงนะ ไอ้เจ๊ดานี่อะไรเนี่ยมันเป็นงี้จริงๆ หรอวะ”



“เป็นงี้ มึงหมายถึงอะไรวะ”



“ก็เป็นตุ๊ดยักษ์แบบนี้ไงเล่า”



“อ๋อออ ฮ่าๆ ถ้าจะพูดตรงๆ มันก็ไม่ใช่นะ ตอนกูเรียนปี1 พี่ดาบแกอยู่ปี2เป็นเฮดวาร์ควิศวะนะมึง หล่อแบดๆ แถมควงหญิงไม่ซ้ำหน้าเลยจ๊ะ ผู้หญิงต่อคิวยาวไปถึงกำแพงเมืองจีน แซ่บๆ เลยนะคะ”



“แล้วอยู่ๆ ทำไมมันเป็นงี้วะ” อดที่จะเสือกต่อไม่ได้จริงๆ ครับ



“เฮ้อ อันนี้กูก็ไม่รู้พี่มันนะ พอกูลาออกแล้วซิ่วไปเรียนสถาปัตพี่มันก็กลายร่างเป็นแบบนี้แล้วอ่ะ แต่พี่มันเป็นคนดีนะมึง ไว้ใจได้เลยกับเพื่อนกับพี่กับน้องแกให้เต็มที่” ไว้ใจได้ก็เหี้ยแล้วล่ะไอ้หยี พี่มึงน่ะมันตัวอันตรายของแท้เลย คนเหี้ย!



“ว่าแต่มึงถามทำไมวะ”



“อ๋อออ ฮ่าๆๆ ไม่มีไร กูจะอยากรู้เรื่องเจ้านายกูบ้างไม่ได้หรอป้า”



“เออๆ งั้นกูกลับก่อนนะ อยู่นี่ก็อย่าดื้ออย่าซนนะลูกนะ มามะขอหอมหัวทีนึง” ว่าออกมาแบบนั้นแล้วเอื้อมมือมาโน้มหัวกูไปจูบแบบหน้าตาเฉย ....ฮ้า~~ กลิ่นมาดามหอมชื่นใจ สดชื่นเลยสิมึงเอ๊ย



“อี๋ อิเอม หัวมึงเหม็นมากค่ะ!  มีหมาตายลอยมาติดหัวมึงหรอคะ”



“ก็แชมพูมันหมดอ่ะป้า มึงอย่ามาบูลลี่หัวกูได้ไหม จิตใจอ่ะ”



“เอน็ดอนาถชิพหายชีวิตมึงเนี่ย ไปๆ กูจะกลับแล้ว ขอให้วันนี้มึงได้ค่าทิปเยอะๆ นะคะ”



“สมพรปากนะป้า เดี๋ยวกูเข้าไปเก็บของก่อน”



“เออๆ รีบไปเถอะมึง”



บอกลากันแค่นั้น แล้วไอ้หยีก็ค่อยๆ ขับรถออกไปจากลานจอดรถ พอยกข้อมือตัวเองขึ้นดู นาฬิกาก็บอกเวลาว่าบ่ายสามแล้ว อีกนิดก็คงต้องมาช่วยจัดร้านแล้ว คิดแบบนั้นเลยรีบกลับเข้าไปข้างในก่อนจะโดนไล่ออกตั้งแต่ที่ยังไม่ได้เริ่มงาน



“หยุด สต๊อปการเดินค่ะอิน้องบ๋อย” ยังไม่ทันจะก้าวไปไหนไกล คนที่เดินลงมาจากชั้นสองก็เบรคกูซะหัวทิ่ม จะใครที่ไหนล่ะถ้าไม่ใช่ไอ้สัดตุ๊ดยักษ์



“เอ่อ พี่ เอ่อ เจ้านายมีไรกับผมครับ”



“ถ้าจะเรียกกูลำบากขนาดนั้น ก็เรียกกูว่าพี่ดานี่คนสวยค่ะ” บอกกูแบบนั้นพร้อมยิ้มกว้างแล้วยกมือขึ้นสะบัดผม ผมทิพที่มันไม่มีอยู่จริง เล่นใหญ่เหมือนผมมึงยาวไปถึงเชียงใหม่อ่ะอิชิพหาย



“หรือถ้าพี่เอมลำบากใจจะเรียกแบบนั้นนะ น้องอิฐขอแนะนำว่าให้เรียกแบบอิฐเลยว่าเจ๊พี่มึง” ไอ้อิฐที่ยืนเช็ดแก้วอยู่ที่บาร์คอกเทลตะโกนออกมาบอกกันแบบนั้น



“สาระแนค่ะอิอิฐ”



“ว่าแต่เจ๊พี่มึงมีไรหรอครับ”



“เอ๊ะ อินี่ก็เชื่อคนง่ายเหลือเกินนะคะ ไม่อยากเสียเวลา มึงหิ้วกระสอบผ้าเก่ามึงแล้วตามกูขึ้นมาค่ะ” บอกผมแบบนั้นพร้อมกรีดนิ้วชี้ไปที่กระเป๋าเสื้อผ้าของผมที่ถูกวางทิ้งไว้บนโต๊ะแบบเหี่ยวๆ เหงาๆ โถ่ น่าสงสาร



“นั่นมันกระเป๋าเสื้อผมนะเว้ย กระสอบผ้าเก่าอะไรของพี่วะ” พูดจาไม่ให้เกียรติกูไม่ว่า แต่จะมาว่าพี่กระเป๋ากูไม่ได้!  เอมไม่โอเคอ่ะ



“เออๆ จะอะไรก็ช่างมึงค่ะ อย่าเสียเวลาแล้วเดินตามกูมาข้างบนค่ะ”



บอกแบบนั้นพร้อมจ้องมานิ่งๆ แบบรำคาญหน่อยๆ คำพูดและท่าทางของพี่มันทำเอาผมผวา เผลอเหลือบสายตามองขึ้นไปตรงบันไดทางขึ้นชั้นบนแล้วต้องเม้มปากแน่นๆ ความรู้สึกและสัมผัสของเมื่อคืนยังคงอยู่ ... อย่าบอกว่าพี่มันจำเรื่องเมื่อคืนได้นะเว้ย



“ทำไม มึงมีอะไรคะ” คนร่างสูงตรงหน้าที่ถามออกมาแบบนั้นด้วยสายตาคมนิ่ง ก่อนที่อีกฝ่ายจะหรี่ตามองกันนิดๆ เห็นแบบนั้นแล้วเผลอกลืนน้ำลายลงคอก่อนจะรีบฉีกยิ้มกว้างแบบร่าเริงแล้วยกมือขึ้นโบกไปมาส่งไปให้



“เปล่าๆ ครับเจ๊พี่มึง ฮ่าๆๆ”



“อ้อ แบบนั้นเองสินะคะ ถ้างั้นก็ตามมาค่ะ” แต่กูไม่อยากไปนี่ ... มันที่ไม่ได้สนใจหนังหน้าไม่เต็มใจของกู ทำแค่หันหลังเตรียมตัวเดินนำขึ้นไปข้างบน เห็นแบบนั้นเลยต้องรีบขัดมันไว้ซะก่อน



“เดี๋ยววววว เดี๋ยวนะเจ๊ เจ๊มีอะไรก็พูดกันตรงนี้ก็ได้นี่นา ฮ่าๆ มีอะไรหรอครับ” ถามออกไปแบบนั้นแล้วฉีกยิ้มอย่างฝืดฝืนส่งไปให้ อีกฝ่ายที่หันกลับมามองหน้ากันช้าๆ พร้อมจ้องหน้ามองมานิ่งๆ อู้ว หล่อชิพหาย แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือขายาวที่ค่อยๆ ก้าวลงมาจากบันไดแล้วตรงมาหากู เห็นแบบนั้นแล้วได้แต่เผลอขยับตัวถอยหลังหนี



‘หมับ’



“เห้ยย เชี่ยเจ๊มึง! ”



“พูดมากน่ารำคาญค่ะอิดอก กูหิ้วมึงไปเลยละกันอิเด็กผอมกะหร่อง”



“เจ๊มึงปล่อยกูนะโว้ยยยย” มันที่ไม่ได้ล้อเล่นแต่ทำจริงๆ วงแขนแกร่งที่คว้าเข้าที่เอวของผม...อีกแล้ว!  มันที่หนีบกูเข้าข้างเอวเหมือนกำลังอุ้มเด็กตัวเล็กๆ แล้วหิ้วกูขึ้นบันไดไปหน้าตาเฉย



“เจ๊มึง ปล่อย ปล่อยนะ โอ๊ย”



‘เพี้ยะ’  ร้องออกมาแบบนั้นตอนที่โดนฝ่ามือใหญ่ฟาดเข้าที่ตูด อิเหี้ย เจ็บจนต้องกัดฟัน



“เสียงดังค่ะ รำคาญหู” มันที่ว่าออกมาแบบนั้น และผมก็ได้ยินเสียงไอ้อิฐที่ดังตามมาแว่วๆ ว่า



“หูว รุนแรงแท้”



แรงพ่อง!  มาช่วยกูสิไอ้เด็กบ้า!

.

.

.


‘พรึบ’



“โอ้ย เจ็บนะโว้ยเจ๊ โยนลงมาได้” ได้แต่แหกปากใส่คนที่เดินไปล็อคประตูทั้งแบบนั้น ถึงมันจะโยนกูลงมาบนโซฟา แต่เรื่องเจ็บตูดของกูในตอนนี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะโว้ยยย



“กูก็โยนเบาๆ เองนะคะ มึงจะร้องอะไรขนาดนั้น”



“ก็กูเจ็บตูดอ่ะ เจ็บตูดอ่ะเจ๊มึงเข้าใจไหม! ” ใส่อารมณ์แม่งเลย น้ำตากูซึมออกมาที่หางตาปริ่มๆ เลยด้วย



“เจ็บขนาดนั้นกันเลยนะคะ”



“เออเซะ! ” กระแทกเสียงใส่แม่งเลย คิดว่ากูล้อเล่นหรอ เจ็บจริงโดนมึงเสียบจริงๆ แบบไม่ใช้สแตนอินก็คือตัวกูเองเลยล่ะ



“ไปทำอะไรมาคะมึงถึงเจ็บขนาดนั้นน่ะ” ถามออกมาด้วยเสียงเรียบๆ พร้อมเดินไปพิงอยู่ที่ขอบโต๊ะทำงานตรงหน้าผม คนร่างสูงที่กอดอกจ้องหน้ากัน



“ก็มึ....”



“หื้ม?” มันที่เลิกคิ้วข้างนึงขึ้นนิดๆ แล้วยกยิ้มมุมปากส่งมาให้ เชี่ย!  ไอ้ชิพหาย เกือบหลุดพูดออกไปแล้วไอ้บ้าเอ๊ย



“เปล่าครับ ก็มึนๆ เดินตกบันได”



“อ๋อหรอคะ”



“ก็เออน่ะสิเจ๊ ว่าแต่เจ๊มีไรก็รีบๆ พูดมาเลย ถ้าไม่มีผมจะลงไปช่วยไอ้อิฐข้างล่างแล้วนะ” บอกพี่มันไปแบบนั้นแล้วทำท่าจะลุกขึ้นยืน



“ทำไมมึงถึงทำท่าทางไม่อยากจะอยู่บนนี้จังคะ ลุกลี้ลุกลนแปลกๆ”



“บ้าเปล่า ผมก็แค่ไม่อยากอยู่กับพี่นานๆ เฉยๆ หรอกเว้ย”



“แหมมม อิเด็กผอมกะหร่อง มึงก็อย่าคิดว่ากูจะอยากอยู่ใกล้ๆ มึงมากนักเลยนะคะ พูดแล้วขนลุกค่ะ” ว่าออกมาแบบนั้นพร้อมกอดอกแล้วเชิดหน้าใส่ผม หน้าตบมากครับ แต่ตบไม่ได้กลัวมันต่อยเอา ดูกล้ามแขนมันสิครับ พี่เอมว่าพี่เอมไม่สู้จะดีกว่า



“ผมสิควรจะขนลุก”



“ทำไมคะ มึงจะขนลุกทำไมคะ กูสิที่ต้องขนลุก กูสิคะที่ต้องรู้สึกถึงความผิดผี สาวน้อยบอบบางแบบกูน่ะ”



“แต่ผมเป็นคนเสียซิงโดนพี่เสียบไง ผมนี่ที่ต้องกลัวพี่ พี่จะมาบอบบางอะไรเล่า!”



“กรี๊ดดดดดดดดดดดดด ตบปากเท่าอายุมึงเดี๋ยวนี้เลยนะคะ ห้ามพูดๆๆๆ ห้ามพูดเรื่องนี้ออกมา ห้ามแพร่งพรายออกมาเข้าใจไหมคะ”



คนตรงหน้าที่ยกมือขึ้นปิดหูแล้วกรี๊ดเสียงสองออกมาแบบสะดีดสะดิ้นก่อนจะยกมือขึ้นปิดนมที่อกใหญ่ๆ ของพี่มันแล้วมองมาแบบหวาดผวา คือ.....คือกูนี่ที่ต้องกลัวมึงปล้ำไม่ใช่มึงโว้ย!



“ผมเองก็ไม่อยากจะจดจำมันอีกเหมือนกันแหล่ะโว้ย! ”



“เอ๊ะ...ทำไม!  เอากับกูแล้วมันทำไมวะ ทำไมถึงจะจดจำไม่ได้” คนตรงหน้าที่เลิกทำท่าสะดีดสะดิ้งแล้วว่าออกมาแบบนั้นด้วยเสียงเข้มๆ ที่ติดจะหงุดหงิดพร้อมๆ กับหันมาจ้องมองกันตาเขม็ง



“เอ้า แล้วพี่จะมาเสียงเข้มใส่ผมทำไมล่ะ ไหนบอกให้ลืมไงวะ”



“เออ...ก็จริงของมึง แต่กูก็แค่ถามเสียงดังเฉยๆ แค่นั้นเองเถอะค่ะ” ว่าออกมาอีกแล้วกลับไปยืนก่อนอกเชิดหน้าใส่กันอีกครั้ง ... สวยเหลือเกินนะมึงนะ



“ประสาท” คำเดียวสั้นๆ ที่กูจะให้มึงอิพี่ตุ๊ดยักษ์



“กูได้ยินค่ะ! ”



“เจ๊าะแจ๊ะ” เบ้ปากใส่เลยแม่ง หนหวยนัก



“เดี๋ยวกูตบให้นะคะ ที่กูเรียกมึงขึ้นมานี่ก็เพราะกูมีเรื่องข้องใจ”



“เรื่องข้องใจ?”



ได้ยินแบบนั้นแล้วก็อดไม่ได้ที่ต้องเลิกคิ้วขึ้นมาแบบไม่เข้าใจ มันยังจะมีเรื่องข้องใจอะไรกันอีกวะ นอกจากเรื่องเพศสภาพของมึงแล้ว ในโลกนี้ไม่น่าจะมีเรื่องอะไรให้มึงกูเราท่านได้ข้องใจอีกแล้วนะ



“มึงนั่งลงก่อนค่ะอิน้องบ๋อย แล้วเรามาคุยกัน”



“เจ๊มีอะไร” สุดท้ายก็ต้องยอมกลับไปนั่งลงบนโซฟาตัวที่ถูกโยนลงไปเมื่อก่อนหน้านี้อีกที คนร่างสูงตรงหน้าที่ก็ขยับตัวลงมานั่งที่โซฟาข้างๆ กัน เห็นแบบนั้นแล้วก็อดสะดุ้งหน่อยๆ ไม่ได้



“ที่มึงโดนไล่ออกจากงาน เป็นเพราะเรื่องกูครั้งนั้นใช่ไหมคะ” ถามออกมาแบบนั้นแล้วมองหน้ากันแบบจริงจัง ผมที่หันไปมองตอบแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาหนักๆ พลางพยักหน้าตอบ



“แล้วมึงทำๆ ไมคะ รู้ว่ามียาในแก้วแล้วมึงทำแบบนั้นทำไม ถ้ามาทำงานที่ร้านกู แล้วมึงทำแบบนั้นอีก กูบอกตรงๆ เลยว่า กูก็ไม่เอาไว้เหมือนกันนะคะ”



“ผมไม่ได้อยากทำนะพี่ ผมโดนบังคับ วันนั้นผมก็อยากจะบอกไม่ให้พี่กิน แต่ผมก็โดนสั่งมา ก็ไอ้ผู้จัดการร้านที่ไล่ผมออกนั่นแหล่ะมันเป็นคนสั่ง มันรับเงินมาจากสาวๆ โต๊ะนั้นแล้วก็มาบีบให้ผมเอาไปให้พี่กิน แต่พอพี่กินแล้วดันโวยวายออกมา พอเรื่องมันแดงเจ้าของร้านรู้ ผู้จัดการก็โยนให้ผมผิดคนเดียวทั้งหมดอ่ะ”



“เชี่ยแม่ง โคตรจะเหี้ย” คนตรงหน้าที่ขมวดคิ้วเข้าหากันตอนที่ได้ฟังพร้อมสบถออกมาเสียงเข้ม ...คือแล้วเสียงสองมึงล่ะดานี่ เมื่อกี้เสียงมึงแมนกว่ากูอีกนะ



“เอ่อ...”



“อุ๊ย โทษค่ะ พอดีสวยอิน” มึงไม่ได้มีความสวยเลยสักนิดกูอยากจะบอกตรงนี้!



“งั้นตอนนี้มึงคงลำบากสินะ”



“เห้ยพี่ ผมชิล” ชิลก็เหี้ย เงินไม่มี บ้านก็ไม่มี ไม่ชิลอะไรสักนิด แต่นิสัยผมมันก็แบบนี้ ไม่อยากให้ใครต้องมาวุ่นวายอะไรกับผม ไม่อยากให้ใครสงสาร เพราะผมมันก็มีแค่ตัวคนเดียวอยู่แล้วที่ต้องดูแล



“กูจะจ้างมึงให้เป็นเด็กเสริฟแบบที่มึงเคยทำ มึงทำได้ใช่ไหม”



“ได้พี่ งานอะไรผมก็ทำได้หมดแหล่ะ” ตอบออกไปแบบมั่นใจ ถ้าพูดถึงเรื่องงานกูมั่นใจมากครับ



“สองอาทิตย์แรกกูจะให้เงินมึงเป็นชั่วโมง ชั่วโมงละร้อย ถ้ามึงอยู่ได้เกินสองอาทิตย์กูจะปรับเงินเดือนมึงเป็นพนักงานประจำให้เป็นสองหมื่นห้า”



“เชี่ย ทำไมร้านพี่เงินดีงี้อ่ะ ผมจะขยันทำงานเลยครับเจ๊พี่มึง” กูจะไม่ออก ไอ้เอมจะไม่ยอมตาย กูจะพลีกายเพื่อร้านนี้ กราบจ้า



“ก็งานมันหนัก มึงจะถามอะไรมากนักคะ เงินดีไม่ชอบรึไงคะ”



“ชอบสิเจ๊พี่มึง หอมกลิ่นเงิน”



“ดีค่ะ เพราะงั้นไม่ต้องถามอะไรมากนะคะ แต่ตอนนี้กูมีอีกเรื่องนึงที่อยากจะรู้”



“หลายเรื่องเหลือเกิน ว่าแต่มีเรื่องอะไรอีกครับ”



คนข้างตัวที่ปรับสีหน้าให้เปลี่ยนเป็นนิ่ง วงแขนแกร่งที่วางพาดไปที่พนักพิงโซฟาทางด้านหลังผมตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่ทันได้สังเกต ก่อนที่สายตาคมนั่นจะเปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์ แววตาแบบนี้ ท่าทางแบบนี้ที่ผมคุ้นเคยจนต้องเผลอกลืนน้ำลายลงคออย่างลำบาก ตั้งท่าจะลุกหนีในตอนนี้ แต่ติดตรงที่อีกฝ่ายใช้แขนแกร่งมาคว้าเข้าที่เอวของผมแล้วดึงเข้าไปใกล้ตัวซะก่อน



“พ...พี่ ...พี่จะทำอะไรวะ”



“มึงเคยขึ้นมาที่นี่หรือเปล่า ที่ห้องนี้?”



“ห..ห๊ะ!  ม...ไม่ ไม่เคยเลยผมไม่เคยมาเลยนะ ผมจะมาได้ยังไงวะพี่ ฮ่าๆๆ”



ขำออกไปอย่างฝืดฝืนทั้งๆ ที่ขนก็ลุกซู่ไปทั้งร่างตอนที่เสียงเข้มๆ นั่นดังชิดข้างๆ ริมหู ได้แต่เม้มปากเข้าหากันในตอนนี้ที่ช้อนตามองหน้าอีกฝ่ายที่ก็ก้มหน้ามาจ้องตากันอยู่แบบนั้น ก่อนที่ริมฝีปากของคนตรงหน้าจะยกยิ้มขึ้นนิดๆ



“งั้นตอนนี้กูมีเรื่องอยากจะขอมึง”



“ข..ขอ ขออะไรวะพี่ พี่มึงต้องการอะไรจากกู๊! ”



“กูต้องการให้มึงถอดกางเกง ขอกูดูก้นมึงหน่อย”



“.....!!!! ”    ไข่แม่มึงงงงงงง





--------------To be continued--------------



มาแล้ววววจ้า ไม่คิดเลยว่าที่เล้าเป็ดนี้จะมีคนอ่านมาอ่านมาเม้นท์ให้แคท แคทดีใจมากๆค่ะ แอบลุ้นอยู่ว่าจะมีบ้างไหม
พอเห็นว่ามีหลายๆท่านมาเม้นท์ให้กัน บางยูสคือเคยเห็นในเรื่องอื่นๆที่แคทเขียนแล้วกุมหัวใจเลย ขอบคุณมากๆจริงๆนะคะ :pig4:


แคทขอขอบคุณ


ลัทธิปากแดงก็ผัวเธอจงจาเรินน!! เจ๊ฮามาก คีพลุคกะเทยสุดๆ :katai3:
   มาเปิดประเดิมเจิมให้แคทก่อนเลยท่านแรกเมื่อคืนนี้ แคทเห็นแล้วคือดีใจมาก ขอบคุณมากๆนะคะ

:m16: อิเจ๊ มึงจำทำเป็นจำอะไรแบบนี้ไม่ได้
  นั่นสิคะ จะมาโมเมจุ๊บจิ๊บไม่ได้นะ

:z1:
:L2: :pig4: :L2:
   ขอบคุณมากๆเลยนะคะ แคทฝากเจ๊ดานี่กับน้องเอมไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ :mew1:


:pig4:
 :3123:
  แคทขอบคุณมากๆเลยนะคะที่เข้ามาอ่านมาคอมเม้นท์ให้แคท แล้วเข้ามาอ่านอีกนะคะ (เกาะขา)


เจ้เมาแล้วแมนตลอดอ่ะ
  เจ๊ดานี่: ดานี่ว่าดานี่ก็เนียนอยู่นะคะ ไม่หรอคะ เอ๊ะ ยังไงนะ (เอาผมทัดหู)


-------------



ส่วนท่านใดไม่มียูสในเล้าเป็ด สามารถเข้าคอมเม้นในทวิตเตอร์ได้ที่แฮชแทค #สวยๆเป็นผัว นะคะ แคทรออ่านอยู่น้า
ตอนนี้เป็นยังไงบ้างคะ  ทักทายบอกเล่ากันได้นะคะ  :katai4: :mew1: :call:



ปล. ถ้าแคทเปลี่ยนชื่อเรื่องให้เหลือแค่ สวยๆเป็นผัว จะดีกว่าไหมคะ? ถ้าดีกว่ากด1 ถ้าไม่ต้องเปลี่ยนใช้ชื่อนี้แหล่ะ กด2


หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่2 {20/10/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 20-10-2019 19:40:18
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่2 {20/10/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: Ti0590 ที่ 20-10-2019 22:22:14
รุกสายเล็บอะคริลิค 55555  :hao6:  :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่2 {20/10/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 20-10-2019 23:47:51
 :laugh:

  :3123: :pig4: :3123:

หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่2 {20/10/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 21-10-2019 01:21:26
เจ๊ดานี่นี่ร้ายกาจจริงๆ,,,
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่2 {20/10/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 21-10-2019 01:54:57
ยินดีต้อนรับเจ๊ดานี่   :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่2 {20/10/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 21-10-2019 02:31:22
 :m20: เจ๊มึงใจเย็นๆ อยู่ๆก็มาขอดูตูดน้องมัน
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่2 {20/10/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 21-10-2019 18:40:37
ชื่อนี้ก็ดีนะคะ แต่เจ๊จะมาขอดูก้นน้องนี้ไม่ดีเลยน้าา
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่3 {26/10/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 26-10-2019 20:01:20
บทที่3




“จ...เจ๊มึงว่าอะไรนะ”



“กูบอกว่า กูต้องการให้มึงถอดกางเกง ขอกูดูก้นมึงหน่อยค่ะ”



“จะบ้าหรือดี”



“ดี”



“แต่กูว่าแบบนี้ไม่ดีโว้ย!”



“กูว่าดีมันก็ดีสิคะหนู ไหน ขอดูหน่อยค่ะ”



‘พรึบ’



ช่วงจังหวะที่เถียงกันอยู่แบบยังไม่ได้ข้อสรุป แต่ผมดันถูกอีกฝ่ายผลักให้ตัวลงไปนอนราบกับโซฟาทั้งแบบนั้น และไอ้คนตรงหน้าที่ก็โถมตัวทาบทับกันลงมา



“อยู่นิ่งๆ” เสียงเข้มๆที่คุ้นเคยทำเอาใจสั่น บอกไม่ถูกว่าความรู้สึกตอนนี้มันคืออะไร ระหว่างกลัวหรือจริงๆแล้วมันตื่นเต้นไม่ต่างจากวันนั้นกันแน่



“จ...เจ๊”



“กูไม่รู้ว่าคนเมื่อคืนเป็นใครกันแน่ที่นอนกับกู พอกินเหล้าทีไรก็ชอบมีปัญหามันทุกที”



“.........”



“กูจำหน้าไม่ได้ แต่กูกลับรู้สึกคุ้นเคยมันซะทุกอย่าง และในหัวของกู...มันดันมีแต่หน้าของมึงที่วนเวียนอยู่ในหัวกู”



“เจ๊...เจ๊มึง..จะพูดอะไร”



“กู...”  ได้แต่กลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดฝืน คำพูดคำจาเหมือนคนจะสารภาพรัก เดี๋ยวนะ...ไม่นะแม่ เอมยังไม่พร้อม



“กูขอดูก้นมึงหน่อยเพื่อความชัวร์ นะ” ถุย! ไข่แม่มึง!!



“กูไม่ให้ดูโว้ย!”



ตะโกนออกไปใส่หน้าอีกคนแบบนั้น ก่อนจะเอามือยันหน้าอีกฝ่ายที่ขยับเข้ามาใกล้ๆให้มันหงายไปด้านหลังตกลงไปจากโซฟา เห็นหัวมันโขกเข้ากับโซฟาไปทีนึงด้วย สมน้ำหน้า กูนี่รีบเด้งตัวลุกขึ้นออกจากโซฟาสีชมพูแป๊ดนี่เลย 



“โอ๊ย กรี๊ดดด กูเจ็บนะคะอิน้องบ๋อย อิเด็กแรงควาย หัวสวยเจ็บมากๆ หัวสวยบอบบางมากนะคะ” กูขอถามอีกทีใครสวยนะ? ที่แน่ๆไม่น่าใช่มึงแล้วล่ะหนึ่ง อิเจ๊ตุ๊ดปลอม!



“ก็เจ๊มึงประสาทอ่ะ เป็นโรคจิตหรอวะ อยู่ๆจะมาขอดูก้นคนอื่นแบบนี้ไม่ได้โว้ย”



“ทำไมจะไม่ได้ มึงไม่ใช่คนอื่นค่ะ อย่างน้อยกูก็เคยเห็นของๆมึงมาทุกซอกทุกมุมแล้วเถอะ”



“เจาะแจ๊ะ เงียบปากไปเลยนะเจ๊”



“นี่มึงกล้าบอกให้กูเงียบปากหรอคะอิน้องบ๋อย กูเจ้านายมึงนะคะ” คนตรงหน้าที่ลุกขึ้นยืนจ้องหน้ากันแล้วกอดอกมองแบบมีจริต จริตกระเทยควายนะครับ



“ก็...ก็เจ๊จะทำบ้าอะไรกับผมล่ะ แล้วดูดิ คนดีๆที่ไหนเค้าจะมาขอคนอื่นดูก้นอ่ะ”



“ก็กูมีเรื่องข้องจิตข้องใจกูนี่ค่ะ ขอดูนิดดูหน่อยทำหวง”  ก็มันเป็นสิ่งที่กูต้องหวงไหมวะ! หรือมึงหวังว่ากูจะมีปฏิกริยาตอบโต้แบบลุกขึ้นถ่างขาแล้วบอกว่า เชิญจ้าเชิญสำรวจโลกภายในนี้ได้เลยเด้อ งี้หรอ? มันไม่ใช่ป่ะ



“เจ๊...”



“ว่าไง เปิดเลยไหม กูพร้อมดูมากค่ะ”



“ไปตายให้หนอนแดกนะ!”

.

.

.


“อะไรอ่ะคะ ขอแค่นี้ก็ทำหวงกัน นี่กูเป็นเจ้านายมึงนะคะเนี่ย”



เสียงบ่นที่มาจากสิ่งมีชีวิตหมีควายที่เดินบ่นงึมงำพึมพำๆตามหลังมาไม่หยุด มันที่บ่นแบบนี้เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ แต่ผมไม่อยากจะสนใจ ทำได้แค่เดินหนีออกมาจากห้องของมัน แต่เจ้าของร้านปากแดงก็ไม่ปล่อยให้กูได้เป็นสุข มันที่ยังเดินตามกันมาอยู่แบบนั้น จนตอนนี้เราเดินลงมาถึงชั้นสองก็ยังไม่หยุด ได้แต่ถอนใจหนักๆ หยุดเดินแล้วหันไปมองอีกฝ่ายแบบสุดจะทน



“สรุปคือเมื่อคืนเจ๊ไปกินตับใครมาอีกแล้ว แล้วตอนนี้จะมาโบ้ยว่าเป็นผม เจ๊คิดว่าผมจะยอมให้เจ๊มาเปิดตูดผมรึไงวะ ไม่มีทาง



“แต่ครั้งที่แล้วมึงก็ยอมนะคะ เห็นหลับตาเคลิ้มแล้วครางกันไป”



“อิเจ๊ มึงสิคราง!”



“เอ๊ะ ก็มันเสียวมึงเข้าใจไหม อุ้ย!สวยพูดอะไรออกไป แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นค่ะ อิหนูบ๋อยคะ เมื่อกี้มึงขึ้นองขึ้นอีขึ้นเสียงใส่สวยหรอ คือจะเอาใช่มะจะเอาหรอคะ”



ว่าออกมาแบบนั้นพร้อมทำหน้าแบบมีจริต ฝ่ามือหนาใหญ่ๆนั่นที่ยกง้างมือขึ้น ทำท่าจะตบกัน เห็นแบบนั้นเลยได้แต่หดคอแล้วหลับตาปี๋เกร็งตัวสุดฤทธิ์ ขืนตบลงมากูอาจหัวหลุด ดูจากขนาดฝ่ามือและเส้นเลือดที่ขึ้นเป็นเส้นๆอยู่ที่มือและท่อนแขนนั่นแล้ว หัวกูไม่น่าจะรอดปลอดภัย



“อ๊ะ...” ความรู้สึกอุ่นๆจากฝ่ามือที่จับเข้าที่ปลายคาง ก่อนที่จะเชยคางของผมให้เงยขึ้น ค่อยๆลืมตาขึ้นมา ในตอนนั้นก็มองเห็นจมูกโด่งและดวงตาคมเข้มที่มีอายแชโดว์ประดับอยู่ที่เปลือกตาที่จ้องมองตรงมานิ่งๆ



“ถ้าไม่ใช่มึงจริงๆก็แล้วไป”



“อ่า...”



“แต่ถ้าใช่...กูก็คงต้องคิดอะไรใหม่นิดหน่อย” พูดออกมาแบบนั้นด้วยเสียงเข้มทุ้มพร้อมๆกับรอยยิ้มที่ถูกจุดขึ้นที่มุมปาก



มองตามสายตาคมที่ไม่ได้จับจ้องอยู่ที่ตาของผมอีกแล้วในตอนนี้ คนตรงหน้าที่ทำแค่เลื่อนสายตามาที่จมูก และหยุดอ้อยอิ่งอยู่ที่ริมฝีปากของผมอยู่แบบนั้น



“ค...คิดอะไรวะเจ๊”  มึงคิดอะไร อย่าบอกจะไล่กูออกนะ กูไม่ออกกูจะอยู่!



“หึ ...ก็คิด....”



“คิดอะไร” 



“แล้วเรื่องอะไรต้องบอกมึงล่ะคะ ในเมื่อมึงไม่ใช่คนนั้นสักหน่อย แถมตูดก็ไม่ให้กูดู หวงเก่ง”  ว่าออกมาแบบนั้นก่อนจะปล่อยมือออกจากแก้มผม แล้วกลับไปทำท่าทางจีบปากจีบคอใส่กู ท้ายประโยคยังคงบ่นมุบมิบพอให้อยากหันไปตบปากแดงๆนั้น  แต่สายตาวาววับนั่นกลับไม่เปลี่ยนไปสักนิด เห็นแบบนั้นแล้วก็อดที่จะกลืนน้ำลายลงคอไม่ได้  ผมจะไม่มีทางให้อิเจ๊ตุ๊ดปลอมนี่มันรู้เรื่องเมื่อคืนนี้เด็ดขาด เรื่องราวของเราแม่งไม่ควรเกิดขึ้น และที่สำคัญ...ผมกลัวครับ

กลัวว่าถ้ามันรู้แล้วมันจะไล่ผมออก ก็ดูมันสิ ดูผีบ้าผีบอแบบนี้ บอกตัวเองสวยตลอดเวลาอยู่แบบนั้น เกิดมันรับไม่ได้ที่อยู่ๆมาเสียบผมซ้ำแล้วซ้ำเล่าเข้าแล้วเกิดอยากไล่ผมออก ผมจะทำยังไงล่ะครับ เจ็บไข่เลยนะ!



 ‘โครก’



“เอ๊ะ? ... นั่นเสียงอะไรคะ”



“เอ่อ”  เลิกลั่กเลยกู ... มันใช่เวลาไหมเนี่ย



‘โครก จ่อกๆ’



“นี่เสียงท้องมึงร้องหรอคะ ดังกึกก้องกัมปนาถอะไรเบอร์นี้คะถามก่อน”   ถามทำเหี้ยอะไร กูอายเนี่ย!



หลบสายตาแม่งเลย แต่อีกฝ่ายดูเหมือนจะมีความสุขบนความทุกข์ของกู อิเจ๊พี่มันที่ก้มหน้าลงมามองกันใกล้ๆ ทั้งๆที่กูก็พยายามก้มหน้ามองนิ้วตีนตัวเองแล้วนะ มันจะอะไรกันนักกันหนาวะ หึ่ย!



“เขินหรอคะ”



“เขินเชี่ย...อ๊ะ...” แล้วเพราะว่าอยากจะเถียงกลับแบบไม่ยอมแพ้เลยหุนหันรีบเงยหน้าขึ้นมา และในตอนนั้นที่อีกคนก็ก้มหน้าลงมาใกล้พอดี เป็นช่วงเวลาที่ต้องเผลอกลั้นลมหายใจในตอนที่ปลายจมูกของทั้งผมและเจ๊มันแตะกันแบบไม่ตั้งใจ ความรู้สึกเสียวแปล๊บที่อธิบายเป็นคำพูดไม่ได้ก็แล่นพล่านไปทั้งตัว ได้แต่ผงะถอยหลังออกมาอีกนิดหน่อย .



.. เชี่ย มันคืออะไรวะ



“หึ”



“อ..เอ่อ” บรรยากาศชวนอึดอัดที่ผมได้แต่ช้อนตามองมันแล้วอ้าปากพงาบๆแบบไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรดี อีกฝ่ายที่ก็ผละหน้าออกแล้วถอยไปยืนดีๆไม่ต่างกัน



“เดี๋ยวกูไปหาอะไรให้กินละกันค่ะ”



“เอ่อ...ขอบคุณครับเจ๊”  รีบตอบรับมันออกไปแบบนั้น แล้วหันหลังกอดกระเป๋าใบเก่งเพื่อจะเดินนำอีกฝ่ายหนีลงไปชั้นล่างก่อน แต่จังหวะก้าวของการเดินก็ต้องหยุดลงอีกครั้งในตอนที่ได้ยินเสียงเข้มๆดังตามมาจากทางด้านหลัง



“หนูน้องบ๋อยคะ...หนูหน้าแดงล่ะรู้ยัง หึ”



คำพูดที่ดังอยู่ข้างๆหูเพราะอีกฝ่ายเดินตามมากระซิบกันแบบนั้น ได้แต่ยืนนิ่งแข็งเป็นท่อนไม้ที่ตายแล้วตอนที่อีกฝ่ายผละตัวออกแล้วเดินนำกันลงไปชั้นล่าง มองเห็นแผ่นหลังกว้างๆที่เดินห่างออกไปแล้วก็เอื้อมมือขึ้นไปจับหน้าตัวเองหน่อยๆ มันร้อนแปลกๆ



“ก...กูแค่ร้อนหรอกเว้ย!!”



ตึกตักๆ หัวใจไม่ปลอดภัยเวลาอยู่ใกล้อิเจ๊ตุ๊ดปลอมนี่เลยครับแม่



...



               เสียงกะทะกระทบกับตะหลิวที่มาพร้อมกับกลิ่นหอมของกระเทียมที่ถูกน้ำมันร้อนๆทำให้เริ่มเหลืองนั่นเรียกน้ำย่อยของผมให้ทำงานขึ้นมาอีกรอบ เสียงท้องร้องโครกครากแบบไม่อายฟ้าดิน รวมถึงไม่แคร์หนังหน้าหล่อๆของกูด้วย ทำได้แค่เดินทำจมูกฟุดฟิดตามกลิ่นหอมๆนั่นเข้าไปในโซนด้านหลัง เลยห้องสต็อคของจนทะลุไปสุดทางที่ด้านหลัง ตรงนั้นคือโซนห้องครัวที่มีไว้สำหรับพนักงานเท่านั้นที่เข้ามาได้



ห้องครัวขนาดใหญ่ที่ได้มาตราฐานแบบสุดๆ เป็นครัวกลางที่เอาไว้เชื่อมทั้งสองร้านเข้าด้วยกัน ใช้สำหรับทำอาหารทั้งของผับและของร้านนั่งชิลทางด้านนอก ดังนั้นจึงถูกออกแบบให้โล่งโปร่งและมีขนาดใหญ่เพื่อรองรับการใช้งาน



มองไปที่มุมครัวมุมหนึ่งที่หน้าเตาๆหนึ่ง มีแผ่นหลังกว้างๆของเจ้าของร้านปากแดงที่ตอนนี้เจ้าตัวกำลังขยับตัวหยิบจับนู่นนี่นั่นอย่างคล่องแคล่วอยู่ตรงนั้น



“ถ้าดมกลิ่นตามมาถึงนี่แล้วก็อย่านิ่งค่ะ มาช่วยกูตรงนี้ค่ะ” เสียงที่ดังขึ้นทำเอาผมที่กำลังมองอยู่ถึงกับสะดุ้ง ก็อีกฝ่ายไม่ได้แม้แต่จะหันมาด้วยซ้ำ แต่กลับรู้ว่าผมตามมา แสนรู้นัก



“เจ๊ดานี่ทำอะไรหรอครับ”



“แหม พอเห็นอาหารนี่เสียงอ่อนเสียงหวาน ดานงดานี่ก็มาเลยนะคะ แต่โอเค กูประทับใจในการเรียกชื่อสวยอย่างถูกต้อง...งั้น...มึงช่วยไปหยิบกุ้งที่ปลอกเปลือกผ่าหลังแล้วในตู้แช่ตรงนั้นมาให้ทีค่ะ”



“นี่ครับ” ยื่นกล่องใส่กุ้งให้แล้วยิ้มให้อย่างประจบ อีกฝ่ายที่ละสายตาออกมาจากกระทะแล้วยกยิ้มหน่อยๆตอนที่เห็นผมยิ้มกว้างๆ  เป็นรอยยิ้มเท่ๆที่ถ้าไม่มีอายแชโดว์และอายไลเนอร์ สาวๆคงตามกรี๊ดมันไม่หยุดแน่ๆ



“เก็บน้ำลายมึงด้วยค่ะ เดี๋ยวจะหกลงกะทะกู”



“เจ๊ทำให้ผมกินหรอครับ ขอบคุ...”



“ตลกค่ะ กูแค่หิวเถอะ อยากแดกข้าวผัดกุ้งเลยมาทำเฉยๆค่ะ”



“อ้าววว แล้วเจ๊ก็มาใช้กันแบบนี้อ่ะนะ แล้วไหนว่าจะมาหาไรให้กินไง”



“มึงเป็นลูกจ้าง เป็นขี้ข้ากูค่ะ จำ” ว่าแบบนั้นแล้วหันไปหยิบกุ้งลงผัดพร้อมๆกับตักมันกุ้งและซอสอีกสองสามอย่างเทลงไปผัด ท่าทางที่ดูคล่องแคล่วจนแทบไม่เชื่อสายตา อยากชื่นชมแต่ก็หมั่นไส้ไปพร้อมๆกัน คนอุตส่าห์ชม กูก็นึกว่าใจดี แต่ที่ไหนได้จะทำกินเอง จิตใจมึงช่างไม่เอื้ออาธรณ์ต่อเพื่อนมนุษย์ ไอ้เอมเจ็บไข่!



‘ฉ่า ฉี่ๆ’



เสียงข้าวที่โดนน้ำมันเดือดๆผัดเข้ารวมกันยิ่งชวนให้น้ำลายไหล ไม่ต้องพูดถึงกลิ่นหอมๆนั่นอีก ได้แต่กลืนน้ำลายลงคอเพราะกูหิวมาก ... ไอ้เอมไม่อยู่แล้วโว้ย



“อ๊ะ แล้วนั่นมึงจะไปไหนคะอิน้องหนูบ๋อย”



“ผมจะไปตามทางของผม เจ๊อย่ามายุ่ง” หึ่ย หิวโว้ย



“หึ”



ยัง ยังจะมีหน้ามาขำในลำคออีก ไม่ห้ามกูด้วย ไม่ห้ามก็ไม่ง้อแล้วโว้ย ... ตอนนี้ในตัวมีเงินอยู่กี่บาทวะ หันหลังจากมาจากข้าวผัดกุ้งตัวใหญ่นั่นแล้วเริ่มล้วงๆควักๆกระเป๋ากางเกงยีนส์ที่ใส่มา กำเงินออกมาได้หนึ่งร้อยบาท



หนึ่งร้อยบาท!!



สวรรค์มีตา กูคิดว่าจะเหลืออยู่ห้าสิบบาทซะอีก โฮ ไอ้เอมอยากจะร้องไห้เหมียนหมา



‘ฟึบ’



“เห้ย! เจ๊ทำอะไรวะ เอาเงินผมคืนมานะ!!” ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายปิดเตาตั้งแต่ตอนไหน ไม่รู้ด้วยว่ามันเดินมาตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้แค่ว่าตอนนี้ เงินแบงค์แดงๆสุดแสนจะน่ารักกุ๊กกิ๊กของไอ้เอมกำลังตกไปอยู่ในอุ้งมือของตุ๊ดยักษ์นั่นแล้ว



“กูจะยึดเงินมึงค่ะ”



“เรื่องอะไรวะ! นี่มันเรื่องอะไรกัน เจ๊จะมายึดเงินผมไม่ได้เว่ย ผมไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะเว่ย!”  ขึ้นเลย! ไอ้เอมนี่ขึ้นเลยครับ อยากเอาฟันขบหัวมัน



“เอ๊ะๆๆๆๆ”  มึงไม่ต้องมาหลายเอ๊ะ มึงจะตามหาเอ๊ะไหน เอ๊ะ จิรากร หน้ากากอีกาดำไง๊



“เจ๊อย่ามาเล่นลิ้น เอาเงินผมมา” ว่าแบบนั้นแล้วเอื้อมมือไปหยิบ แต่อีกฝ่ายกลับชักมือหลบ แล้วยืดมือขึ้นสุดแขน และใช่จ๊ะ แบงค์แดงๆสุดแสนจะน่ารักกุ๊กกิ๊กของไอ้เอมก็อยู่สุดปลายนิ้วแม่งนู้น แล้วสูงขนาดนั้น มึงจะให้กูปีนตัวมึงขึ้นไปเอาหรอห๊ะ!



“แต่ลิ้นกูก็เล่นเก่งอยู่นะ มึงก็น่าจะรู้ดีนี่นา”



“เจ๊!”



“เสียงดังอ่ะค่ะ สวยตกใจ” ว่าแบบนั้นแล้วเอามืออีกข้างยกขึ้นมาทาบหัวนม สักฝุ่นไหมสาดดดดด



“ไม่ต้องมามองหน้ากูเหมือนอยากแดกหัวเลยนะคะ มึงลืมแล้วหรือไงว่ามึงทำอะไรไว้กับดานี่คนสวย”



“ผมไปทำไรให้เจ๊วะ” มีแต่กูเนี่ยที่ถูกกระทำ ตูดกูยังเจ็บอยู่เลย ผู้เสียหายมันคือกูเว้ย



“ก็ตอนนั้น มึงเอาลิปสติกRouge Dior Matteสี 999 Matteของกูไปละเลงไว้รอบรถของกูไงคะ เขียนถ้อยคำสุดแสนจะเจ็บปวดหัวนมไว้ให้กูอีก มึงรู้ไหมคะว่าลิปแท่งนั้นกี่บาท แล้วกว่ากูจะไปล้างรถออกได้ มันเสียเงินไปกี่บาท”



เอ่อ...



เหตุการณ์คุ้นๆเหมือนจะเป็นตอนที่เรา บะๆโอ้บะๆกันครั้งแรกที่รถของมัน ตื่นมาแล้วผมเจ็บใจ ก็เลยเอาอิลิปสีแดงแปร๊ดนั่นไปเขียนไว้หน้ากระโปรงรถมันว่า ‘ตุ๊ดปลอม’



“เอ่อ แห่ะ... ลิปแท่งนั้นดิออร์หรอ”



“เออสิคะ”



“ฮ่าๆ พึ่งรู้ก็วันนี้เองนะเนี่ย นึกว่า199ตามตลาดนัด”



“กรี๊ดดด ตบไหมคะ ตบกับสวยเลยค่ะ ดานี่จะไม่ยอมให้ใครมาว่าลิปลูกรักสีสดแบบนี้นะคะ!”



“พอ! เจ๊พี่มึงพอ ถึงมันจะอิดอร์ หรืออะไรก็ช่าง”



“ดิออร์ค่ะอิดอก~”



“เออ นั่นล่ะ...แต่เรื่องราวมันก็ผ่านมานานแล้วนะเว่ย แล้วผมอ่ะ ผมเองก็เสียหายนะเว่ย เจ๊พี่มึงจะมาอุ๊บอิ๊บเงินกันแบบนี้แล้วผมจะเอาอะไรแดกเล่า!”



“ไม่รู้ล่ะค่ะ สวยจะเก็บเงินมึงจนกว่าจะครบค่ะ”



“แล้วมันกี่บาท แล้วเมื่อไหร่จะครบ แล้วกูจะเอาอะไรแดกข้าว นี่มันคือเงินที่เหลือของผมทั้งตัวเลยนะเว่ย”



“ค่าขัดสีรถหมื่นห้า ค่าลิปอีกพันสี่ รวมเป็นหมื่นหกพันสี่ร้อย สวยหักสี่ร้อยออกให้ก็แล้วกัน ถือว่าสงสารลูกนกลูกกานะคะ”



“หมื่นหก!”  ไข่แม่มึง!



ตะโกนออกไปแบบนั้นแล้วก็ได้แต่ยืนช็อคอยู่แบบนี้ กูต้องทำงานให้แม่งอีกกี่ปี นักศึกษาปี2แบบกูถึงจะใช้เงินมันหมด



อีกฝ่ายที่ว่าออกมาแบบนั้นและเหมือนจะไม่ใส่ใจกันเลย อิเจ๊พี่มันที่ทำแค่ยกยิ้มมุมปากมองมาที่ผมเหมือนอยากจะขำแต่กลั้นยิ้มเอาไว้ ไม่เข้าใจมันเท่าไหร่ แต่รู้ว่ามันคงจะไม่ยอมคืนเงินหนึ่งร้อยบาทนั่นมาให้แน่ๆ คิดแบบนั้นเลยเลือกที่จะหันหลังแล้วเดินหนีออกมา



อิเจ๊ตุ๊ดปลอมหน้าเลือด!



“แล้วนั่นมึงจะไปไหนคะ” ไม่ต้องมาเรียกกู กูไม่สนใจมึงหรอก



“อ๊ะ...เจ๊พี่มึง ทำไรวะ ปล่อยโว้ยยยย” อีกแล้ว คว้าเอวกูอีกแล้ว! เป็นรอบที่สามพันของวันนี้



“อย่าดื้อด้านค่ะ มานี่ นั่งลงค่ะ” เจ๊มันที่คว้าเอวผมไว้พร้อมลากให้เดินตามมันออกไปจากครัว



ทางด้านหลังครัวเป็นที่เปิดโล่ง ถูกจัดไว้ให้มีม้าหิน รวมถึงต้นไม้และดอกไม้สวยๆ เหมือนเป็นสวนขนาดเล็กที่ถูกจัดเอาไว้พักผ่อนได้อย่างดี ... ผมที่ถูกมันผลักให้ลงนั่งที่ม้าหินอ่อนแบบไม่เบามือ กำลังจะอ้าปากด่า แต่อีกฝ่ายก็พูดออกมาก่อน



“ที่นี่คือที่เอาไว้พักกินข้าวหรือทำอะไรก็แล้วแต่สำหรับพนักงาน” มันที่บอกออกมาแบบนั้น มองไปรอบๆแล้วสบายน่านั่งมากๆ ยิ่งช่วงเวลาบ่ายแก่ๆแบบนี้ พอมีลมพัดแล้วก็ยิ่งรู้สึกเย็นสบาย ... ไม่คิดเลยว่า ร้านอาหารที่เป็นทั้งผับและร้านนั่งชิล เจ้าของร้านจะมีมุมสดวกสบายแบบนี้จัดไว้สำหรับพนักงานด้วย 



“เวลาเหนื่อยๆ หรือเวลาพักก็มาที่นี่ได้ แต่ห้ามทำสกปรกรกเลอะเทอะ เพราะถ้าเป็นแบบนั้น กูจะหักเงินทุกคน



ไอ้หน้าเลือด! คำเดียวสั้นๆที่จะมอบให้มึง



มันที่บอกแบบนั้นแล้วเดินหายกลับเข้าไปในครัว กูนี่แลบลิ้นปลิ้นตาตามหลังแม่งเลยครับ โหดเหี้ยม ขี้งก ขูดเลือดกับปูก็คืออิเจ๊ตุ๊ดปลอมนี่ล่ะ



ผมที่หันไปดูรอบๆ มองเห็นดอกคุณนายตื่นสายหลากหลายสี มีทั้งชมพู ชมพูเข้ม ม่วง เหลืองถูกปลูกแขวนประดับอยู่ตามมุมโดยรอบ พอมองแล้วทำให้รู้สึกสบายตาจนต้องเผลอยิ้มออกมา เฮ้อ เหนื่อยเหลือเกินกับวันนี้



ผมชอบดอกไม้ต้นไม้ เพราะชีวิตของผมที่สุดแสนจะวุ่นวาย บางทีเวลาได้มองอะไรแบบนี้มันก็เพลินดี และทำให้รู้สึกดีขึ้นอีกหน่อยจากเรื่องที่พึ่งเจอมา ...



ไม่รู้ว่าผ่านเวลาไปนานเท่าไหร่ แต่กลิ่นหอมของอาหารที่ลอยมาเตะจมูกก็ทำให้ต้องละสายตาจากต้นคุณนายตื่นสายมาที่คนร่างสูงที่กำลังเดินเข้ามาใหม่ ในมือของเจ๊มันที่มีข้าวผัดกุ้งร้อนๆ ที่มองจากตรงนี้ก็ยังเห็นไอร้อนลอยออกมาจากจานที่มันถือเข้ามา ก่อนที่จานนั้นจะถูกวางลงตรงหน้าผม และพี่มันที่ก็ทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามกัน

“นี่ค่ะ เชิญรับประทานแดกได้เลยค่ะ” มันที่ว่าออกมาแบบนั้น พร้อมวางช้อนลงให้ผม ได้แต่เงยหน้ามองคนตรงหน้าแบบไม่เข้าใจ



“เจ๊เอามาให้ผมหรอ”



“อือหึ”



“ไหนบอกไม่ได้ทำให้ผมไง ไหนบอกหิวจะทำกินเองไง”



“กูไม่หิวแล้ว เลยเอามาให้ลูกแมวมันแดก”



“ห๊ะ...”



“หน้าโง่ สรุปจะแดกไหม ไม่แดกจะเอาไปทิ้งค่ะ” ว่าออกมาแบบนั้นแล้วเอื้อมมือมาคว้าจานข้าวของผมไปแบบไม่ค่อยสบอารมณ์ กูนี่ตะคลุบมือมันไว้เลย เรื่องไรล่ะ คนยิ่งหิวๆอยู่



“กินครับๆ ทำไมจะไม่กินล่า~~” บอกออกมาแบบนั้นแล้วรีบคว้าช้อนกับซ้อมแล้วตักเข้าปาก



“อื้มมม อาอ่อยยย”



“พูดเหี้ยไรฟังไม่รู้เรื่องเลยค่ะ”



“อร่อย โห อร่อยสุดๆเลยเจ๊”  บอกแบบไม่อวย ไม่คิดเลยว่าหน้าเหี้ยๆแบบนี้จะทำอาหารไอ้อร่อยแบบนี้ ข้าวผัดกุ้งที่กุ้งตัวโตๆรวมกับรสชาติของข้าวที่ไม่แฉะ และปรุงรสหวานมันเค็มมาได้แบบลงตัว กูอยากจะร้องไห้เหมียนหมาเลยตอนนี้ อดไม่ได้ที่ต้องยิ้มออกมากว้างๆ ก่อนที่จะตักเข้าปากไปอีกคำ



“อร่อยก็กินเข้าไปเยอะๆค่ะ...ตัวเล็กจนกูโอบมึงก็ลอยตามมาแล้วเถอะ”



เจ๊มันที่บ่นงึมงำๆอะไรไม่รู้ตรงหน้า ไม่ได้สนใจฟังเท่าไหร่เพราะกำลังกินอยู่ รู้แต่ว่า พอเงยหน้าขึ้นมองออกจากจานข้าวผัดกุ้งจานนี้ ก็ยังมองเห็นสายตาคมๆที่มองตรงมาที่กันอยู่ไม่ละไปไหน ... เป็นความรู้สึกแปลกๆที่ต้องรีบเสสายตาหลบมันไปในตอนนั้น



“หึ สงสัยข้าวผัดจะร้อนอ่ะเนอะ หน้าแดงไปด้วยเลย”



“เจ๊าะแจ๊ะ!”

...


(มีต่อจ้า)
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่3 {26/10/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 26-10-2019 20:02:16



“พี่เอมๆ มานี่ๆ อิฐจะแนะนำให้รู้จักคนอื่น นี่นะๆ นี่คือเพื่อนพะยูนตัวสุดท้ายของไทย มันชื่อไอ้สัดน้องจูนเพื่อนอิฐเองจ๊ะพี่จ๋า”



“แนะนำกูดีๆมันจะตายหรอไอ้สัดอิฐ พะยูนพ่อมึงสิ! ... ดีครับพี่เอม ผมจูนนะ”



ผมที่ถูกไอ้น้องอิฐ ผู้ที่มีสโลแกนว่าหน้าตาดีแต่มีหนี้เป็นของตัวเองลากมาพบปะประชาชน มันที่แนะนำคนตรงหน้าของผมออกมาแบบนั้น และถูกเพื่อนสนิทตัวเองโบกหัวเน้นๆเข้าไปหนึ่งที สมควร



จูน เป็นเด็กที่สูงพอๆกันกับอิฐ แต่ผิวมันสองคนต่างกันแบบสุดๆ ไอ้อิฐออกจะผิวเข้มเหมือนคนเล่นกีฬากลางแจ้งมาหนักๆ แต่จูนผิวมันขาวอมชมพูดูสุขภาพดีครับ มันมีแก้มหน่อยๆ ดูอวบนิดๆและปากเล็กๆมุบมิบๆน่าบีบเหมือนเยลลี่ และใช่ครับ ปากนั้นตอนนี้กำลังอ้าปากด่าไอ้อิฐแบบไม่หยุดพัก ... เป็นการรวมตัวของกลุ่มเพื่อนที่ต่างกันแบบสุดขั้ว



“ยินดีที่ได้รู้จักนะ จูนทำหน้าที่ไร”



“ผมเป็นเด็กเสริฟเหมือนกับพี่นี่ล่ะ มีไรเรียกผมได้เลยนะพี่เอม”



“ขอบใจพวกมึงมากนะ”



“โอ้ว มึงกูกันเลยตั้งแต่ครั้งแรก สุดเจ๋ง”



“พวกมึงโอเคไหมล่ะ”



“สบายเลยจ๊ะ เพราะพวกเราสองคนค่องข้างจะสถุนอยู่แล้วล่ะจ๊ะพี่จ๋า” ไอ้อิฐที่ว่าแบบนั้นออกมาจากหลังบาร์น้ำ พูดด้วยความภูมิใจ



“อย่าไปสนใจมันเลยพี่เอม มันสติไม่ค่อยดีน่ะ”



“เดี๋ยวมึงโดนกูไอ้สัดจูน กูมีหูน้อยนะ กูได้ยิน” ไอ้จูนที่ทำแค่หันหน้าไปมองไอ้อิฐแบบเพลียๆแล้วยกนิ้วกลางส่งไปให้ เรียกเสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊ากถูกใจจากไอ้อิฐได้อีกรอบ ... อืม กูเห็นด้วยกับมึงนะจูน ไอ้สัดอิฐสติไม่ดีจริงๆแหล่ะ



“อ้าว น้องที่มาเมื่อคื....”



“เห้ย โอ้โหพี่ครับ สวัสดีครับพี่!!” คนที่เดินเข้ามาใหม่ แล้วก็เป็นคนที่ทำให้หัวใจกูตกลงไปถึงตีน ก็คือพี่ผู้จัดการร้าน ผมจำพี่เค้าได้ เพราะเมื่อคืนที่มาพี่เค้าเป็นคนพาผมขึ้นไปที่ชั้นสองเพื่อรอพบเจ้าของร้านเอง แต่นั้นล่ะ รอไปรอมา สัมภาษณ์งานก็ไม่ได้สัมภาษณ์ เสือกถูกสัมภาษณ์บนเตียงซะงั้น



พอ เลิกพูดถึงเรื่องนั้น ตอนนี้มาโฟกัสกับสถานการณ์ตรงหน้าก่อน พี่ผู้จัดการร้านนี้ชื่อพี่จิต เป็นผู้ชายรูปร่างสูงสมส่วน ไอ้หยีบอกว่านี่คืออดีตลุงรหัสมัน แสดงว่าพี่จิตก็ต้องเป็นพี่ในคณะวิศวะ และเป็นพี่รหัสอิเจ๊เจ้าของร้านด้วย เห็นไอ้หยีบอกว่าเบื่องานวิศวะกรเลยลาออกมาทำงานกับน้องรหัสตัวเอง อินดี้เหลือเกินคนพวกนี้



“สรุปเราได้งานแล้วใช่ไหม”



“ใช่ครับๆๆ”



“เออ งั้นก็ดีแล้วล่ะ มีไรไม่เข้าใจตรงไหนก็ถามพี่ได้” บอกแบบนั้นพร้อมยิ้มให้กัน ถือเป็นพระคุณของกูที่พูดแทรกพี่มันทันเวลา หันไปเห็นไอ้อิฐที่มองมาแบบสงสัยนิดๆตอนที่เห็นผมโพล่งขึ้นมาแบบนั้น แต่มันก็เลิกสนใจแล้วหันไปเตรียมเหล้าต่างๆขึ้นมาวางที่บาร์น้ำแทน



“พี่เอม เราไปเอาเก้าอี้ลงกันเถอะ”



ช่วงเวลาสี่โมงกว่าๆ พนักงานเริ่มทยอยกันมาเข้าร้านเพื่อเตรียมตัวเปิดร้านในช่วงเย็นกันแล้ว ผมที่มองเห็นบรรดาแม่ครัวพ่อครัว และเด็กเสริฟ การ์ดของร้าน และคนที่ดูแลในส่วนต่างๆเริ่มทำงานกันอย่างเป็นระบบ ถือว่าการจัดการร้านนี้ดีสมคำล่ำรือ



จริงๆ ก็ต้องยอมรับในจุดๆนี้ว่าเจ้าของร้านมันเก่งพอตัวเลย ทั้งๆที่จบคนละสายกับที่เรียนมาแท้ๆ นี่แหล่ะนะที่เค้าว่า เรียนอะไรมาก็ไม่เห็นจำเป็นว่าจะต้องทำงานให้ตรงสายมันเป็นแบบนี้นี่เอง



9.30PM



      ผมที่วิ่งหัวหมุนหิ้วถังน้ำแข็ง และจานอาหารมากมายเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็จำไม่ค่อยได้ ตอนนี้ก็เริ่มจะหอบแล้ว เหนื่อยนิดหน่อยครับ เพราะร้านนี้ถือได้ว่าคนแน่นกว่าร้านเก่าที่ผมทำมากๆ ดูท่าทางแล้วจะเป็นร้านที่ดังจริงๆนั่นแหล่ะนะ ผมที่กำลังมองเห็นเจ้าของร้านที่เดินไปสอบถามแขกตามโต๊ะต่างๆอย่างเป็นกันเอง รวมถึงอิเจ๊มันที่กำลังกระลิ้มกระเหลี่ยผู้ชายกล้ามล่ำโต๊ะนู้นโต๊ะนี้ไปเรื่อย ดูเหมือนเจ้าของร้านจะมีความสุขมากกว่าใครเลยล่ะ



“อาหารอร่อยไหมคะ ตามสบายเลยนะคะหนุ่มๆ คิกคักๆ”  ระริกระรี้เป็นที่สุดก็คือเจ้าของร้านครับ



เห็นแบบนั้นแล้วได้แต่ส่ายหน้าก่อนจะหันหนี ทนมองภาพแบบนั้นไม่ไหวครับ สุดแสนจะสงสารลูกตา



“น้อง รับออเดอร์ด้วย”



“ครับๆ”



เสียงเรียกของแขกที่ดังมาเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ที่เรียกให้ผมหันไปสนใจ เห็นแบบนั้นแล้วต้องรีบปั้นหน้ายิ้มทันที แม้ว่าตอนนี้จะไม่อยากยิ้มเลยก็ตาม ก็ไอ้พวกห่าโต๊ะนี้แม่งเรียกเก่ง เรียกไปแต่ละทีก็กวนตีนชิพหาย แต่ทำไงได้วะ นี่พึ่งเริ่มงานวันแรกเองอ่ะ ถ้ามีเรื่องอะไรขึ้นมา ก็ซวยสิวะ ... ได้แต่สูดหายใจเข้าปอดไปอีกรอบ ก่อนจะเดินเข้าไปที่โต๊ะนั้นพร้อมกับมือถือที่เอาไว้สำหรับพนักงานเพื่อจะจดออเดอร์แล้วส่งไปที่ห้องครัวได้เลยโดยเฉพาะแบบไม่ต้องใช้กระดาษจด



“รับอะไรดีครับ”



“พี่ไม่ได้อยากรับอะไร พี่อยากให้น้องมานั่งชงเหล้าให้ข้างๆ”  สัด!



ชายหนุ่มสี่คนที่เลือกนั่งโต๊ะทรงสูงไกลออกมาจากแถวเวที ดูเหมือนจะเป็นพวกพนักงานบริษัทที่อายุไม่เกิน30 เป็นพวกที่เริ่มมีเงินและน่าถีบเพราะคิดว่ากูนี่เจ๋งสุด กูรวย กูทำงานนั่งโต๊ะหรูในห้องแอร์จ้า ...



กูเป็นเด็กเสริฟเว่ย ไม่ใช่บาร์โฮสต์



“ต้องขอโทษด้วยนะครับ ทางร้านไม่มีบริการสำหรับนั่งกับแขกครับ” เลือกที่จะใจเย็นแล้วตอบออกไปแบบเรียบๆและยิ้มให้



“ไม่ทราบว่าต้องการให้ชงเหล้าหรอครับ มาครับเดี๋ยวผมจัดการให้” ตัดบทไปแบบนั้นแล้วหันไปยื่นมือเพื่อหยิบแก้วมาชงเหล้าให้มันจบๆไป ก่อนจะหันไปหยิบน้ำแข็งเพื่อผสมกับเหล้า



‘เพี๊ยะ’



“ปี๊บๆ ฮ่าๆ”



“ไอ้สัด!” สุดจะทนจนต้องเผลอสบถออกมาแบบหยาบๆ พร้อมๆกับเหล้าและน้ำแข็งที่สาดออกไป ไอ้สัดเอ๊ย ตีมาได้ที่ตูดกู ความรู้สึกคือเจ็บจนต้องเกร็งก้น แต่ที่มากกว่านั้นก็คือ มึงมีสิทธิ์อะไรมาตีตูดกูวะไอ้เหยดแม่! ตีไม่พอยังหัวเราะเป็นเรื่องสนุกอีก



“เห้ย! ไอ้น้องทำแบบนี้ได้ไงวะ”



“ผมต่างหากที่ควรจะถามว่าคุณทำแบบนี้ได้ไง ผมไม่ได้ขายนะเว้ย!” ตะคอกออกไปแบบไม่ไหวจะทน



“ขายเขยอะไรกันน้อง แค่หยอกเล่นเอง” หนึ่งในกลุ่มนั้นพูดออกมาแบบนั้น ก่อนจะเอื้อมมือมาจับแขนผมไว้ ท่าทางเหมือนอยากปลอบใจ แต่จริงๆก็แค่ลูบแขนกูไปมา ส่วนไอ้อีกคนที่ท่าทางจะเป็นคนที่ตีตูดผม มันที่ลุกขึ้นมายืนข้างๆแล้วเอื้อมมือมากอดเอวกันไว้ ผมที่พยายามผลักตัวมันออกไปให้ไกล แต่พวกเพื่อนๆของมันกลับยิ่งหัวเราะชอบใจกับท่าทางของผม



“นั่นสิ ทำงานบริการก็ต้องรู้จักบริการสิครับน้อง” เพื่อนมันอีกตัวที่มองมาด้วยสายตาที่ทำให้ขนลุก ก่อนฝ่ามือหยาบๆของมันทจะเอื้อมมาหยิกแก้มกัน



“ปล่อยเว่ย” ว่าออกไปแบบนั้น แล้วสะบัดมือตัวเองหนี แต่ก็ไม่หลุด เพราะอีกฝ่ายยังคงดึงแขนกันไว้แบบนั้นไม่ปล่อย



“พี่เอม มีไรเปล่าพี่” เป็นไอ้น้องจูนที่วิ่งเข้ามาหาผม สายตาของมันเหมือนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ไอ้จูนที่เอื้อมมือไปคว้ามือของไอ้ลูกค้าหน้าหม้อที่จับแขนของผมไว้ แล้วพยายามดึงออก



“คุณลูกค้าใจเย็นๆนะครับ ปล่อยมือก่อนดีกว่า” จูนมันว่าแบบนั้นพร้อมส่งยิ้มให้แขก



“อ้าว น้องคนนี้ เห็นหน้าบ่อยแต่ไม่ยอมมาเสริฟโต๊ะพี่เลย คิดถึงหน้าหวานๆแบบนี้จัง” ว่าแบบนั้นแล้วเอื้อมมือลูบแก้มไอ้จูนที่ผงะถอยหลังหลบทัน ทนไม่ไหวแล้วโว้ย! ทั้งสายตา ทั้งท่าทางแบบนี้ ... แม่เคยสอนว่า ต่อให้เราจน เราก็ต้องเหลือศักดิ์ศรีของความเป็นคนไว้



ผมที่กำลังเงื้อมือขึ้นตั้งใจจะซัดหน้าแม่งสักที 



‘หมับ’



ข้อมือของผมที่ถูกยึดจากทางด้านหลัง พอหันไปมองก็ต้องสบเข้ากับสายตานิ่งดุของคนมาใหม่ที่จ้องมองกันแบบตำหนิ



“จะทำอะไรคะน้องบ๋อย”



“เจ๊ดานี่ พี่เอมไม่ไ...”



“เงียบค่ะ” เสียงเข้มที่ดังขึ้น พร้อมๆกับรอยยิ้มที่ส่งไปให้แขกแบบหยาดเยิ้ม เจ้าของร้านปากแดงที่ตอนนี้หน้ายังแต่งแต้มด้วยสีฉูดฉาด และอาจจะมากกว่าตอนเช้าด้วย เพราะในร้านค่อนข้างมืด มันคงไปเติมหน้าให้ดูวิบวับมากกว่าเดิม



ร่างกายหนาของเจ้าของร้านที่เดินแทรกเข้ามาระหว่างผมและแขกอย่างถือวิสาสะ



“ต้องขอโทษด้วยนะคะ พนักงานร้านดานี่คนนี้พึ่งมาใหม่ อาจจะทำให้ไม่พอใจได้อ่ะเนอะ”



“นี่คุณเจ้าของร้าน อบรมเด็กบ้างนะ เมื่อกี้มันจะต่อยผม”



“แต่ไอ้นี่มันตีตูดผม!” เป็นผมที่พูดออกไปแบบไม่ไว้หน้า มองเห็นหน้าของอิเจ๊ตึงขึ้นมาพร้อมขมวดคิ้วหน่อยๆ เขาอาจจะไม่พอใจที่ผมโพล่งออกไปแบบนั้น มันอาจจะไม่สมควรที่พูดให้แขกเสียหน้า แต่มันเรื่องอะไรล่ะวะ ก็ผมเสียหาย กี่ครั้งแล้วล่ะที่คนจนแบบผมต้องยอมแบบนี้



“เห้ยๆ น้องอย่ามากล่าวหากันมั่วๆนะ นี่คุณอบรมพนักงานยังไง ไร้มารยาทสิ้นดี แบบนี้ไล่ออกไปเลย”



“ใช่ๆ ใช้ไม่ได้ ไล่ออกไปเลย!”



“ผมไม่ได้โกหกนะเจ๊”  รู้สึกทั้งโมโหทั้งหงุดหงิด คุณเคยโมโหจนอยากร้องไห้ไหม ความรู้สึกตอนนี้ผมกำลังเป็นแบบนั้น ...ไล่ออกหรอวะ  ไล่ออกอีกแล้วไอ้เหี้ย สถานการณ์เดิมๆไม่ต่างไปจากครั้งก่อนที่ผมโดนไล่ออกจากร้านเก่า ที่ถูกบังคับให้เอาเหล้าผสมยาไปให้อิเจ๊ดานี่นี่กิน พอไม่ได้ดั่งใจลูกค้าก็โวยวายแล้วบอกให้ไล่ออก สถานการณ์วนลูปแบบเดิมเป๊ะ โมโหจนต้องกำมือแน่น



“เงียบค่ะ” เป็นอีกครั้งที่เจ๊มันบอกให้เงียบ ผมที่เงยหน้าขึ้นไปมองตาคนตรงหน้าแบบเสียความรู้สึก จะบอกว่าน้อยใจหน่อยๆก็ได้ ผมเข้าใจว่าเขาต้องแคร์แขกของร้านเค้ามากกว่าลูกจ้างชั่วคราวที่พึ่งเจอหน้ากันไม่เท่าไหร่แบบผม แต่ผมก็แค่แอบหวังว่าอิเจ๊จะมีเหตุผลมากกว่านี้ แม่งเอ๊ย เฮงซวย



เพราะแบบนั้นเลยเลือกที่จะเม้มปากกำมือแน่นแล้วก้มหน้ามองพื้นแทน .... เอาเลย จะไล่กูออกอีกร้านก็เอาเลย



“เออ เงียบไปเลยน้อง เสียมารยาทโคตรๆ”



“ไล่ออกเลยนะเจ๊ ไม่งั้นผมจะไม่มาร้านนี้อีก”



“เอ๊ะ กูบอกให้เงียบไงคะ! เห่าหอนเหี้ยไรของพวกมึงนักหนาวะ” เสียงสองที่เปลี่ยนเป็นเสียงเข้มๆ แล้วหันไปจ้องหน้าลูกค้านิ่งๆนั่นทำให้ผมต้องรีบเงยหน้าขึ้นไปมองแบบไม่เข้าใจ



“เดี๋ยวนะ นี่เจ๊บอกให้พวกผมเงียบหรอ เห้ย มันจะมาก...”



“มึงนั่นแหล่ะที่มาก กูแคร์ลูกค้านะ แต่ถ้าลูกค้าเหี้ย มึงคิดว่ากูจะแคร์หรอ” คนตรงหน้าผมที่เลิกคิ้วมองหน้าลูกค้า ก่อนจะยกมือขึ้นทำท่าแคะขี้หูแบบไม่สนใจเท่าไหร่นัก ท่าทางที่มองจากตรงนี้ยังรู้เลยว่าโคตรจะกวนตีน



“เห้ยอิเจ๊ มึงกวนตีนกูหรอ”



‘พลึบ’



ไอ้คนที่ตีตูดผม มันที่พุ่งเข้าหาอิเจ๊แล้วกระชากคอเสื้ออิพี่เจ๊ดานี่เอาไว้แน่น ผมกับไอ้จูนตกใจจนผวาจะเข้าไปช่วย แต่มองเห็นสายตาคมที่หันมามองหน้ากันซะก่อน สายตาที่อ่านได้ว่าอย่าเข้ามายุ่ง ทำให้พวกผมไม่ขยับตัว



ก่อนที่ฝ่ามือแกร่งของเจ้าของร้านนั่นจะผลักอกลูกค้าออกไปอย่างแรงจนอีกฝ่ายที่ไม่ตั้งตัวหงายท้องล้มลงไปนอนที่พื้น



‘พลัก’



และขาแข็งแกร่งของเจ๊เจ้าของร้านก็ตามไปวางไว้ที่หน้าอกของคนที่ล้มหงายไปแบบพอเหมาะพอดี ก่อนสายตาคมที่ค่อยๆหันไปจ้องหน้ามองเพื่อนของไอ้ที่ถูกเหยียบนั่นที่ละคนช้าๆ



“เห้ย มึง...” หนึ่งในลูกค้านั่นว่าออกมาแบบนั้น แต่ยังไม่ทันจะอ้าปากพูดจบประโยคก็โดนขัดขึ้นซะก่อน



“มึงจะสู้ก็ได้นะ แต่ที่นี่ร้านกู ถ้าคิดว่าจะสู้กับคนแบบกูไหว พวกมึงก็เข้ามา” เสียงเข้มที่ว่าออกมาแบบไม่ได้ล้อเล่นทำเอาพวกนั้นชะงักไปทั้งโต๊ะ



“การ์ด มาเชิญลูกค้าโต๊ะนี้ออกไป” เสียงเข้มที่ตะโกนออกมาอีกเป็นรอบที่สอง แล้วตามมาด้วยการ์ดของร้านที่วิ่งเข้ามาจากไหนไม่รู้ คิดว่าเค้าคงยืนคุมสถานการณ์อยู่ตามจุดต่างๆของร้าน พอมาถึงก็รวบเพื่อนพวกมันไว้แน่นเลยสามตัว ก่อนที่เจ๊ดานี่จะก้มหน้ามองคนที่นอนดิ้นหงุดหงิดอยู่ใต้ตีนเจ๊แกเพราะลุกขึ้นไม่ได้ ริมฝีปากหยักที่แสยะยิ้มร้ายๆตอนก้มหน้าลงไปหาลูกค้า



“กูจะบอกอะไรให้นะ คนทุกคนมีศักดิ์ศรีไม่ใช่จะให้พวกอวยรวยแบบมึงมาย่ำยีง่ายๆ และอีกอย่างเด็กร้านกู กูสั่งสอนเองได้ อย่ามาสาระแน



“มึง...อึก...” เท้าแกร่งที่ค่อยๆกดน้ำหนักลงไปที่ลิ้นปี่จนอีกฝ่ายที่กำลังจะด่าพ่นคำอะไรออกมาถึงกับร้องไม่ออก



“พาพวกมันไป แล้วจำหน้าเอาไว้ ว่าคนกลุ้มนี้ห้ามเข้าร้านมาอีก”



“ครับเจ๊”



คนร่างสูงที่ยกขาออกแล้วปล่อยให้การ์ดลากตัวลูกค้ากลุ่มนั้นออกไป สายตาคมที่วาววับขึ้นดุๆทำให้ผมที่มองตามรู้สึกอดจะขนลุกไม่ได้ คนตรงหน้าตอนนี้แตกต่างจากคนที่คอยกวนประสาทผมเมื่อเช้าที่ชอบกรี๊ดกร๊าดและทำท่าจริตออกสาวให้ได้เห็นเหมือนทุกที ไม่เหลือเลยจริตออกสาวที่คุ้นเคย ... คนร่างสูงที่ละสายตาจากกลุ่มลูกค้าที่ถูกหิ้วปีกไปหันมาสบตากับผม ก่อนเจ้าตัวจะสะดุ้งน้อยๆ แล้วหันหน้าไปหาลูกค้าในร้านที่เริ่มแตกตื่น



“อุ๊ยตายแหล่ว ขอโทษทุกท่านด้วยนะคะ เมื่อกี้ดานี่เผลอเสียงดังไปหน่อย ไม่มีอะไรแล้วค่ะทุกคน ไม่ต้องตกใจกันนะเออ เชิญตามสบายเลยค่ะ แด๊นซ์ๆออนเดอะฟลอกันต่อได้เลยจ้า ฮิ้ววว~”



เสียงสองเสียงสามที่ร้องออกมาแบบนั้น พร้อมทำท่าทางเขินอายแล้วเอาผมทัดหู คือผมมึงไม่ได้ยาวไปถึงเชียงใหม่ไงโว้ย มึงไม่มีผมจะทัดหูโว้ยอิเจ๊



เห็นท่าทางแบบนั้นแล้วเจ็บไข่!



ร่างจริตออกสาวแม่งกลับมาอีกแล้ว



คนร่างสูงที่เดินหายไปตามโต๊ะนู้นโต๊ะนี้เพื่อไปคลายสถานการณ์ให้เป็นปกติ ทำท่าทางเหมือนกับว่าก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆที่เมื่อกี้เจ้าตัวพึ่งเอาตีนกระแทกลิ้นปี่ใครมา



“เอ่อ...” หันไปมองหน้าไอ้จูนที่แค่ยิ้มน่ารักกลับมาให้



“เดี๋ยวพี่เอมก็ชินนะ เจ๊ก็เป็นงี้ล่ะ...หลุดเก่ง” มันที่ว่าแบบนั้นแล้ววิ่งไปที่อีกโต๊ะนึงเพราะมีลูกค้าเรียกพอดี



ผมที่ได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างๆที่เดินจีบปากจีบคอคุยกับลูกค้า รวมถึงตอนนี้เริ่มไปแซวหนุ่มโต๊ะใหม่อีกแล้ว ... นี่แม่งอะไรกันวะ?

.

.

.
“อิน้องบ๋อย ตามเจ๊มาคะ”



“ครับ?”



คนที่เดินเข้ามาหาผมหลังจากผ่านเวลาไปสักระยะแล้ว ตอนนี้เป็นเวลาประมาณสี่ทุ่ม เจ้าของร้านที่เดินเข้ามาหาผมแล้วบอกกันแบบนั้น ไม่เข้าใจเท่าไหร่แต่ก็เดินตามอีกฝ่ายที่เดินนำขึ้นไปที่ชั้นสาม บอกตรงๆกูไม่อยากมาแต่เลือกอะไรไม่ได้



‘กริ๊ก’



เสียงปิดประตูที่มาพร้อมๆกับการลงกลอนประตูทำให้ผมสะดุ้ง คนร่างสูงที่เดินเข้ามาแล้วจ้องมองหน้ากันแบบดุๆ รู้เลยว่าคงจะพูดเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อชั่วโมงก่อนแน่ๆ



“มึงรู้ตัวไหมคะว่าวันนี้ทำอะไรลงไป”



“แต่ผมไม่ได้ทำอะไรเลยนะเว้ยเจ๊”



“แต่มึงกำลังจะทำ มึงจะต่อยหน้าแขกค่ะ”



“ก็แขกมันตีตูดผม มันโอบเอวผม มันลวนลามผม แล้วทำไมผมต้องยอมวะ”



“แต่มึงทำงานอยู่นะคะ”



“แต่งานของผมคือเด็กเสริฟ ผมไม่ได้ขายตัว”



“กูรู้ แต่มึงจะเที่ยวไปต่อยหน้าใครต่อใครแบบนั้นไม่ได้” ว่าออกมาเสียงเข้ม พร้อมจ้องหน้ากันแบบดุๆ สายตาที่มองมาที่ผมแบบกำลังตำหนิทำให้ผมต้องเม้มปากแน่น



“ทำไมวะ หรือเพราะผมมันจนหรือไงถึงทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากยอม



ไม่ใช่ แต่เพราะมึงมันโง่ต่างหาก!” เสียงแข็งที่ว่าออกมาแบบนั้นและดังขึ้นไปอีกพร้อมๆกับจ้องหน้าผมนิ่งๆ คนตรงหน้าที่ทำให้บรรยากาศโดยรอบทั้งอึดอัดทั้งน่ากลัวขึ้นมาได้ทันที



“การที่มึงจะวิ่งไปต่อยหน้าแขกแบบไม่มีสติแบบนั้น มันจะทำให้มึงเสียเปรียบ ถ้ามึงต่อยมันก่อน มึงจะแจ้งความจับมึงได้ ในสถานการณ์แบบนั้น สิ่งที่มึงทำได้คือแหกปากเรียกการ์ดให้มาจัดการ...หรือเรียกกูที่เป็นเจ้าของร้าน กูจะมาเคลียร์ให้เอง ... ไม่ใช่จะไปต่อยหน้าใคร จำเอาไว้”

 

คนตรงหน้าที่ร่ายยาวออกมาจนเถียงไม่ออก คำพูดที่กำลังบอกและอธิบายถึงความใจร้อนและไม่มีสติของผม ... แต่ผม คนที่ชินกับการที่ต้องช่วยเหลือตัวเองมาตลอด พึ่งพาตัวเองมาตลอด ผมไม่ได้นึกถึงด้วยซ้ำว่าทางที่ง่ายที่สุดก็คือตะโกนบอกการ์ด คิดแค่ว่าถ้าผมต่อยมันไป เป็นไงก็เป็นกัน เพราะนี้คือตัวผม ... พึ่งจะมาคิดได้ ว่าทางที่จัดการได้ง่ายกว่านั้นก็มีอยู่



พอคิดมาแบบนี้ กูก็เป็นคนโง่แบบที่เจ๊มันว่ามาจริงๆนั่นล่ะ



“หัดพึ่งพาคนอื่นบ้าง มึงไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก อย่าคิดว่าตัวเองจะจัดการได้ทุกอย่าง เพราะมันเป็นไปไม่ได้ ... หรือถ้ามึงไม่คุ้นชินที่จะพึ่งพาใคร ก็ให้รู้เอาไว้ซะใหม่ ว่าในDANIWORLDนี่ อย่างน้อยคนที่มึงจะพึ่งพาได้...ก็คือกู



--------------To be continued--------------



มาแล้วจ้าาา มาตามสัญญาเวลาเดิม ทุกๆวันเสาร์สองทุ่มจ้าา

มาแบบยาวๆกันไป เขียนตอนนี้แล้วเขิน บ้าบอ ไม่รู้ว่าเขินอะไร ถ้าคนอ่านอ่านไปแล้วชอบและมีความสุขไปด้วยกัน

แคทจะดีใจมากๆเลยค่ะ ... ตั้งแต่แคทเริ่มเขียนนิยายเรื่องนี้ นิยายแนวรุกออกสาวก็โผล่มาเพียบเลย งงมาก

ยังไงฝากเรื่องของแคทไว้ในอ้อมอกอ้อมใจอีกเรื่องด้วยนะคะ อย่าทิ้งหนูน้าทุกคนนนนน (เกาะขา)

ปล. ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ช่วยคอมเม้นท์กรี๊ดกร๊าดตามเจ๊ดานี่มาบอกกันหน่อยจ้าาาา :mew1: :hao7: :katai4:


แคทขอขอบคุณ


:mew1: :mew1:
   น่ารักกก มาเจิมตอน2ให้กันท่านแรกเลย ขอบคุณนะคะ


รุกสายเล็บอะคริลิค 55555  :hao6:  :hao6: :hao6:
  ชอบประโยคนี้มากๆค่ะ ขอยืมใช้ได้ไหมมมม  :laugh:


:laugh:

  :3123: :pig4: :3123:
  ขอบคุณมากๆนะคะ แล้วมาอ่านตอนนี้อีกน้าาา


เจ๊ดานี่นี่ร้ายกาจจริงๆ,,,
  ดานี่: บ้าจริงงง สวยว่าสวยก็ใสๆในระดับนึงนะคะ :katai2-1:


ยินดีต้อนรับเจ๊ดานี่   :mc4: :mc4: :mc4:
  ขอบคุณมากๆนะคะ เจ๊มาแล้วน้าาาา  :mew1:


ชื่อนี้ก็ดีนะคะ แต่เจ๊จะมาขอดูก้นน้องนี้ไม่ดีเลยน้าา
ขอบคุณมากๆเลยนะคะ ตกลงแคทใช้ชื่อเดิมน้าา ตอนแรกกังวลว่าชื่อมันยาวไปหรือเปล่า กลัวคนอ่านเสิรชหาแล้วไม่เจอค่ะ แต่สรุปแคทใช้ชื่อเดิมน้าา ยังไงแคทฝากเจ๊ดานี่กับน้องเอมไว้ด้วยนะคะ :mew1:



หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่3 {26/10/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 26-10-2019 21:06:36
เจ้ดาบโคตรเท่
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่3 {26/10/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 26-10-2019 22:21:37
 o13 o13
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่3 {26/10/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 27-10-2019 00:54:16
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่3 {26/10/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 27-10-2019 08:16:48
เจ้ดานี่ เปลี่ยนเป็นเฮียดาบจะเหมาะกว่านะฮะ.
แมนได้ใจไปเลย  o18
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่3 {26/10/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: aommyga40 ที่ 27-10-2019 13:24:01
 :L2: :pig4: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่3 {26/10/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 27-10-2019 23:58:07
เจ้ดาบนี่สุดยอดไปเลย,,,
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่4 {02/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 02-11-2019 20:35:16
บทที่4





“มึง...มึงคือคนที่ชื่อเอมใช่ไหม” เสียงเข้มที่ดังมาจากด้านหลังทำให้ผมที่กำลังก้มๆ เงยๆ เก็บขวดเหล้าที่หมดแล้วแยกลงถังขยะอยู่ด้านหลังร้านแถวๆ ที่นั่งพักพนักงานต้องหันไปมอง



ผู้ชายรูปร่างสูงโปร่ง ส่วนสูงน่าจะประมาณไม่เกิน180 อาจจะสัก177ถึง178เซน ประมาณนี้ ผิวออกขาวเหลือง ตัดผมทรงรองทรงสูงและแต่งตัวไม่ต่างจากผมตอนนี้ ก็คือชุดพนักงาน



“มึงใคร?”



“กูชื่อโก้” โก้ ... โก้ไหนวะ กูว่ากูไม่รู้จักคนชื่อนี้นะ แต่ก็รู้สึกเหมือนว่าเคยได้ยินชื่อนี้มาจากที่ไหนเลยว่ะ และเหมือนว่าอีกฝ่ายจะอ่านสีหน้างงงวยของผมออก เจ้าตัวจึงอ้าปากพูดต่อ



“เจ๊ดานี่บอกว่าคืนนี้ให้มึงนอนกับกู”



“ห๊ะ”



“หมายถึงมาพักห้องกู”



“อ๋ออออ นึกออกแล้ว มึงคือไอ้โก้ที่ไอ้อิฐพูดถึง” โพล่งออกไปแบบนั้นด้วยรอยยิ้มกว้างๆ หวังจะสร้างสัมพันธไมตรี แต่อีกฝ่ายกลับขมวดคิ้วนิดๆ



“ไม่ถงไม่ถามอายุกูสักคำ มาถึงก็เรียกไอ้เลยหรอมึง”



“อืม ต้องถามหรอวะ มึงอายุเท่าไหร่ไอ้โก้”



“ถ้าจะเรียกมึงขนาดนี้ก็ไม่ต้องถามอายุกูแล้วไอ้สัด เอาที่มึงสบายใจเลยแล้วกัน” มันที่ทำหน้าหน่ายๆ ออกมาแบบนั้น



“ใจมึง” ตอบมันออกไปแล้วยิ้มให้กว้างๆ อยากสนิทกับคนในที่ทำงานครับ อย่างน้อยๆ ก็ได้เพื่อนใหม่ ให้มีคนรักเข้าไว้ก็ดีกว่ามีคนเกลียดใช่หรือเปล่าล่ะ



“มึงเรียนอยู่หรือเปล่า ปีไหน”



“เรียนสิวะ กูเรียนปี2” บอกมันออกไปแบบนั้นแล้วหันมาโยนกล่องเหล้าแยกใส่ถุงดำเอาไว้ แยกเอาไว้เพื่อเอาไปทิ้งที่ถังขยะใหญ่ด้านนอกร้านทีเดียวตอนปิดร้าน



“อืม กูปี3”



“อ๋อหรอวะ”



“ไม่สำนึก ไม่คิดจะเรียกกูว่าพี่จริงๆ สินะ”



“มึงพูดไรนะไอ้โก้” ได้ยินมันบ่นพึมพำๆ อะไรสักอย่างอยู่ตรงนั้น ฟังไม่ค่อยจะถนัดเลยถามออกไปแบบนั้น เห็นมันที่หันกลับมาแล้วส่ายหัวหน่อยๆ พร้อมถอนหายใจ



“กูล่ะเชื่อเลย”



“เชื่อไรวะ เชื่อว่ากูหล่อหรอ ถ้าอันนั้นน่ะรู้ตัวนะ” ว่าออกไปแบบติดตลก แต่จริงๆ ก็คิดว่ามันใช่อยู่นะ



“แล้วแต่มึงเลยละกันไอ้สัด แล้วนี่มึงทำไรอยู่”



“โถ่โก้ มีตาก็มองสิวะ แยกขยะอยู่ไง มาช่วยกันไหมกูจะได้รีบเสร็จ”



“อยากเสร็จไวมึงก็ถอดกางเกงในออก กูจะได้รีบช่วยชักให้”



“ห๊ะ...” กูนี่อุทานออกมาแบบนั้นเลย หันไปมองหน้ามันแบบเลิ่กลั่ก อีกฝ่ายที่มองหน้ากันแล้วค่อยๆ ไล่สายตามองกันไปทั้งตัว ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ... เดี๋ยวก่อนนะ มึงกำลังอยากจะลวนลามตูดกูอีกคนหรือเปล่าวะ ใช่ใช่ไหม มึงมองตูดกูอยู่ใช่หรือไม่ กูนี่เด้งตัวลุกขึ้นยืนแล้วเอามือปิดตูดเลยครับ ... รู้สึกเจ็บไข่เลย!



มองเห็นมันที่เดินเข้ามาใกล้พร้อมหัวเราะขำหน่อยๆ ตอนที่เห็นผมทำแบบนั้น เอ๊ะ ไอ้เวรนี้มันกวนตีนกันอยู่ใช่ไหม สักฝุ่นไหมสาดดดด ...



“ทำไมทำหน้าแบบนั้น กลัวกูหรอวะ” ถามมาได้ มึงมองตูดกู กูต้องกลัวไหมสาด ... ช่วงนี้มันเกิดอะไรขึ้นกับตูดกูวะครับ อยู่ๆ ก็ดูเหมือนจะได้รับความนิยมขึ้นมาแบบก้าวกระโดด



“ไม่ต้องเข้ามาช่วยกูแล้วสาด ไปไหนก็ไป กูทำเองได้ ชิ่ว”



“แต่กูอยากช่วยนี่หว่า มา ถอด”



“ถอดก็เหี้ย! ”



พูดคุยอะไรกันอยู่คะ อะไรถอดๆ กูได้ยินไม่ถนัดเลยค่ะ”



ในจังหวะที่ผมโพล่งออกไปแบบนั้นและไอ้โก้ที่ก็กำลังเดินเข้ามาใกล้ๆ กัน เสียงของคนมาใหม่ก็ทำให้ผมเบาใจขึ้นในตอนที่เห็นร่างใหญ่ๆ เดินกรีดกรายเข้ามาพร้อมเสียงสองที่พูดจาจีบปากจีบคอนั่น ... ทั้งผมและไอ้โก้ที่หันไปมองพร้อมๆ กันแต่สีหน้าต่างกันลิบ กูนี่เบาใจ แต่ไอ้โก้ดูจะขัดใจหน่อยๆ ไม่เข้าใจเท่าไหร่ แต่ก็ขอบคุณที่เจ้าของร้านมันว่างงานมากจนเดินมาถึงหลังร้านนี่



“อ้าว เจ๊ดานี่”



“ใช่ค่ะพ่อหนุ่มทั้งหลาย มึงอู้หรอคะไอ้สัดโก้ ไปทำงานสิคะ มาเม้าท์มอยทำเหี้ยไรอยู่ตรงนี้”



“โถ่เจ๊ ก็แค่มาทักทายเด็กใหม่ไง เห็นไอ้อิฐบอกว่าเจ๊ให้มันมานอนกับผมนี่” ไอ้โก้ที่ว่าออกไปแบบนั้น เจ๊ดานี่ที่แค่เลิกคิ้วมองมาที่ผม



“แล้วทักทายกันพอรึยังคะ”



“พอๆ แล้วครับเจ๊ แหม ผมหายไปนิดเดียวคือคิดถึงกันสินะครับคนสวย” ไอ้โก้ที่ยิ้มประจบพร้อมพูดชมออกไปแบบนั้น ได้ยินแล้วกูอยากจะอ้วกออกมา ยิ่งมองเห็นอิเจ๊ตุ๊ดยักษ์นี่ทำหน้าตาแวววาวมีความสุขกับคำชมว่าสวยนั่นยิ่งขนลุกหนักเลย

เขาโกหกมึงอยู่ดูไม่ออกหรอวะ



“ไปค่ะ นอกจากเจ๊จะคิดถึงแล้ว แขกก็คิดถึงมึงค่ะอิโก้ ไม่ใช่ว่ามีกล้ามล่ำๆ แล้วกูจะยอมใจดีนะคะ ไปเสริฟค่ะ เดี๋ยวแม่ตบเข้าให้เลย”



“ไปแล้วครับเจ๊คนสวย ... ส่วนมึง เดี๋ยวเจอกัน” มันที่หันมาบอกผมแบบนั้นแล้วหันมายกยิ้มให้เป็นการส่งท้ายก่อนจะเดินออกไป เห็นรอยยิ้มนั่นแล้วกูขนลุกซู่ซ่าออกมาเลย เชี่ยเอ๊ย หลอนสัด กูไม่อยากจะเจอมึงโว้ย ...



มองตามหลังไอ้โก้ที่เดินออกไปแล้วถอนหายใจออกมาหนักๆ ก่อนจะสะดุ้งเมื่อหันหน้าไปเจอคนที่ยังยืนตัวใหญ่สิงสถิตกอดอกมองกันอยู่ตรงนี้



“เชี่ย”



“มึงด่ากูหรอคะอิน้องบ๋อย”



“ผ..ผมแค่ตกใจ แล้วเจ๊จะมาจ้องกันทำไมล่ะวะ” เถียงออกไปแบบนั้นแล้วหันหลังหนี ไม่อยากมองหน้าเจ๊มันครับ หลังจากที่โดนเรียกขึ้นไปข้างบนแล้วโดนอบรมด้วยคำพูดแบบนั้น ตอนนี้ก็ไม่อยากเห็นหน้าเจ๊พี่มันชั่วคราว ไม่ได้โกรธที่ถูกสอนแบบนั้น แต่คำพูดของมันยังดังอยู่ในหูจนไม่กล้าจะมองหน้า ... แต่บอกกันตรงนี้ผมไม่ได้เขินนะครับ



เขินตุ๊ดยักษ์นี่ก็แปลกแล้วไหมวะ



“กูจะมองตรงไหนก็ได้ค่ะ นี่มันร้านกู”



“แต่เจ๊มองผม ไม่ได้มองร้านสักหน่อย”  หันกลับไปเถียงเจ๊มันทั้งแบบนั้น ก็เห็นอีกคนที่ยกยิ้มหน่อยๆ ตอนที่ผมเผลอไปสบตา ไอ้สัด ลืมเลยว่าจะไม่มอง เผลอจนได้ กูนี่รีบก้มตัวลงเก็บขวดอีกใบใส่ลงในตระกร้าข้างๆ เลย มันเป็นตระกล้าเอาไว้สำหรับใส่ขวดเหล้าที่หมดแล้ว ...ทำงานครับทำงานๆ



“แหม สำคัญตัวผิดค่ะ กูไม่ได้มองมึงค่ะ กูมองขวดเหล้า” เงยหน้าขึ้นไปมองอีกครั้งแบบอดไม่ได้ เจ๊มันก็ยักคิ้วใส่กันอีกที สรุปเลยตรงนี้ ร้านนี้แม่งมีแต่คนกวนตีนกูครับ ...



เลือกที่จะไม่พูดกับเจ๊มันต่อแล้วก้มหน้าก้มตาเก็บขวดตรงนี้ต่อไป เราที่เงียบกันอยู่แบบนั้น ในที่สุดอีกฝ่ายก็เป็นฝ่ายเปิดปากพูดออกมาก่อน



“นี่ อิหนูบ๋อยคะ”



“ว่าไงครับเจ๊” ยืดตัวขึ้นมาจ้องหน้าอีกฝ่ายในตอนที่เก็บขวดสุดท้ายเสร็จพอดี คนตรงหน้าที่กอดอกขมวดคิ้วมองหน้าผมแบบเครียดๆ ... เป็นอะไร ปวดขี้หรอ? ห้องน้ำว่างนะจ๊ะ



“มึงอ่อยกู”



“ห๊ะ! อะไรนะ” ขี้หูกูเต้นระบำหรือเปล่า เมื่อกี้มึงว่าอะไรออกมานะ พูดออกมาก็เหี้ยเลยนะ



“มึงอ่อยกู”



“มึงบ้าหรอเจ๊ กูไม่ได้อ่อยมึง” ขึ้นมึงกูแม่งเลยครับ กูทำงานของกูอยู่ดีๆ มึงจะมาว่ากูอ่อยอะไรวะเห้ย เป็นตุ๊ดปลอมตัวใหญ่ไม่พอ มึงยังเป็นบ้าแถมมาด้วยหรอเจ๊



“มึงอ่อยกูค่ะ”



“เอาอะไรมาพูด เจ๊อย่ามากล่าวหาผมแบบนี้นะ สักทีไหมวะ” โมโหแล้วนะเว่ย ต่อยกับกูสักทีให้มันจบๆ ไปดีไหมวะ



“สักทีอะไรคะ เนี่ย มึงจ้องจะล่อลวงกูอยู่ใช่ไหม”



“โว้ย อิเจ๊” หนหวยเหลือเกิน เท้าเอวแม่งเลย ไอ้เอมขึ้นละนะครับ เหนื่อยก็เหนื่อยยังจะมาบ้าอะไรกับกูอี๊ก



“ก็มึงก้มอยู่ตรงหน้ากู แล้วเนี่ยๆๆๆ ดูเสื้อมึงนะคะ คืออะไรทำไมต้องปลดกระดุมมากมายขนาดนี้ ก้มที่กูมองเห็นหัวนมมึงเลย คือมึงตั้งใจอ่อยกูอยู่ ดูออก! ” ดูออกก็เหี้ยแล้วเห้ย!



“ไม่ต้องมาดูออก ผมไม่ได้อ่อยเจ๊เถอะ ผมแค่ร้อนอ่ะ แล้วผมก้มแล้วเจ๊จะมามองหัวนมผมทำไม โรคจิต”



“ก็มันชมพู วับๆ แวมๆ ล่อตากู กูก็มองสิ” ว่าออกมาแบบไม่สะทกสะท้าน .. มึง....มึงนี่มันนนน



“เจ๊ลวนลามหัวนมผม”



“กูเปล่า มึงสิคะที่อ่อยกูอยู่ ดูออก! ”



“เจ๊เข้าใจผิดไปใหญ่แล้วโว้ย ผมไม่ได้อ่อยเจ๊ผมแค่ร้อน แล้วนี่เจ๊มองอะไรอีกวะ” ผมที่โพล่งออกไปแบบนั้นแล้วรีบยกมือขึ้นมาปิดหน้าอกตัวเองตอนที่มองเห็นสายตาของคนตรงหน้าที่ค่อยๆ ไล่มองคอ ลงมาที่หน้าอก และหยุดสายตาอ้อยอิ่งมองกันอยู่ที่...หัวนมกูอีกแล้ว!



“ก็มอง.....” อีกคนที่ลากเสียงพูดออกมาแบบนั้นแล้วค่อยๆ เดินก้าวเข้ามาหา สายตาคมนิ่งๆ ที่ไม่ละสายตาไปจากจุดโฟกัส เห็นแบบนั้นก็เผลอหายใจกระตุกแล้วก้าวถอยหลัง



‘ผลึก’



อีกแล้ว! ซีนหนังไทย ตัวกูแปะอยู่กับกำแพงอีกแล้ว แตกต่างจากฉากโรมานซ์ตรงที่ทางด้านขวามือกูคือถังขยะที่กำลังส่งกลิ่นยั่วยวนใจมาให้กันสูดดม



“จ...เจ๊” เงยหน้ามองอีกคนที่เดินตามเข้ามาชิดตัวพร้อมกับยกแขนข้างนึงค้ำไว้กับกำแพง



“อ่อยอยู่ ดูออก”



“ผมเปล่านะ...” เถียงออกไปแบบนั้น ตอนที่อีกคนก็ก้มหน้าเข้ามาใกล้ สายตาที่มองกันนิ่งๆ ไม่เข้าใจว่ากำลังคิดอะไร แต่เพราะว่าใบหน้าที่เลื่อนเข้ามาหากันแบบไม่หยุดแบบนั้น ทำให้ต้องเผลอหลับตาหนี ผ่านไปหลายนาทีถึงค่อยรู้สึกว่ามีอะไรมายุ่งวุ่นวายกันอยู่ที่หน้าอก



“เจ๊! ” ตะโกนออกมาแบบนั้นพร้อมๆ กับเอื้อมมือเข้าไปคว้าฝ่ามือแกร่งเอาไว้ ในตอนที่อีกฝ่ายก็ล่ะมือออกจากเสื้อผมพอดี



“ถ้าไม่อยากโดนมองด้วยสายตาแบบนั้นอีก ก็อย่าปลดกระดุมให้มันเยอะแบบนี้...ทำงานกลางคืนแบบนี้ มันมีไม่กี่คนหรอกที่จะทนได้”



เสียงเข้มที่พูดออกมาแบบนั้น ไม่มีเสียงสองเสียงสามตามมาด้วยเหมือนก่อนหน้านี้ ผมไม่เข้าใจในการกระทำของอีกฝ่ายเลยจริงๆ ยังไม่ทันที่จะได้พูดถามอะไรออกไป อีกฝ่ายก็ผละตัวออกจากกันไปก่อนแล้ว เจ๊มันที่หันหลังเดินออกไป ก่อนจะหยุดเดินแล้วพูดขึ้นมาอีก



“กับไอ้โก้ มึงก็ระวังหน่อย อย่าทำตัวสบายให้มากนัก” มันที่ว่าออกแค่นั้นโดยที่ไม่หันมามองหน้าผมแล้วเดินออกไปจากบริเวณนี้ ทิ้งผมให้ยืนนิ่งๆ อยู่คนเดียวตรงนี้ ก่อนจะค่อยๆ ก้มหน้าลงมองที่หน้าอกเสื้อของตัวเอง กระดุมสามสี่เม็ดที่ก่อนหน้านี้ผมเป็นคนปลดมันออกเอง ตอนนี้ถูกติดเรียบร้อยแล้วทุกเม็ด



“บ..บ้า” ว่าออกมาแบบนั้น ทั้งๆ ที่ก็รู้สึกร้อนๆ ที่หน้า ... บอกกันดีๆ กูติดเองก็ได้หรอกเว่ย ไม่เห็นจะต้องมาติดให้กันเลยนี่หว่า



...



ในช่วงเวลาใกล้เลิกงาน เหลือบมองเวลาที่บอกเวลาประมาณตี3 ตอนนี้ป้ายร้านDANIWORLDที่เป็นสีชมพูฟรุ้งฟริ้งที่ติดอยู่ด้านบนสุดของตัวร้าน ตอนนี้ได้ปิดไฟลงแล้ว บ่งบอกให้รู้ว่าเป็นเวลาปิดร้าน



ผมนี่อ้าปากหาวเลยครับ ทั้งเหนื่อยทั้งง่วงแต่ว่ายังรู้สึกดีที่วันนี้จะได้รับเค่าจ้างเพื่อต่อชีวิตไปอีกวัน พรุ่งนี้ต้องไปเรียนด้วย ขืนไม่มีเงินใช้ล่ะยุ่งเลย ... หันสายตาไปมองรอบร้านเห็นบรรดาแขกนักท่องเที่ยวยามราตรีที่ทยอยเดินออกจากร้านกันไป รวมถึงตัวผมด้วยที่เริ่มขยับตัวแล้วแบกถุงดำออกมาทิ้งด้านนอกร้านเป็นรอบที่สามของวันนี้แล้ว ...



ต้องเอาขยะที่แยกไว้ไปทิ้งที่ถังขยะใหญ่ที่อยู่แถวๆ ลานจอดรถครับ



“โอ๊ะโอ๋ ไอ้เอม นั่นมึงใช่ไหมวะ”



หันหน้ากลับไปมองและได้แต่ถอนใจออกมาตอนที่เห็นหน้าคนที่ทักทายกัน ได้แต่กำมือแน่นๆ อย่างหงุดหงิดใจ ... คุณเคยเป็นไหม เวลาที่คุณไม่ได้แต่งตัวแต่งหน้าออกจากบ้านแล้วชอบเจอคนที่คุณไม่อยากจะเจอ ถ้าเคยเป็นคงจะเข้าใจความรู้สึกของผมตอนนี้ได้ไม่ยาก...ก็เพราะไอ้คนตรงหน้านี่ กูนี่โคตรไม่อยากจะเจอ และไม่อยากจะให้มันเจอตอนที่กูกำลังอุ้มถุงขยะอยู่แบบนี้ด้วยโว้ย



“มึง”



พูดออกไปแบบนั้นแล้วถอนหายใจออกมาหนักๆ กับโชคชะตาชีวิต วันนี้มันเป็นห่าอะไรถึงต้องมีคนมาทักกูที่ข้างกองขยะแบบนี้ตลอดเลย



“แหม่ๆ โดนแม่กูไล่ออกจากบ้านวันเดียวก็หางานได้เลย เก่งจริงๆ เลยนะมึง แต่ก็นะเป็นได้แค่เด็กเก็บขยะหรอวะ ฮ่าๆ” ไอ้ม่อน ลูกพี่ลูกน้องมหาภัยที่อยู่ในชุดแบรนด์เนมแบบที่มันชอบเอาเงินไปถลุงและซื้อมาใส่ทั้งตัว



“ไม่ต้องเสือกหรอก เรื่องกู” ว่าออกไปแบบนั้นแล้วหันไปโยนขยะทิ้งลงถังต่อ ไม่อยากจะเสวนากับมัน



“หยิ่งจังนะมึง กูอยากจะรู้เหมือนกันว่าคนแบบมึงมันจะหยิ่งไปได้นานแค่ไหน ตอนนี้ก็ไม่มีที่ซุกหัวนอนแล้ว ไม่ใช่ว่าจะไปเอาตัวเข้าแลกกับใครต่อใครเพื่อให้ตัวเองมีที่นอนไปวันๆ ล่ะมึง”



“นี่ไอ้สัดม่อน มึงจะไปไหนก็ไปเลยไป กูไม่อยากเสวนากับคนปากเน่าปากหนอนแบบมึง แล้วอีกอย่างนะ กูไม่ใช่มึง”



“มึงอย่าเอามึงมาเปรียบกับกู ไอ้ลูกไม่มีพ่อไม่มีแม่ กาฝากบ้านกู! ”



‘พลัก’



“อย่ามาลามปามพ่อแม่กูนะไอ้สัด” กำมือแน่นในตอนที่ปาถุงขยะไปเฉียดหน้าไอ้ม่อนหน่อยเดียว



“มึง มึงกล้าเขวี้ยงของสกปรกแบบนี้ใส่กูหรอหา ไอ้เกย์! ”



“กูเป็นเกย์ก็ไม่ได้หนักหลังคาบ้านมึงนะ เพราะกูย้ายออกแล้ว แต่ถ้ามึงยังลามปามพ่อแม่กูอีก กูจะเอาตีนไปเหยียบขี้แล้วเอาไปอุดปากมึง”



“เกิดอะไรขึ้นน่ะม่อน” เสียงของคนมาใหม่ที่ทำให้ใจของผมตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม มันเป็นอีกคนที่ผมก็ไม่อยากเจอ อาจจะไม่อยากเจอหน้ามากกว่าหน้าไอ้สัดม่อนด้วยซ้ำมั้ง



“มาร์ช” ไอ้ม่อนที่พูดออกมาแบบนั้นแล้วปั้นหน้ายิ้มใส่คนมาใหม่ ผู้ชายร่างสูงหน้าตี๋ที่ดูดีแบบลูกคนมีเงิน และใช่...มันมีเงิน มันยังหล่อและดูดีเหมือนเดิมในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงยีนส์มียี่ห้อสีดำแบบขาดเข่า การแต่งตัวง่ายๆ สบายๆ แต่ดันทำให้มันดูดีมากๆ เหมือนเดิม



“เอม” มันที่เดินเข้ามาแล้วชะงักไปตอนที่เห็นหน้าของผม เราที่มองหน้ากันและกันด้วยความรู้สึกที่แตกต่าง ... ผมไม่รู้ว่ามันกำลังรู้สึกแบบไหนอยู่ แต่ที่รู้ๆ สำหรับผมเลยก็คือ ... กูอย่างวิ่งเข้าไปเอาตีนลูบหน้ามึง!



“เหอะ” ผมที่แค่นหัวเราะออกมาแบบนั้น ถ้าทำได้กูอยากจะอ้วกรดหน้าพวกมึงทั้งสองคนด้วย



“ปากดีด่ากูเป็นเกย์ แล้วมึงล่ะม่อน ยืนควงกันหน้าสลอนแบบนี้ มึงคิดว่ามึงเป็นผู้หญิงหรอไอ้สัด กูล่ะอยากจะให้แม่มึงมาเห็นจริงๆ กูอยากจะรู้ว่าป้าจะรับได้หรือเปล่า” ยกยิ้มมุมปากแล้วด่าออกไปแบบนั้น



“มึง ไอ้เอม! ” มันที่ตะคอกผมออกมาแบบนั้นแล้วตั้งใจจะตรงเข้ามาหาเรื่องกัน แต่มาสิมึงเข้ามา กูจะถีบให้จุกเลยไอ้สัด



“ไม่เอาน่าม่อน อย่าทำแบบนี้” ไอ้มาร์ชที่ดึงแขนของไอ้ม่อนไว้แน่น ก่อนจะหันมาหาผม



“ขอโทษแทนม่อนด้วยนะเอม ...เอม...เอมสบายดีไหม”



“เสือก” พูดออกไปแบบที่ใจคิดโดยไม่คิดจะรักษามารยาท จะถามเอาอะไรวะ ตอนมึงทิ้งกูไปหามัน มึงคิดว่ากูจะสบายดีอยู่ไหมล่ะไอ้หน้าสัด แม้ว่าเรื่องมันจะผ่านมาเป็นปีแล้วก็ตาม แต่ถามว่าผมจะให้อภัยได้ไหมน่ะหรอ มึงฝันเถอะ กูจะตามแช่งชักหักกระดูกพวกมึงอยู่แบบนี้แหล่ะ



“มึงนี่หยาบคายจริงๆ เลยนะ ต่ำ มาร์ชไม่ต้องไปถามมันหรอก ถามทำไมให้เสียปากกับคนแบบนี้” ไอ้ม่อนที่ว่าแบบนั้น มันที่ใช้สายตามองผมเหมือนมองสิ่งสกปรกอะไรสักอย่าง ได้แต่กำมือเข้าหากันแน่นๆ มองเห็นมือของมันสองคนที่กุมกันแน่นๆ แล้วรู้สึกร้อนๆ ที่ขอบตา ผมไม่ได้อาลัยอาวรณ์มันหรอกนะ จริงๆ ผมแค่เจ็บใจที่ความเชื่อใจของผมที่มอบให้ สุดท้ายแม่งเป็นได้แค่คนโง่ที่ให้ลูกพี่ลูกน้องกับแฟนตัวเองมาสวมเขาใส่หัว จับๆ หัวดูแล้วก็เจ็บครับ ...เขาตัวเองทิ่มมือ



“เอม...มาร์ชขอโทษ”



“......”



ไม่รู้ว่าได้ยินคำนี้เป็นครั้งที่เท่าไหร่ แต่ไม่ว่าจะได้ยินมามากแค่ไหน สุดท้ายความเจ็บของผมก็ไม่สามารถให้อภัยพวกมันได้อยู่ดี ผมที่คบกับมาร์ชมาตั้งแต่ม.5 มันเป็นเหมือนทุกอย่างในชีวิตของผม คนที่อยู่ข้างๆ และให้กำลังใจ พูดจริงๆ มันเหมือนเป็นคนที่ทำให้ผมอยากใช้ชีวิตอยู่ต่อไปแม้ว่าโลกนี้จะโดดเดี่ยวแค่ไหนก็ตามแต่ผมก็ยังมีมัน...แต่สุดท้ายก็เป็นมัน มันที่ทำลายโลกทั้งใบของผม ผ่านมาจนถึงทุกวันนี้ได้ ก็เพราะมีเพื่อนดีๆ แบบไอ้เก้อกับไอ้หยีอยู่



“อย่าร้องไห้ออกมาล่ะเอม กูเห็นน้ำตามึงปริ่มๆ แบบนั้น ทำไม มึงดีใจมากหรอที่เจอหน้าแฟนกู” ไอ้ม่อนที่ว่าแบบนั้นแล้วหันไปคว้าหมับเอาแขนของไอ้มาร์ชมากอดไว้ สัด นึกว่าปลิงควายกับเหาฉลาม



“มีเรื่องอะไรกัน” ผมที่ยังไม่ทันจะตอบอะไรออกไป แต่เสียงของคนมาใหม่ที่วันนี้ผมได้ยินจนชินหูก็ดังเข้ามาซะก่อน คนมาใหม่ที่ยกคิ้วขึ้นข้างนึงมองมาแบบหน้าตาพร้อมตี เห็นไอ้ม่อนกับมาร์ชถอยตัวออกห่างผมไปหลายก้าวตอนที่เจ๊ดานี่เดินแหวกฝ่าเข้ามาแบบไม่สนใจใครหน้าไหน ... ไม่สนใจแม้กระทั่งว่าเค้ากำลังมีเรื่องอะไรกันอยู่



เจ๊ดานี่ที่ตอนนี้อยู่ในชุดเสื้อยืดคอกลมสีดำธรรมดาแบบพอดีตัวกับกางเกงยีนส์สีดำอีกเหมือนกัน รวมถึงหน้าตาของเจ๊มันที่ไม่มีสีสันต์เหมือนอย่างเคย คิดว่ามันคงไปล้างออกเพราะกำลังจะกลับบ้านแล้ว ... พอเป็นแบบนั้น หน้าตาหล่อๆ ดิบๆ เข้มๆ ก็ปรากฏออกมาให้เห็นจนต้องแปลกใจ



“เอม เป็นอะไร” เสียงเข้มๆ ของเจ๊ดานี่ที่ถามออกมาแบบนั้นทำเอาผมใจกระตุก เหมือนจะเป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่รู้จักกันที่มันเรียกชื่อผม ชื่อผมที่เป็นชื่อของผมจริงๆ ไม่ใช่อิน้องบ๋อย แบบที่เจ้าตัวชอบเรียก



“ว่าไง บอกมาสิ” ถามออกมาอีกพร้อมๆ กับวงแขนแกร่งที่พาดเข้ามาที่ไหล่ของผมแบบถึงเนื้อถึงตัว ทำเอาผมสะดุ้งหลุดออกจากภวังค์



“จ..เจ๊...” ในตอนที่ผมกำลังจะเรียกเจ๊ดานี่แบบที่เคยชิน อีกฝ่ายก็ขัดขึ้นมาซะก่อน



“บอกพี่ดาบมาสิ มีใครทำอะไรเอมหรือเปล่า หื้ม” ว่าแบบนั้นแล้วหันสายตาคมไปมองคนที่เผชิญหน้ากับเราอยู่ตอนนี้แบบเอาเรื่อง



“หึ นี่เป็นคนที่จะหิ้วมึงไปคืนนี้หรอไอ้เอม”



“นี่ มึงพูดจาให้มันดีๆ หน่อยนะไอ้หนู” เจ๊ เอ่อ...คือหมายถึงพี่ดาบมันว่าออกไปแบบนั้น แล้วก้าวขาเข้าไปหาทั้งคู่ก้าวนึง จนทั้งไอ้ม่อนและไอ้มาร์ชต้องขยับถอยหลังหนีไปอีกสองก้าว



“ล...แล้วทำไมจะพูดไม่ได้ มันก็แค่เด็กเสริฟหิ้วขยะ”



“เหอะ เป็นเด็กเสริฟในร้านหิ้วขยะแล้วไงวะ มึงจะเที่ยวไปดูถูกคนทำอาชีพสุจริตได้หรือไง อย่าปากดีถ้ามึงยังแบมือขอเงินแม่ไม่ได้หาเงินเลี้ยงตัวเองแบบมัน



“นี่มึง...มึง...” ไอ้ม่อนที่โกรธจนตัวสั่นชี้หน้าใส่เจ๊มัน แต่อีกฝ่ายเหมือนจะไม่สนใจ พร้อมอ้าปากพูดต่อหน้าตาเฉย



“แล้วอีกอย่าง ถึงมันจะเป็นแค่เด็กเสริฟเก็บขยะในร้านแล้วจะทำไมวะ เพราะมันเป็นเด็กเสริฟเก็บขยะในร้านที่เป็นแฟนเจ้าของร้านอีกทีนึง



“ห๊ะ แกหมายถึงอะไร...” ไอ้ม่อนที่หน้าเหวอออกไปตอนที่ได้ยินคำพูดนั้น ผมที่หันไปมองหน้าด้านข้างของคนข้างตัวที่ตอนนี้ยกยิ้มมุมปาก หน้าตาที่บ่งบอกว่ากำลังสะใจแล้วอ้าปากพูดต่อ



“ก็หมายความว่า มัน...” ชี้มือมาทางผม แล้วดึงตัวผมให้ขยับเข้าไปใกล้ วงแขนแกร่งที่โอบพาดบ่าลงมาในตอนนั้นแล้วพูดต่อ



“เป็นแฟนกู และกู....ก็เป็นเจ้าของร้านนี้ไงวะ” ว่าแบบนั้นพร้อมชี้มือไปที่ร้านที่อยู่ด้านหลังพวกเราอีกที



“ม..ไม่จริง! ” ไอ้ม่อนที่เหวอมากกว่าทุกทีแล้วว่าออกมาแบบไม่เชื่อ เห็นหน้าตามันในตอนนี้แล้วกูอยากหัวเราะให้ฟันร่วงกราว สะใจไอ้เอมนัก



“จริง”



“แกอย่ามาโกหก เจ้าของร้านนี้เป็นตุ๊ดใครๆ ก็รู้”



“อันนั้นก็จริงจ๊ะ แต่คงไม่รู้สินะว่าแกล้งเป็น ก็ให้ทำไงได้ล่ะวะ ก็เอมมันขี้หึงนี่ มันกลัวมีสาวๆ เข้ามายุ่งน่ะ เลยต้องแอ๊บเป็นตุ๊ดให้เอมสบายใจ เป็นไง เจ๊เนียนใช่ไหมคะหนู”



“ไม่จริง! ”



“อะ ถ้าไม่เชื่อก็เรื่องของมึงจ้า ... แต่ว่านะ ถ้าวันหลังอยากมาร้านนี้แบบดีๆ ก็ขอแนะนำว่าอย่ามามีเรื่องกับแฟนเจ้าของร้านอีก จำนะคะหนู” บอกแบบนั้นแล้วทำจริตออกสาวและขยิบตาให้อีกฝ่าย ทั้งไอ้ม่อนและไอ้มาร์ชที่อ้าปากค้างไปในตอนนั้น



“เอม กลับบ้านกันเถอะพี่ง่วงแล้ว” ก้มหน้าลงมาหาผมแล้วว่าแบบนั้น ส่วนผมที่ยืนงงเป็นไก่ตาแตกก็ต้องสะดุ้งตอนที่อีกฝ่ายแอบหยิกกัน



“อะ....อื้มม พี่ดาบง่วงแล้วใช่ไหม กลับกันเถอะครับ”



“ดีครับ ...บายนะจ๊ะหนู และ อดีตแฟนเก่าแฟนผมอีกที ...อ้อ แล้วก็ขอบคุณมึงด้วยนะ ที่โง่ทิ้งไอ้เอมมาให้ผมได้เจอมัน เพื่อที่มึง จะไปคว้าเอาไอ้นั่น ไอ้เด็กไม่มีสมองน่ะ”



พี่มันที่หันไปโบกมือให้คนทั้งคู่แล้วโอบไหล่ผมเดินจากมาทั้งแบบนั้น ได้ยินเสียงไอ้ม่อนแหกปากโวยวายดังมาจากทางด้านหลัง เป็นครั้งแรกที่ไม่ได้หันไปมองแม้ว่าจะสะใจมากแค่ไหนก็ตาม ผมที่ได้เดินตามคนที่โอบไหล่ผมให้เดินมาพร้อมกัน ก่อนจะหันหน้ามามองกัน สายตาที่พี่มันส่งมากำลังบอกผมว่า ‘กูแสดงดีแบบควรให้ออสก้าเลยสินะคะ’ ส่งมาให้กัน


เห็นแบบนั้นแล้วก็อดยิ้มกว้างๆ และเผลอขำออกมาไม่ได้ ... บางทีการกลับมาเจอกันอีกครั้งระหว่างผมกับเจ๊มัน ก็ไม่ได้แย่เหมือนอย่างที่คิดนะ บางที...นรกอาจไม่ได้ลิขิตแบบที่ผมเคยคิดก็ได้ล่ะมั้ง


มองหน้าอีกฝ่ายแล้วก็เหมือนจะมีแว๊บนึงที่มันเผลอคิดไปว่า มันคงจะดีกว่านี้นะ ถ้าจริงๆ แล้วพี่มันไม่ได้เป็นตุ๊ด ...

ถ้ามันไม่ได้อยากได้ผู้ชายคนอื่นเป็นผัว บางทีตอนนี้ ผมเองก็อยากจะเผลออ่อยมันขึ้นมาบ้างแล้วเหมือนกันล่ะ



“ขอบคุณนะครับพี่ดาบ”



“หึ พอได้ยินมึงเรียกชื่อนี้แล้วก็แปลกดีเหมือนกัน...แต่ก็นะ กูเคยบอกมึงแล้วไง ว่ามึงพึ่งกูได้”



--------------To be continued--------------


ขี้ขัด ขี้แทรก ตามติดเก่ง

เอ๊ะ...หมายถึงใครนะ

อ่อยอยู่ดูออก!


มาแล้วจ้า มาไม่ยาวเท่าตอนเก่า เพราะเหมือนคนอ่านจะไม่ค่อยชอบยาวๆ เหมือนยาวไปไม่อ่าน

มาเบาๆ9หน้าพอ  โดยรวมทั้งหมดทั้งมวลในตอนนี้ พูดแค่ว่า ถ้าน้องเอมไม่เอาอิเจ๊ ฉันเอานะ!


ปล.ขอบคุณคนอ่านทุกท่านที่เข้ามาเม้นให้แคทเลยนะคะ  รักกกกก :mew1: :hao7:


ขอขอบคุณ

เจ้ดาบโคตรเท่
  บ้าน่าาา อย่าพูดเสียงดังเดี๋ยวเจ๊แกเผลอกรี๊ด 5555

o13 o13


:L2: :pig4: :L2:
  ขอบคุณมากๆนะคะ มาอ่านอีกนะคะ


เจ้ดานี่ เปลี่ยนเป็นเฮียดาบจะเหมาะกว่านะฮะ.
แมนได้ใจไปเลย  o18
  มาช่วยกันปลุกความเป็นพี่ดาบกันค่ะ 55555


:L2: :pig4: :L2: :pig4:
  ขอบคุณมากๆนะคะ แล้วมาอ่านอีกนะคะ


เจ้ดาบนี่สุดยอดไปเลย,,,
   เจ๊ดาบยืนหนึ่งในดงเครื่องสำอางค์เลยค่าาา อิอิ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่4 {02/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 02-11-2019 21:30:45
 o13 o13
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่4 {02/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 02-11-2019 22:27:46
 :z1:


 :กอด1: :pig4: :กอด1:


 o13
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่4 {02/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 03-11-2019 00:09:43
 :impress2:   ดีย์
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่4 {02/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 03-11-2019 00:13:13
FC พี่ดาบ. สะใจสุดๆ,,,
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่4 {02/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 03-11-2019 12:59:24
เจ้อ่ะแอบอ่อยเหอะ  หิ้วน้องกลับบ้านอีกแระ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่4 {02/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 03-11-2019 23:22:12
  :-[ พี่ดาบแมนมากค่ะ ออกมาบ่อยนะคะ
เอาอีเจ๊ไปขังไว้เลยค่ะพี่ดาบ

หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่4 {02/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: sarang ที่ 04-11-2019 11:04:22
ตามอ่านทีเดียว4ตอนรวด อยากบอกว่าชอบค่าาาา
ผัวออกสาวคือดี แต่จริงๆนี่ว่าไม่ออกสาว น่าจะออกผัว
พี่ดาบโคตรเท่ ชอบตอนที่3ที่พี่ดาบเรียกน้องเอมไปเตือน
นิยายเรื่องนี้เหมือนจะตลก แต่จริงๆก็แฝงไรหลายอย่างนะ
ชอบค่ะ อยากอ่านต่อแล้วววววววว :mew1: o13
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่4 {02/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 08-11-2019 22:23:54
พี่ดาบอย่างเท่ห์​เลยค่ะ​ ตุ๊ดปลอมจริงๆ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่5 {09/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 09-11-2019 20:14:04
บทที่5


“ฮ่าๆๆ สะใจเป็นบ้าเลยนะคะอิน้องบ๋อย เห็นหน้าอิเด็กนั่นไหมคะ มันต้องโดนค่ะ คนแบบนี้ต้องเจอดานี่ค่ะ” เสียงสองที่ดังเจื้อยแจ้วอยู่ข้างๆตัวผม ท่าทางที่ดูจะมีความสุขมากกว่าผมซะอีก ได้ยินแบบนั้นมันเลยอดที่จะหันไปมองคนที่อยู่ด้านข้างไม่ได้ คนร่างสูงที่กำลังขับรถไปพร้อมๆกับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่หัวเราะสุขใจกับวีรกรรมที่ตัวเองพึ่งทำมาเมื่อกี้



“เจ๊”



“ว่าไงคะหนู” ตอบออกมาแบบนั้นพร้อมหันมายิ้มกว้างๆให้กันในตอนที่เจ้าตัวก็เข้าเกียร์มาอยู่ที่ตัวNพร้อมๆกับดึงเบรกมือขึ้นตอนที่รถก็ติดไฟแดงพอดี



“เจ๊จะพาผมไปไหนวะ” ข้องใจมากๆจนกูต้องถามออกมา คือตอนแรกแค่คิดว่าจับกูยัดใส่รถเพื่อให้แนบเนียนแล้วจะวนกลับไปส่งกันที่ร้านซะอีก แต่ไหงเหมือนยิ่งขับออกมาก็ยิ่งไกลออกไปจนเริ่มสงสัยแล้วนะว่าจะพากูไปไหน ... แถมตอนนี้ก็ดึกมากๆจนอยากจะนอนแล้วด้วย



“กลับคอนโดกูค่ะ”



“หา อะไรนะ กลับคอนโด!” กูนี่ตาสว่างเลยครับ กลับคอนโดไหนวะ พูดใหม่อีกทีซิจ๊ะเจ๊พี่มึง



“ก็ใช่ไงคะ”



“แล้วจะพาผมกลับคอนโดไหนวะ” ถามออกไปแบบนั้น แต่อีกฝ่ายกลับหันมาทำหน้าตายใส่กันแบบไม่รู้สึกรู้สาอะไร นี่อย่าบอกนะว่าเจ๊มันหาเรื่องแกล้งผมอีกแล้วนะเว้ย



“คอนโดกูค่ะ”



“แล้วจะให้ผมไปด้วยทำไมวะ อย่าบอกว่าไปถึงแล้วเจ๊จะบอกให้ผมหารถกลับมาที่ร้านเองนะ ไม่เอานะเว้ย ผมเหนื่อยแล้วก็ง่วงมากแล้วนะเจ๊”  ว่าออกไปด้วยเสียงที่อ่อนระโหยโรยแรง เห็นใจกูเถอะกูเหนื่อยแสนเหนื่อย อย่าให้กูต้องทรมานไปทั้งวันทั้งคืนเลยนะ



“เออน่า”



“เออน่าอะไรของเจ๊วะ ไม่เอาอ่ะ งั้นจอดรถตรงนี้เลย เดี๋ยวผมกลับเอง” อย่างน้อยถ้าลงตรงนี้ ก็น่าจะใกล้ว่าคอนโดมันที่ไม่รู้ว่าอยู่ส่วนไหนในโลกใบนี้อ่ะ



“เอ๊ะ อิน้องบ๋อยทำไมวอแวจังคะ รุงรังที่สุดเลย นั่งอมลิ้นเงียบปากไปไม่ได้หรอ”



“งั้นเจ๊ก็พาผมกลับสิเว้ย” ฉุนเฉียวแล้วนะครับ ไม่รู้ว่าระหว่างผมกับเจ๊มัน ใครกันแน่ที่พูดไม่รู้เรื่อง



“มึงเห็นไหมคะว่ากูช่วยมึงแล้วก็ยัดมึงเข้ามาในรถแบบนี้ๆ”



“เห็น”



“นั่นแหล่ะค่ะ แล้วตอนนี้ก็ดึกมากๆแบบนี้ๆ”



“อ่าหะ”



“แล้วตอนนี้ สวยก็อยากนอนมากๆแบบนี้ๆ”



“แล้วยังไงล่ะวะ” สุดจะทนกับคนอย่างมึงเจ๊ เข้าเรื่องสักทีโว้ย



“ก็นี่ไงคะ สวยง่วง! สวยก็ไม่สามารถจะขับรถวนกลับไปส่งมึงได้ค่ะ กูเหนื่อย แล้วมึงเข้าใจไหมคะอิน้องหนูบ๋อย ถ้าสวยนอนดึกไปมากกว่านี้ หน้าสวยจะเหี่ยวจะโทรมจะอ่อนแอ เนี่ย แล้วเดี๋ยวสวยก็จะไม่สวย ซึ่งสวยยอมไม่ได้ค่ะ มึงเข้าใจเหตุผลของสวยไหม เพราะงั้น...กลับคอนโดกูค่ะ กูขี้เกียจวนรถกลับไปส่งมึง”



“อ้าว!! แล้วเจ๊จะให้ผมนอนไหนวะ”



“ก็นอนกับกูไงคะ อิโง่!”



จบบทสนทนาด้วยคำว่าโง่ ใส่หน้ากูเต็มๆแล้วอีกฝ่ายก็ไม่สนใจที่จะใส่ใจอะไรกันอีก รู้สึกเหมือนเขางอกขึ้นมาบนหัวเลยครับ เจ้าของรถที่ทำแค่หันหน้ากลับไปมองถนนแล้วเริ่มปลดเบรกมือและขับรถตรงออกไปตามเส้นทางที่ผมไม่คุ้นเคย ...



แล้วคือกูต้องไปนอนคอนโดมึงเรอะอิเจ๊ตุ๊ดปลอม!



ความรู้สึกเสียวตูดวูบๆวาบๆขึ้นมาเลย เป็นกำลังใจให้ตูดเอมด้วยครับแม่!



...



“เข้ามาค่ะอิหนูน้องบ๋อย อย่ามาทำหน้าหวาดระแวงแบบนั้นได้ไหมคะ” เป็นอีกฝ่ายที่หันมามองกันพร้อมๆกับทำหน้าไม่พอใจ หมดแล้วลุคพี่ดาบแบดๆที่ช่วยกูก่อนหน้านี้ เหลือแค่อิเจ๊สาวแตกในร่างเทพบุตรแสนบึกบึน



“ก็....”



“อย่าชักช้าให้หญ้ายาวอยู่เลยค่ะ กูง่วง” ว่าออกมาอีกครั้ง แบบหงุดหงิด พร้อมๆกับฝ่ามือแกร่งที่เอื้อมมาคว้าแขนของผมไว้และดึงให้เดินตามพี่มันเข้าไปในห้อง



“โอ๊ยเจ๊ เจ็บนะเว้ย”



“ต้องให้สวยรุนแรงนะคะมึงเนี่ย กูไม่ปล้ำมึงหรอกค่ะ จะกลัวอะไรนักหนา!”  เป็นอีกฝ่ายที่ตะคอกออกมาแบบนั้นแล้วหันมามองกันตอนที่เจ้าตัวเดินไปเปิดไฟให้ห้องทั้งห้องสว่างขึ้นมา



“แต่เจ๊เคยปล้ำผมไง!” แค่พูดถึงก็เจ็บไข่เลย ปล้ำกูมาสองรอบด้วยเอาจริงๆ



“กรี๊ดดดดดดดดด อย่าพูดเรื่องแสลงรูหูแบบนี้ออกมานะคะ ฝังกลบๆๆๆ สวยไม่โอเคมากๆเลยนะคะ” เป็นมันที่กรี๊ดออกมา ย้ำ ว่ากรี๊ดจริงๆ ผมนี่ถึงกับต้องยกมือขึ้นมาปิดหูเลย



“เจ๊จะกรี๊ดทำไมเนี่ย มันดึกแล้วนะ เดี๋ยวข้างห้องก็มาด่าหรอก”



“คอนโดกูหรูหราหมาเห่าขนาดนี้ ข้างห้องไม่ได้ยินหรอกค่ะ”



ไม่สนหินสนแดดอะไรใดๆก็คืออิเจ๊นี่ล่ะ  มันที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วเดินนำผมเข้าไปถึงกลางห้องรับแขก เป็นคอนโดแบบสองห้องนอนสองห้องน้ำหนึ่งห้องรับแขกและห้องครัว ถือว่าเป็นห้องที่ค่อนข้างใหญ่เลยครับ ดูจากเนื้อที่ก็ไม่ใช่คอนโดไก่กาสมัยใหม่แบบที่ชอบทำออกมาขายแคบๆ ราคาคงเอาเรื่องน่าดู แต่ก็ไม่ได้ใหญ่โตขนาดของไอ้เก้อ

ผมที่หันไปมองรอบๆแล้วอดจะอึ้งไม่ได้ โซฟากำมะหยี่สีชมพูสุดแสนจะฟรุ้งฟริ้งที่มีหมอนอิงสีขาวตัดกันอย่างลงตัวถูกตั้งอยู่กลางห้อง พื้นพรหมที่ถูกปูเพิ่มเติมก็เป็นสีชมพูอ่อนๆพาสเทลไปอีก ได้แต่หันกลับมามองหน้าเจ้าของห้องที่ตอนนี้กำลังยกมือแกร่งขึ้นเสยผมแบบลวกๆ มองเห็นลำคอ สันกราม ไล่ลงมาที่บ่าแกร่งและไหล่กว้างๆนั่น ยังไม่ต้องพูดถึงกล้ามหน้าท้องที่มีซิกแพคเป็นลูกๆนั่นอีก ไม่จ้อจี้แน่นอนเพราะผมเคยเห็นมันมากับตา การแต่งห้องกับตัวเจ๊มันเป็นความแตกต่างที่ไม่น่าเข้ากันได้เลยจริงๆ



“มึงมองอะไรคะน้องบ๋อย แอบมองกูอยู่นะจ๊ะ อย่าคิดว่าไม่รู้บ้างเลย” ว่าออกมาเป็นทำนอง กูนี่เกือบเต้นท่าคุกกี้เสี่ยงทายตอบกลับแล้วนะ



“ผม...ผมไม่ได้มองเจ๊เว้ย ผมแค่มองห้อง”



“มองทำไมคะ มึงคิดจะขโมยของกูหรอ” ว่าออกมาแบบนั้นแล้วเดินหนีไปที่ครัว มองจากตรงนี้เห็นมันเปิดตู้เย็นแล้วหยิบน้ำออกมากระดกดื่ม ไม่แม้จะใส่แก้ว น้ำที่ไหลออกมาจากมุมปากและไหลลงมาที่ลำคอแกร่งช่างเป็นภาพที่..... เจ็บไข่โว้ยแม่มึง!



ตุ๊ดทั่วไปเค้าทำกันแบบนี้จริงๆหรอครับ ไอ้เอมสุดแสนจะข้องใจ



“แล้วถ้าผมขโมยล่ะ”



“มึงก็ขโมยไปดิคะ”



“ห๊ะ?!”



“ค่ะ มึงก็ขโมยไปดิ เพราะกูเองก็ขโมยเค้ามาอีกทีเหมือนกันค่ะ นู่นค่ะ มองเห็นนาฬิกาเป็ดเหลืองบนผนังนั่นไหม อันนั้นของลูกพี่ลูกน้องกูค่ะ ของอิรบ ส่วนนั้นค่ะเครื่องฟอกอากาศ อันนี้ขโมยของน้องชายมาค่ะของไอ้น้องแจ และนู่นค่ะ ภูมิใจสุดๆ พรหมนุ่มๆฟูสีชมพูพาสเทลที่มึงเหยียบเมื่อกี้ กูมโมยมาจากบ้านเฮียทัพ พี่มันซื้อไว้ให้แมวมันนอน ไร้ประโยชน์สิ้นดี กูเลยแอบเอามาแม่งเลยค่ะ”



เอ่อ....



นี่กูอยู่กับอยู่ใครวะ โจรเรอะ!



“มองกูด้วยสายตาแบบนั้นทำไมคะ มึงลวนลามกูทางสายตาเรอะ”



“บ้านเจ๊สิ”



“ก็ใช่ นี่อ่ะบ้านกูค่ะ” เออ ก็ถูกของมันนะ ถุย!



“มึงไม่ต้องยืนงุนงง ไปอาบน้ำไปค่ะ นู่น ห้องน้ำอยู่ทางนู้นค่ะ”



“แต่ผมไม่มีเสื้อผ้าอะไรมาเปลี่ยนเลยนะเจ๊ ก็เจ๊อ่ะลากผมมา” คือมึงลากกูมาแบบนี้ อย่าถามหาเสื้อนอนเลย ถามแค่ว่าคืนนี้กูจะมีกางเกงในใส่ไหมจะดีกว่า



“พอๆเลิกพูด เดี๋ยวกูหามาให้เองค่ะ ใส่ชุดกูไปก่อน”



“แล้วกางเกง เอ่อ...กางเกง...”



“กูมีกางเกงในที่ยังไม่ได้ใส่อยู่ค่ะ กูซื้อมาตุน เดี๋ยวเอามาให้ ลำบากลำบนเหลือเกินชีวิตคนสวยแบบดานี่เนี่ย” พี่เจ๊มันที่บ่นๆแบบนั้นแล้วเดินผ่านหน้าผมหายเข้าไปในห้องนอน ... บ่นซะกูสำนึกผิดไม่ทันเลย



เหลือบสายตาไปมองนาฬิกาเป็ดเหลืองที่ถูกแขวนอยู่ที่ผนังห้อง ตอนนี้บอกเวลาตีสามครึ่ง ทั้งเหนื่อยทั้งเหนียวตัว ไปอาบน้ำก่อนดีกว่าว่ะ จะได้รีบๆนอน ...เพราะคิดแบบนั้นเลยเดินไปอาบน้ำที่ห้องน้ำที่อยู่ใกล้ๆกับห้องครัว คิดว่าห้องน้ำอีกห้องคงอยู่ในห้องนอนของเจ๊มันนั่นล่ะ  พอเดินเข้ามาในห้องน้ำแล้วตากูแทบถลน เครื่องสำอางเครื่องประทินผิวบ้าบออะไรไม่รู้เรียงรายอยู่บนชั้นวางด้านหน้าอ่างล้างหน้าทำเอาอ้าปากค้าง พอเดินเลยเข้าไปในโซนอาบน้ำ หนักเลยไอ้เหี้ยเอ๊ย สารพัดสบู่หลากหลายขวดหลากหลายยี่ห้อ ลองๆเปิดดมดูแล้วมีแต่ยี่ห้อที่ไม่รู้จัก ทำไมเจ๊มันไม่ใช้แบบสบู่นกแก้วเขียวอะไรแบบนี้วะ



สุดท้าย...กูเลยใช้วิธีการเดาสุ่ม คว้าขวดที่อยู่ใกล้มือมากที่สุดหยิบๆมาถูเข้ากับน้ำ พอฟองมันเยอะๆกูก็เอาชโลมตั้งแต่หัวลากยาวไปถึงส้นเท้าเลยครับ พอดีเลยวันนี้ยังไม่ได้สระผมก็ถือเอาตอนนี้เลยละกัน รู้สึกหอมๆดี ก็ฟินในระดับนึง เห็นมันเขียนชื่อกลิ่นไว้ว่า Midnight Pomegranate



“นี่สินะชีวิตคนรวย กูล่ะเข้าไม่ถึงจริงๆ”



อาบไปนานไม่รู้ว่ากี่นาที น่าจะนานพอสมควร เพราะอิสบู่บ้านี่ลื่นเหลือเกิน ทรมานไอ้เอมตอนล้างออกแบบสุดๆเพราะงั้นเลยใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนานกว่าปกติ แต่ตอนนี้เหมือนจะพึ่งนึกออกว่ากูขาดอะไรไป ....



‘ปังๆ’



“อิน้องบ๋อยคะ มึงตายหรอ” เสียงประตูห้องน้ำที่ถูกทุบ ใช้คำว่าทุบถูกแล้ว นี่มือหรือตีนที่เคาะประตูห้องน้ำอยู่นั่น แล้วดูปากมันนะครับ ปากคอเราะร้าย



“ยังไม่ตายเว้ยเจ๊”



“ถ้ายังไม่ตายก็ออกมาค่ะมึง ทำอะไรอยู่ ถ้าหิวก็บอกกันดีๆมึงจะไปหาอะไรกินในนั้นมันไม่ดีนะ”



“โว้ยยย ไม่ได้หาไรกินเว้ยเจ๊” ตะโกนออกไปแบบนั้น ได้ยินเสียงอีกฝ่ายที่อยู่ด้านนอกหัวเราะออกมา เหมือนว่ามันจะสุขใจตลอดเวลาที่กวนประสาทผมได้



“ถ้าไม่ได้หาไรกินก็ออกมาค่ะ”



“ออกไม่ได้”



“เป็นเหี้ยอะไรถึงออกไม่ได้ ออกมา กูง่วงแล้วนะโว้ย”



“คือผม....”



“อะไรวะ”  เสียงของอีกฝ่ายที่ไม่ดัดเป็นเสียงสองแล้วในตอนที่ถามกันออกมาแบบนี้ เหมือนว่าพี่เจ๊มันคงง่วงมากแล้วจริงๆ เสียงมันเลยเข้มไปตามอารมณ์



“คือผม...”



“ถ้ามึงยังคือผมอีกครั้ง กูจะถีบประตูให้พังแล้วเดินเข้าไปถีบมึงด้วยนะ”



“ผมลืมผ้าเช็ดตัวอ่ะ จะออกไปยังไงเล่า”  เจ็บไข่เลย! กูร่าเริงกับการอาบน้ำมากไปจนลืมไปว่านอกจากกูจะไม่มีเสื้อผ้า กูยังไม่มีผ้าเช็ดตัวด้วย



“เห้อ เหนื่อยกับมึง ออกมาเอา อยู่หน้าห้องน้ำเนี่ย”



“ขอบคุณครับเจ๊พี่มึง”  พอได้ยินแบบนั้นก็รีบก้าวยาวๆไปเปิดประตูห้องน้ำเลยครับ ยืนหนาวไข่อยู่นี่มานานแล้ว



‘พรึบ’



“เออแล้วก็เสื้....”



“เชี่ย!”



เป็นอึ้ง!



ตามองตา สายตาก็จ้องมองกันรู้สึกเสียวซ่าน...ไปถึงไข่!



“อ๊ากกกกกกกกกก”



“กรี๊ดดดดดด หลอดดูดนมเปรี้ยวยาคูลท์ทิ่มตาสวย” หลอดดูดนมเปรี้ยวยาคูลท์พ่อง!



เสียงแหกปากสองเสียงที่ดังขึ้นพร้อมๆกันในตอนที่ผมเปิดประตูออกไปแบบอล่างฉ่างเพราะคิดว่าอีกฝ่ายไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว ก็มึงบอกว่าผ้าอยู่ข้างนอก กูก็นึกว่ามึงห้อยไว้ให้ ที่ไหนได้ พอเปิดออกไป แผ่นหลังกว้างๆที่ผมคุ้นเคยก็อยู่ในสายตา พร้อมๆกับใบหน้าหล่อๆที่หันกลับมาเหมือนกำลังจะพูดอะไรสักอย่าง ดวงตาเข้มๆที่มองมาที่หน้าของผม เราที่มองสบตากันในตอนนั้น และสายตาคมของอีกฝ่ายที่ค่อยๆเลื่อนลงมาที่หน้าอก หัวนม และ...หลอดดูดนมเปรี้ยวยาคูลท์ของผม!



(0////[ ]////0)

(o [ ] 0 )



ฉ่า!



เสียงหน้าผมเองที่รู้สึกเหมือนว่ามันจะสุก คนตรงหน้าที่เบิกตากว้างขึ้นแล้วแหกปากออกมาเสียงดัง ก่อนที่ผ้าขนหนูผืนหนาจะถูกปาเข้าหน้าผมเต็มแรง พอดึงออกจากหัวก็มองเห็นร่างใหญ่ๆของอิเจ๊ตุ๊ดยักษ์ที่แหกปากวิ่งเอามือชูขึ้นสองแขนโวยวายหายเข้าไปในห้องนอนของตัว เหลือทิ้งไว้แค่ผ้าเช็ดตัวที่มันเขวี้ยงมาคลุมหัวผมและชุดนอนที่มันทิ้งไว้ที่พื้น ... ส่วนกูนอกจากยืนแหกปากร้อนหน้าอยู่ตรงนี้ แล้วก็ทำได้แค่รีบปิดประตูเข้าห้องน้ำไป



บัดซบ!! สุดแสนจะอาย ชีวิตอะไรของกูวะครับเนี่ย



.

.

.



“อิน้องบ๋อยคะ ทำหน้าให้มันด้านๆหน่อยค่ะ ออกมา!” เสียงนี้แม่งมาอีกแล้ว อย่ามาเรียกกู ปล่อยให้กูอับอายและตายไปในห้องน้ำนี้เถอะ ได้โปรดดดดด



“ถ้ามึงไม่ออกมา คราวนี้กูจะเปิดประตูเข้าไปลากมึงแล้วนะคะ”



“เออๆ มาแล้ว เจ๊จะเรียกอะไรนักหนาวะ” สุดจะทนกับคนอย่างเจ๊พี่มึง กูเป็นฝ่ายเสียหายกูเป็นฝ่ายอายก็ให้กูได้หลบหน้าหลบตาหน่อยไม่ได้รึไงวะ ทีเมื่อกี้ล่ะมึงวิ่งหน้าแรดหนีเข้าห้องก่อนกูอีก ทีแบบนี้ล่ะตามออกมาเคาะประตูห้องน้ำอยู่ได้



‘แอด’



พอเปิดประตูห้องน้ำออกมาก็เจอเข้ากับเจ้าของห้องที่ตอนนี้เจ้าตัวอยู่ในชุดนอนสีน้ำเงินที่มีลายจระเข้ตัวเล็กๆน่ารักหลายๆตัวสีขาว ส่วนบนหัวมันยังมีที่ปิดตาลายตุ๊กตาน่ารักคาดเอาไว้ด้วย ... น่ารักมากมั้ง!



เจ๊มันที่ยืนพิงกรอบประตูพร้อมกอดอกมองกันอยู่แบบนั้นก้มหน้าลงมามองผมที่เอาแต่หลบตา แม่ง ... เหตุการณ์ก่อนหน้านี้มันยากจะลืมเลือน โคตรจะหน้าอาย อยากหายไปจากตรงนี้



“หึ”



“เจ๊ขำไรวะ”



“มึงจะอายทำไมนักคะ กะอิแค่กูเห็นหลอดดูดนมเปรี้ยวยาคูลท์ของมึง กูสิผู้เสียหาย กูคือคนที่ได้มองเห็นนะคะ”



“โว้ยย เจ๊เลิกพูดเลยนะ แล้วก็เลิกมากล่าวหากันว่าคือหลอดดูดนมเปรี้ยวยาคูลท์ด้วยนะโว้ย” ฉุนเฉียวแล้วนะ ล้อกันอยู่ได้แม่ง



“ก็มันจริงนี่คะ เหมือนสุดๆมึงเคยกินยาคูลท์ไหม หลอดเล็กๆสั้นๆแบบนั้นอ่ะใช่เลย”



“โว้ยยย เจ๊อย่ามาพูดงี้นะ ของเจ๊ใหญ่ตายแหล่ะ” ว่าออกไปแบบนั้นด้วยความโมโหแล้วเงยหน้าขึ้นไปเถียง แต่เหมือนแม่งเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดที่สุด ก็เพราะพอผมว่าออกไปแบบนั้น คนตรงหน้าที่ก็ยกยิ้มมุมปากขึ้นพรางก้มหน้าเข้ามาใกล้กัน สายตาคมที่มองกันยิ้มๆ



“มึงก็น่าจะรู้ดีที่สุดไม่ใช่หรือไงว่ามันใหญ่หรือมันเล็ก...จริงไหมล่ะ หึ”



พูดจบแค่นั้นก็ผละตัวออกจากกัน เห็นมันที่เดินนำเข้าไปในห้องนอนก่อนแล้ว ทิ้งไว้แค่กู ...กูที่ยืนอ้ำอึ้งร้อนหน้าอยู่หน้าห้องน้ำคนเดียวในตอนนี้



“ผ...ผมจะรู้ได้ไงล่ะวะ ไม่รู้โว้ยยยย”



ถึงรู้กูก็ไม่ยอมรับหรอกโว้ยว่ามันใหญ่จริง หึ่ย เจ็บตูด!

.

.

.



“มึงนอนในนี้กับกู”



“ทำไมวะเจ๊ ผมออกไปนอนห้องรับแขกก็ได้” และนี่ก็เป็นอีกประเด็นที่ทำให้ผมและพี่มันต้องเถียงกันอีกรอบ ผมที่ยืนกอดหมอนหนุนหัว ยืนเถียงกับเจ้าของห้องที่นอนเอาที่ปิดตาลายหน้ารักฟรุ้งฟริ้งคาดอยู่บนหัว มันที่นอนกางแขนกางขาอยู่บนเตียงแบบหน้าไม่อาย



“ไม่ได้ค่ะ”



“ทำไมวะ ผมนอนได้”



“กูกลัวมึงขโมยของค่ะ” บอกออกมาแบบนั้นแล้วลอยหน้าลอยตาใส่กันแบบไม่รู้จบ



“ไหนเจ๊บอกเจ๊ก็ขโมยมาอีกทีเหมือนกันไง ถ้าผมจะขโมยเจ๊ก็ไม่กลัวไงเล่า”



“แต่ตอนนี้กูกลัวแล้ว มันมีของที่กูไม่ได้ขโมยมาเหมือนกัน ไม่ได้อ่ะค่ะ มึงต้องนอนในนี้กับกูเป็นการกันเอาไว้ก่อน”



“แล้วเจ๊จะให้ผมนอนเตียงเดียวกับเจ๊อ่ะนะ”



“มึงฝันหรอคะ นู้นนน ไสตูดของมันมานอนข้างเตียงกูเลยค่ะ” ว่าออกมาแบบนั้นพร้อมทำนิ้วกรีดกรายชี้ไปที่พื้นข้างๆเตียง ผมที่อ้าปากค้างในตอนนั้น



“ที่พื้นนี่หรอวะเจ๊ มันหนาวนะ”



‘พรึบ’



“นี่ค่ะผ้าห่ม คราวนี้ไม่หนาวแล้ว ไวๆสวยง่วงแล้ว เหนื่อยอยากพักค่ะ” พี่มันที่โยนผ้าห่มแพรสีชมพูลื่นๆมาให้กันพร้อมมองหน้าแบบเบื่อหน่าย ... แล้วกูจะทำไงได้ล่ะวะ นอกจากโยนหมอนที่ถืออยู่ในมือลงไปที่พื้นอย่างจำใจ อีกฝ่ายที่หยิบรีโมทขึ้นมาปิดไฟในห้องทำให้ห้องทั้งห้องมืดลงในตอนนั้น



“แล้วมึงอย่าปีนขึ้นเตียงมานะคะบอกไว้ก่อนเลย”



“เออ! ผมไม่ปีนขึ้นไปหรอกเว้ย!”



ตอบออกไปแบบหงุดหงิดเหมือนกัน พาผมมาแท้ๆจะหาที่หลับที่นอนให้ดีกว่านี้ก็ไม่ได้ ดีนะที่พื้นห้องของเจ๊มันปูพรหมหมดมันเลยไม่แข็งมาก แต่ถึงแบบนั้นแอร์ในห้องที่เจ๊มันเปิดไว้ที่19องศาก็ทำให้ผมสั่นอยู่ดี และอิผ้าห่มแพรแบบนี้พอโดนกับแอร์ก็ยิ่งเย็น มันเหมาะกับนอนในที่ร้อนๆโว้ย ทีตัวเองละห่มผ้าห่มนวม .... แต่ถึงอยากจะบ่นมากแค่ไหนก็ทำได้แค่ข่มตาหลับไป ผมไม่มีสิทธิ์พูดอะไรอยู่แล้วไหมวะ ข้อแรกผมเป็นแค่ลูกจ้าง ข้อสองผมก็เป็นแค่ใครไม่รู้ที่ผมกับเจ๊มันไม่ได้สนิทกันมาก มันช่วยเหลือผมทั้งวันมานี่ก็มากจนน่าตกใจแล้ว



และด้วยความเหนื่อยล้าจากเรื่องราวทั้งวันที่ผ่านมา ในที่สุดหนังตาหนักๆก็เอาชนะความหนาว ความรู้สึกสุดท้ายที่รับรู้ก็มีแค่ความรู้สึกเหมือนกันตัวผมเองที่ลอยได้และซุกหน้าลงไปในก้อนเมฆที่อบอุ่นก็แค่นั้น



“อื้ม สบายจัง”



...


(มีต่อจ้า)
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่5 {09/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 09-11-2019 20:17:07

“กรี๊ดดดดดดดดดด”



“อื้อ อืมมม”



“ยัง ยังจะมาอื้อมาอืมอะไรอีก ตื่นค่ะ มึงตื่นเดี๋ยวนี้เลยค่ะ”



“ขอ อึก...อีกห้านาทีน้า”



“ห้านาทีก็ไม่ได้ค่ะ มึง มึงลุกออกจากตัวกูเดี๋ยวนี้เลยนะคะอิน้องหนูบ๋อย ตื่นค่ะตื่น ไม่ตื่นใช่ไหมคะ ได้เลยค่ะได้ นี่แน่ะ”



“อึก อื้อออออ แฮ่กๆ”



ผมที่ลืมตาขึ้นมาทันทีในตอนที่รู้สึกเหมือนจะขาดใจตาย ได้แต่อ้าปากพงาบๆโกยอากาศเข้าปอด มองเห็นฝ่ามือใหญ่ๆที่ยกออกจากจมูกของผม ได้แต่หันหน้าไปมองคนข้างๆตัวด้วยความหงุดหงิด



“เจ๊! เจ๊จะฆ่าผม!”



“ใช่ค่ะ ก็มึงมันน่าฆ่าให้ตาย”



“ผมทำอะไรผิดวะเจ๊ จะแกล้งอะไรผมนักหนา” ถามออกไปแบบขุ่นเคืองใจเป็นที่สุด คนกำลังนอนฝันดี แต่ดันถูกปลุกด้วยวิธีพิศดาลโดยการปิดจมูก ไอ้ตุ๊ดปลอมใจร้าย



“ยัง...ยังมีหน้ามาขุ่นเคืองกู กูนี่ค่ะต้องเคืองมึง”



“ทำไม ผมทำไรให้วะ”



“แล้วที่มึงนอนเกยตื้นบนตัวกูตอนนี้ไม่ผิดหรอคะ กรี๊ดดดด บอกแล้วใช่ไหมว่าห้ามขึ้นมานอนบนเตียงกู นี่ไม่ขึ้นธรรมดา มึงขึ้นกูด้วยค่ะเนี่ย”



“ห๊ะ! ขึ้นไรของเจ๊ พูดจาน่าเกลียด”



ได้แต่กระพริบตาปริบๆใส่อีกคนที่ก็จ้องมองกันแล้วทำท่าเหมือนสาววัยแรกแย้มที่พึ่งเสียตัว ... แต่เดี๋ยวนะ ผมที่ค่อยๆหันไปมองรอบๆตัวช้าๆ ภาพตรงหน้านี่คือห้องของอิเจ๊ ...ก็ใช่ เมื่อคืนผมนอนห้องอิเจ๊ แต่ว่า...กูนอนที่พื้นนี่หว่า พอนึกมาถึงตรงนี้ก็รีบก้มหน้ามองไปรอบๆ สภาพตัวเองที่นอนอยู่บนอะไรที่นุ่มๆ และขาข้างนึงก็พาดอยู่บนอะไรบางอย่างที่ก่อนหน้านี้ที่นอนฝันหวานอยู่คิดว่าเป็นหมอนข้าง แต่จริงๆมันไม่ใช่... ครับ กูนอนอยู่บนเตียงของเจ๊มัน พร้อมๆกับครึ่งตัวของผมที่เกยอยู่บนอกแกร่งของอีกฝ่าย และขาของกูก็พาดไว้ที่กลางลำตัวของอีกฝ่ายด้วยเช่นกัน ก้มมองลงไปเรื่อยๆแล้วได้แต่อ้าปากค้าง ความรู้สึกแข็งๆหยุ่นๆที่ทิ่มอยู่ที่ต้นขาทำให้ยิ่งต้องเบิกตากว้าง เงยหน้าขึ้นไปมองหน้าอีกคนที่ดูจะไม่สะทกสะท้านอะไรแล้วในตอนนี้



“ไงล่ะ นึกออกแล้วสินะคะ ลงไปจากตัวกู ก่อนที่กูจะเสียบมึงอีกรอบอิน้องหนูบ๋อย”



“เชี่ย! ไปแล้วๆๆๆ ลงแล้วครับเจ๊” ตาลีตาเหลือกรีบเอาขาออกจากตัวของเจ๊มันอย่างลนลาน ในตอนที่ไม่ทันระวังเพราะกูกลัวอนาคอนด้าของอิเจ๊ดานี่ กูก็...



‘โครม’



“เห้ย อิน้องบ๋อย”



“อู้ย เจ็บโว้ยยยย”



ได้แต่แหกปากออกมาแบบนั้นในตอนที่กูลงไปนั่งก้นจ้ำเบ้าอยู่ที่พื้น คนที่อยู่บนเตียงก็ชโงกหน้าลงมามองอย่างตกใจ ก่อนที่อีกฝ่ายจะยกยิ้มมุมปากมองกันแบบรู้สึกสนุก เจ๊มันที่ลุกตามลงมาจากที่นอนแล้วย่อตัวลงมาตรงหน้า พร้อมฝ่ามือหนาที่ช้อนคางของผมให้ขึ้นไปมองหน้ากัน



“หึ มอนิ่งไอ้ควายน้อย” ควายน้อยเชี่ยไรของเจ๊ล่ะโว้ย!



อยากจะอ้าปากออกไปเถียงมันแบบทุกที แต่รอยยิ้มของอีกฝ่ายที่กระแทกเข้าเบ้าตา มันที่ส่งยิ้มมาให้พร้อมๆกับฝ่ามืออุ่นที่ขยี้อยู่ที่หัวของผมนั่นก็ทำให้ต้องหุบปากฉับแบบอ้าปากพูดอะไรไม่ออก รู้สึกใจสั่นๆแปลกๆ คิดว่าเป็นอาการของคนตื่นตกใจที่ตกใจเตียงมากกว่าอย่างอื่น



“ลุกไปอาบน้ำ เดี๋ยวกูหาไรให้กิน มึงจะได้ไปเรียน” ว่าออกมาแบบนั้นแล้วลุกเดินนำผมออกไปจากห้องนอน ได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างๆของอีกฝ่ายที่ก้าวออกไปจากห้อง ... ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า อิเจ๊พี่มันหล่อมากจริงๆ



เป็นพี่ดาบได้ไหม ถือว่าขอกัน



เอ๊ะ! กูคิดอะไรวะแม่ง! เพ้อแล้วมึงไอ้เอม





               ผมที่ไปอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้ากลับมาใส่ชุดเดิมเมื่อคืน แต่ไม่สกปรกนะครับเพราะเมื่อคืนเจ๊มันเอาไปซักและปั่นแห้งให้แล้วตั้งแต่เมื่อคืน เช้าวันนี้ก็แห้งพอดี ติดแค่มันยับก็เท่านั้น ผมที่เดินออกมาแล้วมองหาเจ้าของห้องไม่เจอ เลยได้แต่เดินตามกลิ่นหอมๆของอะไรบางอย่างเข้าไปในครัวแทน



“เจ๊ทำอะไรอยู่หรอ มีอะไรให้ผมช่วยไหม”



“มี มึงช่วยยกข้าวต้มกุ้งนี่ออกไปที่โต๊ะทีค่ะ”  เจ๊มันที่ว่าแบบนั้นตอนที่หันมามองกันแล้วเริ่มโรยกระเทียมเจียวลงในข้าวต้ม หอมจนต้องสูดกลิ่นแรงๆ



“ใจเย็นค่ะมึง น้ำลายไหลเป็นหมาหน้าร้อนเลยนะคะ”  ดูปากมัน



เลือกที่จะไม่เถียงแล้วยกข้าวต้มสองชามไปวางที่โต๊ะ เห็นอีกฝ่ายที่ยกน้ำและแก้วมาให้ก่อนจะนั่งลงตรงหน้ากัน



“วันนี้มึงมีเรียนเช้าหรือบ่าย”



“มีเช้าอ่ะ” ตอบออกไปแบบนั้นอีกฝ่ายที่ก็พยักหน้ารับรู้ ผมที่ไม่ได้สนใจอะไรแล้วนอกจากการเป่าข้าวต้มร้อนๆแล้วตักเอาเข้าปาก โอ้วววว



“อื้ออออาอ่อยยย”



“ค่อยๆกิน กลืนก่อนแล้วมึงค่อยพูด” อีกฝ่ายที่มองดุนิดหน่อย ก่อนจะเอื้อมมือไปเทน้ำเย็นใส่แก้วให้แล้วเลื่อนมาไว้ข้างๆผม



“เจ๊ อิเชี่ย อร่อยมากๆอร่อยฉิบหายเลยอ่ะ”



“นี่มึงชมหรือด่าคะเอาดีๆ”



“ชมๆ ชมจริงๆ เจ๊นี่ทำอาหารสุดยอดไปเล้ย” ว่าแบบไม่ได้ประจบ อร่อยจริงๆ รสชาติกลมกล่อมที่พอซดน้ำซุบร้อนๆเข้าไปแล้วทำให้รู้สึกดี ข้าวต้มที่ยังเป็นเม็ดเรียงตัวสวยอยู่ในน้ำซุบที่โรยผักชีและต้นหอมซอยและมีกระเทียมเจียวเหลืองๆโรยหน้ามาด้วย กุ้งที่พอกัดเข้าไปแล้วยังเด้งๆหยุ่นๆอยู่ในปาก เหมือนกับว่าอีกฝ่ายเอากุ้งลงไปลวกไม่ได้รอให้ต้มจนเละเลยได้กุ้งที่เด้งแบบนี้ อร่อยจนอยากเลียชาม ...



เงยหน้าขึ้นมายกนิ้วโป้งให้เจ๊มันสองข้างบอกให้มันรู้ว่าอร่อยจริงๆพร้อมยิ้มกว้างๆส่งไปให้ อีกฝ่ายที่มองนิ่งๆใส่ตอนที่เห็นผมยกนิ้วโป้งให้ก่อนจะยิ้มออกมานิดหน่อยพร้อมๆกับส่ายหน้า อะไรว้า



“อร่อยก็กินไปเยอะๆ วันนี้ต้องไปเรียนเดี๋ยวควายตัวน้อยแบบมึงจะไม่มีสมองเรียน”



“เรียกว่าควายน้อยอยู่ได้ เดี๋ยวเอาเขาทิ่มเลยแม่ง” ว่าออกไปแบบนั้นแต่อีกฝ่ายก็ไม่เถียงอะไรออกมาอีกนอกจากตักข้าวเข้าปากแล้วมองผมกินอยู่แบบนั้น ...บ้าบอที่สุด ไม่รู้จะมองไรนักหนา



               หลังจากกินข้าวเสร็จ รอเจ๊มันอาบน้ำไม่นานครับ แต่รอเจ๊มันแต่งหน้าทำผมเนี่ยที่เรียกว่านาน ไม่รู้มันจะทาอะไรนักหนา เห็นตอนแรกบอกต้องทาโทนเนอร์แล้วตามเซรั่มแล้วก็บลาๆๆๆ ไม่รู้ว่าอะไรนักหนา เพราะกูงงตั้งแต่โทนเนอร์นั่นแล้ว มันคืออะไรวะ คล้ายๆกับดินเนอร์ไหม งงนิดหน่อยแต่ไม่เข้าใจมากๆครับ ... หลังจากผ่านไปประมาณชาติเศษในที่สุดเจ๊มันก็เสร็จ ร่างสูงที่อยู่ในเสท่อยืดสีขาวพร้อมคลุมทับด้วยเสื้อยีนส์เท่ๆกับกางเกงยีนส์สีดำ เจ๊มันฉีดน้ำหอมพร้อมแต่งหน้าเขียนคิ้วใส่ต่างหูยาวรูปไม้กางเขน และที่ขาดไม่ได้ก็คือ ... ปากแดกเหมือนโดนใครตบเลือดกบปากมา



“ปากไม่แดงไม่มีแรงเดินค่ะ จำ!” บอกแบบนั้นพร้อมเชิดหน้าขึ้น อินเนอร์เหมือนอัมพัชราภา แต่สารร่างเหมือนนักเพาะกาย



เจ๊มันที่พาผมกลับมาที่ร้านเพื่อเปลี่ยนชุดนักศึกษา วันนี้มีเรียนเช้า9โมงครับ เลทได้ถึง9โมงครึ่ง ตอนที่ถึงร้านก็ใกล้ๆจะ8โมง เพราะแบบนั้นยังไงก็ทัน ผมที่ขึ้นไปเปลี่ยนชุดที่ห้องทำงานของเจ๊มันแล้วเดินลงมาข้างล่าง



“ไอ้เอม เมื่อคืนมึงหายไปไหนวะ กูนี่ตามหาตัวมึงจนเหนื่อย” เสียงเรียกที่ต้องทำให้หันไปมอง และก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นไอ้โก้ที่อยู่ในชุดเสื้อยืดและกางเกงบอล หัวมันยังดูยุ่งๆแต่ในมือมีน้ำเต้าหูกับปาท่องโก๋ ... เหมือนกับว่ามันตื่นแล้วไปหาซื้ออะไรมากิน



“อ๋ออ พอดีมีเรื่องนิดหน่อยมึง”



“เรื่องอะไรวะ บอกกูได้นะเว่ย” มันที่ว่าแบบนั้นพร้อมๆกับวงแขนแกร่งที่พาดมาที่ไหล่ของผมอย่างสนิทสนม



“ไม่มีไรมากหรอกมึง เคลียร์แล้ว” บอกออกไปแบบนั้นพร้อมส่งยิ้มให้ อยากจะบอกว่าจริงๆไม่ใช่กูที่เคลียร์ แต่เป็นเจ๊เจ้าของร้านนี่ล่ะที่เป็นคนเคลียร์ให้



“แล้วนี่มึงจะไปไหน เรียนหรอวะ”



“อืม วันนี้กูมีเรียนเช้าว่ะ” บอกแบบนั้นแล้วอีกคนก็พยักหน้าเข้าใจ มันที่ค่อยๆไล่สายตามองหน้าผมแล้วไล่ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า รู้สึกอึดอัดนิดหน่อยกับสายตาของมัน ไอ้ห่านี่เป็นอะไรถึงชอบมองกันด้วยสายตาแปลกๆแบบนี้เรื่อยเลยวะ



“มองเหี้ยไรวะ”



“หึหึ เปล่า กูก็แค่คิดว่า....” ลากเสียงยาวจนกูต้องลุ้นตาม หน้ากูนี่ลุ้นมากๆ ลุ้นจนขี้จะแตกแล้วไอ้สัด



“หน้ามึงลุ้นมาก เหมือนคนปวดขี้เลยว่ะ ฮ่าๆๆ” ไอ้สัด บันเทิงในยาวเช้า กวนตีนกูละ สักทีไหมแม่งไอ้ไข่ย้อย



“สัด กวนตีน”



“ฮ่าๆ งอนหรอวะ พองแก้มเลย ไหนๆเอาหน้ามาให้กูหอบปลอบหน่อยมา”



“ไปไกลๆไอ้สัด กูไม่ได้งอนโว้ย” ผมที่ว่าแบบนั้นแต่อีกฝ่ายก็ยังดึงดันที่จะเอาหน้าเข้ามาใกล้ มันที่กอดไหล่ผมไว้แน่น ได้แต่พยายามดิ้นออกห่างตัวแต่ก็สู้แรงมันไม่ไหว



“เล่นอะไรกันวะ” เสียงเข้มที่ดังขึ้นมาเป็นระฆังช่วยชีวิตกูอีกแล้ว หันไปมองก็เห็นเจ๊ดานี่ที่ยืนกอดอกมองตรงมาที่เราสองคนอยู่หน้าประตูทางเข้าของร้านด้วยสายตานิ่งๆ ... เจ๊มันเป็นอะไรวะ หรือปวดขี้ด้วยอีกคน? แต่ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม แต่ก็ขอบคุณที่เจ๊เข้ามาพอดี ผมที่สะบัดตัวออกจากไอ้โก้และมันก็ปล่อยตัวผมออกอย่างง่ายๆในตอนที่เห็นหน้าเจ๊มัน



“ฮ่าๆ แค่ล้อมันเล่นน่ะจ๊ะเจ๊ เจ๊คนสวยกินไรยัง กินน้ำเต้าหู้กับผมไหมครับ” ไอ้โก้ที่หันไปยิ้มหวานแล้วประจบเจ๊มันเหมือนทุกที



“ไม่แดก มึงเก็บไว้แดกเองเถอะ ไอ้หนูน้องบ๋อย มึงไม่ไปเรียนหรอคะ”



“ไปๆเจ๊” ตอบอีกคนออกไปแบบนั้นแล้วหิ้วกระเป๋าเป้ามาสะพายดีๆ หลังจากที่เมื่อกี้ยื้อยุดกับไอ้โก้จนมันร่วงลงไปที่พื้น  ผมที่ไม่ได้หันไปบอกลาหรือพูดอะไรกับไอ้โก้อีก ทำแค่ตอบรับเจ๊มันแบบนั้นแล้ววิ่งออกจากร้านไป ...



คนร่างสูงที่มองตามแผ่นหลังบางที่วิ่งออกจากร้านไปนิ่งๆ แล้วหันมามองหน้าของลูกน้องในร้านที่ก็มองตามร่างบางๆนั่นไปไม่ต่างกัน เจ้าของร้านร่างสูงไม่ได้พูดอะไร ทำเพียงแค่เดินตามคนที่พึ่งวิ่งผ่านหน้าตัวเองออกไปโดยไม่สนใจลูกน้องที่กำลังจะอ้าปากชวนไปกินน้ำเต้าหูอีกรอบ



“อิหนูน้องบ๋อย”



“หื้ม อ้าวเจ๊มีอะไรหรือเปล่าครับ” ผมที่หันหลังกลับไปมองและเห็นว่าเป็นอิเจ๊ดานี่ที่เดินหน้าหงิกตามหลังกันออกมาจากร้าน คือเจ๊มันเป็นอะไรวะ หรือเมื่อกี้ตอนกูวิ่งออกมาเผลอเหยียบตีนมันหรอวะ เชี่ย จริงป่ะเนี่ย ทำไงดีวะตัวกู



“กูบอกมึงแล้วไงว่าอย่าเล่นกับไอ้โก้มากไป นี่มึงโง่หรือไม่มีสมองเอาดีๆ”



“เอ้า เจ๊มาด่าผมทำไมวะ ผมก็ไม่ได้เล่นกับมันสักหน่อยอ่ะ”



“นี่มึงจะบอกกูว่ามึงเอาจริงหรอคะ ห๊ะ!” อีกฝ่ายที่ขึ้นเสียงใส่กันพร้อมๆกับเท้าเอวใส่ด้วย คือเดี๋ยวนะ กูทำอะไรผิดนะ



“อะไรของเจ๊วะ ไม่เข้าใจเลย ... แต่ถ้าเจ๊จะหมายถึงเมื่อกี้ผมไม่ได้เล่นกับมันนะ”



“เอ๊ะนึ่มึง!....”



“มันอ่ะพุ่งเข้ามาประชิดตัวผมเองนะ ผมไม่ได้เล่นกับมันเลยนะเจ๊” ว่าต่อออกไปแบบนั้น กลัวเจ๊มันเข้าใจผิดหาว่าผมเล่นเกินงามกับเด็กในร้านของมัน จริงๆเจ๊มันอาจจะหวงเพราะจำได้ว่าครั้งก่อนเจ๊มันบอกไอ้โก้กล้ามล่ำ บางทีเจ๊แกอาจจะเล็งมันมานานแล้ว



“อ่อ แบบนี้นี่เอง”



“จริงๆนะ” ผมรีบพยักหน้าสำทับอีกรอบเลย พอบอกออกไปแบบนั้นก็เหมือนว่าสีหน้าของคนตรงหน้าจะดีขึ้นมาจากเมื่อกี้นี้หน่อยนึง



“แล้วนี่มึงจะไปเรียนยังไงคะ” อีกคนที่เปลี่ยนเรื่องดื้อๆแบบนั้น ไอ้เอมค่อนข้างจะตามไม่ทัน แต่ก็ยอมจะตอบเจ๊พี่มันออกไป



“ผมว่าจะโบกวินไปขึ้นบีทีเอสอ่ะเจ๊ แต่นี่แม่งยังไม่เห็นสักคัน”



“เวลาแบบนี้หายากค่ะ” ก็คงจะจริงแบบเจ๊พี่มันว่า ช่วงเวลาเร่งรีบในเมืองกรุงแบบนี้ พี่วินก็เลยยิ่งหายาก



“กูไปส่งไหมคะ”



“ห๊ะ”



“เดี๋ยวกูไปส่ง กูจะไปทำธุระแถวมอมึงอยู่พอดี”



“แต่รถใหญ่แบบเจ๊ รถมันติดอ่ะ” กว่ากูจะไปถึงมอก็น่าจะโดนอาจารย์ล็อคห้องไปแล้วล่ะแบบนั้น



“ใครบอกมึงว่ากูจะขับรถเก๋งไปวะ มึงรอกูอยู่นี่”  อีกฝ่ายที่บอกแบบนั้นแล้วเดินหายไปทางหลังร้าน ไม่เข้าใจว่ามันเดินไปหาอะไร แต่รอไม่นานเท่าไหร่ก็เข้าใจเลยว่าเจ๊มันเดินไปหาอะไร  เสียงของท่อมอเตอร์ไซด์ที่ดังมาพร้อมๆกับตัวรถยามาฮ่าวายแซดเอฟ-อาร์วันสีน้ำเงินดำที่ถูกขับมาจอดอยู่ตรงหน้าผมทำเอาอ้าปากค้าง เจ๊ดานี่ที่กำลังคล่อมตัวอยู่บนบิ๊กไบค์คันเท่ ฝ่ามือข้างนึงที่จับอยู่ที่แฮนด์มอไซด์ ส่วนมืออีกข้างก็ยื่นหมวกกันน็อคมาให้ผม



“ขึ้นมาค่ะควายน้อย เดี๋ยวกูไปส่งเอง”  ผมที่ยังอึ้งๆได้แต่รับหมวกมาแล้วสวมเข้าไปแบบงงๆ ก่อนจะปีนขึ้นไปซ้อนท้ายอีกคนอย่างมึนๆ ก่อนที่ความรู้สึกอุ่นๆจะทำให้ผมได้สติ ฝ่ามือของอีกคนที่เอื้อมมาจับแขนของผมไปกอดไว้ที่เอวของเจ้าตัว ได้ยินเสียงที่ลอดออกมาจากหมวกกันน็อคนั่นว่า



“กอดไว้ค่ะ รถมันแรงเดี๋ยวมึงจะตก”



ตกอะไรไม่รู้... แต่ตอนนี้กูตกใจมากกว่า



ตุ๊ดเชี่ยอะไรขี่บิ๊กไบค์วะมึง!



.

.

.




‘เอี๊ยดดดดด’



เสียงล้อรถบิ๊กไบค์ที่เสียดสีเข้ากับพื้นถนนของมหาลัย และในที่สุดมันก็ถูกจอดลงตรงหน้าคณะของผมอย่างพอดิบพอดี ผมที่ค่อยๆปีนลงมาจากบิ๊กไบค์คันใหญ่นี่อย่างขาสั่นๆแอบจะอ่อนแรงเล็กๆ ... กูยังมีชีวิตอยู่ใช่ไหมเนี่ย เมื่อกี้กูนึกว่าเดอะฟาส แต่กูกลัวมาก กลัวว่าจะฟาดลงไปที่พื้น อิเชี่ยเอ๊ย เจ๊บไข่อยากร้องไห้!



เจ๊แม่งบิดไม่ยั้ง เอียงซ้ายเอียงขวาลัดเลอะมาตามถนน เสียวมากๆ เสียวว่ากูจะฟาดไถลไปกับพื้นถนน เป็นช่วงเวลาตื่นตกใจในยามเช้า

คนร่างสูงที่ค่อยๆหันหน้ามามองผม ก่อนที่เจ้าตัวจะถอดหมวกกันน็อคออกช้าๆพร้อมกับเงยหน้ายกมือขึ้นเสยผม สุดแสนจะเท่ ไอ้เอมอยากวิ่งไปกรี๊ดอัดหมอน หล่อแบดๆแม้จะปากแดง!



“มึงขยับมานี่”



เจ๊มันที่ว่าแบบนั้นตอนที่ผมกำลังพยายามจะปลดสายคาดหมวกกันน็อคออกจากหัว แต่แม่งเอาออกไม่ได้ เป็นมันทุกรอบ เวลานั่งวินกูก็เป็น กูงงมากว่าทำไมถึงถอดไม่ออก เวลาขึ้นวินแล้วถอดไม่ออกนี่โคตรจะอายเลยครับ ... แต่ครั้งนี้แตกต่างตรงที่อีกฝ่ายจับผมให้หันหน้าเข้าไปหาเจ๊มันแล้วมันก็ค่อยปลดล็อคสายรัดนั่นออกแล้วถอดหมวกกันน็อคออกจากหัวให้ เป็นช่วงเวลาที่เงยหน้าสบตากับอีกฝ่าย บรรยากาศแปลกๆที่ไม่เข้าใจว่าแปลกตรงไหน แต่สุดท้ายก็ได้แต่ก้มหน้าหลบตาและรอยยิ้มของคนตรงหน้าที่ส่งมาให้



มึงยิ้มอะไรเจ๊ มึงหยุดนะ หยุดยิ้มเลยนะเห้ย



“ตั้งใจเรียนล่ะควายน้อย”



“อ..อื้ม ขอบคุณครับ” ได้แต่ตอบอ้อมแอ้มออกไปแบบนั้น เป็นเชี่ยอะไรวะไอ้เอม



“ควายน้อย”



“อะไรเจ๊...”



“มึงแก้มแดงอีกแล้วว่ะ สงสัยอากาศมันจะร้อนมากๆเนอะ”



เรื่องกูเจ๊ !! ไม่ยุ่งกับหน้ากูได้ไหม ถือว่าขอกันแค่นี้!!



ไม่ฟังว่าอีกฝ่ายจะพูดแกล้งอะไรกันอีก ผมที่ก็แค่หันหลังและวิ่งออกมาจากหน้าคณะทันที ได้ยินเหมือนเสียงหัวเราะดังตามมาแว่วๆ อยากจะหันไปท้ามันต่อยสักฝุ่น แต่คิดอีกทีไม่เอาดีกว่า ... เดี๋ยวโดนมันล้อเรื่องแก้มอีก



...



“อิน้องเอมมมม มึงมาแล้ว มาๆๆๆ” เสียงโหวกเหวกโวยวายที่มาพร้อมฝ่ามือสวยๆที่กวักโบกเรียกผมอย่างไม่อายใคร แม้ว่าตอนนี้จะอยู่ในโรงอาหารก็ตาม



“ป้า อย่าเสียงดังสิวะ”



“กูไม่ได้เสียงดังนะอิเอม กูแค่เสียงก้องกังวานค่ะ” มันที่ว่าออกมาแบบนั้นพร้อมฉีกยิ้มหวาน วันนี้ก็ยังสวยเพราะแต่งหน้ามาจัดครับ ผมที่นั่งลงที่โต๊ะข้างๆมัน ฝั่งตรงข้ามเป็นไอ้เก้อที่กำลังมองหน้าผมอยู่นิ่งๆ



“ไงมึง ทำไมหน้าเครียดๆวะ หิวขี้หรอ” ผมที่หันไปทักทายไอ้เก้ออย่างแกล้งๆไม่ต่างจากทุกวันที่ชอบทำ ไอ้เก้อทำหน้าเพลียๆส่งมาให้แบบระอา



“มึงมาไงวะไอ้เอม”



“กูหรอ วันนี้มีราชรถมาเกยจ้า” ตอบมันออกไปแบบนั้นแล้วยิ้มร่า แม้ว่าก่อนหน้านี้กูจะเฉียดตายและแก้มพึ่งร้อนมาหมาดๆก็ตาม



“ราชรถอะไรมาเกยมึงคะ หรือว่ามึงโดนรถเฉี่ยว ไหน ขอกูดูหน่อย มึงเจ็บไหมคะหนูลูก หนูดาวพระสุขของแม่”



“ป้า มึงไม่ต้องเล่นใหญ่รัชดาลัยเธียเตอร์ขนาดนี้ก็ได้นะ”  ว่าออกไปแบบเอือมๆ เลยโดนป้ามันผลักหัวมาที



“แล้วสรุปว่าคืออะไร” ไอ้เก้อที่เป็นฝ่ายลากกลับเข้าเรื่อง ผมที่ก็ยิ้มกว้างออกมาตอนที่เล่าให้พวกมันฟังว่าวันนี้เจ๊ดานี่มาส่ง



“มึงจะบอกกูว่าเจ๊ดานี่ขี่อิจุ๊บจิ๊บมาส่งมึงหรอวะ”



“จุ๊บจิ๊บคือเหี้ยอะไรก่อน?” งงจนกูต้องถามย้ำ ไอ้หยีที่ทำหน้าละเหี่ยใจเหมือนกับว่าผมนี่ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลยส่งมาให้ และใช่ กูไม่รู้อะไรน่ะถูกแล้ว ไม่รู้ตั้งแต่อิจุ๊บจิ๊บจุ๋มจิ๋มอะไรนั่นแล้วล่ะ



“อิจุ๊บจิ๊บก็คือบิ๊กไบค์เจ๊แกนั่นแหล่ะ มันชื่อจุ๊บจิ๊บ จำได้ว่าอิเจ๊ชอบขี่ไปมหาลัยเมื่อก่อนบ่อยๆ แต่นานแล้วที่ไม่เห็นพี่แกเอาออกมาขี่ แถมคันนี้ยังโคตรจะหวง ปกติแกไม่ค่อยยอมให้ใครซ้อนหรอกนอกจากสาวๆหรือเมียเก่าๆเจ๊มัน” ไอ้หยีที่เล่าออกมาแบบออกรสออกชาติ



“ตั้งชื่อได้สาวแตกเหมือนเจ้าของฉิบหาย” ผมว่าออกไปแบบนั้น



“มึงบอกกูว่าเจ้าของร้านที่ไอ้เอมไปทำงานนี่เป็นตุ๊ด” ไอ้เก้อที่หันไปถามไอ้หยีแบบนั้น



“ใช่ค่ะ”



“แต่มันขี่บิ๊กไบค์มาส่งไอ้เอมเนี่ยนะ”



“แล้วมันจะแปลกตรงไหนล่ะวะผัวเก้อ จริงๆเจ๊แกมาส่งอิเอมนี่ก็ดีนะคะ มันประหยัดค่ารถไฟฟ้าไปอีกอ่ะ”



“เออ จะว่าไปจริงๆเจ๊มันก็ใจดีแบบที่มึงบอกกูนะป้า เมื่อวานเจ๊มันช่วยกูเยอะเลย” ผมหันไปมองเพื่อนๆอีก ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าจริงๆมันก็เป็นคนมีน้ำใจ ถึงแม้จะกลัวตีนและชอบทำท่าแด๊ะแด๋ตลอดเวลาให้รำคาญลูกตาก็เถอะ



“มันเป็นตุ๊ดหรอวะ”



“ก็ใช่น่ะสิคะ เจ๊มันเป็นตุ๊ด ตุ๊ดปากแดงๆเลยค่ะ”



“แต่เป็นตุ๊ดที่ขี่บิ๊กไบค์และพาไอ้เอมไปนอนที่คอนโด”



“ก็ใช่ไง ทำไมวะ” เป็นผมที่ว่าแบบนั้น แล้วก็ได้แต่หันไปมองหน้าไอ้หยีที่ก็แค่นยักไหล่ตอบกลับมา อารมณืเหมือนว่าไม่เข้าใจว่าไอ้เก้อจะถามซ้ำซากทำไม



“ไอ้เอม”



“ว่าไงเพื่อน”



“คืนนี้กูอยากเที่ยวว่ะ”



“แล้ว”



“ไอ้หยี”



“ว่าไงคะผัวเก้อ”



“คืนนี้ไปเที่ยวที่ร้านไอ้เอมทำงานกัน กูอยากเห็นหน้าเจ้านายไอ้เอมมันสักหน่อย”



ไอ้เก้อที่ว่าออกมาแบบนั้น ผมก็ไม่ว่าอะไรต่อ จะไปก็ไปสิ อีกอย่างถ้าไอ้เก้อไป กูจะไถทิปมันมาให้ได้หลายๆพันเลยครับโผ้ม!



--------------To be continued--------------



มาแล้วจ้าาาา อิ๊อ๊ะ ... เจ๊ดานี่ชอบแกล้งน้องเอม เป็นกำลังใจให้น้องเอมด้วยนะคะ

แต่ว่า...ขอพูดแบบน้องเอมเลยว่า เป็นพี่ดาบได้ไหม ฉันอยากได้พี่เค้า อ๊ายยยย

มามะ สำหรับตอนนี้ยาวๆกันไปเกือบ20หน้าA4เลยนะคะ คอมเม้นท์ต้องมาแล้วน้า

เป็นยังไงกันบ้างเชิญหวีดเลยค่ะ

และสามารถเข้าไปติดแฮชแทค #สวยๆเป็นผัว ในทวิตเตอร์กันได้นะคะ ขอเชิญชวนให้ไปหวีดน้า

ขอบคุณหลายๆท่านที่ไปหวีดและรีวิวแนะนำนิยายเรื่องนี้ในทวิตเตอร์ให้แคทนะคะ ดีใจจจจจจ
 :mew1: :katai4: :pig4:


(https://sv1.picz.in.th/images/2019/11/10/gliaee.jpg)
(Cr.Pic by goodbyemy_b)

หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่5 {09/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 09-11-2019 21:17:59
 :laugh: :z1: :laugh:

 :L2: :pig4: :pig4: :L2:

 o13
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่5 {09/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 09-11-2019 21:41:28
อื้อหือออร่าผัวกลบปากแดงๆได้เลยอะพี่ดาบขา
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่5 {09/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 09-11-2019 22:19:08
 :hao3: อีหนูปีนขึ้นไป หรืออีเจ๊ลงมาอุ้มกันแน่คะ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่5 {09/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 10-11-2019 00:20:25
อิเจ้แอบคิดอะไรกะน้องมันแน่ๆ แล้วใช่ไหม. ดูมีอาการหวง .  มีอาการขี่บิ้กไบท์มาส่งเด็กด้วย  :hao3:

เจ้อะไรโครตเท่อ่ะ.  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่5 {09/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 11-11-2019 21:03:32
สงสัยเจ๊ดานี่ ชอบชายอยู่แล้ว
และก็เป็นตุ๊ดเพราะรำคาญชะนี ที่เข้าแถวจีบ จนแถวยาวไปถึงกำแพงเมืองจีน  :m20: :laugh:
แล้วดูๆเจ๊จะติดใจเอมซะและ  :-[
เจ๊ดานี่เป็นสาวเสียบนี่เอง  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่5 {09/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 12-11-2019 23:39:39
ติดตามจ้า  :L2:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่5 {09/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 13-11-2019 06:55:47
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่5 {09/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 14-11-2019 22:14:18
เจ๊หลอกเด็ก,,,
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่5 {09/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: no.fourth ที่ 15-11-2019 03:57:14
#ปากแดงๆเป็นผัว
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่6 {16/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 16-11-2019 20:23:13
บทที่6



“มึง เลิกเรียนแล้วกูจะกลับไปที่ร้านก่อนนะ”



“ไปทำไมวะ อิเจ๊ดานงดานี่อะไรนั่นมันสั่งมึงหรอ สัด ใช้แรงงาน”



“ใจเย็นครับเพื่อนเก้อ เจ๊มันไม่ได้สั่งกูหรอก แต่กูแค่อยากกลับไปจัดของให้เรียบร้อยเฉยๆน่ะ”



ผมที่หันไปอธิบายกับไอ้เก้อ มันที่ทำหน้าหงิกเหมือนมีขี้จ่ออยู่ใต้จมูกส่งมาให้กัน คิ้วเข้มๆนั่นก็ขมวดนิดๆ ... ไม่รู้ว่าเป็นห่าอะไร



“ผัวเก้อและอิเอม กูมาแล้วค่ะ” สรรพนามเรียกชื่อดูก็รู้ว่ารักเพื่อนแบบเท่าเทียม ถุย!



“ขี้นานอะไรขนาดนั้นวะป้า”



“เอ๊ะอิผัวคะ มึงเข้าใจอาการของคนขี้รั่วไหม มันพลั่งพรูออกมาแล้วมันหยุดไม่ได้ เราจะขมิบมันไว้มันก็เล็ดออกมาอีก มึงจะให้กูเดินออกมายังไงทั้งๆที่มันยังปริ่มออกไม่หยุด มันก็ไม่ได้ไหมวะ”



“สัด” เป็นไอ้เก้อที่สบถออกมาแบบนั้น และเป็นกูที่ได้แต่ทำท่าอ้วกแตกอยู่ตรงนี้ ก็คือถามกันจริงๆว่าทำไมมึงต้องเล่าละเอียดขนาดเห็นภาพแบบนี้ด้วยวะ



“ก็อยากให้ผัวกับเพื่อนรับรู้ไงคะ” ใครร้องขอหรอ กูถามแค่นี้



“อะ แล้วนี้อิน้องเอมๆของแม่เก็บกระเป๋าไปไหนวะ มึงไม่ไปกินข้าวด้วยกันก่อนหรือไง”



“ไม่เอาอ่ะป้า กูจะรีบกลับไปเก็บข้าวของ”



“มึงมีข้าวของด้วยหรอคะ?” หันมาทำหน้างงๆใส่ ขึ้นเลย ไอ้เอมนี่ขึ้นเลย



“มีสิวะ อยากน้อยๆกูก็ยังมีชุดนอนกางเกงลายช้างแสนน่ารักของกูให้รักษา” ว่าออกไปแบบนั้นไอ้เก้อกับไอ้หนีก็ได้แต่ทำหน้าเพลียส่งกลับมา เอ๊ะ นี่พวกมึงบูลลี่กางเกงลายช้างของกูหรอวะ



“ไปแดกข้าวกับพวกกูก่อน มึงตัวแค่นี้จะมีแรงไปทำงานได้ไงวะถ้าไม่ไปกินข้าว”



“มึงก็เกินไปไอ้สัดเก้อ กูไม่ตายหรอก”



“มึงไม่ตาย แต่กูเป็นห่วง”



มันที่บอกออกมาแบบนั้นแล้วทำหน้าจริงจังเหมือนอยากจะลากกันไปกินข้าวถ้าผมไม่ยอมไปกับมันดีๆ ... ได้แต่ถอนหายใจออกมาหนักๆ จริงๆที่ไม่อยากไปเพราะเหลือเงินที่ใช้ไม่เท่าไหร่ต่างหากล่ะ ถ้ากลับไปที่ร้าน เผื่อจะได้กินข้าวฟรีไงครับ แล้วเพราะแบบนั้นทำไมกูต้องเอาเงินอันน้อยนิดสุดแสนจะจุ๋มจิ๋มของกูออกมาใช่ล่ะโว้ย ... แต่ถ้าพูดออกไปก็กลัวเพื่อนๆผมมันจะจ่ายให้อีก ไม่อยากรบกวนพวกมันแม้ว่ามันจะมีเงินมากก็ตาม



แต่เอาวะ นานๆไปที เดี๋ยวพวกมันจะว่าผมห่างเหินเกินไป



ในตอนที่กำลังจะอ้าปาก เสียงดังๆที่เรียกชื่อผมก็ดังมาจากด้านหลัง



“พี่เอมมมมม พี่เอมครับบบ”



“หื้ม ไอ้อิฐ ไอ้จูน”



ผมที่ว่าออกมาแบบนั้นพร้อมทำหน้างงๆเมื่อมองเห็นไอ้อิฐที่อยู่ในชุดเสื้อช็อปสีน้ำเงินวิ่งหน้าสลอนเข้ามาอย่างร่าเริง ตามหลังมันมาเป็นใบหน้าน่ารักๆของไอ้จูนที่เดินตามไอ้อิฐเข้ามา ไอ้จูนที่กำลังทำหน้าบ่งบอกว่าทั้งอายทั้งอยากด่าไอ้อิฐไปพร้อมๆกัน



“เสียงดังไอ้สัด เบาหน่อยไอ้เหี้ย” ได้ยินมันบ่นออกมาเบาๆแบบนั้น แต่แน่นอนว่าไอ้อิฐก็ไม่ได้นำพา เจ้าของร่างสูงที่ชอบทำนิสัยเด็กๆวิ่งเข้ามาประชิดตัวผม



“พวกมึงมาที่นี่กันได้ไง”



“ผมเรียนที่นี่พี่”



 “พี่เอมหวัดดีครับ”



ไอ้จูนที่เดินตามเข้ามาสมทบยกมือไหว้พวกเรา เป็นเด็กหน้าตาน่ารักที่มีมารยาท มองเห็นมันกระทุ้งศอกใส่ไอ้อิฐด้วยที่นึง ไอ้อิฐเลยยกมือไหว้ตามมา ไอ้เก้อกับไอ้หยีที่ก็ยกมือรับไหว้ตอบมัน



“พวกมึงเรียนที่นี่หรอ” เป็นผมที่ถามย้ำออกไปแบบนั้น ไอ้จูนกับไอ้อิฐก็พยักหน้าตอบกลับมาแบบแข็งขัน



“พวกมึง นี่อิฐกับจูน น้องที่ร้านอ่ะ”

 

“น้องคนนี้เหมือนจะเคยเห็นที่ร้านวันนั้นใช่ไหม จำได้”



“ใช่พี่ เป็นผมเองที่นั่งหน้าหล่อๆกุ๊กกิ๊กอยู่ที่ร้าน” ไอ้อิฐที่บอกแบบนั้นพร้อมยิ้มยิงฟันส่งมาให้



“หล่อตายล่ะไอ้สัด” ไอ้จูนเหมือนจะอดไม่ได้เลยด่าออกมาอีก



“แล้วนี่ทำไมพวกมึงมาที่คณะกูได้วะ”



“พอดีผมลงเรียนวิชาเลือกเสรีเป็นภาษาจีนอ่ะพี่ แต่แม่งเอ๊ย ไอ้ฉิบหาย ยากพ่อยากแม่มันแท้ น้องอิฐท้อมากเลยครับพี่เอม” ว่าแบบนั้นพร้อมทำหน้าเศร้า ถ้าเป็นหมาคงเห็นมันหูลู่หางตกไปแล้วครับ ไอ้อิฐที่ทำหน้าเศร้าหันไปเอาหน้าซบอกไอ้จูน แล้ววงแขนของมันก็รวบเอวของเพื่อนมันมากอดไว้แน่นๆ



“ไอ้สัดอิฐ ปล่อยกู Kเอ๊ย”



“น้องจูน พี่อิฐสุดแสนจะเศร้า ปลอบใจหน่อยจ๊ะ”



“ปล่อยกูไอ้หน้าหนังเป็ด” ไม่ว่าเปล่า ไอ้จูนยกมือขึ้นไปจิกหัวมันแรงๆด้วยเป็นของแถม



“โอ๊ยๆ เจ็บๆ พี่เอมครับน้องอิฐเจ็บหนังหัว”



ผละออกมาจากไอ้จูนก็มาเกาะแขนผมพร้อมทำหน้าสำออย ผมกับไอ้หยีที่ขำก๊ากออกมาตอนเห็นไอ้เด็กร่างสูงใหญ่ผิวแทนแต่กำลังทำหน้าอ้อนน้ำตาคลอแบบนั้นแล้วอดขำไม่ได้จริงๆ มีแต่ไอ้เก้อที่มองดูภาพเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยสายตานิ่งๆ ก่อนมันจะโพล่งออกมาว่า



“ไอ้เอม ไปแดกข้าวได้แล้ว”



“เห๋ พี่เอมจะไปกินข้าวหรอพี่”



“เออ กูจะพามันไป มึงมีปัญหาอะไรวะ” เป็นไอ้เก้อที่ตอบออกมาแบบนั้น มันที่จ้องหน้าไอ้อิฐแบบติดจะหาเรื่อง ทำเอาไอ้อิฐขมวดคิ้วจ้องมันแบบเริ่มจะหัวอุ่น



“ผมจะมีปัญหาอะไรวะ ก็แค่เจอพี่ที่รู้จักเลยแวะเข้ามาทัก แล้วมันมีเหี้ยอะไรวะ” ไอ้อิฐที่ตอบกลับออกไปแบบนั้น น้ำเสียงของมันที่ไม่มีแววขี้เล่นเหมือนก่อนหน้านี้ จ้องไอ้เก้อแบบพร้อมจะบวก เป็นผมที่เห็นสถานการณ์ไม่ดีเลยเดินขึ้นมาหนึ่งก้าวขวางพวกมันเอาไว้ มองเห็นไอ้จูนเองที่ก็ทำหน้าไม่พอใจ แต่ก็เอื้อมมือไปคว้าแขนไอ้อิฐไว้เหมือนกัน



“เห้ยๆ เป็นเหี้ยอะไรกันครับทุกคน อากาศร้อนสินะๆ ใจเย็นๆกันหน่อยสุดหล่อ แต่ถ้าหล่อตาหลุดคือกูจ๊ะ” ว่าออกไปแบบนั้นพร้อมยิ้มเฮฮา แต่เหมือนว่ากูจะฮาอยู่คนเดียว เอี๊ยดๆ มุขฟืดจนหน้ากูล้า



“อิเอมคะ เดี๋ยวกูกับไอ้เก้อไปรอที่รถนะมึง” ไอ้หยีที่ว่าแบบนั้นแล้วหันมายิ้มให้ไอ้อิฐกับไอ้จูน มองเห็นมันที่ดึงแขนไอ้เก้อไป แต่เหมือนไอ้เพื่อนหมีควายนี่จะไม่ยอม มันที่ยังยืนนิ่งๆอยู่ตรงนั้น มองมาที่ผมกับไอ้อิฐเหมือนเราสองคนไปติดหนี้มัน ... ไอ้อิฐคงไม่ แต่กูนี่ติดไหม ชักไหมแน่ใจแล้วสิ แบบว่าช่วงไม่มีอันจะกินเคยยืมเงินอ่ะนะ แต่คือรึยังวะ คิดสิคิดไอ้เอม



“พวกมึงไปรอที่นั่นก่อนละกันเดี๋ยวกูตามไป” บอกออกไปแบบนั้นแล้วส่งยิ้มหวานไปให้ ไม่ได้หรอก เผื่อกูลืมจ่ายหนี้จริงๆ ไอ้เก้ออาจใจดีแกล้งทำลืมๆกันไป ถ้าใจเราด้านพอ หน้าเราก็จะไม่รู้สึกอายครับ  ...



ไอ้เก้อที่หันมามองหน้ากันแบบไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ แต่สุดท้ายมันก็ยอมหันหลังเดินตามไอ้หยีไปแบบไม่ค่อยยินดี เอาจริงๆก็คือไอ้หยีทั้งฉุดกระชากลากถูมันไป



“เพื่อนพี่เป็นเหี้ยอะไรวะพี่เอม” ไอ้อิฐที่ว่าออกมาแบบนั้น มันที่ยังมองตามหลังไอ้เก้อไปแบบฉุนๆ ก็เข้าใจได้อ่ะนะ เป็นกูก็คงหงุดหงิดเหมือนกัน รู้จักก็ไม่รู้จักเสือกมาถามแบบกวนตีนอีก



“กูว่ามันเป็นเมน มึงอย่าสนใจแม่งเลยว่ะ” บอกแบบนั้นแล้วยื่นมือไปตบๆไหล่มัน ไอ้อิฐที่ถอนหายใจเฮือกใหญ่แบบหงุดหงิด ก่อนจะค่อยๆเงยหน้ามายิ้มให้กันใหม่แบบร่าเริง เป็นคนเปลี่ยนอารมณ์ง่ายนะมึงเนี่ย



“พี่เอมจะกลับร้านเมื่อไหร่ ให้พวกผมรอเปล่า จะได้กลับไปพร้อมกัน” ไอ้อิฐพูดออกมาแบบนั้น เป็นเด็กที่มีน้ำใจดี



“ไม่ต้องหรอกมึง เดี๋ยวกูไปหาข้าวกินกับพวกมันก่อนแล้วเดี๋ยวตามกลับไป เอ้อ แล้ววันนี้พวกเพื่อนกูมันจะไปเที่ยวที่ร้านด้วยนะ กูต้องรีบกลับไปวางแผนถลุงทิปพวกมัน” ว่าแบบนั้นพรางยิ้มกว้างส่งไปให้   



“แบบนั้นพี่อย่าลืมเรียกผมไปเสริฟกับพี่นะ” ไอ้จูนที่บอกแบบนั้น



“แน่นอนอยู่แล้วไอ้น้อง” บอกมันออกไปแบบนั้นแล้วหันไปแทคมือกับไอ้จูน เราสองคนที่หัวเราะใส่กัน เป็นไอ้อิฐที่ทำหน้างอใส่



“เหอะ ทิปจากโต๊ะหรอวะ กูไม่ง้อหรอก ยืนหล่อๆผสมคอกเทลเก๋ๆกูก็ได้เหมือนกันจ๊ะ”  ขิง นี่มึงขิงกูสินะๆ



“เออพี่เอม จริงๆที่ร้านก็มีข้าวกินฟรีนะพี่” ไอ้จูนว่าออกมาแบบนั้นด้วยความหวังดี แต่ยิ่งทำให้ใจกูห่อเหี่ยวเข้าไปอีก ฮื่อ กูยิ่งไม่อยากเสียเงินอยู่นะ มึงอย่าย้ำเตือนกูสิ



“ใช่ เจ๊พี่ดาบมันอ่ะชอบทำให้กิน อร่อย ฟรี และดีด้วย”



“อ่ะ...อ่อ คือ...คือปกติเจ๊มันชอบทำกับข้าวให้ลูกน้องกินหรอวะ”



“ช่ายย จริงๆน้องอิฐว่าไม่ได้ชอบหรอกมั้ง แต่เวลาเจ๊พี่มันจะกิน มันก็จะทำเผื่อคนที่อยู่ด้วยอ่ะ เจ๊พี่มันใจดี” ไอ้อิฐว่าออกมาแบบนั้นแล้วยิ้มกว้างๆตอนที่พูดถึงเจ้าของร้านตุ๊ดยักษ์นั่น



“อ่อหรอ” ตอบรับกลับไปพร้อมรอยยิ้มแค่นั้น ก็ไม่รู้ว่าจะต้องตอบอะไรมากไปกว่านั้น แต่ในใจก็แค่คิดขึ้นมาว่า



ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง ... จริงๆเจ๊มันก็ใจดีแบบนี้กับทุกคนเป็นปกติอยู่แล้วสินะ



...



“โอ้โหๆๆ กลับมาเป็นแพ็คคู่อีกแล้วนะคะ แบบนี้เรียกอะไรดีคะ คู่จิ้นประจำร้านDaniworldหรือเปล่าน้า”



“ถ้าไม่ใช่เจ๊พี่มึงพูดนะ อิฐจะตอบกลับว่า คู่จิ้นพ่อง!”



“เอ๊ะ นี่มึงด่ากูหรือเปล่าคะอิห่าอิฐ” ว่าออกไปแบบนั้นพร้อมๆกับถลึงตาใส่ของคนที่เดินเข้ามาใหม่สองคน สไอ้อิฐกับไอ้จูน สองคนนี้มันเป็นเพื่อนสนิทกัน เห็นว่ารู้จักกันมาตั้งแต่ยังเด็กแล้วก็เรียนด้วยกันมาตลอด เอาจริงๆในสายตาของผม อีกนิดนึงมันสองคนก็แต่งงานกันได้แล้วล่ะถ้าพวกมึงจะสนิทและอยู่ในทุกช่วงชีวิตกันขนาดนี้ และเพราะแบบนั้นเลยอดที่จะแซวพวกมันไม่ได้



“เจ๊กินไรอ่ะ” ไอ้จูนที่เดินหน้าแป้นแล้นตามหลังไอ้อิฐเข้ามาไม่สนใจในคำแซว มันที่แค่เดินทำจมูกฟุดฟิดตามกลิ่นเข้ามาแล้วหยุดลงตรงหน้าของผม



“กระหล่ำปลีผัดน้ำปลาไข่ข้นกุ้งค่ะ”



“เชี่ย หิวอ่ะ ขอกินด้วยคนได้ไหมพี่ดาบ จูนยังไม่ได้กินอะไรเลยอ่า” ว่าแบบนั้นพร้อมช้อนสายตามองกันแบบอ้อนๆ ไอ้จูนมันหน้าตาน่ารักครับ มองๆแล้วคิดถึงน้องคนเล็กของตัวเอง มันสองคนคล้ายกัน แต่น้องชายผมมันค่อนข้างร่าเริงและขี้โวยวายมากกว่า เหมือนเป็นสันดานของน้องคนเล็กที่ถูกตามใจ แต่ไอ้จูนมันเป็นเด็กสู้ชีวิตเพราะครอบครัวไม่ได้รวยอะไรมาก นิสัยมันเลยจะนิ่งๆมากกว่า ถ้าไม่ได้รู้จักสนิทๆ ก็ไม่ค่อยได้เห็นมันในมุมนี้หรอกครับ ... แต่เอ๊ะ เมื่อกี้นี้นั้น



“กูจะไม่ให้มึงกินก็เพราะเรียกกูดาบนี่แหล่ะค่ะ! โปรดเรียกสวยว่าดานี่ค่ะ!!” มองแรงใส่พร้อมย้ำออกไปอีกครั้งด้วยเสียงสูงที่แหลมสุด ... หมายถึงสุดความสามารถของกูที่จะแหลมได้



“เออๆ เจ๊ดานี่คนสวย ขอจูนกินด้วยน้า”



“น้องอิฐด้วยจ๊ะพี่จ๋า”



“เออๆ ไปตักข้าวกันมาเองเลยพวกมึง น่าเบื่อจริงๆพวกห่า เอะอ่ะขอกูแดกตลอดค่ะ”



“ก็เจ๊พี่มึงก็ตั้งใจทำให้พวกเราอยู่แล้วไม่ใช่หรอวะ อิฐรู้อิฐเข้าใจ”



“เข้าใจพ่องมึงค่ะ กูไม่ได้ตั้งใจทำให้พวกมึงแดก แต่พวกมึงหน้าด้านมาขอแดกเอง คนสวยๆแบบกูจะใจดำ มันก็ไม่ใช่ไหมคะ มันไม่เหมาะกับหน้าตาสวยๆของกู”



“พูดไปเรื่อยแบบต้องคีพลุคอ่ะเนาะ” ไอ้จูนที่วิ่งไปตักข้าวกลับมาเพิ่มอีกสองจานว่าออกมาแบบนั้น



“ใช่ค่ะคีพลุคคนสวยๆ”



“ใช่ๆ เจ๊พี่มึงต้องคีพลุคคนสวย เพราะปกติลุคคนหล่อชอบหลุดออกมาตลอดๆแบบไม่ได้เชื้อเชิญก็ยังหลุด”



“จริงเพื่อนอิฐ”



“ฮ่าๆๆ/ฮ่าๆๆ”



รับส่งมุขกันโบะบะ ตลกเฮฮาเหมือนกูไม่ได้นั่งอยู่ตรงนี้ด้วย ...พวกเวร 



‘แปะ/แปะ’



“โอ๊ย”



“โอ๊ย เจ็บนะเจ๊พี่มึง”



“สมค่ะ พวกมึงต้องเจอฝ่ามือพิฆาตของสวย จะแดกไหม ร่าเริงเหมือนแดกกัญชามานะคะพวกมึง นั่ง!” ว่าออกไปแบบนั้นไอ้อิฐไอ้จูนก็รีบทรุดลงนั่งที่ม้าหินแบบไม่ต้องให้ด่าอีก ... ปกติผมก็ชอบมากินตรงหลังร้านตรงนี้ประจำ ไอ้พวกเด็กๆในร้านที่เห็น บางครั้งเลยมาขอกินด้วยตลอด แต่บางคนที่เห็นก็ไม่กล้า เพราะถือว่าผมเป็นเจ้าของร้าน แต่ความคิดแบบนั้นคงไม่มีในหัวไอ้สองตัวตรงหน้านี้หรอกครับ



“อื้มมม อร่อยมากเลยจ๊ะพี่จ๋า”



“แดกไวไม่รอใครเลยไอ้อิฐ”



“มึงก็อย่าช้าสิไอ้ห่าน้องจูน แดกๆ”



พูดกันสองคน ถามกูสักคำไหม ... มองพวกมันอย่างเหนื่อยใจ แต่สุดท้ายก็เริ่มกินข้าวด้วยเหมือนกัน ตั้งแต่เมื่อเช้ากลับมาจากไปส่งอิน้องบ๋อยก็มาเช็คบัญชีที่ร้านตลอดครึ่งเช้า พึ่งจะได้ลงมาก็ตอนบ่ายๆแล้วนี่ล่ะ



“อร่อยสุดๆ พี่เอมคือพลาดมากๆอ่ะ” ไอ้อิฐที่ว่าออกมาแบบนั้น คำพูดของมันที่สะกอดหนังหูของผมนิดหน่อยเลยต้องเงยหน้าขึ้นมามองหน้าพวกมัน



“ทำไมทำหน้าแบบนั้นอ่ะเจ๊”



“พวกมึงพูดถึงเอมไหนคะ”



“โวะ จะเอมไหน ก็พี่เอมที่เจ๊พี่มึงพึ่งรับเข้ามาทำงานใหม่ไงจ๊ะพี่จ๋า”



“พวกมึงเจอมันได้ไง”



“โลกกลมหรือพรหมลิขิตอันนี้น้องอิฐก็ค่อนข้างจะสงสัย แต่พี่เอมเรียนมอเดียวกับพวกเราล่ะ”



“แต่พวกมึงเรียนวิศวะ แล้วไปทำห่าอะไรที่ตึกอักษร”  ผมถามออกไปแบบนั้น เพราะเหมือนจะจำได้ว่าเมื่อเช้าไปส่งไอ้เอมที่ตึกคณะอักษร



“วันนี้มีเรียนวิชาเลือก พวกผมเลือกเสรีภาษาจีน” ไอ้จูนที่บอกออกมาแบบนั้น พอได้ฟังก็แค่พยักหน้าเข้าใจ



“เอ๊ะ เจ๊พี่มึงรู้ได้ไงว่าพี่เอมเรียนอักษรน่ะห๊ะ” ไอ้อิฐที่หรี่ตามองตรงมาที่ผมแบบจับผิด เห็นแบบนั้นก็เผลอสะดุ้งนิดหน่อย มึงจะจ้องกูแบบนั้นทำห่าอะไรวะ



“แล้วทำไมกูต้องไม่รู้คะ กูรับพนักงานมาก็ต้องสอบถามสิคะ บ้าบอ”



“ดูลุกลี้ลุกลนจังน้า”



“พูดมากกูจะเอาข้าวไข่ข้นนี่ขยี้หน้ามึงค่ะอิอิฐ”



“น้องอิฐหยอกจ้า” สัด!



“แต่จริงๆก็เสียดายแทนพี่เอมว่ะ แทนที่จะได้มากินกะหล่ำผัดน้ำปลาไข่ข้นปูของเจ๊แต่ดันต้องไปเสียเงินซื้อข้าวเองซะงั้นอ่ะ”



“แล้วทำไมพวกมึงไม่ชวนมันมา หรือมันมีเรียนต่อ?” ถามออกไปแบบนั้นพร้อมเลิกคิ้วถาม แต่ไอ้อิฐส่ายหน้าตอบกลับมา ก่อนคิ้วเข้มๆของมันจะขมวดเข้าหากันนิดๆ



“พี่เอมไม่ได้มีเรียนต่อเว้ยเจ๊พี่มึง แต่เป็นเพราะไอ้เพื่อนหมีควายของพี่เอมนั่นต่างหากล่ะ แม่งดึงดันจะให้พี่เอมไปกินข้าวด้วยให้ได้ พูดละไม่ชอบหน้าแม่งเลยว่ะ ดูแม่งมองกูนะ เหมือนกูไปแย่งเมียมันอ่ะ”



“มึงก็เปรี้ยวตีนจังไอ้สัด”



“ทำไม หรือมึงคิดว่ากูจะต่อยสู้มันไม่ได้หรอไอ้สัดน้องจูน” พวกมันสองคนที่เริ่มเถียงกันอีกครั้ง แต่นั่นไม่สิ่งที่กูอยากจะรู้



“เพื่อนอะไร ไหนมึงเล่ามาให้ชัดๆสิไอ้อิฐ ไอ้จูนมึงเลิกชวนมันกัดกับมึง อยากกัดปากกันค่อยไปกัดที่บ้านพวกมึง”



“กัดปากอะไรของเจ๊วะ” ได้ยินไอ้จูนบ่นออกมาแบบเสียงอ่อยๆ แต่เลือกที่จะไม่สนใจ แต่หันหน้าไปหาไอ้อิฐแทน



“ก็เพื่อนพี่เอมอ่ะเจ๊พี่มึง แม่งตัวใหญ่ๆ จริงๆน่าจะตัวพอๆกับเจ๊เลยมั้ง จริงๆแม่งก็หล่ออ่ะนะ แต่กวนตีนฉิบหาย ผมไม่เคยรู้จักมันเลยนะเว่ย แต่แม่งพูดกับผมอโคตรน่าโดนตีน นี่ถ้าพี่เอมเป็นผู้หญิงผมต้องคิดว่าแม่งหึงพี่เอมกับผมแน่ๆอ่ะ”



“หรอวะ”



“เออสิเจ๊พี่มึง นี่เห็นพี่เอมบอกว่าคืนนี้จะมากินที่ร้านเราด้วยนะ” ไอ้อิฐที่บอกออกมาแบบนั้นอีก แต่เป็นผมที่เงียบเสียงลงในตอนที่ได้ฟัง ... มันใครวะไอ้สัด



“ไม่รู้จะมาทำไม ทำยังกับตามมาเฝ้าแฟน”



“แฟน?” เป็นผมที่พูดออกมาแบบนั้น



“หรือเค้าจะตามมาเฝ้าพี่เอม” ไอ้จูนที่พูดออกมาแบบนั้นทำให้ผมต้องหันไปมองหน้า



“มันจะตามมาเฝ้าพี่เอมทำห่าไรวะน้องจูน พี่เอมเป็นแฟนมันไง๊ พี่เอมก็บอกอยู่ว่าเพื่อน มึงคิดสิคิด อีกอย่างพี่เอมเป็นผู้ชายนะไม่ใช่ผู้หญิงตัวเล็กๆบางๆเนื้อนมไข่ ถึงแม้ว่าพี่เค้าจะขาวและน่ารักสุดแสนจะกุ๊กกิ๊กก็เถอะ ... เอ๊ะ หรือมึงจะบอกว่าไอ้พี่หมีควายนั่นมันชอบผู้ชาย ตัวควายๆแบบนั้นอ่ะนะ”



“แล้วทำไมวะ ตัวใหญ่ตัวเล็กแล้วมันมีข้อห้ามข้อไหนวะที่ห้ามชอบกัน จะเพศไหนหุ่นยังไง ถ้าเค้ารู้สึกมันก็คือรู้สึกไหมว่ะ เรื่องแบบนี้มันห้ามกันไม่ได้หรอกเว่ย”



“น้องจูน ทำไมมึงต้องอิน ทำไมมึงต้องใส่อารมณ์กับเพื่อนอิฐด้วยอ่ะครับ”



“รำคาญมึงไอ้สัด”



“หึ ให้มันมาสิดี” ว่าออกไปแบบนั้น ทำให้ไอ้อิฐกับไอ้จูนที่เถียงกันอยู่ต้องหันหน้ามามองผมแบบงงๆ



“ห๊ะ? เจ๊พี่มึงพูดว่าไรนะ” 



“เปล่าค่ะ กูแค่คิดว่า ร้านเรามีแต่ของดีๆ ให้มันมาสิคะถึงจะดี เผื่อเพื่อนอิน้องบ๋อยนั่น...จะได้เห็นของดี



...


(มีต่อจ้า)



หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่6 {16/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 16-11-2019 20:25:01
“ไอ้เหี้ยยย สุดแสนจะร้อน อากาศประเทศไทยแม่งไม่เหมาะกับการเดินจริงๆ จะให้กูมีฟิลลิ่งเหมือนเดินอยู่ที่ปารีสบ้างแม่งไม่มีหรอก ร้อนจนเหงื่อไหลลงไปที่ซอกตูด”



ได้แต่บ่นลมบ่นฟ้าไปคนเดียว ตอนนี้ผมพึ่งลงจากรถเมล์แล้วเดินเข้ามาที่ร้าน ร้อนจนคิดว่าถ้ากูเป็นมะเร็งผิวหนังก็ไม่แปลกใจ ขนาดตอนนี้สี่โมงเย็นแล้วก็ไม่ได้ทำให้อากาศเย็นมากกว่าตอนเที่ยงเลย ผมที่พึ่งเดินเข้ามาถึงร้าน มองเห็นว่ามีพนักงานบางคนเริ่มมาเข้างานแล้ว จริงๆตอนแรกคิดว่าจะมาถึงไวกว่านี้ แต่ไอ้สัดเก้อก็ดีแต่พาเดินเข้าเดินออกร้านเสื้อผ้านู้นร้านนี้ เพราะวันนี้มันขับรถพาไปกินที่สยาม แล้วอยู่ๆก็เกิดอยากได้เสื้อ หนีบผมไปนู่นไปนี่ สุดท้ายก็เห็นแม่งได้แค่เสื้อยืดสีดำแบรนด์ดังมาตัวเดียว



“มาแล้วหรอคะอิตัวดี” เสียงทักทายจากปากทางเข้าร้านที่ดังทักกันแบบนั้น ไม่ต้องเห็นหน้าก็รู้ว่าใคร หลอกหลอนกูเก่งยิ่งกว่าคนที่คุณก็รู้ว่าใครตามติดชีวิตแฮรี่



“ตัวดงตัวดีอะไรวะเจ๊” หันกลับไปมองคนที่เดินตามกันเข้ามาที่ห้องล็อคเกอร์เก็บของของพนักงาน มีเอาไว้เก็บกระเป๋าและมีห้องเอาไว้เปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยห้องนึง



“แหมมมม อย่าคิดว่าสวยไม่รู้ไม่เห็นนะคะ วันนี้อิหนูน้องบ๋อยแอบดอดไปกินข้าวกับผู้ชายใช่ไหมคะ” 



หันไปมองคนร่างสูงที่ตอนนี้อยู่ในชุดเสื้อสีชมพูแปร๊ดที่เป็นเสื้อคอกว้างแทบจะคล้ายกับเสื้อปาดไหล่ พอไปอยู่ในร่างสูงใหญ่ที่ทำผมสีทองและรองเท้าหนังหัวแหลมสีทองกากเพชรแบบนั้นมันก็ทำให้สะพรึงนิดหน่อย คนตรงหน้าที่ทาปากแดงอยู่เหมือนเดิม ยังคงคอนเซ็ปเดิมแต่ที่เพิ่มเติมคือเหมือนกลับไปแต่งหน้ามา อายแชร์โดว บลัชออน และสารพัดของกุ๊กกิ๊กเต็มหน้า ... คนที่ไปส่งผมที่มหาลัยเมื่อเช้ากับคนนี้ตรงหน้า คือต่างกันจนกูผวา คิดว่าช่วงเวลาที่ผมไปเรียน อีกฝ่ายอยู่ร้านคงว่างมากจนมีเวลาแต่งหน้าใหม่



“มองอะไรสวยคะ”



“เจ๊แต่งหน้าแน่นไปไหมวะ”



“แน่นเนิ่นอะไรกันคะ นี่คือสวยตื่นมาก็แบบนี้เลยนะคะหนู” บอกออกมาแบบนั้นพร้อมส่งยิ้มหวานมาให้ ทำหน้าทำตาเหมือนสิ่งที่พูดมาคือเรื่องจริงนะ กูนี่กรอกตาเลย



“กูเห็นนะคะว่ากรอกตาใส่”



“ก็ตั้งใจให้เจ๊เห็นนี่ล่ะ”



“นี่ไม่ต้องเปลี่ยนเรื่องเลยนะคะ มึงไปกินข้าวกับผู้ชายมาใช่ไหมๆ” นี่ก็เร้าหรืออะไรกูนัก เจ๊มันเป็นอะไรวะ



“ใช่”



“โอ้โห๊ หนอยๆๆ” ขึ้นเสียงสูงใส่พร้อมเอามือทาบอกไปอีกจีบปากจีบคอ มันน่าตีจริงๆครับ



“อะไรของเจ๊วะ ผมจะไปกินข้าวกับใครแล้วมันทำไมนัก มันผิดกฎของร้านข้อไหนรึไง ไหนเจ๊ว่ามาสิ”  หันไปจ้องหน้าอีกฝ่ายที่วอแวเดินตามหลังกันไม่เลิก พร้อมๆกับขยับเข้าไปหา เชิดหน้าจ้องตาใส่อีกคนทั้งแบบนั้น อีกฝ่ายที่เห็นผมขยับตัวไปใกล้ในตอนแรกก็ถอยหลังหนีกันไปสองก้าว นั่นคงเป็นเพราะเจ้าตัวไม่ได้ตั้งตัว



“นี่จะทำอะไรคะอิน้องหนูบ๋อย ขยับมาใกล้สวยทำไม”



“ไม่ได้จะทำอะไรสักหน่อย เจ๊กลัวผมหรอ” ถามแบบนั้นพร้อมยกยิ้มใส่ พึ่งเคยเห็นเจ๊มันหน้าเลิกลั่กแบบนี้เป็นครั้งแรกเลย เห็นแบบนี้แล้วรู้สึกชอบใจแปลกๆว่ะ เดี๋ยวเจ๊เจอไอ้เอม!



“เดินเข้ามาหาสวยทำไมคะ” ว่าออกมาแบบนั้นแล้วถอยหนีผมไปอีกก้าว แต่ติดที่ว่าอีกฝ่ายดันถอยไปชนตู้ล็อคเกอร์ อยากจะขำให้ลั่นตอนที่เห็นท่าทางแบบนั้น ผมที่ขยับตัวเข้าไปใกล้และยืนตรงหน้าอีกฝ่ายแบบไม่ถอยหนี



“ผมไปกับใครมันผิดกฎของทางร้านหรอครับเจ๊ครับ” ถามแบบนั้นพร้อมทำตาใสเอียงหน้าถาม มองเห็นคนตรงหน้ากระพริบตาปริบๆมาใส่ คิดว่าเจ๊มันต้องสับสนกับท่าทีของผมเพราะตัวเจ๊มันไม่ตั้งตัวแน่ๆ เพราะแบบนั้นเลยเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ริมฝีปากอีกฝ่ายแล้วช้อนตามองหน้า



“ไอ้เอม”



“หื้ม”



“ใกล้ไปแล้วนะคะหนู” ว่าออกมาแบบนั้นพร้อมจ้องตากันด้วยสายตาที่ผมอ่านไม่ออก ... ตอนแรกก็แค่ตั้งใจจะแกล้งให้เจ๊มันกรี๊ดกราดเล่น แต่ตอนนี้ตัวเองเริ่มรู้สึกอยากผละตัวถอยออกตะหงิดๆ



“อ่ะ...เอ่อ โทษทีเจ๊ ...เหวอ เห้ย!”



‘พลึบ’



วงแขนแกร่งที่เอื้อมมารวบตัวผมเอาไว้ พร้อมพลิกตัวของผมให้เปลี่ยนไปยืนแทนที่ของตัวเอง ผมที่กลายเป็นคนที่ยืนชิดติดกับตู้ล็อคเกอร์ซะเอง และเป็นเจ๊มันที่เปลี่ยนมายืนคล่อมกันไว้



“รู้ไหมว่าเล่นแบบนี้มันเสี่ยง”



“เอ่อ...เสี่ยงอะไรวะเจ๊”



“เสี่ยงให้กูหมดความอดทน”



“เจ๊หมายถึงอะไร...”



“ถ้ากูหมดความอดทน มึงจะลำบาก”



ห๊ะ! หมายความว่าอะไรวะ คือเจ๊มันจะ.....เจ๊มันจะ...



มันจะไล่ผมออกหรอ!! ไม่ได้นะเว้ยยยยย



“หึ คิดๆ ทำหน้าคิดๆ กูก็ไม่ได้หวังให้มึงเข้าใจหรอกควายน้อย ... เปลี่ยนเสื้อผ้าซะ” ว่าออกมาแบบนั้นแล้วเอื้อมมือมาขยี้หัวผมนิดหน่อย ก่อนที่เจ้าตัวจะผละตัวออกจากผม แล้วเดินออกจากห้องล็อคเกอร์ไป


.

.

.



               เสียงดนตรีและเสียงพูดคุยเซ็งแซ่ที่มาพร้อมกับบรรยากาศแบบเดิมๆ มันเกิดขึ้นแบบนี้เสมอเมื่อถึงเวลาที่ร้านเปิด  ร้านของเจ๊ดานี่ยังคงแน่นเหมือนเดิมทุกๆวัน อาจเป็นเพราะบรรยากาศของร้าน หรืออาจจะเป็นเพราะที่นี่เหมือนรวมตัวของคนหน้าตาดีที่มีเงินถึงจะเข้ามาเที่ยวได้ก็ไม่รู้นะ คนถึงได้ชอบมากัน  แต่ถ้าพูดถึงคนที่มาเที่ยวหน้าตาดีแล้วล่ะก็...อันนี้คิดว่าเรื่องจริง ตัวอย่างที่มีให้เห็นก็เช่นโต๊ะๆนั้น ที่ตอนนี้กำลังเป็นที่จับจ้องของคนทั้งผับ ... โต๊ะที่มีเจ้านายผมนั่งอยู่ด้วย



“สัดดาบ มึงแต่งตัวเหี้ยไรของมึงวะ”



“น่ารักกุ๊กกิ๊กแบบนี้มึงงงอะไรอ่ะค่ะอิเมฆ”



“น่ารักก็เหี้ย จะต้องให้บอกกี่ที มึงหล่อ มึงเลิกแต่งหน้าแรงๆแบบนี้ได้ไหม กูกลัว”



“เอ๊ะอิเมฆ พูดมากจังเลยอ่ะค่ะ อย่ามาขัดขวางความสวยของกูได้ไหมคะ อิบุรุษใจทราม จิตใจหยาบกระด้าง” คนร่างสูงที่พูดออกไปแบบนั้นพร้อมๆกับยกมือขึ้นเอาผมทัดหู ... ต้องให้บอกอีกกี่ครั้ง ผมมึงไม่ได้ยาวอิเจ๊



“มึงก็ว่ามันตลอดอ่ะไอ้เมฆ ไม่เหนื่อยหรอ มึงก็น่าจะรู้...”



“น่าจะรู้ว่ากูรักสวยรักงามใช่ไหมค่ะเพื่อนจั๊ม”



“น่าจะรู้ว่าไอ้ดานี่มันบ้า สมองมันรวนๆ พูดไปมันก็ไม่เปลี่ยนหรอก”



“กรี๊ดดด เดี๋ยวมึงสองคนจะโดนกูตบตรงนี้ค่ะ” คนร่างสูงที่โวยวายออกมาแบบนั้น แล้วนั่งไขว่ห้างทำท่าฮึดฮัดแบบไม่สบอารมณ์เป็นที่สุด ผมที่เดินเข้าไปหยิบแก้วของผู้ชายที่ชื่อว่าเมฆมาแล้วชงเหล้าเพิ่มให้อีกแก้วเรียกสายตาของเจ้าของแก้วให้มองมาที่ผม



“หื้ม เด็กใหม่หรอวะไอ้ดาบ กูไม่เคยเห็นเลย” เขาที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วหันมายิ้มให้ผม เป็นผู้ชายหล่อขาวตี๋เหมือนไอดอลเกาหลี หน้าตาดีและดูสุภาพ ไม่น่าเลยครับ... ไม่น่ามาคบกับคนแบบอิเจ๊มันได้เลยจริงๆ



“ค่ะ เด็กใหม่ ชื่ออิน้องหนูเอม”



“ชื่อยาวจังวะ”



“โอ๊ยอิเมฆอิโง่ ชื่อเอมค่ะๆ บางทีก็ไม่อยากเสวนากับคนโง่อ่ะนะคะ”



“สัด ... พี่ชื่อเมฆนะ เป็นเพื่อนไอ้ดาบ” เค้าที่บอกออกมาแบบนั้น ผมเลยยิ้มแล้วยกมือไหว้เค้า



“ส่วนพี่ชื่อจั๊มนะ”



“สวัสดีครับคุณเมฆคุณจั๊ม”



“คุณเคินอะไร เรียกพี่เมฆก็ได้ เด็กๆในร้านก็เรียกพี่แบบนั้น” พี่เมฆพูดออกมาแบบนั้นแล้วยิ้มให้กัน ดูไม่ถือตัวมากๆทั้งพี่เมฆและพี่จั๊ม



“ครับพี่เมฆ”



“อ๊ะๆ พอๆ เสวนากันพอแล้วค่ะ ส่วนมึงค่ะน้องบ๋อย ไม่ต้องเสริฟโต๊ะนี้แล้วค่ะ ให้พวกมันเสริฟเอง เหล้าก็ฟรีน้ำแข็งก็ฟรี ยังจะไม่ขยับตัวอีกนะคะ” คนข้างๆตัวผมที่ขัดขึ้นมาแบบนั้น มองเห็นพี่เมฆที่ทำหน้าเหวอไป ส่วนพี่จั๊มที่มองมาที่ผมสลับกับหน้าของเจ๊มันนิดหน่อย



“ไปสิคะ ยืนมึนเป็นควายน้อยอีกแล้ว ไปไป๊” คนข้างตัวที่ย้ำออกมาแบบนั้นพร้อมๆกับสะบัดมือกรีดกรายทำเป็นจริตโบกไล่กันอีกที ผมที่แค่วางแก้วที่ชงเสร็จแล้วของพี่เมฆไว้ที่โต๊ะแล้วผละออกมา ได้ยินเสียงของพี่จั๊มแว่วๆตามหลังมาว่า



“หวงหรอวะ”



“หวงพ่อมึงค่ะอิจั๊ม ตบไหม!”



นั่นสิ จะมาหวงอะไรผมล่ะวะ ... ถ้าเป็นผู้ชายกล้ามล่ำๆอันนี้ก็ว่าไปอย่าง



พอนึกถึงผู้ชายกล้ามล่ำ ผู้ชายกล้ามล่ำก็มาปรากฏตัวตรงหน้าผมเลยในตอนนี้



“น้อง หาโต๊ะให้พี่โต๊ะนึงสิ”



“สัด กว่าจะมาได้นะ”



“พูดกับแขกดีๆหน่อยสิน้อง แต่ถ้าอยากร้องไปต่อกับพี่คืนนี้ก็ได้นะ” คนตรงหน้าที่ว่าออกมายิ้มๆ



“ไอ้สัดเก้อ”



“ฮ่าๆ ล้อเล่นน่ามึง”



“ฮัลโหล ขอโทษนะคะพวกมึง ชะนีแสนสวยแบบกูก็มา อย่าเห็นกูเป็นอากาศธาตุได้ไหมคะ” ไอ้หยีที่ทำหน้าเพลียแล้วว่าออกมาแบบนั้น ผมกับไอ้เก้อที่มองหน้ากันแล้วขำลั่นออกมา



“มาๆ กูหาโต๊ะให้” บอกมันสองคนแบบนั้นแล้วพามันไปนั่งที่โต๊ะ และโต๊ะที่ดันว่างอยู่ตอนนี้ดันเป็นโต๊ะข้างๆกับโต๊ะเจ้าของร้านของผมพอดี ไอ้หยีที่วันนี้สวยในชุดเดรสรัดรูปสีเงิน มันที่พอเดินเข้ามาถึงโต๊ะก็ชะงักทันที



“เอ๊ะ พี่ดาบ สวัดดีค่ะพี่ โอ๊ะ แล้วนี่พี่เมฆใช่ไหมคะ สวัสดีค่า พี่จั๊มก็ด้วยนี่นา” มันที่โพล่งออกมาแบบนั้น อย่าว่าแต่คนโต๊ะนั้นจะงง ทั้งผมทั้งไอ้เก้อก็งงไม่ต่างกันครับ



“อ้าว อิน้องหนูหยี วันนี้ลมอะไรหอบมาร้านเจ๊คะ และ...โปรดเรียกสวยว่าดานี่ค่ะหนู”



“ฮ่าๆ โทษทีค่ะเจ๊ดานี่คนสวย พอดีมันไม่ชินปาก ส่วนวันนี้เพื่อนหยีอยากมาเที่ยวร้านเจ๊น่ะเลยพามันมา นี่ไอ้เก้อเพื่อนหยีกับเอมมันค่ะ” ไอ้หยีที่ว่าออกไปแบบนั้นแล้วยิ้มกว้างๆ ผมเห็นเจ๊ดานี่ยิ้มออกมาน้อยๆ ก่อนสายตาคมนั่นจะเลื่อนมามองที่หน้าไอ้เก้อนิ่งๆ ... ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมองมันแบบนั้น เอ๊ะ...อย่าบอกว่าเจ๊จะอยากกินเพื่อนกูนะเว้ย เห้ยไม่ได้นะเว้ย!



“น้องคนนี้หน้าคุ้นๆนะ” เป็นพี่จั๊มที่ว่าออกมาแบบนั้น พร้อมๆกับเอียงคอมองหน้าไอ้หยีหน่อยๆ เห็นพี่เมฆส่ายหน้าน้อยๆก่อนจะยกมือขึ้นผลักหัวพี่จั๊มเบาๆทีนึง



“แค่นี้ก็ลืม นี่มันน้อยหยีหลานรหัสไอ้ดาบไม่ใช่หรอ”



“ใช่แล้วค่ะพี่เมฆ กรี๊ดดด พี่จำหยีได้ สุดหล่อจำหยีได้ ประทับใจจังเลย ขอได้ไลน์ได้ไหมคะ”



“เห้ย มากไปไอ้สัด” เป็นผมที่โพล่งออกไปแบบนั้น และกลายเป็นว่าทุกคนดันขำออกตอนที่ได้ยินผมว่าแบบนั้น



“ช่างขัดกูค่ะอิเอม”



“ไหนๆวันนี้ก็มาร้านเจ๊แล้ว มานั่งรวมกันเลยสิ เดี๋ยวเจ๊เลี้ยงเอง” เจ๊ดานี่ที่ว่าออกมาแบบนั้น



“ดี...”



“ไม่ต้องดีกว่าครับ ผมว่าพวกผมนั่งโต๊ะนี้จะสะดวกกว่า”



เป็นไอ้เก้อที่พูดขัดออกมาแบบนั้น มองเห็นไอ้เก้อที่จ้องหน้าเจ๊ดานี่มันไม่หยุด เดี๋ยวนะเพื่อนเก้อ มึงมองเจ๊แกแบบนี้หมายความว่าไงวะ เห้ยๆ...มองนานขนาดนี้ หรือมึงชอบแบบนี้วะเพื่อน! ไอ้เอมชักไหวหวั่นแล้วนะเห้ย



“อ่ะ...เอ่อ ฮ่าๆ พวกพี่ตามสบายเลยดีกว่าค่ะ เดี๋ยวหยีนั่งกับเพื่อนโต๊ะนี้ พี่ๆจะได้คุยกันสดวกเนอะ” เป็นไอ้หยีที่พูดออกมาแบบนั้น ทำให้บรรยากาศที่ดูจะอึดอัดก่อนหน้านี้ดีขึ้นหน่อย



“งั้นตามสบายนะคะ” เจ๊ดานี่ที่พูดออกมาแบบนั้นพร้อมรอยยิ้ม แต่ผมกลับรู้สึกว่า สายตาตาของเจ๊แกไม่ได้ยิ้มสักเท่าไหร่



“ไอ้คนตัวควายๆใส่เสื้อสีชมพูนั่นอ่ะนะตุ๊ดเจ้าของร้านที่จ้างไอ้เอม”



“ก็ใช่น่ะสิคะ แต่อิเก้อ กูอยากจะตบมึงให้ลำไส้ใหญ่ไหลย้อนออกมาทางปากมึง อิโง่อิควายอิขัดหนทางหาผัวของกู”



“อะไรของมึงป้า ด่ากูขนาดนี้ไม่เอาขี้มาขยี้หน้ากูเลยล่ะ”



“ถ้ามีกูก็อยากจะขยี้ค่ะ อิห่า แทนที่กูจะได้ไปนั่งหลีพี่เมฆ กลับต้องมานั่งซบเซาอยู่กับหมีควายแบบมึงอ่ะค่ะ”



“ก่อนหน้านี้มึงยังเรียกกูว่าผัว”



“มโนทั้งสิ้น!” แบบนี้เรียกว่าได้ใหม่ลืมเก่าหรือเปล่าวะครับ ผมที่มองพวกมันเถียงกันแต่ไม่พูดอะไร ทำแค่เดินไปชงเหล้าให้มันคนละแก้ว ไอ้เก้อที่เป๋าหนักบอกให้ผมเปิดบลูเลเบิ้ลมาขวดนึง สุดแสนจะประทับใจ เหล้าแพงออก เจ๊มึงเห็นไหม เป็นเพราะกูเลยนะครับๆ



“นี่ครับเพื่อนเก้อ และนี่ครับเพื่อนหยี” ว่าแบบนั้นแล้วบรรจงวางแก้วให้พวกมันทั้งสอง



“นอบน้อมมาเลยนะมึง” ไอ้เก้อที่ว่าแบบนั้นแล้วหันมายิ้มให้ผม



“ไม่ได้หรอกครับ ... กูหวังทิปจากพวกมึง”



“งั้นน้องมานั่งตักพี่เลยมา เดี๋ยวพี่ทิปให้เป็นออเดิร์ฟแบงค์เทาแบงค์นึงเลย” ไอ้เก้อที่ว่าแบบนั้นแบบทีเล่นทีจริงพลางตบตักตัวเอง



“มึงจริงจังไหม”



“ถ้ามึงกล้าทำกูก็กล้าให้” ไอ้เก้อที่ว่าออกมาแบบนั้น มันที่มองหน้าของผมพร้อมยักคิ้วท้าทาย เอ้า! ไอ้สัดเก้อ มึงท้าคนแบบไอ้เอมหรอครับเพื่อน ได้ เดี๋ยวมึงเจอกู!



ผมที่ทรุดตัวลงนั่งบนตักของมันพร้อมหันหน้าเข้าไปหามันแล้วยิ้มหวานส่งไปให้มัน มันที่ยิ้มให้ผมแว๊บหนึ่ง ก่อนที่สายตาของมันจะจ้องไปที่อื่นที่ไม่ใช่หน้าผม ฮัลโหลเพื่อน มึงมองอะไร ทิปกูล่ะสาดดดด



“ไอ้สัดเพื่อนเก้อครับ ทิปกูล่ะ” ว่าแบบนั้นพลางเอียงหน้าเข้าไปอยู่ในระยะสายตาของมัน มันที่ผละสายตากลับมามองกันพร้อมยกยิ้มมุมปากหน่อยๆ มือของมันที่เลื่อนไปหยิบเงินในกระเป๋ากางเกงส่งมาให้ผม แบงค์เทาๆสองใบที่ยื่นมาให้กัน ตากูเป็นประกายวิบวับเลยในจุดๆนี้



“กูอยากจะกรี๊ด ขอบคุณค่ะป๋าขา” ลองทำท่าทางดัดจริตแบบที่อิเจ๊ดานี่มันชอบทำ พร้อมก้มตัวลงกราบอกไอ้เก้อแบบนั้น เห็นอีกฝ่ายที่ยิ้มขำ พร้อมๆกับไอ้หยีที่ส่ายหน้าเอือมๆ ผมเด้งตัวออกจากตักไอ้เก้อทันทีพร้อมๆกับคว้าเงินมาไว้ในกระเป๋ากางเกงตัวเองอย่างรวดเร็วด้วย กลัวมันเอาคืนครับ



“มีอะไรเรียกใช้น้องเอมได้ตลอดเวลาเลยนะครับโผ้ม” บอกพวกมันออกไปแบบนั้นพร้อมๆกับก้มหัวให้แล้วยิ้มตาปิดส่งไปให้ ไอ้เก้อที่แค่เอื้อมมือมาผลักหัวกัน ท่าทางของมันที่ดูจะอารมณ์ดีมากขึ้นกว่าเดิมจากที่ก่อนหน้านี้มันดูนิ่งๆ สงสัยอาจเป็นเพราะบรรยากาศของร้านที่ทำให้มันอารมณ์ดีขึ้นล่ะมั้ง ... ผมที่หันกลับไปมองที่โต๊ะของพี่เมฆ ตอนนี้เจ้าของร้านที่ก่อนหน้านี้เคยนั่งอ้อยอิ้งอยู่ตรงนั้นไม่รู้ว่าหายไปไหนแล้ว



“หายไปไหนของเค้าแล้ววะ”



.

.

.



02.45 AM



               บรรยากาศภายในร้านที่เริ่มบางตา เพราะคนส่านมากเริ่มทยอยกันกลับแล้ว ตอนนี้ก็เป็นช่วงเวลาที่ผมได้พัก วันนี้ผมเป็นเวรพักในช่วงนี้ครับ แต่ละวันพนักงานร้านเราจะมีช่วงพักเบรกต่างๆกันไป เริ่มตั้งแต่เที่ยงคืน จะสลับกันไปพักเป็นช่วงๆ ส่วนวันนี้ผมพักช่วงนี้ครับ เพราะแบบนั้นเลยเดินมาล้างหน้าในห้องน้ำ ตอนที่เดินกลับออกมาจากห้องน้ำ ในบริเวณแถวๆทางเดินทอดยาวที่จะกลับเข้าไปสู่ตัวร้าน บรรยากาศสลัวๆที่คนชอบมายืนจูบกัน



“มึงพักหรอ” เสียงเข้มที่ทำให้ผมต้องหันไปมอง มาพร้อมๆกับดวงตาที่มองหน้าผมนิ่งๆ



“เอ้าเจ๊”



“ว่าไง ถึงช่วงพักแล้วหรอ” อีกฝ่ายที่ถามย้ำออกมาแบบนั้น พร้อมๆกับเอนตัวพิงกำแพงกอดอกมองหน้าผมนิ่งๆ



“ใช่ พักแล้ว แล้วเจ๊มายืนอะไรตรงนี้อ่ะ อย่าบอกว่ามาหาเหยื่อเพื่อหิ้วกลับบ้านน้า” ปากก็คือไวกว่าสมองเสมอ แค่คิดกูก็โพล่งออกไปแล้ว รู้สึกอยากตีปากตัวเองเหลือเกิน



“หึ ก็อาจจะใช่มั้ง”



“แน๊ๆ ร้ายนะเราเนี่ย งั้นผมไปก่อนดีกว่าเดี๋ยวขัดการหาเหยื่อของเจ๊” ว่าออกไปแบบนั้นพรางยกมือขึ้นโบกให้ แล้วตั้งท่าจะเดินจากมาหลังจากที่ล้ออิเจ๊มันเสร็จแล้ว แต่ในตอนนั้นฝ่ามือหนาก็เอื้อมมาคว้าแขนของผมเอาไว้ซะก่อน แรงกระชากที่ไม่เบาไม่แรงแต่ก็ทำตัวผมถลาเข้าไปหาคนที่ยังยืนเอนตัวพิงกำแพงได้อย่างสบายๆ



“เห้ยๆเจ๊...ทำไรวะ ตกใจนะเว้ย” ร้องออกมาแบบนั้นพร้อมเงยหน้าขึ้นไปด่าอีกคนแบบเอาเรื่อง ที่พอเงยหน้าขึ้นไปก็เห็นว่าอีกฝ่ายก้มหน้ามองกันอยู่ก่อนแล้ว สายตาคมๆที่จ้องมองกันทำให้ต้องหยุดคำพูดที่ตั้งใจว่าจะด่าอีกฝ่ายต่ออีกสักหน่อย สายตาแวววาวที่มองลงมาที่ผมร้อนแรงๆแปลกๆ แปลกจนรู้สึกว่าหน้าของตัวเองร้อนขึ้นมาทั้งแบบนั้น



“จ...เจ๊”  ได้แต่อ้าปากเรียกอีกฝ่ายออกไปด้วยเสียงเบาหวิว



“กูกำลังหาคนไปนอนด้วย”



“ล แล้ว”



“แล้วเป็นมึงได้ไหมล่ะ ที่จะไปกับกูคืนนี้”
คนตรงหน้าที่กระตุกยิ้มมุมปากแล้วจ้องตาผมนิ่งๆ ลมหายใจที่ค่อยๆเลื่อนเข้ามาให้ชิดกันมากขึ้น



“หา...จ เจ๊...อื้ออ...”



คำพูดของผมขาดหายไปพร้อมๆกับถูกกลืนลงไปในลำคอ ในตอนที่ริมฝีปากตรงหน้าเคลื่อนตัวมาทาบทับลงบนริมฝีปากของผม ได้แต่เบิกตากว้างขึ้นอย่างตกใจ ในตอนที่ยกมือขึ้นเพื่อดันอกแกร่งเอาไว้เพื่อจะผละตัวออกจากอีกฝ่าย ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่อีกคนใช้วงแขนแข็งแกร่งโอบตัวของผมเอาไว้ รับรู้ได้ถึงฝ่ามืออุ่นของอีกคนที่วางทาบทับอยู่ที่กลางหลังของผม ลูบไล้แผ่วๆไปตามสันหลังของผม แม้ว่าจะมีเสื้อกันกับผิวอยู่ แต่มันกลับรู้สึกเสียววาบไปทั้งตัว



“อ๊ะ...” ในตอนที่เผลอครางออกมาแบบนั้นพร้อมๆกับค่อยๆปิดเปลือกตาลงมาช้าๆ ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่อีกฝ่ายดันลิ้นร้อนเข้ามาในโพลงปาก ค่อยๆเกี่ยวกระหวัดพร้อมดูดเม้มปลายลิ้นจนผมสะท้าน ความช่ำชองของคนตรงหน้าที่ชักนำคนแบบผมได้ง่ายๆจนโอนอ่อนตามไป มือหนาเลื่อนจากสีข้างขึ้นมาลูบไล้ที่ใบหน้าเพื่อที่จะจูบได้อย่างถนัด มืออีกข้างโอบกอดกระชับเอวของผมให้แนบชิดกับลำตัวแกร่งของอีกคนให้มากยิ่งขึ้นจนแทบจะไม่มีช่องว่างให้ลมลอดผ่านตัวของเราทั้งคู่ได้



“อ๊ะ อื้มม”



เสียงครางกระเซ่าของตัวผมเองที่ดังออกมาแบบห้ามไม่อยู่ รับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายยกยิ้มมุมปากขึ้นทั้งๆที่ก็จูบผมต่อไปไปแบบไม่พัก ค่อยๆปรือตาขึ้นมามอง มองเห็นสายตาร้อนแรงที่มองหน้ากัน ก่อนที่สายตาของอีกฝ่ายจะมองตรงออกไปที่ด้านหลังของผม ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมองอะไร แต่กลับยิ่งรู้สึกถึงแรงบดขยี้ริมฝีปากที่หนักหน่วงและร้อนแรงมากขึ้นจนต้องขยำเสื้อของอีกฝ่ายแน่นๆมากกว่าเดิม รู้สึกเสียวสะท้านไปทั้งตัวจนแข้งขาอ่อนแรงไปหมด ไม่รู้เวลาผ่านไปนานแค่ไหนที่ผมกับคนตรงหน้าจะผละออกจากกัน หมดแรงจนต้องหอบหายใจแล้วเอาหน้าไปซุกไว้อยู่ที่อกแกร่งของคนตรงหน้า จมูกโด่งๆที่เอียงเข้ามาหาพร้อมหอมไล้แผ่วๆอยู่ที่ข้างแก้มนั่นยิ่งทำให้ผมงุนงงมากขึ้นกว่าเดิม ความรู้สึกทั้งสับสน ทั้งเขินทั้งอาย และทำอะไรไม่ถูก ... นี่เราสองคน....



และในตอนที่ผมยังคงทำอะไรไม่ถูกอยู่แบบนี้ เสียงเข้มๆที่ไม่มีจริตออกสาวได้ๆก็ดังขึ้นมาพร้อมๆกับฝ่ามือหนาที่เชยคางผมขึ้นไปให้ได้มองตากัน มองเห็นสายตาร้อนแรงที่มองจ้องมาที่ผมนิ่งๆ ก่อนที่อีกฝ่ายจะเปิดปากพูดออกมา



“คืนนี้ ... กลับไปนอนห้องกูกันนะ”  พี่มันที่ถามออกมาแบบนี้และยิ้มให้กัน ... และไม่รู้ว่าเพราะอะไร ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังคิดแบบไหน แต่สุดท้ายผมก็ทำแค่พยักหน้าลงช้าๆเป็นคำตอบ มองเห็นสายตาวาววับที่เหมือนผู้ชนะของอีกฝ่ายที่มาพร้อมๆกับรอยยิ้มมุมปากที่ถูกจุดขึ้นอยู่บนใบหน้าของอีกฝ่าย



“น่ารักมากควายน้อย”



::::::::::::::::::-- to be continued --:::::::::::::::::::::::::



ใครร้ายสุด ถามกันแค่นี้

หูยยยยย กริ๊บกริ้วววววว

นี่สังเกตว่าถ้าเขียนมายาวๆคนอ่านจะอ่านน้อยเม้นท์น้อย...แคทว่าคนอ่านแคทต้องชอบอ่านไม่ยาวมากแน่ๆเลย

ตอนนี้เลยมา15หน้าA4ค่ะ (นี่คือไม่ยาวหรอ?)

ฝากโปรโมทและติดแฮชแทคคอมเม้นท์ในทวิตเตอร์ได้ด้วยแทคนิยายชื่อ #สวยๆเป็นผัว จ้า


ขอขอบคุณคนอ่านที่น่ารักของแคททุกท่านในเล้าเป็ดเลยนะคะ แคทไม่คิดว่าจะมีคนมาอ่านมาเม้นท์ให้แคทเท่าไหร่ในนี้

แต่เห็นคนเม้นท์ให้แคทจำได้ทุกท่านเลย บางท่านก็อ่านเรื่องเก่าๆของแคทและยังอยู่ด้วยกันเสมอ แคทขอบคุณมากๆจริงๆนะคะ

แคทหวังว่าในตอนนี้ก็ยังจะมีคนอ่านและชอบในนิยายเรื่องนี้นะคะ  :mew1: :katai4:


ขอขอบคุณ


 :katai5:
:laugh: :z1: :laugh:

 :L2: :pig4: :pig4: :L2:

 o13
  ขอบคุณมากๆเลยนะคะ แล้วเข้ามาอ่านอีกน้า


อื้อหือออร่าผัวกลบปากแดงๆได้เลยอะพี่ดาบขา
  ปากแดงๆก็ผัวเธอ (เจ๊ไม่ได้กล่าว แต่คนอ่านและคนเขียนมั่นใจ 5555)


:hao3: อีหนูปีนขึ้นไป หรืออีเจ๊ลงมาอุ้มกันแน่คะ
  นั่นสิคะ มันยังไงนะมันยังไงงงงง อิอ๊ะ


อิเจ้แอบคิดอะไรกะน้องมันแน่ๆ แล้วใช่ไหม. ดูมีอาการหวง .  มีอาการขี่บิ้กไบท์มาส่งเด็กด้วย  :hao3:

เจ้อะไรโครตเท่อ่ะ.  :katai2-1:
  เจ๊ดานี่ไงจะใครล่ะ อิอิ  :mew3:



สงสัยเจ๊ดานี่ ชอบชายอยู่แล้ว
และก็เป็นตุ๊ดเพราะรำคาญชะนี ที่เข้าแถวจีบ จนแถวยาวไปถึงกำแพงเมืองจีน  :m20: :laugh:
แล้วดูๆเจ๊จะติดใจเอมซะและ  :-[
เจ๊ดานี่เป็นสาวเสียบนี่เอง  :katai2-1:
  อันนี้ไม่รู้ๆๆน้าา อิอิ เจ๊ดานี่คือคนที่ เราเดาอะไรจากพี่แกไม่ได้จริงๆค่ะ 555555 ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์น่ารักๆที่ให้แคทนะคะ


ติดตามจ้า  :L2:
  ขอบคุณมากๆเลยนะคะ มาแล้วอย่าทิ้งกันน้า (เกาะขา)  :กอด1:


:mew1: :mew1:
  ขอบคุณมากๆนะคะ แล้วมาอ่านอีกน้า


เจ๊หลอกเด็ก,,,
  ใครร้ายสุดกันคะเรื่องนี้ 5555


#ปากแดงๆเป็นผัว
  ปากแดงๆก็ผัวน้องเอม หูยยยย :hao7:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่6 {16/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 16-11-2019 21:30:59
 :z1:

 :กอด1: :pig4: :กอด1:


 o13
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่6 {16/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 16-11-2019 21:31:52
 :pig4:
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่6 {16/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 16-11-2019 22:11:32
 :pig4: กลัวใจอีเจ๊ เกรงว่าเพื่อนเก้อจะโดนยำตีน
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่6 {16/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 17-11-2019 15:08:06
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่6 {16/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 17-11-2019 19:18:30
รอตอนต่อไปจ้า :L2: :pig4: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่6 {16/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 18-11-2019 00:19:26
เกิดศึกขึ้นแล้ว,,,
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่6 {16/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 18-11-2019 07:32:05
เจ๊หวงเอมแล้ว แต่ปากแข็ง  :เฮ้อ:
ที่จับเอมจูบปาก .......  :z3: 
ชวนเอมที่กำลังเคลิ้มไปนอนด้วย   :o8:
นี่กำลังท้าทายเก้อแน่ๆ  :z6: :z3:
ดูแล้วเก้อนี่แอบชอบเอม แต่ไม่กล้าบอกเพราะกลัวเสียเพื่อนใช่ไหม  o18
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่6 {16/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 18-11-2019 22:04:14
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่6 {16/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 18-11-2019 22:39:43
พีีดาบคนดุ   :impress2:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่6 {16/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 19-11-2019 00:05:09
เจ้ดาบเหอะ เล่นจู่โจมควายน้อยซะเข่าอ่อน คือกะเปิดศึกกะใครรึป่าวค้า   :hao3:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่6 {16/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 19-11-2019 10:53:35
เจ้ดาบลุยเลยค่าาาา
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่7 {23/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 23-11-2019 20:29:45
บทที่7




เมื่อสติมา ความกระดากอายก็เกิดขึ้น!



ถึงแม้ว่าจริงๆแล้วไอ้เอมค่อนข้างจะเป็นคนหน้าหนาและแกล้งหน้ามึนได้เก่ง ... แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อก่อนหน้านี้ จะให้ทำหน้าด้านๆเหมือนทุกครั้งมันก็ไม่ไหวจริงๆ ในตอนนี้ที่ได้แต่นั่งอึกๆอักๆพยายามคิดว่าจะพูดจะถามอะไรออกไปดี คนข้างตัวที่ก็พูดออกมาซะก่อน



“นั่งดีๆ ถ้าง่วงก็นอนไป”



คำพูดที่พูดออกมาแค่นั้น ไม่ได้หันหน้ามามองกันด้วยซ้ำ สายตาของพี่มันที่ก็ยังทำแค่จับจ้องไปที่ถนนข้างหน้า เห็นแบบนั้นเลยเลือกที่จะหุบปากและไม่พูดอะไรออกไปอีก ได้แต่หันหน้าออกไปมองนอกรถทางฝั่งที่ตัวเองนั่งอยู่แทน



นาทีนี้ ไม่รู้เลยว่าทำถูกไหม

รู้แค่ว่าเสียงหัวใจ บอกว่ารักเธอ และขอฉันให้ทำตามนั้น

นาทีนี้ ให้โลกเป็นของเธอกับฉัน

หากเป็นเพียงช่วงเวลาไม่นาน แค่ได้รู้สึกอย่างนี้เพียงสักครั้ง

ต่อให้เป็นจูบสุดท้ายฉันก็ยอม
[/i][/color]



“เพลงนี้ดี”



คนข้างตัวที่พูดออกมาแบบนั้น ผมที่เงียบไม่ได้ตอบอะไรออกไป ทำเพียงแค่นั่งนิ่งๆและเริ่มใส่ใจที่จะฟัง เนื้อเพลงที่ว่าแบบนั้น พอฟังแล้วเผลอที่จะยกยิ้มออกมาแบบไม่รู้ตัว ชอบตรงท่อนที่ว่า หากเป็นเพียงช่วงเวลาไม่นาน แค่ได้รู้สึกอย่างนี้เพียงสักครั้ง ... เป็นท่อนที่ตรงกับความรู้สึกของผมในตอนก่อนหน้านี้ล่ะมั้ง ก็แค่อยากรู้สึกสักครั้ง

แอร์เย็นๆกับเสียงเพลงเบาๆที่พอฟังแล้วก็เริ่มเคลิ้ม ได้แต่อ้าปากหาวและตาก็เริ่มปรือลงนิดๆ  จนสุดท้ายหนังตาหนักๆก็เอาชนะผมอีกครั้ง และกว่าจะรู้ตัวอีกที ก็เป็นตอนที่ถูกฝ่ามือของคนข้างๆตัวเขย่าปลุกตอนที่เราถึงคอนโดแล้ว



ใช่ครับ กูหลับ ... แต่ถึงจะหลับ ตื่นมาก็ยังอายอยู่นะเว้ย!



“นอนน้ำลายยืด ย้อยลงไปถึงเบาะรถ”



“ผมเปล่านะ” เถียงออกมาแบบนั้นแล้วมองหน้าอีกฝ่ายด้วยสายตาเลิกลั่ก ยกมือขึ้นมาเช็ดๆแถวปากแบบนั้นแต่ก็ยังเถียงไม่หยุด อีกคนที่ก็หันมามองหน้ากัน เป็นจังหวะยิ่งกว่าในละคร ที่พอมองหน้ากันแล้วต้องชะงักค้างในตอนนั้นที่อีกคนก็ไม่พูดอะไรทำแค่ขยับตัวเข้ามาใกล้ๆ ผมที่เห็นแบบนั้นแล้วก็ได้แต่เบิกตากว้างขึ้นพร้อมทั้งขยับตัวถอยหนีแนบตัวไปกับเบาะรถแล้วหลับตาปี๋ ... เดี๋ยวนะ ทำไมกูดูสมยอม



“ทำอะไรอ่ะคะหนู” เสียงของอีกฝ่ายที่ดังออกมาแบบล้อๆทำให้ผมต้องค่อยๆลืมตาขึ้นมา มองเห็นแววตาอีกคนที่มองมาแบบขบขัน ในมือของมันที่ถือกระเป๋าเสื้อผ้าของผมเอามาวางไว้ที่ตักตัวเอง คิดว่าเมื่อกี้อีกฝ่ายคงเอื้อมตัวไปหยิบมาจากเบาะหลัง



“หลับตาแน่นเลยน้า อ่อยอยู่ ดูออก”



“ดูออกเชี่ยไรเล่าเจ๊! ผมไม่ได้อ่อยนะเว้ย!!”  ฮึกฮัดเลย แบบนี้มันต้องฮึดฮัด!



ได้แต่ตะโกนออกไปแบบนั้นแล้วเปิดประตูรถออกไป อยู่ไม่ได้แล้วไอ้เอม อายมาก ... ก็ท่าทางก่อนหน้านั้นที่เลื่อนตัวเข้ามาหากันแบบนั้น ใครมันก็คิดไหมวะ ผมก็คิดว่า...คิดว่ามันจะทำแบบก่อนหน้านั้นเหมือนตอนอยู่ที่ร้านอ่ะดิ ปัดโถโว้ย อายนิดหน่อยแต่เขินมากๆ อยู่ไม่ได้แล้วเว้ย กองทัพไอ้ชะเอมต้องล่าถอยก่อน เพราะคิดแบบนั้นเลยเปิดประตูรถแล้วจะพุ่งลงไป แต่มันติดตรงที่พอจะออกไปกลับต้องเด้งตัวหงายหลังกลับมาติดเบาะอีกที



“ฮ่าๆๆ ลนลานน่าดูเลยว่ะ”



“อะไรเล่า!” หันหน้าไปขึ้นเสียงใส่ไอ้คนที่นั่งขำกันอยู่ที่เบาะคนขับ มองหน้ามันตาเขม็ง ไอ้เอมโมโหแล้วนะๆ



“จะอะไรล่ะ นอกจาก....มึงลืมปลดสายคาดเบลท์” คนข้างๆตัวที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วกดยิ้มมุมปากแบบพยายามกลั้นขำ ผมที่ค่อยๆเลื่อนสายตาไปมอง ชัดเลย! กูลืมปลดออกจริงๆ ยังคาดอยู่ที่ตัวกูนี่เลย



ฉ่า!



ไม่ใช่เสียงหมูไหม้ที่เตาหมูกระทะ แต่คือเสียงหน้าผมที่ไหม้เองจ้า ... เต็มที่ไปเลยดานี่ ล้อกูยันลูกบวชไปเลยก็ได้ถ้านายต้องการ



เจ็บไข่แม่มึง!



คนข้างตัวที่ครั้งนี้เลื่อนตัวเข้ามาหากันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไอ้เอมไม่ถอยหนีแล้วนะ พร้อมสู้มากๆ จะไม่ยอมให้แกล้งหลอกแบบเมื่อกี้ให้ต้องอายได้อีกหรอกเว้ย!



แต่เพราะผมไม่ยอมถอยออกห่าง และอีกคนที่ก็ไม่ได้ผละหนีไปหยิบของที่ด้านหลังเหมือนก่อนหน้านี้ ... ไอ้เอมว่ามันมีอะไรแปลกๆอยู่นะตัวเธอ! เจ๊มันที่เลื่อนตัวเข้ามาใกล้ ใบหน้าหล่อๆที่ตอนนี้ยังแต่งแต้มด้วยสีสันของเครื่องสำอางไม่ต่างจากที่เคยเห็น แต่ดวงตาคมเข้มที่ดูวาววับและเจ้าเล่ห์แบบนั้น เป็นอีกครั้งที่ทำให้ผมใจสั่น ปลายจมูกโด่งที่เลื่อนเข้ามาจนชนเข้ากับปลายจมูกของผม รู้สึกร้อนหน้าจนรู้สึกได้ว่ามันต้องแดงขึ้นมาแน่ๆ รู้สึกได้ว่าแววตาของผมวูบไหวจนอีกฝ่ายก็น่าจะรู้สึกได้ และในตอนนี้ก็มองเห็นรอยยิ้มที่มุมปากของอีกฝ่ายด้วยเช่นกัน



‘คลิก’



“โอ๊ะ ออกแล้วค่ะหนู” คนตรงหน้าที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วพูดจีบปากจีบคอ ช้อนตามองหน้าอีกฝ่ายที่ส่งยิ้มมาให้แบบล้อๆ พร้อมๆกับสายเบลท์ที่ค่อยๆคลายออกจากตัวผม ก็คงเป็นอีกฝ่ายที่ถอดออกให้กัน แต่นี่ก็เป็นอีกครั้ง ที่ผมรู้สึกว่าผมถูกคนตรงหน้าแกล้งเล่นอีกเหมือนเคย



“ข..ขอบใจ” หงุดหงิดแต่สู้อะไรไม่ได้เลยตอบออกไปได้แค่นั้น



“หึ” ได้ยินเสียงหัวเราะไล่หลังตามมาอีก แม่งเอ๊ย ไม่เคยเข้าใจอะไรในตัวไอ้ตุ๊ดนี่เลยสักนิด



“ไปค่ะหนู ขึ้นห้องเจ๊นะคะ” คนที่เดินตามออกมาว่าแบบนั้นพร้อมแบกกระเป๋าผมพาดบ่าหน้าตาเฉย สารร่างกับเสียงพูดสวนทางกันจนต้องขมวดคิ้ว อยากจะพูดถามมันออกไปเลยว่าก่อนหน้านั้นจูบกูทำไม ด้วยนิสัยของผมที่ไม่ชอบให้อะไรค้างคาในใจผม แต่เหมือนว่าคนตรงหน้าจะไม่ให้ความร่วมมือกันเท่าไหร่ ในเมื่อเจ้าตัวที่บอกออกมาแค่นั้นแล้วก็ก้าวขายาวๆเดินนำห่างออกไปนู่นแล้ว



.

.

.



“อาบน้ำเสร็จแล้วก็มานอนค่ะ” 

เจ๊มันที่ว่าออกมาแบบนั้นในตอนที่พาผมเข้ามาในห้องแล้ว ความรู้สึกไม่ต่างจากเมื่อวานสักนิด ยังกับภาพวนลูปของเมื่อคืนที่เกิดขึ้นยังไงอย่างงั้น ผมที่มองหน้าคนตรงหน้านิ่งๆ อีกฝ่ายที่ก็ไม่ยอมพูดอะไรออกมาอีก มันที่แค่มองหน้าผมแล้วทำท่าจะเดินหนีกันเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง



“เดี๋ยวเจ๊...” ผมที่เลือกจะเอ่ยปากเรียกคนตรงหน้าไว้ก่อนที่อีกฝ่ายจะได้เดินหนีกันไป



“มีอะไรคะหนู ตามึงปรือมากเลยนะคะ ไม่อยากนอนรึไง”



“ผม...ผมมีเรื่องอยากจะถาม ผมไม่เข้าใจว่าทำไ....”



“มีอะไรค่อยถามวันอื่นค่ะ ตอนนี้กูง่วง อยากอาบน้ำนอนแล้วค่ะ เคเนอะ” มันที่พูดออกมาดักคอคำพูดของผมทั้งแบบนั้น คำพูดรัวๆขอบอีกฝ่ายที่ไม่ยอมให้ผมได้พูดแทรก และเจ๊มันที่ก็หันหลังหนีกันทั้งแบบนั้น ... ไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจแม่งเลยว่ะ



“อย่าคิดอะไรมากให้ปวดหัวเลยไอ้ควายน้อย” มันที่หันหน้ากลับมามองกันแล้วพูดแบบนั้น ฝ่ามือหนาที่เอื้อมมาวางลงบนหัวของผมก่อนจะขยี้มันน้อยๆแบบที่มันเคยทำ



“บางอย่าง ถ้ามึงหาคำตอบที่ตัวเองสงสัยได้ไว แต่มึงยังตอบคำถามของใจตัวมึงเองไม่ได้มันก็ไม่มีประโยชน์นะ”




“ผม...” ได้แต่ช้อนตามองหน้าอีกฝ่าย พยายามที่จะอ้าปากพูดออกไป แต่สุดท้ายก็ได้แต่ทำปากพงาบๆเหมือนปลาทองแดกอาหารเม็ด คนร่างสูงตรงหน้าที่แค่ยิ้มออกมาหน่อยๆ มือที่ขยี้หัวผมอย่างเบาๆนั่นเปลี่ยนมาผลักหน้าผากของผมแทน หัวกูหงายไปด้านหลังแถมเซถอยหลังไปชนประตูห้องน้ำเลยด้วย



“ไปนะคะอิดอกกกก ง่วงมากแล้วจ้า”



ว่าแบบนั้นพร้อมเปลี่ยนเป็นเสียงกลับไปเป็นเสียงสองอีกแล้ว



ไอ้หน้าเหี้ย!



               สุดท้ายก็ทำได้แค่ไปอาบน้ำในห้องน้ำเดิม เพิ่มเติมคือครั้งนี้กูมีผ้าเช็ดตัว กางเกงใน และชุดนอนพร้อม ไม่โปะแตกรอบสองอีกแล้ว ผมที่ใช้เวลาอาบน้ำวันนี้ไม่นาน เพราะว่าไม่ได้สระผม เดินเข้าไปในห้องนอนของเจ๊มันเหมือนเมื่อคืนวานเด๊ะๆ มองหาหมอนและผ้าห่มของตัวเองเพราะตอนนี้อยากนอนมากแล้ว แต่ที่พื้นข้างเตียงกลับไม่มี



“หมอนหายไปไหนวะ หาวว”



“อ้าปากกว้างขนาดนี้ ก็คือมองเห็นไปถึงลำไส้ใหญ่แล้วค่ะหนู” เสียงจีบปากจีบคอที่ดังออกมาจากข้างหลังทำให้ต้องหันไปมอง

“เชี่ย!” สะดุ้งตกใจจนกูต้องเผลอเอามือทาบอก ใจตกลงไปที่ตาตุ่ม



“กรี๊ด มึงตกใจเชี่ยอะไรคะ กูตกใจด้วยค่ะ!”  คนตรงหน้าที่หลุดกรี๊ดออกมาแบบนั้นแล้วกระโดดเข้ามากอดผมไว้ทั้งตัวพร้อมทำหน้าเลิกลักระแวดระวังมองซ้ายมองขวาและกรอกตามองไปรอบๆห้อง แต่ก็ยังไม่ปล่อยอ้อมแขนออกจากตัวผม



“ตกใจเจ๊พี่มึงนี่แหล่ะ ทำเชี่ยไรของเจ๊วะ!!” ผมที่แหวออกไปแบบนั้นแล้วพยายามใช้แขนดันตัวใหญ่ๆนี่ออกไปจากตัวผม แต่พอทำแบบนั้น ไอ้คนที่อยู่ในชุดนอนสีชมพูดลายหัวใจ พร้อมๆกับคาดที่ปิดตาไว้ที่หัวนั่นก็ยิ่งกอดกันแน่นๆมากขึ้นไปอีก



“ปล่อยโว้ยเจ๊”



“ไม่ค่ะ กูตกใจด้วย” มึงจะมาตกใจด้วยอะไรกับกู ต่างคนต่างตกใจสิ มันจะมาตกใจเพราะคนอื่นตกใจมันไม่ได้!



“กูตกใจเจ๊มึงนี่แหล่ะ แปะเชี่ยอะไรไว้ที่หน้า โว้ย ปล่อย”



“เอ๊ะ! นี่มึงตกใจสวยหรอคะ”



“เออ ตกใจมึงเลยเจ๊”



“เอ๊ะ อินี่ ตบไหมคะ มึงตกใจคนสวยทำไมก่อน”



“แล้วมึงเอาอะไรทาหน้าซะขาวแบบนี้วะ”



“อ๋ออ นี่อ่ะหรอคะ” ว่าแบบนั้นแล้วชี้เข้าหน้าตัวเอง



“เออสิ”



“กูพอกหน้าค่ะ เป็นการมาร์คหน้าด้วยครีมน้ำนม ต้องทำอาทิตย์ละสองครั้ง หน้าถึงจะได้นุ่มใสเนียนเหมือนตูดเด็กค่ะ” ว่าออกมาแบบนั้นอวดอ้างสรรพคุณเต็มที่พร้อมพยายามส่งยิ้มให้กัน แต่ก็ยิ้มได้ไม่สุด เหมือนมันจะตึงหน้า



“ใช่เวลาไหมวะ”



“เวลาไหนก็ได้ เป็นผู้หญิงอย่าหยุดสวยค่ะ”



“แต่ถ้าไม่สวย เจ๊ก็ควรหยุดซะนะ” และที่สำคัญคือมึงไม่ใช่ผู้หญิง หยุดมโน!



“อิน้องเอม ตบไหมคะ ตบกันไหมจะได้จบๆ”



“โว้ย ไม่ทะเลาะกับเจ๊แล้ว หมอนผมล่ะเจ๊” เปลี่ยนเรื่องถามอีกคนไปทั้งแบบนั้น มองเวลาก็คือจะเช้าแล้วแต่ยังไม่ได้นอน



“นู้นไงคะ”



“ไหนล่ะวะ”



“บนเตียงนั่นไงคะ ตาบอดหรอ”



“ไอ้บนเตียงน่ะผมเห็น แต่หมอนผมที่จะเอามานอนข้างล่างล่ะอยู่ไหน ผมง่วงแล้วนะ เจ๊เลิกแกล้งกันสักที” แกล้งอยู่ได้ เป็นคนกวนตีนที่ชอบทำหน้าใสซื่อไม่มีอะไร แต่จริงๆก็เป็นตัวร้ายที่ชอบจ้องจะแกล้งกู



“ไม่ได้แกล้ง คืนนี้มึงไปนอนบนเตียงกับกู”



“เห้ย! ได้ไง เจ๊คิดไม่ดีกับผมใช่ไหมวะ” ฮึกฮัดเลย ไอ้เอมฮึดฮัดเลยครับ นี่มึงจ้องจะลวนลามกันใช่หรือไม่ ยิ่งก่อนหน้านี้...เราพึ่งๆ ...เราพึ่งม๊วฟม๊าบฟู๊บฟ๊าบกันมาด้วยนะเว้ย



“กูสิคะต้องกลัวมึง กูเป็นผู้หญิงบอบบางสวยๆนะคะ” ทำหน้าหวาดระแวงใส่กูพร้อมเอาผมทัดหู กูนี่กรอกตาเลย คือมึงไม่มีผมไง



“พอๆ ไม่ต้องทำหน้าเหม็นเบื่อกูค่ะ ขึ้นไปนอนบนเตียงนั่นแหล่ะ เพราะถึงนอนข้างล่าง มึงก็ฉวยโอกาสขึ้นมาลวนลามกูบนเตียงอยู่ดี”



“ผมเปล่านะเว้ย! ผมไม่ได้ปีนขึ้น...”



“มึงละเมอมั้งคะ พอๆ จะยังไงก็ช่าง ปลายทางคือมึงปีนขึ้นมาค่ะ เพราะงั้นก็นอนด้วยกันไปเลยค่ะ แต่นั่น เอาหมอนข้างมากั้นด้วยนะคะ กูกลัวมึงลวนลามกู”  ต้องเป็นกูไหมที่พูดคำนั้นอ่ะ ... แต่ถึงแบบนั้นผมก็เลือกที่จะไม่เถียงอะไรออกไปอีก เพราะตอนนี้ง่วงจนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว ได้แต่อ้าปากหาวออกมาอีกหนึ่งที



“ไปนอนเถอะค่ะ หนังตามึงจะปิดแล้ว”



“อื้มๆ ฝันดีผีกัดตูดนะเจ๊” พูดออกไปแค่นั้นแล้วรีบปีนขึ้นเตียงไป แอร์เย็นๆกับผ้าห่มนุ่มๆที่ทำให้รู้สึกสบาย ที่พอซุกตัวเข้าไปแล้วได้กลิ่นหอมๆของน้ำยาปรับผ้านุ่มยิ่งทำให้รู้สึกดี



“กัดตูดมึงน่ะสิ” ได้ยินเสียงของอีกฝ่ายแว่วๆแต่ใครจะสน ตอนนี้ก็แค่รู้สึกง่วงเกินกว่าจะลุกขึ้นมาต่อล้อต่อเถียงกับอีกฝ่าย รับรู้ถึงความเคลื่อนไหวภายในห้อง คิดว่าอีกฝ่ายคนเดินเข้าไปล้างหน้าล่ะมั้ง เลือกที่จะปิดตาลงแล้วซุกหน้าลงกับหมอนและหลับไปทั้งแบบนั้น



.

.

.



“อื้ม เย็น” ความรู้สึกเปียกๆเย็นๆของสัมผัสบางอย่างที่ทำให้ต้องพูดออกมาแบบนั้น ทั้งง่วงทั้งรำคาญทำให้ต้องขมวดคิ้ว แต่ก็ง่วงเกินกว่าจะลืมตาขึ้นมามองได้



“ชู่ว นอนเถอะ” เสียงทุ้มเข้มที่กระซิบเข้าที่ข้างหูทำให้ผมเลิกขมวดคิ้ว เสียงคุ้นหูที่ทำให้รู้ว่าใคร ความรู้สึกเหมือนฝันก็ไม่ใช่แต่จะตื่นอยู่ก็ไม่เชิง ความเย็นๆที่มาพร้อมๆกับลมร้อนๆที่เป่ารดอยู่ที่ข้างแก้มและลำคอ รู้สึกจักจี้จนต้องหดคอเอาหน้าซุกลงกับหมอน แรงกอดรัดแปลกๆที่รู้สึกอยู่ที่เอวจนต้องขยับหนี แต่เหมือนยิ่งหนีก็ยิ่งถูกรัด



“อื้อ อึดอัด อย่าแกล้งเอม”



“หึ เฉยๆน่า กูแค่ติดหมอนข้าง” หมอนข้าง ... อะไรนะ หมายถึงอะไร



บางอย่างที่นิ่มๆเย็นๆถูกกดลงมาที่แก้มอีกครั้งทำให้ยิ่งต้องสงสัย แต่เสียงเข้มๆที่ทำให้อุ่นใจแปลกๆพร้อมๆกับแรงกอดรัดที่พอลองขยับตัวเข้าไปใกล้กับอบอุ่นแปลกๆแบบนั้นก็ทำให้หลับลงไปอีกครั้งแบบยากที่จะทัดทาน



สงสัยอะไรไปก็ช่างมันก่อนแล้วล่ะตอนนี้ ... ความมืดโรยตัวเข้ามาอีกครั้ง พร้อมๆกับสติของผมที่เริ่มจะดับลง



“หึ ควายน้อยเอ๊ย”



เสียงหัวเราะทุ้มขำเหมือนกับเอ็นดูอะไรบางอย่างซะเหลือเกินที่ดังอยู่ข้างๆหู คุ้นจัง...ควายน้อยตัวไหนกันนะ



...



“อื้ม หาวว”



ค่อยๆขยับตัวช้าๆตอนที่เริ่มรู้สึกตัว ก่อนจะเอื้อมมือขึ้นไปเกาหัวเพราะเริ่มรู้สึกคัน ลืมตาขึ้นมามองเห็นฝ้าเพดานสูงที่ไม่คุ้นเคย ก่อนจะหลับตาเอียงหน้าลงไปซุกเข้ากับหมอนและผ้าห่มอีกครั้งแบบคนขี้เกียจที่ยังไม่อยากจะตื่น  ก่อนจะต้องขมวดคิ้วเพราะกลิ่นที่ไม่คุ้นที่มาจากผ้าห่ม แต่ถึงแบบนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ากลิ่นแปลกๆกลิ่นนี้มันโคตรจะอุ่นจนต้องถูหน้าไปมากับหมอนเล่น ผ่านไปสักพักก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง มองเห็นผ้าม่านที่ถูกรูดขึ้นทำแสงสว่างลอดผ่านเข้ามาในตัวห้องให้ได้มองเห็นด้านนอกที่เป็นระเบียงกว้างและสวนดอกไม้เล็กๆที่ดูจากการตกแต่งแล้วมันเป็นแบบเดียวกับสวนของร้านที่ผมทำงานอยู่ตอนนี้



“นี่มันห้องนอนของไอ้เจ๊พี่มันนี่หว่า” สติเริ่มมาก็เริ่มจำได้ว่าตอนนี้ไม่ได้อาศัยอยู่ที่บ้านญาติตัวเองแล้วนี่หว่า  เด้งตัวขึ้นมาแล้วมองไปรอบๆ ไม่เห็นวี่แววเจ้าของห้อง  คิดว่าอีกฝ่ายคงตื่นก่อนแล้ว



“เจ๊ ทำอะไรอยู่หรอ” เดินลากสังขารออกไปตามกลิ่นของของกิน ภาพเดิมๆที่เหมือนเคยเห็นแบบนี้เมื่อวานก่อน แผ่นหลังกว้างๆที่หันหน้าเข้าหาเตาแก๊สและขยับไปมาแบบคล่องแคล่วแม้ว่าสภาพร่างหนาๆดูแมนๆแบบนั้นจะไม่เข้ากับสภาพห้องครัวหรือแม้แต่ผ้ากันเปื้อนสีฟ้าลายหมาตัวใหญ่สีขาวๆนั่นเลยก็ตาม



“เอ้า ตื่นแล้วหรอคะหนู แล้วมายืนหัวฟูทำเหี้ยไรคะ ไปอาบน้ำแปรงฟัน”



“มันหอม” ไม่ตอบอย่างอื่นแต่ตายังมองไปที่เตาไฟไม่เลิก มองเห็นเป็นข้าวผัดแฮม



“ค่อยมาแดก ไปอาบน้ำแปรงฟันก่อนค่ะ น่ารังเกียจที่สุด อี๋ๆ คนสวยรับไม่ได้เหม็นขี้ฟัน” เบ้หน้าเบ้ตาใส่แบบรังเกียจกันแบบไม่ปิดบัง ปัดโถ่เว้ย จะอะไรขนาดนั้นอ่ะ ไอ้เอมก็ไม่สกปรกขนาดนั้นไหมวะ ก็แปรงฟันทุกเดือนนะ ถุย!



“เออๆ ไปแล้วๆ ก็ไม่เห็นจะต้องทำรังเกียจกันขนาดนั้นเลยนี่หว่า ทำยังกับว่าไม่เคยจูบกัน”



“กรี๊ดดดดด พูดไรคะ อุ๊บอิ๊บปากมึงเลยนะคะ ใครจูบใคร สวยไม่รู้ สวยไม่เห็น” หน้าตาเลิกลักพร้อมตะหลิวที่หล่นตกพื้น อาการออกแบบเล่นใหญ่เล่นโต



“เจ๊ไม่ต้องร้อนตัว ไม่ได้หมายถึงเจ๊หรอกเว่ย” บอกออกไปแบบนั้น แล้วคนที่กำลังเอามือทาบอกตัวเองอยู่ก็หยุดชะงักไป



“ไม่ใช่กูแล้วมึงไปจูบกับใครมาอีก” ถามออกมาแบบนั้น ก่อนจะหันมามองหน้ากันนิ่งๆ สายตาที่เปลี่ยนเป็นจ้องกันแบบไม่ล้อเล่นเหมือนก่อน ผมที่ยกยิ้มมุมปากน้อยๆมองหน้าอีกฝ่ายพร้อมหรี่ตาใส่อีกคน



“ผมน่ะ...ไม่บอกหรอก ฮ่าๆ กลัวเจ๊จะตกใจ”



“มึงอย่ามาลีลาไอ้เอม กวนตีนกูหรอ กูเอาตะหลิวฟาดปากมึงนะ” ว่าออกมาแบบดุๆ ผมที่ยังยิ้มร่า และยิ่งยิ้มกว้างขึ้นมากขึ้นไปอีกตอนที่อีกคนก้มลงหยิบตะหลิวและทำท่าจะเดินมาเค้นเอาคำตอบ ผมที่ก็โพล่งออกไปทันทีว่า



“ผมจูบกับพี่ดาบล่ะ เจ๊ตกใจไหมจ๊ะ” ยิ้มกว้างๆใส่คนตรงหน้าที่ชะงักตัวไป ก่อนดวงตาคมเข้มที่ผมคุ้นเคยจะค่อยๆผ่อนคลายลง และเจ้าตัวก็



“กรี๊ดดดดดด หยุดนะ หยุดเรียกชื่อนั้นให้สวยได้ยินน้า”



“ฮ่าๆๆ สะใจโว้ย”



ผมที่หัวเราะลั่นและวิ่งหนีออกมาจากห้องครัวหน้าตาเฉย ได้ยินเสียงสองที่ร้องหวีดๆอยู่ในครัวดังตามมาอีกเป็นระยะ ๆ  ... เช้านี้หนึ่งแต้ม มอบคะแนนมาให้ไอ้เอมซะดีๆ อย่าคิดว่าจะแกล้งกันได้อยู่ฝ่ายเดียวนะอิเจ๊พี่มึง





               แต่งตัวด้วยชุดนักศึกษา เดินออกมาจากห้องน้ำแล้วก็เห็นเจ้าของห้องนั่งอยู่ที่โต๊ะกินข้าวเรียบร้อยแล้ว เจ้าตัวที่แค่ยกแก้วกาแฟร้อนๆขึ้นดื่ม ส่วนสายตาคมๆนั่นยังคงจับจ้องอยู่ที่ไอแพดของตัวเองแล้วไล่ดูอะไรไปเรื่อย คิดว่าคงเช็คข่าวสารทั่วๆไป



“เสร็จแล้วก็มาแดกข้าวค่ะ ลีลา”

 

ขอให้ได้ว่าขอให้ได้บ่น แต่ถึงแบบนั้นก็เห็นว่าอีกคนตักข้าวผัดมาวางไว้ให้เรียบร้อย ข้าวผัดแฮมร้อนๆที่ผัดใส่ไข่ แครอท และต้นหอมซอยที่โรยหน้ามาให้อย่างน่ากิน กลิ่นหอมๆที่พอได้กลิ่นแล้วชวนให้น้ำลายไหล ผมที่รีบนั่งลงบนโต๊ะแล้วตักข้าวเข้าปากแบบไม่เถียงอะไรคนตรงหน้าออกมาอีก



“อื้มมม อาอ่อย”



“กูทำอะไรก็เห็นมึงบอกอร่อยหมดแหล่ะค่ะ”



“ก็เจ๊ทำอร่อยจริงๆนี่หว่า” บอกแบบนั้นแล้วยกนิ้วโป้งสองข้างส่งไปให้อีกคนแบบเน้นๆ กลัวพี่เจ๊มันไม่เชื่อ ก้มหน้าตักข้าวเข้าปากอีกคำแล้วยิ้มตาปิดออกมา ชีวิตคนเราก็ต้องการแค่นี้ไหมวะ แค่ของกินอร่อยๆและอยู่กับคนที่สบายใจ



“เอม”



“หื้ม” เงยหน้าขึ้นมามองคนที่เรียกชื่อกันดีๆออกมาแบบนั้น ปกติพี่เจ๊มันต้องเรียกอิหนูน้องบ๋อย อินู่นอินี่ไปเรื่อย สารพัดชื่อที่ตั้งขึ้นมาเรียกกัน



“มึงไม่ต้องไปทำงานที่ร้านแล้วนะ”



‘เคร้ง’



“ห๊ะ! ทำไมอ่ะเจ๊ ผมทำไรผิดอ่ะเจ๊ หรือเพราะผมเรียกชื่อพี่ดาบหรอ เจ๊ ผมขอโทษนะ เจ๊อย่าไล่ผมออกเลยนะ” ว่าออกมาแบบนั้นพร้อมๆกับช้อนในมือที่ล่วงกระแทกจานข้าว ได้แต่ยกมือขึ้นไหว้คนตรงหน้า ... ไม่ได้นะ ถ้าผมไม่มีงานนี้ผมตายแน่เลย งานดี เงินดี ถึงแม้ว่ามันจะเหนื่อยไปหน่อยแต่มันก็ดีที่สุดสำหรับผมในตอนนี้



“มันไม่ใช่แบบนั้น”



“แล้วมันแบบไหน เจ๊ เอมขอโทษนะ เจ๊อย่าไล่เอมออกเลยนะ”



ว่าแบบนั้นแล้วลุกขึ้นแล้วเดินไปนั่งลงตรงหน้าของเจ๊มัน เกาะขามันไว้แบบนั้น รู้สึกเหมือนอยากจะร้องไห้ออกมายังไงชอบกล แต่ผมเสียงานนี้ไปไม่ได้จริงๆ แค่เงินทุนที่ได้มันก็พอแค่ค่าเทอม แต่ค่ากินอยู่ในชีวิตประจำวันผมไม่มี แล้วจะอยู่ยังไง แค่คิดมาถึงตรงนี้ก็อยากจะร้องไห้แล้ว สภาพเศรษฐกิจแบบนี้ คนที่รวยอยู่แล้วไม่เข้าใจหรอกว่าความจนมันน่ากลัวมากแค่ไหน



“มึง ใจเย็นๆ ทำเหี้ยไรวะ” เจ๊พี่มันที่ผวาตอนที่เห็นผมเกาะขามันไว้แน่นๆแบบนั้น แต่ถึงแบบนั้นผมก็ไม่ปล่อย ก็แค่ต้องขอร้องกันแบบสุดความสามารถ



“ไม่ เจ๊เอมขอร้อง อย่าไล่เอมออกเลยนะ นะเจ๊นะ”



“ไอ้เอม ตั้งสติหน่อยไอ้สัด!” เจ๊มันที่ว่าออกมาอีกครั้งด้วยเสียงเข้มๆที่คล้ายจะตวาด พร้อมๆกับฝ่ามือแกร่งที่ดึงกระชากต้นแขนของผมขึ้นด้วย ผมที่ค่อยๆยืนขึ้นและช้อนตาสั่นๆมองพี่มันที่มองผมนิ่งๆ



“ตั้งสติแล้วฟังกู กูไม่ได้จะไล่มึงออก”



“แต่เจ๊บอกไม่ให้ไปทำงาน”



“เงียบ!” มันที่มองดุกันและพูดออกมาด้วยเสียงเข้มๆที่ทำให้ต้องหุบปากลงทันที เห็นเจ๊มันที่ถอนหายใจออกมานิดๆก่อนจะยกมือขึ้นไปเสยผมออกจากหน้าตัวเองเหมือนอยากระงับอารมณ์



“กูไม่ได้จะไล่มึงออก แค่บอกว่าไม่ต้องไปทำงานที่ร้าน” ผมที่อยากจะอ้าปากเถียงออกมาในตอนนี้ แต่มองเห็นสายตาของอีกคนที่มองกันอยู่เลยต้องเงียบไม่พูดออกไปอีก



“งานที่ร้านมันเลิกดึก แล้วเทอมนี้มึงก็เรียนเช้าบ่อย กูว่ามันจะเสียการเรียนของมึง”



“ไม่เป็นไรเจ๊ ผมไหว” โพล่งออกไปแบบนั้นแบบสุดจะทน อยากพูดมากๆ เหนื่อยกว่านี้กูก็ไหว



“มึงไม่ไหว แค่ไม่กี่วันนี่กูก็เห็นมึงหาวเอาๆเวลาทำงาน”



“ผม...ผมจะไม่หาวแล้วเจ๊ จริงๆนะ เอมจะไม่หาวแล้วนะ” บอกออกไปแบบนั้นพร้อมน้ำตาที่เอ่อขึ้นมา บัดซบ! นี่กูจะโดนไล่ออกเพราะหาวในเวลางานหรอวะ



“ไอ้เอมมึงฟัง”



เจ๊จะให้ฟังอะไรอีกวะ เจ๊จะไล่ผมออกเพราะผมหาว ผมกำลังจะตกงานแล้วไม่มีเงินนะเว้ย ผมสัญญาจริงๆนะ ผมจะไม่หาวแล้ว”



คนตรงหน้าที่มองหน้ากันเหมือนเหนื่อยหน่ายจะพูดด้วย แต่ผมก็ยังไม่ท้อ เอื้อมมือไปเกาะแขนเจ๊พี่มันไว้แน่นๆเลยในตอนนี้



“กูไม่ได้จะไล่มึงออก กูแค่จะบอกให้มึงเปลี่ยนงาน ไม่ต้องไปเสริฟที่ผับแล้ว แต่มาทำงานความสะอาดห้องให้กูแทน ส่วนวันไหนที่มึงไม่มีเรียนเช้า ถ้าอยากไปทำที่ร้านก็ไปเป็นวันๆเอา กูจะให้ค่าจ้างเสริฟเป็นรายวัน ส่วนทำความสะอาดห้องนี่ก็เป็นรายเดือน เดือนละเท่ากับค่าจ้างของเด็กเสริฟที่เคยตกลงกันไว้ แล้วมึงก็มาพักที่ห้องกูไปเลยจะได้ทำงานง่ายๆ เท่านี้มึงเข้าใจรึยัง เลิกตื่นตูมตีโพยที่พายสักที”



ผมที่ได้แต่กระพริบตาปริบๆตอนที่ได้ยินคนตรงหน้าว่าออกมารัวๆแบบนั้น ก่อนจะค่อยๆประมวลผลตามช้าๆ แต่...แต่สรุปว่าผมไม่โดนไล่ออกใช่หรือไม่จ๊ะ



“เจ๊”



“อืม คราวนี้มึงเข้าใจรึ เห้ย!....”



“ฮื่อออ เจ๊! ขอบคุณนะ เอมขอบคุณนะเจ๊ครับ” แหกปากออกไปแบบนั้น พร้อมๆกับตัวผมที่พุ่งออกไปกอดคนตรงหน้าเอาไว้แน่นๆ ทั้งหน้าทั้งปากทั้งตาที่ยิ้มออกมากว้างๆพร้อมๆกัน เป็นความรู้สึกทั้งดีใจและสบายใจ ผมไม่โดนไล่ออก แถมทั้งยังได้งานที่ดีที่พักที่ดีกว่าเดิมอีกไม่ใช่รึไงกัน



“เฮ้อ มึงนี่แม่งเป็นควายน้อยจริงๆเลยว่ะ” ได้ยินเสียงของคนข้างหูที่พูดออกมาแบบนั้น ก่อนที่จะรู้สึกถึงฝ่ามืออุ่นที่วางลงที่แผ่นหลังของกัน ผมที่ไม่สนใจอะไรอีกนอกจากกระชับอ้อมแขนของตัวเองกอดอีกฝ่ายแน่นๆ



“ขอบคุณนะครับเจ๊”



“ก็กูเคยบอกมึงแล้วไง ว่าคนที่มึงจะพึ่งพาได้ ก็คือกู”





...



(มีต่อจ้า)
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่7 {23/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 23-11-2019 20:30:20
“เจ๊ ส่งผมแค่นี้ก็พอ เจ๊จะเดินเข้ามาด้วยทำไมวะ”



ผมที่หันไปบอกคนข้างตัวที่ตอนนี้อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีชมพูอ่อนๆพับแขนเสื้อมาไว้ตรงข้อศอกแถมปลดกระดุมเม็ดบนไปอีกสองเม็ดเผยให้เห็นอกแกร่งที่อยู่ใต้เสื้อนั่นพอให้วับๆแวมๆ ขายาวๆที่อยู่ในกางเกงยีนส์เดฟสีดำแบรนดังแบบที่เจ้าตัวชอบใส่เป็นประจำ ใบหน้าหล่อคมที่วันนี้ทารองพื้นมาพอประมาณและเขียนคิ้วด้วยสีน้ำตาลเข้มให้ตัดกับสีผมของเจ้าตัวได้อย่างลงตัว และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือสีปากที่วันนี้ก็ยังแดงไม่เปลี่ยน แต่มองจากมุมนี้ ถ้าเจ๊มันไม่กรีดไม้กรีดมือและพูดเสียงสอง มองรวมๆก็แทบจะไม่มีใครรู้หรอกว่ามันเป็นตุ๊ด



“ทำไมคะ มันทำไมคะ ถ้ากูจะเดินสวยๆเข้าคณะไปกับมึงนี่มันทำไม ทำไมต้องอิดออด คือมึงกันซีนกูหรอคะอิหนูน้องบ๋อย”



“เจ๊ไม่ให้ผมเป็นเด็กเสริฟแล้ว ผมไม่ใช่บ๋อยแล้ว”



“แต่กูรู้จักมึงมาจากการที่มึงเป็นเด็กเสริฟ เพราะฉะนั้น กูจะเรียกแบบนี้แล้วมึงทำไมคะหือ”



“แล้วแต่เจ๊เลย”



“นั่นก็ถูกค่ะหนู” ตอบผมออกมาแบบหน้าระรื่น ก่อนที่แขนหนักๆของอีกฝ่ายวางพาดมาที่บ่าของผม เจ้าตัวที่ดึงตัวของผมให้เข้าไปกันกันมากขึ้นอีก



“เจ๊ ทำไรของเจ๊วะ”



“แขนหนัก แขนอ่อนล้า สวยอยากมีที่พักแขนค่ะ” จีบปากจีบคอแล้วก้มหน้าลงมาบอกกันพร้อมรอยยิ้มตอแหล



“เจ๊แม่ง ปล่อยผมเลยนะโว้ย” กัดฟันกระซิบบอกอีกฝ่ายแบบนั้น แต่อีกฝ่ายกับยิ่งยึดตัวผมเอาไว้แน่นๆ



“มึงอยากถูกไล่ออกหรออิหนู” 



มันสู้! มันสู้ไอ้เอม!! คิดว่าขู่แบบนี้แล้วไอ้เอมจะท้อหรอห๊ะ!



“ตามสบายเลยจ๊ะเจ๊ดานี่คนสวย จะวางไว้บนนี้ทั้งศตวรรษเอมก็โอเค เบาสบายไม่หนักเลยจ๊ะ” ว่าออกไปแบบนั้นพร้อมยิ้มประจบ กูกลัว! กูท้อมาก ดานี่มึงจะทำไรกับกูก็ทำเลย ตามใจท่านเถิด ถุย! เจ็บไข่!!



“เปลี่ยนสีไวเลยนะไอ้ควายน้อย”



“อย่าพูดหยาบคายแบบนั้นสิเจ๊ เค้าเรียกว่าอยู่เป็น”



“อยากจะถุยใส่ลูกตามึงจริงๆ”



“อี๋ สกปรก”



เบ้หน้าใส่คนที่ก็ยังเดินกอดคอกันไปทั้งแบบนั้น มองเห็นรอบๆตัวของเรามีคนจับจ้องพี่มันมาตลอดทาง แอบเห็นสาวๆบางคนก็ยกมือถือขึ้นแอบถ่ายไปอีก เห็นแบบนั้นแล้วได้แต่ถอนใจเลย อย่าให้หนังหน้าที่เต็มไปด้วยเครื่องสำอางของมันหลอกพวกคุณได้ครับ ไอ้เจ๊นี่น่ะมันร้าย ตัวอันตรายที่สุดก็คือมันนี่ล่ะ ถามว่าอันตรายตรงไหน ถ้าคิดคำตอบออกมาไม่ได้ อย่างน้อยๆมันก็อันตรายกับใจผมล่ะหนึ่งอย่าง



“มึงไม่มีเหตุผลเลยนะไอ้เหี้ยเก้อ”



“กูมีเหตุผลของกู และเรื่องนี้ไอ้เอมมันก็ต้องฟังกูด้วย”



เสียงโหวกเหวกโวยวายเหมือนคนทะเลาะกัน ทำให้ผมต้องดึงความสนใจจากเรื่องที่คิดอยู่ให้หันไปมอง เสียงสองเสียงที่ทะเลาะกันดังแบบไม่อายใคร แต่สำหรับผมที่พอยิ่งเดินเข้าไปใกล้โต๊ะหินอ่อนที่ถูกจัดวางไว้ในสวนดอกไม้ข้างตัวตึกคณะ พอเห็นว่าเป็นใครก็ยิ่งอายมากกว่าเดิม เพราะมันสองตัวที่ทะเลาะกันหน้าดำหน้าแดงอยู่ตอนนี้มันคือเพื่อนสนิทผมน่ะสิ คือพวกมึงทะเลาะอะไรกัน ไหนแถลงพี่เอมซิ



“มึงเป็นบ้าป่ะเนี่ยไอ้เก้อ กูมั่นใจว่าเรื่องนี้ไอ้เอมจะไม่ฟังมึง”



“มันต้องฟัง กูไม่ยอมให้มันไปทำงานที่ร้านห่านั่นอีกแล้ว!”



เสียงดังๆของไอ้เก้อไม่ทำให้ผมตกใจมากเท่ากับคำพูดของมันที่ว่าออกมาแบบนั้น มันบอกไม่ให้ผมไปทำงานที่ร้าน และร้านห่าที่มันพูดถึง ก็คงจะไม่ใช่ร้านไหนนอกจากจะเป็นร้านของคนข้างตัวที่ยืดกอดคอผมอยู่ตอนนี้ ... และไม่ว่าจะเพราะอะไรก็ตาม มันก็ไม่สมควรที่เจ้าของร้านจะมาได้ยินอะไรแบบนี้ไหมวะ



ผมที่กำลังจะอ้าปากพูดเพื่อหยุดคำพร่อยๆของไอ้เก้อ แต่ดูเหมือนว่าจะช้าไปก้าวนึง



“ร้านเจ๊มันมีอะไรทำให้ไม่พอใจหรอคะ”



คนข้างตัวผมที่พูดออกมาแบบนั้น ถึงคำพูดจะไม่แตกต่างจากที่เจ๊มันชอบพูด แต่ครั้งเสียงมันกลับกระด้างและไม่แด๊ะแด๋เหมือนที่เจ้าตัวชอบทำ ผมเห็นไอ้หยีกับไอ้เก้อที่ละสายตาหันมามองเรา และทันทีที่ไอ้เก้อมองเห็นเรา สีหน้าของมันก็ถมึงทึงมากขึ้นไปอีกเท่าตัว ... คือมึงเป็นอะไรวะเพื่อนเก้อ อยากถามว่ามึงปวดขี้หรอ แต่คิดว่าหุบปากไว้จะดีกว่า



“ว่าไงคะพ่อหนุ่ม มีอะไรกับร้าน กู หรอคะ”



คำพูดคำจาของเจ๊พี่มันที่ทำให้ผมรู้สึกขนลุกแปลกๆ ได้แต่ค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปมองคนที่ยืนกอดคอกันอยู่ข้างๆตัว มองเห็นเสี้ยวหน้าคมที่นิ่งขึ้นมากกว่าเดิมของอีกฝ่าย ก่อนที่รอยยิ้มร้ายๆจะถูกจุดขึ้นที่มุมปากของพี่มัน

อิฉิบหาย! ไม่ชอบเห็นหน้าตาแบบนี้ของมันเลย

ผมคุ้นเคยดีกว่าใคร รอยยิ้มร้ายๆแบบนี้ ในคือที่เมาๆแล้วเยดุๆมันก็แบบนี้

ไม่นะ...! หรือว่าที่กูคิดว่าเจ๊แม่งชอบไอ้เก้อมันจะจริงวะ แม่ย้อยไข่ใหญ่! ไม่ได้นะเว้ย เจ๊มึงจะมาอยากเยไอ้เก้อไม่ได้นะเว้ย!



“อะ...อ้าว เจ๊ดานี่ สวัสดีค่ะเจ๊ มาส่งอิเอมหรอคะ”



ในช่วงจังหวะที่เหมือนเดดแอร์อยู่นั้น เป็นไอ้หยีที่ได้สติขึ้นมาก่อนใคร ป้ามันที่กระแอมไอเล็กๆแล้วยกมือไหว้เจ๊มันอย่างร่าเริง



“ดีค่ะน้องหยีคนสวยของเจ๊ ... ส่วนพ่อหนุ่มกล้ามล่ำ สรุปยังไงจ๊ะ” อิเจ๊ก็คือกัดไม่ปล่อยยิ่งกว่าหมาบางแก้ว เค้าพาออกไปเรื่องอื่น มึงจะวนกลับมาเรื่องเดิมทำไมวะ แถมเจ๊มันก็ยังมองไอ้เก้อไม่หยุดอีกด้วย



“ไม่สรุปยังไง แค่กูจะไม่ให้ไอ้เอมไปทำงานที่ร้านมึงอีกแค่นั้น!” ไอ้เก้อที่ว่าออกมาแบบนั้น มันที่ขึ้นมึงขึ้นกูแบบไม่สนใจว่าเจ๊มันจะอายุมากกว่า ผมที่เห็นแบบนั้นแล้วไม่เข้าใจมากๆ ไอ้เก้อเป็นเพื่อนที่ดีครับ มันไม่ใช่คนไม่มีมารยาท และนี่อาจเป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่รู้จักกันมาแล้วเห็นมันไม่มีมารยาทใส่คนอื่นแบบไม่มีเหตุผลแบบนี้



“ไอ้เก้อ มึงเป็นไรวะเพื่อน พูดจากันดีๆก็ได้นี่” เป็นผมที่พูดออกไปแบบนั้น ไอ้เก้อที่หันมามองกันตาเขม็งจนกูสะดุ้ง คืออะไร มึงหิวตับเด็กหรอวะ



“กูจะพูดแบบนี้ และมึงก็มานี่ไอ้เอม” มันพูดปุ๊บก็คือทำปั๊บ ฝ่ามือแกร่งของมันที่กระชากแขนของผมไปจนตัวปลิว มันติดอยู่ตรงที่ว่า อิเจ๊พี่มันเองก็ไม่ยอมปล่อยมือจากคอผมเช่นกัน มันที่ดึงรั้งตัวผมไว้อย่างแรงและสะบัดตัวผมให้ถอยออกมาจากไอ้เก้อ



“โอ๊ย เจ็บนะ”



“ไอ้เหี้ยเก้อ มึงเป็นบ้าอะไรมึงคะ” ไอ้หยีที่วิ่งเข้ามาห้ามทัพ มันที่ผลักไอ้เก้อออกห่างจากผมแล้วว่าออกมาแบบนั้น



“อิหนูคะ เจ็บหรือเปล่า” เจ๊มันที่เอื้อมมือมาลูบแขนข้างที่ถูกไอ้เก้อกระชากเบาๆ และเพราะผมเป็นคนขาว มันเลยขึ้นรอยแดงได้ง่ายกว่าคนอื่น รอยนิ้วทั้งห้าของมันปรากฏอยู่บนต้นแขนของผม นี่มันบอกให้รู้ว่าไอ้เก้อใช้แรงมากแค่ไหน ผมที่ได้แต่หันไปมองหน้ามันแบบไม่เข้าใจ คือมันเป็นอะไรวะ



“ไอ้เอม”



“พอค่ะ มึงพอค่ะพ่อกล้ามล่ำ มึงไม่เห็นหรอคะว่ามึงทำให้น้องหนูมันเจ็บน่ะ สวยว่า มึงน่าจะมีเรื่องคุยกูมากกว่าใช่ไหมเอ่ย ถ้าแบบนั้นก็อย่าพิรี้พิไรอยู่เลยค่ะ มีอะไรไม่พอใจร้ายเจ๊หรอคะ มาพูดกันดีๆเนอะ เดี๋ยวเจ๊ปรับปรุงให้”



“ถุย มึงเลิกทำท่าแด๊ะแด๋แบบนี้สักทีเหอะว่ะ มึงจะหลอกใครก็ได้ แต่ไม่ใช่กูล่ะคนนึง”



“ไอ้เหี้ยเก้อ ปากมึงนี่นะ วันนี้มันเป็นเหี้ยอะไรนักหนา ... เจ๊ดานี่ หยีขอโทษแทนเพื่อนหยีด้วยนะคะ มันคงแฮงค์น่ะค่ะ”



“กูไม่ได้แฮงค์เหี้ยอะไรทั้งนั้นล่ะ!”



“จุ๊ๆ ไม่เป็นไรค่ะหนูหยีคนสวยของเจ๊ เรามาดูอิหนูเอมๆนี่ดีกว่า ส่วนพ่อกล้ามล่ำ เราไปคุยกันทางนู้นดีไหม เพื่อจะใจเย็นขึ้นเนอะ” เจ๊มันที่ว่าแบบนั้นพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะชี้มือออกไปที่สวนที่ถูกจัดไว้ไม่ไกลออกไป มองจากตรงนี้ก็ยังเห็น แต่ถ้าคุยอะไรกัน ถ้าไม่ตะโกนดังๆ เราที่อยู่ตรงนี้คงไม่ได้ยิน



“เหอะ” ไอ้เก้อที่สบถออกมาแบบนั้นแล้วเดินตามเจ๊มันไป ผมกับไอ้หยีที่ได้แต่มองตากันแบบไม่เข้าใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้



“ไม่ต้องกังวลหรอกมึง เจ๊ดานี่เค้าไม่ไล่มึงออกเพราะเพื่อนมึงเป็นบ้าหรอก”



“แล้วไอ้เก้อมันเป็นไรของมันวะ”



“ไม่รู้คะ เห็นฟึดฟัดเป็นหมาบ้าตั้งแต่ตอนไปส่งกูที่บ้านเมื่อคืนแล้ว”



ผมที่ได้แต่มองตามไอ้เก้อและเจ๊พี่มันที่กำลังยืนคุยกันอยู่ตรงนั้นที่ไกลออกไป มองเห็นเจ๊มันที่ส่งยิ้มเป็นมิตรให้พร้อมพูดคุยด้วยดีๆอยู่ตรงนั้น



.

.

.



               ผมที่เดินนำเพื่อนกลุ่มเดียวกันกับไอ้เอมให้ออกมาคุยกันที่สวนหย่อมข้างๆที่ถูกจัดไว้ไม่ห่างจากตรงจุดโต๊ะม้าหิน ปลายสายตาไปมองก็เห็นไอ้หนูบ๋อยที่ชะเง้อคอยื่นคอยาวมองมาด้วยสายตาเป็นกังวลอยู่ตรงนั้น



“ว่าไงคะพ่อกล้ามล่ำ ไม่พอใจอะไรร้านเจ๊หรอคะ” เป็นผมที่เปิดปากพูดออกไปก่อนแบบนั้น พร้อมๆกับส่งยิ้มไปให้



“เหอะ มึงเลิกตอแหลสักทีเหอะว่ะ มึงอย่าคิดนะว่าเมื่อคืนกูไม่เห็นว่ามึงทำอะไรไอ้เอม”



“อู้ววว ไม่คิดแบบนั้นอยู่แล้วล่ะ” ผมที่ว่าแบบนั้น มองเด็กตรงหน้าที่มันล่ำแบบที่ผมเรียกจริงๆ ความสูงก็ไล่เลี่ยแต่ผมสูงกว่านิดหน่อย หน่วยก้านไม่เลว โปรไฟล์ก็ไม่เลว ลูกคนรวย แต่ที่แย่ก็คือมันไม่ค่อยใช้สมองเท่าไหร่



“เพราะว่ากูตั้งใจให้มึงเห็น...ทำไมมึงจะไม่เห็นล่ะวะ” ว่าออกไปแบบนั้นแล้วกดยิ้มมุมปากนิดๆ มองเห็นแววตาวาวโรจน์ของอีกคนที่มองหน้ากันเหมือนอยากจะตรงเข้ามาต่อยกันให้ตาย



“มึง! ไอ้สัด มึงตั้งใจ มึงจะเอาไงวะ มึงเลิกยุ่งกับไอ้เอมเลยนะไอ้สัดตุ๊ดปลอม อย่ามายุ่งกับเพื่อนกู”



“หัวร้อนเหลือเกินนะมึง แต่ว่า...ที่พูดมาทั้งหมดมึงพูดในฐานะไรวะ ฟังรวมๆแล้ว มันก็เป็นแค่เพื่อนนี่”



“สัด! กูเป็นเพื่อนแล้วมึงจะทำไม กูห่วงเพื่อนกู คนหลอกลวงแบบมึงอ่ะ แค่มองตรงนี้กูก็เห็นความคิดมึงแล้ว จะมาหลอกไอ้เอม มึงอย่าหวังเลย”



“อ้อหรอ แค่เพื่อนอ่ะเนอะ”



“จะเพื่อนหรือจะอะไรมึงเสือกอะไรด้วยวะ”



“ไม่ได้อยากเสือกอะไรด้วยหรอก แต่แค่อยากจะบอกให้มึงฟังนะว่ามึงน่ะเป็นได้แค่เพื่อน คำว่าเพื่อนน่ะ มันมีเส้นที่ขีดกั้นไว้อยู่นะ ว่ามันเสือกเรื่องอะไรในชีวิตของเพื่อนได้บ้าง”



“แล้วมึงจะทำไมวะ! ถึงกูจะเป็นแค่เพื่อนมันก็ยังดีกว่ามึง ที่ไม่ได้เป็นอะไรในชีวิตของไอ้เอมเลย”



“มึงมั่นใจหรอวะ ว่ากูไม่ได้เป็นอะไรในชีวิตของไอ้เอมเลย มึงคิดดูนะ ขนาดกูที่ไม่ได้เป็นอะไรในชีวิตของไอ้เอมแบบที่มึงว่า กูยังได้จูบกับมัน ไม่เหมือนเพื่อนที่อยู่ในชีวิตของมัน แต่เป็นอะไรไม่ได้เลย นอกจากเพื่อนอย่างมึง”



“ไอ้สัด!”



‘พรึบ’



หมัดหลุนๆที่มองดูแล้วคิดว่าต้องหนักพอควรที่ถูกต่อยออกมาจากคนตรงหน้า ผมที่เห็นแบบนั้นแล้วถอยตัวเอียงไหล่พลิ้วหลบได้ทัน ต้องยอมรับว่าไอ้หนุ่มนี่มันก็ร้ายพอควร ดีตรงที่กูคิดไว้อยู่แล้วว่าหน้าโง่ๆแบบนี้ก็คงสติขาดได้ง่ายแบบนี้นี่ล่ะ



‘ตุบ’



ผมที่ถอยหลังแกล้งเป็นสะดุดล้มและทิ้งตัวลงไปนั่งกับพื้นในตอนนั้น เงยหน้ายกยิ้มจ้องหน้าคนตรงหน้าด้วยสายตานิ่งๆแบบเอาเรื่อง



“เด็กแบบมึงดูเอาไว้นะ กูจะสอนให้ดู ว่ามึงต้องหัดมีสติมากกว่านี้ ไอ้อ่อน



“ม...มึง”



“กรี๊ดดดดดดด ช่วยสวยด้วยค่า!!!”



“ไอ้เหี้ยเก้อ! พอเลยนะมึง!”



“ทำเหี้ยอะไรของมึงคะอิบ้า ผีเข้าหรอ”



เสียงของไอ้เอมกับน้องหยีที่ทั้งมาพร้อมๆกับร่างของทั้งคู่ ไอ้เอมที่วิ่งเข้ามาหาผม ก่อนจะผลักอกไอ้เก้อไม่ได้แรงมาก แต่ก็แรงพอจะทำให้มันเซ และน้องหยีที่ตรงเข้ามาประคองผมขึ้นจากพื้น



“ไอ้สัด มึงแม่งตอแหล!”



“พอ! ไอ้เก้อมึงพอเลยนะ มึงเป็นบ้าอะไรวะ” ไอ้เอมที่ว่าออกมาเสียงดังแบบนั้น เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นมันเสียงดังที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา



“เจ๊ดานี่โอเคนะคะ หนูขอโทษแทนเพื่อนด้วยนะคะ”



“ฮึก...เจ๊โอเคค่ะน้องหนูหยี สวยแค่ตกใจนิดหน่อยค่ะ”



“ไอ้เหี้ย มึงนี่แม่ง...” ไอ้เก้อที่กัดฟันโมโหจนหน้าดำหน้าแดง มันที่ตั้งใจจะพุ่งเข้ามาต่อยผมอีกสักหมัด แต่ติดตรงที่ไอ้เอมที่ขวางมันไว้และผลักอกมันให้ออกห่างไปอีก



“เจ๊ดานี่เค้าดีกับกูมากนะเว้ยเก้อ มึงเป็นอะไรของมึงวะ เค้าเป็นเจ้านายกู มึงไปหาเรื่องเค้าทำไม”



“มึงไม่รู้หรอไอ้เอม มันเป็นตุ๊ดปลอมไอ้สัด มันจะหลอกมึง มึงแม่งไม่รู้เหี้ยอะไรเลย!”



“พอเหอะเก้อ มึงเลิกพูดเลยนะ เค้าเป็นเจ้านายกูนะไอ้สัด เค้าช่วยกูมาตั้งหลายรอบ ก่อนหน้านี้ถ้ากูไม่ได้เค้า มึงเองก็น่าจะรู้ดีที่สุดไม่ใช่หรอวะว่ากูจะเป็นยังไงถ้าไม่ได้ทำงานกับเค้า”



“ไม่ได้ทำก็ไม่ต้องไปทำดิวะ กูดูมึงได้ กูเลี้ยงมึงเองก็ได้ มันให้เท่าไหร่ก็จะให้มึงมากกว่ามันอีก”



“พอไอ้สัด!! มึงเป็นเพื่อนกูมึงยังไม่รู้จักนิสัยกูอีกหรอไอ้เหี้ย มึงหุบปากเลยนะก่อนที่กูจะรู้สึกแย่กับมึงมากกว่านี้ อย่ามาทำนิสัยเงินเป็นใหญ่แล้วเที่ยวเอาเงินบ้านพ่อบ้านแม่มึงมาฟาดหัวกู กลับไปทำตัวให้ดี ถ้ามึงอยากจะเป็นเพื่อนกัน!”



“ไอ้เอม...” ไอ้เก้อที่ส่งเสียงเรียกชื่อเพื่อนมันอย่างเบาหวิว เข้าใจดีว่ามันคงเสียใจแบบที่สุดกับคำพูดของไอ้เอม แต่ก็ถูกของไอ้เอมแบบที่มันว่า ไอ้เก้อเป็นเพื่อนมันแท้ๆแต่กลับไม่รู้นิสัยมันได้ยังไง ผมเองที่เจอมันไม่นานยังรู้เลยว่าเด็กที่กระเสือกกระสนใช้ชีวิตดูแลตัวเองมาตลอดแบบมัน คงไม่มีอะไรที่มันรักมากกว่าศักดิ์ศรีของมันอีกแล้ว



มึงพลาดแล้วไอ้เด็กเก้อ



เห็นแบบนั้นแล้วก็ต้องละสายตาไปมองไอ้เอม มันที่ก็คงเสียใจที่ถูกเพื่อนพูดแบบนั้นใส่ มองเห็นสายตากลมโตที่ผมชอบมองวาววับ คิดว่าคงกลั้นน้ำตาเอาไว้มากๆเหมือนกัน เพราะผมรู้ดีว่า เพื่อนกลุ่มนี้ของมัน เป็นเพื่อนรักของมันเลยจริงๆ



“เจ๊ ผมขอโทษแทนเพื่อนผมด้วยนะ เดี๋ยวผมไปส่งที่รถนะ” ไอ้เอมที่หันหน้าหนีจากเพื่อนมันแล้วพูดกับผมแบบนั้น



“ค่ะหนู”



“ไอ้เอมกูไม่ให้มึงไปส่งมัน!”



“เลิกบ้าสักทีค่ะอิเหี้ย! ถ้ามึงไม่หยุดกูจะเอานมฟองน้ำกูถูหน้ามึง เผื่อจะหายบ้าขึ้น หยีขอโทษแทนเพื่อนด้วยอีกรอบนะคะเจ๊”



“ไม่เป็นไรค่ะหนู เจ๊โอเค สวยใสสตรองค่ะ”



“ไอ้เอมมึงไปส่งเจ๊เค้าเถอะ ไปๆ”



“ไอ้เอม!”



“พอค่ะอิเหี้ย มึงมานี่เลย” เห็นน้องหยีที่มาขวางไอ้เก้อไว้ ก่อนจะใช้แรงหนีบขาหนีบแขนไอ้เก้อเอาไว้ไม่ให้มันเดินตามเรามา ผมที่หันไปสบตากับไอ้เก้ออีกครั้งก่อนจะยกยักคิ้วส่งให้มันเป็นของแถม



.

.

.



“เจ๊ ผมขอโทษเจ๊อีกครั้งนะ เพื่อนผมแม่ง...”



“ไม่เป็นไรค่ะมึง กูบอกแล้วไงว่าไม่เป็นไร ดูสิเนี่ย ตาแดงหมดแล้ว น้ำตาจะไหลแล้วค่ะ เดี๋ยวไม่สวยนะมึง”



“ผมจะสวยไปทำบ้าไรวะ ผมไม่ได้เป็นตุ๊ดแบบเจ๊นะ”



“คือมึงเหยียดหรอ มึงบูลลี่กูหรอคะ”



“จะใช่แบบนั้นที่ไหนเล่า” มันที่บ่นงุ้งงิ้งๆทำหน้างอให้ได้เผลอยิ้มออกมา เป็นเด็กบ้านๆธรรมดาๆแต่มีหน้าตาน่ารักเหมือนลูกแมวตัวเล็กๆที่ดื้อและไม่ชอบทำตามคำสั่งเจ้าของ



“นี่อิหนูคะ”



“หื้ม ว่าไงครับเจ๊”



“มึงอย่าโกรธพ่อกล้ามล่ำนั่นเลยนะ มันคงไม่ตั้งใจพูดแบบนั้นกับมึงหรอค่ะ” เลือกที่จะบอกมันออกไปแบบนั้น มองเห็นมันที่เงยหน้ามองกันแบบไม่เข้าใจ



“ทำไมเจ๊ถึงพูดแบบนั้น มันจะต่อยเจ๊นะ” อยากบอกว่าเพราะกูไปกวนตีนมัน



“จะต่อยก็ส่วนจะต่อย แต่กูแค่คิดว่า มันเองก็เป็นเพื่อนที่ดีของมึงนะ มันคงไม่ตั้งใจพูดเหี้ยแบบนั้นออกมาหรอกค่ะ”



“แต่ผมก็โกรธ โกรธที่มันเหมือนจะเอาเงินฟาดหัวผม แล้วก็โกรธที่มันจะต่อยเจ๊ด้วย” บอกออกมาแบบนั้นพร้อมหน้าบึ้งตึงขึ้นมาอีกครั้ง



“เป็นห่วงกูรึไงคะ”



“ก็ใช่น่ะสิวะ” มันที่ว่าออกมาแบบนั้น เหมือนมันเองก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตอบอะไรผมออกมาเพราะเหมือนจะยังฉุนๆเพื่อนตัวเองอยู่ เห็นแบบนั้นแล้วได้แต่เสหน้ามองไปทางอื่น พยายามข่มสีหน้าเอาไว้ให้มากที่สุด ...กลัวครับ กลัวว่าจะเผลอหลุดยิ้มออกมาแบบไม่ได้ตั้งใจ



“มึงนี่นะ...”



“ทำไม เจ๊จะบอกว่าควายน้อยอีกอ่ะดิ”



“เปล่า...”



“......”



“กูแค่จะบอกว่า มึงนี่นะ...น่ารักดีเหมือนกันนะ



“น...น่ารักบ้าไรเล่า ไปเลยนะ เจ๊กลับไปเฝ้าร้านเลยไป ผมจะไปเรียนแล้ว บายจ้า”



มองเห็นมันที่หน้าแดงขึ้นมาแบบห้ามไม่อยู่ และคำพูดคำจาที่อึกๆอักๆอยู่แบบนั้น เป็นคนเลิกลักเวลาที่เขินเสมอ ผมที่ไม่พูดตอบอะไรออกไป แค่มองตามแผ่นหลังบางๆนั่นไปพร้อมจุดรอยยิ้มบางๆตาม เห็นมันที่วิ่งหน้าตั้งหายไป และก่อนหน้านี้เสือกสะดุดก้อนหินด้วยหน่อยนึง



“ควายน้อยเอ๊ย”



‘ครืดๆ’



ผมที่หันตัวตั้งใจจะขึ้นรถขับกลับไปที่ร้าน แต่ก็ต้องหยุดเพื่อรับโทรศัพท์ซะก่อน สายเรียกเข้าที่โชว์หน้าจอขึ้นมาเป็นชื่อของ ‘ไอ้เมฆ’



“ฮัลโหลลล โทรมาทำไมคะคนหล่อ คิดถึงสวยหรอคะ” รับสายไปพร้อมเสียงสองแบบที่ไอ้เมฆต้องหงุดหงิด



((สัดดาบ! รำคาญเสียงมึงไอ้เพื่อนเหี้ย)) กูว่าแล้วว่ามึงต้องหงุดหงิด



“ดาบเดิบอะไร ยังอีกนะคะ ถ้าอยู่ใกล้กูจะหยิกไข่มึงนะคะ”



((จังไร แล้วนี่มึงอยู่ไหน ทำไมไม่อยู่ร้าน))



“มึงรู้ได้ไงคะ กำลังจะไปร้านแล้วค่ะ”



((แล้วมึงไปไหนวะ ปกติต้องสิงสถิตเป็นผีเฝ้าร้าน))



“ปากมึงนะคะอิเมฆ กูก็แค่แวะมาทำธุระนิดหน่อย”



((ธุระ?))



“ใช่ค่า ก็แค่...มาทำให้เด็กมันดู



((อะไรของมึงวะ แต่ฟังจากเสียงไม่น่าจะใช่เรื่องดี))



“โอ๊ยๆ เสือกค่ะ ว่าแต่โทรมามีเหี้ยอะไร หรืออยากเป็นผัวกูหรืออะไรคะ”



((สัด Kเถอะ))



“กูมีค่ะ ใหญ่กว่ามึงด้วยจำได้”



((โว้ย กูจะบอกว่า เค้า...จะกลับมาแล้วนะ))



“ห๊ะ มึงหมายถึง .. นี่กูไม่ตลกนะไอ้สัด”



((เสียงเข้มเลยนะครับเพื่อน เสียงเปลี่ยนกันเลยทีเดียว แต่กูไม่ได้หลอกมึง เค้ากำลังจะกลับมาแล้วจริงๆเว้ยเพื่อน เค้าไลน์มาบอกกูเมื่อเช้า มึงรีบเข้าร้านมา กูจะเอาไลน์ให้มึงชมเป็นขวัญตา))



มันที่พูดออกมาแบบนั้น และก็เป็นผมที่เงียบไปโดยที่ไม่สนใจจะตอบอะไรออกไปอีก



จะกลับมา...จะกลับมาแล้วหรอวะ



::::::::::::::::::-- to be continued --:::::::::::::::::::::::::



กรี๊ดดดดดด มาแล้วจ้าาา จริงๆแคทชอบพาร์ทนี้มากๆ เจ๊ดานี่ของเรานี่คือที่สุด ดีที่สุดและร้ายที่สุด

แต่เหนือสิ่งอื่นใด แคทสงสารเก้อเบาๆ เก้อครับ พลาดแล้วครับเก้อครับ ไม่น่าไปยุ่งกับอิเจ๊มันเลยจ้า

มามะ มาต่อแล้ว ไหนขอเสียงคนอ่านหน่อยค่ะ พาร์ทนี้เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย อิอิ

ปล. สามารถกรี๊ดกร๊าดคอมเม้นท์และโปรโมทนิยายได้อีกช่องทางในTwitter

ในแฮชแทค #สวยๆเป็นผัว จ้า :mew1: :L1:


ปล. ขอขอบคุณคนอ่านในเล้าเป็ดมากๆเลยค่ะ ตั้งแต่เขียนนิยายลงเล้าเป็ดมา ไม่เคยได้คนอ่านเม้นท์ตอนละ10ท่านเลย ดีใจ



:z1:

 :กอด1: :pig4: :กอด1:

 o13
   :mew1: :mew1: ขอบคุณมากๆเลยนะคะ แคทมาอัพตอนใหม่แล้วน้าาา



:pig4:
 :katai2-1:
ขอขอบคุณที่เข้ามาอ่านมาเม้นท์ให้กันนะคะ มาอ่านอีกน้า


:pig4: กลัวใจอีเจ๊ เกรงว่าเพื่อนเก้อจะโดนยำตีน

บ้าน่า เจ๊สวยๆไม่สู้คน จริงๆนะคะ อิอิ


:katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ขอบคุณนะคะ แล้วเข้ามาอ่านอีกนะคะ จุ๊บๆเลย


รอตอนต่อไปจ้า :L2: :pig4: :pig4: :L2:

แคทอัพตอนใหม่แล้วนะคะ มาอ่านอีกน้าาา


เกิดศึกขึ้นแล้ว,,,
  ศึกอะไรน้าาา บ้าจุงเบย ไม่มีหรอกน่า จริงจริ๊งงง :hao7:


เจ๊หวงเอมแล้ว แต่ปากแข็ง  :เฮ้อ:
ที่จับเอมจูบปาก .......  :z3: 
ชวนเอมที่กำลังเคลิ้มไปนอนด้วย   :o8:
นี่กำลังท้าทายเก้อแน่ๆ  :z6: :z3:
ดูแล้วเก้อนี่แอบชอบเอม แต่ไม่กล้าบอกเพราะกลัวเสียเพื่อนใช่ไหม  o18
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

  ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์ยาวๆที่มอบให้แคทเสมอๆเลยนะคะ อ่านแต่ละครั้งคือยิ้มกว้างๆตลอดเลย
ดีใจที่ชอบและสนุกไปด้วยกันในทุกๆตอนนะคะ ยังไงตอนนี้ มาอ่านต่ออีกนะคะ  :mew1:



:pig4: :pig4:
  ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์นะคะ มาอ่านอีกน้า


พีีดาบคนดุ   :impress2:
  ดุไหมน้าา มาอ่านตอนนี้ดูนะคะ พี่ดาบของเราดุจริงหรอ อิอิ


เจ้ดาบเหอะ เล่นจู่โจมควายน้อยซะเข่าอ่อน คือกะเปิดศึกกะใครรึป่าวค้า   :hao3:

เปิดกับใครไหมน้าา มาอ่านตอนนี้กันนะคะอิอิ



เจ้ดาบลุยเลยค่าาาา
  จัดไปเลยค่าาา  :mew1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่7 {23/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 23-11-2019 21:10:48
 :z1:


 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่7 {23/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 23-11-2019 21:42:23
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่7 {23/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 23-11-2019 21:42:36
 :mew5: อิเจ๊มึงมันร้าย
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่7 {23/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: Fengfang ที่ 23-11-2019 21:56:16
ใครกำลังจะมาอะเจ๊ดานี่ งื้อไม่อยากกินมาม่าง่า   :ling1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่7 {23/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 23-11-2019 22:49:04
 :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่7 {23/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: no.fourth ที่ 23-11-2019 23:22:20
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่7 {23/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 24-11-2019 08:11:31
สงสารเพื่อนเก้อ ถึงตัวจะเท่าๆ กัน แต่กระดูกน่าจะคนละเบอร์กะเจ้ดานี่นะฮะ ก็เจ้มันร้ายจะตาย

ว่าแต่คนที่จะกลับมาเป็นแฟนเก่าอิเจ้นี่ละป่าวอ่ะ.

หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่7 {23/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 25-11-2019 22:36:56
อ้าว เอาแล้วไง. วุ่นวายแน่ๆ,,,
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่7 {23/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 26-11-2019 14:05:02
รักเก่ามันฝังลึกงี้
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่7 {23/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 26-11-2019 14:16:56
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่7 {23/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 26-11-2019 20:35:18
รอตอนต่อไปจ้า  :L2: :pig4: :L2:

ใครจะกลับมา? :hao4:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่7 {23/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 27-11-2019 22:39:21
ลุ้นต่อ รอตอนต่อไปจ้าา
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่7 {23/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: sarang ที่ 30-11-2019 11:14:38
วันนี้วันเสาร์ คุณแคทลงตอนต่อไปวันนี้นี่นา
รออยู่นะคะ นี่พึ่งเข้ามาอ่านตอนล่าสุด อิพี่ดาบ เธอมันร้าย
เกลียดความร้ายของพี่มัน เกลียดความทิ้งตัวลงโวยวาย
นางเอกสุด อยากตะโกนบอก น้องเอมหนีไปลูกกกกกก
แต่ใคร ใครกำลังมา ไม่ได้นะ มาอ่อยลูกฉันแล้วจะทิ้งล่ะน่าดู! :katai1: :z3:
รอนะคะคุณแคท :call:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่8 {30/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 30-11-2019 19:50:39
บทที่8



“โอ้โห มาถึงไวทันใจจังเลยนะครับเพื่อนดาบ”



เสียงพูดที่ทำให้ผมต้องขมวดคิ้วใส่ดังมาจากที่โต๊ะตัวนึงในร้านชั้นล่าง ไอ้สัดเมฆที่จัดแจงเอาโต๊ะเก้าอี้ลงมาตั้งวางไว้แล้วนั่งกระดิกตีนสบายใจอยู่ตรงนั้นเรียบร้อย  เหลือบมองไปบนโต๊ะ มีอาหารและกับข้าววางไว้พร้อมเพรียง สรุปนี่ร้านมึงหรือร้านกูกันแน่นะ



“มึงไม่ต้องมาพูดมากไอ้สัดเมฆ ไหน มึงเอาหลักฐานมาดู”  ผมที่ว่าออกไปแบบนั้นพร้อมๆกับก้าวขายาวๆไปหามัน วางกระเป๋าเป้ของตัวเองลงข้างตัวและนั่งลงตรงหน้ามันแบบหงุดหงิด



“มันแน่นอก ต้องยกออก รีบร้อนวู่วามมากๆเลยว่ะเพื่อน ขนาดเรียกดาบมึงยังไม่แก้เลยว่ะวันนี้”



“มึงเป็นกระเทยแทนกูเลยไหมไอ้สัด ร้องเพลงใบเตยขนาดนี้ แล้วไม่ต้องมาทำเปลี่ยนเรื่อง เอามาดู” ว่าออกไปแบบนั้นพร้อมเน้นเสียงให้รู้ว่ากูจะไม่ทนกับมึงนาน ผมมองเห็นไอ้อิฐที่ยื่นหัวเสนอหน้าออกมาเสือกอย่างออกนอกหน้าอยู่ตรงบาร์น้ำ ได้แต่ปรายตาไปมองมันนิดนึง แต่ไอ้เด็กนี่ก็แค่ยิ้มสดใสส่งมาให้แบบไม่สะทกสะท้านอะไร



“ไปไกลๆหน้ากูไอ้อิฐ ขี้เสือกนักนะมึง ไม่มีเรียนหรือไงวะ มาร้านทุกวัน”



“หูยยยเจ๊พี่มึง ทำไมวันนี้เกรี้ยวกราดจังวะครับ ขออิฐดูขออิฐทัชนิดนึงสิจ๊ะเบเบ๋”



“กินตีนกูไหมเบเบ๋”



“อะ ไม่เสือกก็ได้ถ้าแบบนั้น เก็บตีนเจ๊พี่มึงไว้ก่อนน้า พี่เมฆๆ มากระซิบกันหลังไมค์นะจ๊ะพี่จ๋า”



“ได้เลยไอ้น้อง”



“สัดทั้งหมดนะพวกมึง”



“ฮ่าๆๆๆ”



ไม่นำพาคำพูดกูไม่พอ ไอ้อิฐที่ทำแค่ขำลั่นร้านแล้ววิ่งหน้าด้านออกไปหน้าตาเฉย มั่นใจว่ามันต้องไปหาข้าวกินในครัวแน่ๆ ชอบเสือกแล้วยังแดกดุอีก ดีๆทั้งนั้นลูกน้องร้านกู



“ยิ้มทำKไรไอ้สัดเมฆ”



“มันเกรี้ยวกราดแบบที่ไอ้อิฐว่าจริงๆว่ะ ทำไมวะ มันร้อนรนขนาดนั้นเลยดิ”



“ถ้ามึงยังโยกโย้ไม่เลิก มึงได้แดกตีนกูแทนไอ้อิฐแน่ไอ้เมฆ”



“หึ ใจเย็นๆนะครับเพื่อนดาบ กลัวแล้วครับเพื่อนครับ” มันที่ว่าออกมาแบบนั้นแต่ก็ยังทำหน้าตาระรื่นต่อไป Kทั้งหมด



“อะๆ เอาไปดูให้เต็มลูกตา นี่ไงวะ” มันที่เลิกกวนตีนกันแล้วยื่นมือถือของมันมาให้ผมดู เปิดแอปสีเขียวๆเข้าหน้าแชทไว้ให้ด้วย รูปดิสของอีกฝ่ายที่ส่งยิ้มสดใสไม่ต่างจากที่เคยเห็น ข้อความที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าก็ยังบอกได้ว่าเป็นคนที่ร่าเริงอยู่เหมือนเก่า



[[Praphay: เมฆ เมฆๆๆๆๆจ๋า เราใกล้จะกลับไปแล้วน้า คิดถึงทุกๆคนมากๆเลยนะครับโผ้ม]]



[[Cloud: พายจะกลับมาแล้วหรอ กลับมาเมื่อไหร่ คิดถึงเหมือนกันครับ]]



[[Praphay: ใช่ๆๆ เราใกล้จะกลับแล้ว แต่ว่าจุ๊ๆก่อนนะ พายอยากไปเซอร์ไพรส์ อย่าพึ่งบอกใครนะ]]



[[Cloud: ถ้าไอ้ดาบรู้มันต้องตื่นเต้นแน่เลย]]



[[Praphay: ดานี่ ดานี่ๆๆๆ อย่าเรียกดาบซี่ เดี๋ยวดานี่โกรธน้า เมฆนี่ไม่ไหวเลย ส่วนดานี่ ต้องจุ๊ๆไว้ก่อนเลยนะ พายอยากไปเซอร์ไพรส์ดานี่ที่ร้านล่ะ]]



[[Cloud: พะพายนี่ยังเป็นพะพายเหมือนเดิมเลยนะ]]


[[Praphay: ทำไมๆ เราทำไม ]]



[[Cloud: ไม่ทำไมครับ ยังน่ารักเหมือนเดิมเลย ]]



[[Praphay: อยากจะเขิน แต่ติดว่าคนแมนๆแบบเราน่ะเค้าไม่เขินซะให้ยากหรอก]]



[[Cloud: เอาที่พายสบายใจเลยครับ]]



[[Praphay: เอ๊ะเมฆ เมฆกวนเราหรอ]]



[[Cloud: ฮ่าๆ ใครมันจะกล้ากับพะพายตัวแสบล่ะ ยังไงถ้ากลับมาเมื่อไหร่บอกเรานะ เราจะไปรับ]]



[[Praphay: ได้เล้ย จริงๆที่เรามาบอกเมฆก่อนก็เพราะจะให้เมฆมารับนี่ล่ะ ฮ่าๆๆ]]



[[Cloud: เห็นเราเป็นแค่คนขับรถสินะ อยากร้องไห้ (ส่งสติ๊กเกอร์หน้าเศร้า)]]



[[Praphay: โอ๋ๆน้าเมฆน้า เดี๋ยวพายซื้อขนมไปฝากเยอะๆเล้ย (ส่งสติ๊กเกอร์กอด)]]



[[Cloud: ฮ่าๆ โอเคครับ แล้วสรุปพายจะกลับมาเมื่อไหร่]]



[[Cloud: พาย พายครับ เงียบเลย เขวี้ยงมือถือออกดาวอังคารไปแล้วหรอพาย]]



[[Cloud:  อะ หายจริงๆสินะ]]



[[Praphay: เมฆๆๆ พายมาๆแล้ว พอดีเพื่อนมาตาม เดี๋ยวพายมาคุยใหม่น้า คิดถึงเมฆน้า แล้วก็จุ๊ๆจั๊มกับดานี่ไว้ก่อนน้า จุ๊บๆเลยคร๊าบบบ (ส่งสติ๊กเกอร์จูบ)]]



     ผมที่เงยหน้าขึ้นมาตอนที่อ่านข้อความเหล่านั้นเสร็จ มองเห็นไอ้เมฆที่กดยิ้มมุมปากมองตรงมาที่หน้าผมอยู่แบบนั้น



“ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เลยว่ะเพื่อนกู”



“ยิ้มเหี้ยไรล่ะ กูเปล่า”



“ปากมึงอ่ะไอ้สัดดาบ มันจะกว้างขึ้นไปถึงกลางหัวมึงแล้วเพื่อน” มันที่ว่าแบบนั้นแล้วเอื้อมมือมาตบหัวกัน ก่อนจะแย่งมือถือของมันกลับไป



“พายไม่บอกกู”



“มึงอ่านภาษาไทยไม่ออกหรอไอ้สัด พายก็บอกอยู่ว่าอยากเซอร์ไพรส์มึง เค้าจะทักมาบอกมึงทำKไรครับ”



“สัด กูแค่พูดเฉยๆ กูรู้ว่าพายอยากเซอร์ไพรส์ ยังแสบเหมือนเดิมเลยว่ะ”



“ครับเพื่อนครับ เลิกยิ้มเพ้อๆได้ไหมวะ มึงยิ้มแล้วหน้าเหี้ยมาก กูกลัว”



“กวนตีนหรอคะอิเมฆ กูตบมึงได้นะ”



“อะ องค์ร่างอิเจ๊ดานี่มึงพึ่งตื่นหรอ ประทับเข้าร่างมึงดีเลย์จังวะ”



“อย่ามาต่อล้อต่อเถียงกูค่ะ องค์ดานี่กูจะมาเมื่อไหร่ก็ได้ กูสะดวกแบบนี้ค่ะ”



“มึงไม่ต้องมาดัดจริตใส่กู เมื่อกี้ยังแมนๆเตะบอลอยู่เลยไอ้สัด อยู่กับมึงแล้วกูเหนื่อยว่ะ เหมือนมีเพื่อนเป็นไบโพล่าสองบุคลิกอะไรแบบนี้”



“ว่ากูหรอ เดี๋ยวกูจับทำผัวนะคะ”



“ตีนกูนี่!” ไม่ว่าเปล่า มันที่ยื่นตีนมาถีบใส่ขากางเกงยีนส์กันด้วย รอยเท้าประทับเด่นที่ขากูเลย เกลียดอ่ะ คนสวยๆเกลียดเลยค่ะ โดนผู้ชายทำร้าย



“แล้วมึงนี่อะไร พายบอกไม่ให้บอกกูแล้วมึงมาบอกกูทำไมคะ”



“เหอะ ก็กูห่วงไง”



“ห่วงไรมึงคะ” ทำท่าจีบปากจีบคอใส่มันพร้อมเอาผมทัดหู ทำหน้าทำตาแบบที่ไอ้เมฆเกลียดเพื่อกวนตีนมัน มองมันพร้อมเลิกคิ้วใส่มันด้วยนิดหน่อย



“ห่วงว่ารถไฟจะชนกันตู้มต้ามๆแล้วเพื่อนจะทำใจเลือกขบวนขึ้นไม่ถูกไงครับ” มันที่บอกแบบนั้นแล้วยกยิ้มมุมปากถูกใจตอนที่เห็นผมชะงักไปนิดหน่อย



“ถึงกับชะงักกันเลยทีเดียว”



“พูดเหี้ยอะไรของมึงคะอิเมฆ สวยไม่เข้าใจเลยค่ะ” เชิดหน้าใส่แล้วเอื้อมมือไปหยิบลิปสติกเท่งใหม่ที่อยู่ในกระเป๋าขึ้นมาแกะออกจากกล่อง พึ่งได้มาเมื่อวานเลยค่ะ พรีออเดอร์ลิปสติกแท่งนี้มาเพราะซีรี่ย์ที่ดูทำลิปออกมาขาย ตกเป็นทาสการตลาดที่แท้จริง



“หึ กับน้องเอมเด็กเสริฟวันนั้นน่ะ อย่าคิดว่ากูไม่รู้”



“รู้เหี้ยไรล่ะคะ มึงก็ไปฟังคำพูดคำจาไอ้จั๊มมัน ไร้สาระทั้งหมด”



วันนั้นตั้งแต่ที่ไอ้เมฆกับไอ้จั๊มเห็นไอ้เอม พวกมันสองคนก็เอาแต่ล้อและก็พูดถึงไม่หยุด ทั้งๆที่เห็นแว๊บเดียวแท้ๆก็ยังล้ออยู่ได้ว่ากูสนใจเด็กนั่น ถ้ามึงรู้ว่ากูเคยเยกันมา มึงไม่เอากระดาษแปะหน้าผากไอ้เอมแล้วตราหน้ามันว่าเป็นเมียกูเลยหรอวะ



“หึ แล้วมันถูกของไอ้จั๊มไหมล่ะ มึงสนใจเด็กนั่น”



“บ้าบอคอหอยพอก พูดไรสวยคร้านจะฟัง” ว่าแบบนั้นแล้วเชิดหน้าหนี ค่อยๆแกะลิปสติกออกจากกล่อง สีสวยมากๆชมพูนู้ดๆเหมาะกับคนสวยหวานๆแบบดานี่ สมแล้วที่กูพรีมาจากจีน พรีมานานนม นานจนกูลืมว่าพรีไป พึ่งจะได้ลิปสติกมาใช้ในวันนี้ ว่าแล้วก็แกะออกมาจะทาเลยละกัน วันนี้ลืมทาปากสวยๆ



“แถนะมึง”



“แถอะไรของมึงกันคะอิเมฆ พูดไปเรื่อย กูน่ะ...”



“คืนนั้นกูเห็นมึงจูบน้องเอม”



‘ปึก’



มือไม้อ่อนแรง ได้แต่หันหน้าไปเบิกตากว้างๆมองไอ้คนข้างตัวที่กดยิ้มมุมปากแล้วทำหน้าเหนือกว่ามองหน้ากันอยู่ตอนนี้ กูอยากยกตีนถีบหน้าไอ้สัด



“......”



“ก่อนกูจะพาไอ้จั๊มกลับคืนนั้น กูกะจะเดินออกด้านหลังร้าน กูเลยบังเอิญเห็นมึงจูบน้องมันอยู่ ไม่จูบธรรมดาด้วยนะ แถวบ้านเรียกว่าดีฟคิส มึงจูบดูดดื่มจนน้องมันระทวยคาอกมึง ลิ้นมึงดูดลิ้นน้องมันอยู่กูมองเห็น”



“สัด! หุบปากไอ้เหี้ยเมฆ!”



“ยอมรับไหมล่ะ”



“บ้าบอๆๆ กูๆๆ...”



“หาคำเถียงไม่ถูกล่ะสิครับเพื่อนดาบ ทำตัวแมนๆให้เหมือนเมื่อก่อนหน่อยดิวะเพื่อน”



“แมนก็เหี้ย มึงเห็นลิปสติกในมือกูไหมคะ!”



“ไม่เห็น เพราะมึงตกใจจนทำร่วงลงไปกองอยู่ที่พื้นแล้วครับเพื่อนดาบ”



“ห...หา...อ...กรี๊ดดดดดด ลิปสติกพี่หลานวั่งจีของน้อง น้องจะทาลิปสวยๆไปหาพี่ที่กูซู ลิปกูหักหมดแล้วอิเหี้ยเมฆ!!”



“ฮ่าๆๆ ดัดจริตนัก สมน้ำหน้า .. ว่าแต่กูซูคือเหี้ยอะไรของมึงอีกวะ”



“เพื่อนเหี้ย! ไม่เคยดูซีรี่ย์ปรมาจารย์ลัทธิมารหรอ ควาย โง่นัก ฮื่ออ ลิปของดานี่”



ไม่รู้จะตอบมันต่อว่าอะไรอีกดี ไม่อยากให้มันมาซักมาถามอะไรต่ออีก สุดท้ายเลยใช้วิธีเล่นใหญ่ ทำได้แค่พุ่งตัวลงไปกอดลิปสติกเอาไว้แนบอก แล้วทำตัวเล็กๆสวยๆร้องไห้อยู่ตรงนี้  เล่นใหญ่ๆโวยวายให้ไอ้เมฆมันรำคาญไปแบบนั้น ...



สัดเมฆ หูหมาตาทิพเหลือเกินนะมึง!



...



“นี่ เก้อ มึงจะมาโมโหกูไม่ได้นะ”



เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ที่ผมต้องเอานิ้วไปเขี่ยๆต้นแขนล่ำๆนั่น ไอ้เก้อที่ไม่หันมามองหน้ากันตั้งแต่ที่ผมไปส่งไอ้เจ๊พี่มันที่รถจนกลับมา มันก็ยังนั่งทำหน้าอึมครึมอยู่แบบนี้ มันที่ก้มหน้าก้มตาเหมือนตั้งจะใจเรียน แต่ที่จริงๆนิ้วก็จิ้มมือถือเล่น เพื่อที่จะได้ไม่ต้องคุยกับใคร



“กูไม่ได้ทำไรผิดเลยนะเว้ย แต่ที่มึงทำอ่ะมันไม่ถูก”



“ไม่ถูกเหี้ยไรวะ มึงพูดดีๆนะไอ้เอม”



อะ เหมือนกับกูไปพูดอะไรผิดแล้วไปสะกิดกดปุ่มสตาร์ทเครื่องของมันเข้าอ่ะ ไอ้เก้อที่เงยหน้าขึ้นมามองหน้าแล้วว่าออกมาเสียงเข้ม มันที่หันมามองหน้ากันเหมือนอยากยกกำปั้นขึ้นมาซัดเข้าหน้าผม แอบๆเหลือบสายตาไปมองกล้ามล่ำๆของมัน คือถ้ามึงต่อยเข้าหน้ากูนะเพื่อน หัวกูปลิวหลุดไปดาวอังคารเลยน้า ใจเย็นก่อนนะเพื่อนเก้อ ... เห็นแบบนั้นกูนี่รีบฉีกยิ้มประจบใส่เลย



“มึงไม่รู้รึไงวะ ไอ้สัดนั่น...”



“พี่เค้าชื่อดานี่ค่ะอิเก้อ”  เป็นไอ้หยีที่แย้งออกมาแบบนั้น เห็นไอ้เก้อขมวดคิ้วแน่นๆแบบหงุดหงิดก่อนจะโพล่งออกมา



“ดานี่ก็เหี้ย มันเป็นตุ๊ดปลอมเถอะ!”



ไอ้เก้อที่ตะเบงเสียงออกมาแบบนั้น ทำเอาทั้งผมและไอ้หยีสะดุ้ง และแน่นอนว่าไม่ใช่แค่พวกผมสองคนที่สะดุ้ง แต่คนทั้งคลาสก็คือสะดุ้งพร้อมๆกันกูเลยครับ



ชนกันต์เธอเสียงดังอะไร”



เสียงเรียกจากทางหน้าห้องที่ทำเอาผมสะดุ้งไม่แพ้เสียงของไอ้เก้อ เราสามคนที่หันไปมองทางด้านหน้าห้องแล้วเห็นอาจารย์ป้านามว่าสมรศรีหรี่สายตามองลอดแว่นมาทางเราแล้วได้แต่เผลอกลืนน้ำลาย ...



สัดเก้อ เสียงดังไอ้ห่า



“ผมขอโทษครับอาจารย์” ไอ้เก้อที่ยังทำหน้าหงุดหงิดอยู่แบบนั้น แต่ก็พูดขอโทษออกไป แม้เสียงมึงจะแข็งเหมือนอยากด่าอาจารย์ป้าว่าเสือกก็เถอะ มันที่ถอนหายใจฟึดฟัดอีกสองสามครั้งก่อนจะลุกออกจากโต๊ะแล้วเดินออกจากห้องไปในตอนนั้น



โอบนิธิ ไปดูเพื่อนเธอหน่อย เป็นบ้าอะไรนัก”



“อ...เอ่อ...ครับ”



และสุดท้ายก็มีแค่กู โอบนิธิ ที่ต้องซวยตามมึงไปอีกคน ไอ้ห่า ... ผมที่หันไปมองหน้าไอ้หยีที่พยักหน้ามาให้ มันที่กระซิบบอกผมว่าเดี่ยวจะจดเลคเชอร์ไว้ให้ ให้ผมไปดูไอ้ห่าเก้อก่อน เผื่อมันเป็นบ้าโดดคูน้ำตาย แบบนี้แหล่ะครับ อากาศร้อนๆก็จะทำให้มันบ้าๆหน่อย



ผมที่ตามหลังมันออกไป แต่ก็ไม่เห็นมันแล้ว ตัวก็ใหญ่แบบนั้นก็น่าจะมองเห็นกันง่ายๆหน่อยไหมวะ ผมเดินตามไปที่ห้องน้ำแล้วก็ไม่เจอ แอบหามันที่ชั้นหนังสือพิมพ์ ใต้พื้นพรหม หรือแม้แต่ถังน้ำดื่มฟรี แต่ก็ไม่เจอมันอยู่ดี แบบนี้คงเหลือที่เดียวแล้วล่ะผมว่า 



เดินลงไปจากตัวตึกอาคารและตรงดิ่งไปที่จุดที่เอาไว้สูบบุหรี่ข้างๆตึก ที่ชาวคณะเรียกกันว่า ‘ชมรมสิงรมควัน’ เคยเผลอเดินเข้าไปแถวนั้นทีไรกูนึกว่าเจ้าหน้าที่จ้างคนมาฉีดยุงลาย ควันขโมงมันทุกที แต่ไอ้เก้อก็ชอบสูบครับ เพราะแบบนั้นเลยคิดว่ามันต้องอยู่ที่นี่



ผมที่ตั้งใจไปคุยกับมันให้รู้เรื่อง แต่พอเดินใกล้เข้าไป กลับได้ยินเสียงโวยวายดังมาให้เสือกซะแบบนั้น ... และหนึ่งในเสียงนั้นมันเสียงเพื่อนกูนี่หว่าไอ้ฉิบหาย



“ไอ้เด็กเหี้ย กวนตีนกูนักนะ!”



“มึงก็มาดิไอ้เหี้ย แก่กว่าปีเดียวคิดว่ากูกลัวหรอวะ”



‘ผลัว พลัก ตุบ!’



“เห้ยๆๆ! ไอ้เหี้ยเก้อมึงทำเหี้ยอะไรวะ!!” ผมที่ตะโกนออกไปแบบนั้น ภาพตรงหน้าที่เห็นคือไอ้เก้อที่คล่อมทับใครอีกคน เป็นการคล่อมทับที่ไม่ได้วาบหวิวแต่เรียกได้ว่าน่ากลัว กูกลัวไอ้คนข้างใต้ตายคาหมัดมันนี่แหล่ะ



“มึงอย่ามายุ่งไอ้เอม ไอ้เด็กนี่แม่งปากดี”



‘ผลั้ว’



มันที่พูดจบก็ซัดไอ้คนใต้ตัวมันไปอีกหมัด



‘ถุย’



“ก็มึงกวนตีนกูก่อนไหมล่ะ กูมาก่อนแล้วมึงจะมาไล่กูทำห่าไรล่ะ”



ไอ้คนที่ผมยังไม่เห็นหน้าเพราะไอ้เก้อคล่อมไว้ก็ตะโกนใส่มันแบบนั้น แถมยังถุยน้ำลายน้ำเลือดใส่หน้ามันไปอีก เชี่ยเอ๊ย ทำไงดีวะเจ้าคุณพระ



“มึงกล้ามากนะ!”



‘ผลั้ว’



“ไอ้เก้อ ไอ้เหี้ย พอๆ” ผมที่ว่าแบบนั้นอีกรอบและครั้งนี้ไอ้เอมก็คือวีรบุรุษสุดหล่อที่กล้าหาญ พุ่งตรงไปหาเพื่อนแล้วดึงรั้งร่างหมีควายของมันเต็มแรง ตั้งใจเต็มที่ว่าต้องดึงมันขึ้นมาจากพื้นให้จงได้



“อย่ามาเสือกไอ้เอม!”



‘พรึบ’



“โอ๊ย!”



และใช่ครับ วีรบุรุษสุดกล้าหาญแบบกูก็ถูกไอ้สัดเก้อเหวี่ยงออกมาจากวงล้อม ปลิวถลาออกมานั่งหงายหลังอยู่ที่พื้นไกลออกมาจากพวกมัน นี่มึงผลักหรือถีบกูไอ้สัดเก้อ! อูย ข้อศอกแตกถลอกเลยจ๊ะ ฮื่ออ ไอ้เอมเลือดออก ไอ้เอมแสบแผล



แสบแผลๆๆ ไม่ใช่แสบไข่แต่ไอ้เอมแสบแผลเลยครับคราวนี้



“เห้ย ไอ้เอม!”



ใช่ กูคือไอ้เอม วีรบุรุษสุดแสนจะน่ารักกุ๊กกิ๊กที่มึงยันปลิวออกมาไงไอ้เหี้ยเก้อ นั่นคือชื่อของกูเอง มึงไม่ต้องนั่งงงตาเหลือก ไว! รีบมาช่วยกูไอ้เหี้ย



“สัด เพราะมึงคนเดียวเลยไอ้เด็กเหี้ย” ไอ้เก้อไม่วายหันไปด่าไอ้คนใต้ร่างมันแบบนั้น พร้อมๆกับรีบยันตัวลุกขึ้นมาแล้ววิ่งเข้ามาหาผม มันที่ประคองผมขึ้นจากพื้น



“เชี่ย เลือดออกเลยหรอวะ” ไอ้เก้อที่บ่นพึมพำแบบนั้น มันที่มองตามเนื้อตามตัวของผม ก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองที่ขา และเห็นว่าขากูก็ถลอกเหมือนกัน เห็นมันขมวดคิ้วและบ่นขมุบขมิบปากไม่หยุด แต่ไม่รู้ว่ามันบ่นเหี้ยอะไร ฟังไม่รู้เรื่อง



“ไอ้เก้อกูไม่เป็นไรมากหรอกมึง” บอกมันไปแบบนั้นแม้ว่าจะซี๊ดปากก็ตาม แต่แผลของผมแค่นี้มันคงเทียบไม่ได้กับไอ้คนที่ถูกมันชกแล้วนอนหงายตายอยู่ตรงนั้นหรอก



“มึงไปดูเค้าก่อนเถอะ”



“ดูทำเหี้ยไร กูไม่กระทืบแม่งตายก็ดีแค่ไหนแล้ว”



“มึงพูดบ้าไรเนี่ย ถ้าเค้าตายมึงก็ติดคุกสิวะ ไปดูเร็ว นี่ในรั้วมหาลัยนะไอ้สัด” ว่าออกไปแบบนั้นแล้วผลักตัวมันหนี มันที่มองผมแบบหัวเสีย ก่อนจะสะบัดสะบิ้งเดินไปแบบไม่เต็มใจนัก ผมเองก็เดินตามมันเข้าไปด้วย คนที่โดนไอ้เก้อชกตอนนี้นั่งทำตาปรือๆอยู่ที่พื้น คิดว่าคงเมาหมัดไอ้เก้อ



“สัด ก็ไม่ตายนิ” ดูปากมัน



“เป็นอะไรมากไหมครับ”



เป็นผมที่ทรุดตัวลงไปนั่งตรงหน้าเค้า เป็นคนที่ดูแล้วสูงพอๆกับไอ้เก้อเลย อาจจะสูงกว่ามันด้วยสักเซนสองสองเซน แต่ว่าเค้าผอมและบางกว่าไอ้เก้อมาก ริมฝีปากบางๆและจมูกรั้นๆแบบไม่ยอมคน ดูก็รู้ว่าเป็นคนที่ไม่ยอมใคร ไม่งั้นก็คงไม่ซัดกับไอ้เก้อซะจนเพื่อนผมปากแตกได้หรอก



“นี่ครับ ผ้าเช็ดหน้า” เป็นผมที่ยื่นผ้าเช็ดหน้าของตัวเองไปให้ สงสารครับไอ้ห่า หน้าปูดเลย



“มึงเอาไปให้มันทำไมไอ้สัดเอม”



“ชู่ว เงียบปากนะไอ้สัดเก้อ” ต้องหันไปด่าแม่งอีกสักที



“ขอบคุณครับพี่” คนตรงหน้าผมที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วเอื้อมมือมารับผ้าเช็ดหน้าผมไปเช็ดมุมปากตัวเอง



“เราอยู่ปี1หรอ”



“อืม” มันที่ตอบออกมาแบบนั้นแล้วพยายามลุกขึ้นยืน เห็นแบบนั้นเลยรีบเข้าไปประคอง แต่ไอ้เก้อก็ทำแค่มองมาแบบเปรี้ยวตีน



“เดี๋ยวพี่พาไปส่งห้องพยาบาลคณะ”



“ไม่เป็นไรพี่ แค่นี้ผมไหว หมัดเบาๆแบบมันอ่ะ สบาย”



“ปากดีนักไอ้สัด แดกหมัดกูอีกสักทีไหมล่ะ” ไอ้เก้อที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วทำท่าจะตรงเข้ามาจริงๆ ลำบากกูต้องยกตีนขึ้นมากันไว้ ส่วนไอ้เด็กนี่ก็ปากดีจริง กูสุดแสนจะเหนื่อยกับพวกมันสองตัว



“พอๆ เลิกทะเลาะกันทั้งคู่เลย เดี๋ยวอาจารย์มาเห็นพวกมึงจะซวยทั้งคู่”



“กลัวที่ไหนล่ะ”



“มึงก็มาดิ”



“พอไอ้สัด ไม่งั้นกูจะต่อยพวกมึงทั้งคู่นี่ล่ะ!” ผมที่เท้าสะเอวแล้วด่าแม่งแบบนั้น ไอ้เก้อที่เอาแต่มองเขม่นน้องมันแบบพร้อมจะพุ่งเข้าต่อย ส่วนไอ้เด็กข้างๆตัวนี่ก็อ้อนตีนไม่หยุด นี่กูเข้ามาอยู่ในดงอะไรวะ



“งั้นผมไปแล้วพี่ ขอบคุณมากนะพี่ที่มากันผมออกจากหมาบ้า”



“มึงสิหมา”



“เออๆ ไม่เป็นไร พี่ขอโทษแทนเพื่อนพี่ด้วยละกัน ว่าแต่เราไม่ไปทำแผลแน่นะ”



“ไปขอโทษมันทำเหี้ยไรวะไอ้เอม มันสิที่ควรจะขอโทษกู”



“หุบปากน่าไอ้สัดเก้อ”



“เหอะ” แค่นเสียงกวนส้นตีนออกมาแบบนั้นแล้วหันหน้าหนี ผมที่ต้องส่ายหัวกับความกวนส้นตีนของมันอีกครั้งแล้วหันมาหาเด็กตรงหน้าอีกที



“ไม่เป็นไรพี่ ผมไม่เป็นไร แค่นี้ไกลหัวใจ” น้องมันบอกแบบนั้นพร้อมๆกับยกมือขึ้นเสยผมที่ยาวปรกหน้าของมันออก



“เออ งั้นก็ดี ว่าแต่มึงชื่อไรวะ”



“ผมชื่อเสือ เรียนคณะนี้นี่แหล่ะ”



“ปั๊ดโถ่เอ๊ย รุ่นน้องกันหรอวะ น้องเสือกูชื่อเอมนะ ส่วนไอ้นี่ชื่อเก้อ”



“อ๋อ ถึงว่า แม่งเก้อสมชื่อจริงๆ”



“นี่มึงไม่จบใช่ไหม” ไอ้เก้อที่หันกลับมาอีกครั้ง กูสุดจะทนกับคนแบบพวกมึง



“ผมไปล่ะพี่เอม อยู่ตรงนี้นานๆแล้วเหม็น”



“เออๆ ไปเหอะมึง ไปดีนะๆ” ตะโกนบอกไอ้เด็กที่ก็โบกมือตอบกลับมาให้ มันที่เดินออกไปจากซอกนี้แล้วกรอกตาใส่ไอ้เก้อไปอีกที รู้สึกเหมือนเห็นคนสองคนที่นิสัยคล้ายกันมาทะเลาะกัน แม่งเป็นอะไรที่เหนื่อยมาก อยากจะถามอาจารย์ป้าว่าทำไมต้องเรียกโอบนิธิลงมา ทำไมไม่เรียกรสรินแบบไอ้หยีให้มันมาห้ามทัพแทนวะ



“เหอะ ไอ้เด็กเหี้ย เสือห่าไร ลูกเสือสำรองน่ะสิ” ไอ้เก้อที่ว่าออกมาแบบนั้นตามหลังของไอ้น้องเสือมันไป ผมที่ถอนหายใจหนักๆและอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปตบหัวมันทีนึง



“โอ้ย ไอ้เอม กูเจ็บนะเว้ย”



“ก็ตบให้มึงเจ็บนี่แหล่ะ เป็นห่าไรของมึงวะ มึงเป็นบ้าอะไรถึงไปต่อยกับเด็กมัน”



“เรื่องกู”



“ไอ้สัด” ไม่รู้จะพูดอะไรจริงๆกับมัน ไอ้เก้อมันเป็นคนดีนะครับ แต่บางครั้งก็มีความประสาทแดกแบบลูกคนรวยอยู่บ้าง ซึ่งกูไม่สามารถเข้าถึงอารมณ์ขึ้นๆลงๆของมันแบบนี้ได้เลย ผมที่ไม่อยากจะสนใจมันแล้ว เลยแค่เดินนำมันออกมาจากที่ตรงนี้



“เอมเดี๋ยว” แต่ติดตรงที่ฝ่ามือแกร่งของไอ้เก้อที่ดึงมือผมเอาไว้ซะก่อน



“ว่าไง”



“กูพูดจริงๆนะ กูไม่อยากให้มึงทำงานกับไอ้เหี้ยนั่นอีก” มันที่บอกออกมาแบบนั้นด้วยเสียงที่จริงจัง ดีที่ว่าตอนนี้เป็นเวลาเข้าเรียน ที่ตรงนี้เลยปลอดคนและปลอดควัน ผมถอนหายใจออกมานิดหน่อยตอนที่มองหน้ามัน



“กูทำแบบนั้นไม่ได้อ่ะเก้อ”



“ทำไมวะเอม มึงไม่รู้หรอวะ มันหลอกมึง มันเป็นตุ๊ดปลอมนะไอ้สัด” มันที่ว่าออกมาแบบฉุนจัดพร้อมๆกับยกมือข้างนึงขึ้นเสยผมแบบคนหงุดหงิดแต่ถึงแบบนั้นมืออีกข้างก็ยังไม่ยอมปล่อยมือจากแขนผม  ผมที่มองมันนิ่งๆก่อนจะค่อยๆยิ้มออกมาน้อยๆพร้อมๆกับพยักหน้า



“กูรู้”



“มึงหมายความว่ายังไง มึงรู้”



“ก็ไม่ได้รู้อะไรมากหรอก แต่มึงบอกว่ามันเป็นตุ๊ดปลอม กูก็เชื่อนะ” เพราะอย่างน้อยครั้งนึงกูก็เคยรู้ว่ามันไม่ใช่ตุ๊ดจริงๆ



“มึงเชื่อแล้วมึงยังไปทำงานกับมันอีก คืออะไรวะ” มันที่ขึ้นเสียงใส่ผมอีกครั้งพร้อมทำหน้าหงุดหงิด รับรู้ได้ถึงแรงกำจากฝ่ามือของมันที่ทำให้ผมเริ่มรู้สึกเจ็บ แต่ถึงแบบนั้นก็ไม่ได้พูดออกไป ไม่พูดด้วยว่าให้มันปล่อยมือกันไป ผมที่ทำแค่ยืนยิ้มโง่ๆแบบเดิมส่งไปให้มัน



“กูไม่รู้หรอกว่ามันจะตุ๊ดปลอมตุ๊ดจริงหรืออะไร แต่ที่กูรู้ก็คือ พี่มันดีกับกู”



“ก็มันจะหลอกมึงไงวะ!”



“เก้อ  กูไม่มีอะไรให้มันหลอกได้หรอก”



“มึงม!...”



“มึงฟังกู ต่อให้พี่มันอยากจะหลอก แต่กูก็ไม่มีอะไรจะให้มันอยู่ดี มึงก็รู้กูจนจะตายอ่ะ”



“ไอ้เอม มึงแม่งไม่เข้าใจอะไรเลยว่ะ”



มันที่ว่าออกมาแบบนั้นด้วยเสียงแบบอ่อนแรงปนหงุดหงิด มันเหมือนคนที่มีเรื่องอยากพูดมากๆ แต่สุดท้ายก็ทำได้แค่อ้าปากพงาบๆและไม่ยอมพูดอะไรออกมา ผมอยากจะเข้าใจว่ามันอยากจะสื่อสารอะไร แต่น่าเสียดาย กูไม่ใช่พระพุทธเจ้า กูตรัสรู้ไม่ได้ ... เอาแต่พูดว่ากูไม่เข้าใจ อืม...กูก็ไม่เข้าใจจริงๆนั่นล่ะ



“กูอาจจะไม่เข้าใจแบบที่มึงบอกจริงๆแหล่ะ แต่ถ้ามึงบอกมันจะหลอกกู กูก็ไม่เห็นประโยชน์อะไรที่มันจะหลอกกูได้เลย อีกอย่างกูแค่คิดว่ากูต้องทำงานเพื่อความอยู่รอดของกู ถ้ามึงไม่อยากให้กูทำงานกลางคืน กูก็จะบอกให้ฟังนะ ว่าต่อจากนี้กูไม่ต้องไปทำแล้ว กูจะมาทำงานบ้านให้พี่มันแทน ไม่เสียการเรียนให้ต้องนอนดึก ไม่โดนใครต่อใครจับตูดแล้ว มึงไม่ต้องห่วงนะเพื่อน”



บอกมันออกไปแบบนั้นแล้วยิ้มกว้างๆให้ พร้อมๆกับดึงแขนออกมาจากมือมัน เหลือบมองหน่อยๆเห็นว่าแขนกูขึ้นรอยนิ้วมันเลย แต่ถึงแบบนั้นก็เลือกจะเมินแล้วเดินไปตบไหล่มัน



“จริงๆนะเก้อ มึงไม่ต้องห่วงกูหรอก กูดูแลตัวเองได้น่า”



“ยิ่งมึงเปลี่ยนมาทำงานบ้านมันแทนยิ่งน่าห่วง”



“มึงนี่กระวนกระวายใจเหมือนคนแก่ขึ้นไปทุกทีๆเลยนะเพื่อน กูดูแลตัวเองได้ มึงคิดว่าอิเจ๊จะทำไรกูได้วะ อยากมากก็หักเงินกูอ่ะ”



“สัดเอ๊ย กูหงุดหงิดว่ะจริงๆแล้วนะไอ้เอม”



“กูเข้าใจๆ มึงน่าจะใกล้เป็นเมนล่ะเนาะ”



“เมนพ่อง”



“ฮ่าๆ เอาน่าเพื่อนเก้อ ยิ้มให้กันหน่อยสินะ นะเพื่อนน้า” บอกมันแบบนั้นพร้อมๆกับยื่นมือไปยืดแก้มมันสองข้างให้ยืดออกจากกัน มองตาดุๆของมันที่จ้องมองกันไม่หยุด สายตาที่มองมาทำให้ผมเริ่มประหม่าแปลกๆ แต่ถึงแบบนั้นก็ทำเป็นไม่สนใจแทน



“ไอ้เอม”



“ว่าไงครับเพื่อนเก้อ”



“มึงย้ายมาอยู่กับกู ถ้ามึงจะไปทำงานบ้านให้ไอ้ตุ๊ดปลอมนั่น มึงก็ต้องย้ายมาอยู่กับกู”



“ห๊ะ! มึง...”



“พอ กูอยากแดกไอติม ไปหาไอติมกินกันดีกว่า”



มันที่ไม่รอให้ผมเถียงอะไรอีก ทำแค่กระชากแขนผมให้เดินตามมันออกไปจากซอกที่เอาไว้สูบบุหรี่นี่สักที ... ไอ้แม่ย้อย มึงไม่ได้ฟังที่กูพูดมาเลยหรอวะเพื่อนเก้อ!



...


(มีต่อจ้า)
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่8 {30/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 30-11-2019 20:01:35



‘ติ๊ด’



ผมที่แตะบัตรเข้ามาในห้องพักของอิเจ๊ในช่วงเวลาหกโมงเย็นใกล้ๆจะทุ่ม ใช้เวลาไม่นานจากมหาลัยก็มาถึงที่คอนโดนี่ เพราะมันเป็นคอนโดที่อยู่ในเส้นรถไฟฟ้า และก็ไม่ได้ห่างจากร้านของเจ๊มันมากด้วย วันนี้ผมเลือกกลับมาที่ห้องนี่พราะเจ๊มันให้การ์ดเข้าห้องเอาไว้แล้ว



“เอ๊ะ เสียงอะไรๆ อ้อออ เสียงของอิน้องหนูบ๋อยนี่เอง ทำไมพึ่งกลับมาค่ะหนู”



เสียงจีบปากจีบคอที่ผมจำได้ดีว่าเป็นเสียงใคร ดังทักทายมาพร้อมๆกับเจ้าของห้องที่เดินออกมาจากในครัวพร้อมการแต่งหน้าแต่งตัวที่จัดว่าเต็มไม่ต่างจากทุกวัน แต่วันนี้เหมือนจะมากกว่าเดิมอีก ดูเจ๊มันอารมณ์ดีแปลกๆ



“ผมเลิกสี่โมง”



“อ่าหะ”



“แล้วไปกินไอ้ติมกับไอ้เก้อมา” ตอบออกไปแบบนั้น แอบบิดเบือนเล็กๆเพราะว่าจริงๆกูไปกินไอติมตั้งแต่บ่าย3แล้วครับ ไม่ได้เรียน เรียกได้ว่าโดด เป็นเรื่องที่เด็กดีๆไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง แต่ไอ้สัดเก้อมันเป็นคนชั่วที่ลากคนดีๆแบบผมไปด้วย โทษมันได้เลย



“หรอวะ” คนตรงหน้าที่ว่าออกมาแบบนั้น ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่าถึงรู้สึกว่าหน้าเจ๊มันตึงขึ้นมานิดหน่อย



“แล้วทำไมเจ๊ยังอยู่นี่ล่ะ ทำไมไม่อยู่ร้าน”



“อยู่รอจับผิดเด็กหนีเที่ยวกับผู้”



“อันนั้นเจ๊ว่ากูหรอ” ยกมือขึ้นเกาหัวแล้วถามออกไปแบบนั้น ก็คือมันว่ากูหรอ แต่กูไม่ได้มีผู้นี่หว่า ผู้ไรของเจ๊มันวะ



“หึ มันน่าจับฟาดให้ตูดลาย” ได้ยินมันบ่นแบบนั้นแต่ไม่ได้สนใจมาก เพราะเจ๊มันทั้งบ่นทั้งเดินหายเข้าไปในครัวแล้ว



“เจ๊จะให้ผมทำความสะอาดอะไรตรงไหนก่อนหรอ”



“ตรงไหนรกมึงก็ทำตรงนั้นค่ะ”



“แต่ตอนนี้มันยังไม่ค่อยรกเลยนี่หว่า”



“งั้นก็ยังไม่ต้องทำค่ะ”



“อ้าว แต่วันนี้ผมตั้งใจจะไม่ไปร้านนะเจ๊ พรุ่งนี้ผมมีเรียนเช้าอ่ะ เลยตั้งใจจะมาทำงานที่นี่เลย”



“งั้นมึงอยากทำอะไรก็ทำไปค่ะ กวาดพื้นถูพื้นไรก็เรื่องของมึง” ง่ายจังวะ ... แต่เป็นแบบนั้นก็ดีครับ สบายดี



ผมที่พยักหน้าหงึกหงักเป็นคำตอบรับว่าเข้าใจแล้ว ตั้งใจเดินออกไปหาไม้มากวาดพื้น ก็นึกขึ้นได้ถึงเรื่องที่พึ่งคุยกับไอ้เก้อเมื่อก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ร้านไอติม



‘มึงมาอยู่กับกู’

‘เห้ย ไม่ได้ดิ เจ๊มันมีที่พักให้ พักอยู่กับเจ๊มันเลย สะดวก’

‘แบบนั้นไม่ได้ กูไม่ยอม’

‘มึงจะมายอมไม่ยอมเหี้ยไรอ่ะเพื่อนเก้อ มึงเป็นไรมากไหมวะเพื่อน’

‘ก็กู...กูไม่ไว้ใจ อีกอย่างอิเจ๊เหี้ยไรนั่นมันเป็นคนอื่น แต่กูเป็นเพื่อนมึง มาอยู่กับกูมันก็ต้องดีกว่าป่ะวะ’

‘แต่บางทีมึงเอาหญิงมานอน มันไม่สะดวก’

‘ถ้ามึงมาอยู่ กูไม่เอาใคร’

‘นั่นยิ่งไม่ได้ กูจะทำเพื่อนเก็บกดนะเว้ย’

‘แล้วมึงไม่คิดบ้างหรือไงว่ามึงจะทำอิเจ๊เหี้ยนั่นเก็บกด เนี่ย เค้ายิ่งเป็นคนอื่น เค้าก็ควรมีที่ส่วนตัวให้ปลดปล่อย กับกูไม่เป็นไร กูทนได้ กูเพื่อนมึง’

‘แต่เจ๊มันไม่เอาสาวมาหรอก’

‘โวะ! งั้นมันอาจจะเอาหนุ่มมาไงไอ้สัด’

‘เออว่ะ จริงของมึง’






        นึกถึงคำพูดที่คุยกันกับไอ้เก้อเมื่อก่อนหน้านั้น...มันก็จริงนะ บางทีเจ๊มันอาจจะอยากพาใครมาที่ห้องแต่ก็พามาไม่ได้เพราะผม ส่วนไอ้เก้อ ใจจริงผมก็ไม่อยากไปกวนเพื่อน แต่มันบอกว่ามันทนได้ คำพูดนี้ผมไม่เชื่อน้ำหน้าแบบมันหรอกครับ แต่คิดว่า ไอ้เก้อน่าจะหาวิธีลากไปที่อื่นได้ แล้วถ้าผมทำงานได้เงินมากพอก็ย้ายออกจากห้องไอ้เก้อได้ เจ๊พี่มันก็ไม่ต้องเดือดร้อนด้วย แบบนี้ก็น่าจะดีกว่าจริงๆแบบที่ไอ้เก้อมันบอก



“ยืนคิดอะไรอยู่ควายน้อย หน้ามึงขมวดบู้บี้มากค่ะ”



“เจ๊ ผมมีเรื่องอยากคุยด้วย” เงยหน้าไปมองคนที่เดินออกมาจากในครัว ในมือเจ๊มันมีข้าวผัดกระเพราถือมาด้วย หอมๆเลย ควันขึ้นเหมือนพึ่งทำเสร็จร้อนๆ ข้าวผัดกระเพราหมูสับ เป็นการเอาผัดกระเพราคลุกข้าวแล้วเอาไปผัดให้เข้ากัน ถ้าได้กินตอนร้อนๆจะยิ่งอร่อยและกลมกล่อมมากๆเลยครับ



“เรื่องอะไร”



“คือว่า...”



“มึงอย่าพึ่งพูดค่ะหนู ไปหยิบอีกจานของมึงมาไป แล้วเอามากินกับกู”



“เจ๊ทำเผื่อผมหรอ”



“โถ่ ควายน้อย คิดแค่นี้ก็ไม่ออกหรอ กูทำให้หมามันแดกมั้ง ไปตัก” ว่าแบบนั้นพร้อมเดินเชิดหน้าหนีกูไปที่โซฟาหน้าทีวี แล้วมันบอกกันดีๆแบบไม่ต้องแซะกูบ้างไม่ได้หรอวะ แต่ถึงแบบนั้นไอ้เอมก็วิ่งหน้าตั้งลัลลาไปตักข้าวผัดกระเพราจากในครัวมาเลยครับ



“เจ๊ หอมมากๆ”



“หอมสู้ไอติมที่มึงไปแดกกับเพื่อนเก้อของมึงได้ไหมล่ะ”



“ไอติมถ้วยเล็กๆของไอ้เก้อก็ต้องเทียบกับข้าวผัดกระเพราของเจ๊ไม่ติดอยู่แล้วสิ โถ่ๆ” ว่าออกไปแบบนั้นพร้อมทรุดตัวลงนั่งข้างๆเจ๊แก พวกเราที่เอาโซฟาเป็นที่พิงหลัง เพราะนั่งกันที่พื้นและใช้โต๊ะหน้าทีวีวางจาน เจ๊มันที่เอื้อมมือเปิดทีวีพอให้มีเสียงอะไรดังในห้อง



“ปากหวานนะมึง”



“เรื่องจริงนะ เอมไม่ได้ประจบเจ๊เลยน้า” บอกออกไปแบบนั้นแล้วหันไปยิ้มให้คนข้างตัว เจ๊มันที่ก็หันมามองกันในตอนนั้นพอดี อีกคนที่ยกยิ้มมุมปากน้อยๆแล้วเอื้อมมือมาขยี้หัวกัน



“อืม เชื่อ”



“เชื่อว่าเอมไม่ได้ประจบใช่ป่ะ”



“เปล่า...”



“เอ้า!”



“กูเชื่อว่าปากมึงหวานจริง...เพราะกูเคยชิมมันมาแล้ว”



เจ๊พี่มันที่ว่าออกมาแบบนั้น ก่อนที่ฝ่ามืออุ่นของอีกฝ่ายจะเลื่อนลงมาวางไว้ที่ข้างแก้ม มืออุ่นๆที่ทำให้ต้องเผลอหลับตาแล้วเอียงแก้มเข้าหาแบบอัตโนมัติ



“หึ ควายน้อยเอ๊ย”



“อื้ม อย่าว่าเอม”



“โอเค ไม่ว่า งั้นมากินข้าว” อีกคนที่บอกออกมาแบบนั้น รู้สึกแปลกๆที่ว่าวันนี้ ตอนนี้ เสียงของมันอบอุ่นแปลกๆ พอลืมตาขึ้นมาแล้วรู้สึกกระดากอายฉิบหาย เมื่อกี้กูทำขนาดที่ว่าเอาหน้าถูๆมือพี่มันด้วยนะ ... เพราะแบบนั้นเลยรีบก้มหน้าก้มตาโซ้ยข้าวตรงหน้าเข้าปากแทน


“อาย่อยย”



“กูก็คิดแล้วว่ามึงต้องพูดแบบนี้” ว่าแบบนั้นพร้อมมองผมกิน พี่มันที่แค่ส่ายหน้าพร้อมส่งยิ้มมาให้



“ก็มันอร่อย เจ๊จะบอกให้ผมพูดว่ารสเหี้ยมันก็ไม่ได้ไง”



“ปากมึงนี่นะ เถียงเก่งจังวะ”



“เปล่าเถียงสักหน่อยอ่ะโด่ว”



“ว่าแต่เมื่อกี้มึงบอกจะมีอะไรคุยกับกู”



“เอ้อ ใช่ๆมีๆๆ”



 บอกออกไปแบบนั้นพร้อมๆกับรีบพยักหน้าให้ คือลืมไปแล้วพอมีของอร่อยล่อตาล่อใจอยู่ตรงหน้าก็ลืมมันไปทุกสิ่ง และนี่เป็นอีกเรื่องนึงที่จะทำให้ผมเสียใจถ้าไม่ได้อยู่ที่นี่ ก็คือจะไม่มีของอร่อยๆแบบนี้ให้ได้กินทุกมื้อ เพราะถ้าเทียบฝีมือทำอาหารระหว่างเจ๊มันกับไอ้เก้อ ก็คือหน้ามือกับหลังตีน ไอ้เก้อที่ทำแค่มาม่าเฉยๆยังรสชาติเหี้ยเลย อย่าได้เอามาเทียบกับอาหารฝีมือเจ๊มันเลยครับ มันมีดีแค่มีเงินนี่ล่ะมันเลยไม่อดตายเพราะหาซื้อกินได้



“ว่าไง”



“คือเจ๊...ผมว่าจะขอย้ายไปอยู่กับไอ้เก้อ”



‘กึก’



บอกออกไปแบบนั้นพร้อมๆกับที่คนข้างตัวที่ก็วางช้อนซ้อมลงในจานทันที ก่อนที่ใบหน้าคมที่แต่งแต้มสีสันสดใสนั่นจะหันมามองกันแบบนิ่งๆ ก็คือไม่สดใสแบบอายแชโดว์หรือลิปสติกบนหน้าเจ๊มันเลย รู้สึกเหมือนอากาศรอบๆตัวจะเย็นลงแปลกๆในตอนนี้



“ทำไม” สองคำที่ถามกันออกมาแบบนั้นด้วยเสียงนิ่งๆและก็ยังจ้องตากันไม่หันไปไหน เป็นผมเองที่เลือกจะละสายตาออกมาแล้วจ้องไปที่จานข้าวแทน คือจริงๆกูก็ยังหิวอยู่



“ก็คือว่า...ถ้ามีผมมาอยู่ด้วยเจ๊อาจไม่สะดวก”



“อะไรที่มึงว่าไม่สะดวก”



“ก็แบบ...แบบ แหม จะให้พูดก็เกรงใจจัง” มันเขินเหมือนกันนะที่จะต้องบอกว่า เผื่อเจ๊จะพาใครมาเยดุๆ สัด! พอพูดแบบนี้แล้วนึกถึงตัวเองตอนถูกกระแทกเข้ากระแทกออก วูบวาบเลย



“มึงอย่าลีลา พูดมาไอ้เอม” เป็นอีกคนที่ดูจะอดทนได้ไม่ดี ก็แล้วทำไมต้องเสียงดุใส่กูด้วยอ่ะ กูแค่เขินไง ก็ขอเวลากูเขินหน่อยจะตายหรอ



“ก็เผื่อเจ๊อยากพาใครมานอนด้วยไง ไอ้เก้อบอกว่าบางวันเจ๊ก็ต้องอยากปลดปล่อยซู่ซ่าบ้างไง ผมก็มาคิดๆดูมันก็ใช่นะ ถ้ามีผมมาอยู่ด้วย เจ๊ก็จะไม่สะดวกในการหิ้วผู้ชายมาไงวะ” บอกออกไปรัวๆเพราะเห็นอีกคนยังจ้องมาไม่หยุด ไอ้เอมนี่ถึงกับต้องวางช้อนส้อมลงด้วยเลยนะ ทั้งๆที่ยังอยากกินต่อแท้ๆ



“สัด”



“เอ้า ด่าทำไมก่อน?” หน้างอเลย ไอ้เอมหน้างอเลย ถึงเจ๊มันจะว่าออกมาเบาๆแต่กูหูดีครับ นั่งใกล้ขนาดนี้ด้วย ได้ยิน!



“แล้วมึงไม่คิดว่าเพื่อนมึงจะอยากปลดปล่อยบ้างรึไง”



“มันบอกมันทนได้”



“สัด โง่จนกูท้อ”



“อะไรของเจ๊วะ นี่ด่ากันอ่อ?” ขมวดคิ้วแล้วนะ ไอ้เอมหนหวยแล้วนะ คือด่ากันสองรอบแล้วนะเว่ยเฮ้ย



“แดกไป”



“เอ้า แล้วเจ๊เข้าใจเรื่องที่ผมบอกยัง ผมจะย้า...”



“แดกไป”



“เอ๊ะเจ๊...ฟังเข้าใจยังว่าผมจะ...”



“ถ้ามึงไม่แดกตอนนี้กูจะเททิ้ง”



“แดกจ้า แดกเลย ไม่พูดแล้ว เอมจะแดกให้เกลี้ยง” เอาวะ! ไม่ให้พูดก็ไม่พูดก็ได้ เพราะยังไงข้าวก็สำคัญเกินกว่าจะให้เททิ้ง และอีกอย่าง เรื่องที่พึ่งพูดไปมันก็ไม่ได้เข้าใจยากอะไรนี่หว่า แล้วเจ๊มันก็ไม่หือไม่อือไม่ปฏิเสธด้วย คิดว่ามันก็คงเห็นดีด้วยถ้าผมจะไม่อยู่ที่นี่ เพราะงั้นก็เลยกินข้าวต่อไปแบบไม่รอคนข้างๆที่นั่งเงียบ แอบเหลือบไปมอง เจ๊มันไม่ยอมกินต่อ แต่ทำแค่นั่งนิ่งๆแล้วจ้องมองทีวีอยู่แบบนั้น คือเล่นเอ็มวีหรืออะไรนะ?



“เจ๊ กินเสร็จแล้ว ผมเอาจานไปล้างนะ เจ๊จะ...”



“อืม เอาของกูไปล้างด้วย”



“เจ๊ไม่กินแล้วหรอ”



“อืม”



เจ๊มันที่ตอบออกมาสั้นๆแล้วลุกขึ้นเดินหนี ได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างๆที่เดินหายไปแบบงงๆ แต่ถึงแบบนั้นก็ไม่ถามอะไรต่อ เมนอาจจะมาแบบไอ้เก้ออีกคนก็ได้ ผมที่เดินสวนกับเจ๊มันเข้าไปในครัว เห็นอีกคนที่เดินออกมาพอดีเหมือนมันถืออะไรติดออกมาด้วยแต่มองไม่ทัน

ผมที่ใช้เวลาไม่นานก็ล้างจานเสร็จ เดินออกมาก็เห็นเจ๊มันยังนั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟาหน้าทีวีเลยเดินเข้าไปนั่งลงข้างๆ



“เจ๊...”



“อืม ว่าไง” เจ๊มันที่ตอบออกมาแบบนั้นพร้อมๆกับเอื้อมมือไปกระดกกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่ม ... นี่สินะที่มันเดินเข้าไปในครัว ว่าแต่กินทำไมวะ เดี๋ยวก็ต้องไปร้าน



“เจ๊ไม่ไปร้านหรอ”



“ทำไม มึงอยากให้กูไปไวๆหรือไง”



“เอ้า เป็นอะไรอ่ะ ก็แค่ถามเฉยๆเอง เห็นเจ๊แต่งหน้าเสร็จตั้งแต่หกโมงแล้วไง ว่าแต่...เจ๊เข้าใจที่ผมบอกก่อนหน้านี้แล้วใช่ป่ะ”



เลือกที่จะถามออกไปอีกครั้ง ก็แค่อยากให้เข้าใจได้ตรงกัน แต่เหมือนกับคำพูดผมจะไปสะกิดใจมันแปลกๆ เพราะอีกฝ่ายที่แผ่รังสีอึมครึมออกมาอีกแล้ว เจ้าตัวที่กระดกกระป๋องเบียร์เข้าปากจนหมดในทีเดียว ก่อนจะวางกระป๋องลงตรงโต๊ะกระจกตรงหน้าดังปัก ... กูนี่สะดุ้งเลยครับ



“จ...เจ๊มองหน้าผมแบบนั้นทำไมอ่ะ”



“ถ้ากูบอกว่ากูไม่เข้าใจ มึงจะว่าไง”



“หา...เจ๊หมายถึง...”



“ถ้ากูบอกว่ากูไม่เข้าใจที่มึงบอกว่าจะย้ายออก กูไม่ยอมมึงจะทำยังไง”



“เอ้า แล้วทำไมเจ๊ต้องไม่ยอมด้วยวะ ผมหวังดีกับเจ๊นะเนี่ย ก็แค่กลัวอึดอัดเผื่ออยากให้ใครมานอนด้วยอะไรงี้”



ขมวดคิ้วตอบกลับไปแบบงงๆ คือเจ๊จะหงุดหงิดใส่กูทำไมก่อน วันนี้ไอ้เก้อก็ทีนึงละ ยังจะมาเจ๊พี่มันด้วยอีกหรอ คือไอ้เอมไม่ใช่ส้วมนะ เอะอ่ะปวดขี้ ก็แวะมาขี้ ขี้ระบายใส่กันพอปลดทุกข์เสร็จสบายตูดแล้วก็จากกันไปน่ะเห้ย ...



เอ่อ แล้วทำไมกูต้องเปรียบเทียบตัวเองด้วยเรื่องขี้ด้วยวะ เอาซะกูเหม็นเลย



“มึงอย่ามาคิดแทนกู กูบอกหรอว่ากูอึดอัด กูบอกหรอจะหิ้วใครมา”



“ก็แค่...”



“เพื่อนมึงนี่แม่งวอนนะ”



“วอนไรวะ เจ๊อย่าหงุดหงิดว่ามันสิ มันก็แค่ห่วงว่าผมจะมาเป็นภาระเฉยๆเองนะ” ช้อนตาบอกอีกคนที่ก็แค่แสยะยิ้มมุมปากออกมาพร้อมๆกับเสียง ‘เหอะ’



“มึงไม่ใช่ภาระ”



“แต่...”



“กูยื่นคำขาด ถ้ามึงย้ายไปอยู่กับมัน ก็ไม่ต้องมาทำงานกับกู”



“ห๊ะ!” กูนี่แหกปากเบิกตากว้างเลย พูดอะไร ดานี่พูดอะไรกับเอม ไหนดานี่พูดใหม่อีกครั้งสิ



“กูพูดจริง มึงห่วงกูมากก็ย้ายออกสิ ถ้าไม่ห่วงตัวเองว่าจะตกงาน” บอกแบบนั้นจบพร้อมจ้องหน้ากันแบบร้ายๆ พร้อมๆกับคิ้วได้รูปที่เจ้าตัวเขียนคิ้วเอาไว้จนเป๊ะนั่นเลิกขึ้นแบบกวนๆกัน



“เจ๊~~~ ผมก็แค่ห่วงเจ๊ เจ๊จะมาไล่ผมออกไม่ได้นะเว้ย”



“ห่วงกู”



“ใช่จ๊ะ” ตอบแบบไม่คิดพร้อมพยักหน้ารับแบบแข็งขัน มองเห็นเจ๊พี่มันที่ทำสายตาพราวระยับแบบแปลกๆมองมาที่หน้ากันก็ได้แต่กระพริบตาปริบๆใส่มันทั้งแบบนั้น



“ถ้าห่วงกู ... มึงก็ช่วยกูสิ”



“ห๊ะ ช่วย...ช่วยยังไง อื้มม” เสียงของผมที่หายไปพร้อมๆกับริมฝีปากของอีกฝ่ายที่ประกบลงมาที่ริมฝีปากของผม แรงดูดดุนที่ไม่เบาแต่เน้นหนักที่ทำให้ผมต้องเผยอริมฝีปากตอบรับให้ลิ้นร้อนๆของอีกคนสอดแทรกเข้ามา



“อ๊ะ” สะดุ้งอีกครั้งและเผลอร้องครางออกมาเบาๆแบบนั้นในตอนที่อีกคนดูดเข้าที่ปลายลิ้นแรงๆ ฝ่ามืออุ่นที่เลื่อนไปประคองอยู่ที่ท้ายทอย จัดทาทางวางองศาให้ผมหมุนหน้าทำมุมกับเจ้าตัวได้อย่างเหมาะเจาะ เป็นอีกครั้งที่ต้องหลับตาลงและรู้สึกวาบหวามในอก รับรู้ได้ถึงวงแขนแข็งแกร่งของคนตรงหน้าที่เลื่อนเข้ามาโอบเอวของผมและดึงตัวของผมให้เข้าไปหาอีกฝ่ายมากขึ้น รู้สึกเหมือนตัวเองลอยได้ และก็ลอยมาอยู่บนตักแกร่งของอีกฝ่ายทั้งแบบนั้น ได้แต่โอบรอบลำคอและจูบตอบกลับไปแบบไม่ยอมแพ้ แม้ว่าในความรู้สึกของอีกฝ่ายที่ผมพอจะเดาได้ว่าเจ๊มันก็คงคิดว่าผมไม่ต่างจากเด็กหัดจูบ เพราะถ้าเทียบกับมัน ผมก็เป็นแค่เด็กที่พึ่งหัดจูบจริงๆ...



รู้สึกได้ถึงฝ่ามือร้อนๆที่สอดเข้ามาในเสื้อนักศึกษาของผม นิ้วเรียวยาวของเจ๊มันที่เลื่อนขึ้นมาจากหน้าท้อง ลากช้าๆผ่านมาจนถึงหน้าอกและสะกิดลงบนยอดอกของผมให้ต้องสะดุ้งจนต้องผละหน้าออกจากอีกฝ่าย



“จ...เจ๊ เจ๊จะทำอะไร” ถามออกไปแบบนั้นด้วยเสียงสั่นๆที่ไม่มั่นคง และทั้งๆที่ตอนนี้มือของมันก็ยังบี้อยู่ที่หัวนมผมแท้ๆ สภาพผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงและเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ยนั่น กูก็ไม่น่าถามออกไป ... แถมกูยังถ่างขานั่งคล่อมตักเจ๊มันอยู่แบบนี้ อีกฝ่ายที่แค่เงยหน้าจ้องตาผมด้วยสายตาวาวพร้อมๆกับยกยิ้มมุมปาก เป็นสายตาและรอยยิ้มที่ผมเคยเห็นมาแล้วหลายครั้ง และครั้งแรกก็คือคืนที่เรามีอะไรกันแบบที่จำได้ไม่ลืม



“ถามเหมือนไม่เคย”



“แต่ เจ๊...ก็เจ๊บอก เจ๊บอก...เจ๊บอกเจ๊เป็นตุ๊ด”



“เป็นตุ๊ดแล้วไง กูก็เป็นผัวมึงได้ก็แล้วกัน”



‘พรึบ’



“เห้ย! ใจเย็นก่อนวัยทอง ค่อยพูดค่อยจากันนะ” ว่าออกมาแบบนั้นตอนที่โดนอีกฝ่ายดันตัวลงไปนอนหงายอยู่ที่โซฟาแล้วมันก็ตามมาคล่อมทับกันแบบนั้น ได้แต่เบิกตากว้างขึ้นแบบตกใจ ยกมือยันอกอีกฝ่ายเอาไว้ทั้งแบบนั้น



“ปากดีนะมึง”



“ผมหยอก เอมหยอก เจ๊ใจเย็นก่อน เจ๊ อึก. อื้อ..”  ละล่ำละลักบอกออกไปแบบนั้น แต่สุดท้ายก็ต้องเปลี่ยนเป็นเสียงครางเมื่อฝ่ามือของอีกฝ่ายกดลูบไล้ไปตามแกนกายของผมผ่านกางเกงนักศึกษาของผมแบบเน้นๆให้ไม่ได้หยุดพัก



“ถ้ามึงยังกล้าบอกว่าจะไปอยู่กับไอ้ล่ำนั่นอีกล่ะก็...”



“อื้มม จ..เจ๊”



“กูจะทำให้มึงไม่มีเสียงกลับไปพูดกับไอ้ล่ำนั่นเลยน้องเอม”



::::::::::::::::::-- to be continued --:::::::::::::::::::::::::



เห้ยย๊ะ บ้าน่า อะไรยังไงกันนะ ... สำหรับตอนนี้มีหลายประเด็นให้คนอ่านได้กรีดร้องกันนะคะ

พะพายคือใคร? และ อิเจ๊จะได้กินน้องหรือไม่? เพื่อนเก้อจะเก้อจริงหรือเปล่า?

เห้ย อะไรยังไงกันนะเออ

อ่านตอนนี้จบจะมีใครเรียกหาแคทไหมน้าา ไม่รู้ๆๆๆ แคทไม่รู้เรื่องอะไรเลยจ้า

และ...จะมีทีมแม่น้องเอมเพิ่มขึ้นไหมน้า 55555

เชิญคอมเม้นท์กันเข้ามาเลยค่ะ แคทรออ่านความคิดเห็นของคนอ่านทุกๆท่านอยู่นะคะ หวังว่าจะชอบและอินไปด้วยกันนะคะ

และฝากแทค #สวยๆเป็นผัว ในทวิตเตอร์ด้วยนะคะ


ปล. ขอขอบคุณคนอ่านในเล้าเป็ดมากๆค่ะ 11คอมเม้นท์แคทไม่เคยได้จริงๆจากเรื่องที่ผ่านมา รู้สึกดีใจที่คนอ่านอยู่ด้วยกัน
จนมาถึงตอนที่8ค่ะ


:z1:

 :L2: :pig4: :L2:
  ขอบคุณมากๆเลยนะคะ เข้ามาอ่านตอน8อีกนะคะ จุ๊บๆ



:katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
  ขอบคุณมากๆนะคะที่เข้ามาอ่านเรื่องนี้ ยังไงมาอ่านตอนนี้อีกน้า


:mew5: อิเจ๊มึงมันร้าย
อันนี้จริง อันนี้ใช่อันนี้เห็นด้วยมากๆค่ะ


ใครกำลังจะมาอะเจ๊ดานี่ งื้อไม่อยากกินมาม่าง่า   :ling1:
ไม่กินมาม่า เชื่อใจแคทจิๆๆ แคทไม่ดราม่าหรอกน้าาา


:mew2: :mew2:
จุ๊บเลยๆ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ


:pig4: :pig4:
ขอบคุณมากๆนะคะ แล้วมาอ่านอีกนะคะ


สงสารเพื่อนเก้อ ถึงตัวจะเท่าๆ กัน แต่กระดูกน่าจะคนละเบอร์กะเจ้ดานี่นะฮะ ก็เจ้มันร้ายจะตาย

ว่าแต่คนที่จะกลับมาเป็นแฟนเก่าอิเจ้นี่ละป่าวอ่ะ.
เป็นคอมเม้นท์เดียวที่พูดถึงเก้อ คือสงสารเก้อเถอะ เพราะกระดูกคนละเบอร์กันจริงๆค่ะ 5555555


อ้าว เอาแล้วไง. วุ่นวายแน่ๆ,,,
  วุ่นวายไหมน้าาา ยังไงน้าาา


รักเก่ามันฝังลึกงี้
  เห้ยยย บ้าน่าา เนี่ยๆๆ รู้ทันกัน


:pig4:
 :3123:
ขอบคุณนะคะที่เข้ามาอ่านและมาเม้นท์ให้กันเสมอๆเลย :mew1:


รอตอนต่อไปจ้า  :L2: :pig4: :L2:

ใครจะกลับมา? :hao4:
  ใครจะกลับมา มาเฉลยแล้วน้าาา อิอิ อะไรยังไงหว่า


ลุ้นต่อ รอตอนต่อไปจ้าา
  ตอนต่อไปมาแล้วจ้า มาอ่านกันนะคะ  :mew1:


วันนี้วันเสาร์ คุณแคทลงตอนต่อไปวันนี้นี่นา
รออยู่นะคะ นี่พึ่งเข้ามาอ่านตอนล่าสุด อิพี่ดาบ เธอมันร้าย
เกลียดความร้ายของพี่มัน เกลียดความทิ้งตัวลงโวยวาย
นางเอกสุด อยากตะโกนบอก น้องเอมหนีไปลูกกกกกก
แต่ใคร ใครกำลังมา ไม่ได้นะ มาอ่อยลูกฉันแล้วจะทิ้งล่ะน่าดู! :katai1: :z3:
รอนะคะคุณแคท :call:
  แคทมาแล้วจ้าาา แคทมาแล้ว มาอ่านตอนนี้แล้วจะมีทีมแม่น้องเอมเพิ่มมาไหมหว่า 55555

หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่8 {30/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 30-11-2019 21:04:25
โง่จนท้อ จนต้องตอกย้ำความผัว  :katai2-1: 
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่8 {30/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: Fengfang ที่ 30-11-2019 21:18:26
สงสารเพื่อนเก้อจุง พระพายนี่ใครรักแรกของเจ๊อ่อ หลุดมาดเชียวน๊า
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่8 {30/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 30-11-2019 21:39:46
 :z1:


 :กอด1: :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่8 {30/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 30-11-2019 23:50:23
ชอบๆ มาอีกไวๆ นะคะ รอจ้าา  :L2:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่8 {30/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 01-12-2019 06:32:29
รอตอนต่อไปจ้า  :L2:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่8 {30/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 01-12-2019 08:23:09
มีแต่เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อทั้งน้านนน
แต่เอะ ไทเก้อ&เสือ ท่าจะดุนะคู่นี้  :katai3:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่8 {30/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 01-12-2019 08:53:53
 :fire: อีพี่ดาบมึงห้ามหลายใจ
มึงห้ามสับสนค่ะ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่8 {30/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 01-12-2019 09:07:16
อิเจ้ เนียนปล้ำเด็กอีกแล้วสิเนี่ย  :hao3:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่8 {30/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 01-12-2019 22:08:30
 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่8 {30/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 01-12-2019 23:30:49
โอ๊ย อิเจ๊ดานี่ เจ๊จะมาทำตัวเอาแต่ใจกับน้องแบบนี้ไม่ได้
พรุ่งนี้น้องมีเรียนนะ จะให้ไปแบบปากเจ่อ เดินกระเผลก ไม่มีเสียงพูดไม่ได้
(คนอ่านขอมโนล่วงหน้าไปก่อน ><)

แล้วพระพายคือใคร จะมาทำให้ความสัมพันอิเจ๊กับเด็กบ๋อยควายน้อยคลอนแคลนรึเปล่าเนี่ย
ไม่น่าไว้ใจ(อิเจ๊)อย่างแรง

คุณคนเขียนคะ ขอสารภาพไว้ตรงนี้ว่าตอนแรกไม่อิน
แต่ตอนนี้หยุดไม่ได้แล้วค่ะ อยากอ่านต่ออออ
เราตกปลักโคลนของควายน้อยเด็กบ๋อยเอมเอมไปแล้ว
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่8 {30/11/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 02-12-2019 00:11:03
มาม่าแน่ๆ งานนี้,,,
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่9 {07/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 07-12-2019 20:37:51
บทที่9.1



“จ...เจ๊ๆ มึงใจร่มๆก่อนนะเจ๊นะ”



ผมที่ร้องบอกออกมาแบบนั้นแล้วเอามือตบๆไปที่หน้าอกของพี่มันไว้ ก็อยากจะให้ค่อยพูดค่อยจากัน ใจร่มๆนะเจ๊พี่มึงนะ คนที่คล่อมตัวทับกันอยู่ได้แต่ส่งสายตามองหน้ากันมาแบบนิ่งๆ ลมหายใจร้อนๆที่ดังฟืดฟาดเหมือนวัวกระทิงป่าที่กำลังข่มความรู้สึกพร้อมแววตาคมดุที่ผมไม่เข้าใจความหมายของสายตานั้น เจ๊มันเป็นคนที่เหมือนจะเข้าถึงง่าย แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เลยสักนิด หน้าตาร่าเริงของมันที่ชอบทำให้ได้เห็น จริงๆก็เป็นแค่หน้าฉากที่มันปั้นแต่งเท่านั้นเอง จะให้เข้าใจความรู้สึกของมันจริงๆ คนโง่ๆแบบผมก็ดูจะไม่มีทางเข้าใจมันได้เลย



“คำตอบ”



“คำตอบเหี้ยอะไร มึงถามอะไรกูเรอะเจ๊” ตอบออกไปแบบนั้นด้วยหน้าตาเหรอหรา ก็กูตกใจจนลืมไปแล้ว มึงถามอะไรกูด้วยหรอ



“มึงจะย้ายออก?”



“ถ้าออก?”



“กูจะเอามึงตอนนี้”



“ถ้าไม่ออก?”



“กูจะเอามึงตอนหน้า”



“เออ ได้ฟังแบบนี้แล้วค่อยสบายใจขึ้นหน่อย ถุย! พูดเหี้ยอะไรของเจ๊วะ” แหวออกไปแบบนั้น พร้อมถลึงตาใส่อีกคนที่ก็เหมือนจะหลุดยิ้มที่มุมปากออกมานิดหน่อย มึงไม่ต้องมายิ้มกรุ้มกริ่มใส่กัน กูไม่หลงกลมึงหรอกนะเว่ย



“ว่าไง”



“ยังจะว่าไงอะไรอีกล่ะวะ เจ๊เลิกคล่อมกันสักทีจะได้ไหมล่ะ” บอกแบบนั้นออกไปอีกครั้งแล้วพยายามดันอกอีกฝ่ายให้ลุกหนีออกจากกัน



“กูต้องการคำตอบ มึงจะย้ายไปนอนกับไอ้ล่ำนั่น...”



มันที่ถามออกมาแบบนั้นอีกครั้งพร้อมๆกับเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ ลำตัวแกร่งที่ก็ค่อยๆแนบชิดเข้าหากันมากขึ้นๆในตอนนี้ สัมผัสที่แนบชิดที่มีแค่เสื้อและกางเกงเนื้อผ้าบางเบากั้นกันอยู่ตอนนี้ทำให้รับรู้ได้ถึงความอุ่นร้อนของผิวหนังเมื่อแนบกัน ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่มันก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกร้อนหน้าแบบแปลกๆ ยิ่งในตอนที่รับรู้ถึงความแข็งแกร่งตรงหว่างขาที่ทาบทับลงมาจนรู้ขนาดตัวตนของอีกคนนั่นก็ได้แต่ทำให้ต้องหลับตาปี๋แล้วเสหน้าหนีสายตาคมที่เลื่อนเข้ามาใกล้เหมือนจะไล่ต้อนกันให้จนมุม



“เออๆไม่ย้ายๆๆ จะอยู่ กูจะไม่ออกๆ ออกแล้วจะเอาอะไรกิน แน่จริงไล่กูดิ๊!” หลับหูหลับตาร้องตะโกนออกไปแบบนั้นพร้อมๆกับย่นคอหนี ทำตัวให้ลีบแบนที่สุดเพื่อที่จะได้แนบไปกับโซฟา กลัวอีกฝ่ายมันทำการอุกอาจจูบกันลงมาเหมือนที่มันเคยทำ



ถึงมันจะรู้สึกดีก็เถอะ ...



แต่มันก็ไม่ถูกต้องไงวะ ...



“หึ” เสียงหัวเราะในลำคอที่ได้ยิน ทำให้ต้องค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นมาช้าๆอย่างกล้าๆกลัวๆ พอมองชัดๆก็เห็นอีกฝ่ายที่ยังมั่นคงกับการคล่อมกันอยู่ตอนนี้ที่ยกยิ้มอบอุ่นออกมาหน่อยๆ ฝ่ามือหนาที่เลื่อนมาหยิบปรอยผมที่ละใบหน้าของผมออกและเอาไปทัดไว้ที่ใบหูให้กันซะแบบนั้น รู้สึกแก้มร้อนผ่าวๆตอนที่นิ้วยาวของอีกฝ่ายละผ่านแก้มกัน



“เอ่อ...”



“สรุปมึงไม่ย้ายออกจากห้องกูแล้วนะคะ”  ทีแบบนี้ล่ะคะขามาเลยนะมึง



“เออๆ ไม่ย้ายแล้ว ผมจะอยู่จะกินใช้น้ำไฟบ้านเจ๊ให้พินาศเลยคอยดู แล้วอย่ามาไล่กันออกทีหลังก็แล้วกัน บอกไว้เลยว่าถ้าได้อยู่ ไอ้เอมจะสิงสถิตอยู่ตลอดไป”



“หึ ถึงจะออกกูก็ไม่ให้ไปหรอก”



“เจ๊...เจ๊พี่มึงพูดไรนะ” เห็นมันหัวเราะในลำคอหน่อยๆแล้วทำปากขมุบขมิบมุบมิบอยู่คนเดีนว แต่ก็ไม่ได้ยินว่าพูดอะไรออกมา หรือจริงๆมันเลี้ยงกุมารวะครับ เหมือนชอบคุยกับแม่ซื้อบ่อยๆ .... ถ้าแบบนี้ไอ้เอมก็เริ่มที่จะกลัวขึ้นมาหน่อยๆแล้วนะเห้ย



“ไม่เสือกสิคะหนู” จีบปากจีบคอพร้อมกับละมือจากข้างแก้มมาบีบจมูกกัน



“อื้ออ”



“หมั่นเขี้ยวมึงว่ะ ไอ้หน้าดื้อๆของมึงนี่เลิกทำจะได้ไหมคะ” บอกออกมาแบบนั้นแล้วค่อยๆเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้กันอีกครั้ง ครั้งนี้ที่ก็เหมือนจะใกล้เข้ามามากกว่าเมื่อกี้นี้เข้าไปอีก ฝ่ามือของผมที่ยังคงทาบทับอยู่ตรงหน้าอกของเจ๊มัน รับรู้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจของอีกฝ่ายที่ก็ดูเหมือนมันจะสั่นเร็วไม่ต่างกันกับของผมในตอนนี้



“เจ๊ ผมไม่ออกแล้วไง เจ๊ก็ลุกสิ”



“นี่ก็ลุกอยู่นะ” ลุก...ลุกเหี้ยอะไรล่ะ ยังนอนทับกันอยู่แบบนี้มึงลุกอะไร รุกฆาตกูเรอะ!



“ลุกบ้าไรล่ะ อ๊ะ” ปากที่กำลังจะขยับบ่นออกมาแบบนั้นกลับต้องชะงักตอนนี้ริมฝีปากอุ่นของอีกคนกดลงตรงที่ปลายจมูกของผม ได้แต่เบิกตากว้างขึ้นแล้วช้อนตามองอีกฝ่ายแบบไม่เข้าใจ

“เอม”  เสียงเข้มที่ว่าออกมาแบบนั้นด้วยเสียงเข้มๆทุ่มลึกแบบที่มันชอบเรียกให้ผมสับสนเวลาที่มันไม่วี๊ดวายทำตัวออกสาว



“จ..เจ๊” เป็นอีกครั้งที่เสียงผมสั่นแบบคนไม่มั่นใจในตอนที่ต้องเรียกอีกฝ่าย ยิ่งเป็นตอนนี้ที่ฝ่ามืออุ่นๆนั่นทาบลงที่ข้างแก้มกันอีกครั้งพร้อมทั้งลูบไล้แก้มของผมแผ่วๆไปมาอยู่แบบนั้น สายตาคมๆนั่นที่มองกันมาแบบจริงจังและไม่ล่ะสายตานั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกเขินเข้าไปใหญ่



“เอม”



“..ครั....”



“มึงหน้าหยาบกร้านมากเลยค่ะ”



“...ห๊ะ”  ห๊ะ อะไรนะ...



วอหนึ่งเรียกวอสอง เปลี่ยน!!



เมื่อกี้มึงพูดว่าอะไรนะอิเจ๊พี่มึง กูขออีกครั้ง เปลี่ยน!!



“หน้ากลัวมากค่ะ ผิวหน้าหยาบมาก กูค่อยๆเพ่งมองแล้วเพ่งมองอีก จนสุดท้ายตัดสินใจเอามือลูบ ลูบแล้วอยากเอามือทาบอกเลยนะคะ ผิวหน้าหยาบมาก ตกใจเลยนึกว่าฝ่าตีน



ว่าออกมาแบบนั้นรัวๆด้วยสีหน้าจริงจัง แถมยังเอามือมาลูบๆคลำๆหน้ากันไม่เลิก ผมที่ได้แต่นอนทำหน้าเคลิ้มให้มันลูบเมื่อก่อนหน้านี้ ส่วนตอนนี้ก็ได้แต่นอนอ้าปากค้างแล้วจ้องหน้าอีกฝ่ายตาโตพร้อมกระพริบตาปริบๆ



“ไม่ได้เลยนะคะ ทำไมไม่รู้จักมาร์คหน้าอ่ะคะหนู”



“โว้ย! มึงลุกออกไปจากตัวกูเลยนะเจ๊!”



‘พลัก’



“กรี๊ดดดดด ถีบสวยๆๆ มึงถีบสวยอีกแล้วนะคะอิน้องเอม”



“น่ารำคาญนัก!” ผมที่ผลักพี่มันลงไปกลิ้งอยู่ที่พื้นข้างโซฟาแล้วลุกหนีเดินออกมาในตอนนั้น ได้ยินแต่เสียงร้องโหวกเหวกโวยวายเหมือนหมาตัวใหญ่เจ็บปวดใกล้ตาย แต่จริงๆก็แค่แอคติ้ง



“แอคติ้งเก่งนักนะแม่ง! ไม่อยากจะอยู่ใกล้ด้วยเลยว่ะ”



ยืนจ้องมองหน้าตัวเองที่หน้ากระจกในห้องน้ำ มองมันอยู่แบบนั้นแล้วก็เห็นภาพที่กำลังสะท้อนกลับมาไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นหน้าตัวเอง หน้าตัวเองที่สายตามันกำลังอ่านได้ว่าว่าหวั่นไหว ตาดวงเดิมที่ก็เห็นมาตั้งแต่เกิดตอนนี้มันกลับไม่มั่นคง ได้แต่ยกมือขึ้นแตะที่หัวใจ รับรู้ว่าก้อนในอกข้างซ้ายตอนนี้ก็ยังเต้นรัวแรงไม่เปลี่ยนไปเหมือนเดิม



“อย่านะเว้ยไอ้เอม นั่นตุ๊ดนะเว้ยไอ้เอม อิเจ๊ที่วันๆเอาแต่หลีผู้ชายและด่ามึงให้ไปมาร์คหน้าเพราะหน้าหยาบเหมือนส้นตีนไงวะ”



เปิดน้ำให้ไหลแรงๆแล้วก้มหน้าเอาน้ำกวักเข้าหน้า บางทีอาจจะเพราะว่าอากาศเปลี่ยน เราเลยรู้สึกแปลกๆกับเจ๊มันก็เป็นได้ จริงๆมันไม่มีอะไร ท่องไว้ไอ้เอม อิเจ๊เป็นตุ๊ด อิเจ๊มันไม่ได้คิดอะไร!



ใช่ ถูกแล้ว มันใช่แล้ว



ไม่ได้คิด..



ไม่ได้คิ...



“ไม่ได้คิดแล้วมาจูบกูทำเชี่ยไรวะ โอ้ยยย ไม่เข้าใจเลยเว้ย!”


...

(50%)



เอออออ ไม่ได้คิดแล้วมาจูบกันทำไม !!

จริงๆคืออิเจ๊ไม่ได้แค่จูบ เธอมันตอดเล็กตอดน้อยน้องมาเรื่อยเลยนะอิเจ๊พี่ดาบ!!



ดาบ: กรี๊ดดดดดด ดานี่ค่ะ โปรดเรียกว่าดานี่ และโปรดอย่ามาใส่ร้ายกัน ตอดอะไรตรงไหน ไม่มี๊!



ปล.ต้องขออภัยมากนะคะ จากที่แคทได้แจ้งไว้ในเพจก่อนแล้วว่าจะไม่มาอัพนิยายในวันนี้เพราะติดสอบ

แต่ว่าเห็นคนอ่านหลายท่านบอกรออยู่ ในใจคือดีใจมาก วันนี้ออกจากมธ.รังสิตมาตอนเที่ยงคือบึ่งรถกลับบ้านมาหัวฟูเลย

เลยลากเขียนมาได้เท่านี้ ต้องขออภัยจริงๆหากมันไม่ดีมาก แต่แคทก็ไม่อยากให้คนอ่านรอเก้อ

มาน้อย แต่มานะ

ยังไงมาอ่านกันหน่อยน้าาา แล้วแคทจะรีบมาต่ออีกครึ่งให้นะคะ จุ๊บๆ

ฝากแฮชแท็ค #สวยๆเป็นผัว ในทวิตเตอร์ด้วยค่ะ

ขอขอบคุณคนอ่านจากเล้าเป็ดที่น่ารักที่อยู่ด้วยกันและเพิ่มท่านใหม่ๆเข้ามา ดีใจมากๆค่ะ ไม่เคยได้คอมเม้นท์ในเล้าเยอะเท่านี้ แง้ ขอบคุณทุกๆท่านจริงๆที่อยู่ด้วยกันมาจนถึงตอนที่9แล้วนะคะ



โง่จนท้อ จนต้องตอกย้ำความผัว  :katai2-1:
งื้อออย่าว่าน้องงงง น้องไม่ได้โง่นะคะ น้องแค่ล้นๆเกินๆ 55555+



สงสารเพื่อนเก้อจุง พระพายนี่ใครรักแรกของเจ๊อ่อ หลุดมาดเชียวน๊า
ต้องช่วยกันกอดเก้อแล้วนะคะ ส่วนพระพายน้านนนนน อิอิ



:z1:

 :กอด1: :pig4: :กอด1:
  ขอบคุณมากๆเลยนะคะ อยู่ด้วยกันมาทุกตอนเลยนะคะ มาอ่านอีกนะคะ



ชอบๆ มาอีกไวๆ นะคะ รอจ้าา  :L2:
แคทดีใจที่ชอบนะคะ แคทมาแล้วน้าาา มาน้อยแต่แคทมาน้าาา


รอตอนต่อไปจ้า  :L2:
  แคทมาแล้วนะคะ วันนี้มาน้อยหน่อยแต่แคทมานะคะ มาอ่านกันน้า



มีแต่เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อทั้งน้านนน
แต่เอะ ไทเก้อ&เสือ ท่าจะดุนะคู่นี้  :katai3:
  อุ๊ยๆๆๆ เหมือนมีคนอ่านรู้ทันเลยน้าา ยังไงดีน้าาา อิอิ มาอ่านอีกนะคะ


:fire: อีพี่ดาบมึงห้ามหลายใจ
มึงห้ามสับสนค่ะ
  ถ้าพี่ดาบทำน้องเสียใจ (ยื่นไม้ให้เงียบๆ) จัดเลยค่ะๆๆๆๆ


อิเจ้ เนียนปล้ำเด็กอีกแล้วสิเนี่ย  :hao3:
นายร้าย ตัวร้าย อะไรที่ร้ายๆในเรื่องก็คืออิเจ๊นี่ล่ะจ้า 5555


:hao6: :hao6:
  ขอบคุณมากๆนะคะ เข้ามาอ่านอีกน้าาา จุ๊บๆเลยค่ะ



โอ๊ย อิเจ๊ดานี่ เจ๊จะมาทำตัวเอาแต่ใจกับน้องแบบนี้ไม่ได้
พรุ่งนี้น้องมีเรียนนะ จะให้ไปแบบปากเจ่อ เดินกระเผลก ไม่มีเสียงพูดไม่ได้
(คนอ่านขอมโนล่วงหน้าไปก่อน ><)

แล้วพระพายคือใคร จะมาทำให้ความสัมพันอิเจ๊กับเด็กบ๋อยควายน้อยคลอนแคลนรึเปล่าเนี่ย
ไม่น่าไว้ใจ(อิเจ๊)อย่างแรง

คุณคนเขียนคะ ขอสารภาพไว้ตรงนี้ว่าตอนแรกไม่อิน
แต่ตอนนี้หยุดไม่ได้แล้วค่ะ อยากอ่านต่ออออ
เราตกปลักโคลนของควายน้อยเด็กบ๋อยเอมเอมไปแล้ว
  ก่อนอื่นเลย ตอนที่ได้อ่านคอมเม้นท์นี้ คือดีใจมากๆค่ะ ขอบคุณมากๆจริงๆที่เปิดเข้ามาอ่านเรื่องนี้ และเปิดใจอ่านเรื่องนี้นะคะ อาจจะเป็นพล็อตที่แปลกใหม่สักเล็กน้อย แต่ขอบคุณมากจริงๆที่เปิดใจอ่านและรู้สึกสนุกไปด้วยกัน แคทดีใจมากๆเลยค่ะที่ได้ยินแบบนี้ ขอบคุณมากๆจริงๆที่ชอบเรื่องนี้นะคะ ... ส่วนเรื่องเจ๊จะกินน้อง บ้าน่าาาา เจ๊บอกว่ายังก่อน อิอิ หืดหาด


มาม่าแน่ๆ งานนี้,,,
  หึ้ยยย ไม่น่าาา นิยายเราเป็นนิยายตลกโปกฮาน้า เชื่อแคทสิคะ มองตาแคทสิคะ (กระพริบตาปริบๆ) 55555
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่9 {07/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 07-12-2019 21:01:05
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่9 {07/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 07-12-2019 21:18:08
 :laugh:


 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่9 {07/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 07-12-2019 21:35:48
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่9 {07/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 08-12-2019 00:42:15
เจ๊นี่น่าจะป่วยเป็นโรคสองบุคลิกนะ  ว่าแต่โรคนี้ติดต่อกันได้ทางจูบป่ะ  :hao3:  เหมือนน้องควายน้อยก็มีอาการแปลกๆ นา
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่9 {07/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 08-12-2019 09:26:34
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่9 {07/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 08-12-2019 10:53:34
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่9 {07/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 08-12-2019 11:22:16
กลับมาอ่านแล้วค่า หลังจากไปไฟท์กับงานตั่งต่างมา

อิเจ้อย่าพึ่งทำอะไรน้องนะ กลัวประเด็นพระพายจัง ดูมีอิทธิพลกับแก๊งเจ้ดานี่ ไม่อยากให้น้งเอมเสียใจเลย เดี๋ยวนังเก้อจะมาเสียบได้
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่9 {07/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 08-12-2019 13:36:04
ขอบึนปากแล้วอุทานว่าอิหยังวะใส่เจ๊ดานี่หนึ่งที
เจ๊เองก็รู้ดีกว่าใครอ่ะว่าน้องใสๆ ไม่ค่อยทันใครในเรื่องความรู้สึก
ก็ยังจะไปทำให้เขาสับสน ทำเป็นหวงเขา ทำให้เขาเขินอายแล้วก็ไปว่าเขาว่าหน้าหยาบเหมือนฝ่าเท้า
อัลลัยของเจ๊!!!!!!

แต่น้องก็ยอมตกลงมาอยู่ด้วยแล้วนะ เจ๊ต้องดูแลน้องดีๆ
อย่าลืมพาน้องมาร์คหน้าด้วยจะได้ไม่มีใครมาว่าน้องเอมได้อีก
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่9 {07/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 08-12-2019 14:15:17
เจ๊หลอกเด็กตลอดเลยอะครับ,,,
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่9 (ครบ100%) {14/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 14-12-2019 14:55:49
บทที่9.2



“นี่เข้าไปขี้หรอคะหนู หรือว่าไปทำอะไร เคยบอกแล้วใช่ไหมว่าถ้าหิวให้เดินเข้าครัวไม่ใช่เข้าห้องน้ำไงคะ”



พอเดินออกจากห้องน้ำก็เจอเจ้าของห้องตัวดีที่นั่งไขว่ห้างเอาแขนพาดพนักพิงพร้อมๆกับกระดิกเท้าแล้วผิวปากอย่างอารมณ์ดี แถมพอหันมามองหน้ากัน อิเจ๊มันก็ทักกันออกมาแบบนั้นอีก



คือมึงหุบปากไปเลยอิเจ๊!



อยากจะเดินเข้าไปสอยปล่อยหมัดกับเจ๊มันสักฝุ่น แต่กลัวครับ ... กลัวว่าจากจะสอยแต่จะโดนซอยเอาซะเองเลยทำได้แต่ถลึงตาใส่ อิเจ๊พี่มันที่เห็นผมทำหน้าแบบนั้นใส่ก็ได้แต่หัวเราะคิกคักออกมาแบบอารมณ์ดีตอบกลับมา แล้วคือมึงจะอารมณ์ดีอะไรขนาดนั้นวะ ก่อนหน้านี้คือยังทำหน้าเครียดเหมือนจะแดกกูลงไปอยู่เลย ทีตอนนี้ล่ะร่าเริงมาเชียว จริงๆอิเจ๊ก็ดูไบโพล่าในระดับนึงนะครับ



“ทำไมเจ๊ยังอยู่วะ”



“เอ๋า แล้วมึงจะให้กูไปไหนคะ”



“ก็ไปดูร้านไง เจ๊อยู่ทำไมอ่ะ ผมจะกวาดบ้านดูดฝุ่น”



“มึงก็ดูดไปสิคะ กูห้ามมึงหรอก็ไม่ กูแค่นั่งสวยๆอยู่ตรงนี้ มันกวนใจมึงมากหรอ” ถามออกมาแบบนั้นแล้วหันมาเลิกคิ้วใส่พร้อมๆกับยกยิ้มมุมปาก สายตาของพี่มันที่มองกันวาววับแปลกๆเหมือนจะล้ออยู่นัยที อย่ามาทำรู้ดีนะอิเจ๊พี่มึง ฉลาดนัก!



“แบบเจ๊น่ะไม่กวนใจผมหรอก เหอะ”



“อ๋อหรอคะหนู ไม่กวนใจแล้วกวนอะไรเอ่ย”



“กวนตีน!”



“ใช่เลยค่ะ เจ๊นะกวน...เอ๊ะ! เอ๊ะๆๆๆ นี่มึงด่ากูนี่คะ!”



เดินหันหลังหนีออกมาพร้อมๆกับที่ได้ยินเสียงสองโวยวายขึ้นตามหลังมาแบบนั้น ก็นั่นหล่ะ ใครจะไปอยู่ฟังให้โง่ล่ะวะ อีกอย่าง...ตอนนี้ก็อย่างจะหนีถอนออกห่างอิเจ๊พี่มันไปสักพักก่อนจริงๆ



.

.

.



“อิหนูคะ นี่มึงกวนตีนกูอยู่หรอคะ”



“อะไรของเจ๊วะ หาเรื่องผมรึไง”  ได้แต่ถอนหายใจพร้อมว่าออกไปแบบนั้น เหลือบสายตามองนาฬิกา ตอนนี้บอกเวลาว่ามันสามทุ่มครึ่งแล้ว แต่เจ้าของร้านที่ปกติตอนนี้น่าจะอยู่ร้านกลับอาบน้ำแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้ามาใหม่เป็นชุดนอนลายน่ารักๆสีชมพูที่ไม่เข้ากับหนังหน้า แล้วก็นั่งกดรีโมททีวีอยู่ตอนนี้



“เมื่อไหร่มึงจะเลิกดูดฝุ่นคะ”



“ก็ผมทำงานอ่ะ ว่าแต่เจ๊เถอะทำไมไม่ไปทำงานวะ มานั่งกวนผมอยู่ได้”



“วันนี้กูไม่อยากไปค่ะ กูอยากอยู่บ้าน”



“ได้หรอวะ”



“ได้สิ คะ คนสวยแบบดานี่อยากทำอะไรก็ได้หมด อิอิ” กูล่ะเกลียดอิอิของมึงเหลือเกิน ผมที่ทำแค่ส่ายหัวแล้วไม่พูดตอบอะไรอิเจ๊มันออกไป อีกฝ่ายที่ก็นั่งกระดิกเท้าดิ๊กๆแล้วกดทีวีเปลี่ยนช่องไปมาไปเรื่อย



‘ฟูด ฟูดดดด’



“อิน้องบ๋อยคะ มึงเลิกดูดได้ไหม เสียงเครื่องดูดฝุ่นมันรบกวนซีรี่ย์กูค่ะ”



“เจ๊จ้างผมมาทำงานนะเว้ย ผมก็ต้องทำไง เจ๊ทนๆหน่อยได้ไหมล่ะ”



“ถ้าจ้างมึงมาทำไรมึงก็จะทำหมดเลยว่างั้น”



“ก็ใช่สิวะ ทำงานให้มันคุ้มเงินเดือนไง เจ๊ไม่ชอบหรอวะ” พูดเถียงออกไปแบบนั้นแล้วก็เริ่มดูดฝุ่นต่อไปแบบไม่สนใจที่จะหันไปมองคนที่เอาแต่เซ้าซี้พูดนั่นพูดนี่ไม่หยุด ค่อยๆใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดไปตามพรหม และใต้โต๊ะแถวหน้าทีวีแบบไม่สนใจว่ามันจะบังหรือกวนตีนเจ้าของห้องแค่ไหนก็ตาม ... เรื่องมึงจ้า



‘หมับ’



“เห้ยๆๆ แม่ย้อย!”



“แม่ไม่ย้อย แม่ยังอยู่ดีค่ะ” เสียงเข้มที่ดังกระซิบอยู่ข้างหูดังมาจากคนที่ซ้อนกันอยู่ข้างหลัง และตัวผมที่ถูกดึงให้ถลาหงายหลังลงมานั่งตักไอ้คนที่นั่งอยู่ที่โซฟาทั้งแบบนั้น ใจหายใจคว่ำ แต่ตอนนี้อ่ะใจกูไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เจ็บไข่ไปหมด!!



“จะ...เจ๊พี่มึง ปล่อยนะโว้ย” ร้องออกมาแบบนั้นตอนที่ตัวเองเริ่มตั้งสติได้ ตั้งท่าจะลุกออกจากตักของอีกฝ่าย แต่อีกคนก็แค่ใช่วงแขนแข็งแกร่งนั่นกอดกันไว้แน่นๆไม่ยอมปล่อยๆ แผ่นอกแน่นๆที่แนบอยู่กับแผ่นหลังของผมผ่านชุดนอนบางเบานั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ



“ก็มึงรบกวนการดูทีวีของกูไม่หยุดเลยอ่ะค่ะ”



“ล..แล้วทำไมวะ มันไม่เกี่ยวกับการที่เจ๊ดึงผมมานั่งตักแบบนี้นะ”



“เกี่ยวค่ะ เพราะเกะกะขวางทางไม่หยุด เลยดึงมานั่งตรงนี้ เห็นไหม ไม่บังกูเลยค่ะ”



ก็ไม่บังน่ะสิ จะบังเหี้ยอะไร ก็มึงเล่นเอาคางมาเกยไหล่กันไว้แบบนี้ยังจะมาบังอะไรล่ะ แต่ไอ้ลมหายใจร้อนๆของอีกคนที่เป่ารดอยู่ที่ต้นคอของผมทำให้รู้สึกขนลุกวาบไปทั้งตัว อยากจะดิ้นหนีลงจากตักอีกฝ่าย แต่ยิ่งพอพยายามทำ ก็ยิ่งรู้สึกถึงลมหายใจที่รดต้นคอมากขึ้น บางจังหวะก็รู้สึกเหมือนจมูกโด่งๆของอีกฝ่ายเผลอมาโดนต้นคอกันแบบไม่ตั้งใจไปอีก

 

“ผมไม่บังเจ๊แล้วก็ได้ ปล่อยผมก่อนนะ เดี๋ยวหนีหายไม่ให้เกะกะเลย”



“ทำไมอ่ะคะ อยู่แบบนี้ก็ดีออกนะคะ กูมีที่วางคอ สบายดี”



“แต่ผมไม่สบายกับเจ๊ด้วยไงวะ”



“ทำไมไม่สบายล่ะคะ”



ถามออกมาแบบนั้นพร้อมเสียงเข้มๆทุ้มที่ฟังดูสบายๆ แม้ว่าอีกฝ่ายจะยังพูดคะขา แต่ตอนนี้ก็ไม่ดัดเสียงเป็นเสียงสองเสียงสามอีกแล้ว แต่ตอนนี้...พูดกันตรงๆผมอยากให้มันดัดเสียงให้สูงเป็นปลาโลมาไปเลย เจ๊พี่มึงไม่ต้องมาเข้มใส่กู แล้วมือมึงก็ไม่ต้องมาจับคางกูให้หันไปจ้องตาด้วย ไม่เอาๆๆ ไอ้เอมเจ็บไข่ อยากกัดลิ้นตัวเองให้ตายแล้วลงไปนอนตายที่พื้นให้มันจบๆไป ไม่อยากต้องมาจ้องตาคมที่เป็นประกายวิบวับแล้วเอาแต่ยกยิ้มมุมปากแล้วจ้องมามองกันแบบไม่หยุดแบบนี้เลย



“ว่าไง ทำไมไม่สบาย หรือว่า.....”



“ว่าไรวะ ก็ผมอ่ะตัวหนัก ผู้ชายสองคนมานั่งตักกันแบบนี้มันจะสบายได้ไงล่ะเอ้อ คิดสิคิด” ตอบออกไปรัวๆแบบนั้นแล้วสะบัดหน้าหนี หันไปจ้องทีวีที่ตอนนี้เป็นช่องสาระคดีตัวเหี้ยแอฟริกา น่าดูสุดๆ น่าดูจนอยากร้องเหี้ยเลย



“พูดมาได้พูดชายสองคน กูเป็นผู้หญิงสวยค่ะ สวยๆบอบบางผมยาวไปถึงเชียงใหม่ค่ะ” อยากจะบอกเหลือเกิน เลิกมโน มึงไม่มีผมยาว!



“เออๆ บอบบางเหมือนต้นเสาร์กรีกเลย เพราะงั้นปล่อยผมไปโว้ยยย”



“อย่าดิ้นมากจะได้ไหม”



“ก็ผมอยากลงไป ปล่อยกู๊”



“ดิ้นมากๆกูไม่รับรองหน้าที่มึงนะคะ”



“หา?....เจ๊หมายถึงไรวะ”



“หมายถึงมึงอาจจะไม่ได้ทำแต่งานบ้าน”



“แล้วต้อง?”



“ต้องอุ่นเตียงให้กูด้วยไง เอาไหม เลิกขย่มตักกูสักทีถ้าไม่อยากอุ่นเตียง” อุ่นเตียงพ่อง!!



หน้าเหวอสุดขีดแต่กูก็หยุดดิ้นทันที กลัว...ไม่ต้องมาพูดเรื่องอุ่นเตียงกับกู กูอุ่นกับมึงจนร้อนไปสองครั้งแล้วเถอะ พอกันที ใครอยากจะมีผัวเป็นตุ๊ดวะ!



“ดีค่ะ”



“มาดงมาดีอะไรล่ะวะ เจ๊ปล่อยผมสักทีดิ ผมไม่เกะกะเจ๊แล้วจริงๆ สาบานด้วยเกียรติของลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่หมู่นกเอี้ยงเลย”



“มึงจะเลี้ยงควายรึไงวะ เหมาะกับมึงฉิบหาย”



“โอ้ย พูดมาก ปล่อยผมได้แล้วน่า จะเลี้ยงควายกินหญ้าก็เรื่องของผมสิวะ”



“กูปล่อยก็ได้...” เย้ สักทีอิห่า ไอ้เอมนี่คือเตรียมพุ่งตัวออกจากตักอิเจ๊พี่มันเลย แต่วงแขนแกร่งนี่ก็ไม่ทำตามแบบที่ปากว่า ไหนมึงบอกจะปล่อยกูไงวะ



“เจ๊!...”



‘ครืดๆ’



“โทรศัพท์มึงสั่นน่ะค่ะ”



“ก็ปล่อยมันสั่นไปสิวะ ส่วนเจ๊น่ะปล่อยมือออกจากเอวผมสักทีได้ไหมวะ”  เอียงหน้าไปมองคนที่นั่งซ้อนหลังกันอยู่ตอนนี้พร้อมทำหน้าหงุดหงิดใส่ แต่อิเจ๊ตัวควายนี่ก็ไม่ได้สนใจสีหน้าอะไรของผมเลย มันที่แค่ส่งยิ้มมุมปากมาให้ มองหน้ากันเหมือนกำลังเล่นสนุก สีหน้าเหมือนหมาตัวใหญ่ที่กำลังสุขใจที่ได้เอาอุ้งเท้าเขี่ยๆหัวลูกแมวตัวเล็กๆ ... ไอ้สัดเจ๊พี่มึง!



“ไม่ได้ ไหน...มือถือมึงอยู่ไหน สั่นจนไข่กูจะดันหมดแล้วค่ะ”



มันที่ว่าออกมาแบบนั้นพร้อมๆกับล้วงมือเข้ามาลูบๆก้นผมไปด้วยแบบอุกอาจ กูนี่เสียววาบสะดุ้งสุดตัวตอนที่ฝ่ามืออุ่นลูบๆคลำๆอยู่แถวร่องก้น



“มันจะไปอยู่ตรงนั้นได้ไงวะ เจ๊ มันอยู่นี่ๆๆๆ” กูที่ดิ้นไปดิ้นมาแล้วเอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงฝั่งขวาออกมาทันที



“อ๋ออ อยู่นั่นเองโน๊ะ” โน๊ะพ่อโน๊ะแม่มึง! มึงไม่ต้องมาแบ๊วเลย เมื่อกี้เผลอขมิบตูดสู้มือมึงเลยด้วย ... ก็ไอ้เอมตกใจ



“หยิบออกมาแล้วก็เปิดสิคะหนู กูอยากรู้ว่ามีใครตายหรอทักมาวุ่นวายฉิบหาย”



“แล้วเจ๊จะมาอยากรู้ไรด้วยวะ”



“กูอยากรู้ มึงเปิด ถ้าไม่เปิด กูไม่ปล่อย” คนที่นั่งซ้อนหลังกันอยู่ว่าออกมาแบบนั้นด้วยเสียงที่กดต่ำลงแบบคนที่เริ่มไม่พอใจ ปลายคางได้รูปของอีกฝ่ายที่กดน้ำหนักลงที่ไหล่ของผมพร้อมๆกับวงแขนแข็งแกร่งที่ก็โอบกระชับเอวของผมให้แน่นขึ้นในตอนนั้น ผมที่เผลอกลืนน้ำลายลงไปในคออึกใหญ่อย่างรู้สึกอึดอัดใจนิดๆ ก่อนจะค่อยๆกดเปิดหน้าจอพี่เอสสี่สมัยรุ่นพระเจ้าสามหรรมนั่นขึ้นมา



“นี่มือถือหรือแท่นศิลาจารึกสมัยก่อนอ่ะคะ มึงยังใช้งานได้ใช่ไหม”  เสียงหมูเสียงหมาที่แว่วมาตามลม ผมที่ย่นหน้าตอนที่ได้ฟังแต่ก็ไม่ตอบกลับอะไรอีกคนไป ... แม่ง! ขี้บุลลี่



ผมที่ทำแค่เปิดแอพพลิเคชั่นสีเขียวๆที่มีไว้ติดต่อกันขึ้นมา แต่ต้องทำใจนิดหน่อยกว่าจะเปิดแอพได้ เครื่องมันช้า ต้องใช้เวลานาน ได้ยินเสียงคนด้านหลังที่ถอนหายใจแบบรำคาญมาให้ได้ยิน



“เอาไปปาหัวหมา หมายังโกรธมึงเลยนะคะมือถือเครื่องนี้”



“อย่ามาว่ามือถือผมนะ!”



“เออๆๆ” ตอบแบบขอไปที ผมเองก็ไม่สนใจมันอีกเมื่อข้อความที่เด้งขึ้นมาใหม่อีกครั้งในตอนนี้ปรากฏอยู่ตรงหน้า



[[TIGER: ไอ้เอม มึงบอกอิเจ้านายเฮงซวยมึงไปหรือยังเรื่องที่จะย้ายออก]]



“หึ สาระแนนัก” เป็นอิเจ๊พี่มันที่ว่าออกมาแบบนั้น ขนาดไม่ได้หันไปมองยังรู้เลยว่ามันต้องแสยะยิ้มอยู่



[[TIGER: บอกมันไปเลยนะ ว่าไม่อยู่กับแม่งแล้ว ]]



[[TIGER: มึงอย่าลืมนะไอ้เอม ต้องเว้นพื้นที่ให้เจ้านายมึงบ้าง เผื่อเค้าอยากจะหิ้วดงหิ้วเด็กมา]]



[[TIGER: กับกูอ่ะไม่เป็นไร กูทนได้]]



“ตอแหลนัก”



 [[TIGER: ทำไมมึงเงียบจังวะ ทำไรอยู่ ]]



[[TIGER: ได้กินข้าวรึยัง อย่าลืมกินนะมึง]]



[[TIGER: กูเป็นห่วง]]



“โอ้โหๆ มีเป็นหงเป็นห่วง ดัดจริต อยากจะอ้วกใส่หน้าแม่ง”



“เจ๊เป็นอะไรของเจ๊เนี่ย บ่นงึมงำๆไรอยู่ได้อ่ะ” ทนไม่ไหวครับ ก็มันเล่นบ่นงึมงำๆทุกครั้งที่เลื่อนอ่านไปถึงประโยคคำพูดของไอ้เก้อที่ตัวเองไม่พอใจ แต่ประเด็นคือมันงึมงำอยู่ข้างๆหูผมนี่ไง



“มึงพิมพ์ตอบมันไปเลยค่ะ เดี๋ยวนี้เลยค่ะ”



“ห๊ะ เจ๊จะให้ผมพิมพ์ตอบอะไร แล้วนี่เปิดก็เปิดแล้ว เมื่อไหร่จะปล่อยผมวะ”



“กูจะปล่อยก็ต่อเมื่อมึงพิมพ์ตอบมันแล้วค่ะ”



“เออๆ ตอบๆแล้ว” สุดจะทนกับคนอย่างอิเจ๊พี่มึง ... ได้แต่ถอนหายใจอย่างระอาแล้สตั้งท่าจะกดแป้นพิมพ์ตอบกลับไป แต่ติดตรงที่ไอ้คนที่ทำตัวเป็นโซฟาให้ผมนั่งที่ดึงมือผมเอาไว้ซะก่อน



“อะไรของเจ๊อีกล่ะวะ”



“มึงพิมพ์ตอบมันไปว่า กูตัดสินใจแล้วไอ้สัดเก้อกล้ามล่ำ กูจะอยู่กับเจ๊ดานี่สุดสวยกุ๊กกิ๊กต่อไป มึงไม่ต้องเป็นห่วงนะเพื่อน บอกมันแบบนี้ค่ะ”



เจ๊ดานี่สุดสวยกุ๊กกิ๊กเชี่ยไรล่ะ ได้ยินกูก็ละอายใจที่จะพิมพ์แล้วโว้ย



“ไวๆค่ะอิหนู ไว กูรออยู่”



“โอ๊ย อะไรของเจ๊นักล่ะวะ”



“ไวๆ” บอกมาแค่นั้นพร้อมขยับเข่าเด้งตัวผมอย่างเร่งเร้าให้กูรีบพิมพ์ไปอีก ได้ยินแบบนั้นแล้วอดไม่ได้ที่ต้องเอียงหน้าหันกลับไปมอง แต่ลืมไปว่ามันวางหน้าไว้ที่ไหล่ซ้ายของผม พอหันไปแก้มผมก็เลยปะทะเข้าตรงๆกับจมูกโด่งนั่นเต็มๆ



“เชี่ย!”



“อืม...กูเปล่าทำไรเลยนะ มึงหันมาให้กูหอมเอง”



“ผมเปล่านะเว้ย!”



“อ่อยอยู่ ดูออก”



“เงียบไปเลยนะเจ๊!”



“โอเคๆ กูจะไม่พูดออกไปเนอะ เพราะมึงจะเขินมาก” โว้ย! เกลียดแม่ง



[[Chaaim: ไอ้เก้อ...คือกูน่ะ]]



“มึงจะเกริ่นทำไมคะ พิมพ์ไปเลยแบบที่กูว่า ไวๆ” นี่ก็เร่งกูจัง รีบขนาดนี้เจ๊มึงไม่พิมพ์แทนกูตั้งแต่เมื่อวานไปเลยล่ะ



[[TIGER: มึงมาตอบสักที หายไปไหนมาวะ ตั้งนาน กูเป็นห่วงนะ ]]



“เหอะ” กระแหนะกระแหนแบบไม่มีที่สิ้นสุด จริงๆก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่ว่าเจ๊มันเป็นอะไรนัก



“มึงก็รีบตอบมันสักทีสิคะ ชักช้านักก็เอามานี่ เดี๋ยวกูพิมพ์เอง”  มันที่ว่าแบบนั้นแล้วเอื้อมมือมาจะคว้ามือถือกันไป ดีนะผมหลบทัน



“ไม่ต้องๆ ผมพิมพ์เองๆ จะพิมพ์แล้วเนี่ย”



“ดีค่ะ”



[[Chaaim: ไอ้เก้อกูจะไม่ย้ายออกจากบ้านเจ๊มันนะ คือคุยกับเจ๊มันแล้ว เจ๊ก็โอเคอ่ะ มึงไม่ต้องห่วงนะ]]



เลือกที่จะพิมพ์แบบนี้ออกไปแทนที่จะพิมพ์ตามที่อิเจ๊มันต้องการ แต่คิดว่าแบบนี้มันน่าจะดีกว่า และยังไม่ทันจะได้หายใจเข้า ไบน์ก็แจ้งเตือนข้อความเข้ามารัวๆเหมือนมีใครตาย ไม่ต้องบอกก็เดาได้ว่ามาจากใคร



[[TIGER: ไอ้เอม! กูไม่ยอม!! ]]



[[TIGER: กูบอกแล้วไงว่าไอ้ตุ๊ดปลอมนั่นมันหลอกมึง มึงต้องย้ายออก ]]



[[TIGER: ย้ายมาอยู่กับกู! ไม่ต้องไปทำแม่งแล้วงานห่าไรนั่น กูดูมึงได้ ]]



[[TIGER: มึงตอบกูไอ้เอม อย่าให้กูต้องโมโหมากไปกว่านี้! ]]



ผมที่จ้องข้อความของไอ้เก้อที่แม้ว่าจะเป็นแค่ตัวอักษรส่งมา แต่พออ่านก็รู้เลยว่าอารมณ์ของมันเป็นแบบไหน เห็นแบบนั้นแล้วได้แต่ถอนหายใจออกมาหนักๆ ทำไมมันวุ่นวายกันจังวะ



‘.....Trrrrrrr....’



“ใจมันลุกลี้ลุกลนทนไม่ได้จนต้องโทรมากันเลยนะคะ” เจ๊มันที่ว่าออกมาแบบนั้นด้วยน้ำเสียงกระแนะกระแหนแบบที่ชอบทำ สายเรียกเข้าที่ขึ้นชื่อของคนที่ผมพึ่งคุยไลน์ด้วยเมื่อกี้ ‘ไอ้เก้อ’



“อิน้องหนูเอมคะ”



“ห...หื้ม” ตอบรับคำเรียกของอีกฝ่ายพร้อมๆกับที่มองหน้าจอโทรศัพท์แบบชั่งใจว่าจะรับสายดีหรือเปล่า เพราะผมรู้นิสัยของไอ้เก้อดีว่า ถ้ารับมันต้องระเบิดอารมณ์ออกมาอีกแน่ๆ และเพราะแบบนั้น ก็เลยยังไม่อยากที่จะพูดอะไรกับมัน ผมเข้าใจว่ามันเป็นห่วงผม แต่ในใจของผม ตลอดชีวิตที่ผ่านมา ผมเป็นคนที่ดูแลตัวเองมาโดยตลอด เพราะแบบนั้น มันเลยไม่จำเป็นจริงๆที่มันจะต้องมาเป็นห่วงผมมากมายแบบนี้ ... ในบางทีก็อึดอัดใจ



“มึงไม่ต้องรับหรอกค่ะ รับไปเพื่อนหมีควายของมึงก็ไม่ฟังหรอก มึงไปอาบน้ำดีกว่า ดึกแล้วนะ” อีกคนที่บอกออกมาแบบนั้นพร้อมๆกับเอื้อมมือไปคว้ามือถือของผมไปถือเอาไว้เอง มองเห็นนิ้วเรียวยาวของเจ๊พี่มันที่กดลงที่ปุ่มปิดหน้าจอทำให้ไม่มีเสียงสั่นอะไรอีก



“ไอ้เก้อมันโมโหถ้าผมไม่รับ...”



“บางทีมึงก็ควรจะนึกถึงใจตัวเองก่อนที่จะนึกถึงใจคนอื่นนะคะ ถึงมึงรับสายมันไปตอนนี้ก็ทะเลาะกับมันอยู่ดี คุยกันตอนใช้อารมณ์ก็ไม่มีประโยชน์  มึงไปอาบน้ำเถอะค่ะ กลิ่นตัวมึงเริ่มหึ่งๆออกมาแล้วนะคะ เหม็นเหมือนหมาตายลอยน้ำ”



“โว้ย! ผมยังไม่ตายนะเว้ย” โดดลงมาจากตักของอิเจ๊พี่มันที่คราวนี้มันเองก็ยอมปล่อยตัวผมออกมาจากตักของมันดีๆแบบไม่อิดออดเลิกแกล้งกันได้สักที



“ไป ชิ่วๆ หมาตายลอยน้ำๆ”



“ผมไม่คุยกับเจ๊แล้วแม่ง จะเอาสบู่อาบน้ำใช้แม่งทุกยี่ห้อให้กูหอมทะลุไปดาวอังคารเลยคอยดู!”



“จ้า ถ้าไม่หอมมึงไม่ต้องออกมานะ กูจะรอพิสูจน์ด้วยตัวเอง



“มึงฝันไปเถอะเจ๊!”



บอกมันแบบนั้นพร้อมแลบลิ้นใส่ไอ้คนที่แค่ยกยิ้มมองกันแบบทำหน้ากวนตีน ทำแบบนั้นใส่แล้วผมก็วิ่งหนีตายออกมาจากห้องรับแขกทันที อาบน้ำก็ดี ตอนนี้เหนียวตัวเหลือเกิน ... เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยไปคุยกับไอ้เก้อใหม่ หวังว่าวันพรุ่งนี้มันจะเลิกบ้าแล้วล่ะนะ



.

.

.


“หึ” ผมที่หลุดขำออกมาไม่ได้ตอนที่เห็นไอ้เด็กบ๋อยเถียงออกมาไม่หยุด มันที่ชอบเถียงกันเหมือนลูกแมวเด็กตัวเล็กๆที่ร้องเสียงแง้วๆแต่ก็ร้องมันอยู่นั่น ไม่ได้น่ากลัวสักนิด .... ไอ้เอมที่แลบลิ้นใส่กันแล้ววิ่งหนีหายไปจากสายตาผมในตอนนั้น เห็นแบบนั้นก็ได้แต่ส่ายหน้านิดๆกับความดื้อของมัน



“ควายน้อยเอ้ย” ว่าออกมาแบบนั้นพร้อมๆกับหยิบมือถือของมันขึ้นมาดู มองเห็นโทรศัพท์ที่เริ่มสั่นขึ้นมาเหมือนเจ้าเข้าอีกรอบ คิดว่าไอ้คนโทรเข้าคงโทรเข้ามาใหม่อีกแล้ว ร้อนรนเหลือเกิน เด็กหนอเด็ก โคตรจะอ่อน



ผมที่เลื่อนกดตัดสายไอ้ล่ำนั่นอีกครั้งอย่างรำคาญลูกตา แค่เห็นชื่อก็เหมือนเห็นหน้าแม่งแล้ว รำคาญ



[[TIGER: ไอ้เอมทำไมมึงไม่รับสายกูวะ มาคุยกับกูให้รู้เรื่อง ]]



[[TIGER: กดตัดสายกูทำเหี้ยไร! ]]



[[TIGER: มึงรับ!! ]]



มองเห็นข้อความของไอ้เด็กเก้อแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้า ระอา ... การกระทำเด็กๆของมันทำผมอยากจะขำเพราะสมเพชจริงๆ ยังคงไม่มีสติไม่แตกต่างจากเมื่อเช้าสักนิด และเพราะนิสัยแบบนี้ของมัน มันถึงเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากเพื่อนยังไงล่ะ



เห็นแบบนั้นแล้วนึกอะไรดีๆขึ้นมาได้นิดหน่อยเลยเลือกที่จะจิ้มข้อความส่งไปหามันนิดๆ



[[Chaaim: เก้อ มึงเป็นอะไรของมึงนักวะ]]



[[TIGER: กูเป็นห่วงมึงไงไอ้สัด!! ]]



[[Chaaim: กูขอบใจในความหวังดีของมึงนะ แต่มึงเป็นเพื่อนนะไอ้เก้อ]]



[[Chaaim: ห่วงกูเท่าที่เพื่อนคนนึงจะรับได้ก็พอแล้วมึง]]



ผมที่พิมพ์ออกไปแค่นั้น ก่อนจะกดลบข้อความแบบที่ไอ้เอมไม่มีทางรู้ว่าผมพิมพ์อะไรตอบกลับไป และผมเองก็โคตรมั่นใจว่าไอ้เก้อจะไม่กล้าพิมพ์อะไรตอบกลับมาอีกเช่นกัน ...

คำว่าเพื่อนมันจุกอก ... ผมรู้ดีเลยล่ะ



::::::::::::::::::-- to be continued --:::::::::::::::::::::::::



มาแล้วจ้าา มาต่ออีก50%ที่เหลือแล้วนะคะ มาต่อตอนช่วงบ่ายๆของวันเสาร์แบบนี้จะมีใครอยู่อ่านไหมน้า

มีคนอ่านบอกแคทว่า ถ้าเป็นนิยายของแคท ไม่มีพระเอกคนไหนที่ไม่ร้ายหรอก และที่ร้ายที่สุดตั้งแต่ที่แคทเขียนมาก็คืออิเจ๊ดานี่

เห้ยยยย ใช่หรอคะ นี่ว่าใสๆสวยๆเลยน้าาาา อิอิ (กระพริบตาสองปริบ)

ยังไงมาอ่านกันหน่อยน้าาา แล้วแคทจะรีบมาต่ออีกครึ่งให้นะคะ จุ๊บๆ

ฝากแฮชแท็ค #สวยๆเป็นผัว ในทวิตเตอร์ด้วยค่ะ

 :mew1: :pig4:


ปล. ขอขอบคุณคนอ่านจากเล้าเป็ด ที่แคทมาแค่ครึ่งเดียวก็ยังเข้ามาคอมเม้นท์ให้กำลังใจแคทกัน ขอบคุณมากๆจริงๆนะคะ


:katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
  น่ารักมากๆ เข้ามาอ่านไวเช่นเดิมและเม้นท์ให้กันไวเช่นเดิมเลย ขอบคุณมากๆนะคะ สำหรับอีกครึ่งที่เหลือแคทมาต่อแล้วน้าาา



:laugh:

 :L2: :pig4: :L2:
   :mew1: ส่งจุ๊บให้เลย ขอบคุณที่อยู่กับแคทมาทุกอาทิตย์เลยนะคะ


:pig4: :pig4: :pig4:
ขอบคุณมากๆเลยนะคะ แล้วเข้ามาอ่านอีกครึ่งนึงอีกนะคะ :mew1:


เจ๊นี่น่าจะป่วยเป็นโรคสองบุคลิกนะ  ว่าแต่โรคนี้ติดต่อกันได้ทางจูบป่ะ  :hao3:  เหมือนน้องควายน้อยก็มีอาการแปลกๆ นา
หึยยย เจ๊ไม่น่าเป็นสองบุคลิกนะคะ ถ้าเป็นบ้าอ่ะไม่แน่ ผ่าม!


:pig4: :pig4:
  ขอบคุณมากๆเลยนะคะ ยังไงอีกครึ่งนึงแคทมาต่อแล้ว มาอ่านอีกนะคะ


:L2: :pig4: :L2:
  ขอบคุณมากๆนะคะ อยู่ด้วยกันทุกอาทิตย์ แคทมาต่อแล้วน้าาา



กลับมาอ่านแล้วค่า หลังจากไปไฟท์กับงานตั่งต่างมา

อิเจ้อย่าพึ่งทำอะไรน้องนะ กลัวประเด็นพระพายจัง ดูมีอิทธิพลกับแก๊งเจ้ดานี่ ไม่อยากให้น้งเอมเสียใจเลย เดี๋ยวนังเก้อจะมาเสียบได้
  งุ้ยยย ดีใจจังเลยค่าาา ขอบคุณมากๆจริงๆที่กลับมาหากันนะคะ กลับมาแล้วอย่าจากกันไปน้า (ล้มตัวลงคุกเข่าอ้อนวอนเธออย่าไปปปป) สำหรับเรื่องงานแคทขอให้ผ่านไปด้วยดีและไปสู้ไปไฟท์กับงานให้ชนะทุกรอบๆเลยนะคะ ส่วนอิพี่ดาบและน้องเอม หึยยย มันน่านัก แต่ว่าฝากคู่นี้ไว้อีกเรื่องด้วยนะคะ



ขอบึนปากแล้วอุทานว่าอิหยังวะใส่เจ๊ดานี่หนึ่งที
เจ๊เองก็รู้ดีกว่าใครอ่ะว่าน้องใสๆ ไม่ค่อยทันใครในเรื่องความรู้สึก
ก็ยังจะไปทำให้เขาสับสน ทำเป็นหวงเขา ทำให้เขาเขินอายแล้วก็ไปว่าเขาว่าหน้าหยาบเหมือนฝ่าเท้า
อัลลัยของเจ๊!!!!!!

แต่น้องก็ยอมตกลงมาอยู่ด้วยแล้วนะ เจ๊ต้องดูแลน้องดีๆ
อย่าลืมพาน้องมาร์คหน้าด้วยจะได้ไม่มีใครมาว่าน้องเอมได้อีก
เคืองสุด เจ๊ว่าหน้าน้องหยาบเหมือนฝ่าเท้า ไม่พอ ต่อกันอีกครึ่งนึง อิเจ๊ว่าน้องอีกแล้วค่ะ(ใส่ไฟๆ)
ฝากน้องเอมกับอิเจ๊คนสวย(ในมโนความคิดของเจ๊มันคนเดียว) ไว้ด้วยนะคะ แคทขอบคุณจริงๆสพหรับคอมเม้นท์ยาวๆและน่ารักๆแบบนี้ แคทดีใจมากๆที่มีคนอ่านมีอารมณืร่วมไปด้วยกัน ขอบคุณที่มาเม้นท์ให้กันและอยู่ด้วยกันนะคะ
ยังไงอีกครึ่งนึง 50เปอร์ที่เหลือนี้แคทมาต่อแล้ว มาอ่านอีกน้าาา



เจ๊หลอกเด็กตลอดเลยอะครับ,,,
  อิเจ๊นี่มันร้ายนะคะหัวหน้า เราจะทำยังไงกับอิเจ๊นี่ดีคะ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่9 (ครบ100%) {14/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 14-12-2019 15:19:37
 :z6: อีเจ๊ทำเป็นหวง
มึงอย่าทำให้น้องเสียใจหล่ะ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่9 (ครบ100%) {14/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 14-12-2019 18:17:53
ขอความชัดเจนด้วยค่ะ ลูกแม่โดนหลอกกินตับตลอดเลย
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่9 (ครบ100%) {14/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 14-12-2019 19:19:03
 :katai2-1:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่9 (ครบ100%) {14/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 14-12-2019 19:33:37
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่10{14/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 14-12-2019 20:20:56

บทที่10



[[Chaaim: ห่วงกูเท่าที่เพื่อนคนนึงจะรับได้ก็พอแล้วมึง]]




ผมที่จ้องมองข้อความที่ตอบกลับมาอยู่แบบนั้นนิ่งๆมาหลายนาทีแล้ว ได้แต่กดปิดและเปิดปิดและเปิดในช่องแชทนี้ อยากจะพิมพ์อะไรตอบมันกลับไป แต่สุดท้ายก็พิมพ์มันลงไปไม่ได้สักประโยค ประโยคไม่กี่ประโยคที่ไอ้เอมตอบกลับมา เหมือนมันกำลังบอกผมว่า ให้ทำหน้าที่เพื่อน แค่เพื่อนคนนึงธรรมดาๆเท่านั้น อย่ามากเกินไปจนมันรับไม่ไหว ประโยคสั้นๆที่มันตอบกลับมา เป็นประโยคธรรมดาๆที่กระแทกเข้าหน้าจนผมจุกไปหมด เห็นแบบนั้นแล้วก็ได้แต่กำโทรศัพท์แน่นขึ้นไปอีก ความรู้สึกโมโหเมื่อก่อนหน้านี้ที่รู้ว่าไอ้เอมจะไม่ย้ายออกจากห้องไอ้ตุ๊ดนั่นแค่คิดก็ยิ่งโมโหมากขึ้นไป แต่ทั้งหมดนี้มันดันเป็นความโมโหที่กูไม่มีสิทธิ์ทำอะไรได้เลย



ก็ถูกของมัน ถูกที่ว่าเราเองก็เป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้นจริงๆ



“เหอะ ใครมันอยากเป็นเพื่อนกับมึงวะ” พูดแบบนั้นกับตัวเองพร้อมๆกับคว้าแก้วร็อค แก้วที่ใช้สำหรับใส่เหล้าเพียวๆกับน้ำแข็งขึ้นมากระดกดื่ม เสียงบีสต์ของเพลงที่ผับเปิดดังๆแน่นๆที่กระแทกเข้าหู พร้อมๆกับแรงเบียดเสียดและเสียงจอแจของผู้คนที่ดังอยู่รอบตัวกลับไม่ทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายลงเลยสักนิด มันก็เป็นแค่เรื่องเดิมๆที่ผมพบเจออยู่เกือบทุกวัน สถานบันเทิงที่มาเมา พอเจอคนถูกใจแล้วก็หิ้วกลับไป วนเวียนอยู่แบบนี้ เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร จนไอ้หยีเคยบอกว่าให้ระวังเป็นเอดส์ตาย หรือถ้าไม่เป็นเอดส์ตายก็อาจจะถูกตีนผัวใครเตะปากแตกเอาได้ถ้าเผลอไปหิ้วเมียใครกลับบ้าน ... แต่เท่าที่เคยเจอมาก็ยังไม่เคยปากแตก แต่ถ้าแตกปากก็คุ้นๆอยู่



ผมกล้าพูดเต็มปากว่าคนแบบไอ้เก้อน่ะ เป็นผู้ชายเลวๆคนนึงเต็มรูปแบบ แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น ผมก็อยากจะเป็นคนๆนึง ที่ดีกับไอ้เอมมากกว่าใคร ๆ



“เก้อคะ ยูไม่ลุกขึ้นมาเต้นกับไอหน่อยหรอ เก้อ” เสียงออดอ้อนที่ดังมาพร้อมๆกับวงแขนเรียวที่วางพาดลงมาบนไหล่ หน้าอกหน้าใจของสาวเจ้าที่ก็วางแหม่ะอยู่ที่แผ่นหลังของผม พูดแบบเลวๆก็เคยจับมาแล้ว จริงๆก็ไม่ใหญ่เหมือนภาพที่เห็น เพราะสจริงๆมันถูกเสริมด้วยฟองน้ำดันขึ้นมา หลอกลวงโลกใบนี้ฉิบหาย



“ลาเวียร์ไปเต้นเหอะ” บอกออกไปแบบนั้นแบบขอไปที รู้สึกไม่มีอารมณ์เลยในตอนนี้



“โถ่เก้ออ่า ทำไมทำหน้าเครียดๆแบบนั้นล่ะคะเก้อ” ยังคงเซ้าซี้และเอานมบี้หลังต่อไป เห็นแบบนั้นแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาแบบรำคาญสุดๆ เลยได้แต่ขยับตัวแล้วลุกขึ้นยืน



“ผมออกไปสูบบุหรี่นะ” บอกเธอแค่นั้นแล้วก็เดินหนีออกมาแบบไม่สนใจฟังเสียงอะไรอีก



ลาเวียร์เป็นลูกสาวเพื่อนแม่ ลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส สูง ขาว หุ่นดี ดีกรีลูกสาวคนเล็กของเจ้าของร้านเพชรใหญ่ แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น แต่เธอเองก็ไม่ได้ต่างจากผมที่พ่อแม่มีเงินให้ แต่ไม่ค่อยมีเวลาดูแล และเพราะแบบนั้นเราสองคนเลยเข้ากันได้ดีเป็นพิเศษ ส่วนมากพอเธอกลับมาจากฝรั่งเศสเธอเลยชอบมาค้างกับผมเสมอ ก็เป็นความสัมพันธ์ที่เอากันได้แต่ไม่ได้รู้สึกอะไรกันสักนิด ก็ตกลงกันไว้แบบนี้มาตั้งแต่แรกแล้ว



ผมที่เดินออกไปสูดอากาศที่ด้านนอก มองเห็นคนเดินเข้าเดินออกร้านเป็นว่าเล่น ทั้งๆที่เศรษฐกิจไม่ค่อยจะดี แต่ผับพวกนี้ก็ยังมีลูกค้าแน่นร้าน เพราะแบบนี้สินะ ไอ้สัดตุ๊ดปลอมเจ้านายไอ้เอมมันถึงไม่เจ๊งไปสักที พูดถึงแล้วโคตรจะเกลียดหน้าแม่ง



มองจากนอกโลก มนุษย์ต่างดาวยังรู้เลยว่าแม่งคิดไม่ซื่อกับไอ้เอม



หงุดหงิดจนต้องควักบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งตรงขอบกระถางปูนต้นไม้ข้างๆกำแพงด้านข้างร้าน ส่วนมากก็มีคนออกมาสูบบุหรี่ตรงนี้บ่อยๆ เพราะมันเงียบ และไม่ค่อยมีคน เลยจากตรงนี้ไปก็มีซอกแคบๆซอกนึงอยู่ด้วย เหมือนเป็นที่เก็บของๆร้านล่ะมั้ง เพราะแบบนั้นคนส่วนใหญ่เลยชอบมาสูบตรงนี้ เพราะจะสูบยังไงก็ไม่มีใครรำคาญกลิ่น แต่ตอนนี้กลับไม่มีใคร คิดว่าคงติดแดนซ์กระจายเพราะวันนี้มีดีเจชื่อดังมาเปิดเพลง ... ผมที่แหงนหน้ามองฟ้าพร้อมๆกับพ่นควันออกมาจากปากช้าๆ สายลมเอื่อยๆที่พัดผ่านไปทำให้ผมยิ่งรู้สึกทั้งเหงาและหงุดหงิดใจ



“จะทำยังไงให้ไอ้เอมออกห่างจากไอ้สัดตุ๊ดปลอมนั่นได้วะ” ฃมองฟ้ามืดๆที่ไม่มีดาวแบบในนิยาย หดหู่ฉิบหายเลยไอ้สัด หดหู่จนโมโหและอยากระบายอารมณ์กับอะไรสักอย่าง



‘เคร้ง’



ระบายอารมณ์โดยการเตะกระป๋องเบียร์แถวนั้นให้ออกไปให้พ้นสายตา และมันเสือกลอยปลิวไปตกอยู่แถวซอกกำแพงที่อยู่ถัดจากผมไปนิดหน่อยเลยเกิดเสียงดัง



“ว๊าย อ๊ะเสือ อะไรอ่ะคะ อื้มม”



“ช่างแม่ง ซี๊ด”



เสียงคนสองคนที่คุยกันดังมาแว่วๆทำให้ผมต้องขมวดคิ้วเข้าหากัน เสียงสนทนาที่ครางอื้ออึงอยู่ในคอแบบนั้นก็ทำให้ต้องแสยะยิ้มออกมาแบบพอจะเดาได้



“แล้วเป็นเหี้ยอะไรต้องมาเอากันแถวซอกลับตาด้วยวะไอ้ห่า” บ่นออกมาแบบนั้นพร้อมยกบุหรี่ขึ้นสูบต่อแบบไม่สนใจ พร้อมๆกับพ่นควันออกมาจากปากอีกรอบหนึ่ง



“อ๊ะๆ เสือ อื้มม”



‘พับ พับ พับ ปัก ปัก’



“อึก ซี๊ด อ่า แฮ่กๆ”



ผมที่หันไปมองทางด้านนั้นอีกรอบ กูล่ะอยากจะเห็นหนังหน้าคนที่แม่งมาเอากันในที่สาธรณะจริงๆเลยไอ้สัด อดอยากเหี้ยไรขนาดนั้นวะ  โยนบุหรี่ในมือลงพื้นก่อนจะใช้เท้าขยี้ให้ไฟมันดับ ตั้งใจจะเดินหนีออกมา แต่ก็ไม่ทันตรงที่ว่าหญิงสาวเจ้าของเสียงครางหวานๆเมื่อกี้เดินออกมาซะก่อน



“อ๊ะ....” เธอที่เห็นหน้าผมร้องออกมาแบบนั้น ก่อนจะรีบก้มหน้าก้มตาสับขาเดินจากไปไวๆ เหอะ...ทำไมพึ่งมาอายวะ ทีเมื่อกี้โยกรับกันแรงขนาดนั้นไม่สนใจว่าใครจะมาเจอ



คิดแบบนั้นแล้วได้แต่ยกยิ้มมุมปาก ... ง่ายดี



แบบนี้ไง ผู้ใหญ่คนไทยถึงสอนให้หญิงไทยรักนวลสงวนตัว ไม่ใช่เพราะอะไรหรอกนะครับ เพราะเค้ารู้ยังไงล่ะว่าสันดานผู้ชายมันเหี้ยแค่ไหน พอได้เดี๋ยวมันก็เบื่อ ยิ่งง่ายมันยิ่งไม่สนใจ ผมเป็นผู้ชาย ผมรู้ดี ... คิดๆไปแล้วก็อยากเห็นหน้าไอ้คนที่มันกล้ามาเอากันในที่สาธรณะแบบนี้จริงๆเลยว่ะ คิดแบบนั้นเลยหยุดขาตัวเองเอาไว้เพราะอยากจะเห็นหน้า และในตอนนั้นที่ขายาวๆของเจ้าของเสียงครางเมื่อกี้ก็เดินออกมาพอดี



“มึง...”



“มึงอีกแล้ว!”



เป็นผมที่พูดออกมาก่อน และไอ้คนตรงหน้าที่อยู่ในชุดแบรนด์เนมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนปลดกระดุมที่อกหลวมๆกับกางเกงยีนส์ขาเดฟขาดเข่านั่นก็ร้องออกมาแบบตกใจ หน้าตาของมันที่พอเห็นผมก็เบิกกว้างขึ้นไปนิดหน่อย ก่อนจะกลับมาเป็นบึ้งตึงหงุดหงิดเหมือนอยากท้าต่อยกันอีกครั้ง



“กูก็ว่าใครที่มันหน้าด้านขนาดนี้”



“แล้วมึงเสือกเหี้ยไรด้วยล่ะ กูอยู่ซอกไหน ทำไมต้องเป็นมึงทุกทีเลยรึไงที่ต้องเข้ามาก่อกวน สัดเอ๊ย”



“พูดดีๆหน่อยไอ้หนู กูมาสูบบุหรี่ ใครจะคิดว่ามีคนเหี้ยมาเอากันแถวนี้ล่ะวะ”



“เหอะ มึงใช่ไหมที่เตะกระป๋องเบียร์มาเมื่อกี้”



“เออ มึงจะทำไม”



“เหอะ ไม่ทำไม แค่คิดว่ามึงก็คงเตะระบายอารมณ์เพราะเพื่อนไม่รักอีกเหมือนเดิมนั่นแหล่ะ”



“ไอ้สัดเสือ!”



“วู้ฮู้ว จำชื่อกันได้ด้วย แสนรู้จังเลย แต่วันนี้กูไม่ต่อยกับมึงนะ เพราะกูมีนัดต่อ เชิญมึงเตะระบายอารมณ์เล่นต่อไปละกันนะ” มันที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วมองหน้ากันแบบท้าทาย มันที่ยกยิ้มมุมปากน้อยๆส่งมาให้ ก่อนจะเดินจากไปแบบกวนส้นตีนกัน ร่างโปร่งๆของมันที่พอเดินผ่านกันไปก็ได้ทั้งกลิ่นเหล้าและกลิ่นบุหรี่ที่ผสมปนเปไปกับกลิ่นน้ำหอมแบรนด์ดังนั่นจนฉุนไปหมด



แค่มองก็รู้ถึงนิสัยมันแล้ว ที่พูดแบบนี้ได้ก็เพราะว่าผมเองก็ไม่ใช่คนดีอะไร เป็นคนที่นิสัยคล้ายๆกัน แต่กับเด็กแบบมัน ...



ช่างแม่ง



“เด็กเหี้ยแบบมึงมันก็เป็นได้แค่ลูกเสือเท่านั้นแหล่ะ”



.

.

.


“เก้อ หายไปตั้งนานแหน่ะ ไม่ใช่ยูแอบไปเจ๊าะแจ๊ะใครน้า” ลาเวียร์ที่พอเห็นหน้ากัน เธอก็ทำแบบเดิมที่ชอบทำทุกทีนั่นคือการเดินเข้ามาหาแล้วเกาะแขนกันไว้

“เปล่า ไปสูบบุหรี่จริงๆ”



“อารมณ์ดีขึ้นรึยังคะ อะนี่นะ ลาเวียร์ผสมไว้ให้เก้อนะ” เธอที่ว่าแบบนั้นพร้อมส่งยิ้มหวานและยื่นแก้วร็อคมาให้กันแบบเอาใจ ผมที่แค่รับแก้วมาและกดยิ้มมุมปากส่งไปให้ ก็เอาใจกันดีเหมือนเคย



“เยส ยกเลยครับบบ ชนนนน”



เสียงร้องที่ดังขึ้นมาจากโต๊ะอีกฝั่งที่ทำให้ต้องหันไปมองเพราะเสียงมันคุ้นหูเหลือเกิน และพอหันไปก็ใช่เลย ... ไอ้เหี้ยเสือที่กำลังยกแก้วชนกับกลุ่มหญิงชายกลุ่มใหญ่อยู่ตรงโต๊ะโซนโซฟาอีกฝั่งนึง มันที่ยืนขึ้นพร้อมกับโอบเอวสาวอีกคนนึงไว้แน่น แต่พอเพ่งมองชัดๆผู้หญิงคนนั้นกลับไม่ใช่ผู้หญิงคนเดียวกันกับที่เดินออกมาจากซอกเมื่อกี้นี่หว่า



“เก้อมองอะไรหรอคะ ไม่สนใจลาเวียร์เลย”



“ขอโทษทีครับ พอดีมองว่าเสียงเหี้ยอะไรดังน่ะ”



“อ่า กลุ่มนั้นหรอคะ เหมือนว่ามาปาร์ตี้วันเกิดอะไรกันนี้ล่ะ”



“ช่างแม่งเหอะ ลาเวียร์อยากไปเต้นไม่ใช่หรอ ไปไหม”



“เก้อจะไปกับลาเวียร์หรอ” ผมที่แค่ยักคิ้วขึ้นนิดหน่อยพร้อมยิ้มให้เธอ ก่อนจะเป็นฝ่ายวางแก้วเหล้าลงไว้บนโต๊ะแล้วเดินนำเธอไปที่ลานตรงกลางนั่น



“เก้อน่ารักที่สุดเลยค่ะ” เสียงที่ตามมาพร้อมๆกับรอยยิ้มสดใส และสองแขนเรียวบางนั่นที่เอื้อมมาโอบรอบคอของผมเอาไว้ เสียงเพลงที่ดังเข้าหู ทำให้ทั้งผมและเธอที่โยกย้ายไปตามเสียงเพลงเริ่มรู้สึกสนุกขึ้นมาในตอนนั้น ลืมเรื่องราวก่อนหน้าที่รู้สึกหงุดหงิดใจไปจนหมด และในตอนที่ผมก้มหน้าลงไปกดจูบที่ริมฝีปากอิ่มนั่นซ้ำๆ แทรกลิ้นร้อนดูดดุนเบาๆแบบที่เคยทำประจำ กระชับฝ่ามือที่จับอยู่ที่สะโพกของเธอให้แน่นขึ้นไปอีก ลืมตามองหน้าคนตรงหน้าที่หลับตาพริ้มแต่ก็จูบตอบกันแบบไม่ยอม ... เป็นเหมือนเสือสาวที่ร้อนแรงเสมอ แต่ถึงแบบนั้น สายตาของผมมันดันอดไม่อยู่ที่จะเหลือบไปมองเลยจากหน้าของเธอไปที่หน้าของใครอีกคน ใครอีกคนตรงหน้าที่อยู่ห่างกันออกไป ดวงตาคมกลมโตที่จ้องมาที่ผมแบบท้าทายไม่ต่างกัน มันที่ก็กำลังแลกลิ้นและบดจูบอยู่กับใครอีกคนในอ้อมกอดของมัน ‘ไอ้เสือ’



เราสองคนที่มองตากันอยู่แบบนั้นแม้ว่ามือและปากของแต่ละคนจะสาละวนอยู่กับหญิงสาวตรงหน้า แต่สายตาของเรากลับสบตาและท้าทายกันไม่เลิก



ก็เป็นแค่คนอีกคน ที่เป็นสีเทาๆเหมือนกันไม่ต่างกันเลยสักนิด ... ก็แค่คิดว่าไอ้สายตาร้อนแรงร้ายๆที่ท้าทายกันอยู่ตอนนี้



มึงมันน่าโดนตีนกูฉิบหาย ไอ้เด็กเสือ



...



“เจ๊~~~~ เห็นมือถือของผมม้ายยยย”



“วัตถุโบราณของมึงน่ะหรอคะ”



“เออ มือถือผมน่ะ นี่เจ๊เลิกบูลลี่มันได้ไหม มันยังโทรออกได้อยู่นะเว้ย” แม้ว่ามันจะชอบแจ้งเตือนขึ้นมาว่า พื้นที่ของคุณหมดแล้ว กรุณาลบแอพพลิเคชั่นที่ไม่ใช้งานออก ... จากใจกูจริงๆก็อยากจะบอกว่ากูใช้ทุกแอพ หน้าด้าน จ้องแต่จะให้กูลบๆ จะไม่เหลือแอพเหี้ยไรไว้ให้ใช้งานเลยหรอวะ!



“อยู่แถวๆหน้าทีวีมั้งคะ กูโยนๆทิ้งไว้แถวนั้นอ่ะค่ะ”



“ทำไมเป็นคนเลว เจ๊โยนทิ้งได้ไง จิตใจหยาบช้ามากๆ!” ร้องโวยวายออกไปแบบนั้นแล้วรีบวิ่งออกไปหา กว่ากูจะซื้อมาได้นี่มันลำบากลำบนมากนะโว้ย



“โอ้โห แค่วัตถุโบราณชิ้นเดียวนี่มึงด่ากูเหมือนกูไล่มึงออกจากงานเลยนะคะ” อิเจ๊พี่มันที่เดินออกมาจากครัวพร้อมถือแก้วใส่นมมาด้วยสองแก้วแล้วเดินเข้ามาหาผมที่กำลังมุดหามือถืออยู่ตอนนี้



“ถ้าเจ๊ไล่ผมออก ผมด่าเจ๊มากกว่านี้อีกบอกก่อน ผมจะด่าพ่อเจ๊เลยเถอะ”



“เดี๋ยวเถอะมึง เอานี่ไปแดกจะได้หุบปาก” อิเจ๊พี่มันที่วางแก้วนมอุ่นลงบนโต๊ะหน้าทีวีแล้วทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาทั้งแบบนั้น



“ให้ผมหรอ”



“ให้ควายมั้งคะ”



“ไม่ด่ากูสักวันมันจะช็อคไหมวะ” บ่นอุบไปแบบนั้นแต่ก็รีบคว้าแก้วนมอุ่นๆขึ้นมากระดกดื่ม



“ค่อยๆแดกก็ได้ค่ะ มันยังอุ่นๆเดี๋ยวก็ลวกปากมึง”



“อ้า อร่อยจัง” ละปากออกมาจากแก้วพร้อมร้องบอกแบบนั้น วางแก้วนมอุ่นลงบนโต๊ะแล้วหันไปหาคนที่นั่งอยู่บนโซฟาพร้อมส่งยิ้มให้ สุดแสนจะประทับใจเวลาได้ของกิน



“มึงนี่เลี้ยงง่ายดีนะ” มันที่ว่าออกมาแบบนั้นพร้อมมองตากันนิ่งๆ ฝ่ามืออุ่นๆที่เอื้อมมือมาลูบหัวผมเบาๆแบบที่มันชอบทำบ่อยๆ



“อย่ามาขยี้ได้ไหมเดี๋ยวผมร่วง ร่วงแล้วผมขี้เกียจดูดฝุ่น”



“ทำไม กูอยากจะขยี้ยังไงก็ได้ มึงมีหน้าที่ดูดก็ดูดไป” ตอบออกมาแบบหน้าด้านๆแล้วก็ขยี้ให้แรงขึ้นกว่าเดิม เป็นคนที่ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ เรียกง่ายๆว่าสันดานเสีย



“โอ้ยๆ แต่นี่หัวผมไงโว้ย เจ๊อย่ามาแกล้งนะ”



“ฮ่าๆๆ ควายน้อยเอ๊ย”



“เป็นเหี้ยอะไรชอบแกล้งกันนักวะ” ผลักมือมันออกไปจากหัวของผมได้สำเร็จแล้วช้อนตามองหน้ามันแบบหงุดหงิด ถามมันออกไปแบบนั้น อีกฝ่ายที่ก็แค่จ้องตากันแบบไม่ละสายตา ดวงตาคมๆของมันที่จ้องมองกันก่อนจะค่อยๆยกยิ้มมุมปากส่งมาให้ เป็นรอยยิ้มร้ายๆที่มีเสน่ห์จนอยากอุดปากกรี๊ด เหยดแหม่! จะหล่อขนาดนี้ทำไมถ้ามึงจะเป็นตุ๊ด!



“ชอบแกล้งมึง” คิดแล้วว่ากูต้องไม่คำตอบเหี้ยอะไรจากคนแบบมันแน่ๆอ่ะ



“หึ่ย” ได้แต่อุทานออกมาแบบนั้นก่อนจะหันหน้าหนีมาจากมันแล้วยกแก้วนมอุ่นๆนั่นขึ้นดื่มต่อ



“เพราะมึงน่ารักดี”



‘แค่กๆ’



นมแทบพุ่งออกมาจากปากไหลออกจากจมูกตอนที่ได้ยินอีกฝ่ายพูดออกมาแบบนั้น สำลักจนอิเจ๊พี่มันถึงกับต้องเอื้อมมือมาลูบหลังให้



“ใจเย็นนะคะอิหนู ชมนิดชมหน่อยเขินหน้าแดงเลย”



“กูสำลักเว้ย แค่กๆ”



“เขินแหล่ะรู้ แต่จะทำเป็นดูไม่ออกแทนนะคะ” ว่าแบบนั้นพร้อมขยับตัวเข้ามาใกล้กัน ฝ่ามืออุ่นๆนั่นยังคงทำหน้าที่ลูบหลังให้กันอยู่แบบนั้น ผมที่หันหน้าไปมองอีกคนทั้งน้ำหูน้ำตาไหล แสบจมูกไปหมดเพราะนมขึ้นจมูก การสำลักเป็นเรื่องเหี้ย แต่อีกฝ่ายก็ยังคงส่งยิ้มให้กัน มองเห็นหน้ามันเหมือนจะขำๆด้วยซ้ำนะรู้สึกได้



“กินนมก็สำลัก แล้วก็เลอะขอบปากไปหมดอ่ะนะคนเรา” พูดแบบนั้นแล้วเอื้อมมือมาเช็ดมุมปากให้กัน รู้สึกทำหน้าไม่ถูกในตอนนั้น และยิ่งเหวอหนักเข้าไปใหญ่ในตอนที่อีกฝ่ายเอานิ้วที่เช็ดนมที่มุมปากของผมเข้าไปดูดต่อ



“เจ๊! ทำบ้าไรวะ”



“ชิมดู แปลกนะ นมก็เทออกจากขวดเดียวกันนะคะ แต่ทำไมมันหวานต่างกันว่ะ งง”



“อ...”



“สงสัย...เพราะมาจากปากมึงล่ะมั้ง เนอะ”



มึงไม่ต้องมานงมาเนอะ! กูไม่รับรู้ กูไม่คุยกับมึงแล้วอิเจ๊!



“ไปแปรงฟันเตรียมตัวนอนดีกว่า สงสารเด็กมันเขินเหนื่อย”



มึงไปเลยยยย อย่ามาวอแวกู!!



.

.

.


(มีต่อจ้า)
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่10{14/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 14-12-2019 20:25:49



เป็นความรู้สึกที่ว่าหัวใจทำงานหนักฉิบหาย ทำไมใจมันสั่นหน้ามันร้อนแบบนี้วะ อิเจ๊พี่มันช่วงนี้ก็เป็นผีบ้าผีบอขึ้นทุกที ในบางทีผมก็รู้สึกเหมือนมันอ่อยผมอยู่เลย แต่บางทีก็ระริกระรี้ไปกรี๊ดกล้ามผู้ชายล่ำๆในร้านหน้าตาเฉย มองไม่ออกว่าจริงๆแล้วมันสองบุคลิกหรือจริงๆแค่เป็นคนที่ชอบแกล้งกวนตีนกัน ตอนนี้ใจผมมันก็สั่นแปลกๆมากขึ้นทุกที ... แต่ถึงแบบนั้น



“มันเป็นตุ๊ดไอ้เอม ตุ๊ดที่อยากมีผัวแล้วก็ทาปากแดงยังไงล่ะ” ต้องบอกตัวเองให้ท่องไว้ ว่าบางทีที่มันชอบแกล้งหรือทำดีใส่ จริงๆเจ๊มันก็ดีแบบนี้กับทุกคนไม่ใช่แค่ผมคนเดียวเหมือนกัน



“มานอนค่ะ มึงยืนนิ่งเป็นพระพุทธรูปอะไรอยู่ตรงนั้น พรุ่งนี้มีเรียนเช้าไม่ใช่รึไง”



“คำพูดคำจานี่สรรหาแต่นรกจริงๆนะเจ๊อ่ะ” ว่าออกมาแบบนั้นแล้วเบ้ปากใส่มัน



“ไม่ต้องห่วงนะคะมึง ถ้าจิตใจเราแข็งแกร่งจริง นรกก็เป็นแค่ชื่อน้ำพริกค่ะหนู” อะ ... คนบาปจริงๆก็อิเจ๊พี่มันนี่ล่ะ



ผมที่ไม่ว่าอะไรต่อ ก็แค่ค่อยๆเดินขึ้นเตียงไป ตรงกลางเตียงยังคงมีหมอนข้างอันนึงวางคั่นระหว่างเราไว้เหมือนเดิม



“เจ๊ให้ผมลงไปนอนข้างล่างก็ได้นะ”



“มึงชอบแข็งๆหรอ”



“ใครจะชอบวะ”



“แต่บางเวลาเราก็ชอบให้มันแข็งนะ”



“มึงหมายถึงอะไรวะเจ๊!” กูนี่ตาเหลือก สะบัดหน้าหันไปหาไอ้คนข้างตัวที่ตอนนี้มีที่ปิดตาสีชมพูคาดไว้ที่หัว มึงเปลี่ยนทุกวันเลยไหมที่ปิดตามึงเนี่ย หลายลายเหลือเกิน แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นมันอยู่ตรงที่อะไรแข็ง!



“กูหมายถึงไอติมไรงี้อ่ะค่ะ หรือมึงชอบกินแบบเละๆ”



“อ..อ่อ...ก็เปล่า” ผมที่อ้อมแอ้มตอบมันออกไปแบบนั้นพร้อมทำหน้ากระดาก ก็คือกูไม่ได้คิดว่ามึงหมายถึงไอตงไอติมไงวะ



“แหม่ๆๆๆ สีหน้าเลิ่กลั่กมากๆ มึงคิดลามกใช่ไหมคะ กูรู้นะ”



“เปล่านะเว้ย! ผมไม่อยากคุยกับเจ๊แล้ว นอนบนนี้ก็ได้ ผมจะนอนแล่ว” กระแทกเสียงใส่คนข้างๆตัวที่ยังคงทำหน้ากรุ้มกริ่มจับผิดกันไม่เลิก เห็นแบบนั้นเลยทิ้งตัวลงพร้อมดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มแบบมิดชิด แถมด้วยการหันหลังใส่อีกคนไปเลย



“จะนอนแล้วหรอคะ”



“ใช่ ผมนอนแล้ว”



“แล้วใครตอบกู ผีเรอะ”



“โวะเจ๊ อย่ามากวนกันนะ” บอกออกไปแบบนั้นด้วยน้ำเสียงฮึดฮัด ได้ยินคนข้างๆตัวที่หัวเราะออกมาอีกครั้งเหมือนสนุกมากมายที่ได้กวนประสาทกัน กูล่ะเชื่อเลยแม่ง



มองเห็นแสงไฟในห้องที่ค่อยๆสลัวลง คิดว่าเป็นเพราะอิเจ๊พี่มันใช้รีโมทกดปิดไฟ เป็นนวัตกรรมใหม่สำหรับคนรวย และเป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับผมมากๆ แต่เพราะมาอยู่ที่นี่สักระยะแล้วเลยเริ่มชิน ผมที่ค่อยๆหลับตาลง สูดลมหายใจเข้าสัมผัสกับหมอนหอมๆอุ่นๆ เป็นกลิ่นที่คุ้นเคย คล้ายๆกับกลิ่นของใครบางคนที่ทำให้รู้สึกดี ... บางทีอาจจะเป็นกลิ่นของเจ้าของห้องล่ะมั้ง



‘หมับ’



“ห...เห้ยเจ๊! กอดผมทำไม” ผมที่ลืมตาขึ้นมาอีกครั้งพร้อมๆกับแรงสะดุ้งเมื่ออยู่ๆแรงกอดรัดจากวงแขนแข็งแกร่งของคนที่นอนซ้อนหลังกันอยู่ตอนนี้



“กูบอกว่าจะเช็ค”



“เช็คอะไรของเจ๊ แล้วทำไมต้องมากอดกันแบบนี้ด้วยวะ”



“เช็คว่ามึงหอมยัง ใช้ครีมอาบน้ำกูยี่ห้อไรบ้าง ไหนมาตรวจ”



“ผมหอมแล้วๆๆ เจ๊ไม่ต้องเช็คๆ” และเป็นอีกครั้งที่กูดิ้นกระแด่วๆอยู่ในอ้อมกอดแข็งแรงของตุ๊ดที่ชอบทาปากแดงสวยๆแต่แขนล่ำกล้ามใหญ่ ตั้งใจจะผลักจะดันให้หลุดยังไงก็ไม่เคยหลุดเคยพ้นสักที



“ไม่เชื่อมาดม”



“ไม่เอา ไม่ให้ดม ปล่อยผมนะเว้ย”



“ดีดดิ้นๆจังเลยอ่ะ นิ่งๆได้ไหม”



“ไม่ได้สิเห้ยยย เจ๊ๆๆๆๆๆ!”



“ว่าไง” เสียงเข้มที่ดังอยู่ชิดริมหู ลมหายใจอุ่นๆที่ผมรู้สึกได้ทำให้ผมต้องหันหน้าไปมอง ใบหน้าหล่อๆที่อยู่ใกล้กันในระยะประชิดแบบที่คิดไว้ไม่มีผิด ผมที่ช้อนสายตามองคนที่ขยับตัวเข้ามาใกล้ กึ่งนอนกึ่งๆจะคล่อมกันไว้จากทางด้านหลัง



“เจ๊...” เอ่ยปากออกไปด้วยเสียงที่ไม่ได้ดังเหมือนอย่างทุกที ใจผมมีคำถาม แต่ไม่รู้ว่าจะถามออกไปดีไหม ... ฝ่ามืออุ่นๆของอีกฝ่ายที่ผมคุ้นชินดีค่อยๆเลื่อนมาลูบแก้มผมเบาๆ เป็นความรู้สึกที่พอโดนสัมผัสแล้วมันก็เผลอหลับตาเอียงหน้าตอบรับสัมผัสนั้นตลอด



“สายตามึงสับสนมากเลยนะคะ”



“ผมอยากถาม แต่... แต่ไม่รู้ว่าต้องถามดีไหม”



“ถามกูหรอ”



“อื้ม” พยักหน้าตอบไปหน่อยๆ มองเห็นสายตาคมที่ยังจับจ้องอยู่ที่หน้าของกัน นิ้วโป้งแกร่งที่ยังคงทำหน้าที่เหมือนเดิมคือค่อยๆลูบไล้แก้มผมเบาๆ มองเห็นคนตรงหน้าที่ยิ้มออกมาน้อยๆเหมือนเอ็นดู



“ถามมาสิ ถ้าตอบก็ได้จะตอบให้”



“เจ๊...เจ๊เป็นตุ๊ดจริงๆหรือเปล่าวะ”



“ทำไมมึงถามแบบนั้นล่ะคะ” คนตรงหน้าที่ตอบออกมาพร้อมๆยิ้มขำๆ ก็ไม่เข้าใจว่าคำถามของผมมันตลกตรงไหน



“ก็ผม ... ผมไม่เข้าใจเจ๊เลย”



“ไม่เข้าใจเรื่อง”



“ก็ทุกเรื่อง” ทุกเรื่องที่ทำอยู่กับผมตอนนี้ ...



“อยากได้คำตอบหรอคะ”



“อื้ม” ช้อนตามองดวงตาคมที่มองสบตากับผมไม่ละไปไหน สายตาเข้มๆของอิเจ๊พี่มันที่เหมือนดูดกลืนทุกอย่างทำให้เราลุ่มหลงและละสายตาไปไม่ได้ ได้เผลอกลืนน้ำลายลงคอไปอย่างฝืดฝืนตอนที่มองตากันอยู่แบบนี้



“ทำให้กูหมดความอดทนสิ ... บางทีมึงอาจจะได้คำตอบ”



“หมดความอดทน หมายถึง อื้มม”



ริมฝีปากอุ่นที่กดทาบทับลงมาแบบไม่รอให้ผมได้ถามหรือพูดอะไรออกไปอีก ลิ้นร้อนๆของอีกฝ่ายที่ก็กวาดต้อนลิ้นเล็กๆของผมดูดดุนแผ่วเบา แต่รู้สึกเสียววาบไปทั้งใจ



“ฝันดีนะคะหนู”



ผละหน้าออกมาแล้วพูดแบบนั้นด้วยเสียงธรรมดาที่ไม่ใช่เสียงสองเสียงสามแบบที่ชอบทำ พี่มันที่มองตากันพร้อมส่งยิ้มแบบเอ็นดูมาให้ ก่อนจะผละตัวไปนอนลงข้างๆตัวผมเหมือนแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งแบบนั้น นานหลายนาทีกว่าจะตั้งสติได้ ผมที่ค่อยๆหันหน้าไปมอง ก็เห็นอิเจ๊พี่มันนอนหลับตาพริ้มลมหายใจสม่ำเสมอหลับไปแล้ว



ผมที่ค่อยๆเม้มปากเข้าหากันแน่นๆ และมองหน้าคนที่หลับไปแล้วแบบไม่เข้าใจสักนิด แต่ที่แน่ๆ ... เอมว่าเอมโดนลวนลามอีกแล้ว



ในจังหวะที่กำลังจะทิ้งตัวลงนอนบ้างกลับได้ยินเสียงโทรศัพท์ที่ดังมาจากหัวเตียงสั่นซะแบบนั้น มือถือของผมกับของเจ๊มันที่วางไว้ข้างกันที่หัวเตียงทำให้ผมต้องชะโงกหน้าไปมองเพราะคิดว่าเป็นของตัวเอง แต่กลับไม่ใช่ ตั้งใจว่าจะไม่สนใจ แต่ข้อความที่ปรากฏขึ้นในหน้าจอโทรศัพท์ของอิเจ๊ก็ทำให้ผมต้องมอง



[[Praphay: ดานี่ๆจ๋า คิดถึงจังเลย คิดถึงเราบ้างไหมน้า]]



...



“ฮัลโหลลลล หนูน้องเอมลูก ทำไมมึงตาโบ๋ๆดำคล้ำเป็นหมีแพนด้าแบบนี้ล่ะค่ะ ตั้งแต่ในห้องเรียนแล้วนะ กูนึกว่าหนังตาของมึงจะเอาชนะคุณธรรมในเรื่องการเรียนของมึงได้ แล้วหลับในห้องซะอีก”



ไอ้หยีที่เดินเข้ามาหาผมที่โต๊ะกลางโรงอาหารของคณะ ในมือมันถือแก้วชาเขียวปั่นจากแบรนด์ดังเงือกเขียวเข้ามาด้วย มันที่พึ่งเดินไปซื้อมาเมื่อกี้ทิ้งตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามกับผม แล้วใช้สายตามองกันเหมือนมองสิ่งแปลกประหลาดหน่อยๆ



“มึงไปทำงานที่ผับแล้วเลิกดึกมาหรอคะ”



“เปล่าอ่ะ” ผมส่ายหน้าแล้วมองไอ้หยีที่ทรุดตัวลงนั่งตรงหน้า ผมเอื้อมมือไปดูดชาเขียวปั่นของมันอึกนึง



“ตอนนี้เจ๊มันให้กูมาทำงานบ้านให้มันแทน จะได้ไม่ต้องเลิกดึกๆเพราะกูมีเรียนเช้าอ่ะ” เล่าออกไปแบบนั้นเพราะเรื่องนี้ยังไม่ทันได้เล่าให้มันฟัง มีแต่ไอ้เก้อที่รู้และโวยวายไปก่อนแล้ว



“เนี่ยเห็นไหม เจ๊มันเป็นคนดีมากๆแบบที่กูบอกเลยใช่ไหมล่ะ ...ว่าแต่แล้วทำไมสภาพมึงดูไม่ได้งี้อ่ะคะถ้าไม่ได้นอนดึก”



“กูนอนไม่ค่อยหลับอ่ะป้า” บอกมันออกไปแบบนั้นก่อนจะเอาหัวซุกลงไปหากระเป๋าตัวเองที่วางอยู่ที่โต๊ะ อยากจะหลับตาอยู่อย่างนี้และฝันถึงเธอเรื่อยไป กูร้องเพลงเลย แต่พูดตรงๆจากใจคือง่วงมากค่ะ ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่าเมื่อคืนน่ะสิ...



“ทำไมนอนไม่หลับวะมึง ผีอำหรอวะ” อยากจะบอกเหลือเกินว่าผีไม่ได้อำกู แต่น่าจะเป็นคนมากกว่าล่ะที่อำกู



“ป้า”



“ว่าไงคะ” มันที่เลิกคิ้วขึ้นแล้วมองหน้ากัน หน้าตาบ่งบอกได้ว่ากูพร้อมตอบคำถามมึงทุกเรื่อง ขอเพียงมึงเอ่ยปากออกมาให้กูได้เสือก



“เปล่าอ่ะป้า ไม่...ไม่มีไรทั้งนั้นแหล่ะ กูแค่นอนไม่ค่อยหลับอ่ะ” เลือกที่จะบอกมันออกไปแบบนั้น เพราะจริงๆก็ไม่รู้ว่าจะถามอะไรมันออกไปดี ... มันก็เป็นแค่เรื่องราวเล็กๆที่ผมสงสัยแค่นั้นเอง แต่ถ้าถามว่าเกี่ยวกับผมไหม ก็ไม่ใช่หรอกมั้ง



“มึงแปลกๆนะคะอิเอม แต่ช่างมึงเถอะเพราะมึงคะ วันนี้เค้าบอกว่าจะจับสายรหัสค่ะ พวกเราไปดูกันไหมคะเผื่อว่ากูจะได้น้องรหัสหล่อๆล่ำ คือถ้าได้หล่อๆแบบนั้นนะ กูจะเทคแคร์ดูแลนะ ทั้งเช้าทั้งเย็นเลยล่ะค่ะ”



“ช่วยเก็บนอของป้ามึงหน่อยได้ไหมวะ”



เป็นไอ้เก้อที่เดินเข้ามาพร้อมจานข้าวมันไก่ทอดของมัน น้ำซุปข้าวมันไก่หอมๆที่ลอยเข้ามากระแทกจมูกทำให้กูต้องทำจมูกฟุดฟิดแบบอดไม่อยู่ ผมที่มองหน้าไอ้เก้อแล้วยิ้มให้มัน มันก็ไม่ได้ว่าอะไร .... เรายังคงไม่มีใครพูดถึงเรื่องเมื่อคืนนี้ที่มันโทรหาผมอย่างบ้าคลั่งแล้วผมไม่ยอมรับสาย  ผมรู้สึกเหมือนไอ้เก้อเองก็แกล้งๆทำเบลอไม่พูดถึงเรื่องเมื่อคืนเหมือนกับไม่อยากพูดถึง และเพราะแบบนั้น ผมเองก็เลยทำนิ่งๆไปดีกว่า ... ดีกว่าพอพูดออกมาแล้วเราต้องทะเลาะกันอีก



การทะเลาะกับเพื่อนสนิท จริงๆมันก็ไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่



“กูอยากมีผัวมึงเข้าใจไหมคะ ต้องการผู้ชายมาเป็นลูกเขยให้พ่อแม่ ทำไมเรื่องแค่นี้มึงไม่เข้าใจอ่ะคะอิเก้อ”



“ระริกระรี้แบบมึงมีแต่ผู้ชายเค้าจะวิ่งหนีอ่ะดิป้า”



“เค้ากลัว” และเป็นผมที่พูดเสริมขึ้นแบบนั้น  หันไปมองหน้าไอ้เก้อแล้วเราก็พยักหน้าให้กันแบบเห็นด้วย



“เดี๋ยวกูตบคู่กันให้หน้าหันเลยนะคะ กูผิดตรงไหนแค่ตื่นเต้นเรื่องผู้ชาย ก็กลัวไม่ได้ลูกเขยให้แม่ กูกลัวไม่ได้ใช้มดลูก พวกมึงเข้าใจไหม!”



เข้าใจ



เข้าใจว่ามึงเป็นผู้หญิงแรงๆที่อยากจะพูดอะไรออกมาก็พูด น่ากลัวจนกูอยากหลบลี้หนีภัย ไม่แปลกใจเลยที่ครั้งนึงมันเคยเป็นน้องรหัสอิเจ๊ดานี่ ... ถอดออกมาเหมือนกันฉิบหาย ... เป็นผู้หญิงที่มีคาแรคเตอร์และอินเนอร์เหมือนกระเทย



“แล้วว่าไง สรุปพวกมึงตกลงกับดูน้องรหัสกับกูนะคะ แดกข้าวเสร็จแล้วก็ไปกันเลยๆ” อิป้าที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วหันมาส่งยิ้มอ้อนวอนให้ผม ผมเองที่ก็หันหน้าไปมองไอ้เก้ออีกที



“กูยังไงก็ได้นะ แล้วมึงอ่ะเก้อจะไปป่ะ” ถามออกไปแบบนั้น เพราะปกติมันเป็นคนขี้เกียจทำกิจกรรมอะไรพวกนี้ สมัยรับน้องไอ้เก้อก็เต็มกลืนเต็มทีแล้ว มันมีพวกผมเป็นเพื่อนก็ถือว่าบุญของมันแล้วครับ



“เออๆ อยากไปก็ไป แต่อย่าฝันว่ากูจะอินกับน้องรหัสอะไรนี่ กูจะไม่เทคเหี้ยไรให้แม่งทั้งนั้นแหล่ะ ...ยกเว้นถ้าสวยก็อีกเรื่อง”



“Kจ้า”



ไอ้หยีที่พูดออกมาแบบนั้นพร้อมกรอกตาใส่ไอ้เก้อ ในความคิดของผมก็คือ ไอ้หยีได้พูดแทนอนาคตน้องรหัสของไอ้เก้อไปหมดแล้ว



“ป้ามันหมายถึงมึงจะได้น้องรหัสที่มีKจ้า”



บอกมันออกไปแบบนั้น แล้วมันที่กำลังสวาปามข้าวมันไก่แบบหน้ามืดตามัวเหมือนคนอดยากก็ทำแค่ยกนิ้วกลางขึ้นมาใส่หน้าผมเป็นการชมเชย



ผมกับไอ้หยีที่มองหน้ากันแล้วก็โพล่งขำออกมาแบบนั้น เป็นช่วงเวลาที่อยู่กับเพื่อนแล้วเราก็ได้เล่นกันกวนตีนกันขำๆไปแบบนี้ก็มีความสุขดี ... แต่อีกใจนึงของผมก็ยังอดนึกถึงข้อความในไลน์ของเจ๊มันเมื่อคืนที่ถูกส่งมาแบบนั้น ข้อความที่ถามถึงกันว่าคิดถึงหรือเปล่า



Praphuayคือใคร



แล้วคนอะไรทำไมถึงชื่อแปลกๆว่า พาพวย วะ



สงสัยจริงๆเลย





::::::::::::::::::-- to be continued --:::::::::::::::::::::::::



มาแล้วจ้า วันนี้ลงให้บ่ายเย็นกันไปเลยน้า

แต่ว่าเอมลูก ไม่ใช่พาพวย พะพายสิเห้ยยยย ... น้องเอมเป็นเด็กตลก

ส่วนในตอนนี้นั่น อิเจ๊ แกวอแวลูกฉันอีกแล้วนะคะ สงสารน้องเอมเพราะน้องตามไม่ทันอิเจ๊แน่ๆ

ส่วนความคิดของเจ๊นั้น...ไม่มีใครรู้หรอก อิอิ

เห็นบางคนทีมพี่เก้อกันเยอะมาก ... อยากให้เข้าใจว่า พี่เก้อเป็นคนเทาๆคนนึงที่มีในโลกนี้ แต่พี่ก็อยากดีกับน้องเอม

โง้ววว เชิญลงเรือตามสบายจ้าา

และแคทขอฝาก แฮชแทค #สวยๆเป็นผัว ในทวิตเตอร์ด้วยจ้า ไปเม้นท์พูดคุยแนะนำนิยายเรื่องนี้กันได้นะคะ จุ๊บๆ

แคทรออ่านคอมเม้นท์จากคนอ่านที่น่ารักของแคทอยู่นะคะ  :mew1: :katai4: :call: :pig4:


และแคทขอขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์น่ารักๆสำหรับ4ท่านที่เข้ามาอ่านครึ่งหลังของตอนที่9ที่แคทพึ่งมาลงเมื่อตอนบ่ายด้วยนะคะ  น่ารักมากๆเลย พอมาลงก็มาอ่านมาเม้นท์กันทันที แคทดีใจมากๆเลยค่ะ


:z6: อีเจ๊ทำเป็นหวง
มึงอย่าทำให้น้องเสียใจหล่ะ
  55555 สติ๊กเกอร์ที่ถูกถีบน้านน มั่นใจว่าอิเจ๊ดานี่แน่ๆที่ต้องโดน อิอิ ทีมแม่น้องเอมใช่ไหมเอ่ย


ขอความชัดเจนด้วยค่ะ ลูกแม่โดนหลอกกินตับตลอดเลย
  ต้องปกป้องน้องเอมกันนะคะคุณแม่ ตอดน้องตลอดเลย


:katai2-1:
 :pig4:
  ขอบคุณมากๆนะคะ แคทมาแล้ว มาอ่านต่อน้าาา


:katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
  แคทมาแล้วนะคะ มาอัพตอน10แล้วน้าาา มาอ่านต่อกันนะคะ





หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่10{14/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 14-12-2019 23:40:30
เพื่อนเก้อ ตอนนี้ไม่ได้ชื่อไทเกอร์แล้วนะ เปลี่ยนเป็นรักเก้อ ไปแล้ว
ตัดใจเถอะ เพื่อนเขาไม่ชอบหนูหรอก เพราะ ฉะนั้นจงทำใจ
เนี่ย คนของหนูก็จะมาแล้ว อย่าสนใจเพื่อนนักเลย เที่ยวผับเที่ยวบาร์ต่อไปดีกว่า
(ติดความหนูมาจากเจ๊ดานี่เลย)

ตอนนี้เจ๊ดานี่อย่างร้าย
พูดคะขาแบบไม่ใช้เสียงสอง แถมยังมากอด มาหอม ทำให้น้องใจไม่ดีอีก
โอ๊ยยย บาปค่ะ พบคนบาปแห่งดานี่เวิลด์อยู่ตรงนี้1อัตรา

ส่วนน้องเอม คิดได้ไงชื่อพาพวย นี่ยังคิดไม่ออกเลย
ยอมใจในความครีเอทชื่อของน้องมาก

ปล.ตอนอ่านเจอนมยัดฟองน้ำนี่นึกถึงประโยค‘ผู้หญิงสมัยนี้ก็เหมือนซองเลย์’เลยค่ะ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่10{14/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 15-12-2019 00:21:38
 :m16: เราเป็นทีมนุ้งเอม รอกระทืบคนรังแกน้อง
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่10{14/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 15-12-2019 02:48:58
 :L2:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่10{14/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 15-12-2019 08:32:11
 :z1:


 :กอด1: :pig4: :กอด1:


 o13
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่10{14/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 15-12-2019 09:34:35
อิเจ้จะมาทำน้องเอมสับสนไปเรื่อยๆ แบบนี้ไม่ได้นะ เผื่อเจ้มีกิ๊กแล้ว ก็ปล่อยเด็กมันไปเหอะ นะเจ้ดานี่คนสวย ผมยาวไปถึงเชียงใหม่ (ยอมใจความมโนของเจ้แกจริงๆ).

หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่10{14/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 15-12-2019 12:52:29
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่10{14/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 15-12-2019 16:26:17
เอาแล้ววว. งานจะเข้าเจ้แล้วครับ,,,,
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่10{14/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 16-12-2019 20:43:14
หมั่นไส้
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่10{14/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 17-12-2019 22:41:54
ติดตามจ้า สนุกดี~
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่11{21/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 21-12-2019 20:41:03
บทที่11




‘ตึ่งๆโปะตึ่งๆๆ’



“เนี่ยๆๆ เค้าเริ่มกันไปครึ่งนึงแล้วค่ะเนี่ย อิเก้อ คือมึงชักช้ามากค่ะ”



“ปกติกูก็ชักเร็วอยู่นะป้า”



“คนละชักค่ะอิสัด”



ผมที่ได้แต่ส่ายหน้ากับบทสนทนาของไอ้เก้อกับไอ้หยี เรื่องลามกก็คือต้องยกให้พวกมันสองคนเป็นอันดับหนึ่ง เข้าขากันดีโบ๊ะบ๊ะยิ่งกว่าแก๊งสามช่าเลยทีเดียว



“ไหนๆๆๆ ไปถึงไหนแล้ว ขอดูหน่อยจ้า กรี๊ดๆๆ น้องผู้ชายคนนั้นหน้าดีจังเลยค่ะคุณขา คนนู้นก็เลิศไม่หยุด” 



ไอ้หยีที่เกาะแขนไอ้เก้อพร้อมชะเง้อคอมองไปรอบๆพร้อมชี้ชวนให้มองเด็กปีหนึ่งของคณะเราที่นั่งรวมตัวกันอยู่ที่ลานว่างด้านหลังตึกคณะ เป็นที่ประจำที่เอาไว้สำหรับซ้อมเชียร์ของคณะ รวมถึงการทำกิจกรรมต่างๆ การจับสายรหัสก็ด้วย



“จะมีไอ้หน้าไหนมันหล่อกว่ากูวะป้า”



“มั่นหน้ามั่นโหนกมั่นกะโหลกมั่นเบ้าจริงๆนะคะ”



“หรือมึงจะบอกว่ากูไม่หล่อวะ”



“โอ๊ยย หล่อค่ะ หล่อมากมายอิผัวของกู อยากเป็นเมีย”



“ขอโทษจริงๆนะครับ ผมไม่กล้ายุ่งกับของที่ต้องเก็บรักษา”



“มึงจะบอกว่ากูมีค่าสินะคะ”



“ไอ้เก้อมันจะบอกว่าป้ามึงแก่” เป็นผมที่บอกออกไปแบบนั้น และก็เป็นไอ้หยีที่หันมาทำหน้ายักษ์ใส่พร้อมถอนหายใจแรงๆ



“อิสัด กูรู้ค่ะ! กูก็อุตส่าห์เมินๆไปเรื่องอื่นแล้ว มึงยังจะพูดออกมาทำไมคะอิน้องเอม”



“เอ้าหรอ โทษทีนะป้า”



“กูล่ะเหนื่อยกับมึงจริงๆค่ะอิเอม”



ไอ้หยีที่บอกแบบนั้นแล้วถอนหายใจใส่กันอีกรอบ ก่อนมันจะหันหนีไปมองพวกน้องๆต่อ พวกผู้คุมเชียร์ก็ยังคงทำหน้าทีต่อไปเรื่อยๆ นึกถึงตัวเองตอนปีหนึ่งที่ต้องลุกออกไปจับฉลากสายรหัสเมื่อตอนปี1 ตอนนั้นกูก็สั่นแบบสุดๆ ตื่นเต้นยิ่งกว่าตอนลุ้นหัวซะอีก



“สวัสดีครับ สายชล 01363 ขอจับสายรหัสครับ”  เสียงที่ดังมาจากทางด้านหน้าทำเอาผมหลุดออกจากภวังค์สมัยปี1ของตัวเอง



เสียงนี้ทำไมมันคุ้นๆ



และพอมองดูดีๆแล้วก็ยิ่งคุ้นเลย ชัดเลย ชัดเลย



“นั่นมันน้องคนนั้นนี่หว่าไอ้เก้อ ใช่มะๆๆๆ น้องอะไรวะ กูลืมชื่อแม่ง” หันไปถามไอ้เก้ออย่างตื่นเต้น แต่ไอ้เพื่อนของผมมันที่ก็แค่มองตรงไปนิ่งๆ จับจ้องอยู่ที่หน้าของน้องมันจากที่ไกลๆตรงนี้ ก่อนจะแค่นเสียงออกแนวรำคาญออกมานิดหน่อย



“เหอะ ไอ้เสือ”



“เออๆๆ ไอ้น้องเสือ”



“เหอะ ลูกเสือน่ะสิมัน ... ใครแม่งได้ไอ้เด็กเหี้ยนี่เป็นสายรหัสแม่งโคตรจะซวย” ไอ้เก้อที่แค่นเสียงพูดออกมาแบบนั้น หน้าตาของมันดูเหม็นเบื่อกับงานจับสายรหัสนี้เพิ่มขึ้นไปอีกสิบเปอร์เซ็นต์



“เดี๋ยวนะคะๆ พวกมึงรู้จักน้องคนนี้หรอคะ ทำไมไม่แนะนำกูคะ!” เป็นไอ้หยีที่หันมามองหน้าเราสองคนแบบจับผิด ยักคิ้วหรี่ตามองกันไม่เลิก กำลังจะอ้าปากเล่าเรื่องไอ้น้องเสือนี่ให้ไอ้หยีฟัง ก็ติดตรงที่ไอ้เก้อมันพูดขัดขึ้นมาก่อน



“หน้าตามันก็งั้นๆป่ะวะป้า มึงจะตื่นเต้นทำเหี้ยอะไร” ไอ้เก้อที่ว่าออกมาแบบนั้น มันยังคงมองไปที่น้องมันนิ่งๆอยู่แบบนั้น ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคิดอะไร กำลังจะอ้าปากถามมันต่อไป ก็ได้ยินเสียงเซ็งแซ่รอบข้างดังขึ้นมาก่อนซะแบบนั้น



“สาเหตุที่พี่ยังโสด เพราะชื่อพี่โหด หล่อ ดุ”



“ฮู้ววว ฮิ้วววว”



เสียงโห่ร้องที่มาพร้อมๆกับเสียงรัวกลองหลังจากที่น้องเสือมันอ่านกระดาษที่ตัวเองจับขึ้นมาได้จากในกล่องจบ โค้ดลับสายรหัสที่ทำให้คนทั้งคณะฮือฮา ไม่พ้นแม้แต่ผมและไอ้หยีที่ตาเบิกกว้างขึ้นในตอนนั้น พวกเราที่ค่อยๆหันหน้าไปมองไอ้เก้อช้าๆ มันที่ได้แต่อุทานออกมาว่า



“สัด!”



...



“เนี่ย เรื่องราวมันก็เป็นแบบนี้แหล่ะเจ๊ โคตรจะฮา ไอ้เก้ออ่ะมันโคตรจะไม่ชอบไอ้น้องเสือนั่นมากๆเลย แต่ดันเสือกได้น้องมันเป็นสายรหัสว่ะ”



“สมน้ำหน้ามันค่ะ”



“เอ๊ะ แล้วเจ๊จะมาสมน้ำหน้าเพื่อนผมทำไมเล่า แต่นะ อันนี้มันเหมือนที่โบราณเค้าว่ายิ่งเกลียดยิ่งเจอป่ะวะ ...เหมือนผมเลยว่ะ”



“อะไรของมึงคะ?”



“ก็ผมก็เกลียดเจ๊เหมือนกันอ่ะ เนี่ย เลยเจอแม่งทุกวันเลยยยย”



บอกออกไปแบบนั้นแล้วยักคิ้วใส่เจ๊พี่มันไปสองจึก ตั้งใจว่าจะแกล้งด่าเจ๊มันอ้อมๆว่ากูเกลียดมึงนะจ๊ะ อีกคนที่เงยหน้าขึ้นมามองกันนิ่งๆ ในสายตาคมๆของเจ๊มันที่มอมาที่ผมเหมือนไม่พอใจแว๊บหนึ่งนั่น พอเห็นแบบนั้นแล้วผมก็ยิ่งฉีกยิ้มให้กว้างขึ้นเลย รู้สึกเหมือนชนะที่ครั้งนี้กวนตีนมันได้สำเร็จ



“ของมึงไม่ได้เรียกว่ายิ่งเกลียดยิ่งเจอค่ะหนู”



“หื้ม?”



มันที่ว่าออกแบบนั้นทำให้ผมต้องขมวดคิ้วแบบไม่เข้าใจ ต้องถือไม้กวาดหันกลับไปมองมันใหม่อีกครั้ง เจ๊พี่มันที่เอื้อมมือพับฝาโน๊ตบุ๊คลงในตอนนั้น แล้วเอามือทั้งสองข้างยกคือมาวางค้ำประสานกันตรงหน้าแล้วจ้องมองตาผมนิ่งๆ ก่อนที่รอยยิ้มที่มุมปากจะถูกจุดขึ้นมาน้อยๆ



“ของมึงกลับกูเค้าเรียกว่า เกลียดอะไรได้อย่างนั้นค่ะ”



“อะ...อะไรของเจ๊วะ”



“ก็หรือไม่จริงล่ะคะ มึงกับกูเราได้กันมาตั้งกี่ครั้งแล้วน้า แบบนี้จะไม่เรียกเกลียดอะไรได้อย่างนั้นได้ไงล่ะคะ”



“ได้อะไรวะเจ๊ ผมไม่เห็นรู้เรื่องเลยเถอะ!” ตะโกนออกไปแบบนั้นแล้วหันหลังหนี ไอ้เชี่ยเอ๊ย แค่ตั้งใจว่าจะแกล้งด่าเล่น แต่ทำไมกูถึงโดนตอกกลับมาอีกแล้ววะ แถมครั้งนี้ยังเป็นเรื่องนี้อีก



“จริงหรอคะ” สะดุ้งตกใจขึ้นมาในตอนที่เสียงเข้มๆนั่นดังอยู่ที่ข้างหู หันหน้ากลับไปมองก็เจอใบหน้าหล่อที่วันนี้ทาตาสีพีชที่จ้องมองกันด้วยสายตาที่ผมอ่านไม่ออก แต่ดูเหมือนมันกำลังสนุกอยู่แบบนั้น



“เจ๊! มาใกล้อะไรขนาดนี้วะ” ว่าออกไปแบบนั้นแล้วขยับตัวถอยหนี แต่อีกฝ่ายก็คว้าเอวผมไว้พร้อมรวบตัวเข้าไปกอดไว้แบบหน้าด้านๆ เดี๋ยวนะมึง!! นี่คือเหตุการณ์อุกอาจ!



“เจ๊ มากอดทำไมวะ”



“ก็มึงไม่ตอบสวยไงคะ”



“ต...ตอบอะไรวะ”  ตะกุกตะกักเลยกู ก็จะไม่ให้ตะกุกตะกักได้ไง ก็อีกฝ่ายเล่นขยับหน้าเข้ามาใกล้ ผมที่เอียงคอหนีแค่ไหนอีกฝ่ายก็ยังตามมา  สายตาของเจ๊พี่มันที่กำลังบอกว่าสนุกสุดๆกับเหตุการณ์นี้



“ก็ที่ว่ามึงไม่รู้เรื่องเลย”



“ก็...ก็จริงไง ไม่รู้เรื่องไรสักหน่อย”



“อ๋อหรอจ๊ะ ไม่รู้เลยว่าเคยได้กันอ่ะเนาะ”



“โว้ยเจ๊ ก็แค่ครั้งเดียวป่ะวะ แล้วไหนเจ๊บอกไม่ให้พูดถึงไงวะ จะพูดออกมาทำไมเล่า”



เป็นผมที่ดึงมือของอีกฝ่ายที่กอดเอวกันออกแล้วหันหน้ากลับมาเถียงพี่มันแบบนั้น  แต่พอหันกลับมามองหน้าอีกฝ่ายก็รู้สึกว่าพลาดฉิบหายในจุดๆนี้ คนตรงหน้าที่เหมือนรอเวลาให้ผมทำแบบนั้นแค่ยกยิ้มมุมปากขึ้นพร้อมๆกับสายตาแวววาว ฝ่ามือแกร่งที่มาพร้อมๆกับนิ้วยาวที่เอื้อมมาลูบแก้มของผม ใบหน้าหล่อคมนั่นก็ก้มเข้ามาจ้องตากันใกล้ๆ ก่อนจะขยับริมฝีปากแล้วพูดออกมาว่า



“ครั้งเดียวจริงๆน่ะหรอคะ” 



ว่าออกมาแบบนั้นด้วยเสียงเข้มๆทุ้มๆที่ไม่เสียงสองเสียงสาม ว่าออกมาแบบนั้นแล้วลูบแก้มกันเบาๆ ... ครั้งเดียว ครั้งเดียวที่เจ๊มันจำได้ แต่อีกครั้งใหม่ๆในคืนวันไปสมัครงานเจ๊มันเมาไง



ใช่ไหม!



ผ่านไปก็นาน มันคงไม่รู้ไม่ใช่หรอวะ



“เออ! ก็ครั้งเดียวไงวะเจ๊!!” ฟึดฟัดๆ ออกอาการฟึดฟัดพร้อมตะโกนใส่หน้าอีกฝ่าย ยกมือดันมือของเจ๊มันให้ออกจากหน้าไปด้วย เป็นอาการเรียกว่าโมโหกลบเกลื่อน



“หลุกหลิกจัง”



“ผมเปล่านะ! เจ๊อย่ามามั่วนะ บอกว่าครั้งเดียวไง”



“แต่กูว่าไม่ใช่”  พูดออกมาแบบนั้นอีกครั้งแล้วยืดตัวกลับไปยืนดีๆ อีกฝ่ายที่กอดอกแล้วมองมา สายตาที่บอกผมว่ามันรู้เรื่องในคืนที่ผมมาสมัครงานที่ร้าน



“จ....เจ๊ เจ๊ร...”



“เพราะคืนนั้นในรถก็ได้มึงไปหลายทีอยู่นะคะ จะมาครั้งเดียวอะไรอ่ะหนู” ว่าออกมาแบบนั้นพร้อมรอยยิ้มร่าเริง ผมที่เหงื่อออกมาทุกรูขุมขน ถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ หัวใจกูเกือบวายไอ้แม่ย้อย! เอมเจ็บไข่ไปหมดแล้ว



“ถอนหายใจอะไรขนาดนั้นอ่ะคะหนู”



“สักเรื่องได้ไหมเจ๊ ไปเฝ้าร้านเลยไป จะสองทุ่มอีกแล้วเจ๊ยังอยู่อีกนะ” หันหลังหนีแล้วยกมือขึ้นลูบอก ถึงเจ๊มันจะใจดี แต่ใครจะบอกได้ล่ะวะว่าถ้ามันรู้เรื่องคืนนั้นมันจะไม่โกรธ ในโลกจะมีตุ๊ดคนไหนที่อยากไปเป็นผัวให้ใครมากกว่าเป็นเมีย



ถึงเจ๊มันจะเหมือนตุ๊ดปลอมในความคิดของผมก็ตาม



แต่บางทีมันก็เหมือนตุ๊ดจริงอ่ะ ... กันไว้ก่อนดีกว่ากูโดนไล่ออกไหมล่ะ



“ว่าแต่วันนี้มึงไม่ไปด้วยกันจริงๆหรอคะ...พรุ่งนี้มึงเรียนบ่ายนี่นา”



“ไม่อ่ะ ผมมีรายงาน ว่าจะหาข้อมูลจากหนังสือแล้วเขียนออกมาไว้ก่อน พรุ่งนี้ตอนเช้าจะรีบไปพิมพ์ที่หอสมุด” บอกออกไปแบบนั้น แค่พอนึกถึงรายงานเรื่องวิวัฒนาการของอักษรกูก็อยากจะอ้วกออกมาแล้ว คนตรงหน้าที่ขมวดคิ้วนิดหน่อยตอนที่ได้ฟัง



“แล้วทำไมมึงต้องไปพิมพ์ที่หอสมุด?”



“ก็ผมไม่มีคอมไงวะ แล้วเพื่อนคนอื่นๆก็ต้องทำเหมือนกัน จะไปขอใช้ของมันก็ไม่ได้นี่หว่า แต่ผมสบายมาก ทำจนชินแล้ว” บอกออกไปแบบนั้นแล้วยิ้มร่าเริงใส่เจ๊มัน ก้มตัวลงไปเก็บถุงเท้าบอลข้างนึงที่ซุกอยู่แถวๆซอกประตูห้องนอนขึ้นมา



“เจ๊ นี่มึงถอดถุงเท้าอะไรแบบนี้วะ แล้วทำไมมีข้างเดียว” ไอ้เชี่ย เป็นตุ๊ดสกปรกหรอวะ มันยังไง ใช้จมูกก้มลงแบบไม่ต้องใกล้ กลิ่นก็ขึ้นมาที่ลูกตากู ตาเกือบเหล่ ขมไปถึงคอ



“นี่มึงซุกไว้ตั้งแต่ชาติไหนวะเห้ย!”



“อ๋อออ กูก็หาตั้งนาน ก็ว่าทำไมถุงเท้าคู่นึงทำไมมันไม่มีคู่ของมันวะ ที่แท้แอบอยู่นี่เองหรอคะ”   มันไม่ได้แอบอยู่ แต่เหมือนมึงถอดออกจากเท้าแล้วสลัดออกจากตีนแล้วปล่อยมันกระจัดกระจายไปแบบไม่สนใจต่างหากโว้ย



ว่าแต่...ตุ๊ดเล่นบอลหรอวะ



“เจ๊เล่นบอลหรอวะ” หันไปถามมันแบบนั้น อีกคนที่เดินไปส่องกระจกที่แขวนไว้ที่ผนังแล้วหยิบเหมือนลิปมันออกมาทาปาก



“เล่นค่ะ ชอบไปเล่นกับพวกอิอิฐอิน้องจูน แล้วพวกพี่น้องกูก็ชอบชวนค่ะ แบบอิเฮียปืน เฮียทัพเฮียรบไอ้รุกพวกนั้น เล่นกันมันส์ๆอ่ะค่ะ”



“แต่เจ๊เป็นตุ๊ด” ว่าแบบนั้น ก็เห็นอีกฝ่ายที่ขมวดคิ้วแล้วหันหน้ามามองกัน



“ใช่ค่ะ แล้วทำไม”



“แต่เจ๊เล่นบอล” กูกระพริบตาสองปริบแล้วว่าออกไปแบบนั้น อีกฝ่ายที่ทำตาหลุกหลิกนิดหน่อยแล้วโพล่งออกมาใส่หน้าผมว่า



“กูเป็นตุ๊ดสายสุขภาพค่ะ!”




อ่อ...แบบนี้นี่เองสินะ  สุขภาพอ่ะเนาะ


.

.

.



“กูจะไปแล้วนะคะหนู ถ้าหิวตอนดึกอีกก็หยิบแซนวิชที่กูทำไว้ในกล่องออกมากิน ถ้าไม่ชอบเย็นๆมึงเวฟกินก็ได้ กดที่ปุ่มนี้นะคะ ตั้งไว้แค่30วิ มันจะได้ไม่เละ”



“รู้แล้วน่าเจ๊น่า ผมไม่ใช่เด็กแล้วป่ะวะ ผมดูแลตัวเองได้เถอะ”



“หรอคะ มึงน่ะน่าห่วงยิ่งกว่าหมาเด็กอยู่บ้านคนเดียวอีกเถอะค่ะ กูไม่อยู่อย่ากัดสายไฟเล่นนะคะ เดี๋ยวกลับมาเพี๊ยะๆน้า”



“โว้ย! ผมไม่ใช่หมานะเว่ย” เท้าเอวใส่พร้อมบอกออกไปแบบนั้น ในใจลึกๆก็คิดอยากบอกให้เจ๊มันเบิกตากว้างๆกูจะถุยน้ำลายใส่ลูกตา หมั่นไส้แม่งนัก



“เออจริงค่ะ มึงไม่ใช่หมา”



“เออ ก็ใช่น่ะสิ”



“ใช่แล้ว เพราะมึงเป็นควายน้อยไง ควายน้อยของกูน้า” ว่าออกมาแบบนั้น เดินเข้ามาหากันแล้วลูบหัวเล่น



“โอ๊ย!” อิเจ๊พี่มันที่ร้องออกมาแบบนั้นแล้วชักมือออกมาจากหัวของผมแล้วกำมือตัวเองไว้แน่น เห็นแบบนั้นแล้วอดจะสะดุ้งตกใจไม่ได้ แต่ถึงแบบนั้นผมก็ยังรีบคว้ามือของอีกฝ่ายมาดู



“เจ๊เป็นอะไร”



“เจ็บค่ะ”



“ทำไมเจ็บวะ เป็นไร” พลิกมือเจ๊พี่มันไปมา แล้วมองดูอยู่แบบนั้นก็ไม่เห็นจะมีแผลอะไร ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองตาอีกฝ่ายแล้วเห็นสายตาวิบวับๆพร้อมๆกับรอยยิ้มขบขันที่ส่งมาให้กัน



“เจ็บมือค่ะ พอดีเขามึงทิ่มมือกู”



“โว้ย! กูจะฟาดมึงตอนนี้เลย”



สุดจะทนกับคนอย่างมึง อิเจ๊ตุ๊ดปลอม!



“กรี๊ดดดด หยุดนะคะ อย่าตีสวยค่ะ มึงอย่าถือไม้กวาดมาค่ะ กูไปแล้วๆ สวยไม่สู้ค่า”  อีกคนที่ร้องโวยวายออกมาแบบนั้นแล้ววิ่งหนีกันออกจากประตูบ้านไปหน้าตาเฉย แม่งน่านัก!



ได้แต่โยนไม้กวาดลงพื้นไปแบบหงุดหงิด ก็ไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมถึงชอบแกล้งกันนักก็ไม่รู้



“กวนประสาทฉิบหายเลย”



“หนูคะ” เสียงสองที่กลับมาพร้อมๆกับใบหน้าที่โผล่มาจากประตูหน้าห้อง ... คือมึงกลับมาอีก!



“ไม่ต้องรีบไปมหาลัยแต่เช้าหรอกค่ะ มึงเข้าไปในห้องทำงานกูห้องนั้นนะคะ บนโต๊ะมีโน๊ตบุ๊คอยู่ มึงใช้ทำงานได้เลย กูไม่ได้ล็อคพาสค่ะ”



“ห๊ะ”



“อย่างงสิคะ เดี๋ยวดูโง่น้า”



“เจ๊!”



“อะๆ ไม่แกล้งแล้ว แต่เรื่องโน๊ตบุ๊คมึงเข้าไปใช้ได้เลยนะคะ พรุ่งนี้มึงจะได้นอนตื่นสายหน่อย จะรีบไปแต่เช้าทำไมให้เหนื่อยวะ”



“แต่ว่ามันของส่วนตัวเจ๊นะ”



“ไร้สาระค่ะ ปกติกูก็แค่มีไว้ดูซีรี่ย์อยู่ละ มึงใช้ทำงานใช้เรียนไปเหอะ”



“เจ๊...ขอบคุณนะครับ” อดที่จะเม้มปากน้อยๆแล้วก้มหน้าบอกออกมาแบบนั้นไม่ได้ ก็ถึงว่าเจ๊มันจะชอบแกล้งกันบ่อยๆ แต่ก็เป็นมันอีกนั่นแหล่ะที่ดูแลเรื่องต่างๆของผมตลอด



“หึ น่ารักนะมึงน่ะ งั้นกูไปก่อนนะ” ว่าออกมาแบบนั้นแล้วยกยิ้มเท่ๆส่งมาให้กัน ก่อนที่อีกฝ่ายจะขยับตัวเตรียมปิดประตูห้องให้



“เจ๊ ... ขับรถดีๆนะครับ”



รีบบอกออกไปก่อนที่อีกฝ่ายจะปิดประตู มองเห็นรอยยิ้มและสายตาของอีกฝ่ายที่จ้องมามองกันแว๊บนึงก่อนที่ประตูห้องจะปิดไป พร้อมๆกับอีกฝ่ายที่หายไปจากสายตาของผม ... ก็ไม่รู้ว่าจะคิดไปเองหรือเปล่า แต่ก็รู้สึกว่า รอยยิ้มแบบนั้นของพี่มัน ก็เป็นรอยยิ้มของคนที่มีความสุขไม่ต่างกัน



               พออีกฝ่ายไม่อยู่แล้ว ห้องทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ ผมที่เดินเข้าไปในห้องทำงานของเจ๊มัน มองเห็นโน๊ตบุ๊คของมันที่วางอยู่บนโต๊ะ เลือกที่จะไปเปิดทำงานแบบที่เจ้าของเค้าอนุญาต กดปุ่มเปิดสตาร์ทเครื่องแบบปกติ ฮัมเพลงรอเครื่องเปิดไปด้วยแบบอารมณ์ดีไปพร้อมๆกระดิกเท้า ก่อนที่หน้าจอของโน๊ตบุ๊คจะปรากฏอยู่ตรงหน้า



“เอ๊ะ ... นี่มัน”



ได้แต่พูดออกมาแบบนั้นตอนที่จ้องหน้าจอคอมนิ่งๆ ความรู้สึกแปลกๆแทรกเข้ามาแบบที่ห้ามไม่อยู่ รอยยิ้มและเสียงฮัมเพลงที่ร้องเล่นอยู่เมื่อกี้ก็เงียบไป ไม่ได้รู้สึกอยากร้องเพลงอะไรอีกในตอนนี้ ได้แต่จ้องหน้าจอนิ่งๆอยู่แบบนั้นแบบไม่เข้าใจ แต่ถึงแบบนั้น...ก็อดที่จะรู้สึกวูบๆไหวๆในใจไม่ได้จริงๆ





::::::::::::::::::-- to be continued --:::::::::::::::::::::::::



ตุ๊ดสายสุขภาพอ่ะเนาะ

แต่ว่าห่อเหี่ยวมากๆจากคอมเม้นท์ตอนที่แล้ว คนอ่านหายไปเกินครึ่งเลย

นิยายมันไม่ดีหรอคะ เอาจริงๆรู้สึกเฟลมากๆเลย

ขอโทษที่เขียนมาไม่สนุกนะคะ

ขอบคุณคนอ่านที่ยังอยู่ด้วยกันด้วยนะคะ :mew2: :mew4: :call:

ฝากแฮชแทค #สวยๆเป็นผัว ในทวิตเตอร์ด้วยนะคะ



ขอขอบคุณคนอ่านจากทางเล้าเป็ดที่ยังอยู่ด้วยกันนะคะ



เพื่อนเก้อ ตอนนี้ไม่ได้ชื่อไทเกอร์แล้วนะ เปลี่ยนเป็นรักเก้อ ไปแล้ว
ตัดใจเถอะ เพื่อนเขาไม่ชอบหนูหรอก เพราะ ฉะนั้นจงทำใจ
เนี่ย คนของหนูก็จะมาแล้ว อย่าสนใจเพื่อนนักเลย เที่ยวผับเที่ยวบาร์ต่อไปดีกว่า
(ติดความหนูมาจากเจ๊ดานี่เลย)

ตอนนี้เจ๊ดานี่อย่างร้าย
พูดคะขาแบบไม่ใช้เสียงสอง แถมยังมากอด มาหอม ทำให้น้องใจไม่ดีอีก
โอ๊ยยย บาปค่ะ พบคนบาปแห่งดานี่เวิลด์อยู่ตรงนี้1อัตรา

ส่วนน้องเอม คิดได้ไงชื่อพาพวย นี่ยังคิดไม่ออกเลย
ยอมใจในความครีเอทชื่อของน้องมาก

ปล.ตอนอ่านเจอนมยัดฟองน้ำนี่นึกถึงประโยค‘ผู้หญิงสมัยนี้ก็เหมือนซองเลย์’เลยค่ะ
   รักในคอมเม้นท์ที่เม้นท์ให้กันรัวๆในทุกๆตอนเลยค่ะ ขอบคุณมากๆจริงๆนะคะ แคทดีใจที่ได้อ่านคอมเม้นท์คุณเสมอเลย ดีใจที่เหมือนคนอ่านยังอินไปด้วยกัน ขอบคุณมากๆนะคะ  ส่วนความร้ายของเจ๊ดานี่ คือเหมือนเป็นนางร้ายของเรื่องนี้แทนที่จะเป็นพระเอกอ่ะค่ะ 55555 ยังไงแคทฝากพี่ดาบน้องเอมไว้ด้วยนะคะ :mew2:



:m16: เราเป็นทีมนุ้งเอม รอกระทืบคนรังแกน้อง
  น่ารักมากกกก ฝากน้องเอมด้วยนะคะ ควายน้อยๆของชาวเรา




:L2:
  ขอบคุณมากๆนะคะที่อยู่ด้วยกัน




:z1:

 :กอด1: :pig4: :กอด1:

 o13
  แคทขอบคุณมากๆนะคะ มาอ่านตอนนี้อีกน้าาา



อิเจ้จะมาทำน้องเอมสับสนไปเรื่อยๆ แบบนี้ไม่ได้นะ เผื่อเจ้มีกิ๊กแล้ว ก็ปล่อยเด็กมันไปเหอะ นะเจ้ดานี่คนสวย ผมยาวไปถึงเชียงใหม่ (ยอมใจความมโนของเจ้แกจริงๆ).
  เราต้องยอมใจในความมโนของเจ๊แกต่อไปนะคะ จริงๆสวยมากเจ๊ฝากบอกมาค่ะ 



:pig4: :pig4:
  ขอบคุณมากๆนะคะ ยังไงมาอ่านต่ออีกนะคะ



เอาแล้ววว. งานจะเข้าเจ้แล้วครับ,,,,
  มาาา เจ๊มันต้องโดน อุ๊อิ (แต่เมื่อไหร่น้า)


หมั่นไส้
  หมั่นไส้ใครก็ได้ แต่อย่าหมั่นไส้หนูน้าาา :mew2:


ติดตามจ้า สนุกดี~
  ขอบคุณมากๆเลยนะคะ ขอบคุณคำพูดดีๆที่ให้กันนะคะ :mew1:

หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่11{21/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 21-12-2019 21:19:28
แมนๆสาย​สุขภาพ​ แมนๆเตะบอลมากเลยเจ๊​ น้องไปเจออะไรในหน้าจอคะ​ สนุกค่ะติดตามอยู่​ อย่านอยด์นะคะ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่11{21/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 21-12-2019 22:14:43
น้องเอมเอมควายน้อย วันหลังหนูเอาเขาขวิดเจ๊มันไปเลย
คนเอาแต่ใจ ขี้แกล้ง ขี้หยอก แล้วยังทำให้หัวใจหนูเต้นแรงบ่อยๆแบบนี้ ต้องเอาให้เจ็บค่ะ
แล้วก็ถ้ามีเวลาช่วยส่งที่อยู่ให้ทีนะคะ กันเหนียว
เผื่อว่าหนูจะยังไม่รู้ว่าเจ๊เขาสนใจ จะส่งจดหมายไปบอกค่ะ ^^

เจ๊มั่วจริงๆ คนที่ได้(ตั้งหลายรอบ)คือเจ๊ต่างหาก ไม่ใช่น้อง!!!
นี่ขนาดตัวไม่อยู่ ยังมาทิ้งหน้าจอให้น้องคิดมากได้อี๊กกก
ไม่รู้จะเกี่ยวกับเด็กพาพวยอะไรนั่นรึเปล่า
คนอ่านเป็นอึดอัด ว้าวุ่นใจค่ะ วอนคนเขียนมาต่อตอนหน้าเร็วๆนะคะ ><

สำหรับเราเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่อ่านแนวนี้ซึ่งสนุกมากนะคะ
เนื้อเรื่องไม่อืด ภาษาที่ใช้ก็ไหลลื่น คำผิดน้อยมากๆ อ่านไม่สะดุดเลย
เป็นกำลังใจให้ค่ะ <3
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่11{21/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 21-12-2019 22:33:39
 :pigha2:



 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่11{21/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 21-12-2019 22:43:51
วันไหนอิเจ้ไม่ได้แกล้งน้องคือ คงจะนอนไม่หลับสินะ   :hao3:

ว่าแต่หน้าจอโน๊ตบุ๊คเจ้มีอะไรฮะ น้องถึงมึนไปเลย เป็นรักแรกของเจ้แกใช่ป่ะ   :hao4:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่11{21/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 22-12-2019 00:55:56
 :pig4:  :katai1: อีเจ๊เหมือนจะจริงจัง แต่ก็ไม่ชัดเจนหว่ะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่11{21/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 22-12-2019 12:12:00
ติดตามจ้า

อย่านอยด์น้าา  :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่11{21/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 22-12-2019 14:48:31
ควายน้อย


หนูอย่าคิดมากเลยลูก
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่11{21/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 22-12-2019 16:05:19
หน้าจอมีอะไรเหรอเอม?
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่11{21/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 22-12-2019 19:34:01
หน้าจออิเจ้มีอะไรคะน้อง
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่12{28/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 28-12-2019 19:52:51
บทที่12



‘วี้ดวิ้ว ฮู้ฮู’



“มันเป็นอารมณ์ดีๆจังเลยนะจ๊ะพี่จ๋า มีความผิวปงผิวปากอ่ะโน๊ะ เพื่อนจูนครับเพื่อนจูน มึงลองฟังเสียงผิวปากนี้สิ มันใช่มาจากเจ้านายของเราหรือเปล่านะเพื่อนนะ”



“กูจะไม่ถือสามึงนะคะอิอิฐ เพราะวันนี้กูค่อนข้างจะอารมณ์ดีเหมือนหน้าตาสวยๆของกูอ่ะค่ะ”



พูดออกไปแบบนั้นพรางยกมือขึ้นเอาผมทัดหูแล้วนั่งลงตรงเก้าอี้หน้าบาร์น้ำที่ไอ้อิฐมันทำงานอยู่ เหมือนเป็นที่ประจำของเจ้าของร้าน เพราะปกติคนมาเที่ยวไม่ค่อยชอบนั่งตรงนี้กันเท่าไหร่มันเลยว่างให้ได้มานั่งดูลูกค้า



“ผมล่ะเกลียดจริตเอาผมทัดหูของเจ๊พี่มึงมากนะเอาจริงๆ” ไอ้อิฐที่ว่าออกมาแบบนั้น ก่อนที่มันจะวางaround the worldลงตรงหน้าผม ได้แต่กดยิ้มให้มันนิดหน่อยแล้วรับแก้วมา เป็นเด็กฉลาดที่รู้ว่าผมชอบอะไรไม่ชอบอะไร แต่ก็กวนตีนยิ่งกว่าใครเหมือนกัน



“ชงของแรงมาให้กูแต่วันเลยนะคะ”



“เอ้า ผมก็ชงตามความสวยของเจ๊ไง สวยแบบหนักๆอ่ะโน๊ะ”



“มึงว่าเจ๊พี่ดาบอ้วนหรอไอ้สัดเพื่อนอิฐ” เป็นไอ้จูนที่เดินเข้ามาหลังจากที่มันเดินเอาคอกเทลไปเสริฟให้ลูกค้าโต๊ะนึงเสร็จพอดี มันที่พูดออกมาแบบนั้นแล้วยิ้มกวนตีนใส่ไอ้อิฐ ไอ้อิฐที่ส่ายหัวนิดๆแล้วส่งยิ้มหวานไปให้ไอ้จูน ก่อนที่มันจะยื่นมือออกไปหยิกแก้มไอ้จูนทั้งแบบนั้น



“โถ่ น้องจูนเพื่อนรัก ในโลกนี้ไม่มีใครอ้วนไปกว่ามึงแล้วครับพะยูนน้อย”



“ไอ้สัดอิฐ!”



“ฮ่าๆๆ เจ๊พี่มึงดู น้องพะยูนตัวสุดท้ายของโลกใบนี้โกรธแล้วว่ะ”



“กูจะเอาคลีบตบปากมึงไอ้สัด”



ไอ้จูนที่ว่าออกมาแบบหงุดหงิดยกมือขึ้นไปตบหัวไอ้อิฐทันทีที่พูดจบ หน้าตาน่ารักของมันที่ตอนนี้บูดบึ้งแบบไม่ไหวจะทน แต่ไอ้อิฐก็แค่ขำออกมาเสียงดังแบบชอบอกชอบใจ ... ไม่เข้าใจนิดหน่อย แต่คิดว่ามันคงสนุกเหมือนเวลาที่ผมได้แกล้งไอ้เด็กที่ตอนนี้คงนั่งทำงานอยู่ที่ห้องของผมล่ะมั้ง ... แกล้งเล่นแล้วสนุกดี



“เจ๊พี่ดาบ จูนคิดถึงพี่เอมอ่ะ”



“อิสัดน้องจูนค่ะ โปรดเรียกกูว่าดานี่ค่ะ มึงเห็นกลิตเตอร์วิ้งๆบนใบหน้าสุดแสนจะน่ารักกุ๊กกิ๊กของกูไหม ช่วยให้เกียรติความสวยกูนิดนึง”



“พี่ต่างหากที่ควรจะให้เกียรติความหล่อบนหน้าตัวเองบ้าง” ไอ้จูนที่พึมพำเบาๆพร้อมทำหน้างอ



“กูได้ยินค่ะ!” ปรายตามองแรงใส่มันแล้วแหวใส่ แต่ไอ้เด็กแก้มกลมตรงหน้าก็ทำแค่ยิ้มประจบออกมานิดๆ เป็นไอ้อิฐที่อยู่หลังเคาร์เตอร์บาร์ที่ชะโงกหน้าออกมาแล้วพูดขึ้นอีก



“แต่อิฐก็คิดถึงพี่เอมเหมือนกันนะ พี่เอมมาทำงานไม่กี่วันแต่พี่เค้าทำงานไวทำงานเก่ง แล้วก็เป็นอาหารตา แบบว่าขาวๆน่ารักนุ่มนิ่มจัง”



“นุ่มนิ่มพ่อง!” ขมวดคิ้วนิดๆแล้วหันไปด่ามัน ไอ้อิฐที่ยกมือขึ้นทาบอกแล้วทำหน้าตาเบิกตากว้างๆแล้วพูดออกมาด้วยท่าทางอกสั่นขวัญแขวน



“แล้วคือน้องอิฐทำอะไรผิดนะ ด่าอิฐทำไมก่อน สุดแสนจะปวดร้าว น้องจูนๆ อิฐโดนเจ๊พี่มันด่า หล่อเจ็บ”



“เล่นใหญ่เพื่อใคร ทำงานไป อย่าให้กูเห็นมึงอู้นะไอ้อิฐ กูจะหักเงินมึง!”



“ข่มขู่ไปอีก สุดแสนจะเศร้า ร้องไห้เหมียนหมา ก็แค่ถามถึงพี่เอมนิดนึงเอง”  ไอ้อิฐที่ว่าออกมาแล้วหยิบผ้าเช็ดโต๊ะแถวนั้นขึ้นมาทำท่าซับน้ำตา ไอ้จูนที่เห็นแบบนั้น มันขมวดคิ้วใส่แล้วทำหน้าขยะแขยงก่อนจะเดินหนีไป



“ใคร ๆก็ไม่รักอิฐ”



“เออ กูก็เป็นหนึ่งในนั้นไอ้สัด ทำงาน!”



“ครับพี่ดาบ!”



“ดานี่ค่ะอิสัด!!”



“เกรี้ยวกราดอะไรครับเพื่อนดาบ” เสียงของคนมาใหม่ที่ดังมาจากด้านหลัง ยังไม่ทันได้หันกลับไปมองก็รู้แล้วว่าใคร ได้แต่ถอนหายใจออกมาหนักๆแบบอดไม่อยู่



“คือมึงมาร้านกูอีกแล้ว”



“ดานี่เพื่อนรักกกก นี่เพื่อนมึงไงจ๊ะ ทำไมมึงทักทายเพื่อนแบบนี้”



“มึงผัวเมียกันหรอคะ มึงมากับไอ้เมฆอีกแล้วหรอวะไอ้จั๊ม” หันไปมองหน้าพวกมันสองตัว ไอ้จั๊มที่ยังน่ารักเหมือนเดิม มันที่กอดไหล่ไอ้เมฆไว้พร้อมยิ้มจนตาหยี



“จริงๆกูก็พร้อมจะเป็นเมียไอ้เมฆเสมอเลย เมฆๆเมื่อไหร่มึงจะสนองกูวะ กูพร้อมจะนอนใต้ร่างครวญครางชื่อมึงแล้วนะ อยากมีผัวรวย กูเหนื่อยทำงานนนน”



“ไปแรดไกลๆตีนกู” ไอ้เมฆที่ว่าออกมาแบบนั้นพร้อมสลัดไหล่หนี ไอ้จั๊มที่วืดไปกับสายลม มันเซถลานิดๆ พอยืนได้ดีๆก็หันไปมองค้อนใส่ไอ้เมฆอีกที กูเห็นมึงเป็นกันแบบนี้มาตั้งแต่ปี1



“ไม่เคยจะอ่อนโยนกับน้องจั๊มเลย โย่ว ไอ้สัดอิฐ ขอของอร่อยๆมากระแทกปากพี่สักแก้วสิน้อง” ไอ้จั๊มที่กระโดดลงมานั่งเก้าอี้ข้างๆผม ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปทางด้านหลังเคาร์เตอร์บาร์ สายตาสอดส่องไปเรื่อย มองส่วนผสมคอกเทลขวดนั้นขวดนี้ไปเรื่อย



“พี่จั๊มพี่เมฆสวัสดีจ๊ะพี่จ๋า รอสุดหล่อแป๊บนะ ขอชงแก้วนี้ให้ลูกค้าแป๊บ”



“ได้เลยน้อง” ไอ้จั๊มว่าแบบนั้นแล้วขยิบตาให้ไอ้อิฐ ผมเห็นไอ้เมฆแอบถอนหายใจออกมานิดหน่อย มันที่ค่อยๆเดินมานั่งข้างๆผมอีกฝั่งนึง



“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะคะอิเมฆ หึงก็บอกว่าหึงสิคะ” ว่าออกไปแบบนั้นล้อมัน และเป็นดังคาด ไอ้เมฆที่ถลึงตาใส่แล้วทำท่าจะยกเท้าขึ้นถีบกัน



“อย่ารุนแรงกับสวยสิคะเพื่อน”



“มึงไม่สวยไอ้สัด”  ไอ้เมฆที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วทำหน้าเหม็นเบื่อใส่กัน สวยปวดใจ สวยอยากหวีดร้องใส่หน้า มึงว่ากูไม่สวยได้ไง กูนี่นางสาวเชียงใหม่นะ สวยๆต๊ะต่อนยอน



“อิดานี่เพื่อนรัก มันหึงกูชิมิๆ” เป็นไอ้จั๊มที่เอาไหล่มากระแทกแขนผม ก่อนที่มันเองจะทำหน้าเจ็บออกมานิดหน่อยแต่ก็ยังคงพูดออกมาแบบนั้น



“ใช่ค่ะ มันหึงมึงอยู่กูดูออก”



“ดูออกหน้ามึงสิ ไม่ต้องมาเสือกเรื่องกู เมื่อกี้มึงยังเกรี้ยวกราดใส่ไอ้อิฐอยู่เลย มีเรื่องไรวะ หรือมึงสับรางรถไฟไม่ทัน?”



“สับรางไม่ทันพ่องมึงไอ้สัด”



“หึ เสียงเข้มมาเลยนะครับ” ไอ้เมฆที่ยักคิ้วใส่แล้วยกยิ้มมุมปากส่งมาให้ พอโยนขี้มาตกที่เรื่องกูก็ดูมึงจะมีความสุขขึ้นหลายระดับเลยนะ



“สาระแนนักนะคะ จริงๆวันนี้กูอารมณ์ดีมาก มาอารมณ์เสียตอนเห็นหน้ามึงนี่แหล่ะค่ะ”



“แค่หน้าอิเมฆเนาะ ไม่เกี่ยวกับหน้าไอ้จั๊มเนาะ” และไอ้หน้าแป้นแร้นข้างๆก็เสือกเข้ามาอีกหนึ่งที ได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้ ท้อใจมีเพื่อนแบบพวกมัน



“ว่าแต่ น้องเอมๆไปไหนวะ ไม่เห็นหน้าเลย” ไอ้จั๊มที่ถามออกมาอีกพรางสอดส่ายสายตามองไปรอบๆ ผมที่ก็ถอนหายใจออกมาอีกรอบในตอนที่ได้ยิน ... ถามถึงไอ้เอมกันอีกแล้ว จะอยากรู้ไรกันนักวะ...



เห็นไอ้เมฆยกยิ้มมุมปากเหมือนสนุกอะไรมากนักก็ไม่รู้ อยากพูดว่าไอ้สัดใส่หน้ามันนิดหน่อย



“ไม่ได้มา”



“อ้าว มึงให้น้องมันลาหยุดหรอวะ เจ้านายหน้าเลือดแบบมึงเนี่ยนะให้ลูกน้องหยุด” ไอ้จั๊มว่าออกมาพร้อมทำหน้าเหลือเชื่อ



“เดี๋ยวนะคะ หน้าเลือดเหี้ยอะไร กูนี่สุดแสนจะใจดีและสวยน่ารักขนาดนี้ มึงว่ากูหน้าเลือดหรอคะอิจั๊ม ตบไหม ตบกับกูให้มันจบๆไปนะคะ”



“อิตุ๊ดไร้อารยะ” ไอ้จั๊มว่าออกมาแบบนั้นพร้อมทำปากเบะใส่ มันที่ยกแก้วคอกเทลขึ้นมาจิบอีกหนึ่งที่ และไอ้อิฐที่ก็ยื่นแก้วคอกเทลอีกแก้วส่งไปให้ไอ้เมฆ มันที่ยิ้มกว้างออกมาให้ไอ้เมฆและไอ้จั๊มก่อนจะอ้าปากพูดต่อ



“พี่จั๊มจะว่าเจ๊พี่มันหน้าเลือดไม่ได้นะครับ เพราะเจ๊พี่มันน่ะใจดีมากๆ” 



“นี่ค่ะ ลูกน้องตัวอย่างของกู พวกมึงฟังไว้ค่ะ”



“ใช่ๆ เพราะเจ๊ไม่ได้ให้พี่เอมลา แต่เจ๊ให้พี่เอมไปทำงานกับเจ๊ส่วนตัวที่ห้องเลย เนี่ย ใจดี๊ใจดี อิฐล่ะอยากจะทำแทนพี่เอมแต่เจ๊คงไม่อนุญาต” มันที่บอกออกมาแบบนั้นแล้วส่งยิ้มกว้างๆหันไปขยิบตาส่งซิกให้ไอ้เมฆ



ไอ้สัด! สัดทั้งหมดทุกตัวคน



“อ๋ออออ สรุปให้น้องมันทำงานที่ห้องนี่เอง” ไอ้เมฆที่รับช่วงต่อจากไอ้อิฐรีบพูดออกมาแบบนั้น ไอ้จั๊มที่หันมามองทำหน้าตาตกอกตกใจใส่ผม



“แต่มึงไม่ชอบให้ใครเข้าห้องมึงนี่หว่า พวกกูจะไปแต่ละทีมึงยังด่าเลย มึงให้น้องมันไปทำไรวะ”



“ไปอุ่นเตียงหรอวะเพื่อน” ไอ้เมฆที่เอียงหน้าเข้ามากระซิบให้ได้ยินกันสองคน ผมที่หันไปทำหน้าตึงใส่มันแล้วพูดออกมาสั้นๆแค่ว่า ‘Kวย’



“ฮ่าๆๆ” เป็นไอ้เมฆที่ได้ยินแล้วขำลั่นออกมาทันที กูล่ะอยากจะลุกขึ้นถอดรองเท้าแล้วเอายัดปากมึงจริงๆนะครับ



“ไอ้เมฆขำไรวะ นี่พวกมึงอย่าคุยกันสองคนสิวะ เล่าให้กูฟังด้วยครับๆ”



“ไม่มีๆๆๆอะไรทั้งนั้นแหล่ะค่ะ ก็แค่ให้น้องมันเก็บกวาดห้องให้แค่นั้นแหล่ะค่ะ!” บอกออกมาแบบรู้สึกหงุดหงิดหน่อยๆ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหงุดหงิดอะไร



“แค่เก็บกวาดห้องหรอจ๊ะ”



“หุบปากแล้วแดกเหล้าไปอิสัดเมฆ น่ารำคาญ”



“ดุจังวะ พี่ดาบวิดวะมันดุแบบนี้แหล่ะเนอะไอ้จั๊ม”



“มาก เหมือนได้เห็นร่างไอ้ดาบผู้เยดุเลยว่ะ”  พูดเข้าคู่กันแบบไม่แคร์หน้าตาสวยๆและอายแชร์โดวบนหน้ากูกันเลย



“รำคาญค่ะ ดาบเดิบเหี้ยไร มีแต่ดานี่คนสวยเท่านั้นค่ะ”



“ดานี่เนอะ ดานี่ที่ดูดปากน้องมันจนระทวยคาอกเลยเนาะ” ไอ้เมฆที่ขยับเข้ามาพูดประโยคนี้ให้ได้ยินกันแค่สองคนอีกครั้ง ... เนอะๆเนาะๆอยู่ได้ รำคาญค่ะ!



“เสือกไอ้สัดเมฆ” ด่ามันออกไปแบบเสียงปกติ ไอ้จั๊มกับไอ้อิฐถึงกับยกมือขึ้นปิดปากเบิกตากว้างแบบตกใจ ส่วนไอ้เมฆก็แค่หัวเราะแบบเสียงดังออกมา ไม่สนใจว่าหนังหน้าหล่อๆของมันตอนนี้จะยับย่นและหน้าเหี้ยแค่ไหน ดูถูกอกถูกใจที่งัดไอ้ดาบออกมาด่ามันได้ สัดเอ้ย



“ไอ้อิฐๆ มึงมากราบร่างไอ้ดาบไวๆ”



“กราบจ้าพ่อ”



“สัด กูเบื่อจะพูดกับพวกมึง กูไปตรวจบัญชีละ พวกมึงก็นั่งแดกเหล้าอยู่กับไอ้อิฐตรงนี้แหล่ะ ตรวจเสร็จจะลงมาใหม่ ไม่ต้องเสนอหน้าขึ้นไปกวนตีนกูนะ รำคาญ” บอกพวกมันออกไปแบบนั้นแล้วลุกขึ้นเดินหนี ได้ยินเสียงดังแว่วๆตามหลังมาว่า



“อยากเป็นคนที่กวนใจพี่ดาบจังค่า”  เสียงไอ้จั๊ม อยากจะประเคนตีนให้



“แต่คงเป็นไม่ได้ เพราะเค้ามีคนในใจแล้ว”



“ฮิ้วววว ว่าแต่คนในใจเจ๊คือใครวะพี่เมฆ”



“ไม่รู้เหมือนกันว่ะไอ้อิฐ เพราะนอกจากกูไม่รู้ เจ้าตัวมันเองก็อาจจะยังไม่รู้นะ”



“ฮิ้วววว”



โห่ฮิ้วกันอยู่นั่น พ่อมึงบวชนาคหรอ ... ตัวกู ใจกู ใครมันจะมารู้ดีมากกว่ากูวะ



“อ้าว เจ๊สวัสดีครับ” เสียงของคนมาใหม่ที่พึ่งเดินขึ้นบันไดมาที่โซนชั้นสอง ไม่ใช่ใครเป็นลูกน้องในร้าน ‘ไอ้โก้’



“ดีค่ะ วันนี้มึงอยู่โซนนี้หรอคะ”



“ครับเจ๊” ผมที่แค่พยักหน้าตอบกลับไปให้แบบไม่ใส่ใจเท่าไหร่ ก่อนจะหันตัวกลับเพื่อไปทำงานที่ห้องตัวเองบนชั้นสาม แต่ติดตรงที่อีกฝ่ายก็เรียกกันไว้อีกที



“เจ๊ครับ”  กูสวยล่ะสิคะถึงดื้อดึงจะยื้อกันไว้ อิ๊



“ว่าไงคะสุดหล่อ”



“เอมไม่มาหรอครับ เห็นเจ๊บอกจะให้มันมานอนกับผมแต่หายไปเลย”  มึงไม่หล่อแล้วตอนนี้ เจอตีนกูไหม ถามถึงไอ้เอมเพื่อ...



ไม่รู้ว่าทำสีหน้าแบบไหนออกไป แต่ก็แค่มองจ้องหน้าอีกฝ่ายนิ่งๆก่อนจะยกแขนขึ้นกอดอกไว้



“มึงถามทำไม”



“ก็แค่...เป็นห่วง”   เสือกเก่ง



“ไม่ต้องห่วง กูไม่ได้ให้มันทำงานที่นี่แล้ว”



“อ้าวทำไมล่ะครับเจ๊” ไอ้โก้ที่ทำหน้าไม่พอใจนิดหน่อยแล้วขึ้นเสียงดังส่งมาถามผม เห็นแบบนั้นเลยมองจ้องหน้ามันนิ่งๆก่อนจะเลิกคิ้วใส่ อีกฝ่ายที่เหมือนจะเริ่มรู้ตัวมันก้มหน้าลงนิดหน่อย แต่กูนี่รู้สึกคันตีนแปลกๆนะ



“กูให้มันทำงานอื่นแล้ว และถ้ามึงจะเป็นห่วงมันมาก กูจะบอกให้ว่าไม่จำเป็น เพราะกูเป็นคนดูแลมันเอง



...



“นี่มัน...”



เป็นอีกครั้งที่ผมต้องพูดพึมพำออกมาคนเดียวแบบนี้ ได้แต่มองตรงไปที่ภาพหน้าจอที่เปิดขึ้นมาก็เห็นได้ในทันที หัวใจยังคงรู้สึกวูบๆไหวๆโหวงๆ เต้นในจังหวะช้าๆเร็วๆแบบบอกไม่ถูก สายตาก็ยังคงมองภาพตรงหน้า ภาพของคนที่นอนหลับตาซุกหน้าอยู่บนหมอน ขนตายาวที่เรียงตัวรับกับสันจมูกในแบบที่ตัวเองไม่เคยเห็น มองเห็นมุมปากที่ยกขึ้นนิดๆทั้งๆที่ยังนอนหลับอยู่ เหมือนกับว่ากำลังนอนหลับฝันดีอยู่ในตอนนั้น



“ทำไมเจ๊มันถึงมีรูปกูรูปนี้วะ” กระพริบตาปริบๆอีกครั้งแบบไม่เข้าใจ มองๆดูแล้ว ชุดที่ใส่ในภาพหน้านี้ มันเป็นชุดนอนของอิเจ๊มันนี่หว่า



“นี่มันตั้งแต่คืนแรกที่กูมานอนที่นี่นี่หว่า” บ่นกับตัวเองออกมาแบบนั้นแล้วก็ต้องกระพริบตาปริบๆ



“แต่คืนนั้นกูนอนที่พื้น” แต่ในรูปมันคือตัวผมที่นอนอยู่บนเตียงหลับตาพริ้มสนิทนอนแบบสบายกายสบายใจซุกหน้าหันข้างเข้ากับหมอนอย่างมีความสุข ในภาพมีแดดอ่อนๆที่สาดเข้ามาจากทางฝั่งของระเบียงที่ยังมองเห็นผ้าม่านสีฟ้าอ่อนๆปลิวอยู่ไกลๆจากในภาพนี้



“แล้วเจ๊มันมีภาพนี้ได้ไงวะ เจ๊มันแอบถ่ายกันหรอวะ” ถึงว่าจะคิดแบบนั้น แต่ว่าผมยังจำได้ว่าในเช้าวันนั้น กูถูกถีบหงายท้องลงมาจากเตียงนอนด้วยฝ่าตีนมหาภัยของอิเจ๊ดานี่ที่ตื่นมาทีหลังผม แล้วเจ๊มันก็กรี๊ดกร๊าดว่าผมปีนขึ้นไปนอนทับอกมันเอง



“แล้วถ้าผมปีนขึ้นเตียงเอง เจ๊มันบอกว่าไม่รู้เรื่อง แล้วรูปนี้มาได้ไงวะ  หรือว่าจริงๆแล้วอิเจ๊มันอุ้มกูไปนอนบนเตียงแล้วมาแอบถ่ายกัน แล้วก็แกล้งไปนอนหลับแล้วกรี๊ดกร๊าดใส่กันในตอนเช้าหรอวะ” 



“เห้ยยย บ้าน่า...เจ๊มันจะทำแบบนั้นทำไมวะ” บอกกับตัวเองแบบนั้น แม่งโคตรจะไม่มีเหตุผล เจ๊เนี่ยนะที่จะทำแบบนั้น เพื่อ? คิดยังไงก็หาเหตุผลให้ตัวเองไม่ได้ ....



“แต่ว่า แล้วจะเอารูปกูมาขึ้นหน้าจอทำไมวะ”  เคาะนิ้วลงกับโต๊ะอย่างใช้ความคิด ไอ้เอมใช่ความคิด



ปิ๊งป่อง



“เจ๊ชอบกู”



เบิกตากว้างๆตอนที่พูดออกมาแบบนั้น ก่อนจะ



‘เพี๊ยะ’



“พูดเหี้ยอะไรออกมาไอ้เอม เจ๊มันไม่ได้ชอบมึง มันเป็นตุ๊ดสวยๆทาปากแดง ถึงแม้มันจะมโนไปเองก็เถอะ” ว่าแบบนั้นแล้วกูก็ตีปากตัวเองรัวๆเลย ถึงหลังๆมันจะชอบทำท่าทางแปลกๆใส่กันตลอด แต่ถ้าจะมโนยิ้มไปเองคนเดียวว่ามันจะชอบกัน ... ก็บ้าน่า



“พอๆ หยุดคิดๆ” ถึงจะบอกตัวเองแบบนั้นเป็นครั้งที่ร้อย แต่สายตาก็คงยังมองอยู่ที่ภาพตรงหน้าแบบไม่ละสายตาไปไหน โดยเฉพาะฝ่ามือใหญ่ที่แค่มองก็รู้ว่าเป็นของใครที่กำลังทำท่าลูบแก้มผมเบาๆอยู่ในภาพนั่น ใจสั่นแปลกๆ แต่ก็แอบรู้สึกวูบๆโหวงๆที่อกแบบอดไม่ได้ รู้สึกว่าหน้าเหมือนจะร้อนขึ้นมาแปลกๆอยู่เหมือนกัน ... ท่าทางที่ดูเหมือนจะรักกันมากแบบนั้น...



“ถ้าเจ๊มันชอบกันก็คงจะดี...สัด! เจ็บไข่ พูดเหี้ยไรของมึงเนี่ยไอ้เอม” ยกมือขึ้นขยี้หัวตัวเองอีกที ก่อนจะส่ายหน้าไปมาจนผมกระจายฟูไม่เป็นทรงเพราะถูกผมขยุ้มขยำแบบใช้ความคิด



“เจ๊มันจะยังมีอะไรซ่อนไว้อีกไหมวะ จะมีรูปแอบถ่ายกูอีกหรือเปล่า ไหนขอดูหน่อย เจ๊ดานี่ขอดูหน่อยน้า ... แล้วแต่มึงเลยจ้าอิดอกหนูบ๋อย ... ขอบคุณคร๊าบบบบ” พูดเองเออเองและอนุญาตตัวเองแบบคนหน้าด้าน แต่ใช่เลย นั่นแหล่ะครับหน้ากูเอง



ผมที่ค่อยๆเปิดเข้าไปในไดร์ซี ไดร์ดี เพื่อเปิดหาโฟลเดอร์อื่นๆแต่ก็ไม่มีอะไรอีกที่น่าสงสัย จนสุดท้ายเลื่อนลงไปเจอโฟลเดอร์นึงที่หน้าสนใจ ชื่อโฟลเดอร์ว่า PPกับเพื่อนอเวจีที่ต้องตกนรกลงไปด้วยกัน



ชื่อโฟลเดอร์ชวนลังเลว่าถ้าเสือกต่อแล้วเราจะตกนรกไปกับเรื่องราวในโพลเดอร์นี้ไหม



“พีพีคืออะไรวะ คล้ายๆซีพีขายไก่ไหม” งงนิดหน่อยแต่ไม่เข้าใจมากๆ เพราะความสงสัยที่ออกจะคล้ายๆความเสือกหน่อยๆเลยกดเข้าไป ... ตกนรกคืออะไร อย่าไปกลัว บางทีก้าวแรกที่ก้าวขาไปอาจเจอเพื่อนทักทายที่กระทะทองแดงใบข้างๆ



‘ตึ๊ง’



“เอ้าไอ้เหี้ย มีให้ใส่รหัสไปอีก โฟลเดอร์อะไรวะ กูอุตส่าห์พลีชีพไปนรกแล้วยังดูไม่ได้อีก หรือว่าจะเป็นคลิปโป๊ของอิเจ๊มันว้า” พยายามจิ้มเลขห้องแล้วแต่ก็ยังเข้าไม่ได้ สุดท้ายก็เลยถอดใจและล้มเลิกไปในที่สุด



“ไว้วันหลังค่อยหลอกถามอิเจ๊มันดูดีกว่าว่ารหัสอะไร”



คิดแบบนั้นแล้วหัวเราะออกมา ถ้าใจเราสู้ เรื่องเสือกก็ไม่ยากนะครับจะบอกให้ แต่คิดว่าตอนนี้ควรจะทำงานได้แล้ว สุดท้ายก็เลยเข้าเน็ตแล้วเริ่มเสริชหาข้อมูลต่างๆพร้อมพิมพ์งานไปด้วย แต่สุดท้าย...เฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ก็ล่อตาล่อใจมากกว่าที่คิด ผมที่หยุดทำงานในชั่วโมงต่อมาแล้วกดเข้าทวิตก่อนเป็นอันดับแรก ขอไปรีวิวนิยายที่ตัวเองก่อนให้ไรเตอร์คนเขียนสักนิดนึง ... ใช่ครับ คนเขียนหนังสือที่ป้าผมปาทิ้งนั่นล่ะ แต่ผมชอบของผม เพราะแบบนั้นก็เลยอยากเข้าไปด่า เอ้ย ไปบอกคนเขียนให้ได้รู้ฟีดแบคสักนิดนึง ... หลังจากนั้นก็เข้าเฟซบุ๊ก



“เอ๊ะ...” แต่พอกดปุ่มรูปไอคอนตัวเอฟสีฟ้าที่มีไว้ให้กดแบบไม่ต้องพิมพ์ชื่อเว็บยาวๆตรงปุ่มบุ๊กมาร์ก ภาพที่ปรากฏก็ดันเป็นเฟซบุ๊กที่ไม่ได้ล็อคเอ้าท์ออกของเจ้าของเครื่องซะงั้น



“เชี่ยย นี่มันเจ๊ดานี่หรอวะ” 



กูถึงกับต้องอุทานออกมาแบบนั้นแล้วขยับหน้าเข้าไปชิดกับหน้าจอโน๊ตบุ๊คใกล้ๆ ภาพโปรไฟล์ของเจ้าของเฟซที่อยู่ในเสื้อกล้ามสีขาวกับกางเกงยีนส์ที่นั่งทำหน้านิ่งๆเอาแขนค้ำกับขาแกร่งทำให้คอเสือบริเวรช่วงอกเผยออกให้เห็นหน้าอกแกร่ง ด้านหลังเจ้าตัวยังมองเห็นพวกเครื่องยกน้ำหนัก แบบ barbells , dumbbells เหมือนว่าเป็นภาพที่ถ่ายมาจากในฟิตเนส กล้ามแขนแน่นๆพร้อมๆกับเหงื่อที่ซึมอยู่แถวไรผมและสันกราม ทำให้ภาพตรงหน้ายิ่งเพิ่มความดิบเข้าไปอีก เป็นผู้ชายแมนๆที่หล่อและไม่ปากแดงแบบที่เคยเห็น สายตาคมๆที่เหมือนจะเคยเห็น เป็นแบบเดียวกันกับในวันที่ผมนอนอยู่ใต้ร่างของมัน เป็นเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า Dab Dorothy



ดาบ ดลธี หรอวะ...น่าจะใช่แหล่ะ คงไม่ใช่แด็ปโดโรทรีหรอกมั้ง กูว่ากูก็อ่านภาษาอังกฤษเก่งอยู่น้า”



เปิดเข้าไปในหน้าส่วนตัวของเจ้าของเฟซ เหมือนจะเป็นเฟซเก่าที่ไม่ได้อัพเดทมานานหลายปีมากๆแล้ว ข้อความโพสสุดท้ายโพสไว้ว่า



‘จะเปลี่ยนให้นะคะ!’



เปลี่ยนอะไรก่อนวะ?



เลื่อนลงมาอีก เจอข้อความก่อนหน้าข้อความสุดท้ายนั่นกูก็แทบอยากจะซี๊ดปาก ข้อความที่โพสเอาไว้ว่า



‘นี่คนหรือกระป๋องเป๊ปซี่วะ ต้องโดนกูเปิดสักทีมั้งถึงจะหายซ่าอ่ะไอ้สัด’



แซ่บสุดในย่านนี้ กูนี่กระพริบตาถี่ ๆแถมขยี้ตาเป็นของแถมเลยเลยนะ แคปชั่นโคตรเถื่อนสะเทือนโลก เฟี้ยวฟ้าวจัด พร้อมบวกกันไปหมด เห็นแอคเคาท์ของเพื่อนเจ๊มันมาตอบกลับ มีทั้งของพี่เมฆพี่จั๊ม



Metad: อีกแล้วหรอวะ ไม่จบหรอวะ



Jira JumpJump: เพื่อนดาบครับ เอาสักที เปิดเลยไหมกูพร้อมไฟท์ไปกับมึง



Metad: @Jira JumpJump เก็บหน้าขาวๆเหมือนซาลาเปานมของมึงไว้ให้ดีเถอะ อย่ามาหาเรื่อง กูจัดการเอง



Jira JumpJump: @Metad เมฆ มึงปกป้องกู เนี่ย...กูพร้อมเป็นเมียมึงแล้วนะ อยากบอกอีกทีว่าพร้อมมากนะคะ



Metad: @Jira JumpJump ไอ้สัด



Cherry: พี่ดาบ รี่เป็นห่วงนะคะ คิดถึงพี่นะไม่โทรหากันบ้างเลย



จ๋ารักนะจุ๊บๆ: พี่ดาบคะใครจะทำอะไรพี่ ดูแลตัวเองบ้างนะคะ คิดถึง



รักแท้มีจริงไหม ถ้าใช่ขอเสียงหน่อย: พี่ดาบฮะ เป็นห่วงพี่นะ ผมรอพี่นะฮะ



และข้อความอีกหลากหลายร้อยที่ดูเหมือนจะเป็นทั้งชะนีและเก้งกวางตัวเล็กตัวน้อยตัวใหญ่ที่เหมือนจะเป็นอดีตคู่นอนพี่ท่านเข้ามาโพสให้กำลังใจกันรัวๆ อ่านแล้วกูได้แต่กรอกตาแป๊บ ... หมั่นไส้มาก เลื่อนลงไปเรื่อยๆจนมาสะดุดตรงที่


 
Prapray: ... งื้อ แบบนี้ไม่ชอบเลยนะ



Dab Dorothy: @Prapray ไม่มีอะไรนะคะ ไม่ต้องตกใจน้า



“พาพวยอีกแล้วหรอวะ”



ผมที่ว่าออกมาแบบนั้น เห็นจะมีแค่ข้อความจากคนนี้ที่อิเจ๊พี่มันตอบกลับไป ขนาดพี่เมฆกับพี่จั๊มอิเจ๊พี่มันก็ไม่ตอบ แต่กับพาพวยคนนี้ก็ตอบกลับไปอย่างดี ... ได้แต่พูดออกไปแบบนั้นแล้วกระพริบตาสองปริบ ความรู้สึกวูบๆโหวงๆมาอีกแล้ว แต่ครั้งนี้มันต่างจากตอนที่เห็นรูปตัวเองอยู่ที่หน้าจอเมื่อก่อนหน้านี้ ... ไม่รู้หรอกว่าพาพวยนี่เป็นใคร แต่ที่ผมเข้าใจได้ก็คือ พาพวยคนนี้ คงจะเป็นคนที่อิเจ๊พี่มันให้ความสำคัญมากๆคนนึงเลย



“ใจมันยุบยิบๆแบบนี้ทำไมวะ ไม่ชอบเลยอ่ะ”  ยกมือขึ้นเกาที่หัวใจทั้งๆที่มันก็ไม่ได้คัน แต่ก็รู้สึกยุบยิบยุบยับอยู่ในใจแบบแปลกๆ



“ถ้าจะบอกว่าเจ๊มันชอบกู ... ตอนนี้กูคิดว่า จริงๆแล้วเจ๊มันก็เป็นแค่คนใจดีคนนึงเท่านั้นเองแหล่ะว่ะไอ้เอม ฮ่าๆ” พูดพลางหัวเราะอยู่คนเดียว เลื่อนมือกดปิดเฟซบุ๊คของเจ๊มันไป และก็ไม่ได้คิดจะเข้าไปรื้อไปค้นดูอะไรอีกแล้วในตอนนี้ เหลือบมองเวลาที่มุมขวาของหน้าจอโน๊ตบุ๊ค มันบอกเวลาว่าตอนนี้ห้าทุ่มครึ่ง



“นอนดีกว่านะตัวเรา” บอกกับตัวเองไปแบบนั้นแล้วเก็บงานของตัวเองเซฟเข้าแฟลชไดร์ฟเรียบร้อย ปัดกวาดเช็ดถูโต๊ะแล้วสำรวจทุกซอกทุกมุมว่าไม่ลืมปิดไฟให้เจ้าของห้องก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องนอนที่ผมเคยนอนอยู่ทุกวัน เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าไม่อยากขึ้นไปนอนบนเตียงนั้นในวันนี้



“นอนพื้นก็ดี ไม่ต้องกลัวว่าจะตกลงมาแล้วเจ็บด้วย” ว่าออกมาแบบนั้นแล้วแค่นยิ้มขำออกมาหน่อยๆ เพราะตั้งแต่เด็กจนโตผมก็ดูแลปกป้องตัวเองมาตลอด ... และครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่ผมต้องปกป้องใจตัวเอง ... มึงก็แค่ไอ้เอมป่ะวะ อย่าคิดอะไรให้เยอะเลย แค่มีที่กินที่นอนก็อย่าได้ใจมากไปสิวะ



(มีต่อจ้า)
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่12{28/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 28-12-2019 19:54:10
.

.

.


‘แกร๊ก’



เวลาประมาณเที่ยงคืนครึ่งที่ผมเปิดประตูเข้าห้องมา ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ ไฟในห้องครัวเปิดเอาไว้ให้พอมีแสง แต่ที่อื่นถูกปิดเอาไว้ คิดว่าไอ้เอมมันคงกลัวผมกลับมาแล้วเดินชนนู่นชนนี่ มองรอบๆห้องแล้วรู้สึกสะอาดสะอ้านดี ต่างจากเมื่อก่อนที่เวลากลับมาแล้วชอบเผลอเหยียบกางเกงในตัวเองบ้างหรือถุงเท้าบ้าง คิดแบบนั้นแล้วเผลอยิ้มออกมาไม่ได้  ก่อนจะตรงไปเปิดประตูห้องนอน คิดว่าไอ้ควายนอนคงนอนหลับทำตาพริ้มอยู่บนนั้นแน่ๆ หรือบางทีมันอาจจะนอนเขินเพราะรูปหน้าจอที่ผมตั้งไว้ก็ได้ ... เผื่อมันจะเข้าใจอะไรมากขึ้น



ว่างเปล่า



ผมที่ขมวดคิ้วออกมาในตอนที่มองไปที่เตียงแล้วไม่เห็นร่างที่คุ้นเคยนอนอยู่บนนั้น แต่พอเปิดประตูเข้าไปก็มองเห็นก้อนกลมๆที่นอนขดอยู่ใต้เตียง สภาพไม่ต่างจากวันแรกที่มันมานอนที่นี่



“แล้วเป็นเหี้ยอะไรต้องลงมานอนข้างล่างวะ” เดินเข้าไปหาพร้อมๆกับเอื้อมมือสะกิด



“อื้อ อย่ากวนเอม” เสียงร้องงึมงำในลำคอเหมือนลูกแมวเด็กที่ถูกแกล้ง แก้มใสๆของมันที่บี้เข้ากับหมอนตอนที่โดนนิ้วเย็นๆของผมสะกิดเข้าให้



“สัดเอ๊ย” สบถออกมาแบบนั้น แต่ก็เผลอยิ้มกว้างๆออกมาแบบไม่รู้ตัวอีกแล้ว มันที่หลับไปอีกแล้วโดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมกลับมาแล้ว ... แต่ว่ามึงลงมานอนพื้นทำไมวะ ... ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจ แต่สุดท้ายก็เลิกคิดแล้วก้มลงช้อนตัวมันขึ้นมาแบบเบามือมากที่สุด .. กลัวครับ กลัวเด็กมันตื่น อยากให้มันได้นอนพักเยอะๆหน่อย ..



วางมันลงบนเตียงตรงฝั่งที่มันเคยนอนประจำ พอเจ้าตัวได้รับสัมผัสนุ่มๆมันก็ซุกตัวขดเข้าไปหาหมอนพร้อมยิ้มออกมาน้อยๆ ไม่ต่างจากวันนั้นเลย วันแรกที่มันมานอนที่นี่ แล้วผมก็อุ้มมันขึ้นมานอนตรงนี้แล้วถ่ายรูปมันไว้



ก็ยังดูน่ารักน่าแกล้งเหมือนวันนั้น



“ควายน้อยเอ้ย” ยิ้มออกมาอีกครั้งแล้วเอื้อมมือไปลูบหัวมันเบาๆก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวมันไว้ให้ดีๆ เพราะแอร์มันแรงเลยอยากให้มันได้อุ่นหน่อย ... เดินไปอาบน้ำจนแต่งตัวออกมาเสร็จก็ปีนขึ้นเตียงแล้วดึงตัวของคนที่อยู่ข้างๆให้เข้ามาในอ้อมกอดเหมือนที่เคยทำอยู่ในทุกๆคืน



“กูจะไม่บอกมึงหรอกนะว่าอยากกอด จริงๆคือมึงหันมากอดกูเองนะ”



กระซิบเบาๆที่ข้างหูคนที่หลับไปแล้วแบบนั้น แต่ก็ยังกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นอีกหน่อยแล้วหลับไปทั้งแบบนั้น



.

.

.


“อิน้องเอมคะ ทำไมตื่นเช้า เมื่อวานไม่ได้ใช้คอมกูหรือไง”



ต้นเสียงที่ดังมาจากทางห้องนอน พอหันไปก็เห็นเจ้าของห้องร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อยืดสีขาวสบายๆกับกางเกงบอลกำลังยืนเกาหัวอยู่ตรงประตู สภาพค่อนข้างแตกต่างจากทุกวัน เพราะปกติชุดนอนอิเจ๊พี่มันค่อนข้างจะเต็มยศ ต้องมีที่ปิดตาลายตุ๊กตาน่ารักคาดไว้ถึงจะนอนได้ พร้อมกับชุดนอนลายน่ารักๆอีกหลายๆแบบ ไอ้เสื้อยืดกางเกงบอลน่ะพึ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกเลย แต่ตอนนี้ไม่ตกใจแล้ว เพราะตกใจตอนที่ตื่นมาแล้วกูนอนซุกอยู่ในอกเจ๊มันมากกว่า จำได้ว่ากูนอนข้างล่างชัดๆ มั่นใจมากว่ากูไม่ได้ปีนขึ้นมาเองแน่ๆ



“ว่าไงคะหนู มึงนั่งเหม่ออะไรก่อน?” อีกฝ่ายที่เดินเข้ามาหาพร้อมมองกันแบบสงสัย ผมที่ยิ้มออกมานิดหน่อยแล้วส่ายหน้าตอบ



“เปล่าอ่ะ เจ๊ ผมชงกาแฟไว้ให้ครัวนะ แล้วก็ปิ้งขนมปังไว้ให้นิดหน่อย เดี๋ยวยังไงผมขอตัวไปมหาลัยก่อนนะ สวัสดีจ้า” บอกออกไปแบบรัวๆแล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่ คว้ากระเป๋าเป้ได้ก่อนวิ่งออกไปทันที



“เห้ยๆ เดี๋ยวๆค่ะอิหนู นี่มึงกินอะไรหรือยัง เห้ยๆ อย่าวิ่งสิวะเอม เดี๋ยวมึงล้ม!”



ได้ยินเสียงของอีกฝ่ายที่ตะโกนมาตามหลัง ตอนแรกก็เป็นเสียงดังแบบจีบปากจีบคอ แต่พอตอนบอกให้ระวังอย่าวิ่งก็กลายเป็นเสียงเข้มๆดุๆไปซะแบบนั้น แต่ถึงแบบนั้นผมก็ไม่ได้หันกลับไปมอง ทำแค่วิ่งหนีออกจากห้องแล้วตรงไปที่ลิฟเลยทันที ... ก็ไม่รู้ทำไม แต่ตอนนี้แค่ยังไม่อยากเห็นหน้าเจ๊มัน ประโยคตอบรับของเจ๊มันที่โปรไฟล์เป็นหน้าพี่ดาบแบบนั้นมันยังอยู่ในหัวของผม และเซ้นท์มันบอกว่า คนที่ชื่อพาพวยนั่นเป็นคนสำคัญของเขา ... เพราะแบบนั้นผมเลยอยากจะหลบมาทำใจให้ตัวเองเป็นปกติก่อน เป็นแค่ไอ้เอมลูกจ้างธรรมดาๆคนนึงที่ไม่ได้คิดอะไรมากไปกับความใจดีของเจ๊มัน แล้วก็ไม่ต้องไปนึกถึงความสัมพันธ์ในหลายๆครั้งที่เคยเกิดขึ้นระหว่างเราแบบไม่ได้ตั้งใจนั่นด้วย



“ขอเวลาแป๊บ แล้วไอ้เอมจะกลับมาอย่างเฉิดฉายนะเจ๊นะ” พูดออกไปแบบนั้น รู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่มีทางได้ยิน แต่กูก็อยากจะพูด และอีกอย่าง ...พ่อแม่คิดยังไงถึงตั้งชื่อว่าพาพวยวะ เป็นกูนี่โกรธมากเลยนะ



...



“น้องปี1กลุ่มนั้นมันวิ่งรอบสนามทำไมกันวะ ... เอ๊ะ นั่นใช่น้องรหัสมึงหรือเปล่าวะเก้อ ที่วิ่งหน้าแดงอยู่ในสนามนั่นอ่ะ”



“หึหึ”



“เอ๊ะอิสัดเก้อคะ แล้วคือมึงจะอารมณ์ดีอะไรมาหรอคะ หรือเมื่อคืนมึงได้ปล่อยน้ำ ยิ้มหน้าบานขนาดนี้”



“ป้า สมองมึงนี่ช่วยออกจากเรื่องใต้สะดื้อบ้างได้ไหมวะ”



“ขอโทษนะคะ พอดีกูศีลเสมอกับมึงจ้า ว่าแต่มึงยิ้มมีความสุขอะไรนักคะ ไหนเล่าๆ .... นี่กูถามอยู่นะ มึงมองอะไรคะ”



“ไม่มีอะไรหรอกน่า แค่รู้สึกสนุกอะไรนิดหน่อย”



“สนุกอะไรกันครับเพื่อนๆ เล่าเอมสิๆ อยากรู้ฉิบหายเลยเนี่ย” ผมที่วิ่งเข้าไปหาพวกมันที่นั่งอยู่ที่ซุ้มข้างตึกคณะด้วยรอยยิ้มกว้างๆ ไอ้เก้อที่ละสายตาออกจากสนามบอลแล้วหันมามองกันก่อนจะยื่นโกโก้ปั่นเย็นๆมาให้



“ขอบคุณจ้าเพื่อนเก้อ”



“แดกซะ ท่าทางมึงจะร้อน”



“ดูแลดีประดุจดั่งเมีย เคยจะใส่ใจเมียหลวงแบบกูบ้างไหม ก็ไม่!” ไอ้หยีที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วกระฟัดกระเฟียดใส่ไอ้เก้อพอเป็นพิธี ผมที่ขำออกมากับท่าทางของมันแต่ก็ยังไม่หยุดดูดโกโก้ปั่น หวานเย็นชื่นใจ ฮ้า



“แล้วมึงมีความสุขอะไรวะไอ้เก้อ เมื่อกี้กูได้ยินหยีมันถาม” ถามออกไปแบบนั้น อีกฝ่ายก็แค่ยกยิ้มมุมปากพร้อมไขว่ห้างกระดิกตีนดิกๆแบบสบายอารมณ์



“ไม่มีอะไร” บอกออกมาแบบนั้นแต่หน้าตากรุ้มกริ่มมากๆ แววตาเผยความชั่วแบบปิดไม่มิดเลยทีเดียว



“กูได้กลิ่นความชั่วแผ่ออกมาจากร่างกายมึงค่ะอิเก้อ”



“ทำมาเป็นได้กลิ่น ศีลเสมอกูล่ะสิถึงรู้น่ะ”



“ไม่อยากจะพูดเลยนะ แต่จากประตูนรกก้าวแรกพ้นไปก้าวต่อไปมึงก็เจอกูค่ะ”



“ชัดเจน” ว่าจบแบบนั้นจบแล้วยกมือขึ้นแทคกันแบบมีความสุข เหมือนดีใจว่าพอตายไปแล้วก็ยังจะได้เจอเพื่อนเก่าอีก



“สายบาป กูเข้าใจ แต่ได้โปรดอย่าลากกูลงไปด้วยจะได้ไหม” บอกพวกมันออกไปแบบนั้นก่อนจะหยิบถุงกระดาษบนโต๊ะที่วางอยู่ข้างๆไอ้เก้อขึ้นมาดู



“นี่มันคืออะไรวะ”



“ของจากน้องรหัส” ไอ้เก้อว่าแบบนั้น ดูไม่ได้ใส่ใจอะไรเท่าไหร่แต่ริมฝีปากยังคงกระตุกรอยยิ้มร้ายๆอยู่ไม่เลิก



“มึงได้น้องเสือ กูจำได้”



“กูยังไม่ได้มัน” 



“สัด! คนละได้ไหมโว้ย พูดออกมาได้เหมือนว่าน้องมันจะยอมให้มึงเอาอ่ะ เห็นความสูงน้องมันไหม เหมือนว่าจะสูงกว่ามึงนิดหน่อยด้วยนะ แบบมึงน่ะปล่อยน้องมันไปเจอคนดีๆเถอะ มึงน่ะซื้อกินต่อไปเถอะจะได้ไม่เดือดร้อนคนอื่นนะเพื่อน” ผมที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วโยนถุงคืนมันไป ไอ้เก้อที่ก็รับไว้ในมือได้แบบพอดิบพอดี



“ความสูงไม่มีผลในแนวราบมึงไม่รู้หรอไอ้เอม”



“อิ้ววว พอเลยค่ะ กุลสตรีแบบกูรับไม่ได้กับเรื่องแบบนี้”



“วันก่อนมึงยังพึ่งถามขนาดไข่กูไปเองนะป้า”



“เอ้อ ก็ถือว่า8เกือบ9ยาวพอใช้ได้เลยนะคะของมึงน่ะอิเก้อ”



“โวะ จังไรเหลือเกิน พอๆ แล้วสรุปไอ้เก้อ ก่อนหน้านี้มึงยิ้มขำอะไรวะ” ถามมันออกไปอีกที ไอ้เก้อที่แค่ละสายตาจากผมไปมองของในมือคือถุงกระดาศนั่นแล้วยกยิ้มหน่อยๆ



“ไม่มีไร ก็แค่...แกล้งเด็ก”



“เด็กไหนวะ” ผมที่หันไปถามไอ้หยี แต่อีกฝ่ายที่กำลังหยิบลิปสติกขึ้นมาทาปาก เกร็งรูปปากทำมุมให้ได้องศา มันเลยทำได้แค่ยักไหล่ใส่ผมเหมือนกำลังบอกกันว่ากูก็ไม่รู้ค่ะอิเอม เพราะแบบนั้นก็เลยไม่ซักไซ้ต่อ ... แต่มีเรื่องเดียวที่อยากจะขอ นอนคิดมาทั้งคืนเลยเขยิบเข้าไปใกล้ๆไอ้เก้อมันพร้อมเอามือวางลงบนท่อนแขนแกร่งนั่น



“มึงได้ของมาแบบนี้ น้องเสือมันรู้แล้วหรอว่ามึงเป็นพี่รหัส”



“ยัง ... ใครจะยอมบอกมันให้โง่ล่ะวะ”



“แล้วทำไมของนี่มาอยู่ในมือมึงอ่ะคะ” ไอ้หยีที่ชี้ไปที่ถุงกระดาษนั่นอีกครั้ง ไอ้เก้อที่ก็แค่ยกยิ้มมุมปากก่อนจะตอบออกมา



“ก็แค่รับฝากมันเอาไปให้พี่รหัสมันก็แค่นั้น”



“โถ โคตรชั่ว กูว่ารอยยิ้มสุขสันต์ของมึงนี่คือการได้แกล้งน้องเสือของกูแน่ๆเลยสินะคะอิเลว”



“ป้า”



“อะไรมึงคะ” ไอ้หยีที่ปลายตามองหน่อยๆ แล้วไอ้เก้อที่ก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆหน้าของมัน ไม่ได้ดูเหมือนบทพระนางในละครเลยสักนิด



“ป้า”



“ห...หื้ม”



“วันนี้มึงเขียนคิ้วเบี้ยวว่ะ”



“ห...กรี๊ดดดด อิเหี้ยยยยย จริงหรอคะ ไม่ได้เลยนะ มงกุฎของหน้ากู”



“มึงไปแก้เลยๆ ข้างนึงโก่งเป็นคันคร อีกข้างของมึงนี่ทรงอะไร สะพานแขวนพระราม4หรอ”



“อิสัด! หุบปากมึงนะคะ พวกมึงรอกูอยู่นี่ กูขอไปยืมที่เขียนคิ้วอิเครทรี่แป๊บ” ว่าออกมาแบบรีบร้อนแล้วลุกหนีจากไปทั้งแบบนั้น มองเห็นหลังมันไวๆ คิดว่าคงรีบไปหาอิเครทรี่ เพื่อนในเอกของเราอีกคนที่เป็นสาวประเภทสองที่สวยกว่าผู้หญิงแท้ๆแบบอิป้า ... แต่พอพูดถึงสาวประเภทสองขึ้นมาก็นึกขึ้นได้



“ไอ้เก้อ”



“หื้ม ว่าไง” มันที่ละสายตามาจากสนามบอลอีกครั้งแล้งหันมามองหน้ากันพร้อมเลิกคิ้วถาม หน้าตาที่ดูงงๆของมันสักพักก็เปลี่ยนเป็นยิ้มอบอุ่นส่งมาให้กันแบบที่เคยเห็นเป็นประจำ



“คืนนี้กูขอไปค้างกับมึงได้ไหมวะ”


::::::::::::::::::-- to be continued --:::::::::::::::::::::::::



เห้ยบ้าน่า ... เด็กมันหนีเจ๊หรือเปล่าว้า?

เจ๊จะตามน้องได้ไหม จะปล่อยไปยังไงหรือเปล่า

แต่รวมๆอยากบอกเจ๊ว่า ชอบก็บอกว่าชอบ อย่ามาทำเป็นบอกว่าอยากแกล้ง แหม

มาจ้า... ถ้าคอมเม้นท์ไหลเป็นน้ำป่า แคทจะรีบมาต่อให้ใหม่ในวันสองวันก่อนปีใหม่น้าา จุ๊บๆ

ฝากแฮชแทค #สวยๆเป็นผัว ด้วยจ้า


ขอขอบคุณคนอ่านจากเล้าเป็ดที่ยังอยู่กับแคทและนิยายเรื่องนี้นะคะ ใจดีและน่ารักกับแคทมากๆเลยค่ะ



แมนๆสาย​สุขภาพ​ แมนๆเตะบอลมากเลยเจ๊​ น้องไปเจออะไรในหน้าจอคะ​ สนุกค่ะติดตามอยู่​ อย่านอยด์นะคะ
สวยๆเอาผมทัดหูแต่ถอดเสื้อเล่นบอลโชว์ซิกแพคจ้า 5555 แคทขอบคุณมากๆเลยนะคะที่ยังอยู่ด้วยกัน อย่าไปไหนน้าา



น้องเอมเอมควายน้อย วันหลังหนูเอาเขาขวิดเจ๊มันไปเลย
คนเอาแต่ใจ ขี้แกล้ง ขี้หยอก แล้วยังทำให้หัวใจหนูเต้นแรงบ่อยๆแบบนี้ ต้องเอาให้เจ็บค่ะ
แล้วก็ถ้ามีเวลาช่วยส่งที่อยู่ให้ทีนะคะ กันเหนียว
เผื่อว่าหนูจะยังไม่รู้ว่าเจ๊เขาสนใจ จะส่งจดหมายไปบอกค่ะ ^^

เจ๊มั่วจริงๆ คนที่ได้(ตั้งหลายรอบ)คือเจ๊ต่างหาก ไม่ใช่น้อง!!!
นี่ขนาดตัวไม่อยู่ ยังมาทิ้งหน้าจอให้น้องคิดมากได้อี๊กกก
ไม่รู้จะเกี่ยวกับเด็กพาพวยอะไรนั่นรึเปล่า
คนอ่านเป็นอึดอัด ว้าวุ่นใจค่ะ วอนคนเขียนมาต่อตอนหน้าเร็วๆนะคะ ><

สำหรับเราเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่อ่านแนวนี้ซึ่งสนุกมากนะคะ
เนื้อเรื่องไม่อืด ภาษาที่ใช้ก็ไหลลื่น คำผิดน้อยมากๆ อ่านไม่สะดุดเลย
เป็นกำลังใจให้ค่ะ <3
  ในจุดๆนี้น้องหลบเจ๊กันไปเลยจ้า แคทขอบคุณอีกครั้งและอีกครั้งจริงๆนะคะ เวลาเข้ามาแล้วเห็นคอมเม้นท์ยาวๆของคุณแคทดีใจมากๆเลย
ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันเสมอนะคะ ส่วนเจ๊นั้น มันเป็นยังไง มันชอบแกล้งน้องนัก อยากจะบอกว่าถ้าคำว่าหวงมันพิมพ์ยาก ก็อยากจะฝากคนอ่านพิมพ์ไปให้เจ๊แกหน่อยจ้า  ส่วนเรื่องหน้าจอน้านนนน จริงๆหน้าจอก็คือเฉลยเรื่องเมื่อคืนแรก แต่ในเฟซน้านนนน .... น้องเอมหนีมันลูก หนีเลยยย อิอิ
แคทหวังว่าตอนนี้จะถูกใจไม่มากก็น้อยนะคะ ถ้าอ่านเรื่องนี้ของแคทแล้วมีความสุขแคทจะดีใจมากๆเลย สุดท้ายคือ...อยู่ด้วยกันก่อนน้าาา จุ๊บๆเล้ย



:pigha2:
 :3123: :pig4: :3123:
  ขอบคุณมากๆนะคะ แล้วมาอ่านตอนนี้อีกนะคะ



วันไหนอิเจ้ไม่ได้แกล้งน้องคือ คงจะนอนไม่หลับสินะ   :hao3:
ว่าแต่หน้าจอโน๊ตบุ๊คเจ้มีอะไรฮะ น้องถึงมึนไปเลย เป็นรักแรกของเจ้แกใช่ป่ะ   :hao4:
จริงค่ะ วันไหนอิเจ๊ไม่ได้แกล้งน้องนี่มันจะเป็นยังไง แกล้งเก่ง ส่วนรูปหน้าจออาจจะไม่เท่าไหร่ แต่...อิอิ ต้องมาอ่านตอนนี้แล้วนะคะ



:pig4:  :katai1: อีเจ๊เหมือนจะจริงจัง แต่ก็ไม่ชัดเจนหว่ะ  :เฮ้อ:
มันต้องโดนแล้วไหม น้องเอมหนีไปลูกกกกกก


ติดตามจ้า
อย่านอยด์น้าา  :L1: :L1: :L1:
แคทขอบคุณมากๆเลยนะคะ อยู่ด้วยกันก่อนน้าาา



ควายน้อย
หนูอย่าคิดมากเลยลูก
ใช่ค่ะ สงสารน้อง น้องคิดสับสนวนไปแล้วทะลุไปดาวอังคารเลยลูกเอ้ย 55555



หน้าจอมีอะไรเหรอเอม?
ต้องมาอ่านตอนนี้เลยจ้า อิอิ



หน้าจออิเจ้มีอะไรคะน้อง
  มีอะไรน้าาา ตอนนี้ต้องรู้แล้วล่ะเนอะ อิอิ


 
:pig4: :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่12{28/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 28-12-2019 20:32:22
ถึงหน้าจอโน๊ตบุ๊คอาจจะไม่ใช่รักแรกของเจ้ดานี่ อาจจะเป็นรักครั้งต่อไปก็ได้นี่นา. ทำน้องควายน้อยใจสั่นหวิวไปเลย

อิน้องไปนอนที่อื่นไม่ได้นะ เดี๋ยวอิเจ้องค์ลง อาละวาดบ้านแตกเอานะจ๊ะ

หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่12{28/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 28-12-2019 21:03:46
น้องเอมโดนพาพวยสกัดดาวรุ่งทางความคิดอีกละ
อิคนพี่ก็ทำให้หวั่นไหว แต่ก็เหมือนจะมีใครแอบซ่อนอยู่ในใจ วุ่นวายดีแท้

อยากให้คุณพี่ดาบเปิดอกเปิดใจกับน้องเร็วๆ
ถึงยังไงก็ยอมรับกับตัวเองแล้วใช่มั้ยว่าถูกใจน้องอ่ะ
นี่น้องเริ่มหนีตีตัวออกห่างแล้วนะ ไปหาเพื่อนเก้อซะด้วย
ขอให้โชคดีค่ะคุณพี่
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่12{28/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 28-12-2019 22:11:53
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่12{28/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 29-12-2019 07:23:38
ต้องกระตุกกันบ้าง
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่12{28/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 30-12-2019 01:37:48
เจ้ก็ลีลาอยู่ได้ บอกไปตรงๆเลยสิ สงสารเอม
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่12{28/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 30-12-2019 10:34:40
เอม อย่าเรืองเยอะค่ะ


อยู่กับเจ้น่ะดีแล้ว
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่12{28/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 30-12-2019 21:01:49
 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว บทที่12{28/12/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 30-12-2019 21:06:44
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัวครั้งที่1 {19/10/19}]
เริ่มหัวข้อโดย: Luzifer0068 ที่ 30-12-2019 22:03:10
เนียลองสุดๆ อุแงงงงงง

หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนพิเศษ {01/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 01-01-2020 01:49:36

ตอนพิเศษ

Happy New again





“คนแน่นร้านมากๆ เลยอ่ะวันนี้”



“ไหนใครบอกว่าเปิดร้านนั่งชิลๆ ไงวะ ไม่มีจริงไอ้สัด”



พี่จั๊มกับพี่เมฆที่พูดออกมาแบบนั้นพร้อมมองไปรอบๆ ยังไม่ทันจะได้พูดกันต่อ ไอ้น้องจูนก็เบียดลูกค้าเดินเข้ามาด้วย



“แฮ่กๆ จูนขอถังน้ำแข็งเพิ่มด้วย เอามาส่งให้ตรงนี้ด้วย เดี๋ยวกลับมาเอาอีกถังนะ”



“วุ่นวายเหลือเกินค่ะ กูบอกแล้วไงให้ปิดร้านๆ อ่ะค่ะ”



คนที่วันนี้ก็ยังคงแต่งตัวจัดเต็มด้วยชุดเสื้อเชิ้ตสีชมพูที่เรียกได้ว่าสดมากๆ ปลดกระดุมหน้าอกลงไปสามเม็ดจนเผยให้เห็นร่องอกแกร่งเข้าขู่กับกางเกงเดฟขาดเข่าและต้นขา แต่จริงๆ ก็ไม่เข้าใจว่ามันจะปลดอะไรขนาดนี้ ปลดเยอะขนาดนี้มึงไม่ถอดไปเลยล่ะ ... คำพูดนี้ได้แต่เก็บเอาไว้ในใจ กลัวว่าพูดไปแล้วมันจะมีความสุขใจจนทำจริง ... เพราะจริงๆ อิเจ๊พี่ดาบมันก็คือสิ่งมีชีวิตที่ชอบกวนตีนกัน



เจ้าของร้านที่วันนี้ทาลิปสีชมพูวาวสุขภาพดี ทาอายแชร์โดวด้วยสีน้ำตาลประกายทองม็อบแม็บพอให้มีสีสัน ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะครับ แต่จิตใจมันชอบสีสัน มันเลยเลิกทาไม่ค่อยได้ เจ้าตัวกรีดอายแชร์โดวแบบฝุ่นให้ตาดูคมขึ้นอีกหน่อยแบบเป็นธรรมชาติ ดูเป็นผู้ชายที่ชอบแต่งหน้าแต่งตัวจัดเต็ม แต่พออิเจ๊พี่มันพูดออกมาเท่านั้นล่ะ ....



“สาแก่ใจมึงรึยังล่ะคะ กูบอกว่าให้ปิดร้านเคาท์ดาวน์กับกูสองคนก็วอแวหาเรื่อง” กูล่ะปวดประสาท



“ก็มันรายได้พี่นะเว้ย น่าเสียดาย”



“แล้วไง กูรวยค่ะ”



อีกฝ่ายที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วยกเท้าขึ้นนั่งไขว่ห้างแบบเท่ๆ ปรายตามองซ้ายมองขวาเห็นลูกค้าที่แน่นเต็มร้าย ไม่ต้องบอกก็รู้ได้เลยว่าคืนนี้ Daniworldคงมีรายได้เข้ามามากพอดูจริงๆ พอคิดมาถึงตรงนี้แล้วก็อดดีใจไม่ได้ แต่พอหันหน้ากลับไปมองหน้าเจ้าของร้านเท่านั้นล่ะ



“เอ่อ...”



“น้องเอม สนใจแฟนมึงหน่อยครับ ดูหน้ามันดิครับ” พี่เมฆที่ตะโกนแซวขึ้นมาแบบนั้น แต่คือ...กูทำไรผิดก่อนวะ?



“พี่ดาบเป็นอะไรอ่ะ” เลือกที่จะเดินเข้าไปหาคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ทรงสูง เดินเข้าไปแทรกตัวอยู่ตรงหว่างขาของอีกคนที่ก็ก้มลงมามองหน้ากันด้วยสายตานิ่งๆ แต่หน้าตาก็บ่งบอกว่าหงุดหงิดอยู่นิดๆ



“เจ๊ดานี่ค่ะ”



“เออๆ เจ๊ดานี่พี่มึงเป็นอะไรวะ” มันจะตายรึไงล่ะถ้าเรียกดาบอ่ะ



“หงุดหงิดมึง”



“หงุดหงิดกู?” ถามแบบนั้นแล้วชี้นิ้วเข้าหาตัวเองอย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะหันไปมองรอบข้างๆ ที่ก็มีพี่เมฆพี่จั๊มไอ้หยีที่ก็อมยิ้มมองมาแบบขำๆ คือ... อะไรนะหือ?



ได้แต่ช้อนตาขึ้นไปมองหน้าอีกคนแบบไม่เข้า เอียงหน้าหน่อยๆ แต่อีกคนที่ก็ถอนหายใจหนักๆ แล้วเอื้อมไปคว้าแก้วเหล้ามากระดกเข้าปาก แขนทำมุมยกแก้วได้แบบเท่ๆ รับกับสันคางและจมูกคมที่พอเงยหน้าขึ้นกระดกเหล้าเข้าปากที ไอ้เอมอยากจะขอวิ่งหนีไปกรี๊ดแล้วตะโกนว่า เจ็บไข่โว้ย!



“เจ๊~~~....” และในตอนที่กำลังจะอ้าปากพูดอะไรกับคนตรงหน้าออกไปอีก แต่เสียงของผมก็ต้องเงียบลงเมื่อเสียงของใครอีกคนแทรกเข้ามาแทนซะแบบนั้น



“พี่เอมๆๆ ช่วยหยิบถังน้ำแข็งมาให้จูนทีครับพี่” ผมที่หันไปมองหน้าไอ้น้องจูนที่ตอนนี้แม้บนหัวมันจะประดับที่คาดผมหน้ารักมีของความว่า Happy New year แต่หน้าตาของมันก็ชื้นเหงื่อไปหมด เห็นแบบนั้นแล้วก็อดสงสารมันไม่ได้ แขกในร้านวันนี้เยอะมากจริงๆ



“เดี๋ยวผมมานะเจ๊” เงยหน้าไปบอกคนตรงหน้าแบบนั้นก่อนจะผละตัวออกมาเผื่อเลี่ยงไปหยิบถังน้ำแข็งที่ถูกลำเลียงเข้ามาจากด้านหลังร้านเพื่อให้ไปเสริฟตามโต๊ะได้ไวๆ ต้องมีคนช่วย ไม่งั้นจะไม่ทัน ผละตัวเลี่ยงออกมา แต่ได้ยินเสียงเข้มๆ สบถตามหลังมาวะ



“ไอ้สัดเอ๊ย”



“หวงเมียว่ะ”



“ห่างน้องมันหน่อยจะตายหรอวะเพื่อนดานี่”



“ก็นั่นมันเมียกู”



อดที่จะอมยิ้มออกมาไม่ได้ แต่ถึงแบบนั้นก็วิ่งไปหยิบถังน้ำแข็งมาแล้วตัดสินใจเป็นคนเดินเสริฟตามโต๊ะด้วยตัวเอง ... ช่วยๆ กันจะได้ไวๆ



.

.

.



ผมที่เดินกลับมาที่โต๊ะตอนที่ได้จังหวะไม่วุ่นวายมากแล้ว แต่พอมาถึงโต๊ะก็ไม่เจอเจ้าของร้านปากแดกที่ก่อนหน้านี้ยังนั่งกระดกแก้วเหล้าจ้องมองกันทุกฝีก้าวอยู่เลยนี่หว่า



“พี่เมฆ พี่จั๊ม เจ๊ล่ะครับ”



“นู่นจ้า งอนมึงเดินตูดบินขึ้นชั้น3ไปแล้ว” พี่จั๊มที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วหัวเราะเอิ๊กอ๊าก นี่ก็ท่าทางจะไม่เมา แต่อาจจะแค่ไม่เหมือนเดิม หัวกลมๆ ของพี่แกที่เอียงไปซบอยู่ที่อกของพี่เมฆที่ก็โอบอีกฝ่ายเอาไว้นิ่งๆ



“งอน? งอนอะไรผมวะ”



“โถ่ อิหนูเอมอิโง่ ก็มึงไม่สนใจพี่ดาบแกเลยนี่หว่า จริงๆ วันนี้เห็นพี่แกบอกอยากปิดร้านฉลองกับมึงแค่สองคนด้วยไม่ใช่ไง”



“ก็ใช่นะ...แต่วันปีใหม่แบบนี้ต้องเปิดร้านสิวะถึงจะได้เงิน” บอกไอ้หยีออกไปแบบนั้น อีกคนที่ก็ทำแค่กรอกตาใส่กันแบบเอือมระอาใจ



“มึงจะสนเงินทำไม ไอ้สัดดาบเงินมันเยอะจะตาย” พี่เมฆพูดออกมาอีกคน แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นก็เถอะ... พี่ดาบเป็นคนดูแลผมทุกเรื่อง รวมถึงเรื่องเงินทองก็เป็นของพี่มัน แล้วแบบนั้นวันนึงมันจะไม่หมดไปได้ไงล่ะวะ



“มึงไม่ต้องมาทำหน้างง ไปง้อผัวมึงนู่นไปๆ” ไอ้เก้อที่นั่งเงียบๆ อยู่นานเงยหน้าขึ้นมาจากมือถือแล้วว่าออกมาแบบนั้น



“ง้อ... แล้วก็จะง้อยังไงล่ะวะ”



“ปัดโถ่เอ๊ย พี่เอมก็เอาตัวถวาย พี่แกก็ยิ้มละลายตายคาอกแล้ว” เสียงใสของคนมาใหม่ที่เดินเข้ามาทางโต๊ะเรา มันที่ยังคงแต่งตัวด้วยชุดหรูแบรนด์แพงแบบที่ชอบใส่ แต่วันนี้ดันใส่กางเกงหนังรัดๆ มา เป็นคนที่ขาสวยยิ่งสวยมากขึ้นไปอีกเพราะมันทั้งสูงและขายาว



“พูดเหี้ยอะไรของมึงเนี่ยไอ้เสือ” ด่ามันแบบนั้นพร้อมปาน้ำแข็งใส่



“ฮ่าๆ ผมพูดจริงนี่หว่า พี่ๆ ทุกคนสวัสดีคร๊าบบบ แดกกันไปถึงไหนแล้วเนี่ย ผมยังทันไหมหว่า” มันที่ว่าแบบนั้นแล้วแทรกตัวไปทรุดตัวลงนั่งข้างๆ ไอ้เก้อ



“แดกไม่ทันหรอก เพราะเหมือนมึงน่าจะเมามาก่อนถึงพวกกู มึงน่าจะแดกนำพวกกูไปไกลแล้วไอ้สัดเสือ” ไอ้เก้อที่ว่าแบบนั้น ผมเห็นมันก้มหน้าลงไปแถวๆ ซอกคอน้องมันเหมือนจะดมกลิ่นเหล้าล่ะมั้ง ไอ้เสือที่แค่เอียงหน้าแล้วยิ้มทะเล้นใส่ไอ้เก้อ เพราะแบบนั้นเลยโดนไอ้เก้อตบกระบานไปฉาดใหญ่



“เจ็บนะโว้ย พี่เก้อแม่ง”



“หุบปากไอ้สัด บอกแล้วว่าอย่าแดกเยอะถ้ากูไม่อยู่ด้วยไงไอ้เด็กเหี้ย”



“ลุงบ่นเก่งจัง”



“ลุงพ่อง”



“น้องเสือกลัวจัง อันนี้แก้วพี่มึงใช่ไหม แดกนะ” ไม่รอไอ้เก้ออ้าปากอธิบายก็เห็นมันยกแก้วไอ้เก้อกระดกต่อหน้าตาเฉย เป็นพี่น้องสายรหัสที่เหมือนฟ้าประทาน ประทานคนเหี้ยเหมือนกันให้มาเจอกันน่ะครับ



ผมที่ละสายตาออกจากพวกมันแล้วเดินหนีออกมาช้าๆ แบบไม่บอกใคร ก่อนจะตั้งหน้าเดินขึ้นไปที่ชั้นสามเพื่อหาใครบางคน



“อ้าวพี่เอม จะไปไหนอ่ะพี่” เป็นไอ้อิฐที่เดินออกมาจากห้องน้ำพอดี ผมมองมันตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าก่อนจะยิ้มออกมาหน่อยๆ



“อิฐ กูขออันนี้นะมึง” บอกแบบนั้นก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าเอามาแล้ววิ่งพรวดๆ ขึ้นไปที่ชั้นสาม เหลือบมองดูเวลาที่ข้อมือบอกเวลาว่า 23:55น. เหลืออีกไม่กี่นาทีแล้ว



‘แอด’



ผมที่เปิดประตูเข้าไปที่ชั้น3 ชั้นที่เป็นห้องทำงานและห้องนอนของเจ๊พี่มัน ห้องทั้งห้องตกอยู่ด้วยความเงียบ ไม่เห็นเจ้าของห้องแต่อย่างใด แต่ถึงแบบนั้นผมก็เอื้อมมือไปกดล็อคประตูไว้เรียบร้อย เดินลึกเข้าไปเรื่อยๆ จนถึงด้านหลังที่มีระเบียงอยู่ด้านนอก มองเห็นพี่มันที่ยืนเท้าแขนพิงกับรั้วกันระเบียงมองออกไปด้านนอก มืออีกฝั่งนึงคีบบุหรีจุดสูบอยู่เงียบๆ คนเดียว สายลมอ่อนๆ ของดึกในคืนที่31ธันวาคม ไม่ได้ถึงกับหนาวแต่ก็มีลมให้ได้รู้สึกดี เส้นผมสีน้ำตาลเข้มที่อีกฝ่ายไปย้อมมาใหม่พริ้วไหวไปกับสายลมช้าๆ ผมที่เห็นแบบนั้นแล้วก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ ก่อนจะเดินออกไปหาแล้วสวมกอดอีกฝ่ายจากด้านหลังไว้แน่นๆ คนที่ถูกกอดสะดุ้งหน่อยๆ ก่อนจะเอียงหน้ามามองกันน้อยๆ



“มึงขึ้นมาทำไม”



“มาหา”



“เดี๋ยวกูก็ลงไป ปล่อยเถอะ” แหม คนมันขี้น้อยใจ ใจสาวก็แบบนี้



“ไม่ปล่อย อยากกอดเจ๊ข้ามปีไปเลย”



“ปากดีค่ะอิดอก ก่อนหน้านี้ยังวิ่งร่อนไปทั่วเลยค่ะ” ว่าออกมาแบบนั้น ปลายเสียงของอีกคนที่แม้จะแกล้งดัดให้เป็นเสียงสองแต่ก็ฟังออกถึงความหงุดหงิดเจืออยู่ในนั้น ผมที่อดที่จะยิ้มออกมาอีกครั้งไม่ได้



“ผมไม่อยากให้เจ๊ปิดร้าน เพราะเจ๊จะได้เงินเยอะๆ ผมอยู่กับเจ๊ก็มีแต่ผลาญเงิน ผมก็เลยไม่อยากให้วันที่รายได้ดีแบบนี้...”



“หุบปากค่ะเลิกพูดอะไรแบบนี้ก่อนที่กูจะจูบปิดปากมึง มึงไม่ได้ผลาญเงินกู แต่มึงเป็นแฟนกู เป็นเมียกู เป็นคนรักของกู ของของกู ไม่ถือว่าผลาญ แต่ถือว่าเป็นสิทธิ์ที่มึงใช้ได้ อย่าพูดแบบนี้อีก” ว่าออกมาแบบนั้นด้วยเสียงดุๆ ก่อนจะดันตัวผมออก



“จะจูบปิดปากหรอ”



“ถ้ามึงไม่หยุดพูดอีกกูทำแน่”



“งั้นก็ทำสิ” บอกออกไปแบบนั้น และก็เป็นอีกคนที่หันมามองหน้ากันพอดี ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นน้อยๆ ตอนที่เห็นหน้าผม หน้าตานิ่งๆ ของอีกคนมองตรงมาแบบนั้น ก่อนจะค่อยๆ ยกยิ้มมุมปากออกมาและเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มกว้างๆ ในที่สุด อิเจ๊พี่มันที่เอื้อมมือมาจับบนหัวของผมน้อยๆ



“นี่อะไรวะ”



“ควายน้อยไง ควายน้อยของเจ๊พี่มึงไง ...นะ กอดเอมหน่อยนะๆ” ว่าแบบนั้นแล้วยิ้มอ้อนอีกฝ่ายไม่เลิก ก็ถ้าวันนี้พี่มันจะต้องงอนกัน มันก็คงจะไม่ดีไม่ใช่หรอ ... อย่างน้อยในวันปีใหม่ ก็อยากจะให้เราข้ามผ่านไปปีต่อไปด้วยกันแบบมีความสุขมากที่สุด



“เอมน่ะ...เป็นควายน้อยของเจ๊ดานี่น้า”



“ไม่ใช่ ... เป็นของพี่ดาบต่างหากล่ะวะ”



“ก็ อะ อื้มม” คำพูดที่ยังไม่ทันจะได้พูดออกไปแต่ก็ถูกริมฝีปากของอีกฝ่ายที่บดเบียดรุกล้ำเข้ามาซะก่อน วงแขนแข็งแกร่งที่เอื้อมมือมาดึงเอวผมเข้าไปแนบชิดกับตัวของอีกฝ่ายพร้อมๆ กับลิ้นร้อนที่สอดแทรกเข้ามาดูดดุนปลายลิ้นกันแบบหนักๆ ไม่เลิก ... รู้สึกวาบหวามแล้วลมหายใจกระตุกทุกครั้งที่นิ้วแกร่งลูบไล้ไปตามแผ่นหลัง สอดลึกเข้าไปที่กลางหลังแล้วลูบไล้ไปตามสันหลังกันอย่างเบามือ ได้ยินแว่วๆ ดังมาจากทางด้านล่างและคงจะมาจากในร้านด้วยล่ะมั้ง เสียงดังๆ ที่ตะโกนมาว่า



‘5’

‘4’

‘3’

‘2’

‘1’



“สวัสดีปีใหม่!!! Happy New Year!!!!”



‘ปุ้งๆๆๆ’



และตามมาด้วยเสียงพลุที่ถูกจุดขึ้นบนท้องฟ้า แสงสีเหลืองสีแดงจากแสงของพลุและดอกไม้ไฟที่ก็สาดแสงตกกระทบทำมุมกับใบหน้าของเราทั้งสองคนแต่ลิ้นร้อนของกันและกันยังคงบดเบียดเข้าหากันอย่างเร่าร้อน



“สวัสดีปีใหม่น้องเอม”



“อื้ม ... Happy New Yearนะครับเจ๊ดานี่”



“เรียกพี่ดาบสิครับ” เราที่ผละหน้าออกจากกันเล็กน้อย แต่ริมฝีปากของคนตรงหน้าของผมก็ยังไม่ยอมถอยห่าง พี่มันที่ก็คลอเคลียร์ริมฝีปากนิ่มนั่นอยู่ที่ริมฝีปากล่างของผมและเลื่อนไปหอมแก้มกันเบาๆ อยู่แบบนั้น



“ก็เจ๊...”



“ตอนนี้อยากได้ยินเรียกพี่ดาบแล้วมากกว่า” ว่าออกมาแบบนั้นแล้วยกยิ้มมุมปากร้ายๆ สายตาคมที่มองกันแฝงแววตาร้อนแรงที่ทำให้ผมต้องหลบสายตานั่น



“นะ...” คำเดียวสั้นๆ ที่พอช้อนตามองแล้วรู้สึกเหมือนอยากจะวูบ ไอ้ปากแดงๆ กับกลิตเตอร์บนเปลือกตาวิววับนั่น มันสามารถทำให้คนกลายเป็นผู้ชายร้อนแรงได้ด้วยหรอวะ

“พี่ดาบ...อื้มม”



.

.

.



ฝ่ามือแกร่งที่จับขาเรียวอ้าออกกว้างและสอดแกนกายใส่เข้าไปจนสุดในทีเดียว นิ้วเรียวยาวที่วางลงบนบ่ากว้างก่อนจะเผลอจิกเล็บลงไปเมื่อร่างหนาสอดกายใส่เข้าไปจนสุดทีเดียวและเริ่มกระแทกต่อทันที คนร่างบางที่ได้แต่อ้าขาออกกว้างก่อนจะร้องออกมาสั่นเมื่ออีกฝ่ายกระแทกกระทั้นเข้ามาไม่ยั้ง



“อ๊า! อ๊ะ!!”



“อืมม แม่ง ซี๊ดดด”



เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังตับๆ ลงมาไม่หยุดพร้อมกับเสียงครางของคนที่นอนบิดเร้าอยู่บนเตียงใต้ร่างแกร่ง ดาบที่รั้งกายของคนใต้ร่างให้เข้ามาแนบตัวก่อนขยับเอวกระแทกรัวแรง ชะเอมที่ได้แต่นอนบิดเร้าหอบหายใจไปมาก่อนจะกระตุกกายแรงๆ และปลดปล่อยน้ำรักออกมาโดยไม่ทันได้แตะต้องส่วนแข็งขืนด้วยซ้ำ สายตาสวยที่ช้อนตามองอีกคนที่ยังไม่ได้ปลดปล่อย



“อือ..พี่ดาบ”



“เอม พี่ยังไม่เสร็จ พี่ต่อนะ”



“อ๊ะ พี่ดาบ เอม... อ๊า!! อึกๆ อ๊ะ..”



“อ๊า! ซี๊ดด”



ร่างสูงที่จับตัวอีกคนให้นอนคว่ำราบไปกับพื้นเตียงก่อนจะสอดกายเข้าไปใหม่ ขยับเข้าออกให้แรงขึ้น คนใต้ร่างที่นอนร้องเสียงหลงด้วยความเสียวซ่านอย่างถึงที่สุด ร่างสูงที่ควงเองหมุนสะโพกโยกกายใส่อีกคนแรงๆ จนเตียงสั่น เสียงเนื้อกระทบเนื้อกระแทกไม่หยุดแม้อีกคนจะร้องเสียงสั่นแค่ไหนก็ตาม



“อ๊า!! พ..พี่ดา...บ “



“ซี๊ดด..เสียวชิบหาย อ่าาา”



“อีก...แรงอีก...อ๊า...อ๊า!!”



คนร่างบางที่สะโพกโยกขยับตามแรงกระแทกไปมาตัวกระตุกอีกครั้งก่อนจะปลดปล่อยน้ำขาวขุ่นออกมาเลอะเตียง ร่างสูงที่เห็นแบบนั้นก็เร่งจังหวะกระแทกรัวแรงพร้อมกดกายเข้าไปจนสุดก่อนจะดึงแกนกายออกมาและกระแทกซ้ำลงไปใหม่แบบเน้นๆ ก่อนจะปลดปล่อยน้ำรักทั้งหมดออกมา เสียงหอบหายใจสั่นสะท้านของคนทั้งคู่ที่ดังไปทั่วห้องพัก ก่อนที่คนบนตัวจะล้มตัวลงนอนซ้อนหลัง รั้งเอวบางกอดแน่นก่อนจะกดจูบลงที่ต้นคอด้านหลังของคนชะเอมเบาๆ



“สวัสดีปีใหม่นะครับน้องเอม”



“สวัสดีปีใหม่ครับเจ๊ดานี่”



“อยู่บนเตียงด้วยกันแบบนี้ มึงจะมาดานี่อะไรอีก หื้ม”



“คิ สวัสดีปีใหม่ครับพี่ดาบ”



“ครับผม ขอให้ปีใหม่นี้มึงมีความสุขไปพร้อมๆ กับกูนะควายน้อย อยู่กับกูและมีแค่กูคนเดียวแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เลย”



“ผมก็มีแค่พี่นี่นา พี่มึงนั่นแหละ..อย่ามองผู้ชายคนอื่นนะ ไม่งั้นเอาเขาขวิดจริงๆ ด้วย”



“ฮ่าๆ มึงนี่นะควายน้อย ... ไม่มองหรอกน่า กูจะมองใครได้วะ มีแค่มึงคนเดียวก็พอแล้ว”



คนข้างตัวที่ว่าออกมาแบบนั้นพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะสวมกอดอีกคนแน่นขึ้น ขยับตัวกดจูบลงไหล่บางและแผ่นหลัง



“ผม...ผมรักพี่นะ เอม...เอมรักพี่ดาบ” ว่าออกมาแบบนั้นก่อนจะขยับตัวหันหน้าเข้าหาอีกคน กดจูบลงบนอกแกร่งและช้อนตามองอีกคนนิดๆ ดาบที่ได้ยกยิ้มมุมปากก่อนจะเลื่อนหน้าเข้าไปกดจูบที่ปากอิ่มลงไปย้ำๆ ก่อนที่จะใช้มือหนาปัดผมอีกคนขึ้นไปและกดจูบลงบนหน้าผากมนเบาๆ



“กูเองก็รักมึงเหมือนกันค่ะน้องเอม”



“และก็นะ...”



“หื้ม?”



“นี่ปี2020แล้ว ผัวจะออกสาวมากแค่ไหนแต่ยังไงก็คือผัว จำค่ะ!”





-Happy New Year-

สวัสดีปีใหม่ค่ะคนอ่านทุกท่าน หลังจากที่สัญญากันไว้แล้วว่าถ้าคอมเม้นท์ไหลเป็นน้ำป่าแคทจะมาอัพตอนใหม่ให้

เพราะฉะนั้น วันนี้เข้าวันที่1 เดือนมกราคม 2020 เข้ามา1ชม.แล้วพอดี เลยขอเสริฟตอนพิเศษให้ทุกคนนะคะ

ขอบคุณหนึ่งปีที่ผ่านมา ที่ทุกคนอยู่กับแคทและร่วมเดินทางมาด้วยกันจนถึงตอนนี้

แคทหวังว่าคนอ่านของแคทจะมีความสุข และได้รับเสียงหัวเราะจากหนังสือของแคทไม่มากก็น้อย

แล้วมาเดินต่อไปด้วยกันอีกปีนะคะ

มีความสุขมากๆ นะคะ

-ด้วยรัก-

แคท

 :pig4: :mc4: :mew1:

หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนพิเศษ {01/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 01-01-2020 02:24:12
เจ๊ดานี่คนสวยและรวยมากคะ
น้องให้เปิดร้านก็ดีแล้วนา  วันแบบนี้รับทรัพย์เต็มๆ
แฟนที่ขยันแถมยังช่วยหาช่วยเก็บเนี่ยไม่ได้หากันง่ายๆนะคะ
จะมางงมางอนน้องมันอีก

แล้วไหนใครบอกว่าง้อไม่เป็น ไม่รู้จะง้อยังไง ไหนๆๆ
ง้อพี่เขาแบบนี้มั่นใจนะว่าจะไม่เหนื่อยข้ามปีอ่ะเอมเอม >///<

สวัสดีปีใหม่นะคะคุณคนเขียน
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนพิเศษ {01/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 01-01-2020 03:17:51
สวัสดีปีใหม่จ้า  :L2:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนพิเศษ {01/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 01-01-2020 07:54:20
อยู่ข้างนอกให้เรียกเจ๊ดานี่ แต่อยู่บนเตียงต้องเรียกเฮียดาบนะคะน้องชะเอม. เอาใจแกหน่อย แกรวย แกเป็นไบโพล่า แต่แกก็รักหนูน้า  :hao3:

สวัสดีปีใหม่ค่ะ.  :3123:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนพิเศษ {01/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 01-01-2020 10:46:37
 :pig4: :pig4:  :L2: :L2: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนพิเศษ {01/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 01-01-2020 15:51:11
2020แล้วจ้า   :hao6:   :mew1: HNY
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนพิเศษ {01/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 01-01-2020 15:56:52
HNY ครับ,,,
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนพิเศษ {01/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 01-01-2020 20:00:27
สวัสดีปีใหม่ 2020
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนพิเศษ {01/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 02-01-2020 10:27:20
สวัสดีปีใหม่ค่ะ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนพิเศษ {01/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: KizzllKizz ที่ 02-01-2020 13:40:01
สวัสดีปีใหม่นะคะ ล่าช้ามานิดนึงแต่อ่านทันแล้วเย่ รอพี่ดาบกับควายน้อยของเค้านะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนพิเศษ {01/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 03-01-2020 20:06:37
 o13

 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่13 {04/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 04-01-2020 22:47:22


บทที่13




“เชิญครับคุณหนูเอม”



“คุณหนูเหี้ยไรล่ะ แล้วนี่มึงจะยิ้มหน้าบานอะไรขนาดนั้นวะ” ผมที่บ่นออกไปอีกครั้งซึ่งเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้กับประโยคนี้ แต่ไอ้เก้อก็ยังคงเป็นไอ้เก้อผู้ดื้อด้านและเอาแต่ใจเสมอ มันผู้ที่ยิ้มปากกว้างมาตั้งแต่ที่มหาลัยจนถึงตอนนี้ที่เรากำลังเดินเข้าห้องมันมาด้วยกัน ... ก็ยังคงฉีกยิ้มหน้าเหี้ยอยู่เหมือนเดิม



“ก็กูดีใจที่มึงมาอยู่กับกู”



“แค่ขอค้างวันนึง กูไม่ได้จะมาอยู่กับมึงไอ้สัด” บอกออกไปแบบนั้นแต่ไอ้เก้อไม่ได้รับฟัง มันที่เดินผิวปากเข้าไปในครัว แล้วเปิดตู้เย็นส่งเสียงโครมครามมาจากตรงนั้น คือแผ่นดินไหวหรอครับ ในครัวมีใครตายไหมอยากจะถามแบบนี้



“เอมมึงหิวไหม”



“หิวสิไอ้สัด”



บอกออกไปแบบนั้นตอนที่ได้ยินเสียงท้องร้องประท้วงโครมครามออกมาในตอนนี้ เหลือบมองนาฬิกาบนผนังห้องไอ้เก้อที่บอกเวลาว่าหกโมงครึ่งแล้ว ปกติเวลานี้ของทุกวัน ถ้าผมเดินเข้าไปในห้องของเจ๊พี่มันก็ต้องมีอะไรเตรียมรอผมเอาไว้ให้ได้กินแล้ว เป็นแบบนี้ประจำในทุกๆ วันจนตอนนี้ก็เหมือนเริ่มจะชิน ... คิดๆ ดูแล้วตอนนี้ก็อยากรู้ว่าเจ๊มันจะทำอะไรอยู่วะ อาจจะกำลังแต่งหน้าจัดๆ เพื่อเตรียมตัวไปร้านล่ะมั้ง



“ไม่มีอะไรกินเลยว่ะมึง แดกไรดี”



“ไม่รู้ว่ะมึง แล้วแต่”



“แล้วแต่คือเมนูเหี้ยอะไร แดกตีนไหม กูล่ะโคตรจะเบื่อเมนูแล้วแต่”



“มึงอยากแดกไรกูก็แดกได้หมดแหล่ะ” บอกมันออกไปแบบนั้นแล้วโบกมือเป็นเชิงบอกว่าตามใจมึงละกัน ไอ้เก้อที่ถอนหายใจออกมาหน่อยๆ ก่อนจะเดินไปกดโทรศัพท์ของมัน ได้ยินเหมือนมันโทรสั่งพิซซ่า ... จริงๆ ก็อดคิดถึงข้าวที่เป็นเม็ดๆ แบบที่เจ๊มันชอบทำให้กินในทุกๆ วันไม่ได้



“มึงกูสั่งพิซซ่า สั่งไก่วิ้งค์แซ่บมาให้มึงด้วย” ไอ้เก้อที่เดินกลับมาบอกแบบนั้น ก็แค่พยักหน้าส่งไปให้มันหน่อยๆ ...กำลังชั่งใจว่าจะส่งข้อความไปบอกเจ๊มันตอนนี้ดีไหมว่าวันนี้ไม่กลับเพราะมาทำงานกับเพื่อน ....



“รออีกสักสองสามชั่วโมงละกัน”



“มึงบ่นไรนะไอ้เอม”



“เปล่าๆ กูแค่พูดคนเดียว” บ้านตั้งใหญ่ ไอ้สัดนี่ก็หูผีเหลือเกิน



“มึงอยากอาบน้ำก่อนไหมหรือยังไง”



“อีกสักพักก็ได้ เออมึง กูขอยืมโน๊ตบุ๊คหน่อยได้เปล่า”



“ได้ดิ มึงเดินเข้าไปหยิบได้เลย ในห้องนั่นน่ะ”



ไอ้เก้อที่ตะโกนบอกออกมาอีกครั้งจากทางห้องครัว ก็ไม่รู้ว่าแม่งวุ่นวายอะไรอยู่ในครัวนัก แต่ผมก็ลุกออกไปหาคอมเอาเอง เปิดประตูเข้าไปในห้องที่เหมือนจะเป็นห้องทำงานของมันแบบไม่ได้เปิดไฟ แต่จริงๆ ผมรู้ว่าไอ้เก้อไม่ค่อยได้ทำงานหรอกครับ ปกติมันลอกเพื่อนก่อนส่งที่มหาลัยตลอด



‘พรืด ตุบ’



“โอ๊ยย ไอ้สัด เจ็บโว้ย!” ร้องออกมาแบบนั้นตอนที่เหยียบเข้ากับอะไรสักอยากแล้วลื่นหงายท้องลงไปนั่งกับพื้นทั้งแบบนั้น



“ไอ้เอมมึงเป็นไรวะ” ได้ยินเสียงตึงตังที่ดังตามมา คิดว่าไอ้เก้อคงวิ่งมา แล้วเวลาต่อมาห้องทั้งห้องก็สว่างขึ้น เป็นไอ้เก้อที่เปิดไฟแล้วเดินมาพยุงตัวผมลุกขึ้น



“ทำไมมึงลื่นล้มได้วะ” มันถามออกมาแบบนั้น แล้วก็เป็นผมที่ใช้ขาเตะของที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าไปให้มันดู



“เพราะอันนี้ว่ะเพื่อน” บอกมันออกไปแบบนั้นพร้อมๆ กับที่ไอ้เก้อก้มลงมองแล้วเบิกตากว้างขึ้น จีสตริงลูกไม้สีแดงผ้าลื่นๆ ปรากฏอยู่ในสายตาของเราทั้งคู่



“เอ่อๆ ...คือว่า” อึกๆ อักๆ เลิกลั่กกันใหญ่ ผมที่แค่ขำออกมาหน่อยๆ ก่อนจะมองไปรอบๆ ห้องที่สภาพดูเหมือนจะเละเทะนิดหน่อย แต่ไม่ได้เป็นเพราะผ่านการใช้งานในด้านการทำงาน แต่เหมือนจะเป็นสงครามรักที่เร่าร้อนว่ะ



“ฝากมึงหาโน๊ตบุ๊คให้กูด้วยละกันนะเพื่อน เดี๋ยวกูออกไปรอข้างนอก” บอกมันแบบนั้นแล้วยิ้มให้ แอบตบหลังมันไปด้วย ปุปุ สองที ... เข้าใจครับ ก่อนหน้านี้มันอยู่กับผู้หญิงคนนึงชื่ออะไรเวียร์ๆ ลาๆ หรืออะไรนี่ล่ะ ก็อาจจะมีนอกสถานที่ห้องนอนกันบ้างอ่ะเนอะ



“กูคิดว่าป้าแม่บ้านมาทำความสะอาดแล้ว” ไอ้เก้อที่รีบเดินตามออกมา ในอ้อมแขนของมันหิวโน๊ตบุ๊คมาให้ผมด้วย สีหน้าของมันที่พูดได้ว่าทำหน้าไม่ถูก มีเหงื่อซึมอยู่ตามไรผมด้วยประปราย เห็นแล้วอดขำออกมาไม่ได้ นี่ไอ้เก้อคนโหดหรอครับ เสือกอายเรื่องแบบนี้



“มึงอย่าคิดมากน่าเพื่อน กูเข้าใจ แซ่บๆ เลยอ่ะโน๊ะ” ล้อมันออกไปนิดหน่อยพร้อมขยิบตาให้ มันที่ถอนหายใจออกมาทำท่าเซ็งๆ แล้วสบถตบท้าย



“ไอ้สัด” เอ้า ... คือกูผิดอะไรก่อน



มันที่ไม่พูดว่าอะไรต่อ แต่ทำแค่ลุกออกไปแล้วรีบวิ่งขึ้นไปที่ชั้นสองวิ่งผลุบเข้าผลุบออกห้องนั้นห้องนี้ คิดว่ามันคงไปดูคความเรียบร้อย กันผมโผล่เข้าไปแล้วเจอเข้ากับเศษซากอารยะทำรักของมันอีกแน่ๆ



ผมที่ไม่ได้สนใจความเป็นไปของไอ้เก้ออีก ทำแค่เปิดโน๊ตบุ๊คของมันเอาไว้ แต่สายตาก็จ้องมองตรงไปแต่ที่มือถือ ... จะบอกเจ๊มันตอนนี้เลยดีไหมวะ ... จริงๆ ก็แค่ลางาน เจ๊มันคงไม่ว่าหรอกมั้ง ...



‘ตื่อดึ้ง’



“เหยดแม่ ตกใจ!” สะดุ้งพร้อมสบถออกมาแบบนั้นตอนที่ได้ยินเสียงแจ้งเตือนข้อความเข้า คือกูกำลังครุ่นคิดไง ใครมันทักมา



เปิดหน้าจอเข้าไป ก็ตาเบิกกว้าง



เจ็บไข่แล้ว!



เจ็บไข่แม่มึงช่วยด้วย!!



[DANI: เย็นย่ำก็ฮัมเพลงแล้ว มึงอยู่ไหนค่ะอิหนู]



เชี่ยๆๆๆ เจ๊ทักมา ทักมาก่อนกูทักไป ก็แค่กลับผิดเวลานิดหน่อยทำไมต้องมาถามกันด้วยวะ



กูผู้ซึ่งนั่งจ้องมือถืออยู่ดีๆ ก็โยนมันทิ้งไปเลยทั้งแบบนั้น ทำตาหลุกหลิกแล้วมองซ้ายมองขวา โยนมือถือเครื่องเก่าทิ้งเฉยเหมือนโดนของร้อน นั่งมองมันจากที่ไกลๆ ตรงนี้เหมือนกลัวว่ามือถือจะมีหน้าอิเจ๊โผล่ออกมาแหกปากด่ากันอีก



‘ตื่อดึ้ง’



[DANI: ไม่ตอบ มันเป็นอะไรมันถึงไม่ตอบ]



‘ตื่อดึ้ง’



[DANI: ไม่อ่านนี่คือตายหรอคะ]



‘ตื่อดึ้ง’



[DANI: อิน้องเอม ตอบกลับกูมาไวๆ จะสองทุ่มแล้ว มึงอยู่ไหน]



เสียง ‘ตื่อดึ้งๆๆๆ’ ที่ดังถี่ๆ ติดกันมาเรื่อยๆ แบบนั้นก็ยิ่งทำหัวใจผมสั่นจนตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม จริงๆ ก็ไม่รู้ว่าจะกลัวจะตกใจทำไมกับอิแค่ตัวเองยังไม่ตอบกลับเจ๊มัน



‘ตื่อดึ้ง’



[DANI: กูเริ่มหงุดหงิดแล้วนะเอม รีบตอบกลับกูมา]



‘ตื่อดึ้ง’



[DANI: กูเป็นห่วง]

.

.

.


‘ตื่อดื้อ All Cafeยินดีต้อนรับค่ะ’



เดินเข้าไปในร้านแอร์เย็นๆ ก็ปะทะเข้าหน้า ดีหน่อยที่วันนี้ไม่มีหมามานอนอยู่หน้าร้าน ตั้งใจว่าจะมาซื้อเบียร์ไปกินกับไอ้เอม ก่อนหน้านี้ที่จะลงมาเห็นมันนั่งทำหน้าตาแปลกๆ จ้องโทรศัพท์อยู่แบบนั้น บางทีก็เหมือนผวา บางทีก็ดูหน้าแดงๆ



มันเป็นอะไรวะ



หยิบตระกร้ามาถือไว้แล้วเดินหยิบขนมกินเล่นไปหลายถุงหน่อย ไอ้เอมมันชอบกิน



“มึง” เสียงเรียกที่ทำให้ผมที่กำลังก้มๆ เงยๆ เลือกขนมอยู่ที่ชั้นขนมต้องหันไปมอง คนที่ยืนนิ่งอยู่ข้างหลังค่อนข้างแปลกตาจากที่เคยเห็นมันบ่อยๆ ด้วยชุดเสื้อผ้าแบรนด์ดังที่มันชอบใส่ ไปไหนมาไหนก็ต้องฉีดน้ำหอมเหมือนแดกเข้าไปจนหอมถึงลำไส้ แต่ตอนนี้มันกลับอยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวตัวใหญ่ๆ ย้วยหน่อยๆ และกางเกงเจเจสีส้มลายหัวแมว ผมที่เห็นแบบนั้นแล้วก็แค่หันหน้าเดินหนี ได้ยินเสียงจิ๊ปากขัดใจมาจากคนที่อยู่ด้านหลังนิดหน่อย ก่อนที่เสียงวิ่งจะตามมา เป็นมันที่วิ่งมาดักอยู่ข้างหน้าของกันตอนนี้



“มึง”



“กูไม่คุยกับเด็กที่ไม่มีมารยาท” จ้องตามันนิ่งๆ แล้วบอกออกไปแบบนั้นตั้งท่าจะเดินหนี เหม็นหน้าไอ้สัด



“พี่เก้อ” มันที่ว่าแบบนั้นด้วยเสียงที่ไม่ได้น่ารักอะไรเลย แต่พูดออกมาแบบเสียไม่ได้มากกว่า ผมที่ยกยิ้มมุมปากจ้องหน้ามันนิดๆ ตอนที่เห็นมันทำหน้าหงุดหงิดอยู่ตอนนี้



“ว่า”



“พี่เอาขนมที่ผมฝากไปให้พี่รหัสแล้วยัง” อ้อ...ก่อนหน้านี้มันเจอผมที่มหาลัย และปกติมันก็เป็นคนที่ไม่เอาใครในคณะใช้ชีวิตตามสบายจนไม่มีใครจะคบทั้งรุ่นพี่รุ่นน้อง สุดท้ายมันเลยเลือกจะเดินเข้ามาฝากของผมให้พี่รหัสตัวเองเพราะโดนพวกเฮดวาร์กขู่มาว่าถ้าไม่เทคพี่รหัสตัวเองจะโดนเล่นงาน วันนั้นเลยโดนกูสั่งวิ่งรอบสนามเพื่อตอบแทนที่ผมจะเอาของไปให้พี่รหัส ... สะใจฉิบหายเพราะพี่รหัสมันคือกูเอง



“อือ”



“แล้วพี่เค้าชอบไหมวะ”



“ก็ไม่เท่าไหร่”



“ไรวะ ซื้อมาตั้งแพง ไหนพี่ในคณะบอกพี่รหัสผมคนนี้แม่งเป็นผู้ชายไง ทำไมแม่งเรื่องมากจัง” ไอ้เสือที่ขมวดคิ้วแล้วบ่นออกมาแบบนั้น กูนี่คิ้วกระตุกเลย



“ปากมึงนี่ดีจังนะ ถ้าพี่รหัสมึงมาได้ยินระวังจะถูกตัดสาย” บอกมันแบบนั้นพร้อมผลักมันหนีออกไปยืนข้างๆ มันสูงกว่าผมนิดหน่อยแต่ตัวเสือกบางกว่าเยอะ ผลักนิดนึงก็กระเด็น แต่ก็ดีเกะกะเวลากูเลือกซื้อของขึ้นไปให้ไอ้เอม



“ยังกับว่ากูอยากได้สายรหัสตายล่ะ ไม่เห็นจำเป็นต้องมีพี่ห่าไรนั่นเลยสักหน่อย” มันที่ว่าออกมาแบบนั้น ทำเอาผมต้องหยุดเดินหันกลับไปมองหน้ามัน ไอ้เสือที่เลิกคิ้วมองหน้ากันอยู่ตรงนั้น ท่าทางที่มองมาแบบไม่เข้าใจว่าผมเป็นอะไรถึงได้มองหน้ามันแบบนั้น



“ทำไม? ”



“กูจะบอกอะไรให้นะไอ้สัดเสือ ถ้ามึงไม่อยากมีพี่รหัสมึงก็แค่บอกสายมึงไป ไม่ใช่แค่มึงที่ไม่อยากมีสายรหัสหรอก กูว่าพี่มึงก็คงจะไม่อยากได้น้องรหัสแบบมึงเหมือนกัน เด็กเหี้ยที่ไม่รู้จักกาลเทศะแบบมึงน่ะ”



“เอ้าไอ้สัด กับอิแค่พี่น้องปลอมๆ ในมหาลัยจะจริงจังเหี้ยไรนักล่ะ” มันที่ว่าออกมาแบบนั้นแบบไม่มีคำว่าพี่ว่าน้องแล้วก็เหลือแค่มึงกับกูที่พูดออกมา แต่พอฟังคำพูดของมันก็ยิ่งทำเอาผมอยากชกหน้ามันสักที ไอ้เด็กนี่แม่งโตมายังไงวะ โคตรจะไร้มารยาท ผมที่ขมวดคิ้วจ้องหน้ามันนิ่งๆ อยู่แบบนั้นก่อนจะว่าออกไปด้วยเสียงนิ่งๆ ธรรมดา



“เด็กที่แม่งไม่รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่ไม่รู้จักคำว่าพี่ว่าน้องแบบมึง ใครมันจะอยากได้มาให้เสียสายวะ ไอ้คำว่าพี่น้องปลอมๆ ในมหาลัยน่ะ ถ้ามึงไม่รู้อะไรก็อย่าพูดออกมาเลยจะดีกว่า คนที่ไม่มีใครคบจริงใจแบบมึงจะไปเข้าใจเหี้ยอะไรวะ แล้วถ้ายังไม่เข้าใจระบบของมหาลัยนี้ กูขอแนะนำว่ามึงอย่าเสียเวลามาเรียนที่นี่เลยจะดีกว่าว่ะ”



บอกมันออกไปแบบนั้นแล้วหันหลังเดินหนีไปคิดเงิน ผมรู้นะว่าไอ้เสือมันเป็นเด็กที่นิสัยไม่ต่างจากผม เป็นเหมือนคนชั่วๆ ที่มองกันออก แต่จริงๆ ก็ไม่คิดว่าแม่งจะเด็กมากขนาดนี้ ... เด็กที่ไม่รู้เรื่องเหี้ยอะไรสักอย่างแม้กระทั่งมารยาทที่ควรจะมี



“เห้ย มึงจะด่ากูแล้วจะเดินหนีไปแบบนี้ไม่ได้นะเว้ย!” เสียงวิ่งที่ตามมาจากด้านหลัง หันไปก็มองเห็นมันหอบถุงพะรุงพะรังตามมา เหอะ มันคงพักอยู่คอนโดแถวนี้เหมือนกัน แล้วดูท่าจากถุงเหล้าเบียร์ที่มันหอบอยู่คิดว่าห้องมันคงมีปาร์ตี้ แบบมันก็มีได้แต่เพื่อนที่หวังหลอกเอาเงินจากมันได้แค่นั้นแหล่ะ ... เห็นแบบนั้นเลยเลือกเดินหนีจากมันมาแบบไม่ใส่ใจ



‘พลัก’



“กูบอกว่าอย่าเดินหนีกูไงไอ้เก้อ!”



หัวของผมที่ถูกบางอย่างเขวี้ยงใส่ ผมที่หยุดเดินในตอนนั้นแล้วก้มลงมองพื้น ซองบุหรี่ที่เมื่อกี้เขวี้ยงใส่หัวผมตกอยู่ที่เท้าของกันในตอนนี้ เห็นแบบนั้นแล้วค่อยๆ ก้มตัวลงไปเก็บแล้วหันไปมองหน้ามันนิ่งๆ ใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้มหน่อยๆ ตอนที่ก้าวเข้าไปหามัน และอีกฝ่ายเองก็ไม่ได้เดินหนีไปไหน มันที่จ้องตาของผมเขม็งไม่ต่างกัน



“กูไม่ใช่คนที่ไม่มีเพื่อนนะ! มึงถอนคำพูดเดี๋ยวนี้เพื่อนกูเยอะแยะ”



“หึ มึงมันก็แค่เด็กที่ไม่เอาไหนไม่มีใครคบมึงแบบจริงใจไอ้สัดเสือ!”



‘พลัก’



“มึงอย่ามาว่ากูนะ!” มันที่ยกหมัดขึ้นมาต่อยหน้าผมเต็มๆ แรงจนหน้าหัน หมัดของมันก็ยังหนักไม่ต่างจากครั้งแรกที่เคยโดนต่อย มองเห็นมันที่กำหมัดแน่นแล้วยืนตัวสั่นมองหน้ากันแบบโมโหสุดๆ



“มึงจะได้ต่อยกูครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายไอ้เสือ” จ้องหน้ามันด้วยสายตาวาวโรจน์ รอบๆ บริเวณแถวลานจอดรถคอนโดที่เงียบมากกว่าทุกวัน ผมที่เช็ดเลือดที่มุมปากของตัวเองแล้วสาวเท้าเข้าไปใกล้



‘ผลั้ว!’



...



นาฬิกาบนผนังห้องไอ้เก้อตอนนี้บอกเวลาสามทุ่มครึ่ง ไอ้เก้อที่บอกว่าจะลงไปซื้ออะไรนิดหน่อยเมื่อชั่วโมงก่อน ตอนนี้ก็ยังไม่กลับ ก็ไม่เข้าใจว่ามันไปตายที่ไหน พิซซ่าและไก่วิ้งซ์ที่มันสั่งมาตอนนี้หายร้อนเรียบร้อย และด้วยที่ผมเป็นเพื่อนที่แสนดี พอพิซซ่ามาก็ต้องทำตัวมีมารยาท คือการแดกไปก่อนแบบไม่รอมัน ... เพราะถ้าขืนรอมันกูคงหิวตาย ไม่รู้แม่งไปไหนของมัน แต่ถึงแบบนั้นสิ่งที่กังวลใจก็ยังมีอยู่อีกเรื่อง คือผมยังไม่ได้ตอบข้อความของเจ๊ดานี่มันเลยจนตอนนี้



‘ตื่อดึ้ง’



[DANI: เอม กูจะโมโหแล้วนะ]



“อิเหี้ย ตายยากฉิบหาย” สะดุ้งตกใจตอนที่เห็นข้อความเด้งขึ้นมาตรงหน้าอีกแล้ว ข้อความสุดท้ายเมื่อหลายชั่วโมงก่อนที่บอกคำนั้นออกมา ‘เป็นห่วง’ แค่คำสั้นๆ สองคำก็ทำผมไปไม่เป็น



“กูก็แค่ขอเวลาปลีกตัวออกมาทำใจให้สงบ เจ๊มึงเป็นห่าไรถึงไม่เข้าใจกันบ้างวะอิตุ๊ดปลอม!” ยกมือถือขึ้นมาแล้วตะโกนด่าออกไปแบบนั้น

“ไม่เคยจะให้เวลากูสักนิดสักหน่อยเลยอิเหี้ย ถ้ามีคนสำคัญอยู่แล้วก็อย่ามาแรดใส่กูมันจะตายหรอ ห่ามึงเอ๊ย!”



‘ตื้อดื่อดื้อๆๆ’



“อ๊ากกก เจ็บไข่เอมตกใจหมดเลย!”



ร้องบอกออกมาตอนที่มือถือร้องออกมาเป็นทำนองว่ามีคนโทรเข้ามาจากไลน์ กูที่พึ่งนั่งด่าอิเจ๊ดานี่อย่างเอาเป็นเอาตาย ตกใจร้องเสียงสองตามอิเจ๊เลย แต่ยิ่งพอมองเห็นรูปโปรไฟล์ของคนที่โทรเข้ามาก็ทำเอาผมใจสั่น



“เจ๊ดานี่” ได้แต่พึมพำออกมาแบบนั้นตอนที่เห็นว่าใครโทรมา ผมที่ไม่ได้กดรับแต่ก็ทำแค่ปล่อยให้สายมันตัดไปทั้งแบบนั้น และในเวลาต่อมาคนเดิมก็ยังโทรเข้ามารัวๆ ไม่เลิก ก่อนที่สายจะตัดไปและเปลี่ยนเป็นโทรกลับมาใหม่เข้าเบอร์มือถือของผม ... ตัดสินใจคว่ำมือถือลงข้างๆ โซฟาแล้วเอนหัวพิงผนักหลับตาแน่นๆ ไม่อยากสนใจ



“อย่าทำเหมือนห่วงกันได้ไหมวะถ้าที่จริงๆ เจ๊มึงก็ใจดีกับทุกคน” ผมที่นั่งหลับตาอยู่แบบนี้จนเวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมงเลยหยิบมือถือขึ้นมาดู สายเรียกเข้าที่เด้งบอกว่ามีอยู่30สาย และในไลน์อีก10ครั้ง



[DANI: นี่มึงอยู่ไหนวะ เป็นอะไรรึเปล่า ทำไมถึงติดต่อไม่ได้วะ!]



ข้อความสุดท้ายที่ถูกส่งมาเมื่อสามนาทีก่อนนี้เอง ผมหัวใจสั่นอย่างควบคุมไม่อยู่ ... อาจเป็นเพราะตั้งแต่เด็กจนโต หลังจากที่พ่อกับแม่เสียไป ผมก็ไม่เคยได้รับความห่วงใยจากใครแบบนี้เลยล่ะมั้ง ไม่รู้หรอกว่าเจ๊มันห่วงกันจริงๆ มากแค่ไหน แต่สิ่งที่สัมผัสได้จากข้อความและการที่มันพยายามโทรหากันแบบนี้ก็ทำให้ผมได้แต่เม้มปากเข้าหากันแน่นๆ ...



อย่าใจดีกับกูมากได้ไหมวะเจ๊



[Chaaim: เจ๊ผมไม่ได้เป็นอะไร ขอโทษทีที่ไม่ได้ตอบครับ]



‘ตื่อดึ้ง’



[DANI: แล้วมึงอยู่ไหนรับโทรศัพท์กูเดี๋ยวนี้!]



แค่ส่งตอบปุ๊บอีกฝ่ายก็ตอบกลับมาปั๊บเหมือนว่าเจ้าตัวกำลังถือมือถือรอให้มีคนตอบกลับไปยังไงอย่างงั้น และหลังจากที่พิมพ์ข้อความตอบมาแบบนั้น สายโทรเข้าก็ตามมาทันที แต่เป็นผมที่เลือกจะกดตัดสายไป



[DANI: เป็นเหี้ยอะไรทำไมไม่รับ มึงเป็นอะไรวะ!]



[Chaaim: เจ๊วันนี้ผมขอลางานวันนึงนะ]



[DANI: ลาเหี้ยอะไร ลาทำไม มึงอยู่ไหน!]



[Chaaim: พอดีมีรายงานด่วน วันนี้ผมต้องทำรายงานบ้านเพื่อนน่ะ ขอโทษที่ไม่ได้บอกล่วงหน้านะครับ]



[DANI: มึงอยู่ที่ไหน มึงจะนอนกับใคร!]



[DANI: ตอบกู!]



‘ตื้อดื่อดื้อๆๆ’



และเมื่อผมไม่ยอมตอบกลับไปสักที อีกฝ่ายก็กดโทรกลับมาหากันอีกแล้ว เห็นแบบนั้นแล้วได้แต่ถอนใจหนักๆ กลับไป ... ก็แค่ขอเวลาทำใจ เจ๊เป็นห่าอะไรนัก ไม่เอาแล้วโว้ย! กูไม่คุยกับมึงแล้วอิเจ๊ ยิ่งคุยก็ยิ่งใจสั่น แต่พอหลับตานึกถึงเรื่องพาพวยทีไร ผมก็อดกลัวใจมากขึ้นไปอีก ... เป็นแบบนี้มันดีแล้ว อยู่เป็นแค่ไอ้เอม อิน้องบ๋อยในร้านที่ครั้งนึงเคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันแบบไม่ตั้งใจแค่นั้นก็พอแล้ว



‘ตื่อดึ้ง’



[DANI: กูเจอมึงเมื่อไหร่มึงน่าดูแน่ไอ้เอม]



เหลือบสายตาไปเห็นประโยคสุดท้ายที่อีกฝ่ายส่งกลับมาแล้วกูขนลุกเกรียวกราว ทำไมรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ เหมือนจะเกิดปัญหากับตัวกูแปลกๆ นะ ... เห้ยบ้าน่า มึงอ่ะคิดมากน้าไอ้เอม



และแล้วจนห้าทุ่ม ... ไอ้สัดเก้อก็ยังไม่กลับมา มึงแอบไปยิ้มกับสาวที่ไหนแน่ๆ ดูออก ... เพราะแบบนั้นผมเลยเก็บข้าวของไปนอนในห้องนอนแขกที่อยู่ที่ชั้นล่าง ปิดประตูลงกลอนแล้วหลับไปทั้งความหวาดผวาจากประโยคที่ว่า



มึงน่าดูแน่ไอ้เอม



น่าดูเชี่ยไรวะ จริงๆ กูก็ว่าตัวเองน่าดูในระดับหนึ่งนะ ... เพราะกูหล่อและมีหนี้สินมาก ผ่าม!



...



“น้องจูนๆ มึงว่าวันนี้อิเจ๊พี่ดานี่เป็นอะไรวะ หน้าง้ำจ้องมือถือบ่อยฉิบหาย หน้าตาเหมือนอยากประเคนตีนให้ใครสักคน”



“เสือกอ่ะสัดอิฐ กูว่าเจ๊อาจจะอยากประเคนตีนให้มึงนะ”



“ปากมึงเนี่ยนะ เอามาให้กูขยี้ไหมจะได้หุบปาก”



“ขยี้เหี้ยไรล่ะ”



“ขยี้ด้วยตีนกูนี่แหล่ะจ๊ะ ชอบว่ากูดีนัก”



“พวกมึงสองตัวมากระซิบไรกันอยู่ตรงนี้วะ”



“โอ้โหหหห พี่เมฆ พี่มาสักที เพื่อนพี่เป็นไรไม่รู้ นั่งหน้าโหดอยู่ตรงนั้น ลูกน้งลูกน้องไปกล้าเข้าหาแล้วอ่ะ”



“เดี๋ยวกูดูเอง พวกมึงไปทำงานไป”



“ฝากด้วยนะพี่ อย่าให้คนมองว่าร้านเรามีเจ้าของเป็นบ้านะ”



“มึงว่าร้านนี้คนยังมองปกติอีกหรอวะ ไปๆ พวกมึงไปทำงานได้แล้วไป”



“ว่าไงครับเพื่อนดาบ มึงเป็นไรทำไมทำหน้าเครียดๆ จังครับเพื่อนครับ” เสียงของคนมาใหม่ที่ได้ยินมาสักพักแล้วยิ่งทำให้ไม่สบอารมณ์ มองหน้ามันนิ่งๆ แล้วหันหน้าหนีไปยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม ... รู้สึกหงุดหงิดจนถึงขั้นโมโหมากในตอนนี้



“มึงมาอีกแล้วหรอวะ มึงเห็นร้านกูเป็นสนามเด็กเล่นรึไงวะ มาบ่อยไอ้สัด”



“อ้าว ร้านมึงไม่ใช่ร้านเหล้าหรอไอ้เหี้ย กูก็มาแดกเหล้าสิวะ ว่าแต่เป็นเหี้ยไรครับเพื่อน ดูหงุดหงิดฉิบหาย หน้าเน่อมึงนี่ไม่แต่งแล้วหรอวะ ไหนบอกปากไม่แดงไม่มีแรงเดินไงวะ”



“ลิปกูหมด” บอกออกไปแบบนั้นแล้วคว้าแก้วตรงหน้าขึ้นมากระดกดื่ม ก่อนจะเหลือบสายตาไปมองที่โทรศัพท์อีกครั้ง ข้อความที่เด้งมาก่อนหน้านี้คือข้อความของไอ้เอม ... ข้อความที่บอกว่าวันนี้ขอค้างที่ห้องเพื่อนอีกคืนเพราะมีงานค้าง งานเหี้ยไรนัก พอถามว่าค้างกับใครเสือกไม่บอก ... แค่มันไม่ตอบกูก็รู้แล้ว ไอ้สัดล่ำนั่นแน่ๆ



“เอ้าๆ ใจเย็นๆ ซดเอาๆ เดี๋ยวก็เมาหรอก มึงมีปัญหาเหี้ยไรวะ” คราวนี้ไอ้เมฆที่เลิกทำเสียงกวนตีนกันแล้วถามออกมาแบบจริงๆ จัง ผมที่ขมวดคิ้วแน่นๆ อยู่แบบนั้นแล้วหันหน้าหนี ก่อนจะยกบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ ... เพราะตรงนี้เป็นโซนวีไอพีส่วนตัวเลยจุดสูบได้



“เห้ยๆ มึงไม่สูบบุหรี่นานแล้วนี่หว่า เกิดไรขึ้นวะ” ไอ้เมฆที่ทำหน้าเครียดใส่กันแล้วในตอนนี้



“เปล่า” เลือกที่จะตอบออกไปแบบนั้น เพราะจริงๆ ก็ยังหาคำตอบไม่ได้ว่าตัวเองหงุดหงิดเรื่องอะไร ... แต่แค่พอคิดว่าคืนนี้ไอ้เอมมันกำลังนอนอยู่ห้องไอ้เก้อก็รู้สึกอยากเอาตีนขยี้หน้าไอ้เก้อแล้ว สัดเอ้ย .... แต่ว่า มันอาจจะนอนห้องเดียวกับไอ้หยีก็ได้นี่หว่า



“อย่ามาหลอกกู กูรู้จักมึงมาตั้งแต่จู๋มึงเท่าหนอนน่าไอ้ดาบ”



“สัด จังไร”



“วันนี้ก็คือสุ้มเสียงแมนๆ เตะบอลเลยนะครับ สรุปว่าไงมีเรื่องอะไร มึงทะเลาะกับน้องเอม?”



“ไม่ได้ทะเลาะแต่ตอนนี้กูก็อยากทะเลาะอยู่นะ ไอ้สัด หายไปทั้งวันแล้วกว่าจะตอบกูก็สามทุ่ม บอกจะไปนอนบ้านเพื่อน เพื่อนKไร เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่ออ่ะดิสัด”





“อืม อินเนอร์มาเต็ม” หันไปมองหน้าไอ้เมฆที่ยกยิ้มมุมปากมองกัน เห็นแล้วคันตีนอยากเอาเท้าลูบหน้าแม่ง หน้าตาของมันที่กำลังบอกว่า ‘มึงหึง’



“กูไม่ได้หึงไอ้เอม”



“หึ กูยังไม่ได้พูดเลยเถอะเพื่อน มึงร้อนตัวนะ”



“ไอ้สัดเมฆ เหมือนมึงอยากแดกตีนกูอ่ะ”



“เหยดดด วันนี้ร่างพี่ดาบมันประทับจริงๆ ว่ะ กูล่ะอยากอัดคลิปส่งไปให้ไอ้จั๊มดูจริงๆ” พูดออกมาแบบนึกสนุก ดูเป็นเพื่อนที่มีความสุขบนความทุกข์ของกูมากๆ



“อะๆ กูไม่แกล้งแล้ว ... มึงจะอะไรนักหนาล่ะวะ น้องมันก็แค่ไปทำงานกับเพื่อนแค่นั้น คิดมากว่ะ”



“กูรู้สึกเหมือนมันกำลังหนีกู” พูดออกไปแบบนั้นแล้วก็ต้องขมวดคิ้ว ไม่รู้ทำไมถึงคิดแบบนี้ แต่ผมแค่รู้สึกว่าไอ้เอมไม่ปกติ มันแปลกไปตั้งแต่เมื่อเช้าตอนที่ตื่น มันเป็นคนที่เก็บความลับเก่ง แต่สีหน้าของมันน่ะเก็บไม่เก่ง แค่มองนิดหน่อยผมก็รู้แล้วว่ามันมีอะไรแปลกๆ แต่ถามไม่ทันแม่งก็วิ่งหนีกันออกไป แถมมาคืนนี้เสือกหนีไปค้างที่อื่นแบบนี้อีก



“หนี มึงคิดมากไปเปล่า หรือมึงไปทำไรน้องมันมันเลยหนีวะ” ทำเหี้ยไรล่ะ นอกจากตั้งใจให้มันเห็นรูปตัวเองที่หน้าจอโน๊ตบุ๊คก็ไม่ได้ทำห่าไรทั้งนั้นอ่ะ ... หรือว่ามันช็อคเลยตั้งใจหนีหน้า ... ไม่น่าใช่ป่ะวะ ไอ้เอมมันไม่ฉลาดขนาดนั้น อย่างมากมันก็แค่เขิน เขินแล้วทำหน้าแดงหูแดงใส่ เห็นแล้วก็น่าแกล้งฉิบหาย ... แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ป่ะวะ



“กูไม่ได้ทำสักหน่อย”



“หรอ แต่ตอนนี้น้องมันกำลังหนีมึงไม่ใช่หรือไง”



“ขยี้หาพ่อมึงหรอสัด”



“เอ้า โกรธอะไรกูล่ะครับเพื่อน ... เอางี้ น้องมันจะหนีไปไหนพ้นวะ ยังไงก็ต้องกลับมาทำงานกับมึงอยู่แล้ว มึงก็รอก่อน พรุ่งนี้น้องมันก็กลับมาเองอ่ะ” กูรู้ ...แต่กูไม่อยากรอไงวะ



“แต่เดี๋ยวนะ แบบนี้แสดงว่ามึงยอมรับแล้วดิว่ามึงชอบน้องมัน กับพะพายกูยังไม่เห็นว่าอาการมึงจะขนาดนี้เลยนะ ว่าไง ยังไง”



“มันไม่ใช่เรื่องที่กูจะต้องบอกมึงไหม คนที่กูต้องบอกคือไอ้เอม ไม่ใช่มึงไอ้เมฆ อย่าสาระแนค่ะ” บอกแบบนั้นแล้วเอามือดันหน้ามันให้ออกไปไกลๆ



“อ่ะ เหมือนร่างดานี่มึงมาแล้ว คะขา ทำไม...หรือมึงคิดวิธีออกแล้ว”



“หึ เดี๋ยวมึงเจอกูอิน้องเอม ส่วนมึง เฝ้าร้านให้แทนทีนะคะ กูไปล่ะ”



“เอ้า มึงจะไปไหนไอ้สัดดาบ เห้ย! ...”



(มีต่อจ้า)
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่13 {04/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 04-01-2020 22:51:29

...


