บทที่9.2
“นี่เข้าไปขี้หรอคะหนู หรือว่าไปทำอะไร เคยบอกแล้วใช่ไหมว่าถ้าหิวให้เดินเข้าครัวไม่ใช่เข้าห้องน้ำไงคะ”
พอเดินออกจากห้องน้ำก็เจอเจ้าของห้องตัวดีที่นั่งไขว่ห้างเอาแขนพาดพนักพิงพร้อมๆกับกระดิกเท้าแล้วผิวปากอย่างอารมณ์ดี แถมพอหันมามองหน้ากัน อิเจ๊มันก็ทักกันออกมาแบบนั้นอีก
คือมึงหุบปากไปเลยอิเจ๊!
อยากจะเดินเข้าไปสอยปล่อยหมัดกับเจ๊มันสักฝุ่น แต่กลัวครับ ... กลัวว่าจากจะสอยแต่จะโดนซอยเอาซะเองเลยทำได้แต่ถลึงตาใส่ อิเจ๊พี่มันที่เห็นผมทำหน้าแบบนั้นใส่ก็ได้แต่หัวเราะคิกคักออกมาแบบอารมณ์ดีตอบกลับมา แล้วคือมึงจะอารมณ์ดีอะไรขนาดนั้นวะ ก่อนหน้านี้คือยังทำหน้าเครียดเหมือนจะแดกกูลงไปอยู่เลย ทีตอนนี้ล่ะร่าเริงมาเชียว จริงๆอิเจ๊ก็ดูไบโพล่าในระดับนึงนะครับ
“ทำไมเจ๊ยังอยู่วะ”
“เอ๋า แล้วมึงจะให้กูไปไหนคะ”
“ก็ไปดูร้านไง เจ๊อยู่ทำไมอ่ะ ผมจะกวาดบ้านดูดฝุ่น”
“มึงก็ดูดไปสิคะ กูห้ามมึงหรอก็ไม่ กูแค่นั่งสวยๆอยู่ตรงนี้ มันกวนใจมึงมากหรอ” ถามออกมาแบบนั้นแล้วหันมาเลิกคิ้วใส่พร้อมๆกับยกยิ้มมุมปาก สายตาของพี่มันที่มองกันวาววับแปลกๆเหมือนจะล้ออยู่นัยที อย่ามาทำรู้ดีนะอิเจ๊พี่มึง ฉลาดนัก!
“แบบเจ๊น่ะไม่กวนใจผมหรอก เหอะ”
“อ๋อหรอคะหนู ไม่กวนใจแล้วกวนอะไรเอ่ย”
“กวนตีน!”
“ใช่เลยค่ะ เจ๊นะกวน...เอ๊ะ! เอ๊ะๆๆๆ นี่มึงด่ากูนี่คะ!”
เดินหันหลังหนีออกมาพร้อมๆกับที่ได้ยินเสียงสองโวยวายขึ้นตามหลังมาแบบนั้น ก็นั่นหล่ะ ใครจะไปอยู่ฟังให้โง่ล่ะวะ อีกอย่าง...ตอนนี้ก็อย่างจะหนีถอนออกห่างอิเจ๊พี่มันไปสักพักก่อนจริงๆ
.
.
.
“อิหนูคะ นี่มึงกวนตีนกูอยู่หรอคะ”
“อะไรของเจ๊วะ หาเรื่องผมรึไง” ได้แต่ถอนหายใจพร้อมว่าออกไปแบบนั้น เหลือบสายตามองนาฬิกา ตอนนี้บอกเวลาว่ามันสามทุ่มครึ่งแล้ว แต่เจ้าของร้านที่ปกติตอนนี้น่าจะอยู่ร้านกลับอาบน้ำแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้ามาใหม่เป็นชุดนอนลายน่ารักๆสีชมพูที่ไม่เข้ากับหนังหน้า แล้วก็นั่งกดรีโมททีวีอยู่ตอนนี้
“เมื่อไหร่มึงจะเลิกดูดฝุ่นคะ”
“ก็ผมทำงานอ่ะ ว่าแต่เจ๊เถอะทำไมไม่ไปทำงานวะ มานั่งกวนผมอยู่ได้”
“วันนี้กูไม่อยากไปค่ะ กูอยากอยู่บ้าน”
“ได้หรอวะ”
“ได้สิ คะ คนสวยแบบดานี่อยากทำอะไรก็ได้หมด อิอิ” กูล่ะเกลียดอิอิของมึงเหลือเกิน ผมที่ทำแค่ส่ายหัวแล้วไม่พูดตอบอะไรอิเจ๊มันออกไป อีกฝ่ายที่ก็นั่งกระดิกเท้าดิ๊กๆแล้วกดทีวีเปลี่ยนช่องไปมาไปเรื่อย
‘ฟูด ฟูดดดด’
“อิน้องบ๋อยคะ มึงเลิกดูดได้ไหม เสียงเครื่องดูดฝุ่นมันรบกวนซีรี่ย์กูค่ะ”
“เจ๊จ้างผมมาทำงานนะเว้ย ผมก็ต้องทำไง เจ๊ทนๆหน่อยได้ไหมล่ะ”
“ถ้าจ้างมึงมาทำไรมึงก็จะทำหมดเลยว่างั้น”
“ก็ใช่สิวะ ทำงานให้มันคุ้มเงินเดือนไง เจ๊ไม่ชอบหรอวะ” พูดเถียงออกไปแบบนั้นแล้วก็เริ่มดูดฝุ่นต่อไปแบบไม่สนใจที่จะหันไปมองคนที่เอาแต่เซ้าซี้พูดนั่นพูดนี่ไม่หยุด ค่อยๆใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดไปตามพรหม และใต้โต๊ะแถวหน้าทีวีแบบไม่สนใจว่ามันจะบังหรือกวนตีนเจ้าของห้องแค่ไหนก็ตาม ... เรื่องมึงจ้า
‘หมับ’
“เห้ยๆๆ แม่ย้อย!”
“แม่ไม่ย้อย แม่ยังอยู่ดีค่ะ” เสียงเข้มที่ดังกระซิบอยู่ข้างหูดังมาจากคนที่ซ้อนกันอยู่ข้างหลัง และตัวผมที่ถูกดึงให้ถลาหงายหลังลงมานั่งตักไอ้คนที่นั่งอยู่ที่โซฟาทั้งแบบนั้น ใจหายใจคว่ำ แต่ตอนนี้อ่ะใจกูไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เจ็บไข่ไปหมด!!
“จะ...เจ๊พี่มึง ปล่อยนะโว้ย” ร้องออกมาแบบนั้นตอนที่ตัวเองเริ่มตั้งสติได้ ตั้งท่าจะลุกออกจากตักของอีกฝ่าย แต่อีกคนก็แค่ใช่วงแขนแข็งแกร่งนั่นกอดกันไว้แน่นๆไม่ยอมปล่อยๆ แผ่นอกแน่นๆที่แนบอยู่กับแผ่นหลังของผมผ่านชุดนอนบางเบานั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ
“ก็มึงรบกวนการดูทีวีของกูไม่หยุดเลยอ่ะค่ะ”
“ล..แล้วทำไมวะ มันไม่เกี่ยวกับการที่เจ๊ดึงผมมานั่งตักแบบนี้นะ”
“เกี่ยวค่ะ เพราะเกะกะขวางทางไม่หยุด เลยดึงมานั่งตรงนี้ เห็นไหม ไม่บังกูเลยค่ะ”
ก็ไม่บังน่ะสิ จะบังเหี้ยอะไร ก็มึงเล่นเอาคางมาเกยไหล่กันไว้แบบนี้ยังจะมาบังอะไรล่ะ แต่ไอ้ลมหายใจร้อนๆของอีกคนที่เป่ารดอยู่ที่ต้นคอของผมทำให้รู้สึกขนลุกวาบไปทั้งตัว อยากจะดิ้นหนีลงจากตักอีกฝ่าย แต่ยิ่งพอพยายามทำ ก็ยิ่งรู้สึกถึงลมหายใจที่รดต้นคอมากขึ้น บางจังหวะก็รู้สึกเหมือนจมูกโด่งๆของอีกฝ่ายเผลอมาโดนต้นคอกันแบบไม่ตั้งใจไปอีก
“ผมไม่บังเจ๊แล้วก็ได้ ปล่อยผมก่อนนะ เดี๋ยวหนีหายไม่ให้เกะกะเลย”
“ทำไมอ่ะคะ อยู่แบบนี้ก็ดีออกนะคะ กูมีที่วางคอ สบายดี”
“แต่ผมไม่สบายกับเจ๊ด้วยไงวะ”
“ทำไมไม่สบายล่ะคะ”
ถามออกมาแบบนั้นพร้อมเสียงเข้มๆทุ้มที่ฟังดูสบายๆ แม้ว่าอีกฝ่ายจะยังพูดคะขา แต่ตอนนี้ก็ไม่ดัดเสียงเป็นเสียงสองเสียงสามอีกแล้ว แต่ตอนนี้...พูดกันตรงๆผมอยากให้มันดัดเสียงให้สูงเป็นปลาโลมาไปเลย เจ๊พี่มึงไม่ต้องมาเข้มใส่กู แล้วมือมึงก็ไม่ต้องมาจับคางกูให้หันไปจ้องตาด้วย ไม่เอาๆๆ ไอ้เอมเจ็บไข่ อยากกัดลิ้นตัวเองให้ตายแล้วลงไปนอนตายที่พื้นให้มันจบๆไป ไม่อยากต้องมาจ้องตาคมที่เป็นประกายวิบวับแล้วเอาแต่ยกยิ้มมุมปากแล้วจ้องมามองกันแบบไม่หยุดแบบนี้เลย
“ว่าไง ทำไมไม่สบาย หรือว่า.....”