00:00



ผมที่ยังนอนเบิกตากว้างอยู่บนเตียงนอนนุ่มๆ ของไอ้เก้อ และแน่นอนว่าเที่ยงคืนแล้วแต่ไอ้เก้อก็ยังไม่กลับมา ได้แต่นอนพลิกตัวไปพลิกตัวมาอยู่แบบนั้น ทั้งๆ ที่เตียงนอนมันก็กว้าง 6ฟุตนอนคนเดียว ผ้าห่มก็นุ่มๆ หอมๆ เพราะน่าจะเป็นของใหม่ ทั้งๆ ที่มันเป็นแบบนั้น แต่ผมกลับหลับตาลงนอนให้หลับไม่ได้



เจ็บไข่! ไอ้เอมเจ็บไข่!! สุดแสนจะไม่รักดี



“เจ๊จะทำไรอยู่นะ” เผลอบ่นออกมาแบบนั้นแล้วหยิบมือถือขึ้นมาไล่ดูในเฟซบุ๊ค และใช่ครับ มันคือเฟซบุ๊คของ แด๊ป โดโลธี ... เอ่อ กูหมายถึง พี่ดาบนั่นแหล่ะ ก็ชื่อภาษาอังกฤษเหี้ยไรเขียนแบบนั้นก็ต้องอ่านแบบนั้นไหมวะ แต่นั่นไม่สำคัญ สำคัญตรงที่ว่า พอยิ่งไถลงไปเรื่อยๆ ผมก็เจอข้อความแปลกๆ ระหว่างเจ๊มันกับพาพวยอะไรนั่นเยอะมากขึ้น เช่น



‘รักนะคะไม่ใช่มุก แต่อยากบอกว่ารักนะจุ๊บๆ ทุกวันนะครับ’



Metad: ไม่แทคชื่อไปเลยล่ะครับเพื่อน



Jira JumpJump: พี่ดาบกล้าๆ หน่อยสิจ๊ะๆ ถ้าไม่กล้ากูเรียกให้ก็ได้ ...



Prapray: เรียกหาใครกันหรอ?



Dab Dorothy: @Prapray เรียกหาเธอมั้ง



เรียกหาเธอมั้ง เธอมั้ง เธอมั้ง!



กับกูไม่มีหรอกเธอ มีแต่อินั่นอินี่อินู่น!



‘หน้าหนาวอยากได้ไออุ่น น่ารักอย่างคุณอยากได้เป็นแฟน’



Prapray: แบบเราเรียกน่ารักไหม 55555



Dab Dorothy: @Prapray ที่สุดอยู่แล้ว



Prapray: อิอิ แบบเราต้องหล่อซี่



อ่านจบจนถึงตรงนี้แล้วกดออกจากหน้าเฟซมันซะตอนนี้เลย พออ่านไปเรื่อยๆ แล้วก็ยิ่งรู้สึกไม่ดี บางทีก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเข้าไปดูอะไรที่ทำให้ตัวเองไม่สบายใจด้วยก็ไม่รู้ ... แต่ก็นั่นแหล่ะครับ พลังเสือกมันทำได้ทุกอย่างจริงๆ และเพราะเรื่องนี้มันเลยทำให้ตอนนี้เที่ยงคืนกว่าแล้วผมยังคงนอนตาเบิกโพลงอยู่แบบนี้



“ทำยังไงดีวะ!” ว่าออกมาแบบนั้นแล้วเอาหัวซุกลงกับหมอนแบบอยากจะบ้า กลิ้งตัวไปมาจนหัวฟูแล้วก็ยังไม่หลับ และแน่นอนว่าไอ้เก้อเองก็ยังไม่กลับเหมือนกัน จริงๆ อยากจะโทรหา แต่กลัวโทรไปในช่วงที่เพื่อนกำลังเข้าได้เข้าเข็มแล้วจะกลายเป็นคนบาป เพราะเท่าที่เป็นอยู่ก็บาปมากพอแล้วเลยไม่โทรไปกวนมันจะดีกว่า



‘ติ๊งต่อง’



“หื้ม?” เสียงกดออดทำให้ผมเด้งตัวลุกขึ้นมาเพราะตกใจ ไอ้เก้อมันลืมเอาการ์ดไปหรอวะทำไมต้องกดด้วย ทำไมไม่คิดว่าเผื่อกูจะนอนแล้วบ้าง ไอ้เพื่อนเวรเอ๊ย



ได้แต่สบถอยู่ในใจไม่กล้าพูดออกไปครับ เพราะยังไงมันก็ให้ที่อยู่ที่กิน มันเป็นเพื่อนที่ดีและน่ารักขัดกับหนังหน้าโหดๆ เหมือนอยากตบเด็กของมันเสมอเลย



‘ติ๊งต่องๆๆๆๆ’



“เออๆ มาแล้วโว้ย เดินอยู่จะกดจนมึงตายเลยไหมวะ!” ตะโกนบอกออกไปแบบนั้นแล้วก็รีบวิ่งออกไป เพราะห้องมันใหญ่จนขนาดไม่ต่างจากบ้านหนึ่งหลังเลยทำให้ผมเดินช้านิดหน่อย ก็ไม่เข้าใจว่าไอ้เก้อจะรีบไปตายหรอ



‘แอ๊ด’



“มาแล้ว จะรีบร้อนไรนั.... จ....เจ๊!”



ตะโกนออกมาแบบนั้นตอนที่เห็นหน้าของคนตรงหน้า เจ๊ดานี่ที่อยู่ในชุดเสื้อยีนส์มีฮู้ดด้านหลังกับกางเกงยีนส์ขายาวสีดำและกำลังยืนจ้องหน้ากันด้วยสายตานิ่งๆ อยู่ตอนนี้ ผมที่เบิกตากว้างขึ้นพร้อมกลืนน้ำลายลงคอแถมก้าวถอยหลังไปอีกก้าวแบบตกใจ ... หน้าตาของคนตรงหน้าที่บอกอารมณ์ได้ดีว่า กำลังโมโหมาก



“เจ๊มาได้ไงอ่ะ!”



“มึงทำรายงานเสร็จหรือยัง”



“คือ .. คือ ...”



พูดอะไรออกไปไม่ออก รู้สึกเหมือนมีอะไรมาอุดอยู่ในลำคอกันในตอนนี้ แถมยังคิดแถอะไรออกไปไม่ได้สักอย่าง ได้แต่ส่งสายตาล่อกแล่กมองไปมองมาแบบคิดหาคำพูดเอาตัวรอด คือจริงๆ ก็ไม่เข้าใจว่ากูจะกลัวเจ๊มันทำไม กะอิแค่มาค้างบ้านเพื่อน แต่สายตาคมตรงหน้าที่มองมานิ่งๆ แบบนี้ รวมถึงประโยคสุดท้ายที่เจ๊มันพิมพ์ส่งมาให้ ... ไอ้เอมอยากวิ่งแล้วพุ่งตกลงไปจากหน้าต่างมากๆ เลยแม่จ๋า



“ดูเหมือนจะเสร็จแล้ว งั้นกลับ!” เจ๊พี่มันที่ตัดบททั้งแบบนั้น ฝ่ามือแกร่งที่เอื้อมมาดึงแขนผมไว้แล้วกระชากเข้าหาตัวอีกฝ่ายทั้งแบบนั้น



“พี่ดาบใจเย็นๆ นะคะ เอ้ย เจ๊ดานี่ใจเย็นก่อน” ผมที่พึ่งมองเห็นไอ้หยีในตอนนี้ มันเองที่ก็ทำหน้าไม่ถูกอยู่ในตอนนี้



“ไหนมึงบอกสิว่ามึงทำรายงานเสร็จรึยังไอ้เอม พูดมาว่าเสร็จหรือยังแล้ว หรือมึงจะอยากตอบว่าจริงๆ มันไม่มีงานกันแน่ มึงเลือกคำตอบมา!” เสียงเข้มที่ว่าแบบนั้นแล้วตะคอกออกมาเสียงเข้มจนผมถึงกับสะดุ้งได้แต่ก้มหน้าหนี



“สะ....เสร็จแล้วครับ” บอกอ้อมแอ้มออกไปแบบนั้นทั้งๆ ที่หัวใจกำลังเต้นระรัว ผมกลัว กลัวเพราะไม่เคยเห็นเจ๊มันโกรธแบบนี้ สายตาคมๆ ที่มองผมนิ่งๆ และดุจนต้องหลบตาหนี



“ดี งั้นกลับ!” ว่าออกมาแบบนั้นแล้วกระชากแขนผมให้เดินไปด้วยกัน รองท้งรองเท้าก็ไม่ได้ใส่ ผมที่ใส่แค่สลิปเปอร์ก็เดินตามแรงดึงของอีกฝ่ายมาทั้งแบบนั้น



“พี่ดาบ เจ๊ดานี่ ไอ้เอมมันมาทำงานจริงๆ นะคะ” ได้ยินเสียงไอ้หยีที่ร้องตะโกนตามมาแบบนั้น เจ๊พี่มันที่หยุดเดินแล้วหันไปมองหน้าไอ้หยีนิ่งๆ



“ค่ะพี่เชื่อ ฝากหนูเก็บข้าวของไปให้เอมมันด้วยนะคะ พี่กลับล่ะ” อีกฝ่ายที่ว่าออกมาแบบนั้นรวดเดียวจบแบบไม่มีใครกล้าแย้ง และฝ่ามือแกร่งก็ไม่ปล่อยออกจากแขนผมแม้สักวินาทีเช่นกันจนกว่าจะถึงบ้าน



‘ปัง!’



เสียงปิดประตูห้องที่ทำเอาผมสะดุ้งตกใจ ได้แต่ยืนละล้าละลังอยู่กลางห้องรับแขกอยู่แบบนี้ อีกคนที่เดินตามเข้ามาแล้วดึงแขนผมให้ตามเข้าไปในห้องนอน



“เจ๊ ปล่อยผม เจ็บนะ ผมไม่นอนๆๆ ผมจะนอนข้างน้อง” ร้องบอกออกไปแบบนั้นแล้วยื้อตัวไว้สุดแรง แขนข้างนึงเกาะขอบประตูหน้าห้องนอนเอาไว้แน่นๆ ไม่รู้ทำไม แต่แค่คิดว่าเข้าไปแล้วกูต้องซวยแน่ๆ กูจะไม่ยอมเข้าไปเด็ดขาด



“ทำไม! หรือมึงอยากไปนอนกับไอ้ล่ำเพื่อนมึงมากกว่ากูห๊ะ!” คนตรงหน้าที่ปล่อยแขนผมแล้วพูดออกมาแบบนั้นด้วยเสียงเข้มๆ ผมที่ได้แต่ช้อนตามองหน้าอีกฝ่ายแล้วกระพริบตาปริบๆ คือ....เกี่ยวอะไรกับไอ้เก้อวะ?



“เกี่ยวไรกับไอ้เก้ออ่ะ ผมก็ไม่อยากนอนกับไอ้เก้อนะเจ๊ เจ๊พูดไรอ่ะ” ว่าออกไปแบบนั้นแล้วเห็นอีกฝ่ายที่ขมวดคิ้วแน่นๆ พร้อมทั้งยกฝ่ามือขึ้นมาเสยผมขึ้นไปแบบหงุดหงิด ... เอ้า อาการหนักนะ



“ไอ้เอม กูไม่ตลก”



“กูก็ไม่ตลกเจ๊ แค่ไม่เข้าใจอ่ะ”



“แล้วมันเป็นห่าอะไรถึงจะไม่ยอมเข้าไปนอนกับกู ทุกคืนมึงก็นอน คืนนี้มันทำไม” ว่าออกมาแบบนั้นแล้วจ้องหน้าผมเพื่อหาคำตอบ สายตาคมๆ ที่ไล่สายตามองหน้ากันตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าก่อนจะขทวดคิ้วด้วยสีหน้าขัดใจอะไรสักอย่าง



“มึงใส่ชุดใคร”



“ห๊ะ?” อะไรเอ่ยไม่เข้าพวก อยู่ๆ ถามอะไรกูออกมานะ?



“ถามว่ามึงใส่ชุดนอนใคร” เสียงเข้มจนกูต้องถอยตัวไปใกล้กับประตูมากขึ้น และพอเจ๊มันเห็นผมทำแบบนั้น เจ้าตัวก็สาวเท้าเข้ามาใกล้ทันทีแล้วดึงแขนกันไว้แล้วกระชากแค่ทีเดียว ตัวกูก็ลอยตามแรงเจ๊มันไปเหมือนกระดาษบางๆ เบาๆ ก็ขาดเบาๆ ก็ปลิว



“ชุดไอ้สัดล่ำใช่ไหม มึงถอด!”



“ห๊ะ!” กูต้องห๊ะตาเหลือกอีกกี่รอบ!! และยิ่งต้องตาเหลือกมากกว่าเดิมก็ตอนที่คนตรงหน้าตั้งท่าจะถอดชุดกันแบบจริงๆ ฝ่ามือแกร่งที่กระชากกางเกงผมออกทันทีตามคำพูด



“เห้ยเจ๊! ทำไรวะ ปล่อยนะ อย่านะโว้ย”



“ปล่อยมือมึง”



ตอบออกมาแค่สามคำสั้นๆ แล้วกระชากกางเกงออกไปได้สำเร็จจริงๆ ผมที่ได้แต่ยกมือขึ้นปิดเอมน้อยน่ารักของตัวเองไว้ แต่อีกคนเหมือนจะไม่ได้สนใจเอมน้อยน่ารักของผม เจ๊มันที่ตั้งหน้าตั้งตาถอดจริงๆ จากกางเกงเปลี่ยนมาเป็นเสื้อ ดึงกระชากเสื้อยืดรูปเสือที่ผมใส่ออกจากหัวแล้วโยนทิ้งออกไปให้พ้นสายตา และสุดท้ายเจ้าตัวก็ทำแค่โยนตัวกูเหมือนลูกบอลลูกเล็กลงไปอยู่ที่กลางเตียง ก่อนที่เจ้าตัวจะไม่สนใจผม ทำแค่หันไปเตะเสื้อกับกางเกงให้กระเด็นออกไปจากห้องนอน ก่อนที่เจ๊พี่มันจะเหวี่ยงประตูปิดทั้งแบบนั้นเสียงดังสนั่น



“ค่อยยังชั่ว รำคาญสายตาฉิบหาย” ได้ยินเสียงเจ๊มันว่าออกมาแบบนั้น ส่วนตัวกูก็รีบคลานเข้าไปห่อตัวอยู่ในผ้าห่ม กูหนาวโว้ย!



“มึงทำอะไร”



“ผมต่างหากที่ต้องถามเจ๊ว่าเจ๊ทำอะไร มาถอดเสื้อผ้ากันทำไม เป็นบ้าหรอวะ” บอกออกไปแบบนั้นแล้วมองอีกฝ่ายแบบไม่พอใจ



“กูไม่ชอบ!”



“แล้วเจ๊จะไม่ชอบอะไร เจ๊ไม่ชอบเสื้อไอ้เก้อมันทำไม”



“กูไม่ได้ไม่ชอบเสื้อนั่น แต่กูไม่ชอบให้มึงใส่เสื้อคนอื่นต่างหากล่ะโว้ย มึงอย่าโง่ให้มากไอ้เอม วันนี้กูหงุดหงิดมากแล้วนะ”
พอผมตะโกนใส่ อีกฝ่ายก็ตะโกนตอบกลับมาไม่ต่างกัน พออีกคนที่บอกออกมาแบบนั้นผมก็ทำได้แค่อ้าปากค้าง



“ล...แล้วเจ๊จะไม่ชอบทำไมล่ะวะ อย่ามาทำเหมือนหวงกันได้ป่ะวะ!” สุดจะทนกับคนอย่างมึงแล้วเจ๊ ไม่เข้าใจจริงๆ เลยว่าทำไมต้องมาทำกันแบบนี้ สุดท้ายเลยอดไม่ไหวตะคอกถามกลับไปแบบนั้น คนตรงหน้าที่พอได้ยินผมพูดแบบนั้นก็นิ่งอึ้งไปนิดหน่อย



“มึงฉลาดขึ้นแล้วหรอ”



“ห๊ะ” เป็นอีกครั้งที่กูต้องพูดคำว่าห๊ะพร้อมกระพริบตาปริบๆ แบบคนโง่ที่ไม่เข้าใจอะไรเลย แต่ภาพตรงหน้าคืออิเจ๊พี่มันที่กระตุกยิ้มมุมปากแล้วเดินก้าวอาดๆ ตรงมาหากันที่อยู่บนเตียง ผมที่เห็นแบบนั้นได้แต่ถดตัวถอยขึ้นไปที่หัวเตียง แต่อีกฝ่ายเหมือนจะไวกว่าที่พอเห็นแบบนั้นแล้วคว้าข้อเท้ากันไว้แล้วกระชากเข้ามาใกล้ตัวอีกคน



“เจ๊ ปล่อยนะ เจ๊เลิกทำตัวเป็นหมาหยอกไก่แบบนี้ได้ไหมวะ ผมไม่เข้าใจเจ๊เลยจริงๆ”



“กูไม่เคยหยอกไก่นะคะ”



“แล้วเจ๊หยอกอะไรวะ”



“กูหยอกควายตลอด ควายน้อยๆ แบบนี้ไงคะ” สัด! แล้วกูก็ชงให้มันตบกลับมาโบ๊ะบ๊ะๆ เป็นตลกคาเฟ่เลยโว้ย



“มึงไปเล่นไกลๆ ตรงนู้นไป!” ขมวดคิ้วด่ามันแบบไม่พอใจจนถึงที่สุด



“ไม่ กูไม่อยากไปเล่นตรงไหน กูอยากเล่นกับมึงตรงนี้มากกว่า” ว่าแบบนั้นพร้อมก้าวขาข้างนึงขึ้นมาบนเตียงก่อนจะกักตัวผมไว้ที่ใต้ร่างของตัวเองแบบนั้น



“เจ๊! มึงชอบกูหรอ ถ้าไม่ชอบก็เลิก อุ๊บ...” เสียงคำพูดของผมที่หายเข้าไปในลำคอในตอนที่ยังพูดประโยคสำคัญไม่จบ เป็นการจู่โจมที่โถมเข้ามาพร้อมๆ กับลิ้นร้อนที่แทรกเข้ามาในปากของผม ดูดดุนลิ้นร้อนที่ปลายลิ้น ความรู้สึกเสียวซ่านจนผมเผลอจิกปลายเท้าลงกับเตียงนอน ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ได้รับความรู้สึกถึงความอุ่นร้อนจากผิวหนังของใครอีกคนที่เสียดสีกันอยู่ตอนนี้



“อึก อื้มม” เสียงครางในลำคอที่ทำให้ต้องลืมตาขึ้นมามองหน้าคนตรงหน้าในตอนที่อีกฝ่ายก็ผละริมฝีปากออกมา สายตาคมที่จ้องมองกันวาววับจนผมรู้สึกร้อนหน้า ริมฝีปากอุ่นของอีกฝ่ายที่ยังคงไม่ได้ผละออกไปไหนไกลทำเพียงแค่คลอเคลียอยู่ที่ริมฝีปากของผมอยู่แบบนั้น



“จ...เจ๊”



“กูรู้ว่ามึงเป็นควายน้อยของกู แต่มึงก็ไม่น่าจะโง่ขนาดนี้เลยเอม”



“อะไร...คือ...”



“กูบอกมึงแล้วใช่ไหมว่าอย่าทำให้กูหมดความอดทน”



“จ...เจ๊”



“อืม กูชอบมึง ... ไม่รู้ว่าชอบเมื่อไหร่ แต่หลายๆ สิ่งที่กูทำอยู่ตอนนี้ ... ก็แค่ชอบมึง” เสียงเข้มๆ ที่พูดออกมาแบบนั้น จมูกโด่งๆ ที่กดจูบหอมแก้มไปตามข้างแก้มของผม ไล้ลงมาที่ปลายคางอย่างเร่าร้อน ผมที่รู้สึกลมหายใจตัวเองสะดุดตอนที่รับรู้ถึงอะไรบางอย่างที่แข็งขืนขึ้นมาอยู่ที่ขาอ่อนของผม



“เอม” เสียงเข้มที่ครางกระเส่าอยู่ข้างๆ หูทำเอาใจผมสั่น ตัวผมสั่น รู้สึกหูอื้อหน้ามืดตาลาย คล้ายๆ เวลาอ่านนิยายแล้วนายเอกในเรื่องมักเป็น ... ไม่เคยคิดมาก่อนว่ามันจะเป็นแบบที่ในนิยายเขียนจริงๆ ความรู้สึกที่มากขึ้นๆ แบบนี้



“เจ๊ มึง..มัน”



“มันแข็ง” เชี่ย! ก็ไม่ต้องพูดชัดขนาดนี้จะได้ไหมวะ



“ก...กูไม่พร้อม พี่.. ..คือกู....” คือกูยังมีเรื่องค้างคาใจกูอยู่



“แต่มึงก็แข็ง” พูดแบบนั้นแล้วคว้ามือของผมไปจับแกนกายของมันที่ก็แข็งชันขึ้นมาจนเต็มมือของผมไปหมด แกนกายที่ครั้งนึงมันเคยเข้ามาในตัวของผม เพราะแบบนั้นเลยรู้ดียิ่งกว่าใครว่าขนาดเวลามันขยายใหญ่แล้วมันเป็นแบบไหน ได้แต่ช้อนตามองคนตรงหน้าด้วยสายตาสั่นไหว ...ผมยังไม่พร้อม



“ช่วยหน่อยได้ไหม...นะ”



“ผมยังไม่พร้อม”



“พี่สัญญาจะไม่เข้าไป...นะ” คำว่านะเบาๆ เข้ามาที่ข้างหู พร้อมๆ กับลมหายใจร้อนๆ ที่เป่าลดต้นคอในตอนที่อีกฝ่ายขยับหน้าเข้ามาซุกไซร้ซอกคอของกัน ลิ้นร้อนที่ไล้เลียขบเม้มเบาๆ ไปตามลำคอทำเอาผมขนลุกวาบไปทั้งตัว



“พี่จะไม่บังคับเอม แต่ช่วยหน่อยนะ...เอมช่วยพี่ดาบหน่อยนะ”



ว่าออกมาแบบนั้นแล้วก็เหมือนเชือกที่ดึงยื้อกันไปมาจนสุดแรง สุดท้ายก็เป็นตัวผมเองที่ยอมปล่อยเชือกแล้ววิ่งเข้าไปหาอ้อมกอดของคนตรงหน้า ฝ่ามือแกร่งที่ดันตัวผมให้ลุกขึ้นนั่งพิงตัวกับหัวเตียง สายตาคมที่จ้องมาที่ผมด้วยสายตาร้อนแรง ลิ้นร้อนของอีกฝ่ายที่แลบเลียออกมาที่ริมฝีปากของเจ้าตัว ใบหน้าหล่อคมที่ก้มลงมองพร้อมๆ กับจับขาของผมให้อ้าออกกว้างในตอนที่ร่างแกร่งก็แทรกเข้ามาใกล้ชิดกันมากกว่าเดิม ผมที่ได้หลับตาลงและรู้สึกร้อนไปทั้งหน้า ลมหายใจกระตุกในตอนที่ฝ่ามือแกร่งเริ่มกำแกนกายร้อนของตัวเองและของผมเข้าด้วยกัน



“อ๊ะ...” ร้องออกมาแบบนั้นในตอนที่นิ้วแกร่งถูไถที่ส่วนหัวของกันและกันจนน้ำใสไหลออกมาน้อยๆ ริมฝีปากร้อนที่ก้มต่ำลงมาขบเม้มเข้าที่หัวนม ลิ้นที่แลบเลียแผ่วเบาทำเอาผมอดเผลอเด้งหน้าอกขึ้นรับลิ้นร้อนของอีกฝ่าย มองเห็นสายตาคมที่ช้อนตามามองสีหน้ากันในตอนที่ฟันคมของเจ้าตัวก็ขบกัดที่หัวนมกันเบาๆ



“อ๊ะ อื้ม”



“ซี๊ด เอม...อย่าให้ใครแตะต้องมึงเหมือนกูนะ” ว่าแบบนั้นในตอนที่สะโพกแกร่งก็เริ่มขยับขึ้นลงพร้อมๆ กับฝ่ามือแกร่งที่ก็ขยับฝ่ามือให้เร็วแรงขึ้นมา ผมที่ไม่รู้รับรู้อะไรน้องจากความต้องการของส่วนลึกของตัวเองในตอนนี้ รู้ตัวอีกทีก็เผลอขยับสะโพกโยกตามแรงอารมณ์ ปรือตามองอีกฝ่ายที่ยกยิ้มมุมปากจ้องตากันด้วยสายตาร้อนแรง



“พี่ดาบ อ๊ะ...ไว ไวหน่อย”



“จะเสร็จแล้วเอม ซี๊ดด”



ว่าแบบนั้นแล้วฝ่ามือแกร่งก็ขยับรัวเร็วขึ้นไปอีก สะโพกของผมที่โยกรับพร้อมกับอีกฝ่าย แกนกายร้อนทั้งคู่ที่เสียดสีกันอยู่แบบนั้น ในช่วงจังหวะที่แรงอารมณ์พุ่งสูงขึ้น ตัวผมที่กระตุกถี่ๆ ก่อนจะปลดปล่อยออกมาพร้อมๆ กับอีกฝ่ายที่ก็ปลดปล่อยออกมาพร้อมๆ กัน น้ำรักขาวขุ่นที่เปรอะเปื้อนหน้าท้องของกันและกันและตามมาด้วยเสียงหอบหายใจหนักๆ ตัวผมที่ซบหน้าลงไปที่อกแกร่งของอีกฝ่ายอย่างเหนื่อยอ่อน



“หึ...กูจองไว้แล้วนะ”



“จอง...จองอะไรวะ”



“กูรดน้ำจองที่ไว้บนตัวมึงแล้วไงครับน้องเอม”



สาดดดดดด หน้าร้อนที่ไม่ใช่ฤดูร้อน ... แต่คำพูดแบบนี้ของพี่มัน ก็ต้องยอมรับเลยว่า ไอ้เอมเจ็บไข่!



แพ้มันไปแบบราบคาบ



::::::::::::::::::-- to be continued --:::::::::::::::::::::::::



โฮกฮากเบบี้!!!

เปิดปีใหม่มาพร้อมความแซ่บๆ จ้าาาา

ต้องขออภัยที่มาลงช้านะคะวันนี้ เพราะอะไรนะหรอคะ เพราะว่าฉากสุดท้ายของตอนนี้นี่แหล่ะจ้าา

แคทเขียนฉากNCไม่ค่อยเก่ง หวังว่าคนอ่านทุกท่านจะชอบนะเออ

แต่ว่าตอนนี้น้านนนน พี่ดาบๆๆๆ พี่ดาบมา พ่อมาจ้าา พ่อไม่ยอมให้น้องหนีหรอกนะ หุหุๆ

มาจ้า ขอคอมเม้นท์หน่อยจ้าาา

และฝาก #สวยๆ เป็นผัว ในทวิตเตอร์ด้วยจ้า

ยังมีใครอ่านกันอยู่ไหมมมม มามะๆ :L2: :3123: :L1: :pig4:

หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่13 {04/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 05-01-2020 00:30:11
แล้วเก้อหายไปไหนนะ,,,
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่13 {04/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 05-01-2020 01:40:08
 :pig4: :pig4: :pig4:  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่13 {04/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 05-01-2020 10:19:11
พูดว่าชอบออกมาสักที
ไหนๆก็มาถึงขั้นนี้แล้วน้องเอมจัดการเรื่องพาพวยให้มันจบๆไปเลยนะ
แบบว่ามันก็ค้างคาใจกองเชียร์อย่างเราเหมือนกัน
แล้วอิพี่ดาบจะมามั่วๆบอกชอบปุ๊บจองน้องปั๊บแบบนี้ไม่ด้ายยยย
มันผิดผีอ่ะ ยังไม่ได้ไปเดทกันเลยนะ >///<

ตอนนี้ทำเอาอึ้งกับน้องเสือไปเลย ก้าวร้าวรุนแรงกับคนอื่นเกินไป
ถึงจะไม่ถูกชะตา ไม่ชอบขี้หน้าแต่ก็ควรเคารพและให้เกียรติคนอื่นบ้าง
เพื่อนเก้อต้องจัดการกับพฤติกรรมแบบนี้ของน้องนะ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่13 {04/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 05-01-2020 10:27:50
แซ่บ!
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่13 {04/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 05-01-2020 12:15:37
 :-[ :pig4:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่13 {04/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: KizzllKizz ที่ 05-01-2020 22:25:32
พี่ดาบมันกร๊าวใจมากเลย อิ_อิ ไม่ไหวๆๆๆ
 :o8:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่13 {04/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: nxqt ที่ 06-01-2020 02:32:58
เสือเก้อออไปเลยค้าบ

Sent from my FLA-LX2 using Tapatalk

หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่13 {04/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: LifePo-YuGu ที่ 06-01-2020 16:37:47
เพิ่งมาเจอเรื่องนี้ งื้ออออ  :mew1:
ขอภาวนาได้ไหม อิ๊เจ๊ กลับมาเป็นเป็นพี่ดาบยาวๆเลยสิหว๊าาาา
ไปขุดร่างพี่ดาบมาประทับแบบถาวรเดี๋ยวนี้ !!!!  :hao7: :hao7: :hao7:

ถ้าพระพายกลับมา หนูเอมจะต้องนอยด์มากแน่ๆเลย
ไม่เอาาาาา อย่าดราม่าน่าาา  :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่13 {04/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 07-01-2020 13:43:42
สบายใจละ เอมได้ผัวดุ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่13 {04/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 08-01-2020 18:10:28
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่14 {11/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 11-01-2020 20:46:47


บทที่14




‘ฟุดฟิดๆ’



กลิ่นหอมๆ ที่ลอยเข้ามารบกวนการนอนของกันในเวลาเช้าทำให้ต้องค่อยๆ ขยับตัวแล้วเอาหัวซุกหมอนนุ่มๆ แล้วร้องครางออกมาเบาๆ



“อื้มม หาว”



‘โครก จอก~’



เสียงร้องของท้องที่ประท้วงบอกให้ต้องตื่นทำให้ต้องลืมตาขึ้นมาทั้งๆ ที่ยังคงอยากนอนต่ออยู่ ... แต่เรื่องกินก็ยังคงเป็นเรื่องใหญ่ของไอ้เอมเสมอ เพราะแบบนั้นเลยค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาก่อนจะมองไปรอบๆ ด้วยอาการมึนงง ก่อนสายตามันจะค่อยๆ โฟกัสกับสิ่งที่อยู่รอบตัว และในหัวก็เริ่มฉายภาพ บะละอุกบุกบั่ก หืดหาดของเมื่อคืนนี้เข้ามาแบบไม่หยุด



“ไอ้บ้าเอ้ย!” ว่าออกมาแบบนั้นแล้วยกมือขึ้นปิดหน้าตัวเอง มันก็จะรู้สึกว่าหน้าร้อนวูบๆ วาบๆ แปลกๆ เป็นอาการหน้าร้อนที่ไม่ใช่ฤดูร้อน ถึงแม้ว่าเหตุการณ์เมื่อคืน มันจะไม่ใช่การทำเรื่องอย่างว่าครั้งแรกของเราทั้งคู่ก็เถอะ แต่ไอ้คำพูดที่พูดเบาๆ อยู่ข้างหูของผมแบบนั้น



“อืม กูชอบมึง ... ไม่รู้ว่าชอบเมื่อไหร่ แต่หลายๆ สิ่งที่กูทำอยู่ตอนนี้ ... ก็แค่ชอบมึง”
[/i][/color]



เขินจิกตีนเลย ไอ้เอมเจ็บไข่เลยครับ!



“เออ แต่ก็รู้สึกเจ็บไข่จริงๆ เหมือนกันนะ อิเจ๊พี่มันก็ถูซะแรงเลย ดูอดอยากปากแห้ง อึ๋ยยยยยยย คิดอะไรอยู่วะไอ้เอม อยากจะเขินอยากจะบิดจังเลยจ๊ะ” เอามือปิดหน้าแล้วได้แต่ส่ายหน้าไปมาอยู่บนฝ่ามือตัวเองอยู่แบบนั้น รู้สึกเหมือนจะเขินยังไงอย่างงั้นเลยล่ะ ไอ้บ้าเอ้ย



“อาการมันเป็นยังไงอ่ะคะอิหนู มันดูยุบยิบๆ มุบๆ มิบๆ ในใจอ่ะโน๊ะ”



เสียงของคนมาใหม่ ที่ดังมาจากหน้าประตู พอเงยหน้าขึ้นไปมองก็เห็นอิเจ๊พี่มันที่ยืนกอดอกพิงกรอบประตูห้องนอนมองหน้ากันมาจากตรงนั้น สายตาคมๆ ที่มองมาก็ทำให้รู้สึกว่าหน้าเริ่มจะร้อนขึ้นมาอีกแล้ว และคนตรงหน้าที่ก็เหมือนจะรู้ดีว่าผมกำลังเป็นอะไร อีกฝ่ายก็เลยทำแค่ยกมือขึ้นเสยผมด้วยท่าทางแสนจะเท่พร้อมยกยิ้มมุมปากส่งมาให้กระแทกใจกันไปอีกรอบ ... เหยด หล่อพ่อหล่อแม่ มึงหล่อเผื่อคนทั้งโลกเลยไหมล่ะเห้ย!



“มันเป็นเขินๆ หรอคะหนู” ยกเว้นแค่เสียงสองของมัน และคำว่าคำขาที่ยังคงดังออกมาจากปากมันแบบไม่หยุดที่ทำให้กูหยุดอาการเขินอาย



มึงใครเนี่ย!



“มอง มองสวยทำไมก่อน หรือว่าลิปแท่งใหม่ที่กูทามันบาดตาบาดใจหนูหรอคะ” ว่าแบบนั้นแล้วขยิบตาให้กัน อยากด่าออกไปว่า ไอ้สัด! มึงเอาร่างพี่ดาบเมื่อคืนมาคืนไอ้เอมเลยนะ!!



“เจ๊”



“ว่าไงคะ”



“ไปไกลๆ เลยไปแม่ง!” ตะโกนออกไปแบบนั้นพร้อมๆ กับที่เอื้อมมือไปคว้าหมอนที่หัวที่นอนปาใส่ไอ้หล่อที่กรี๊ดกราดอยู่หน้าห้องนอนในตอนนี้



“กรี๊ดๆๆๆ สวยเจ็บ โอ๊ยๆ”



สวยมาอีกแล้ว เหมือนว่าพี่ดาบเมื่อคืนแม่งคือภาพลวงตาที่ลวงหลอกกัน

.

.

.


“หน้าบูดหน้าบึ้งอะไรอ่ะคะหนู หิวหรอคะ อะกินไข่กู” อีกคนที่เอื้อมมือไปตักไข่ดาวมาวางลงบนจานข้าวผัดแฮมให้ผม มันที่ว่าแบบนั้นพร้อมจีบปากจีบคอพูดออกมาแบบนั้น ดูท่าทางเหมือนคนที่กำลังแกล้งกวนตีนกันยังไงยังงั้นไม่มีผิด



“ไข่กูอร่อยน้า” ฉีกยิ้มสดใสและขยิบตาให้กันอีกหนึ่งที คำพูดคำจาแบบนี้ กูก็คิดดีไม่ได้เลยไหมอ่ะ แป๊บๆ ภาพเมื่อคืนมันก็แล่นแว๊บโผล่ขึ้นมาในหัวอีกแล้ว



“งั้นๆ อ่ะ” ว่าออกไปแบบนั้นด้วยเสียงที่ไม่ได้ดังอะไรมาก จริงๆ ก็ติดจะเขินหน่อยๆ แต่ความหมั่นไส้พี่มันก็มีมากกว่า เลยไม่อยากให้มันได้ใจครับ



“เด็กมันปากดีนะคะหัวหน้า” พูดแบบนั้นพร้อมยกแก้วโกโก้ร้อนของตัวเองขึ้นดื่ม แต่สายตาก็ยังคงจ้องมองหน้ากันแบบไม่มีหยุด มันที่ว่าออกมาแบบไม่ได้หงุดหงิดอะไรพร้อมรอยยิ้มจางๆ ที่ทำให้ผมแก้มร้อนๆ



“มองอะไรนักเล่า”



“กูชอบมึง ไม่มองมึงให้มองควายหรอคะ เอ้อ...แต่ก็นะ คล้ายอยู่”



“อิเจ๊ มึงลุกขึ้นมาต่อยกับกูเลยมาให้มันจบๆ ไป” ฮึดฮัดแล้วนะ ชอบว่ากัน



“เด็กมันโกรธ เด็กมันงอนอ่ะเนาะ ใจร่มๆ นะคะหนู หม่ำๆ ข้าวก่อนนะคะ ซ่าจังนะมึงตัวแค่นี้” จีบปากจีบคอยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ทำหน้าตาล้อกันอยู่ได้แบบไม่มีหยุด



“แกล้งอยู่ได้”



“ก็มึงมันน่าแกล้ง แบบนี้ไงกูเลยชอบมึง” คนตรงหน้าที่ว่าออกมาแบบนั้นก่อนจะวางแก้วโกโก้นั่นลงแล้วเอามือมานั่งเท้าคางมองหน้าผมนิ่งๆ สายตาแบบนั้นที่ก็ทำให้อดประหม่าไม่ได้เลยจริงๆ ... แต่ถึงแบบนั้นก็ขอถามออกไปอีกที



“เจ๊ชอบผมหรอ”



“ก็ว่าพูดชัดอยู่นะ ... อืม กูชอบมึง” เชี่ย บทจะตรงก็ตรงอะไรขนาดนั้นอ่ะ ผมที่เผลอหลบสายตาของคนที่เอาแต่จ้องมองกันแบบไม่ละไปไหน สายตาคมๆ ที่ไล่มองกันแต่ตา ย้ายสายตามาที่จมูก ก่อนมันจะหยุดอ้อยอิ่งที่ริมฝีปากของผม รู้สึกร้อนวูบไปทุกส่วนในตอนที่มันนั่งมองกันอยู่แบบนี้



“มึงเองก็ชอบกู ดูออก”



“ใครบอกอ่ะ” เงยหน้าขึ้นไปมองแล้วเถียงออกไปแบบนั้น แต่พออีกคนที่จ้องมองกันนิ่งๆ แล้วยกยิ้มมุมปากส่งมาให้กันหน่อยๆ หน้าตาของคนตรงหน้าที่ผมกำลังอ่านจากสีหน้ามันได้ว่า ‘อ๋อหรอคะหนู ตอแหลไม่เก่งเลยนะคะ’ เห็นแบบนั้นแล้วก็เผลอที่จะกัดปากตัวเองนิดๆ แล้วก้มหน้าลงไปจ้องข้าวผัดตรงหน้าแบบไม่วางตาแทน



เบื่อฉิบหาย ทำไมชอบรู้ทัน



“เอม”



“อะไร เอมกินข้าวอยู่ไม่พูดนะ” บอกแบบนั้นแล้วตักข้าวเข้าปากคำใหญ่ ไม่เงยหน้าขึ้นไปมองด้วย ... ชอบแกล้งให้เขินอ่ะ ยัดข้าวคำใหญ่ๆ ไปเลย เผื่ออิเจ๊พี่มันถามอะไรออกมาอีกแล้วจะได้ไม่ต้องตอบ เนี่ย...มันเป็นคนฉลาดสุดๆ ไปเลยนะไอ้ชะเอม



“มึงหนีกูไปนอนห้องไอ้ล่ำนั่นทำไม”



“พรูดดด แค่กๆ” และเป็นกูที่พ่นเม็ดข้าวออกมาในตอนที่ได้ยิน คือมึงยังไม่ลืมหรอจ๊ะเจ๊พี่มึง



“อี๋ๆๆ ข้าวกระเด็นเข้าลูกตากูเลย” อีกคนที่เบ้ปากแล้วรีบหยิบทิชชู่มาเช็ดตาตัวเองบ่นแบบนั้นแล้วเลื่อนแก้วน้ำเปล่ามาให้กัน



“แค่กๆ”



“แดกน้ำเข้าไป หยุดสำลักแล้วก็ตอบกูมา” ก็คือไม่ยอมข้ามหัวข้อนี้ไปเลย



ผมที่กินน้ำเข้าไป ค่อยๆ ช้อนตามองคนตรงหน้าที่ตอนนี้ก็ทำหน้านิ่งรอคำตอบกันอยู่แบบไม่ยอมอ่อนข้อให้ น้ำตาคลอๆ ที่หน่วยตาเพราะสำลักข้าวจนขึ้นจมูกแต่อีกฝ่ายก็ไม่สงสาร



“ไม่ต้องมาทำหน้าควายอ้อนกัน ... ว่าไง มึงหนีไปนอนห้องไอ้ล่ำทำไม”



“ก็...ก็ไปทำงาน”



“ขอความจริงแบบไม่จ้อจี้จ๊ะทิงจากู” จ๊ะทิงจาคือเหี้ยอะไรก่อนครับ งงนิดหน่อยแต่ถามออกไปไม่ได้ เพราะอีกฝ่ายเปลี่ยนเป็นโหมดพี่ดาบวิศวะที่กอดอกแล้วนั่งไขว่ห้างจ้องหน้ากันอยู่ตอนนี้ ... ขอโทษนะ เอาอิเจ๊ที่เล่นหูเล่นตาเมื่อกี้กลับมาก่อนได้เปล่า เอมกดดัน เอมเจ็บไข่เลยนะ



“เอม”



“รู้แล้วๆ จะกดดันไรนักล่า” สะดุ้งตอนที่อีกคนก็เรียกกันด้วยชื่อเล่นด้วยเสียงนิ่งๆ แบบนั้น



“กูไม่ยอมอ่อนข้อให้หรอกนะ กูบอกแล้วว่ากูไม่ชอบให้มึงไปใกล้ไอ้ล่ำ แล้วเป็นเหี้ยไร ถ้าตอแหลว่าไปทำงานกูจะลุกขึ้นไปฟาดมึง กูไม่โง่”



“ฟาดก็เจ็บอ่ะดิ”



“มึงลองไหมล่ะ” ก็ทำไมต้องดุขนาดนั้นด้วยก็ไม่รู้อ่ะ



“ไม่ต้องมาทำหน้างอใส่กู ว่าไง....” ถามออกมาอีกครั้งแบบกดดันกันไม่หยุด เป็นผมที่ต้องหายใจเข้าไปในปอดลึกๆ แล้วก้มหน้ากำมือตัวเองแน่นๆ ... เอาวะ ยังไงมันก็เป็นสิ่งที่ทำให้ผมอึดอัดใจมานานแล้ว



“ก็เพราะพาพวยไงเล่า!” โพล่งออกไปแบบนั้นพร้อมจ้องหน้าอีกคนเขม็ง เอาวะ เป็นไงเป็นกัน ยังไงวันนี้ก็ต้องรู้เรื่องพาพวยให้ได้



“หา?”



“พาพวยเป็นใคร เค้าเป็นอะไรกับเจ๊พี่มึง” ถามย้ำออกไปอีก แต่อีกฝ่ายที่นั่งอยู่ตรงหน้ากันก็ยังทำหน้าเหมือนหมางงไม่เลิก



“มึงหมายถึงอะไรวะ”



“ผมก็ถามอยู่นี่ไง จะให้ผมไปถามใครอีกล่ะ”



“อิหนู มึงพูดไม่รู้เรื่องแล้วนะคะ คือกูถามมึงว่ามึงหนีกูไปนอนห้องไอ้ล่ำนั่นทำไม”



“ก็ตอบเจ๊อยู่นี่ไงว่าเพราะพาพวย!” เพิ่มเสียงให้ดังขึ้นไปอีกเลเวลนึงเพราะเริ่มจะหงุดหงิด ก็รู้สึกเหมือนว่าคนตรงหน้าจะแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจแล้วไม่ยอมตอบเรื่องของพาพวยอะไรนี่ออกมาให้ชัดๆ ผมที่จ้องหน้าอีกคน ส่วนอีกคนที่ก็จ้องหน้าตอบกลับมาพร้อมๆ กับขมวดคิ้วส่งมาให้ด้วย ท่าทางที่ก็เหมือนว่าอิเจ๊พี่มันจะโมโหกันแล้วเหมือนกัน



“แล้วไอ้พาพวยนี่มันคืออะไรวะ”



“เจ๊ไม่รู้หรือเจ๊ไม่อยากจะตอบวะ ที่ในเฟซเจ๊อ่ะ ตอบกันเก่ง...ผมอยากจะเชื่อนะว่าเจ๊ชอบผมจริงๆ อ่ะ แต่หลายๆ อย่างมันก็ไม่ใช่ป่ะ ไม่ชัดเจนตั้งแต่เจ๊เป็นตุ๊ดยันเรื่องของพาพวยด้วย”



“เดี๋ยวก่อนนะ นี่เหมือนมึงหาเรื่องกูเลยนะเอม ทั้งๆ ที่ต้องเป็นกูไหมวะที่โมโหมึง พูดกันแล้วว่าไม่ให้ไปยุ่งกับไอ้เก้อเพื่อนมึง สัด เพื่อนไม่จริง แล้วนี่อะไร มึงไม่ตอบกูแล้วมาพารวยพาKอะไรอีก”



“พาพวย! พาKไรเล่า”



“ก็ไม่รู้สักพวยนึง มึงโยกโย้ กูจะโมโหแล้วนะ” ว่าแบบนั้นแล้วขมวดคิ้วจ้องกันแบบดุๆ สายตาที่ทำให้ผมกลัวแต่ก็ไม่ยอมแพ้ ก็มันเป็นเรื่องที่อยู่ในใจผม เจ๊มึงยังไม่ชัดเจน แล้วจะมาโมโหกูเพื่อไร ไอ้เอมไม่ยอมหรอก



เราสองคนที่จ้องตากันแบบไม่มีใครยอมใคร ก่อนหน้านี้ที่เหมือนจะเป็นเช้าวันใหม่ที่สดใสแท้ๆ คนตรงหน้าที่บอกว่าชอบกันและมีอาหารอร่อยๆ ที่พี่มันก็เป็นคนรีบตื่นขึ้นมาทำเอาไว้ให้ ... แต่ไม่กี่นาทีผ่านไปก็กลายเป็นเราสองคนที่นั่งจ้องหน้ามองกันแบบพร้อมทะเลาะและไม่มีใครยอมให้ใคร



ผมเองก็ไม่อยากยอมเหมือนกัน ... แต่ถึงแบบนั้นก็รู้สึกเสียใจเหมือนกัน ก็ทำไมต้องโยกโย้ด้วยวะ



“เฮ้อออ โอเคๆ มึงเลิกทำหน้าแบบจะร้องไห้สักทีค่ะอิหนูเอม” ไม่รู้ว่ากี่นาทีผ่านไป แต่คนตรงหน้าที่มองกันด้วยสายตาดุๆ แบบนั้นก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่



“ใคร...ใครจะร้องกันวะ” เถียงออกไปแบบนั้น แต่ก็รู้สึกว่ากูจะเบะปากหน่อยๆ เจ๊พี่มันที่ถอนหายใจพร้อมส่ายหน้าก่อนจะลุกขึ้นมาแล้วเดินเข้ามาหากัน พี่มันที่ดึงเก้าอี้ออกแล้วดึงตัวผมให้หันไปหามันทั้งแบบนั้น ... คือกูเบามากหรอ นั่งบนเก้าอี้ไม้นะ ลากกูหน้าตาเฉยเลยได้ไง



“ไม่ร้องเลยนะมึงอ่ะ น้ำตาคลอแล้ว” พี่มันที่ก้มหน้าลงมาหา ก่อนจะยื่นมือเข้ามาลูบๆ ที่ข้างแก้มของผม ฝ่ามืออุ่นๆ ที่ผมเริ่มคุ้นชินทำเอาต้องหลับตาลงมาแล้วเอียงหน้าเข้าใส่ฝ่ามือมันทั้งแบบนั้น แต่ว่า...ก็เหมือนอยากร้องไห้จริงๆ



“พาพวยคือใคร เค้าสำคัญกับเจ๊พี่มึงมาหรอ” เลือกจะถามออกมาอีกครั้งแบบนั้นแล้วช้อนตามองคนที่ยังไม่ดึงฝ่ามือออกจากแก้มผม



“กูไม่เคยรู้จักคนชื่อพาพวยจริงๆ นะเอม”



“ทำไมโกหก”



“ไม่ได้โกหก แต่มึงต่างหากที่โกหกกู”



“ไม่ได้โกหก ไม่อยากอยู่กับเจ๊ เพราะเจ๊มีพาพวย” บอกออกไปอีก อีกคนที่ก็กลั้นหายใจสูดลมเข้าไปในปอดลึกๆ มองเห็นมันที่เหมือนอดทนกับการพูดคุยกันในครั้งนี้



“กูไม่มีใคร มึงก็เห็น แล้วไอ้พาพวยนี่คือเหี้ยไร”



“ไม่รู้ แต่เค้าสำคัญ”



“มึงรู้ได้ไงว่าใครสำคัญ ตอนนี้คนที่กูดูแลฉิบหายทุกวันทุกคืนก็มีแค่มึงไหมเอม...มันจะมีใครสำคัญไปมากกว่ามึงได้วะ” จ้องตากันแล้วพูดออกมาแบบนั้น ท่าทางจริงจังแบบที่ไม่ค่อยจะได้เห็น คำพูดคำจาที่บอกชัดๆ แบบนั้นก็รู้สึกอยากจะหายไปจากตรงนี้ อยากวิ่งหนีไปกรี๊ดในส้วม แต่ไม่ได้ แบบนั้นจะดูสาวเหมือนเจ๊พี่มัน เอมเลยฮึบไว้



“แล้ว...”



“ถ้าพาพวยอีกทีกูจูบมึงแล้วนะ พาพวยเหี้ยไรวะครับ”



อึ๋ยยยย เจ๊พี่มันที่พูดว่าครับพร้อมยกมือเสยผมอีกแล้ว โครงหน้าด้านข้างที่ทำมุมกับสันจมูกตอนที่เสยผมแล้วเชิดหน้าขึ้นไปนิดๆ แบบนั้นเผยให้เห็นลูกกระเดือกและเส้นเลือดที่ลำคอสมความเป็นชายแบบนั้นก็ยิ่งทำให้เขิน ... ก็แล้วทำไมเวลาพี่มันหงุดหงิดแล้วหล่อจัง แต่พอเลื่อนสายตาไปมองริมฝีปากมัน ... อืม แดงดีไม่มีอ่อน



“ก็คุยกันในเฟซอ่ะ เฟซของพี่แด็ปโดโลทรี”



“แด็ปเหี้ยไร ... เดี๋ยวนะ” อีกฝ่ายที่ชะงักไปนิดหน่อยก่อนจะจ้องหน้ากันเหมือนนึกอะไรได้



“มึงหมายถึงเฟซกูหรอ”



“อืม แด็ปโดโลทรี”



“เดี๋ยวมึงได้โดนสักที กูชื่อดาบ ดลธี แด็ปเชี่ยไรมึงคะน้องเอม”



“ก็เฟซบุ๊คเขียนไว้แบบนั้น นี่ก็อ่านตามเลยนะ”



“นี่มึงอย่าบอกใครว่าเรียนภาษานะ แล้วเดี๋ยวนะ มึงเข้าเฟซกูได้ไงคะ” หรี่ตามองกันในตอนนี้ ไอ้เอมก็ได้แต่หลบตาเลิ่กลั่กเลย ลืมคิดไป



“กูว่ากูเริ่มเข้าใจอะไรแล้ว พาพวยๆ ไหนมึงมานี่ ตามกูมาค่ะ”



พูดออกมาแบบนั้นแล้วเอื้อมมือมาคว้ามือผมแล้วแล้วดึงให้เดินตามอีกคนเข้าในห้องทำงานของเจ๊พี่มัน พี่มันที่ตรงไปนั่งที่โต๊ะทำงาน บนนั้นมีโน๊ตบุ๊คเครื่องที่ผมเคยใช้วางไว้อยู่แบบเรียบร้อย อิเจ๊พี่มันที่ก็ทำแค่เปิดฝาพับโน๊ตบุ๊คขึ้นแล้วทำการเปิดเครื่องมันทั้งแบบนั้น ผมที่ยังไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายจะทำอะไร ก็ได้แต่ยืนมองแบบงงๆ ก่อนที่จะเห็นเจ๊พี่มันยกยิ้มมองหน้าคอมนิดๆ แล้วกวักมือเรียกผมให้เดินเข้าไปหา พอเดินเข้าไปยืนด้านหลังเก้าอี้ของพี่มันเอาเลย



“รูปนี้น่ารักเนอะ กูถ่ายเองเลยนะคะ” ว่าแบบนั้นแล้วหันมายิ้มให้กัน รูปผมที่นอนหลับยังถูกตั้งอยู่ที่หน้าจอคอมมันเหมือนเดิม



“แอบถ่าย เจ๊โรคจิตอ่ะ”



“ดีแค่ไหนกูแค่แอบถ่าย กูไม่ลักหลับมึงด้วยก็เก่งแล้วสัด”



“เจ๊ว่าไงนะ” ยื่นหน้าเข้าไปใกล้อีกคนอีกนิด เหมือนมันจะพูดอะไรสักอย่างแต่ฟังไม่ถนัดเลย



“เปล่าๆ” ตอบปัดแบบนั้นก่อนจะลงมือเลื่อนเมาส์เปิดเว็บเบราเซอร์แล้วเข้าเฟซบุ๊คแบบที่ผมเคยเข้า และหน้าที่ปรากฏอยู่ก็คือ



Dab Dorothy



“อุ๊ยตายห่า สวยไม่ได้ล็อคอินจริงๆ ด้วยค่ะ” เอามือทาบอกแล้วทำตาเหลือกเปิดกว้าง เงยหน้ามามองกันแบบเล่นใหญ่



“เมื่อก่อนเจ๊หล่อ”



“ตบปากเท่าอายุเดี๋ยวนี้ค่ะ กูสวย กูสวยมากๆ มานานแล้ว แบบหมวยๆ”



“หมวยๆ กล้ามใหญ่เป็นหมีควายเลยเนอะ”



“เอม”



“หื้ม”



“กูจูบปากมึงแตกได้นะเผื่อมึงยังไม่รู้” ว่าแบบนั้นแล้วมองตากันนิ่งๆ กูก็คือเด้งตัวออกห่างจากอีกฝ่ายทันทีเลย มันเป็นยังไงถึงชอบข่มขู่กันว่าจะจูบๆ วะ



“ไม่ต้องหนี มานี่” ว่าแบบนั้นแล้วเอื้อมมือมาดึงแขนของผมไว้ ก่อนจะกระชากตัวผมให้เข้าไปใกล้แล้วจับนั่งตักพี่มันทั้งแบบนั้น



“เจ๊”



“นิ่งๆ สิคะ ไหนๆ ....พาพวยมึงคือคนไหน” ไม่สนว่าผมอยากจะพูดอะไร พี่มันที่ก็แค่เอาคางของตัวเองวางลงที่ไหล่ของผม ลมหายใจร้อนๆ ที่ก็เป่ารดกันอยู่ที่คอและหู รู้สึกขนลุกไปทั้งตัว อยากจะดิ้นลงจากตัก แต่ก็กลัวดิ้นไปดิ้นมา แล้วดานี่เจ๊มันจะฮึกเหิมขึ้นมาเลยได้แต่นิ่งไว้



“อ่ะ นั่น! พาพวย” ผมที่เห็นตอนที่อีกคนเปิดเข้าไปในหน้าโปรไฟล์ของพาพวยพอดีร้องบอกออกมาแบบนั้น ได้ยินเสียงถอนหายใจหนักๆ ดังมาจากคนที่นั่งซ้อนหลังกันอยู่ เป็นเสียงถอนหายใจที่ฟังดูเหมือนจะระอาหน่อยๆ



“เอม”



“พาพวยเป็นใคร”



“เค้าชื่อพะพายไอ้สัด” ว่าออกมาแบบนั้นแล้วก็ผลักหัวผมจนหน้าขมำเข้าไปหาหน้าจอ



“เจ็บนะ”



“ควายน้อยเอ๊ย บางทีมึงก็โง่จนกูท้อนะ”



“ทั้งทำร้ายทั้งว่า ไม่อยากอยู่ใกล้แล้วเถอะ” ขมวดคิ้วหันไปพูดแบบนั้นแล้วตั้งใจจะปีนลงจากตักของอีกฝ่าย แต่อีกคนที่ก็ทำแค่ยื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วจุ๊บปากผมเบาๆ ทีนึงแล้วผลักออก



“หึงกูอยู่ ดูออกค่ะอิดอก” อิดอกก็มา



“อย่ามาจุ๊บ”



“กูจะจุ๊บ แค่จุ๊บยังน้อยไป เลียให้ช้ำทั้งตัวกูยังเคยเลย”



“พูดไรของเจ๊วะ เจ๊เป็นตุ๊ดปากแดงนะ”



“ปากแดงแล้วไง กูเอามึงได้แล้วกัน” ว่าแบบนั้นแล้วยักคิ้วให้กันหนึ่งที กูนี่หันหน้าหนีกลับมามองหน้าจอที่เป็นภาพของพาพวยเลย เออ...พะพาย ก็มันชินไปแล้วอ่ะให้ทำไง



“ปากแดง บล็อกตาแน่นขนาดนี้ ผมไม่นับเป็นผัวโว้ย”



“เดี๋ยวมึงได้โดนอีกสักทีปากดีจัง ... บล็อกตาแน่นก็ผัวเธอ จำ!”



เออ! จำแม่นเลย ไม่ต้องตะโกนใส่ข้างหูกันแบบนี้กูก็ไม่ลืมหรอก ... แต่ละออกจากเรื่องตรงนี้ก่อน ผมที่พยายามตั้งสติเพราะลมหายใจหืดหาดๆ ที่ดังอยู่ข้างหูในตอนนี้ กลัวอีกฝ่ายจะไม่มีสติแล้วพาผมออกทะเลไปเรื่องอื่น



“พะพายคือใครหรอ”



อยู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนบรรยากาศรอบๆ ตัวเงียบลงไปในตอนที่ผมถามพี่มันออกไปแบบนั้น



“พี่ดาบ...”



“เป็นคนที่กูชอบค่ะ”



...


(มีต่อค่ะ)

หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่14 {11/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 11-01-2020 20:47:50


“อิเก้อออออ อิเหี้ย หน้าตาเป็นหินเป็นแดดอะไรคะ ทำไมผัวกูถึงหน้าเยินมาขนาดนี้ ถามจริง” เสียงร้องลั่นลานว่างข้างตึกคณะในเวลาเที่ยงที่ผู้คนชุกชุมก็ทำเอากูอยากจะหนีไปจากตรงนี้ อิป้าหยีที่ถลาเข้ามาพร้อมถกกระโปรงพลีทแบบยาวของมันวิ่งเข้ามาหาผม



“ผัวกูหน้าเหี้ยมาก เกิดอะไรขึ้นคะ แล้วเมื่อคืนมึงไปไหนมา กูรอตั้งนานมึงไม่กลับมากูเลยกลับบ้าน”



“เอมมันไปไหน” ผมที่ถามออกไปแบบนั้น ไอ้หยีที่ขมวดคิ้วมองกันก่อนถอนหายใจออกมา



“มึงไม่ต้องห่วงไอ้เอม มึงห่วงตัวมึงดีกว่า”



“กูกลับไปที่ห้องเมื่อคืน เอมมันไม่อยู่แล้ว มันไปไหน” ถามออกไปแบบนั้น ทั้งๆ ที่ในใจก็เหมือนจะรู้คำตอบอยู่ก่อนแล้ว ได้แต่กัดกรามและกำมือตัวเองเอาไว้แน่นๆ ตอนที่ถามอิป้ามันออกไป



“มันกลับค่ะ”



“ไม่จริง” ไม่มีทาง ไอ้เอมไม่มีทางที่จะกลับเอง ผมที่จ้องตาป้าแบบไม่ยอม ไอ้หยีที่ก็ถอนหายใจออกมาหนักๆ อีกหนึ่งที



“เจ๊ดานี่มารับมันกลับ”



“สัด!” สบถออกมาแบบนั้นแล้วหันไปยกตีนถีบเก้าอี้ไม้ที่ตั้งเกะกะอยู่ข้างๆ กูว่าแล้ว...แม่ง ทำไมต้องเป็นแบบนี้ทุกทีเลยวะ ทั้งๆ ที่กูกำลังจะมีโอกาสได้อยู่กับมันสองต่อสองแท้ๆ แต่สุดท้ายแม่งก็เป็นแบบนี้ทุกที



“ไอ้เก้อ พักเรื่องไอ้เอมไว้ก่อนเถอะ”



“พักเหี้ยไรวะ! มึงใช่ไหมป้าที่บอกมัน มึงพามันมาหาไอ้เอมหรอวะ มึงใช่ไหมวะ!” รู้สึกโมโหจนต้องตะคอกออกไปใส่ไอ้หยี มันที่ขมวดคิ้วมองหน้ากันในตอนนี้แล้วลุกขึ้นยืน



“เออ! กูบอกเอง”



“มึงทำแบบนั้นทำเหี้ยไรวะ สัด!” หงุดหงิดจนยกมือผลักตัวมันให้ออกไปให้ห่าง



“โอ๊ย กูเจ็บนะ!” มันที่ร้องบอกออกมาแบบนั้นและก็เป็นผมที่ชะงักตัวไป ไอ้หยีที่ถอยหลังไปชนกับขอบโต๊ะม้าหิน ด้วยแรงของผมมันคงต้องเจ็บมากแน่ๆ



“ไอ้หยี! ...”



“มึงไม่ต้องมาใกล้กูเลยไอ้เก้อ!” มันที่ตะคอกผมออกมาแบบนั้น แล้วชี้นิ้วขึ้นชี้หน้าผม มองเห็นสายตาของมันที่บอกว่ามันกำลังโกรธ มันที่จ้องตาผมเขม็ง น้อยครั้งที่จะเห็นมันนิ่งๆ แบบนี้ และบางทีก็สนิทกันมากไปจนลืมไปว่ามันเป็นผู้หญิง และก็เป็นผู้หญิงที่อายุมากกว่าผมด้วย



“หยีกูข...”



“มึงเลิกบ้าสักที! กูรู้ว่ามึงคิดอะไรกับไอ้เอม แต่มึงไม่เหมาะกับมันหรอกเก้อ มันไม่เคยมองมึงในฐานะอื่น”



“แล้วกูได้ลองรึยัง! เคยให้กูได้ลองดูแลมันในฐานะอื่นบ้างหรือยังวะ!!”



จริงๆ ก็ตั้งใจว่าจะขอโทษมันออกไป แต่พอที่ได้ยินคำพูดแทงใจที่พูดออกมาแบบนั้นก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอีกแล้ว ... เอาอะไรมาตัดสินวะ ทำไมต้องเป็นได้แค่เพื่อนวะ ใครแม่งอยากเป็น ตำแหน่งเหี้ยๆ นี้ใครบอกให้มายกให้กูวะ!



“มึงไม่เคยได้ลอง...”



“แล้วแบบนั้นมึงตัดสินได้ยังไง มึงพาไอ้เหี้ยตุ๊ดปลอมนั่นมาเอาเอมไปจากกู!”



“กูไม่ได้เอาเอมไปจากมึง แต่เอมมันไม่เคยอยู่กับมึงเลยต่างหาก! แล้วพี่ดาบ เจ๊ดานี่นั่น ต่อให้มึงจะว่าเค้าเป็นตุ๊ดปลอมเป็นตุ๊ดจริงเหี้ยอะไรก็ไม่รู้ ... แต่เรื่องนึงที่มึงต้องรู้ คือเอมมันอยากไปกับเค้า มันอยากกลับไปกับเค้า!!



“ไม่จริง....” ผมที่ก้มหน้าลงต่ำแล้วพูดออกมาแบบนั้น คำพูดที่หลุดออกมาจากปากของตัวเองก็เบาหวิวทั้งๆ ที่คิดว่าตอบกลับไปแบบมั่นใจมากๆ แต่เสียงมันเสือกสั่นและเบาแบบนี้ได้ยังไงวะ



“มึงเป็นได้แค่เพื่อนมันเก้อ เลิกบ้าแบบนี้สักที”



“เพื่อนเหี้ยไร กูไม่อยากเป็นเพื่อนกูอยากเป็นผัวมัน!”



“ไอ้เหี้ยเก้อ มึงจะไปไหน กลับมา มึงมีเรียนนะเว้ย!”



เสียงของไอ้หยีที่ดังไล่หลังตามมาแบบนั้นแต่ผมก็ยังคงเลือกที่จะก้าวขายาวๆ เดินหนีมันออกมา และแน่นอนว่าไอ้หยีไม่มีทางที่จะเดินตามทัน ผมไม่อยากอยู่ตรงนั้น ไม่อยากฟังคำพูดจากมันที่มาย้ำบอกผมแบบนั้น และก็ไม่อยากเห็นสายตาไอ้เอมที่ต้องมองมาแบบห่วงใยกันตอนที่เห็นผมทะเลาะกับไอ้หยี ... ไอ้เอมแม่งก็คือไอ้เอม ไอ้เอมที่ไม่เคยรู้เหี้ยอะไรเลยสักอย่าง



‘พลัก!’



“โว้ยยยยยย” ได้แต่เขวี้ยงกระเป๋าไปไกลๆ ตัวแล้วเงยหน้ามองท้องฟ้าแล้วแหกปากออกมาเสียงดังลั่นแบบนั้น สายลมแผ่วๆ กับแสงแดดสว่างจ้าที่แยงลูกตาในเวลาเที่ยงวันบนดาดฟ้าเก่าๆ แบบนี้ ก็ทำให้น้ำตาผมไหลออกมา ... ถึงไอ้หยีจะไม่พูดออกมา ผมเองก็รู้ตัว ตั้งแต่วันที่ผมเห็นไอ้เหี้ยตุ๊ดปลอมนั่น ผมก็รู้แล้วว่ามันมีอะไรสักอย่างระหว่างกันกับไอ้เอม แต่ถึงแบบนั้นแล้วมันทำไมวะ ก็ผมมั่นใจ มั่นใจว่าผมต้องดูแลไอ้เอมได้ดีกว่ามัน คนมารยาแบบนั้นน่ะ แม่งไม่มีทางจริงใจ



แล้วมันทำไมวะ ทั้งๆ ที่ผมอยากจะเป็นคนดูแลมัน ทำไมต้องโยนคำว่าเพื่อนเหี้ยไรมาผูกคอกันด้วยวะ ให้กูลองดูสักครั้งก็ไม่ได้หรอวะ



“เพื่อนเหี้ยอะไร กูไม่อยากเป็น!”



“แล้วเป็นเหี้ยอะไรต้องขึ้นมาโวยวายบนนี้วะ!” เสียงของคนมาใหม่ที่มาพร้อมกับกลิ่นบุหรี่อ่อนๆ ที่พอหันหน้าไปมองก็ค่อยๆ เห็นก้อนอะไรสักอย่างที่กำลังขยุกขยิกตัวอยู่บนเก้าอี้เก่าๆ แล้วค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นมา



“ไอ้เสือ”



หัวฟูๆ ชี้โด่ชี้เด่ที่ในมือข้างนึงของมันที่บุหรี่ถือเอาไว้ มันที่เหมือนคนนอนดูดบุหรี่พร้อมห่มผ้าห่มไปด้วยลุกขึ้นมาจ้องหน้าผมแบบหงุดหงิด



“ไอ้สัดพี่เก้อ”



“เพราะมึงไอ้เหี้ยเสือ! เพราะมึง!” เห็นหน้าแม่งแล้วหงุดหงิด เพราะเจอมันแท้ๆ กูเลยพลาดที่จะอยู่กับไอ้เอม ไอ้เก้อที่อยู่ในชุดนักศึกษาปลดกระดุมหน้าลงมาสามเม็ด หน้าของมันที่ติดพลาสเตอร์ไว้หลายจุดและมุมปากก็แตก มันที่ขมวดคิ้วมองหน้ากันตอนที่ผมตะคอกออกไปแบบนั้น



“เหี้ยอะไรของมึงพี่เก้อ”



“เพราะมึงเลยไอ้เด็กเหี้ย!”



“เอ้า มึงกวนตีนแล้วนะพี่เก้อ แต่...นี่มึงร้องไห้หรอวะ!” มันที่หรี่ตามองกันแล้วโพล่งออกมาแบบนั้นก่อนที่มันจะลุกเดินเข้ามาใกล้ เป็นผมที่ขยับถอยหนีมันออกไป สัด! ...ทำไมต้องมาเจอแม่งด้วยวะ



“เชี่ย นี่มึงร้องไห้หรอพี่สัดเก้อ ไหนๆ ขอดูหน่อยเดะ”



“อย่ามายุ่งกับกู!” รำคาญจนต้องผลักไหล่ของมันออกไปให้ห่างตัว ไอ้เก้อที่เซถอยหลังไปหลายก้าว มันที่หันมาขมวดคิ้วมองหน้ากันในตอนนั้น



“มึงเป็นเหี้ยไร”



“แล้วมึงเสือกเหี้ยไรกับกูล่ะ” ว่าออกไปแบบนั้นแล้วหันหลังหนีไปก้มเก็บกระเป๋า อยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว แม่งไม่สงบ



‘ผลัก’



“โอ๊ย” ผมที่ล้มลงเพราะแรงถีบจากด้านหลัง ฟุบหน้าลงไปนอนเปื้อนฝุ่นจูบกับพื้นในตอนนี้ก็ยันตัวลุกขึ้นแล้วจ้องตาไอ้เสือเขม็ง ลุกขึ้นมาตั้งท่าจะง้างหมัดต่อยหน้า



“หยุด! นี่คือค่าตอบแทนที่มึงจูบปากกูเมื่อคืนนี้!!”



...



“เป็นคนที่กูชอบค่ะ”



คำพูดสั้นๆ กับเสียงนุ่มๆ ที่ดังอยู่ข้างหูของผมในตอนนี้ รับรู้ได้เหมือนกับเสียงของฟ้าผ่าที่ผ่าลงมาบนหัวผม ‘คนที่ชอบ’ ... ทั้งๆ ที่ก็คิดเอาไว้แล้ว แต่พอมาได้ยินกับหูและออกจากปากของอิเจ๊พี่มัน ทำไมผมถึงรู้สึกชาไปทั้งหน้า แล้วจริงๆ ที่ใจก็เหมือนกับเจ็บนิดๆ ด้วยเหมือนกัน



“อ้อ...” สุดท้ายก็ได้แต่แค่นเสียงที่ฟังดูแล้วโง่เง่าที่สุดพูดออกไปแบบนั้น ผมที่ค่อยๆ ขยับตัวและลุกออกจากตักของอีกฝ่าย และคราวนี้เจ๊มันก็ปล่อยตัวผมลงไปจากตักของมันง่ายๆ ด้วยเหมือนกัน ผมที่ลุกแล้วเดินหนีมันออกมา พยายามไม่มองหน้าขึ้นที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ แต่ฝ่ามือหนาของอีกฝ่ายก็เอื้อมมาคว้ามือกันเอาไว้ก่อน



“จะไปไหนคะ”



“ผม...”



“พะพายเป็นคนที่กูชอบมากๆ”



“รู้แล้ว!” ย้ำกูเพื่อ



พอตะคอกออกไปแบบนั้น อิเจ๊ตรงหน้าก็ทำแค่อมยิ้มมองหน้ากันหน่อยๆ แต่ฝ่ามืออุ่นๆ ของพี่มันก็ไม่ยอมปล่อยมือออกไปจากแขนของผม



“หึงหรอคะหนู”



“ไม่คุยแล้ว” ว่าแบบนั้นแล้วตั้งท่าจะดึงแขนออกจากการเกาะกุมของอีกฝ่าย แต่อีกคนก็ทำแค่กระชากแขนเบาๆ แต่ตัวของผมก็ปลิวเข้าไปหาพี่มันง่ายๆ



“แต่กูอยากคุยค่ะ ... ขืนปล่อยให้ไปแบบนี้มึงก็หนีกูไปหาไอ้สัดล่ำนั่นอีกสิ”



“เก้อ เรียกเก้อดีๆ นะเจ๊พี่มึง”



“เรื่องกู กูไม่เรียก”



“ปล่อยโว้ย ไม่คุยแล้ว”



“เวลาเด็กมันหงุดหงิดเพราะหึงมากๆ นี่น่ารักดีนะคะ” ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แล้วมองหน้ากันอยู่แบบนั้น อยากถามว่าเพื่อนเล่นมึงหรอดาบ ใครเล่มกับมึงอ่ะ!



“กูชอบพะพาย...”



“รู้แล้วไอ้เหี้ยเจ๊พี่มึง ย้ำอยู่ได้! อึก อื้มม” คำพูดของผมถูกกลืนลงไปในคอและแทนที่มาด้วยริมฝีปากอุ่นๆ ของคนตรงหน้าที่ลิ้นร้อนก็แทรกเข้ามาในโพรงปากอย่างร้อนแรง วงแขนแกร่งอีกข้างที่เปลี่ยนมาโอบเอวของผมดึงรั้งให้แนบชิดกับตัวของอีกคนให้มากขึ้นพร้อมๆ ฝ่ามือที่ลูบไล้ไปตามสันหลังทำเอารู้สึกเสียววูบไปทั้งตัว คนตรงหน้าที่กดจูบบดขยี้อย่างเอาแต่ใจ ก่อนที่สุดท้ายจะค่อยๆ ละริมฝีปากของมาช้าๆ แต่ก็ยังไม่ผละหน้าออกไปจากกัน ทำแค่ใช้ริมฝีปากนุ่มของเจ้าตัวขบเม้มอ้อยอิ่งอยู่ที่ริมฝีปากของผมเบาๆ



“เมื่อก่อนกูชอบพะพาย แต่ตอนนี้สิบพะพาย ก็ทำให้กูหวั่นไหวเหมือนควายน้อยตัวเดียวไม่ได้ค่ะ”






:
:::::::::::::::::-- to be continued --:::::::::::::::::::::::::





ถ้าถามแคทว่าเรื่องนี้ใครเป็นนางร้าย และกวน (ตื๊ด) ที่สุดในเรื่อง

ใช่ค่ะ

ถึงตัวจะใหญ่แต่สมองของเค้าคือคนบ้า ชื่อของเค้าคือ แด็ป โดโลทรี!!

โอ้ยยย ไม่รู้จะสงสารใคร กับน้องเอมที่โดนแกล้งตลอด กับพี่เก้อคนช้ำ มามะ มาหาแคทไหม

ส่วนคนอ่านที่กำลังลุ้นว่าเมื่อไหร่คะ เมื่อไหร่น้องเอมจะโดนพี่ดาบจับกิน อยากบอกว่า ใจเย็นน้าา

เพราะน้องต้องโดนแน่ๆ อิอ๊ะ แต่ในช่วงเวลานี้ยังไม่เหมาะ เรื่องราวยังมีอีกมากมาย นิยายเรื่องนี้ยังมีอีกหลายตอน

แคทอยากให้คนอ่าน อ่านแล้วได้เรียนรู้ถึงพัฒนาการของตัวละครไปพร้อมๆ กัน

ถึงแคทจะเป็นคนเขียนที่ไม่เก่งมาก แต่ก็อยากจะเขียนออกมาให้ดีในแบบที่คนอ่านจะยิ้มไปด้วยกันจนจบนะคะ

ฝาก พี่แด็ป เอ้ย พี่ดาบ เอ้ย เจ๊ดานี่กับน้องเอมไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ

และฝากแฮชแทค #สวยๆ เป็นผัว ในทวิตเตอร์ไว้ด้วยค่ะ

ทุก1คอมเม้นท์ของคุณ คือกำลังใจของเราน้าา

จุ๊บๆ เลยค่าาา :mew1: :mew3:  :pig4:




ขอขอบคุณ คนอ่านจากทางเล้าเป็ดที่เข้ามาอ่านกันและคอมเม้นท์น่ารักๆให้แคทตลอดเลยค่ะ


แล้วเก้อหายไปไหนนะ,,,
  หายไปปปปป.....


:pig4: :pig4: :pig4:  :pig4: :pig4:
ขอบคุณมากๆเลยนะคะ เข้ามาอ่านมาเม้นท์ให้แคทตลอดเลย



พูดว่าชอบออกมาสักที
ไหนๆก็มาถึงขั้นนี้แล้วน้องเอมจัดการเรื่องพาพวยให้มันจบๆไปเลยนะ
แบบว่ามันก็ค้างคาใจกองเชียร์อย่างเราเหมือนกัน
แล้วอิพี่ดาบจะมามั่วๆบอกชอบปุ๊บจองน้องปั๊บแบบนี้ไม่ด้ายยยย
มันผิดผีอ่ะ ยังไม่ได้ไปเดทกันเลยนะ >///<

ตอนนี้ทำเอาอึ้งกับน้องเสือไปเลย ก้าวร้าวรุนแรงกับคนอื่นเกินไป
ถึงจะไม่ถูกชะตา ไม่ชอบขี้หน้าแต่ก็ควรเคารพและให้เกียรติคนอื่นบ้าง
เพื่อนเก้อต้องจัดการกับพฤติกรรมแบบนี้ของน้องนะ
  น้องเสือก็คือ เด็กเทาๆคนนึงที่โดนสปอยมาตลอด แต่เรื่องราวของน้องเสือ แคทจะนำมาเล่าให้ทราบต่อจากนี้น้า อิอิ
ส่วนอิเจ๊พี่ดาบดานี่ คือร้ายที่สุดในเรื่องนี้ค่ะ ถ้าอยากจะตีพี่แก ตีได้เลยยย เป็นคนร้ายๆ ขอบคุณคอมเม้นท์ยาวๆที่ให้กันเสมอๆ
แคทอ่านไปยิ้มไปเลย ดีใจที่มีคนชื่นชอบเรื่องนี้และอินไปด้วยกันในทุกๆตอนเลยค่ะ ดีใจมากๆจริงๆ ขอบคุณมากๆนะคะ


แซ่บ!
  หึ่ยยยย เขินเลยน้า



:-[ :pig4:
  ขอบคุณมากๆนะคะ แล้วมาอ่านอีกน้าา


พี่ดาบมันกร๊าวใจมากเลย อิ_อิ ไม่ไหวๆๆๆ
 :o8:
  เห้ย จริงไหมคะ แคทกลัวว่าพี่เค้าจะไม่แซ่บๆ



เสือเก้อออไปเลยค้าบ
Sent from my FLA-LX2 using Tapatalk
  ไปไหนน้าาา อิอิ



เพิ่งมาเจอเรื่องนี้ งื้ออออ  :mew1:
ขอภาวนาได้ไหม อิ๊เจ๊ กลับมาเป็นเป็นพี่ดาบยาวๆเลยสิหว๊าาาา
ไปขุดร่างพี่ดาบมาประทับแบบถาวรเดี๋ยวนี้ !!!!  :hao7: :hao7: :hao7:

ถ้าพระพายกลับมา หนูเอมจะต้องนอยด์มากแน่ๆเลย
ไม่เอาาาาา อย่าดราม่าน่าาา  :ling1: :ling1:
งื้อออ ดีใจ ขอบคุณมากๆนะคะที่เปิดเข้ามาอ่านเรื่องนี้ แคทดีใจมากจริงๆ เข้ามาแล้วอย่าทิ้งกันไปไหนน้า (เกาะขา)
อยู่ต่อไปเรื่อยๆเดินไปด้วยกันจนจบเลยนะคะ ส่วนถ้าน้องพะพายกลับมาน้านน อิอิ ต้องรอดูกันนะคะ



สบายใจละ เอมได้ผัวดุ
  เดี๋ยววว 5555555 อ่านคอมเม้นท์นี้คือหลุดขำออกเสียง ห่วงอะไรนะคะ ขออีกที 5555



:L2: :pig4: :L2:
  ขอบคุณมากๆเลยนะคะ แล้วมาอ่านอีกน้าาา
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่14 {11/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: KizzllKizz ที่ 11-01-2020 21:50:19
เจ๊ดานี่ก็เป็นซะแบบนี้ ใจน้องเหลวเป๋วแน่นอน
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่14 {11/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 11-01-2020 22:58:15
สิบพาพวยก็ชอบไม่เท่าน้องเอมมมม :hao6:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่14 {11/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 11-01-2020 23:15:10
เป็นตอนที่คนอ่านแบบเราจัดการอารมณ์ได้ยากมากค่ะ
อิฉันไม่สามารถดราม่ากับความน้อยใจพี่แด๊ปโดโรธีของน้องเอมได้เพราะ พาพวย!!!!
พาพวยคนเดียวเลย ชื่อนี้โผล่มาทีไรมีวาบหวิวในใจตลอด
น้องจะดราม่ามั้ยน้า พี่ดาบจะยังมีเยื่อใยอะไรอยู่หรือเปล่า
แต่พอพี่ดาบหยุดน้องด้วยสิบพาพวยความโล่งใจก็กลับมาทันที
เหลือก็แต่เจอตัวเป็นๆแล้วอหละว่าน้องเอมจะโอเคหรือเปล่า

เพื่อนเก้อนี่น้า คนเขาไม่ชอบก็อย่าไปฝืน
มาเฝ้าอบรมน้องรหัสตรงหน้าดีกว่า
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่14 {11/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 12-01-2020 02:19:55
 :z6: :z6: :z6: :z6: อีเจ๊น่าโดนถีบมากไปค่ะ
ดูออก
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่14 {11/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 12-01-2020 02:37:10
อิเจ๊กวนสุดๆนะครับ,,,
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่14 {11/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 12-01-2020 10:28:09
บางทีก็สงสารเอมนะ เจ้ดานี่แกล้งหนักมาก!
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่14 {11/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 12-01-2020 17:51:06
พีดาบงาบเด็ก
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่14 {11/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 12-01-2020 19:10:32
อะๆเคร เคลียร์กันดีๆนะ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่14 {11/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Rungzanaka ที่ 12-01-2020 23:22:22
เจ้พี่ดาบมันร้ายนะคะหัวหน้าแกล้งน้องจนร้องแล้วสงสารน้องหนูเอมจะค่ะ แต่ก็น่าร้ากกก :-[
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่14 {11/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 12-01-2020 23:52:37
พี่แด๊บ โดโรทรีเค้าอาจจะชอบพาพวย. แต่พี่ดาบ+เจ้ดานี่ชอบควายน้อยมากกว่านะจ๊ะ เฮียบอกแล้ว    :hao3:

เอ็นดูสกิลภาษาอังกฤษของน้องเอมจริงๆ    :laugh:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่14 {11/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 13-01-2020 16:44:44
 :z1:

 :กอด1: :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่14 {11/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: LifePo-YuGu ที่ 16-01-2020 10:58:47
ไม่อยากลุ้นแล้ว อยากอ่านจนจบเลยง่า
เราค่อยกลับมาอ่านที่เดียวตอบจบเลยดีไหมมมมม  :z2: :z2:
อ่านไปแบบกำลังฟิน พออิ๊เจ๊พูด ค่ะ ค่า มานี้ถึงกับขำกร๊าก  :m20:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่15 {18/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 18-01-2020 20:51:51

บทที่15



“เมื่อก่อนกูชอบพะพาย แต่ตอนนี้สิบพะพาย ก็ทำให้กูหวั่นไหวเหมือนควายน้อยตัวเดียวไม่ได้ค่ะ”



คนตรงหน้าที่พูดออกมาแบบนั้นด้วยเสียงทุ้มเข้มไม่มีแววล้อเล่นแด๊ะแด๋แบบที่ผ่านๆ มาที่ชอบทำให้เห็น สายตาคมที่มองสบตากันในตอนนี้ของอีกฝ่ายมีแววตาอ่อนโยนปนมาให้กันอยู่ด้วย



เขินจัง แต่อยากด่าว่าไอ้สัดจังจะได้หรือเปล่า



ไอ้เอมเป็นคนโว้ย จะมาเรียกเป็นตัวอะไรล่ะเห้ย...ขอซีนหวานๆ ให้กูสักฉากจะได้ไหมอิเจ๊พี่มึง



“เจ๊สิตัว ผมเป็นคนนะเว้ย”



“หนูคะ”



“อะไรอีก เรียกเก่งจังวะวันนี้” ว่าแบบนั้นแล้วเสหน้าหนีหันไปมองไรฝุ่นแถวๆ โต๊ะ ได้แต่นึกๆ ในใจว่าจะมีฝุ่นเพิ่มขึ้นมาอีกไหมน้า ไอ้เอมอยากจะวิ่งไปหยิบผ้าขี้ริ้วมาเช็ดๆ ถูๆ ตอนนี้จังเลยโว้ย เผื่อจะได้หลบออกไปจากสายตาแบบนี้ของอิเจ๊พี่มันได้สักนิดนึง



“เขินอยู่ดูออก”



“เจ๊าะแจ๊ะ!!” โพล่งออกไปแบบนั้นเต็มๆ หน้าอิเจ๊พี่มัน ก็ไม่รู้ว่าจะอยากพูดอะไรนักหนาอ่ะ ไอ้เอมไม่อยากให้พูดสักหน่อยนะ



“ไม่ล้อดีกว่าเนาะ สงสารเด็กมัน” มึงล้อกูอยู่นี่ไง ยังจะมาพูดอีก พูดไปยิ้มกรุ้มกริ่มไปคืออะไร กลืนกูลงท้องเลยไหมล่ะถ้าจะมองกันขนาดนี้อ่ะ



เราสองคนที่ต่างฝ่ายต่างเงียบเสียงลงไปในตอนนี้ ต่างฝ่ายต่างเหมือนตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเองไปชั่วขณะ ก่อนที่จะเป็นผมเองที่เปิดปากพูดออกมาก่อน



“เจ๊” เรียกพี่มันออกไปในตอนที่ตัวเองนึกเรื่องนึงที่สงสัยมากๆ ขึ้นมาได้พอดี มองคนตรงหน้าที่เอาแต่ส่งยิ้มมาให้กัน สายตาที่ดูเหมือนเอ็นดูกันมากมาย แต่จริงๆ ก็รู้ว่ามันเหมือนกำลังหาช่องทางล้อกันตลอดเวลาไม่เลิกหรอก



“ว่าไงคะ”



“เจ๊มาบอกชอบผม แบบนี้เจ๊...เจ๊ก็เป็นตุ๊ดปลอมจริงๆ น่ะสิ” ถามออกไปแบบนั้น อีกคนก็ทำหน้านิ่งไป เจ๊พี่มันที่ไม่ยอมตอบอะไรออกมาในทันที เอาแต่จ้องตามองผมกลับมาอยู่แบบนั้น สายตาที่ตอนนี้ผมก็อ่านไม่ออกว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่



“ทำไมหรอคะ? มึงสงสัยอะไรเอ่ย” ในที่สุดอีกคนก็ยิ้มออกมาแล้วพูดออกมาแบบนั้น สายตาคมที่ก็ยังมองไปทั่วใบหน้าของผมอยู่แบบนั้น



“ก็สงสัยเรื่องที่ถาม”



“แล้วถ้ากูเป็นตุ๊ด กูชอบมึงไม่ได้หรอคะ”



“ก็มันแปลกๆ ไหมวะ การกระทำของเจ๊กับท่าทางของเจ๊ มันไม่เข้ากันจริงๆ ...แล้วตุ๊ดที่ไหนจะมาชอบผู้ชาย แถมยัง...”



“กูชอบมึงค่ะน้องเอม” อีกคนที่ตัดบทว่าออกมาและจ้องตากันแบบนั้น สายตาของพี่มันที่มองมาก็ทำให้ปากผมหุบลงทันที จริงๆ ยังอยากพูดอะไรออกมาอีก แต่อีกฝ่ายที่จ้องกันนิ่งๆ สายตาของพี่มันที่ทำให้เสียงของผมต้องเงียบลง พร้อมๆ กับใบหน้าคมที่เอียงเข้ามาหา ก่อนจะตามมาด้วยริมฝีปากนิ่มๆ ที่ประกบลงมาเบาๆ ที่ริมฝีปากของผม ก่อนจะผละออกไปแบบไม่ได้ลุกล้ำกันมากไปกว่านั้น



“กูเลิกคิดอยากจะดูแลใครมานานแล้ว แต่พอมาเจอมึง ความรู้สึกกูก็เปลี่ยนไปว่ะ ... ก็แค่...อยากจะเป็นโลกใบใหม่ให้มึง เหมือนที่พระเอกละครหล่อๆ ที่ทำทุกอย่างเพื่อนางเอกที่แม่กูชอบดู” คนตรงหน้าที่บอกผมแบบนั้น สายตาอุ่นๆ ที่ทำให้หัวใจของผมสั่น เรื่องราวต่างๆ ตลอดชีวิตของผมที่ผ่านมาไหลเวียนเข้ามาในความทรงจำ ... ผมที่ใช้ชีวิตอยู่กับป้า แต่จริงๆ แล้วก็เหมือนว่าต้องดูแลตัวเองมาตลอด ในโลกใบนี้มันโคตรจะอ้างว้าง พึ่งพาใครสักคนไม่เคยได้ หลายครั้งที่เคยอ่านหนังสือนิยาย ก็เคยคิดว่ามันจะมีจริงๆ หรอวะ คนๆ นั้น... คนดีๆ แบบนั้นที่จะเดินเข้ามาในชีวิตจริงๆ



“มันจะมีจริงๆ หรอวะ พระเอกที่เหมือนในละคร เหอะ พูดแล้วอยากจะขำ แม่งไม่มีหรอก คนที่รักและทำเพื่อเราได้ขนาดนั้น ...”



“มึงพูดแบบนี้หมายความว่าไงคะ...”



“ก็แล้วมันไม่จริงหรอวะ คนดีๆ ที่จะมาดึงเราให้เข้าไปอยู่ในโลกใบใหม่แบบในละคร แม่งไม่มีหรอกว่ะ” ก็แค่พูดออกไปตามที่ใจคิด ตลอดชีวิตที่ผ่านมา โลกมันก็สอนให้รู้ว่า ใครๆ มันก็เห็นแก่ตัว ขนาดญาติพี่น้องกันแท้ๆ แบบป้าผม ก็ยังไม่จริงใจเลยไหมวะ



“ก็กูไงคะ ...เอ๊ะ อิหนูมองกูแบบนั้นหมายความว่าไง กูไม่เหมาะที่จะเป็นพระเอกหรือไงคะ”



“ก็แล้วพระเอกที่ไหนมันจะปากแดง แล้วก็บล็อคตาแน่นแบบนี้บ้างล่ะวะ” ผมที่อดไม่ได้ที่จะยู่ปากใส่ตอนที่เห็นอีกฝ่ายเสยผมขึ้นหน้าผากด้วยท่วงท่าเท่ๆ แต่เหมือนจะหงุดหงิดเล็กๆ นั่น มันจะเท่มากถ้าปากมันไม่แดง



“แบบกูนี่ไงคะ สวยๆ เป็นผัว มึงไม่เข้าใจหรอคะ โดนเองมากับตัวมึงยังจะมาปากดี ... กูปากแดงสวยๆ แล้วไง กูก็เป็นผัวมึงได้ก็แล้วกัน”



สาดดดดดด ใครให้เอาเรื่องเอามาพูดถึงกันวะเจ๊!



“กูชอบมึง กูจะจีบมึง”



“เจ๊!” ....



“แต่จริงๆ ก็ไม่น่าจีบแล้วไหม กูได้มึงไปก็หลายรอบแล้วนะคะหนู”



“หลายรอบไรวะ ครั้งเดียว!” ผมที่เบิกตากว้างขึ้นในตอนที่พี่มันพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา รีบที่จะบอกออกไปแบบนั้น ...



ก็ครั้งเดียวจริงๆ ครั้งเดียวที่มึงจำได้ไงเจ๊



ผมที่พอพูดออกไปแบบนั้นแล้วคนตรงหน้าก็กระตุกยิ้มมุมปากออกมาน้อยๆ ก่อนที่ใบหน้าคมจะเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ ก่อนที่อีกฝ่ายจะเอียงหน้ามากระซิบเบาๆ ที่ข้างหูกันว่า



“หรอคะ”



ว่าออกมาแบบนั้นแล้วผละหน้าออกห่างกันนิดหน่อย สายตาคมที่ยังจับจ้องเข้ามาในดวงตาของผม ก่อนที่ริมฝีปากหยักได้รูปนั่นจะกระตุกยิ้มมุมปากออกมาอีกครั้ง สายตาที่พอมองดูดีๆ ในตอนนี้มันกลับวาววับชอบกล



ในตอนที่รู้สึกตัวแล้วตั้งใจจะผละตัวออกหนี อีกฝ่ายก็รวบตัวผมเอาไว้ทั้งตัว ก่อนจะดึงตัวของผมให้เข้าไปใกล้มากกว่าเดิม วงแขนแกร่งที่โอบรอบเอวของผมไปทั้งแบบนั้น



“มึงคิดว่ากูไม่รู้หรอวะ ว่าคืนที่ก่อนน้องหยีจะพามึงมาฝากงาน เราก็มีอะไรกันไปก่อนแล้ว”



“เจ๊! นี่มึงจำได้!!” โพล่งออกมาเสียงดัง ตาเบิกค้างอย่างช็อคๆ .... กูที่พยายามปกปิดแทบตายเพราะกลัวโดนไล่ออก แต่เดี๋ยวก่อนนะ



“หึ”



“นี่เจ๊รู้เมื่อไหร่ แล้ว...แล้วคือเจ๊แกล้งผมหรอ แกล้งทำไม่รู้เรื่องหรอ”



“กูไม่ได้โง่นะคะหนู ในร้านก็มีกล้องวงจรปิดไหมเอ่ย กูเช็คตั้งแต่เช้าวันใหม่ที่ตื่นมาแล้วมึงหายไปแล้วเถอะค่ะ ก็ว่า ทำไมสัมผัสมันคุ้นจังวะ...ที่แท้ก็น้องบ๋อยของกูนี่เอง”



“นี่เจ๊ตามไปเปิดกล้องตั้งนานแล้หรอวะ! แล้วคือ...ตีเนียนหลอกกูมาตลอด นี่เจ๊ เจ๊มึง” ตะกุกตะกักอยากหาคำด่า อยากจะโพล่งคำหยาบๆ กระแทกใส่หน้าพี่มันสักที แต่หาคำพูดออกมาไม่ได้เลย ... แม่งแกล้งกูอีกแล้ว



“กูไม่ได้หลอกนะคะหนู ก็แค่บอกไม่หมดเฉยๆ”



“แล้วมาบอกไม่ให้ผมพูดถึงอีก แล้วเจ๊ โว้ยยย....”



“ก็แค่ปิดให้เด็กมันตายใจอ่ะคะหนู” ยักคิ้วหลิ่วตาใส่ กูอยากเอานิ้วจิ้มให้ตาบอด



“มึงไม่ต้องมาหนู! เจ๊แม่ง!”



“โกรธอะไรขนาดนั้นอ่ะคะ ยังไงปลายทางก็เหมือนกัน”



“เหมือนกัน เหมือนอะไรตรงไหนวะ ตลอดเวลากูก็กลัวว่าถ้าเจ๊พี่มึงรู้แล้วจะไล่กูออกเนี่ย กูหวาดระแวงมากๆ แต่คือมึง..เจ๊มึงรู้แล้ว”



“โถ่ น่าสงสารจังเลยควายน้อยของพี่” คำพูดกวนตีนกูไม่พอ ยังจะเอามือมาลูบหัวกันเหมือนปลอบ แต่สายตาก็คือแอบขำขันกู ดูออก! ฝ่ามืออุ่นที่ยื่นมาจับมือกันแต่ก็โดนผมปัดออก โมโหอ่ะ



“มันเป็นฟึดฟัดอ่ะเนาะ ออกสาวกว่ากูแล้วนะจังหวะนี้” ว่าแบบนั้นพร้อมยิ้มขำกันไปด้วย แต่สุดท้ายผมก็แพ้มันอยู่ดี เพราะอีกฝ่ายไม่ยอมให้ผมได้ชักมือหนีเป็นรอบที่สอง



“สุดท้าย ปลายทางก็จบตรงที่เราชอบกันอยู่ดีไหมวะ”



“ใครบอกเจ๊แบบนั้นวะ อย่ามั่นได้เปล่าอ่ะ”



“มึงจะบอกว่ามึงไม่ได้ชอบกู” ถามแบบนั้นพร้อมท้ายประโยคที่ขึ้นเสียงสองใส่นิดหน่อย น่าหมั่นไส้มากๆ อยากตบให้สีปากมันหลุด



“หึ ถ้าตอแหลไม่เนียนก็อยากให้หยุดก่อน เพราะสายตามึงอ่ะน้องเอม...มันฟ้องกูหมดแล้ว”



ว่าแบบนั้นแล้วส่งยิ้มอบอุ่นมาให้กันอีกครั้งนึง สายตาคมที่จ้องมากันแบบไม่ละไปไหน และครั้งนี้ก็เป็นหัวใจของผมเองเหมือนกันที่บอกให้จ้องอีกฝ่ายแบบไม่หลบสายตา ... ก็เพราะจริงๆ ที่พี่มันพูดมา ก็ไม่มีตรงไหนที่พี่มันพูดผิด ... อาจจะเหลือแค่อย่างเดียว ก็ตรงที่ ผมเองก็แค่ยังไม่มั่นใจ



.

.

.



“กรี๊ดดดดดดด กูว่าแล้วๆๆๆ มองจากดาวอังคารกูก็ว่าแล้วว่ามันมีอะไรแปลกๆ ซ่อนอยู่นะคะ”



ผมที่ต้องยกมือขึ้นอุดหูตอนที่ไอ้หยีร้องแหกปากออกมาแบบนั้นในตอนที่ผมเล่าเรื่องทุกอย่างให้มันฟัง จริงๆ ไม่ได้ตั้งใจจะเล่า แต่พอมาถึงมหาลัยก็เห็นมันนั่งหน้าตึงอยู่คนเดียว พอมันเห็นผมเท่านั้นก็ดันคาดคั้นเรื่องผมกับอิเจ๊พี่มันออกมาแบบไม่หยุด ด้วยประโยคที่ว่า ‘มึงกับพี่ดาบเจ๊ดานี่มีอะไรกันใช่ไหม’ แค่ได้ยินแค่นี้ กูก็โพล่งออกไปเลยว่า ‘มึงรู้ได้ไงวะว่ามีไรกันแล้ว’ เท่านั้นแหล่ะ ไอ้หยีก็เบิดตากว้างอ้าปากค้างและคาดคั้นให้ผมเล่าเรื่องทุกอย่างให้มันฟัง ... จริงๆ คือกูโป๊ะแตก เพราะมันไม่รู้ว่าผมมีอะไรกัน มันแค่เป็นประโยคคำถาม แต่ผมเสือกบอกมันออกไปเอง เพราะแบบนั้นก็เลยเล่าให้มันฟังจนจบ



“แล้วนี่ยังไงคะ พูดขนาดนี้แล้ว คือมึงคบกันแล้วชิมิ” มันที่ถามออกมาแบบนั้นพร้อมหยิบโกโก้ปั่นที่ผมซื้อมาเมื่อกี้ขึ้นไปดูด



“เปล่าอ่ะ”



‘พรวด!’



“โอ้ย! อกอิแป้นแล่นลึกเข้าตึกแขก มัวรออะไรอยู่คะถึงไม่คบ” แหกปากออกมาแบบนั้นพร้อมพ่นโกโก้ออกมาจากปากด้วย พ่นออกมาเป็นสายฝน แอบกระเด็นโดนหน้าผมด้วยนิดนึง ลำบากต้องมาเช็ดออก



“ก็...”



“มึงอ้ำอึ้งอะไรคะน้องเอม เล่าๆ มา! บอกแม่มาค่ะ ยังมีเรื่องอะไรที่มึงยังเล่าไม่หมดอีกคะ”



“ก็คือมึงต้องการรู้ขนาดนี้เพราะอยากช่วยกูหรอป้า”



“จาก100 คือ40เปอร์เซ็นต์อยากช่วย อีก60คืออยากเสือกล้วนๆ เลยค่ะลูกขา”



“โอเค กูลาล่ะ”



“โอ๊ยย เดี๋ยวๆ ก็หยอกไหมอ่ะคะ ถ้าไม่ให้กูช่วยมึง จะให้ใครช่วยมึงคะ อิเก้อหรอ?”



“เออว่ะ...แล้วนี่ไอ้เก้อไปไหน” พอพูดถึงมันก็นึกขึ้นได้เลยว่าตั้งแต่มาถึงก็ยังไม่เห็นมัน ปกติมันมามหาลัยไวกว่าใครเลยนะครับ เหมือนรีบอยากตั้งใจเรียน ทั้งๆ ที่พอเข้าไปในห้องเรียนก็ชอบเอียงหัวมาพิงไหล่ผมแล้วหลับ สารเลวจริงๆ



“มันยังไม่มาเรียนหรอป้า” หันไปถามไอ้หยีมันอีกครั้ง แต่อีกฝ่ายที่แค่ทำหน้าตึงตอบกลับมา กูว่าแปลกๆ แล้วน้า



“มีอะไรหรอวะป้า”



“มันจะไปตายห่าที่ไหนก็ช่างหัวมันเถอะค่ะ อยู่ก็เป็นบ้าเป็นบอ ประสาทแดกฉิบหาย”



“มึงทะเลาะกันหรอวะ” ผมได้แต่ขมวดคิ้วออกมาในตอนนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้เห็นไอ้หยีมันทำหน้าไม่สบอารมณ์แบบนี้ ครั้งสุดท้ายที่ได้เห็นน่าจะตอนรับน้องที่พวกเราโดนซ่อมเพราะล่ารายชื่อรุ่นพี่ไม่ครบให้วิ่งรอบสนามบอลจนผมเป็นลมล่ะมั้ง ตอนนั้นไอ้หยีก็คือโมโหจัดจนด่ารุ่นพี่ นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้เห็นมันทำหน้าแบบนี้



“มันผลักกูค่ะ ผู้หญิงบอบบางแบบกูอ่ะ โดนอิมนุษย์หมีควายแบบมันผลัก มึงว่ากูจะบอบช้ำหรือไม่” ใจอยากบอกว่าไม่ แต่คิดว่าอย่ากวนใจมันดีกว่าเลยพยักหน้าให้มันแทน



“ใช่มะ มึงยังสงสารกู นี่สิคะถึงจะเป็นลูกกู โถ่ น้องเอมของแม่ ส่วนอิผัว ที่ตอนนี้กูปลดให้เป็นผัวน้อยละ อย่าพึ่งพูดถึงแม่ง อย่าพึ่งอยากเสือกเรื่องมันในตอนนี้ พูดเรื่องมึงมาก่อนอิเอม”



ตัดบทกูไม่พอยังจะถามเรื่องกูต่อไปอีก ... เป็นสกิลการเสือกขั้นสูงที่ผมต้องเรียนรู้จากมันครับ



“แล้วสรุปว่ายังไงคะ อิเจ๊พี่ดาบมันไม่ขอมึงเป็นแฟนหรอ”



“เปล่า” บอกป้ามันออกไปแบบนั้นพร้อมๆ กับส่ายหน้า



“เอ้า! สรุปคือยังไง ลีลาอิสัด สรุปพี่มันขอ?” พอโดนถามออกไปแบบนั้นก็ทำได้แค่พยักหน้าตกลง นึกถึงประโยคนั้นของเมื่อเช้านี้



“มึงชอบกู กูชอบมึง เราเองมาคบกันเถอะค่ะ”



“ก็ขอ แต่กูปฏิเสธ”



“ปฏิเสธ!! อิสัดน้องเอม สตินะคะลูก อะไรของมึง นี่มึงกล้าปฏิเสธพี่ดาบ ดลธีหรออิเชี่ย บ้ามาก บ้าที่สุดค่ะมึง” ไอ้หยีที่ทำหน้าทำตาเหมือนว่าโลกมันกำลังจะถล่มลงมาในตอนนี้ คำพูดคำจาที่บอกว่าผมแม่งบ้าแบบสุดๆ มันที่มองหน้ากันแบบรับไม่ได้



“มึงรู้ไหมว่ามีคนต่อคิวทั้งหญิงทั้งชายที่รอให้พี่ดาบพูดคำนี้กับเค้า อิเหี้ยเอ้ย กูนึกถึงตอนกูปีหนึ่ง พี่ดาบวิศวะแซ่บๆ มีแต่คนมารุมทึ้งค่ะ แต่นี่เพื่อนกู เพื่อนผู้สมองน้อยของกูปฏิเสธพี่เค้า หล่อรวยKวยใหญ่ขนาดนั้น มึงกล้าปฏิเสธ What the heck!”



“อิป้า มึงรู้ได้ไงว่าKวยใหญ่!”



“แล้วใหญ่ไม่ใหญ่”



“เออ ใหญ่มาก”



“กรี๊ดดดดด แม่คะ อิน้องเอมมันขิงหนูค่ะแม่ แซ่บๆ จุกๆ เลยใช่ไหมลูก”



“ก็จุกอยู่น้า”



“สาบานมาอิเอมว่ามึงไม่ได้ขิงกู” ไอ้หยีที่เบ้ปากใส่ ทำหน้าทำตาแบบว่าหมั่นไส้ผมเป็นที่สุด เห็นแบบนั้นเลยหัวเราะขำมันออกมา



“บ้าน่า ก็แค่พูดตามที่รู้”



“กรี๊ดดด ริษยามากค่ะ เนี่ย...งานดีนิสัยดีขนาดนี้ มึงพูดมาดิว่ามึงไม่ได้ชอบพี่มัน”



“ก็ชอบ” ผมที่ว่าออกไปแบบนั้น ก็ต้องยอมรับเลยว่า อาจจะเป็นผมก่อนด้วยซ้ำมั้งที่รู้สึกใจสั่นหวั่นไหวใส่พี่มันตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันตอนที่นู้น ... ตอนที่ผมเสียครั้งแรกให้มันล่ะมั้ง



“ชอบแล้วมึงติดอะไร เป็นเหี้ยอะไรถึงปฏิเสธพี่ดาบ ดลธีของกูคะ!”



“ก็ติดตรงที่มันไม่ใช่พี่ดาบดลธียังไงล่ะวะ” ว่าออกไปแบบนั้นพร้อมๆ กับถอนหายใจแบบหนักๆ แล้วมองหน้าไอ้หยีไปด้วย มันที่ขมวดคิ้วแล้วมองผมแบบไม่เข้าใจ



“ห๊ะ?”



“ป้า....กูเคยหวังเอาไว้นะ ว่าถ้าชีวิตนี้จะได้มีแฟนจริงๆ กูก็อยากจะได้แฟนที่เท่ๆ มาคอบดูแลปกป้องกูอ่ะ ... แต่นี่...”



“ยังไง?”



“แต่นี่คือทาปากแดงบล็อกตาแน่น มันก็ไม่ใช่ป่ะวะ ... กูอยากได้แฟนว่ะ แฟนที่เท่ๆ แล้วมาดูแลกู ไม่ใช่เพื่อนสาวที่คอยวี๊ดว๊ายกระตู้ฮู้แล้วก็ทาปากแดงอ่ะ”



บอกมันออกไปแบบตรงๆ แล้วถอนหายใจแบบหนักๆ ในใจก็นึกถึงรอยยิ้มอบอุ่นที่อีกคนมองกัน คิดถึงฝ่ามืออุ่นๆ ของอิเจ๊พี่มันเวลาที่ลูบหัว นึกถึงแผ่นอกหนาๆ ที่เวลาซุกหน้าเข้าไปกอดตอนนอน ผมก็หลับฝันดีทุกๆ ทีที่ได้นอนอยู่ข้างๆ ... คิดถึง คิดถึงเจ๊พี่มัน



“อืม...กูเข้าใจมึงนะเอม มึงคงอยากได้แฟนที่เป็นพี่ดาบ มากกว่าได้เจ๊ดานี่ที่คอยทำเสียงสองและเอาผมทิพทัดหูใช่ไหมล่ะ แต่ว่ามึงได้บอกพี่มันไปไหม” ไอ้หยีที่ทำหน้าเข้าใจ ก่อนจะยื่นมือมาจับมือผมไว้แน่น



“ไม่ได้บอกหรอก” จะบอกไปได้ยังไง แค่เห็นรอยยิ้มพี่มันที่ยิ้มมาให้ ก็ทำเอากูพูดอะไรต่อไม่ได้แล้ว ไม่เคยเป็นตัวเองสักครั้งเวลาอยู่ต่อหน้ามัน อะไรที่เคยทำเก่งๆ ก็กลายเป็นคนโง่ๆ ทุกครั้งเลยอ่ะ



“มึงแค่ตอบปฏิเสธหรอ”



“ก็เปล่า ก็แค่บอกว่ากูยังไม่แน่ใจ”



“ทั้งๆ ที่มึงนอนสแครชไข่กันมาแล้วเนี่ยนะ ยังจะมาไม่แน่ใจ”



“สัดป้า คำพูดคำจามึงอ่ะ”



“กลัวมึงไม่เห็นภาพ...แล้วพี่ดาบเจ๊ดานี่ว่าไง”



“ก็แค่ยิ้มแล้วพยักหน้าให้ พร้อมบอกกูส่งท้ายว่า กูจะทำให้มึงแน่ใจเองจ้าอิดอกกกก แบบนี้อ่ะ”



“โอ้ยยยย ฮ่าๆๆๆ กูขำจนปอดจะโยก พี่ดาบ เอ้ย เจ๊ดานี่กูนี่แม่งก็นะ”



“ดูแม่งดิ ก็เป็นแบบนี้ตลอด ป้ามึงว่ากูจะแน่ใจได้หรอวะ นี่ไม่ใช่แฟนในแบบที่กูหวังไว้อ่ะ”



“ก็รอดูกันต่อไป ... แต่กูว่า มึงทนไม่ไหวหรอกน้องเอม”



“ทนไม่ไหวอะไรกันวะป้า” ย่นหน้าใส่ไอ้หยี ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาเปิดดูเพราะเมื่อกี้เห็นสัญลักษณ์แอพไลน์เด้งขึ้นมา ข้อความที่พอเปิดอ่านได้ว่า



[DANI: พี่คิดถึงหนูจังเลยค่ะ]



[Chaaim: พูดบ้าไรของเจ๊วะ]



[DANI:พูดว่าคิดถึง หรือมันไปไม่ถึงคะ? ถ้าแบบนั้นกูจะเป็นเศร้าแล้วนะ]



[Chaaim: แล้วใครบอกเจ๊ว่าไม่ถึงวะ]



[DANI:งั้นแสดงว่ามันถึง?]



[Chaaim: ก็คงงั้นมั้ง ... ก็เพราะว่าผมก็ คิดถึงเหมือนกันนะ]



[DANI: สัด ... มึงต้องโดนกูแล้วน้องเอมมมมมม]



[Chaaim: ไม่คุยด้วยแล้วโว้ยยย]



[DANI: เขินอยู่ดูออก]



[DANI: ตั้งใจเรียนนะครับ]



ผมที่อ่านประโยคนั้นซ้ำแล้วปิดหน้าจอมือถือลง ก่อนจะค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมา ก่อนจะต้องสะดุ้งตกใจเมื่อตรงหน้าขึ้นไอ้หยีที่นั่งเท้าคางมองกันพร้อมยกยิ้มมุมปากส่งมาให้กัน



“มึงทนไม่ไหวแน่ๆ ค่ะลูก”



งง ... ทนไม่ไหวอะไรกันวะ บ้าบอ





...



“หยุด! นี่คือค่าตอบแทนที่มึงจูบปากกูเมื่อคืนนี้!!”



คำพูดของไอ้เด็กตรงหน้าทำให้ขาของผมหยุดชะงักก้าวที่ตั้งใจจะเดินเข้าไปตั๊นหน้ามันสักหมัด ดวงตากลมโตสองชั้นของมันที่จ้องมองกันแบบดุดันนั่นพร้อมนิ้วเรียวยาวที่ยื่นมาชี้หน้าของผมในตอนนี้



ภาพเรื่องราวของเมื่อคืนนี้ก็แว๊บกลับเข้ามาในหัวทันทีเลย



“มึงจะได้ต่อยกูครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายไอ้เสือ” จ้องหน้ามันด้วยสายตาวาวโรจน์ รอบๆ บริเวณแถวลานจอดรถคอนโดที่เงียบมากกว่าทุกวัน ผมที่เช็ดเลือดที่มุมปากของตัวเองแล้วสาวเท้าเข้าไปใกล้



‘ผลั้ว!’



ยกมือขึ้นต่อยหน้ามันจนอีกฝ่ายหน้าหัน ข้าวของที่ทั้งผมตั้งใจจะซื้อขึ้นไปให้ไอ้เอมกระจัดกระจายอยู่บนพื้น เหลือบๆ มองเห็นว่าข้าวของของไอ้เสือเองก็กระจายอยู่ตามพื้นไม่ต่างกัน



“มึงมันเด็กเหี้ย ไม่รู้จักเด็กไม่รู้จักผู้ใหญ่ กูจะสอนมึงเองไอ้สัดเสือ! มึงมานี่!!” คว้าคอเสื้อย้วยๆ ของมันไว้ได้แล้วจัดการกระชากมันเต็มแรงให้มันไปกระแทกอยู่กับผนังกำแพงตรงลานจอดแบบไม่สนใจว่ามันจะเจ็บไหม



“สอนกู ถุย สอนเหี้ยอะไร ผู้ใหญ่แบบมึงมันก็เหี้... อุ๊บ อื้อออ” ผมที่จับขอมือสองข้างของมันรวบขึ้นไปไว้ด้านบนหัวก่อนจะกระแทกปากเข้าไปประกบปากมันเต็มแรง ไม่ได้มีความอ่อนโยนอะไร ก็แค่กระแทกลงไปแบบประกบปากแรงๆ ในตอนที่เผลอส่งลิ้นเข้าไปในปากของมัน รับรู้ได้ถึงรสเลือดที่น่าจะมาจากปากของมันที่โนผมกระแทกจนแตก ไม่ได้สงสารอะไรก็แค่ทั้งดูดทั้งเม้มแบบแรงๆ มันที่ก็ทั้งดิ้นทั้งถีบแต่ติดตรงกูตัวใหญ่กว่ามึงดิ้นไม่หลุดหรอกไอ้สัด ผมที่ดูดปลายลิ้นของมันแรงๆ ไปอย่างจงใจ



“อื้อออ”



ได้ยินเสียงครางออกมาจากในลำคอของอีกฝ่ายก็อดยกยิ้มไม่ได้ หึ เอียงหน้าทำมุมให้แนบชิดมากกว่าเดิม ในตอนที่ไอ้เสือไม่ดิ้นไปไหน มันเองที่จูบตอบกลับมาแบบไม่ยอมให้กัน ได้ เดี๋ยวมึงเจอ ... ผมที่ไล่ต้อนลิ้นของมัน และอีกฝ่ายก็ไม่ต่างกันที่ตรงเข้ามาเกี่ยวกระหวัดแลกลิ้นกันอย่างออกรสออกชาติ



สัด ... นี่กูทำไรอยู่วะ



“โอ้ย!” ไอ้เสือที่ร้องออกมาแบบนั้นตอนที่โดนฟันของผมกัดเข้าไปเต็มๆ ที่ริมฝีปาก เราสองคนที่ผละออกจากกันในตอนนั้นหยาดน้ำใสก็ยังไหลเชื่อมออกมาจากมุมปากของเราทั้งคู่ ... มันดูดดื่มขนาดไหนกันวะ



“เชรดดดด นี่มันไอ้เสือนี่หว่า มึงที่แย่งเด็กกูไป แต่ตอนนี้มายืนจูบอยู่กับผู้ชาย สุดยอดไปเลยว่ะสัด ไอ้มิกเมื่อกี้มึงอัดคลิปไว้ได้ชัดไหมวะ” เสียงของคนมาใหม่ที่ทำให้ทั้งผมทั้งไอ้เสือต้องหันไปมอง ผู้ชายสามสี่คนที่เดินเข้ามา ท่าทางการแต่งตัวบอกได้เลยว่าต้องเป็นลูกคนมีเงิน ผมหันไปมองหน้าไอ้เสือ มันที่สภาพยับเยิน เสื้อผ้าหัวเหอฟูกระจายไปหมด ... แน่นอนว่ามาจากฝีมือกู



“แล้วเสือกอะไรกับพวกมึงล่ะไอ้สัดเชน”



“แหม ปากดีจังนะ กูอยากจะรู้ว่าถ้าคลิปนี้แม่งแพร่ออกไป มึงจะยังปากดีได้อีกไหมไอ้สัดเสือ ฮ่าๆๆๆ”



“มึงจะเอายังไง” ไอ้เสือที่กำมือแน่น มันที่ถามอีกฝ่ายเสียงเหี้ยมพร้อมเดินเข้าไปหาแบบเอาเรื่อง



“กราบตีนกูนี่ มาขอโทษกูที่มึงกล้าแย่งเด็กกูไป”



ไอ้หน้าขี้เหร่ที่น่าจะชื่อว่าเชนที่ไอ้เสือเรียกเมื่อกี้ว่าออกมาแบบนั้น ผมไม่รู้ว่าไอ้เสือทำหน้ายังไง เพราะเห็นแต่แผ่นหลังของมัน และจริงๆ ก็ไม่อยากรู้แล้วด้วย เพราะเรื่องนี้แม่งไม่เกี่ยวกับผม และถ้าถามถึงเรื่องคลิปที่พวกไอ้เชนห่าไรนี่ถ่ายไป ผมก็มั่นใจมากว่าแม่งคงไม่เห็นหน้าผมหรอก เพราะพวกมันตั้งใจหาเรื่องไอ้เสือ คงเห็นแต่หน้ามันนั่นแหล่ะ เพราะแบบนั้นเลยเดินหนีออกมาเก็บข้าวของที่ตั้งใจซื้อไปให้ไอ้เอม และในตอนนั้นผมก็ได้ยินเสียงที่ต้องทำให้หันไปมอง



“เด็กมึงมันมาหากูเอง ไม่เลิกไม่ลาไม่ยอมรับความหน้าเหี้ยของตัวเอง กราบตีนมึงน่ะหรอ ฝันเถอะไอ้สัด!”



‘ผลัก!’



“มึงกล้าถีบกูหรอ พวกเราจัดการมัน!” ไอ้เชนที่ตะโกนออกมาแบบนั้น และพวกมันที่มากันสี่คนก็ช่วยกันรุมไอ้เสือ ไอ้เสือที่แม่งเตะต่อยเก่ง แต่ก่อนหน้านี้แม่งก็โดนผมต่อยไปไม่น้อย หันหลังกลับไปมองก็เป็นตอนที่ไอ้เสือโดนถีบจากข้างหลังหน้าคว่ำลงไปที่พื้นพอดี ผมที่เอื้อมไปคว้าเจลลดไข้ที่ซื้อมาให้ไอ้เอมไว้แน่น



‘ตุบ ผลั้ว!’



“สัดเอ้ย!” ได้แต่พูดเบาๆ กับตัวเองแบบนั้นก่อนจะปาเจลลดไข้ในมือทิ้งและวิ่งกลับไปถีบหลังไอ้เหี้ยเชนนั่นจนมันกลิ้งหลุนๆ ไปหลายตลบ



“กล้าทำน้องรหัสกูหรอไอ้เด็กเมื่อวานซืน เจอตีนกูนี่!!”

‘ตุบ ผลั้ว ผลัก!’



.

.

.



00:00น.


ได้แต่ยกข้อมือขึ้นมาดูเวลาที่แม่งบอกว่าตอนนี้เที่ยงคืนแล้ว ได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย มองไอ้คนข้างตัวที่ถูกผมหิ้วปลีกออกมาจากโรงพัก ... ใช่ครับ เรื่องราวมาจบลงที่โรงพัก คลิปของไอ้เสือถูกลบเรียบร้อย และพวกเราก็ถูกยามที่คอนโดโทรเรียกตำรวจให้มาจับ พวกไอ้เชนก็ไม่ต่างกัน แต่ข้อหาที่ได้รับก็มีแค่ทะเลาะวิวาท



“มึงไหวไหมไอ้สัด”



“ยังไม่ตายน่า” มันที่ว่าออกมาแบบนั้นแต่มือนึงก็กุมท้องของตัวเองเอาไว้ ก่อนที่ผมจะไปช่วยเห็นว่ามันถูกกระทืบไปหลายทีอยู่



“ทำไมถึงกลับมาช่วย” มันที่ถามออกมาแบบนั้นอีก พร้อมๆ กับหันหน้ามามองกัน ผมที่ก็ทำแค่กระชับเอวของมันให้แน่นขึ้นแล้วเดินลากมันไปที่ถนน ตั้งใจมองหาแท็กซี่



“จริงๆ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับมึงสักหน่อย ปล่อยกูไว้ให้โดนกระทืบตายก็ได้”



“ไม่เจ็บปากหรอไอ้สัด พูดมากฉิบหาย”



“ก็อยากรู้...หรือเพราะว่ากูเป็นน้องรหัสมึง มึงเลยช่วยหรอวะ” มันที่ถามออกมาแบบนั้นในตอนที่ผมก็หันหน้าไปมองมันพอดี มองเห็นสายตาของมันที่มองมาแบบคาดหวัง ในความรู้สึกของผมในตอนนี้ เหมือนกับกำลังมองเห็นเด็กคนนึงที่มันกำลังคาดหวัง คาดหวังว่าผมช่วยมันเพราะเหตุผลดีๆ สักข้อ



“ก็มึงพูดว่าเป็นพี่รหัสกู ...ก็มึงเคยบอกว่าคำว่าพี่รหัสน้องรหัสมันมีความหมาย ความหมายที่เหมือน...”



“เหมือนพี่น้องจริงๆ และเพราะแบบนั้น กูเลยไม่ยอมให้น้องกูโดนหมาที่ไหนกระทืบตาย ... ถ้ามึงจะโดนกระทืบตาย ก็ต้องตายเพราะตีนกู จากการไม่รู้จักกาลเทศะของมึง” บอกมันออกไปแบบนั้นแล้วก็หันหน้าหนีในตอนที่มองเห็นไอ้เสือมันยิ้มออกมาน้อยๆ



“พี่น้องหรอวะ” ได้ยินมันบ่นงึมงำอยู่แบบนั้นพร้อมยิ้มหลอนๆ ของมัน ไม่อยากจะสนใจ



“ขอ...ขอบคุณนะ...พี่เก้อ”



ผมที่หันกลับไปมองหน้ามัน ก็เห็นไอ้เสือที่ก้มหน้าหลบตากัน แต่ดันเห็นหูแดงๆ ของมันที่ขึ้นสีแดงอยู่ในตอนนี้



“ก็...กูจะพยายามฟังพี่มึงละกัน ... ก็เป็นพี่ ก็จะพยายามฟังมึงให้มากขึ้นละกัน”



“หึ กูจะสอนมึงเอง”[/i]



.

.

.


(มีต่อจ้า)


หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่15 {18/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 18-01-2020 20:52:43
“จูบเหี้ยอะไร กูไม่ได้จูบมึง” ผมที่หลุดออกมาจากภวังค์ความคิดที่นึกไปถึงเรื่องเมื่อคืนพูดออกมาแบบนั้น



“ไม่ได้จูบเหี้ยอะไร มึงจูบกู ปากกูเสียเฟริสคิสให้มึงแล้วนะ มึงจะจ้อจี้ไม่ได้”



“เฟริสคิสเหี้ยไร มึงจูบกับใครต่อใครจนนับไม่ได้แล้วเถอะ มึงอย่ามาดัดจริต”



“ก็แล้วทำไมพี่เก้อถึงไม่อ่อนโยนกับน้องเสือเลยอ่ะ ไหนบอกเป็นพี่น้องกันแล้วไง จูบก็ยอมรับว่าจูบดิสัด”



“แบบนั้นมันไม่ได้เรียกจูบไอ้สัด กูแค่อยากกัดปากให้ปากมึงแตกจะได้เลิกปากหมาออกมาก็แค่นั้นเถอะ”



“ไม่อ่อนโยนกับน้อง”



“สัดเก้อ ตัวใหญ่แบบมึงมาน้องเหี้ยอะไร ขนลุก”



“เป็นผู้ชายปากร้ายๆ ไม่อ่อนโยน”



“จริงๆ มึงนี่แม่งกวนตีนเหมือนกันนะ วอนโดนไม้โดนมือจากกูนะมึง”



“ก็แล้วไง อย่างน้อยมึงกได้ระบายอารมณ์ออกมาป่ะละ เป็นไง รู้สึกดีขึ้นแล้วใช่ไหมล่ะ” มันที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วยกยิ้มมุมปาก ผมที่หันหน้าหนีมันไป ก็ไม่อยากยอมรับว่าพอเถียงกับมันแล้วกูก็ลืมเรื่องเศร้าก่อนหน้านี้ไปจริงๆ



‘ฟุบ’



ไอ้เสือที่โดดลงมาจากเก้าอี้แล้วเดินเข้ามาหากัน ก่อนมันจะใช้วงแขนของมันวางลงที่บ่าของผมพร้อมตบปุๆ ไปด้วยเหมือนปลอบเด็ก



“กวนตีนนะมึง”



“เอ้า นี่ปลอบอยู่นะเว้ย มึงนี่เรื่องมาก” ท้ายประโยคของมันที่พูดออกมาเบาๆ



“กูได้ยินไอ้สัดเสือ”



“เออน่าๆ อะ เอาไหม เผื่อสมองจะโล่งแล้วจะได้เลิกบ้า” มันที่ว่าออกมาแบบนั้น หน้าตาที่มองมาที่ผมทำหน้าทำตาเหมือนเอือมระอากูซะเหลือเกิน ก่อนที่ฝ่ามือของมันจะยื่นซองบุหรี่ออกมาให้กัน



“นี่มึงพกมาเป็นซอง?”



“อืม ก็กูเสี้ยนต้องสูบบ่อยๆ ก็พกแม่งเยอะๆ ไปเลย”



“มึงติดเหี้ยอะไรนัก ลดบ้างไอ้สัด เดี๋ยวมึงจะตายก่อนเรียนจบ”



“ปากมึงนะอิสัดพี่เก้อ”



“ถ้ามึงจะเรียกกูอิสัดก็ไม่ต้องเรียกพี่เก้อหรอกไอ้เสือ”



“เอ้าได้หรอเหี้ยเก้อ”



‘พรึบ’



“โอ๊ย ถีบกันทำไมวะ”



“กวนตีนนักนะมึง”



“เออๆ น่า อะๆ เอาไปสูบไป ดับหัวร้อนนะ” มันที่ทำหน้าเพลียใส่เหมือนไม่อยากจะเถียงด้วยแล้ว ก่อนจะโยนซองบุหรี่นั่นมาให้ แปะลงกลางอกกูเลย ดีที่แม่งไม่ปาใส่หน้ากู ... ผมที่ส่ายหัวหน่อยๆ กับพฤติกรรมสุดเอือมระอาของมัน หยิบซองบุหรี่ที่มันโยนมาให้ขึ้นมาดู ก่อนจะถอนหายใจหน่ายๆ ออกมาอีกรอบ



“ไอ้เสือ นี่มึงสูบยี่ห้อนี้หรอวะ”



“กูก็ดูดได้หมดอ่ะ แต่ตอนนี้ต้องเซฟเงินหน่อย”



“รากหญ้าสัด ดูดที่บาดคอฉิบหาย คุณภาพชีวิตมึงต่ำสัด”



“บ่นเชี่ยอะไรอ่ะพี่เก้อมึง ยี่ห้อไหนแม่งก็ไม่ป้องกันมะเร็งทั้งนั้นอ่ะ ทำไม ปกติมึงดูดไร”



“มาร์ล แบล็ค”



“เหยดดดแพงสัด นี่มึงเหยียดใช่มะ มึงดูถูกเพลย์ออฟกูใช่เปล่าวะ” มันที่ขมวดคิ้วแล้วว่าออกมาแบบนั้น หน้าตาเอาเรื่องของมันที่มองทีไรก็ไม่เคยกลัว มีอยากเดียวกูอยากเอาตีนดีดให้แม่งปลิว เกลียดฉิบหายนิสัยไม่รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่ของมัน



“ทำตัวให้มันดีๆ หน่อยไอ้เหี้ยเสือ กูเป็นรุ่นพี่มึง ไอ้ท่าทางแบบนี้...”



“รู้แล้วๆ น่า ก็บอกแล้วไงว่าจะพยายามไงวะ” มันที่เถียงออกมาอีกแบบนั้น แต่ก็ดูดเหมือนจะไม่ค่อยได้เข้าหูแม่งเท่าไหร่หรอก ถอนหายใจออกมาแบบนั้นก่อนจะโยนซองบุหรี่คืนมันไป



“แล้วพี่มึงไม่สูบแล้ว”



“ไม่สูบ บาดคอกู”



“สุดแสนจะดัดจริตอ่ะครับ”



“กูได้ยินนะไอ้สัดเสือ” ปรายตามองมันนิดหน่อย ไอ้เด็กนี่ก็ทำแค่ยักไหล่ใส่กันแบบกวนตีน มันที่ดูท่าทางไม่สนใจอะไรเท่าไหร่ ทำแค่เดินกลับไปตรงที่ที่มันนอนเมื่อก่อนหน้านี้ ผมเลือกจะไม่สนใจอะไรมันต่อ ก็แค่เดินไปที่ลูกกรง มองออกไปข้างนอก ลมเอื่อยๆ ที่แม้จะเป็นช่วงเวลาที่ร้อนจัดของตอนเที่ยงแต่ก็ยังพอมีลมบ้าง ก็แค่นึกถึงเรื่องที่ทะเลาะกับไอ้หยีมันมาก่อนหน้านี้ คิดถึงเรื่องของไอ้เอม ... ผมที่ไม่อยากยอมแพ้ ไม่อยากตัดใจทั้งแบบนี้



“สัดพี่เก้อ แดกกันไหม ยืนเหม่อทำมิวสิคเหี้ยอะไรอ่ะ มึงไม่ได้หล่อขนาดนั้นไง อย่ามั่นใจได้หรือเปล่า” เสียงกวนตีนที่ดังมาทำเอากูหลุดออกจากภวังค์ตัวเอง อยากจะประเคนตีนอุดปากแม่ง พอหันกลับไปก็เห็นไอ้เสือกำลังเปิดกล่องพิซซ่ากับเคเอฟซีขึ้นมากิน ข้างๆ มันมีเป๊ปซี่ขวดลิตรวางอยู่ในกระติกน้ำแข็งด้วย



“นี่มึงมาเรียนหรือมาปิคนิค”



“วันนี้ไม่เข้าเรียน”



“ห๊ะ ทำไม” ถามมันออกไปแบบนั้น ไอ้เสือที่ก็แค่ยักไหล่แล้วหยิบพิซซ่าหน้าซีฟู้ดออกมากัดเข้าปากแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาว เห็นแบบนั้นแล้วอดจะขมวดคิ้วไม่ได้



“ก็แค่ไม่อยากเรียน เบื่อ”



“เบื่อเหี้ยอะไร มึงตลกป่ะเนี่ยไอ้สัด” สาวเท้าเข้าไปหามันที่ยังนั่งหยิบนู่นหยิบนี่มาแดกแบบไม่สนใจอะไรอยู่แบบนั้น



“ไม่ตลก ก็แค่ไม่อยากเข้า ก็ไม่เข้า” มันที่ว่าแบบนั้นออกมาอีกแล้วกัดพิซซ่าเข้าปากไปอีกคำ มันที่เสหน้าหนีผมไปมองลมมองฟ้า ทำหน้าเหมือนไม่อยากจะพูดเรื่องนี้อีก แต่เป็นผมเองที่ปล่อยเรื่องนี้ไปไม่ได้



“มึงต้องไปเข้าเรียน”



“ไม่ไป”



“ไอ้สัดเสือ”



“พี่อย่ามาทำเสียงเข้มใส่นะโว้ย ก็บอกว่าไม่ไปก็คือไม่ไป ไม่เข้าใจหรอวะ”



‘ผลัว’



“โอ๊ย ตบหัวมาได้” เป็นไอ้เสือที่ร้องออกมาแบบนั้นตอนที่หน้ามันทิ่มลงจุ่มอยู่กับพิซซ่า ด้วยแรงตบจากมือผมเอง ตบให้แม่งสมองลั่น .... มันชักจะใช้ชีวิตเลอะเทอะมากไปแล้ว



“บอกเหตุผลดีๆ มา มึงลืมทำการบ้านหรืออะไร” ขมวดคิ้วถามมันไปแบบนั้น ไอ้เสือก็ขมวดคิ้วมองตอบกลับมาอีกที



“เปล่า ... สัดพี่เก้อมึงนั่งแดกนี่แล้วก็เลิกพูดเรื่องนี้ได้ไหมวะ ผมไม่อยากเข้าเรียนก็เรื่องของผม”



“ถ้าเรื่องนี้ถึงพี่ปี3 เวลามึงเข้าเชียร์มึงจะโดนซ่อมไอ้สัด”



“ซ่อมเหี้ยไรกันนัก มาเป็นนักศึกษานะเว้ย อีกอย่างพี่พวกนั้นผมก็ไม่กลัวอ่ะ ก็แค่รุ่นพี่ แม่งไม่ใช่ญาติพี่น้องสักหน่อย พอได้อำนาจแม่งก็เป็นบ้า เหมือนเวลาคนใหญ่คนโตในบ้านเราได้อำนาจก็กดขี่ไม่สิ้นสุด แม่งเป็นทุกระบบทุกที่เลยไง โคตรจะบ้า”



“ไอ้สัดเก้อ มึงหุบปาก มึงแม่งเด็กฉิบหาย ไม่เข้าใจเหี้ยอะไรสักอย่าง แล้วเรื่องการเข้าเชียร์ เด็กร้อยพ่อพันแม่แบบนั้น กว่าจะรวมใจให้ใครต่อใครอยู่ในกฎได้ทั้งหมด มันก็ต้องใช้ทั้งจิตวิทยาและคำพูดความคิดทุกอย่าง มึงคิดว่าเค้าขึ้นไปยืนวาร์คแหกปากให้มึงกลัวแบบไม่มีความเป็นมาหรอสัด สิ่งแรกที่พี่ปี3เค้าสอน ก็คือมารยาทสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ที่ควรจะมี ในสายตามึง มึงอาจจะคิดว่ากู หรือพี่ปีอื่นๆ แก่กว่ามึงไม่กี่ปีมีสิทธิอะไรมาสอนมึง แต่สิ่งหนึ่งที่มึงต้องรู้นะ ก็คือเค้ารู้จักกาลเทศะ นั่นและที่เค้ามีสิทธิสอนเด็กที่ไม่รู้เรื่องมารยาทแบบมึง!”



“ไอ้พี่เก้อ! ...” มันที่ตะคอกผมออกมาแบบนั้น เหมือนจะเป็นผมเองที่พูดจี้ใจดำมันเข้าแต่ผมไม่สนใจ สายตาของมันที่วาววับขึ้นแบบคนที่เริ่มจะไม่พอใจ สายตาที่ผมเห็นมาแล้วนับไม่ถ้วนจากคนแบบไอ้เสือ ไม่ว่าจะครั้งแรกที่บังเอิญเจอกันในซอกที่เอาไว้สูบบุหรี่ หรือที่ผับ หรืออีกกี่ที่ๆ มันก็ยังทำหน้าตาแบบนี้ สายตาที่ไม่ยอมใคร ... และที่ผมเองไม่เคยเปลี่ยนไปเลยก็คือ ... กูไม่เคยกลัวเด็กอมมือแบบมึง



“ทำไมมึงไม่เข้าเรียน” ถามย้ำอีกครั้งพร้อมๆ กับกดเสียงต่ำ ไอ้เสือที่กำมือแน่น มั่นใจมากว่าถ้าเป็นเมื่อก่อนมันคงยกหมัดอัดหน้าผมไปแล้ว



“ตอบ!”



“ก็กูไม่ชอบพวกแม่งอ่ะ! ไม่ชอบไอ้เพื่อนเหี้ยพวกนั้น กูไม่อยากไปเรียนแล้วมึงจะทำไมนักวะ!!” ไอ้เสือที่ตะโกนออกมาแบบนั้น มันที่เขวี้ยงพิซซ่าในมือทิ้งแล้วโยนไปไกลๆ แบบระบายอารมณ์ หน้าของมันที่ขึ้นสีแดงจัดในตอนนี้ เหมือนทั้งหงุดหงิดและทั้งอาย และเป็นผมเองที่ได้แต่เลิกคิ้วแปลกใจ ... เพื่อนเหี้ยหรอวะ ...



“มึงไม่ถูกกับคนในเซค?” ถามออกไปแบบนั้น พร้อมๆ กับปรับเสียงไม่ได้ข่มขู่มันมากจนเกินไป ไอ้เสือที่ยังไม่ยอมหันมามองหน้ากัน มองเห็นแต่แผ่นหลังของมันที่ไม่ได้หนาเท่าไหร่ มันที่นั่งหายใจฟึดฟัดเหมือนกระทิงเห็นผ้าแดง มองเห็นแบบนี้แล้วก็อยากจะขำ ท่าทางคงหงุดหงิดฉิบหายแต่ก็ไม่ต่อยหน้าผม



“ไอ้เสือ”



“.......”



“น้องเสือ”



“น้องเสือเหี้ยไรเล่า!” หันหน้ามาตะคอกใส่พร้อมๆ กับขมวดคิ้วมองกันเหมือนอยากยกตีนขึ้นมาลูบหน้าผม เห็นแบบนั้นแล้วอดจะหัวเราะลั่นออกมาไม่ได้



“ฮ่าๆๆๆ ไอ้สัดเอ้ย”



“ขำเหี้ยไรวะ กวนตีน”



“ตลกมึงวะ...เด็กฉิบหาย”



“เลิกพูดแบบนี้นะเว้ยไอ้พี่เก้อ” ฟึดฟัดฮึดฮัด มันทำท่าจะตรงมาหยิบพิซซ่าอีกชิ้นไปปา แต่ผมคว้ามือมันได้ก่อน



“ที่บ้านมึงไม่สอนหรอว่าอย่าเล่นอาหาร”



“เสือกไรด้วยล่ะ เงินกู”



“ปากดีไอ้สัด นี่! แดกเข้าไปจะได้รู้ว่าอย่าเอาของกินมาเล่นอีก แดกเข้าไปมึง”



“อึก อื้ออๆๆ อื้ออัดอี้เอ้ออ อื้ออ” ผมที่จับพิซซ่ายัดเข้าปากมันไปทั้งชิ้น แค่ได้ยินเสียงอ็อู้ของมันยังรู้เลยว่าต้องด่ากูว่าไอ้สัดพี่เก้อ ผมที่คว้าคอมันไว้จากด้านหลังแล้วจับมันล็อคคอแล้วยัดพิซซ่าเข้าปากไปทั้งแบบนั้น มันที่พยายามจะตะเกียกตะกายหนี แต่มึงฝันไปเถอะไอ้สัด ไม่หมดชิ้นกูไม่ปล่อยมึงไปหายใจหรอก



“อื้ออออ”



“นี่ไอ้เสือ” เรียกมันที่ดิ้นตะกุยตะกายพยายามจะออกไปจากวงแขนของผม ปากมันก็จุกเต็มไปด้วยพิซซ่าหน้าชีสนั่น ไม่ได้น่าสงสาร น่าสมน้ำหน้าฉิบหาย



“วันนี้เดี๋ยวกูไปเรียนกับมึงเอง”



“อื้อ!?” มันที่เงยหน้าขึ้นมามองหน้าผม สภาพอุบาทย์ทุเรศทุรังจนกูอยากจะผลักหัวมันหนี แต่สายตาของมันที่มองตรงมาที่ผมแบบไม่เข้าใจ แต่ก็เหมือนมันอยากขอบคุณไปด้วย เห็นแบบนั้นเลยยกมือขึ้นไปผลักหัวมันเบาๆ ทีนึง



“กูจะเรียนเป็นเพื่อนเอง”



...



"เอมมากินข้าว"



"เจ๊ มึงก็เรียกกูเป็นหมาเลยนะ" ว่าแบบนั้นก่อนจะเดินเข้าไปหา เมื่อกี้พึ่งดูฝุ่นกับถูห้องนอนกับห้องทำงานของเจ๊พี่มันเสร็จ เดินออกมาแล้วมองดูนาฬิกาที่ตอนนี้บอกเวลาทุ่มครึ่ง



"มึงก็พูดไป กูจะเห็นคนที่กูชอบเป็นหมาได้ไงล่ะคะหนู"



"เออ...มันก็ไม่ควรอยู่แล้วนะเจ๊นะ"



"แน่นอนค่ะหนู ก็ไม่เคยมองมึงเป็นหมาอยู่แล้วค่ะ" ยิ้มหวานๆ ส่งให้กันก่อนจะเลื่อนจานสปาเก็ตตี้ซอสเนื้อมาวางลงตรงหน้าผม ควันร้อนๆ ที่ลอยขึ้นมาในอากาศ บอกให้รู้ว่าพี่มันพึ่งทำเสร็จออกจากเตา ได้แต่สูดกลิ่นมะเขือเทศกับเครื่องเทศแบบกลิ่นออริกาโน่เข้าปอด หอมจนรู้สึกน้ำลายจะไหล เงยหน้าพร้อมสูดหายใจลึกๆ ขึ้นมาจากจานแล้วมองหน้าคนตรงหน้าที่ยิ้มอบอุ่นให้กันอยู่ในตอนนี้



"กูไม่เคยเห็นมึงเป็นหมาเลยค่ะ กูเห็นมึงเป็นควายน้อยของกูมาตลอดเลยน้า"



น้าพ่อน้าแม่มึง กวนตีนสาดดด มาฟาดกับกูสักฝุ่นไหม!



“ทำหน้าเหมือนอยากจะท้ากูต่อย ก็ได้อยู่นะคะ แต่ตัวๆ เสื้อผ้าไม่เกี่ยวโอเคไหมเอ่ย”



“โอ้ย เอือมกับเจ๊ว่ะ”



“มาทำเป็นองเป็นเอือมกู แน่จริงมึงอย่ายิ้มสิวะ ชอบอยู่ดูออก นั่งลงแล้วแดกให้เรียบร้อย”



“ครับๆๆๆ รู้แล้วครับพ่อ”



“พ่อมึงสิคะอิหนูเอม!” เดี๋ยว โกรธอะไรกูก่อนถึงต้องตะคอกกันออกมาเสียงดัง ผมที่ชะงักช้อนที่กำลังจะเอาเข้าปากแล้วอ้าปากค้างมองหน้าเจ๊มันแบบงงๆ คือโกรธอะไร เสียงดังกับไอ้เอมทำไมวะ



“แบบกูต้องเป็นแม่ค่ะ! เห็นความสวยของกูไหม มาพ่ออะไรล่ะคะมึง” ว่าออกมาแบบนั้นพร้อมจีบปากจีบคอพูดเสียงสอง เห็นแบบนี้แล้วกูถอนหายใจเฮือกใหญ่เลย แม่ง องค์เจ๊ดานี่เอาอีกแล้ว



“อิน้องเอมคะ มึงว่าอาทิตย์นี้กูเปลี่ยนสีผมใหม่ดีมะ เอาเป็นสีอะไรดีคะ ทอง ชมพู หรือเป็น....”



“เป็นอะไรก็เป็น แต่ที่แน่ๆ เป็นตุ๊ดปลอมที่ทำเหมือนตุ๊ดจริงมากๆ”



“เอ๊ะบูลลี่กูหรอ ตุ๊ดอะไรแล้วทำไมคะ ตุ๊ดก็เอามึงได้แล้วกันค่ะ” ว่าออกมาแบบนั้นแล้วยักคิ้วใส่กันด้วยสายตาคมหล่อๆ ที่ไอ้เอมรู้สึกเขิน ทำไมคำพูดกับการกระทำมันคอนทราสกันแบบนี้ล่ะวะ



“เจ๊พี่มึง พูดไรวะ!”



“อ๊ะๆ ทำเป็นเขินอาย หรือไม่จริง มึงพูดมามึงเถียงมาค่ะว่ากูไม่ได้เอามึง ถามสั้นๆ ว่ากี่ท่าดีกว่าไหม ถ้าเอวไม่เคร็ดอย่ามาเรียกกูอิดานี่” ยืดอกภูมิใจมากๆ พร้อมยิ้มมุมปากส่งมาให้กัน ไอ้เอมเจ็บไข่ ไอ้เอมล่ะสุดแสนจะหมั่นไส้ เพราะแบบนั้นเลยพูดออกไป



“ให้เรียกอิดาบแทนสินะ”



“กรี๊ดดดดด แสลงรูหู!”



รับไม่ได้โว้ยยย ... หูกูเนี่ยที่รับเสียงกรี๊ดของเจ๊พี่มึงไม่ได้ ช่วยหยุดกรี๊ดที!



...


“คิดยังไงวันนี้ขอมาร้านด้วยคะ เงินมึงไม่พอหรอ เดี๋ยวกูเอาให้ จริงๆ มึงไม่ต้องมาทำก็ได้นะ”



“เปล่า เจ๊พี่มึงเอาเงินมายัดกระเป๋าตังค์ผมทุกวันอย่านึกว่าผมไม่รู้ เงินยังมีเหลือเยอะแยะเลย เงินพอใช้ครับ” บอกออกไปแบบนั้นในตอนที่เดินตามพี่มันเข้าไปในร้าน ร้าน’ DANIWORLD’ ยังคงเป็นเหมือนเดิมกับครั้งแรกที่ผมเคยมา ป้ายร้านที่อยู่บนสุดของตัวตึกที่ชั้นสาม ตอนที่ก็เปิดไฟสีชมพูสว่างวิบวับเหมือนในวันนั้นไม่มีผิด แตกต่างออกไปก็ตรงที่ ครั้งนี้ผมได้เดินเข้าร้านมาพร้อมเจ้าของร้าน กับหัวใจของเราสองคนที่ไม่เหมือนเมื่อวันนั้นแล้วในตอนนี้



“ผมแค่อยู่คนเดียวแล้วเบื่อๆ เลยอยากมาด้วย”



“อยากอยู่กับกู ดูออกค่ะ”



“โวะ ไม่จริงสักหน่อยเถอะ” ถึงจริงก็จะไม่พูดออกไปหรอกนะบอกก่อน



“ปากแข็งจังวะ แต่เวลาจูบก็เห็นนิ่มดีอยู่นะ” พี่มันที่เลื่อนหน้ามากระซิบข้างๆ หูแบบนั้น ผมที่ช้อนสายตาขึ้นไปมองหน้าอีกคนที่ก็ยกยิ้มมุมปากขึ้นมามองหน้ากัน ก่อนที่ฝ่ามืออุ่นๆ จะเอื้อมมาคว้ามือผมไปกุมไว้



“เข้าร้านกันเถอะ” บอกแบบนั้นแล้วจับมือผมเดินเข้าไป หัวใจก็รู้สึกอุ่นแปลกๆ แต่แค่รู้สึกว่า ถ้าได้กุมมือกันไปแบบนี้ในทุกๆ วันก็คงจะดี ... พอได้จับมือพี่มันไว้แบบนี้ ก็ไม่อยากจะปล่อยไปเลยจริงๆ



อยากจับมือกับพี่แด็ปโดโรทรีตลอดไปเลย อิอิ ดาบ ดลธีก็ได้จ้า



“ไอ้อิฐ เอาอะไรมากระแทกแกหน่อย”



“โอ้โหเจ๊พี่มึง ไม่มาตอนร้านปิดเลยล่ะจ๊ะพี่จ๋า ปล่อยลูกน้องทำงานทำการไม่มาเฝ้า เป็นเจ้านายภาษาอะไรวะพี่จ๋า”



“สัด เดี๋ยวกูตบให้บ้องหูแตกไอ้อิฐ”



“อิอิ น้องหยอก วันนี้ก็ใจร้อนวู่วามอีกแล้วหรอ ไม่เป็นดานี่สวยๆ แล้วหรอจ๊ะพี่จ๋า”



“กูสวยทุกวันค่ะอิอิฐ ไหนแก้วกู”



“จ้าๆ นี่จ้าพี่จ๋า”



“แล้วไม่มีของกูหรอไอ้อิฐ” เป็นผมที่เดินตามหลังเข้าไปแล้วไปโผล่หน้าจ๊ะเอ๋ตรงหน้าเคาเตอร์ของไอ้อิฐในตอนนี้ น้องมันที่มองหน้าผมนิ่งๆ ก่อนจะยกมือขึ้นปิดปากแล้วเบิกตากว้างขึ้น ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบผ้าเช็ดบาร์มาถือไว้



“กรี๊ดดดด พี่น้องเอมของไอ้อิฐ คิดถึงจังเลยจ๊ะพี่จ๋า!!” แหกปากออกมาแบบนั้นแล้วปีนขึ้นเคาร์เตอร์บาร์เอื้อมมือมากอดผมไว้เต็มแรง ตัวกูก็คือกระแทกเข้ากับด้านหน้าเคาร์เตอร์เลยเพราะไอ้อิฐกอดแรงมาก



“น้องอิฐอิฐสุดแสนจะคิดถึงพี่น้องเอมมมมมมม” แหกปากว่าแบบนั้นแบบเล่นใหญ่มากๆ ละครเวทีต้องจ้างมึงไปแสดงแล้วจริงๆ



“เว่อร์ค่ะอิสัดอิฐ” เจ๊พี่มันที่ว่าออกมาแบบนั้น พอหันไปมองก็เห็นพี่มันที่มองมาที่ผมกับไอ้อิฐด้วยสายตานิ่งๆ ก่อนที่ฝ่ามือแกร่งจะเอื้อมมือมากระชากเอวผมให้ขยับเข้าไปใกล้ตัว เพราะแบบนั้นไอ้อิฐเลยต้องปล่อยมือออกจากกันโดยปริยาย



“เอ๊ะๆๆๆ น้องอิฐอิฐว่าเรื่องนี้มันมีเงี่ยนงำ”



“เงื่อนงำไอ้สัด” เป็นเสียงของไอ้จูนที่ว่าออกมาแบบนั้น ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินตามเข้ามา



“พี่เอมมม จูนคิดถึง”



“เนี่ยเห็นไหม ขนาดพะยูนตัวสุดท้ายของโลกก็คิดถึงพี่น้องเอมนะจ๊ะพี่จ๋า”   ไอ้อิฐที่ว่าออกมาแบบนั้น พร้อมเสนอหน้าออกมาเอื้อมมือหยิกแก้มไอ้น้องจูน เป็นภาพบรรยากาศเก่าๆ ที่ผมคิดถึง



“หุบปากไปไอ้อิฐ ไอ้เพื่อนเฮงซวยชอบว่ากูอ้วน กูอ้วนทับโฉนดบ้านมึงหรอสัด”



“มันฉุนจัดอ่ะเนาะ”



“พอๆ พวกมึงหยุดเล่นกันได้แล้วค่ะ เดี๋ยวกูหักเงินให้หมดเลยโว้ย ไอ้น้องจูน มึงก็ปล่อยมือไอ้เอมได้แล้วค่ะ ไปเสริฟน้ำแข็ง”



“โอ๊ะ จูนลืม เดี๋ยวจูนมาเล่นด้วยนะพี่เอม”



“ได้เลย” บอกน้องมันออกไปแบบนั้น ก่อนจะเห็นแผ่นหลังของไอ้จูนที่วิ่งหายเข้าไปตามโต๊ะของลูกค้า ผมที่ยิ้มกว้างออกมาในตอนนั้น



“หยุดยิ้มสักทีได้ไหมวะ” เสียงเข้มที่กระซิบลงมาข้างๆ หูกันในตอนนั้นผมก็หันหน้ากลับไปมองอีกฝ่ายพอดี ปลายจมูกของเราสองคนที่สัมผัสกันพอดีแบบไม่ได้ตั้งใจ ก็รู้สึกว่าหน้ามันจะร้อนขึ้นมาหน่อยๆ แล้วในตอนนี้



“กูหวง”



“อู้ววว น้องอิฐเห็นช็อตเด็ดคนดัง กรุ่มกริ่มกริ้วกร้าวมากเว่อร์ กูว่าแล้วว่ามีเงี่ยนงำๆ”



“สาระแนค่ะอิอิฐ” เจ๊พี่มันที่ว่าออกไปแบบนั้นด้วยเสียงเข้มๆ ถึงแม้จะมีคำว่าค่ะก็ตาม ผมที่ช้อนตามองหน้าพี่มันที่ก็เห็นแค่อีกคนยกยิ้มมุมปากส่งมาให้กัน เป็นสายตาร้ายๆ ที่ทำให้ผมต้องหลบสายตา รู้สึกเหมือนว่ามันจะร้อนหน้ามากๆ เลยในตอนนี้



“คุณดาบ เอ้ย คุณดานี่ มีคนมาขอพบ จะให้พี่เชิญเข้ามาที่นี่หรือว่าจะให้เชิญขึ้นไปที่ชั้นสามดี” พี่จิตผู้จัดการร้านที่เดินเข้ามา พี่เค้าส่งยิ้มมาให้ผมก่อนจะพูดออกมาแบบนั้น เพราะเห็นว่าเป็นช่วงทำงานผมเลยขยับตัวออกห่างจากอีกฝ่ายนิดหน่อย พี่จิตเองแม้จะเป็นพี่ในสายรหัสของเจ๊มัน แต่พอเวลาทำงานก็ให้เกียรติเจ๊มันมากๆ เช่นกัน



“ใครมาวะพี่จิต นี่ไม่ได้เรียกบริษัทไหนให้มาเทสเหล้านี่หว่า” เจ๊พี่มันว่าออกมาแบบนั้นพร้อมขมวดคิ้ว แต่พอเลื่อนสายตาไปมองพี่จิตที่ก็เอาแต่ส่งยิ้มกว้างๆ ให้เจ๊พี่มันแบบไม่หยุด



“มากับคุณเมฆนะ”



“หื้ม...ใครวะไอ้สัด ไปเชิญเข้ามาก็ได้พี่” เจ๊มันที่ว่าออกไปแบบนั้นแบบไม่ได้สนใจอะไรมาก ก่อนจะหันกลับมายิ้มให้ผม รอยยิ้มอุ่นๆ ที่มีแววกรุ้มกริ่มเหมือนอย่างเคย



“มากับไอ้เมฆ คิดว่าต้องมาถลุงเงินกูให้เลี้ยงเหล้าอีกแน่ๆ เลยค่ะ น่าเบื่อ”



“ก็เจ๊พี่มึงใจดี”



“แต่กูอยากใจดีแค่กับมึงค่ะหนู”



“พี่แด็ปโดโรทรีนี่ปากหวานจังเลยน้า”



“แด็ปที่หน้ามึงค่ะหนูเอม”



“ฮ่าๆๆ”



เราสองคนที่หัวเราะขำออกมาในตอนนี้ วันนี้เป็นวันดีๆ ที่ผมยิ้มได้มากกว่าทุกวัน อาจเพราะเรื่องราวหลายๆ อย่างที่กระจ่างมากขึ้น และความรู้สึกของผมกับเจ๊พี่มันที่ขยับเข้ามาใกล้กันมากกว่าเดิม ...



ถ้าพี่ดาบ ดลธี กลับมาหากันไวๆ ก็คงจะดีล่ะนะ



ผมล่ะอยากจะมีความสุขและยิ้มให้กันแบบนี้ต่อไปนานๆ เลยจริงๆ



::::::::::::::::::-- to be continued --:::::::::::::::::::::::::



มาแล้วจ้า มาพร้อมเรื่องราวแบบจุกๆ เลยน้าาา

ตอนนี้คือยาวสะใจ กลั่นกรองมาให้แบบเต็มๆ

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวในอดีตของเก้อเสือ เรื่องราวของดาบเอม ความคืบหน้าของทั้งคู่ที่กำลังก้าวไปด้วยกัน

แคทหวังว่าทุกคนจะชอบนะคะ

ถ้าใครเคยอ่านงานของแคทก็น่าจะรู้ว่า มันยังมีอะไรอีกเยอะอยู่น้าาาา คิกคักกก เรามาไขปริศนาไปด้วยกันนะคะ

เชื่อฉันสิคะ นี่ไม่ใช่นิยายดราม่าาาาาา

ปล. ฉันอยากได้พี่แด็ป เอ้ย เจ๊ดานี่จังเลยค่ะคุณ ถ้าน้องเอมไม่เอา ฉันจะเอาแล้วนะ

ฝากแท็ค #สวยๆ เป็นผัว ในทวิตเตอร์ไว้ในอ้อมใจทุกคนด้วยนะคะ

มาาาาา สาดคอมเม้นท์มา ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง อย่าลืมเล่าสู่กันฟังงงงงง

 :mew1: :hao7:


ขอขอบคุณคนอ่านจากเล้าเป็ดทุกท่านด้วยนะคะ


เจ๊ดานี่ก็เป็นซะแบบนี้ ใจน้องเหลวเป๋วแน่นอน
เจ๊จะหยอดจนกว่าน้องจะหยุด อู้ววว


สิบพาพวยก็ชอบไม่เท่าน้องเอมมมม :hao6:
มาดูกันน้าาาว่าจะเป็นยังไง


เป็นตอนที่คนอ่านแบบเราจัดการอารมณ์ได้ยากมากค่ะ
อิฉันไม่สามารถดราม่ากับความน้อยใจพี่แด๊ปโดโรธีของน้องเอมได้เพราะ พาพวย!!!!
พาพวยคนเดียวเลย ชื่อนี้โผล่มาทีไรมีวาบหวิวในใจตลอด
น้องจะดราม่ามั้ยน้า พี่ดาบจะยังมีเยื่อใยอะไรอยู่หรือเปล่า
แต่พอพี่ดาบหยุดน้องด้วยสิบพาพวยความโล่งใจก็กลับมาทันที
เหลือก็แต่เจอตัวเป็นๆแล้วอหละว่าน้องเอมจะโอเคหรือเปล่า

เพื่อนเก้อนี่น้า คนเขาไม่ชอบก็อย่าไปฝืน
มาเฝ้าอบรมน้องรหัสตรงหน้าดีกว่า
  แคทขอบคุณคอมเม้นท์ยาวๆที่มีให้กันแบบนี้เสมอๆนะคะ ดีใจมากๆ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านมาเม้นท์ให้แคทเสมอๆนะคะ
ส่วนในตอนที่ผ่านมาว่าจัดการความรู้สึกยากแล้ว มาอ่านตอนนี้นะคะ จะเป็นยังไงเอ่ย ฮ่าๆๆ
แคทหวังว่าตอนนี้ก็จะทำให้ยิ้มได้และชอบไม่มากก็น้อยนะคะ
ส่วนเก้อน้านน จริงๆเก้อน่าสงสารน้าา อยากให้สงสารพี่เก้อสักนิด ส่วนการจะสอนน้องรหัสได้ไหมนั้น
โปรดติดตามตอนต่อไป ก๊ากกกกก


:z6: :z6: :z6: :z6: อีเจ๊น่าโดนถีบมากไปค่ะ
ดูออก
  ไม่อยากห้ามเลยค่ะ พูดแก้ให้เจ๊ไม่ได้เลย 55555


อิเจ๊กวนสุดๆนะครับ,,,
ข้อกล่าวหานี้แก้ต่างให้อิเจ๊ไม่ได้เลยค่ะ

บางทีก็สงสารเอมนะ เจ้ดานี่แกล้งหนักมาก!
อิเจ๊นี่มันน่าตี ชอบแกล้งน้อง ตีเจ๊ได้เลยนะคะ แต่อย่าตีแคทน้า


พีดาบงาบเด็ก
หูยยย กินเด็กมันก็จะฟินๆนิดนึง


อะๆเคร เคลียร์กันดีๆนะ
  มาอ่านตอนนี้ต่อน้าาา จุ๊บๆเลยค่ะ


เจ้พี่ดาบมันร้ายนะคะหัวหน้าแกล้งน้องจนร้องแล้วสงสารน้องหนูเอมจะค่ะ แต่ก็น่าร้ากกก :-[
ฝากน้องเอมพี่ดาบไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ


พี่แด๊บ โดโรทรีเค้าอาจจะชอบพาพวย. แต่พี่ดาบ+เจ้ดานี่ชอบควายน้อยมากกว่านะจ๊ะ เฮียบอกแล้ว    :hao3:
เอ็นดูสกิลภาษาอังกฤษของน้องเอมจริงๆ    :laugh:
  อย่าล้อสกิลน้องนะคะ เดี๋ยวน้องเขิน 55555 :katai2-1:


:z1:

 :กอด1: :pig4: :กอด1:
ขอบคุณมากๆนะคะ มาอ่านอีกน้าาา


ไม่อยากลุ้นแล้ว อยากอ่านจนจบเลยง่า
เราค่อยกลับมาอ่านที่เดียวตอบจบเลยดีไหมมมมม  :z2: :z2:
อ่านไปแบบกำลังฟิน พออิ๊เจ๊พูด ค่ะ ค่า มานี้ถึงกับขำกร๊าก  :m20:
เดี๋ยววววว อย่าพึ่งงงงงง อย่าพึ่งทิ้งกันไป อยู่กันไปในทุกๆตอนก่อนนะคะ น้าาา




หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่15 {18/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 18-01-2020 22:27:56
 :L1: :pig4: :L1:


หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่15 {18/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 18-01-2020 23:55:42
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่15 {18/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Philosophy ที่ 19-01-2020 22:58:46
พระพายมารึป้ะ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่15 {18/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 20-01-2020 01:36:30
พะพวยมาหรอ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่15 {18/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 20-01-2020 10:09:25
พระพายมารึเปล่า?
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่15 {18/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 20-01-2020 20:35:16
พี่เมฆพาใครมาคะ คงไม่ใช่พาพวยนะ. เพราะน้องเอมกับพี่แด็บ โดโลธีเค้ากำลังจะจีบกันติดแระ. คิดว่านะ  :hao4:

น้องเสือนี่จะยังงัยๆ อยู่นะ เหมือนจะห้าว แต่โดนจูบเดียวของพี่เก้อ ไหงอารมณ์สาวน้อยมาซะงั้น.
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่15 {18/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 23-01-2020 23:53:38
พี่แด๊ปไม่อ่อนโยนกับจิตใจน้องเอมเลย
ทำน้องใจเต้น ทำน้องหน้าแดง
ต้องรับผิดชอบสุขภาพน้องในอนาคตด้วยนะคะ
แล้วคนมาหาพี่คือใคร พาพวยเจ้าเก่ารึเปล่า
อน่ามาทำให้ครอบครัวเขาร้าวฉานนะยะ

ส่วนพี่เก้อและน้องเสือนั้นสถานการณ์พลิกกลับ
ค่อยๆสอนน้องนะคะ อย่ารุนแรง น้องยังเด็กอยู่

ปล. ตอนนี้ยาวมาก(ก.ไก่ล้านตัว) ยาวจุใจจนจะจุกอกเลยค่ะ
ปล.2 เหมือนจะมีชื่อสลับกันตรงบทของน้องเสือกับพี่เก้อหรือเปล่าคะ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่16 (50%) {25/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 25-01-2020 21:44:21
สวยๆเป็นผัว ครั้งที่16.1





               เสียงพูดคุยของเหล่านักศึกษาปีหนึ่งในคลาสวิวัฒนาการของภาษาดังอื้ออึงเหมือนผึ้งแตกรัง จนกูได้แต่คิดว่า จริงๆแล้วพวกมึงกำลังอยากเรียนมากๆหรือจริงๆแค่เหงาปากเลยมาหาเพื่อนที่มหาลัยกันแน่วะ ปี1โคตรวุ่นวาย


ผมที่เดินตามหลังไอ้เสือเข้าไปในห้องเรียนอย่างเงียบๆ พร้อมใส่ผ้าปิดปากสีดำผืนหนึ่งคาดไว้บนหน้า ก็ไม่ได้อยากให้ใครรู้ว่าพี่ปีสองแบบผมเสนอหน้ามาเข้าเรียนอยู่ที่นี่ทั้งๆที่จริงตัวเองก็มีเรียน ... ก็แค่อยากให้ไอ้เสือมันมาเข้าเรียน ส่วนคลาสของผมในวันนี้เป็นคลาสบรรยาย ไม่เข้าคาบนึงก็คงไม่เป็นไร ... แต่เด็กดีๆทั่วไปก็ไม่ควรจะทำตัวแบบผมนะครับ

เสียงรอบๆตัวของเราสองคนที่ก่อนหน้านี้ที่เคยดังมากๆกลับค่อยๆเบาเสียงลงเรื่อยๆ ยิ่งในตอนที่ไอ้เสือมันเดินผ่านไปตรงไหนแต่ละกลุ่มๆก็ค่อยๆพูดกันเบาๆจนกลายเป็นเสียงกระซิบมาจากคนจากกลุ่มนู้นกลุ่มนี้  มองไปรอบๆตัวก็เห็นพวกเด็กปีหนึ่งมองมาทางไอ้เสือแล้วก็หันไปจับกลุ่มเมาส์กัน ... นี่มันเรื่องเหี้ยอะไรกันวะ


“มึง” เรียกมันออกไปแบบนั้น แต่ไอ้เด็กตรงหน้าที่เดินนำกันเข้าไปมันก็แค่สับขาก้าวยาวๆเดินไวๆให้ออกห่างจากผม แล้วตรงไปนั่งที่ด้านหลังห้องตรงมุมข้างๆกำแพงเงียบๆของมันคนเดียว ได้แต่หันไปมองรอบๆห้องแบบไม่เข้าใจนัก แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะเดินไปนั่งลงข้างๆมัน


“พี่จะมานั่งข้างผมทำไมวะ นู่น ไปนั่งตรงนู้น”



“เอ้า เรื่องมึงสิ กูมากับมึง จะไล่กูไปนั่งที่อื่นทำKไร” 


“โวะ ไม่เข้าใจเหี้ยไรเลยจริงๆ”  ได้ยินมันที่พูดออกไปแบบนั้นแต่ก็ยังไม่เข้าใจอะไร ได้แต่มองไปที่หน้าด้านข้างของไอ้เสือที่เอาแต่ก้มลงไปมองชีทเรียน มันที่พยายามไม่สนใจใครในห้อง รวมถึงผมด้วยที่นั่งอยู่ข้างๆมัน จนกระทั่ง


"เอ้าไอ้สัดเสือ วันนี้กล้ามาด้วยหรอวะ ไอ้ตัวที่ไม่อยากมีใครคบ!"




...



“อิหนูน้องเอม หิวอะไรไหมคะ”


“ไม่อ่ะเจ๊ ผมอยากไปเสริฟช่วยไอ้จูน”


“ก็คือหน้าที่งานการแบบเดิมๆมันเรียกร้องมึงสินะคะ การขัดถูห้องกูมึงยังไม่กระตือขนาดนี้เลย” คนตรงหน้าที่จีบปากจีบคอพร้อมว่ากันออกมาแบบนั้น



“ปัดโถ่เอ๊ย มีคนช่วยฟรีๆเจ๊ยังจะบ่นอีกหรอวะเนี่ย ฟรีนะ งานฟรีเลยเนี่ย”



“จริงๆคือมึงหวังค่าทิปจากลูกค้า กูรู้กูดูออกค่ะ” เจ๊มันที่หรี่ตามองกันแล้วว่าออกมาแบบนั้น กูนี่สะดุ้งเลย เห้ยนาย...ทำไมรู้ใจเราขนาดนั้นอ่ะวะ



“บ้าน่า ทำไมพี่แด็ปเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยงี้น้า”


“แด็ปที่หน้ามึงนะคะอิหนู”


“งั้นเรียกพี่ดาบ”


“โอ๊ยยย สุดแสนจะแสลงรูหู ไปเลยค่ะ อยากไปทำก็ไปทำค่ะ แต่...”


“หื้ม? แต่อะไร” ผมที่นั่งอยู่เก้าอี้ข้างๆตัวอีกฝ่ายต้องหันหน้าไปมอง คนข้างตัวที่ยกมือขึ้นเท้ากับโต๊ะ พร้อมเอียงหัวไปพิงบนฝ่ามือของตัวเองแล้วมองหน้ากันอยู่ตอนนี้


“แต่ระวังตัวดีๆด้วย อย่าไปอ่อยใครนะคะ กูหวง” ว่าออกมาแบบนั้นพร้อมริมฝีปากหยักที่ก็ค่อยๆยกยิ้มมุมปากส่งมาให้ผม ได้แต่เสหน้าหลบแล้วกระโดดลงจากเก้าอี้ทรงสูงตัวนี้แล้วหันหลังเดินออกมาทันที


“เจ๊าะแจ๊ะ!”


“หึ”  ผมล่ะอย่างเกลียดอิคำว่าหึในลำคอแบบนี้จริงๆ คิดว่าหล่อมากไง .. เออ! ถือได้ว่ามาก เจ็บไข่!!


ผมที่ไม่ได้หันไปสนใจอีกฝ่ายที่ยังคงนั่งอยู่ตรงหน้าเคาร์เตอร์บาร์ตรงนั้นที่เดิม ได้ยินเสียงไอ้อิฐที่เหมือนจะกระซิบกระซาบกับพี่มันด้วยเสียงที่ดังแบบคนทั้งโลกได้ยินว่า ‘เจ๊พี่มึงจะกลับมาเป็นพี่ดาบหรอจ๊ะพี่จ๋า’ แล้วก็ได้ยินพี่มันที่ตอบกลับไปว่า ‘พ่อมึงสิคะอิดอก!’


เฮ้อ


ผมเองก็อยากให้เจ๊พี่มันกลับไปเป็นพี่ดาบจริงๆสักทีเหมือนกันนะ ...


“พี่เอมมมม”


“ไอ้น้องจูน ไหน มีอะไรให้ช่วยเปล่า”


“เยอะแยะเลยพี่ แต่พี่ไม่ได้ทำที่นี่แล้วนี่นา”


“ไม่ได้ทำที่นี่ แต่วันนี้ก็เสริฟได้ เอามาเลยไอ้น้อง” บอกไอ้น้องจูนกลับไปแบบนั้นแล้วขยิบตาให้ มันที่ส่งยิ้มกว้างๆตอบกลับมาให้ ท่าทางที่เหมือนรอดตายเพราะถอนหายใจออกมาหนักๆตอนที่ส่งถังน้ำแข็งมาให้กัน


“นี่เลยพี่เอม โต๊ะนั้นนะพี่ ผมล่ะกำลังกลัวว่าถ้าไอ้พี่โก้ไปเสริฟจะฉิบหายหรือเปล่า”


“ทำไมวะ?”


“ก็เพรา...”


“น้อง น้ำแข็งได้ยัง!” เสียงที่มาจากโต๊ะที่ไอ้จูนกำลังพูดถึงทำให้เราทั้งคู่ต้องหันไปมอง และผมเองก็เหมือนจะคาดเดาได้ลางๆ ก็ถ้าเป็นไอ้โก้จริงๆ มันอาจจะประทานตีนไปให้ลูกค้าโต๊ะนี้ก็ได้ เร่งขนาดนี้มึงไม่เอาน้ำแข็งมาจากบ้านเลยล่ะ สาดดด


ในใจคิดแบบนั้นอย่างฮึกเหิม อยากบวกแม่งสักที แต่เรื่องจริงคือกูทำได้แค่หิ้วถังน้ำแข็งเข้าไปหาอย่างไว พร้อมส่งยิ้มสดใสยิ่งกว่าพระอาทิตย์ในเทเลทับบีส์ส่งไปให้พวกมัน


“ได้แล้วครับ” ว่าแบบนั้นแล้ววางน้ำแข็งลงบนโต๊ะให้พร้อมรอยยิ้ม


“เออ อย่าชักช้าครับขอร้อง”


“แต่ถ้าน้องอยากร้องพี่ก็ชักได้ไวนะ”


“ฮิ้ววววว” 

โคตรเหี้ย ผมที่ได้แต่ทำเป็นไม่สนใจ ก็แค่เดินเลี่ยงออกมายืนอยู่ห่างๆเผื่อมันอยากเรียกอะไรอีก เอาเป็นว่ากูไม่พูดแทนละกัน เบื่อฉิบหายพวกลูกค้าที่คิดว่าตัวเองเป็นใหญ่ อยากจะสอดปากแซวใครก็ได้ คนแบบนี้มันไม่สนใจว่าจะผู้หญิงผู้ชายหรอกครับ แค่สนุกปากก็ทำหมด


“น้องๆ แก้วพี่หมดแล้วมาช่วยรินเพิ่มหน่อยมา” ไอ้กลุ่มเดิมโต๊ะเดิมที่ตอนนี้สภาพสติเริ่มจะหายไปแล้วเพราะแดกจนเมาก็ร้องเรียกผมอีกครั้ง หันหน้าไปมอง แก้วมึงไม่ได้หมด แต่ก็ยังอยากจะเรียกกู


“ครับ” พูดอะไรไม่ออก บอกได้แค่ครับ สุดท้ายก็เดินเข้าไปใกล้ก่อนจะช่วยมันชงเหล้าแก้วใหม่ส่งไปให้ สัด...เปลืองแก้วไปอีก


“นี่ น้องมีแฟนยัง” คือถามกูหรอ


“มึงถามน้องมันทำไมวะ สนใจหรอ อ้อ...ลืมไปว่ามึงชอบขุดทองนี่หว่า” ไอ้อีกคนที่นั่งอยู่ในโต๊ะพูดออกมาแบบนั้น คำพูดของมันที่ทำเอาผมต้องชะงัก หันหน้าไปมองพวกแม่งที่หัวเราะครื้นเครงกับคำพูดแบบนั้น ไอ้สัด...โคตรจะน่ารังเกียจ


“ก็น้องมันก็น่ารักดีนี่หว่า” มันที่ว่าแบบนั้นแล้วส่งยิ้มมาให้ผม แล้วก็ตามสไตล์พวกตัวร้ายที่หน้าเอาตีนถีบหน้าที่ก็โห่แซวผมกันอย่างรื่นเริง เหตุการณ์เดิมๆคุ้นๆเหมือนกับตอนที่ผมมาทำงานที่นี่ครั้งแรก


‘แป๊ะ’


“เชี่ย!” ร้องออกมาแบบนั้นตอนที่มีมือหยาบๆฟาดมาที่ตูดกู ผมที่สะดุ้งสุดตัวก่อนจะหันไปมองหน้าไอ้บ้านั่นที่เอื้อมมือมาตีตูดกัน ไอ้หน้าสัด เป็นอะไรกับตูดกูกันนักใครต่อใครถึงชอบมาลูบมาตี  คิดอยากจะง้างมือขึ้นฟาดหน้ามัน แต่เสียงเข้มๆเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นในหัวผมซะก่อน


“การที่มึงจะวิ่งไปต่อยหน้าแขกแบบไม่มีสติแบบนั้น มันจะทำให้มึงเสียเปรียบ ถ้ามึงต่อยมันก่อน มึงจะแจ้งความจับมึงได้ ในสถานการณ์แบบนั้น สิ่งที่มึงทำได้คือแหกปากเรียกการ์ดให้มาจัดการ...หรือเรียกกูที่เป็นเจ้าของร้าน กูจะมาเคลียร์ให้เอง ... ไม่ใช่จะไปต่อยหน้าใคร จำเอาไว้”


ผมที่ค่อยๆหายใจเข้าลึกๆอย่างข่มอารมณ์ในตอนที่พวกมันก็ร้องโห่แซวกันอย่างร่าเริง นึกถึงใบหน้าเข้มๆที่ชอบทาปากสีแดงและเปลือกตาสีวิ๊บวับที่เจ้าตัวชอบทา ใบหน้าที่ชอบส่งยิ้มกวนประสาทกันให้ผม ชอบทำหน้าทำตาเหมือนจะล้อกันเสมอๆ แต่ก็เป็นคนที่บอกให้ผมเชื่อใจ แค่บอกมัน พี่มันก็จะมาจัดการให้ ... และเพราะนึกได้แบบนี้ ผมที่ตัดสินใจจะหันหน้าผละออกไปหาเจ๊พี่มันที่นั่งอยู่ที่เคาร์เตอร์บาร์ไกลๆที่ตรงนู้น กูจะไปฟ้องเจ๊มันให้มาต่อยหน้าพวกมึง!


ผมที่ตัดสินใจหันหลังหนีแต่ดันชนเข้ากับใครบางคนที่มาพร้อมฝ่าเท้าถีบเข้าไปกลางวงของแขกกลุ่มนั้นซะก่อน



“พวกมึงทำเหี้ยไรวะ!”


“ไอ้โก้!” เป็นผมที่แหกปากออกมาแบบนั้น แล้วรีบดึงแขนของมันไว้ เสียงถังน้ำแข็งที่ร่วงกระจายลงพื้นและแขกกลุ่มนั้นที่ก็ลุกขึ้นทันที



“มึงกวนตีนกูหรอสัดโก้!” แขกคนนึงที่ตะโกนออกมาแบบนั้นพร้อมชี้หน้าไอ้โก้


“ก็มึงตีตูดไอ้เอม เป็นเหี้ยไรสัด” ไอ้โก้ที่ตั้งท่าจะพุ่งเข้าไปใส่แต่ติดที่มือผมคว้าแขนมันไว้สุดแรง เป็นเหี้ยอะไร เป็นกระทิงเห็นผ้าแดงหรอไอ้สัด กูพยายามดึงมึงจนขี้จะแตกแล้วนะเว้ย


“ไอ้โก้ อย่า กูไม่เป็นไร”


“ไม่เป็นก็เหี้ย มันตีตูดมึง”  เออไง ตีตูดกูไงไม่ใช่ตูดมึง มึงเดือดร้อนอะไรขนาดนั้นวะ


ผมที่หันไปมองรอบๆ ลูกค้ารอบๆตัวเราที่เริ่มแตกตื่น หลายๆโต๊ะที่ลุกขึ้นมามุงดู หรือบางคนก็พยายามถอยห่างเพราะกลัวลูกหลง


"เออน่า มึงอย่าหาเรื่อง”


“ฮ่าๆ หัวร้อนจังวะ ทำไม ไอ้เด็กนี่มันเมียมึงหรือไง”  เมียก็เหี้ย กูไม่ใช่เมียไอ้โก้โว้ย!!


“เสือก” เอ้า ไอ้สัดนี่ไม่ปฏิเสธแล้วยังเสือกด่าเค้าอีก มึงอย่าหางานให้ร้านเพิ่มสิวะ


“พอไอ้โก้หุบปาก กูไม่เป็นไรจริงๆ” บอกไอ้โก้ไปแบบนั้นพร้อมพยายามสอดส่ายสายตามองหาคนให้เข้ามาช่วย ไอ้สัดน้องจูนตอนนี้ก็ไม่รู้หายไปไหน ใครก็ได้ไปตามอิเจ๊มาที กูจะยื้อไม่อยู่แล้วโว้ย


“มึงหวงมากหรอเด็กนี่อ่ะ แต่ก็นะ ก็ตูดแม่งนิ่มดีนี่หว่า แต่ไม่รู้ว่าจะหลวมไหม”  เอ้าไอ้สัด! คำพูดคำจาน่าโดนตีกูนะ มีสิทธิ์ไรมาวิจาร์ณตูดกูเอ่ย วิจาร์ณไม่พอเสือกปากหมาอีก ผมที่หันไปจ้องมันหน้าเขม็งแต่ก็พยายามใจเย็น แต่เหมือนว่าจะผ่อนแรงที่ดึงแขนไอ้โก้ไว้ เพราะอีกฝ่ายก็สะบัดแขนมันออกจากมือของผม แล้วกระโดดเข้าไปกลางวงถีบยอดอกไอ้คนพูดนั่นทันที


“มึงต้องกินตีนกู!” ไอ้โก้ที่ตะโกนออกมาแบบนั้น แล้วตามมาด้วยเสียงร้องโวยวายของลูกค้า บ้างก็วิ่งหนีบ้างก็หวีดร้องไปเรื่อย สัดเอ้ย สุดแสนจะปั่นป่วย ผมที่หันไปมองไอ้โก้ที่กำลังถูกรุมอยู่ในตอนนี้ ก็แน่แหล่ะว่าสี่ต่อหนึ่งมึงจะชนะหรอไอ้เหี้ย


“พอๆ พวกพี่มึงพอ อย่าทำร้านพังนะโว้ย!” ตะโกนบอกออกไปแบบนั้นแล้ววิ่งไปดึงแขนคนนึงให้ออกมาจากการรุมยำไอ้โก้ ห่วงครับ ... แต่ไม่ได้ห่วงไอ้โก้ กลัวร้านพัง ถ้าร้านพังอิเจ๊พี่มันจะลำบาก แต่จริงๆคือไม่ได้ห่วงเจ๊พี่มันเท่าไหร่หรอกนะ ผมก็แค่กลัวมันลดเงินเดือนผมก็แค่นั้นแหล่ะครับ จริงๆนะ


“สัด อย่าเสือก!” ไอ้ล่ำหน้าเห้ที่กำลังยำตีนไอ้โก้อยู่หันมาหาผมแล้วตะคอกใส่ ก่อนจะเหวี่ยงตัวผมออกไปไกลๆ และกูผู้สุดแสรจะบึกบึนแบบไอ้เอม อีกแล้ว กูกำลังจะเป็นวีรบุรุษก็ถูกเหวี่ยงออกมาจากวงอีกแล้ว แรงไม่แรงไม่รู้ แต่ตัวกูก็ชนเข้ากับเก้าอี้ที่ตั้งไว้ไม่ไกลอย่างแรง และร่วงล้มหงายท้องลงไปทั้งคนทั้งเก้าอี้ในนาทีต่อมา


‘โคร้ม!’


เจ็บไข่!! เจ็บไข่ที่แปลว่าเจ็บไข่จริงๆเพราะว่าเก้าอี้อีกตัวร่วงลงมาทับไข่แบบเต็มๆ น้ำตาเล็ดจนต้องงอตัว รู้สึกหน้าเขียวหน้าแดงแบบว่าเจ็บไข่!!


“ไอ้เอม!” ไอ้โก้ที่ตะโกนออกมาแบบนั้น มันที่หันมาหาผมแล้วต่อยเข้าหน้าของใครสักคนก่อนจะพยายามวิ่งมาทางผมที่นอนแผล่ะอยู่บนพื้นอย่างอนาถ .... กูนับถือใจมึงโก้ แต่สภาพมึงตอนนี้ไม่น่าช่วยกูได้


‘ผลั้ว ตุบ’


โดนไปอีกสองหมั่น มึงยังไหวไหมโก้ เป็นกำลังใจให้นะ ... ใจจริงอยากชูสองนิ้วไปให้มันด้วย แต่ทำไม่ได้ ไอ้เอมจุก เจ็บไข่!


“นี่มันเรื่องอะไรกัน!!”


เสียงเข้มๆที่มาพร้อมเงาที่พาดอยู่บนร่างของผม ร่างหนาๆที่ยืนอยู่เหนือหัวผม เงาที่คล่อมทับไปทั้งตัว พอลืมตามองชัดๆก็ชัดเลย


“เจ๊...”  ร้องออกมาได้แบบไม่ดังมาก ได้แต่ยกมือขึ้นจับไข่และตัวงอ เจ๊พี่มันที่ขมวดคิ้วมองหน้าผม สีหน้าที่ดูหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อยๆในตอนนี้ มองเห็นคิ้วมันที่กระตุกสองสามที่แบบไม่สบอารมณ์ ก่อนที่เจ้าตัวจะหรุดตัวลงนั่งแล้วเอื้อมมือมาประคองตัวผมเอาไว้ให้ลุกขึ้นนั่ง


“เจ็บมากไหม ไหวหรือเปล่า”


“อื้ม”

อยากจะบอกว่าไหวจ๊ะ แค่จุกนะแต่แสดงออกมากๆ เอียงหัวเข้าซบอกแกร่งที่อยู่ตรงหน้าแบบเผลอไผล ทำไมมันต้องปลดกระดุมสามเม็ดด้วยก็ไม่รู้อ่ะ เห็นแล้วมันก็ลืมๆ ... พี่มันที่มองการกระทำของผมนิ่งๆแต่ก็เอื้อมมือมาลูบหัวผมเบาๆ ก่อนจะดึงตัวผมให้ลุกขึ้นยืน วงแขนแกร่งที่โอบเอวประคองผมไว้ด้วยมือข้างเดียว ก่อนสายตาคมจะมองตรงไปที่ไอ้โก้และแขกที่กำลังยำมันแบบไม่ไว้หน้า คนพวกนั้นที่ยังไม่เลิกยำตีนให้มัน ผมที่เงยหน้าขึ้นไปมองหน้าของเจ๊ดานี่ที่ตอนนี้ปล่อยรังสีทะมึนออกมาแบบที่ชวนขนลุกสุดๆ พี่มันที่มองดูรอบๆบริเวณนี้ที่โต๊ะแล้วเก้าอี้พังยับล้มระเนนระนาดอยู่ตรงหน้า เจ๊พี่มันที่ถอนหายใจหนักๆก่อนจะยกมือขึ้นกระดิกนิ้วเรียก ผมเห็นไอ้อิฐที่วิ่งมาพร้อมขวดเหล้าRed Labelขวดลิตรหนึ่งขวด มองคนข้างๆตัวที่ตอนนี้กระตุกยิ้มมุมปากพร้อมกับรับเหล้าขวดนั้นมาถือไว้ ก่อนจะเขวี้ยงออกไปเต็มแรง


‘เพล้ง!’


ขวดเหล้าRed Labelแตกกระจายเฉียดหัวไอ้คนที่ตีตูดผมไปแค่เซนเดียว พวกมันที่กำลังต่อยกันอย่างเมามันส์ทั้งไอ้โก้และพวกเหี้ยนั่นหยุดชะงักหมัดเท้าเข่าศอกทันที ก่อนที่ทุกคนจะหันมามองทางเราเป็นตาเดียว เจ๊พี่มันที่มองตรงไปพร้อมกระตุกยิ้มมุมปาก พี่มันที่ดันตัวผมให้ผละไปยืนข้างหลังก่อนที่อีกฝ่ายจะก้าวนำไปข้างหน้าก้าวนึง



“ก็ถ้าพวกมึงอยากจะต่อยกันมากขนาดนี้ มาต่อยกับกูไหม ... แต่ถ้าไม่ ก็ลุกแล้วออกจากร้านกูไปซะ ก่อนที่กูจะใช้ขั้นเด็ดขาด”


เจ๊พี่มันที่ว่าออกไปแบบนั้นพร้อมๆกับที่ค่อยๆยกมือดัดนิ้วไปด้วย มองจากตรงนี้ก็เห็นพี่มันที่ที่เอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มไปด้วยในตอนที่เดินตรงไปด้วยสายตาที่พร้อมจะยกตีนกระแทกหน้าแบบที่ไม่ปราณีใคร



“กล้ามาทำคนของกูเจ็บ อยากตายหรอไอ้สัด!”



.

.

.



50%



มาอ่านเถอะ ท้อแท้มาก แบบว่าอยากได้กำลังใจมากๆเลยค่ะ ... รู้สึกว่าตัวเองเขียนไม่ค่อยดีเลย แต่ก็ยังอยากจะขอร้องให้คนอ่านชอบ

ได้แต่ ขอโทษที่เข้าไปเป็น มะริ่งกิ่งก่อง สะระน๊องก่องแก่ง มะน่องมะแน่งมั๊บ ปะล่องป่องแป่ง ง้องแง้งง้องแง้งในชีวิตเธอ



...

หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่16 (50%) {25/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 26-01-2020 00:15:06
 :pig4: :pig4: :pig4: เขียนดีจ้า ตอนนี้เราอึนๆเลยได้เเต่เม้นท์ติดกเกอร์น้า
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่16 (50%) {25/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 26-01-2020 05:16:00
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่16 (50%) {25/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 26-01-2020 07:39:47
สวัสดีปีใหม่จีนนะคะ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่16 (50%) {25/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Rungzanaka ที่ 26-01-2020 08:48:23
งื้อออพี่ดาบกร้าวใจสุดๆไปเลยอ่ะ :ling1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่16 (50%) {25/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: KizzllKizz ที่ 26-01-2020 16:34:50
เป็นกำลังใจให้น้า ตามอ่านอยู่ตลอดเลยค่ะ  o13

ตอนนี้ไม่มีแล้วเจ๊ดานี่ พี่ดาบแมนเหลือเกินค่า อยากซบอก
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่16 (50%) {25/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 27-01-2020 07:53:26
โอ้...พี่ดาบออกโรงแล้ว จัดไปแบบเท่ๆ เลยนะเฮีย 

ว่าแต่โก้คงจะรู้สักได้แล้วว่าน้องเอมมีผู้ปกครองแล้วจ้า
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่16 (50%) {25/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: LifePo-YuGu ที่ 27-01-2020 15:06:55
พี่ดาบประทับแล้วววว  :katai2-1:
มาแบบยาวๆทีเถอะ ขอร้องงง  :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่16 (50%) {25/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 27-01-2020 16:45:41
องค์พี่ดาบลงแล้ว!
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่16 (50%) {25/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 29-01-2020 07:28:32
กระทืบมันเลยเจ้


กระทืบมันเลยเจ้


กระทืบมันเลยเจ้


มันตีตูดน้องเอม


มันตีตูดน้องเอม


มันตีตูดน้องเอม
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่16 (50%) {25/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 29-01-2020 08:02:14
 :z1:


 :L2: :pig4: :L2:

หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่16 (50%) {25/01/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 01-02-2020 00:23:44
คนที่ทักน้องเสือนี่จิตใจทำด้วยอะไรถึงใช้คำพูดแบบนั้นออกมาได้
สงสารน้องอ่ะ พี่เก้อดูแลน้องดีๆนะ (ไม่ต้องห่วงเอม รายนั้นเขามีคนดูแลแล้ว)

ถึงสถานการณ์จะไม่ค่อยดีเท่าไหร่
แต่องค์พี่ดาบก็ประทับร่างสมพรปากน้องเอมแล้วนะ
ประเคนหมัด มือ เท้า เอามันให้หนักๆเลยค่ะพี่
ลูกค้าแบบนี้ไม่สมควรมีไว้ในร้าน
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่16.2 {01/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 01-02-2020 20:32:32
บทที่16.2



“กล้ามาทำคนของกูเจ็บ อยากตายหรอไอ้สัด!”



เสียงเข้มๆที่ว่าออกไปแบบนั้นด้วยเสียงที่ไม่ได้ดังเท่าไหร่แต่กลับหนักแน่นจนผมเองต้องเผลอกลืนน้ำลาย รู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมาในตอนที่ได้ยิน ทั้งๆที่ผมเองก็ไม่ใช่คนที่กำลังโดนเจ๊พี่มันจ้องหรือก้าวเท้ายาวๆเข้าไปหาสักหน่อย



แล้วไอ้พวกเหี้ยนั่น มันจะรู้สึกยังไงวะ



และยังไม่มีใครทันพูดอะไรออกไป ฝ่าเท้าใหญ่ๆนั่นก็ตรงเข้าไปถีบเข้าที่ท้องน้อยของไอ้คนที่ตีตูดผมเต็มแรง จำได้แม่นเพราะมันหัวโล้น อารมณ์เหมือนพระลวนลามฆราวาส อะ แค่คิดก็บาปแล้วตัวกู



“อั่ก”



เสียงร้องของคนที่โดนถีบเข้าเต็มแรงจนหงายท้องไปนอนแบอยู่ที่พื้นร้องออกมาแบบนั้น ท่าทางที่เจ็บจนจุกและลุกขึ้นมาไม่ได้อีก เพื่อนของพวกมันที่หันมามองหน้าเจ๊พี่มันแบบเลิกลั่ก หนึ่งในนั้นที่อยู่ใกล้ตัวเจ๊มันมากที่สุดยกแขนขึ้นตั้งท่าจะพุ่งหมัดหนักๆเข้าใส่ แต่เจ๊พี่มันที่รู้ตัวก่อน ยกฝ่ามือหนาจิกลงไปบนผมกลางหัวของมันเต็มแรง ก่อนจะกระชากหัวของอีกฝ่ายเข้ามาแล้วยกหัวเข่ากระแทกเข้าหน้าของมันแบบเต็มแรง



‘อึก’



เสียงสุดท้ายของมันที่ร้องออกมาแบบนั้นก่อนจะร่วงลงไปกองนอนสลบบนพื้นแบบไม่มีทางตื่นขึ้นมาสู้ เจ๊พี่มันที่ค่อยๆปรายตาไปทางฝั่งซ้าย ไอ้ลูกค้ากลุ่มนี้ที่เหลืออยู่อีกสองคนมองหน้ากันแบบเลิ่กลั่กขึ้นทันทีในตอนนั้น



“ถ้าอยากเจ็บ มึงจะสู้อีกก็ได้นะ”



“อ่ะ...เอ่อ...”



“มา!” เสียงเข้มที่ตะคอกออกมาแบบนั้น จนตัวผมและคนรอบข้างที่ก็สะดุ้งออกมาพร้อมๆกัน ไอ้ลูกค้ากลุ่มนั้นที่พอโดนตะโกนใส่บอกให้เข้าไปสู้แบบนั้นก็สะดุ้งเฮือกก่อนจะวิ่งหนีหน้าตั้งออกไปจากร้านทั้งแบบนั้น และแน่นอนว่า แม้แต่ร่างของเพื่อนสองคนของมันที่นอนสลบอยู่ข้างๆตีนของพี่มันในตอนนี้ก็ไม่สนใจ เจ๊ดานี่ที่มองตามแผ่นหลังของลูกค้าสองคนนั้นไปด้วยสายตาเหี้ยมๆที่บอกได้ว่าไม่เป็นมิตรเลยเถอะไอ้ฉิบหาย รอยยิ้มมุมปากที่แสยะออกมาน้อยๆ ก่อนที่สายตาคมของพี่มันจะหันไปมองที่พี่จิตที่ยืนแสตนบายอยู่ไม่ไกล พยักหน้าส่งให้นิดหน่อยพี่จิตก็ผละตัวออกไปในทันทีเหมือนรู้งาน ...



เดี๋ยวนะ นั่นพี่จิตจะไปไหนวะ ... ได้แต่มองตามพี่จิตเดินตามไอ้ลูกค้าเฮงซวยสองคนนั่นออกไปแบบนั้น ก่อนจะหันหน้ากลับมามองเจ้าของร้านที่ยืนนิ่งๆอยู่ตรงนั้น สายตาของเจ๊พี่มันที่ปรายตาไปมองไอ้โก้แว๊บนึง ก่อนจะก้มลงคว้าคอเสื้อไอ้โก้และดึงให้มันลุกขึ้นมาอย่างแรง ก่อนจะเหวี่ยงร่างของไอ้โก้ไปทางไอ้อิฐที่ก็เหมือนจะแสตนบายรอรับอยู่แล้ว สถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจเกิดขึ้นในตอนนี้ บรรยากาศในร้านที่เงียบเสียงลงเพราะเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ผมมั่นใจว่าเจ๊มันต้องหันกลับไปยิ้มหวานแล้วส่งเสียงน่ารักเพื่อทำให้บรรยากาศในร้านกลับมาดีเหมือนเดิมแบบที่เจ้าตัวชอบทำ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีหน่อย ไม่งั้นวันนี้ลูกค้าคงขวัญผวา ด้วยเหตุการณ์ที่เจ้าของร้านกระทืบลูกค้าอันตพาลกลางร้านแบบไม่เกรงใจใคร เรื่องต้องดังแน่ๆเลย



ผมทาได้แต่ถอนหายใจออกมา แบบว่าเรื่องจบแล้ว รอดูอิเจ๊กรีดกรายเป็นร่างสวยๆได้เลย แต่ยังไม่ทันที่จะได้เห็นร่างสวยๆที่ชอบชม้อยชม้ายชายตาแบบทุกที ฝ่ามือแกร่งของเจ๊พี่มันก็ตรงเข้ามากุมข้อมือของผมเอาไว้แน่น ในตอนนี้ที่ก็ได้แต่เงยหน้าขึ้นไปมองคนตรงหน้าที่จับมือกันไว้แน่น



“ไป” หนึ่งคำสั้นๆที่ว่าออกมาจากปากคนตรงหน้า พร้อมสายตาคมที่มองหน้าผมนิ่งๆ ก่อนที่จะดึงข้อมือของผมเบาๆเพื่อให้เดินตามเจ้าตัวไป



“เจ๊...”  เรียกอีกฝ่ายเบาๆด้วยอาการไม่เข้าใจ ... เดินออกมาแบบนี้แล้วลูกค้าในร้านใครมันจะรับหน้าล่ะวะ



“เจ๊ดานี่ จะไปไหน”



“กลับบ้าน” ตอบออกมาสั้นๆด้วยเสียงเข้มๆที่ปกติจะไม่ค่อยๆได้ยิน หันไปมองหน้าคนข้างตัวที่ตอนนี้ก็ทำหน้านิ่ง แต่คิ้วเข้มๆนั่นกลับขมวดเข้าหากันแบบไม่เลิก



“แล้วร้านล่ะ”



“แต่มึงเจ็บ” บอกออกมาแค่นั้น แต่ใจของผมกลับสั่นอย่างห้ามไม่อยู่ สีหน้าด้านข้างของเจ๊พี่มันที่ดูร้อนใจ ทั้งๆที่จริงๆแล้วผมก็แค่เจ็บไข่ แบบจุกนิดๆนะจุกนิดๆนะเหมือนเก้าอี้ฟาดนิดเดียว



“ผมไม่เป็นไร ... เจ๊...”  ถึงผมจะรู้สึกดีใจกับความห่วงใยของอีกฝ่าย แต่ก็อดรู้สึกผิดไม่ได้ที่ร้านของมันต้องมีปัญหา เพราะ ‘ตูดของกู’



เราสองคนที่เดินฝ่าลูกค้าที่ยืนอยู่ตามทางไปแบบไม่สนใจอะไรจนถึงด้านหน้าประตูร้าน มองเห็นพี่จิตที่เดินเข้ามาพร้อมกับกำลังดัดนิ้วตัวเองไปด้วย ชายเสื้อที่หลุดออกมาจากกางเกงก็ทำเอาผมอดจะสงสัยไม่ได้ เพราะพี่จิตเป็นผู้จัดการร้าน ปกติเนี๊ยบยิ่งกว่าอะไรดี แล้วทำไมสภาพตอนนี้ถึงเหมือนนักเลงหัวไม้จังวะ



“ผมจะกลับนะพี่ คืนนี้ก็ฝากดูร้านด้วย” เจ๊มันบอกพี่จิตออกไปแบบนั้นแล้วตั้งท่าจะจูงมือผมให้รีบๆไปขึ้นรถ



“แล้วไอ้เมฆล่ะ ตอนนี้มันรอมึงอยู่ข้างบนนะ” พออยู่ข้างนอกก็เหมือนจะกลับไปเป็นรุ่นพี่รุ่นน้อง ไม่ใช่เจ้านายกับลูกน้องอีกต่อไป และดูเหมือนว่าเจ๊ดานี่จะไม่ใส่ใจคำพูดที่เป็นกันเองแบบนั้นด้วย



“ช่างแม่ง ฝากพี่บอกมันด้วยละกัน”



“แต่มันพา...”



“จะพาใครมาก็ช่างแม่ง ผมจะพาไอ้เอมกลับบ้านละ” บอกแบบนั้นพร้อมทำหน้าเหวี่ยงใส่พี่จิตหน่อยๆ ท่าทางเอาเรื่องของเจ๊มันที่ทำให้พี่จิตต้องเงียบเสียงลงแล้วพยักหน้าตอบตกลงหน่อยๆ



“ตามใจมึงละกัน”



“เคพี่” ว่าแบบนั้นแล้วก็ดึงตัวผมให้เดินตามกันไปขึ้นรถ



“พี่เมฆพาใครมาหรอ”  เป็นผมที่ถามมันออกไปเองเพื่อทำลายบรรยากาศเงียบๆภายในรถ มันไม่แม้แต่จะเปิดเพลง เอาแต่ตั้งใจขับรถด้วยความเร็วที่ก็ต้องขมิบตูดกลั้นหายใจ คือมันลืมอะไรไว้ที่บ้านหรือเปล่าวะถึงรีบขนาดนี้



“กูจะไปรู้ได้ไง กูอยู่ข้างล่าง”



“เจ๊”



“เรียกไม...เรียกแล้วไม่พูดนี่มึงหลับหรือตาย”  อะ ดูปากพี่มันนะ กูจะตายก็เพราะมึงขับรถไวแบบนี้เนี่ยแหล่ะ



“ผมขอโทษนะเรื่องร้าน”



“เกี่ยวอะไรกับมึง”



“ก็เป็นเพราะผมอีกแล้ว”  หันหน้าไปมองคนที่กำลังตั้งใจขับรถอยู่ข้างๆตัวแล้วบอกมันออกไปแบบนั้น รู้สึกติดค้างในใจแบบแปลกๆ เหมือนเป็นเพราะตัวเองที่ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นในวันนี้



“แต่ว่าผมมีสติมากๆเลยนะ ตอนที่มันตีตูดวันนี้ ผมก็สูดหายใจลึกๆแล้ว กำลังจะวิ่งไปหาเจ๊เลยนะ จริงๆนะ” บอกย้ำซ้ำอีกครั้ง กลัวว่ามันจะไม่เข้าใจ



“มึงจะบอกกู” อีกคนที่ทวนคำถามพร้อมหันมามองหน้าผมแว๊บนึงพร้อมเลิกคิ้วส่งมาให้ ถ้าในเวลาปกติ ป่านนี้เจ๊มันคงพูดออกมาว่า ‘อิหนู มึงจะวิ่งมาหาสวยหรอคะ?’ อะไรแบบนี้แล้วแน่ๆ



“อื้ม ...บอกเจ๊ไง”



“ทำไมถึงจะบอกกู”  มันที่ก็ยังถามกันออกมาไม่เลิก และก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกไม่อยากจะตอบคำถามนี้ออกไปเลยจริงๆ



“ก็...ก็เจ๊บอก”



“กูบอกว่า” ในตอนที่เจ๊มันถามออกมาแบบนั้น ก็รู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายก็ค่อยๆตบไฟเลี้ยว แล้วหักพวกมาลัยเข้าข้างทาง ก่อนจะจอดเทียบฟุตบาตรในตอนนี้นี้



“เจ๊จอดทำไม”



“ไหนว่าไง มึงยังไม่ตอบคำถามกูเลย กูบอกมึงว่าอะไร มันถึงทำให้มึงคิดจะวิ่งมาบอกกู แทนที่จะต่อยหน้าไอ้คนที่ตีตูดมึง” คำถามของอีกฝ่ายที่พูดออกมาแบบนั้น พอฟังแล้วก็ต้องเผลอก้มหน้าหลบตา แต่ก็หลบได้ไม่เท่าไหร่ เมื่ออีกฝ่ายเลือกที่จะเอื้อมมือมาเชยคางของผมให้เงยหน้าขึ้นไปมองกัน สายตาคมที่บนเปลือกตายังมีอายแชโดวสีสวยๆวิ๊บวับแต่งแต้มอยู่ตรงนั้น ริมฝีปากได้รูปที่ตอนนี้ลิปสติกสีแดงๆนั่นก็ยังเคลือบอยู่ที่ริมฝีปาก แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไม ตอนนี้พอมองตาของคนที่แต่งหน้าจัดเต็มขนาดนี้ แต่ผมกับเขิน



“ว่าไง”



“ก็...ก็เจ๊บอก ว่า...ว่าคนที่ผมจะพึ่งพาได้ ก็คือเจ๊”



ตอบออกไปแบบนั้นด้วยเสียงที่ไม่ได้ดังเท่าไหร่ แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะในรถที่เงียบจนเกินไปหรือเพราะอะไร แต่พอตอบออกไป เสียงของตัวเองมันถึงดังชัดมากขนาดนี้ มองเห็นคนตรงหน้าที่ยกยิ้มขึ้นมาในตอนนี้ สายตาคมที่สบกันอยู่เป็นประกายขึ้นมาในแบบที่ผมเองก็ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร ก่อนที่อีกฝ่ายจะเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ ใบหน้าคมที่เอียงหน้าทำมุมเข้ามาก่อนจะประกบริมฝีปากทาบทับลงมาแบบที่ผมไม่ทันจะตั้งตัว ฝ่ามือหนาที่เชยคางกันอยู่ จับใบหน้าของผมให้เอียงให้ได้องศาในตอนที่ลิ้นอุ่นๆของคนตรงหน้าค่อยๆไล้เลียริมฝีปากบนและล่างของผมช้าๆ ดูดดุดริมฝีปากร่างเบาๆจนผมตัวสั่นระริก ก่อนจะที่จะใช้ลุ่นๆของตัวเองค่อยๆแทรกริมฝีปากของผมเข้ามา ดูดดุนหนักๆไล่ต้อนลิ้นเล็กของผมแบบหนักๆไม่ยอมเปิดทางให้ได้หลบหนี หัวใจของผมสั่นทุกๆนาทีที่อีกฝ่ายค่อยๆดูดปลายลิ้นหนักๆ ได้ยินเสียงน้ำลายที่ดังจ๊วบจ๊าบททำให้ต้องรู้สึกหน้าแดง ก่อนที่อีกฝ่ายจะผละหน้าออกจากกันช้าๆ



“มึงน่ารัก”



“ผม....”



“พึงพากูมากกว่านี้ก็ได้ กูเต็มใจ ... เต็มใจเหมือนโดนมึงทำของใส่เลยล่ะรู้ไหม” ว่าออกมาแบบนั้นแล้วเอามือมาลูบแก้มผมเบาๆ คำพูดคำจาที่ทำให้กูรู้สึกว่าการเขินเมื่อกี้แม่งเสียเปล่า กำลังจะอ้าปากด่าออกไป แต่อีกฝ่ายก็ทำแค่เอียงหน้าเข้ามาหอมแก้มกันอีกครั้งในตอนนี้

 

“คิดถึงกูแบบนี้ ... มีใจให้กู ดูออก”



“มั่นจังวะเจ๊”



“หรือไม่จริง”



“แล้วถ้าจริง?”



“ถ้าจริงก็ปล้ำแม่งเลยให้จบๆ ไม่ไหวแล้วเอม” ว่าแบบนั้นด้วยเสียงกระเซ่าแล้วทำท่าจะปีนข้ามมาหากันแบบหน้าตาเฉย ดีที่กูยกมือขึ้นมาดันที่อกของอีกฝ่ายไว้ได้ทัน ... มึงนี่มันท้าไม่ได้จริงๆเลยโว้ย



“กูหยอก กูหลอก”



“เดี๋ยวมึงจะโดนกูตบนะ ... ตบด้วยปากกระชากด้วยลิ้นสักวันนึง หมั่นไส้ไอ้สัด ลีลานัก ชอบกันก็เล่นตัวเก่ง”



“ผมเล่นตัวแล้วจะทำไมวะ เจ๊เดือดขนาดวันนี้ คือหวงใช่ไหมล่ะ กูก็ดูออกนะ”



“ดูไม่บอกก็ควายแล้วไหม หวงกว่านี้กูก็ปั้นมึงเป็นก้อนกลมๆแล้วกลืนลงท้องแล้วไอ้เอม”



“ปากเจ๊นี่มันดีจังว้า ถ้าพาพวยมาจะกล้าพูดแบบนี้ไหม”



“พาพวยเหี้ยไร เค้าชื่อพระพาย และอีกอย่าง...เค้าไม่กลับมาง่ายๆหรอก” มันที่ว่าแบบนั้นแล้วส่งยิ้มมาให้กัน ในสายตาของมันตอนที่พูดชื่อของคนๆนั้นออกมาก็ยังดูมีความสุขแบบที่ผมไม่เข้าใจ



“เจ๊อยากให้เค้ากลับมาไหม”



“เมื่อก่อนเคยอยาก”



“แล้วตอนนี้...”



“ตอนนี้มีมึง ใครจะมาใครจะไป ก็ไม่มีผลกับกูทั้งนั้นแหล่ะเอม ... มึงไม่มั่นใจอะไรกูวะ ทุกวันนี้ก็หวงมึงจะตายอยู่แล้ว แล้วอีกนะ ตูดมึงแม่งเจ้าปัญหา มาร้านกูทีไรมีแต่คนสาระแนมาตี กูอยากตัดตากแดดไว้ที่บ้าน”



“สัด! ตูดไม่ใช่เนื้อเค็ม!”



“รำคาญนัก ตูดกู กูตีได้คนเดียว”



“ตูดกูเจ๊ ไม่ใช่ตูดมึง!”



“ของๆมึงก็เหมือนของๆกู คนๆเดียวกัน ขอร้องมึงอย่าโง่เอม”  ถอนหายใจใส่กูพร้อมเอื้อมมือมาลูบหัวผมเบาๆ คำพูดกับการกระทำช่างสวนทางกัน อ้อ...การแต่งหน้าของมันก็สวนทางกับตอนมันกระทืบคนมากเหมือนกัน



“เอม”



“หื้ม”



“มั่นใจกูเถอะ ... กูรู้สึกกับมึงมากจริงๆนะ”



พี่มันที่ว่าออกมาแบบนั้น ก่อนจะใช้มือขวาจับพวงมาลัยแล้วออกรถเพื่อกลับคอนโดไปพร้อมๆกัน มือซ้ายที่ว่างอยู่ของมันที่ก็เอื้อมมือมากุมมือของผมไว้ นิ้วเรียวยาวของอีกฝ่ายที่แทรกผ่านนิ้วของผมมากุมกระชับกันไว้ก่อนจะบีบมือผมเบาๆ



มั่นใจ...หรอวะ



‘ตื่อดึ้ง’



เสียงข้อความเข้าที่ดังมาจากมือถือของพี่มันที่วางอยู่ตรงช่องใส่ของใกล้ๆกับเกียร์ หน้าจอที่สว่างวาบขึ้นมาในตอนนั้น ผมที่ก็ก้มลงมองหน้าจอแบบไม่ได้ตั้งใจ เป็นข้อความของพี่เมฆที่เด้งขึ้นมา



‘มึงหายไปไหนเนี่ยไอ้เหี้ยดาบ มึงรู้ไหมว่าพ...’



สัด ข้อความขึ้นมาไม่ครบ สุดแสนจะขัดขวางความอยากเสือกของกู



“พี่เมฆล่ะ”



“ช่างแม่ง วุ่นวายนัก อย่าให้แม่งมาขัดขวางความสุขของเราค่ะหนู พี่อยากกุมมือเอม ไม่อยากปล่อยมือไปเปิดอ่านข้อความของไอ้สัดเมฆ เสือกนัก”



อื้ม ... เป็นประโยคที่ทำให้รู้สึกเขินแปลกๆจังเลยนะ ว่าไหม หึ้ย~~




--------------To be continued--------------



มาต่อครบ100%แล้วค่ะ ขอโทษจริงๆที่มาช้า ตอนแรกกะว่าวันนี้จะลงสองตอนรวดเลย แต่ว่าอาทิตย์นี้ไปรพ.บ่อย

แคทเลยมีเวลาเขียนไม่พอ ตอนที่17เลยยังไม่สมบูรณ์ ยังไงต้องขออภัยด้วยนะคะ

ด่าได้แต่อย่าแรงน้า ใจบาง เบาๆก็ขาดเบาๆก็ปลิ้ว

ขอบคุณคอมเม้นท์แบบล้นๆสำหรับ113คอมเม้นท์ของครึ่งแรกมากๆ แคทดีใจที่มีคนอ่านชอบเยอะขนาดนี้ ถ้าอยู่ด้วยกันตลอดไปคงจะดีมากๆ ขออภัยอีกครั้งที่มาต่อช้านะคะ

ปล. พี่ดาบจะไม่สนใจเรื่องที่พี่เมฆจะบอกได้แน่หร๊ออออออ ฮึบฮับ ตอนหน้าน้านนน อิอิ

#สวยๆเป็นผัว

ฝากด้วยนะคะ

หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่16.2 {01/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: KizzllKizz ที่ 01-02-2020 21:32:14
เดี๋ยวๆพี่ดาบไปอ่านแชทพี่เมฆก๊อนน อยากรู้ว่าที่เหลือส่งมาว่าไง อุอิ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่16.2 {01/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 01-02-2020 22:36:09
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่16.2 {01/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 01-02-2020 23:13:21
 :katai3: ปากดีแบบนี้ให้ตลอดนะอีเจ๊
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่16.2 {01/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 03-02-2020 07:31:32
ถ้าคนที่พี่เมฆพามาคือพาพวย เอ๊ย พะพายล่ะเจ้. เจ้จะทิ้งน้องเอมไปหาเค้ามั๊ย  :hao4:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่16.2 {01/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 03-02-2020 12:41:41
มีความคืบหน้า
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่16.2 {01/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: LifePo-YuGu ที่ 03-02-2020 16:14:06
นี้ถ้าเจอพระพายแล้วทำร้ายน้องเอมนะ อิ๊นี้จะตามไปตบอิ๊เจ๊ถึงร้านนะ บอกเลย หื้มมม  :m16:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่16.2 {01/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 04-02-2020 17:22:19
 :กอด1: :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่16.2 {01/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 04-02-2020 17:33:20
เจ้เดือดมาก!
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่16.2 {01/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Rungzanaka ที่ 05-02-2020 00:19:52
เจ้พูดแล้วนะว่าจะไม่กลับไปหาอ่ะต้องมากน้องเอมสนใจน้องเอมคนเดียวนะเจ้ถ้าเปลี่ยนใจโดนตีแน่ๆ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่16.2 {01/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 08-02-2020 08:25:10
ตูดเจ้าปัญหา แนะนำน้องเอมให้ใส่สุ่มเข้าร้านคนจะได้ตีไม่ถึง ^^
ปรบมือให้องค์พี่ดาบหลายๆที ปกป้องน้องได้แบบนี้เราจะเชียร์พี่ไปนานๆนะ
แต่พอมาเรื่องพาพวยก็เริ่มลังเล
ที่ยืนยันว่ามีแต่น้องหลงแต่น้องเนี่ยเพราะมั่นใจว่าพาพวยจะไม่กลับมาใช่หรือเปล่า
ถ้ากลับมา ได้มาเจอกันตัวเป็นๆตรงหน้า จะทำยังไง มีปฏิกิริยาแบบไหน
คุณคนเขียนให้เขาได้เจอกันสักทีเถอะค่ะ นี่ อยากรู้มากอ่ะ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่17 {08/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 08-02-2020 20:40:12
บทที่17





“เอม มึงมานี่สิค่ะ”




เสียงเรียกด้วยเสียงสองที่ดังมาจากเตียงนอน หลังจากที่ผมเดินเอาผ้าเช็ดหัวออกมาจากห้องน้ำก็ได้ยินเสียงของอิเจ๊ที่กลับมาคะขาอีกแล้ว พี่มันที่อยู่ในชุดนอนลายจระเข้ตัวน้อยน่ารักแบรนด์เกาหลีของมัน กำลังนั่งอยู่กลางเตียงร้องออกมาแบบนั้นพร้อมกวักมือเรียก ส่วนกู อยู่ในกางเกงบอลขากว้างกับเสื้อกล้ามสีดำย้วยๆ มองเผิน ๆ เหมือนลูกคนใช้กับเจ้านายที่สูงศักดิ์



“เจ๊มีอะไร”



“คลานเข้ามาหากูให้กูดูตูดมึงหน่อย”



“เดี๋ยว!! พูดบ้าอะไรของมึงอีกเจ๊!” ร้องออกมาแบบนั้นแล้วเด้งตัวหนี คือกูพึ่งหย่อนตูดนั่งลงบนเตียงเองนะ นี่มึงมาขอดูตูดอะไรอีก



“กูจะดูว่ามันช้ำไหม ของๆ กู กูจะสำรวจ”



“ใช่เรื่องที่มึงจะมาสำรวจหรอเจ๊ กูถามแค่นี้เลย”



“ถามโง่ๆ ก็ต้องใช่สิคะ กูต้องสำรวจของๆ กูไงหนู” มันที่ว่าออกมาด้วยสีหน้าที่เรียกได้ว่าจริงจัง สายตาคมที่จ้องมาที่ตูดกันอย่างมุ่งมั่นในตอนนั้นก็เอื้อมมือมาคว้าเอวผมไว้ทันที



“เหวอออ เจ๊ ทำไรวะ ปล่อยนะโว้ย”



“ไม่ค่ะ หนูมึงอย่าดิ้น ถอดกางเกงแป๊บเดียว เร็ว มาดูหน่อย” บอกแบบนั้น ง่ายๆ เหมือนเวลามันถามว่าหิวข้าวรึยัง แต่กูว่าแบบนี้มันไม่ใช่แล้วแด็ป คือมึงต้องใจเย็นก่อนนะแด็ปนะ



“เจ๊ ไม่เอา ปล่อยผมนะโว้ย ตูดผมสบายดี!” แหกปากบอกออกไปแบบนั้นพร้อมๆ กับยังคงดิ้นต่อไปหยุด พยายามจะคลานหนีออกมาจากการเกาะกุมของมัน



“ไม่ได้จะเอานะคะ กูจะดูเฉยๆ ไง แล้วไข่มึงล่ะคะ กูเห็นมึงทำหน้าจุกๆ ตอนอยู่ร้าน สุดแสนจะไม่สบายใจ ขอสวยดูไข่ก่อน” ว่าออกมาอีกพร้อมกระชากกางเกงบอลของผมออกหน้าตาเฉย



“เห้ยเจ๊!!”



“หืม...มึงไม่ใส่กางเกงในนอนหรอวะเอม” เดี๋ยวนะ... แล้วเสียงมึงจะเปลี่ยนทำไมแด็ป เมื่อกี้มึงยังคะขาเสียงสองเสียงสามใส่กูอยู่เลย แล้วนี่อะไร พอมึงจับกูนอนพาดขวางไปกับขายาวๆ ของตัวเอง องค์พี่แด็ปมึงลงหรอ ....เห้ยๆ ไม่ได้นะ เก็บร่างพี่ดาบพี่แด็ปมึงไปก่อน



‘เฮือก’



“จ...เจ๊! ปล่อยนะ อย่ามาจับ”



ว่าออกไปแบบนั้นด้วยเสียงที่ก็สั่น สั่นจนตัวเองยังรู้สึกได้ อยากจะยกมือขึ้นตบปากตัวเองแรงๆ มึงจะสั่นทำไมวะ ... แต่ถึงจะคิดแบบนั้น แต่ฝ่ามืออุ่นๆ ที่วางลงบนแก้มก้นของผมแบบไม่มีเนื้อผ้าใดๆ กั้นแบบนี้ รวมถึงไอ้น้องเอมน้อยๆ น่ารักของผมที่ก็นอนสงบนิ่งอยู่บนขาแกร่งของมันแบบนั้น กูไม่สั่นก็บ้าแล้วไหม!!



“ก็แค่จับดู ตูดมึงเนียนดีนะ” คือใช่เวลาที่มึงจะมาวิจารณ์ตูดกูหรอดาบ ถามกันแค่นี้ คือมันไม่ใช่ไงมึง!! ไอ้เอมอยากร้องไห้ ไข่ไม่เจ็บแล้วตอนนี้ แต่อายไข่กับตูดมาก ปล่อยกู!



“เจ๊ ปล่อยโว้ย! อื้อ อย่าลูบ” กูอยากร้องไห้ อายฉิบหายแต่ไม่รู้จะทำยังไงในตอนที่พี่มันลูบมือมันช้าๆ ไปมาอยู่บนแก้มก้นของผม ทำได้มากสุดก็แค่เอาหน้าซุกกับเตียงทั้งๆ ที่ตัวผมก็นอนขวางอยู่บนขามัน เพราะแบบนั้นเลยยิ่งอาย และอายมากขึ้นไปอีกตอนที่อีกฝ่ายก็ลูบก้นกันไม่เลิกจนตอนนี้น้องเอมน้อยๆ ของผมมันก็เริ่มจะรู้สึกอะไรบางอย่างขึ้นมาแบบห้ามไม่ได้



“มีอารมณ์หรอวะ”



“ป...เปล่า”



“หรอ” อีกคนที่ว่าออกมาแบบนั้น แต่ฝ่ามือหนาก็ยังไม่เลิกที่จะลูบไล้ฝ่ามืออุ่นไปมาอยู่ที่แก้มก้นของผม ได้แต่หลับตาแล้วเม้มปากเข้าหากันแน่นๆ ในตอนที่นิวเรียวของอีกฝ่ายลากผ่านไปที่ร่องก้น สะดุ้งจนเผลอขมิบก้นเข้าหากัน ในตอนนั้นที่ก็พยายามจะลุกขึ้นและพลิกตัวหันหนี แต่ไหล่กลับถูกกดลงไปบนเตียงอีกครั้ง ต่างจากเดิมแค่ตอนนี้เป็นแผ่นหลังที่สัมผัสกับเตียง ไม่ใช่หน้าอกเหมือนก่อนหน้านี้ และบนตัวของผมตอนนี้ก็มีใครอีกคนที่เบี่ยงตัวมาคล่อมทับกันไว้แล้วด้วย



“อ๊ะ เจ๊...อื้มมมม” คำพูดของผมที่ถูกกลืนลงไปในลำคออีกครั้งพร้อมๆ กับลิ้นร้อนที่แทรกเข้ามาในปากแบบไม่ทันตั้งตัว ท่อนขาของตัวเองที่รู้สึกได้ว่าถูกอ้าออกในตอนที่ท่อนขาแกร่งแทรกตัวมาตรงกลางระหว่างขา ได้แต่ยกขาขึ้นชันกับพื้นที่นอนในตอนนั้นแบบไม่รู้ตัว ลิ้นร้อนที่เกี่ยวกระหวัดเข้ามาอย่างเร่าร้อนทำให้หัวใจของผมเต้นแรงๆ เหมือนว่าไปวิ่งในระยะร้อยเมตรทั้งๆ ที่จริงๆ ก็แค่นอนอยู่กลางเตียง



“อึก อืออ” เสียงครางที่ดังออกมาจากในลำคอในตอนที่รู้สึกว่าฝ่ามือแกร่งเอื้อมมือมาจับที่เอวของผม ในตอนนั้นก็เผลอหายใจหนักๆ อย่างอดไม่อยู่ ค่อยๆ ปรือตาขึ้นมามองหน้าคนที่กำลังบดริมฝีปากจูบกันแบบหนักๆ อยู่ในตอนนี้ พี่มันที่ก็ลืมตามองกันอยู่ก่อนแล้ว ผมที่รับรู้ได้ถึงรอยยิ้มบางๆ จากคนบนตัวที่ส่งมาให้กันแต่ริมฝีปากก็ยังคลอเคลียบดจูบแบบไม่ถอยห่างไปไหน



“กูจะไม่ให้มึงไปร้านอีกแล้วเอม”



“อึก...เจ๊...”



“ไปทีไร มีแต่คนจ้องมาแตะมึง...กูหวง” พี่มันที่ว่าแบบนั้นก่อนจะกดริมฝีปากจูบย้ำลงมาที่ริมฝีปากผมอีกครั้งแบบหนักๆ หน้าท้องที่สะท้านขึ้นลงเพราะได้แต่หายใจหอบหนักๆ รู้สึกเสียววาบไปทั้งตัวในตอนที่ฝ่ามือหนาเลื่อนจากเอวลงมาวางลงบนแกนกายของผม



‘เฮือก’



“เอม” จมูกโด่งที่คลอเคลียอยู่ที่ข้างแก้ม ในทุกๆ ครั้งที่สันจมูกโด่งลากผ่านไปตรงไหน ร่างกายผมเหมือนถูกกรีดผ่านจนหัวใจกระตุกวูบ ฝ่ามือหนาที่ก็ลูบไล้ปรนเปรอหนักๆ ขยับขึ้นลงอยู่ที่แกนกายของผมแบบไม่หยุดพัก



“พี่ด...ดาบ อื้มม”



“ครับ” เสียงเข้มๆ ของอีกคนที่ตอบรับเสียงเรียกของผมออกมาแบบนั้น ในตอนนี้ที่ผมก็ค่อยปรือตาขึ้นมองหน้าของคนบนร่าง อีกฝ่ายที่ยกยิ้มมุมปากแต่สายตาอ่อนโยนที่ส่งมาให้ พี่มันที่กำลังมองหน้าผมเหมือนเห็นของถูกใจ ส่งยิ้มให้กันแบบเอ็นดู แต่ฝ่ามือหนากลับขยับขึ้นลงแบบหนักๆ ไม่ได้เหมือนกับสีหน้าเลยแม้แต่น้อย ผมที่ได้แต่นอนครางเชิดใบหน้าขึ้นพร้อมๆ กับแอ่นอกขึ้นมาแบบห้ามไม่ไหว



“ไม่ไหวแล้วว่ะเอม อย่าทำหน้าแบบนี้ได้ไหมวะ” ทำหน้าแบบไหน ..... ผมเปล่า ผมไม่รู้



“อึก” อยากจะพูดแก้ตัวออกไป แต่เสียงที่เปร่งออกมาได้ สุดท้ายก็มีแค่เสียงคราง ได้แต่อ้าขาแยกออกกว้าง ลืมไปเลยว่าก่อนหน้านี้เคยอายมากแค่ไหน



‘พึบ’



“อ๊ะ”



ร้องออกมาแบบนั้นเบาๆ ในตอนที่รับรู้ถึงเอ็นเนื้อร้อนที่ถูกวางแนบเสียดสีลงบนแกนกายของผมในตอนนี้ ท้องน้อยหดเกร็งเป็นจังหวะเพราะความเสียวซ่าน แทบชันขากับเตียงในท่าเดิมไม่อยู่ คนตรงหน้าที่ดันตัวเองขึ้นนั่งพร้อมๆ กับมือหนาที่ก็ลูบไล้จากสะโพกขึ้นมายังเอวคอดก่อนจะจับปลายเสื้อที่ของผมขึ้นไปผูกไว้ใต้อกที่ชูชันด้วยอารมณ์ในตอนนี้ หลุบสายตาเลื่อนมองลงต่ำ มองเห็นแกนกายใหญ่ที่ถูกวางแนบอยู่บนแกนกายของผมในตอนนี้ กางเกงนอนขายาวของอีกฝ่ายที่ถูกดึงลงไปกองไว้อยู่ที่ต้นขาแกร่ง สะโพกสอบที่ค่อยๆ ขยับช้าๆ ในตอนที่สายตาคมเข้มนั่นก็จ้องมองหน้ากันอยู่ไม่ละสายตา ไรผมชื้นเหงื่อของอีกฝ่ายที่ก็ยิ่งทำให้คนตรงหน้าดูเซ็กซี่ขึ้นไปอีกแม้ว่าจะอยู่ในชุดนอนลายจระเข้น้อยก็ตาม



“กูโคตรอยากเข้าไปในตัวมึงเลยเอม”



“อึก” ผมที่กัดริมฝีปากแน่นตอนที่ได้ยินอีกคนพูดแบบนั้น อารมณ์ของตัวผมที่อยากทำให้อ้าปากแล้วบอกออกไปว่าพี่เข้ามาเถอะ เข้ามาในตัวผมนะ แต่....



“แต่กูก็อยากให้อะไรมันถูกต้องมากกว่านี้ รอให้มึงเป็นแฟนกูก่อนเถอะ”



“อ๊ะ!”





‘พรึบ’



ตัวของผมที่ถูกจับพลิกคว่ำหน้าลงไปแบบไม่บอกไม่กล่าว ได้แต่ร้องออกมาแบบนั้น และในเวลาต่อมา ก็ถูกจับให้โก่งสะโพกขึ้นมาอยู่ในท่าคลานเข่า สะโพกที่ยกสูงขึ้นไปในตอนนั้นทำให้ผมใจกระตุก รับรู้ได้ถึงแกนกายใหญ่ร้อนผ่านที่ลากผ่านช่องทางด้านหลังของผมไปช้าๆ เสียวซ่านจนต้องเผลอขมิบถี่ๆ



“ซี๊ด ... อย่ามาทำแบบนี้นะเอม เดี๋ยวกูทนไม่ไหว”



เสียงเข้มที่กระซิบอยู่ข้างหูของผม อีกฝ่ายที่ซ้อนตัวอยู่ทางด้านหลังพูดออกมาแบบนั้น จมูกโด่งที่ก็ซุกไซร้ซอกคอของผมมาจากด้านหลัง รู้สึกเจ็บแปร๊บๆ ในตอนที่อีกฝ่ายขบเม้มเบาๆ ไปตามลำคอและลาดไหล่ ก่อนที่จะรับรู้ได้ถึงแกนกายใหญ่ที่ถูกแทรกผ่านเข้ามาจากหว่างขาของผมจากทางด้านหลัง



“อ๊ะ พี่ด...ดาบ”



“อื้ม ซี๊ด หนีบขาแน่นๆ เอม”



เสียงเข้มที่ว่าออกมาแบบนั้น ก่อนที่สะโพกแกร่งจะเริ่มขยับ แกนกายร้อนผ่าวที่แทรกมาตามหว่างขาที่แนบชิดของผมเสียดสีกันจนร้อนไปหมด เอ็นร้อนที่ถูไถผ่านมาจนถึงแกนกายของผมยิ่งทำให้รู้สึกเสียวซ่านในอก ฝ่ามือแกร่งข้างซ้ายที่เอื้อมมือคว้าแกนกายของผมเอาไว้ก่อนจะขยับชักเข้าออกพร้อมๆ กันกับที่อีกฝ่ายก็กระแทกกระทั้นแกนกายเข้ามาที่ว่างขาของผมแบบหนักๆ



“อ๊ะ อื้ออ”



“ซี๊ดด เอม...” เสียงเข้มที่เรียกชื่อผมออกมาแบบนั้นพร้อมๆ กับที่สะโพกแกร่งก็กดเอวโยกเข้าใส่แบบหนักๆ รู้สึกว่าหว่างขาร้อนผ่าวไปหมด แต่ก็รับรู้ได้ถึงแกนกายแข็งแกร่งที่ร้อนผ่าวอยู่ตรงนั้นที่พอโยกตัวขยับเข้าใส่ในบางจังหวะก็เสียดสีเบียดเสียดถูไถเข้ากับแกนกายของผมไปด้วย ฝ่ามือหนาที่ก็ขยับกดหนักๆ อยู่ที่แกนกายของผมแบบต่อเนื่องไม่หยุด



“อ๊ะ อึก พี่ดาบ อ้า~~”



“ซี๊ดด เอมม อึก”



เสียงครางสองเสียงที่ร้องออกมาพร้อมๆ กันในตอนที่ตัวผมเองก็กระตุกเล็กน้อยก่อนจะปลดปล่อยความรู้สึกเสียวซ่านทั้งหมดออกมาเต็มฝ่ามือแกร่ง พร้อมๆ กับเสียงหอบหายใจหนักๆ ของคนที่ซ้อนอยู่ทางด้านหลังที่ออกแรงกระแทกเข้าออกแรงและเร็วสองสามทีก็ปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นออกมาเต็มหว่างขาของผมพร้อมๆ กัน



‘แฮ่ก แฮ่ก’



เสียงหอบหนักๆ ของทั้งผมและพี่มันที่ดังสะท้อนไปทั่วห้องนอนในตอนนี้ สติที่เริ่มกลับมาเด่นชัดขึ้นอีกทีในตอนที่ทั้งหน้าทั้งตัวก็ร้อนผ่าวไปหมด ฝ่ามือหนาที่ปล่อยออกจากแกนกายของผม ก่อนจะเลื่อนมาโอบเอวกันไว้กันผมทิ้งตัวลงเตียงในตอนนี้ และฝ่ามืออีกฝั่งที่ว่างของอีกฝ่ายก็แค่เลื่อนมาจับปลายคางของผมให้หันไปรับจูบหนักๆ จากอีกคน



“อึก อื้มม”



“กูมีความสุขว่ะ ... พรุ่งนี้ไปเดทกันน้องเอม”



เดท ... เดทงั้นหรอ



.

.

.




“ทำไมต้องอยากมาทะเลวะคะ กูถามจริง แบบว่าในหนังเอยในนิยายเอย เอะอ่ะก็ต้องพากันมาทะเล คือทำไมก่อน สวยงง”



“เจ๊ไม่ชอบทะเลหรอวะ”



“เฉยๆ ค่ะ มันเค็ม มันเหนียวตัว กูเลยไม่ได้ชอบอะไรเท่าไหร่ สมมุติว่าอกหักกูก็ไม่มาทะเลนะคะ เหนื่อย ไปแดกเหล้าดีกว่า จบง่ายๆ เมาๆ ก็นอน”



“แล้วทำไมถึงยอมพามาอ่ะ ก็บอกแล้วว่าถ้าอยากไปไหนก็ไป” อดไม่ได้ที่จะหันไปหาคนข้างตัวที่ตอนนี้ก็กำลังตั้งใจขับรถอยู่



“ก็มึงอยากมาไงคะหนู กูก็ต้องตามใจมึงถูกไหม ก็สัญญาไว้แล้วไง” อืม...เป็นสัญญาสุดท้ายก็ที่ทั้งผมและอีกฝ่ายจะฟุบหลับไปเมื่อคืนนี้



“เจ๊เป็นเจ้านายที่ทั้งแปลกและใจดีมากๆ เลยนะรู้ตัวป่ะ แต่ยังไงก็ขอบคุณนะครับ” ว่าแบบนั้นแล้วส่งยิ้มไปให้ อดใจไม่ไหวที่ต้องเอียงตัวไปมามองข้างทางไปด้วย ตอนนี้ก็เป็นเวลาหกโมงเช้า ในช่วงที่พระอาทิตย์ก็เริ่มจะขึ้นมานิดหน่อย ท้องฟ้าที่เริ่มค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีส้มอ่อนๆ เป็นบรรยากาศดีๆ ที่ปกติไม่ค่อยได้เห็นเพราะตื่นสาย



“กูไม่ได้เป็นเจ้านายที่ใจดีอย่างเดียวนะคะ”



“หื้ม?”



“กูเป็นผัวที่ใจดีมากด้วยค่ะ” บอกออกมาแบบนั้นแล้วหันมายิ้มให้กันแบบสว่างสดใส ดวงตาคมดุที่วันนี้ไม่มีสีอายแชโดววิบวับนั่นขยิบตาส่งมาให้กันอีกหนึ่งที



“ใครถามกันวะ” ว่าออกไปแบบนั้นเบาๆ แล้วต้องรีบหันหน้าหนีออกไปนอกรถ อยู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนรถจะแคบลงจนหน้าอึดอัดแบบบอกไม่ถูก ไอ้บ้าเอ้ย อิเจ๊พี่ดานี่แม่งเล่นกูแต่เช้าเลย



“มองข้างทางไปก่อนก็ได้ค่ะหนู กูรู้ว่ามองหน้ากูแล้วมึงจะยิ่งหน้าแดง”



“มั่วว่ะเจ๊ ใครจะหน้าแดงกับเรื่องอิแค่นี้”



“นั่นสิเนอะ ถ้าหน้าแดงตัวแดงกับเรื่องเมื่อคืนก็ว่าไปอย่างอ่ะโน๊ะ”



“โว้ยยย อิพี่ดาบ!!”



“กรี๊ดดด อิน้อง โปรดเรียกกูว่าดานี่ค่ะอิดอกกกกก”



สัด...ผีเจ๊ดานี่คัมแบล็คเข้าร่างมันอีกแล้ว



เราใช้เวลาไม่นานก็เดินทางมาถึงทะเล เป็นเพราะว่ามาทะเลที่ไม่ได้อยู่ไกลจากกรุงเทพ หลายๆ คนบอกว่าทะเลที่นี่ไม่น่ามาเที่ยวเท่าไหร่เพราะบรรยากาศไม่ดี แต่สำหรับผมในตอนนี้ แม่งดีสุดๆ เลยว่ะ



“หนูคะ มึงยิ้มอะไรขนาดนั้นเอ่ย” หันไปมองก็เจอกับเจ๊ดานี่เดินตามลงมาจากรถ ในมือเจ๊มันถือตระกร้าอะไรซักอย่างออกมาด้วย ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินมานั่งลงอยู่ข้างๆ ผม ก็แค่นั่งเล่นกันอยู่บนพื้นทราย



“ผมชอบทะเล และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผมได้มาเห็นทะเลจริงๆ” บอกออกไปแบบนั้นแล้วส่งยิ้มกว้างๆ ไปให้ สายลมเอื่อยๆ ที่ทำให้รู้สึกเย็นสบาย



“ถามจริงนะคะ มึงไม่เคยมาทะเลเลยหรอ”



“ก็จริงอ่ะดิ เจ๊พี่มึงคิดว่าทะเลนี่มันมาง่ายหรอวะ”



“มีประเทศนี้มีรถที่ชื่อว่ารถทัวร์ รถตู่ประจำทางอะไรงี้นะคะหนู”



“ก็รู้ แต่มันก็ไม่ได้มาง่ายอ่ะ แล้วอีกอย่าง ผมก็ทำงานตลอด จะเอาเวลาไหนมาเที่ยวเล่นอ่ะ เมื่อก่อนที่ผมจะไปทำงานเป็นเด็กเสริฟที่ร้านเก่าอ่ะ ผมทำเซเว่นด้วยนะ มันแบบต้องเข้ากะเช้าบ้างดึกบ้าง เรียนไม่ค่อยรู้เรื่องเลยลาออกแล้วมาทำงานผับ อย่างน้อยกลางวันก็ยังได้เรียนเต็มที่อ่ะ”



“เอม...มึงนี่...” อีกคนที่ขมวดคิ้วมองหน้าผม ไม่รู้ว่าอีกคนกำลังคิดอะไร แต่ฝ่ามือหนาที่อบอุ่นของพี่มันก็ยกขึ้นมาว่างลงบนหัวของผมก่อนจะลูบเบาๆ เป็นความอบอุ่นที่เหมือนจะแผ่จากศีรษะทะลุไปที่ใจแล้วเคลื่อนย้ายไปรอบๆ ตัวของผม ... เป็นความรู้สึกที่อบอุ่นดีจนต้องหลับตาลงแล้วเอียงหัวเข้าหาฝ่ามือนั้น



“เก่งจังนะ ตัวแค่นี้เอง” ผมที่ช้อนตามองอีกคนที่พูดออกมาแบบนั้น สายตาของคนตรงหน้าที่กำลังมองกันอ่านไม่ออกว่าคิดอะไร แต่มันก็เหมือนจะมีความหวังดีเจือปนอยู่ในนั้น



“ผมไม่เก่งหรอก ... ก็แค่ถ้าอยากมีชีวิตรอด ก็ต้องดิ้นรน ... ก็ผมอยู่คนเดียวนี่หว่าพี่ ก็แบบที่เห็น มีญาติก็เหมือนไม่มีอ่ะ” บอกออกไปยิ้มๆ ไม่ได้คิดมากอะไรกับชีวิตตัวเองอีกแล้วในตอนนี้



“ต่อจากมึงไม่ได้อยู่คนเดียวแล้วนะ .. มึงมีกู


(มีต่อจ้า)

หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่17 {08/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 08-02-2020 20:40:45

จบคำพูดของพี่มันด้วยเสียงนิ่งๆ แบบนั้น สายตาคมๆ ที่วันนี้ไม่มีประกายวิบวับอยู่บนเปลือกตา และสีปากก็ไม่ได้แดงจัดเหมือนทุกที พอมันที่พูดออกมาแบบนี้ ก็อดไม่ได้เลยจริงๆ อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเลยจริงๆ



“ขอบคุณครับ” บอกออกไปแบบนั้นและก็ได้รับรอยยิ้มอบอุ่นส่งกลับมาแทน



“หิวยัง”





“อื้ม ยังไม่มากอ่ะ”



“ไม่มากก็ต้องลองท้องไว้ก่อน เดี๋ยวปวดท้อง” พี่มันที่บอกแบบนั้นก่อนจะคว้าตระกร้าข้างตัวมาวางไว้ตรงหน้าผมแล้วเปิดออก ข้างในเป็นแซนวิสแบบง่ายๆ ใส่มายองเนสทูน่าที่มีผักและทูน่าแบบเน้นๆ



“เจ๊พี่มึงทำมาหรอ” อดไม่ได้ที่จะต้องเบิกตากว้างๆ ขึ้นมาในตอนที่เห็น



“กูไปขอเค้ามามั้งคะ แหม ควายน้อยก็นะ” มันที่ว่าออกมาแบบขำๆ ก่อนจะหยิบทิชชู่เปียกขึ้นมาแล้วดึงมือผมไปเช็ดให้



“เจ๊ เดี๋ยวผมทำเองก็ได้”



“เฉยๆ ค่ะ” บอกออกมาดุๆ และสุดท้ายก็ดื้อดึงที่จะเช็ดมือให้ผมอยู่แบบนั้น ได้แต่ก้มหน้ามองเสี้ยวหน้าของคนตรงหน้าที่กำลังเช็ดมือผมแบบจริงจัง



“เดี๋ยวนี้อันตรายนะคะมึง เชื้อรงเชื้อโรคเยอะ ต้องรักษาความสะอาด เพราะกูยังอยากมีมึงอยู่ไปกับกูในทุกๆ วันอีกนานๆ” คนตรงหน้าที่ก้มหน้าก้มตาเช็ดมือผมพูดออกมาแบบนั้น ไม่ได้รู้ด้วยซ้ำว่าผมกำลังมองพี่มันอยู่ด้วยสายตาแบบไหน



“พี่...”



“หื้ม ว่าไงคะหนู” เงยหน้าขึ้นมามองหน้ากันพร้อมเลิกคิ้วใส่แบบสงสัย ผู้ชายตรงหน้าที่อยู่ในเสื้อฮาวายสีชมพูอ่อนที่มีดอกกุหลาบสีแดงใบเขียวสลับกัน แว่นกันแดดสีน้ำตาลอ่อนที่ถูกทัดเอาไว้ที่อดเสื้อที่ก็ปลดกระดุมลงไปแล้วสามเม็ดจนเห็นแผกอกแกร่ง ... ตั้งแต่วันนั้นที่ผมได้กลับมาเจอพี่มันในวันที่ไอ้หยีพาไปฝากงาน ผมไม่เคยคิดเลยจริงๆ ว่ามันจะมีวันนี้ วันที่ผมกับมันนั่งอยู่ต่อหน้ากันด้วยความรู้สึกดีๆ แบบนี้



“ตอนแรกผมเคยคิดว่าการที่ได้กลับมาเจอพี่มันเป็นเรื่องเฮงซวยที่สุด”



“เดี๋ยว ทำไมก่อน เจอกูแล้วมันทำไมคะหนู” อีกคนที่ขมวดคิ้วว่าออกมาแบบนั้น แต่ผมกลับยิ้มตอบกลับไป



“ก็เจ๊พี่มึงเป็นตุ๊ดอ่ะ”



“กูเป็นตุ๊ดแล้วมันทำไมก่อนเอ่ย คือบุลลี่หรอ ลงไปตบกับกูที่ทะเลได้นะคะ” ขึ้นเสียงมองแรงใส่ พร้อมกรีดมือชี้นิ้วไปที่ทะเลตรงหน้าพวกเราในตอนนี้ เห็นแบบนั้นก็อดจะหัวเราะออกมาอีกทีไม่ได้เลยจริงๆ



“ก็ผมไปได้กับตุ๊ดนะ จะมีตุ๊ดที่ไหนที่จะดีใจอ่ะ ก่อนหน้านี้แรกๆ ผมยังเห็นพี่กรี๊ดกล้ามผู้ชายในร้านอยู่เลย เต๊าะลูกน้องเอยอะไรเอย ผมนี่กลัวมากๆ ว่าถ้าเจ๊รู้ว่าผมกับเจ๊เอ่อ...อ๊อดๆ ตะติ้งแกร๊ดกันอีกรอบเจ๊จะไล่ผมออกด้วยซ้ำ”



“กูเป็นตุ๊ดสวยที่มีสไตล์ค่ะ โทษทีนะคะ ขอย้ำอีกทีว่ากูเปิดกล้องวงจรปิดดูเองเลยจ้า” ดูภูมิอกภูมิใจกับเรื่องนี้ไม่เลิกจริงๆ



“ก็นั่นแหล่ะ ในตอนนั้นผมคิดว่าการเจอเจ๊พี่มึงอีกครั้งมันเป็นเรื่องเฮงซวยจริงๆ”



“อ่าหะ แล้วตอนนี้มึงยังคิดแบบนั้น” คนตรงหน้าที่เลิกคิ้วถามกัน ผมที่ส่งยิ้มตอบกลับไปให้พร้อมส่ายหน้า



“ไม่แล้ว ... จริงๆ การที่ได้เจอเจ๊พี่มึง มันเป็นเรื่องดีที่สุดในชีวิตของผมเลยว่ะ ขอบคุณนะที่ดูแลเอม”



“หึ จะทนไม่ไหวยัง ถ้าทนไม่ไหวก็ตกลงคบกับกูเถอะหนู ลิมิแตดอิดิชั่นขนาดนี้”



“ลิมิเต็ดไหมวะ”



“เออ เหมือนๆ กันล่ะค่ะ ... ว่าไง ตกลงยัง หมดความอดทนยังหนู กูจะหมดความอดทนแล้วนะเว้ย”



“ทำไม เจ๊จะเลิกจีบผมหรอ”



“ใช่ เพราะกูจะปล้ำมึงเลย! อดทนมาหลายครั้งแล้วนะเว้ยเอม อยากเอามึงแล้ว”



“เชี่ย! เจ๊พี่มึงพูดบ้าไรวะ ... นี่คืออยากได้ผมเป็นแฟนเพราะอยากเอารึไงวะ” กูนี่หน้าง้ำลงมาเลย ดูพี่มันพูดนะ กูอยากหยิบหัวมันไปกดน้ำ



“ใช่สิ ก็อยากเอามึงเนี่ย”



“โว้ยยย งั้นเชิญเจ๊พี่มึงไปหาคนอื่นเลย กูลาก่อน บายจ้า” บอกแบบนั้นแล้วทำท่าลุกขึ้นยืน แต่ติดตรงที่อีกคนก็คว้าตัวผมไว้ได้ก่อน คนข้างตัวที่ดึงตัวผมเข้าไปกอดแน่นๆ แล้วหัวเราะขำออกมาในตอนนั้น



“มึงคิดว่าถ้ากูอยากได้ กูจะปล่อยมึงไปหรอวะ”



“ไม่ปล่อยผมก็จะไปโว้ยย คนหื่นกาม ฝันไปเถอะว่าผมจะให้เจ๊พี่มึงเอา”



“หรอ ... เดี๋ยวมึงก็รู้ หึหึ” กูล่ะเกลียดแสนเกลียดอิเสียงหัวเราะหึหึในลำคอแม่งเนี่ย คิดว่าหล่อหรอสาด ... อืม ไอ้หล่อ!



“บอกไว้ก่อนเลยนะหนู ถ้าไม่รีบคว้ากูไว้ มีคนมาสอยกูไปแล้วอย่าร้องไห้ละกัน”



“หึยยย สุดแสนจะหลงตัวเอ้ง!!” ร้องออกไปแบบนั้นแล้วอ้าปากงับลงไปที่หน้าอกแม่ง หมั่นไส้ ก็พี่มันจับตัวผมมากอดซุกแนบอกมันจนหน้าบี้นี่หว่า หมั่นไส้ความกล้ามอกกล้ามท้องแม่ง นี่แน่ะ งับแม่งเลย



“โอ้ยย เจ็บนะเอม กัดกูทำไม เดี๋ยวกูกัดมึงให้ช้ำทั้งตัวเลยสัด เป็นควายนะหนู มึงจะมาเป็นหมาไม่ได้”



“โอ้ยยย พี่ดาบมึงกวนตีนจังวะ”



“ฮ่าๆ โอ๋นะลูกควายน้อยของพี่” ว่าแบบนั้นพร้อมกอดตัวผมแน่นขึ้นไปอีก ก่อนจะโยกตัวไปซ้ายขวาเหมือนเวลากอดปลอบเด็ก กวนตีนจนหน้าตี แต่จริงๆ แล้วก็รู้สึกดีจนต้องกระชับวงแขนของตัวเองที่กอดไว้อยู่ตรงเอวของอีกคนให้แน่นขึ้นไปอีก




เป็นความอบอุ่นใจที่ทำให้ผมยิ้มได้ไม่หุบเลยจริงๆ ... ถ้าเป็นแบบนี้ตลอดไปก็คงดี




‘ครืดๆๆ’





เสียงสั่นที่มาจากโทรศัพท์ทำให้ผมพยายามจะดันตัวออกจากอ้อมกอดของอีกฝ่าย ถึงแม้จะไม่ได้อยากผละออกไปก็เถอะนะ



“เจ๊...โทรศัพท์นะ”



“อื้อ รำคาญ ช่างแม่งดิคะ กูจะอยู่กับมึง”



เจ๊พี่มันที่ว่าแบบนั้นแล้วก็ไม่ยอมปล่อยอ้อมกอดออกจากผม เลยพยายามช้อนสายตาขึ้นไปมองหน้าอีกคน อีกฝ่ายที่ก้มหน้าลงมามองกันแล้วยกยิ้มมุมปากส่งมาให้ ก่อนจะก้มหน้าลงมาจุ๊บเบาๆ ที่หน้าผากผมหนึ่งที เป็นช่วงเวลาที่เหมือนทุกๆ อย่างรอบข้างไร้ซึ่งตัวตน ผมที่ได้แต่เบิกตากว้างขึ้นในตอนนั้น หน้าแดงๆ ร้อนๆ เขินไปหมดทั้งหน้า



“เจ๊!”



“ทำไมคะหนู” ถามแบบนั้นแล้วยิ้มให้กันไม่เลิก ได้แต่เม้มริมฝีปากเข้าด้วยกันแล้วกดหน้าลงมาซุกอกอีกคน



“เค้าบอกว่า อย่าปล่อยให้คนที่เรารู้สึกดีมาจูบหน้าผาก เพราะมันจะเป็นการทำให้เราจดจำเค้าไปตลอดชีวิต” ว่าออกไปแบบนั้นแบบเบาๆ ความรู้สึกนิ่มๆ ของริมฝีปากของอีกฝ่ายยังติดอยู่ที่ตรงนั้น ความร้อนเอ่อขึ้นไปทั่วทั้งใบหน้า



“แล้วทำไม จำกูไปตลอดชีวิตมันไม่ดีหรือไง”



“มันก็.....” มันก็ดี แต่ถ้าวันนึงผมไม่มีพี่มึงจะทำไงล่ะวะ ... ได้แต่คิดแบบนี้อยู่ในใจ แต่ก็ไม่ยอมพูดบอกออกไปให้พี่มันรู้เลยสักคำ





“จำกูไปตลอดชีวิตเถอะเอม เพราะยังไง กูก็ไม่มีทางยอมออกไปจากชีวิตมึงอยู่แล้วล่ะหนู ... สิงมึงได้กูสิงไปแล้วนะ”



อีกคนที่บอกออกมาแบบนั้นพร้อมกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นไปอีก และก็ไม่รู้ทำไม แต่แค่คำพูดไม่กี่คำจากอีกฝ่าย ก็ทำให้หัวใจของผมเต้นแรงเหมือนจะตายได้ทุกที



“อืม...เอมก็อยากมีพี่อยู่ในชีวิตตลอดไปเหมือนกัน”



...



“วันนี้กูไม่ทำกับข้าวแล้วนะคะหนู”



“ก็ไม่ต้องทำสิ ก็เจ๊เล่นซื้อเหมามาทั้งร้านเค้าแล้วแบบนั้นอ่ะ” ผมที่หันหน้าไปพูดกับคนที่กำลังถือถุงพะลุงพะลังเดินตามหลังกันมาออกมาจากลิฟต์



วันนี้เจ๊ดานี่พาไปกินข้าวที่ร้านๆ นึงชื่อว่า ‘สุดทางรัก’ เป็นร้านอาหารชื่อเพราะๆ และบรรยากาศดีๆ แต่ราคาก็แอบแรงเอาเรื่อง แต่ถ้าพูดถึงบรรยากาศก็ดีมากๆ เพราะร้านหันหน้าเข้าหาทะเลเลย ตอนกลับ เจ๊พี่มันเลยซื้ออาหารกลับมาหลายอย่างเผื่อมือดึกแล้วก็ของวันพรุ่งนี้ด้วย



“ก็มึงบอกอยากกิน”



“แต่ว่าวันนี้กินไปหลายอย่างแล้ว เอมเกรงใจ”



“เกรงใจเหี้ยไร นี่ผัวมึง”



“เจ๊! ปากแดงแบบนี้ไม่นับหรอกโว้ย”



“เดี๋ยวมึงเจอกูเอาจริงนะน้องเอม แล้วอีกอย่างนะ วันนี้กูไม่ได้ปากแดงเลยค่ะ ส่องกระจกที่รถแล้วตกใจมาก อิดอกอยากจะกรี๊ด เหมือนเจอเพื่อนเก่า เหมือนอิดาบโผล่ออกมาทักทาย อยากจะร้องไห้ในความหล่อ หลงร่างตัวเองอยากได้ตัวเองเป็นผัวเลยค่ะหนู เนี่ย...กูไม่น่าลืมหยิบลิปสติกแท่งโปรดไปเลย หน้าสดเหี้ยๆ เลยค่ะ”



ร่ายยาวออกมาพร้อมทำหน้าดราม่า แล้วคืออะไรวะ....อยากได้ตัวเองเป็นผัว คือมันต้องเป็นคนแบบไหนวะถึงจะคิดอะไรแบบนี้ได้ โว้ย เจ็บไข่!



“แต่หน้าสดแบบนี้ เจ๊หล่อมากๆ เลยนะ”



ผมที่เปลี่ยนเป็นเดินถอยหลังแล้วว่าออกไปแบบนั้นพร้อมส่งยิ้มกว้างๆ ไปให้ คนที่กำลังเดินตามมาใหม่หยุดชะงักก้าวในการเดินไปจังหวะนึง ไม่เข้าใจเท่าไหร่ว่าอีกฝ่ายเป็นอะไร เจ๊พี่มันที่มองตรงมาที่ผมแบบอึ้งๆ ก่อนจะเสหน้าหนีไปทางอื่นก่อนจะค่อยๆ เดินตามมา ไม่เข้าใจว่าพี่มันเป็นอะไร และในตอนที่กำลังจะอ้าปากถามอีกฝ่ายก็ดันเหลือบไปเห็นใบหูของอีกฝ่ายเข้าซะก่อน
‘หูแดง’



เชี่ย! เจ๊พี่มันเขินหรอ หูยยยยยย



“พี่ดาบ .. ในความคิดเอม พี่หล่อมากๆ เลยนะ” ยิ้มออกไปแบบนึกสนุกแล้วเดินเข้าไปกระซิบข้างๆ หูของอีกฝ่าย เป็นพี่มันที่สะดุ้งนิดหน่อยแล้วก็หันหน้ากลับมามองกันด้วยหน้านิ่งๆ แต่หูแดงแปร๊ด



“พ...พูดบ้าไรของมึงคะอิหนู ก...กูสวย จัดจ้านสุดในย้านนี้ค่ะ”



“อ้อออ อะเค้” ผมที่พยักหน้าเออออห่อหมกไปด้วยรอยยิ้มกว้างๆ ทำเอาอีกคนถึงกับหน้าตึงใส่ ก่อนที่วงแขนแข็งแกร่งนั่นจะเอื้อมมาคว้าคอกันเข้าไปกอดทั้งๆ ที่แขนข้างซ้ายของพี่มันก็หิ้วของพะลุงพะลังก็ยังสามารถยกมากอดคอกูได้ ... มันต้องแข็งแรงขนาดไหนวะเห้ย



“อ๊ากกก หนักนะๆๆ”



“สมคะๆๆ กวนกูนักนะ เดี๋ยวนี้เด็กมันร้ายนะคะ”



“ฮ่าๆๆ ยอมแล้วๆ เอมยอมแล้วโว้ย” ร้องออกมาแบบนั้นแล้วยิ้มขำร้องลั่นไปตามทางเดินในตอนที่พี่มันกระชับวงแขนหนับคอผมเข้าไปหาให้แน่นขึ้นไปอีกแบบแกล้งๆ เราสองคนที่เดินไปแกล้งกันไปพร้อมยิ้มกว้างและขำใส่กันไปแบบมีความสุขกันแบบนั้น



“ฮ่าๆๆๆ”



“อ๊ะ...ดานี่!! เมฆๆ!! ดานี่กลับมาแล้วล่ะ ดานี่เซอร์ไพรส์จ้า!!”



เสียงใสๆ ที่ดังมาจากตรงหน้าของพวกเรา เราสองคนที่เหมือนจะพึ่งสังเกตเห็นว่ามีใครบางคนกำลังนั่งและยืนรออยู่ที่หน้าห้อง ขายาวๆ ของคนข้างตัวของผมที่หยุดชะงักลง ผมที่เงยหน้าขึ้นไปมองหน้าเจ๊พี่มันในตอนที่อีกฝ่ายพูดออกมาเบาๆ ว่า



“พระพาย”



พระพาย




ใครวะ



ผมที่ได้แต่ยืนทำหน้าโง่แล้วทำตาปริบๆ อยู่ในตอนนี้ สงสัยจนต้องเอียงหัว แต่ว่าชื่อนี้ก็ค่อนข้างที่จะคุ้นๆ หูอยู่นะ ... ไอ้เอมเคยได้ยินเมื่อตอนไหนหว่า .... จนถึงตอนนี้ที่คนที่ยืนอยู่ไกลๆ พวกเราจะวิ่งตรงเข้ามาหา ใบหน้าน่ารักของผู้ชายร่างเล็ก เรียกได้ว่าทั้งเล็กและบางที่อยู่ในเสื้อกันหนาวมีฮู้ดสีชมพูและกางเกงยีนส์ขายาวสีฟ้าอ่อนๆ อวดต้นขาเรียว รองเท้าผ้าใบแบรนด์ดังสีขาวที่ใส่มาเข้าชุด ทุกอย่างดูดีและเหมาะกับเจ้าของใบหน้าขาวที่มีขนตางอนยาวและปากเป็นกระจับสีชมพูนี่เหลือเกิน คนที่วิ่งตรงมาจับมืออีกข้างของเจ๊พี่มันที่ไม่ได้กอดคอผมอยู่ และในตอนนั้นที่ผมได้เห็นหน้าของคนที่วิ่งเข้ามาแบบเต็มๆ ตาใกล้ๆ หัวใจของผมก็สั่นไหวเต้นระรัวแบบห้ามไม่อยู่ ก่อนที่สายตามันจะเลื่อนไปโฟกัสที่มือเรียวที่กำลังเกาะกุมมือของเจ๊พี่มันไว้แน่นๆ รอยยิ้มกว้างๆ และตาเป็นประกายที่ช้อนตามองพี่มันแบบมีความสุขแบบนั้น ... ผมจำได้แม่น จำได้แม่นเลยจริงๆ



“พาพวย!”



“เอ๋?” คนตรงหน้าที่ค่อยๆ หันมามองหน้ากันก่อนจะเอียงหน้ามามองกันแบบงงๆ





::::::::::::::::::-- to be continued --:::::::::::::::::::::::::





เน๊!!! แคทมาแล้วจ้าาาา....เอิ้ววว จริงๆ ที่เขียนตอนนี้ไว้ยังมีต่ออีกนิดนึง แต่คิดว่าตัดจบตอนนี้น่าจะดีกว่า

คืออยากดักตีพี่เมฆมากจ้า อิพี่เมฆสุดหล่อ พี่พาฝนมาตั้งเค้าหรอหรืออะไร อยากจะตีนัก

เนี่ย...ไหนใครถามถึงพาพวย เอ้ย พระพาย แคทพามาเสริฟแล้วนะจ๊ะ

รักทุกคน ยังมีใครรออ่านอยู่ไหม

มาอ่านเถอะนะคะ มาอ่านกันนะคะ

แคทฝากแฮชแทค #สวยๆเป็นผัว รวมถึงนิยายเรื่องนี้ไว้ด้วยนะคะ

แคทขอขอบคุณคนอ่านจากทางเล้าเป็ดที่อยู่ด้วยกันมาเสมอๆเลยนะคะ


เดี๋ยวๆพี่ดาบไปอ่านแชทพี่เมฆก๊อนน อยากรู้ว่าที่เหลือส่งมาว่าไง อุอิ
จนถึงตอนนี้น้านนนน อิพี่ก็ไม่ยอมอ่านอีกจ้าาา เนี่ย มันเลยโบ๊ะบะโบ้มมม


:katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ขอบคุณมากๆนะคะ แคทฝากเรื่องนี้ด้วยนะคะ


:katai3: ปากดีแบบนี้ให้ตลอดนะอีเจ๊
  นั่นสิๆๆ ปากดีจูบเก่งด้วยนะ เอ๊ะ คนละเรื่อง 555555


ถ้าคนที่พี่เมฆพามาคือพาพวย เอ๊ย พะพายล่ะเจ้. เจ้จะทิ้งน้องเอมไปหาเค้ามั๊ย  :hao4:
และแล้วคนที่พี่เมฆพามาก็คือออออ.........อิอิ


มีความคืบหน้า
  มาแล้วจ้าาา ตอนนี้เป็นยังไงมาอ่านอีกนะคะ


นี้ถ้าเจอพระพายแล้วทำร้ายน้องเอมนะ อิ๊นี้จะตามไปตบอิ๊เจ๊ถึงร้านนะ บอกเลย หื้มมม  :m16:
  ทีมแม่น้องเอมมม ดูออกนะคะ ฝากน้องด้วยนะคะ จุ๊บๆน้า


:กอด1: :pig4: :กอด1:
  แคทขอบคุณมากๆนะคะ มาอ่านอีกนะคะ


เจ้เดือดมาก!
  เดือดยาวๆกันไป เดือดบนเตียง หืดหาดดดด



เจ้พูดแล้วนะว่าจะไม่กลับไปหาอ่ะต้องมากน้องเอมสนใจน้องเอมคนเดียวนะเจ้ถ้าเปลี่ยนใจโดนตีแน่ๆ
  ถ้าเจ๊เปลี่ยนใจ ทีมแม่น้องเอมต้องมาแน่ๆเลย แคทฝากด้วยนะคะ อิอิ




ตูดเจ้าปัญหา แนะนำน้องเอมให้ใส่สุ่มเข้าร้านคนจะได้ตีไม่ถึง ^^
ปรบมือให้องค์พี่ดาบหลายๆที ปกป้องน้องได้แบบนี้เราจะเชียร์พี่ไปนานๆนะ
แต่พอมาเรื่องพาพวยก็เริ่มลังเล
ที่ยืนยันว่ามีแต่น้องหลงแต่น้องเนี่ยเพราะมั่นใจว่าพาพวยจะไม่กลับมาใช่หรือเปล่า
ถ้ากลับมา ได้มาเจอกันตัวเป็นๆตรงหน้า จะทำยังไง มีปฏิกิริยาแบบไหน
คุณคนเขียนให้เขาได้เจอกันสักทีเถอะค่ะ นี่ อยากรู้มากอ่ะ
  มาแล้วค่าาาา ขอบคุณคอมเม้นท์น่ารักๆที่มีให้แคททุกตอนเลย มาแบบยาวๆเม้นท์กันให้แคทน่ารักๆแบบนี้ทุกตอนเลย  ส่วนเรื่องตูดน้องน้านนน คือตูดมหาภัย โดนตีตลอด รวมถึงตอนนี้ตูดก็ยังคงมีปัญหา เพราะพี่ดาบเองก็อยากจะสัมผัสอยากจะทัชตูดน้องเหมือนกัน หืดหาดดดด  :haun4: อิอิ ... ส่วนทางด้านพระพายน้านนน มาาา มาแล้วววว อิพี่เมฆสุดหล่อพาเมฆฝนมาแล้วจ้าาาา อิอิ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่17 {08/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 08-02-2020 22:46:08
น่ารัก
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่17 {08/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 08-02-2020 22:47:50
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่17 {08/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 09-02-2020 00:56:43
อิเจ้เพิ่งจะมาจีบน้องเอมเป็นแฟนหลังจากได้กันไปตั้งหลายทีแล้วอ่ะนะ   :laugh:
ถ้าอย่างนั้นให้องพี่ดาบเข้าแล้วเข้าเลย ไม่ต้องออกได้ไหมอ่า
แถมคราวนี้พะพายกิ๊กเก่ามาเจออีก น้องเอมจะมิคิดหนีไปอีกรึ รีบๆ เคลียร์นะเฮียนะ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่17 {08/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: KizzllKizz ที่ 09-02-2020 13:19:44
พระพายมาทำไมมมม กลับไปเดี๋ยวนี้!!!!
 :katai1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่17 {08/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 09-02-2020 14:50:56
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่17 {08/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 09-02-2020 17:00:00
พระพายมาแล้ว~
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่17 {08/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Rungzanaka ที่ 11-02-2020 01:17:35
โง้ยยยพาพวยมาแล้วอึ้งไปเลยนะเจ้ฮึถ้าทำน้องเสียใจหล่ะน่าดู  :z6:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ* สวยๆเป็นผัว ตอนที่17 {08/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 13-02-2020 20:45:45
น้ำตาจะไหล หัวใจปลื้มปริ่มมาก พาพวยออกมาแล้ว !!!!
(กะว่าถ้าอีกสักสองตอนยังไม่มา เราจะเขียนจดหมายลูกโซ่ส่งให้คนเขียนแล้ว ><)

เมื่อเช้าพึ่งจะสนุกกุ๊กกิ๊กกันอยู่แท้ๆ เย็นมาก็เซอร์ไพรซ์เลยทันที
โอเคเจ๊อาจจะมีตกใจไปบ้าง ก้มันกะทันหันนะ แต่เจ๊อย่าทำอย่างอื่นให้น้องเอมน้อยใจนะ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่18 {15/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 15-02-2020 21:21:29
บทที่18



“สัดพี่เก้อ คือมึงจะตามกูทั้งวันทั้งคืนเลยหรอ ขอถามกันแค่นี้”



“ใช่ แล้วมึงมีไรสัดเสือ”



“มึงก็ถามไม่คิด คือที่มึงนั่งอยู่นี่มันห้องกูไงครับ”



คนตรงหน้ากันที่ก็ถอนหายใจออกมาเป็นครั้งที่หนึ่งร้อย แต่ผมก็เลือกที่จะทำเป็นมองไม่เห็นแทน ต่อให้มันจะไล่ผมทางสายตามาตั้งแต่ตอนเลิกเรียน แต่แล้วไงวะ กูไม่ไปอ่ะ...กูมีเรื่องค้างคาใจแปลกๆ



ตอนนี้ผมกำลังนั่งเหยียดขาเอาหลังพิงเตียงนอนของไอ้เก้ออยู่แบบสบายอารมณ์ ตรงหน้ามีพัดลมขนาดตั้งพื้น ไม่ได้ใหญ่มากเปิดอยู่ กูนี่ล่ะที่เป็นคนไปกดให้แม่งไม่ส่ายไปมาเอง เอาให้มันตรงกูคนเดียวเลย ห้องแม่งร้อนฉิบหาย ห้องพักไอ้เสือเป็นห้องพักแบบสตูดิโอ ขนาดไม่ใหญ่มากมาย เดินเข้าห้องมันมาก็เจอเตียงนอนขนาดสามฟุตครึ่งตั้งพิงกำแพงห้องอยู่ ปลายเตียงมีตู้เสื้อผ้าไม้ใบไม่ใหญ่ ข้างๆกันเป็นโต๊ะเขียนหนังสือที่เหมือนแม่งไม่ค่อยได้ใช้งาน บนนั้นมีกาน้ำร้อนและถ้วยมาม่าสำเร็จรูปวางอยู่ ข้างๆไม่ใกล้ไม่ไกลมีทีวีตั้งอยู่ คิดว่าเป็นของแถมสำหรับห้องเช่าห้องนี้อยู่แล้ว และที่พื้นก็มีกล่องรองเท้าผ้าใบแบรนเนมหลายคู่ตั้งใส่กล่องไว้แบบเป็นระเบียบอยู่เป็นตั้ง ถัดๆกันที่วางต่อมาเห็นเป็นขวดน้ำหอมแบรนด์แพงๆที่ผมเคยได้กลิ่นจากตัวมันวางไว้อีกหลายขวด .... หันกลับไปมองหน้ามันที่เดินออกมาจากในห้องน้ำตอนนี้ มันที่เปลี่ยนเป็นชุดไปเที่ยวในเสื้อยี่ห้อAdidasและกางเกงยีนส์รัดรูปแบรนด์แพงอีกแบรนด์นึง ... แปลกฉิบหาย .... อดขมวดคิ้วกับสิ่งที่เห็นนี้ไม่ได้ เพราะแบบนี้เลยอดนึกไปถึงคำพูดของพวกปี1ที่อยู่ในคลาสเรียนของไอ้เสือวันนี้ไม่ได้เลยจริงๆ



“มองกูแบบนั้นคืออะไรวะ”



“นี่มึงมีเสี่ยเลี้ยงหรอวะไอ้เสือ”



“เสี่ยเลี้ยงพ่องพี่มึงสิสัด”  ด่ากูออกมาเป็นชุด หน้าตาที่ถมึงทึงขึ้นในตอนที่ได้ยิน คิ้วเรียวของมันที่ขมวดเข้าหากันทันทีที่ผมพูดจบ ท่าทางของมันที่ทำเหมือนอยากจะพุ่งออกมาหากันแล้วเอาตีนขยี้หน้าผมให้บี้จนเละ เห็นแบบนั้นแล้วอดจะยกยิ้มออกมาไม่ได้เลยจริงๆ



“หัวเราะเหี้ยไร”



“แล้วมึงจะเปรี้ยวไปไหนวะ กูก็แค่ถามดู”



“ถามเหี้ยไรล่ะ ปากหมาว่ะ” โกรธจริงจังนะผมว่า มันที่เดินมากระแทกตัวนั่งลงที่เตียงนอนแบบไม่สบอารมณ์หน่อยๆ



“ขอโทษๆ ก็แค่งงว่าทำไมมึงมาอยู่ห้องแบบนี้ แต่ข้าวของมึงแม่งแพงกว่าค่าห้องเดือนๆนึงอีกนะ” หันไปหามันแล้วเอาแขนเท้าเข้ากับขอบเตียงของมัน ไอ้เสือที่นั่งไขว่ห้างและหยิบจิวหูขึ้นมาใส่ สายตาของมันที่ปรายตามามองกันหน่อยๆก่อนแค่นเสียงหัวเราะออกมา



“เหอะ มึงไม่ได้สงสัยหรอกไอ้สัดพี่เก้อ”



“มึงก็แค่ได้ยินพวกปี1มันพูดมาวันนี้ล่ะสิถึงได้สอดปากพูดออกมาแบบนี้”



“งอนกูหรอวะ” ถามมันออกไปแบบนั้นตอนที่ไอ้เสือขมวดคิ้วหันหน้าไปทางอื่น มันที่ไม่ยอมมองหน้ากันทำเอากูต้องเลิกคิ้วสงสัย



“งอนพ่อง!”  กระแทกเสียงใส่ หันมาตะโกนใส่หน้ากันจนน้ำลายมันกระเด็นเข้าตาผม ด่ากูจบก็หันหน้าหนีกันไปอีก ท่าทางที่มาได้งอนของมันทำเอาผมอดขำออกมาไม่ได้ ยันตัวลุกขึ้น ก่อนจะเอื้อมมือไปจับคางเรียวของมันให้หันมามอง



“อย่ามาจับกูนะไอ้สักพี่เก้อ! เฮงซวยนี่!!”



“ใจเย็นครับสัดน้องเสือ ก็คือกูผิดไรนักวะ ด่ากูเหมือนกูเอามึงอ่ะเสือ”



“เอาที่หน้ามึงสิสัดพี่ มึงเอากูกูกระทืบมึงอ่ะ ฟ้าผ่าไอ้เหี้ย”



“แน่แหล่ะ ใครจะกล้าเอาคนตัวสูงแบบมึงเป็นเมียวะ”



“กูด้วย แค่คิดก็ขมคอ เป็นเมียมึงนี่ยอมตาย หวาดระแวงตายห่า ได้คนเหมือนกันขนาดนี้ วันๆกูไม่ต้องกังวลตายหรอว่าวันนี้มึงจะไปตีกรี่อยู่ที่ไหน” 



มันที่เบะปากใส่แล้วว่าออกมาฉอดๆ เป็นเด็กสีเทาๆ ที่พอมองมันแล้วก็นึกถึงตัวเองฉิบหาย ... แต่ผมตอนที่อายุเท่ามันก็ยังไม่ได้เจนจัดขนาดนี้



“มึงก็เว่อร์ไอ้เสือ”



“หรือไม่จริง กูรู้ว่ามึงก็ทำ”  มันที่จ้องตากันแบบไม่ละสายตา สายตาที่มองมาบอกผมว่า อย่าตอแหลกูนะ กูรู้กูเห็น อ่านได้แบบนั้นจนอดจะยิ้มออกมาไม่ได้



“ก็จริง”



“เหอะ”



“แล้วไง ... คืนนี้ออกไม่ล่ะไอ้น้อง”  เด้งตัวขึ้นไปนั่งข้างๆมันบนเตียงก่อนจะวาดวงแขนไปวางลงบนไหล่มันแล้วดึงตัวมันเข้ามาหาตัว



“หนักนะโว้ย!”



“กูถามน่ะว่าไง จัดไม่จัด”



“มึงเห็นชุดกูไหม กูพร้อมจะออกล่าแล้วครับสัดพี่รหัส อิอิ” อิพ่ออิแม่มัน มันที่ตอบออกมาแบบนั้นพร้อมยิ้มสดใส เป็นรอยยิ้มทะเล้นๆที่ไม่ค่อยได้เห็นจากมันเท่าไหร่ เห็นแล้วก็เผลอยิ้มตามออกมาไม่ได้ จริงๆพอมันยิ้มแบบนี้แล้วก็ดูเป็นเด็กสมอายุดี ไม่เหมือนกับเวลาที่มันชอบทำหน้านิ่ง ปั้นหน้าให้ดูคูลดูหยิ่งแบบที่ชอบทำ



“มึงยิ้มแบบนี้น่ารักดี”



“พูดเหี้ยไร”



“นั่นดิวะ กูพูดเหี้ยไร ... เออไอ้เสือ มีเสื้อให้กูใส่ไหม”



“มึงดูสารร่างมึงด้วย เหมือนหมีควายที่เล่นกล้ามขนาดนี้ มึงคิดว่ากูจะมีหรือไงล่ะ” ด่ากูซะกูเห็นภาพตัวเองเป็นหมีควายตัวสีดำเลยไอ้สัด



“ก็แค่ถาม ไม่มีก็ไม่มีสิวะ บนรถกูมีอยู่ เดี๋ยวไปเปลี่ยนก่อนไป”



“พร้อมตลอดเลยนะพี่มึงน่ะ บ่อยหรอวะ” มันที่ว่าแบบนั้นแล้วลุกออกไปจากเตียง หน้ากูนี่วืดคะมำไปกับที่นอนเลย จะลุกก็ไม่บอกกูก่อนไอ้สัดเสือ



“กูก็คนโสดไหมวะ มันก็ต้องหาที่ปล่อย แต่ถ้าจะไปหาคนที่ผ่านไปผ่านมาบางทีแม่งก็จับผิดจับถูกเจอคนมีผัวงี้ กูเหนื่อยจะหนี”



“เออ ผมเคยเจอนะพี่ เอาอยู่ดีๆมีคนมาเคาะประตู ผู้หญิงคือบอกให้กูปีนหน้าต่างออกมา สัดเอ้ย สุดยอดประสบการณืเสียว” มันว่าออกมาแบบนั้น เล่าออกมาแบบร่าเริง

“ประสบการณืหนีตีนล่ะสิมึง เสียวห่าไรล่ะ”



“ก็ตื่นเต้นดีนะพี่”  ขยิบตาให้กูผ่านทางหน้ากระจกที่มันกำลังส่อง กวนตีนกูฉิบหายไอ้หน้าตาแบบนั้น



“เบาๆหน่อยมึง ระวังจะตายเพราะตีนก่อนติดเอดส์”



“เอดส์น่ะไม่ติดหรอก เห็นแบบนี้ยืดอกพกถุงนะครับ พี่มึงเถอะ อย่าบอกว่าไม่ใส่”



“ใส่สิไอ้สัด เห็นแบบนี้กูก็เรียนหนังสือนะ”



“ฮ่าๆ ก็เห็นหน้าตาโง่ๆอ่ะนะเลยห่วง”



“ฆวย!”  ด่ามันออกไปแบบนั้นพร้อมส่งนิ้วกลางไปให้มัน ไอ้เสือที่หัวเราะลั่นตอนที่มองผ่านกระจกหน้าโต๊ะเครื่องแป้งของมันเห็นผมทำท่านั้นใส่ ได้แต่ส่ายหน้าตอนที่เห็นพฤติกรรมแบบนั้นของมัน ... เด็กแบบนี้หรอวะ จะมีเสี่ยเลี้ยง



“พี่เก้อ”



“ไร”



“วันนี้ขอบใจนะพี่”



“เรื่อง”



“เรื่องของกู้ววว”



“เดี๋ยวมึงเจอกูไอ้สัดเสือ กวนตีนนัก”



“ฮ่าๆๆๆๆ ขอโทษคร้าบ” มันที่ขอโทษออกมาแบบขอไปทีแล้วหัวเราะหน้าดำหน้าแดง มันที่เปิดไดร์เป่าผมจัดทรงผมยาวๆละต้นคอของมันไปด้วย ... เด็กฉิบหาย



.

.

.



“อ้าวไอ้เก้อ พาใครมาวะมึง” เสียงคนรู้จักของผมดังทักขึ้นมาในตอนที่พวกเราเดินเข้ามาในช่วงกลางร้าน เป็นผับที่คนเยอะๆ เวลาเดินแล้วนมชอบสีหลัง ก็ฟินๆดี



“เอ้าไอ้จั๋น”



“มาๆเพื่อน มีโต๊ะยังวะ มานั่งด้วยกันมา”  เพื่อนผมสมัยม.ปลายที่เคยไปเรียนซัมเมอร์ที่อเมริกาแล้วเจอกันครับ ตอนนี้มันเรียนอยู่ที่มหาลัยอีกที่นึงคนละที่กับผม มันเป็นผู้ชายหล่อลูกครึ่งไทยจีน เฟรนลี่ร่าเริงเข้ากับคนง่ายดี และแน่นอนว่าก็เป็นคนพอๆกันกับผม มันที่หันไปยิ้มให้ไอ้เสือที่เดินตามหลังผมเข้ามา



“เด็กมึงหรอเพื่อน”



“เด็กพ่อมึง นี่ไอ้เสือ น้องรหัสกู”



“เหยดดด มีน้องระหงน้องรหัส ดีครับ กูจั๋น”



“ดีพี่ ผมเสือ”



“โง้ว ชื่อมันร้ายๆอ่ะเนอะ นั่งๆพวกมึงนั่งกับกูนี่ล่ะ กูมากับสัดบีกับสัดแมทแค่นั้น”



“เออๆ มึงโอเคเปล่าวะเสือ” หันไปถามไอ้เสือที่ก็มองไปรอบๆ มันที่ก็ดูชิลๆกับบรรยากาศรอบๆดี



“ได้หมดอ่ะพี่ ผมไม่ซี” มันที่ว่าแบบนั้น ผมเลยพยักหน้าตอบตกลงไอ้จั๋นไป



“แล้วไอ้แมทไอ้บีไปไหนวะ” ถามมันออกไป เพราะทั้งโต๊ะไม่มีใครนอกจากไอ้จั๋นที่นั่งชงเหล้าอยู่คนเดียว



“ไปเยี่ยว แต่กูว่าแม่งตอแหลกู แม่งต้องดีลเด็กได้แล้วปล่อยให้กูนั่งเหงาๆเศร้าๆอยู่คนเดียวแน่ๆ” ว่าออกมาแบบเครียดแค้นเพื่อน เรื่องเล่นใหญ่เล่นโตก็คือยกให้มัน ไอ้จั๋นที่ส่งแก้วที่ชงใหม่ให้ไอ้เสือกับผมคนละใบ



“แล้วมึงอ่ะวะ ทำไมไม่ดีล มานั่งชงเหล้าเชี่ยไรคนเดียววะ”



“กูยังไม่อยากตายครับเพื่อน”



“มึงหมายถึง” เลิกคิ้วไม่เข้าใจ แต่ไอ้จั๋นก็เสือกยิ้มออกมา ในรอยยิ้มของมันที่ผมมองเห็นทั้งหน้าทั้งตาที่ดูมีประกายบางอย่างที่ผมไม่เข้าใจและไม่เคยเห็นมาก่อน



“เดี๋ยวเมียกูเอาตายอ่ะดิ”



“นี่มึงมีเมียแล้วหรอวะ! เป็นไปไม่ได้ไอ้สัดจั๋น มึงตอแหลกู”  ผมที่เสียงดังออกมาแบบนั้นจนไอ้เสือที่อยู่ข้างๆสะดุ้งและก็ต้องหันมาชะโงกหน้าเสือกกับเรื่องนี้ด้วย



“เสียงดังทำเหี้ยไรวะสัดพี่เก้อ ตกใจไอ้สัด”



“มึงไม่ต้องมาตอแหลตกใจ กูเห็นมึงมองนมน้องโต๊ะนู้นอยู่” หันไปผลักหัวแม่ง กูเห็นเถอะ



“เอออ จะได้อยู่แล้ว มึงจะเสียงดังทำไม ตกใจหมด”  มันที่เบ้หน้าใส่ผมแบบเซ็งๆ



“กูมาด้วยอย่าหวังมึงจะได้”



“แม่ง พี่เก้อแม่งตัวขัดลาภไอ้สัด น้องโต๊ะนั้นแม่งก็เอาแต่มองพี่”



“กูหล่อ อยู่ข้างกูมึงไม่ได้ครึ่งของกูหรอกครับ”



“เอ่อ...โทษนะ พวกมึงเห็นหัวกูอยู่ไหมเอ่ย ฮัลโหลนี่จั๋นเองนะ จั๋นคนหล่ออยู่นี่เองนะ” เสียงไอ้จั๋นที่แทรกบทสนทนาของเรามาในตอนนี้ ทำเอาทั้งผมและไอ้เสือต้องหันไปมอง ไอ้จั๋นที่ยกมือโบกไปโบกมาอยู่ตอนนี้ พอเห็นก็ทำเอาทั้งผมทั้งไอ้เสือขำออกมาทันที ไอ้สัดนี่หล่อครับ แต่เสือกตลก



“ขำอะไรกันวะไอ้จั๋น แล้วนี่ใครวะ โอ้วววว ไอ้เก้อเพื่อนรักนี่หว่า สัด Hey what’s up man?” เสียงของคนมาใหม่ที่ทักทายทำให้ทั้งผมและไอ้เสือต้องเงยหน้ามอง หน้าหล่อๆของเพื่อนร่างสูงหุ่นลีนที่เดินเข้ามาแท็กมือทักทายกับผม เป็นท่าทางประจำที่พวกเราชอบทักกันในกลุ่มเพื่อน



“มึงไปดีลเด็กมาหรอสัดแมท ไอ้จั๋นบอกกู”



“มึงก็ไปฟังมัน กูไปเยี่ยวเถอะ อ่ะ...แล้วนี่มึงพาใครมาด้วยวะ”  ไอ้แมทที่นั่งลงข้างๆไอ้จั๋น มันที่ปรายตาเลิกคิ้วมามองคนที่หันหน้าไปทางอื่นอยู่ข้างๆตัวผม เห็นแบบนั้นเลยใช้ข้อศอกกระทุ้งสีข้างไอ้เสือให้แม่งเลิกดีลเด็กแล้วหันมาในวงสนทนาหน่อย



“อะไรวะสัดพี่”



“หันมาทักทายเพื่อนกูหน่อย นี่ไอ้แมทเพื่อนกู ส่วนแมท นี่ไอ้เสือน้องรหัสกู”



“สวั...เอ๊ะ”



“เชี่ย นี่ไม่ใช่น้องเสือเด็กเสี่ยหรอวะ”  ไอ้แมทที่โพร่งออกมาแบบนั้นทันทีที่เห็นหน้าไอ้เสือ เหมือนมันจะเบรคปากมันเอาไว้ไม่อยู่ ทั้งๆที่ปกติมันไม่ได้เป็นคนพูดมาก ติดจะนิสัยนิ่งๆด้วยซ้ำ แต่เหมือนว่าครั้งนี้จะเริ่มเมาแล้วตื่นเต้นมากไปจนคุมตัวเองไม่อยู่



‘ปัก’



ไอ้เสือที่วางแก้วเหล้าลงบนโต๊ะทันทีในตอนที่ได้ยินแบบนั้น มันที่จ้องหน้าไอ้แมทแบบไม่สบอารมณ์



“What the heck! มึงพามากับมึงได้ไงวะเนี่ย”  ไอ้แมทยังคงตกตะลึงแล้วพูดออกมาแบบนั้น ไอ้เสือที่กำมือแน่นอยู่ข้างตัวผม ผมที่คว้ามือของมันเอาไว้ เพราะขืนไอ้เสือซัดหน้าไอ้แมท ผมว่ามันไม่รอดหรอก ไอ้แมทไอ้จั๋นพวกนี้ถ้าสู้กับมันก็ยากครับที่จะมีใครรอดไปด้วยสภาพดีๆ



“เสือ มึงใจเย็น” หันไปกระซิบมันแบบนั้น ไอ้เสือที่ขมวดคิ้วมองหน้าผมนิ่งๆ



“เย็นไรวะพี่ มาบอกผมเป็นเด็กเสี่ยเพื่อนพี่แม่งรู้มากแค่ไหนวะ!” มันที่ตะคอกออกมาแบบนั้น จ้องไอ้แมทเหมือนพร้อมจะพุ่งเข้าใส่ ไอ้แมทที่ก็เลิกคิ้วมามองนิ่งๆแล้วในตอนนี้ สัดเอ้ย



“เห้ยน้อง ใจเย็น ถ้าปากพี่แม่งไม่ดีก็ขอโทษละกัน”



“พวกพี่แม่งก็แค่ได้ยินจากคนอื่นแล้วก็พูดกันไป เวลาที่จับกลุ่มคุยกันแม่งก็สนุกดีอ่ะนะ แต่ไม่เคยจะคิดหรอกว่าคนที่ถูกพูดถึงแม่งต้องเจอกับอะไร รู้จักกูจริงๆก็ไม่ เสือกพูดเหมือนเป็นเหาฉลามอยู่ใต้จักแร้กู!”



“เห้ยน้อง”



“มึงจะอยู่กับเพื่อนมึงก็อยู่ไป กูกลับล่ะ” มันที่บอกออกมาแค่นั้นแล้วลุกออกไปจากโต๊ะเดินออกไปในทันที ผมที่หันไปมองไอ้แมทกับไอ้จั๋นในตอนนี้



“ไอ้เสือมันไม่ได้เป็นเด็กเสี่ย ฝากพวกมึงไปแก้ข่าวให้ด้วย ถ้าแม่งจะเป็นเด็กใคร แม่งก็เป็นได้แค่เด็กกู”



บอกมันออกไปแบบนั้นแล้วหันหลังเดินออกมา ไม่สนใจเพื่อนๆที่นั่งมองหน้ากันเลิกลักในตอนนี้



“เห้ยไอ้เก้อ!” เสียงของไอ้แมทที่ดังตามมาทำให้ผมหยุดเดิน อย่างน้อยแม่งก็เพื่อนกัน



“กูฝากขอโทษน้องมันด้วย ปากกูแม่งหมางี้อ่ะ เจอกันครั้งหน้าเดี๋ยวกูเลี้ยงเหล้าเอง ส่วนเรื่องข่าวมึงไม่ต้องห่วง เดี๋ยวกูจัดการให้”  ไอ้แมทที่ว่าออกมาแบบนั้น หน้าตาที่แม่งก็ดูไม่ได้สบายใจ แต่ผมกลับสบายใจขึ้นมานิดหน่อย เพราะรู้ดีว่าไอ้แมทแม่งจัดการข่าวพวกนี้ได้แน่



“Thank”



พยักหน้าให้พวกมันแล้วรีบเดินหนีออกมา ไม่รู้ว่าไอ้สัดเสือโมโหไปแดกตีนใครที่ไหนแล้วในตอนนี้ เวลามันโมโหมันยิ่งไม่สนใจว่าปากแม่งจะเรียกตีนใครด้วย



“ไอ้เสือ!”  ตะโกนเรียกมันตอนที่เห็นขายาวๆของมันกำลังก้าวเดินออกไปที่ถนน คงกำลังมองหาแท็กซี่ วิ่งตามมันออกไปก่อนจะคว้าแขนของมันเอาไว้ได้ทัน



“ปล่อยกู ตามมาทำเหี้ยไรวะ”



“มึงจะไปไหน มานี่ มากับกูก็กลับกับกู”



“เสือก! กูไม่อยากกลับกับมึง”



“ไอ้เสือ”



“อย่ามายุ่งกับกู มึงแม่งก็ไม่ต่างกับเพื่อนเหี้ยของมึงนั่นแหล่ะ แล้ววันนี้เข้าไปเรียนกับกูยังไม่เข้าใจอีกหรอวะ อย่ามายุ่งกับกู”



มันที่ว่าออกมาแบบนั้น สายตาที่มองกันเหมือนกับศัตรู เหมือนกับสายตาในวันแรกๆที่เราเจอกัน มันไม่เป็นมิตร ไม่เหมือนก่อนหน้านี้ที่พูดเล่นกันได้ ... เหมือนเป็นเด็กเล็กๆที่พยายามปกป้องตัวเองจากคนที่จะเข้ามารังแกด้วยท่าทางรั้นๆจนกลายเป็นเด็กนิสัยเสีย



“กูไม่เคยเชื่อว่ามึงเป็นเด็กเสี่ย! แล้วกูก็ไม่สนใจด้วยว่ามึงจะเป็นเด็กใคร ที่กูรู้ คือมึงเป็นน้องกู!!” ผมที่จับแขนมันสองข้างให้หันเข้ามาหาตัว ตะโกนใส่หน้ามันออกไปแบบนั้น ไอ้เสือที่หัวร้อนๆชะงักตัวไปในตอนนี้ มันที่จ้องหน้ากันนิ่งๆแต่ในแววตาของมันกลับสั่น



“กูเชื่อมึง...กูไม่เชื่อใคร”



...

(มีต่อจ้า)

หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่18 {15/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 15-02-2020 21:29:10
“เอ๋?”



คนตรงหน้าที่ยังจับมือของพี่มันไม่ปล่อย แต่ก็ยังคงหันมามองหน้ากันแบบงงๆ แววตาใสๆที่ดูน่ารักแบบนั้น พอทำหน้างงๆกลับดูไม่น่าเกลียด จริงๆแล้วต้องยอมรับว่าน่ารักเลยแหล่ะ



“พาพวยคืออะไรหรอ? เอ๊ะ...ว่าแต่นี่ใครหรอดานี่ แล้วดานี่ไปไหนมาหรอ เราน่ะนะมารอตั้งนานแล้วนะ ตั้งใจมาเซอร์ไพรส์ดานี่โดยเฉพาะเลย เซอร์ไพรส์ไหม”  ว่าออกมารัวๆแบบนั้นพร้อมเอียงหัวไปซ้ายทีขวาทีแย้มยิ้มแบบร่าเริงถามอิเจ๊พี่มันด้วยรอยยิ้มสดใส เป็นคนที่ดูแล้วทำให้บรรยากาศรอบๆตัวสดชื่นขึ้นมาแบบบอกไม่ถูก



พาพวย ผมหมายถึงพระพายอะไรนั่นน่ะแหล่ะครับ ... พระพายตัวจริงกับในรูปโปรไฟล์ที่ผมเคยเห็นในตอนนั้นไม่ได้แตกต่างกันมากนัก แต่ถึงจะบอกแบบนั้น แต่จริงๆแล้วความแตกต่างก็อาจจะมีอยู่ตรงที่ ในรูปโปรไฟล์ที่สดใสแต่จับต้องไม่ได้ ไม่เหมือนกับคนที่อยู่ตรงหน้า...ที่ตอนนี้ทั้งเค้าและอิเจ๊พี่มันก็ยังคงกุมมือกันไม่ปล่อย



“พาย”



“อื้ม พายเองนะ”  ตอบรับเสียงเรียกของคนที่อยู่ข้างๆตัวผมด้วยรอยยิ้มแล้วพยักหน้าหงึกหงักสองสามที น่ารักมากมั้ง ได้แต่คิดในใจคนเดียว เหอะ .... ก็น่ารักกว่ามึงเยอะมากอยู่อ่ะไอ้เอม เจ็บไข่!



ผมอดไม่ได้ที่จะต้องหันหน้าไปมองคนที่ก่อนหน้านี้ยังโอบไหล่กันไว้ แต่ตอนนี้ก็ดึงแขนลงแล้วเอาแต่มองคนตรงหน้าตัวเองแบบงงๆอยู่แบบนั้น อาการเหมือนคนพี้ยาดูลอยๆชอบกล ลอยจนกูอยากจะยกมือขึ้นโบกหัวแม่งให้ทิ่มสักทีนึงเผื่ออาการจะดีขึ้น



“ดานี่เซอร์ไพร์สไหม”



“อ่อ...อ่า ค่ะๆ เซอร์ไพร์สมากๆเลยล่ะค่ะ” อีกคนที่ตอบออกไปแบบนั้น ท่าทางที่เหมือนพึ่งตื่นขึ้นมาในตอนที่ตอบ ตะกุกตะกักจนอยากจะตบให้สมองพี่มันเข้าที่เข้าทางกว่าที่กำลังเป็นอยู่



“อ่า ฮ่าๆๆ มึงไปไหนมาวะไอ้ดาบ” เสียงของคนมาใหม่ เป็นพี่เมฆที่เดินตามหลังพะพายเข้ามาหาพวกเรา หน้าตาหล่อเหลาของพี่มันที่ผมเคยเห็นบ่อยๆตอนนี้ก็ยังหล่อเหมือนเดิม ติดแต่ตรงที่ว่าเสียงหัวเราะแบบฝืนๆของพี่มันนี่แหล่ะที่ทำให้ดูออกว่ากำลังพยายามแก้สถานการณ์ที่ชวนกระอักกระอ่วนตรงหน้าตอนนี้อยู่ .... จริงๆก็ไม่รู้ว่ามันน่าอึดอัดตรงไหนอ่ะนะ แต่ถ้าถามว่าอึดอัดมากไหม ในใจผมก็ตอบได้แค่ว่ามากอยู่



“เรียกดาบได้ไงอ่ะเมฆ ต้องเรียกดานี่สิ เนอะดานี่เนอะ” พาพวยที่ว่าขัดออกมาแบบนั้นพร้อมหันมาพยักเพยิกกับอิเจ๊พี่มันแบบดูน่ารักน่าชังส่งรอยยิ้มสดใสให้กันและมือเล็กๆน่ารักนั่นที่ก็ยังไม่ยอมปล่อยมือออกจากมือของกันและกันเลยตั้งแต่ที่มาถึง ... ก็คือจะจับกันไว้จนวันตายเลยไหมวะ นี่ไอ้เอมไม่ได้หงุดหงิดไรนะ กูก็แค่สงสัยสักนิดนึง



“นี่มึงไปไหนมาวะ เอ่อ น้องเอมถือของหนักไหม มาพี่ช่วยนะ” พี่เมฆที่ว่าออกมาแบบนั้นส่งยิ้มมาให้กันแล้วเดินตรงมาหาผม พี่เมฆที่คว้าตระกร้าใส่อาหารเช้าเบาหวิวที่ผมถือมาแค่ใบเดียวไปไว้ในมือ  ไม่ได้หนักอะไรสักนิด คนที่หนักน่าจะเป็นอิเจ๊พี่มันมากกว่าเพราะถือของมาหลายอย่าง ดูจากเจตนาแล้วคิดว่าพี่เมฆไม่ได้อยากจะมาช่วยผมถือของอะไรหรอก แต่น่าจะอยากหยิบยื่นความมีตัวตนมาให้ผมมากกว่า



ใช่... พวกมึงมองเห็นกูไหม หรือมองเห็นกันแค่สองคน



“เข้าห้องกันเถอะมึง กูหนัก”  พี่เมฆที่พูดแบบนั้น หน้าตาหล่อๆที่ตอนนี้ก็ดูหลุกหลิกร้อนรนแบบบอกไม่ถูก



“เออ ดีค่ะ ฮ่าๆ พายเหนื่อยไหม”



“ไม่เหนื่อย แค่เจอดานี่ก็ไม่เหนื่อยแล้วน้า พายน่ะรอเซอร์ไพรส์ดานี่มาตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะ เมื่อคืนไปที่ร้านด้วยแต่ว่าอยู่ๆดานี่ก็หายไปซะงั้นอ่ะ อดเจอกันเลย วันนี้เลยบุกมาหาที่ห้องเลย แต่ดานี่ก็ไม่อยู่ หูย เสียใจมากๆเลยเนี่ย”



อ้อ...แขกที่พี่จิตบอกเมื่อวานคงจะเป็นพาพวยกับพี่เมฆแน่ๆ



“พายไปที่ร้านด้วยหรอ ไปทำไม ดานี่เคยบอกแล้วไงคะว่าไม่ให้ไปที่แบบนั้น” คำพูดของคนข้างตัวที่ทำให้ผมอดจะขมวดคิ้วตอนได้ยินไม่ได้



“ก็ดานี่อยู่ที่นั่นนี่นา พายอยากไปเซอไพรส์น้า”



“บอกแล้วว่าที่นั่นอันตราย”



“ดานี่ห่วงพาย ดูออกน้า”



อยู่ๆก็รู้สึกอึดอัดแบบบอกไม่ถูก ท่าทีที่คนทั้งคู่คุยกันสนิทสนมจนไม่มีใครแทรกบทสนทนาได้นี่มันทำให้ผมอึดอัด อิเจ๊พี่มันที่วันนี้อยู่ในมาดหล่อๆไม่ได้ทาปากแดกกับสายตาที่มองคนตรงหน้ามันเหมือนห่วงตอนที่รู้ว่าพาพวยไปร้านเมื่อคืนก็ทำให้ใจผมคันยุบๆยิบๆ แล้วไหนจะบทพูดของกูที่หายไปแบบไร้ล่องลอยนี่อีกล่ะ ... พวกมึงเห็นกูไหม ฮัลโหล นี่ไอ้เอมไง ไอ้เอมที่เมื่อกี้มึงยังหัวเราะคิกคักกับกูอยู่เลยไง



“มา ผมเปิดห้องเอง” ผมที่เลือกจะพูดออกไปแบบนั้นแล้วเดินหนีตรงไปเปิดประตูห้องเพราะผมเองก็มีการ์ดเข้าห้องอยู่ใบนึงเหมือนกัน



“เอ๋”  ได้ยินเสียงใสๆดังไล่หลังตามมา คิดว่าสายตากลมบ๊อกน่ารักนั่นก็คงจะเอาแต่มองตามหลังผมมาไม่หยุดเหมือนกัน ท่าทางน่ารักๆที่เหมือนกำลังสงสัยว่าผมเป็นใครทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ ท่าทางที่อยากรู้แต่ก็ไม่ถามออกมาแบบคนที่มีมารยาทแบบนั้น ... หมั่นไส้ไปหมด



“ทำไมมึงพาพายมาไม่บอกกูไอ้สัด”



“กูโทรกูไลน์หามึงเป็นร้อยสายแล้วไอ้โง่”



ได้ยินเสียงของพี่เมฆกับอิเจ๊พี่มันที่กระซุบกระซิบกันอยู่จากทางด้านหลัง ไม่รู้สึกอยากรู้อะไรมากไปกว่านี้ ผมก็ทำแค่ตัวเหมือนปกติแล้วเดินนำคนพวกนั้นเข้ามาในห้องก่อนใคร



“ว้าววว ห้องดานี่ไม่เปลี่ยนเลย คิดถึงที่นี่จัง”



“อ่า ฮ่าๆ”



“โอ๊ะ นาฬิกาเลือนนี้ก็ยังอยู่หรอ พรหมเช็ดเท้าสีชมพูน่ารักนี่ก็ด้วย พายจำได้ๆ ดานี่บอกไปขโมยเฮียๆมาใช่ไหม”



“อ่า ใช่ค่ะ”



“สัดดาบแม่งขี้ขโมยแบบนี้แหล่ะพาย”



“อย่าว่าดานี่นะ เมฆนี่นิสัยไม่ดีเลย”



“ใช่ค่ะ ห้ามว่าคนสวยๆแบบกูนะคะอิเมฆ”



“สวยตายล่ะไอ้สัด”



“เมฆ พายตีนะ บอกว่าอย่าว่าดานี่ แล้วนี่ก็พูดไม่เพราะอีก เดี๋ยวเถอะๆ เดี๋ยวเราจะฟ้องจั๊มจริงๆด้วย”



“ฮ่าๆ ว๊ายโดนแน่ๆค่ะ”



“เกลียดฉิบหายเลย พอพายมามึงก็กร่างหรอสัดดาบ”



“พายยยยยย ไอ้เมฆมันเกลียดสวยค่ะ”



เสียงพูดคุยของคนสามคนที่ดังมาจากห้องรับแขกทำให้ผมรู้สึกอึดอัดแปลกๆ คนสามคนที่เหมือนไม่ได้เจอกันมานานเลยพูดคุยกันอย่างสนุกสนานแม้กระทั่งกูที่เดินไปเอาถุงกับข้าวและพวกของแห้งที่เราซื้อกันมาจากทะเล อิเจ๊พี่มันมันยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าผมหยิบของพวกนั้นเข้ามาในครัวแล้ว ค่อยๆหยิบถุงอาหารต่างๆออกมาวางไว้ มีพวกปลาหมึกแห้ง ปลาทาโร่ หรือปลาหมึกอบเนยที่ผมอยากกิน ค่อยๆเก็บเข้าตู้เย็นทีละอย่าง



“อ่า ดานี่พายหิวน้ำจังเลย”  เสียงใสๆที่ผมได้ยินในตอนนั้น แล้วก็เผลอถอนหายใจออกมาไม่ได้ จะว่าอคติก็ได้ แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องมาแล้วเอาแต่นั่งอ้อนกันอยู่ตรงโซฟาตรงนั้นด้วยวะ



“อ่า น้ำหรอคะ”  เสียงของอิเจ๊พี่มันที่ว่าออกมาแบบนั้น ผมที่ก็เงยหน้าขึ้นแล้วหันไปมองหน้ามันที่มองมาพอดี สายตาที่เรามองกัน เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกไม่อยากจะมองหน้ามันเลยในตอนนี้



“เอม...” เสียงอิเจ๊พี่มันที่ก่อนหน้านี้เมื่อไม่กี่นาที มันยังคงเป็นเสียงที่ผมอยากได้ยินและเราสองคนก็อยากคุยกันแบบไม่หยุด แต่ในตอนนี้ ผมก็ไม่อยากได้ยินเสียงของมันเหมือนกัน



“เดี๋ยวผมเอาออกไปให้เอง”  เลือกที่จะเป็นฝ่ายพูดออกไปแบบนั้นโดยที่ไม่ต้องให้อีกคนพูดสั่ง ... อ้า....มันก็หน้าที่ผมอยู่แล้วไหมอ่ะ ก็ผมเป็นคนทำงานของอิเจ๊พี่มันนี่หว่า หน้าที่ที่ต้องหาน้ำออกไปให้แขกก็ควรจะเป็นผม ก็ถูกต้องแล้ว



“นี่ครับ” วางแก้วน้ำสามแก้วลงบนโต๊ะหน้าทีวี พี่เมฆที่เป็นคนคว้าขวดน้ำกับแก้วน้ำไปจากมือผมซะก่อน



“เอมไม่ต้อง เดี๋ยวพี่รินเอง”



“อ่า ขอบคุณนะฮะ ว่าแต่ดานี่เดี๋ยวนี้ไม่มีน้ำส้มหรอ ปกติดานี่กินน้ำส้มทุกเช้านี่นา พายอยากกินน้ำส้มแบบนั้นน่ะ”  คนที่นั่งอยู่ข้างๆอิเจ๊พี่มัน แขนเรียวนั่นที่ก็คล้องกันอยู่ที่แขนของอิพี่มันว่าออกมาแบบนั้น คำพูดที่ทำให้พี่เมฆชะงักตอนที่กำลังจะเทน้ำ และก็เป็นผมที่เงยหน้าขึ้นมาจ้องคนหน้าตาน่ารักนั่นแบบตรงๆเป็นครั้งแรก



อิเจ๊พี่มันชอบแดกน้ำส้มหรอ ... ไม่เห็นจะรู้ ทุกเช้าที่เห็นก็มักจะเป็นพี่มันที่ตื่นก่อนแล้วมาทำอาหารไว้รอผม



มันชอบกินน้ำส้มหรอวะ .... รู้สึกใจกระตุกแปลกๆ นี่ผมไม่รู้เลยว่ามันชอบไม่ชอบอะไรงั้นหรอวะ



“พายกินน้ำเปล่าไปก่อนได้ไหม เดี๋ยวนี้ดานี่ไม่ชอบกินน้ำส้มแล้วล่ะ”



“ทำไมอ่ะ ไหนดานี่เคยบอกพายว่าต้องกินน้ำส้มทุกเช้าไง ผิวจะได้สวยๆไง” ว่าออกมาพร้อมทำปากจู๋ ท่าทางงอนๆที่ชวนให้คนต้องง้อ ผมถอนหายใจออกมาทันทีในตอนนี้ ก็ไม่รู้ว่าทำไมกูถึงต้องมายืนดูภาพเหตุการณ์แบบนี้ด้วยวะ คิดแบบนั้นเลยตัดสินใจหันหลังเดินหนีแม่ง



‘หมับ’



“เดี๋ยวเอม” ฝ่ามือแกร่งที่เอื้อมมือมาคว้าแขนของผมไว้ในตอนนี้ ผมที่ค่อยๆหันหน้ากลับมาแบบงงๆ ก้มมองแล้วเลื่อนสายตามามองที่ข้อมือของผม สายตาคมที่ช้อนตามองกันอยู่ในตอนนี้



“หื้ม? มีอะไรหรอดานี่” เป็นพาพวยพระพายที่เอียงคอมามองกันแล้วว่าออกมาแบบนั้น เจ๊พี่มันที่ถอนหายใจหนักๆก่อนจะขยับตัวออกน้อยๆ ดึงแขนของพระพายออกเบาๆแบบไม่ให้ดูน่าเกลียด ก่อนที่เจ้าตัวจะขยับตัวลุกขึ้นมายืนข้างๆผม มองเห็นสายตากลมบ็อกน่ารักของพระพายที่มองมาแบบไม่เข้าใจ แต่ก็ดูเหมือนจะไม่พอใจอะไรสักอย่าง



“พระพายนี่เอมนะ” เสียงเข้มที่ว่าออกมาแบบนั้น แนะนำตัวผมกับพระพายให้ได้รู้จักกัน ผมหันไปมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของอีกคน อดจะไม่เข้าใจในการกระทำนี้นิดหน่อย แต่เพราะสัมผัสอบอุ่นที่ฝ่ามือของผมในตอนนี้ ฝ่ามือแกร่งที่เลื่อนจากข้อมือไปกุมประสานกับนิ้วทั้งห้าของผมไว้แน่นๆในตอนนี้แล้วว่าออกมาแบบนั้น



“อ่า ดีจ้า นี่พระพายนะ”



“อ่า...เอ่อ ครับ” เพราะอีกคนที่ก็ฉีกยิ้มน่ารักส่งมาให้กัน มันก็คงจะไม่ถูกต้องนักถ้าผมจะไม่ยิ้มกลับไป ส่งยิ้มแบบจริงใจไปให้ พระพายที่ผละหน้ากลับไปมองหน้าอิเจ๊พี่มันแล้วในตอนนี้ ... อ้าว คือนี่มึงเมินไอ้เอมหรอ เอ๊!



“ดานี่ นี่ใครงั้นหรอ” เสียงเล็กใสที่ถามออกมาเป็นครั้งที่สองหลังจากเลิกยิ้มให้กู นิ้วเรียวที่ชี้มาที่ผม



“พาย น้องเอมน่ะ...”



“เราถามดานี่นะเมฆ เมฆอย่ายุ่งซี่” ปรายตามองพี่เมฆนิดหน่อยแล้วว่าออกมาแบบนั้น เห็นพี่เมฆที่ถอนหายใจออกมาหน่อยๆก่อนเจ้าตัวจะขยับกลับไปพิงโซฟาพร้อมนั่งไขว่ห้างเท่ๆ สีหน้าที่มองมาทางอิเจ๊พี่มันที่อ่านได้ ‘แล้วแต่มึงจะตอบเลยเพื่อน กูช่วยมึงได้แค่นี้’



“คนนี้คนงานใหม่หรอ” พระพายที่ถามออกมาอีกครั้ง ก่อนจะหันมาจ้องหน้าผมด้วยรอยยิ้มกว้างๆอีกหนึ่งที ... อืมเอาล่ะ



ผมที่หันไปมองหน้าอิเจ๊ดานี่เต็มๆตาแล้วในตอนนี้ อีกคนที่ก็ขยับนิ้วมือและบีบมือผมอีกที



“เอมไม่ใช่คนงานใหม่ของดานี่หรอกค่ะพาย เอมเป็น...”



“อ่า ช่างเถอะๆๆ พระพายไม่อยากรู้ล่ะ ตอนนี้นะพายอ่ะหิ้วหิว ดานี่ซื้อไรมาเยอะแยะ พายขอไปดูหน่อยล่ะกันน้า” อีกคนที่ชิงพูดตัดหน้าคำพูดของเจ๊พี่มันแบบนั้น ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงของเจ้าตัวและก็วิ่งหนีไปเข้าครัวทั้งแบบนั้นหน้าตาเฉยๆ ผมที่มองตามแผ่นหลังน่ารักๆนั่นไปแบบไม่เข้าใจ ...แต่สิ่งหนึ่งที่มันคันยุบคันยิบในหัวใจอยู่ตอนนี้ มันบอกได้แค่ว่า



‘เอาล่ะ...กูไม่ชอบไอ้นี่!’



::::::::::::::::::-- to be continued --:::::::::::::::::::::::::



มาช้าแต่มานะคะ แคทมาแล้วนะ ต้องขอโทษมากๆนะคะ เพราะว่าไข้ขึ้น38.5ทั้งอาทิตย์เลย ตอนนี้ก็ยังไม่ดีขึ้น

แคทเลยปั่นมาได้แบบช้าๆอืดๆ ต้องขอโทษด้วยนะคะ

หวังว่าคนอ่านของแคทจะรักษาสุขภาพด้วยนะคะ ... ส่วนตอนนี้น้านนนนน

เอาล่ะคะ ฉันไม่ชอบอินี่ 55555

ส่วนใครคิดถึงเก้อเสือ พามาแล้วน้าาา อิอ๊ะ

ฝาก #สวยๆเป็นผัว ในทวิตด้วยนะคะ

ยังมีใครรออ่านไหม เราคิดถึงทุกคนนะคะ
 :mew1: :mew2: :katai4:



ขอขอบคุณคนอ่านจากเล้าเป็ดนะคะ



น่ารัก
  ขอบคุณมากๆนะคะ มาอ่านอีกน้าาา



:pig4: :pig4: :pig4:
ขอบคุณมากๆเลยนะคะ แคทมาอัพแล้วน้า



อิเจ้เพิ่งจะมาจีบน้องเอมเป็นแฟนหลังจากได้กันไปตั้งหลายทีแล้วอ่ะนะ   :laugh:
ถ้าอย่างนั้นให้องพี่ดาบเข้าแล้วเข้าเลย ไม่ต้องออกได้ไหมอ่า
แถมคราวนี้พะพายกิ๊กเก่ามาเจออีก น้องเอมจะมิคิดหนีไปอีกรึ รีบๆ เคลียร์นะเฮียนะ
  เจ๊ไม่ได้ตั้งใจได้น้องค่ะเมื่อก่อน แต่ตอนนี้เจ๊ก็ค่อนข้างมุ่งมั่นกับการจะได้น้องมากๆเลยค่ะ (น้องเอมหนีไปปปป) และใช่ค่ะ พาพวยมาแล้วววว



พระพายมาทำไมมมม กลับไปเดี๋ยวนี้!!!!
 :katai1:
  เนี่ยๆ มีแต่คนบ่นหาพระพายมาก แคทเลยพามาแล้วน้าาา55555


:katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
  ขอบคุณมากๆนะคะ แคทมาอัพตอนใหม่แล้วน้า



พระพายมาแล้ว~
ใช่ค่ะ จะมาดีมาร้าย ยังไงน้า


โง้ยยยพาพวยมาแล้วอึ้งไปเลยนะเจ้ฮึถ้าทำน้องเสียใจหล่ะน่าดู  :z6:
ทีมแม่น้องเอมใช่ไหมเอ่ยยย ถ้าทำน้องเสียใจ ฟาดค่ะต้องฟาด


น้ำตาจะไหล หัวใจปลื้มปริ่มมาก พาพวยออกมาแล้ว !!!!
(กะว่าถ้าอีกสักสองตอนยังไม่มา เราจะเขียนจดหมายลูกโซ่ส่งให้คนเขียนแล้ว ><)

เมื่อเช้าพึ่งจะสนุกกุ๊กกิ๊กกันอยู่แท้ๆ เย็นมาก็เซอร์ไพรซ์เลยทันที
โอเคเจ๊อาจจะมีตกใจไปบ้าง ก้มันกะทันหันนะ แต่เจ๊อย่าทำอย่างอื่นให้น้องเอมน้อยใจนะ
  แง้ อย่าพึ่งงงง แคทพาพาพวยมาแล้วจ้าาา คราวนี้พามาแล้วนะคะ ถ้าพามาแล้วห้ามมาตีแคทนะคะ อิอิ
ขอบคุณคอมเม้นท์ยาวๆที่น่ารักๆเสมอแบบนี้ในทุกๆตอนเลยค่ะ แคทดีใจมากๆจริงๆ
ส่วนอิเจ๊จะทำน้องเสียใจไหมน้านนน มาจ๊ะ มาอ่านไปด้วยกันนะคะ อิอิ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่18 {15/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 15-02-2020 21:43:31
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่18 {15/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 15-02-2020 22:41:38
พาพวยไม่น่ารักเลอ พี่เมฆพามาทำไมเนี่ย

อิเจ้เคลียร์ด่วนๆ เลยจ้า
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่18 {15/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 15-02-2020 23:46:47
อิเจ๊มึงต้องชัดเจนกับน้องมากกว่านี้! :z6:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่18 {15/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 16-02-2020 03:01:26
ต่อไปนี้ชั้นจะเรียกเธอว่าพาพวยอย่างเดียวแล้ว
ชื่อจริงๆของเธอมันน่ารักเกินไป ไม่เหมาะกับกิริยาที่เธอทำกับน้องเอมเอม
ไม่ว่าเธอจะมาลองใจน้องหรือจะมาทำครอบครัวเขาร้าวฉานจริงๆฉันก็ไม่โอเคกับเธอ
ส่วนอิเจ๊พี่ดาบ ทำไมทำงี้อ่ะ นั่นน้องเอมเลยนะ คนที่พี่ดูแลอย่างดี
แต่พอพาพวยมาก็เป็นแบบนี้เลยเหรอ มึนงง สับสน ลังเล
ไม่ๆๆ จะมาถนอมกายแต่ไม่ถนอมใจกันแบบนี้ไม่ได้

เหมือนไม่ได้เจอพี่เก้อน้องเสือนานมากกกก
ถึงจะมาแบบเริ่มดีแต่ก็จบที่น้องเสือถูกเข้าใจผิดอีกแล้ว
พี่ช่วยน้องเร็วเด้อ สงสารเด็ก

คนเขียนหายไวๆนะคะ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่18 {15/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 16-02-2020 09:36:46
น่ารำคาญเนอะเอม
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่18 {15/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: LifePo-YuGu ที่ 17-02-2020 10:59:42
แรกๆคือจะตามไปตบอิ๊เจ๊นะ แต่หลังๆจะไปตบพาพวยแล้วววว  :katai4:
โถ่วววว หนูเอม มากอดปลอบ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่18 {15/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: KizzllKizz ที่ 19-02-2020 00:56:56
เอาล่ะ นี่ก็เกลียดนังพาพวยแล้วเหมือนกัน 555555555 เฮ้ย แอ๊บอ่ะ ดูออก
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่19 {22/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 22-02-2020 21:17:18
บทที่19





“ไอ้เมฆ มึงเข้าไปดูพายให้กูหน่อยค่ะ”



เป็นคนร่างสูงข้างๆ ตัวผมที่พูดออกมาแบบนั้น หลังจากที่พวกเราไม่มีใครพูดอะไรออกมาเลยหลังจากที่คุณพาพวยวิ่งหนีหน้าตั้งเข้าครัวไปแบบหน้าตาเฉย ... กูนี่ขมวดคิ้วมองตามแผ่นหลังบางๆ นั่นไปเลยนะ



“เออ...เดี๋ยวกูไปดูเอง” พี่เมฆที่ก็ขยับตัวลุกขึ้นมาทันที หน้าตาหล่อๆ ของพี่มันมองมาที่ผมกับเจ๊พี่มันนิ่งๆ ก่อนจะยกมือขึ้นตบไหล่เพื่อนตัวเองเบาๆ



“ให้พี่เมฆไปทำไมวะเจ๊ ไมไม่ไปดูเอง” เป็นผมที่พูดออกมาแบบนั้นในตอนที่กำลังจะเดินออกไป เหลือบมองไปเห็นอิเจ๊พี่มันที่ยืนอยู่ข้างๆ ตัวผม ส่ายหัวให้พี่เมฆหน่อยๆ ทำหน้าเชิงบอกว่าอย่าสนใจคำพูดผม



“เอม” พี่เมฆหายไปแล้ว และเหลือแค่ผมกับมัน ... เป็นช่วงเวลาที่น่าอึดอัดเพราะอีกคนทำเสียงเครียดๆ ตอนเรียกชื่อกัน และเหมือนจะเป็นผมเองที่ก็ยังไม่อยากจะหันหน้าไปมองมันชัดๆ ในตอนนี้



“......”



“หนูคะ”



“.......”



“น้องเอม”



“เรียกทำไม หรือเจ๊มีอะไรอยากจะใช้ผมหรือเปล่า ถ้ามีก็บอกมาเลย”



ไม่ได้หันหน้าไปมอง แต่ก็ตอบออกไปแบบนั้น ก็แค่ก้มหน้ามองเท้าตัวเองไป ก็ไม่ได้อะไรมากนะ แค่รู้สึกว่าตอนนี้ยังไม่อยากจะเห็นหน้ามันเฉยๆ กำลังใช้สมองเค้นความคิดอย่างหนักอยู่ในตอนนี้ ... มันเป็นหนหวย มันเป็นตะขิดตะขวงยุบๆ ยิบๆ ในหัวจิตหัวใจดวงน้อยๆ ของไอ้เอม



“มองหน้ากูหน่อยค่ะ”



“เจ๊มีอะไร” ตอบออกไปแบบนั้นพร้อมเงยหน้า แต่ก็แค่มองผ่านมันไปไวๆ ... ก็ไม่รู้ทำไมอยู่ๆ ถึงรู้สึกอึดอัดแบบนี้วะ



“เอม”



“ถ้าจะเอาแต่เรียกงั้นผมไปนะ มีการบ้านต้องทำ” บอกแบบนั้นแล้วขืนตัวหนี ไม่อยากอยู่ตรงนี้ ถ้าเจ๊มันต้องรับแขกก็อยากจะให้รับกันเอาเอง คิดแบบนั้นเลยคิดว่าจะหนีไปอยู่ห้องทำงานมันแทนในตอนนี้ แต่ฝ่ามือหนาก็ยังจับแขนกันไว้ไม่ปล่อย คนที่ดึงแขนผมให้เข้าไปชิดตัว แรงดึงที่มากจนกูเซไปหาตัวของอีกคนจนหน้าแนบไปกับอกแกร่ง



“มีอะไรทำไมไม่พูด จะเงียบไปทำไม จะหนีไปทำไม”



“แล้วเจ๊อยากให้ผมพูดอะไรวะ”



“อย่ากัดปาก”



“เรื่องของปากผมอีกล่ะ”



“ไม่ใช่ปากมึง นั่นปากกู”



“ไม่ใช่แล้วป่ะ นี่ปากกูเจ๊”



“กูเคยจูบแล้ว ก็ถือเป็นของๆ กู กูเลียจองไว้แล้ว” เจ็บไข่!



“เจ๊พูดเชี่ยไรเนี่ย ถ้าคุณพาพวยมาได้ยินอ่ะ เจ๊จะทำไง”



“มึงมานี่มา” พี่มันที่พูดแบบนั้นแล้วดึงแขนผมให้เดินตามมันไป เราสองคนที่ออกมายืนอยู่ที่ระเบียง พี่มันที่จัดการปิดประตูกระจกเรียบร้อยแล้วหันหน้ามามองกัน



“มึงเป็นอะไร”



“ผมเปล่า....” บอกแบบนั้นแต่ก็เลือกจะเสหน้าหนีออกไปด้านนอก มองออกไปไกลๆ ที่เห็นเป็นวิวตึกมากมาย มองเลยไปไกลๆ ก็มองเห็นรางรถไฟฟ้าบีทีเอสที่จะต้องขับผ่านไปผ่านมาเพราะสถานีมันอยู่ไม่ได้ไกลมากจากคอนโดของพี่มัน



“กูไม่ได้คิดอะไรกับพายแล้ว....” พี่มันที่ถอนหายใจหนักๆ แล้วพูดออกมาแบบนั้น แต่เป็นผมเองที่เลือกจะไม่ตอบอะไรกลับไป ก็แค่เงียบฟังว่ามันอยากจะพูดอะไร และเพราะแบบนั้นอีกฝ่ายก็เลยยิ่งพูดรัวๆ ออกมาแบบร้อนรนมากกว่าเดิม



“กูไม่รู้เรื่องที่พายจะมาวันนี้...กูไม่ได้รู้สึกอะไรจริงๆ เอม....”



“เจ๊ พอเถอะ” สุดท้ายเลยเป็นผมที่ถอนหายใจออกมา หลับตาลงนิดๆ แบบใช้ความคิดก่อนจะหันกลับไปมองหน้าอีกคนที่ตอนนี้กำลังขมวดคิ้วแน่นอยู่ คิ้วเรียวสวยของพี่มันที่ผ่านการจัดทรงมาเป็นอย่างดีกำลังขมวดเข้าหากัน แน่นจนอีกนิดนึงกูอยากจะยืมเอาไปผูกเป็นโบว์ห่อของขวัญ นี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นท่าทางร้อนรนของอีกคน ปกติเคยเห็นแต่ท่าทางแรดๆ



“มึงห้ามให้กูพออะไรวะ ถ้าห้ามไม่ให้กูเดินหน้าต่อไปกับมึงคือมึงฝันเลยนะ” ว่าแบบนั้นแล้วก็บีบแขนผมแรงขึ้น ก็รู้สึกเจ็บจนต้องเผลอขมวดคิ้วเลยอ่ะ



“เปล่า”



“แล้วมึงหมายถึงอะไรก็พูดออกมาสิวะเอม เป็นอะไรก็พูด”



“มึงดูร้อนรนนะเจ๊” คือจริงๆ ควรจะเป็นกูไหมที่ต้องกระวนกระวายแบบนี้อ่ะ



“ไม่ให้กูรนได้ไง นี่มันเป็นเรื่องของเรานะเว้ย”



“เรื่องของเรา?”



“ก็ใช่นะสิวะ มันเป็นเรื่องของมึงกับกู กูที่กำลังพยายามจีบมึง แล้วถ้าตอนนี้มึงกำลังรู้สึกไม่ดีเพราะกู มันก็ต้องเป็นหน้าที่กูแล้วหรือเปล่าที่ต้องทำอะไรสักอย่าง แต่อยู่ๆ มึงจะมาบอกให้กูพอ พอก็เหี้ย”



“ทำไมพูดมากจังอ่ะ”



“เอม นี่มึงกวนตีนกูป่ะ กูร้อนใจอยู่นะ” ว่าแบบนั้นแล้วเอื้อมมือมาดึงมึงผมเข้าไปกุมเอาไว้อีก ทำแบบนั้นทั้งๆ ที่คิ้วก็ขมวดเข้าหากัน



“ผมยอมรับ ผมอึดอัด”



“กูขอโทษ...แต่เดี๋ยวพายก็คงกลับแล้ว”



“ผมแค่อึดอัดที่ต้องเป็นส่วนเกิน ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับอดีจของเจ๊ ไม่เคยรู้ว่าเจ๊ชอบแดกน้ำส้มตอนเช้า ไม่เคยรู้ว่าพรหมสีชมพูนั่นเจ๊ก็ยโมยมันมาตั้งนาน ไม่เคยรู้ว่าใครเคยมาอยู่ที่นี่มาก่อน ที่ผ่านมาผมก็แค่ดีใจว่าเราอยู่ด้วยกัน แต่จริงๆ แล้วผมแม่งไม่รู้อะไรเลย เจ๊กับเค้าที่เคยมีความสุขด้วยกันขนาดนั้น แล้วผมล่ะวะ...ผมเป็นใครที่ต้องยืนฟังอยู่ตรงนั้น ไม่ได้เป็นอะไรเลย นอกจากเป็นลูกจ้างเจ๊แค่นั้นเอง”



ไม่ได้ตั้งใจว่าจะพูด แต่ผมมันก็เป็นคนแบบนี้ เคยคิดอยากจะทำตัวชิคๆ คูลๆ ดูซับซ้อนให้คนหลง แต่สุดท้ายแล้วผมมันก็เป็นไอ้เอม ไอ้เอมที่ชอบเจ็บไข่ ง่ายๆ และเก็บความรู้สึกไม่เก่งอยู่ดี ... ได้แต่กำมือตัวเองแน่นๆ แล้วช้อนตามองคนตรงหน้าที่ก็มองหน้ากันอยู่ในตอนนี้



“มึงไม่ได้เป็นไอ้เอมที่เป็นลูกจ้างกู”



“ผมเป็น...เจ๊ให้ผมเอาน้ำมาให้พาพวย”



“เค้าชื่อพระพาย”



“เค้าน่ารัก”



“อืม”



“เจ๊ชอบคนเอ๊าะแอ๊ะน่ารักแบบนั้น”



“อืม...ชอบ”



“อ่อ...” แล้วกูจะพูดอะไรได้อีกวะ พอได้ยินมันยอมรับแบบนี้แล้วหน้าก็ชาๆ ก้มหน้ามองตีนอีกรอบ แต่สักพักฝ่ามือคนตรงหน้าก็เอื้อมมาเชยคางให้ขึ้นไปมองตามันอีกที



“ชอบมึงอ่ะเอม ทำไมน่ารักจังวะ พูดออกมาแบบนี้คือหึงอยู่ดูออกอิดอก อิดานี่เค้ามีใจให้มึงค่ะ คือมึงต้องได้ต้องโดนแล้วในจุดๆ นี้ กรี๊ดๆ”



“เป็นเหี้ยอะไรของมึงอีกอ่ะเจ๊” ดึงมือออกจากมือมันแล้วผลักอกให้แม่งถอยหนีไปอีกหลายก้าว อยู่ๆ กรี๊ดออกมาทำไม กูซีเรียสอยู่อ่ะ



“ดีใจมึงหึงกู”



“กูไม่ได้พูด...”



“หนู มึงอย่าปฏิเสธค่ะ ชัดกว่านี้ก็คือมึงตะโกนบอกคนทั้งโลกว่ากูคือผัวมึงแล้วอ่ะเอม พูดรัวๆ ไม่พักหายใจเลยนะคะ อึดอัดมากสินะคะ ไม่เบะนะคะหนู ... แล้วอีกอย่าง กูไม่ได้ใช้มึงเอาน้ำมาให้เค้าเลย มึงสาระแนเอามาเองเลยค่ะ”



“มึงมองหน้ากู เหมือนอยากจะบอกว่าเอมเร็วค่ะเค้าคอแห้ง”



“อิดอกมโนตุตะ กูแค่จะหันไปหาให้มึงเดินมาหากู กูจะแนะนำมึงให้เค้ารู้จักเฉยๆ เถอะ” จีบปากจีบคอกรีดกราย หน้าตาก็ไม่ได้ขมวดคิ้วเหมือนเดิมแล้ว สายตาแพรวพราวของพี่มันและรอยยิ้มกว้างๆ ที่ผมก็ไม่เข้าใจว่าเป็นเหี้ยไรของมัน



“หนู”



“หื้ม”



“ขอโทษที่ทำให้อึดอัดนะ ... กูก็แค่ตกใจที่เห็นพายกลับมา เค้าไปเรียนต่อนานแล้ว ไม่รู้เลยว่าจะกลับมาวันนี้ ก็แค่ตกใจที่เจอเพื่อนเก่า...ในอดีตกูอาจเคยชอบกินน้ำส้มตอนเช้า เพราะกูเคยคิดว่ามันดีกับสุขภาพที่สุด แต่ตอนนี้กูไม่ได้คิดแบบนั้นแล้วว่ะ น้ำส้มมันอาจจะดี แต่บางทีมันก็ไม่ได้เหมาะกับทุกคน .... มึงเข้าใจที่กูจะสื่อไหม กูกินมันตลอดไปไม่ได้หรอก มันไม่เหมาะกับกู และที่สำคัญ ตอนนี้กูไม่ชอบกินน้ำส้มแล้ว”



คนตรงหน้าที่ว่าออกมาแบบนั้น เสียงเข้มๆ ทุ้มต่ำที่มีสเน่ห์พูดออกมาด้วยเสียงจริงจัง สายตาคมที่จ้องมองมาที่ผม ในสายตาที่สะท้อนภาพของผมตรงหน้าอยู่ในตอนนี้ อยู่ดีๆ ก็รู้สึกไม่อยากทนขึ้นมาซะแบบนั้น



“เจ๊...”



“หื้ม ว่าไงคะ”



“ไม่ได้เป็นแฟนกันมันหึงไม่ได้”



“แล้ว? ...”



“อยากหึงได้แล้ว”



“งั้นมึงรออะไร”



“รอทนไม่ไหวมั้ง...”



“งั้นใกล้ยัง...”



“ก็น่าจะใกล้แล้วนะ”



“หึ งั้นพายกลับมาก็ดีสินะ เหมือนใครบางคนจะทนไม่ไหวไวดี” ฝ่ามืออุ่นที่เอื้อมมาแนบแก้มผม เป็นทุกครั้งที่พอโดนมืออุ่นๆ แนบแก้มแล้วต้องเผลอหลับตาลงแบบทนไม่ไหว ก็ได้แต่เอียงหน้าเข้าไปซุกไซร้กับฝ่ามือนั้นอยู่ทุกที



“ไม่ชอบเลย ไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้”



“งั้นก็ทนไม่ไหวสักทีสิคะ กูก็ไม่อยากทนแล้วเหมือนกันนะ” เสียงที่กระซิบข้างๆ หู ลมหายใจอุ่นๆ ที่รดอยู่ข้างแก้ม ในตอนที่ลืมตาขึ้นมาก็เห็นสายตาคมอยู่ตรงหน้า ริมฝีปากหยักที่ยกยิ้มขึ้นมา สายตาที่อบอุ่นมองมาที่ผมและใบหน้าคมก็เอียงหน้าเข้ามาหากัน ลมหายใจร้อนๆ ที่มาพร้อมริมฝีปากหยักทำให้ผมต้องหลับตาลงช้าๆ ในตอนที่ริมฝีปากแนบลงปิดสนิทลงที่ปากของผม แค่จุ๊บธรรมดาที่ไม่ได้รุกล้ำใดๆ แต่กลับอบอุ่นหัวใจแบบบอกไม่ถูก



“เราออกไปข้างนอกกันไหม รู้สึกดีขึ้นรึยัง” เป็นพี่มันที่ถามออกมาแบบนั้นในตอนที่ผละหน้าออกจากกัน



“ก็...”



“อย่ากังวลเลย กูจะทำให้มึงรู้สึกดีขึ้นเอง” พี่มันที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วยิ้มให้กันออกมานิดๆ นิ้วเรียวยาวที่ค่อยๆ ลากไล้ไปตามแขนของผม ก่อนจะเลื่อนมากอบกุมเข้ากับฝ่ามือของผมอีกที



“ผมจะรอดูนะ”



“ตามคนสวยมาเลยค่ะหนู”



ว่าแบบนั้นแล้วขยิบตาให้กันอีกหนึ่งที รู้สึกว่าองค์พี่แด็ปโดโรทรีจะออกจากร่างมันไปอีกแล้ว เหลือไว้แต่ร่างเจ๊ดานี่คนเต๊าะแด๋คนเดิมแล้วล่ะมั้ง



“เจ๊...”



“อะไรคะ”



“ถ้าองค์พี่ดาบอยู่กับเจ๊ตลอดผมคงหมดความอดทนเร็วกว่านี้นะ”



“มันสำคัญขนาดนั้นเลยหรอคะ” อีกคนที่หันมามองหน้ากัน รอยยิ้มที่เคยมีหายไปตอนไหนไม่รู้ ในสายตาแว๊บนึงที่ดูนิ่งๆ ทำเอาผมอ่านไม่ออกจนไม่กล้าตอบอะไรออกไป



“ก็...”



“ไปกันเถอะ” เจ๊มันที่ไม่พูดอะไรออกมาอีก ทำแค่เอื้อมมือมาดึงแขนของผมไว้ แล้วดึงให้เราเดินออกไปพร้อมๆ กัน ... ช่างเถอะ คิดมากไปก็เจ็บไข่เปล่าๆ อ่ะนะ



.

.

.



“ดานี่ หายไปไหนมาหรอ” เสียงใสๆ ที่ดังมาพร้อมๆ กับใบหน้าน่ารักที่เงยขึ้นมาจากถุง ‘ปลาหมึกอบเนย’ ในปากยังคาบปลาหมึกอบเนยอยู่สองเส้น



“ปลาหมึกอบเนย!” เป็นผมที่โพล่งออกมาแบบนั้น สายตามองจ้องปลาหมึกอบเนยเส้นขาวๆ อมสีเหลืองนวลๆ ที่อยู่ในปากเล็กๆ จิ้มลิ้มนั่นไม่เลิก ปลาหมึกอบเนย!! ปลาหมึกอบเนยของไอ้เอมที่วอแวให้เจ๊มันซื้อมาให้กินเลยนะ



พาพวยยยยยย จิตใจมึงหยาบช้ามาก!!



“เอ๋ ใช่ ปลาหมึกอบเนยไง อร่อยมากๆ เลยนะ” ว่าแบบนั้นแล้วยิ้มตาปิด ฝ่ามือเรียวที่ยกถุงปลาหมึกอบเนยนั่นขึ้นมาชูให้ผมดูเป็นหลักฐาน ภาพปวดใจ แถมยังมารีวิวให้กูฟังด้วยว่าอร่อยแค่ไหน



เอมยังไม่ได้แม้แต่แกะออกมาชิมสักเส้นเลยนะเว้ย!



“ของเอมมันน่ะคะพาย” เป็นคนข้างตัวผมที่พูดออกมาแบบนั้น ผมที่ค่อยๆ ช้อนตามองหน้าอิเจ๊พี่มันแบบหงอยๆ เรื่องอะไรไอ้เอมก็พอทนได้ แต่พอเป็นของกินแล้วมันไม่ได้ไหมวะ ทำไมไม่ขอก่อนอ่ะ



“เอ้า พายขอโทษนะ พายนึกว่าของดานี่อ่า ก็ปกติอะไรในห้องดานี่พายก็กินได้หมด ขอโทษนะเอม” อีกคนที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วลุกขึ้นเดินมาหาผม หน้าตาน่ารักที่ดูสลดลงเหมือนรู้สึกผิด เดินหน้าหงอยๆ เข้ามาหาผมก่อนจะยื่นถุงขนมนั่นมาให้



รู้สึกเหมือนกูเป็นเด็กร้ายๆ ที่แม้กระทั่งขนมก็แบ่งเพื่อนกินไม่ได้งั้นอ่ะ



“อ่า ไม่เป็นไร” บอกออกไปแบบนั้นแต่ตาก็ยังจ้องถุงขนมไม่เลิก หายไปครึ่งถุงเลยนะ



‘หมับ’



“ไม่น่างอนะคะ เดี๋ยววันหลังกูพาไปซื้อมากินใหม่นะ ไว้วันหยุดมึงไปกันใหม่นะ” เสียงเข้มๆ ที่ดังอยู่ข้างตัวมาพร้อมๆ กับฝ่ามืออุ่นที่ลูบลงที่หัวของผม ทำเอาอุ่นวาบไปทั้งตัว ช้อนตามองพี่มันที่ส่งยิ้มให้กันแบบให้กำลังใจ ... จริงๆ ก็แค่ขนมเองไหม กูก็ไม่น่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่แบบนี้เลยนี่หว่า



“อื้ม ไม่เป็นไรกินเถอะ แค่ขนมเอง แบ่งกันกินเนอะ” ผมที่ตัดสินใจพูดออกมาแบบนั้น ก็เพราะไม่อยากจะดูเป็นเด็กไม่มีความคิดและหวงแม้กระทั่งของกินที่กูไม่ได้เสียเงินซื้อ ส่งยิ้มออกไปให้แล้วตัดสินใจไม่เอื้อมมือไปรับขนมนั่นกลับมา



“อื้ม แค่ขนมมันแบ่งกันกินได้ล่ะ ... แต่ของบางอย่างก็แบ่งกันไม่ได้เหมือนกันนะเอมรู้ไหม”



ผมที่ชะงักมือที่กำลังจะหดกลับมาในตอนนั้น คำพูดบางอย่างที่ทำให้ผมรู้สึกไม่ต่างจากก่อนหน้านี้ ได้แต่จ้องหน้านิ่งๆ ไปที่คนน่ารักตรงหน้าที่ก็เอาแต่ส่งยิ้มเริงร่ามาให้กันแบบสดใส เม้มปากแน่นๆ ในตอนนี้ก่อนจะตัดสินใจพูดออกไป



“ใช่เล้ย! บางอย่างมันก็แบ่งกันไม่ได้จริงๆ โดยเฉพาะคนที่ไม่ใช่สิ่งของ ถ้าเผลอทิ้งเอาไว้อยู่ๆ เกิดเสียดายอยากได้คืนก็เสียใจด้วย มันแบ่งกันไม่ได้จริงๆ โทษที



ตอบออกไปแบบนั้นแล้วยักคิ้วส่งไปให้สองจึก เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นคนน่ารักตรงหน้าที่ยิ้มค้างไปสองวิ ใบหน้าน่ารักๆ ที่ชอบส่งยิ้มไปให้พี่เมฆทีให้อิเจ๊ดานี่ทีตอนนี้ชะงักอยู่ตรงหน้าผม เป็นสองวิที่กูอยากโห่ร้องแล้วลงไปดิ้นขำ เอาไข่สีพื้นให้สนุกไปเลย ...



ไอ้สัด สะใจมาก! ... พูดมาได้ พี่แด็ปกูไม่ใช่สิ่งของนะเว้ยอยากจะบอก



หน้าตาก็ดี ทำไมความคิดน้อยจังวะ ไอ้เอมล่ะไม่ชอบเลยนะคนแบบนี้ แมนๆ มาเลย มึงอย่ามาแอ๊บ กูดูออกหมดแล้วนะพาพวย!



“อ่ะ เอ๋...เอมพูดเรื่องอะไรหว่า พายงงเลย”



“หูยยย งงเก่งจัง หน้าตาก็ไม่น่าโง่เลยนะเนี่ย เนอะเจ๊เนอะ” กรอกตาแล้วหันไปหาเจ๊มัน คนที่อยู่ข้างๆ ผมที่ทำหน้าเหมือนคนกลั้นขำจนเจ็บปอดพยักหน้าหงึกหงักออกมาอีกที พอหันไปมองหน้าพี่เมฆที่ก็เหวอหนักมากในตอนนี้ ... เอ้า กูพูดไรผิดหรอ



“เอมพูดงี้หมายความว่าไง” พาพวยที่ว่าแบบนั้นแล้วโยนปลาหมึกอบเนยลงบนโต๊ะก่อนจะเดินเข้ามาหาผม หน้าตาน่ารักที่ก่อนหน้านี้ยิ้มแย้มตอนนี้ถมึงทึงลงจนผมต้องเผลอยิ้มอ่อน



“เปล่านะ ไม่ได้หมายความว่าไงเลยนะเนี่ย หูย พาพวย เอ้ย พระพายก็คิดมากจัง”



“เอมนี่ไม่ธรรมดาเลยนะ”



“ก็แน่แหล่ะค่ะ ถ้ามันธรรมดา ดานี่จะชอบหรอคะ” เสียงสองที่อยู่ๆ ก็พูดขึ้นมาแบบนั้น ก่อนที่ฝ่ามือหนาจะเอื้อมมาโอบที่เอวของผม พอช้อนตามองหน้า คนข้างๆ ตัวก็ฉีกยิ้มหวานแล้วกระพริบตาปริบๆ ส่งมาให้ผม แถมเผื่อแผ่เลยไปให้พาพวยและพี่เมฆอีกหนึ่งที



ในช่วงจังหวะที่ไม่มีใครพูดอะไร และพระพายที่ยืนชะงักนิ่งอยู่ตอนนี้ ก็เป็นพี่เมฆที่พูดแทรกแหวกอากาศออกมาแบบได้จังหวะพอดี



“หูยยย เหยดแม่ มันเอาว่ะ”



“ไม่เอาได้ไงล่ะคะ กลัวอิหนูนี่มันคิดมาก ... เป็นไงหนู เจ๊แซ่บๆ ยั่วๆ บดๆ ชัดเจนไหมคะ” ว่าแบบนั้นพร้อมไหล่แกร่งที่กระแซะเข้ามาที่ไหล่ผมเบาๆ ... เบาๆ ของมันที่เล่นเอาตัวกูโยก แต่ถึงแบบนั้นผมกลับเป็นคนที่ตอนนี้ดันยิ้มไม่หุบ



“หมายความว่าไงอ่ะดานี่...พาย พายไม่เข้าใจ”



“หูยยย เข้าใจยากจังอ่ะ เจ๊ดานี่อ่ะจีบเราอยู่นะพาพวย ไม่ได้อวดนะ แค่บอกชัดๆ อีกทีเผื่อไม่เข้าใจ”



“เอาว่ะ...เด็กไอ้ดาบแม่งเอาเรื่องว่ะ”





::::::::::::::::::-- to be continued --:::::::::::::::::::::::::



หูยยยยยย แซ่บๆ เลย เรื่องนี้ใครพูดใหม่ ขอเสียงอีกที!!!

น้องเอมไม่ได้มาเล่นๆ นะจ๊ะ แม่ๆ น้องเอมขอเสียงหน่อยจ้าาา

ปล.จริงๆ ส่วนตัวเลยแคทก็รู้สึกว่าตัวเองเขียนไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไม่รู้ทำไม แต่ถ้าคนอ่านยังชอบอยู่ แคทก็ขอบคุณมากจริงๆ ค่ะ

ฝากแฮชแทค #สวยๆ เป็นผัว เช่นเดิมจ้า


ขอขอบคุณคนอ่านจากทางเล้าเป็ดที่ยังอยู่ด้วยกันนะคะ จุ๊บๆเลยยยย


:katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
  ขอบคุณมากๆนะคะ แล้วมาอ่านอีกน้าาา


พาพวยไม่น่ารักเลอ พี่เมฆพามาทำไมเนี่ย
อิเจ้เคลียร์ด่วนๆ เลยจ้า
มาจ้าาา มาดูกันว่านางจะน่ารักจริงๆไหมยังไงเอ่ย


อิเจ๊มึงต้องชัดเจนกับน้องมากกว่านี้! :z6:


ต่อไปนี้ชั้นจะเรียกเธอว่าพาพวยอย่างเดียวแล้ว
ชื่อจริงๆของเธอมันน่ารักเกินไป ไม่เหมาะกับกิริยาที่เธอทำกับน้องเอมเอม
ไม่ว่าเธอจะมาลองใจน้องหรือจะมาทำครอบครัวเขาร้าวฉานจริงๆฉันก็ไม่โอเคกับเธอ
ส่วนอิเจ๊พี่ดาบ ทำไมทำงี้อ่ะ นั่นน้องเอมเลยนะ คนที่พี่ดูแลอย่างดี
แต่พอพาพวยมาก็เป็นแบบนี้เลยเหรอ มึนงง สับสน ลังเล
ไม่ๆๆ จะมาถนอมกายแต่ไม่ถนอมใจกันแบบนี้ไม่ได้

เหมือนไม่ได้เจอพี่เก้อน้องเสือนานมากกกก
ถึงจะมาแบบเริ่มดีแต่ก็จบที่น้องเสือถูกเข้าใจผิดอีกแล้ว
พี่ช่วยน้องเร็วเด้อ สงสารเด็ก

คนเขียนหายไวๆนะคะ
แคทรักเอเนอร์จี้นี้ รักในการคอมเม้นท์แล้วอินไปด้วยกันเสมอ ขอบคุณมากๆนะคะที่ยังอยู่กับแคท
ขอบคุณมากๆจริงๆที่รู้สึกสนุกแล้วมาอ่านมาเม้นท์ให้กันทุกตอนเลย เป็นอีกหนึ่งกำลังใจดีๆที่แคทได้รับเสมอเลยค่ะ
ส่วนตอนนี้ไม่ได้พาพี่เก้อน้องเสือมา ตอนหน้าจะพามานะคะ ว่าพี่จะช่วยน้อง น้องจะให้ช่วยไหมยังไงเอ่ย
ส่วนพาพวยนั้น ไม่รู้พาพวยหรือพาซวยกันแน่ หึ่มๆ

น่ารำคาญเนอะเอม
คือด่าเอม ด่าพาพวย หรือด่าหนู อย่าด่าหนูน้าใจบางงงงง


แรกๆคือจะตามไปตบอิ๊เจ๊นะ แต่หลังๆจะไปตบพาพวยแล้วววว  :katai4:
โถ่วววว หนูเอม มากอดปลอบ  :กอด1:
ทีมแม่น้องเอมใช่ไหมเอ่ยยย มาค่ะมาอ่านตอนนี้เร็วววว จะหอมหัวใครน้าา


เอาล่ะ นี่ก็เกลียดนังพาพวยแล้วเหมือนกัน 555555555 เฮ้ย แอ๊บอ่ะ ดูออก
ใช่ไหมคะ ดูออก ต้องโดนไหมยังไง อิอิ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่19 {22/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 22-02-2020 22:05:46
 o13 ตอนนี้อีเจ๊น่าร้ากกกกกก ทำดีมั่กๆ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่19 {22/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 22-02-2020 22:49:08
น้องเอมสู้เค้าลูก ไหนๆ อิเจ้ดานี่องพี่ดาบก็สารภาพมาแล้วว่าจีบหนูแล้ว แสดงตัวเลยลูก ให้พาพวยอยู่ไม่ได้ รีบกลับเมืองนอกไปอย่างไวเลย  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่19 {22/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 23-02-2020 09:45:48
ตบมือรัวๆให้เอมจ้า
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่19 {22/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: LifePo-YuGu ที่ 23-02-2020 14:33:42
ปรบมือสิค่ะรออะไร  หนูแอมแซ่บเน้ออออ :katai2-1: :katai2-1:
แบบนี้สิค่อยรักอิ๊เจ๊ขึ้นหน่อย

(สิ่งที่รักอีกอย่างคือ ชอบที่คนเขียนจะตอบกระทู้อยู่ตลอดเลย น่ารักมากจ้าาา เป็นกำลังใจให้น่าา)  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่19 {22/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Chucream.nabi ที่ 24-02-2020 01:09:01
  :angry2: ฟาดมันกลับไปเลยลูก สวย สวย  :katai3: :katai3:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่19 {22/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: KizzllKizz ที่ 24-02-2020 23:39:14
แซ่บๆจ้า หน้าแหกไปเลยยัยหนูน้อย แอ๊บเก่งนัก
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่19 {22/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Rungzanaka ที่ 26-02-2020 11:18:23
น้องเอมมมมมันต้องอย่างงี้สิคะแซ่บๆไปเลยยยยตอกหน้าพาพวยไปเลยทำเป็นใสนะคะ เริ่ดไม่หยุดดดด  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่19 {22/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 28-02-2020 23:59:50
เด็กกำลังโตก็แบบนี้แหละ ต้องมีคิดแบบนู้น มโนแบบนี้บ้าง
แถมคุณพี่ยังไปทำตัวอึ้งๆ เงียบๆ แบบนั้น น้องจะเข้าใจผิดก็ไม่แปลกร้อกกก
(เข้าข้างน้องเอมเอมสุดฤทธิ์ ลูกอิชั้นใครแตะไม่ด้ายยย)
และคนอ้อมค้อมแบบพาพวยก็ต้องเจอพูดตรงๆแบบนี้แหละ หน้าม้านไปเลยล่ะสิ อิอิ

นี่ขนาดยังไม่เป็นแฟนกัน ยังหึงไม่ได้ น้องเอมก็ออกอาการขนาดนี้แล้ว
ถ้าตกลงคบกันน้องจะขนาดไหนน้อ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่20 {29/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 29-02-2020 21:10:12
บทที่20


“บ๊ายบายน้าพาพวย”



“ไปกันเถอะเมฆ”



“อะ เอ่อ...กูไปก่อนนะเพื่อน เดี๋ยวค่อยคุยกัน บายนะครับน้องเอม”



“ธุจ้าพี่เมฆ”



ไอ้เด็กข้างตัวที่ว่าออกมาอีกรอบพร้อมรอยยิ้ม มันที่ยกมือขึ้นไหว้ไอ้เมฆแบบท่วมหัว แล้วหันไปโบกมือหยอยๆใส่พระพายอีกครั้งพร้อมรอยยิ้ม พระพายที่ไม่มองมันแม้แต่น้อย ดวงตากลมโตน่ารักๆที่ปกติผมมักจะเห็นความสว่างสดใสในดวงตาคู่นั้น แต่ตอนนี้มันกลับหม่นแสง พระพายที่เอาแต่มองมาที่หน้าผม สายตาคู่นั้นเอาแต่จ้องมามองกัน เป็นสายตาที่ผมอ่านมันออก แต่ก็เลือกจะทำเป็นไม่เห็นมันแทน



“พาพายกลับบ้านดีๆนะคะอิเมฆ”



“รู้แล้วไอ้สัด”



ไอ้เมฆที่บอกออกมาแบบนั้น หน้าตาของมันที่ดูจะเหนื่อยมากกว่าปกติเพราะวันนี้มันต้องเผชิญหน้ากับอะไรหลายอย่าง น่าจะตั้งแต่เมื่อคืนก่อนด้วยซ้ำเพราะมันเป็นคนไปรับพายมา



“บ๊ายบายจ้า” เสียงร่าเริงสดใสที่ตะโกนออกมาแบบนั้นตอนที่ไอ้เมฆและพระพายหันหลังเดินออกไปจากประตูห้องของเรา แขนเรียวของมันที่โบกไปมาท่วมหัวเหมือนเชียร์คอนเสิร์ตแบบนั้นมองแล้วชวนให้คนหมั่นไส้ ... แต่คงไม่ใช่ผม



“เยอะไปไหมคะอิหนู”



“ไม่เยอะเลยจ้าอิดอก”



“อิดอกอะไรของมึ๊ง!!” อึงไปสองวิก่อนจะถลึงตาใส่มันตอนที่มันว่าออกมาแบบนั้น ไอ้เด็กตรงหน้าที่หันมามองกันแล้วเริ่มหัวเราะคิกคักตอนที่เห็นผมขึ้นเสียงใส่



“ก็เจ๊พี่มึงชอบพูด อิดอกกกก”



“นั่นมันซิกเนเจอร์กูค่ะ มึงอย่ามาลอก เดี๋ยวกูตีปากให้”



“ดีด้วยปากเจ๊พี่มึงป่ะล่ะ”



“คือนี่ท้าทายกู”



“ก็มาดิคร๊าบบบ”  กวนตีนกูน้อยซะเมื่อไหร่



“เอม” เรียกชื่อมันด้วยเสียงนิ่งๆ มองตาเด็กตรงหน้าที่ยังยิ้มตาปิดมองส่งไอ้เมฆกับพระพายหน้าระรื่นอย่างเอาจริง ก่อนที่มันจะหันมามองกัน ดวงตาครึ่งเสี้ยวของมันที่ยิ้มอยู่ตอนนั้นชะงักนิ่งก่อนจะเบิกกว้างขึ้นมานิดนึงตอนหันมาเห็นหน้าผม



“หยอกกกกกก กูหยอกให้แด็ป!” แหกปากใส่กันแบบนั้นด้วยหน้าเหวอๆก่อนจะถอยหลังหนีกันไปอีกสามก้าว มันที่หันหลังวิ่งเข้าห้องไปหน้าตาตื่น กวนตีนกูน้อยล่ะไม่มี



“กูนึกว่าจะแน่”



“ได้ยินจ้าอิดอกกกก”



“ไอ้เอม เดี๋ยวมึงจะโดนกูจริงๆนะ”



“กลัวแล๊วววว” แหกปากโหยหวนดังมาจากทางห้องครัว เห็นแบบนั้นแล้วอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าเอือมเพราะมัน แต่ถึงแบบนั้นผมก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้เช่นกัน หันหน้าไปตั้งใจจะปิดประตูห้อง แต่ก็อดจะเหลือบมองทางเดินที่ตอนนี้ว่างเปล่าลงแล้วไม่ได้ คิดว่าเมฆกับพายคงลงไปแล้ว ตอนนี้มันถึงเหลือแค่ทางเดินวางๆ ก็เป็นแค่ทางเดินว่างๆสายหนึ่ง ที่ผมเองก็ไม่ควรเดินไป เพราะแบบนั้นเลยเลือกที่จะปิดประตูลงเงียบๆ หันหน้าเข้ามาในห้องที่ตอนนี้เริ่มจะวุ่นวายเพราะใครบางคนเข้าแล้ว



“ทำอะไรคะ”



“ย่างปลาหมึก” เดินเข้าไปหาไอ้เด็กที่มือถือกอดถุงปลาหมึกแห้งเอาไว้ และตอนนี้ก็กำลังก้มๆเงยๆอยู่หน้าเตาย่างในห้องครัวของผมแบบกำลังหาปุ่มเปิด



“ย่างปลาหมึกแห้ง? อยากกินหรอ”



“เอ๊เจ๊ คิดยังถามก่อน ถามมางี้คิดยังเอ่ย ไม่อยากจะทำหรอวะ” หันมามองหน้ากันแบบหงุดหงิด เหมือนกูผิดที่เข้ามาขัดจังหวะการหาของกินของมัน ริมฝีปากบางๆนั่นเชิดขึ้นมาน้อยๆตอนที่อ้าปากเถียงกัน เป็นเด็กรั้นๆที่ไม่ยอมคน แค่เห็นหน้าก็บอกยี่ห้อแล้วครับ



“กูก็นึกว่ามึงจะแดกหมึกอบเนยไงคะ อันนั้นแดกได้เลยนะไม่ต้องเสียเวลาย่าง” พยักเพยิกหน้าไปให้มันเห็นปลาหมึกอบเนยที่ตั้งอยู่บนโต๊ะกลางห้องครัว ไอ้เอมที่หันมองตามก่อนจะทำปากยื่น มันที่สะบัดหน้าหนีแล้วหันไปหาเตาย่างเหมือนเดิม พยายามก้มๆเงยๆ หนุนนู่นบิดนี่ไปเรื่อย อะ...เครื่องย่างกูจะพังก็วันนี้แหล่ะ



“พอๆค่ะ มึงจะทำของกูพัง ถอยๆออกมานี่ค่ะ” เดินเข้าไปหามันแล้วดึงแขนมันให้ออกมาห่างๆจากเตาย่าง แต่ไอ้เด็กตรงหน้าก็ดื้อไม่เลิก มันที่ขืนแรงเอาไว้แล้วหันหน้ามามองกันแบบหงุดหงิด



“อะไร มันอะไรกันนักคะหนู”



“เจ๊พี่มึงอย่ามายุ่ง กูไม่แดกอันนั้นนะ จะแดกอันนี้แล้ว” ว่าแบบนั้นแล้วทำปากยื่นปากยาว หน้าตาดื้อๆที่ดูเอาเรื่อง ท่าทางที่บอกว่าจะไม่ยอมกันจริงๆ เห็นแบบนั้นแล้วมันอดขำออกมาไม่ได้จริงๆ



“อย่ามาขำนะเว้ย”



“โอเคๆ ไม่ขำ แล้วก็ไม่แดกอันนั้นด้วย”



“ใช่!” ว่าแบบนั้นแล้วพยักหน้าแรงๆจนผมมันขยับ ผมหน้าม้าที่ขยับแรงจนตอนนี้กลายเป็นทรงกะลาครอบไปแล้ว กูล่ะไม่ไหว กลั้นขำจนหน้ากูแดงไปหมดไอ้สัดเอ้ย ... แม่ง น่ารัก



“โอเค งั้นมึงออกมายืนนี่”



“ก็บอกจะแดกอันนี้ไงเจ๊ ทำไมอ่ะ ทำไมตามใจกันไม่ได้ไง!”  อะ โวยวายใส่กูซะเสียงดัง หน้าตาคือพร้อมเอาเขาขวิดพุงกู แบบสู้ฟัดมาก โมโหเหมือนตอนควายไม่ได้กินหญ้ายังไงอย่างงั้น



“กูเคยไม่ตามใจมึงหรอคะ ออกมา กูจะทำให้ แม่ง ปรับไฟแรงแบบมึงไม่ต้องย่างแม่งหรอกปลาหมึกแห้ง มึงย่างห้องครัวกูไปเลยให้มันจบๆ!”



“เอ๋า...โกรธอะไรก่อนอ่ะดาบ บอกกันดีๆเอมก็ไม่ดื้อหรอกจริงๆ”



“สัด”



ทำหน้าตาบ้องแบ๊วใส่กูพร้อมยื่นถุงปลาหมึกแห้งที่มันถืออยู่มายัดใส่มือผมทั้งแบบนั้น ... ได้แต่ส่ายหัวใส่มัน แต่สุดท้ายก็ต้องเป็นคนไปจัดการย่างให้มันอยู่ดี กูก็ไม่เข้าใจว่ามึงหรือกูที่ถูกจ้างมาทำงาน ปรายตามองมันก็เห็นมันเดินผ่านหลังผมไปนั่งที่โต๊ะกินข้าวในครัวหน้าตาเฉย สายตาของมันที่แอบเหลือบๆมองปลาหมึกอบเนยเป็นรอบที่สาม เห็นแบบนั้นก็อดจะแอบขำมันไม่ได้ ผมที่ตั้งไฟยางปลาหมึกแห้งให้มันเรียบร้อยเดินเข้าไปนั่งตรงข้ามมัน



“อยากกินทำไมไม่กินคะ ไหนมึงขอให้กูซื้อให้ไงคะ”



“ไม่เอา” ว่าแบบนั้นแล้วทำปากยื่นออกมา ท่าทางงอนๆชวนให้ยื่นมือไปดึงปากมัน และแน่นอนว่าไม่แค่คิด กูทำด้วย



“โอ้ย เจ็บนะเจ๊”



“จะกินก็กิน อย่าลีลา มากูพากิน” ไม่สนคำโวยวายของมัน ผมก็แค่เอื้อมมือไปแกะถุงปลาหมึกอบเนยนั่นมาแล้วเอาเข้าปาก ไอ้เอมที่มองตามอ้าปากค้างพงาบๆ ทำหน้าทำตาโคตรน่าสงสาร ท่าทางอยากกินแต่ไม่ยอมแตะ



“อร่อยน้า”



“ไม่เอา กินปลาหมึกแห้ง”



“อันนี้มันทำไมคะ อย่าบอกว่าเป็นเพราะพายกินแล้วมึงเลยไม่อยากกินนะ” เป็นผมที่เลิกคิ้วถามมันแบบนั้น ไอ้เอมที่ก็ยู่ปากออกมาทันที ก่อนจะหันหน้าหนีไปมองเตาย่าง



“โคตรจะเด็ก”



“ก็ใครมันจะไปโตแบบเจ๊ แบบพาพวยอ่ะ” เอ้าสัด...อาการแบบนี้คืออะไรนะ คุ้นๆแถวบ้านเรียกหึงแล้วพาล



“หึงแล้วพาล ดูออก”



“ไม่ใช่นะโว้ย”



“ร้อนตัวไปหมด”



“โอ้ย เจ๊แม่ง ไม่อยากจะคุยด้วย” ฟึดฟัดๆ ทำท่าทางที่ตั้งใจจะลุกหนีกันออกไปจากครัวเพราะเถียงสู้ไม่ได้ เห็นแบบนั้นก็เลยดึงแขนมันเอาไว้ก่อน มึงอย่าฝันว่าจะไวกว่ากู



“นั่งลงเอม” บอกมันด้วยเสียงนิ่งๆ ไม่ได้แกล้งทำเสียงสองเสียงสามใส่มันแบบทุกที ไอ้เด็กตรงหน้าที่ลุกขึ้นยืนดูจะชะงักไปเล็กน้อย มันที่หันกลับมามองกันแบบงอแงสุดๆ



“ทำไม ไม่เอา” 



“นั่งลง”



“หึ่ย อะไรเล่า” กระแทกตัวลงบนเก้าอี้แรงๆ พร้อมยกแขนมากอดอก ท่าทางที่ผมไม่เคยเห็น อาการแบบนี้ของมันที่ไม่เคยแสดงออกมา เพราะโดยปกติถึงมันจะกวนประสาทบ้าง แต่จริงๆมันค่อนข้างวางตัวดี เหมือนเป็นเด็กที่มีความคิดที่โตเลยพยายามรักษาท่าทีอยู่เสมอแบบคนที่ดูแลตัวเองมาตั้งแต่เด็ก แต่ตอนนี้...



“มึงงอแงอะไรกับอิแค่พายกินก่อน”



“เจ๊จะมาใช้คำว่ากับอิแค่ไม่ได้นะเว่ย! ก็นี่มันเป็นของชอบผมอ่ะ ผมชอบผมอยากกินผมให้เจ๊ซื้อให้ แล้วสุดท้ายคนอื่นคาบไปกินอ่ะ แล้วจะให้ผมมากินต่อ แม่งไม่ใช่ป่ะวะ”



“มึงหมายถึงขนมนี่หรืออย่างอื่น” ถามมันออกไปแบบนั้น เด็กตรงหน้าที่ทำท่าจะเถียงออกมาอีกครั้งก็เงียบเสียงลง ปากเล็กๆของมันที่เม้มเข้าหากัน ท่าทางที่ไม่อยากตอบและก็เริ่มจะน้อยใจแบบนั้น เห็นแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา ส่ายหัวหน่อยๆส่งไปให้มัน



“มันก็แค่ของกินเอม พายมันไม่ได้ถุยน้ำลายลงไปในถุงสักหน่อยใครถึงจะมากินต่อไม่ได้ มันก็แค่ของกิน ... แบบนี้มันไม่ได้เรียกว่ากินต่อ มันไม่ใช่ของเหลือ แต่มันคือของมึง ... ของที่กูซื้อให้มึง ก็คือของมึง มึงแค่มีน้ำใจให้คนอื่นกินก่อน แต่ของของมึงมันก็คือของมึงอยู่ดี ไม่ใช่ของคนที่มากินก่อน”



“แต่...”



“ขืนมึงคิดเล็กคิดน้อยกับของกินแล้วจะทำยังไงถ้าเจอเรื่องหนักกว่านี้ แยกให้ออกหน่อยเอม ของๆมึงก็คือของมึง ต่อให้ใครแย่งไปแดก เขาก็ไม่ใช่เจ้าของมัน”



“จะบอกว่ากูเป็นเจ้าของรึไง”



“เริ่มฉลาดขึ้นมาเหมือนได้กินหญ้าแล้วเลย ... ก็แน่นอนสิคะ มึงเป็นเจ้าของ ทั้งอิปลาหมึกนี่และตัวกู”



“อยากเขินเลย”



“ก็เขินได้เลยค่ะ” บอกมันออกไปแบบนั้นแล้วยกยิ้มให้ ไอ้เด็กที่ย่นจมูกใส่แล้วมองตรงมา



“แต่อยากด่ามากกว่า มึงด่ากูเป็นควายอ่ะเจ๊ กูแปลออกนะ!”



“หูววว ฉลาดขึ้นจริงๆด้วย”



“อิเจ๊พี่มึง! สักฝุ่นไหมสาดดด กวนกูจัง”



มันที่ว่าแบบนั้นพร้อมถกแขนเสื้อ ก็คือแขนก้างๆที่แค่กูง้างนิ้วดีดมันก็กระเด็น ผมที่ได้ยินเสียง ‘ติ๊ง’ ที่บอกเวลาว่าปลาหมึกแห้งสุกพอดีลุกขึ้นยืนในตอนนั้น ก่อนจะดันถุงปลาหมึกอบเนยไปให้มันแล้วเดินหนีไปดูปลาหมึกที่เตาแทน ... กลิ่นปลาหมึกแห้งที่ถูกย่างหอมอ่อนๆ ควันร้อนๆที่ยิ่งชวนให้น่ากินนั่นทำให้ผมยิ้มออก จัดใส่จานเรียบร้อย พอหันไปหาไอ้เด็กที่นั่งอยู่ที่โต๊ะก็ต้องชะงัก



“มองไรอ่ะ ง่ำๆ” มันที่เงยหน้าขึ้นมาจากถุงปลาหมึกอบเนยแล้วเคี้ยวจนแก้มตุ่ยถามผมออกมาแบบหน้าตาใสซื่อ



“ไหนบอกไม่แดกไงคะ”



“เจ๊บอกของเอม เอมแดกหมด แดกไหม แบ่งกันนะเอมใจดี”



“สัด ตามสบายเลยจ้าอิดอก”



“ดอกจ้า”



กวนตีนกูนักนะ อยากหยิกด้วยปาก กระชากด้วยลิ้นจริงๆเลย ฮึ่ม


.

.

.


“กูนึกว่าคืนนี้มึงจะไม่มาร้าน น้องเอมไม่งอแงหรอวะ”



“ไม่งอแง มันแดกเสร็จก็ตาปรือๆ นอนหลับไปแล้วค่ะ”



“แล้วนี่มึงออกมาน้องรู้ไหม”



“รู้ ... พยักหน้าส่งๆพร้อมกวักมือไล่กูด้วยค่ะ มันบอกกูกวนมัน มันจะหลับจะนอน” บอกไอ้เมฆแบบนั้นพร้อมส่ายหัว แค่นึกถึงแม่งก็ต้องส่ายหัวแล้ว เพลีย ความไอ้เอมมันเป็นแบบนั้น ... แต่ถึงแบบนั้นก็อดจะยิ้มออกมาไม่ได้ นึกถึงตอนที่ผมจะออกมาร้านเมื่อก่อนหน้านี้ เดินเข้าไปบอกมันที่นอนหลับตาอยู่บนเตียง เอานิ้วเขี่ยแก้มมันสองทีแบบหมั่นไส้ กูอยากจะกัด พอบอกว่าจะออกมาที่ร้าน มันที่ไม่ได้ลืมตา แต่ก็เอื้อมมือมาคว้าเอวผมที่นั่งอยู่ข้างเตียงทั้งแบบนั้น ก่อนจะบอกว่า



‘ของเอมนะ ของเอมหมดเลย ห้ามสนใจคนอื่นนะ ห้ามสนใจพาพวยด้วย สนใจแต่เอมนะ’



ก็เป็นซะแบบนั้นแหล่ะ แล้วไม่ยอมคบกูให้มันจบๆไป ดื้อฉิบหาย ... แต่ก็น่ารักจนใจกูเจ็บ



“ยิ้มเหี้ยไรไอ้สัดดาบ กูหลอนรอยยิ้มมึงฉิบหาย พี้กัญชาตามนโยบายหรอสัด”



“ใจเย็นค่ะอิเมฆ พูดเสียงดังออกสื่อเหี้ยไร เดี๋ยวพ่อมึงก็มาลงร้านกูหรอกค่ะ กูไม่หารนะคะอิเพื่อนเวน”



“ก็กูเห็นมึงยิ้มหลอนๆอ่ะ เป็นเหี้ยไรนักวะ ... อย่าบอกกูว่านึกถึงน้องเอม” มันที่มองตรงมาแล้วทำหน้านิ่งๆมองกันแบบรู้ดี สัด... เบื่อความเป็นเพื่อนของมึงกับกู สาระแนรู้ใจ สวยเบื่อค่ะ



“เรื่องกูไหม สาระแน สาระแนไปทุกเรื่องเลยค่ะ”



“รวมถึงเรื่องไปรับพายด้วยใช่ไหมที่มึงว่ากูสาระแน”  ไอ้เมฆที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วยกยิ้มมุมปาก มันที่เอนตัวลงพิงพนักโซฟา แขนสองข้างที่พาดลงบนพนักโซฟาแล้ววาดขายาวๆขึ้นมาไขว่ห้าง หล่อแบบหมาต้องวิ่งเยี่ยวรอบร้านกู เปรี้ยวสุดค่ะ



“สวยขอไม่ตอบออกสื่อนะคะ”



“กูไม่ใช่สื่อไอ้สัด ... แต่ถึงมึงไม่ตอบกูว่าวันนี้คำตอบมึงก็ชัดเจนมากแล้ว จริงๆกูก็รอมึงตัดใจจากพายสักที แต่พอมาเห็นแบบนี้กูก็อดช็อคไม่ได้ว่ะ”



“คนเรามันต้องมูฟออนไงคะ มึงก็บอกกูเอง”



“มึงก็มูฟเร็วไป”



“จริงๆกูไม่ได้มูฟเร็ว มึงก็รู้ว่ากูพยายามตัดใจจากพายมานานแล้ว ก่อนหน้านี้กูก็เคยไปจีบน้องกุ๊กมึงจำได้ไหมคะ”



“กุ๊ก กุ๊กไหนวะ คุ้นๆ”



“ไม่คุ้นก็เหี้ย น้องกุ๊กเพื่อนน้องเมลเมียของเฮียทัพ เฮียกูไงไอ้สัด ... คนที่ทำให้กูเป็นพระรอง แล้วหนีไปร้องไห้เหมียนหมาไงคะ ให้เธอได้กับเค้าแล้วจงโชคดี~~” กูร้องเพลงแถมให้เลย ... ไอ้เมฆที่ทำหน้าเบ้ใส่ตอนที่ผมร้องเพลงออกมา ท่าทางที่เหมือนอยากยกตีนข้ามาถีบกัน เป็นKอะไรอ่ะ เสียงกูเพราะมากนะ



“ก็มึงยอมถอยเองไหมวะตอนนั้นอ่ะ”



“กูไม่ได้ยอมถอย แค่รู้ว่าดันทุรังไปก็ไม่มีประโยชน์ อีกอย่างกูก็ทำเต็มที่ของกูแล้ว แต่น้องเค้ามีคนที่ชอบอยู่แล้วไหม กูก็อยากให้น้องได้มีความสุขกับคนที่น้องรัก เพราะกูรู้ว่า การรักใครแล้วได้ความรักตอบกลับ มันเป็นอะไรที่โคตรโชคดี”



“เหมือนมึงวัดจากตัวเอง ที่ชอบพาย”



“ตอนนั้นก็คงใช่”



“หมายความว่าไงวะ ตอนนั้น?”



“ก็ตอนนั้นกูมีแค่พาย ก็วัดจากที่ตัวเองชอบพาย” บอกมันง่ายๆพร้อมยักไหล่ แล้วเอื้อมมือไปหยิบแก้วเป๊บซี่ขึ้นมาซด



“คือจะบอกว่าตอนนี้มึงมีน้องเอมแล้ว ความรู้สึกมันเลยไม่เหมือนกับตอนน้องกุ๊กว่างั้น”



“อืม...เพราะถ้าเป็นไอ้เอม กูจะไม่ปล่อยมันไปให้ใคร”



“สัด เป็นไรกับเค้าอ่ะครับเพื่อน เจ้าเข้าเจ้าของสุดๆ”  อยากตอบออกไปว่าเป็นผัว แต่กลัวแม่งเสือกแล้วล้อว่ากูเป็นตุ๊ดแต่ไปแอบเสียบเค้า นิ่งไว้ตัวกู นิ่งไว้ไอ้ดาบ เอ้ย! ดานี่ ... กูต้องสวยๆสงบสติ คิดแล้วก็นั่งไขว่ห้างแล้วยกนิ้วขึ้นเอาผมทัดหู



“ท่าทางมึงมีพิรุธสัด”



“จะบ้า นี่สวยนะคะ สวยๆเอาผมทัดหู”



“ท่าทางมึงมีพิรุธ เหมือนมึงกำลังปกป้องความจริงอยู่”



“ปกป้องความจริง ปกป้องทำไมคะอิดอก บ้าน่า ฮ่าๆๆ” อย่า อย่าเลิกลั่ก นี่กูดูมีพิรุธหรอคะ หน้าตากูบอกอาการกูออกหรือ ยังไง



“พอ เลิกหลุกหลิกสักทีไอ้ห่า จากกูจะไม่สงสัย กูจะสงสัยก็ตอนนี้แหล่ะ”



“ฮ่าๆ กูก็แกล้งเล่น”



“แต่นะ...กับพายอ่ะ มึงจะไม่ตัดแบบนี้หรอวะ” ไอ้เมฆที่ว่าออกมาแบบนั้น มันที่เปลี่ยนเป็นท่าทางจริงจังแล้วมองหน้ากันนิ่งๆ ผมที่มองตอบกลับไป ก่อนจะถอนหายใจออกมาแล้ววางแก้วเป๊ปซี่ลงบนโต๊ะ



“แล้วให้กูทำไง ถ้าเป็นมึง ต้องเลือกระหว่างพาย กับทำให้ไอ้จั๊มไม่สบายใจ มึงจะเลือกอะไร”



“สัด ถามเหี้ยไรวะ”



“กูดูออกเถอะไอ้เมฆ มึงเป็นเพื่อนกูมากี่ปี ลีลาอยู่ได้ไอ้จั๊มจะไปอ่อยคนอื่น มันยิ่งชอบคนรวยอยู่”



“จะมีใครรวยกว่ากูอีกไอ้สัด มันไม่ไปไหนหรอก”



“พูดดีไปเหอะ คนเรามันทนรออะไรไม่ได้นานหรอกนะมึง ... กูไม่ได้ตัดสินจากใคร กูตัดสินจากตัวเอง”



“มึงจะหมายถึงตอนที่พายไปเรียนต่อ?”



“อืม ... คนที่สมหวังเท่านั้นแหล่ะ มันถึงจะบอกว่าการรอมันคุ้มค่า แต่ใครแม่งจะรู้วะว่าสุดท้ายรอแล้วมันจะสมหวัง ไม่ใช่ทุกคนหรือเปล่าที่จะได้รับมัน ... และคติกู ถ้ารักก็ต้องสู้ มีแค่ไม่รักเท่านั้นแหล่ะ ถึงจะต้องปล่อยไป”



“เชี่ย คมบาดหน้าเลยสัด”



“ก็มันจริง”



“พูดมาแบบนี้แสดงว่ามึงไม่ได้รักน้องกุ๊กมากขนาดนั้นอ่ะดิ”



“กูชอบนะ ชอบน้อง อยากทำให้น้องยิ้มมากกว่าร้องไห้ กูเห็นน้องมันเศร้าบ่อยด้วยแหล่ะ ... แต่ก็นะ อาจจะจริงแบบมึง กูอาจจะไม่ถึงกับรักน้องขนาดนั้น แต่ในตอนนั้น กูก็ทำเต็มที่ของกูนะ กูสู้กับไอ้บินเต็มที่แล้ว”



“แฟนน้องชื่อบิน?”



“ใช่ ชื่อบินแต่บินไม่ได้นะ กูนี่ที่บินได้ นกจิ๊บๆเลยไอ้สัด”



“ฮ่าๆ แต่เรื่องตอนนั้นมึงหล่อเลยนะ ไม่ได้ลูซเซอร์เหมือนตอนที่พายบอกจะไปเรียนต่อ”



“เพราะมีประสบการณ์จากพายไงวะ ตื้อยังไงก็ได้แค่เพื่อน”



“แล้วถ้าตอนนี้พายไม่ได้อยากเป็นเพื่อนกับมึงแล้วล่ะวะ”  ผมที่กำลังเอื้อมมือไปคว้าน้ำแข็งมาใส่แก้วต้องชะงักอีกครั้ง เลิกคิ้วมองหน้าไอ้เมฆแบบไม่เข้าใจ



“มึงหมายความว่าไง”



“ก็ถ้าครั้งนี้พายไม่อยากจะเป็นเพื่อนแล้วล่ะวะ ... มึงจะไม่เปลี่ยนใจจากน้องเอมแน่หรอ พายน่ะ...คนที่มึงเปลี่ยนตัวเองจนถึงตอนนี้ มึงจะตัดไปได้จริงๆหรอวะ”



...

(มีต่อจ้า)


หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่20 {29/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 29-02-2020 21:10:52

“เรื่องราวมันก็เป็นงี้อ่ะป้า”



“โอ้โหหหหหห แซ่บไม่หยุด หนูชะเอมลูกแม่โตเป็นสาวแล้วหรอคะ แซ่บๆนัวๆไปเลยค่ะมึง กูนี่อยากลุกขึ้นรัวมือให้มึงค่ะ”



“ลูกสาวเหี้ยไรอ่ะป้า กูมีไข่ พูดละเจ็บไข่เลย”



“ใครบีบใครมึงคะ ไหน ขอกูดูหน่อย!” ไอ้หยีที่พูดจบแบบนั้นแล้วก้มตัวลงมา พร้อมยื่นมือมาที่เป้ากางเกงนักศึกษาของผม กูนี่พลิ้วตัวหลบแทบไม่ทัน ไอ้แม่ย้อย หลบทันตอนที่มือมันห่างจากเป้าแค่สองมิล เกือบไปแล้วไข่น้อยๆของไอ้เอม



“เชี่ย! ป้า!! มึงเป็นผู้หญิงยังไงเนี่ย” ด่ามันออกไปแบบนั้น แต่ผู้หญิงสวยตรงหน้าผมก็ทำแค่ยักไหล่นิดๆแบบไม่สนใจ มันที่วันนี้อยู่ในรองเท้าผ้าใบและกระโปรงนักศึกษาทรงเอผ่าหน้าที่สั้นฉิบหาย คือถ้ามึงนั่งวินมอไซต์มา กูพนันได้เลยว่าตอนมึงก้าวขึ้นมอไซค์กระโปรงมึงต้องแหก เพราะแม่งทั้งสั้นทั้งแน่น กูมองแล้วอึดอัดแทนอ่ะเอาจริงๆ



“กูเป็นผู้หญิงยุคใหม่ไงคะหนูลูกกก กะอิแค่ไข่มึงเนี่ยทำหวง ถ้าไข่เจ๊ดานี่มึงไม่แหกแกกูหรอ”



“แล้วเป็นเหี้ยอะไรต้องไปยุ่งกับไข่มันอ่ะ”



“อันนี้หวงไข่ผัวอ่ะเนอะ”



“กูไม่ใช่จงอางไอ้สัด”



“ฮ่าๆ อิเหี้ย เปรี้ยวมาก มีเล่นมงเล่นมุก แต่จะว่าไปนะ พี่พระพายนี่ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเป็นคนแบบนั้น”



“มึงรู้จักหรอป้า”



“ก็ไม่ได้สนิทหรอก ตอนกูอยู่ปี1ก็เห็นพี่เค้าบ่อยไง มากับพี่ดาบ เอ้ย เจ๊ดานี่บ่อย”



“สนิทกันมาก”



“เรียกได้ว่าถ้าอมเข้าปากได้อิพี่ดานี่คงทำอ่ะค่ะมึง ... มองจากดาวอังคารก็รู้ว่ามีซัมติง”



“หรอวะ...”



“เอ้า หงอย เอ้าหงอยเลยอิน้องเอม”



“หงอยไรวะ เปล่าสักหน่อย” บอกออกไปแบบนั้นแล้วฟุบหน้าลงบนกระเป๋าที่วางไว้บนโต๊ะไม้ตรงหน้า ลมพัดเย็นๆจากต้นหูกวางบนหัวก็ไม่ได้ทำให้ใจสงบ



“ช่วยไฟท์หน่อยได้ไหมอิหนู นั่นผัวมึงนะ!”



“แต่ยังไม่ได้เป็นอะไรกันไงป้า ทำไมไม่เข้าใจวะ”



“เอ้า แล้วมึงรอหินรอแดดอะไรอยู่คะ ก็เป็นซะสิ เจ๊ดานี่คือแทบจะพร้อมรอกระแทกมึงไม่ไหวแล้วมั้ง เมื่อเช้ากูเห็นนะคะ มาส่งมึงน่ะ แค่จะถอดหมวกกันน็อคเป็นเหี้ยอะไรต้องหอมแก้มกันอ่ะ งงมาก ริษยาสุดๆ”



“มึงเห็นหรอป้า!”



“โอ๊ยย มีตาค่ะ แล้วคือหอมกันขนาดนั้น เยกันไปแล้ว มึงรออะไรเอ่ย”



“ตอนนั้นมันแค่ผิดพลาดเหอะ ไม่นับไหมวะ” บอกออกไปแบบนั้นแล้วขมวดคิ้วกับเรื่องนี้ไม่หาย ตอนนั้นไม่นับไง มันแบบผ่านๆมาแล้วไง ตอนนี้ก็ต้องเริ่มใหม่เปล่าวะ แบบยังไม่ได้เป็นไรกันอ่ะ ... ว่าออกไปแบบนั้นแล้วหันไปมองไอ้หยีที่ตอนนี้หยิบน้ำผลไม้ที่เหมือนมันจะปั่นใส่กระติกมาจากบ้านตัวเองขึ้นมาจิบ จิบแบบสวยๆอ่อยผู้ชายโต๊ะข้างๆ ดูออก



“หรอคะ แล้วไม่ได้เป็นอะไรกันแบบที่มึงว่านี่ไปถึงขั้นไหนเอ่ย จูบ?” ผมส่ายหัวหน่อยๆเป็นคำตอบให้มัน



“ค่อยยังชั่ว แค่หอ...”



“ก็ช่วยกันปล่อยน้ำไปสองครั้งเอง”



‘พรู้ดดดด’



“โว้ยยยย ป้า สกปรกฉิบหาย พ่นน้ำออกมาได้ แล้วนี่น้ำไรวะสีส้มๆเหลือง”



“กรี๊ดดดดด อิเหี้ยน้องเอม ถึงขนาดนี้แล้วมึงรออะไร เจ้านายลูกน้องไม่ช่วยกันรีดน้ำค่ะมึง” ไม่สนใจว่าแขนเสื้อนักศึกษาข้างนึงของกูจะกลายเป็นจุดสีส้มๆเพราะน้ำผลไม้ของมันไม่พอ ยังพูดเรื่องอื่นหน้าตาเฉย คือช่วยสนใจเสื้อนักศึกษากูด้วยครับ



“เออ ก็นั่นแหล่ะน่า”



“นั่นแหล่ะเหี้ยอะไร ชักช้าเพื่อ รอพี่พายมาแย่งไปหรอมึง”



“แย่งก็เหี้ย ไม่ยอมหรอก”



“แล้วมึงรออะไร”



“รอพี่ดาบ”



“ห๊ะ!”



“กูก็แค่อยากได้แฟนที่มาดูแลกู กูชอบผู้ชายนะป้า ก็แค่อยากได้ผู้ชายสักคนมาดูกูให้ดีกว่าตอนกูอยู่คนเดียว ไม่ได้อยากได้เพื่อนสาวที่ชวนกูมาร์คหน้าหรือทาปากสีแดงเวลาออกไปด้วยกันไหมวะ”



“ไอ้เอม” หยีที่ถอนหายใจออกมาหนักๆในตอนนั้นแล้วเรียกชื่อผมด้วยเสียงเครียดๆ เงยหน้ามองหน้ามันที่ทำท่าทางอยากจะพูดอะไรออกมาสักอย่าง ติดก็ตรงที่



“ฮ่าๆๆๆ อย่าแกล้งจะได้ไหมวะไอ้พี่เก้อ”



“แกล้งเหี้ยไร กูก็แค่เอานิ้วจิ้มเอวมึง”



“ก็กูบอกว่ากูบ้าจี้ไอ้สัดพี่ จิ้มกูหาพ่อง!”  เสียงโวยวายของคนมาใหม่สองคนที่ทำให้ทั้งผมและไอ้หยีหยุดคำพูดของตัวเองในตอนนั้น เราที่หันหน้าไปทางเดียวกันและมองเห็นคนมาใหม่สองคนที่กำลังเดินเข้ามา ไอ้เก้อที่พยายามกอดคอไอ้น้องเสือ แต่ไอ้เด็กเสือกลับพยายามเบี่ยงตัวหนี และไอ้เก้อก็พยายามจะยื่นนิ้วชี้ไปจิ้มเอวไอ้เสือ



“นี่มันเรื่องเหี้ยอะไร มึงเห็นเหมือนที่กูเห็นไหมป้า”



“เห็น เหมือนผีหลอกกูตอนกลางวัน”



“คือมันไปดีกันตอนไหนเอ่ย ก่อนหน้านี้มันต่อยกันแทบตาย” ผมที่ถามออกมาแบบนั้นแล้วหันไปมองหน้าไอ้หยีแบบขอความเห็น แต่คนข้างๆตัวที่ก็ทำเพียงส่ายหน้า



“พี่ๆ หวัดดี” ไอ้เสือที่วิ่งหนีไอ้เก้อเข้ามาทางพวกเรา แล้วยกมือไหว้แบบท่วมหัว ... เป็นเด็กมีมารยาทอ่ะเนอะ



“วิ่งหนีกูทำเหี้ยไรวะไอ้เด็กเปรต”  ไอ้เก้อที่เดินตามเข้ามา มันที่เอื้อมมือไปผลักหัวไอ้เสือแรงๆที่นึงจนหัวน้องมันโยก คือเอ่อ...คอมึงเคร็ดไหมเสือ สงสารฉิบหาย



“พี่หยี คนบางคนแม่งมีของมาฝากว่ะพี่” ไอ้เสือที่โพล่งออกมาแบบนั้น ก่อนจะยื่นพาเรทแต่งตาออกมาให้ไอ้หยี



“กรี๊ดดดดด LAURA MERCIER รุ่นออกใหม่!” ลอล่า เมอๆมาซิเอ้อ เหี้ยไรนะ  คือกูฟังไม่ค่อยจะชัด แต่ชื่อเทือกๆนี่ล่ะ ได้แต่คิดในใจว่าถ้าเป็นอิเจ๊พี่มันอยู่ตรงนี้มันคงเข้าใจ และดีไม่ดีอาจจะกรี๊ดไม่ต่างกับไอ้หยีตอนนี้ก็ได้ล่ะมั้ง



“มีคนเอามาง้อพี่อ่ะ” ไอ้เสือที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วหันหน้าไปยักคิ้วให้ไอ้เก้อ ... หื้ม ยังไงนะ?



“มึงง้อกูหรอคะอิผัว”



“เปล่าสักหน่อย ก็แค่คิดว่ามึงคงชอบแหล่ะ” ไอ้เก้อที่ว่าออกมาแบบนั้น มันที่ยังคงทำท่าทางแข็งๆเหมือนไม้แบบที่ถ้าเด็กเห็นต้องวิ่งร้องไห้ไปฟ้องแม่เพราะกลัวไอ้เก้อจะแย่งลูกอม เป็นผู้ชายห่ามๆที่ไม่น่าจะรู้จักอิพาเรทแต่งตาอะไรนี่ได้



“จริงๆกูก็ไม่ได้ถือโทษโกรธอะไรมึงนะคะ แต่ของที่มึงเอามาง้อ กูจะรับไว้งั้นๆล่ะกันนะ”



“หรอ ถ้าไม่โกรธงั้นกูเอาคืน”



“กรี๊ดดดดดด อิสัด ให้แล้วให้เลยค่ะ!” ว่าแบบนั้นพร้อมยื่นมือไปตะคลุบไว้แล้วเอามากอดไว้แนบอก ไม่ค่อยหวงเท่าไหร่จริงๆ



“สามพันจุกๆเลยนะพี่หยี”



“อิผัวคือทุ่มสุด ว่าแต่มึงรู้จักอะไรแบบนี้ได้ไงอิเก้อ”



“กูไม่รู้ ถามไอ้เด็กเหี้ยนี่ไง หญิงแม่งเยอะ มันรู้ดี” ไอ้เก้อที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วยื่นมือไปผลักหัวไอ้เสืออีกที แรงผลักไม่ได้เบาลงจากเดิม แต่ทำไมมองจากมุมนี้ ไอ้เก้อดูยิ้มอบอุ่นพิกล



“ว่าแต่พวกมึงไปทะเลาะกันตอนไหนวะ ทำไมกูไม่รู้”  ในที่สุดกูก็มีบทพูด ถามมันออกไปแบบนั้น ไอ้หยี ไอ้เก้อ ไอ้เสือที่ก็หันมามองผมกันตาเดียว และก็เป็นไอ้หยีกับไอ้เก้อที่ตะโกนออกมาพร้อมๆกันแบบไม่มีพิรุธ



“บ๊า! โกรธกันตอนไหน”



“โกรธกันตอนนู้น หายแล้ววันนี้!”



ตอบได้ดี ... คำตอบเดียวกันเป๊ะ ... แล้วแต่พวกมึงเลยจ้า ไอ้พวกเพื่อนตัวดีของกู



.

.

.



 ‘วี๊ดวิ้ว ฮู้ว ฮู’



ผมที่เดินผิวปากลัลลาออกมาจากลิฟท์ในช่วงเวลาประมาณ5โมงเย็น วันนี้กลับมาจากมหาลัยไวกว่าปกติ ตั้งใจมาเซอร์ไพรส์เจ๊มันเลยนะเนี่ย ปกติจะถึงบ้านประมาณ6โมง คิดว่าวันนี้เจ๊มันคงยังไม่ได้ทำอะไรไว้ให้กินแน่ๆ เพราะงั้นวันนี้เลยซื้อข้าวขาหมูที่โรงอาหารกลับมาด้วย เจ้านี้นะอร่อยที่สุด อยากให้เจ๊พี่มันได้ลิ้มลอง ลองแล้วจะติดใจ หนังฟินๆที่กินคู่กับผักกาดดองแล้วก็ผักคะน้า ฟินจนต้องร้องขอชีวิตเลยล่ะครับ



‘ติ๊ด’



ผมที่แทบบัตรเข้ากับประตูห้อง ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปในห้อง กลิ่นหอมๆของเนื้อย่างที่ตัดคู่กับเนยทำให้ผมต้องทำจมูกฟุดฟิด



“หื้ม สุดแสนใจหอม ... เจ๊ทำอะไรไว้รอไอ้เอมวะ น่ารักจังเลย” พูดกับตัวเองเบาๆก่อนจะวิ่งเข้าไปในห้องครัวตามกลิ่นอาหารไป



“เจ๊! ไอแอมกลับมาแล้ว เจ๊ทำอะ....!!”



ผมที่ยิ้มกว้าง ก่อนจะยิ้มค้างอยู่ตรงหน้าประตูห้องครัวในตอนนี้ แผ่นหลังกว้างๆที่หันหน้าเข้ากับเตาแก๊สแบบที่ผมเคยเห็นบ่อยๆ แต่วันนี้มันกลับไม่ปกติตรงที่มีแผ่นหลังบางๆที่อยู่ในเสื้อกันเปื้อนสีชมพูที่ยืนเกาะหลังกอดเจ๊พี่มันอยู่ในตอนนี้ และในตอนที่ผมเรียกแบบนั้นออกมา คนทั้งสองคนก็หันหน้ามามองผมในทันที ต่างกันตรงที่อิเจ๊พี่มันที่ทำหน้าเหวอๆ และพาพวยที่ก็ทำแค่ส่งยิ้มมาให้ผมแบบหวานเจี๊ยบ



“อ้าว น้องเอม กลับมาแล้วหรอ ดานี่กำลังทำเนื้อผัดเนยให้พี่พอดี มากินด้วยกันสิ”



“เอม”



มึง...!!



เดี๋ยวมึงเจอกูทั้งคู่เลยสาดดดดดดดด



::::::::::::::::::-- to be continued --:::::::::::::::::::::::::



กรี๊ดดดด เดี๋ยวมึงเจอน้องเอมแน่!

ตอนนี้คือพูดถึงน้องกุ๊ก ถ้าใครจำน้องได้ ต้องนึกถึงพี่ดาบในเรื่องนั้นนะคะ

พี่ดาบเค้าไม่เคยเปลี่ยนเลย ถ้าเค้าชอบเค้าลุยตลอด

แล้วครั้งนี้ทุกคนว่าไง พี่เค้าจะยังไง

แต่ที่แน่ๆ...ต้องเจอชะเอม!

ฝากแฮชแทค #สวยๆเป็นผัว ในทวิตเตอร์ด้วยจ้า




ปล.ขอขอบคุณคนอ่านจากเล้าเป็ดที่อยู่ด้วยกันมาเช่นเดิมจ้า





o13 ตอนนี้อีเจ๊น่าร้ากกกกกก ทำดีมั่กๆ
ฝากเจ๊กับน้องเอมด้วยนะคะ อิอิ


น้องเอมสู้เค้าลูก ไหนๆ อิเจ้ดานี่องพี่ดาบก็สารภาพมาแล้วว่าจีบหนูแล้ว แสดงตัวเลยลูก ให้พาพวยอยู่ไม่ได้ รีบกลับเมืองนอกไปอย่างไวเลย  :katai2-1:
น่านสิๆๆ แต่พาพวยจะกลับไหมยังไงเอ่ย อิอิ


ตบมือรัวๆให้เอมจ้า
  ฝากรักน้องเอมด้วยนะคะ อิอิ


ปรบมือสิค่ะรออะไร  หนูแอมแซ่บเน้ออออ :katai2-1: :katai2-1:
แบบนี้สิค่อยรักอิ๊เจ๊ขึ้นหน่อย

(สิ่งที่รักอีกอย่างคือ ชอบที่คนเขียนจะตอบกระทู้อยู่ตลอดเลย น่ารักมากจ้าาา เป็นกำลังใจให้น่าา)  :กอด1:
แคทมาอัพตอนใหม่แล้วน้าาา ตอนนี้จะรักเจ๊หรือจะตบพระพายยังไงบอกแคทหน่อยน้า อิอิ
(แคทดีใจที่ชอบที่แคทตอบกระทู้นะคะ จริงๆอยากตอบบ่อยๆเลยแต่กลัวคนอ่านรำคาญ ถ้าชอบแคทก็ดีใจมากๆเลยค่ะ)


  :angry2: ฟาดมันกลับไปเลยลูก สวย สวย  :katai3: :katai3:
  ทีมแม่น้องเอมใช่ไหมคะ ดูออกน้า


แซ่บๆจ้า หน้าแหกไปเลยยัยหนูน้อย แอ๊บเก่งนัก
หน้าแหกแต่ยัง ยังไม่หยุด หูยยยย


น้องเอมมมมมันต้องอย่างงี้สิคะแซ่บๆไปเลยยยยตอกหน้าพาพวยไปเลยทำเป็นใสนะคะ เริ่ดไม่หยุดดดด  :katai2-1:
น้องต้องแซ่บๆเลยนะคะ เด็กเจ๊ดานี่มันจะไปเบากว่าเจ๊ได้งายยย หูยยย



เด็กกำลังโตก็แบบนี้แหละ ต้องมีคิดแบบนู้น มโนแบบนี้บ้าง
แถมคุณพี่ยังไปทำตัวอึ้งๆ เงียบๆ แบบนั้น น้องจะเข้าใจผิดก็ไม่แปลกร้อกกก
(เข้าข้างน้องเอมเอมสุดฤทธิ์ ลูกอิชั้นใครแตะไม่ด้ายยย)
และคนอ้อมค้อมแบบพาพวยก็ต้องเจอพูดตรงๆแบบนี้แหละ หน้าม้านไปเลยล่ะสิ อิอิ

นี่ขนาดยังไม่เป็นแฟนกัน ยังหึงไม่ได้ น้องเอมก็ออกอาการขนาดนี้แล้ว
ถ้าตกลงคบกันน้องจะขนาดไหนน้อ
ทีมแม่น้องเอมใช่ไหมคะ ดูออกเลยเนี่ย ลูกข้าใครอย่าแตะ (แต่พี่ดาบแตะได้ชิมิ อิอ๊ะ)
ส่วนพาพวยน้านนน  ต้องรอดูกันนะ อิอ๊ะ ฟาดไหม ฟาดเลยจ้าา
ขอบคุณคอมเม้นท์น่ารักๆ ยาวๆให้แคทได้อ่านในทุกๆตอน แคทรักและขอบคุณมากๆจริงๆค่ะ
ดีใจทุกครั้งที่ได้อ่าน และเห็นว่ายังอยู่ด้วยกันน้าา


หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่20 {29/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 29-02-2020 22:30:20
 :z6: :z6: :z6: อิเจ๊ต้องโดนแบบนี้
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่20 {29/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 29-02-2020 23:03:45
อ้าวๆๆๆ เจ้ดานี่ไหงพาพาพวยมาทำกับข้าวที่บ้านกันสองคนอีกอ่ะ ก็รู้อยู่ว่าน้องเอมไม่ชอบ   :angry2:

น้องเอมอย่าแพ้นะลูก ลุยเลย ป้าเอาใจช่วย.  :L2:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่20 {29/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Chucream.nabi ที่ 01-03-2020 01:38:52
 :katai1: :katai1: :katai1: อิเจ้...พานังพาพวย มาทำห่าไร
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่20 {29/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 01-03-2020 16:21:25
พายไม่ได้ใสๆไร้สมองอย่างที่คิด!
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่20 {29/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 01-03-2020 18:18:15
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่20 {29/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: LifePo-YuGu ที่ 02-03-2020 10:20:19
อิ๊เจ๊โว๊ยยยยยยยย
ถ้าทำตัวไม่ชัดเจนแบบนี้อยู่อีก จะพาน้องเอมหนีไปแล้วนะ !!!!!  :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่20 {29/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: KizzllKizz ที่ 02-03-2020 10:50:15
ยัยเจ๊ดานี่เดี๋ยวจะโดนด้วย น้องฟาดเลยลูกกก
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่20 {29/02/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 06-03-2020 22:54:14
ไม่นะเจ๊ เราเหนื่อยจะบ่นเจ๊แล้วแหละ อยากทำร้ายจิตใจน้องแค่ไหนก็เชิญเลย
ถึงสุดท้ายน้องจะเข้าใจแต่ก็ไม่ควรจะทำให้เสียใจก่อนนะ
ขอให้น้องเอมลดขั้นสถานะ เอาให้ทาปากแดงไม่เป็นรูปกระจับสวยๆไปเลย
ขาหมงขาหมูก็ไม่ต้องแล้ว เอาหน้าแข้งน้องเอมไปกินแทนดีกว่า

แล้วเราขอตั้งชื่อตอนนี้ว่า ‘พาพวยยังตามติด’
ฮ่วยยยยยย
จะตามเขาไปถึงไหนนะคนเรา
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่21 {07/03/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 07-03-2020 21:16:47
บทที่21



“เอม...”



คนร่างสูงที่หันมามองหน้าผมอย่างตกใจ ตอนนี้มันอยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนสีฟ้าน่ารักกุ๊กกิ๊กเข้าคู่กับคนที่ยืนซ้อนหลังมันอยู่ตอนนี้ที่ก็ใส่สีชมพู มองเห็นมือเรียวของพระพายยังคงวางลงบนเอวมันอยู่เลยในตอนนี้ ผมที่มือข้างนึงหิ้วถุงขาหมูไว้ในมือ ยืนมองนิ่งๆ อยู่ตรงนี้แบบทำอะไรไม่ถูก และในวินาทีต่อมาก็เป็นอิเจ๊พี่อันเองที่ขยับตัวก่อน มันที่ผลักตัวเพื่อนที่แสนดีแสนนารักของมันออก ดันให้ขยับตัวออกห่าง มันที่ไม่วางแม้กระทั่งตะหลิวก้าวขายาวๆ ตรงมาหาผม



“เอม” พี่มันที่เรียกผมอีกครั้ง ได้แต่ยืนจ้องตาอิเจ๊พี่มันนิ่งๆ วันนี้มันยังคงแต่งหน้าและทาปากจัดเต็มเหมือนเดิม



“ทำอะไรกันอยู่วะ” นานหลายนาทีกว่าผมจะค้นหาเสียงตัวเองเจอ และถามออกไปแบบนั้น



“ดานี่กำลังทำเนื้อผัดเนยให้พี่จ้า” เสียงของคนที่พึ่งโดนอิเจ๊พี่มันผลักออกไปยืนอยู่ข้างๆ เตาดังขึ้นมา ผมที่ปรายตาไปมองนิดหน่อย ก่อนจะหันกลับมามองหน้าคนที่ถือตะหลิวอยู่ตรงหน้าผม



มึงถือมาฟาดหัวกูหรอ! ทำไมไม่วางลงในกระทะ!!



“ทำไมวันนี้กลับไว เหนื่อยไหมคะ”



“ทำไม เจ๊อยากให้ผมกลับช้าหรอ” ถามออกไปแบบนั้น รู้สึกว่าตัวเองครุกรุ่นแปลกๆ อารมณ์เหมือนอยากจะระเบิดอารมณ์โดนการปาขาหมูใส่หน้าอิเจ๊พี่มัน



“เปล่าสักนิด ดีใจที่มึงกลับมาสักที” มันที่พูดแบบนั้นแล้วถอนหายใจออกมาหน่อยๆ



“หมายความว่าไง...”



“ดานี่ เนื้อจะไหม้แล้วนะ”



“อืมๆ พายดูไปก่อนเลย มันยังไม่ไหม้หรอก” อิเจ๊พี่มันที่ว่าออกไปแบบนั้น ก่อนที่เจ้าตัวจะเอื้อมมือลงมาคว้าถุงที่มือผม แอบปรายตาไปมองพระพายที่มองมาทางเราแบบไม่สบอารมณ์แบบสุดๆ และแน่นอนว่าอิเจ๊พี่มันไม่เห็นหรอก มีแต่กูเนี่ยที่เห็น



“ซื้ออะไรมาคะ” ถามออกมาแบบนั้นทั้งรอยยิ้ม



“ขาหมู เจ้านี้อร่อยมาก แต่คงเป็นหมันอ่ะ ว่าจะซื้อมากินกับพี่ แต่พี่คงมีอย่างอื่นกินแล้ว”



“ซื้อมาเผื่อกูด้วยหรอคะ” ถามออกมาแบบนั้นพร้อมรอยยิ้มของมันที่มองตรงมาที่ผม ... สุดจะเกลียด มึงอย่ามายิ้มนะ



“หื้ม ขาหมูหรอ ดานี่ไม่ชอบกินนี่ ดานี่กลัวอ้วนนะน้องเอม” เสียงที่แทรกขึ้นมาแบบไม่มีใครร้องขอเป็นครั้งที่สอง ก็ไม่รู้ว่าทำไมกูถึงรำคาญใจกับเสียงนี้จังวะ



“เจ๊มันอ้วนอยู่แล้วครับ ยังจะกลัวอะไรอีก”



“กรี๊ดดดด อิหนู พูดมาได้ กูบอบบางมากนะ มึงดูใหม่ค่ะ” อิเจ๊พี่มันที่แหกปากใส่กันพร้อมยกมือทาบอกใส่ผม หน้าซีดปากสั่นแบบรับไม่ได้กับคำพูดของผม



“อ้วนก็คืออ้วนเจ๊ ยอมรับความจริงก่อน”



“อิหนู! กูจะกริ้วแล้วนะคะ กูสวยมากนะ”



“มึงมากริ้วไรกู กูนี่ต้องกริ้วมึงเจ๊!” ตะคอกเสียงใส่มันอีกที ก่อนจะดึงแขนตัวเองออกจากมือมัน จับทำห่าไร มึงไปกอดกันนู่น ควาย



“อุ๊ยๆ หนู...เดี๋ยวก่อน จะไปไหนคะ” พี่มันที่ว่าแบบนั้นแล้วพยายามคว้าแขนของผมเอาไว้ แต่มึงไม่ทันกูหรอก ผมที่แค่หันหลังเดินหนีออกมาจากในครัวมาแล้วในตอนนี้ หนีเข้าห้องแม่ง



โยนกระเป๋าไปกองไว้ที่มุมนึงของห้องก่อนจะทรุดตัวลงนั่งที่เตียงนอนอย่างหงุดหงิด เป็นความรู้สึกที่หงุดหงิดแบบบอกไม่ถูก ... ภาพก่อนหน้านี้ยังติดตาผม ภาพที่พาพวยกอดหลังอิเจ๊อยู่ตอนที่ผมกลับเข้ามา



“หนูคะ”



เสียงของคนมาใหม่ที่ดังขึ้นมาจากหน้าประตู มาพร้อมๆ กับหน้าหล่อๆ ที่โผล่หัวเข้ามา เห็นหน้ามันแล้วก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ ยิ่งพอมันเดินเข้ามาใกล้กันแล้วยิ่งรู้สึกหงุดหงิด เพราะแบบนั้นเลยเลือกที่จะเสหน้าหนีไปอีกทาง ทอดสายตามองออกนอกหน้าต่างกระจกบานเลื่อนไปเลยดีกว่า แรงยวบลงของที่นอนทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายนั่งลงที่ข้างๆ กัน



“มองหน้ากูหน่อยเอม”



“เข้ามาทำไมวะเจ๊ ไปดูแลแขกคนสำคัญเจ๊ดิ”



“มันไม่ใช่แบบที่มึงคิดนะ หันมาคุยกันดีๆ” อีกคนที่บอกออกมาแบบนั้น เป็นน้ำเสียงนิ่งๆ แบบที่อีกฝ่ายชอบทำ ฝ่ามืออุ่นที่จับเข้าที่ปลายคางของผมแล้วดันหน้าผมให้กลับไปมองกัน



“แบบไหน เจ๊รู้หรอวะว่าผมคิดอะไรอยู่”



“สีหน้ามึงไม่ได้เก็บอาการสักนิดเอม”



“ก็หน้าผมไหมวะ อย่ามายุ่ง อย่ามาจับได้ไหมวะ” บอกแบบนั้นแล้วเบี่ยงหน้าหลบ แต่คนตรงหน้ากลับล็อคหน้าของผมไว้แบบไม่ยอมปล่อย



“พายมาหากูที่บ้าน”



“เห็นอยู่ ตาไม่ได้บอดไหมวะ” เหมือนว่าพอยิ่งพูดออกมาแบบนั้นก็จะยิ่งจุดชนวนระเบิดในตัวผมมากขึ้นกว่าเดิม จ้องมองคนตรงหน้าตาเขม็ง แต่อีกฝ่ายกลับส่งยิ้มให้กัน ท่าทางสายตาของมันที่เหมือนมองดูลูกหมาลูกแมวที่มันเอ็นดู



“เอม มึงหึงหรอคะ”



“ไม่ได้เป็นอะไรกัน ไม่มีสิทธิ์หึงไหมวะ” บอกมันแบบนั้น อีกคนก็ส่งยิ้มให้กันพร้อมพยักหน้าให้



“ใช่ ไม่มีสิทธิ์หึง”



“แต่เจ๊...”



“ว่าไงคะหนู” ก้มหน้าลงมาใกล้กันมากขึ้น พร้อมๆ กับฝ่ามืออุ่นที่แนบลงที่ข้างแก้มของผม นิ้วหัวแม่มือของพี่มันที่ลูบไล้แผ่วๆ ไปตามข้างแก้มกันแบบนั้นตอนที่ผมก็ช้อนตามอง



“ก็เจ๊มึงบอกว่าจะจีบผมไม่ใช่หรอวะ แล้วทำไมถึงปล่อยเค้ามากอดเจ๊แบบนั้นวะ ถ้าผมยังไม่กลับมา ก็จะกอดกันไปถึงไหนวะ”



“พูดอะไรของมึงคะ กอดไปถึงไหนอะไรของมึง อีกอย่างเค้ามากอดกูเอง กูว่าจริงๆ เค้าคงไม่ได้อยากกอดหรอก เค้าน่าจะชะเง้อมองเนื้อในกระทะมากกว่านะกูว่า” ผมที่เบ้ปากออกมาทันทีในตอนที่ได้ยินแบบนั้น



“มึงสมยอม มึงแก้ตัวแทนกัน”



“กูไม่ได้สมยอมค่ะ ก่อนมึงมาพายก็ไม่ได้มาวอแวกูขนาดนั้นนะ จริงๆ กูก็งงหน่อยๆ แล้วก็ไม่ได้แก้ตัวแทนพายด้วย”



“มึงยืนนิ่งให้เค้ากอดเลย กูเห็น”



“กูตกใจไง”



“เนี่ย มึงชอบอ่ะ”



“กูตกใจมึงค่ะ เข้ามาได้จังหวะขนาดนั้น ... อย่ามาทำหน้าเหมือนอยากด่าแม่กู กูไม่ได้หมายถึงมึงเข้ามาขัดจังหวะ แต่กูตกใจว่ามึงเข้ามาเห็นตอนเค้ากอดเอวกูพอดี กลัวมึงจะคิดมาก ... และดูท่าทางจะคิดมากจริงๆ สินะควายน้อย”



“ก็เค้ากอดมึงอ่ะเจ๊”



“แต่กูไม่ได้รู้สึกอะไรไง”



“ไม่รู้สึกแล้วมึงปล่อยเค้าเข้ามาทำเหี้ยไรอ่ะ”



“เอม” อีกคนที่กดเสียงเรียกกันนิ่งๆ ในตอนนี้ ... เออ ผมรู้ตัวว่าผมกำลังงี่เง่า จริงๆ เจ๊มันมีสิทธิ์จะให้ใครเข้าใครออกห้องมันเมื่อไหร่ก็ได้ ผมไม่มีสิทธิ์จะทำท่าไม่พอใจอะไรแบบนี้ด้วยซ้ำ และที่สำคัญ เจ๊มันไม่จำเป็นต้องสนใจด้วยซ้ำ



“พายเป็นเพื่อนกู”



“แต่มึงไม่ได้คิดว่าเค้าเป็นเพื่อน”



“กูเคยบอกว่ายังไง ตอนนี้กูรู้สึกแค่กับมึงคนเดียวเอม...แต่พายเป็นเพื่อนกู แล้วเค้าก็มาหากูปกติ เค้ามาถึงหน้าห้องกู แล้วมึงจะให้กูปิดประตูไล่หรอ ถ้าเป็นเพื่อนมึงมึงจะทำแบบนั้นหรือเปล่า พูดกันด้วยเหตุผลนะเอม กูเข้าใจที่มึงไม่พอใจ แต่กูอยากให้มึงเข้าใจว่าเพราะอะไรเค้าถึงมาอยู่ตรงนี้ และเรื่องที่เค้ากอดกู กูไม่รู้จะทำยังไงให้มึงเชื่อว่ากูไม่ได้อยากให้เค้ามากอด ห้องเรามันไม่มีกล้องวงจรปิด แต่ที่กูจะทำได้ก็มีแค่นี้ ... แค่ยืนยันกับมึงว่ากูไม่ได้รู้สึกอะไรกับพายแล้ว ก็แค่เพื่อนคนนึง ... แต่กับมึงมันไม่ใช่”



คนตรงหน้าที่พูดหลายประโยคออกมาในทีเดียว เป็นคำพูดยาวๆ ที่ทำเอาผมพูดไม่ออก ทำได้แค่นั่งนิ่งไม่ไหวติงจ้องตาอีกฝ่ายอยู่แบบนั้น สายตานิ่งๆ ของเจ๊พี่มันที่ไม่ได้หลบสายตากัน มันที่ก็แค่พูดออกมาด้วยเสียงธรรมดาแบบไม่ใส่อารมณ์ แต่ก็แค่พูดออกมาแบบมีเหตุผลให้ผมเข้าใจ ... และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่พออยู่ต่อหน้าพี่มัน ผมก็เหมือนจะกลายเป็นเด็กตัวเล็กๆ ที่ยังไม่โต ที่ยังมีความงี่เง่าและเอาแต่ใจทุกที ก็ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ผมกลายเป็นคนแบบนี้



“เข้าใจกูไหม”



“ผมขอโทษ”



“ไม่ต้องขอโทษเลย จริงๆ ควรเป็นกูที่ขอโทษที่ทำให้มึงต้องมาคิดมาก ขอโทษนะ ที่กูจัดการเรื่องนี้ได้ไม่ดี” ว่าแบบนั้นแล้วลูบแก้มกันเบาๆ ก่อนจะเลื่อนหน้ามาจุ๊บเบาๆ ลงที่ริมฝีปากผม



‘แอ๊ดดด’



เสียงประตูห้องนอนที่ถูกเปิดออกมาแบบไม่ได้มีใครเชื้อเชิญ ร่างบางๆ พร้อมใบหน้าน่ารักที่ในมือก็ถือจานเนื้อผัดเนยอะไรนั่นเข้ามาด้วย กลิ่นหอมๆ ที่มาพร้อมเสียงใสๆ ดังขึ้นมาในตอนนี้



“ดานี่ ทำอะไรทำไมนาน.... อ๊ะ!”



อิเจ๊พี่มันที่ชะงักตัวไปพร้อมๆ กับผมที่ก็ปรายตาไปมองที่หน้าประตูก็เห็นอีกคนยืนอ้าปากค้างอยู่ตรงนั้น เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่ทุกฝ่ายต่างทำอะไรไม่ถูก และในตอนที่อิเจ๊พี่มันกำลังจะผละริมฝีปากของผม ในตอนนั้นก็เป็นผมเองที่เอื้อมมือไปจับแก้มอีกฝ่ายเอาไว้ ก่อนจะแทรกลิ้นของตัวเองเข้าไปในโพรงปากของพี่มันแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน เป็นความรู้สึกเงอะๆ งะๆ ที่ผมรู้ตัวว่าไม่เก่งเอาซะเลย แต่ก็พยายามขบเม้มดูดเม้มเบาๆ ลงบนริมฝีปากของคนตรงหน้า ก่อนจะเลื่อนฝ่ามือตัวเองไปที่ด้านหลังศรีษะของพี่มันเบาๆ ลูบไล้ผมสีน้ำตาลเหลือบทองที่เจ้าตัวพึ่งไปทำมาใหม่อย่างเบามือ คนตรงหน้าที่ดูเหมือนจะตกใจกับการกระทำของผม พี่มันที่ขืนตัวเอาไว้นิดหน่อย แต่ในไม่กี่นาทีต่อมา ผมกลับรู้สึกว่าตัวเองที่ก่อนหน้านี้เป็นฝ่ายจู่โจมบดจูบเข้าใส่ ตอนนี้กลับกลายเป็นผู้รับ ริมฝีปากหยักของอีกฝ่ายที่กดจูบเข้ามาแบบเล่าร้อน ขบเม้มที่ปลายลิ้นของผมพร้อมเกี่ยวกระหวัดไล่ต้อนกันแบบร้อนแรงนั่นทำเอาหัวใจผมเต้นระรัว วงแขนแข็งแกร่งของคนตรงหน้าที่ก็ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ตอนนี้เลื่อนมาโอบอยู่ที่เอวของผมและเกี่ยวตัวผมให้ขยับเข้าไปแนบชิดกับอีกฝ่ายมากกว่าเดิม



“อึก อื้อ”



‘ปัง’



เสียงครางแผ่วๆ ในลำคอของผม ที่ดังขึ้นมาพร้อมๆ กับเสียงปิดประตูห้องนอนของเรา และในตอนนั้นก็เป็นผมที่เผลอกดรอยยิ้มออกมาทั้งๆ ที่เรายังจูบกันแบบดูดดื่ม เสียงแลกน้ำลายยังคงดังต่อไปอีกสักระยะ ก่อนที่คนตรงหน้าจะเป็นฝ่ายผละหน้าออกมาก่อน สายตาคมที่ช้อนตามองหน้าผมพร้อมยกยิ้มมุมปาก ผมที่ก้มหน้ามองสายตาคมแบบนั้นแล้วรู้สึกว่าร้อนหน้าแปลกๆ ...



แต่เดี๋ยวนะ



ก้มหน้าลงมองสภาพที่เป็นอยู่ตอนนี้



เหยดแหม่!! กูปีนขึ้นมานั่งคล่อมตักอิเจ๊พี่มันตั้งแต่ตอนไหน ก่อนหน้านี้นั่งอยู่ข้างๆ นี่หว่า ... ช่วยด้วยจ้า เจ็บไข่เลย!! ไข่สีกันจ้าแม่



“ร้ายนักนะตัวแค่นี้” คนตรงหน้าที่เอนตัวไปข้างหลังนิดหน่อยแล้วใช้มือซ้ายยันตัวไว้กับเตียง ส่วนมือขวาก็จับเอวกันไว้ไม่ปล่อย ช้อนตาคมจ้องตากันอยู่แบบนั้น ... สายตาของพี่มันที่กำลังบอกว่ารู้ทันเรื่องที่ผมจู่โจมจูบมันเมื่อกี้



“ร้ายอะไรของมึงอ่ะเจ๊ พูดไรไม่เห็นเข้าใจเลย แล้วปล่อยเลยจะลงแล้วเว้ย”



“ลงทำไมอ่ะคะ กำลังรู้สึกดีเลย ท่านี้ดีจังวะ ตอนนี้ก็รู้สึกจะเสียวแปลกๆ อ่ะค่ะ”



“หน้ามึนว่ะเจ๊ ตุ๊ดปลอม ลามก!”



“แหม่ เป็นมึงเองไม่ใช่หรอคะที่หวงกูมากจนปีนขึ้นขี่กูแบบนี้อ่ะ คราวหลังขย่มโชว์เลยสิ รับรองว่าพายไม่มายุ่งอีกหรอก”



“นี่กูเริ่มสงสัยแล้วนะเจ๊” หรี่ตามองคนตรงหน้าที่ก็มองมาแบบงงๆ ตอนที่ผมพูดออกไปแบบนั้น



“สงสัยเรื่อง?”



“นี่มึงเอาพาพวยมาให้กูหึงป่ะเนี่ย ดูอะไรหลายๆ อย่างจะเข้าทางมึงจัง”



“คิดได้นะมึงเนี่ย” อีกคนที่ยิ้มออกมาพร้อมส่ายหัว ท่าทางที่ทำท่าระอากันแบบนั้น อดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นต่อยอกแม่งทีนึง หมั่นไส้



“สวยเจ็บนะคะ ทำไมต้องทำร้ายคนสวย”



“เจ๊...มึงไม่สวย สตินะ กล้ามก็ใหญ่ไหล่ก็หนา ใหญ่เทอะทะไปหมด เอาไรมาสวย”



“เดี๋ยวมึงจะโดนของใหญ่อุดปาก โกรธมากว่ากูไม่สวย”



“โวะ ไม่อยู่ด้วยแล้วดีกว่า หิวข้าวแล้วอ่ะ” รีบบอกพี่มันออกไปแบบนั้นตอนที่อีกคนก็กดตัวของผมให้สะโพกแนบลงไปที่ส่วนกลางของอีกฝ่ายแบบจงใจ ไอ้เอมคือผวาไข่เลยนะ รีบเด้งตัวขึ้นจากตัวมันทันทีเลยนะ



“หิวได้แล้วหรอคะ ทีก่อนหน้านี้หน้าหงิกหน้าง้อ ลำบากต้องให้กูตามมาง้อมาอธิบาย”



“ใครให้เจ๊มาง้อล่ะเอ้อ ผมเปล่าเป็นไรสักหน่อย เจ๊มาง้อของเจ๊เองน้า”



“เออสิคะ กูสาระแนเอง ... ก็มึงเสือกสำคัญทำเหี้ยไรล่ะ ลำบากเลยกูเนี่ย” ว่าออกมาแบบนั้นแล้วส่ายหัว ก่อนที่เจ้าตัวจะลุกขึ้นจากที่นอนแล้วเดินเข้ามาหาผม



“ไปค่ะ แดกข้าวเย็น ได้เวลามึงแล้วนี่”



“เย้ๆ โกโก!”



.

.

.


(มีต่อจ้า)

หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่21 {07/03/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 07-03-2020 21:17:16


ผมกับไอ้เอมที่เดินออกมาจากในห้องหลังจากที่เหมือนว่าจะเข้าไปอยู่ในห้องนานพอสมควรจนต้องให้พายเข้ามาตาม และพายก็ดันเห็นฉากสำคัญเข้าให้ ... ก็ไม่ได้คิดว่าไอ้เด็กดื้อข้างตัวมันจะกล้าทำอะไรแบบนั้น พึ่งรู้เหมือนกันว่ามันเป็นเด็กขี้หวง หันไปมองหน้าคนข้างตัวที่เดินผิวปากหวือเข้าไปในห้องครัว มันที่เดินผ่านพายไปพร้อมรอยยิ้มร่าเริง ... น่าหมั่นไส้ครับ แต่ผมเข้าใจ



“พาย ขอโทษทีนะที่ให้รอ” ผมเดินตรงเข้าไปหาพายที่นั่งอยู่ที่โซฟาตรงห้องรับแขก พายที่เงยหน้าขึ้นมามองผม และในตอนนั้นสายตากลมที่ผมคุ้นเคยดีก็ทำเอาผมชะงักไป



“พาย” ดวงตากลมโตที่ตอนนี้ดูเป็นประกายวาบวับ แต่นั่นไม่ได้เกินมาจากความดีใจ แต่เป็นประกายที่เกิดมาจากประกายน้ำตา พระพายที่กำลังกลั้นน้ำตาเอาไว้ช้อนตามองหน้าผมพร้อมรอยยิ้มบางๆ



“ไม่เป็นไร เรารอได้” พายที่ว่าออกมาแบบนั้น ก่อนจะหันหน้าหนี มองจากตรงนี้ก็เห็นว่าเจ้าตัวยกมืออีกข้างขึ้นมาเช็ดน้ำตาตัวเองในตอนนี้ ... หัวใจของผมถูกบีบในตอนที่เห็นท่าทางแบบนั้น



“พาย...”



“ไปกินข้าวกันเถอะ น้องเอมน่าจะเริ่มหิวแล้ว” พายบอกแบบนั้นแล้วลุกขึ้นยืนพร้อมรอยยิ้มฝืนๆ เป็นผมที่ต้องเอื้อมมือไปคว้าข้อมือบางนั่นเอาไว้ซะก่อน



“พระพาย”



“พายไม่เป็นไรนะดานี่ เชื่อกันซี่ แค่ฝุ่นน่ะ ช่วงนี้PM2.5มันแรงนะ” บอกแบบนั้นแบบติดตลกแต่ผมกลับไม่ขำ จ้องหน้านิ่งๆ ในตอนนั้น ... นานมากแล้วที่เห็นพายร้องไห้ ครั้งสุดท้ายอาจเป็นตอนที่ผมไปช่วยพายจากไอ้รุ่นพี่ปี3ที่กำลังจะทำมิดีมิร้ายพายล่ะมั้ง และตั้งแต่ตอนนั้น ผมเองก็สัญญากับตัวเองว่าจะไม่ทำให้ดวงตาคู่นี้ต้องมีน้ำตาอีก ...



พายในสายตาของผมเป็นเด็กผู้ชายรูปร่างผอมที่หน้าตาน่ารักแต่กลับพบเจอแต่เรื่องราวร้ายๆ และเพราะแบบนั้น มันก็เลยยิ่งทำให้ผมอยากปกป้อง ... ถึงแม้ว่าตอนนี้ผมจะตัดใจจากพาย แต่ความเป็นเพื่อนของเรา ผมก็ยังมีให้อยู่ ... และพายที่ต้องร้องไห้ น้ำตาที่เกิดขึ้นเพราะผม ก็เป็นสิ่งสุดท้ายที่ผมอยากจะให้เกิดขึ้นกับความสัมพันธ์ของเรา



“ทำไรกันอยู่” เสียงที่ดังมาจากโต๊ะกินข้าวเป็นเสียงของไอ้เอม มันที่ยืนถือโถข้าวอยู่ตรงนั้นแล้วมองจ้องมาเขม็ง มันที่กำลังจ้องผม ผมที่กำลังคว้ามือของพายมาจับไว้แบบไม่ปล่อยในตอนนี้



“อ่า ไปกันเถอะดานี่” พายที่บอกแบบนั้นแล้วพยายามดึงมือออกจากมือผม และสุดท้ายก็ทำสำเร็จ ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินเข้าไปหาเอมที่โต๊ะกินข้าว ผมที่ได้แต่ถอนหายใจออกมาหนักๆ ในตอนนี้ก่อนจะเดินตามไป



บรรยากาศบนโต๊ะอาหารของเราสามคนเป็นอะไรที่ค่อนข้างหน้าอึดอัดแบบบอกไม่ถูก จริงๆ ก่อนหน้านี้เอมมันเหมือนจะอารมณ์ดีขึ้นแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรในตอนนี้มันถึงเงียบเสียงลง



“มาๆ กินๆ ค่ะทุกคน ฝีมือดานี่อร่อยมากนะคะรู้ยัง” และเป็นผมที่ต้องเป็นฝ่ายพูดออกมาอย่างร่าเริงเพื่อกระตุ้นบรรยากาศ อย่างน้อยก็ควรมีอากาศให้ได้หายใจหายคอบ้าง ผมที่นั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะ ไอ้เอมนั่งอยู่ฝั่งซ้ายหันหลังให้ห้องครัว และพายนั่งอยู่ฝั่งขวา ทั้งคู่ที่เอาแต่นั่งจ้องตากันอยู่แบบนั้น ก่อนจะเป็นพายที่เสสายตาเศร้าๆ หลบ ก่อนจะยิ้มบางๆ ออกมาแล้วพูดตอบ



“อร่อยซี่ อาหารดานี่ไม่เคยไม่อร่อยนี่นา”



“ใช่ค่ะ เพราะคนทำสวยมากไงคะ”



“เจ๊ กูบอกแล้วว่ามึงไม่สวยไง”



“เอ๊ะหนู จะเอาใช่ไหมคะ”



“ก็เหมือนว่าเจ๊เคยได้ไปแล้วนะ” ไอ้เอมที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วยักไหล่ด้วยท่าทางที่ไม่สนใจอะไร ผมที่กำลังยกน้ำขึ้นดื่มในตอนที่มันพูด กูถึงกับสำลัก



“แค่กๆๆ”



“อ๊ะ ดานี่ นี่ทิชชูนะ” พายที่ดูจะตกใจมากกว่าไอ้เอมรีบคว้าทิชชูมาให้ผมแล้วยื่นมาเช็ดปากให้กัน เป็นความเคยชินที่ก็เคยทำแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร



“ขอบคุณค่ะ” ผมที่หันไปมองเห็นไอ้เอมมองมาแบบไม่ละสายตาแบบนั้น เลยรีบดึงทิชชูมาเช็ดเองแล้วขอบคุณพายออกไป พายที่มองตามสายตาของผมไปที่เอมก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ แล้วรีบดึงข้อมือตัวเองกลับไปไม่ต่างกัน หันกลับไปมองไอ้เอมอีกครั้ง มันที่ก็ทำหน้ายิ้มร่าส่งกลับมาให้แล้วในตอนนี้ ... ไอ้เด็กขี้หวงเอ้ย



‘ครืดๆ’



เสียงโทรศัพท์ที่สั่นขึ้นมาในตอนนี้ หน้าจอที่แสดงชื่อคนมาว่าเป็น ‘น้องอิฐสุดที่รักของเจ๊ดานี่’ ปรากฏขึ้นมาอยู่ในสายตา ... ชื่อที่แม่งเอามือถือของกูไปเมมแบบหน้าด้าน เคยลบออกแล้วเมมใหม่ว่าไอ้สัดอิฐแล้ว แต่สุดท้ายมันก็แอบมาขโมยไปแล้วเปลี่ยนกลับไปเป็นชื่อนี้เหมือนเดิม สุดท้ายเลยปล่อยเลยตามเลย ... จริงๆ ค่อนข้างท้อกับลูกน้องในร้านอยู่พอตัว



“ไอ้อิฐน่ะค่ะ เดี๋ยวสวยขอไปรับโทรศัพท์แป๊บนะคะ”



“เคๆ ไปเถ๊อะเจ๊ จะกินให้เรียบก่อนเจ๊กลับมานะ” ไอ้เอมที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วยกมือขึ้นโบกไล่กัน



“เหลือขาหมูไว้ให้กูด้วยค่ะ ถ้าหมดนะกูจะกลับมาแดกมึง”



“กลัวๆๆๆ” กลัวไม่จริงไอ้สัด แต่ถึงแบบนั้นผมก็เผลอยิ้มออกมากับท่าทางกวนๆ ของมัน หันไปหาพายที่ก็ยิ้มน้อยๆ พยักหน้ามาให้แบบเข้าใจ ผมเลยเดินหนีเข้าห้องนอนมาคุยโทรศัพท์แทน



((โหลๆๆๆ หนึ่งสองสามเทส ใครรับสายแล้วใครโทรไปนะ) )



แค่กดรับสาย เสียงปัญญาอ่อนก็ลอยมาเข้าหู เหนื่อยใจจนกูต้องเผลอถอนหายใจให้กับความประสาทแดกของไอ้อิฐ รู้จักมันมาหลายปี สมองมันยังเท่าเดิม คือระดับของเด็กสามขวบค่อนไปทางปัญญาอ่อน



“เพ้อเจ้อเหี้ยไรของมึงคะ ถ้าไร้สาระกูวาง”



((เดี๋ยวๆๆๆ เจ๊คนสวยของอิฐ ถ้าเธอยอมใจเย็นเย็นและฟังฉันสักหน่อย~~) ) ไม่พูดเปล่าเสือกร้องมาเป็นเพลงให้กูฟังอีก ท่อนเดียวแท้ๆ ก็ยังเสือกร้องเพี้ยน



“มึงมีอะไร ถ้าไม่มีแค่นี้นะ กูเริ่มรำคาญละสัด”



((หูย เปลี่ยนเป็นเสียงเข้มเลยว่ะ ล้อเล่นนิดๆ หน่อยๆ ไม่ได้เลย คืองี้นะเจ๊ วันนี้จะมีเซลล์ที่ขายเหล้าของแบรนด์ใหม่จะเข้ามาเสนอเหล้าตัวใหม่กับทางร้านอ่ะ ผมเลยอยากรู้ว่าวันนี้เจ๊จะเข้าร้านหรือเปล่า) )



“เข้า เดี๋ยวกูเข้าไปชิมเองค่ะ”



((โอเค ก็ถ้าเจ๊ไม่มา ผมจะได้ไปเทสเอง และเผื่อผมต้องไปจะได้ผลัดคนมาอยู่ตรงบาร์แทนผมไรงี้) )



“ไม่เป็นไร วันนี้กูจะเข้าร้านอยู่แล้ว เค้าบอกจะเข้าไปกี่โมงคะ”



((เห็นว่าสักสามทุ่มนะเจ๊) )



“รีบจังวะ เป็นเซลล์ขายเหล้าหรือขายจีวรอ่ะคะ รีบเหมือนอยากกลับไปจำวัดอ่ะ”



((กูไม่หาร ทางไปนรกกูจะไม่หารกับมึงเจ๊) )



“ทำปากดีค่ะ จากปากทางไปนรกแค่กูก้าวขาเข้าไปก้าวแรกก็เจอมึงแล้วค่ะอิคนบาป”



((หูย อย่าเอาความจริงมาล้อเล่นได้ป่ะพี่ดาบ) )



“กรี๊ดดดดด ดานี่ค่ะอิดอก เดี๋ยวกูจะหักเงินเดือนมึง”



((หักเก่ง กับพี่เอมไม่เห็นจะหักแบบนี้บ้างเลยวะ กับไอ้อิฐนี่ขู่เอาๆ) )



“ทานโทษนะคะ”



((ว่าไงครับ) )



“มึงชื่อเอมหรอ ถามแค่นี้”



((หูยยยย กูก็ชงให้ตบซะหน้าชา) )



‘เพล้ง!’



“โอ้ย!!”



เสียงเหมือนจานแตกที่ดังมาพร้อมเสียงร้องจากด้านนอกห้องทำให้ผมสะดุ้งหันไปมอง ก่อนจะตามมาด้วยเสียงโวยวายที่ดังจับใจความไม่ได้ แต่ผมแน่ใจว่าเป็นเสียงไอ้เอม



((โหลๆ เจ๊พี่มึง ได้ยินเสียงน้องอิฐไหม คือยังไง หรือก็เครื่องมันแฮงค์ไม่อย่างนั้นก็เน็ตกาก เฟซมันล่มก็ไลน์ด้วยอย่าคิดมาก) )



“ไอ้อิฐ แค่นี้ก่อนนะมึง”



((เอ้าๆ เป็นไรวะเจ๊พี่มึง กูยังร้องไม่จบเลยนะ ...) )



ตู๊ดดดดดๆๆ



และเป็นผมเองที่กดตัดสายโทรศัพท์ไป ไม่ฟังแล้วว่าไอ้อิฐมันจะพูดอะไรต่อ ทำแค่รีบก้าวยาวๆ เดินออกจากห้องมา และสิ่งที่ปรากฏตรงหน้าก็คือภาพของถ้วยแก้วที่แตกกระจายอยู่บนพื้น พร้อมๆ กับกลิ่นของน้ำขาหมูที่ลอยหึ่งเต็มห้องไปหมด พระพายที่ยืนร้องไห้อยู่และที่ขาก็เลือดออกเหมือนจะเผลอเหยียบเศษแก้วพวกนั้นเข้า ตามเนื้อตัวเสื้อผ้าของพายที่ยังมีใบคะน้าติดอยู่ที่เสื้อ



“นี่มันเกิดอะไรขึ้นวะ”



ผมที่เดินเข้าไปหาอย่างร้อนใจและคว้าแขนของเอมไว้ สภาพมันไม่ได้ต่างไปจากตอนที่ผมลุกไปคุยโทรศัพท์เท่าไหร่ แต่หน้าตาของมันที่ตอนนี้กำลังเต็มไปด้วยความโกรธ มันเองที่ยืนกำมือแน่นอยู่ตรงนี้



“เอม...พาย นี่มันเกิดไรขึ้น ตอบกู”



“ถามมันเองสิ เพื่อนมึงอ่ะเจ๊” มันที่หันมามองหน้าผมด้วยหน้าตาฉุนเฉียว ผมรู้ว่าเอมมันเป็นคนที่เก็บอารมณ์ได้ดี แต่ตอนนี้เหมือนจะคงบคุมตัวเองไม่ได้ มันที่มองหน้าผมอย่างหัวเสีย



“ดานี่ พายเจ็บ” พายที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยสภาพไม่สู้ดี พูดตรงๆ คือสกปรกมากๆ ผมถอนหายใจหนักๆ ก่อนจะวิ่งเข้าไปในห้องนอนแล้วหยิบผ้าเช็ดตัวมาคลุมตัวให้พายไว้ พายที่ยืนร้องไห้และตัวสั่นอยู่ข้างๆ ผม



“ทำไมเป็นแบบนี้ มันเกิดอะไรกันขึ้นกันแน่วะ”



“ฮึก ... พายอยากกลับบ้านแล้ว ดานี่พาพายกลับบ้านนะ”



พายไม่ตอบผม พายที่ทำแค่ส่ายหน้าไปมาและเอื้อมมือมาเกาะต้นแขนของผมเอาไว้แน่นๆ แล้วร้องไห้อยู่แบบนั้น ผมที่มองไปที่เอม สีหน้าของมันที่มีแต่ความโกรธแต่ก็ไม่ยอมปริปากพูดอะไรออกมาเลย ผมมั่นใจว่ามันจะยังไม่ยอมพูดในตอนนี้ ละสายตาไปมองที่ฝ่าเท้าของพายที่เลือดเริ่มจะไหลออกมามากขึ้น คิดว่าแผลคงลึก และแบบนี้ก็ควรไปหาหมอให้ทำแผล ไม่แน่ใจว่าต้องเย็บไหมด้วย



“ดานี่ พายเจ็บ...พาพายกลับบ้านนะ”



“อืมๆ เดี๋ยวดานี่พาไปค่ะ” บอกออกไปแบบนั้นแล้วถอนหายใจหนักๆ นี่แม่งเรื่องเหี้ยอะไรกันวะ



“เดี๋ยวก่อน! นี่เจ๊พี่มึงจะไปส่งหรอวะ ... ตอนมามายังไงไม่ทราบ ทำไมกลับเองไม่ได้วะ” ไอ้เอมพูดออกมาแบบนั้น สายตาของมันที่มองมาแบบไม่พอใจ



“พายมาเอง” ผมเลือกที่จะตอบออกไปอย่างใจเย็น



“แล้วตอนนี้ทำไมมึงต้องไปส่งมันด้วยวะเจ๊”



“เอม มึงพูดจาดีๆ หน่อย” ผมเลือกที่จะใจเย็นแล้วเตือนเอมแบบนั้น จริงๆ มันเป็นเด็กน่ารัก ถึงจะไม่พอใจแค่ไหนแต่มันไม่เคยไม่มีมารยาท แต่ตอนนี้ดูเหมือนความโกรธจะทำให้เอมมันไม่สนใจอะไรสักอย่าง และผมก็ไม่อยากจะให้มันเป็นแบบนั้น



“เหอะ คือแตะไม่ได้ แล้วคือมึงจะไปส่งเค้า?”



“มันไม่ใช่แบบนั้น แต่พายเจ็บเท้า มึงก็เห็น แล้วมึงก็น่าจะรู้ดีว่ามันเกิดจากอะไร แต่กูไม่รู้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่กูต้องทำคือพาพายไปหาหมอและพากลับบ้าน” ผมบอกออกไปแบบนั้น แต่เอมเหมือนจะไม่เข้าใจ มันที่มองมาที่หน้าผมแบบผิดหวังมากที่สุด สายตาใสๆ ของมันที่มักจะกลายเป็นรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวเสมอเวลาที่มันยิ้มส่งมาให้ ตอนนี้มันวูบไหว มองหน้าผมแบบคนที่กำลังผิดหวัง ขอบตาของมันที่มีน้ำรื้นขึ้นมาในตอนนี้ ภาพตรงหน้านี้ที่ทำให้ผมรู้สึกเสียใจมากกว่าตอนเห็นพายร้องไห้ซะอีก ...



“คือมึงเลือกเค้า ... โอเค งั้นมึงก็ไป”



“เอม” ผมที่พูดออกมาแบบนั้น ไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้ ผมที่กำลังก้าวเข้าไปหามัน แต่เจ้าตัวกลับถอยหลังหนี



‘พรึบ’



“โอ้ย”



“เห้ยพาย”



ผมที่ต้องชะงักขาตัวเองในตอนที่กำลังจะก้าวเข้าไปหาเอม ในตอนนี้ที่พายก็ล้มลงไปนั่งกองกับพื้น มองเห็นปากแผลที่เหวอะหว่ะจนหน้าตกใจได้ฝ่าเท้าของพาย เหมือนว่าจะเจ็บจนยืนไม่ไหว เพราะแบบนั้นเลยต้องก้มลงไปประคองเพราะพายเกือบเซไปทับแก้วที่แตกอีกที่แล้ว ถ้าแบบนั้นแม่งจะวุ่นวายมากกว่านี้ไปอีก



“เหอะ เป็นผู้ชายแท้ๆ แต่ตอแหลเก่งดี” เป็นไอ้เอมที่ว่าออกมาแบบนั้น ผมเงยหน้าไปมองมันแบบไม่คิดว่าจะได้ยิน เสียงเหยียดๆ ของมันที่มองมาที่พาย สายตาที่กำลังบอกว่ามันเกลียด และสลับมามองผม สายตาที่มันบอกว่าผิดหวังนั่นสาดใส่ใจของผม ก่อนที่มันจะหันหลังเดินเข้าห้องนอนไป และตามด้วยเสียง ‘ปัง’ ของประตูห้องที่ถูกปิดลงอย่างแรง



...



“ฮึก ฮื่อๆ ฮึก...”



“ไอ้เอมคะ พอแล้วค่ะมึง เลิกร้องก่อน ตามึงบวมไปหมดแล้วนะคะ”



“ก็ดู ฮึก ดูพี่รหัสมึงทำกับกูดิป้า ฮึก โคตรเหี้ย เหี้ยฉิบหายเลยไอ้สัด”



ผมที่ร้องออกมาอีกรอบพร้อมเอื้อมมือไปคว้าทิชชูจากไอ้หยีเอามาสั่งน้ำมูกอีกรอบ มองเห็นไอ้หยีที่ทำหน้าเบ้ตอนที่ผมสั่งน้ำมูกด้วยนิดหน่อย เอื้อมมือไปคว้าทิชชูมาอีกแผ่นเพื่อเช็ดน้ำตา รู้สึกเจ็บตาขึ้นมาแล้วในตอนนี้ เลื่อนสายตาไปมองเวลาตอนนี้บอกเวลาสี่ทุ่ม เหมือนว่าผมก็ร้องไห้มาประมาณสามสี่ชั่วโมงแล้ว และตอนนี้ก็กำลังนั่งอยู่ในห้องไอ้หยีที่บ้านของมัน ผมออกจากห้องของอิเจ๊มาตั้งแต่ในตอนที่มันออกไปส่งไอ้พาพวยนั่น



“เอม ... จริงๆ มึงก็ไม่มีสิทธิ์ไปโกรธพี่เค้านะเว้ย เค้าไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น ไม่รู้เรื่องที่มึงทะเลาะกับอิพี่พาพวยนั่น และอีกอย่างก่อนหน้านี้เค้าก็เป็นกันมาแบบนี้ สนิทกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไร มึงที่พึ่งเข้าไปอยู่ในชีวิตเค้า มีสิทธิ์อะไรไปเปลี่ยนชีวิตเค้าวะ”



“มันจีบกูไหมวะป้า ไม่มีสิทธิ์ก็เหี้ย!” ผมที่หันไปมองหน้าไอ้หยีแบบโกรธๆ แค่คิดก็โกรธมาถึงตอนนี้



“คิดงี้ก็เหี้ยดิอิเอม” ไอ้หยีที่จ้องตอบกลับแล้วว่าออกมาแบบนั้น



“แล้วยังไงวะ กูไม่มีสิทธิ์เหี้ยอะไรเลยหรอวะ ไม่มีสิทธิ์รู้สึกหรอ คนที่บอกจะจีบกูแต่ให้ความสำคัญกับคนอื่น ออกไปกับคนที่มันเคยชอบอ่ะ คนที่มาก่อนกู คนที่มันรู้สึกดีๆ มาก่อนกูอ่ะ”



“กูเข้าใจมึงนะเอม มึงเป็นเพื่อนกู มากกว่านั้นกูก็เห็นมึงเป็นเหมือนน้องกูด้วย แต่ถ้าถามว่าตอนนี้มึงกับเจ๊พี่ดาบเป็นอะไรกัน มึงมีสถานะอะไรกันล่ะวะ?”



“คนที่เคยได้กัน” ตอบออกไปแบบนั้นก็ถูกไอ้หยีถลึงตาใส่



“สัดค่ะ! ถึงจะเคยได้กันแล้วมันพิเศษตรงไหนวะ คนเคยได้กับพี่มันเยอะแยะค่ะ มึงต้องยอมรับว่ามึงไม่ได้เป็นอะไรกับเค้ามากไปกว่าเจ้านายกับลูกน้อง”



“แม่ง! กูเกลียด ทำไมทำเหี้ยอะไรไม่ได้เลยวะ!” กระแทกตัวลงกับเบาะโซฟาแบบหงุดหงิด เป็นความรู้สึกที่ทั้งเสียใจ แต่ความเป็นจริงก็กระแทกเข้าหน้าแบบที่ไอ้หยีมันบอกจนทำอะไรไม่ได้



“แล้วมึงจะเล่นตัวทำเหี้ยอะไรล่ะคะ ตอนเค้าขอคบมึงก็ลีลา แล้วตอนนี้ยังไง มีหมามาคาบกระดูกไปแล้ว”



“ฝันเถอะแม่ง! ถ้ากูไม่ยอมคาย ก็อย่าหวังว่าใครจะได้แทะต่อ”



“สัด! ลูกน้องเอมก็กลายเป็นหมาไปแล้ว”



“แต่หยี...” ผมที่เรียกชื่อมันออกไปแบบเบาๆ ก่อนจะช้อนตามองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน



“กรี๊ดดด มึงเรียกชื่อกู ดูท่าทางจะซีเรียสสินะ ยังไง ว่าไงคะมึง”



“กูไม่อยากให้พี่มันไปจากกู กูชอบความรู้สึกตอนอยู่ด้วยกัน ตอนจับมือกัน ตอนที่มันลูบหัว ตอนจูบกัน กูทนไม่ได้ว่ะที่ต้องเห็นมันทำแบบนั้นกับคนอื่น กูไม่ชอบความรู้สึกนี้เลย ความรู้สึกที่ว่า ทุกๆ วันมีใครรอเรากลับบ้านแล้วพูดกับกูว่า ‘กลับมาแล้วหรอ’ ... ไม่รู้ตั้งแต่ตอนไหนเลยที่กูรู้สึกว่ากูต้องพึ่งพาใครมากขนาดนี้ กูที่อยู่คนเดียวได้น่ะ ตอนนี้กลับรู้สึกว่ากูกลับไปเป็นแบบเดิมไม่ได้อีกแล้วว่ะ” บอกมันออกไปแบบนั้นแล้วมองเหม่อออกไปเรื่อยๆ ที่นอกหน้าต่างมืดๆ ของบ้านมัน เป็นความรู้สึกลึกๆ ที่ผมไม่อยากยอมรับเลยจริงๆ



“มึงรักเค้าแล้วล่ะ...คำตอบง่ายๆ ก็แค่มึงรักเค้า”



“แต่กูไม่ได้ชอบตุ๊ดไงป้า กูอยากได้ผู้ชายเท่ๆ สักคนที่จะปกป้องดูแลกูได้ให้ดีกว่าตอนกูดูแลตัวเอง”



“แล้วเจ๊ดานี่ดูแลมึงไม่ดีตรงไหนวะ?” ไอ้หยีที่ถามออกมาแบบนั้น มันที่มองหน้าผมนิ่งๆ ในตอนที่ถาม พอถามออกมาแบบนั้นผมเองก็ตั้งท่าจะตอบออกไปเหมือนกัน แต่พอแค่จะอ้าปาก กลับไม่รู้จะพูดคำไหนออกมา



“คิดดูดีๆ เอมว่าเจ๊พี่มันไม่ดี หรือมึงติดที่ภาพลักษณ์ของเค้า ... คู่ชีวิตจริงๆ ของเรามันไม่เหมือนกับหนังสือนิยายที่มึงอ่านหรอกนะเอม”



--------------To be continued--------------



บางทีถ้าเธอยอมใจเย็นเย็นและฟังฉันสักหน่อย

อย่าพึ่งด่าพี่ดาบ อย่าพึ่งด่าน้องเอมกันเยอะ

แคทอยากให้มองในมุมทุกๆ คน แคทพยายามจะเขียนให้เข้าใจในทุกๆ คนมากๆ แต่ไม่รู้ว่าคนอ่านจะเข้าใจไหม

แต่เหนือสิ่งอื่นใด แคทหวังว่าทุกคนจะชอบนะคะ จุ๊บๆ

ปล. ใครรอเก้อเสือ เดี๋ยวตอนหน้าพามาน้าาา

ฝากแฮชแทค #สวยๆ เป็นผัว ในทวิตเตอร์ด้วยนะคะ



ขอขอบคุณคนอ่านจากทางเล้าเป็ดเช่นเดิมนะคะ


:z6: :z6: :z6: อิเจ๊ต้องโดนแบบนี้
55555 ทีมแม่น้องเอมแน่ๆดูออก


อ้าวๆๆๆ เจ้ดานี่ไหงพาพาพวยมาทำกับข้าวที่บ้านกันสองคนอีกอ่ะ ก็รู้อยู่ว่าน้องเอมไม่ชอบ   :angry2:

น้องเอมอย่าแพ้นะลูก ลุยเลย ป้าเอาใจช่วย.  :L2:
พาพวยมาเองจริงๆนะคะ พี่ไม่ได้อยากให้พาพวยมา ส่วนตอนนี้น้านนนน ยังไงดีน้าา


:katai1: :katai1: :katai1: อิเจ้...พานังพาพวย มาทำห่าไร
มาทำไมน้านนนนน มาสร้างเรื่องแน่ๆค่ะ ดูออก


พายไม่ได้ใสๆไร้สมองอย่างที่คิด!
มันร้ายนะคะหัวหน้า!


:katai1: :katai1: :katai1:
ขอบคุณมากๆนะคะที่ยังอยู่ด้วยกัน น่ารักกก


อิ๊เจ๊โว๊ยยยยยยยย
ถ้าทำตัวไม่ชัดเจนแบบนี้อยู่อีก จะพาน้องเอมหนีไปแล้วนะ !!!!!  :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
ทีมแม่น้องเอมจะไม่ทนใช่ไหมคะ มาา จัดไปปป


ยัยเจ๊ดานี่เดี๋ยวจะโดนด้วย น้องฟาดเลยลูกกก
ทีมแม่น้องเอมได้รุมประชาทัณฑ์อิพี่แล้ว ในตอนนี้ ...ไม่น่ารอด 5555


ไม่นะเจ๊ เราเหนื่อยจะบ่นเจ๊แล้วแหละ อยากทำร้ายจิตใจน้องแค่ไหนก็เชิญเลย
ถึงสุดท้ายน้องจะเข้าใจแต่ก็ไม่ควรจะทำให้เสียใจก่อนนะ
ขอให้น้องเอมลดขั้นสถานะ เอาให้ทาปากแดงไม่เป็นรูปกระจับสวยๆไปเลย
ขาหมงขาหมูก็ไม่ต้องแล้ว เอาหน้าแข้งน้องเอมไปกินแทนดีกว่า

แล้วเราขอตั้งชื่อตอนนี้ว่า ‘พาพวยยังตามติด’
ฮ่วยยยยยย
จะตามเขาไปถึงไหนนะคนเรา
5555555555 อ่านคอมเม้นท์แล้วยังทำให้ยิ้มได้เหมือนเดิมเลยค่ะ น่ารักกก
ชอบความตั้งชื่อตอนให้กัน งั้นตอนนี้ที่แคทลงจะตั้งชื่อตอนว่าอะไรดีเนี่ย
ส่วนขาหมูน้านนน คุณคนอ่านทำนายถูกค่ะ ไม่ได้กงไม่ได้กิน สาดแม่มมม
ไม่น่าเลย น้องเอมไม่น่าซื้อขาหมูมา ถ้าน้องซื้อส้มตำจะแซ่บกว่านี้แน่ๆ อิอิ



หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่21 {07/03/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Chucream.nabi ที่ 07-03-2020 23:22:51
 :m31: อิพาพวยนั้น ต้องโดน
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่21 {07/03/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 08-03-2020 00:21:01
อิเจ้ทำน้องเสียน้ำตาอีกแล้วนะ  จะมาหวั่นไหวกะพาพวยแบบนี้ เลิกจีบน้องไปดีกว่า  :m16:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่21 {07/03/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: mochi612 ที่ 08-03-2020 00:37:58
กรี้ดดดดด อยากอ่านต่อแล้วค่า ตอนนี้น้อยใจตามเอมไปหลายรอบมากแงง นี่เอมก็ยังไม่รู้ใช่มั้ยว่าที่อิพี่ดาบกลายร่างเป็นดานี่ก็เพราะว่านังพาพวยอ่ะ ถ้ารู้นะ ฮึ่มมม! ก็เข้าใจพี่ดาบนะที่ต้องเลือกคนเจ็บก่อน แต่มันก็หมั่นไส้อยู่ดี!! ถ้าอิพี่มันยังๆงึกๆงักๆแบบนี้น้องเอมหนีออกมาเลยลูกอย่าไปยอม ดูซิว่าจะเอาไงต่อ วันไหนที่พี่มันยอมเลิกเป็นดานี่นั่นแหละถึงจะเชื่อว่ามูฟออนจากพาพวยได้แล้วจริงๆ เป็นแบบนี้มันคาราคาซังในใจ :katai1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่21 {07/03/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 08-03-2020 00:48:33
 :mc4: พาพวยชนะเลิศศศศศศ
หนูเอมคะอย่ายึดติด เดี๋ยวจะเสียผัวนะคะ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่21 {07/03/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 08-03-2020 10:06:27
อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น!?
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่21 {07/03/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: LifePo-YuGu ที่ 08-03-2020 13:54:11
ขอแบบยาวๆแล้วไม่ค้างได้ไหมง่า  :a5: :sad4:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่21 {07/03/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Pangogi ที่ 08-03-2020 22:43:50
อยากรู้จริงๆว่าทะเลาะไรกันนนนร
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่21 {07/03/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: KizzllKizz ที่ 09-03-2020 14:34:05
ขัดใจมากก ยัยพาพวย!!!!!!! เลิกแอ๊บใสสักที!!!!!!
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่21 {07/03/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 14-03-2020 00:06:31
ร้ายกาจมากพาพวย,,,
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่21 {07/03/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 14-03-2020 21:22:03
บทที่22



[[TGer: เลิกเรียนแล้วลงมา กูรออยู่ข้างล่าง] ]



ได้แต่เปิดอ่านข้อความจากไลน์ที่ถูกส่งเข้ามาแบบไม่เข้าใจ มารอกูอยู่ข้างล่างนี่คืออะไรก่อน บางทีก็สงสัยว่านี่พี่รหัสหรือเจ้ากรรมนายเวร ตามติดชนิดที่กูลืมไปเลยว่าไม่เคยมีเพื่อน ... ผมที่อ่านแล้วกดปิดหน้าจอและวางมือถือลงบนโต๊ะเพื่อฟังอาจารย์หน้าห้องสอนต่อ นี่ก็สอนแบบไม่มีเหน็ดเหนื่อย บางทีก็อยากให้คิดว่าถ้าอาจารย์ไม่เหนื่อยก็ให้คิดถึงกูบ้างครับ



‘ครืดๆ’



โทรศัพท์ที่สั่นขึ้นมาอีก พร้อมๆ กับหน้าจอที่ก็สว่างขึ้นมาอีกครั้ง ถอนหายใจแล้วกดเปิดมันอีกครั้งแบบเสียไม่ได้



[[TGer:หยิ่งหรอสัด อ่านแล้วไม่ตอบ] ]



[[TGer:เดี๋ยวมึงเจอ เดี๋ยวมึงได้รู้เลยไอ้ลูกเสือ] ] พอกูไม่ตอบก็ส่งข้อความตามมาข่มขู่กันต่ออีก มันเป็นคนยังไงกันวะ



[[tiger: กูเรียนไหมล่ะไอ้พี่ เป็นเหี้ยไรนักหนา เซี่ยนอะไรมาวะ] ]



[[TGer:ไม่ได้เซี่ยน แต่เงี่ยนได้ไหมวะ] ]



[[tiger: สัด ขอไม่คุยกับคนเหี้ย] ]



[[TGer:ฮ่าๆๆ มึงดีมากมั้งไอ้น้องเสือ เด็กเวร] ]



[[TGer: ไหนบอกเรียนไง ไปตั้งใจเรียนดิ เล่นมือถือทำเหี้ยไร] ]



[[tiger: โวะ] ]



อยากจะด่าแม่งจริงๆ แล้วไอ้หน้าเหี้ยที่ไหนแม่งส่งมาด่ากันตอนกูไม่ตอบมันวะ กวนตีนฉิบหาย ...



[[TGer: ตั้งใจเรียนนะครับน้องเสือ] ]



[[TGer: กูรอข้างล่าง] ]



สัด ... ไม่รู้จะด่าอะไรแม่งเลยจริงๆ กับอีกคนที่ส่งข้อความแบบนั้นมากวนตีนกัน แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นผมก็ยังอดไม่ได้ที่จะต้องเผลออมยิ้มออกมาตอนที่กดปิดหน้าจอโทรศัพท์ รู้สึกเหมือนจะมีแรงตั้งใจเรียนขึ้นมามากกว่าเดิมหน่อยตรงที่เหมือนว่ามีใครกำลังรอเราตอนเลิกเรียน



ก็ไม่ได้ดีใจอะไรมากหรอกนะ ... ก็แค่รู้สึกดีนิดหน่อย



เป็นคนหน้าเหี้ยแบบนั้น ก็ไม่เคยคิดเลยว่ามันจะใจดีขัดกับหน้าตามากขนาดนี้



นั่งเคาะปากกาเล่นไปเรื่อย อีกไม่กี่นาทีจะหมดคาบเรียนในตอนนี้ ใจผมก็ไม่ได้จดจ่อกับการเรียนอีกแล้ว จนถึงช่วงเวลาที่อาจารย์ป้าแกบอกว่าเลิกเรียน ก็เป็นผมคนแรกเลยที่พุ่งออกจากห้อง มองนาฬิกาข้อมือที่บอกเวลาว่าตอนนี้4โมงครึ่ง ก็คือสอนเกินให้กูไปครึ่งชั่วโมง ไอ้พี่เก้อที่แม่งมานั่งรอข้างล่างเบื่อตายไปแล้วมั้ง



“ยังไงไอ้เสือ รีบอะไรขนาดนั้นวะ” เสียงของคนที่ดังมาจากด้านหลัง พอหันไปก็เห็นเป็นไอ้หน้าเดิม ไอ้อ๊อดเพื่อนในห้องที่กูไม่นับว่าเป็นเพื่อน เรียนโรงเรียนเดียวกันมาสมัยม.ปลาย ก็ไม่รู้ว่าซวยเหี้ยอะไรนักหนาถึงต้องมาเจอมันที่นี่อีก ... ผมหันหน้าหนีพอรู้ว่าเป็นมัน ไม่อยากเสวนาด้วย



“ทำไม หยิ่งหรอมึง” สัด...คำนี้อีกแล้ว



“กูไม่ได้หยิ่ง แต่ไม่อยากเสวนากับคนแบบมึง” หันไปมองหน้าแม่งที่ก็ยืนอยู่ตรงหน้าลิฟ พร้อมๆ กับเพื่อนมันอีกสามสี่คน ที่ยืนเป็นแบล็คอยู่ข้างหลัง กูก็นึกว่าบอร์ดี้การ์ด เห็นแบบนั้นแล้วอดไม่ได้ที่จะเบ้ปากให้ไปทีนึง



“ทำไม คนแบบพวกกูมันทำไมวะ”



“โทษนะ บ้านมึงไม่มีกระจกหรอวะ หรือว่ากระจกบ้านมึงมันส่องแล้วระบุสายพันธ์มึงไม่ถูกว่าเป็นเหี้ยชนิดไหน”



“ไอ้เสือ ปากดีนะมึง! เด็กเสี่ยแบบมึงมันก็แค่อิตัวล่ะวะ คงจะมีดีแค่บนเตียง” มันที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วตามมาด้วยเสียงหัวเราะของเพื่อนๆ มันที่ดังมาเป็นลูกคู่กันที่ด้านหลังของมัน คนที่เดินผ่านไปผ่านมาเริ่มหันมามองผมกันเป็นตาเดียว บ้างก็หันไปกระซิบกระซาบกัน มองหน้ามันที่ดูจะถูกอกถูกใจกับสถานการณ์แบบนี้ เพราะว่ามันไม่ใช่ครั้งแรกที่มันทำแบบนี้



“มึงสิอิตัว! มึงจะกินตีนกูไหมไอ้สัด” เดินเข้าไปหามันในตอนนั้น เป็นความรู้สึกที่เรียกได้ว่าเลือดขึ้นหน้า เวลาที่เห็นสายตาของพวกมันที่มองมาเหมือนผมเป็นตัวอะไรสักอย่างที่แค่พวกมันเอามือขยี้ก็ตาย กูเกลียด เกลียดความรู้สึกแบบนี้ที่สุด



“ทำไม จะทำอะไ... โอ้ย! ไอ้เสือ”



‘ผลั้ว!’



“ปากดีแบบมึงต้องแดกตีนกู!” ตะโกนออกไปแบบนั้นพร้อมๆ กับประเคนหมัดอีกข้างซัดใส่หน้าของมันไปอีกหนึ่งที เสียงกรี๊ดรอบข้างและเสียงชุลมุนวุ่นวายรอบข้างที่เริ่มดังมากขึ้นแต่ผมไม่สนใจ รู้แค่ว่าวันนี้ต้องเอาเลือกหัวไอ้สัดอ๊อดมาล้างตีน



“เห้ย! สัดเสือ หยุดมึง มึงหยุด!”



“ปล่อย!! ปล่อยกูสิเว้ย กูจะฆ่ามัน!!” ผมที่ร้องตะโกนออกมาแบบนั้นแล้วดิ้นรนที่จะยื่นตีนไปขยี้หน้าไอ้อ๊อดที่นอนหงายอยู่ที่พื้นเพราะแรงถีบจากตีนผม เพื่อนๆ ของมันที่คอยประคองไอ้อ๊อดอยู่ตรงนั้นแต่ไม่กล้าเข้ามาเสี่ยงกับตีนผม



“เห้ยๆๆ เกิดอะไรขึ้น ปี๊ดๆๆๆ” เสียงนกหวีดที่ดังมาพร้อมๆ กับเสียงของยามที่ตามมา แต่ในตอนนี้ผมก็ไม่สนใจ แต่ตัวของผมที่ตั้งใจจะฝืนเข้าไปซัดหน้าแม่งอีกหมัดแต่ก็ฝืนแรงดึงจากข้างหลังไปได้ ตัวของผมที่ถูกลากไปตามพื้นแบบไม่สนใจใยดี จนสุดท้ายก็ถูกโยนเข้ามาในรถคันหนึ่งจนได้



“เป็นเหี้ยอะไรของมึงไอ้สัดเสือ!” เสียงเข้มดุดันที่มาพร้อมกับหน้าตาถมึงทึงที่จ้องมองผมจากทางปากประตูรถ พี่มันที่เอามือเท้ากับขอบรถและก้มตัวลงมาจ้องหน้ากันแบบดุๆ



“แล้วพี่มายุ่งเหี้ยไรด้วยล่ะ!”



‘ผลั้ว’



“โอ้ย! ผมเจ็บนะโว้ย” แรงตบที่กระแทกลงมาบนกระหม่อมทำเอาหัวโยกไปโขกกับคอนโซลหน้ารถอย่างแรง ได้แต่ยกมือขึ้นมากุมหัวเพราะเจ็บมาก แต่ถึงแบบนั้นความหงุดหงิดในใจก็ยังคงมีอยู่แบบไม่ขาดสาย กลับยิ่งหงุดหงิดเพิ่มกว่าเดิม ได้แต่สะบัดหน้ากับไปมองหน้าคนที่ยืนขว้างอยู่ที่ประตูอย่างหงุดหงิดใจ



“อย่ามามองหน้ากูแบบนี้นะสัด เดี๋ยวกูจะตบมึงอีกที ทำเหี้ยอะไรไม่รู้เรื่อง”



“แล้วพี่มาเสือกเหี้ยไรด้วยล่ะวะ”



“ถ้ามึงว่ากูเสือกอีกครั้งกูจะต่อยให้ปากมึงแตก! สัด! ถ้าไม่ใช่เพราะกูที่ลากมึงออกมา ป่านนี้มึงโดนลากไปห้องคณะบดีแล้วไอ้สัด”



“ไปก็ไปดิ ผมกลัวแม่งที่ไหนล่ะ แค่ได้ขยี้หน้าไอ้อ๊อดแม่งผมก็ไม่สนใจเหี้ยไรทั้งนั้นล่ะ”



“งั้นมึงก็เชิญไปเลย! กูเสือกเองอ่ะที่กลัวมึงจะโดนทัณฑ์บน กลัวมึงจะโดนไล่ออก ลงไปจากรถกูเลยไอ้เหี้ย 18ไม่เด็กแล้วแต่มึงยังทำตัวเหมือนคนที่ลืมสมองไว้ในท้องแม่ จะไปโง่ที่ไหนก็ไปไอ้สัด!”



‘ปัง’



พี่มันที่ตะโกนด่ากราดออกมาแบบนั้น ก่อนจะตามมาด้วยเสียงปิดประตูรถใส่หน้าผมดังโครมใหญ่ คำพูดของมันที่ว่าออกมาแบบนั้นทำเอาผมต้องนั่งนิ่งๆ อยู่กับที่ คำพูดก่อนหน้านี้มันกดทับมาใส่ตัวผมแบบไม่สามารถที่จะลุกไปไหนได้



“นั่งอยู่ทำเหี้ยไร ลงไปเดะ! จะไปโง่ที่ไหนก็เรื่องของมึง!!” มันที่ตะคอกออกมาแบบนั้นอีก แต่ผมทำได้แค่ก้มหน้า เอามือสองข้างที่เกาะไว้ที่เบาะรถได้แค่นั้น



“เหอะ” ได้ยินเสียงแค่นหัวเราะในลำคอของมันออกมาแบบนั้น ก่อนที่ตัวรถจะถูกกระชากออกไปอย่างแรง พี่มันที่เหยียบคันเร่งออกไปด้วยความไว มองๆ ดูตอนนี้ก็ประมาณ90 90กับถนนในมหาลัย รีบเหมือนพ่อใครตาย กูรับประกันได้เลยว่าคนในมหาลัยต้องตะโกนด่ามึงไล่หลังไปแน่ๆ



“พี่เก้อ มึงขับรถช้าๆ หน่อยสิ” ในที่สุดก็เป็นผมเองที่ทนไม่ไหว ไอ้สัดเอ้ย ก่อนหน้านี้รถพึ่งพุ่งออกจากสี่แยกในช่วงที่ไฟเปลี่ยนเป็นสีเหลือง เหลืออีกไม่กี่วิมันก็จะเป็นไฟแดง แล้วรถที่กำลังจะขับตรงมาอีกทางคือรถสิบล้อ ไอ้เหี้ยเอ๊ย เหมือนในหนังเดอะฟาส ใจกูคือหล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม



“มึงกลัวรึไง”



“ก็กลัวสิวะ! ใครแม่งจะไม่กลัวเล่าวะ” หันไปบอกแบบนั้นใส่คนข้างๆ ตัว มองเห็นพี่มันเองที่ก็ปลายตามามองกันแบบดุๆ อยากจะด่าออกไปอีกที่แม่งขับรถเหี้ย แต่พอเจอสายตาแบบนั้นของมันก็เลยต้องหุบปากลงเหมือนเดิม



“กูก็นึกว่ามึงไม่กลัวตาย เห็นก่อนหน้านี้ก็ห้าวจังล่ะไอ้เหี้ย” แขวะออกมาแบบนั้นอีกรอบ ... เออแม่ง!



“เออๆ ผมผิดผมรู้แล้ว พี่จะเอาอะไรอีกล่ะ”



“ถ้าคิดไม่ได้มึงก็เงียบปากไปไอ้สัด” กระแทกเสียงออกมาอีกครั้งแล้วตั้งหน้าตั้งตาขับรถต่อไป ไม่รู้ว่าแม่งจะไปไหนด้วย



“เออ! เรื่องมึงเลย” สุดจะทน ก็จะอะไรนักหนาล่ะวะ จะเอาอะไรจากกูนักหนาล่ะแม่ง เพราะคิดแบบนั้น สุดท้ายก็เลยกระแทกตัวลงบนเบาะออดี้r8ของมันแรงๆ แบบไม่สนใจราคา ได้แต่กอดอกแล้วหันหน้าหนีออกไปมองกระจกนอกลงทางซ้ายมือของตัวเองทั้งแบบนั้น



เวลาที่ก็ผ่านไปไม่รู้ว่าเท่าไหร่ แต่เหมือนจะไม่นานเท่าไหร่ อีกคนที่ก็เอาแต่ขับรถต่อไปเรื่อยๆ แบบนั้นโดยที่ไม่พูดอะไร มองเส้นทางที่รถกำลังมุ่งหน้าไปก็จำได้ดีแล้วว่ามันคือเส้นที่จะไปหอพักของผม และอีกไม่นานก็ใกล้ที่จะถึงแล้วด้วย ... แต่เราสองคนในตอนนี้ที่ก็ได้แต่นิ่งและไม่มีใครพูดอะไรออกไป



อึดอัดฉิบหายเลยไอ้เหี้ย



แม่ง



“เออๆๆ! ผมผิดเองอ่ะ พี่พอใจยัง!”



“อะไรมึง” ผมที่โพล่งออกไปแบบนั้น หลับหูหลับตาพูดออกไป แต่อีกฝ่ายก็แค่ตอบกลับมาด้วยเสียงนิ่งๆ ที่ไม่ได้สนใจอะไรเท่าไหร่แค่สามคำ เป็นความไม่สนใจที่ผมโคตรจะไม่ชอบเลย



“พี่เก้อ”



“เรียกเหี้ยไร” พี่มันที่ว่าออกมาแบบนั้นอีกครั้ง พร้อมๆ กับที่เจ้าตัวก็ตบไฟเลี้ยวซ้ายในตอนนั้นพอดี ... ถึงหอผมแล้ว รถที่ค่อยๆ ชะลอหยุดลงช้าๆ เป็นช่วงเวลาที่ในใจของผมได้แต่พูดว่า ขับต่อไปอีกหน่อยสิไอ้เหี้ย ล้อรถดีอะไรขนาดนี้ จะรีบจอดทำไมวะไอ้สัด ... ถึงแม้ว่าความเป็นจริงถ้าไม่จอดก็คือจะทะลุเข้าไปในตัวตึกหอพักก็ตาม



“ลงไป”



“เดี๋ยวดิพี่เก้อ” หันไปพูดกับมันด้วยเสียงอ่อยๆ ไม่กล้าที่จะเงยหน้าไปมองหน้ามันด้วยซ้ำ เพราะรู้ดีว่ามันจะใช้สายตาแบบไหนมองกันกลับมา สายตาในแบบที่ผมไม่อยากเห็น



“เดี๋ยวเหี้ยไร ลง”



“ผมไม่ลง พี่อย่าไล่”



“แต่นี่มันรถกู ลงไป”



“ผมไม่ลงๆๆ! รถพี่แล้วไง อวดหรอวะ”



ว่าออกไปแบบนั้น ก็รู้ว่ากูเริ่มที่จะกวนตีนมันอีกแล้ว เพราะแบบนั้นเลยเงยหน้าขึ้นไปจ้องหน้ามันไว้ และก็เป็นแบบที่คิด มันที่มองตรงมาแบบฉุนๆ เหมือนมันกำลังข่มใจตัวเองไม่ให้พุ่งหมัดเข้ามากระแทกปากผม สายตาเย็นชาของมันที่มองมา จริงๆ ก็เป็นสายตาที่เคยเห็นในตอนแรกที่เจอกัน แต่เหมือนจะนานมาแล้วในความรู้สึกของผม และแบบนั้นก็ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ผมไม่ชอบสายตาแบบนี้ของมันเลย



“ไอ้เสือ!”



“ผมไม่ลง! ถ้าผมยังไม่ได้ขอโทษพี่ผมก็ไม่ลงหรอก!!” หลับหูหลับตาตะโกนออกไปแบบนั้น รู้สึกร้อนหน้าไปหมด ... ผมที่กำลังตะโกนขอโทษพี่มันดังจนลั่นรถ รู้สึกเสียหน้าหน่อยๆ กับคำพูดนี้ที่นานๆ ทีจะได้พูดออกไป แต่....คิดว่าถ้าครั้งนี้ไม่พูดจะเสียใจมากยิ่งกว่า



“ผมขอโทษพี่เว้ย! ผมผิดเองอ่ะที่มีเรื่องตรงนั้น ทั้งๆ ที่พี่ไปช่วยผมมาแต่ผมก็ยังปากหมา เออ...ผมเหี้ยเองผมรู้ดี ทั้งๆ ที่พี่เป็นห่วง ไม่ขอบคุณแล้วยังปากหมาอีก ผมขอโทษ!” ว่าออกไปรัวๆ แล้วลืมตาขึ้นมาในตอนสุดท้าย ผมที่ปลดสายเบลท์ออกไปก่อนแล้ว และในตอนที่มองหน้ากัน ก็เห็นไอ้พี่เก้อที่ยกยิ้มมุมปากออกมาในตอนนี้



สัด!



กูหันหลังเตรียมพุ่งลงจากรถเลย แต่เหมือนอีกฝ่ายก็ตั้งใจมองกูทุกการกระทำ มือของมันที่พุ่งมาจับต้นแขนของผมไว้ได้ทันก่อนที่จะเปิดประตูออก และถูกมันกระชากให้หันกลับมาที่เดิม ไอ้เหี้ยไอ้สาดดดดด ไอ้เสืออยากตาย เกลียดหน้าแม่งฉิบหาย ไอ้พี่รหัสเฮงซวย!



“รีบไปไหนวะ ไหนเมื่อกี้ไม่อยากลงจากรถกูไง”



“ตอนนี้กูอยากลงแล้วมึงอย่ามาจับกูไอ้สัดพี่เก้อ มึงจะไปไหนก็ไปเลย!” บอกแม่งแบบนั้นในตอนนี้อีกคนขยับหน้าเข้ามาใกล้ มันที่ยกยิ้มมุมปากนัยน์ตาวาววับเหมือนคนเหี้ยที่กำลังจงใจจะทำอะไรสักอย่าง แต่มั่นใจมากๆ ว่าสิ่งที่มันจำกูจะต้องไม่ชอบใจ



“ตอนนี้กูไม่อยากไปแล้ว”



“ทีเมื่อกี้มึงยังไล่กูลงจากรถ อยากจะไปไหนก็ไปสิวะ”



“ทีกูไล่มึงลงจากรถเพราะกูจะไปกับมึงต่างหาก ไม่ได้จะไปไหนสักหน่อยป่ะวะ มึงแม่งคิดเองเออเอง” มันที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วยักคิ้วใส่กัน กูล่ะอย่างจะดึงขนคิ้วให้แม่งหลุด



“ไอ้พี่เก้อ มึงกวนตีนกูนะ!”



“พูดไปเหอะกูไม่โกรธ เพราะ...”



“เพราะเหี้ยไร..” ช้อนตามองหน้าคนที่อยู่ตรงหน้าในตอนที่มันก็ก้มมองหน้ากันพอดี รอยยิ้มมุมปากที่ค่อยๆ แสยะยิ้มออกมาในตอนนั้น



“เพราะมึงขอโทษกูแล้วไง ไอ้ลูกเสือ”



“สาดดดด ไปไกลๆ กูเลย ใครขอโทษมึงวะสัดพี่!”



“ฮ่าๆ เขินเหี้ยไรอะไรขนาดนั้นล่ะวะ น้องเสือรอกูด้วยจ้า”



“อย่ามายุ่งกับกู คืนนี้กูจะไปเที่ยว อย่ามาตามกูนะโว้ย!” ตะโกนออกไปแบบนั้นในตอนที่ไอ้สัดพี่มันก็เดินตามออกมาจากรถมัน



“มึงจะไปไหน! ฝันเถอะไอ้สัดว่ามึงจะได้ไปคนเดียว”



“กูจะไปร้าน DANI WORLDโว้ยยยย”



บอกมันออกไปแบบนั้น ก็หันไปมองเห็นไอ้สัดพี่เก้อยืนนิ่งอยู่ตรงรถมันแบบนั้น เหมือนจิตแม่งหลุดไปไหนสักที แต่ช่างแม่งดิ คืนนี้กูจะแต่งให้หล่อไปหิ้วหญิงเลย





...



“ฮึก เจ็บมากเลยอ่ะดานี่ พายเจ็บจัง”



“ก็โดนเย็บตั้งหลายเข็มมันก็ต้องเจ็บสิคะ” ผมที่เข็นรถเข็นออกมาจากโรงพยาบาลในช่วงเวลาสองทุ่ม คนที่นั่งอยู่บนรถร้องออกมาแบบนั้น หน้าตาซีดๆ ที่มาพร้อมๆ กับน้ำตาคลอที่หน่วยตา มองดูจากตรงนี้ก็ดูน่าสงสารมากจริงๆ



“พายไม่เข้าใจเลย ทำไมน้องเอมต้องทำร้ายพายด้วย” เสียงใสของคนบนรถที่ว่าออกมาแบบนั้นก่อนจะตามมาด้วยฝ่ามือนุ่มของพายที่เอื้อมมาจับที่แขนของผมเอาไว้ สายตาใสที่ตอนนี้ดูหม่นแสงอย่างน่าสงสาร ผมถอนหายใจออกมาหนักๆ ในตอนนี้



“พายคะ”



“จริงๆ นะดานี่ ตอนนั้นอ่ะพายตกใจมากๆ เลย”



“เราไปนั่งคุยกันในสวนข้างๆ นี้ดีไหมคะ ดานี่มีอะไรจะคุยด้วย” ว่าออกไปแบบนั้น อีกคนที่ก็ชะงักไป ก่อนจะหันหน้ามามองหน้าผม



“นะคะ ไปกัน” บอกอีกคนแบบนั้น ไม่ได้รอว่าคนตัวเล็กตรงหน้าจะตอบตกลงหรืออะไร ก็แค่เข็นรถเข็นไปที่สวนข้างๆ ของโรงพยาบาลในตอนนั้น พระพายเองที่ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไร



ลมเย็นๆ ในสวนตอนช่วงเวลาสองทุ่ม จริงๆ ไม่เหมาะจะมาอยู่ใต้ต้นไม้ในตอนนี้หรอกเพราะมันจะคายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาในตอนกลางคืน แต่ถึงแบบนั้นผมก็คิดว่า ผมควรคุยกับพายในตอนนี้ และวันนี้



“ดานี่...”



“พายคะ ดานี่จะไม่อ้อมค้อมนะ ดานี่ต้องขอโทษแทนเอมที่ทำให้พายเจ็บ ถึงแม้ดานี่จะไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เอมถึงทำแบบนี้กับพาย”



“ไม่เป็นไร พายไม่โกรธหรอก” คนตรงหน้าผมตอบออกมาพร้อมรอยยิ้มแบบนั้น แววตาใสๆ ที่จ้องตรงมาที่ผม ในสายตามีประกายบางอย่างที่ผมไม่อยากสนใจในตอนนี้ และในตอนที่ผมกำลังจะพูดต่อ พระพายก็ขัดผมขึ้นมาซะก่อน



“ดานี่...พายเองก็มีเรื่องจะพูดนะ”



“คะ?”



“พายกลับมาแล้วนะ ... ที่พายบอกให้ดานี่รอก่อน ตอนนี้พายพร้อมแล้วนะ”

.

.

.

“แต่ในตอนที่พายพร้อม ผมไม่อยากรอแล้วเดินไปกับพายอีกแล้วไง”




--------------To be continued--------------



อุ๊ยๆๆๆๆ มาจ้าาาาา ต้องมาแล้วน้าาาา

ใคร ใครที่ด่าเจ๊ไว้ มาาาา

ฝาก #สวยๆ เป็นผัว ด้วยนะคะ


ขอขอบคุณคนอ่านจากทางเล้าเป็ดมากๆเช่นเดิมนะคะ







:m31: อิพาพวยนั้น ต้องโดน
  มันต้องโดนสักทีแล้วไหมคะพี่ตา


อิเจ้ทำน้องเสียน้ำตาอีกแล้วนะ  จะมาหวั่นไหวกะพาพวยแบบนี้ เลิกจีบน้องไปดีกว่า  :m16:
ยังไงกันน้าาา อิเจ๊แกจะเลิกจีบน้องไหมน้าาา (นี่ว่าไม่มีทาง) 5555


กรี้ดดดดด อยากอ่านต่อแล้วค่า ตอนนี้น้อยใจตามเอมไปหลายรอบมากแงง นี่เอมก็ยังไม่รู้ใช่มั้ยว่าที่อิพี่ดาบกลายร่างเป็นดานี่ก็เพราะว่านังพาพวยอ่ะ ถ้ารู้นะ ฮึ่มมม! ก็เข้าใจพี่ดาบนะที่ต้องเลือกคนเจ็บก่อน แต่มันก็หมั่นไส้อยู่ดี!! ถ้าอิพี่มันยังๆงึกๆงักๆแบบนี้น้องเอมหนีออกมาเลยลูกอย่าไปยอม ดูซิว่าจะเอาไงต่อ วันไหนที่พี่มันยอมเลิกเป็นดานี่นั่นแหละถึงจะเชื่อว่ามูฟออนจากพาพวยได้แล้วจริงๆ เป็นแบบนี้มันคาราคาซังในใจ :katai1:
สงสารน้องเอมใช่ไหมคะ ทีมแม่น้องเอมใช่ไหมเนี่ย เพราะน้องเสียใจมากๆ ตอนนี้น้องเลยไม่มาปรากฏตัวเลย5555
ตอนหน้าแคทจะพาน้องเอมกลับมาหาทุกคนนะคะ ส่วนทางด้านพี่ดาบน้านนน มาอ่านกันก่อนน้าาา แคทจุ๊บๆเลยนะคะ


:mc4: พาพวยชนะเลิศศศศศศ
หนูเอมคะอย่ายึดติด เดี๋ยวจะเสียผัวนะคะ
  เอ๊ะ อันนี้ชมพาพวยหรอคะ หูยยย คนแรกเลยค่ะ ฮ่าา


อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น!?
และอิไรท์บ้าบอนี่ก็ยังไม่มาเฉลยอีกกกก แง้


ขอแบบยาวๆแล้วไม่ค้างได้ไหมง่า  :a5: :sad4:
แง้ ขอโทษนะคะ ตอนใหม่ที่ลงก็คือสั้นไปอีก ครั้งหน้าแคทจะพยายามยาวกว่านี้นะคะ


อยากรู้จริงๆว่าทะเลาะไรกันนนนร
และตอนนี้อิไรท์ก็ยัง ยังไม่มาเฉลยอีก อย่าตีเราน้าาาา


ขัดใจมากก ยัยพาพวย!!!!!!! เลิกแอ๊บใสสักที!!!!!!
ยังคงขัดใจกันต่อไปอ่ะโน๊ะ ฮ่าาา


ร้ายกาจมากพาพวย,,,
  มาดูความไสยๆของพาพวยกันต่อจ้าา 5555

หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่22 {14/03/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 14-03-2020 23:26:46
เราอวยพาพวยก่อน พอนางหลงกล
จะจับมัดมือ มัดเท้า แล้วเอารังมดแดงโยนใส่
แกล้งนุ้งเอมเราดีนัก
 :z2: :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่22 {14/03/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Chucream.nabi ที่ 14-03-2020 23:36:05
 o13 ดีมากดานี่...เค้าไม่รอแกแล้วไงนังพาพวย
เค้ามีเมียใหม่แล้วย่ะ อิเจ้มึงกลับไปง้อน้องเลยนะ :angry2:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่22 {14/03/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Rungzanaka ที่ 15-03-2020 01:39:56
เจ๊ไปงอน้องด้แล้วงอนหายไปแล้วเนี่ย งื้อออไปตามน้องกลับมานะปล่อยนังพาพวยไปเลย
อยากรู้แล้วงับว่าเกิดอะไรขึ้น  :ling1: :z6:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่22 {14/03/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 15-03-2020 07:49:10
อิเจ้ต้องเคลียร์พาพวยให้ได้เลยนะ ไม่งั้นน้องเอมไปแน่ๆ

นังพาพวยมารยาสาไถดีนักนะ. มันน่า   :z6:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่22 {14/03/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 15-03-2020 22:49:36
มุ้งมิ้งไรกันคู่นี้
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่22 {14/03/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 16-03-2020 00:12:25
ดีมาก มันต้องอย่างนี้ อิเจ๊!!!
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่22 {14/03/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: LifePo-YuGu ที่ 16-03-2020 11:10:30
น้องเสือจ้า ขอยืมตัวพี่เก้อไปทำให้อิ๊เจ๊มันหึงหน่อยสิ น่าาาา  :hao5: :hao5:

ไหนๆ ก็ไหนๆละ อยากเห็นคนหึงแบบหน้ามืดตามัวง่ะแคททททททท  :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่22 {14/03/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 21-03-2020 16:11:37
พูดๆไปเลยเถอะเจ๊ อีกฝ่ายเขาจะได้เข้าใจและทำใจเสียที
เคลียร์กับเพื่อนจบแล้วจะได้ไปเคลียร์กับน้องต่อ ไม่รู้เสียน้ำตาไปกี่ปี๊บแล้วนั่น
ถึงน้องเอมจะหึงจะหวงยังไงก็ยังแฝงไว้ด้วยความรักอันบริสุทธิ์ที่มีต่อเจ๊(อวยสุดฤทธิ์)
ไม่ได้มารยาร้ายกาจแบบพาพวยเลย
ที่สำคัญ!! อีกคู่เขาไปถึงขั้นช่วยกันต่อยอริ ไปรับไปส่ง พาหลบรปภ. แล้ว
คู่เจ๊จะะมาหึงหนีขึ้นภูเขาสามลูกแบบหนังอินเดียไม่ได้นะ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่22 {14/03/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 21-03-2020 21:07:35
บทที่23



“แต่ในตอนที่พายพร้อม ผมไม่อยากรอแล้วเดินไปกับพายอีกแล้วไง” บอกคนตรงหน้าออกไปแบบนั้น ร่างเล็กตรงหน้าผมที่ยิ้มกว้างอยู่ก่อนหน้านี้ค่อยๆ หุบรอยยิ้มลงมาช้าๆ สายตาใสสั่นไหวขึ้นมาในตอนนี้



“ดานี่...พูดแบบนี้หมายความว่าไง”



“พายเคยบอกให้รอ แล้วผมก็รอ รอทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่ารอเพื่ออะไร”



“ก็รอเพื่อพายพร้อมไง แล้วตอนนี้พายก็พร้อมแล้วนะ” ฝ่ามือเรียวที่เอื้อมมาจับข้อมือของผมไว้ ในตาสวยที่ช้อนตามองกันในตอนนี้แล้วพูดออกมา



“ผมเคยรอพาย รอพายมานานมาก ... จนตอนนี้รอไม่ไหวแล้ว”



“ทำไมล่ะ ทำไมดานี่พูดแบบนี้ล่ะ ... ดานี่รักพายไม่ใช่หรอ ไหนดานี่บอกว่ารอได้ไง ... เป็นเพราะเอมหรอ” พายที่พูดออกมาแบบนั้น ท่าทางของคนที่กำลังผิดหวังและเสียใจ ในสายตาของเจ้าตัวที่มองตรงมาที่ผมกำลังบอกว่าตัวเองเสียใจและเสียความรู้สึกกับคำพูดของผมมากแค่ไหน



“ไม่ใช่เพราะเอม” ผมบอกออกไปแบบนั้น แต่พายที่มองมา ท่าทางที่บอกว่าไม่ยอมรับกับคำพูดของผม ทำเอาผมต้องถอนหายใจออกมาหนักๆ ในตอนนี้ ... อยากน้อยมันก็ไม่ใช่เพราะเอมที่ทำให้ผมเปลี่ยนไป มันไม่ใช่ความผิดของควายน้อยของผม



“ไม่จริง....ดานี่ปกป้องเอม”



“เรื่องนี้มันไม่ใช่เพราะเอม มันไม่เกี่ยวกับเอมมาตั้งแต่แรกอยู่แล้วพาย”



“เนี่ย เอมทำให้ดานี่เปลี่ยนไปจริงๆ ด้วย ตั้งแต่พายกลับมา ดานี่ก็ไม่เหมือนคนที่พายเคยรู้จัก” ว่าออกมาแบบนั้นพร้อมๆ กับที่นัยน์ตาสวยเริ่มมีน้ำใสๆ เอ่อคลอออกมา เป็นภาพที่น่าสงสาร ในแบบที่ผมไม่เคยอยากเห็น ... เมื่อก่อนผมเคยเห็นพายร้องไห้หลายครั้ง เพราะแบบนั้นผมเลยอยากจะปกป้องพาย ... ถึงแม้ว่าตอนนี้จะสงสาร แต่ตอนนี้ผมก็มีคนที่ต้องห่วงมากกว่าพาย



“พาย...เอมไม่ได้ทำให้ผมเปลี่ยนไป”



“เอมทำ! ไม่อย่างงั้นดานี่จะเป็นแบบนี้ได้ยังไง ดานี่จะเปลี่ยนไป จะไม่รอพายเหมือนตอนนี้ได้ยังไง”



“ผมรอพายมาตั้งแต่ปี2นะ รอพายมา5ปี พายไม่คิดว่ามันนานเกินไปบ้างหรอ”



“ถ้าดานี่รักพาย ทำไมถึงทำให้พายไม่ได้ ดานี่ก็รู้ว่าเพราะอะไรพายถึงไม่พร้อมอ่ะ” พายที่พูดด้วยเสียงที่ดังขึ้นอีก สายตาพายที่มองผมในตอนนี้เป็นแบบที่กำลังผิดหวัง แต่ถ้าจะผิดหวังก็คงเป็นเพราะผมเอง



“ที่ผ่านมา ผมทำให้พายไม่มากพอหรอ” ถามออกไปแบบนั้น พายที่ก็ชะงักคำพูดไปพร้อมๆ กับน้ำตาที่คลอเบ้ามากขึ้นกว่าเดิม



“พายบอกให้รอผมก็รอ พายบอกให้ไปผมก็ไป พายไม่สนิทใจจะคุยกับผู้ชายผมก็เปลี่ยนตัวเอง ผมพยายามเข้าใจพายทุกอย่างว่ามันเป็นเพราะอะไร พายเจออะไรมา มันถึงทำให้พายตกลงคบกับผมไม่ได้สักที ... ผมอาจจะดีไม่พอจริงๆ แหล่ะพาย ผมเห็นแก่ตัวที่รอพายอีกไม่ได้แล้ว”



“ดานี่...ฮึก ... ทำไม ...ตอนนี้พายไม่ให้ดานี่รอแล้วไง” เหมือนว่าสุดท้ายแล้วพายเองก็กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหว



“ก่อนที่พายจะไปเรียนต่อ พายบอกผมว่าถ้ารอไม่ไหวก็ไม่ต้องรอ”



“แต่ดานี่บอกว่าจะรอ”



“ผมในตอนนั้นคิดว่าผมจะรอพายไหว แต่จริงๆ แล้วไม่มีใครทนรอใครแบบไม่มีจุดหมายไปได้ตลอดหรอกพาย ผมมันไม่ใช่คนดีขนาดนั้น ขอโทษที่ต้องพูดออกมาแบบเห็นแก่ตัวแบบนี้ แต่ตอนนี้ ผมไม่พร้อมจะรอพาย ผมอยากเดินไปกับคนอื่นแล้วพาย คนที่ผมจะไม่ต้องรอ”



“ฮึก ดานี่…ไหนดานี่บอกว่ารักพายไง ทำไมถึงทำแบบนี้ ฮึก ทำไมถึงผิดสัญญาแบบนี้ ฮึก” มือเรียวที่กำข้อมือของผมเอาไว้บีบแน่นขึ้นมากกว่าเดิม แรงเท่านี้ไม่ได้ทำให้รู้สึกเจ็บอะไรมากมาย แต่มันก็ทำให้เข้าใจได้ ว่าความรู้สึกของอีกฝ่ายในตอนนี้มันเป็นยังไง กำลังเจ็บและเสียใจมากแค่ไหน … จริงๆ ผมเองก็รู้สึกแย่ที่เห็นพายต้องเป็นแบบนี้เพราะตัวผม แต่ผมคิดว่ามันไม่ยุติธรรม ไม่ว่าจะกับพาย กับผม หรือแม้จะเป็นเอม ถ้าเรื่องราวมันยังคาราคาซังอยู่แบบนี้ต่อไป ไม่ว่าจะเป็นใครก็คงจะสุขใจไปตลอดไม่ได้หรอกกับความสัมพันธ์ที่ยังไม่ชัดเจนแบบนี้ ผมอยากให้เรื่องมันชัดเจนขึ้น ถึงตัดสินใจที่จะแก้มันจากตัวผมก่อน เริ่มแรกก็ต้องเป็นเรื่องของผมกับพาย ที่มันควรจะชัดเจนสักที เพราะแบบนี้เลยแยกตัวพายออกมาก่อน มาคุยกันให้ชัดเจนก่อน



“ผมรักพาย ผมเคยรักพาย และตอนนี้ก็ยังรักอยู่ แต่แค่ความรักที่ผมมีให้พาย มันไม่ใช่ในสถานะเดิม ที่ดาบมีให้พายได้ในตอนนี้ ก็แค่ความรักและหวังดีแบบเพื่อนเท่านั้น”



“ดานี่! ต้องดานี่สิ!!”



“มันปฏิเสธไม่ได้หรอกนะว่าจริงๆ แล้วผมชื่อดาบ” บอกออกไปแบบนั้น ถึงแม้ว่าตัวผมเองจะไม่ได้มีปัญหากับชื่อดานี่หรอกนะ เพราะจริงๆ แล้วก็เป็นชื่อในวงการที่ผมสถาปนาให้ตัวเอง ฟังดูแล้วก็ออกจะน่ารักกุ๊กกิ๊ก ฟังดูแล้วรู้สึกสวยๆ หวานๆ ด้วยซ้ำ … แต่เพราะว่าอยากให้พายเข้าใจ ก็ต้องพูดอะไรแบบนี้ชัดๆ ไปเลย



“ผมขอโทษนะพาย ตอนนี้ผมรักเอม แล้วก็ไม่อยากจะทำให้เอมมันไม่สบายใจ เพราะสมองควายตัวน้อยๆ แบบมันไม่ควรจะต้องมาคิดอะไรเยอะๆ ให้ปวดสมอง ถ้าผมยังพูดไม่ชัดเจนกับพาย พวกเราทุกคนก็จะมีแต่ปัญหา ดาบแค่อยากขอโทษพาย และบอกให้พายเข้าใจชัดๆ ว่าตอนนี้ ดาบไม่พร้อมจะรอพายแล้วนะ ดาบขอโทษที่รักษาสัญญาไม่ได้”



ถึงแม้ว่าสัญญาฉบับนั้นมันจะไม่เป็นธรรมกับผมเลยก็ตาม .. แต่ในหลายๆ ครั้งของเรื่องความรู้สึก คนที่บอกเลิกก่อนก็มักจะเป็นคนผิดเสมอ



.

.

.

(2ปีก่อน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ)



“พายคะ พายไม่ไปได้ไหม ทำไมต้องไปเรียนต่อด้วย ตัวเล็กๆ แบบพายดานี่เลี้ยงได้ทั้งชีวิตอยู่แล้วนะคะ” ฝื่อหนาที่ยื่นออกไปจับข้อมือเล็กของคนตรงหน้าไว้ สายตาคมที่แต่งแต้มด้วยอายแชร์โดวสีลูกพีชพร้อมๆ กับกรีดอายไลน์เนอร์สีดำเส้นเล็กๆ ชิดที่ริมขอบตา ส่งผลให้ดูเป็นธรรมชาติและน่ามอง ริมฝีปากหยักของคนร่างสูงทาด้วยลิปสติกสีชมพูอ่อนๆ ระเรือแต่มีประกายมุกวิบวับเปร่งประกาย คนร่างสูงที่จับข้อมือเล็กนั่นไม่ยอมปล่อย สายตาที่บ่งบอกว่าเค้ากำลังเสียใจ และไม่อยากให้คนตรงหน้าจากไป



“พายคิดใหม่นะ แค่พูดมาตอนนี้ ดานี่จะฉีกบอร์ดดิ้งพาสนี่ทิ้งให้เป็นผุยผงเลยนะคะ” ว่าออกไปแบบร้อนรนและก็ได้แต่หวังว่าคนตรงหน้าจะเปลี่ยนใจ



“ดานี่ ไม่เอาไม่งอแงแบบนี้นะ” พระพายที่ว่าออกมาแบบนั้นด้วยรอยยิ้มแบบน่ารัก ยังคงเป็นรอยยิ้มที่น่ามองในสายตาของเค้าเสมอ แค่เห็นครั้งแรกก็อยากปกป้องตลอดไป



“พายคะ”



“หื้ม ว่าไงหว่าดานี่”



“ถ้าพายไปแล้วดานี่จะทำยังไงล่ะคะ … ดานี่จะอยู่ยังไง” ถามออกมาแบบนั้นด้วยสายตาละห้อย ฝ่ามือหนาที่ก็ไม่ยอมปล่อยมือออกจากข้อมือบางเลยสักนาที



“ดานี่อย่าพูดแบบนี้ พายไม่อยู่ดานี่ก็อยู่ได้นะ เราเป็นเพื่อนกันนะดานี่ หรือถ้าไม่ได้ก็หาใครสักคนมาอยู่ด้วยนะ” ว่าออกมาแบบนั้นพร้อมรอยยิ้ม หน้าตาน่ารักที่ยังคงย้มให้กัน แต่คำพูดไม่ได้รักษาน้ำใจเค้าเลยสักนิด แค่ได้ฟังก็ยิ่งห่อเหี่ยวลงกว่าเดิม



“ทำไมพายพูดแบบนี้ พายก็รู้ว่าดานี่ทำแบบนี้ก็เพื่อพายนะ ดานี่รักพายนะคะ”



“อืม พายรู้น่า พายก็รักดานี่นะ…”



“พระพา….”



“แต่พายรักดานี่แบบเพื่อนไง ในตอนนี้พายยังไม่พร้อม แล้วไม่รู้ว่าอีกเมื่อไหร่พายถึงจะพร้อม มันไม่ยุติธรรมกับดานี่นะ ถ้าเจอใครก็แค่รักเค้าไป อย่าสนใจพายเลย …”



“จะไม่ให้สนใจพายได้ยังไงคะ!” ตะคอกออกไปแบบนั้นพร้อมๆ กับจ้องสายตากลมอย่างไม่สบอารมณ์ แต่คนตรงหน้าที่ก็แค่พูดออกมาแบบไม่สนใจอะไร รวมถึงไม่สนใจความรู้สึกของเค้า ก็แค่พูด…พูดพร้อมรอยยิ้มแบบที่เค้าชอบ



“แต่พายไม่ได้รักดานี่ อยากรอก็ได้...แต่พายยังไม่รู้เลยว่าปลายทางมันมีเส้นชัยรอดานี่อยู่หรือเปล่า...ถ้ามันมีจริง มันก็คงจะดี”



“ดานี่จะรอ ดานี่จะรอพายค่ะ!”



“แต่ถ้าพายไปแล้วเจอใครที่ทำให้ใจเต้น และไม่ต้องกลัวสัมผัสจากค้า พายคงไม่รอดานี่นะ ดานี่รู้ใช่ไหมว่ามันอยากกับพายมากเลย ขอแค่เจอใครสักคนที่พายไม่กลัวสัมผัสจากเค้า พายก็คงเลือกเค้า แบบนั้นดานี่จะเสียใจนะ พายไม่อยากให้ดานี่เสียใจ”



“แต่พายก็ไม่ได้กลัวสัมผัสจากดานี่นิค่ะ แค่นี้ก็คือความหวังของดานี่แล้ว” เถียงออกไปแบบนั้น ถึงแม้ว่าในใจตอนนี้จะรู้สึกเจ็บกับคำพูดของพายมากแค่ไหน … แต่ก็แค่พยายาม พยายามเหมือนที่เคยพยายามมาตลอดกับพระพาย และความสัมพันธ์ของเรา



“อืม พายไม่ได้กลัวสัมผัสจากดานี่…แต่มันก็ยังไม่ได้รู้สึกดี ถึงขนาดที่จะรู้สึกรัก”



“พาย…”



“พายไปนะ…หวังว่ากลับมา เส้นชัยที่พายเดิน จะมีให้ดานี่นะ” พูดออกมาแบบนั้นพร้อมรอยยิ้มสว่างสดใสของเจ้าตัว ก่อนที่ร่างเล็กๆ นั่นจะโถมเข้ามากอดตัวผมไว้แน่นๆ และก็เป็นแบบนั้นแทบทุกครั้งที่ผมก็กอดตอบอีกฝ่ายไปอย่างเต็มใจ ถึงแม้คำพูดชองพายจะไม่น่าฟัง ฟังแล้วเหมือนแบ่งรับแบ่งสู้ เหมือนจะปล่อยผมไปแต่ก็ผูกผมไว้ที่เดิม… แต่นั่นมันก็คือความหวังไม่ใช่หรอวะ ผมก็ยังมีความหวังอยู่ไม่ใช่รึไง



“กูว่า…มึงตัดใจจากพายเถอะว่ะไอ้ดาบ คนแบบมึงจะทำตัวหน้าสมเพชแบบนี้จริงๆ หรอวะ”



“หุบปากมึงไปไอ้สัดเมฆ” หันไปบอกมันแบบนั้น ในตอนที่พวกเราขับรถออกมาจากสนามบิน มาจอดอยู่ที่ถนนรอบนอกของสนามบินแล้วแหงนคอมองเครื่องบินลำนึงที่ทะยานขึ้นท้องฟ้าไป … พายไปแล้ว



“กูพูดจริงนะ คนแบบมึงอ่ะสัดดาบ”



“ดานี่ค่ะอิดอก รำคาญอ่ะอิเมฆ ยืนเงียบๆ เหมือนอิจั๊มจะตายหรอคะ” หันไปแหวใส่มันแบบนั้น ทั้งๆ ที่ในใจก็รู้สึกสมเพชตัวเองอยู่นิดๆ ไม่ต่างจากคำพูดของไอ้เมฆสักนิด



“กูไม่ได้อยากเงียบ แต่แค่คิดว่าพูดไปมึงก็คงไม่ฟัง” ไอ้จั๊มพูดออกมาแบบนั้น หน้าตาแป้นแล้นกลมๆ ของมันที่หันมามองผม



“แต่กูคิดนะ ถ้ามึงรักตัวเองบ้าง เหมือนที่มึงรักพายมันก็คงดี เพราะแบบนั้นมึงจะเห็น ว่าพายก็ไม่ได้รักมึงขนาดนั้น” ไอ้จั๊มที่ว่าออกมาแบบนั้นนิ่งๆ คำพูดของมันที่กระแทกเข้าใจผมจนเจ็บไปหมด ภาพของคนที่กอดกับผมอยู่กลางสนามบินยังคงติดอยู่ในใจของผม



“พายไม่ได้บอกให้มึงรอสักหน่อย ตอนนี้ก็ลองเปิดใจรับใครคนอื่นบ้างก็ดีนะมึง” ไอ้เมฆที่ว่าสำทับออกมาแบบนั้น แต่ใจของผมก็ยังยืนยันหนักแน่นว่าจะรอพระพาย



‘ตื่อดึ้ง’



[[NAKROB: มีเรื่องให้ช่วย รีบมา กูจะไปหาเฮียทัพ] ]



ผมที่ก้มลงมองหน้าจอมือถือที่ปรากฏข้อความของลูกพี่ลูกน้องที่สนิทกันมาตั้งแต่เด็กๆ ข้อความที่อ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจ แต่บอกให้รู้ว่ามันกำลังจะไปหาพี่ชายคนโตของมัน … แล้วมาบอกกูเพื่อ! กูกำลังเศร้าอยู่เนี่ยไอ้สัด



“ใครไลน์มาวะ” ไอ้จั๊มที่เสือกแล้วถามออกมาแบบนั้น ผมที่ถอนหายใจออกมาหนักๆ ก่อนจะเก็บมือถือลงกระเป๋ากางเกง



“เฮียปืนหรอวะ?” ไอ้เมฆที่ถามออกมาแบบนั้น มันคงคิดว่าเป็นพี่ชายของผม แต่ผมก็ทำแค่ส่ายหน้า



“เปล่าอ่ะ ไอ้รบ”



“ญาติมึงที่ชอบสีเหลืองๆ?” ผมไม่ได้ตอบออกไปแต่ก็แค่แหงนหน้ามองท้องฟ้าแล้วพยักหน้าออกไปหน่อยๆ เครืองบินลำใหญ่ที่ลอยห่างออกไปไกลจนแทบจะมองไม่เห็นแล้วในตอนนี้ … นี่เป็นความจริงที่ว่า พายได้ไปไกลจากผมแล้วจริงๆ



“เค้าตามมึงหรอวะ รีบไปดิสัด เผื่อมึงจะได้ไปเจอเด็กๆ นักศึกษามหาลัยอื่น เผื่อเจอเพื่อนๆ ของไอ้รบไอ้รุกอะไรงี้แล้วเกิดมึงชอบขึ้นมาก็ลุยจีบเลยเพื่อน … กว่าพายจะกลับมา มึงอาจจะตัดใจจากพายได้แล้วก็ได้นะเว้ย” ไอ้จั๊มที่ยุออกมาแบบตื่นเต้น ผมที่มองหน้ามันกับไอ้เมฆสลับกันแล้วกรอกตาใส่หนึ่งที



“จะมีใครทำให้กูสนใจได้อีกวะ ไม่มีทางอ่ะค่ะอิดอก!”



.

.

.



“ดานี่ ฮึก ไม่เอาแบบนี้ได้ไหม ฮึก … ตอนนี้พายรักดานี่นะ”



พายที่ว่าออกมาแบบนั้นพร้อมน้ำตาที่ตัวเองกลั้นไม่อยู่อีกต่อไป มือเรียวของพายที่จับมือของผมเอาไว้ไม่ปล่อย ก่อนที่พายจะพยายามโถมตัวเข้ามาก่อนผม ขาพายที่ยังคงเจ็บอยู่มากๆ แต่ก็พยายามจะลุกขึ้นยืนจากรถเข็นแล้วโถมตัวเข้ามากอดผมเอาไว้พร้อมสะอื้นจนตัวสั่น ผมที่รับตัวพายเอาไว้ แต่ไม่ได้กอดพายไว้แบบที่เคยทำตลอด เพราะตอนนี้…คงทำเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว



“ผมขอโทษนะพาย เรากลับไปเป็นเพื่อนกันเหมือนที่พายเคยบอกเถอะ”



“ฮึก อึก…”



“ตอนนี้ผมให้ได้แค่สถานะเพื่อนกับพาย แต่ถ้าพายไม่อยากเป็นเพื่อนกันแล้วผมก็เข้าใจได้ แต่ที่ผมต้องทำแบบนี้ เพราะถ้าไม่พูดให้ชัดเจนสักที ผมกับพายก็จะไม่เข้าใจสักทีว่าที่เราเป็นอยู่คืออะไร หลายๆ อย่างผมยังทำให้พายได้เหมือนเดิมนะ…แต่มันจะมากไปจนเกินไปไม่ได้ ตอนนี้ดาบจีบเอมอยู่ มันคงจะดูไม่ดี เพราะงั้นวันนี้พายกลับไปกับเมฆนะ”



ผมที่ว่าออกไปแบบนั้นแล้วตัดจบที่แบบนี้ อาจจะดูไร้ความรับผิดชอบไปสักหน่อย แต่มันคงดีกว่าที่จะต้องยืดเยื้อให้มีปัญหา ผมที่หันไปมองข้างหลังแล้วเห็นไอ้เมฆเดินเข้ามา มันที่ทำหน้าเครียด ผมเข้าใจดี เพราะมันเป็นคนกลาง เป็นทั้งเพื่อนผมและเพื่อนพาย ถึงแม้มันจะยุผมให้เลิกชอบพายมาตลอด แต่ผมรู้ดี ว่ามันเองก็ทนใจแข็งเห็นพายเสียใจแบบนี้ไม่ได้



“ไอ้ดาบ” มันที่เดินเข้ามาแล้วพูดแบบนั้น ผมหันไปมองหน้ามันแล้วดึงตัวพายออก พายที่ยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้นจนตัวโยนอย่างน่าสงสารอยู่ในตอนนี้ ผมที่เสหน้าหนีแล้วประคองพายลงนั่งรถเข็นตามเดิม



“ฝากพาพายกลับบ้านด้วยนะมึง กูมีเรื่องที่ร้านที่ต้องไปจัดการ”



บอกมันออกมาแบบนั้นแล้วหันหลังออกมาจากตรงนั้นในทันที แม้ว่าฝ่ามือเรียวของพายจะพยายามคว้าเสื้อผมเอาไว้ก็ตาม แต่ในตอนนี้ผมเองก็ทำได้แค่ไม่สนใจ … ถ้าจะจบ ก็ให้มันจบแบบชัดเจนแบบนี้ไปเลยดีกว่า มันดีทั้งกับพายและที่สำคัญก็คือกับผมและเอม แค่นึกมาถึงตรงนี้ก็ไม่รู้ว่าป่านนี้ไอ้ลูกควายน้อยมันจะไปเกลี้ยวกราดอยู่ที่มุมไหนของห้องผมแล้วก็ไม่รู้






[[TGer: ไอ้เอม มึงอยู่ไหน] ]



เสียงข้อความไลน์ที่ดังขึ้นมาข้างๆ หมอน มันสว่างวาบขึ้นมาในห้องที่มืดสนิทเพราะปิดไฟนอนแล้ว จริงๆ ก็แค่ปิดไฟแต่ไม่ได้นอน เพราะแค่จะหลับตาลงก็นอนไม่หลับแล้ว ในหัวเต็มไปด้วยภาพเหตุการณืก่อนหน้านี้ที่พึ่งเกิดขึ้นกับผม แค่นึกถึงก็ทำให้หัวใจสั่นระรัวเหมือนถูกมือที่มองไม่เห็นตีกระทุ้งเข้าใจที่แบบไม่หยุด



“ทำไมวะ…ทำไมแม่งต้องเป็นแบบนี้ด้วยวะ” พูดแบบนั้นออกมาเบาๆ พร้อมๆ กับเสียงข้อความไลน์ที่ดังขึ้นมาอีก สุดท้ายก็ยอมแพ้มัน แล้วหยิบขึ้นดู เป็นไอ้เก้อ … ไม่ใช่ใครอีกคนที่ผมได้แต่หวังว่าเค้าจะทักมาง้อ ทักมาถาม …



แต่สุดท้าย…ก็ไม่มี



“ทำไมเค้าต้องเลือกกูวะ เหอะ หลงตัวเองฉิบหายไอ้เอม มึงแม่งเป็นใครวะ ทำไมเค้าต้องแคร์มึงขนาดนั้นวะ” บอกกับตัวเองผ่านความเงียบก่อนจะเอื้อมมือขึ้นมาเช่นน้ำตาออกอย่างลวกๆ แล้วตัดสินใจกดตอบไอ้เก้อไป



[[TGer: ไอ้เอม มึงอยู่ไหน] ]



[[Chaem: มีไรวะ] ] เลือกจะตอบออกไปแบบนั้น



[[TGer: กูถามว่ามึงอยู่ไหน รีบบอกมา] ]



[[Chaem: ก็อยู่ห้องเจ้านายสิวะ มึงก็ถามแปลกๆ ฮ่าๆ] ]



[[TGer: มึงอย่ามาโกหกกูไอ้เอม กูเจอไอ้สัดตุ๊ดปลอมอยู่ที่ร้านมันตอนนี้ มันพูดว่ามึงหายไปจากห้อง มึงอยู่ไหน ตอบ!] ]



ไอ้เก้อที่พิมพ์ออกมาแบบนั้น หัวใจของผมสั่นตอนที่เห็นข้อความนี้ … เจ๊พี่มันรู้แล้วว่าผมไม่อยู่ห้อง แต่ก็ไม่มีข้อความอะไรทักมาหาผม

“ฮึก…สุดท้ายมึงก็ไม่ได้สนใจอะไรกูเลยจริงๆ ด้วย”


--------------To be continued--------------



ใครรรร ใครที่ด่าเจ๊ดานี่ไหวในตอนก่อนๆ มาเดี๋ยวนี้เลยจ้าาาา หึยยยย

ปล. ขอโทษจริงๆ ที่มาได้แค่นี้ เหมือนที่แคทแจ้งไว้ในเพจและในทวิตเตอร์แล้วว่าโน๊ตบุ๊คแคทพังมาเป้นอาทิตย์แล้วยังแก้ไขไม่ได้

เพราะด้วยสถานการณ์ตอนนี้จะออกไปหาซื้อใหม่และแก้ไขก็ยากมากๆ เลยค่ะ แต่ก็พยายามซ่อมมันอยู่ค่ะ ... จริงๆ แคทตั้งใจว่า

จะมาอัพตั้งแต่เมื่อวานเพราะเป็นวันเกิด แต่ก็หาที่พิมพ์ตอนนี้ยากมากค่ะ เลยมาได้แค่นี้ ต้องขออภัยจริงๆ นะคะ

ฝาก #สวยๆ เป็นผัว ในทวิตเตอร์ด้วยนะคะ





หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่23 {21/03/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 21-03-2020 22:00:27
 :pig4: :pig4: :pig4: รอด่าอีเจ๊ทีเดียว
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่23 {21/03/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 21-03-2020 22:24:38
ถ้าอิเจ้หาน้องเอมไม่เจอ จะโดนแม่ยกน้องเอมรุมยำแน่.  :m16:

สุขสันต์วันเกิดคุณแคตย้อนหลังนะจ๊ะ. ขอให้ไม้เจ็บ ไม่จน ปลอดโควิด-19 นะจ๊ะ.  :L2:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่23 {21/03/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: sarang ที่ 21-03-2020 23:12:54
อิพาพวย มึงแม่งเป็นคนที่โคตรเห็นแก่ตัว น่าตบมากค่ะ!  :z6:
ฉันไม่แปลกใจการกระทำพี่ดาบเท่าไหร่นะ เพราะอ่านมาตั้งแต่เรื่องเฮียรบ ตอนที่พี่จีบน้องกุ๊กพี่ดาบแกก็เต็มที่มาก เป็นคนที่ดูเต็มที่กับความรัก แต่รักของพี่ดาบแต่ละครั้งแม่งพังเละเทะทุกรอบเลยว่ะ และยิ่งกับอิพาพวยนี่หนักเลย คนอะไรโคตรเห็นแก่ตัว ตอนจะไปบอกถ้าเจอคนที่นางคิดว่าใช่นางก็จะเลือกเค้าเลย แต่ก็หวังว่าปลายทางจะเป็นอิเจ๊ ไม่รักนะแต่กั๊กตั้งแต่จะไป จนกลับมาก็ยังกั๊กอยู่ อินี่!! น่าตบมากค่ะ ฉันทีมพระเอกจ้า!
ส่วนน้องเอม สงสารน้องอ่ะ น้องเป็นคนฟังเหตุฟังผลนะ แต่ที่อ่านมาเหมือนน้องจะน้อยใจเก่ง ไปหมดแล้วใจลูกฉันนนนน :katai1:
Happy Birthdayย้อนหลังด้วยนะคะคุณแคท :mew1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่23 {21/03/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 22-03-2020 09:19:09
รอๆ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่23 {21/03/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Chucream.nabi ที่ 22-03-2020 10:02:56
HBD. ย้อนหลังนะ
รักษาสุขภาพด้วยนะช่วงนี้

ไงละพาพวย บอกเองนิว่ารอไมได้ก็ไม่ต้องรอ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่23 {21/03/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: LifePo-YuGu ที่ 23-03-2020 11:23:24
HBD ย้อนหลังนะจ้ะ มีความสุขมากๆ เป็นกำลังใจให้ในทุกๆเรื่องน่า แคท  :กอด1: :กอด1:

สงสารน้องเอมมมม มาหาแม่มาาาาา  :hao5:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่23 {21/03/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: KizzllKizz ที่ 23-03-2020 18:12:21
สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังนะค้า ขอให้มีความสุขมากๆ

เจ๊ดานี่ก็น่าตีนะ แต่ก็น่ารักด้วย เฮ้อ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่23 {21/03/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 23-03-2020 23:32:44
แล้วเอมไปอยู่ไหนอ่ะ,,
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่23 {21/03/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Rungzanaka ที่ 24-03-2020 15:58:24
อิเจ้รีบหาน้องเลยนะน้องมโนไปไกลแล้วววฮึ้ย
สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังนะงับมีความสุขมากๆนะคะ :L1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่24 {28/03/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 29-03-2020 20:59:13
บทที่24



ขายาวที่ก้าวเดินไวๆ ไปตามทางเดินอย่างเร่งรีบ เพราะไม่อยากให้ใครบางคนต้องรอนาน กลัวว่าควายเด็กบางตัวมันจะคิดมากจนงอแง สุดท้ายฝ่ามือหนาก็ค่อยๆ หยิบคีย์การ์ดเปิดเข้าไปในห้องของตัวเอง ความมืดที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าทำให้ต้องขมวดคิ้ว



เงียบ ... ไม่มีการเคลื่อนไหว



มืด ... แบบไฟในห้องถูกจุดถูกปิด



ร้อน ... เพราะแอร์ไม่ถูกเปิดไว้



‘พรึบ’



เอื้อมมือไปเปิดสวิชไฟที่อยู่ไม่ห่างออกไปเท่าไหร่ในตอนนี้ ภาพที่ปรากฏไม่ต่างจากที่คิดเอาไว้สักเท่าไหร่ แต่สุดท้ายก็ยังอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วออกมา ได้แต่ยืนเอาตัวพิงไว้กับประตูหน้าห้องที่ตัวเองพึ่งปิดมันไปเมื่อสักครู่ ศีรษะทุยผมสีทองสว่างเอนพิงกับประตูอย่างเหนื่อยๆ สายตาคมที่ได้แต่มองเพดานแล้วถอนหายใจออกมาหนักๆ แทน



“กูว่าแล้ว แม่งเอ้ย” อดจะหงุดหงิดไม่ได้ ... แต่ไม่ได้หงุดหงิดให้คนที่ตอนนี้ไม่ได้อยู่ในห้องแล้ว แต่หงุดหงิดที่เรื่องมันต้องมาเป็นแบบนี้ ไอ้เอมยังเด็ก อย่างน้อยมันก็อายุน้อยกว่าตัวเขา มันจะโกรธจนไม่อยากฟังเหตุผลก็ไม่แปลกใจหรอก แต่มึงออกจากห้องไปแล้วไปอยู่ไหนวะแม่ง มองไปรอบๆ ห้อง พื้นที่ก่อนหน้าที่ตัวเค้าจะออกจากห้องยังเต็มไปด้วยเศษแก้วและเศษซากขาหมู ตอนนี้มันกลับมาสะอาดแล้ว แถมห้องยังมีกลิ่นหอมสดชื่นจากสเปร์ที่ถูกฉีด มองดูก็รู้ว่าไอ้เอมมันคงทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วก่อนจะออกไป ...



ผมที่ได้แต่เดินเข้าไปดูในห้องอีกครั้ง ก็แค่เผื่อๆ ว่ามันจะนอนขดเป็นลูกควายอยู่บนเตียง ... แต่แน่นอนว่าไม่มี ก้าวขายาวๆ ไปตรงตู้เสื้อผ้าอย่างรีบร้อน พอเปิดออกแล้วก็ได้แต่ถอนใจออกมาอย่างโล่งอก อย่างน้อยเสื้อผ้าหนังสือเรียนของมันยังกองอยู่ตรงนี้ ...



“เฮ้อ ยังดี” บอกกับตัวเองแบบนั้นก่อนจะเดินกลับมาทรุดตัวนั่งลงบนเตียง แต่ถึงแบบนั้น



“มันไปอยู่ไหนวะแม่ง อย่าบอกว่าไปหาไอ้เก้อนะ สัด” แค่คิดก็หงุดหงิดขึ้นมาเป็นเท่าตัว ... ความรู้สึกต่างจากครั้งก่อนตอนที่เอมมันไปอยู่กับไอ้เก้อก็ตรงที่ ตอนนี้ผมดันรู้สึกกับมันมากกว่าเดิม



“แม่ง!” ตั้งท่าคว้ากุญแจรถ กูจะไปลากแม่งกลับมาให้ได้เลยคอยดู ถ้าเจอหน้าไอ้สัดล่ำนั่น กูจะตบแม่งสักทีสองที หรือทำจริตสวยๆ แล้วข่วนหน้าแม่งเลยดี จะได้เป็นทางยาวๆ เวลาอาบน้ำแม่งจะได้แสบ เออ... ดูสะใจดีกว่า



‘ครืดๆ’



“สัด” ได้แต่สบถออกไปแบบนั้นตอนที่โทรศัพท์มือถือสั่น พอเห็นหน้าจอว่าใครโทรเข้าแล้วยิ่งหงุดหงิด



“โทรมาทำเหี้ยไรไอ้สัด!”



((โอ้โห ใจเย็นนะจ๊ะเจ๊พี่มึง นี่น้องอิฐเองไง) )



“ถ้าไม่มีเรื่องเหี้ยไรก็แค่นี้” พูดออกไปแบบนั้น ตั้งใจว่าจะกดวางสายเพราะไอ้สัดนี่กำลังทำให้เสียเวลา แต่ก็ถูกเสียงจากปลายสายแหกปากตะโกนโวยวายออกมาซะก่อน



((เดี๋ยวๆๆๆๆๆ อิเจ๊พี่ดาบมึงอย่าพึ่งวางนะโว้ยๆๆ) )



“มีเหี้ยอะไรอีกวะ” รำคาญฉิบหาย วุ่นวายเป็นเมีย



((อุ๊ต๊ะ วันนี้เรียกพี่ดาบไม่โกรธด้วยว่ะ) ) ปลายสายที่พึมพำออกมาแบบนั้นเบาๆ เหมือนว่ามันกำลังคุยกับตัวเองมากกว่าที่จะคุยกับผม



‘ติ๊ด’



ได้ยินแบบนั้นแล้วกรอกตาทันที กดวางสายแม่ง ... คว้ากุญแจรถแล้วเดินออกจากห้องนอน เสียงโทรศัพท์มือถือที่สั่นอยู่ในกางเกงก็กวนใจตามมาอีก ตั้งใจว่าจะไม่กดรับสาย แต่ไอ้คนโทรก็ดูจะมีความพยายามมากจริงๆ มือถือสั่นจนไข่กูจะยานอยู่แล้ว



“มีเหี้ยอะไรอีกไอ้สัดอิฐ ถ้าไม่สำคัญกูจะไล่มึงออก!” บอกมันไปแบบนั้นด้วยเสียงดุๆ อารมณ์กูตอนนี้ไม่ได้ดีเหมือนหน้าตาสวยๆ บอบบางของกูนะบอกก่อน



((ใจเย็นครับพี่ครับ อย่าพึ่งวางสายน้องอิฐอีกนะ) )



“เข้าเรื่อง”



((เออๆ ...ก็จะถามว่าพี่มึงเมื่อไหร่จะเข้าร้านวะ คืนนี้มีนัดเทสเหล้านะเว้ย) )



“กูไม่เข้าละ มึงเทสเลย” บอกมันออกไปแบบนั้นพร้อมๆ กับเดินออกจากห้องไปด้วย คิดเอาไว้แล้วว่าจะไปตามหาไอ้เอมที่ห้องไอ้เก้อ ยังไงก็จะไม่มีทางยอมให้ไอ้ควายน้อยได้นอนที่ห้องไอ้ล่ำนั่นแน่ๆ



((ไม่ได้สิเว้ยเจ๊พี่มึง ก็พี่มึงบอกแล้วว่าจะมาเทสเอง ผมเลยไม่ได้หาใครมาดูตรงบาร์แทนแล้วไง เพราะงั้นผมจะไปเทสเหล้าเองได้ไงล่ะวะพี่) )



“แม่ง วุ่นวายฉิบหาย!” หงุดหงิดจนรู้สึกจะประสาทแดก รำคาญที่พอกำลังรีบๆ แล้วอะไรหลายๆ อย่างมันก็จะประจวบเหมาะกันแบบนี้



((เจ๊พี่ดาบมึงรีบเข้ามาเลย นัดเค้าไว้แล้วนะเว้ย) )



“มึงให้ไอ้จูนมันไปเทส”



((พี่จะบ้ารึไงวะ ไอ้จูนมันแดกเหล้าได้ที่ไหนล่ะ ให้มันไปเทสหรือให้มันไปเมา ถ้าเหล้าไม่ถึงที่เจ๊พี่มึงพอใจอีก ร้านเราจะขาดทุนนะเว้ย) )



“แม่ง น่ารำคาญฉิบหายเลยไอ้สัด กูกำลังยุ่งเนี่ย K!”



((เอ้า โกรธอะไรน้องอิฐอ่ะถามก่อน) )



“สัด เดี๋ยวกูเข้าไป!” บอกมันออกไปแบบนั้นทั้งๆ ที่ใจก็ร้อนรนฉิบหาย ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู มันยังไม่ถึงสี่ทุ่ม คิดว่าจะไปจัดการเทสเหล้าเข้าร้านให้ไวที่สุด หลังจากนั้นจะออกไปตามไอ้เอมทันที ยังไม่ถึงเที่ยงคืนคิดว่าน่าจะยังทัน ... คิดแบบนั้นก็เลยกดตัดสายไอ้อิฐไปอีกหนึ่งรอบ สุดท้ายก็ตัดสินใจเข้าไปจัดการเรื่องในร้านก่อนให้เรียบร้อย ถ้ารู้ว่าเป็นโตขึ้นแล้วจะเหนื่อยขนาดนี้ กูไม่เป็นสเปิร์มที่แข็งแกร่งที่สุดหรอกแม่งเอ้ย



.

.

.


“เจ๊พี่มึงจ๊ะ เชิญดื่มน้ำจ๊ะ”



“ไม่แดก กูจะรีบไป” บอกไอ้อิฐแบบนั้นตอนที่มันเดินยิ้มหน้าระรื่นเข้ามาหาพร้อมแก้วเหล้าในตอนที่ผมเดินลงมาจากชั้นสองของร้านหลังจากที่เข้าไปเทสเหล้ายี่ห้อใหม่ที่จะเอามาลงร้านเรียบร้อยแล้ว



“รีบไปไหนของเจ๊พี่มึงวะครับ ว่าแต่เรื่องเหล้าเรียบร้อยไหมพี่”



“เออ เรียบร้อย กับอิแค่เทสเหล้าทำไมต้องวุ่นวายวะ” หันไปถามไอ้อิฐแบบหงุดหงิดสุดๆ มองไปรอบๆ ร้าน วันนี้ลูกค้าก็ดูจะเยอะเหมือนทุกที ส่วนโซนร้านอาหารทางด้านนอกตอนนี้ปิดไปแล้วเพราะหมดเวลาเปิดร้าน



“เอ้า ก็เจ๊พี่ดาบมึงบอกจะมาเทสเองนี่หว่า ไหงมาหงุดหงิดล่ะวะ”



“แล้วไหนมึงบอกปลีกเวลาออกจากบาร์ไม่ได้ แล้วนี่มึงมาเสนอหน้ายืนรอกูหน้าบันไดเพื่อ นี่จ้อจี้กูหรอไอ้สัด อยากกินตีนกูหรอไอ้เหี้ยอิฐ”



“โอ้ย เปล่าสักหน่อย มันปลีกมาไม่ได้จริงๆ เว่ยตอนจะไปเทสเหล้าอ่ะ แต่เจ๊พี่ดาบมึงดูตอนนี้สิจ๊ะ คนเค้าไปแดนซ์กันตรงฟลอร์หมดแล้วจ๊ะ น้องอิฐเลยปลีกเวลามาเสิร์ฟน้ำให้พี่มึงดับไฟในใจได้นี่ไงล่ะจ๊ะ เป็นไง ลูกน้องน่ารักไหม แบบนี้พี่มึงต้องขึ้นเงินเดือนให้แล้วอ่ะเนาะ” มันที่ว่าแบบนั้นแล้วทำหน้าตาประจบ หันไปมองมันที่ฉีกยิ้มกว้างขวางแล้วกระพริบตาปริบๆ



“น่ารักมากมั้งไอ้สัด ตัวยังกับควาย” ด่ามันออกไปแบบนั้นแล้วยกแก้วเหล้าขึ้นมากระดกทีเดียวหมดแล้วยัดแก้วไปใส่ไว้ในมือไอ้อิฐอีกที



“ก็คือว่ากูตัวควายอ่ะเนาะ แล้วคือเจ๊พี่มึงนี่น่ารักจุ๊บจิ๋มมากสินะ” ได้ยินมันบ่นเบาๆ ออกมาแบบนั้น แต่เลือกที่จะทำแค่หันไปมองมันเล็กน้อยๆ เห็นไอ้อิฐที่กอดแก้วไว้ที่อก อีกมือนึงคือมันยกขึ้นมาปิดปากมันไว้ทันที ไม่อยากจะสนใจมันให้เสียเวลาเลยเลือกที่จะเดินหนีมันออกมา แต่ติดตรงที่ว่าโดนใครอีกคนเรียกกันไว้ซะก่อน



“ไอ้ดาบ” หันหลังกลับไปก็เจอเข้ากับไอ้เมฆ ...



“มึงมาอยู่นี่ได้ไง แล้ว...”



“กูไปส่งพายมามาแล้ว นี่มึงกำลังจะไปไหนวะ” มันที่ชิงบอกออกมาก่อนแบบนั้น สายตาของมันที่เหมือนมีอะไรอยากจะพูดแบบนั้น พอเห็นแล้วก็ทำให้ต้องถอนหายใจออกมา วันนี้กูจะต้องถอนหายใจอีกกี่รอบ ... อายุสั้นหมดแล้วตัวกู



“กูรีบ”



“ขึ้นไปคุยกับกูที่ชั้นสองก่อนดิวะ”



“แป๊บเดียวมึง” มันที่ยังคงพูดแบบนั้นออกมา แค่เห็นสายตาของมันก็รู้แล้วว่ามันคงอยากพูดเรื่องพาย และท่าทางว่ากูจะหนีแม่งออกไปจากตรงนี้ทั้งแบบนี้ไม่ได้



“ห้ามนาน กูรีบ” ย้ำกับมันอีกครั้งแล้วเหลือบสายตามองนาฬิกาที่ข้อมือตัวเอง



“เออ”



สุดท้ายเลยเดินนำขึ้นไปที่โต๊ะโซนโซฟาที่ชั้นสอง ผมที่ทรุดตัวลงนั่ง และไอ้เมฆก็นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม มันที่นั่งหันหน้าไปทางบันได้ และกำลังจ้องหน้ามาที่ผม



“มึงมีอะไรก็รีบๆ พูดมาไอ้เมฆ กูรีบ”



“มึงมั่นใจแล้วหรอวะ เรื่องพาย” มันเองที่ก็ถามออกมาแบบนั้นเข้าประเด็นทันทีแบบที่ผมร้องขอ จ้องตามันที่มันเองก็มองกันแบบรอคำตอบ ผมรู้ดีว่าไอ้เมฆก็เป็นคนนึงที่ห่วงพาย ... และมั่นใจว่ามันเองก็ห่วงผมเหมือนกัน



“กูมั่นใจ”



“พายร้องไห้ตลอดทางเลยตอนที่กูไปส่ง” มันบอกออกมาแบบนั้นแล้วถอนหายใจหนักๆ ก่อนจะเอนตัวพิงลงพนักโซฟาแบบเหนื่อยๆ



“พายน่าสงสาร”



“กูรู้...กูก็สงสารพาย” พูดบอกออกไปแบบนั้น ก่อนจะเปิดปากพูดต่อ



“แต่ความสงสารมันไม่มีประโยชน์ ถ้ากูยังไม่พูดออกไปให้ชัดเจนอยู่แบบนี้ ทั้งพาย ทั้งตัวกูและเอม มันจะไม่มีใครสักคนไปต่อได้ และถ้ายังคาราคาซังอยู่แบบนี้ จะเป็นกูเองที่ต้องเสียใจ”



“มึงไม่ได้เอาน้องเอมมาแทนพายใช่ไหมวะ” ไอ้เมฆถามออกมาอีกพร้อมขมวดคิ้ว



“มึงว่าไอ้เอมมีอะไรเหมือนพายบ้างวะ หน้าตา นิสัย ฐานะ ... มันเอามาแทนกันได้หรอวะ” ผมที่ว่าออกไปแบบนั้นแล้วหัวเราะออกมาหน่อยๆ



“มันไม่มีใครมาแทนใครหรอก มันก็แค่...เป็นใครสักคนที่ลงล็อคพอดี แบบที่ไม่ได้มาแทน ... ไอ้เอมมันเป็นคนนั้นว่ะ คนที่กูรู้สึกอยากอยู่ด้วย ทั้งๆ ที่มันไม่มีอะไรดีสักอย่างถ้าเทียบกับพาย .. อ้อ แต่อาจจะมีข้อนึงที่พายเทียบมันไม่ได้เลย”



“หื้ม?”



“ใจมัน ... ใจไอ้เอมมันบริสุทธิ์กว่าพายเยอะ” ผมพูดออกไปแบบนั้น เป็นคำพูดตรงๆ เป็นครั้งแรกที่ผมพูดถึงพาย และก็คงเป็นครั้งแรกที่ไอ้เมฆต้องเบิกตากว้างมากขนาดนั้น



“กูไม่คิดเลยว่าจะได้ยินคำพูดแบบนี้ออกมาจากปากมึงได้ อเมซิ่งมากๆ ไอ้เชี่ยดาบ”



“มันก็เป็นงี้ไม่ใช่หรอวะ เวลาที่เราไม่รู้สึกแล้ว จะพูดจะทำอะไรมันก็ง่ายไปหมด ... แม้กระทั่งข้อเสียของพาย ในตอนนี้ถ้าอยากจะให้กูแจกแจงเป็นข้อๆ ออกมาก็คงได้อีกเป็นร้อยข้อ แต่มันไม่จำเป็นหรอก แค่ให้เข้าใจไว้ว่าตอนนี้กูไม่รู้สึกกับพายแล้วแค่ข้อเดียวแค่นั้นก็พอ ... กูควรไปต่อตั้งนานแล้วแต่ก็โง่รอไม่เลิก เพราะแบบนั้น...วันนี้กูจะไม่ยอมเสียโอกาสที่กูจะได้ไปต่อกับคนที่พอดีกับใจกูไปอีกแล้ว”



“ได้ยินมึงพูดแบบนี้แล้วกูดีใจว่ะ ในที่สุดมึงก็เลิกยึดติดกับพายสักที แบบนี้ก็คบน้องเอมได้แล้วดิ”



“กูคบกับมันได้ตั้งนานแล้วเถอะ มีแต่แม่งนี่ล่ะที่ไม่ยอมสักที”



“น้องเค้าไม่มั่นใจในตัวหรือเปล่าวะ” ไอ้เมฆที่ว่าแบบนั้นแล้วเลิกคิ้วขึ้นสูง หน้าตาที่กำลังสำรวจผมตั้งแต่หัวจรดเท้า ท่าทางหน้าถีบฉิบหายแบบที่เห็นแล้วอยากยันให้มันหงายท้อง



“กูมีอะไรให้ไม่มั่นใจ กูนี่ทำให้แม่งแทบทุกอย่างแล้ว อีกนิดนึงก็อุ้มมันไว้เอาแบบไม่ให้ตีนมันแตะพื้นแล้วเถอะ รักขนาดไหนมึงนึกภาพดู” บอกออกไปแบบนั้น เริ่มฉุนนิดหน่อยตอนที่นึกถึงเรื่องนี้



“ขนาดนั้นเลยนะ”



“ก็ขนาดนั้นเลยสิวะ อิดอก”



“สัด ยังจะมามีอิดอกเหี้ยไรอีก มึงเอาไอ้ดาบเพื่อนกูคืนมาเลยนะ” ไอ้เมฆที่ว่าออกมาแบบนั้นทำเอาผมกรอกตา แต่ถึงแบบนั้นก็ยังนึกขึ้นได้อีกเรื่องนึง



“อีกอย่าง.....”



“หื้ม?”



“กูรู้สึกเหมือนว่าไอ้เอมมันไม่ได้ชอบที่ตัวตนของกูเลยว่ะ” เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมไม่เคยพูดออกไป แต่ก็แค่สังเกตได้หลายครั้งจากคำพูดของมัน



“หมายถึงอะไรวะ”



“กูรู้สึกว่า เอมมันไม่ได้ชอบที่กูเป็นแบบนี้ มันแค่ต้องการผู้ชายเท่ๆ ไว้อวดใครต่อใครว่ามันมีแฟนเท่อะไรแบบนี้”



“มึงจะบอกว่าน้องมันไม่ได้ชอบร่างตุ๊ดควายของมึง” ไอ้เมฆที่ว่าออกมาแบบนั้น และก็เป็นผมเองที่พยักหน้าตอบมันไปที ไอ้เมฆที่นิ่งชะงักไปตอนที่ผมตอบ ก่อนมันจะหัวเราะลั่นออกมาทันทีในเวลาต่อมา



“ฮ่าๆๆๆๆ ไอ้ฉิบหาย ก็ไม่ใช่แต่น้องเอมไหมวะที่ไม่ชอบ มีใครชอบร่างนี้ของมึงบ้างไอ้สัด ทั้งป๊าม๊า พี่ปืน น้องแจ กู ไอ้จั๊ม มีใครชอบบ้างไอ้สัด ใช้หน้าตาได้เสียของฉิบหาย หล่อเกือบตายแล้วมึงจะมาทำตัวเป็นตุ๊ดแด๊ะแด๋เพื่อไรวะ” ไอ้เมฆที่ว่าออกมารัวๆ แบบนั้นแล้วขำเหมือนจะขาดใจตาย ขนาดร้านแสงน้อยขนาดนั้นยังมองเห้นว่ามันขำจนหน้าแดง



“สัด ร่างดานี่มันยังไงวะ มันก็ออกจะน่ารักนุ่มนิ่มป่ะ สวยๆ อ่ะสัด...จะรักกันทั้งที ก็ควรมองที่ตัวตนของกูไหมวะ ไม่ใช่แค่เปลือกที่เหมือนพระเอกหนังในซีรี่ย์”



“ไอ้ดาบ”



“เหี้ยไร”



“ดานี่มันเป็นตัวตนของมึงจริงๆ หรอวะ ... มึงเองก็เป็นดานี่เพราะพายไม่ชอบผู้ชายไม่ใช่หรือไง ตอนนั้นมึงถึงแกล้งเป็นตุ๊ดเพื่อให้พายชอบ ถ้ามึงพูดแบบนี้ มันก็จะไม่ยุติธรรมกับน้องเอมมากไปหน่อยหรอวะ ... มึงจะชอบแต่งหน้าทาปากจริงๆ หรือตอแหลก็เรื่องของมึงเถอะ แต่ถ้ามึงเองยังยึดติดเรื่องนี้เหมือนกัน ความสัมพันธ์ของมึงที่อยากไปต่อ มันก็อาจจะไปไม่ได้นะเพื่อน ... เปิดใจให้กว้างหน่อยดิวะ ชีวิตคู่อ่ะ มันเอาแต่ใจตัวเองไม่ได้หรอกนะมึง”



ไอ้เมฆที่พูดออกมาแบบนั้น คำพูดของมันเหมือนจะกระแทกใจของผมแบบที่ตัวเองก็ไม่เคยคิดถึงมาก่อน จริงๆ อาจเป็นเพราะผมไม่เคยคิดถึงจุดนี้มาก่อนเลยล่ะมั้ง อาจเป็นเพราะว่าผมเป็นดานี่มานานจนชิน และการเป็นดานี่มันไม่ได้มีผลกระทบต่อชีวิตอะไรกับผมจนผมลืมไปแล้วล่ะมั้งเลยไม่ได้คิดถึงมุมนี้ ... อีกมุมนึงของไอ้เอม



“แต่กูสวยนะคะ” เลือกที่จะแกล้งดัดจริตออกไป เห็นไอ้เมฆตีนกระตุกหน่อยๆ และตาที่กรอกกลับไปกลับมาของมัน แต่ถึงแบบนั้นผมก็ยังพยักหน้าส่งไปให้



“ที่มึงพูดก็ถูก กูจะคุยกับไอ้เอมใหม่”



“เออดีละ ... กูอยากเห็นเพื่อนกูมีความสุขกับความรักสักที”



“เออ...แต่ถึงแบบนั้นตอนนี้กูต้องไปแล้ว” พูดแบบนั้นพร้อมลุกขึ้นยืน



“จะรีบไปไหนของมึงวะ อยู่กินเหล้าเป็นเพื่อนกูก่อนดิ”



“ไม่ล่ะ กูจะไปตามหาเอม”



“หื้ม มึงจะไปตามหาน้องเอมทำไมวะ” มันที่ขมวดคิ้วทำหน้างงส่งมาให้กัน เห็นแบบนั้นแล้วถอนหายใจออกมาอีกทีเลยกู หล่อนะคะอิดอก แต่โง่!



“ก็เพราะว่ามันหายไปน่ะสิวะ กูถึงต้องตามหา”



“น้องเอมหาย?”



“เออ..ไอ้เอมมันหายไปจากห้องกู”



...



“กูถามจริงนะ ทำไมมึงต้องอยากไปร้านนี้ด้วยวะ” เสียงของแขกที่กูไม่ได้เชิญถามออกมาด้วยคำถามเดิมๆ เป็นรอบที่สามล้าน ได้แต่หันหน้ากลับไปมองไอ้คนที่ตอนนี้กำลังนั่งจับจองพื้นที่อยู่บนเตียงของผมแบบหน้าด้านๆ



“พี่มึงจะถามอะไรนักวะ”



“กูไม่ชอบ ไม่อยากไป” มันที่บอกออกมาแบบนั้น หน้าตาที่ปกติก็โหดอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งบึ้งตึงหนักเลย กูขอสาบ่นว่า ถ้ากูเป็นเด็กแล้วเห็นหน้ามันแบบตอนนี้ กูจะแหกปากร้องไห้แล้ววิ่งไปฟ้องแม่ว่ามันจะไถเงินกูจริงๆ ด้วย



“คือไอ้พี่เก้อ มึงเข้าใจผิดอะไรไหม กูจะไปเที่ยว กูไม่ได้ชวนมึงครับ”



“มึงจะไปเที่ยว กูก็อยากไป”



“งั้นพี่มึงก็ไปดิ” บอกแบบนั้นกับมันแล้วหันกลับมาเลือกสร้อยข้อมือใหม่



“ก็มึงจะไปร้าน Daniworld ห่าอะไรนั่น กูไม่อยากไป”



“คือกูไม่ได้บังคับมึงไง มึงอยากไปไหนมึงก็ไปสิวะ” หันกลับไปมองหน้ามันอีกรอบ นี่มันกวนตีนหรือกวนตีนนะเอาดีๆ



“ก็กูจะไปกับมึงไงไอ้สัดเสือ” ตอบออกมาแบบฉุนเฉียว พี่มันที่เอาลิ้นดุนกระพุ้งแก้มแล้วมองกันแบบอารมณ์เสีย แต่ถึงมันจะอารมณ์เสียแบบนั้น แต่ภาพตรงหน้าที่กำลังมองเห็นก็ต้องยอมรับว่า จริงๆ แม่งหล่อฉิบหาย หล่อแบบล่ำๆ เถื่อนๆ



“แล้วมึงจะอยากไปกับกูทำไมวะ ปกติพี่ออกล่า ไข่พี่ก็ไม่ได้ติดกับไข่ผมไหมวะ”



“ใครมันจะอยากเอาไข่ไปติดกับไข่มึงวะไอ้ลูกเสือ แค่คิดก็ขมคอไอ้ฉิบหาย” เบะปากนิดหน่อยแล้วว่าออกมาแบบนั้น ทำหน้ารังเกียจกันจนกูอยากเอาตีนเขี่ยให้มันตกเตียง



“งั้นต่างคนต่างไป” บอกมันออกไปแบบนั้นแล้วหันหน้าหนีแม่ง เหนื่อยที่จะเถียง ตั้งแต่ขึ้นห้องมามันก็เอาแต่บ่นเรื่องทำไมต้องไปร้านนี้ ผมที่ไปอาบน้ำออกมาเป่าผม มันก็ยังพูดแต่แบบนี้ และจนตอนนี้กูแต่งตัวเรียบร้อยพี่มันก็ยังเอาแต่บ่นด้วยเรื่องเดิมๆ แบบไม่เปลี่ยนอยู่แบบนั้น เหมือนคนแก่ฉิบหายเลยครับ เพราะแบบนั้นเลยตัดสินใจว่าจะเลิกสนใจมันสักที ... ได้ยินเสียงมันขยับตัวลงจากเตียง แต่เลือกจะไม่สนใจ หันไปเล็งขวดน้ำหอมต่อ วันนี้คิดว่าจะฉีด Tom Ford Rose Prick ในตอนที่กำลังจะเอื้อมมือไปหยิบก็ต้องชะงัก



“มึงโกรธหรอวะ” เสียงเข้มๆ ที่ดังมาจากด้านหลังในระยะประชิดตัวทำเอาสะดุ้ง มึงมาทำไรข้างหลังกูวะพี่มึง



“โกรธอะไ...” ในตอนนี้ที่หันหลังกลับมาแล้วจะถามมันว่ากูโกรธอะไรวะ แต่สุดท้ายคำพูดก็ถูกกลืนลงท้องไป เพราะในจังหวะที่หันกลับมาแบบไม่ระวังอะไร ปลายจมูกของผมกับอีกฝ่ายที่ชนกันโดยไม่ได้ตั้งใจ ในตอนนี้ก็ต้องเบิกตาขึ้นหน่อยนึง ไม่ได้สะดีดสะดิ้งแบบสาวน้อยทั้งผมและมันที่ก็แค่ชะงักกันไป เราที่มองหน้ากันอยู่แบบนั้น เผลอขยับก้าวถอยหลังออกมาให้ห่างอีกนิด แต่ดันติดโต๊ะที่ผมวางพวกน้ำหอมและหนังสือเรียน



‘หมับ’



ฝ่ามือหนาที่เอื้อมมือมาโอบเอวของผมเอาไว้ ก่อนจะดึงให้ตัวผมขยับเข้าไปหาตัวมัน ไม่ได้ตกใจอะไรก็แค่เขยิบตามไปและมองหน้าอีกฝ่ายเอาไว้ ไม่ต่างกัน ที่มันก็แค่มองมา



“โต๊ะมึงแม่งบอบบาง ชนนิดหน่อยก็จะหักแล้ว” มันที่ว่าแบบนั้น



“อ้อ...นี่คือจุดประสงค์ที่ต้องดึงตัวกูมาแนบกับพุงอ้วนๆ ของพี่มึงหรอวะ”



“ปากหมา ให้เกียรติซิกแพคกูด้วยไอ้สัดเสือ” มันที่ทำหน้าหงิกอีกรอบแล้วว่าแบบนั้น พอเห็นหน้ามันแบบนั้นแล้วอดไม่ได้จริงๆ ที่จะต้องหัวเราะขำออกมา หน้าตาจริงจังที่ทำท่าเหมือนถ้ากูยังไม่ยอมรับมันจะแก้ผ้าออกมาให้ดู



“เออๆ เรื่องของพี่มึงเถอะ อวดเหมือนกูไม่มีอ่ะ”



“หึ เอวบางๆ แบบนี้อ่ะนะ” พูดแบบนั้นพร้อมๆ กับเอาฝ่ามือที่โอบเอวของผมอยู่จับที่ด้านข้างของเอวผมให้ผมรู้ว่าเอวผมมีแค่นี้



“มึงไม่รู้จักหุ่นลีนสินะ”



“เรื่องมึงเหอะ ว่าแต่มึงงอนกูหรอวะ”



“งอนเหี้ยไร!” กูนี่โพล่งคำว่าเหี้ยออกไปเต็มหน้ามันเลย ขนลุกกับคำพูดของแม่ง ดูแต๋วแตกจนกูอยากใส่กระโปรงวิ่ง



“ก็เรื่องที่กูไม่อยากไปไอ้ร้านเหี้ยนั่น” ... อะเรื่องนี้ยังไม่จบหรอวะ ผมถอนให้ใจออกมาแรงๆ ใส่หน้ามันหนึ่งทีเต็มๆ



“เปล่าเว้ย”



“จริงจัง” ถามแบบนั้นแล้วจ้องหน้ากูแบบเค้นถามเอาคำตอบให้ได้ ผมที่แค่พยักหน้าลงไปแรงๆ แบบจริงจังให้มันเชื่ออีกหนึ่งที



“เออ ไม่ได้โกรธ ไร้สาราระสัด จะโกรธเหี้ยไรกับเรื่องแค่นี้วะพี่” ส่ายหน้าหน่ายๆ ตั้งใจจะผลักมันออกห่าง แต่อีกคนที่ก็แค่ยืนท่อเหมือนไม้ไม่ยอมขยับไปไหน มันที่พยักหน้าตามผมหน่อยๆ ก่อนจะยกยิ้มมุมปากออกมาพร้อมหัวเราะออกมาเบาๆ ... อยากจะถามออกมาว่า มึงเป็นอะไรไอ้สัดเก้อ ... แต่กลัวมันต่อยในระยะประชิดเลยเลือกจะเงียบไว้



“มึงแม่งง่ายดีว่ะ”



“สัด พี่มึงหมายความว่าไรวะ อยากกินตีนกูหรอ”



“กูไม่ได้หมายความว่าง่ายแบบพร้อมแหกตูดถ่างขา” บรรยายซะกูอยากจะถุยน้ำลายใส่ลูกตา เหยดแหม่



“แต่กูแค่ว่า อยู่กับมึงแล้วง่ายดี มึงทำอะไรสบายๆ ดี”



“เอ้า เรื่องแค่นี้ไหมวะ ถ้ามึงไม่อยากไปก็แยกกันไป จะมาบังคับฝืนใจอะไรกันกับเรื่องแค่นี้วะ”



“แล้วมึงก็ไม่โกรธ ไม่งอน?”



“โทษนะพี่ จะมาโกรธเหี้ยไรอ่ะ ปัญญาอ่อน ... กูว่ามึงต้องเจอแต่ผู้หญิงงอแงกับเด็กผู้ชายนุ่มนิ่มที่มึงใช้เงินซื้อมาแดกอ่ะดิ ดูทรงแล้วพี่มึงนี่จะตามใจเก่งเหลือเกิน”



“ก็ไม่ได้ยากไหมวะ ปกติก็แค่พาไปซื้อของ อยากได้ไรก็แค่ซื้อให้ งอนหน่อยก็หาซื้อของปลอบใจก็จบ” มันที่ยักไหล่พูดออกมาแบบนั้น แต่แค่ฟังก็เข้าใจได้ เพราะกูเองก็ไม่ต่าง... แต่อาจจะต่างนิดหน่อยตรงกูไม่มีปัญญาเปย์มากมายแบบพี่มันในตอนนี้ .... แต่ถ้าเป็นผมในอดีต ก็อาจจะใช่



“ผู้ชายนิสัยรวยอ่ะเนอะมึงเนี่ย”



“ชอบไหมล่ะ กูรวยนะ”



“แหม่ พูดขนาดนี้กูนี่อยากพุ่งขึ้นเตียงแล้วแหกขาพร้อมครางว่า มาค่ะพี่เก้อ มาเอาน้องเสือเลยมา”



“สัดเอ้ย! มึงแม่งจริงเลยไอ้สัดเสือ”



“ฮ่าๆๆ แล้วไง เก็ทนะกูไม่ได้โกรธไม่ได้งอนเหี้ยไรทั้งนั้นล่ะ ทีนี้ปล่อยกูได้ยัง” ถามมันออกไปแบบนั้นพร้อมปรายตาไปมองมือมันที่ยังไม่ปล่อยจากเอวกัน



“ก็ไม่ได้อยากจับอะไรขนาดนั้นไหมวะ”



“คือกูจะฉีดน้ำหอมไงพี่มึง คือมึงเกะกะกูมากสัดพี่เก้อ”



“อ้อ...กลิ่นนี้อ่ะนะ” ไม่ได้สนใจคำด่าของกัน มันที่แค่เอนตัวเข้ามาใกล้ พร้อมๆ กับเอื้อมมือไปทางด้านหลังของผม ใบหน้าคมของมันที่เฉียดผ่านข้างแก้มของผมไป บ่าใหญ่ที่อยู่ตรงจมูกของผม กลิ่นเปเปอร์มิ้นท์ที่ค่อนข้างเด้นกระแทกเข้าจมูก เป็นความรู้สึกเย็นๆ แต่น่าค้นหา จำได้ว่าเป็นน้ำหอมกลิ่น Bleu de Chanel ผมไม่ค่อยได้ใช้กลิ่นนี้ แต่ก็คิดว่าเป็นกลิ่นที่ค่อนข้างเหมาะกับพี่มันจริงๆ



‘ฟืด ฟืด’



ละอองน้ำหอมกลิ่นกุหลาบที่ฉีดลงที่ซอกคอของผมทำเอาผมสะดุ้ง และในตอนนั้นคนตรงหน้าที่ก็ผละหน้าออกมามองกัน ก่อนจะค่อยๆ ยื่นหน้ากลับเข้ามาใกล้กับซอกคอของผมอีกครั้ง เป็นความรู้สึกแปลกๆ ที่ต้องเผลอกลั้นหายใจตอนที่ลมหายใจอุ่นๆ รดอยู่ใกล้ๆ ซอกคอ และก็เผลอกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคออย่างยากลำบากอีกครั้งในตอนที่พี่มันผละหน้าออกไป



“หอมดี ของทอมฟอร์ตหรอวะ”



“อ..เออ”



“กลิ่นกุหลาบ ... เหมาะกับมึงดี ไม่หวานไป ดูยั่วๆ ดี”



“สัด กูไปยั่วตรงไหนวะ” ว่าแบบนั้นออกมาแล้วผลักอกแม่งหนี และตอนนี้อีกฝ่ายก็ยอมถอยออกไปแบบง่ายๆ มันที่หัวเราะออกมาแบบไม่เบาแล้วพูดต่อ



“ยั่วตีนกูนี่ไง เห็นหน้าทีไรอยากเอาตีนลูบหน้ามึง”



“ความคิดตรงกับกูเลย เห็นหน้าพี่มึง ตีนกูก็กระตุกทุกที” ตอบออกไปแบบนั้นแล้วยักคิ้วให้แม่งหนึ่งที ก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าขวดน้ำหอมนั่นมาฉีดเอง



“ฮ่าๆ มึงแม่งเด็กกวนตีนฉิบหาย” มันที่หัวเราะอารมณ์ดีแล้วหันหลังกลับไปกระโดดขึ้นไปนอนรอบนเตีบงกูหน้าตาเฉย ... มึงแม่งก็กวนตีนกูเหมือนกันล่ะสัดไอ้พี่เก้อ



.

.

.

(มีต่อจ้า)


หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่24 {28/03/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 29-03-2020 20:59:45
“เชี่ย เพลงแม่งมันส์จริงว่ะพี่” ไอ้เสือที่พูดออกมาแบบนั้น ตัวมันที่เต้นเย้วๆ อยู่ข้างๆ กันแบบลืมตาย ไม่รู้ว่าการเรียนทำให้มันเครียดจนต้องเต้นปลดปล่อยขนาดนี้หรือจริงๆ แล้วมันเป็นสันดานชอบเที่ยวของมันก็ไม่รู้ เห็นมันแล้วได้แต่ส่ายหน้า ยกแก้วขึ้นมากระดกอีกหนึ่งที ... ร้านนี้เป็นครั้งที่สองแล้วที่ผมมา ครั้งแรกมาเพราะเอมมันทำงาน ตอนนั้นก็แค่อยากมาดูมันให้เห็นกับตาว่ามันจะปลอดภัยดี แต่เหมือนว่าตั้งแต่มันมาทำงานที่นี่ มันกับผมจะห่างกันออกไปทุกทีมากกว่าที่ผมเคยคิดไว้



“เอิ้วๆ ๆ”



“เบาหน่อยไอ้เสือ พรุ่งนี้มึงมีเรียน”



“เรียนบ่ายน่าพี่เก้อ มึงอย่าบ่นน่า” มันที่ว่าแบบนั้นแล้วเอื้อมมือมากอดคอผมไว้แล้วโยกหัวไปมามันส์กับเพลงจนกูคิดว่าเพลงที่เปิดอยู่นี่มันเป็นเพลงแนวEDMนะ แต่ท่าเต้นไอ้เสือแม่งคล้ายๆ กับเพลงปลุกใจของคาราบาว ดูเหมือนว่าตอนนี้มันจะเมาหน่อยๆ แล้วล่ะ มาถึงก็ซัดเอาๆ ไม่รู้ว่าแม่งเซี่ยนเหล้ามาจากไหน



“ยืนดีๆ ไอ้สัด” ว่าออกไปแบบนั้นแล้วยกแขนไปโอบเอวมันเอาไว้ วันนี้ร้านนี้คนเยอะมากๆ พวกเราเลยไม่ได้นั่งที่โซฟา แต่ได้โต๊ะทรงสูงกับเก้าอี้ตัวยาวแทน แต่ตั้งแต่มาก็แทบจะไม่ได้นั่งเก้าอี้ เพราะไอ้ลูกเสือนี่แม่งเล่นลากกูเต้นไม่หยุด หึ เด็กฉิบหาย



“ไม่เซๆ บอกว่าไม่เซเชื่อกันหน่อย”



“เออๆ ไม่เซหรอกไอ้สัด มึงจะเซได้ไง ก็กูโอบมึงไว้อยู่เนี่ยไอ้โง่”



“เอ๊ะเก้อ....เป็นพี่ไง พี่ป่ะ ดูแลน้องดิ” เงยหน้าขึ้นมาปรือตานิดๆ ยกนิ้วชี้เรียวยาวของมันขึ้นมาจิ้มจมูกผมพร้อมว่าแบบนั้น ถ้ากูซัดมันสักหมัดมันจะเลิกมึนไหมวะ



“น้องเหี้ยแบบนี้ต้องแดกดี”



“พี่รหัสสุดประเสริฐอ่ะเนอะ” มันที่พูดออกมาแบบนั้นแล้วพยักหน้างึมงำกับตัวเอง เห็นแบบนั้นแล้วมันอดไม่ได้ที่จะต้องยกมือขึ้นไปตบหัวมันแรงๆ ทีนึง ไอ้เสือที่เซไปข้างหน้าสองก้าวเพราะถูกตบ



“อี่เก้อ เจ็บนะโว้ย”



“เหมือนจะได้สติขึ้นมานิดหน่อยนะมึงอ่ะ”



“เออ ไม่เมาหรอกน่า พี่เก้อๆๆ”



“อะไรของมึง” เลิกคิ้วขึ้นตอนที่มันเรียกชื่อกันแบบมีลับลมคมใน หน้าเรียวได้รูปของมันที่เคลื่อนเข้ามาใกล้แบบไม่ได้บอกไม่ได้กล่าวทำเอาผมตกใจถอยหนี แต่สุดท้ายไอ้ลูกเสือนี่ก็ทำแค่เอียงหน้าเข้ามากระซิบ แต่ถึงแบบนั้น กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ของมันที่ตัวมันฉีดก็ยังลอยเข้าจมูก หอมจนผมสงสัยว่าผ่านมานานขนาดนี้ทำไมกลิ่นมันยังอยู่ อยากจะรู้ว่ากับเนื้อคน กลิ่นมันยังจะติดทนเหมือนเสื้อผ้าไหมวะ



“สาวโต๊ะนู้นจ้องพี่มึงเหมือนอยากแดกเข้าไปเลยว่ะ”



“หรอวะ”



“เออสิ”



“สาวโต๊ะนู้นก็จ้องมึงไม่เลิกเหมือนกัน” กระซิบตอบมันไปแบบนั้น เพราะจริงๆ ก็เห็นมานานแล้วเหมือนกัน



“หึ รู้แล้วน่า”



“จะไปต่อไหม ถ้าไปต่อก็แยกกันตรงนี้” บอกมันออกไปแบบนั้น แล้วหันหลังกลับไปมองสาวที่ไอ้เก้อว่า พอหันไปเธอเองก็ทำแค่ยิ้มหวานส่งมาให้กัน ก่อนจะยกแก้วคอกเทลขึ้นให้ เห็นแบบนั้นก็แค่ยกยิ้มมุมปากตอบเธอไปแล้วก้มหัวให้นิดหน่อยก่อนจะหันกลับมา และตรงหน้าก็คือหน้าของไอ้เสือที่กำลังมองหน้ากันอยู่ตาไม่กระพริบ



“จ้องเหี้ยไรของมึง”



“แพรวพราวฉิบหาย” มันที่บอกแบบนั้นแล้วเขยิบตัวหนีหันหน้าไปที่เวทีที่ตอนนี้ดีเจกำลังสแครชแผ่นเปลี่ยนเป็นจังหวะใหม่



“หึ มึงมันยังเด็กไอ้หนู”



“หนูพ่อง” ได้ยินที่มันด่า แต่เลือกที่จะไม่สนใจเถียงกับแม่งแทน สักพักก็เป็นมันที่หันมาอีกครั้ง ได้แต่เลิกคิ้วถามมันออกไปแบบไม่ออกเสียง ก็แค่ใช้หน้าตาท่าทางสื่อสารไปแทน



“ปวดฉี่ ไปฉี่นะ” มันที่บอกแบบนั้นแล้วตั้งท่าผละออกไปเลย เป็นผมที่เอื้อมมือไปจับแขนมันไว้ก่อน



“กูไปด้วย”



“คือเก้อ Kเราไม่ได้ติดกันไง”



“สัด กูก็ปวดเป็นไหมวะ เดี๋ยวออกไปแล้วค่อยแยกกัน”



“แน๊ จะไปหาสาวโต๊ะนั้นอ่ะดิ กูรู้ทันหรอก”



“หึ” ไม่ปฏิเสธมันออกไป ผมกับมันเราเคยไปเที่ยวด้วยกันหลายครั้งแล้ว โดยเฉพาะพักหลังๆ ตั้งแต่ที่มันยอมรับผมเป็นพี่รหัส ผมกับมันไม่ได้แตกต่างกันมาก นิสัย ไลฟ์สไตล์ หรือแม้แต่สันดาน ... แต่ถึงแบบนั้น ดูท่าบางอย่างไอ้เสือจะหนักกว่าผมไปอีก เรื่องดีลผู้หญิง บางทีเมียใครก็ไปเอามั่ว ล่าสุดมันมาเล่าว่าต้องหนีตีนออกจากห้องผู้หญิงทางหน้าต่างเพราะผัวเค้ากลับมาเคาะตอนตี4 โคตรจะเหี้ย



“ไปเหอะพี่มึง ฉี่จะแตกละ” มันที่เร่งแบบนั้นเลยได้แต่พยักหน้า มันที่เดินนำผมออกไปก่อน เห็นแผ่นหลังโปร่งๆ ของมันที่เดินนำลิ่วๆ ไปไกล ท่าทางจะปวดหนักจริง



“พี่แถวยาวฉิบหาย ขึ้นไปชั้นสองดีกว่าว่ะ” มันที่หันกลับมาบอกแบบนั้น วันนี้ร้านคนแน่นจริง แต่ชั้นสองเป็นโซนนั่ง คิดว่าคนคงไม่เยอะเท่าชั้นล่าง เลยพยักหน้าตอบรับแล้วเดินตามมันขึ้นไป และไอ้เสือก็ไม่รอกูอีกเช่นเคย มันที่สับขาวิ่งเร็วจี๋เหมือนลูกหนูท่อหนีตีนแม่ค้าในตลาดพุ่งเข้าห้องน้ำชั้นสองไปอย่างไว เห็นแบบนั้นแล้วได้แต่ขำเบาๆ จริงๆ ไม่ได้ปวดฉี่อะไร ก็แค่อยากออกมาจากตรงนั้นเลยตามมันมาเฉยๆ เพราะแบบนั้นผมเลยยืนพิงราวระเบียงของชั้นสองรอมันแถวๆ บันไดแทน หันหน้าไปมองรอบๆ ชั้นนี้เป็นโซนโซฟาเลยไม่แออัดเท่าไหร่ ก็ต้องยอมรับว่าร้านแม่งดูดีมีระดับจริงๆ



และในตอนนั้นเสียงเข้มๆ ที่ผมค่อนข้างจะคุ้นก็ดังเข้ามากระทบหู



“น้องเอมหาย?”



“เออ..ไอ้เอมมันหายไปจากห้องกู”



ได้ยินแบบนั้นแล้วต้องขมวดคิ้ว และพอหันหน้าไปมองก็เห็นแผ่นหลังกว้างของใครบางคนที่ลุกขึ้นมาจากโซฟาในตอนนี้ แค่มองจากตรงนี้ก็รู้เลยว่ามันเป็นใคร



“มึงพูดแบบนี้มึงหมายความว่าไงวะ!” เป็นผมที่พูดออกไปแบบนั้นแล้วก้าวยาวๆ เข้าไปหามัน ไอ้ตุ๊ดปลอม! ไอ้สัดตุ๊ดปลอมที่เป็นเจ้านายไอ้เอม เจ้านายตุ๊ดที่หวังจะเคลมลูกน้อง



“มึงหมายความว่าไงที่บอกไอ้เอมหาย” ผมที่เดินเข้าไปหามันพร้อมผลักอกแม่งสักที



“ไอ้สัดล่ำ!” มันที่เซถอยหลังไปสองก้าวเพราะไม่ทันตั้งตัวยกมือชี้หน้าผมไว้แบบนั้น สายตาของมันที่จ้องตรงมาที่ผมแบบโมโห



“เอมหายไปไหน มึงหมายความว่ายังไงไอ้ตุ๊ดปลอม”



“แล้วมึงมาเสือกอะไรด้วยไอ้สัดล่ำ” มันที่ว่าแบบนั้นแล้วตรงเข้ามาผลักผมเหมือนกันแบบไม่ไว้หน้า



“เฮ้ยๆ ไอ้ดาบใจเย็นมึง ลูกค้ามึงตกใจหมดแล้ว” ผู้ชายอีกคนที่นั่งอยู่ตรงนี้ด้วยพูดขึ้นมาแบบนั้น หน้าตาดีแบบเกาหลีสัดๆ แต่ถึงงั้นกูก็คิดว่าไม่เทียบขี้ตีนกู เพราะแบบนั้นผมเลยละสายตาออกมาจากไอ้หน้าขาวนั่นกลับมาที่ไอ้ตุ๊ดปลอม



“มึงบอกว่าเอมหาย มึงทำมันหายได้ยังไง เกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนกู!” ผมตะคอกมันออกไปแบบนั้นด้วยเสียงที่ไม่เบา ไม่สนใจด้วยว่าลูกค้าคนอื่นจะตกใจหรือมองเรามากแค่ไหนก็ช่าง ยังไงชื่อเสียงร้านมันก็ไม่ได้เกี่ยวกับผมอยู่แล้ว ดีซะอีกถ้าร้านแม่งเจ๊ง มันจะได้ไม่มีเงินจ้างเอมให้ทำงานกับมันอีก



“กูถามว่ามึงทำอะไรเพื่อนกู” รู้สึกแปลกใจกับสายตาและท่าทางเก้กังๆ ของไอ้ตุ๊ดปลอมตรงหน้า ท่าทางที่ทำให้ผมยิ่งเป็นกังวลว่ามันต้องเกิดอะไรขึ้นกับไอ้เอมแน่ๆ แบบนั้นเลยตรงเข้าไปกระชากข้อเสื้อแม่งไว้ ยกมือกำหมัดชูขึ้นในตอนนี้



“พูดมา! มึงทำไรเพื่อนกู”



“กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เพื่อน แบบมึงแม่งก็ไม่เคยมีสติสักครั้งเลยนะ ... กูบอกมึงแล้วไง เพราะแบบนี้ มึงถึงไม่เคยเป็นอะไรกับไอ้เอมได้น้องจากเพื่อนมัน” มันที่จ้องหน้าผมนิ่งๆ สายตาคมๆ ของมันที่จ้องตรงมาแบบท้าทางพร้อมๆ กับมุมปากของมันที่ขยับยกขึ้นมาแบบกวนตีนกัน



“ไอ้สัด!”



‘ผลั้ว’



“มึงต่อยกูหรอไอ้อ่อน!”



‘ผลั้ว’



มันที่ว่าแบบนั้นแล้วส่งหมัดสวนกลับมาทันทีในตอนนั้น ทั้งผมและมันที่ก็สวนหมัดใส่กันแบบไม่มีใครยอมใครแล้วในตอนนี้ ตุ๊ดบ้านแม่มันต่อยแรงขนาดนี้หรอไอ้ฉิบหาย



“เห้ยๆ แยกๆ พวกมึงแยก” ได้ยินเป็นเสียงของเพื่อนไอ้ตุ๊ดปลอมนี่ตะโกนออกมา พร้อมๆ กับที่พยายามจะแยกพวกผมออกจากกัน



“เห้ย! สัดพี่เก้อ มึงทำเหี้ยอะไรเนี่ย พอๆ ไอ้สัด” และอีกเสียงที่ตามมา เป็นเสียงที่ผมจำได้ดี เสียงของไอ้เสือ ปลายเสียงที่ดูจะกระหืดกระหอบวิ่งมา คิดว่ามันคงพึ่งออกจากห้องน้ำและเห็นพอดี ... ทั้งผมและไอ้ตุ๊ดปลอมนั่นถูกการ์ดของร้านมันจับแยกออกจากกัน แต่ที่ตัวของผมมีคนจับไว้มากกว่าหนึ่ง ทีของไอ้ตุ๊ดปลอมล่ะมีแค่เพื่อนมันแม่งคนเดียว



“ปล่อย!” เป็นผมที่ตะคอกออกมาแบบนั้น แล้วสะบัดแขนออกจากการจับกุมของการ์ดร้านมัน แต่มีแค่ไอ้เสือที่ยังไม่ยอมปล่อยแขนของผมไปไหน เหมือนมันจะกลัวว่าผมจะพุ่งเข้าไปต่อยไอ้สัดตุ๊ดปลอมนั่นอีก ผมที่ยกมือขึ้นชี้หน้าของไอ้ดานี่ห่าไรนั่นแล้วพูดต่อ



“คนแบบมึง ถ้าทำไอ้เอมมีความสุขไม่ได้ก็อย่าสะเออะเข้ามาวุ่นวายกับชีวิตมัน ... กับไอ้เอม กูดูแลมันเองได้ กูดูแลของกูมาตั้งนาน น้ำหน้าแบบมึง อย่ามาเสือก”



พูดออกไปแบบนั้นแล้วหมุนตัวเดินลงไปจากร้านของมัน ตลอดทางคนมองมาที่ผมไม่ละสายตา แต่เรื่องสิ กูไม่สนใจแม่งหรอก ตอนนี้มีแค่อย่างเดียวที่ผมสนใจ ... ไอ้เอม มึงหายไปอยู่ไหนวะ



“พี่เก้อ สัด! รอกูด้วย มึงจะไปไหนวะ” เป็นไอ้เสือที่วิ่งตามหลังมา หันไปมองก็เห็นเหงื่อมันซึมออกมาจากหน้าแบบไม่หยุด ท่าทางมันจะเหนื่อยจริงๆ



“กูจะกลับแล้ว กูว่าไอ้เอมแม่งต้องไปรอกูที่คอนโด” บอกมันแบบนั้นแล้วปลดล็อครถทันที



“เดี๋ยวๆ แล้วพี่มึงจะไปทั้งแบบนี้เลย”



“ก็เออสิวะ ไอ้เอมมันอาจจะรอกูนานแล้ว มันต้องร้อนต้องเหนื่อยรอกูอยู่ที่ล็อบบี้ กูต้องรีบแล้ว”



“แล้วกูล่ะ” ไอ้เสือที่ว่าออกมาแบบนั้น ผมที่ชะงักก่อนจะหันหน้ากลับไปมองมันอีกครั้ง มันที่ยืนอยู่ด้านหน้ารถของผมในตอนนี้



“คืนนี้มึงไม่ได้จะไปกับสาวโต๊ะนั้นหรอวะ” ถามมันออกไปแบบนั้น ไอ้เสือที่ชะงักไป สุดท้ายมันก็ส่ายหน้าออกมาหน่อยๆ



“พี่มึงใจร้อนแบบนี้กูปล่อยมึงขับรถไปคนเดียวไม่ได้หรอก มา...เดี๋ยวกูนั่งไปด้วย”



“ไม่เป็นไรมึง ไม่ต้องห่วงกู มึงดีลไว้แล้วมึงไปเถอะ” บอกมันออกไปแบบนั้น ไม่อยากให้เรื่องของผมทำให้มันต้องเสียอารมณ์ เข้าใจอารมณ์ของผู้ชายดี ถ้ามันอยากก็ต้องไปปล่อย เพราะฉะนั้น เรื่องของผมผมจัดการเองได้



“มึงเองก็ไม่ต้องเสือกกู มา กูไปด้วย ถึงคอนโดมึงแล้วกูหาทางกลับเองได้” มันที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้ววิ่งมาขึ้นรถผม มองตามมันที่เข้าไปนั่งอยู่หน้ารถคาดเบลท์เรียบร้อยแล้วก็พูดอะไรไม่ได้ สุดท้ายก็แค่เข้าไปนั่งแล้วขับรถออกไปทั้งแบบนั้น



“เรื่องของมึงแล้วกันงั้นอ่ะ ... แต่ถ้าเจอไอ้เอมแล้วกูคงไปส่งมึงไม่ได้นะ” บอกมันออกไปแบบนั้น เห็นไอ้เสือที่มองมานิดหน่อย มันที่ยกเท้าขึ้นมาชันอยู่บนเบาะรถกูแบบสบายใจ มึงรู้ไหมว่ารถคันนี้ราคากี่บาท นั่งเป็นซาเล้งเลยไอ้สัด



“ขับไปเถอะมึงพี่เก้อ รีบมากไม่ใช่ไง พูดเหี้ยไรนักหนาวะ”



“สัด”



...



“มึงเจ็บไหมวะไอ้ดาบ เหี้ย ปากแตกเลย” ไอ้เมฆที่ว่าออกมาแบบนั้น มันที่หยิบทิชชูมาซับให้ผมที่มุมปาก แต่ถึงแบบนั้นผมก็เลือกที่จะไม่สนใจ แต่ตอนนี้ในหัวของผมมันกำลังประมวณแบบไม่หยุด ผมที่สะบัดตัวออกจากไอ้เมฆแล้วหันหน้าไปหาลูกค้า ไม่มีอารมณ์ที่จะปั้นหน้าสวยๆ แบบที่เคยทำเลยได้แต่เอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มนิดๆ แล้วมองไปรอบๆ



“ขอโทษด้วยนะครับที่เกิดเรื่อง แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว หวังว่าลูกค้าทุกคนจะไม่ตกใจมากนะครับ เพื่อเป็นการปลอบใจจากร้านเรา วันนี้ผมขอเลี้ยงคอกเทลฟรีคุณลูกค้าท่านละหนึ่งแก้ว ต้องการรสชาติไหนสั่งได้ตามสบายเลยครับ” บอกออกไปแบบนั้นด้วยสีหน้านิ่งๆ ได้เห็นสีหน้าอึ้งๆ จากลูกค้าประจำที่มองมาที่ผมแบบแปลกใจ



“แต่ละคนมองมึงเหมือนเห็นผัวหมดแล้วไอ้สัดดาบ” ไอ้เมฆที่กระซิบแบบนั้น แต่ช่างแม่ง



“ก็กูสวยๆ ...แต่เป็นผัวไง งงเหี้ยไรวะ”



“งงมึงนี่แหล่ะ ... เดี๋ยวๆ แล้วมึงจะไปไหน ไม่ทำแผลก่อนล่ะวะ” ไอ้เมฆที่วิ่งตามมา แต่ผมเลือกที่จะสะบัดมือไล่มัน



“กูจะไปเอาเอมกลับบ้าน” บอกออกไปแบบนั้นแล้วมองเห็นพี่จิตที่กำลังสับขาวิ่งขึ้นมาบนชั้นสองหน้าตาตื่น



“พี่จิต เคลียร์ลูกค้าให้ด้วยนะ ผมจะออกไปข้างนอก เสริฟคอกเทลฟรีให้ลูกค้าคนละแก้ว ถือเป็นของปลอบใจจากทางร้าน” สั่งรวดเดียวจบแล้วเดินออกไปทั้งแบบนั้น ...



ไอ้ล่ำมันอยู่ที่ร้าน และคนที่มากับมันผมก็ไม่เคยเห็นหน้า แต่ถ้าเป็นแบบนี้แสดงว่าเอมมันจะต้องไม่ได้ไปหาไอ้ล่ำแน่ๆ ได้แต่เคาะมือไปกับพวงมาลัยรถ โชคดีที่วันนี้เอารถเก๋งมาขับ ... ไอ้เอมมันไม่ได้มีเพื่อนมาก และมันก็ไม่มีบ้านญาติพี่น้องให้กลับอีกแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่มันจะกลับไปบ้านญาติมัน แต่เพื่อนของมันอีกคนที่ไอ้เอมเหลืออยู่และพึ่งพาได้ก็คือ...



“น้องหยี” บอกกับตัวเองแบบนั้นพร้อมๆ กับยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะเปลี่ยนเกียร์ว่างเป็นเข้าเกียร์ตัวDแล้วเหยียบคันเร่งออกไปทั้งแบบนั้น ใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงรถของผมก็เลี้ยวเข้าหมู่บ้านแล้วตรงมาจอดอยู่ที่หน้าบ้านหลังนึง บริเวณบ้านขนาดใหญ่ที่ภายในรั้วบ้านประกอบไปด้วยบ้านหลายหลัง เมื่อหลายปีก่อนเคยมาที่นี่อยู่บ่อยๆ เป็นบ้านคนจีน เป็นครอบครัวใหญ่ที่สร้างบ้านอยู่ในที่ดินบริเวณเดียวกัน ... ผมที่ลงจากรถแล้วเดินไปกดออดไปอุกอาจ เป็นการเสียมารยาท แต่กูต้องการมาแบบเอิกเริกแบบนี้แหล่ะ



‘ติ่งต่องๆๆๆๆ’



“คุณครับ มาหาใครครับ” เสียงของลุงคนงานที่วิ่งหน้าตาตื่นออกมาในตอนนี้ สายตาที่มองมาที่ผมเหมือนอยากด่าอยู่ในที แต่ผมเลือกที่จะไม่สนใจ มองเห็นไฟจากบ้านหลังใหญ่เปิดขึ้นมาในตอนนั้น ดี...ตื่นมันทั้งบ้านได้ก็ดี



“มาหาน้องหยีครับ”



“มาหาคุณหยีหรอครับ”



“ใช่ครับ เรียกให้หน่อยนะครับ ผมมีธุระสำคัญ บอกน้องว่า พี่ดาบมาหา” ผมบอกลุงแกไปแบบนั้น อีกฝ่ายที่มองตรงมาแล้วพยักหน้าให้ก่อนจะรีบวิ่งกลับไป คิดว่าคงไปเรียกน้องหยีมาแน่ๆ ... และอีกไม่กี่นาทีต่อมา ก็ปรากฏร่างของสาวสวยที่เห็นแค่เงาก็รู้ว่าสวย



“พี่ดานี่” มันที่เบิกตากว้างออกมาแบบตกใจในตอนที่เห็นผมยืนเกาะรั้วบ้านมันแบบนี้



“ไอ้เอมอยู่นี่ใช่ไหมหยี”



“เอ่อ...พี่” มันที่อึกๆ อักๆ เหมือนไม่ได้เตรียมตัวมาว่าจะต้องมาตอบคำถามบุกรุกของผมแบบนี้ เพราะแบบนั้นเลยรีบถามต่อออกไปแบบไม่ให้อีกฝ่ายได้ตั้งตัว



“เอมมันอยู่นี่ใช่ไหม บอกพี่มาเถอะ”



“เอ่อพี่ เปล่า...เอม ไม่ได้...”



“ถ้าน้องหยีไม่บอก พี่จะปีนบ้านหนูเดี๋ยวนี้เลย!” บอกออกไปแบบนั้นแล้วเริ่มต้นปีนรั้วแม่งทั้งแบบนั้น รอดูได้เลยว่าคนแบบไอ้เอมจะทนได้ก็ลองดู



“เห้ยๆ พี่ดาบ ลงมาพี่ๆ” น้องหยีที่ตะโกนออกมาแบบนั้นเสียงดัง เห็นแบบนั้นแล้วได้แต่แอบอมยิ้มออกมาเลย



“เอม!!! ออกมา ออกมาพูดกับกูให้รู้เรื่อง กูชอบมึงคนเดียวจริงๆ นะไอ้เอมมมมม” แหกปากเกาะรั้วแล้วเขย่าแรงๆ อยู่แบบนั้น มองเห็นไอ้น้องหยีที่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อยู่ในตอนนี้ ผมรู้ดีว่าบ้านน้องเป็นคนจีน จะมีผู้ชายมาแหกปากโวยวายแบบนี้บ้านทั้งบ้านคงจะต้องตกใจแน่นอน และในอีกไม่กี่วินาทีต่อมา ผมก็เห็นร่างบางๆ ที่อยู่ในชุดนอนหลวมๆ แขนเสื้อยาวจนเลยมือของมันวิ่งเร็วๆ ออกมาจากบ้าน



“อิเจ๊พี่มึง! ทำอะไรวะ” เป็นไอ้เอมที่มองตาจ้องตรงมาเขม็งแบบโกรธๆ ท่าทางที่อยากปีนขึ้นมาตบกัน แต่ก็อยากจะวิ่งหนีกลับไปไม่ยอมมาเจอหน้ากัน แต่ก็กลัวว่าผมจะพังรั้วบ้านคนอื่น ... เพราะรู้นิสัยขี้เกรงใจของมัน ผมถึงทำแบบนี้



“มึงหนีออกจากบ้านมาทำไมวะหนู”



“ผมจะไปไหนมาไหนก็เรื่องของผมสิวะ แล้วเจ๊มาทำไม ทำไมไม่ไปอยู่กับพาพวยของเจ๊วะ”



“ของกูเหี้ยไร มึงสิของกู!”



--------------To be continued--------------



มาแล้วจ้าาาาาา แคทมาแล้ววว ตอนนี้เนื้อหาหนักๆ เลยนะคะ น้องเอมอาจจะมาน้อยหน่อย แต่เพราะตั้งใจปูเรื่องทั้งหมดให้ทุกคนเข้าใจ

ขอโทษที่เมื่อวานติดปัญหาหลายอย่างเลยไม่ได้มา แต่วันนี้มาแล้วนะคะ มาแบบจุกๆ พาพี่ดาบน้องเอม พี่เก้อน้องเสือดุมาแล้วน้า

ไหนมีใครรออยู่ไหมคะ เห็นอะไรแปลกๆ กันบ้างไหม มาเม้นท์กันน้าาา

ฝาก #สวยๆ เป็นผัว ในทวิตเตอร์ด้วยนะคะ[/center]



ขอขอบคุณคนอ่านจากทางเล้าเป็ดที่มาคอมเม้นท์ให้กัน และอวยพรวันเกิดให้แคทด้วยนะคะ



:pig4: :pig4: :pig4: รอด่าอีเจ๊ทีเดียว
  ใจเย็นนน อย่าด่านางเอกของเรื่องเรานะคะ 55555


ถ้าอิเจ้หาน้องเอมไม่เจอ จะโดนแม่ยกน้องเอมรุมยำแน่.  :m16:

สุขสันต์วันเกิดคุณแคตย้อนหลังนะจ๊ะ. ขอให้ไม้เจ็บ ไม่จน ปลอดโควิด-19 นะจ๊ะ.  :L2:
  เจ๊มาแล้วนะ เจ๊มาหาน้องแล้ววว เจ๊ไม่ได้โง่นะคะ เจ๊มีเหตุผลลลลล
ขอบคุณสำหรับคำแวยพรวันเกิดดีๆที่ให้แคทด้วยนะคะ


อิพาพวย มึงแม่งเป็นคนที่โคตรเห็นแก่ตัว น่าตบมากค่ะ!  :z6:
ฉันไม่แปลกใจการกระทำพี่ดาบเท่าไหร่นะ เพราะอ่านมาตั้งแต่เรื่องเฮียรบ ตอนที่พี่จีบน้องกุ๊กพี่ดาบแกก็เต็มที่มาก เป็นคนที่ดูเต็มที่กับความรัก แต่รักของพี่ดาบแต่ละครั้งแม่งพังเละเทะทุกรอบเลยว่ะ และยิ่งกับอิพาพวยนี่หนักเลย คนอะไรโคตรเห็นแก่ตัว ตอนจะไปบอกถ้าเจอคนที่นางคิดว่าใช่นางก็จะเลือกเค้าเลย แต่ก็หวังว่าปลายทางจะเป็นอิเจ๊ ไม่รักนะแต่กั๊กตั้งแต่จะไป จนกลับมาก็ยังกั๊กอยู่ อินี่!! น่าตบมากค่ะ ฉันทีมพระเอกจ้า!
ส่วนน้องเอม สงสารน้องอ่ะ น้องเป็นคนฟังเหตุฟังผลนะ แต่ที่อ่านมาเหมือนน้องจะน้อยใจเก่ง ไปหมดแล้วใจลูกฉันนนนน :katai1:
Happy Birthdayย้อนหลังด้วยนะคะคุณแคท :mew1:
ขอบคุณคอมเม้นท์ยาวๆที่มอบให้กันนะคะ แคทดีใจที่เห้นคนอ่านสนุกและอินไปด้วยกันนะคะ
ขอบคุณที่ตามอ่านกันมาตั้งแต่เรื่องหลงร้ายเลย ยังไงแคทฝากพี่ดาบน้องเอมเรื่องนี้ด้วยนะคะ และ
ขอบคุณสำหรับคำแวยพรวันเกิดดีๆที่ให้แคทนะคะ :mew1:


รอๆ
   แคทมาแล้วนะคะ พาเจ๊กับน้องมาแล้วนะคะ


HBD. ย้อนหลังนะ
รักษาสุขภาพด้วยนะช่วงนี้

ไงละพาพวย บอกเองนิว่ารอไมได้ก็ไม่ต้องรอ
  ขอบคุณสำหรับคำแวยพรวันเกิดดีๆที่ให้แคทนะคะ ส่วนพาพวยน้านนนน อยากหาน้ำมนต์ไล่55555


HBD ย้อนหลังนะจ้ะ มีความสุขมากๆ เป็นกำลังใจให้ในทุกๆเรื่องน่า แคท  :กอด1: :กอด1:

สงสารน้องเอมมมม มาหาแม่มาาาาา  :hao5:
  ขอบคุณสำหรับคำอวยพรวันเกิดดีๆนะคะ //ส่วนน้องเอม ทีมแม่น้องเอมใจเย็นน้าา พาน้องมาแล้วนะคะ


สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังนะค้า ขอให้มีความสุขมากๆ

เจ๊ดานี่ก็น่าตีนะ แต่ก็น่ารักด้วย เฮ้อ
  ขอบคุณมากๆนะคะสำหรับคำอวยพรวันเกิดแคทนะคะ



แล้วเอมไปอยู่ไหนอ่ะ,,
  น้องเอมอยู่นี่ น้องมาแล้วน้าาา


อิเจ้รีบหาน้องเลยนะน้องมโนไปไกลแล้วววฮึ้ย
สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังนะงับมีความสุขมากๆนะคะ :L1:
เจ๊มาแล้ว พาเจ๊มาปีนประตูบ้านคนอื่นแล้วนะคะ ขอบคุณสำหรับคำอวยพรวันเกิดดีๆนะคะ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่23 {21/03/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 29-03-2020 22:53:11
เอ้าแยกห้องใครห้องมันแล้วไปเคลียร์กันนะ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่23 {21/03/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: LifePo-YuGu ที่ 30-03-2020 09:16:35
อิ๊เจ๊ ง้อน้องเอม หนักๆเลยนะจ้ะ ไม่งั้นแม่ตีนะ  :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่23 {21/03/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 30-03-2020 23:17:38
อย่าเพิ่งหายโกรธนะเอม,,,
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่24 {28/03/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 31-03-2020 14:34:17
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่24 {28/03/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 31-03-2020 22:59:33
ขอองค์พี่ดาบจงสถิตย์อยู่จากนี้ตลอดไปเพื่อน้องเอมนะจ๊ะ

แต่น้องเอมอย่าเพิ่งตามอิพี่มันกลับไปตอนนี้นะ ให้พี่มันแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมาก่อนค่อยตัดสินใจนะลูกนะ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่24 {28/03/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Chucream.nabi ที่ 31-03-2020 23:30:02
 :z6: สมน้ำหน้าอิเจ้.....ต้องสักทีให้รู้สำนึก
ส่วนอิหนู ถ้ารักเค้าก็ต้องยอมรับตัวตนอีด้านเค้าให้ได้นะ :เฮ้อ:
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่24 {28/03/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 01-04-2020 00:10:22
 :pig4: :pig4: :pig4:

ดีนะอีเจ๊ฉลาด มีเพื่อนดี เลยคิดได้ไว
จะได้ไม่ต้องเหนื่อยด่ามัน :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่24 {28/03/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 01-04-2020 07:06:22
เอมจะยอมง่ายๆมั้ย?
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่24 {28/03/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Pangogi ที่ 01-04-2020 22:04:31
อุ้ย เขิน ดานี่แมนแล้วเขินเบยยย
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่24 {28/03/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 02-04-2020 19:40:59
สนุกอ่ะ  สนุกค่ะ  สนุกมากกกกกกกก


อยากอ่านอีก    ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่25 {04/04/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 04-04-2020 20:55:39
บทที่25



“ของกูเหี้ยไร มึงสิของกู!”



คนที่ปีนอยู่บนประตูรั้วบ้านคนอื่นตะโกนออกมาแบบนั้น ไม่ใช่แค่ตะโกนอย่างเดียว แต่ร่างใหญ่ๆนั่นยังเขย่ารั้วเหล็กดัดนั่นจนโยกไปด้วยแรงอารมณ์ของเจ้าตัว ... ผมที่ได้แต่เงยหน้ามองพร้อมยืนมองอ้าปากค้างอยู่ตรงนี้ ได้แต่คิดในใจว่า ‘เหี้ยแล้ว’ มึงอย่าพังรั้วบ้านคนอื่นแบบนั้นสิโว้ยอิเจ๊!



“พ...พูดอะไรวะ ลงมา!” ได้แต่ถลึงตาใส่คนที่ปีนอยู่บนนั้น ตะโกนออกไปแบบนั้นแต่ไอ้คนตัวใหญ่ข้างบนก็เอาแต่ส่ายหน้า



“ไม่! ก็มึงไม่เข้าใจอ่ะ มึงหนีกูมาที่นี่ มาอยู่บ้านน้องหยีตอนนี้” ยังคงดื้อดึงอยู่แบบนั้น และก็เขย่ารั้วไม่เลิก ... อยากจะให้มันเข้าใจว่าจริงๆแล้วรั้วบ้านของไอ้หยีเป็นรั้วเหล็กดัดที่สูงมาก และตอนนี้มันก็ปีนอยู่ด้านบนสุด คือแค่ตวัดขายาวๆของพี่มันก็ข้ามมาอีกฝั่งแล้วไต่ลงมาได้แล้ว



“ผมไม่ได้หนีเว้ย” บอกออกไปแบบนั้น ถึงแม้ว่าเหตุผลจริงๆก็คือไม่อยากอยู่ห้องมันอีกแล้วจริงๆก็เถอะ



“มึงน้อยใจกูควายน้อย แต่เดี๋ยวกูจะอธิบายให้มึงฟังเอง”



“เจ๊ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรกับผมว่ะ เราไม่ได้เป็นอะไรกัน” บอกมันออกไปแบบนั้น แล้วรู้สึกเหมือนบรรยากาศโดยรอบจะเย็นลงมาอย่างห้ามไม่อยู่ ผมที่พูดแบบนั้นและเงียบไป ส่วนคนตัวใหญ่ที่อยู่บนนั้นก็เงียบเสียงลงเช่นกัน



แต่มันก็ปฏิเสธไม่ได้...เรื่องจริงเราไม่ได้เป็นอะไรกันเลยจริงๆ อย่างมากก็แค่เจ้านายลูกน้อง



เป็นความสัมพันธ์ที่เหมือนจะข้ามเส้น แต่จริงๆแล้วเราก็ยังหยุดยืนอยู่ที่เดิมไม่ได้ขยับไปไหนให้ไกลกว่าเดิมเลยสักนิด ... นั่นแหล่ะคือความสัมพันธ์ของผมกับอิเจ๊พี่มันในตอนนี้ คนที่เอาแต่จ้องผมอยู่บนรั้วสูงๆนั่นในตอนนี้



“เอม...” เสียงเข้มๆที่ถูกเปล่งออกมาเป็นชื่อผม ก็แค่เรียกชื่อผม แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงรู้สึกอยากร้องไห้ออกมาก็ไม่รู้



“กูอยากให้มึงกลับไปกับกู”



แต่ผมไม่อยากกลับไปกับเจ๊ ... อย่างน้อยก็ในตอนนี้” ตอบออกไปแบบไม่ลังเล แม้ว่าประโยคสุดท้ายเสียงผมจะไม่มั่นคงมากก็ตาม และทุกอย่างก็เงียบเสียงลงอีกครั้ง มองตาคมของอีกคนที่เหมือนจะนิ่งอึ้งไป เป็นสายตาแบบที่ผมไม่เคยมาก่อนจนต้องเสหน้าหลบสายตาของคนที่มองมาไม่หยุด



“ก็ได้ ถ้ามึงยังไม่อยากกลับไปพร้อมกันวันนี้ก็ได้” ในที่สุดพี่มันก็พูดออกมาแบบนั้นในตอนที่ก็เงียบเสียงไปนาน...เป็นคำตอบที่ผมพอใจ แต่ก็ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกห่อเหี่ยวลงมากขึ้นตอนที่ได้ยินก็ไม่รู้



“แต่มึงจำไว้นะเอม...กูไม่มีวันปล่อยมึงไป ครั้งนี้ที่ไม่บังคับให้มึงกลับไปด้วยกันก็เพื่อความสบายใจของมึง แต่มันก็แค่ชั่วคราวเท่านั้น อย่าคิดว่ามึงจะหลบหน้ากูได้ เพราะมึงไม่มีทางทำได้”



“... และที่สำคัญ กูชอบมึง ก็แค่ชอบมึงแค่คนเดียวในตอนนี้ คนที่กูอยากอยู่ด้วยและเดินต่อไปด้วยกันก็มีแค่มึงไม่ใช่คนอื่น มึงอาจจะรู้สึกว่ามันก็แค่คำพูดใครก็พูดได้ แต่คำพูดของกู มันไม่เหมือนของใคร อยากให้มึงมั่นใจว่ากูจะไม่เหมือนใครคนก่อนๆที่มึงเคยเจอ ... ส่วนเรื่องของพระพาย ถ้ามึงจะน้อยใจอะไรก็ได้ ตามสบายมึงเลย แต่กูอยากจะบอกให้เข้าใจนะ ว่าต่อจากนี้มันจะไม่มีเรื่องอะไรระหว่างกูกับพายอีก เพราะกูบอกพายไปแล้วว่ากูรู้สึกกับมึงแค่คนเดียวไม่ใช่เค้า”



คำพูดยาวๆที่ทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นไปมองอย่างตกใจ เส้นผมสีทองสว่างของคนที่ปีนรั้วอยู่บนนั้นพัดไปตามลมเย็นๆปลิวน้อยๆอยู่บนนั้น สายตาคมที่นิ่งสงบไม่ต่างจากน้ำเสียงก่อนหน้านี้ คำพูดที่ทำให้ผมรู้สึกอยากวิ่งไปเปิดประตูแล้วบอกว่าเจ๊ผมกลับด้วย ... แต่ถ้าทำแบบนั้น มันคงไม่มีอะไรก้าวไปข้างหน้า ได้แต่จิกเล็บลงไปบนเนื้อกำมือตัวเองแน่นๆแล้วข่มใจไว้



ถ้าวิ่งไปนี่แรดเลยนะไอ้เอม ฮึบไว้ มึงจะยอมตั้งแต่หน้าประตูไม่ได้นะมึง



“งั้นวันนี้กูกลับก่อน กูให้เวลามึง3วัน ถ้ามึงยังไม่กลับ กูจะมารับมึงกลับบ้านของเราเอง



‘พรึบ’



พูดออกมาแบบนั้นจบแล้วกระโดดลงมาจากรั้วทันที ไอ้หยีที่เผลอกรี๊ดออกมาด้วยความตกใจ รวมถึงผมด้วยที่ขยับเท้าเข้าไปใกล้อีกหลายก้าว แต่จริงๆคือเจ๊พี่มันกระโดดลงมาที่พื้นด้วยความเท่และค่อยๆลุกขึ้นยืนด้วยความมั่นคงไม่เซเลยซักนิด



“น้องหยีพี่ขอโทษนะที่มาสร้างความเดือดร้อนให้” พี่มันที่หันไปหาไอ้หยีพร้อมบอกออกไปแบบนั้น หันไปเห็นไอ้หยีที่ได้แต่ทำหน้าแหยๆส่งไปให้ ในใจมันคงอยากด่าพ่ออิเจ๊อ่ะครับ ดึงขนาดนี้เสือกมาปีนบ้านคนอื่นเอะอ่ะ



“ไม่เป็นไรค่ะพี่”



“พี่ฝากดูเอมมันด้วยนะครับ” บอกย้ำออกมาอีกครั้งก่อนจะหันมามองหน้าผมนิ่งๆ สายตาคมที่ส่งผ่านรั้วเหล็กดัดลายสไตล์ยุโรปนั่นมามองหน้าผม



“อย่าดื้อ อย่าหนี เพราะพี่จะไม่ยอมให้เอมทำแบบนั้น จำไว้นะครับ”



บอกแค่นั้นก่อนจะค่อยๆหันหลังเดินกลับไปขึ้นรถ มองจากตรงนี้พึ่งรู้ว่าพี่มันขับรถมา ไม่ได้ขับมอเตอร์ไซค์แบบปกติที่ชอบขับ ... อดคิดไม่ได้ว่าจริงๆแล้วมันอาจจะตั้งใจขับมารับผมให้กลับไปด้วยกัน



รถคันหรูที่ค่อยๆขับออกไปช้าๆ จนสุดท้ายก็ค่อยๆแล่นหายไปจากสายตาของผม มองตามหลังไปจนมองไม่เห็นแม้กระทั่งไฟท้ายรถคันนั้น



“ชะเง้อตามขนาดนี้ ทำไมมึงถึงไม่กลับไปกับพี่เค้าคะมึง” ไอ้หยีที่เดินเข้ามาใกล้ยกมือขึ้นตบไหล่ผมพร้อมถามออกมาแบบนั้น หันไปมองหน้ามันพร้อมถอนหายใจหนักๆ



“หน้ากูมันบอกหรอว่าอยากกลับไป”



“โถ่ หนูลูก อีกนิดนึงมึงก็ร้องเพลงยอมตั้งแต่หน้าประตูออกมาพร้อมเทคตัวกระโดดขึ้นรถเค้าแล้วค่ะ” เบะปากออกมาใส่ผมพร้อมมองแรง



“เพลงเก่าจังวะป้า”



“กูไปแก่ทับบ้านเลขที่มึงหรอคะอิน้องเอม ฮึ่ย หมั่นไส้นัก”



“คือโกรธอะไรกูอ่ะ” ถามมันออกไปแบบนั้นพร้อมเกาหัวแบบงงๆแล้วเดินตามมันเข้าไปในบ้านไป



“มีผู้มาตามง้อปีนรั้วบ้านถึงที่ แต่ไม่ยอมกลับไปกับเค้า ทั้งๆที่ใจคือไปนอนรอเค้าบนเตียงแล้ว” จีบปากจีบคอใส่กันทั้งแบบนั้น ก็คือแสดงอาการริษยาออกมาผ่านหน้าตาสวยๆของมันแบบไม่ปิดบังเลยแม้แต่น้อย ... ไม่มีผู้ก็เศร้าหน่อยอ่ะโน๊ะ



ได้แต่คิดแต่ต้องเงียบไว้ครับ พลังของสาวโสดมันน่ากลัว โสดแล้วพาลก็งี้



“กลับไปแล้วจะยังไงวะป้า”



“มึงพูดแบบนี้หมายความว่ายังไงวะ” มันที่หันมามองหน้าผมในตอนที่เราหยุดยืนกันอยู่ที่หน้าประตูห้องนอนของมัน



“ก็ถ้ากลับไปแล้วทุกอย่างมันยังเหมือนเดิมมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรือเปล่าวะ ... สุดท้ายมันก็เป็นเหมือนเดิม” ผมที่บอกออกไปแบบนั้น



“แล้วมึงมาอยู่กับกูแบบนี้มันมีประโยชน์อะไรหรอวะ กูดูก็รู้แล้วว่ามึงเองก็ชอบเจ๊มัน มึงอย่าอะไรกับภาพลักษณ์พี่มันนักเลยว่ะเอม”



“แล้วถ้าภาพลักษณ์นั้นที่พี่มันเป็น ถูกสร้างมาเพราะคนที่เคยอยู่ในใจมันล่ะวะ ... โอเค กูก็ชอบแหล่ะผู้ชายเท่ๆที่ให้ความมั่นใจกับกูได้ แต่ตอนนี้นอกจากพี่มันจะไม่เท่แล้ว แต่ที่มันชอบทำท่าออกสาวแบบนี้ก็เพราะพาพวยนั่น”



“มึงรู้ได้ไง”



“ก็พาพวยมันบอกกู”



“แล้วมึงก็เชื่อหรอคะลูก” ไอ้หยีที่ทำหน้าออกมาแบบ อินี่ทำไมมันโง่แบบนี้มองหน้ากัน



“มันก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องไม่เชื่อ แล้วกูก็มั่นใจว่ามันเป็นเรื่องจริง”



“สมมุติว่ามันจริง แต่เรื่องแบบนี้มันก็ต้องคุยกันนะมึง มึงจะมาอยู่ของมึงแล้วคาดหวังให้ใครคนนึงเปลี่ยนไปตามใจที่มึงคิดมึงหวังมันไม่ได้นะ พี่ดาบมันไม่ใช่พระพุทธเจ้าที่จะตรัสรู้เองได้ เรื่องของคนสองคน มึงจะผ่านไปคนเดียวมันไม่ได้นะกูขอเตือน” ไอ้หยีที่พูดออกมาแบบจริงจังแบบนั้นแล้วมองหน้าผมนิ่งๆ คำพูดของมันก็ย้ำเตือนผมได้ดี แต่ถึงแบบนั้น ผมก็ยังไม่มีความกล้ามากพอที่จะทำ เพราะถ้ากล้ามากกว่านั้น วันนั้นที่พาพวยมายั่วอารมณ์ผม ผมคงไม่สาดขาหมูใส่ แทนการวิ่งไปหาอิเจ๊พี่มันแล้วล่ะ ... เพราะใจลึกๆแล้วจริงๆแล้วผมกลัว กลัวว่าคนที่มันเลือกจะไม่ใช่ผม



“ป้า...”



“จริงๆนะมึง เหนือสิ่งอื่นใดคือมึงหนีใจตัวเองไม่ได้หรอก มึงปฏิเสธไม่ได้หรอกว่ายังไงมึงก็รู้สึกกับพี่มันไปแล้ว กูมั่นใจว่าคนแบบพี่มันจะหาทางออกที่ทำให้มึงสบายใจที่สุดมาให้”



“แต่กูก็กลัว คนแบบกูมีอะไรสู้ใครได้วะป้า โดยเฉพาะกับกูที่มาทีหลัง กับเค้าที่มาก่อน คนที่มันเคยรักมากๆคนนั้นอ่ะ กูจะเอาอะไรไปสู้วะ”



“เรื่องนี้ไม่มีใครบอกมึงได้ นอกจากตัวพี่มันเองที่มึงควรจะไปถาม ... แต่สิ่งนึงที่กูอยากจะบอกก็คือ ถ้ามึงเป็นคนที่ใช่ พี่มันจะไม่ปล่อยให้มึงต้องสู้ให้เหนื่อย”



“แล้วกูจะเป็นคนนั้นหรอวะ...คนที่ไม่มีอะไรเลยแบบกู ไม่มีอะไรเลยนอกจากใจกู”



“มึงไม่จำเป็นต้องรีบไปคิดแทนพี่มันจะได้ไหมคะ พี่มันน่ะมีทุกอย่างเยอะแล้ว กูว่าสิ่งที่พี่มันต้องการมากที่สุด ก็อาจจะเป็นแค่ใครสักคนที่อยู่ข้างๆ”



“และคอยชมมันว่าสวย”



“โอ๊ยย อิสัด อย่าเอาความจริงมาล้อเล่นแบบนี้ ฮ่าๆ” และสุดท้ายทั้งผมและป้ามันก็มองหน้ากันแล้วหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ แค่หลับตาก็นึกภาพพี่มันออก คนที่ตัวใหญ่ๆที่ชอบทาปากแล้วยกมือทัดผมแล้วถามชาวบ้านว่ามันสวยไหม ทั้งๆที่ตัวจริงก็โคตรจะห่างไกลจากคำว่าสวยมากจริงๆ



‘ครืด ครืด’



เสียงหัวเราะของเราสองคนต้องหยุดลงในตอนที่โทรศัพท์ในมือของไอ้หยีสั่น มันที่ยกมือถือขึ้นมาดู ก่อนจะหันหน้าจอโทรศัพท์ที่สว่างขึ้นมา ปรากฏชื่อของคนที่โทรเข้า



“ไอ้เก้อ”



“มึงอย่าบอกมันว่ากูอยู่นี่นะป้า กูไม่อยากให้มันมาตามกู” ผมบอกออกไปแบบนั้น แค่นี้ก็รู้แล้วว่าไอ้เก้อโทรมาเรื่องอะไร เพราะก่อนหน้านี้ผมไม่ยอมตอบข้อความมันไปว่าอยู่ที่ไหน หยีมันถอนหายใจออกมาหน่อยๆก่อนจะพยักหน้า



“กูรู้ค่ะว่าต้องบอกอะไร มึงอย่าห่วงเลย มึงไปนอนเถอะค่ะลูกกู”



“ครับแม่”



“มีลูกแบบมึงนี่เหนื่อยมาก หัวกะไดกูไม่เคยแห้ง ผู้ชายวุ่นวายมึงเยอะนัก”



“ขอโทษทีที่สวยนะแม่นะ”



“อิสัด”



...

(50%)



ขออนุญาตลงเท่านี้ก่อนนะคะ จริงๆมีต่อแต่ว่าเขียนยากมากๆเพราะคอมตาย เลยขอลงเท่านี้ก่อน

ทีมผัวพี่ดาบมาค่ะ ต้องมาแล้วนะ

ฉันแพ้คำว่า 'ครับ'ของพี่เค้า

ฝาก #สวยๆเป็นผัว ในทวิตเตอร์ด้วยนะคะ

ปล. อยากให้คนอ่านได้อ่านนะคะ

ต้องขออภัยคนอ่านที่แคทเขียนได้ไม่ดีและไม่สนุก แถมยังช้าอีก เหตุผลก็คือว่า

1.แคทไม่เก่งค่ะจริงๆแต่ละตอนคิดว่าตัวเองเขียนสนุกแล้ว แต่ก็ยังทำให้คนอ่านรู้สึกว่าเนื้อเรื่องไม่ดี ไม่ไปไหนมาไหนสักที

แคทขอยอมรับและขอโทษมากๆ จะพยายามพัฒนาให้มากขึ้นนะคะ

2. คือโน๊ตบุ๊คตาย ตามที่ได้แจ้งไว้ในเพจแล้วว่ามันตายตั้งแต่ก่อนวันที่20 เพราะฉะนั้นเลยต้องใช้คอมที่บ้าน

แต่ทุกวันนี้พ่อก็หยุดอยู่บ้าน ทำงานที่บ้านเพราะฉะนั้นเลยต้องแย่งคอมกันค่ะ งานแคทเลยช้า ตั้งใจจะซื้อโน๊ตบุ๊คใหม่

แต่แคทก็ไม่มีเงินมากขนาดนั้นในตอนนี้ ที่มีไว้10,000บาท ตอนนี้ก็จะเอาไปจ่ายหน้าปกของนิยายเรื่องนี้ค่ะ

เพราะฉะนั้น แคทเลยเขียนนานได้ช้า แคทต้องขอโทษคนอ่านมากๆจริงๆนะคะ :mew1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่25 {04/04/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 04-04-2020 23:40:23
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่25 {04/04/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 05-04-2020 07:57:44
รอๆ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่25 {04/04/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 05-04-2020 10:55:22
เก่งมาก สนุกมากค่ะ  คนเขียนอย่าท้อนะคะ  คนอ่านตามติดเป็นปลิงอยู่ 55555
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่25 {04/04/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 05-04-2020 11:38:12
เป็นกำลังให้ไรท์และเฮียดาบนะคะ    :3123:

รอจ้า
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่25 {04/04/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 05-04-2020 11:39:10
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่25 {04/04/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 05-04-2020 23:42:49
สนุกมากครับ. รออ่านนะครับ,,,
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่25 {04/04/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Pangogi ที่ 06-04-2020 11:05:32
ดานี่ ทิ้งคำพูดไว้แมนมาก 555
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่25 {04/04/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: LifePo-YuGu ที่ 08-04-2020 13:38:47
โอเค๊ ตอนนี้ให้คะแนนความผัวอิ๊พี่เต็ม 100 เลยจ้า  :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่25.2 {11/04/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 11-04-2020 02:34:56
บทที่ 25.2


...


...

“ใจเย็นๆหน่อยพี่มึง รีบขนาดนี้เดี๋ยวมึงก็ขาขวิดตายหรอก”



ผมที่ตะโกนตามหลังคนที่กำลังสาวเท้าก้าวขายาวๆเข้าไปที่คอนโดของตัวเองอย่างเร่งรีบ เป็นครั้งแรกที่ผมได้มาที่คอนโดของพี่มัน เป็นคนโดหรูที่ความปลอดภัยแน่นหนาย่านสาทร ผมที่ต้องวิ่งตามมันเข้าไปแทนการเดินเพราะอีกฝ่ายรีบเหมือนควายหาย ขืนช้ากว่านี้ผมก็กลัวว่าจะถูกยามของคอนโดนี้โยนผมออกไปเพราะคิดว่าเป็นคนแปลกหน้าได้



“พี่มึง” วิ่งตามไปจนทันมัน เรียกอีกคนไว้แบบนั้นพร้อมเอื้อมมือไปจับแขนของมันไว้ แต่อีกฝ่ายกลับสะบัดแขนหนีมือผมอย่างหงุดหงิด ท่าทางของมันที่มองซ้ายทีขวาทีอย่างร้อนใจ ไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าผมกำลังหอบจนลิ้นฮ้อยเหมือนมาหอบแดด



“อย่าพึ่งกวนกูดิ๊ไอ้เสือ”  มันที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วหันมาจ้องกันตาขวาง คือเป็นKอะไรของมึงอ่ะสัดพี่เก้อ ... อยากจะพูดด่ามันออกไปแบบนั้น แต่คนตรงหน้าผมก็ไม่รอให้ผมได้ด่า มันที่แค่เดินผ่านตัวผมไปแล้วเริ่มต้นมองหาคนที่มันตั้งใจมาเจอแถวบริเวณล็อบบี้ของคอนโดมันอย่างเอาเป็นเอาตาย



“K” สบถออกมาแบบนั้นพร้อมกรอกตาให้แม่ง แต่ไอ้คนที่ผมด่ามันก็ไม่ได้ยินอยู่ดี สุดแสนจะระอาใจ เห็นแบบนั้นเลยต้องถอนหายใจออกมาหน่ายๆ แต่ก็เดินตามเข้าไปหามันที่ตอนนี้กำลังเดินไปหาลุงยามหน้าคอนโดด้วยอาการฟึดฟัด กูนี่แอบสงสารลุงยามเลย



“แน่ใจหรอวะลุงว่าไม่มี!” เสียงไอ้พี่เก้อที่ตะโกนดังลั่นโถงด้านนอกของด้านคอนโด เห็นแบบนั้นแล้วได้แต่ส่ายหัวกับสภาพหมาบ้าของมัน



“แน่ใจครับ ลุงเฝ้าอยู่ที่นี่ทั้งวัน ใครเข้าใครออกลุงต้องรู้ แต่ไม่มีใครมาหาคุณเก้อเลยครับ”



“ลุงอาจจะไม่เห็นตอนเค้ามาก็ได้ไหมวะ” มันที่พูดออกมาแบบนั้นด้วยท่าทางหงุดหงิดแบบสุดๆ ฝ่ามือหนาของมันที่ยกมือขึ้นเสยผมแบบสุดจะหงุดหงิด ร่างสูงใหญ่ที่หันรีหันขวางแบบทำอะไรไม่ถูก แต่เหมือนอยากจะหาที่ระบายอยู่หน่อยๆ ด้วยกลัวว่ามันจะเผลอซัดหน้าลุงยาม ผมเลยรีบเดินเข้าไปหามัน



“ลุงเค้าว่าไม่มี ก็คงไม่มีแหล่ะพี่มึง”



“แล้วมันจะไปอยู่ไหนวะ!”  หันมาฉุนเฉียวใส่ นี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นคนตรงหน้าดูร้อนรนแบบนี้



“พี่มึง กูว่ามึงหลุดแล้วนะ มีสติหน่อยสิวะ”



“มึงไม่เข้าใจไอ้เสือ! ถ้ามันเป็นอะไรไปจะทำไงวะ”



“แล้วมึงเป็นแบบนี้จะรู้เรื่องมากขึ้นงั้นดิ” อดว่ามันออกมาอีกไม่ได้ มันที่หันมามองผมตาขวางในตอนนี้



“มึงแม่งไม่เคยห่วงใครมากๆแบบกูไง มึงจะรู้อะไรวะ สิ่งที่มึงก็มีแค่เรื่องตัวเอง”



มันที่ว่าออกมาแบบนั้นทำให้ผมที่กำลังจะเอื้อมมือคว้าแขนของมันไว้ในตอนนั้นก็ชะงักค้างอยู่ในอากาศในตอนนี้ ได้แต่จ้องหน้ามันนิ่งๆไปหลายนาที ก่อนจะต้องยกยิ้มออกมา ใช้ลิ้นเลียริมฝีปากของตัวเองที่อยู่ดีๆก็รู้สึกแห้งลงซะแบบนั้น ก่อนจะใช้ลิ้นดุดกระพุ่งแก้มตัวเองแล้วจ้องหน้ามันก่อนจะเผลอแสยะยิ้มออกมา



“เหอะ กูไม่เคยห่วงใครนอกจากตัวเองหรอวะ สมองหมาแบบมึงแม่งก็คิดได้แค่นี้แหล่ะไอ้สัด เสียเวลากูถ่อสังขารมาถึงนี้กับมึง ถุย! โคตรเหี้ย”  ว่าออกไปแบบนั้นก่อนจะยกมือขึ้นผลักอกมัน แล้วเดินหนีออกมา ไอ้หน้าสัด...พูดออกมาได้ เฮงซวย!



ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ในครั้งนี้ที่โดนไอ้สัดพี่เก้อด่าแบบนั้น มันกลับรู้สึกแย่มากกว่าทุกที มากกว่าทุกทีที่ผมกับมันเคยด่ากัน หรือจริงๆแล้วมันอาจจะนานมาแล้วก็ได้ที่มันกับผมไม่ได้ด่ากันแรกๆ หรือแม้กระทั่งเลิกต่อยกันไปนานแล้ว...กูแม่งไม่น่าชินกับคนสันดานหมาแบบแม่งเลย



ผมที่ก้าวยาวๆเดินหนีออกมาจากคอนโดห่านี่ไวๆ เป็นการเดินที่ไวที่สุดเท่าที่เคยเดินมา รู้สึกอยากส่งตัวเองลงกีฬาเดินไวในโอลิมปิกเลยแม่ง คิดว่าตัวเองต้องชนะ ... ผมที่เดินออกมาจากคอนโดจนถึงถนนใหญ่ มองซ้ายมองขวาหารถกลับบ้าน ถึงยังไงตอนนี้ก็ดึกแล้ว สถานีรถไฟฟ้าก็ยังคงไกลจากตรงนี้ ยังไงก็คงต้องขึ้นแท็กซี่กลับไป แถมหอผมกับตรงนี้ก็คนละทางกันอีกต่างหาก ... ไม่น่ามาให้เสียความรู้สึกเลยจริงๆ



‘ตึกตักตึกตัก’



“แฮ่ก...เดี...เดี๋ยวไอ้เสือ”  เสียงวิ่งที่ปะปนมาพร้อมเสียงหอบหายใจหนักๆ ก่อนจะตามมาด้วยฝ่ามือหนาที่เอื้อมมาดึงแขนของผมเอาไว้ พอหันหน้ากลับไปก็เห็นไอ้หน้าสัดเมื่อกี้ที่ตอนนี้กำลังก้มตัวเอามือเท้ากับหัวเข่าของตัวเองแล้วหอบหายใจ ส่วนมืออีกข้างของมันก็จับแขนของผมเอาไว้แน่นๆอยู่แบบนั้น



“ปล่อยไอ้เหี้ย” ว่าออกไปแบบนั้นแล้วดึงแขนตัวเองหนี แต่มันก็ไม่ยอมปล่อย แถมเพิ่มแรงกำแขนกันไว้จนรู้สึกเจ็บ แรงควายจนผมต้องขมวดคิ้ว



“อย่าสะดีดสะดิ้งนักสิวะ”  มันที่ยืดตัวขึ้นมายืนดีๆแล้วว่าออกมาแบบนั้น พอมองหน้ามันแล้วอารมณ์ฉุนขึ้นมาเลยทันทีแบบอัตโนมัติ



“สะดีดสะดิ้งเหี้ยไร ปล่อย!” ตะโกนใส่มันไปพร้อมๆกับกระชากแขนตัวเองออกอย่างแรง และในครั้งนี้ก็สะบัดมันหลุดได้สักที



“เฮ้ย เดี๋ยวสิวะไอ้เส...โอ๊ย!”



‘ผลั้ว!’



“ไปไกลๆไอ้เหี้ย” หันไปจ้องมันตาขวาง มันที่ตอนนี้ก็ล้มลงไปนั่งกับพื้นพร้อมมือขวาที่ยกขึ้นมากุมแก้มตัวเอง ผมที่จ้องมันเขม็งแล้วเริ่มหายใจแรงๆ หงุดหงิดจนบอกไม่ถูกเลยจริงๆ แต่พอได้ต่อยหน้ามันไปก็เหมือนจะรู้สึกดีขึ้นนิดหน่อย



“เห้ยๆ ต่อยกูแล้วยังจะไปไหนอีกวะ”



“เรื่องกู เสือก!”



“เดี๋ยวๆสิวะ”  เป็นแม่งอีกแล้วที่ลุกขึ้นวิ่งตามแล้วมาคว้าข้อมือของผมไว้อีกหน มันที่ดึงมือของผมให้หันไปหามันแรงๆ แล้วตัวควายๆแบบนั้นกูก็ปลิวไปสิวะ หงุดหงิดไอ้สัด หนีไม่ได้เลยได้แต่จ้องหน้ามันเขม็ง อีกคนที่ก็มองหน้ากันนิ่งๆ ไม่มีใครพูดอะไร และสุดท้ายก็เป็นมันเองที่ถอนหายใจออกมาหนักๆ



“ไอ้เสือกูผิดเอง”



“ผิดเหี้ยไร ปล่อย กูจะกลับบ้าน”



“อย่าเป็นงี้ดิวะ”



“เป็นงี้คือเป็นเหี้ยอะไร” จ้องตามันแบบหงุดหงิดเต็มทน ไม่รู้ทำไมพอมันพูดว่าอย่าเป็นแบบนี้แล้วผมยิ่งหงุดหงิด ท่าทางที่มันทำเหมือนเป็นผู้หญิงที่ชอบทำตัวงี่เง่า ทั้งๆที่คนที่งี่เง่าคือมันแท้ๆ อารมณ์กูกรุ่นขึ้นมาอีกแล้วเนี่ย



“โอเค กูขอโทษเสือ ขอโทษที่หงุดหงิดแล้วพาลพูดจาหมาๆแบบนั้นกับมึง” มันที่เลื่อนฝ่ามือมาจับมือของผมเอาไว้ ท่าทางที่ดูหมดทางจะไปแบบนั้นมองหน้าผมแบบขอร้อง K



“นะ”  นะพ่อนะแม่มึง กูเกลียดคำว่านะของมึงไอ้สัดพี่เก้อ



“มึงอย่าเงียบสิวะ ไหนๆมึงก็ต่อยหน้ากูไปแล้ว หายงอนได้แล้วนะมึง”



“งอนเหี้ยไร ใครงอนมึง” กูจะหายโมโหอยู่แล้วเชียว เสือกพูดกวนตีนกูอีก พอหันไปถลึงตาใส่มันกลับยิ้มตอบกลับมาให้แทนซะแบบนั้น  น่ารำคาญ



“ปะ ไปกัน” มันที่ว่าแบบนั้นแล้วดึงมือผมนิดๆ



“ไปไหนอะไรของพี่มึง กูจะกลับห้องกู”



“กลับอะไรของมึง มึงมาแล้วก็ช่วยกูต่อหน่อยสิวะ กลับไปกับกูเนี่ยแหล่ะ ไปช่วยกูตามหาไอ้เอมต่อหน่อย นะน้องเสือนะ”



“กูจะไม่ไปก็ตรงน้องเสือของมึงนี่แหล่ะ สัด”



“พูดแบบนี้แสดงว่าไป ดีมากไอ้น้อง ปะ” ไม่สนใจหน้าตาหรือแม้กระทั่งท่าทางของกูที่ดูว่าฝืนใจแค่ไหน มันที่แค่กระชากตัวผมเข้าไปกอดคอเหมือนแบบทุกทีที่มันชอบทำ แล้วเริ่มต้นลากตัวผมให้เดินกลับไปตามทางเก่าที่ก่อนหน้านี้ผมพึ่งสับตีนไวๆเดินจากมา



.

.

.



“เชี่ย โคตรหรู นี่อยู่คนเดียวหรอวะพี่มึง”  ผมที่ก้าวเท้าเข้ามาในห้องของมันแล้วต้องอ้าปากค้าง อย่าใช้คำว่าห้องเลย เรียกว่าเหมือนบ้านขนาดย่อมๆเลยจะดีกว่า เป็นห้องDuplexแบบ3ห้องนอนมีสองชั้น  กลางห้องโถงด้านล่างเป็นห้องรับแขกเพดานสูงที่มองขึ้นไปเห็นชั้นสองได้



“อืม จะให้ใครมาอยู่ด้วยวะ”



“ก็เผื่อมึงหิ้วเด็กงี้”  หันไปพูดกับคนที่เดินเข้าไปในห้องครัวแบบนั้น ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งที่โซฟาของมันแบบเอาเท้าขึ้นมานอนเหยียดยาวไปเลย



“กูไม่เคยพาพวกOne Nightมานอนที่นี่ ... อะ แล้วมึงก็ทำตัวตามสบายไปไหมไอ้สัด” มันที่เดินกลับมาจากในครัวพร้อมขวดน้ำเปล่าที่ยกกระดกแดกแบบไม่เชื้อเชิญแขกแบบกู คือเป็นเจ้าของบ้านยังไงวะ



“แล้วไง แต่คือพี่มึงนี่กะเอาน้ำมาแดกคนเดียวเลยงี้ แล้วกูล่ะ”



“มึงหิว?” ถามพร้อมเลิกคิ้วใส่ จริงๆดูออกว่ากวนตีน



“เออสิวะ ร้อนก็ร้อน”



“แล้วใครเสือกให้มึงเดินหนีกูสะบัดสะบิ้งไปแบบนั้นวะ” มันที่ว่าแบบนั้นแล้วยื่นขวดน้ำที่มันกระดกเมื่อกี้มาให้



“สะบัดสะบิ้งเหี้ยไรล่ะ แล้วนี่อะไร ให้อมปากเดียวกับมึงอ่ะนะ”



“แล้วไงวะ แลกลิ้นกับกูก็เคยมาแล้วไหม ดัดจริตเหี้ยไรครับน้องเสือ”



“K!”  ด่ามันออกไปแบบนั้นแล้วเอื้อมมือไปกระชากขวดน้ำมากระดกดื่มทั้งแบบนั้น ไม่สนใจไอ้เจ้าของห้องที่ตอนนี้หัวเราะขำผมเบาๆ เสียงหึหึเท่ๆที่ดังมาจากในลำคอนั่นยิ่งดูกวนส้นตีน แม่งนึกว่าตัวเองเป็นพระเอกนิยายมั้ง ทำตัวถ่อยแล้วดูเท่งี้ เรื่องจริงคือดูเหี้ยต่างหากล่ะโว้ย แค่น้ำก็เอามาให้กันไม่ได้ ไอ้แล้งน้ำใจ



“เฮ้อ”  ไอ้ร่างหมีควายที่เคลื่อนตัวมานั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกับผม ถ้าพูดง่ายๆก็คือตรงปลายตีนผม พี่มันที่ถอนหายใจออกมาแบบคนคิดไม่ตก มองจากตรงนี้เห็นหน้าของมันที่ดูจะเครียดแบบไม่เลิกไม่ลา



“เครียดขนาดนั้นเลยหรอวะ”



“อือ”



“กับอิแค่หาเพื่อนไม่เจอ” เลิกคิ้วส่งไปเป็นคำถามในตอนที่พี่มันก็หันมามองหน้ากันพอดี มันที่ส่ายหัวหน่อยๆแต่ไม่ยอมพูดต่อ ก็ไม่เข้าใจว่าการส่ายหัวของมันหมายถึงอะไร แต่ถึงแบบนั้นผมก็เลือกจะพูดต่อไปแทน



“พี่เอมเค้าไม่ได้มีเพื่อนแค่พี่มึงไหมวะ ทำไมไม่ลองถามคนอื่น”



“ปกติมันต้องเลือกมาหากูก่อนใคร”



“อย่าสำคัญตัวมากไอ้สัดพี่มึง ขอร้องล่ะ” กูนี่เบ้ปากใส่แม่งเลย มันที่หันมาทำหน้าดุๆใส่ แต่ผมก็เลือกจะเบ้ปากอีกรอบให้มันเห็นชัดๆแทน



“ลองถามดูก็ไม่เสียหายไหมวะ แต่ก็แล้วแต่มึงนะ ก็แค่เสนอความคิดอ่ะ” บอกออกไปแบบนั้นแล้วยักไหล่แบบไม่ได้สนใจอะไร ก็อย่างน้อยผมก็มีสติมากกว่ามัน หรือจะพูดง่ายๆก็คือมันไม่ใช่เรื่องของผม พออะไรที่มันไม่ใช่เรื่องของตัวเองมันก็ดูง่ายไปหมด มันก็แบบนี้อยู่แล้ว คนเรามักจะฉลาดในเรื่องของคนอื่น แต่โง่เรื่องของตัวเองเสมอ



ผมที่นอนกระดิกตีนอยู่บนโซฟาหนังดิ๊กๆ เอื้อมมือไปคว้ารีโมทมากดเปิดทีวี เข้าNetflixไว้แล้วเรียบร้อย ดีเลย สะดวกสบายไปหมด



“พี่มึง กูดูนะ”



“มึงก็เปิดแล้วไหมวะ ดูๆไปเหอะ ปกติกูก็สมัครไว้แต่ไม่ค่อยได้เปิดดูอยู่แล้ว” มันที่บอกผมแบบนั้นแล้วก้มหน้าดูมือถือในมือตัวเอง ก็ไม่รู้ว่าแม่งเพ่งมองดูอะไรนักหนา ช่างแม่งละกัน เปิดดูKingdomเลยละกัน ช่วงนี้เห็นกำลังดัง



ไม่รู้ว่าผ่านไปกี่นาที แต่ว่าผมที่กำลังลุ้นว่าพระเอกจะได้เข้าพบเสด็จพ่อของมันไหมก็ต้องสะดุ้งขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงดังของคนที่อยู่ที่ปลายเท้าของผม ดังจนกูสะดุ้ง



“ทำห่าไรอยู่วะมึงถึงไม่รับ!”



คนตรงหน้าที่ตะคอกออกมาแบบนั้นแล้วกระแทกปลายนิ้วจิ้มเข้าที่หน้าจอมือถือของมันอีกครั้ง โชคดีที่มือถือเป็นรุ่นใหม่เหมือนพึ่งถอยมาหมาดๆ ไม่งั้นหน้าจอมันอาจพังไปแล้ว ก็ไม่รู้จะใส่อารมณ์ทำห่าอะไรขนาดนั้น และพอผมหันกลับไปสนใจหน้าจอ ... เนื้อเรื่องช่วงที่กำลังลุ้นก่อนหน้านี้ก็ถูกตัดไปแล้ว Kพี่เก้อ! แม่ง! ... สุดท้ายผมเลยเลือกที่จะกดปิดทีวีมันซะเลย เพราะดูไปก็ไม่รู้เรื่อง มีไอ้บ้าข้างตัวที่ฟึดฟัดๆเป็นหมาบ้าอยู่แบบนี้ใครมันจะไปมีสมาธิดูวะ



“ฮัลโหลไอ้หยี มึงทำห่าไรอยู่ถึงพึ่งมารับวะ!” เหมือนว่าในที่สุดก็มีคนรับสายมันสักที พี่เก้อมันกระชากเสียงใส่ปลายสายได้อย่างน่าตบ ผมรับรองว่าถ้าผมเป็นปลายสายจะแหกปากด่าว่าโทรมาหาพ่องมึงหรอดึกขนาดนี้ ดึกขนาดนี้แล้วยังกล้ามาตะโกนใส่กู มึงต้องเจอกูแน่



“ไอ้เอมมันอยู่กับมึงใช่ไหม”



“มึงอย่ามาโกหกกูหยี กูรู้ว่าไอ้เอมมันไม่ได้อยู่กับไอ้สัดตุ๊ดปลอมนั่น”  ได้ยินมันตะคอกออกไปแบบนั้นอีกครั้งแล้วรู้สึกว่าตัวผมเองไม่น่ามานั่งอยู่ตรงนี้เลยสะกิดแขนล่ำๆของมันเบาๆ อีกฝ่ายที่หันมามองกัน คิ้วเข้มๆของมันที่ขมวดนิดๆตอนหันมามอง



“ไปหาไรแดกนะ” บอกมันออกไปเบาๆ มันที่ทำแค่พยักหน้าแบบขอไปทีแล้วหันกลับไปกระชากเสียงใส่คนในโทรศัพท์ต่อ และผมมั่นใจว่าคนในโทรศัพท์ของมันต้องเป็นพี่หยีแน่ๆ ... พี่หยีซวยฉิบหายที่ต้องมาเป็นสนามอารมณ์ของไอ้สัดพี่เก้อนั่น คนสวยขนาดนั้น น่าสงสารว่ะครับ



ผมที่เดินเข้าไปในห้องครัวของมันแล้วต้องอ้าปากค้าง ห้องครัวขนาดใหญ่ตกแต่งด้วยสไตล์ทันสมัยที่มีข้าวของครบครัน แต่ผมมั่นใจมากว่าไอ้เจ้าของห้องมันต้องไม่เคยแตะครัวเพื่อเข้ามาทำอาหารแน่ๆ เหลือบมองไปมุมนึงข้างๆไมโครเวฟ มองเห็นมาม่าหลายยี่ห้อถูกวางทิ้งไว้กระจัดกระจายอยู่ตรงนั้นหลายแพ็ค ... นี่มึงกักตุนอาหารเตรียมพร้อมประเทศเราปิดเมืองหรอวะ กูว่าไอ้สัดพี่เก้อคิดมากไปแล้ว น้ำหน้าแบบประเทศเราจะมากล้าปิดเมืองปิดประเทศได้ยังไงกันล่ะครับ เอ้อ .... ผมเลือกจะเดินตรงไปที่ตู้เย็นสองประตูขนาดใหญ่นั่น เปิดออกแล้วเสียใจแทนตู้เย็น ใหญ่ซะเปล่าแม่งกลับไม่ค่อยมีอะไร มองเห็นข้าวกล่องแบบพร้อมทานวางไว้สามสี่กล่อง ไส้กรอกแพ็คนึง ไข่ น้ำเปล่า และนอกนั้นก็คือเบียร์หลายกระป๋องวางเรียงไว้ไม่ต่ำกว่าสิบกระป๋อง มึงกะเอามาขายแล้วล่ะเยอะขนาดนี้ ส่ายหน้าหน่ายๆ แต่สุดท้ายผมก็แบกมันออกมาถือไว้ในอ้อมแขนสี่กระป๋องใหญ่ ก่อนจะเดินกลับไปที่โซฟาที่ห้องรับแขกอีกครั้ง แต่สภาพของคนตรงหน้ากลับแตกต่างจากก่อนหน้านี้ที่มันตะเบงเสียงใส่พี่หยีโดยสิ้นเชิง ตอนนี้มันแค่นั่งเอาแขนสองข้างพาดไปกับพนักโซฟา แล้วทิ้งหัวพิงพนักแบบหมดสภาพ ...



“เป็นอะไรของมึงวะพี่เก้อ”



“เค้าไม่อยู่แล้วว่ะ มันถูกของมึงว่ะไอ้เสือ มึงบอกกูว่าอย่าสำคัญตัวผิด ... แล้วกูแม่ง สำคัญตัวผิดไปจริงๆว่ะ”



“มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่วะ ใจเย็นๆก่อนมึงเพ้ออะไรวะพี่เก้อ”



“เค้ากลับไปกับคนของเค้าแล้วว่ะ กูแม่ง ...น่าสมเพชฉิบหายที่คิดว่าเค้าจะคิดถึงกูก่อน แต่ที่ไหนได้ ลำดับสุดท้ายเค้ายังไม่นึกถึงกูเลยว่ะ”



มันที่บอกออกมาแบบนั้น หันหน้ามามองผมแล้วยิ้มออกมา เป็นรอยยิ้มแบบที่สุดแสนจะขมขื่น ตั้งแต่รู้จักมันมา มันเป็นคนที่เท่มากๆเพราะมั่นใจในตัวเองสูง ไม่สรใจใครหน้าไหน แต่พอมาเห็นแบบนี้แล้ว ผมกลับไม่ชอบมันที่เป็นแบบนี้เลยว่ะ คนที่นั่งเศร้าแล้วตัดพ้ออยู่ตอนนี้ ... โดยเฉพาะมัน มันที่กำลังตัดพ้อด้วยความเศร้าถึงใครอีกคนที่ไม่ได้รักมัน ...ให้กูฟัง



“แดกเบียร์กัน เผื่อมึงจะหายบ้า” ชูเบียร์ที่อยู่ในมือขึ้นไปให้มันเห็น แล้วยกยิ้มให้มันไปในตอนนี้ ก็แค่คิดว่ามันอาจจะเป็นทางออกที่ดี มากกว่าต้องมานั่งฟังมันเศร้าถึงคนอื่นก็แค่นั้น



--------------To be continued--------------



มาต่อครบแล้วจ้า ตอนเวลา ตี2สามสิบสี่นาที คิ๊กคัก จะมีใครรู้ใครเห็น ใครมาอ่านไหมน้าาา



ฝาก #สวยๆเป็นผัว ในทวิตเตอร์ด้วยนะคะ :mew1:



หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่25.2 {11/04/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Chucream.nabi ที่ 11-04-2020 09:15:47
 :katai2-1: นี้เดานะ...เมาแล้วได้กัน
ช่วงนี้ดูแลสุขภาพด้วยนะ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่25.2 {11/04/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 11-04-2020 09:50:07
รอๆ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่25.2 {11/04/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 11-04-2020 10:06:52
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่26 {11/04/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 11-04-2020 21:29:22
บทที่26



“มึงอยากแดก” พี่มันที่ขมวดคิ้วแล้วถามผมออกมาแบบนั้น ก็แค่ยักไหล่ส่งไปเป็นคำตอบให้มันหน่อยๆก่อนจะเดินเข้าไปนั่งลงข้างๆมัน



“ก็เบียร์ฟรีป่ะวะ ใครไม่อยากแดกของฟรีบ้างอ่ะ อย่าโง่” บอกมันออกไปแบบนั้นแล้วเปิดกระป๋องเบียร์ขึ้นกระดกดื่ม



‘ซ่า’



เสียงซาบซ่าบาดหูตอนเปิดกระป๋องเบียร์ทำเอาประทับใจจนต้องยกยิ้มมุมปาก เบียร์มันต้องกินตอนเย็นๆครับ ถ้าปล่อยไว้นานๆหรือกินตอนไม่เย็นมันจะขม



“กูบอกหรอวะว่าฟรี”



“แล้วคือมึงจะคิดเงินกับกูหรอสัดพี่เก้อ จิตใจคนเป็นพี่แบบมึงแม่งเชื่อถือไม่ได้”



“ก็ถ้าจะด่ากูขนาดนี้ กูไปเผาบ้านมึงหรือไงวะ จะแดกก็แดกไปเหอะ” มันที่ว่าแบบนั้นแล้วทำหน้าเพลียก่อนจะเอนตัวลงพิงพนักโซฟาด้วยท่าทางง่อยๆแบบนั้นเหมือนเดิม เฉามากเหมือนจะตาย



“สภาพเหมือนคนตายแบบนี้ไม่เหมาะกับมึงเลยว่ะ เห็นแล้วขยะแขยงลูกตา กูอยากเอาเท้าหนีบมึงไปหย่อนลงถังขยะ”



“สัด กูพี่มึงนะ”



“มึงเป็นใคร กูลูกคนเดียว” พูดออกไปแบบนั้น แล้วยิ้มกว้างใส่มันแบบกวนตีนกัน มันที่เอื้อมมือมากระชากกระป๋องเบียร์ที่ผมถืออยู่ไปหน้าตาเฉย ก่อนที่ฝ่ามือหนาๆของมันจะยื่นมือมาผลักหัวกันจนหัวกูโยก แรงควายฉิบหาย



“กวนส้นตีนจริง”



“แล้วทำไมต้องมาเอาของกูด้วยวะ นู่น ตั้งเยอะแยะ”



“กูพอใจจะแดกอันนี้ เบียร์กู เสือกไร”



“อะ แล้วแต่มึงเลยแม่ง”



หมดคำจะพูด กูจะถือว่าอาการวันนี้ของมึงไม่ค่อยดีหรอกนะถึงยอมให้วันนึง ไม่งั้นมึงเจอกูต่อยอีกรอบแน่ไอ้สัดพี่เก้อ .... ผมที่ส่ายหน้าหน่อยๆ ก่อนจะไถลตัวลงไปนั่งที่พื้น แล้วเอาหลังพิงโซฟาไว้แทน นั่งกับพื้นแบบนี้ก็สบายดี แถมพื้นห้องมันยังปูพรหมนุ่มตีนไปทั้งห้อง จะนั่งตรงไหนก็สบายไปหมดอยู่แล้วครับ ผมที่เอื้อมมือไปหยิบเบียร์กระป๋องใหม่มาเปิดดื่ม อืม...ก็ยังอร่อย เป็นเบียร์นอกครับ ดื่มแล้วนุ่มๆลิ้นดี



“พี่เก้อ”



“หื้ม”



“พี่มึงโอเคยังวะ” ผมที่เลือกจะถามออกไปแบบนั้นในตอนที่ผมดื่มเบียร์ลงไปจนครึ่งกระป๋องแล้ว บรรยากาศมันเงียบมากเกินไป ไม่มีเสียงอะไรจนผมต้องเป็นฝ่ายถามออกมาเองทั้งแบบนั้น



“อืม”  มันที่แค่ตอบรับกลับด้วยเสียงที่เปล่งผ่านลำคอแบบไม่ได้ดังไม่เบา สงสัยจริงๆว่ามันทำหน้ายังไงตอนที่ทำเสียงแบบนั้นออกมา สงสัยจนต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง ผมที่เอนหัวลงไปพิงไว้กับที่นั่งของโซฟาแล้วจ้องหน้าอีกคน มันที่นั่งอยู่บนนั้นก้มหน้าลงมามองกันในตอนนั้นพอดี



“พี่มึง...”



“กูโอเค ขอบใจที่คืนนี้มึงอยู่ด้วย” มันที่บอกแบบนั้นแล้วก้มหน้าลงมามองหน้ากัน หน้าของมันที่ก้มลงมาใกล้ ในตอนนั้นที่ลมหายใจของผมก็รู้สึกสะดุดแปลกๆ อาจเป็นเพราะคืนนี้ผมกินทั้งเบียร์กินทั้งเหล้าผสมกันมากไปหรือเปล่าก็ไม่รู้ ตอนนี้มันถึงรู้สึกแปลกๆอย่างบอกไม่ถูก



“ใครบอกกูจะอยู่ด้วย เดี๋ยวแดกกระป๋องนี้หมดกูกลับละ” บอกมันแบบนั้นแล้วเด้งหัวมานั่งตัวตรงดีๆ



“ทำไมมึงกลับวะ”



“ก็เพราะกูไม่อยากอยู่ไงวะ มึงก็ถามไม่คิดเลยสัดพี่เก้อ” บอกออกไปพร้อมทำหน้าเพลีย แต่จริงๆก็ไม่ได้หันหน้ากลับไปมองมันอีก ผมที่ทำแค่จ้องหน้าจอทีวีสีดำเพราะตอนนี้ปิดทีวีไปนานแล้ว ไม่ได้หันไปมองหน้ามันอีก ถึงแบบนั้นกลับรู้สึกเย็นๆวาบๆที่หลังคอยังไงก็ไม่รู้



“มึงกลัวกู?” สัด ... อยากจะหันกลับไปด่ามันด้วยประโยคนี้ แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะเงียบไม่เถียงแม่งออกไปอีก รำคาญ



“ไอ้เสือ...ว่าไง” แต่ไอ้คนที่นั่งขัดตะหมาดอยู่บนโซฟาเหมือนจะไม่ยินยอมให้กูอยู่เงียบๆ มันที่เลื่อนเท้ามาสะกิดไหล่กันยิกๆ มึงไม่ฟาดหน้ากูไปเลยล่ะ



“เซ้าซี้เหี้ยไรวะพี่ เจ๊าะแจ๊ะว่ะพี่” ขมวดคิ้วสะบัดหน้าหันไปมองหน้ามัน และก็เป็นช่วงเวลาที่มันเองก็ก้มหน้าเข้ามาหา ปลายจมูกของผมกับมันที่สัมผัสกันแบบไม่เบาทำเอารู้สึกเจ็บนิดๆ เห็นแบบนั่นแล้วได้แต่ผงะกายออก แต่ติดตรงที่อีกฝ่ายก็เอื้อมมือมาดึงแขนกันไว้ก่อน



“หนีทำไมวะ”



“หนีเหี้ยไรล่ะ แล้วมึงจะเลื่อนมาเข้ามาทำKอะไรสัดพี่เก้อ”



“หึ”



“ไม่ต้องมามองหน้ากู บีบคั้นเหี้ยไรปล่อยแขน” ว่าแบบนั้นใส่หน้าไอ้คนที่จ้องตากันไม่เลิก และเป็นผมที่ดึงแขนตัวเองออกมาจากฝ่ามือของมันได้ในที่สุด หันหน้าไปหยิบกระป๋องเบียร์ของตัวเองมากระดกขึ้นจนหมดกระป๋องแล้วบี้มันให้แบนด้วยมือข้างเดียวแล้วโยนมันลงพื้น ก่อนที่ผมจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงของตัวเอง ไอ้คนที่ยังนั่งอยู่บนโซฟาเงยหน้ามองตามมา



“กูรู้นิสัยมึงดีพี่ ถ้าพอเมาแล้วมึงชอบเลื้อย” บอกออกไปแบบนั้น พออีกคนได้ฟังมันก็หัวเราะออกมานิดนึงแล้วยกยิ้มมุมปากเหมือนจะกึ่งขำกึ่งถูกใจกับคำพูดของผม



“ส่วนมึง เมาแล้วชอบเงี่ยน กูก็รู้” มันที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วยักคิ้วใส่กันทีนึง กวนตีนจนกูอยากเอื้อมมือไปถอนขนคิ้วแม่ง



“เออ เพราะงั้นกูจะกลับไปนอนหอกู”



“กลัวเหี้ยไรวะ มึงกับกูยังไม่เมาสักหน่อยไหมวะ”



มันที่ว่าแบบนั้นทั้งๆที่ตอนนี้ก็เริ่มจะหน้าแดงๆ ส่วนผม ... ผมรู้ตัวเองดีว่าสติไม่ได้ครบถ้วนอะไรเท่าไหร่ แต่ที่ฝืนอยู่ก็เพราะเห็นว่ามันไม่ปกติ เพราะถ้าเป็นปกติ ทั้งผมทั้งพี่มันก็คงต่างคนต่างไป และตอนนี้เราทั้งคู่คงนอนอยู่บนเตียงของใครสักคนที่เราจำหน้าได้ไม่ดีล่ะมั้ง ... ผมกับมัน นิสัยคล้ายกันมากจนเกิน เพราะแบบนี้...ผมถึงต้องกลัว



“พอๆ ไม่ต้องมามองหน้ากู กูไม่เลื้อยมึงหรอกน่า”



“อย่ามาพูด มึงตัวดีสัดเก้อ”



“ลามปามเป็นขี้กากเลยนะ นั่งๆ หมดในตู้เย็นมึงค่อยกลับ”



“พ่อมึง แดกขนาดนั้นกูคงกลับได้หรอก” นึกถึงเบียร์ที่ยังอยู่ในตู้มันกูคิดว่าคงต้องเอามาอาบแทนเอามากินมันถึงจะหมด



“ไม่คนามือเราสองคนหรอกว่ะ ...นะไอ้เสือ กู....กูยังไม่อยากอยู่คนเดียวว่ะ”  ในที่สุดมันก็พูดออกมาแบบนั้น สายตาคมที่อวดทำเป็นเข้มของก่อนหน้านี้ แสงในตาของมันที่ดูหม่นลงไปแบบไม่ใช่เรื่องตลกนั่นทำให้ผมต้องถอนหายใจออกมาก่อนจะทรุดตัวลงนั่งที่เดิม



“ไหน อาการเป็นไงไหนบอกหมอสิหนู”



“หึ ไอ้หมอเด็ก”



“อะ กวนตีนกูละ สรุปจะให้อยู่ด้วยไหม”



“เออๆ ฉุนเฉียวไวจังวะ เฮ้อ...ไอ้เสือ กูว่ากูเจ็บว่ะ”  มันที่บอกแบบนั้นพร้อมถอนหายใจออกมาหนักๆ ถ้าพูดตรงๆก็ไม่เคยเห็นมันในสภาพเหี่ยวเฉามากขนาดนี้มาก่อน ... ความรู้สึกรักใครสักคนมันน่ากลัวขนาดนี้เลยหรอวะ ถ้ามันไม่ดีขนาดนี้ แล้วจะไปอยากมีความรักกันเพื่ออะไรนักวะ ผมแม่งโคตรไม่เข้าใจ



“พี่มึงรักเค้าขนาดนั้นเลยหรอวะ”  อดไม่ได้ สุดท้ายก็ถามมันออกไป หันไปมองหน้าคนที่นั่งอยู่บนโซฟา เสี้ยวหน้าหล่อคมของมันทำให้ผมสงสัยว่าคนที่หล่อ รวย และถ้าพูดถึงนิสัย ผมว่ามันเป็นคนจริงใจ แล้วคนที่พร้อมขนาดนี้ ทำไมถึงมีวันที่มันพูดออกมาว่าเสียใจเพราะความรักได้วะ



“กูไม่รู้ว่ะ ... รู้แค่ว่ากูเจอมันตอนปี1 มันที่เดินทำหน้างงๆเข้ามาแล้วทักกูว่า ‘ฮัลโหลจ้าไอ้สัด’ แล้วยิ้มในตอนนั้นแม่งโคตรจะน่ารักเลยว่ะ”



“รักแรกมึงแปลกๆนะ” ความประทับใจแม่งพิสดารจนกูอดพูดไม่ได้ คนห่าไรชอบคนทักว่าฮัลโหลจ้าไอ้สัด เป็นคนจะถีบให้ด้วย



“มึงไม่เข้าใจ ตอนไอ้เอมยิ้มมันน่ารักมาก มันเป็นคนสดใสแต่ชีวิตแม่งเสือกเฮงซวย ... กูอยากปกป้องมัน”



“มึงเป็นใครก่อนอ่ะเก้อ”  ผมที่ถามออกไปแบบนั้น และมันเองก็เหมือนจะชะงักเรื่องราวที่กำลังเล่าอยู่แล้วหันมามองหน้าผมที่ก็มองตอบมันกลับไปแบบไม่หลบตา แม้ว่าสายตาของมันในตอนนี้จะไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่



“มึงหมายความว่าอะไร”



“ก็หมายความตามที่พูด มึงเป็นใคร”



“กู...”



“มึงเป็นแค่เพื่อนเค้า”



“มึงไม่ต้องมาย้ำได้ไหมวะ แม่ง” เหมือนมันจะหงุดหงิดขึ้นมาทันที ผมสังเกตหลายครั้ง จริงๆมันเป็นคนใจร้อน แต่มักจะร้อนมากๆกับเรื่องพี่เอม ครั้งก่อนมันเคยเล่าให้ผมฟังว่ามันทะเลาะกับพี่หยีเพราะพี่หยีบอกให้มันหยุดคิดเรื่องพี่เอม และครั้งนั้นก็ต้องลำบากกูไปหาซื้อเครื่องสำอางค์มาง้อพี่หยี เหตุเพราะคู่นอนผมเยอะ ผ่านประสบการณ์ที่ผู้หญิงแต่งหน้าหนาๆมาหลอกว่าสวยพอตอนเช้าตื่นมาหน้าสดแล้วตกใจบ่อย ผมเลยรู้ว่ายี่ห้อไหนกำลังดัง ... นั่นแหล่ะ ครั้งนั้นก็เพราะเรื่องพี่เอม และดูเหมือนครั้งนี้คำพูดของผมก็จะไปสะกิดส้นตีนมันเช่นกัน แต่ผมก็ไม่คิดจะหยุดพูด



“กูไม่ได้ย้ำ แค่อยากบอกให้มึงเข้าใจสถานะของตัวเองในตอนนี้”



“แล้วกูไม่ดียังไงวะ ไม่ว่าเมื่อไหร่กูถึงไม่เคยชนะใจไอ้เอมเลย ตอนนั้นมันก็คบกับไอ้เหี้ยมาร์ช แล้วเป็นไงสุดท้ายก็ต้องเจ็บ พอหมดไอ้เหี้ยมาร์ช แม่งยังมีไอ้เหี้ยดานี่ ดาบพ่อแม่ไรนี่มาอีก สัด ตุ๊ดปลอม! ถ้ามันคบกับกู กูจะไม่ปล่อยให้แม่งต้องเจ็บแบบนี้เลย”



มารัวๆ กูงงตั้งแต่มาร์ช มาร์ชไหนก่อน แต่เดาเอาเองว่าน่าจะเป็นชื่อของแฟนเก่าพี่เอม ... ส่วนดาบดานี่เหี้ยไรนี่ คิดว่ามันน่าจะหมายถึงเจ้าของร้านที่มันไปตั๊นหน้าเค้ามาในคืนนี้ ผมไม่รู้ตื้นลึกหนาบางเรื่องของพี่เอมมาก แค่เก็บเล็กผสมน้อยจากคำพูดที่ไอ้พี่เก้อมันชอบพร่ำ และได้ข้อสรุปว่า พี่ดาบดานี่เหี้ยไรนี่ กับพี่เอม...เค้าคงชอบกัน ไม่งั้นสภาพพี่เก้อมันคงไม่เป็นหมาแบบนี้



“มึงอาจจะทำให้เค้าไม่ต้องเจ็บได้ แต่มึงไม่เข้าใจว่ะพี่เก้อ”



“ไม่เข้าใจเหี้ยไรวะ กูเข้าใจไอ้เอมที่สุด”



“หรอวะ...ถ้ามึงเข้าใจพี่เอมที่สุด ทำไมมึงถึงไม่เข้าใจล่ะวะ ว่าเค้าไม่ได้ชอบมึง”



“มึง...ไอ้เสือ มึงพูดเหี้ยไรออกมา!” ผมถอนหายใจออกมาเงียบๆหลังจบคำถามของมัน เหมือนคำพูดของผมจะแทงใจมัน แรงไปหรอวะ แต่คิดว่าไม่นะ ถ้าเบากว่านี้แม่งก็ไม่เข้าใจสักที



“มึงมั่นใจว่าจะให้กูพูดอีกรอบ” ผมที่จ้องหน้ามันแล้วถามออกไปแบบนั้น มันที่จ้องตาผมแบบดุๆ เป็นสายตาแบบนี้ทุกครั้งเวลาที่มันโมโห สายตาในครั้งแรกที่ผมกับมันเจอกัน



“ยอมรับเหอะว่ะพี่”



“มึงแม่งไม่เคยมีความรักไอ้เสือ มึงไม่เข้าใจ แบบมึงที่ก็แค่ไปนอนๆกับใครก็ได้น่ะ” ผมขมวดคิ้วตอนที่ได้ยินมันพูดออกมาแบบนั้น จริงๆใครจะพูดแบบนี้กับผมก็ได้นะ ผมได้ยินบ่อยแล้ว แต่จากมันนี่เป็นครั้งแรก



“ทำไม มึงไม่พอใจที่กูพูดหรอวะ” มันที่ถามออกมาอีกครั้ง



“ใช่ กูไม่เคยมีความรัก ก็แค่ความเงี่ยนนำแต่กูไม่เคยใช่สมองตามนะ สมองกับความเงี่ยนกูไปพร้อมกัน กูรู้ว่ากูทำอะไรอยู่ แต่คนที่มีความรักแบบนี้ได้ใช้สมองบ้างไหมล่ะ ตอนนี้มึงถึงยังไม่เข้าใจว่าไม่ใช่มึงไม่ดีพอ แต่มึงที่ดีมากๆจะไม่มีวันชนะใจพี่เอมได้ เพราะเค้าไม่ได้รักมึง”



“ไอ้เสือ!” มันที่ตะคอกออกมาดังลั่นแบบหมดความอดทนที่จะทนฟัง สายตาที่ไม่เป็นมิตรมากๆของมันในตอนนี้ทำเอาผมรู้สึกกลัว แต่ผมก็เลือกที่จะจ้องหน้ามันกลับไปเหมือนไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น ถึงแม้ว่าในใจจริงๆตอนนี้จะสั่นมากๆก็ตาม



“สัด” มันที่สบถออกมาแบบนั้นแล้วยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองแล้วหายใจหนักๆออกมาจนผมได้ยิน เหมือนมันกำลังข่มใจมากๆ ... ข่มใจไม่ให้ลุกขึ้นมาต่อยหน้าผม ซึ่งนั่นก็ดีแล้ว



“ถ้าเป็นคนอื่นกูจะกระทืบที่พูดแบบนี้กับกู” มันที่ชันหัวเข่าข้างนึงขึ้นเหยียบบนโซฟาแล้วใช้แขนวางลงบนหัวเข่าข้างนั้นเอียงหน้ามองผมนิดหน่อย เป็นสภาพเละเทะที่ต้องยอมรับว่าหล่อฉิบหาย



“พอเป็นกูแล้วไม่ทำ รักกูมากล่ะสิ รู้”



“หึ เออ...ก็มึงน้องกูนี่หว่า มา เอามาแดกอีก กูจะแดกให้ลืมไอ้เอมเลยแม่ง”



“สาธุบุญครับพี่รหัส ถ้าแดกหมดแล้วมึงมูฟออนได้กูก็จะยอมแดกเป็นเพื่อน เอ้า เอาไปกูเปิดให้”



ยื่นกระป๋องเบียร์กระป๋องใหม่ไปให้ไอ้คนที่นั่งหน้าแดงอีกกระป๋อง แล้วผมก็ยกมาเปิดกินไปอีกกระป๋อง สติของผมกับมันไม่ได้ครบเท่าไหร่ แต่พวกเราก็เลือกที่จะเปิดเบียร์กระป๋องแล้วกระป๋องเล่าไปเรื่อยๆ ตรงโต๊ะหมดก็ไปเอาจากในตู้เย็นมาใหม่ กินกันไปอยู่แบบนั้นเรื่อยๆไม่ต่ำกว่าสิบกระป๋อง ไอ้พี่เก้อที่ไถลลงมานอนที่พื้นข้างๆผม ส่วนผมก็เอนตัวนอนลงบนพื้นแม่งเลย รู้สึกเวียนหัว มองเห็นเพดานสูงโปร่งของห้องมันที่หมุนไปรอบๆ ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่บนเรือกลางทะเล ตัวเรารู้สึกโครงๆเครงๆแต่หัวก็เหมือนถูกบีบ เหมือนมีค้อนใหญ่ๆตอกลงมาที่หัวดังตุบๆอยู่ตลอดเวลา ...



อืม ชัดเลย ดีใจด้วย กูเมาแล้ว



เอียงหัวพยายามลืมตา ให้กว้างที่สุดไปมองไอ้คนที่เอาหลังพิงโซฟาอยู่ตอนนี้ ดวงตาคมของมันที่หลับลงเรียบร้อยแล้วในตอนนี้ ชัดเหมือนกัน มันเองก็เมาแล้วแน่นอน



“พี่เก้อ”



“อื้ออ ว่าไงวะ เอิ๊ก” ความเมาทำให้สะอึกออกมาแบบขัดกับความหล่อของหนังหน้า ตลกฉิบหาย



“กูง่วงว่ะ”



“ง่วงก็นอนเลย กูก็ลืมตาไม่ขึ้นแล้วว่ะ มึนสัดๆ”



“ปิดไฟ กูแสบตา” บอกมันแบบนั้นแล้วหลับตาลง ได้ยินเสียงกุกกักจากข้างๆตัว ฝืนลืมตาขึ้นมาดูนิดหน่อย มองเห็นพี่เก้อมันหยิบรีโมทเล็กๆขึ้นมากด แล้วไฟในห้องมันทั้งชั้นนี้และชั้นสองก็ค่อยๆหรี่ลงช้าๆ ก่อนที่ทุกอย่างจะตกอยู่ในความมืด มีเพียงแสงสลัวๆที่ส่องเข้ามาจากกระจกบานสูงข้างๆห้องรับแขกนี้ที่ทำให้แสงสว่างจากท้องฟ้าข้างนอกส่องเข้ามาได้ เพราะมันไม่ได้ปิดม่าน ... กระจกบานนี้สูงถึงชั้นสองเลย คิดว่ามันคงสั่งทำเป็นพิเศษเพื่อให้ได้มองเห็นวิวของแม่น้ำด้านนอกในตอนเช้าๆล่ะมั้ง ... นิสัยรวย



“นอนเหอะมึง”



“อื้อ”  ตอบรับมันออกไปแบบนั้น แล้วทั้งผมและมัน เราทั้งคู่ก็แค่หลับตาลงไปพร้อมๆกันในตอนนี้



.

.

.



(มีต่อจ้า)
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่26 {11/04/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 11-04-2020 21:30:22

ผมที่พลิกตัวไปมาอยู่บนพื้นพรหมที่ไม่ได้นิ่มเหมือนเตียงนอนนี่ไปมา ความรู้สึกที่ทั้งมึนทั้งอึดอัดนี่ทำให้หงุดหงิดฉิบหาย แดกเมาทีไหร่เป็นแบบนี้ทุกที



“ซี๊ด”  หงุดหงิดจนเผลอซี๊ดปาก อยากจะลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ แต่ก็มึนเกินกว่าจะอยากลืมตาลุก



“อือ มึงเป็นไร นอนไม่หลับ” เสียงทุ้มเข้มที่ดังมาจากข้างหลังดังอยู่ข้างๆหู ทำให้ขนที่หลังคอลุกขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ ลมหายใจร้อนๆที่รินรดอยู่ตรงนั้นยิ่งทำให้ต้องเผลอกัดปาก



“เปล่า พี่มึงนอนเหอะ” บอกปัดออกไปแบบนั้น แต่ก็ต้องสะดุ้งอีกครั้งเมื่อช่วงเอวถูกวงแขนแกร่งวางพาดลงมา



“สัดพี่เก้อ”



“กอดหน่อย กูหนาว อืม”



“กูไม่ใช่หมอนข้างนะ มึงปล่อย” แม่งเป็นงี้ทุกที ไหนบอกไม่เลื้อยไงวะสัด



“มึงมั่นใจว่าอยากให้กูปล่อยหรอวะ”  คำพูดของมันที่ถามออกมาแบบนั้น ผมที่ถูกแขนแข็งแกร่งนั่นกอดอยู่แบบนั้น ทำได้แค่เอียงหน้าหันหลังกลับไปมองหน้ามันด้วยความสงสัย และพอมองเห็นสายตาคมวิบวับในตอนนี้ก็เผลอที่จะกัดปากออกมาไม่ได้ ... ไม่ชอบความรู้ดีของมัน



ฝ่ามือหนาที่วางพาดอยู่ตรงหน้าท้องของผม เลื่อนลงไปช้าๆจากหนาท้อง สะดือ จนถึงท้องน้อย ... ได้แต่เผลอหายใจสะดุดในตอนนี้ และต้องกลั้นใจหายใจอีกครั้งในตอนที่ฝ่ามือวางทาบลงบนแกนกายของผมผ่านกางเกงที่ผมสวมใส่



“อึก ไอ้...”



“มึงแข็งว่ะเสือ มึงอยากหรอวะ”



“สัด รู้แล้วถามทำเหี้ยไรวะ มึงปล่อย” บอกมันออกไปแบบนั้นอย่างหงุดหงิด และยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นกว่าเดิมเพราะพอมือของมันวางลงตรงนั้น ดูเหมือนร่างกายของผมก็จะยิ่งตอบสนองดีโดยการสู้มือมันมากขึ้นกว่าเดิม ... ผมที่กำลังรู้สึกกลัว เป็นความรู้สึกกลัวตัวเอง กลัวร่างกายของตัวเอง ...และที่สำคัญ ผมกลัวใจของตัว



“ไอ้พี่เก้...อึก อืม”



ผมที่ตั้งใจจะด่ามันแบบนั้น หันหน้าไปพูดกับมันยังไม่ทันที่จะจบประโยคดี คำพูดของผมก็ถูกกลืนหายลงไปในลำคอของตัวเองตามเดิม พร้อมๆกับริมฝีปากอุ่นของมันที่บดเบียดเข้ามาหา วงแขนแข็งแกร่งอีกข้างที่สอดจากข้างใต้ลอดตัวของผมและดึงตัวของผมให้พลิกกลับหันหน้าเข้ามาหามัน  ความรู้สึกแนบชิดที่ใกล้กันจนตัวผมสั่น ลมหายใจที่ถี่กระชั้นขึ้นมาแบบห้ามไม่อยู่ นี่ไม่ใช่จูบแรกของผมกับมัน แต่เป็นจูบครั้งแรกที่ความรู้สึกวาบหวามขนาดนี้ เราสองคนที่นอนตะแคงข้างเข้าหากันแล้วจูบกันอย่างร้อนแรงอยู่แบบนี้ และยิ่งวูบไหวในอกมากขึ้นไปอีกครั้งที่รับรู้ได้ถึงต้นขาแข็งแกร่งที่สอดเข้ามาระหว่างหว่างขาของผมช้าๆ ต้นขาแข็งแกร่งของมันที่ถูไถไปที่กลางกายของผมอย่างตั้งใจ



“อึก พี่มึง...อ๊ะ”

เสียงร้องของตัวเองที่ทำให้รู้สึกอยากลุกขึ้นต่อยตัวเอง แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ ทำได้เพียงแค่เบียดตัวเข้าไปหามันมากขึ้นในตอนที่ฝ่ามือของมันล้วงเข้ามาในเสื้อของผม มือของมันเย็นจนผมสะดุ้ง คิดว่าเย็นจากแอร์ที่เราเปิดไว้ แต่ไม่คิดว่ามันจะเย็นขนาดนี้ แต่สุดท้ายก็ต้องสะดุ้งในตอนนี้นิ้วเรียวของมันคีบลงบนหัวนมของผม



“อ๊ะ อืม”



และแทนที่ผมจะลุกขึ้นปัดป้อง แต่กลับเป็นตัวผมที่แทรกลิ้นของตัวเองเข้าไปในโพรงปากของมัน จูบตอบมันแบบไม่ยอม จากความรู้สึกวาบหวามเมื่อก่อนหน้านี้กลายเป็นความร้อนแรงในนาทีต่อมา มือของผมที่พยายามเกร็งจิกเข้ากับฝ่ามือตัวเอง สติที่กำลังกระซิบบอกผมว่า มึงตั้งสติหน่อยสิวะไอ้เสือ มึงที่เคยด่าพี่มันว่าสมองต้องเดินไปพร้อมกับความเงี่ยนไง เพราะฉะนั้นมึงช่วยมีสติและลุกขึ้นผลักมันออกสิวะ



มือของพี่มันอีกข้างที่ล้วงเข้าไปในกางเกงของผมในตอนนี้ทำให้สติของผมกระเจิดกระเจิงไปในที่สุด มันที่ผละริมฝีปากละจูบออกมา แต่ใบหน้าของมันที่ก็ไม่ได้ผละไปไกลทำให้ผมเห็นดวงตาคมคู่นั้นที่ยังมองกันอยู่ในตอนนี้ สายตาพราวที่มองกันอย่างร้อนแรง



“หึ” มันที่หัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะเอียงหน้าลงมาจูบแก้มผมเบาๆ ได้แต่หลับตาลงช้าๆในตอนนั้น



“เสือ...กูอยาก”



“อืม...กูก็อยาก”



   บ่อยครั้งที่ตัวผมเองก็รู้สึกว่าคนเราไม่ได้ต่างจากแมลงเม่ามากเท่าไหร่ มองเห็นแสงไฟก็กระโจนเข้าไปเพียงเพราะต้องการเล่นกับมัน ... และก็คงไม่ต่างจากตัวผมในตอนนี้ ที่กำลังบอกตัวเองว่า มันก็แค่ไฟกองเล็กๆกองนึงเท่านั้น แค่โดดลงไปไม่ทำให้ตัวไหม้หรอก อย่างน้อยมึงก็มีน้ำที่เอาไว้ดับไฟ โดดลงไปเล่นสนุกกับมันสิ ...ก็แค่ครั้งเดียว ครั้งเดียวก็แค่นั้นเอง



   ลำตัวแข็งแรงของมันที่ทาบทับลงมาแนบกับลำดับตัวของผมในตอนนี้ ริมฝีปากของเราที่ถูกดึงดูดเข้าหากันอย่างอัตโนมัติ เราสองคนที่จูบกันอีกครั้ง ครั้งแล้วครั้งเล่า น้ำใสที่ไหลออกมาจากมุมปากเพราะจูบกันนานจนเกินไป ฝ่ามือหนาที่เอื้อมลงไปกระชากกางเกงของผมให้ออกไปให้พ้นทางพร้อมๆกับกางเกงในและตามมาด้วยเสื้อที่ถูกพี่มันเหวี่ยงออกไปไกลๆ เป็นความรู้สึกสั่นไหวในหัวใจ หัวใจของผมที่เต้นไม่เป็นจังหวะมากกว่าครั้งไหนๆในชีวิตนี้ ริมฝีปากอุ่นที่ผละจากกันแล้วเปลี่ยนเป้าหมายมาครอบลงบนหัวนมของผม ตกใจจนเผลอสะดุ้งเฮือกแอ่นหน้าอกขึ้นมาในตอนนี้ ฝ่ามือหนาของมันที่ก็ไม่ปล่อยให้ตัวเองว่าง เลื่อนลงไปวางอยู่ที่แกนกายของผมแล้วขยับฝ่ามืออย่างต่อเนื่องปลุกเร้าอารมณ์ของผมให้ไม่สะดุด ... ผมรู้ว่ามันเก่ง และผมเองก็มั่นใจว่าเรื่องแบบนี้ผมเองก็เก่ง แต่ไม่เคยคิดมาก่อนว่ามันเก่งมากขนาดนี้



มันที่จับผมพลิกตัวลงนอนคว่ำกับพื้นแล้วดึงสะโพกของผมให้ยกสูงขึ้นมา ในตอนนี้ก็เป็นช่วงเวลาที่เหมือนผมจะได้สติขึ้นมาบ้างแล้ว ความคิดบางอย่างที่ทำให้ผมดิ้นตัวหนีจากมัน ได้ยินเสียงมันจิ๊ปากขัดใจเบาๆ แต่ถึงแบบนั้นก็ไม่สน ทำแค่ยันขาถีบขามันให้ออกห่าง



“ปล่อยไอ้พี่เก้อ กูไม่ถูกเสียบ...อ๊ะ อื้ออ”  ประโยคคำพูดของที่เปล่งออกมาได้ยังไม่ทันครบประโยคดีก็ถูกแทนที่ด้วยเสียงครางของตัวเอง พร้อมๆกับตัวผมที่ต้องทรุดลงไปนอนราบกับพื้น ในตอนที่นิ้วเรียวยาวของมันแทรกเข้ามาในช่องทางด้านหลัง เป็นความรู้สึกเจ็บที่ต้องเผลอกัดปาก เจ็บจนด่ามันไม่ออก



“มึงยังซิงจริงๆนี่หว่า”



“สัดพี่เก้อ อื้ออ” นิ้วที่สองและนิ้วที่สามตามมาในเวลาต่อมาแบบไม่ให้พักหายใจ สาบานว่าถ้าหลุดออกจากตรงนี้ไปได้กูจะเอาตีนแนบหน้ามึงไอ้สัดเก้อ



ลมหายใจของผมที่ถี่กระชั้นขึ้นมา เป็นความรู้สึกแปลกใหม่ในตอนที่นิ้วอุ่นๆของมันผลุบเข้าผลุบออกในช่องทางด้านหลัง ก่อนที่จะต้องสะดุ้งอีกครั้งเมื่อนิ้วอุ่นๆนั่นชนเข้ากับผนังด้านในที่ทำให้ผมต้องขมิบช่องทางด้านหลังแบบอดไม่อยู่



“ตอดนิ้วกูไม่หยุดเลยว่ะเสือ กูจะไม่ไหวแล้วว่ะ” เสียงกระซิบแหกพร่าที่มาพร้อมริมฝีปากอุ่นที่จูบลงมาที่ใบหูของผมเบาๆทีนึง พร้อมๆกับนิ้วที่สอดอยู่ที่ช่องทางของผมถูกดึงออก เป็นความรู้สึกวูบๆโหวงๆในช่องทางด้านหลังที่ชวนขัดใจ



“หึ ใจเย็นๆ”  มันที่ว่าออกมาแบบนั้นด้วยเสียงหัวเราะเบาๆที่ชวนให้โมโห เพราะเหมือนมันล้อกัน รับรู้ถึงแกนกายร้อนๆที่ถูไถอยู่ใกล้ๆช่องทางด้านหลังของผมในตอนนี้ และนั่นก็ทำให้ต้องเบียงสะโพกหนีอีกครั้ง



“อยู่นิ่งๆสิวะ”



“ไม่ ไอ้สัด! มึงใส่ถุงเลย” หันหน้าไปบอกมันแบบนั้นพร้อมจิกหัวมันด้วยหนึ่งที เห็นมันเบ้หน้าด้วยความเจ็บ แต่ถือว่ากูแก้แค้นที่เมื่อกี้มึงกระแทกนิ้วเข้ามาแบบกูไม่ยินยอม



“มึงไม่ไว้ใจกู”



“หน้าแบบมึงอ่ะเอดส์จะแดกก่อนจะตายตามอายุขัยอีกไอ้สัด โคตรมั่ว”



“สัด มึงต่างจากกูมากมั้ง” มันที่ว่าแบบนั้นแต่เอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าตังค์ของมันที่มันโยนไปไว้แถวโซฟาแล้วหยิบถุงยางออกมาจากกระเป๋าอันนึง



“มึงนี่เตรียมพร้อมฉิบหาย”



“กูไม่เคยสดกับใครเลย มึงจำเอาไว้” มันที่บอกแบบนั้นแล้วใช้ปากฉีกถุงยางออก เป็นภาพที่ต้องเผลอกลืนน้ำลายในตอนนี้เห็น ใบหน้าคมที่ชื้นเหงื่อตามไรผม มองไล่ลงมาที่อกแกร่ง และหน้าท้องมีซิคแพคแน่นๆของมันจนถึงแกนกายขนาดใหญ่ที่ตอนนี้ขยายเต็มที่แล้วที่กำลังชี้หน้าผมอยู่ เห็นแล้วได้แต่กลืนน้ำลาย กูจะตายไหมวะ



“หึ” หัวเราะออกมาแบบนั้นตอนที่มันเห็นสายตาของผม ฝ่ามือหนาที่ยกขึ้นเสยผมที่ปรกหน้าของตัวเองให้ออกจากหน้าที่นึง มืออีกข้างที่สาวแกนกายแกร่งอยู่ตรงหน้าของผมก่อนจะครอบถุงยางลงไปตามความยาว ก่อนที่มันจะดันตัวผมให้ลงไปแนบกับพื้นอีกครั้งแล้วดึงสะโพกของผมให้ลอยขึ้นไปหา



“อึก อื้ออ” ได้แต่ร้องครางออกมาแบบนั้นในตอนที่ส่วนหัวค่อยๆแทรกตัวเข้ามาในตัวของผม เป็นความรู้สึกแปลกใหม่ที่ทั้งเจ็บและจุก ตัวของผมสั่น ไม่ต่างจากหัวใจของผมที่สั่นระรัว ริมฝีปากอุ่นที่มาพร้อมๆกับวงแขนแข็งแกร่งที่กอดตัวของผม ริมฝีปากที่จูบลงที่หลังคอ หัวไหล่ ขบเม้มเบาๆตามสันหลัง รู้สึกเสียววาบไปทั่วทั้งตัว



“อ๊ะ อื้มม” น้ำตาของผมไหลลงมาในตอนที่ความยาวใหญ่นั้นกระแทกเข้ามาจนสุดความยาว เสียงหายใจหอบถี่กระชั้นมากขึ้นอีกพร้อมๆกับช่องทางด้านหลังที่รับรู้ว่ากำลังตอดตุบๆ รับรู้ถึงอะไรบางอย่างที่ถูกแทรกเข้ามา อะไรบางอย่างที่ไม่ใช่อวัยวะของเรา แต่เป็นของใครอีกคน...ใครอีกคนที่กำลังโอบกอดตัวของผมไว้ และจูบไล้ไปตามข้างแก้มอย่างแผ่วเบา



“ครั้งแรกของมึง”



“สัด อย่าพูด อึก อื้มม”



“กูจะทำมันให้ดี”  มันที่บอกแบบนั้น กระซิบเสียงแหบพร่าเหมือนเป็นคำสัญญา แต่ไม่ว่าจะเป็นคำพูดแบบไหน แต่ข้อสุดท้ายที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ก็คือ กูเป็นของมัน และมันเป็นคนแรกของกู ... พี่เก้อเป็นคนแรกของมึงไอ้เสือ



“อึก อ๊ะ พี่เก้อ เบา อ๊ะ อ๊ะ” แรงกระแทกเนิบนาบเป็นจังหวะที่ค่อยๆเปลี่ยนเป็นรุนแรงและถี่กระชั้นมากขึ้นเรื่อยๆแบบมีจังหวะและชั้นเชิง แกนกายของมันที่เด้งตัวกระแทกกระทั้นสวนเข้ามาจนมิดด้ามทุกๆครั้งก็กระแทกลงตรงจุดกระสันของผมอย่างตั้งใจ ได้แต่ร้องครางแบบที่ห้ามปากตัวเองไม่อยู่ น้ำตาของผมไหลลงมาอาบแก้ม อธิบายไม่ถูกว่าเป็นเพราะความเจ็บหรือเพราะความสุขที่ได้รับมากเกินไปก็ไม่รู้ ฝ่ามือหนาอีกข้างที่ไม่ได้ประคองเอวของผมไว้ เลื่อนลงไปชักรูดแกนกายของผมให้เข้ากับจังหวะกระแทกกระทั้นของมันอย่างเหมาะเจาะ



‘ตับ ตับ ตับ’



เสียงเนื้อกระแทกเนื้อที่มาพร้อมเสียงครางและเสียงหอบกระเส่าของเราทั้งคู่ที่ดังไปในห้องรับแขก อุณหภูมิความเย็นที่ก่อนหน้านี้เหมือนหนาว ตอนนี้กลับไปเปลี่ยนเป็นร้อน เหงื่อของเราทั้งคู่ที่ไหลซึมผ่านร่างของกันและกันแบบไม่รู้สึกรังเกียจ



“อ๊ะ อ๊ะ พี่เก้อ จะ...จะเสร็จ อึก กูจะเสร็จ”



ร้องบอกออกไปแบบนั้นในตอนที่ความรู้สึกมันถูกตีตื้นขึ้นมาแบบอัดแน่น สะโพกของผมที่ขยับโยกไปตามจังหวะชักนำของมันกระแทกกระทั้นขยับสู้กับแกนกายของมันที่ก็กระแทกเข้ามาแบบไม่ผ่อนแรง ทั้งเร็วและแรงจนผมต้องเผลอกัดริมฝีปากแบบห้ามไม่อยู่ ในช่องทางด้านหลังที่ก็ขมิบตอดแกนกายของมันถี่ๆ ส่วนหัวของแกนกายของผมที่ผลุบเข้าผลุบออกในฝ่ามือของมันปริ่มน้ำขึ้นมาแล้วในที่สุด



“อ๊ะ อ๊ะ อ้าห์!”