“ว่าไรวะ ก็ผมอ่ะตัวหนัก ผู้ชายสองคนมานั่งตักกันแบบนี้มันจะสบายได้ไงล่ะเอ้อ คิดสิคิด” ตอบออกไปรัวๆแบบนั้นแล้วสะบัดหน้าหนี หันไปจ้องทีวีที่ตอนนี้เป็นช่องสาระคดีตัวเหี้ยแอฟริกา น่าดูสุดๆ น่าดูจนอยากร้องเหี้ยเลย
“พูดมาได้พูดชายสองคน กูเป็นผู้หญิงสวยค่ะ สวยๆบอบบางผมยาวไปถึงเชียงใหม่ค่ะ” อยากจะบอกเหลือเกิน เลิกมโน มึงไม่มีผมยาว!
“เออๆ บอบบางเหมือนต้นเสาร์กรีกเลย เพราะงั้นปล่อยผมไปโว้ยยย”
“อย่าดิ้นมากจะได้ไหม”
“ก็ผมอยากลงไป ปล่อยกู๊”
“ดิ้นมากๆกูไม่รับรองหน้าที่มึงนะคะ”
“หา?....เจ๊หมายถึงไรวะ”
“หมายถึงมึงอาจจะไม่ได้ทำแต่งานบ้าน”
“แล้วต้อง?”
“ต้องอุ่นเตียงให้กูด้วยไง เอาไหม เลิกขย่มตักกูสักทีถ้าไม่อยากอุ่นเตียง” อุ่นเตียงพ่อง!!
หน้าเหวอสุดขีดแต่กูก็หยุดดิ้นทันที กลัว...ไม่ต้องมาพูดเรื่องอุ่นเตียงกับกู กูอุ่นกับมึงจนร้อนไปสองครั้งแล้วเถอะ พอกันที ใครอยากจะมีผัวเป็นตุ๊ดวะ!
“ดีค่ะ”
“มาดงมาดีอะไรล่ะวะ เจ๊ปล่อยผมสักทีดิ ผมไม่เกะกะเจ๊แล้วจริงๆ สาบานด้วยเกียรติของลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่หมู่นกเอี้ยงเลย”
“มึงจะเลี้ยงควายรึไงวะ เหมาะกับมึงฉิบหาย”
“โอ้ย พูดมาก ปล่อยผมได้แล้วน่า จะเลี้ยงควายกินหญ้าก็เรื่องของผมสิวะ”
“กูปล่อยก็ได้...” เย้ สักทีอิห่า ไอ้เอมนี่คือเตรียมพุ่งตัวออกจากตักอิเจ๊พี่มันเลย แต่วงแขนแกร่งนี่ก็ไม่ทำตามแบบที่ปากว่า ไหนมึงบอกจะปล่อยกูไงวะ
“เจ๊!...”
‘ครืดๆ’
“โทรศัพท์มึงสั่นน่ะค่ะ”
“ก็ปล่อยมันสั่นไปสิวะ ส่วนเจ๊น่ะปล่อยมือออกจากเอวผมสักทีได้ไหมวะ” เอียงหน้าไปมองคนที่นั่งซ้อนหลังกันอยู่ตอนนี้พร้อมทำหน้าหงุดหงิดใส่ แต่อิเจ๊ตัวควายนี่ก็ไม่ได้สนใจสีหน้าอะไรของผมเลย มันที่แค่ส่งยิ้มมุมปากมาให้ มองหน้ากันเหมือนกำลังเล่นสนุก สีหน้าเหมือนหมาตัวใหญ่ที่กำลังสุขใจที่ได้เอาอุ้งเท้าเขี่ยๆหัวลูกแมวตัวเล็กๆ ... ไอ้สัดเจ๊พี่มึง!