“อึก ซี๊ดด....”



เสียงร้องครางของผมและของพี่มันที่ครางกระเส่าออกมาพร้อมๆกันในตอนที่น้ำอุ่นร้อนของผมและของมันปลดปล่อยออกมา ฝ่ามือหนาที่ยังคงชักรูดแกนกายของผมต่อไปเรื่อยๆเพื่อรีดน้ำออกมาให้จนหมด รับรู้ถึงแรงดันรุนแรงที่กระแทกเข้ามาในช่องทางด้านหลังแต่ไม่รู้สึกเหนียวหรือรำคาญอะไรเพราะอีกฝ่ายที่ใส่ถุงยางเอาไว้ ผมที่ทรุดตัวลงไปนอนและมีอีกฝ่ายที่ทรุดตัวลงมาแนบอยู่ที่หลังของผม ริมฝีปากอุ่นๆที่จูบลงบนหัวไหล่ของผมพร้อมๆกับเสียงหอบกระเส่า เสียงทุ้มเข้มที่ดังแผ่วๆอยู่ข้างหู เป็นเสียงแผ่วเบามากๆที่แทบจะไม่ได้ยิน ...แต่ติดตรงที่ว่าอีกคนดันซบลงมาข้างๆลำคอกันผมถึงได้ยินชัด



“เอม....”



ชัดจนได้ยินดังไปถึงกลางใจของผม



   คนเราชอบกระโจนลงไปเล่นกับไฟ มั่นใจว่าในมือถือขันน้ำ และตรงหน้าก็เป็นแค่ไฟกองเล็กๆ ... แต่ไม่เคยเฉลียวใจเลยว่า ขันน้ำที่ถืออยู่ จริงๆมันเป็นน้ำมัน ที่พอราดลงไปในกองไฟ สุดท้ายไฟกองเล็กที่เคยเห็นมันก็ลุกลามกลายเป็นไฟกองใหญ่  พอไฟมันเผาใจ แล้วทำไมเราต้องเศร้า ทั้งๆที่เราก็เลือกกระโจนลงมาเอง .... นั่นสิ ทำไมต้องเสียใจ



เป็นคำถามที่ผมก็ยังหาคำตอบไม่ได้ พอกับน้ำตาที่ไหล ก็ไม่เข้าใจว่ามันเจ็บที่ตรงไหนระหว่างกายหรือใจมากกว่ากัน



...


(มีต่อจ้า)

หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่26 {11/04/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 11-04-2020 21:31:05
“หาวววว เจ๊ มีอะไรแดกบ้าง!” ผมที่เปิดประตูออกมาจากห้องนอนพร้อมๆกับมือข้างนึงที่ยกขึ้นเกาหัวไปด้วยเหมือนปกติทุกๆวันที่ทำแบบนั้นจนเคยชิน เดินออกมาทั้งๆที่ตาก็ยังไม่ได้ลืมขึ้นมาด้วยซ้ำ แต่เพราะท้องมันร้อง ตัวมันก็เลยต้องตื่น ... บอกย้ำอีกครั้ง เรื่องกินเรื่องใหญ่มากสำหรับไอ้เอมนะ



“อยู่บ้านคนอื่นก็หัดมีมารยาทซะบ้างสิ”  เสียงที่ดังขึ้นมาในตอนนี้ทำเอาผมสะดุ้งตัวตื่นลืมตาที่มีแต่ขี้ตานั่นเบิกโพรงขึ้นมาอย่างเต็มตา หญิงสาววัยกลางคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าทำเอาผมต้องสะดุ้ง ก่อนจะยกมือขึ้นมาไหว้เธอในทันที สติที่เหมือนจะกระโดดเข้ามาในร่างแล้วในตอนนี้ทำให้นึกขึ้นได้ว่าตอนนี้ผมอยู่ที่ไหน ... บ้านไอ้หยี



บ้านไอ้หยีไม่ใช่บ้างของอิเจ๊พี่มันแบบในทุกๆวันที่ผมตื่นมาก็มีคนทำกับข้าวมาให้



“อาอี๊สอง”



“เห็นว่ามาตั้งแต่เมื่อคืน ยัยหยีนี่เอาใหญ่ ให้ผู้ชายมานอนค้างอ้างแรม งามหน้าจริง” เธอที่มองเหยียดมาที่ผมแล้วว่าออกมาแบบนั้น เป็นความรู้สึกอึดอัดที่ไม่รู้ว่าจะวางสายตาไปไว้ที่ไหนดี



“ผมกับหยีเป็นแค่เพื่อนกันจริงๆครับอี๊สอง” รีบบอกออกไปแบบนั้นแต่อีกฝ่ายก็ทำแค่มองแรงมาใส่พร้อมส่ายหน้า ริมฝีปากบางเฉียบของเธอที่เหมือนกำลังจะพ่นอะไรออกมาอีก แต่ติดตรงที่เสียงของคนมาใหม่ที่ทำให้ชะงักไว้ก่อน



“อี๊สองมาทำอะไรตรงนี้คะ บ้านอี๊สองอยู่ข้างหลังไม่ใช่หรอ ขึ้นมาบ่นนี้ทำไมก่อนเอ่ย มารยาทนิดนึงเนอะ นี่พื้นที่ส่วนตัวนะคะ”



“หึ ก้าวร้าวไม่เคยเปลี่ยน นี่มันบ้านแม่ฉัน ฉันจะเดินไปตรงไหนก็ได้นะยัยหยี”



“อ๋ออออ ค่ะๆๆ งั้นก็ตามใจอี๊สองละกัน แต่หยีขอตัวพาเพื่อนหยีลงไปหาไรกินก่อนนะ เชิญอี๊อยู่นี่ไปคนเดียวละกันค่ะ ... ไอ้เอมปะๆกินข้าวกันมึง” หยีที่วันนี้มันยังสวยในเสื้อครอปสีโอรสกับกางเกงยีนส์ขายาวสีดำ วันนี้มันมัดหางม้าและปล่อยผมหน้าม้าลงมา ยังสวยเหมือนเดิมแต่สายตาไม่เป็นมิตรเหมือนเดิมเหมือนเวลาที่มันเห็นคนที่มันไม่ชอบ



“หึ เพื่อนหรืออะไรกันแน่จ๊ะเธอ”



“อี๊ที่ไม่มีผัวก็ชอบคิดแต่อะไรแบบนี้นะคะ”  ไอ้หยีที่สวนออกไปแบบไม่ไว้หน้าในทันที ผมที่ได้แต่เอื้อมมือไปดึงแขนของมันไว้แบบพยายามที่จะห้าม



“ยัยหยี! มันจะมากเกินไปแล้วนะ เจ๊ใหญ่ไม่สั่งไม่สอนแกบ้างรึไงนะฉันอยากจะรู้ ถึงว่าเรียนอะไรก็ไม่ได้เรื่อง เดี๋ยวเรียนเดี๋ยวออกเละๆเทะๆไม่ได้ความอยู่แบบนี้ ดูแบบลูกหลานบ้านอื่นเค้าบ้างสิไปถึงไหนต่อไหนแล้ว หรือไม่ก็ดูอาจ้านอีบ้างไปเรียนถึงทำงานถึงเมืองนอกนู้นแล้ว เราน่ะที่แค่เป็นเด็กก้าวร้าวอยู่แบบนี้จะเอาปัญญาอะไรมาเลี้ยงดูพ่อแม่”



“เหอะ เปรียบเทียบเก่งจังเลยนะอี๊สอง ทำตัวเหมือนมนุษย์ป้าที่แท้ทรู หนูว่า หนูจะทำไรก็ไม่รบกวนอี๊สองเป็นห่วงหรอกค่ะ เสียเวลาชีวิตปั้นปลายของอี๊สองที่ไม่มีลูกดูแล”



“ยัยหยี! นี่แก!!”  อี๊สองที่ยกมือขึ้นตั้งท่าจะตบไอ้หยีในตอนนั้น แต่ติดตรงที่ผมวิ่งเสนอหน้าเข้าไปขวางซะก่อน หน้าที่ควรจะหันไปเพราะแรวตบกลับกลายเป็นหน้าของผมแทน



‘เพี๊ยะ’



“ไอ้เอม!”



“นี่มันอะไรกัน! พวกลื้อทำอะไรกันเสียงดังอยู่ตรงนี้!!”  เสียงของผู้มาใหม่ที่ทรงอำนาจของหญิงอาวุโสของบ้านนี้ที่เดินถือเท้าเข้ามา หลังที่คล่อมลงตามการเวลาเดินตรงเข้ามาด้วยก้าวที่มั่นคงต่างจากอายุที่มากขึ้นแล้วถึง88ปี



“อาม่า! อี๊สองตบเพื่อนหยี” เป็นไอ้หยีที่ตะโกนออกมาแบบนั้นก่อนใคร



“อาจิง ลื้อทำอะไร”



“อาม้าคะ หนูไม่ได้ตั้งใจตบเพื่อนยัยหยีนะคะ แต่ยัยเด็กนี่พูดไม่ดีกับหนูก่อน”



“แต่อาอี๊ก็พูดไม่ดีกับเพื่อนหยีก่อน แถมพูดไม่ดีกับหยีด้วย มันทำไมล่ะคะ แค่เพราะแก่กว่าจะพูดจายังไงก็ได้หรอ หยีไม่ยอมหรอก”  ไอ้หยีที่เถียงออกมาคอเป็นเอ็น มันที่เดินมาประคองตัวผมเอาไว้เหมือนผมเจ็บมาก จริงๆก็ไม่ได้มากอะไรขนาดนั้น ก็แค่แสบๆแก้ม แต่คิดว่ามันอาจจะเป็นรอยมือ หันไปมองไอ้หยีที่ตอนนี้มันเหมือนจะมีน้ำตาคลอด้วยเพราะความโกรธ



“หยี กูไม่เป็นไร”



“ไม่เป็นเชี่ยไร มึงเจ็บนะ!”



“แล้วอาม้าดูนะคะ ยัยหยีพาผู้ชายเข้าบ้าน”



“นี่เพื่อนยัยหยี อั๊วรู้จักแล้ว อาเอมมาทำงานกลุ่มกับยัยหยี”  อาม่าที่ว่าออกมาแบบนั้น นั่นเป็นเพราะไอ้หยีบอกออกไปแบบนั้นว่าผมมาทำรายงานกลุ่มด้วย ได้แต่ถอนหายใจตอนที่หันซ้ายหันขวามองเห็นครอบครัวไอ้หยีเถียงกันหน้าดำหน้าแดงอยู่ในตอนนี้ และเรื่องราวทั้งหมดนั่นก็มาจากตัวผมเอง



“มาทำรายงานจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ ถึงจะเป็นเพื่อนกันมาค้างอ้างแรมผู้ชายผู้หญิงแบบนี้มันก็ดูไม่ดีนะคะม้า จิงก็แค่มาเตือนดีๆเพราะเห็นเป็นลูกเป็นหลาน” เธอที่ว่าออกมาแบบนั้นทำให้ผมต้องถอนหายใจเบาๆออกมาตอนที่ได้ยิน มันทำให้ผมนึกถึงป้าของผม กี่ครั้งแล้วที่เพราะคำว่าเป็นห่วงลูกหลาน ถูกเอามาใช้แบบผิดๆในการด่าทอแบบไม่มีเหตุผลแบบนี้



“เอมมันเป็นเพื่อนหยี!”



“จ้า เพื่อนที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้า ฉันรู้นะว่าเมื่อคืนดึกดื่นยังมีคนมาปีนรั้วบ้าน เพื่อนเธอแต่ละคนนี่ดีๆทั้งนั้น”



“นั่นก็เพื่อนหยีอีกเหมือนกัน อี๊มีอะไรนัก”



“พอๆๆ พวกลื้อพอกันสักที” อาม่าที่ดูจะปวดหัวกับเรื่องนี้มากเต็มทีโบกมือไล่ให้ทั้งไอ้หยีและอี๊สองหยุดเถียงกันสักที แต่เหมือนคู่นี้จะไม่มีใครยอมใคร จนสุดท้ายต้องเป็นผมที่ต้องพูดขึ้นมาแทน



“อี๊สองไม่ต้องเป็นกังวลไปหรอกครับ ผมมาแค่คืนเดียว ตอนนี้ผมก็จะกลับแล้วครับ แล้วอีกเรื่องคือผมกับหยีไม่ได้ทำอะไรเสียหายจริงๆ เราเป็นเพื่อนกันจริงๆครับ เรื่องนี้ผมอยากให้ทุกคนวางใจ หยีเป็นเพื่อนที่ดีของผมมากๆครับอาม่า”



“มึงจะกลับไปไหน จะกลับได้ไง กลับแล้วมึงจะไปอยู่ไหน!”  ไอ้หยีที่ร้องออกมาแบบนั้น มันที่มองหน้าผมแล้วขมวดคิ้วจนหน้าสวยๆของมันเริ่มยับย่น อยากจะกระซิบบอกมันเรื่องรอยตีนกา แต่คิดว่าในตอนนี้คงไม่มีจังหวะที่จะได้พูดออกไป



“ต๊าย จะไปอยู่ไหน ก็ไปอยู่บ้านเค้าสิย๊ะ หรือจะบอกว่าเจ้าเด็กนี่ไม่มีบ้านอยู่” อาอี๊สองที่พูดออกมาแบบนั้นอีกแล้วมองเหยียดตั้งแต่หัวจรดเท้าของผม แต่คำพูดของเค้าก็ทำให้ผมชะงักขึ้นมานิดหน่อย นั่นสินะ...ผมไม่มีบ้านจริงๆนั่นล่ะ แต่ถึงแบบนั้นผมก็เลือกจะยิ้มออกไป มึงต้องยิ้มนะไอ้เอม อย่าร้องไห้ อย่าบอกให้ใครรู้ว่ามึงกำลังเสียใจ ...บอกตัวเองแบบนี้เป็นครั้งที่ล้านตั้งแต่เด็กจนโตด้วยคำพูดแบบนี้ และไม่ว่ากี่ทีผมก็ผ่านมันมาได้เสมอ



“ครับ ผมจะกลับบ้านอี๊ไม่ต้องห่วง อาม่าด้วยนะครับ ผมขอบคุณมากที่ให้ผมพักที่นี่เมื่อคืนนี้ ขอโทษด้วยนะครับที่ผมมารบกวน” ยกมือไหว้พร้อมบอกออกไปแบบนั้น แต่อาม่าของไอ้หยีแค่ถอนหายใจพร้อมๆกับส่ายหน้า



“ไม่รบกวนๆ อาเอมมาได้เสมอเลย” อาม่าที่ว่าออกไปแบบนั้น ผมที่ยิ้มตอบและมองเห็นริ้วรอยแห่งความกังวลบนใบหน้าของคนชรา ผมรู้ดีว่าอาม่าของไอ้หยีใจดี แต่ถ้าจะพูดอีกทีที่อี๊สองพูดมันก็ไม่ได้ผิดทั้งหมด ไอ้หยีมันเป็นผู้หญิง และผมเป็นผู้ชายมันไม่ควรมานอนบ้านกันแบบนี้แม้ว่าจะเป็นเพื่อนก็ตาม ....ถึงแม้ว่าผมจะไม่เคยมองว่าไอ้หยีเป็นผู้หญิงก็ตาม ในสายตาผมมันก็แค่ผู้ชายที่ใส่กระโปรงแหล่ะครับ ... แต่ถึงแบบนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันดูไม่ดี



ผมที่ขอตัวไปเก็บของและเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกจากบ้านของไอ้หยี เห็นมันที่วิ่งตามมาหาพร้อมขอบตาแดงๆของมัน น้อยครั้งมากๆที่ผมจะเห็นมันเป็นแบบนี้



“ไอ้เอมกูขอโทษ”



“มึงขอโทษอะไรกูวะป้า” ผมที่ว่าแบบนั้นแล้วยิ้มกว้างๆส่งไปให้มัน แต่มันก็เอาแต่ส่ายหน้าจนผมหางม้าของมันสะบัดไปมา



“ขอโทษแทนญาติปัญญาอ่อนของกู กูขอโทษที่ทำให้มึงต้องมาเจอไรแบบนี้”



“โหย เรื่องแค่นี้เองป้า จริงๆกูเข้าใจอี๊สองนะ มึงเป็นผู้หญิง กูเป็นผู้ชาย จริงๆมันก็ดูไม่ดี”



“ดัดจริต จริงๆก็แค่หาเรื่องแขวะกูแค่นั้นแหล่ะ ไอ้เอมมึงไม่ต้องไปหรอก อยู่บ้านกูก่อนนี่แหล่ะ” มันที่บอกแบบนั้นแล้วดึงแขนผมเอาไว้ จริงๆผมซึ้งใจกับความเป็นเพื่อนของมันมาตลอดเลย เพราะแบบนั้นมันเลยยิ่งทำให้ผมต้องทำให้มันลำบากใจไม่ได้



“ไม่เป็นไรมึง กูออกมาอ่ะดีแล้ว”



“แล้วมึงจะไปอยู่ไหนวะ”



“เอาน่า กูมีที่ไปน่ะป้า มึงไม่รู้จักไอ้เอมเก้าชีวิตหรอวะ ชิลๆน่า”



“ไม่ตลกนะคะอิสัด กูไม่อยากให้มึงไป”



“ป้า มึงอย่าทำเหมือนกูเป็นผัวที่กำลังจะทิ้งมึงได้ไหมวะ ขอร้องนะ กูจะอ้วก” บอกมันออกไปแบบนั้นแล้วแกล้งทำท่าจะอ้วกใส่ มันที่ถลึงตาใส่กันพร้อมยื่นมือมาตบหัวผม เอาซะหัวสั่น



“อิสัดเอม”



“เอาน่า เดี๋ยวกูอาจจะไปหาไอ้เก้อ มึงก็รู้ว่ามันยินดีตอนรับกูตลอดแหล่ะ” ผมบอกออกไปแบบนั้น จริงๆก็แค่พูดให้มันสบายใจ ใจจริงไม่คิดจะไปหาไอ้เก้ออยู่แล้ว ไปให้มันด่าหูระบบซักกูเป็นผ้าขาวเรอะ



“แต่มึง...”



“เออน่า กูไปล่ะป้า เดี๋ยวโทรหา พรุ่งนี้เจอกันที่มหาลัยนะ” บอกมันออกไปแบบนั้นแล้วยกมือขึ้นโบกให้มัน ตอนนั้นแกร็บไบค์ก็ขับเข้ามาพอดีเพราะผมเรียกไว้ เพราะแบบนั้นเลยขึ้นคล่อมมอไซด์แล้วจากมันมาแบบนั้น ขืนอยู่ต่อไอ้หยีก็ต้องวอแวให้ผมอยู่ต่อ ผมเข้าใจมันห่วงผม ... แต่ถึงแบบนั้น เราก็พึ่งคนอื่นไปตลอดไม่ได้หรอกครับ



“ขอบใจมากพี่” ผมที่คืนหมวกกันน็อคให้พี่แกร็บไบค์แล้วกล่าวขอบคุณเค้า ผมมาลงในสถานที่แห่งหนึ่ง เป็นสถานที่ที่ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงกดให้แกร็บไบค์มาส่งที่นี่



“เฮ้อ” ได้แต่ถอนหายใจออกมาในตอนที่แหงนหน้าขึ้นไปมองดูจำนวนตัวตึกหลายชั้นที่อยู่ตรงหน้าในตอนนี้



“น่าสมเพชว่ะไอ้เอม มึงแม่งไม่มีที่ไปจริง” ผมที่ก้มหน้าลงมองพื้นพร้อมกอดกระเป๋าเป้ที่เอามาด้วยไว้แบบนั้น ยืนนิ่งๆก้มหน้ามองเท้าตัวเองอยู่แบบนี้



‘จ๊อกๆ’



เสียงท้องที่ร้องออกมาในตอนนั้นทำให้รู้สึกแสบท้อง หยิบมือถือเอสสี่เครื่องเดิมที่มันบอกให้ลบแอพออกเพราะความจำไม่พอเครื่องเดิมขึ้นมาดูเวลา นาฬิกาที่บอกเวลาว่าสิบเอ็ดโมง ... ถึงว่าทำไมแสบท้อง ปกติไม่เกินสิบโมงอิเจ๊พี่มันจะต้องไปปลุกให้มากินข้าว แต่โดยปกติทุกวันจะเป็นผมที่ตื่นเองเพราะถูกกลิ่นกับข้าวในครัวของเจ๊พี่มันปลุกให้ผมตื่นขึ้นมา เพราะแบบนั้นมันเลยนานมาแล้วที่ผมไม่ได้รู้สึกปวดท้องเพราะไม่ได้กินข้าวแบบนี้



“กูคิดถึงมึงอีกแล้วว่ะเจ๊” บ่นพึมพำกับตัวเองออกมาแบบนั้น ... ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่อิเจ๊พี่มันมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตผม มันที่อยู่ในทุกช่วงเวลาในทุกๆวันจนกลายเป็นความเคยชิน ผมที่เคยเป็นคนที่เอาตัวรอดเก่ง ไม่เคยยอมให้ตัวเองอดตาย ไม่เคยยอมให้ตัวเองไม่มีที่หลบฝน แต่ตั้งแต่มีอิเจ๊พี่มันเข้ามาอยู่ในชีวิต เรื่องพวกนี้ผมก็ลืมไปแล้วว่าต้องทำยังไง เพราะในทุกๆวันเคยมีแต่มันที่ดูแลเอาใจใส่ผมในทุกๆเรื่อง



“ผมคิดถึงเจ๊มากๆเลย” พูดออกมาแบบนั้นเบาๆ รู้สึกร้อนๆที่หน่วยตาในตอนนั้น .... ความรู้สึกอ่อนแอ คำพูดของอี๊สองที่ว่าผมมันกระทบใจของผมมากเกินไป เป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าผมไม่มีบ้าน ไม่มีครอบครับ และไม่มีใคร ...



คนเดียวที่ผมคิดถึงในตอนนี้ก็คืออิเจ๊ดานี่ ... เพราะแบบนั้นผมเลยมายืนอยู่ตรงนี้ หน้าคอนโดของมัน



แต่ถึงแบบนั้นก็ไม่กล้าก้าวเข้าไป เพราะไม่รู้ว่าจะเดินเข้าไปทำหน้ายังไง จะพูดยังไงกับคนๆนึงที่ผมบอกมันว่าเราควรห่างกัน เพื่อให้รู้ใจตัวเอง แต่พึ่งจะผ่านไปแค่วันเดียว ผมกลับคิดถึงมันมากขนาดนี้ มันที่มีอิทธิพลในใจของผมมากแล้วจริงๆนั่นแหล่ะ ... ผมที่ยกมือขึ้นปาดน้ำตาตัวเอง ก่อนจะหมุนตัวหันหลังออกมา แต่ก็กระแทกเข้ากับอะไรบางอย่างจนต้องเซถอยหลัง



คนตรงหน้าหน้าที่ผมชนเข้าจังๆอยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นพอดีเข่า ในมือมีถุงจากห้างที่ในนั้นคงมีของสดและผักต่างๆที่มันไปซื้อมา สายตาคมๆที่มองจ้องมาที่ผม ริมฝีปากของมันที่มีสีแดงอ่อนๆต่างจากทุกวันที่ต้องแดงจัด ที่เปลือกตาก็ไม่ได้ถูกทาสี พูดจริงๆว่าหน้าทั้งหน้าน่าจะไม่ได้ทารองพื้นด้วย เป็นอีกมุมที่ได้เห็นไม่ปล่อยนัก



“เจ๊”...



ผมที่เรียกคนตรงหน้าออกมาด้วยเสียงแผ่วเบา เป็นความรู้สึกที่พูดไม่ออก แต่แค่มองหน้าอีกคนก็อยากจะร้องไห้



“กลับมาแล้วหรอครับ พี่ไปซื้อของสดมา จริงๆก็แอบหวังว่าเอมจะกลับมา พี่จะได้ทำกับข้าวให้กิน ไม่คิดเลยว่าความหวังพี่จะจริง ดีจังวะ ... เอมกลับมาแล้ว ขึ้นบ้านเรากันครับ



คำพูดสั้นๆที่พูดออกมาแบบนั้นมาพร้อมรอยยิ้มอบอุ่นที่ทำให้ผมน้ำตาคลอ รู้สึกร้อนๆที่นัยน์ตา และสุดท้าย ... น้ำตาที่มันห้ามเอาไว้ไม่ไหวก็ไหลลงมาอาบหน้าผมแบบนั้น เดินเข้าไปหาพี่มันช้าๆ ความรู้สึกที่ว่านี่เป็นบ้านเป็นครอบครัวที่อบอุ่นของผมที่สุด คนตรงหน้าที่กางแขนออกและผมก็ตรงเข้าไปกอดพี่มันเอาไว้พร้อมสะอื้น ไม่รู้ทำไมว่าต้องร้องไห้แบบนี้ แต่ถึงแบบนั้นก็ยังกอดมันไว้แล้วซุกหน้าร้องไห้กับอกแกร่งอยู่แบบนั้น



“ร้องทำไม หื้ม พี่อยู่นี่แล้วนะ...ไม่เป็นไรแล้วนะครับ”



--------------To be continued--------------



มาแล้วจ้าาาาา แคทมาแล้วจ้า

ตอนนี้เขียนยาว19หน้าเลย เนื้อหาแน่นๆ แน่นมากๆจริงๆค่ะ

ไม่รู้ว่าคนอ่านจะชอบมากน้อยแค่ไหน แต่แคทตั้งใจเขียนมากๆค่ะที่จะบอกเล่าเรื่องราวของคนในหลากหลายรูปแบบ

หลากหลายความคิดหลากหลายการกระทำมากๆจริงๆ

และในตอนนี้ เก้อเสือก็นำไปก่อนแล้วจ้า

ดาบเอมคือแขนพึ่งจะได้จับนะแม่ ฮึมฮ่ำ

คิดว่าในตอนนี้คนอ่านต้องเกรี้ยวกราดมากแน่ๆ แต่ในตอนนี้แคทอยากจะให้ทุกคนเข้าใจถึงพื้นฐานความคิดของ

พี่เก้อและเสือนะคะ ... คนสองคนที่มีมุมมองในความรักต่ำแต่เรื่องเซ็กสูง

และแน่นอนว่า เมื่อเป็นแบบนั้น มันต้องมีผลของการกระทำอื่นๆตามมา อยากให้คนอ่านติดตามแล้วหวังว่าจะชอบกันนะคะ

ฝาก #สวยๆเป็นผัว ในทวิตเตอร์ด้วยนะคะทุกคน จุ๊บเลยค่า

 :mew1: :hao7: :katai4:


ขอขอบคุณคนอ่านจากทางเล้าเป็ดมากๆนะคะที่ทั้ง2ตอนที่พึ่งลงไป ก็มีคนอ่านมาให้กำลังใจแคทในทุกๆตอนเลยนะคะ


คอมเม้นท์ตอนที่25

:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
  ขอบคุณมากๆเลยนะคะ แคทหวังว่าจะชอบนะคะ

รอๆ
แคทมาต่อตอนที่25ครึ่งหลังแล้วนะคะ

เก่งมาก สนุกมากค่ะ  คนเขียนอย่าท้อนะคะ  คนอ่านตามติดเป็นปลิงอยู่ 55555
ขอบคุณมากๆจริงๆนะคะ แคทขอบคุณกำลังใจดีๆที่มอบให้แคทนะคะ เหนือสิ่งอื่นใดคือขำออกเสียงตรงตามติดเป็นปลิงนี่ล่ะค่ะ 55555

เป็นกำลังให้ไรท์และเฮียดาบนะคะ    :3123:

รอจ้า
  คุณวายซ่า ขอบคุณมากๆนะคะ อยู่กันมาตลอดเลย น่ารักกก

:กอด1:
กอดๆกันนะคะ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ

สนุกมากครับ. รออ่านนะครับ,,,
  แคทดีใจที่ได้ยินแบบนี้นะคะ แคทมาแล้วน้าา

ดานี่ ทิ้งคำพูดไว้แมนมาก 555
สวยๆเป็นผัวจริงๆนะคะ 5555

โอเค๊ ตอนนี้ให้คะแนนความผัวอิ๊พี่เต็ม 100 เลยจ้า  :impress2: :impress2:
โง้ยยย มาๆ อิเจ๊พี่มันได้คะแนนบ้างแล้วค่ะ


คอมเม้นท์ตอนที่25.2


:katai2-1: นี้เดานะ...เมาแล้วได้กัน
ช่วงนี้ดูแลสุขภาพด้วยนะ
เนี่ยยยย คนแต่งมันเล่นง่ายแบบนี้คนอ่านถึงรู้ทันเนี่ย งึ้ย คนอ่านเลยไม่แปลกใจเลยง่า


รอๆ
  แคทมาแล้วนะคะ มาอัพอีกแล้วน้า อย่าพึ่งเบื่อกันนะคะ


:katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ขอบคุณมากๆนะคะ :mew1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่26 {11/04/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 11-04-2020 22:34:54
 :pig4: :pig4: :pig4:
สงสารน้องเสือ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่26 {11/04/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 12-04-2020 02:38:55
มีความพูดครับ องค์พี่ดาบลงแล้ว~
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่26 {11/04/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Chucream.nabi ที่ 12-04-2020 23:32:35
ต่อให้จะมีเดาได้บ้าง แต่มันก็สนุกนะ o13
แต่เราไม่อยากให้น้องเสือเจ็บอ่าาาา :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่26 {11/04/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: LifePo-YuGu ที่ 13-04-2020 16:06:46
โอ๊ยยยย สงสารน้องเสืออ่า กอดปลอบนะลูก อิ๊พี่เก้อแก๊ อย่าทำน้องนะ  :กอด1: :กอด1:

สงสารน้องเอมด้วย ทำไมชีวิตคนๆนึงถึงน่าสงสารขนาดนี้  :กอด1: :กอด1:
พี่ดาบจ้า ดูแลน้องดีๆนะ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่26 {11/04/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 13-04-2020 22:24:34
โถน้องเสือ ยอมอิพี่เก้อมันทำมายยย  อยากลองหรือชอบอิพี่มันไปเหรอ.  :katai1:

องค์พี่ดาบนี่ เสียงละมุนกะน้องเอมมาก ใจละลายหมดแล้ว. งื้อออ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่26 {11/04/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 13-04-2020 23:36:06
เจ๊ดูอบอุ่น,,,
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่27 {18/04/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 18-04-2020 21:43:05
บทที่27



“เจ๊....”   เสียงของไอ้เด็กที่ยืนอยู่แถวบริเวณหน้าประตูห้องเรียกผมออกมาแบบแผ่วเบา ท่าทางกล้าๆกลัวๆของมันเหมือนว่ากำลังทำตัวไม่ถูก มันที่มองไปรอบๆห้องแบบใช้ความคิด ก่อนสุดท้ายจะจบลงด้วยการที่มันเม้นริมฝีปากเข้าหากันแล้วก้มหน้าลงมองพื้น



“เข้ามา ยืนทำอะไรอยู่ตรงนั้น”  ผมที่เดินออกไปจากห้องครัวหลังจากเดินไปเก็บของเสร็จพูดออกไปแบบนั้น ค่อยๆสาวเท้าเดินเข้าไปหามัน เอื้อมมือไปคว้าข้อมือของอีกคนแล้วจัดการดึงให้มันเดินตามเข้ามาในห้อง ทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาก่อนจะดึงให้อีกฝ่ายตามลงมานั่งข้างๆแล้วดึงตัวมันมากอดเอาไว้



คิดถึง ... คงมีแค่คำนี้ที่พอจะแทนความรู้สึกของผมได้



ไอ้เอมที่นั่งนิ่งๆปล่อยให้ผมกอดอยู่แบบนั้น ผ่านไปสักพักวงแขนเล็กๆของมันก็ค่อยยกขึ้นมากอดตอบผม ตามมาด้วยหัวทุยๆของมันที่เอาแต่ซูกอยู่ที่อกผมแล้วกอดผมไว้แน่นๆ มองจากตรงนี้ก็เห็นไหล่เล็กๆที่สั่นไหว



มันกำลังร้องไห้ ... และนี่ก็เป็นสิ่งสุดท้ายที่ผมอยากจะเห็น



“เลิกร้องได้แล้วมั้ง ตาบวมหมดแล้ว...หรือว่ายังไง ให้กูไปต่อยให้เลยดีไหม คนที่ทำมึงเสียใจแบบนี้ต้องโดนกูต่อยนะ”



“ฮึก บ...บ้าเปล่าวะ นั่นมันอิ้ไอ้หยีเลยนะ” พูดอู้อี้ออกไปแบบนั้นทั้งที่ยังคงเอาหน้าซุกอยู่ที่อกของผม มันที่ดูเหมือนกับว่ากำลังพยายามกลั้นเสียงให้หยุดสะอื้นแต่ก็ดูจะยากเย็นพอสมควร



“อ่อ เป็นอิ๊ไอ้หยีที่ทำมึงของกูเสียใจแบบนี้สินะ”



“ฮึก ... เจ๊พี่มึงทำกูเสียใจมากกว่าอิ๊ไอ้หยีอีกเถอะ”  มันที่บอกออกมาแบบนั้นด้วยเสียงอู้อี้ คำพูดของมันที่ทำให้ผมยิ่งรู้สึกผิด เพราะแบบนั้นเลยกอดกระชิบตัวมันให้แน่นขึ้น



“ขอโทษครับ เสียใจมากเลยใช่ไหมวันนั้น”  พูดออกไปแบบนั้น แต่อีกคนก็ยังคงทำแค่เงียบ



“เอม”



“ฮึก..อ..อย่าเรียกชื่อนะ” มันที่ร้องออกมาแบบนั้นพร้อมๆกับกำปั้นเล็กๆที่ทุบลงมาที่อกของผม ไม่เจ็บมากก็แค่คันๆ หมัดลูกควาย



“เฮ้อ ไม่เรียกก็ไม่เรียก”  พูดออกไปแบบนั้นแล้วยกมือขึ้นมาลูบหัวผมเบาๆ แต่เหมือนว่าพอยิ่งทำแบบนั้นมันจะยิ่งร้องไห้หนักขึ้นกว่าเดิม ผมไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้เลย อยากจะพูดทุกอย่างออกไปให้เคลียร์กันซักที แต่คิดว่าทางที่ดีควรรอให้อีกฝ่ายพร้อม



“เจ๊” 



“หื้ม ว่าไง”



ผมที่ผละตัวออกมา แล้วดึงตัวมันให้หันมาจ้องกันดีๆในตอนนี้ ไอ้เอมที่ช้อนตาแดงๆของมันมองมาที่ผม ริมฝีปากบางที่ตอนนี้ถูกมันขบเม้มนิดๆเหมือนคนกำลังกังวล ไหล่เล็กๆนั่นที่ก็สั่นนิดๆเพราะแรงสะอื้นที่เจ้าตัวกำลังพยายามหยุด ... รวมเลยคือมันดูน่าสงสาร เพราะแบบนั้นเลยอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปลูบข้างแก้มใสนั่นๆเบาๆอีกหนึ่งที

ไอ้เอมที่หลุบตาลงต่ำในตอนนั้น ข้างแก้มของมันที่ดูขึ้นสีหน่อยๆแม้ว่านัยต์ตาจะยังคลอด้วยน้ำตาก็ตาม มันที่สูดหายใจเข้าปอดลึกๆ ไม่เข้าใจว่ามันเป็นอะไร



“ผม...”



“หื้ม”



“ผมเสียใจที่เจ๊เลือกเค้าว่ะ ไม่อยากจะพูดแบบนี้เลย แต่ผมก็เสียใจว่ะ ตอนที่เจ๊เลือกทิ้งผมไปกับเค้าผมโคตรเสียใจเลย ทั้งๆที่จริงๆเราก็ไม่ได้เป็นอะไรกันสักอย่าง แต่ถึงแบบนั้นเจ๊ก็บอกว่าจีบผมอยู่ไม่ใช่หรอวะ แล้วทำไมถึงยังเลือกเค้าแบบนั้นอีก” มันที่ว่าออกมารัวๆแบบนั้นเหมือนจะไม่ได้หายใจด้วยซ้ำตอนที่เอาแต่ก้มหน้าแล้วว่าออกมารัวๆ



“เอม กูไม่ได้เลือกพาย”



“ไม่ได้เลือกพาพวยแล้วไปกับเค้าทำไมวะ เจ๊ไปกับเค้าทั้งๆที่ผมก็ยืนอยู่ตรงนั้น” มันที่เงยหน้าขึ้นมามองหน้ากัน รับรู้ถึงความเสียใจมากมายของมันผ่านสายตาที่มองมา



“พายขาเจ็บ มึงก็เห็น กูแค่อยากพาเค้าไปหาหมอ”



“คือเจ๊เป็นห่วงเค้า” มันที่พูดออกมาแบบนั้น ในน้ำเสียงเจือความน้อยใจออกมาให้ผมได้ยินแบบปิดไม่มิด แต่ผมเข้าใจดี



“กูไม่ได้ห่วงเค้ามากกว่ามึง ที่พาพายไป นอกจากอยากพาไปทำแผล ก็เพราะมีเรื่องจะคุยกับพาย”



“ข้ออ้างหรอวะ”



“มันไม่ใช่ข้ออ้าง แต่มันเป็นเรื่องจริงที่กูทำ กูพาเข้าไปทำแผลที่โรงพยาบาล แล้วก็บอกเค้าแบบจริงจังว่าตอนนี้กูไม่ได้รู้สึกอะไรกับเค้าแล้ว กูตั้งใจจะกลับมาพูดเรื่องของเราอธิบายทุกอย่างกับมึงให้เข้าใจ...แต่มึงก็ไม่อยู่รอฟังแล้ว” บอกมันออกไปแบบนั้น ไอ้เอมก็เม้มปากแน่น มองเห็นสีหน้าของมันที่ยังมีความดื้อดึง ผมเข้าใจดีว่าแค่คำพูดไม่กี่ประโยคนี้ มันคงไม่สามารถทำให้มันรู้สึกดีขึ้นมาได้ง่ายขนาดนั้น



“กูไม่รู้หรอกว่าวันนั้นเกิดอะไรขึ้นระหว่างมึงกับพาย แต่กูเชื่อว่ามึงมีเหตุผลของมึงที่ทำลงไปแบบนั้น กูไม่ว่ามึง แต่อย่าทำอีก”



“สุดท้ายเจ๊ก็แคร์เค้า”



“ฟังก่อน” บอกออกไปแบบนั้นแล้วมันก็ใช้สายตาค้อนแรงๆมาใส่ผม แต่ก็เลือกที่จะเงียบฟัง ... เอมมันเป็นแบบนี้เสมอ มันดื้อ รั้นในแบบของมัน แต่มันก็ไม่ใช่เด็กนิสัยแย่ที่ไม่ยอมรับฟังอะไรเลย



“มึงสาดขาหมูไปแบบนั้น จานก็แตก ที่สำคัญ ขาหมูถุงนั้นมึงตั้งใจซื้อมาให้กูกินไม่ใช่หรอ กูยังไม่ได้กินเลย เสียดายของ”



“หึ กับอิแค่ขาหมูถูกๆเจ๊จะมาอยากกินอะไรวะ”



“อืมมันราคาถูก แต่เป็นมึงที่ซื้อมา กูเลยถูกใจ” อยากให้มันเข้าใจว่าเพราะทุกอย่างที่เป็นมัน ผมจะไม่มีทางเลือกอย่างอื่น ... บอกออกไปแบบนั้นแล้วรอคอยอย่างใจเย็น มองเห็นไอ้เด็กที่เม้มปากแน่นๆแล้วอยากจะยื่นหน้าไปจูบ ไม่อยากให้ปากของมันต้องมีแผลเลยจริงๆ อย่างน้อยถ้าจะมี ก็ให้เป็นรอยแผลเพราะปากผมจะดีกว่า



“เค้าบอกผม ... พาพวยน่ะ เค้าบอกผมว่าเจ๊ไม่มีทางเลือกผม ไม่ว่าผมจะนอนกับเจ๊มากี่ครั้ง ต้องแลกอะไรมาจากทั้งชีวิตของผมเพื่อให้เจ๊ เจ๊ก็ไม่มีทางรักผมแบบจริงๆได้หรอก ... คนที่ไม่มีอะไรแบบผมน่ะ” เอมมันว่าออกมาแบบนั้นแล้วก้มหน้าลงต่ำ ผมเห็นน้ำตาเม็ดเล็กที่หยดลงจากหางตาของมัน ไหลลงมาที่ข้างแก้มก่อนจะหยดลงไปบนหลังมือของมัน เห็นแบบนั้นแล้วใจของผมรู้สึกถูกบีบ พร้อมๆกับความไม่เข้าใจปนหงุดหงิดหน่อยๆว่าพายมีสิทธิ์อะไร และเป็นอะไรถึงพูดแบบนั้นออกมาได้



“พาพวยบอกว่า ที่เจ๊เป็นเจ๊แบบทุกวันนี้ ก็เพราะว่าเค้าอยากให้เป็น เจ๊เลยเป็นตุ๊ดแบบนี้” มันที่พูดประโยคนั้นจบแล้วเงยหน้าขึ้นมาจ้องหน้าผม ทั้งๆที่น้ำตามันยังไหล ความเสียใจของมันยังมีอยู่เต็มใบหน้า ค่อยๆเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้มันเบาๆ



“พระพายกับกูใครสำคัญกับมึง” ถามออกไปแบบนั้นแล้วมองตาคนตรงหน้าที่ดูจะสับสนขึ้นมาตอนที่ผมถามออกไปแบบนั้น



“เจ๊ถามอะไรวะ”



“ตอบสิ”



“ก็ต้องเจ๊สิ” บอกออกมาแบบนั้น ผมที่ยิ้มแล้วลูบแก้มใสของมันไปด้วยเบาๆ



“ในเมื่อกูสำคัญกับมึง แล้วทำไมมึงถึงเชื่อพายมากกว่ากู” ถามออกไปแบบนั้น ไอ้เอมที่จ้องหน้าผมอยู่ก็ยู่ปากออกมานิดๆ มันที่มองค้อนกันหน่อยๆ แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะก้มหน้าหลบตาหนีกัน



“ทำไมมึงถึงไม่ถามกู อยากรู้อะไรก็แค่ถามกู กูจะไม่โกหกมึงเอม แค่เป็นมึง กูจะบอกเรื่องจริงทั้งหมด”



“แล้วถ้าเจ๊โกหก ผมก็ไม่มีวันรู้อยู่ดี....”



“แล้วไม่คิดบ้างหรอว่าพายก็อาจจะโกหกมึงได้เหมือนกัน ... เค้าที่เป็นคนอื่นด้วยซ้ำ แต่กูไม่ใช่นะ กูคือผัวมึง” ผมที่สวนออกไปแบบนั้นทำให้ไอ้เอมต้องหุบปากลงทันที มองเห็นอาการสับสนของมันที่เหมือนอยากจะเถียงแต่ก็เหมือนยอมรับกับคำพูดของผมแต่โดยดีเลยต้องเงียบลงไปอีกครั้ง เห็นแบบนั้นแล้วก็อดจะเลื่อนมือไปลูบหัวมันไม่ได้ ... ควายน้อยของผมกำลังใช้สมองอย่างหนักมากไปแล้วในวันนี้ สงสารครับ



“จริงๆพายเป็นคนน่าสงสารนะ”



“แล้วผมไม่น่าสงสารหรอวะ” มันที่โพล่งขึ้นมาแบบนั้นอีกรอบแล้วเงยหน้ามองหน้าผม



“ผมไม่น่าสงสารหรอวะ เจ๊ถึงเลือกไปกับเค้าแบบนั้น ผมเสียใจนะ มากๆเลยนะโว้ย” เห็นแบบนั้นแล้วอดไม่ได้ที่จะต้องเผลอยิ้มออกมาเอื้อมมือไปดึงตัวมันเข้ามาชิดแล้วกอดมันเอาไว้ อยากจะกอดแน่นๆเท่ากับความเสียใจที่มันต้องเจอ ถ้ากอดของผมทดแทนได้มันก็คงดี



“มึงไม่น่าสงสาร...ฟังก่อน ที่กูบอกว่ามึงไม่น่าสงสารเพราะมึงมีกู แต่พายไม่มีใคร และแน่นอนว่าเค้าก็จะไม่มีทางมีกูด้วย เพราะกูมีมึง”



“พูดอะไรก็ไม่รู้ งงฉิบ”  ว่าออกมาแบบนั้น แต่ผมรู้ว่ามันเข้าใจ ก็แค่พูดกวนตีนกันแบบที่มันชอบทำเวลามันเขิน



“จะฟังต่อไหมลูกควาย”



“ก็เล่ามาสิ แต่ผมไม่เป็นลูกควายด้วย!”  ผมที่ยิ้มออกมากับคำพูดของมัน แล้วเลือกจะไม่เถียงมันแต่เปลี่ยนเป็นเล่าเรื่องต่อแทน



“กูกับพายเรียนคณะเดียวกัน ตอนปี1ไม่ค่อยรู้จักพายเท่าไหร่ แต่พอหลังจากขึ้นปี2ก็บังเอิญได้มาทำงานกลุ่มเดียวกัน แต่ก็มีปัญหาเพราะพายไม่ค่อยมาเรียน จากกูที่ไม่เคยเห็นพายในสายตาก็เริ่มรู้สึกสนใจ ... เป็นมึงไม่สนใจหรอ ใครคนนึงที่ต้องทำงานด้วยกันแต่หายไปตลอด แม่งเอาเปรียบ”



“เจ๊สนใจหรืออยากดักตีเค้ากันแน่วะ” มันที่พูดออกมาอู้อี้ๆเพราะตอนนี้เอาหน้าถูไปกบอกเสื้อของผม



“จริงๆตอนแรกที่ยังไม่เจอก็อยากดักกระทืบเหมือนกัน แต่พอหลังจากที่กูกับไอ้เมฆไอ้จั๊มตามสืบจนไปตามหาพายถึงได้รู้ว่าพายอยู่หอคนเดียว หนีออกจากบ้านมา ทั้งๆที่ครอบครัวก็มีเงิน”



“ชีวิตสบายมากหรอวะ เลยอยากหาเรื่องลำบาก เปลี่ยนกับกูไหมอยากถามแค่นี้ เหอะ” 



“ถ้ามึงรู้ กูว่ามึงไม่น่าจะอยากเปลี่ยนชีวิตกับพายหรอกว่ะ”



“มีเงินไม่ดีตรงไหนวะ ยิ่งช่วงเศรษฐกิจเฮงซวยแบบนี้เงินสิยิ่งสำคัญ นักศึกษาก็ไม่ได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐนะเจ๊รู้ยัง”



“จุ๊ๆ...พูดไปถึงไหนเนี่ยมึง ฟังต่อนะ ....พายน่ะถูกพ่อเลี้ยงตัวเองข่มขืนตั้งแต่ม.ปลาย ทำให้กลายเป็นคนที่กลัวการเข้าใกล้ผู้ชาย กูก็ไม่รู้เท่าไหร่ว่ามันคือโรคอะไรกันแน่ กูไม่ได้จบแพทย์...แต่รู้ว่าพายจะมีอาการมากๆเวลาที่ต้องอยู่ใกล้ชิดผู้ชาย โดยเฉพาะผู้ชายแปลกหน้า จะแน่นหน้าอก มือสั่น เหงื่อออก หายใจไม่ออก บางครั้งก็หมดสติ เวลาเป็นแล้วน่าสงสารมาก”



“เหี้ย! โดนข่มขืนหรอวะ”



“อืม ตอนกูรู้กูก็ตกใจแบบมึง มันต้องแย่แค่ไหนวะ กับเด็กที่อายุแค่ไม่เท่าไหร่ต้องมาเจอเรื่องแบบนั้น พอกูรู้กูเลยพยายามเข้าหาพาย อยากให้พายได้มาเรียนได้มีเพื่อน เจอเรื่องดีๆ แต่ว่าพายก็เอาแต่หนี จากความสงสารก็กลายเป็นความรู้สึกดีๆ กูอยากเห็นเค้าหายและมีความสุข ใช้ชีวิตปกติแบบคนทั่วไป”



“เจ๊ก็เลยเปลี่ยนตัวเองเป็นเจ๊ดานี่ เพื่อเค้าหรอวะ”



“จริงๆกูชอบแกล้งเล่นเป็นตุ๊ดมานานแล้วก่อนเจอพายด้วยซ้ำนะ”



“เดี๋ยวนะ....มึงชอบเล่นอะไรนะ”  มันที่ถามออกมาเสียงสูงแล้วเงยหน้าขมวดคิ้วมองหน้าผมแบบไม่เข้าใจ ... คืองงอะไร



“มึงไม่เคยเล่นหรอวะสมัยมัธยมอ่ะ แกล้งๆทำตัวเป็นตุ๊ด ตลกดีจะตาย” บอกมันออกไปแบบนั้นแล้วอีกฝ่ายก็ทำสีหน้าที่ผมอ่านออกได้ว่า ‘คงมีแต่มึงนี่ล่ะที่สนุก’ ส่งมาให้



“อย่ามามองกูด้วยสายตาเหมือนว่ากูเป็นคนบ้าได้ไหมวะ” บอกออกไปแบบนั้นแล้วเอื้อมมือไปบีบจมูกมันอย่างหมั่นเขี้ยว



“แล้วยังไงต่อวะเจ๊ เล่าสิวะ”



“ก็ไม่ยังไง กูก็เลยลองแกล้งๆทำตัวเป็นตุ๊ดใส่ ก็เห็นพายลดช่องว่างกับกูมากขึ้น ค่อยๆเปิดใจกล้าพูดกล้าคุยมากขึ้นจนเข้ามาเป็นเพื่อนในกลุ่มของกูได้”



“เอ้า แล้วกลับพี่เมฆพี่จั๊มล่ะ เค้าไม่เห็นต้องแกล้งเป็นตุ๊ดแบบเจ๊เลยไหมวะ”



“ตอนแรกกับไอ้สองตัวนั้นพายก็ยังไม่สนิทใจ แต่เพราะมีกูเป็นตัวกลางคอยเชื่อมความสัมพันธ์ให้ก็เลยค่อยๆลดการระแวงลง แต่ก็ไม่ได้ดีทั้งหมด หลักๆพายก็สนิทกับกูที่สุด และอีกอย่างหลังจากนั้นกูก็เริ่มรู้สึกชอบพาย กูก็เลยทำตัวเป็นตุ๊ดแบบนั้นมาเรื่อยๆตัดความยุ่งยากเวลามีผู้หญิงเข้าหากูด้วย”



“เยอะหรอวะ ผู้หญิงที่ว่า”



“มึงดูหน้ากูด้วยครับ”



“ก็งั้นๆป่ะวะ”



“หึ กล้าพูดนะ คนที่ชอบกูมากแบบมึงยังกล้าพูดว่างั้นๆได้อีกหรอหนู” ดึงตัวมันมาชิดแล้วก้มหน้าลงไปหอมแก้มมันแบบอดไม่ได้หนึ่งฟอดเต็มๆ มองจากตรงนี้มองเห็นแก้มของมันแดงขึ้นมาหน่อยๆ น่ารักดีครับ ควายน้อยของผมแม่งน่ารักว่ะ



“อย่ามาหอมแก้มผมนะเว้ย เราไม่ได้เป็นอะไรกันนะเว้ยเจ๊”



“งั้นมึงรออะไรล่ะ ...เป็นแฟนกับพี่เถอะเอมหมดความอดทนได้หรือยัง กับความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนของเราน่ะ มึงหมดความอดทนได้หรือยังวะ” พูดออกไปแบบจริงจัง ก่อนจะดันตัวมันออกมาจากอกของผม จ้องหน้าคนตรงหน้าแบบไม่ล้อเล่นในคำพูด



“ผมอยากหมดความอดทน” มันที่ว่าแบบนั้นแล้วก็ช้อนตามองหน้า ในสายตาใสๆของมันยังมีแววไม่แน่ใจ



“แล้วมึงรออะไรคะ!” อดไม่ได้ที่จะขึ้นเสียงใส่มันหน่อยๆในประโยคนั้น เรื่องราวของเราในตอนนี้มันควรจะก้าวไปสักทีได้แล้ว



ไอ้เอมที่ก้มหน้าลงมองมือตัวเองอีกครั้ง ก่อนจะพูดออกมาด้วยเสียงเศร้าๆ



“ผมน่ะเป็นคนที่ไม่มีอะไรเลยนะเจ๊ ไม่มีพ่อไม่มีแม่ ไม่มีเงิน ไม่มีบ้าน แล้วแบบนี้...เจ๊จะอยากมีผมไปทำไมวะ คนที่ไม่มีอะไรพอที่จะทำให้เจ๊ภูมิใจได้เลยนะ คนที่ไม่เท่าเทียมกับเจ๊แบบผม  มันไม่ใช่ละครหรือเปล่าวะ ...หึ มันจะมีจริงๆหรอวะ พระเอกที่เหมือนในละคร พูดแล้วอยากจะขำ แม่งไม่มีหรอก คนที่รักและทำเพื่อเราได้ขนาดนั้น  ”



“มึงพูดแบบนี้หมายความว่าไง...” ขมวดคิ้วแล้วถามมันออกไปแบบนั้น



“ก็แล้วมันไม่จริงหรอวะ คนดีๆที่จะมาดึงเราให้เข้าไปอยู่ในโลกใบใหม่แบบในละคร แม่งไม่มีหรอกว่ะ” มันที่ว่าแบบนั้นออกมา แต่จริงๆเหมือนมันไม่ได้กำลังพูดกับผม แต่เป็นการย้ำเตือนกับตัวเองซะมากกว่า เหมือนกับว่าจริงๆแล้วมันมีเรื่องราวบางอย่างที่ฝังใจอยู่ ... เห็นแบบนั้นแล้วอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาหนักๆก่อนจะโพล่งออกไปแบบอดไว้ไม่อยู่



“ก็กูไงคะ ...เอ๊ะ มองกูแบบนั้นหมายความว่าไง กูไม่เหมาะที่จะเป็นพระเอกหรือไงคะอินี่” พูดละองค์กูลงเลย อดไม่ได้ที่จะเผลอจีบปากจีบคอใส่มัน ตอนนี้ที่มันเองก็มองแรงมาใส่ผม



“ก็แล้วพระเอกที่ไหนมันจะปากแดง แล้วก็บล็อคตาแน่นแบบนี้บ้างล่ะวะ!” ขมวดคิ้วแล้วยู่ปากใส่ ท่าทางเหมือนลูกแมวโมโห ฉุนเฉียบน้อยๆกำลังน่ารัก แต่ในสายตาผม ไอ้น้องเอมมันก็เป็นได้แค่ลูกควายตัวดื้อเท่านั้นล่ะครับ



“แบบกูนี่ไง สวยๆเป็นผัว มึงไม่เข้าใจหรอคะ โดนเองมากับตัวมึงยังจะมาปากดี ... กูปากแดงสวยๆแล้วไง ก็เป็นผัวมึงได้ก็แล้วกัน”



“ก็เพราะเจ๊เป็นแบบนี้ไงเล่า ผมถึงไม่มั่นใจสักที เจ๊ที่เอาแต่เป็นเจ๊ดานี่ของพาพวย แล้วทำไมถึงเป็นพี่ดาบของผมบ้างไม่ได้วะ!” ไอ้เอมที่ตะคอกกลับมาทันทีที่ผมพูดจบ มันที่ว่าออกมาแบบนั้นด้วยเสียงที่ดังด้วยหน้าที่แดงๆของมัน ไม่รู้ว่าโมโหหรือเขินกันแน่



“มึงอยากให้กูเป็นไอ้ดาบ?”



“ก็เจ๊เอาแต่เป็นตุ๊ดเพราะพาพวย”



“จริงๆกูเป็นตุ๊ดเพราะกูอยากเป็น แต่ที่ทำกับพายก็แค่ผลพลอยได้ ที่คิดว่าทำแล้วพายจะชอบกู แต่จริงๆก็ไม่”



“งั้นเจ๊ก็กลับมาเป็นผู้ชาย เป็นพี่ดาบเพื่อผมได้ไหม” มันที่ว่าแบบนั้นช้อนตามองผมแบบขอร้อง ... ผมนึกย้อนกลับไปถึงคำพูดของไอ้เมฆที่ว่า ถ้าผมยังยึดติดกับความคิดที่ว่าเอมไม่มองที่ตัวตนของผม ความสัมพันธ์ของเรามันก็จะไปต่อไม่ได้



“กูจะไม่เป็นดาบเพื่อมึง” บอกมันออกไปแบบนั้น มองเห็นสีหน้าที่ดูจะเสียใจมากๆของมัน ผมที่ค่อยๆโน้มหน้าเข้าไปหามันช้าๆ  ใกล้กันจนระยะห่างของลมหายใจทำให้เรารู้สึกถึงกันได้ ในดวงตากลมโตของมันที่มองช้อนขึ้นมามองหน้าผมช้าๆในตอนนี้ ทำได้แค่ยกยิ้มมุมปากส่งออกไป ก่อนจะพูดบอกออกไปว่า



“แต่กูจะเป็นกู...เพื่อเรา”




“หื้ม...เจ๊หมายความว่าอะ... อึก อื้มม” ผมที่แนบริมฝีปากของตัวเองลงไปบนริมฝากของคนตรงหน้าแบบไม่อยากจะทน ยื่นแขนของตัวเองออกไปคว้าเอวบางเข้ามา ดึงรั้งตัวของมันให้ขึ้นมานั่งคล่อมตัวอยู่บนตักของผม ก่อนจะเอนหลังตัวเองพิงลงไปที่พนักโซฟาช้าๆ มืออีกข้างที่ว่างก็เอื้อมไปประคองใบหน้าน่ารักของมันให้หมุนทำมุมเปลี่ยนองศาให้สอดคล้องกันมากขึ้นในตอนที่ลิ้นร้อนชื้นของผมสอดเข้าไปเกี่ยวรัดกับลิ้นของมันอย่างเอาแต่ใจ อยากจะกดจูบมันอยู่แบบนี้ทั้งวัน แต่ถึงแบบนั้นก็ต้องผละออกมา หน้าของมันที่ขึ้นสีแดงจัด สายตาที่เป็นประกายวาววับในตอนที่มองหน้าผม



“คบกับกูนะเอม ... ต่อจากนี้กูจะเป็นกู กูที่รักมึงและทำให้มึงมีความสุขมากกว่าใคร ในแบบของกูเอง”



“เจ๊...”



“พี่ชอบเอม พี่รักเอม เป็นแฟนพี่นะ” จ้องตามันพร้อมบอกความรู้สึกทุกอย่างผ่านสายตานี้ ไอ้เอมที่น้ำตาคลอขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนที่มันจะค่อยๆเผยรอยยิ้มออกมาช้าๆ ก่อนจะพยักหน้าลงมาน้อยๆในตอนที่หน้าก็แดงไปแล้วทั้งหน้า



“อื้อ”



“อืออะไรคะหนู”



“คบกันไงเล่า! คบกันกับเอมแล้วนะ เป็นแฟนเอมแล้วนะ เอมหึงได้แล้วนะ” มันที่ว่าออกมาแบบนั้นด้วยท่าทางน่ารักจนผมต้องยิ้มกว้างๆออกมา และก็เป็นอีกครั้งที่อดไม่ได้ที่จะยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มมัน



“ก่อนหน้านี้ไม่เป็นก็หึงไปแล้วไหม...แต่ก็ถูก ตอนนี้พี่เป็นของเอมครับ”



ตอบออกไปแบบนั้นแล้วมองตาเด็กตรงหน้า น้องเอมที่มันค่อยยิ้มกว้างออกมาทั้งหูทั้งตา เป็นรอยยิ้มที่สว่างสไวที่สุดเท่าที่ผมเคยได้รับมาจากมัน และรอยยิ้มนี้ ที่ผมจะพยายามรักษามันไว้ให้ดีที่สุด



“เป็นแฟนกันแล้ว”



“อื้ออ” ไอเอมที่พยักหน้าเขินๆ พร้อมๆกับผมที่โน้มหน้าเข้าไปกระซิบลงที่ข้างหูมันเบาๆ



“งั้นก็เอากันได้แล้วดิคะ”



“ไอ้สัดเจ๊พี่มึง! ปล่อยเอวเลยนะโว้ยยย!!”



...



‘ปังๆๆ!!’



เสียงเคาะประตูดังลั่นที่ทำให้ผมต้องขมวดคิ้วก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้นมาช้าๆ รู้สึกปวดเนื้อปวดตัวมากจนไม่อยากจะขยับ



นี่กูถูกรถไฟวิ่งชนมาหรือเปล่าวะ



ได้แต่ยกมือขึ้นเสยผมให้ออกไปจากหน้า ปรับสายตาให้คุ้นชินกับความมืดของห้องก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองนาฬิกาที่ตั้งอยู่ที่โต๊ะตรงปลายเตียง มันบอกเวลาว่าบ่ายสามโมงแล้ว



‘ปังๆๆ!!’



เสียงเคาะ ... จริงๆไม่ควรใช้คำว่าเคาะ เรียกว่าทุบจะดีกว่า เสียงทุบประตูห้องผมยังคงดังขึ้นมาอีกอย่างต่อเนื่องนั่นทำให้ต้องขมวดคิ้ว หงุดหงิดฉิบหาย



“พ่อใครตายวะไอ้สัด”  ได้แต่พูดออกไปแบบนั้นแล้วค่อยๆขยับตัวลุกขึ้นจากเตียง ในตอนที่ปลายเท้าแตะลงที่พื้นห้องเย็นๆก็ต้องซี๊ดปาก ความรู้สึกเจ็บร้าวแล่นงานขึ้นมาที่สมองเลยในตอนนี้



“สัดเอ้ย”



‘ปังๆๆ!!’



เสียงทุบที่ยังดังมาอย่างต่อเนื่องนี่ก็ยิ่งทำให้หงุดหงิด ผมที่ได้แต่ค่อยๆเดินไปที่ประตูช้าๆ ก่อนจะเอื้อมมือเปิดประตูในเวลาต่อมา คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าที่กำลังทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ในตอนนี้ก็ทำให้ผมต้องถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่อยู่



“ไอ้เสือ!”



“ตะโกนทำไมวะพี่มึง แล้วทุบประตูห้องกูขนาดนี้มีใครตายหรอวะ” ถามมันออกไปแบบนั้นแล้วจ้องหน้าคนตรงหน้าที่ตอนนี้ยกมือข้างนึงยันไปที่ขอบประตู



“มึงสิจะตาย กลับมาทำไมไม่บอกกู”



“เห็นมึงหลับเหมือนตายอยู่ ก็ไม่จำเป็นต้องปลุกไหมวะ” ตอบมันออกไปแบบนั้นแล้วยักไหล่ให้มันไปทีแบบไม่ใส่ใจอะไร



“สัด...แล้วนี่ทำไมมึงไม่หลบ กูจะเข้าห้องมึง” มันที่ว่าแบบนั้นแล้วผลักตัวผม ดีที่เกาะประตูไว้แน่นเลยไม่เซ



“พี่มึงจะเข้ามาทำไมวะ”  บอกมันออกไปแบบนั้น และคนตรงหน้าที่ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันทีในตอนที่ได้ยิน



“แล้วทำไมกูจะเข้าไม่ได้ กูมีเรื่องต้องคุยกับมึงด้วย”



“แต่กูไม่มี กูเหนื่อย กูง่วง พี่มึงกลับไปก่อนไป” บอกมันแบบนั้นแล้วทำท่าจะปิดประตู แต่ก็ถูกมือแกร่งของมันที่ยันเอาไว้ได้ทันก่อนที่ประตูจะปิดลง



“ไอ้สัดพี่ ปล่อยประตูไอ้สัดเก้อ”



“กูจะคุยกับมึง มึงหนีกลับมาได้ไงวะ สัด มึงเดินไหวได้ไง”



“แล้วทำไมกูจะเดินไม่ไหววะ พอ! มึงเลิกพูดเหอะสัดพี่เก้อ” ผมที่ขมวดคิ้วแล้วบอกมันออกไปแบบนั้น ได้แต่ถอนหายใจหนักๆแบบเหนื่อยๆ อย่างน้อยก็ในตอนนี้ที่ไม่อยากจะคุยกับมัน แต่เหมือนว่าคนตรงหน้าแม่งจะไม่ให้ความร่วมมือ



“ถอย!” มันที่ว่าแบบนั้นแล้วดันประตูเข้ามาเต็มแรง จนผมต้องเซถอยหลังไปอีกหลายก้าว และมันเองก็ก้าวเท้ายาวๆเข้ามาในห้องผมแบบหน้าด้านๆ ฝ่ามือหนาของมันที่เอื้อมไปเปิดไฟห้องของผมแบบรู้ดีว่าตรงไหนเป็นตรงไหน



ห้องมึงหรือไงไอ้สัด!



“เป็นเหี้ยอะไรของมึงวะไอ้สัด!” หงุดหงิดจนต้องเขวี้ยงขวดน้ำใกล้ๆมือไปใส่หัวมัน



“โอ้ย กูเจ็บนะไอ้เสือ”



“เรื่องมึง! กูบอกว่ากูอยากนอน เสือกดันทุรัง เป็นเหี้ยไรนักวะ”



“เป็นคนที่เอากับมึงมาไงเมื่อคืนมึงลืมหรอสัด” มันที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วจ้องหน้าผมเขม็ง และก็เป็นผมที่ต้องขมวดคิ้วแน่นๆในตอนนี้หลังจากที่มันพูดออกมาแบบนั้น



“มึงจำคนผิดเปล่าไอ้สัดพี่เก้อ มึงไม่ได้เอากับกูหรอก” ผมที่บอกแบบนั้นแล้วเดินไปยืนพิงโต๊ะหันหน้าไปมองกลับมันที่ยืนอยู่ตรงข้างๆเตียงนอนของผม มองเห็นหน้ามันที่ขมวดคิ้วมองมา



“ไอ้เสือ มึงไม่ต้องเล่นลิ้น กู....กูจะรับผิดชอบมึงเอง!” มันที่หลับหูหลับตาตะโกนออกมาแบบนั้น มองดูจากนอกโลกก็รู้ว่ามันเองก็ลำบากใจ ผมรู้ดีว่ามันไม่ได้รู้สึกอะไรกับผม เพราะแบบนั้นเลยยกยิ้มมุมปากออกมาหน่อยๆ



"รับผิดชอบเหี้ยไร กูยอมมึงเอง ก็แค่ปล่อยน้ำป่ะวะ"  บอกมันแบบนั้นแล้วยักไหล่ทำท่าสบายๆแบบไม่ใส่ใจเท่าไหร่



"มึงไม่ได้ยอม"  มันที่เงยหน้าขมวดคิ้วมองมาที่ผมแบบไม่เข้าใจ



"แต่สุดท้ายกูก็ยอม มึงไม่ต้องพูดไรมากหรอกพี่เก้อ ทำตัวให้มันปกติหน่อยดิวะ ก็แค่ได้กัน"



"แต่นั่นครั้งแรกของมึง"



"แล้วไงวะ หรือว่ามึงต้องตามไปรับผิดชอบทุกคนที่มึงพรากซิงมา พอเหอะเลิกพูด" บอกแบบนั้นแล้วยกมือขึ้นปัดๆ บอกให้มันรู้ว่าเลิกพูดเถอะ



"แต่กับมึงไม่เหมือนกัน มึงคือน้องกู" มันที่ว่าออกมาแบบนั้น ทำให้ผมต้องชะงักมือที่กำลังจะเอื้อมไปเปิดขวดน้ำมาดื่ม รู้สึกคอแห้ง ... แต่ตอนนี้กลับไม่อยากจะกินมันแล้ว เลยต้องผละหน้าหันไปมองหน้าคนที่ยืนตรงหน้าผมอีกครั้ง



"อืม....กูคือน้องมึงไง เพราะงั้นก็ไม่ควรพูดเรื่องนี้อีกไหมวะ มึงกับกู เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน"



"แต่..."



"ถ้ามึงไม่หยุดก็ถอดกางเกงให้กูเอามึงคืนตอนนี้เลย มึงจะยอมไหม" บอกมันแบบนั้นแล้วสาวเท้าเข้าไปหา มันที่ขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะถอยหลังหนีไปอีกหลายก้าว



"ก็เหี้ย!"  สองคำสั้นๆที่กระแทกหน้า อยากจะบอกเหลือเกินว่า มึงสิไอ้เหี้ย!



"ก็เออไง มึงไม่ยอม เพราะงั้นก็จบเรื่องนี้ มึงกับกูก็แค่ใช้ชีวิตปกติของใครของมันไปเหมือนเดิม แค่นั้น"  บอกมันออกไปแบบนั้นด้วยท่าทางสบายๆ มองมันที่ทำสีหน้าลำบากใจ ก่อนจะจ้องหน้าผมเงียบๆ



"มึงเอาแบบนั้นนะ?" 



"เออ กูเอาแบบนั้น"



"เออ งั้นก็แล้วแต่มึงละกัน" มันที่ทำหน้าหงุดหงิดๆหน่อยๆ ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงนอนของผมแรงๆแบบคนหงุดหงิด ก็ไม่รู้ว่ามึงหงุดหงิดอะไร มึงควรจะดีใจมากๆด้วยซ้ำ



"เคดีล...แต่"



"หื้ม?" มันที่หันมามองกันอีกครั้งพลางเลิกคิ้วมองหน้าผม เห็นแบบนั้นผมก็ค่อยๆแสยะยิ้มออกมาหน่อยๆแล้วจ้องหน้ามันนิ่งๆแบบไม่หลบสายตา



"ครั้งหน้าถ้ามึงจะไปเอากับใคร อย่าเผลอครางชื่อเค้าตอนสุดท้ายอีกนะ แม่งโคตรเหี้ย"



"ไอ้เสือ...มึงได้ยิน" มันที่เบิกตากว้างขึ้นแล้วเด้งตัวขึ้นมาจากที่นอนของผมแบบคนมีความผิดติดตัว ปากของมันที่พยายามจะพูดอะไรออกมาสักอย่างแต่เหมือนจะพูดไม่ออก และผมก็ไม่สนใจที่จะฟัง



"พอดีบังเอิญว่ากูมีหูไง กูเป็นคนมีหูที่ไม่ได้ใช้Kไว้นำทางสมองแบบมึง มึงควรจะให้เกียรติคู่นอนมึงบ้างนะ ถึงแม้ว่ากูจะยอมเอง แต่เป็นแบบนั้นแม่งก็เหี้ยอยู่ดี"



"ไอ้เสือกูขอโทษ"



"ช่างแม่งเหอะสัดพี่ มึงกับกูแม่งก็แค่คนเงี่ยน2คนที่หาทางระบายก็แค่นั้นแหล่ะ ... จริงไหม"



บอกมันออกไปแบบนั้น แล้วหันหลังให้มัน ก็แค่ไม่อยากจะมองหน้ามันในตอนนี้ มองเห็นสายตาของมันที่เหมือนอยากจะเถียงอะไรออกมาอีกแต่ผมก็ไม่อยากฟัง ...



เรื่องราวของเราที่มันไม่ควรเริ่ม มันก็ควรจะจบลงตรงนี้...



จบลงไปซะจากใจของกูซะ ก่อนที่มันจะเจ็บมากไปกว่านี้ดีกว่าไอ้เสือ





--------------To be continued--------------



คุณผู้อ่านคะ เค้าคบกันแล้วจ้าาาาาาาา และใช่ค่ะ อีกคู่กับจบกันแล้ววววว (หรอ?)

มามะมาอ่านมาเม้นท์กัน ตอนนี้เอาไปเบาๆ เพราะตอนที่แล้วยาวคนไม่ค่อยอ่านง่ะ คิกคัก

ฝาก #สวยๆเป็นผัว ในทวิตเตอร์ด้วยนะคะ เชิญชวนมาอ่านมาหวีดใส่แทคกันจ้าาา

 :mew1: :katai4:

หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่27 {18/04/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Chucream.nabi ที่ 18-04-2020 22:03:25
 :impress3:อิเก้อ อิห่าา :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่27 {18/04/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 18-04-2020 22:33:04
ขอขอบคุณคนอ่านจากทางเล้าเป็ดที่คอมเม้นท์ในตอนที่26ที่ยังอยู่ด้วยกันนะคะ :กอด1:


:pig4: :pig4: :pig4:
สงสารน้องเสือ
แคทฝากโอบกอดน้องด้วยนะคะ แง้


มีความพูดครับ องค์พี่ดาบลงแล้ว~
มาจ้าาา ยาวมากับตอนนี้เล้ยยย


ต่อให้จะมีเดาได้บ้าง แต่มันก็สนุกนะ o13
แต่เราไม่อยากให้น้องเสือเจ็บอ่าาาา :hao5: :hao5:
อู้ยยย แคทหวังว่าคนอ่านจะยังสนุกไปด้วยกันนะคะ ขอบคุณกำลังใจดีๆที่มอบให้แคทนะคะ ... ส่วนน้องเสือน้านนนน
น้องเป็นคนเข้มแข็งในระดับนึงเลยค่ะ แต่ฝากโอบกอดน้องด้วยน้า



โอ๊ยยยย สงสารน้องเสืออ่า กอดปลอบนะลูก อิ๊พี่เก้อแก๊ อย่าทำน้องนะ  :กอด1: :กอด1:

สงสารน้องเอมด้วย ทำไมชีวิตคนๆนึงถึงน่าสงสารขนาดนี้  :กอด1: :กอด1:
พี่ดาบจ้า ดูแลน้องดีๆนะ
ทางด้านน้องเอม ชีวิตน้องน่าสงสารจริงๆค่ะ และบ้านหลังใหม่ของน้องก็คงจะมีแค่อิเจ๊พี่มันจริงๆ
ส่วนเก้อเสือ แคทอยากจะฝากให้ดูกันไปน้าาา อิอิ


โถน้องเสือ ยอมอิพี่เก้อมันทำมายยย  อยากลองหรือชอบอิพี่มันไปเหรอ.  :katai1:

องค์พี่ดาบนี่ เสียงละมุนกะน้องเอมมาก ใจละลายหมดแล้ว. งื้อออ
น้องเสือกับพี่เก้อ อยากจะฝากให้ดูกันไปอีกยาวๆนะคะ อิอิ ส่วนพี่ดาบน้านนน มา พี่จะชงให้ยับ อิอิ


เจ๊ดูอบอุ่น,,,
  มายาวๆกันไปกับความอุ่นๆเป็นไฟเยอร์ อิอิ


หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่27 {18/04/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 18-04-2020 23:25:18
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่27 {18/04/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 19-04-2020 00:59:31
สงสารเสือ,,,
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่27 {18/04/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 19-04-2020 08:35:28
คือเราสังเกตมาหลายตอนแล้ว คำว่า"มันที่พูด..." "มันที่บอก..." "แบบนั้น"จะมีทุกประโยคหลังจบบทสนทนา คนเขียนใช้คำแบบนี้ซ้ำๆ ใช้คำเปลืองมาก เวลาอ่านต้องขมวดคิ้วเลยอ่ะ ฝากไว้ด้วยจ้า
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่27 {18/04/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 19-04-2020 09:46:57
เย้ๆ ดีใจกะน้องเอม มีแฟน (ผัว) เป็นตัวเป็นตนแล้วจ้า. หึงได้เต็มที่เลยลูก.  :katai2-1:

ส่วนอีกคู่น้านนน อิพี่เก้อจะเอายังงัยกะน้องเสือฮะ.  น่าจะกลับมาเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมไม่ได้แล้วมั้ง. สงสารน้องอ่ะ.  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่28 {25/04/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 25-04-2020 21:08:37
บทที่28


“เจ๊!! อ๊ากกก พี่มึงปล่อยเลยนะโว้ยยย ปล่อยๆๆๆ”



ไอ้เด็กใต้ร่างที่แหกปากออกมาแบบนั้นในตอนที่ผมทาบทับตัวลงไปแนบกับตัวของมัน เหมือนลูกแมวขาสั้นๆที่โดนหงายท้องแล้วตะกุยทั้งขาทั้งมือแต่ก็ยังลุกไม่ได้ ผมที่ก้มมองภาพตรงหน้าแล้วได้แต่ยกยิ้ม เอ็นดูฉิบหาย



ผมเลือกอดใจไม่ก้มหน้าลงไปจูบมันแรงๆ ทำแค่มองหน้าคนที่หลับตายกแขนยกขาตะกุยอากาศอยู่แค่นั้น ... ตลกมัน



ไอ้เอมที่ดูเหมือนจะเริ่มรู้สึกแปลกๆ มันที่ขมวดคิ้วนิดๆก่อนจะค่อยๆหรี่ตาขึ้นมามอง ในตอนที่ดวงตากลมใสของมันลืมขึ้นมาเต็มตา มันที่จ้องมองหน้าผมแล้วเบิกตากว้างขึ้นพร้อมๆกับเริ่มทำหน้าหงุดหงิด



“จ้องทำไมวะเจ๊”



“กูจ้องแฟนกู ทำไมจะจ้องไม่ได้”  พูดออกไป ไอ้เด็กตรงหน้าก็เอาแต่ขมวดคิ้วใส่



“ห้ามๆๆ”



“มึงห้ามกูได้หรอหนู มากกว่าจ้องกูก็ทำมาแล้วหรือเปล่าวะ” กระซิบเสียงเบาๆพร้อมๆกับโน้มหน้าลงไปหา ไอ้เอมที่ก็หดคอหนีแล้วหลับตาปี๋อีกครั้ง ลมหายใจถี่กระชั้นขึ้นมาของมันเหมือนจะปลุกอารมณ์บางอย่างของผมให้ลุกโชนขึ้นมาจริงๆ จากตอนแรกที่ก็แค่อยากจะแกล้งมันเล่นๆ แต่ตอนนี้เสียงครางกระเส่าที่เคยได้ยินเมื่อนานมาแล้วก็ดังขึ้นในหัวแบบห้ามไม่อยู่ซะแบบนั้น



“อ๊ะ อึก อื้ออ พ...พี่”

“อ่ะ…อ่าาาาา!”



แรงกระแทกกระทั้น ความร้อนจากแกนกายที่ถูกบีบรัดจากช่องทางอ่อนนุ่ม ลมหายใจร้อนๆที่รินรดผิวของกันและกันที่มาพร้อมๆกับนิ้วมือเรียวที่เกร็งจิกไปที่หลังในตอนที่สอดใส่ ...



อยู่ๆก็รู้สึกว่าอยากได้ยินอีกครั้ง...ในตอนนี้



วางมือลงบนเอวของมัน รับรู้ได้ถึงหน้าท้องที่หดเกร็งลงในตอนที่ผมก็ค่อยๆลูบมือลากผ่านเข้าไปในเสื้อของมันช้าๆ



“พ...พี่ ...”



“อืม ว่าไงครับ” 



โน้มหน้าลงเข้าไปใกล้ ใช้ปลายจมูกใล้ไปตามแก้มใส ริมฝีปากสีส้มอ่อนๆของมันที่ตอนนี้ก็ถูกเจ้าตัวเม้มเข้าหากันอย่างประหม่า เห็นแบบนั้นแล้วได้แต่ยกยิ้มออกมากับท่าทางของมัน  ค่อยทาบตัวลงไปบดเบียดกับส่วนกลางลำตัวของมันช้าๆอย่างจงใจ อยากจะเห็นสีหน้าที่ทำอะไรไม่ถูกของมันให้มากขึ้นอีกหน่อย เวลามันอายแล้วพึ่งรู้ว่ามันน่ารักดี โดยเฉพาะมันอายตอนที่อยู่ใต้ร่างของผม เลื่อนมือจากข้างเอวของมันมาช้าๆ ลูบใล้ขึ้นมาเบาๆที่ท้องน้อย ก่อนจะลากยาวขึ้นมาที่สะดือ ลมหายใจของมันที่สะดุดพร้อมๆกับที่ใบหน้าแดงซ่านนั้นก็เชิดขึ้นแบบห้ามไม่อยู่



“พ...”



“ว่าไง.ครับ”



“ผม... โครกกก จ๊อกๆ~~~”



ผมที่หยุดชะงักใบหน้าของตัวเองที่กำลังโน้มลงไปกดจูบที่ริมฝีปากของมันในตอนนี้ที่ไอ้เอมที่ลืมตาขึ้นมา ดวงตาใสๆของมันที่เป็นประกายวิบวับๆพร้อมรอยยิ้มแหยๆที่ส่งมาให้กัน ใบหน้าของมันขึ้นสีจัดเหมือนคนที่กำลังอาย



“เอ่อ....แหะๆ...แบบว่าผม ผม ...มันหิวข้าวอ่ะเจ๊ แบบว่าเสียงท้องมันเลยครวญครางแบบห้ามกันไม่อยู่”



มันที่บอกแบบนั้นแล้วเอามือลูบท้องตัวเองเป็นท่าทางประกอบ กูที่ได้แต่ถอนใจออกมาหนักๆแล้วได้แต่พูดว่า ‘ไอ้สัด’ อยู่ในใจเป็นร้อย ๆครั้ง ผมที่ลุกขึ้นนั่งพร้อมยกมือขยี้หัวอย่างลวกๆ ได้แต่สูดหายใจเข้าจมูกแบบข่มกลั้นอารมณ์ ไอ้สัดเอ้ย ในช่วงที่เข้าได้เข้าเข็มแบบนี้ เสียงท้องร้องมันไม่ควรมีมาหรือเปล่าวะ สัด!



แข็งจนเจ็บแต่ต้องมาหยุดเพราะเสียงโครกคราก ไอ้เอมนี่แม่งไอ้เอมจริงๆ



“แหะๆ เจ๊...หิวข้าวน่ะ”



“กูรู้แล้ว มึงไม่ต้องบอกกูก็มีหู” หันไปมองมัน ไอ้เอมที่ดันตัวลุกขึ้นมานั่งข้างๆแล้วยิ้มประจบ มือเล็กๆของมันที่เอื้อมมาจับต้นแขนของผมไว้ เอียงใบหน้าของมันเข้ามามองกันใกล้ๆอีกนิดนึง



“โมโหมากเลยหรอวะ คือเจ๊พี่มึงแสดงอาการชัดไปไหมอ่ะ คืออยากจะเย่เย้กูจริงหรอ” มันที่ถามออกมาแล้วกระพริบตาใส่กันปริบๆ



“นาบตัวลงไปหามึงขนาดนั้น จริงๆกูคงหวังซักผ้าแหล่ะหนู” บอกมันออกไปก่อนจะยกมือเสยผมลวกๆ  สัด...ค้าง!



ลุกขึ้นยืน ในตอนนั้นไอ้เอมก็รีบคว้ามือกันไว้ พอก้มลงไปมองก็เห็นเด็กมันช้อนตามอง



“เจ๊จะไปไหน คือผมไม่ได้ตั้งใจ คือ...”



“ไปทำกับข้าวให้ลูกควายกำลังโต ... ทำไมทำหน้าแบบนั้นคะหนู” ถามมันออกไปตอนที่เห็นมันทำสีหน้าแปลกๆ



“คือผมขอโทษนะเว้ย คือผม...” อ่อ สรุปรู้สึกผิดที่กูอยากเยแต่มึงดันหิวข้าว ... น่ารักว่ะแม่ง



“กูมีเวลาเอามึงตอนไหนก็ได้น่า ตอนนี้กูต้องหาอาหารขุนลูกควายให้อ้วนๆก่อน จับกินจะได้แน่นๆ”



“สัดเจ๊พี่มึงแม่ง แล้ว...”



“หื้ม?”  แล้วอะไรของมันวะ ถามแล้วก็หยุดพูดด้วย พอหันไปมองหน้ามัน ไอ้เอมก็ใช้สายตาของมันไล่ลงมาที่ ... อืม ชัดเจน



“ทำไม มึงสงสัยอะไร”



“ก็เปล่านะเว้ย ไม่ได้สงสัย เห้ย!” ผมที่ก้มตัวลงไปดึงมือของมันมาทาบลงบนแกนกายของผมผ่านกางเกงที่ใส่อยู่ ไอ้เด็กตรงหน้าที่พอมือของมันวางลงบนเป้ากางเกงของผมก็แหกปากออกมาทันที ชักมือหนีเหมือนโดนของร้อน ยังไง มึงตกใจอนาคอนด้ากูเรอะ



“ชัดยัง เข้าใจยัง กูก็ค้างนะ แต่มีเวลาเอามึงอีกเยอะจ๊ะหนู”



‘ฟอด’



บอกมันแล้วก็ก้มหน้าลงไปหอมแก้มมันแบบไม่เบา หอมแบบเน้นๆ ถ้าทำได้กูอยากให้แก้มมันหายเข้าไปในจมูกกูซะเลย หมั่นไส้ครับ



ไอ้เอมที่กำลังอ้าปากค้าง แก้มใสๆของมันที่ขึ้นสีระเรื่อ เห็นแบบนั้นเลยได้แต่ยกยิ้มมุมปากขึ้นมองมันนิดๆ ... เหมือนกับว่า พอสถานะของเราสองคนเปลี่ยนไป อาการเก้อเขินกันและกันแบบนี้ก็เลยมีให้เห็น ถ้าเป็นปกติมันคงจะเขินผมหรอกกับอิแค่หอมแก้มนิดเดียว เอากันก็เคยมาแล้วมันยังไม่เห็นจะเขินเลย



“หึ”  ยื่นมือไปขยี้หัวมันเบาๆ แล้วปล่อยให้มันนั่งเขินอยู่ตรงนั้นต่อไป ส่วนผมก็ตรงเข้าไปในครัว เลือกทำอาหารง่ายๆให้ไอ้ลูกควายมันได้รองท้อง



.

.

.



“หอม หอม หอมโว้ยยยย”



“ใจเย็นๆก่อนนะ อย่าทำน้ำลายหกใส่หม้อข้าวกู”



“ผมไม่ใช่หมาบ้านะเว้ยที่น้ำลายจะไหลตลอดอ่ะ”



“รู้...เพราะมึงไม่เหมือนหมา มึงเหมือนควายน้อยของกูไง” ไอ้พี่มันที่หันมาจากหน้าเตาแก๊สพร้อมกับจานไก่ทอดแบบเกาหลีแล้วว่าออกมาแบบนั้น ขยิบตาให้กันด้วยหนึ่งที กวนตีนกูจังเลยครับ



“เดี๋ยวเอาเขาทิ่มแม่งเลย ชอบว่ากันว่ะ” บ่นออกไปแบบนั้นแล้วมองค้อนมันทีนึง พี่มันที่ก็ทำแค่อมยิ้มนิดๆ ดวงตาคมคู่นั้นที่มองกันนิ่งๆ สายตาวาววับแปลกๆของมันที่ทำให้ผมรู้สึกเขินที่หน้าแปลกๆจนต้องเสหน้าหนี



“ก็มึงน่ารักทำไมล่ะ กูเลยชอบแกล้ง” พี่มันที่เดินออกมาจากในครัว เดินผ่านหน้าของผมไปพร้อมๆกับเอื้อมมือมาหยิกแก้มกันเบาๆหนึ่งที เงยหน้ามองหน้ามันในตอนนี้ที่อีกคนก็แค่ยกยิ้มมุมปาก แล้วก็เดินผิวปากผ่านหน้าผมไปแบบหน้าตาเฉย



ไอ้สาดดดดด มันเอาเรื่องจังวะเจ้พี่มึง!



“มา มาแดกอะไรรองท้องก่อน”



“ทำไมต้องรองท้องวะ ผมอยากกินเยอะๆอิ่มๆเลยไม่ได้หรือไงอ่ะ”



“จะพาออกไปหาอะไรกินอย่างอื่นที่ข้างนอกด้วย ทำไม มึงจะไม่ไปหรอวะ”



“ไปๆๆ ไปดิ” พอได้ยินมันบอกแบบนั้น กูก็พยักหน้าระรัวเลยครับ อยากออกไปเที่ยวเหมือนกัน ไม่รู้หรอกว่าอิเจ๊พี่มันจะพาไปไหน แต่ถ้าไปกับมันแล้วล่ะก็ จะที่ไหนผมก็อยากไป ... โดยเฉพาะในตอนนี้ ตอนที่สถานะของเราสองคนไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป



“อื้มมมม อาหย่อยยย”



“เคี้ยวให้หมดก่อนสิวะ เลอะเทอะไปหมดมึงเนี่ย”  มันที่ทำตาดุใส่ตอนที่ผมเคี้ยวปีกไก่เข้าปากแต่ก็พูดออกมาด้วย มันที่ยื่นมือเข้ามาหาก่อนจะเช็ดที่มุมปากออกให้ ร้อนหน้าดังฉู่ฉ่า หน้าไหม้เหมือนกระทะร้อนๆในตอนนี้เลยครับ



“ไม่ต้องคาดหวังว่ากูจะเอานิ้วเข้าปากนะ มีแต่ในละครเท่านั้นล่ะบอกก่อนเลย เผื่อมึงกำลังหวัง”



“โว้ย ใครมันจะคิดอะไรแบบนั้นวะ” เบ้ปากใส่ไอ้คนที่พูดออกมาแบบนั้น กวนตีนกันไม่หยุดอีกแล้วครับ จ้องหน้ามันที่ตอนนี้ก็มองกันมานิ่งๆแบบไม่ละสายตา มันที่ยกยิ้มมุมปากนิดๆแล้วมองหน้าผมอยู่แบบนั้น



“เจ๊....”



“ว่าไง”



“ทำไมเจ๊ถึงเล่าเรื่องพาพวยให้ผมฟัง เรื่องของเค้า อดีตของเค้า” ถามเรื่องที่คาใจออกไป จริงพี่มันจะไม่พูดก็ได้ แต่มันก็พูดออกมา เรื่องในอดีตร้ายแรงของคนที่มันเคยรัก เล่าให้ผมฟัง ผมที่เป็นคนอื่น มันจะดีหรอวะ



“กูไว้ใจมึง ว่ามึงจะไม่เอาเรื่องของพายไปพูดต่อ ส่วนอีกข้อที่ทำให้กูเล่า ก็เพราะกูแคร์มึง” พี่มันที่จ้องหน้าผมแล้วเอื้อมมือไปหยิบชิ้นปีกไก่อีกชิ้นวางลงในจานให้กัน



“แคร์...แคร์ผมหรอวะ?”



“ถ้ามึงไม่รู้เรื่องจริงๆทั้งหมด มึงก็จะไม่หยุดสงสัย ไม่หยุดคิดมาก และก็จะไม่เข้าใจ กูเข้าใจว่าชีวิตคู่ของหลายๆคนก็ไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องของกันทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องในอดีตที่บางทีก็ไม่น่าให้รู้ แต่สำหรับกู ถ้ากูเลือกจะมีมึงในชีวิต กูจะไม่ปิดบังมึง แม้ว่านั่นจะเป็นเรื่องของคนอื่น แต่หนึ่งในเรื่องของคนอื่น หนึ่งส่วนในนั้นเป็นเรื่องของกูที่ทำให้มึงกังวล เพราะแบบนั้นกูเลยเลือกที่จะเล่าให้ฟัง อาจจะดูไม่ดีเท่าไหร่ที่เอาเรื่องพายมาพูดแบบนี้ แต่เพราะว่ามึงไม่ใช่คนอื่นสำหรับกู กูเลยเลือกจะเล่าให้ฟัง”



“เจ๊...ขอบคุณนะครับ ขอบคุณที่เล่าให้ผมฟัง” อยู่ๆผมก็รู้สึกดีจนอยากร้องไห้ขึ้นมาซะแบบนั้น กับคำพูดที่บอกว่าผมไม่ใช่คนอื่นสำหรับมัน



“กูดูทำเพื่อพายเยอะเลยใช่ไหมล่ะ” มันที่ถามออกมา ผมที่กำลังยกไก่ขึ้นมากัดก็ชะงักในตอนนี้ จ้องมองหน้าหล่อๆตาคมๆที่ในแววตาตอนนี้ไม่ได้ดูเศร้าอะไรที่ต้องพูดถึงเรื่องของพระพาย คนที่เค้าเคยรักมากๆคนนั้น



“อืม ก็ ก็คงใช่...ก็เจ๊เปลี่ยนเป็นตุ๊ดเพื่อเค้า ถึงจะไม่ใช่เหตุผลทั้งหมดก็ตาม แต่ว่า...เค้าก็คงสำคัญมากๆ”



“อืม แต่จำไว้ กูสัญญาว่าต่อจากนี้ต่อไป สำหรับกูแล้ว มึงจะเป็นเรื่องสำคัญที่สุดต่อจากนี้ ไม่ใช่เค้า”



“เจ๊ อย่าสัญญาออกมาเลยว่ะ” ผมบอกออกไปแบบนั้น ก่อนจะก้มหน้าลงมามองปีกไก่ที่อยู่ในจาน จริงๆตอนนี้มันก็ดีมากๆอยู่แล้ว ผมก็แค่อยากจะให้มันดีแบบนี้ต่อๆไป โดยที่ไม่ต้องมีคำสัญญาใดๆมาผูกมัด”



“คำสัญญา ถ้าพอวันนึงเกิดทำมันไม่ได้ขึ้นมา คนที่เสียใจที่สุดก็คือคนที่ยังจำมันอยู่ และคนๆนั้นก็คงจะไม่ใช่ใครนอกจากผมเอง” เงยหน้าขึ้นมาแล้วบอกมันออกไป อีกคนที่ก็จ้องหน้ากันมานิ่งๆ ผ่านไปหลายนาทีที่เราไม่ได้พูดอะไรกันออกมา สุดท้ายก็เป็นพี่มันที่ถอนหายใจหนักๆก่อนจะเอื้อมมือมาจับกันเอาไว้



“กูไม่รู้ว่าอาจจะเคยมีใครรักษาสัญญากับมึงไม่ได้ แต่คนๆนั้นจะไม่ใช่กู มึงไม่ต้องเชื่อ แต่ต่อจากนี้ทุกวันกูจะทำมันให้ดี มาเริ่มกันใหม่นะเอม เริ่มไปในทุกๆวันด้วยกันนะมึง”



เลื่อนสายตามองลงไปที่ฝ่ามือของผม นิ้วมือเรียวยาวทั้งห้าของคนตรงหน้าที่ค่อยๆสอดประสานเข้ากับนิ้วมือของผม เราทั้งคู่ที่กุมมือกันช้าๆ เป็นความรู้สึกอบอุ่นจากฝ่ามือที่ตรงขึ้นมาถึงหัวใจ ผมไม่ได้พูดตอบอะไรออกไป ทำแค่กระชับฝ่ามือให้แน่นขึ้นไปอีกก็แค่นั้น



‘แชะ’



“ทำอะไรอ่ะเจ๊”



“อัพไอจี”



“อัพรูปที่เราจับมือกันเนี่ยนะ” 



“อื้ม สวยไหม กูใส่ฟิลเตอร์ฟรุ้งฟริ้งด้วยนะ น่ารักแบบสุดๆ” ว่าแบบนั้นแล้วยื่นหน้าจอมาให้ดู ในภาพเป็นรูปโทนอุ่นๆสีออกไปทางน้ำตาลอมส้มเหมือนถ่ายอยู่ในคาเฟ่น่ารักๆ ทั้งๆที่จริงๆเราก็แค่นั่งกินข้าวกันอยู่ในห้องของมัน ไม่รู้มันใช้ฟิลเตอร์อะไร ผมไม่ค่อยสันทัดเรื่องแบบนี้เท่าไหร่ แต่จากในภาพก็ดูแล้วอบอุ่นดี พร้อมแคปชั่นที่มันเขียนเอาไว้ว่า ‘กรี๊ดๆๆ มีเมียแล้วค่ะอิดอกกกก~’



“หนู”



“หื้ม?”



“มือมึงสากมาก เดี๋ยววันนี้กูพาไปซื้อแฮนด์ครีมมาทามือนะ จะได้นุ่มๆอ่ะเนอะ” บอกแบบนั้นพร้อมรอยยิ้มสดใสและขยิบตามาให้กันอีกหนึ่งที



ได้แต่พูดกับตัวเองในใจว่า สักฝุ่นไหมสาดดดดด~~



เดี๋ยวก่อน กูจะเอาลิปในห้องมึงมาหักเล่น ชอบล้อกู!






“เห้ยๆ ใจเย็นเว้ยไอ้เสือ กระดกเอาๆเลยนะมึง”



“มึงอย่าพูดคำว่าเสือ กูชื่อเก้อ!”



“เอ้า เป็นKอะไรล่ะพ่อหนุ่ม พูดชื่อเด็กมึงก็ไม่ได้หรอวะ ฮ่าๆ”  ไอ้จั๋นที่หัวเราะออกมาแต่ยังไม่เลิกกวนตีนกัน



“สรุปไอ้น้องเสือไรนั่นเด็กมึงจริงๆหรอวะ” ไอ้แมทที่นั่งอยู่ข้างๆกันก็ถามออกมาอีกครั้งอย่างคนอยากเสือก ดูหน้าก็รูว่าอยากเสือกมากๆ



“มึงถามทำไม” ผมที่ไม่ตอบแต่เลือกจะถามมันออกไป ไอ้แมทก็ทำแค่ยักไหล่เหมือนไม่มีอะไร



“กูก็แค่สงสัย เห็นไอ้จั๋นเที่ยวไปโพทนาที่มหาลัยว่าน้องเสือไรนั่นเป็นแฟนมึง”



“เอ้า ก็มันบอกให้กูกระจ่ายข่าว กูก็ทำหน้าที่กู กูทำถูกใช่ป่ะวะเพื่อนเก้อ” ไอ้จั๋นที่ยิ้มออกมาเหมือนเป็นเรื่องสนุก มันที่ถามผมจบก็ยกแก้วขึ้นกระดกอีกอึกหน้าตาเฉย



“ทำไมพวกมึงถึงบอกว่ามันเป็นเด็กเสี่ย” 



เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมคาใจ แต่ที่แน่ๆมันใจมากว่ามันไม่ได้เป็นเด็กเสี่ยที่ไหนหรอก ถ้าบอกว่ามันเป็นเสี่ยน่ะไม่แน่ เอะอ่ะหาเรื่องไปเอาสาวไปเรื่อย แล้วพอคิดมาถึงตรงนี้กูก็หงุดหงิดใจไม่ได้ทุกที ... แล้วนี่มันก็ไล่ผมออกมาจากห้องมันตั้งแต่เที่ยง จนตอนนี้โทรไปแม่งก็ไม่รับสาย



“แม่ง!” คิดมาถึงตรงนี้ก็อดจะสบถออกมาแบบไม่สบอารมณ์ไม่ได้ แม่ง หลบหน้ากู



“เอ้า หงุดหงิดอะไรของมึงวะ what's wrong with you man?” ไอ้แมทที่ทำหน้างงๆแล้วถามผมแบบนั้น มันหันไปหาไอ้จั๋นแบบขอความช่วยเหลือ แต่ไอ้จั๋นก็ทำแค่ยักไหล่แบบไม่เข้าใจผมเหมือนกัน ...



พวกมึงไม่ต้องมาทำงงไม่เข้าใจกู ขนาดกูยังไม่เข้าใจตัวเองเลยสัด



“แล้วที่กูถามเมื่อไหร่พวกมึงจะตอบ”



“กูก็ไม่รู้ไรมากหรอก ก็แค่ได้ยินเค้าพูดต่อๆมา”



“พูดว่ามันเป็นเด็กเสี่ยอ่ะนะ”



“อืม ก็พวกที่แบบชอบหาเด็กไซด์ไลน์ในม.กูมันพูดๆกัน มึงก็รู้ใช่ไหมล่ะว่าแบบเราๆแม่งมีกรุ๊ปไลน์แบบนี้อยู่แล้ว มันเคยพูดกันว่าอยากได้เด็กนี่ แต่เหมือนได้ยากเพราะมีเสี่ยเลี้ยง” ไอ้จั๋นว่าแบบนั้น ก่อนจะขยับตัวหนีออกจากผม



“กูเพื่อนมึงนะสัด กูแค่เล่าตามที่ได้ยินมา แต่กูก็ไม่ได้สนใจไรมาก”



“สัด! กับคำพูดไม่กี่คำของคนอื่นที่ส่งต่อๆกันมา คนแม่งก็เสือกเชื่อไปหมดแล้วหรอวะ ทั้งๆที่ไม่ได้รู้อะไรเลย” หงุดหงิดขึ้นมาเลย เพราะผมรู้ดีว่าไอ้เสือมันไม่ได้เป็นแบบนั้น กูมั่นใจมากๆ



“สรุปน้องมันไม่ใช่แบบนั้น”



“เออ ไม่ใช่ มันเป็นแฟนกู”



“คือมึงจะบอกว่าน้องมันเป็นแฟนมึง คือมึงได้มันคนแรกเลยงี้หรอวะ” ไอ้แมทที่ขมวดคิ้วถามกัน และในตอนนั้นกูก็รู้สึกหงุดหงิดส้นตีนแปลกๆ ทั้งๆที่ปกติพวกเราก็แชร์เรื่องราวของคู่นอนให้กันรู้แบบไม่ปิดบัง แต่สำหรับไอ้เสือ ผมไม่ชอบที่จะได้ยินใครถามถึงเรื่องบนเตียงระหว่างผมกับมัน



“กูไม่พูดเรื่องบนเตียงของกูกับแฟน”



“เชี่ย มึงซีเรียสหรอวะ So sorryมึง ปกติเห็นมึงพูดได้” ไอ้แมทว่าแบบนั้น มันที่รีบยกมือขึ้นตบไหล่ผมเบาๆแบบขอโทษ



“มึงเปลี่ยนไปจนกูตั้งตัวไม่ทันเลยเพื่อน”



“มึงแม่งไม่เข้าใจไงไอ้แมท ลองมึงเจอคนที่มึงรักจริงๆดูดิ แล้วมึงจะรู้ว่าเราไม่อยากให้ใครรู้เรื่องแบบนี้ของแฟนเราหรอกว่ะ” ไอ้จั๋นที่บอกออกมาแบบนั้นแล้วยกยิ้มให้ผม



คำพูดของมันที่ดูจะเข้าใจดี แต่ติดตรงที่ กูไม่เห็นจะเข้าใจอะไรเลย กูไม่ได้รักไอ้เสือสักหน่อย ก็แค่ไม่อยากจะพูดถึงเรื่องบนเตียงของกูกับมันเฉยๆแค่นั้นเองไหมวะ



‘ตื่อดึง’



[[หยี: กรี๊ดดดดดดดดดดด น้องเอมลูกแม่ มึงคบกับพี่ดาบแล้วหรอคะ ประกาศขนาดนี้อ่ะลูกกกกก]]



ขอความที่เด้งขึ้นมาในไลน์ในตอนนี้ทำให้ผมชะงักค้าง ความรู้สึกเหมือนมีสายฟ้าฟาดลงมาที่หัวแบบไม่ทันตั้งตัว ได้แต่บอกตัวเองซ้ำๆว่า ‘ไม่จริง’



“ไม่จริง!”





--------------To be continued--------------

หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่28 {25/04/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 25-04-2020 22:09:49
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่28 {25/04/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 25-04-2020 23:18:26
กำลังจะเลือดโชกกกก มาหิวอารายตอนนี้ลูกกกกก
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่28 {25/04/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 26-04-2020 03:09:14
ขอหยิกพุงน้องเอมที ทำไมมาร้องเอาตอนกำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็มงี้.   :katai1:

อิพี่เก้อก็ไม่หายสับสนซักที  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่28 {25/04/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 26-04-2020 19:30:33
เอาละสิ น่าจะวุ่นวายน่าดู,,,
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่28 {25/04/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Chucream.nabi ที่ 26-04-2020 23:37:05
 :fire: :angry2: มึงเอาไงว่ามาเก้อ....ลังเลนะมึงอะ
 จะเอาน้องเสือของฉันเป็นแฟน
ทำไมมึงยังหวงเกินเพื่อนกะอิหนูเอมอีก :z6: :z6:
สักทีมั้ยห่ะ :beat: :beat: :beat:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่28 {25/04/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 27-04-2020 09:10:36
เป็นแฟนกันแล้ว
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่28 {25/04/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: LifePo-YuGu ที่ 27-04-2020 10:09:36
รอวันที่น้องเอมโดนเสียบนะจ้ะ  :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่28 {25/04/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Nighttime ที่ 28-04-2020 00:20:56
กรี้ดดดเจ้ดานี่มีเมียแล้ววว
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่29 {02/05/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 02-05-2020 20:51:44
บทที่29



“มึงอยากกินอะไร”



“จริงๆ ผมก็ยังอิ่มอยู่เลยนะ”



ผมหันไปหาคนข้างตัวที่ตอนนี้กำลังถอยรถเข้าซองจอดในลานจอดรถของห้างใหญ่ใจกลางเมือง ห้างที่ผมไม่ค่อยได้มาเท่าไหร่ จำได้ว่าเคยมาครั้งนึงตอนวันเกิดไอ้หยีเมื่อปีก่อน เป็นห้างดังที่มีเสื้อผ้าแบรนด์ดังและสินค้าแพงๆ ขายอยู่เยอะไปหมด



“ถ้าอิ่มก็ยังไม่ต้องแดกละกัน” พี่มันหันมามองหน้ากันแล้วยกยิ้มมุมปากนิดๆ ส่งมาให้กัน



“แล้วพามาห้างทำไมอ่ะถ้างั้น”



“มาห้างนี่ต้องมาแดกอย่างเดียวหรอหนู มาเดินเล่นสวยๆ มาซื้อของทำไรก็ได้ไหมวะ” มันที่บอกออกมาแบบนั้นแล้วเข้าเกียร์ที่ตัวPก่อนจะดับเครื่องยนต์เป็นที่เรียบร้อย



“พี่มึงไม่สวย”



“กูรู้น่า กูแค่เปรียบเปรยไหม หวาดระแวงเหี้ยไรนักล่ะกับความสวยของกูอ่ะ” หันมาบอกผมพร้อมมองแรงใส่ แกล้งจิกตามองผมเล็กๆ จริงๆ ผมรู้ว่าก็เป็นท่าทางที่มันทำอยู่คือตั้งใจจะกวนตีนกันก็แค่นั้นครับ เราสองคนที่เดินเข้าไปในห้าง ไปแบบไม่มีจุดหมายอะไรนักก็แค่คนนึงอยากมากับอีกคน และอีกคนก็แค่อยากพามาก็แค่นั้น



ปกติผมไม่ค่อยได้มาห้างแบบนี้เท่าไหร่ เพราะเมื่อก่อนทุกๆ วันตอนเย็นจะต้องรีบกลับบ้านไปเตรียมตัวทำงานในช่วงกลางคืน เลยไม่ค่อยมีเวลามาทำเรื่องแบบนี้ แต่ไอ้หยีกับไอ้เก้อมาเดินบ่อย หยีมาช็อปปิ้งเพราะบ้านมันรวย ส่วนไอ้เก้อชอบพาสาวมาเปย์ซื้อนู่นนี่นั่นครับ



“มึงอย่าล่อกแลกมากจะได้ไหมวะหนู เป็นอะไรชะเง้อมองอะไรนัก”



“ก็กูตื่นเต้นไหมอ่ะเจ๊พี่มึง อันนั้นคือร้านอะไรวะ อยากไปดูอ่ะ ใช่ร้านขนมที่มาจากญี่ปุ่นที่ไอ้หยีบอกหรือเปล่าวะ”



“ใจเย็นๆ เดี๋ยวกูพาไป มึงมานี่” มันที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วก็คว้ามือของผมไปจับไว้ ในตอนนั้นที่ผมก็ชะงักขาของตัวเองที่กำลังลุกลี้ลุกลนอยากจะเดินไปดูอะไรต่อมิอะไรที่เมื่อก่อนเพื่อนๆ ชอบพูดถึง ได้แต่หันไปมองหน้าคนที่สอดนิ้วเข้ามากุมมือผมอยู่ตอนนี้



“เจ๊...”



“หื้ม?”



“จับมือผมแบบนี้...ไม่เป็นไรหรอวะ” หันไปถามอีกคนในตอนที่พี่มันก็มองมาพอดี สายตาคมที่วันนี้มันไม่ได้กรีดอายไลน์เนอร์และไม่ได้ทาอายแชโดว์เหมือนทุกวันที่ชอบทำ มันยิ่งทำให้ดวงตาคู่นั้นทั้งคมทั้งดุแต่กลับยิ่งมีสเสน่ห์มากกว่าทุกวัน



อยู่ๆ หัวใจของผมก็สั่น รู้สึกร้อนๆ หน้าจนต้องเสหน้าหนี และในตอนนี้พี่มันก็ขยับฝ่ามือ บีบกระชับฝ่ามือที่สอดเข้ากับนิ้วมือทั้งห้าของผมให้แน่นขึ้นไปอีก



“ทำไมต้องเป็นไรวะ มึงเป็นแฟนกู ทำไมกูจะจับมือกับมึงไม่ได้วะ”



“แต่มันกลางห้าง แล้วผู้ชายสองคนจับมือกันแบบนี้...”



“มึงอายหรอที่จับมือกับกู”



“เปล่า ผมเปล่านะเว้ย แต่ผมแค่กลัวว่าเจ๊...” เงยหน้าขึ้นไปตอบมันทันทีตอนที่ได้ยินมันถามแบบนั้น แบบผมหรอวะจะอาย พี่มันไม่มีอะไรน่าอายสักหน่อย ถ้าเป็นผมที่แต่งตัวด้วยกางเกงยีนส์เก่าๆ กับเสื้อยืดสีดำธรรมดาๆ อยู่ตอนนี้สิถึงจะหน้าอาย



“ถ้ากลัวกูจะอายก็หยุดคิดซะ กูไม่อาย กูจับมือแฟนกูทำไมกูต้องอายด้วย ... กูอยากจับมือมึงแบบนี้ ในสถานะแบบนี้มานานแล้ว กูไม่อายหรอกเอม” จ้องเข้าไปในดวงตาคมลึกของมันตอนที่อีกฝ่ายพูดจบประโยค อยู่ๆ ผมก็รู้สึกเหมือนหัวใจของผมถูกเติมเต็ม ผู้ชายตรงหน้าที่ทำในทุกๆ เรื่องให้เป็นเรื่องง่าย หรือถ้าพูดง่ายๆ ก็คือ ในทุกๆ ครั้งที่ผมอยู่กับเจ๊พี่มัน ไม่ว่าเรื่องอะไรจะยากมากแค่ไหน ทุกๆ อย่างมันก็จะกลายเป็นง่ายเสมอ...แค่มีมัน



“อื้ม” ได้แต่พยักหน้าลงช้าๆ และเงยหน้าขึ้นตอบรับอีกฝ่ายออกไป เจ๊พี่มันที่ก็ยกยิ้มมุมปากขึ้นมาก่อนจะดึงมือผมให้เดินไปด้วยกัน ... และสุดท้ายเราสองคนก็มาหยุดยืนอยู่ชั้นบนสุดของห้าง และกำลังเงยหน้ามองรอบหนัง



“เจ๊พี่มึงอยากดูหนังหรอ”



“มึงไม่อยากหรอ”



“ก็เปล่า ผมดูได้หมดแหล่ะ” ใช่ ดูได้หมดแหล่ะ ถ้าดูกับมึงอ่ะ ได้แต่ต่อประโยคนี้อยู่ในใจ เพราะถ้าพูดไปอิเจ๊พี่มันต้องทำหน้ากรุ้มกริ่มแล้วล้อกูไปจนลูกบวชแน่ๆ ... อะ กูมีลูกไม่ได้นี่หว่า แบบนั้นแม่งต้องล้อกูไปจนถึงวันตายแน่ๆ เลย



“อืม งั้นดี มึงว่าเรื่องนั้นรอบนั้นเป็นไง รอบบ่ายสามโมงครึ่ง ยังมีเวลาอีกชั่วโมง เราไปเดินเล่นก่อนค่อยกลับมา” มันชี้มือขึ้นไปให้ผมมองตามรอบหนังตรงหน้า และสุดท้ายเราก็ได้ตั๋วหนังมาอยู่ในมือ



“มึงเอาตั๋วหนังมานี่ก่อนสิหนู”



“อะ” ยื่นไปให้มันทั้งสองใบเลยครับ อีกคนที่ก็แค่ยื่นมือมาจับอีกมุมนึงของตั๋ว และตัวผมที่ก็จับอยู่อีกมุมนึง ได้แต่มองแบบไม่เข้าใจ กำลังจะอ้าปากถามออกไป แต่อีกฝ่ายก็ทำแค่หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายภาพนั้นซะก่อน เห็นมันถ่ายลงไอจีอีกแล้ว



“ถ่ายทำไมวะเจ๊”



“เก็บเป็นเรื่องราวดีๆ ของกันและกันไงวะ” บอกออกมาแบบนั้นแล้วเลิกสนใจตั๋วหนังในมือของผม พี่มันที่ก้มลงไปยิ้มกับภาพในมือถือ กดๆ จิ้มๆ อยู่นิดหน่อยก่อนจะหันมามองผม



“ทำไม”



“ไอจีมึงชื่ออะไร กูจะแท็ค กูจะฟลอมึงด้วย” บอกออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง ผมยิ้มตอบก่อนจะส่ายหน้า



“จะแท็คผมทำไม”



“กูแท็คแฟนกู มึงจะทำไม” ถามออกมาแบบหาเรื่อง อีกนิดกูจะนึกว่ามึงจะท้ากูต่อยแล้วนะอิพี่แด็ปโดโรที



“ไม่ทำไมหรอกครับพี่ครับ ผมแค่ไม่มีไอจีอ่ะ” บอกออกไปตามตรง แต่อีกคนก็ขมวดคิ้วใส่กัน ทำหน้าตาเหมือนไม่เชื่อ



“ไม่ได้หลอก เจ๊พี่มึงดูมือถือกูก่อนครับ” หยิบมือถือออกมาจากในกระเป๋ากางเกงแล้วยื่นให้มันดู อีกคนที่ยืนมองมือถือผมพร้อมขมวดคิ้วแน่นๆ



“นี่ก้อนวัตถุโบราณจากนอกโลกหรอหนู มึงขโมยเศษจานUFOของมนุษย์ต่างดาวมาหรือเปล่า สารภาพบาปกับกูมา”



“สัด เจ๊แม่งบูลลี่มือถือกูอ่ะ” กูนี่ชักมือถือกลับมาเก็บใส่กระเป๋ากางเกงเลย อีกคนที่เห็นผมทำแบบนั้นก็หัวเราะขำออกมาเหมือนสะใจมากๆ มันแค่ยกมือขึ้นยีหัวผมเบาๆ แต่ก็ไม่ว่าอะไรต่อ



“ผมว่าหนังฝรั่งเรื่องนี้มันต้องยิงกันทั้งเรื่องแน่ๆ เลยว่ะ” พูดออกไปตอนที่พวกเราลงบันไดเลื่อนมาที่ชั้นสามเพื่อเดินหาอะไรกินเล่นๆ กับของที่อิเจ๊พี่มันอยากจะซื้อกลับห้อง ก่อนหน้านี้มันบ่นว่าอยากได้ครีมทาผิวครับ



“มึงไม่อยากดูเรื่องนี้หรือเปล่าหนู งั้นทิ้งแล้วไปซื้อเรื่องใหม่กัน”



“มึงบ้าเปล่าเจ๊ เปลืองเงิน”



“ทำไม กูรวย” อะ เป็นผู้ชายนิสัยรวยอ่ะเนาะ แต่ถึงแบบนั้นผมก็ไม่ชอบนะ



“มึงรวยแล้วเงินมึงหมดไม่เป็นหรอวะ เศรษฐกิจแบบนี้มึงต้องยิ่งรู้จักประหยัดดิวะ อย่าทำนิสัยแบบนี้สิ แล้วอีกอย่างผมก็ดูได้ ผมแค่พูดถึงเฉยๆ เอง” บอกออกไปแบบนั้นแล้วจ้องหน้ามันแบบจริงจัง ผมไม่อยากให้มันใช้เงินทิ้งๆ ขว้างๆ แบบนี้ โดยเฉพาะใช้เงินกับผม



“อย่ามองหน้ากูเหมือนเวลาเมียโมโหที่ผัวเอาเงินไปซื้อของไร้สาระแบบนี้สิวะ เออๆ กูรู้แล้วน่า จะไม่ใช้เงินทิ้งๆ ขว้างๆ หรอก...กูก็แค่”



“ก็แค่อะไร...”



“ก็แค่อยากให้เดทแรกของเราในวันแรกที่เราเป็นแฟนกันมันดีที่สุดกับใจมึงก็แค่นั้น”



ฉ่าาาา รู้สึกร้อนๆ ที่ข้างแก้ม



ใช่ครับ เสียงแก้มกูเอง แก้มไหม้เลยไหมล่ะตัวกู เขินแบบหนักๆ เขินจนต้องแอบจิกตีนในร้องเท้าผ้าใบที่ใส่อยู่



“ไอ้เอมคะ”



“อ...อะไรวะเจ๊”



“แก้มแดงว่ะ เป็นแบบนี้คือมึงเขินกู ดูออก” อีกคนที่เลื่อนหน้าเข้ามากระซิบลงข้างๆ หูของผมแล้วว่าออกมาแบบนั้น ลมหายใจร้อนๆ ที่รดอยู่ที่ข้างแก้มทำให้หน้าของผมยิ่งร้อนเข้าไปอีก ไอ้บ้าเอ้ย หยุดแดงเลยนะไอ้แก้มเฮงซวยเอ้ย



“กูอยากกินเค้กร้านนั้นว่ะ ไปดูก่อนนะ” บอกมันแบบนั้นโดยที่ผมไม่ยอมหันไปมองหน้า ทำแค่ก้าวยาวๆ สาวเท้าเดินหนีมันออกมา



“เขินแล้วหนี ดูออกนะคะๆ”



“เรื่องของมึงเลยโว้ย”



“ฮ่าๆๆ” ผมที่เดินห่างออกมา ได้ยินเสียงหัวเราะดังๆ ของมันดังไล่ตามหลังมา แม่ง...เป็นโรคจิตหรอวะ ชอบล้อกันอยู่ได้ กับอิแค่แก้มแดง แดงก็เพราะเขินมึงนี่แหล่ะสาดดดด คนบ้าไรวะชอบทำให้ใจเต้นอยู่เรื่อย ไอ้ใจนี่แม่งก็ไม่เคยรักดี ไม่รักดีเลยสักอย่างทั้งแก้มทั้งใจ แต่สุดท้ายก็น่าจะใช่ .... กูรักมัน



“ยังไง ไหนอยากกินอะไร” พี่มันที่เดินยิ้มหน้าบานตามมาถึงตัวผมในที่สุด วงแขนแกร่งที่เอื้อมมาพาดลงบนไหล่ของผม พร้อมๆ กับที่เจ้าตัวมันก็ยื่นหน้ามองเข้าไปเค้กในตู้กระจกที่ผมยืนมองอยู่ก่อน เป็นร้านฟาร์มที่มีทั้งเค้กและน้ำปั่น



“เจ๊...”



“หื้ม อยากกินชิ้นไหนหรอ กูว่าสตอร์เบอรี่ชิ้นนั้นก็ดีนะ น่ารักเหมาะกับเราสุดๆ” พูดออกมาแบบนั้นพร้อมขยิบตาให้กันอีกหนึ่งที ผมยิ้มออกมานิดๆ ก่อนจะหันหน้าไปหามัน



“หื้ม มองหน้ากูทำไมหนู”



“เจ๊พี่มึงไม่ต้องพยายามทำให้เดทแรกของเราดีที่สุดหรอกนะ ไม่ต้องพยายามอะไรเลย เพราะว่าแค่มีพี่มึงอยู่กับผม แค่นี้มันก็เป็นอะไรที่ดีที่สุดมากพออยู่แล้ว”



“เอมครับ มึงแม่งน่ารักจังเลยว่ะ”



อืม ลาก่อนนะ ตายไปเลยไอ้ชะเอม อย่าเหลือร่างไว้ให้อิเจ๊พี่มันจู่โจมหัวใจได้อีกล่ะ



.

.

.



“มึงหนาวหรือเปล่า”



“ไม่นะ หนังผมทนแดดทนฝนทนร้อนทนหนาว แค่นี้สบายๆ น่า”



“โอเค คิดว่าใช่เหมือนกันเพราะผิวมึงหยาบมาก ดูดิโดนแขนกูแล้วเจ็บเลย เดี๋ยวคืนนี้กลับบ้านไป กูจะเอาครีมทาผิวอาบมึงเองนะ” ไอ้คนข้างตัวที่เอียงหน้าเข้ามาใกล้กระซิบบอกแบบนั้นแล้วพยักหน้าแบบแข็งขันเห็นด้วยกับคำพูดของตัวเอง ผมได้แต่เบ้หน้า รู้สึกอยากเอื้อมมือไปต่อยมันแรงๆ สักที และใช่ กูทุบแขนล่ำๆ ตรงกล้ามแม่งเลยหนึ่งที



“โอ้ย กูเจ็บนะหนู”



“ชอบว่ากูนัก” บอกออกไปแบบนั้นแล้วละสายตามามองที่หน้าจอที่ตอนนี้กำลังฉายเทลเลอร์หนังเรื่องต่างๆ ที่มีแพลนจะเข้าโรงในเดือนต่อๆ ไปแทน เบื่อจะพูดกับเจ๊พี่มันแล้วครับ ... แต่ถึงแบบนั้นความรู้สึกแปลกๆ ตรงแขนของตัวเองก็ทำให้อดไม่ได้ที่ต้องหันกลับไปมองอย่างหงุดหงิดอีกรอบเพราะรู้สึกถูกกวน



“อะไรอีกเล่า จะดูไหมหนังเนี่ย”



“ดู แต่มันยังไม่ฉายเลยนี่หว่า คนก็น้อยด้วย” ก็มึงพากูมาดูหนังนอกกระแส คนจะเยอะได้ไงล่ะกูอยากจะถาม



“แล้วทำไม เอามือออกจากแขนผมสักทีสิวะ” เลื่อนสายตาไปมองที่แขนข้างซ้ายของตัวเองที่กำลังถูกฝ่ามือแกร่งลูบขึ้นลูบลงเล่นอยู่แบบนั้น



“บอกว่าผิวผมสากก็อย่ามาลูบสิวะ”



“มันงอนๆ มันเป็นงอนๆ อ่ะเนอะ”



“ใครงอนวะ ผมไม่...อื้ออ” ริมฝีปากของผมที่ถูกประกบลงด้วยริมฝีปากของอีกฝ่าย พี่มันที่จูบผมเบาๆ และใช้ลิ้นร้อนของมันคลอเคลียไปบนริมฝีปากของผมช้าๆ ฝ่ามือหนาของอีกคนที่เริ่มเคลื่อนไหวช้าๆ จากแขนของผมที่ก่อนหน้านี้มันก็ลูบอยู่ก่อนแล้ว เลื่อนเบาๆ มาจนถึงปลายนิ้ว ก่อนจะเลื่อนลงมาแตะกันที่ข้างเอวของผม และค่อยๆ สอดมือเข้าจากทางชายเสื้อฝ่ามือแกร่งทีดึงตัวผมเข้าไปกอดไว้ และก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่แสงไฟทั้งโรงก็ค่อยๆ มืดลงในที่สุด หนังตรงหน้าที่กำลังเริ่มฉาย แต่ทั้งผมและอิเจ๊พี่มันก็ไม่มีใครสนใจจดจ่ออยู่กับเนื้อเรื่องตรงหน้าในตอนนี้แล้ว มือเย็นๆ จากอุณหภูมิของแอร์ที่ลูบเข้ามาด้านใน เลื่อนขึ้นมาที่สีข้าง ลูบไล้เบาๆ พร้อมๆ กันกับที่เราก็จูบกันอย่างดูดดื่มมากขึ้นไปอีก ลิ้นร้อนชื้นที่สอดเข้ามาในโพรงปากของผม ดูดดุนเบาๆ เข้ากับปลายลิ้นอย่างหยอกล้อ พร้อมๆ กับที่ฝ่ามือของมันที่ก็เลื่อนขึ้นมาด้านบน ปลายนิ้วเรียวยาวที่ค่อยๆ คีบ บีบคลึงลงไปที่หัวนมของผมช้าจนต้องสะดุ้ง ทั้งขนลุกทั้งตกใจ



" อ๊ะ..อื้ออ เจ๊ " ส่งเสียงลอดไรฟันไปแบบเข้มๆ ตั้งใจจะเตือนให้มันรู้ว่ากูไม่พอใจนะ จะตีแสกหน้ามึงนะ แต่อีกฝ่ายที่ก็ทำแค่ละจูบออกมามองหน้ากันตรงๆ ก่อนจะยกยิ้มให้กันอย่างไร้ความรู้สึกผิดใดๆ ที่ลวนลามผมกลางโรงหนัง ได้แต่หันซ้ายหันขวาว่ามีใครเห็นกูไหม โชคดีไปที่ตรงแถวที่นั่งของพวกเราไม่มีใครอยู่เลย



“คนเยอะแยะ เจ๊แม่ง”



“งั้นถ้ากลับบ้านไปก็ได้สินะ คนน้อยดี แบบสองต่อสองเลยนะ เนื้อแนบเนื้อได้เลยเนอะ” พี่มันที่บอกแบบนั้นพร้อมๆ กับสอดมือเข้ามาจับมือของผมไปกุมไว้ แล้วพูดขึ้นมาเบาๆ อีกหนึ่งที



“ผิวที่แขนมึงอาจจะสาก หึ... แต่ผิวที่ตัวมึงนุ่มมากเลยนะ กูทดสอบดูแล้วกับมือเมื่อกี้นี้ นิ่มสู้มือกูมากๆ เลย”



ผมที่ไม่ได้หันไปพูดอะไรกับพี่มันอีก เพราะขนาดแค่หางตายังมองเห็นเลยว่าอีกฝ่ายยิ้มร้ายๆ ใส่กันแบบมีแผนในใจมากแค่ไหน รู้สึกหนาววาบไปทั้งตัวเลยในตอนนี้ และสุดท้ายเสียงของเราทั้งคู่ก็เงียบลงและได้เวลาตั้งใจดูหนังกันจริงๆ สักที ...



และถึงแม้ว่าผมจะดูไม่รู้เรื่องเพราะมัวแต่นึกถึงสัมผัสที่ยังคงรู้สึกเหมือนว่ามือของมันยังวางจับอยู่ที่หัวนมกันอยู่ก็ตาม





...


10 PM.



“ไอ้สัด! ไม่จริง”



“Hey Bro…มึงเป็นอะไรอีกเพื่อน โมโหเชี่ยไรมึงอีกเนี่ย” ไอ้แมทที่มองหน้าผมแบบงงๆ มันที่มองผมแล้วสลับไปมองไอ้จั๋นแบบสงสัย แต่แน่นอนว่ามันทั้งคู่ต้องไม่เข้าใจอยู่แล้วว่าผมเป็นอะไร



“กูไม่เป็นไร กูขอกลับก่อน” บอกพวกมันออกไปแบบนั้น ก่อนจะวางแบงค์พันลงบนโต๊ะแล้วลุกขึ้นออกมาจากโต๊ะเลยในทันที ไอ้จั๋นที่พยายามบอกว่าไม่ต้องจ่ายแต่ผมก็ไม่สนใจ แค่เงินไม่เท่าไหร่ มันเทียบไม่ได้กับความรู้สึกของผมในตอนนี้ หัวใจของผมในตอนนี้ ประโยคของไอ้หยีก่อนหน้านี้คืออะไร ข้อความในไลน์ที่มีความหมายว่า ไอ้เอมคบกับไอ้ตุ๊ดปลอมแม่งคืออะไรวะ



มันไปคบกันได้ยังไง เมื่อไหร่ ตอนนี้



คำถามมากมายพวกนี้ที่หลั่งไหลเข้ามาในหัวของผม มีแต่คำถามพวกนี้แค่นั้นที่ผมอยากจะได้คำตอบ เพราะแบบนั้นเลยกดเข้าไปในไลน์และพิมพ์ข้อความลงไปแบบที่ใจคิด



[[TGer: คบอะไร คบได้ยังไงวะ!] ]



ผมที่ก้าวขายาวๆ ไปที่ลานจอดรถพร้อมๆ กับก้มมองมือถือไปด้วย ขึ้นข้อความว่าถูกอ่านแล้วหนึ่งคน ในห้องแชทของเรามีแค่สามคน คือผม ไอ้เอม และไอ้หยี มันต้องเป็นใครสักคนในสองคนนี้ที่อ่านแล้วไม่ตอบข้อความผม ยิ่งเป็นแบบนี้ความรู้สึกโกรธมันก็เกาะกินใจของผมจนรู้สึกร้อนไปหมดทั้งตัว



“แม่ง!”



[[TGer: ตอบดิวะ! อ่านแล้วเงียบทำKอะไรกัน!] ]



[[TGer: ใครอ่านกู!] ]



[[หยี: กูเอง มึงจะทำไม] ]



เป็นไอ้หยีที่ตอบกลับออกมาแบบนั้น ผมได้แต่ถอนหายใจออกมาหนักๆ ตอนที่ได้รับคำตอบ อย่างน้อยๆ ก็ไม่ใช่ไอ้เอม จริงๆ แล้วไอ้หยีมันอาจจะเข้าใจผิดไปเองก็ได้ ... ผมที่ยังคงหอบความหวังเล็กๆ เอาไว้ในใจ ก็แค่ความหวังเล็กๆ เหมือนที่เคยหวังมาตลอด



[[TGer: มึงบอกว่าไอ้เอมคบกับไอ้ตุ๊ดปลอมนั่น มึงเอามาจากไหน] ]



[[หยี: มึงเรียกพี่ดาบเค้าให้ดีๆ หน่อยดิวะ นั่นมันแฟนเพื่อนเรานะ] ]



[ [TGer: แฟนเหี้ยไรมึงอย่ามามั่วนะไอ้หยี] ]



พิมพ์ข้อความตอบกลับไปทั้งๆ ที่รู้สึกฉุนขาด มันที่เอาแต่พิมพ์ตอบกลับมาว่าไอ้ตุ๊ดปลอมนั่นเป็นแฟนไอ้เอมยิ่งทำให้ผมรู้สึกโมโห แฟนเหี้ยอะไร ไม่จริงหรอกไอ้สัด



[[หยี: กูไม่ได้โง่ค่ะอิสัด กูมีหูมีตา ไม่ได้มีแต่เขาเหมือนมึง] ]



[[TGer: ไอ้หยีมึงอย่ากวนโมโหกู มึงอย่ามามั่ว] ]



[[หยี: กูไม่ได้มั่ว งั้นมึงเชิญดูนี่จ้า] ]



มันที่ตอบกลับผมมาแบบนั้น พร้อมแนบลิ้งค์จากอินสตาร์แกรมมาให้กันด้วย ผมไม่รอช้าก็จิ้มกดตามเข้าไป และภาพตรงหน้าที่เห็นก็คือไอจีของคนที่ใช้ชื่อว่า ‘dani_dorothy’ กับภาพมือสองมือที่จับกันจากบนโต๊ะ พร้อมใช้แคปชั่นที่ว่า ‘กรี๊ดๆๆ มีเมียแล้วค่ะอิดอกกกก~’ ผมกดออกแล้วเปิดหน้าไอจีของมันอีก มีภาพที่ถูกเพิ่มขึ้นมาใหม่เมื่อหลายชั่วโมงก่อน เป็นภาพตั๋วหนังสองใบ พร้อมแคปชั่นใต้ภาพว่า ‘ดูหนังกับแฟนค่ะสังคม’



“สัด!” สบถออกมาแบบนั้นกับแคปชั่นของมันที่เริ่มจะทนไม่ไหว สัด ไอ้ตุ๊ดปลอม และสุดท้าย ด้วยใจไม่รักดีของผมเองก็กดเข้าไปดูรูปสุดท้าย รูปล่าสุดที่เหมือนจะพึ่งถูกอัพโหลดลงเมื่อประมาณครั้งชม.ก่อน ... ภาพของใบหน้าน่ารักที่กำลังนอนหลับ ขนตาเรียวยาวที่ถูกปิดสนิทลง และถูกผ้าห่มคลุมทับจนถึงคอ เป็นภาพของไอ้เอม เป็นไอ้เอมจริงๆ ข้อความใต้ภาพที่ทำให้ผมต้องปามือถือทิ้งในตอนนี้



‘ตุบ’



“สัด! ไอ้สัด!!”



ข้อความที่เขียนว่า ‘ขอโทษที่ทำให้เหนื่อยนะครับ นอนพักเยอะๆ นะควายน้อยของพี่ ...แต่ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ นะว่าเวลาแฟนเหนื่อย แม่งโคตรน่ารักเลยว่ะ’



ข้อความที่ดูไม่มีอะไร แต่อธิบายความสัมพันธ์ทุกอย่างของคนทั้งคู่ได้หมดว่ามันถึงไหน และไอ้เอมที่ไม่ได้เข้ามาตอบข้อความของกลุ่มเรานั่นก็น่าจะเป็นคำตอบที่ดังที่สุด คำตอบดังๆ ที่ผมไม่อยากได้ยิน



“ทำไมวะ ไม่ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ทำไมกูต้องช้ากว่าคนอื่นทุกทีเลยวะ!” ได้แต่กำมือแน่นๆ อยากระบายโดยการต่อยกำแพงแรงๆ ความรู้สึกตื้อๆ ตันๆ กระแทกใจจนบอกไม่ถูก ผมที่เฝ้ารอไอ้เอมมาตลอด แต่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ไม่เคยทันใครสักที ทำไมแม่งต้องเป็นแบบนี้วะ



“โว้ย!” ร้องออกมาแบบนั้นแล้วทรุดตัวลงนั่งข้างๆ รถของตัวเอง ... มึงช้าอีกแล้ว ไอ้เก้อมึงช้าอีกแล้ว



ผมได้แต่แค่นยิ้มหยันให้ตัวเอง ไม่ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ผมก็ไม่เคยไปอยู่ในสายตาไอ้เอมเลยจริงๆ แค่อยากรู้ว่าทำไม ทำไมกันวะ แล้วเสียงๆ นึงอยู่ๆ มันก็ดังเข้ามาในหัว กับคำพูดของมันที่เหมือนจะกระแทกเข้าไปในใจของผมอีกครั้งในวันนี้



‘ถ้ามึงเข้าใจเขามากที่สุด แล้วทำไมมึงไม่เข้าใจว่าเขาไม่ชอบมึงวะ’



นั่นสิ...ทำไมกูถึงไม่เข้าใจ ว่าจริงๆ แล้วเอมแม่งไม่ได้รักกูเลยแบบที่ไอ้เสือมันว่าจริงๆ



“อาอย่ามาตามผมได้ไหมวะ!”



“ก็แล้วทำไมจะตามไม่ได้ กลับบ้านไปกับอา”



“นี่มันเรื่องของผม อาต่างหากที่อย่ามายุ่งกับผม กลับไปหาครอบครัวของอา เราต่างคนต่างไปสักทีสิวะ!”



“ก็อารักเสือ!”



“หยุดพูดเห็นแก่ตัวแบบนี้ได้ไหมวะ คนรักกันเค้าไม่ทำแบบอาหรอก เหี้ยว่ะ! โอ้ย ปล่อยสิวะ เจ็บนะโว้ย!” เสียงของคนสองคนที่ดังไปทั่วลานจอดรถ จริงๆ ไม่ได้อยากสนใจอะไร เพราะตอนนี้ผมกำลังเจ็บ เจ็บกับความจริงที่ตีแสกหน้าว่าไอ้เอมไม่มีทางเป็นของผมอีกแล้ว ... มันไปคบกับไอ้ตุ๊ดปลอมนั่นแล้ว



“ปล่อยผมนะโว้ยอาหนึ่ง!”



“อาไม่ปล่อย เสือต้องกลับไปกับอา”



แต่เพราะเสียงสองเสียงนี้มันคุ้นเหลือเกิน รวมถึงชื่อนั่นก็ด้วย .... “ไอ้เสือ”



เพราะแบบนั้นผมเลยต้องลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้าไปดู และก็เป็นจริงแบบที่คิด เป็นไอ้เสือจริงๆ มันที่กำลังถูกผู้ชายคนนึงที่อายุน่าจะประมาณสามสิบต้นๆ รูปร่างภูมิฐานดูมีฐานะ เพราะไอ้เสือกำลังถูกมันยัดเข้าไปในรถBMWรุ่นใหม่อยู่ตอนนี้



“เห้ย! ทำอะไรวะ” ตะโกนออกไปแบบนั้น ไอ้เสือที่ถูกยัดเข้าไปในรถหันหน้ามาเห็นผม หน้าตาของมันที่กำลังเหมือนอยากจะร้องไห้ ข้อมือของมันที่ถูกจับไว้แดงไปหมด มองจากตรงนี้ยังเห็นเพราะมันเป็นคนขาว



“ไม่มีอะไร ผมจะพาแฟนผมกลับบ้าน” ผู้ชายคนนั้นว่าออกมาแบบนั้นอย่างสุภาพ คนที่ไอ้เสือเรียกมันว่าอา



“ผมไม่ใช่แฟนอา! ปล่อยนะเว้ย”



“นั่นสิ เค้าไม่น่าใช่แฟนคุณ ปล่อยมันลงมา” ผมที่สาวเท้ายาวๆ เข้าไปหา เห็นไอ้เสือที่พยายามจะลงมาจากรถ แต่ถูกผู้ชายคนนั้นขวางมันไว้ก่อน



“เค้าเมามากแล้ว เราทะเลาะกันนิดหน่อย เค้างอนผมก็เลยพูดออกไปแบบนั้น ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมจะพาแฟนกลับบ้าน” เค้าหันมาบอกผมแบบนั้น แต่นั่นยิ่งทำให้ผมต้องขมวดคิ้วเข้าหากัน ... ไม่เคยได้ยินว่าไอ้เสือมันมีแฟน มึงเป็นใครมาสวมรอยวะ



“ผมว่าคุณตอแหลแล้วล่ะ ไอ้นี่มันไม่มีทางเป็นแฟนคุณ” ผมว่าออกไปแบบนั้น และผู้ชายตรงหน้าที่เริ่มจะหงุดหงิดเพราะผมเซ้าซี้ไม่เลิก



“คุณจะไปรู้อะไร”



“แล้วจะไม่รู้อะไรได้ไงวะ ก็ไอ้ที่มึงลากขึ้นรถไปน่ะมันเมียกู!”



พูดออกไปแบบนั้นแล้วจ้องตามันนิ่งๆ มองเห็นไอ้เสือที่ทำหน้าตกใจเหมือนเห็นผีอยู่ข้างหลังไอ้ผู้ชายคนนี้ ... กูพูดผิดหรอวะ ถึงจะแค่คืนเดียวก็เถอะ



สัด! วันนี้แม่งวันอะไรถึงมีแต่เรื่องให้กูหงุดหงิด ... กูที่กำลังเสียใจ และตอนนี้กูก็พร้อมจะถีบยอดหน้าไอ้หล่อนี่มากๆ ด้วย



“ปล่อยไอ้เสือลงมา!”



...


(มีต่อจ้า)
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่29 {02/05/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 02-05-2020 20:52:19
‘คลิ๊ก’



เสียงปิดประตูห้องที่ทำให้ผมต้องหันไปมอง เป็นอิเจ๊พี่มันที่เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพที่ผมต้องเบิกตากว้างๆ เพราะไม่เคยเห็นมันในสภาพนี้มาก่อน คนร่างสูงที่พันแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวอย่างหมิ่นเหม่อยู่ที่เอวต่ำๆ เพราะแบบนั้นเลยมองเห็นหน้าท้องที่มีซิคแพคและกล้ามท้องตัววีที่ต่ำลงมา โชคดีที่ว่ามีผ้าพันเอาไว้ ได้แต่เผลอกลืนน้ำลายก่อนจะหันหน้าหนี



“หันหนีกูทำไมคะหนู มาทาผิว”



“เจ๊พี่มึงก็ไปแต่งตัวดีๆ สิวะ”



“กูสะดวกแบบนี้” มันที่ตอบผมออกมาแล้วเดินตรงเข้ามาหากัน พอหันไปก็เห็นอีกฝ่ายอยู่ใกล้กันแล้ว กลืนน้ำลายลงคอไปทีนึง ก่อนจะเด้งตัวหนีไปอีกฝั่งของเตียงนอนทันที



“ผม ผม...ผมหิวน้ำมากๆ เลยว่ะ ฮ่าๆ ขอออกไปกินก่อนนะ” หันไปบอกอีกคนที่ยืนอยู่อีกฝั่งของเตียงนอนด้วยรอยยิ้มกว้างๆ กว้างแบบบางทีกูก็คิดว่ากูยิ้มกว้างไป เป็นรอยยิ้มตอแหลที่ใครๆ ก็ดูออกว่าไม่เนียน ... แต่แล้วไงอ่ะ ไอ้เอมหน้าด้านพอ กูไม่สนหรอก กูจะหนี!



‘หมับ’



“หิวอะไร มึงพึ่งกินมา” ฝ่ามืแกร่งที่ตรงมาคว้าข้อมือของผมเอาไว้ได้ก่อนและดึงตัวผมให้เข้าไปหา อีกแค่นิดเดียว แค่นิดเดียวเท่านั้นกูก็จะไปถึงประตูแล้วแท้ๆ ไอ้เอม มึงแม่งขาสั้นไอ้สัด!



“จ...เจ๊”



“เจ๊อะไร ทำไมไม่เรียกพี่ดาบล่ะ” คนตรงหน้าที่โน้มหน้าเข้ามาหาผม พร้อมๆ กับวงแขนแข็งแกร่งที่โอบเข้าที่เอว มือของอีกฝ่ายที่วางลงบนสะโพกของกันจนรู้สึกใจสั่นไปหมด



“ถ้าเอมไม่พร้อมพี่จะไม่บังคับหรอก ... อยากให้ครั้งนี้ของเรา เป็นเรื่องที่เราพอใจ อยากทำ และรู้ตัว” พี่มันที่เอื้อมมือมาจับปลายคางของผมให้ช้อนขึ้นไปจ้องตากับมันตรงๆ



“อยากให้เอมรู้ไว้ว่าความสัมพันธ์ของเรามันคือเรื่องจริง มันจะไม่เหมือนครั้งก่อนๆ ที่ผ่านมาอีกนะ และไม่อยากให้เอมคิดว่าที่มาคบกันก็เพราะเรื่องเซ็กอย่างเดียวด้วย ถ้าเอมไม่อยากให้ทำ พี่ก็รอได้” พูดจบแค่นั้นแล้วโน้มหน้าลงมาหอมแก้มผมเบาๆ เป็นการกระทำแผ่วๆ ที่เน้นย้ำไปถึงใจของผม ผมที่ได้แต่ก้มหน้าลง ไม่ยอมสบตากับพี่มันอีก สายตาของมันที่กำลังบอกผมว่ามันพูดจริงๆ ผมที่เงียบเสียงลงแล้วไม่ยอมตอบอะไรมันกลับไป จนสุดท้ายอิเจ๊พี่มันก็ผละตัวออกพร้อมวางฝ่ามือใหญ่ลงมาที่หัวของผมเบาๆ



“เดี๋ยวไปแต่งตัวก่อน แล้วเดียวจะมาทาผิวให้นะ”



‘หมับ’



“พี่...”



“หื้ม ว่าไง” อีกคนที่ตอบผมกลับมา พร้อมๆ กับหันหน้ามามองผมแบบไม่เข้าใจเพราะผมคว้าต้นแขนของมันไว้ ถ้าจะพูดจริงๆ เรียกว่าตะครุบจะเหมาะกว่า ผมได้แต่ช้อนตาไปมองตาคมนั่นแบบไม่มั่นใจ เม้มปากน้อยๆ ก่อนที่สุดท้ายจะยอมพูดออกไป



“พี่...อย่าไป”



“ไม่อยากให้ไปหรอ” สายตาคมของพี่มันที่กำลังมองมาที่ผมตอนนี้ เป็นสายตาที่เหมือนกับว่าจะเคล้นเอาคำตอบจากผมคให้ได้ อีกคนที่ขยับเท้าเดินกลับเข้ามาใกล้ พร้อมก้มหน้าลงมาชิดจนผมต้องเงยหน้าขึ้นไปมองตอบ



“ว่าไงครับ เอมไม่อยากให้พี่ไปหรอ”



“อืม เอมไม่อยากให้พี่ดาบไป เอม...เอมพร้อมนะ” พูดออกมาแบบนั้นด้วยเสียงเบาๆ และในนาทีต่อมา คนตรงหน้าของผมก็ยิ้มออกมา เป็นรอยยิ้มที่ยิ้มทั้งหูทั้งตาแบบคนมีความสุขที่ปิดไม่มิดเลยจริงๆ



ร่างกายของผมที่ถูกทิ้งตัวลงกลางเตียงนอน เสื้อผ้าชุดนอนของผมที่ถูกถอดออกไปให้พ้นตัวอย่างรีบร้อน และในไม่กี่วินาทีต่อมาเสื้อผ้าของผมก็ถูกโยนทิ้งขว้างออกไปอย่างไม่ใยดีด้วยฝีมือของคนบนร่าง ผมที่ช้อนตามองจ้องตากับคนตรงหน้าที่ก็สบตาผมแบบไม่ละสายตาหนี ก่อนที่อีกฝ่ายจะโน้มหน้าลงมากดจูบที่ข้างแก้มกันอีกหนึ่งทีแบบเน้นๆ



“มึงน่ารัก”



พูดจบแบบนั้นแล้วแนบริมฝีปากลงมาประกบจูบกัน ลิ้นของเราที่พัวพันกันอยู่ในโพรงปากแบบไม่มีใครยอมใคร เพราะว่ามันไม่ใช่จูบครั้งแรกของกันและกัน และเพราะแบบนั้นเลยเลื่อนมือขึ้นไปวางอยู่ที่หลังศีรษะของมัน สอดแทรกนิ้วของผมเข้ากับกลุ่มผมสีสว่างของมันอย่างร้อนแรง เสียงหอบหายใจครางกระเซ่าดังขึ้นเป็นระรอกในทุกๆ ครั้งที่ปลายจมูกโด่งไล้จูบไปตามลำคอ หัวไหล่ และไล่มาจนถึงยอดอก



“อึก อ๊ะ...” ได้แต่ร้องออกมาแบบนั้นพร้อมๆ กับที่ก็เด้งหน้าอกขึ้นไปตอนที่อีกฝ่ายครอบริมฝีปากลงบนหัวนมของผม ปลายลิ้นนุ่มๆ ที่เลียดุนดันกับยอดอกจนรู้สึกเสียวซ่านไปทั้งตัวจนต้องละมือลงมาจิกเข้ากับผ้าปูที่นอน มือซ้ายของพี่มันที่ก็ไม่ปล่อยว่างเลื่อนมือผ่านหน้าท้อง ลูบมืออย่างอ้อยอิ่งที่สะดือทำเอาผมหายใจกระตุก ช้อนตาขึ้นไปมองคนตรงหน้าที่กำลังยิ้มกริ่มอยู่ในตอนนี้



“เจ๊...”



“พี่ดาบสิน้องเอม” มันที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วเลื่อนฝ่ามือลงไปที่แกนกายของผม เลื่อนมือรูดรั้งให้แข็งขืนอย่างหยอกล้อ



เพราะมึงเป็นแบบนี้....ตอนนี้กูเลยไม่อยากจะเรียกพี่ดาบยังไงล่ะวะ เรียกดาบให้เอาดาบมาเสียบกูหรอ ...และใช่ ดูท่าแล้วน่าจะเสียบกูให้ตายในเวลาต่อมา! เพราะฝ่ามือหนาที่ละออกจากแกนกายของผมก็เลื่อนผ่านไปที่ช่องทางด้านหลัง พร้อมๆ กับที่เจ้าตัวเลื่อนริมฝีปากจูบไล้แผ่วๆ ตามลงมาที่หน้าท้อง สะดือและท้องน้อยจนผมหดเกร็งไปหมด พี่มันที่ละตัวออกไปก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดลิ้นชักที่หัวเตียง ก่อนจะดึงขวดเจลหล่อลื่นออกมา ...เดี๋ยวนะ



“ซื้อไว้วันนี้ตอนมึงไปเข้าห้องน้ำ” ตอบออกมาเหมือนอ่านสีหน้าผมออก นี่มึง....นี่มึงเตรียมพร้อมจะได้กูมากเลยนะอิพี่แด็ป!



“อ๊ะ อึก....อื้ออ” นิ้วเรียวยาวที่ถูกสอดเข้ามาในร่างของผม เป็นความรู้สึกเจ็บแม้ว่านี่จะไม่ใช่ครั้งแรกของเรา แต่หลังจากครั้งสุดท้าย มันก็ผ่านมานานหลายเดือนแล้ว ทุกส่วนของผมหดเกร็ง พอเป็นแบบนั้นอีกฝ่ายเลยโน้มหน้าลงมากดจูบกันเบาๆ ก่อนจะกดย้ำเข้าที่จุดในช่องทางด้านหลังของที่ทำให้ต้องอ้าปากร้องออกมาดังอย่างห้ามไม่อยู่ รู้สึกเสียวซ่านจนสมองเบลอไปหมด



“อ๊ะ พี่ด...พี่ดาบ อื้ออ” ร้องออกไปแบบนั้นเพราะรู้สึกทรมานไปหมด เสียวจนต้องจิกเท้าและกำมือเข้ากับผ้าปูที่นอนแน่นๆ แล้วร้องครางออกมาแบบลืมอาย ลืมตามองคนตรงหน้าที่ต้องยอมรับว่ามันเก่งมาก มึงไม่ใช่จริงๆ ด้วยเจ๊ มึงมันตุ๊ดปลอมจริงๆ ด้วย!



“น้องเอมไม่ไหวแล้วใช่ไหมน้า” มึงไม่ต้องมาทำเสียงเล็กเสียงน้อย ฮื่ออ แม่ มันล้อเอม อิเจ๊พี่ดาบมันแกล้งเอม! ... อยากจะร้องด่าออกไปแบบดังๆ แต่สิ่งที่ทำได้มีแค่เสียงครางกระเซ่ากับสายตาเชื่อมๆ ที่กำลังร้องขออีกฝ่าย พี่มันที่เห็นแบบนั้นก็ยกยิ้มออกมาพร้อมๆ กับหัวเราะอยู่ในลำคอแบบมีความสุข นี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นมันยิ้มกว้างๆ แบบนี้



กำลังจะเอากู มีความสุขมาสินะๆ!



ฝ่ามือแกร่งที่เลื่อนมือไปกระตุกผ้าขนหนูที่ใส่อยู่ ก่อนจะโยนมันทิ้งไปที่ข้างเตียงแบบไม่ใยดี และในตอนนั้นผมเองก็ต้องเบิกตากว้างขึ้นมองส่วนที่ขยายตัวอยู่ตรงหน้าของผมในตอนนี้ ได้แต่กัดปากตัวเองแน่นๆ ...



“เคยเจอมาแล้วตกใจอะไรคะ” ถามกันแบบนั้นแล้วโน้มตัวไปหยิบถุงยางจากลิ้นชักเดิมมาใส่ เตรียมมาพร้อมซ้อมจะมาเอากูแบบเป๊ะๆ ดูออก



“เริ่มล่ะน้า” ร้องออกมาแบบนั้นพร้อมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ มึงไม่ต้องมาทำเหมือนให้เตรียมตัว เพราะใช่ ไม่ได้ให้กูเตรียมตัวอะไร พี่มันที่พูดประโยคนั้นจบก็ดันส่วนหัวเข้ามาในทันทีแบบไม่ให้กูทำใจ



“อึก อื้อออ”



“น้องเอม อย่าเกร็ง” บอกแบบนั้นพร้อมๆ กับเลื่อนหน้ามาจูบกันที่ข้างแก้ม ผมที่ได้แต่เชิดหน้าขึ้นไปมองเพดาน เป็นความรู้สึกทั้งเจ็บทั้งจุกจนร้องแทบไม่ออก ... ครั้งก่อนๆ กูผ่านมาแบบไม่ตายได้ยังไงหรออยากรู้



พี่มันที่ค่อยๆ สอดแกนกายเข้ามาจนสุดแบบช้าๆ และไม่เร่งรีบ ริมฝีปากที่ก็คอยกดจูบไปตามข้างแก้ม ลำคอ และหัวนมของผมไปพร้อมๆ กัน สะโพกแกร่งที่ค่อยๆ ขยับเข้าออกช้าๆ เหมือนพยายามให้ผมคุ้นชินแบบไม่เร่งรีบ ...เป็นการเอาใจใส่กับการมีอะไรกันต่างจากทุกครั้งจริงๆ ... และเพราะแบบนี้ หัวใจของผมอยู่ๆ ก็รู้สึกอิ่มฟูขึ้นมาแบบพูดไม่ออก



การมีเซ็กแบบแค่ทำให้มันผ่านๆ ไป กับการมีเซ็กกันระหว่างคนรักมันต่างกันมากจริงๆ



“อ๊ะ อื้ออ” ผมที่ร้องออกมาแบบนั้นอีกครั้งในตอนที่อีกฝ่ายค่อยๆ สอดใส่เข้ามาแบบเพิ่มแรงและจังหวะเข้ามาแบบเน้นๆ ในตอนที่พี่มันเห็นว่าผมเริ่มคุ้นชิน สะโพกแกร่งที่กระแทกกระทั้นเข้ามาจนผมต้องกัดริมฝีปาก ปรือตามองหน้าคนบนร่างที่ลูบฝ่ามือไปที่ขาของผม ก่อนที่เจ้าตัวจะยกขาของผมพาดลงไปที่บ่าแกร่ง ดึงเอวของผมให้ชิดเข้าหาลำตัวของพี่มันมากขึ้นแล้วสอดใส่เข้ามาแบบเน้นๆ และรัวเร็วมากขึ้นกว่าเดิม เป็นจังหวะที่ทำเอาตัวผมยกคลอนแบบห้ามไม่อยู่



“อ๊ะ อ๊ะ พี่ดาบ แรง...แรงไปนะ”



“เอมเสียวหรอเปล่า หื้ม” ถามผมแบบนั้นด้วยเสียงแหบพร่า เป็นเสียงที่บอกได้แค่ว่าเซ็กซี่จนผมต้องหน้าแดง



“อ๊ะๆ อื้ออ”



“เอมครับ ว่าไง ...”



“อึก อ๊ะ พี่ดาบ อย่าแกล้ง” ได้แต่ยกมือขึ้นปิดหน้าตัวเองในตอนที่สายตาคมจ้องมองกันแล้วถามผมแบบนั้นไม่หยุด แกนกายใหญ่ของมันที่สอดเข้าออกแบบหนักหน่วงตามจังหวะที่เจ้าตัวพอใจ รู้สึกเสียวจนช่องทางด้านหลังต้องบีบถี่ๆ



“เอมครับ ตอบหน่อย อึก”



“พี่ดาบ อ๊ะ เอมเสียว เอม...”



“หึ น่ารักจังวะเอม”



พี่มันที่ว่าแบบนั้นแล้วจัดการซอยสะโพกให้เร็วขึ้นไปอีก ตัวของผมที่ขยับไปตามแรงสอดใส่ของมัน ทั้งรุนแรงทั้งเสียวซ่าน อีกฝ่ายที่ดึงขาของผมให้อ้าออกกว้างขึ้น ก่อนเพิ่มความเร็วให้มากขึ้น รู้สึกเหมือนลมหายใจขาดห้วง ช้อนตามองหน้าพี่มันที่จับขาของผมให้กว้างออก สายตาของคมแวววาวของอีกฝ่ายที่จ้องมาที่ผมอย่างพอใจ เหงื่อของมันที่เริ่มออกมาขึ้นเกาะไปตามหน้าท้องแกร่ง เลื่อนขึ้นไปมองที่ใบหน้าชื้นเหงื่อแบบนั้น และพี่มันที่ก็ยกยิ้มมุมปากส่งมาให้ก่อนจะยกมือขึ้นเสยผมไปด้านหลังในตอนนี้ ... เป็นภาพที่เคยเห็นบ่อยๆ เวลามาอีกฝ่ายหงุดหงิด แต่ไม่เคยรู้เลยว่า เวลาแบบนี้พอได้เห็นมันทำแล้วใจผมจะกระตุกขนาดนี้



หล่อฉิบหาย หล่อแบบวัวตายควายล้มตึงไปหมด ... เอาเลยดาบ เอาให้ตายกันไปเลยนะ



“พี่ดาบ เอม...เอมจะเสร็จ อ๊ะๆ อื้ม อ๊ะ”



“พร้อมกันนะครับ” เลื่อนหน้ามาพูดข้างหูก่อนจะกดจูบไปที่ใบหูของผม เสียงหอบหายใจของกันและกันที่ดังไปทั่วทั้งห้องนอน ผมที่หลับตาแน่นแล้วอ้าของออกกว้างมากขึ้นในตอนที่พี่มันก็กระแทกกระทั้นเข้ามาแบบเน้นๆ ในทุกจังหวะ



“อ๊ะ อ๊ะ อ๊า..อื้อ”



“อึก อา...ซี๊ดดด”



ร่างกายของผมกระตุกถี่ๆ พร้อมๆ กับที่ปลดปล่อยออกมาเลอะที่หน้าท้องของตัวเอง และอีกฝ่ายที่ก็ฉีดพุ่งน้ำรักเข้ามาในช่องทางด้านหลังของผมพร้อมๆ กัน ช่องทางด้านหลังของผมที่กระตุกถี่ๆ บีบรัดแกนกายแกร่งบีบเค้นเอาน้ำรักทุกหยาดหยุดของอีกฝ่ายที่ทะลักออกมา โชคดีที่ใส่ถุงยาง ไม่งั้นคงลำบากผมน่าดู



ได้แต่หอบหายใจถี่ๆ รินรดกันและกันอยู่แบบนั้น พี่มันที่กอดตัวของผมไว้แน่นๆ ก่อนจะโน้มหน้าลงมากดจูบลงที่ข้างแก้ม หน้าผาก และริมฝีปากของผมเบาๆ อีกครั้ง การกระทำที่ทำให้ผมต้องยิ้มออกมาแม้ว่าจะกำลังหลับตาหอบหายใจแบบเหนื่อยๆ ก็ตาม รับรู้ได้ถึงมันที่ค่อยๆ ถอนแกนกายออกไปช้าๆ เป็นความรู้สึกวูบโหวงแบบแปลกๆ พี่มันที่ถอดถุงยางออกแล้วล้มตัวลงมากอดตัวผมเอาไปแนบอก รู้สึกเหนื่อยจนอยากจะหลับลงไปในตอนนี้ แต่ถึงแบบนั้น ประโยคสุดท้ายก่อนผมจะหลับลงไปก็ยังได้ยินชัด...



ชัดไปถึงหัวใจของผม



“พี่รักเอมนะ”



“อื้ม....เอมก็รักพี่ดาบ”




ตอบกลับออกไปแบบนั้นเบาๆ พยายามลืมตาขึ้นมองภาพเบลอๆ ตรงหน้าที่มองเห็นหน้าคนตรงหน้าจางๆ ภาพสุดท้ายก็ยังคงเป็นรอยยิ้มของพี่มัน รอยยิ้มมีความสุขที่ส่งมาให้ผม พร้อมๆ กับเสียงแชะที่ผมไม่เข้าใจว่าคือเสียงอะไร......แต่ถึงแบบนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าความสุขที่แท้จริง มันเป็นแบบนี้นี่เอง





--------------To be continued--------------



มาแล้วค่ะสังคมมมม ยังมีใครอ่านอยู่ไหมมมม

ตอนที่แล้วคนอ่านน้อยลงจนใจหาย อาจจะไม่สนุกมาก แต่แคทยังตั้งใจเหมือนเดิมนะคะ

คนอ่านน้อยมากจนตอนนี้เหลือแต่ผีในห้องที่อ่านแล้วจ้า



แคท: เศร้ามากๆ ไม่มีคนอ่านเลย

ผีในห้องแคท: เขียนต่อสิย๊ะ ฉันอ่านอยู่!



ฝากแฮชแทค #สวยๆเป็นผัว ในทวิตเตอร์ด้วยนะคะ


ขอขอบคุณคนอ่านจากเล้าเป็ดที่ยังอยู่ด้วยกันนะคะ

:pig4: :pig4: :pig4:
   :mew1: ขอบคุณนะคะ มาอ่านอีกน้าาา


กำลังจะเลือดโชกกกก มาหิวอารายตอนนี้ลูกกกกก
  น้องเป็นเด็กกำลังโต ฮ่าาาา มันเลยจะหิวๆสักนิดนึง แต่ว่า ... ตอนนี้แคทจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังนะคะ :hao6:


ขอหยิกพุงน้องเอมที ทำไมมาร้องเอาตอนกำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็มงี้.   :katai1:

อิพี่เก้อก็ไม่หายสับสนซักที  :เฮ้อ:
  อย่าหยิกพุงน้องน้าาา น้องเป็นคนกินเก่ง ยังไม่ได้กินมันเลยร้องๆนิดนึง 5555
แต่ตอนนี้แคทจะไม่ทำให้ผิดหวังค่ะ จัดไปปปปป  :heaven


เอาละสิ น่าจะวุ่นวายน่าดู,,,


:fire: :angry2: มึงเอาไงว่ามาเก้อ....ลังเลนะมึงอะ
 จะเอาน้องเสือของฉันเป็นแฟน
ทำไมมึงยังหวงเกินเพื่อนกะอิหนูเอมอีก :z6: :z6:
สักทีมั้ยห่ะ :beat: :beat: :beat:
  ในทางพี่เก้อน้านนนน อยากจะเล่าให้คนอ่านฟังมากๆค่ะ แต่คิดว่า รอด่าพี่แกเองจะดีกว่า ฮ่าา


เป็นแฟนกันแล้ว
  ในที่สุดนะคะ เจ๊แกประกาศเต็มที่ไปเล้ยยยย


รอวันที่น้องเอมโดนเสียบนะจ้ะ  :hao6: :hao6:
งั้นต้องมาจัดตอนนี้แล้วนะคะ อิอิ  :hao6:



กรี้ดดดเจ้ดานี่มีเมียแล้ววว
  เป็นเมียจริงๆแล้วในตอนนี้ อั๊ย :hao5:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่29 {02/05/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 02-05-2020 23:42:35
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: คู่เอกผ่านไปด้วยดี

ปูเสื่อรอมาม่าจากพี่เก้อ+นุ้งเสือ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่29 {02/05/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 02-05-2020 23:49:06
อร๊ายยยยยยยยย  ลูกชายคะ.....ปรบมือค่ 


รัวๆๆๆๆๆ   ดีใจด้วยนะหนู


 :mc4: :z1: :m25:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่29 {02/05/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Chucream.nabi ที่ 03-05-2020 00:21:32
เอมกะอิเจ๊มันมีความสุขกันละ :hao7:
 :m16: เก้อแกมาดูแลน้องเสือของฉันดีๆเลยนะ
อย่าให้ต้องลงไม้ลงมือนะ o18 o18
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่29 {02/05/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 03-05-2020 08:53:11
เขิน~
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่29 {02/05/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 03-05-2020 15:22:21
พี่ดาบ-น้องเอมลงเอยกันด้วยดี ได้กันซักที  :laugh:

ส่วนอีกคู่น้านนนคงต้องรอลุ้นกันต่อไปสินะ. 
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่29 {02/05/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Nighttime ที่ 04-05-2020 18:28:49
 :haun4: เจ้ดานี่สุดแซ่บ น้องเอมเหนื่อยเลยย :hao6:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่30 {09/05/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 09-05-2020 20:57:36
บทที่30




“อาหนึ่ง ปล่อยเสือไป” ผมพูดออกมาแบบนั้นด้วยน้ำเสียงที่ทั้งจริงจังและเหนื่อยอ่อน ... ก็แค่อยากให้ปล่อยกันไปได้แล้ว



“เสือ...”  อาหนึ่งที่หันกลับมามองหน้าผม สายตาของเค้าที่กำลังบอกผมว่าเค้าเสียใจ แต่สายตาคู่นี้ ตอนนี้มันไม่ได้มีผลอะไรกับใจผมอีกแล้ว ต่อให้เค้าเสียใจมากแค่ไหน ก็ไม่เท่ากับการเสียใจของผม และผมก็ทนมามากเกินพอแล้ว



“อย่ายุ่งกับผมอีก ผมมีแฟนแล้ว” บอกออกไปแบบนั้นพร้อมจ้องตาคนตรงหน้าแบบไม่กระพริบ คำพูดของผมที่ทั้งหนักแน่นทั้งจริงจังไม่สั่นไหว อย่างน้อยๆก็จะไม่ทำให้เค้าได้รู้ว่าผมกำลังโกหก



“น้องเสือโกหกอา”



“มันไม่ได้โกหก แล้วก็เลิกเซ้าซี้มันสักที”  เสียงเข้มๆที่ติดจะฉุนเฉียวพูดขัดออกมาก่อนที่ผมจะได้ตอบคนตรงหน้ากลับไป หันไปมองก็เห็นสัดพี่เก้อที่กำลังจ้องมองมานิ่งๆด้วยสายตาที่แฝงความกวนตีนเอาไว้แบบเต็มที่ มันที่ยกมือขึ้นมาเท้าเอวพร้อมเอียงคอมองหน้าอาหนึ่ง ใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้มไปด้วยในตอนที่มองมา แค่มองจากตรงนี้ผมเองยังอยากเอาตีนไปลูบหน้ามันเลยครับ



“ผมไม่ได้คุยกับคุณ” แต่อาหนึ่งก็ยังเป็นอาหนึ่ง คนที่เก็บอารมณ์เก่งและวางตัวดี ... ดีจนครั้งนึงผมกลายเป็นไอ้โง่ตัวหนึ่ง



“จะหาว่ากูเสือกว่างั้นเหอะ โทษทีนะ ไม่เสือกไม่ได้จริงๆว่ะ ก็ไอ้คนที่คุณจับแขนมันอยู่น่ะมันเมียกูไงครับ” พี่เก้อที่ยักคิ้วทีหนึ่งส่งมาให้อาหนึ่ง น้ำเสียงที่ติดจะกวนตีนเล็กๆนั่นอีก ... แล้วไอ้สัด ใครเมียมึงวะ



“น้องเสือ”



“อาหนึ่ง เสือไม่ได้โกหก นั่นพี่เก้อแฟนเสือ เสือมีแฟนแล้ว แล้วอาเองก็มีครอบครัวแล้ว อาก็ควรจะเลิกยุ่งกับเสือได้แล้ว”



“แต่อารักน้องเสือ”



“เก็บคำว่ารักของมึงไปบอกเมียมึงเหอะ เสือกไรกับไอ้เสือวะ” ไอ้พี่เก้อที่เริ่มดูจะหมดความอดทนพูดออกมาแบบนั้น มันที่สาวเท้ายาวๆเดินตรงมาผลักไหล่อาหนึ่งแรงๆหนึ่งทีจนทำให้เค้าเซไปหลายก้าว และในที่สุด มือคู่นั้นก็ปล่อยออกจากแขนของผมได้สักที และถูกแทนที่ด้วยฝ่ามือใหญ่ของไอ้พี่เก้อ



“กลับกับกู” มันไม่แม้แต่จะมองหน้าของผมด้วยซ้ำ สายตาของมันที่เอาแต่จ้องเขม็งไปที่อาหนึ่งที่กำลังมองตรงมาที่เรา



“อย่าให้กูเห็นมึงมายุ่งกับไอ้เสืออีก” ยกมือขึ้นพร้อมชี้หน้าอาหนึ่งแบบไม่ไว้หน้า



“มันเป็นเรื่องระหว่างผมกับเสือ ไม่เกี่ยวกับคุณ ผมจะพูดกับเสือ”



“ไม่มีเรื่องของคุณกับไอ้เสืออีก เพราะตอนนี้มันเป็นแฟนผมแล้ว เรื่องง่ายๆแค่นี้ไม่เข้าใจหรือไงวะ ท่าทางคุณก็ดูดีนะ ไม่น่าจะโง่ หรือเพราะความเห็นแก่ตัวมันเกาะกินหัววะ ถึงพูดเหี้ยๆแบบนี้ออกมาได้”



“เหอะ เด็กที่ใช้แต่กำลังแบบเธอ จะมาดูแลอะไรเสือได้”



“แล้วผู้ใหญ่ที่เห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้แบบมึง มีสิทธิ์มาพูดอะไรแบบนี้หรอวะ” อาหนึ่งที่โดนพี่มันว่าออกไปแบบนั้น ผมเห็นสีหน้าที่ปกติมักจะสุขุมอยู่เสมอของเค้า ในตอนนี้มันกลับเริ่มเก็บอารมณ์ไม่อยู่



“เธอมันก็แค่เด็กเมื่อวานซืน”



“เหอะ ขอโทษนะ เป็นแค่คนเก่าอย่าเห่าดัง แล้วก็อีกอย่างอย่ามายุ่งกับมันอีก ไม่งั้นกูจะไม่ไว้หน้าอีกแล้วนะ ... เสือกลับ!”



พี่เก้อมันพูดรัวๆออกมารวดเดียวจบก่อนจะกระตุกแขนของผมให้เดินตามมันไป ผมมองเห็นอาหนึ่งที่มองตรงมาที่เรา เขาที่ไม่แม้แต่จะขยับแม้แต่ก้าวเดียว  ผมมั่นใจว่าเค้าไม่ได้กลัวพี่เก้อหรืออะไร แต่คนแบบเค้า...มันก็แค่คนเห็นแก่ตัวแบบที่พี่เก้อว่าก็แค่นั้น



‘เอี๊ยด!’



เสียงล้อรถที่ครูดไปกับพื้นถนนในตอนที่เจ้าของรถหักหลบแล้วเหยียบเบรกจอดเข้าข้างทางอย่างแรง



“สัด ไอ้หน้าเหี้ยนั่นใคร แล้วมึงเป็นเหี้ยอะไรถึงถ่อออกมาจากห้อง ไล่กูออกมาจากห้องบอกอยากพักแล้วออกมาทำเหี้ยอะไรที่นี่!”   มันที่ตะคอกใส่ผมออกมาแบบนั้นด้วยเสียงดุๆแบบคนไม่สบอารมณ์ ได้ยินเสียงหายใจฟืดฟาดของมันก็ดูรู้ว่ามันหงุดหงิด แต่ดูเหมือนมันจะหงุดหงิดจากเรื่องอื่นๆมากกว่าเรื่องของผม  ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไร แค่เห็นมันขมวดคิ้วมากก่าทุกทีก็เลยเดาเอา แต่ถึงแบบนั้นในตอนนี้ผมก็เลือกที่จะมองออกไปนอกหน้าต่างรถแทนที่จะเป็นมองหน้ามัน ... ตอนนี้ผมเหนื่อย เหนื่อยกับเรื่องที่พึ่งเจอ แล้วก็เรื่องของมัน



“ไอ้เสือ ตอบกูมามึงอย่าเงียบ”



“สัด! เป็นเหี้ยอะไรของมึงวะ!... ตอนนี้กูมีเรื่องเหี้ยมากพอแล้วนะ แค่เรื่องไอ้เอมคนเดียวกูก็เจ็บจะแย่แล้วนะ มึงอย่ามากวนตีนกูนะไอ้เสือ เป็นเหี้ยอะไรของมึงวะ!” แขนของผมที่ถูกกระชากแล้วดึงให้หันหน้าไปหาคนที่อยู่ตรงที่นั่งคนขับอย่างแรง ที่แขนรู้สึกที่ความเจ็บเพราะอีกคนก็กำแขนผมจนแน่นไปหมด



“นี่...มึงร้องไห้หรอวะ ร้องทำเหี้ยอะไร”



“เปล่า ปล่อยกู!”



“เปล่าเหี้ยอะไร ก็เห็นอยู่ อย่าดีดดิ้นนักสิวะ” มันที่พยายามยื้อแขนของผมเอาไว้ ทั้งๆที่ตัวผมก็พยายามจะดึงแขนออกจากมือมันเหมือนกัน แต่แรงของมันใครจะไปสู้ได้วะ และใช่ สุดท้ายก็เป็นตัวของผมที่ถูกมันรวบเข้าไปกอดเอาไว้แน่นๆ ได้แต่ซุกหน้าลงไปบนอกแกร่งนั่น อกที่เมื่อวานนี้ผมรู้ดีว่ามันอุ่นมากแค่ไหน



“เสือ”



“ฮึก ป...ปล่อยกูไอ้สัดพี่เก้อ อึก...”



“ปล่อยได้ไงวะ มึงร้องทำไม ไม่ร้องสิวะ”



เสียงร้อนรนของคนสมองเท่าเมล็ดถั่ว มันที่พูดด้วยเสียงที่ไม่มั่นใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า เหมือนกับคนโง่ที่ไม่รู้ว่าจะปลอบคนไม่เป็น แต่ถึงแบบนั้นก็ยังไม่ยอมปล่อยตัวของผมให้ออกจากอ้อมกอดของมัน ... และใช่ สุดท้ายก็เป็นตัวผมเองที่ปล่อยให้มันกอดต่อไปอยู่แบบนั้น ก็แค่อยากอยากร้องไห้ออกมาหนักๆในอ้อมกอดของใครสักคน ที่พร้อมจะกอดผมจริงๆ



“ดีขึ้นไหม” 



ผ่านไประยะใหญ่ๆ ในตอนที่น้ำตาของผมหยุดไหลและดึงตัวออกมาจากอ้อมกอดของมัน คนที่กอดผมเอาไว้ก็ถามออกมาพร้อมๆกับมันที่เอื้อมมือมาช้อนปลายคางของผมให้ขึ้นไปมองหน้ามัน



“อืม ขอบคุณนะ”



“สรุปมึงอยากจะบอกกูไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น” ผมหลบตาตอนที่มันถาม และพี่มันเองก็ปล่อยให้ความเงียบโรยตัวลงมาในรถตราสี่ห่วงคันหรูของมัน เป็นการกดดันกันแบบที่ผมรู้นิสัยมันดี



“คนนั้นคืออาหนึ่ง”  และสุดท้ายก็เป็นผมที่ทนความอึดอัดไม่ไหว ผมที่ไม่ได้จ้องหน้ามันแค่พิงตัวลงกับเบาะของรถและหันหน้าออกไปนอกหน้าต่างรถฝั่งซ้ายมือ ทอดสายตามองไปไกลๆและนึกถึงเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมา



“อาแท้ๆของมึงหรอวะ”



“เปล่า เค้าเป็นลูกชายของคู่ค้าของบริษัทพ่อ พ่อเค้าตายเค้าเลยกลายมาเป็นเจ้าของธุรกิจตั้งแต่อายุไม่มาก และเพราะแบบนั้นกูเลยเรียกเค้าว่าอา จะเรียกพี่ก็คงจะไม่เหมาะใช่ไหมล่ะ”



“อืม”



“กูรู้จักเค้าเมื่อสองปีก่อน เจอเค้าตอนที่เค้ามาพบพ่อกับแม่ของกูเรื่องธุรกิจของที่บ้าน”



“อืม”



“เค้าหน้าตาดีใช่ไหมล่ะ อายุ35ก็ยังไม่ได้ดูแก่อะไรใช่ไหม เป็นคนใจดี การศึกษาดี และก็ดีกับกูมากๆ กูไม่รู้อะไรเลยสักนิดตอนที่เค้าไปรับที่โรงเรียน มันก็เป็นแค่ความรู้สึกดีๆที่รู้สึกว่าเค้าใจดี เค้าชอบโทรมาคุยเล่นด้วยในตอนกลางคืนทุกๆวัน กว่ากูจะมั่นใจถึงเรื่องที่เค้าทำกับกูในทุกๆวัน ก็เป็นตอนที่เค้าบอกว่าชอบกู อยากมีชีวิตร่วมกันกับกู และก็ใช่...ความรู้สึกดีๆของกูมันก็พัฒนามาตั้งนานแล้วเหมือนกัน”



“มึงรักมัน”



“เคยรักเค้า” บอกออกไปแบบนั้นแล้วนึกถึงช่วงเวลานั้น คนที่ไปรับผมที่โรงเรียนแล้วคอยดูแลเอาใจใส่ผมในทุกๆวัน คำพูดคำจาน่ารักที่ทำให้ใจผมสั่น สายตาที่จ้องมองกันและมือคู่นั้นที่คอยจับให้กำลังใจผมในทุกๆเรื่อง เค้าทำงานกับพ่อและแม่ของผม แต่กลับมีเวลาให้ผมมากกว่าคนที่บ้านของผมซะอีก



“ทำไมมึงถึงใช้คำว่าเคย”



“เพราะคำว่ารักมันเป็นอดีตไปแล้ว และกูจะไม่ยอมรักคนที่ทำให้ผมเป็นไอ้หน้าโง่หรอก ....”  บอกพี่มันออกไป ก่อนจะหลับตาลงและสูดลมหายใจเข้าปอดให้ลึกที่สุด ... ถือเป็นการตัดสินใจสุดท้ายว่าจะเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้มันฟัง



“พี่มึงรู้ไหม อยู่ๆวันนึงเมื่อปีก่อน ก็มีผู้หญิงขับรถเข้ามาที่บ้านของกูว่ะ เค้ามาต่อว่าพ่อกับแม่ของกูเสียๆหายๆว่าไม่สั่งสอนลูกให้ดี ลูกที่เป็นผู้ชายแบบกูแต่ยังไม่แย่งสามีของเค้า สามีคนดีที่ทำงานงานหนักเพื่อนเลี้ยงดูเค้ากับลูกที่ยังเล็ก ครอบครัวของเค้ามีความสุขอยู่ดีๆ แต่มันเป็นเพราะกูที่เข้าไปแทรก เข้าไปทำให้ครอบครัวเค้าพัง เค้าว่าแบบนั้นล่ะ”



“ไอ้เสือ” พี่เก้อเรียกผมออกมา แต่ผมก็ไม่หยุดพูด ก็แค่พูดต่อไปแบบที่อยากจะพูด



“ทั้งๆที่กูไม่รู้อะไรสักอย่าง กูไม่เคยรู้ว่าเค้ามีครอบครัว เพราะทุกๆวันเค้าที่บอกว่ารักกูคนเดียว เพราะทุกๆคืนเค้าจะคอยโทรมาหากูและคุยกันก่อนนอนจนหลับ กูไม่เคยรู้เลยว่ะพี่ แต่คำว่าไม่รู้ของกู มันก็ไม่ใช่ข้อแก้ตัวที่ดีที่จะมีใครยอมรับได้ใช่ไหมล่ะวะ” หันไปมองหน้าพี่เก้อมันอีกครั้ง รอคอยสายตาแบบที่เคยได้รับจากคนอื่นมาตลอด



“น่ารังเกียจใช่ไหมวะ เหอะ กูยังรังเกียจตัวเองเลย” บอกมันออกไปแบบนั้นแล้วส่งยิ้มไปให้ คนตรงหน้าที่ก็เอาแต่จ้องมองผมด้วยสีหน้าที่ผมอ่านไม่ออก มันขมวดคิ้วแน่นๆแต่ไม่พูดอะไรสักคำ



“ทำตัวไร้ค่า กูรู้” น้ำตาของผมไหลลงมาอีกครั้งในตอนนี้ ถึงผมจะเคยชินกับสายตารังเกียจ แต่คนตรงหน้าในตอนนี้ ก็เป็นคนสุดท้ายในช่วงเวลานี้ ที่ผมไม่อยากจะได้รับสายตาแบบนั้นจากมัน



ค่อยๆหลับตาลงช้าๆ ก็นึกออกถึงสายตาของเพื่อนที่โรงเรียนตอนที่เมียของอาหนึ่งไปที่โรงเรียน ไปโวยวายที่นั่น ถูกห้องปกครองเรียกพบและกลุ่มเพื่อนสนิทที่ต่อว่า ว่าผมเป็นคนหน้าด้านไม่มีความคิด และสุดท้ายทุกๆคนก็ค่อยๆถอยห่างออกไปจากผม พ่อที่ผิดหวังในตัวผม และเป็นครั้งแรกที่เค้ารู้ว่าผมชอบผู้ชาย เป็นปีสุดท้ายของการเรียนในช่วงมัธยมที่เรียกได้ว่าเหี้ยที่สุดในชีวิต ไม่มีใครสักคนที่จะอยู่ข้างผม ไม่มีใครสักคนที่จะเข้าใจ เรื่องราวมันใหญ่แม้กระทั่งที่บ้านยังรับไม่ไหว และเพราะเรื่องนี้ผมถึงได้รู้ว่า สุดท้ายแล้วก็มีแค่ตัวเราเองที่จะคอยปลอบใจเรา ต่อให้ใครหน้าไหนที่บอกว่ารักเราแทบตาย แต่สุดท้ายทุกคนก็รักตัวเอง เพราะแบบนั้นมันถึงมีแค่ตัวเราที่ต้องดูแลตัวเอง



“มือที่สามผิดเสมอ ทั้งๆที่กูไม่เคยอยากจะเป็น ... ไม่มีใครรู้ว่าเค้าพูดอะไรกับกูบ้างในทุกๆวัน เค้าทำตัวแบบไหนกับกู และไม่มีใครคิดจะถามด้วยซ้ำว่ากูรู้สึกยังไง และสุดท้ายเค้าก็เดินกลับออกไปจากกูพร้อมๆกับเมียของเค้า ทั้งๆที่เค้าบอกว่าจะอยู่ข้างๆกู แต่สุดท้ายก็เป็นเค้าที่ทิ้งกูเอาไว้ที่เดิม พร้อมความเกลียดชังจากทุกๆคน ... เรื่องมันก็เป็นแบบนั้น จบแค่นั้น”



“ไอ้เสือ” พี่เก้อมันเรียกชื่อผมอีกครั้งแต่ผมก็ยังไม่ยอมหันไปมองหน้า ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาตัวเองลวกๆแล้วเลือกที่จะเมินหน้าหนีมัน ทำแค่ชี้มือไปข้างหน้าแทน เพราะมองเห็นป้ายรถเมล์ที่อยู่ไม่ไกล



“ขับไปตรงนั้นพี่ เดี๋ยวกูนั่งรถเมล์กลับหอเอง”



“ไอ้เสือ”



“ขอโทษด้วยที่ดึงพี่มึงมาลำบากนะ แล้วก็...”



“สัด! ฟังกูบ้างสิวะ กูว่าอะไรมึงสักคำหรือยัง เอาแต่พูดขัดกูอยู่ได้”



“แล้วจะให้กูรอฟังอะไรจากพี่มึงวะ กูต้องรอฟังอะไร  ฟังคำพูดที่ว่ากูแม่งไม่มีสมองไม่มีความคิดที่ไปยุ่งกับคนมีเจ้าของแบบที่ทุกคนด่ากูหรอ ไม่ว่าใครมันก็มองเหมือนๆกันทั้งนั้นแหล่ะ!”



“สัด! แต่กูไม่ได้มองมึงเหมือนใคร! ตั้งสติหน่อยสิวะ อย่ามาคิดแทนกู เสือก!” มันที่ตะคอกออกมาเสียงดังแล้วเอื้อมมือมาคว้าจับแขนผมทั้งสองข้างเอาไว้ให้หันไปหามัน



“กูมองเห็นตัวมึง ว่ามึงไม่ได้เป็นคนเหี้ยแบบนั้น ถ้าจะมีใครสักคนที่เหี้ย ก็ต้องเป็นมัน คนที่ไม่รู้จักพอ ส่วนมึงที่ถ้าจะผิด ก็ผิดตรงที่แค่โง่เกินไปที่เชื่อใจคนผิด ก็แค่เลือกจะวางความเชื่อใจไว้ในมือคนที่ไม่คู่ควรที่จะได้รับมันก็แค่นั้นไหมวะ”



“ฮึก ...พี่...กู ฮึก ... กูไม่ได้ตั้งใจ กูไม่ได้อยากเป็นมือที่สามของใคร ไม่ได้อยากเป็นชู้ใคร กูไม่ได้อยากเป็นคนเลว ไม่ได้อยากถูกมองว่าเป็นเด็กเสี่ยแบบนี้ ฮึก และกู กูไม่ได้อยากเป็นคนไร้ค่าที่ไม่มีใครต้องการแบบนี้”



“ใครมันจะไม่ต้องการมึงก็ช่างสิวะ มึงยังมีกู”



“พี่  พี่เชื่อผมใช่ไหม”



ผมที่จ้องตาคนตรงหน้าพร้อมๆกับที่น้ำตายังไหลลงมาไม่หยุด จ้องมองดวงตาคมที่มองสบกับสายตาของผมนิ่งๆ คิ้ว จมูก และรูปปากที่ได้รูป เครื่องหน้าหล่อเหลาที่เหมือนพระเจ้าลำเอียงของมัน ... คนตรงหน้าที่ค่อยๆพยักหน้าลงมาช้าๆ ฝ่ามือแกร่งที่เมื่อคืนนี้มันสัมผัสบีบรัดไปทั้งตัวของผมค่อยๆเลื่อนลงมาจับกุมที่ฝ่ามือ บีบเบาๆเหมือนมันอยากให้ผมมั่นใจ



“กูเชื่อมึง”



ผมมันก็เหมือนกับคนใกล้ตายที่ว่ายน้ำอยู่กลางมหาสมุทร ทั้งเหนื่อยและสิ้นหวัง ก็แค่หอบความหวังเฮือกสุดท้ายว่าจะมีใครสักคนมาช่วยผมขึ้นจากน้ำ หรือแค่หวังว่าจะเจอเกาะสักแห่งที่ให้ผมได้พึ่งพิง ... และใช่ ตอนนี้ผมเจอแล้ว



คนๆเดียวที่เชื่อคำพูดของผม คนที่กำลังบอกว่ามันเห็นคุณค่าในตัวผมจริงๆ



คนที่เป็นคนแรกของมึงไอ้เสือ ผู้ชายหน้าหล่อนิสัยเหี้ยคนนั้นไง ... คนที่มึงนอนอยู่ใต้ร่างของมันเมื่อคืน



“พี่เก้อ”



“หื้ม”



“จูบเสือหน่อย”



 

...



“อึก อืออ ... อ”



ค่อยๆขยับตัวช้าๆพร้อมๆกับชูแขนขึ้นเหนือหัวเป็นการปิดขี้เกียจในตอนตื่น แต่...



“โอ๊ยยย เจ็บโว้ย” ร้องออกมาแบบนั้นในตอนที่เหยียดขาออก ความรู้สึกเจ็บร้าวที่เหมือนเคยเกิดขึ้นเมื่อนานมาแล้วแล่นปรู๊ดขึ้นมาที่สมอง กูตื่นเต็มตา ไอ้เอมเบิกตากว้างๆแบบไม่เมาขี้ตา เจ็บมากๆ เจ็บที่ช่องทางด้านหลังจนน้ำตาซึม เป็นความรู้สึกแสบๆเจ็บๆจี๊ดๆ แต่ไม่ได้เจ็บนิดเดียว



“แหกปากอะไรของมึงหนู”  เสียงที่อยู่ใกล้ๆหู ทำให้ตะวผมเกร็งนิ่ง ก่อนจะตามมาด้วยความรู้สึกถึงฝ่ามืออุ่นที่วางอยู่บนสะโพกของผมในตอนนี้ ขนทั่วตัวลุกพรึบพรับในตอนที่มือแกร่งนั่นเลื่อนไปที่ก้นของผม ....ไอ้สาดดดด ใครเอากางเกงกูไป!



“อื้ออ เจ๊!”



“ก้นมึงนุ่มสู้มือกูจังวะหนู” หันหน้าไปมองคนที่นอนซ้อนหลังกันอยู่ตอนนี้ มองเห็นอกแกร่งเปลือยเปล่าของมันที่เด่นชัดต่อหน้าต่อตากัน และตัวของอิเจ๊มันและผมที่ถูกคลุมทับด้วยผ้าห่มนวมผืนที่เราเคยใช้กันอยู่ทุกคืน



“นี่...นี่...”



“อย่าทำหน้าตกใจเหมือนกูข่มขืนมึงจะได้ไหม กูเปล่านะ มึงยอมเองเลย จำได้ค่ะ”



“ผมไม่ได้จะว่าอะไร แต่เจ๊ปล่อยมือออกจากก้นผมนะโว้ย!” สุดจะอาย แหกปากหน้าดำหน้าแดงใส่แม่ง ทั้งผมและมันที่ก็นอนแก้ผ้ากันอยู่ แถมมือของมันยังอยู่ไม่สุก ลูบนิดลูบหน่อย มันอะไร มันยังไง



“เอาออกจากตรงนี้แล้วไปจับตรงนี้หรอ” พูดจบแล้วก็ลากมือมาจับที่แกนกลางของผมแบบตั้งอกตั้งใจ และในเช้าวันใหม่แบบนี้ ก็เสือกสู้มือมันแบบนั้น ช่วยด้วยครับ ช่วยไอ้เอมด้วย



“เจ๊! ไม่เอา”



“ไม่ได้จะเอา แต่กูก็แข็งนะเอม ใครใช้ให้มึงยั่วกูวะ”



“กูเปล่าเลยเจ๊ ทำไมวะ ทำไมมึงหื่นแบบนี้อ่ะ เมื่อก่อนไม่เห็นเป็นงี้เลยนะโว้ย” ปัดมือมันออกแล้วทุบอกแม่งแรงๆหนึ่งที แต่ร่างถึกทึนแบบมันจะไปรู้สึกอะไรล่ะครับ พี่มันก็แค่ยกยิ้มมุมปาก และใช้มือข้างขวาเท้าหัวตัวเองแล้วก็จ้องหน้าผมนิ่งๆ สายตาที่ทำเอาไอ้เอมร้อนไปทั้งตัว



“เมื่อก่อนกูก็เป็นแบบนี้”



“ไม่จริง เมื่อก่อนมึงชอบลิปสติก”



“ตอนนี้กูก็ชอบลิปสติก แต่กูชอบมึงมากกว่าเลยนะรู้ไหม” เลื่อนหน้ามากระซิบข้างหูเบาๆ ก่อนจะเป่าลมร้อนๆเข้ามาที่หูของผมอย่างแกล้งกันจนผมต้องย่นคอหนี



“มอนิ่งที่รัก” พูดออกมาแบบนั้นในตอนที่ผมช้อนตามองหน้าของพี่มันพอดี และริมฝีปากหยักของคนตรงหน้าก็เลื่อนเข้ามาทาบทับผมเบาๆ เป็นแค่จูบเบาๆที่เคล้าคลึงริมฝีปากของผม ไม่ได้ล้ำลึก แต่ก็อบอุ่นดี



“หวายตายแล้ว ควายน้อยของกูหน้าแดงอีกแล้วว่ะ ... น่ารักจังโว้ย”



“เลิกล้อกูเลยนะ”



“ก็ได้ กูไปหาอะไรให้มึงกินดีกว่า วันนี้มีเรียนไปไหวไหม”



“ไหวน่า ผมน่ะถึกทนจะได้พี่ก็รู้นี่”



“หรอ งั้นอีกรอบก่อนไปก็ไหวน่ะสิวะ”



“ไปไกลๆกูเลยสัดพี่ดาบบบบ”



“ก็มึงอยากได้ดาบไม่ใช่ไง กูอยากเสียบแล้วก็ผิดตรงไหนวะ” พี่มันที่ลุกขึ้นยืนทั้งๆที่ตัวเปลือยเปล่า ยืนแก้ผ้าโชว์สัดส่วนอยู่ปลายเตียงแล้วหันหน้ามาถามผมด้วยคำถามนี้แล้วยกยิ้มมุมปากใส่กัน ... คันไม้คันมือ! เขวี้ยงหมอนใส่แม่ง



“ไป๊!”



“กรี๊ดดด อุ้ย ไม่กรี๊ดสิ สัด กูหลุดหมดแม่ง!” พูดออกมาเหมือนคุยคนเดียวทั้งๆที่มือข้างนึงของมันก็คว้าหมอนเอาไว้ด้วยมือข้างเดียวได้ทันแบบเท่ๆ แต่เมื่อกี้ก็เสือกหลุดกรี๊ดออกมา เห็นแบบนี้แล้วไอ้เอมปวดหัวเลยต้องทิ้งตัวลงนอนบนเตียงต่ออีกครั้ง



“นอนไปก่อน เดี๋ยวพี่ทำอะไรเสร็จแล้วจะมาปลุกนะครับ”



“พี่ดาบ”



“ว่าไงครับ”



“มึงกลับไปกรี๊ดเถอะถ้าจะทำกูใจสั่นแบบนี้อ่ะแม่ง!”  สุดจะทนกับคนอย่างเธอ มองไปที่พี่มันที่พันผ้าเช็ดตัวเรียบร้อยแล้วยืนพิงกรอบประตูกอดอกแล้วยกยิ้มมุมปากส่งมาให้ผมแบบคนเหนือกว่า



“อ่อนจังน้าเมียกูเนี่ย”



ฆ่ากูเลย! จะดาบจะดานี่กูก็แพ้หมดแหล่ะ คนแบบไอ้เอมมันอ่อนนนนนนนน หึ่ย



ผมที่เอื้อมมือไปหยิบมือถือของตัวเองมาจากหัวเตียง ไม่รู้ว่ามาอยู่บนนี้ได้ยังไง แต่คิดว่าพี่มันคงเก็บมาวางไว้ให้เพราะเห็นมือถือของมันก็ถูกเอามาวางไว้ข้างกันแล้วเหมือนกัน ผมไม่ได้อยากหลับต่อแต่แค่ยังไม่อยากลุกตอนนี้เลยเลือกจะหยิบมือถือรุ่นพระเจ้าสามหำของผมมาเช็คดู และแค่เปิดมาก็เจอเลย ข้อความไลน์ที่บอกจำนวนข้อความเข้าด้วยตัวเลขสองหลักแบบน่าตกใจ



“เหี้ยไรวะเนี่ย”



เปิดเข้าไปก็เจอเข้ากับข้อความที่ต้องทำให้เบิกตากว้าง ข้อความของไอ้หยีที่คุยกับไอ้เก้อ และก็ลิ้งค์จากในไอจีของอิเจ๊พี่มันที่ผมพึ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก ... แต่เดี๋ยวก่อนนะมึง ภาพสุดท้ายนี่มันอะไรกันวะเห้ย!



กูนี่ลุกเลย ไอ้เอมนี่ลุกขึ้นจากเตียงแล้วคว้ามือถือของมันมาเปิดดู ในแกลลอลี่ยังมีรูปของผมอีกหลายรูป เป็นรูปตอนที่ผมหลับ แต่ไม่มีผ้าห่มคลุมแบบในภาพที่พี่มันลงในไอจีก่อนหน้านี้ พูดตรงๆว่าคือภาพเรทที่บะละฮึ่มบึ้มบั่มมากๆ



กูนี่ก้าวเดินออกจากห้องอย่างไวออกไปจากห้องเลยครับ สั่นนะแต่กูสู้มาก



“เจ๊พี่ดาบมึง!”



“ว่าไง หิวมากจนต้องเดินออกมาเลยหรอวะ กูว่าจะจัด Breakfast in Bedให้แฟนกูสักหน่อยนะเนี่ย”



“เจ๊พี่มึงแอบถ่ายรูปผมไว้หรอวะ” ถามออกไปพร้อมชูหน้าจอมือถือของพี่มันหันไปให้อีกคนดู พี่มันที่หันมามองแว๊บนึงแล้วยกยิ้มขำๆ



“อ้อ กูถ่ายไว้ดูครับ เก็บไว้ช่วยตัวเอง”



“เจ๊พี่มึงพูดอะไรวะ โว๊ะ!”



“ก็กูพูดเรื่องจริง” ผมที่ได้แต่ทำหน้าไม่ถูกกับคำตอบของพี่มัน ไอ้เอมจะเขินหรือจะอะไรก่อนดี ทำไมเป็นคนแบบนี้วะ โว้ยยย



“แล้วนี่ยเจ๊ มึงถ่ายรูปกูลงไอจีด้วย เนี่ยๆๆๆ รูปเนี้ยเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน”



แล้วแค่นับเวลาดูก็รู้ว่าเป็นตอนที่เราสองคนพึ่งทำกิจกรรมเข้าจังวะ โบ๊ะบ๊ะๆกันเสร็จ นึกมาถึงตรงนี้กูนึกออกเลยว่าเสียงแชะก่อนที่จะหลับไปมันคือเสียงอะไร



“อ่อ ใช่ แล้วทำไม”



“นี่มันรูปที่เราพึ่ง...เราพึ่ง...” กูอึกอักเลยครับ จะพูดว่ายังไงดีวะ



“อืม รูปที่กูพึ่งเอามึงเสร็จ”  อะ...ไอ้หน้าด้าน! แม่ง ใครกินอิเจ๊กูลงไปวะ ทำไมพี่ดาบมันถึงเป็นคนแบบนี้



“นั่นแหล่ะ แล้วลงแบบนี้คนอื่นก็รู้สิวะ”



“จะรู้ได้ไง กูเอาผ้าห่มคลุมปิดแทบถึงหัวมึงอ่ะหนู กูก็หวงของกูไหมครับ” ว่าแบบนั้นพร้อมยักไหล่ใส่กัน แล้วหันไปมองหมอข้าวต้มที่กำลังเดือดตรงหน้าแทน กูนี่เดินเข้าไปหาเลย สู้นะ



“แต่แคปชั่นของเจ๊พี่มึงไงวะ เนี่ยๆ”



“ทำไม ไหนดูสิ กูว่ายังไง อ้อ ...‘ขอโทษที่ทำให้เหนื่อยนะครับ นอนพักเยอะๆนะควายน้อยของพี่ ...แต่ปฏิเสธไม่ได้จริงๆนะว่า ....เวลาแฟนเหนื่อย แม่งโคตรน่ารักเลยว่ะ’”



พี่มันพูดตามประโยคที่ตัวเองเขียนออกมาช้าๆชัดๆ และตรงประโยคสุดท้าย มันก็ใช้สายตาคมๆของมันจ้องมาที่หน้าของผมแล้วพูดออกมาชัดๆว่า แม่งโคตรน่ารักเลยว่ะ ย้ำชัดๆทีละคำแบบให้ผมได้ยินแบบชัดเจน



“ก็มึงน่ารักจริงๆนี่ กูอยากอวดแฟนกู”



“แต่ผมอาย”



“อายที่กูลงรูป หรืออายที่กูบอกมึงตอนนี้ ว่ามึงแม่งน่ารักจริงๆว่ะ โดยเฉพาะในชุดผ้าเช็ดตัวครึ่งเดียวและมีรอยจูบกูอยู่เต็มหน้าอกแบบตอนนี้” พี่มันพูดออกมาแบบนั้นพร้อมๆกับเลื่อนสายตาลงมามองที่หน้าอกของผม และใช่...กูพึ่งรู้ว่ากูมายืนโชว์หัวนมให้มันมองเล่นนานแล้ว



“วี๊ดวิ้ว ยั่วกูอ่ะเนอะ ดูออก” ผิวปากใส่กันแล้วยิ้มล้อ



“โว้ยยย ผมไปอาบน้ำแล้วแม่ง ไม่คุยกับพี่มึงแล้วววว”



แพ้ๆๆ ไอ้เอมแพ้อีกแล้วครับแม่ครับ กูนี่หันหลังหนีแล้วก้าวยาวๆตามสภาพที่ขาจะอำนวยม้วนตัวหนีเข้าห้องน้ำไปแบบไม่สู้เลยครับ ได้ยินเสียงพี่มันหัวเราะตามมาจากข้างหลังแบบผู้ชนะ



“ควายน้อยของกู~”



หึย สักวันเหอะ สักวันกูจะเป็นควายที่ยิ่งใหญ่!



.

.

.


ผมที่มองตามแผ่นหลังบางๆที่เดินหนีหน้าแดงไปแล้วได้แต่หัวเราะ ไอ้เอมเวลามันเขินแล้วมันจะหน้าแดง เพราะจริงๆมันเป็นคนผิวขาวมากๆครับ เป็นผิวขาวที่ค่อนข้างสากเพราะขาดการบำรุง แต่ไม่ต้องห่วง หลังจากวันที่มันตกลงเป็นแฟน ใจผมก็สัญญากับตัวเองแล้วว่าจะเอาครีมมาโบกให้ผิวมันกริ๊งกร๊างให้ได้ เชื่อมือดานี่! เอ้ย ไอ้ดาบคนนี้ได้เลย



ชอบครับ เวลาลูบผิวแฟนตัวเองแล้วกูจะได้ฟิน ... บางทีก็กลัวไอ้เอมมันจะตกใจกับนิสัยจริงๆของผม อยากจะบอกให้รู้ว่าพอไอ้ดาบมันคัมแบล็ค มึงก็ต้องรอรับมือให้ดีอ่ะหนู



“หึ”  คิดถึงว่าอยากจะทำให้เด็กมันแพ้แล้วมีความสุข กูนี่อยากจะตามไปฟัดแก้มมันในห้องน้ำอีกสักรอบ แต่คิดว่าควรพอ เดี๋ยวควายตื่น



ส่ายหน้าให้กับตัวเองหน่อยๆ ก่อนจะผิวปากไปด้วย เหยาะพริกไทยดำลงไปในขั้นตอนสุดท้ายแล้วปิดแก๊ส  เดี๋ยวไอ้เอมออกมาจะได้กินข้าวเช้าก่อนไปเรียน



‘ครืดๆ’



ผมที่กำลังจะเดินกลับเข้าไปในห้องนอนของตัวเองก็ได้ยินเสียงมือถือสั่นซะก่อน เป็นเสียงมือถือของไอ้เอมที่วางอยู่บนโต๊ะกินข้าวข้างๆมือถือของผม เดินเข้าไปดูวัตถุโบราณที่กูนึกว่าเป็นชิ้นส่วนยานUFOจากนอกโลก มองเห็นข้อความไลน์ที่เด้งขึ้นมาที่หน้าจอ เป็นข้อความโนติที่ทำให้มองเห็น



[[MOB: พี่เอม...ผมจับพี่ได้แล้ว พี่เป็นพี่รหัสของผมใช่ไหมครับ]]



“ไอ้สัดม็อบนี่ใครวะ” คิ้วกูกระตุกเลยแม่ง รอไอ้เอมออกมากูจะถามให้รู้เรื่องเลยคอยดู คิดอยากจะเดินไปเคาะห้องน้ำมันในตอนนี้ด้วยจริงๆ ... โรคหลงควายน้อยมันจะหนักไปแล้วนะไอ้ดาบเอ้ย



‘ครืดๆๆๆ’



และในตอนนั้นเองเสียงเรียกเข้าของมือถือผมก็ดังขึ้นมา แต่เพราะเปิดสั่นมันก็เลยครูดไปกับโต๊ะเรื่อยๆ 8โมงเช้าแบบนี้ใครแม่งโทรมาหากูวะ ขัดจังหวะสุขสันต์สัดๆ



“ฮัลโหลใครวะ”



((ดานี่...พายเองนะ))


--------------To be continued------------



อู้ยยยย แซ่บๆเลยน้าตอนนี้

ยังมีคนอ่านอ่านอยู่ไหมจ๊ะ ยู้ฮู แคทพาเจ๊พี่ดาบและผองเพื่อนมาเสริฟแล้วจ้าาา

ทั้งเรื่องของน้องเสือ ทั้งเรื่องของเด็กม็อบ ทั้ง...พาพวยคัมแบล็คคค มาทำไม ใครเชิญมา

อิอิ

แคทขอฝาก #สวยๆเป็นผัว ในทวิตเตอร์ไว้ด้วยนะคะ :mew1: :กอด1:

หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่30 {09/05/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 10-05-2020 00:53:42
 :hao3: พายมาไมอีก
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่30 {09/05/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 10-05-2020 01:42:15
โอ้ยยยอีรุงตุงนังงง
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่30 {09/05/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 10-05-2020 08:31:16
รอๆ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่30 {09/05/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 10-05-2020 12:30:38
พี่เก้อประกาศตัวแล้วก็ดูแลน้องเสือด้วยนะ

ดูเหมือนวิบากกรรมน้องเอมยังไม่หมดสินะ หรือจะเป็นของพี่ดาบหวา แพ็คคู่มาเลย  :laugh:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่30 {09/05/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 10-05-2020 15:55:09
ใบพายกลับมาทำไมอีกเนี่ย
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่30 {09/05/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Jackson98 ที่ 10-05-2020 16:19:51
สิ่งนี้จะทำให้คุณสนใจอย่างแน่นอน - https://mmo.tc/NrLB
 :hao6: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่30 {09/05/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 11-05-2020 09:38:21
บอกเลยว่าแพ้เจ๊ดานี่เวอร์พี่ดาบหนักมากกกก :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่30 {09/05/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Chucream.nabi ที่ 11-05-2020 17:35:20
อะ นังเสือเครียละ.....พาพวย ถ้ามาครั้งนี้ไม่มาดีนะมึง โดน :z6: :z6: :z6: o18
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่30 {09/05/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 16-05-2020 00:16:26
มาทำไมอีก พาย!!!!

น่ากลัว,,,,
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่31 {16/05/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 16-05-2020 21:55:22
บทที่31


‘ฟู้วว’



ควันสีเทาจางๆที่ค่อยๆลอยไปในอากาศช้าๆในตอนที่ผมค่อยๆปล่อยควันออกมาทางปาก ที่ปลายมวนยังมีแสงสีไฟอ่อนๆให้มองเห็นอยู่ คีบมวนบุหรี่นั้นไว้ที่ปลายนิ้วก่อนจะเคาะลงบนที่เขี่ยบุหรี่อย่างดี ... น่าหมั่นไส้ฉิบหาย ก็แค่ที่เขี่ยบุหรี่ทำไมต้องแพงวะ



“ตอนกูเจอมึงครั้งแรกก็เห็นมึงสูบแบบนี้ สูบจัดหรอวะ”



“แล้วแต่ หลังๆเบาลง ถ้าเมื่อก่อนก็เกือบซองมั้ง” ตอบคนตรงหน้าที่ตอนนี้มันกำลังยืนโชว์หุ่นท่อนบนของมันพิงกับกระจงใสที่มองออกไปเห็นแสงสียามค่ำคืนในห้องนอนของมัน



“เบาๆลงบ้างเหอะ มึงจะตายก่อนมึงจะเรียนจบ”



“บอกตัวมึงเหอะ” ย้อนมันกลับไป แล้วยกบุหรี่ที่ถืออยู่ขึ้นสูบอีกครั้ง เงยหน้าค่อยๆปล่อยควันออกมาแล้วหลับตาลงช้าๆ รู้สึกสมองโล่งดี



“หึ เดี๋ยวนี้กูไม่ค่อยสูบเท่าไหร่แล้ว ไอ้เอมมันไม่ชอบ” มันบอกผมพร้อมรอยยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่ไม่ได้ยิ้มให้กับผม แต่เหมือนเป็นรอยยิ้มให้กับความทรงจำของตัวเองมากกว่า ผมเลือกจะเมินหน้าหนีมันแล้วเปลี่ยนเป็นตั้งใจสูบบุหรี่ต่อ



“เบาหน่อยมึง เดี๋ยวก็สำลักตายห่าพอดี” มันที่เดินมาดึงบุหรี่ออกจากปากของผม ทรุดตัวลงนั่งบนเตียงของมันข้างๆกัน แล้วเอาบุหรี่มวนนั้นไปสูบต่อซะเอง



“เป็นเหี้ยอะไรต้องมาแย่งกูวะ อยากสูบมึงก็จุดใหม่ดิ” 



“เสือกไรกูล่ะ ของๆกู”



“K”  กรอกตาใส่มันหนึ่งที ก่อนจะลุกขึ้นยืน แต่ติดตรงที่มือหนาของอีกคนคว้าข้อมือของผมเอาไว้ซะก่อน มันที่ดึงตัวผมลงมานั่งลงบนตักของมันแบบพอดิบพอดี



“ทำเหี้ยไร”



“แล้วมึงจะไปไหน” มันไม่ได้ตอบผม ก็แค่ยกยิ้มมุมปากมองมาก็แค่นั้น สายตาคมของมันที่ดูลึกลับแบบที่ยิ่งมองยิ่งละสายตาไปจากมันไม่ได้ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมใครๆก็หลงมัน ไปผับด้วยกันไม่มีคืนไหนที่มันจะไม่มีใครกลับไปด้วย ... เป็นคนในแบบที่ทำให้คนหลงเสน่ห์ได้ง่ายๆ



“เรื่องของกู”



“ยอกย้อนเก่งจังนะปากมึงเนี่ย”



“ก็ปากกูอี...อื้มม”  คำพูดของผมถูกกลืนไปในตอนที่ริทฝีปากได้รูปของมันประกบลงมาอย่างหนักหน่วง ขบเม้มแบบไม่เบาๆ ลิ้นล้อนที่ไร้ไปตามรูปปากของผมอย่างร้อนแรง ก่อนจะแทรกปลายลิ้นเข้ามาในโพลงปากของผมอย่างเอาแต่ใจ ในตอนที่ตั้งใจจะผละหน้าหนี แต่มือของมันก็เลื่อนขึ้นมาจับที่ด้านหลังคอของกัน ล็อคใบหน้าของผมเอาไว้อย่างได้จังหวะ ลิ้นร้อนที่ขบเม้มดูดปลายลิ้นของผมอย่างคนที่จงใจแกล้งกัน



“อื้ออ เจ็บนะเว้ย”



“ก็อยากโดนจูบไม่ใช่หรือไงวะ จูบแล้วทำไมยังงอแง” ละใบหน้าออกมาแล้วยักคิ้วแบบกวนๆส่งมาให้ผม ในสายตาของมันยังคงฉายแววล้อกันไม่เลิกกับคำพูดที่ผมได้พูดไปก่อนหน้านี้



“งอแงพ่อง”  กวนส้นตีน โคตรจะเกลียดไอ้หน้าตาที่เหมือนจะจงใจยิ้มล้อกันแบบนั้น พอหันหน้าหนี มันก็ทำแค่ล็อคเอวของผมเอาไว้ด้วยวงแขนงูหลามของมัน



“ไอ้จมูกรั้นๆนี่มันได้มาจากไหนวะ ทำไมมันถึงดื้อจัง” มันที่พูดแบบนั้นพร้อมๆกับเอื้อมมือมาบีบจมูกกันแบบไม่เบา ส่ายไปส่ายมาจนจมูกกูโยก



“เจ็บนะไอ้สัดพี่เก้อ”



“หึ ไอ้ลูกเสือน้อย”  กูเกลียดไอ้เสียงหัวเราะในลำคอแบบนี้ด้วย หล่อมากมั้งไอ้สัด ... อืม ก็หล่อจริง แต่กูจะไม่มีทางยอมรับกับมึงหรอกนะ เพราะถึงไง กูก็คิดว่ากูหล่อกว่ามึงมากๆอยู่แล้ว



“มึงสิน้อย แล้วเอาบุหรี่ไปไกลๆกู มันจะจี้เอวกูแล้วเนี่ยไอ้สัด” มันที่ยกยิ้มขำผมนิดหน่อย แต่สุดท้ายก็เอี้ยวตัวไปขยี้บุหรี่ให้ดับลงบนที่เขี่ยบุหรี่แก้วคริสตัลของมันจนดับสนิท



“ ...วันนี้คงเป็นวันเหี้ยๆของมึงสิใช่ไหม”



“ของพี่มึงก็ด้วยใช่หรือเปล่าล่ะ”  หันกลับไปมองหน้ามัน จ้องตาคมดุของมันนิ่งๆ และมันเองก็ไม่ได้หลบตาของผมเช่นกัน มันที่ก็แค่ยกยิ้มมุมปากส่งมาให้ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา แค่นั้นก็เข้าใจแล้ว



“เดี๋ยวมันก็ผ่านไปแบบที่มันเคยผ่าน” มันบอกผมแบบนั้นพร้อมๆกับที่ยื่นมือมาลูบข้างแก้มของผม สายตาคมๆของมันทิ่มแทงลงไปในหัวใจของผมเพียงเพราะคำพูดไม่กี่คำของมัน รู้สึกอยากจะร้องไห้ออกมาในตอนนี้



“ถ้าจะร้องก็ร้องไห้ให้พอแค่กับกู มึงไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลกเสือ”



“แล้วมึงล่ะ ไม่อยากจะร้องหรอวะ กับความเสียใจของมึงในตอนนี้”



“กูไม่ร้องหรอก มีมึงร้องแทนกูอยู่แล้วนี่ไง”  น้ำตาของผมไหลลงมาอาบแก้ม ไม่รู้ว่ากำลังเสียใจเรื่องอะไรกันแน่ เป็นความรู้สึกที่สับสนกันไปหมด ทั้งเรื่องในอดีตของตัวเอง และเรื่องของคนตรงหน้าในตอนนี้ แต่ที่แน่ๆมันกำลังทำให้ผมรู้สึกว่า อย่างน้อยผมก็ไม่ได้ร้องไห้เสียใจอยู่ตัวคนเดียวเหมือนที่ผ่านมา



.

.

.

 

“อื้มมมม”



เสียงครางยาวๆในลำคอของผมที่ดังคละเคล้าไปกับกลิ่นเหงื่อ กลื่นเหล้าและเสียงหอบหายใจของอีกคนที่ดังอยู่ข้างๆหู  ได้แต่ทิ้งตัวนอนลงกลางเตียงแล้วครางออกมาแบบห้ามไม่อยู่ในตอนที่ฝ่ามือของคนตรงหน้าก็ไม่ยอมอยู่นิ่งเลยสักวินาที



“..อื้ม...แน่ใจหรอวะเสือ”



ได้แต่หลับตาลงช้าๆในตอนที่เสียงเข้มว่าออกมาแบบนั้นพร้อมๆกับที่สันจมูกโด่งของอีกคนค่อยๆลากผ่านไปตามโครงหน้าของผมมาลำคอ มาที่ไหปลาร้า ก่อนจะไล้ช้าๆมาที่ยอดอก  ทุกๆส่วนที่จมูกโด่งลากผ่าน เหมือนกับมันกรีดผิวของผมไปด้วยจนต้องเผลอหายใจกระตุก



“เสือ...”



“ก็แค่วันไนท์ไม่ใช่หรือไงวะ” .... อืม ก็แค่วันไนท์เหมือนที่ผมกับมันเคยๆทำกันมาในวันก่อนๆ ก็แค่วันไนท์จริงๆ



“หึ มึงอย่าเปลี่ยนใจก็แล้วกัน” 



“หรือมึงอยากจะหยุด”  ลืมตาจ้องมองคนตรงหน้าที่ก็มองตอบกลับมาแบบไม่ไปไหน สายตาของมันที่จ้องมองอยู่ที่แค่ใบหน้าของผม  ดวงตาของมันที่ผมไม่เคยอ่านออก



“แล้วมึงล่ะ อยากให้หยุดหรือเปล่า”  มันถามออกมาแบบนั้นโดยที่ไม่ตอบคำถามของผม ได้แต่เผลอขบเม้มริมฝีปากของตัวเองเบาๆ กลืนน้ำลายหนืดๆลงไปในลำคออย่างช้าๆ จ้องมองไปที่ใบหน้าหล่อคมนี้อย่างไม่มีทางเลี่ยง ... มันที่กำลังบีบให้ผมพูดความในใจของตัวเองออกมา



“ไม่ ก กูไม่อยากหยุด”



จบคำพูดของผมด้วยรอยยิ้มมุมปากของมัน พร้อมๆกับที่ฝ่ามือหนาลากผ่านไปที่ต้นขาของผม มันที่จับขาของผมยกแล้วพาดไปที่บ่าของมัน สายตาวาววับที่มาพร้อมๆกับรอยยิ้มกวนส้นตีนที่ทำให้รู้สึกร้อนหน้าจนต้องเสหน้าหนี



ท่อนเอ็นแข็งขืนที่ถูไถเบาๆไปที่ช่องทางด้านหลังของผมอย่างช้าๆเหมือนจงใจยั่วอารมณ์



“อื้อ เก้อ!”



“ไม่ไหวแล้วหรอวะ งั้นกูใส่สดเลยนะ”



“พ่องตาย! ใส่ถุงด้วยไอ้สัด” ยกขาอีกข้างขึ้นเตะที่ข้างเอวของมันอย่างแรง เห็นมันแอบเบ้หน้านิดๆแต่ก็ไม่ได้บ่นอะไร



“อยากสด”



“มึงไปตรวจเลือดมาก่อนไป กูกลัวติดเอดส์ มึงยิ่งมั่วๆ”



“กูตรวจทุกปีอยู่แล้ว”



“แบบมึงต้องทุกๆเดือนเถอะสัด” ด่ามันออกไปแบบนั้น ก่อนจะเอื้อมมือขึ้นไปหยิบกระเป๋าตังค์ของตัวเองที่วางไว้บนโต๊ะข้างๆหัวเตียงของมัน



“จะใส่ได้เร้อ ของกูใหญ่กว่ามึงอยู่นะ”



“สัด ไม่ได้ใหญ่มากทำเป็นอวด”



“ถ้ากูดันไปพรวดเดียวมึงอย่าร้องละกัน”



“เอาไป!” ไม่อยากฟังมันพูดอีกเลยโยนถุงยางฟาดไปใส่หน้าอกมันแรงๆทีนึง มันที่แค่ขำนิดๆก่อนจะหยิบขึ้นมาดู แล้วตามมาด้วยคิ้วเข้มๆที่ขมวดเข้าหากันแล้วละสายตามาจ้องหน้าผม



“ผู้หญิงคนนึงเคยให้กูมา แต่เป็นไซต์ผัวเค้า”



“มึงไปเอาเมียใครอีกวะ”



“จะรู้ได้ไงล่ะ ตอนไปบอกไม่มีผัว รู้ตอนยื่นถุงยางมาให้กูพร้อมบอกของผัวค่ะ”



“สัดเอ้ย” มันที่ขำออกมาแล้วยกถุงยางขึ้นกัดก่อนจะฉีกมันออก ฝ่ามือหนาอีกข้างที่ก็ขยับแกนกายของตัวเองไปด้วยในตอนนี้ มันที่ปลายตามามองตาผมไปด้วยในตอนที่กำลังชักรูดของมันอยู่เบาๆ เผลอกลืนน้ำลายไปจนได้ในตอนที่เห็นแบบนั้น และก็เหมือนกับว่าท่าทางของผมจะถูกใจใครอีกคนจนมันต้องยิ้มกว้างๆออกมา เป็นครั้งแรกเท่าที่จำได้ ที่เห็นมันยิ้มแบบนี้มาให้กัน



“อึก อื้ออออ สัด!” ได้แต่ร้องครางยาวๆออกมาพร้อมๆกับเชิดหน้าขึ้นครางแบบห้ามไม่อยู่ในตอนที่มันดันแกนกายของมันเข้ามาสุดลำในทีเดียว เจ็บจนจุกจนน้ำตาเล็ด พูดอะไรไม่ออกสักคำเดียว นอกจากสัด



“ไหนใครว่าของกูไม่ใหญ่มากไงครับ หื้ม” พูดพร้อมยิ้มยียวนใส่กัน พร้อมๆกับเอียงหน้าเข้ามาจูบแก้มกันเบาๆอีกหนึ่งที หัวใจของผมเต้นระรัวในตอนนี้กับการกระทำที่มันไม่ได้ตั้งใจอะไร



“อ๊ะ อึก .... เบาๆ อ๊ะ”



“อื้มม...ทำไมแน่นจังวะเสือ ก็พึ่งทำกันไปไม่ใช่หรือไงวะ” พูดพร้อมๆกับที่มันเริ่มโยกสะโพกจากช้าเนิบนาบแต่เน้นตรงจุดแบบหนักๆเปลี่ยนเป็นโยกถี่ๆตามแรงอารมณ์ที่โหมพัดมามากขึ้น ผมหลับตาลงในตอนที่เอื้อมมือไปกอดมันไว้แน่น มันที่โยกแกนกลางของมันเข้ามาจนจมมิดด้ามในทุกครั้งอย่างตรงจุดเหมือนคนที่รู้ทุกซอกทุกมุมในตัวของผมดี แทรกตรงเข้าจุดกระสันในร่างของผมจนต้องตอดรัดถี่ๆเพราะความเซียวซ่าน เสียงเนื้อกระแทกของกันและกันพร้อมด้วยเสียงครางจากคอดังไปทั่วทั้งห้องนี้   สติของเราทั้งคู่ที่รับรู้ได้แค่การเชื่อมต่อของกันและกันของส่วนกลางที่เด้งเข้าหากันอย่างดุเดือด



“อ๊ะ เก้อ อื้ออ”



“ขึ้นให้หน่อยดิเสือ” มันที่พลิกตัวลงไปนอนที่ข้างล่างของผม จับตัวของผมให้ขึ้นมานั่งคล่อมที่กลางตัวของมันแบบไม่ถามกูสักคำ ไม่ชอบท่าแบบนี้ ท่าที่พอก้มหน้าลงไปก็จะเห็นกล้ามท้องและกล้ามอกของมันแบบชัดเจน รวมถึงสายตาแวววาวของมันนั่นด้วยที่จับจ้องมาอยู่ที่ร่างกายของผมแบบที่ผมจะหลบสายตาไม่ได้ ... ตั้งใจจะด่ามันสักที แต่ก็พูดไม่ออกสักคำเพราะอีกคนที่เด้งสะโพกสวนขึ้นมาแบบยียวนกวนส้นตีน



“มึง อ๊ะ ไอ้ อื้ออ” 



“เสือครับ เร็ว ควบให้พี่หน่อย”  พูดออกมาแบบนั้นด้วยน้ำเสียงที่ใครฟังก็ต้องใจสั่น มันที่ยกยิ้มทั้งหน้าทั้งตาในตอนที่พูดออกมา จนผมต้องเผลอกัดริมฝีปากตัวเอง ได้แต่วางฝ่ามือลงบนกลางหน้าท้องที่เป็นลอนได้รูปนั่นแล้วค่อยๆโยกสะโพกลงรับกับจุดกระสันของตัวเอง เสียวจนต้องเผลอซี๊ดปาก เป็นท่าที่พอทำแล้วจะรู้สึกมากกว่าท่าอื่นๆ



“อึก เก้อ เบา...อ๊ะ อ๊ะ”



“เสียวจังวะเสือ” พูดออกมาแบบนั้นแต่ยังคงนอนตาพราวแบบมีความสุข มันที่เอื้อมมือมาจับที่ข้างเอวของผม กดย้ำจังหวะของผมให้กระแทกลงไปที่แกนกายของมันแบบลึกสุดๆ พร้อมๆกับที่เจ้าตัวก็เกร็งสะโพกสวนขึ้นมาสอดใส่กันแบบไม่ออมแรง ได้แต่หอบหายใจถี่ๆ รู้สึกเสียวจนต้องเชิดหน้าขึ้นไปมองเพดาน



“จริงๆมึงก็เซ็กซี่นะเสือ”  เสียงทุ้มเข้มที่ขึ้นมาใกล้ๆ ผมที่ค่อยๆปรือตาขึ้นมองแล้วก็เห็นว่าเป็นมันที่เด้งตัวขึ้นมาหา ก่อนจะก้มหน้าลงไปขบเม้มลงที่หัวนมของผม มืออีกข้างของมันที่กอดเอวของผมเอาไว้แน่นๆ



“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ ตรงนั้นพี่เก้อ อ๊ะ กูจะเสร็จ”



“เสร็จเลย ซี๊ด”



มันที่บอกออกมาแบบนั้นและยังไม่หยุดกระแทกกระทั้นเข้ามาถี่ๆ แต่มันกลับเพิ่มความรุนแรงให้ฝังเข้ามาในร่างของผม ยิ่งเร็วและยิ่งลึกจนผมยิ่งตอดรัดท่อนเอ็นร้อนนั้นมากขึ้นไปอีก ท่อนกายแข็งขืนที่ฝังอยู่ในร่างของผมรับรู้ได้เลยว่ามันกำลังร้อนผ่าวและกำลังเต้นตุบๆของที่ด้านหลัง  และจนสุดท้ายร่างทั้งร่างของผมและของมันก็ทนไม่ไหว ได้แต่ปลดปล่อยหยาดน้ำออกมาเลอะอยู่ที่หน้าท้องของมัน



“อ๊าห์ !”



“อึก ซี๊ดด”



ได้ร้องครางออกมาแบบนั้นพร้อมๆกับที่ซบหน้าลงไปบนบ่าแกร่งของมันอย่างเหนื่อยอ่อน เสียงหอบหายใจถี่ๆทั้งของผมและของมันที่ดังประสานกันไปทั่วทั้งห้อง ทั้งกลิ่นเหงื่อและกลิ่นของกิจกรรมอย่างว่าที่ปนเปไปกับกลิ่นบุหรี่อ่อนๆเมื่อก่อนหน้านี้



‘ครืน..ครืน..ครืนนน’



เสียงสั่นของเครื่องมือสื่อสารเครื่องหรูสีดำที่สว่างวาบขึ้นมาจากที่หัวตัวทำให้ผมต้องปรือตาขึ้นมามองช้าๆ เป็นมือถือของไอ้สัดพี่เก้อ เป็นข้อความสั้นๆที่จับใจความได้ดี ผมที่ยังนั่งอยู่บนตัวของมันและซบหน้าลงกับไหล่ของมันแบบนี้เห็นข้อความจากตรงนี้ได้ชัดเลย



[[หยี: ไอ้เอมมันมีแฟนแล้วจริงๆ กูอยากให้มึงยอมรับ แล้วมาทำตัวเป็นเพื่อนแบบที่ควรจะเป็นได้แล้ว มึงอาจจะเสียใจ แต่อยากให้รู้ไว้ว่ากูเองก็เป็นห่วงมึง แต่กูก็ไม่อยากเห็นไอ้เอมต้องอึดอัดกับการทำตัวเป็นหมาบ้าของมึงเหมือนกัน]]



พี่เอมมีแฟนแล้ว ... และนี่ก็คงเป็นเรื่องราวแย่ๆในวันนี้ของมันสินะ



“อื้อ...โทรศัพท์มึงสั่น”  ผมพูดออกไปแบบนั้นพร้อมๆกับเสียงหอบหายใจ มันที่ยังคงกอดเอวของผมเอาไว้ไม่ปล่อย ฝั่งจมูกโด่งลงบนหน้าอกของผม ขบเม้มและเลียเบาๆไปที่หัวนมอย่างแกล้งๆปลุกเร้าไม่เลิก



“ช่างมันกูไม่อยากสนใจ”



“แต่ นั่นมันพี่หยี...”



“กูอยากสนใจแค่มึง” มันที่ผละหน้าออกมาจากหัวนมของผมแล้วเงยหน้ามองกันนิ่งๆว่าออกมาแบบนั้น เป็นสายตาคมที่เผาไหม้ร่างกายของผมและก็ทำให้ใจสั่นแบบไม่หยุด



“อื้ม” ตอบรับมันออกไปเบาๆแบบนั้น ...เพราะคนเรา ก็มักจะมีคำตอบในแบบที่ตัวเองต้องการให้กับตัวเราเองเสมอ



...



“ทำไมหน้าเครียดจัง ทำไมหน้าเครียดจังงงงง”  ผมที่เดินออกมาจากห้องน้ำร้องทักคนที่นั่งทำหน้าไม่สู้ดีอยู่ที่โซฟากลางห้องรับแขก คิ้วได้รูปที่ได้รับการตกแต่งอย่างดีขมวดเข้าหากันนิดๆ พอผมร้องทักออกไปแบบนั้น มันก็เงยหน้าขึ้นมามองกันก่อนจะกวักมือเรียก



“ไอ้หน้าเหี้ยนี่ใครวะเอม”  เสียงจริงจังที่ถามออกมาแบบนั้นแล้วยื่นมือถือมาให้ผมดู ได้แต่ยื่นหน้าเข้าไปหา ก่อนจะจ้องมองภาพตรงหน้าแบบ...



“ใครวะ”



“มึงถามกู แล้วกูจะถามใครวะหนู”



“อ้าว แล้วอิเจ๊หารูปผู้ชายคนนี้มาจากไหนอ่ะ นี่อย่าบอกว่าเจ๊ส่องผู้ชายอีกนะเว่ย” กูนี่ขมวดคิ้วเลยนะ หรี่ตามองแรงใส่มันเลย แต่ยิ่งพอทำแบบนั้นกลับเป็นว่าอิเจ๊พี่มันยิ่งทำหน้าไม่สบอารมณ์มากขึ้นไปอีก



“เดี๋ยวมึงจะโดนกูฟาดนะหนู”



“อย่านะโว้ย ผมยังเจ็บมากๆอยู่เลยนะเว้ย” ถอยหลังหนีพร้อมเอามือปิดตูดไว้แล้วเดินห่างออกไปไกลจากมันอีกสามก้าวครึ่ง



“ไม่ตลกเอม”



“ผมก็ไม่ตลกเหมือนกันนะเว้ย อะไรของเจ๊อ่ะ”



“ไอ้หน้าเหี้ยนี่ทักไลน์มึงมา”  บอกแบบนั้นพร้อมโยนมือถือของผมลงบนโซฟา ถึงจะเป็นโซฟานุ่มๆแต่กูนี่ก็อ้าปากค้างเลยนะ มันทำไม มันทำไมต้องทำร้ายมือถือกันแบบนั้น เกิดแม่งตายขึ้นมาแล้วผมจะใช้อะไรล่ะเห้ย ปัดโถ่ ใจหยาบ



“หา ทักผมมาหรอ ผมไม่รู้จักนะเห้ย”



“มันทักมึงมา กูไม่ชอบหน้าแม่ง”



“เดี๋ยวๆ ใจเย็นๆนะคนสวย ทักมาว่าอะไรวะ” ถามพี่มันพร้อมๆกับเดินเข้าไปหา



“อ๊ะ ถือว่ามึงเรียกกูว่าสวยนะ กูจะยอมใจเย็นให้มึงเลเวลนึง” อีกคนที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วยกมือขึ้นเอาผมทัดหู ทั้งๆที่ผมมันก็ไม่ได้ยาวมากมาย แต่จริตดั้งเดิมที่เคยมีมานานมันก็ยังไม่หายไปอยู่ดี  กูพูดว่าสวยนิดสวยหน่อยนี่ทำเป็นได้ใจ ตอนเด็กๆไม่มีใครสอนอิเจ๊พี่มันหรอวะ ว่าคนเราเค้าโกหกกันได้อ่ะ



ผมไม่สนใจพี่มันอีก ทำแค่หยิบมือถือของตัวเองขึ้นมาเปิดข้อความอ่าน



[[MOB: พี่เอม...ผมจับพี่ได้แล้ว พี่เป็นพี่รหัสของผมใช่ไหมครับ]]



 “อ้ออ”



“อะ รู้จักเลยใช่ไหม ว่าไง มึงแอบเล่นชู้ลับหลังกูหรอวะอิหนู”



“เล่นชู้เชี่ยอะไรล่ะวะ นี่มันน้องรหัสผมเอง แต่เอาจริงๆผมก็พึ่งจะเห็นหน้าชัดๆนะเนี่ย หล่อดีว่ะ สายผมนี่มันรวมแต่คนหล่อไว้จริงๆนะเนี่ย"



“นี่มึงกล้าชมชายอื่นต่อหน้ากูหรอวะไอ้ควายน้อย”



“ก็น้องมันหล่อจริงๆนะ เจ๊ไม่คิดงั้นหรอ” หันไปถามอีกคนแบบตั้งใจแกล้ง เห็นมันที่ขมวดคิ้วเป็นปมแบบนั้นแล้วอยากจะขำออกมาให้ลั่น



“ใครแม่งจะมาหล่อกว่ากูวะสัด” บ่นงึมงำๆเหมือนหมีหงุดหงิด หน้าหงิกจนผมกลัวว่าหน้ามันจะยับ แล้วจะเดือดร้อนต้องวิ่งไปซื้อสกินแคร์มาบำรุงอีกหลายหมื่น



“ยอมรับหรอวะว่าหล่อ” ผมที่เอียงหน้าเข้าไปถามแล้วยิ้มกว้างๆแบบล้อเลียนพี่มัน  อีกคนที่ถอนหายใจออกมาแบบหงุดหงิดแล้วตอบกลับผมมานิ่งๆพร้อมยื่นหน้าเข้ามาใกล้



“หรือมึงว่าผัวมึงไม่หล่อ เหอะ หลงเสน่ห์กูอยู่เห็นๆทำมาพูด”



“ค ใคร ใครวะ ไม่มี๊”



“โถ่ๆ ควายน้อยตะกุกตะกักจังเลยว่ะ หลงกูดูออก”



“หึย พูดดีไปเหอะ คำก็ควายสองคำก็ควาย ผมไปเรียนแล้วแม่ง! กูจะเป็นควายมีการศึกษาสูง คอยดูเหอะ หึ่ย”  เด้งตัวลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าเป้มาสะพาย



‘เพี้ยะ’



“ซี๊ดดด”  สะดุ้งสุดตัวพร้อมๆกับขมิบก้นแบบทันที เจ็บจนน้ำตาเล็ด ได้แต่อ้าปากค้างในตอนที่ฝ่ามือหนานั่นฟาดเข้ามาที่ก้นผมแบบเน้นๆ หันหน้าที่น้ำตาคลอไปมองอิเจ๊พี่มันแบบโกรธๆ อยากด่า ไอ้เอมอยากด่าแต่ทำไม่ได้ กูเจ็บจนปากสั่น



“กูหึงโหดนะบอกก่อน”



แล้วทำไมมึงไม่บอกกูก่อนค่อยโหดกับกูล่ะไอ้สาดดดด เจ็บไปถึงต่อมใต้สมองจี๊ดๆ มึงลืมหรอว่าเมื่อคืนมึงพึ่งเอาดาบฟาดฟันก้นกูมาแบบหนักหน่วงนะไอ้คนไม่สวย!!



.

.

.



“ตั้งใจเรียน เลิกแล้วเดี๋ยวกูมารับ”



“ไม่ต้องมารับก็ได้ ผมกลับเองได้น่า” ยื่นหมวกกันน็อคที่พึ่งถอดออกเสร็จไปให้คนที่ยังนั่งคล่อมอยู่มอเตอร์ไซค์อยู่ตอนนี้ ใช่ครับอิจุ๊บจิ๊บคันโปรดคันเดิมของพี่มันขี่มาอย่างเท่เลยล่ะ



“ทำไมต้องขัด กูอยากมารับแฟนกู”



“อยากมารับเค้าเพราะหวงเค้าล่ะสิ หูยยย ดูออกนะ” ผมที่ว่าแบบนั้นแล้วแกล้งเอื้อมมือไปเกาคางพี่มันแบบแกล้งๆ



“รู้แล้วก็ดี อย่าให้ไอ้หน้าไหนมาสนตะพายควายน้อยของกูได้นะคะ” ยกยิ้มมุมปากแล้วขยิบตาใส่ สัด ว่ากูอีกแล้ว



“กลับไปเลยไปอิเจ๊พี่ดาบ แม่ง”



“หึหึ รู้ไหมว่ากูชอบแกล้งมึง”



“พี่เป็นโรคจิตหรอวะ”  ทำหน้าหงุดหงิดใส่ แต่อีกคนก็ทำแค่ยิ้มชอบใจไม่สะทกสะท้านต่อความหงุดหงิดของกูเลยแม้แต่น้อย



“โรคจิตอะไรวะ ก็มึงน่ารัก ขนาดโมโหยังหน้ารักเลย หวงมึงวะเอม อยากจะกลืนมึงลงท้อง”



“โวะ ผมไม่อยากคุยด้วยแล้ว”



“เป็นเขิน”  ว่าแบบนั้นแล้วเอื้อมมือมาลูบผมกันเบาๆ สายตาคมที่จ้องกันทำให้แก้มผมขึ้นสี เอาล่ะไอ้เอม นัดนี้มึงก็แพ้เหมือนเดิมเด๊ะๆเลยนะ



“รู้แล้วก็เลิกล้อผมได้ไหมวะ”



“เลิกล้อก็ได้ ไปเรียนได้แล้วไป”



“พี่ก็ขับรถกลับดีๆนะ”  บอกออกไปพร้อมยกมือขึ้นโบกบ๊ายบายไปให้ มันที่มองมาที่ผมแล้วยกยิ้มมุมปาก ในสายตาของมันที่ผมไม่อยากจะคิดเข้าข้างตัวเองเท่าไหร่ว่ามันมีแววเอ็นดูแฝงอยู่ในนั้นด้วย



รู้สึกเขินจนต้องหันหลังเดินหนีออกมาก่อน ไม่อยากจะให้มันเห็นแก้มแดงๆของผมแล้วจะล้อกันอีก ขี้แกล้ง



“เอม!”  เสียงเรียกที่ดังขึ้นมาอีกในตอนที่ผมเดินห่างออกมาไม่กี่ก้าว พอหันกลับไปมองก็เห็นพี่มันที่เอามือเท้าอยู่บนหมวกกันน็อคของตัวเองแล้วมองกลับมาที่ผม  สายตาคมๆที่แฝงไปด้วยความจริงจังจนผมอดจะแปลกใจไม่ได้



“หื้ม”



“เย็นนี้กูจะพามึงไปที่บ้านนะ”



“ห๊ะ!” ร้องออกมาแบบนั้นแล้วเบิกตากว้างขึ้น ตากูตอนนี้เรียกได้ว่าโตเท่าไข่ .... บ้าน พากูไปบ้านไหนก่อนเอ่ย



“อืม กูจะพามึงไปหาพ่อกับแม่กูนะ”



“เห้ย! ไปทำไมวะ จ..เจ๊ คือมันไม่ แบบ...ผม”



“ไม่ต้องตกใจขนาดนั้น ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก”



“เจ๊...ผมไม่ไปได้ไหมวะ”  เดินกลับไปหาพี่มันแบบคอตกๆแล้วเกาะแขนมันไว้แน่นๆ ไปหาพ่อแม่อะไรของมึงวะ ผมว่าผมไม่ไหว คนแบบผม เด็กแบบผมน่ะ ....



“เชื่อใจกูนะ กูจริงจังกับมึง” พี่มันที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วยกมือลูบแก้มผมเบาๆ สายตาคมที่มองมาแบบจริงจังจนสุดท้ายผมทำได้แค่ก้มหน้าลงพยักหน้าตอบพี่มันช้าๆ



“เจอกันตอนเย็นนะหนู”



“ครับ”  ได้แต่ตอบกลับออกไปอ่อยๆแบบไม่มีกะจิตกะใจ ไอ้เอมเจ็บไข่มากๆเลยสังคมมมม~~~~



‘ฟอด’



“พี่ไปนะครับ” เสียงเข้มๆที่ดังข้างๆหูของผมตอนที่อีกคนค่อยๆผละใบหน้าออกไปจากข้างแก้มของผมช้าๆ ในวินาทีที่สบตากันก็เหมือนกับโลกที่หยุดหมุนลงในตอนนี้ ที่เค้าว่ากันว่าเวลามีความรักเราจะรู้สึกเหมือนมีผีเสื้อบินอยู่ในท้อง เรื่องนั้นมันเป็นยังไงไอ้เอมไม่รู้หรอก แต่ถ้าบอกว่ามีควายวิ่งเอาเขาชนท้องแล้วล่ะก้อ~~ ไอ้เอมรู้ดีเลย เขินมากเลยโว้ยยยยย



ได้แต่ยืนมองมอเตอร์ไซค์คันเท่นั่นแล่นออกไปช้าๆ พร้อมๆกับที่ผมค่อยๆยกมือขึ้นมาจับแก้มตัวเองเบาๆ แก้มร้อนแบบที่ไม่ใช่ฤดูร้อนจังเลยวะ ผมหันหลังเดินออกจากบริเวณลานจอดรถอีกครั้ง แต่ก็ต้องชะงักก้าวของการเดินของตัวเองในตอนที่เห็นรถตราสี่ห่วงคันดำที่คุ้นตาที่จอดอยู่ไกลๆตรงนั้น พอเห็นแล้วก็นึกขึ้นได้เลยว่าตั้งแต่เมื่อคืนนี้ยังไม่ได้ตอบกลับไอ้เก้อเลยนี่หว่า คิดมาถึงตรงนี้ก็ขนหัวลุกกันเลยทีเดียว  ไอ้สัดเก้อต้องโมโหมากๆแน่เลยว่ะ คิดมาถึงตรงนี้แล้วตั้งท่าจะย่องหนีแต่ต้องหยุดก่อนเพราะประตูรถฝั่งข้างคนขับถูกเปิดออกมาซะก่อน



“เอ๊ะ!” ได้แต่ร้องออกมาแบบนั้นในตอนที่เห็นขายาวๆของใครบางคนที่ไม่ใช่ขาไอ้เก้อแน่นอน และคนๆนั้นที่อยู่ในชุดเสื้อนักศึกษาที่ดูจะตัวใหญ่กว่าตัวเองไปมากก็ไม่ใช่ใครนอกจาก



“เชี่ย น้องเสือ...มาด้วยกันได้ไงวะ” ต่อมความเสือกมันเต้นตุ่มๆต่อมๆ ไอ้เอมอยากจะรู้เรื่องราวซะเหลือเกิน



“ทำอะไรอยู่ครับ”



“เชี่ย!! มึงใครเนี่ย”  ได้แต่ร้องออกมาแบบนั้นตอนที่หันหน้ากลับมาเจอหน้าของใครอีกคนที่ก้มลงมาใกล้ๆหน้ากัน ผมได้แต่ผงะถอยหนีออกไปจนอีกฝ่ายหัวเราะขำกันออกมา



“พี่เอม ผมม็อบเองครับ”



“ม็อบแม็บเหี้ยอะไร ไม่รู้จักจ้า”



ไอ้สัดนี่คือใครก่อนเอ่ย หันไปมองที่รถของไอ้เก้ออีกทีทั้งมันและน้องเสือก็หายไปแล้ว ปัดโถ่เว้ย! ไอ้ม็อบแม็บนี่แม่งตัวขัดความเสือกไอ้เอมจริงๆ ยังจะมีหน้ามายิ้มหวานอีกนะมึง!



--------------To be continued------------



มาแล้วจ้าาา วันนี้มาดึกหน่อยต้องขอโทษด้วยนะคะ พาร์ทที่มีฉากNCแคทค่อนข้าวเขียนได้ช้าค่ะ เพราะเขียนได้ไม่ค่อยดี

หวังว่าคนอ่านจะชอบในตอนนี้นะคะ  ... ส่วนในตอนนี้ ไม่รู้ว่าจะมีใครขัดใจหรือยังไงหรือเปล่าหว่า

แต่แคทอยากบอกว่า นิยายเรื่องนี้ไม่ได้เป็นนิยายสดใสมากๆหรือหม่นเศร้าแบบมากๆ

มันเป็นแค่นิยายสีเทาๆที่มีทั้งเรื่องดีและไม่ดีปนเปกันอยู่ในนี้

การกระทำของตัวละครบางตัวอาจไม่ถูกใจ ก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

ความสัมพันธ์ระหว่างพี่เก้อและน้องเสือเองก็เช่นกัน เป็นความสัมพันธ์สีเทาๆที่คนศีลเสมอมาเจอกัน

แต่คนศีลเสมอ ก็ใช่ว่าความรู้สึกจะเสมอกันนะเออ

ส่วนพาพวย ถ้าใครคิดถึงล่ะก้อออ ไม่ช้าไม่เร็วก็จะมาจ้าา

ฝากแฮชแทค #สวยๆเป็นผัว ในทวิตเตอร์ด้วยจ้าา
 :mew1: :katai4: :mew2:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่31 {16/05/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 16-05-2020 23:10:58
เอ็นดูน้องเสืออะ คือนางหลงอิพี่เก้อแหละดูออก :katai3:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่31 {16/05/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 16-05-2020 23:16:23
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่31 {16/05/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Chucream.nabi ที่ 16-05-2020 23:45:08
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่31 {16/05/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 16-05-2020 23:48:27
 :hao6:  ขอบคุณค่าาาาา
รอตอนต่อไปน้าาา
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่31 {16/05/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 17-05-2020 08:09:05
น้องเสือชอบพี่เก้อล่ะดูออก แต่อิพี่เก้อเมื่อไหร่จะตัดใจจากน้องเอมได้ เจ้พี่ดาบเค้าจริงจังขนาดจะพาน้องเอมไปหาพ่อกับแม่แล้วนะจ๊ะ

เอ็นดูสกิลการตั้งชื่อของน้องเอมจริงๆ.  :laugh:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่31 {16/05/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 17-05-2020 08:23:26
รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่31 {16/05/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: LifePo-YuGu ที่ 18-05-2020 11:33:48
แก้ชื่อตอนที่ 30 ด้วยจ้า แคทใส่ชื่อตอนเป็นตอนที่ 36 น่า

อ่านแล้วหน่วงๆแทนน้องเสือจัง สงสารน้อง
อิ๊พี่เก้อว๊อยยยย ตัดใจจากน้องเอมเลยนะ น้องเสือรออยู่  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่31 {16/05/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 18-05-2020 23:09:37
น้อง MOB ชอบเอมแน่ๆเลย,,,
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่32 {23/05/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 23-05-2020 21:12:54
บทที่32


“มันน่าน้อยใจจังเลยนะครับ ทำไมพี่ถึงไม่รู้จักผมล่ะ”



ไอ้คนตรงหน้าที่ไม่ได้ทำหน้าเศร้าให้เข้ากับประโยคคำพูด มันที่แค่อมยิ้มแล้วมองมาที่หน้าของผมอยู่แบบนั้น คือต้องการอะไรจากไอ้เอมเอ่ย กูนี่ขมวดคิ้วจนหน้าผากย่นเลย หงุดหงิดครับหงุดหงิด มันเป็นหนหวยนะจะบอกให้ ... มึง ไอ้ม็อบๆแม็บๆ มึงทำกูคลาดสายตาจากเรื่องของเพื่อนเก้อ อยากสปินคิกแม่งสักทีให้หายโมโห ติดตรงมันสูงกว่ากูมากจ้า ดูจากส่วนสูงตอนที่มันยืดตัวขึ้นยืนตรงแล้วยิ้มกรุ้มกริ่มให้กันอยู่ตอนนี้ ผมว่ามันน่าจะสูงเท่าๆอิเจ๊พี่มัน เอ่อ...ผมหมายถึงพี่ดาบนั่นล่ะครับ



“ทำหน้างงก็ยังน่ารักนะเนี่ย”



“เป็นบ้าอ่อ ขอตัวนะ” ตัดบทให้มันจบปัญหากันตรงนี้ พูดตรงนี้เลยว่ากูเหนื่อยจะเสวนาด้วยจ้า น่าลงน่ารักอะไรของมึงเอ่ย



‘หมับ’



“เดี๋ยวก่อนสิครับพี่เอม”  ผมที่ต้องหยุดเดินแล้วหันกลับไปมองมันจับแขนของผมไว้ กูขมวดคิ้วแน่นเข้าไปใหญ่เลยคราวนี้



“ปล่อย”



“ดุจัง”



“นี่ไอ้แม็บ”



“ม็อบครับ”



“เออ เรื่องมึงเถอะนะ แต่ปล่อยมือกู สนิทกันก็ไม่ มารยาทนิดนึงดิวะ” พูดแบบนั้นแล้วกระชากแขนตัวเองกลับมา ไม่ชอบครับ ไม่ชอบเลย เป็นใครวะมึงมาจับมือถือแขนกู ถึงกูจะเป็นผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิง แต่เรื่องแบบนี้มันก็ไม่ถูกป่ะวะ มึงคุกคามคนน่าดีแบบกูอยู่นะโว้ย



“ขอโทษครับ ผมก็แค่ยังอยากคุยกับพี่”



“ทานโทษนะมึง กูไม่รู้จักมึงจ้า”



“แต่พี่เป็นพี่รหัสผมนะ ผมไลน์ไปหาเห็นว่าพี่เปิดอ่านแล้วด้วย อ่านแล้วก็ไม่ตอบ เสียใจเลยนะครับ” รัวๆยาวมา ขอเรียบเรียงประโยคแป๊บนะ ... น้องรหัส อ่านไม่ตอบ คุ้นๆจังวะ ติ๊กตอกๆๆๆๆ ปิ๊งป่อง



“อ๋อออ คิดออกแล้ว มึงนี่เอง ไอ้แม็บ” 



“โถ่ ม็อบครับ ผมชื่อม็อบ” มันที่พูดออกมาแบบนั้นแล้วทำหน้าหนักใจใส่ผมนิดหน่อย มึงดูเหนื่อยใจ กูสิที่ต้องเหนื่อยมาเจอมึงเนี่ย



“เออๆ แต่รูปกับโปรไฟล์มึงนี่ไม่เหมือนกันเท่าไหร่เลยนะ กูจำไม่ได้อ่ะ โทษทีละกัน”



“ไม่เป็นไรครับ แต่พี่ว่าระหว่างในรูปกับตัวจริงอันไหนผมหล่อกว่าหรอ”  ถามกูแล้วส่งยิ้มยิงฟันมาให้ ดูเป็นคนมั่นอกมั่นใจกับรูปร่างหน้าตาของตัวเองอย่างมากนะครับ เพราะในสายตาของมันเหมือนกำลังบอกผมว่า ชมกูสิ มึงชมกูมาเลยครับพี่ ...เฮ้อ ตั้งความหวังกับกูหรอแม็บ งั้นกูตอบไปแบบจริงใจเลยละกัน



“ในรูปสิวะ คือมึงใช้แอพเยอะสินะ หน้าผ่องเกิ๊น แล้วดูไล้จมูกซะเงาเป็นจมูกหมาสุขภาพดีเลยเนี่ย” กูพูดไม่พอ ยังหยิบมือถือของตัวเองขึ้นมาเปิดรูปโปรไฟล์ของมันโชว์ให้มันดูด้วย



“ห๊ะ...หมา หมาอะไรนะครับ”



“งงๆ งงอะไร ก็หมาสุขภาพดีที่ได้กินเพ็ดดีกรีจมูกมันจะเงาๆแล้วขนมันก็จะสวยๆไง เนี่ย เหมือนมึงในรูปเลย” บอกออกไปแบบนั้นแล้วส่งยิ้มจริงใจไม่ไก่กาไปให้



“พี่เอมแม่ง”  มันที่มองหน้าผมแล้วพูดออกมาแบบนั้น เจ้าตัวที่ยกมือขึ้นเกาหัวแล้วยิ้มขำๆส่งมาให้ผมนิดๆ อาการมันเป็นยังไงไหนบอกไอ้เอมสิ



“อะไรของมึงวะ”



“ผมคงจะเหมือนพี่ว่าจริงๆนั่นแหล่ะที่หล่อแค่ในรูป”



“อืมๆ ยอมรับเถอะนะน้องนะ”  มันคงจะเศร้าอะเนอะ เห็นแบบนั้นผมเลยเดินไปตบไหล่มันปุๆ ไม่เสียใจไปนะม็อบแม็บ พี่เข้าใจถึงการเสียใจเรื่องของความไม่หล่อ เพราะทุกวันนี้ที่ผมอยู่กับอิเจ๊พี่มัน ยิ่งหลังๆมานี่มันไม่ค่อยแต่งหน้าทาปากแล้ว ความหล่อของพี่มันยิ่งเด้งโด่งจนไอ้เอมกลายเป็นแค่ผีลูกกรอกเวลาอยู่กับมันเลยครับ



“ไม่เหมือนพี่เลยนะครับ”



“หื้ม”  กูถึงกับต้องเลิกคิ้วแล้วหันไปมองหน้ามันแบบไม่เข้าใจ คือยังไงนะ ... มองหน้ามันด้วยความไม่เข้าใจ ไอ้เด็กม็อบแม็บตรงหน้านี่ก็ส่งยิ้มมาให้ก่อนจะพูดต่อว่า



“ไม่เหมือนพี่เลยที่ไม่ว่าจะในโปรไฟล์หรือตัวจริง พี่ก็น่ารักอยู่ดี” จบท้ายด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจที่ส่งมาให้กระแทกเข้าหัวตาของผมอย่างจัง ...ถุย!



“ตลกหรอมึง” ด่าแม่งแบบนั้นพร้อมเอื้อมมือไปตบหัวหนึ่งที มันที่ไม่โกรธแต่กลับขำตอบกลับมาให้กันซะแบบนั้น



“กูไปละ มีเรียน”



“ครับ แล้วเจอกันอีกนะครับพี่เอม”



“เออๆ” ยกมือโบกบ๊ายบายไปให้ มันเองที่ก็ยังคงส่งยิ้มกว้างๆมาตอบแล้วยกมือโบกหยอยๆมาให้ผมไม่เลิก ดูเหมือนมันจะดีใจมากๆที่ได้พี่รหัสหล่อ



.

.

.



“อุ๊ยตายยยยย น้อนเอมลูกชุ่นแม่ ไหนคะ มามะๆ ขอขุ่นแม่ดูหน้าหน่อยสิคะ คนได้น้ำมันจะอิ่มเอมมากๆอ่ะเนาะ”  เสียงของไอ้หยีที่ตะโกนออกมาจากโต๊ะกลางโรงอาหารของคณะเราอย่างดัง ... สัด



กูอยากจะตะโกนด่า แล้ววิ่งหนีออกไปจากตรงนี้ให้ไว แต่ติดตรงที่มันลุกขึ้นมาหาแล้วยิ้มเริงร่าเข้ามาหาผมแล้ว วันนี้มันยังสวยเหมือนเดิมครับ มัดหางม้าแล้วดัดปลายผมลอนน่ารัก เป็นผู้หญิงน่ารักที่กูอยากวิ่งหนี แม่ง



“พูดเสียงดังจังวะป้า”



“อายหรอลูก แหม มีผัวแล้วมันเป็นหน้าบาง”  ไม่อยากจะพูดกับแม่งละครับ ... ไม่ใช่ไรนะ เถียงมันไม่ได้



“แล้วนี่ไอ้เก้อไปไหนอ่ะป้า” ผมถามออกไปตอนที่ทรุดตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามกับไอ้หยี มองซ้ายมองขวาแต่กลับไม่เห็นเงาของไอ้เก้อ



“จะไปรู้มันหรอคะ มันก็มาช้าตามสไตล์มันนั่นแหล่ะ ว่าแต่มึงเหอะ ถามหามันทำไม อยากให้มันมาแหกอกมึงเรื่องมึงมีผัวหรือไงคะ”  ไอ้หยีที่ด่าผมแบบนั้นพร้อมๆกับหยิบลูกชิ้นเข้าปากหนึ่งลูก เป็นลูกชิ้นทอดร้านป้าต๋อย รสชาติอร่อยๆไม่แพง กรอบนอกนุ่มในแบบว่าใส่น้ำมันทอดทีครึ่งกิโล ถ้าไขมันจะจุกคอกูตายก็ไม่ใช่เพราะใคร เพราะป้าต๋อยนี่ล่ะครับ



“มันยังไม่มาหรอวะ” ผมถามซ้ำอีกครั้ง จะยังไม่มาได้ไงวะ กูเห็นมันมาแล้วชัดๆ



“แหกตาดูสิมึง เห็นมันไหมล่ะ มึงนี่ยังไง ดูงงๆ แต่ก็อย่างว่าอ่ะเนาะ เมื่อคืนคงไม่ค่อยได้นอน พี่ดาบกูแซ่บไหมคะมึง พี่รหัสกูเริศเลยใช่ไหม ไหนรีวิวสิคะ” ระริกระรี้ตาพราวมากๆ แล้วมาถามอะไรกูวะเนี่ย



“อะไรของป้าวะ”



“หูยยย หนูเอมมึงแก้มแดง เขินหรอลูก เข้าใจๆ แค่เห็นมึงกูก็มองออกแล้วว่าต้องดี อิอิ แซ่บๆ พี่ดาบต้องแซ่บแบบไม่มีอะไรกั้นแน่ๆเลยตอนถอดเสื้อ กรี๊ดดด”  มโนแล้วหวีดร้องอยู่คนเดียว เป็นผู้หญิงแบบไหนกันวะอิป้า ได้แต่กรอกตาหนึ่งทีเพราะเหนื่อยใจ ผู้หญิงสมัยนี้เป็นแบบนี้กันหรอวะ น่ากลัวฉิบหาย ... แต่จะพูดว่าสมัยนี้ก็ไม่ได้ครับ ป้าหยีมันแก่แล้ว



“หยุดมโนสักทีสิวะป้า อายคน”



“ก็กูไม่ได้นี่คะ ชะนีแบบกูก็ต้องมโนไหม มึงได้ของดีไปจะไปเข้าใจอะไรล่ะคะ!”



“อืม...แต่ก็จริงนะ พี่ดาบมันก็ดีมากๆจริงๆแบบที่ว่านั่นแหล่ะ ไม่ได้อวดเลยนะป้า กูแค่เล่าให้ฟัง” บอกมันออกไปแบบนั้นแล้วขยิบตาให้ นี่แน่ะ!



“กรี๊ดดดด อิหนูเอม มึงไม่ใสแล้ว อิพี่ดาบทำไรลูกกู มึงกลายเป็นคนรว้ายๆ”



“บอกตรงๆจากใจ กูอยากจะตัดลิ้นมึงทิ้งจริงๆเลยป้า โวะ”



“คิกๆ เรื่องกู มันเป็นการวิบัติเพื่อเสียงเพื่อให้ได้อรรถรสค่ะลูก”  หยักไหล่ส่งมาให้แบบไม่สนใจอะไร ก่อนจะหยิบแก้วโกโก้จากแบรนด์ดังที่มาตั้งร้านที่มหาลัยเราขึ้นดูดแบบหน้าตาเฉย



“ป้ามึงกินน้ำหวาน กินลูกชิ้นทอดด้วยหรอวะวันนี้”



“ค่ะ กูหิว กูอยาก”



“วันนี้มึงไม่กลัวน้ำหนักขึ้นหรอวะ ไหนปีที่แล้วบอกกูว่าจะรักษาหุ่นตลอดชีวิต เอาให้มึงขึ้นเครื่องชั่งแล้วไม่ตกใจกับน้ำหนักไง”



“กูเรียนรู้แล้วว่ามันเป็นการคิดผิดของกูค่ะ”



“ยังไง”



“จะยังไงล่ะอิโง่ ถ้ามึงกลัวน้ำหนักขึ้น มึงก็อย่าขึ้นไปชั่งมันค่ะ เนี่ย เหมือนกูในตอนนี้ อยากแดกอะไรก็แดกได้เลยเพราะกูได้น้ำหนักที่พอใจแล้วจากการชั่งคราวก่อน คราวนี้ใครถามกูว่าน้ำหนักเท่าไหร่กูก็จะบอกอย่างภูมิใจเลยค่ะว่า46”



“46ของมึงนี่เมื่อไหร่”



“เมื่อปีก่อนจ้า” 



“มันไม่ใช่น้ำหนักเรียลไทม์ของมึงไงป้า”



“เนี่ย มึงยังโง่อ่ะเอม ถ้ากูชั่งตอนนี้กูก็อ้วนสิคะ! มันต้องแก้ที่ความคิดมึงเนี่ย ถ้าเราไม่ชั่ง เราก็จะไม่อ้วนไงค่ะลูก บอกน้ำหนักที่มึงพอใจออกไปค่ะ พอใจแล้วก็เลิกชั่งค่ะ ไม่ชั่งเท่ากับไม่อ้วน จำ!”



“ตรรกะมึงเริศ”



“แน่นอนค่ะ เชื้ออิหยีแล้วชีวิตจะสุขใจ แดกไป!” ปณิธานแรงกล้า เป็นคนมีความคิดเป็นของตัวเองครับ ดูออก!



ฟังจบแล้วกูเจ็บไข่เลยครับ



“แล้วนี่ทำไมไม่กิน ลูกชิ้นป้าต๋อยเลยนะเว้ย”



“มึงกินเหอะ กูกินไม่ลงว่ะ” บอกมันออกไปแบบนั้น เพราะตอนนี้เริ่มคิดถึงเรื่องที่เย็นนี้ต้องไปบ้านอิเจ๊พี่ดาบ ผมไม่เคยรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับครอบครัวของพี่มันเลย ไปแล้วจะเป็นยังไง พ่อแม่มันจะยังไง และที่สำคัญ ผมเป็นผู้ชาย



“ทำไมทำหน้างั้นวะ อย่าบอกว่าพี่ดาบเสร็จไวนะ”  วางลูกชิ้นลงในจานเบิกตากว้างๆแล้วยกมือขึ้นทาบอก ถุย!



“มึงเลิกวุ่นวายเรื่องเอากันของกูได้ไหมวะป้า”



“อะๆ ก็อยากให้ขำๆ ว่าแต่มึงเป็นอะไรทำไมทำหน้าแบบนั้นวะ” มันที่ถามออกมาอีกครั้งแบบเป็นจริงเป็นจังอีกที



“พี่มันบอกกูว่าเย็นนี้จะพาไปบ้านว่ะ”



“แค่กๆๆ อ...อะไรนะ”  ไอ้หยีที่สำลักลูกชิ้นที่มันกำลังเคี้ยวไอออกมาด้วยเสียงดัง ลำบากกูต้องเอื้อมมือไปลูบให้



“ใจเย็นๆนะมึง มันต้องเป็นกูที่ตกใจสิวะ ป้ามึงจะตกใจทำไมวะ”



“อิเหี้ย ไปบ้านพี่ดาบหรอวะ มึงจะไม่ให้กูตกใจได้ไง”  ลูบอกตัวเองไปพรางสูดน้ำไปพรางก่อนจะโพร่งออกมาใส่หน้าผมแบบนั้น



“อืม กูก็ตกใจเหมือนกัน”  บอกมันออกไปแบบนั้น แต่หยีมันแค่ขมวดคิ้วแล้วส่ายหัวไปมาจนหน้าม้าของมันกระจาย



“ไม่ใช่ กูไม่ได้หมายความแบบนั้น บ้านพี่ดาบน่ะ ใครๆก็รู้ว่า...”



“หื้ม? รู้อะไรวะป้า”   มองสีหน้าที่เป็นกังวลของมันแบบที่ผมไม่เข้าใจ ไอ้หยีที่มองหน้าผมแล้วทำท่าเหมือนอยากจะพูดอะไร แต่มันก็ไม่ยอมพูดออกมา



“ไม่มีไรหรอกมึง ... เอาเป็นว่า ถ้าพี่มันอยากพามึงไป มึงก็ไปเถอะ กูมั่นใจว่ามันจะดูแลมึงได้”  ผมขมวดคิ้วตอนที่ได้ฟังประโยคนี้ของมันจบ อยากจะถามอะไรต่อ แต่ไอ้เก้อก็เดินเข้ามาซะก่อน มันที่เดินผิวปากเข้ามา ในตอนที่ผมเงยหน้าขึ้นไปมองสบตากับอีกฝ่าย เหมือนมันจะชะงักไปนิดหน่อย แต่สุดท้ายสีหน้าของมันก็ปกติตามเดิม



“พวกมึงมาไวนะ”  มันที่พูดออกมาแบบนั้น ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งข้างๆไอ้หยี ผมที่ยิ้มทักทายมันเหมือนไม่มีอะไร แต่เป็นไอ้เก้อที่พยายามหลบตาใส่กัน



“ใครๆก็มาเช้าค่ะ มีแต่มึงค่ะอิเก้อ มาสายห่าไรนัก นี่อย่าบอกว่าเมื่อคืนก็ไปนอนกกเด็กมาอีกนะ กูไลน์ไปหาก็ไม่ยอมตอบ”  ไอ้หยีที่หันไปมองมันแล้วด่ารัวๆ แต่ไอ้เก้อก็แค่ยักไหล่ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบลูกชิ้นของไอ้หยีเอามาเข้าปาก



“เลวจริง ขโมยลูกชิ้นกู”



“แดกคนเดียวอ้วนนะป้า”



“กรี๊ดดด อิเก้อ อิผัวหล่อ ถ้ามึงไม่หล่อกูจะถอดส้นสูงตีหน้ามึงค่ะ เลิกพูดเรื่องความอ้วนของกูนะคะ กูไม่อ้วน!”



“มึงไม่อ้วนแล้วน้ำหนักมึงเท่าไหร่”



“46ค่ะผู้ชายยย”   ไอ้หยีตอบออกไปแบบมั่นใจพร้อมฉีกยิ้มกว้าง ไอ้เก้อที่เงยหน้าละสายตาจากจานลูกชิ้นมามองมันตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วขมวดคิ้วแน่นๆ



“จริงหรอวะ”



“จริงค่ะ! กูชั่งแล้ว”



“เออๆ 46ก็46”  ไอ้เก้อที่ตอบแบบขอไปทีแล้วหันมาจิ้มลูกชิ้นเข้าปากไปอีกลูกแบบขอไปที แต่เป็นไอ้หยีที่ยิ้มหน้าบาน มันที่หันมาขยิบตาใส่ผม แล้วทำปากขมุบขมิบส่งมาให้ อ่านได้ว่า ‘เห็นไหมคะ กูผอม’ ... แล้วแต่เลยจ้า



“ไอ้เก้อ มึงพึ่งมาถึงหรอวะ” ผมถามมันออกไปหลังจากที่ละสายตามาจากท่าทางที่ดูจะภูมิใจกับเรื่องน้ำหนัก46ของไอ้หยีได้



“หื้ม...อืม ก็ เออสิวะ ทำไม” มันที่เงยหน้าขึ้นมามองผม แล้วตอบออกมาแบบนั้นด้วยท่าทางที่ไม่มีพิรุธอะไร แนบเนียนจนกูอยากจะเชื่อเลยล่ะ แต่ติดตรงที่ว่ากูเห็นว่ามึงมานานแล้ว และที่สำคัญ มึงมากับน้องเสือ อยากจะพูดออกไปแบบที่ใจคิด แต่สุดท้ายก็ต้องอุ๊บอิ๊บเก็บไว้ในใจ ในเมื่อกูยังไม่มีหลักฐานกูก็จะฮึบไว้ละกันนะเพื่อนเก้อครับ



“เปล่า กูแค่คิดว่ามึงมาถึงนานแล้ว”  ตอบมันกลับไป ผมเห็นไอ้เก้อที่กำลังจะเอาลูกชิ้นกุ้งระเบิดชะงักไปนิดหน่อย หูยยย มันเป็นตกใจอ่ะครับ ไอ้เอมอยากจะขำแรงแต่ต้องกลั้นไว้



“เปล่า กูพึ่งมา” 



“อ้อๆ” แบบนี้เองน้า พิรุธสัดๆ จะโกหกกันทำไมวะ



“เอ้อ...เดี๋ยวกูไปหาซื้อน้ำก่อนนะมึง ต้องการกินน้ำแร่สักนิดค่ะ เพื่อผิวผู้หญิงสวยๆอย่างกู” หยีที่ลุกขึ้นแล้วหันมาขยิบตาให้ผม ผมคิดว่าผมเข้าใจว่ามันต้องการอะไร แต่เพราะว่าเข้าใจแบบนี้ถึงได้แต่ถอนหายใจหนักๆอยู่แบบนี้ ผมที่มองไอ้เก้อที่นั่งอยู่ตรงหน้า ท่าทางของมันที่เหมือนปกติดี แต่ผมรู้ดีว่ามันไม่ได้ปกติอะไร ถ้าเป็นปกติมันคงด่าที่ผมไม่ตอบไลน์อะไรมันกลับไป



“เก้อคือกูน่ะ...”



“เอ้อ มึงกินข้าวยังวะเอม กูไปซื้อให้ไหม”  ผมมองหน้ามันที่โพล่งขึ้นมาตัดบทของผมซะก่อน ไอ้เก้อเองที่ก็ลุกขึ้นยืนทำท่าเหมือนจะลุกออกไปจากโต๊ะ ท่าทางของมันที่ทำให้ผมต้องถอนหายใจออกมา



“กูไม่อยากกินอะไรหรอก”



“หรอ งั้นเดี๋ยวกูไปซื้อน้ำก่อนนะ คอแห้งว่ะ”  มันยิ้มแล้วพูดออกมาแบบนั้น รอยยิ้มที่ฝืนของมันทำผมหนักใจ แต่ถึงแบบนั้นผมก็เลือกที่จะเอื้อมมือไปคว้าข้อมือของมันเอาไว้ก่อน



“กูมีเรื่องจะพูดกับมึง ไม่นานหรอก”  ไอ้เก้อที่ยืนหันหลังให้ผม ข้อมือหนาของมันที่ถูกผมกำเอาไว้ไม่ปล่อย รับรู้ได้ว่าตอนนี้มันกำหมัดจนแน่นเกร็งไปหมด



“เดี๋ยวค่อยคุยไม่ได้หรอวะเอม”  มันที่พูดแบบนั้นแล้วตั้งท่าจะดึงข้อมือออกจากฝ่ามือของผม เพราะแบบนั้นผมเลยตัดสินใจที่จะพูดออกไปเลย



“กูอยากบอกมึงก่อน ... กูคบกับพี่ดาบแล้วนะ” 



ความเงียบโรยตัวลงมาบริเวณโดยรอบของเราทั้งสองคน ผมที่ยืนมองแผ่นหลังกว้างๆของมันจากตรงนี้ มองไม่เห็นว่าตอนนี้มันกำลังทำหน้าตายังไง หรือรู้สึกแบบไหน แต่ถึงแบบนั้นผมก็ไม่เสียใจที่ได้พูดออกไป



“เก้อ...”



“มึงคบกับมันจริงๆหรอวะ”



“อืม .. กูอยากให้มึงรู้จากกูเอง แล้วก็แค่หวังว่ามึงจะดีใจกับกูนะ”



“ดีใจหรอวะ อืม...แล้วมึงมีความสุขไหม ดีใจหรือเปล่าตอนนี้”  มันที่ย้อนถามผมออกมา ไม่เข้าใจว่าทำไม แต่ถ้าคิดทบทวนตามคำถามที่มันถาม คำตอบเดียวที่ผมจะมีให้ก็คง



“อืม กูมีความสุขดี อยู่กับพี่มัน ถึงมันจะชอบทำตัวแด๊ะแด๋ทาปากแดงๆบ้าบออะไรของมัน แต่จริงๆแล้วทุกวันที่กูอยู่กับพี่มัน กูมีความสุขดี พี่มันดูแลกูดีมาก” 



“หรอวะ”  มันที่พูดออกมาแบบนั้นและไม่แม้แต่จะหันกลับมามองหน้าผม ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆในลำคอของมันแบบฝืดฝืนหน่อยๆ



“มึงเก่งว่ะเอม”



“หื้ม”



“มึงแกล้งทำเป็นไม่รู้เก่งดี แต่ว่าถ้ามึงมีความสุขดี กูก็ดีใจด้วย แต่ถ้าวันไหน...” มันที่ค่อยๆหันหน้ามามองผมในตอนนี้ สายตาคมดุของมันที่ตอนนี้แดงนิดๆจ้องมาที่ผม มองหน้ามันอยู่ตอนนี้ได้แต่ต้องสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ ถึงผมจะรู้สึกแย่มากแค่ไหน แต่ผมก็จะไม่หลบตามัน



“ถ้าวันไหนมันทำมึงเสียใจ กูจะไม่ยอมอีกแล้วเอม”



“มึงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของกูเลยเก้อ”



“หึ”  มันที่ยกยิ้มมุมปากแล้วมองมาที่ผม หัวเราะเบาๆหนึ่งที่ก่อนจะเอื้อมมือมาหยิบกระเป๋าของมันแล้วเดินออกไป ผมคิดว่าวันนี้คงไม่เห็นมันในห้องเรียนอีกหนึ่งวัน



“เป็นยังไงบ้างมึง”  ไอ้หยีที่เดินกลับมาหลังจากที่ไอ้เก้อเดินออกไปประมาณห้านาที ในมือของมันไม่ได้มีน้ำแร่แบบที่มันบอกว่าจะออกไปซื้อ แน่แหล่ะ ผมรู้แต่แรกอยู่แล้วว่ามันไม่ได้ตั้งใจจะซื้อ ก็แค่อยากให้ผมอยู่กับไอ้เก้อสองคน



“มันไปแล้วว่ะ”



“มึงได้บอกมันไหมคะ” ผมพยักหน้าตอบคำถามของไอ้หยี พร้อมๆกับสูดหายใจเข้าปอดไปอีกรอบ บางทีช่วงนี้ผมอาจจะอยากได้ออกซิเจนมาหล่อเลี้ยงสมองมากๆหน่อย ... ใครๆก็รู้ว่าผมเป็นควาย ควายแบบผมไม่ควรใช้สมองเยอะขนาดนี้ไม่ใช่หรอวะ ปวดหัวจัง



“แล้วมันก็ไปเลยหรอ”



“ไม่หรอก มันพูดอะไรหลายอย่างอยู่ แต่ป้า...มันคงเสียใจ”



“แล้วการที่มันชอบมึงอยู่แบบนี้มันไม่เสียใจหรอ ความรักที่ไม่สมหวังแม่งเจ็บสุดแล้ว ...ไอ้เก้อน่ะมันเป็นคนฉลาด แต่คนฉลาดก็ชอบจะโง่เวลามีความรักเสมอ เพราะแบบนั้นมันเลยไม่เข้าใจสักทีว่ามึงไม่ได้รักมัน ให้มันรู้ว่ามึงรักคนอื่นจากปากมึงเองน่ะดีแล้ว เผื่อมันจะตัดใจได้สักที”



“กูผิดไหมวะป้า”



“ความรักมันไม่มีถูกผิดไหมวะ มันก็มีแค่รักกับไม่รัก มึงแค่ไม่รัก ถ้าจะผิด ก็คงผิดที่ใจไอ้เก้อมันไม่ยอมรับสักทีก็แค่นั้นแหล่ะ”



“ขอบคุณนะป้า มึงพูดให้กูรู้สึกดีขึ้นตลอดเลยว่ะ”



“กูรักมึง”



“เห้ยบ้า กูมีพี่ดาบแล้วนะป้า ทำไงดีอ่ะแบบนี้”



“สัด! มึงขิงกูหรอคะ จากกูจะซึ้งๆก็คืออยากลุกขึ้นไปฉีกอกมึงค่ะ”



“แหมม หยอกจ้า กูการักมึงนะป้า ขอบคุณมากๆเลยนะที่อยู่กับกูตลอดเลย”



“มึงลูกกูไงคะ ส่วนอิเก้อ ผัวที่กูสถาปนามา ถ้ายังบ้าอยู่กูจะปลดแล้วค่ะ ไม่อยากมีผัวปัญญาอ่อน”



“เออนี่ป้า วันนี้กูมาถึงม.น่ะ กูเห็นไอ้เก้อมันมากับน้องเสือวะ”



“หื้ม น้องเสือไหน น้องเสือหล่อๆน้องรหัสมันน่ะหรอคะ”



“ใช่ น้องเสือนั้นแหล่ะ แต่กูน่ะสงสัยมากๆ มันมาถึงตั้งนานแล้ว แต่บอกว่าพึ่งมา มันหายไปไหนกับน้องเสือวะ แล้วทำไมต้องโกหกูด้วย”



“เรื่องนี้ดูมีเงี่ยนงำจังเลยค่ะอิเอม”



“เงื่อนไหมล่ะ”



“เงี่ยนนี่แหล่ะ กูได้กลิ่น”



“โวะ กูล่ะเหนื่อยจะคุยกับป้ามึงว่ะ พูดไปเรื่อย”  บอกมันออกไปแบบนั้น แต่เหมือนไอ้หยีจะยังไม่ฟังคำผม มันเอาแต่พึมพำกรอกหูผมถึงความเงี่ยนของไอ้เก้อ แล้วคือถ้าไอ้เก้อจะเงี่ยนงำจริงๆผมว่ามันก็ไม่น่าจะเกี่ยวกับน้องเสือไหมวะครับ ไอ้หยีก็พูดอะไรตลกไปเรื่อย



.

.

.

(มีต่อจ้า)

           
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่32 {23/05/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 23-05-2020 21:13:50

               

                   สี่โมงเย็น ผมกับไอ้หยีเดินลงมาจากตึกเรียนกันสองคน และแน่นอนว่า วันนี้ทั้งคาบไอ้เก้อก็ไม่เข้าเรียน ไม่รู้ว่ามันไปอยู่ไหน แต่ผมก็เลือกจะไม่โทรหา ผมแค่หวังว่ามันจะเข้าใจอะไรได้ไวๆ และกลับมาเป็นเพื่อนของผมเหมือนเดิม



“สวัสดีค่ะพี่ดาบ เอ๊ะ ตอนนี้หยีเรียกพี่ดาบได้หรือยังเอ่ย หรือต้องเรียกเจ๊ดานี่อีกคะ”



“สวัสดีค่ะหนู จะเรียกอะไรก็ได้หมด พี่ไม่ติดครับ” อิเจ๊พี่ดาบที่เดินยิ้มเข้ามาแล้วยื่นชาเขียวปั่นใส่วิปครีมจากร้านเงือกเขียวยื่นมาให้ผม แล้วมันก็หันไปยิ้มให้ไอ้หยี



“ครับขนาดนี้ กูเกือบเรียกผัวแล้วนะอิเอม ไม่อยากเรียกพี่ดาบเลยอ่ะ” กระซิบกู กระซิบแบบดังมากจนอิเจ๊พี่มันขำออกมา



“วันนี้เรียนโอเคไหมครับ หรือเข้าไปหลับกัน”



“หยีตั้งใจเรียนแบบสุดๆไปเลยค่ะพี่ดาบขา แต่อิเอมนี่หลับค่ะ หลับจริงหลับจังค่ะ” ฟ้อง ฟ้องให้สุด นี่เพื่อนกูไหมยังไงเอ่ย ไอ้เอมเป็นเลิกลั่กเลยนะ ผมที่ค่อยๆเงยหน้ามองช้อนตาขึ้นไปมองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าผมนิดๆ พี่มันที่ยกยิ้มหน่อยๆแล้วส่ายหน้า ก่อนจะยกมือขึ้นมายีหัวผมเบาๆ



“ไม่ตั้งใจเรียนแบบนี้ไงถึงเป็นควายน้อยเนี่ย”



“ก็ผมง่วงนี่หว่า”  กูเหนื่อย กูง่วง ใครมันจะไปสดชื่นสดใสเหมือนเจ๊พี่มึงกันวะ แม่ม



“อ้อ ก็จริงนะ เพราะว่าเมื่อคืนกว่ากูจะปล่อยให้มึงได้นอนก็ดึกมากๆแล้วนี่หว่า ไม่แปลกที่มึงจะง่วง พี่ผิดเองแหล่ะน้องหยี อย่าว่าเอมมันเลยครับ” พูดออกมาพร้อมทำท่านึกขึ้นได้ ก่อนจะหันไปยิ้มแล้วทำหน้ารู้สึกผิดนิดๆส่งให้ไอ้หยี หน้าตาที่กูมองจากดาวอังคารก็รู้ว่ามึงตอแหลอิพี่! มึงจะพูดออกไปทำไมวะแสรดดดดดดดด



“แซ่บๆเลยมึง แซ่บเลย หยีอิจฉามากไม่ไหวแล้ว วันนี้พี่จะพามันไปบ้านใช่ไหมคะ หยีฝากมันด้วยนะพี่ ถ้ามีอะไรโทรหาหยีได้ตลอดนะ”



“ขอบคุณมากนะครับ วันหลังไปที่ร้านพี่นะ เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง”



“กรี๊ดดดดด จำแล้ว จดลงในใจแล้วค่ะพี่ขา อิอิ งั้นหยีกลับก่อนนะคะ แล้วก็ฝากไอ้เอมมันด้วยนะคะ”



“พี่จะดูแลอย่างสุดความสามารถของพี่เลย” 



“อิจฉามากไม่ไหวแล้ว มดลูกหยากไย่ขึ้นของกูคือสั่นระริกด้วยความอิจฉามึงมากๆค่ะอิเอม”  หันมาพูดกับผมแบบนั้น ก่อนจะเดินจากเราสองคนไปขึ้นรถของมันที่ก็จอดห่างไปจากรถของพี่ดาบอีกสองสามคัน



“เจ๊พี่มึงพูดอะไรวะ”



“แก้มแดงอีกแล้วว่ะหนู เขินเรื่องอะไรไหนบอกสิครับ เขินเรื่องมึงเพลียเพราะกูกวน หรือเขินที่กูบอกจะดูแลมึงอย่างดี”



“โวะ ใครเขินวะ ผมน่ะ ผมน่ะแค่ร้อนเว้ย”



“โอเค จะเชื่อก็ได้ว่ามึงไม่เขิน แค่ร้อนแล้วแก้มเลยแดงเฉยๆเนอะ” ขยิบตาให้ผมหนึ่งที สุดแสนจะกวนตรีนกันมากๆ เห็นแบบนั้นแล้วกูต้องยกมือขึ้นต่อยไหล่แม่งแรงๆทีนึงเลย



“หมัดลูกควาย”  อยากจะด่าว่าสัดจังเลยครับพี่ครับ



“เจ๊....จะพาผมไปบ้านจริงๆหรอวะ”  ถามพี่มันขึ้นมาในตอนที่เราสองคนขึ้นมานั่งบนรถแล้ว วันนี้มันเอารถหรูตราสี่ห่วงสีแดงออกมาขับครับ เป็นคันที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนเลยจริงๆ ปกติผมเห็นว่ารถเก๋งที่แพงสุดที่มันขับคือโตโยต้าแคมรี่ แต่วันนี้รถหรูนี่มาจากไหนกันวะ



“ก็กำลังจะพาไปอยู่นี่ไงครับหนู”



“มันจะดีหรอวะเจ๊”



“กูว่าดีก็ต้องดีไหมวะ”



“แล้วถ้าที่บ้านเจ๊ไม่โอเคล่ะ ถ้าเค้าไม่ชอบผม ถ้า...”



“กูชอบมึง ที่บ้านไม่ได้มาเอามึงแทนกูนี่” มันที่ตอบผมออกมาแบบนั้นด้วยความสบายอกสบายใจ พี่มันที่ปล่อยมือซ้ายออกจากพวงมาลัย แล้วเอามือนั้นมาดึงมือผมไปวางไว้ที่ตักของมัน มืออุ่นๆนั่นที่กุมมือผมเบาๆอย่างอยากให้ผมเชื่อมั่น



“ทำไมมึงชิลจังวะเจ๊”



“ถ้ากูรักใคร กูจะไม่ลังเลสักเรื่องที่จะทำให้มันดี กูเป็นคนแบบนั้น ก่อนหน้านี้กูอาจจะเคยรักใครมาก็จริง มันก็เป็นเรื่องในอดีต เป็นความทรงจำหนึ่งเป็นประสบการณ์หนึ่งของกู ไม่ต่างจากมึงที่เคยมีแฟน แต่ตอนนี้กูรักมึงและเรารักกัน ...



เอม จะทำทุกเรื่องไปกับกูไหม ต่อจากนี้น่ะ”



พี่มันที่หันมามองหน้าผมแล้วส่งยิ้มให้ ในสายตาอบอุ่นของมันที่มองมาที่ผม สายตาหนึ่งเดียวที่มีแค่ผมสะท้อนอยู่ในสายตาของมัน ผมยิ้มตอบออกมานิดๆก่อนจะบีบมือพี่มันตอบเบาๆ



“ผมเชื่อใจพี่”



“ดี งั้นเราจะผ่านมันไปด้วยกันนะ”  พี่มันที่ว่าออกมาแบบนั้นก่อนจะเหยียบคันเร่งให้ตัวเลขเปลี่ยนจาก70เป็น90 ก็แค่มุ่งหน้าไปพร้อมๆกันแบบที่มันว่าก็พอ



               ลวดลายฉลุบนบานประตูบ้านขนาดใหญ่ค่อยๆเปิดอ้าออกช้าๆอย่างอัตโนมัติในตอนที่รถคันหรูตรงเข้าไป บ้านหลังใหญ่ที่ผมมักจะเคยเห็นในละครตอนกลางคืนปรากฏอยู่ตรงหน้า บ้านสไตล์โมเดิร์นทรอปิคอล ขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลาง ทางด้านขวาเป็นสนามหญ้าและสวนสวย มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาเป็นแนวยาวตามเขนกำแพงบ้านดูร่มรื่น ส่วนทางซ้ายมือของบ้านถูกทำให้เป็นโรงรถและข้างๆถัดกันไปมองเห็นเป็นสระว่ายน้ำ



“ไปกันเถอะ” มันพูดแบบนั้นในตอนที่เรามายืนอยู่ที่โรงรถ แรงดึงจากฝ่ามือที่เย็นและชื้นเหงื่อของผมทำให้ผมรู้ว่าพี่มันยังอยู่ข้างๆกัน



เดินเข้าไปภายในบ้าน พื้นถูกตกแต่งไว้ด้วยกระเบื้องอย่างดี บรรกาศไม่วุ่นวายและดูทันสมัยด้วยกระจกบานสูงที่เรียงกันตลอดผนังตรงห้องนั่งเล่นทำให้โปร่งและโล่งสบาย จนผมหายใจหายคอได้มากขึ้น เราเดินเข้าไปจนถึงห้องนั่งเล่น ผู้ชายสูงวัยที่น่าจะอยู่ในวัย60ปี แต่ดูไม่แก่เอาซะเลยกำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่บนโซฟาตัวยาวสีเทาอย่างสบายอารมณ์



“ป๊า สวัสดีครับ”



“เอ้า มาแล้วหรอเรอะ เอ๊ะ ทำไมวันนี้มึงไม่แต่งหน้าทาปากแดงวะ”  คำพูดที่ออกมาจากปากของคนตรงหน้าทำเอาผมอ้าปากค้าง หนังสือพิมพ์ในมือค่อยๆวางลง สายตาคมๆดุที่แทบจะเหมือนกับของอิเจ๊พี่มันแบบเด๊ะๆกำลังมองสำรวจลูกชายตัวเองตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าและขมวดคิ้วเป็นการตบท้าย



“มึงเป็นใคร คลายลูกกูออกมาเลย” ว่าออกมาแบบนั้นแล้วทำหน้าตาหงุดหงิด เอ่อ....



“ป๊า อะไรนัก พอไม่ทาปากก็คิดถึงหรอ คือจะบอกให้นะว่าคนสวยๆอยู่ในลุคไหนมันก็สวยไง”  คนข้างตัวของผมพูดขึ้นอย่างอารมณ์ดี ก่อนที่เจ้าตัวจะยกมือขึ้นเอาผมทัดหูแบบมีจริตแล้วกระพริบตาปริบๆส่งให้พ่อของพี่มัน



“กูจะอ้วก สวยตาอ่ะมึง คนที่อยู่ข้างๆมึงถ้าบอกว่าสวยกูยังจะเห็นด้วยกว่า” พ่อของพี่มันพูดขึ้นมาแบบนั้นก่อนจะเลื่อนสายตามองมาที่ผม เป็นสายตาคมๆที่ถึงแม้จะมีรอยยิ้มแต่ก็ยังทำให้ผมรู้สึกโดนแสกนตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า



“อะ...เอ่อ สวัสดีครับ” ผมที่ว่าออกมาแบบนั้นพร้อมๆกับยกมือขึ้นไหว้ พยายามทำตัวให้ถูกกาลเทศะมากที่สุด จะได้ไม่มีใครว่าเอาได้



“ใครวะไอ้ดาบ”



“เมียผมพ่อ ชื่อเอม” พี่มันตอบออกมาแบบนั้นหน้าตาเฉยๆ พร้อมๆกับที่วงแขนแข็งแกร่งนั่นจะวาดมาโอบรอบเอวของผมต่อหน้าต่อตาพ่อของพี่มันทั้งแบบนั้น ... เดี๋ยวนะ มึงทำอะไรเนี่ยอิเจ๊!



“พี่มึง ปล่อย ทำไรวะ” หันไปกัดฟันกระซิบใส่มันเบาๆ แต่อีกคนก็แค่ทำไมสนใจฟัง



“นี่แกมีเมียเป็นผู้ชาย!” พ่อของพี่มันพูดขึ้นมาแบบนั้นด้วยเสียงที่ดังจนผมตกใจ หันหน้าไปมองเห็นสายตาดุๆของพ่อมันที่มองมาที่ผมแบบไม่ชอบใจ ผมได้แต่กลั้นหายใจไปในตอนนี้ พร้อมๆกับเบียดตัวเข้าหาพี่มันมากขึ้น แต่ถึงแบบนั้นผมก็ยังไม่ละสายตาหนี



“ผมขอโทษครับคุณลุง แต่ถ้าคุณลุงจะบอกให้เราเลิกกันแบบในหนัง ผมเลิกไม่ได้หรอกนะครับ เอมบอกก่อนเลย”



พูดรัวๆออกไปแบบนั้น ผมตั้งใจไว้แล้วว่าต้องพูดประโยคนี้ให้ได้ ถ้าเจอสถานการณ์ที่ว่าพ่อแม่พี่มันไม่ชอบผม ผมที่ไม่มีอะไรเลยสักอย่าง พ่อแม่ เงินทอง หน้าตา ฐานะ ผมไม่แปลกใจที่เจอเรื่องแบบนี้ แต่ถึงแบบนั้นผมก็ขอให้ได้สู้ ... สู้เพื่อความรักของผม แบบที่พี่มันบอกให้เราเดินไปด้วยกัน ผมจ้องตาพ่อของพี่มันนิ่งๆ ทั้งๆที่ในใจกลัวพ่อมันจะหยิบอะไรขึ้นมาขว้างใส่ ผ่านไปหลายนาทีโดยที่ไม่มีใครพูดอะไร สุดท้ายก็เป็นพ่อของพี่มันที่ถอนหายใจออกมาและ



“พรูดดด ฮ่าๆๆๆๆ ไอ้เด็กนี่มันน่าเอ็นดูว่ะ”  พ่อพี่มันที่ขำลั่นออกมาแบบนั้น จนผมหน้าเหวอ หันซ้ายหันขวาไปมองแบบไม่เข้าใจในสถานการณ์ตรงหน้าเท่าไหร่ มองหน้าพี่มันที่แค่ทำหน้าเซ็งๆเหนื่อยใจ



“ผมบอกแล้วว่าพ่ออย่าทำแบบนี้ ไอ้เอมมันเกร็งจนขี้จะแตกแล้ว”



“ผมเปล่านะเว้ยพี่”  กูเกร็งจริง แต่ขี้ไม่ได้จะแตกอ่ะขอยืนยัน ไม่มีอะไรปิ๊ดออกมาเลยจริงๆนะ



“ฮ่าๆๆ มาๆ มานั่งด้วยกัน ชื่อเอมใช่ไหม ไอ้ดาบมันโทรมาเล่าให้ฟังนานแล้ว หน้าตาน่ารักดีนี่นา ได้ข่าวว่าเรียนเก่งด้วย”  ผมที่เดินตามพี่มันเข้าไปนั่งลงบนโซฟาที่ฝั่งตรงข้าม ผู้ใหญ่ตรงหน้าที่ยิ้มนิดๆแล้วถามผมออกมาแบบนั้น



“คือ ผม ...เอ่อ ไม่เท่าไหร่หรอกครับคุณลุง พอไปได้ครับ”



“ไม่น่าจะพอไปได้หรอกมั้ง ได้ทุนมาตั้งแต่ม.ต้นไม่ใช่หรอ เกรดของปีที่แล้วก็3.90ไม่ใช่หรอ แบบนี้น่ะไม่ธรรมดาแล้ว”  คุณลุงพูดออกมาแบบนั้นก่อนจะยกขาขึ้นไขว่ห้างแล้วนั่งเอาหลังพิงโซฟาด้วยท่าทางสบายๆที่ดูดีมากๆ เป็นผู้ชายบุคลิคดีแม้ว่าจะอายุมาก



“เอ่อ ครับ แต่...ผมไม่เคยเล่าให้พี่มึงฟังเลยนะ พี่บอกคุณลุงหรอ” ผมหันไปกระซิบถามพี่มันที่นั่งข้างๆกัน อีกฝ่ายก็แค่ยกยิ้มมุมปากหน่อยๆ



“ไปสืบมาหมดแล้วสิท่า” พี่มันที่มองพ่อของมันนิ่งๆแล้วพูดออกมาแบบนั้น แต่คำพูดนั่นก็เล่นเอาผมขนลุกสู้ สืบหรอวะ ... นี่ประวัติและภูมิหลังของผมโดนสืบหรอวะ  แค่คิดมาถึงตรงนี้ก็ต้องเม้มปากแน่นๆแล้ว คนมีเงินมีอำนาจนี่อยากทำอะไรก็ได้ง่ายๆแบบนี้เลยสินะ



“ต้องขอโทษด้วยที่ลุงไม่สุภาพสืบเรื่องเธอ แต่ว่าคนที่ทำให้ไอ้บ้านี่โทรมาที่บ้านแล้วบอกจะพามาแนะนำได้น่ะ มันก็ต้องสนใจกันเป็นธรรมดา”



“ก็แค่แฟนผมไหมวะ”  พี่มันที่ว่าขึ้นมาแบบนั้น รับรู้ได้จากน้ำเสียงว่าไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ แต่ถึงแบบนั้น ผมก็เลื่อนมือไปจับแขนมันเบาๆ อยากให้มันใจเย็นลง และก็ดูเหมือนจะได้ผล



“ก็บอกว่าขอโทษแล้วไงวะ แหม แค่นี้ทำหวง เอมน่ะเรียนดีกว่ามึงสมัยเรียนอีกไอ้ดาบ มึงน่ะโง่จนกูท้อเลยจะบอกให้” พ่อพี่มันที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วยักคิ้วส่งมาให้ผมพร้อมรอยยิ้ม ดูจะมีความสุขกับการได้เผาลูก



“เชื่อไหมว่าพ่อนะไม่ได้เห็นมันในลุคผู้ชายแบบนี้มาหลายปีจนลืมไปแล้วล่ะว่ามีลูกชายอีกคน”



“ผมสวยล่ะสิ จริงๆพ่อก็ชอบในความสวยของผม ผมดูออก”



“เหมือนตุ๊ดหมีควาย เอมเคยเห็นไหม”



“ฮ่าๆๆ คุณลุงก็พูดซะผมนึกออก”



“ใช่ไหมล่ะ น่าสะพรึงกลัว แต่ก็นะ เรียกพ่อเถอะ เรามันคนกันเอง ฮ่าๆๆ”  พ่อของพี่มันที่ว่าออกมาแบบนั้น แล้วก็เป็นผมและคุณลุงที่ขำออกมาแบบอดไม่อยู่ มีแค่คนที่นั่งข้างกันเท่านั้นแหล่ะที่ทำสีหน้าหงุดหงิดเพราะโดนเหยียบย่ำความสวยของมัน



“ขำอะไรกันเสียงดังจังคะ”  เสียงของผู้มาใหญ่ที่ดังกังวานใสที่เดินมาพร้อมกลิ่นหอมอ่อนๆของพายไก่  หันหน้าไปมองก็เห็นหญิงสูงวัยที่อายุหน้าจะอ่อนกว่าพ่อของพี่มันนิดหน่อย แต่ยังสวยปิ๊งหุ่นดีมากๆเหมือนคนอายุแค่40ด้วยซ้ำ ริมฝีปากสีชมพูดที่ถูกแต่งแต้มอย่างลงตัว เดินเข้ามาในชุดอยู่บ้านที่มองดูก็รู้ว่าต้องเป็นเสื้อผ้าแบรนด์ดัง



“แม่ สวัสดีครับ”



“ยังจำได้หรือไงว่าใครแม่เธอ หึ” เธอที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วมองค้อนมาที่พี่ดาบมันทีนึง คนข้างๆตัวผมที่ถอนหายใจออกมานิดหน่อย



“ก็ต้องจำได้สิครับ”



“หึ แล้ววันนี้ไม่แต่งหญิงมาหรือไงล่ะ หรือเพราะมีอะไรพิเศษงั้นหรอคะคุณลูกชาย”  เธอที่ว่าแบบนั้นแล้วปรายตามามองผมเล็กน้อย เห็นแบบนั้นผมเลยรีบยกมือขึ้นไหว้เธอทันที



“สวัสดีครับคุณแม่” ความรู้สึกของผมบอกว่า แม่ของพี่มันคงไม่ได้อารมณ์ดีเหมือนพ่อมันเธอยกมือรับไหว้ผมเล็กน้อยก่อนจะเสหน้ากลับไปหาลูกชายของตัวเอง



“สวัสดีจ๊ะ เรียกป้าก็พอนะ ป้าว่าเราคงไม่ต้องนับญาติอะไรกันขนาดนั้น” เธอบอกแล้วยิ้มออกมานิดหน่อย แต่รอยยิ้มของผมกลับลดลงในตอนนี้



“พูดดีๆก็ได้มั้งครับแม่”  พี่ดาบมันพูดออกมาด้วยเสียงแข็งๆที่ผมไม่ค่อยจะได้ยิน หันไปมองหน้ามันที่ตอนนี้ก็ดูจะไม่สบอารมณ์มากเท่าไหร่



“แม่พูดไม่ดีตรงไหนคะ แล้วนี่ถ้าพะพายไม่โทรมาบอก แม่ก็คงจะไม่รู้เรื่องสินะ” เธอว่าออกมาแบบนั้น แล้วทำให้ขนที่หลังของผมลุกไปทั่วทั้งหลัง สองคำสั้นๆที่ทำให้ผมอดขมวดคิ้วไม่ได้ ‘พะพาย’



“ผมตั้งใจจะบอกอยู่แล้ว แต่ไม่คิดว่าจะมีใครมาตัดหน้าบอกก่อน” 



“หึ ไม่ต้องไปโทษคนอื่น แม่ต้องขอบคุณพายด้วยซ้ำ เค้าโทรมาเยี่ยมแม่เลยหลุดพูดออกมา ถ้าแม่คาดคั้นก็คงจะไม่รู้อยู่ดี”



“พอเถอะแม่ ถ้าในเมื่อแม่ก็รู้เรื่องอยู่แล้ว งั้นผมก็ไม่ต้องพูดอะไรมากแล้ว เพราะยังไงทุกคนก็รู้ว่าเอมเป็นแฟนผม” พี่มันพูดออกมาแบบนั้นโดยไม่สนใจสีหน้าของแม่ตัวเองที่เริ่มจะไม่ดีเท่าไหร่  บรรยากาศที่ทำให้ผมรู้สึกอึดอัด เหมือนกับเป็นอะไรสักอย่างที่ทำให้แม่ลูกเค้าจะทะเลาะกัน



“เอาล่ะๆ เรามาทานข้าวกันดีกว่านะ แล้วค่อยคุยเรื่องอื่นๆกันทีหลังดีกว่า”  เป็นพ่อของพี่ดาบที่ลุกขึ้นยืนแล้วว่าออกมาแบบนั้น คุณลุงที่เอามือวางบนไหล่ผมแล้วยิ้มมาให้



“ไปเถอะ มีอาหารหลายอย่างเลยนะ เอมน่าจะชอบ แม่เจ้าดาบทำอร่อยน้า”  คุณลุงว่าออกมาแบบนั้นแล้วส่งยิ้มมาให้ ผมที่ได้แต่ยิ้มแหยๆกลับไปแล้วเดินตามเข้าไปในห้องทานอาหารที่อยู่ถัดเข้าไปอีกห้องหนึ่ง โต๊ะกระจกยาวที่ถูกคลุมทับด้วยผ้าปูโต๊ะลูกไม้ขนาดใหญ่ที่ถูกตั้งประดับอยู่กลางห้อง บนโต๊ะมีอาหารหลากหลายถูกวางจัดไว้อย่างสวยงามอยู่บนนั้น



“มาๆ มาทานกันดีกว่า”  คุณลุงที่นั่งอยู่ที่หัวโต๊ะว่าออกมาแบบนั้น และตามด้วยแม่ของพี่มันที่นั่งอยู่ฝั่งขวาของคุณลุง พี่มันนั่งอยู่ฝั่งซ้ายตรงข้ามกับแม่ และผมที่นั่งถัดต่อมา



“เดี๋ยวค่ะ น้อย...เธอไปเรียกคุณพายมาจากในครัวหน่อย มาทานพร้อมกัน”  ผมเงยหน้าขึ้นมาจากจานอาหารตรงหน้ามองไปที่หน้าของพี่ดาบที่ขมวดคิ้วจนแทบจะเป็นปมในตอนนี้



“อาหารหลายอย่างบนโต๊ะนี่พายเค้าทำด้วยนะ วันนี้มาช่วยแม่ตั้งแต่เช้าเลย” เธอว่าออกมาแบบนั้นแล้วยิ้มหน่อยๆ



“คุณป้าเรียกพายหรอครับ” เสียงคุ้นเคยที่ดังขึ้นมาจากหน้าประตูห้องทานอาหาร พอผมหันไปก็เห็นคนคุ้นเคยที่พึ่งจะไม่ได้เจอกันไปสักพัก เลื่อนสายตามองลงไปที่เท้าของเจ้าตัว ตอนนี้ยังถูกพันไว้ด้วยผ้าพันแผลแบบที่ยังไม่ได้แกะออกไปไหน



“มาทานด้วยกันสิลูก”



“เอ่อ...”  พะพายที่ทำท่าทางอึกอักแล้วหันมามองผมนิดๆ แล้วหันกลับไปมองแม่ของพี่ดาบแบบไม่แน่ใจ



“มาเถอะ ไม่ต้องกลัวใครทั้งนั้น มาทานกับแม่มา”



“ครับ”



เธอที่ว่าออกมาแบบนั้น และพะพายที่รับคำอย่างมีมารยาทค่อยๆเดินตรงเข้ามานั่งตรงข้ามกับผม พายยิ้มให้นิดๆ เป็นรอยยิ้มที่ดูเศร้าๆส่งมาให้ผม



“มาเถอะ ทานกันได้แล้วค่ะ” แม่ของพี่ดาบว่าออกมาแบบนั้น ข้าวในจานของผมถูกเสริฟและพวกเราก็เริ่มลงมือทานอาหารกันอย่างเงียบๆ รสชาติอาหารอร่อยๆมากๆ อร่อยที่สุดตั้งแต่ผมเคยกินมา วัตถุดิบชั้นดีทั้งนั้นที่ถูกจัดเสริฟขึ้นโต๊ะ แต่ถึงแบบนั้น ผมกลับไม่รู้จักรสชาติที่อร่อยนั่นเอาซะเลย บรรยากาศอึดอัดที่ทำให้ผมไม่อยากนั่งอยู่ตรงนี้ แม่ของพี่ดาบที่เอาแต่หัวเราะคิกคักกับพะพายแล้วทำสีหน้าไม่สู้ดีส่งมาให้ผม



“อะ วันนี้ที่บ้านทำขาหมูด้วยนะจ๊ะ ป้าคิดว่าเอมน่าจะชอบ แต่ว่า...ที่นี่ทานได้อย่างเดียวนะ เอาไปราดหัวใครไม่ได้”



ผมที่เคยหน้าขึ้นมามองทั้งแม่ของพี่มันและพะพายที่นั่งทำหน้ากระอักกระอ่วนอยู่ในตอนนี้ สีหน้าที่กำลังทำท่าว่ารู้สึกไม่สู้ดีของพายไม่ทำให้ผมเห็นใจเลยสักนิด ... และใช่ ในใจของผมตัดสินใจได้แล้วว่า มึงจะไม่จบสินะพาพวย!



‘หมับ’



ฝ่ามืออุ่นๆที่เลื่อนมาจากใต้โต๊ะ แล้วเอื้อมมาจับมือของผมเอาไว้เบาๆ หันหน้าไปมองก็เห็นคนข้างตัวที่หันมามองกัน แล้วส่งยิ้มมาให้ รอยยิ้มที่บอกว่าให้ผมมั่นใจในตัวมัน



“ผมว่ากับข้าวบ้านเราวันนี้ไม่อร่อยเท่าไหร่แล้วล่ะ” พี่มันพูดออกมาแบบนั้น แล้วบีบมือของผมเบาๆ



“ลูกจะบอกว่ามันไม่อร่อยเพราะแม่งั้นสิ”



“ใช่ครับ เพราะแม่กำลังทำท่าทางไม่ดีใส่แฟนผม เพราะแบบนั้นผมเลยไม่อร่อย แฟนผมก็ไม่อร่อย ในที่นี้ไม่มีใครอร่อยถ้ายังจะทำท่าทางกันอยู่แบบนี้”



“ดาบ! ลูกพูดแบบนี้กับแม่หรอ ปกติลูกไม่เป็นแบบนี้เลยนะ หรือเพราะ...” เธอที่หยุดประโยคเอาไว้แค่นั้นแล้วมองมาที่ผม สายตาที่มองออกว่ากำลังบอกว่าผมเป็นเด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้า



‘ครืด’



พี่มันที่ลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วดึงผมให้ลุกขึ้นยืนด้วยกัน แม่ของมันที่มองตรงมาที่เราด้วยสีหน้าไม่พอใจและเสียใจส่งมาอย่างไม่ปิดบัง ก็แน่นอนว่าคงไม่มีแม่ที่ไหนที่จะลุขใจเพราะลูกชายของตัวเองทำพฤติกรรมแบบนี้ใส่แน่ๆ



“ผมจะกลับแล้ว”



“หยุดนะ! มาพูดกันให้รู้เรื่องก่อนดาบ แม่ไม่โอเคมากๆกับเรื่องของเด็กนี่นะ ทั้งก้าวร้าว ทั้งไม่มีหัวนอนปลายเท้าแบบนี้ แถมยังเป็นผู้ชาย ลูกคิดอะไรกันแน่!!” เธอเองที่ก็ยืนขึ้นมาแล้วพูดออกมาแบบไม่คิดจะไว้หน้าผมเช่นกัน มือของเธอสั่น สายตาที่เต็มไปด้วยความผิดหวังนั่นกำลังส่งมาให้พี่มันจนผมใจเสีย



“ผมรักเอม”



“แต่แม่ไม่ยอม!”



“แม่ยอมรับเกย์ไม่ได้ ยอมรับชายรักชายไม่ได้ ยอมรับกระเทยไม่ได้หรอครับ แล้วกับเฮียทัพ เฮียรบ ไอ้รุกแม่ยังหัวเราะยินดีด้วยกับคุณป้า คืออะไร” มันที่ถียงแม่มันออกมาแบบนั้น ในสายตาที่มองตรงไปที่แม่มันแบบไม่ยอม



“มันไม่เหมือนกันไหม ทำไมดาบไม่เข้าใจสักที ก่อนหน้านี้ก็เป็นตุ๊ด แล้วตอนนี้ยังจะเป็นอะไรไปอีก!”



“ใจเย็นๆก่อนคุณ”



“คุณป้าใจเย็นๆนะครับ” พะพายที่ลุกขึ้นประคองหลังแม่ของพี่มันไว้ พร้อมๆกับว่าออกมาแบบนั้น



“ไม่เย็นทั้งนั้น แม่ไม่เข้าใจเลยดาบ ทำไมลูกถึงเป็นแบบนี้ แม่เลี้ยงลูกมาผิดตรงไหน”



“ผมเองก็ไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมแม่ยอมรับตัวตนและการตัดสินใจของผมไม่ได้สักที แม่แค่ยอมรับไม่ได้เพราะเอมมันไม่ถูกใจ หรือแม่ยอมรับไม่ได้เพราะลูกแม่จะรักผู้ชายกันแน่!”



“พี่ดาบใจเย็นก่อน” ผมพูดออกไปแบบนั้น จับมือพี่มันไว้ กับสถานการณ์แบบนี้มันไม่ใช่แล้ว ถึงแม้ผมจะเกลียดรอยยิ้มนิดๆของพะพายที่กำลังมองมาที่ผมมากแค่ไหนก็ตาม แต่ผมก็ไม่อยากทำให้อะไรมันแย่มากไปกว่านี้เพราะตัวผม



“เหอะ คนอื่นพูดลูกเชื่อ แต่ทีแม่ แม่ที่เป้นแม่แท้ๆของลูกพูดกลับไม่เชื่อ นี่มันอะไรกัน แล้วกับเด็กคนนี้ทั้งก้าวร้าว ทั้งไม่มีหัวนอนปลายเท้า ลูก...”



“ถ้าแม่ยอมรับผมไม่ได้ ยอมรับคนที่ผมรักไม่ได้ งั้นแม่ก็คิดว่าผมไม่ใช่ลูกแม่ด้วยก็ได้ครับ”



“ดลธีร์!”



--------------To be continued------------

มาแล้วจ้าาาา มันกำลังจะมาจ้าาา ....

อย่าสงสารคนตายเลยแฮรี่ สงสารพาพวยที่กำลังจะโดนคนอ่านเอาเปลือกทุเรียนฟาดหน้าเถอะ

คนอ่านยังอยู่ไหมมมม มาเถอะมาอ่านมาเม้นท์กันนน กำลังใจของคุณทำแคทเขียนคล่องน้าาา

ฝาก #สวยๆ เป็นผัว ในทวิตเตอร์ด้วยนะจ๊ะๆ .... :hao7: :mew1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่32 {23/05/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 23-05-2020 22:54:22
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่32 {23/05/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Chucream.nabi ที่ 24-05-2020 00:31:47
 :angry2: อิพาพวยมึงใส่ไฟใช่มั้ย หนูออมนิสัยไม่ดี
มึงมันตอแหลลลลล
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่32 {23/05/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 24-05-2020 10:09:58
ฮึ่ยยย อะไรพาพวยนิสัยไม่ดี  :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่32 {23/05/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 24-05-2020 11:31:17
ตบมันค่ะอิพาพวย :katai4:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่32 {23/05/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 25-05-2020 07:30:23
พาพวยหรอจะพาซวยกันแน่ แต่ที่แน่ๆ เฮียดาบเท่ห์สุดยอดไปเลย
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่32 {23/05/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 27-05-2020 08:43:52
ดราม่าก็มา
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่32 {23/05/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 29-05-2020 00:13:15
ตบอิพายยยย,,,

เกลียด!!!!
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่33 {30/05/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 30-05-2020 21:27:40
บทที่33


“พี่มาที่นี่หาพ่อพี่หรอวะ”



“อย่ามาทำหน้าตาเบื่อกูมากได้ไหมวะ” คนข้างตัวที่มานั่งไขว้ห้างพร้อมกระดิกตีนไปด้วยพูดออกมาแบบนั้น เห็นแบบนั้นแล้วกูอดไม่ได้ที่จะต้องถอนหายใจออกมาอย่างหน่ายๆ



“กลิ่นไส้กรอกมึงเตะจมูกกูมากสัดพี่เก้อ”



“มึงหมายถึงKกูหรอ” ว่าแบบนั้นแล้วหันมาทำหน้าทำตาน่าตบใส่



“สัด! กูหมายถึงไส้กรอกเซเว้นที่มึงซื้อมาเนี่ย”



“อ๋อออ กูก็นึกว่ามึงชื่นชมกลิ่นไส้กรอกกู” ว่าแบบนั้นแล้วชี้นิ้วลงไปที่เป้ากางเกงของตัวเอง สัด...ใครให้คนบ้ากามมันเข้ามาหากูในห้องเรียนแบบนี้วะ



“มึงอย่าสำคัญตัวเองนักได้ไหม Kมึงไม่ได้หอมสำหรับทุกคนสัดพี่เก้อ”



กรอกตาใส่แม่งหนึ่งทีแล้วหันไปตั้งใจฟังบรรยายจากสไลด์ต่อ วันนี้เป็นวิชาบรรยายที่ไม่ได้สำคัญอะไรมาก เป็นวิชาเรียนรวมของปีหนึ่งที่ต้องนั่งฟังบรรยายในหอประชุมเล็กแบบสโลป เพราะแบบนั้นไอ้ล่ำนี่มันถึงเข้ามานั่งข้างกันได้แบบหน้าด้านๆแบบนี้ยังไงล่ะ



“นี่ สนใจกูหน่อยสิ”



“สัด กูไม่อยากโง่แบบมึงนะ มาเรียนก็ไม่เข้าเรียน เป็นบ้าหรอไอ้สัด”



“นี่มึงก็จะไล่กูหรอวะเสือ กูจ้อยในนะ”



“น้อยใจก็เหี้ย ตัวใหญ่เป็นหมีแบบนี้มึงอย่ามากระแดะ” ว่ามันออกไปแบบนั้น อีกคนที่แค่เท้าคางลงกับโต๊ะแลคเชอร์แล้วหันหน้ามามองผมแล้วยกยิ้ม



“ปากร้ายจังวะ”



“เสือกไรปากกู”



“แต่ปากร้ายๆแบบนี้พอได้ชิมทีก็หวานอยู่นะ โอ้ย สัดเสือเล่นเหี้ยไรเนี่ย” มันที่ร้องออกมาตอนที่ผมหยิบใส่กรอกรมตะวันของมันเขวี้ยงใส่หัวมันไปที

 

“กวนส้นตีน ถ้าไม่หุบปากก็ออกไปเลยไปกูจะเรียน กูไม่อยากโง่แบบมึงนะพี่เก้อ”



“กูไม่โง่นะเว้ย”



“ถ้าไม่โง่ มึงคงไม่โดดเรียนมาหากูแบบนี้หรอกสัด แก่จะตายละทำตัวไร้สาระนะมึงเนี่ย”



“การโดดเรียนมาหามึงอ่ะ มันอาจจะเป็นเรื่องที่ฉลาดที่สุดของกูแล้วก็ได้ ... เพราะอย่างน้อยกูก็ยังเลือกมาหาความสบายใจให้ตัวเอง ไม่ใช่เข้าไปนั่งเรียนแต่ไม่เข้าใจอะไรสักอย่างเพราะอึดอัดใจ” 



มันที่พูดออกมาแบบนั้นด้วยเสียงที่ก็ไม่ได้ดังอะไรมากนัก ได้ยินแบบนั้นแล้วผมต้องขมวดคิ้วหันกลับไปมองหน้ามันเลย มันที่แค่หันหน้าออกไปอีกทางนึง ใบหน้าด้านข้างของมันที่ก็ยังดูดี เป็นเหมือนกับอะไรสักอย่างทียิ่งดูแล้วยิ่งหน้าค้นหา



“อึกอัดใจเหี้ยอะไรนัก”



“แค่รู้ว่ามึงเป็นความสบายใจของกูก็พอแล้วครับน้องเสือ” หันมายิ้มให้กันแล้วยกยิ้มให้หนึ่งที เห็นแบบนั้นแล้วก็รีบเสหน้าหนีมันมา ไม่ได้รู้สึกอะไรมากนักหรอก ก็แค่ไม่อยากมองหน้าตาอ้วนๆของมัน



“สัด”



“หึ ตั้งใจเรียนไป กูไม่กวนแล้ว” มันที่บอกออกมาแบบนั้นแล้วยกมือขึ้นมาขยี้หัวผมเบาๆ ก่อนจะละมือไปหยิบมือถือขึ้นมาแล้วเข้าพับจี ... ความรู้สึกอุ่นๆบนหัวเมื่อก่อนหน้านี้ยังไม่จางไป เป็นสัมผัสที่คนทำไม่ได้รู้สึกอะไร แต่ใจของกูกับฟังบรรยายไม่รู้เรื่องแล้วตอนนี้ ...



เกลียดมึงฉิบหายเลยไอ้สัดพี่เก้อ!


.

.

.



“เอาล่ะนักศึกษา อย่าลืมกลับไปอ่านทบทวนกันอีกครั้งได้ วันนี้เลิกคลาสได้”  เสียงของอาจารย์ที่ดังขึ้นมาทำให้ทั้งผมและเพื่อนร่วมเซคได้แต่ร้องเย่อยู่ในใจ ทั้งคาบก็ไม่รู้ว่าอาจารย์มีความสุขใจอะไรกับการสอนนักหนา พูดตามสไลด์อยู่ได้คนเดียว คือพูดจริงๆว่าถ้าจะสอนกันแบบนี้ก็เอาสไลด์นี้มาให้กูโหลดแล้วกลับไปอ่านเองเถอะครับ



“เลิกแล้ว ไปหาอะไรแดกกัน” ไอ้พี่เก้อที่หยิบหูฟังและมือถือของมันลงกระเป๋าเรียบร้อยหันมาบอกกัน ได้แต่พยักหน้ารับไป เพราะจริงๆตอนนี้กูก็หิวฉิบหายแล้วล่ะ เหลือบตาไปมองนาฬิกาบอกเวลาว่าสี่โมงครึ่งกว่าๆ อาจารย์สอนเกินเวลาอีกแล้วแม่ง



“นี่ทุกคน วันศุกร์นี้พวกเรามีไปเข้าค่ายอาสานะ อย่าลืมล่ะว่ารถออกตอน6โมงเย็น” เสียงของประธานปี1ตะโกนขึ้นมาแบบนั้น แล้วก็ทำให้กูต้องขมวดคิ้ว ค่ายหรอวะ?



“ค่ายอะไรวะมึง” ไอ้พี่เก้อหันมาสะกิดถาม แต่แน่นอนว่าได้คำตอบจากกูเป็นหน้างง จำไม่ได้เลยเว้ย มันที่ถอนหายใจออกมานิดหน่อยก่อนจะหันไปสะกิดคนที่นั่งอยู่แถวข้างหน้าเรา เป็นเพื่อนคนนึงในเซคที่ผมไม่เคยคุยด้วย แต่หน้าตาน่ารักดีครับ



“คะ? เอ่อพี่เก้อ สวัสดีค่ะ” ดูเหมือนว่าจะจำไอ้พี่เก้อได้ซะด้วย ฮ็อตไม่เบา หมั่นไส้แม่งว่ะ เตะขาแม่งไปหนึ่งทีเลย มันที่หันมาทำหน้าดุใส่ แต่ผมก็ทำเป็นแค่ไม่สนใจ



“ค่ายอะไรหรอครับน้อง”



“ค่ายอาสาของคณะเราค่ะ พวกพี่เก้อก็ต้องไปไม่ใช่หรอคะ” เธอบอกออกมาแบบนั้นแล้วยิ้มสวยๆส่งมาให้ ไอ้พี่เก้อที่แค่พยักหน้าเข้าใจ พร้อมยิ้มหล่อๆส่งไปให้เธออีกหนึ่งที



“ขอบคุณมากนะครับ” มันที่ตอบเธอออกไปแบบนั้น สายตาที่ทั้งมันและเธอมองกันก็คือเดาออกว่ากำลังคิดอะไร



“เอ่อ พี่เก้อคะ ... จะเป็นอะไรไหมถ้าแพรจะขอไลน์พี่เก้อไว้ เผื่อตอนไปค่ายมีปัญหา”  โอ้โห ไม่เบาเลยว่ะ ใช่ได้เลยนะเนี่ย มองเห็นไอ้พี่เก้อที่ยกยิ้มมุมปากนิดๆ สัด...หมั่นไส้แม่ง เห็นแบบนั้นผมเลยเด้งตัวลุกจากเก้าอี้ขึ้นมาเลย



“กูไปล่ะ” บอกแบบนั้นแล้วเดินออกมา หงุดหงิดลูกตาพิกล กูหล่อกว่าตั้งเยอะเป็นเหี้ยไรต้องขอไลน์มันด้วยวะ



“เห้ยไอ้เสือ รีบไปไหนวะ” มันที่ร้องตามมาแบบนั้น แต่ผมไม่สนใจ ก็ทำแค่ก้าวยาวๆเดินออกมาจากห้องประชุมนั่นก็แค่นั้น มันเป็นยุบยับยุบยิบในหัวใจกูแปลกๆ  ... หรือว่ากูจะเป็นกรดไหลย้อนวะแม่ง แสบร้อนกลางอกแบบเนี่ย ใช่แน่ๆเลยแม่ง



‘พรึบ’



“จะรีบไปไหนของมึง ทำไมเดินไม่รอกูเลยวะ”  เสียงที่ดังมาพร้อมๆกับวงแขนใหญ่ๆของไอ้สัดพี่เก้อที่พาดลงมาที่ไหล่ของผม หนักฉิบหาย หันหน้าไปมองหน้ามันที่ก็อยู่ห่างออกไปไม่เท่าไหร่ เพราะแบบนั้นเลยต้องหันหน้ากลับมามองทาง เมื่อกี้ปากมันก็จะชนปากของผมอยู่แล้ว จะเอาหน้ามาใกล้เชี่ยไรนัก



“กูหิว”



“หรอวะ”



“เออ แล้วมากอดกูทำเหี้ยไร ปล่อยสิวะ”



“กูสะดวกแบบนี้มึงจะทำไมอ่ะครับน้องเสือ” ยียวนกวนส้นตีนว่ะ เห็นหน้าแล้วอยากเอาเท้าขยี้หน้ามัน



“รำคาญไอ้สัด”



“อะไรวะ เมื่อกี้ยังดีๆอยู่เลยนี่มึงหงุดหงิดอะไร”  มันที่ว่าแบบนั้นแล้วจับตัวผมให้หันไปมองหน้ากันดีๆ แต่ถึงแบบนั้นมึงก็ไม่สามารถหรอก กูหันหนีแม่งเหมือนเดิมเลย



“เป็นอะไรของมึง”



“รำคาญหน้ามึง กูหิว”



“ทำไมวะ เห็นหน้ากูแล้วมึงหิวหรอ” มันที่ถามผมแบบนั้น ยืนเอาหนังพิงอยู่กับตัวลิฟต์แล้วจ้องหน้ากันพร้อมยกยิ้มมุมปากแบบกวนตีน



“กูจะไปหิวทำไม ถ้าเป็นน้องแพรเมื่อกี้ก็คงจะไม่แน่หรอกมั้ง” ปากกูก็ไปไว แค่คิดก็พูดออกไปเลยทั้งแบบนั้น ไอ้พี่เก้อที่ได้ยินผมตอบ มันที่ก็แค่ยกยิ้มมุมปากพร้อมทำหน้าเจ้าเล่ห์ใส่กัน และในตอนนั้นกูก็รู้สึกว่าถูกน็อคยังไงบอกไม่ถูก



“มึงหึงกูหรอวะ ที่น้องเค้าขอไลน์กู ...มึงหึงกูหรอเสือ”



“หึง...หึงเหี้ยอะไรล่ะ เพ้อเจ้อ!”



“หึ ไม่หึงหรอวะ ว้า...”



“น่ารำคาญ เหยิบไป ลิฟต์มาแล้ว”



บอกแบบนั้นแต่ไม่ยอมมองตามันที่มองจ้องตรงมาที่ผมไม่หยุด ได้แต่เดินหลบตัวมันเข้าลิฟต์ไป อีกคนที่เดินตามกันเข้ามาติดๆ มันที่กดลิฟต์ไปยังชั้นหนึ่ง ก่อนจะหันกลับมาหาผมแล้วเดินเข้ามาใกล้ เบียดตัวเข้ามาใกล้จนผมต้องแนบตัวไปยืนชิดกับกำแพงลิฟต์



“เขยิบเข้ามาทำไมวะ”



“มึงไม่หึงจริงดิน้องเสือ”



“ไอ้พี่เก้อ เขยิ...”



“มึงไม่อยากรู้จริงดิว่ากูให้ไลน์น้องเค้าไปหรือเปล่า”  มันที่พูดแทรกประโยคของผมออกมาแบบนั้น และใช่ คำถามของมันก็ทำให้ผมชะงักไป ได้แต่เม้มปากเข้าหากันอย่างห้ามตัวเองไว้ ถึงจะอยากรู้แค่ไหนกูก็จะไม่ตกหลุมมึงอีกหรอกสัดพี่เก้อ



“เสือ...ไม่อยากรู้จริงดิวะ”



“จะบอกก็บอก ไม่บอกก็เรื่องของมึงสิ ใครสนกันวะ” บอกมันแบบนั้น แล้วจ้องตาสู้ มันที่ยิ้มออกมานิดหน่อย ก่อนจะเลื่อนหน้าลงมาจูบปลายจมูกกันเบาๆ ความรู้สึกเสียววาบจากสันหลังขึ้นมาถึงหัว รู้สึกร้อนหน้าจนทำตัวไม่ถูก



“กูบอกว่ากูไม่ให้ว่ะ เดี๋ยวแฟนกูโกรธ”



“ร....เหรอ แล้วไงวะ” เสหน้าหนีดวงตาคมของมันที่เอาแต่จ้องมองกันไม่หยุด กูเกลียด เกลียดสายตายิ้มล้อกันของมันแบบนี้จริงๆ



“ไม่แล้วไงอ่ะ กูแค่บอกว่าแฟนกูหิวเลยรีบเดินหนีออกไปแล้ว ต้องตามมาง้อแฟน เลยให้ไลน์ไปไม่ได้ว่ะ”



“พ่อง! แฟนพ่อง!!” หันไปถลึงตาใส่มัน แต่อีกคนกลับยิ้มขำแบบไม่ใส่ใจ มันที่เอื้อมตัวมาคว้าไหล่ผมแล้วกอดคอผมเหมือนก่อนหน้า



“เอาน่าน้องเสือ ตำแหน่งแฟนกูนี่ใครกูนี่ใครๆก็อยากเป็นนะเว้ย”



“สัด ถามกูก่อนไหม”



“เอาน่า ก็แค่รับสมอ้างไปหน่อยสิวะ เบื่อว่ะไม่อยากโดนกวน อ้างมึงไปแบบนี้อ่ะดีละ” มันที่ว่าแบบนั้นแล้วยิ้มกว้างๆ ได้แต่เม้มปากแน่นๆตอนที่ได้ยินแบบนั้น ....



ใครแม่งจะอยากเป็นวะ แฟนปลอมๆของมึงน่ะไอ้สัด!



...



“ดลธีร์!”



เสียงแม่ของคนข้างๆตัวผมดังขึ้นแบบนั้น เป็นสถานการณ์ที่เรียกได้ว่าอึดอัด สายตาของคนเป็นแม่ที่มองมาที่หน้าของพี่ดาบ มันชวนให้ผมรู้สึกเสียใจ สายตาของเค้าที่กำลังบอกว่าเสียใจและผิดหวัง ผิดหวังในตัวของพี่มัน ... และหนึ่งในความผิดหวังนั้น ... มันเกิดมาจากผม



“พี่...” ผมที่พูดขัดออกไป ก่อนที่คนที่อยู่ข้างๆตัวจะสาดคำพูดแรงๆอะไรออกไปใส่แม่ของตัวเองอีก มือที่จับกันไว้แน่นๆของเรา ผมบีบมือของมันเอาไว้แน่นๆ ถอนหายใจแล้วค่อยพูดออกไป



“ผมว่าพี่ใจเย็นๆก่อนดีกว่านะ” บอกออกไปแบบนั้น ได้แต่ถอนหายใจกับเรื่องเดิมๆซ้ำซากที่เหมือนจะเคยเกิดขึ้นกับตัวผมมาก่อน กับเรื่องของฐานะและครอบครัวของผม คนแบบผมที่ไม่คู่ควรกับใคร อยากจะปลงแต่มันก็ทำไม่ค่อยจะได้ แต่ถึงแบบนั้นก็ไม่อยากให้พี่มันต้องมาโวยวายกับแม่มันแบบนี้ เพราะอย่างน้อยๆในครั้งนี้พี่มันก็ปกป้องผมมากๆแล้ว มากกว่าที่ใครสักคนจะเคยทำเพื่อผม



หันไปมองตาพี่ดาบที่ตอนนี้ก็หันมามองผม ใบหน้าหล่อคมที่ตอนนี้จ้องตาผมแบบดุๆ คิ้วที่เรียงตัวสวยนั่นขมวดเข้าหากันแทบจะเป็นโบว์ เห็นแล้วอยากจะขำ แต่คิดว่าตอนนี้คงไม่เหมาะ



“เดี๋ยวผมจะกลับก่อน พี่ก็อยู่ที่นี่คุยกับแม่พี่เถอะ”



“พูดอะไรของมึง กูจะไปกลับด้วย”



“ดาบต้องมาพูดกับแม่ให้รู้เรื่อง” แม่ของพี่มันพูดขึ้นมาแบบนั้นด้วยเสียงที่เด็ดขาด ผมที่เห็นว่าพี่มันจะพูดอะไรออกไปอีกก็ได้แต่บีบมืออีกฝ่ายเอาไว้แน่นๆมันถึงได้เงียบเสียงลง



“พอเถอะคุณ จะโวยวายอะไรนักหนา นานๆทีมันจะกลับมาบ้าน” เป็นพ่อที่พูดขึ้นมาแบบนั้น ท่านที่ลุกขึ้นจากเก้าอี้ สรุปแล้ววันนี้คงไม่มีคนได้ทานข้าวอย่างอร่อย



“คุณเงียบไปเลยนะ เห็นแบบนี้แล้วยังจะให้อยู่เฉยๆได้อีกหรือไงกันคะ”



“ต่อให้แม่จะไม่อยู่เฉยมันก็ไม่มีประโยชน์หรอกผมจะบอกให้”



“พี่ดาบ พอพี่ ผมว่าแบบนี้มันไม่ใช่แล้วว่ะ”



“มึงหมายถึงอะไร มึงพูดอะไร” มันที่หันหน้ามามองผม ฝ่ามือหนาที่กุมกันไว้คราวนี้บีบให้แน่นจนผมเริ่มเจ็บ ผมที่แค่ส่ายหน้าส่งไปให้มันช้าๆ ค่อยๆปล่อยมือออกจากมือคู่นั้น



“ผมว่าพี่อยู่คุยกับแม่พี่เถอะ แบบนี้มันไม่โอเคแล้วว่ะพี่ เดี๋ยวผมจะกลับไปรอที่ห้องนะ” แค่คิดว่าตัวผมไม่ควรอยู่ตรงนี้ คิดว่าการที่ผมแยกตัวออกไปก่อนในตอนนี้คงจะดีที่สุด



“เดี๋ยวดิเอม พี่กลับด้วย”



“ดาบ!”



“คุณป้าใจเย็นๆก่อนนะครับ ผมว่าให้ดานี่กลับไปส่งน้องน่าจะดีกว่านะครับ ยังไงน้องก็มากับดานี่ น้องไม่ได้มีรถขับมาเองนะครับคุณป้า” เสียงที่พูดขึ้นมาแบบไม่ได้มีใครขอความเห็นทำเอาคิ้วผมกระตุก ได้แต่หันไปมองหน้าใสๆที่ดูจะซื่อๆนั่น  กูก็ได้ข้อสรุปในใจเลยว่า ใครบอกว่าผู้ชายตอแหลไม่เป็น เห็นหน้าใสๆแบบนี้ เล่นละครเก่งกว่าไอ้หยีเวลาแกล้งร้องไห้อีกนะครับ กูอยากให้สิบกะโหลกเป็นรางวัล



“อ๋อเหรอจ๊ะ..”



“ครับ แต่ไม่เป็นไรครับ ผมสามารถพึ่งพาตัวเองได้ครับ พี่ดาบพี่อยู่ที่นี่เถอะ ค่อยๆพูดค่อยๆจากับที่บ้านเถอะพี่ ผมไม่เป็นไร”



“กูไม่อยากพูดอะไรทั้งนั้น กูเป็นคนพามึงมา กูก็ต้องพามึงกลับ ไปเอม กลับบ้านเรากัน” มันที่บอกออกมาแบบนั้น สายตาคมๆนั่นที่ไม่ยอมหันไปมองหน้าพ่อและแม่ของตัวเอง มันที่เอาแต่มองมาทางผม และคว้ามือของผมมากุมไว้อีกครั้งและแน่นยิ่งกว่าครั้งไหนๆที่เคยจับกันไว้ ก่อนจะกระตุกข้อมือของผมให้เดินกลับออกไปตามทางเดินของบ้านมัน พร้อมๆกับเสียงเรียกของแม่มัน เป็นเหตุการณ์ชุลมุนที่ผมไม่อยากจะให้เกิดขึ้น



“ขึ้นรถ”



“พี่ ผมจะกลับเอง”



“เอม! กูบอกว่ากลับบ้านเรากัน กูไม่ได้อยากมาที่นี่อยู่แล้ว แต่กูต้องมาเพราะอยากให้มึงมั่นใจว่ากูจะไม่เปลี่ยนใจจากมึงไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”



“พี่หมายความว่าอะไรวะ”



คนตรงหน้าที่ไม่พูดอะไร เอาแต่มองหน้าผมอยู่แบบนั้น ได้มองหน้าพี่มันแบบนี้แล้วผมรู้สึกอยากจะร้องไห้ออกมา สายตาของมันที่ไม่ได้หันไปทางไหน เอาแต่มองมาที่ผม แค่นี้ผมก็ซึ้งใจมากๆแล้ว เพราะแบบนั้นผมเลยยิ่งไม่อยากเป็นตัวปัญหาที่ทำให้มันกับที่บ้านต้องมีปัญหา แม้ว่าปัญหาจริงๆมันอาจจะเกิดมาจากใครบางคนที่กำลังเดินประคองแม่พี่มันออกมาจากบ้านก็ตาม



“มึงสำคัญกับกูเอม กูรักมึง”  พี่มันที่บอกออกมาแบบนั้น ผมที่ยืนพิงประตูรถของมันอยู่แบบนั้น ได้แต่ค่อยๆยื่นมือขึ้นไปจับใบหน้าคมนั่นเบาๆ



“ผมก็รักพี่นะ”



“กูอยากจะกรี๊ดออกมาเลย เมียบอกรักกูอ่ะค่ะ”



“พี่มึงยังจะตลกอีกนะ” ยิ้มให้กันและขำออกมาเบาๆ มันที่เอื้อมมือไปจะเปิดประตูรถที่อยู่ด้านหลังตัวของผม แต่ก็ติดที่ผมกันเอาไว้ก่อน มันที่ขมวดคิ้วมองหน้าผมแบบไม่เข้าใจ



“พี่ ให้ผมกลับเองเถอะ”



“นี่มึงยังไม่เข้าใจอะไรวะเอม”



“ไม่ใช่ ผมเข้าใจ ผมเข้าใจทุกอย่างดี”



“มึงจะทิ้งกู!...คือมึงได้กูแล้วมึงจะทิ้งหรอวะ” ว่าออกมาแบบนั้นด้วยเสียงที่ดังจนลั่นโรงรถไปหมด แล้วอะไรคือกูได้มึงแล้วทิ้ง กูหรือเปล่าที่ต้องกลัวมึงทิ้งเนี่ย ... ได้แต่ส่ายหน้าพร้อมถอนหายใจออกมาหน่ายๆ



“พี่ดาบ ไม่เล่น”



“กูเล่นที่ไหน กูจริงจังมาก ขึ้นรถ!”



“พี่ ... ฟังเอมก่อน” บอกมันออกไปแบบนั้นแล้วเอื้อมมือไปแตะต้นแขนแกร่งนั่น ช้อนตามองคนตรงหน้าที่ชะงักไปกับการกระทำและคำพูดของผม



“ผมไม่สบายใจหรอก ที่พี่จะต้องทะเลาะกับที่บ้านเพราะเรื่องของผม”



“มันไม่ใช่เพราะมึงเลยเอม บ้านกูแม่งก็เป็นงี้มาแต่ไหนแต่ไร เค้าไม่เคยเข้าใจหรอกว่ากูต้องการหรือไม่ต้องการอะไร เพราะงั้นก็ช่างแม่งเหอะ มันไม่ได้เกี่ยวกับมึงเลยเอม”



“แต่การที่พี่ต้องทะเลาะกับแม่พี่ ต้นเหตุในครั้งนี้ก็เป็นเพราะเรื่องของผมไม่ใช่หรอ” พอพูดออกไปแบบนั้น มันก็ต้องเงียบเสียงลง และใช่ เรื่องราวในวันนี้มันเกิดขึ้นเพราะผม



“พี่อยู่ที่นี่เถอะ อย่างน้อยก็กลับไปพูดกับท่านให้ดีกว่าก่อนหน้านี้ ผมมั่นใจว่าจริงๆแล้วแม่พี่ก็แค่เป็นห่วง”



“ห่วงหน้าตาตัวเองมากกว่าน่ะสิ” คนตรงหน้าผมที่แค่แค่นเสียงพร้อมว่าออกมาแบบนั้น ผมถอนหายใจอีกครั้งแล้วส่ายหน้า นี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นคนตรงหน้าฉุนเฉียวและขาดสติมากขนาดนี้



“พี่ดาบ ...นะ ... อย่างน้อยก็ขอโทษที่พูดไม่ดี”



“ทำไมวะ เป็นแม่แล้วคิดว่าจะถูกหมดทุกอย่างมันก็ไม่ใช่หรือเปล่า”



“แต่นั่นก็แม่พี่ ผมรู้ว่าจริงๆแล้วพี่ก็แคร์นะ แคร์คนที่นี่”  ผมรู้ ผมเห็น...ในสายตาของพี่มัน จริงๆแล้วก็แคร์มากๆ แต่เพราะมันไม่อยากให้ผมต้องเจอกับคำพูดดูถูกแบบนี้ มันเลยเลือกจะปกป้องผม แค่นี้...แค่นี้ผมก็ซึ้งใจมากๆแล้ว



“เอมเชื่อใจพี่ว่าพี่จะไม่โง่นะ” บอกมันแบบนั้น อีกคนที่สบตากันแล้วพยักหน้าให้



“กูรู้เอม กูไม่กลับไปหาคนที่ไม่เห็นค่ากูหรอก อีกอย่าง ตอนนี้กูก็มีของมีค่าที่ดีที่สุดแบบมึงอยู่แล้ว ถ้ากลับไปกูก็ควายแล้วว่ะ”



“นั่นสิ อิมเมจควายน่ะให้กูก็พอ ถ้ามึงเป็นควายเมื่อไหร่ กูจะถือเลื่อยไฟฟ้ามาเลื่อยเขามึงคอยดู” ผมที่ยิ้มออกมาแบบนั้น และก็เป็นพี่มันที่ดึงตัวผมไปกอดไว้แน่นๆ เรากอดกันโดยไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักประโยค ... จริงๆแล้วผมไม่อยากจะผละออกจากอ้อมกอดนี้เลย มันทั้งอบอุ่นและปลอดภัย แต่ในบางครั้ง เราก็เลือกอะไรไม่ได้...โดยเฉพาะกับคนที่ไม่มีอะไรเลยแบบผม มันไม่มีสิทธิ์อะไรมากนักหรอก



“กลับไปคุยกับแม่พี่ดีๆเถอะนะ แล้วพรุ่งนี้ค่อยกลับบ้านเรานะ...เอมจะรอ” ยิ้มบางๆให้มันแบบนั้น ไม่รู้ทำไมตอนนี้ถึงอยากร้องไห้มากๆก็ไม่รู้



“แล้วมึงจะกลับยังไง”



“กูมีขา กูกลับได้”



“ไม่ กูจะโทรบอกน้องหยีให้มารับมึง ถ้ามึงไม่ให้กูกลับด้วย” พูดแล้วก็ดึงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงทันที ผมที่รีบตะคลุบมือของมันไว้ก่อนที่มันจะกดโทรออกไป



“ไม่ต้อง เดี๋ยวผมโทรเอง”



“เอม...”