“ไม่ได้ ไหน...มือถือมึงอยู่ไหน สั่นจนไข่กูจะดันหมดแล้วค่ะ”
มันที่ว่าออกมาแบบนั้นพร้อมๆกับล้วงมือเข้ามาลูบๆก้นผมไปด้วยแบบอุกอาจ กูนี่เสียววาบสะดุ้งสุดตัวตอนที่ฝ่ามืออุ่นลูบๆคลำๆอยู่แถวร่องก้น
“มันจะไปอยู่ตรงนั้นได้ไงวะ เจ๊ มันอยู่นี่ๆๆๆ” กูที่ดิ้นไปดิ้นมาแล้วเอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงฝั่งขวาออกมาทันที
“อ๋ออ อยู่นั่นเองโน๊ะ” โน๊ะพ่อโน๊ะแม่มึง! มึงไม่ต้องมาแบ๊วเลย เมื่อกี้เผลอขมิบตูดสู้มือมึงเลยด้วย ... ก็ไอ้เอมตกใจ
“หยิบออกมาแล้วก็เปิดสิคะหนู กูอยากรู้ว่ามีใครตายหรอทักมาวุ่นวายฉิบหาย”
“แล้วเจ๊จะมาอยากรู้ไรด้วยวะ”
“กูอยากรู้ มึงเปิด ถ้าไม่เปิด กูไม่ปล่อย” คนที่นั่งซ้อนหลังกันอยู่ว่าออกมาแบบนั้นด้วยเสียงที่กดต่ำลงแบบคนที่เริ่มไม่พอใจ ปลายคางได้รูปของอีกฝ่ายที่กดน้ำหนักลงที่ไหล่ของผมพร้อมๆกับวงแขนแข็งแกร่งที่ก็โอบกระชับเอวของผมให้แน่นขึ้นในตอนนั้น ผมที่เผลอกลืนน้ำลายลงไปในคออึกใหญ่อย่างรู้สึกอึดอัดใจนิดๆ ก่อนจะค่อยๆกดเปิดหน้าจอพี่เอสสี่สมัยรุ่นพระเจ้าสามหรรมนั่นขึ้นมา
“นี่มือถือหรือแท่นศิลาจารึกสมัยก่อนอ่ะคะ มึงยังใช้งานได้ใช่ไหม” เสียงหมูเสียงหมาที่แว่วมาตามลม ผมที่ย่นหน้าตอนที่ได้ฟังแต่ก็ไม่ตอบกลับอะไรอีกคนไป ... แม่ง! ขี้บุลลี่
ผมที่ทำแค่เปิดแอพพลิเคชั่นสีเขียวๆที่มีไว้ติดต่อกันขึ้นมา แต่ต้องทำใจนิดหน่อยกว่าจะเปิดแอพได้ เครื่องมันช้า ต้องใช้เวลานาน ได้ยินเสียงคนด้านหลังที่ถอนหายใจแบบรำคาญมาให้ได้ยิน
“เอาไปปาหัวหมา หมายังโกรธมึงเลยนะคะมือถือเครื่องนี้”
“อย่ามาว่ามือถือผมนะ!”
“เออๆๆ” ตอบแบบขอไปที ผมเองก็ไม่สนใจมันอีกเมื่อข้อความที่เด้งขึ้นมาใหม่อีกครั้งในตอนนี้ปรากฏอยู่ตรงหน้า
[[TIGER: ไอ้เอม มึงบอกอิเจ้านายเฮงซวยมึงไปหรือยังเรื่องที่จะย้ายออก]]
“หึ สาระแนนัก” เป็นอิเจ๊พี่มันที่ว่าออกมาแบบนั้น ขนาดไม่ได้หันไปมองยังรู้เลยว่ามันต้องแสยะยิ้มอยู่
[[TIGER: บอกมันไปเลยนะ ว่าไม่อยู่กับแม่งแล้ว ]]
[[TIGER: มึงอย่าลืมนะไอ้เอม ต้องเว้นพื้นที่ให้เจ้านายมึงบ้าง เผื่อเค้าอยากจะหิ้วดงหิ้วเด็กมา]]
[[TIGER: กับกูอ่ะไม่เป็นไร กูทนได้]]
“ตอแหลนัก”
[[TIGER: ทำไมมึงเงียบจังวะ ทำไรอยู่ ]]
[[TIGER: ได้กินข้าวรึยัง อย่าลืมกินนะมึง]]
[[TIGER: กูเป็นห่วง]]
“โอ้โหๆ มีเป็นหงเป็นห่วง ดัดจริต อยากจะอ้วกใส่หน้าแม่ง”
“เจ๊เป็นอะไรของเจ๊เนี่ย บ่นงึมงำๆไรอยู่ได้อ่ะ” ทนไม่ไหวครับ ก็มันเล่นบ่นงึมงำๆทุกครั้งที่เลื่อนอ่านไปถึงประโยคคำพูดของไอ้เก้อที่ตัวเองไม่พอใจ แต่ประเด็นคือมันงึมงำอยู่ข้างๆหูผมนี่ไง
“มึงพิมพ์ตอบมันไปเลยค่ะ เดี๋ยวนี้เลยค่ะ”