“ไปเหอะพี่ อย่างน้อยตอนที่ไม่มีผมอยู่ แม่พี่อาจใจเย็นลงก็ได้”



“แม่ง! ทำไมมึงต้องบังคับกูวะเอม กูอยากกลับไปกับมึง”



“นั่นแม่พี่ ผมไม่อยากมีปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้ไง ทำไมแค่นี้มึงไม่เข้าใจล่ะ” บอกติดตลกออกไปแบบนั้น ส่งยิ้มขำๆไปให้มัน แล้วจับมืออีกฝ่ายแน่นๆแล้วพยักหน้าให้ มันที่ถอนหายใจออกมาหนักๆ สุดท้ายถึงยอมที่จะปล่อยมือผม



“ไปนะพี่ดาบ” บอกแบบนั้นแล้วหันหลังเดินออกมาทันที ก่อนจะสาวเท้ายาวๆเดินออกมาจากบ้านของมัน ขนาดไม่ได้หันไปมองผมก็ยังรู้ว่าใครอีกคนยืนมองผมอยู่จากที่เดิม พี่มันที่จะไม่ยอมละสายตาไปจากผมจนกว่าผมจะหายไปจากสายตา อยู่ๆก็รู้สึกร้อนขึ้นมาที่ขอบตาแบบห้ามไม่อยู่ ความรู้สึกว่าทำไมชีวิตกูแม่งถึงไม่มีอะไรดีเลยวะแล่นเข้ามาในใจของผมอีกครั้ง เป็นอีกครั้งกับเหตุการณ์เดิมๆกับความรู้สึกเดิมๆที่เข้ามากระแทกใจ



“ถ้าวันนี้เอมมีพ่อกับแม่อยู่ ฮึก เอมจะโดนดูถูกแบบนี้ไหม” น้ำตาของผมไหลตอนที่ออกมายืนที่ริมฟุตบาตรห่างจากบ้านของพี่มันแล้ว ได้แต่ทรุดตัวลงตรงนั้นแล้วร้องไห้ออกมาแบบสุดจะทน ผมที่พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาตั้งนานแล้ว หลายครั้งที่บอกตัวเองว่าอย่าร้อง



และใช่ ครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่บอกตัวเองแบบนั้น



โดยเฉพาะร้องไห้ต่อหน้าคนแบบไอ้พาพวยนั่น ผมจะไม่มีทางยอมเด็ดขาด ... ถึงแม้ว่าจริงๆแล้วในใจของผมมันกำลังสั่นไหว ทั้งเสียใจ ทั้งตื่นกลัว ในตอนที่แม่ของพี่ดาบบอกว่าเค้าไม่ชอบ เค้ารับไม่ได้ หน้าของผมชา มันชาเหมือนกับโดนน้ำเย็นๆสาดใส่หน้า มันคงไม่มีใครรู้สึกมีความสุขหรอกจริงไหม ที่ครอบครัวของคนที่เรารัก เค้าไม่ชอบเราแบบนั้นน่ะ





“มาร์ช! แม่ไม่ยอมนะ เด็กนี่คือใคร!”



“เอม....เอม...เป็น”



“แม่ไม่เคยจะว่าเลยถ้าลูกจะชอบใคร หรือจะแค่เล่นๆกับผู้ชายคนไหน แต่ขอได้ไหม ขอให้เป็นคนที่มีฐานะเท่ากัน ไม่ใช่เด็กที่ไม่มีพ่อแม่สั่งสอนไม่มีอะไรเลยแบบนี้!”



“แม่”



“เธอเองก็เหมือนกัน ตอนนี้ก็คงรู้แล้วใช่ไหมล่ะจ๊ะ ว่าเธอไม่มีอะไรเหมาะกับตามาร์ชเลย ฉันคิดว่าเธอน่าจะเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่อย่างฉันนะจ๊ะ”





หัวอกคนเป็นแม่ .... กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ผมได้ยินคำๆนี้ คำที่บังคับให้ผมต้องเข้าใจดี ทั้งๆที่ใจของผมไม่ได้เข้าใจอะไรเลยสักอย่าง หัวอกของคนเป็นแม่ที่ไม่เคยยุติธรรมต่อลูกของคนอื่น แค่สงสัยว่าแล้วทำไมแม่ของคนพวกนี้ ถึงไม่คิดถึงใจของลูกคนอื่นบ้างวะ



“ฮึก อึก...เอมคิดถึงพ่อกับแม่ เอมคิดถึงพ่อกับแม่ที่สุดเลยครับ ฮึก” ได้แต่กอดตัวเองแล้วนั่งร้องไห้โง่ๆอยู่ข้างถนนอยู่แบบนี้ เป็นอีกครั้งที่ความเป็นจริงสาดใส่ตัวผม ผมมันเป็นคนที่ไม่มีอะไรเลยจริงๆ ทั้งๆที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมพยายาม พยายามดูแลตัวเอง พยายามตั้งใจเรียน พยายามทำงาน พยายามมาตลอดเพื่อให้ได้หลุดพ้นจากตรงนี้ ... แต่ความพยายามของผม มันก็ไม่เคยพอ .... และใช่ สิ่งเดียวที่ผมมีอยู่ในตอนนี้ก็มีแค่พี่มัน...



“เอมคิดถึงพี่ดาบ ฮึก...เอมอยากกลับบ้านเราพร้อมๆพี่มากๆเลยนะ ฮึก” น้ำตาของผมไหล่ แขนของตัวเองที่กอดตัวเองเอาไว้แน่นๆในตอนนี้ที่ท้องฟ้าก็เริ่มมืดลงจนไฟถนนในหมู่บ้านนี้เริ่มติดขึ้น แต่ถึงแบบนั้น ผมก็ยังทำแค่นั่งร้องไห้อยู่ตรงนี้ ก็แค่อยากขอเวลาให้ผมได้อ่อนแอบ้างก็แค่นั้น สะอึกอื้นอยู่คนเดียวตรงนี้



“ทำไมพี่มานั่งอยู่ตรงนี้ครับพี่เอม”



เสียงเรียกที่อยู่เหนือหัวดังขึ้นจนผมตกใจ เงยหน้าขึ้นไปมองแต่ก็ยังคงมองไม่ชัดเพราะน้ำตาที่เปรอะเปื้อนเต็มหน้าไปหมด ได้แต่ยกแขนขึ้นเช็ดน้ำตาออกจากหน้าช้าๆ และพอเห็นคนตรงหน้าชัดๆก็ได้แต่ชะงักไป





--------------To be continued------------



มาแล้วจ้าาา จริงๆตามพล็อตที่แคทวางไว้ตอนนี้ยังมีอะไรต่อที่ต้องเขียนต่ออยู่ แต่ว่าแคทปวดท้องมากๆ

ปวดมาทั้งอาทิตย์เลยค่ะ ทรมานมากๆ เลยลากมาได้แค่นี้จริงๆ

หวังว่าคนอ่านจะให้อภัยนะคะ  มาน้อยแต่มานะ ขอทางให้พระเอกดิฉันเดินด้วยนะคะ

ส่วนมีคอมเม้นท์ที่บอกว่าทำไมแม่โง่ ไม่รู้ว่าพะพายหวังจะเคลมพี่ดาบหรอ ... ใช่ค่ะ แม่ไม่รู้นะคะ แม่แค่เอ็นดูพะพายจากการที่เคยเจอ

สมัยเรียน เพราะพี่ดาบพามาบ้านบ่อยๆ ... เพราะฉะนั้น ระหว่างคนที่รู้จักมานานอย่างพาพวย กับคนที่พึ่งเจออย่างน้องเอม

แม่เลยเป็นแบบนี้นะคะ คือมันก็ยังมีหลายๆมุมที่แคทพยายามจะตีแผ่และเขียนลงไปนะคะ อยากให้คนอ่านได้อ่านไปพร้อมๆกันนะคะ

ส่วนพี่เก้อ ... สิ่งหนึ่งที่อยากจะบอกก็คือ พี่เค้ายังไม่ได้รู้สึกอะไรกับน้องเสือนะคะ พี่มันจะยังเร้าหรือน้องเอมก็ไม่แปลกน้า

แคทอยากให้ทุกคนเข้าใจในความสัมพันธ์ระหว่างพี่เก้อกับน้องเสือนะคะ เป็นความรู้สึกของคนคล้ายๆกันที่มาเจอกันในวันที่แย่

ถ้าคนอ่านสนุกและชอบไปด้วยกัน แคทจะดีใจมากๆเลยค่ะ ....

ขอบคุณมากๆนะคะ

ฝาก #สวยๆเป็นผัว ในทวิตเตอร์ด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่33 {30/05/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 30-05-2020 22:09:58
 :กอด1:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่33 {30/05/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Chucream.nabi ที่ 30-05-2020 23:49:40
 :z6: :z6: :z6: นังพาพวยแกกกกกกกกกกกกกกกก
เอมหนูต้องเชื่อใจพี่ดาบนะลูก
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่33 {30/05/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 31-05-2020 00:01:21
 :pig4: :pig4: :pig4: หวังว่าควายน้อยจะเป็นแค่ชื่อฉายาของเอม อย่าโง่เลยนะหนู สงสารควาย
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่33 {30/05/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 31-05-2020 00:03:40
น่าสงสารมาก,,,
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่33 {30/05/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 31-05-2020 09:24:05
สู้ค่ะคนเขียนเนื้อเรืองสนุกและเข้าใจทุกคนในเรื่องค่ะ  ปวดท้องหายหรือยังค่ะคนเขียนรักษาสุขภาพด้วยปวดท้องเป็นอาทิตย์แล้วให้คุณหมอตรวจละเอียดหน่อยก็ดีนะคะ  :L2: :กอด1: :L1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่33 {30/05/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 31-05-2020 11:37:15
สงสารน้อง แค่น้องเสียพ่อแม่ไป แค่นี้ต้องว่ากันขนาดนี้เลยเหรอ แล้วนั้นใครมาเรียกน้องกันล่ะ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่33 {30/05/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 31-05-2020 13:36:59
เอ็นดูน้องเสืออะ :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่33 {30/05/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 31-05-2020 15:43:59
ไม่ใช่น้องรหัสเอมมาเจออีกนะ จะบังเอิญพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกน้องเอมอีกหรือเปล่าน้อ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่34 {06/06/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 06-06-2020 21:20:15

บทที่34



“มองอะไร ซู๊ดดดดด”



“กลืนก่อนก็ได้พี่ ค่อยๆกินครับ”



“ฮ้า อร่อยอ่ะ”



“ผมคิดแล้วว่าพี่ต้องชอบ”



“อื้อ ชอบมากๆ” พยักหน้าเป็นคำตอบ ก่อนจะใช้ช้อนตักน้ำซุปในถ้วนเข้าปากตามไปอีกคำ เย็นตาโฟว์ต้มยำรสเด็ดที่มีทั้งเปรี้ยวหวานเผ็ดเค็มจัดจ้าน ที่พอซดน้ำซุปเข้าไปคำนึงก็รู้สึกตื่นตัวขึ้นมาทันทีเลย เป็นร้านเล็กๆที่อยู่ในซอยไม่ไกลจากคอนโดของอิเจ๊พี่มัน ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามีร้านอะไรแบบนี้ด้วย ไว้วันหลังผมจะชวนอิเจ๊พี่มันมากิน



“ผมเห็นพี่ชอบกินเย็นตาโพร์ที่โรงอาหารคณะบ่อยๆ เคยคิดว่าอยากพาพี่มากินที่นี่ให้ได้ วันนี้ก็ได้พามาแล้ว” เงยหน้าขึ้นมามองทั้งๆที่ปากยังคาบลูกชิ้นกุ้งอยู่ มองตรงไปที่ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มของไอ้ม็อบ มันที่กำลังยิ้มทั้งหน้าทั้งตาทั้งปากของมันและมองผมแบบมีความสุข



“กูเป็นพี่รหัสที่แย่ใช่ป่ะ ไม่เคยเทคไรมึงเลย แต่โทษทีนะ กูไม่ค่อยจะมีเงินหรอก”



“พี่ไม่ต้องมาดูแลผมหรอก ให้ผมดูแลพี่ก็พอครับ”



“พูดเหี้ยอะไรของมึงวะ กูดูแลตัวเองได้”  บอกปัดคำพูดของมันทิ้งแล้วหันกลับมาซดเย็นตาโพร์ตรงหน้าต่อ



“โอเค ไม่พูดเรื่องนี้แล้วก็ได้ถ้าจะทำพี่เขินอ่ะนะ”  คือกูบอกหรอว่ากูเขิน คือใช่หนังตาปลาดูหรอครับ เขินอะไรก่อนเอ่ย เอ้อ ถ้าเปลี่ยนจากไอ้ม็อบเป็นอิเจ๊พี่มันอันนั้นก็ไม่แน่



“ว่าแต่ทำไมพี่ไปนั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้นล่ะ”  ตั้งใจจะเงยหน้าขึ้นมาด่ามัน แต่ก็เป็นผมเองที่ต้องเงียบเสียงลงตอนที่มันถามออกมาแบบนั้น จ้องหน้าอีกฝ่ายที่มองตรงมา สีหน้าสายตาที่ของคนที่แค่สงสัยเลยถามออกมา ... ผมถอนหายใจก่อนจะส่ายหน้า



“ไม่มีไรหรอก”



“คือพี่จะบอกว่าอย่าเสือกใช่ไหมล่ะ”



“ก็รู้นี่หว่า ไม่เห็นน่าถามนะ” เงยหน้าขึ้นไปมองมันอีกแล้วแล้วยักคิ้วให้ มันที่ก็ทำแค่ยิ้มแล้วหัวเราะไปตามเรื่องตามราว ก็ดูเป็นเด็กนิสัยดี ก็คงเป็นน้องรหัสที่น่ารักอยู่ ผูกมิตรไว้ก็ไม่เสียหายครับ



“พี่เก็บตังค์ด้วยครับ” เป็นผมที่ตะโกนเรียกลุงเจ้าของร้านเองครับ บอกเลยว่าไอ้เอมใจปล้ำมากๆ ตั้งใจจะเลี้ยงน้องรหัสด้วยเย็นตาโพร์ต้มยำ2ถ้วนนี้รวมน้ำและน้ำแข็งเปล่าอีกคนละแก้ว รวมเป็นหนึ่งร้อยบาทถ้วน



“กูจ่ายเอง”



“เห้ย ไม่ต้องดิพี่ ผมเป็นคนชวนพี่มาเองนะ”



“ถือเป็นการเลี้ยงน้องรหัสครั้งแรกของกูไง เป็นไง เท่ล่ะสิ” ยักคิ้วส่งไปให้มันตอนที่ผมยื่นแบงค์สีแดงๆไปจ่ายตังค์เสร็จเรียบร้อยแล้ว



“พี่ไม่เท่หรอกพี่เอม”



“เอ้า ไอ้เด็กนี่” ผมที่ยกมือขึ้นเตรียมจะโบกหัวมันให้ทิ่มอยู่ที่หน้าร้าน แต่ติดที่ว่าไอ้เด็กนี่ก็ยื่นมือขึ้นมาจับมือของผมเอาไว้ได้ทันซะก่อน ถอนหายใจใส่มันเลยทีนึง แต่อีกฝ่ายก็เอาแต่ยิ้ม





“พี่ไม่เท่จริงๆครับ”



“นี่มึงขยี้กูชะ?”



“พี่ไม่เท่ แต่พี่น่ารักมากๆ”  บอกจบประโยค พร้อมๆกับที่มันก็ปล่อยมือออกจากแขนของผม ก่อนจะส่งยิ้มให้กัน เป็นรอยยิ้มที่พอเห็นแล้วต้องหันหน้าหนี



“กูกลับละ ขอบใจมากนะที่พากูติดรถมาด้วย”



“พี่ เดี๋ยวผมไปส่ง”



“ไปส่งไร กูอยู่ใกล้ๆแค่นี้เอง แล้วมึงก็บอกว่ามาทำธุระแถวนี้ด้วย แค่นี้ก็ขอบใจมากๆแล้ว” ตอนที่เจอมันตรงหน้าบ้านพี่ดาบ ไอ้ม็อบมันบอกผมว่ามันจะพามาส่ง เพราะว่ามันต้องเข้ามาทำธุระแถวพร้อมพงษ์ครับ เพราะแบบนั้นผมเลยกลับมาด้วย ยังไงก็ไม่ไกลจากคอนโด แต่ถึงแบบนั้นมันก็ดึงดันจะพาผมมากินของอร่อย เท่านี้ผมก็รบกวนมันมากพอแล้ว เพราะงั้นกลับเองง่ายๆก็ไม่อยากจะกวนอีก



“แต่ ธุระผม เอ่อ...”



“น่า กูกลับได้ ขอบใจมากๆนะไอ้ม็อบแม็บ” บอกมันแบบนั้นพร้อมๆกับยกมือขึ้นตบไหล่มันไปสองที ก่อนจะยกมือขึ้นบ๊ายบายแล้วเดินออกมา



“พี่เอม!”



“หื้ม?” หันไปหาไอ้คนที่ตอนนี้ก็ยังยืนอยู่หน้าร้าน มันที่ตะโกนเรียกผมจากตรงนั้น



“พี่น่ะเหมาะกับรอยยิ้มมากๆเลยนะ อย่าให้ใครมาทำรอยยิ้มพี่หายไปง่ายๆนะพี่” รู้สึกใจกระตุกตอนที่ได้ยินคำพูดของมันแบบนั้น ผมที่ยืนมองมันจากตรงนี้ แต่กลับมองเห็นแววตาจริงจังของมัน ถึงแบบนั้นก็ทำได้แค่ยิ้มให้มันแล้วยกมือขึ้นโบกให้มันอีกครั้ง แล้วเดินหันหลังกลับออกมาจากมัน



แต่คำพูดของมันก็ถูกนะ ผมจะไม่ยอมให้ใครเอารอยยิ้มของผมไปหรอก



.

.

.



‘ตื่อดึ๊ง’



เสียงข้อความไลน์ที่แจ้งเตือนเข้ามาพร้อมๆกับตอนที่ผมนั่งลงที่โซฟาในห้องของอิเจ๊พี่มันพอดี ถอนหายใจออกมาเบาๆแล้วมองไปรอบๆห้องแบบไม่อยากจะทำอะไร ... ผมคิดถึงอาหารฝีมือพี่มัน คิดถึงมันที่ชอบนั่งอยู่ตรงนี้ข้างๆผมพร้อมๆกับที่ต้องมาร์คหน้าไปด้วยแล้วอีกมือก็กดดูทีวีไปด้วย แต่ตอนนี้มันกลับไม่อยู่



‘ตื่อดึ๊ง’



เสียงข้อความที่ดังเข้ามาอีกทำให้ต้องขมวดคิ้ว เหนื่อยยังไม่อยากตอบอะไร แล้วถ้ายิ่งเป็นไอ้เสือหรือไอ้หยี ในตอนนี้ผมก็ไม่อยากจะตอบเพื่อน ... แต่ถึงแบบนั้นเสียงที่ดังมาถี่ๆก็ทำให้ต้องล้มเลิกความตั้งใจ งัดมือถือรุ่นพระเจ้าสามหรรมของผมขึ้นมาดู แล้วข้อความที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าก็ยิ่งทำให้ผมคิดถึงมากขึ้นไปอีก



[[DANI: เอมอยู่ไหน ]]



[[DANI: พี่เป็นห่วงตอบพี่หน่อย ]]



[[DANI: พี่โทรไปถามน้องหยี แต่หยีบอกเอมไม่ได้โทรหา  ]]



[[DANI: อยู่ไหน ]]



[[DANI: พี่เป็นห่วง ]]



ข้อความรัวๆของคนที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันในตอนนี้ทำเอาผมรู้สึกอยากจะร้องไห้ ผมทำให้พี่มันกระวนกระวายใจขนาดนี้เลยหรอวะ



[[เอม: เจ๊ ผมถึงห้องแล้ว]]



[[DANI: ทำไมพึ่งมาตอบกูคะหนู!! ]]



[[DANI: ถ้ามึงอยู่ใกล้ๆกูจะตีให้นะคะ ]]



ได้แต่อ่านข้อความของมันแล้วยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้ เป็นคำพูดที่ผมรู้ว่าถ้ามันอยู่ด้วยกันมันก็ไม่มีทางที่จะตีผมหรอก



[[เอม: จะตีผมลงจริงๆหรอ]]



[[DANI: อุ๊ย มันร้ายจังเลยนะคะ ถามแบบนี้คือจะลองใจกูหรอคะ ]]



[[เอม: พี่ดาบจะตีน้องเอมจริงๆหรอครับ น้องเอมจะเจ็บนะ ]]



[[DANI: อ่ะอิดอก ลาก่อนค่ะ กูตายแล้ว ขออนุญาตหนีไปกรี๊ด เมียกูแทนตัวเองว่าน้อง น้องเอมๆๆอ่ะเอดอก กรี๊ดๆๆๆ กูจะหนีไปกรี๊ดค่ะ ]]



ขนาดแค่เป็นข้อความที่พิมพ์ส่งมา ผมก็ยังนึกออกว่าเสียงของอีกฝ่ายจะเป็นยังไง ผมที่ยิ้มออกมาแบบห้ามไม่อยู่ และยิ่งเป็นแบบนั้น ผมก็ยิ่งคิดถึงมันมากขึ้นไปอีก ... พอมาถึงช่วงเวลาแบบนี้ ในตอนที่เราต้องห่างกันแม้ว่าจะไม่นานอะไรเลย แต่เรื่องที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้ ก็ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่ามันเป็นเรื่องที่ทำให้เราอึดอัด ผมเชื่อว่าพี่มันที่ตอนนี้กำลังอยู่บ้าน ก็คงอึกอัดไม่ต่างกัน



[[DANI: กูขอพักหายใจก่อน แล้วนี่มึงกลับยังไง ทำไมไม่ให้น้องหยีมารับ ตอบค่ะ ]]



คำถามของมันที่ทำให้ผมต้องเม้มปาก ถ้าพี่มันรู้ว่ากลับกับไอ้ม็อบ องค์พี่ดาบต้องลงมันแน่ๆ แล้วอีกอย่าง ในช่วงที่มันกำลังเครียดแบบนี้ ผมก็ไม่อยากให้มีเรื่องอะไรมาทำให้มันไม่รู้สึกไม่ได้ดีเพิ่มขึ้นอีก



[[เอม: เอมกลับเองน่ะ ไม่อยากกวนหยีมัน]]



[[DANI: มึงแม่งห่วงแต่คนอื่นอ่ะ หัดห่วงตัวเองบ้างสิคะ ]]



[[เอม: ผมต้องห่วงอะไรอีกล่ะ ก็ผมรู้อยู่แล้วว่ามีพี่เป็นห่วงผมอยู่แล้วไง]]



[[DANI: อุ๊ยตาย อย่าเอาเรื่องจริงมาพูดสิคะ ได้ยินแล้วอยากพุ่งไปกอดมึงเลยว่ะเอม ]]



ผมยิ้มให้กับข้อความของมันที่ว่ามาแบบนั้น ... ก่อนจะพิมพ์ข้อความที่ผมอยากรู้มากที่สุดในตอนนี้ส่งไปหา



[[เอม: พี่ดาบ ... โอเคใช่ไหมครับ ]]



เลือกที่จะถามออกไปแบบนั้น ผ่านไปหลายนาที ที่มองเห็นคำว่าอ่านแล้วบนข้อความ แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่ตอบกลับมา



[[DANI: เอม...พี่คิดถึง ]]



พี่คิดถึง



สามคำสั้นๆที่ทำให้ผมน้ำตาคลอ .... เพราะผมเองก็คิดถึงพี่มันมากๆเหมือนกัน



[[เอม: เอมก็คิดถึงพี่ มากๆเหมือนกันนะ ]]



[[DANI: ทุกอย่างจะเรียบร้อย รอพี่อยู่ที่บ้านของเรานะ พี่จะรีบกลับไปหา ]]



[[เอม: ครับ เอมจะรอ ]]



บทสนทนาของเราจบลงแค่ตรงนี้ พี่มันไม่ได้ตอบกลับอะไรออกมาอีก มีแค่ผมและตัวผมที่ยังนั่งอยู่ตรงนี้ ได้แต่เลื่อนสายตาไปมองที่หน้าประตู แค่หวังว่าประตูบ้านนี้จะถูกเปิดออกพร้อมๆกับพาใครอีกคนนึงกลับมาหาผมให้เร็วที่สุดก็เท่านั้น



...



“ดาบ ทำอะไร”



“จริงๆก็อยากจะให้แม่เรียกว่าดานี่อ่ะนะคะ แต่ว่าดาบก็ได้เพราะตอนนี้แฟนหนูก็เรียกงั้น”



หันหน้าไปมองแม่ที่เดินเข้ามาหาผม พร้อมๆกับเก็บมือถือลงในกระเป๋ากางเกง ผมเห็นแม่ที่ถอนหายใจออกมาอย่างหนัก ในแววตาของท่านที่ดูจะแก่ลงเพียงเพราะเจอผม เพราะเป็นแบบนี้มาตลอดผมเลยเลือกที่จะออกไปใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกตั้งแต่สมัยเรียน และนานๆทีถึงจะกลับมาบ้าง ...ครั้งนี้ถ้าไม่เป็นเพราะพายโทรมาบอกว่าเจอแม่ แล้วแม่ผมพูดถึงเรื่องเอม ผมจะไม่กลับมาหรอก คำพูดของพายวันนั้นทำให้ผมรู้ว่าแม่ตามสืบเรื่องของผมอีกตามเคย



“แม่ว่าเราต้องมาคุยกันหน่อยนะ”



“จริงๆดานี่ก็พร้อมจะคุยกับแม่เสมอนะ ถ้าแม่เปิดใจจะรับฟังกันน่ะค่ะ” พูดออกไปแบบนั้นพร้อมยกขาขึ้นไขว่ห้าง ยกมือขึ้นพร้อมๆกับเอาผมทัดหูไปอีกหนึ่งที มองเห็นว่าแม่คิ้วกระตุกจากเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม แต่จริงๆแล้วผมตั้งใจทำแบบนี้เลยล่ะอยากจะบอก



“เลิกเป็นแบบนี้สักทีจะได้ไหม จะเป็นตุ๊ดจะเป็นเกย์ เป็นอะไรผลุบๆโผล่ๆอยู่ได้ เลิกลูกทำแบบนี้จะได้ไหม ลูกเป็นคนนะไม่ใช่ไส้เดือน!” แม่ที่ตะคอกออกมาเสียงดัง และคำพูดของแม่ก็ทำให้ผมต้องหน้าตึง สายตาของแม่ที่เหนื่อยล้า ผมรู้ว่าแม่เหนื่อย แต่ผมเองก็เหนื่อยเหมือนกัน



“ผมไม่ใช่ไส้เดือน แต่ถ้าแม่จะคิดแบบนั้นก็ได้ ตามใจแม่”



“เลิกประชดกันสักที แม่ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมลูกถึงต้องทำแบบนี้ ทำไมต้องเป็นแบบนี้ กลับมาเป็นผู้ชายสักทีได้ไหม”



“แม่!...” ผมที่เผลอตะคอกออกไป รู้ดีว่ามันไม่สมควร คิดว่าถ้าไอ้เอมอยู่มันคงต้องตีผมแน่ๆ แต่ถึงแบบนั้นผมก็ทนไม่ไหวเหมือนกัน



“ผมชอบผู้ชายครับแม่ ผมอยากให้แม่เข้าใจนะว่าผมชอบผู้ชาย ผมไม่ได้ป่วยที่จะกินยาก็หายแล้วกลับมาเป็นผู้ชายที่ชอบผู้หญิงให้แม่ได้”



“เรื่องแบบนี้มันหายได้นะลูก แบบทัพเห็นไหม ทัพก็ยังมีเมียเป็นผู้หญิงได้” แม่พูดออกมาแบบนั้น สายตาของแม่ที่เริ่มมีน้ำตาคลอขึ้นมาที่นัยต์ตา แววตาที่บอกว่าอยากให้ผมเปลี่ยนแปลงตัวเอง เผื่อให้ทุกอย่างมันดีขึ้น สายตาที่เหมือนกำลังมองคนป่วยอย่างอยากจะหาวิธีรักษาให้หาย



“แต่ตอนนี้เฮียทัพมีเมียเป็นผู้ชาย ถ้าแม่จะลืมแล้ว เมียเค้าเป็นผู้ชายชื่อเมล เราไปงานแต่งงานเค้าด้วย ผมยังเห็นแม่อวยพรป้าใหญ่อยู่เลย”



“แต่ถึงแบบนั้นทัพก็เคยมีเมียเป็นผู้หญิงนะลูก”



“ผมว่าแม่ไม่เข้าใจนะ แม่ไม่เข้าใจอะไรเลยว่ะ”



“อย่ามาวะมาว่ะกับแม่นะ”



“ผมก็ไม่อยากพูดไม่ดีกับแม่หรอกครับ ผมไม่อยากทะเลาะกับแม่เลยด้วยซ้ำ แต่แม่ไม่เข้าใจอะไรเลย แม่ไม่เข้าใจว่าผมไม่ได้ป่วย ผมก็แค่ไม่ชอบผู้หญิง และใช่ ตอนนี้ผมมีแฟนเป็นผู้ชายด้วย แล้วมันทำไมอ่ะแม่ แม่อายหรอที่มีลูกชอบผู้ชายด้วยกัน แม่เอาแต่บอกว่าผมกลับไปชอบผู้หญิงได้ แม่เป็นผมหรอถึงมารู้มากกว่าตัวผม แม่อย่าทำตัวเหมือนมนุษย์ป้าข้างบ้านจะได้ไหมครับที่เอาแต่พูดว่าเข้าใจเรื่องผู้ชายชอบผู้ชายด้วยกันดี แต่พอมาเป็นเรื่องของลูกตัวเองกลับยอมรับไม่ได้ จริงๆแล้วมันก็แค่คำพูดตอแหลของมนุษย์ป้าแก่ๆที่ไม่เคยเข้าใจอะไรเลย”



‘เพี๊ยะ!’



“จะมากไปแล้วนะดาบ!”



“คุณป้า ใจเย็นๆนะครับ”



เป็นพายที่วิ่งเข้ามาจากหน้าประตู พายมาดึงตัวแม่ของผมให้ออกไปห่างจากผม มองเห็นพ่อที่ยังยืนมองนิ่งๆจากหน้าประตูโดยไม่พูดอะไร หน้าของผมหันไปตามแรงตบจากฝ่ามือของแม่ผมเอง จริงๆตั้งแต่จำความได้แม่ไม่เคยตีเราสามคนพี่น้องเลย ยิ่งตอนเด็กๆผมจำได้ดีว่ากอดแม่อุ่นกว่าใคร ผมเข้ากับแม่ได้ดีเสมอ จนมาช่วงมัธยมปลายที่ผมชอบทำตัวเป็นตุ๊ดเล่นๆ และนับมาตั้งแต่ตอนนั้น ผมก็จำไม่ได้เลยว่า กอดกับแม่ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่



“ผมขอโทษนะครับที่ผมพูดกับแม่ไม่ได้”  บอกออกไปแบบนั้นแล้วยกมือไหว้ แม่ร้องไห้ออกมา น้ำตาที่อาบแก้มอยู่ตอนนี้ทำให้ผมยิ่งรู้สึกร้อนๆที่ขอบตา  แม่ที่เอาแต่มองมาที่ผมแล้วร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของพะพาย



“แม่จะขออะไรดาบก็ได้ ดาบจะทำให้ แต่ถ้าแม่ขอให้ดาบกลับไปเป็นผู้ชายปกติ ดาบทำให้ไม่ได้ และอีกข้อ ถ้าแม่ไม่โอเคกับเอมแล้วอยากให้ดาบเลิกกับเอม ดาบก็ทำให้ไม่ได้เหมือนกัน”



“ลูกชอบผู้ชายด้วยกันมันก็แย่แล้วนะ ตอนนี้ลูกยังจะให้แม่ยอมรับเด็กที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้า ไม่มีอะไรเลยสักอย่างน่ะหรอ”



“ใช่ครับ เพราะผมรักเอม ... ถึงมันจะไม่ได้รวย ถึงมันจะตัวคนเดียว แต่มันเป็นคนดี”



“คนดีๆที่ไหนจะกล้าสาดขาหมูใส่คนอื่น คนดีๆที่ไหนที่จะกล้าทำคนอื่นบาดเจ็บกันห๊ะ! แม่ไม่เข้าใจเลยว่าลูกเป็นอะไรไป ความคิดลูกเป็นอะไรไป ฮึก แม่เลี้ยงลูกมาไม่ดีตรงไหนหรอดาบ” แม่ที่พูดออกมาแบบนั้นแล้วเริ่มตัวสั่นแล้วเริ่มสะอื้น



“แม่ไม่ได้เลี้ยงผมมาไม่ดี แม่เลี้ยงผมมาดีมาก แต่ความชอบและรสนิยมของผม มันก็เกิดขึ้นเอง มันก็เป็นแค่เรื่องของความรู้สึกครับแม่ ถ้าแม่จะเปิดใจบ้าง แม่จะรู้ว่าผมยังเป็นลูกแม่คนเดิม ผมไม่ได้เปลี่ยนไปจากเด็กตัวเล็กๆคนนั้นที่แม่เคยกอด ผมก็ในตอนนี้ก็แค่มีความรัก แค่ผมรักกับผู้ชายด้วยกันแค่นั้นเอง ... ถ้ามันผิดมากขนาดนั้น แม่ก็ไม่ต้องมองว่าผมเป็นลูกแม่อีกคนก็ได้



“ดา...บ ฮึก”



“แล้วเอม ถึงมันจะดื้อบ้าง แต่ทุกการกระทำของมันไม่เคยคิดจะทำร้ายใคร มันก็แค่ปกป้องตัวมันในแบบของมันเอง นี่เป็นอีกเรื่องที่แม่ควรจะเปิดใจ เหรียญมันยังมีสองด้าน ถ้าแม่ฟังและมองแค่ด้านเดียว แม่จะไปเห็นอะไรล่ะครับ...ผมจะให้เวลาแม่นะ ถ้าแม่พร้อมกว่านี้ เราค่อยมาคุยกันใหม่ละกันครับ”



ผมที่พูดออกไปแบบนั้น มองแม่ที่มองหน้าผมพร้อมน้ำตาอาบแก้มแบบคนที่กำลังเสียใจ ผมที่เดินผ่านแม่และพะพายที่มองมาทางผมแบบไม่สนใจอะไร เดินผ่านพ่อของผมที่จ้องหน้าของผมอยู่นิ่งๆ



“ขึ้นไปบนห้องของแกก่อนไป พ่ออยากคุยอะไรด้วย”



“ครับ” ตอบรับพ่อแค่นั้นแล้วเดินขึ้นห้องไป ... ผมคิดถึงไอ้เอม



มันเองก็ไม่ชอบที่ผมเป็นดานี่ แต่ตอนที่เราตกลงคบกัน และผมบอกว่าผมจะเป็นผมในแบบของผมเพื่อเรา มันเองก็ไม่ว่าอะไรสักคำ และจนถึงในตอนนี้ที่บางทีผมก็ชอบทำจริตออกสาวใส่มันบ้าง มันก็ไม่บ่นอะไรแล้ว จริงๆผมคิดว่ามันคงชิน แต่อย่างน้อยๆนั่นก็คือข้อยอมรับที่ว่ามันเองก็รักผมในแบบที่ผมเป็นผม ... แล้วทำไมวะ ทำไมแม่ถึงไม่เข้าใจกันสักที



.

.

.


(มีต่อจ้า)
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่34 {06/06/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 06-06-2020 21:20:44

“คุณป้าใจเย็นๆนะครับ นี่ทิชชู่ครับ”



“ฮึก ฮื่อออ”



“สงบจิตสงบใจหน่อยเถอะคุณ ลูกมันไม่ได้ตายนะ”  เสียงของประมุขในบ้านว่าออกมาแบบนั้น ทำให้ผู้ที่เป็นภรรยาที่กำลังนั่งเช็ดน้ำตาอยู่ที่โซฟาต้องเงยหน้าขึ้นมามองสามีแบบไม่พอใจทั้งน้ำตา



“คุณพูดอะไรของคุณ ลูกเรากำลังรักกำลังชอบอยู่กับผู้ชายนะคะ ที่สำคัญคือผู้ชายที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าและนิสัยแย่ๆแบบนั้น คุณจะให้ฉันอยู่เฉยๆ แล้วมองดูลูกเดินลงเหวหรอคะ ฮึก คุณเป็นพ่อประสาอะไรคะ!”



“ผมก็เป็นพ่อที่พยายามทำความเข้าใจความเป็นลูกอยู่น่ะสิ”



“คุณจะบอกว่าฉันเป็นแม่ที่ไม่ดีหรอ ทั้งๆที่ฉันกำลังทำเพื่อลูกของเราอยู่นะ!”



“เปล่า คุณเป็นแม่และเป็นภรรยาที่ดีมาก ผมเข้าใจว่าคุณเป็นห่วงลูกมากแค่ไหน แต่ลูกเราโตแล้วคุณ แล้วโลกมันเปลี่ยนไปมากแล้ว ถ้าเราที่เป็นพ่อเป็นแม่ยังไม่เข้าใจลูก ยังไม่เข้าใจตัวตนที่เค้าเป็น แล้วแบบนี้เรายังจะสมควรเป็นพ่อแม่เขาอยู่หรือเปล่า” ผู้เป็นประมุขของบ้านพูดออกมาแบบนั้น ก่อนจะก้าวเท้าเดินไปทรุดตัวนั่งลงข้างๆภรรยาที่ยังคงร้องไห้อยู่ในตอนนี้



“เปิดใจหน่อยเถอะ มันไม่มีอะไรแย่มากขนาดที่คุณกลัวหรอก”



“แล้วคนรอบข้างล่ะคะ ถ้าเค้าดูถูกลูกเราล่ะคะ ถ้าเค้าดูถูกคนรักของลูกเราล่ะคะ สังคมที่พูดว่ายอมรับได้ มันจะจริงแค่ไหนกันเชียว จะมีใครมาเข้าใจกันคะ” เธอที่ร้องไห้และว่าออกมาแบบนั้น จริงๆในใจที่กังวลและกลัดกลุ้ม มันก็มีแต่ความเป็นห่วงและอยากหาทางที่ดีที่สุดให้กับลูกของเธอ



“เราปิดปากคนทั้งโลกไม่ได้หรอกคุณ ต่อให้ใครมันจะพูดอะไรเราก็ห้ามไม่ได้”



“แต่...”



“แต่ถ้าใครมันมาพูดต่อหน้าเรา ถึงตอนนั้นมันก็ต้องเป็นเราแล้วที่ต้องปกป้องลูกของเราไหม”



“คุณคะ ฮึก... ฉัน...”



“ผมรู้มันไม่ง่าย มันไม่ง่ายสำหรับผมเหมือนกัน แต่มันจะดีขึ้นนะคุณ” เขาที่ดึงตัวภรรยามากอดแนบอกแล้วลูบหลังให้กำลังใจ ความรู้สึกของคนเป็นพ่อเป็นแม่ที่ต้องแบกรับไว้ ในจุดๆนึงที่มันทั้งหนักและยากเต็มที แต่สิ่งที่ดีที่สุดที่จะทำให้ลูกได้ ... ก็คือการเปิดใจยอมรับ



“เอ่อ แต่เอมเค้าก็ไม่ใช่ไม่ดีหรอกนะครับคุณป้า” 



“ฮึก หื้ม”



“เค้าอาจจะใจร้อนที่ทำแบบนั้นกับผม แต่ผมคิดว่าเค้าก็รักดาบนะครับ....ผมรู้ว่าเค้าเคยทำงานที่ร้านของดาบ จนตอนนี้มาคบกัน เค้าคงผ่านอะไรมาด้วยกันมาก”



“เคยทำงานที่ร้านหรอ แล้วยังไง คือตอนนี้มาอยู่กับดาบ แล้วก็ใช้เงินดาบแบบนั้นน่ะหรอ” ผู้เป็นแม่เด้งตัวขึ้นมาจากอกของสามีแล้วยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาด้วยความตกใจ



“ก็...คงจะแบบนั้น แต่เค้าก็คงรักกันแหล่ะครับ”



“คุณคะ เห็นไหมคะ ฉันบอกแล้วว่าเด็กนั่นมัน....”



“อย่าพึ่งคิดอะไรไปเองเลยคุณ คุณเอาแต่ตั้งแง่กับเอม ไม่เคยถามเค้าสักคำแล้วจะมาโวยวายไปก่อนมันก็จะดูเป็นผู้ใหญ่ใจแคบมากไปนะ”



“ก็พะพายเคยเจอ พะพายพูดอยู่ ใช่ไหมลูก ไหนเล่ามาอีกสิ”



“คือ...”



“พอๆเถอะคุณ ไร้สาระมากพอแล้ว ถ้าอยากรู้วันหลังก็ให้ไอ้ดาบพามา ส่วนพาย ลุงว่าวันนี้กลับบ้านไปก่อนเถอะ วันนี้วุ่นวายมาก เราเองก็ได้ข่าวว่าพึ่งกลับมาจากเมืองนอกนี่ พ่อแม่น่าจะอยากเจอนะ”



“เอ่อ ... ครับคุณลุง”  ตอบรับออกมาแบบนั้นพร้อมรอยยิ้มนิดๆ ก่อนจะลุกขึ้นยกมือไหว้แบบมีมารยาท



“ผมว่าจะขึ้นไปหาดานี เอ่อ ดาบน่ะสักหน่อยก่อนกลับน่ะครับ” พะพายที่บอกออกมาแบบนั้นแล้วมองขึ้นไปที่ชั้นสองของตัวบ้าน คนเป็นแม่ที่มองหน้าสามีชะงักค้างไปนิดๆ ก่อนที่จะหันกลับมาด้วยรอยยิ้มเศร้าๆ



“ป้าว่าดาบคงยังไม่อยากคุยหรอก พายกลับไปก่อนเถอะ เดี๋ยวป้าให้คนขับรถไปส่งนะ”



“เอ่อ...งั้นก็ได้ครับ” ตอบรับออกมาพร้อมรอยยิ้ม แล้วหันหลังออกไป แต่ก็ต้องชะงักขาเรียวนั้นไว้ ในตอนที่ผู้เป็นใหญ่ของบ้านพูดขึ้นมาอีกครั้ง



“ขอบคุณมากๆที่เป็นเพื่อนที่ดีให้ดาบ ดาบก็เห็นพายเป็นเพื่อนรักไม่เปลี่ยนหรอกลูก”



“อ่ะ...ครับ ผมกลับก่อนนะครับ สวัสดีครับ”



ตอบรับออกมาพร้อมรอยยิ้มน่ารัก แล้วหันหลังเดินออกจากบ้านไปพร้อมๆกับหัวหน้าป้าแม่บ้านที่นำทางไปส่ง มือเรียวสวยที่กำเข้าหากันแน่นๆแบบแนบเนียนจนไม่มีใครสังเกตเห็น สายตาสวยที่เดินออกมาจากตัวบ้าน เงยหน้าขึ้นไปมองที่หน้าต่างของห้องนอนที่ชั้นสองที่มีระเบียงยื่นออกมา ดาบยืนอยู่ตรงนั้นแล้วก้มหน้ามองลงมานิ่งๆ เขาที่ส่งยิ้มไปให้ แต่อีกฝ่ายแค่มองตาสบกันนิ่งๆจากบนนั้น ไม่มีรอยยิ้ม ไม่มีแต่คำทักทายที่เมื่อก่อนอีกคนชอบทำและกระตือรือร้นที่จะทำเสมอเวลาเจอกัน



“เปลี่ยนไปมากจริงๆนะดานี่ แต่พาย...พายไม่เคยเปลี่ยนเลย” พึมพำกับตัวเองเบาๆ แล้วแค่นยิ้มเยาะน้อยๆให้ตัวเอง ก่อนที่เจ้าตัวจะขึ้นไปบนรถที่ถูกเตรียมเอาไว้ให้อย่างเงียบเชียบ



...



“อิดอกกกกก นี่มันคือเรื่องราวของแม่ผัวลูกสะไภ้มากๆเลยค่ะอิเอม ยอมไม่ได้รึป่ะคะมึง”



“ยอมไม่ได้แล้วจะให้ทำยังไงวะป้า นั่นแม่เจ๊มันนะ”  ถอนหายใจแล้วฟุบหน้าลงบนกระเป๋าเป้ที่เอามาตั้งไว้แทนหมอนบนโต๊ะเรียน อนาคตของชาติแบบกูไม่ควรจะทำแบบนี้นะครับ



“แต่แม่อิพี่ดาบนี่ก็ไม่เปลี่ยนเลยนะ เป็นโรคเจ้ากี้เจ้าการชีวิตลูกมาตั้งแต่ไหนแต่ไรจริงๆเลยเชียว” ไอ้หยีที่พูดออกมาแบบนั้นพร้อมๆกับเบะปาก ก่อนที่มันจะหยิบลิปแท่งใหม่ขึ้นมาเปิดฝาออก แท่งสีทองๆที่มีอักษรภาษาอังกฤษตัวYอยู่บนนั้น



“มึงพูดแบบนี้หมายความว่าไงวะป้า คือมึงรู้จักแม่อิเจ๊พี่ดาบหรอ” กูนี่เงยหน้าขึ้นมามองหูผึ่งเลยครับ



“ก็ไม่ได้รู้จักหรอกจ้า แต่ตอนที่กูเคยเรียนปี1ตอนนั้นที่เป็นน้องรหัสพี่มันอ่ะนะ คือชื่อเสียงเรื่องการควงชะนีหลีดมหาลัยและเด็กผู้ชายของพี่มันนี่เยอะมาก สาวๆหนุ่มๆแวะเวียนมาคณะกูไม่ซ้ำหน้า แต่ก็ได้ข่าวว่ากระเด็นออกไปเพราะบางทีก็เจอฤทธิ์เดชของแม่พี่ดาบว่ะ”



“คือไรวะ ลูกเรียนมหาลัยแล้วยังตามมาดูพฤติกรรมอีกหรอ”



“คือมึงต้องเข้าใจนะคะว่าแม่พี่ดาบนี่มีตำแหน่งในมหาลัยด้วยนะจ๊ะ อดีตคณะบดีคณะบริหารเก่านะจ้า”



“เป็นอาจารย์หรอวะ”



“ใช่จ้า แซ่บๆมีความรู้เลยจ้า”



“ถึงว่าล่ะ กูตายแล้วป้า เค้าไม่มีทางชอบกูหรอก กูจน แล้วก็โง่”



“มึงโง่แล้วใครฉลาดล่ะอิเอม มึงเด็กทุนนะคะ สติ” มันที่ว่าผมแบบนั้นแล้วเอื้อมมือมาผลักหัวกันให้โขกลงกับโต๊ะ กูเจ็บมาก อิผู้หญิงใจร้าย



“แต่พวกอาจารย์ก็คือหัวโบราณอ่ะป้า”



“ก็อาจจะจริง แต่ว่าพ่อพี่ดาบเค้านักธุรกิจนะมึง มึงบอกเองนี่ว่าพ่อเค้าโอเคกับมึง”



“แต่แม่เขาไม่โอเค”



“เออน่า...โอเคหนึ่งคน ก็ถือว่าหายใจคล่องไม่ใช่หรือไงวะ ส่วนอีกหนึ่ง ถ้าเค้าได้รู้จักมึงจริงๆ กูเชื่อว่าเค้าก็จะรักมึงเหมือนกัน”



“ขอบคุณนะป้า” หันไปยิ้มให้มัน เป็นความรู้สึกที่ขอบคุณจริงๆ ขอบคุณที่อย่างน้อยผมยังมีเพื่อนดีๆ



“ไม่เป็นไรค่ะ มึงก็เหมือนลูกกูอ่ะค่ะอิเอม ถ้าใครมาทำอะไรลูกกู กูจะไปฟาดให้ ขอแค่มึงบอกค่ะ”



“มึงแม่งน่ารักว่ะป้า”



“แน่นอนค่ะ กูไม่ปฏิเสธหรอกนะคะ เพราะกูรู้ตัวว่ากูน่ะทั้งสวยและน่ารักมากๆ”



“ถือซะว่ากูไม่ได้ชมเมื่อกี้ละกัน” บอกออกไปแบบนั้น ไอ้หยีก็หันมามองแรงใส่ เห็นแบบนั้นแล้วก็อดจะหัวเราะออกมาใส่กันไม่ได้



“แล้วไอ้เก้อมันยังไม่มาอีกหรอวะ” ผมถามออกไปแบบนั้น ไอ้หยีก็ถอนหายใจออกมารัวๆ



“ยังค่ะ กูว่ามันหลบหน้ามึงนะคะอิลูก”



“เฮ้อ แค่เรื่องบ้านพี่ดาบกูก็เหนื่อยแล้ว”



“กูรู้ค่ะ แต่ก็อย่างว่าแหล่ะ เรื่องแบบนี้ใครมันจะไปทำใจได้ไวคะ มันรักมึงมาตั้งแต่รับน้อง แต่มึงก็เก่งนะคะ แกล้งไม่รู้ไม่ชี้เก่งเหลือเกิน”



“ก็จะให้กูทำไรได้มากกว่านี้วะป้า ไม่รู้สึกก็คือไม่รู้สึก ถ้าทำเป็นรู้ไปแล้วเสียเพื่อน ให้กูแกล้งโง่ไม่รู้ว่ามันชอบแบบนี้ต่อไปน่ะดีแล้ว ... ก็ได้แต่หวังว่าสักวันมันจะเจอคนที่มันชอบมากกว่ากูสักที”



“สาธุเลยค่ะ ใครแม่งจะเป็นคนซวยคนต่อไป”



“มึงก็พูดเกินไปอ่ะป้า”



“อิเก้อขี้เอาจะตาย”



“มึงพูดอะไรของมึงเนี่ยป้า มึงเป็นผู้หญิงนะเว้ย”



“เอ้า เรื่องธรรมชาติอ่ะค่ะ มึงเองก็รู้ว่าอิเก้อน่ะไม่ว่างเว้นชายหญิง ขนาดชอบมึงนะคะ”



“กูว่ามันแค่สงสารกูมากกว่า ถ้ามันเจอคนที่มันรักจริงๆ กูว่าคนแบบมันจะหยุดได้นะ”



“ถ้าวันนั้นมาถึง กูจะคิดว่าผีสิงมันค่ะ” ไอ้หยีที่พูดแบบนั้นแล้วส่ายหัวแบบไม่อยากจะเชื่อ



“แต่ว่านะอิหนูเอม แต่ถ้าคนนั้นแซ่บมากจริงๆมันอาจจะหยุดได้ก็ได้นะ” ไอ้หยีที่จีบปากจีบคอใส่ผมพูดออกมาด้วยสีหน้ากรุ้มกริ่ม



“ใครแม่งจะแซ่บในแบบที่มันชอบได้วะ”



“ก็คง...จะเป็นคนที่ศีลเสมอกับมันล่ะมั้ง อิอิ”



“โวะ กูล่ะเหนื่อยใจ” ผมส่ายหน้าให้กับความคิดทะลึ่งๆของไอ้หยี เฮ้อ...คิดถึงพี่ดาบว่ะ คิดถึงมากจริงๆนะ คิดถึงจนต้องหยิบมือถือขึ้นมาดูบ่อยๆ แต่วันนี้ก็ยังไม่มีข้อความใหม่ส่งมาจากมันเลย



“เอ้ออิหนูเอม พรุ่งนี้เรามีไปค่ายอาสานะคะมึง มึงจัดกระเป๋าหรือยัง”



“อะไรนะป้า ค่ายเหี้ยไรนะ”  หันไปถามมันแบบงงๆ หน้าตากูคงเหวอและโง่มาก เพราะไอ้หยีถึงขั้นต้องถอนหายใจออกมาและส่ายหน้าให้กันเบาๆ



“ค่ายอาสาค่ะมึง ไปดอยนะ ไปทำห้องสมุดให้เด็กบนดอย ... ยังกับนิยาย เอะอ่ะไปค่ายๆ จริงๆกูว่าคณะแค่อยากเอางบออกมาผลาญค่ะ เหมือนประเทศเราที่ชอบเอางบออกมาผลาญอ่ะ”



“เงียบๆๆ มึงเงียบเลยป้า พูดห่าไรของมึงนัก”



“เอ๋า...”



ผมไม่ได้ฟังคำพูดของมันต่อ แต่กำลังนึกถึงใครอีกคนที่ยังไม่ได้ทักมาหากันในวันนี้ แต่เพราะพรุ่งนี้จะต้องไปค่าย เลยตัดสินใจส่งข้อความไปก่อน



[[เอม: เจ๊พี่มึง จะได้กลับบ้านหรือยัง ... พรุ่งนี้เอมต้องไปค่ายนะ พี่จะกลับมาไหมคืนนี้ ]]



ส่งไปแบบนั้น แต่ก็ไม่มีข้อความขึ้นว่าอ่าน ... มันอาจจะกำลังยุ่งล่ะมั้ง แต่หวังว่าเย็นนี้ผมกลับไป จะเจอพี่มันอยู่ในครัว และยิ้มให้กันเหมือนที่เคย



...



“เดินอะไรแบบนั้นวะมึง เดินไวๆสิวะ กูจะสายแล้วเนี่ย”



“มึงรีบมึงก็ไปก่อนกูเลยไอ้สัดพี่เก้อ ส้นตีน”  ด่ามันออกไปแบบนั้น พร้อมยกนิ้วกลางขึ้นมาส่งให้มันด้วย แต่อีกคนก็แค่ยกยิ้มมุมปากขำๆ มันที่เดินกลับมาหา พร้อมเอื้อมมือมาโอบเอว



“ทำเหี้ยอะไรของมึง”



“ก็ประคองมึงไง นี่กูกำลังทำหน้าที่พี่รหัสที่ดีของมึงอยู่นะ”



“สัด ดีกับผีน่ะสิ K”



“เด็กมันเกรี้ยวกราดจังวะ มาเดินดีๆ”



“ไม่ต้องมากอดเอวกู มึงจะไปเรียนก็เดินไปก่อนเลย เดี๋ยวกูไปเอง” บอกมันไปแบบนั้นแล้วพยายามดึงตัวมันให้ออกห่าง แต่มันก็ทำแค่โอบเอวของผมให้แน่นขึ้นแบบคนกวนตีนกัน



“ไอ้พี่เก้อ”



“อย่าเรื่องมากน่า เดินช้าแบบนี้เมื่อไหร่จะถึงหรือให้กูอุ้ม”



“ตีนกูนี่ อุ้มพ่องมึง”



“ฮ่าๆ แบบนี้อ่ะน้า เดินตกบันไดก็จะจุก เอ้ยเจ็บแบบนี้น่ะนะ” มันที่หันมามองหน้าผมแล้วเน้นคำว่าจุกใส่หน้าเต็มๆ โมโหจนอยากจะยกมือขึ้นต่อยแม่ง ติดแค่ว่าอยู่ที่มหาลัยหรอกนะสัดเอ้ย



“ไปตายเลยไปไอ้สัดพี่เก้อ”



“กูตายแล้วมึงจะหาคู่ขา เอ้ย...พี่รหัสดีๆจากไหนล่ะครับน้องเสือ”



“มึงต้องโดนตีนกูไอ้สัดเก้อ!”



“โอ้ยๆๆ อย่าถีบกูๆ!!”





--------------To be continued------------



ตอนนี้เขียนยากมากกกกกกก มากๆค่ะสำหรับเรื่องของครอบครัว แต่แคทก็พยายามมากๆที่จะตีความออกมาให้ชัดเจนมากที่สุดเท่าที่

แคทจะทำได้ค่ะ ถ้าคนอ่านสนุกและชอบไปด้วยกันก็คงจะดีค่ะ ส่วนน้องม็อบ มาดีหรือมาร้ายอิอิ ยังไงในตอนนี้

มาค่ะ มาวิเคราะห์กันเถอะค่ะคนอ่านที่น่ารักของแคท ยังอยู่อ่านกันไหมมมม ยู้ฮู

ฝาก #สวยๆเป็นผัว ในทวิตด้วยนะคะ   :hao7: :mew1:


ขอขอบคุณคนอ่านในเล้าเป็ดที่ยังอยู่ด้วยกันด้วยนะคะ ขอโทษที่ไม่ได้ตอบคอมเม้นท์คนอ่านซะหลายตอนเลยค่ะ
บางทีแคทมาอัพดึกแล้วแต่ยังไม่ได้กินข้าวเลยไม่ทันได้ตอบ ต้องขอโทษจริงๆนะคะ

ส่วนคอมเม้นท์ตอนที่แล้วน้านนนนน อิอิ

:กอด1:
 :pig4:
ขอบคุณมากๆนะคะ ขอบคุณที่มาอ่านมาเม้นท์ให้แคทเสมอเลยนะคะ


:z6: :z6: :z6: นังพาพวยแกกกกกกกกกกกกกกกก
เอมหนูต้องเชื่อใจพี่ดาบนะลูก
น้องเชื่อพี่ดาบๆ น้องเชื่อนะคะ อิอิ


:pig4: :pig4: :pig4: หวังว่าควายน้อยจะเป็นแค่ชื่อฉายาของเอม อย่าโง่เลยนะหนู สงสารควาย
เลือกไม่ถูกเลยว่าจะต้องสงสารควายหรือสงสารน้อง แง้  :hao5:


น่าสงสารมาก,,,
แคทฝากเอ็นดูน้องด้วยนะคะ  :mew1:


สู้ค่ะคนเขียนเนื้อเรืองสนุกและเข้าใจทุกคนในเรื่องค่ะ  ปวดท้องหายหรือยังค่ะคนเขียนรักษาสุขภาพด้วยปวดท้องเป็นอาทิตย์แล้วให้คุณหมอตรวจละเอียดหน่อยก็ดีนะคะ  :L2: :กอด1: :L1:
แคทขอบคุณมากๆนะคะ ขอบคุณคำชมดีๆที่ให้แคทนะคะ ส่วนเรื่องปวดท้อง ตอนนี้แคทหายแล้วค่ะ (คือแคทปวดท้องแบบวันนั้นของเดือนค่ะ เหมือนจะตายให้ได้เลยค่ะ ขอบคุณจริงๆที่เป็นห่วงแคทนะคะ)  :mew1:



สงสารน้อง แค่น้องเสียพ่อแม่ไป แค่นี้ต้องว่ากันขนาดนี้เลยเหรอ แล้วนั้นใครมาเรียกน้องกันล่ะ
น้องเอมน่าสงสาร ฝากเอ็นดูน้องด้วยนะคะ (แต่สำหรับคนบางคนในยุคปัจจุบันนี้ มันจะมีที่ลูกฉันดีสุดเธอไม่ดีไม่คู่ควร มันมีจริงๆ แคทเลยอยากจะนำเรื่องนี้มาเขียนน่ะค่ะ แคทหวังว่าจะชอบไม่มากก็น้อยนะคะ)



เอ็นดูน้องเสืออะ :katai2-1: :katai2-1:
  แง้ ดีใจ ฝากเอ็นดูน้องเสือด้วยนะคะ :mew1:


ไม่ใช่น้องรหัสเอมมาเจออีกนะ จะบังเอิญพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกน้องเอมอีกหรือเปล่าน้อ
  เนี่ย แคทเขียนนิยายง่ายไปใช่ไหมล่าา คนอ่านเดาได้หมดเลย โถ่เอ้ย หวังว่าเดาถูกแบบนี้จะยังสนุกอยู่นะคะ :hao5:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่34 {06/06/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 06-06-2020 22:33:21
พี่ดาบคนจริงอะ ขนาดแม่ก้อไม่เว้น  :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่34 {06/06/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 06-06-2020 23:02:05
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่34 {06/06/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Chucream.nabi ที่ 07-06-2020 01:59:49
นังพาพวย อินังยุแยงตะแคงรั่ว เค้าไม่ชอบมึงแล้วโว้ยยยยยยยย
เลิกมโนหลอกตัวเองสะที :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่34 {06/06/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 07-06-2020 08:53:48
รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่34 {06/06/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 07-06-2020 16:31:45
คุณแม่ต้องลองคุยกับน้องเอมก่อนนะคะ  แล้วจะนึกเอ็นดูจิตใจที่บริสุทธิ์ และเข้มแข็งของน้องเอม


ส่วนพาพวยน้านนนน ขอให้นางคิดได้ก่อนจะเสียดานี่ไปจริงๆ นะ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่34 {06/06/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 08-06-2020 11:40:54
ลูกก็เลี้ยงได้แค่ตัวและค่ะคุณแม่ต้องเขาใจนะคะ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่35 {13/06/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 13-06-2020 21:38:49

บทที่35


“อยากกลับคอนโดๆๆๆ” พูดออกไปแบบนั้นทันทีในตอนที่เห็นพ่อเดินเข้ามาในห้องทำงานของท่าน เป็นคนมีอายุที่ยังคงดูดีในสายตาของผมเสมอ หน้าตาหล่อเหลาคมคายที่พูดกันตรงนี้เลยว่าผมได้มาจากพ่อ ... ถึงแม้ว่าจริงๆแล้วตอนนี้ผมจะอยากได้ความสวยๆของแม่มาบ้างก็เถอะ ...



ถอนหายใจอย่างเซ็งๆแล้วเอนตัวลงพิงพนักพิงเก้าอี้



“อยากกลับไปหาแฟนมึงว่างั้น”



“โอ้โหหห ไม่น่าถามหรือเปล่าเอ่ย ดูก็น่าจะรู้หรือเปล่าคะ คนเค้าข้าวใหม่ปลามัน ถามมาได้อ่ะค่ะคนแก่”



“เดี๋ยวกูจะฟาดหน้ามึงนะไอ้ดาบ”



“ดานี่! โปรดเรียกสวยว่าดานี่ จะเก็บชื่อพี่ดาบไว้ให้ไอ้น้องเอมเรียกคนเดียว”



“ดานี่พ่องมึง”



“อ๊ะๆ ก็ใช่ไง พ่องเลยไงคะ” พูดตอบแบบนั้นพร้อมชี้มือใส่คนที่กำลังนั่งกำหมัดอย่างข่มอารมณ์อยู่ตรงหน้า เห็นแล้วก็รู้สึกสนุกดีอยู่หรอก ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้มีเรื่องราวให้รำคาญใจอยู่ก็อยากจะเล่นให้ใหญ่มากกว่านี้ คิดถึงอิน้องเอมแล้วจ้าเอดอก!



“อะๆ เลิกเล่น ป๊ามีไรก็รีบพล่ามมานะ จะกลับ”



“แต่กูยังไม่ให้มึงกลับ”



“เห้ยได้ไงวะป๊า บอกว่าจะกลับไปหาไอ้เอม อายุมากแล้วไปโรงพยาบาลเช็คหูหน่อยไหม ยังไงดีวะป๊า”



“ตั้งสติแล้วฟังฉันก่อนไอ้ดาบ ฉันเคยสอนให้แกเป็นคนใช้อารมณ์หรอวะ”  พ่อพูดออกมาแบบนั้น ท่าทางที่เหมือนอยากจะยกมือขึ้นมาโบกหัวกันยังไงอย่างงั้น แต่สายตาของพ่อที่มองมาก็ทำให้ผมต้องหุบปากลงก่อน พร้อมๆกับถอนหายใจ



“ป๊ามีอะไรก็พูดมา มาห้ามไม่ให้กลับคอนโดด้วยเรื่องอะไรไม่ทราบวะ ที่นี่ไม่มีแผ่นมาร์คหน้าหรือครีมสลีบปิ้งมาร์คด้วย เดี๋ยวผิวหน้าผมจะไม่ฉ่ำวาว มันจะไม่โอเค ป๊าเข้าใจป่ะ”



“เลิกตลกสักที พรุ่งนี้จะมีงาน ฉันอยากให้แกไปกับฉันและแม่”



“พูดออกมาซิว่ามันจะไม่ใช่งานเลี้ยงที่ชอบเอาลูกไปโชว์ตัวอวดกันใช่หรือไม่ยังคะ ถ้าใช่สวยจะกรี๊ดเดี๋ยวนี้เลยนะป๊านะ”



“อืม ใช่”



“กรี๊ดดดดดดดดดดด”



‘ผลั้วะ’



“โอ้ย เจ็บนะเว้ยป๊า”  ร้องออกมาแบบนั้นในตอนที่หัวของผมโยกไปอีกฝั่งด้วยฝ่ามือของพ่อ ดูเหมือนว่าพ่อจะหมดความอดทนที่พยายามข่มมันไว้มานาน ทำไมกันนะ ทำไมต้องทำร้ายคนสวยๆแบบกูด้วยครับ



“เลิกทำตัวแด๊ะแด๋สักที”



“ทำไมอ่ะ คนมันจะสวย”



“กล้ามมึงใหญ่กว่าหัวกูอีกไอ้ดาบ เลิกแกล้งทำซักที”



“โอ้ยป๊า เจ๊าะแจ๊ะจัง แล้วงานอะไรนั่นทำไมต้องให้ไปวะ ไม่อยากไป ป๊าก็ไปกับสัดเฮียปืนดิ” ถอนหายใจออกมาแรงๆก่อนจะกระแทกหลังลงไปพิงกับพนักเก้าอี้ บอกเลยว่าสวยหงุดหงิด สวยจะไม่ทน



“ไอ้ปืนมันไม่ว่าง หรือแกจะให้ฉันกับแม่แกลากกุญแจไป”  ขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินแบบนั้น จ้องหน้าคนเป็นพ่อที่ยกยิ้มมุมปากเหมือนรู้อยู่แล้วว่าผมกำลังคิดอะไร



“ป๊าอย่าไปบังคับน้อง”



“ไม่ให้บังคับ ก็ต้องเป็นแกที่ไป”



“รำคาญฉิบหาย น่าเบื่อ แล้วนี่ไม่ใช่จะหาผู้หญิงบ้านไหนมาจับคู่กับผมอีกนะ ขอบอกเลยว่าถ้าป๊าทำงั้น ผมจะกรี๊ดกลางงานเอาให้อายกันไปสามบ้านแปดบ้านเลยนะเว้ยป๊า”



“ปกติมึงก็ไม่ได้ดื้อด้านเหมือนควายแบบนี้นะไอ้ดาบ ทำไมตอนนี้เป็นแบบนี้วะ ฉันว่าฉันไม่เจอหน้าแกมาแค่สี่ห้าเดือน” พ่อบ่นออกมา พร้อมๆกับทำหน้าระอาใส่ ผิดกับผมที่พอได้ยินแบบนั้นแล้วรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมานิดหน่อย อาจเป็นเพราะได้ยินคำว่าเหมือนควาย ... ก็อาจจะจริง ตอนนี้ผมเริ่มเหมือนควาย เพราะควายเท่ากับความน่ารัก ... น่ารักแบบไอ้น้องเอม



“ยิ้มอะไรของมึง อย่าบอกว่ามึงพี้ยานะไอ้ดาบ”



“โอ้ยป๊า ผมไม่ยุ่งกับอะไรแบบนั้นป๊าก็รู้ป๊ะวะ” ทำหน้าเซ็งๆใส่คนเป็นพ่อตอนที่ได้ยินแบบนั้น แต่ท่านกลับเปลี่ยนท่าทีเป็นนั่งหลังตรง แล้วเอามือสองข้างประสานกันแล้ววางมันลงบนโต๊ะ พร้อมจ้องตรงมาที่ผมด้วยท่าทางจริงจัง



“มึงไม่ยุ่งกับมัน แต่คนใกล้ตัวบางคนอาจจะยุ่งก็ได้”



“ป๊าหมายถึงอะไร”  ขมวดคิ้วในตอนที่ได้ยินแบบนั้น ไม่เข้าใจเท่าไหร่แต่คิ้วกระตุก



“เรื่องรีสอร์ทที่สุราษฎร์...”



“ก็บอกแล้วว่าผมไม่เอา ไม่ทำอ่ะป๊า ป๊ายกให้เฮียปืนไปเลย ใหญ่ขนาดนั้นใครจะไปดูแลไหววะ” แค่ได้ยินชื่อสุราษฎร์กูก็เหนื่อยละ พื้นที่ติดทะเลบนเกาะที่ป๊าซื้อไว้ให้ผม ตั้งใจจะให้ไปทำธุรกิจที่นั่น แค่คิดก็เหนื่อย



“มันเป็นของมึงไอ้ดาบ”



“งั้นป๊าก็เก็บไว้งั้น ไม่บูดหรอก มันไม่ใช่สลิ่ม”



“เดี๋ยวกูตบมึงตกโต๊ะ รู้ไหมว่าพื้นที่นั้นมันราคาเท่าไหร่ ติดทะเลที่สามารถขนส่งสิ่งของต่างๆออกไปได้ เป็นพื้นที่เศรษฐกิจอย่างดี”



“ก็เพราะว่ามันเป็นแบบนั้นไง ผมเลยไม่อยากจะไปทำ ดูแลอะไรยุ่งยากไปหมด”



“อืม...แล้วแบบนั้นมันเลยยิ่งสำคัญ”



“แล้วไงวะป๊า” จ้องหน้าคนเป็นพ่อแบบที่ไม่เข้าใจ เอาจริงๆก็ไม่ค่อยเข้าใจสีหน้าของตาแก่นี่เท่าไหร่ พ่อผมเป็นนักธุรกิจ ตระกูลของพ่อผมแทบจะไม่ต่างจากมาเฟีย แต่ดีหน่อยที่พ่อของผมไม่ใช่ลูกคนโตของปู่ ไม่งั้นครอบครัวเราคงจะเคร่งเครียดกว่านี้



“ช่างเถอะ เอาเป็นว่าพรุ่งนี้แกต้องไป แล้วคืนนี้ก็นอนที่นี่ซะ”



“ผมอยากกลับไปหาไอ้เอม” ทำไมตาแก่นี่ไม่เข้าใจกันบ้างวะ คิดถึงตัวนุ่มนิ่มน่ารักของไอ้น้องเอม นอนคนเดียวจะไปหลับอะไรวะ



“อย่าให้พูดมากได้ไหม ขึ้นห้องไปซะ”



“ปัดโถ่เอ้ย ตาแก่นี่รุงรังจังวะ โอ้ย...ผมเจ็บนะป๊า”  ฟาดเข้าหัวมาเต็มๆที่นึงจนน้ำตากูซึม เห็นหัวกูเป็นลูกบาสหรอวะตีเอาๆ สวยเจ็บค่ะสังคม!



“กุญแจยังไม่กลับบ้านด้วย มึงจะกลับตอนนี้แน่หรอ”



“จิ๊ เออ เล่นแบบนี้ผมก็ต้องอยู่สิวะ” ถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ได้แต่ยกมือขึ้นเสยผมที่ลมาปรกหน้าแบบเซ็งๆ มองดูหน้าพ่อตัวเองที่ดูจะถูกใจกับการตอบรับของผม น่ารำคาญชะมัด



“งั้นผมไปล่ะ จะไปส่งข้อความหาไอ้เอม”



“เดี๋ยวก่อนไอ้ดาบ” ผมที่กำลังจะลุกออกไป แต่ก็ถูกพ่อรั้งไว้อีกรอบ เป็นรอบที่เท่าไหร่ของวันวะถามจริงๆ ... ได้โปรดปล่อยสวยไปค่ะตาแก่ เบื่อโว้ย กรอกตาใส่พ่อไปอีกหนึ่งทีติด



“อะไรอีกซิคะ พูดมาทีเดียวเลยนะคะ แล้วอย่ารั้งสวยอีก จะรีบไปโทรหาเมีย ปั๊ดโถ่วเอ้ย” ฉุนเฉียว มันเป็นฉุนเฉียวแล้วนะตอนนี้



“แกอย่าโกรธแม่แกเลยนะไอ้ดาบ มันไม่ง่ายหรอกที่จะต้องยอมรับกับเรื่องนี้” ผมที่กำลังแกล้งเล่นทำตัวเป็นตุ๊ดออกสาวเอาผมทัดหูอยู่ก็ต้องชะงักไปเลยในตอนนี้ที่พ่อพูดออกมาด้วยเรื่องนี้ ผมที่เงยหน้าขึ้นมองหน้าพ่อที่กำลังพูดเรื่องนี้อย่างจริงจังเป็นครั้งแรก ก่อนพาไอ้เอมมาที่นี่ผมโทรคุยกับพ่อเรื่องเอมแล้ว แต่กับแม่...เราไม่เคยได้คุยอะไรกัน



“ผมไม่ได้โกรธแม่ป๊า” ตอบกลับออกไปแบบนั้นแล้วเสหน้าหนีไปทางอื่น  “มันก็แค่....”  มันก็แค่เสียใจที่เค้าเลือกที่จะไม่ฟังอะไรเลย ก็แค่นั้นแหล่ะ



“ฉันรู้ว่าแกเองก็เสียใจ แต่แม่แกเค้าไม่เคยคิดร้ายกับแกนะ มันอาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อยกับเรื่องนี้ แต่ฉันเชื่อว่าเค้าจะเข้าใจได้ในสักวัน เพราะสำหรับฉันและแม่แก มันไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าพวกแกสามคนพี่น้องแล้ว”



“ผมไม่เข้าใจว่ะป๊า ป๊าบอกผมสามคนพี่น้องสำคัญ แล้วการที่ผมชอบผู้ชาย การที่ผมรักไอ้เอม มันผิดหรอวะ”



“มันไม่ได้ผิด แต่แกก็ต้องเข้าใจนะ ว่าตอนที่แม่คลอดแกออกมา เค้าคงไม่ได้คิดล่วงหน้าว่าจะได้ลูกสะใภ้ที่เป็นผู้ชายเข้าบ้าน ... ฉันรู้ดีว่าการรักชอบผู้ชายด้วยกันมันไม่ใช่เรื่องผิด ฉันรู้” พ่อที่พยายามพูดออกมาอย่างใจเย็น แต่ถึงแบบนั้นผมก็ยังไม่ได้รู้สึกดีขึ้นเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยป๊าก็ยังดูพูดเข้าใจง่ายมากกว่าแม่ เพราะแบบนั้นผมเลยมักจะคุยกับพ่อบ่อย



“แม่แกเค้าก็แค่หวังว่าอนาคตแกจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์ มีพ่อ แม่ ลูก และสามารถขยายครอบครัวออกไปให้ได้เจริญรุ่งเรืองต่อไปข้างหน้าได้อีกอย่างมั่นคง มีเมียที่ดีและมีความสุขในตอนที่ฉันกับแม่แกไม่ได้อยู่ด้วยแล้ว ... แต่ใช่ ฉันเข้าใจ คำว่าสมบูรณ์ของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน สำหรับแกมันอาจจะแค่การที่ได้อยู่กับใครสักคนที่แกรักก็แค่นั้น”



“แล้วทำไมแม่ถึงไม่เข้าใจอะไรง่ายๆแบบป๊าบ้างวะ”



“ฉันเองไม่ได้เข้าใจง่าย มันเองก็อยากสำหรับฉันเหมือนกัน ตอนที่เห็นแกอยู่ม.ปลายแล้วเริ่มทาปาก แกล้งทำตัววี๊ดว้ายตอนนั้นมันก็ไม่ง่าย แต่พอเวลาผ่านมาจนถึงตอนนี้ ฉันเห็นหลานฉันหลายๆคนเป็นตัวอย่าง เห็นพี่ชายฉันที่ยอมรับกับเรื่องพวกนี้ได้ ทั้งๆที่เค้าไม่น่าจะทำได้เลยด้วยซ้ำ ก็เลยต้องลองมองย้อนมาหาตัวเองดู ว่าแกเองก็ลูกฉัน แล้วมันมีอะไรที่ต้องรับไม่ได้วะ... จริงๆผู้ชายรักกับผู้ชายมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร มันก็เป็นความรู้สึกอย่างหนึ่ง เป็นหนึ่งในรูปแบบของความรักรูปแบบหนึ่ง ...”



ได้ยินแบบนั้นแล้วกูอยากจะวิ่งไปกราบเฮียทัพ ไอ้รบ ไอ้รุกจริงๆเลยแม่งเอ้ย มึงเป็นตัวอย่างให้พ่อกูเปิดใจ แต่ถึงแบบนั้น...



“ป๊าแม่งโคตรเท่เลยว่ะ”



“จริงๆเรื่องนี้ฉันรู้ตัวอยู่”  บอกออกมาแบบนั้นแล้วยักคิ้วให้ ... จะพูดไปแล้วก็เหนื่อยใจกับพ่อตัวเองนะครับ มั่นใจอะไรขนานดนั้นวะ แต่ถึงจะรู้สึกแบบนั้น ผมก็อดจะยิ้มมุมปากให้กว้างขึ้นไม่ได้เลยจริงๆ รู้สึกสบายใจขึ้นมานิดหน่อย



“แม่แกไม่ใช่คนโง่นะไอ้ดาบ แกเองก็น่าจะรู้”



“แล้วที่แม่เป็นอยู่ตอนนี้...”



“ก็รอดูต่อไปสิ แต่ฉันมั่นใจว่าถ้าเค้าได้รู้จักเอมจริงๆ เค้าน่าจะรักเอมได้ไม่ยาก”



“ผมเองก็มั่นใจแบบนั้น ก็ควายน้อยของผมน่ะมันน่ารักจะตาย ป๊าว่าป่ะ”



“เอาเถอะ มึงไปคลั่งรักไกลๆกูไป จะอ้วก”



“แบบนี้แหล่ะเนอะ คนชราอ่ะ จะพูดถึงความรักหวานซึ้งก็ผ่านมานานแล้ว เข้าไม่ถึงหรอกค่ะ ดูออก” พูดออกไปพร้อมๆกับส่งยิ้มหวานเจี๊ยบไปให้แล้วค่อยๆยกมือขึ้นทัดหูเป็นสเต็ปแห่งความน่ารักที่ใครๆเห็นก็ได้แต่พูดว่า...



“ออกไปไกลๆตีนกู!”



               ผมที่เดินออกจากห้องทำงานของพ่อด้วยความเซ็ง ... พ่อไม่เข้าใจความน่ารักนุ่มนิ่มของผมเลยว่ะ ตั้งใจว่าจะขึ้นไปอาบน้ำนอน แต่ได้ยินเสียงรถที่ขับเข้ามาจอดที่ประตูหน้าบ้าน



“ใครแม่งมาตอนนี้วะ”  ผมที่เดินลงไปชั้นล่าง โถงทางเดินยังคงเปิดไฟเอาไว้ แต่ไฟที่ห้องกินข้าว และโซนด้านหลังบ้านถูกปิดไฟหมดแล้ว เดินออกไปที่ทางเข้าบ้านก็เห็นไอ้กุญแจ ... น้องชายคนเล็กของผมเองครับ มันที่ใส่ชุดนักศึกษาและยืนอยู่ข้างๆรถยี่ห้อหรู และมีผู้ชายคนนึงยืนอยู่ข้างๆตัวมัน ผู้ชายที่ผมเองก็เคยเห็นหน้าคาตามาก่อน



“ทำไมกลับเอาป่านนี้ กี่โมงกี่ยามแล้วรู้บ้างไหมแจ”



“ขอโทษครับ ผมผิดเองที่พาแจไปกินข้าวมา เลยกลับมาดึกขนาดนี้”



“ที่บ้านเราไม่มีข้าวกินหรอแจ แล้วเธอ ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่ามายุ่งกับลูกฉันอีก”



“ผมรักแจครับ และเราก็คบกัน”



“เธอนี่มันพูดไม่รู้เรื่องใช่ไหม...”



“แม่พอเถอะฮะ แจขอโทษที่กลับบ้านดึก แจก็แค่หิว”



“แกก็หิวตลอดอยู่แล้วกุญแจ ส่วนเธอ กลับไปได้แล้ว” แม่ของผมที่ว่าออกมาแบบนั้น ท่าทางที่ทำให้ผมต้องถอนหายใจออกมาหนักๆอีกรอบ



“พี่อู๋พี่กลั...”



“ฮายยยย หนุ่มๆ ฮัลโหลลลล” เป็นผมที่ร้องตะโกนออกไปแบบนั้น พร้อมๆกับการปรากฏตัวอย่างยิ่งใหญ่ ฉีกยิ้มกว้างๆพร้อมๆกับโบกมือไปทางกุญแจ ผมเห็นไอ้อู๋ที่ทำหน้าตกใจที่เห็นผมนิดหน่อยก่อนจะยกมือไหว้



“พี่ดา เอ้ย เจ๊ดานี่ สวัสดีครับ”



“ฮายจ๊ะน้องอู๋ พาไอ้หมูนี่ไปไหนมาเอ่ย” ผมที่ถามออกไปแบบนั้นแล้วยิ้มกว้างๆ



“พาไปกินข้าวมาครับ”



“เข้าใจๆ อิเด็กผีนี่หิวตลอดอ่ะแหล่ะค่ะ เป็นแฟนเด็กผีก็ลำบากหน่อยนะคะ”



“ผมไม่ลำบากเลยครับ ผมยินดี”



“อั๊ย พูดจาน่ารัก คนดีอ่ะโน๊ะ อยากหยิกแก้มจุม” ว่าแบบนั้นแล้วตั้งท่าจะเดินเข้าไปแกล้งหยิกแก้มไอ้อู๋ แต่น้องชายของผมที่มาขวางเอาไว้ซะก่อน แก้มกลมๆขอมันดูเหมือนจะพองขึ้นนิดหน่อย แกล้งนิดแกล้งหน่อยทำเป็นหวง ปั๊ดโถ่



“พี่อู๋ ลุงมึงกลับไปก่อนเถอะ เดี๋ยวแจโทรหา”



“กุญแจ!” แม่ผมที่ได้ยินเข้าพูดออกมาด้วยเสียงที่เรียกได้ว่าขุ่นมัว แจมันสะดุ้งนิดหน่อย แล้วเดินมาหลบที่หลังของผม ผมหันไปมองหน้าแม่แล้วละสายตาหนีมา



“กลับบ้านดีๆนะไอ้อู๋ เอ้ย หนุ่มอู๋ จุ๊บๆจ้ามึง” ขยิบตาให้มันหนึ่งที ไอ้อู๋ที่หัวเราะขำออกมาหน่อยๆหันไปยกมือไหว้แม่ผม ก่อนมันจะขับรถออกไป และความเงียบก็โรยตัวลงมาที่เราสามคน แม่มองมาที่ผมและกุญแจอย่างเงียบๆ



“ทำไมถึงทำแบบนี้แจ แม่ขอแล้วใช่ไหม แม่ขอมานานแล้วนะว่าให้เลิกทำแบบนี้ เลิกยุ่งกับนายคนนี้...”



“แต่แจกับพี่อู๋ไม่ได้ทำอะไรเสียหายเลยนะฮะ แจก็แค่ไปกินข้าว แล้วพี่อู๋มันก็ไม่เคยพาแจไปเสียหาย”



“ถึงจะแบบนั้นแม่ก็ไม่...”



“แม่พอสักทีได้ไหม” ผมที่พูดออกไปแบบนั้นด้วยเสียงเรียบๆ และนั่นก็ทำให้แม่เงียบเสียงลง ฝ่ามือเล็กๆของไอ้แจกำอยู่ที่ชายเสื้อของผม มันที่ยืนอยู่ข้างหลังของผมไม่ต่างจากสมัยเด็กๆ ไม่ว่ากี่ปีต่อกี่ปีที่ผ่านมา กุญแจก็ยังคงเป็นน้องชายตัวเล็กๆของผมเสมอ มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก จริงๆค่อนข้างขี้อายและเพื่อนน้อย ชีวิตมันมีแค่ของกิน



“เมื่อไหร่แม่จะเลิกบงการพวกเราสักที ตั้งแต่เด็กจนโตแจมันแทบจะไม่มีเพื่อนเล่นอยู่แล้วเพราะความกลัวของแม่”



“ก็แล้วมันจริงไหม ความกลัวของแม่มันจริงใช่ไหมล่ะ มันเป็นจริงทั้งๆที่แม่ก็พยายาม...”



“ใช่ มันเป็นจริง แม่ต้องยอมรับได้แล้วว่าแจมันไม่ได้ชอบผู้หญิง ต่อให้แม่กันมันออกมาจากผู้ชายทั้งโลกมันก็ไม่ชอบผู้หญิงหรอก และใช่ ผมเองก็ด้วย”    ผมพูดออกไปแบบนั้น มองเห็นสายตาที่สั่นไหวของแม่ที่มองมาที่ผมและแจอย่างสับสน ความรู้สึกของแม่ที่กำลังเจ็บปวด แต่ทั้งผมและแจก็ไม่ต่างกัน



“แจมันอาจจะไม่พูดอะไรและทนๆไป แต่มันจะไม่ใช่กับผม และผมก็จะไม่ยอมให้น้องต้องมาเจอแบบผมด้วย! ไอ้อู๋มันเป็นคนดี การที่เราจะรักใครสักคนมันไม่ได้มาจากนิสัยเค้าหรอครับ มันไม่ได้มาจากเพศ ไม่ได้มาจากฐานะอะไร มันก็แค่มาจากความรู้สึกของเราครับแม่ ผมอยากให้แม่ยอมรับ และปล่อยผมกับน้องไปได้แล้ว”



“ฮึก ...พี่ดาบ”



“ไป ขึ้นห้องนอนได้แล้วแจ”  ผมพูดออกมาแบบนั้นแล้วดึงมือมันให้เดินตามผมขึ้นบ้านไป ผมที่ไม่ได้หันไปมองหน้าแม่อีก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเค้ากำลังเสียใจมากแค่ไหน แต่คนทุกคนก็มีหัวใจ ไม่ใช่มีแต่แม่หรือเปล่า ถ้าพูดดีๆกันไม่ได้ ไม้แข็งก็อาจจะเป็นวิธีที่ดีกว่า





“เข้าห้องไปอาบน้ำนอนได้แล้วค่ะอิหมู อ้อ...หรือจะคุยกับไอ้ไม่หล่อนั่นก่อนก็ได้แล้วแต่ใจมึงค่ะ”  บอกไอ้แจแบบนั้นตอนที่เรามาหยุดอยู่ที่หน้าห้องมัน มันที่น้ำตายังไหลแต่ไร้เสียงสะอื้น มือป้อมๆของมันที่จับมือของผมเอาไว้แน่นๆ มันอ้วนน่ะค่ะนิ้วมันเลยป้อม



“พี่ดาบ เลิกทำแบบนี้เพราะผมเถอะพี่” มันที่พูดออกมาพร้อมๆกับเงยหน้ามองหน้าผมพร้อมน้ำตา ผมชะงักไป ก่อนจะส่ายหน้า



“กูชอบของกู ไม่เกี่ยวกับมึงค่ะอิหมู”



“พี่ ... ผมรู้ ผมรู้มาตั้งแต่เด็กแล้ว เพราะผมไม่มีค่อยเพื่อน เพราะแม่ที่ชอบดุผม พี่เลยพยายามแกล้งเป็นตุ๊ดให้แม่ด่าพี่แทน ผมรู้นะว่าเหตุผลมันมาจากผม พี่ไม่ต้องปิดหรอก พี่ทำเพื่อผมมามากพอแล้วนะ พี่เป็นคนหล่อมากๆเลย” มันที่เม้มปากเข้าหากันแน่นๆ คำพูดของมัน สายตาของมันที่มองมาที่ผมทำเอาผมชะงักคำพูดตัวเอง สายตาคาดคั้นที่บังคับให้ผมยอมรับความจริงกับมัน



“อยากตบจังค่ะ กูคนสวย”



“พี่ดาบ”



“ไอ้แจ ไม่ต้องห่วงกูหรอก กูไม่เป็นไร มึงก็รู้ว่ากูจะไม่ทำอะไรที่ไม่สุขใจ เพราะงั้นที่กูทำอยู่กูก็สุขดี ตอนนี้กูอยากซื้อลิปสีใหม่ของดิออร์ด้วยนะรู้เปล่า” ยื่นมือไปยีผมมันเบาๆ มองไปที่มันเมื่อไหร่ก็ไม่ต่างจากมันตอนสามขวบ ยังคงเป็นเด็กตาใสแก้มกลมน่ารักที่มีรอยยิ้มเยอะๆ แต่มันก็เริ่มไม่ยิ้มตอนที่มันเริ่มเอาลิปสติกของแม่มาทาแล้วโดนดุ กว่ามันจะกลับมาเป็นแบบนี้ได้อีกครั้งมันยากมากๆ และเพราะแบบนั้น ผมจะไม่ยอมให้น้องต้องเสียรอยยิ้มไปอีกหรอก



“พี่เป็นพี่ที่ดีมากเลย ฮึก ... แจขอโทษนะ เพราะแจเลย เพราะแจ ฮึก”  ร้องไห้ออกมา ก่อนจะโผเข้ามากอดตัวผมไว้แน่นๆ ได้แต่กอดตอบมันไป ก่อนจะลูบหลังเบาๆ ไอ้แจที่ผมไม่ได้เห็นมันร้องไห้นานแล้ว เพราะหลังๆเวลามันโกรธหรือเสียใจมันจะไม่ร้องไห้ วิธีของมันคือการไปหาอะไรกิน แล้วมันจะมีความสุขมากขึ้น



“คนเรามันเป็นอะไรก็ได้นะแจ เราจะเป็นอะไรก็ได้โดยที่ไม่ต้องรู้สึกผิด มันไม่ควรมีใครโดนคนอื่นชี้หน้าว่าเราควรเป็นแบบนั้นแบบนี้ และถึงกูจะเป็นตุ๊ดหรือไม่ได้เป็น มันก็เรื่องของกู เพราะกูเป็นกู และนั่นมันคือความพอใจของกู ... กูเองก็อยากให้มึงคิดแบบนี้นะ เป็นตัวของตัวเอง อยากทำอะไรก็ทำไป กับไอ้อู๋น่ะ...มันเองก็รอมึงมานานแล้วนะ เสียเป็นแสนแขนมึงมันได้จับหรือยัง”



“ก็ต้องมากกว่าจับแขนสิวะ”



“เดี๋ยวนะ มึงหมายความว่าอะไรคะ กรี๊ดดดด อิอู๋ทำไรน้องกู มึงไปบอกมันเลยนะ ถ้ามากเกินกว่าจับแขนกูจะไปตุ๋ยตูดมัน”



“โว้ยยย พี่ดาบแม่งบ้าบอจริงๆ”



“เอ้า อิเด็กนี่!”



...

มีต่อจ้า
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่35 {13/06/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 13-06-2020 21:39:21


“พรุ่งนี้มึงจะมายังไง รถออกแต่เช้านะ” ไอ้หยีที่ถามผมตอนที่พวกเราเดินลงมาจากตึกเรียน มีไอ้เก้อเดินตามมาด้วย มันที่ไม่ได้ทำหน้าตึงหรือห่างเหินอะไรกับผมมากเท่าไหร่ แต่จะบอกว่าสนิทชิดเชื้อกันเหมือนเดิมก็ไม่ใช่ครับ เราสองคนที่ยังคุยกันแต่ยังมีระยะปลอดภัยที่เข้าใกล้กันมากไปไม่ได้ และผมเองก็คิดว่าดีแล้วที่เป็นแบบนี้



“พี่ดาบอาจจะมาส่งมั้งป้า”



“ทำไมมึงมั้งล่ะคะอินี่”



“ก็...ยังไม่แน่ใจอ่ะ แต่คิดว่าคงเป็นพี่มันแหล่ะ วันนี้มันอาจจะกลับมาแล้ว”



“แฟนมึงไปไหน” ไอ้เก้อถามออกมาแบบนั้น พอหันหลังกลับไปก็เห็นมันทำคิ้วขมวดใส่ ดูเหมือนจะไม่ชอบใจที่รู้ว่าพี่ดาบไม่อยู่ คือมึงเป็นห่วงแฟนกูหรอเก้อ คือมึงตกหลุมรักอิเจ๊เรอะ!



“กลับบ้านเค้า”



“แล้วมันยังไม่กลับมา”



“อื้ม” ตอบรับพร้อมๆกับพยักหน้าเป็นคำตอบให้ ไอ้เก้อเบ้ปากขัดใจนิดหน่อย



“แล้วมึงจะกินอะไรวันนี้”



“แดกไรก็แดกสิวะ ทำไม”



“ก็ปกติแฟนมึงหาอาหารให้มึงแดกไม่ใช่รึไง” 



“สัด กูไม่ใช่หมานะโว้ย ดูแม่งใช่คำ”  แต่ก็ถูกของมัน ผ่านมาแค่คืนเดียว ผมเองก็คิดถึงอาหารฝีมือพี่มันมากๆเลยว่ะ



“เอาเหอะ กูหาอะไรแดกได้น่า กูโตแล้วมึงไม่ต้องห่วงกูหรอก”



“มึงแม่งน่าห่วงตลอดแหล่ะเอม”



“เอาเถอะๆ ถ้าพรุ่งนี้มึงมาเองไม่ได้ มึงโทรบอกกู เดี๋ยวกูไปรับมึงเองค่ะ”  ไอ้หยีตัดบทแบบนั้น กูอยากมอบโล่แม่ดีเด่นของไอ้เอมให้มึงเลยจริงๆป้า ขัดได้ทันเวลาอย่างกับรู้ใจกูเลย



“ไม่ต้องอ่ะ บ้านมึงกับคอนโดพี่ดาบแม่งคนละทางเลย เสียเวลามึง เดี๋ยวกูนั่งหนูด่วนไปเองได้”



“แต่มึงต้องแบกหนังสือที่จะเอาไปบริจาคที่ดอยมาด้วยไม่ใช่หรือไงคะอิเอม”  เออว่ะ ...ลืมคิดไปเลย



“เดี๋ยวกูไปรับเอง ทางผ่านกูอยู่แล้ว” ไอ้เก้อพูดออกมาแบบนั้น หันไปมองหน้ามันแล้วคิดอะไรขึ้นมาได้สักอย่าง คิดแล้วก็อยากจะพูดไป ไอ้เอมไม่สามารถหยุดปากตัวเองได้ ถามแม่ง



“มึงมารับกูได้แน่นะ ไม่ใช่ว่าจะไปรับใครนะ”  ไอ้เก้อหันมามองหน้าผม มันที่ดูเหมือนจะชะงักไปเล็กน้อย แต่มันก็แค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น



“กูจะไปรับใครวะ ยังไงกูไปรับมึงละกัน กูรู้มึงลำบาก”



“ห่วงกู ดูออก”



“เปล่า กูสงสารคนอื่นที่มึงจะไปชนเค้าในรถไฟฟ้า”



“สัดเอ้ย” ถอนหายใจแล้วเบ้หน้าใส่มัน แต่มันก็แค่ยักคิ้วกวนตีนใส่กันก็เท่านั้น สาธุเถอะ ปากดีแบบนี้ กูขอให้มึงเจอคนที่จะทำให้มึงปากดีไม่ออกบ้าง



“กูกลับแล้วนะ พรุ่งนี้เจอกัน” ผมหันไปบอกไอ้หยีกับไอ้เก้อแบบนั้น มันสองคนที่ก็แค่พยักหน้ากลับมาให้ ... ได้แต่หวังว่ากลับไปถึงบ้านแล้วจะเจอกับอิเจ๊พี่มัน แต่อะไรที่เราหวังมันก็มักจะไม่เป็นแบบนั้นเสมอเลย



“เฮ้อ...ยังไม่กลับอีกหรอวะ ผมคิดถึงพี่แล้วนะเว้ย”  บ่นกับตัวเองแบบนั้นตอนที่ทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ในห้องครัว ห้องที่เงียบมากกว่าปกติ รอบๆห้องไม่ได้รกอะไร เพราะไอ้ตัวทำรกไม่อยู่ ผมที่ทำแค่เช็ดๆถูๆไม่กี่อย่างห้องก็สะอาดเหมือนเดิมแล้ว ปกติถ้าอิเจ๊พี่มันอยู่ด้วยก็ต้องคอยเก็บที่มาร์คหน้า แปรงหวีผม ลิปสติก และอะไรไร้สาระของมันที่ชอบวางทิ้งไว้ไม่เป็นที่ไม่เป็นทางอยู่เรื่อย แต่ตอนนี้ไม่ต้องทำแบบนั้น



“เฮ้อ...หิวจังวะไอ้เอม มีอะไรแดกบ้างวะเนี่ย”  ถอนหายใจออกมาเป็นรอบที่หนึ่งร้อยด้วยความหงอยเหงาเศร้าซึม ทำไมกูรู้สึกตัวเองไม่สดชื่นเลยวะ เหมือนควายที่ไม่ได้ไปกินหญ้าเลย คิดเอาเองว่าผมคงจะหิว



“มีมาม่าหรอวะ” หยิบมันออกมาจากชั้นสูงๆที่อยู่ข้างบนสุดของตู้บิวท์อินในห้องครัว รสต้มโคล้ง ...ที่ตอนแรกกูขอสารภาพว่าอ่านว่ารสต้มโค แม่งเอ้ย นึกว่าจะได้กินสัตว์ใหญ่แล้ววันนี้



“ต้มน้ำร้อนๆ กูต้องต้มน้ำร้อนก่อน กระติกๆน้ำอยู่ไหนวะ” มองซ้ายมองขวาแต่หาไม่เจอ ปกติจะเป็นอิเจ๊พี่มันที่เอาออกมาตั้งเสียบปลั๊กและเก็บเองเรียบร้อยในทุกๆวัน เพราะพี่มันชอบกินกาแฟตอนเช้า



“แม่ง ต้มเอาเองก็ได้”



เดินไปหยิบหม้อ ตั้งน้ำแล้วเอามาต้มกับเตาแก๊สอย่างเซ็งๆ เสร็จแล้วผมก็ออกมานั่งอยู่ที่โต๊ะด้วยความรู้สึกว่างเปล่า เอื้อมมือหยิบมือถือที่เหมือนเศษซากวัตถุจากนอกโลกของผมออกมาดู ยังไม่มีข้อความตอบกลับมาจากพี่มัน และมันก็ยังไม่ได้เปิดอ่านด้วย จริงๆผมอยากโทรหา แต่คิดว่าถ้าโทรไปแล้วมันเกิดอยู่กับแม่มันก็คงจะไม่ดีนัก ถึงไอ้หยีจะบอกว่าจะไปกลัวอะไรกับแม่ผัว ให้สู้ไป แต่ผมก็ยังคิดว่าการทำแบบนั้นมันดีแต่จะทำให้อิเจ๊พี่มันอึดอัด มันคงไม่ดีนักหรอกที่ผมต้องเป็นอีกหนึ่งคนที่ต้องเป็นคนบีบให้พี่มันเลือกระหว่างผมกับแม่มัน



“เฮ้อ ทำไมแม่พี่มึงต้องเป็นมนุษย์ป้าด้วยวะ คอยดูเถอะ กลับมาจากค่ายไอ้เอมจะไปจ๊ะเอ๋ให้ป้าแกหมอบเลย หึ่ย” เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันกับตัวเองอย่างมุ่งมั่น .. แต่เดี๋ยวนะ



“กลิ่นอะไรเหม็นๆวะ”  หันหน้าไปที่ครัว กูก็รู้เลย ...



“สาดดดดด เจ็บไข่!!” แหกปากออกมาตอนเห็นควันขี้น ไอ้แม่ย้อยหอยแมลงภู่!! หมอไหม้!!!



วิ่งเข้าไปปิดวาล์วแก๊สก่อนจะกดปิดแก๊สที่เตา รีบเอื้อมมือไปยกหม้อลงจากเตาทันทีเพื่อจะโยนลงซิงค์อ่างล้างจาน แต่ลืมไปว่า



“ร้อนโว้ยยย ร้อนไข่!!” หม้อไปทาง ตัวกูไปทาง เจ็บโว้ยยยยยยย



เจ็บมือจนน้ำตาไหลเลย เพราะว่าลืมไปว่าหม้อมันร้อนมากๆเลยเอื้อมมือไปจับมันทั้งแบบนั้น ตัวผมที่ถอยออกมาจากห้องครัว แล้วมองดูภาพตรงหน้าที่มีควันจางๆลอยคลุ้งไปในอากาศ มีกลิ่นเหม็นไหม้ที่เกิดจากน้ำเดือดจนงวดลงไปจนหมดแล้วก็ไหม้ และตอนนี้ถ้วยมาม่าของผมก็กระจายเลอะเทอะไปหมด รวมถึงหม้อน้ำที่ไหม้ ก็ถูกโยนลงพื้นคว่ำหงายไปแล้วตอนนี้



เละเทะสัดๆ



“แม่ง ... “ ได้แต่สบถออกมาแบบนั้น แล้วก็ได้แต่ก้มลงไปมองที่พื้น อยู่ๆความรู้สึกว่างเปล่า โหวงๆก็เข้ามาแทนที่ เมื่อก่อนผมก็ใช้ชีวิตผ่านมาด้วยตัวเองมาได้ แต่กับอิแค่เวลาสามสี่เดือนผ่านมาทำไมตัวผมถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้วะ ผมที่แค่ไม่มีพี่ดาบอยู่ด้วยแค่วันเดียว ทำไมมันถึงกลายเป็นช่วงเหลือตัวเองไม่ได้แบบนี้วะ



“มึงแม่งอ่อนฉิบหายเลยว่ะไอ้เอม” ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นแล้วกอดเข่าตัวเองเอาไว้ทั้งๆที่ฝ่ามือก็เจ็บเพราะถูกลวก



“เอมคิดถึงพี่มึงจนเจ็บไข่แล้ว ฮึก...”



“ขนาดนั้นเลยหรอหนู” เสียงเข้มๆที่ดังขึ้นมาจากด้านหลังทำให้ผมค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปมองก็เห็นใครอีกคนที่มายืนอยู่ตรงนั้น ในมือสองข้างของเค้าเต็มไปด้วยข้าวของพะรุงพะรัง



“เจ๊...”



“ไปนั่งทำอะไรตรงนั้นคะ มาให้กูกอดหน่อยดิ๊หนู”



“ฮึก เจ๊!” ลุกขึ้นมากอดจะโผเข้ากอดมันเต็มแรง อีกคนที่ยกยิ้มมุมปากนิดๆ ก่อนที่วงแขนแข็งแกร่งนั่นจะยกขึ้นกอดผมแน่นๆไม่ต่างกัน



“ท...ทำไมไม่ตอบผม ฮึก ผม...ผมคิดว่า...”



“คิดว่ากูจะทิ้งมึงหรอ กูไม่ได้เป็นบ้านะไอ้สัด จะทิ้งมึงไปไหนได้ไงวะ แล้วนี่ร้องไห้ทำไมวะเอม ไหนขอดูหน้าเด็กขี้แยหน่อยครับ” ว่าแบบนั้นแล้วพยายามดันตัวผมออกมาจากอกตัวเอง แต่ไม่เอาหรอก ผมไม่ปล่อยหรอก ถ้าปล่อยตอนนี้พี่มันก็เห็นดิว่าตาปูด



“อื้อ ไม่เอา”



“ทำไมดื้อจังวะ”



“ก็อยากกอด เจ๊พี่มึงให้กอดไม่ได้หรอวะ” พูดออกไปแบบนั้นทั้งๆที่ตอนนี้ก็ยังเอาหน้าจุ่มอยู่ที่อกของมันไม่ยอมขยับไปไหน ผมรู้สึกถึงแรงขยับตัวของคนตรงหน้า ได้ยินเหมือนเสียงมันวางของ ก่อนจะรู้สึกได้ถึงฝ่ามืออุ่นๆของคนตรงหน้าที่ลูบเบาๆไปตามแผ่นหลังของผม นิ้วเรียวยาวอุ่นๆที่ลูบไล้เส้นผมของผมเบาๆ



“กอดได้...พี่เองก็คิดถึงเอมครับ”



“ฮึก ทำ...ทำไมไม่ตอบเอม เอมคิดว่า...เอม ฮึก”



“ไหนวะดื้อ ขอดูหน้าหน่อยสิ” ดันตัวผมออกมา พร้อมๆกับที่นิ้วเรียวยาวช้อนปลายคางของผมให้เงยขึ้นไปสบตากัน ตาของผมพร่าเพราะน้ำตาที่คลอเบ้า มองเห็นหน้าพี่มันไม่ชัด แต่ถึงแบบนั้นก็ยังรู้ว่าคนตรงหน้ายิ้มให้กันอยู่



“พี่ไม่ทิ้งเอมอยู่แล้ว”



“ฮึก อย่าทิ้งเอมนะ ถึงแม่พี่จะไม่ชอบผม แต่...แต่ว่า” 



“พอแล้ว ไม่ร้องแล้ว ดูสิเขาสั่นไปหมดแล้วเนี่ย” เขาพ่อง! ... อ้อมกอดแข็งแกร่งที่เอื้อมมากอดตัวผมอีกครั้งก่อนจะดึงแขนผมให้เดินตามพี่มันไปที่โซฟา อีกคนที่ทรุดตัวลงนั่งแล้วดึงตัวผมให้ขึ้นมานั่งคล่อมตักของมัน



“ทำไมต้องนั่งแบบนี้ด้วยวะ” พยายามดิ้นลงจากตัวมัน แต่อีกฝ่ายก็เอื้อมมากอดเอวกันไว้แน่นๆซะก่อน



“นั่งแบบนี้กูจะได้มองเห็นหน้ามึง” คือกูนั่งข้างๆก็เห็น นั่งท่าแบบนี้คือมัน...มัน...



“ตาบวมเลยลูกควาย”



“อย่ามาล้อนะ”



“หึๆ หน้างอเลย ไม่ล้อก็ได้ครับ” ถึงจะบอกไม่ล้อแต่รอยยิ้มของมันก็ไม่ละไปไหนเลย กูมองมาจากนอกโลก มนุษย์ต่างดาวๆข้างๆกูก็ดูออกอ่ะว่ามึงล้อกูอยู่อิเจ๊ แม่ง ชอบแกล้ง



“ผมคิดว่าเจ๊จะกลับมาไม่ทัน”



“ไม่ทันเรื่อง?”



“พรุ่งนี้ผมจะไปค่ายอาสา ผมไลน์ไปบอกแล้วแต่เจ๊ไม่อ่าน” บอกออกไป พี่มันก็ขมวดคิ้วเข้าหากันทันที ก่อนจะหยิบมือออกมาจากกระเป๋ากางเกง มันที่กดเข้าแอพให้ผมเห็นแล้วเปิดข้อความแชทของผมขึ้นมา แต่...ว่างเปล่า



“ทำไมไม่มีวะ”



“แต่ผมส่งแล้วนะ เนี่ย” หยิบมือถือตัวเองมาเปิดให้พี่มันดู อืดนิดหน่อย ช้าเหมือนเครื่องตาย แต่จริงๆก็ยังใช้ได้อยู่



“เอม”



“หื้ม” เลิกคิ้วทำหน้างงๆส่งไปให้มัน ตอนที่อีกคนโยนมือถือผมไปไว้ไกลๆตา เชี่ย มือถือกูปุ่มจะหลุดเปล่าวะเนี่ย



“มันส่งมาไม่ถึง มึงไม่เห็นลูกศรที่มันบอกให้กดส่งใหม่หรอวะ”  มันที่บอกผมออกมาแบบนั้น เงยหน้ามองกันแบบระอา ... ปัดโถ่วเอ้ย มันก็แค่ แบบว่ามันก็แค่...



“มึงใช้เน็ตที่ไหนส่งวะ”



“ก็...ก็เน็ตมออ่ะ” ยกมือขึ้นเกาหัวตัวเองนิดๆ แล้วส่งยิ้มแหยๆไปให้ พี่มันถอนหายใจออกมาอีกนิด แล้วเอื้อมมือมาผลักหัวกัน



“มึงนี่นะ แม่ง ทำแต่ให้กูเป็นห่วง แล้วจะไปค่ายเหี้ยอะไร กูจะปล่อยควายกูไปเผชิญโลกกว้างได้ไงวะแบบนี้ เกิดมึงไปกินหญ้าผิดชนิดขึ้นมากูทำไง”



“สัดพี่ดาบ มึงเห็นกูเป็นตัวอะไรวะเนี่ย”  ฟาดอกแม่งไปทีนึงตอนที่พูดออกมาแบบนั้น พี่มันที่ก็แค่ขำออกมาในลำคอนิดหน่อยแล้วก็นิ่งไป ไม่รู้ทำไมผมถึงรู้สึกว่ามันดูจะกังวลแปลกๆ



“พี่ดาบ เป็นอะไรหรือเปล่า”



“เปล่าหรอก แต่มึงจะไปค่ายแล้วกลับวันไหน”



“กลับวันจันทร์ครับผม”



“มึงไปตั้งแต่วันศุกร์แบบนี้เลยหรอวะ”



“ใช่แล้ว อยู่คนเดียวเหงาๆ เอาไข่สีหมอนไปก่อนนะ” ยักคิ้วให้มันทีนึง อีกคนที่ก็ขมวดคิ้วให้กัน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มชั่ว



“เดี๋ยวนะ พี่มึง ใจเย็นๆก่อนนะจ๊ะวัยทอง” ยื่นมือไปดันอกมันไว้ ตั้งใจจะก้าวขาลงจากตักอีกฝ่ายแต่ก็ไม่ทัน



“มึงด่ากูวัยทอง เดี๋ยวมึงได้ท้องไอ้เอม”



“กูไม่มีมดลูก มึงลืมหรา ปล่อยๆ ปล่อยโว้”



“กูจะปล่อยให้โง่รึ ปากดีแบบนี้มึงต้องเจอ!”



“อึก อื้อออ”


...



“มึงจัดกระเป๋ายัง”



“จัดแล้ว พี่มึงเถอะ กูดูจากหนังหน้ามึงแล้ว กูคิดว่าพี่มึงต้องยังไม่ได้จัด” หันไปหาไอ้คนขับรถข้างตัว มันเองที่ทำแค่ยกยิ้มขำๆใส่ผมแทน



“มึงก็มาช่วยกูจัดดิวะเสือ กูขี้เกียจ”



“เรื่องดิ สันดาน กระเป๋าใครกระเป๋ามันสิโว้ย”  บอกมันออกไปแบบนั้น มันเองก็ทำแค่ส่ายหัว ทำหน้าทำตาที่เหมือนว่ามันคิดไว้อยู่แล้วว่าผมต้องบอกมันแบบนี้



“มึงแม่งโคตรจะลูกเสือ”



“ถ้ากูเป็นลูกเสือ มึงก็เป็นแค่เนตรนารีอ่ะอิสัดพี่เก้อ”



“ฆวยครับ คนละลูกเสือกันแล้ว .... นี่มึงกวนตีนกูป่ะวะ” ผมยกยิ้มขำตอนที่เห็นอีกคนส่ายหัวแบบขัดใจ วันนี้ไม่ได้ขับรถมาเพราะเมื่อเช้ามันไปลากมาจากหอ เพราะแบบนั้นตอนกลับก็เลยต้องให้มันไปส่ง สมน้ำหน้าแม่ง ลากกูไปนู้นมานี่ดีนัก



“ถ้ากูกวนตีนแล้วมึงจะทำไม”



“กูก็จะกวนใจมึงแทนอ่ะสิวะ”



“สัดเถอะ มึงฝันเอานะ”



“แต่กูว่า ตอนเอามึงกูก็ไม่ได้ฝันนะ”



“เลิกพูด แยก!!”



“ฮ่าๆๆ รู้สึกดีว่ะเวลาที่มึงเขินแบบนี้อ่ะ”  ยื่นมือมาเขี่ยแก้มกันไปด้วย กวนส้นตีนจนอยากเอาตีนลูบหน้า เอียงหน้าหนีแม่งแล้วแต่นิ้วมือมันก็ยังตามมาเขี่ยๆแบบไม่เลิกลา น่ารำคาญจนกูเซ็ง เพราะแบบนั้นก็เลยปล่อยให้มันทำตามใจ แค่รำคาญแค่นั้นแหล่ะ ไม่ได้ชอบที่มันมาเขี่ยแก้มอะไรเลยนะจริงๆ



ไอ้พี่เก้อที่ตบไฟเลี้ยวซ้ายเข้ามาที่ลานจอดรถของหอผม มันที่หันมายักคิ้วให้กันสองที ตั้งใจจะเปิดประตูลงรถไปเลยทั้งแบบนั้น แต่ในใจมันก็รู้สึกแปลกๆบางอย่าง เพราะปกติมันจะไม่นั่งนิ่งๆแบบนี้แล้วเอาแต่จ้องหน้ากัน ... ปกติจะเป็นมันที่หน้าด้านกระโดดลงรถไปก่อนแล้วเดินลอยหน้าลอยตาขึ้นห้องผมไปแบบไม่ได้เชื้อเชิญ ... และเมื่อวานมันบอกว่าวันนี้จะมานอนห้องผม



“มึงไม่ขึ้น?” 



“หึ อยากให้กูขึ้นหรอวะ”  ยกยิ้มมุมปากแล้วเลื่อนตัวเข้ามาใกล้ ลมหายใจอุ่นๆที่รดอยู่ข้างๆแก้มจนต้องเสหน้าหนี



“กูถามเฉยๆหรอกโว้ย ไม่ได้อยากจะให้มึงขึ้นห้องหรอกนะ บอกเลย”



“ฮ่าๆ เออ ไม่ต้องห่วงวันนี้กูไม่ขึ้นหรอก วันนี้จะกลับไปนอนคอนโดว่ะ...พรุ่งนี้กูต้องไปรับไอ้เอมด้วยว่ะ” มันพูดไปยิ้มไป ผมได้แต่จ้องหน้ามองมัน มันที่พูดถึงพี่เอมด้วยรอยยิ้มนิดๆ เป็นความรู้สึกเหมือนถูกต่อยเข้าแรงๆที่ท้อง รู้สึกจุกแปลกๆ แต่ยังไหวอยู่



“อ้อ...หรอวะ เอ้อ...งั้นมึงรีบไปเหอะ” ผลักตัวมันออกไปห่างๆ แล้วหันตัวมาเปิดประตูรถ แต่ติดตรงที่แขนขวาของผมถูกมันดึงเอาไว้ซะก่อน



“เสือเดี๋ยว...”



“ปล่อย กูจะขึ้นห้อง” ไม่ได้หันไปมองหน้ามัน แต่ก็ตอบมันออกไปแบบนั้น ไม่รู้ด้วยว่ามันทำหน้ายังไงอยู่ แต่ถ้าพูดจริงๆตอนนี้ก็ยังไม่อยากเห็น กลัวเผลอยกตีนถีบหน้ามัน



“กู...พรุ่งนี้มึงจะไปยังไง คือ...”



“เมื่อวานมึงบอกว่ามึงจะไปพร้อมกู แต่ไม่เป็นไร กูไปเองได้ ง่ายๆแค่นี้กูมีขา มึงไม่ต้องห่วง”



“มึง กูขอโทษกูลืม...คือกูลืมไปเลยว่านัดมึง ไอ้เอมมันไม่มีคนไปส่งไง กูเลย...”



“ช่างเหอะมึง มึงจะลืมก็ไม่แปลกป่ะวะ กูก็ไม่ได้สำคัญอะไรกับมึงมากขนาดนั้นอยู่แล้วป่ะ”



“มันไม่ใช่แบบนั้น คือมึงเข้าใจไหมว่ากูแค่ลืม”



“จะแค่ลืมหรือลืมจริงๆเหี้ยไรก็ช่างแม่งเหอะ! ... มึงลืม ก็คือมึงลืมอะเก้อ” หันไปจ้องหน้ามันตาเขม็ง จริงๆกูพยายามแล้วนะ พยายามที่จะไม่พูดอะไรแล้วจริงๆ มองตาคนตรงหน้าที่มีแววรู้สึกผิด แต่มึงมารู้สึกตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วไหมวะ



“มึงก็ต้องลืมกูอยู่แล้วป่ะ กูที่ไม่ได้เป็นอะไรกับมึง กับพี่เอมคนที่อยู่ในใจมึง มันจะแปลกเชี่ยไรวะ”



ดึงแขนตัวเองออกจากมือของมัน แล้วผลักประตูรถเปิดออก เดินลงจากรถของมันแล้วปิดประตูชนิดที่ว่าไม่กลัวรถหรูของแม่งจะพัง ... ประตูรถมันจะพังก็ช่างแม่งดิ ทีเวลาความรู้สึกกูพังแม่งยังไม่มาซ่อมให้กูเลย



...



“อ๊ะ อึก ด..เดี๋ยว เจ๊...”



“เวลาแบบนี้มึงจะมาเจ๊กับใครวะหนู” เสียงกระเส่าที่ดังอยู่ข้างหู มาพร้อมๆกับริมฝีปากที่ไล่ประทับลงมาตามลำคอและลาดไหล่ของผม



“คิดถึง” ฝ่ามือหนาที่รวบข้อมือของผมเอาไว้ที่ด้านหลังได้ด้วยมือข้างเดียว ขาของผมที่ฉีกออกกว้างเพราะนั่งคล่อมตักของพี่มันอยู่ มืออีกข้างของมันที่ดึงรั้งเอวผมให้เข้ามาแนบชิดกับหน้าท้องแกร่งของมันมายิ่งขึ้นไปอีก กางเกงขาสั้นที่ผมเปลี่ยนตอนกลับมาจากมหาลัย’ที่ใส่อยู่ เนื้อนิ่มกับกางเกงชั้นในที่ถูกถลกลงไปกองอยู่ที่หัวเข่า ความรู้สึกวูบโหวงถูกแทนที่ด้วยนิ้วเย็นๆที่โดนอุณภูมิของแอร์ในห้อง พอสัมผัสเข้ากับช่องทางด้านหลังอุ่นๆของผมก็ยิ่งทำให้ต้องสะดุ้ง



“พี่...”  พูดออกมาแบบนั้นในตอนที่ช้อนตาขึ้นไปมองดวงตาคมที่ตอนนี้ดูจะร้อนแรงจนผมต้องหน้าแดง นิ้วเรียวยาวของพี่มันที่กำลังเอาเข้าไปในปากช้าๆ ก่อนที่มือมันจะเลื่อนมาที่ช่องทางด้านหลังของผม สัมผัสเปียกชื้นจากช่องทางด้านหลังทำเอาเสียวจนต้องพยายามขยับตัวหนี แต่มันก็ล็อคเอวกันเอาไว้ นิ้วเรียวสองนิ้วที่ค่อยๆแทรกเข้ามาในช่องทางจนผมสะดุ้ง ทั้งอึดอัดทั้งเสียวจนต้องขมิบถี่ๆ



“เอม ชอบหรือเปล่า”



“อึก อื้ออ พ...พี่ดา...บ อ๊ะ” ร้องสะดุ้งออกมาตอนที่นิ้วเรียวนั่นกระแทกกระทั้นเข้ามาตรงจุด เสียวจนสะดุ้ง เกร็งตัวจนต้องซี๊ดปาก



“อ๊าาา ใส่เหอะ ใส่เถอะพี่ดาบว่ะ เลิ..ก แกล้งสักที” มันที่พอได้ฟังแบบนั้นก็ยกยิ้มถูกใจ เป็นห่าอะไรถึงต้องแกล้งกูทุกที่ทุกโอกาส จะเอาก็เอาสิวะ แกล้งกูอยู่ได้ เจ็บไข่แบบไม่มีอะไรมากั้น!



ที่มองหน้าผมตาวาว ก่อนจะค่อยๆถอนนิ้วออกอย่างอ้อยอิ่ง ยิ่งมันทำแบบนั้นผมก็ยิ่งเสียว เสียวจนต้องเผลอขมิบช่องทางด้านหลังแบบห้ามไม่ได้ และนั่นดูเหมือนจะถูกอกถูกใจพี่มันมากๆ มันที่ค่อยๆปลดซิบกางเกงมันลงแล้วดึงกางเกงลงไปกองไว้ที่ปลายเท้า ดึงเอวผมลงมาใกล้แกนกายของมันที่ก็ถูไถอยู่ที่ช่องทางด้านหลังของผมให้รู้สึกมวนท้องจนต้องกัดปาก สายตาคมที่เอาแต่จ้องหน้าผมไม่เลิก ในตอนที่รู้สึกว่าส่วนหัวเริ่มเข้าไปช้าๆก็ได้แต่เงยหน้ามองเพดานแล้วกัดปากแน่นๆ พี่มันพยายามผ่อนแรง ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติสอดเข้ามาจนสุด ถึงตอนนั้นกูถอนหายใจโล่ง แลใบหน้าได้รูปของมันก็จูบไปตามซอกคอของผม รู้สึกพร้อมๆกับแรงส่วนกลางของมันที่เริ่มขับเคลื่อน ฝ่ามือหนาที่วางอยู่ที่สะโพกของผม มันก็บังคับให้ขยับจนต้องค่อยๆโยกสะโพกขึ้นลงตามแรงอารมณ์ ทุกครั้งที่กระแทกสะโพกลงได้แต่สูดลมหายใจเข้าปาก



“เสียวหรอเอม กระแทกลงมาแรงๆให้พี่หน่อยสิครับ” มึงก็รู้ว่ากูเสียว จะให้กระแทกอะไรลงไป ใจบาป มึงมันใจบาปปปปป



“อ๊า เสียว เอมเสียว เบาๆดิว่ะ... พี่ดาบ อ๊าา "



แรงกระแทกสอดเข้ามาในตัวถี่ยิบความรู้สึกร้อนจะถูกเข้ามาตัดกับความเย็นของอุณภูมิของห้องที่ผมเปิดแอร์ไว้จนเย็นฉ่ำ



จับไหล่มันไว้มั่น ก้มหน้าลงหอมแก้มมันสองสามครั้งจนพี่มันยิ้มอย่างชอบใจ พร้อมๆกับแรงที่กระแทกเข้ามามากขึ้นตามความสุขใจของมัน จนตัวผมลอยขึ้นจากส่วนกลางที่เรากำลังสอดใส่กันและกัน



" อ๊ะ..พี่ดาบ อื้มม จะเสร็จแล้ว จะเสร็จแล้ว.."



พูดออกไปแบบนั้นทั้งๆที่รู้สึกเบลอไปหมดในตอนที่จมูกของมันกดจูบไล่ลงมาจนถึงหัวนมที่กำลังตั้งชัน กัดเบาๆพร้อมๆกับมืออีกข้างที่กำลังบี้หัวนมของผม รู้สึกเหมือนร่างของผมกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆตอนที่มันใช้เลียหัวนมแบบหยอกล้อเบาๆช้าๆจนรู้สึกร่างทั้งร่างหดเกร็ง มืออีกข้างลูบไปตามตัวของผม



“พร้อมกัน อึก ซี๊ด”



เสียงทุ้มเข้มที่พูดเบาๆ รู้สึกเซ็กซี่กับเสียงหอบหายใจถี่ของมัน ทุกอย่างของผมดูพร่ามัวจนผมต้องซบหน้าลงไปบนไหลมันอย่างหมดแรง รู้สึกเหมือนมีน้ำฉีดเข้ามาในตัวอีกสองสามครั้งพร้อมๆกับแรงกระตุกของตัวเอง ในตอนนั้นก็รู้สึกถึงฝ่ามือหนาที่ประคองข้างแก้มของผมให้เลื่อนหน้าเข้าไปรับจูบที่พุ่งเข้ามาดูดดึงลิ้นของกันอย่างร้อนแรง ปลายลิ้นที่ดูดเบาๆทำเอาได้สติ ผละหน้าออกมามองด้วยสายตาที่พร่าเบลอเพราะยังมีน้ำตาคลอๆอยู่ที่นัยต์ตา แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดๆก็คือรอยยิ้มของพี่มัน



“พี่รักเอม รักเอมคนเดียวนะ”



เป็นคำพูดสุดท้ายที่ชัดเจนและดังไปถึงหัวใจของผมก่อนที่จะหลับไปทั้งแบบนั้น


.

.

.


‘ครืดๆ’

[[TGer: เอม...พรุ่งนี้ให้กูไปรับกี่โมงวะ]]



[[เอม: ไม่ต้อง เมียกู เดี๋ยวกูไปส่งเอง]]



วางมือถือของไอ้เอมลงไปที่วางหัวเตียงตอนที่พิมพ์ส่งตอบไอ้ล่ำไปแบบนั้น ได้แต่ขมวดคิ้วตอนที่เห็นข้อความนั่น



“สาระแนมากๆค่ะอิดอกล่ำ”



‘ครืดๆ’



“แม่ง มึงจะเอากับกูใช่ไหมอิล่ำ”  บ่นออกไปเบาๆเพราะกลัวไอ้เอมที่หลับอยู่จะตื่นขึ้นมาในตอนนี้ เอื้อมมือไปหยิบมือถือของมันมาอีกครั้ง แต่ข้อความที่ส่งมาไม่ใช่ของไอ้ล่ำแบบที่คิด หัวคิ้วยิ่งขมวดเข้าหากันมากกว่าเดิมตอนที่เห็นชื่อของคนที่ส่งมาใหม่



[[MOB: พี่เอมจะมายังไงครับพรุ่งนี้ให้ผมไปรับไหม]]



[[เอม: ไม่ต้อง เมียกู เดี๋ยวกูไปส่งเอง]]



ข้อความเดียวกันกับของไอ้ล่ำถูกส่งไปให้ไอ้เด็กเหี้ยน้องรหัสไอ้เอมอีกครั้ง กดปิดเครื่องมันทันทีที่ส่งข้อความไป พร้อมๆกับโยนมือถือของมันไปไกลๆสายตา



“กูว่าสันติคงไม่ใช่ทางเลือกแล้วล่ะ ... สาระแนกับเมียกูนักอิดอก!”



--------------To be continued------------

มาแล้วค่ะ จริงๆมีหลายประเด็นที่เฉลย มีหลายประเด็นที่อยากให้คนอ่านสงสัยและหาคำตอบไปพร้อมๆกัน และก็สำหรับฉากNCเก้อเสือ ต้องขอโทษคนอ่านที่แคทบอกบางท่านไว้ว่าจะมาในตอนนี้ ต้องขอโทษจริงๆ แต่คิดว่ามันยังไม่เหมาะเลยขอเลื่อนออกไปก่อน ... สำหรับบางท่านที่อ่านแล้วรู้สึกหนหวยหัวใจ รู้สึกว่าเนื้อเรื่องมันอิหยังวะทำไมมันยังไม่ไปไหน แคทต้องขออภัยจริงๆค่ะ อาจผิดที่แคทเองมาเขียนช้า พออ่านแต่ละตอนเลยคิดว่ามันช้า แต่แคทวางเรื่องไว้แบบนี้จริงๆ แค่หวังว่าถ้าคนอ่านได้มาอ่านกันจะสนุกไปด้วยกันนะคะ

ในทุกๆวันเสาร์ เดี๋ยวนี้แคทค่อนข้างเครียดมากๆ ไม่รู้ว่าที่คนอ่านบ่นๆกันเพราะอินกับเนื้อเรื่องหรือแคทเขียนนิยายแย่ลง

ต้องขอโทษจริงๆที่อาจจะทำให้คนอ่านรู้สึกรำคาญใจว่าอิคนเขียนมันบ่นอะไรบ่อยๆ แต่คือถ้าไม่พูดกับคนอ่าน แคทก็ไม่รู้จะพูดคุยกับใคร

หวังว่าคนอ่านของแคทจะสนุกกับเรื่องนี้ไม่มากก็น้อย ... ทุกวันนี้ยังคงอยากอ่านคอมเม้นท์ของทุกๆคนเสมอค่ะ แต่ก็กลัวมากๆด้วยเช่นกัน

เห็นคนอ่านหายๆไปก็ใจหายเหมือนกัน แต่ขอบคุณหลายๆท่านที่ยังอยู่ด้วยกัน

ขอบคุณมากๆ และรักนะคะ-


 :mew1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่35 {13/06/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 14-06-2020 02:11:22
 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่35 {13/06/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 14-06-2020 07:13:09
เจ้พี่ดาบกลับมาหาควายน้อยแล้ว  สรุปว่าองค์เจ้ดานี่มาเพราะน้องกุญแจ ไม่ได้มาเพราะพาพวยใช่ไหม

ส่วนอีกคู่ยังคงสถานะไม่ชัดเจนเช่นเคย สงสารน้องเสือเดี๋ยวดีใจ เดี๋ยวน้อยใจเพราะคิดว่าพี่เกอร์ยังรักเอมอยู่ โถลูก ให้เวลาพี่เค้าหน่อยนะ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่35 {13/06/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 14-06-2020 08:29:49
รอตอนต่อไป~
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่35 {13/06/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 14-06-2020 21:57:54
 :pig4: :pig4: :pig4: มารอค่า
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่35 {13/06/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 15-06-2020 06:05:58
อิพายนี่สะตอมากเข้าทางอิพี่ไม่ำด้เข้าทางแม่แทนเหอะอ อิเจ้พี่มึงกะหวงน้อง 555  หึงออกหน้าขนาดนี้น้องมันจะไปไหนรอดรักพี่มึงจะตายห่าแล้วค่า
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่35 {13/06/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 15-06-2020 21:09:50
รอคอยค่า
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่36 {20/06/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 20-06-2020 22:14:45
บทที่36




“มึงเช็คดูดีๆ รึยัง ลืมอะไรหรือเปล่า”





เป็นรอบที่ร้อยที่ผมได้ยินประโยคนี้ออกจากปากของคนที่กำลังยืนเอามือกอดอกมองผมจัดการกับของกินตรงหน้า ได้แต่ยิ้มออกมาแล้วส่ายหัวหน่อยๆ กับเหตุการณ์นี้ ใจนึงก็เอือมครับ อีกใจก็รู้สึกใจฟูที่พี่มันใส่ใจกันขนาดนี้ ... อาหารเช้าวันนี้ก็เป็นพี่มันที่ตื่นขึ้นมาก่อน แล้วมาทำไว้ให้ ก็แค่ข้าวผัดกุ้งง่ายๆ แต่ทำเอาใจฟูแบบหยุดไม่อยู่ทุกทีเลย





“ไม่ลืมหรอกพ่อ ดูรอบที่สามพันเก้าแล้ว” เงยหน้าขึ้นไปมองพี่มัน อีกคนที่ขมวดคิ้วทำหน้าขัดใจ คืออะไร คือโกรธที่กูเรียกพ่อ กลัวแก่งี้หรอ





“หยุดเลยนะมึง พ่อพ่อง กูต้องแม่ค่ะอิหนู จัม!” กูนี่กรอกตาเลย เจ็บไข่นัก!





“กรอกตา กูเห็น ... รีบกิน เดี๋ยวกูจะไปส่ง”





“เห้ย ไม่เป็นไรพี่ๆ ไม่ต้องไปส่งหรอก” พอได้ยินแล้วก็รีบโบกไม้โบกมือเป็นคำตอบไปให้เลย จำได้ว่าเมื่อวานไอ้เก้อมันบอกว่ามันจะมารับ อิเจ๊พี่มันตื่นมาแต่เช้าเพื่อทำกับข้าวให้ผม จริงๆ ช่วงนี้พี่มันเหนื่อยครับ มีหลายเรื่องให้ต้องคิด และแน่นอนว่าเรื่องพวกนั้นมันมาจากผมทั้งนั้นเลย แล้วยังจะต้องให้พี่มันเหนื่อยเพิ่มขึ้นอีก ผมว่าผมก็ดูจะเห็นแก่ตัวมากไปละ





“ทำไม” พี่ดาบที่กำลังจับเก้าอี้จะเลื่อนเพื่อนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับผมชะงักฝ่ามือพร้อมๆ กับจ้องตาผมดุๆ น้ำเสียงที่พูดออกมาแค่สองคำก็เข้มยิ่งกว่ากาแฟที่มันถืออยู่ซะอีก





“ก็เดี๋ยวไอ้เก้....”





“มึงห้ามพูดออกมานะว่าจะให้มันมารับ”





“เอ่อ...”





“ถ้ามึงพูดออกมามึงไม่ต้องไปเลยเอม ไม่ต้องไปแม่งละค่ายเหี้ยอะไร”





“เดี๋ยวๆ พี่เจ๊พี่มึงเป็นอะไร โกรธอะไรกันวะ” เอื้อมมือไปคว้าข้อมือพี่มันไว้ หัวคิ้วได้รูปของมันที่ขมวดเข้าหากันแบบบอกได้เลยว่ามันกำลังหงุดหงิดมากแค่ไหน





“กูจะไปส่งมึงเอง กูเป็นแฟนมึงนะ ไม่ใช่คนอื่นเผื่อมึงลืม”





“ไม่ใช่แบบนั้นนะ ผมก็แค่เกรงใจ...”





“มึงจะเกรงใจกู แต่ไม่เกรงใจไอ้ล่ำเพื่อนมึงหรอวะ มันเป็นไรกับมึง แล้วกูเป็นไรกับมึงเอม” พี่มันที่พูดออกมาแบบนั้น มองหน้าผมด้วยสายตาที่บอกว่าอีกนิดนึงมันจะไม่ทน เห็นแบบนั้นก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมาทันที





“พี่ก็ต้องเป็นอะไรที่สำคัญกว่ามันอยู่แล้วไหมอ่ะ” รีบตอบออกไปทันที อีกฝ่ายที่เห็นผมพูดแบบนั้นมันก็สูดหายใจเข้าปอดยาวๆ วางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะ ก่อนจะยกมือเสยผมขึ้นแบบสงบสติอารมณ์





“พ..พี่ดาบ”





“ว่า”





“พี่สำคัญกว่าใครทั้งหมดนั่นแหล่ะ เพราะพี่สำคัญผมเลยยิ่งเกรงใจไงล่ะวะ ทุกวันนี้ก็เหมือนผมเอาเปรียบพี่มากพอแล้วอ่ะ ผมทำอะไรให้พี่ก็ไม่ได้สักอย่าง มาอยู่กับพี่งานก็นิดๆ หน่อยๆ เงินเดือนก็ได้ตั้งเยอะ น้ำไฟอาหารอะไรๆ อีกเยอะแยะ ถ้าอะไรที่ผมทำเองได้แบบไม่ต้องรบกวนพี่ผมก็อยากจะทำ”





“มึงอย่าพูดแบบนี้ มึงไม่ได้เอาเปรียบอะไรกูเอม ที่กูได้จากมึงมา มันมากกว่าเงินทองอีกจำไว้”





เราสองคนที่สบตากันในตอนนี้ คำพูดหนักแน่นที่ส่งตรงจากริมฝีปากได้รูปของพี่มัน ส่งตรงมาถึงหัวใจของผม รู้สึกเหมือนหัวใจผมกำลังสูบฉีดความรู้สึกดีๆ แบบห้ามไม่อยู่ มีความสุขจนต้องยิ้มกว้างๆ ออกมาในตอนที่เรามองหน้ากัน





“งั้นพี่ไปส่งเอมนะ”





“มันก็แน่อยู่แล้วครับหนู”

...


“สัด”




สบถออกมาพร้อมๆ กับโยนโทรศัพท์มือถือไปไว้เบาะข้างๆ มองหน้าปัดนาฬิกาที่คอนโซลหน้ารถ บอกเวลาว่า7โมง แต่คนที่ผมพึ่งส่งข้อความหามันกลับไม่อ่าน ไม่ตอบ ถ้าพูดจริงๆ ก็คือมันไม่ตอบกันมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ตอนที่มันเดินลงจากรถไปเหมือนมันทิ้งหินก้อนใหญ่มาใส่หัวผมด้วยเต็มๆ ก็ไม่ใช่ไม่รู้สึกผิด แต่มันลืม...เป็นคำแก้ตัวสิ้นคิด แต่มันก็คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้น ผมลืมไปว่านัดกับไอ้เสือมันไว้ว่าจะไปรับมันไปมหาลัยในวันไปค่ายด้วยกัน





“ทำไมแม่งไม่อ่านวะ โทรไปก็ไม่รับ” ปกติไอ้เสือไม่เป็นคนแบบนี้ พูดตรงๆ คือมันไม่เหมือนใครที่ผมเคยเจอ มันนิสัยแมนๆ เลยครับ ไม่เจ๊าะแจ๊ะ ไม่เรื่องมาก ง่ายๆ ลุยๆ แต่ติดใจร้อนและปากเสีย และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่ามันเป็นอะไรของมันวะ





ได้แต่เคาะพวงมาลัยรถแล้วมองออกไปที่ตัวตึกหอพักที่ผมเคยมานอนบ่อยๆ หลังๆ มาที่นี่ถี่ยิ่งกว่าห้องตัวเองซะอีก ถ้าจะพูดตรงๆ ก็อาจจะมีแค่เมื่อคืนนี้ที่ได้กลับไปนอนห้องตัวเอง





“แม่ง” หงุดหงิดสัดๆ แต่ทำอะไรไม่ได้ เหลือบมองดูว่า7โมง10นาที นี่ผมนั่งโง่ๆ อยู่ในรถมาสิบนาทีแล้วหรอวะ ... สุดท้ายตัดสินใจเดินลงไปจากรถ แล้วตรงไปหาลุงยามคนเฝ้าหอ แกจำผมได้แล้วเพราะมาสิงที่นี่บ่อยแบบที่ว่า





“ลุง”





“อ้าว ทำไมวันนี้มาแต่เช้าเลยล่ะหนุ่ม”





“ลุงพาผมเข้าหอได้ไหม ผมจะมาหาไอ้เสือ พามันไปมหาลัยครับ”





“หื้ม เสือหรอ ... ลุงเห็นเค้าออกไปตั้งแต่หกโมงเช้าแล้วนะหนุ่ม หอบกระเป๋าอะไรเยอะแยะ...เอ้า ไปไหนล่ะพ่อ”





“ขอบคุณมากครับลุง กลับมาเดี๋ยวผมเลี้ยงกระทิงแดงนะ” หันหลังแล้วก้าวยาวๆ มาขึ้นรถแบบหัวเสีย แม่งเอ้ย!





“ไปแล้วก็ไม่เสือกบอกกูสักคำ เอื้อมมือไปหยิบมือถือขึ้นมาดูก็ไม่เห็นมีข้อความอะไรตอบกลับมาจากมันสักอย่าง อย่าว่าแต่ข้อความตอบกลับ เปิดอ่านแม่งยังไม่อ่านเลย





“ไอ้เสือ มึงนี่มัน...”





ทำกูรู้สึกหยุบหยิบๆ ในใจฉิบหายเลยเว้ย!”


...



“อุ๊ยตายยยยยย พกผัวมาด้วยหรอ พกผัวมาด้วยหรอเนี่ย แหมมาแค่เนี้ยก็พกผัวมาด้วย ฮิ้ววว” เสียงต้อนรับผมดังขึ้นมาเป็นจังหวะเพลง ไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่าใคร ผมนี่เผลอกรอกตาใส่แม่งไปทีนึง





“เสียงดังทำห่าอะไรวะป้า”





“อายหรอคะ อายทำไมวะคนเยอะแยะ พี่ดาบบบบบ พี่ดาบของอิหยี สวัสดีค่ะ เรียกพี่ดาบได้แล้วใช่ไหมเอ่ย” ไอ้หยีที่ดันตัวผมหนี แล้ววิ่งหน้าสลอนเข้าไปฉีกยิ้มกว้างๆ ให้พี่มันใกล้ๆ อิเจ๊พี่มันที่วันนี้มันแต่งตัวง่ายๆ แค่เสื้อยืดสีดำธรรมดาๆ กับกางเกงยีนส์สีซีดมาแค่นั้น กูงงมากๆ ว่าแค่นี้ทำไมแม่งดูดีจังวะ หรือเป็นเพราะแหวนที่มันใส่ หรือจะเป็นนาฬิกา หรือสร้อยข้อมือ... ไม่อยากจะสงสัยต่อ เพราะจริงๆ หลักฐานที่ว่าอาจจะเป็นแค่หนังหน้าหล่อๆ ของมันก็แค่นั้นแหล่ะ





หล่อฉิบหาย หล่อวัวตายควายล้ม หึ้ย หล่อจนเจ็บไข่ไปหมด





“สวัสดีค่ะน้องหยีคนสวย”





“กรี๊ด ปากหวานจังเลย ชอบจังพี่รหัสกูเนี่ย”





“ใจเย็นนะคะ ขอกูวางกล่องนี่แล้วค่อยแทะโลมกันนะ หนักฉิบหายหลังจะแตก แบกไปทำเหี้ยอะไรวะ” พี่มันว่าแบบนั้นแล้ววางกล่องลังที่พี่มันแบกมาแทนผมวางลงบนพื้นเสียงดัง





“ก็มันกล่องหนังสืออ่ะ” ผมบอกมันอีกครั้งแล้วตั้งท่าจะแบกไปเก็บที่รถบัสต่อ แต่พี่มันก็ทำแค่ปัดมือของผมออก





“ไม่ต้อง กูแบกเอง ... เอาไปไว้ไหนคะน้องหยี”





“กรี๊ด อิเหี้ยหล่อแท้วะ กร๊าวใจกับคำว่าคะ มาค่ะพี่ดาบทางนี้ค่ะพี่ตามหนูมา” ประโยคแรกคือหันมาทำหน้าฟินใส่กู แล้วประโยคต่อไปก็คือจับมืออิเจ๊พี่มันให้มันเดินตามไป คือจับทำไมมันต้องแบกลังโว้ย!





“พี่ เดี๋ยวผมไปซื้อน้ำแป๊บนะ”





“มึงจะเอาไร เดี๋ยวกูไปซื้อให้”





“ไม่ต้องน่า ผมไปได้ พี่อยู่กับอิป้ามันละกัน” ผมบอกมันแบบนั้นตอนที่เห็นมันทำท่าจะเดินผละไปก่อน ไอ้หยีที่มองเราสองคนสลับกันไปมา แล้วกรอกตาออกมาในตอนสุดท้าย





“หมั่นค่ะ ริษยาตาร้อนมากๆ มันจะอะไรกันขนาดนั้น ชะนีอิจฉาโว้ย”





“ใจเย็นๆ นะน้องหยี ถ้ายังไม่มีเราต้องทำใจ อย่าร้ายนะหนู”





“เอ๊ะ!”





“หยอกครับ”





“ตอนแรกกูจะโมโห แต่กูต้องหยุดเพราะกูจะตายตรงคำว่าครับอ่ะอิเอม” ไอ้หยีที่ทำหน้าเพ้อแล้วเอามือจับนมฟองน้ำของมัน ผมส่ายหน้าระอา จริงๆ พวกมันก็อดีตสายรหัสกันนะครับ ก็ไม่รู้ว่าจะถูกอกถูกใจอะไรกันขนาดนั้น ผมเลิกสนใจมันกับอิเจ๊พี่มัน ปล่อยให้มันสองคนเดินไปนั่งรอผมที่โต๊ะม้าหิน ตอนนี้เรารวมตัวกันอยู่หน้าตึกอธิการตรงหน้าทางเข้าของประตูแรกของมหาลัยเลยครับ ไปครั้งนี้ไปแบบยิ่งใหญ่ แห่กันไปทั้งคณะ...ผมหวังว่าการไปครั้งนี้ นอกจากจะได้คะแนนแล้ว ก็ขอให้ได้บุญกลับมาด้วย เผื่อส่วนกุศลไปถึงเรื่องแม่พี่ดาบมันด้วย ผมกับมันจะได้มีความสุขกันสักที





“ขอชาขาวสองขวดแล้วก็น้ำเปล่าขวดนึงครับป้า”





“พึ่งมาหรอครับพี่เอม” เสียงที่ดังอยู่ข้างๆ หูขวาทำให้ต้องสะดุ้ง พอหันกลับไปก็ต้องผงะถอยหน้าหนีออกมา แถมกูต้องถอยหลังหนีไปอีกสองก้าวเพราะหน้าที่ยื่นมาใกล้ แล้วแผ่นหลังของผมที่ชิดกับหน้าอกของมันจนเกิดไป





“สัดม็อบ พ่อง!”





“ฮ่าๆๆ อะไรกันครับเนี่ย ทักทายผมแบบนี้หรอ” มันที่ยิ้มตาหยีแบบเป็นเอกลักษณ์ พร้อมๆ กับยกมือขึ้นเกาหัวแบบงงๆ แบบที่มันชอบทำบ่อยๆ





“แล้วมึงจะมายืนสิงกูทำห่าอะไรล่ะวะ”





“อยากสมสู่มั้ง”





‘เพี้ยะ’





“โอ้ยพี่เอม ผมเจ็บนะพี่ ตบหัวผมทำไม”





“กวนตีนกูนัก” ถอนหายใจใส่มันแบบระอาแล้วหันไปรับน้ำจากป้าคนขายมาพร้อมยื่นเงินไปให้





“มึงอ่ะจะซื้ออะไร”





“มาซื้อน้ำครับ เจอพี่เลยทักไง”





“จะแดกอะไร มากูเลี้ยง”





“โหยพี่ ใจปล้ำมากๆ”





“เท่ใช่ไหมล่ะพี่รหัสมึงน่ะ” ยืดเลยในจังหวะนี้ ยืดพร้อมยักคิ้วส่งให้มันไปด้วยสองทีติดๆ ไอ้คนตรงหน้าที่ก็ทำแค่ยิ้มตาหยี ก็ไม่รู้ว่าแม่งจะยิ้มอะไรนักหนา





“เมื่อคืนผมไลน์ไปหาไม่เห็นพี่จะตอบเลย” มันที่ไม่เออออห่อหมกไปกับผม กลับเปลี่ยนเรื่องพูดซะหน้าตาเฉย ว่าแต่ไลน์อะไรวะ ไม่เห็นรู้เรื่อง





“ครับ” มันว่าแบบนั้นแล้วยังคงยิ้มให้กัน ส่วนตัวผมนั้นคือกูขมวดคิ้วแรงละ งง ไลน์อะไรก่อนเอ่ย





“มึงไลน์มา”





“ใช่ครับ” ยิ้มตาหยีแล้วพยักหน้าแข็งขัน





“พี่ลองเปิดดูดิ” มันบอกแบบนั้นและใช่ กูก็หยิบขึ้นมาทันทีแบบที่เชื่อคนง่ายๆ เลยๆ ล่ะ ...





ปรากฏว่ามือถือผมปิดเครื่อง





คืออะไรเอ่ย??





กดเปิดเครื่องแล้วรอเครื่องพร้อมเป็นเวลาสักพักเพราะแม่งอืดมาก เข้ามาในแอพไลน์ หน้าแชทยังอยู่เหมือนเดิม คืออันบนสุดคือของไอ้หยีเมื่อหลายวันก่อน ... ก็ไม่เห็นมีข้อความของไอ้ม็อบนี่หว่า





“มีไหมครับพี่” มันที่ถามย้ำผมอีกที พร้อมๆ กับเตรียมจะชะโงกหน้าเข้ามาใกล้ เห็นแบบนั้นผมก็กดปิดหน้าจอมือถือของตัวเองทันทีแล้วเก็บเข้ากระเป๋าไป





“มีๆ เห็นแล้ว โทษทีนะไม่ได้ตอบ” มันขมวดคิ้วนิดๆ แต่สักพักก็เปลี่ยนเป็นยิ้มเหมือนเดิม อะไรของมัน ... แต่ว่านะ กูนี่คิดออกเลยครับ มือถือผมไม่เคยแม้แต่จะปิดเสียงปิดสั่น แล้วยิ่งปิดเครื่องนี้ไม่ต้องพูดถึง ผมไม่เคยทำครับ และคนๆ เดียวที่จะทำแบบนั้นกับมือถือของผมได้ก็ไม่ใช่ใคร ... อิเจ๊พี่ดาบเล่นกูแล้ว





“อ่า...ไม่เป็นไรครับ แต่คราวหลังไม่เอาแล้วนะ คนรอก็ท้อเป็น”





“เล่นใหญ่นะมึงเนี่ย”





“ก็อยากให้พี่สนใจมั้ง” มันยกยิ้มแล้วว่าออกมาแบบนั้น สายตาที่ส่งมาพร้อมรอยยิ้มของมันทำให้ผมต้องเสหน้าหนี ... พอเถอะพอ ในตอนนี้ที่คิดว่าควรจะบอกลามันได้แล้ว ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ใครอีกคนพูดขึ้นมาพอดี





“ทำไมช้าจังวะเอม” เหยดแหม่ จังหวะละครอ่ะโน๊ะ ... แผ่นหลังของผมสัมผัสได้ถึงอกแข็งๆ ที่ยืนซ้อนอยู่ที่ด้านหลังของผม เสียงเข้มที่ไม่เบาไม่ดังแต่ฟังแล้วมีอำนาจในแบบที่พี่มันไม่ค่อยจะชอบใช้ เพราะใช้ทีไรกูเห็นมีคนโดนตีนทุกที ครั้งสุดท้ายก็ตอนในร้านเหล้าที่มีคนมาจับตูดผมนั่นล่ะนะ





“พี่...”





“ว่าไง ทำอะไรอยู่หื้ม” เงยหน้าไปมองหน้าของพี่มัน ใบหน้าคมที่ดูหล่อเหลามากกว่าปกติ อาจเป็นเพราะว่าวันนี้มันไม่ได้แต่งหน้าอะไรมาเลยมั้ง ตื่นมาล้างหน้าก็มาแบบหน้าสดๆ ไม่ต้องพูดถึงรองพื้น เพราะขนาดครีมกันแดดมันก็ไม่ได้ทา วันนี้เลยดูดิบๆ มากกว่าทุกที ... เชี่ย หล่อว่ะ





“ว่าไงครับ”





“อ...เอ่อ ผมมาซื้อน้ำนี่ไง ได้แล้ว”





“หรอ แล้ว....ไอ้นี่ใคร” ยกยิ้มมุมปากเท่ๆ พร้อมๆ กับแขนข้างนึงที่วางพาดลงมาบนไหล่ของผม สายตาคมของพี่มันที่มองตรงไปที่ไอ้ม็อบ มือวางๆ อีกข้างของอีกฝ่ายก็ชี้ไปที่หน้าของน้องมันทั้งแบบนั้น ปัดโถ่เว้ยพี่มึง





“น้องรหัสผมเองพี่” บอกแบบนั้น แล้วคว้าแขนที่ชี้หน้าไอ้ม็อบลง ไอ้พี่ดาบที่เอียงหน้าเอียงคอเล็กน้อยพร้อมยกยิ้มมุมปาก





“อ๋อออ ที่แท้ก็แค่น้องรหัสอ่ะเนาะ” เออน้องรหัสไง มึงย้ำทำไมวะ ... ไอ้ม็อบมองตรงมาที่พี่มันไม่ต่างกัน แต่เด็กนั่นก็ไม่ได้ยิ้มอะไรแล้ว

“สวัสดีครับน้อง พี่เป็นแฟนเอม” แนะนำตัวเสร็จสรรพแบบที่ไม่มีใครได้เชื้อเชิญมัน





“แล้วนี่เสร็จยังครับ” ก้มหน้าลงมามองกูตาหวาน หวานเกิ๊น มึงแสร้งทำอ่ะพี่ กูกลัวนะ... เห็นแบบนี้ผมเลยรีบพยักหน้าเออๆ ออๆ ทันที





“เสร็จแล้วๆ เดี๋ยวๆ ผมเลี้ยงน้ำน้องแป๊บ”





“ไม่ต้อง เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง” พี่มันว่าแบบนั้นแล้ววางเงินแบงค์ร้อยลงตรงหน้าเคาร์เตอร์ร้านของซุ้มขายน้ำที่พวกเรายืนอยู่





“ถือว่า เป็นของขวัญจากแฟนพี่รหัสนะครับ น้องม็อบ ... ปะเอม หยีรอนานละ” พูดเองเสร็จสรรพพร้อมยื่นมือมาจับมือของผมแล้วดึงให้เดินไปด้วยกัน





“เอ่อ กู กูไปก่อนนะ” ได้แต่หันไปพูดกับไอ้ม็อบแบบนั้น แล้วก้าวยาวๆ ตามพี่มันไปทันที





“ร้อยนึงนี่ เดี๋ยวผมจะดูแลพี่เอมที่ค่ายให้เป็นอย่างดีเลยครับ!” เสียงตะโกนที่ดังมาจากด้านหลังทำเอาขาของพี่ดาบมันหยุดชะงัก ผมเองก็เช่นกัน เงยหน้าไปมองคนข้างๆ ที่ตอนนี้หน้าบอกอารมณ์ที่ผมรู้เลยว่ามันไม่โอเคมากๆ





“สัด...กวนตีนกูนักนะ” มันพึมพำว่าแบบนั้น แล้วหันหลังพรวดกลับไปมองทันที เป็นผมที่ดึงแขนของพี่มันไว้แน่นเลยตอนนี้ สายตาคมที่มองตรงไปที่ไอ้ม็อบแบบไม่เป็นมิตร





“พี่ดาบ ไม่เอา ไปกัน”





“เดี๋ยวก่อน...” บอกผมแบบนั้นนิ่งๆ แล้วโอบเอวผมขยับเข้ามาใกล้ๆ ตัว ก่อนที่พี่มันจะพูดตอบไป





“แบบน้องก็ทำได้แค่นั้นแหล่ะครับ ก็แค่ได้ดูแลชั่วคราวแค่ที่ค่ายนั่นแหล่ะ เพราะที่ตรงนี้ที่เป็นตลอดไปน่ะ...มันคือที่ของกูจ๊ะ” พูดจบพร้อมกระพริบตาปิ๊งๆ และส่งยิ้มเหยียดกลับไปให้ไอ้ม็อบ ผมเห็นที่แว๊บนึงน้องมันผงะๆ เล็กๆ ด้วย ไม่ทันจะได้มองไอ้ม็อบต่อ พี่มันก็คว้าเอวผมแล้วดึงให้เดินออกไปจากบริเวณนี้ไวๆ เลย





“พี่ดาบ ใจเย็นสิพี่”





“สัดเอ้ย ไม่ติดว่ามหาลัย กูจะเอาตีนไปนาบหน้าแม่ง”





“น้องมันก็แค่แหย่เล่น”





“ไม่ได้แหย่เล่น มันอยากได้มึง สัด”





“พี่ดาบ” ได้แต่ส่งเสียงอ่อนใจตอบกลับไปแบบทำอะไรมากกว่านั้นไม่ได้ ผมรู้แหล่ะ พอมองออก แต่ถึงแบบนั้นก็พยายามทำไม่ใส่ใจไอ้ม็อบมันมาก





“มีอะไรกันหรอคะ ... ผัวมึงเป็นอะไรอ่ะอิเอม” ไอ้หยีที่เอียงหน้ามากระซิบผมตอนที่พวกเราเดินมาถึงโต๊ะแล้ว ผมได้แต่ยิ้มแหยๆ ส่งไปให้ไอ้หยีมันแทนคำพูด ก่อนจะคว้าน้ำที่ซื้อมามาเปิดให้พี่มัน แล้วยื่นไปตรงหน้า





“หึงผมหรอ”





“มึงแฟนกู มึงเมียกู มึงของกูป่ะ” หันหน้ามามองแรงพร้อมพูดออกมาแบบนั้น กร๊าวใจมากๆ ... ขอโทษนะครับ กูหนีไปกรี๊ดได้ไหมไอ้สัด ดิบๆ ไม่มีสุกผสมเลยครับ





“อิเหี้ย กร๊าวมาก” ไม่ต้องหวีดแล้วกู ไอ้หยีหวีดแทนไปหมดแล้ว





“อะ ดื่มน้ำก่อนจะได้ใจเย็นๆ นะ”





“มึงแม่ง เลิกทำตัวเหมือนควายได้ไหมวะ”





“เหมือนควายคืออะไรวะพี่ แม่ง มีแต่พี่มึงนี่แหล่ะที่ว่ากูอ่ะ” ด่ากูเป็นควายแม่งทุกวัน





“ก็ควายสำหรับกูคือความน่ารักอ่ะ กูรักควายของกูมึงจะทำไมอ่ะคะ บอกก่อนเลยนะ ถ้าไปที่นั่นใครมาวุ่นวายกับมึง มึงต้องเอาเขาขวิดมัน สัญญากับกูมา”





“สัดพี่ แม่ง!” กูควรจะเขินก่อนหรือโมโหก่อนดีวะ มันที่ทำหน้าจริงจังแล้วจับมือผมไว้ บอกให้รู้ว่ากูต้องสัญญา ไอ้หยีที่นั่งอยู่ข้างๆ กันมันขำพรืดออกมาแบบไม่สนใจว่าท่าทางจะอุบาทว์มากแค่ไหน กูแอบเห็นน้ำลายมึงกระเด็นด้วยอ่ะ ทุเรศฉิบ





“พี่ดาบห่วงว่าจะมีใครมาจีบไอ้เอมหรอคะ พี่ไม่ต้องห่วงหรอก”





“ห่วงดิน้องหยี ไอ้เด็กหัวไม้ถูพื้นแม่งกวนส้นตีน มันตั้งใจจีบไอ้เอม ดูออกค่ะ!”





“ใครวะคะ เด็กหัวไม้ถูพื้น”





“น้องรหัสกู มันชื่อม็อบ” หันไปบอกไอ้หยีที่ทำหน้างงๆ มาใส่กัน ... ไอ้พี่แม่ก็สร้างสรรค์ฉิบหาย





“อ๋อออ พี่ดาบไม่ต้องห่วง หยีสัญญาว่าจะไม่ให้ใครหน้าไหนแม่งมาไต่ไอ้เอมได้ สัญญา”





“ดี กลับมาพี่ถอยBalenciagaใบใหม่ให้”





“กรี๊ดดด บ้าน่า น้องทำให้ด้วยใจนะคะ”





“งั้นไม่เอาเนอะ”





“บ้าน่า ผู้ใหญ่ให้ของจะปฏิเสธทำไม ขอบคุณนะคะพี่ดาบขา ... ผัวมึงดีมากอิเอม ถ้ามึงไม่เอา กูเอานะบอกเลย”





“มึงฝันหรอ” ตอบมันกลับไปแบบนั้น ไอ้หยีที่ทำท่าเวอร์ผงะถอยหลังไปนิดหน่อยพร้อมๆ กับทำปากรูปตัวโอ





“โอ้ววว มันไม่ธรรมดานะคะหัวหน้า”





“ก็จริงของหยีนะ เอมมันไม่ธรรมดาจริงแหล่ะ น่ารักเป็นพิเศษ แบบนี้ไงเลยหวง”





อิเหี้ยเอ้ย พี่แม่งเล่นแบบนี้ เจ็บไข่ไปหมดเลยครับสังคม!



.

.

.

‘ตุบ’





เสียงโยนกระเป๋าลงข้างๆ โต๊ะของพวกเรา ทำให้ผมสามคนต้องหันไปมอง เป็นไอ้เก้อ





“กูก็ว่ามึงหายไปไหน มาช้าตลอดเลยนะคะอิผัว” ไอ้หยีพูดออกมา มันที่หันมามองหน้าพวกเราสามคน ก่อนจะคิ้วกระตุกตอนเห็นหน้าพี่ดาบ และไอ้คนข้างๆ ตัวของผมก็ไม่ทำให้ผิดหวังครับ พี่มันที่เอาข้อศอกยันไว้กับโต๊ะแล้วเอาหัวพิงฝ่ามือตัวเอง เอียงหน้ามองไอ้เห้อพร้อมยิ้มหวานยั่วตีน





“สวัสดีจ้าพ่อน้องล่ำ” ทักทายได้ดักตีครับ ไม่ใช่แต่ไอ้เก้อที่จะอยากดักตีพี่มันนะ กูก็ด้วยอ่ะแบบนี้





ไอ้เก้อมองพี่มันแบบหงุดหงิดหน่อยๆ มันที่หายใจเข้าออกแบบพยายามอดทน สักพักมันก็ยกมือขึ้นไหว้พี่ดาบ





“หวัดดีพี่” พูดแค่นั้นแล้วทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ แล้วหันหลังให้พวกเรา ในมือของมันยังคงกดๆ จิ้มๆ พิมพ์ๆ อะไรสักอย่างแบบไม่สนใจเรานอกจากมือถือ ผมหันไปมองไอ้หยีที่ตอนนี้ทำหน้าแบบประหลาดใจฉิบหาย แอบเห็นมันชะโงกหัวไปมองจอไอ้เก้อด้วยตอนนี้ เรื่องเสือกก็คือไว้ใจได้ครับ





และในเวลาตอน8โมง ก็ถึงเวลาที่เราจะต้องออกเดินทาง น้องๆ ปี1ที่แยกนั่งรถหมายเลข1-7 เพราะเป็นรถบัสสองชั้น ส่วนปีอื่นๆ ก็ทยอยขึ้นคันต่อๆ ไป พี่ปี3ปี4มาไม่ครบครับ เพราะฉะนั้นรถก็เลยมีรถสำหรับปี2-4อีกแค่3คัน





“พี่เอม เจอกันที่ค่ายนะครับ” เป็นไอ้ม็อบที่เดินเข้ามาหาแล้วพูดแบบนั้น พี่ดาบที่ยืนอยู่ข้างๆ ผมกำมือแน่น แต่เป็นผมที่เอื้อมมือไปจับมือพี่มันเอาไว้ซะก่อน ไอ้ม็อบเห็นแต่มันก็ทำเป็นมองผ่านไปแล้วเดินขึ้นรถไป





“กูว่าไอ้เด็กเหี้ยนี่แม่งอยากกินตีนกู”





“ไม่เอาน่าพี่ ไหนบอกเป็นคนสวยไง คนสวยต้องไม่ใช้ความรุนแรงสิครับ”





“กูไม่สวยเหี้ยทั้งนั่นล่ะ ตอนนี้กูจะเป็นผัว”





สาดดดดดดดด ทีแบบนี้มึงผัวขึ้นมาเลยนะ ห้าวสุดในน่านน้ำผับร้านDANI WORLD





“โอ๊ะ น้องเสือ ขึ้นคันนี้หรอ” ไอ้หยีตะโกนออกมาแบบนั้นเลยทำให้ผมกับไอ้เก้อที่ยืนอยู่ข้างกันหันไปมองพอดี ไอ้น้องเสือหันมา มันที่ยกมือไหว้พวกเราแล้วยิ้มออกมาบางๆ แปลกตรงที่มันดันมองผ่านหน้าไอ้เก้อไปซะแบบนั้น ได้ยินเสียงไอ้เก้อสบถในลำคอเบาๆ ด้วย





“แม่ง”





“มึงบ่นไรนะเก้อ”





“เปล่า มึงไปขึ้นรถก่อนเลยนะเดี๋ยวกูมา” มันที่บอกแบบนั้นแล้วเดินหนีออกไป มองทางก็คือทางที่น้องเสือพึ่งเดินออกไปเมื่อกี้



“กูว่ามีกลิ่นแปลกๆ นะคะอิเอม” ไอ้หยีหันมายักคิ้วหลิ่วตาให้ผม ตามันเป็นประกายลุกโชนมากๆ เหมือนต่อมความเสือกกำลังพลุ่งพล่าน น่ากลัวเหี้ยๆ



“กลิ่นตัวมึงหรือเปล่า เปรี้ยวๆ นะ มึงลืมอาบน้ำมาหรอหยี”



“โอ้ยยยอิเอมอิเวน กูทาสารส้มมาแล้วค่ะ จำ!”



“ฮ่าๆๆๆ” ทั้งผมและพี่ดาบที่ขำลั่นออกมาแบบนั้นอย่างไม่อายใคร ไอ้หยีที่กรอกตาทีนึงแล้วหันไปลาพี่ดาบ พร้อมบอกแบบเป็นมั่นเป็นเหมาะว่ามันจะดูผมแบบไม่ให้คลาดสายตา ไอ้หน้าไหนเข้ามาวอแวมันจะเอาตีนยันไว้ให้



“พี่ฝากไอ้เอมด้วยนะน้องหยี”



“ได้เลยค่า” บอกแบบนั้นแล้วมันก็ลาไปขึ้นรถก่อน แต่คือกูเป็นตัวอะไรครับ ใครแม่งจะอยากได้อะไรกูนักหนาเอ่ย ไม่ต้องหวงต้องห่วกูขนาดนั้นก็ได้อ่ะครับ



“พี่ก็ห่วงผมเกินไป ผมดูแลตัวเองได้น่า”



“พูดมาสิว่าไม่ได้ชินที่ตอนนี้มีกูดูแลไปแล้วน่ะ” ยิ้มออกมาพร้อมๆ กับเอื้อมมือมาลูบหัวผมเบาๆ ความรู้สึกอบอุ่นแปลกๆ วาบเข้ามาที่หัวใจของผม สายตาและท่าทางของพี่มันที่อยู่ๆ ก็ทำให้ผมอยากจะร้องไห้ คล้ายๆ กับตอนที่เราจะไปออกค่ายสมัยประถมแล้วมีพ่อแม่คอยไปส่งแล้วยิ้มใจดีบอกว่าจะรอเรากลับบ้าน ... แต่ความรู้สึกแบบนั้น ผมก็แทบจะลืมมันไปแล้ว เหมือนนานมากๆ จนมาตอนนี้ วินาทีนี้ที่ผมมีพี่มัน



“พี่ดาบ”



“รู้ใช่ไหมว่ากูรักมึงเอม” ได้แต่ก้มหน้าลง รู้สึกอายชะมัดที่ตอนนี้น้ำตาคลอๆ พี่มันดึงตัวผมเข้าไปกอดเอาไว้ ก้มลงจูบเบาๆ ที่หัวของผม



“พี่จะรอเอมกลับบ้านนะ” มันพูดออกมาแบบนั้นในตอนที่เรากอดกันแน่นอยู่ข้างๆ รถบัสคันที่ผมต้องนั่งไป ผมร้องไห้ออกมาเงียบๆ ไม่รู้ทำไม แต่ผมดีใจที่ผมได้รักพี่มัน ดีใจที่มีมันอยู่ในทุกๆ วันของผม เป็นพี่ เป็นเพื่อน เป็นแฟน เป็นคนรัก...และเป็นครอบครัว



“เอมจะรีบกลับนะ”



“อื้ม พี่จะรอที่บ้านเรานะ”



เรามองหน้ากันในตอนนี้ที่พี่มันก็เลื่อนมือมาเช็ดน้ำตาออกจากหน้าของผมเบาๆ เราที่มองตากัน ก่อนจะยิ้มและขำออกมาให้กันเบาๆ



“ควายน้อยเอ้ย กูต้องคิดถึงมึงมากๆ แน่ๆ เลย”



“เอมไม่อยู่ห้ามนอกใจนะ”



“รักมึงคนเดียว สัญญาเลยครับ”



“ดีมาก เป็นเด็กดีน้า” ว่าแบบนั้นแล้วเอื้อมมือไปลูบหัวพี่มัน กูต้องเขย่งเท้าขึ้นมาเลยตอนที่ลูบ



“กวนตีนแล้วนะคะอันนี้”



“ฮ่าๆ ผมไปแล้วนะครับ” บอกมันแบบนั้นในตอนที่ตัวเองก็พยายามสืดน้ำมูก เป็นความรู้สึกที่โคตรจะน่าอาย แต่มันก็อดไม่ได้อยู่ดี



“ครับ เดินทางปลอดภัย ถึงแล้วพยายามหาสัญญาณติดต่อกูด้วยนะ”



“อื้ม พี่ด้วยนะ ไปงานกับที่บ้านดีๆ นะ”



“อันนี้ไม่สัญญา ถ้ารำคาญมากๆ กูจะแกล้งกรี๊ดออกมากลางงาน” บอกแบบนั้นแล้วทำหน้าเหม็นเบื่อ แต่พอพูดออกมากูนี่นึกภาพออกเลย ได้แต่ภวานาว่าพี่มันจะไม่ไปกรี๊ดกลางงานแบบที่ว่าจริงๆ ผมที่เดินขึ้นรถไปนั่งที่ริมหน้าต่างของรถบัสที่ชั้นสอง ผลักผ้าม่านออกแล้วมองลงมา พี่ดาบยังยืนอยู่ตรงนั้น พี่มันที่เงยหน้ามองมาที่ผมแล้วส่งยิ้มให้กัน ค่อยๆ ยกมือขึ้นมาโบกผ่านหน้าต่าง เป็นวินาทีที่รวดเร็วในตอนที่รถค่อยๆ เคลื่อนตัวออกไป และสายตาและความรู้สึกในหัวใจของผมมันกลับชัดเจน ... มันชัดเจนมากขึ้นไปกว่าครั้งไหนๆ ในตอนที่เราต้องห่างกัน





มันเป็นใครไม่ได้อีกแล้ว ... ต้องคนนี้ ต้องเป็นแค่พี่มัน ต้องเป็นแค่พี่ดาบคนเดียวจริงๆ





...


(มีต่อจ้าาาา)

หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่36 {20/06/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 20-06-2020 22:17:33
“เดี๋ยวไอ้เสือ...หยุด กูบอกให้มึงหยุดก่อน”



“จะมาจับกูไว้ทำไมวะพี่ กูจะขึ้นรถ” ถอนหายใจใส่มันไปครั้งนึงแล้วพยายามดึงกระเป๋าตัวเองออกจากมือของมันอีกครั้ง


“ทำไมกูทักไปแล้วมึงไม่ตอบวะ เป็นอะไรทำไมต้องหลบหน้ากู” มันถามออกมาเสียงเข้ม รอบๆ ตัวของเราที่มีแต่เด็กปีหนึ่งรุ่นๆ ผมที่เริ่มมองมาเพราะไอ้เก้อมันเสียงดัง



“มึงเป็นบ้าอะไรวะพี่ ปล่อยกู อย่ามาเป็นหมาบ้าตรงนี้นะ” บอกมันแล้วดึงกระเป๋าออกจากมือมัน



“มึงนั่นแหล่ะเป็นบ้าอะไรของมึงวะ กูไลน์หามึงก็ไม่อ่านไม่ตอบ มาถึงก็ไม่ทักไม่คุย มึงเป็นอะไรวะ” ถามออกมารัวๆ ตั้งใจจะเอาคำตอบ แต่กูไม่ตอบ กูจะไม่ตอบอะไรแบบที่มึงอยากได้ออกมาหรอกสัดเก้อ



“ผมไม่เห็น”



“มึงไม่เห็น”



“เออ ก็ไม่เห็นไงวะ แล้วนี่เลิกเป็นบ้าได้ละ กูจะไปขึ้นรถ”



“เดี๋ยว แล้วมึงมายังไง” มันที่ตามมาคว้าข้อมือของผมเอาไว้ แล้วดึงรั้งเอาไว้อีกครั้งในตอนนี้ ถอนหายใจออกมาหนักๆ เลยตอนนี้ กูแค่อยากจะไปจากตรงนี้ กูแค่ยังไม่อยากจะเจอหน้ามึงในตอนนี้มึงไม่เข้าใจหรอวะไอ้สัด สมองมึงเล็กเท่าเม็ดแตงโมหรอสัด



“เสือ เดี๋ยวกูเอากล่องนี้ไปเก็บให้เลยนะ อ้าว โทษที สวัสดีครับพี่”



“เออ มึงเอาไปเก็บเลย” หันไปบอกแบบนั้น พร้อมๆ กับที่ไอ้พี่เก้อก็มองไปด้วยเช่นกัน มองด้วยสายตาข่มขู่จนเพื่อนผมทำหน้าเลิ่กลั่กแล้วต้องรีบเดินหนีไป



“ใคร”



“ห๊ะ อะไรของพี่มึง” สุดท้ายก็ต้องหันไปมองหน้ามัน เพราะอีกฝ่ายไม่ยอมปล่อยแขน ยิ่งไปกว่านั้นก็คือดึงแขนผมให้ต้องหันไปมองมันอยู่แบบนั้นด้วย



“กูถามว่าไอ้เหี้ยนั่นใคร”



“เพื่อนกู”



“เพื่อนมึง มึงมีเพื่อนที่ไหนวะ มันเป็นใครกันแน่” มันที่ถามออกมาแบบนั้น คำพูดที่ทำให้ผมยิ่งฟังยิ่งรู้สึกหงุดหงิด แต่ใช่ กูก็ไม่ค่อยจะมีเพื่อนอยู่แล้วนั่นแหล่ะ ถูกของมัน



ผมกระชากแขนของตัวเองกลับมาในตอนนี้ ไอ้พี่เก้อที่ยิ่งขมวดคิ้วมองผมแบบไม่สบอารมณ์



“เออ กูมันคนเพื่อนน้อย แต่ไม่ใช่ว่ากูจะมีเพื่อนคนสำคัญคนเดียวแบบมึงที่มีพี่เอมนะไอ้สัด ถอย กูจะขึ้นรถ”



“เดี๋ยวเสือ เกี่ยวเหี้ยอะไรกับไอ้เอมวะ นี่มึงพาลเหี้ยไร”



“เรื่องของกู”



“เดี๋ยว ทำไมมึงงี่เง่าจังวะ เป็นอะไรวะเสือ” มันที่เอื้อมมือจะมาดึงแขนผมไว้ แต่ติดตรงที่กูไว้กว่า ผมยันมือไปผลักอกมันทันที จนมันต้องเสถอยหลังไปอีกหลายก้าว



“กูจะเป็นอะไรก็เรื่องของกู แต่ที่แน่ๆ กูกับมึงไม่ได้เป็นไรกัน มึงอย่าเสือก”



“ไอ้เสือ!”



ผมที่ไม่สนใจมันแล้ว แต่ก้าวยาวๆ ตรงไปขึ้นรถทันที ไอ้เก้อที่วิ่งตามมาแต่ไม่ทัน เพราะพอผมขึ้นรถ เพื่อนใหม่ของผมมันก็ปิดประตูรถในทันที เหมือนจะเป็นผมที่เป็นคนสุดท้ายที่ยังไม่ได้มาขึ้นรถ



“มึง...เป็นไรเปล่าวะ”



“ไม่เป็นไร ขอบใจมึงมากไอ้อิฐ”



“สบายจ๊ะมึงจ๋า”



เพื่อนต่างคณะของผมครับ แต่มันมาค่ายอาสาด้วย เพราะคะแนนกิจกรรมของมันยังไม่พอ เห็นว่ามันโดดทำกิจกรรมบ่อยๆ เพราะต้องไปทำงาน ... รู้จักกับมันที่ร้านเหล้าครับ ก็ไม่ได้นิสัยแย่อะไร ก็เลยวานให้มันมารับและมาด้วยกันในวันนี้



“ไปหาที่นั่งกันเหอะ” เสียงของคนมาใหม่ที่ผมต้องเงยหน้าไปมอง เพื่อนสนิทไอ้อิฐ



“ได้เลยจ้าน้องจูน นำไปเลยพะยูนเพื่อนรัก”



“ครวย!”



“กูมี ดูไหมใหญ่นะ”



“ไปไกลๆ ไอ้หน้าสัด”



เสียงของไอ้อิฐไอ้จูนที่เถียงกันไปตลอดทางแบบนั้นทำเอาผมต้องส่ายหัวระอา ... แต่อย่างน้อยก็ยังพอเป็นเรื่องดีๆ บ้าง ผมหันไปมองนอกรถในตอนที่รถเริ่มเคลื่อนตัวออก ไอ้พี่เก้อยังยืนอยู่ตรงนั้น มันที่มองมาที่ผมด้วยสายตาที่ผมอ่านไม่ออกและไม่เข้าใจ ... มันก็เป็นเหมือนกับความสัมพันธ์ของเรานั่นแหล่ะที่ไม่เคยจะชัดหรือเข้าใจอะไรสักอย่าง





“ถ้าเป็นแบบนี้ก็อย่าเข้าใจเหี้ยอะไรแม่งเลยละกัน” บอกกับตัวเองแบบนั้นแล้วตัดสินใจก้าวขายาวๆ เดินขึ้นไปที่รถชั้นสอง ปล่อยให้มันยืนอยู่แบบนั้น เพราะผมมั่นใจ ว่าสุดท้ายไม่ว่าเมื่อไหร่ มันก็เลือกพี่เอมมากกว่าผมอยู่ดี



...



“ฮ้า อากาศดีมากๆ เลยมึงเอ้ย” ไอ้หยีที่บิดขี้เกียจแล้วสูดอากาศเข้าปอดแบบเต็มปอด แต่ก็ถูกของมันสดชื่นจริงๆ ครับ ค่ายอาสาครั้งนี้ เรามากันที่ศูนย์การเรียนรู้ที่ตั้งอยู่ที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เป็นพื้นที่ที่ยังมีแต่ดินลูกรัง ดินแดงๆ โรงเรียนของเด็กๆ ถูกทำด้วยไม้ สภาพไม่แข็งแรงเท่าไหร่ แต่เพราะว่าอยู่ในต่างจังหวะในพื้นที่ห่างไกลมากๆ พื้นที่ของโรงเรียนเลยใหญ่มากๆ แบบสุดลูกหูลูกตา แต่เด็กนักเรียนและโรงเรียนมีอยู่กระจิ๊ดเดียว ผมเชื่อว่าพวกเรามาในครั้งนี้จะสามารถสร้างอะไรใหม่ๆ ให้กับเด็กๆ ที่นี่ได้เยอะ และหวังว่ามันจะเป็นประโยชน์กับเด็กๆ ที่นี่ให้ได้มากที่สุดล่ะครับ




“เอาล่ะ น้องๆ ปี1ตั้งเต้นล์ฝั่งนี้ พวกปีอื่นตั้งอีกฝั่งนึงนะครับ” พี่ปีสี่ที่เตรียมรายละเอียดมาเรียบร้อย พวกเราก็เตรียมตัวตั้งเต้นล์กัน แบ่งฝ่ายจัดกลุ่มทำอาหาร รวมถึงแบ่งน้องๆ ไปทำโรงเรียน ทำโซนห้องน้ำต่างๆ คือหน้าที่มีกันสารพัดและเริ่มกันเลยจากตรงนี้



“พี่เอม ร้อนไหมพี่” ไอ้ม็อบที่เดินเข้ามาพร้อมๆ กับยื่นผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดที่หน้าผากให้ผม กูผงะเลยตอนนี้ น้องๆ ปีหนึ่งที่เหมือนจะเป็นเพื่อนของมันก็โห่แซวในตอนนั้น คือมีใครบวชนาคหรอสาด




“เห้ย ไม่ต้องกูไม่ร้อน”


“พี่ไม่น่าจะมาเลื่อยไม้อยู่ตรงนี้เลยว่ะ” มันว่าแบบนั้นแล้วทำท่าจะแย่งเลื่อยไปจากมือผม



“มาผมทำเอง”





“เห้ยไม่ต้องๆ กูทำได้ไอ้สัด” บอกมันแบบนั้นแล้วสะบัดมือหนี เป็นความรู้สึกที่ว่าตกใจมากกว่าเลยทำแบบนั้น ไอ้ม็อบชะงักตัวไปนิดหน่อย ผมมองหน้ามันที่ทำหน้าเสีย ... รู้สึกผิดเลยแม่ง ทั้งๆ ที่มันหวังดีแท้ๆ



“เอ่อ ไอ้ม็อบ”



“อ่า ขอโทษครับ ผมคงทำพี่อึดอัด” มันพูดออกมาแบบนั้นด้วยสีหน้าแหยๆ พร้อมเดินถอยหลังไปอีกสองสามเก้า



“เห้ยมึง กูแค่ตกใจอ่ะ”



“หรอครับ ...แต่ผมว่าไม่”



“เห้ย มึงคิดมาก กูตกใจจริงๆ มึงอยากช่วยหรอ อะนี่ เอาไม้ไปวางตรงนู้นไป” บอกมันแบบนั้นแล้วตบไหล่มันปุๆ ไม่อยากทำให้มันรู้สึกไม่ดีกับท่าทางของผมครับ จริงๆ แล้วมันก็แค่หวังดี



“ผมทำด้วยได้แน่นะ”



“เออสิวะ ไปๆ แล้วกลับมาช่วยกู”



“ขอบคุณครับ” มันตอบรับเสียงดัง ก่อนจะยิ้มกว้างออกมาอีกครั้ง เป็นรอยยิ้มกว้างๆ แบบที่ผมได้เห็นบ่อยๆ จากหน้าของมันที่มักจะส่งมาให้กันเสมอ ... ได้แต่ส่ายหัวออกไปตอนที่เห็นมันวิ่งหอบไม้ที่ผมเลื่อยไปกองตรงซุ้มตรงนู้นอย่างร่าเริง จริงๆ มันก็เป็นแค่เด็กคนนึงที่อยากจะสนิทกับรุ่นพี่แค่นั้นเอง พี่ดาบแม่งก็คิดมากไปอ่ะ



“พี่เอม คืนนี้เรามีรอบกองไปด้วยนะครับ น่าสนุกมากๆ เลย”



“หรอวะ ก็น่าสนุกนะ”



“ดีจัง คืนนี้จะได้อยู่กับพี่ด้วย”



“อยู่กับกูเหี้ยไร คนอยู่เป็นร้อย” ตอบออกไปแบบนั้น แต่ไอ้เด็กนี่ก็ดูจะไม่ฟังเท่าไหร่ ดูสนใจแค่สิ่งที่มันกำลังคิด เฮ้อ เหมือนจะไม่มีสติเท่าไหร่ เรื่องนี้ต้องเหยียบไว้ให้ไอ้หยีรู้ไม่ได้ ดีนะที่มันได้ทำอยู่ที่โรงครัว ไม่งั้นเรื่องนี้ถึงหูพี่ดาบแน่ๆ มึงเอ้ย แค่คิดว่าพี่มันรู้ กูก็เจ็บไข่แล้วครับ!


...



“ไอ้เหี้ยเอ้ย ร้อนฉิบหาย” กูบ่นออกมาเป็นรอบที่ร้อยของวัน เพราะวันนี้ผมได้อยู่ช่วยในโซนทาสีโรงเรียนแล้วก็ตีหลังคา กูปีนตากแดดมาทั้งวัน แต่ถึงแบบนั้นก็รู้สึกสนุกครับ ได้ทำอะไรแบบออกแรงก็เพลินๆ ดี ที่สำคัญโซนตรงนี้ที่ผมทำเป็นแค่พวกปีหนึ่งเท่านั้น ไม่มีพี่ปีอื่นมายุ่งด้วย กูเลยรอดพ้นจากไอ้สัดพี่เก้อมาได้แบบหวุดหวิด





“มึงบ่นเก่งจังวะ”



“ก็กูร้อน หรือมึงไม่ร้อนวะ” หันไปถามไอ้อิฐ มันที่แค่ยักไหล่นิดๆ เราสองคนที่เหงื่อทั่วโทรมกายกันไปหมดแล้วในตอนนี้



“กูน่ะถึก แข็ง ทน”



“พูดอะไรของมึงนะไอ้สาดด”



“ฮ่าๆ กูหมายถึงกูน่ะทั้งถึก แข็งแรงและอดทน ไม่ได้บอบบางเหมือนมึงหรอกจ๊ะ กูสบ๊าย” ยิ้มหน้าระรื่นส่งมาให้กูทั้งแบบนั้น หมั่นไส้แม่ง



“ไม่ไหวแล้วว่ะ ตอนนี้ก็ห้าโมงละ หยุดแล้วไปอาบน้ำกันเหอะ” ผมชวนไอ้อิฐ มันพยักหน้าเห็นด้วย เพราะแบบนั้นเราเลยพากันไปหยิบข้าวของพวกเสื้อผ้าและสบู่ต่างๆ นาๆ เตรียมไปอาบ ห้องน้ำมีจำกัดครับ อยู่ที่หลังโรงเรียน



“พวกมึงจะไปอาบน้ำกันแล้วหรอวะ”



“ใช่จ๊ะน้องจูนจ๋า มึงก็ไปด้วยกันดิวะ” ไอ้อิฐพูดออกมาแบบนั้น วันนี้ไอ้จูนมันได้ไปอยู่โซนห้องสมุดครับ ไม่ได้ทำกับพวกเรา มันเลยพึ่งเดินมา สงสัยพึ่งเลิก



“แต่กูยังไม่ได้เอาเสื้อผ้าห่าไรเลย”



“งั้นมึงรอจูน เดี๋ยวกูนำไปก่อน กูไม่ไหวละ” ผมหันไปบอก ไอ้อิฐที่ทำท่าอึกอัก



“ไม่ต้องเป็นห่วงกู กูไปได้”





“เอางั้นหรอวะ”



“เออดิ กูไปได้” บอกออกไปอีกครั้งแบบให้มันมั่นใจ ไอ้อิฐหันไปมองหน้าไอ้จูนที่กำลังจ้องมันอยู่ แค่เห็นกูก็เข้าใจในความสัมพันธ์ ผมยกยิ้มมุมปากนิดๆ แล้วยกมือโบกบ๊ายบายแล้วเดินออกมา ให้มันไปด้วยกันอ่ะดีแล้ว ผมน่ะทำอะไรด้วยตัวเองมาตั้งแต่ไหนแต่ไร อีกอย่างก็ไม่ใช่เด็กประถมไหมวะที่จะไปอาบน้ำก็ต้องชวนๆ กันไป



เดินมาหยุดที่หน้าห้องอาบน้ำที่ทำเพิ่มออกมาหลายห้องในวันนี้ จริงๆ ก็แค่ตีกำแพงสังกระสีไว้ก่อนเฉยๆ พอให้ไม่อุจาดตาครับ ยังทำอะไรไม่ได้มากในวันนี้ แต่ถึงจะมีเยอะขึ้นแล้ว แต่ก็ยังไม่พอกับจำนวนคนอยู่ดี



“น้อง ข้างหลังโรงเรียนมีธารน้ำตกนะ รอไม่ไหวไปอาบก่อนก็ได้” มีรุ่นพี่กลุ่มนึงที่เหมือนพึ่งจะเดินกลับมาจากน้ำตกที่ว่าบอกผมแบบนั้น



“น้ำตกหรอวะ ... ก็ดีเหมือนกัน ขอบคุณมากครับพี่” ผมบอกออกไปแบบนั้นแล้วเดินตรงเข้าไปตามทางที่พวกพี่เค้าพึ่งออกมา เดินเข้าไปไม่ลึกเท่าไหร่ก็เจอเลย น้ำอย่างใส แต่เหมือนจะเป็นที่ๆ พวกรุ่นพี่มาอาบน้ำกันมากกว่าว่ะ ... แม่ง รุ่นพี่เจอที่ดีๆ ก็ไม่บอกหรอก อุ๊บอิ๊บไว้อาบกันเอง





ผมที่เดินลึกเข้าไปอีกหน่อย เพราะทางด้านหน้านี้เห็นพี่ๆ กลุ่มนึงอาบกันอยู่ คิดว่าคงไม่ดีเท่าไหร่ถ้ามาอาบรวมกับพวกพี่มัน ถึงแม้จะเป็นผู้ชายเหมือนกันก็เถอะ ผมที่เดินลึกเข้าไปตรงด้านหลังก้อนหินก้อนใหญ่ เป็นบริเวณที่ลับตาคน ที่ใช้อาบน้ำได้แบบเหมาะเจาะพอดี ค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าออกแล้วเอาเท้าจุ่มลงไปในน้ำ





“อ้า เย็นจังเลย” สดชื่นทั้งกลิ่นสายน้ำ และน้ำเย็นๆ ที่สำผัสได้ ค่อยๆ ทิ้งตัวลงไปแหวกว่ายอยู่แถวบริเวณนั้น เย็นชื่นใจแบบสุดๆ ความเหนื่อยล้าทั้งวันที่ผ่านมานี้ดูจะหายไปเป็นปลิดทิ้ง นี่แหล่ะนะที่เค้าว่าธรรมชาติจะเยียวยาเรา ผมดำลงไปในน้ำครั้งนึง ก่อนจะผุดขึ้นมา สะบัดผมที่เปียกจนปรกหน้าให้ทิ้งตัวไปทางด้านหลัง



“อ๊ะ เห้ย! อื้อออ” ความรู้สึกถูกกระชากที่เอวอย่างแรง พร้อมๆ กับฝ่ามือที่ถูกยกมาปิดที่ปากทำให้ผมต้องดิ้นรนต่อสู่



“ชู่วว กูเอง” เสียงกระซิบทุ้มต่ำๆ ที่ดังอยู่ข้างๆ หูทำให้หยุดดิ้น แรงรัดตรงเอวของผมที่เต็มไปด้วยวงแขนคุ้นเคย พอผมเลิกดิ้น อีกฝ่ายก็ปล่อยมือที่ปิดปากผมออก



“สัด ไอ้เหี้ยพี่เก้อ”



“อย่าเสียงดังสิวะ” มันที่ว่าแบบนั้น ผมหันไปมองมันที่ตอนนี้มันเองก็ถอดเสื้อมาลอยคออยู่ตรงหน้าผมเหมือนกัน กูยกมือต่อยแม่งไปที แต่ติดที่มันก็ไวจนหลบได้อยู่ดี



“สัด ทำเหี้ยอะไรของมึงวะ”



“แล้วมึงจะต่อยกูทำไม”





“ไปไกลๆ กูจะอาบน้ำ”



“แล้วมึงจะมาแก้ผ้าอาบแบบนี้เนี่ยนะ บ้าป่ะ ขึ้นไปใส่เสื้อผ้าดีๆ แล้วค่อยลงมาอาบ” มันบอกแบบนั้น กูนี่ขมวดคิ้วเลย





“ประสาท เป็นเหี้ยอะไรของมึงวะ กูจะอาบน้ำ ใส่เสื้อผ้าแล้วจะอาบเหี้ยอะไร มึงน่ะไปไกลๆ กู” บอกมันแบบนั้นแล้วพยายามว่ายน้ำหนี แต่ไอ้ตัวข้างๆ ก็ไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น มันที่เกี่ยวเอวผมไว้ได้ทันในตอนนั้น



“ทำเหี้ยอะไรวะ”



“มึงไม่ใส่ เพราะตั้งใจยั่วกูหรอ”



“สัด สติ กูจะอาบน้ำ ปล่อย” บอกมันแบบนั้น แล้วพยายามดันตัวหนีในตอนที่ตอนนี้รับรู้ถึงอะไรบางอย่างที่เริ่มดุนดันแข็งขืนอยู่ที่ตูดของผม เสียววาบขึ้นมาทันที เริ่มรู้สึกผิดแล้วที่กูแก้ผ้าลงมาเล่นน้ำแบบนี้ กูก็ว่าแถวนี้ไม่มีใครแล้วนะ ไอ้สัดหน้าเหี้ยพี่เก้อนี่มาได้ยังไง



“เสือ” เสียงกระซิบแหบต่ำที่ดังอยู่ข้างๆ หูที่ดังมาพร้อมๆ กับลมหายใจร้อนๆ ที่คลอเคลียอยู่แถวๆ ลำคอของผม ได้แต่กลืนน้ำลายลงคอแบบฝืดฝืนในตอนที่ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้เบาๆ มาที่หน้าท้อง ผมหายใจกระตุกในตอนที่นิ้วเรียวยาวลูบเบาๆ ที่สะดือ



“ไอ้พี่เก้อ”





“กูอยากว่ะเสือ” เบาราวเสียงกระซิบ พร้อมๆ กับที่มันกดจูบลงบนใบหูของผม ได้แต่ถอดหายใจออกมาแบบสั่นระรัวฃ เป็นความรู้สึกทั้งอยากผลักไสทั้งอยากจะระเบิดจนแทบจะทนไม่ไหว มือของมันที่เอื้อมมือดึงใบหน้าของผมให้หันไปหาใบหน้าของมันที่เข้ามาใกล้ และก็เหมือนกับทุกๆ ทีที่เราเริ่มจูบกัน เป็นแรงดึงดูดที่เหมือนกับไฟและน้ำมัน ที่พอสาดน้ำมันเข้ากองไฟก็ลุกโชนขึ้นแบบห้ามไม่อยู่ มันที่ส่งลิ้นเข้ามากดจูบดุนดันปลายลิ้นของกันและกัน ทุกอย่างในที่นี่ขาวโพลนไปหมดทุกอย่าง



“วันนี้ไม่มีถุงว่ะเสือ”



“อือ มึงเอาเข้ามาเลย”



“มึงมั่นใจ” ถามออกมาด้วยเสียงกระเซ่า มองหน้าผมด้วยสายตาพราวระยับ เป็นความต้องการของมันในทุกๆ ครั้งที่ผมรู้ดีว่ามันต้องการ แต่ไม่เคยให้



“อืม ใส่เข้ามาเลยเก้อ”



“มึงน่ารักจัง” พูดออกมาเบาๆ พร้อมๆ กับเอียงหน้าหล่อเข้ามาหอบแก้มของผมเบาๆ เสียงน้ำเคลื่อนไหว ได้ยินเสียงคนจอแจคุยกันไม่เป็นภาษาดังมาจากที่ไกลๆ รู้สึกหัวใจเต้นระส่ำ ทั้งกลัว แต่ถึงแบบนั้นก็ยังตื่นเต้นจนห้ามไม่อยู่



“เอาท์ดอร์มันตื่นเต้นแบบนี้เองหรอวะ”



“มึงอยากเอาก็ไวๆ”


.

.

.


“อื้อออ " ผมครางยาวๆ แต่แผ่วเบาพยายามคุมเสียงของตัวเองเอาไว้ให้มากที่สุดเพราะแถวนี้มีแต่ความเงียบ ร่างของผมเปลือยเปล่าแนบลงไปบนก้อนหินขนาดใหญ่ที่บดบังเราจากสายตาของคนโดยรอบ รอบๆ ตัวมีแต่ต้นไม้ขนาดใหญ่ สายน้ำ เสียงน้ำ สายลม และเรา .... มันเป็นความสวยงามที่ดูเงียบเหงา ความวุ่นวายรอบตัวที่ดังจากที่ไกลๆ ไม่มีใครสนใจเรา มีแค่ตัวเราเองไม่มีคนอื่น มือข้างนึงของมันที่เลื่อนขึ้นมาจากเอว เลื่อนมาที่ขยี้ลงหัวนมของผม ฝ่ามืออีกข้างของมันที่ก็กำลังจับเข้าที่ต้นขาอีกข้างของผมให้ยกขึ้นสูง





แรงกระแทกที่กระแทกเข้ามาอย่างรุนแรง ทั้งจุกทั้งเสียวจนต้องกัดปาก




"อ๊ะ เก้อ...อื้อ"





"ซี๊ด ดีจังเสือ ดีจังเลยวะ"




ท่อนเอ็นแข็งขืนที่สอดเข้ามาในทุกๆ จังหวะ รับรู้ได้ถึงตัวตนของมัน สะโพกแกร่งที่โยกขยับอย่างรุนแรง หมุนควงทำองศาที่ตั้งใจกระแทกเข้ามาให้ตรงจุดให้ผมต้องได้ครางออกมา ทั้งๆ ที่ตอนนี้ก็พยายามมากๆ ที่จะเงียบเสียงให้มากที่สุด แต่เหมือนอีกฝ่ายจะไม่ต้องการแบบนั้น



มันที่ค่อยๆ ดึงสะโพกขยับออกช้าๆ รู้สึกเสียวซ่านจนต้องกัดปากแรงๆ มันที่ดึงตัวผมให้หันหน้ากลับเข้าไปหามัน ดึงขาผมขึ้นไปจับไว้มั่นคงเหมือนเดิม



แล้วค่อยๆ กดส่วนล่างของมันเด้งตัวถี่กระชั้นเข้ามากดจุดสำคัญภายในช่องทางอุ่นของผมอีกครั้งแบบถี่ระรัว



"อ๊ะ อื้ออ" มันก้มหน้าลงไปดูดเบาๆ หัวนมของผม ใช้ริมฝีปากบี้เบาๆ จนผมต้องหลับตา



"เบา เก้อ อื้ออ"





“เบาแค่นี้ พอไหม " มันใส่แรงเข้ามาจนสุด พร้อมอมยิ้มมุมปากตอนที่พูดแบบนั้นแต่การกระทำกลับสวนทาง ทำให้ผมได้แต่อ้าปากค้างกลั้นเสียงไว้จนแทบจะขาดใจ



แต่นั่น ก็ทำให้ถึงจุดสูงสุดของความสุข ผมที่สุดท้ายแล้วก็ร้องเรียงชื่อมันออกมาก่อนปลดปล่อยออกมาจนเปื้อนท้องของตัวเองและหน้าท้องของมัน และในตอนนั้นที่รับรู้ได้ถึงน้ำอุ่นร้อนที่ทะลักเข้ามาที่ช่องทางด้านหลังแทบจะพร้อมๆ กัน



"อึก อื้ออ"





"ซีดดด"



เสียงลมหายใจถี่ๆ ของกันและกันที่ดังคลอกันอยู่ไม่ห่าง ใบหน้าหล่อคมของมันที่ซุกอยู่ตรงไหล่ของผม ทำให้ได้ยินเสียงหายใจหนักๆ นั่นได้ดี วงแขนหนาที่โอบกอดเอวของผมเข้าไปแนบชิดตัวของกันและกันมายิ่งขึ้น มันที่ยังไม่ยอมปล่อยตัวของผมให้ออกจากอ้อมกอดของมันในตอนนี้




"ปล่อยกูได้แล้ว"





"เดี๋ยวสิวะ"




"เก้อ"




"หื้ม...ว่าไง"




ผมหายใจเข้าปอดไปลึกๆ กำมือที่ยังสั่นของตัวเองเอาไว้แน่นๆ ก่อนจะค่อยผ่อนลมหายใจแล้วพูดออกไป




"มึยังรักพี่เอมอยู่ใช่ไหม"




"หื้ม มึงถามถึงเรื่องนี้ทำไมวะ" มันที่ผละหน้าออกมามองหน้าผมแบบงงๆ ในสายตาที่ไม่เข้าใจ




"ถ้ามึงชอบพี่เค้าก็ไปจีบพี่เค้าเถอะว่ะ มาทำแบบนี้กับกูแม่งก็ไม่ได้ไรหรอก กูไม่ใช่ตัวแทนเค้านะ" ขยับตัวออกจากมัน ในตอนที่แกนกายของมันหลุดออกไปจากตัว เสียวจนต้องขมิบถี่ๆ รับรู้ได้ถึงน้ำอุ่นร้อนที่ไหลลงไปตามขาอ่อน แต่ทำเป็นเฉยเอาไว้




“กูไม่เคยเห็นมึงเป็นตัวแทนเอมเสือ”





“พอเหอะว่ะ กูรู้ว่าเค้าสำคัญกับมึง และเราเองก็เป็นความสัมพันธ์ที่ผิด มึงไม่ได้รักกู และเราก็ควรจะจบความสัมพันธ์แบบนี้ได้แล้ว”




“มึงพูดอะไรของมึงวะเสือ”





“พอเถอะเก้อ จบกันแค่นี้ กลับไปเป็นพี่น้องกันแบบที่ควรจะเป็นเหอะ ใจมึงอยู่กับใคร ก็ไปหาเค้า เอากูเป็นตัวแทนแบบนี้ กูก็เจ็บเป็นนะไอ้สัด”



-TBC-


เอาเด้อออออ เอาแล้วเด้ออออออ อิอ๊ะ หืดหาด และทิชชู่จ๊ะ

จริงๆตอนนี้มาเขียนเพิ่ม เลยพึ่งเสร็จค่ะ

ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะยาวขนาดนี้ แต่คิดว่า เอาวะ ... เลยเขียนเพิ่มแล้วมาจบที่ตรงนี้ หวังว่าคนอ่านจะชอบนะคะ

(ก่อนจะชอบคือต้องหวังว่าให้ยังมีคนอ่านน้า สาธุบุญ)

ฝากแฮชแทค #สวยๆเป็นผัว ในทวิตเตอร์ด้วยจ้า

 :mew1: :L1:


ขอขอบคุณคนอ่านที่ในเล้าที่ยังอยู่ด้วยกันด้วยค่ะ 



:hao6: :hao6:
  ขอบคุณนะคะที่ยังเข้ามาอ่านมาเม้นท์ให้แคทเสมอๆเลย


เจ้พี่ดาบกลับมาหาควายน้อยแล้ว  สรุปว่าองค์เจ้ดานี่มาเพราะน้องกุญแจ ไม่ได้มาเพราะพาพวยใช่ไหม

ส่วนอีกคู่ยังคงสถานะไม่ชัดเจนเช่นเคย สงสารน้องเสือเดี๋ยวดีใจ เดี๋ยวน้อยใจเพราะคิดว่าพี่เกอร์ยังรักเอมอยู่ โถลูก ให้เวลาพี่เค้าหน่อยนะ
  ใช่ค่ะ จริงๆแล้วอิเจ๊พี่ดาบเป็นคนน่ารักนะคะ เนื้อแท้ของพี่เค้าเป็นคนดี คนดีที่สวยมาก(ยัง)
ส่วนเก้อเสือน้านนน มามะมาอ่านตอนนี้น้า ทุกอย่างต้องเดินต่อ อิอิ ... แต่ว่าแคทขอขอบคุณมากๆจริงๆนะคะ ขอบคุณจริงๆที่อยู่อ่านและคอมเม้นท์ให้แคทมาเสมอในทุกๆตอนเลยค่ะ ตอนนี้ก็มาอ่านอีกน้าาา จุ๊บๆเลยค่ะ


รอตอนต่อไป~
  แคทมาแล้วววว มาอ่านนะคะ ขอบคุณจริงๆที่ยังอยู่ด้วยกัน


:pig4: :pig4: :pig4: มารอค่า
  น่ารักกก มาแล้วนะคะ ตอนใหม่มาแล้วนะคะ


อิพายนี่สะตอมากเข้าทางอิพี่ไม่ำด้เข้าทางแม่แทนเหอะอ อิเจ้พี่มึงกะหวงน้อง 555  หึงออกหน้าขนาดนี้น้องมันจะไปไหนรอดรักพี่มึงจะตายห่าแล้วค่า
องค์พี่ดาบต้องมาแล้ว พี่ก็รักของพี่ ส่วนพวยน้านนน ในตอนนี้ยังไม่มา คิดถึงหรือเปล่า มีใครคิดถึงพาพวยหรือเปล่า


รอคอยค่า
แคทมาแล้วนะคะ ขอบคุณและขอโทษมากๆที่มาช้า แต่ยังมีคนรออยู่ ขอบคุณจริงๆนะคะ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่36 {20/06/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 20-06-2020 23:05:19
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่36 {20/06/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Chucream.nabi ที่ 20-06-2020 23:23:34
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่36 {20/06/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 20-06-2020 23:33:17
 :katai1: หาไม้เตรียมฟาด เอาใครก่อนดี
พี่เก้อ หรือเด็กหัวไม้ถูพื้น
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่36 {20/06/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: นางฟ้าน้อย ที่ 21-06-2020 06:59:14
สงสารลุ้นคู่นี้ :mew2:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่36 {20/06/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 21-06-2020 09:22:25
อิเก้อมึงควรชัดเจนได้แล้ว! สงสารเสือ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่36 {20/06/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 21-06-2020 09:42:23
ต้องมีคนเห็น ต้องมีคนรู้แน่ ๆ แต่ที่แน่ ๆ สงสารเสือในความไม่ชัดเจนของเก้อ เพราะเสือไม่ได้รู้เรื่องเอมเลยว่าเอมตอนนี้เป็นแฟนกับพี่ดาบ เสือจะคิดแบบนี้ก็ไม่ผิดนะเก้อ ขอความชัดเจนให้เสือด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่36 {20/06/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 21-06-2020 09:57:56
หลังจากเสือบอกมาแบบนี้หวังว่าเก้อจะรู้สึกตัวสักทีนะว่าไม่ได้ชอบเอมแล้วแต่รักอิน้องเสือผยศแทน :serius2:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่36 {20/06/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 21-06-2020 17:37:27
เก้อควรรู้ใจตัวเองได้แล้วเนอะ :hao3:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่36 {20/06/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 23-06-2020 23:07:53
เฮียดาบขี้หึงเกินคาดเลยน้า รู้สึกอิจน้องเอมเบาๆ.  :laugh:

ส่วนน้องเสือไปยอมอิเก้ออีกทำมายยยย.  :serius2:   เปลืองเนื้อเปลืองตัวไปนะลูก อิพี่มันยังไม่รู้ใจตัวเองเลย
 
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่37 {27/06/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 27-06-2020 21:04:43
บทที่37


คงไว้ได้แค่กลิ่นที่ไม่เคยเลือนลา

ยังหอมดังวันเก่ายามเมื่อลมโชยมา

ทิ้งไว้เพียงอดีตที่ไม่เคยหวนมา

ซ่อนเธอไว้ในใจ



               เสียงเพลงที่ดังคลอไปกับเสียงกีต้าร์และสายลมเอื่อยๆในช่วงเวลากลางดึก แสงไฟจากกองไฟขนาดพอเหมาะที่ส่องสว่างเป็นแสงให้พวกเราได้มองเห็น ลูกไฟที่แตกออกจากไฟกระจายเป็นลูกเล็กๆหยอกล้ออยู่กับท่อนไม้ในกองนั้น เหมือนกับกำลังโลดเต้นไปกับเส้นเพลงที่พวกน้องๆปี1กำลังเล่นอยู่ตอนนี้ ... ถือเป็นบรรยากาศดีๆในการเล่นรอบกองไฟแบบชิลๆ



“มาคุ มาคุจัดๆ”



“ป้า มึงบ่นอะไรงึมงำๆวะ”



“มึงไม่รู้สึกหรอคะอิเอม ข้างๆมึงน่ะ ไอ้เก้อแม่งแดกดีหมี แดกดีเสือเข้าไปหรอวะ สภาพแม่งพร้อมต่อยพร้อมตีมากๆ” ไอ้หยีที่เอียงหน้ามากระซิบบอกผมแบบนั้น ผมที่ค่อยๆหันไปมองทางด้านหลัง ไอ้เก้อที่นั่งอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้านิ่งๆ หน้าอ่ะนิ่งแต่คิ้วคือขมวดจัดๆ สายตาของมันเหมือนมีกองไฟลุกอยู่ในนั้น



“ตาแม่งเหมือนมีกองไฟลุกอยู่เลยว่ะ” ผมหันมากระซิบตอบกลับไป



“ใช่ไหมล่ะคะ นี่มันไปอาบน้ำแล้วเผลอเหยียบขี้อะไรมาหรือเปล่า ทำไมดูหงุดหงิดขนาดนั้นวะ”



“กูจะไปรู้ได้ไงเล่าป้า ไม่ได้ไปอาบพร้อมมันนี่หว่า” ผมทำงานอยู่กันคนละส่วนกับไอ้เก้อครับ เพราะงั้นเลยได้ไปอาบน้ำก่อนมัน อาบตรงห้องน้ำที่ทำขึ้นมาใหม่นั่นแหล่ะครับ ไม่มีฝักบัว มีแต่โอ่งกับขัน อาบที่เย็นซู่ซ่าชื่นใจไอ้เอมนัก



“แต่กูว่ากูรู้ค่ะ”



“มึงไปอาบน้ำกับมันมา”



“พูดบ้าอะไรของมึงอิสมองลูกควาย ถึงกูจะอยากแอบดูห่อหมกเพื่อน แต่กูก็ไม่โรคจิตขนาดวิ่งไปอาบน้ำกับผู้ชายนะคะ รักนวลสงวนตัวสุดๆคือกูเอง”  ครับ ถึงว่าอายุอานามขนาดนี้ มันยังไม่มีแฟนเลยนะครับผมอยากจะบอก



“แล้วยังไง ป้ามึงรู้อะไรมา”



“มึงดูนั่นสิคะ ดูสายตามัน มันกำลังหันไปมองใคร นู่นๆ” บอกกูแบบนั้นแล้วทำปากยื่นปากยาวบุ้ยปากให้ผมหันไปมองตาม พอมองตามไปก็เห็นเป็นน้องๆปี1กลุ่มนึง ทั้งแก้งค์เป็นน้องๆสาวสองที่สวยเอามากๆ เอาจริงๆคือสวยกว่าไอ้หยีที่เป็นผู้หญิงจริงๆไปไกลแล้วมาก แล้วไงวะ ไอ้เก้อจ้องน้องกลุ่มนี้ทำไม มันชอบหรอ ??



“มึงมองอะไรของมึงอิเอม นั่นมันกลุ่มลูกสาวส้มจี๊ด หันไปอีก เรื่องเสือกต้องให้สุด หันอีกค่ะ นั่นๆ”



“เอ๊ะ...นั่นมัน”



“ใช่ไหมล่ะคะ นั่นเลยค่ะน้องเส..”



“ไอ้อิฐนี่หว่า มันมาอยู่ที่นี่ได้ไงวะเนี่ย”



“ห๊ะ อิฐไหนของมึงอีกคะอิเอม นี่มึงมองใครอยู่” ไอ้หยีที่ทำหน้าตาหมดอารมณ์ใส่ผมทันที แต่ผมว่านั่นมันไอ้อิฐจริงๆนะครับ แล้วมันไม่ทำงานที่ร้านแล้วหรอวะ ยังไง ... พอคิดแบบนั้นแล้วผมก็ตั้งท่าจะลุกเดินเข้าไปหา



“มึงเดี๋ยวกูมา”



“อะไรของมึงอีกคะ พูดคนละเรื่องเดียวกันแล้วมึงจะไปไหนอีก”



“เออน่า เดี๋ยวกลับมา”  บอกแบบนั้นตอนที่ลุกขึ้นยืน แต่ยังไม่ทันจะได้ไปไหน ก็เห็นไอ้ม็อบเดินเข้ามาหาพร้อมๆกับของในมือที่อยู่ในถาด



“พี่เอม ผมเอามันเผามาให้ครับ ชาวบ้านเอามาให้พวกเรา พี่กินเลยสิ ร้อนๆมันอร่อยมากเลยนะ”



“พวกมึงเผาเองหรอวะ”



“ใช่พี่ นั่งสิเดี๋ยวผมปลอกให้” มันพูดจบแล้วถือวิสาสะลงนั่งที่ท่อนไม้ข้างๆที่นั่งของผม พร้อมๆกับฝ่ามือของมันที่เอื้อมมาจับแขนของผม ตั้งท่าจะฉุดให้นั่งลงตามมัน แต่ติดที่มือของไอ้หยีที่เอื้อมมาคว้าข้อมือของผมอีกข้างไว้ได้ทัน



“อิเอม”



“เอ่อ...”



“เมื่อกี้มึงบอกจะไปไหนไม่ใช่หรอ จะไปก็ไปค่ะมึง”  มันบอกแบบนั้น ตอนที่มองตามันผมก็เข้าใจอะไรหลายๆอย่าง พยักหน้าลงทันที



“เออจริง งั้นเดี๋ยวกูไปก่อน ไอ้ม็อบกูขอบใจเรื่องมันอันนี้มากนะ วางไว้นี่แหล่ะเดี๋ยวกูมาปลอกกินเองได้” บอกแบบนั้นแล้วยิ้มให้มันนิดๆแบบไม่อยากให้มันเสียน้ำใจ



“พี่เอมจะไปไหน มันมืดละนะพี่ เดี๋ยวผมไปเป็นเพื่อน” มันที่บอกออกมาแบบนั้นแล้วตั้งท่าจะลุกขึ้นยืนตามผม เหลือบสายตามองเห็นไอ้หยีที่ทำหน้าเอือมใสมันในตอนนี้



“มึงเป็นแค่น้องรหัสไม่ใช่หรอวะ แค่น้องรหัสก็อย่าล้ำเส้นให้มันมากนักสิไอ้เหี้ย” เสียงเข้มที่ดังขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยแบบไม่มีใครเชิญชวน แต่เสือกขึ้นมาแบบได้จังหวะโดยแท้



“โอ๊ะโอ๋ อิผัว แซ่บๆเลย”



“ว่าไง มึงไม่รู้หรอวะว่าพี่รหัสน้องรหัสของเขตแม่งอยู่ตรงไหน”  ไอ้เก้อที่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงของมัน ก่อนจะก้าวขายาวๆเข้ามา สายตาที่มองมาที่ไอ้ม็อบเรียกว่าเห็นมันเป็นแค่มดปลวก



“แล้วพี่รหัสน้องรหัสมันทำไมล่ะครับพี่ ผมก็แค่เป็นห่วงพี่เอม”



“แต่การทำตัวของมึงมันทำให้เพื่อนกูอึดอัด อย่ามาแกล้งโง่ มันมีผัวแล้ว”



“แต่ผัวพี่เอมก็คงไม่ใช่พี่”  ไอ้ม็อบที่เลิกคิ้วถามไอ้เก้อออกไปแบบนั้น หน้าตากวนๆของมันที่ทำให้เก้อเดินเข้ามาใกล้



“ใช่ แล้วก็ไม่มีทางเป็นมึงด้วย กูจะบอกอะไรให้ สำหรับไอ้เอมน่ะ มันต้องไอ้พี่ดาบของมันเท่านั้น หัดรู้ซะบ้างว่าความสัมพันธ์ของพี่รหัสน้องรหัสมันควรจะเป็นยังไง เหอะ จริงๆแม่งก็เป็นได้แค่เท่านี้แหล่ะไอ้โง่!” มันว่าออกมาแบบนั้นแล้วผลักไหล่ไอ้ม็อบแรงๆทีนึง จนมันเซไปข้างหลัง



“เห้ยๆใจเย็นค่ะอิผัว” เป็นไอ้หยีที่รีบลุกขึ้นแล้วเดินไปคว้ามือของไอ้เก้อเอาไว้ก่อน



“มึงไปไหนก็ไปเหอะไอ้ม็อบ” ผมบอกมัน ท่าทางของมันที่หัวเสียเอามากๆตอนมองกลับไปที่ไอ้เก้อ เป็นท่าทางเอาเรื่องที่ผมไม่เคยเห็นจากมันมาก่อน สายตาที่บอกว่ามันไม่ยอมแบบนั้นทำเอาผมถึงกับขมวดคิ้ว มันแปลกๆจังวะ



“ไอ้ม็อบ” ดึงแขนมันแรงๆหนึ่งทีจนมันหันกลับมามองหน้าผม มันที่ชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะกระพริบตานิดๆแล้วค่อยๆส่งยิ้มบางๆเหมือนปกติมาให้



“ผมไปก่อนก็ได้พี่”



“อืม” ตอบรับมันแบบนั้น แล้วเจ้าตัวก็ค่อยๆเดินหายไปอีกทาง รอบๆตัวเรามีคนมองมาที่เราอยู่ไม่น้อย ก็เพราะว่าก่อนหน้านี้ เสียงของไอ้เก้อก็ไม่ได้เบาเท่าไหร่เลย



“เหอะ ก็แค่พี่รหัสคนนึงป่ะวะ จะสนใจเหี้ยไรนัก” ไอ้เก้อยังคงพูดออกมาแบบนั้นอีก มันไม่ได้มองมาที่ผมหรือไอ้หยี ไม่ได้สนใจด้วยว่าไอ้ม็อบจะเดินหนีไปแล้ว สายตาของมันแค่มองตรงไป มองตรงไปสบเข้ากับสายตาสวยดุของใครอีกคนที่ยืนมองมันมาจากที่ไกลๆไม่ต่างกัน .... น้องเสือ



“เหอะ”



มันแค่นเสียงหัวเราะเหมือนสมเพชเล็กๆก่อนจะเตะก้อนหินแถวนั้นให้กระเด็นไปโดนเต้นท์ชาวบ้านแบบไม่สนใจ ก่อนมันจะเดินหนีปึงปังหายไปอีกทาง ผมกับไอ้หยีที่หันมองหน้ากัน เหมือนมีแสงเลเซอร์ของความเสือกส่งใส่ตากันปิ๊งๆ



“กูว่ามันมีเงี่ยนำจริงๆค่ะอิเอม”



“เงื่อนก็พอไอ้ป้า”



“เงี่ยนนี่แหล่ะ มึงเห็นไหมเมื่อกี้ไอ้เก้อมองแต่น้องเสือ”



“เราอาจจะคิดไปเองเปล่าวะ”



“มึงอย่าโลกสวยกูขอร้อง กูว่าเมื่อกี้ไอ้เก้อก็พูดจากับไอ้น้องม็อบแปลกๆ เหมือนไม่ได้พูดด่าน้องมันยังไงไม่รู้ แม่งย้ำอยู่นั่นพี่รหัสน้องรหัสอ่ะ”



“มันอาจจะอยากบอกไอ้ม็อบ”



“อิเอม ถ้าโง่ก็อยู่เฉยๆอย่าหาขัดกูค่ะ มึงเป็นสก๊อตไบร์ทหรอ ขัดกูเก่งจริง”



“เอ้า...” พูดไม่ออก กูได้แต่ยกมือขึ้นเกาหัวเลยครับ ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้สึกสะกิดใจอะไรหรอกนะ เพียงแต่ว่า ถ้าพูดว่าไอ้เก้อกับน้องเสือจะมีอะไรๆแปลกๆ แบบเกินกว่าพี่รหัสน้องรหัสกันเนี่ย มันจินตนาการไม่ออกเลยจริงๆ นึกถึงแต่ตอนที่พวกมันตีๆกันนั่นแหล่ะที่ออก ถึงแม้ว่าช่วงหลังๆมามันจะตัวติดกันมากๆก็เถอะ ... แต่มันจะใช่หรอวะ



“แล้วเมื่อกี้มึงจะไปไหน”



“ว่าจะไปตรงนั้น กูว่ากูเหมือนเห็นคนรู้จัก”



“ใคร มึงยังจะรู้จักใครนอกจากพวกกูสองคนอีกคะ อย่าหาทำความรู้จักมั่วซั่วได้ไหมมึง หาแต่เรื่อง สเน่ห์อะไรของมึงถึงดึงดูดผู้เข้ามานัก อิม็อบนั่นก็อีก สมควรให้อิเก้อมันด่า นี่ถามจริง มึงไม่รู้จริงๆหรอว่ามันชอบมึง”



ไอ้หยีที่พูดออกมาแบบใส่อารมณ์ ท่าทางของมันที่เหมือนแม่ที่กำลังด่าลูกที่ไม่ได้ดั่งใจ เห็นแล้วอยากยกมือไหว้มากๆเลยครับ ผมยิ้มออกมานิดๆตอนที่ได้เห็น



‘แปะ’



“โอ๊ย ไอ้หยีกูเจ็บนะ” ยกมือขึ้นลูบหัวตัวเองทันที แม่งตบลงมาแบบเน้นๆไม่ออมแรงเลย เขาสั่นครับ



“มันน่าไหม ยิ้มหาพ่อมึงหรอคะ นี่นะๆ กูอยากจะโทรไปฟ้องพี่ดาบมากๆพูดเลย”



“มึงนี่ดูแลดีเกินหน้าที่มากๆเลยนะ ปัดโถ่เอ้ย”



“ไม่ได้หรอก พี่ดาบซื้อกูด้วยBalenciagaเลยนะมึง กูต้องทำเต็มหน้าที่”



“โถ่เอ้ย กูก็นึกว่าห่วงกูด้วยใจ” ผมแกล้งเบ้หน้าใส่ อีกคนก็จ้องตาถลึงใส่กันทันที



“กูก็ห่วงมึงไหมล่ะ กูพูดตรงๆเอม กูว่าอิน้องม็อบนี่แม่งแปลกๆนะ”



“เรื่องมันชอบกู จริงๆกูก็คิด แต่บางมุมมันก็เหมือนแค่รุ่นน้องทั่วๆไปที่อยากสนิทกับรุ่นพี่”



“มันชอบมึงค่ะอิเอม คิดเข้าข้างตัวเองบ้างอิควาย”



“อย่ามาด่ากูควายนะ มึงชื่อดาบหรอห๊ะ”



“แหม กูอยากจะเบ้ปากใส่ อะไรๆก็พี่ดาบ อะไรก็ผัวอ่ะเนอะ เค้าเรียกควายก็ยังพออกพอใจนะมึงเนี่ย”



“แน่นอน ก็ควายของพี่มันแปลว่าน่ารักนี่หว่า” ตอบมันออกไปแบบนั้น ทำหน้าภูมิใจพร้อมๆกับยักคิ้วอีกสองทีส่งไปให้ ไอ้หยีที่กรอกตาใส่พร้อมเบ้ปากมาให้ บางทีผมก็สงสัยนะครับ เราเป็นเพื่อนกันใช่ไหม เราไม่ได้เกลียดกันอ่ะเนอะ



“กลับมาเรื่องอิม็อบ มึงอยู่ให้ห่างมันเอม กูรู้นิสัยมึงดี มึงขี้เกรงใจขี้สงสาร แต่กับบางคนมึงไม่ต้องไปสงสารมันหรอกถ้ามันจะทำให้มึงมีปัญหา มึงไม่ได้โง่ มึงต้องรู้สิวะว่ามันคิดยังไง”



“ขอบใจมากนะป้า ครั้งหน้ากูว่ากูจะพูดกับมันตรงๆว่ากูมีแฟนแล้ว”



“ดีค่ะ เพราะถ้าพี่ดาบหลุดมือมึงไป กูก็คิดไม่ออกแล้วว่าจะมีควายที่ไหนหลงมาหามึงอีกแล้วนะกูพูดเลย”



“สัดป้าหยี”



“รักกกก รักหนูลูก”



“หึ่ย”



“อะๆ ไม่โมโหๆ มากินหญ้าตรงนี้มาๆ” เด็ดหญ้าขึ้นมาให้กูด้วย ได้แต่ส่ายหน้าระอาใจส่งไปให้ ก่อนจะขอตัวแล้วเดินหนีมันออกมา ตั้งใจว่าจะเดินไปทางที่มองเห็นไอ้อิฐ ผมมั่นใจมากๆว่าก่อนหน้านี้เห็นไอ้อิฐ



‘ครืดๆ’



มือถือของผมสั่นในตอนที่กำลังเดินออกไปแถบๆโซนที่เต้นท์พวกปีหนึ่งอยู่ พอหยิบมือถือขึ้นมาดูก็ได้แต่ยิ้มออกมากว้างๆเลยในตอนนี้



“ฮัลโหล สองโหลยี่สิบสี่จ้า”



((รับโทรศัพท์ไม่เหมือนใครเลยนะมึงเนี่ยอิหนู))



“แน่นอน เพราะคนแบบไอ้เอมน่ะมีคนเดียว คิดถึงกันหรอครับคุณแด็ป”



((แด็ปที่หน้ามึงค่ะหนู แต่ใช่ พี่คิดถึงจังเลยครับน้องเอม)) 



ปลายสายที่พูดออกมาแบบนั้น ลงท้ายประโยคด้วยเสียงทุ้มๆนุ่มๆแบบที่ปกติไม่ได้ชอบทำ แล้วมันยังไงนักวะ ที่พอแค่ได้ยินก็รู้สึกร้อนหน้าแบบแปลกๆ มุมปากผมกระตุกขึ้นเองแบบห้ามไม่อยู่ ยิ้มออกมากว้างๆแบบห้ามกันไม่ได้เลยทีเดียว สุดท้ายผมก็เลยต้องเดินไปนั่งลงบนขอนไม้ใกล้ๆ ไม่ไกลจากผู้คนมาก แต่ก็เงียบพอที่จะได้ยินเสียงของอีกฝ่ายได้ชัดขึ้น



((น้องเอมเขินหรอครับ หื้ม))



“พี่...”



((ว่าไง))



“พี่ช่วยกลับไปเป็นอิเจ๊พี่มึงทีเถอะ ผมว่าแบบนี้ผมไม่ไหวว่ะ” บอกมันออกไปแบบนั้น ได้แต่ยกมือกุมแก้มตัวเองเอาไว้แบบห้ามไม่อยู่ มึงอย่ายิ้มไปมากกว่านี้ได้ไหมวะไอ้เอม



((หึ อะไรกันวะ ใครมันบอกว่าอยากได้พี่ดาบไง พอตอนนี้มาเรียกหาดานี่ มึงจะเอายังไง))



“กูเขิน พี่ดาบอะไรทำไมแม่งเป็นงี้วะ ไม่ไหวเลยว่ะ ผมว่าผมไม่ไหว”



((กูจะบอกอะไรให้นะหนู...))



“หื้ม



((...ไม่ว่ากูจะเป็นตุ๊ดออกสาว หรือกูจะเป็นอะไร ทั้งหมดมันก็คือกู ... กูที่เป็นแค่คนๆนึง ที่แค่รักมึงแค่คนเดียว...))



“พี่...”



อยู่ๆก็รู้สึกพูดไม่ออกมาซะแบบนั้น เป็นความรู้สึกที่ว่า ถ้าตอนนี้มันอยู่ตรงหน้าผมคงดึงมันมากอดไว้แน่นๆแล้ว ไอ้หยีพูดถูก ว่าหมดจากพี่ดาบผมคงหาใครที่ดีกับผมแบบนี้ไม่ได้แล้ว และไอ้เก้อเองก็พูดถูก ว่าสำหรับผม มันก็ต้องเป็นแค่คนนี้คนเดียวจริงๆ



“ขอบคุณอะไรก็ตามที่ทำให้ผมเจอพี่นะ”



((งั้นก็ขอบคุณความเมากูไหมคะ วันนั้นที่ร้านนั้นที่มึงทำงานน่ะค่ะ เราเลย อิอ๊ะๆ กรี๊ดดดด เอดอก แค่นึกถึงก็เสียวไข่วูบวาบ หน้าแดงหมดเลยค่ะ เขินๆ))



เสียงสองที่กลับมาพร้อมๆกับเสียงกรี๊ดที่ดังแบบไม่บอกไม่กล่าว กูตกใจจนต้องดึงหูโทรศัพท์ออกให้ห่าง เสียงแหลมมากจนแก้วหูกูทนไม่ได้ ถอนหายใจออกมาหน่อยนึง อยากกรอกตาใส่ครับ แต่จริงๆผมเองก็แอบคิดถึงท่าทางแบบนี้ของมันนะ โคตรน่าหมั่นไส้



“นี่พี่อยู่ในงานหรอ”



((ใช่ค่ะ เบื่อมากๆ))



“พี่แต่งตัวยังไง แต่งหน้าเกินไปหรือเปล่า”



((หวง กลัวกูจะสวย))



“กลัวคนในงานตกใจ”



((ถ้ามึงอยู่ใกล้กูจะตบด้วยปากกระชากด้วยลิ้นกูลงโทษมึงค่ะน้องเอม พูดเลย))



“ฮ่าๆ พี่มึงนี่นะ ... ถ้าอยู่ใกล้ตอนนี้ผมก็จะยอมให้พี่ลงโทษเลย” บอกออกไปแบบนั้น ท้าทายครับ เพราะอะไร เพราะมันโผล่มาที่นี่ไม่ได้น่ะสิ ฮ่าๆๆ อยู่ใกล้ใครจะสู้มันได้ครับ ระดับกระเทยปลอมแบบนั้นน่ะ



((ฮึ่ม กูจดไว้แล้ว กลับมามึงเจอกูแน่เอม)) 



((ว่าแต่วันนี้มีอะไรจะเล่าไหม)) อยู่ๆเสียงอีกฝ่ายก็เปลี่ยนไปซะแบบนั้น และอยู่ๆกูก็รู้สึกขนลุกชูชันขึ้นแบบไม่ทราบสาเหตุด้วยเหมือนกันครับ เอ่อ....อะไรหว่า



“เรื่องอะไรอ่ะ วันนี้มาถึงผมก็เลื่อยไม้เลยเว้ยพี่ เป็นไง เท่ป่ะล่ะ ตอนเย็นก็มาหาไรกิน อาบน้ำในห้องน้ำสังกระสี แต่น้ำเย็นมาก แต่ถึงจะสังกะสีก็ไม่มีใครมาแอบดูนะ บอกไว้เลยหายห่วง”



((หรอ...มันไม่แอบดูมึงอาบน้ำ ก็เพราะว่าแม่งเล่นตามมึงทุกก้าวอยู่แล้วไม่ใช่หรือไงคะหนู)) สัด! ขนลุกชูชัน



เสียงของอีกฝ่ายที่นิ่งๆ ไม่ได้ล้อเล่นเหมือนก่อนหน้านี้  ขนาดไม่ได้อยู่ด้วยกันตรงหน้าก็ยังรู้เลยว่ามันจะทำหน้ายังไง ... ใคร ใครบอกมึงพี่ หรือไอ้หยีวะ



“พี่...”



((ใช่ไหม อย่าโกหกกู))



“คือ...มันก็ใช่ แต่ผมไม่ได้คิดอะไรนะพี่ดาบ”



((มึงไม่คิดแต่มันคิด เอาจริงๆกูรู้ว่ากูไม่มีเหตุผลที่จะบอกให้มึงอย่าใกล้มัน แต่กูก็อยากบอกว่ะ เอมกูหึง เอาไอ้หัวไม้ถูพื้นนั่นไปไกลๆ อย่าให้กูทนไม่ไหวแล้วต้องรุนแรงกับมันนะ))



ผมยิ้มออกมาในตอนที่ได้ยินมันพูดแบบนั้น พี่ดาบมันเป็นแบบนี้ตลอดเลย เป็นผู้ชายน่ารักที่มีวุฒิภาวะมากกว่าผม มันพยายามให้เหตุผลกับผมเสมอ แต่แน่ล่ะ บางเรื่องเราคงมีเหตุผลไม่ไหวหรือเปล่า ใครจะทนได้วะ เหมือนที่ผมไม่ทนเวลาเจอพาพวยไง



“เอมขอโทษนะที่คิดง่ายๆ”



((กูรู้จักมึงดีเอม แต่ไอ้เหี้ยนั่น ดีดแม่งออกไปไกลๆ แล้วอย่าไปแดกมันขอมันนะ ขยะ))



“เดี๋ยวนะ พี่มึงรู้เรื่องนี้ได้ไงอิเจ๊พี่มึง”  ผมขมวดคิ้วเลย เรื่องมัน มันพึ่งเกิดขึ้นก่อนหน้านี้เองนะ แล้วยังไง ... กูว่าชัวร์ละ ชัดๆเลยไอ้แม่ย้อย



((เรื่องกูค่ะหนู ส่วนมึง กลับมาเจอกูลงโทษแน่ไอ้ควายน้อย))



“หึ่ย พี่มึงมันร้ายนัก”



((ร้ายอะไรกันอ่ะคะ สวยไม่เข้าใจ นี่นางเองนะรู้ยัง สวยมากๆพูดกันตรงนี้ แป๊บนะ เจ๊ขอเติมปากก่อน มั้ว~~))



ไม่ว่าเปล่า ยังทำเสียงเหมือนเวลาผู้หญิงทาลิปเสร็จแล้วชอบเม้มปากประกบกันแล้วทำเป็นเสียงเหมือนจูบใส่ผมอีก มันกวนตีนกันตลอด



“พี่แม่ง”



((แม่งอะไรครับเอม))



“แม่งน่ารักวะ เอมรักพี่น้า”



((สัดเอ้ย ใจกูจะวาย คืนนี้กูต้องไปสีหมอนแล้วว่ะเอม))



“ทุเรศว่ะพี่แม่ง อย่าเอากางเกงในกูไปดมนะ บ็อกเซอร์ก็ไม่ได้กูหวง พูดเลย”



((นี่มึงเห็นกูเป็นคนยังไงวะ ... ขอแค่หมอนกลิ่นมึงจะได้ไหม นะ))



“โว้ยย พี่แม่ง”



((ฮ่าๆ คิดถึงมึงว่ะเอม นี่กูอยู่ในงานแต่หลบพ่อกับแม่มา น่าเบื่อฉิบหาย ใกล้จะเริ่มงานละ))



“โอเคครับ พี่ไปเถอะ พรุ่งนี้ผมก็กลับแล้ว แล้วเราค่อยเจอกันนะ”



((โอเคเลยครับ งั้น ... ดานี่ แอบมาอยู่นี่เอง ...))



ดานี่...



“หื้ม เสียงใครวะพี่ดาบ” ผมขมวดคิ้วทันทีในตอนที่ได้ยินเสียงของใครอีกคนแทรกเข้ามา เป็นเสียงที่พูดตรงๆเลยว่า ขนาดหลับฝันผมก็ยังจำได้แม่น



((เอม เดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะ ไว้เจอกันนะคะควายน้อย))



“เดี๋ยว พี่ดาบ เดี๋ยวมึง...”



‘ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ดดด’



สายถูกตัดไปแล้วทั้งแบบนั้น ผมได้แต่ก้มลงมองมือถือที่หน้าจอกลับไปเป็นสีดำสนิทเพราะปลายสายวางไปแล้วจริงๆ อยู่ๆหัวใจของผมก็เต้นแรงขึ้น วันนี้พี่มันไปงานกับที่บ้านของมัน ผมรู้เรื่องดีเพราะพี่มันมาเล่าให้ฟังแล้ว แต่ที่ไม่รู้เลยก็คือว่า ในงานวันนี้มีพาพวยไปด้วย ทำไมมันไม่บอกผม ...



และเพราะอะไรถึงต้องวางสายไปแบบนั้นโดยไม่อธิบายอะไรกับผมสักคำแบบนั้น



อยู่ๆมือก็ชื้นเหงื่อขึ้นมาแปลกๆ อยากจะโทรกลับไปถาม อยากจะได้คำตอบออกมาเดี๋ยวนี้ แต่ผมรู้ดีว่าถึงทำแบบนั้นไปก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร เพราะถ้าพี่มันตั้งจะบอก มันคงไม่เลือกจะวางสายไปแบบนั้น



ได้แต่กดปลดล็อคมือถือแล้วเข้าแอพไลน์ ตรงเข้าไปกดเข้าไปในห้องแชทของคนที่อยู่บนสุดเสมอเพราะปักหมุดเอาไว้



[[เอม: ผมเชื่อใจพี่นะ...แต่กลับไป]]



[[เอม: มึงกับกูมีเรื่องต้องคุยกันอิเจ๊!]]



“สัด น่าโมโหจริงๆเลยเว่ย”  เก็บมือถือลงไปไว้ในกระเป๋ากางเกง ลืมไปแล้วว่าจริงๆตั้งใจจะเดินออกมาที่นี่ทำไม ในหัวของผมมีแต่เสียงของพะพายที่แทรกเข้ามา ผมอยากรู้เรื่องราวทั้งหมด อยากรู้ว่าทำไมพาพวยถึงไปอยู่ตรงนั้น แล้วมันเพราะอะไรอิเจ๊พี่มันถึงปิดกูแบบนี้! แค่คิดก็ไฟลุกแล้วกู แม่ง!



          เดินสับขากลับมาทางที่จะไปที่เต้นท์ของพวกปีสอง คิดว่าอยู่แบบนี้กูคงจะงุ่นงานไม่เลิก กลับไปนอนน่าจะดีกว่า เต้นท์ถูกแบ่งแยกระหว่างชายหญิง นอนเต้นท์ละ4คนครับ เพราะงั้นไอ้หยีเลยไปนอนกับพวกผู้หญิงในรุ่น เต้นท์ผมมีผม ไอ้เก้อ และเพื่อนในรุ่นที่รู้จักกันอีก2คน



ระหว่างทางเดินที่จะกลับไป บังเอิญไปเห็นเงาตะคลุ่มๆบางอย่าง เหยดแม่ ผีหลอกกูแล้วสัด คาถาอะไรดีในจุดๆนี้ ... ในตอนที่กูตั้งใจจะหันหลังวิ่ง ก็ต้องชะงักขาเพราะความเสือกสะกดเอาไว้



“ปล่อยกูพี่เก้อ มึงไม่มีสิทธิ์มาลากกูแบบนี้นะ มึงนึกว่าถ่อยแล้วเท่หรอวะ”



“แล้วไงอ่ะ กูไม่มีสิทธิ์แล้วใครมี ไอ้เด็กเหี้ยคณะอื่นคนนั้นหรอวะ”



“มึงเป็นบ้าอะไรของมึงวะ ไอ้อิฐมันเพื่อนผม ส่วนพี่ก็คือพี่ผม ผมว่าเราคุยกันจบไปแล้วนะ”



“มึงจบแล้วกูบอกว่าจบหรอสัด มึงพูดๆจบแล้วก็ไป ฟังกูพูดสักคำไหมวะ”



“ไม่ต้องฟังกูก็เข้าใจว่ะพี่ ไม่ว่าตอนไหน เรื่องของเราก็ต้องจบอยู่ดี จะวันนี้พรุ่งนี้ก็ต้องจบ มึงมาเอากูแทนไปเรื่อยๆมันทำให้มึงเลิกรักพี่เอมหรอวะ”



“กูไม่ได้เอามึงแทนเอม ฟังกูบ้างสิวะไอ้เสือ!”



เสือ!!!



เสืออออออออ



น้องเสือหรอวะ!!!



กูนี่อ้าปากค้างอยู่กลางทางข้างต้นไม้ใหญ่เลย เหยดแม่ อยากกรี๊ด ไอ้เก้อไอ้เสืออะโบ๊ะจะม๊ะป๊ะเท่งป๊ะกันจริงๆ นี่มันอะไร เมื่อไหร่กันวะ



“ฟังนะพี่มึง ขอบใจที่มึงบอกว่าไม่ได้เอากูแทนใคร แต่มึงไม่ได้รักกู ต่อให้ไม่มีกู มึงจะไปเอาใครก็ได้”



“แต่กูไม่ได้อยากเอาใครก็ได้!”



อ๊ากกก กูอยากกรี๊ด อิเก้ออิเหี้ย มึงพูดขนาดนี้ มาขนาดนี้เลยนะเพื่อน ... ผมมองเห็นไอ้เก้อที่ทำหน้าเครียด มันที่จับมือของไอ้น้องเสือเอาไว้ไม่ปล่อย ดูทรงแล้วจะทะเลาะกันแน่ๆ



“พอเหอะว่ะพี่ อย่าทำแบบนี้กับผมเลยว่ะ”



“กูทำอะไรให้มึงทรมานมากหรอวะมึงถึงมาบอกให้เราจบกันแบบนี้อ่ะ”



“แล้วเกมส์นี้มันแฟร์กับกูหรอวะไอ้สัด มึงที่ปล่อยให้กูรู้สึกอยู่ฝ่ายเดียวแต่ตัวเองไม่รู้สึกเหี้ยอะไร แฟร์กับกูหรอสัดเก้อ เกมส์ที่เล่นแล้วไม่มีเส้นชัยกูจะเล่นต่อไปทำเหี้ยอะไรล่ะ!”



น้องเสือที่พูดรัวๆออกมาแบบนั้น มันที่ตะโกนออกมาเสียงดังแบบไม่สนใจอะไร หรือถ้าพูดจริงๆผมคิดว่าพวกมันสองคนคงไม่ได้คิดว่าจะมีใครมาแอบฟัง ถ้าไม่เป็นเพราะผมโมโหมากเกินไปก็คงไม่เดินมาไกลขนาดนี้



“มึง...เสือ...... มึงหมายความว่า....”



“อย่าแกล้งโง่ มึงไม่ได้โง่ไอ้เก้อ มึงรู้ว่ากูรู้สึกยังไง เลิกเล่นกับใจกู แล้วกลับไปตามหาใจมึงที่มึงต้องการเหอะ มาอยู่กับกูก็ไม่ได้อะไรนอกจากทำให้ใครอีกคนแบบกูยิ่งรู้สึกเสียใจก็แค่นั้น ถ้ายังเห็นกูเป็นน้องแบบที่มึงว่า ก็ปล่อยกูไปซะ”



น้องเสือมันพูดจบแค่นั้น มองจากตรงนี้ผมเห็นน้องมันน้ำตาไหล มันที่เป็นเด็กที่ดูเข้มแข็งมากๆจากหลายๆครั้งที่เคยเจอกัน เป็นเด็กที่ดูกล้าได้กล้าเสียและร่าเริง ไม่เคยคิดเลยว่าพอมันร้องไห้แล้วจะดูน่าสงสารมากขนาดนี้ ... ตาน้องมันสวยครับ



น้ำตาที่ไหลลงมาจากดวงตาคู่นั้น มันไม่สะอื้นสักนิด แค่มองตรงไปที่ไอ้เก้อที่ตอนนี้ยืนทำหน้าอึ้งแบบพูดอะไรไม่ออก มันที่ได้แต่ค่อยๆปล่อยมือเรียวคู่นั้นของน้องออกช้าๆ น้องเสือที่ไม่ได้เช็ดน้ำตาตัวเองแต่ทำแค่กลับหลังหันแล้วเดินหนีออกไป ไอ้เก้อที่ยืนทำหน้าโง่มองตามน้องไปอยู่แบบนั้น พูดตรงๆจากสายตาคนนอกแบบผม ผมไม่เคยเห็นไอ้เก้อมองใครแบบนั้น แม้แต่ผมเองมันก็ไม่เคยใช้สายตาแบบนั้นครับ



“กู...ขอโทษ”



มันที่พูดเบาๆแล้วก้มหน้าลงมองเท้า พื้นดินตรงหน้าของมันเป็นดวงลงมาในตอนนั้น เห็นแบบนั้นแล้วผมได้แต่เบิกตากว้างแล้วยกมือขึ้นปิดปาก ... ไอ้เก้อร้องไห้



“ไม่รู้สึกแล้วเสียใจทำเหี้ยไรวะ หึ ตลกว่ะไอ้สัดเก้อ”



เออ ตลกจริง ไอ้เพื่อนโง่ ไม่รู้สึกก็เหี้ย กูมองจากยอดดอยอ่างขางก็มองออกว่ามึงชอบน้องเสือ สาดดดดดด



‘สวบสาบ’



เสียงพุ่มไม้ด้านหลังผมขยับ ทำให้ต้องหันไปมอง ก่อนจะตาเบิกกว้างขึ้นเมื่อเห็นใครอีกคนยืนอยู่ตรงนั้น บนหัวของมันมีกิ่งไม้ปักอยู่ เราสองคนมองสบตากันแล้วได้แต่ถอนหายใจออกมาหนักๆ



“สมแล้วที่เราเป็นเพื่อนกัน”  ไอ้หยีทำปากว่าออกมาแบบนั้นเบาๆ



นี่มันอะไรกันวะ ... รวมพลคนเสือกหรอเนี่ย เจ็บไข่จริงๆเลยโว้ย!





--------------To be continued------------



มาแล้วค่ะ มาลงแล้วเช่นเดิม ... สำหรับตอนนี้แคทขอสารภาพว่าเขียนภายในวันนี้วันเดียวแล้วเอามาลงเลย

เพราะตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมาแคทไม่ได้แตะงานเลยค่ะ อย่างที่คนอ่านบางท่านได้เห็นที่แคทโพสไปในเพจเมื่อต้นอาทิตย์

ความคิดที่ว่าอยากปิดเรื่องพี่ดาบไปเป็นความจริงค่ะ มันเป็นความรู้สึกที่วูบๆวาบๆเข้ามาตลอดตั้งแต่เขียนเรื่องนี้มา

พูดตรงๆว่าแคทไม่เคยร้องไห้กับคอมเม้นท์ของคนอ่านเลยตั้งแต่เขียนหนังสือมา แต่เขียนเรื่องนี้เป็นครั้งแรกเลยที่ร้องไห้

แคทต้องขอโทษจริงๆที่งานเขียนของแคทมันยังดีไม่พอ ตอนแคทวางพล็อตแคทก็ตั้งใจอยากให้มันเป็นนิยายสนุกๆ

แต่พอเขียนไปเขียนมาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมมันถึงไม่สนุก เนื้อหามันถึงมีแค่นี้ ประเด็นมันเอื่อย นายเอกงี่เง่าและต่างๆนา

ทั้งหมดนั่น แคทขอโทษจริงๆค่ะ แคทขอโทษจริงๆนะที่วางและเขียนออกมาแบบขาดอะไรหลายๆอย่าง

และทั้งหมดทั้งมวลนี้ แคทต้องขอบคุณคนอ่านหลายๆท่านที่ทักทายเข้ามา มาให้กำลังใจ รวมถึงความห่วงใยที่มากมายจนแคทไม่รู้ว่าแค่ขอบคุณมันพอไหม

ขอบคุณทุกๆท่านที่ส่งกำลังใจเข้ามามากๆค่ะ แคทได้อ่านมันทั้งหมดเลย แต่ขอโทษที่อาจจะยังตอบไม่ครบ

ขอบคุณคนอ่านทุกๆท่านที่อยู่ด้วยกัน และชื่นชอบงานของแคทที่มันไม่ดีเท่าไหร่ ขอบคุณกำลังใจ และคำติชมมากมายที่มอบให้กัน

ต่อจากนี้แคทก็ยังจะพยายามมากๆต่อไปค่ะ ... เพราะแบบนั้น ในวันนี้เลยมาลงตอนนี้ต่อ ถึงมันอาจจะไม่ดี แต่แคทก็ยังหน้ามึนเขียนต่อไปนะคะ



ขอบคุณ และ ฝากรักเรื่องนี้ไม่มากก็น้อยด้วยนะคะ


 :pig4:


หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่37 {27/06/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 28-06-2020 00:23:32
 :katai2-1: สมเป็นเพื่อนกันจริงๆ นุ้งเอม นุ้งหยี
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่37 {27/06/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 28-06-2020 07:13:17
ไปจ้าาา อิพี่เก้อไปตามง้อน้องด่วนๆจ้าาาาา
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่37 {27/06/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 28-06-2020 10:12:10
ชอบองค์พี่ดาบที่ทำให้น้องเอมเขินอ่ะค่ะ.  o18  แต่เรื่องพาพวยและน้องหัวไม้ถูพื้นจะเคลียร์กันยังงัยนะ 555

ส่วนอีกคู่ คงเหลือแต่อิพี่เก้อหาใจตัวเองให้เจอเร็วๆ นี้นะ


เป็นกำลังใจให้คุณแคทนะคะ ถ้าเหนื่อยก็พักก่อนก็ได้ สบายใจแล้วค่อยกลับมาเขียนใหม่ก็ได้ค่ะ    :3123:

หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่37 {27/06/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 30-06-2020 08:50:54
รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่38 {04/07/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 04-07-2020 21:03:14

บทที่38




“อิเอมมมมม กูบอกมึงแล้วใช่ไหมคะอิลูกว่ามันมีเงี่ยนงำๆๆๆ”



“กูก็ไม่คิดว่ามันจะจริง”



“มันจริง มึงรู้ กูรู้ คนอ่านรู้ เค้าเงี่ยนงำกัน”



“คนอ่านอะไรของมึง บอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้อ่านนิยายมาก”



“เอ๊ะ เรื่องกู เสือกเพื่อ อย่าให้เห็นว่ามึงมายืมกูอ่านนะอิหนู”



“หยอก แค่นี้ก็ต้องโกรธด้วย ... ว่าแต่เรื่องไอ้เก้อกับน้องเสือนี่ยังไงดีวะ” ผมทรุดตัวลงนั่งบนขอนไม้ไม่ใกล้ไม่ไกลจากแถวๆโซนเต้นท์ที่พัก นั่งกันอยู่สองคนกับไอ้หยี ไม่ใกล้ไม่ไกลถัดจากเราไปมีกองไฟที่ถูกจุดให้แสงสว่างอยู่ ได้ยินเสียงกัต้าร์ดังเอื่อยๆมาจากที่ไกลๆที่พวกปีหนึ่งยังนั่งเล่นกันอยู่



“จะให้ทำยังไงได้ล่ะคะ เรื่องแบบนี้มันก็ต้องเป็นคนสองคนช่วยกันแก้ไหมอ่ะ จะให้กูไปจับKสองคนมามัดเข้าหากันก็ไม่ได้ไงอิลูก”



“มึงพูดเรื่องอะไรของมึงเนี่ยป้า โว๊ะ ... แต่ว่านะ กูว่าไอ้เก้อชอบน้องมันว่ะ แต่แค่โง่”



“เบื๊อเบื่อ ความโง่ของพวกคนมีความรักเนี่ย บางเรื่องล่ะฉลาดนัก ที่งี้ยืนมึน คิดว่าเป็นพระเอกละครมั้งคะ หน้าโง่ นี่ถ้าหนทางของการมีผัวมันลำบากขนาดนี้นะคะ กูขออยู่คนเดียวสวยและรวยมากแบบนี้ดีกว่าค่ะ”



“เฮ้อ มันก็แบบนี้ไหมวะป้า คนเรามันก็มักจะโง่เรื่องของตัวเองเสมอล่ะ”



“ก็จริงค่ะ แต่เหตุการณ์เมื่อกี้คือกูอยากจะพุ่งไปตบหน้าอิเก้อสักฉาดแล้วบอก ตามสิอิควาย! ยืนโง่หาพ่อง”



“บางทีมึงก็อินเกินอ่ะหยี”



“อุ๊ย ลืมสงวนท่าทีของการเป็นเพื่อนนางเอกเรียบร้อยเลย” มันที่แกล้งเบิกตากว้างเหมือนตกใจแล้วยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองหน่อยๆทำเอาผมต้องถอนหายใจ



“มึงไม่เรียบร้อยมาตั้งแต่แรกแล้วป้า”



“สัด!”  ทำหน้าตึงใส่แล้วด่ากูมาอีกหนึ่งดอก เชิญเลยจ๊ะ เห็นกูเป็นสนามอารมณ์ด้วยกันทั้งหมด



“แต่ว่าก็ว่านะป้า น้องเสือก็พูดออกมาซะขนาดนั้นแล้วอ่ะ ไอ้เก้อแม่งยังไม่เข้าใจอีกหรอวะ” หันไปถามไอ้หยีที่ถอนหายใจออกมาเสียงดัง มันหันมามองหน้าผมนิดๆก่อนจะพูดต่อ



“กูว่ามันก็คงรู้แล้วแหล่ะว่าน้องเสือคิดไงกับมัน มีแต่มันนั่นแหล่ะที่ยังหลอกตัวเองอยู่”



“หลอกเรื่อง”



“เรื่องว่ามันชอบมึงอยู่”



“Kจ้า ถ้าชอบกูแล้วจะไปมีไรกับน้องเสือได้ไง สาด มโนยิ้ม” ผมที่สะดุ้งแรงตอนได้ยิน แล้วแหกปากออกมาเสียงดังจนไอ้หยียกมือมาตีแขนแรงๆ แสบสัดๆ นี่มือหรือฝ่าเท้า



“ก็มันชอบมึงมาตั้งนาน อยู่ๆปุบปับจะยอมรับว่าเปลี่ยนใจไปชอบอีกคนมันก็คงไม่ใช่ไหมวะ กูว่าตอนนี้มันก็คงสับสนอยู่แหล่ะ”



“ไอ้เก้อแม่งก็เป็นแบบนี้ตลอดนั่นแหล่ะป้า มันแม่งไม่เคยจะกล้าลุยสักที เหมือนตอนที่มันบอกว่าชอบกูมันก็เลือกจะไม่ทำอะไร แล้วถ้าตอนนี้มันยังทำแบบนั้น กูว่าน้องเสือก็คงไปจากมันจริงๆนั่นแหล่ะ”



“ถ้าแบบนั้นก็สมควร แต่กูว่านะ มันไม่ปล่อยน้องเสือไปหรอก ดูทรงแล้วจะเจอคนที่ทำให้มันรู้สึกได้จริงๆแล้วแหล่ะค่ะ” ไอ้หยียักคิ้วไปพร้อมๆกับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ มันค่อนข้างจะดูชอบอกชอบใจเป็นพิเศษ



“นี่มึงแฮปปี้อะไรอ่ะป้า”



“กูชอบน้องเสือ”



“ของเพื่อนไหมล่ะ ทำไมมึงเป็นคนแบบนี้”



“เอ๊ะ ไม่ได้อยากให้มาเป็นผัวกูค่ะอิลูกควาย สติ กูแค่ชอบน้องเสือ รู้สึกว่าเป็นมวยถูกคู่ที่มาเจอกับอิเก้อ กูว่าน้องเสือมันเอาไอ้เก้ออยู่นะ หลังๆมานี่แม่งก็มาเรียนตลอดและก็ไม่ค่อยไปเที่ยวมั่วๆ กูมั่นใจว่ามันขลุกอยู่กับน้องมันค่ะ”



“เฮ้อ หวังว่ามันจะลงเอยด้วยดี กูว่าคนเรามันรับความพังในชีวิตได้ไม่บ่อยนักหรอก”



“มึงก็ด้วย มึงก็คนอีกคนที่รับความพังได้ไม่บ่อยเหมือนกันเอม” มันที่เปลี่ยนเรื่องพูดจากเรื่องไอ้เก้อ หันมามองหน้าผม สายตาของมันที่กำลังบอกผมว่าเป็นห่วง พอเห็นมันเป็นแบบนั้นแล้วก็ต้องยิ้มออกมา



“มึงรู้ไหมป้า ถ้ากูชอบผู้หญิง ผู้หญิงที่กูรู้สึกว่าอยากจะแต่งงานด้วยก็เป็นมึงล่ะ”



“กรี๊ดดด  นี่คือการสารภาพรักกับกูหรือเปล่าคะ ทำไงดี ตายแล้วพี่ดาบ ขอโทษจริงๆที่ความสวยของหยีทำให้เมียพี่ไขว้เขว”



“ตั้งสติก่อนนะมึง เลิกหลงตัวเองก่อน คือพอดีว่ากูชอบผู้ชายไง”



“จบอิดอก อิตัวทำลายความฝันของสาวน้อย” เบะปากใส่ผมทีนึงแล้วเอื้อมมือมาผลักหัวกันแบบแกล้งๆ



“แต่ขอบคุณมึงนะป้า อันนี้กูพูดจริง มึงแม่งเป็นเพื่อนที่ดีมากๆของกูเลย”



“ไม่เป็นไรน่า มึงก็เป็นเพื่อนที่ดีของกูเหมือนกันค่ะ ตอนปีหนึ่งที่เข้ามาเพราะกูซิ่วก็ไม่ค่อยมีใครจะกล้าเข้าหาหรอก มีแต่มึงอ่ะค่ะที่มาคุยกับกู เรื่องนี้ก็ทำกูซึ้งมากๆนะคะอิลูก”



“จริงๆตอนนั้นกูแค่อยากยืมปากกา”



“บางทีกูก็อยากแช่งมึงให้พี่ดาบมีเมียน้อยแม่ง กวนตีนกูจัง” ไอ้หยีว่าออกมาแบบนั้น แต่คำนั้นกับทำผมชะงักนิดหน่อย ไอ้เสียงที่ได้ยินผ่านปลายสายมาก่อนหน้านี้กลับมาสะกิดใจของผมอีกแล้ว



“เป็นอะไร ทำไมทำหน้างั้น ... อย่าบอกว่าคิดมากนะคะ โหยยยไอ้น้องเอม พี่ดาบรักมึงจะตายจะมีเมียน้อยห่าไรอ่ะคะ”



“แล้วถ้ามันมีล่ะวะป้า” เงยหน้าขึ้นไปมองหน้าไอ้หยีแบบขอความเห็น ... เพราะคนเรามันก็มักจะโง่ที่สุดตอนเรื่องของตัวเอง



“ทำไมมึงพูดแบบนั้น มีอะไรวะ” ไอ้หยีที่หรี่ตาลงแล้วมองหน้ากันแบบกดดันให้เล่า ได้แต่เม้มปากชั่งใจนิดหน่อย แต่สุดท้ายผมก็เล่าเรื่องเมื่อก่อนหน้านี้ที่ได้ยินในโทรศัพท์ทั้งหมดให้มันฟัง



“มึงคิดว่าเป็นพี่พาย”



“กูจำเสียงเค้าได้ จริงๆนะมึง”



“เฮ้อ กูล่ะไม่เข้าใจพี่เค้าจริงๆเลยว่ะ เหมือนเป็นเจ้ากรรมนายเวรอ่ะมึง ไม่ไปผุดไปเกิดสักทีอิห่า ตามมึงกับพี่ดาบเหี้ยอะไรนักอ่ะ อารมณ์เหมือนกอลัมใน the lord of the ringsงี้หรอวะ ของรักของข้า ข้ามาทวงของข้าคืน โถ่ อิผี เค้าไม่เอามึงแล้วรึป่ะงงอะไรเอ่ย”



ไอ้หยีที่ว่าออกมาแบบนั้นรัวๆ มันที่เขวี้ยงกิ่งไม้ออกไปไกลๆจนกระทบกับพุ่มไม้ไม่ใกล้ไม่ไกลด้วยความหงุดหงิด หันมองตามไปเห็นพุ่มไม้ตรงนั้นสั่นจนโยก แรงขนาดนั้นเลยหรอวะ



“มึงจะยอมหรอคะอิเอม อิลูกไหนตอบให้กูชื่นใจสิ”



“ก็เหี้ยดิป้า เรื่องอะไรกูจะยอมวะ นี่มันแฟนกูนะ”



“เหยด นี่ล่ะค่ะที่กูต้องการ มึงต้องสู้นะคะลูกกู”  ว่าแบบนั้นแล้วเอามือมาลูบหัวผมแบบถูกอกถูกใจ



“แต่กูก็ไม่เข้าใจ ทำไมพี่มันถึงไม่ยอมตอบอะไรกู ทำไมไปงานห่านั่นแล้วไม่บอกกูว่าต้องเจอพาพวยวะ” นี่คือเรื่องที่ผมสงสับมากที่สุด ถ้าพูดจริงๆผมเชื่อใจพี่ดาบ เพราะเค้าไม่เคยทำให้ผมไม่มั่นใจ แต่กลับอีกฝ่าย ผมไม่เข้าใจจริงๆว่าเค้าต้องการพี่ดาบมากมายขนาดนี้เพราะอะไร



“กูว่าพี่ดาบเค้ากลัวมึงคิดมากแหล่ะ”



“แต่ทำแบบนี้กูจะสบายใจหรอวะ ยุบยิบในใจจนกูอยากวิ่งกลับกรุงเทพเดี๋ยวนี้เลย แล้วแม่พี่มันก็ดูชอบพาพวยด้วยนะป้า มึงต้องเห็น เค้ามองกูเหมือนขี้”



“กูไม่คิดงั้นนะ กูไม่คิดว่าแม่พี่ดาบจะชอบพี่พายแบบนั้น คนหัวโบราณขนาดนั้น ไม่อยากให้ลูกชอบผู้ชายขนาดนั้น เค้าจะกันพี่ดาบออกจากมึงแล้วยกให้พี่พายเพื่อ มากสุดกูว่าเค้าแค่เชื่อพี่พายเพราะรู้จักกันมาก่อนมึงก็เท่านั้นแหล่ะ”



“แต่เค้าไม่ยอมเปิดใจให้กูเลยนะป้า แล้วเค้าจะมาชอบกูได้ยังไง” ก้มมองเท้าตัวเองแล้วได้แต่เอาตีนเขี่ยๆดินทรายเล่นอย่างใจลอย



“มึงไม่เหมือนไอ้เอมที่กูเคยรู้จักเลยนะ สู้หน่อยสิวะ ชีวิตที่ผ่านมาของมึงก็สู้มาตลอดไม่ใช่หรือไง”



“กูสู้มาตลอด ก็ใช่ว่ากูอยากจะสู้นี่หว่าป้า กูก็แค่พยายามให้ตัวเองไม่ตายเพราะกูไม่มีใครคอยปกป้องเลยก็แค่นั้นอ่ะ”



บอกมันออกไปแบบนั้นแล้วส่งยิ้มอ่อนๆไปให้มัน เป็นยิ้มที่ไม่ถึงตา ผมนึกถึงวันเก่าๆของตัวเอง ผมสู้กับญาติ ผมสู้กับป้า ผมสู้กับแฟนเก่าของผมเพื่อให้ตัวเองมีชิวิตรอดในวันต่อๆไป แต่สุดท้ายแม่งก็พัง แล้วสู้มาขนาดนั้นกูก็เหนื่อยแทบจะตาย ผมยังจำตอนที่จับได้ว่าแฟนเก่าผมมีอะไรกับญาติตัวเองได้ ผมร้องไห้ ผมขอร้องว่ามันเป็นเรื่องโกหกเพราะเค้าคือที่พึ่งเดียวของผม แต่สุดท้ายแม่งก็พัง



“อืม เพราะตอนนี้มึงมีพี่ดาบเป็นที่พึ่ง มึงเลยกลายเป็นแบบนี้ กูเข้าใจนะ จริงๆมันก็ดีตรงมึงดูมีชีวิตมากขึ้น กูรู้สึกมึงเด็กลงด้วย เหมือนมึงได้กลับมาใช้ชีวิตตามอายุจริงๆของมึง”



“เพราะแบบนั้นกูแม่งเลยดูไม่เข้มแข็งอีกเลย ยิ่งเหมือนควายเข้าไปใหญ่”



“งั้นตอนนี้ก็ต้องไฟท์แล้วไหมวะ ไฟท์กับแม่ผัว อิอ๊ะ....แต่กูเชื่อนะ ว่าถ้าเค้าได้รู้จักมึง เค้าจะชอบมึงเหมือนที่ใครๆก็ชอบ”



“กูก็หวังแบบนั้นนะ” เราส่งยิ้มให้กันในตอนที่ไอ้หยีพูดจบประโยคนั้น ก่อนที่ต่างฝ่ายต่างจะบอกลาแล้วหนีเข้าไปนอน ... ผมหวังว่ามันจะมีสักวันที่แม่พี่ดาบรู้สึกชอบผม แบบที่ไอ้หยีว่านะ



               เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว และชาวเราก็ช่วยกันสร้างโรงเรียน โรงอาบน้ำ และที่พักสำหรับเด็กๆกันได้เสร็จทันเวลา จนในที่สุดพวกเราทั้งสี่ชั้นปีก็ได้เดินทางกลับกรุงเทพ บรรยากาศขากลับแตกต่างจากขาไปลิบลับ ผมคิดว่าคงเป็นเพราะว่าเหนื่อยกัน บรรยากาศบนรถเลยเงียบมากกว่าปกติ



ผมหันหน้าไปทางเบาะหลัง เป็นไอ้เก้อที่นั่งทำหน้าซึมกะตายอยู่ตรงนั้น หูของมันที่เสียบแอร์พอดส์คาเอาไว้ ไม่รู้ว่ากำลังฟังอะไร แต่ตาของมันก็แค่เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง มันนั่งคนเดียวครับ เพราะไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ หลังจากวันนั้นไอ้เก้อก็คล้ายๆหมาบ้านิดหน่อย เจอหน้าใครก็ทำตาขวางหงุดหงิดจนไม่ว่าจะรุ่นพี่รุ่นน้องก็เข้าหน้าแม่งไม่ติด



“มึงๆ ปล่อยไว้แบบนี้จะโอเคหรอวะ” ผมหันไปสะกิดไอ้หยีที่นั่งอยู่เบาะข้างๆ มันที่กำลังพยายามทาลิปสติกอยู่ตอนนี้ อยู่บนรถมึงจะทาไปเพื่อใคร



“ไม่โอเคแล้วจะให้ทำยังไงอ่ะมึง เพื่อนมึงไม่กระตือ”



“มันจะกระตืออะไรล่ะ มึงไม่เห็นน้องเสือหรอ เห็นหน้ามันก็พลิ้วตัวหลบวูบ เห็นมันเหมือนเห็นเสือจะมาแดก”



“ก็เป็นเสือที่ได้แดกอยู่นะคะ อิอิ” ทำหน้ากรุ้มกริ่มยักคิ้วหลิ่วตา คือมันสนุกอะไรก่อน



“ใช่เวลาไหมเนี่ยมึง”



“เออน่า กูว่าอย่างน้อยก็ต้องปล่อยให้มันทั้งคู่ได้ทบทวนแหล่ะ เราจะทำอะไรก็ยังไม่ได้ป่ะ ถ้าไอ้สองตัวนี้ยังไม่มีใครเข้าใจตัวเองซะก่อน ทางนั้นก็มีแต่จะไป ส่วนทางนี้ก็ไม่รั้ง มึงว่าเราจะทำไรได้ล่ะ”  ไอ้หยีย้อนออกมาแบบนั้น ผมก็ได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่เลย อยากช่วยเพื่อนครับ แต่ก็ถูกของไอ้หยีมัน คงต้องใช้เวลาทบทวนจริงๆแหล่ะสำหรับมันสองคน



               รถบัสของนักศึกษาคณะเรามาจอดที่หน้าตึกอธิการเหมือนตอนที่จะไปในเวลาห้าโมงเย็นครับ ไอ้สัดพี่ดาบไม่ได้มารับแน่นอน เพราะผมไม่ได้บอกให้มันมา แต่ถึงแบบนั้นก็ไม่เป็นไรผมกลับเองได้ ของไม่เยอะเหมือนตอนไป ก็มีแค่กระเป๋าเป้ของผมที่สะพายอยู่บนหลังแค่ใบเดียว



“พี่เอม ให้ผมไปส่งไหมพี่”  เสียงเรียกที่มาพร้อมๆกับนิ้วสะกิดไหล่ พอหันกลับไปก็เป็นใครอีกคนที่หายหน้าไปตั้งแต่เมื่อวานก่อนที่ทะเลาะกับไอ้เก้อ ... กูลืมมึงไปเลย



“ไม่เป็นไรมึง กูกลับเองได้”  บอกไอ้ม็อบออกไปแบบนั้นทั้งรอยยิ้ม มันมองหน้าผมด้วยสีหน้าที่เรียกได้ว่าไม่สู้ดีนัก กูเองก็ไม่สู้ดีเหมือนกัน กูอยากพูดออกไปตรงๆเลยตอนนี้ แต่ก็ไม่อยากให้ผิดใจกันในสายรหัส เอาไงดีวะไอ้เอม



“พี่รอแฟนพี่หรอ เค้าคงไม่ว่างมาหรอก”  มันว่าออกมาแบบนั้นทำเอาผมขมวดคิ้ว



“ทำไมมึงถึงพูดแบบนั้น” ถามมันกลับไป มันที่แค่ยิ้มนิดๆแล้วยกมือขึ้นมาเกาหัวแล้วส่ายหน้าแบบที่มันชอบทำ



“ก็ไม่มีไร ถ้าเค้าจะมารับเค้าคงมาถึงแล้วไหมอ่ะ ผมเห็นเค้าหวงพี่เหมือนหมาเลย” สัด ... มึงอย่าเปรียบเทียบแฟนกูเป็นหมาได้ไหมวะ ไม่ใช่อะไรนะ กูเห็นด้วย



“มึงก็พูดไป” ได้แต่ตอบรับมันแบบนั้นพร้อมๆกับยิ้มขำ แต่ถึงแบบนั้นผมก็ยังส่ายหัว



“ขอบใจมึงมากนะ แต่ไม่เป็นไรกูกลับเองได้ ไม่ไกลสักหน่อย มึงเองก็เหนื่อยมามากแล้ว มึงกลับไปพักเหอะ” บอกมันพร้อมๆรอยยิ้มแล้วยกมือขึ้นตบบ่า แล้วเดินเลี่ยงออกมา แต่ติดตรงที่มันดันคว้ามือผมเอาไว้ซะก่อน



“พี่เอม”



“ไอ้ม็อบ ปล่อยมือกู” บอกมันไปแบบนั้นด้วยเสียงที่เรียกได้ว่าจริงจัง ผมถอนหายใจออกมาหนักๆในตอนที่พูดแล้วจ้องเข้าไปในตาของมัน



“กูมีแฟนแล้ว มึงเองก็รู้ เพราะงั้นอย่ามาอะไรกับกูเลยว่ะ กูไม่อยากให้แฟนกูไม่สบายใจ” พูดออกไปตรงๆชัดๆแบบอยากให้มันเข้าใจ จริงๆผมไม่อยากจะพูดแบบนี้เลย พยายามเลี่ยงแล้วหลายครั้งแต่มันก็ยังบีบให้ผมต้องพูดอีก



“พี่ แล้วถ้าพี่ไม่มีแฟนล่ะ”



“กูไม่มีแพลนที่จะเลิกกับแฟนกูว่ะ เคนะ ... กูกลับล่ะ” บอกมันแบบนั้นแล้วเดินหนีออกมาแบบไม่หันกลับไปมองมันอีก ผมไม่อยากให้ทำเหมือนให้ความหวังมัน เพราะตอนนี้ปัญหาของผมก็รุงรังมากพออยู่แล้ว อย่าให้ต้องมีเรื่องอะไรเข้ามาเพิ่มอีกจะดีกว่า





               เดินผละออกมาจากไอ้ม็อบ ก็เจอไอ้เก้อที่ยืนกอดอกพิงอยู่กับรถของมันอยู่ด้านหน้า ผมยิ้มให้มันนิดๆ ก่อนจะเดินเข้าไปหา



“ไงมึง มายืนรอใครวะ” แกล้งๆถามมันออกไปแบบนั้น จริงๆกูคันปากอยากแซวอยากถามมากๆ ปากยุบยิบไปหมด แต่ติดที่บอกออกไปไม่ได้ ไม่งั้นคงสาวยาวเลยว่ากูกับไอ้หยีแอบอยู่หลังพุ่มไม้กันคนละพุ่ม



“กูจะรอใคร ไม่มีใครรอกูหรอก”  อ่ะ ตัดพอใช่ไหมเอ่ย น้องเก้อตัดพ้อแล้วหนึ่งดอก กูนี่ต้องพยายามเม้มปากไว้เลยครับ กลัวหลุดยิ้มออกมาแล้วมันจะรู้ตัว



“อ้อออ หรอจ๊ะ กูจะรู้ได้ไงอ่ะ เผื่อมึงแอบมีดงมีเด็ก เพื่อนกูแม่งเนื้อหอมจัดอ่ะจ๊ะ”



“ไม่มีเหี้ยไรทั้งนั้นแหล่ะ มึงอย่าพูดมากเลย มึงกลับกับกู” มันขมวดคิ้วทำหน้าหงุดหงิดเหมือนมีของเหม็นจ่อใต้จมูกแม่งอีกแล้ว สายตาของมันที่ไม่ได้มองมาที่ผมแล้วในตอนนี้ กูนี่เอะใจเลยหันมองตามไป และใช่เลยโป๊ะเชะ น้องเสือที่กำลังแบกกระเป๋าลงมาจากรถบัสคันตรงหน้าเรา มองดูจากตรงนี้แล้วน้องแม่งตัวบางจริง ยิ่งใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวปลดกระดุมออกสามเม็ดกับกางเกงยีนส์สีเข้มพอดีตัวแบบนี้แล้วยิ่งดูบางจังวะ ตัดภาพมาทาไอ้เก้อ กูนึกว่ากระทิงป่า



“กูจะไปส่งมึงเองไอ้เอม!!” สัด! กึกก้องกัมปนาทมากๆ ตะโกนออกมาจนกูสะดุ้งต้องย่นคอหนีเลยครับ อยู่ไอ้เก้อก็แหกปากออกมาแบบนั้น รอบๆบริเวณของเรามองมาที่ผมกับไอ้เก้อเป็นตาเดียว และแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นก็มีน้องเสือของมันที่หันมามองเช่นกัน



“สัด ตะโกนทำอะไรของมึงวะ” ผมพูดเบาๆกลับไป อายคนฉิบหาย



“ทำไม กูอยากพูดแบบนี้อ่ะ มึงอ่ะขึ้นรถ กูอยากไปส่งมึง” ยังคงตะโกนต่อไป กูขอให้คืนนี้มึงเสียงแหบเสียงแห้งไอ้สัดเก้อ



“ไม่ต้อง กูกลับเองได้” บอกมันแบบนั้น แต่อีกฝ่ายก็เอื้อมมือมาดึงแขนกัน สัดเอ้ย กระทิงป่าลากกู



“ไม่ๆกูไม่ไป มึงกลับไปเลย มึงอยากพาใครกลับก็ไปบอกเค้าสิโว้ย” ผมที่ยื้อตัวเองเอาไว้ไม่ยอมขึ้นรถไปกับมัน พอบอกออกมาแบบนั้น แม่งก็หน้าตึงกว่าเดิมไปอีก และสุดท้ายก็จับผมโยนขึ้นรถมันไปทันที ... แรงควายจนกูตกใจ



“ไอ้เก้อ กูจะกลับเอง”



“ขอร้องอ่ะเอม กลับกับกู” มันที่ตามขึ้นรถมาแล้วพูดกับผมด้วยเสียงเหนื่อยๆ ไม่ได้ตะโกนตะคอกอะไรกันอีก หันไปมองหน้ามันเหมือนมันจะเศร้าและซึมลงไปทันที พอขึ้นมาบนรถกันก็เอาแต่มองไปทางน้องเสือ น้องเสือที่ตอนนี้ค่อยๆเดินออกไปตามทางเพื่อกลับบ้าน และใช่ครับ น้องมันแบกของอะไรสักอย่างกลับ และก็เดินกลับไปคนเดียว ... มองดูจากตรงนี้แม่งโคตรเหงา



“ถ้ามึงอยากไปส่งใคร ทำไมไม่บอกเค้าดีๆวะเก้อ”



“เค้าไม่ได้อยากกลับกับกู บอกไปก็ทำเค้าอึดอัดเปล่า” มันที่พูดแบบนั้นแล้วหันหน้ากลับมามองถนนก่อนจะเข้าเกียร์เดินหน้าและออกรถ กูนี่ถอนหายใจยาวเลย



“ไอ้เก้อ”



“อือ”



“เลิกยึดติดกับกูเหอะว่ะ ให้โอกาสตัวเองได้แล้วมึง กูเดินต่อไปไกลแล้วนะ มึงจะยืนอยู่ที่เดิมทำไมวะถ้ามึงมีที่ๆอยากจะไป” ผมหันหน้าไปพูดกับมันแบบจริงจัง นี่ถือเป็นเรื่องจริงจังในครั้งแรกที่ผมคุยกับมันแบบเปิดใจเลยครับ ... มันทำแค่เงียบ แต่ผมรู้ว่ามันยังฟังกันอยู่



“ถามตัวเองดีๆเถอะว่ะ ว่าตอนกูคบกับพี่ดาบ มึงเสียใจเท่าตอนที่น้องเสือบอกว่าให้เลิกยุ่งกันไหม โอ๊ย!”



‘เอี๊ยด’



เสียงล้อรถครูดไปกับพื้นถนนในตอนที่ใครอีกคนเหยียบเบรกแรงๆ ดีที่ยังอยู่ในรั้วมหาลัยและไม่มีรถตาม Kเก้อ หัวกูโหม่งคอนโซลหน้ารถเลยไอ้ห่า



“หมาวิ่งตัดหน้ารถหรอวะ” ผมที่กุมหัวตัวเองเงยหน้าขึ้นมาถามมัน แต่ไอ้เสือกลับทำแค่ตาเบิกกว้างแล้วมองมาทางผม ผีเข้ามึงหรอ หรือเป็นอะไรของมึง อย่าชักตายนะมึง กูกลัวผี



“มึงรู้เรื่องกูกับเสือได้ไง”  แม่ย้อยแล้วไอ้เอม เจ็บไข่เลยไหมล่ะกู พรั่งพรูแบบไม่มีหูรูดก็เป็นงี้



ผมที่ได้แต่ยิ้มแหยๆส่งไปให้มันแล้วกระพริบตาสองปริบ



“แหะๆ เพื่อนเก้อคือกูไม่ได้ตั้งใจ แบบว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญ”



“สัดเอ้ย” มันที่สบถออกมาแบบนั้น ก่อนจะหันไปทุบพวงมาลัย หูย ดูโมโหกันอ่ะเนาะ



“มึง ไม่เห็นเป็นไรเลย ยังไงกูก็รู้แล้วป่ะ ใช่ว่ากูจะเอาไปพูดที่ไหนนี่หว่า อีกอย่างนะมึงจะได้มีเพื่อนช่วยคิดไง เนี่ย แล้วมึงกับน้องเสือจะเอายังไงวะ จะแบบนี้จริงดิ ที่กูถามว่ามึงเสียใจไห...”



“พอเหอะเอม อย่าพูดอีกเลยว่ะ แม่งจบละ” หันมาบอกกันแบบนั้น ตัดบทความอยากเสือกของกูแบบหน้าตาเฉย มันที่เข้าเกียร์รถอีกครั้งแล้วเริ่มต้นขับต่อไปแบบไม่สนใจกันอีก จริงๆสภาพกูเหมือนผีในรถ คืออยากถามอะไรสักอย่างแต่มันไม่อยากพูดด้วยครับ เพราะแบบนั้นกูเลยต้องหุบปากนั่งอมลิ้นต่อไปจนถึงคอนโด แม่งเอ้ย เจ็บไข่นัก!



               ไอ้เก้อขับรถมาส่งผมที่คอนโดพี่ดาบ ลงจากรถมัน มันก็ไม่สนใจใยดีผมอีก แค่มาส่งแล้วก็จากไปอย่างไว ใช่ซี่ กูไม่ใช่น้องเสือมึงนี่ อยากจะพูดแบบนี้ครับ แต่พูดไม่ได้กลัวมันต่อยปากเอา ...



“หิวว่ะ” ลูบท้องพร้อมๆกับเดินไปเข้าไปในห้างที่อยู่ไม่ไกลจากคอนโด คิดว่าจะหาซื้อพวกอาหารสำเร็จก่อนขึ้นห้อง ไม่รู้ว่าพี่ดาบมันอยู่ไหมด้วยแหล่ะ เพราะงั้นเลยหาข้าวกันตายขึ้นไปดีกว่า เดินเลือกซื้อนู่นนี่นั่นจนผ่านมาถึงโซนขนม รู้สึกอยากกินอะไรสักสองสามอย่างครับเลยเข็นรถเข้าไป แต่พอเข้าไปแล้วกลับเห็นอะไรที่ไม่ควรจะเห็นเข้าว่ะ กูถอยออกดีไหมเนี่ย



“อ้วนแบบนี้แล้วยังจะกินไม่หยุด นี่ถามจริงเหอะ สภาพแบบนี้ทำไมถึงกล้ามาคบกับพี่อู๋”



“โทษทีนะเจ๊ อยากรู้ขนาดนั้นทำไมไม่ไปถามไอ้ลุงมันเอาเองวะ”  อีกคนที่อยู่ในชุดนักศึกษาตอบออกมาแบบนั้น  ท่าทางที่ดูหงุดหงิดแต่ในมือก็ยังหอบถุงขนมถุงใหญ่หลายยี่ห้อเอาไว้ในมือ



“ก่อนพี่อู๋จะไปหาน้องอ่ะ เค้าก็คบอยู่กับพี่นะ คิดดูเหอะว่าเค้าจะมาจริงจังกับน้องแน่หรอ”



“ผมก็ไม่รู้อีกอ่ะ เจ๊ก็ไปถามมันดูเอาดิ” น้องคนนั้นยังตอบแบบนั้น แต่คนที่เริ่มหันมามองมาขึ้นก็ทำเอาไอ้เด็กที่หอบขนมอยู่นั่นเริ่มมีสีหน้าไม่ดี ท่าทางที่อยากเดินหนีออกมา และตอนที่น้องมันหันหลังเดินหนี กลับสะดุดเท้าของผู้หญิงคนนั้นที่ยืนมากันขาน้องมันจนล้มถลาลงไปกับพื้น ไอ้สัด...นี่มันละครหรอวะ ไอ้เอมเจ็บไข่เลยสาด



“เห้ยน้อง เป็นอะไรเปล่า” เป็นผมเอง ใช่ ไอ้เอมแม่งเป็นฮีโร่อีกแล้วจ้า วิ่งถลาเข้าไปช่วยประคองน้องมันที่ตอนนี้ถุงขนมกระจายไปคนละทิศละทาง แม่งมีทั้งกล่องเล็กกล่องใหญ่ คือทำไมมึงไม่ใส่ตระกร้าวะ



“ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมาก” น้องมันว่าแบบนั้นแล้วพยายามเก็บขนมมาถือไว้อีก มึงก็ยังจะห่วงของแดกอ่ะเนอะ ผมประคองน้องมันลุกขึ้นยืน ก่อนจะหันไปมองหน้าผู้หญิงคนนั้นนิ่งๆ



“มองอะไรไม่ทราบ” เธอว่าออกมาแบบนั้น ไอ้เอมนี่ขมวดคิ้วเลยนะ หน้าตาก็สวยทรงก็ดีอ่ะ แล้วมันเป็นอะไรถึงมาทำตัวเป็นนางร้ายหลังข่าวแบบนี้วะ ผู้หญิงสมัยนี้ดูละครมากไปป่ะครับ



“ผมแค่สงสัยว่าทำไมคุณต้องเอาเท้ามากันน้องมันด้วย หน้าตาก็ดี ทำไมไร้มารยาทงี้อ่ะครับ” ถามออกไปแบบนั้น คือกูแค่สงสัยไง



“แล้วมาเสือกไรด้วยอ่ะคะ หรือเป็นพวกเดียวกับไอ้เด็กนี่ เป็นเกย์เหมือนกันรึไง” เธอว่าออกมาแบบนั้นแล้วมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า



“เห้ยเจ๊ พี่เค้าไม่รู้จักผมนะ พูดไรให้เกียรติคนอื่นบ้างเหอะ ... พี่ผมขอบคุณมากนะครับ ผมไม่เป็นไรพี่ไปเถอะ” น้องมันหันมาหาผมพร้อมยกมือไหว้ ... แม่งเอ้ยเด็กดีมีมารยาทที่หิวของแดกอ่ะ



“ใช่ผมเป็นเกย์” ผมเมินไอ้น้องนี่ไปแล้วหันไปตอบเธอ



“ว่าแล้วเชียว แหม เป็นแบบเดียวกันเลยต้องช่วยกันหรอคะ น่ารังเกียจ”



“เห้ยเจ๊!”  ไอ้เด็กข้างๆดูโมโหขึ้นมา หน้าตาน่ารักๆของมันกับแก้มป่องๆที่พองขึ้น มันที่ทำท่าจะตรงเข้าไปหาคนตรงหน้าที่ดูกำลังจะสนุกปากกับคำถากกางคนอื่น รอบๆตัวของเราเริ่มมีคนหันมามองเรามากขึ้น บางคนก็เริ่มจะยกมือถือถ่ายคลิป งี้แหล่ะครับ โลกสมัยใหม่อะไรๆมันก็ไวแบบนี้แหล่ะ



“ผมก็ไม่ได้รู้จักคุณ ไม่ได้รู้จักไอ้น้องนี่ด้วย แค่ผ่านมาแล้วเห็นพฤติกรรมน่ารังเกียจของคุณเฉยๆอ่ะนะ ผมว่าพวกผมหรือคนที่ชอบผู้ชายด้วยกันแบบผมไม่ได้ดูน่ารังเกียจเท่าคนแบบคุณเลยนะ โตมาในสังคมแบบไหนอ่ะครับ โลกมันเปิดกว้างแล้วนะ เปิดใจบ้างเถอะคุณ แค่การที่ผู้ชายรักกันมันไม่ได้น่ารังเกียจเท่าคุณที่มาตามระรานใครอีกคน เพียงเพราะผู้ชายไม่เอาคุณแล้วหรอกครับ”



“แก! คิดว่าตัวเองเป็นใคร รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร รู้ไหมว่าฉันลูกใคร!” ผมนี่ทำท่าซูดปากแล้วหันหน้าเข้าไปในกล้องโทรศัพท์ของเจ๊คนข้างๆที่กำลังยืนถ่ายอยู่แถวนั้นเลย พ่อใหญ่อ่ะเนาะ



“พ่อคุณใหญ่โตหรอครับ ใหญ่ขนาดนั้นพ่อเป็นปลาวาฬหรอ”



เอียงหน้าถามแล้วส่งยิ้มให้ ก่อนจะตามมาด้วยเสียงหัวเราะดังลั่นจากด้านหลังของผมก็คือไอ้น้องที่หอบขนมและคนรอบข้างที่มุงดูพวกเราอยู่  อิเจ๊คนตรงหน้าโมโหควันออกหู แต่ตอนนั้นก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่รปภ.ของห้างเดินเข้ามา สถานการณ์เลยคลี่คลายลงพร้อมๆกับเจ๊คนนั้นที่รีบสับขาหนีไปพร้อมๆกับเสียงวิจารณ์ถึงคนที่ยังไม่เปิดโลกและเปิดใจกับเพศที่สามมากพอ



“ขอบคุณนะครับพี่”



“เห้ยไม่เป็นไรน้อง ขอโทษที พอดีพี่ก็เสือกอ่ะ” ยิ้มให้แหยๆ เพราะเสือกจริง ... แต่พอได้ยินประเด็นนี้แล้วมันอดไม่ได้ เลือดในกายมันพลุ่งพล่าน ผมเผลอคิดถึงแม่พี่ดาบที่ไม่ยอมรับผมกับพี่มันสักที



“กุญแจ มีเรื่องอะไรกัน แม่ได้ยินเค้าพูดกันทั่วห้าง” เสียงของคนมาใหม่ที่ทำเอาหลังผมเย็นวาบ พอหันไปมองละก็ใช่เลย ชัดเป๊ะทุกองศา



“เธอ”  หญิงสาวอายุมากแต่ยังสวย และมีเค้าโครงหน้าเหมือนกับอิเจ๊พี่มันเด๊ะๆ เจอแค่ครั้งเดียวแต่ก็จำฝังใจ กูที่ส่งยิ้มแหยๆไปให้ ก่อนจะยกมือขึ้นไหว้อย่างสุภาพ



“สวัสดีครับคุณป้า”



“หื้ม แม่รู้จักพี่คนนี้ด้วยหรอ พี่เค้าอย่างเจ๋งเลยอ่ะแจไม่อยากจะอวด” น้องมันว่าแบบนั้นพร้อมกระชับถุงขนมในอ้อมกอดพร้อมบอกกับแม่พี่ดาบแบบนั้น ... เดี๋ยวนะ แม่หรอวะ



“รู้จัก จะไม่รู้จักได้ไง ก็นี่แฟนพี่ชายแก”



“หื้มมม แฟนเฮียปืนหรอ”



“เฮียดาบสิคะอิดอกหมู! นั่นมันเมียกู ว่าแต่มาชุมนุมกันอะไรตรงนี้คะสังคม!”  และเสียงสองที่ดังลอยมาแบบใส่อารมณ์ก็ทำเอาเราทั้งสามคนต้องหันไปมอง พี่ดาบที่มือนึงถือตระกร้าสีส้มของห้างเอาไว้ในมือ หัวฟูๆของมันที่มาพร้อมๆกับเสื้อยืดสีดำคอกว้างๆที่ทำให้มองเห็นไหปลาร้า เซ็กซี่สัดๆ พร้อมๆกับกางเกงบอลและรองเท้าแตะ สภาพอะไรของมึง...



ผัวมาก



ใช่ครับ ผัวไอ้เอม อิอ๊ะ



ว่าแต่ว่า...เรามาชุมนุมอะไรกันตรงนี้วะเห้ย! ดูจากสถานการณ์แล้ว กูว่าไม่ง่าย ไม่ง่าย มีเจ็บไข่แน่ๆเลยงานนี้ ฮึ่ม!





-TBC-

-----------------------



มาน้อยแต่มานะ

ดาบ: หมายถึงกูเนี่ยค่ะ มาน้อยแต่มานะ แหมมมมม ให้กูมาประโยคเดียวของตอนนี้ ลืมหรือไงกูเป็นนางเอกนะคะ!

แคท: พล็อตมันมาแบบนี้ไงเจ๊ อย่าบ่นมากได้ไหม เดี๋ยวหางานให้นะโว้ย

ดาบ: ก็หาให้กูทุกตอน ขอให้กูใช้ชีวิตสงบๆกับควายน้อยบ้างได้ไหมคะ

แคท: รักน้องเอมมากว่างั้น

ดาบ: ไม่อยากจะบอกหรอกกลัวมันเขิน แต่ถ้ามันอยากได้หญ้า ก็จะปลูกหญ้าไว้ให้มันแดกเลยค่ะ

เอม: มึงเก็บไว้กินเองเถอะโว้ย โง่นัก!

ดาบ: กรี๊ดดดด เมียด่า ก็คือรักมาก ดูออก ... แล้วนี่ยังไง เม้นท์ค่ะ สวยรออ่าน อย่าช้านะเอดอกกก

ฝาก #สวยๆเป็นผัว ในทวิตเตอร์ด้วยจ้า





หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่38 {04/07/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 04-07-2020 22:35:17
 :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่38 {04/07/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 04-07-2020 22:41:46
  :hao3: อิเจ๊อาจเข้าใจผิด เมียด่าไม่ใช่เมียรักมาก แต่คือ เมียรำคาญมึงมากๆค่า  :z6:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่38 {04/07/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 06-07-2020 06:29:50
จะดราม่าอีกเปล่าน้อ?
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่38 {04/07/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 06-07-2020 10:31:12
อิเจ้รีบ ๆ ทำให้ชัดเจนใครคือปัจจุบัน ใครคืออดีต อยากให้อดีตมาทำร้าปัจจุบันสิค่าอิพี่เจ้มึง #อิเจ้ตบเรียงตัวช่วยเมียค่า
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่38 {04/07/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Chucream.nabi ที่ 10-07-2020 14:13:54
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่38 {04/07/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 10-07-2020 17:48:47
เอมได้กองหนุนเพิ่มแลม มาบ่อยๆ นะคะ คนเขียน  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่39 {11/07/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 11-07-2020 21:14:45

บทที่39



     บรรยากาศตรงหน้าที่เรียกได้ว่าอึมครึม สายตาของผมที่มองไปทางซ้ายทีมองไปทางขวาที แล้วก็ต้องกลับมามองตรงหน้า สบตาเข้ากับไอ้หมู ไอ้น้องแจ น้องชายของผมที่ก็มองกลับมาแล้วเราก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาพร้อมกันอีกครั้ง



“แม่ครั...”



“ผมว่าพวกเราแทบจะหายใจไม่ออกกันอยู่แล้วนะครับ ไม่ไหวเลย ไอ้เอมจะเป็นลมแล้วนะหึ่ย”



ในตอนที่ผมกำลังจะพูดอะไรสักอย่างออกไปเพื่อทำลายบรรยากาศที่เป็นอยู่ในตอนนี้ ไอ้เด็กที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ที่อยู่ทางซ้ายมือของผมก็โพล่งออกมาขัดคำพูดของผมเอาไว้ซะก่อน มันที่พูดออกมาแบบนั้นทำเอาผมกลั้นยิ้มเอาไว้แทบไม่อยู่ ไอ้ท่าทางที่มาพร้อมๆ กับดวงตากลมโตของมันที่มองตรงไปที่หน้าแม่ของผมที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามมันบนโต๊ะอาหารของเรา ท่าทางของมันที่กำลังบอกว่าอึดอัดจริงๆ จนแม่ผมเหวอไปเล็กน้อย



“อ่ะ...”



“คุณป้าก็ช่วยวางตัวสบายๆ หน่อยเถอะครับ คุณป้าทำแบบนี้ก็ไม่มีใครสบายใจหรอก ถ้าจะรำคาญหน้าผม งั้นผมไปแกะกับข้าวแทนละกันครับ” มันว่าออกมาแบบนั้นอีก เป็นท่าทางที่โคตรน่าเอ็นดูในสายตาของผม ไอ้ปากยื่นๆ ที่พูดมุบมิบเหมือนคนกำลังน้อยใจแบบที่ชอบทำ สายตาที่มองค้อนแม่ผมหน่อยๆ แต่ก็ไม่ถึงกับไร้มารยาท ท่าทางที่บอกว่ามันกำลังน้อยใจ ไอ้เอมที่พูดจบก็ลุกขึ้นแล้วเดินหนีเข้าไปในครัว



“หึ แค่นี้ก็ต้องทำหน้าตาแบบนั้นใส่ด้วยหรือไงนะ” แม่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วยกมือขึ้นกอดอก



“ก็ถูกของพี่เอมนี่ แม่ก็จะแผ่รังสีอึดอัดออกมาทำไมก็ไม่รู้ แจหิวข้าวอยากกินข้าว แม่ทำแบบนี้ใครจะไปกินลง”



“ฉันยังไม่เห็นว่าแกจะกินอะไรไม่ลงเลยนะตั้งแต่เกิดมา” แม่หันไปว่าน้องผมแบบนั้น ไอ้แจที่แค่ยักไหล่ใส่ “ก็ถูกของแม่อ่ะนะ” ตอบแม่ไปแบบนั้นแล้วแจมันก็ลุกขึ้นเดินหนีออกไปจากโต๊ะอาหาร ทางที่มันไปก็คือในครัว หันมามองหน้าแม่ของผมที่ก็ทำแค่ถอนหายใจออกมาแล้วส่ายหัว เรามองหน้ากันในตอนนี้



“มองหน้าแม่ทำไม หรือจะไม่พอใจอะไรแม่อีก”



“ผมไม่เห็นเมียดีกว่าแม่หรอก”



“ดาบ”



“ครับ แม่ไม่ชอบหรอฟังหรอ แต่มันเมียผมจริงนะ” มองหน้าแม่ที่ขมวดคิ้วนิดหน่อยแล้วส่ายหน้านิดๆ



“ดูก็รู้แหล่ะ ถ้าดาบไปเป็นเมียเค้า ก็ไม่รู้จะพูดยังไง”



“แม่อย่ามองแค่สรีระน่า คนเรามันจะเป็นอะไรก็ได้ทั้งนั้นแหล่ะ มันอยู่ที่ใจใครจะมากำหนดอะไรมันได้” ผมพูดออกไปแบบนั้น และในตอนนั้นที่เราสองคนจ้องตากัน ผมมองเห็นสายตาของแม่ที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย ก็แค่เล็กน้อย... แต่ถึงแบบนั้นมันก็มีการเปลี่ยนแปลง



“แม่มาหาผมวันนี้มีอะไรครับ” ถามออกไปแบบนั้น เพราะก็อยากรู้ว่าทำไมแม่ถึงมาอยู่ในห้างข้างๆ คอนโดผม



“แล้วแม่จะมาหาบ้างไม่ได้หรือไง”



“มันก็ได้ แต่ก็แค่สงสัย”



“แม่ก็แค่อยากรู้ว่าดาบอยู่ยังไง มีชีวิตยังไง มันก็แค่นั้น” แม่พูดออกไปแบบนั้นแล้วเสหน้าหนีไปอีกทาง ท่าทางแบบนั้นที่ทำให้ผมอมยิ้มออกมา อดไม่ได้ที่จะนึกถึงคำพูดของพ่อ .. ทุกอย่างมันต้องใช้เวลา ..



“คุณป้าอยากจะทานกาแฟไหมครับ” ไอ้เอมที่โผล่หน้าออกมาจากห้องครัว ส่วนตัวมันยังยืนอยู่ในครัวแบบที่เรามองไม่เห็น ท่าทางกล้าๆ กลัวๆ แต่ก็อยากจะถามของมันแบบนั้นทำแม่ผมถอนหายใจออกมา



“กินอยู่แล้ว พี่เอมทำเถอะ แม่น่ะชอบลาเต้มากๆ เลย” ไอ้หมูแจที่ยังอยู่ในครัวพูดออกมาแบบที่เรามองไม่เห็นตัวมันด้วยซ้ำ



“โอเคเลย ดีนะพี่ดาบมีเรื่องชงกาแฟอยู่พอดีเลย” ไอ้เอมหันไปตอบรับกับน้องแจแล้วผลุบหน้ากลับเข้าไปในครัวทั้งแบบนั้น แม่ของผมมองตามไปแล้วถอนหายใจออกมา



“แฟนเราทำเป็นหรือไง”



“ไม่รู้สิ แม่อยากรู้ก็ไปดูเองสิครับ มันไม่กัดแม่หรอกน่า เราแค่ชอบผู้ชายด้วยกันครับ ไม่ใช่หมาบ้า” แม่มองค้อนมานิดหน่อยตอนที่ผมพูดออกมาแบบนั้น แต่สุดท้ายก็ยอมลุกออกไป



“แม่ครับ”



“หื้ม”



“เปิดใจหน่อยนะแม่ แล้วแม่จะเห็นว่ามันไม่ได้แตกต่างอะไร แล้วไอ้เอม มันก็เป็นเด็กน่ารักมากกว่าที่แม่คิด” ผมบอกออกไปแบบนั้น มันก็เป็นแค่ความหวังเล็กๆ ก็แค่เรื่องนึงที่ผมอยากจะพูด



แม่เงียบไปช่วงระยะหนึ่ง เป็นแค่หนึ่งช่วงอึดใจ แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันนานมากๆ จนหายใจไม่ออก ก่อนที่สุดท้ายแม่จะทำแค่พยักหน้าแล้วพูดออกมาเบาๆ



“อื้ม แม่จะลองดู”



ไม่กี่คำสั้นๆ ที่แม่พูดออกมาแบบนั้น แต่หัวใจของผมกลับเบาหวิว เหมือนอะไรบางอย่างในหัวใจของผมถูกโยนทิ้ง มันเบามากกว่าทุกวันที่เคยเป็น สุขมากกว่าทุกวันที่เคยมี เรียบเรียงในสมองไม่ถูกด้วยซ้ำว่านี่คือเรื่องจริงหรือเรื่องโกหก แต่ถึงแบบนั้น ผมกลับมาความสุขมากซะจนหุบยิ้มไม่ได้



“ยิ้มอะไรของพี่วะ น่ากลัวจะอ่ะ” ไอ้แจที่เดินถือแก้วโกโก้หอมๆ ออกมาสองแก้วเหลือกตามองหน้าผมอย่างตกใจ .. สติกูมาแล้วในตอนนี้



“น่ากลัวอะไร มึงไม่เคยเห็นคนสวยมีความสุขหรอคะ!”



“สวยอะไรวะ”



“สวยๆ เป็นผัวไอ้เอมค่ะ” ว่าออกไปแบบนั้นแล้วหันไปขยิบตาให้น้องมันทีนึง ไอ้แจที่ได้แต่ยืนทำหน้าแหยยิ้มค้างอยู่ตรงนั้น เข้าใจและว่าตกใจในความสวยของพี่มัน ว่าแล้วกูก็ขอเอาผมทัดหูสักนิดนึงค่ะ



.

.

.



‘จึด จึดดด’



เสียงนมที่ถูกเครื่องตีนมไฟฟ้าตีปั่นขึ้นมาเป็นฟ้องดังกระทบกัน กลิ่นหอมอ่อนๆ ของนมที่ถูกตีจนเนียนหนืดทำให้ผมต้องยิ้มออกมาน้อยๆ ข้างๆ ตัวของผมมีหัวของเด็กที่แก้มกลมๆ ยื่นหน้าเข้ามาใกล้กัน



“ว้าววว พี่เอมทำอะไรอ่ะ น่ากินจัง”



“ตีฟองนม เอาไปเทใส่บนกาแฟไง”



“คือต้องตีกับเครื่องแบบนี้หรอพี่” น้องแจ หรือกุญแจ เป็นน้องชายคนเล็กของอิเจ๊พี่มันครับ เป็นครั้งแรกที่ผมได้เจอ และใช่...น้องมันน่ารักดี และใช่ เป็นคนที่ดูแตกตื่นกับของกินฉิบหายเลย เหมือนเช่นตอนนี้ที่ตากำลังเป็นประกายที่เห็นนมในPitcherที่ถูกตีเรียบร้อยแล้ว ผมเคาะPitcher เพื่อไล่โฟมนม และหมุนนมในPitcherให้เซตตัวพอดี



“ใช่แล้วล่ะ เพราะถ้าตีกับที่ตีแบบอื่น มันจะใช้แรงตีทำให้ออกซิเจนเข้าไปแล้วฟู ส่วนหัวสตรีมอันเนี้ยมันคือน้ำร้อนเป่าเข้าไปทำให้นมเดือดแล้วแยกชั้น เครื่องตีโฟมมันจะหยาบๆ ทิ้งไว้นานๆ มันจะแฟ่บกลายเป็นน้ำ แต่ถ้าหัวสตรีมอ่ะ โฟมมันจะครีมมี่ ทิ้งไว้นานๆ มันจะเกาะตัวหยาบขึ้น แต่ไม่กลายเป็นน้ำ เพราะมันเป็นส่วนไขมันของนม”



“โห พี่เอมเก่งจังอ่ะ” น้องแจเบิกตากว้างขึ้นตอนที่ผมพูดจบ สีหน้าที่กำลังชื่นชมกันจริงๆ แบบที่ผมไม่ค่อยได้รับจากใครเท่าไหร่ทำให้ผมยิ้มออกมาในตอนนี้ ก่อนที่ผมจะใช้ช้อนตักฟองโฟมลงแก้วโกโก้ที่ก่อนหน้านี้ชงไว้แล้ว และใช้ช็อคโกแลตราดให้เป็นลายสวยๆ บนหน้าฟองนมนั้นแล้วยื่นให้กับน้องแจ



“อะ อันนี้ของเรา”



“โหยยย สุดยอดไปเลย ขอบคุณนะครับ” น้องรับไปอย่างตื่นเต้นพร้อมยิ้มตาปิด เป็นเด็กที่ดูน่ารักเวลาอยู่กับของกิน



“ทำอะไรแบบนี้เป็นด้วยหรอเรา” เสียงของคนมาใหม่ทำให้ผมต้องหันไปมอง ... แม่พี่ดาบที่เดินเข้ามาหยุดอยู่ไม่ไกลจากผม สายตาของคุณป้ามีแววคลางแคลงนิดหน่อยในตอนที่มองไปที่แก้วในมือที่ลูกชายคนเล็กของเธอถืออยู่



“ก็พอทำได้ครับ” ผมตอบออกไปแบบนั้น แต่น้องแจมันกลับส่ายหน้า



“ไม่จริงอ่ะ นี่ยังกับตามร้านแบรนด์หรูๆ ในห้างเลยนะแม่ ดูสิครับ”



“น้อยๆ หน่อยเรา เสร็จแล้วก็เอาออกไปให้พี่เรากินด้วยเลยไป” คุณป้าว่าแบบนั้น น้องแจมองซ้ายทีขวาที สายตาที่หันมามองหน้าผมอ้อยอิ่งเล็กน้อยเหมือนไม่อยากไป เห็นแบบนั้นแล้วผมยิ่งรู้สึกถูกชะตากับน้องชายของพี่ดาบมันแบบบอกไม่ถูก แต่ถึงแบบนั้นผมก็ทำแค่ยิ้มแล้วส่งแก้วลาเต้ร้อนอีกแก้วไปให้น้องแจมัน



“พี่ทำเสร็จพอดี เอาไปให้พี่มันหน่อยนะ” บอกน้องมันไปแบบนั้นแล้วยื่นแก้วไปให้น้องมัน น้องแจที่รับแก้วผมไปแบบจนใจ มองหน้าแม่ตัวเองเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไป



“อะไรกัน เจอกันแป๊บเดียวนี่ดูจะถูกชะตากันจนไม่เห็นหัวฉันเลยนะ” คุณป้าเธอว่าแบบนั้น ผมที่ได้แต่ยิ้มน้อยๆ แล้วไม่พูดอะไร ก็แค่หันกลับไปเอาเอสเปรสโซ่สองชอตใส่เข้าไปในเครื่อง รอให้กาแฟไหลลงมาใส่แก้ว



“คุณป้าอยากทานแบบเย็นหรือแบบร้อนดีครับ” ผมหันไปถามพร้อมส่งยิ้มให้ แม่พี่ดาบที่มองหน้าผมนิดๆ



“เย็นก็ได้”



“ครับ” ได้แต่ตอบรับออกไปแบบนั้น แล้วหันไปตั้งใจทำลาเต้ให้ท่าน เราสองคนที่ยืนอยู่เงียบๆ โดยไม่มีใครพูดอะไรกัน กูล่ะอึดอัดซะจนอยากจะโพล่งออกไปว่า โย่วว็อทซับแม่พี่ดาบฮัลโหล แต่ก็ทำไมไม่ได้ไงล่ะเอ้อ



“ทำไมเธอถึงพูดแบบนั้นกับผู้หญิงคนนั้น”



“หื้ม อะไรนะครับ” ไอ้เอมคือเลิกคิ้วสูงเลยครับ อะไรเอ่ยอยู่ๆ ก็โพล่งออกมาแบบนั้น ไหนประธานไหนกรรม นี่ประโยคคำถามใช่ไหมเอ่ย แล้วคือถามกูหรอครับ ... ว่าแต่ผู้หญิงที่ไหนเอ่ย



“เฮ้อ ทำหน้าตาเหลอหราซะจริง” เอ้า ถอนหายใจใส่กูไปอีก พอทำหน้าตาแบบนี้แล้วเหมือนพี่ดาบเลยครับ พี่ดาบตอนด่าผมว่าโง่เหมือนควายอ่ะ หึ่ย มันได้ยีนส์กันมาแบบนี้สินะ



“คือ...ผมไม่เข้าใจว่าคุณป้าพูดถึงอะไรหรอครับ” กูโง่ก็ผิดหรอ จิตใจอ่ะสังคม



“วันนี้ในห้าง ทำไมถึงพูดแบบนั้นแจล่ะ เธอไม่รู้จักกับแจมาก่อนซะหน่อย ทำไมต้องช่วย” อ้อออ....ไอ้เอมนี่ถึงบางอ้อ ที่แท้ก็เจ๊ผู้หญิงคนสวยที่สะกัดขาน้องแจนี่เอง



“ก็ไม่ทำไมครับ แต่ผมว่ามันไม่ถูก คนเราไม่ว่าจะเพศไหนก็ไม่ควรโดนแบบที่แจโดน ผมคิดว่าทุกคนเป็นคนเท่ากันครับ ไม่ว่าเราจะมีรสนิยมความชอบแตกต่างกันมากแค่ไหนแต่ทุกคนก็คือคนครับ นี่ปี2020แล้ว แต่ถ้ายังมองโลกแคบๆ อยู่ เราจะไปสู้ใครได้ล่ะครับ โลกนี้มันโหดร้ายจะตาย อ่อนแอก็แพ้ไปสิ ใครมันจะไปยอมล่ะ หึ่ย ตอนเด็กๆ พ่อกับแม่ผมพูดเสมอเลยว่าให้ใช้ชีวิตอยู่อย่างมีศักดิ์ศรีและเคารพในความรู้สึกของตัว แล้วคนอื่นเป็นใครล่ะครับถึงมีสิทธิ์มาพูดจาแบบนั้นใส่เรา พูดละมันขึ้นๆ เลยนะ ฮึ่มฮั่มเลย อ...เอ่อ...ขอโทษครับ” กูที่พูดรัวๆ ออกไปตามความคิดแบบนั้น พอตักฟองนมที่พึ่งสตรีมใส่แก้วเสร็จแล้วจบท้ายด้วยการโรยผมกาแฟลงบนฟองนมสวยงาม หันกลับมาก็เจอหน้าแม่พี่ดาบที่มองกันนิ่งๆ อยู่ ฉิบหาย ปากกูก็ไม่เคยจะสมานฉันท์กับสมองอยู่แล้วอ่ะ พูดไปแบบนั้นป้าแกจะคิดว่ากูด่าแกอีกป่ะ หึ่ย กูอยากเอาหัวจุ่มลงไปในถ้วยกาแฟ



“เอ่อ...ก...กาแฟครับ” ผมหลุบสายตาหลบดวงตาวาววับของแม่พี่ดาบที่มองตรงมา ท่าทางที่เหมือนเวลาเราโดนครูห้องปกครองมองเวลาทำผิด ไอ้เอมนี่ก้มหน้ามองตีนเลย แต่คือมือก็ยื่นแก้วกาแฟลาเต้เย็นส่งไปให้ด้วย



“ทำเก่งดีนี่” แก้วกาแฟถูกรับไป พร้อมกับคำชมแรกที่ได้รับจากแม่พี่ดาบ เป็นคำพูดชมธรรมดาจริงๆ ที่ไม่มีแววประชดประชันกันอยู่ในนน้ำเสียง ผมที่ค่อยๆ โผล่หน้าขึ้นมามองแบบล่อกแล่กไปแว๊บนึง กระพริบตาสองปริบมองหน้าของพี่ดาบค่อยๆ หยิบหลอดขึ้นดูด สีหน้านิ่งๆ ของคุณป้าที่ค่อยๆ คลี่ยิ้มออกมาทีละน้อยๆ ก่อนจะยิ้มอย่างพอใจ เธอที่หันมาเห็นผมจ้องอยู่ชะงักไปนิดหน่อย ก่อนจะรีบเปลี่ยนสีหน้ากลับไปเป็นแบบเดิม ... ปัดโถ่เอ้ย ทำเป็นเข้ม



“อร่อยใช่ไหมล่ะครับ”



“หลงตัวเองจังเลยนะเธอเนี่ย”



“ปัดโถ่เอ้ย คุณป้าอย่าปากแข็งเลยครับ ผมดูออกน้า” ว่าออกไปแบบนั้นแล้วยิ้มกว้างๆ ไปให้ อีกฝ่ายที่ถลึงตาใส่กันเล็กน้อย แต่ครั้งนี้ผมกลับไม่รู้สึกกลัวเลยครับ ผมหันกลับมาเก็บกวาดของทำความสะอาดตรงเครื่องชงกาแฟให้เรียบร้อย



“แต่ก็จริง กาแฟนี่อร่อยมาก”



“หื้ม คุณป้าชมหรอ ขอบคุณครับ” หันหัวกลับไปในทันใด จะไปฉีกยิ้มให้เธอในทันที



“เคยเรียนมาหรอ กาแฟนี่”



“เปล่าหรอกครับ พอดีเอม เอ่อ..หมายถึงผมเคยทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้านกาแฟมาก่อนครับ ทำมานานเลยรู้วิธี”



“เคยทำงานร้านกาแฟด้วยงั้นหรอ”



“ครับ หลังจากพ่อกับแม่เสียผมก็อยู่กับป้า แต่ว่าก็หาเงินใช้เองครับ จนตอนนี้ได้มาทำงานกับพี่ดาบครับ” บอกออกไปแบบนั้น โดยที่ไม่รู้สึกอายอะไร คุณป้าที่ยังคงมองจ้องหน้าผมอยู่แบบนั้น ในสายตาที่ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไร แต่ผมก็เลือกจะพูดต่อ



“ผมรู้ว่าคุณป้าคงไม่ชอบผม และไม่สบายใจกับการคบกันของผมและพี่ดาบ ถึงตัวผมจะไม่มีหลักประกันอะไรมาบอกได้ว่าเราจะรักกันไปจนตาย หรือผมจะไม่ทำให้ครอบครัวของพี่มันต้องอายที่มีผมเป็นแฟน แต่ผมแค่อยากจะบอกว่าในตอนนี้ผมไม่มีแผนว่าจะเลิกกับพี่มันครับ ต่อให้คุณป้าบอกว่าไม่ยอม แต่ผมก็จะไม่ถอดใจไปจากพี่มัน ผมต้องขอโทษจริงๆ นะครับที่ต้องพูดแบบนี้”



“เธอ....”



“ไม่ใช่ว่าเพราะพี่มันรวย แต่เป็นเพราะว่าพี่มันเป็นคนดีที่ทำให้ผมรู้สึกว่าโลกนี้มันยังน่าอยู่ขึ้นอีกวัน ก็เพราะว่าผมยังมีพี่มันอยู่ข้างๆ ... พี่ดาบถึงมันจะดูไม่สนใจอะไร แกล้งทำตัวบ้าๆ บอๆ ไปแบบนั้น แต่ผมรู้ว่าพี่มันแคร์ความรู้สึกคุณป้าและครอบครัวมากๆ เลยนะครับ” ผมพูดออกไปแบบนั้นตามที่ใจผมคิด ก็แค่อยากย้ำชัดๆ ให้ท่านเข้าใจถึงความสัมพันธ์นี้ของผมกับพี่มัน



“ผมขอโทษที่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คุณป้ากับพี่มันต้องทะเลาะกันครับ ถ้าให้เลือกได้ผมก็ไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้ ผมไม่ได้อยากทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แต่ถ้าให้เลือกใหม่ได้ ผมก็ยังจะรักพี่มันอยู่ดีครับ”



แม่พี่ดาบที่จ้องหน้าผม สายตาของเธอมีน้ำเอ่อคลอนิดๆ ก่อนจะหันหน้าหนีไปอีกทาง ในมือของเธอที่ยังคงถือแก้วกาแฟเอาไว้ในมือทั้งสองข้างประคองมันไว้อยู่แบบนั้น สายตาเหม่อลอยมองออกไปที่อื่นไกลๆ ทั้งๆ ที่ในห้องครัวนี้ไม่มีที่ให้มองไกลได้ขนาดนั้น คุณป้าถอนหายใจออกมาแบบหนักใจ



“มันไม่ง่ายสำหรับฉันเลยรู้ไหม ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าเด็กนั่นที่ฉันคลอดมาเองจะโตขึ้นมาเป็นแบบนี้” คุณป้าพูดออกมาเบาๆ ในที่สุด เสียงที่พูดเหมือนพูดกับตัวเอง ในน้ำเสียงมีแววหนักใจและกดดัน ผมเข้าใจดี



“ตาดาบตอนเด็กๆ เป็นเด็กยิ้มง่าย ไม่ค่อยงอแงและก็ชอบอ้อนแม่มากๆ ฉันคาดหวังให้เขาเติบโตขึ้นมาเป็นเด็กดีเรียนเก่งและมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ”



“ขอโทษครับ” ผมเข้าใจดี และก็ไม่รู้ว่าจะต้องตอบอะไรออกไปนอกจากคำนี้



“มันไม่ง่ายสำหรับฉันเลยจริงๆ ... แค่คนเดียวฉันก็หนักใจแล้ว แต่นี่ถึงสองคน ตอนที่ฉันรู้ฉันคิดแต่ว่าคนรอบข้างจะมองเรายังไง มองลูกฉันยังไง ยิ่งฉันพยายามมากแค่ไหน ลูกก็ยิ่งห่างฉันไปมากขึ้นเท่านั้น” คุณป้าว่าออกมาแบบนั้นแล้วค่อยๆ หันกลับมามองหน้าผม สีหน้าที่มีแววหนักใจ สับสนอยู่ในนั้น



“จริงๆ เธอไม่ต้องพูดว่าขอโทษหรอก ต่อให้ไม่มีเธอ ตาดาบก็ไม่มีทางแต่งงานกับผู้หญิงหรอก ฉันเคยพาไปดูตัวตั้งหลายทีก่อนหน้านี้ แต่รู้ไหมว่าสุดท้ายเป็นไง” ผมส่ายหัว แม้ว่าจะแอบคิดๆ ไว้ว่าคนแบบพี่มันน่ะ...



“แต่งหน้าทาปากแดงมาวี๊ดว้ายใส่จนฉันอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไว้ที่ไหนน่ะสิ” กูว่าละ แบบมันน่ะนะ ต้องคิดว่าตัวเองสวยกว่าคู่ดูตัวแน่ๆ ล่ะครับ



“เฮ้อ...มันทำใจยากจริงๆ”



“ครับ ผมเข้าใจ” บอกออกไปแบบนั้นแล้วคุณป้าก็ถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ก่อนจะยกแก้วกาแฟขึ้นดื่มไปอีกอึก



“แต่ฉันจะพยายาม พ่อของตาดาบน่ะชอบเธอมากรู้ไหม เค้าพูดกับฉันว่า ถ้าคนเป็นพ่อแม่ยังไม่เข้าใจลูก แล้วเรายังจะเหมาะที่จะเป็นพ่อแม่เค้าได้อีกหรอ ฉันถึงมาที่นี่วันนี้ มาดูให้เห็นเองกับตาว่าเธอมีดีอะไร เด็กที่ไม่มีพ่อแม่เติบโตขึ้นมาเองแบบเธอ มีอะไรดีพอ” คุณป้าว่าออกมาแบบนั้น คำพูดแบบนั้นที่ทุกครั้งผมจะทำแค่ก้มหน้าหลบตา เพราะเถียงไม่ได้ แต่ครั้งนี้ผมจะไม่ทำแบบนั้น ผมแค่จ้องตามองท่านด้วยสายตาจริงจัง ก่อนจะตอบกลับออกไป



“ผมเองก็ไม่รู้ว่าผมมีอะไรดี แต่ที่ผมรู้คือผมต้องมีแน่ๆ คนอื่นอาจจะไม่เห็น แต่คนที่เห็นชัดๆ ว่าผมมีอะไรดี คนๆ นั้นคือพี่ดาบ คงมีแค่พี่เค้าที่จะตอบได้ว่าผมมีอะไร” ตอบสวนกลับออกไปแบบนั้น แบบที่ว่าห้ามปากตัวเองไม่ทัน คุณป้าที่เลิกคิ้วขึ้นมานิดหน่อยในตอนนี้ทำเอาผมทำหน้าไม่ถูก กูมั่นใจมากๆ เลยนะที่ตอบไปเมื่อกี้



“หึ ฮ่าๆ ... ก็จริงแบบที่เธอว่านะ” และสุดท้ายก็เปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะออกมาที่ทำให้ผมหน้าเหวอไป เธอที่เดินเข้ามาใกล้ๆ กับผม แล้วยกมือขึ้นจับหัวไหล่



“ชะเอม มันอยากสำหรับฉันมากๆ แต่...ฉันจะพยายามเปิดใจให้มากกว่านี้”



“ห...ห๊ะ ครับ?” ละล่ำละลักพร้อมขมวดคิ้วไปแบบงงๆ อะไรนะ คือหมายถึงอะไรนะ ... คุณป้าที่ถอนหายใจทำหน้าหน่ายๆ ใส่ผมนิดหน่อยในตอนนี้ สีหน้าที่เหมือนกับพี่ดาบเดะๆ เวลารำคาญกัน



“บางทีเธอก็ดูฉลาด บางทีก็ดูโง่ๆ เอ๋อๆ นะ พูดด้วยแล้วเหนื่อยจริงๆ”



“เอ้า!”



“แต่ถึงแบบนั้น อย่างน้อยๆ วันนี้ฉันก็รู้ข้อดีอย่างนึงของเธอนะ” คุณป้าที่เดินไปถึงประตูห้องครัวพูดออกมาแบบนั้นก่อนจะค่อยๆ หันหน้ามามองกันแล้วส่งยิ้มมาให้น้อยๆ เป็นรอยยิ้มแรกที่ผมได้จากเธอ รอยยิ้มที่ทำให้ผมรู้ว่า พี่ดาบได้รอยยิ้มสวยๆ กินใจมาจากใคร



“กาแฟที่เธอทำ อร่อยมากกว่าที่ไหนๆ ที่ฉันเคยกิน”



“อ..อ่ะ เอ่อ ....ขอ..ขอบคุณครับ!”



“หึ และวันนี้ฉันยอมรับคำพูดของเธอนะ ที่เธอบอกว่า ทุกคนเป็นคนเท่ากันครับ ไม่ว่าเราจะมีรสนิยมความชอบแตกต่างกันมากแค่ไหนแต่ทุกคนก็คือคน ฉันพึ่งเข้าใจคำนั้นชัดๆ ก็วันนี้ ที่ต้องเห็นลูกตัวเองโดนดูถูกแบบนั้น ขอบคุณที่วันนี้เธอปกปองตาแจ”



“อ...เอ่อ ไม่เป็นไรครับ” ได้แต่ยกมือขึ้นมาเกาแก้ม รู้สึกเหมือนกูเป็นฮีโร่ ใจอิ่มฟูยันรูตูด ฮีโร่นักเสือกจะไม่ทำให้ผิดหวังเลยครับ!



“อ้อ...แล้วก็วันหลัง ไปที่บ้านสิ ฉันอยากกินกาแฟแบบนี้อีก” คุณป้าว่าออกมาแบบนั้นแล้วยิ้มให้ ผมได้แต่เบิกตากว้างขึ้นมาตอนที่ได้ยิน เดี๋ยวนะๆ ไปบ้าน...ชวนกูไปบ้านรึจ๊ะ



คือ...



คือ....คือ



“แบบนี้คุณป้าก็คือยอมรับผมแล้วหรอครับ เปิดใจให้ผมแล้วหรอครับ!” ตะโกนออกมาแบบนั้นในตอนที่คุณป้าจะก้าวขาออกไปจากห้องครัวด้วยเสียงที่ดังมากๆ เธอที่หันมามองหน้าผม เหมือนจะดุกันแต่ก็ไม่ ให้ความรู้สึกเหมือนคุณครูดุๆ แต่จริงๆ ก็หวังดี



“คิดเอาเองสิ เฮ้อ ให้ตายสิ แค่นี้ก็ไม่รู้เรื่องหรอ ทำไมยิ่งมองแล้วเธอยิ่งเหมือนลูกควายนะ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ” ว่าจบแบบนั้นแล้วหันหลังเดินหนีกันออกไปจริงๆ แบบไม่สนใจจะพูดกับผมอีก



“เอ้า!”



แม่งเอ้ย!! ทั้งแม่ทั้งลูกเลยที่ด่ากูว่าควาย ไม่แปลกใจแล้วจริงๆ ว่าพี่ดาบมันได้นิสัยและจริตแบบนี้มาจากไหน ปัดโถ่เอ้ย!



.

.

.


(มีต่อจ้าา)
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่39 {11/07/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 11-07-2020 21:15:27

‘คลิ๊ก’



เสียงปิดประตูหน้าห้องที่ดังขึ้นในที่สุดในเวลาสามทุ่ม ผมและอิเจ๊พี่มันก็ได้เวลาส่งคุณป้าและน้องแจกลับบ้านไปสักที



“เฮ้อออ กลับสักทีค่ะอิดอก กูนึกว่าแม่กูจะกลับชาติหน้า” เสียงถอนหายใจยาวๆ ที่ตามมาด้วยเสียงสองของคนที่ยืนซ้อนหลังของผมว่าออกมาแบบนั้นอย่างเหนื่อยๆ



“มึงเก่งมากๆ เลยค่ะหนู มึงทำยังไงแม่กูถึงกลายเป็นแม่คนปกติไม่ใช่มนุษย์ป้าข้างบ้านใจแคบ” มันยังคงว่าออกมาแบบนั้นอยู่ และคำพูดนั้นก็มาพร้อมๆ กับอ้อมแขนแข็งแกร่งที่สอดเข้ามาที่เอวของผม ตามมาด้วยใบหน้าคมที่ซุกลงที่ลาดไหล่



“เมียกูเก่งมากๆ เลยค่ะอิดอก กูอยากจะกรี๊ดให้กับเรื่องนี้ในรอบหกปีเลยค่ะ”



“พอ มึงกรี๊ดมาตลอดอยู่แล้ว ปล่อยโว้ย” พยายามดันตัวมันออกไปพร้อมๆ กับพยายามเดินกลับเข้าไปที่ห้องรับแขก แต่ไอ้มนุษย์หมีควายข้างหลังก็ไม่ยอมปล่อยกันไปสักที



“อื้อ อย่าสิคะอย่าดันกู คิดถึงมึงจะตาย จะมาปล่อยอะไรวะหนู ขอฟันหน่อยค่ะ”



“ปล่อยกูอิเจ๊พี่ดาบ”



“กรี๊ดๆ มึงอย่าข่วนหน้ากูค่ะ”



“ถ้าไม่ปล่อยกูจะข่วนให้มึงหน้าแหก” ว่าแบบนั้นแล้วพยายามยันหน้าที่ซุกลงมาที่ซอกคอของผมออกไป ลมหายใจร้อนๆ ที่เป่ารดกันแบบเรียกได้ว่ามันตั้งใจมากๆ มาพร้อมๆ กับริมฝีปากหยักที่ขบเม้มเบาๆ แบบทำให้ขนลุกวาบไปทั้งหลัง



“อย่าทำสวย กูผัวมึงนะ!”



“มึงปล่อยกูสัดพี่ดาบ กูมีเรื่องจะคุยกับมึง” ผมที่เลิกดิ้นว่าออกไปแบบนั้นด้วยเสียงที่ไม่เล่นกับมันอีกต่อไป คนที่ยังกอดยังซุกตัวผมจากทางด้านหลังชะงักไป ก่อนจะค่อยๆ ผละตัวออกช้าๆ



“มึงอย่าทำเสียงแบบนี้ได้ไหม กูกลัวนะคะ”



“ไปนั่งที่โซฟาตัวนู้นดีๆ ผมเหนื่อยมาก แต่เราต้องคุยกัน”



“เอมมม”



“ไป” บอกมันอีกครั้งแล้วชี้มือไปที่โซฟาเดี่ยว ก่อนที่ผมจะเดินไปนั่งที่โซฟาฝั่งตรงข้ามกับพี่มัน จริงๆ อยากพูดกันเรื่องนี้ตั้งแต่ที่มาถึง แต่มันมีเรื่องไม่คาดฝันเพราะแม่พี่ดาบมาบ้านซะก่อน เหนื่อยจังวะชีวิตไอ้เอม



“ทำไมต้องคุยตอนนี้วะเนี่ย คนคิดถึงมึงสะกดเป็นหรือเปล่า หรือใจมันด้านชาไม่เจอกูไม่กี่วันอ่ะเอมมมม....”



“วันที่ไปงานพี่เจอพาพวยทำไมไม่บอกผม” ผมถามออกไปแบบนั้นโดยไม่สนใจฟังว่ามันจะบ่นขิงข่าอะไรอยู่ พอโพล่งออกไปแบบนั้น พี่มันก็ชะงักค้างไปจังหวะนึง สายตาคมที่มองมาที่ผมชะงักไปนิดๆ



“ว่าไง มึงมองหน้ากูแล้วนึกหาคำตอบอยู่หรอ”



“ไม่ใช่แบบนั้น แต่คือกูไม่รู้ว่าพายจะไป”



“โอเคพี่ไม่รู้” ผมพยักหน้ารับคำพูดของอีกฝ่าย สายาก็ยังมองตรงไปที่พี่มัน คนที่มั่นใจมากๆ ในทุกๆ เรื่องตอนนี้มีอาการที่เรียกได้ว่าคนนั่งไม่ติด และเพราะแบบนั้นมันเลยยิ่งทำให้ผมต้องขมวดคิ้วเป็นปมเข้าหากันมากขึ้นไปอีก



“จริงๆ นะ กูไม่รู้ว่าพายจะไปที่งานนั่น”



“อืม ผมเชื่อ”



“มึงไม่เชื่อที่กูพูด แค่มองหน้ามึงกูก็รู้แล้วเอม” มันขมวดคิ้วออกมาแล้วถอนหายใจออกมาหนักๆ ในตอนที่เงยหน้าขึ้นมาจ้องหน้ากัน แต่เปล่า ผมเชื่อว่ามันไม่รู้จริงๆ



“ผมเชื่อ แต่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ต้องรีบวางสายไปแบบนั้น ผมไลน์หาทำไมถึงไม่ตอบล่ะ แค่อธิบายมาสิว่าพี่เจอเค้าหรืออะไรก็ได้ ผมที่อยู่ตรงนู้นห่างจากพี่ตั้งไกล ไม่คิดบ้างหรอวะว่าผมจะรู้สึกยังไงกับการทำแบบนี้ของพี่อ่ะ”



“กูแค่ไม่อยากให้มึงคิดมาก กูรู้ว่าพายที่มาอยู่ใกล้ๆ กู มันจะยิ่งทำให้มึงไม่สบายใจ”



“ใช่ ผมไม่ชอบหรอก หรือพี่ชอบเวลาที่เห็นใครที่พี่ก็มองออกว่ามันชอบผมมาอยู่ใกล้ๆ ผมล่ะ”



“ก็เพราะแบบนั้นไงกูเลยยิ่งไม่อยากบอก ไม่อยากให้มึงไม่สบายใจ”



“แต่ความสบายใจของผมมันคือพี่ แค่พี่พูดออกมาผมก็พร้อมจะฟังแล้ว แต่พี่ยิ่งทำแบบนี้ผมยิ่งสงสัยว่ามันมีอะไรกันแน่ที่ผมยังไม่รู้หรือเปล่า” ถามออกไปแบบนั้น จ้องตามันแบบนั้น พี่ดาบที่เงยหน้ามองกันด้วยสายตาคมดุแบบที่มันชอบมอง สีหน้าที่ไม่เปลี่ยนไปของมันจ้องตอบกับผม



“เฮ้อ...มึงแม่งไม่ใช่ลูกควายเลย” พี่มันถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วพูดออกมาเบาๆ แบบนั้น แต่โทษทีเหอะ กูได้ยิน



“มึงไม่รู้หรอว่าควายมันฉลาดมากแค่ไหน ไม่งั้นมันจะไถ่นาเพื่อปลูกข้าวให้คนแบบมึงแดกได้หรอ...ว่าไง มึงตอบกูมาดาบ”



ถามย้ำมันกลับไปแบบนั้น แล้วเอนหลังพิงลงไปที่พนักโซหา พร้อมๆ กับกอดอกรอฟังคำตอบของมัน ผมไม่ละสายตาไปทางไหน แค่มองตรงไปและรอเวลา เราสองคนที่นั่งเงียบๆ แบบไม่มีใครยอมพูดก่อน แต่ครั้งนี้ผมก็ไม่ยอม ถ้ามึงไม่พูดผมก็ไม่ยอมเหมือนกัน มันเป็นคนสอนให้ผมใช้เหตุผลที่จะคุยกัน เพราะแบบนั้นมึงก็คุยมา



“โอเค จริงๆ ตอนนี้กูกับป๊ากำลังสงสัยพาย”



“เรื่อง”



“วันนั้นที่ไปงาน พายไปกับครอบครัวพาย”

“แล้ว” ผมยังไม่เข้าใจว่ามันหมายถึงอะไร เค้าไปกับครอบครัวเค้าแล้วยังไง ไหนจุดประสงค์ที่กูต้องเข้าใจเรื่องที่มึงปิดกู

“มึงจำได้ไหม เรื่องที่กูเคยเล่าอดีตของพายให้ฟัง”



“ที่เค้ากับพ่อเลี้ยงเค้าจะอะบ๊ะจ๊ะโมะโบ๊ะบ๊ะกัน” ผมถามออกไปแบบนั้นพร้อมเลิกคิ้ว พี่มันพยักหน้ารับ



“กูเกลียดคำมึงจัง”



“เรื่องกู แล้วยังไงต่อวะพี่”



“ก็นั่นแหล่ะ แบบที่กูเคยเล่า พายออกมาอยู่คนเดียวตั้งแต่สมัยเรียน และที่ไปเรียนต่อต่างประเทศก็เพราะอยากไปรักษาโรคที่เป็น และอีกเรื่องก็เพราะจะได้ห่างจากครอบครัวเค้า แต่วันนั้น พายดันมางานกับพ่อเลี้ยงตัวเอง”



“ห๊ะ” กูนี่ย่นคิ้วขมวดเข้าด้วยกันเลย อะไรก่อนเอ่ย เรื่องที่พระพายเคยเจอมา ผมเข้าใจดีว่ามันไม่ใช่เรื่องปกติ แต่ทำไมเค้าถึงมากับคนที่เค้าทั้งเกลียดทั้งกลัวแบบนั้นได้วะ หรือโดนบังคับ



“นั่นแหล่ะ กูไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ที่แน่ๆ คือเค้ามาด้วยกัน และไอ้ผู้ชายคนนั้นก็คือคนที่พยายามอยากจะได้ที่เกาะที่สุราษฎร์ของกูพอดี กูกับพ่อเลยสงสัยว่าพวกเค้ากำลังอยากจะทำอะไร”



“นี่มันเรื่องใหญ่นะกูว่า ไม่ตลกแล้วป่ะพี่ดาบ”



“ก็นั่นแหล่ะ กูกำลังสืบๆ กันอยู่ ถ้ามีอะไรจะได้ป้องกันได้ทัน เพราะแบบนั้นเลยไม่ได้บอกอะไรให้มึงรู้ วันนั้นพอเค้าเดินมาหากูเลยรีบวางจากมึง ตั้งใจจะไปหลอกถามพาย”



“แล้วได้ผลไหมล่ะ”



“จะได้หรอคะอิดอก ชวนกูชนแก้วซะยับ”



“แล้วมึงก็ชนหรอ!”



“เอ้า กูคอแข็งน่าหนู อย่าโกรธกันสิ” เงยหน้าขึ้นมาช้อนตาผมแบบขอความเห็นใจ แต่หัวใจผมเต้นโครมคราม เอาอะไรมาเห็นใจมึงอ่ะดาบ



“อิเจ๊พี่มึง บทเรียนไม่เคยสอนมึงเลยนะ ถ้ามันเป็นยาปลุกเหมือนที่มึงเจอกูทำไง”



“ก็ทำให้ได้มึงเป็นเมียนี่ไงคะ” ว่าแบบนั้นแล้วยิ้มประจบ หน้าตาคล้ายหมาตัวใหญ่สีขาวๆ ขนฟูๆ เวลาอ้อนเจ้าของขออาหารเม็ดแดก



“กูตลกกับมึงหรอดาบ”



“กรี๊ด หนูอย่าพูดไม่เพราะกับพี่ ขอโทษแล้วไงเอม นะ อ้ายมีเหตุผล” กระพริบตาสองปริบตอนที่ว่าออกมาแบบนั้น มันที่ลุกขึ้นจากโซฟา แล้วโดดพุ่งเข้ามานั่งข้างๆ กัน



“เอมคะ พี่ขอโทษไงที่ไม่ได้ตอบไลน์ ก็คือมันชุลมุน”



“แล้ววันนี้มึงก็เงียบเหมือนตาย คือ?”



“คือกูเมาค้าง พึ่งฟื้น” ตอบออกมาเสียงอ่อยๆ ฝ่ามือหนาที่เกาะเข้ามาที่แขนของผมแล้วเงยหน้าช้อนตามองกันกระพริบตาปริบๆ มึงคิดว่ามึงน่ารักมากมั้ง



“พี่ขอโทษเอม นะ...ขอโทษนะหนู จะไม่ปิดบังอะไรอีกแล้วนะ” ว่าแบบนั้นแล้วเนียนขยับตัวเข้ามาใกล้มาใกล้กัน วงแขนแข็งแกร่งที่โอบเข้ามารอบเอวของผม พร้อมๆ กับหัวทุยๆ ของมันที่เอียงลงมาซบบนอกกันแบบอ้อนๆ



“ให้อภัยคนสวยแบบกูนะคะหนู” คำพูดชวนกูสับสน เรียกกูหนู แทนตัวมันว่าสวย แม่ง เจ็บไข่!



“เจ๊พี่มึง” เรียกมันแบบนั้น ในตอนนี้ที่กูรู้สึกว่าฝ่ามือหนาที่เคยกอดกูอยู่ที่สีข้าง มันค่อยๆ สอดเข้ามาในชายเสื้อ ฝ่ามืออุ่นๆ ที่แนบเข้ามาลูบข้างๆ เอวกันจนรู้สึกสะดุ้ง



“ไม่เจ๊ ตอนนี้กูจะผัว” ว่าแบบนั้นด้วยเสียงกระซิบ ใบหน้าหล่อที่ก่อนหน้านี้ยังทำกระแดะอ้อนเสียงสองและวางแหม่ะอยู่ที่อกของผม ตอนนี้มันย้ายขึ้นมาที่ซอกคอ กระซิบเบาๆ ลงข้างๆ กกหู ลิ้นร้อนๆ ของมันที่กดจูบลงมาเบาๆ ที่ใบหู ก่อนจะกัดเบาๆ ให้รู้สึกเสียววูบไปทั้งตัว



“พี่คิดถึงเอม อย่าโกรธกันนะ” ว่าแบบนั้น พร้อมๆ กับเลื่อนหน้ามาหอมแก้มกัน มือหนาที่ลูบขึ้นมาที่หัวนม นิ้วชี้กับนิ้วโป้งของมันที่บี้ลงมาที่หัวนมของผมแบบคนชำนาญ



“เดี๋ยวเจ๊...”



“พี่ไม่อยากเดี๋ยวแล้วเอม” เสียงกระเส่าที่มาพร้อมๆ กับสันจมูกโดงที่หอมลงมาที่ข้างแก้ม ลากผ่านใบหน้าของผม เอียงหน้าทำมุมที่จะแนบริมฝีปากลงมาบดจูบกันตามแรงอารมณ์ มันติดตรงที่ฝ่ามือของผมยกขึ้นมากันเอาไว้ซะก่อน อีกคนที่ชะงักไปและผละหน้าออกมามองขมวดคิ้วมองกันแบบไม่เข้าใจ



“ใจเย็นจัง ผมทำให้พี่เองดีกว่าป่ะ” ว่าออกไปแบบนั้นแล้วยิ้มน่ารัก อีกคนที่เบิกตากว้างในตอนได้ยิน ผมทำแค่ผลักอีกฝ่ายลงไปนั่งแล้วผมก็ทรุดตัวลงไปนั่งลงที่พื้นด้านล่างของโซฟา ดึงกางเกงบอลสภาพทุเรศทุรังของมันลงพร้อมๆ กับชั้นใน อีกฝ่ายที่ให้ความร่วมมือกันดี พี่มันลุกตัวขึ้นเล็กน้อยให้ผมดึงกางเกงมันลงไปได้แบบง่ายๆ พร้อมมาตั้งแต่เมื่อวานเลยสินะมึง



“อื้ม เอม” แค่จับก็ร้องครางออกมาแล้ว เห็นแบบนั้นแล้วได้แต่ยกยิ้มมุมปาก ผมขยับฝ่ามือชักรูดขึ้นลงเบาๆ ในตอนเริ่ม มองเห็นคนที่นั่งอยู่ด้านบนเงยหน้าขึ้นไปเอาหัวพิงพนังโซฟาอย่างสบายใจ สุขสุดๆ ไปเลยนะอิเจ๊พี่มึง



ผมขยับตัวลุกขึ้นมานั่งคุกในท่วงท่าที่เหมาะสม ก่อนจะก้มหน้าลงไปใช้มือจับส่วนกลางของอีกคนไว้ ใช้ลิ้นเลียที่ส่วนหัว ได้ยินเสียงอีกฝ่ายครางออกมาแบบพอใจ แลบลิ้นลงไปเลียอีกครั้งเบาๆ ในตอนนี้ที่พี่มันก็ยื่นมือมาลูบหัวของกันเอาไว้ ค่อยๆ ครอบริมฝีปากลงไปอมส่วนปลายช้าๆ รับรู้ได้ถึงแรงสะท้านของอีกคนได้เลยในตอนนี้ รูดขึ้นรูดลงใช้ริมฝีปากครอบมันเอาไว้ ผมทำช้าๆ อย่างจงใจ ปรือตาขึ้นไปมองอีกฝ่ายที่ตอนนี้แทบจะอยู่ไม่สุข



"เอม อื้ม" ครางออกมาแบบนั้นพร้อมๆ กับเด้งตัวขึ้น ผมใช้มือกำรอบแกนกายอีกฝ่ายไปด้วย รูดปากขึ้นลงเพิ่มอัตราเร็วให้ทุกอย่างเร็วขึ้น รับรู้ได้เลยว่าอีกฝ่ายมีอารมณืมาแล้วแค่ไหน ท่อนกายที่โปร่งพองอยู่ในปากของผม





" อื้ออ เอม แบบนั้น เร็วอีกสิ" สั่งเก่งงง



แกนกายของอีกฝ่ายที่มันเริ่มใหญ่ขึ้น ทุกอย่างคับปากของผมไปหมด คับจนขยับยาก พี่ดาบที่หายใจถี่ขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นเริ่มติดขัด



รับรู้ได้ว่ามีน้ำปริ่มๆ ตรงส่วนปลาย



" อ๊า... เอมครับ อื้มม" พี่มันที่ร้องครางออกมาแบบนั้น แบบที่ว่าขอให้ผมรีบช่วยให้มันไปถึงฝั่งให้ไวกว่านี้ และใช่...เดี๋ยวมึงรู้เลย



"เอม...." ผมที่ผละริมฝีปากออกมาจากแกนกายของมัน และพี่มันที่ยันหันขึ้นมามองหน้ากันแบบไม่เข้าใจ หน้าแดงๆ ของอีกฝ่ายที่บอกให้ผมรู้ว่ากำลังต้องการปลดปล่อยมากแค่ไหน และใช่ ผมทำแค่ยกยิ้มมุมปากแล้วลุกขึ้นยืนในตอนนี้ มองเห็นสีหน้าเหรอหราของอิพี่มันแล้วอยากจะขำออกมาให้ลั่น



"พอละ ผมเหนื่อย"



"เดี๋ยว มึงหมายถึงอะไร หนู"



"สิ่งที่พี่มึงต้องรับไว้คือความไม่พอใจของกูที่พี่มึงกล้าเมินกูแล้วไปอยู่กับพาพวย" บอกออกไปแบบนั้น แล้วถอยห่างออกมาจากมัน ที่พยายามจะเอื้อมมือดึงรั้งแขนกันไว้



"เดี๋ยวเอม ไม่เอาสิวะ กูขอโทษไงหนู"



"ขอโทษก็ส่วนขอโทษดิ กูรับไว้แล้ว แต่กูยังไม่พอใจ งั้นก็แค่นี้แหล่ะ เจ๊มึงช่วยตัวเองไปแล้วกัน" บอกมันออกไปแบบนั้นแล้วเดินหนีอ้อมหลังมันเข้าไปในห้อง พี่มันที่หันหน้ามาแนบกับพนักพิงด้วยหน้าตางงโลก มองผมแบบยังปรับสติตามไม่ทัน ผมที่เอามือจับประตูห้องนอนเอาไว้หันมายิ้มให้พี่มันอีกครั้ง



“และคืนนี้พี่มึงนอนข้างนอกนะ ผมจะนอนในห้องคนเดียว”



“เดี๋ยวเอม เดี๋ยวมึงเดี๋ยว”



“จำเอาไว้ อย่าให้กูรู้อะไรคนสุดท้ายอีกดาบ”



“เอมมมม เดี๋ยวมึง” ร้องบอกออกมาแบบนั้นในตอนที่มันลุกขึ้นแล้วพยายามจะวิ่งเข้ามาหาผม แต่โทษที กูปิดประตูทันแล้วล็อคห้องเรียบร้อย ก่อนประตูจะปิดสนิท มองเห็นสภาพพี่มันที่กางเกงกับชั้นในลงไปกองที่ข้อเท้า มันที่พยายามจะวิ่งมาหาผมทั้งๆ ที่ตรงนั้นก็ตั้งโด่ชี้หน้ากัน และใช้....มันสะดุดขากางเกงลงไปกองกับพื้น สมหน้า~~



‘ปังๆๆ’



“เอมมมมมมม มึงเปิดประตูให้กูเลยนะไอ้ตัวดี”



“มึงฝันหรา คืนนี้ฝันดีจ้าเจ๊ดานี่จ๋า”



“แสบนักนะมึงเนี่ย!”



“กู๊ดไนท์จ้าคนสวย ฮ่าๆๆๆ” ตะโกนออกไปแบบนั้นแล้วเมินมันไปอาบน้ำ หัวเราะตบท้ายแบบผู้มีชัยในโลก มึงจำไว้เป็นบทเรียนเลยพี่ดาบ มึงต้องเจอแบบนี้! หึ่ย



...



(inside Story ของพี่ดาบ ในเล่ม)



...



“แล้วแบบนี้คือมึงก็ผ่านด่านแม่ผัวมึงแล้วสิคะใช่ไหมอิลูกกกก กูอยากจะกรี๊ด”



“กูก็ไม่รู้นะ แต่ว่าอาทิตย์ก่อนก็ไปบ้านพี่มันมา แม่พี่มันก็ดูไม่แย่เหมือนตอนแรกๆ ที่เจอกันแล้ว เค้าชมว่ากูทำเครื่องดื่มอร่อย กูทำพวกน้พสมุนไพรให้เค้าชิมด้วย”



“เหยดดด กูดีใจกับมึงจังเลยค่ะอิลูก มากอดที”



“อย่า มึงอย่าเอานมฟองน้ำมาดันแขนกูได้ไหมป้า”



“เอ๊ะ อินี่ ของจริงล้วนๆ ไม่เชื่อมึงจับ”



“ไม่ๆๆ มึงอย่ายื่นนมเข้ามานะเว้ยกูมีพระ”



ผมฟังไอ้สองตัวนี้เถียงกันอยู่แบบนี้มาหลายนาทีแบบที่ไม่รู้ว่าจะเอาอะไรไปแทรก และที่สำคัญในตอนนี้พอหันไปมองก็เจอไอ้หยีที่เด้งหน้าอกในชุดนักศึกษารัดๆ ของมันเข้าไปหาไอ้เอมที่ถอยหนี อีกนิดแม่งจะตกเก้าอี้อยู่แล้ว กลัวมากครับ กลัวนมไอ้หยี เห็นแบบนั้นเลยต้องเอื้อมมือไปโอบหลังของมันเอาไว้



“ป้ามึงก็เลิกแกล้งมัน ส่วนมึงนี่ถ้ากูไม่กันมึงตกม้าหินไปแล้วไอ้เอม”



“ก็มึงดูป้ามันดิ ห่า ผู้หญิงน่ากลัว” ไอ้เอมมันว่าออกมาแบบนั้นแล้วยังเขยิบตัวหนี ไอ้หยีเบ้ปากใส่ตอนที่ได้ยินแบบนั้น



“เพราะมึงทำตัวแบบนี้ ผู้ชายเค้าถึงกลัว” หันไปว่ามันแบบนั้น ไอ้หยีก็หยิบหลอดจากแก้วน้ำข้างๆ มาเป่าน้ำแข็งใส่หัวผม สัด



“ห้ามว่ากูนะอิผัว มึงเข้าใจคำว่าของแรร์ไหมคะ กูเนี่ยแรร์ไอเทมค่ะ”



“ของเก่าของแก่น่ะหรอวะ” พูดออกไปแบบนั้นพร้อมๆ กับต้องลำบากเช็ดน้ำแข็งออกจากหน้า



“สัดค่ะ ว่าแต่กูมึงมีไหมเมียน่ะ มีไหมมมมม” ยื่นปากยื่นคอด่ากันจากฝั่งตรงข้าม แต่ถึงแบบนั้นคำพูดของมันก็เหมือนแทงใจกันแปลกๆ หันไปมองหน้าไอ้เอมที่นั่งอยู่ข้างๆ กัน มันทำหน้ากรุ้มกริ่มส่งมาให้ ผมรู้ว่ามันอยากจะล้อกันเรื่องไอ้เสือ แต่...เหอะ ตั้งแต่กลับมาจากค่ายนี่ก็ผ่านมาสองอาทิตย์แล้ว ผมยังไม่เห็นหน้าแม่ง หรือถ้าเห็นแม่งก็แกล้งทำหลบ สัด หงุดหงิด



“อุ้ย พูดแค่นี้ทำเป็นหน้าหงิดเป็นส้นตีน หรือไม่ทราบว่าผัวแอบไปซุกเมียไว้หรือไม่คะ ยังไงจ๊ะๆๆ” ไอ้ป้ายังว่าแบบนั้น จีบปากจีบคอล้อกันเหมือนรู้อะไร



“มึงหมายความว่าไง”



“เปล่าหมายความอะไร กูถามเฉยๆ มึงเสียงเข้มทำไม มึงจริงจังอะไร หรือมึงมีๆๆๆ” เบิกตากว้างขึ้นถามกันแบบนั้น ผมถอนหายใจใส่แม่งอีกเฮือกแล้วหันหน้าหนี



“กูก็นึกว่ามึงมี น้องเสือ!”



“เกี่ยวเหี้ยไรกับไอ้เสือวะ เด็กเหี้ยนั่นจะมาเป็นเหี้ยอะไรกับกู!” พอได้ยินแบบนั้นแล้วยิ่งหงุดหงิด แค่ได้ยินชื่อแม่งก็ยิ่งไม่พอใจว่ะ อารมณ์โกรธของผมมากขึ้นไปเรื่อยๆ แค่นึกถึงเวลาที่มันเห็นกันแล้วเอาแต่หลบหน้าแม่งก็โมโหแล้ว เดี๋ยวนี้ผมยิ่งเห็นแม่งไปสุงสิงกับไอ้เด็กต่างคณะนั่นแล้วยิ่งหงุดหงิดตีนว่ะ



โพร่งออกไปแบบนั้นแล้วเงยหน้าขึ้นไปมองไอ้หยี มันที่ทำหน้าเหวอไปเลยในตอนนี้ กระพริบตาปริบๆ แล้วก็หน้าเสีย มองเห็นมือมันที่ยกค้างขึ้นไปในอากาศเหมือนกำลังโบกมือ



“สวัสดีครับพี่ๆ” เสียงของใครอีกคนที่ผมไม่ได้ยินมาสองอาทิตย์เต็มๆ พอได้ฟังแล้วเสียวไปทั้งสันหลัง หันหน้าไปมองก็เห็นมันที่ยังเหมือนเดิมไม่ต่างออกไปจากที่เคยเห็น แต่มองจากมุมนี้เหมือนมันจะผอมลง ไอ้เสือยกมือขึ้นสวัสดีพวกเรารอบๆ โต๊ะ ก่อนที่สายตามันจะเมินหน้าผมไป แต่สุดท้ายก็ไปหยุดอยู่ที่แขนของผมที่ยังโอบไอ้เอมอยู่ K!



ชักมือกลับมาในตอนนี้ แต่เหมือนจะไม่ทันแล้ว มองหน้าของมันที่ยกยิ้มขืนๆ ขึ้นมา แล้วก็เมินผ่านหน้าของผมไปหาไอ้หยีอีกที



“ผมมีเรียนขอตัวก่อนนะครับ” มันที่ว่าแบบนั้นแล้วจ้ำเท้าก้าวพรวดๆ จากไป



“ปากมึงอ่ะสัดหมาอิเก้อ” ไอ้หยีด่าออกมาแบบนั้น



“ควายแท้ๆ ไม่มีวัวผสม บางทีกูก็อยากตัดเขาบนหัวกูไปสวมบนหัวมึง” ไอ้เอมว่าต่อกลับมาอีก



“ไม่ต้องเอาไปสวมให้มันมันก็เขายื่นแล้วค่ะ มึงอย่าเข้าใกล้มันมากนะอิเอม เดี๋ยวเขาอิเก้อมันจะทิ่มตามึง”



“สัด” สบถออกมาแบบนั้น พูดได้แค่นั้นจริงๆ ... แล้วใครแม่งจะคิดว่ามันจะเดินมาล่ะวะแม่ง เหี้ยทั้งหมด ไม่เคยจะมีจังหวะดีๆ บ้างเลยหรอแม่ง



.

.

.



“Hey มาเที่ยวทั้งที ทำไมมึงทำหน้าไม่จอยเลยวะไอ้เก้อ” เสียงไอ้แมทว่าออกมาแบบนั้น ผมถอนหายใจออกมาพร้อมๆ กับที่ยกแก้วตรงหน้าขึ้นดื่ม สถานที่เดิมๆ แต่คนที่เคยมาไม่ใช่คนเดิม เพราะไอ้คนนั้นแม่งหลบหน้ากันฉิบหาย



“มันเป็นอะไรวะ” ไอ้แมทหันหน้าไปถามไอ้จั๋น มันสองคนที่มองหน้ากันแล้วยักไหล่ใส่กันแบบงงๆ แต่ถึงแบบนั้นผมก็ไม่สนใจ ไม่รู้สึกอยากพูดอะไร เป็นความรู้สึกที่เบื่อฉิบหายแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ผมแค่รู้สึกไม่อยากอยู่ห้องคนเดียว เลยออกมาเที่ยวกับพวกมันสองคน



“กูไปเข้าห้องน้ำนะ”



“เข้าห้องน้ำหรืออะไรกันแน่วะเพื่อน” ไอ้จั๋นยิ้มแบบรู้ทัน เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ตอนอยู่เมืองนอก สันดานคล้ายๆ กัน แต่ตอนนี้มันเลิกแล้วเพราะมีแฟน ... ส่วนกูโสด



“เออ ถ้าเจอไงกูกลับเลยนะ”



“โอ้ก็อต จะอะไรขนาดนั้นวะนี่พึ่งกี่โมง อีกอย่างมึงมีแฟนแล้วนะเพื่อน” ไอ้แมทว่าออกมาแบบนั้น เงยหน้ามองกันพร้อมขมวดคิ้ว



“แฟนกูใคร”



“เอ้า น้องเสือไม่ใช่ไง ก็มึงบอกให้กูไปตามแก้ข่าว มึงรู้ไหมว่าเหนื่อยแค่ไหนอ่ะสัด” ไอ้จั๋นด่าออกมาแบบนั้น แล้วนั่นก็ทำให้นึกขึ้นได้ถึงเรื่องตอนนั้นที่บอกให้พวกมันไปแก้ข่าวให้ไอ้เสือ... แต่ก็สมควรแก้ไหมวะ มันไม่เด็กเสี่ย ไม่เคยเป็นเลยสักครั้ง



“เออ ช่างเหอะ มันไม่สนใจไรกูหรอก”



“มึงทะเลาะกันหรอวะเพื่อน”



“มั้ง” ถอนหายใจออกมาอีกครั้ง จะบอกแม่งไปตรงๆ ว่าแค่คนเคยได้กัน แต่ตอนนี้มันบอกให้จบกันไปแม่งก็โคตรอารมณ์เสียละ ผมหันหน้าหนี ก่อนจะมองไปรอบๆ และในตอนนั้นสายตาของผมก็ปะทะเข้ากับใครอีกคน ใครอีกคนที่ต่อให้ไกลแค่ไหนผมก็มองออกว่าใคร



ไอ้เสือ



มันที่กำลังมีผู้หญิงคนนึงนั่งตักมันในตอนนี้ มันที่กอดรอบเอวของเธอคนนั้นแล้วก็เริ่มจูบกันแบบไม่อายใคร



“K”



“ห๊ะ...มึงมาคงมาKอะไรอ่ะเพื่อน” ไอ้แมททำหน้าเหลอหลา ถามออกมาแบบไม่เข้าใจ ผมที่ลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปใกล้ และในตอนนั้นที่ก็ชนเข้ากับใครอีกคนแบบที่กูไม่ตั้งใจ แต่เหมือนเธอตรงหน้าจะดูตั้งใจดี



“โอ๊ะ ขอโทษค่ะพี่”



“ครับ”



แรงปะทะที่ทำให้เธอที่ไม่ทันระวังชนเข้ากับเด็กเสริฟจนถังน้ำแข็งร่วง ผู้คนรอบข้างที่หันมามองเรา รวมถึงใครอีกคนที่ผมอยากให้มันหันมาเป็นที่สุดคนนั้นแหล่ะ



“แอ็ปเปิ้ลค่ะ” เธอว่าแบบนั้นแล้วยื่นมือมาให้ ผมปรายตาไปมองไอ้เสือที่ผละออกจากคนบนตักของมันแล้วยกยิ้มมุมปากออกมาในตอนนี้



“เก้อครับ”



“ชื่อแปลกจัง มาจากอะไรหรอคะ”



“มาจากไทเก้อ” ผมตอบออกไปแบบนั้น เธอที่ยิ้มแบบชอบใจก่อนจะเดินเบียดเข้ามาหา และในตอนนั้นที่แขนของผมก็ยื่นไปกอดรอบเอวบางของเธอเอวไว้แบบอัตโนมัติ



’ วี๊ดวิ้ว’



ได้ยินเสียงผิวปากล้อเลียนและโห่แซวดังมาจากไอ้แมทและไอ้จั๋นในทันที เธอที่โอบรอบคอของผม พร้อมๆ กับเสียงดนตรีที่ดังขึ้นเป็นจังหวะ ผมกับเธอที่เต้นด้วยกันอยู่ตรงนั้น ส่วนมันและผู้หญิงบนตักก็นั่งไม่ห่างออกไป ผมหันหน้าไปหามัน ก่อนจะเอียงหน้ากดจูบลงไปบนริมฝีปากที่ถูกแต่งแต้มด้วยลิปสติกเนื้อดี ลิ้นเล็กที่แทรกเข้ามาในโพรงปากของผมอย่างชำนาญนั่นไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกอะไร เพราะสายตาของผมก็ทำแค่มองตรงไปที่ตาของใครอีกคนที่กำลังจูบกับใครอีกคน แต่สายตาของมันก็ไม่ได้ละสายตาไปจากผมเลยสักนาที



ไอ้เสือ....

--------------To be continued--------------



เอิ้วววว มาแล้วจ้าาา สามทุ่มเวลาเดิม เพี่ิมเติมคือยาวมาก

ตอนนี้มาเคลียร์อะไรหลายๆ สิ่งนะคะ อะไรหลายๆ อย่างกำลังจะเดินไปแบบถูกทาง

ส่วนตอนนี้จริงๆ จะมีตอนของพี่ดาบด้วย แต่ตัดอยู่ในเล่ม แบบอิ๊อ๊ะ

แล้วก็ความเก้อเสืออ่ะค่ะ มันจะแบบ อั๊ย

แคทหวังว่าหลายๆ ท่านจะสนุกไปด้วยกันนะคะสำหรับตอนนี้

เข้ามาหวีดร้องคอมเม้นท์ตอนนี้กันได้อีกทางที่ #สวยๆ เป็นผัว ในทวิตเตอร์จ้า

 :mew1: :3123: :pig4:

หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่39 {11/07/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 11-07-2020 23:58:06
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่39 {11/07/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 12-07-2020 01:02:17
เย้ๆ น้องเอมชนะใจว่าที่แม่สามีได้แล้ว  แต่สมน้ำหน้าอิเจ้เจออิทธิฤทธิ์ควายน้อยเข้าไป. งัยล่ะ  :laugh:

อิคู่รองนี่ท่าจะหาทางจบยากเน๊อะ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่39 {11/07/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 12-07-2020 07:23:51
อิพี่เก้ออออออออออออ :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่39 {11/07/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 12-07-2020 08:59:18
รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่39 {11/07/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 16-07-2020 09:02:13
เขาส่งสายตาให้กันแล้ววว ดูสิใครจะทนไม่ไหวก่อนกัน มายาวจุกๆ เลยจ้าตอนี้ อีพี่ดาบสมน้ำหน้าจริงๆ  :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่40 {18/07/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 18-07-2020 20:17:38
บทที่40



“เธอกลับไปเหอะ เสือไม่มีอารมณ์แล้วว่ะ”



ผมหยุดเดินในแล้วว่าออกไปแบบนั้น ตอนที่เดินออกมาถึงหน้าร้าน หญิงสาวคนสวยที่อยู่ข้างๆกันกันชะงักขาเรียวสวยของเธอก่อนจะหันมามองกันแบบไม่เข้าใจ



“เอ้า ทำไมอ่ะเสือ ไม่มีอารมณ์เดี๋ยวเนเน่ช่วยทำให้มีอารมณ์ใหม่ก็ได้นี่” เสียงออดอ้อนที่ว่าออกมาแบบน่ารัก แต่ถึงแบบนั้นผมก็ทำแค่ส่ายหัว



“อย่าเลย เสียเวลาเปล่า แยกกันตรงนี้ละกัน เสือไม่ส่งนะ” ผมบอกปัดออกไปอีกครั้ง เสหน้าหนีเธอที่มองมาแบบไม่สบอารมณ์มองไปทางอื่น รู้สึกเหนื่อยขึ้นมาจนขี้เกียจจะพูด ได้ยินเสียงฮึดฮัดขัดใจของเธอที่ดังอยู่ใกล้ๆ แต่สุดท้ายเธอก็สับขาจากไปโดยที่ไม่มีคำล่ำลากันสักคำ ก็คงจะหงุดหงิดน่าดู  แต่ให้ทำไงได้วะ อยู่ๆคืนนี้ผมก็ไม่อยากจะไปไหนต่อขึ้นมาซะแบบนั้น



‘ฟู้ววว’



เงยหน้าเอาหลังพิงกำแพงแถวๆลานจอดรถที่ร้างผู้คน ก่อนจะค่อยๆพ่นควันสีเทาๆเป่าออกไปไกลๆไปในอากาศ กลิ่นบุหรี่อ่อนๆจางๆที่ทำให้ต้องเผลอนึกถึงใครอีกคน พร้อมๆกับสัมผัสของมัน รสจูบของมันที่มีกลิ่นแบบนี้เจือจางอยู่ใกล้ๆแก้มของผม... ใครอีกคนที่ตอนนี้มันคงกำลังกอดรัดอยู่กับผู้หญิงอีกคนอยู่ข้างในผับนี้ และในคืนนี้ก็คงไปจบลงบนเตียงสักที่แบบที่มันชอบทำ



“โลกกลมเหี้ยไรนักวะ”  บ่นกับตัวเองแบบนั้นพรางส่ายหัวไปด้วย ... ทั้งๆที่ตั้งใจไว้แล้วว่าจะจบๆกันไป ตั้งใจไว้แล้วว่าจะถอยห่างออกมาให้ไกลที่สุด แต่สุดท้ายก็ยังเท่าเดิม



“Kเสือ มูฟออนเป็นวงกลมหรอวะ ลูซเซอร์สัดๆ” แค่นยิ้มสมเพชตัวเองออกมานิดๆก่อนจะยกมือขึ้นเสยผมที่ปรกหน้าออกไป สายลมอ่อนๆที่พัดเบาๆทำให้ยิ่งรู้สึกรู้สึกสั่นไหว และพูดจริงๆแบบคนขี้แพ้สุดๆก็คือว่ายิ่งได้เห็นหน้ามันแล้วก็ต้องบอกว่าคิดถึงจริงๆ อาทิตย์นี้จะครบเดือนนึงแล้วที่ผมกับมันไม่ได้คุยกัน บอกตัวเองว่าดีแล้ว มึงทำถูกแล้วไอ้เสือ แต่ถึงจะบอกย้ำๆแบบนั้น แต่ใจก็ยังไม่ลืมมันอยู่ดี



“K! แม่งเอ้ย”



เออ Kจริงไม่ติงนัง ... แต่ว่านั่นไม่ใช่เสียงของกูที่พูดออกมาสักหน่อย



‘ฟิ้ววว’



หันหน้าไปมองเสียงนั้น พร้อมๆกับที่เห็นกระป๋องเบียร์ลอยละลิ่วมาทางนี่ และใช่



‘ปึก’



ทำมุมเฉียงลงหัวกูเต็มๆ ก่อนจะทำชิ่งจากหัวกูกระแทกลงพื้นลงเสียงดังเคร้งคร้างน่าเอ็นดู ... เอ็นดูก็เหี้ยละ กางหัวกูเลย



“โอ๊ย เจ็บนะสัด” ร้องตะโกนบอกออกไปแบบนั้น ก่อนจะหันหน้าไปมองอย่างฉุนๆ สัดหมาที่ไหนเตะกระป๋องใส่หัวกู



“...มึง” 



คำพูดสั้นๆที่ดังออกมาจากปากของคนที่อยู่ตรงหน้าไม่ใกล้ไม่ไกล ร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่ตรงนั้นค่อยๆตาเบิกกว้างขึ้นตอนที่เห็นหน้ากัน ก็คงไม่ใช่แต่มัน แต่รวมถึงผมด้วยในตอนนี้ ... ทำไมมึงมายืนอยู่ตรงนี้ได้วะ หรือว่ามันกำลังจะกลับแล้ว



เป็นช่วงเวลาที่เงียบจนรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ เราที่ยืนอยู่กันคนละฝั่ง ต่างฝ่ายต่างจ้องหน้ากันแบบไม่มีใครพูดอะไร ก็แค่ยืนมองกันเงียบๆ ปล่อยให้เวลามันเดินต่อไป โดยที่เราไม่คิดจะทำอะไรไปมากกว่านี้ เป็นความรู้สึกเหมือนเดจาวู เหมือนกับครั้งแรกที่ผมได้เจอมัน ตรงซอกข้างๆตึกคณะในวันนั้นผมก็ยืนสูบบุหรี่อยู่แบบนี้ แล้วมันก็เตะกระป๋องใส่หัวกันแบบนี้จนทะเลาะกันเละเทะ หรือจะเป็นครั้งที่สองที่เจอกันที่ผับ วันนั้นมันก็เตะกระป๋องมาใส่ผมเหมือนกัน และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่ต้องเจอมันในรูปแบบเดิมๆ แต่สถานะก็ต่างออกไป



“มาสูบบุหรี่หรอวะ”  เป็นมันที่เปิดปากพูดออกมาก่อนในที่สุด ผมกระแอมไอในลำคอนิดๆให้คอโล่ง ก่อนจะพยักหน้าตอบกลับไป



“อืม”



“กูนึกว่ามึงกลับไปแล้วซะอีก” มันว่าออกมาแบบนั้น สายตาของมันที่จ้องมาที่หน้าผมแบบแทบจะไม่กระพริบตา



“ก็...กำลังจะกลับ”  มันพยักหน้ารับแล้วมองซ้ายมองขวารอบๆตัวผม ไม่รู้ว่ามันมองหาอะไรเหมือนกัน แต่ถึงแบบนั้นก็ช่างมันเถอะ เราสองคนก็ไม่มีอะไรต้องพูดกันอีกแล้วไม่ใช่หรอวะ ผมหันหลังแล้วตั้งใจจะเดินฉีกออกไปอีกทาง เดี๋ยวค่อยไปหาแท็กซี่โบกเอาข้างนอกละกัน .... ส่วนมันก็จะได้กลับไปหาผู้หญิงคนนั้นตามสบาย



“มึงจะกลับยังไง”  ผมชะงักก้าวที่กำลังจะเดินต่อ เพราะเสียงจากคนที่คิดว่าจะเดินกลับเข้าไปแล้วยังดังตามมา หันกลับไปมองหน้ามันที่ขยับขาเดินเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นอีกก้าว



“ก็แค่...โบกแท็กซี่กลับ” หันไปตอบอีกคนที่มองตรงมา สายตาของมันซับซ้อนแบบที่ผมเคยเห็น เป็นคนที่ไม่สามารถอ่านอะไรจากสายตาของมันได้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร มันที่ไม่พูดอะไรออกมา และใช่ ผมเองก็เช่นกัน และพอเห็นมันเป็นแบบนั้นผมก็แค่หันหลังกลับไปอีกครั้ง ... ก็เสียเวลาเปล่าที่จะจ้องตากันไม่ใช่หรือไง



“กลับกับกู” สามคำสั้นๆที่ไม่ดังไม่แผ่ว แต่ก็เป็นคำพูดที่ดังพอจะให้ขาของผมหยุดเดิน ผมที่ชะงักอยู่ตรงนี้ ยังไม่ได้เดินไปไหนต่อแต่ก็ไม่ได้หันกลับไปมองหน้ามัน ได้ยินเสียงลากเท้าที่ดังเข้ามาใกล้กันมากขึ้นกว่าเดิม



“เสือ ...เดี๋ยวกูไปส่ง...”



ฝ่ามือหนาที่เอื้อมมาจับข้อมือข้างขวาของผมเอาไว้เบาๆ เป็นความรู้สึกที่ส่งผ่านมาว่าอยากจะดึงเอาไว้ แต่กลัวว่าถ้าบีบแรงไป แล้วผมจะหันกลับไปปฏิเสธมัน



“กลับด้วยกัน...นะ”



‘นะ’...หนึ่งคำสั้นๆที่เหมือนเป็นประโยคขอร้องแกมคำถาม เป็นการเปิดทางให้ผมได้เลือก และในตอนนั้นฝ่ามืออุ่นๆของมันที่จับเข้าที่ข้อมือของผม รับรู้ได้ถึงแรงสั่นน้อยๆจากใครอีกคน ค่อยๆหันกลับไปมองหน้าคนที่มองมาที่ผมแบบไม่มั่นใจอยู่ในตอนนี้ ก่อนที่ขาไม่รักดีจะค่อยๆเดินตามมันไป



ก็ไม่แน่ใจว่า เป็นเพราะขาหรือใจกันแน่ที่มันไม่รักดีกว่ากัน



               บรรยากาศเงียบๆที่โรยตัวอยู่บนรถทำให้รู้สึกอึดอัด เป็นแบบนั้นแม้ว่ารถที่นั่งอยู่จะหรูแค่ไหนก็ตาม ได้แต่ถอนหายใจออกมาเบาๆแล้วหันหน้าออกไปมองนอกหน้าต่างรถ มองไม่เห็นอะไรนอกจากไฟถนนตามทางและรถคันข้างๆที่ก็คงกำลังขับไปที่ไหนสักที่ในถนนสายเดียวกัน



‘คลิ๊ก’



เสียงกดปุ่มเปิดเพลงที่ดังขึ้นแหวกอากาศมาจากคนข้างตัวที่ไม่ต้องหันหน้าไปมองก็รู้ว่ามันกำลังทำอะไร ก็ทำเหมือนที่มันชอบทำประจำเวลาที่เมื่อก่อนขึ้นรถคันนี้ไปกับมันเสมอ



 

Can’t we just talk?  Can’t we just talk?

เรามาคุยกันหน่อย เรามาคุยกันหน่อยไม่ได้หรอ

Talk about where we’re goin’

คุยกันเกี่ยวกับเรื่องที่กำลังเกิดขึ้น

Before we get lost, let me out first

ก่อนที่เราจะหลงทางไปมากกว่านี้ ผมขอบอกเธอก่อนนะว่า

Can’t get what we want without knowin’

ผมไม่สามารถเข้าใจในสิ่งที่ต้องการได้หรอกนะ ถ้ายังไม่รู้อะไรเลย





เสียงเพลงเบาๆที่เปิดขึ้นท่ามกลางความเงียบระหว่างเราสองคน พร้อมๆกับเสียงฮัมเพลงของคนข้างๆที่ร้องคลอไปกับเพลงนั้นด้วย เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินมันร้องเพลง แต่ถึงแบบนั้นกลับไม่อยากจะฟังเอาซะเลย เนื้อหาของเพลงที่กำลังบอกเป็นนัยๆว่า เราลองกลับมาคุยกันหน่อยดีไหม ...



ไม่อยากจะฟัง เพราะไม่อยากจะคิดว่ามันกำลังตั้งใจเปิดให้ผมฟัง เพราะแบบนั้นก็เลยทำแค่เพ่งมองออกไปที่รถคันด้านข้างที่ขับอยู่ข้างๆกันแทน ได้ยินเสียงเคาะพวงมาลัยของมันไปพร้อมๆกับฮัมเพลงที่เปิดไป ดูเหมือนมันจะอารมณ์ดีมากมาย ทั้งๆที่วันนี้ก็ไม่ได้พาใครกลับมาเหมือนที่มันชอบทำ มันที่ขับรถช้าๆแบบสบายอารมณ์ชิลๆจนไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร ทั้งๆที่ปกติมันก็ตีนผีดีๆคนนึง คืนนี้ในช่วงเวลานี้ รถน้อย ถนนโล่ง แต่มันก็ทำแค่ขับไปช้าๆใครอยากแซงมันก็แค่ปล่อยไป ปล่อยรถให้ติดต่อไปในทุกๆไฟแดงอย่างไม่เร่งรีบ ... แต่ถึงแบบนั้น ต่อให้มันพยายามจะขับไปให้ช้าแค่ไหน แต่ในเมื่อเวลามันเดินต่อไป เราก็ต้องถึงจุดหมายกันอยู่ดี ... พร้อมๆกับเพลงท่อนสุดท้ายที่เล่นจบลงไม่ต่างกัน



Figure out where we’re goin’

มาหาคำตอบเถอะว่าความสัมพันธ์ของเราน่ะจะไปทางไหน





รถคันหรูสีดำที่ไม่ได้เลี้ยวเข้ามาจอดที่ลานจอดรถใต้หอพักของผมมาเกือบเดือนค่อยๆถอยเข้าซองจอดในที่ประจำที่มันเคยมาอย่างคุ้นเคย รถจอดสนิทแบบที่คนขับตั้งใจ ผมหันไปปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วหันหน้ามาหามันเป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่ขึ้นรถมันมา



“ขอบคุณที่มาส่งครับ”  ยกมือขึ้นไหว้มันด้วยทีนึง คนข้างๆตัวที่เผยรอยยิ้มออกมาให้เห็นนิดๆ เหมือนมันจะถูกใจที่สุดท้ายผมก็หันมามองหน้ามัน อีกฝ่ายที่ค่อยๆยกมือขึ้นรับไหว้ตอบผม เป็นพฤติกรรมที่เราสองคนไม่เคยทำกันเลยสักครั้งเดียว แต่ถึงแบบนั้นในตอนที่สบสายตากับดวงตาคมสีดำสนิทของมันก็ยังเห็นภาพของผมสะท้อนอยู่ในดวงตาของมัน พร้อมรอยยิ้มอบอุ่นของมันที่ส่งมาให้กันอยู่แบบนี้



“ขอตัวครับ” เสหน้าหนีมันแล้วตั้งใจลงจากรถไป อีกฝ่ายไม่ได้พูดอะไร แต่ในตอนที่กำลังจะปิดประตูรถใส่ อีกฝ่ายก็เรียกกันเอาไว้ซะก่อน



“เสือ” มันที่เรียกผมเอาไว้ พร้อมยื่นหน้าออกมาให้เห็น ผมที่ไม่ได้ตอบกลับไปแต่ก็เลือกยืนอยู่ตรงนี้ เท้ามือกับประตูรถของมันแล้วมองอีกฝ่ายอยู่ตรงนี้



“เพลงนี้ชื่อ talk ของkhalid”



“แล้ว”



“ให้มึงนะ...เพลงนี้น่ะ” มันบอกออกมาแบบนั้น สายตาที่จ้องมองกันด้วยความหมายลึกซึ้งที่ผมไม่กล้าจะแปลออก ได้แต่ทำหน้านิ่งๆทั้งๆที่หัวใจของผมมันสั่นและเต้นรัวถี่ๆแบบที่ไม่เคยจะเป็น มือที่ชื้นเหงื่อที่จับอยู่ที่ขอบประตูนั่นอย่างทำอะไรไม่ถูก และอีกคนที่เหมือนดูจะพอใจกับปฏิกริยาของผมในตอนนี้



“กู...ผม ผมแปลไม่ออกหรอก ผมโง่ภาษาอังกฤษ”



“...ไม่เป็นไร กูรอได้ รอให้มึงแปลทั้งเพลงออกแล้วค่อยมาบอกกูว่าชอบไหมก็ได้” มันที่บอกออกมาแบบนั้น สายตาที่บอกความหมายของมันมาอย่างชัดเจน เหลือเพียงแค่ว่าผมจะรับรู้มันไหม



“ฝันดีครับพี่เก้อ”  เลือกที่จะบอกตัดบทออกไปแบบนั้นแล้วก็ดันประตูรถปิด ก้าวขายาวๆเดินหนีออกมาจากรถของมันโดยที่ไม่ได้หันกลับไปมองอีก



“ฝันดีเหมือนกันครับ...น้องเสือ”



ได้ยินเสียงดังไล่หลังตามมาแบบนั้น ไม่ได้หันกลับไปมองมันอีก แต่รับรู้ได้อีกคนยังคงมองกันมาจากในรถของมัน ขาของผมที่ก้าวให้ช้าลง ก็แค่ยังไม่อยากจะเดินขึ้นไปบนตึกในตอนนี้ก็แค่นั้น ไม่ได้หันหลังกลับไปแต่ก็รับรู้ได้ถึงเสียงเคลื่อนตัวของรถคันนั้น ที่ตอนนี้ก็ขับออกไปแล้ว



.

.

.



“เย้เฮ้เพื่อนเสือออออ วิชาเรียนรวมปีหนึ่งแม่งจ๊าบสัดๆ ได้เจอมึงอีกแล้วครับเพื่อน”



“รำคาญมึงว่ะ ไอ้จูนมึงมานั่งคั่นกูหน่อย”



“ไม่เอาอ่ะ แบ่งๆมึงรำคาญมันมั่ง กูอยู่กับมันตลอดประสาทจะแดกตาย...อีกอย่าง กูว่ามันน่าจะอยากนั่งข้างมึงมากกว่า” ไอ้จูนว่าออกมาแบบนั้นแล้วนั่งลงอีกข้างของไอ้อิฐแทน คำพูดของมันที่ทำให้ผมต้องหันไปมอง แต่ไอ้จูนก็แค่ทำหน้านิ่งๆแบบที่มันชอบทำ



“ทำไมวะพะยูน ทำไมมึงไม่รักไอ้อิฐเลยล่ะจ๊ะเพื่อนจ๋า” ไอ้อิฐที่นั่งอยู่ขวามือของผม มันยื่นหน้าเข้าไปหาไอ้จูน ส่ายไปส่ายมาเหมือนว่ามันน่ารักมากๆ ... ใครแม่งบอกมึงแบบนั้น



“ไปไกลๆหน้า กูรำค๊าญ”



“แน๊ ทำเป็นพูดเสียงสูง อย่ามาหวงกูแล้วกัน ชิชะเชอะ กูจะเล่นตัวให้คอยดู”



“หวงKไรล่ะ อยู่กับเจ๊ดานี่มากไปหรอ ประสาท”



ฟังพวกมันสองคนเถียงกันแบบนั้น ชินครับ แต่ว่าผมก็ชอบ เพราะถือว่ามันสองคนเป็นเพื่อนที่สนิทด้วยมากที่สุดแล้ว อีกอย่างพวกมันเป็นคนต่างคณะ มันไม่สนใจคำพูดต่างๆที่ได้ยินถึงผม เราเจอกันเพราะมันทำงานที่ร้านเหล้า และนั่นแหล่ะครับ เลยเป็นเพื่อนกันมาแบบงงๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกมันสองคนเป็นเพื่อนที่ดี



“ไอ้เสือจ๊ะ พะยูนด่ากูจ้า”



“อื้ม สม”



“สัด ใครๆก็ไม่รักไอ้อิฐ แม่งเอ้ย เป็นเศร้าอยากจะร้องไห้จ๊ะพี่จ๋า”



“อิฐ มึงเลิกทำตัวแบบนี้ได้ไหมวะ สติ” ไอ้จูนด่าออกมาอีกประโยค



“มึงคิดว่ากูจะสติดีหรอ ดูเจ้าของร้านที่กูทำงานทุกคืนด้วยครับ กูถูกปลูกฝังมาแบบนี้ มันหลอมรวมให้กูเป็นคนแบบนี้ เป็นคนน่ารักใสๆแบบนี้อ่ะมึงเข้าใจไหมจ๊ะเพื่อนเสือ” ทำหน้าเศร้าแล้วกระพริบตาปริบๆ เห็นไอ้จูนถอนหายใจออกมาอย่างระอาแล้วก้มหน้าไปเล่นเกมส์ในมือถือต่อ



“กูอัดเสียงมึงไปฟ้องเจ๊ดานี่ละ”



“Kน้องจูน!”



“กูรู้ว่ากูมี ไม่ต้องถามหาหรอก กูยังไม่ปวดฉี่ตอนนี้”



“กวนตีนนัก เดี๋ยวกูเอาKกูฟาดปากมึงให้ หึ่ย”



“เล็กๆจุ๋มจิ๋ม ฟาดก็ไม่เจ็บ”



“เดี๋ยวโดนละมึงอย่าร้องนะ ท้าทายกูจัง”



“นี่ไอ้อิฐ เจ้าของร้านมึงคือพี่ผู้ชายที่เป็นตุ๊ดหรอวะ” ผมถามขัดพวกมันออกไป จำได้ว่าผมเคยเห็นครั้งนึงตอนไปร้านนั้นกับไอ้พี่เก้อ ตอนที่มันไปมีเรื่องกับเค้า พอไปครั้งหลังๆไปอีกก็ไม่เคยเจออีก



“ถ้ามึงหมายถึงผู้ชายที่วันดีคืนดีก็ใส่สูธผ่าอกกว้างๆให้เห็นกล้ามอก แต่เสือกทาปากแดงแล้วแต่งตาวิ๊บวับล่ะก็นะ เออ ก็นั่นแหล่ะเจ้าของ อิเจ๊พี่ดานี่”



“เค้าชื่อดานี่หรอวะ”



“จะบอกว่าเป็นชื่อในวงการก็น่าจะเหมาะกว่าอ่ะครับเพื่อนครับ จริงๆพี่มันมีชื่อแมนๆแฮนซั่มว่าดาบ แต่มันบอกว่าไม่เพราะไม่เหมาะกับความสวยของมันเลยตั้งใหม่ว่าดานี่”  ยิ่งฟังยิ่งงง ผมจำได้ว่าเค้าเป็นผู้ชายที่หล่อคนนึงเลย และที่สำคัญเค้าเป็นแฟนกับพี่เอม เพื่อนสนิทของไอ้พี่รหัสของผมที่มันชอบนักชอบหนา



“เค้าเป็นตุ๊ดหรอวะ”



“ฮ่าๆ มึงว่าไงอ่ะครับเพื่อน เหมือนตุ๊ดไหม”



“จะบอกว่าเหมือนก็เหมือน จะบอกไม่เหมือนก็ไม่เหมือนเลยว่ะ แล้วคือ...เค้ามีแฟนไม่ใช่หรอวะ แฟนเค้า พี่เอม”



“นี่มึงรู้จักพี่เอมด้วยหรอวะ แต่ก็นะรุ่นพี่คณะมึงนี่หว่า พี่เอมของไอ้อิฐ ไม่รู้ว่าเดินตกท่ออีท่าไหนถึงมาได้กับอิเจ๊พี่มัน พี่หนูน้องเอมของไอ้อิฐ ทำงานด้วยกันไม่นานอิเจ๊พี่มันก็สกัดดาวรุ่ง กูกับน้องจูนไม่ค่อยได้เจอเลยหลังเนี่ย”  ไอ้อิฐบ่นออกมาแบบเพ้อๆพลางเบะปากตอนที่มันพูดถึงเจ้านายมัน

 

“กูอัดเสียงแล้ว กูฟ้องเจ๊ดานี่แน่”



“มึงจะเอาใช่ไหมไอ้น้องจูน อย่าเอาเมียเจ้านายมาล้อเล่นได้ป่ะ” ไอ้อิฐหันไปข่มขู่ไอ้จูนแล้วว่าออกมาแบบนั้น เมีย



“พี่เอมเป็นเมีย”



“แล้วมึงคิดว่าสภาพแบบพี่เอมจะเป็นผัวอิเจ๊พี่มันได้หรอครับเพื่อนเสือ อย่าโง่สิเอ้อ เห็นทาปากแดงๆแบบนั้นตีนหนักน้ามึง หมัดมวยก็คือต่อยทีหน้าเบี้ยว หวงพี่เอมจัดๆจนลำบากพวกกูเนี่ย” ไอ้อิฐว่าพรางถอนหายใจ มือข้างนึงเท้าคาง อีกข้างก็เอานิ้วเคาะโต๊ะและนินทาเจ้านาย



“กูต้องพาไอ้ห่าน้องจูนไปออกค่ายกับคณะมึงก็เพราะอิเจ๊พี่มันนี่แหล่ะ ข่มขืนจิตใจกูให้ต้องไป หวงขนาดนั้นไม่มัดติดเอวไปเลยล่ะวะ”



“มึงบ่นหรอไอ้อิฐ กูเห็นตอนเจ๊ดานี่บอกว่าถ้าไปค่ายจะให้ห้าพัน มึงบอกว่าตกลงครับทันทีแบบไม่คิดเลยนะ”



“สัด เอาสิครับ จ้างไปค่ายไม่กี่วัน ได้เงินเท่านั้นกูไม่ไปก็โง่สิเอ้อ...ว่าแต่มึงถามทำไมวะ” 



“เปล่าหรอก กูก็แค่สงสัยเลยถามดู”  ก็แค่สงสัยว่าชีวิตรักพี่เอมดีขนาดนั้น แล้วไอ้สัดพี่เก้อก็ยังกล้าไม่ตัดใจอีกหรอวะ  ผมที่เอามือเท้าคางแล้วมืออีกข้างก็จับปากกาลากไปตามกระดาษบนโต๊ะแบบใจลอย



“แล้วนี่มึงทำอะไรอยู่ครับเพื่อนเสือ ...”



“เปล่าหรอก”



“ตอแหลหน้าด้าน มึงฟังอะไรอยู่วะ ไหนขอฟังหน่อย” ไอ้อิฐที่เอื้อมมือมาหยิบแอร์พอร์ตข้างนึงออกจากหูของผมไป ก่อนจะเสียบเข้าใส่หูมันแบบถือวิสาสะ เป็นคนสันดานหยาบไม่ต่างจากหน้าตาครับ



“Can’t we just talk? Talk about where we’re goin เพลงไรวะ เพราะดีนี่หว่า”



“ก็แค่เพลงอ่ะ” บอกมันแบบนั้นตอนที่มันยื่นแอร์พอร์ตคืนให้ ไอ้อิฐหรี่ตาลงมาข้างนึงแล้วมองหน้าผม หน้าตาหน้าตบจนต้องยกมือไปผลักหัวมัน



“ทำร้ายร่างกายกูว่ะ”



“รำคาญหน้ามึงสัดอิฐ”



“จ้า ก็นะ หน้ากูมันแค่เด็กบ้านๆตาดำๆ”



“หน้าตาเหมือนกระโปกหมา”



“สัดน้องจูน เดี๋ยวๆ เดี๋ยวมึงเจอกู”  ไอ้อิฐหันไปทำหน้าตาคาดโทษใส่ แต่ไอ้จูนก็แค่ยักไหล่ไม่สนใจมันก็เท่านั้น ไอ้อิฐฟึดฟัดอยู่พักใหญ่ ส่วนผมเองก็ทำแค่ปิดเพลงแล้วเก็บมือถือลงเพื่อเตรียมตัวเรียน ในตอนนั้นที่ไอ้อิฐก็หันหน้ามากระซิบกันที่ข้างๆหู



“หน้ากระโปกหมาแบบกูมึงคงไม่ชอบอ่ะเนาะ ... เพราะมึงน่าจะชอบ กระโปกเสือ”



“พูดเหี้ยอะไร!”  หันไปมองหน้ามันที่อยู่ข้างๆกัน ไวจนคอแทบเคร็ด และไอ้อิฐที่ยังไม่ถอยหน้าหนี ยิ่งกว่าซีนในหนังรักที่ปลายจมูกเราสองคนชนกันพอดี ไอ้อิฐเบิกตากว้างทำหน้าเหมือนผีหลอก ไม่ต่างกัน กูก็เด้งตัวออกอย่างไวเหมือนกัน



“สัดอิฐ รำคาญมึง กระโปกเสือเหี้ยไรล่ะ” ด่ามันออกไปแบบนั้น ไอ้อิฐที่ตั้งตัวได้ยกยิ้มมุมปากมองหน้ากันอีกครั้ง มันที่ยักไหล่นิดๆ



“เสือแบบ...ไท เก้อ มั้ง”



“พ่อง!”



“อิอิ”  อยากจะถามว่าอิพ่ออิแม่มึงรึไง แต่ไม่พูดตอบกลับไปดีกว่า กลัวมันจะพูดห่าพูดเหวอะไรออกมาอีก



“อย่าปล่อยให้ใครรอเก้อเหมือนชื่อล่ะ เพราะอาจจะไม่ใช่เค้าที่แค่เก้อ มึงเองก็อาจจะเก้อด้วยเหมือนกัน” หันไปมองไอ้อิฐที่มันไม่ได้หันหน้ามาหาผม เห็นแค่มุมด้านข้างของมันที่ก็หล่อดี แต่ถ้าพูดออกมาแล้วปากจะเหี้ยแบบนี้ อย่าสาระแนพูดเลยจะดีกว่าครับ



“K”



“งื้ออ น้องจูนพะยูนเพื่อนรัก ไอ้เสือด่ากูจ้า”



“สมน้ำหน้ามึง”



ผมไม่ได้หันไปสนใจมันสองคนที่เริ่มต้นเถียงกันอีกแล้ว ได้แต่คิดถึงคำพูดของไอ้อิฐที่พูดมามากกว่า ... อย่าปล่อยให้เค้ารอเก้อ เดี๋ยวมึงจะเก้อไม่ต่างกัน หันหน้าหนีจากไอ้อิฐกลับมาเลื่อนสายตาลงไปมองดูกระดาษเอสี่ตรงหน้าที่ไปปริ้นท์เนื้อเพลงมาอ่านตั้งแต่เมื่อคืน  เนื้อเพลงของเพลง Talk



...



“เมื่อไหร่จะปล่อยสักทีวะ รำคาญ”



เสียงของไอ้เก้อที่ดังขึ้นข้างๆตัวผม หันไปมองหน้ามันก็เห็นมันที่ดูกระวนกระวายนั่งไม่ติดเก้าอี้ตั้งแต่ที่เริ่มเรียนคาบบ่ายมา ไม่รู้เป็นห่าอะไร



“มึงปวดขี้หรอวะ”  ผมหันไปถามมันแบบนั้น คือกูน่ะเป็นห่วงมากๆเลย ถ้าเพื่อนจะปวดขี้แล้วไม่กล้าไปขี้ ขนแขนเรามันจะชูชัน เป็นความรู้สึกที่ว่าอยากปลดปล่อยออกมาให้สุด แต่ทำไม่ได้จนต้องปล่อยให้มันคาตูดไว้เพราะไปเข้าไม่ได้ ไอ้เอมเข้าใจดีครับ



“ขี้ที่หน้ามึง”



“เอ้า!”  กูนี่เอ้าแรงมาก ได้แต่ยกมือขึ้นเกาหัวเหมือนคนเป็นขี้กาก ด่ากูทำไมก่อน คนเป็นห่วงไหมอ่ะ



“แล้วมึงจะอยากเลิกอะไรนักคะอิผัว พ่อแม่ส่งมาเรียนก็ตั้งใจหน่อยอิห่า หล่อแต่โง่ก็ไม่มีใครเอามึงนะคะ” ไอ้หยีที่นั่งอยู่ซ้ายมือผมหันไปด่าผัวมันพร้อมมองแรงใส่  ไอ้เก้อถอนหายใจฟึดฟัด อารมณ์เหมือนกระทิงเห็นผ้าแดง ฟึดฟัดอยากพุ่งใส่อาจารย์



“ก็เพราะว่าจะไม่มีใครเอาไง กูเลยต้องไปทำคะแนน”  ไอ้เก้อพูดออกมาเบาๆ ไม่ได้ดังมาก แต่ไอ้เอมหูดี



“มึงจะไปทำคะแนนกับใครค๊า”  แต่ไอ้หยีเสือกหูดีกว่า นั่งอยู่ข้างกูแท้ๆ คือมึงได้ยินได้ยังไงก่อน รู้สึกว่าจะไม่ใช่แค่ผมเหมือนกันที่จะตกใจ ไอ้เก้อก็หันหน้ามามองแบบตกใจไม่ต่างกัน หน้าตาของมันที่ผมอ่านออกว่า มึงได้ยินได้ไง



“มึงคิดว่าในโลกนี้จะมีอะไรที่กูไม่รู้ไม่เห็นหรอ”



“ขนาดไซส์นมมึงหรือเปล่าที่มึงไม่รู้ จริงๆมันอาจจะเป็นคัพเอ แต่มึงมโนว่าคัพบีอ่ะ”



‘เพี๊ยะ’



“โอ้ย กูเจ็บนะ” ไอ้เอมน้ำตาปรอย อิป้ามันตบหัวซะผมด้านหลังกระจุย หันไปมองมันทั้งน้ำตา แต่มันไม่สงสารครับ



“อย่ามาล้อเลียนเรื่องนมกูนะคะ นมกูมีคุณภาพมากๆ เก็บไว้ใช้เมื่อพร้อม อย่ามาบุลลี่กูค่ะ!”



“ก็แค่หยอก”



“กูเพื่อนเล่นมึงหรอค๊า”



“งั้นมึงใคร มานั่งข้างกูทำไม ออกไป๊”



“เดี๋ยวนะอิเอม แหม ดีกับผัวละปีกกล้าขาแข็งกับกูหรอคะ กูหยิกมึงดีไหม หยิกให้เขียวเลยเอาไหม” ว่าแบบนั้นไม่ใช่คำถาม มันทำจริงจนกูดิ้นไปพร้อมโต๊ะเลคเชอร์ ชนเข้ากับโต๊ะของไอ้เก้อเต็มๆ



“พวกมึงหยุดเล่น เดี๋ยวแอนดรูไม่ปล่อย” ไอ้เก้อที่หันมาดุ แล้วยกขาดันขาเก้าอี้ผมให้ออกไปห่างๆมันแบบรำคาญ เห็นกูเป็นตัวอะไรเอ่ย ยันเป็นลูกหมา หึ่ย! จะบอกให้ว่าแบบกูน่ะเป็นลูกควายเท่านั้น จำ!....แล้วกูจะดูภูมิใจกับความเป็นควายทำไมก่อน



จริงๆชินครับ เพราะอิพี่ดาบบอกว่า ควายคือความน่ารัก อ๋อยยย



“ทำหน้าฟินอะไรอิเอม คิดถึงผัวแน่ๆ”



“ก็กูมีให้คิดอ่ะป้า”  หันไปทำปากยื่นปากยาวใส่มัน ไอ้หยีเบิกตากว้างเลยตอนได้ยินผมพูดแบบนั้น เห็นแล้วขำหน้าของมันจนกลั้นขำเอาไว้ไม่อยู่



“ก๊ากกกก หน้ามึงตลกมากอ่ะป้า”



‘ตึงๆๆๆ’



“โอบนิธิ รสริน หัวเราะอะไรกัน ผมคงสอนสนุกมากสินะ งั้นเดี๋ยวต่อเวลาเพิ่มใหเอีกห้านาทีนะ”  แอนดรู หรือมิสเตอร์เบเคอร์  อาจารย์ฝรั่งจากเมืองผู้ดีอังกฤษ แต่เสือกพูดภาษาไทยชัดเป๊ะทุกคำ พี่ท่านใช้แปรงลบกระดานเคาะไวท์บอร์ดเสียงดังแล้วเอ่ยยิ้มๆแบบเอ็นดูกันสุดๆส่งมาให้ผมกับไอ้หยี และคนทั้งเซคก็หันหน้ามามองเราประดุจพวกกูเป็นคนหน้าตาดี ด้วยสายตารักใคร่(?)



“พ่องตายไอ้เอมไอ้หยี แม่ง! กูยิ่งรีบๆไอ้สัด”  ไม่เว้นแม้แต่ไอ้เก้อที่หันมามองกันเหมือนอยากจับแดกกันลงไป



“วันนี้ไอ้เก้อไม่อ่อนโยนกับกูเลยว่ะ”  หันไปกระซิบไอ้หยีเบาๆ เจ้าตัวก็เอียงหัวกลับมากระซิบตอบผมทันที



“มึงชื่อเสือหรอคะ มันถึงจะต้องอ่อนโยนให้มึงเหมือนจุดซ่อนเร้นน่ะ”



“ยังจะคุยกันอีกนะ ถ้าแอนดรูมันต่อเวลาเพิ่มอีก กูจะตีพวกมึงไม่ยั้งเลย สัด!”  ด่ากูจบท้าย แล้วเปิดหนังสือเรียนพลิกไปที่หน้า154 ... ตั้งใจเรียนจัดๆกันไปเลย



.

.

.





“เชี่ยเอ้ย เลิกช้าไปตั้งสิบนาที จะทันไหมวะ”  ไอ้เก้อที่ยกนาฬิกาขึ้นมาดูพรางบ่นพึมพำออกมาแบบนั้น



“มึงจะรีบไปไหนวะเก้อ”



“กูมีธุระ”



“ไม่ไปแดกข้าวด้วยกันก่อนหรออิผัว เนี่ย สยาม ใกล้ๆ เอารถมึงไปกูขี้เกียจอ่ะ”



“ก็บอกอยู่กูมีธุระๆ  กูไปละเสียเวลาว่ะ” ไอ้เก้อที่ว่าออกมาฉุนๆ มันกระชับกระเป๋าของมันแล้วก้าวขายาวๆจำอ้าวออกไปแบบนั้น ทิ้งผมกับไอ้หยีให้มองตามแผ่นหลังกว้างๆนั่นไปแบบตาปริบๆ



“มึงว่ามันไปไหน”



“กูวางร้อยนึงว่าไปหาน้องเสือแน่ๆค่ะ”



“มันกลับมาดีกันแล้วหรอวะ” เอียงหน้าไปขอความเห็นไอ้หยี มันเองก็แค่ยักไหล่แบไม่รู้เหมือนกัน ก่อนแขนเรียวของมันจะยกขึ้นมาพาดลงบนบ่าของผม



“ถ้าอยู่เฉยๆใครจะไปดีกับมันล่ะคะ ของแบบนี้ก็ต้องสู้กันหน่อยสิวะ...อีกอย่างนะ กูดูออกว่ามันคิดถึงน้องเสือจะตาย มันอยู่เฉยๆมาได้เป็นเดือนก็โง่มากแล้วนะคะ”



“โง่กว่ากูก็ไอ้เก้อนี่ล่ะ” บอกไอ้หยีไปพร้อมๆกับยักคิ้วให้ ไอ้หยีทำหน้าตกใจเลยในตอนนี้ เป็นอะไรของมันวะ



“กูเป็นไอ้เก้อกูโกรธเลยนะคะว่ากูโง่กว่ามึง เชี่ยเอ้ย แบบนี้มันต้องโง่เข้าขั้นชั้นแกนโลกเลยนะ”



“ป้า...”



“ว่าไงคะลูก”



“มึงกับกูเลิกคบกันเหอะ เหมือนเกลียดกันอ่ะ” กรอกตาแล้วปัดมือมันออกจากไหล่ ไอ้หยีก็หัวเราะชอบใจแล้วยกแขนขึ้นมาพาดไหล่ผมอีกรอบแบบเกาะไม่หลุดอยู่ดี



“ไปเหอะมึง ไปหาไรแดกกันสวยๆถ่ายรูป”



“อะไรคือสวยๆของมึง”



“แบบบิงซงบิงซู ความเกาหลีคะวะอี้เดสเนะงี้อ่ะ”



“คะวะอี้เดสเนะ คือภาษาญี่ปุ่น มึงสับสนอะไรอ่ะป้า”



“แล้วมันทำไม กูอยากจะพูดให้คล้องจองแล้วมันทำไม ไม่เสือกภาษากูได้ไหม มึงจะไปไม่ไปอิน้องเอม ไม่ไปก็หุบตูดกลับไปหาผัวมึงเลยไป๊”  ฉุนเฉียว เป็นความฟึดฟัดเหมือนผู้หญิงวัยทอง อะๆ...ง้อเค้าหน่อย



“ไปๆ แค่นี้ก็โวยวาย เดี๋ยวไม่มีผัวน้า”



“กูอยู่คนเดียวก็ได้ค่ะ ถ้าได้ผู้ชายปัญญาอ่อนมาเป็นภาระให้กู กูอยู่ๆสวยและรวยมากแบบนี้ก็ได้ค่ะ”



“เชี่ย ชอบว่ะ ถึงจะขึ้นคานก็ขึ้นอย่างมีอุดมการณ์อ่ะเนาะ”



“เอม”



“ครับผม”



“มึงกับกูเลิกคบกันไปเลยไปอินี่นิ!”



“หยอกไงหยี หยอกกกก”



“กูเพื่อนเล่นมึงหรอค๊า”



.

.

.


(มีต่อกันไปจุกๆจ้า :3123:)
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่40 {18/07/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 18-07-2020 20:18:17

“อิเหี้ย อิเอมมมมกูเครียดค่ะ มึงดูท้องที่ยื่นออกมาของกูค่ะ กรี๊ด”



“ใครใช้ให้มึงกินเหมือนยัดห่าอ่ะป้า ก่อนหน้านั้นก็เค้กสองชิ้น แล้วนี่ยังบิงซูมะม่วงชีสด้วยนะกูย้ำ”



“มึงจะย้ำทำไม มึงจะพูดแบบนั้นทำไมคะ! ฮื่อออ อ้วนอ่ะ กูอ้วนแน่ๆ”  ไอ้หยีที่เอาหลังพิงโซฟาของร้านบิงซูมีชื่อร้านนึงในสยามแบบเหนื่อยๆ มันที่ดึงชายเสื้อนักศึกษาออกมาจากกระโปรงแล้วตอนนี้ สภาพเหมือนคนท้องสามเดือนอยู่นิดหน่อยครับ



“มึงไม่อ้วนหรอกน่า”



“กูอ้วน กูต้องอ้วนขึ้นแน่ๆค่ะ ฮื่อแย่แล้วๆ” ผู้หญิงก็เป็นแบบนี้ พอกูบอกไม่อ้วนก็ไม่เชื่อ พอบอกอ้วนก็ด่าว่าพูดจาหมาไม่แดก แล้วจะเอายังไงกันล่ะเห้ย



“ไหนมึงบอกว่าถ้าเราไม่ชั่งก็คือเราไม่อ้วน เราจะชั่งเอาน้ำหนักที่เราพอใจแล้วยึดถือน้ำหนักนั้นไว้ไงวะป้า” บอกมันออกไปแบบนั้น ไอ้หยีที่หันมามองกันแล้วทำท่าเหมือนคนตาสว่าง มันที่เด้งตัวขึ้นมามองหน้ากันดีๆแล้วยิ้มสดใส



“อิเอม มึงฉลาดมาก เวลากูเห็นมึงฉลาดแล้วกูตกใจเลยอ่ะค่ะ ไม่ชินกับเหตุการณ์นี้ แต่ถูกของมึงค่ะ ถ้าเราไม่ชั่งเราก็จะไม่อ้วน โอเค กูสบายใจละ งั้นเราไปซื้อทาร์ตไข่กลับบ้านอีกสักชิ้นสองชิ้นดีไหมนะ” ตาเป็นประกายตอนที่พูดออกมาแบบนั้น มันที่ลุกขึ้นยืนตัวปลิวแล้วถือใบเสร็จออกไป... แต่เดี๋ยวนะ มึงหลอกด่ากูป่ะเนี่ย!



ลำบากลำบนกูต้องแบกถุงเสื้อผ้าที่มันซื้อมาอีกสี่ห้าถุงตามมันไปด้วย พะรุงพะรังที่สุดในร้านคือกูอีก แล้วเคาเตอร์ที่จ่ายเงินก็อยู่หน้าร้าน ทางเข้าก็ไม่ได้กว้างอะไรมากเลย กูนี่ตัวเกะกะเลยครับตอนที่ถือถุงกระดาษเยอะแยะแบบนี้



“มึงเดินไม่รอกูเลยนะป้า”



“เอาน่า ทำตัวหล่อๆให้กูยืมควงวันนึงนะหนูน้า”



“แล้วแต่ใจมึงเลยเถอะ” ว่าออกไปแบบนั้นแล้วไอ้หยีก็คิกคักถูกใจ มันที่ยืนรอพนักงานถอนเงินอยู่ ผมที่ว่างๆก็ฆ่าเวลาเล่นด้วยการมองออกไปนอกร้าน ก่อนที่สายตามันดันไปสะดุดเข้ากับแผ่นหลังของใครบางคน



“เอ๊ะ”



“หื้ม เอ๊ะอ๊ะอะไรมึง อยากกินทาร์ตไข่หรอ รอแป๊บ พนักงานนับเหรียญบาทให้กูอยู่”



“ไม่ๆ มึงนั่นมัน นั่นมัน...เห้ย!”



“อะไรของมึงอิเอม มาๆ ได้ละๆ อะไรคะ”  ไอ้หยีที่หันมาหาผม พร้อมเหรียญบาทเหรียญห้าในมือ ได้แต่มองมันแบบตกใจนิดหน่อย



“หนึ่งร้อยบาทจ้า”



“ต้องขอโทษคุณลูกค้าด้วยนะคะ แบงค์หมดเอาไปแลกไม่ทันจริงๆค่ะ”  พนักงานของร้านบอกเราแบบนั้นด้วยสีหน้าไม่สู้ดีพร้อมยกมือไหว้ เราสองคนที่ได้แต่ยิ้มให้แบบเข้าใจ ให้ทำยังไงได้อ่ะวะ วันนี้เหมือนลูกค้าจะเยอะและพนักงานน้อยด้วย ใจเค้าใจเรา



“มึงก็เอาไปหยอดกระปุกหมูมึงละกันนะ”



“เออ ก็ต้องแบบนั้นแหล่ะค่ะ ... ว่าแต่เมื่อกี้มึงเอ๊ะๆอ๊ะๆอะไรวะ”  พอไอ้หยีทักแบบนั้นผมก็นึกขึ้นได้เลย หันหน้ากลับไปก็ไม่เห็นคนสองคนที่ผมคุ้นตาเมื่อก่อนหน้านี้แล้ว



“เมื่อกี้กูว่ากูเห็น...”



“เห็นผัวมึงมากับกิ๊กหรอคะ หรือมากับพาพวย ไหน ไปทางไหน มา! กูพามึงไปลุยเองอิเอม หึ่ยๆๆ” ไอ้หยีที่ถลึงตาใส่ผมแบบโมโห มันที่คว้าข้อมือผมแล้วตั้งท่าพุ่งออกไปจากร้าน ดีตรงที่ผมขืนแรงดึงของมันไว้ได้ทัน



“ไม่ใช่เว้ยป้า มึงใจเย็นหน่อยได้ไหมเนี่ย”



“ก็กูเห็นมึงทำหน้าตาตื่น กูก็คิดเลยว่ากูต้องได้บทเพื่อนนายเอกแล้วไง องค์กูนี่ลงเลยค่ะ เลือดมันสูบฉีด” ผมส่ายหน้าระอาใส่มันนิดหน่อย ก่อนจะเดินตามไปตรงที่ผมเห็นเมื่อกี้ พยายามมองซ้ายมองขวาแล้วแต่ก็ไม่เห็นคนที่ตามหาอีก



“สรุปมึงหาใครอิเอม มึงเห็นใคร พูดซะที ต่อมเสือกกูกระพือหมดแล้วเนี่ย”



“มึง...”



“อะ ว่าไง”



“กูว่ากูเห็นพาพวย”



“แล้วน่าตกใจตรงไหนอินี่ โวะ!”



“ที่มันน่าตกใจก็เพราะว่า กูเห็นพาพวยมากับน้องม็อบว่ะ”



...



“ไปกินด้วยกันสิวะเสือ กูอยากให้มึงไปด้วย”



“ไม่เอา กูอยากกลับไปนอน กูเหนื่อยสัดอิฐ” บอกปฏิเสธมันเป็นรอบที่สามล้าน แต่ไอ้อิฐก็ยังคะยันคะยอให้ผมไปหาข้าวกินที่ร้านที่มันทำงานอยู่ดี มันบอกว่าเจ้าของร้านมันจะทำอาหารกลางวันไว้ด้วย จริงๆคือทำไว้ให้ลูกน้องครบสามมื้อ เพราะที่ร้านมีห้องพักพนักงานด้วย ถ้าเจ๊ดานี่ไม่อยู่ ก็จะให้แม่ครัวทำไว้ตลอด ไอ้อิฐมันอยากให้ผมได้ไปกินข้าวฟรี จะได้ไม่เสียเงินซื้อข้าว ซึ่งก็จริง...เดือนนี้ผมต้องใช้ประหยัดๆ แต่วันนี้มันก็เหนื่อย อยากนอน



“อะไรว้า น้องจูนมึงดูไอ้เสือดิ”  พอมันเห็นผมไม่ยอมไปด้วยก็หันไปฟ้องไอ้จูน ไอ้จูนที่มองหน้าผมสลับกับไอ้อิฐไปมาอยู่แบบนั้น สายตาของมันที่มองมาที่ผมแปลกๆแบบที่ผมว่าผมมองออก แต่ใครอีกคนก็คงโง่และทำแค่กวนตีนจนเป็นนิสัย



“มึงไปดิเสือ มันคงอยากให้มึงไปมากแหล่ะ” ไอ้จูนว่าออกมาแบบนั้น ผมที่มองหน้ามันกลับไปนิ่งๆจนไอ้จูนมันเสหน้าหนี เห็นแบบนั้นแล้วได้แต่ยกยิ้มมุมปากขึ้นมา



“ไม่เอาอ่ะ มึงไปกันสองคนนั่นแหล่ะ กูจะกลับหอ”



“ไรว้า”



“กินกับกูไม่อร่อยเท่ากินกับน้องจูนของมึงหรอก อย่ามาเร้าหรือ รำคาญไอ้สัด” ด่าไอ้อิฐไปแบบนั้นแล้วยกเท้าถีบขากางเกงมันไปที ไอ้อิฐทำปากขมุบขมิบด่าผมแบบไม่มีเสียง แต่ผมแค่ยักคิ้วกวนตีนใส่มันไปแทน



“เออ กูไม่ง้อมึงหรอก ไปกันเถอะน้องจูนพะยูนเพื่อนรักของกู” มันว่าแบบนั้นแล้วหันไปคว้าตัวไอ้จูนมากอดคอ ไอ้อิฐมันสูงครับ สูงกว่าไอ้จูน พอทำแบบนั้นไอ้จูนก็เลยเหมือนถูกดึงเข้ามาซุกอกไอ้อิฐซะแบบนั้น



“ทำเหี้ยไรวะอิฐ”



“นิ่งๆ พะยูนอย่าดีดดิ้นกับพี่ครับ”



“K รำคาญๆๆๆ”



“ฮ่าๆ พวกมึงไปทะเลาะกันต่อที่อื่นละกัน กูไปล่ะ กูง่วง” บอกตัดบทพวกมันแบบนั้นแล้วยกมือขึ้นบ๊ายบาย ไอ้อิฐโบกมืออีกข้างที่ว่างอยู่ตอบผม แต่ไอ้จูนไม่ได้ทำเพราะมันพยายามงัดร่างตัวเองออกจากไอ้อิฐอยู่แต่ไม่สำเร็จ เห็นพวกมันสองคนแล้วก็ได้แต่คิดถึงคำที่ไอ้อิฐบอกผมแล้วก็ต้องส่ายหัว ... คนเราแม่งก็แบบนี้ เก่งแต่เรื่องของคนอื่นตลอดเลย



ผมที่นั่งรถในม.มาลงที่หน้ามหาลัย ตั้งใจว่าวันนี้จะนั่งรถเมล์กลับ เพราะพอหยิบกระเป๋าตังค์ออกมาแล้วหยิบได้แต่แบงค์ยี่สิบ เศรษฐกิจเฮงซวยแบบนี้ อย่าทำตัวมั่นหน้าหรูหรานักเลยไอ้เสือเอ้ย



“หิวน้ำฉิบหาย” อยากกินชาไข่มุก แต่ก็อย่างที่ว่า เราไม่ควรทำตัวหรูหราถ้าเราไม่มีจะแดก



‘ปี้นๆ’



เสียงบีบแตรรถที่ดังมาจนคนแถวนั้นต้องหันมอง หนึ่งในนั้นก็คือผม รถคันหรูสีดำยี่ห้อคุ้นตา ที่เหมือนมาเมื่อคืนก่อนจะพึ่งได้นั่งมันไปเอง ขับมาจอดเทียบข้างๆผม หน้าต่างฝั่งที่นั่งด้านหน้าถูกเปิดออก และก็มองเห็นหน้าเจ้าของรถที่ส่งยิ้มมาให้กัน



“จะกลับแล้วหรอ”



“อืม”  จะให้กูตอบอะไรวะ



“ขึ้นรถดิ เดี๋ยวไปส่ง”  มันที่ว่าออกมาแบบนั้นทั้งรอยยิ้ม เห็นแบบนั้นแล้วก็ต้องขมวดคิ้ว เหี้ยอะไรของมันอีกวะ



“ไม่เป็นไรพี่ ผมกลับเองได้”  ตอบมันออกไปแบบนั้น อีกฝ่ายก็ยิ้มเจือนลง ผมถอนหายใจหนักๆแล้วตั้งใจจะเดินต่อ แต่ไอ้รถคันนี้ก็ยังขับช้าๆตามกันมา



“จะกลับเองทำไมให้เปลืองเงิน”



“ไม่เป็นไรผมมีเงิน”  ยี่สิบบาทก็เงินไง เงินกูอ่ะ



“เสือ...พี่อยากไปส่ง”  แล้วเป็นเหี้ยอะไรต้องมาพูดจาดีๆ กับน้ำเสียงแบบนี้ใส่กันด้วยวะ หันหน้าไปมองลอดช่องหน้าต่างรถที่ก็เห็นสายตาที่หอบความหวังส่งมาให้กัน



“ถ้าเสือไม่ขึ้น พี่ก็จะขับตามอยู่แบบนี้แหล่ะ” มันว่าออกมาแบบนั้นอย่างดื้อดึง ผมที่หันไปด้านหลังที่มีรถสองสามคันเริ่มมาจอดต่อท้ายมัน จริงๆเค้าไม่ได้อยากจ่อท้าย แต่มันติดที่ไปไม่ได้ก็เพราะรถสัดพี่เก้อ



“เนี่ย รถติดยาวแล้วนะ”



“มุกกะโหลกว่ะ” คิดว่ามึงเป็นพระเอกนิยายหรอวะแม่ง



‘ปี๊นๆๆๆๆๆ’



แต่ใช่ เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย รถคันหลังเริ่มบีบแตรไล่ และใช่ มีแต่คนมองกู....



“ขึ้นไม่ขึ้น เสือคร๊าบบบบ”



“เออๆ ขึ้นแล้วๆโว้ย!” ตอบแม่งออกไปแบบนั้นอย่างหงุดหงิด รำคาญน้ำเสียงติดจะออดอ้อนของมัน และที่สำคัญคือสงสารรถคันหลัง กลัวเค้าจะลงมาด่าหัวกูด้วยเนี่ย



“แต่แรกก็จบแล้ว” มันที่พูดแบบนั้นแล้วผิวปากอย่างอารมณ์ดี มีแต่กูเนี่ยที่จะอารมณ์ไม่ดี แม่งกวนตีนกัน



“วันนี้อาจารย์ปล่อยเลทตั้งสิบนาที” คนข้างๆตัวผมพูดออกมาแบบนั้น ไม่รู้ว่ามันเล่าทำไม ไม่ได้ถามสักหน่อย ผมไม่ได้ตอบกลับอะไรมันกลับไป ก็แค่หันหน้าออกนอกหน้าต่างไปเหมือนทุกที



“ตั้งใจจะไปรับที่ห้อง แต่วิ่งไปดูแล้วไม่เจอใครเลย”



“พี่ไปหาผมที่ห้องเรียน”  สัดเสือ ปากมึงเนี่ย...ก็ตั้งใจว่าจะไม่พูดอะไรไม่ใช่หรือไงวะ



“ใช่ ไปหาที่ห้อง แต่ไปแล้วไม่เหลือคน ก็เลยลองขับรถสุ่มๆออกมาทางที่คิดว่ามึงจะกลับ”



“แล้วรู้ได้ไงว่าผมจะกลับทางนี้”  ทางที่จะมาขึ้นรถเมล์กับทางที่จะไปขึ้นรถไฟฟ้าอยู่คนละฝั่งกันครับ เพราะแบบนั้นเลยอดสงสัยจนต้องถามออกไปไม่ได้



“ช่วงนี้ใกล้จะสิ้นเดือนไง”



“แล้ว”  หันไปเลิกคิ้วถามมัน อีกคนที่ก็หันมามองกันยิ้มๆ



“ใกล้จะสิ้นเดือนทีไรมึงก็ต้องประหยัดตลอดไม่ใช่หรือไงล่ะ เป็นแบบนั้นทุกเดือน” มันที่บอกออกมาแบบนั้น แล้วส่งยิ้มเหมือนคนรู้ทันกันมาให้ ผมเสหน้าหนีมันทันที ความทรงจำเก่าๆย้อนกลับมาว่าเมื่อก่อนจะเป็นมันที่ไปรับไปส่งเลยไม่ลำบากเรื่องเงินมากในตอนนั้น



“หิวไหม”



“ไม่อ่ะ”



‘จ๊อกๆ’



“จิ๊” สัด ท้องแม่งร้องแบบไม่ไว้หน้าคำตอบของกูเลย มได้ยินเสียงของคนข้างๆตัวมันหัวเราะในลำคอด้วย



“อืม กินนี่รองท้องก่อนดิ”  มันที่เอี้ยวตัวไปด้านหลังในตอนที่รถติดไฟแดงพอดี ก่อนจะหยิบแก้วชานมไข่มุกติดมือกลับมาด้วย ... ชานมไข่มุกเจ้าที่กำลังนึกอยากกิน ที่พึ่งมาเปิดใหม่อยู่ใต้ตึกคณะเรา



“จำได้ว่ามึงเคยบอกว่าอยากกินยี่ห้อนี้ เห็นเลยนึกถึงมึงเลยซื้อมาให้” มันที่ว่าแบบนั้นแล้วยัดแก้วนั่นมาไว้ในมือของผม



‘คลิ๊ก’



เสียงกดปุ่มเปิดเพลงที่ดังขึ้น ความรู้สึกเหมือนวนลูปย้อนกลับไปในคืนก่อน มาพร้อมๆกับเสียงดนตรีที่ดังคุ้นหู เพราะว่าฟังมาทั้งคืนแล้ว



Can’t we just talk?  Can’t we just talk?

เรามาคุยกันหน่อย เรามาคุยกันหน่อยไม่ได้หรอ

Talk about where we’re goin’

คุยกันเกี่ยวกับเรื่องที่กำลังเกิดขึ้น



“พี่เก้อ”



“เสือ”



เราสองคนที่หันมามองหน้ากันแล้วพูดออกมาพร้อมกันซะแบบนั้น ผมจ้องเข้าไปในตาคมสีดำสนิทของมัน เป็นแววตาที่หน้าหลงใหลเหมือนที่เคยเห็นมาตลอด



“มึงพูดก่อนเลย”



“พี่ทำแบบนี้ทำไมวะ ทำแบบนี้กับผมอีกทำไม ทำไมพี่ไม่ไปทำแบบนี้กับคนที่พี่ชอบวะ ถึงแม้ว่าแฟนพี่เอมจะดุมากๆ แต่ถ้าพี่ลองสู้กับความรักของพี่ มันจะไม่ดีกว่ามาตามผมแบบนี้หรอวะ”



“มึงพูดจบรึยัง”



“ยัง...ผมไม่เข้าใจอะไรพี่เลยว่ะ ไหนบอกนักบอกหนาว่าเราเป็นพี่น้องกันไงวะ....ถ้าจะเห็นว่ากูเป็นน้อง มึงก็ช่วยทำตัวให้เหมือนพี่น้องปกติเค้าทำกันหน่อยสิวะ” ผมที่พูดออกไปแบบนั้น จ้องตามันแบบที่ไม่เข้าใจอะไรเลยสักนิด ผมสับสน ผมอึดอัด แต่ทั้งหมดในความรู้สึกของผมนี้ มันยังเทียบไม่ได้กับความรู้สึกของผมที่มีให้มัน


มันที่เงียบไปนาน นานมากจนได้ยินแต่เสียงลมหายใจของผมที่ดังสะท้อนขึ้นลงอยู่ในหน้าอกนี่แบบไม่เก็บอารมณ์ และในที่สุดมันก็เปิดปากพูดออกมา



“พี่น้องเค้าจูบกันไหม”



“พี่น้องเค้าไม่จูบกันไงวะ”  ตอบมันออกไปแบบนั้น และก็เป็นมันที่พยักหน้าขึ้นลงตอบรับคำพูดของผม



“อืม...ก็จริงของมึง” 



“ถ้ามึงเข้าใจแล้วก็ช่วยทำตัวปกติจากกูหน่อยเหอะไอ้สัดพี่เก้อ!” หงุดหงิดกับท่าทางของมัน มันที่ก็รู้ว่าผมรู้สึกยังไงแต่ก็ยังเข้ามาวุ่นวายกันแบบนี้



“ตอนนี้มึงเองก็ทำตัวปกติกับกูแล้วนี่นา พูดปกติกับกูได้แล้วหรอวะ” มันที่บอกออกมาแบบนั้นแล้วยกยิ้มมุมปาก มองเห็นแววตาดีใจของมันแล้วก็ต้องกัดปากตัวเองแบบห้ามไม่อยู่ ... กูพลาดอีกแล้ว



“มึงทำแบบนี้ทำไมวะสัดพี่เก้อ”



“มึงบอกว่าพี่น้องเค้าไม่ทำกันแบบนี้...”



“อืม”



“แล้วตอนนี้...ใครมันอยากเป็นพี่น้องกับมึงกันวะ”



เสียงเข้มๆที่ว่าออกมาแบบนั้นด้วยเสียงที่ไม่ได้ดัง แต่ก็ชัดเจนไปทั้งใจของผม เป็นความรู้สึกตื่นเต้น เหมือนจะดีใจจนหัวใจเต้นถี่ๆแบบทำงานหนักสุดๆ ฝืนหน้าตัวเองที่รู้สึกว่าร้อนจัดๆหันหน้ามามองใครอีกคนที่มองกันอยู่ก่อนแล้ว



“มึงบอกว่ามึงชอบกู แต่ที่ผ่านมากูไม่เคยรู้ว่ากูชอบมึง”



“หนึ่งเดือนที่ผ่านมาของกูมันแย่ว่ะ เวลาที่ไม่มีมึงอยู่มันแย่มากๆเลยว่ะ กูไม่เคยเป็นแบบนี้ ขนาดไอ้เอมไปคบกับไอ้ตุ๊ดปลอมนั่น กูก็ไม่รู้สึกเคว้งขนาดนี้ว่ะเสือ”



Yeah, started off right

มาเริ่มต้นด้วยความถูกต้องกันเถอะ

I can see it in your eyes

ผมมองเห็นมันในดวงตาของคุณ

I can tell that you’re wantin’ more

รู้ว่าคุณต้องการมันมากกว่านี้

What’s been on your mind?

คุณกำลังคิดอะไรอยู่นะ?

There’s no reason we should hide

ไม่มีเหตุผลที่เราต้องเก็บซ่อนมันไว้หรอกนะ

Tell me somethin’ I ain’t heard before

บอกผมหน่อย เรื่องที่ผมไม่เคยรู้มันมาก่อน



“บอกกูหน่อยได้ไหม...ว่าที่ผ่านมาตลอดหนึ่งเดือนนี้ที่เราไม่ได้เจอกัน มึงเองก็เหมือนกับกูใช่ไหมเสือ” ฝ่ามือหนาที่เอื้อมมือมาจับข้างแก้มของผม บังคับให้สายตาของเรามองกันแบบที่ผมหนีไปไหนไม่ได้ ... เป็นครั้งแรกที่หัวใจของผมเต้นแรงมากขนาดนี้ เป็นครั้งแรกที่เลือดในตัวสูบฉีดมากขนาดนี้ ผ่านไปไม่กี่นาทีแต่เหมือนไปออกกำลังกายมาหลายชั่วโมง



“มาเริ่มกันใหม่ได้ไหมวะ กับความสัมผัสบูดๆเบี้ยวๆของเรา”



“แล้วพี่เอ...”



“กูชอบมึง ตอนนี้กูมั่นใจ...วางเรื่องที่กูเคยทำให้มึงเสียใจ แล้วเรามาเริ่มต้นใหม่ด้วยกันนะ”



ในช่วงเวลาที่เรามีความรัก เรามักจะมีความกล้าในแบบที่เราไม่เคยคาดคิด ก็แค่ยอมปล่อยตัวไปกับสิ่งที่เราเกาะเอาไว้แน่นๆ ยึดมันเอาไว้ไม่ให้ตกหล่น ก็แค่ปล่อยมือจากมัน เพื่อที่จะทิ้งตัวลงไปในอ้อมแขนของใครสักคน ...



และอ้อมแขนนั้น ก็เป็นมันที่เอื้อมมือมากอดตัวผมไว้แน่นๆในตอนนี้



“คิดถึงมึงมากๆเลยเสือ”



“อืม...คิดถึงมึงมากๆเหมือนกัน พี่เก้อ”



...



“ดาบค่ะ ดาบค่ะ หนูชื่อดาบ มากับลิปแล้วก็มาโบว์”



เปิดประตูเข้ามาในห้องก็ได้ยินเสียงเพลงแปลกๆนี่กระแทกเข้าหูให้กูต้องขมวดคิ้ว คืออะไรก่อนน่ะ



“ดาบค่ะ ดาบค่ะ หนูชื่อดาบ มากับลิปแล้วก็มาแปรง”    ท่อนที่สองกระแทกเข้ามาใส่หูอีกหนึ่งครั้ง ครั้งนี้มันไม่ได้มากับโบว์ แต่มันมากับหวีแปรงแทน คืออะไรวะ พอเดินเข้าไปถึงห้องนั่งเล่นก็ชัดเลย ไอ้เจ๊พี่ดาบมันกำลังเอากล่องเครื่องสำอางค์ที่ถ้ามองเผินๆแล้วจะรู้สึกเหมือนกล่องพยาบาลประจำห้องออกมาจัดเรียงใหม่



“ทำอะไรอยู่วะเจ๊”



“กรี๊ด ตกใจหมดเลยอิดอก ครับ”



“ก็ถ้าจะอิดอกขนาดนั้น มึงไม่ต้องครับแล้วก็ได้” กรอกตาใส่พี่มันหนึ่งทีแบบปลงตก แก้ไม่ได้แล้วครับกับการชอบกรี๊ดเสียงสองของมัน หรือแม้แต่เรื่องทาแป้งแต่งหน้าก็แก้ไม่ได้ แต่พออยู่ด้วยกันไปนานๆก็ต้องยอมรับว่า ‘ชิน’



“มานี่มาหนู ทำไมทำหน้าเหนื่อยแบบนั้นล่ะวะ” มันที่นั่งอยู่ที่พื้นห้องพูดออกมาแบบนั้นแล้วกวักมือเรียกผมให้เดินเข้าไปหา และแน่นอนว่ากูก็พุ่งเข้าไปหาทันที ทิ้งกระเป๋ากองไว้ข้างๆแล้วพุ่งตัวลงไปกอดมันแน่นๆ เป็นอ้อมกอดอุ่นๆและมีกล้ามหน้าอกแน่นๆเพราะมันออกกำลังกาย วันนี้มันใส่เสื้อคอปาดสีชมพูลายขาวโชว์ไหปลาร้าและกล้ามอกแบบจงใจ



สีชมพูที่ดูแล้วผัว



“เหนื่อยอ่ะพี่ดาบ เอมเหนื่อยยยย”



“เรียนหนักสินะคะ ปวดเขาเลยใช่ไหม ไม่ต้องห่วงนะ กูทำหญ้าไว้ให้มึงในครัวแล้วค่ะ” ว่าออกมาแบบนั้นแล้วพูดส่งเสียงคิกคัก แม่ง ชอบกวนตีน กูกัดนมแม่งเลยแรงๆหนึ่งที



“โอ๊ย เจ็บนะคะ!”



“ชอบว่ากูอยู่ได้”  เงยหน้าช้อนตาขึ้นไปมองมันแล้วว่าแบบนั้น แต่พี่มันแค่ยกยิ้มมุมปากเท่ๆส่งมาให้กัน วงแขนแข็งแกร่งที่กอดกระชับเอวผมให้แน่นขึ้น ก่อนจะก้มหน้าลงมากดจูบเบาๆที่ริมฝีปากของผม



“ก็มึงน่ารัก กูเลยชอบแกล้ง”



“แม่ม มีความสุขมากไหมอ่ะ”



“มากๆเลย แค่เป็นมึงทำหน้าโง่ๆกูก็ชอบแล้ว” บอกออกมาแบบนั้นพร้อมยิ้มมากให้ ฝ่ามือหนาที่ยกขึ้นมาเอาผมทัดหูให้ผมแล้วลูบแก้มกันเบาๆ



“จริงๆแล้วก็เป็นแค่คนคลั่งรักสินะดาบน้า” ยักคิ้วใส่มันแบบล้อๆ อยากให้แม่งอายบ้าง แต่อีกคนพอได้ฟังกลับยิ้มร้ายๆตอบกลับมาให้แทนแบบถูกใจ



“อืม คลั่งรักมึงกว่าใครก็คือกูนี่แหล่ะ” เอียงหน้าลงมาแนบริมมีปากจูบผมแบบร้อนแรงขึ้น รับรู้ได้เลยว่าอีกคนกำลังอยากจะทำอะไรในตอนที่ลิ้นร้อนของมันแทรกตัวเข้ามาในโพลงปากของผมแบบหนักหน่วงมากขึ้น ฝ่ามือของพี่มันที่วางไว้ที่สะโพกของผมก็เริ่มจะไม่อยู่นิ่ง เลื่อนมือลงไปบีบเข้าที่แก้มก้นผ่านเนื้อผ้ากั้นอย่างหนักหน่วง



“อื้อ ด...เดี๋ยวก่อน”



“ทำไม”  ผละหน้าออกมาตอนที่ผมเอามือดันออก พี่มันที่ขมวดคิ้วมองหน้ากัน ก็จะมีอารมณ์อะไรขนาดนี้วะ มึงช่วยให้เกียรติที่คาดผมรูปลูกพีชสีชมพูมีหน้าตาจิ้มลิ้มบนหัวมึงด้วยครับ



“วันนี้ผมเจอพาพวยที่สยาม” ตั้งใจตั้งแต่อยู่ห้างแล้วว่าจะต้องมาเล่าให้พี่มันฟังให้ได้ แต่พอบอกไปอีกคนก็แค่ทำหน้าเซ็งใส่



“เจอแล้วทำไม ก็ช่างมันดิ หรือพายมันมาทำไรมึงอีก” ถามออกมาแบบนั้นแล้วทำตาแข็งตอนที่พูด



“เปล่าอ่ะ ผมเจอเค้าไกลๆ”



“คงไปเที่ยวล่ะมั้ง ก็เห็นวันนั้นบอกว่าอีกไม่กี่อาทิตย์จะกลับไปเมืองนอกอีก” พี่มันว่าแบบนั้นแบบไม่สนใจอะไรเท่าไหร่ แถมยักไหล่ให้อีกหนึ่งที



“ไม่ใช่ว่าเค้าจะกลับมาอยู่นี่ถาวรหรอ”



“ไม่รู้ว่ะ ... เอาจริงๆคือกูไม่ได้รู้เรื่องไรมากหรอก ขนาดหลอกถามยังได้อะไรมานิดๆหน่อยๆ”



“เค้ากำลังจะทำอะไรหรือเปล่าวะพี่”



“ทำ...ก็คงจะวางแผนมาซื้อเกาะนั่นจากกูนั่นแหล่ะ แต่ตอนนี้เงียบๆไปแล้ว ในเมื่อใช้พายมาเกลี้ยกล่อมกูไม่ได้ ก็คงจะไปเข้าทางพ่อกูเองล่ะมั้ง ไม่รู้ดิไม่ได้สนใจเท่าไหร่อ่ะ”



พี่มันบอกออกมาแบบนั้นด้วยท่าทางที่ไม่สนใจจริงๆ แต่ถึงแบบนั้นผมกลับรู้สึกแปลกๆ



“พาพวยหายไปจากพี่มึงเลยหรอ เงียบผิดปกติป่ะวะ”



“ก็เค้าไม่มีเรื่องอะไรจะมาคุยกับกูป่ะวะ จริงๆกูก็พูดชัดไปแล้ว เค้าเองก็เห็นชัดๆไปแล้วว่ากูคบกับมึง คนมีสติก็ควรจะเลิกยุ่งกันก็ถูกแล้วไม่ใช่หรอวะ...กูว่านะ เราเอาพายเข้ามาในชีวิตเรามากไปจนชีวิตของเราแม่งจะไม่โอเคแล้วว่ะเอม”



“ผมก็ไม่ชอบหรอก จริงๆนะ” หันหน้าไปเอามือกอดคอพี่มันแล้วช้อนตามองหน้า พูดย้ำแบบนั้นชัดๆกับมันว่าจริงๆแล้วผมไม่ได้อยากเป็นคนไม่น่ารักหรือขี้ระแวงแบบนี้ แต่อดีตของผมก็สอนให้ต้องระวัง ถึงพี่ดาบมันจะดีแค่ไหน แต่เรื่องผิดพลาดมันก็เกิดขึ้นได้ง่ายๆเวลาที่มีตัณหาเข้าครอบงำไม่ใช่หรือไง



“ต่อจากนี้เรามาทำให้ทุกวันของเรามีแต่เรื่องดีๆกันนะ ตอนนี้แม่ก็เริ่มโอเคกับมึง เรามาทำครอบครัวของเราให้ดีกันนะเอม” มองสบเข้าไปในดวงตาคมที่มองผม สายตาของพี่มันสั่น แต่คำพูดของมันก็มั่นคง ผมยิ้มรับกับคำพูดนั้น พยักหน้าให้พี่มันเล็กน้อย



“พี่รักเอม รักเอมแค่คนเดียวจริงๆนะ”



“อื้ม รู้แล้วน่า บอกบ่อยจังเลย”



“ก็แค่อยากให้มั่นใจ ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น กูก็รักแค่มึงจริงๆ”



“อะไรของพี่วะเนี่ย” ผมเลิกคิ้วมองแบบไม่เข้าใจ แต่ก็ยังคงยิ้มขำๆไปให้มันกับไอ้การย้ำของมันซ้ำอยู่แบบนี้



“ไม่มีอะไรค่ะ กูแค่กลัวว่าสมองควายน้อยของกูจะไม่จดจำ”



“เดี๋ยวกูกัดมึงเลยนะพี่”



“ดุน้า กลัวจังๆ”



“เออแต่พี่ดาบ”



“หื้มว่าไงคะ” อีกฝ่ายที่กำลังจะลุกขึ้นยืนเลิกคิ้วมองผมแบบสงสัยว่าผมจะพูดอะไร คิดให้รอบคอบกับใจตัวเองอีกครั้งก่อนจะบอกมันออกไป



“จริงๆวันนี้กูไม่ได้เจอพาพวยคนเดียวนะ ... ผมเจอพาพวยอยู่กับน้องม็อบ น้องรหัสผมว่ะพี่



.

.

.



[[DANI: คิดจะทำอะไร บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่ามายุ่งกับเอม]]





--------------To be continued--------------



มาแล้วจ้าาาา ในตอนนี้มีหลากหลายประเด็นมากๆเลยค่ะ อยากให้คนอ่านสนุกและลุ้นไปด้วยกัน

กับทุกคู่ ทุกตอน ทุกบท และทุกๆความสัมพันธ์ค่ะ

ถ้าคนอ่านชอบ แคทก็จะดีใจมากๆเลย

หวังว่าคนอ่านจะยังอยู่ และรู้สึกสนุกกับนิยายเรื่องนี้ไปจนจบเลยนะคะ

ส่วนเรื่องเล่ม ตอนนี้ภาพหน้าปกเล่ม1แคทได้ยลแล้ว อิเจ๊พี่ดาบสวยสุดในน่านน้ำ อิอิ

แคทจะไม่ทำให้ผิดหวังนะคะ

ฝากแฮชแทคในทวิตเตอร์ #สวยๆเป็นผัว ด้วยนะคะ ท่านใดไม่มียูสในเว็บ

สามารถเข้าไปคอมเม้นท์กันได้นะคะ

ในตอนนี้มาค่ะ เชิญกรี๊ดหวีดร้องให้กับตอนนี้กันจ้า ขอดังๆกว่าเสียงกรี๊ดเจ๊ดานี่ไปเลยน้า

-รัก-

หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่40 {18/07/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 18-07-2020 21:10:43
เจ๊ดานี่คนจริง o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่40 {18/07/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 18-07-2020 22:43:26
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: รออีเจ๊กวาดล้างแก๊งพาพวย
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่40 {18/07/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 19-07-2020 11:09:57
พาพวยไม่จบง่ายๆ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่40 {18/07/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 19-07-2020 12:44:22
น่าจะมาเป็นขบวนการนะ อิเจ้จัดการปิดบัญชีเลยจ้า
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่40 {18/07/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 22-07-2020 01:09:41
เจ้คะ ความผัวมากค่ะออกโรงปกป้องเมีย :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่40 {18/07/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Alich85 ที่ 22-07-2020 18:18:58
 :3125:พาพวยนี่ยังไงนะ สตรอเหรอเรา อิเจ๊ตบเลยค่ะจะได้จบๆ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่41 {25/07/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 25-07-2020 20:53:45
บทที่41




“เป็นเด็กดีนะคะหนู”



“เลิกพูดแบบนี้สักทีเถอะน่า ผมเคยดื้อที่ไหนเล่า”



“มึงนี่ตัวดี ยืนหนึ่งความดื้อในโลกของควายเลยล่ะ”



“อิเจ๊พี่แม่งชอบว่ากัน”



“หึ มาจงมาเจ๊ แต่ถึงจะเจ๊ก็ผัวดุๆของมึงอ่ะเนาะ”  คนตรงหน้าที่ยืนพิงมอเตอร์ไซค์ที่ชื่อว่าจุ๊บจิ๊บของตัวเองอยู่ ยื่นมือมาหยิบหมวกกันน็อคออกไปจากหัวของกันแล้วพูดออกมาแบบนั้นแล้วขยิบตาให้อีกหนึ่งที ถือเป็นการกวนตีนกันสำเร็จในความคิดของพี่มัน



“ก็ไม่เห็นจะดุเท่าไหร่เลยน้า”



“มึงท้าทายกูหรอคะอิหนู” มันว่าแบบนั้นพร้อมๆกับดวงตาที่แข็งขึ้นในตอนที่มองหน้ากัน ดวงตาคมที่วันนี้ไม่ได้แต่งหน้าทาปากหรือกรีดอายไลน์เนอร์แบบที่เจ้าตัวชอบ ก็มีแค่ใบหน้าสดๆไร้เมคอัพเพราะถูกปลุกให้มาส่งผมให้ทันเรียนตอนแปดโมงเช้า เพราะวันนี้อาจารย์จะสอนชดเชย เลยต้องมาเรียนไวกว่าทุกทีหนึ่งชั่วโมง ... ไม่อยากจะบอก ตัวอยู่มหาลัย จิตใจไอ้เอมอยู่ที่เตียงนอน



“ยังไง คือมึงจะเอาใช่ไหมคะ”



“เอาอะไร ใครจะเอาอะไรกันอ่ะ ฟังแล้วไม่เห็นจะเข้าใจเลยครับ” แกล้งยักไหล่แล้วยิ้มทะเล้นใส่มันไปแบบนั้น พี่มันที่มองกันแบบคาดโทษไว้



“แกล้งโง่ไปเหอะ เดี๋ยวกูสอนมึงใหม่ในทุกๆท่า อย่ามาร้องละกัน”



“โวะ ทำไมเจ๊ชอบทะลึ่งจังวะ”



“เอ้า ผิดตรงไหนที่กูอยากให้มึงเก่งไงคะ”



“เก่งเรื่องแบบนี้เนี่ยนะ หึ่ย มีแต่คนแบบเจ๊เท่านั้นแหล่ะที่ชอบอ่ะ”



“จะบอกว่ามึงไม่ชอบ”  ถามแบบนั้นแล้วเลิกคิ้วมองหน้ากัน ท่าทางแบบนั้นที่ยิ่งเพิ่มระดับความดูดีของพี่มันมากขึ้นไปอีก



“อะ เถียงไม่ได้ เพราะอยู่ใต้ตัวกูทีไรมึงก็ร้องเสียงดีทุกทีเลย รู้สึกเหมือนมีเมียเป็นสายโวคอลเลยอ่ะค่ะ”



“โว้ย ผมไม่อยากคุยกับเจ๊แล้วแม่ง ไปดีกว่า”



“ฮ่าๆ เขินแล้วชอบฟึดฟัดอ่ะค่ะ ดูออกนะคะ”  หัวเราะออกมาเสียงดัง ถูกใจที่ทำให้กูอายได้แหล่ะ



“ไปค่ะ ไปเรียนได้แล้ว เย็นนี้กลับเองได้นะคะ”



“ได้น่า เมื่อก่อนผมก็กลับเองตลอดนี่หว่า”



“ก็ตอนนี้มึงมีกูแล้วไงคะ มันก็ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วไหมอ่ะหนู” ว่าออกมาแบบนั้น สายตาคมที่มองมาที่ตาของผม ทำให้รู้สึกร้อนหน้าจนต้องเสหน้าหนี และสายตาก็บังเอิญไปเห็นรถคันดำยี่ห้อหรูที่ดูจะคุ้นหน้าคุ้นตาดีเลี้ยวเข้ามาจอดในลานจอดห่างออกไปไม่ไกลตรงผมเท่าไหร่



“มองอะไรคะ กูทำซึ้งอยู่ มึงบังอาจสนใจอะไรมากกว่าคนสวยๆแบบกูหรอคะอิหนู” 



“เดี๋ยวสิเจ๊พี่ดาบ”



“อะ เรื่องเสือกเมียกูก็คือสกิลไม่ธรรมดา”  มันว่าออกมาแบบนั้นพร้อมผิวปากเป็นเชิงล้อกัน อดไม่ได้ต้องหันกลับมามองค้อนมันทีนึง อีกคนก็แค่ยกยิ้มมุมปากส่งมาให้ แล้วยื่นหัวชะโงกไปทางเดียวกันกับผมทันที



“มึงมองอะไร ขอกูดูด้วยคนค่ะ”



“มึงก็เสือกใช่ไม่ใช่”



“ไม่งั้นเราจะคบกันหรอคะ คู่รักขี้เสือกสะท้านโลกไง”  กูนี่กรอกตาเลย เกลียดชื่อที่มันตั้งครับ ... แต่ถึงแบบนั้นผมก็ละสายตาจากพี่ดาบแล้วมองไปทางเดียวกัน ไม่กี่นาทีต่อมาก็เป็นแผ่นหลังที่คุ้นตาของไอ้เก้อที่ลงมาจากรถ ได้ยินเสียงพี่ดาบมันจิ๊ปากแบบหงุดหงิดนิดหน่อยตอนที่เห็นหน้าไอ้เก้อ



“นี่มึงมาแอบมองไอ้ล่ำต่อหน้ากูหรอคะ”



“ชู่วว เจ๊เงียบน่า นั่นๆๆๆ เห็นไหม่” บอกมันไปแบบตื่นเต้นในตอนที่ประตูข้างคนขับเปิดออก



“เอ๊ะ เด็กคนนั้น” 



“หื้ม เจ๊พี่ดาบมึงรู้จักด้วยหรอ” หันไปมองหน้าคนข้างๆที่ตอนนี้ก็เอาคางมาเกยไหล่ผมไว้จากทางด้านหลัง พอหันหน้าไป แก้มก็เลยแนบเข้ากับสันจมูกโด่งของอีกคนแบบเต็มๆ ในตอนนั้นที่สายตาของพี่มันที่มองมาด้วยแววตาระยิบระยับ พร้อมๆกับริมฝีปากหยักที่ยกยิ้มมุมปากขึ้นมานิดๆ



“เห้ย” ผงะหน้าหนี พร้อมๆกับที่ผมก็ขยับตัวหนีไปด้วยในตอนนี้



“ร้องดังทำไมอ่ะคะ กูเปล่าจู่โจมหอมแก้มมึงนะคะ มีแต่มึงเนี่ย เป็นใจ ตั้งใจอ่อยกูแหล่ะ อยากให้กูหอมแหล่ะดูออกน้า”



“ผมเปล่านะเว้ย” ยกมือกุมแก้มตัวเองแล้วเถียง รู้สึกร้อนๆหน้าไปหมด ดีนะที่ตอนนี้มันยังเช้ามากๆเลยยังไม่ค่อยมีใครมาอยู่ที่ลานจอดรถตรงนี้ พอนึกว่าถึงตรงนี้ก็รีบหันหน้ากลับไปที่รถไอ้เก้อ และใช่...แม่งหายไปทั้งน้องเสือทั้งไอ้เก้อแล้ว



“วุ้ย ไม่ทันเลยเนี่ย”



“ก็จะอยากเสือกอะไรขนาดนั้นล่ะวะเอม”  พี่มันถอนหายใจออกมา ทำท่าทางแบบระอากันนิดๆ แหม...ทำมาเป็นระอากู เมื่อกี้ก็ยื่นหน้ามาเสือกด้วยกันอยู่เห็นๆอ่ะ



“เจ๊พี่ดาบมึงจะไปเข้าใจอะไรอ่ะ ถ้าเราได้รู้เรื่องแค่ครึ่งๆกลางๆจิตใจเราจะไม่สงบ เราจะไม่มีสมาธิเวลาเรียนนะ”



“อะ ขนาดนี้แล้วนะเมียกูอ่ะ”



“บ่นไรงึมๆงำๆ หันหน้ามาพูดกันดีๆก็ได้อ่ะ” เห็นพี่มันขยับปากครับ แต่ฟังไม่ค่อยจะได้ยิน



“เปล่าๆค่ะอิหนู ว่าแต่ทำไม อิล่ำนั่นจะมากับใครแล้วทำไม”



“ก็เพราะว่ามันมากับน้องเสืออ่ะดิที่น่าสนใจ มันไปดีกันตอนไหนวะ”  สงสัยมากๆ เรื่องนี้ไอ้เอมต้องเอาไปบอกเล่าเก้าสิบกับอิป้าให้ได้เลย



“มันคบกันหรอวะ”



“เหยดดด สกิลการเสือกของเจ๊พี่มึงก็ไม่ธรรมดาเหมือนกันนะเนี่ย มองแค่นี้ก็ได้กลิ่นอ่ะ ฉลาดจังเลยครับ” ผมยิ้มกว้างๆแล้วเอื้อมมือไปลูบหัวพี่มันสองสามที ฉลาดแสนรู้จริงๆเลยครับ



“อะ เล่นหัวกูไปอีก เพื่อนเล่นมึงเลยนะอิหนู”



“หยอกน่า ... ผมไปเรียนก่อนดีกว่า บ๊ายบายน้า ... แล้วไปกับคุณป๊าวันนี้อย่าดื้อนะรู้เปล่า” ผมกำชับพี่มันอีกครั้ง หลังจากที่เมื่อคืนนี้คุณป๊าโทรมาบอกว่าคืนนี้อยากให้พี่ดาบมันไปงานเลี้ยงด้วย เป็นงานเลี้ยงที่พ่อเลี้ยงของพระพายเชิญไปครับ ผมไม่ค่อยสบายใจ แต่อย่างน้อยพี่มันก็บอกผมตรงๆว่าต้องไปเพราะอะไร



“รู้แล้วค่ะ กูจะพยายามทาปากไปสีอ่อนที่สุดนะคะไม่ต้องห่วง”



“กูห่วงตรงนี้นี่แหล่ะ” ถอนหายใจหนักๆใส่เลย แต่อีกคนก็แค่ยักไหล่แบบไม่สนใจเท่าไหร่พร้อมวาดขาขึ้นคล่อมอิจุ๊บจิ๊บไว้แบบแสนเท่



“เอม” อีกคนที่สวมหมวกกันน็อคแบบเต็มใบเรียบร้อย หันหน้ามาเรียกกันแบบนั้น



“หื้ม”



“ไม่ต้องกังวลอะไรนะ”  พูดย้ำแบบนั้นในตอนที่เรามองตากัน ผมได้แต่พยักหน้ารับแล้วส่งยิ้มไปให้



“อื้ม เอมจะรอที่ห้องนะ”



“ครับผม เจอกันคืนนี้นะ” บอกแบบนั้นก่อนจะเอื้อมมือไปปัดกระจกหมวกกันน็อคให้เรียบร้อย ก่อนที่มอเตอร์ไซค์คันใหญ่นั่นจะค่อยๆเคลื่อนตัวออกไป ผมที่ยืนมองแผ่นหลังกว้างนั่นค่อยๆห่างออกไปช้าๆแล้วยิ้มกับตัวเอง



ดีจังที่มีพี่มันเป็นคนรักของผม



คิดแบบนั้นแล้วก็อยากจะยกมือขึ้นตบกะโหลกตัวเองจริงๆ น่าอายฉิบหาย ขยี้ผมตัวเองจนเหนื่อยก่อนจะตัดสินใจหมุนตัวไปเรียนได้ แต่พอหันกลับมาก็ต้องสะดุ้ง



“เชี่ยม็อบ!” ผงะถอยหลังหนีสองก้าว เพราะแม่งมายืนสิงหลังกันตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้



“ตกใจง่ายจัง ไม่ระวังตัวเลยนะครับ ผมมายืนอยู่ข้างหลังพี่ตั้งนานยังไม่รู้ตัวเลย” มันที่ว่าออกมาแบบนั้น วันนี้มันไม่ได้ใส่ชุดนักศึกษา แต่งตัวด้วยชุดธรรมดาที่ผมไม่คุ้นตาเท่าไหร่ ปกติมันจะชอบแต่งตัวแบบสุภาพไปทางโทนผู้ดี แต่วันนี้มันกลับอยู่ในเสื้อยืดคอกลมสีดำธรรมดากับกางเกงยีนส์สีสนิม



“ห่า แล้วมึงมีไร มาสิงกูขนาดนี้”



“ก็เปล่า แค่อยากมาเจอพี่”



“แล้วรู้ได้ไงว่ากูจะมาเรียนตอนนี้” ผมขมวดคิ้วใส่มันเลยครับ ไม่ชอบใจเท่าไหร่ที่มันทำแบบนี้ ผมตกใจ และมากกว่าความตกใจก็คือวันก่อนผมเห็นมันอยู่กับพาพวย ผมมั่นใจว่าผมไม่ได้ตาฝาด เพราะแบบนั้นมันเลยทำให้ผมไม่สนิทใจกับมันเหมือนเดิม



“มีอะไรเกี่ยวกับพี่ที่ผมไม่รู้บ้าง”



“กูจะไปรู้กับมึงเรอะ เฮ้อ ถอยๆ กูจะไปเรียนแล้วไอ้ม็อบ...ว่าแต่ทำไมมึงแต่งตัวงี้วะ”



“ผมก็แค่เข้ามา ไม่ได้มาเรียน”  มันบอกแบบนั้นแล้วกูก็ต้องขมวดคิ้วกับคำพูดของมันเลย นี่กูโง่จริงๆหรือมันพูดเข้าใจยากเลยไม่ค่อยเข้าใจที่มันพูดกันวะ



“อะ เรื่องของมึงเถอะงั้น”  ไม่อยากพูดกับมันครับ ตอนนี้เจ็ดโมงครึ่ง ก็ยังมีเวลาอีกครึ่งชั่วโมงก่อนเข้าเรียน



“พี่เอม”



“ว่าไง” หันไปมองมัน มันที่ยังยืนอยู่ที่เดิมแล้วมองหน้าผมอยู่แบบนั้น



“ทุกวันนี้พี่ทำงานกับพี่ดาบหรอ”



“หื้ม หมายถึงไรวะ”



“พี่รับจ้างทำงานบ้านให้เค้า แล้วพี่ไม่คิดบ้างหรอว่าชีวิตพี่ผูกติดกับเค้ามากไปนะ ถ้าไม่มีเค้าพี่จะเหลืออะไรอ่ะ จะเอาเงินเอางานที่ไหนมาใช้มาทำ” มันพูดออกมาแบบนั้นทำให้ผมต้องหันไปมองหน้ามันเต็มๆหน้า ไม่เข้าใจที่มันพูดมาว่าคืออะไร แต่คิ้วผมก็ขมวดเข้าหากันไม่หยุด



“มึงพูดแบบนี้หมายความว่าไง”  เดินตรงกลับไปหามันที่ตอนนี้ก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิม มันยักไหล่นิดหน่อยตอนที่ผมเดิมเข้าไปใกล้



“ว่ายังไง มึงหมายความว่าไง”



“ก็ไม่ได้หมายความว่าไง จริงๆผมแค่อยากมาชวนพี่ไปทำงานที่ร้านกาแฟที่มาเปิดใหม่หน้ามอแค่นั้นแหล่ะ”  ว่าออกมาแบบนั้นแล้วยิ้มกว้างๆออกมาแบบที่มันชอบทำ หน้าตาซื่อๆของมันที่ยิ้มกว้างๆให้กัน



“ชวนกูไปทำงาน”



“ครับ พอดีเป็นร้านของรุ่นพี่ที่ผมรู้จักอ่ะ เค้ามาเปิดที่หน้ามอ ก็แค่คิดว่าพี่น่าจะทำได้”



“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับแฟนกู ที่มึงบอกว่าถ้ากูไม่มีเค้ากูจะเหลืออะไร” จ้องหน้ามัน แต่อีกคนก็ยังคงยิ้มใสๆแบบที่ชอบทำกลับมาให้ มันหัวเราะไปด้วยในตอนนี้



“พี่คิดมากอะไรวะ ผมก็แค่พูดไปงั้น สมมุติว่าพี่เลิกกันงี้”



“กูบอกมึงแล้วไงวะว่าไม่มีแพลนจะเลิกกันอ่ะ” รู้สึกฉุนๆขึ้นมานิดหน่อยเลยขึ้นเสียงใส่มัน ทำไมแม่งชอบมาแช่งวะ ห่า



“โอเคๆ ผมรู้แล้วน่า ไม่ต้องขมวดคิ้วทำหน้ายุ่งแบบนั้นก็ได้นี่ครับ” ว่าแบบนั้นแล้วเอื้อมมือมาดึงแก้มกู ยกมือขึ้นฟาดมือมันแต่ไม่ทันเพราะมันชักมือกลับก่อน



“กวนตีนจังวะม็อบ”



“ฮ่าๆ พี่รู้ตัวไหมว่าขนาดพี่ด่าก็ยังน่ารัก”



“พอ เลิกชมกู” ตัดบทออกไปแบบนั้น



“แต่ผมพูดจริงนะ ทุกเรื่องเลย”



“เออๆ กูไปล่ะ” ผมตัดสินใจหันหลังหนีมัน ขี้เกียจจะฟังคำพูดของมันอีก ไร้สาระครับ



“พี่เอม”



“อะไรอีกล่ะวะ!” ฉุนเฉียวนิดหน่อย เรียกกูแม่งอยู่นั่นแหล่ะ กูเดินยึกๆยักๆเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ รู้สึกเหมือนคนบ้านิดหน่อย



“อย่าลืมเรื่องร้านที่ผมบอกนะพี่ ถ้าพี่สนใจ เข้าไปสมัครแล้วบอกว่าผมแนะนำมาได้เลยนะ”



“เออๆ ทำตัวเหมือนมึงได้ค่าโฆษณานะ”  ว่ามันแบบนั้น แต่อีกฝ่ายกลับแค่ยิ้มให้กัน ผมถอนหายใจหงุดหงิดนิดหน่อยในตอนที่มองหน้ามัน รู้สึกเซ็งนิดๆ คิดว่าสีหน้ารำคาญของผมคงจะเก็บไม่มิดอีกแล้วในตอนนี้ แต่ไอ้ม็อบก็แค่ยิ้มมาให้กันแบบที่มันชอบยิ้มให้ผมเสมอ 



“พี่เอม...ผมชอบพี่จริงๆนะ” มันพูดออกมาอีกครั้ง ไม่แม้แต่จะสนใจสีหน้าของผมว่าเป็นยังไง มันแค่ยิ้มและพูดออกมาแบบนั้น ผมถอนหายใจหนักๆแล้วในตอนนี้ อยากจะพูดอะไรออกไปให้มันเข้าใจสักที แต่ไอ้ม็อบก็แค่พูดขัดขึ้นมา



“ผมก็แค่อยากบอกพี่ไว้ ว่าผมชอบพี่จริงๆ ... ก็แค่นั้น” บอกแล้วก็ยังยิ้มมาให้แม้ว่าผมจะทำหน้านิ่วแค่ไหนก็ตาม



“พี่ไปเรียนเถอะ โชคดีนะครับ”



“โวะ ไม่รู้อะไรของมึง กูไปละ” ถอนหายใจทิ้งๆอีกรอบแล้วหันหลังเดินจ้ำขายาวๆหนีมันมา ไม่รู้เหมือนกันว่ามันทำหน้ายังไง แต่คิดว่ามันก็คงจะยิ้มบ้าบอแบบที่มันชอบทำเหมือนเดิมนั่นแหล่ะ



               เดินขึ้นมาบนห้องเรียนเจอกับไอ้หยีที่ตอนนี้กำลังหยิบกระจกขึ้นมาส่องหน้าตัวเองเหมือนที่มันชอบทำเป็นประจำทุกวัน กลับเรื่องเรียนมึงจริงจังขนาดนี้ไหม อยากจะถามจริงๆครับ



“เอ้า อิเอมมมมม มาแล้วหรอคะหนูลูก มาเช้าน้า กูก็นึกว่าจะมาไม่ไหว” จีบปากจีบคอทักทายกัน ด้วยเสียงที่ดังเอาซะเพื่อนทั้งห้องรู้ว่ากูมาถึงแล้ว



“เสียงดังจังวะป้า แล้วทำไมกูต้องมาไม่ไหวด้วย” วางกระเป๋าลงบนโต๊ะว่างๆแล้วทรุดตัวลงนั่งที่โต๊ะแลคเชอร์อีกตัวข้างๆมัน

“ก็นึกว่าพี่ดาบทำการบ้านมึงหนักๆอ่ะค่ะลูก แบบว่าอาจจะมาเรียนเช้ามากแบบนี้ไม่ไหวหรือเปล่าน้า”



“มึงนี่เป็นผู้หญิงยังไงวะป้า พูดแต่ละอย่างแบบนี้ไงถึงไม่มีผัวอ่ะ” ท้อครับ อยู่ๆอยากพูดเรื่องบนเตียงของกูก็พูดขึ้นมาหน้าตาเฉยเลย



“เอ๊ะ กูแค่เป็นห่วงไหมอ่ะคะ นี่มึงล้อปมกูหรอ บุลลี่กูเรื่องไม่มีผัวหรอคะ ไปตบกับกูนอกห้องเดี่ยวนี้เลยไป กล้าดียังไงมาว่าคนสวยแบบกูคะ!”



“เฮ้อ ไม่แปลกใจจริงๆที่มึงเคยเป็นน้องรหัสอิเจ๊” มองหน้ามันแล้วถอนหายใจปลง ไอ้หยีหรี่ตามองกันนิดหน่อยตอนที่ได้ยินผมพูดแบบนั้น



“สวยเหมือนกันหรอคะ”



“แรดพอกันเลย”



‘เพี๊ยะ’



“โอ๊ย เจ็บนะป้า”  เอามือลูบแขนทันทีที่มันตีกันเสร็จ ฟาดลงมาแบบไม่ยั้งมือ คิดว่าแขนกูต้องแดงแน่ๆ ทำไมเป็นคนร้ายๆแบบนี้



“กวนตีนกูนักนะคะ”



“น่าป้า ให้กูกวนตีนแก้เซ็งหน่อยสิวะ”



“ทำไม มึงเซ็งเรื่องไร หรือพี่ดาบเสร็จไวก็เลยเซ็งหรอ ก็ไม่น่าไหมวะ” ว่าแบบนั้นพร้อมเก็บแป้งพัฟลงในกระเป๋าของมัน ใบใหม่ครับ เป็นกระเป๋าคลัชของBalenciaga รุ่นใหม่ที่เป็นลายกราฟฟิกเท่ๆ ... ใช่ครับ พี่ดาบซื้อให้มันตามสัญญาตั้งแต่กลับมาจากค่ายแรกๆแล้วครับ



“ไม่ใช่โว้ยป้า มึงคิดอะไรวะเนี่ย”



“อุ๊ย กูก็ว่าแล้วค่ะว่าคงไม่ใช่หรอก” ยักคิ้วหลิ่วตาล้อกูจนพอใจก็ยกขาเรียวสวยของมันขึ้นมานั่งไขว่ห้างแล้วใช้แขนเท้าคางหันมามองหน้าผม



“พร้อมเสือกแล้วสินะป้า”



“จะพูดแบบนั้นก็ไม่ถูก ให้ใช้คำว่า พร้อมที่จะรับฟังเรื่องราวในหัวใจของเพื่อนแล้ว”  ใช้คำซะสวยผิดการกระทำแม่งเหลือเกิน



“กูแค่เซ็งไอ้น้องม็อบ”



“ผู้มาจีบอีกแล้วหรอคะลูก มึงก็พูดกับมันตรงๆไปแล้วไม่ใช่หรอ”



“ก็พูดไปแล้วนะป้า ชัดกว่านี้คือกูต้องบอกว่ากูได้กันท่าไหนแล้วนะ”



“อู๊ย ซี๊ดปาก ว่าแต่ท่าไหนหรอมึง”



“อันนี้กูประชด แต่สีหน้ามึงคืออยากรู้จริงนะป้า” ผลักไหล่มันให้ไปไกลๆครับ แต่ไอ้หยีก็ขยับกลับมาใกล้กันเหมือนเดิม ท่าทางที่บอกผมว่า กูไม่ไป! ไล่กูก็ไม่ออก ออกแล้วจะเอาภาษีประชาชนที่ไหนมาแดก!...เอ่อ หยอก หมายถึงว่า ออกแล้วจะเอาโต๊ะที่ไหนนั่งข้างผม



“ขำๆสะเก็ดดาวค่ะอิลูก แต่ว่านะมึง น้องม็อบนี่ก็แปลกๆนะ ยิ่งวันนั้นที่มึงบอกกูว่าน้องมันไปกับพี่พาย กูว่ามึงอย่าไปใกล้มันมากเลยว่ะ”



“กูก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน เลยไม่ค่อยอยากจะยุ่งกับมัน”



“ดีแล้วค่ะ แต่ถ้ามีไรเกิดขึ้นมึงต้องบอกกูทันทีนะ กริ๊งกร๊างมาทันที กูจะรีบไปหามึง”



“ขอบใจนะป้า” ถึงหยีมันจะชอบแตกตื่นเรื่องชาวบ้าน แต่ก็อย่างที่รู้ๆครับ มันจริงใจและไม่เคยหวังผลอะไรตอบแทนเลย เป็นเพื่อนที่น่ารัก ที่ผมคิดว่าโชคดีมากๆที่ได้เจอเพื่อนแบบนี้ครับ



“ไม่เป็นไร กูขอค่าตอบแทนเป็นการบ้านวิชานี้แทนก็แล้วกันค่ะ เอามากูจะลอก กูจะลอกตอนนี้เลยอิเอม กูลืมทำมา สมุดมึงอยู่ไหน!”



ถุย! กูขอคำพูดเมื่อกี้นี้แทนด้วยละกัน ปัดโถ่เอ้ย!



“มึงอย่าพึ่งลอกการบ้านป้า”



“ทำไม เดี๋ยวไม่ทันเนี่ยอิเอม” แล้วทำไมมึงไม่ทำมาวะ อยากจะถามมันแบบนั้นครับ แต่คิดว่าจะโดนมันด่ากลับมาอีกเลยไม่พูดดีกว่า เปลี่ยนเป็นเรื่องอื่นแทน



“ตอนกูมาเมื่อเช้าเห็นไอ้เก้อมากับน้องเสือ”



“อะไรนะคะ!”  ไอ้หยีโยนปากกาทิ้งแล้วเงยหน้าขึ้นมามองกัน ...ไหนเมื่อกี้มึงยังบอกว่าจะลอกงานไงวะ



“เออ มันมาด้วยกัน แต่มาด้วยกันได้ไงอันนี้ไม่รู้”



“แปลกมากๆ หรือมันไปง้อน้องแล้ว ก่อนหน้านี้มันยิ่งทำท่าทางแปลกๆ”



“ก็ไม่แน่นะ ไม่งั้นน้องจะมากับมันหรอวะ”



“ครุ่นคิดๆๆ เนี่ย เป็นเรื่องให้กูได้ครุ่นคิด มันมากับน้องเสือ ทำไมวะ ยังไงวะ...”



“ก็ไม่ยังไงอ่ะ ก็แค่กูคบกับไอ้เสือแล้ว”



“อ๋อออ เป็นแบบที่กูคิดจริงๆ เอ๊ะ...อิเก้อ!” เราสองคนที่เงยหน้าขึ้นไปมอง และใช่ครับ ไอ้เก้อตัวเป็นๆยืนอยู่ตรงนี้ มันที่ยักคิ้วส่งมาให้พวกเรานิดๆ เท่จัดๆหน้าตาดูอารมณ์ดี มันเดินมาทิ้งตัวลงนั่งข้างๆผม



“ยังไงคะ หมายความว่าไง”



“ก็ตามนั้น ... ว่าแต่พวกมึงคือนินทากูอยู่หรอครับ”



“อย่าเรียกว่านินทา เรียกว่าพูดถึงเรื่องราวของเพื่อน” ผมหันไปบอก ไอ้เก้อก็แค่ยกมือขึ้นมาผลักหัว พูดตรงๆว่าไม่ได้ดูมุ้งมิ้งน่ารัก แม่งผลักแบบที่เรียกได้ว่าคอโยก



“มึงอย่าตีกัน ตอบกูว่าไปคบกันอิท่าไหนคะ!”  ไอ้หยีที่โยนงานทิ้งแล้วขยับโต๊ะแลคเชอร์มาหาไอ้เก้อมันทั้งแบบนั้น



“ก็หลายท่าอยู่นะ หมายถึงเมื่อก่อนน่ะ” มันว่าแบบนั้นแล้วยกยิ้มมุมปาก ไอ้หยียกมือขึ้นอุดปากเลยครับตอนนี้ ท่าทางอยากจะกรี๊ดของมัน ดีแล้วที่มันอุดปากทัน



“อิเหี้ย! แซ่บมาก ว่าแต่อย่าบอกว่าพึ่งกลับมาคบกันมึงก็พาน้องไปโยกเลยหรอคะ!”



“ใช่ที่ไหนล่ะป้า กูก็แค่ไปรับมันมาเรียนเฉยๆ โยกก็เหี้ยละ” ไอ้หยีหรี่ตามอง ก่อนจะหันมามองผม สายตาที่ผมอ่านออกว่ามันถามผมว่า ‘มึงเชื่อน้ำหน้ามันไหน’



“ใช่หรอวะ”



“พวกมึงสองคนไม่ต้องมองกูแบบนั้นเลยครับ กูไม่ได้พาไอ้เสือไปโยกเหี้ยไรทั้งนั้นแหล่ะ ก็แค่ไปรับมันมาจากหอแล้วพามาเรียน”



“อิเหี้ย กูตกใจมากที่ได้ยินอะไรแบบนี้ ทำไมมึงดูเป็นคนดีทั้งๆที่อดอยากมาเป็นเดือน กูรู้นะว่ามึงไม่ได้ไปเอาใครมาเป็นเดือนตั้งแต่กลับมาจากค่าย จริงๆตรอมใจอยู่ แต่แกล้งไม่เป็นไร อยากจะถุยค่ะ”



“เออ กูไม่ได้ไปเอาใคร แต่ยังไงวะ กูพึ่งขอมันคบเมื่อวาน จะให้กูเอามันหรอวะ มันจะรู้สึกไงอ่ะ มันจะไม่คิดว่ากูคบมันเพราะแค่อยากเอาหรอ ...ไม่ว่ะ กูทนได้ ยังไงกูก็ทนมาเป็นเดือนแล้วป่ะ”



“เหยดดดดด ไอ้เก้อเปลี่ยนไป คิดดีเหมือนไม่ใช่มัน เหมือนมีใครกินไอ้เก้อไปเลยว่ะป้า” หันไปพูดกับไอ้หยีที่ตอนนี้ก็ทำหน้าเหลือเชื่ออยู่เหมือนกัน



“เป็นไงล่ะ กูเป็นคนดีขนาดนี้ยังไม่ชอบ เสือกชอบตุ๊ด เห็นความดีกูไหม เสียดายกูล่ะสิท่า”  ว่าแบบนั้นแล้วยักคิ้วใส่ผมแบบกวนส้นตีน ผมนี่เบ้ปากใส่เลย



“พูดวนไปเพื่อจะอวยตัวเองเนี่ยนะ กูยอมเลย”



“ยอมอะไรกูวะเอม กูไม่เอามึงนะ มีแฟนแล้วชื่อน้องเสือ”



“หูยยยย น้องเสือ / หูยยยย น้องเสือ” ผมมกับไอ้หยีที่พูดออกมาพร้อมกันแบบไม่ได้นัดหมาย ไอ้เก้อที่หันมามองหน้าเราสองคนแล้วยักคิ้วใส่พร้อมยกยิ้มมุมปาก



“แล้วไงวะ เรียกน้องเสือก็น่ารักเข้ากันมันดีไม่ใช่หรือไง”



“มึงเคยมองน้องมันน่ารักด้วยหรือไงคะ”



“เมื่อก่อนอาจจะไม่ ... แต่ตอนนี้แค่แม่งหายใจ กูก็ว่าน่ามอง”



“โอ๊ยยย อิสัด...เหมือนกูเจอคนคลั่งรักอีกคนแล้ว อิหยีท้อ อยากมีผัวค่ะ!!” ไอ้หยีที่แหกปากออกมาแบบนั้นแล้วรีบลุกขึ้นลากโต๊ะกลับไปนั่งที่เดิม มันทำหน้าแบบทนไม่ไหว เหมือนจะอยากอ้วกมากๆในตอนนี้ ... แต่ไม่ว่ายังไง ผมรู้สึกว่าผมดีใจนะ ที่ในที่สุดไอ้เก้อมันก็รู้ตัวจริงๆสักทีว่ามันรักใคร



“ดีใจด้วยนะมึง” ผมหันไปบอกมันเบาๆ ไอ้เก้อที่ละสายตาออกมาจากหน้าจอมือถือของมันแล้วหันมาหาผม มันที่ยิ้มออกมานิดๆ



“ขอบใจ ... กูเองก็ดีใจกับมึงเหมือนกัน”



ผมรู้ว่ามันหมายถึงอะไร ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่มันบอกว่าดีใจด้วยที่ผมมีแฟนเป็นพี่ดาบ แต่ครั้งนี้เหมือนจะเป็นครั้งแรกที่มันพูดออกมาแบบจริงใจ เป็นความรู้สึกของเพื่อนจริงๆที่อวยพรให้กัน  ที่มันทำได้แบบนั้นก็เพราะว่าตอนนี้ใจของมันก็ไม่ได้อยู่ที่ผมอีกแล้ว อาจจะอยู่ที่ใครสักคน อาจจะเป็นใครสักคนที่มันกำลังพิมพ์ข้อความตอบกลับไปพร้อมรอยยิ้มมุมปากตอนนี้ก็เป็นได้ล่ะมั้ง



[[tiger: กินขนมปังกับนมที่พี่มึงยัดมาให้ในกระเป๋าแล้ว เลิกบอกย้ำสักทีสิวะ กูกินแล้วเนี่ย]]



[[TGer: กูย้ำมึงแล้วมันจะทำไม]]



[[tiger: ก็จะบอกบ่อยอะไรนักหนาล่ะวะ รู้แล้วไงเก้อ เสือรู้แล้วไง]]



[[TGer: ก็กูห่วงแฟนกู ไม่เข้าใจไงครับน้องเสือ]]



[[TGer: พี่ห่วงแฟนพี่อ่ะครับ]]



[[tiger: สัด! ตั้งใจเรียนไปเลยพี่มึง ไม่คุยแล้ว!]]



[[TGer: คร้าบบบบบบบ]]



[[tiger: ตั้งใจเรียนด้วยล่ะ....แฟนไอ้เสือ]]



“สัด น่ารักฉิบหาย”



และนั่นก็เป็นเสียงสุดท้ายก่อนที่อาจารย์ประจำวิชาของเราจะเดินเข้ามาพอดี ไอ้เก้อที่เก็บโทรศัพท์ลงในกระเป้าเสื้อ แต่รอยยิ้มกว้างๆของมันก็ยังไม่ยอมหมดไปจากหน้าสักทีเลยในตอนนี้ เหมือนมันเองก็จะมีความสุขดีแบบที่มันว่าจริงๆ



...



(มีต่อจ้า)
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่41 {25/07/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 25-07-2020 20:54:35

‘ติ๊ด’



ผมที่ใช้การ์ดแตะเข้าไปที่ประตูห้อง เปิดประตูเข้าไปในช่วงเวลาทุ่มกว่าๆ วันนี้เรียนเต็มวัน พอตอนเลิกแล้วไอ้หยีมันขอให้ไปเดินซื้อของเป็นเพื่อนมันหน่อยก็เลยถึงห้องช้า ไฟในห้องถูกปิดสนิท ก็เพราะว่าวันนี้ไม่มีใครอยู่ อิเจ๊พี่มันคงออกไปนานแล้ว ผมเก็บกระเป๋าแล้วทำความสะอาดห้องเหมือนที่ต้องทำเป็นประจำ ก็ลูกจ้างนี่หว่า ใช่ว่าเป็นแฟนมันแล้วจะไม่ต้องทำงานนะครับ ยังไงพี่มันก็จ่ายเงินเดือนผมทุกเดือน คิดมาถึงตรงนี้แล้วก็อดนึกถึงคำพูดของไอ้ม็อบไม่ได้



“พี่รับจ้างทำงานบ้านให้เค้า แล้วพี่ไม่คิดบ้างหรอว่าชีวิตพี่ผูกติดกับเค้ามากไปนะ ถ้าไม่มีเค้าพี่จะเหลืออะไรอ่ะ จะเอาเงินเอางานที่ไหนมาใช้มาทำ”



“แม่ง ก็ใช่ว่าวันนี้พรุ่งนี้กูจะไม่มีกันนี่หว่า ห่า” บ่นออกมาแบบนั้น แล้วเอาเครื่องดูดฝุ่นดูดไปตามซอกตู้ ตามพื้นพรหมสีชมพูที่มันบอกว่าขโมยมาจากลูกพี่ลูกน้องของมัน เห็นว่าของบ้านเฮียทัพ



ใช้เวลาไม่นานก็ทำเสร็จครับ สะอาดเหมือนใหม่ ไฉไลจนกูต้องยกมือขึ้นปรบ



“เก่งมากๆเลยน้องเอม” บอกตัวเองแบบนั้น เหมือนที่พี่มันชอบพูดทุกวันเวลาผมทำความสะอาดเสร็จ แต่วันนี้มันไม่อยู่ ผมก็เลยบอกตัวเองซะเลย เดินเข้าไปในครัวเพราะท้องเริ่มหิว กวาดส่ายตาไปทั่วก็มองเห็นบนโต๊ะที่ตอนนี้มีที่ครอบกับข้าวแบบเป็นฝาแก้วใสครอบเอาไว้อยู่ บนนั้นมีแผ่นกระดาษโพสอิทสีชมพูใบหนึ่งแปะเอาไว้ เป็นข้อความที่พออ่านแล้วก็ยิ้มได้ในทันที





‘อิหนู กูทำข้าวผัดกระเพราหมูสับแบบที่มึงชอบไว้ให้นะคะ มีไข่ดาวที่ทอดแบบไม่สุกไว้ให้ด้วย กลับมาแล้วเอาเข้าไมโครเวฟ กดปุ่มเลขสอง พอมันร้องตี๊ดๆคือเสร็จมึงเอามาแดกได้ อ่านให้ขึ้นใจแล้วทำตามที่กูว่ารับรองมึงไม่ทำครัวกูพัง ... กูใส่ใจลงไปในกับข้าว รับรองว่ากินแล้วรักกูหลงกูตลอดไป ...รักมึงนะคะหนู’





“อะไรของพี่มันวะ ทำยังกับผมเป็นเด็ก” บ่นออกมาแบบนั้น แต่ก็ทำตามมันอย่างละเอียด เพราะครั้งนึงเคยเกือบทำไมโครเวฟมันระเบิดเพราะเอาพลาสติกเข้าไปแบบเกินเวลา เพราะแบบนี้เลยต้องเชื่อฟังพี่มันแบบละเอียด ถึงจะพูดแบบนั้น แต่หัวใจของผมมันก็สั่น รู้สึกมีความสุขจนต้องยิ้มออกมากว้างๆ



“แม่ง แพ้ว่ะ แพ้มึงอีกแล้วทุกทีเลยพี่ดาบ”  เขินจนเจ็บไข่ กูอยากเอาหน้าจุ่มลงไปในกระเพราให้รู้แล้วรู้รอด



.

.

.




               เหลือบมองไปผนังห้องมองดูนาฬิกาที่บอกเวลาว่าห้าทุ่มครึ่ง ตัดสลับกับหันไปมองที่หน้าประตูห้อง แล้วหันกลับมาดูมือถือที่วางไว้ที่โต๊ะหน้าทีวีอีกครั้งแต่ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น



“ทำไมพี่มันยังไม่กลับมาอีกวะ” เปิดดูมือถือเครื่องเก่าดั้งเดิมของตัวเองที่อิเจ๊พี่มันเคยด่ากันว่าเหมือนเศษซากจากนอกโลกนั่น ไม่มีข้อความอะไรส่งมาจากพี่มัน



[[เอม: ดึกแล้ว ยังไม่กลับอีกหรอวะพี่]]



ผมกดพิมพ์ไปแล้วส่งไปแบบนั้น แต่ไม่ว่าผ่านไปนานกี่นาที อีกฝ่ายก็ยังไม่แม้แต่จะเปิดอ่าน ถอนหายใจเซ็งๆในตอนนี้ ผมไถลตัวลงไปนอนกับโซฟา กอดหมอนอิงเอาไว้แล้วเอียงหน้าเข้าทีวีที่เปิดอยู่ ไม่ได้สนใจดู ก็แค่อยากให้ห้องมีเสียง



‘หาว’



ผมอยากรอพี่มันกลับมา รู้สึกคิดถึงอ้อมกอดที่เคยกอดกันในทุกๆคืน พอคืนนี้ไม่มีก็เหงาแปลกๆแหะ ... ผมว่าผมเองก็เริ่มจะติดพี่มันมากเกินไปแล้วจริงๆนั่นแหล่ะ ทั้งๆที่ครั้งนึงผมเคยคิดว่า การเจอกันระหว่างผมกับพี่มันเป็นเรื่องของนรกลิขิตชัดๆ นึกไปถึงครั้งแรกที่เจอกันที่ผับเก่าที่ผมทำงาน จนวนกลับมาเจอกันอีกครั้งเพราะผมถูกป้าไล่ออกจากบ้าน จนได้ทำงานที่ร้านของเจ๊พี่มัน แล้วก็โดนมันลากมาอยู่ด้วยเพราะผมไม่มีที่อยู่ โดนพี่มันจ้างทำงานบ้านแทนงานที่ร้านเพราะมันไม่อยากให้กระทบเวลาเรียน ผ่านมาถึงเรื่องแม่ของพี่มัน จนถึงตอนนี้ เวลานี้ที่เรามีกัน ได้คบกัน และรักกัน ... มันเป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อมากๆสำหรับผม แต่ถึงจะน่าเหลือเชื่อหรือไม่ก็ตาม ผมก็ขอบคุณอะไรสักอย่างที่ทำให้ผมกับพี่มันได้รัก ...



คิดแบบนั้นแล้วยิ้มออกมา เป็นความสุขที่ทำให้รู้สึกอิ่มไปทั้งใจ ช่วงเวลาก่อนหน้านี้ทุกฉากทุกตอนวิ่งเข้ามาในหัวของผมแม้ว่าผมจะหลับตา และสุดท้าย ความสุขมากมายที่ได้รับ ก็ทำให้ผมมีฝันดีไปอีกหนึ่งคืน



.

.

.



‘ปังๆๆ’



เสียงเคาะประตูดังสนั่นที่ดังเข้ามากระทบหู และเสียงอะไรบางอย่างที่ดังจนจับใจความไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกตัวขนสะดุ้งขึ้นมา แสงสีจ้าที่ทำเอาแสบตาจนต้องยกมือขึ้นบังไว้ ก่อนที่เวลาจะผ่านไปสักระยะผมถึงจะค่อยๆคุ้นชิน และภาพตรงหน้าที่เห็นก็คือห้องนั่งเล่นในห้องของพี่ดาบ



“เชี่ย เมื่อคืนกูนอนตรงนี้หรอวะ” ยกมือขึ้นเกาหัวและขยี้ตาของตัวเองแบบงงๆ มองซ้ายมองขวา ตอนนี้เป็นเวลาแปดโมง



“หื้ม แปดโมงหรอวะ” แปดโมงแล้วทำไมอิเจ๊พี่มันไม่ลุกมาทำอาหารแบบทุกเช้าล่ะวะ ก้าวลงจากโซฟาทั้งๆที่โซซัดโซเซ มึนๆนิดหน่อย ผมเดินเข้าไปเปิดประตูห้องนอนดู ที่นอนยังเรียบสนิทแบบไม่ได้ถูกใช้งาน ผมขมวดคิ้วขึ้นมาในตอนนี้



“ไม่ได้กลับหรอวะ”



‘ปังๆๆ’



เสียงเคาะประตูดังขึ้นมาอีกครั้งด้วยเสียงที่คิดว่าอาจจะมีคนอยากจะพังมันเข้ามา ผมเดินเข้าไปใกล้ๆประตูห้อง ได้ยินเสียงเหมือนคนเถียงกันอยู่ในตอนนี้ ได้แต่ขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจว่าคือใคร แต่หนึ่งเสียงในนั้นผมจำได้ว่าเป็นใคร



“แต่ว่าทำไมอิเจ๊พี่ดาบไม่กลับวะ” พูดกับตัวเองแบบนั้น รู้สึกวูบไหวในอกแปลกๆ แต่ถึงแบบนั้นก็เลือกที่จะเปิดประตูห้องออกก่อน และคนตรงหน้าที่ปรากฏอยู่ที่หน้าห้องก็ทำให้ตกใจ



“ฉันเป็นเพื่อนของคนที่อยู่ในห้องนี่ค่ะ ว่าแต่คุณพี่เป็นใครค๊า”



“ผมก็บอกคุณไปแล้ว”



“ใช่หรือเปล่าๆ นี่เป็นพวกโรคจิตหรือเปล่าถึงมาด้อมๆมองๆอยู่หน้าประตูห้องแล้วเดินกลับไปกลับมา คุณพี่ลงไปเลยนะคะ ไม่งั้นจะเรียกรปภ.จริงๆค่ะ!”



“นี่น้อง หน้าตาก็สวยทำไมพูดไม่รู้เรื่องวะครับ”



“อะ จะยอมฟังเพราะชมกูว่าสวยเลยนะ แต่ถึงแบบนั้นก็ยังไม่น่าไว้ใจค่ะคุณพี่!”



เสียงสองเสียงที่ทะเลาะกันหน้าดำหน้าแดงอยู่หน้าห้องในตอนนี้แบบไม่สนใจว่าใครจะออกมาดู ดีหน่อยที่ชั้นนี้มีห้องอยู่แค่สี่ห้องเท่านั้น ผมถอนหายใจออกมากับภาพตรงหน้าที่ดูจะยุ่งเหยิงนี้นิดๆ



“ไอ้หยี” ผมเรียกออกไปแบบนั้น เพราะเหมือนว่าคนทั้งคู่ที่อยู่หน้าห้องจะไม่รู้เลยว่าผมเปิดประตูแล้ว คนสองคนที่หันหน้ามามองผมพร้อมๆกัน



“น้องเอม”



“อะ อิตานี่รู้จักกับมึงจริงๆด้วยหรอคะอิลูก”  ไอ้หยีพูดแทรกคำพูดของผมซะก่อนในตอนนี้ ผมยิ้มแหยๆส่งไปให้ร่างสูงของใครอีกคนที่ยืนกอดอกมองหน้ากันแบบเซ็งๆ ผมยกมือไหว้เค้า



“เฮียปืน สวัสดีครับ เฮียมาแต่เช้าเลย”



เฮียปืน ... พี่ชายคนโตของบ้านพี่ดาบ ผมเคยเจอเฮียเค้าครับ เพราะหลังๆได้ไปทำกาแฟให้แม่พี่มันที่บ้านแล้วเจอ แต่ก็ไม่ค่อยได้คุยกับเฮียแกมากครับ แปลกใจนิดหน่อยที่เห็นเฮียแกมาที่นี่



“เฮียมานานแล้ว แต่จะเคาะห้องก็ไม่กล้า กำลังคิดว่าจะทำไงดี ก็เจอน้องคนสวยนี่มาด่าซะก่อน”  เฮียว่าแบบนั้นพร้อมบุ้ยหน้าไปหาไอ้หยี



“เอ่อเฮีย นี่หยีเพื่อนผมเอง ... จริงๆเคยเป็นน้องรหัสพี่ดาบด้วยครับ แต่หยีมันซิ่วมาเรียนกับเอม”



“อ่อ”



“ไอ้ป้า นี่เฮียปืน พี่ชายอิเจ...เอ่อ พี่ชายพี่ดาบ” ผมหันไปบอกไอ้หยีที่ตอนนี้อยู่ในชุดนักศึกษา วันนี้มันปล่อยผมที่ดัดเป็นลอนแบบเกาหลีของมันเอาไว้ไม่ได้มัด หน้าม้าก็ถูกหวีมาอย่างดี ใบหน้าที่แต่งมาแบบอ่อนๆยิ่งทำให้มันดูสวย



“ตายแหล่ว พี่ชายจริงดิอิลูก” มันเดินมากระซิบผมแบบหน้าเลิ่กลั่ก



“จริงครับ พี่ชื่อปืน ไม่ใช่โรคจิตแบบที่น้องว่า”



“อุ๊ยตาย สวัสดีค่ะ หยีค่ะ...เอ่อ ขอโทษเฮียปืนด้วยค่ะ หยีไม่ได้ตั้งใจ” ยกมือไหว้อย่างสวยงาม พร้อมทำหน้าตาใสๆเหมือนว่าก่อนหน้านี้ไม่ได้ยืนเท้าเอวด่าเค้า อยากถามว่ามันมาคีพลุคตอนนี้จะทันหรือเปล่า



“ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่...” เฮียปืนส่งยิ้มให้มันน้อยๆ แต่เหมือนเฮียจะมีเรื่องกังวลในใจแปลกๆจนผมสังเกตได้



“เข้ามาก่อนเถอะครับ” ผมบอกออกไปแบบนั้น แล้วเชิญทุกคนเข้ามาในห้อง



“ว่าแต่มึงมาทำไมวะป้า” หันไปถามมันแบบงงๆ วันนี้เรามีเรียนบ่ายครับ และปกติมันก็ไม่ค่อยมาหาผมที่นี่อยู่แล้ว มันทำปากขมุบขมิบนิดหน่อย แต่อ่านได้ว่า ‘กูจะมาขอเอางานกลับไปลอก’



“ลอกงาน”



“สัด พูดเบาๆสิอิเอม” ด่ากูเสียงดังฟังชัด จนเมื่อกี้มึงไม่น่าขมุบขมิบปาก เฮียปืนหันมามองขำๆนิดหน่อย แต่ถึงแบบนั้นเฮียก็ยังมองเลยเข้าไปในห้องนอน



“เฮียมาหาพี่ดาบหรอครับ” ผมถามตรงประเด็น เพราะเฮียปืนดูแปลกๆ



“ใช่ เอมไปปลุกมันมาหาเฮียหน่อย”



“เอ่อ...เฮีย เมื่อคืนพี่มันไม่ได้กลับห้องอ่ะ” ผมบอกออกไปแบบนั้นพร้อมยกมือเกาหัว



“ไม่ได้กลับ เชี่ย!”



“ทำไมหรอเฮีย มีอะไรหรอครับ” ผมเริ่มรู้สึกไม่ดี เมื่อเฮียปืนเริ่มทำหน้ากระวนกระวายใจแปลกๆ เฮียปืนหันมามองหน้าผมแล้วทรุดตัวลงนั่งบนโซฟา พวกเรานั่งตามแล้วในตอนนี้



“เมื่อคืนนี้มันไปงานของบ้านพาย จริงๆรู้แหล่ะว่าเค้าตั้งใจมาเจรจาขอซื้อเกาะนั่น” เฮียพูดออกมาแบบนั้น และผมเองก็รู้เรื่องนี้อยู่แล้วเพราะพี่มันเล่าให้ฟัง แต่แล้วมันทำไม



“แต่เฮียได้ยินมาว่าเหมือนจะเจรจาไม่สำเร็จ เมื่อคืนเฮียไม่ได้ไป ส่งแค่เลขาไป เค้าโทรมาบอกแบบนั้น แต่เห็นว่ามันหายออกไปก่อนงานจบ พี่กลัวว่ามันจะมีอันตราย กลัวไอ้พวกนั้นมันเล่นไม่ซื่อเพราะเราไม่ยอมขาย เอาจริงๆพี่ให้พวกไอ้ทัพไอ้รบเช็คประวัติดู บ้านพายจริงๆเค้าขายยา”



“ห๊ะ!” ผมกับไอ้หยีแทบจะตะโกนออกมาพร้อมกันในตอนนี้ รู้สึกหัวเต้นตุบๆ ใจผมเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ถ้าเป็นแบบที่เฮียปืนว่า แล้วตอนนี้พี่ดาบมันหายไปไหน ... ใครจะทำอะไรมันหรือเปล่า



“เฮีย แล้วแบบนี้พี่ดาบละ”



“พี่ห่วงนี่แหล่ะเลยมาที่นี่ มาดูว่ามันอยู่นี่หรือเปล่า แต่พอตอนนี้ไม่อยู่ แม่ง! แป๊บนะ เดี๋ยวพี่บอกไอ้ทัพไอ้รบแป๊บ” เฮียปืนว่าแบบนั้นแล้วลุกขึ้นเพื่อเดินหนีออกไปคุยโทรศัพท์กับญาติๆของพวกเค้า



“เออ ไอ้ดาบไม่อยู่ที่นี่ มึงเช็คให้กูหน่อยทัพ บอกไอ้รบช่วยด้วยอีกแรง ห๊ะ มันไม่อยู่ ไปตายห่าไหนวะ ทีพอกูอยากให้ช่วยไม่เสือกอยู่ อะไรนะ ออกไปซื้อขนมตาลตั้งแต่เมื่อคืน เหี้ย ช่างแม่ง งั้นฝากไอ้รุกช่วยอีกแรงละกัน”



ได้ยินเฮียปืนว่าแบบนั้น ก่อนที่เฮียจะเดินหายไปที่ระเบียงเพื่อคุยโทรศัพท์ต่อ ผมหันหน้ามาหาไอ้หยี มันเองก็มองมาทางผมด้วยสายตาเป็นห่วง



“ไอ้เอม มึงใจเย็นนะ”  ไอ้หยีว่าแบบนั้น มันเอื้อมมือมากุมมือของผมเอาไว้ พึ่งรู้ในตอนนี้เองว่ามือผมสั่นมากแค่ไหน ในใจผมห่วง



“ถ้าพี่มันเป็นอะไรจะทำยังไงดีวะป้า พวกนั้นแม่งคนค้ายาเลยนะเว้ย”



“พูดบ้าๆน่ะมึง พี่ดาบเก่งจะตาย ไม่เป็นไรหรอก” มันบอกแบบนั้นแล้วเอื้อมมือมากอดตัวผมไว้ ได้แต่พยายามสูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อตั้งสติ ผมเอื้อมมือไปกดโทรศัพท์ แล้วกดเข้าไปในไลน์ ตอนนี้พี่มันก็ยังไม่ได้อ่านข้อความเมื่อคืนของผม



“ตั้งแต่เมื่อคืนมันยังไม่ได้อ่านข้อความของกูเลย”



“พี่เค้าอาจจะแบตหมด หรืออะไรก็ได้นะมึง แหม...สมัยนี้จะติดต่อกันแค่ไลน์ไม่ได้นะมึง มีปัญหาก็โทรสิ พิมพ์ข้อความทำไมล่ะคะ จริงไหมๆ ไม่มีไรหรอกมึง”  มันปลอบผมออกมาแบบนั้น แต่ใช่ พิมพ์ทำไม กูโทรเลยแล้วกัน



พอคิดแบบนั้นก็ตั้งใจจะกดโทรออก แต่ดันเป็นจังหวะเดียวกับที่มือถือของผมสั่น ข้อความเด้งขึ้นมาใหม่เป็นข้อความขอเพิ่มเพื่อนจากใครก็ไม่รู้ โปรไฟล์ไม่มีภาพ ชื่อก็แปลกๆ แต่พอเปิดเข้าไปแล้วหัวใจของผมกลับสั่นระรัว



คลิปสั้นๆที่พอเปิดออกก็ได้เห็นแผ่นหลังกว้างๆของใครบางคนที่กำลังคล่อมทับใครสักคนแล้วระดมจูบเค้าแบบบ้าคลั่ง ผมขมวดคิ้วในตอนนั้นว่ากูเปิดมาดูคลิปโป๊ทำไม จนเมื่ออีกฝ่ายดันคนที่อยู่ใต้ร่างขึ้นมาด้านผม แผ่นหลังทั้งแผ่นหลังของผมก็ชา หนังหัวรู้สึกชาหนึบจนพูดอะไรไม่ออก ความรู้สึกวิ๊งๆที่เหมือนถูกหมัดฮุกต่อยเข้าเต็มๆหน้าจนหน้าหงาย เจ็บไปทั้งใจจนพูดไม่ออก



“ไอ้เอม...นั่นมัน...”



‘อ๊ะดาบ เบาๆสิดาบ’



เสียงร้องจากในคลิปที่ทำให้ผมน้ำตาไหล ความรู้สึกเหมือนกับแลชแบล็คในอดีตฉายกลับมาอีกครั้งตอนที่ผมจับได้ว่าไอ้ม่อนลูกพี่ลูกน้องของผมแอบมีอะไรกับไอ้มาร์ชแฟนเก่าผมยังไงยังงั้น



‘ดาบ พายอยู่นี่ อ๊ะ’



เสียงร้องจากในคลิปที่ดังออกมาอีกเป็นประโยคสุดท้าย พร้อมๆกับน้ำตาของผมที่ไหลลงกระทบหน้าจอโทรศัพท์ ผมปล่อยให้มันร่วงลงพื้น เหมือนกับหัวใจของผมที่ถูกกระชากลงไปบนพื้นไม่ต่างกัน



“ไอ้เอม คือ กูว่า...” ไอ้หยีเหมือนอยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่มันก็คงหาคำพูดดีๆมาปลอบผมไม่ได้ และใช่ ผมเองก็ด้วย จะหาคำพูดดีๆที่ไหนมาพูดปลอบตัวเองได้ ในเมื่อพี่ดาบมันหายไปทั้งคืน จนถึงตอนนี้มันยังไม่กลับ จะบอกว่าคลิปนี่เป็นของปลอม แล้วภาพที่เคลื่อนไหวที่เป็นหน้าพี่มันกับพระพายคืออะไร จะบอกว่าตัดต่อเหมือนไอ้คนใหญ่คนโตที่ไลฟ์สดขายหน้ากากอนามัยหลายร้อยล้านแต่ตอแหลว่าเป็นคลิปตัดต่อหรอ ....



ใครเชื่อก็ควาย!



“เอม เฮียบอกไอ้....เอมร้องไห้ทำไม”  เฮียปืนที่คุยโทรศัพท์เสร็จแล้วเดินเข้ามาก่อนจะชะงักคำพูดของตัวเองในตอนที่เห็นหน้าผม



“พี่ดาบเค้ายังสบายดี สบายดีมาก อึก เค้าไม่ได้เป็นอะไรครับ เค...เค้าแค่ เค้าแค่ไปนอนกับพระพาย”



“ห๊ะ!”



ผมกลั้นใจบอกออกไปแบบนั้น ในหัวของผมสับสนไปหมด แต่ถึงแบบนั้น คำพูดสุดท้ายของพี่มันที่บอกว่าจะกลับมาหากันก็ยังได้ยินอยู่ข้างๆหู แต่ภาพที่พึ่งเปิดดูตรงหน้าก็ทำให้ผมปฏิเสธไม่ได้ ความรู้สึกเหมือนถูกทำร้ายๆซ้ำมันวนกลับมาหาผม เป็นความรู้สึกที่ว่าโดนทรยศซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากคนที่เชื่อใจไม่ต่างจากในอดีต ...มือคู่นั้นของพี่มันที่เคยกอดเอวผม ลูบไล้ไปตามแผ่นอกแผ่นหลังและหน้าท้อง แต่ตอนนี้มันกำลังใช้มือคู่นั้นกอดใครอีกคน ใครอีกคนที่ไม่ใช่ผม



“ฮึก ...หยี กูไม่ไหวว่ะมึง”



“ไอ้เอมกูอยู่นี่มึง”



คนๆนึง จะทนเสียใจจากเรื่องราวซ้ำๆแบบเดิมๆได้กี่ครั้งกัน



--------------To be continued--------------



 กรี๊ดดดดด ยื่นทิชชู่ให้จ้าาา โดเนททุเรียนให้ทุกคนด้วยค่ะ

พูดกันตรงนี้ว่าแคทใช้หลังใจทั้งหมดในการเขียนในตอนนี้ ถ้าคนอ่านชอบ สนุก และอินไปด้วยกันคงจะดีมากๆ

ส่วนถ้าใครไม่ชอบ อย่าด่ากันนะคะ ใจหนูบาง แค่คนอ่านหายไปก็ใจบางแล้วน้า

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แคทอยากให้ทุกคนได้อ่านและอยู่ด้วยกันไปจนจบเรื่องนะคะ

เหลืออีกไม่กี่ตอน เรื่องนี้จะลาไปแล้ว แคทหวังว่าทุกคนจะสนุก สุข เศร้า และยิ้มไปด้วยกันในทุกๆตอนค่ะ

ฝากคอมเม้นท์ และ RT กดไลค์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ #สวยๆเป็นผัว ด้วยจ้า จ๊วบ

หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่41 {25/07/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 25-07-2020 22:03:56
 :z6: ฝากกระทืบพาพวยที

 o22 เอมคะ หนูอย่าโง่นะลูก หนูห้ามโง่เลยนะ สงสารอีเจ๊มัน
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่41 {25/07/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 26-07-2020 07:33:14
อีพาพวยยยยยย :beat: :beat: :beat: :beat:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่41 {25/07/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 26-07-2020 13:02:05
โดนยาหรือจัดฉาก แต่ถ้าโดนยาแล้วหนีกลับมาบ้านไม่ได้นี่เสียชื่อพี่ดาบหมด โกรธพี่ดาบมันด้วยที่หนีมาไม่ได้
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่41 {25/07/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Alich85 ที่ 26-07-2020 15:26:41
 :fire: :really2:โอ๊ยยยยยย อิผีพาย มาแม่จะตบแทนหนูเอมลูก พี่ดาบนะพี่ดาบ อุตส่าห์อยากได้ผัวแบบพี่ดาบดันมาเสียท่าอิผีพายเข้าอีก แต่เราว่ามันต้องมีเงี่ยนงำ พี่ดาบชั้นไม่โง่นางฉลาดจะตาย รอๆๆอ่านต่อนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่41 {25/07/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 27-07-2020 03:45:46
น่าจะไม่ใช่ดาบใช่มะ? หรือไม่กะคือใช่แต่คลิปมันมีถึงไหน ถ้าแค่โรมรันแสดงว่าแค่จัดฉากให้ดูว่ามีอะไรกัน แต่จริง ๆ คือพี่มันสลบไม่รู้เรื่อง?
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่41 {25/07/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 27-07-2020 09:32:08
รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่41 {25/07/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 28-07-2020 22:59:57
ความเดิมคือค้างอยากกระทืบพาพวย ค้าวต่อไปปปปป
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่41 {25/07/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: cakecoco-boom ที่ 29-07-2020 20:53:14
เซ็ทละครมาเป็นฉากๆเลย อย่าไปตามเค้าสิ้ลู๊กกก :katai1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่42 {01/08/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 01-08-2020 20:30:06
บทที่42



‘ติ๊ก ติ๊ก ติ๊ก’



               เสียงตบไฟเลี้ยวที่ดังขึ้นพร้อมๆกับรถสีดำคันหรูที่เลี้ยวเข้าไปจอดในบริเวณลานจอดรถด้านหน้าของหอพักที่มาบ่อยจนลุงยามหน้าหอคุ้นเคยกันดี ... บรรยากาศเงียบๆแบบที่ไม่มีใครพูดอะไร ไม่ได้รู้สึกอึดอัดที่ตรงไหน แต่เหมือนกับว่าต่างฝ่ายต่างยังกระดากอายกับความสัมพันธ์ใหม่ที่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปจากเดิม



กะทันหันจนใจมันยุบยิบๆ



“เอ่อ...ถึงแล้ว” พูดออกไปแบบนั้นแล้วก็อยากจะยกมือขึ้นไปตบกะโหลกตัวเองแรงๆให้หัวยุบ พูดห่าอะไรของมึงวะไอ้เสือ ก็เห็นๆอยู่ว่าถึงแล้ว พูดเพื่อ!



คนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามคนขับยกยิ้มมุมปากออกมานิดๆตอนที่มันได้ยินผมพูดออกไปแบบนั้น ยิ้มทำห่าอะไร มึงคิดว่าหล่อหรอวะ...เหอะ หน้าเหี้ยครับ ผมหล่อกว่าเห็นๆ เกลียดรอยยิ้มมันชะมัด เกลียดตอนที่มันเอียงหน้าหันมามองกันแบบนี้ด้วย เกลียดสายตาคมๆของมันที่ดูระยิบระยับขึ้นมาตอนที่มองหน้าผม



กวนตีน  อยากเอานิ้วจิ้มตามันให้บอด



“ยิ้มไรวะพี่”



“ก็เปล่านี่ ก็ถึงแล้วจริงๆ”  ไอ้พี่เก้อว่าแบบนั้นแล้วยักไหล่ขึ้น ทำท่าแบบไม่มีอะไร แต่รอยยิ้มกวนตีนนั่นก็ยังไม่หมดไปจากใบหน้าของมัน แม่ง หมั่นไส้ครับ แต่ถึงจะหมั่นไส้แบบนั้นก็ยังรู้สึกค้างคาใจ ขมวดคิ้วเข้าหากันเลยในตอนนี้



“ขมวดคิ้วทำไม แล้วกัดปากแบบนั้นทำไมวะ อย่าดิเดี๋ยวปากแตก” มันบอกพร้อมๆกับยื่นนิ้วมาเขี่ยปากกัน น่ารำคาญ กัดแม่ง



“โอ๊ย” มันร้องออกมาแบบนั้นตอนที่ผมงับเข้าไปที่นิ้วชี้ของมัน เขี่ยปากกูอยู่ได้มึงต้องเจอ กูกัดไม่ปล่อยนะบอกเลย ... กัดนิ้วมันอยู่แบบนั้นแล้วหันหน้าไปมอง ไอ้พี่เก้อที่ตาวาวขึ้นมา ที่ไรผมของมันก็มีเหงื่อซึมออกมาเล็กน้อย บรรยากาศแปลกๆในตอนที่เราสบตากัน



“อย่ามากัดนิ้วกูแบบนั้น เดี๋ยวหาว่ากูไม่เตือน”



“สัด ใครอยากกัดกันวะ เค็มก็เค็มเถอะ” ปล่อยนิ้วมันทันทีแล้วขยับตัวหนี ทำท่ารังเกียจมันนิดๆ ไอ้สัดพี่เก้อขำออกมาหน่อยๆก่อนจะยื่นมือมาจับหัวผมโยกไปมา



“จริง ก่อนพามึงมาส่งกูขำห้องน้ำแล้วไม่ได้ล้างมือพอดีเลยว่ะ ฮ่าๆ”



“สัด คนสกปรก ถุยๆ นี่จับKแล้วไม่ล้างหรอวะ จะอ้วก” ผมทำท่าถุยน้ำลายทิ้งอย่างรังเกียจ จริงๆกูก็รังเกียจแบบไม่โกหกนี่ล่ะ คนโสโครก



“ทีงี้ทำมารังเกียจกัน ทีตอนอมให้กันมึงไม่เห็นจะรังเกียจ”



“สัดพี่มึง นี่แน่ะ! พูดเหี้ยไรวะ”



“โอ๊ย เจ็บนะไอ้เสือ ปล่อยหัวกูก่อนโว้ย” มันที่ยกมือขึ้นมาจับมือผมให้ออกไปจากหัวมัน กวนส้นตีนนัก มึงต้องโดนกูขยุมหัวแบบนี้ ใครให้มึงเอาเรื่องจริงมาล้อเล่นกันวะไอ้สัดเอ้ย!



“หนังหัวกูหลุดติดมือมึงไปหรือเปล่าวะเนี่ย”



“ก็ชอบกวนตีนอยู่ได้”



“จริงๆก็เขินแหล่ะ”



“กูไม่ได้เขินโว้ย!” หันไปถลึงตาใส่ แต่อีกฝ่ายกลับไม่สะท้าน มันก็แค่อมยิ้มขำกันแบบตาวาววับ ได้แต่หงุดหงิดจนต้องกอดอกทิ้งตัวลงพิงกับเบาะลดแรงๆ อยากจะเดินหนีลงไปจากรถ แต่ในใจมันก็ยังมีสิ่งกวนใจกันอยู่ หันไปมองหน้าไอ้พี่เก้อที่ตอนนี้ก็หันมามองหน้าผม ผมไม่ยอมพูดอะไรออกไป อีกฝ่ายก็เลยเป็นคนที่เปิดปากออกมาแทน



“เดี๋ยวสองทุ่มกูมารับ”



“แล้วทำไมต้องมารับกูตอนสองทุ่มด้วยวะพี่” ถามมันออกไปแบบนั้น ไม่เข้าใจทำไมต้องเป็นแบบนั้น



“เอ้า หรือมึงแต่งตัวไม่ทัน งั้นไว้กูมารับสามทุ่มก็ได้” มองหน้าผมแล้วบอกออกมา ยังจะเสือกเป็นห่วงเวลากู กลัวกูแต่งตัวไม่ทันไปอีก เห็นแบบนั้นแล้วยิ่งขมวดคิ้วเข้าหากันเลยกู



“โอเคไหม”  โอเคกับผีปู่มึงสิ



“ว่าไง...ทำไมมองกูแบบนั้น”  มองเข้าไปในดวงตาของมัน แต่อีกฝ่ายไม่มีอะไรซ่อนอยู่ มันมองผมแบบเป็นห่วงว่าผมเป็นอะไรหรือเปล่าด้วยซ้ำ ถอนหายใจออกมาหนักๆแล้วในตอนนี้



“ก็แล้วทำไมมึงต้องวนรถกลับไปกลับมาด้วยวะพี่”



“เอ้า แล้วทำไม”



“ก็นั่นสิทำไม”



“อะไร” มันที่ยกมือขึ้นเกาหัวแล้วมองผมแบบไม่เข้าใจ หงุดหงิดเลยตัวกู



“ทำไมมึงขึ้นไปอยู่กับกูก่อนไม่ได้วะพี่ มึงอย่าอ้างว่าไม่มีเสื้อผ้านะ เสื้อผ้ามึงยังอยู่ในตู้กูอยู่เลย อย่าตอแหลเก้อ ขอร้องเลย” บอกมันไปแบบนั้น พี่เสือเสตาหนีในตอนนั้น ท่าทางที่อึกๆอักๆของมันทำให้ผมไม่เข้าใจ



“เก้อ”



“ก็ขึ้นได้”



“ขึ้นได้มึงก็ขึ้นสิ มึงเป็นไร”



“เออ ก็ไปสิวะ ขึ้นเลย ขึ้นเดี๋ยวนี้ ไอ้เหี้ยเอ้ยขึ้นเลย”



“มึงพูดอะไร” เห็นมันโวยวายออกมาแบบนั้นแล้วไม่เข้าใจ เป็นห่าอะไร อดไม่ได้ต้องหันไปมอง พอมันเห็นผมมองแบบนั้นแล้วก็สะดุ้งทันที



“เปล่าๆ จะขึ้นก็ขึ้นสิ กูร้อนแล้วเนี่ย” อาการแปลกๆ แปลกมากๆจนอะไรหลายๆอย่างติดอยู่ในใจของผม



เราเข้ามาในห้อง ทุกอย่างยังเป็นเหมือนปกติแบบที่เคยเป็น ข้าวของเครื่องใช้ยังคงเป็นเหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมก็น่าจะเป็นไอ้ใครอีกคนที่เดินเข้ามาในห้องแล้วรีบพุ่งไปนั่งลงที่เก้าอี้หน้าโต๊ะเขียนหนังสือของผม ทั้งๆที่ปกติมันจะโดดขึ้นเตียงของผมแบบคนหน้าด้าน ไล่ก็ไม่ลง ผมขมวดคิ้วกับภาพที่เห็น ไม่เข้าใจมากๆจนรู้สึกไม่ได้



“ไอ้พี่เก้อ”



“ห๊ะๆว่าไงมึง” แค่เรียกก็สะดุ้ง ท่าทางลอกแล่กแปลกๆ



ผมโยนกระเป๋าเรียนของตัวเองไปไว้บนเตียงแล้วดึงชายเสื้อนักศึกษาออกจากกางเกงพร้อมๆกับมองมันไปด้วย ไอ้พี่เก้อที่หันมาเห็นพอดีมันอ้าปากค้างในตอนนี้ เหมือนเห็นผี...หรือกูมีผีในห้อง



“มึง! มึงทำเหี้ยไร!!”



“เอ้า กูจะถอดเสื้อกูร้อน แล้วมึงเสียงดังทำไมวะพี่”



“มึงไม่ต้องถอด มึงจะถอดทำไม” มันแย้งออกมาแบบนั้น



“ก็กูร้อน แล้วกูก็ถอดแบบนี้ปกติ มึงเป็นเหี้ยอะไรเนี่ย”



“กูเปล่า” บอกแบบนั้นแล้วเสหน้าหนี มองเห็นมันกระพือเสื้อนักศึกษาของตัวเองด้วยในตอนนี้ แอร์ก็เปิดนะ สงสัยมันเองก็คงจะร้อนเหมือนกัน ผมเดินเข้าไปหามันแล้วแกะกระดุมเสื้อมันออก แต่ติดตรงที่อีกฝ่ายปัดมือของผมทิ้ง มันที่รวบตัวคอเสื้อนักศึกษาของตัวเองขึ้นสูงจนมิดไม่ให้ผมเห็นคอ แล้วมองมาที่ผมหน้าตาตื่น



“มึง มึงจะทำไรไอ้เสือ”  ถามผมออกมาแบบละล่ำละลัก มองหน้าผมแบบตื่นตกใจ



“ก็มึงดูร้อนๆ กูจะถอดเสื้อให้”



แล้วกูผิดตรงไหนอ่ะ กูเป็นแฟนมันนะ มันทำท่าทางแบบนี้แล้วผมรู้สึกเสียเซลฟ์ยังไงชอบกล มันทำท่าทางเหมือนรังเกียจกัน



“กูถอดเอง กูทำเองได้ มึงไม่ต้องๆ”



ยิ่งมันพูดแบบนั้นผมยิ่งหงุดหงิด กูมันน่ารังเกียจหรอวะ



“กูถามจริงมึงเป็นอะไรไอ้พี่เก้อ”



“กูเปล่า กูปกติ”



“มึงปกติ”



“เออ มากกก มึงอ่ะไม่ปกติ อย่ามาจับตัวกูดิวะเสือ”



ผมกำมือแน่นแล้วในตอนนี้ ไอ้ท่าทีแบบนี้มันคืออะไร คำพูดแบบนี้มันคืออะไรกันวะ



“มึงมาเอากูเดี๋ยวนี้เลยไอ้พี่เก้อ”



“ห๊ะ! มึงพูดเหี้ยอะไร กูไม่เอา!!”



มันที่ตาเหลือกแล้วเบิกตากว้างตะโกนออกมาใส่หน้าผมแบบนั้น และก็ไม่ต่างกัน คำพูดของมันก็ทำเอาผมเบิกตาค้างขึ้นมา และใช่ ... ผมหน้าชามากๆในตอนนี้



“มึงไม่เอาก็ไม่ต้องเอาอีกเลย ไอ้หน้าสัด!”



“เอ้า!”


...


“เอม เฮียว่านะ....”



“เฮียช่วยไปตามหาพี่ดาบให้หน่อยนะครับ ถ้าเจอยังไงบอกผมด้วย” ผมที่มองหน้าคนตรงหน้าในตอนนี้แทบจะไม่เห็น แต่ก็ฝืนพูดออกมาแบบนั้น ได้แต่ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาตัวเองให้ออกไปจากหน้า โดยมีไอ้หยียืนจับมือผมอยู่ข้างๆ



“อืม พี่จะรีบส่งข่าวมาบอกนะ” เฮียปืนพูดออกมาแบบนั้น มองไม่ชัดถึงสีหน้าของเฮียที่อยู่ตรงหน้า แต่รับรู้จากน้ำเสียงว่าอีกฝ่ายก็คงไม่ได้รู้สึกดีนัก



“เฮียไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวหยีจะอยู่เป็นเพื่อนเอมเองค่ะ”



“เฮียฝากด้วยนะ”



“ค่ะ”  ยืนฟังบทสนทนาของคนข้างตัวอยู่แบบนั้น ทั้งๆที่ตอนนี้มันก็แทบจะไม่ได้เข้าใจอะไรมากมายนัก ผมรู้สึกเบลอๆ งงๆจนเหมือนกับจะทำอะไรไม่ถูก แต่ถึงแบบนั้นก็ยังพยายามรวบรวมสติให้ได้มากที่สุดในตอนนี้



“เอม...”  ไอ้หยีที่เดินกลับมาหลังจากที่มันเดินไปส่งเฮียปืนแทนผม มันทรุดตัวลงนั่งข้างๆกัน ก่อนจะเอื้อมมือมาจับมือผมเอาไว้แน่นๆ



“กูว่ามันต้องมีอะไรผิดพลาดแหล่ะ ประเทศไทยสัญญาณเน็ตห่วยจะตาย อะไรก็เกิดขึ้นได้แหล่ะมึง ขนาดขับรถชนคนตายยังรอดได้เลย อันนี้กูว่าพี่ดาบก็คงไม่ได้ทำเหมือนกันแหล่ะ ฮ่าๆ” ไอ้หยีว่าแบบนั้น มันที่พยายามขำออกมาเสียงดังลั่นห้อง เป็นเสียงขำที่แห้งแล้งมากที่สุดที่เคยได้ยินมันขำมา ผมหันหน้าไปมองมัน ไอ้หยียิ้มค้างในตอนนั้น ก่อนที่มันจะค่อยๆหุบยิ้มลง ในสายตาของมันที่กำลังสั่นไหว



“เอม พี่ดาบรักมึงมากนะ...”



“กูรู้ กูรู้ว่าพี่มันรักกูมากเลย”



“แล้วคลิปนั่น...มันก็อาจจะไม่จริง” มันบีบมือของผมแน่นๆในตอนนี้ พยายามส่งกำลังใจมาให้กัน เป็นแบบนี้ทุกทีที่เวลาเรามีปัญหาก็มักจะเป็นเพื่อนที่คอยปลอบใจ แต่มันก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า คนที่จะทำให้เราหายเสียใจได้ มันคือคนที่เป็นคนทำ ไม่ใช่คนที่อยู่ข้างกันในเวลานี้



“แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่มันจะไม่จริง กูจำได้ กูจำแฟนกูได้ดีทุกส่วนไม่มีตรงไหนที่กูจะจำไม่ได้ แผ่นหลัง แขนมัน เสียงมัน ทุกอย่างกูจำได้ว่าในคลิปนั่นคือพี่มัน” ผมบอกต่อแบบนั้น ไอ้หยีที่มองหน้ากันเหมือนมันอยากจะร้องไห้ แต่ผมก็ทำแค่ยิ้ม



“ไอ้เอม...”



“กูจำได้เหมือนตอนที่ไอ้ม่อนกับไอ้มาร์ชมันแอบเอากันอยู่ในบ้านนั่นแหล่ะ กูจำได้หมดเลย” หยีที่ยกมือขึ้นลูบหัวผม ก่อนจะดึงตัวกอดผมเอาไว้แน่นๆ



“กูเข้าใจเอม กูเข้าใจมึงนะ” ผมซบหน้าลงบนไหล่ของมัน หลับตาแล้วปล่อยให้น้ำตาไหลลงมาช้าๆ อยากจะร้องไห้ให้มันดังที่สุดเท่ากับความรู้สึกในใจตอนนี้ อยากจะโวยวายออกมาว่าความรู้สึกชาๆที่หน้าเหมือนโดนคนต่อยซ้ำๆมันเจ็บแค่ไหน แต่สิ่งเดียวที่ผมทำได้ในตอนนี้ก็คือการแค่นั่งอยู่ตรงนี้  นั่งอยู่เงียบๆตรงนี้แบบทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมรับมัน



“กูเชื่อใจ ฮึก กูมั่นใจนะ อึก...ว่าพี่ดาบ เค้า ฮึก...ไม่ได้ตั้งใจหรอก หยี พี่ดาบเค้าไม่ทำกับกูเหมือนไอ้มาร์ชหรอก” พร่ำพูดออกไปแบบนั้น จับแขนไอ้หยีที่กอดมันไว้แน่นๆ



“จริงมึง พี่เค้าไม่เป็นคนแบบนั้น อึก...มึงอย่าร้องเลยนะ กูไม่อยากเห็นมึงเป็นแบบตอนนั้นแล้วเอม” มันที่ร้องไห้ออกมาพร้อมๆกับผมแล้วกอดตัวผมไว้แน่นๆ ผมกอดมันแล้วก็ร้องไห้เงียบๆ ไม่มีแม้แต่เสียงสะอื้นดังๆแบบที่ตั้งใจอยากจะทำ คิดว่าถ้าได้ร้องออกมาแบบนั้น มันคงจะดีซะกว่า



ความเจ็บปวดของคนเราไม่เคยเท่ากัน แผลในหัวใจของคนเราไม่เคยเจ็บเท่ากัน มันก็ไม่ต่างจากแผลเป็นของผม ผมคนที่เคยมีแผล ต่อให้พยายามรักษาทายาให้มันหายดีมากแค่ไหน แต่สุดท้าย รอยแผลเดิมมันก็ไม่เคยจากไปจากร่างกายของผมอยู่ดี แค่สะกิดนิดหน่อย ก็ยังรู้ว่ามันยังคงอยู่



“หยี”



“หื้ม ...”



“มึง อึก...ช่วยกูหน่อยได้ไหม นะ”



“มึงอยากให้กูทำอะไร บอกกูนะ กูจะช่วยมึงเอง อย่าร้องนะมึง มันไม่มีอะไรหรอก เชื่อกูนะ” มันที่ผละตัวออกจากผม มองหน้าผมทั้งน้ำตา สายตาที่มองตรงมาที่ผมที่กำลังบอกว่ามันเข้าใจความรู้สึกของผมดี มันเสียใจที่เห็นผมเป็นแบบนี้



“กูอยาก...”



.

.

.



“K! ไม่ได้เรื่องเลย”



“เชิญมึงด่ากูตามสบาย กูก็คิดว่ากูแม่งเป็นคนห่วยๆเหมือนกัน” ผมที่ทิ้งหัวลงกับเบาะรถแล้วหายใจออกมาแผ่วๆ ความรู้สึกมึนๆตึงๆในหัวยังคงอยู่ครบ แต่ถึงแบบนั้นความอึดอัดในใจกลับมีมากกว่า นั่งอยู่ตรงนี้ ในรถคันนี้ด้วยความอึดอัด



“กูไม่ได้ด่ามึงเลยเฮียดาบ กูด่าขนมตาลนี่ ไม่ได้เรื่องเลยอิฉิบหาย บูดหมด!” หันไปมองคนข้างตัวที่กำลังฟึดฟัด ปากมันยังมีเศษขนมสีเหลืองๆแปะอยู่ในตอนนี้ เป็นสภาพที่อุบาทว์สิ้นดี แต่ถึงแบบนั้นผมก็ไม่มีแรงจะพูดออกไป



“สู้ที่ไอ้ฝาซื้อให้กินที่หน้ามอก็ไม่ได้ มึงรู้ไหมว่าแฟนกูจีบกูด้วยขนมตาลหน้ามอนะ โคตรคูล” มันพูดออกมาแบบนั้นด้วยน้ำเสียงที่แค่ฟังก็รู้ว่ามันอวด แต่ถึงแบบนั้นก็เป็นการอวดที่พอปลายตาไปมองก็เห็นแววตามีความสุขของมันเปร่งประกายออกมา จริงๆแล้วไม่บ่อยนักที่ผมจะเห็นมันอวดอะไรแบบนี้



“แต่อิเจ้านี้แค่เอาไว้ในรถคืนเดียวทำเป็นอ่อนแอ แค่นี้บูด!” มันว่าต่อแล้วขมวดคิ้วหงุดหงิดกับขนมตาลที่อยู่ในมือมันตรงหน้า



“บูดมึงก็แค่ซื้อใหม่”



“มึงซื้อให้กูไหมล่ะเฮีย แม่ง จริงๆแล้วก็เป็นเพราะมึงนะเนี่ย ตัวหาแต่เรื่อง แทนที่กูจะได้กลับคอนโดไปแดกหนมตาลกับไอ้ฝา กูกลับต้องไปหามึงเนี่ย” หันมามองกูเหมือนพึ่งนึกขึ้นได้ว่ากูเป็นตัวซวยของเรื่องทั้งหมดที่ทำให้ขนมตาลมันบูด ทำหน้าทำตาแบบอยากจะถีบผมให้ลงไปจากรถมันไวๆ อิรถสีเหลืองคันหรู ที่เข้ามานั่งทีกูนึกว่าเป็นรถเจ้าอาวาส เหลืองตั้งแต่รถยันเสื้อผ้าเจ้าของรถ



“เดี๋ยวกูเหมาให้มึงเลย” บอกมันแบบนั้นอย่างเหนื่อยๆ



“มึงสัญญา มึงไม่จ้อจี้กูนะ”



“เออ เห็นกูเป็นคนไงวะ” เริ่มรู้สึกหงุดหงิดเพราะไอ้ตัวน่ารำคาญข้างๆยังเซ้าซี้ไม่เลิก วอแวแม่งแต่เรื่องขนมตาลไม่กี่สิบบาท ทิ้งหัวพิงเบาะรถแรงๆทั้งๆที่หลับตาอยู่ รู้สึกอยากจะอ้วกออกมาในตอนนี้ จริงๆเมื่อคืนนี้ก็อ้วกออกมาหลายครั้งแล้ว... ในหัวมีแต่ภาพเมื่อคืนในห้องนั้นกับพระพายฉายซ้ำๆ จนต้องยกมือขึ้นเสยผมที่ยุ่งไปหมดของตัวเองให้แม่งยุ่งยิ่งกว่าเดิม



“กูเห็นมึงเป็นคนเหี้ยนี่ล่ะ ... แล้วยังไง สรุปมึงจะเอาไงกับเรื่องเมื่อคืนนี้”



“กูไม่รู้”  ใช่ ผมไม่รู้



“มึงตั้งใจ” ไอ้รบที่โยนถุงขนมตาลของมันไปไว้เบาะหลัง หันมามองหน้ากันแล้วเลิกคิ้วถาม



“ก็เหี้ยละ กูมีแฟนแล้ว”



“อะ เรื่องนี้ก็ได้ยินวูบๆวาบๆลอยมาเข้าหูอยู่นะ คนที่ทำให้พี่มึงกลับมาเป็นพี่ดาบคนฮ็อตได้คนนั้นอ่ะ กูล่ะอยากจะเห็นหน้าเลยว่ะ... แต่มึงมีแฟนแล้วมึงไปอะหืดอะหาดกับกิ๊กเก่ามึงแบบนั้นได้ไงวะ ไม่กลัวแฟนมึงเสียใจรึไง”



มันถามออกมา หันมามองหน้าแบบรอคำตอบจากผม ... คำถามที่ว่า ไม่กลัวไอ้เอมเสียใจหรือไง ... เรื่องที่อยากจะทำให้มันเสียใจ เรื่องนั้นคงเป็นสิ่งสุดท้ายที่ผมคิดจะทำ



“ดูจากสีหน้าแล้วก็เดาคำตอบออก แต่ไงวะ มึงโดนยาปลุกหรอวะ”



“เปล่า กูไม่ได้โดน”



“เอ้า ไอ้เหี้ย! ยังไงของมึง มึงสมยอมหรือไงวะ” ไอ้รบขมวดคิ้วเหมือนคนที่กำลังเริ่มรำคาญ และใช่ ผมเองก็เริ่มรำคาญตัวเองแล้วเหมือนกัน รู้สึกหงุดหงิดจนต้องขยี้หัวแรงๆแบบที่ไม่กลัวว่าหนังหัวจะเจ็บแบบทุกทีที่ชอบกลัว



“กูเคยโดนยาปลุกแล้ว กูรู้ดีว่าอาการมันเป็นไง แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่”



“สัด แล้วอะไร ไม่มีอย่างอื่นแล้ว หรือมึงเมา เมามากๆแล้วมึงชอบไปนัวอ่ะ”



“กูว่ากูไม่ได้เมาขนาดนั้น ในงานกูกินไปแค่สองแก้ว แต่มันบอกไม่ถูกว่ะ” 



“ตอนกูเข้าไปนี่มึงทั้งซุกทั้งไซร้ดูดกันจนเหนื่อย เสื้อไปทางกางเกงไปทางเลยนะ มึงฉีกเสื้อเค้าด้วย อาการเหมือนมึงของขาดอ่ะ เมียไม่ให้มึงเอาหรอถามจริง”



“กูไม่ได้เอากับพาย!” เถียงมันออกมาเสียงดัง อยู่ๆก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมามากๆแบบควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้ หันหน้าไปมองไอ้รบตาขวาง ไอ้รบเขยิบตัวหนีไปติดประตูคนขับนิดๆ มันที่ยกมือขึ้นทำท่ายอมแพ้แบบกวนตีนๆ



“เออ มึงยังไม่ได้เอากับเค้า แต่กำลังจะเสียบเลยนะ ของมึงจ่อตรงนั้นของเค้าแล้วเหอะ กูเรียกกูดึงกูฉุดมึงก็ไม่หยุด แถมผลักกูออกอีก ถ้ากูไม่ถีบมึงตกเตียง จนเฮียมึงกลิ้งไปสองตลบ ตอนนี้มึงก็ได้เสียเป็นเมียผัวกับเค้าแล้วเหอะ”  ไอ้รบว่าออกมาเป็นฉากๆ แค่คิดหัวใจของผมก็เต้นรัวเร็วขึ้น ไม่ได้ตื่นเต้นหรือเสียวอยากใส่กับพระพาย แต่เพราะแค่คิดว่าถ้าไอ้เอมรู้เรื่องเข้าจะเป็นยังไง ... เลื่อนสายตามองไปที่หน้าปัดนาฬิกาที่หน้ารถของไอ้รบ ตอนนี้บอกเวลา6โมงครึ่ง คิดว่าไอ้เอมยังไม่น่าจะตื่นด้วยซ้ำ ปกติมันจะตื่นเพราะกลิ่นของอาหารเช้าของผมเสมอ ถ้ามันตื่นมาไม่เจอผม มันจะรู้สึกยังไงวะ ผมที่ไม่ได้กลับไปหามันทั้งคืน แต่กลับไปอยู่กับใครอีกคน



“เหี้ย แม่ง เหี้ยเอ้ย จะทำไงดีวะ” ใช่ จะทำยังไงดี



ประโยคนี้มันกวนใจผมมาตลอดคืน ตั้งแต่ไอ้รบลากผมออกมาจากห้องชั้นบนของโรงแรมที่เมื่อคืนมีงานจัดเลี้ยง ผมพูดไม่ได้เต็มปากว่าผมไม่รู้ตัว เพราะจริงๆผมรู้ตัว รู้ตัวดีตั้งแต่ตอนที่เดินตามพายเข้าไปในห้อง ไม่มีช่วงเวลาไหนที่ผมไม่รู้ตัว และเพราะเรื่องนี้ มันถึงทำให้ผมกังวล ผมเคยบอกเอมว่าจะไม่โกหกมัน แต่สำหรับเรื่องนี้ ต่อให้การไม่โกหกแล้วบอกความจริงไป หัวใจของมันจะรับได้แค่ไหนกันวะ



“แล้วเรื่องมันเป็นมายังไงกันแน่วะ มึงถึงไปเด้ากันบนเตียงงั้นอ่ะ”



“ยังไม่ได้เด้าไอ้สัดรบ เดี๋ยวกูเอาตีนเหยียบปากมึงนะ สัด!”



“ทำไมวันนี้ไม่เป็นคนสวยๆวะ เกรี้ยวกราดอะไรกับกูนักอ่ะ กูช่วยมึงมานะโว้ย”



“หุบปากแล้วฟังกูเล่า!”



“ยาวมาเลยคนสวย”



“สวยพ่อง!”



“เอ๊า!”


.

.

.


(มีต่อจ้า)
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่42 {01/08/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 01-08-2020 20:31:12



               เสียงเพลงบรรเลงเพลงแนวแจ๊สที่ดังขึ้นพร้อมๆกับเครื่องดนตรีประเภทเครื่องสายสากล ไม่ว่าจะเป็นวิโอลา เชลโล ดับเบิลเบส หรือแม้แต่ไวโอลิน ที่เล่นบรรเลงขับกล่อมให้เหล่าคุณหญิงคุณนาย หรือบรรดาเหล่าคุณชายนายทุนมีเงินที่กำลังเดินไปเดินมาในงานให้มีความสุขเพราะเสียงเพลง ... งานเลี้ยงของเจ้าของธุรกิจใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวที่จัดขึ้นมาเพื่อรวบรวมเหล่าคอนเนกชั่นให้ได้พูดคุยกัน โดยมีอาหารแบบค็อกเทลไม่อั้นพร้อมๆกับสัญญาที่จะได้ทำร่วมกันในตอนนี้หรืออนาคต



ฉากหน้าคืองานเลี้ยงหรูหรา ฉากหลังเละเทะจนต้องกรอกตาแรงๆ กูคิดถึงขาหมูของไอ้เอม อยากกลับบ้านไปหาเมียคะอิด-อก! ... ถ้าไม่ใช่เพราะอยากจบเรื่องนี้เต็มทนจะไม่เสียเวลามาเลย นอนอยู่ห้องมาร์คหน้ากับไอ้เอมก็ยังจะดีซะกว่า อย่างน้อยก็ได้นอนหนุนตักเมีย แล้วหน้ากูก็จะเนียนนุ่มชุ่มชื่นเหมือนตูดเด็กแบบที่คนสวยๆแบบกูคู่ควรค่ะ!



“คืนนี้ไอ้ปืนไม่ได้มาด้วย แกต้องระวังดีๆ” พ่อของผมที่ยืนเคียงข้างกันในชุดสูทอย่างเป็นทางการกระซิบบอกผมด้วยสีหน้านิ่งๆ ถ้ามองจากคนรอบนอกแล้ว อาจจะมองไม่ออกด้วยซ้ำว่าพ่อผมขยับปาก



“อืม รู้แล้วน่าป๊า” พยักหน้าบอกพ่อไปแบบนั้น แสร้งทำเป็นหันซ้ายหันขวามองดูรอบๆงานอย่างสนอกสนใจ แสร้งว่าอะค่ะ



“รู้แล้วก็ทำตัวให้มันดีๆหน่อย แกยุกยิกอะไรนักวะ”



“ป๊าว่าปากผมซีดไปป่ะ ตรงนั้นเหมือนมีมาช่างถ่ายรูป เดี๋ยวถ่ายออกมาแล้วไม่สวย” แสงไฟจ้ามาก วันนี้กูลงรองพื้นมาเบามากๆเพราะเมียสั่ง เนี่ย เดี๋ยวหน้าไม่เด้งโดนใจ ถ่ายไปแล้วเดี๋ยวไม่สวย...เครียดเลยนะคะ



“ไอ้ดาบ”



“ว่าไงป๊า ซีดใช่ป่ะ”



“เดี๋ยว กูจะถีบให้ เลิกสนใจหนังหน้ามึงสักที”



“โอ๊ย ไม่ได้ดั้งใจเลยอ่ะ”  สะบัดหน้าหนีพ่อเลยในตอนนี้ ไม่ได้เรื่อง ช่วยกันดูแค่นี้ก็ไม่ได้ คนเรามันต้องดูดีเสมอทุกช่วงเวลานะคะสังคม ... ถึงแม้ว่าผมจะมั่นใจว่าผมน่ะดูดีทุกท่วงท่าและลีลาเด็ดมาก แต่มันก็ต้องเพิ่มเติมกันบ้างสิวะ



“อ้าว สวัสดีครับ มากันแล้วหรอครับ อาหารต่างๆถูกใจไหมครับ”  เสียงของคนมาใหม่ที่ดังขึ้น พอผมหันไปมองก็เห็นชายร่างสูงใหญ่ จมูกโด่งแต่งองุ้มนิดๆที่ปลายจมูก สายตาแวววาวเจ้าเล่ห์แบบไม่น่าคบหากำลังเดินเข้ามา เค้าอยู่ในชุดสูทสีขาวทั้งตัว ยกเว้นแค่โบว์สีดำที่ติดอยู่ที่คอเสื้อก็เท่านั้น ด้านหลังของเค้ามีใบหน้าน่ารักของคนคุ้นเคยที่กำลังเดินตามมาด้วย



พระพาย...



พายที่อยู่ในชุดสูทสีดำ ที่พอใส่แบบนี้แล้วก็ยิ่งขับผิวให้ดูขาวสว่างมากยิ่งขึ้นไปอีก ดวงตากลมโตของพายที่มองซ้ายทีขวาทีแบบกล้าๆกลัวๆนั่น เห็นแบบนั้นแล้วผมก็รู้สึกเป็นห่วง เพราะรู้ดีว่าพายกำลังเป็นอะไร ท่าทางแบบนี้ผมเห็นมาบ่อยมากๆตั้งแต่สมัยเรียน พายที่หันมาเห็นหน้าผมพอดี รอยยิ้มน่ารักที่ส่งยิ้มมาให้กันน้อยๆแบบโล่งใจที่เห็นผมยื่นอยู่ตรงนี้ เหมือนคนรอบๆข้างจะสังเกตเห็นท่าทีนี้ ชายตรงหน้าพระพายหันไปมองพายด้วยสายตาที่เข้มขึ้น ก่อนจะหันมามองหน้าผม



“สวัสดีครับคุณอานนท์ งานวันนี้ดูดีมากๆ” พ่อของผมพูดขึ้น ก่อนที่อานนท์ พ่อเลี้ยงของพระพายจะหันกลับมายิ้มให้พ่อผม เป็นรอยยิ้มการค้าที่แค่มองดูก็รู้ ผมแค่นยิ้มออกมาหน่อยนึงในตอนนี้



“เอ้านี่พาย นี่เพื่อนลูกนี่” อานนท์ที่ทำท่าเหมือนพึ่งมองเห็นผม ทั้งๆที่ก็มองเห็นกูตั้งนานแล้ว ขอกรอกตาทีนึงเพราะกูดูออกค่ะ!



“เอ่อ..ดา..ดาบ”



“ยังไงเด็กๆก็มีเพื่อนแล้ว งั้นลูกก็อยู่กับเพื่อนจะดีกว่า ส่วนเรา ผมจัดห้องวีไอพีไว้ทางด้านนู้นแล้วครับ” อานนท์พูดออกมาแบบนั้นแล้วหันไปยิ้มให้พ่อผม กูนี่เลิกคิ้วเลย เอื้อมมือไปดึงแขนพ่อไว้ทันที



“ป๊า ผมไปด้วย” ว่าออกไปแบบนั้นแล้วหันไปจ้องตาใส่พ่อเลี้ยงของพระพาย



“ฮ่าๆ โตแล้วนะเนี่ย ทำไมยังทำตัวเป็นเด็กๆติดพ่ออยู่ล่ะ” หันมายิ้มขำให้ผม สายตาที่มองตรงมาก็ทำเอารู้สึกว่าอวัยวะเบื่องล่างของผมมันคันตะหงิดๆ อยากยกฟาดปากคนแก่



“พอดีว่าผมเป็นเด็กที่มีความคิดมากหน่อยน่ะครับ” ตอบกลับออกไปแบบนั้น คนตรงหน้าที่ดูจะหน้าตึงขึ้นมานิดๆ



“ไม่เป็นไรดาบ เดี๋ยวพ่อไปกับคุณวิเชียร”  คุณวิเชียรที่ว่าคือเลขาของสัดเฮียปืน มันไม่ได้มาแต่ส่งเลขามาแทนเพื่อที่จะได้รายงานความเคลื่อนไหวให้มันรู้ได้ตลอด ... พ่อหันมามองหน้าผมแล้วพยักหน้าให้นิดหน่อย เป็นอันรู้กันว่าให้ทำตามนี้ ถึงแม้จะขัดใจผมนิดหน่อยแต่ก็ทำไรไม่ได้



“งั้น ก็ให้สองคนนั้นไปเป็นเพื่อนพ่อด้วย ก็ดูสิครับรอบข้างคุณอานนท์มีแต่คนหน้าเหี้ยๆ หมายถึงว่าหน้าตาเคร่งขรึม เอาคนของผมที่หน้าตาดีไปด้วยน่าจะสบายสายตากว่า” บอกแบบนั้นแล้วยกยิ้มให้นิดๆ ไอ้อานนท์ทำหน้าไม่สบอารมณ์เท่าไหร่แต่ไม่ได้พูดอะไร พ่อผมที่ไม่อยากได้บอดีการ์ดที่พ่อเฮียทัพส่งมาไปด้วยเท่าไหร่ แต่สุดท้ายก็โดนผมพูดแบบนั้นไปแล้วเลยทำอะไรไม่ได้ ทั้งหมดนั่นยกโขยงเดินตามกันไปในห้องจัดเลี้ยงอีกห้องตามที่มันว่า ตรงนี้เลยเหลือแค่ผม...และพาย



“เฮ้อ ค่อยยังชั่ว” คนข้างตัวผมถอนหายใจออกมาหนักๆแล้วว่าแบบนั้น หันไปมองก็เห็นพายที่มีสีหน้าดีขึ้นหน่อย



“ไม่ชอบแล้วมากับมันทำไม”



“แล้วพายเลือกได้ที่ไหนล่ะ” บอกผมแบบนั้นแล้วยกเรียกบริกรที่เดินผ่านไปผ่านมาอยู่แถวนั้น หยิบแก้วไวน์มาสองแก้ว ยื่นให้ผมแก้วนึง ก่อนที่อีกแก้วตัวเองจะถือเอาไว้



“Cheer”



‘เคร้ง’



เสียงแก้วราคาแพงกระทบกันดังกังวานใสจากการกระทำของคนตรงหน้าผม



“ชนแล้วต้องดื่มนะ ดื่มให้ชีวิตห่วยๆของพายไง” ว่าออกมาแบบนั้นแล้วยกแก้วขึ้นดื่มก่อน ผมถอนหายใจออกมานิดๆก่อนจะยกขึ้นจิบไปสองอึก ความร้อนจากแอลกอฮอลที่ไหลลงตามลำคอทำเอาร้อนวูบ



“ชีวิตพายก็ไม่ได้ห่วยขนาดนั้น พายยังมีแม่ที่รักพาย ครอบครัวเงินทองก็มีพร้อม ถ้าพายไม่อยากเจอกับคนๆนั้น พายก็แค่ถอยออกมา ยังมีคนอีกมากที่ชีวิตเค้าเลือกไม่ได้และต้องลำบาก”  พูดไปพูดมาก็เพราะผมนึกถึงไอ้เอม มันที่สู้มาตลอด ถ้ามองเปรียบกัน มันลำบากกว่าพายเยอะเลย



“ชีวิตห่วยๆของพายที่พายว่า ก็คือชีวิตที่ไม่มีดานี่ของพายแล้ว”  ผมหันไปมองคนตรงหน้าแบบเต็มๆตาเป็นครั้งแรก วันนี้พายกรีดอายไลน์เนอร์มาด้วย ทำให้ดวงตากลมโตคู่นี้ดูเปร่งประกายมากกว่าเดิม



“อาการของพายดีขึ้นแล้วหรอ สงสัยตั้งแต่ที่กลับมาแล้ว” ผมเลือกจะพูดถึงเรื่องอื่นแทน พายชะงักแก้วที่กำลังจิบ ก่อนจะส่งยิ้มบางๆมาให้ผม



“อืม ก็ดีขึ้นนะ ไปอยู่ที่นู่นได้รักษา กลับมานึกว่าคุณแม่จะเลิกกับเค้าไปแล้วซะอีก แต่ที่ไหนได้...”  พายพูดออกมาเบาๆก่อนจะก้มหน้า สีกน้าที่บอกผมได้ว่าไม่อยากจะพูดถึงอีก ผมยักไหล่น้อยๆ ไม่อยากให้ถามก็ไม่ถาม ไม่ได้เป็นคนขี้เสือกขนาดนั้น



“อึดอัดอ่ะ ดาบว่าจะออกไปรอข้างนอก”



“หื้ม พายไปด้วยได้ไหม”  พายที่เอื้อมมือมาคว้าแขนของผมเอาไว้ มือเล็กๆที่เกาะต้นแขนของผมก่อนจะช้อนตามามองกัน สายตาที่บอกว่าเห็นผมเป็นที่พึ่ง



“พายมีอะไรหรือเปล่า”



“พ..พาย ... นะ ให้พายไปด้วย พายไม่อยากอยู่ตรงนี้ กับคนของเค้าที่คอยจ้องพายตลอด พายกลัว” บอกแบบนั้นแล้วมองหลุกหลิกไปซ้ายขวา พอมองตามก็เป็นแบบที่พายว่า บอดี้การ์ดของไอ้อานนท์ก็จ้องมาทางนี้ไม่เลิก



พายอึดอัดกับผู้ชายแปลกหน้า ถึงบอกว่าดีขึ้นแล้ว ก็คงไม่ดีขึ้นทั้งหมด



ผมถอนหายใจหนักๆอย่างเลี่ยงไม่ได้ ก่อนจะพยักหน้าลงไปช้าๆเป็นการตอบรับ พายยิ้มออกมาในตอนนี้ เป็นรอยยิ้มน่ารักที่ดูใสซื่อเหมือนสมัยก่อน แต่มันกลับมาประกายบางอย่างในสายตาที่ทำให้ผมรู้สึกว่ามันไม่เหมือนเดิม



เราสองคนเดินออกมาจากงานเลี้ยงที่อยู่ที่ห้องบอลรูมชั้นสอง ตั้งใจว่าจะออกไปเดินเล่นในสวนของโรงแรมข้างนอกนี่ แต่ก็ติดตรงที่พายดึงผมไว้ซะก่อน



“ดานี่ พายต้องขึ้นไปเอาของ”



“ของอะไร แล้วเอาที่ไหน”



“พายพักอยู่ที่ชั้นบนของโรงแรมนี้” ผมขมวดคิ้วตอนที่ได้ฟัง ทำไมมาพักที่นี่



“คือเค้าให้พายมาดูแลเรื่องงานในคืนนี้แหล่ะ ก็มาเตรียมงานที่นี่เป็นอาทิตย์ๆแล้ว เลยมาพักที่นี่เพื่อความสดวก เค้าว่าแบบนั้นอ่ะนะ”  พายยิ้มแหยๆ ... เค้าที่ว่าก็คงไม่พ้นไอ้อานนท์



“งั้นก็ขึ้นไปเหอะ”



“แต่พายไม่อยากไปคนเดียว” บอกออกมาอ้อมแอ้ม เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกเหนื่อยหน่ายกับพายแบบไม่เคยจะเป็น



“พาย ดาบมีแฟนแล้ว” ผมเลือกจะพูดออกไปตรงๆอย่างตัดปัญหา พายเงยหน้าช้อนตามองผม ในสายตาที่ส่งมามีแววตาตัดพ้อเล็กๆวูบนึง ก็จะแวบหายไป



“พายรู้ แต่มีแฟนแล้วก็ไปเป็นเพื่อนกันไม่ได้หรอ ถ้าตลอดเวลาที่พายมาอยู่นี่ เค้าไม่พยายามจะเข้าห้องพายตลอดพายจะไม่ขอร้องหรอก พายกลัว”



“หมายความว่าอะไร” ผมขมวดคิ้วตอนที่ได้ยินแบบนั้น



“ก็หมายความแบบที่พูด เค้า...เค้ายังไม่เลิกวุ่นวายกับพายเลย พายก็แค่...กลัว”



“แต่ตอนนี้เค้าอยู่กับพ่อดาบในห้องนู้น ขึ้นไปทำไรพายไม่ได้หรอก”



“ใครจะไปรู้ เค้าทำได้ทุกอย่างแหล่ะ เหมือนเรื่องที่ของดานี่ เค้าอยากได้มาก เค้ามีวิธีจัดการทุกอย่างแหล่ะ”



“เรื่องนี้ก็อีก มันจะอยากได้อะไรนักหนา พายรู้อะไรก็พูดมา ดาบถามหลายครั้งแล้วนะ พายบอกมีหลักฐาน แล้วไหนอ่ะ อมอะไรไว้อ่ะ ดาบรำคาญเต็มทนแล้วนะ”



เป็นครั้งแรกที่ผมระเบิดเสียงดังใส่พายแบบไม่กลัวว่าอีกฝ่ายจะตกใจ พายขี้ตกใจ แต่เรื่องนี้ก็หลายรอบแล้วที่เราคุยกันกับเรื่องที่ของผมที่สุราษฎร์ว่าทำไมเค้าอยากได้นักได้หนา จริงๆที่พ่อผมกับเฮียปืนสืบมาก็พอรู้ว่าเค้าทำงานผิดกฎหมาย แต่เราไม่มีหลักฐาน แต่พายบอกว่าพายมี แต่ไม่ยอมให้ผมสักที ตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่เราเจอกัน ... หลายครั้งที่ผมต้องเจอพาย ก็เพราะเรื่องๆนี้



“พายมีจริงๆนะ”



“แล้วมันอยู่ไหน”



“อยู่บนห้อง ดานี่ขึ้นไปเอาเลยก็ได้ แค่ครั้งนี้เรื่องก็จะจบ”



“เออ ก็ได้ พายอยู่ชั้นไหน ห้องอะไร” ผมตอบออกไปแบบนั้น พายยิ้มออกมา ดูดีใจจนผมต้องขมวดคิ้ว



“ชั้น12 ห้อง127” ผมพยักหน้ารับนิดๆ ไม่สบายใจเท่าไหร่แต่ถึงแบบนั้นก็ยังเดินตามพายไป ... พายตัวเล็ก จริงๆแค่เทียบกับขนาดตัว ผมก็เตะปลิวแล้ว แต่ถึงแบบนั้นก็ยังเลือกจะหยิบมือถือขึ้นมา



[[DANI: มึงมาที่โรงแรมxxxขึ้นมาที่ชั้น12ห้อง127 ห้องของพระพาย ถ้าหลังจากนี้ครึ่งชั่วโมงกูไม่ออกมา มึงต้องเข้าไปช่วยกู]]



[[NAKROB: เหี้ยอะไร ไปทำเหี้ยอะไร แล้วคือกูอยู่ตลาดดดดด จะหาซื้อขนมตาลเนี่ย]]



[[DANI: เรื่องสำคัญ]]



มีเวลาแค่แอบพิมพ์บอกไปแค่นั้น แต่ถึงแบบนั้นก็ยังมีข้อความสั่นกลับมาอีกให้ได้ทันอ่านก่อนที่ผมจะตามพายขึ้นลิฟท์ไป



[[NAKROB: K!]]


.

.

.



“ถึงหรือยังพาย”



“ตรงหน้านั้นไง ห้องพาย” พายบอกผมแล้วยิ้มให้ อยู่ๆหัวใจของผมก็เต้นรัวเร็วขึ้นมา รู้สึกเหงื่อออกแปลกๆ จะบอกว่าร้อนก็ไม่ใช่ แต่เป็นความรู้สึกว่าหัวใจเต้นเร็ว เลือดสูบฉีดในร่างกายมากเกินไป เส้นทางเดินทอดยาวที่เรากำลังเดินตรงไปจนสุดปลายทาง เท้าของผมเหยียบย่ำลงไปที่พื้นพรมสีแดง แต่ทำไมถึงรู้สึกมองเห็นเป็นสีเขียวๆ น้ำเงิน วูบๆวาบๆไปหมด เสียงหวีดหวิวแปลกๆดังอยู่ข้างหูจนต้องหันหลังกลับไปดูแต่ก็มองไม่เห็นอะไรนอกจากทางเดินทอดยาวที่พร่าเบลอ



“ดานี่” พายยกมือขึ้นมาจับแขนของผมในตอนนี้ สะดุ้งจนต้องปัดมือหนี มือพายเย็น ไม่สิจริงๆมันร้อน



“หือ”



“นี่แหล่ะห้องพาย” พายบอกแล้วก็ยิ้มพร้อมๆกับเอื้อมมือมาจับต้นแขนของผมอีกครั้ง จ้องมองไปที่หน้าของพายในตอนนี้เหมือนมีหน้าของใครบางคน ใครบางคนที่ทำให้หัวใจผมเต้นรัวแรง คนที่ตอนนี้อาจจะกำลังนอนรอผมอยู่ที่ห้อง สะบัดหัวหน่อยๆเพื่อไล่ความรู้สึกแปลกๆนี้ แต่พอยิ่งทำกลับรู้สึกยิ่งมึน หัวสมองของผมเบลอลอยๆหวิวๆ แต่ถึงแบบนั้นกลับอยากขยับตัวตลอดเวลา ทำให้ผมยิ่งก้าวเท้าเดินหน้าก้าวยาวๆเข้าไปในห้องของพายก่อนที่อีกฝ่ายจะเชื้อเชิญ ความรู้สึกที่อยู่ๆก็มีความสุขแปลกๆจนต้องฉีกยิ้มออกมาปะปนกับความรู้สึกของอารมณ์อย่างว่าที่ก่อตัวขึ้นมาอย่างฉับพลัน อาการรุนแรงที่อยากจะทำในตอนนี้



“ดานี่”



“อะไร” ผมพูดออกมาเสียงที่ฟังดูแล้วไม่เหมือนตัวเอง รู้สึกว่าหอบหายใจแรงแปลกๆ อุณภูมิร่างกายของผมดูเหมือนจะสูงขึ้น ผมมองเห็นพายเดินไปทางทีวีที่ตั้งอยู่ แต่สภาพทีวีที่เบี้ยวๆบูดๆนี่มันคืออะไร ได้ยินเสียงวิ้งๆดังอยู่รอบๆตัวในตอนนี้มันคือเสียงอะไรกันนะ



“ดานี่”



“อะไร”



“เลิกรักพายแล้วหรอ”  คำถามที่ดังขึ้นมาทำให้ผมต้องเอียงหน้ามอง เป็นเสียงของใครกันวะ มันเป็นเสียงของใครกัน



ตึก ตึก ตึก



หัวใจของผมเต้นเร็วมากขึ้น มากขึ้นอีก ภาพตรงหน้าดูเป็นสีขาวๆดำๆ เป็นภาพโย้เย้ๆที่มองไม่ชัด ผมกำมือเข้าหาตัวเองแน่นๆในตอนนี้ สะบัดหน้าหนีจากฝ่ามือของใครบางคนที่เอื้อมมือมาประคองใบหน้าของผม ได้แต่กัดกรามแน่นๆ



“กลับมาหาพายไม่ได้หรอ กลับมาหาพายแบบที่เคยบอกว่าจะไม่ไปไหน มีแค่เรา มีแค่เราสองคนนะ”



“เรา...” ลมหายใจฟืดฟาดของผมที่หอบหายใจแรงๆ ความรู้สึกอัดอั้นที่รู้สึกได้กลิ่นหอมๆส่งมาจากมือของคนตรงหน้า เพ่งมองช้าๆ เห็นใบหน้าหลายๆหน้าซ้อนทับกันไปมา



“นะดานี่ ...”



ดา...นี่...งั้นหรอ



“ถอย!”   ผมตะโกนออกไปด้วยเสียงดังลั่น ดันมือตัวเองไปสะเปะสะปะเพื่อผลักใครอีกคนออก ผมพยายามประคองตัวให้เดินกลับออกไปที่ประตู ผมรู้ว่าผมกำลังควบคุมตัวเองไม่ได้ ผมไม่เป็นตัวของตัวเอง เหมือนกับว่ากำลังมีใครอีกคนที่มันกำลังเข้ามาครอบครองตัวผมในตอนนี้ มันกำลังกลืนกินตัวผมไปทีละเล็กทีละน้อย ผมกำลังจะสูญเสียการควบคุม มีบางอย่างกำลังจะมาแทนที่ตัวผม



“ดานี่ มานี่ เอมอยู่นี่ไง” คำพูดนั้นที่ชะงักขาของผมพร้อมๆกับฝ่ามือเรียวที่พุ่งมากอดจากทางด้านหลัง ผมหอบหายใจ มองไม่เห็นอะไรตรงหน้านอกจากแสงวูบๆวาบๆ หันกลับไปมองหน้า เห็นเป็นใครอีกคนที่ใจผมคิดถึง



“เอม”



‘ผลัก’



“อ๊ะ!”



“กูไม่ไหว แฮ่ก มึงอยู่นิ่งๆ อึก” ผมผลักไอ้เอมลงไปกับเตียงก่อนจะตามคล่อมทับ ลากไล้ริมฝีปากไปหมดทุกส่วนเท่าที่จะทำได้ กระชากเสื้อที่มันใส่ออกอย่างแรงและโยนทิ้งไปไกลๆ



‘แควก’



“แฮกๆ ดานี่ อ๊ะ”



เสียงหอบหายใจฟืดฟาดของตัวเองดังมาแปลกๆ รู้สึกหัวเบาๆควบคุมตัวเองไม่ได้ แต่ความต้องการกลับยิ่งสูงขึ้น ยิ่งความต้องการสูงขึ้น ร่างกายกลับยิ่งเชื่องช้าลง แต่แกนกลางของผมมันกลับยิ่งโป่งนูนมากขึ้น



“เร็วๆ รีบมาอัด!”



“จะทำแบบนี้จริงๆหรอ คิดว่ามันจะได้ผลหรือไง”



“บอกให้ไวๆ อ๊ะ เดี๋ยวดานี่” ผมกระชากคนที่ตอนนี้อยู่บนร่างลงมาอีกครั้ง ได้ยินเสียงพูดคุยแปลกๆแต่ไม่มีเวลาพอที่จะใส่ใจ จริงๆคือสายตาพร่าเบลอจนแทบจะมองอะไรไม่เห็น เสื้อสีขาวที่ถูกฉีกออกในตอนนั้น ตามมาด้วยกางเกงที่ผมกระชากทิ้งแบบไม่ใส่ใจ ฝ่ามือเล็กคว้ามือของผมไปจับไว้ บังคับให้คว้าเข้าไปที่แกนกายของคนตรงหน้า .. คนที่ตรงหน้าที่คือไอ้เอม ไอ้เอมหลายๆหน้าหลายๆหัว



“อ๊ะ อื้ออ”  ผมซุกหน้าลงไปไหล่ขาว ทั้งขบทั้งกัด ดูดดุนแบบไม่สนใจ ความรู้สึกมันล้นจนอยากฉีกกระชาก แต่ร่างกายก็ไม่เป็นไปตามสั่ง ดีแต่ให้อีกฝ่ายชักนำมือผมไป



‘พลึบ’



ผมหงายหลังลงมานอนหงายเพราะแรงจากใครอีกคน เสื้อผ้าที่กระจายหายไปไหนแล้ว แต่ใครจะสน ผมอยากกระแทกเข้าไปแรงๆในตัวไอ้เอม



“ดาบ พายอยู่นี่ อ๊ะ”



พาย...



พาย.....



พายที่ไหนกันวะ



คนตัวบางที่นั่งคล่อมทับอยู่กลางท้องของผม ฝ่ามือบางที่ชักรูดแท่งเนื้อร้อนให้ผมต้องกัดกรามจนแน่น แข็งชันจนรู้สึกร้อนเหมือนมันใกล้จะระเบิด ท่อนเอ็นของผมที่กำลังจะแทงพรวดเข้าไปในตอนนี้ ก็แค่อีกนิดเดียว แค่นิดเดียว



‘ปังๆๆๆ!’



“เปิดประตูโว้ย!”



เสียงอะไรบางอย่างที่เหมือนดังมาจากที่ไกลๆ แต่มันก็น่ารำคาญเพราะทำให้ฝ่ามือเล็กนั่นชะงักไป ผมต้องการอีก ต้องการมากกว่านี้



“อย่าหยุด!” ขบฟันแน่นพูดลอดไรฟันออกมาแบบนั้น แล้วกระชากแขนอีกคนลงไปนอนกลางเตียง



“เดี๋ยว อ๊ะ ดา... ไปดูสิว่าใคร อ๊ะ อย่ากัด”



ผมคว้าท่อนขาเรียวให้แยกออกจากกัน บังคับให้แยกออก ฉีกขาจนกว้าง



‘ปังๆๆ’



“ไม่เปิดหรอ มึงเจอกู!”



‘ปัง โคร้ม!’



“เห้ย”



“เห้ย!”



“เหี้ย พวกมึงทำเหี้ยไร สัด ไอ้เฮียดาบ เหยดแม่!”



เสียงสามเสียงที่ดังไม่เป็นภาษา แต่ผมไม่รู้ ผมไม่สน ตอนนี้ผมอยากกระแทกเข้าไปแรงๆ



“พวกมึงทำเหี้ยไร นี่กล้องKไร เอามาโว้ย!”



‘ผลั้ว! ตุบ’



“มึงมาหนี มึงอย่าหนีนะไอ้สัด”



ผมไม่สนใจเสียงนั่น ทำแค่กดริมฝีปากลงไปที่หน้าอก ขบกัดมันแรงๆ รู้สึกอยากให้หัวนมตรงหน้าติดปากมาได้เลยคงจะดี



“ดานี่ อื้ออ”



“เหี้ยๆๆๆ ไอ้เฮีย อิตุ๊ดปลอมมึงใจเย็นก่อน! แม่งเอ้ย” เสียงร้องโวยวายดังมาไกลๆ แต่ผมไม่สน ก่อนจะรู้สึกได้ถึงแรงกระชากที่ไหล่ แต่ก็ทำแค่ยกมือสะบัดมันออกไป



“สัด! มีสติหน่อยสิวะ”



“อย่ามายุ่ง!” รำคาญเหลือบไร ตะคอกออกไปแบบนั้น ผมอยากทำ อยากทำตอนนี้



‘ผลัก ตุบ!’



ความรู้สึกโดนกระแทกอย่างแรงจากอะไรสักอย่าง ทำให้หัวหมุนเคว้ก เห็นเส้นแสงหลายๆสีเหมือนเป็นภาพสโลโมชั่นที่บิดเบี้ยว ก่อนที่สุดท้ายจะรู้สึกเจ็บที่ก้นกบอย่างแรง



“น้ำๆๆๆ ไอ้เหี้ยน้ำๆ”



‘ซ่า’



“แค่กๆ”



และความรู้สึกแสบร้อนที่โพร่งจมูกก็ตามมาเป็นลำดับต่อไป ผมไอออกมาแรงๆจนตัวโยน รู้สึกเวียนหัวจนอยากจะอ้วกในตอนนี้ ได้แต่ค่อยๆคลานไปตามพื้น และอ้วกออกมา



“เหี้ย มึงเป็นไรวะเฮีย เห้ย จะไปไหน พี่พายเดี๋ยว! กูบอกให้หยุดไง”



“อ้วกกกกก”



“สัดเอ้ย นี่มันอะไรกันวะ” ได้ยินเสียงสบถที่รู้สึกว่าเริ่มจะคุ้นเคยดังใกล้เข้ามา เงยหน้าจากพื้นที่เลอะเทอะไปด้วยอ้วก เงยหน้าขึ้นมา เพ่งมองตรงหน้าชัดๆแล้วเหมือนจะเป็น...ไอ้นักรบ


(มีต่อจ้า)
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่42 {01/08/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 01-08-2020 20:31:54


.

.

.



“เรื่องก็แบบนี้”



“กูว่าแม่งไม่ใช่แล้วนะ อาการมึงแปลกมาก แล้วยังไอ้คนที่แม่งต่อยกับกู มันถือกล้อง”  ไอ้รบพูดออกมาแบบนั้นตอนที่มันฟังผมเล่าเรื่องตั้งแต่ต้นจบจบ ผมเองก็รู้สึกว่าเรื่องนี้มันแปลกๆ แต่ก็ไม่กล้าพูดเต็มปากว่ามันคืออะไร เพราะรู้ดีว่ามันไม่ใช่การโดนยาปลุกเซ็กต์



“แล้วมึงจะนั่งอยู่ในรถอีกนานไหม มึงจะนั่งมองคอนโดตัวเองแบบนี้อีกนานแค่ไหนวะ มีไรดีขึ้นหรือไง”



“กูกลัว”



“มึงเคยกลัวอะไรด้วยหรือไง กูเห็นมึงไม่กลัวห่าอะไรตั้งแต่ทาปากแดงแล้วไอ้เหี้ยเฮียดาบ”



“ก็ถ้าจะเรียกกูแบบนี้ มึงก็ไม่ต้องนับกูเป็นพี่หรอก”



“เอ้า กูรอเวลานี้มานานละสัดดาบ”



“ฆวย!”



ด่ามันออกไปแบบนั้น แต่ไอ้ตัวการข้างๆก็ทำแค่ยิ้มคิกคัก มันอายุห่างกับผมแค่ปีเดียวครับ เป็นแบบหัวปีท้ายปีด้วยซ้ำ เพราะแบบนั้นเราเลยไม่ค่อยสนใจเรื่องอายุ แต่มันเรียนช้าเพราะมีปัญหากับที่บ้าน มันถูกส่งไปญี่ปุ่นครับเลยกลับมาเรียนช้า เพราะแบบนั้นตอนนี้เลยยังเรียนมหาลัยอยู่



“แต่มึง กูให้คนจัดการละ ไม่น่าเกินพรุ่งนี้กูว่าน่าจะได้ภาพไอ้คนถือกล้องนั่น”



“ดี กูอยากได้ให้ไวที่สุด”



“ได้ แต่ตอนนี้กูว่ามึงควรขึ้นบ้านนะ อย่างน้อยเมียมึงเค้าน่าจะเป็นห่วง”  ไอ้รบว่าแบบนั้น ผมเองก็คิดว่าไอ้เอมน่าจะเป็นห่วง แต่ลางสังหรณ์บางอย่าง มันก็ทำให้ผมกลัว ... กลัวในสิ่งที่คิดจะเป็นจริง



...



‘ติ๊ด’



เสียงเปิดประตูหน้าห้องดังขึ้นในเวลาสิบเอ็ดโมง ผมหันไปมองหน้าประตูด้วยหัวใจสั่นๆ มือของผมเย็น ขาของผมชา ต่อมใต้สมองที่กำลังร้องบอกว่ามันเจ็บจี๊ด ... แต่ไม่เท่ากับใจในตอนนี้ที่มองเห็นร่างของใครบางคนที่เปิดประตูเข้ามาด้วยใบหน้าอ่อนเพลีย แต่เค้าก็ยังยิ้มให้ผม



“อิหนู” เสียงสองที่มาพร้อมรอยยิ้มกว้างๆแบบสดใส



“ตื่นแล้วหรอคะ วันนี้กูไม่ได้อยู่ทำอาหารมึงตื่นเองได้หรอเนี่ย ภูมิใจจังเลยค่ะแม่ควายน้อยของกู”  เสียงร่าเริงที่ดังมาพร้อมๆกับขายาวๆที่ค่อยๆก้าวเข้ามาหาผม ท่าทีที่ดูปกติธรรมดา แต่มันมีบางอย่างในสายตาของพี่มันที่ไม่เหมือนเดิม



มันมีความละอายแฝงอยู่ในนั่น



ความละอายที่ทำให้ใจผมสั่น ... และผมก็กลัวสิ่งนั้นมากกว่าสิ่งไหน



“ทำไมกลับมาตอนนี้ห๊ะ! รู้ไหมว่าผมรออ่ะ” ผมทำหน้างอแล้วว่าไปแบบนั้น อีกคนที่ถอนหายใจออกมาน้อยๆ เป็นแค่เล็กน้อยถ้าไม่สังเกตก็แทบจะมองไม่เห็น ผมกำมือแน่น พยายามทำให้มือตัวเองไม่สั่น



“ขอโทษนะคะหนู คือเมื่อคืนมันติดพัน”



“หรอ”



“ค่ะ พอดีว่ามีงานเลี้ยงแล้วกูเจออิรบค่ะ จำได้ไหมที่เคยพูดให้ฟัง ญาติกูน้องเฮียทัพอ่ะค่ะ เลยไปต่อกัน”



“ไปต่อกับนักรบ”



“ใช่ค่ะอิดอก เมามากๆ กลับไม่ได้เลย”  พี่มันทิ้งตัวลงนั่งลงบนเก้าอี้บนโต๊ะกินข้าวแล้วมองตาผม ยิ้มให้กันนิดๆแบบแทบจะไม่มีอะไรผิดสังเกต แต่เพราะคำพูดของมันแบบนั้นยิ่งทำให้ใจผมเจ็บไปหมดทั้งใจ ความรู้สึกเหมือนน้ำเย็นๆเทราดลงมาจากที่สูง กระทบลงกลางหัวของผม ชาหนึบเจ็บแสบไปหมดแต่ยังต้องยิ้มอยู่



พี่มันโกหก



“กาแฟครับ”  ผมที่เงียบไปนาน จนทำกาแฟลาเต้แบบที่เคยทำให้แม่พี่มัน แต่ยังไม่เคยทำให้มันกินเลยสักครั้ง ดันไปให้ใครอีกคนที่นอนฟุบหน้าอยู่ที่โต๊ะ เหมือนมันกำลังเลี่ยงหลบหน้าผม มันกำลังซ่อนอะไรบางอย่างเอาไว้แบบมิดชิด



แต่บางทีมันอาจจะลืมคิด ว่าความลับมันไม่เคยมีทางปกปิดได้บนโลกใบนี้



“ขอบคุณค่ะหนู”



และวันนี้ มันก็แปลงร่างเป็นเจ๊ดานี่มากกว่าที่มันเคยเป็น ผมมองเข้าไปในตาคมๆคู่นั้น สายตาที่ผมชอบ แววตาที่มักจะแสดงความรักส่งมาให้ผมเสมอ ... บนโลกนี้มันไม่เคยน่าอยู่ตั้งแต่ผมไม่มีพ่อกับแม่ จนผมมาเจอมัน มันเป็นคนที่ทำให้ผมรู้สึกว่าโลกใบนี้น่าอยู่ขึ้นอีกวันเพราะมีมันอยู่ด้วย



น้ำตาผมไหลลงมาในตอนนี้ ค่อยๆไหลลงมาช้าๆต่อหน้าต่อตาของมัน พี่มันที่มองหน้าผม แววตาขี้เล่นที่มันแกล้งแสดงออกก่อนหน้านี้หายไปจนหมดแล้ว มันไม่ได้ตกใจที่เห็นผมร้องไห้แบบนี้ มีแต่แววตาของคนรู้สึกผิดที่ส่งมาให้กัน มันกำมือแน่นๆและพยายามเอื้อมมือข้ามโต๊ะมาจับผมไว้ แต่ก็เป็นผมซะก่อนที่ขยับถอยหนี ผมไม่ได้อยากเป็นแบบนี้ แต่ร่างกายมันไปไวกว่าความคิด พี่ดาบชะงักมือมันค้างอยู่ตรงนั้น มองหน้ากันด้วยความรู้สึกผิด



“เอม...”



“บอกผมสิ ว่าโกหกผมทำไม” ผมถามมันออกไปแบบนั้นแบบคนที่ไม่ได้ใช้อารมณ์ พี่มันสอน มันเป็นคนหล่อหลอมให้ผมเป็นผมในทุกวันนี้ เป็นคนที่ดีมากขึ้นกว่าแต่ก่อน



“เอม กู...” ไม่มีคำพูดเสียงสองอีกต่อไปแล้วในตอนนี้ มันที่ลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้แล้วพูดออกมาได้แค่นั้น



“พี่ไม่ได้ไปต่อกับเฮียรบ แต่พี่ไปอยู่ไหนมา ฮึก ดาบ...ไปอยู่ไหน ไปทำอะไรกับใครมา”



“เอม กูไม่ได้ตั้งใจนะ จริงๆกูสาบานได้ มัน...”



คำพูดนั่นเหมือนกับเป็นคำสารภาพของมันใช่หรือเปล่า



มันกำลังบอกว่าเรื่องในคลิปที่ผมเห็นมันเป็นเรื่องจริงใช่ไหม



จริงๆผมก็แอบภาวนา ว่ามันอาจจะเป็นแค่คนหน้าเหมือน เป็นคลิปตัดต่อเหมือนที่ไอ้พวกตำรวจมันจับคนรวยไปแล้วบอกแบบนั้น ว่าทุกอย่างมันไม่จริง ... แต่สุดท้ายมันก็ไม่ใช่



ผมจ้องหน้าพี่มันแบบพร่าเบลอ น้ำตาผมไหลลงมาช้าๆ เป็นความรู้สึกแตกสลาย อยากจะพุ่งเข้าไปกอดพี่มันไว้แล้วบอกให้ปลอบผมหน่อยวันนี้ผมเหนื่อยมากเลย ผมอยากทำแบบนั้น อยากทำแบบนั้นแต่มันก็ทำไม่ได้แล้วในตอนนี้



“กูไม่ได้ตั้งใจเอม  กูรักมึงเอม กูรักมึงแค่คนเดียวจริงๆนะ”



“รักผมแล้วพี่ไปทำแบบนั้นกับพระพายทำไมวะ รักแล้วโกหกผมว่าไปกับเฮียรบทำไมวะ หรือพี่เห็นผมเป็นควายจริงๆที่คิดว่าหลอกๆไป ผมไม่รู้อะไรอยู่แล้วหรอวะ”



ตอนที่มันยิ้ม ตอนที่มันทำเหมือนไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ทำให้ผมรู้สึกเหมือนเป็นควายไปจริงๆ



ถามหน่อยว่าถ้าผมไม่ได้เห็นคลิปในวันนี้ แล้วมันแกล้งทำเนียนๆไป ผมก็จะเป็นไอ้โง่แบบที่ไม่รู้อะไรตลอดไปจริงๆสินะ



“ใครบอกมึง ใครเป็นคนบอกมึง!” มันตะคอกออกมาเสียงดัง ท่าทางที่เหมือนมันไม่เป็นตัวของตัวเองแบบนั้นทำเอาน้ำตาผมไหลลงมาอีก



“ผมไม่รู้! แต่ตอนนี้ที่ผมรู้คือท่าทีของพี่ตอนนี้มันกำลังฟ้องว่าทุกอย่างในคลิปนั่นมันคือเรื่องจริง ฮึก”



“เอม”



“บอกผมดิ ถ้าพี่พูดว่าไอ้คนในคลิปนั่นมันไม่ใช่พี่ พี่ไม่ได้กอดเค้า พี่ไม่ได้จูบเค้า ผมจะเชื่อเลยพี่ ผมเป็นควายอยู่แล้ว เป็นควายของพี่ไม่ใช่หรอวะ แค่พูดมา พูดมาเลย...บอกออกมาเลยว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง แค่พี่พูด ฮึก แค่พี่พูดผมก็จะเชื่อนะ”



ขอร้อง แค่พูดออกมา



แค่บอกออกมาว่ามันไม่จริง ... ไอ้เอมคนนี้จะเชื่อพี่เอง



“กูไม่ได้ตั้งใจ กูควบคุมตัวเองไม่ได้”



เหมือนมีฟ้าผ่าลงมากลางใจของผม คำว่าไม่ตั้งใจของมันเหมือนฉายซ้อนทับกับคำว่าไม่ได้ตั้งใจในอดีตของไอ้มาร์ชไม่มีผิด



“พี่โดนยาปลุกหรอวะ”



“เปล่า ไม่ใช่ แต่กูไม่ได้ตั้งใจเอม มึงเชื่อกูนะ”



มันไม่ได้โดนยาปลุก ... แต่มันควบคุมตัวเองไม่ได้ มันต้องเหลืออะไรหรอวะ นอกจากความต้องการของใจมัน



มันเหลืออะไรให้ผมเลือกที่จะเชื่อบ้าง นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะ ฮ่าๆๆๆ



“อื้ม ผมรู้ ผมรู้ว่าพี่ไม่ได้ตั้งใจ ผมเชื่อ” ผมยิ้มให้มันในตอนนี้ พยักหน้าแถมอีกหนึ่งทีกับคำพูดนั้นแต่น้ำตาของผมยังไหล ในหัวใจของผมมันยังเจ็บ



“เอม อย่าเป็นแบบนี้มึง กูขอร้องนะ”  พี่มันว่าแบบนั้น แล้วขยับตัวเข้ามาหาผมในตอนที่ผมเดินหนีออกมาจากโต๊ะกินข้าว ผมร้องไห้เงียบๆ ในขณะที่อีกคนก็อธิบายด้วยเสียงที่ไม่มั่นคง เป็นการทะเลาะกันครั้งแรกของเราที่เงียบเหงาที่สุด ไม่มีเสียงโวยวาย มีแต่ความเงียบที่โอบล้อมรอบตัวของเรา เป็นความเงียบที่อธิบายทุกอย่างได้ว่ามันคือเรื่องจริง



“ผมไม่ได้โกหกนะ ผมเชื่อว่าพี่รักผมจริงๆ” หันหน้ามาบอกมันแบบนั้น จ้องหน้าคนตรงหน้าที่ผมรักมากๆ



“เอม”  มันทำอะไรไม่ได้นอกจากเรียกชื่อของผม เป็นความรู้สึกที่ว่าแก้ตัวไม่ได้จนปากมันปิด ความจริงมันจุกอก ผมมองหน้ามันด้วยความรู้สึกผิดหวังไปทั้งหมด



“ผมเชื่อว่าพระพายวางแผนเรื่องนี้นะ”



“จริงๆ มันเป็นแบบนั้นเอม จริงๆนะมึง”



“เค้าอยากให้เราเลิกกัน”



“แต่กูไม่เลิกกับมึงนะ กูไม่ได้รักพายแต่กูรักมึง”



“อืม ผมรู้”



“เอม...”



“แต่ตอนนี้ผมอยู่แบบนี้ไม่ได้ว่ะพี่ดาบ”



“เอม มึงพูดแบบนี้หมายความว่าไง มึงหมายความว่าไง”  มันละล่ำละลักออกมาด้วยเสียงสั่นๆ เอื้อมมือมาคว้าแขนของผมไว้แม้ว่าผมจะไม่ต้องการเลยก็ตาม ดึงรั้งตัวของผมไว้ ยิ่งขยับเข้าไปใกล้ผมยิ่งได้กลิ่นน้ำหอมที่ผมไม่คุ้นเคย กลิ่นที่มันฟ้องว่ามันกอดคนอื่นมา



“ผมยืนอยู่ตรงนี้แล้วยิ้มให้พี่ไม่ได้ ผมพูดออกมาไม่ได้ว่าเอมเข้าใจพี่นะ เข้าใจหมดเลยมันไม่เป็นไร ผมพูดไม่ได้ว่ะพี่”



กับแฟนของเรา คนรักของเรา ที่เค้าบอกว่าไม่ได้ตั้งใจทำผิด แต่เรื่องจริงคือคำว่าใช่ กูไปกอดคนอื่นมา จะต้องให้ผมทำยังไงกับเหตุการณ์นี้ ให้ผมยืนยิ้มแล้วแผ่เมตตาให้หรอ ผมทำไม่ได้ว่ะ...ถ้ามีใครทำได้ ผมจะนับถือว่าเค้าเก่ง แต่ในตอนนี้ผมยังทำแบบนั้นไม่ได้เลย



“ผมรักพี่” บอกมันออกไปแบบนั้น เป็นความรู้สึกจริงๆจากใจของผม



“พี่ก็รักเอม มากๆเลยนะ” มันที่ว่าแบบนั้นแล้วทรุดตัวลงนั่งกับพื้น เข่าทั้งสองข้างของมันที่ทรุดลงกับพื้นห้อง น้ำตาที่ไหลลงอาบแก้มของมัน วงแขนแข็งแกร่งของมันที่เอื้อมมาคว้าตัวของผมไว้ ใบหน้าหล่อที่ดูซูบซีดลงไปแนบลงกับหน้าท้องของผม มันร้องไห้ และผมเองก็ร้องไห้



คำบอกรักกัน ในวันที่เรากอดกันไม่ได้เหมือนเดิม เป็นอะไรที่เจ็บปวดมากที่สุด



“แต่เอมทำไม่ได้ว่ะพี่ แค่มองหน้าพี่ กอดพี่ เอมก็เห็นภาพของพี่ที่กอดใครอีกคน ภาพที่พี่จูบเค้ากอดเค้าเหมือนที่ทำกับผมมันซ้อนทับขึ้นมา พี่เข้าใจเอมได้ไหม ฮึก เข้าใจเอมได้หรือเปล่า”



“พี่เข้าใจ พี่ขอโทษที่ทำให้เอมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้อีกแล้ว แต่เอม อย่าทิ้งพี่ไป ไม่เอา อย่าไป พี่ไม่ให้ไป”



“ผมขอเวลา”



“นานแค่ไหน ต้องนานแค่ไหนเอม”  มันที่เงยหน้าขึ้นมามองผมแต่ยังไม่ยอมปล่อยตัวกันไป เราสองคนที่มองหน้ากันทั้งๆที่น้ำตายังไหล ผมรู้ดีถึงความไม่ตั้งใจของมัน และมันก็เข้าใจดีถึงความรู้สึกของผม ถึงแม้เราจะกอดกันให้แน่นที่สุด แต่ช่องว่างที่เกิดขึ้นของใจเรา มันยังอยากที่จะต่อในตอนนี้



“เอมไม่รู้”



ก็แค่ตอนนี้ ก็แค่ขอเวลาให้ใจเราได้รู้สึกดีมากขึ้นกว่านี้อีกหน่อย และอย่างน้อยๆมันก็ต้องจัดการเรื่องวุ่นวายเหล่านี้ให้มันหมดไปซะก่อน



และสิ่งแรกที่ต้องจัดการไปก็คือ...พาพวย



.

.

.

[[เอม: ของหายอยากได้คืนหรอ มึงฝันไปเหอะ!]]



--------------To be continued------------

เอาล่ะจ๊ะ มาแล้วน้าาา ในตอนนี้ กลัวมากว่าคนอ่านจะไม่เศร้าจะไม่รู้สึกไปด้วยกัน

แต่ถ้าคนอ่านรู้สึกไปด้วยกันกับตัวละคร แคทจะดีใจมากๆเลยค่ะ

อยากขออธิบายว่า ถ้าใครมองว่าน้องเอมไม่มีสติ หรือใช้แต่อารมณ์ แคทอยากให้มองในมุมน้องนะคะ มันเป็นเรื่องยากมากๆเลย

สมมุติว่าเราเคยโดนมีดบาด มันคงไม่มีใครอยากถูกมีดบาดอีกใช่หรือเปล่า น้องเอมก็เป็นแบบนั้นเหมือนกันค่ะ กับคนๆนึงที่เคยเจ็บ

น้องเคยถูกหักหลัง มันเป็นเรื่องที่ฝังใจ แล้วอีกอย่างก็คือ น้องเอมไม่ได้รู้เหตุการณ์ทั้งหมดแบบเราๆด้วยน้า

ส่วนในมุมพี่ดาบ แคทว่าพี่เค้าเป็นผู้ชายที่เท่มากๆคนนึงเลย เค้าแคร์น้องมากๆ เพราะแบบนั้นเลยยิ่งรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำ

แม้ว่าเรื่องนั้นเค้าจะไม่ให้อยากเกิดขึ้นก็ตาม แต่มันก็ปฏิเสธไม่ได้อีกล่ะว่า เรื่องที่เกิดขึ้นมันจริงนะ

ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าเนื้อหาในนิยายมันไม่สนุก มันน่าเบื่อมากจนเกินไป จนทำให้ใครหลายๆคนอยากจากกันไปแล้ว

แคทต้องขอโทษจริงๆนะคะ ไม่มีคำอื่นนอกจากคำนี้เลย และแคทก็รู้สึกผิดกับคนอ่านของแคทที่อยู่ด้วยกันมาจนถึงตอนนี้

คนอ่านหลายๆท่านที่คอยสนับสนุน ให้กำลังใจต่างๆ แคทรู้สึกผิดกับคนอ่านเหล่านี้มากๆที่แคทต้องออกมาพูดว่าแคทรู้สึกไม่ดีเวลาโดนว่า

เพราะฉะนั้นอยากขอร้องกัน ถ้ามันไม่สนุกมากๆจนไม่ไหวแล้ว ไม่ต้องแจ้งให้แคททราบก็ได้ค่ะว่าจะไม่อ่านแล้ว

เวลาฟังมันเสียใจนะ...แต่ถึงแบบนั้นก็ยังขอขอบคุณที่ทนกันมาถึงตอนที่41-42ค่ะ

นิยายเรื่องนี้เหลืออีกประมาณ3ตอนจะลากันไปแล้ว

แคทหวังมากๆว่ามันจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนอ่านรู้สึกสนุก ยิ้มได้ และลุ้นด้วยกันไปในทุกๆตอน

ถ้ามีใครรู้สึกแบบนั้น ก็ขอให้อยู่ด้วยกันไปจนถึงตอนสุดท้ายก่อนลาจากนะคะ

และ

ตอนพิเศษในเล่มอีก10ตอน จะมาแบบจุกๆ จะไม่ทำให้คนที่รอผิดหวังค่ะ

-รักน้า-

ฝาก #สวยๆเป็นผัว ในทวิตเตอร์ด้วยนะคะ

มาเถอะนะ มากรีดร้องไปด้วยกัน

ดานี่: สวัสดีวันหวยแดกจ้า เอดอกกกก กรี๊ดดดดดดด

หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่42 {01/08/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Chucream.nabi ที่ 01-08-2020 23:12:22
ตบสักทีได้มั้ยอิพาพวยเนี้ยะ  :beat: :beat: :beat:
ชอบเอาความจิตไม่ปกติของตัวเองมาอ้าง
เค้าไม่เอามึงแล้ววววว สติคะอิดอก
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่42 {01/08/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 02-08-2020 08:15:13
อิคนถ่ายคลิปคงไม่ใช่อิน้องม๊อปนะ อิพี่ดาบเมื่อไหร่จะทันเกมพาพวยซักที ฮึ่ย! ทำน้องเสียใจอีกแล้ว  :katai1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่42 {01/08/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 02-08-2020 08:24:10
จัดการอิพาพวยให้มันสิ้นซากไปเลยจ้าอิหนูเอมจ้าาาา :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่42 {01/08/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: goldentime ที่ 02-08-2020 10:26:20
เกียจอีพระพาย มันต้องมาหลอกอะไรพี่ดาบมันแน่ๆเลย :katai1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่42 {01/08/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 02-08-2020 10:28:53
รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่42 {01/08/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 02-08-2020 11:37:30
อิพี่ดาบมันโดนอะไรถ้าไม่ใช่ยาปลุกก็คงเป็นคุณไสยแล้วล่ะ ที่ทำให้ควบคุมตัวเองไม่ได้แบบนี้
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่42 {01/08/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 02-08-2020 22:54:45
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่42 {01/08/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 06-08-2020 17:47:23
 อ๊ากกกกก พาพวยยย  :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่43 {08/08/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 08-08-2020 21:14:38
บทที่43




“มึงมาเอากูเดี๋ยวนี้เลยไอ้พี่เก้อ”



“ห๊ะ! มึงพูดเหี้ยอะไร กูไม่เอา!!”



“มึงไม่เอาก็ไม่ต้องเอาอีกเลย ไอ้หน้าสัด!”



“เอ้า!” ผมอุทานออกไปแบบนั้น แม้ว่าจริงๆกูอยากจะตะโกนว่าเรื่องไรไอ้สัด กูจะเอามึง มึงอย่ามาห้ามกูกูจะเอา!! ... แต่ว่าพูดออกไปไม่ได้ กูคีฟคาแล็คเตอร์เป็นคนดีอยู่ ทำไมไอ้เสือแม่งไม่เข้าใจวะ ไม่เข้าใจไม่พอ ยังมาถลึงตาใส่กูอีก ปัดโถ่



“เร็วๆไอ้พี่เก้อ มึงเป็นอะไร” ถามกูแบบนั้นไม่พอ มันเร่งด้วยครับ เร่งพร้อมๆกับตอนที่ถอดกระดุมเสื้อออกมาที่ละเม็ดๆ



“เดี๋ยวๆ มึงใจเย็นๆก่อน เป็นเหี้ยอะไรนี่เสือ” บอกแบบนั้นพร้อมๆกับพยายามหันหน้าหนี อย่า...กูแพ้



ทำไมแม่งขาวจังวะ กูแพ้ของขาว ไอ้เสือ ไอ้เด็กเหี้ย!



“ทำไมมึงต้องทำแบบนี้วะพี่เก้อ” เอ้า! ดราม่า ดราม่าเหี้ยอะไรก่อนเอ่ย...ไอ้เสือที่หยุดมือในการปลดกระดุมตัวเองแล้วก้มหน้าลงมองตีน แต่ขอบคุณมากที่มึงเลิกถอดเสื้อตัวเองสักที กูอยากให้มึงใจเย็นและฟังกูสักหน่อยยยย



“กูทำอะไรเสือ มึงใจเย็นๆหน่อยสิวะ” เอาน้ำเย็นเข้าลูบ เดินเข้าไปหามันแล้วเอื้อมมือไปจับแขนมันทั้งสองข้าง แต่ไอ้คนตรงหน้าก็ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมามองกันอยู่ดี



“เสือ มองหน้ากูหน่อย”



“ถ้ากูมองแล้วมึงจะเอากูป่ะล่ะ!” โพล่งออกมาแบบนั้นจนกูตกใจ ผงะถอยหลังห่างจากมันไปอีกสองก้าว



“เนี่ย! มึงแม่ง” เงยหน้ามามองกันแล้วว่าแบบนั้น ตาแดงๆของมันกับปากบางๆที่เม้มเข้าหากันนั่นดูน่าสงสาร แต่สายตาที่มองกันเหมือนอยากแดกหัว คือโกรธอะไรกูล่ะครับ



“มึงเป็นอะไรเนี่ยเสือ”



“มึงสิเป็นอะไรอิเหี้ยพี่เก้อ K”



“เอ้า ด่ากูไม่พักเลย”



“มึงไปไกลๆตีนกูเลย” 



“เอ้า” โกรธกูด่ากู หันหลังเดินหนีกูไม่พอ ไล่กูแล้วในตอนล่าสุด ผมถอนหายใจออกมาแรงๆตอนที่ได้ยิน ได้แต่ยกมือเสยผมขึ้นแบบอึดอัด ไอ้เสือที่ทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงแล้วหันหน้าเข้ากำแพง หันหลังให้กูทั้งแบบนั้น เป็นครั้งแรกเลยที่เห็นอาการแบบนี้ของมัน



คือเอ่อ...อย่าบอกกูว่างอนนะ



“เสือ” ลองหยั่งเชิงเรียกมันแบบนั้น พร้อมๆกับเดินเข้าไปใกล้ๆ ค่อยๆทรุดตัวลงนั่งข้างๆมันแล้วเอื้อมมือไปแตะแขนมันเบาๆ แต่ไอ้เสือสะบัดแขนหนี มันเป็นฟึดฟัด



“อย่ามาจับกู”



“ทำไมกูจะจับมึงไม่ได้วะ ทั้งตัวกูก็จับมาแล้วรึเปล่า”



“กูจะไปรู้กับพ่อมึงหรอ มึงลองถามพ่อมึงสิ บางทีอาจนานจนพ่อมึงเองก็ลืมแล้วว่ามึงเคยจับกูหรือเปล่า” โอ้โห ยาวๆ ด่ากูมายาวๆแบบไม่พัก มองเห็นแก้มของมันพองขึ้นมาตอนที่มันด่าผมแบบนั้น เป็นอาการโกรธแล้วน่ารักจังวะ อดไม่ได้ที่จะกอดมันในตอนนี้ แต่



‘ผลัก ตุบ โคร้ม’



“โอ้ยยย กูเจ็บนะไอ้เสือ” กูที่ตีลังกาหงายท้องลงมาจากที่นอน หมุนเป็นลูกข่างเพราะตีนไอ้เสือที่หันมายันท้องกัน จุกจนกูหน้าดำหน้าแดง



“มึงกลับไปเลยพี่เก้อ”



“เอ้า มึงไล่กูทำไมวะ กูแค่กอดมึงเองนะ”



“ก็เพราะมึงกอดแต่ไม่ทำห่าอะไรนี่ไง ออกไปเลยไอ้เหี้ยพี่เก้อ!”



‘ปัง โครม!’



และสิ่งสุดท้ายที่ผมได้ยินก็มีแค่เสียงด่า และประตูไม้ที่กระแทกหน้าเพราะไอ้เก้อปิดประตูใส่ ... ทำไมเป็นคนดีมันยากแบบนี้วะไอ้เหี้ยเอ้ย จริงๆกูอยากเอาจนแข็งแล้วเนี่ยยยยยยย



“กูจะมาใหม่นะ”



“มึงไม่ต้องมา คืนนี้กูไม่ไป”



“เสือ ไม่เอางี้ดิ”



“มึงไปไกลๆหน้าห้องกู รำคาญ!”



จบ...จบกันตรงนี้ชีวิตไอ้ไทเกอร์ เป็นเสือหรือหมากันแน่วะกู เจ้าของก็ไม่เปิดประตูห้องให้ แค่กูพยายามเป้นคนดีนี่มึงโกรธอะไร!



...



“มึงจะทำงี้จริงหรอเอม”



“อืม กูตัดสินใจแล้ว”



“เฮ้อ งั้นกูก็จะไม่ห้ามนะ แต่กูเชื่อนะว่าพี่ดาบเค้าไม่ได้ตั้งใจหรอก” ผมหันไปมองหน้าไอ้หยี คนที่ตอนนี้กำลังนั่งอยู่ที่เบาะคนขับ ยิ้มบางๆให้มันแล้วพยักหน้านิดๆเห็นด้วยกับคำพูดนั้นของมัน



“กูก็เชื่อว่าพี่มันไม่ได้ตั้งใจ” ก็จากสายตาท่าทีต่างๆมันก็บอกได้แบบนั้น แต่ถึงว่ามันจะเป็นแบบนั้น...



“แล้ว”  ไอ้หยีตอนนี้เหมือนคนที่อยากเสือก แต่ก็ไม่กล้าที่จะถามอะไรออกมา เป็นคนมีมารยาทแม้ว่าจริงๆในใจค่อนข้างจะยุบยับอยากจะรู้เรื่อง เห็นแบบนั้นแล้วอยากจะขำออกมา เป็นครั้งแรกในรอบหนึ่งวันที่ผมขำออกมาได้ แม้ว่าสถานการณ์ตอนนี้มันไม่รู้สึกอยากจะขำเลยก็ตาม



“มึงอยากจะถามว่า ถ้าเชื่อแบบนั้นแล้วทำไมถึงทำแบบนี้น่ะหรอ”



“อืม...พูดตรงๆกับมึงเลยว่าอยากเสือกมาก แต่ว่าก็เกรงใจมึง กลัวพูดออกไปแล้วแม่งกระทบใจ กูจะกลายเป็นเพื่อนเหี้ย”



“กูไม่มองมึงแบบนั้นหรอก”



“เพราะกูน่ารักมากๆเลยใช่ไหมล่ะคะ ดีขนาดนี้จะเหี้ยได้ยังไง” เข้าเกียร์ตัวNแล้วดึงเบรคมือเอาไว้ หันมามองหน้าผมแล้วยิ้มระริกระรี้



“เพราะมึงไม่เหี้ย ก็แค่คนอยากเสือกเฉยๆ”



“โอ๊ยอิเอม นี่กูแม่มึงนะค๊า” ขึ้นเสียงสูงใส่พร้อมถลึง ผมเขาออกมานิดๆ แล้วถอนหายใจ เอนตัวพิงเบาะรถอย่างเหนื่อยๆ หันหน้าไปมองที่เบาะหลังของรถไอ้หยี เห็นกระเป๋าใส่เสื้อผ้าใบเดียวของตัวเองวางเอาไว้ตรงนั้น แค่นยิ้มออกมานิดๆในตอนที่มองเห็น ... กระเป๋าใบเดิม กระเป๋าใบเดียวที่ผมมีตั้งแต่ถูกไล่ออกมาจากบ้านของป้า วันนั้นผมอุ้มกระเป๋าใบนี้ออกจากบ้านนั้นมา ขึ้นรถไอ้หยีเพื่อไปเจอกับอิเจ๊พี่มัน และในวันนี้ผมก็หิ้วกระเป๋าใบนี้ขึ้นรถไอ้หยี เพื่อออกมาจากบ้านของมัน



“เอาจริงๆตอนแรกกูนึกว่ามึงจะเลิกกับพี่มันด้วยซ้ำ”



“ทำไมวะ”



“กูเห็นมึงมาตั้งแต่สมัยมึงเลิกกับไอ้เหี้ยมาร์ช เรื่องแม่งก็คล้ายๆแบบนี้ พูดตรงๆคนเรามันจะเจอเรื่องเดิมๆได้สักกี่ครั้งวะ ถ้ามึงจะเลิกกับพี่มันกูก็ไม่แปลกใจหรอก”



“ก็จริง”



“แต่การที่มึงทำแบบนี้ มึงไม่กลัวพี่พายจะเข้าไปหาพี่ดาบในช่วงจังหวะนี้หรอวะ”



“ไม่เลย กูไม่กลัว” บอกออกไปแบบมั่นใจแล้วหันไปมองหน้าไอ้หยียิ้มๆ



“กูไม่กลัวไอ้พาพวยนั่นสักนิด พี่ดาบมันไม่ใช่คนโง่นะ อย่างน้อยๆมันก็ไม่เคยโง่ในเรื่องความรู้สึกของมัน”



“อวยผัวอ่ะเนาะ” กูปลายตามองแรงเลย ยังจะมีอารมณ์มาแซวกัน ผมยกยิ้มนิดๆตอนที่ได้ยินมันพูดแบบนั้น



“กูก็แค่ไม่อยากให้บรรยากาศมันแย่เฉยๆ แต่ว่ามึงออกมาแบบนี้มันก็ไม่เหมือนเลิกกันหรอวะ”



“พี่มันบอกไม่ยอมเลิกกับกู และกูเองก็ไม่ได้คิดว่าจะเลิกกับพี่มันนะ” ผมบอกออกไปแบบนั้น นี่คือความคิดจริงๆของผม ผมไม่ได้คิดอยากจะเลิกกับพี่ดาบ



“แต่กูแค่ย้อนมานึกถึงตัวเอง”



“หมายถึงอะไรวะ” ไอ้หยีเลิกคิ้วมองหน้ากันนิดๆ ก่อนที่มันจะหันไปมองถนนปลดเบรคมือแล้วขับรถออกไปต่อ



“วันนี้เรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นการจัดฉาก แต่ถ้าในอนาคตมีแบบนี้อีกกูจะทำยังไงวะ”



“กูเชื่อว่ามันจะไม่มีอีกหรอก จริงๆนะมึง” ไอ้หยีรีบเถียงออกมา ผมรู้ว่ามันเองก็รักพี่ดาบ ในฐานะพี่รหัสมัน มันก็ค่อนข้างเอนเอียงไปทางเค้ามากกว่าใคร



“ใครจะรู้อนาคตวะมึง ถ้าทำได้กูก็อยากจะไปอนาคตแล้วดูว่าตอนจบมันจะเป็นยังไง ทางที่กูกำลังเดินไปมันถูกหรือเปล่า แต่มันก็ทำไม่ได้ไง สิ่งที่ทำได้มันก็คือกูต้องเดินต่อ และการเดินต่อไปของกู กูก็ต้องมีอะไรที่เป็นของกูบ้าง พูดกันตามตรง ตอนนี้กูไม่มีอะไรเลย กูมีแค่พี่เค้า ถึงเค้าจะดีมากแค่ไหน แต่มันไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าอนาคตมันจะไม่ผิดพลาด”



ผมคิดถึงคำพูดที่ไอ้ม็อบพูด ถึงผมจะไม่ถูกใจในคำพูดของมัน แต่มันก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าที่มันพูดมาไม่ถูกต้อง “ไม่คิดบ้างหรอว่าชีวิตพี่ผูกติดกับเค้ามากไปนะ ถ้าไม่มีเค้าพี่จะเหลืออะไรอ่ะ จะเอาเงินเอางานที่ไหนมาใช้มาทำ”



“มึงขมวดคิ้วทำไมวะไอ้เอม”



“กูแค่นึกถึงคำพูดของไอ้ม็อบ”



“ไอ้เด็กเหี้ยนี่อีกแล้ว มันยังไม่ไปพ้นๆมึงอีกหรอวะ” ว่าแบบนั้นพร้อมทำเสียงเข้ม ผมทำหน้านึกนิดหน่อยว่าเจอมันครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ อาจจะเมื่อสองวันก่อนหรือเปล่านะ



“จริงๆก็ไม่เจอมันมาสักพักละนะ เดี๋ยวนี้ก็ไม่ได้ไลน์มาหาอะไรกูด้วย”



“กูว่าแม่งไม่น่าไว้ใจตั้งแต่ที่มึงเห็นมันอยู่กับอิผีพายนั่นละ”



“ตอนนั้นมึงยังเรียกพี่พายไง ทำไมตอนนี้เรียกเค้าผีพาย”



“จริงๆกูอยากตบด้วยไม้พายด้วยค่ะตอนนี้ คนดีๆที่ไหนถึงจงใจแย่งแฟนคนอื่นหน้าด้านๆแบบนั้นวะ มองจากนอกโลกกูก็รู้ค่ะว่านางตั้งใจทำ อิเหี้ยเอ้ยหน้าตาน่ารักแท้ๆแต่สมองเป็นเหี้ยอะไรก็ไม่รู้”



“เราก็ไม่รู้กับเค้าป่ะวะว่าจริงๆแล้วเค้าทำเพราะอะไร”



“จะอะไรนอกจากอยากได้ผัวมึง นี่มึงอย่ามาทำเป็นนางเอกนิยายนะอิเอม อิลูกโง่ เดี๋ยวกูตบให้สมองกลับเลยค่ะ” ปรายตามามองแรงใส่กูซะแบบนั้น โมโหเหมือนพี่ดาบเป็นผัวมันอ่ะครับ



“กูไม่ได้นางเอกหรอก แต่กูก็แค่คิดกลับกัน ว่าที่เค้าทำแบบนั้นมันเพราะอะไร”



“เรื่องบางเรื่องอ่ะมึง ต่อให้มึงคิดแทบตาย พยายามมองมุมกลับแค่ไหน กับเรื่องบางเรื่องที่คนตั้งใจทำให้มึงเจ็บอ่ะ มองไปมึงก็ไม่เห็นเหี้ยอะไรดีขึ้นมาหรอก” อืม...ก็อาจจะจริงแบบที่หยีมันว่า ผมพยักหน้ารับคำพูดของมัน ได้ยินเสียงมันถอนหายใจอีกครั้ง



“แต่ก็ขอบใจมากนะมึง ขอบคุณอาม่ามึงด้วยนะ”



“เล็กน้อยหน่า หอนี้มันก็มีห้องว่างอยู่พอดี มึงมาพักที่นี่ก็ดีกว่าที่อื่น กูก็จะได้สบายใจด้วย”



“ไม่รู้ชาติก่อนทำบุญอะไรถึงเจอเพื่อนแบบมึง ขอบคุณจริงๆว่ะป้า” คิดแบบนี้จริงๆ อยากยกมือไหว้ขอบคุณฟ้าดินที่ทำให้ผมเจอเพื่อนดีๆครับ ... ตอนนี้ผมตัดสินใจย้ายมาพักที่หอพักไม่ไกลจากมหาลัย เป็นหอพักของบ้านไอ้หยีที่เปิดให้นักศึกษาเช่า ราคาไม่แพงเท่าไหร่ และที่สำคัญ พอเป็นผม อาม่าของไอ้หยีก็ไม่เก็บค่าเช่าล่วงหน้าใดๆด้วย ถือเป็นความใจกว้างแบบหายากมากๆ และตอนนี้ เงินในบัญชีผมจากการทำงามมาตลอดหลายเดือนกับพี่ดาบก็ทำให้ผมพอมีเงินอยู่จำนวนหนึ่ง ถึงจะไม่มากแต่ก็พอจะจ่ายค่าน้ำค่าไฟในระยะนี้ และที่สำคัญไปกว่านั้น ผมก็ต้องเริ่มหางานทำด้วย ... งานที่ผมจะไม่ต้องผูกติดกับพี่ดาบมากเกินไป



เสียงตบไฟเลี้ยวของไอ้หยีทำให้ผมหลุดออกจากภวังค์พอดี มองเห็นหอพักนักศึกษาร่มรื่นหน้าอยู่ครับ เป็นตึกที่ปลอดภัยเพราะมียามเฝ่าและมีที่จอดรถด้วย ไอ้หยีถอยรถเข้าไปจอดในลานจอดตรงช่องที่เอาไว้จอดสำหรับเจ้าของเท่านั้น



“เอ๊ะ” ในตอนที่ผมจะลงจากรถ บังเอิญว่าตาดันมองไปเห็นรถที่จอดอยู่ในลานจอดฝั่งตรงข้าม คุ้นมากๆจนต้องร้องออกมา



“อะไรมึง ปะ ลง เดี๋ยวกูพาไปดูห้อง ห้องมึงอยู่ชั้น3นะ”



“ไอ้หยี”



“อะไรคะ หรือมึงเปลี่ยนใจอยากกลับ”



“เปล่า”



“แล้วคือ”  ขมวดคิ้วมองกันแบบไม่เข้าใจ จนตอนที่ผมพยักเพยิกไปที่รถคันดำฝั่งตรงข้ามที่คุ้นตาเราสองคนมากๆ ไอ้หยีก็เบิกตากว้าง



“นั่นรถอิเก้อนี่คะ มันมาทำอะไรที่นี่ อิเหี้ยๆ หรือมันสุกเด็ก”



“เด็กมันก็น้องเสือไม่ใช่หรือไง”



“นั่นแหล่ะ ไอ้ห่านี่ไม่ทิ้งลายหรอวะ กูจะไปบอกน้องเสือ” มันว่าแบบนั้นแล้วรีบก้าวลงไปจากรถ ไม่รอกูด้วยนะ เรื่องเสือกนี่เป็นเรื่องสำคัญมากๆเลยแหะ แต่ตอนนี้ผมไม่รู้สึกอยากจะทำแบบนั้น ก็แค่อยากถึงห้องใหม่ไวๆแล้วจะได้พัก



“ใจเย็นๆ มันอาจจะไม่เป็นแบบนั้น” ผมคว้ากระเป๋าจากเบาะหลังแล้ววิ่งตามมันไป ในตอนที่เราสองคนกำลังจะเดินขึ้นบันไดไป ก็มีใครบางคนเดินสวนลงมาพอ



“อิเก้อ!” ไอ้หยีตะโกนเสียงดังแบบที่ไม่สนใจใคร ทำเอาผมตกใจ และใช่ ไอ้คนที่เดินสวนลงมาก็ตกใจเหมือนกัน มันที่อยู่ในชุดธรรมดาๆที่ยังดูดี แต่เช้าแบบนี้มันมาอยู่ที่นี่ได้ไงวะ



“มึง...ป้า มาทำไรกันที่นี่วะ”



“กูสิต้องถามมึงว่ามาทำอะไรที่นี่คะ มึงนอกใจน้องเสือกูหรอ” อิหยีเท้าเอวแล้วชี้หน้าด่า ไอ้เก้อเบิกตากว้างเลยตอนที่ได้ยิน



“พูดเหี้ยอะไรของมึงเนี่ย”



“มึงนอกใจกูหรอไอ้พี่เก้อ” และเสียงของคนมาใหม่ที่เดินตามลงมาอีกคนก็ไม่ใช่ใคร น้องเสือ .... มันที่พึ่งเดินตามลงมาแล้วเห็นผมกับไอ้หยีก็ทำหน้าตางงๆนิดหน่อย และใช่...ในตอนนี้เรายืนออกันอยู่หน้าบันได ไม่มีใครขึ้นได้ลงได้ คือพวกมึงจะช่วยเกรงใจกันหน่อยได้ไหมวะ



“กูเปล่านอกใจมึง ป้ามึงอย่ามาพูดพล่อยๆนะเว้ย แล้วพวกมึงมาทำอะไรกันที่นี่”



“นี่มันหอพักของบ้านกูจ้า กูพาไอ้เอมย้ายมาอยู่”



“ย้าย ย้ายมาทำเหี้ยไร”  ไอ้เก้อหันมามองผมแบบไม่เข้าใจ และในตอนนี้เองที่น้องเสือก็หันมามองกูด้วยเช่นกัน เป็นดาวเด่นที่ยืนอุ้มกระเป๋าและไม่มีบทสนทนาให้ได้พูดอะไรกับเค้าเลย



“มึงย้ายมาทำไมเอม มีเรื่องอะไร” 



“ก็...ไม่มีไร” ผมตอบไปแบบนั้นแล้วยิ้มออกมานิดๆ แต่ไอ้เก้อกลับไม่เป็นงั้นด้วย หน้ามันบึ้งลงนิดหน่อยแล้วจ้องหน้าผมแบบคาดคั้น



“ตอแหลไม่เคยเนียนยังจะพยายาม แล้วมันอยู่ห้องไหนวะป้า ขึ้นไปก่อนเหอะ มายืนเกะกะตรงทางขึ้นลงทำไมวะ” เออจริง ในใจกูก็คิดงั้นอ่ะ แต่ไอ้เอมเหนื่อย ไอ้เอมไม่อยากพูด อยู่ในช่วงเจ็บไข่ จุกจนพูดไม่ออก



“มึงส่งกระเป๋ามานี่ไอ้เอม เดี๋ยวกูถือให้”



“เห้ย ไม่ต้องๆ กูถือเองได้” ผมรีบบอกแบบนั้น แวบนึงที่กูแอบมองเลยไปที่หน้าน้องเสือที่สีหน้าไม่สู้ดีเท่าไหร่ ผมเข้าใจนะ เป็นผมก็ไม่ชอบว่ะ ถึงไอ้เก้อจะไม่คิดอะไร แต่ก็ไม่ควรอยู่ดี ... เรื่องโง่อ่ะฉลาดนักแหล่ะไอ้ห่าเก้อ



“เรื่องมากเหี้ยไร กูถือให้ เอามาไอ้โง่”



“สัด” ด่ามันได้แค่นั้นแล้วฝ่ามือของมันก็เอื้อมมากะชากกระเป๋าเสื้อผ้าใบเก่าของผมไปถือหน้าตาเฉย Kจริงๆ



“ไปมึง ห้องไหน”



“ชั้นสามค่ะ ตามมาๆ” ไอ้หยีบอกแบบนั้นแล้วตั้งท่าจะเดินขึ้นบันไดไป แต่ติดตรงที่น้องเสือพูดออกมาแบบนั้นซะก่อน



“แล้วข้าวกูอ่ะไอ้พี่เก้อ” น้องเสือว่าออกมาแบบนั้น พวกเราสามคนชะงักไป รวมถึงไอ้เก้อที่เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้เหมือนกัน



“คือว่า...” ไอ้เก้อพูดออกมาแค่นั้น ตามองตา ระหว่างสายตาของน้องเสือและสายตาของไอ้เก้อ ผมหันหน้าไปมองหน้าไอ้หยีแล้วถอนหายใจออกมา



“มึงจะพาน้องไปกินข้าวหรอ” ผมถาม



“อืม”



“งั้นมึงก็พาน้องไปเหอะ กูจะไปห้องกับไอ้หยีเอง”



“แต่...กูก็อยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับมึง ทำไมมึงถึงต้องมาอยู่ที่นี่”



“มึงก็คอยมาถามกูเอาทีหลังก็ได้ เรื่องแค่นี้เองทำไรให้ยากวะ เอากระเป๋ากูมา” บอกมันไปแบบนั้นแล้วดึงกระเป๋าตัวเองกลับมา ผมไม่อยากเอาตัวเองไปเป็นปัญหาให้ใครมากขึ้นหรอก เท่าที่เป็นปัญหากับตัวเองตอนนี้ก็มากพอแล้ว



“เออ มึงพาน้องเสือไปเหอะ ห้อง313” ไอ้หยีพูดตัดบทออกมาแบบนั้น ก่อนที่เราสองคนจะเดินหนีมันขึ้นมา ไอ้หยีเอื้อมมือมาตบบ่าผมเบาๆ



“ไอ้เก้อมันโง่ มึงเข้าใจใช่ไหม”



“กูเข้าใจ แต่ภวานาให้แฟนมันเข้าใจแบบกูก็แล้วกัน” ผมบอกแค่นั้น ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องพักที่ไอ้หยีไขให้ เป็นห้องแบบสตูดิโอโล่งๆ ไม่ได้ใหญ่อะไรมากมาย มีเตียงโต๊ะตู้เสื้อผ้าและห้องน้ำในตัว สำหรับผมอยู่ได้แบบสบาย



“ขอบคุณมากๆนะมึง จริงๆ” ผมหันไปบอกมันแบบนั้นอีกครั้งตอนที่ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นห้อง มันตามลงมานั่งข้างๆแล้วตบไหล่ผมเบาๆ



“มึงเข้มแข็งมากเลยเอม จริงๆนะ...ถ้ากูเป้นมึงอาจจะทำแบบนี้ไม่ได้ด้วยซ้ำ” มันพูดออกมาแบบนั้น และไม่รู้ทำไมตอนนี้ขอบตาของผมมันถึงร้อนๆแบบบอกไม่ถูก เป็นความรู้สึกเหมือนสิ่งที่พยายามอดกลั้นเอาไว้มันพังทลายลงมาตอนที่ไอ้หยีพูดแบบนั้น



“ถ้าเป็นกูอาจจะเลิกกับพี่มัน แล้วก็เตลิดเปิดเปิงไปไหนต่อไหนแล้ว ไม่มีสติมานั่งคิดว่าจะย้ายออก จะไปทำงานอะไรตรงไหนหรอก”



“ไม่หรอก มันก็ไม่ง่ายสำหรับกูเหมือนกัน” ใช่...มันไม่ง่ายสำหรับผมเลย โดยเฉพาะในตอนที่จะเดินออกมาจากห้องของพี่มันเมื่อเช้านี้



.

.

.



“เอม กูไม่ให้ไป กูไม่ให้มึงไป!” เสียงตะโกนที่กังฉุนเฉียวขึ้นมาเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ที่มันพูดออกมาแบบนั้น



เราอยู่ด้วยกันแบบเงียบๆมาทั้งคืนตั้งแต่ที่ผมบอกว่าผมขอเวลา ผมอยากย้ายออกจากที่นี่ พี่มันก็เอาแต่นั่งซึมอยู่ที่เก้าอี้ในครัว ส่วนผมหนีเข้ามาอยู่ในห้องนอน ผมไม่ได้บอกมันว่าห้ามเข้าไป จะมีสิทธิ์อะไรไปพูดแบบนั้นได้ในเมื่อห้องนี้ก็ของพี่มัน แต่ถึงแบบนั้นพี่มันก็ไม่ได้เดินเข้ามาหา และในตอนเช้าที่ผมเก็บกระเป๋าออกมา มันก็โวยวายขึ้นมาแบบที่ได้ยิน



“แต่เอมจะไป” ผมจ้องตามัน ไม่มีความไหวหวั่นอะไรในน้ำเสียงของผม แต่ถึงแบบนั้นผมก็เสหน้าหนี มองหน้าของมันที่ตั้งแต่เจอกันมักจะมีสีสันสดใสเสมอ พี่ดาบมันจะไม่ยอมปล่อยให้หน้าซีด เพราะมันบอกว่าจะไม่สวย แต่หนักจนถึงขั้นใต้ตาดำคล้ำแบบนี้ยิ่งไม่เคยเห็นมาก่อน ...



“เอม...พี่ขอโทษ จะให้ทำยังไงก็ได้ เอมอย่าไป”



“พี่ เอมอยู่แบบนี้ไม่ได้ เอมแค่ขอเวลานะ...” บอกมันแบบจนปัญญา ก้มหน้ามองมือแกร่งที่จับแขนของผมเอาไว้แน่นๆ ฝ่ามือของพี่มันสั่นๆ เรี่ยวแรงดูไม่ค่อยจะมี แต่ผมคิดว่าเพราะเมื่อคืนมันคงนอนไม่หลับ ก็แค่คืนเดียวมันกลับโทรมมากขนาดนี้



“พี่ต้องดูแลตัวเองดีๆนะ...เอมไปถึงแล้วเอมจะบอกนะ”



“พี่จะปล่อยเอมไปได้ยังไง เอมมีแต่พี่นะ” มันพูดออกมาแบบนั้น คำพูดนั้นบีบหัวใจของผมจนน้ำตาคลอ ... ใช่ เรื่องจริงที่ว่าผมมีแต่มัน



“เพราะเอมมีแต่พี่ไง เอมถึงต้องไป ไปยืนด้วยตัวเองให้ได้ไม่ใช่เกาะพี่อยู่แบบนี้”



“เอมไม่ได้เกาะพี่! และถ้าอยากจะเกาะจริงๆกูก็ยินดี กูรวย!” มันที่ดูฉุนเฉียวขึ้นมาอีกครั้งแล้วตอนที่พูดออกมาแบบนี้ รู้ดีเพราะว่าฝ่ามือที่กุมข้อมือของผมกำแน่นขึ้นมา เหมือนมันทั้งโมโหและหวาดกลัว



“แล้วถ้าวันนึงเอมไม่มีพี่ เอมจะทำยังไงวะ”



“มันจะไม่มีวันนั้นไง วันที่เอมจะไม่มีพี่” จ้องหน้าผมอย่างขอร้อง สายตาที่ขอร้องว่าผมอย่าไป



“แต่เมื่อวานเอมก็เหมือนจะไม่มีพี่แล้วนะ...”



“เอม”



“มันยากมากนะเว้ยพี่ เอมไม่ใช่พระอ่ะที่จะแผ่เมตตาให้แล้วบอกว่าสิ่งที่เอมเห็นมามันไม่เป็นไร ถึงเอมจะเข้าใจเรื่องที่มันเกิดขึ้นแต่เอมก็ต้องทำอะไรบ้าง แล้วถ้าพี่ยังพูดอยู่แบบนี้ ได้แต่ขอโทษอยู่แบบนี้แต่ไม่ทำอะไรเลยมันไม่มีอะไรดีขึ้นเลยเว้ยพี่ ... พี่ดาบรู้ไหมว่าผมภวานาด้วยซ้ำว่าในคลิปบ้าๆนั่นมันจะไม่ใช่พี่ แต่พอมันใช่แล้วถึงผมจะเข้าใจแค่ไหนผมก็ยังทนไม่ได้อยู่ดี ผมทนมองหน้าพี่ดีๆตอนนี้ไม่ได้” น้ำตาผมไหลลงมาในตอนนี้ ไม่ต่างจากอีกคนที่หน้าซีดลงจนหัวใจผมเจ็บ แต่ถึงแบบนั้นผมก็ยังคงพูดต่อ



“มันจะไม่มีเรื่องนี้เกิดขึ้นเลย ถ้าพี่ตัดเค้าออกไปจากชีวิตพี่ตั้งแต่วันแรกที่เค้ากลับเข้ามา ... ให้มันเป็นบทเรียนนะว่ามันเพราะอะไรครั้งนี้ผมถึงต้องไป ...ผมรักพี่ แต่ตอนนี้ผมก็ยังกอดพี่เหมือนเดิมไม่ได้ พี่เข้าใจไหม”



บอกออกไปจนหมด และในตอนนั้นที่คนตรงหน้าก็ปล่อยข้อมือผมออกช้าๆ สายตาที่ไม่มีแสงมองผมอย่างคนหมดทางจะสู้ ผมสงสารและทนมองสายตานั่นนานกว่านี้ไม่ได้เลยต้องหันหลังเดินหนีมา



“พี่จะจัดการนะเอม แล้วถ้าถึงวันนั้น เอมจะกลับมาไหม”



“เอมก็ไม่เคยไปไหนจากพี่อยู่แล้วนี่”



“แต่วันนี้เอมกำลังจะไป”



“ก็แค่ชั่วคราว...พี่คิดว่าผมจะปล่อยไปให้กับอิพาพวยหรอวะ ฝันไปเถอะ”



.

.

.





               ไอ้หยีกลับไปได้สักพักแล้ว และมีแค่ผมที่ยังคงนั่งอยู่ในห้องนี้เงียบๆโง่ๆอยู่คนเดียว แค่ปล่อยน้ำตาให้มันไหลลงมาแบบไม่กลั้นมันอีกต่อไป จริงๆผมอยากร้องไห้มาตั้งนานแล้ว ก็แค่ฝืนทำว่ากูไม่เป็นไรหรอก กูก็แค่หลบออกมาแค่แป๊บเดียวเอง แต่ถึงแบบนั้นมันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ต่อให้ตัวเราหนีออกมามากแค่ไหน สุดท้ายหัวใจมันก็ยังอยู่ที่เดิม



“เอม ฮึก... เอมคิดถึงพี่ว่ะ”



‘ตื่อดึง’



[[DANI: พี่คิดถึงเอม เมื่อไหร่เอมจะกลับ]]



“ฮึก...มึงมันบ้าพี่ดาบ กูพึ่งมาถึงเอง ฮึก คิดถึงพี่ คิดถึงมากๆเลยนะ”



มันเป็นความเศร้าที่ต่อให้เราคิดถึงกันมากแค่ไหน ก็กลับไปกอดปลอบใจให้กันไม่ได้อยู่ดี...



...



               วันต่อมาแต่งชุดนักศึกษาเรียบร้อยมายืนอยู่หน้าร้านกาแฟข้างๆมหาลัย ใช่...ร้านกาแฟที่ไอ้น้องม็อบมันบอกว่าเค้ากำลังต้องการคน จริงๆก่อนหน้านี้ไปหาสมัครงานมาหลายที่แล้วแต่เค้าไม่รับ เค้าบอกว่าเศรษฐกิจเฮงซวยแบบนี้ไม่มีปัญญาจ้างคนเพิ่มหรอก เพราะแบบนั้นผมเลยลองเสี่ยงดู



‘กรุ้งกริ้ง’



เสียงโมบายกระดิ่งที่ห้อยไว้ที่หน้าประตูดังขึ้นมาแบบนั้นในตอนที่ผมเปิดประตูเข้าไป กลิ่นหอมของกาแฟจากเครื่องชงกรุ่นขึ้นมาเตะจมูก เสียงเพลงเบาๆที่ถูกเปิดไว้ดังเข้ามากระทบหูให้ได้รู้สึกผ่อนคลาย มองไปรอบๆเป็นร้านโทนอบอุ่นเน้นโทนน้ำตาลและสีเนื้อกลมกลืน



“รับอะไรดีครับ”  เสียงดังมาจากบาร์ทางด้านหน้า มีผู้ชายหน้าตาน่ารักคนนึงยืนอยู่ตรงนั้น ก่อนจะส่งยิ้มน่ารักมาให้ผม ดวงตาวาววับสดใสที่ดูเป็นกันเองยืนยิ้มอยู่ตรงนั้น



“เอ่อ...”



“ทางร้านเรามีหลากหลายเมนูให้ได้เลือกสรรเลยนะครับ อยากทานแบบไหนชอบแบบไหน เข้มอ่อนหวานหอมละมุนลิ้นชื่นใจก็บอกได้เลยครับผม”



“หึหึ” ได้ยินเสียงหัวดังมาจากโต๊ะที่หัวมุมฝั่งขวาไม่ไกลจากบาร์หลุดขำออกมาตอนที่ไอ้น้องนี่มันพูดออกมาแบบนั้น แต่จริงๆผมเองก็อยากขำแต่ฮึบไว้ น้องผู้ชายตรงหน้าหันไปถลึงตาใส่คุณลูกค้าโต๊ะนั้น แล้วขมุบขมิบปากว่า ‘เสือกนัก’



“เอ่อ...พอดีผมมาสมัครงานครับ” ยกมือขึ้นเกาหัวนิดๆแล้วพูดออกมาแบบนั้น ทำตัวไม่ถูกตอนที่เห็นน้องมันด่า



“สมัครงานหรอครับ ร้านเรารับสมัครคนตอนไหนวะ ไม่เห็นจะรู้เลย”



“หื้ม ไม่ได้เปิดรับอยู่หรอครับ”  กูนี่ตาค้างเลย หรือคนเต็มแล้ววะ เจ็บไข่มึงแล้วไอ้เอม ไม่มีที่ไปแล้วตัวกู



“มีอะไรกันหรอข้าว” เสียงของคนมาใหม่ที่เดินออกมาจากหลังร้าน ผู้ชายหุ่นบางรูปร่างผอมสูง ผมยาวประบ่าในตาสีฟ้าอ่อนๆจมูกโด่งและริมฝีปากเรียวสวย เป็นผู้ชายที่สวยเลย มองแล้วตอนแรกคิดว่าผู้หญิงด้วยซ้ำครับ



“เอ่อ ... เค้ามาขอสมัครงานครับ”



“หื้ม สมัครงานหรอ พี่ได้เปิดนี่นา”



“ขอโทษครับ พอดีรุ่นน้องผมบอกมาว่าร้านนี้ต้องการคนเยอะ คือขอโทษที่รบกวนนะครับ ผมอาจจะเข้าใจผิด” ผมบอกออกไปแบบนั้นในตอนที่เห็นทั้งเจ้าของและพนักงานทำหน้างงใส่กัน ... ไอ้ห่าม็อบ มึงทำให้กูดูแย่ ถ้าเจอนะมึง กูจะทุบให้หัวแบะ



“เดี๋ยวๆน้อง รุ่นน้องที่ว่าชื่ออะไรหรอ” พี่เจ้าของร้านคนสวยนั่นเรียกผมไว้ก่อน ก่อนที่จะทันออกจากร้าน



“เอ่อ ชื่อม็อบครับ”



“อ้ออออ” พี่เจ้าของร้านว่าแบบนั้น ก่อนสายตาสวยๆตาน้ำข้าวนั่นจะจ้องมองผมนิ่งๆตั้งแต่หัวจรดเท้า รู้สึกเหมือนถูกแสกนยังไงก็ไม่รู้ว่ะ



“เอ่อ...งั้นผมขอตัวนะครับ”



“เดี๋ยวๆน้อง รับๆๆ พี่ต้องการคนงานพอดีเลย”



“ห๊ะ” งงนิดหน่อยแต่แปลกใจมากๆ พี่เจ้าของร้านที่อยู่ในเสื้อเชิดพับแขนมาไว้ที่ข้อศอกเดินออกมาจากบาร์น้ำแล้วเดินเข้ามาหาผมพร้อมรอยยิ้ม



“ไม่ต้องงงๆ มาคุยเรื่องเงินเดือนกันเลยไหม”



“เดี๋ยวนะพี่ ร้านเราต้องการคนหรอ” น้องพนักงานที่อยู่ตรงเคาเตอร์ตะโกนออกมาแบบนั้น เห็นพี่เจ้าของร้านหันไปถอนหายใจใส่นิดหน่อย



“เสือกน่าไอ้ข้าว”  ผู้ชายที่นั่งอยู่โต๊ะตรงมุมพูดออกมาแบบนั้น เค้าหันไปว่าน้องพนักงงาน คิดว่าน่าจะชื่อข้าว



“ไม่เสือกดิพี่ดิน”



“เดี๋ยวนะมึงนะ”



“พอๆ ไม่เอาอย่าทะเลาะกันน่าสองคนนี้ ว่าแต่เราชื่ออะไร พี่ชื่อโรสนะ”



“เอ่อ ชื่อเอมครับ”



“มาจากชะเอมหรอ”



“ครับ”



“ชื่อน่ารักดีจัง งั้นร้านพี่ก็จะอุดมไปด้วยพืชพรรณน่ะสิเนี่ย มีกุหลาบ มีข้าว แล้วก็มีชะเอมนะ” พี่เค้าพูดออกพร้อมรอยยิ้มใจดใจดี...ผมแปลกใจกับเหตุการณ์นี้นิดหน่อย แต่ถึงแบบนั้นผมก็ดีใจที่ผมได้งานทำแล้ว ...



และที่สำคัญ เงินเดือนก็ไม่เบาเลย อดจะแปลกใจที่ผมทำงานอาทิตย์ละไม่กี่ชั่วโมง เพราะผมติดเรียนแต่ก็ยังได้เงินหนึ่งหมื่นบาทอยู่ดี พี่เค้าให้เหตุผลว่า เพราะผมมีประสบการณ์ในการทำงานที่ร้านกาแฟ



.

.

.


(มีต่อจ้า)
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่43 {08/08/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 08-08-2020 21:17:30



               ผมกลับมาจากร้านกาแฟนั่นตอนหกโมงเย็น กลับมาที่หอที่ผมพักอยู่ในตอนนี้ รู้สึกดีขึ้นหน่อยเพราะผมได้ทำงานแล้ว เวลาผ่านไวอย่างรวดเร็ว นี่เป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์แล้ว หนึ่งอาทิตย์แล้วที่ผมย้ายออกมาอยู่คนเดียวที่หอนี้ และก็เป็นหนึ่งอาทิตย์แล้ว ที่หน้าห้องของผมมีอาหารมาแขวนไว้ พร้อมๆกับน้ำผลไม้ที่คั้นสดใหม่แช่เย็นอย่างดีมาแขวน หยิบข้อความจากโพสอิทขึ้นมาอ่าน เป็นข้อความสั้นๆแบบที่ได้รับมาทุกวัน ‘พี่คิดว่าเอมน่าจะชอบนะ กินเยอะๆ เป็นห่วง’ ผมเก็บข้อความนั้นลงไว้ในกระเป๋าตังค์ ในนั้นมีกระดาษโพสอิทสีชมพูแบบนี้อยู่เจ็ดใบ ... ใช่ เพราะทุกๆเย็นพี่มันจะให้ลุงยามเอามาแขวนไว้แบบนี้เสมอ ...



เปิดกล่องออกมาวันนี้เป็นสปาเก็ตตี้ครีมกุ้งสุดแล้วโรยไข่กุ้งมาด้วย ผมยิ้มออกมาตอนที่เห็นแบบนั้น



“ก็ไม่เห็นต้องทำขนาดนี้เลยนี่หว่า” พูดกับตัวเองแบบนั้น แต่จริงๆในใจผมก็สั่น ผมคิดถึงพี่มันมากๆเลย อยากจะกลับไปกอดมันแน่นๆเหมือนที่เคยทำแล้วบอกว่าพี่เอมคิดถึงมากๆเลยนะ ... แต่เรื่องของพาพวยนั่นมันก็ค้างคาใจของผมมากไปจนทำแบบนั้นไม่ได้ ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเข้าแอพไลน์แล้วส่งข้อความไปแบบที่ผมทำทุกวัน



[[เอม: อร่อยเหมือนเดิมเลย แต่พี่ไม่ต้องทำมาก็ได้]]



[[DANI: เอมไม่อยากกินกับข้าวฝีมือพี่แล้วหรอ]]



แค่เป็นข้อความสั้นๆ แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงนึกออกว่าหน้าตาอีกฝ่ายจะเป็นยังไง ถ้าเป็นหมาก็คงหูลู่หางตกแล้วทำหน้าเศร้านั่งอยู่ในครัวเหมือนทุกทีล่ะมั้ง



[[เอม: ก็แค่กลัวพี่เหนื่อย]]



[[DANI: พี่ไม่เหนื่อย กับเอมพี่ไม่เหนื่อยเลยนะ]]



[[เอม: ครับ งั้นเอมจะรอกิน ... ขอบคุณมากๆนะ]]



[[DANI: เอม]]



[[เอม: ครับ]]



[[DANI: เมื่อไหร่จะกลับบ้านเรา ห้องที่ไม่มีเอมอยู่มันเหงามากๆเลยนะ]]



และคำพูดแบบนี้ ผมก็ได้รับมันมาทุกวัน คำถามที่ผมยังไร้ในคำตอบที่จะตอบออกไป ผมไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ผมจะรู้สึกดีขึ้น ผมไม่มีคำตอบให้ แต่มันอาจจะดีกว่านี้ ถ้าพาพวยหายไปจากชีวิตเราสักทีล่ะมั้ง



               ผมมาทำงานที่ร้านกาแฟตามปกติเหมือนทุกๆวันที่เคยมาทำ เป็นงานสบายมากๆครับ ลูกค้าไม่วุ่นวายเพื่อนร่วมงานก็น่ารัก มันชื่อข้าว รุ่นเดียวกับไอ้อิฐไอ้จูน พูดแล้วก็นึกถึงเลย ต่างกันนิดหน่อยตรงไอ้ข้าวเป็นคนดื้อๆที่ชอบเถียงกับพี่ดิน พี่ดินที่เรียนอยู่ที่มหาลัยนี้ แต่ว่างมานั่งที่นี่เพื่อกวนไอ้ข้าวได้ทุกวัน



“พี่มาทำไมอีกวะ สั่งแก้วเดียวนั่งตลอดไป ไร้มารยาท” ผมได้ยินไอ้ข้าวบ่นออกมาแบบนั้นอีกแล้ว เป็นปกติที่ได้ยินมาตลอด



“พูดมากจังวะ มึงไปเอาอเมริกาโน่ร้อนมาอีกแก้ว”



“แดกไรเยอะแยะขนาดนั้นอ่ะ เดี๋ยวก็ตาตั้งหรอก”



“ไม่ตั้งแต่ตานะ อันอื่นก็ก็ตั้ง”



“เชี่ย ไอ้บ้ากาม!”



“กูหมายถึงผมกูเนี่ยตั้ง เห็นไหมว่ากูเซ็ตผมตั้งมาวันนี้ มึงคิดอะไร ลามก”



“หึ่ย อะไรจะตั้งก็เรื่องของพี่มึงเลยละกัน”



“หึ อีกอย่างกูไม่ได้เอามากินเอง กูสั่งมาให้เพื่อนกูเถอะ”



“แล้วแต่มึงเลยยยย พี่เอม คนบ้าขออเมริกาโน่แก้วนึงพี่”



“โอเค” ผมขำกับการเถียงกันเป็นเด็กๆของทั้งคู่ ถ้าพูดจริงๆจะเรียกว่าชินก็ได้นะ เพราะตั้งแต่ทำงานมาเป็นอาทิตย์ๆก็เห็นมันเถียงกันทุกวันๆ



“เอ๊ะ หมดหรอวะ” ตอนที่จะเอาช็อตอเมริกาโนมาใส่เครื่องชงก็ดันเห็นว่าหมดพอดี “ข้าว พี่ไปเอากาแฟหลังร้านนะ ฝากดูด้วย”



“ได้เลยครับพี่”  ผมยิ้มให้กับเสียงตอบรับอารมณ์ดีของไอ้ข้าว ก่อนจะเดินไปเอาผงกาแฟที่เก็บไว้อย่างดีที่ห้องด้านหลังร้าน



“ผมฝากด้วยนะพี่”



“ทำไม มันมีเรื่องอะไรกันแน่ พี่ไม่เข้าใจเลย แต่ม็อบไม่ต้องห่วงเอมหรอก เอมน่ะทำงานเก่ง พี่ซะอีกที่ต้องขอบใจเรามากกว่าที่หาคนทำงานดีๆมาให้ แต่พี่ไม่เข้าใจว่าทำไม เรามีเรื่องอะไรถึงต้องมาลา”



จริงๆก็ตั้งใจว่าจะเดินเลี่ยงๆออกไปเงียบๆ แต่ติดตรงชื่อของผมที่มันดันดังมาเข้าหูซะก่อน พี่โรสกำลังคุยกับใครบางคนอยู่ และคนๆนั้นผมก็คิดว่าไอ้ม็อบ ว่าแต่ลา ลาเรื่องอะไรกันวะ....ผมทรุดตัวลงนั่งหลบลงด้านหลังลังไม้ที่เอาไว้ใส่เมล็ดกาแฟสด พี่โรสกำลังคุยกับไอ้ม็อบอยู่ที่สวนด้านนอก จริงๆแล้วเป็นสวนด้านนอกที่เชื่อมกับลานจอดรถข้างๆร้าน เค้าไม่ได้มองมาทางผม แต่ผมมองเห็นพวกเค้าจากช่องแคบๆของลังไม้ ไม่ต้องห่วงนะ เรื่องเสือกสกิลไอ้เอมแข็งแกร่งมาก



“ผม...ผมคงต้องไปอยู่ที่อื่นสักพัก”



“ทำไม พี่ไม่เข้าใจ ไอ้แม็คฝากเราไว้กับพี่นะ ม็อบมีอะไรก็บอกพี่สิ” เสียงพี่โรสพูดออกมาอย่างกังวลใจ ว่าแต่แม็คไหนอีกวะ แม็คนั่มหรือเปล่า ว่าแล้วก็อยากกินไอติมเลย หรือจะเป็นแมคโดนัล สวัสดีครับเฟรนฟราย ทอดกรอบอร่อยดี เค็มถูกใจไตถูกตัดในเวลาต่อมาหรือเปล่าเอ่ย



“พี่แม็คก็ตายไปนานแล้ว พี่โรสเองก็ดูแลผมมานานแล้ว พี่ไม่ต้องดูแลผมแล้วนะ”



“ไม่ดูแลได้ไง ปล่อยให้เราไปทำงานกับไอ้อานนท์เหมือนไอ้แม็คน่ะหรอ...เดี๋ยวก็จบลงเหมือนไอ้แม็คหรอก หรือยังไง หรือว่าที่ม็อบจะมาลาพี่เพราะมีเรื่องเกิดขึ้นจริงๆ” 



อานนท์ไหนอีกวะ



“ผม...”



“ม็อบ บอกพี่มาเถอะ ถ้ามีอะไรที่พี่พอจะช่วยได้ พี่จะช่วยม็อบเองนะ พี่เห็นเราเหมือนน้องแท้ๆ”



“พี่ช่วยดูแลเอมดีๆก็พอแล้วพี่ แค่นั้นก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ผมอยากได้มากที่สุดแล้ว”



“เราชอบเอมหรอ”



“หึ...ถึงผมชอบ เค้าก็ไม่ชอบผมหรอกพี่”  มองจากมุมนี้มองเห็นไอ้ม็อบที่ดูจะซูบผอมลงมากกว่าเดิม ทุกทีผมจะชอบเห็นมันแต่งตัวแบบลุคคุณหนูๆ แต่งตัวผู้ดี มีแต่ครั้งที่แล้วและครั้งนี้ที่ดูแต่งตัวเก่าๆโทรมๆ



“และยิ่งเรื่องที่ผมพึ่งทำมา ถ้าเค้ารู้เค้าก็คงจะยิ่งเกลียดผม...ก็ผมไปทำกับแฟนเค้าซะขนาดนั้นนี่หว่า เอมน่ะเป็นคนดีนะพี่โรส แล้วเค้าก็รักแฟนเค้ามากๆด้วย”



หัวใจของผมสูบฉีด เต้นรัวในตอนนี้ ไม่รู้ทำไมแต่มือของผมมันกลับเย็นขึ้นมา ได้แต่กำมือแน่นๆแล้วนั่งให้เงียบที่สุดอยู่ตรงนี้ มันบอกว่ามันทำกับแฟนผม แฟนผมคือใคร...จะเป็นใครไปได้อีกนอกจากพี่ดาบ มันหมายความว่าอะไร ไอ้ม็อบจะไปทำอะไรพี่ดาบ



“แฟนเอมเกี่ยวอะไรอีก พี่งงไปหมดแล้วนะ นี่เราทำอะไรมากันแน่ หรือไอ้อานนท์มันสั่งให้ทำอะไร” เสียงพี่โรสร้อนรนมากขึ้นในตอนนี้ ไม่ต่างจากใจของผมที่เหมือนกำลังถูกเผา



“คือผม...”



“ก็รีบๆบอกไปสิ ชักช้าอยู่ได้ บอกแล้วจะได้รีบกลับสักที” เสียงของคนมาใหม่ที่ดังขึ้นทำเอาผมทั้งหัวของผมชาหนึบ แค่เสียงผมก็จำได้ดีว่าเป็นใคร



“ถ้าพี่อยากรู้มากนักผมจะบอกให้ก็ได้ ผมก็แค่ให้ไอ้ม็อบไปช่วยถ่ายคลิปตอนที่ผมจะมีอะไรกับแฟนของไอ้เอมให้ไง แล้วมันก็ส่งข้อความไปให้ไอ้เอมนั่นดู”



“เห้ย! นี่หมายความว่าไง มันคืออะไรกัน เราทำจริงๆหรอม็อบ!” พี่โรสขึ้นเสียงดังในตอนนี้ ดูจะผิดหวังกับน้องชายตรงหน้าของเค้ามากๆ ไม่ต่างจากผมที่รู้สึกเสียใจมากๆเช่นกัน เสียใจจนต้องกำมือแน่นๆ เอาเล็บจิกเข้าไปในเนื้อตัวเองแน่นๆเพื่อตั้งสติไม่ให้ถีบกล่องหลังแล้วพุ่งไปถีบหน้าพวกมันทั้งหมด



“พอได้แล้วพาย ผมไปก่อนนะพี่โรส” ม็อบมันรีบบอกพี่โรสแบบนั้นแล้วจะผละหนี



“เดี๋ยว! พี่ไม่ให้ไป ม็อบบอกพี่ก่อน เราทำจริงหรอวะ ห๊ะ!”



“ทำจริงๆครับพี่ครับ แล้วก็ไม่ใช่แค่นี้ บอกไปสิว่าแก้วไวน์ที่กูส่งให้ดานี่กินในคืนนั้น มึงเองก็เป็นคนเอาเอ็กส์ตาซีใส่ลงไปในแก้วนั่นเองกับมือก่อนที่จะให้บ๋อยเอามาเสิร์ฟให้ฉันน่ะ”



เอ็กส์ตาซี



“เอ็กส์ตาซี คืออะไร นี่ทำอะไรกัน”



“โถ่เอ้ย ก็ยาอีไงพี่ บอกไว้ให้รู้นะว่าน้องชายพี่ไม่ได้ใสซื่อหรอก มันก็ยุ่งกับยาพอๆกับไอ้แม็คนั่นแหล่ะ”



ยาอี ... ยาเสพติดหรอวะ



มันเอายาเสพติดใส่ให้พี่ดาบกินหรอวะ



ผมที่ตาเบิกค้าง พร้อมๆกับที่น้ำตาไหลลงมาช้าๆ ไม่มีเสียงร้องสักนิดแต่ใจผมปวดไปหมด ... นึกย้อนไปถึงวันนั้น วันที่มันกลับมาหาผมด้วยสภาพไม่สู้ดี อารมณ์ขึ้นๆลงๆของมันที่พยายามจะยิ้มให้ผม แล้วบอกว่ามันไม่รู้แต่มันขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น แล้วมันจะรู้ได้ยังไง มันจะรู้ตัวยังไงในตอนที่มันโดนยาแบบนั้น มันมีสติอยู่ได้ก็ถือว่าดีแค่ไหนแล้ว ... น้ำตาผมไหลลงมาอย่างห้ามไม่อยู่ ทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้ พี่ดาบจะเป็นยังไงบ้างในตอนนี้ มันจะติดหรือเปล่ากับไอ้ยานรกพวกนี้...



ผมเป็นห่วงเค้า คนที่ผมทิ้งมาแต่มันก็ยังเรียกหาให้ผมกลับไป



“พอสักทีพาย! พี่โรสผมขอโทษ ผมไม่มีทางเลือกพี่....ไปกันได้แล้ว”



“พวกมึงจะไปไหน! มึงคิดว่ากูจะให้พวกมึงไปง่ายหรอวะ!”  ผมที่ลุกขึ้นยืนในตอนนี้ ไม่เหลือความกลัวใดๆแล้วนอกจากความแค้น ผมโกรธ ผมเสียใจ และผมก็เป็นห่วงใครอีกคน ... ไอ้พวกที่อยู่ตรงหน้าผมในตอนนี้ พวกมันทั้งหมดเป็นต้นเหตุทุกอย่าง



“พี่เอม”



“ไอ้เอม”



“เออ! กูเอมเอง คนที่มึงกล้ามาทำร้ายแฟนกูไง” ยกเท้าถีบกล่องลังกาแฟจนมันบลิวออกไปไกลจนถึงไอ้ม็อบกับพระพายที่ถอยหลบเกือบไม่ทัน พี่โรสที่มองมาทางผมอย่างตกใจ



แต่ไม่มีทาง ผมไม่มีทางยกโทษให้กับพวกมันเด็ดขาด



“เหอะ มาได้ยินจนได้ ซวยชะมัด” พาพวยว่าแบบนั้นแล้วแค่นยิ้มออกมานิดหน่อย หน้าตาตอนนี้ของพาพวยทำเอาผมแทบจะจำไม่ได้ เค้าที่ตาดำคล้ำไม่สดใสแบบที่เคยเห็น พูดกันตรงๆก็เหมือนคนติดยา



“ทำแบบนี้ทำไมวะ พี่ดาบทำอะไรให้พวกมึง!” ผมก้าวเข้าไปหาพวกมันแบบไม่ไหวจะทน ไอ้ม็อบที่ก้าวเท้ามายืนขวางผมกับพาพวย



“เอม ผมขอ”



“มึงขอกูหรอ ได้!”



‘ตุบ ผลึก’



ยกขาขึ้นถีบเข้าที่กลางท้องน้อยของมันแรงๆหนึ่งทีจนมันเซถอยหลังลงไปกองที่พื้น พี่โรสตะโกนออกมาด้วยความตกใจ ก่อนที่จะรีบวิ่งไปเข้าไปดูไอ้ม็อบ



“ส่วนนี่ของมึง”



‘ผลั้วะ ตุบ ตับ’



ผมถีบเข้ากลางท้องน้องของพาพวยเต็มแรง คนตรงหน้าผมเดิมทีก็ผอมกว่าผมอยู่แล้ว แต่สภาพที่ผมเห็นตรงหน้าในตอนนี้ก็ยิ่งไม่น่าจะสู้ผมได้ มันที่ทรุดลงไปกองกับพื้นถูกผมคล่องลงไปในตอนนี้แล้วต่อยเข้าไปที่หน้าเล็กๆนั่นแบบไม่ยั้ง ตั้งใจต่อยเข้าที่ปากจนหน้าสะบัด แล้วต่อยซ้ำอีกครั้งเข้าที่เบ้าตาแรงๆ แรงเท่าที่ความรู้สึกเจ็บในใจของผมจะมี



“ทำทำไม! ทำกับพี่ดาบทำไม ไอ้เหี้ย!”



‘ผลั้วะ’



หมัดที่สวนมาจากคนใต้ร่างที่ซัดเข้าเต็มๆหน้าของผม ไม่ถึงกับมึง แต่คิดว่ามันต้องเขียวช้ำแน่ๆ อีกคนผลักตัวผมออกแล้วลุกขึ้น



“ทำกับดาบหรอ! ดานี่สิที่ทำกับฉัน!! เค้าต่างหากที่ทำกับฉัน!” พาพวยลุกขึ้นแล้วตะโกนออกมาเสียงดัง คนตรงหน้าที่จ้องหน้าผมเขม็งแม้ว่าเลือดจะกลบปากแล้วตาก็เริ่มบวมปูด



“พี่เค้าทำอะไรมึง! เค้ารักมึงมากๆด้วยซ้ำ!!”



“เค้าเลิกรักกูก็เพราะมึงไง เพราะมึง ถ้าไม่มีมึง ดานี่ก็ต้องกลับมาหากู กลับมาพากูออกไปจากชีวิตบ้าๆนี่!” พาพวยตะโกนออกมาเสียงดังในตอนนี้ ดูเหมือนคนไม่มีสติเท่าไหร่ แต่น้ำตาก็ไหลลงมาตอนที่ตะโกนเถียงผม คำพูดเห็นแก่ตัวของคนตรงหน้าที่ทำให้ผมต้องกำมือแน่น



“ชีวิตมึงบ้า มึงเลยพยายามจะวิ่งหาที่พึ่งงั้นหรอวะ แล้วที่พึ่งที่สุดท้ายที่มึงนึกถึงก็คือพี่ดาบหรอวะ มึงแม่งเห็นแก่ตัวพระพาย” ผมจ้องหน้าเค้าเขม็งในตอนนี้  แต่คนตรงหน้ากลับสะแหย่ะยิ้มออกมาแบบไม่สะทกสะท้าน



“แค่เพราะอยากให้กูเลิกกันมึงต้องใช้ยากับเค้า ยาเสพติดเนี่ยนะ”



“แล้วไง แค่มึงออกไปได้เค้าก็จะกลับมาหากู”



“ถุย! สมองหมาปัญญาควายมักง่ายเห็นแก่ตัวแบบมึงใครมันจะไปรัก พี่ดาบมันไม่โง่เหมือนมึงหรอกนะที่จะสมองน้อยกลับไปหาคนแบบมึง เค้ารักกู!”



“ไม่จริง! มึง!...”



‘ผลั้วะ’



“คนแบบมึงมันต้องไม่ตายดีไอ้พาย! มึงต้องตายเพราะส้นตีนกู!” ผมหมุนตัวเตะเข้าที่ปลายคางพระพายจนอีกคนกลิ้งลงไปกับพื้น สภาพจะสลบแหล่ไม่สลบแหล่ที่มองเห็นในตอนนี้ ผมก้าวขายาวๆจะตรงไปซ้ำอีก แต่ติดท่ามือของใครอีกคนที่วิ่งมาจับกัน



“พี่เอม อย่า ผมขอ” .... ไอ้ม็อบ ผมจ้องหน้ามันในตอนนี้ มองมันเหมือนคนที่ไม่เคยเห็น ดึงแขนตัวเองออกมาจากมือของมัน



“อย่ามาเรียกกูว่าพี่ กูไม่มีน้อยเหี้ยแบบมึง!”



“พี่เอม”



“มึงทำได้ยังไง ร่วมมือกับมันทำเรื่องเหี้ยๆแบบนี้ได้ยังไง!!” ผมจ้องมันเขม็งทั้งๆที่น้ำตาไหล ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้ชอบมันแบบคนรัก แต่ก็มองว่ามันเป็นน้อง เป็นคนดีคนนึงที่ผมได้รู้จัก แต่จากสิ่งที่มันทำในตอนนี้



“พี่เอม ผมไม่ได้ตั้งใจ”



“กับคำว่าไม่ได้ตั้งใจของมึง มันทำให้มีคนพังไปกี่คนไอ้เฮงซวย”



‘ผลั้วะ’



ยกมือขึ้นต่อยหน้ามันแรงๆอีกทีจนหน้าหัน แต่มันก็ไม่คิดจะยกมือขึ้นมาสวนผม มันหันกลับมามองหน้าผมช้าๆ มีแววเสียใจบนใบหน้าของมัน แต่ผมไม่สนใจ



“อย่ามาเรียกกูว่าพี่ แค่เป็นคนเคยรู้จักกัน กูก็ยังไม่อยากจะเป็นเลย”



“พี่เอม”



ยกมือผลักไหล่มันให้ถอยหนี ก่อนที่ผมจะหันกลับไปหาพระพายที่ตอนนี้กำลังคลานหนีออกไปด้วยสภาพที่หน้าอนาถ แต่ถึงแบบนั้นผมก็ยังตั้งใจจะตามไป แต่คนที่กำลังคลานไปได้ไกลพอประมาณก็ชะงักการคลานนั้น ใบหน้าที่เปรอะเปลื้อนไปด้วยเลือดชะงักอยู่ที่ปลายเท้าของใครอีกคน ...



“ช...ช่วยด้วย ผม...ผมโดนทำร้าย”  พระพายพูดออกมาแบบนั้น แค่ได้ยินก็โมโห ตอแหลนัก!



“ไม่จริงนะครับ มันนั่นแหล่ะที่ทำร้ายคนอื่น” ผมพูดออกมาแบบนั้นแล้วก้าวยาวๆเข้าไปหา คนมาใหม่ที่อยู่ในชุดนักศึกษาละสายตามาจากหน้าของพระพายแล้วมองมาที่ผมนิ่งๆ สายตานิ่งๆที่ทำให้ผมรู้สึกเสียววาบไปทั้งตัว เค้าไม่พูดอะไร แต่ยกมือถือขึ้นมากดอะไรสองสามทีก่อนจะละสายตาจากจอมามองหน้าผมแล้วยกยิ้มมุมปากก่อนจะเก็บมือถือลงในกระเป๋ากางเกง



“เห้ย!ไอ้รุก มีเรื่องอะไรกันวะมึง” เสียงพี่ดิน ลูกค้าคนประจำที่ชอบมานั่งทะเลาะกับไอ้ข้าววิ่งออกมาจากในร้านแล้วพูดขึ้นมาแบบนั้น



“มึงมาก็ดี”  คนที่ชื่อรุกพูดขึ้นแบบนั้นก่อนจะปรายสายตาไปมองพี่ดิน



“กูยืมมือถือหน่อย”



“ห๊ะ! มึงจะโทรออกหรอวะ”



“เออ จะโทรหาเฮีย จะบอกว่าพี่สะไภ้กูบู๊อยู่” เค้าที่ว่าแบบนั้นแล้วหันกลับมามองผมนิดๆแล้วยกยิ้มมุมปาก



“เมียเฮียดาบสินะ”



“ห๊ะ” ผมที่เบิกตาค้างตอนที่ได้ยินแบบนั้น ... อย่าบอกว่านี่ญาติอิเจ๊พี่มันนะ



“เอามา กูจะโทร”



“มือถือมึงล่ะวะ”



“แบตหมดแล้ว ไวๆ” รุกหันไปกระดิกนิ้วใส่พี่ดินเพื่อขอโทรศัพท์ หน้าตาที่กำลังไม่สบอารมณ์ขมวดคิ้วนิดๆพรางล้วงกระเป๋าไปด้วย พาพวยที่เห็นแบบนั้น พยายามจะลุกหนี แต่ติดตรงที่ในตอนนี้รุกยกเท้าขึ้นเหยียบลงไปที่กลางหลังอีกคนแรงๆจนหน้าแนบไปกับพื้น



“อึก ... ปล่อย!”



“กูปล่อยก็โง่” แสยะยิ้มแล้วปรายตาไปมองด้วยสายตาเย็นๆ ก่อนจะรับโทรศัพท์มาจากพี่ดินที่ไม่เต็มใจเท่าไหร่



“อย่านานนะ กูเหลือเงินในโทรศัพท์สามบาท”



“หัดเติมมั่งเหอะเงินน่ะ”



“คนขอยืมกูมีสิทธิ์พูดแบบนี้หรอไอ้สัด”  พี่ดินว่าออกมาแบบนั้น เหมือนอยากจะด่ามากกว่านั้นแต่รุกกลับไม่ฟัง ทำแค่กรอกเสียงลงไปปลายสายแบบสั้นๆกระชับ



“ฮัลโหล อยู่กับเมียเฮีย เมียมึงบู๊เก่งมากจับกิ๊กเก่ามึงได้ สภาพเละเทะ และมันสารภาพละ...เป็นยาอี อืม เดี๋ยวพาตัวไป แค่นี้นะ”



“ไปด้วยกันนะครับ...เฮียดาบมันคิดถึงน่าดูแล้วล่ะ”



คนตรงหน้าที่ว่าออกมาแบบนั้น ยกยิ้มให้ผมน้อยๆ ... ผมเองก็ไม่ต่าง ผมคิดถึงและเป็นห่วงพี่มันมากๆจนจะไม่ไหวแล้ว





--------------To be continued------------



เอาล่ะจ้าาา มาแล้ววววว....มา ขอเชิญคนอ่านที่ยังอยู่ด้วยกันกรีดร้องพร้อมๆกัน

ขอต้อนรับน้องเอมสายบู๊ ใครว่าลูกหนูอ่อนแอขอให้พักก่อนจ้าาา น้องจะสู้เมื่อถึงเวลาที่ต้องสู้

จริงๆแคทชอบคาแลคเตอร์ของตัวละครในเรื่องนี้มากๆเลย แคทตั้งใจวางไว้แบบนี้ แต่มันอาจจะถูกใจและไม่ถูกใจใครไปบ้าง

ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะคะ แคทอยากให้ลองกลับไปอ่านที่เดียวกันอีกทีเผื่อจะรู้สึกสนุกขึ้นน้า

แต่ถ้าไม่สนุกและไม่โอเคกันจริงๆ แคทต้องขอโทษนะ ขอโทษจริงๆเลยค่ะ

ขอโทษที่เข้าไปเป็น มะริ่งกิ่งก่อง สะระน๊องก่องแก่ง มะน่องมะแน่งมั๊บ ปะล่องป่องแป่ง ง้องแง้งง้องแง้ง ในชีวิตการอ่านเธอ

ฮิฮิ...นิยายเรื่องนี้ใกล้จะลาจอไปแล้ว เหลืออีก2ตอนจะจากกันไปแล้ว

ขอบคุณคนอ่านที่ยังอยู่ด้วยกันและร่วมลุ้นไปด้วยกันในทุกๆตอน

สัญญาว่าจะพยายามอย่างเต็มที่ให้พี่ดาบและน้องเอม ทำให้ทุกคนยิ้มได้ในทุกครั้งที่มาเปิดอ่านค่ะ

*เกร็ดความรู้* เอ็กส์ตาซี หรือยาอี หรืออีกชื่อที่เหล่านักท่องราตรีรู้จักกันในชื่อว่ายาเลิฟ

เป็นยาเสพติดที่ออกฤทธิ์ทั้งกระตุ้นและหลอนประสาทที่มีฤทธิ์แรงกว่ายาบ้า นิยมนำมาใช้กับเซ็กส์สำหรับพวกนักท่องราตรี

ทำให้ผู้คนเกิดอาการหลอน และมีอารมณ์ทางเพศขึ้นอย่างรุนแรง ทำให้อวัยวะเพศแข็งตัว แต่มักจะทำกิจกรรมทางเพศได้ยาก

เพราะถึงจะแข็งตัว แต่ก็เสร็จกิจได้ยากค่ะ (ดังเช่นอาการแบบพี่ดาบในเรื่องค่ะ)

แคทพยายามหาข้อมูลอย่างเต็มที่ จริงๆแล้วมีคนอ่านจากทั้ง4เว็บที่แคทลง มี2ท่านที่ตอบเข้ามาว่าต้องเป็นยาเสพติดแน่ๆ

แต่เป็นยาLSD จริงๆตอนแรกตั้งใจจะเขียนLSDจริงๆค่ะ แต่ว่าLSDมักมาในรูปแบบของกระดาษแปะลิ้น

แคทเลยลงข้อมูลไปที่ยาอีแทนค่ะ

ถ้าผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

ฝากแฮชแทค #สวยๆเป็นผัว ด้วยน้าาาา

หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่43 {08/08/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 08-08-2020 23:59:30
 :pig4: :pig4: :pig4: หนูเอมเก่งมากลูก
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่43 {08/08/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 09-08-2020 07:12:36
โอ้ยยยย ชะเอมลูกแม่ ซัดอิพาพวยหมอบเลยจ้าาา o13 o13 :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่43 {08/08/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 09-08-2020 09:29:27
หมดดราม่าแล้วเนาะ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่43 {08/08/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Austin ที่ 09-08-2020 22:11:21
มาต่ออีกคุณพี่ มาต่ออีกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่43 {08/08/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Chucream.nabi ที่ 09-08-2020 22:37:59
 :laugh: เอออ!!!! มันต้องงี้ดิ เตะไม่ต้องยั้งเลยยยยย
 :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่43 {08/08/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 09-08-2020 23:07:48
น้องเอมฟาดพาพวยได้สะใจแม่ยกมากค่ะลูก  :katai2-1:

ทีนี้ก็กลับไปหาอิเจ้พี่มันได้แล้วนะ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่43 {08/08/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 21-08-2020 18:55:35
 o13 น้องเอมฟาดมันเผื่อมอิฉ้านด้วนะค้าาาา เอาให้อิพาพวยเจ็บหนัก ๆ เลย
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่44.1 {22/08/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 22-08-2020 21:09:34
บทที่44


               ตื่นออกจากคอนโดมาตั้งแต่เช้าๆ เอาจริงๆคือตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตั้งแต่ตีห้าครึ่ง แล้วบึ่งรถออกมาถึงหอพักของไอ้เสือตอน6โมงใกล้จะ7โมงเช้า ทั้งๆที่กูก็โดนถีบออกมาจากห้องด้วยฝ่าตีนของมันเมื่อคืนนี้ ... เป็นแฟนที่เอาแต่ใจฉิบหาย แต่ถึงแบบนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าผมเองก็ตามใจมันอยู่ดี



“เฮ้อ ให้มันได้แบบนี้สิวะไอ้เก้อ” ยกมือขึ้นเกาหัวตัวเอง เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ ง้อใครสักคนแบบนี้ ทั้งๆที่ตอนนี้กูกำลังแสดงตัวเป็นคนดีที่สุดในโลกเลยนะเว้ย ทำไมแม่งไม่เข้าใจวะ ปัดโถ่



‘ก๊อก ก๊อก’



ได้แต่ยืนเท้าแขนกับกรอบประตูหน้าห้องของไอ้เสือแล้วเคาะเบาๆ ผ่านไปสองสามนาที แม่งยังไม่มีวี่แววขยับตัวจากคนด้านใน ... ยังไม่ตื่นหรอวะ



‘ก๊อก ก๊อก’



ลองเคาะอีกสองที แต่ก็ยังเงียบ ยกมือขึ้นมาดูเวลา นาฬิกาบอกกูว่าเจ็ดโมงสิบ ไอ้เสือที่ไม่มีเรียน ก็คือนอนเหมือนซ้อมตายครับ เป็นปกติของมันถ้าวันไหนไม่มีเรียนก็อย่าฝันว่ามันจะงัดตัวเองขึ้นมาแต่เช้า วันนี้ก็คงไม่ต่างกัน



‘คลิ๊ก’



ยกยิ้มมุมปากกับตัวเองตอนที่ใช้กุญแจไขเข้าไปได้เรียบร้อย ... ผมมีกุญแจสำรอง ก็ไอ้เสือมันให้ไว้ตั้งนานแล้ว ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่อยากจะบีบคั้นกันแบบนี้หรอกครับ แต่ทำไงได้ล่ะ ในเมื่อน้องเสือมันดื้อขนาดนี้



บรรยากาศภายในห้องที่ตกอยู่ในความเงียบ ห้องทั้งห้องยังคงตกอยู่ในความมืดไม่มีแสงใดๆลอดเข้ามา เพราะประตูระเบียงก็ยังคงปิดเอาไว้เหมือนเมื่อคืน มองไปที่เตียงนอน มองเห็นก้อนกลมๆก้อนนึงนอนนิ่งๆอยู่บนเตียงแบบไม่มีพิษมีภัยอะไรเลยครับ ต่างจากเวลามันตื่นแล้วชอบทำตัวดื้อ ตัวแสบ มือหนักตีนหนักนัก เดินเข้าไปใกล้แต่ไอ้เสือก็ยังไม่รู้เรื่องอะไร เห็นแบบนี้แล้วกูได้แต่ส่ายหัวเลย ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ผมเข้ามาจะเป็นยังไงกันวะ นอนเหมือนซ้อมตายแบบนี้น่ะ แก้มของมันที่บี้ลงไปบนหมอน ดูเหมือนว่ามันจะอ้วนขึ้นนิดหน่อย พอเป็นแบบนี้แล้วเลยยิ่งดูเหมือนมันดื้อขึ้นไปอีก



“ไอ้เด็กเสือเอ้ย”  เอื้อมมือขึ้นไปลูบแก้มมันเบาๆ ปัดปรอยผมที่ละอยู่ข้างแก้มของมันออกจนเห็นแก้มขาวๆ



ใช่ครับ ไอ้เสือมันขาว เป็นคนผอมสูง รูปร่างสมสวน มีกล้ามเนื้อพอประมาณแบบผู้ชายที่ดูแลตัวเอง หุ่นลีนๆของมัน แต่ทั้งหมดทั้งมวลนั่นจุดเด่นของมันที่ทำให้ละสายตาไปไม่ได้เลยก็คือ...ขาวฉิบหาย



“ขาวจังวะ”



‘ฟอดดดด’



อดใจไม่ไหวต้องกดจมูกลงไปบี้กับแก้มมันอย่างหมั่นเขี้ยว เอาให้แก้มแม่งยู่ ถ้าทำได้กูอยากจะหอมให้แก้มมึงติดจมูกขึ้นมา



“อื้ออ”



ไอ้เด็กที่นอนแล้วถูกรบกวนย่นคิ้วเข้าหากันพร้อมส่งเสียงออกมาแบบนั้นเหมือนกำลังรำคาญที่มีคนมากวนมัน



“เดี๋ยวมึงได้โดนกวนกว่านี้แน่ถ้ามึงยังไม่ตื่น” ยื่นหน้าเข้าไปกระซิบข้างๆหูมันเบาๆ พ่นลมหายใจรดแก้มของมันแบบที่เรียกได้ว่ากูตั้งใจมากๆ  อดไม่ไหวที่ต้องเผลอยกยิ้มขึ้นมาตอนที่เห็นแก้มใสๆเหมือนจะขึ้นสีเพราะถูกความร้อนจากลมหายใจของผมเป่ารดแบบนั้น น่ารักดี เวลาที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรแบบนี้มันโคตรน่าแกล้ง



“น้องเสือ” เรียกชื่อมันอีกครั้งเบาๆ ในตอนนั้นที่ผมก็วางแขนทั้งสองข้างคล่อมตัวของมันไว้ กระซิบเบาๆแล้วเห็นมันขมวดคิ้วนิดๆเหมือนคนที่เริ่มรู้สึกตัว เลื่อนมือตัวเองไปดึงผ้าห่มที่คลุมตัวของมันออก โยนทิ้งลงไปที่ปลายเตียงมันทั้งแบบนั้น ตาเรียวของไอ้เสือที่เริ่มกระพริบในตอนนั้นบอกให้รู้ว่าอีกไม่นานมันจะตื่น



“หึ” หัวเราะเบาๆในตอนที่วางมือลงบนเอวของมันอย่างจงใจ



“อื้อ”



“ขี้เซาจังวะ” ว่าแบบนั้นแล้วเลื่อนหน้าลงไปจูบปากมันเบาๆ ไอ้เสือที่ขมวดคิ้วแล้วในตอนนี้ ก่อนที่ตาสวยๆแบบที่ผมชอบเห็นเวลามันถลึงตาใส่กันจะค่อยๆปรือตาขึ้นมาช้าๆ



“อื้ออ อะ...ไอ้พี่เก้อ”



“อรุณสวัสดิ์ครับน้องเสือ”



“ไม่ มึง...อื้อออ” ก้มลงประกบปากมันอีกครั้ง เอาให้มันอ้าปากด่ากูไม่ทัน เพราะมันแค่เห็นหน้ามันก็ขมวดคิ้วใส่กัน กูรู้ทันมึงครับน้องเสือ ... ไล้มือจากเอวของมัน สอดมือเข้าไปใต้เสื้อนอนตัวบางที่ค่อนข้างจะย้วยและขาดเป็นรูของมันอย่างตั้งอกตั้งใจ ลากผ่านเอวบางที่พอมีกล้ามเนื้อก็รู้สึกได้เลยว่ามันเกร็งตัวใส่ ลมหายใจที่ขาดห้วงของมันทำเอาผมยกยิ้มมุมปาก



“ไอ้...อื้ออ” สะกิดยอดอกเบาๆตอนที่มันอยากจะด่ากัน ผละหน้าออกมายิ้มให้มันตอนที่เห็นแบบนั้น น่ารักว่ะ...ไอ้เสือตัวแสบที่แพ้ผมทุกทีตอนอยู่บนเตียง



“ไอ้อะไร จะด่าอะไรกูอีก เมื่อคืนยังถีบกูด้วย กูจำนะครับ” ยกยิ้มมุมปากส่งไปให้มัน เอื้อมมืออีกข้างขึ้นไปจับแขนสองข้างของมันรวบไว้เหนือหัว  ไอ้เสือหอบหายใจเบาๆปรือตามองหน้ากันทั้งๆที่น้ำตาคลอ



“ทำเหี้ยอะไรของมึง สัดพี่เก้อ K ลงไปจากตัวกูนะ ไม่งั้นกูจะถีบมึงอีกรอบ!” เป็นประโยคแรกที่แสนจะหวานจากแฟนกูครับ มันน่าไหมล่ะ



“จะถีบกูหรอ ไหนบอกให้เอามึงไง”



“กูไม่ให้มึงเอาอีกแล้ว ต่อจากนี้ มึงลงไป ฮึ่ย!” แค่พูดถึงมันก็อารมณ์เสียแล้วครับ ขายาวๆของมันที่ดิ้นไปมาบนเตียง จริงๆมันตั้งใจจะยกขึ้นมาถีบผมแหล่ะ แต่ทำไม่ได้ เพราะตอนนี้ผมขึ้นมาคล่อมทับตัวมันไว้ ขาของมันก็โดนล็อคมันเลยยกขึ้นมาถีบกันแบบใจคิดไม่ได้



“โกรธกูอะไรขนาดนั้นอ่ะครับ”



“อย่ามาพูด อย่ามาจับกู ปล่อยนะโว้ยไอ้สัดพี่เก้อ”



“มึงอยากจะให้กูเอาอะไรขนาดนั้น หื้ม”



“กูไม่ได้อยากให้มึงเอาแล้วโว้ย ลงไปจากตัวกู” โวยวายเสียงดังมากขึ้นกว่าเดิม ชนิดที่แบบว่ามันไม่สนใจเลยว่าห้องข้างๆจะได้ยินหรือเปล่า เห็นแบบนั้นแล้วผมถึงกับต้องส่ายหัวเลยครับ เอ็นดูเด็ก



“กูไม่ลง”



“ไอ้หน้าด้านนิ!” ถลึงตาใส่กูแบบโมโห แล้วดูมันด่ากัน ตลกว่ะแม่ง อดใจไม่ไหวครับ หมั่นเขี้ยวจนต้องก้มลงไปหอมแก้มมันแรงๆอีกทีที่ข้างซ้าย



“อ๊า ไอ้เหี้ยพี่เก้อ อ๊ากกก อย่ามาหอมกูน้า”



“กูจะหอม มึงจะทำไม” ยักคิ้วใส่ตอนที่พูดออกไปแบบนั้น คิดว่าคงเป็นภาพที่เรียกได้ว่ากวนตีนกันมากๆจนไอ้เสือแทบใจขาด อยากจะลุกขึ้นมาถีบผมให้กลิ้งแน่ๆ แต่มึงฝันเลยครับ กูจดจำไว้ทุกฉากเพื่อจะมาจัดการมึงในวันนี้เลยไอ้เด็กดื้อ



“แก้มกู กูไม่ให้หอม”



“เรื่องมึง เพราะกูเคยหอมมาแม่งทั้งตัวละ”



“เพราะมึงเคยแล้ว มึงเลยไม่อยากทำแล้วใช่ไหมล่ะ สันดาน” หื้มมม...เดี๋ยวนะ



ก้มหน้าลงมองไอ้เด็กข้างใต้ตัวผมนิดๆ มันที่ถลึงตาใส่กันตอนที่พูดออกมาแบบนั้น ไม่ได้มีแววตาอ่อนแอแบบในนิยาย มันก็เป็นแค่ผู้ชายคนนึงที่สู้เต็มที่ โดยเฉพาะพร้อมที่จะสู้กับคนอย่างผม แต่ไม่คิดเลยว่าจะได้ยินอะไรแบบนี้ออกมาจากปากของมัน ประโยคคำพูดเสียงดังๆที่น้ำเสียงไม่ได้ดูมีแววน้อยใจ แต่ถ้าลองเรียบเรียงฟังดีๆ ... มันน้อยใจใช่ไหมวะ



“พูดแบบนี้น้อยใจหรอวะ”



“สัด ใครน้อยใจ Kเถอะ”  โอเค ด่าระรัว ไม่น้อยใจหรอกจริงๆ ถลึงตาใส่กูด้วยครับ



“ไม่ใช่ไม่อยากทำ ไม่ใช่ว่าเคยทำแล้วเลยเบื่อ”  พูดออกไปแบบนั้น เลือกที่จะอธิบายให้มันฟังอย่างใจเย็น แม้ว่าท่าทางของเราจะค่อนข้างล่อแหลม



“งั้นแล้วทำไมพี่มึงไม่ทำ”  ไอ้เสือที่เมื่อกี้หันหน้าหนี มันหันกลับมามองหน้ากันแล้วถามเสียงแข็ง ท่าทางที่อยากรู้แบบสุดๆแบบนั้นทำเอาผมอดจะยิ้มขำออกมาไม่ได้ มันจริงจังของมันมากๆครับ



“ขำทำเหี้ยอะไร”



“ใจเย็นๆก่อนครับน้อง”



“กวนตีนไม่เลิก” ด่ากูหน้ามุ่ยไปอีก



“กูอยากทำ”



“ตอแหล อยากทำแล้วทำไมต้องทำท่ารังเกียจกันด้วยวะ มึงแม่งเหมือนเห็นผีตอนกูอยู่ใกล้อ่ะ” มันว่าออกมาแบบนั้นพร้อมกับยื่นปากออกมาแบบหงุดหงิด โคตรน่าหมั่นเขี้ยวเลยครับเอาจริงๆ ไอ้ปากยื่นๆที่รับกับจมูกรั้นๆของมัน



“ก็เราพึ่งกลับมาคบกัน”



“แล้วมันยังไง มีข้อไหนบอกว่าพึ่งกลับมาคบกันห้ามเอากันหรอ มึงกลัวผิดศีลหรืออะไร อย่ามาตอแหลนะไอ้พี่เสือ”



“มึงนี่นะ...” ผมขำกับคำด่าของมันที่เถียงออกมาทันทีแบบว่าไม่ปล่อยเวลาให้ผมได้พูด



“กูทำไม”



“เปล่าครับ มึงไม่ทำไมเลยครับผม”



“กวนตีนอยู่ได้” หันหน้าหนีผมทั้งแบบนั้น ดูท่าจะหงุดหงิดกับคำตอบของผม รวมถึงท่าทางที่เราเป็นอยู่ ผมที่แนบตัวลงไปหามันแบบจงใจ ท่อนขาที่แทรกเข้าไปเบียดเข้ากับกลางลำตัวของมันจนไอ้เด็กมันขมวดคิ้ว แน่นอนว่าเช้าๆแบบนี้ยิ่งตื่นไว



“อื้ออ...ทะ...ทำเหี้ยไร”



“ก็ตั้งใจทำ”



“อย่ามากวนตีนกูนะพี่เก้อ”



“ที่กูไม่ทำไม่ได้เบื่อ หรือว่าได้มึงแล้วเลยเบื่อนะ แต่กูแค่คิดว่าเราพึ่งกลับมาคบกัน กูไม่อยากให้มึงรู้สึกว่ากูกลับไปคบมึงเพราะเรื่องอย่างว่า มันก็แค่นั้น”



“K”



“เอ้า! ด่ากูอีกทำไม นี่กูจริงจังนะเสือ” จ้องตาของไอ้เด็กใต้ร่างแบบจริงจัง มันขมวดคิ้วจนย่นเข้าหากันจ้องตาผมดุๆ



“สันดานแบบมึงจะมาคิดกลับใจเหี้ยไรอะไรตอนนี้ เราเอากันก่อนจะรู้สึกอะไรอีกอยากเป็นคนดี ห่า กูไม่คิดเยอะขนาดมึงหรอก จะเอาก็เอาสิวะ แต่มึงแม่งทำท่าแบบนั้นทุกวันๆ เอะอ่ะหนีกูกลับหอ แม่ง เสียเซลล์” บ่นออกมารัวๆด้วยท่าทางที่โคตรจะดื้อ หมั่นเขี้ยวโว้ย แฟนใครวะทำไมแม่งน่าฟัดจัง



“มึงเสียเซลล์มากเลยหรอวะ”



“ก็ดูมึง อ๊ะ...” มันที่ตั้งท่าจะด่า สะดุ้งร้องออกมาแบบนั้นในตอนที่ผมเลื่อนฝ่ามือลงไปลูบที่ขาของมัน จับขาเรียวยกขึ้นชันขึ้นจนขากางเกงบ็อกเซอร์ที่มันใส่นอนอยู่ขากว้างออกเลยสอดมือเข้าไปทั้งแบบนั้น



“ไม่ใส่กางเกงในหรอวะ”



“อื้ออ ยุ่ง” ครางออกมาเสียงเบาแล้วด่ากูทั้งๆที่หน้ามันก็ขึ้นสี ผมเลื่อนมือลงไปลูบแก้มก้นของมันในตอนนี้ ยกยิ้มมุมปากตอนที่เห็นมันไปพูดอะไรออกมาอีก เลยเลื่อนหน้าลงไปจูบเบาๆที่ริมฝีปากของมัน



“ถ้ามึงพูดแบบนี้กูก็เอามึงได้ดิ” พูดออกมาเบาๆในตอนนี้ กระซิบลงข้างๆหูของมัน ไอ้เสือที่ค่อยๆหันหน้ามามองกัน สายตาใสของมันที่สะท้อนอยู่ในดวงตาของผม มันเม้มปากเข้าหากันทั้งๆที่แก้มของมันขึ้นสีระเรื่อแบบเขินอาย แต่มันกลับไม่หลบตา



“แล้วกูห้ามมึงหรอ ไอ้โง่”



“มึงนี่มัน...”  พูดแค่นั้นแล้วเลื่อนหน้าลงไปกดจูบที่ลำคอ



“อื้อ..ก...กูทำไม”



“มึงขาว ไม่รู้หรือไงว่ากูพยายามแทบตาย แต่มึงแหลล่ะทำความดีกูแตก”



“มึงไม่เคยมีสักหน่อย อย่ามาโทษกู อ๊ะ อื้ออ กูเจ็บนะไอ้เชี่ยพี่เก้อ”



“ก็กูไม่มีอยู่แล้วนี่ความดี ทนมานานแล้วก็ต้องเจองี้แหล่ะไอ้ดื้อ”



“กูไม่ดื้อ อื้ออ” ผมที่เลื่อนนิ้วแทรกเข้าไปที่ช่องทางด้านหลังของมันเป็นนิ้วที่สองอย่างจงใจ ปล่อยมือที่จับรวบแขนของมันไว้แล้วเลื่อนมาดึงเสื้อนอนของมันถอดออกทางหัวแล้วโยนทิ้งไปไกลๆ ก้มหน้าลงไปครอบลงบนหัวนมของมัน ไอ้เสือที่แอ่นอกรับในตอนนั้นแบบรู้งาน เป็นคนประเภทเดียวกันที่ไม่ต่างจากไฟกับน้ำมัน ทั้งผมและมันที่ก็พร้อมจะเผากันจนกว่าจะมอดไหม้



ช่องทางด้านหลังของมันที่ผมสอดนิ้วเข้าไป ขยับเข้าออกช้าๆจนมันต้องขมิบตอดรับถี่ๆ ไอ้เสือที่เชิดหน้าขึ้นไปพร้อมๆกับหลับตา ผิวขาวๆของมันที่พอไฟในห้องไม่ได้เปิดแบบนี้แล้วดูเหมือนจะเรืองแสงได้ในสายตาของผมตอนนี้ ผมที่ขยับนิ้วสอดเลื่อนเข้าไปย้ำในจุดถี่ๆจนไอ้เสือร้องครางออกมาเบาๆ มันที่เรียกชื่อของผม เป็นอะไรที่ผมชอบมากที่สุด



“อื้ออ พี่เก้อ”



“ครับ”



ตอบรับคำพูดของมันไปแบบนั้น ได้ยินเสียงมันหายใจแรงๆออกมาทางปาก ก้มหน้าลงหอมแก้มมันอีกครั้งในตอนที่ดึงกางเกงนอนของมันถอดออกทิ้ง ดึงก้นของมันให้ยกขึ้นสูงแล้วฉีกขาของมันออกกว้างขึ้น ผมที่ถอดกางเกงออกไปนานแล้ว ก่อนจะค่อยๆสอดแกนกายที่ก็พร้อมมาตั้งนานแล้วแต่กูแกล้งทำเป็นคนดีเข้าไปในช่องทางของมัน



“อึก พ...พี่เก้อ มึงช้าๆ อื้ออ”



“พูดอะไร ไม่อยากจะฟัง” บอกมันแบบนั้นแล้วสอดเข้าไปจนสุด ไอ้เสือที่กลั้นหายใจ ช่องทางด้านหลังของมันที่ขมิบถี่ๆเต้นตุบๆบีบรัดแกนกายของผมอย่างแรงจนผมรู้สึกได้จนต้องซี๊ดปาก



‘ตุบ’



“กูเจ็บนะ” ไอ้เสือที่ยกมือขึ้นมาทุบหลังผมแรงๆแบบไม่คิดจะออมแรง คิดว่าเพราะมันเจ็บ แต่ไม่เป็นไร กูไม่โกรธ



“จะเริ่มละน้า”



“K พี่เก้อ อ๊ะ อื้อ”



“เก่งจัง Kพี่เก้อก็ถูกแล้วครับ กำลังจะโยกอยู่นี่ไง”



ผมที่ขยับตัวช้าๆ แล้วเอาแต่ยิ้มให้มัน ดึงตัวมันให้นอนราบลงกับพื้น จูบไปทั่วไปหน้าเน้นปากกับแก้มของมันอย่างจงใจ แล้วผลออกมามองหน้ามันอีกครั้ง พอทำแบบนั้นแล้วไอ้เสือมันก็หน้าแดง แดงไปทั้งหน้าทั้งตัวในแบบที่ไม่ค่อยได้เห็น ... เชี่ย น่ารักว่ะ



"อย่าทำให้หลงจะตายหรอวะ"



"สัด พูดมา อื้ออ" ขยับโยกแท่งร้อนเข้าไปอีกครั้งแบบไม่ออมแรง ค่อยๆโยกสะโพกเข้าออกแบบเต็มแรง ไอ้เสือที่เอื้อมมือมากอดตัวผมเอาไว้ เอวของมันบางลง พอจับไว้แน่นๆมันก็โยกสะโพกสวนแบบไม่ยอมกัน



"หึ เอวดีจังวะ"



"กูไม่ยอมแพ้มึงหรอก อ๊ะ"



"งั้นก็ยากหน่อยนะ เพราะพี่น่ะเด็ดมาก" สอดแท่งหนาของผมที่เข้าไปในร่างของมัน มันได้แต่กอดผมไว้ พยายามซอยตัวให้ถี่ขึ้น มันก็อ้าปากค้างในตอนที่ผมดันส่วนกลางให้เข้าไปลึกขึ้น สอดแกนกายถี่ยิบกับช่องทางหลัง



"อื้ออ ไอ้พี่เก้อ ช้าหน่อยสิวะ อื้ออ"



"มึงทำให้กูตบะแตกก็ต้องทนนะน้อง อย่ามาร้องนะครับ"



"อื้ออ สัดพี่เก้อ อ๊า"



...