“ห๊ะ เจ๊จะให้ผมพิมพ์ตอบอะไร แล้วนี่เปิดก็เปิดแล้ว เมื่อไหร่จะปล่อยผมวะ”
“กูจะปล่อยก็ต่อเมื่อมึงพิมพ์ตอบมันแล้วค่ะ”
“เออๆ ตอบๆแล้ว” สุดจะทนกับคนอย่างอิเจ๊พี่มึง ... ได้แต่ถอนหายใจอย่างระอาแล้สตั้งท่าจะกดแป้นพิมพ์ตอบกลับไป แต่ติดตรงที่ไอ้คนที่ทำตัวเป็นโซฟาให้ผมนั่งที่ดึงมือผมเอาไว้ซะก่อน
“อะไรของเจ๊อีกล่ะวะ”
“มึงพิมพ์ตอบมันไปว่า กูตัดสินใจแล้วไอ้สัดเก้อกล้ามล่ำ กูจะอยู่กับเจ๊ดานี่สุดสวยกุ๊กกิ๊กต่อไป มึงไม่ต้องเป็นห่วงนะเพื่อน บอกมันแบบนี้ค่ะ”
เจ๊ดานี่สุดสวยกุ๊กกิ๊กเชี่ยไรล่ะ ได้ยินกูก็ละอายใจที่จะพิมพ์แล้วโว้ย
“ไวๆค่ะอิหนู ไว กูรออยู่”
“โอ๊ย อะไรของเจ๊นักล่ะวะ”
“ไวๆ” บอกมาแค่นั้นพร้อมขยับเข่าเด้งตัวผมอย่างเร่งเร้าให้กูรีบพิมพ์ไปอีก ได้ยินแบบนั้นแล้วอดไม่ได้ที่ต้องเอียงหน้าหันกลับไปมอง แต่ลืมไปว่ามันวางหน้าไว้ที่ไหล่ซ้ายของผม พอหันไปแก้มผมก็เลยปะทะเข้าตรงๆกับจมูกโด่งนั่นเต็มๆ
“เชี่ย!”
“อืม...กูเปล่าทำไรเลยนะ มึงหันมาให้กูหอมเอง”
“ผมเปล่านะเว้ย!”
“อ่อยอยู่ ดูออก”“เงียบไปเลยนะเจ๊!”
“โอเคๆ กูจะไม่พูดออกไปเนอะ เพราะมึงจะเขินมาก” โว้ย! เกลียดแม่ง
[[Chaaim: ไอ้เก้อ...คือกูน่ะ]]
“มึงจะเกริ่นทำไมคะ พิมพ์ไปเลยแบบที่กูว่า ไวๆ” นี่ก็เร่งกูจัง รีบขนาดนี้เจ๊มึงไม่พิมพ์แทนกูตั้งแต่เมื่อวานไปเลยล่ะ
[[TIGER: มึงมาตอบสักที หายไปไหนมาวะ ตั้งนาน กูเป็นห่วงนะ ]]
“เหอะ” กระแหนะกระแหนแบบไม่มีที่สิ้นสุด จริงๆก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่ว่าเจ๊มันเป็นอะไรนัก
“มึงก็รีบตอบมันสักทีสิคะ ชักช้านักก็เอามานี่ เดี๋ยวกูพิมพ์เอง” มันที่ว่าแบบนั้นแล้วเอื้อมมือมาจะคว้ามือถือกันไป ดีนะผมหลบทัน
“ไม่ต้องๆ ผมพิมพ์เองๆ จะพิมพ์แล้วเนี่ย”
“ดีค่ะ”
[[Chaaim: ไอ้เก้อกูจะไม่ย้ายออกจากบ้านเจ๊มันนะ คือคุยกับเจ๊มันแล้ว เจ๊ก็โอเคอ่ะ มึงไม่ต้องห่วงนะ]]
เลือกที่จะพิมพ์แบบนี้ออกไปแทนที่จะพิมพ์ตามที่อิเจ๊มันต้องการ แต่คิดว่าแบบนี้มันน่าจะดีกว่า และยังไม่ทันจะได้หายใจเข้า ไบน์ก็แจ้งเตือนข้อความเข้ามารัวๆเหมือนมีใครตาย ไม่ต้องบอกก็เดาได้ว่ามาจากใคร
[[TIGER: ไอ้เอม! กูไม่ยอม!! ]]
[[TIGER: กูบอกแล้วไงว่าไอ้ตุ๊ดปลอมนั่นมันหลอกมึง มึงต้องย้ายออก ]]
[[TIGER: ย้ายมาอยู่กับกู! ไม่ต้องไปทำแม่งแล้วงานห่าไรนั่น กูดูมึงได้ ]]
[[TIGER: มึงตอบกูไอ้เอม อย่าให้กูต้องโมโหมากไปกว่านี้! ]]
ผมที่จ้องข้อความของไอ้เก้อที่แม้ว่าจะเป็นแค่ตัวอักษรส่งมา แต่พออ่านก็รู้เลยว่าอารมณ์ของมันเป็นแบบไหน เห็นแบบนั้นแล้วได้แต่ถอนหายใจออกมาหนักๆ ทำไมมันวุ่นวายกันจังวะ
‘.....Trrrrrrr....’
“ใจมันลุกลี้ลุกลนทนไม่ได้จนต้องโทรมากันเลยนะคะ” เจ๊มันที่ว่าออกมาแบบนั้นด้วยน้ำเสียงกระแนะกระแหนแบบที่ชอบทำ สายเรียกเข้าที่ขึ้นชื่อของคนที่ผมพึ่งคุยไลน์ด้วยเมื่อกี้ ‘ไอ้เก้อ’
“อิน้องหนูเอมคะ”
“ห...หื้ม” ตอบรับคำเรียกของอีกฝ่ายพร้อมๆกับที่มองหน้าจอโทรศัพท์แบบชั่งใจว่าจะรับสายดีหรือเปล่า เพราะผมรู้นิสัยของไอ้เก้อดีว่า ถ้ารับมันต้องระเบิดอารมณ์ออกมาอีกแน่ๆ และเพราะแบบนั้น ก็เลยยังไม่อยากที่จะพูดอะไรกับมัน ผมเข้าใจว่ามันเป็นห่วงผม แต่ในใจของผม ตลอดชีวิตที่ผ่านมา ผมเป็นคนที่ดูแลตัวเองมาโดยตลอด เพราะแบบนั้น มันเลยไม่จำเป็นจริงๆที่มันจะต้องมาเป็นห่วงผมมากมายแบบนี้ ... ในบางทีก็อึดอัดใจ
“มึงไม่ต้องรับหรอกค่ะ รับไปเพื่อนหมีควายของมึงก็ไม่ฟังหรอก มึงไปอาบน้ำดีกว่า ดึกแล้วนะ” อีกคนที่บอกออกมาแบบนั้นพร้อมๆกับเอื้อมมือไปคว้ามือถือของผมไปถือเอาไว้เอง มองเห็นนิ้วเรียวยาวของเจ๊พี่มันที่กดลงที่ปุ่มปิดหน้าจอทำให้ไม่มีเสียงสั่นอะไรอีก
“ไอ้เก้อมันโมโหถ้าผมไม่รับ...”
“บางทีมึงก็ควรจะนึกถึงใจตัวเองก่อนที่จะนึกถึงใจคนอื่นนะคะ ถึงมึงรับสายมันไปตอนนี้ก็ทะเลาะกับมันอยู่ดี คุยกันตอนใช้อารมณ์ก็ไม่มีประโยชน์ มึงไปอาบน้ำเถอะค่ะ กลิ่นตัวมึงเริ่มหึ่งๆออกมาแล้วนะคะ เหม็นเหมือนหมาตายลอยน้ำ”
“โว้ย! ผมยังไม่ตายนะเว้ย” โดดลงมาจากตักของอิเจ๊พี่มันที่คราวนี้มันเองก็ยอมปล่อยตัวผมออกมาจากตักของมันดีๆแบบไม่อิดออดเลิกแกล้งกันได้สักที
“ไป ชิ่วๆ หมาตายลอยน้ำๆ”
“ผมไม่คุยกับเจ๊แล้วแม่ง จะเอาสบู่อาบน้ำใช้แม่งทุกยี่ห้อให้กูหอมทะลุไปดาวอังคารเลยคอยดู!”
“จ้า ถ้าไม่หอมมึงไม่ต้องออกมานะ
กูจะรอพิสูจน์ด้วยตัวเอง”
“มึงฝันไปเถอะเจ๊!”
บอกมันแบบนั้นพร้อมแลบลิ้นใส่ไอ้คนที่แค่ยกยิ้มมองกันแบบทำหน้ากวนตีน ทำแบบนั้นใส่แล้วผมก็วิ่งหนีตายออกมาจากห้องรับแขกทันที อาบน้ำก็ดี ตอนนี้เหนียวตัวเหลือเกิน ... เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยไปคุยกับไอ้เก้อใหม่ หวังว่าวันพรุ่งนี้มันจะเลิกบ้าแล้วล่ะนะ
.
.
.
“หึ” ผมที่หลุดขำออกมาไม่ได้ตอนที่เห็นไอ้เด็กบ๋อยเถียงออกมาไม่หยุด มันที่ชอบเถียงกันเหมือนลูกแมวเด็กตัวเล็กๆที่ร้องเสียงแง้วๆแต่ก็ร้องมันอยู่นั่น ไม่ได้น่ากลัวสักนิด .... ไอ้เอมที่แลบลิ้นใส่กันแล้ววิ่งหนีหายไปจากสายตาผมในตอนนั้น เห็นแบบนั้นก็ได้แต่ส่ายหน้านิดๆกับความดื้อของมัน
“ควายน้อยเอ้ย” ว่าออกมาแบบนั้นพร้อมๆกับหยิบมือถือของมันขึ้นมาดู มองเห็นโทรศัพท์ที่เริ่มสั่นขึ้นมาเหมือนเจ้าเข้าอีกรอบ คิดว่าไอ้คนโทรเข้าคงโทรเข้ามาใหม่อีกแล้ว ร้อนรนเหลือเกิน เด็กหนอเด็ก โคตรจะอ่อน
ผมที่เลื่อนกดตัดสายไอ้ล่ำนั่นอีกครั้งอย่างรำคาญลูกตา แค่เห็นชื่อก็เหมือนเห็นหน้าแม่งแล้ว รำคาญ
[[TIGER: ไอ้เอมทำไมมึงไม่รับสายกูวะ มาคุยกับกูให้รู้เรื่อง ]]
[[TIGER: กดตัดสายกูทำเหี้ยไร! ]]
[[TIGER: มึงรับ!! ]]
มองเห็นข้อความของไอ้เด็กเก้อแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้า ระอา ... การกระทำเด็กๆของมันทำผมอยากจะขำเพราะสมเพชจริงๆ ยังคงไม่มีสติไม่แตกต่างจากเมื่อเช้าสักนิด และเพราะนิสัยแบบนี้ของมัน มันถึงเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากเพื่อนยังไงล่ะ
เห็นแบบนั้นแล้วนึกอะไรดีๆขึ้นมาได้นิดหน่อยเลยเลือกที่จะจิ้มข้อความส่งไปหามันนิดๆ
[[Chaaim: เก้อ มึงเป็นอะไรของมึงนักวะ]]
[[TIGER: กูเป็นห่วงมึงไงไอ้สัด!! ]]
[[Chaaim: กูขอบใจในความหวังดีของมึงนะ แต่มึงเป็นเพื่อนนะไอ้เก้อ]]
[[Chaaim:
ห่วงกูเท่าที่เพื่อนคนนึงจะรับได้ก็พอแล้วมึง]]
ผมที่พิมพ์ออกไปแค่นั้น ก่อนจะกดลบข้อความแบบที่ไอ้เอมไม่มีทางรู้ว่าผมพิมพ์อะไรตอบกลับไป และผมเองก็โคตรมั่นใจว่าไอ้เก้อจะไม่กล้าพิมพ์อะไรตอบกลับมาอีกเช่นกัน ...
คำว่าเพื่อนมันจุกอก ... ผมรู้ดีเลยล่ะ
::::::::::::::::::-- to be continued --:::::::::::::::::::::::::
มาแล้วจ้าา มาต่ออีก50%ที่เหลือแล้วนะคะ มาต่อตอนช่วงบ่ายๆของวันเสาร์แบบนี้จะมีใครอยู่อ่านไหมน้า
มีคนอ่านบอกแคทว่า ถ้าเป็นนิยายของแคท ไม่มีพระเอกคนไหนที่ไม่ร้ายหรอก และที่ร้ายที่สุดตั้งแต่ที่แคทเขียนมาก็คืออิเจ๊ดานี่
เห้ยยยย ใช่หรอคะ นี่ว่าใสๆสวยๆเลยน้าาาา อิอิ (กระพริบตาสองปริบ)
ยังไงมาอ่านกันหน่อยน้าาา แล้วแคทจะรีบมาต่ออีกครึ่งให้นะคะ จุ๊บๆ
ฝากแฮชแท็ค
#สวยๆเป็นผัว ในทวิตเตอร์ด้วยค่ะ
ปล. ขอขอบคุณคนอ่านจากเล้าเป็ด ที่แคทมาแค่ครึ่งเดียวก็ยังเข้ามาคอมเม้นท์ให้กำลังใจแคทกัน ขอบคุณมากๆจริงๆนะคะ
น่ารักมากๆ เข้ามาอ่านไวเช่นเดิมและเม้นท์ให้กันไวเช่นเดิมเลย ขอบคุณมากๆนะคะ สำหรับอีกครึ่งที่เหลือแคทมาต่อแล้วน้าาา
ส่งจุ๊บให้เลย ขอบคุณที่อยู่กับแคทมาทุกอาทิตย์เลยนะคะ
ขอบคุณมากๆเลยนะคะ แล้วเข้ามาอ่านอีกครึ่งนึงอีกนะคะ
เจ๊นี่น่าจะป่วยเป็นโรคสองบุคลิกนะ ว่าแต่โรคนี้ติดต่อกันได้ทางจูบป่ะ เหมือนน้องควายน้อยก็มีอาการแปลกๆ นา
หึยยย เจ๊ไม่น่าเป็นสองบุคลิกนะคะ ถ้าเป็นบ้าอ่ะไม่แน่ ผ่าม!
ขอบคุณมากๆเลยนะคะ ยังไงอีกครึ่งนึงแคทมาต่อแล้ว มาอ่านอีกนะคะ
ขอบคุณมากๆนะคะ อยู่ด้วยกันทุกอาทิตย์ แคทมาต่อแล้วน้าาา
กลับมาอ่านแล้วค่า หลังจากไปไฟท์กับงานตั่งต่างมา
อิเจ้อย่าพึ่งทำอะไรน้องนะ กลัวประเด็นพระพายจัง ดูมีอิทธิพลกับแก๊งเจ้ดานี่ ไม่อยากให้น้งเอมเสียใจเลย เดี๋ยวนังเก้อจะมาเสียบได้
งุ้ยยย ดีใจจังเลยค่าาา ขอบคุณมากๆจริงๆที่กลับมาหากันนะคะ กลับมาแล้วอย่าจากกันไปน้า (ล้มตัวลงคุกเข่าอ้อนวอนเธออย่าไปปปป) สำหรับเรื่องงานแคทขอให้ผ่านไปด้วยดีและไปสู้ไปไฟท์กับงานให้ชนะทุกรอบๆเลยนะคะ ส่วนอิพี่ดาบและน้องเอม หึยยย มันน่านัก แต่ว่าฝากคู่นี้ไว้อีกเรื่องด้วยนะคะ
ขอบึนปากแล้วอุทานว่าอิหยังวะใส่เจ๊ดานี่หนึ่งที
เจ๊เองก็รู้ดีกว่าใครอ่ะว่าน้องใสๆ ไม่ค่อยทันใครในเรื่องความรู้สึก
ก็ยังจะไปทำให้เขาสับสน ทำเป็นหวงเขา ทำให้เขาเขินอายแล้วก็ไปว่าเขาว่าหน้าหยาบเหมือนฝ่าเท้า
อัลลัยของเจ๊!!!!!!
แต่น้องก็ยอมตกลงมาอยู่ด้วยแล้วนะ เจ๊ต้องดูแลน้องดีๆ
อย่าลืมพาน้องมาร์คหน้าด้วยจะได้ไม่มีใครมาว่าน้องเอมได้อีก
เคืองสุด เจ๊ว่าหน้าน้องหยาบเหมือนฝ่าเท้า ไม่พอ ต่อกันอีกครึ่งนึง อิเจ๊ว่าน้องอีกแล้วค่ะ(ใส่ไฟๆ)
ฝากน้องเอมกับอิเจ๊คนสวย(ในมโนความคิดของเจ๊มันคนเดียว) ไว้ด้วยนะคะ แคทขอบคุณจริงๆสพหรับคอมเม้นท์ยาวๆและน่ารักๆแบบนี้ แคทดีใจมากๆที่มีคนอ่านมีอารมณืร่วมไปด้วยกัน ขอบคุณที่มาเม้นท์ให้กันและอยู่ด้วยกันนะคะ
ยังไงอีกครึ่งนึง 50เปอร์ที่เหลือนี้แคทมาต่อแล้ว มาอ่านอีกน้าาา
เจ๊หลอกเด็กตลอดเลยอะครับ,,,
อิเจ๊นี่มันร้ายนะคะหัวหน้า เราจะทำยังไงกับอิเจ๊นี่ดีคะ