50%





มาแล้วค่าา ขอมาลงก่อน50เปอร์นะคะ หลังจากที่อาทิตย์ก่อนไม่ได้มาลงนิยายเพราะว่าป่วยค่ะ ไปเจาะเลือดแล้วผลตรวจมา

ว่าเป็นโรคชิคุนกุนย่าค่ะ หรือภาษาไทยเรียกว่า โรคปวดข้อยุงลาย อาการจะคล้ายไข้เลือดออก แต่ต่างกันตรงจะปวดข้อมากๆค่ะ

ในตอนนี้ผื่นแคทลดลงแล้ว แต่ยังมีอาการปวดตามข้อนิ้วข้อมือ เลยทำให้แคทต้องพักแล้วไม่ได้เขียนงานต่อ

แต่คิดถึงคนอ่านทุกท่าน ไม่รู้ยังจะมีใครรอกันไหม เลยพยายามเขียนมาได้แค่ครึ่งนึงก่อน หวังว่าจะรอกันนะคะ

















หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่44.1 {22/08/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 23-08-2020 01:29:31
 :pig4: หายไวไวนะคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่44.1 {22/08/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 23-08-2020 06:36:48
หายเร็วๆน้าาาา รอจ้าาาา
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่44.1 {22/08/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 23-08-2020 09:49:03
รอจ้า~
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่44.1 {22/08/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 23-08-2020 23:07:09
ขอให้หายป่วยไวไวนะคะไรท์  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่44.1 {22/08/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 24-08-2020 08:08:15
รอค่ะ ขอให้หายไวไวๆ พักผ่อนเยอะๆ ค่ะ  :L2: :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่44.2 {30/08/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 30-08-2020 20:53:14
บทที่44.2


(ย้อนกลับไปเมื่อหลายวันก่อน)



“เฮียปืน เอาไงกันดีอ่ะ”



“รอสักพักมันอาจจะดีขึ้น”



“สักพักนี่อีกกี่วัน ก็เห็นเฮียดาบลอยๆแบบนี้มานานละนะ”



เสียงสองเสียงที่ดังมาไม่ใกล้ไม่ไกลให้ได้ยินมาสักพัก ทำให้รู้สึกรำคาญอยู่หน่อยๆ อยากจะหันไปด่าว่าไปไกลๆกูหน่อยค่ะ



 อิดอก แต่ทำไม รู้สึกเหนื่อยมากเกินไป แล้วในใจก็รู้สึกคิดถึงใครบางคนที่ผมไม่ได้เจอหน้ามันมาหลายวันแล้ว ... เอม



“เฮียดาบ...ลุกมากินข้าวกันนะ วันนี้แจให้คนทำอาหารหลายอย่างเลยน้า”  เสียงใสๆที่มาพร้อมๆแรงสะกิดที่ทำให้ผมค่อยๆหันไปมอง ใบหน้าอ้วนๆแป้นแล้นของน้องชายคนเล็กที่กำลังชะโงกหน้ามาจากข้างเตียงนอนแล้วก้มมองดูผมด้วยสีหน้าเป็นกังวล ... มึงกังวลอะไรวะ ขมวดคิ้วขนาดนี้เดี๋ยวหน้าก็ย่น แย่นะแบบนั้น จะกลายเป็นคนขี้เหร่ กูไม่ยอมแล้วค่ะคนนึง คนเราต้องสวยนะคะสังคม ถ้าไม่สวยก็อย่าหยุด ประโคมเครื่องสำอางสกิลแคร์เข้าไปค่ะ ผมมีความเชื่อที่ว่า คนเรามีความสวยและความดูดีในแบบของเราเสมอ อย่าไปสนใจฟังคำพูดของใครที่มาตัดสินว่าเราเหมาะหรือไม่เหมาะกับอะไร มั่นใจเข้าไว้ ในโลกนี้ไม่มีใครเกิดมามาสวยหรือไม่ดูดีครับ ขนาดกู ยังสวยเลยค่ะสังคม!



แต่ตอนนี้สวยเหนื่อย ... เมียหาย ... สวยๆเมียหาย เซ็งว่ะ



“ไม่อยากอ่ะ ไปกินเหอะ” ผมตอบออกไปแบบนั้นแล้วพลิกตัวหนีไปอีกทาง ขอร้องอย่ายุ่งกับสวยค่ะ



“ทำตัวให้สมกับเป็นมึงหน่อยสิวะ” เสียงเข้มๆที่พอได้ยินแล้วก็รู้เลยว่าเป็นใครทำให้ผมขมวดคิ้ว น่าเบื่อไอ้สัดเฮียปืน ... ทำตัวให้สมกับเป็นกูคือยังไง



“เป็นคนสวยสินะคะ”



“สวยพ่อง”



“พ่อกูก็พ่อมึงอ่ะเฮีย ถ้าจะมาต่อล้อต่อเถียงก็ออกไปเลยไป รำคาญว่ะ”  พูดออกไปแบบนั้นพร้อมปรายตาไปมองสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าพี่มองที่มายืนจ้องมองกันอยู่ข้างๆตัว กูรู้สึกเหมือนเป็นหมีแพนด้านิดๆ จ้องกันเหมือนสวนสัตว์เลยครับ



“น้องเอมก็ยังไม่ได้เลิกกับมึงไม่ใช่หรือไง ทำไมต้องทำตัวซังกะตายด้วยวะ” ไอ้เฮียปืนพูดขึ้นมาอีก ได้ยินแบบนั้นแล้วได้แต่ถอนหายใจ ... ก็เพราะว่ามันบอกว่าเราไม่เลิกกัน แต่มันก็อยู่ข้างๆกับผมไม่ได้นี่ไงมันถึงทำให้เครียด



“ก็เพราะว่าไม่ได้เลิกกัน แต่กูก็กอดมันเหมือนเดิมไม่ได้นี่ไงวะ”



“ทำไมจะกอดไม่ได้ ก็นั่นก็เมียมึง”



“มักง่ายว่ะสัดเฮียปืน กูทำแบบนั้นไม่ได้ แค่กูมองหน้ามัน มองเห็นสายตาผิดหวังที่มันมองมากูก็เสียใจฉิบหายแล้ว ไอ้เอมน่ะนะ มันเชื่อใจกู ไว้ใจกู ... และใช่ มันมีแต่กู”



รู้สึกสับสนมึนงงในหัวไปหมด ... ผมมีอาการแบบนี้มาตั้งแต่วันนั้นแล้ว หงุดหงิดตัวเองอย่างบอกไม่ถูก แล้วยิ่งมันบอกไม่ถูกแบบนี้ด้วยแล้ว ผมก็เลยยิ่งหงุดหงิด เพราะว่าเป็นแบบนี้ ไอ้เฮียปืนกับไอ้แจเลยลากผมมาที่บ้าน ติดแหง็กอยู่ที่นี่ เหมือนโดนขังคุกชะมัด



“มึงเข้าใจไหมวะเฮีย ไอ้เอมน่ะมันมีแต่กู แต่ตอนนี้มันกำลังเดินออกไปจากกู ไปพยายามด้วยตัวมันเอง โดยไม่มีกูเหมือนเดิมแล้ว”



“แค่นี้ก็ถอดใจแล้วรึไง ถ้ายังเป็นอยู่แบบนี้ก็ไม่แปลกใจถ้าเค้าจะเลิกกับแก” เสียงของผู้มาใหม่ที่ดังมาจากหน้าประตู เป็นเสียงที่ช่วงนี้ผมไม่อยากจะได้ยินเป็นพิเศษ



“ถ้าผมเลิกกับเอม คนที่มีความสุขที่สุดก็น่าจะเป็นคุณแม่ไม่ใช่หรือไงล่ะครับ”



“นี่ตาดาบ เธอกำลังพูดกับแม่ของเธออยู่นะ”



“ก็ใช่ไง ผมพูดอยู่กับแม่นั่นแหล่ะ”



“หึ ก็แม่บอกแล้วไม่ใช่หรือไง ความรักแบบนี้ มันไม่ยั่งยืนหรอก”



แบบนี้...



ความรักแบบนี้หมายความว่ายังไงวะ



ผมหันไปมองหน้าของแม่ที่เดินเข้ามาใกล้มากขึ้น สีหน้าที่แม่มองมาที่ผมหลังจากที่ผมพูดออกไปแบบนั้นไม่ค่อยจะสู้ดีเท่าไหร่ แต่ใครจะสนกันล่ะ ผมไม่อยากจะสนอะไรแล้วทั้งนั้นแหล่ะ พอคิดแบบนั้นแล้วยิ่งรู้สึกรำคาญใจ กรอกตาไปสวยๆหนึ่งที แต่ท่าทางแบบนี้ สงสัยจะไม่เข้าตาแม่เท่าไหร่



“อย่ามาทำหน้าทำตาแบบนี้ใส่แม่นะ แล้วแกก็ลุกขึ้นมาจากที่นอนสักที เห็นสภาพตัวเองตอนนี้บ้างไหมว่ามันทุเรศมากแค่ไหน”



ปรี๊ดเลย ...



ได้ยินคำว่าทุเรศแล้วมันขึ้น!



แม่กำลังพูดอยู่กับคนที่สวยที่สุดอยู่นะตอนนี้ แม่จะมาว่าทุเรศได้ยังไงกันวะ!



เพราะแบบนั้นผมเลยกระชากผ้าห่มที่คลุมตัวของตัวเองออกทิ้ง ตวัดขาสองข้างของตัวเองลงจากเตียง มองคนสามคนที่ตอนนี้เข้ามาในห้องของผม รู้สึกหงุดหงิดกับทุกอย่างไปหมดซะทุกสิ่ง ... ค่อยๆไล่มองหน้าของคนที่อยู่ตรงหน้าผมทีละคน ทีละคนอย่างช้าๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเค้าต้องมาที่นี่ มายุ่งเรื่องของผมบอกให้ทำนู่นทำนี่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ช่วยเหลืออะไรสักอย่าง ... คนทั่วไปที่ดีแต่พูดให้ทำนั่นโน่นนี่ แต่จะลงมือช่วยแต่ละทีก็บอกว่าเรื่องของมึง ... แบบนี้อย่ามายุ่งเรื่องของกูเลยจะดีกว่า



“แล้วแต่ละคนมายุ่งเรื่องของผมทำไมวะ เข้ามากันทำไม”  หายใจแรงขึ้นอย่างรู้สึกหงุดหงิดไปหมดซะทุกอย่าง



“ไอ้ดาบ มึงพูดดีๆ ทุกคนก็ห่วงมึงทั้งนั้น”



“ห่วง ห่วงหรอวะ ห่วงอะไร คนห่วงกันเค้าไม่มาซ้ำเติมกันแบบนี้หรอก”



“ใครไปซ้ำเติมมึง มึงหลุดแล้วนะไอ้ดาบ” เฮียปืนมันว่าแบบนั้น มันที่พยายามเดิมเข้ามาหาตัวผม มึงฝัน มึงคิดว่าจะได้จับตัวกูหรอคะ คนสวยๆแบบกูหวงตัวโว้ย เห็นแบบนั้นเลยผลักอกมันให้ออกไปห่างๆ ...กูก็ว่าผลักเบาๆ แต่ทำไมมันกระเด็นไปไกลจังวะ



ช่างแม่ง



“ดาบ! แม่ว่ามันจะมากไปแล้วนะ”



“อะไรที่มาก อะไรที่น้อย ทุกคนก็มากกับผมก่อนหรือเปล่าวะ น่ารำคาญว่ะ”



“ความเป็นห่วงของแม่ มันคือเรื่องรำคาญของลูกงั้นหรอ” ผมหันไปมองหน้าแม่ที่อยู่ตรงหน้าแล้วยกยิ้มมุมปากขึ้นมา มองเห็นไอ้แจที่วิ่งไปพยุงเฮียปืนให้ยืนขึ้นอยู่ไกลๆ ก่อนจะหันกลับมามองหน้าแม่อีกครั้ง



“ก็เพราะความเป็นห่วงของแม่ไม่ใช่หรือไง ห่วงทุกเรื่อง ห่วงว่าลูกจะผิดเพศชอบผู้ชาย หวงว่าผมจะได้กับไอ้เอม ก็นี่ไง ผมใกล้จะเลิกกับมันแล้วพอใจแม่หรือยังล่ะ!” ไม่รู้ว่าความโกรธมันมาจากไหน ก็แค่รู้สึกอยากซัดความรู้สึกทั้งหมดของผมไปให้ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ ทุกคนที่พูดดีแต่ไม่ได้ช่วยอะไรเลย



“ดาบ!”



“เพราะแม่ ทุกเรื่องมันเพราะแม่ทั้งนั้นแหล่ะ ... ผมไม่เคยพูดอะไรเพราะถนอมน้ำใจแม่ แต่แม่ล่ะเคยคิดจะถนอมน้ำใจผมบ้างไหมวะ ผมเป็นแบบนี้ ผมชอบผู้ชาย หรือต่อให้ผมจะทำนมแต่งสาวแค่ไหนแล้วมันยังไง ผมไม่ใช่ลูกแม่หรอวะ!” ตะโกนออกไปอีกครั้งด้วยความรู้สึกที่อยากจะพูด ก็แค่เคยอยากพูดแต่ไม่ได้พูด แต่ในวันนี้ผมจะพูด มันเหมือนเป็นความรู้สึกที่อยู่ๆก็มีความกล้า หรือถ้าพูดจริงๆก็คือเป็นความรู้สึกหมดความอดทน



“แม่ไม่เคยคิดแบบนั้น...” แม่ที่มองหน้าผม สายตาของเธอที่เริ่มสั่นไหว .. แต่ไม่ได้ช่วยอะไร ไม่ได้ช่วยอะไรเลย



“ผมก็แค่รู้สึกดีกับใครสักคน ใครสักคนคนนั้นที่มันเป็นผู้ชาย ทำไมแม่ถึงไม่เข้าใจวะ แม่เอาแต่พูดว่าเป็นห่วง แต่ความเป็นห่วงความหวังดีของแม่แบบนี้ผมไม่อยากได้ ผมไม่อยากรับ!”



“ดาบ...”  น้ำตาของแม่ไหล พร้อมๆกับน้ำตาของผมที่ก็ไหลลงมาเหมือนกัน แต่ผมไม่เสียใจ ความรู้สึกของผมที่สับสนปนเปกันหมดแล้วในตอนนี้ แต่ทุกๆวินาทีมันทรมาน ... ผมคิดถึงไอ้เอม ผมเสียใจที่ทำให้มันเสียใจ ผมเกลียดตัวเองที่ทำเรื่องแบบนั้นกับมัน และผมก็โกรธ โกรธที่ผมควบคุมอะไรไม่ได้สักอย่าง โกรธแม่ที่เอาแต่พูดจาแบบนี้ โกรธทุกคน และผมก็โกรธตัวเอง



“แม่รู้บ้างไหมว่าผมต้องทนอึดอัดใจกับคำพูดของแม่ กับการกระทำของแม่มากี่ปี ที่ผมออกไปอยู่ข้างนอก ไปอยู่คอนโดก็เพราะว่าผมทนไม่ไหวแล้ว ผมพยายามสร้างร้านของผมขึ้นมา ทำตรงนั้นให้เป็นโลกของผม พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้แม่รู้ว่าผมทำได้ ไม่ว่าผมจะเป็นเพศไหน ชอบอะไร แต่ผมก็ทำได้ผมเก่งพอที่จะดูแลตัวเอง ดูแลครอบครัวของเราได้ ผมอยากให้แม่เข้าใจ แต่ไม่ว่าเมื่อไหร่แม่ก็ไม่เข้าใจ พอแม่ห้ามผมไม่ได้แม่ก็ไปกดดันกับไอ้แจ ... ผมไม่เข้าใจ ทำไมวะ ก็แค่ผมชอบผู้ชายก็แค่ไอ้แจชอบผู้ชาย ....ผมจะบอกอะไรให้นะ ถ้าผมเลือกได้ผมก็อยากเกิดมาในแบบที่คนทั่วไปมันมองว่าไม่ผิดปกติเหมือนกัน แต่ผมเลือกไม่ได้เว้ยแม่ มันไม่ใช่เป็นหวัดแล้วกินยามันจะได้หาย มันหายไม่ได้แม่เข้าใจไหม แล้วผมไม่เข้าใจว่ะ ก็แค่ผมชอบผู้ชาย ทำไมผมต้องพยายามพิสูจน์ตัวเองมากกว่าคนอื่น เพื่อให้พ่อกับแม่ได้เห็นว่าผมเก่งและมีหน้าตาในสังคม ให้แม่ได้ไปพูดอวดใครต่อใครได้ ... ผมสงสัย ผมสงสัยว่าทำไมไอ้คนอื่นมันถึงสำคัญกับแม่นัก ทำไมมันถึงสำคัญกว่าความรู้สึกของลูกแม่วะ!” ตะคอกออกไปแบบนั้นสุดเสียง พร้อมๆกับที่ยกมือขึ้นปัดโคมไฟที่วางอยู่ข้างหัวเตียงให้ล้มกลิ้งลงไป เพราะรู้สึกว่ามันเกะกะสายตา ผมใช้มือค้ำยันไว้กับโต๊ะหัวเตียงที่พึ่งปัดโคมไฟนั่นทิ้งไป รู้สึกหัวใจเต้นรัวเร็ว ได้แต่หอบหายใจเข้าไปในปอดลึกๆ รู้สึกเหนื่อยขึ้นมาแบบบอกไม่ถูก ก้มหน้าลงมองโต๊ะที่ตอนนี้ยังค้ำยันเอาไว้ มองเห็นด่างดวงหยดเป็นจุดๆเปรอะเปื้อนอยู่บนนี้ มันมาจากไหน น้ำอะไรมันมาจากไหนกันวะ



“แล้วตอนนี้...อึก...ตอนนี้คนที่แม่ไม่อยากให้ผมรัก มันก็กำลังจะไปจากผม ไปจากผมแบบที่แม่ต้องการไง ... แม่พอใจหรือยัง ผมถามว่าแม่พอใจหรือยัง!” ผมที่ยังใช้มือข้างนึงค้ำยันอยู่กับโต๊ะแล้วหันหน้าไปมองแม่ หอบหายใจหนักๆ รู้สึกเหนื่อย รู้สึกล้าแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิตนี้ ผมอยากอาละวาด ผมอยากระบาย แต่ถึงแบบนั้นผมก็สับสนเต็มที น้ำตาที่ไหลลงมาอาบแก้มผมในตอนนี้ ผมไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากำลังร้องไห้อยู่ ไม่ได้สะอึกสะอื้นอะไรสักนิด แต่ภาพตรงหน้ากลับพร่าเบลอไปหมด มองเห็นหน้าแม่ที่มองมาที่ผมด้วยสายตาแห่งความเสียใจแบบเลือนราง  เฮียปืนที่มองมา ไอ้แจที่มองมา ทุกคนมองมาที่ผมด้วยสายตาที่ผมอ่านไม่ออก ไม่เข้าใจซักนิดเดียว ... ตอนนี้มีหน้าของใครบางคนซ้อนทับขึ้นมาในใจของผม



“อ...เอม” พูดออกมาแบบนั้นเบาๆ ก็แค่เป็นคำพูดเบาๆ



“ผมคิดถึงมัน อึก...ก็แค่ผมรักมัน ฮึก...แต่ผมไม่กล้ากอดมันด้วยซ้ำ ไม่ใช่เพราะแม่ที่จะไม่พอใจ แต่เป็นเพราะผมละอายที่ผมทำผิดกับมัน แต่ถึงแบบนั้น ฮึก...ถึงแบบนั้นผมก็ต้องการมันแค่คนเดียวอยู่ดี”



‘ตึก’



ขาทั้งสองข้างที่ทรุดลงไปกับพื้น ใช้มือทั้งสองข้างค้ำกับพื้นห้องแล้วปล่อยน้ำตาให้ไหลลงมาแบบอึดอัดและสับสน ในหัวใจมันเป็นวูบโหวงแบบที่ไม่รู้ว่าอะไรมาก่อนมาหลัง แต่ถึงแบบนั้นน้ำตาก็ยังไหล



“แม่ให้ผมได้ไหม เอาไอ้เอมกลับมาให้ผมได้ไหม ...ช่วยรักผมที่เป็นผมแบบนี้ได้ไหม ฮึก ผมจะทันไม่ไหวแล้ว” ยกมือขึ้นมาขยำไปที่หัวของตัวเอง ก็แค่อยากทำแบบนั้น อยากกระชากให้มันหลุดๆไป เผื่อความรู้สึกและอาการที่เป็นอยู่นี้มันจะหายดีขึ้นมาบ้าง



“ดาบ .. ฮึก พอแล้วลูกพอแล้ว” ได้ยินเสียงแม่ดังมาจากที่ไกลๆ รับรู้ถึงอ้อมกอดของใครบางคนที่กอดตัวผมเอาไว้แน่นๆ เสียงสับสนอลหม่านดังขึ้นอยู่รอบตัว แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจ รู้แต่ว่าใบหน้าของผมซบลงไปที่ไหล่ของใครบางคน เสียงผู้หญิงที่ร้องไห้อยู่ข้างๆหูแล้วกอดตัวผมเอาไว้แน่น



“ผมจะโทรตามหมอนะฮะ”



“เดี๋ยวผมเอารถออกครับแม่”



“ดาบลูก แม่ขอโทษดาบ”



ความวุ่นวายรอบๆตัวนี้มันคืออะไร รู้สึกสับสนไปหมด แต่ถึงแบบนั้นน้ำตาผมก็ยังไหล ผมหลับตาลงช้าๆนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมา ทำไมผมถึงทำเรื่องผิดพลาดแบบนั้นนะ ทำไมผมถึงต้องทำแบบนั้นกับพระพาย ทำไมต้องทำให้ไอ้เอมเสียใจแบบนั้น ภาพวันที่มันถือกระเป๋าใบเก่าๆของมันเดินออกจากห้องไป พยายามจะเอื้อมมือคว้ามันไว้ แต่สุดท้ายมันก็ไปอยู่ดี



“เอม”



ผมเหนื่อย ก็แค่รู้สึกว่าอยากจะหลับลงสักพัก...ก็แค่อยากจะหลับลงไปสักนิดก็ยังดี



“ผมเหนื่อยจัง”



ถ้าหลับลงไป อย่างน้อยในฝันผมก็ยังมีกัน ยังมีไอ้เอมอยู่เหมือนเดิม ... และแม่ ก็อาจจะเข้าใจผม เข้าใจเรา เข้าใจน้องแจมากกว่าความเป็นจริงที่เป็นอยู่ก็ได้ล่ะมั้ง



...



               บรรยากาศเงียบๆภายในรถหรูตราสี่ห่วงสีดำทำให้รู้สึกอึดอัด จริงๆมันไม่ใช่ความอึกอัดเพราะได้นั่งรถหรู แต่มันเป็นเพราะเจ้าของรถข้างๆตัวเป็นคนที่มีบรรยากาศเย็นๆชวนอึดอัด อีกทั้งผมกับเค้าก็แทบจะไม่ได้รู้จักกันมาก่อนด้วยนี่สิ



“เอ่อ...” เลือกจะเป็นฝ่ายเปิกปากพูดก่อน ด้วยคำพูดสิ้นคิดที่ว่า ‘เอ่อ...’ ไอ้เอมเจ็บไข่เลยแม่งเอ้ย!



“อึดอัดหรอ”  ปัดโถ่ ก็ไม่หน้าถามกูออกมาแบบนั้นหรอกนะจริงๆ ผมปรายตาไปมองคนข้างตัวที่ตอนนี้กำลังขับรถด้วยมือเดียว เป็นคนเท่ๆพูดน้อย และมีบรรยากาศชวนอึดอัดใจ ... ใครได้พี่มันเป็นแฟนต้องกัดลิ้นตัวเองตายแน่ๆกูว่า



“ก็นิดหน่อยครับ ฮ่าๆ” หัวเราะเสียงดังใส่ไปทั้งแบบนั้น ไม่ได้มีเรื่องอะไรตลกเลย แต่กูก็พยายามไง อึดอัดใจจนเจ็บไข่ไปหมดแล้ว



“ขอโทษนะ กูพูดคะขาแบบไอ้เฮียดาบไม่เป็น สุภาพก็ไม่ค่อยได้ พูดมึงกูละกัน”



“อ..เอ่อ...ไม่เป็นไรครับ” ผมตอบออกไปแบบนั้น จริงๆคืออยากพูดว่ากูเลือกอะไรได้หรอ พี่มึงถามเองตอบเองหมดแล้วนี่ว่า แต่ถึงแบบนั้นก็เห็นด้วยกับคำพูดของพี่รุก เพราะถ้าพี่มึงพูดคะขาออกมา ผมก็คงอยากพุ่งออกจากรถแล้วโดดลงน้ำตาย มันต้องเป็นภาพที่ทำให้ปวดสายตาแน่ๆล่ะถ้าคนแบบพี่รุกฆาตจะมาพูดคะขา แค่คิดก็เหมือนผิดผีแล้วครับ



คนข้างๆตัวคือพี่รุกฆาต ลูกพี่ลูกน้องของอิเจ๊พี่ดาบมัน ตอนนี้ผมนั่งอยู่ในรถของเค้าสองคน หลังจากที่เค้าจัดการลากตัวพาพวยกับไอ้ม็อบไปขึ้นรถของใครไม่รู้ที่ส่งมารับ เค้าก็บอกให้ผมมากับเค้า เพราะเราจะไปหาอิเจ๊พี่มันด้วยกัน



“เอ่อ พี่รุกครับ อิเจ๊...เอ่อ พี่ดาบเป็นยังไงบ้าง” ผมเลือกที่จะถามเรื่องที่เป็นห่วงมากที่สุดในตอนนี้ คนที่ผมไม่รู้เลยว่าเค้าต้องเจออะไรมา คนที่ผมเดินหันหลังมาในวันนั้น เอาแต่ถามว่าทำไมมันต้องทำแบบนั้น โดยไม่รู้เลยว่าจริงๆแล้วมีใครบางคนทำให้มันเป็น คิดแล้วก็อดไม่ได้ที่ต้องกำมือตัวเองแน่นๆ ผมรู้สึกเสียใจที่ในช่วงเวลานั้นผมไม่ได้อยู่กับพี่มัน



“จริงๆก่อนหน้านี้ก็ไม่ดี”



“พี่ดาบมันเป็นอะไรมากหรอครับ เกิดอะไรขึ้นครับ” ผมหันไปถามอีกคนอย่างร้อนใจ หัวใจผมสั่นตอนที่ได้ยินว่าไม่ดี คนข้างตัวที่หันมามองหน้ากัน ดวงตาคมที่แค่มองดูก็เหมือนกำลังแสกนผมไปทั้งตัว คนข้างๆตัวที่ยกยิ้มมุมปากนิดๆแล้วหันหน้ากลับไปมองถนน



“หึ ไม่โกรธมันแล้วหรือไง”



“ห..ห๊ะ?”



“มันไปนอนกับคนอื่นนะ คนที่มึงพึ่งกระทืบมา”



“มันไม่ได้นอนนะพี่ มันก็แค่...แค่เกือบ” ผมหันหน้าไปเถียง รู้สึกไม่ถูกใจเท่าไหร่ที่น้ำเสียงอีกคนติดจะขำในน้ำเสียง ไม่ใช่เรื่องตลกนะเว้ย ถามอะไรก็ตอบไอ้เอมมาสิวะ



“หึ มึงนี่โง่จัง”  เอ้า...มึงด่ากูทำไมก่อน จดเลย ไอ้เอมจดทดในใจ กูจะไปฟ้องพี่ดาบแน่!



“ต่อให้มันทำให้เจ็บแค่ไหน ก็ยังรักอยู่สินะ” รถที่ค่อยๆเคลื่อนช้าลงในตอนที่เราติดไฟแดง ได้ยินเสียงดึงเปรกมือ รับรู้ได้ถึงสายตาคมๆที่จ้องมองมาที่ผม ทำเอาขนแขนขวาลุกชูชันไปหมด แต่ถึงแบบนั้นผมก็เลือกที่จะหันกลับไปสบตาอีกฝ่าย



“ตลอดเวลาที่ผมรู้จักกับอิเจ๊พี่มัน ไม่เคยมีช่วงเวลาไหนที่มันทำให้ผมเสียใจเลยสักนิด กับเรื่องนี้ที่ก่อนหน้านี้ผมจะทนไม่ได้ แต่พอรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับพี่มัน พี่จะให้ผมยังทิฐิอยู่หรอ ... ผมไม่อยากเสียเวลาที่ผมควรจะมีความสุขให้ผ่านไปแบบไร้ประโยชน์อีกแล้วล่ะ”



ตอบกลับออกไปแบบนั้น คนข้างๆตัวที่ก็ยกยิ้มมุมปากขึ้นมา สายตาคมที่จ้องมองตาผมนิ่งๆ



“จริงๆมึงก็ไม่ได้โง่นิ หึ”



“เอ้า!”



“อย่างน้อยก็ฉลาดที่จะทำตามหัวใจตัวเอง ก็ไม่แปลกใจว่าทำไมถึงเอาไอ้ตุ๊ดนั่นอยู่”



“อิเจ๊พี่มันไม่ได้เป็นตุ๊ดนะ!”



“หรอวะ...” หันมาเลิกคิ้วถามผม สายตาคมที่ยิ้มเหยียดมาให้ ทำเอากูกลืนน้ำลายลงคอไปอึกนึง ... เถียงไม่ออก จริงๆมันก็เหมือนตุ๊ดนั่นแหล่ะ แต่เป็นตุ๊ดปลอม



“ช่างเหอะๆ ถึงพี่มันจะเป็นตุ๊ด หรือไม่ได้เป็น ยังไงผมก็รักมันอยู่ดี”



“หึ กูมั่นใจว่าถ้ามันได้ยินต้องดีใจ”



“เดาว่ามันต้องกรี๊ดแน่ๆ ...แต่นี่พี่รุก สรุปก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้นกับพี่มันกันแน่ ช่วยบอกผมหน่อยว่าพี่มันไม่เป็นไร” หันไปถามอีกฝ่ายแบบจริงจัง ในใจของผมเป็นห่วงมัน ตอนนี้อยากจะเจอให้เร็วที่สุดด้วยซ้ำ แต่ท้องถนนไม่เอื้ออำนวย ติดมันทุกแยกไฟแดง



“ก็ ไม่ดี”



“ยังไง พี่ก็ช่วยพูดมาสักทีจะได้ไหมล่ะครับ” 



“หึ ก่อนหน้านี้มันมีอาการแปลกๆ บางวันซึม บางวันดีด แล้วที่แย่ที่สุดก็คือมันมีอาการคลุ้มคลั่ง”



“พี่หมายความว่ายังไง”  ผมถามออกไปแบบนั้น รู้สึกว่ามือตัวเองเย็นขึ้นมาในตอนนี้ ขออย่าให้เป็นแบบนั้น ขออย่าให้เป็นแบบที่ผมกลัว



“พี่อย่าบอกผมว่ามันติดยานะพี่”  รู้สึกร้อนๆที่นัยตาแปลกๆ ได้ยินเสียงของตัวเองที่ตอนนี้รู้ดีว่ามันสั่นมากๆ ผมได้แต่กำมือตัวเองแน่นๆ จิกเล็บเข้าไปในเนื้อให้รู้สึกเจ็บเพราะผมกลัว กลัวว่าสิ่งที่คิดจะเป็นจริง และถ้าเป็นแบบนั้น ตีนที่ประเคนไปคงไม่พอสำหรับคนทำ



“ถ้ามันติดมึงจะเลิกกับมัน?”



“เลิกเหี้ยไรล่ะ ผมจะพามันไปเลิกยาสิวะ”



“นี่มึงหยาบคายใส่กูหรอ” คนข้างๆตัวที่ปรายตามามองผมแว๊บนึง เป็นความรู้สึกเหมือนถูกกระชากจากที่สูงทั้งๆที่อีกฝ่ายก็แค่มอง กลัวนะแต่ไอ้เอมจะสู้!



“ผมไม่ได้หยาบคาย ก็ดูพี่ถามสิ ใครมันจะไปเลิกวะ”



“หึ” ยกยิ้มแล้วขำในลำคอ คือรำคาญครับ มึงคิดว่ามึงหล่อมากหรอ เออ มึงหล่อ! ... แต่กูอยากรู้เรื่องพี่ดาบโว้ย



“มันไม่ได้ติดยา แต่อาการที่มันเป็นก็เพราะเอฟเฟ็คของยา ดีที่มันถูกวางยาในปริมาณไม่มาก มันเลยไม่ทำให้ติด แต่ถึงแบบนั้นในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมามันก็เลยต้องไปรักษาตัว”



ผมถอนหายใจออกมาอย่างแรง อยากน้อยก็ไม่ได้แย่เท่าที่ผมคิด  ถอนหายใจออกมาแรงๆแล้วทิ้งตัวลงพิงกับเบาะรถอย่างเหนื่อยๆ



“ถึงอาการมันจะแย่ แต่ทุกๆวันมันก็ยังดันทุรังจะทำอาหารไปส่งมึงนะ ถึงแม้ว่ามันจะดูเล็กน้อย แต่เชื่อเถอะว่ามันรักมึง” พี่รุกพูดออกมาแบบนั้น เป็นประโยคยาวๆที่ผมไม่คิดว่าจะได้ยินจากคนข้างๆ ... ผมก้มหน้ามองมือตัวเองที่อยู่บนตัก อยู่ๆก็คิดถึงอาหารที่เห็นมาห้อยอยู่ที่หน้าห้องของผมในทุกๆวัน ผมกินมันอย่างอร่อย แต่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเบื้องหลังของอาหารแต่ละกล่องที่กินไป อีกคนจะผ่านอะไรมาบ้าง



“ฮึก...มันไม่เล็กน้อย...มัน ยิ่งใหญ่มากๆกับใจผม พี่ดาบ ฮึก ดูแลผมเสมอเลย”



“แล้วมึงจะร้องไห้ทำไม กูไม่ชอบ”  อีกคนพูดเสียงแข็ง ติดจะหงุดหงิดเล็กๆ แต่ได้ยินแบบนั้นแล้วผมยิ่งตกใจ รู้สึกอยากจะร้องไห้ออกมาทันที แรงกลั้นเสียงสะอื้นที่พยายามมาตลอด สุดท้ายมันก็ทนไม่ไหว



“ฮึก ก็...ก็ผมเสียใจ ผมเป็นแฟนที่ไม่ได้เรื่องเลยอ่ะ ฮื่อออออ” ร้องไห้ออกมาเสียงดังแบบไม่อาย ไม่ไหวแล้ว ไอ้เอมไม่ไหวแล้ว ตอนนี้สิ่งที่ผมอยากทำคือได้เห็นพี่มันกับตา อยากจะรู้ว่ามันเป็นยังไงบ้าง



“สัด อย่าร้องสิวะ กูไม่ชอบน้ำตาเลยแม่ง”



“ฮื่ออออ ฮึก ก็มันเสียใจ มันห้ามได้ด้วยหรอวะ ฮื่อออออออ” หันไปเถียงทั้งน้ำตา มองเห็นคนข้างๆที่เอียงตัวถอยหนีไปทางขวาแล้วแสดงสีหน้าว่ารำคาญกันสุดๆ ... คนเสียใจเข้าใจบ้างไหมล่ะวะ!



“เชี่ย! แฟนไอ้สัดเฮียดาบแม่งน่ารำคาญ”


(มีต่อจ้า)
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่44.2 {30/08/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 30-08-2020 20:53:55
.

.

.



“คนแบบมึงมันต้องไม่ตายดีไอ้พาย! มึงต้องตายเพราะส้นตีนกู!”



               เสียงที่ดังออกมาจากในคลิปที่เรากำลังดูอยู่ในตอนนี้ คลิปที่ถูกเปิดฉายในจอใหญ่ในห้องดูหนังของที่บ้านผม ถูกเปิดขึ้นโดยฝีมือของไอ้เฮียปืน ... สาระแนนักค่ะอิดอก คิดว่าแฟนกูเป็นนางเอกหนังมั้ง



แต่เอาจริงๆจากคลิปที่ดูอยู่ตอนนี้กูก็คิดว่าอาจจะใช่ ... แต่เป็นนางเอกหนังบู๊นะกูว่า ประเภทวิ่งสู้ฟัด หรือฟัดให้สุดหยุดที่อิดาบ กรี๊ดดดด ชื่อเรื่องทำเขินจังเลยค่ะ ... พอ กูควรจะจริงจังกับเหตุการณ์ตรงหน้าตอนนี้ก่อน



เอ็กส์ตาซี



คำๆนี้ที่ทำให้ผมประสาทหลอนมาเป็นอาทิตย์ๆ ... สภาพก่อนหน้านี้ของผมทั้งแย่ทั้งสับสน แค่คิดมาถึงตรงนี้ก็กำหมัดแน่นแล้ว



“เชี่ย พี่เอมโหดสัดๆเลยดาบ”



“เห็นตัวบางๆ แต่ตีนไม่บางเลยนะนั่นน่ะ ไอ้ดาบมึงระวังไว้ อย่าเผลอไปกรี๊ดผู้ชายที่ไหน ไม่งั้นมึงเจอแน่”



“แล้วไอ้สัดรุกทำไมไม่เข้าไปช่วยแฟนกูวะ” ผมเงยหน้าก่อนจะกดปิดคลิปที่ไอ้รุกส่งมา เป็นคลิปที่ไอ้เอมประเคนมือและเท้าให้พระพาย



“มึงจะห่วงแฟนมึงทำไมก่อน มึงดูสภาพพายในคลิปด้วย”



“แล้วกูต้องห่วงคนเหี้ยทำไมก่อน” ผมพูดออกมาแบบนั้น แล้วบรรยากาศรอบข้างก็เงียบเสียงลง เฮียปืนที่หันมามองหน้าผมพร้อมๆกับไอ้น้องแจ



“เรื่องนี้พี่จะจัดการยังไงหรอ” ไอ้แจที่ถามผมแบบนั้น แล้วมองหน้าผมแบบชั่งใจ ก่อนที่ผมจะทันตอบอะไรก็ได้ยินเสียงรถที่เลี้ยวเข้ามาในบ้าน พอหันไปมองก็ต้องลุกขึ้นยืน ใครบางคนที่กำลังเดินลงมาจากรถของไอ้รุก ก่อนที่ขายาวๆนั่นจะตรงไปที่รถอีกคันที่ขับตามเข้ามา



“นั่นพี่เอมกำลังทำอะไรอ่ะ” ไอ้แจที่ชะโงกหน้ามองจากหน้าต่างพูดออกมาแบบนั้น และไม่กี่นาทีต่อมา คำตอบที่อยากรู้ก็ตามมาแบบชัดๆ



“เดินมาเร็วๆมึงอย่ามาสำออยพาพวย!”  เสียงแข็งๆที่ดังมาแบบนั้น ทำให้ขาของผมต้องรีบก้าวเดินออกไปจากตรงนี้ ผมคิดถึง คิดถึงไอ้เอมมากที่สุด ...



พวกเราที่รีบเดินออกไปจากห้อง ตรงไปยังห้องโถงกลางของบ้านก็ได้เห็นกลุ่มคนที่พึ่งมาใหม่กำลังเดินเข้ามา ไอ้เอมที่กระชากคอของพระพายเข้ามาแบบไม่ปราณี ข้างหลังมีไอ้รุกที่ลากไอ้ม็อบเข้ามา จ้องมองภาพตรงหน้าด้วยตาเขม็ง ก่อนจะสลับตัดไปมองใครอีกคนที่กำลังจิกหัวพายอยู่ในตอนนี้ เราสองคนที่สบตากัน ดวงตากลมสวยนั่นสั่นไหวเหมือนมันจะร้องไห้ออกมา แต่ผมไม่อยากเห็นน้ำตาของมันแล้วในตอนนี้



“พ...พี่ดาบ”  เสียงใสๆที่ผมคิดถึงนั่นเรียกผมออกมาแบบนั้น ทำอะไรไม่ได้ เป็นความรู้สึกที่ว่าเราคิดถึงกัน ผมที่ทำแค่กางแขนออกทั้งสองข้าง ไอ้เอมที่สะบัดมือออกจากหัวของพระพายแล้วผลักพายทิ้ง มันวิ่งเข้ามาหาผมพร้อมๆกับดวงตาของมันที่คลอไปด้วยน้ำตา



‘หมับ’



“ฮึก พี่...ฮึก เจ๊...ผม คือพี่...พี่...” มันที่กอดผมเอาไว้แน่นๆแล้วพูดระล่ำระลักออกมาไม่หยุด ท่าทางตื่นๆของมันที่อยากจะพูดมากๆแต่ก็พูดออกมาไม่ได้



“ชู่ววว อยู่นี่แล้วไง ไม่เป็นไรแล้วครับ” ยกแขนขึ้นโอบเอวมันด้วยมือข้างนึง ส่วนมืออีกข้างก็ยกขึ้นลูบผมมันเบาๆ ไอ้เอมตัวสั่นแล้วสะอึกสะอื้นอยู่กับอกของผม



“ฮึก พี่...ดาบ”



“ครับว่าไง” พูดกับมันเบาๆ เอมที่ผละออกจากอกผม มันช้อนตาที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตามามองหน้าผม ฝ่ามือเรียวของมันที่สั่นแต่ก็ยังเอื้อมขึ้นมาจับหน้าของผม มันร้องไห้แล้วมองหน้าผม สายตาที่กำลังบอกผมว่ามันเสียใจ เห็นแบบนั้นก็รู้แล้วว่าเอมมันกำลังคิดอะไร ผมยิ้มออกมาน้อยๆให้กับมัน เอื้อมมือไปวางทับบนฝ่ามือของมันที่กำลังจับอยู่ที่แก้มของผม



“พี่ไม่เป็นอะไร เอมไม่ต้องห่วงพี่นะ” บอกมันแบบนั้นแล้วยิ้มให้



“อย่า ฮึก...โกหกเอม”



“ไม่เลย ไม่โกหกเอม เหมือนที่รักเอมก็ไม่ได้โกหก”



“ฮึก...เอมก็รักพี่ เอมฮึก...”



“ชู่ววว พอ ไม่เอาไม่ร้องแล้ว ดูดิตาปูดจนไม่สวยแล้ว” ผมยิ้มกว้างมากขึ้นกว่าเดิมในตอนที่เห็นมันเอามือขึ้นมาขยี้ตาตัวเองเพื่อพยายามจะให้เลิกร้องไห้ น่ารักครับ ผมอยากจะดึงมันเข้ามากอด จูบมันให้สมกับที่คิดถึง แต่ตอนนี้คงทำแบบนั้นไม่ได้...



“เอม อึก เอมไม่สวย พี่สิสวย”



“แหม่ะ พูดจาน่ารักจังเลยนะคะ อยากจะกรี๊ด แต่ไม่เอาดีกว่าเดี๋ยวไม่สวยเนอะ” พูดทีเล่นทีจริงใส่มันไปแบบนั้น ผมไม่อยากให้เอมมันร้องไห้แล้วครับ คิดถึงรอยยิ้มของมัน อยากจะให้มันยิ้มให้กันเยอะๆ



“พี่แม่ง” มันว่าแบบนั้นแล้วยกมือขึ้นมาตีผมเบาๆ หมัดลูกควาย



“หึ นี่ดานี่รักมันจริงๆหรอ ตกลงรักมันจริงๆงั้นหรอ” เสียงสั่นๆของใครอีกคนดังขึ้นมาในตอนนี้ ผมละสายตาจากใบหน้าที่ผมรัก ไปมองหน้าของใครอีกคนที่ผมเคยรักด้วยสายตาเย็นชา พระพายนั่งอยู่ที่พื้นด้วยสภาพสะบักสะบอม เรียกอีกอย่างได้ว่าเละเทะ



“แล้วเสือกอะไรด้วยล่ะ” ผมพูดออกไปแบบนั้นในที่สุด



พระพายที่มองมาที่ผม มือสองข้างที่เต็มไปด้วยแผลกำเข้าหากัน ผมละสายตาไปมองไอ้รุกและเฮียปืน บอกให้รู้ว่าให้พาคนพวกนี้ไปที่อื่น แล้วหันไปพยักหน้าเรียกไอ้แจเข้ามาหา



“หนู มึงไปหาอะไรกินก่อนนะคะ เดี๋ยวกูมา”



“พี่จะไปไหน ไม่เอา ไปด้วย”



“มึงจะเกาะกูเป็นลูกควายหรอคะ ไม่เอาน่า กูขอไปจัดการอะไรก่อน”



“มันหรอ”  ไอ้เอมว่าแบบนั้น แล้วใช้เท้าชี้ไปทางพระพาย เห็นแบบนั้นแล้วผมอดขำออกมาไม่ได้ ทำไมมันร้ายได้แบบนี้นะ ... แต่ถึงแบบนั้นผมก็พยักหน้ารับ



“ไปหาขนมกินกับน้องแจนะ” บอกมันอีกครั้งพร้อมยกมือขึ้นไปลูบแก้มมัน แก้มที่ตอนนี้มีรอยช้ำและมุมปากแตก ผมขมวดคิ้วในตอนที่เห็น



“ก็ได้ แต่พี่ดาบรีบมานะ เอมคิดถึง” มันว่าออกมาแบบนั้นด้วยน้ำเสียงที่ผมไม่เคยได้ยิน....อิดอก อยากกรี๊ด! แต่กูต้องฮึบไว้ ปล้ำแม่งเลยได้ไหมไม่อยากจะทน!



“ครับ...เดี๋ยวพี่มา ไม่นานหรอก”



.

.

.



‘พลัก’



“โอ้ย!” พายร้องออกมาแบบนั้น ตอนที่ผลักพายเข้ามาในห้องและล้มลงกับพื้น ผมมองภาพตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชา มองเห็นไอ้ม็อบที่เดินเข้ามาพยุงพายด้วยสภาพใจลอยเหมือนหมดอะไรตายอยาก



“ทำแบบนี้ทำไม”  ผมถามออกไปแบบนั้น พายผลักไอ้ม็อบให้ออกไปไกลๆตัว แล้วก้าวเข้ามาหาผม



“ดานี่ต่างหากทำแบบนี้ทำไม! สรุปรักมันหรอ มันที่ไม่มีอะไรเทียบพายได้เลย”



“ใครบอกแบบนั้น ใครไปเข้าฝันบอกมึงแบบนั้น”



“ดานี่! ดานี่พูดหยาบแบบนี้กับพายหรอ”  คนตรงหน้าที่มองหน้าผมเหมือนคนแปลกหน้า ไม่ต่างกันกับที่ผมมองคนตรงหน้าเหมือนคนไม่รู้จักเช่นกัน



“กูจะไม่พูดดีกับคนที่มันไม่ดีกับกู”



“ดานี่เคยบอกว่ารักพาย เคยบอกจะรอพาย!”



“แล้วใครมันจะไปรอคนเห็นแก่ตัวแบบมึงได้ทั้งชีวิตกันวะ พูดออกมาแต่ละอย่างไม่คิดว่าตัวเองเหี้ยบ้างหรอวะ ห๊ะ!” ผมตะคอกเสียงออกไปแบบนั้น มองเห็นคนตรงหน้าที่เริ่มจะหน้าซีดตกใจตอนที่เห็นผมเป็นแบบนี้ ผมจ้องเข้าไปในตาคนตรงหน้านิ่งๆ



“มึงโกหกกูทุกเรื่องใช่ไหม ไอ้โรคกลัวผู้ชายห่าอะไรของมึงก็ด้วย” ถามออกไปแบบนั้นแล้วคนตรงหน้าก็เริ่มหน้าซีด



“ตอแหลเก่งดีนะ ปั่นหัวกูสนุกมากไหม”



“โอ๊ย! ดานี่ พายเจ็บ” คนตรงหน้าร้องออกมาแบบนั้นในตอนที่ผมดึงแขนอีกคนเข้ามาใกล้ ใช้มืออีกข้างคว้าเข้าที่หลังคออีกฝ่ายให้หันมาจ้องหน้า



“เจ็บ มึงเจ็บได้เท่ากูหรือเปล่า! เจ็บได้เท่าที่กูเจ็บไหม มึงรู้ไหมว่ากูไม่กล้าแม้แต่กอดเมียกู! ทุกอย่างมันพักก็เพราะความเห็นแก่ตัวของมึงพระพาย”



“ก็แล้วมันทำไม ทำไมพายจะทำเพื่อตัวเองไม่ได้ พายก็แค่อยากกลับมาหาดานี่! ฮึก...แค่อยากให้ดานี่พาพายออกไปจากนรกนี่ คิดว่าพายอยากอยู่แบบนี้หรอห๊ะ! ฮึก ฮื่อ พายก็ไม่มีทางเลือกเหมือนกัน ...ดานี่ที่บอกว่าจะรอ แล้วพายผิดตรงไหนที่จะพยายาม”



“หึ...คนที่ไม่รู้ผิดรู้ถูก ทะยานอยากไม่เลิกแบบมึงอ่ะพาย มันไม่มีทางจะได้รับสิ่งดีๆตอบแทนหรอก กูโคตรเสียใจที่ครั้งนึงเคยรู้สึกดีๆกับมึง”



“ฮึก ก็แค่ดานี่รักพาย เรารักกัน....”



“แต่ตอนนี้กูไม่ได้รักมึง! อย่าพูดถึงคำว่ารักเลย ต่อให้เป็นแค่คนเคยรู้จักกันกูก็ไม่เป็น!”



“ฮึก ดานี่”



“มึงรู้ไหมว่าชีวิตนี้กูไม่เคยคิดจะทำร้ายมึงเลยพาย” ผมพูดแบบนั้นแล้วจ้องตาคนที่ร้องไห้อย่างหนัก พายที่ขยับตัวถอยหลังออกจากผมทีละก้าว แต่ผมก็ยังสาวเท้าเข้าไปใกล้ มองเห็นจากตรงนี้ว่าพายตัวสั่นอย่างทำอะไรไม่ถูก ไอ้ม็อบที่ทำท่าจะเดินเข้ามาถูกไอ้รุกเตะกลิ้งไปอีกทาง ผมจ้องหน้าคนตรงหน้าแบบที่ไม่เคยทำ สายตาที่มองไม่ต่างอะไรกับมองเห็นขยะไม่มีประโยชน์ชิ้นนึงเท่านั้น ยกยิ้มมุมปากออกมาในตอนที่เห็นอีกฝ่ายไร้ทางไปและเริ่มกลัว



“หมาจนตรอกยังน่าช่วย แต่มึง...มันไม่สมควรได้รับความช่วยเหลืออะไรเลย”



‘ผลัว!’



ใบหน้าที่เคยสวยสะบัดไปอีกทาง เลือดสีแดงที่ไหลออกมาจากจมูกก่อนที่คนตรงหน้าจะทิ้งตัวลงแทบเท้าของผมแบบไร้ทางสู้ ยกขาข้างนึงที่วางอยู่วางลงบนกลางหลังของคนที่นอนอยู่แทบเท้า พระพายที่ช้อนตามองผม น้ำตาใสที่ไหลลงมาไม่ได้น่าสงสารแล้วในวันนี้ มันมีแต่ความน่ารังเกียจ



“ออกไปจากชีวิตกู ทำเหมือนว่ามึงกับกูไม่เคยรู้จักกันมาก่อน อย่ามาเจออย่ามาให้กูเห็นหน้าทำเหมือนกับว่ามึงเป็นแค่ขยะชิ้นนึงที่กูจะไม่มีทางไปเฉียดใกล้ นี่เป็นทางรอดเดียวที่กูจะมอบให้ได้กับคนเหี้ยแบบมึง ... ถ้าแฟนกูเดือดร้อนอีกแม้แต่นิดเดียว กูไม่เอามึงสองคนไว้แน่”



“ดา...”



“อีกอย่างจำไว้ กูชื่อดาบ!...”



‘อัก!’



กระทืบเท้าลงไปอีกในตอนที่พูดออกมาแบบนั้น ไม่เหลือแม้แต่ความสงสารสักเศษเสี้ยวเดียวให้คนที่ไม่มีค่า



“เวลาที่กูไม่รู้สึก กูใจร้ายได้มากกว่าที่มึงคิดอีกพระพาย” ยกยิ้มมุมปากส่งไปให้ ก่อนจะพยักหน้าให้ไอ้เฮียปืนและไอ้รุก



“จัดการ”



“...จ..จะทำอะไร เดี๋ยว โอ๊ย อย่า อย่า...”



“หึ”





--------------

มาต่อแล้วค่ะ ครบ100%เรียบร้อยแล้วจ้า ขอโทษที่ช้านะคะ เพราะว่าอาการป่วยของแคทบางทีก็กลับมาปวดเป็นรอบๆ

เลยทำให้งานช้า และสำหรับตอนนี้ สำหรับแคทเขียนยากมากๆ ไม่รู้ว่าคนอ่านจะอินและสนุกไปด้วยกันไหม

แต่แคทหวังว่าทุกคนยังจะรอและจะรู้สึกสนุกไปด้วยกันนะคะ

ฝาก #สวยๆเป็นผัว ในทวิตเตอร์ด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่44.2 {30/08/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 30-08-2020 22:09:52
 :mc4: :mc4: :mc4: มาแล้วๆ ดีใจ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่44.2 {30/08/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 30-08-2020 22:21:57
โหย.....พี่ดาบเวอร์ชั่นดาร์กน่ากลัวอ่ะ แอบสงสารพาพวยนิดๆ เลย

เป็นกำลังใจให้ไรท์หายเป็นปกติเร็วๆ นะคะ.  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่44.2 {30/08/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 30-08-2020 23:09:09
หมดดราม่าแล้วเนาะ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่44.2 {30/08/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 31-08-2020 09:54:53
แอบสงสารพระพายอยู่เหมือนกันนะ มันต้องมีเหตุผลที่ทำซิ และที่ว่าอยากออกจากนรกที่พูดถึงคืออะไร แอบดราม่าไปอีก แล้วม็อบล่ะทำไมถึงร่วมมือกับพระพายด้วยอยากรู้ถึงเหตุผลที่ทำจริง ๆ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่44.2 {30/08/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 31-08-2020 10:07:55
สมน้ำหน้าอิพาพวย :hao3:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่44.2 {30/08/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 31-08-2020 10:16:02
อินค่ะคนเขียนน คนไม่ดีก็ต้องได้รับในสิ่งที่เขาทำไว้และค่ะ รักษาสุขภาพด้วยจ้า :mew1: :L2:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่44.2 {30/08/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Chucream.nabi ที่ 31-08-2020 11:14:59
 o13
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่45 {05/09/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 05-09-2020 21:22:32
บทที่45



“ไปแดกข้าวกันปะ”



“ไม่...” ตอบกลับคนที่เรียกผมแบบนั้นพร้อมๆ กับยื่นฝ่าเท้าไปยันตูดมันที่นั่งอยู่ข้างๆ เตียง ท่อนล่างที่ตอนนี้ใส่กางเกงวอร์มแบรนด์ของอดิดาสส่วนท่อนบนก็ไม่ใส่อะไรมันสักอย่าง นั่งเปลือยอกโชว์อยู่ได้ แหม ไอ้ขี้แอ๊กเอ้ย! คิดว่าหล่อมากไง ...เออ มึงหล่อ แต่แล้วไงอ่ะ แอ๊กนัก ยันแม่ง



“มีแรงถีบกูแบบนี้ก็ลุก” มันว่าออกมาอีกพร้อมๆ กับยื่นมือมาดึงผ้าห่มออกจากตัวของผม อย่าเสือกมาดึงนะเว้ย!



“อย่ามากวน”



“ไม่หิวข้าวหรือไง สายแล้วเนี่ย”



“สายก็เพราะพี่มึงไหมวะ แม่ง” ด่ามันอีกที พร้อมยันเท้าใส่หลังมันอีกรอบ แต่ไอ้คนโดนยันแค่ยกยิ้มมุมปาก มันเป็นกวนตีนป่ะ ไอ้สัดพี่เก้อแม่งชอบกวนตีน



“งอแงอะไร ก่อนหน้านี้ไม่เห็นจะบ่น”



“กูบ่นแล้ว มึงไม่ฟังเถอะ”



“กูเห็นมึงบ่นอยู่แป๊บเดียวเอง ที่เหลือฟังไม่เห็นจะรู้เรื่องได้ยินแต่พี่เก้อ อ๊ะๆ อื้อๆ อะไรอยู่ข้างหูกูนี่แหล่ะ”



“กวนส้นตีน พี่มึงไปเลยนะ!” หันไปมองแรงใส่มัน พร้อมๆ กับคว้าหมอนใบเล็กที่อยู่ใกล้ๆ ตัวขว้างไปใส่มันด้วย แต่อีกดันรับทัน มันที่มองมาที่กันแล้วยิ้มออกมากว้างๆ เป็นรอยยิ้มที่เรียกได้ว่ายิ้มออกมาทั้งปากทั้งตา ท่าทางที่ดูมีความสุขมากๆ ของมันสะท้อนอยู่ในสายตาของผม ไม่ต่างไปจากสายตาของมันที่ก็กำลังสะท้อนภาพเปลือยเปล่าของผมอยู่ในสายตาของมันไม่ต่างกัน



“มึงไล่กูหรอ” ยกยิ้มมุมปากแล้วมองตาผมไม่เลิก เกลียดท่าทีทุกๆ อย่างของพี่มัน พอๆ กับจังหวะการเลื่อนหน้าเข้ามาหากันจนลมหายใจของกันและกันสัมผัสที่ใบหน้า



“พูดเลยว่า ต่อให้มึงไล่กูก็ไม่ไปอยู่แล้ว”



“หน้าด้าน”



“พึ่งรู้หรอครับน้องเสือ...พี่ด้านได้มากกว่านี้อีกนะ” ยักคิ้วใส่ผมหนึ่งทีพร้อมๆ กับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของมัน และในตอนนั้นที่ใบหน้าคมก็เอียงหน้าเข้ามาหอมแก้มกันฟอดใหญ่อีกหนึ่งที



‘ฟอด’



“อ...ไอ้พี่เก้อ!” ได้แต่ยกมือขึ้นกุมแก้มแล้วเบิกตามองหน้ามันแบบนั้น การกระทำอุกอาจจนกูต้องอ้าปากค้าง มันที่เห็นผมเป็นแบบนี้ก็หัวเราะออกมาทันที



“น่ารักวะเสือ”



“พูดเหี้ยไร แม่ง” เสหน้าหนีสายตาของมันที่เอาแต่มองกันไม่เลิกสักที



“มึงรู้ตัวไหมว่ามึงขาว”



“เสือกไรกับความขาวกูล่ะวะ” บ่นมันออกไปแบบนั้น แต่ถึงแบบนั้นก็ยังไม่ยอมหันหน้าไปมองมัน เบื่อสายตามันครับ



“ก็ไม่ได้อยากเสือกอะไรนะ ก็แค่อยากบอกให้มึงรู้...”



“อะไร”



“ว่าพอมึงเขินทั้งหน้าทั้งตัวมึงไม่ขาวนะ...แต่มันแดงแทน หึ”



เกลียดแม่ง! เกลียดทุกอย่างที่มันพูดเลย รวมถึงเกลียดตัวเองด้วยที่ต้องยอมรับว่าคนแบบไอ้เสือ...ต้องมาตกม้าตายเขินไอ้คนแบบมัน เสือแบบผม ทำไมวันนี้ต้องมาแพ้คนแบบไทเกอร์ด้วยก็ไม่รู้ รำคาญจริงๆ เลย!



และกว่าทั้งผมและพี่มันจะแต่งตัวเรียบร้อยกันเสร็จก็ใช้เวลาพอสมควร เวลาที่ว่านั่นก็เลยแลกมากับน้ำย่อยของผมเอง ผิดเวลา หิวจนแสบท้องเลยครับ



‘จ๊อกๆ’



“ท้องร้องอะไรขนาดนั้นวะ”



“ก็กูหิว มึงไม่เข้าใจคนหิวหรือไง”



“งั้นมึงตามลงไปทีหลัง เดี๋ยวกูนำมึงลงไปสั่งไว้รอ มึงตามลงมาจะได้กินเลย” พี่มันบอกออกมาแบบนั้น คำพูดแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่ต้องหันไปมองหน้ามัน



“มองกูแบบนั้นหมายความว่าไง”



“ก็...เปล่า แค่คิดว่า มึงห่วงกูหรอวะ” เลือกจะหันหน้าหนีมันกลับมาที่โต๊ะเขียนหนังสือ ไล่มือไปตามขวดน้ำหอมบนโต๊ะที่ผมก็ไม่ได้คิดว่าจะหยิบมาฉีดใส่ แต่ทำแก้เก้อไปงั้นแหล่ะ แต่ในวินาทีต่อมา ก็รับรู้ได้ว่ามีใครอีกคนเดินมายืนซ้อนหลังกันอยู่ พอหันหน้าไปก็เจอหน้าอีกฝ่ายที่อยู่ไม่ไกลกัน มันที่ส่งยิ้มมาให้ผม พร้อมๆ กับฝ่ามือของมันที่วางลงมาบนหัวของกันเบาๆ



“กูห่วงมึงตลอดนั่นแหล่ะเสือ แต่กูก็เป็นแบบนี้ ไม่ได้อ่อนหวานเหมือนใคร จะให้มาพูดเลี่ยนๆ ใส่มึงก็ทำไม่ได้หรอกว่ะ”



“ก็ถ้าพี่มึงทำ กูคงอ้วกแตกตายก่อน”



“คู่เราแม่งรักกันด้วยลำแข้งจริงๆ แม่งเอ้ย”



“มึงจะตีกูหรอไอ้พี่เก้อ มึงจะแข้งกับกูหรอ”



“ใครจะไปกล้าครับ ตีนเมียกูหนักจะตาย”



“สัด”



“หึ งั้นกูลงไปสั่งรอมึงนะ มึงล็อคห้องแล้วตามกูลงไป”



“อื้ม” ตอบรับมันออกไปเบาๆ อีกคนที่ก็มองผมไม่วางตาแล้วยิ้มออกมา ก่อนมือที่วางอยู่บนหัวของผม พี่มันก็ขยี้เบาๆ ก็จะผละตัวถอยหลังออกไป จริงๆ ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเท่าไหร่หรอกนะ ไม่ได้ซึ้งอะไร แต่สุดท้ายกูก็อดจะยิ้มออกมาไม่ได้ทุกทีเลย



.

.

.


“มึง...ป้า มาทำไรกันที่นี่วะ”



“กูสิต้องถามมึงว่ามาทำอะไรที่นี่คะ มึงนอกใจน้องเสือกูหรอ”



“พูดเหี้ยอะไรของมึงเนี่ย”



ผมที่ล็อคห้องเรียบร้อยแล้วเดินตามพี่เสือมันลงไปทีหลัง ต้องขมวดคิ้วกับเสียงของคนที่พูดคุยกันจนดังลั่นทางเดิน โดยเฉพาะหนึ่งในเสียงนั้น เป็นเสียงของแฟนกู คนที่บอกว่าจะลงมาสั่งข้าวให้กูก่อนพอลงไปจะได้กินเลย



“มึงนอกใจกูหรอไอ้พี่เก้อ” ลงบันไดมาได้ยินประโยคนอกใจอะไรนี่พอดี เลยโพล่งออกไปแบบนั้น สายตาจากคนสามคนหันมามองผมเป็นตาเดียว ผมยืนอยู่ตรงชานพักของบันไดในช่วงก่อนจะลงไปถึงชั้นหนึ่ง ส่วนพี่เก้อมันก็ยืนคาอยู่ที่บันไดในชั้นที่ต่ำลงไปจากผมสามสี่ขั้น ตรงขั้นบันไดชั้นหนึ่งผมเห็นพี่หยีที่ยืนอยู่ตรงนั้น ขาสวยๆ ของพี่เค้าก้าวขึ้นมาที่ขั้นบันไดแล้วสามขั้น และคนที่ยืนกอดกระเป๋าอยู่ตรงขั้นบันไดขั้นแรงไม่ใช่ใครที่ไหน คือพี่เอม เพื่อนสนิทของกลุ่มไอ้พี่เสือ



มาทำไรที่นี่กันทั้งกลุ่มเลยวะ ... ผมได้แต่มองภาพตรงหน้านี้อย่างไม่เข้าใจ



“กูเปล่านอกใจมึง” ไอ้พี่เก้อหันมามองหน้าผมแล้วพูดออกมาแบบนั้น ก่อนมันจะรีบหันกลับไปพูดกับเพื่อนของมันต่อ



“ป้ามึงอย่ามาพูดพล่อยๆ นะเว้ย แล้วพวกมึงมาทำอะไรกันที่นี่”



“นี่มันหอพักของบ้านกูจ้า กูพาไอ้เอมย้ายมาอยู่” พี่หยีพูดออกมาแบบนั้น เป็นความรู้ใหม่เลยว่านี่คือหอพักของบ้านพี่เค้า อยู่มานานกูเห็นแต่ป้าแม่บ้านไม่เคยเจอหน้าเจ้าของหอ โลกกลมเหมือนมีคนจับวาง



“มึงย้ายมาทำไมเอม มีเรื่องอะไร” ไอ้พี่เก้อที่ขมวดคิ้วแล้วถามออกไปเสียงเครียดๆ ผมละสายตาจากมัน มองตรงไปที่พี่เอม คนที่ยังยืนทำหน้าซื่อๆ แล้วอุ้มกระเป๋าใบเก่าๆ ของเค้าเอาไว้แนบอก



“ก็...ไม่มีไร



“ตอแหลไม่เคยเนียนยังจะพยายาม แล้วมันอยู่ห้องไหนวะป้า ขึ้นไปก่อนเหอะ มายืนเกะกะตรงทางขึ้นลงทำไมวะ”



“มึงส่งกระเป๋ามานี่ไอ้เอม เดี๋ยวกูถือให้” ไอ้พี่เก้อพูดออกมาแบบนั้น ผมหันหน้าไปมองมันทันทีที่มันพูดจบ แต่เจ้าตัวไม่ได้คิดที่จะหันกลับมามองหน้าผม ผมที่เป็นแฟนมันที่ยืนอยู่ตรงนี้



“เห้ย ไม่ต้องๆ กูถือเองได้” พี่เอมที่เงยหน้ามามองหน้าผมแว๊บนึง สีหน้าพี่เค้าไม่ดีเท่าไหร่แล้วก็รีบพูดปฏิเสธออกมามาแบบนั้น แต่ไอ้คนที่ไม่ยอมให้พี่เค้าปฏิเสธก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นไอ้ควายที่ยืนต่ำลงไปกว่าผมสองสามขั้น



“เรื่องมากเหี้ยไร กูถือให้ เอามาไอ้โง่”



“สัด” พี่เอมด่าได้แค่นั้นก็โดนไอ้เก้อมันกระชากกระเป๋าใบเก่านั้นมาแบกเอาไว้เอง ผมมองดูเหตุการณ์ตรงหน้านี้อย่างเงียบๆ ไม่ได้มีบทสนทนาใดๆ ออกมาจากปากของผม ก็แค่ยืนมองมันอยู่ตรงนี้ด้วยความรู้สึกที่ว่า ...อีกแล้วหรอวะ



“ไปมึง ห้องไหน”



“ชั้นสามค่ะ ตามมาๆ”



“แล้วข้าวกูอ่ะไอ้พี่เก้อ” เป็นผมที่เลือกพูดออกมาแบบนั้น เป็นความรู้สึกที่ห้ามตัวเองไม่ได้ ก็แค่อยากถามว่ามึงลืมอะไรไปแล้วหรือเปล่า หรือว่าลืมกูไปแล้ว คนที่มึงพึ่งบอกว่าเป็นห่วงกูตลอด แต่พอมันเจอพี่เอมทีไร กูกลายเป็นแค่หมาทุกที



“คือว่า...” ไอ้พี่เก้ออึกอัก มันที่หันกลับมามองหน้าผมเหมือนพึ่งนึกขึ้นได้ว่ากูยืนอยู่ตรงนี้ แล้วหันกลับไปมองหน้าพี่เอมอีกที ผมเห็นพี่เอมมองหน้ากับพี่หยีแล้วถอนหายใจออกมาก่อนจะออกปากถาม



“มึงจะพาน้องไปกินข้าวหรอ”



“อืม”



“งั้นมึงก็พาน้องไปเหอะ กูจะไปห้องกับไอ้หยีเอง”



“แต่...กูก็อยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับมึง ทำไมมึงถึงต้องมาอยู่ที่นี่” ไอ้พี่เก้อพูดออกมาแบบนั้น เป็นท่าทีที่ผมมองออกว่ามันอยากจะรู้ให้ได้



“มึงก็คอยมาถามกูเอาทีหลังก็ได้ เรื่องแค่นี้เองทำไรให้ยากวะ เอากระเป๋ากูมา” พี่เอมเลือกที่จะตัดบทของไอ้พี่เก้อมันเอง ก่อนจะเดินขึ้นบันไดมาดึงกระเป๋าของตัวเองกลับไป



“เออ มึงพาน้องเสือไปเหอะ กูให้ไอ้เอมอยู่ห้อง313” พี่หยีว่าออกมาแบบนั้น ก่อนจะดึงมือพี่เอมให้เดินตามเขาขึ้นไป พวกพี่ๆ เดินสวนกับผมไปพร้อมรอยยิ้ม พี่เอมที่มองหน้าผมแล้วยิ้มให้อย่างอบอุ่น เป็นคนน่ารักที่แค่ยิ้มออกมาก็มีคนชอบแล้วครับ ผมเองก็ชอบ แต่คนที่ชอบมากกว่าผม อาจจะเป็นใครคนนึงที่ยืนอยู่บนขั้นบันไดที่ต่ำกว่าผมและกำลังมองตามหลังพี่เอมไปนั่นล่ะมั้ง มันละสายตาจากแผ่นหลังของพี่เค้า ก่อนจะเลื่อนมาสบตากับผมในตอนนี้ เหมือนพึ่งรู้สึกตัวว่ากูยืนอยู่ตรงนี้ ยืนมองมึงมองคนที่มึงชอบมากๆ อยู่ตรงนี้มาตลอด



และความรู้สึกของผม มันก็โถมเข้ามาอีกครั้ง เป็นความคิดที่วูบเข้ามาว่ามึงไม่ได้เลิกชอบเค้าเลยหรอวะ



.

.

.



ผมที่ละสายตาจากไอ้เอมแล้วถอนหายใจออกมา พูดตรงๆ ว่ายังอยากเสือกเรื่องของมันต่ออีกนิด อยากรู้ว่า ทำไมมันถึงแบกไอ้กระเป๋าเสื้อผ้าใบนี้มาอีกแล้ว ความอยากเสือกของผมมีมากจริงๆ เหมือนติดเป็นนิสัยในกลุ่มของผมแล้วครับ เป็นกันหมดทั้งไอ้หยี ไอ้เอม และผม แบบนี้แหล่ะเค้าถึงบอกว่าคนศีลเสมอถึงจะอยู่ด้วยกันได้ พิสูจน์ได้เลยตอนนี้ว่าจริง อยากรู้ฉิบหายแต่ต้องฮึบเอาไว้ตอนที่ละสายตามาแล้วเจอหน้าของไอ้เสือ มันที่กำลังมองมาที่ผมนิ่งๆ สายตาสวยมีสเน่ห์ของมันนิ่งเป็นสัญญาณบางอย่างที่ดังเตือนผมว่า มึงซวยแล้วไอ้เหี้ยเก้อ



“ปะ ไปกินข้าวกัน” เลือกที่จะพูดออกมาแบบนั้นแล้วยิ้มไปให้มัน เดินขึ้นไปสองขึ้นเพื่อให้เข้าใกล้ตัวไอ้เสือมากขึ้นไปอีก เอื้อมมือจะไปจับมือของมันเอาไว้แต่ไอ้เสือเบี่ยงตัวหลบ และเลือกที่จะเดินสวนกับตัวผมลงมาพอดีพร้อมๆ กับเสียงของมันที่พูดขึ้นมานิ่งๆ



“ถ้ามึงอยากตามไปก็ไปเถอะ” .... นั่นไง กูว่าแล้ว! ....



“เสือ” เรียกมันเอาไว้พร้อมๆ กับคว้าข้อมือของมันเอาไว้ได้ทัน



“อะไร”



“มันไม่ใช่แบบที่มึงคิดนะ” ผมบอกออกไปแบบนั้น มองเสี้ยวหน้านิ่งๆ ของมันที่ไม่ยอมหันกลับมามองหน้ากัน มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้สิวะ ผมไม่ได้คิดอะไรกับไอ้เอมแล้วจริงๆ อย่างเดียวที่คิดก็คิดอยากจะเสือกแค่นั้นเอง



“กูคิดอะไร”



“เรื่องไอ้เอม กูไม่ได้คิดอะไรแล้วจริงๆ นะ เมื่อกี้กูก็แค่เป็นห่วงมันเฉยๆ มันแบกกระเป๋าห่านั่นมาอีกแล้วกูก็เลยแค่...”



“ก็เลยแค่ลืมว่ากูยืนอยู่ตรงนี้ มึงเลยอยากจะรีบแบกกระเป๋าขึ้นไปส่งเค้าเพราะกลัวเค้าหนัก มึงจะบอกว่ามันก็แค่นั้นไม่มีอะไรใช่หรือเปล่า กูถามจริงๆ เหอะ เวลาที่เป็นเรื่องของพี่เอม ทำไมมึงถึงต้องลืมกูทุกทีเลยวะ กูหรือเค้าที่มึงบอกว่าเป็นแฟน กูไม่ใช่หรอที่เป็นแฟนมึงคนที่มึงพึ่งเอากันมาเมื่อกี้ ใช่กูหรือเปล่าคนที่มึงบอกจะรีบไปซื้อข้าวไว้ให้ แต่พอเจอหน้าพี่เอมทีไรมึงก็ลืมกูทุกที”



“มันไม่ใช่แบบนั้นนะเสือ” ไม่ได้คิดว่ามันจะคิดไปไกลถึงขนาดนี้ ไม่เคยคิดว่าคนแบบไอ้เสือจะคิดมากได้ขนาดนี้ เพราะทั้งผมทั้งมันสันดานเราไม่ต่างกันเท่าไหร่กับเรื่องในอดีตที่ผ่านมา แต่บางทีผมก็อาจจะคิดง่ายเกินไป กับความสัมพันธ์ของเราที่เปลี่ยนไป ความรู้สึกของมันจะมาคิดง่ายๆ เหมือนเดิมคงไม่ได้แล้ว ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้คิดกับไอ้เอมแบบที่ไอ้เสือว่า แต่การกระทำของผมก็คงจะทำให้มันคิดมากอยู่ดี



“อย่าพยายามเลยว่ะพี่เก้อ ถ้ามึงยังรักเค้า ก็อย่าพยายามจะมาคบกันกับกูเลยว่ะ”



และใช่ มันคิดมากไป ไกลเกินกว่าที่ผมจะตั้งรับทัน และในตอนนี้ที่พยายามจะเอื้อมมือไปดึงมันไว้ ก็ไม่ทันแล้ว ลูกเสือแบบมันไม่เคยทิ้งลาย ว่องไวและชัดเจนเสมอ ในตอนที่พยายามจะคว้ามือมันไว้ มันก็ยกเท้าขึ้นเตะข้อพับผมเต็มแรงจนเข่าย่อลงไปกับพื้น และมันเองก็กระโดดพรวดลงจากบันไดไปยืนที่ชั้นล่างและเดินหนีหายไปแบบไม่คิดจะมองกลับมาหาผมแม้แต่น้อย



แผ่นหลังของมันที่ดูเข้มแข็งนั่น ขายาวๆ ของมันที่เตะผมจนลงมานั่งอยู่แบบนี้ ไม่รู้เลยว่ามันจะแบกความเสียใจที่ผมไม่ได้ตั้งใจเอาไว้มากมายแค่ไหน



“กูจะคบกับมึงไอ้เสือ กูไม่เลิกนะไอ้เหี้ย มึงรอกูก่อน!”



ได้แต่ตะโกนตามไปแบบนั้น อยากจะวิ่งลุกตามไปเหมือนพระเอกหนังในละคร แต่ก็ต้องยอมรับว่า ตีนไอ้เสือไม่เคยเบา กูวิ่งตามไม่ทันแล้วไอ้เหยดแหม่!



“โถ่เว้ย!”



...



‘ตึก ตึก ตึก’



เสียงจังหวะก้าวเดินของคนมาใหม่ทำให้ผมต้องหันไปมอง และในตอนที่สายตาของเราสองคนสบกัน หัวใจของผมสั่นเหมือนกับวันแรกที่ได้มองตาคู่นี้ แตกต่างออกไปจากทุกทีในตรงที่วันนี้ผมคิดถึงสายตาคู่นี้มากกว่าที่เคย



“เอ่อ...”



“แจออกไปเถอะ เดี๋ยวเฮียจัดการเอง”



“ครับ”



ประโยคคำพูดสนทนาสั้นๆ ของสองพี่น้องไม่ได้มากมายนัก เพราะคนตรงหน้าของผมก็แทบจะไม่ได้สนใจน้องชายตัวเอง พี่มันเอาแต่จ้องมาที่หน้าของผม ไม่ต่างจากผม ที่ก็ไม่ละสายตาไปจากมันเช่นกัน เป็นความคิดถึงที่มากกว่าคิดถึง เป็นความเป็นห่วงที่มากกว่าความโหยหา ผมมองหน้าคนตรงหน้าที่ดูจะซูบผอมลงไปมากกว่าที่เคยแล้วอยากจะร้องไห้ออกมา



“ไงคะ ขอดูหน้าหน่อยสิ ทำไมทำหน้าแบบนั้นหื้ม” พี่ดาบพูดขึ้นแบบนั้นตอนที่น้องแจเดินออกจากห้องไป ห้องทั้งห้องมีแค่เราสองคน และพี่มันก็มาทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาข้างๆ ผม มันที่ยิ้มให้ผมเหมือนทุกครั้งที่ผมเคยเห็น



“แย่จริงๆ เลย ทำหน้าเมียกูเขียวช้ำแบบนี้ได้ยังไง ไม่สวยเลยเนี่ย” พี่มันที่พูดคะขาออกมาอีกแต่น้ำเสียงไม่ได้ดัดอะไรแบบที่ชอบทำ เป็นคำพูดจากเสียงทุ้มๆ ที่อบอุ่นที่มาพร้อมๆ กับฝ่ามือแกร่งที่เลื่อนมาลูบใบหน้าผมเบาๆ เป็นความรู้สึกแผ่วๆ ที่เหมือนอีกคนก็ไม่กล้าจับ



“เจ็บมากไหม”



“ม..ไม่ครับ” ผมตอบคำถามของพี่มันพร้อมๆ กับส่ายหน้า อีกคนที่มองมาด้วยสายตาที่บอกได้ว่ามันไม่สบอารมณ์



“ไม่ชอบให้มึงเป็นแผลเลยรู้ไหม ถ้าเลือกได้ก็อยากให้เป็นหน้ากู” มันว่าแบบนั้นด้วยเสียงจริงจัง จ้องหน้าผมแล้วค่อยๆ ลูบเบาๆ



“เอมไม่เจ็บหรอก”



“แต่กูเจ็บ” มันพูดสวนขึ้นมาแบบนั้น ผมช้อนตามองหน้าพี่มันที่ทำสายตาจริงๆ จัง ฝ่ามืออุ่นๆ นั่นที่เลื่อนลงมาจับมือของผมเอาไว้เบาๆ



“กูเจ็บที่ทำให้มึงเจ็บ ทุกเรื่องเลยเอม กูไม่อยากให้มึงต้องเจ็บแบบนั้นเลย” ผมพูดไม่ออกตอนที่ได้ยินประโยคนี้ พี่มันที่ก้มหน้าลงมองมือที่จับกันของเราอยู่ตอนนี้ ก่อนที่มันจะกระชับฝ่ามือให้แน่นขึ้นมากกว่าเดิม เหมือนว่ามันเองยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่ามือที่จับอยู่มันคือเรื่องจริง



“กูขอโทษเอม ขอโทษจริงๆ ที่ทำให้มึงต้องกลับไปรู้สึกเหมือนตอนนั้น ตอนที่แฟนเก่ามึงทำแบบนั้นกับมึง ขอโทษครับ...”



“พี่...”



“แต่กูไม่ได้ตั้งใจ จริงๆ นะเอม...กูขอได้ไหม”



“หื้ม”



“ขอความเชื่อใจที่มึงมีให้กูกลับคืนมาได้ไหมวะ ให้กูได้เป็นพระเอกที่สวยที่สุดในชีวิตของมึงแบบที่กูเคยพูดไว้ได้ไหมครับ” เงยหน้าขึ้นมามองหน้าผม สายตาของพี่มันที่บอกว่ากำลังเสียใจ กลัว และคาดหวังกับคำตอบของผม ไม่รู้เหมือนกันว่าก่อนที่ผมจะขอแยกมาอยู่คนเดียวในวันนั้น มันอาจจะเป็นแผลที่ทำให้กระทบใจพี่มันมาจนถึงวันนี้หรือเปล่า ตอนนี้แม้กระทั้งจะจับมือผม มันถึงดูยังดูไม่กล้าที่จะทำเลย



“แล้วกับพระพาย”



“มันจะเป็นจะตายยังไงก็เรื่องของมัน”



“ทำไมใจร้าย”



“เพราะกูจะใจดีแค่กับคนที่กูรัก”



ผมรู้ดีว่านิสัยของพี่มันเป็นคนให้ความสำคัญกับคนที่มันแคร์ โดยเฉพาะกับเรื่องความรักของมัน พี่มันยึดมั่นและชัดเจนกับความรักในทุกๆ ครั้งของตัวเอง เป็นคนชัดเจนที่จะไม่ลังเลกับเรื่องที่ตัวเองมั่นใจ และเพราะแบบนั้นเวลาที่มันรักใครมันเลยให้แบบเต็มที่ ผมไม่แปลกใจถ้าเรื่องราวในครั้งนี้ จะทำให้มันตัดพระพายออกไปได้แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะคนที่ไม่ดีกับมัน พี่มันก็ไม่คิดจะเก็บเอาไว้อีกหรอก เพราะมันไม่แฟร์ที่คุณจะให้ใครไปร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่สิ่งที่ได้กลับมามันเป็นแค่เรื่องโกหก



“คนๆ นั้นคงเป็นผมสินะ” พูดออกไปแบบนั้นแล้วส่งยิ้มให้พี่มัน เป็นรอยยิ้มแรกที่ได้ยิ้มให้กัน เรามองหน้ากัน ผมไม่รู้จะพูดอะไรออกไปมากกว่านั้นนั้น มันเป็นความรู้สึกที่พูดไม่ได้ มันเต็มไปหมดภายในใจของผม ได้แต่เอื้อมมือเข้าไปกอดพี่มันเอาไว้ และอีกฝ่ายก็กอดตอบผมแน่นๆ เหมือนกับว่ามันเองก็กำลังรอ รอให้ผมเป็นคนอนุญาตให้มันได้กอดผมอีกครั้ง



“เอม”



“หื้ม”



“ให้กูคืนมาแล้วนะ”



“อะไร”



“ตำแหน่งผัวที่สวยที่สุดของมึงไง ให้คืนกูมาแล้วไม่ให้ใครแล้วนะ” มันพูดออกมาแบบนั้น และเป็นผมเองที่ก็หลุดขำออกมาแบบห้ามไม่ได้ เลื่อนมือขึ้นไปลูบแก้มของพี่มันบ้าง พร้อมๆ กับส่งยิ้มไปให้ ผมพยักหน้าออกมาน้อยๆ ก่อนจะเปิดปากพูดออกไป



“ตำแหน่งแบบนี้ก็มีแค่พี่เท่านั้นแหล่ะที่มันจะเป็นได้”



“ก็ต้องใช่แล้วไหม ก็กูมันสวยที่สุดแล้วนี่คะอิดอก” มันว่าออกมาแบบนั้นแล้วยิ้มออกมา วงแขนของผมที่โอบรอบลำคอของมันเอาไว้ ส่วนของอีกฝ่ายก็โอบรอบอยู่ที่เอวของผม เราสองคนที่มองหน้ากันแล้วหลุดขำออกมาพร้อมๆ กัน และในตอนนั้นที่เหมือนโลกรอบข้างหยุดเคลื่อนไหว มีแค่ผมและพี่มันที่เท่านั้นในเวลานี้ ใบหน้าคมที่เลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ ดวงตาคมเข้มที่วันนี้ปราศจากอายไลน์เนอร์หรืออายแชร์โดวที่อีกฝ่ายชอบทา แต่ถึงแบบนั้นสายตาของมันกลับวาววับไม่เปลี่ยนไป



“พี่จูบเอมได้ไหม วันนี้กอดเอมได้หรือยัง”



“เอมไม่ห้ามนะ วันนี้เอมไม่ห้ามแล้ว พี่ดาบกอดเอมนะ” ผมตอบออกไปแบบนั้น พี่มันที่ใช้นิ้วโป้งลากผ่านริมฝีปากของผมเบาๆ สายตาของมันที่มองอ้อยอิ่งอยู่ที่รูปปากของผมอย่างชั่งใจ ก่อนที่ลิ้นร้อนของอีกฝ่ายจะเลียของปากตัวเองนิดๆ ก่อนที่เจ้าตัวจะเอียงใบหน้าทำมุมให้ได้องศา กดจูบลงมาบนปากของผมของผมช้าๆ แผ่วๆ เป็นการจูบที่ค่อยๆ กดย้ำ แนบแน่น ลำลึกขึ้นที่ละนิดๆ ผมนิ่งปล่อยให้พี่มันจูบอยู่แบบนั้น เอื้อมมือไต่ขึ้นไปที่ท้ายทอยของผมสีสว่างนั่นอย่างวาบหวามในใจ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้คอยผลักไสมันมาอย่างร้ายกาจ ในวันนั้นที่เรารักกันแต่กอดกันไม่ได้ จนในวันนี้ที่เราเข้าใจว่ามันเพราะอะไร เราควรจะปล่อยเวลาทิ้งไปให้เปล่าประโยชน์อย่างนั้นหรอ



ความรักนะครับไม่ใช่พงศาวดารที่จะต้องคอยจดบันทึกแต่เรื่องราวเก่าๆ เอาไว้อยู่เสมอ ... มันถึงเวลาแล้วที่ความรักของเราจะเริ่มใหม่ บันทึกหน้าใหม่ของเราจะถูกจดลงด้วยมือของเรา มือของผมและพี่มันด้วยกันแค่สองคน


(มีต่อจ้า)
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่45 {05/09/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 05-09-2020 21:23:37

.

.

.



“พ...พี่ดาบ”



“อืม เรียกชื่อกูดังๆ กูอยากได้ยินชื่อกูออกมาจากปากมึง”



“เอาแต่ใจ อึก อื้ม”



“เร็วๆ เอม พี่คิดถึงครับ”



“อึก พี่ดาบ อ๊ะ พี่ดาบ มันลึก” แท่งเนื้อร้อนที่ถูกสอดใส่เข้ามาให้ลึกมากขึ้นกว่าครั้งไหนๆ อาจเป็นเพราะเราไม่ได้กอดกันมาสักระยะหนึ่ง พอมาทำอีกครั้งในวันนี้ มันทั้งตื่นเต้น ทั้งคับแน่น แต่ดูเหมือนอีกคนจะไม่คิดแบบนั้น เพราะดูเหมือนว่ามันจะชอบมากเป็นพิเศษ ยิ่งกูบอกให้เบามันยิ่งโหมแรงกระแทกกระทั้นเข้ามาอย่างจงใจ เป็นคนไม่อ่อนโยนเวลาอยู่บนเตียงผมที่ปรือตาขึ้นไปมองหน้าคนที่ทาบทับอยู่บนตัวของผม ฝ่ามือข้างหนึ่งของพี่มันที่เอื้อมมือไปฉีกขาของผมให้อ้าออกกว้างมากขึ้น หลุบสายตาลงต่ำมองเห็นแกนกายอันใหญ่ที่เชื่อมต่ออยู่กับช่องทางด้านหลังของผมกำลังสอดเข้าสอดออก มองเห็นแกนกายร้อนของตัวเองที่ตั้งชันขึ้นมาอยู่ตรงหน้าแล้วแก้มยิ่งเห่อร้อน เป็นภาพที่หยาบโลนที่ชวนให้ต้องอาย แต่ถึงแบบนั้นอีกฝ่ายก็เอื้อมมือมาขยับแกนกายของผมรูดรั้งเป็นจังหวะตามแรงสะโพกของมันที่กำลังขยับเข้าออก พี่มันที่ถอนแกนกายแต่ละครั้งออกมาช้าๆ จนแทบจะสุดทั้งลำแล้วกระแทกกระทั้นกลับเข้าไปใหม่ช้าๆ อย่างจงใจแกล้งกันให้ขาดใจ ได้แต่จิกปลายเท้าลงไปกับเตียงอย่างเสียวซ่านในทุกๆ ครั้งที่แกนกายใหญ่เกือบหลุดการเชื่อมต่อ เป็นความรู้สึกที่เรียกได้ว่าเสียวจนต้องขมิบช่องทางข้างหลังเอาไว้มากขึ้นไปในทุกทีๆ เสียวซ่านจนน้ำตาคลอ



“พี่ดาบ อื้ออ อย่าแกล้งเอม”



“พี่ชอบ ทำแบบนี้น้องเอมไม่ชอบหรอครับ หื้ม” ว่าออกมาแบบนั้นแล้วสอดแท่งร้อนเข้ามาอีกครั้งช้าๆ ทั้งลำก่อนจะเอียงหน้าเข้ามาหอมแก้มกันก่อนจะเลื่อนริมฝีปากเข้ามากดจูบ คนตรงหน้าที่ยกยิ้มมุมปากออกมานิดๆ ก่อนจะดันตัวผละกลับขึ้นไป สายตาคมที่จ้องมองหน้าผมแล้วยกยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่ไม่ชวนให้ไวใจ และใช่ กูไว้ใจมันไม่ได้เลยแม่ย้อย!



สะโพกแกร่งที่โยกจังหวะให้เร็วขึ้นและแรงขึ้นกระแทกเข้ามาใส่แบบไม่ยั้ง เปลี่ยนจังหวะจากช้าให้เป็นเร็วแบบไม่ให้ได้ตั้งตัว เหงื่อของเราที่รวมเข้าเป็นเนื้อเดียวกันในตอนที่ร่างของผมและของพี่มันแนบทุกสัดส่วนเข้าด้วยกัน ทุกอย่างถูกเสียดสี ทั้งร้อนทั้งเร็วจนผมหายใจติดขัด เป็นความทรมารที่ปะปนไปด้วยความเสียวซ่านทั้งจากด้านหลังและด้านหน้าที่ฝ่ามือหนาก็ปรนเปรอกันไม่ห่าง พี่มันที่สอดตัวเข้ามาลึกและถี่มากขึ้นกว่าทุกที สายตาของผมเริ่มพร่ามัว ได้แต่ยกแขนขึ้นกอดพี่มันไว้แน่นๆ ในตอนนี้ หลับตาลงช้าๆ และปล่อยให้น้ำตามันไหลลงไป พร้อมๆ กับเสียงครางสุดท้ายที่มาพร้อมๆ กับน้ำอุ่นที่ถูกฉีดอัดเข้ามาในร่างของผม



"อ๊า"



"อึก ซี๊ด" เสียงทุ้มมีสเน่ห์ที่ครางเบาๆ ดังอยู่ที่ข้างหูของผม เสียงหอบหายใจของกันและกันดังสะท้อนแข่งกับเสียงเครื่องปรับอากาศ ดวงตาที่พร่าเบลอก่อนหน้านี้เริ่มกลับมาเป็นปกติช้าๆ ก่อนมันจะถูกแทนที่เข้ามาด้วยความเหนื่อยอ่อน ไอ้เอมเจ็บไข่ของจริงแบบที่ไม่ได้เรียกว่าคำอุทาน หลักฐานยังคามือตรงที่อีกฝ่ายก็ยังไม่ปล่อยมือออกจากแกนกายของกัน



ทุกอย่างเงียบเสียงลงในตอนที่ลมหายใจของเราเริ่มปรับเป็นปกติสม่ำเสมอ พี่ดาบที่ดันตัวขึ้นมา แล้วค่อยๆ ดึงแกนกายออกจากช่องทางของผมช้าๆ เป้นความช้าที่ไอ้เอมอยากถีบพี่มันออก เพราะยิ่งช้ายิ่งรับรู้ได้ถึงตัวตนของอีกฝ่าย มันที่จงใจค่อยๆ ถอนออกพร้อมๆ กับมองหน้าผมที่นอนกัดปากไปด้วยตาพราว



“เจ๊ อื้อออ” ร้องออกมาแบบนั้น อยากตะโกนว่ากูเสียวนะรู้เปล่า แต่ทำไม่ได้ อีกคนที่มองท่าทางของผมแล้วหัวเราะออกมามันที่จัดท่านอนให้ผมดีๆ พร้อมเอาผ้าห่มมาคลุมตัวไว้ให้ รู้สึกเหนื่อยจนอยากจะหลับลงไปแล้วในตอนนี้



“อยู่บนเตียงกูไม่เคยเป็นเจ๊นะหนู” พูดแบบนั้นแล้วโน้มหน้าลงมาหอมแก้มกันอีกครั้งนึง



“รู้แล้วไม่ต้องย้ำ เอมเจ็บไข่เลย”



“กูว่าทำเบาๆ แล้วนะ ไข่น้องเอมบอบบางจังเลยน้า”



“อื้ม ไข่เอมใสๆ เหมือนหน้าเจ๊เลยนะ” บอกออกไปแบบนั้นแล้วตะแคงข้างหันหน้าไปแนบกับหมอนนุ่ม หมอนนุ่มๆ ที่มีกลิ่นคุ้นเคย กลิ่นที่ผมคิดถึงมาหลายคืน รับรู้ได้ถึงแรงลูบผมของผมจากฝ่ามือหนา ปรือตามองอีกครั้งก็เห็นอีกฝ่ายที่กำลังมองมาแล้วยิ้มมาให้อยู่แบบนั้น



“เอมรักพี่ดาบนะ”



“กูก็รักมึงมากเหมือนกันน้องเอม” ซุ่มเสียงสุดท้ายที่กระซิบลงมาที่ข้างหูของผมทำให้ผมหลุดยิ้มออกมาได้แม้ว่าตาจะหลับลง



ตลอดช่วงเวลาในความรักแต่ละครั้งของคนเรา เราเลือกไม่ได้หรอกว่าในทุกๆ วันเราจะมีความสุขไปกับมันเสมอ ความสุขกับความทุกข์มักปะปนกันมาในความรัก ... ในตอนนี้ผมก็แค่ลองเลือกให้เวลากับตัวเองได้เรียนรู้และเติบโตจากทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามาในช่วงเวลาของความรักที่ผ่านมา ผมจะไม่ฟังคำพูดของใครว่าความรักดีๆ เป็นแบบไหน แต่ผมจะเลือกคำตอบจากหัวใจของผมที่มันบอกว่าใช่ และคำตอบสุดท้ายที่ได้มา ก็คือชื่อของคนที่ขยันแต่งหน้าทาปากแดงเป็นที่สุด คนๆ นั้น คนๆ เดียวที่เราจะข้ามผ่านทุกๆ เรื่องไปด้วยกัน



.

.

.


ผมนั่งมองไอ้เด็กข้างตัวที่ตอนนี้หลับลงไปแล้ว ลมหายใจสม่ำเสมอที่ทำให้รู้ว่าตอนนี้คงหลับสนิท อาจเป็นเพราะเหนื่อยมาทั้งวัน และก็โดนผมสูบแรงมาทั้งคืนล่ะมั้ง แต่ดีแล้วที่มันหลับไป อยากจะให้มันพักอย่างสบายที่สุด



ใบหน้าน่ารักที่ซุกเข้ากับหมอนของผม เป็นภาพน่ารักแบบที่เคยเห็นมาตลอด อดใจไม่ได้ที่ต้องเลื่อนหน้าลงไปหอมแก้มมันอีกครั้ง



“รักมึงจริงๆ นะเอม สัญญาว่าจะหาหญ้าพันธุ์ดีมาให้กินตลอดนะครับ” พูดออกไปแบบนั้นแล้วได้แต่ขำ มั่นใจว่าถ้ามันได้ยินจะต้องทำปากเบะแล้วบ่นงุ้งงิ้งหาว่าผมชอบว่ามันเป็นควาย แต่ก็ไม่ปฏิเสธหรอกนะ ก็เพราะว่าควายในสายตาผม มันคือความน่ารักที่สุดนี่หว่า



“เฮ้อ ... คลั่งรักจนจะเป็นบ้าอยู่แล้วอิดอก” ได้แต่ยกมือขึ้นเสยผมตัวเองแบบปลงตก ไม่เคยคิดเลยว่าคนแบบไอ้ดาบ อิดานี่ จะมาตกม้าตายเพราะไอ้น้องบ๋อยที่ผ่านมาเจอกันในวันเหงาๆ ซะได้



“มึงทำของใส่กูแน่ๆ อิหนู ดูออกนะคะ” ยิ้มออกมาแล้วว่าคนที่หลับไปอยู่แบบนั้น อยากจะนั่งมองหน้ามันแบบนี้ไปตลอดคืนเลย แต่ติดตรงที่ว่าผมยังมีเรื่องที่ต้องไปจัดการ เพราะแบบนั้นเลยต้องลุกไปอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ตัวเองและไอ้เอมก่อนจะเดินลงไปข้างล่าง แต่ยังไม่ทันจะได้เดินออกไปนอกโถงก็ต้องหยุดเดินซะก่อน เพราะเหมือนว่าจะมีแขกไม่ได้รับเชิญมาก่อนผมซะแล้ว



“นี่มันอะไรกัน ทำไมสภาพถึงยับเยินแบบนี้! รุกฆาต บอกน้ามาเดี๋ยวนี้” เสียงของแม่ผมที่ดังฝ่าความเงียบมาให้ได้ยิน



“ก็...ตามนี้ครับ”



“อย่าถามรบนะครับ รบพึ่งผ่านมา มาซื้อน้ำปลาให้แฟน รบไม่รู้เลย” ไอ้สัดนี่มาได้ไง แล้วมาซื้อน้ำปลาหน้าซื่อตาใสอะไรของมึง



“ทำไมต้องทำกับเค้าขนาดนั้น” แม่ของผมพูดออกมาอีกครั้ง



“พอสักทีเถอะ เลิกทำเป็นคนดีสักทีเถอะ!” เสียงของพระพายที่ดังแหวกขึ้นมาพูดออกมาแบบนั้น แม่ของผมที่ดูเหมือนจะตกใจกับท่าทางของคนตรงหน้ามากพอดู



“ผมเห็นว่ากลัวนักกลัวหนาว่าลูกชายจะเป็นเกย์ กลัวว่าลูกชายจะได้กับไอ้เอมนั่น! แล้วทำอะไรอยู่ ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง สุดท้ายมันก็ได้กันให้ต้องอายอยู่ดี! แล้วแบบนี้คุณป้าจะแบกหน้าบางๆ ของคุณป้าออกนอกบ้านได้หรอครับ”



“พอสักทีเถอะพาย” ไอ้ม็อบที่ยืนอยู่ข้างๆ พูดขึ้น สภาพมันเละเทะมากๆ จากฝีมือของไอ้รุก พระพายเองก็สภาพไม่ได้ต่างกัน



“ไม่พอ! ทำไมกูต้องพอวะ! มีอะไรยุติธรรมกับกูบ้าง กูมีดีกว่าไอ้เด็กนั่นทุกอย่างมึงก็เห็น แล้วทำไม ทำไมดาบถึงเลือกมัน! ทำไมคุณป้าที่ไม่ชอบมันนักหนาถึงยอมให้พวกมันคบกัน! ทั้งๆ กูเองก็รักดาบเหมือนกัน ก็แค่ขอให้กลับมาช่วยกันทำไมถึงไม่ได้!! คุณป้าก็เป็นแค่อิแก่บ้าน้ำลายที่สุดท้ายก็มีลูกชายเป็นเกย์แหล่ะวะ” พระพายตะโกนออกมาแบบนั้นเสียงดังลั่นลานหน้าบ้านของผม แม่ของผมจ้องพายนิ่งๆ ยังไม่ปริปากพูดอะไรสักคำ เห็นแบบนี้แล้วคิดว่าคงจะท่าไม่ดี เลยตั้งใจจะเดินเข้าไปจัดการ



‘เพี๊ยะ’



เสียงตบฉาดใหญ่ที่ดังมาจากฝ่ามือของแม่ผมที่กระทบเข้ากับข้างแก้มของพายทำให้ผมชะงักขาของตัวเอง



“ตบนี้คือตบเรียกสติ” แม่ของผมพูดออกมาด้วยเสียงดังฟังชัด ท่านไม่ได้ใช้อารมณ์อะไร เป็นการพูดจาทั่วไปแบบที่ผมเคยเห็นมาตลอด



“มีสติขึ้นมาบ้างไหม จะได้เลิกเป็นหมาบ้าสักที!”



“ใช่ ฉันไม่อยากให้ลูกชายฉันเป็นเกย์ แล้วต้องโดนใครต่อใครนินทา แต่สุดท้ายแล้วฉันทำอะไรได้ ใช่ ฉันห้ามมันไม่ได้ แล้วฉันก็ได้แต่มานึกทบทวนกับตัวเองว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันทำอะไร ฉันทำให้ลูกชายของฉันทุกข์มากแค่ไหน เค้าไม่อยากกลับบ้าน ไม่อยากอยู่กับฉันเพราะฉันไม่ใช่ที่พึ่งพิงของเค้า ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากทำลายความสุขของลูก ทำลายตัวตนของเค้า แล้วแบบนั้นตอนนี้ฉันจะทำมันต่อไปเพื่ออะไร ...ส่วนชะเอม เธอบอกว่าชะเอมไม่มีอะไรดีเท่าเธอ ถ้าเธอหมายถึงชื่อเสียงเงินทองล่ะก็ใช่ แต่ถ้าเทียบกันถึงใจกับความคิดแล้วล่ะก็ เธอเทียบเค้าไม่ได้เลยพระพาย เสียแรงที่ฉันเคยเอ็นดู แต่ตอนนี้ไม่ว่าจะมองยังไง เธอมันก็เป็นได้แค่ไอ้เด็กขี้ยาที่เห็นแก่ตัวที่สุด!”



“คุณป้าไม่มีสิทธิ์มาว่าผมแบบนี้นะ คุณป้าจะไปรู้อะไร จะไปเข้าใจอะไรว่าผมเจออะไรมาบ้าง ฮึก!”



“ต่อให้เธอเจอเรื่องราวที่เลวร้ายมากมายแค่ไหน เธอก็ไม่มีสิทธิใช้วิธีเลวๆ แบบนี้เหมือนที่ทำกับตาดาบ! เธอกลับมาหาตาดาบทำไม กลับมาหาลูกชายฉันเพราะรักจริงๆ งั้นหรอ ฉันว่ากลับไปถามตัวเองให้ดีจะดีกว่า ว่าคนรักกันเค้าใช้วิธีชั้นต่ำเพื่อที่จะได้มาแบบเธอหรือเปล่า ... ฉันรู้เธอไม่ได้เป็นคนโง่พระพาย หัดยอมรับความจริงให้ได้ว่าที่ดาบไม่รักเธอ มันเป็นเพราะเธอไม่เคยให้ความรักจริงๆ กับใครหรือเปล่า ... เห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ไม่ยอมเสีย แล้วมีสิทธิอะไรที่จะได้ความรักดีๆ ตอบแทน เป็นฉัน ฉันไม่มานั่งถามคำถามแบบนี้จากใครแล้วนะ มันดูโง่



“อึก...คุณป้า”



“แล้วฉันจะบอกอะไรให้อีกข้อ ต่อให้วันนี้ตาดาบบอกว่าจะเลือกเธอเป็นแฟน ถ้าให้เทียบกันระหว่างเธอกับชะเอม ฉันนี่แหล่ะที่จะขวางเธอจากลูกชายฉันขาดใจ ถึงลูกชายฉันจะมีแฟนเป็นผู้ชาย เค้าก็ไม่คว้าคนเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้แบบเธอมาเป็นแฟนหรอกจ๊ะ...คนรักดีๆ เค้าก็มีอยู่ จะเลือกเธอเพื่อ”



“คุณป้า!”



“ตารุก ตารบ จะเอาไปไหนก็เอาไปเลยไป ป้าหนวกหูเสียง”



“ครับ”



“คร๊าบคุณป้า ... ไอ้รุกๆ แม่เฮียดาบนี่เริศอยู่น้ากูว่า สกิลฝีปากอาจารย์เก่ามันโดนใจกูนัก”



“กระซิบทำห่าอะไรเสียงดังขนาดนั้น ควาย ไปลากตัวมันมา”



“สัด มึงใช่กูหรอ กูพี่มึงนะ”



“รำคาญ!”



เสียงของไอ้รุกไอ้รบและพวกพระพายหายออกไปช้าๆ จากความคิดของผมในตอนที่แม่เดินกลับเข้ามา มองเห็นผู้หญิงตรงหน้าที่ตอนนี้เดินนวดขมับเข้ามาด้วยท่าทีเหนื่อยๆ แม่ในวันนี้ไม่ต่างจากความทรงจำของผมมากนัก ท่านยังเป็นผู้หญิงที่สวย เก่ง และเข้มงวด เพียงแต่วันนี้ต่างออกไปตรงที่ท่านอายุมากขึ้นแล้ว พอคิดมาถึงตรงนี้ความกลัวก็เริ่มโถมเข้ามาในใจของผม ไม่รู้ว่าอีกกี่วันที่เราจะมีกันแบบนี้ตลอดไป



“แม่ครับ” ผมเดินออกมาจากมุมมืดมุมหนึ่งของบ้าน



“ตายแล้ว ตาดาบแม่ตกใจหมด ทำไมมายืนอยู่มืดๆ แบบนี้ แม่บอกแล้วใช่ อ๊ะ...”



“แม่ ดาบขอโทษนะแม่ ขอโทษที่พูดไม่ดีกับแม่นะ”



ผมพูดออกไปแบบนั้นแล้วกอดท่านแน่นๆ ความทรงจำในวันที่ผมคลั่งถาโถมเข้ามาในใจ คำพูดว่าร้ายที่ว่าให้แม่แว๊บเข้ามาเป็นฉากเป็นตอน รู้สึกผิดที่พูดแบบนั้นออกไป และในวันนี้ สุดท้ายก็ยังเป็นแม่คนเดิมที่เดินออกไปปกป้องผม



ผมทรุดตัวลงกับพื้น ก่อนจะก้มตัวลงไปกราบแทบเท้าของแม่ เงยหน้าขึ้นมามองหน้าแม่ช้าๆ ในวันนี้ท่านยังคงมองมาที่ผมไม่ต่างจากที่เคย น้ำตาของผมไหลพอนึกถึงคำพูดใจร้ายที่เคยพูดออกไปแบบนั้น ไม่ต่างกันท่านเองก็ร้องไห้ แต่ถึงแบบนั้นก็ยังคงยิ้มมาให้ผม ฝ่ามืออุ่นๆ คู่นั้นที่ยื่นลงมาลูบผม และทรุดตัวลงมากอดผมเอาไว้แน่นๆ



“แม่ก็ขอโทษนะ ขอโทษที่เข้าใจดาบช้าไป”



“แม่...”



“หื้ม”



“เรามาเริ่มกันใหม่นะครับ ดาบจะไม่ทำให้แม่ผิดหวัง จากการที่ดาบเป็นดาบนะ” บอกออกไปแบบนั้น แม่ก็ดึงผมไปกอดแน่นๆ ท่านพยักหน้าลงมาช้าๆ



“ต่อจากนี้ดาบอยากทำอะไรก็ทำไป ไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาผิดหวังอะไรอีกแล้วนะลูก ไม่ต้องเอาความคาดหวังของแม่หรือของใครมาพาดไว้บนไหล่ของตัวเองอีกแล้ว แม่ขอให้ดาบได้ทำตามใจ และมีความสุขกับคนรักของลูกในทุกๆ วันนะ”



“แม่..อึก ขอบคุณนะครับ ขอบคุณจริงๆ”



หลายครั้งที่เราเคยคิดว่าเราโตพอแล้ว โตพอที่จะก้าวไปแบบไม่ต้องแคร์ใครทั้งนั้น แต่จริงๆ ในวันนี้ ...สุดท้ายแล้วก็ยังคงเป็นลูกแม่คนเก่า คนที่เป็นได้แค่เด็กขี้แยคอยร้องหาแม่เวลาที่เสียใจ และเพราะในช่วงวัยที่ต่าง ความคิดความเปิดกว้างในเรื่องราวหลายๆ อย่างก็ยากที่จะเข้าใจกันได้ คำตอบของโจทย์นี้ คงมีแค่เวลาเท่านั้นที่เยียวยากันและกัน ... และขอบคุณความอดทนของผม และความยอมเปิดใจของแม่ที่ทำให้วันนี้ เราได้เข้าใจกันจริงๆ สักที



.

.

.



ผมได้แต่ยิ้มกว้างๆ มองภาพตรงหน้าอยู่ตอนนี้ พยายามทรุดตัวลงให้แนบไปกับพื้นมากที่สุดเพราะกลัวว่าสองคนแม่ลูกที่กำลังกอดกันร้องไห้จะหันมาเห็นผมเข้า ผมดีใจ เป็นความดีใจที่มีความสุขมากที่สุดที่เห็นพี่ดาบกับแม่มันเข้าใจกันสักที ไม่ใช่เพราะท่านจะยอมรับตัวตนของผมได้ แต่เป็นเพราะว่า ความรักที่นอกเหนือจากการรักผมแล้ว อีกหนึ่งความรักของพี่ดาบมันก็คือครอบครัว เราคงรักกันแบบสบายใจไม่ได้ ถ้ามีอีกฝ่ายต้องเสียใจ



“เฮ้อ ดีจังเลยนะ” ยิ้มกว้างๆ ออกมาในตอนนี้ ก่อนจะพยายามแอบเดินกลับขึ้นไปบนห้องอีกครั้ง หลังจากที่เผลอตื่นแล้วหาพี่มันไม่เจอ



สกิลการเสือกของไอ้เอมสำเร็จอีกแล้ว!



------------------------------------------

เย้เฮ้ มาแล้วจ้าาา ตอนแรกตั้งใจว่าบทนี้จะเป็นบทสุดท้ายของเรื่องนี้ แต่ไม่จ๊ะ เรายังไม่จบ

เราจะมาต่อกันอีกในบทส่งท้ายในตอนหน้านะคะ

สำหรับตอนนี้เราก็ได้เห็นบทสรุปของเรื่องราวหลายๆ อย่าง แคทหวังว่าคนอ่านจะยังอยู่และชอบกับเรื่องราวเหล่านี้นะคะ

ต่อจากนี้ขอให้ความรักดีๆ อยู่กับพี่ดาบน้องเอม และคนอ่านของแคทตลอดไป

และใช่ค่ะ พี่ดาบเป็นพระเอก ขอทางให้พี่เค้าเดินหน่อยค่าาาาา

ปล.มีใครอยากเสนอตอนพิเศษแบบไหนไหมเอ่ย คอมเม้นท์มาบอกกันได้นะคะ

และจากตอนจบแล้ว จะมีตอนพิเศษอีกเล็กน้อยมาลงให้เหมือนเคยจ้า ลุ้นเลยนะคะว่าจะเป็นคู่ใคร อิอิ

ฝาก #สวยๆ เป็นผัว ในทวิตเตอร์ด้วยจ้า

 :mew1: :pig4:



หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่45 {05/09/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 05-09-2020 22:42:31
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่45 {05/09/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 06-09-2020 23:04:03
คราวนี้น้องเอมจะมีความสุขจริงๆ แล้วใช่ไหม   :katai2-1:

อิเฮียดาบก็เคลียร์ใจกับคุณนายแม่เรียบร้อย  ทีนี้ก็แต่งงานกันได้แล้วสิ  o18
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่45 {05/09/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: PoyPay ที่ 07-09-2020 05:55:55
แอบกระซิบเบาๆ...
แอบอยากเห็นตอนพิเศษ...
เมื่อน้องเอมอยากจะฟันดาบ... คุคุคุ...
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่45 {05/09/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: นางฟ้าน้อย ที่ 07-09-2020 11:48:44
พี่เก้อกับน้องเสือสู้ๆเพื่อนเขารักดีแล้วนะ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่45 {05/09/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: manami_01 ที่ 07-09-2020 18:00:23
แฮ็ปปี้กะตอนนี้มากและสะใจมากกะอีกพาพวยที่ตอนนี้บอกเลยยกนิ้วให้คุณแม่รัว ๆ ไปเลยจ้า
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่45 {05/09/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 08-09-2020 08:40:17
จะจบแล้ว? ขอตอนพิเศษเก้อ-เสือนะ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว ตอนที่45 {05/09/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 08-09-2020 10:57:31
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว บทที่46 {13/09/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 13-09-2020 01:43:05



บทส่งท้าย




     บรรยากาศเดิมๆ ในช่วงเวลาเช้าไม่ได้ต่างไปจากทุกๆ วันที่ผมเคยเดินทางมาเรียน แต่สิ่งที่ต่างออกไปในตอนนี้ อาจเป็นความรู้สึกของผมที่มีความสุขมากกว่าแต่ก่อน ก็เพราะตอนนี้มีใครอีกคนอยู่ข้างๆ ล่ะมั้ง แค่คิดก็ยิ้มไ......





“อิดอก รถติดอะไรขนาดนี้อ่ะคะ กูเหยียบเบรกจนแข็งไปหมด”





“อะไรแข็ง มึงพูดอะไรของมึงอิเจ๊!” กูนี่หุบยิ้มแทบไม่ทัน บรรยากาศดีๆ หายไปตั้งแต่อิดอก ไอ้เอมเจ็บไข่จนต้องกรอกตา





“กูหมายถึงขากูแข็งค่ะ แน๊ ทำไมคะ มึงคิดว่าอะไรกูแข็งคะอิหนู” คนข้างๆ ที่พูดออกมาด้วยเสียงสอง และจริตกรีดกรายที่มาเต็ม ฝ่ามือแกร่งของมันที่เอื้อมมาหยิกแก้มกันจนแก้มกูยืด





“โอ๊ย ผมไม่ได้คิดถึงอะไรทั้งนั้นแหล่ะ เจ๊พี่มึงอย่ามาดึงแก้มกันได้ไหมวะ”





“มันเป็นหงุดหงิด มันเป็นฟึดฟัด มันทำไมนักคะ หรือว่าเขินเอ่ย” ว่าออกมาแบบนั้นพร้อมเอาแขนข้างนึงท้าวไว้บนพวงมาลัยรถแล้วหันหน้ามาขยิบตาให้ผมหนึ่งที ดวงตาคมเข้มของมันในวันนี้ทากลิตเตอร์สีอ่อนๆ วิ้งวับ และปากก็แดงอมส้มดูสุขภาพดี ถามมันก่อนเราออกมาจากบ้าน พี่มันบอกผมว่า “กูแต่งเอาฤกษ์เอาชัย ต้อนรับการกลับมาของรักสดใสหัวใจตะติ๊งโหน่งค่า” ไม่เข้าใจเท่าไหร่ แต่เหมือนว่าผมจะชินแล้วกับพฤติกรรมแบบนี้ของอิเจ๊พี่มัน





“เจ๊าะแจ๊ะจังเลย หึ่ย” เม้มปากเข้าหากันก่อนไอ้เอมจะกอดอกหันหน้าหนีออกไปมองนอกรถ ไม่อยากจะสู้อีกฝ่ายครับ กลัวอิเจ๊พี่มันจะแพ้แค่นั้นแหล่ะน้า





“หึ หิวไหมหนู เอื้อมตัวไปเบาะหลังแล้วเอาแซนวิสมากินมา”





“พี่ดาบทำมาหรอ”





“กูเสกมาค่ะหนู”





“เหนื่อยจะพูดด้วย” ผมนี่กรอกตาใส่เลย พอทำแบบนั้น คนที่อยู่ข้างๆ กันก็ขำชอบใจ การกวนตีนผมได้ดูจะเป็นความสุขอย่างนึงของพี่มันนั่นล่ะครับ ... หยิบขนมปังที่ถูกตัดเป็นชิ้นสามเหลี่ยมแบบพอดีมือใส่ไว้ในกล่องอย่างเรียบร้อย หอมทูน่าและชุ่มฉ่ำน้ำสลัดเล่นเอาพยาธิในท้องของไอ้เอมลุกขึ้นเต้นเป็นจังหวะสามช่าเลย





“อื้มมม อาหย่อยยยย”





“กินให้หมดแล้วค่อยพูดสิคะอิหนู แล้วเลอะเทอะอะไรขนาดนั้น” คนที่ใช้มือข้างเดียวจับพวงมาลัยเอาไว้ ส่วนอีกซ้ายที่ก็เอื้อมมือมาเช็ดปากกัน อยู่ๆ ก็รู้สึกร้อนหน้าขึ้นมาแบบบอกไม่ถูก ได้แต่อึกๆ อักๆ อยากจะหันหน้าหนี แต่ถ้าทำแบบนั้นอิพี่ดาบต้องล้อกันอีกแน่ๆ





“กินเป็นเด็กเลยมึงเนี่ย”





“ผมไม่เด็กนะเว้ย” หันหน้าไปเถียง อีกฝ่ายที่ก็ปลายสายตามามองกันนิดๆ ก่อนจะยกยิ้มมุมปากเท่ๆ สายตาคมของพี่มันที่มองตาผมแว๊บนึงก่อนจะหันหน้าหนีไปมองถนนตามเดิมพร้อมๆ กับที่พูดขึ้นมาว่า





“อืม ก็คงไม่ใช่เด็กหรอก เด็กอะไรจะเด็ดขนาดนี้ล่ะครับ”





โวะ แม่ง! ... ใครสั่งใครสอนให้พี่มันเอาเรื่องจริงมาล้อเล่นกันแบบนี้อ่ะครับ! เจ็บไข่นะพูดเลย!!





.

.

.





“โอ้โหหหห มีความเดินหน้าบานเข้ามาเลยค่ะ มันยังไง มันเป็นยังไงอิลูกตัวดีของกู มาเล่าเดี๋ยวนี้!”





“คือมึงใจเย็นก่อนจะได้ไหมอ่ะป้า” ผมที่พูดออกไปแบบนั้นตอนที่ไอ้หยีลุกขึ้นจากม้าหินตรงโต๊ะที่ตั้งอยู่หน้าคณะแล้วก้าวขาฉับๆ มาหาผม ท่าทางของมันที่ร้อนรนๆ พร้อมๆ กับมือเรียวสวยของมันที่คว้าหมับจับเข้าที่แขนของผมแล้วลากให้เดินตามมันไป





“นี่มึงมานั่งดักรอกูหน้าตึกเลยหรอป้า”





“ใช่!”





“คืออยากรู้เรื่องก็มากขนาดนั้นเลยอ่ะนะ”





“ใช่ค่ะ! กูจริงจังตลอด มึงคิดว่ากูเล่นๆ อยู่หรออิลูก ทำไมวะ ในช่วงเวลาผจญภัยของมึงทำไมกูไม่ได้อยู่ด้วย นี่ถ้าวันนั้นกูอยู่กับมึงกูจะฟาดสันดังอิพระพายให้หน้ายุบเลยค่ะ กูจะปกป้องมึงเองอิเอม”





“เว่อร์ไปน่า กูเป็นผู้ชายนะ แล้วมึงก็เป็นผู้หญิงตัวบางเป็นปลาแผ่นแบบนี้มึงจะไปสู้อะไรเค้าได้อ่ะป้า”





“เออ แต่มึงพูดมาก็ถูกค่ะ เพราะกูก็มั่นใจว่าจริงๆ แล้วกูเป็นกุลสตรีไทยใจงาม เรียบร้อยใสๆ อ่ะ”





“ใสแบบเหล้าขาวอ่ะดิมึงอ่ะ”





“เอ๊ะอินี่! แต่มึงอย่ามาเฉไฉ สรุปยังไง เหลามาเดี๋ยวนี้”





“เหลาอะไรวะ เหลาดินสอหรอ”





“เหลาก็คือเล่าค่ะอินี่ โง่เป็นลูกควายแบบนี้ทำไมอิพี่ดาบถึงหลงนัก!” พูดออกมาเสียงดังแล้วมองแรงใส่ผม โกรธอะไรกูขนาดนั้นอ่ะ กูก็แค่มีแฟนหล่อรวย ให..แค่กๆ แค่นี้ทำเป็นอิจฉาอ่ะเนาะ





“ไม่มีผัว ก็อย่าอิจฉาดิป้า โอ๊ย เจ็บนะ” ผมยกมือขึ้นลูบแก้มตัวเองทันทีหลังจากที่ไอ้หยียืดแก้มผมอย่างแรง เป็นผู้หญิงน่ากลัวแบบนี้ไง ผู้ชายเลยวิ่งหนีอ่ะครับ





“เดี๋ยวกูจะมีให้ดูนะผัวน่ะ หึ่ม”





“หื้มมม ป้า มึงหมายถึงอะไร” ผมนี่หันมองมันตาค้างเลยครับ คำพูดแบบนี้มันหมายถึงอะไร ได้แต่หรี่ตามองมัน แต่อีกฝ่ายก็แค่โบกไม้โบกมือใส่





“อย่ามาเปลี่ยนเรื่องค่ะอิเอม สรุปว่าเรื่องของมึงมันยังไง กูยังไม่รู้เรื่องเลยนะคะ มึงกับพี่ดาบดีกันแล้ว แล้วยังไงต่อ เยเลยไหมอิอิ”





“ป้า! มึงพูดอะไรของมึงเนี่ย” นิ่งไว้ไอ้เอม อย่าทำตัวมีพิรุธอย่าหลุกหลิก เราต้องนิ่งไว้ ไอ้ตาข้างซ้ายมึงอย่าเหลือกไปมาสิวะ ปัดโถ่





“เป็นเลิ่กลั่ก ไม่ต้องตื่นเต้นขนาดนั้นก็ได้จ้า แค่กูเห็นท่ามึงเดินก็รู้แล้ว”





“กูตกบันได! บ้านพี่ดาบมันใหญ่ กูเลยไถลลงมาจากบันไดมันก็แค่นั้นอ่ะป้า ไม่มีอะไรป๊ะว้า”





“กูก็ยังไม่ได้ว่าอะไรเลยค่ะอิเอม แหม...” พูดคำว่าแหมด้วยการลากเสียงยาว ที่เรียกได้ว่าฟังแล้วรู้เลยว่ามันเชื่อในคำพูดของผมทุกคำ เป็นแบบนี้ไอ้เอมก็สบายใจครับ ถุย!





“แล้วสรุปยังไง โยกโย้อยู่นั่นอ่ะ”





“ก็ไม่ยังไง กูก็รู้ความจริงทุกอย่างแล้วว่าเรื่องคืนนั้นมันเกิดอะไรขึ้น จริงๆ แล้วพระพายกับไอ้ม็อบเป็นคนวางยาพี่มัน”





“ยาปลุกหรอ อิดอกนี่ละครหลังข่าวยุคเก่าหรือเปล่าคะเนี่ย”





“เปล่า ไม่ใช่ยาปลุก แต่เป็นยาอี” ผมบอกออไปแบบนั้นแล้วไอ้หยีก็ชะงักไป ตาสวยๆ ของมันที่เบิกตากว้างขึ้น เรียกได้ว่าถ้าถลนออกมาได้มันคงทำแล้ว





“เชี่ย จริงไม่จริง”





“จริง...”





“อิดอกม็อบก็ร่วมมือด้วยหรอวะ เหี้ย นี่มันเรื่องอะไรกันวะเนี่ย” ไอ้หยีทำหน้าเครียดพรางยกมือขึ้นขยี้หัวตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตาย ผมเข้าใจว่าเป็นใครก็ตกใจ ขนาดผมยังช็อคกับเรื่องทั้งหมดเลยตอนที่พี่ดาบมันเล่าให้ฟัง





“พ่อเลี้ยงพระพายมันทำงานผิดกฎหมาย แล้วที่อยากได้เกาะของไอ้พี่ดาบมันนักก็เพราะอยากจะเอาไว้เป็นฐานผลิตและส่งออกสินค้าไปทางทะเล เห็นว่ามันตรวจจับยากกว่าทางบก อีกอย่างกูคิดว่ามันคงใช้ชื่อเสียงแม่ของพระพายด้วยแหล่ะ เค้ารวยและดังจะตายจะมีใครกล้าทำไรมัน จริงๆ กูก็ไม่ค่อยเข้าใจมากนักหรอก แต่รู้แค่ว่ามันต้องการเกาะตรงนั้นเลยตั้งใจให้พระพายเข้ามารวบหัวรวบหางอิพี่มัน”





“แต่ตอนนี้พี่ดาบมันมีมึง แผนมันเลยไม่สำเร็จ”





“จะพูดแบบนั้นก็ได้”





“แต่ตั้งแต่สมัยเรียนพาพวยนั่นมันก็สนิทกับพี่ดาบมากๆ พูดตรงๆ ว่าตอนนั้นพี่ดาบก็รักเค้ามากๆ นะ ทำไมไม่คิดจะทำตั้งแต่ตอนนั้นวะ”





“กูคิดว่าตอนนั้นเกาะตรงนั้นพ่อมันยังไม่ได้ซื้อไว้ให้พี่มันนะ เห็นว่าพึ่งซื้อและโอนเป็นชื่อพี่มันเมื่อไม่กี่ปี ตอนช่วงพระพายไปเรียนเมืองนอก”





“อ่า หรือเป็นเพราะแบบนี้พระพายถึงกลับมาหรอ”





“ก็อาจจะใช่ พ่อเลี้ยงมันอาจจะเรียกตัวกลับมาล่ะมั้ง” ผมยักไหล่และก็แค่คาดเดาไปเท่านั้น เรื่องจริงๆ ทั้งหมดเป็นยังไงก็ไม่มีใครรู้





“แล้วตอนนั้นที่พระพายเป็นโรคตื่นคนกลัวผู้ชายอะไรนั่นล่ะ ตอนนี้หายแล้ว”





“กูก็ไม่รู้อ่ะเอาจริงๆ พอถามพี่ดาบ มันก็เลี่ยงไม่พูดถึง ถ้าจะพูดจริงๆ กูคิดว่าพี่มันไม่อยากเอ่ยถึงพระพายอีก หรืออาจจะเป็นเพราะมันไม่อยากให้กูคิดมากล่ะมั้ง”





“แล้วอิน้องม็อบนี่ยังไง มันมาเป็นพวกพายได้ไง ดูหน้าก็ไม่ใช่คนเหี้ยนะ กับมึงกูก็ไม่คิดว่ามันจะทำเหี้ยๆ ใส่ เอาจริงๆ กูคิดว่ามันชอบมึงมากๆ ด้วยซ้ำ” ไอ้หยีที่ขมวดคิ้วว่าออกมาแบบนั้น ผมถอนหายใจออกมาในตอนที่ได้ฟัง ... กับเรื่องของไอ้ม็อบ แม้ว่าจะรู้จักมันได้ไม่นาน แต่นี่ก็เกือบจะครบหนึ่งเทอมแล้วที่ผมได้รู้จักกับมัน อีกไม่กี่อาทิตย์ก็จะสอบแล้วด้วย เวลาที่ผ่านมาที่รู้จักกับมัน ผมก็ไม่เคยคิดว่ามันจะเป็นคนแบบนั้น หรือกล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องแบบนั้นเหมือนกัน





“กูไม่รู้เหมือนกัน ตั้งแต่วันที่กูต่อยพระพาย...”





“กูให้มึงเรียกว่ากระทืบ กูเห็นคลิปแล้วค่ะ น่ากลัวมากอิเหี้ย มองมึงเป็นผัวที่แข็งแกร่งเลย มาเป็นผัวกูไหมคะพี่เอม”





“K อย่ามาใกล้กูนะป้ากูมีพระ”





“อินี่ กวนตีนนัก เดี๋ยวกูสิงมึงเลยนะคะหมั่นไส้นัก”





“หยอกน่าคนสวย”





“แล้วไป...แต่สรุปก็คือมึงไม่รู้ว่าม็อบมาเป็นพวกพระพายได้ยังไง”





“อืม ไม่รู้ กูไม่ได้คุย เอาจริงๆ ก็เสียความรู้สึกเกินกว่าจะคุยกับมันว่ะ คนที่กล้าทำเรื่องแบบนั้นกับคนอื่นได้ มึงคิดว่ายังควรที่จะพูดคุยกันได้อีกหรอวะ อีกอย่าง พี่ดาบก็บอกว่าเค้ากับพี่น้องเค้าจะจัดการเอง ขอกูว่าอย่ายุ่ง”





“มาเฟียจัดๆ”





“กูไม่คิดงั้นหรอกถึงจะเหมือนมากๆ ก็เถอะ ... แต่มึงก็รู้นี่ นามสกุลเตชะณรงกรค์เค้าเส้นใหญ่กันแค่ไหน”





“ค่ะ ใหญ่และหล่อกันยกโคตร อยากได้สักคนจริงๆ เล้ย”





“เสียใจด้วยนะ พอดีกูเอามาแล้วอ่ะ”





“อยากตบค่ะ! ถ้ากูได้มึงอย่าเหวอละกัน” ว่าแบบนั้นพร้อมมองแรงใส่ผม มันที่ยกขาเรียวๆ ของมันขึ้นมานั่งไขว่ห้างแล้วยกยิ้มมุมปากทำท่าหยิ่งๆ ใส่กัน เอากับมัน ตามใจมึงเลยจ้าป้า...ผมสายหัวกับภาพไอ้หยีที่กำลังมโนเรื่อยของมันและละสายตาหนี และก็ดันบังเอิญไปเห็นเข้ากับน้องเสือที่กำลังเดินเข้ามาพอดี ผมยิ้มกว้างแล้วโบกมือทักเลยครับ





“น้องเสือ!” ตะโกนเรียกออกไป อีกฝ่ายที่ชะงักแล้วหันมามองผมก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ สีหน้าท่าทางที่ไม่ค่อยร่าเริงนั่นทำเอาต้องขมวดคิ้ว





“สวัสดีครับพี่ๆ เอ่อ...เดี๋ยวผมขอตัวก่อนนะ” น้องว่าออกมาแบบนั้นแล้วหลบตาผม ... แปลกๆ นะกูว่า





“เดี๋ยวๆ น้องเสือเดี๋ยวค่ะมาคุยกันก่อน” ไอ้หยีที่ว่าแบบนั้นแล้วลุกขึ้นเดินไปหาน้อง ก็คือบุกรุกเข้าไปถึงตัวแล้วคว้ามือน้องมาจับไว้แบบไม่ให้ถอยหนี





“เอ่อ...พี่หยีคือผมมีเร...”





“วันนี้น้องเสือมีเรียนบ่ายนี่นา รู้นะคะๆ มานั่งคุยกันก่อนมา ทำไมหน้าตาเป็นแบบนี้เอ่ย” ไอ้หยีว่าออกมารัวๆ เอาแบบชนิดที่น้องเสือไม่มีทางได้อ้าปากทัน และเพราะแบบนั้นน้องมันเลยได้มานั่งอยู่ที่โต๊ะมาหินตรงข้ามกับผมในตอนนี้





“วันนี้มาเองหรอ ทำไมไม่มากับไอ้เก้อล่ะ” ไอ้หยีถามออกมาแบบนั้น เอียงหน้าเอียงตามองหน้าน้องเสือแบบเรียกได้ว่าแทะโลม...คือของเพื่อนไหมยังไง





“มาเองอ่ะพี่ ไม่ได้มาด้วยกันหรอก” บอกออกมาแบบนั้นแล้วยิ้มบางๆ รอยยิ้มที่ทำให้ผมต้องขมวดคิ้วและรู้สึกแปลกใจ





“อิเก้อมันดูแลน้องเสือของพี่ไม่ดีเลยนะคะ อินี่นี่มันน่าโมโห เอาไงดี น้องเสือมาเป็นผัวพี่แทนไหม” ไอ้หยีพูดแบบนั้นพร้อมเขยิบตัวเข้าไปใกล้ เสนอหน้ามากครับ มากจนน้องเสือถอยตัวหนี





“มึงเลิกทำให้น้องมันกลัวสักทีสิวะป้า”





“เอ้า กลัวทำไมคะ เสือกลัวคนสวยๆ แบบพี่ไม่ได้นะคะ”





“มึงน่ากลัวกว่าผีอีกป้า”





“อิเอม ยังไง จะต้องโดนกูตีให้ได้มึงถึงจะหยุดใช่ไหมคะ ใช่ไหมๆ”





“ก็มาดิคร๊าบ แบร่” กูแลบลิ้นใส่มันเลยครับ ไม่กลัวครับ ถ้าป้ามันแกล้ง เย็นนี้ผมจะวิ่งไปหาพี่ดาบแล้วกอดอ้อนๆ ว่าหยีแกล้งมา เอาให้พี่มันปลอบเลย เนี่ย เป็นไง สุดยอดไปเลยว่ะไอ้เอมเอ้ย





“พี่เอมนี่น่ารักจังเลยนะครับ” น้องเสือที่พูดขึ้นมาแบบนั้น ทำเอาทั้งผมและไอ้หยีต้องหยุดตีกันแล้วหันไปมองหน้าน้องเสือ น้องมันเองก็มองมาที่ผมไม่ต่างกัน สายตาของมันดูหม่นแสงแปลกๆ จนผมต้องขมวดคิ้ว





“ถ้าเลือกได้ ผมก็อยากจะเป็นคนน่ารักแบบพี่เอมเหมือนกัน”





“เห้ย มึงจะอยากมาเป็นกูทำไมวะเสือ ทุกคนเราแม่งก็มีดีอยู่ในตัวทั้งนั้นอ่ะ” ผมพูดสวนขึ้นไปแบบนั้น น้องมันก็แค่ยิ้มบางๆ ตอบกลับมา





“จริงค่ะน้อง ถ้าน้องเสืออยากเป็นไอ้เอม น้องจะกลายเป็นควายนะ พี่ว่าแบบนั้นไม่โอเคอ่ะค่ะ”





“จริง ...เอ๊ะ นี่ป้ามึงว่ากูหรอ”





“บ้าน่าอิเอม มึงก็คิดมาก”





“มึงว่างั้นกูก็สบายใจ”





“เยี่ยมค่ะ...ว่าแต่ทำไมน้องเสือพูดแบบนั้น มีเรื่องอะไรหรือเปล่า” ไอ้หยีที่ขมวดคิ้วและเริ่มทำหน้าจริงจัง เพราะมันทำแบบนั้นผมเองก็เริ่มเอะใจ จริงๆ ครั้งล่าสุดที่ผมเจอกับน้องเสือ ก็ตอนที่ผมย้ายไปอยู่หอเดียวกับน้องเสือ และวันนั้นไอ้เก้อก็เสือกกับเรื่องผมมากๆ ... มันจะมีอะไรเกิดขึ้นกับสองคนนี้ไหมวะ ทำไมได้กลิ่นตะหงิดๆ





“น้องเสือมีปัญหากับไอ้เก้อเพราะเรื่องกูหรือเปล่าวะ” ผมโพร่งถามออกไปแบบนั้น ไอ้หยีเบิกตากว้างแล้วหันมามองหน้าผม มันดูไม่คิดว่าผมจะถามน้องเสือออกไปแบบนั้น แต่เพราะประสบการณ์มันสอนผมว่ะ เราไม่รู้อนาคตว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ถ้าตอนนี้ทำให้ตัวเองมีความสุขได้ไวมากเท่าไหร่ เราก็ควรทำมันนะครับ และอีกอย่าง ผมเองก็ไม่อยากไปเป็นตัวแปรในความสัมพันธ์ของใคร ให้พวกเค้าไม่มีความสุขด้วยเหมือนกัน





“ผม....”





“อย่าพูดออกมาว่าเปล่านะ คิดดีๆ ก่อนตอน ถ้ามีอะไรก็พูดมาเถอะมึง” ผมบอกมันออกไปแบบนั้น น้องเสือที่เสหน้าหนีผม ท่าทางอึกอักที่ไม่เหมือนกับน้องเสือที่ผมเคยเจอแรกๆ เหมือนว่าจะเป็นอีกคน ที่ความรักกำลังสอนให้มันเปลี่ยนไป





“ผมกับพี่เก้อเราไม่ได้มีปัญหาอะไรกันหรอกพี่ ... มันก็แค่ เรื่องของคนที่ยังตัดใจไม่ได้” น้องมันพูดออกมาแบบนั้น ทั้งผมและไอ้หยีที่หันมาสบตากัน





“มึงหมายถึงว่าไอ้เก้อมันตัดใจจากกูไม่ได้หรอวะ” ถามออกไปแบบนั้น ไอ้เสือก็เงยหน้ามามองผม





“ถ้าผมเป็นพี่ มันก็คงจะดีอ่ะพี่เอม ผมว่าผมกับพี่เก้อมันไปกันไม่รอดหรอก”





“ทำไมถึงพูดแบบนั้นวะ ไอ้เก้อมันรักมึงมากนะเสือ” ไม่ได้จะเข้าข้างเพื่อนนะ แต่ตั้งแต่ที่มันจริงจังกับน้องเสือ ผมก็เห็นเลยว่ามันเปลี่ยนไปมากแค่ไหน





“รักผมหรอวะ ถ้ามันรักผมอ่ะ มันจะสนใจพี่มากกว่าผมทุกทีหรอ ผมไม่ได้โทษพี่นะพี่เอม พี่ไม่ผิดเลยเว้ย ผมรู้ว่าพี่มีชีวิตดีๆ ที่มีความสุขกับแฟนของพี่แล้ว ถ้าจะผิดก็ตรงที่พี่เก้อมันเลิกรักพี่ไม่ได้สักทีมากกว่าแหล่ะ”





“เห้ย! มันไม่ได้รักพี่ ไอ้เก้อน่ะตอนนี้มันไม่ได้รักใครมากกว่ามึงหรอกนะ” ผมเถียงออกมาแบบนั้น แต่น้องเสือก็ยังคงทำแค่ยิ้มบางๆ ออกมา





“ผมเคยคิดเล่นๆ แบบโคตรตุ๊ดนะ ว่าถ้าผมกับพี่กำลังมีปัญหา มันจะวิ่งเข้าไปช่วยใครก่อน และวันนั้นที่พี่มีปัญหา ผมก็ได้รู้คำตอบแล้วว่ะ”





“เสือ กูกับไอ้เก้อเป็นเพื่อนกันมานาน ชีวิตกูแม่งก็ลุ่มๆ ดอนๆ มาตลอด ไอ้เก้อมันก็แค่สงสารกูในฐานะเพื่อนแค่นั้นแหล่ะมึง”





“พี่เอมอาจจะในฐานะเพื่อน แต่ผมไม่คิดว่าพี่เก้อมันคิดแบบนั้นว่ะ ขนาดผมยืนอยู่ตรงนั้นแท้ๆ มันยังลืมผมเลย”





“กูว่ามันไม่ได้ลืมมึงหรอก มันแค่ขี้เสือกแค่นั้นแหล่ะ” ผมเถียงน้องมันออกไปแบบนั้น แต่เด็กตรงหน้าเหมือนจะไม่รับฟังกับคำพูดของผม ก็จริงแหล่ะ ผมเป็นใครวะ ก็แค่เพื่อนที่กลายเป็นตัวแปลที่สั่นคลอนความสัมพันธ์ของพวกมัน จะเอาอะไรมาฟังผมวะ จริงๆ คนที่ควรจะมายืนพูดแบบนี้ตรงนี้ควรจะเป็นไอ้สัดเก้อด้วยซ้ำ ระอาว่ะ...ถ้าแม่งจะเก้อสมชื่อก็เพราะความโง่ของมันนำพานี่แหล่ะ





“สรุปคือน้องเสือไม่มั่นใจในตัวมันสินะ ว่าระหว่างน้องเสือกับไอ้เอม จริงๆ แล้วมันรักใคร แบบนั้นใช่ไหม” ไอ้หยีที่เงียบมานานสุดท้ายมันก็เป็นฝ่ายพูดขึ้นมาแบบนั้น





“ผมพิสูจน์มาจนเจ็บไปหมดแล้วพี่ ... ผมกับพี่มันเราไปกันไม่รอดหรอก ยิ่งฝืนไปต่อ สุดท้ายก็มีแค่ผมเองไหมวะที่รักมันอยู่ฝ่ายเดียว โคตรไม่แฟร์”





“อืม....ถ้าต้องคอยระแวงในความสัมพันธ์อยู่แบบนั้น พี่เองก็คิดว่ามันไม่แฟร์เหมือนกันแหล่ะ”





“อิป้า นี่มึงกำลังยุยงให้น้องมันเลิกกับเพื่อนเราอยู่นะมึง” กระซิบข้างหูไอ้หยีแบบนั้น แต่อีกฝ่ายทำแค่ยักไหล่แบบไม่แคร์





“ก็แม่งไม่แฟร์จริงๆ นี่หว่า ถ้าไม่ได้แคร์กันจริงๆ ก็เลิกกันไปเหอะว่ะ เสียเวลาเดินต่อ”





สัดเอ้ย มึงซวยแล้วไอ้เชี่ยเก้อ





...









หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว บทที่46 {13/09/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 13-09-2020 01:44:30

“ขอโทษนะ ที่ทำให้ต้องมาซวยไปด้วย”





ผมหันไปมองเสียงเนือยๆ ของคนข้างตัวที่นั่งหมดอะไรตายอยากอยู่ข้างๆ กัน ในฝ่ามือเรียวนั่นกำลังถือพาสปอร์ตพร้อมตั๋วเครื่องบินอยู่ในมือ ส่วนในมืออีกข้างมีโทรศัพท์มือถือที่กำลังเปิดอ่านข่าวอะไรบางอย่างอยู่ และคิดว่าคงไม่พ้นข่าวของครอบครัวตัวเอง ‘นักธุรกิจใหญ่ถูกรวบ แท้จริงรวยเพราะขนยา ครอบครัวxxxxx’ หัวข้อข่าวที่พาดแบบนั้นเดาไม่ยากว่ากำลังพูดถึงใคร คงหนีไม่พ้นพ่อเลี้ยงของมัน และใช่...อดีตเจ้านายของผม





“ช่างมันเหอะ ไหนๆ เรื่องมันก็มาขนาดนี้แล้ว จะโทษกันไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก” ผมพูดออกไปแบบนั้นด้วยเสียงเนือยๆ ไม่ต่างกัน ก่อนจะหันไปมองหน้าของคนข้างตัว บนด้านข้างของใบหน้าสวยยังคงมีรอยนิ้วทั้งห้าประดับอยู่บนนั้น เป็นรอยฝ่ามือจากคนเป็นแม่แท้ๆ ที่ใส่อารมณ์กับลูกตัวเองตอนที่รู้เรื่องว่าสามีตัวเองถูกจับ ผมอยู่ในเหตุการณ์นั้นพอดี แม่ของพระพายที่ไม่เคยรู้เลยว่าสามีใหม่ของตัวเองกำลังทำงานอะไรอยู่กันแน่ จริงๆ แล้วเค้าเป็นเจ้าพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ แต่มาแต่งงานใหม่กับแม่พระพายเพราะต้องการใช้ชื่อเสียงของตระกูลพระพายบังหน้า รวมถึงความร่ำรวยนั่นก็เป็นแหล่งเงินทองที่ใช้สูบได้เป็นอย่างดี แม่พระพายค่อนข้างรักและหลงสามีใหม่มากๆ เลยไม่ได้สนใจงานการของเค้ามากนัก พอเรื่องแดงขึ้นก็เลยเสียศูนย์ และสุดท้ายก็เอาความโกรธนั้นมาลงกับลูกชายคนเดียวที่ตอนนี้ก็กำลังติดยา ... ใช่ พระพายกำลังติดยา แต่เค้าไม่ได้ติดเพราะตัวเอง แต่เป็นเพราะอานนท์พ่อเลี้ยงของพายเป็นคนทำให้เค้าติด เพื่อที่พายจะได้หนีไปไหนไม่ได้ เพราะเวลาต้องการยา พายก็ต้องกลับไปหาเค้า





ผมเจอกับพระพายครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อน ตอนนั้นผมอยู่ม.ปลาย ผมอาศัยอยู่กับพี่ชายแค่สองคน และเราก็อยู่กันอย่างยากจน จนวันนึงครอบครัวของเราก็ดีมากขึ้นจากการทำงานของพี่ชายผม เราได้ย้ายเข้าไปอยู่ในคฤหาสน์หรูของหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งที่นั่นก็คือหนึ่งในบ้านพักของอานนท์ที่ซื้อเอาไว้เป็นที่พักพนักงานที่สำหรับทำเรื่องผิดกฎหมาย จนวันนึงพี่ชายผมตายจากงานที่มันทำ และใช่ ผมไม่มีที่ไป ผมพึ่งเรียนจบม.ปลายและไม่สามารถออกไปใช้ชีวิตของตัวเองได้เพราะรู้เรื่องของอานนท์มากเกินไป สุดท้ายเค้าเลยส่งผมเรียน และเรื่องราวยิ่งลงล็อคมากขึ้นตอนที่ผมได้เป็นน้องรหัสของชะเอม เพราะแบบนั้นผมเลยถึงดึงมาเป็นหนึ่งในแผนของอานนท์





จริงๆ แล้วจะพูดว่าพรหมลิขิตก็ไม่ผิดล่ะมั้ง เมื่อหลายปีก่อนผมเคยเจอกับชะเอม ... ใช่ ผมเคยเจอเค้า เป็นการเจอกันที่แม้แต่เค้าก็คงจะจำไม่ได้ด้วยซ้ำ ตอนนั้นเอมทำงานเป็นพนักงานร้านสดวกซื้อ เค้าคงอยู่ประมาณปีหนึ่งได้มั้ง ส่วนผมอยู่ม.6 วันนั้นเป็นวันธรรมดาๆ ในช่วงเที่ยงๆ ผมตั้งใจจะเดินไปซื้อของกิน แต่ดันเจอใครบางคนกำลังนั่งยองๆ อยู่หน้าร้านและกำลังคุยอยู่กับลูกแมวเด็ก มือเล็กๆ นั่นกำลังเทนมลงในถ้วยเล็กๆ ที่เหมือนเจ้าตัวจะหามาใส่ให้





“กินเยอะๆ นะไอ้หนู โลกมันก็โหดร้ายแบบนี้แหล่ะ นี่กูก็ไม่มีพ่อแม่เหมือนกันนะ จนก็จนด้วยแต่ยังต้องเจียดเงินมาซื้อนมให้มึงเนี่ย เห็นไหม ในโลกที่โหดร้ายยังมีอะไรดีๆ แบบกูนะไอ้หนู กูจะเป็นแสงสว่างที่ยิ่งใหญ่ให้พวกมึงเองนะ เพราะฉะนั้นมึงห้ามตายนะ ต้องรอดนะรู้เปล่า” เสียงใสๆ ที่ว่าออกมาแบบนั้น คำพูดคำจาที่กระแทกเข้าหัวใจของผมเข้าอย่างจัง





จน



ไม่มีครอบครัว



ไม่มีที่พึ่ง



แต่ถึงแบบนั้นเราก็ยังต้องอยู่รอด ต้องอยู่ให้รอดต่อไป





“เอาล่ะ กูไปแล้วนะเจ้าหนู ต้องรีบไปเรียนแล้วเนี่ย กูน่ะนะสอบติดม.ดังด้วยนะเว้ย สุดยอดคนเท่ เป็นไงล่ะ ลูกพี่มึงแสนเท่ กินเยอะๆ นะเจ้าหนูๆ” ว่าออกมาด้วยเสียงที่ร่าเริงพร้อมๆ กับรอยยิ้มกว้างๆ และในตอนนั้นที่ตัวผมเองก็ยืนฟังเค้าพูดอยู่จนจบ และคนตัวเล็กนั่นที่เงยหน้าขึ้นมาเห็นกัน ดวงตากลมสวยที่เบิกกว้างขึ้นในตอนนั้นก่อนจะยิ้มกว้างออกมาให้ผม เป็นรอยยิ้มที่สว่างสดใส เหมือนเป็นกำลังใจให้ผมมีวันดีๆ อีกหนึ่งวัน ‘กูจะเป็นแสงสว่างที่ยิ่งใหญ่ให้พวกมึงเองนะ’





เค้าเข้มแข็ง เค้าอดทน และใช่...เค้าเองก็เป็นแสงสว่างในใจของผมตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา และเพราะแบบนั้น พอผมได้รับคำสั่งให้เข้าไปเป็นตัวทำลายความสัมพันธ์ของเอมกับดาบ ผมก็ตอบรับที่จะทำในทันที มันเหมือนกับเป็นความโลภ ความเห็นแก่ตัวหนึ่งครั้งในชีวิตของผม แค่คิดว่าผมกับเค้าเราน่าจะเข้ากันได้ดีมากกว่าเค้ากับแฟนของเค้า แค่อยากลองสู้ดู เผื่อว่าเค้าจะหันมามองผมบ้าง แต่ใช่ ผมคิดผิด ความรักดีๆ มันมาในเวลาที่ถูกที่ และต้องเป็นอะไรที่ถูกใจ ต่อให้พยายามแทบตาย แต่ถ้าไม่ใช่ ต่อให้พยายามแค่ไหนมันก็ไม่ใช่อยู่ดี





“ไปถึงที่นู่นแล้ว ถ้าอยากไปที่อื่นก็ไปได้นะ ไม่ต้องอยู่ดูแลแบบที่แม่สั่งหรอก” เสียงของคนข้างๆ ตัวที่ดังขึ้นมาอีกทำให้ผมต้องหันไปมองหน้า สายตานิ่งๆ ของพายยังคงมองจับจ้องไปที่หน้าจอมือถือที่มืดสนิท ไม่มีใครติดต่อมา





“ไม่ได้หรอก ยังไงนี่ก็ถือเป็นบุญคุณ แม่มึงไม่ส่งกูให้ตำรวจ”





“ถ้าแม่จะส่งมึงให้ตำรวจ แม่ควรจะส่งกูมากกว่าไม่ใช่หรอ” พายพูดออกมาแบบนั้น เป็นคำพูดที่ค่อนข้างด้านชา ผมเข้าใจว่าเค้าหมายถึงในตอนนี้เค้าติดยา แต่แม่ของพระพายวิ่งเต้นเรื่องราวจนทำให้ทั้งผมและเค้าสามารถมีตั๋วและพาสปอร์ตที่ทำให้สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ ... คนมีเงินมีอำนาจนี่ดีจริงๆ ก็อย่างว่า ขนาดเฮโรอินยังกลายเป็นแป้งได้ เรื่องแค่นี้แม่ของพระพายก็จัดการได้ไม่ยากหรอก





“แต่จริงๆ แม่ก็คงแค่อยากส่งกูไปไกลๆ เพื่อที่เค้าจะได้จัดการอะไรง่ายๆ โดยที่ไม่ต้องมีลูกที่มีปัญหาแบบกูอยู่ด้วยก็แค่นั้นแหล่ะ”





“แม่เค้าคงไม่ได้คิดแบบนั้นหรอก”





“ไม่ต้องพูดปลอบหรอก กูชินแล้วล่ะ แต่ตอนนี้ดีหน่อยนะ อย่างน้อยไอ้อานนท์มันก็ถูกจับ มันจะได้ไม่ต้องตามรังควาญชีวิตกันสักที อย่างน้อยก็ได้หลุดพ้นแล้ว”





“ทำไมไม่คิดจะบอกเค้า กับเรื่องราวจริงๆ ทั้งหมด”





“หมายถึงบอกดาบหรอ” พายหันมามองผมพร้อมยิ้มออกมา เป็นรอยยิ้มวูบหนึ่งที่ผมคิดว่ามันเป็นความสุขของเค้า แววตาในตอนที่พูดถึงคนที่ชื่อดาบคนนั้น แต่ถึงแบบนั้นพายก็ส่ายหน้าออกมาช้าๆ





“บอกไปแล้วจะมีอะไรดีขึ้นอ่ะ เค้าจะกลับมารักกูหรอ กูที่เป็นคนหลอกเค้าทุกเรื่อง เข้าไปหาเค้าอย่างมีจุดประสงค์”





“อย่างน้อยตอนที่ไปเรียนต่อเมื่อครั้งก่อน มึงก็ไปเพราะไม่อยากให้อานนท์ใช้มึงเป็นเครื่องมือนะ” ผมแย้งเค้าออกมา เพราะผมรู้เรื่องว่าที่พายไปเรียนต่อหลังเรียนจบ ที่บอกใครต่อใครว่าจะไปรักษาตัวด้วยจริงๆ มันก็แค่ข้ออ้างที่จะได้ห่างจากดาบ และตัวเองจะได้ไม่ต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวหรือทำร้ายเค้าอีก เพราะช่วงที่พระพายใกล้จะเรียนจบ พ่อของดาบก็ซื้อเกาะนั้นแล้ว อานนท์ก็เริ่มอยากได้ และอยากให้พระพายเป็นหนึ่งในแผนการ แต่ตอนนั้นพายเลือกจะขอแม่ไปเรียนต่อ เพราะต้องการจะหนีอานนท์ แต่ถึงแบบนั้น สุดท้ายก็โดนบีบให้กลับมาอยู่ดี





“แต่แล้วยังไง สุดท้ายกูก็หลอกเค้าทุกเรื่อง เป็นมึงมึงจะให้อภัยหรอ คนที่วางยาเค้า ยาเสพติดนะ กูเคยโดนเอง กูรู้ว่ามันแย่แค่ไหน กูทำเค้าเสียใจ ดาบน่ะ...ดานี่คนนั้นน่ะ เป็นคนที่ยึดมั่นในความรักมากนะ ถ้าเค้ารักเค้าให้เต็มที่ แต่ถ้าไม่...ต่อให้จะเป็นจะตายเค้าก็ไม่สนหรอก” พายพูดออกมาแบบนั้นพร้อมรอยยิ้มเศร้าๆ





“แต่อย่างน้อยความรักที่มึงมีให้เค้ามันก็คือเรื่องจริง”





“ก็คงเหมือนกับที่มึงรักชะเอมล่ะมั้ง...ความรักที่เห็นแก่ตัวแบบนี้ ยังจะกล้ายื่นไปให้เค้าหัวเราะซ้ำสองอีกหรอ” พายพูดออกมาแบบนั้นแล้วแค่นยิ้มออกมานิดๆ แต่ก็ถูกของเค้า ... ความรักที่เห็นแก่ตัว มันไม่ได้เรียกว่าความรักหรอก





“ก็จริง...จริงๆ แล้วเราสองคน มันก็เป็นแค่คนเห็นแก่ตัวเท่านั้นแหล่ะ”





“ก็คงใช่”





เค้าพูดออกมาแค่นั้น ผมที่หันหน้าหนีออกจากหน้าเค้า มองไปยังท้องฟ้าที่อยู่หลังกระจกใส ผืนฟ้าของประเทศไทย ท้องฟ้าและบรรยากาศที่เราเคยอยู่ นึกถึงรอยยิ้มสดใสที่ยิ้มให้ผมข้างๆ ร้านสะดวกซื้อในวันนั้น ผมจะเก็บทุกความรู้สึกดี เก็บทุกรอยยิ้มเอาไว้ในใจของผมไม่ลืม

“ลาก่อนชะเอม”





“หื้ม ... มึงพูดอะไรนะ” พายหันมาถามผมเบาๆ ผมเลยได้แต่ส่ายหน้า กระชับเสื้อกันน้ำที่ใส่อยู่ให้เรียบร้อยก่อนจะลุกขึ้นยืน





“ไปกันเถอะ ได้เวลาแล้ว” บอกกับเค้าแบบนั้น พร้อมๆ กับยื่นมือส่งไปให้คนตรงหน้า พายมองมาด้วยสีหน้าเฉยชาตามเดิม จริงๆ แล้วก็เป็นคนหน้าสงสารที่เห็นแก่ตัวคนนึง





“ถ้าก้าวขึ้นเครื่องบินลำนี้ไป เราจะไม่ได้กลับมาอีกนะ” พายบอกผมแบบนั้น ... แต่ถึงแบบนั้นผมก็แค่พยักหน้า ผมรู้ดีว่าเราจะไม่มีทางได้กลับมาอีก แต่ถึงแบบนั้นเราก็ต้องไป





“ไม่กลับมาก็ไม่เป็นไร ก็แค่พยายามไปตามหาผืนฟ้าแห่งใหม่ก็แล้วกัน...หวังว่าสักวัน พวกเราจะเติบโตขึ้น และเป็นคนดีได้มากกว่านี้”





“อืม ก็หวังแบบนั้นเหมือนกัน”





เราสองคนที่เดินเข้าไปในทางทอดยาวของทางเดินขึ้นเครื่อง ผมหันหลังกลับไปมองกระจกใสที่ทอดมองออกไปยังท้องฟ้าของประเทศเราอีกครั้ง ในวันนี้ไม่รู้ว่าชะเอมเป็นยังไง แต่ผมหวังว่าเค้าจะมีความสุขในทุกๆ วันก็พอ





‘ลาก่อนชะเอม’

‘ลาก่อนดานี่ ขอโทษจริงๆ นะดาบ’






...





หมายเลขที่ท่านเรียก ไม่สามารถ.....



“สัด แม่งจะหลบหน้ากูไปถึงไหนวะ” ได้แต่สบถออกมาแบบนั้นตอนที่กดวางสายโทรศัพท์ที่พึ่งจะโทรออกไปเมื่อกี้ ผมที่พยายามง้อไอ้เสือมาหลายวันแล้ว แต่สิ่งที่เจอก็มีแค่มันพยายามหลบหน้า





“มึงคิดว่ากูจะปล่อยมึงไปหรอวะ ไม่มีทาง” ยกมือขึ้นทุบพวงมาลัยรถแบบหงุดหงิดใจ วันนี้ตั้งใจจะมารับมันมาเรียน เพราะรู้ว่ามันเองก็มีเรียน แต่พอไปถึงที่หอ ลุงยามที่ตอนนี้สนิทกับผมไปแล้วก็บอกว่ามันออกมาแล้ว คลาดกันแม่งทุกวัน ถ้ามาหาตอนกลางคืนมันก็ไม่ยอมออกมาหา หงุดหงิดว่ะแม่ง ตอนนี้เลยตั้งใจมาดักรอมันตอนจะกลับ กูจะหนีบมึงกลับไปด้วยกันให้ได้เลย!





เดินลงมาจากรถแล้วมายืนกอดอกรอแม่งที่หน้าคณะเลย มองเห็นนักศึกษาที่เดินขวักไขว่ไปมาเหมือนปกติแบบที่เคยเห็น แต่บรรยากาศแปลกแตกต่างไปจากทุกทีเหมือนทุกๆ คนจะเร่งรีบเดินไปทางด้านหน้ามอมากกว่าทุกที





“มีไรกันวะ หรือว่ามีดารามาถ่ายละคร”





“มึงๆ คนตีกันๆ”





“หรอๆ ไหนๆ ทางนู้นๆ”





เสียงของพวกรุ่นน้องที่วิ่งผ่านผมไปตะโกนบอกกันแบบนั้น ... ตีกันในมหาลัยเลยหรอวะ ความกล้าระดับนี้แม่งมีมาจากไหน





แต่กูก็เคยนี่หว่า ตีกับไอ้เสือ แล้วไอ้เสือก็พอกัน วอนจะตีกับเพื่อนในรุ่นมันที่ม.หลายรอบละ ... คิดถึงเรื่องนั้นแล้วก็ต้องส่ายหัว มันดื้อจนน่าตี





“อิเก้อ! อิเหี้ย ทำไมไม่มาเรียนคะ! แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น มึงๆ ไปกับกูก่อน” เสียงแหวดังลั่นของไอ้หยีที่ถลาตัวเข้ามาหาผม มันที่สับขาวิ่งออกมาจากลิฟต์ ผมได้แต่มองมันงงๆ มันที่ตั้งท่ากระชากมือผมให้วิ่งตามไปกับมัน แต่ผมก็ยืนแขนเอาไว้ แรงไอ้หยีมันจะสู้ผมได้ยังไง





“อะไรของมึงวะป้า จะให้กูไปไหน ไม่ไป กูจะรอเจอไอ้เสือ” บอกมันแบบนั้น แล้วไอ้หยีก็เบิกตากว้างขึ้น มันที่หน้าซีดลงและเริ่มทำหน้าเครียด





“ทำไม มึงเป็นอะไรป้า”





“มึงค่อยมาหาน้องเสือก็ได้ป่ะวะ ตอนนี้ไอ้เอมกำลังแย่นะเว้ย” ไอ้หยีที่ตะโกนใส่หน้าผมแล้วสายตามันก็คลอเหมือนคนกำลังจะร้องไห้ ... ไอ้เอมหรอวะ





“มันเป็นอะไร มีอะไรวะ” ถามออกไปเครียดๆ แต่สายตาของผมก็ยังพยายามสอดส่ายมองคนที่ทยอยกันลงตึกเรียนมา แต่ตอนนี้ก็ยังไม่เจอแม้แต่เงามันอยู่ดี เซ็งว่ะ





“มึงมองอะไรไอ้เก้อ ไปหลังมหาลัยกับกูเร็ว ไอ้เอมกำลังมีเรื่อง”





“เรื่องอะไรล่ะวะ” เริ่มฉุนนิดๆ ตั้งท่าจะให้กูไปอย่างเดียวแต่มีเรื่องอะไรก็ไม่รู้ กูยิ่งกำลังอยากเจอไอ้เสืออยู่เนี่ย





“พระพายกำลังมาหาเรื่องมัน มันไลน์มาหากู กูจะรีบไปช่วย เร็วๆ ไอ้เอมกำลังแย่นะมึง”





“ห๊ะ! แม่งเอ้ย ได้จังหวะอะไรขนาดนี้วะ” ไอ้พระพายห่าไรนี่ก็เหมือนเป็นเจ้ากรรมนายเวรไอ้เอม ผมที่ถอนหายใจหนักๆ แล้วตั้งท่าวิ่งไปกับไอ้หยีในตอนนี้ เดินสวนไปกับน้องปีหนึ่งที่ก่อนหน้านี้บอกว่าจะไปดูคนตีกันที่หน้ามอ





“โถ่เอ้ย ที่แท้ก็พวกเดิมๆ”





“เออ ถ้ารู้ว่าเป็นไอ้เสือแต่แรกกูไม่รีบไปดูหรอก ปากแบบมันก็สมควรป่ะวะ”





เสือ...





ผมชะงักขาของตัวเองตอนที่ได้ยินแบบนั้น หันหน้าไปมองไอ้เด็กสองคนที่กำลังเดินผ่านตัวไปในตอนนี้ มันสองคนที่กำลังพูดกันอย่างถูกอกถูกใจกับเรื่องของใครอีกคนที่กำลังโดนทำร้าย





“ไอ้เก้อ หยุดทำเหี้ยอะไรคะ รีบมา เพื่อนมึงตายไปแล้วมั้ง”





“เดี๋ยว!” ผมตะโกนออกไปแบบนั้น ไอ้เด็กสองคนที่เดินผ่านไป หันมามองหน้าผมแบบงงๆ ผมก้าวยาวๆ เข้าไปหาพวกมัน ก่อนจะกระชากคอเสื้อของไอ้เด็กคนนึงที่อยู่ตรงหน้า ได้ยินเสียงไอ้หยีกรี๊ดออกมาในตอนนี้





“อิเก้อ ทำเหี้ยอะไรของมึงคะ”





“มึงบอกกูมาใครโดนกระทืบ ใคร!” ผมถามออกไปเสียงดัง จ้องหน้าไอ้เด็กตรงหน้าที่ดูตกใจมากๆ จนหน้าซีด สายตาเลิกลักของมันที่เหมือนกำลังขอความช่วยเหลือจากใครสักคนแต่ผมกลับยิ่งกระชากคอเสื้อของมันให้แน่นมากขึ้นไปอีก





“ตอบ!”





“อ....ไอ้เสือ ไอ้เสือครับพี่ ไอ้เสือปี1เอกอิ้งค์ มันมีเรื่องกับเพื่อนในเซ็ค”





“SHIT! ....แล้วตอนนี้มันอยู่ไหน ที่ไหน!”





“หน...หน้ามอครับพี่ มันตีกันที่หน้ามอ ตรงประตูทางออกแรก”





“ไอ้สัดเอ้ย!” สบถออกมาแบบนั้นแล้วโยนไอ้เด็กที่ผมจับมาเค้นทิ้ง





“เดี๋ยวๆ อิเหี้ยเก้อมึงจะไปไหน ไอ้เอมกำลังมีเรื่องนะมึง มึงต้องมากับกู!” ไอ้หยีที่วิ่งมากระชากแขนผม สายตาของมันที่มองมาทางผมแบบไม่เข้าใจ ท่าทางที่เหมือนจะร้องไห้ของมันทำให้ผมรู้สึกแย่ เหมือนผมกำลังจะทิ้งเพื่อน แต่ไอ้เสือก็กำลังโดนกระทืบอยู่เหมือนกัน





“ไอ้หยี กูขอโทษ แต่มึงก็ได้ยิน ไอ้เสือก็กำลังแย่”





“แล้วไอ้เอมอ่ะ มึงไม่แคร์มันหรอวะ มึงรักมันนะ!”





“แล้วไอ้เสือล่ะวะ นั่นก็แฟนกูนะ กูแคร์ไอ้เอมในฐานะเพื่อน แต่กูรักไอ้เสือ ถ้ามันตายโดยที่กูไปช้า กูจะทนอยู่ยังไงวะ! กูช้าไม่ได้ ... เอางี้มึงนำไปก่อน เดี๋ยวกูไปหาไอ้เสือแล้วจะตามมึงไป ลุง!! ลุงโว้ย!!” เหลือบสายตาไปมองเห็นลุงรปภ.ที่เดินผ่านมาพอดีผมเลยรีบตะโกนเรียกอย่างรีบร้อน ลุงรปภ.ที่มองมาหาผมอย่างงงๆ





“เพื่อนผมกำลังมีเรื่องอยู่หลังม. ลุงไปเป็นเพื่อน เพื่อนผมหน่อย ไอ้หยีมึงไปกับลุง ส่วนกูจะไปหาไอ้เสือ ตามนี้!” บอกมันออกไปอย่างรีบร้อน ก่อนจะวิ่งออกมาทันที ผมรู้สึกผิดกับเพื่อน ผมเป็นห่วงไอ้เอมเหมือนกัน แต่ผมก็ห่วงไอ้เสือมากกว่า เป็นความเห็นแก่ตัวที่ต้องเลือก เพราะแบบนั้นเลยทั้งวิ่งทั้งเปิดไอจีเข้าไปในช่องไดเร็คเมจเสจหาใครบางคน ใครอีกคนที่ผมไม่อยากเสวนาด้วย ‘รีบมาที่มหาลัย ไอ้เอมกำลังมีเรื่องกับพระพายที่หลังม.!’





ผมที่วิ่งมาด้วยความเร็วแบบไม่หยุดแม้แต่วิเดียว วิ่งมาจนถึงทางเข้าหน้าม.ที่ตอนนี้ไม่ค่อยมีรถวิ่งเข้าวิ่งออก บรรยากาศเงียบๆ ไม่มีคนเดินไปเดินมาเท่าไหร่ ผมได้แต่ก้มตัวเอามือค้ำอยู่ที่หัวเข่าทั้งสองข้างแล้วหอบออกมาหนักๆ แต่ถึงแบบนั้นก็ยังพยายามมองไปรอบๆ หัวใจของผมห่วง หรือว่าผมมาไม่ทันวะ มันเป็นอะไรไปแล้วหรือเปล่า หรือมันเจ็บหนักจนต้องไปโรงพยาบาลแล้ว





“ไม่!” ตะโกนออกมาแบบนั้นแล้วตั้งท่าจะวิ่งกลับไปที่รถ ผมจะขอให้พ่อช่วยเช็คตามโรงพยาบาลให้ และในตอนที่ตั้งใจจะวิ่งกลับไปก็ชนเข้ากับใครบางคนซะก่อน





“สัด อย่ามาเกะ... ไอ้เสือ!”





คนตรงหน้าที่อยู่ในชุดนักศึกษา ผมเอื้อมมือไปคว้าข้อมือของมันเอาไว้ หัวใจของผมเต้นแรงด้วยความกลัวไปหมดทุกสิ่ง กลัวว่ามันจะเป็นอะไร กลัวมันจะเจ็บตัว ผมไล่มองมันไปทั่วใบหน้า มองเลยลงมาที่แขนและขาของมัน ดึงมันหมุนตัวไปรอบๆ มองหารอยแผล กลัวว่ามันจะบาดเจ็บ





“มึง มึงไม่เป็นอะไรใช่ไหม มึงเป็นอะไรหรือเปล่า” ถามมันออกไปแบบนั้น สายตาก็ยังคงมองรอบๆ ตัวของมันอยู่แบบนั้น ไอ้เสือไม่ได้พูดอะไร มันเองก็เอาแต่มองผมเหมือนกัน





“เงียบทำเหี้ยอะไร! ตอบกู มึงเจ็บตรงไหน หรือไปโรงพยาบาลไหม ไป กูพาไป”





“กูไม่เป็นไรพี่เก้อ” เป็นประโยคแรกที่มันพูดออกมากับผม มันจ้องหน้าผม และเป็นผมเองที่ก็มองมันแบบไม่เข้าใจ





“คือ ยังไง”





“กูรอตั้งนานแหน่ะ” มันบอกผมออกมาแบบนั้น ผมจับมือมันเอาไว้แน่นๆ รู้สึกเลยว่ามือตัวเองตอนนี้ชื้นเหงื่อมากแค่ไหน ผมกลัว กลัวว่าจะมาไม่ทัน กลัวว่ามันจะเป็นอะไรไป





“ขอโทษ ขอโทษที่ช้า มึงไม่เป็นอะไรใช่ไหม ใครมันทำมึงวะ บอกกู มันพวกไหน” ว่าออกไปแบบนั้นแล้วดึงตัวมันเข้ามากอดไว้ รับรู้ถึงลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอของมัน รวมถึงจัวหวะหัวใจของมันกับของผมที่กำลังเต้นพร้อมๆ กันอยู่ในตอนนี้





“มาช้า ก็ดีกว่ามึงไม่มา”





“จะไม่มาได้ยังไง ถ้ามึงเป็นอะไรไปกูจะทำยังไงวะ ไอ้เหี้ยเอ้ย ถ้ามึงเป็นอะไรขึ้นมากูจะทำยังไง” แค่คิดมาถึงตรงนี้หัวใจผมก็ชาหนึบ แค่คิดว่าจะไม่มีมันให้กอดอยู่ตอนนี้ หัวใจก็เหมือนถูกบีบรัดจนหายใจแทบจะไม่ออก เพราะแบบนั้นเลยกอดมันเข้ากับอกให้แน่นมากขึ้น วงแขนของมันที่ยกขึ้นมากอดผมแบบที่เราสองคนไม่สนใจสายตาใครที่กำลังมองมา เป็นความรู้สึกที่ว่าตอนนี้มีแค่เราสองคน





“รักกูมากเลยหรอพี่เก้อ”





“กูรักมึง รักจริงๆ เสือ ไม่รู้จะพูดให้มึงเข้าใจยังไง แต่ตอนนี้นอกจากมึงกูไม่มีใคร ขอโทษที่กูเป็นแฟนโง่ๆ ของมึง ละเอียดอ่อนไม่พอ ไม่นึกถึงใจมึงมากกว่านี้ เรื่องกับไอ้เอมกูไม่ได้คิดอะไรกับมันมากกว่าเพื่อนจริงๆ นะ...เอ๊ะ...เชี่ย ไอ้เอม!”





พูดแล้วก็นึกขึ้นได้ ผมผละออกจากอ้อมกอดที่กำลังกอดอยู่กับไอ้เก้อ มองหน้ามันแบบอึดอัดใจ





“มึงจะเข้าใจผิดไหมวะเสือ แต่ไอ้เอมก็กำลังมีเรื่อง มึงไปกับกูได้ไหม มันอยู่หลังมอ กูพึ่งนึกขึ้นได้ แต่ว่ากูเห็นมันเป็นแค่เพื่อนนะ มึงจะเข้าใจผิดอีกไหมวะ หรือแจ้งตำรวจแม่ง เดี๋ยวมึงรอแป๊บ” นึกขึ้นได้แล้วรีบยกมือถือขึ้นมาเลย ตั้งใจโทรหาตำรวจ ความยเอ้ย กูก็พึ่งนึกขึ้นได้





“เห้ยไอ้เสือ มึงจะทำอะไรวะ” ผมว่าออกมาแบบนั้นตอนที่มันคว้ามือถือของผมไปไว้ มองหน้ามันอย่างไม่เข้าใจ ตั้งใจจะเอื้อมมือไปแย่งมือถือกลับมา แต่ไอ้เสือก็แค่ยิ้มบางๆ แล้วส่ายหน้า





“พี่เก้อ กูขอโทษนะ...”





“ขอโทษเหี้ยอะไ....”





“กรี๊ดดดดด อิดอกล่ำ!! มึงทำกูตกใจมาก ไหนมึงบอกเมียกูมีปัญหาไงคะอิเวน มันแค่ไปซื้อไอ้ติมแดกเนี่ย อะไรของมึง!!” เสียงร้องสูงๆ ที่ดังมาอีกทาง พอหันไปมองก็เห็นแฟนไอ้เอมยืนอยู่ตรงนั้นและเท้าสะเอวด่ากันเสียงดังแบบไม่อายใคร ข้างๆ มันมีไอ้เอมที่ยืนแดกไอติมไผ่ทองอยู่ตรงนั้น ถัดกันไปก็มีไอ้หยีที่ยิ้มกว้างส่งมาให้ ผมหันกลับมามองหน้าไอ้เสือที่ก็ยิ้มมาให้ แล้วอะไรบางอย่างก็เหมือนกระแทกเข้าหน้ากันในตอนนี้ หันมองไปรอบๆ ไม่มีร่องรอยของการต่อยตี ไม่มีคนมามุงและไม่มียามมาแยก





“สัด!” สบถออกมาแบบนั้นในตอนที่เข้าใจอะไรมากขึ้น ไอ้เสือยิ้มประจบแล้วเอื้อมมือมาเกาะแขนของผม





“มึงรักกูมากๆ เลยนี่นา”





“ไอ้สัดเสือไม่ต้องมาอ้อนกู ไอ้เด็กส้นตีน!”





“ด่ากันทำไม ไหนใครวิ่งหัวกระพือมาช่วยกู”





“สัดเอ้ย! มึงคิดว่ากูตลกหรอ มึงเอาความเป็นความตายมาเล่นได้ไงไอ้เหี้ย อย่ามากอด มึงต้องเจอกูไอ้เหี้ย”





“ไม่เอา พี่เก้ออย่าทำเสือ” มันที่พูดออกมาแบบนั้น





พี่เก้อ...เสือ ...





สัดเอ้ย!





“ชะงักเลย พี่เก้อชะงักเลย” หันหน้าไปมองไอ้เด็กที่ตอนนี้เอาหน้าถูๆ อยู่ที่แขนของผม ก้มหน้าไปมองหน้ามันตาขวาง ผมไม่สนุกสักนิด





“มึงรู้ไหมกูกลัวมากแค่ไหน กลัวว่ามึงจะเป็นอะไรไป กลัวว่าถ้ากูมาไม่ทันมึงจะเจ็บตัว จะโดนไล่ออกจากมหาลัยหรือเปล่า กูกลัวไปหมด สัด!” สบถออกมาแบบนั้นแล้วหันหน้าหนีมัน ยกมือขึ้นเสยผมแล้วสูดหายใจเข้าออกลึกๆ ไอ้เสือที่เดินมาตรงหน้าผม ใบหน้าของมันที่หงอยลงในตอนนี้





“ขอโทษ...กูก็แค่อยากมั่นใจ"





“มั่นใจเหี้ยอะไร หลอกกูนี่อยากมั่นใจเหี้ยอะไร” หันไปมองมันเขม็ง ไอ้เสือที่เม้มปากเข้าหากัน เป็นท่าทางที่ไม่ค่อยจะได้เห็น น่ารัก... แต่ตอนนี้กูก็ยังโมโห





“อยากมั่นใจว่า กูสำคัญกว่าพี่เอมจริงๆ หรือเปล่า ถ้าวันนี้มึงเลือกวิ่งไปหลังม. กูก็จะได้รู้ชัดๆ สักทีว่าคนที่มึงแคร์คงไม่ใช่กู”





“เชี่ย! แม่งเอ้ย” ผมสบถออกมาแบบนั้นอย่างหัวเสีย อยากจะด่ามันออกไปแรงๆ แบบไม่ไว้หน้าว่าการกระทำแบบนี้แม่งเหี้ย ไร้สาระและปัญญาอ่อนมากที่สุด มาเล่นกับความรู้สึกของกูแบบนี้แม่งแย่มากๆ ... แต่ถึงแบบนั้นผมก็พูดไม่ออก ผมรู้ว่าหลายครั้งที่ไอ้เสือต้องเสียใจ ก็เพราะความไม่แน่ใจของมันจากการกระทำของผม และเพราะแบบนั้น ตั้งแต่ตอนนี้ไปผมก็ควรจะละเอียดอ่อนกับความรักของเราให้มากขึ้น





“กูอยากต่อยมึงมากเลยไอ้เสือ”





“ต่อยเลยก็ได้ ต่อยกูเลยแต่ดีกันนะ มึงอย่าทำหน้าดุดิ” ว่าแบบนั้นแล้วเอียงหน้ามาให้ สัดเอ้ย





“มึงคิดว่ากูจะต่อยคนที่เป็นหัวใจกูได้หรอ ฟังนะ...กูรักมึง กูไม่ได้รักไอ้เอมแล้ว แต่การกระทำหลายๆ อย่างของกูมันคงชัดเจนไม่พอ กูขอโทษเสือ แต่สัญญา ต่อจากนี้กูจะคิดถึงใจมึงให้มากกว่าใคร กูรักมึงจริงๆ” พูดออกมาแบบนั้น เอื้อมมือไปวางลงบนกลุ่มผมนิ่มของคนตรงหน้า ไอ้เสือที่หลุบตาลงต่ำแล้วเสหน้าหนี มองเห็นพวงแก้มของมันที่แดงขึ้นมาในตอนนี้





“พูดเหี้ยอะไร จะอ้วกว่ะ”





“รักมึง”





“รู้แล้ว”





“มั่นใจได้นะ กูรักแค่มึง”





“พอแล้วไอ้สัด! หุบปากมึงไปไอ้พี่เก้อ”





“แล้วมึงไม่คิดจะพูดบ้างหรอวะ” ขยับตัวเข้าไปหามัน ไอ้เสือที่เลิ่กลักมองซ้ายมองขวา แล้วหันกลับมามองหน้ากันอย่างไร้ทางหนี





“ว่าไง เด็กที่มันทำกูวิ่งขาลากมาถึงนี่ไม่มีอะไรจะบอกกูหรอครับ” ว่าแบบนั้นแล้วยกยิ้มมุมปาก เพราะมันขาวมากๆ แก้มแดงๆ ของมันเลยเห็นได้ชัดยิ่งกว่าเคย





“อะ...อะไรล่ะวะ”





“เสือ”





“อย่ามาข่มขืนจิตใจกูได้ไหมวะ แม่งๆๆ”





“เออ...ไม่พูดก็ไม่พูด งั้นกลับกัน” บอกออกมาแบบนั้นแล้วถอยหนี เร่งรัดมันไปก็คงไม่ดีหรอก คู่เราแม่งก็เป็นแบบนี้อยู่แล้วไหมวะ ผมหันหน้าไปหาไอ้พวกเพื่อนตัวดีของผมที่ยืนยิ้มหน้าสลอนอยู่ไกลๆ ตั้งใจจะไปด่าแม่งสักหน่อย รู้เลยว่าแผนการในครั้งนี้ ไอ้หยีจัดการแน่ๆ คนแบบไอ้เสือแม่งคิดไม่ได้หรอกครับ ... และในตอนที่กำลังจะก้าวเดินไป เสียงของคนที่ยืนอยู่ข้างหลังผมก็ตะโกนออกมาสุดเสียง





“มึงอย่างอนสิวะ! ถ้ากูไม่รักมึงจะรักใครละไอ้โง่ พี่เก้อมึงอย่าโง่สิ กูรักมึงเหมือนกันเนี่ย ควาย!!”





หันหลังกลับไปมอง ก็เห็นไอ้เด็กคนนึงที่ยืนหลับหูหลับตากำมือแน่นแล้วตะโกนบอกรักกันแบบนั้น คำบอกรักที่บ่งบอกถึงความเป็นเรา เป็นผมกับมัน เป็นความรักที่ไม่ได้หวาน ไม่ได้ซึ้ง ไม่ได้สุขไปทั้งหมดเหมือนกับคู่ใครๆ แต่ก็เป็นความรักในแบบของเรา





“ฮิ้ววววว กูอัดคลิปทันค่ะอิดอกกกกก มึงดูๆ อิหนู ผัวมึงเก่งไหมคะ” เสียงสองของใครอีกคนที่ดังขึ้นมาในตอนนี้ พร้อมกำลังยื่นมือถือส่งไปให้แฟนมันดูอย่างร่าเริง ไอ้เอมที่ยกนิ้วโป้งขึ้นมากดไลค์ให้แฟนมันพร้อมยิ้มกว้าง ไอ้หยีที่หันมาส่งเสียงแซวไอ้เสือในตอนนี้ มองไปที่หน้าของมันที่ตอนนี้แดงไปหมด มันที่เลิ่กๆ ลั่กๆ และสุดท้ายก็หันหลังวิ่งหนีออกไปทั้งแบบนั้น พร้อมประโยคที่บ่งบอกถึงความเป็นมันมากที่สุด





“Kๆๆๆ ไอ้สัดพี่เก้อ ไอ้ส้นตีน!”





แบบนี้สินะคำบอกรักที่ไม่มีคำว่ารัก ในแบบของไทเก้อกับน้องเสือ



...

(มีต่อจ้า)
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว บทที่46 {13/09/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 13-09-2020 01:45:36

“วันนี้สุดยอดไปเลยนะพี่ดาบ เห็นหน้าไอ้เก้อกับน้องเสือตอนเขินเป็นครั้งแรก แม่งสุดยอดมากๆ เลย ฮ่าๆ”





“มึงก็แสบสุดยอด รู้ไหมว่าตอนกูได้ข้อความจากไอ้ล่ำกูรู้สึกยังไง”





“ก็รีบโทรหาแล้วไง ปัดโถ่ อย่างอนสิ เดี๋ยวไม่สวยนะ”





“กูไม่สวยเหี้ยไรทั้งนั้นล่ะ วันนี้ผัวมึงไม่มีอารมณ์สวย” คนข้างตัวที่พูดออกมาแบบนั้นพร้อมขมวดคิ้ว เป็นท่าทางที่นานๆ ทีจะได้เห็น แต่ก็เข้าใจได้ ถ้าเป็นผมเองได้รับข้อความว่าพี่ดาบกำลังตกอยู่ในอันตรายผมก็คงจะเป็นบ้าเหมือนกัน





‘จุ๊บ’





เพราะแบบนั้นเลยเลื่อนหน้าเข้าไปหาคนที่นั่งอยู่ที่เบาะคนขับแล้วจุ๊บลงไปเบาๆ ที่ข้างแก้มของมัน รับรู้ได้ว่ารถที่ขับๆ อยู่เสเข้าข้างทางไปวูบนึง ดีนะที่ตอนนี้เราขับอยู่ในหมู่บ้านแล้ว เลยไม่มีรถตามหรือรถสวนไปมา





“อิหนู มึงหอมแก้มกู” หันมามองหน้าผม พร้อมมือข้างนึงที่เลื่อนขึ้นไปจับแก้มตัวเองไว้





“หายงอนเอมก่อน นะๆ”





“อิดอกกกกก มึงไม่อยากอยู่ดีมีสุขสินะคะถึงกล้าอ้อนกูแบบนี้ กรี๊ดๆๆๆ” ผมได้แต่กระพริบตาปริบๆ กับภาพตรงหน้า พี่มันเป็นห่าอะไรอีกหรอครับ มันกรี๊ดเสียงดังลั่นรถจนผมต้องยกมือขึ้นมาอุดหูตัวเองเลย เสียงแหลมแบบนี้มันฝึกมากจากไหนกันนะ





“ไหนวันนี้มึงบอกไม่สวยไงอิเจ๊พี่ดาบ แล้วกรี๊ดทำไม หูจะแตกโว้ย”





“ก็มึงหอมกู มึงหอมกูอ่ะหนู ห้าวหาญมากอิตัวดี”





“โวะ มากกว่าหอมก็ทำมาแล้วหรือเปล่า แค่จุ๊บแค่เนี่ยจะเป็นไร” บอกมันออกไปแบบนั้น อีกคนที่หักรถเลี้ยวเข้าตัวบ้าน ... บ้านของมันที่มีป๊ากับคุณแม่อยู่ วันนี้คุณแม่พี่มันนัดมาทานข้าวเย็น





“มองอะไรผมวะ”





“กูกำลังคิด...” ตัวรถจอดสนิทในลานจอดรถพร้อมๆ กับพี่มันที่พูดออกมาแบบนั้นและหันมาสบตาผม





“หื้ม...”





“คืนนี้ไม่ไปเฝ้าร้านแล้วดีไหม”





“ทำไมอ่ะ?”





“กูจะอยู่กับมึง จะกอดมึงให้สมกับความห้าวหาญของมึงค่ะอิตัวดี!”





“โว้ยยย น่ากลัว ไอ้เอมไม่อยู่กับคนหื่นแล้ว เจ็บไข่!” ร้องออกไปแบบนั้นในตอนที่พี่ดาบมันทำท่าจะพุ่งเข้ามาจูบปากกัน ผมที่รีบปลดเข็มขัดออกแล้ววิ่งลงจากตัวรถหนีมันไปก่อน





“เจ็บไข่ คำพูดอะไรของมึงวะอิหนู”





“ไม่บอกหร๊อกกกก” ตะโกนตอบกลับไปแบบนั้นแล้วหัวเราะลั่น นี่เหมือนจะเป็นครั้งแรกที่ผมพูดคำอุทานนี้ให้พี่มันได้ยิน แค่คิดก็ขำแล้ว ผมหัวเราะลั่นพร้อมวิ่งเข้ามาในบ้าน ก่อนจะต้องเบรกหัวทิ่มเมื่อมองเห็นคนตรงหน้าที่ยืนหรี่ตามองกันอยู่ตอนนี้





“เอ่อ...คุณป้า สวัสดีครับ” ยกมือไหว้แม่ของพี่ดาบ พร้อมๆ กับส่งยิ้มแหยๆ มาให้ สายตาของท่านที่มองมาไม่ต่างจากครูฝ่ายปกครองสมัยมัธยมสักนิดเลยครับ





“โตแล้วนะเรา ยังวิ่งเป็นลิงเป็นค่างเสียงดังอะไร”





“เอ่อ ขอโทษครับ” บอกออกไปแบบนั้นแล้วทำหน้าสลด ไอ้เอมสลดเหลือตัวจิ๊ดเดียวเลย





“ไม่ต้องมาทำหน้าแบบนั้น ฉันไม่สงสารหรอกนะ มีแค่ตาดาบเท่านั้นแหล่ะที่จะใจอ่อน” แม่พี่ดาบว่าแบบนั้นแล้วเดินนำเข้าไปในบ้าน ผมที่เดินตามไปแบบเจี๋ยมเจี้ยมที่สุด รู้งี้รอพี่มันแล้วเข้ามาพร้อมกันดีกว่า





“พี่เอมมมมม มาแล้วหรอ หวัดดีครับ” เสียงน้องแจตะโกนออกมาเสียงดังจากโต๊ะอาหาร มันที่กำลังพยายามจะจิ้มขนมจีบกุ้งเข้าปากในตอนนี้





“ตาแจ รอคนอื่นก่อน” คุณแม่พี่ดาบเอ่ยออกมาเสียงดุ แต่ถึงแบบนั้นขนมจีบกุ้งชิ้นนั้นก็ตรงเข้าปากมันไปแล้ว เคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อยจนแก้มตุ่ย





“อาหย่อยยย”





“กินให้หมดแล้วค่อยพูดจะได้ไหม เฮ้อ จริงๆ เลย” คุณแม่ที่เดินไปทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ที่ถัดจากพ่อของพี่มันว่าออกมาแบบนั้น แต่น้องแจมันก็ทำแค่ยักไหล่ เฮียปืนที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับคุณแม่หันมายิ้มให้ผม





“มาเถอะเอม มานั่งนี่ เดี๋ยวไอ้ดาบก็ตามเข้ามา”





“ครับ” ผมเดินไปนั่งเก้าอี้ที่ห่างจากเฮียปืนตัวนึง เว้นเอาไว้ให้พี่ดาบมันมานั่ง





“กินเลยสิ ไม่ต้องรอแล้ว” แม่ของพี่ดาบว่าออกมาแบบนั้น ท่านที่หันหน้ามามองผมพร้อมพูดแบบนั้น





“เอ่อ แต่....”





“มาตงมาแต่อะไรล่ะ เราน่ะไปเรียนมาไม่ใช่หรือไง ตาดาบน่ะก่อนจะไปรับเราก็ต้องหาอะไรกินไปอยู่แล้ว เรียนมาเสร็จๆ น่าจะเหนื่อย กินไปเลยไม่ต้องรอ” แม่ของพี่ดาบที่ว่าออกมาแบบนั้นด้วยเสียงที่ไม่ได้อ่อนหวานอะไร แต่ถึงแบบนั้นผมก็รู้สึกว่าอยากจะยิ้มกว้างๆ ออกมา มองไปรอบๆ ข้าง มองเห็นพ่อของพี่ดาบที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ เฮียปืนและน้องแจที่ก็พยายามอมยิ้มไม่ยอมหลุดขำออกมา แต่ถึงแบบนั้นแม่พี่ดาบก็ยังเห็น





“มายิ้มอะไรกัน กินๆ เร็วๆ สิ”





“ขอบคุณครับคุณป้า” เป็นผมที่พูดออกมาแบบนั้น ค่อยๆ ช้อนตาไปมองท่านที่ก็มองมาที่ผม มือเรียวสวยที่เอื้อมมือตักปลาทับทิมราดพริกมาใส่จานให้ผม





“เลิกเรียกฉันว่าป้าได้แล้วมั้ง...” ท่านว่าแบบนั้นแล้วมองหน้ากัน ผมได้แต่อ้าปากค้าง จริงๆ อยากพูดว่าก็ตอนนั้นบอกว่าไม่ให้เรียกแม่ไหมวะ





“ก็เข้ามาเป็นลูกบ้านนี่แล้วนี่ ก็ต้องเรียกฉันว่าแม่เหมือนตาดาบสิถึงจะถูก จริงไหม” ท่านว่าออกมาแบบนั้น มองหน้าผมแล้วยิ้มออกมานิดๆ เป็นรอยยิ้มที่ทำให้ผมรู้ว่าเวลาพี่ดาบยิ้มกว้างๆ แล้วสว่างสดใสเหมือนใคร





“ค...ครับ คุณแม่”





“อุ๊ยตายว๊ายกรี๊ด แม่อะไรกันหรอค๊า ไม่มีใครรอสวยเลยหรือไงคะ” เสียงของคนมาใหม่ที่เดินเข้ามานั่งลงข้างๆ ผมแล้วฉีกยิ้มกว้างให้ทุกคน ผมมองเห็นคุณแม่ที่มองพี่มันด้วยสายตาตำหนิ แต่อีกฝ่ายเหมือนจะไม่สนใจ





“มาสักที จอดรถเอาโล่หรือไงเราน่ะ”





“คิดถึงสวยสินะคะคุณแม่ ดูออกน้า” พูดล้อแม่ตัวเองแบบนั้นแล้วขยิบตาให้ ทั้งโต๊ะที่เงียบไปแป๊บนึง ก่อนที่ทุกคนจะหัวเราะลั่นออกมาพร้อมๆ กัน ไอ้น้องแจกับเฮียปืนหัวเราะลั่นจนน้ำลายกระเด็นลงไปในจานปูนิ่มผัดผงกระหลี่ ฮื่อ ไอ้เอมยังไม่ได้กินเลยนะ โถ่เอ้ย





“หึ บ้านเราไม่ได้มีบรรยากาศแบบนี้มานานแล้วนะ” คุณป๊าที่พูดออกมาแบบนั้นในตอนที่เราเริ่มทานของหวาน เมนูของหวานวันนี้คือกระท้อนลอยแก้ว เปรี้ยวหวานลงตัวอร่อยมากๆ จนไอ้เอมอยากร้องไห้เลยครับ





“ก็ไม่เป็นแบบนี้ตั้งแต่ตาดาบไม่อยู่บ้าน” คุณแม่พูดขึ้นมาแบบนั้น บรรยากาศโดยรอบเหมือนจะหยุดชะงักลง ท่านที่มองหน้าพี่ดาบด้วยความรู้สึกผิดที่แสดงออกมาทางสีหน้า ผมว่าผมเข้าใจว่าท่านกำลังคิดโทษตัวเองอยู่แน่ๆ เพราะแบบนั้นผมเลยโพร่งขึ้นมาแทน





“คุณแม่ไม่ต้องห่วงนะครับ ต่อจากนี้ผมจะลากพี่ดาบมาเล่นที่นี่บ่อยๆ เลย เพราะที่นี่น่ะกับข้าวอร่อยมากๆ เลยครับ” ว่าออกไปแบบนั้นแล้วยิ้มกว้างๆ คุณแม่ที่มองหน้าผมนิดนึง ก่อนจะยิ้มออกมา





“นี่อิหนู มึงบอกว่ากับข้าวที่นี่อร่อย งั้นอาหารที่กูทำล่ะฮะ”





“ก็อร่อย แต่อาหารที่คุณแม่ทำอร่อยกว่าไงล่ะ”





“หึ่ย ลูกควายนี่มันเลี้ยงเสียข้าวสุขจริงๆ เลยค่ะ” พี่มันว่าออกมาแบบนั้นแล้วถลึงตาใส่ ก่อนจะยื่นมือมาบีบจมูกผมแรงๆ ได้แต่ย่นจมูกตัวเองหนี ก่อนที่คนรอบข้างของพวกเราจะหัวเราะขำกันออกมา ไม่เว้นแม้แต่คุณแม่ที่ก็ยิ้มกว้างๆ ออกมา





“เสียใจด้วยนะจ๊ะตาดาบ ต่อจากนี้เราน่ะตกกระป๋องแน่ๆ” ท่านว่าออกมาแบบนั้น พี่ดาบที่ก็ได้แต่ทำหน้าทำตาฮึดฮัดใส่





“แม่จะแย่งเมียผมหรอ ไม่ยอมนะแม่”





“ไม่ยอมแล้วจะทำไงได้ล่ะลูก ก็เราสู้แม่ไม่ได้เองนี่นะ”





“หวาย แพ้อ่ะ ดูออกน้า” ผมที่พูดแหย่ต่อออกไปอีก ทุกคนที่หัวเราะและยิ้มขำไปกับพวกเรา เป็นบรรยากาศครอบครัวที่ตัวผมเองไม่ได้สัมผัสมานานมากแล้วเหมือนกัน รู้สึกอบอุ่นจนบอกไม่ถูก มีความสุขมากกว่าวันไหนๆ และสุดท้ายก็คือสุขใจที่ครอบครัวของพี่มัน กลับมาเข้าใจกันสักที



.

.

.



“ผมไปก่อนนะแม่”





“ขับรถดีๆ นะ ถ้าไม่ไหวก็นอนที่ร้านนั่นแหล่ะ”





“ครับๆ รู้แล้วครับ” พี่ดาบที่ยกมือไหว้แม่มัน ก่อนจะเดินไปที่ลานจอดรถ ตรงหน้าบ้านตรงนี้เลยเหลือแค่ผมกับแม่ของพี่มัน บรรยากาศในช่วงเวลาสี่ทุ่มที่เงียบสงบมาพร้อมกับสายลมที่พัดเอื่อยๆ ทั้งผมและคุณแม่ไม่ได้มีใครพูดอะไรออกมา แต่ถึงแบบนั้นก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกอึดอัดอะไร





“ชะเอม”





“ห..หื้ม เอ่อ ครับ” ผมที่สะดุ้งหลังจากที่ท่านเอ่ยเรียกชื่อเล่นเต็มๆ ของผม พอหันไปก็เห็นว่าท่านมองมาที่ผมอยู่ก่อนแล้ว สายตาอ่อนล้าแต่แฝงไปด้วยความสุขที่เป็นประกายอยู่ในสายตานั่นมองทอดมาที่ผม





“ฉัน...แม่ แม่ขอโทษสำหรับที่ผ่านมานะ”





“ห๊ะ....เอ่อ คุณแม่ขอโทษอะไรครับ”





“ขอโทษสำหรับทุกเรื่องที่แม่ทำไม่ดีกับเรา แม่รู้ว่าแม่เป็นผู้ใหญ่ที่ใจแคบและไม่น่ารักนัก แต่ต่อจากนี้ ถ้าเอมไม่ว่าอะไร แม่ก็จะขอให้เอมมาเป็นลูกแม่อีกคนนะ”





“ค...คุณแม่” อยู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนลำคอตีบตันขึ้นมาซะอย่างนั้น ดวงตารู้สึกร้อนผ่าวๆ เป็นความรู้สึกวูบวาบที่ตื่นตันอยู่ในอก





“ต่อแม่ฝากดาบด้วยนะลูก”





“ผม...ครับ ขอบคุณนะครับคุณแม่” ว่าออกมาแบบนั้นแล้วผมก็โผลเข้ากอดท่านในทันที เหมือนว่าท่านเองก็จะตกใจไม่น้อย แต่ถึงแบบนั้นท่านก็ยังเอื้อมมือขึ้นมากอดลูบหลังของผมเบาๆ





“ร้องไห้ทำไม ไม่เอาน่า เดี๋ยวไม่สวยนะ” ท่านว่าออกมาแบบนั้นกึ่งขำกึ่งล้อ ผมที่ผละออกมาจากอ้อมกอดนั้นพร้อมรอยยิ้มกว้างๆ แต่น้ำตาก็ยังไหล เป็นความรู้สึกที่ว่า ในวันนี้ผมได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้ ผมได้เป็นที่ยอมรับจากแม่ของพี่มันแล้วจริงๆ





“ผม ฮึก...ผมไม่สวยหรอกครับ ปล่อยให้พี่ดาบมันสวยไปคนเดียวก็พอ”





“ฮ่าๆ นั่นสิน้า สวยสุดในร้านแล้วมั้งคนนั้นน่ะ” ท่านว่าแล้วหัวเราะออกมา ก่อนเราสองคนจะกอดกันแน่นๆ อีกครั้ง ความรู้สึกหนักอึ้งของเมื่อวันวานที่เคยผ่าน ในวันนี้มันได้ผ่านไปแผ่วเบาเหมือนกับสายลมที่พัดผ่านตัว





‘ปรี๊นๆ’





เสียงบีบแตรที่ดังมาจากรถของคนที่พึ่งขับออกมาจากลานจอดรถเรียกให้ผมและคุณแม่ต้องหันไปมอง พี่ดาบที่เปิดกระจกรถลงแล้วโผล่หน้าออกมามองแรงผมกับแม่ที่กำลังกอดกันในตอนนี้





“แม่! ปล่อยเมียผมเลยนะ อย่ามากอดเมียคนอื่นเค้าแบบนี้จะได้หรือเปล่า! ส่วนมึง ใจง่ายนักนะอิตัวดี”





“แม่ พี่ดาบพูดไม่เพราะกับเอมเลยครับ”





“ตาดาบ พูดจาไม่ดีแม่จะตีให้นะ”





“อะ...เอาเลย ได้กลิ่นเน่าๆ ไหมคะ จากหัวกูเองแหล่ะจ้าสังคม”





“ฮ่าๆๆๆ”





ฮ่าๆๆๆ”



....
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว บทที่46 {13/09/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 13-09-2020 01:46:16

“เอ้า! ระยองงงงง”





“ชนโว้ย มุขแบบนี้ขอร้องอย่าหาทำ”





“ขัดเก่ง ขัดเก่งขนาดนี้ทำไมไม่มาเป็นผัวกูให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยวะห๊ะอิเมฆ”





“ถอยไปไกลๆ กูมีพระนะไอ้จั๊ม”





“มึงแม่ง! อย่าเผลอนะ กูจะจับทำผัวให้เลย!”





“พะยูนๆ เพื่อนรัก น้ำแข็งได้หรือยัง กูรอจนแข็งไปหมดแล้วน้า”





“พะยูนพ่องไอ้อิฐ ไปไกลๆ เลยไปแม่ง”





“เป็นงอนเป็นเคือง เร็วๆ เอาถังมามันหนัก มึงถือไปเองไม่ได้หรอก”





“กูก็ถือเสริฟได้ทุกวัน มึงมาห่วงกูอะไรวันนี้วะห๊ะ!”





“กูก็ห่วงมึงทุกวันนั้นแหล่ะ รู้ห่าไรบ้างล่ะ ก็อย่างว่า สมองไม่ค่อยมี มึงเน้นไขมันอ่ะเนาะ ก๊ากกกก”





“ไปตายไอ้สัดอิฐ”





“ช่วยอิฐด้วยจ๊ะพี่จ๋า น้องจูนจะโดนทำกู!!”





เสียงหัวเราะตลกเฮฮาที่ดังโวยวายไปมารอบๆ ตัวผมทำให้ผมได้แต่ยิ้มขำๆ มองไปทางซ้ายทีทางขวาทีอย่างชวนให้ปวดคอ แต่ถึงแบบนั้นผมก็ยังยิ้มขำและมีความสุขกับภาพตรงหน้า พี่จั๊มกับพี่เมฆที่ยังคงเป็นเหมือนวันแรกที่ผมได้รู้จัก พี่จั๊มยังอยากได้พี่เมฆเป็นผัวมากแค่ไหน วันนี้ก็ยังเหมือนเดิม ไอ้อิฐกับไอ้จูนยังคงแกล้งแหย่กันแบบนั้นเหมือนวันเก่าๆ ที่ผมเคยเห็น บรรยากาศคึกคักที่เคล้าไปกับเสียงดนตรีจากชั้นล่างตรงโซนหน้าเวทีและผู้คนคึกคักก็ยังคงเหมือนเดิมกับครั้งแรกที่ผมได้ก้าวเท้าเข้ามาที่นี่ ที่ร้านแห่งนี้ ที่DANIWORLD ที่ๆ เป็นโลกของดานี่ โลกที่ดึงดูดให้ผมได้เข้าไปอยู่ใกล้มันที่ละนิดๆ





“ดีใจด้วยนะมึง ในที่สุดเมียก็กลับมาอยู่ด้วย”





“น้องเอมกลับไปอยู่กับมันสักที ก่อนหน้านี้มันโทรมมากเลยนะ หน้างี้ขี้เหร่มาก” พี่จั๊มพูดสวนต่อจากพี่เมฆในทันที ทำเอาพี่ดาบที่นั่งอยู่ข้างๆ ตัวผมในตอนนี้หันไปถลึงตาใส่เพื่อนทั้งสองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม





“พวกมึงพูดอะไรคะ คนสวยๆ แบบกูจะมีช่วงเวลาแบบนั้นได้ยังไง หาพูดนะคะ” คนที่นั่งข้างตัวผมที่วันนี้ใส่ชุดสูธสีขาวทั้งตัว มีเฟลอร์สีขาวพาดอยู่บนไหล่ซ้าบ ผมสีทองสว่างที่ยิ่งทำให้เจ้าตัวโดดเด่นมากยิ่งขึ้น ใบหน้าหล่อเหลาที่วันนี้ก็แต่งหน้ามาด้วย ริมฝีปากสีแดงสดที่ทามาด้วยลิปสติกยี่ห้อเดียวกับที่ผมเคยเอามาเขียนรถพี่มันในครั้งแรกที่เรารู้จักกัน ดวงตาคมที่กรีดอายไลเนอร์และลงอายแชโดว์สีไวน์ที่มีชิมเมอร์วิบวับทำให้ดวงตาคมคู่นั้นยิ่งดูมีสเน่ห์มากขึ้นไปอีก เสื้อสูธลำลองที่ผ่าอกเป็นรูปตัววีโชว์แผ่นอกแกร่งแน่นๆ นั่นอีก ... ดูดีอะไรขนาดนั้นวะ





“มึงนั่นแหล่ะหาพูด ตอนนี้เหอะ มึงกล้ากอดน้องเอมแล้วหรือยัง”





“แหม่ เรื่องแบบนี้ต้องให้พูดหรอคะ อิหนู บอกมันไปค่ะ มันหยามกูค่ะบอกมันไป” คนข้างตัวที่หันมาบอกผมแบบนั้น เห็นแล้วได้แต่ส่ายหัวใส่พี่มันแบบหน่ายๆ





“ไม่ได้กอดผมหรอกพี่เมฆ เป็นผมมากกว่าที่กอดอิเจ๊มัน”





“ห๊ะ!”





“อะไรนะ!”





“อิลูก มึง...มึงจะบอกว่า มึงเป็นผัวพี่ดาบหรอ!”





พี่จั๊ม พี่เมฆ และไอ้หยี...ตัวหลังนี่โผล่มาได้ยังไง มันที่พึ่งเดินเข้ามาถึงโต๊ะของเราอ้าปากค้าง ข้างๆ มันมีไอ้เก้อกับน้องเสือเดินมาด้วย และถัดออกไปอีกคนคือ...เฮียปืน มาได้ยังไงอีกวะนั่นน่ะ





“พูดเหี้ยอะไรกัน อิลูกควายนี่อ่ะนะจะมาเป็นผัวกู พวกมึงไปแดกหญ้าแทนเมียกูเลยไปค่ะ!” เสียงของคนข้างตัวที่ทำให้สติของผมกลับมา พอหันไปมองก็เห็นคนข้างๆ ทำหน้าดุใส่ เห็นแบบนั้นแล้วได้แต่ยิ้มประจบพี่มันออกมา





“เดี๋ยวมึงจะโดนนะอิหนู”





“หยอกน้าแด็ป”





“มึงนี่กวนตีนจังนะคะ กูดาบ” มันที่ว่าแบบนั้นแล้วเอื้อมมือมาหยิกแก้มกันพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น หล่อจังเลยว่ะ หล่อจนผมเขินเลย เพราะแบบนั้นเลยเอื้อมมือไปคว้าแก้วเหล้าที่ไอ้อิฐพึ่งชงให้เสร็จมากระดกอีกครั้งแก้เขิน ไม่รู้เลยว่ากินไปกี่แก้วแล้วในคืนนี้





“หยีไม่ได้มาช้าไปใช่ไหมคะพี่ดาบ”





“ยังทันค่ะคนสวย มาๆ นั่งเลย ฮัลโหลอิน้องล่ำ มาๆ นั่งๆ” พี่ดาบมันว่าแบบนั้นแล้วกวักมือเรียกไอ้เก้อ มองเห็นไอ้เก้อกรอกตาใส่ทีนึง แต่ถึงแบบนั้นมันก็หันไปคว้ามือของน้องเสือมาจับไว้ แล้วดึงให้มานั่งลงข้างๆ กัน





“นี่เพื่อนกูค่ะ ไอ้จั๊มไอ้เมฆ ส่วนพวกมึง นี่เพื่อนแฟนกู ไอ้หยีพวกมึงรู้จักแล้ว และนั่นไอ้ล่ำ เอ่อ..กูหมายถึงไอ้เก้อ และ...”





“นี่ไอ้เสือ แฟนผมพี่” ไอ้เก้อชิงตัดบทพี่ดาบแล้วแนะนำตัวไอ้เสือซะเอง





“หูยย เอาว่ะๆ” ไอ้หยีว่าแซวๆ ออกมาแบบนั้น เห็นไอ้น้องเสือที่ตอนนี้หน้าแดงขึ้นมา เป็นน่ารัก เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นว่ามันเขินเป็นยังไง





“ก็ไงวะ ก็แฟนกูจริงๆ” ไอ้เก้อที่ว่าออกมาอีกครั้งแล้วเอื้อมมือมาโอบไหล่ไอ้เสือ มองเห็นว่าน้องเสือกระทุ้งข้อศอกใส่ท้องมันทีนึงด้วยครับ





“ฮ่าๆ เออ กินกันให้เต็มที่นะพวกมึง วันนี้คนสวยๆ แบบกูเลี้ยงค่ะ”





“เย้ เริศค่า...ขอให้รักกับไอ้เอมนานๆ นะคะพี่ดาบขา” ไอ้หยีว่าแบบนั้นแล้วยิ้มประจบ ดูจะมีความสุขกับการแดกฟรีซะเหลือเกินอ่ะ





“ถึงผมจะค่อนข้างหมั่นไส้หน้าพี่ แต่ผมยอมรับนะ ไม่มีใครเหมาะกับไอ้เอมเพื่อนผมได้เท่าพี่แล้วว่ะ” ไอ้เก้อที่พูดขึ้นมาแบบนั้นแล้วยกแก้วขึ้นให้พี่ดาบนิดหน่อย ผมเงยหน้าไปมองคนที่ตอนนี้ผมเอนตัวพิงอกพี่มันอยู่ มันเองก็ยกยิ้มมุมปากแล้วยกแก้วตอบไอ้เก้อไม่ต่างกัน





“ขอบใจ มึงเองก็โตขึ้นนะ ขอให้มีความสุขกับแฟนมึงเหมือนกัน” พี่มันว่าออกมาแบบนั้น พวกเราทุกคนที่พูดคุยและหัวเราะไปด้วยกัน ทุกคนที่มาในวันนี้ก็เป็นคนสนิท คนคุ้นเคยของพวกเราทั้งนั้น พูดง่ายๆ ว่าจริงๆ ก็เป็นครอบครัวใหม่ ครอบครัวใหญ่ที่มีความจริงใจให้กันมากๆ .... เรื่องราวทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาถือเป็นบทเรียนให้เราได้เรียนรู้และเติบโตมากขึ้นในวันต่อไป ผมดีใจและรู้สึกขอบคุณเสมอที่มีทุกคนอยู่ในชีวิต



       และพรหมลิขิตที่ผมเคยคิดว่ามันเป็นตลกร้ายที่ทำให้ผมต้องกลับมาเจอกับคนที่ไม่อยากจะเจอมากที่สุดในชีวิต ไม่เคยคิดเลยว่าหลังจากวันนั้น มันจะนำพาคนหนึ่งคน ที่ในวันนี้ได้กลายเป็นทุกๆ อย่างในชีวิตของผม คนที่ไม่ตรงสเปค ไม่เหมือนกับพระเอกหล่อๆ ในนิยายที่ผมเคยอ่านเลยสักนิด ทั้งปากแดง ทาตาสวยๆ และชอบพูดคะขาให้รู้สึกตกใจ ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะรักกับคนแบบนี้ แต่ถึงแบบนั้น เค้ากลับเป็นผู้ชายที่ทำให้ผมรู้สึกโชคดีกว่าใครในโลก โชคดีกว่านางเอกในนิยายที่ผมคิดว่ามันไม่มีอยู่จริง




“เป็นไง ง่วงหรือเมาคะหนู” เสียงทุ้มอุ่นๆ ที่ดังอยู่ใกล้ๆ ทำให้ผมต้องปรือตาเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าคนที่ผมพิงอกอยู่ตอนนี้ ไม่ได้รู้สึกว่าเมา แต่อาจจะแค่มึนๆ นิดหน่อย ผมส่ายหน้า





“เอมไม่ได้เมานะ”





“อะ ถ้าพูดแบบนี้กูพากลับห้องเราดีกว่า”





“พี่ดาบอยากกลับแล้วหรอ”





“อืม ร้านก็จะปิดแล้วแหล่ะ แล้วกูก็อยากกลับไปกอดควายน้อยของกูแล้ว” พูดแบบนั้นแล้วส่งยิ้มมาให้ ฝ่ามืออุ่นๆ ที่เอื้อมมาลูบผม แล้วเลื่อนผ่านมาลูบแก้มผม ได้แต่เอียงหน้าเข้าไปซบลงกับฝ่ามืออุ่นนั่น กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ประจำตัวของพี่มันทำให้ผมยิ้มออกมาได้





“เอมก็อยากกอดพี่ดาบแล้ว”





“น่ารักจังครับ” ช้อนตามองคนตรงหน้าที่ยิ้มออกมาน้อยๆ ใบหน้าคมที่เลื่อนลงมากดจูบเบาๆ ที่กลุ่มผมของผมก่อนจะเอื้อมมือมาจับกันเอาไว้ นิ้วมือเรียวทั้งห้าของเราทั้งคู่สอดเกี่ยวเข้าหากันก่อนจะกระชับฝ่ามือให้แน่นมากขึ้นในตอนที่ผมลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากโต๊ะพร้อมๆ กับพี่มัน พวกเราที่ค่อยๆ เดินผ่านผู้คนรอบๆ ตัวออกไปนอกร้านอย่างไม่เร่งรีบ ไม่ได้รู้สึกถึงผู้คนรอบข้างที่อยู่รอบตัว ในตอนนี้มีแค่ผมกับพี่มันที่กระชับฝ่ามือนี้และก้าวเดินไปพร้อมๆ กัน





รถหรูของพี่ดาบที่จอดอยู่หน้าลานจอดรถด้านหน้าของร้าน ในลานจอดตอนนี้เหลือรถไม่เท่าไหร่ ผมที่เข้าไปนั่งด้านในของรถ พร้อมๆ กับที่พี่มันก็เข้าไปนั่งประจำที่ของคนขับ เสียงแอร์ในรถที่ดังตัดความเงียบของเราสองคน มีแค่ฝ่ามือของเราที่ยังเกาะกุมกันอยู่แบบนั้น





“ไม่น่าเชื่อเลยนะคะ”





“หื้ม ไม่น่าเชื่ออะไรหรอ” ผมหันไปมองหน้าคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ตัว พี่มันเองก็หันหน้ามามองผมพร้อมๆ กับรอยยิ้มที่ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข





“ไม่น่าเชื่อว่าตั้งแต่วันนั้น วันที่กูเจอมึงในผับที่มึงทำงานตอนนั้น มันจะทำให้เรามีกันในวันนี้ได้ แปลกแต่จริงมากๆ เลยนะคะ...ขอบคุณนะคะเอม ขอบคุณที่รักและยอมรับคนแบบกู”





“ผมเองก็เหมือนกัน ขอบคุณที่พี่มองเห็นผมคนที่ไม่มีอะไรเลยแบบผมนะครับ”





“อย่าพูดแบบนั้น ต่อให้ใครจะบอกว่ามึงไม่มีอะไร แต่ในสายตากู มึงมีค่าสำหรับกูมากกว่าอะไร คนอื่นไม่ต้องเห็นน่ะดีแล้ว แค่กูเห็นมันก็พอแล้วเอม และที่สำคัญ มึงเองก็เลือกคนแบบกูเหมือนกันไม่ใช่หรือไง คนที่ใครต่อใครก็ไม่รู้ว่าจะเป็นตุ๊ดออกสาวหรือเป็นอะไรกันแน่”





“พี่จะเป็นอะไรก็ได้ แต่เป็นของเอมคนเดียวก็พอนะ เป็นผัวที่สวยที่สุดให้เอมก็พอแล้ว”





“สวยๆ เป็นผัว ... กูเป็นให้มึงคนเดียวอยู่แล้วแบบไม่ต้องร้องขอเลยครับ”





“เอมรักพี่ดาบนะ รักเจ๊ดานี่ด้วย”





“พี่ก็รักเอมเหมือนกันครับอิหนู”





เราสองคนที่มองตากันแล้วยิ้มออกมาให้กันในตอนนี้ ... สายตาของเราสองคนที่สะท้อนภาพของกันและกันในตอนนี้ ไม่มีนิยาม ไม่มีทฤษฎี ไม่มีหลักการและเหตุผล มีแต่ความรู้สึกของคนสองคนที่ตรงใจกันและกันมากกว่าใคร





เปลือกตาสวยที่ถูกแต่งแต้มด้วยอายแชโดว์หลับตาลงช้าๆ พร้อมๆ กับริมฝีปากหยักที่ทาบทับแผ่วๆ ลงมาบนริมฝีปากบาง เป็นจูบที่ไม่ได้รุกล้ำรุนแรง เป็นแค่จูบธรรมดาๆ ที่ทำให้รู้สึกอบอุ่นไปทั้งหัวใจ ... สายตาของผมทอดมองไปที่ชั้นบนสุดของร้านที่มีชื่อร้านขนาดใหญ่สีชมพูวิบวับประดับอยู่บนนั้น เป็นความรู้สึกเหมือนกับได้เห็นมันเป็นครั้งแรกในวันที่ได้ก้าวเข้ามาในที่แห่งนี้ ก้าวเข้ามาในชีวิตของคนๆ นี้ โลกของดานี่ โลกของ ’ DANIWORLD’ ... แสงไฟจากป้ายของชื่อร้านค่อยๆ ดับลงแล้วในคืนนี้ และมันจะถูกเปิดขึ้นใหม่ในวันต่อไป ไม่ต่างจากความสัมพันธ์ของผมกับเจ้าของร้านคนสวย ที่จะดำเนินต่อไปในทุกๆวันต่อจากนี้





ขอบคุณอุปสรรคที่ผ่านเข้ามา

ขอบคุณวันเวลาที่เดินผ่านไป

ขอบคุณน้ำตาที่รินไหล

ขอบคุณมิตรภาพที่ดังทุ้มอยู่ในใจตลอดมา

ขอบคุณที่ทำให้เราได้เรียนรู้คุณค่าและเติบโตไปด้วยกัน

และสุดท้ายขอบคุณที่ทำให้ผมรู้ว่า ผัวที่สวยที่สุดในโลก มันมีอยู่จริง ... สวยๆ เป็นผัว





-THE END-

-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-



อ่าาา จบลงแล้วค่ะ...ในที่สุดก็มาถึงวันสุดท้ายที่ได้เขียนคำว่า THE END พูดตรงๆ เลยว่าแคทใจหายมากๆ ในตอนที่เขียนลงมาถึง

บรรทัดสุดท้าย ได้แต่พูดกับตัวเองว่า มันจบแล้วว่ะ เรื่องราวของพี่ดาบกับน้องเอมเดินทางมาถึงตอนจบแล้วว่ะ

เรียกได้ว่าอยู่กับเรื่องนี้มาอย่างยาวนาน เกือบจะครบรอบหนึ่งปีแล้วที่อยู่ด้วยกันมาในทุกๆ วันเสาร์ ใจหายมากๆ เลยค่ะ

แคทไม่รู้ว่าคนอ่านของแคทจะรู้สึกเหมือนกันไหม แต่แคทขอบคุณจากใจและดีใจเสมอที่ได้มาเจอคนอ่านในทุกๆ เสาร์

ได้คอยอ่านคอมเม้นท์และคำพูดของคนอ่านทุกๆ คนที่รู้สึกสนุก อิน เศร้า เหงาหรือไม่ชอบผ่านข้อความมาเล่าสู่กันฟัง

เนื้อหาเรื่องนี้ยาวมาก มีหลากหลายประเด็นที่แคทเองอาจจะถ่ายทอดออกมาไม่ดีนัก แคทต้องขอโทษจริงๆ ค่ะ

และสิ่งที่อยากจะพูดอีกหนึ่งอย่างคือ อยากขอบคุณจริงๆ ขอบคุณคนอ่านทุกๆ ท่านที่ยังอยู่ด้วยกันจนถึงในตอนนี้

อาจจะเหลืออยู่ไม่มากเท่าในตอนที่เปิดเรื่อง แต่ถึงแบบนั้นก็ขอขอบคุณจากในจริงๆ ในท่านที่ยังอยู่ด้วยกัน

ขอบคุณพลังโดเนทของทุกๆท่านที่สนับสนุนกันเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ ขอบคุณมากๆจริงๆค่ะ

คุณคือกำลังใจดีๆ คือพลังของแคทที่ทำให้พยายามสร้างสรรค์งานชิ้นนี้ออกมาจนสำเร็จ ขอบคุณจริงๆ ขอบคุณมากๆ ค่ะ

ไม่รู้จะพูดอะไรนอกจากขอบคุณ ขอบคุณที่เปิดเข้ามาอ่านนิยายเรื่องนี้และได้มารู้จักกันนะคะ

นิยายเรื่องนี้ไม่ได้สดใส ไม่ได้หม่นแสง มันก็เป็นแค่นิยายหนึ่งเรื่องที่เป็นสีเทาๆ

ไม่ได้ดำไม่ได้ขาวที่มีผู้คนหลายรูปแบบให้ได้พบเห็น

แคทเชื่อว่าไม่มีคนดี100% หรือคนเลวร้าย100%อยู่ในโลกนี้

เพราะแบบนี้แคทเลยหวังว่านิยายเรื่องนี้จะทำให้คนอ่านได้ยิ้ม เศร้า เหงา สนุกและมีความสุขในทุกๆ ครั้งที่ได้เปิดอ่าน

และสุดท้ายนี้...แคทจะไม่ไปไหน!!! แคทจะอยู่ คุณพี่จะไล่หนูหรอค๊า ไม่ไปจ้าาาา

อย่าลืมมาอ่านตอนพิเศษ รวมถึงการเปิดพรีในรอบแรกด้วยน้า จะไปบนแล้ว หวังว่าคนอ่านจะสนับสนุนงานแคทต่อนะคะ

ส่วนเรื่องต่อไป เตรียมพบกับ....

ขออุบไว้ก่อนน้าาาา อิอิ

ส่วนตอนพิเศษในเล่ม จุกๆ ไปเลย ขนมาทุกคู่ในเรื่อง ใครสงสัยอะไรยังไง ต้องมาตำแล้ว จุกๆ จ้าแม่

ดานี่: รำคาญ! กูพึ่งจบ มึงบังอาจพูดถึงพระเอกคนใหม่หรอคะ ใครหน้าไหนก็ไม่สวยเท่ากูหรอกค่ะ จำ!

เอม: อย่าลืมเอม อย่าลืมกันนะครับทุกคน ใครลืม เอมจะเอาเขาขวิดจริงๆ ด้วย เจ็บไข่!!

ฝากแฮชแทค #สวยๆ เป็นผัว ในทวิตเตอร์ด้วยจ้า


 :pig4: :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว บทที่46 {13/09/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: sarang ที่ 13-09-2020 12:56:40
เราไม่ได้เข้ามาเม้นท์นานมากเลยยยยยย ขอโทษจริงๆนะคะ แต่ตามอ่านมาตลอดเลย จนวันนี้ก็จบแล้วอ่า ไม่อยากให้จบเลย :hao5: :mew2: :katai1: :mew6:
 

ตอนจบตอนนี้เป็นตอนจบที่สุดยอดมากๆในความรู้สึกเรา มันทั้งยาวทั้งเต็มอิ่มกับบทสรุปของทุกตัวละครเลย เป็นเรื่องสีเทาๆแบบที่คุณแคทว่าเลย แต่มันก็เป็นความเทาที่ทำให้เราได้เห็นถึงพัฒนาการของตัวละครมากๆเลยนะ เอาจริงๆตอนอ่านๆมา มันมีหลายตอนมากๆที่ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นแบบนั้นวะ ทำไมไม่ทำแบบนี้ ขัดใจอยู่หลายอย่างเลยค่ะ แต่พออ่านมาเรื่อยๆจนถึงตอนนี้ เรากลับเข้าใจอะไรมากขึ้นนะ เหมือนเราค่อยๆได้ตกตะกอนความคิดอ่ะ ทุกตัวละคร เหตุผลทุกการกระทำของตัวละครว่าทำไมต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ คือมันดีมากจริงๆ เรื่องนี้มันไม่ได้มีแต่ความรักของคู่รักอ่ะ มันมีทั้งเรื่องของเพื่อน เรื่องครอบครัว คือเต็มอิ่มมาก
อ่านตอนนี้แล้วทั้งรู้สึกเศร้า เสียดาย มีความสุขและยิ้มไปด้วย เหมือนได้หลุดเข้าไปอยู่กับตัวละครในเรื่องมากๆ อินแหล่ะ :mew1:

อยากบอกว่าเราประทับใจจริงๆ ประทับใจงานเขียนของคุณ เราคิดว่าไม่ใช่แค่ตัวละครของคุณที่โตขึ้นหรอก แต่งานเขียนของคุณก็โตขึ้นด้วยและพัฒนามากขึ้นจริงๆ อยากบอกว่าคุณเก่งมากๆ เราชอบงานของคุณมากๆนะคะ
เราคิดว่านิยายที่ดี คือนิยายที่ทำให้เราคิดถึงมันแบบในวันแรกที่เราได้อ่าน และเรื่องนี้ก็เป็นแบบนั้น มันทำให้คิดถึงและอยากกลับมาอ่านมากๆจริงๆ

อยากจะบอกว่า เอาเล่มมาค๊าาาาาา เอาม๊าาาา  :hao6: :ling1: :mew1:

หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว บทที่46 {13/09/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 13-09-2020 22:43:05
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
ขอบคุณสำหรับนิยายเรื่องนี้ค่ะ
เรายังคงชอบการเขียน และการเดินเรื่องของคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว บทที่46 {13/09/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 14-09-2020 08:06:26
จบแล้ว สนุกมากๆเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว บทที่46 {13/09/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 14-09-2020 15:24:20
 :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว บทที่46 {13/09/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: FaX ที่ 14-09-2020 20:40:34
ฮือ จบแล้วว ใดๆคือเริ่ดเด้อ เคมีนุ้ง 2 คนคือเข้ากัํนเข้สกัน ไม่มีอะไรแทรก อ่านทุกตอนขำทุกตอน ความสัมพันธ์ที่รักในตัวตนคนๆนัเน คือปริ่มง่าา ขอบคุณนิยายดีๆแบบนี้นะคะ  สวยๆก็เป็นเธอนะค๊าา มองบน 555
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว บทที่46 {13/09/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 15-09-2020 20:46:51
ในที่สุดความน่ารัก นิสัยแมนๆของน้องเอมก็เอาชนะอุปสรรคได้ มีความสุขกับผัวสวยๆอย่างเจ้ดานี่ซะที จริงๆก็เหมือนมีผัวสองคนเลยนะ สวยๆ แบบเจ้ดานี่ หรือเท่ๆแบบพี่ดาบอ่ะ 55555

ส่วนพาพวยน้านนน ก็หวังว่านางจะคิดได้และรักใครได้จริงๆ อาจจะเป็นจ๊อบก็ได้

ขอบคุณไรท์ค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว Ask.fm {19/09/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 19-09-2020 20:33:43




Ask.fm


เรื่องจบไปแล้วววววจ้าาาาา ว่าแต่มีใครคิดถึงตัวละครทุกตัวจากเรื่อง #สวยๆเป็นผัว กันไหมคะ

ถ้ามี....มาค่ะ มาฝากคำถามถึงพี่ดาบ น้องเอม พี่เก้อ น้องเสือ น้องหยี อิฐ จูน เมฆ จั๊ม พาพวย ม็อบ หรือใครก็ได้ที่คุณคิดถึงกันเถอะค่ะ

แล้วแคทจะให้ทุกคนมาตอบคำถามเหล่านั้นน้าาาา มีใครคิดถึงกันไหมมมม มาาาา มาคอมเม้นท์คำถามไว้ข้างใต้ตอนนี้ได้เลยจ้า

เรื่องจบแล้ว แต่เราไม่ไปไหน เราจะอยู่!! ฉันไม่ออก ถ้าอยากให้ออกก็มาไ....แค่กๆ


 :mew1: :hao3:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว (เมฆจั๊ม1) {20/09/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 20-09-2020 19:21:49
ตอนพิเศษ1

(เมฆจั๊ม)



เรื่องราวของเรามันจะไปไกลมากกว่านี้ได้ไหม จะเดินต่อไปมากกว่านี้ได้อีกหรือเปล่า

ในทุกช่วงเวลาที่คอยถามประโยคนี้กับตัวเองและกับตัวมัน

คำตอบที่ได้ก็คือ... “เราเป็นเพื่อนกันมันดีที่สุดแล้วมึง”



“มึง....กูง่วง”



((อย่ามาตอแหล กูรู้มึงยังไม่นอนหรอก ตอนนี้มึงก็คงนั่งแดกอะไรอยู่ล่ะสิ รีบมาไวๆ ไอ้ดาบรออยู่)) ปลายเสียงที่ดังออกมาแบบนั้น ทำให้ช้อนที่กำลังจะถูกยื่นเข้าปากถึงกับชะงักไป ได้แต่คิดในใจว่า ... รู้ดีจังนะมึง



“มึงอย่ามาเรียกมันว่าดาบ โปรดเรียกเพื่อนกูว่าดานี่”



((มึงกับมันนี่ประสาทพอกัน))



“พูดดีๆกับกูบ้าง ให้กูชื่นใจหน่อยมึงจะตายหรือไงห๊ะ”



((มึงรีบมา))



“แน๊ ... พี่เมฆอยากเจอน้องจั๊มล่ะสินะ เขินจังเลย กูอยากวิ่งไปบอกแม่เลยว่าจะมีผัวละนะ ผัวรวยด้วยจ้าประเด็น!”



((งั้นมึงไม่ต้องมาละ แค่นี้ล่ะ))



“สัดเมฆ! ให้กูมโนหน่อย ไข่มึงจะยานหรอวะ”



((ไร้สาระที่หนึ่ง ได้มึงเป็นเมียกูตายดีกว่า))



“กูขอให้มึงตายพรุ่งนี้เลยอิเมฆ เพื่อนเหี้ย!”



((ก็รู้นี่ว่ากูเหี้ย...เพราะแบบนั้นเป็นเพื่อนกับกูก็ดีที่สุดแล้ว))



ปลายสายว่าแบบนั้นออกมาด้วยเสียงจริงจัง ผมไม่ได้ตอบรับอะไรกลับไป เราต่างฝ่ายก็แค่วางสายกันไปในความเงียบ ...



ก็ใช่สิ สำหรับมึง กูก็เป็นแค่เพื่อนของมึงตลอดเวลาอยู่แล้ว...ก็แค่นั้น


.

.

.



“โอ้ยยยอิดอกกกกก กว่าจะมาได้นะคะ”



         เสียงสองที่ดังเข้ามากระทบหูของผม พร้อมๆกับท่าทางจีบปากจีบคอของคนที่กำลังนั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟาด้วยท่าทีชิลๆ วันนี้มันใส่เสื้อสูธสีดำ แต่เป็นสูทแบบลำลองที่เผยโชว์อกแกร่งให้เห็นล่องอกล่ำๆของมัน บนไหล่ซ้ายมีขนเฟลอสีขาวหรูหราพาดอยู่บนนั้น ดวงตาคมๆของมันที่บนเปลืองตาวันนี้ก็ทาตาสีพีชพร้อมกรีดอายไลน์เนอร์มาด้วย ริมฝีปากที่ตอนนี้กำลังยกยิ้มมุมปากมามองกัน ทาลิปกลอสสีอ่อนๆยี่ห้อดังที่มันชอบใช้ และที่ขาดไม่ได้ก็คือข้างกายของมันที่มีใครบางคนนั่งอยู่ด้วย วงแขนแข็งแกร่งนั่นโอบรอบเอวของบางๆนั่นไว้อย่างแสดงความเป็นเจ้าของ เป็นภาพที่ตัดกันมากๆระหว่างความผัวและความสาวบนหน้าที่มันแต่งมา ... มันคือไอ้ดาบ ที่มีชื่อในวงการว่า ‘ดานี่’ เจ้าของผับแห่งนี้ เพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยมหาลัย’ของผมกับไอ้เมฆ



“ก็กูบอกแล้วว่ากูง่วง” หย่อนตัวลงนั่งที่โซฟาฝั่งตรงข้ามกับมันแล้วบอกออกไปแบบนั้น น้องเอมที่นั่งอยู่ข้างๆตัวของมันยื่นแก้วเหล้าใบใหม่ที่เจ้าตัวพึ่งชงเสร็จส่งมาให้ผม รับมาแล้วกระดกดื่มไปหนึ่งอก รสชาติขมปนหวานตัดกับความซ่าเล็กๆที่ปนมาอย่างลงตัว ฝีมือชงเหล้าเมียเจ้าของร้านไม่เคยแผ่วเลยจริงๆ



“เมียกูชงอร่อยสินะคะ” ไอ้ดาบว่าออกมาแบบนั้น พยักหน้าพร้อมยกนิ้วให้มันไปที น้องเอมยิ้มรับออกมาอย่างน่ารัก ส่วนทางเพื่อนกูก็ทำแค่ขยิบตาใส่ผมแบบภูมิอกภูมิใจ ก่อนจะหันไปกระชับวงแขนของมันที่วางสอดโอบเอวน้องเอมให้เข้ามาใกล้มากขึ้นอีก ใบหน้าหล่อคมของมันที่ค่อยๆเลื่อนเข้าไปหา ไม่รู้กระซิบอะไรข้างหูน้องมันถึงหน้าแดงขึ้นมา แต่เวลาต่อมา ไอ้ดาบก็หอมแก้มลงไปฟอดใหญ่แบบน่าไม่อาย ... กูไม่อยากจะเชื่อกับภาพที่เห็นเลยจริงๆครับ



“อิจฉา อิจฮาก็หาผัวสิคะมึง” ยังจะอุตส่าห์หันมาค่อนขอดกู



“ไม่ต้องท้ากูนะไอ้ห่าดาบ”



“ดานี่ค่ะอิดอก อยู่ร้านโปรดเรียกกูว่าดานี่คนสวย” แหกปากออกมาเสียงสองแล้วเอามือขึ้นเกี่ยวผมสีทองของมันมาทัดหู



“แล้วอยู่ไหนถึงจะเรียกมึงว่าดาบได้”



“อยู่บนเตียงสิวะ แต่เสียใจด้วยที่ซาลาเปาหน้าแป้นแบบมึงไม่มีสิทธิ์นั้น สิทธิ์ตกเป็นของมึงคนเดียวเลยนะควายน้อยของกู” ว่าแบบนั้นแล้วหันไปเอามือแตะปลายคางน้องเอมแบบหยอกล้อ ไอ้ห่านี่ก็เต๊าะเมียไม่พัก...เป็นพวกคลั่งรักอ่ะเนาะ



“โว๊ะ เจ๊าะแจ๊ะ”



“ทำท่าทีรำคาญกู เดี๋ยวมึงไม่ต้องนอนน้องเอม”



“ใครรำคาญเจ๊กันวะ” น้องมันบ่นออกมาเบาๆแบบนั้นด้วยหน้าที่ขึ้นสีหน่อยๆ น่ารักครับ เห็นแบบนี้แล้วก็ดีใจ เพราะในที่สุด เพื่อนผมคนนี้ก็ได้มีความรักดีๆกับเค้าสักที การได้เจอคนที่ยอมรับในตัวตนของเราได้ และรักเราแบบที่เราเป็น มันคงเป็นอะไรที่ดีที่สุดแล้วล่ะครับ



“ชะเง้อมองอะไรขนาดนั้นค่ะ มันไม่อยู่หรอกจ้า”



“กูเปล่ามองหาไอ้เมฆมึงอย่ามั่ว” ตอบมันออกไปแบบนั้น ไอ้ดาบก็ทำท่าซู้ดปากใส่ทันที รับรู้ได้เลยว่ากูพลาดอีกแล้ว เบิกตากว้างมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ถูกจับได้มากเท่านั้น



“กูเปล่าพูดเลยนะคะ ว๊ายๆร้อนตัวหรอคะมึง ชอบมันแล้วทำไมต้องทำมึนอ่ะ”



“นี่กูยังมึนอีกหรอวะ อีกนิดนึงก็เป็นกูแล้วไหมที่กระโดดขึ้นคล่อมตักมันแล้วขย่มโยกเองอ่ะ”



“อู้ววว เป็นแซ่บว่ะ”



“มึงจะขย่มตักใครวะไอ้จั๊ม มึงอยากโดนตีหรอวะ” เสียงเข้มๆที่ดังมาจากทางด้านหลังของผม มองเห็นไอ้ดาบที่นั่งอยู่ตรงหน้า มันทำท่าปากยื่นปากยาวล้อเลียนนิดหน่อย กวนส้นตีนน้อยซะเมื่อไหร่ พอหันหน้าไปก็เจอเข้ากับคนที่คุณรู้ว่าใคร อะวาดา เคดาฟรา!! ลอร์ดโวลเดอมอร์ ถุย ตลกหรอกูเนี่ย



“อ้าวผัวเมฆ ยู้ฮูกูมาแล้วจ้า”



“ตลกหรอสัด” มันปรายตามามองผมดุๆ คือกูทำอะไรผิดหรอครับไอ้สัดเมฆ



“เอ้า หงุดหงิดอะไรของมึงอีกวะ”



“จะหงุดหงิดอะไร๊ สาวที่ไปด้วยกับมึงเมื่อกี้ไม่ถึงใจหรอคะอิเมฆขา” ....อ้อ เป็นแบบนี้นี่เอง ....



ไอ้ดาบพูดออกมาแบบนั้นแล้วหัวเราะคิกคัก ผมหันไปมองหน้ามันที่ก็ยังทำหน้านิ่งๆ มันทรุดตัวลงนั่งข้างๆผม ก่อนจะหันมามองหน้าผม



“สรุปยังไง มึงจะไปขย่มใคร”



“คือยังไม่จบประเด็นนี้หรออิผัว” ผมกรอกตาใส่ แล้วหันหนีไปหยิบแก้วที่วางไว้ก่อนหน้านี้มาดื่มต่อ รู้สึกยุบยิบในหัวใจกับเรื่องเดิมๆที่ว่า ไอ้เมฆแม่งก็มีคนนู้นคนนี้เข้าหามาตลอด รู้จักมันมาตั้งหลายปีทำไมยังไม่ชินสักทีวะไอ้จั๊ม แล้วไอ้สัดเมฆนี่แม่งก็วุ่นวายไม่เลิก มันที่เอื้อมมือมาคว้าต้นแขนของผมเอาไว้แล้วดึงเข้าไปหาตัว



“ไอ้จั๊ม”



“ดุกูทำไมอ่ะพ่อ อย่าบีบแขนกูแรงดิเดี๋ยวแขนบอบางของกูมันบอบช้ำหมดอ่ะ ช้ำแล้วมึงต้องรับผิดชอบนะ เป็นผัวให้กูเลยนะ กูพร้อมๆมากเลยนะมึง” บอกมันออกไปแบบนั้นเสียงร่าเริง แม้ว่าจริงๆตอนนี้จะเริ่มรู้สึกเจ็บๆที่ต้นแขนแล้วก็ตาม



“กวนส้นตีน” ว่าแบบนั้นแล้วสะบัดมือออกจากแขนผม



“ฉุนเฉียวแบบเสี่ยวๆเหมือนพระเอกสมัยก่อน ตบจูบๆงี้อ่ะเนาะ แต่ถ้ามึงจะจูบกูก็พร้อมยื่นหน้าให้ตบเลยนะๆ” ว่าแบบทีเล่นทีจริงแล้วกระแซะเข้าไปหาตัวของมัน ไอ้เมฆที่นั่งตัวตรงนิ่งแล้วปรายสายตามามองกันนิดหน่อย มันที่หลุดยิ้มออกมานิดๆ



“สัด เดี๋ยวมึงได้เจอ”



“อยากเจอจนตัวซีดตัวสั่นเลยจ้าพี่เมฆจ๋า” ยิ้มประจบมันไปหนึ่งที ไอ้เมฆที่หันหน้ามาหากันแบบนิ่งๆ ก่อนที่มันจะยกยิ้มแล้วเลื่อนหน้าเข้ามาหากัน แขนของมันทั้งสองข้างที่เลื่อนมาคล่อมทับกันไว้ในตอนนี้ ผมที่ได้แต่ตาเบิกขึ้นแล้วอ้าปากค้างนิดๆในตอนที่หน้าเห่อร้อนขึ้น ลมหายใจอุ่นๆของมันที่อยู่ใกล้กันมาจนรับรู้ได้



“ม...มึง...”



“อย่าเก่งกับกู เพราะเวลาที่มึงร้องอยู่ใต้ตัวกู ถ้าบอกให้กูหยุดกูก็ไม่ทำหรอกนะ บอกไว้ก่อนเลย”  ช้อนตามองสบกับสายตาของมันที่เหมือนจะไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อนเลย สายตาที่ทำให้ผมรู้สึกว่าจะละลายอยู่ใต้ตัวมันแบบนี้ เหมือนอยากจะกินกันเข้าไปทั้งตัวแบบนี้น่ะ



“ถ้าไม่กล้าพอ ก็มึงอย่ามาพูดเล่นกับกู”



“ล...แล้วถ้ากูกล้า” ช้อนตามองสายตามัน มันที่มีสายตาอบอุ่นเอาไว้มองใครต่อใคร ... แต่สายตาแบบนั้น มันกลับไม่เคยเผื่อมาถึงผม ผมที่มันบอกว่าเราเป็น



“เป็นเพื่อนกันก็ดีที่สุดอยู่แล้วนี่มึง”



-TBC-

-------------------------------------------



เพื่อนกันไม่เป็นแบบนี้ เพื่อนกันไม่หวงกันนะรู้ยัง ... ไหนนนน ไหนใครถามหาเมฆจั๊มจ๊ะ ฮัลโหลลลล

บอกแล้วว่าจบแต่เราไม่จบ เราไม่ไป แคทจะอยู่ แคทจะสู้!!!

ฝากคนอ่านทุกท่านติดตามนิยายเรื่องนี้ และสนับสนุนหนังสือเล่มนี้ของแคทที่กำลังจะออกเปิดพรีในสิ้นเดือนนี้ด้วยเถอะค่ะ

แคทตั้งใจทำมากจริงๆ และก็ค่อนข้างเครียดกับมันมากๆ

แคทหวังว่าคนอ่านทุกท่านจะยังให้การสนับสนุนหนังสือกันต่อไปนะคะ แง้

ฝากแฮชแทค #สวยๆเป็นผัว ด้วยจ๊ะ


 :กอด1: :pig4:



หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว (เมฆจั๊ม1) {20/09/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 21-09-2020 00:25:10
 :pig4: :pig4: :pig4:
สนับสนุนให้จั๊มไปโยกกับคนอื่น
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว (เมฆจั๊ม1) {20/09/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 21-09-2020 06:51:55
จั๊มหาใหม่เถอะ เผื่อบางคนอาจจะรู้สึกอะไรบ้าง

อยากถาม น้องหยีจะมีผู้เป็นของตัวเองไหมคะ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว (เมฆจั๊ม1) {20/09/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: นางฟ้าน้อย ที่ 22-09-2020 07:16:21
 :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว (เมฆจั๊ม1) {20/09/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 22-09-2020 08:28:50
เพื่อนอะไรกัน!
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว (เมฆจั๊ม1) {20/09/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 03-10-2020 20:48:39

ตอนพิเศษ2


นาฬิกาเดินบอกเวลาของมันไปเรื่อยๆ มีแต่เราที่ไม่เคยใส่ใจว่ามันล่วงเลยไปนานแค่ไหน แก้วแล้วแก้วเล่าที่ถูกยกเข้าปากไป โดยที่ไม่มีใครสนใจเวลา โดยเฉพาะช่วงเวลาที่เราอยากเก็บมันไว้ให้นานที่สุด ก็มันจะผ่านไปไว แบบไม่มีใครได้ทันตั้งตัว … เหมือนกับช่วงเวลาของผมกับมันที่เดินทางมาด้วยกันนานมาก แต่ไม่ว่าจะนานเท่าไหร่ สุดท้ายเราก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ดี “เป็นเพื่อนกันก็ดีที่สุดอยู่แล้วนี่มึง”



‘เพื่อนพ่อมึง ใครมันอยากจะเป็นวะ’



คำพูดนี้คือคำพูดที่ผมอยากจะพูดกรอกใส่หูมันดังๆ ใครอยากเป็นเพื่อนมึงไอ้สัด อยากจะจับแขนมันทั้งสองข้างเอาไว้แน่นๆแล้วเขย่าๆๆๆ แล้วตะโกนใส่หน้ามันแบบนั้น แบบที่ผมคิดในใจอยู่ตอนนี้ ...แต่สิ่งที่ทำได้ก็มีแค่ รอยยิ้มตอแหลและคำพูดดูดีที่บอกกับมันแบบทุกทีว่า  ก็นั่นแหล่ะ เพื่อนกันก็ดีที่สุดแหล่ะวะ ฮ่าๆๆ ได้แต่คิดแบบนี้อยู่ในใจ แต่เสือกหัวเราะออกไปแบบจะเป็นจะตาย ทั้งๆที่เรื่องแม่งก็ไม่ได้ตลกอะไรเลย สิ่งที่ตลกจะตายก็อาจจะมีแค่กูคนเดียวเท่านั้นแหล่ะที่น่าตลก เป็นเหมือนตัวตลกให้มึงปฏิเสธอยู่นี่มากี่ปีแล้วก็ไม่รู้ … ไอ้เมฆที่ปลายตามองผมทีนึงแล้วหันไปหาไอ้ดาบที่ตอนนี้มันก็นั่งโอบเอวแฟนมันอยู่ หมั่นไส้คนรักกันว่ะแม่ง



“เออไอ้ดาบ”



“ดานี่ค่ะอิเมฆหัวขวด สมองมึงนี่มีไหม ทำไมไม่จำคะ”



“น้องเอมก็นั่งอยู่ข้างๆมึงยังจะเป็นดานี่”



“เป็นใครไอ้เอมก็รักค่ะ ไม่อยากจะขิง”



“พอเถอะมึงขิงอยู่ แล้วมึงก็ดูไอ้จั๊มมันด้วยนะ กูจะไปก่อน” มันพูดออกมาแบบนั้นทำให้ผมต้องหันไปมองหน้ามันแบบไม่เข้าใจ แต่ในตอนที่เห็นมันลุกชึ้นยืนก็เข้าใจทุกอย่างได้ทั้งหมดแล้วว่ามันกำลังจะทำอะไร ผมกระดกเหล้าในแก้วตรงหน้าขึ้นดื่มอีกอึกหนึ่ง



“มึงจะไปไหน” ผมถามออกไปแบบนั้นพร้อมๆกับที่มือตัวเองก็เอื้อมออกไปจับข้อมือของมันไว้ เงยหน้าขึ้นไปมองคนที่ยืนค้ำหัวกันอยู่ตอนนี้ ไอ้เมฆที่ก้มลงมาสบตากับผมเงียบๆ มันไม่ได้พูดอะไรออกมา เป็นความอึดอัดที่โรยตัวเงียบๆรอบตัวของเรา แม้ว่าในตอนนี้ เสียงเพลงในร้านจะดังแค่ไหน แต่เราก็เหมือนกับว่าไม่ได้ยินมันเลย



“มึงเรียกกูมาที่นี่นะ” ผมพูดออกไปอีก ไอ้เมฆที่ถอนหายใจออกมานิดหน่อย เป็นท่าทีประจำของมันเวลาที่ผมกำลังจะล้ำเส้นมัน



“ไอ้จั๊ม”



“ถ้ามึงจะไม่อยู่แล้วเรียกกูมาทำไมวะ”



“เพื่อนมึงไม่ได้มีแค่กูไหม ไอ้ดาบก็อยู่”



“แต่มึงเป็นคนเรียกกูมา”



“ถ้าเมาก็กลับไปจั๊ม กูว่ามึงชักจะพูดไม่รู้เรื่องแล้วนะ”



“กูไม่ได้เมา กูพึ่งแดกไปแค่นิดเดียวเองนะ”



“งั้นก็มีสติหน่อย อย่ามางี่เง่า มึงก็รู้ว่ากูจะไปไหน” มันบอกแบบนั้นแล้วเสหน้าหนี ด้านหลังของมันมีสาวชุดแดงที่ยืนรอมันอยู่ไกลๆในอีกโต๊ะที่มองเห็นกันได้ ... ก็แบบนี้ทุกทีไหม



“ไอ้เมฆมึงใจเย็น” เป็นไอ้ดาบที่พูดขึ้นมาแบบนั้น คราวนี้มันไม่ได้พูดออกมาด้วยเสียงสองเสียงสามแบบทุกที แต่เป็นน้ำเสียงนิ่งๆที่มันคงอยากให้เราสองคนเลิกทะเลาะกัน แต่ผมกับไอ้เมฆ เราสองคนไม่เคยทะเลาะกันเลยครับ ไม่เคยทะเลาะกันเลยจริงๆ ในทุกๆครั้งก็จบลงตรงที่เราสองคนเลือกจะเงียบแล้วปล่อยผ่านมันไป



“ไอ้จั๊ม ปล่อยมือมัน...แล้วมึงมาอยู่กับกูนี่มา” ไอ้ดาบว่าออกมาแบบนั้น แต่เป็นผมที่ยังคงจับมือมันแน่นๆแล้วมองมันอยู่แบบนี้



“จั๊ม”



“ถ้ากูไม่ปล่อย มึงจะทำอะไรกู” ผมเลือกถามมันออกไปแบบนั้น อยากจะลองทะเลาะกับมันดูสักครั้งนึงเหมือนกัน



“มึงขอให้กูมา แต่สุดท้ายมึงก็จะไปกับเค้า” ผมพูดออกไปแบบนั้น รู้สึกน้อยใจทั้งๆที่ก็พยายามจะทำเฉยๆแต่ความรู้สึก มันห้ามกันได้หรอวะ ทำแบบนั้นได้จริงๆหรอวะ



“มึงบอกกูสิว่ามึงไม่รู้ว่าจะเป็นแบบนี้ บอกกูสิว่าตอนมึงขับรถออกมาจากบ้าน มึงไม่รู้ว่าวันนี้กูจะไม่อยู่ต่อกับมึง...มึงตั้งสติหน่อยจั๊ม เราเป็นเพื่อนกัน”



“แล้วกูอยากเป็นกับมึงหรอ เพื่อนพ่อเพื่อนแม่อะไรของมึงกูไม่อยากเป็นเว้ย!” ผมที่ตะโกนออกไปแบบนั้น มองหน้าไอ้เมฆพร้อมๆกับที่ตัวเองก็กำมือแน่นขึ้น พยายามจะลุกขึ้นยืนทั้งๆที่ก็เกาะแขนเกี่ยวมันเอาไว้ รู้สึกโครงเครงหัวเป็นบ้าเลยว่ะ อาจจะมึนเหล้า แต่นั่นก็ถือเป็นเรื่องดีๆหรือเปล่าวะ เพราะถ้าเป็นปกติ ทุกช่วงทุกตอนผมแม่งก็ไม่เคยจะมีความกล้าอะไรเลยที่จะพูดกับมันแบบนี้ออกไป



“ก…กูว่ามึงเมามากแล้วว่ะ” มันมองหน้าผม แล้วพูดออกมาแบบนั้น



“ถ้ามึงไปกับเค้า”



“มึงจะทำไม…”



“กูก็จะไปบ้างเหมือนกัน”



“พูดเหี้ยอะไรของมึง” มันที่ขมวดคิ้ว ผมรู้ดีว่าการทำตัวแบบนี้ของผม เป็นสิ่งที่มันเกลียดมากที่สุด มันไม่ชอบคนพูดยาก และใช่ กูเป็นคนแบบนั้นแหล่ะ



“มึงคิดว่าจะทำอะไร ประชดปัญญาอ่อนอะไรของมึงก็เชิญเลย ถ้ามึงคิดว่าการทำตัวไร้ค่าแบบนั้นแล้วกูจะสนใจขึ้นมาล่ะก็…ตามสบาย”



“สัดเมฆ พอได้แล้ว” ไอ้ดาบที่ลุกขึ้นแล้วในตอนนี้ มันที่ตรงเข้ามาจะจับมือผมเอาไว้ แต่ผมเบี่ยงตัวหลบจากไอ้ดาบ แล้วยกมือขึ้นชี้หน้าไอ้เมฆแทน สายตาดุๆของมันที่ขมวดคิ้วเข้าหากันมองตรงมาที่ผมอย่างไม่สบอารมณ์ ผมยกยิ้มขึ้นนิดๆในตอนที่มองหน้ามันในตอนนี้



“กูไม่ได้หวังให้คนอย่างมึงมาสนใจหรอก แต่แค่ถ้าวันนี้มึงไป กูก็จะไป จะไม่อยู่เป็นไอ้ควายที่แอบรักเพื่อนแบบมึงไปตลอดอีกต่อไปแล้ว สัด!” พูดจบแบบนั้นแล้วผลักอกมันจนเซถอยหลัง ก่อนจะเดินก้าวผ่านมันไปแบบนั้น ได้ยินเสียงแว่วๆมาจากข้างหลังแต่ก็ไม่คิดจะสนใจแล้ว



“พี่จั๊มจะเป็นควายได้ไงวะ ควายมันกูนะพี่ดาบ”



“ชู่วว เงียบน่าอิหนู มึงจะอยากมาทวงคืนอิมเมจอะไรตอนนี้วะ”



“ควายน้อยที่ยิ่งใหญ่ ของเอมนะ”



“เออๆ ยกให้มึงคนเดียวเลยครับ ลูกควายของกู”

.

.

.



“กูว่าครั้งนี้มึงพูดแรงไปนะไอ้เมฆ” ไอ้ดาบที่ยกมือขึ้นตบไหล่ผม หันไปมองมันแบบเซ็งๆ



“แล้วมึงจะให้กูพูดว่าไง เพราะต้องพูดตามใจมันให้มันเสียใจต่อๆไปน่ะหรอวะ ถ้างั้นก็สู้ให้มันเจ็บตั้งแต่ตอนนี้ไปเลยไม่ดีกว่าหรือไงวะ”



“แล้วมึงมั่นใจ”



“มั่นใจเหี้ยอะไร”  ถามออกไปแบบนั้น เห็นไอ้ดาบหันไปมองหน้าน้องเอมแว๊บนึง คืออะไร ขิงกูหรอไอ้สัด คนยิ่งอารมณ์ไม่ค่อยดีอยู่นะแม่ง



“มั่นใจว่ามึงไม่ได้รู้สึกอะไรกับไอ้จั๊มจริงๆ”



“สัดดาบ มึงก็น่าจะรู้ดี....”



“ไม่ต้องตอบกู ตอบใจตัวเองก็พอว่ามึงมั่นใจแค่ไหนที่จะเห็นภาพนั้น”  มันพูดแบบนั้นพร้อมๆกับชี้มือไปอีกทาง ผมขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ แต่ในตอนที่หันไปมองก็เหมือนจะเข้าใจทันทีว่ามันหมายถึงอะไร ...



“สัด”  ไอ้จั๊มที่ยืนอยู่ตรงนั้น ในโต๊ะของผับชั้นล่างที่มุมๆหนึ่งของผับ มันที่เอนตัวทิ้งเข้าหาผู้ชายที่ผมไม่คุ้นหน้า สองแขนเรียวของมันที่คล้องคอของไอ้หน้าเหี้ยนั่น ฝ่ามือของไอ้เหี้ยนั่นที่โอบอยู่ที่เอวของไอ้จั๊ม ก่อนจะเลื่อนลงไปลูบไล้เค้นคลึงอยู่ที่ก้นกลมกรึงของมันอย่างจาบจ้วง ใบหน้าของคนทั้งคู่ที่เอียงเข้าหากันในตอนนี้



“เห้ยๆ มึงจะไปไหนไอ้เมฆ”



“มึงไม่เห็นหรอวะว่ามันกำลังทำเหี้ยๆประชดกู มึงจะปล่อยให้เพื่อนมึงไปยืนแรดอยู่แบบนั้นหรอวะ!”



“ไอ้จั๊มมันโตแล้วนะมึง มันทำอะไรมันรู้ตัว”



“รู้ก็เหี้ย กูจะไม่ปล่อยให้เพื่อนกูยืนแรดอยู่แบบนั้นหรอก!”



“ไอ้เมฆ…กูขอพูดตรงๆในฐานะของคนเป็นเพื่อนพวกมึงทั้งคู่นะ ถ้าไม่รู้สึกอะไร ก็ปล่อยมันไปเหอะว่ะ … ไอ้จั๊มมันพยายามกับเรื่องของมึงมามากพอแล้วนะ อย่าทรมานมันนักเลย”



ไอ้ดาบที่พูดออกมาแบบนั้นทำให้ผมได้แต่กัดกรามกำมือตัวเองแน่นๆ หายใจเข้าลึกๆแล้วข่มความรู้สึกตัวเองเอาไว้ … ก็แค่เพื่อนกัน อย่าไปล้ำเกินหน้าที่ … แต่พอหันหน้าไปมองภาพของคนที่กำลังกอดจูบดูดดื่มกันอยู่ข้างล่างนั่น ก็ได้แต่ถามตัวเองซ้ำๆว่า เพื่อนกันแล้วทำไม เพื่อนกันแล้วกูจะหวงจะไม่พอใจไม่ได้หรอวะ มันทำไม …. แล้วไอ้เหี้ยนั่นน่ะมันทำไม!!



“เพื่อนแล้วมันจะทำไมวะ” พูดแค่นั้นแล้วลุกขึ้นยืนแต็มความสูงก่อนจะก้าวขายาวๆเดินลงไปข้างล่าง ความรู้สึกในตอนนี้มีแค่กูต้องต่อยแสกหน้าไอ้เหี้ยนั่นให้ได้ในคืนนี้…และสัดจั๊ม เดี๋ยวมึงเจอกู



“ลูกควาย มึงว่าเพื่อนกันเค้าเป็นแบบนี้ไหมคะ”



“เพื่อนไม่เพื่อนไม่รู้ แต่นู่นนนลากออกไปแล้วโว้ยย”



“ลุกๆสิคะอิหนู ไปเสือกกันเร็ว วิ่งๆ”



“เรื่องเสือกขอให้บอกคู่กูเลยครับผม…รอกูด้วยสิโว้ยเจ๊”







             
รถหรูที่เคลื่อนตัวไปบนถนนด้วยความเร็ว บรรยากาศโดยรอบที่เงียบ ไม่มีใครพูดกับใคร มีแต่เสียงลมหายใจที่ฟังดูหงุดหงิดมากๆมาจากเจ้าของรถก็เพียงเท่านั้น … และผมไม่เคยคิดเลยว่าการที่ก้าวขึ้นมานั่งบนรถของมันในคืนนี้ จะทำให้เรื่องทุกอย่าง เปลี่ยนไปตลอดกาล … คุณคิดว่าเพื่อนกัน คำนี้มันอยู่ได้ตลอดไปถึงวันไหนกันนะ …

ระหว่างมิตรภาพ กับหัวใจของผม อะไรที่มันจะสูญเสียไปก่อนกัน



-โปรดติดตามต่อในเล่ม-

--------------------------------


https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLScI0zsF9ednL6YFEUeCg18-fsEDdmj-T6sXknQjVnicHsjB0g/viewform[/url]
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว (เมฆจั๊ม1) {20/09/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 06-10-2020 11:49:38
โอ้วววววเปลี่ยนเป็นคนรักซินะจั๊มมม ค้างงงง
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*สวยๆเป็นผัว (เมฆจั๊ม1) {20/09/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 10-10-2020 10:34:09
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: เบื่อพวกไม่ปากแข็งจริงจริ๊ง
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*8ตอนพิเศษ {09/11/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 09-11-2020 19:01:40

8ตอนพิเศษ
ที่จะทำคุณอมยิ้มจนแก้มตุ่ยไปพร้อมๆกัน



ตอนพิเศษ1 ควายน้อยก็คือควายน้อยอยู่ดีค่ะอิดอก (ดาบเอม)



              เมื่อพี่ดาบไม่อยากให้น้องเอมไปร้าน ... มันทำไม มันเป็นเพราะอะไร แต่ยิ่งห้ามเท่าไหร่ เด็กมันก็ยิ่งอยากตามไปด้วยอยู่ดี ก็แค่อยากอยู่ใกล้ๆ อยากไปเรียนทำอาหารกับไอ้พี่โก้เอาใจอิเจ๊พี่มันแค่นี้ ไม่ได้ตั้งใจไปเผาครัวสักหน่อย (เหรอ) ทำไมต้องห้ามด้วย...



EX.



“มันจะไหม้แล้ว” ไอ้โก้มันบอกแบบนั้นแล้วตั้งท่าจะเอาตะหลิวลงไปคนซะเอง ไอ้เอมที่เอื้อมมือไปแย่งตะหลิวไอ้โก้ที่มันวางไว้ในกะทะ เพราะกลัวโดนไอ้แย่งไปทำ



“โอ๊ย!ร้อนๆ”



… ผมที่ขยับตัวเข้าไปหามัน แต่พอไอ้เอมร้องขึ้นมาแบบนั้นไอ้โก้ก็คว้าข้อมือของมันไปก่อน มันที่ดึงมือไอ้เอมไปที่ซิ้งค์ล้างจาน เอามือมันล้างน้ำให้ก่อน ส่วนตัวผมก็รีบเดินไปปิดเตาแก๊สให้แทน หันไปมองเห็นไอ้โก้ที่เอามือไอ้เอมไปลูบๆตรงรอยแดงๆนั่น แถมยังก้มลงไปเป่าให้อีก เกินไปไหมกูว่า ...



หลบจ้า หลบทางเท้าพี่ดาบด้วยจ้า





ตอนพิเศษที่2   ... พี่เก้อเป็นอะไร ทำไมไม่เอากูอีกแล้ว! (เก้อเสือ)

              ปัญหาที่แก้ไม่ตกของคู่พี่เก้อน้องเสือ เห็นจะไม่มีปัญหาไหนใหญ่เท่าปัญหานี้อีกแล้ว...เมื่อคนขี้เอาทำให้แฟนคิดมากจนนอนไม่หลับ น้องเสือต้องลากสองเพื่อนซี้ผู้แสนดีของพี่เก้อออกมากินเหล้าเพื่อปรับทุกข์ แล้วเรื่องสนุกมันถึงจะเริ่มจากตรงนี้


EX.


“เฮ้ออออ”


“เป็นอะไรหรือเปล่าอ่ะน้องเสือ ทำไมถึงชวนพวกพี่ออกมากินเหล้า แล้วไอ้เก้อล่ะ”


“เฮ้ออออ”


“หื้ม?”


“พี่...ผมน่าเบื่อหรอวะ”


“ห๊ะ”


“อะไรนะ” พี่เอมกับพี่หยีที่โพล่งออกมาพร้อมกันแบบนั้น ทั้งคู่ต่างมองหน้าผมแบบงงๆ ผมได้แต่ยกมือขึ้นเสยผมอย่างเซ็งๆ


“พี่เก้ออ่ะ...มันไม่เอาผมแล้ว”


“มันต้องมีเหตุผลของมันสิ”


“เหตุผลที่ว่านั้นก็คงจะเป็นเหตุผลของคนเบื่อกันน่ะสิวะพี่”


เหตุผลอะไรที่ทำให้พี่เก้อกลับมาไม่หืออือกับน้องเสืออีกแล้ว มาร่วมลุ้นเรื่องบนเตียง เอ้ย ปัญหาข้างๆเตียงของสองคนนี้ไปด้วยกันนะคะ




ตอนพิเศษ3 .... พี่จะรักควายน้อยไปทุกวัน [ดาบ เอม]

              คบกันมานานเป็นปี ถึงเวลาที่คนสวยแบบพี่ดาบจะพาน้องเอมไปเที่ยว การไปเที่ยวในครั้งนี้ของพี่ก็เพื่อน้องล้วนๆ ไม่ได้เกี่ยวกับที่อิเจ๊พี่มันจะอยากไปส่องหนุ่มริมทะเลเลยจ้า พูดกันตรงนี้เลยว่าเปล่า


EX.



“โทรมาทำห่าอะไรคะอิดอก รำคาญ”


[[นี่มึงพูดกับเพื่อนที่น่ารักแบบกู แบบนี้หรอห๊ะไอ้ดาบ]]


“ดานี่ค่ะอิดอก ดาบเดิบอะไร ได้ยินแล้วกูอยากพุ่งเข้ากล้องไปตบเลยนะคะ”


[[แหม่ น้องเอมไม่อยู่ข้างตัวนี่มึงไม่เป็นพี่ดาบเลยนะ ยังไง คือมานอนอาบแดดนี่คือส่องผู้ใช่ไหม กูจะฟ้องน้องเอมแน่]]


“อะไรคะ กูก็แค่มาอาบแดด ผิวจะได้สวยๆ เป็นสาวสุขภาพดีแค่นี้เองค่ะ”


[[ให้มันแน่เถอะ ถ้ามึงปากว่าตาขยิบ ระวังน้องเอมจะโดนงาบไปน้า]]


“ฝันค่ะอิดอก อิควายน้อยของกูคือนอนน้ำลายยืดอยู่ในห้องนู้นค่ะ ไม่มีทางได้ออกมาเห...ไอ้สัด!”


[[เอ้า มึงด่ากูทำไมวะไอ้ดานี่]]


เสียงของไอ้จั๊มไม่ได้ดังเข้ามาในหูแล้วตอนนี้ เพราะสายตาที่ดันบังเอิญไปมองเห็นร่างของใครบางคนที่กำลังเดินยิ้มแย้มอยู่กับชายชาวต่างชาติหน้าตาดีออกแนวจะเป็นญี่ปุ่น คาวาอี้เดสเน้มากๆ แต่ติดตรงที่ว่าไอ้คนที่ยิ้มร่าอยู่นั่น...มันเมียกูนี่



ตอนพิเศษ4 ถึงเวลาของชะนีจะมีที่เดิน (หยีX?)



              หลบหน่อยจ้า มันถึงเวลาที่หญิงสาวในเรื่องจะได้เฉิดฉายบ้างแล้วนะคะ สำหรับป้าหยีสายเผือกตัวชงให้คนนั้นคนนี้ได้กัน มันถึงเวลาที่ชะนีจะต้องมีที่เดินจ้า…เรื่องราวของหยีและชายหนุ่มที่เธอใฝ่ฝัน มันจะเป็นจริงหรือไม่ และระหว่างผู้ชายจีบก่อน กับผู้หญิงอ่อยก่อน อะไรมันจะเกิดก่อนกัน มาร่วมกันลุ้นให้กับความรักของคนทั้งคู่ด้วยกันค่ะ

Ex.


“น้องหยีนอกจากสวยแล้วยังจิตใจดีมากๆเลยนะ น้องเอมโชคดีจริงๆที่ได้หยีเป็นเพื่อน” เค้าว่าออกมาแบบนั้นพร้อมยิ้มนิดๆ เป็นรอยยิ้มอบอุ่นที่ยิ้มมาให้ทั้งหน้าทั้งตา … น่ารักอ่ะแม่ หยีว่าเฮียเค้าน่ารัก!



“แล้วเฮียสนใจอยากจะได้คนดีๆไปเป็นแฟนบ้างไหมอ่ะคะ”  พูดเลยว่าไม่ได้อ่อย แต่อร่อยมาก!!...



ตอนพิเศษ5-6 ... เมฆจั๊ม


              ระหว่างความสัมพันธ์ที่ถูกขีดเส้นไว้ที่คำว่าเพื่อน สุดท้ายแล้วมันจะเดินทางไปจบที่ตรงไหน จะเป็นเพื่อนกันต่อไป แล้วเก็บความรักที่มีอยู่ในใจไว้ดีกว่ากัน ... สุดท้ายแล้ว ทางออกของความสัมพันธ์นี้ จะจบลงที่ตรงไหน มาร่วมลุ้นให้เมฆและจั๊มไปด้วยกันนะคะ


Ex.


“กูอยากให้มึงเป็นเพื่อนกู”


“แต่กูไม่อยากเป็นเพื่อนมึง! ถ้าไม่รู้สึกรักรู้สึกชอบอะไรกับกูอ่ะ...”


“แล้วใครบอกว่ากูไม่ได้รู้สึกอะไรแบบนั้นกับมึง!”


“ห..ห๊ะ...”


 

ตอนพิเศษ7 ...ไม่ได้หึง แต่หึงมาก (เก้อเสือ)

           คนนิ่งๆที่ปากไม่ค่อยดี กี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็มีแต่เสือที่ไม่พอใจเวลาพี่เก้ออยู่ใกล้คนอื่น คบกันมานานปี มันจะมีสักครั้งไหมที่คนแบบพี่เก้อ จะหันมาหึงน้องเสือบ้าง สายแซ่บต้องมา ขอบอกว่าต้องหลีกทางให้คู่นี้จ๊ะ


Ex.


“แล้วสรุปมึงเป็นอะไรวะไอ้เก้อ เล่ามาเหอะ”


“กูแค่เซ็ง”


“เซ็งเรื่อง


“วันนี้ไอ้เสือไปหาเพื่อน”


.

.

.

“มึงเป็นเหี้ยอะไรวะ”


“มึงน่ะสิเป็นเหี้ยอะไร”


“กูทำอะไร กูไปทำอะไรให้มึง มึงถึงต้องมาทำตัวแบบนี้ใส่กูวะเก้อ”


“แล้วมึงออกไปทำอะไรกับมัน!”


“ก็กูบอกมึงแล้วไงว่ากูจะไปหาเพื่อน”


“เพื่อนเหี้ยอะไรของมึงต้องยืนให้มันโอบให้มันกอดวะเสือ!”


... “บางทีมึงก็อาจจะลืม ว่ากูที่เป็นแฟนมึงก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน”...





ตอนพิเศษ8  ผู้ชายในแบบดาบ ดลธีร์ (ดาบเอม)



              บทสรุปส่งท้ายของเรื่องราวระหว่างดาบและน้องเอมที่ดำเนินมาอย่างยาวนาน ผู้ชายคนนึงที่เป็นคนสวยๆ แต่ในบางครั้งก็เป็นผัวให้ได้หวั่นไหวหัวใจ ผู้ชายในแบบของพี่ดาบ ดลธีร์ จริงๆแล้วเป็นแบบไหนกันแน่

Ex.



“ปกติกูก็ไม่ค่อยจะเป็นแฟนในแบบที่มึงจะอยากได้เท่าไหร่อยู่แล้ว ชอบแต่งหน้าชอบวี๊ดว๊ายพูดดีๆกับมึงก็ไม่ค่อยจะเป็น ขอโทษนะที่ทำให้ได้แค่นี้”

“พี่ดาบ”

“ว่างไครับ”

มาพบกับบทสรุปส่งท้ายของเรื่องราวความรักของเค้าทั้งสองคนและผองเพื่อนที่จะมารวมตัวกันในบทนี้ เชิญทุกท่านมาสัมผัสกับรอยยิ้มและเสียงหัวเราะไปด้วยกันกับพวกเค้า จนถึงตัวอักษรตัวสุดท้ายด้วยกันนะคะ



............



หนังสือยังสั่งจองและโอนเงินได้ถึงเดือนธันวาคมเลยนะคะ

ท่านใดต้องการสั่งซื้อสามารถทักทายมาหาแคทได้เลยที่แฟนเพจนิยายในFacebook >> YoghurtCattyค่ะ

ส่วนE-BOOK ออกหลังจัดส่งตัวเล่มแล้วเรียบร้อยนะคะ

ไม่อยากให้ทุกท่านพลาดบทสรุปของเรื่องราวในครั้งนี้

ขอบคุณและคิดถึงคนอ่านทุกท่านที่อยู่ด้วยกันมาเสมอจริงๆค่ะ

แคทขอฝากหนังสือเรื่องนี้ ไว้กับทุกท่านอีก1เรื่องนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*8ตอนพิเศษ {09/11/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 10-11-2020 07:57:52
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*8ตอนพิเศษ {09/11/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 11-11-2020 14:15:49
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*8ตอนพิเศษ {09/11/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: mystery Y ที่ 15-11-2020 08:27:56
สนุกดีค่ะ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ*8ตอนพิเศษ {09/11/20}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 18-11-2020 20:37:33
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ ตอนพิเศษ {22/05/21}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 22-05-2021 12:31:53
ตอนพิเศษ

Beauty and the nephew

 

“ไม่ค่ะอิดอกกกก กูไม่ไปค่ะอิเหี้ย...ไม่ กูตั้งใจเรียกมึงงี้เลยเฮีย กูไม่ได้เรียกผิดค่ะอิเหี้ยเฮียทัพ กูไม่ไปอ่ะ กูจะนอนกอดเมียอยู่บ้านค่ะ เก็ตไหมคะ อ๊ะ...ฮั...ฮัลโหลๆๆ กรี๊ดดด อิเฮียเหี้ยนี่!”



ผมที่นั่งฟังบทสนทาประหลาดนี่มานานกว่าสิบนาที มองเห็นไอ้คนร่างสูงตรงหน้าที่ในเวลานี้ก็ใส่แค่ผ้าเช็ดตัวพันที่เอวหลวมๆ เดินโชว์กล้ามหน้าท้องที่เป็นลอนชัดเจนอยู่ตอนนี้



“โอ๊ยยย อิดอก รุงรังมากค่ะ” เสียงสองแหลมสูงที่ร้องออกมาแบบนั้นด้วยความหงุดหงิด พร้อมๆกับที่เจ้าตัวก็โยนมือถือของตัวเองไปที่โซฟาอย่างหงุดหงิด ใบหน้าหล่อที่หันมามองผมพร้อมขมวดคิ้ว เห็นแบบนั้นเลยต้องจำใจลุกจากโต๊ะกินข้าวเดินเข้าไปหาพี่มันที่ยังยืนทำหน้าหงุดหงิดอยู่ตรงหน้าทีวี



“เป็นอะไรไปอีกล่ะครับ”



“รำคาญอิเหี้ยเฮียทัพ...สัด” สบถออกมาเสียงเข้ม แมนๆเตะกูตาย



“เฮียเค้าทำอะไรเจ๊พี่มึงอีก”



“ให้ไปเลี้ยงลูกให้มัน” ว่าแบบนั้นพร้อมใบหน้าหล่อๆที่ก็งอลงมาแบบอดไม่ได้ วงแขนแกร่งที่เอื้อมเข้ามาคว้าเอวของผมแล้วดึงรั้งเข้าไปหาตัว ก่อนที่เจ้าตัวจะวางใบหน้าไว้ที่ซอกคอของผม สูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอด



“อิหนูครับ”



“หื้ม”



“เปรี้ยวมาก อี๋ ไม่อาบใช่ไหมมึงเนี่ย” ผละออกจากตัวผมอย่างไว แถมเขยิบหยีไปด้วยอีกสองก้าว หนอยยยย ดูมันๆๆ



“อย่ามาว่าผมนะเว้ย”



“อี๋ คนไม่สวย ทำไมอ่ะคะ มีผัวสวยแบบกูทำไมไม่รู้จักรักสวยรักงามบ้างอะหนู มือก็หยาบตัวก็เปรี้ยว”



“อ๊ากกกก เจ๊มึงมานี่เลยนะ มาดมจักแร้ผมเลย มา!”



“ไม่!! อิหนูมึงอย่าเข้ามา กรี๊ดดดด”



...



“ทำหน้าให้มันดีๆหน่อยสิ มาหาหลานทั้งที”



“กูไม่ได้อยากมาเลยค่ะ อิห่าเฮียทัพมันข่มขืนจิตใจกูให้มา” คนที่นั่งอยู่ที่นั่งข้างคนขับพูดออกมาแบบนั้นพร้อมๆกับที่ยกมือขึ้นกอดอกตัวเองแล้วสะบัดหน้าหนีออกนอกรถ ทำเป็นตัวเล็กตัวน้อย ทั้งๆที่จริงๆมันเหมือนหมีควายป่า



“อิหนู อย่าเหยียบเบรคตลอดแบบนั้น เอาเท้าวางที่คันเร่งนิ่งๆ พอถึงจังหวะที่ควรจะเบรคมึงค่อยเปลี่ยนเท้ามาวางที่เบรค”



“ก็ผม...”



“มึงไม่ต้องกลัว อยู่กับกู กูไม่ปล่อยให้มึงเป็นอะไรไปได้หรอก ขับๆไปเถอะ” ผมที่สูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ แล้วย้ายเท้ามาไว้ที่คันเร่งแล้วค่อยๆขับไปอย่างที่เคยเรียนรู้มาหลายครั้งแล้ว จริงๆผมไปทำใบขับขี่เรียบร้อยแล้วด้วยครับ แต่ถึงแบบนั้นก็ยังขับไม่ค่อยจะแข็ง คนที่สอนผมขับรถก็ไม่ใช่ใครที่ไหน...ก็อิเจ๊พี่ดาบนี่แหล่ะ ครูของผม เรียกได้ว่าเป็นทุกอย่างให้ผมแล้ว



“ตบไฟเลี้ยวด้วย”



“จะเข้าบ้านอยู่แล้วอ่า”



“มึงต้องทำให้ชิน ถนนไม่ได้เป็นของพ่อมึงคนเดียวนะที่อยากจะขับแบบไหนก็ขับ ตบไฟเลี้ยว”



“อื้อๆ รู้แล้วครับ” ผมที่ตบไฟเลี้ยวตามคำพูดของพี่มัน ประตูรั้วของบ้านหลังใหญ่ที่ค่อยๆเลื่อนเปิดออกช้าๆอย่างอัตโนมัติเหมือนรู้เวลาว่าเรากำลังจะมาถึง ผมที่ขับรถไปจอดไว้ที่โรงรถอย่างปลอดภัย ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ กูมาถึงแล้วโว้ย!



“ขับรถยากขนาดนั้นเลยหรอวะ”



“ก็ไม่ได้นอนเฉยๆไหมวะพี่มึงมันถึงจะได้ง่ายอ่ะ”



“หรอวะ เวลามึงนอนอยู่ใต้ตัวกูเฉยๆมันก็ง่ายเหมือนกันหรอวะ แต่เวลากูนอนอยู่ใต้ตัวมึง แล้วให้มึงขึ้นออนท็อปให้ก็ไม่เห็นจะง่ายนะหนู กูต้องสวนเอวสู้มึงตลอด กูว่านอนก็ไม่ง่ายอ่ะ”  หันหน้าไปมองคนที่พูดรัวๆออกมาแบบนั้น พี่มันที่ยกยิ้มมุมปากส่งมาให้กัน ก่อนจะเลื่อนใบหน้าเข้ามาหากันแบบไวๆ ก่อนที่ริมฝีปากอิ่มจะโฉบลงมาจุ๊บเบาๆลงที่ปากของผมแล้วผละออก



“ว๊าย น่าแดงจังเลยค่ะ อิอิ” อิพ่ออิแม่มึงอิเจ๊พี่ดาบ อิตุ๊ดปลอม!!



ตั้งท่าจะด่ามัน แต่ก็ไม่ทันแล้ว เพราะมันที่เดินตัวปลิวลงจากรถไปพร้อมปากแดงๆของมันที่วันนี้ก็ทาปากสีแรงมาเหมือนเคย ปล่อยให้ผมได้แต่นั่งหน้าร้อนอยู่ตรงนี้ ไม่ได้เขินนะ! ก็แค่ดับเครื่องแล้วมันเลยร้อนเฉยๆ ฮื่ออ ทำไมชอบล้อเรื่องอย่างว่ากันนักวะ!



“ฮาย เฮนโหลว อันย๊องงงงงเด็กๆ”



“อาดาบบบ”



“อาดานี่!!~”



เสียงใสๆสองเสียงที่ประสานกันออกมาจากทางหน้าประตูบ้าน พอหันไปมองก็เป็นอะไรที่ต้องทำให้อดอมยิ้มตามออกมาไม่ได้ ร่างเล็กๆสองร่างที่แข่งกันวิ่งออกมาด้วยสองขาป้อมๆของเจ้าตัว แขนสองข้างของแต่ละคนที่มองดูแล้วก็ยังเรียกได้ว่าสั้นๆป้อมๆนั่นยื่นออกมาในตอนที่วิ่งเข้ามาหาไอ้พี่ดาบที่ย่อตัวปรบมือให้เพื่อกระตุ้นเด็กๆให้วิ่งเข้ามาหาตัวเอง ... ทำท่าทางเหมือนเวลามันเรียกหมานั่นล่ะครับ



“อาดานี่คร๊าบบบบ”



“อาดาบบบบ”



“ค่อยๆค่ะ ค่อยๆ คนสวยๆไม่ไปไหน ใจเย็นๆ” มันที่ว่าออกมาแบบนั้นแต่ก็ยังปรบมือเรียกเด็กสองคนนั่นไม่เลิก



“อึก! เย้ ทิตย์ถึง ..ทิตย์ถึงก่อนงับ” เจ้าตัวเล็กที่อยู่ในเสื้อยืดสีขาวลายสิงโตน่ารักเข้าคู่กับกางเกงขาสั้นสีน้ำเงินยื่นมือป้อมๆมาหาไอ้พี่ดาบพร้อมโถมตัวเข้าไปกอดพี่มันเต็มแรง



“ฮ่าๆ เก่งจังเลยนะคะเจ้าตัวจ้อย มานี่ค่ะ มาให้กูฟัดเดี๋ยวนี้ค่ะไอ้เด็ก” มันว่าแบบนั้นแล้วกระชับวงแขนกอดรัดฟัดหอมเจ้าเด็กที่มาถึงก่อนให้ได้ส่งเสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอย่างสนุกสนาน



“อ๊าก ฮ่าๆ อาดานี่ไม่แกล้งทิตย์น้า เอิ๊ก ฮ่าๆ” สองแขนป้อมๆนั้นที่โบกไปมาตอนโดนอิเจ๊พี่มันจับฟัดโดนหอมไปตามระเบียบ ... นั่นคือภาพของคนที่มันบอกว่าไม่อยากจะมาหาหลานสักเท่าไหร่  ผมหันหน้าไปมองตามเด็กอีกคนที่หน้าตาคล้ายกันแบบสุดๆที่วิ่งตามมาที่หลัง เด็กที่อยู่ในเสื้อยืดลายน้องแมวและกางเกงขาสั้นสีแดงสดที่ตอนนี้หยุดวิ่งแล้วเมื่อเห็นว่าเจ้าเด็กอีกคนไปถึงก่อน ขาสั้นๆนั่นที่ค่อยๆเปลี่ยนทิศทางเดินมาหาผมแทนอย่างช้าๆ เห็นแบบนั้นแล้วก็ได้ยิ้มกว้างๆออกมาเลยครับ ผมที่ย่อตัวลงไปหาพร้อมยิ้มให้



“ไงเรา ไม่วิ่งแล้วหรอครับ” ถามออกไปแบบนั้น เด็กเล็กตรงหน้าที่เงยหน้าขึ้นมามองหน้าผมพร้อมๆส่ายหน้า



“จันทร์ไปไม่ทัน”



“แล้วไม่คิดจะวิ่งตามไปอีกหรอ”



“ไม่เอา แพ้แล้วก็ไม่ตามหรอก จันทร์เหนื่อย”  ส่ายหน้าพร้อมช้อนดวงตาใสแจ๋วนั่นมาบอกผม เห็นแบบนั้นแล้วต้องหลุดขำออกมาเลยจริงๆ ... ก็ถูกของพระจันทร์ สู้ทำไมวะ สู้ยังไงก็ไม่ชนะอ่ะ วิ่งต่อให้เหนื่อยทำไม



“ฮ่าๆ นั่นสิน้า...มา อาเอมอุ้ม” บอกแบบนั้นแล้วกางแขนออก เจ้าตัวเล็กที่ยืนลังเลอยู่นิดหน่อย แต่สุดท้ายก็ค่อยๆเบียดตัวเข้ามาหาผมให้ได้อุ้มเจ้าตัวเล็กขึ้นมา

พระจันทร์กับอาทิตย์ เด็กแฝดสองพี่น้องที่จริงๆแล้วเป็นลูกชายของพี่ชายพี่เมล ถ้าจะถามผมว่าพี่เมลคือใคร ก็ต้องบอกแบบง่ายๆว่าคือแฟนของเฮียทัพครับ ซึ่งตอนนี้ทั้งคู่ถือเป็นคนดูแลเด็กคู่นี้อยู่ เอาจริงๆก็แทบจะเรียกได้ว่าเป็นพ่อเป็นแม่ให้เด็กสองคนนี้เลยล่ะครับ แต่ถึงพระจันทร์กับอาทิตย์จะเป็นแฝดกัน แต่เจ้าสองแสบนี่เรียกได้ว่านิสัยแทบจะต่างกันเลยล่ะครับ



“อาดานี่ๆคะขา อาดานี่จะมาเล่นกับทิตย์หรอวันนี้”



“มาดูแลค่ะอิเด็ก เล่นอะไรคะ ไม่เล่นกับเด็กเล็กค่ะ เบื่อ”



“ทิตย์ไม่เล็กๆ ทิตย์ใหญ่” เจ้าตัวจ้อยที่อยู่ในอ้อมแขนของพี่ดาบว่าออกมาแบบนั้นพร้อมกวาดมือเป็นวงกว้าง แสดงท่าทางให้เห็นว่าใหญ่แค่ไหน เรียกรอยยิ้มของอิเจ๊พี่มันไปได้อีกครั้ง ก่อนที่ใบหน้าหล่อๆนั่นจะหันมาทางผมที่กำลังอุ้มจันทร์เดินเข้าไปหามัน



“แล้วตัวนี้มันทำไมนักคะ ทำไมต้องมาออเซาะเมียกูคะ”



“พี่ดาบ!” ผมที่เรียกชื่ออีกฝ่ายขึ้นด้วยเสียงเข้มๆ เด็กแค่ไม่กี่ขวบ มึงจะมาผัวๆเมียๆอะไรให้เด็กมันต้องสับสนวะ ผมถลึงตาใส่มันทีนึง แต่อีกฝ่ายแค่ยิ้มนิดๆแล้วยื่นหน้ามาหอมแก้มพระจันทร์ที่ตอนนี้กอดคอผมอยู่



“ว่าไง สวัสดีอาดานี่หรือยังไอ้ตัวจ้อย”



“จันทร์สวัสดีอาดาบ” ว่าแบบนั้นแล้วยกมือไหว้ แต่เหมือนคนที่โดนไหว้จะไม่ถูกใจเท่าไหร่ สีหน้าเลิ่กลักนั่น ก่อนจะเปลี่ยนเป็น



“ดานี่ค่ะ!”



“อาดาบชื่อดาบ จันทร์จำได้ เนอะอาเอม” ไม่ว่าเปล่าหันหน้ามาช้อนตามองผมแล้วพยักหน้าหงึกหงักให้ผมไปด้วย



“ยัง ยังอีกนะคะมึง”



“พี่ดาบพอได้แล้ว เลิกแหย่หลานเล่นได้แล้วน่า”



“ดานี่ค่ะๆๆๆ ทำไมพวกมึงไม่ฟังกูคะ” เสียงแหลมๆที่ทำให้ผมกับพระจัทร์ต้องยกมือปิดหู พลางก้าวยาวๆเดินหนีเข้าไปในบ้าน อีกฝ่ายที่ยังยืนหน้ามุ่ยอยู่ตรงนั้น มองดูจากตรงนี้ ก็เห็นแขนเล็กๆของอาทิตย์ที่เอื้อมขึ้นไปจับหน้าของพี่มัน ก่อนจะเอียงหน้าเข้าไปจุ๊บแก้มคุณอาคนโปรดของตัวเองแรงๆ



“ทิตย์หอมๆ อาดานี่รมดีเลยน้า”



“หึ่ย มึงนี่มันน่ารักจังเลยนะคะ มาๆ กูจะฟัดให้แก้มยุบเลยค่ะ”



“อ๊า ฮ่าๆๆ อย่าๆ อย่าแกล้งทิตย์น้า ฮ่าๆ”



เสียงเล็กๆที่หัวเราะเสียงดังมาจากตรงนั้นทำให้ผมเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว ... การมีเด็กๆในบ้านนี่มันทำให้สดชื่นแบบนี้เองสินะ



“อ้าว น้องเอม มาแล้วหรอ” เสียงเรียกที่ทำให้ผมต้องละสายตาออกจากภาพตรงหน้า หันไปก็เจอเข้ากับเจ้าของบ้านร่างโปร่งที่อายุมากกว่าผมไม่กี่ปี ผมวางพระจันทร์ลงแล้วหันไปยกมือไหว้พี่เมล ผู้ปกครองของเด็กทั้งสองคนนี้



“ขอโทษจริงๆนะที่รบกวน”



“ไม่เป็นไรครับพี่ สบายมาก”



“เราน่ะสบาย แต่ไอ้บ้านั่นแม่งบ่นมาก น่ารำคาญ” เสียงเข้มของคนมาใหม่ที่ดังขึ้นมาจากข้างหลังพี่เมล ร่างสูงที่มีใบหน้าหล่อเหลา มาดนักธุรกิจเต็มตัวที่ดูน่าเกรงขาม ใบหน้าคมนั่นเหมือนจะแผ่อำนาจออกมาตลอดเวลา เจ้าของบ้านหลังนี้ที่แท้จริง ... เฮียทัพ



ลูกพี่ลูกน้องผู้พี่ของอิพี่ดาบ ... ว่าแต่ทำไมมันต่างกันนักวะ



แอบเหลือบๆปรายตาไปมองไอ้คนร่างสูงที่เดินอุ้มอาทิตย์เดินตามผมเข้ามาในห้องรับแขก



“มองอะไรกูคะอิหนู คิดถึงเรอะ”



“พูดบ้าอะไรของพี่วะ” หันไปถลึงตาใส่อีกคน แต่เจ้าตัวทำแค่หัวเราะหึเบาๆในลำคอ เกลียดนัก



“อาดานี่ๆ จะอยู่เล่นกับทิตย์กับจันทร์ใช่รึเป่า”



“ใช่ วันนี้มึงจะเล่นอะไร กูจะเล่นด้วยทั้งวันเลยนะคะ”



“เย้ ทิตย์ชอบ”



“ชอบหมดแหล่ะมึงเนี่ย” พูดออกมาเหมือนไม่ชอบใจ แต่เจ้าตัวก็ยังคงก้มลงไปหอมแก้มนุ่มของหลานตัวแสบอีกครั้งแบบหมั่นเขี้ยว ผมก้มลงมองพระจันทร์ที่ขยับตัวมานั่งลงบนตักของผมเงียบๆ เป็นเด็กเลี้ยงง่ายที่ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยงอแง และตอนนี้เจ้าตัวก็เอาแต่นั่งนิ่งๆ แล้วจ้องตรงไปที่พี่เมลกับเฮียทัพหน้าก็แค่นั้น



“มองอะไรอาเมลขนาดนั้น หื้ม” เป็นพี่เมลที่เดินเข้ามาหาผมที่นั่งอยู่บนโซฟาที่ห้องรับแขก เจ้าตัวย่อตัวลงให้ใบหน้าอยู่ตรงกับเจ้าเด็กบนตักของผมแล้วส่งยิ้มน่ารักมาให้ เป็นผู้ชายหน้าสวยที่พอยิ่งยิ้มก็ยิ่งสวย ... ตัดภาพมาที่ไอ้เอม อิพี่ดาบด่ากูหน้าหยาบอยู่ทุกวัน



“เมลๆ” มือป้อมๆยื่นออกไปหาพี่เมล พร้อมกำๆแบๆมือไปตรงหน้า เห็นแค่นั้นก็รู้แล้วว่าเจ้าตัวดีกำลังอ้อนให้อีกฝ่ายอุ้ม พี่เมลที่รับเจ้าตัวเล็กไปอุ้ม เจ้าเด็กนั่นก็ทำแค่เอาหัวซุกลงตรงไหล่บาง เห็นแบบนั้นพี่ทัพก็เดินเข้ามายืนซ้อนหลังพี่เมล แล้วเลื่อนใบหน้าหล่อนั่งลงไปจ้องหน้าเจ้าลูกชายเอาไว้ ใบหน้าหล่อกระตุกยิ้มนิดๆตอนมองใบหน้าของพระจันทร์ เด็กชายที่มีใบหน้าเรียวรูปไข่ สายตาคมนั่นแทบจะคล้ายคลึงกับเฮียทัพ แตกต่างตรงที่เจ้าตัวเล็กมีแพรขนตางอนยาวสวย เลยทำให้ดวงตานั่นดูมีเสน่ห์ที่แตกต่างออกไป ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกว่าแม่ของพระจันทร์กับอาทิตย์จะเป็นลูกครึ่งครับ เลยได้ตาน้ำข้าวแบบนี้มาล่ะนะ



“ป๊า”



“ป๊าต้องไปงานกับอาเมล จันทร์อยู่กับทิตย์ อยู่เล่นกับอาดาบกับอาเอมได้ไหมครับ” เสียงทุ้มอ่อนโยนพวกกับเด็กเล็กตรงหน้า ดวงตาคมของทั้งคู่สบกันนิ่งๆ ก่อนที่เวลาจะผ่านไปช้าๆ และสุดท้ายก็เป็นพระจันทร์ที่พยักหน้าลงมานิ่งๆ



“คับ”



“เก่งที่สุดเลยลูกป๊า”



“หมั่นไส้มากค่ะอิดอก”



“ไอ้ดาบ อย่าพูดหยาบต่อหน้าเด็ก!” เฮียทัพตวัดสายตาเข้มมาว่าพี่มันแบบนั้น อิเจ๊พี่มันที่ทำท่าจะอ้าปากเถียงขึ้นมาแต่ไม่ทันเสียงเล็กๆที่กำลังปีนขึ้นหัวไอ้พี่ดาบอยู่ตอนนี้



“ป๊า!”



“หื้ม”



“อย่าเยียกดาบนะ นี่...” ว่าแบบนั้นแล้วจิ้มนิ้วมาที่ไหล่ของพี่มัน



“ดานี่นะ!” ดวงตาคมใสของอาทิตย์จ้องคนที่ได้ชื่อว่าป๊าของตัวเองอย่างมุ่งมั่น พวกเราสามคนที่มองหน้ากัน ก่อนจะ



“ฮ่าๆๆๆ” หัวเราะลั่นออกมาพร้อมกันแบบอดไม่อยู่ แหล่ะดูเหมือนว่า คนที่จะอดใจไม่อยู่กับความน่ารักของอาทิตย์ในครั้งนี้ไม่ได้



“น่ารักกกกก ไอ้เด็กนี่มันรักอาดานี่ของมันจริง วันนี้อาทิตย์อยากกินอะไร ทาเล็บไหมอาทาให้เลยค่ะ” ว่าแบบนั้นแล้วเอื้อมมือไปคว้าเจ้าตัวป้อมลงมาจากไหล่แล้วฟัดให้หนำใจจนได้ยินเสียงเอิ๊กอ๊าก



“ฮ่าๆๆ ทาๆ ทาฉีเหลือง” ดิ้นไปมาพร้อมๆกับขาป้อมๆที่ดีดไปมา



“ทำไมต้องสีเหลืองวะ มึงจะโตขึ้นไปเป็นไอ้รบหรือไง”



“ม่ายยย ทิตย์จาเปงอาดาบ”



“เริศไม่หยุด สวยน่ารักค่ะ”



“กูท้อใจ” เฮียทัพที่พูดออกมาแบบนั้น พร้อมกรอกตาใส่ตอนที่ได้ยินลูกชายคนเล็กว่าออกมาแบบนั้น ผมกับพี่เมลมองหน้ากันแล้วได้แต่ยิ้มอ่อน และในตอนที่หันไปมองพระจันทร์ เจ้าเด็กนั่นกำลังอุ้มโมเดลหุ่นยนต์อยู่กับอกและมองตรงไปที่พี่ดาบกับอาทิตย์ พระจันทร์ถอนหายใจออกมานิดๆแล้วส่ายหัว สายตาที่ดูเหมือนว่ากำลังมองเรื่องไร้สาระเกินทนจนไม่อยากพูดออกมา



“พระจันทร์ครับ” ผมเรียกออกไปแบบนั้น ก่อนที่ดวงตาคมสวยคู่นั้นจะเงยหน้ามาจ้องหน้าผมนิ่งๆ



“ไม่อยากเป็นแบบอาดานี่บ้างหรอครับ” ถามออกไปแบบนั้นก็ได้รับสายตานิ่งๆมองมา ก่อนที่เจ้าตัวจะส่ายหน้าออกมาน้อยๆ แล้วตามมาด้วยเสียงเล็กๆที่ว่า



“ไม่ครับ ไร้สาระ”



ไอ้เชี่ย เด็กมันพูดถูกครับสังคม ฮ่า~~



...



              ในช่วงเวลาบ่าย อาทิตย์กับพระจันทร์ที่พึ่งกินอาหารกลางวันเสร็จใหม่ๆ เจ้าสองแสบที่จับมือกันออกไปวิ่งเล่นที่สนามหญ้าหน้าบ้านอย่างสนุกสนาน ผมเลยได้เวลาพักบ้าง ผมที่กำลังนั่งอยู่ในศาลากลางสวนละสายตาจากเด็กๆที่กำลังวิ่งเล่น เลื่อนสายตาไปมองคนข้างๆที่ตอนนี้ทรงหัวดูจะแตกต่างไปจากเดิมที่ขามาถือว่าหล่ออยู่ ตอนนี้น่ะหรอ...



“มองกูแบบนั้นทำไมอิหนู”



“สวยน่ารักจังเนอะ” ผมยิ้มล้อ แล้วเอื้อมมือไปจับจุกบนหัวนั่นเขย่าไปมานิดๆ ตลกมากครับ สามจุกสี่จุกเรียงรายอยู่บนนั้นด้วยหนังยางสีเหลืองเขียวแสดแดงจากฝีมือของอาทิตย์



“เดี๋ยวมึงจะโดนกูน้องเอม”



“โดนอะไรหรอครับ กลัวจังเลยอ่ะจ๊ะพี่ดานี่จ๋า” เลื่อนมือลงมาที่กรอบหน้าหล่อๆนั่งแล้วลูบไล้แผ่วๆแบบแกล้งๆ จ้องตาคมนั่นแบบที่ไม่ได้กลัวเกรง จะให้กูเอาอะไรมากลัวก่อนเอย แค่เห็นจุกบนหัวก็ทำเอาแทบขำจนฉี่จะราดแล้วไหม ผมยิ้มกว้างๆช้อนตาล้อคนตรงหน้าอย่างสนุก ทำเอาคนตรงหน้าทำสีหน้าบึ้งตึงใส่ทันที ก่อนที่ดวงตาคมนั่นจะเปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์ เจ้าตัวที่ขยับตัวเข้ามาหาผม ก่อนที่ฝ่ามือหนาจะเลื่อนเข้ามากอดเอวผมเอาไว้ แล้วดึงให้ผมขยับเข้าไปใกล้แบบไม่ทันได้ตั้งตัว ได้แต่เบิกตากว้างๆช้อนตามองหน้าพี่มันแบบตกใจ



“พ...พี่...”



“น้องเอมมั่นใจน่าว่าไม่กลัว เราเองก็น่าจะรู้ ว่าอยู่บนเตียง...พี่ดาบน่ะดุแค่ไหน” เลื่อนใบหน้าหล่อเข้ามากระซิบใกล้ๆที่ข้างหู ทำเอาขนทั่วทั้งแผ่ยหลังลุกขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ ยิ่งจมูกโด่งๆนั่นไล้มาตามกรอบหน้ายิ่งทำให้รู้สึกเสียววาบจนต้องขยับหน้าออกห่าง



“พี่!”



“ชู่ววว อย่าเอะอ่ะสิ ทำแบบนี้กูยิ่งอยากกลับบ้านนะ กลับไหม หนูจะได้รู้ว่าพี่ดุแค่ไหน”



“ไอ้พี่บ้า ทะลึ่งแล้ว”



‘จุ๊บ’



 ริมฝีปากที่โฉบลงมาจุ๊บเบาๆที่ปากของผมไวๆแล้วผละออก ผมเบิกตากว้างมองคนตรงหน้าที่ยักคิ้วใส่หนึ่งที ใบหน้าร้ายๆนั่นมัน



“จะเล่นกับพี่ เร็วเกินไปครับน้องเอม”



ว่าออกมาแบบนั้น แล้วทำท่าจะเลื่อนหน้าเข้ามาหากันอีกที และในตอนนี้ก็ได้ยินเสียงร้องโวยวายดังมาจากที่ไกลๆตรงฝั่งกำแพงสูงจากมุมนึงของบ้าน ผมที่เลื่อนมือดันอกแกร่งของพี่ดาบให้ออกห่างตัว ก่อนจะรีบลุกขึ้นวิ่งตรงไปยังทิศทางนั้น


(มีต่อ)
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ ตอนพิเศษ {22/05/21}]
เริ่มหัวข้อโดย: Yoghurt ที่ 22-05-2021 12:32:11


“แง้ ฮื่อๆๆ”



“เกิดอะไรกันขึ้นเด็กๆ” ผมที่ร้องออกมาพร้อมๆกับขาที่ก้าวเข้าไปถึงตัวอาทิตย์ พี่ดาบตามมาติดที่คว้ามือพระจันทร์เอาไว้ แต่เสียงร้องไห้ที่ยังดังไม่เลิกกลับไม่ได้ดังมาจากเสียงของเด็กแฝดสองคน



“อาเอมๆฮับ นั่นๆ ช่วยโด้ย” มือป้อมๆชี้ขึ้นไปบนกำแพงสูง พอเงยหน้ามองก็ต้องเบิกตากว้างๆเมื่อเห็นภาพตรงหน้า



“เชี่ย! หนู ขึ้นไปทำอะไรบนนั้น!” ร้องออกมาแบบนั้นเมื่อเห็นเด็กผู้ชายตัวเล็กคนนึงปีนอยู่บนนั้น กำแพงบ้านเฮียทัพมันสูงมากนะเว้ย เด็กนั่นก็น่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับเจ้าสองแฝดด้วย



“ฮึก ฮื่ออ ช...ช่วย ช่วยด้วยงับ” เสียงร้องขอความช่วยเหลือพร้อมแรงสะอึกสะอื้นตัวโยนยิ่งทำให้เด็กตัวขาวนั่นน่าสงสารมากกว่าเดิม



“ใจเย็นๆนะครับ เดี๋ยวจะไปช่วยเองนะ” เป็นพี่ดาบที่พูดขึ้นมาแบบนั้นด้วยเสียงทุ้มนุ่มมากกว่าทุกที ผมหันไปมองหน้าพี่มันอย่างไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรก่อนดี พี่ดาบแค่ส่งยิ้มใจดีมาให้ผม และเผื่อแผ่ออกไปให้เด็กที่กำลังเกาะกำแพงไว้แน่นๆตรงนั้นด้วย อาจะเป็นเพราะคำพูดใจดีของพี่มันที่ทำให้เด็กที่อยู่บนนั้นเหมือนจะสงบลงหน่อย ... และในไม่กี่นาทีต่อมา ก็เป็นพี่ดาบที่ปีนบันไดขึ้นไปอุ้มเด็กตัวน้อยลงมา ผมหันหน้าไปมองพระจันทร์ เจ้าแฝดคนพี่ที่ไม่ยอมไปไหน เจ้าตัวเอาแต่ยืนเงยหน้ามองทุกการกระทำของพี่ดาบอยู่ที่เดิมตรงนั้น แม้ว่าผมจะพาเจ้าอาทิตย์ตัวแสบหลบเข้ามาในบ้านแล้ว แต่พระจันทร์ก็ไม่ยอมขยับตัวไปไหน รอจนพี่ดาบพาเด็กชายคนนั้นลงมาจากกำแพงได้แล้ว



“ว่าไง ไหนบอกอาได้ไหม ทำไมถึงไปอยู่บนนั้นครับ” พาเจ้าเด็กหน้าสวย ที่ได้ความจากอาทิตย์ว่าเป็นเด็กชายข้างบ้านที่บางทีก็เคยเข้ามาเล่นด้วยกันกับสองแฝดที่สนามเด็กเล่นบ่อยๆ เหมือนว่าเจอกันตอนที่พี่เมลพาไปขี้จักรยานในช่วงเย็นของทุกวัน



“อะ...อัยย์...”



“หื้ม” เสียงแผ่วๆของเด็กตาใสแจ๋วที่พูดออกมาเบาๆแทบจะไม่ได้ยิน ทำให้ผมต้องยื่นหน้าเข้าไปฟัง



“ชื่ออัย เค้าชื่ออัยย์” เป็นพระจันทร์ที่พูดออกมาแบบนั้น ผมหันไปมองหน้าพระจันทร์ที่นั่งอยู่ข้างๆ ที่กำลังนั่งจ้องน้องไอไม่วางตาอยู่ตอนนี้



“น้องอัยย์ครับ ทำไมถึงขึ้นไปอยู่บนนั้นล่ะ บอกได้ไหมครับ”



“อ..อัยย์หนี...หนีโบ้ครับ” บอกแบบนั้นแล้วน้ำตาก็หยดแหม่ะลงมาที่หน้าสวย ... โบ้ โบ้คือเหี้ยอะไรก่อนเอ่ย



“บ๊อกๆน้องหมานะอาเอม”



“โบ้คือน้องหมาหรอ” ผมพยายามจะทำความเข้าใจกับภาษาเด็กในตอนนี้ หันไปมองอาทิตย์ที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วก็พยักหน้าแข็งขันให้กับคำตอบของตัวเอง



“ปกติบ้านพี่อัยย์จะมีหมา แต่ถ้าพี่อัยย์อยู่จะไม่ปล่อยออกมานี่นา” อาทิตย์ว่าพร้อมเอียงคอทำหน้าคิด



“น้าสุปล่อย” เสียงเล็กๆว่าแบบนั้น ตัวสั่นๆที่ทำให้ยิ่งดูน่าสงสารไปกันใหญ่ ถึงจะไม่ค่อยรู้ว่าน้าสุเป็นใคร แต่การที่มีเด็กเล็กอยู่บ้านด้วย ก็น่าจะรู้ว่าเด็กกลัวอะไรไม่ใช่หรือไง ทำไมถึงทำแบบนี้ล่ะ



“น้องอัยย์อยากกลับบ้านไหม เดี๋ยวอาพากลับ” พอบอกออกไปแบบนั้น เจ้าตัวขาวก็ส่ายหนาหวือ ... ถ้าเป็นแบบนั้นจะทำยังไงดีล่ะ พ่อแม่เค้าจะไม่ตามหาแล้วว่ากูลักพาตัวมาเรอะ



“น้าสุยังไม่กลับ อ...อัยย์ไม่อยากกลับ”



“เฮ้อ...เอาไงดีล่ะ” ผมว่าออกมาแบบนั้นแล้วยื่นมือไปลูบผมนิ่มนั่น มองซ้ายมองขวาก็เห็นเจ้าอาทิตย์เริ่มนั่งตาปรือ แล้วก็อ้าปากหาว เล่นซนมาทั้งวันคงจะเหนื่อยสินะ พอละสายตามามองเจ้าพระจันทร์ เจ้าเด็กนี่กลับไม่ทำอะไรนอกจากนั่งมองหน้าของน้องอัยย์นิ่งๆอยู่แบบนั้น ไม่รู้เลยจริงๆว่ากำลังคิดอะไร



“เอม” พี่ดาบที่เดินเข้ามา หลังจากก่อนหน้านี้บอกผมว่าจะโทรศัพท์ไปหาเฮียทัพ



“ให้น้องอัยย์อยู่นี่เถอะ เดี๋ยวตอนเย็นๆคุณแม่น้องจะมารับที่นี่ เฮียทัพให้ซ้อแกโทรบอกแม่น้องแล้ว” พอพี่ดาบพูดแบบนั้นผมก็เข้าใจได้ทันทีว่าบ้านเรานี้กับบ้านน้องอัยย์คงคุ้นเคยกันไม่น้อย



“งั้นน้องอัยย์นอนอยู่นี่ก่อนนะครับ ตอนเย็นคุณแม่มารับนะ” ผมบอกออกไปแบบนั้น และนี่เหมือนจะเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นเด็กตัวขาวยิ้มออกมา เป็นรอยยิ้มน่ารัก ที่ยิ่งทำให้ใบหน้าน่ารักนั่นสวยเข้าไปใหญ่ คิดไว้ในใจเลยว่าแม่ของน้องคงเป็นคนสวยมากแน่ๆ



“มาๆ เจ้าเด็กทั้ง3 อาเอมจะพานอนกลางวันนะครับ” บอกแบบนั้นแล้วเริ่มดึงฟูกยาวที่พี่เมลซื้อเอาไว้ให้เจ้าแฝดได้นอนกลางวันดึงออกมาปู แต่ท่าทางบ้านนี้จะเน้นความยิ่งใหญ่ เพราะกูไม่อยากเรียกฟูก กูอยากให้เรียกที่นอน6ฟุตให้มันจบๆไป จะอะไรนักกับเด็กแฝด2คน ทำไมถึงซื้อมาใหญ่ขนาดนี้วะ



“ทำใจเถอะค่ะอิหนู อิเฮียทัพแม่งขี้เห่อลูกมัน” พี่ดาบว่าแบบนั้นก็จะยักไหล่แบบไม่สนใจ แต่ดูแล้วก็คิดว่าท่าทางจะจริง เฮียทัพที่ว่าโหดๆ แต่พออยู่ที่บ้านแล้วกลับเป็นพ่อที่อบอุ่น แต่เป็นผัวนี่ไม่รู้ แต่ดูทรงแล้วน่าจะดุ อิอิ



ผมจัดแจงที่นอนให้เด็กๆนอนลง ผมดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมให้อาทิตย์ที่ตอนนี้ตาปรือเตรียมจะหลับลงทุกนาที เจ้าเด็กนี่เป็นเด็กที่มีพลังเหลือล้น เพราะแบบนี้เลยทั้งวิ่งทั้งเล่นซนอย่างเต็มที่ ตอนนี้ก็คงจะหมดแรงแล้วสินะ ถัดมาคือพระจันทร์ เจ้าเด็กตาคมสวยนี่ยังคงนอนตาใสไม่ยอมหลับ เห็นแบบนั้นผมก็ลูบผมเจ้าตัวเบาๆ



“ถ้าพระจันทร์ยังไม่ง่วง งั้นอยู่เป็นเพื่อนน้องอัยย์ก่อนได้ไหมครับ อาจะไปเอานมมาให้” บอกออกไปแบบนั้นแล้วพระจันทร์ก็พยักหน้าตอบรับทันที ฝ่ามือเล็กของพระจันทร์เอื้อมไปจับมือน้องอัยย์ที่นอนอยู่ข้างๆเบาๆ



“ไม่เป็นไรนะ” หันไปบอกกับน้องอัยย์แบบนั้น นัยตาสวยของพระจันทร์ที่สะท้อนหน้าน้องอัยย์นิ่งๆ พอกระพริบเปลือกตาที ขนตางอนนั่นก็กระพือตามที เป็นเด็กที่เครื่องหน้าโคตรขี้โกง ดูก็รู้ว่าโตมาต้องหล่อแน่ๆ เห็นแบบนั้นแล้วผมก็อดจะอมยิ้มไม่ได้ เฮียทัพท่าทางจะเลี้ยงลูกชายคนโตมาให้เข้มแข็งได้ดีจริงๆ ผมลุกขึ้นเดินไปในครัวเพื่อชงนมให้เด็กๆก่อนจะเข้านอนกลางวัน



“พี่แอบมาหาอะไรกินอ่ะ” ผมโพร่งถามออกไปแบบนั้นในตอนที่เห็นแผ่นหลังกว้างๆนั้นกำลังก้มๆเงยๆอยู่ที่หน้าเตาแก๊ส



“ใครว่าล่ะ ... มึงน่ะมัวแต่ดูแลเด็กๆ ข้าวปลาไม่ค่อยจะกิน กูเลยว่าจะทำอาหารง่ายๆไว้ให้” พี่มันบอกแบบนั้นแล้วเริ่มโยนอะไรต่อมิอะไรลงไปในกระทะ แผ่นหลังแกร่งที่ผมมองเห็นได้บ่อยๆเวลาที่อีกคนเข้าครัวเพื่อเตรียมอาหารให้ผมทาน ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ พี่ดาบหรือเจ๊ดานี่ก็ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยสักที เคยดูแลผมยังไง เค้าก็ยังคงเป็นคนเสมอต้นเสมอปลายอยู่แบบนั้น



“ขอบคุณนะครับ” อดจะยกยิ้มกว้างๆแล้วเดินเข้าไปกอดอีกคนจากด้านหลังไม่ได้ ปล่อยให้ปลายคางวางอยู่บนลาดไหล่หนา อีกคนที่หันหน้ามามองกันแล้วยกยิ้มนิดๆ รอยยิ้มน้อยๆที่บวกกับสายตาอบอุ่นของพี่ดาบ ไม่แตกต่างไปจากทุกๆวัน ยังคงเหมือนกับวันที่ทำให้ผมตกหลุมรักอยู่ทุกที



“หน้าแดงล่ะหนู”



“พูดมากน่า” ผมบ่นแล้วเสตาหลบ ได้แต่ปล่อยแขนออกจากเอวของพี่มัน กอดแล้วโดนล้อ ไม่อยากจะกอดแม่งแล้ว! ได้ยินเสียงหัวเราะหึๆดังตามมาจากด้านหลัง ผมเลี่ยงเดินไปชงนมใส่ขวดให้เด็กๆแทน บ้านนี้มีขวดและจุกนมใหม่ที่ยังไม่ได้ใช้อยู่เหลือเฟือ ซื้อมากะให้ลูกมันได้ใช้ทั้งชาติมั้งครับ เพราะแบบนั้นเลยไม่มีปัญหาที่จะชงนมเพิ่มอีกสักขวดเพื่อให้น้องอัยย์ด้วย



“จะพูดไปก็น่าสงสารนะ เด็กตัวแค่นั้นอยู่บ้านหลังตั้งใหญ่ ทำไมไม่มีผู้ใหญ่ดูแลดีๆ” ผมบ่นออกมาเบาๆในตอนที่ได้ยินเสียงปิดเตาแก๊ส พร้อมๆกับกลิ่นข้าวผัดหอมๆที่ทำให้น้ำลายไหล ...ฝีมือผัว...



“เฮียบอกว่าบ้านน้องอัยย์มีปัญหา”



“หื้ม หมายถึง...”



“ก็น้าสุที่น้องว่า จริงๆแล้วเป็นเมียน้อยของพ่อน่ะ”



“ห๊ะ! เหี้ยไรเนี่ย” ผมอุทานออกมาเสียงดังพร้อมขมวดคิ้ว แค่ได้ยินแค่นี้ก็จินตนาการออกเลยว่าที่เด็กตัวเล็กนั่นต้องวิ่งหนีหมาเพราะอะไร โคตรแย่ แย่ฉิบหายเลยครับ



“อืม...ก็ตามนั้นแหล่ะ”



“แล้วคือไรอ่ะพี่...พ่อแม่น้องเค้าเลิกกันแล้วหรอ แล้วทำไมน้องอัยย์ยังอยู่ที่นี่ล่ะ”



“ไม่ได้เลิกหรอก ก็ยังอยู่บ้านนี้ด้วยกัน แต่พ่อเค้าก็ยังเอาน้าสุที่ว่านั่นมาบ้าน เหมือนหมดรักแล้ว แต่ยังอยู่ด้วยกันเพราะหน้าตาทางสังคม”



“โคตรจะเหี้ย การนอกใจ ไม่ว่าเหตุผลอะไรก็อยู่ต่อไม่ได้ป่ะวะพี่ แล้วสุดท้ายผมมันก็ลงมาตกที่เด็กคนนึง เด็กที่ยังไม่ทันจะโต”



“อืม...ก็แบบที่เราเห็น แต่เราเป็นคนนอก จะพูดอะไรได้ล่ะ”



“แม่ง...ผมโคตรเกลียดเลย พวกเจ้าชู้แม่งเฮงซวย!” พูดออกมาแบบนั้นแล้วกระแทกขวดนมลงบนเคาเตอร์ ได้ยินเสียงพี่ดาบหัวเราะเบาๆ ก่อนที่รอบเอวของผมจะโดนรวบเข้าไปจากวงแขนแข็งแกร่งของคนที่เดินเข้ามากอดซ้อนจากทางด้านหลัง ลมหายใจอุ่นๆที่รินรดเบาๆอยู่ที่ข้างใบหู ทำเอาขนลุกซู่จนต้องย่นคอหนี



“อื้อ ทำอะไรของพี่”



“กอดปลอบให้เมียกูอารมณ์เย็นลง”



“ก็ฟังแล้วมันขึ้นอ่ะ”



“อื้ม...กูก็ขึ้น” กระซิบเบาๆแบบนั้นด้วยเสียงพร่านิดๆ ผมหันหน้าขวับไปมอง มบหน้าหล่อที่เลื่อนลงมาใกล้หน้าของผม สายตาคมที่มองผมไม่ละสายตา พร้อมๆกับฝ่ามือหนาที่สอดเข้ามาจากทางชายเสื้อ ลากเบาๆมาที่หน้าท้องของผม



“พ...พี่ดาบ”



สะโพกแกร่งที่ขยับบดเบียดแนบชิด จนทำให้รู้สึกได้เลยว่ามีอะไรดุนดันอยู่ที่ก้นของผม



“อยากว่ะเอม...กูน่ะ ยังไงก็ไม่มีทางนอกใจมึงหรอกนะ บอกเลย” ว่าแบบนั้นพร้อมยกยิ้มหล่อ ใบหน้าคมที่เลื่อนเข้ามาใกล้ ก่อนจะแนบริมฝีปากลงมาที่ปากของผม และมันก็เป็นไปแบบอัตโนมัติที่ว่าผมก็เปิดริมฝีปากขึ้นมาให้ลิ้นของอีกฝ่ายแทรกเข้ามาช้าๆ ค่อยๆเกาะเกี่ยวกันอย่างไม่เร่งรีบ รับรู้ได้ถึงฝ่ามือหนาที่ไต่ระดับขึ้นมาที่ละนิดจนถึงหัวนม หัวแม่มือกับนิ้วชี้ที่ทำงานคู่กันเป็นอย่างดี ค่อยๆบีบบี้ลงที่ยอดอก เสียวซ่านไปทั่วทั้งสันหลัง ค่อยๆเอียงหน้าทำมุมแนบริมฝีปากขบเม้มให้แนบชิดกันมากยิ่งขึ้น



“อ๊ะ...”



“อื้ม”



เสียงครางแผ่วๆที่ชวนให้หลงลืมรอบๆตัว และในตอนที่สะโพกแกร่งแนบเบียดเข้ามามากขึ้นจนรับรู้ถึงขนาดของอะไรต่อมิอะไรที่เบียดเข้ามาใกล้ เสียงโทรศัพท์มือถือที่สั่นอยู่บนเชลเคาร์เตอร์ในครัวก็ดังขึ้นมาทำลายบรรยากาศเงียบๆนี้ลง



‘ครืด ครืด’



“สัด”  พี่ดาบที่สบถออกมาแบบนั้นแล้วผละออกจากตัวของผมอย่างหัวเสีย ส่วนตัวของผมเองที่ได้สติขึ้นมาแล้วในตอนนี้ มองไปรอบๆก็คือห้องครัว....ไอ้เอมเอ้ย มึงจะที่ห้องครัวไม่ได้...โดยเฉพาะห้องครัวคนอื่นแบบนี้ไม่ได้โว้ย



ขยี้หัวตัวเองพร้อมๆกับลูบหน้าลูบตา อายผีบ้านผีเรือนจนอยากรำถวายเป็นการไถ่โทษ



“K สัด เหยดแม่ เฮียทัพไอ้เหี้ย!”  หันไปมองตามเสียงของพี่ดาบที่สบถหัวเสียออกมาอย่างหยาบคาย เห็นพี่มันเดินไปที่มุมหนึ่งในห้องครัวแล้วยกนิ้วกลางขึ้นกลางอากาศ .... คือ เป็นอะไร



“บ้านมันติดกล้อง” 4คำสั้นๆที่ทำเอาผมหน้าเห่อร้อนขึ้นมาจนกูแทบอยากวิ่งหนีออกจากบ้าน ... ถ้างั้นก่อนหน้านี้ ก็....



“เห็นก็เงียบๆไม่ได้หรอวะ” พี่ดาบว่าออกมาแบบนั้น



“ไม่ใช่สิโว้ย พูดอะไรของพี่เนี่ย” ผมรีบชงนมของหลานๆแล้วยกพลิกไปมา ก่อนจะเดินเลี่ยงออกมา อยู่ไม่ได้แล้วผมหน้าร้อน มองหน้าพี่ดาบไปมากกว่านี้ไม่ได้เลย ไหนจะเฮียทัพอีก แม่งเอ้ย บ้านติดกล้องวงจรปิดแบบเรียลไทม์แบบนี้ ก็คงเห็นฉากเมื่อกี้กันหมดแล้วสินะ ฮื่อ ไอ้เอมอยากเอาหน้าไปมุดส้วม



“โถ่...อายหรอคะ ไม่เป็นไรนะ กลับบ้านเราค่อยไปเอากันใหม่ก็ได้เนอะ”  เนอะพ่อเนอะแม่มึงอิพี่ดาบ อิบ้า!



ผมที่ก้าวขายาวๆสับเท้าเดินหนีเสียงหัวเราะไล่หลังอย่างอารมณ์ดีของพี่มันที่เดินตามมา ฝ่ามือของผมที่ยกขึ้นดันประตูห้องที่หลานๆนอนอยู่ให้เปิดออก และในตอนนั้น สายลมบางเบาที่ถูกกระแทกเข้าที่ใบหน้า ความรู้สึกบางอย่างก็วูบเข้ามาในหัว มึนงงจนเบลอ พร้อมๆกับภาพตรงหน้าที่พร่ามองเห็นเป็นแสงสีขาวแสบตาที่ทำให้รู้สึกสั่นไหว ภาพสุดท้ายที่มองเห็นคือพระจันทร์กำลังนั่งอยู่ข้างๆน้องอัยย์ ใบหน้าหล่อใสที่ชะโงกพร้อมเข้าไปใกล้น้องอัยย์นั่น และข้างๆกันมีอาทิตย์ที่นอนเอานิ้วดูดปากทำเสียงแจ๊บๆ ภาพของเด็กๆตัวเล็กทั้งสามที่นอนอยู่บนฟูกถูกเปลี่ยนเป็นภาพบางอย่างที่แล่นเข้ามาในหัวแบบที่ผมไม่เข้าใจ



.

.

.


“อัยย์รอนานไหม”  หนังสือเล่มหนาที่ถูกวางลงมาบนโต๊ะไม้ พร้อมๆกับขายาวที่สวมกางเกงยีนส์เนื้อดีกับเสื้อช็อปสีน้ำเงินที่กำลังสอดขาทรุดตัวลงนั่ง ใบหน้าหล่อคมที่มีดวงตามีสเน่ห์เพราะมีขนตายาวนั่นทำให้ใครหลายต่อหลายคนไม่สามารถละสายตาไปได้



“บอกให้เรียกพี่อัยย์ ทำไมจันทร์ชอบเรียกแต่ชื่อ”  ใบหน้าสวยที่มาพร้อมๆกับดวงตากลมโต เส้นผมประบ่าที่มีหน้าม้าน้อยๆยิ่งขับให้ใบหน้าดูอ่อนหวาน



“จันทร์ไม่อยากมีพี่”



“ไร้สาระจริงๆ” เสียงใสว่าออกมาแบบนั้นพร้อมรอยยิ้มนิดๆพร้อมส่ายหน้าหน่อยๆจนเส้นผมยาวๆละลงมาปรกที่ใบหน้า เห็นแบบนั้นแล้วคนร่างสูงก็อดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไปเกี่ยวออกให้ไม่ได้ ริมฝีปากหยักได้รูปกดยิ้มพอใจเมื่อใบหน้าสวยไม่มีอะไรเกะกะสายตาอีกแล้ว



“ไม่ชอบ”



“จันทร์ไม่ชอบอะไร” คนหน้าสวยเงยหน้าขึ้นมาช้อนตามองนิดๆ ดวงตาใสที่ไม่แสดงท่าทีอะไรให้ร่างสูงได้อ่านออก แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะยกยิ้มอบอุ่นออกมาอีกครั้ง

“ไม่ชอบให้อะไรมาบังหน้าสวยๆของอัยย์” ว่าแบบนั้นพร้อมเสียงอบอุ่น อัยย์ที่ยิ้มรับแบบอ่อนโยน เสหน้าหนีน้อยๆ ก่อนที่ต่างฝ่ายต่างชะงักเมื่อเสียงของใครอีกคนดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง



“พี่พระจันทร์”



“มึงมาทำไม” ขมวดคิ้วใส่คนร่างบางของอีกคนที่ไม่ได้อยากจะเจอ คนตรงหน้าที่ทำให้ร่างสูงต้องถอนหายใจออกมา



“ก็...ก็ทำไมพี่ต้องทำแบบนี้ด้วยวะ”



“กูทำแบบไหนมันก็เรื่องของกู มึงกลับไปก่อนไป”



“เห้ย...ทำไมไม่พูดกับน้องมันดีๆวะ”  ร่างสูงในชุดเสื้อนักศึกษาที่พับแขนขึ้นมาจนถึงข้อแขนเดินเข้ามาอีกคน ใบหน้าพิมพ์เดียวกันกับพระจันทร์ยังกับแกะ แตกต่างกันนิดๆก็ตรงสีผมที่คนนึงผมดำ ส่วนอีกคนเปลี่ยนมันเป็นผมสีชมพูอ่อนๆ



“มึงห่วงมากก็เอามันกลับไปไอ้ทิตย์”



“จันทร์ ใจเย็นๆ” อัยย์ที่ว่าออกมาแบบนั้นเลื่อนฝ่ามือขึ้นไปจับต้นแขนแกร่ง พระจันทร์ปรายสายตาไปมองคนตรงหน้าก่อนจะจ้องมองดุๆ มองเห็นอาทิตย์ที่จับไหล่บางนั่นยิ่งต้องขมวดคิ้ว



“ก็ผมชอบพี่ ... ไม่อยากเห็นพี่เป็นหมา ผมผิดหรอ!” คนร่างบางโพร่งออกมาแบบนั้น แววตากลมสวยทอประกายน้อยๆเหมือนอยากจะร้องไห้ แต่ถึงแบบนั้นก็ไม่มีน้ำตาไหลลงมาให้เห็น



“มันไม่ใช่เรื่องของมึง...กลับไป” พระจันทร์ว่าออกมาอีก คนร่างบางที่โดนอาทิตย์โอบเอาไว้เมมปากแน่นๆ ก่อนจะช้อนตาขึ้นมามองพระจันทร์อีกครั้ง ก่อนจะตะคอกออกมาด้วยเสียงดังๆจนทำให้ต้องสะดุ้ง



“เรื่องของผมสิ ก็ผมชอบพี่...ผมอยากเป็นผัวพี่พระจันทร์นี่ ก็ต้องเกี่ยวสิวะ!”



.

.

.

‘พลัก ตุบ ตึกๆๆๆ’



เสียงขวดนมสามขวดที่ร่วงหล่นหลุดออกไปจากมือ พร้อมๆกับตัวของผมที่เสถอยหลังไปนิดๆ ถูกความรู้สึกมึนงงวิ่งกระแทกเข้ามาแทนที่



“เห้ยเอม! เป็นอะไร” เป็นเสียงของพี่ดาบที่วิ่งมาถึงตัวของผม และจับตัวของผมเอาไว้แน่นๆ สีหน้าที่ค่อนข้างตกใจทำให้ผมต้องช้อนตาขึ้นไปมอง



“พี่....”



“อะไร เป็นอะไร”



“ผม...” จะพูดออกไปได้ยังไงวะ กูเห็นอะไร เมื่อกี้กูเห็นอะไร



“เอม เป็นอะไร ไหนบอกพี่” พี่ดาบว่าแบบนั้นแล้วจับตัวผมพลิกให้หันกลับไปจ้องหน้าเค้า อีกฝ่ายรูปหน้ารูปตาผมอย่างเป็นห่วง ผมละสายตาตัวเองหันไปมองภาพเด็กๆสามคน ซึ่งตอนนี้พระจันทร์ที่ทิ้งตัวลงนอนกลิ้งเล่นอยู่ตรงนั้นแทนแล้ว ภาพที่เห็นก่อนหน้านี้มันคืออะไร



“พี่ดาบว่า คนเราจะมองเห็นอนาคตได้ไหมวะ”



“มึง...เมายาคุมหรออิหนู อะไรของมึง” อีกคนที่พูดออกมาตะกุกตะกัก ทั้งเป็นห่วงทั้งเหมือนอยากจะด่าผมด้วยอีกที แต่ถึงแบบนั้นผมก็ถอนหายใจออกมา



“พี่ดาบ...”



“ว่าไง อย่าทำให้กูเป็นห่วงมากได้ไหมเอม สรุปเป็นอะไรครับ”



“ถ้าเด็กๆโตขึ้น แล้วกลายเป็นแบบเรา...มันจะเป็นความผิดของเราไหมวะพี่”



“เป็นแบบเรา...แบบไหน สวยอ่ะหรอ”



“สัด” กูถึงกับอุทานออกมาเบาๆ มันใช่เวลาไหมกูอยากจะถาม ... พี่ดาบที่หัวเราะออกมาเบาๆตอนที่ได้ยินผมด่า พี่มันที่ยื่นมือขึ้นมายีหัวผมเบาๆ พอเป็นแบบนั้นก็เลยได้แต่ช้อนตาขึ้นไปมอง แต่พอเห็นรอยยิ้มอบอุ่นนั่น ก็ทำเอาผมค่อยๆหายสติแตก



“เอมรู้ใช่ไหม อะไรมันจะเกิดมันก็ต้องเกิด และถึงแม้ว่าเด็กๆจะเติบโตขึ้นมาเป็นอะไร กูเชื่อว่าเฮียทัพกับซ้อจะยอมรับในสิ่งที่เด็กๆเป็น ... อย่าไปคิดถึงสิ่งที่มันยังไม่เกิดเลย”



อืม...นั่นสินะ



คิดได้แบบนั้นก็หันกลับไปมองเด็กๆสามคนที่นอนเรียงกันอยู่ตรงนั้นอีกครั้ง ไม่ว่าสิ่งที่ผมเห็นเมื่อก่อนหน้านี้จะเรียกว่าเดจาวู โฟร์ไซท์ หรือไอ้เอมจิตสัมผัสอะไรก็แล้วแต่ ... ผมแค่หวังว่าในอนาคตตรงหน้า เด็กๆเหล่านี้จะมีสิทธิ์กำหนดชีวิตของพวกเค้า แล้วเดินตามทางที่พวกเค้าอยากจะเป็น ... และแน่นอนว่า พวกเค้าจะยังมีพวกผม คอยสนับสนุนอยู่ข้างหลังเสมอ



“จะปลุกเด็กๆมากินนมไหม” พี่ดาบที่ก้มลงไปเก็บขวดนมพวกนั้นถามออกมาอีกครั้ง ผมที่ยิ้มออกมาน้อยๆแม้ว่าสายตาจะยังคงจับจ้องไปที่เด็กๆ ได้แต่ส่ายหน้าออกมาน้อยๆ



“อย่าเลย...ให้พวกแกได้หลับ และเข้าไปสู่ความฝันที่เป็นของตัวเองจะดีกว่า”



แด่ความรัก...



แด่อนาคต...



และแด่ทุกๆคนที่ร่วมเดินทางหรือหลงผ่านไปมาในทุกหน้ากระดาษที่จะเติบโตต่อจากนี้



..................



อั๊ยย๊ะ ... แคทคิดถึงทุกๆคนมากๆเลยค่ะ ไม่รู้ว่าจะยังมีใครคิดถึงกันไหม

วันนี้เอาตอนพิเศษของพี่ดาบน้องเอมและหลานๆมาฝาก

พร้อมกับเปิดตัวนิยายเรื่องต่อไป อิอ๊ะ...งานน้องเอมจิตสัมผัสญาณทิพก็มานะคะ

จะเป็นแบบที่น้องเอมเห็นไหม เรื่องราวจะเป็นยังไงน้านนนน

แคทฝากด้วยค่ะ กับเรื่องใหม่

Love You...รักอยู่ รู้ยัง

เอาล่ะ ปักทีมนายเอกได้เลย

อิอิ

ฝากติดตามต่อกันด้วยนะคะ  :mew1:
(https://sv1.picz.in.th/images/2021/05/22/PUsl31.jpg)
 
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ ตอนพิเศษ {22/05/21}]
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 22-05-2021 18:14:11
 :pig4:
 o13
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ ตอนพิเศษ {22/05/21}]
เริ่มหัวข้อโดย: วายซ่า ที่ 23-05-2021 22:01:32
ให้น้องเอม พี่ดาบซ้อมเลี้ยงลูกน้อยไปก่อนนะ 55555

น้องเอมฝันกลางวันก็ได้ด้วยเหรอ
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ ตอนพิเศษ {22/05/21}]
เริ่มหัวข้อโดย: cakecoco-boom ที่ 23-09-2021 13:12:04
พี่ดานี่ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ ตอนพิเศษ {22/05/21}]
เริ่มหัวข้อโดย: Nung66669 ที่ 11-10-2021 20:12:12
 :L2: :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ ตอนพิเศษ {22/05/21}]
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 16-10-2021 14:48:26
จบแล้ววว
และแล้วเราก็ได้มาตามอ่านเรื่องของเจ้ดานี่จนได้ อิอิ
คือชอบมากจากเรื่องของเฮียทัพกับเมล และจะตามอ่านเรื่องต่อๆไปให้ครบทุกเรื่องเลยค่ะ
เขียนสนุก ชอบมาก

หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ ตอนพิเศษ {22/05/21}]
เริ่มหัวข้อโดย: Maeo ที่ 11-12-2021 02:45:54
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ ตอนพิเศษ {22/05/21}]
เริ่มหัวข้อโดย: PanGii ที่ 29-12-2021 05:57:34
สนุกมากกกกกกกกค่ะ รวดเดียวยาวๆไม่ต้องนอน สนุกจริง น่ารักไม่ไหว
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ ตอนพิเศษ {22/05/21}]
เริ่มหัวข้อโดย: Freezz ที่ 01-01-2022 11:35:24
น่ารักมากครับ เรื่องนี้ ชอบทุกคนเลย
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ ตอนพิเศษ {22/05/21}]
เริ่มหัวข้อโดย: pedgampong ที่ 01-11-2022 12:05:11
หลงรักเฮียแดปมากๆค่า  :impress3: :impress3: เป็นกำลังใจให้คนเขียนน้า
หัวข้อ: Re: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ ตอนพิเศษ {22/05/21}]
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 19-01-2023 01:05:28
  :pig4: