Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ ตอนพิเศษ {22/05/21}]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ ตอนพิเศษ {22/05/21}]  (อ่าน 159136 ครั้ง)

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
แล้วเอมไปอยู่ไหนอ่ะ,,

ออฟไลน์ Rungzanaka

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อิเจ้รีบหาน้องเลยนะน้องมโนไปไกลแล้วววฮึ้ย
สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังนะงับมีความสุขมากๆนะคะ :L1:

ออฟไลน์ Yoghurt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
    • แฟนเพจ
บทที่24



ขายาวที่ก้าวเดินไวๆ ไปตามทางเดินอย่างเร่งรีบ เพราะไม่อยากให้ใครบางคนต้องรอนาน กลัวว่าควายเด็กบางตัวมันจะคิดมากจนงอแง สุดท้ายฝ่ามือหนาก็ค่อยๆ หยิบคีย์การ์ดเปิดเข้าไปในห้องของตัวเอง ความมืดที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าทำให้ต้องขมวดคิ้ว



เงียบ ... ไม่มีการเคลื่อนไหว



มืด ... แบบไฟในห้องถูกจุดถูกปิด



ร้อน ... เพราะแอร์ไม่ถูกเปิดไว้



‘พรึบ’



เอื้อมมือไปเปิดสวิชไฟที่อยู่ไม่ห่างออกไปเท่าไหร่ในตอนนี้ ภาพที่ปรากฏไม่ต่างจากที่คิดเอาไว้สักเท่าไหร่ แต่สุดท้ายก็ยังอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วออกมา ได้แต่ยืนเอาตัวพิงไว้กับประตูหน้าห้องที่ตัวเองพึ่งปิดมันไปเมื่อสักครู่ ศีรษะทุยผมสีทองสว่างเอนพิงกับประตูอย่างเหนื่อยๆ สายตาคมที่ได้แต่มองเพดานแล้วถอนหายใจออกมาหนักๆ แทน



“กูว่าแล้ว แม่งเอ้ย” อดจะหงุดหงิดไม่ได้ ... แต่ไม่ได้หงุดหงิดให้คนที่ตอนนี้ไม่ได้อยู่ในห้องแล้ว แต่หงุดหงิดที่เรื่องมันต้องมาเป็นแบบนี้ ไอ้เอมยังเด็ก อย่างน้อยมันก็อายุน้อยกว่าตัวเขา มันจะโกรธจนไม่อยากฟังเหตุผลก็ไม่แปลกใจหรอก แต่มึงออกจากห้องไปแล้วไปอยู่ไหนวะแม่ง มองไปรอบๆ ห้อง พื้นที่ก่อนหน้าที่ตัวเค้าจะออกจากห้องยังเต็มไปด้วยเศษแก้วและเศษซากขาหมู ตอนนี้มันกลับมาสะอาดแล้ว แถมห้องยังมีกลิ่นหอมสดชื่นจากสเปร์ที่ถูกฉีด มองดูก็รู้ว่าไอ้เอมมันคงทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วก่อนจะออกไป ...



ผมที่ได้แต่เดินเข้าไปดูในห้องอีกครั้ง ก็แค่เผื่อๆ ว่ามันจะนอนขดเป็นลูกควายอยู่บนเตียง ... แต่แน่นอนว่าไม่มี ก้าวขายาวๆ ไปตรงตู้เสื้อผ้าอย่างรีบร้อน พอเปิดออกแล้วก็ได้แต่ถอนใจออกมาอย่างโล่งอก อย่างน้อยเสื้อผ้าหนังสือเรียนของมันยังกองอยู่ตรงนี้ ...



“เฮ้อ ยังดี” บอกกับตัวเองแบบนั้นก่อนจะเดินกลับมาทรุดตัวนั่งลงบนเตียง แต่ถึงแบบนั้น



“มันไปอยู่ไหนวะแม่ง อย่าบอกว่าไปหาไอ้เก้อนะ สัด” แค่คิดก็หงุดหงิดขึ้นมาเป็นเท่าตัว ... ความรู้สึกต่างจากครั้งก่อนตอนที่เอมมันไปอยู่กับไอ้เก้อก็ตรงที่ ตอนนี้ผมดันรู้สึกกับมันมากกว่าเดิม



“แม่ง!” ตั้งท่าคว้ากุญแจรถ กูจะไปลากแม่งกลับมาให้ได้เลยคอยดู ถ้าเจอหน้าไอ้สัดล่ำนั่น กูจะตบแม่งสักทีสองที หรือทำจริตสวยๆ แล้วข่วนหน้าแม่งเลยดี จะได้เป็นทางยาวๆ เวลาอาบน้ำแม่งจะได้แสบ เออ... ดูสะใจดีกว่า



‘ครืดๆ’



“สัด” ได้แต่สบถออกไปแบบนั้นตอนที่โทรศัพท์มือถือสั่น พอเห็นหน้าจอว่าใครโทรเข้าแล้วยิ่งหงุดหงิด



“โทรมาทำเหี้ยไรไอ้สัด!”



((โอ้โห ใจเย็นนะจ๊ะเจ๊พี่มึง นี่น้องอิฐเองไง) )



“ถ้าไม่มีเรื่องเหี้ยไรก็แค่นี้” พูดออกไปแบบนั้น ตั้งใจว่าจะกดวางสายเพราะไอ้สัดนี่กำลังทำให้เสียเวลา แต่ก็ถูกเสียงจากปลายสายแหกปากตะโกนโวยวายออกมาซะก่อน



((เดี๋ยวๆๆๆๆๆ อิเจ๊พี่ดาบมึงอย่าพึ่งวางนะโว้ยๆๆ) )



“มีเหี้ยอะไรอีกวะ” รำคาญฉิบหาย วุ่นวายเป็นเมีย



((อุ๊ต๊ะ วันนี้เรียกพี่ดาบไม่โกรธด้วยว่ะ) ) ปลายสายที่พึมพำออกมาแบบนั้นเบาๆ เหมือนว่ามันกำลังคุยกับตัวเองมากกว่าที่จะคุยกับผม



‘ติ๊ด’



ได้ยินแบบนั้นแล้วกรอกตาทันที กดวางสายแม่ง ... คว้ากุญแจรถแล้วเดินออกจากห้องนอน เสียงโทรศัพท์มือถือที่สั่นอยู่ในกางเกงก็กวนใจตามมาอีก ตั้งใจว่าจะไม่กดรับสาย แต่ไอ้คนโทรก็ดูจะมีความพยายามมากจริงๆ มือถือสั่นจนไข่กูจะยานอยู่แล้ว



“มีเหี้ยอะไรอีกไอ้สัดอิฐ ถ้าไม่สำคัญกูจะไล่มึงออก!” บอกมันไปแบบนั้นด้วยเสียงดุๆ อารมณ์กูตอนนี้ไม่ได้ดีเหมือนหน้าตาสวยๆ บอบบางของกูนะบอกก่อน



((ใจเย็นครับพี่ครับ อย่าพึ่งวางสายน้องอิฐอีกนะ) )



“เข้าเรื่อง”



((เออๆ ...ก็จะถามว่าพี่มึงเมื่อไหร่จะเข้าร้านวะ คืนนี้มีนัดเทสเหล้านะเว้ย) )



“กูไม่เข้าละ มึงเทสเลย” บอกมันออกไปแบบนั้นพร้อมๆ กับเดินออกจากห้องไปด้วย คิดเอาไว้แล้วว่าจะไปตามหาไอ้เอมที่ห้องไอ้เก้อ ยังไงก็จะไม่มีทางยอมให้ไอ้ควายน้อยได้นอนที่ห้องไอ้ล่ำนั่นแน่ๆ



((ไม่ได้สิเว้ยเจ๊พี่มึง ก็พี่มึงบอกแล้วว่าจะมาเทสเอง ผมเลยไม่ได้หาใครมาดูตรงบาร์แทนแล้วไง เพราะงั้นผมจะไปเทสเหล้าเองได้ไงล่ะวะพี่) )



“แม่ง วุ่นวายฉิบหาย!” หงุดหงิดจนรู้สึกจะประสาทแดก รำคาญที่พอกำลังรีบๆ แล้วอะไรหลายๆ อย่างมันก็จะประจวบเหมาะกันแบบนี้



((เจ๊พี่ดาบมึงรีบเข้ามาเลย นัดเค้าไว้แล้วนะเว้ย) )



“มึงให้ไอ้จูนมันไปเทส”



((พี่จะบ้ารึไงวะ ไอ้จูนมันแดกเหล้าได้ที่ไหนล่ะ ให้มันไปเทสหรือให้มันไปเมา ถ้าเหล้าไม่ถึงที่เจ๊พี่มึงพอใจอีก ร้านเราจะขาดทุนนะเว้ย) )



“แม่ง น่ารำคาญฉิบหายเลยไอ้สัด กูกำลังยุ่งเนี่ย K!”



((เอ้า โกรธอะไรน้องอิฐอ่ะถามก่อน) )



“สัด เดี๋ยวกูเข้าไป!” บอกมันออกไปแบบนั้นทั้งๆ ที่ใจก็ร้อนรนฉิบหาย ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู มันยังไม่ถึงสี่ทุ่ม คิดว่าจะไปจัดการเทสเหล้าเข้าร้านให้ไวที่สุด หลังจากนั้นจะออกไปตามไอ้เอมทันที ยังไม่ถึงเที่ยงคืนคิดว่าน่าจะยังทัน ... คิดแบบนั้นก็เลยกดตัดสายไอ้อิฐไปอีกหนึ่งรอบ สุดท้ายก็ตัดสินใจเข้าไปจัดการเรื่องในร้านก่อนให้เรียบร้อย ถ้ารู้ว่าเป็นโตขึ้นแล้วจะเหนื่อยขนาดนี้ กูไม่เป็นสเปิร์มที่แข็งแกร่งที่สุดหรอกแม่งเอ้ย



.

.

.


“เจ๊พี่มึงจ๊ะ เชิญดื่มน้ำจ๊ะ”



“ไม่แดก กูจะรีบไป” บอกไอ้อิฐแบบนั้นตอนที่มันเดินยิ้มหน้าระรื่นเข้ามาหาพร้อมแก้วเหล้าในตอนที่ผมเดินลงมาจากชั้นสองของร้านหลังจากที่เข้าไปเทสเหล้ายี่ห้อใหม่ที่จะเอามาลงร้านเรียบร้อยแล้ว



“รีบไปไหนของเจ๊พี่มึงวะครับ ว่าแต่เรื่องเหล้าเรียบร้อยไหมพี่”



“เออ เรียบร้อย กับอิแค่เทสเหล้าทำไมต้องวุ่นวายวะ” หันไปถามไอ้อิฐแบบหงุดหงิดสุดๆ มองไปรอบๆ ร้าน วันนี้ลูกค้าก็ดูจะเยอะเหมือนทุกที ส่วนโซนร้านอาหารทางด้านนอกตอนนี้ปิดไปแล้วเพราะหมดเวลาเปิดร้าน



“เอ้า ก็เจ๊พี่ดาบมึงบอกจะมาเทสเองนี่หว่า ไหงมาหงุดหงิดล่ะวะ”



“แล้วไหนมึงบอกปลีกเวลาออกจากบาร์ไม่ได้ แล้วนี่มึงมาเสนอหน้ายืนรอกูหน้าบันไดเพื่อ นี่จ้อจี้กูหรอไอ้สัด อยากกินตีนกูหรอไอ้เหี้ยอิฐ”



“โอ้ย เปล่าสักหน่อย มันปลีกมาไม่ได้จริงๆ เว่ยตอนจะไปเทสเหล้าอ่ะ แต่เจ๊พี่ดาบมึงดูตอนนี้สิจ๊ะ คนเค้าไปแดนซ์กันตรงฟลอร์หมดแล้วจ๊ะ น้องอิฐเลยปลีกเวลามาเสิร์ฟน้ำให้พี่มึงดับไฟในใจได้นี่ไงล่ะจ๊ะ เป็นไง ลูกน้องน่ารักไหม แบบนี้พี่มึงต้องขึ้นเงินเดือนให้แล้วอ่ะเนาะ” มันที่ว่าแบบนั้นแล้วทำหน้าตาประจบ หันไปมองมันที่ฉีกยิ้มกว้างขวางแล้วกระพริบตาปริบๆ



“น่ารักมากมั้งไอ้สัด ตัวยังกับควาย” ด่ามันออกไปแบบนั้นแล้วยกแก้วเหล้าขึ้นมากระดกทีเดียวหมดแล้วยัดแก้วไปใส่ไว้ในมือไอ้อิฐอีกที



“ก็คือว่ากูตัวควายอ่ะเนาะ แล้วคือเจ๊พี่มึงนี่น่ารักจุ๊บจิ๋มมากสินะ” ได้ยินมันบ่นเบาๆ ออกมาแบบนั้น แต่เลือกที่จะทำแค่หันไปมองมันเล็กน้อยๆ เห็นไอ้อิฐที่กอดแก้วไว้ที่อก อีกมือนึงคือมันยกขึ้นมาปิดปากมันไว้ทันที ไม่อยากจะสนใจมันให้เสียเวลาเลยเลือกที่จะเดินหนีมันออกมา แต่ติดตรงที่ว่าโดนใครอีกคนเรียกกันไว้ซะก่อน



“ไอ้ดาบ” หันหลังกลับไปก็เจอเข้ากับไอ้เมฆ ...



“มึงมาอยู่นี่ได้ไง แล้ว...”



“กูไปส่งพายมามาแล้ว นี่มึงกำลังจะไปไหนวะ” มันที่ชิงบอกออกมาก่อนแบบนั้น สายตาของมันที่เหมือนมีอะไรอยากจะพูดแบบนั้น พอเห็นแล้วก็ทำให้ต้องถอนหายใจออกมา วันนี้กูจะต้องถอนหายใจอีกกี่รอบ ... อายุสั้นหมดแล้วตัวกู



“กูรีบ”



“ขึ้นไปคุยกับกูที่ชั้นสองก่อนดิวะ”



“แป๊บเดียวมึง” มันที่ยังคงพูดแบบนั้นออกมา แค่เห็นสายตาของมันก็รู้แล้วว่ามันคงอยากพูดเรื่องพาย และท่าทางว่ากูจะหนีแม่งออกไปจากตรงนี้ทั้งแบบนี้ไม่ได้



“ห้ามนาน กูรีบ” ย้ำกับมันอีกครั้งแล้วเหลือบสายตามองนาฬิกาที่ข้อมือตัวเอง



“เออ”



สุดท้ายเลยเดินนำขึ้นไปที่โต๊ะโซนโซฟาที่ชั้นสอง ผมที่ทรุดตัวลงนั่ง และไอ้เมฆก็นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม มันที่นั่งหันหน้าไปทางบันได้ และกำลังจ้องหน้ามาที่ผม



“มึงมีอะไรก็รีบๆ พูดมาไอ้เมฆ กูรีบ”



“มึงมั่นใจแล้วหรอวะ เรื่องพาย” มันเองที่ก็ถามออกมาแบบนั้นเข้าประเด็นทันทีแบบที่ผมร้องขอ จ้องตามันที่มันเองก็มองกันแบบรอคำตอบ ผมรู้ดีว่าไอ้เมฆก็เป็นคนนึงที่ห่วงพาย ... และมั่นใจว่ามันเองก็ห่วงผมเหมือนกัน



“กูมั่นใจ”



“พายร้องไห้ตลอดทางเลยตอนที่กูไปส่ง” มันบอกออกมาแบบนั้นแล้วถอนหายใจหนักๆ ก่อนจะเอนตัวพิงลงพนักโซฟาแบบเหนื่อยๆ



“พายน่าสงสาร”



“กูรู้...กูก็สงสารพาย” พูดบอกออกไปแบบนั้น ก่อนจะเปิดปากพูดต่อ



“แต่ความสงสารมันไม่มีประโยชน์ ถ้ากูยังไม่พูดออกไปให้ชัดเจนอยู่แบบนี้ ทั้งพาย ทั้งตัวกูและเอม มันจะไม่มีใครสักคนไปต่อได้ และถ้ายังคาราคาซังอยู่แบบนี้ จะเป็นกูเองที่ต้องเสียใจ”



“มึงไม่ได้เอาน้องเอมมาแทนพายใช่ไหมวะ” ไอ้เมฆถามออกมาอีกพร้อมขมวดคิ้ว



“มึงว่าไอ้เอมมีอะไรเหมือนพายบ้างวะ หน้าตา นิสัย ฐานะ ... มันเอามาแทนกันได้หรอวะ” ผมที่ว่าออกไปแบบนั้นแล้วหัวเราะออกมาหน่อยๆ



“มันไม่มีใครมาแทนใครหรอก มันก็แค่...เป็นใครสักคนที่ลงล็อคพอดี แบบที่ไม่ได้มาแทน ... ไอ้เอมมันเป็นคนนั้นว่ะ คนที่กูรู้สึกอยากอยู่ด้วย ทั้งๆ ที่มันไม่มีอะไรดีสักอย่างถ้าเทียบกับพาย .. อ้อ แต่อาจจะมีข้อนึงที่พายเทียบมันไม่ได้เลย”



“หื้ม?”



“ใจมัน ... ใจไอ้เอมมันบริสุทธิ์กว่าพายเยอะ” ผมพูดออกไปแบบนั้น เป็นคำพูดตรงๆ เป็นครั้งแรกที่ผมพูดถึงพาย และก็คงเป็นครั้งแรกที่ไอ้เมฆต้องเบิกตากว้างมากขนาดนั้น



“กูไม่คิดเลยว่าจะได้ยินคำพูดแบบนี้ออกมาจากปากมึงได้ อเมซิ่งมากๆ ไอ้เชี่ยดาบ”



“มันก็เป็นงี้ไม่ใช่หรอวะ เวลาที่เราไม่รู้สึกแล้ว จะพูดจะทำอะไรมันก็ง่ายไปหมด ... แม้กระทั่งข้อเสียของพาย ในตอนนี้ถ้าอยากจะให้กูแจกแจงเป็นข้อๆ ออกมาก็คงได้อีกเป็นร้อยข้อ แต่มันไม่จำเป็นหรอก แค่ให้เข้าใจไว้ว่าตอนนี้กูไม่รู้สึกกับพายแล้วแค่ข้อเดียวแค่นั้นก็พอ ... กูควรไปต่อตั้งนานแล้วแต่ก็โง่รอไม่เลิก เพราะแบบนั้น...วันนี้กูจะไม่ยอมเสียโอกาสที่กูจะได้ไปต่อกับคนที่พอดีกับใจกูไปอีกแล้ว”



“ได้ยินมึงพูดแบบนี้แล้วกูดีใจว่ะ ในที่สุดมึงก็เลิกยึดติดกับพายสักที แบบนี้ก็คบน้องเอมได้แล้วดิ”



“กูคบกับมันได้ตั้งนานแล้วเถอะ มีแต่แม่งนี่ล่ะที่ไม่ยอมสักที”



“น้องเค้าไม่มั่นใจในตัวหรือเปล่าวะ” ไอ้เมฆที่ว่าแบบนั้นแล้วเลิกคิ้วขึ้นสูง หน้าตาที่กำลังสำรวจผมตั้งแต่หัวจรดเท้า ท่าทางหน้าถีบฉิบหายแบบที่เห็นแล้วอยากยันให้มันหงายท้อง



“กูมีอะไรให้ไม่มั่นใจ กูนี่ทำให้แม่งแทบทุกอย่างแล้ว อีกนิดนึงก็อุ้มมันไว้เอาแบบไม่ให้ตีนมันแตะพื้นแล้วเถอะ รักขนาดไหนมึงนึกภาพดู” บอกออกไปแบบนั้น เริ่มฉุนนิดหน่อยตอนที่นึกถึงเรื่องนี้



“ขนาดนั้นเลยนะ”



“ก็ขนาดนั้นเลยสิวะ อิดอก”



“สัด ยังจะมามีอิดอกเหี้ยไรอีก มึงเอาไอ้ดาบเพื่อนกูคืนมาเลยนะ” ไอ้เมฆที่ว่าออกมาแบบนั้นทำเอาผมกรอกตา แต่ถึงแบบนั้นก็ยังนึกขึ้นได้อีกเรื่องนึง



“อีกอย่าง.....”



“หื้ม?”



“กูรู้สึกเหมือนว่าไอ้เอมมันไม่ได้ชอบที่ตัวตนของกูเลยว่ะ” เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมไม่เคยพูดออกไป แต่ก็แค่สังเกตได้หลายครั้งจากคำพูดของมัน



“หมายถึงอะไรวะ”



“กูรู้สึกว่า เอมมันไม่ได้ชอบที่กูเป็นแบบนี้ มันแค่ต้องการผู้ชายเท่ๆ ไว้อวดใครต่อใครว่ามันมีแฟนเท่อะไรแบบนี้”



“มึงจะบอกว่าน้องมันไม่ได้ชอบร่างตุ๊ดควายของมึง” ไอ้เมฆที่ว่าออกมาแบบนั้น และก็เป็นผมเองที่พยักหน้าตอบมันไปที ไอ้เมฆที่นิ่งชะงักไปตอนที่ผมตอบ ก่อนมันจะหัวเราะลั่นออกมาทันทีในเวลาต่อมา



“ฮ่าๆๆๆๆ ไอ้ฉิบหาย ก็ไม่ใช่แต่น้องเอมไหมวะที่ไม่ชอบ มีใครชอบร่างนี้ของมึงบ้างไอ้สัด ทั้งป๊าม๊า พี่ปืน น้องแจ กู ไอ้จั๊ม มีใครชอบบ้างไอ้สัด ใช้หน้าตาได้เสียของฉิบหาย หล่อเกือบตายแล้วมึงจะมาทำตัวเป็นตุ๊ดแด๊ะแด๋เพื่อไรวะ” ไอ้เมฆที่ว่าออกมารัวๆ แบบนั้นแล้วขำเหมือนจะขาดใจตาย ขนาดร้านแสงน้อยขนาดนั้นยังมองเห้นว่ามันขำจนหน้าแดง



“สัด ร่างดานี่มันยังไงวะ มันก็ออกจะน่ารักนุ่มนิ่มป่ะ สวยๆ อ่ะสัด...จะรักกันทั้งที ก็ควรมองที่ตัวตนของกูไหมวะ ไม่ใช่แค่เปลือกที่เหมือนพระเอกหนังในซีรี่ย์”



“ไอ้ดาบ”



“เหี้ยไร”



“ดานี่มันเป็นตัวตนของมึงจริงๆ หรอวะ ... มึงเองก็เป็นดานี่เพราะพายไม่ชอบผู้ชายไม่ใช่หรือไง ตอนนั้นมึงถึงแกล้งเป็นตุ๊ดเพื่อให้พายชอบ ถ้ามึงพูดแบบนี้ มันก็จะไม่ยุติธรรมกับน้องเอมมากไปหน่อยหรอวะ ... มึงจะชอบแต่งหน้าทาปากจริงๆ หรือตอแหลก็เรื่องของมึงเถอะ แต่ถ้ามึงเองยังยึดติดเรื่องนี้เหมือนกัน ความสัมพันธ์ของมึงที่อยากไปต่อ มันก็อาจจะไปไม่ได้นะเพื่อน ... เปิดใจให้กว้างหน่อยดิวะ ชีวิตคู่อ่ะ มันเอาแต่ใจตัวเองไม่ได้หรอกนะมึง”



ไอ้เมฆที่พูดออกมาแบบนั้น คำพูดของมันเหมือนจะกระแทกใจของผมแบบที่ตัวเองก็ไม่เคยคิดถึงมาก่อน จริงๆ อาจเป็นเพราะผมไม่เคยคิดถึงจุดนี้มาก่อนเลยล่ะมั้ง อาจเป็นเพราะว่าผมเป็นดานี่มานานจนชิน และการเป็นดานี่มันไม่ได้มีผลกระทบต่อชีวิตอะไรกับผมจนผมลืมไปแล้วล่ะมั้งเลยไม่ได้คิดถึงมุมนี้ ... อีกมุมนึงของไอ้เอม



“แต่กูสวยนะคะ” เลือกที่จะแกล้งดัดจริตออกไป เห็นไอ้เมฆตีนกระตุกหน่อยๆ และตาที่กรอกกลับไปกลับมาของมัน แต่ถึงแบบนั้นผมก็ยังพยักหน้าส่งไปให้



“ที่มึงพูดก็ถูก กูจะคุยกับไอ้เอมใหม่”



“เออดีละ ... กูอยากเห็นเพื่อนกูมีความสุขกับความรักสักที”



“เออ...แต่ถึงแบบนั้นตอนนี้กูต้องไปแล้ว” พูดแบบนั้นพร้อมลุกขึ้นยืน



“จะรีบไปไหนของมึงวะ อยู่กินเหล้าเป็นเพื่อนกูก่อนดิ”



“ไม่ล่ะ กูจะไปตามหาเอม”



“หื้ม มึงจะไปตามหาน้องเอมทำไมวะ” มันที่ขมวดคิ้วทำหน้างงส่งมาให้กัน เห็นแบบนั้นแล้วถอนหายใจออกมาอีกทีเลยกู หล่อนะคะอิดอก แต่โง่!



“ก็เพราะว่ามันหายไปน่ะสิวะ กูถึงต้องตามหา”



“น้องเอมหาย?”



“เออ..ไอ้เอมมันหายไปจากห้องกู”



...



“กูถามจริงนะ ทำไมมึงต้องอยากไปร้านนี้ด้วยวะ” เสียงของแขกที่กูไม่ได้เชิญถามออกมาด้วยคำถามเดิมๆ เป็นรอบที่สามล้าน ได้แต่หันหน้ากลับไปมองไอ้คนที่ตอนนี้กำลังนั่งจับจองพื้นที่อยู่บนเตียงของผมแบบหน้าด้านๆ



“พี่มึงจะถามอะไรนักวะ”



“กูไม่ชอบ ไม่อยากไป” มันที่บอกออกมาแบบนั้น หน้าตาที่ปกติก็โหดอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งบึ้งตึงหนักเลย กูขอสาบ่นว่า ถ้ากูเป็นเด็กแล้วเห็นหน้ามันแบบตอนนี้ กูจะแหกปากร้องไห้แล้ววิ่งไปฟ้องแม่ว่ามันจะไถเงินกูจริงๆ ด้วย



“คือไอ้พี่เก้อ มึงเข้าใจผิดอะไรไหม กูจะไปเที่ยว กูไม่ได้ชวนมึงครับ”



“มึงจะไปเที่ยว กูก็อยากไป”



“งั้นพี่มึงก็ไปดิ” บอกแบบนั้นกับมันแล้วหันกลับมาเลือกสร้อยข้อมือใหม่



“ก็มึงจะไปร้าน Daniworld ห่าอะไรนั่น กูไม่อยากไป”



“คือกูไม่ได้บังคับมึงไง มึงอยากไปไหนมึงก็ไปสิวะ” หันกลับไปมองหน้ามันอีกรอบ นี่มันกวนตีนหรือกวนตีนนะเอาดีๆ



“ก็กูจะไปกับมึงไงไอ้สัดเสือ” ตอบออกมาแบบฉุนเฉียว พี่มันที่เอาลิ้นดุนกระพุ้งแก้มแล้วมองกันแบบอารมณ์เสีย แต่ถึงมันจะอารมณ์เสียแบบนั้น แต่ภาพตรงหน้าที่กำลังมองเห็นก็ต้องยอมรับว่า จริงๆ แม่งหล่อฉิบหาย หล่อแบบล่ำๆ เถื่อนๆ



“แล้วมึงจะอยากไปกับกูทำไมวะ ปกติพี่ออกล่า ไข่พี่ก็ไม่ได้ติดกับไข่ผมไหมวะ”



“ใครมันจะอยากเอาไข่ไปติดกับไข่มึงวะไอ้ลูกเสือ แค่คิดก็ขมคอไอ้ฉิบหาย” เบะปากนิดหน่อยแล้วว่าออกมาแบบนั้น ทำหน้ารังเกียจกันจนกูอยากเอาตีนเขี่ยให้มันตกเตียง



“งั้นต่างคนต่างไป” บอกมันออกไปแบบนั้นแล้วหันหน้าหนีแม่ง เหนื่อยที่จะเถียง ตั้งแต่ขึ้นห้องมามันก็เอาแต่บ่นเรื่องทำไมต้องไปร้านนี้ ผมที่ไปอาบน้ำออกมาเป่าผม มันก็ยังพูดแต่แบบนี้ และจนตอนนี้กูแต่งตัวเรียบร้อยพี่มันก็ยังเอาแต่บ่นด้วยเรื่องเดิมๆ แบบไม่เปลี่ยนอยู่แบบนั้น เหมือนคนแก่ฉิบหายเลยครับ เพราะแบบนั้นเลยตัดสินใจว่าจะเลิกสนใจมันสักที ... ได้ยินเสียงมันขยับตัวลงจากเตียง แต่เลือกจะไม่สนใจ หันไปเล็งขวดน้ำหอมต่อ วันนี้คิดว่าจะฉีด Tom Ford Rose Prick ในตอนที่กำลังจะเอื้อมมือไปหยิบก็ต้องชะงัก



“มึงโกรธหรอวะ” เสียงเข้มๆ ที่ดังมาจากด้านหลังในระยะประชิดตัวทำเอาสะดุ้ง มึงมาทำไรข้างหลังกูวะพี่มึง



“โกรธอะไ...” ในตอนนี้ที่หันหลังกลับมาแล้วจะถามมันว่ากูโกรธอะไรวะ แต่สุดท้ายคำพูดก็ถูกกลืนลงท้องไป เพราะในจังหวะที่หันกลับมาแบบไม่ระวังอะไร ปลายจมูกของผมกับอีกฝ่ายที่ชนกันโดยไม่ได้ตั้งใจ ในตอนนี้ก็ต้องเบิกตาขึ้นหน่อยนึง ไม่ได้สะดีดสะดิ้งแบบสาวน้อยทั้งผมและมันที่ก็แค่ชะงักกันไป เราที่มองหน้ากันอยู่แบบนั้น เผลอขยับก้าวถอยหลังออกมาให้ห่างอีกนิด แต่ดันติดโต๊ะที่ผมวางพวกน้ำหอมและหนังสือเรียน



‘หมับ’



ฝ่ามือหนาที่เอื้อมมือมาโอบเอวของผมเอาไว้ ก่อนจะดึงให้ตัวผมขยับเข้าไปหาตัวมัน ไม่ได้ตกใจอะไรก็แค่เขยิบตามไปและมองหน้าอีกฝ่ายเอาไว้ ไม่ต่างกัน ที่มันก็แค่มองมา



“โต๊ะมึงแม่งบอบบาง ชนนิดหน่อยก็จะหักแล้ว” มันที่ว่าแบบนั้น



“อ้อ...นี่คือจุดประสงค์ที่ต้องดึงตัวกูมาแนบกับพุงอ้วนๆ ของพี่มึงหรอวะ”



“ปากหมา ให้เกียรติซิกแพคกูด้วยไอ้สัดเสือ” มันที่ทำหน้าหงิกอีกรอบแล้วว่าแบบนั้น พอเห็นหน้ามันแบบนั้นแล้วอดไม่ได้จริงๆ ที่จะต้องหัวเราะขำออกมา หน้าตาจริงจังที่ทำท่าเหมือนถ้ากูยังไม่ยอมรับมันจะแก้ผ้าออกมาให้ดู



“เออๆ เรื่องของพี่มึงเถอะ อวดเหมือนกูไม่มีอ่ะ”



“หึ เอวบางๆ แบบนี้อ่ะนะ” พูดแบบนั้นพร้อมๆ กับเอาฝ่ามือที่โอบเอวของผมอยู่จับที่ด้านข้างของเอวผมให้ผมรู้ว่าเอวผมมีแค่นี้



“มึงไม่รู้จักหุ่นลีนสินะ”



“เรื่องมึงเหอะ ว่าแต่มึงงอนกูหรอวะ”



“งอนเหี้ยไร!” กูนี่โพล่งคำว่าเหี้ยออกไปเต็มหน้ามันเลย ขนลุกกับคำพูดของแม่ง ดูแต๋วแตกจนกูอยากใส่กระโปรงวิ่ง



“ก็เรื่องที่กูไม่อยากไปไอ้ร้านเหี้ยนั่น” ... อะเรื่องนี้ยังไม่จบหรอวะ ผมถอนให้ใจออกมาแรงๆ ใส่หน้ามันหนึ่งทีเต็มๆ



“เปล่าเว้ย”



“จริงจัง” ถามแบบนั้นแล้วจ้องหน้ากูแบบเค้นถามเอาคำตอบให้ได้ ผมที่แค่พยักหน้าลงไปแรงๆ แบบจริงจังให้มันเชื่ออีกหนึ่งที



“เออ ไม่ได้โกรธ ไร้สาราระสัด จะโกรธเหี้ยไรกับเรื่องแค่นี้วะพี่” ส่ายหน้าหน่ายๆ ตั้งใจจะผลักมันออกห่าง แต่อีกคนที่ก็แค่ยืนท่อเหมือนไม้ไม่ยอมขยับไปไหน มันที่พยักหน้าตามผมหน่อยๆ ก่อนจะยกยิ้มมุมปากออกมาพร้อมหัวเราะออกมาเบาๆ ... อยากจะถามออกมาว่า มึงเป็นอะไรไอ้สัดเก้อ ... แต่กลัวมันต่อยในระยะประชิดเลยเลือกจะเงียบไว้



“มึงแม่งง่ายดีว่ะ”



“สัด พี่มึงหมายความว่าไรวะ อยากกินตีนกูหรอ”



“กูไม่ได้หมายความว่าง่ายแบบพร้อมแหกตูดถ่างขา” บรรยายซะกูอยากจะถุยน้ำลายใส่ลูกตา เหยดแหม่



“แต่กูแค่ว่า อยู่กับมึงแล้วง่ายดี มึงทำอะไรสบายๆ ดี”



“เอ้า เรื่องแค่นี้ไหมวะ ถ้ามึงไม่อยากไปก็แยกกันไป จะมาบังคับฝืนใจอะไรกันกับเรื่องแค่นี้วะ”



“แล้วมึงก็ไม่โกรธ ไม่งอน?”



“โทษนะพี่ จะมาโกรธเหี้ยไรอ่ะ ปัญญาอ่อน ... กูว่ามึงต้องเจอแต่ผู้หญิงงอแงกับเด็กผู้ชายนุ่มนิ่มที่มึงใช้เงินซื้อมาแดกอ่ะดิ ดูทรงแล้วพี่มึงนี่จะตามใจเก่งเหลือเกิน”



“ก็ไม่ได้ยากไหมวะ ปกติก็แค่พาไปซื้อของ อยากได้ไรก็แค่ซื้อให้ งอนหน่อยก็หาซื้อของปลอบใจก็จบ” มันที่ยักไหล่พูดออกมาแบบนั้น แต่แค่ฟังก็เข้าใจได้ เพราะกูเองก็ไม่ต่าง... แต่อาจจะต่างนิดหน่อยตรงกูไม่มีปัญญาเปย์มากมายแบบพี่มันในตอนนี้ .... แต่ถ้าเป็นผมในอดีต ก็อาจจะใช่



“ผู้ชายนิสัยรวยอ่ะเนอะมึงเนี่ย”



“ชอบไหมล่ะ กูรวยนะ”



“แหม่ พูดขนาดนี้กูนี่อยากพุ่งขึ้นเตียงแล้วแหกขาพร้อมครางว่า มาค่ะพี่เก้อ มาเอาน้องเสือเลยมา”



“สัดเอ้ย! มึงแม่งจริงเลยไอ้สัดเสือ”



“ฮ่าๆๆ แล้วไง เก็ทนะกูไม่ได้โกรธไม่ได้งอนเหี้ยไรทั้งนั้นล่ะ ทีนี้ปล่อยกูได้ยัง” ถามมันออกไปแบบนั้นพร้อมปรายตาไปมองมือมันที่ยังไม่ปล่อยจากเอวกัน



“ก็ไม่ได้อยากจับอะไรขนาดนั้นไหมวะ”



“คือกูจะฉีดน้ำหอมไงพี่มึง คือมึงเกะกะกูมากสัดพี่เก้อ”



“อ้อ...กลิ่นนี้อ่ะนะ” ไม่ได้สนใจคำด่าของกัน มันที่แค่เอนตัวเข้ามาใกล้ พร้อมๆ กับเอื้อมมือไปทางด้านหลังของผม ใบหน้าคมของมันที่เฉียดผ่านข้างแก้มของผมไป บ่าใหญ่ที่อยู่ตรงจมูกของผม กลิ่นเปเปอร์มิ้นท์ที่ค่อนข้างเด้นกระแทกเข้าจมูก เป็นความรู้สึกเย็นๆ แต่น่าค้นหา จำได้ว่าเป็นน้ำหอมกลิ่น Bleu de Chanel ผมไม่ค่อยได้ใช้กลิ่นนี้ แต่ก็คิดว่าเป็นกลิ่นที่ค่อนข้างเหมาะกับพี่มันจริงๆ



‘ฟืด ฟืด’



ละอองน้ำหอมกลิ่นกุหลาบที่ฉีดลงที่ซอกคอของผมทำเอาผมสะดุ้ง และในตอนนั้นคนตรงหน้าที่ก็ผละหน้าออกมามองกัน ก่อนจะค่อยๆ ยื่นหน้ากลับเข้ามาใกล้กับซอกคอของผมอีกครั้ง เป็นความรู้สึกแปลกๆ ที่ต้องเผลอกลั้นหายใจตอนที่ลมหายใจอุ่นๆ รดอยู่ใกล้ๆ ซอกคอ และก็เผลอกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคออย่างยากลำบากอีกครั้งในตอนที่พี่มันผละหน้าออกไป



“หอมดี ของทอมฟอร์ตหรอวะ”



“อ..เออ”



“กลิ่นกุหลาบ ... เหมาะกับมึงดี ไม่หวานไป ดูยั่วๆ ดี”



“สัด กูไปยั่วตรงไหนวะ” ว่าแบบนั้นออกมาแล้วผลักอกแม่งหนี และตอนนี้อีกฝ่ายก็ยอมถอยออกไปแบบง่ายๆ มันที่หัวเราะออกมาแบบไม่เบาแล้วพูดต่อ



“ยั่วตีนกูนี่ไง เห็นหน้าทีไรอยากเอาตีนลูบหน้ามึง”



“ความคิดตรงกับกูเลย เห็นหน้าพี่มึง ตีนกูก็กระตุกทุกที” ตอบออกไปแบบนั้นแล้วยักคิ้วให้แม่งหนึ่งที ก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าขวดน้ำหอมนั่นมาฉีดเอง



“ฮ่าๆ มึงแม่งเด็กกวนตีนฉิบหาย” มันที่หัวเราะอารมณ์ดีแล้วหันหลังกลับไปกระโดดขึ้นไปนอนรอบนเตีบงกูหน้าตาเฉย ... มึงแม่งก็กวนตีนกูเหมือนกันล่ะสัดไอ้พี่เก้อ



.

.

.

(มีต่อจ้า)


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-03-2020 11:22:50 โดย Yoghurt »

ออฟไลน์ Yoghurt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
    • แฟนเพจ
“เชี่ย เพลงแม่งมันส์จริงว่ะพี่” ไอ้เสือที่พูดออกมาแบบนั้น ตัวมันที่เต้นเย้วๆ อยู่ข้างๆ กันแบบลืมตาย ไม่รู้ว่าการเรียนทำให้มันเครียดจนต้องเต้นปลดปล่อยขนาดนี้หรือจริงๆ แล้วมันเป็นสันดานชอบเที่ยวของมันก็ไม่รู้ เห็นมันแล้วได้แต่ส่ายหน้า ยกแก้วขึ้นมากระดกอีกหนึ่งที ... ร้านนี้เป็นครั้งที่สองแล้วที่ผมมา ครั้งแรกมาเพราะเอมมันทำงาน ตอนนั้นก็แค่อยากมาดูมันให้เห็นกับตาว่ามันจะปลอดภัยดี แต่เหมือนว่าตั้งแต่มันมาทำงานที่นี่ มันกับผมจะห่างกันออกไปทุกทีมากกว่าที่ผมเคยคิดไว้



“เอิ้วๆ ๆ”



“เบาหน่อยไอ้เสือ พรุ่งนี้มึงมีเรียน”



“เรียนบ่ายน่าพี่เก้อ มึงอย่าบ่นน่า” มันที่ว่าแบบนั้นแล้วเอื้อมมือมากอดคอผมไว้แล้วโยกหัวไปมามันส์กับเพลงจนกูคิดว่าเพลงที่เปิดอยู่นี่มันเป็นเพลงแนวEDMนะ แต่ท่าเต้นไอ้เสือแม่งคล้ายๆ กับเพลงปลุกใจของคาราบาว ดูเหมือนว่าตอนนี้มันจะเมาหน่อยๆ แล้วล่ะ มาถึงก็ซัดเอาๆ ไม่รู้ว่าแม่งเซี่ยนเหล้ามาจากไหน



“ยืนดีๆ ไอ้สัด” ว่าออกไปแบบนั้นแล้วยกแขนไปโอบเอวมันเอาไว้ วันนี้ร้านนี้คนเยอะมากๆ พวกเราเลยไม่ได้นั่งที่โซฟา แต่ได้โต๊ะทรงสูงกับเก้าอี้ตัวยาวแทน แต่ตั้งแต่มาก็แทบจะไม่ได้นั่งเก้าอี้ เพราะไอ้ลูกเสือนี่แม่งเล่นลากกูเต้นไม่หยุด หึ เด็กฉิบหาย



“ไม่เซๆ บอกว่าไม่เซเชื่อกันหน่อย”



“เออๆ ไม่เซหรอกไอ้สัด มึงจะเซได้ไง ก็กูโอบมึงไว้อยู่เนี่ยไอ้โง่”



“เอ๊ะเก้อ....เป็นพี่ไง พี่ป่ะ ดูแลน้องดิ” เงยหน้าขึ้นมาปรือตานิดๆ ยกนิ้วชี้เรียวยาวของมันขึ้นมาจิ้มจมูกผมพร้อมว่าแบบนั้น ถ้ากูซัดมันสักหมัดมันจะเลิกมึนไหมวะ



“น้องเหี้ยแบบนี้ต้องแดกดี”



“พี่รหัสสุดประเสริฐอ่ะเนอะ” มันที่พูดออกมาแบบนั้นแล้วพยักหน้างึมงำกับตัวเอง เห็นแบบนั้นแล้วมันอดไม่ได้ที่จะต้องยกมือขึ้นไปตบหัวมันแรงๆ ทีนึง ไอ้เสือที่เซไปข้างหน้าสองก้าวเพราะถูกตบ



“อี่เก้อ เจ็บนะโว้ย”



“เหมือนจะได้สติขึ้นมานิดหน่อยนะมึงอ่ะ”



“เออ ไม่เมาหรอกน่า พี่เก้อๆๆ”



“อะไรของมึง” เลิกคิ้วขึ้นตอนที่มันเรียกชื่อกันแบบมีลับลมคมใน หน้าเรียวได้รูปของมันที่เคลื่อนเข้ามาใกล้แบบไม่ได้บอกไม่ได้กล่าวทำเอาผมตกใจถอยหนี แต่สุดท้ายไอ้ลูกเสือนี่ก็ทำแค่เอียงหน้าเข้ามากระซิบ แต่ถึงแบบนั้น กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ของมันที่ตัวมันฉีดก็ยังลอยเข้าจมูก หอมจนผมสงสัยว่าผ่านมานานขนาดนี้ทำไมกลิ่นมันยังอยู่ อยากจะรู้ว่ากับเนื้อคน กลิ่นมันยังจะติดทนเหมือนเสื้อผ้าไหมวะ



“สาวโต๊ะนู้นจ้องพี่มึงเหมือนอยากแดกเข้าไปเลยว่ะ”



“หรอวะ”



“เออสิ”



“สาวโต๊ะนู้นก็จ้องมึงไม่เลิกเหมือนกัน” กระซิบตอบมันไปแบบนั้น เพราะจริงๆ ก็เห็นมานานแล้วเหมือนกัน



“หึ รู้แล้วน่า”



“จะไปต่อไหม ถ้าไปต่อก็แยกกันตรงนี้” บอกมันออกไปแบบนั้น แล้วหันหลังกลับไปมองสาวที่ไอ้เก้อว่า พอหันไปเธอเองก็ทำแค่ยิ้มหวานส่งมาให้กัน ก่อนจะยกแก้วคอกเทลขึ้นให้ เห็นแบบนั้นก็แค่ยกยิ้มมุมปากตอบเธอไปแล้วก้มหัวให้นิดหน่อยก่อนจะหันกลับมา และตรงหน้าก็คือหน้าของไอ้เสือที่กำลังมองหน้ากันอยู่ตาไม่กระพริบ



“จ้องเหี้ยไรของมึง”



“แพรวพราวฉิบหาย” มันที่บอกแบบนั้นแล้วเขยิบตัวหนีหันหน้าไปที่เวทีที่ตอนนี้ดีเจกำลังสแครชแผ่นเปลี่ยนเป็นจังหวะใหม่



“หึ มึงมันยังเด็กไอ้หนู”



“หนูพ่อง” ได้ยินที่มันด่า แต่เลือกที่จะไม่สนใจเถียงกับแม่งแทน สักพักก็เป็นมันที่หันมาอีกครั้ง ได้แต่เลิกคิ้วถามมันออกไปแบบไม่ออกเสียง ก็แค่ใช้หน้าตาท่าทางสื่อสารไปแทน



“ปวดฉี่ ไปฉี่นะ” มันที่บอกแบบนั้นแล้วตั้งท่าผละออกไปเลย เป็นผมที่เอื้อมมือไปจับแขนมันไว้ก่อน



“กูไปด้วย”



“คือเก้อ Kเราไม่ได้ติดกันไง”



“สัด กูก็ปวดเป็นไหมวะ เดี๋ยวออกไปแล้วค่อยแยกกัน”



“แน๊ จะไปหาสาวโต๊ะนั้นอ่ะดิ กูรู้ทันหรอก”



“หึ” ไม่ปฏิเสธมันออกไป ผมกับมันเราเคยไปเที่ยวด้วยกันหลายครั้งแล้ว โดยเฉพาะพักหลังๆ ตั้งแต่ที่มันยอมรับผมเป็นพี่รหัส ผมกับมันไม่ได้แตกต่างกันมาก นิสัย ไลฟ์สไตล์ หรือแม้แต่สันดาน ... แต่ถึงแบบนั้น ดูท่าบางอย่างไอ้เสือจะหนักกว่าผมไปอีก เรื่องดีลผู้หญิง บางทีเมียใครก็ไปเอามั่ว ล่าสุดมันมาเล่าว่าต้องหนีตีนออกจากห้องผู้หญิงทางหน้าต่างเพราะผัวเค้ากลับมาเคาะตอนตี4 โคตรจะเหี้ย



“ไปเหอะพี่มึง ฉี่จะแตกละ” มันที่เร่งแบบนั้นเลยได้แต่พยักหน้า มันที่เดินนำผมออกไปก่อน เห็นแผ่นหลังโปร่งๆ ของมันที่เดินนำลิ่วๆ ไปไกล ท่าทางจะปวดหนักจริง



“พี่แถวยาวฉิบหาย ขึ้นไปชั้นสองดีกว่าว่ะ” มันที่หันกลับมาบอกแบบนั้น วันนี้ร้านคนแน่นจริง แต่ชั้นสองเป็นโซนนั่ง คิดว่าคนคงไม่เยอะเท่าชั้นล่าง เลยพยักหน้าตอบรับแล้วเดินตามมันขึ้นไป และไอ้เสือก็ไม่รอกูอีกเช่นเคย มันที่สับขาวิ่งเร็วจี๋เหมือนลูกหนูท่อหนีตีนแม่ค้าในตลาดพุ่งเข้าห้องน้ำชั้นสองไปอย่างไว เห็นแบบนั้นแล้วได้แต่ขำเบาๆ จริงๆ ไม่ได้ปวดฉี่อะไร ก็แค่อยากออกมาจากตรงนั้นเลยตามมันมาเฉยๆ เพราะแบบนั้นผมเลยยืนพิงราวระเบียงของชั้นสองรอมันแถวๆ บันไดแทน หันหน้าไปมองรอบๆ ชั้นนี้เป็นโซนโซฟาเลยไม่แออัดเท่าไหร่ ก็ต้องยอมรับว่าร้านแม่งดูดีมีระดับจริงๆ



และในตอนนั้นเสียงเข้มๆ ที่ผมค่อนข้างจะคุ้นก็ดังเข้ามากระทบหู



“น้องเอมหาย?”



“เออ..ไอ้เอมมันหายไปจากห้องกู”



ได้ยินแบบนั้นแล้วต้องขมวดคิ้ว และพอหันหน้าไปมองก็เห็นแผ่นหลังกว้างของใครบางคนที่ลุกขึ้นมาจากโซฟาในตอนนี้ แค่มองจากตรงนี้ก็รู้เลยว่ามันเป็นใคร



“มึงพูดแบบนี้มึงหมายความว่าไงวะ!” เป็นผมที่พูดออกไปแบบนั้นแล้วก้าวยาวๆ เข้าไปหามัน ไอ้ตุ๊ดปลอม! ไอ้สัดตุ๊ดปลอมที่เป็นเจ้านายไอ้เอม เจ้านายตุ๊ดที่หวังจะเคลมลูกน้อง



“มึงหมายความว่าไงที่บอกไอ้เอมหาย” ผมที่เดินเข้าไปหามันพร้อมผลักอกแม่งสักที



“ไอ้สัดล่ำ!” มันที่เซถอยหลังไปสองก้าวเพราะไม่ทันตั้งตัวยกมือชี้หน้าผมไว้แบบนั้น สายตาของมันที่จ้องตรงมาที่ผมแบบโมโห



“เอมหายไปไหน มึงหมายความว่ายังไงไอ้ตุ๊ดปลอม”



“แล้วมึงมาเสือกอะไรด้วยไอ้สัดล่ำ” มันที่ว่าแบบนั้นแล้วตรงเข้ามาผลักผมเหมือนกันแบบไม่ไว้หน้า



“เฮ้ยๆ ไอ้ดาบใจเย็นมึง ลูกค้ามึงตกใจหมดแล้ว” ผู้ชายอีกคนที่นั่งอยู่ตรงนี้ด้วยพูดขึ้นมาแบบนั้น หน้าตาดีแบบเกาหลีสัดๆ แต่ถึงงั้นกูก็คิดว่าไม่เทียบขี้ตีนกู เพราะแบบนั้นผมเลยละสายตาออกมาจากไอ้หน้าขาวนั่นกลับมาที่ไอ้ตุ๊ดปลอม



“มึงบอกว่าเอมหาย มึงทำมันหายได้ยังไง เกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนกู!” ผมตะคอกมันออกไปแบบนั้นด้วยเสียงที่ไม่เบา ไม่สนใจด้วยว่าลูกค้าคนอื่นจะตกใจหรือมองเรามากแค่ไหนก็ช่าง ยังไงชื่อเสียงร้านมันก็ไม่ได้เกี่ยวกับผมอยู่แล้ว ดีซะอีกถ้าร้านแม่งเจ๊ง มันจะได้ไม่มีเงินจ้างเอมให้ทำงานกับมันอีก



“กูถามว่ามึงทำอะไรเพื่อนกู” รู้สึกแปลกใจกับสายตาและท่าทางเก้กังๆ ของไอ้ตุ๊ดปลอมตรงหน้า ท่าทางที่ทำให้ผมยิ่งเป็นกังวลว่ามันต้องเกิดอะไรขึ้นกับไอ้เอมแน่ๆ แบบนั้นเลยตรงเข้าไปกระชากข้อเสื้อแม่งไว้ ยกมือกำหมัดชูขึ้นในตอนนี้



“พูดมา! มึงทำไรเพื่อนกู”



“กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เพื่อน แบบมึงแม่งก็ไม่เคยมีสติสักครั้งเลยนะ ... กูบอกมึงแล้วไง เพราะแบบนี้ มึงถึงไม่เคยเป็นอะไรกับไอ้เอมได้น้องจากเพื่อนมัน” มันที่จ้องหน้าผมนิ่งๆ สายตาคมๆ ของมันที่จ้องตรงมาแบบท้าทางพร้อมๆ กับมุมปากของมันที่ขยับยกขึ้นมาแบบกวนตีนกัน



“ไอ้สัด!”



‘ผลั้ว’



“มึงต่อยกูหรอไอ้อ่อน!”



‘ผลั้ว’



มันที่ว่าแบบนั้นแล้วส่งหมัดสวนกลับมาทันทีในตอนนั้น ทั้งผมและมันที่ก็สวนหมัดใส่กันแบบไม่มีใครยอมใครแล้วในตอนนี้ ตุ๊ดบ้านแม่มันต่อยแรงขนาดนี้หรอไอ้ฉิบหาย



“เห้ยๆ แยกๆ พวกมึงแยก” ได้ยินเป็นเสียงของเพื่อนไอ้ตุ๊ดปลอมนี่ตะโกนออกมา พร้อมๆ กับที่พยายามจะแยกพวกผมออกจากกัน



“เห้ย! สัดพี่เก้อ มึงทำเหี้ยอะไรเนี่ย พอๆ ไอ้สัด” และอีกเสียงที่ตามมา เป็นเสียงที่ผมจำได้ดี เสียงของไอ้เสือ ปลายเสียงที่ดูจะกระหืดกระหอบวิ่งมา คิดว่ามันคงพึ่งออกจากห้องน้ำและเห็นพอดี ... ทั้งผมและไอ้ตุ๊ดปลอมนั่นถูกการ์ดของร้านมันจับแยกออกจากกัน แต่ที่ตัวของผมมีคนจับไว้มากกว่าหนึ่ง ทีของไอ้ตุ๊ดปลอมล่ะมีแค่เพื่อนมันแม่งคนเดียว



“ปล่อย!” เป็นผมที่ตะคอกออกมาแบบนั้น แล้วสะบัดแขนออกจากการจับกุมของการ์ดร้านมัน แต่มีแค่ไอ้เสือที่ยังไม่ยอมปล่อยแขนของผมไปไหน เหมือนมันจะกลัวว่าผมจะพุ่งเข้าไปต่อยไอ้สัดตุ๊ดปลอมนั่นอีก ผมที่ยกมือขึ้นชี้หน้าของไอ้ดานี่ห่าไรนั่นแล้วพูดต่อ



“คนแบบมึง ถ้าทำไอ้เอมมีความสุขไม่ได้ก็อย่าสะเออะเข้ามาวุ่นวายกับชีวิตมัน ... กับไอ้เอม กูดูแลมันเองได้ กูดูแลของกูมาตั้งนาน น้ำหน้าแบบมึง อย่ามาเสือก”



พูดออกไปแบบนั้นแล้วหมุนตัวเดินลงไปจากร้านของมัน ตลอดทางคนมองมาที่ผมไม่ละสายตา แต่เรื่องสิ กูไม่สนใจแม่งหรอก ตอนนี้มีแค่อย่างเดียวที่ผมสนใจ ... ไอ้เอม มึงหายไปอยู่ไหนวะ



“พี่เก้อ สัด! รอกูด้วย มึงจะไปไหนวะ” เป็นไอ้เสือที่วิ่งตามหลังมา หันไปมองก็เห็นเหงื่อมันซึมออกมาจากหน้าแบบไม่หยุด ท่าทางมันจะเหนื่อยจริงๆ



“กูจะกลับแล้ว กูว่าไอ้เอมแม่งต้องไปรอกูที่คอนโด” บอกมันแบบนั้นแล้วปลดล็อครถทันที



“เดี๋ยวๆ แล้วพี่มึงจะไปทั้งแบบนี้เลย”



“ก็เออสิวะ ไอ้เอมมันอาจจะรอกูนานแล้ว มันต้องร้อนต้องเหนื่อยรอกูอยู่ที่ล็อบบี้ กูต้องรีบแล้ว”



“แล้วกูล่ะ” ไอ้เสือที่ว่าออกมาแบบนั้น ผมที่ชะงักก่อนจะหันหน้ากลับไปมองมันอีกครั้ง มันที่ยืนอยู่ด้านหน้ารถของผมในตอนนี้



“คืนนี้มึงไม่ได้จะไปกับสาวโต๊ะนั้นหรอวะ” ถามมันออกไปแบบนั้น ไอ้เสือที่ชะงักไป สุดท้ายมันก็ส่ายหน้าออกมาหน่อยๆ



“พี่มึงใจร้อนแบบนี้กูปล่อยมึงขับรถไปคนเดียวไม่ได้หรอก มา...เดี๋ยวกูนั่งไปด้วย”



“ไม่เป็นไรมึง ไม่ต้องห่วงกู มึงดีลไว้แล้วมึงไปเถอะ” บอกมันออกไปแบบนั้น ไม่อยากให้เรื่องของผมทำให้มันต้องเสียอารมณ์ เข้าใจอารมณ์ของผู้ชายดี ถ้ามันอยากก็ต้องไปปล่อย เพราะฉะนั้น เรื่องของผมผมจัดการเองได้



“มึงเองก็ไม่ต้องเสือกกู มา กูไปด้วย ถึงคอนโดมึงแล้วกูหาทางกลับเองได้” มันที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้ววิ่งมาขึ้นรถผม มองตามมันที่เข้าไปนั่งอยู่หน้ารถคาดเบลท์เรียบร้อยแล้วก็พูดอะไรไม่ได้ สุดท้ายก็แค่เข้าไปนั่งแล้วขับรถออกไปทั้งแบบนั้น



“เรื่องของมึงแล้วกันงั้นอ่ะ ... แต่ถ้าเจอไอ้เอมแล้วกูคงไปส่งมึงไม่ได้นะ” บอกมันออกไปแบบนั้น เห็นไอ้เสือที่มองมานิดหน่อย มันที่ยกเท้าขึ้นมาชันอยู่บนเบาะรถกูแบบสบายใจ มึงรู้ไหมว่ารถคันนี้ราคากี่บาท นั่งเป็นซาเล้งเลยไอ้สัด



“ขับไปเถอะมึงพี่เก้อ รีบมากไม่ใช่ไง พูดเหี้ยไรนักหนาวะ”



“สัด”



...



“มึงเจ็บไหมวะไอ้ดาบ เหี้ย ปากแตกเลย” ไอ้เมฆที่ว่าออกมาแบบนั้น มันที่หยิบทิชชูมาซับให้ผมที่มุมปาก แต่ถึงแบบนั้นผมก็เลือกที่จะไม่สนใจ แต่ตอนนี้ในหัวของผมมันกำลังประมวณแบบไม่หยุด ผมที่สะบัดตัวออกจากไอ้เมฆแล้วหันหน้าไปหาลูกค้า ไม่มีอารมณ์ที่จะปั้นหน้าสวยๆ แบบที่เคยทำเลยได้แต่เอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มนิดๆ แล้วมองไปรอบๆ



“ขอโทษด้วยนะครับที่เกิดเรื่อง แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้ว หวังว่าลูกค้าทุกคนจะไม่ตกใจมากนะครับ เพื่อเป็นการปลอบใจจากร้านเรา วันนี้ผมขอเลี้ยงคอกเทลฟรีคุณลูกค้าท่านละหนึ่งแก้ว ต้องการรสชาติไหนสั่งได้ตามสบายเลยครับ” บอกออกไปแบบนั้นด้วยสีหน้านิ่งๆ ได้เห็นสีหน้าอึ้งๆ จากลูกค้าประจำที่มองมาที่ผมแบบแปลกใจ



“แต่ละคนมองมึงเหมือนเห็นผัวหมดแล้วไอ้สัดดาบ” ไอ้เมฆที่กระซิบแบบนั้น แต่ช่างแม่ง



“ก็กูสวยๆ ...แต่เป็นผัวไง งงเหี้ยไรวะ”



“งงมึงนี่แหล่ะ ... เดี๋ยวๆ แล้วมึงจะไปไหน ไม่ทำแผลก่อนล่ะวะ” ไอ้เมฆที่วิ่งตามมา แต่ผมเลือกที่จะสะบัดมือไล่มัน



“กูจะไปเอาเอมกลับบ้าน” บอกออกไปแบบนั้นแล้วมองเห็นพี่จิตที่กำลังสับขาวิ่งขึ้นมาบนชั้นสองหน้าตาตื่น



“พี่จิต เคลียร์ลูกค้าให้ด้วยนะ ผมจะออกไปข้างนอก เสริฟคอกเทลฟรีให้ลูกค้าคนละแก้ว ถือเป็นของปลอบใจจากทางร้าน” สั่งรวดเดียวจบแล้วเดินออกไปทั้งแบบนั้น ...



ไอ้ล่ำมันอยู่ที่ร้าน และคนที่มากับมันผมก็ไม่เคยเห็นหน้า แต่ถ้าเป็นแบบนี้แสดงว่าเอมมันจะต้องไม่ได้ไปหาไอ้ล่ำแน่ๆ ได้แต่เคาะมือไปกับพวงมาลัยรถ โชคดีที่วันนี้เอารถเก๋งมาขับ ... ไอ้เอมมันไม่ได้มีเพื่อนมาก และมันก็ไม่มีบ้านญาติพี่น้องให้กลับอีกแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่มันจะกลับไปบ้านญาติมัน แต่เพื่อนของมันอีกคนที่ไอ้เอมเหลืออยู่และพึ่งพาได้ก็คือ...



“น้องหยี” บอกกับตัวเองแบบนั้นพร้อมๆ กับยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะเปลี่ยนเกียร์ว่างเป็นเข้าเกียร์ตัวDแล้วเหยียบคันเร่งออกไปทั้งแบบนั้น ใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงรถของผมก็เลี้ยวเข้าหมู่บ้านแล้วตรงมาจอดอยู่ที่หน้าบ้านหลังนึง บริเวณบ้านขนาดใหญ่ที่ภายในรั้วบ้านประกอบไปด้วยบ้านหลายหลัง เมื่อหลายปีก่อนเคยมาที่นี่อยู่บ่อยๆ เป็นบ้านคนจีน เป็นครอบครัวใหญ่ที่สร้างบ้านอยู่ในที่ดินบริเวณเดียวกัน ... ผมที่ลงจากรถแล้วเดินไปกดออดไปอุกอาจ เป็นการเสียมารยาท แต่กูต้องการมาแบบเอิกเริกแบบนี้แหล่ะ



‘ติ่งต่องๆๆๆๆ’



“คุณครับ มาหาใครครับ” เสียงของลุงคนงานที่วิ่งหน้าตาตื่นออกมาในตอนนี้ สายตาที่มองมาที่ผมเหมือนอยากด่าอยู่ในที แต่ผมเลือกที่จะไม่สนใจ มองเห็นไฟจากบ้านหลังใหญ่เปิดขึ้นมาในตอนนั้น ดี...ตื่นมันทั้งบ้านได้ก็ดี



“มาหาน้องหยีครับ”



“มาหาคุณหยีหรอครับ”



“ใช่ครับ เรียกให้หน่อยนะครับ ผมมีธุระสำคัญ บอกน้องว่า พี่ดาบมาหา” ผมบอกลุงแกไปแบบนั้น อีกฝ่ายที่มองตรงมาแล้วพยักหน้าให้ก่อนจะรีบวิ่งกลับไป คิดว่าคงไปเรียกน้องหยีมาแน่ๆ ... และอีกไม่กี่นาทีต่อมา ก็ปรากฏร่างของสาวสวยที่เห็นแค่เงาก็รู้ว่าสวย



“พี่ดานี่” มันที่เบิกตากว้างออกมาแบบตกใจในตอนที่เห็นผมยืนเกาะรั้วบ้านมันแบบนี้



“ไอ้เอมอยู่นี่ใช่ไหมหยี”



“เอ่อ...พี่” มันที่อึกๆ อักๆ เหมือนไม่ได้เตรียมตัวมาว่าจะต้องมาตอบคำถามบุกรุกของผมแบบนี้ เพราะแบบนั้นเลยรีบถามต่อออกไปแบบไม่ให้อีกฝ่ายได้ตั้งตัว



“เอมมันอยู่นี่ใช่ไหม บอกพี่มาเถอะ”



“เอ่อพี่ เปล่า...เอม ไม่ได้...”



“ถ้าน้องหยีไม่บอก พี่จะปีนบ้านหนูเดี๋ยวนี้เลย!” บอกออกไปแบบนั้นแล้วเริ่มต้นปีนรั้วแม่งทั้งแบบนั้น รอดูได้เลยว่าคนแบบไอ้เอมจะทนได้ก็ลองดู



“เห้ยๆ พี่ดาบ ลงมาพี่ๆ” น้องหยีที่ตะโกนออกมาแบบนั้นเสียงดัง เห็นแบบนั้นแล้วได้แต่แอบอมยิ้มออกมาเลย



“เอม!!! ออกมา ออกมาพูดกับกูให้รู้เรื่อง กูชอบมึงคนเดียวจริงๆ นะไอ้เอมมมมม” แหกปากเกาะรั้วแล้วเขย่าแรงๆ อยู่แบบนั้น มองเห็นไอ้น้องหยีที่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อยู่ในตอนนี้ ผมรู้ดีว่าบ้านน้องเป็นคนจีน จะมีผู้ชายมาแหกปากโวยวายแบบนี้บ้านทั้งบ้านคงจะต้องตกใจแน่นอน และในอีกไม่กี่วินาทีต่อมา ผมก็เห็นร่างบางๆ ที่อยู่ในชุดนอนหลวมๆ แขนเสื้อยาวจนเลยมือของมันวิ่งเร็วๆ ออกมาจากบ้าน



“อิเจ๊พี่มึง! ทำอะไรวะ” เป็นไอ้เอมที่มองตาจ้องตรงมาเขม็งแบบโกรธๆ ท่าทางที่อยากปีนขึ้นมาตบกัน แต่ก็อยากจะวิ่งหนีกลับไปไม่ยอมมาเจอหน้ากัน แต่ก็กลัวว่าผมจะพังรั้วบ้านคนอื่น ... เพราะรู้นิสัยขี้เกรงใจของมัน ผมถึงทำแบบนี้



“มึงหนีออกจากบ้านมาทำไมวะหนู”



“ผมจะไปไหนมาไหนก็เรื่องของผมสิวะ แล้วเจ๊มาทำไม ทำไมไม่ไปอยู่กับพาพวยของเจ๊วะ”



“ของกูเหี้ยไร มึงสิของกู!”



--------------To be continued--------------



มาแล้วจ้าาาาาา แคทมาแล้ววว ตอนนี้เนื้อหาหนักๆ เลยนะคะ น้องเอมอาจจะมาน้อยหน่อย แต่เพราะตั้งใจปูเรื่องทั้งหมดให้ทุกคนเข้าใจ

ขอโทษที่เมื่อวานติดปัญหาหลายอย่างเลยไม่ได้มา แต่วันนี้มาแล้วนะคะ มาแบบจุกๆ พาพี่ดาบน้องเอม พี่เก้อน้องเสือดุมาแล้วน้า

ไหนมีใครรออยู่ไหมคะ เห็นอะไรแปลกๆ กันบ้างไหม มาเม้นท์กันน้าาา

ฝาก #สวยๆ เป็นผัว ในทวิตเตอร์ด้วยนะคะ[/center]



ขอขอบคุณคนอ่านจากทางเล้าเป็ดที่มาคอมเม้นท์ให้กัน และอวยพรวันเกิดให้แคทด้วยนะคะ



:pig4: :pig4: :pig4: รอด่าอีเจ๊ทีเดียว
  ใจเย็นนน อย่าด่านางเอกของเรื่องเรานะคะ 55555


ถ้าอิเจ้หาน้องเอมไม่เจอ จะโดนแม่ยกน้องเอมรุมยำแน่.  :m16:

สุขสันต์วันเกิดคุณแคตย้อนหลังนะจ๊ะ. ขอให้ไม้เจ็บ ไม่จน ปลอดโควิด-19 นะจ๊ะ.  :L2:
  เจ๊มาแล้วนะ เจ๊มาหาน้องแล้ววว เจ๊ไม่ได้โง่นะคะ เจ๊มีเหตุผลลลลล
ขอบคุณสำหรับคำแวยพรวันเกิดดีๆที่ให้แคทด้วยนะคะ


อิพาพวย มึงแม่งเป็นคนที่โคตรเห็นแก่ตัว น่าตบมากค่ะ!  :z6:
ฉันไม่แปลกใจการกระทำพี่ดาบเท่าไหร่นะ เพราะอ่านมาตั้งแต่เรื่องเฮียรบ ตอนที่พี่จีบน้องกุ๊กพี่ดาบแกก็เต็มที่มาก เป็นคนที่ดูเต็มที่กับความรัก แต่รักของพี่ดาบแต่ละครั้งแม่งพังเละเทะทุกรอบเลยว่ะ และยิ่งกับอิพาพวยนี่หนักเลย คนอะไรโคตรเห็นแก่ตัว ตอนจะไปบอกถ้าเจอคนที่นางคิดว่าใช่นางก็จะเลือกเค้าเลย แต่ก็หวังว่าปลายทางจะเป็นอิเจ๊ ไม่รักนะแต่กั๊กตั้งแต่จะไป จนกลับมาก็ยังกั๊กอยู่ อินี่!! น่าตบมากค่ะ ฉันทีมพระเอกจ้า!
ส่วนน้องเอม สงสารน้องอ่ะ น้องเป็นคนฟังเหตุฟังผลนะ แต่ที่อ่านมาเหมือนน้องจะน้อยใจเก่ง ไปหมดแล้วใจลูกฉันนนนน :katai1:
Happy Birthdayย้อนหลังด้วยนะคะคุณแคท :mew1:
ขอบคุณคอมเม้นท์ยาวๆที่มอบให้กันนะคะ แคทดีใจที่เห้นคนอ่านสนุกและอินไปด้วยกันนะคะ
ขอบคุณที่ตามอ่านกันมาตั้งแต่เรื่องหลงร้ายเลย ยังไงแคทฝากพี่ดาบน้องเอมเรื่องนี้ด้วยนะคะ และ
ขอบคุณสำหรับคำแวยพรวันเกิดดีๆที่ให้แคทนะคะ :mew1:


รอๆ
   แคทมาแล้วนะคะ พาเจ๊กับน้องมาแล้วนะคะ


HBD. ย้อนหลังนะ
รักษาสุขภาพด้วยนะช่วงนี้

ไงละพาพวย บอกเองนิว่ารอไมได้ก็ไม่ต้องรอ
  ขอบคุณสำหรับคำแวยพรวันเกิดดีๆที่ให้แคทนะคะ ส่วนพาพวยน้านนนน อยากหาน้ำมนต์ไล่55555


HBD ย้อนหลังนะจ้ะ มีความสุขมากๆ เป็นกำลังใจให้ในทุกๆเรื่องน่า แคท  :กอด1: :กอด1:

สงสารน้องเอมมมม มาหาแม่มาาาาา  :hao5:
  ขอบคุณสำหรับคำอวยพรวันเกิดดีๆนะคะ //ส่วนน้องเอม ทีมแม่น้องเอมใจเย็นน้าา พาน้องมาแล้วนะคะ


สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังนะค้า ขอให้มีความสุขมากๆ

เจ๊ดานี่ก็น่าตีนะ แต่ก็น่ารักด้วย เฮ้อ
  ขอบคุณมากๆนะคะสำหรับคำอวยพรวันเกิดแคทนะคะ



แล้วเอมไปอยู่ไหนอ่ะ,,
  น้องเอมอยู่นี่ น้องมาแล้วน้าาา


อิเจ้รีบหาน้องเลยนะน้องมโนไปไกลแล้วววฮึ้ย
สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังนะงับมีความสุขมากๆนะคะ :L1:
เจ๊มาแล้ว พาเจ๊มาปีนประตูบ้านคนอื่นแล้วนะคะ ขอบคุณสำหรับคำอวยพรวันเกิดดีๆนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-03-2020 11:23:13 โดย Yoghurt »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
เอ้าแยกห้องใครห้องมันแล้วไปเคลียร์กันนะ

ออฟไลน์ LifePo-YuGu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
อิ๊เจ๊ ง้อน้องเอม หนักๆเลยนะจ้ะ ไม่งั้นแม่ตีนะ  :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
อย่าเพิ่งหายโกรธนะเอม,,,

ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1960
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
ขอองค์พี่ดาบจงสถิตย์อยู่จากนี้ตลอดไปเพื่อน้องเอมนะจ๊ะ

แต่น้องเอมอย่าเพิ่งตามอิพี่มันกลับไปตอนนี้นะ ให้พี่มันแสดงตัวตนที่แท้จริงออกมาก่อนค่อยตัดสินใจนะลูกนะ

ออฟไลน์ Chucream.nabi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :z6: สมน้ำหน้าอิเจ้.....ต้องสักทีให้รู้สำนึก
ส่วนอิหนู ถ้ารักเค้าก็ต้องยอมรับตัวตนอีด้านเค้าให้ได้นะ :เฮ้อ:
 :กอด1: :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :pig4: :pig4: :pig4:

ดีนะอีเจ๊ฉลาด มีเพื่อนดี เลยคิดได้ไว
จะได้ไม่ต้องเหนื่อยด่ามัน :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
เอมจะยอมง่ายๆมั้ย?

ออฟไลน์ Pangogi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อุ้ย เขิน ดานี่แมนแล้วเขินเบยยย

ออฟไลน์ Tassanee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สนุกอ่ะ  สนุกค่ะ  สนุกมากกกกกกกก


อยากอ่านอีก    ขอบคุณนะคะ

ออฟไลน์ Yoghurt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
    • แฟนเพจ
บทที่25



“ของกูเหี้ยไร มึงสิของกู!”



คนที่ปีนอยู่บนประตูรั้วบ้านคนอื่นตะโกนออกมาแบบนั้น ไม่ใช่แค่ตะโกนอย่างเดียว แต่ร่างใหญ่ๆนั่นยังเขย่ารั้วเหล็กดัดนั่นจนโยกไปด้วยแรงอารมณ์ของเจ้าตัว ... ผมที่ได้แต่เงยหน้ามองพร้อมยืนมองอ้าปากค้างอยู่ตรงนี้ ได้แต่คิดในใจว่า ‘เหี้ยแล้ว’ มึงอย่าพังรั้วบ้านคนอื่นแบบนั้นสิโว้ยอิเจ๊!



“พ...พูดอะไรวะ ลงมา!” ได้แต่ถลึงตาใส่คนที่ปีนอยู่บนนั้น ตะโกนออกไปแบบนั้นแต่ไอ้คนตัวใหญ่ข้างบนก็เอาแต่ส่ายหน้า



“ไม่! ก็มึงไม่เข้าใจอ่ะ มึงหนีกูมาที่นี่ มาอยู่บ้านน้องหยีตอนนี้” ยังคงดื้อดึงอยู่แบบนั้น และก็เขย่ารั้วไม่เลิก ... อยากจะให้มันเข้าใจว่าจริงๆแล้วรั้วบ้านของไอ้หยีเป็นรั้วเหล็กดัดที่สูงมาก และตอนนี้มันก็ปีนอยู่ด้านบนสุด คือแค่ตวัดขายาวๆของพี่มันก็ข้ามมาอีกฝั่งแล้วไต่ลงมาได้แล้ว



“ผมไม่ได้หนีเว้ย” บอกออกไปแบบนั้น ถึงแม้ว่าเหตุผลจริงๆก็คือไม่อยากอยู่ห้องมันอีกแล้วจริงๆก็เถอะ



“มึงน้อยใจกูควายน้อย แต่เดี๋ยวกูจะอธิบายให้มึงฟังเอง”



“เจ๊ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรกับผมว่ะ เราไม่ได้เป็นอะไรกัน” บอกมันออกไปแบบนั้น แล้วรู้สึกเหมือนบรรยากาศโดยรอบจะเย็นลงมาอย่างห้ามไม่อยู่ ผมที่พูดแบบนั้นและเงียบไป ส่วนคนตัวใหญ่ที่อยู่บนนั้นก็เงียบเสียงลงเช่นกัน



แต่มันก็ปฏิเสธไม่ได้...เรื่องจริงเราไม่ได้เป็นอะไรกันเลยจริงๆ อย่างมากก็แค่เจ้านายลูกน้อง



เป็นความสัมพันธ์ที่เหมือนจะข้ามเส้น แต่จริงๆแล้วเราก็ยังหยุดยืนอยู่ที่เดิมไม่ได้ขยับไปไหนให้ไกลกว่าเดิมเลยสักนิด ... นั่นแหล่ะคือความสัมพันธ์ของผมกับอิเจ๊พี่มันในตอนนี้ คนที่เอาแต่จ้องผมอยู่บนรั้วสูงๆนั่นในตอนนี้



“เอม...” เสียงเข้มๆที่ถูกเปล่งออกมาเป็นชื่อผม ก็แค่เรียกชื่อผม แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงรู้สึกอยากร้องไห้ออกมาก็ไม่รู้



“กูอยากให้มึงกลับไปกับกู”



แต่ผมไม่อยากกลับไปกับเจ๊ ... อย่างน้อยก็ในตอนนี้” ตอบออกไปแบบไม่ลังเล แม้ว่าประโยคสุดท้ายเสียงผมจะไม่มั่นคงมากก็ตาม และทุกอย่างก็เงียบเสียงลงอีกครั้ง มองตาคมของอีกคนที่เหมือนจะนิ่งอึ้งไป เป็นสายตาแบบที่ผมไม่เคยมาก่อนจนต้องเสหน้าหลบสายตาของคนที่มองมาไม่หยุด



“ก็ได้ ถ้ามึงยังไม่อยากกลับไปพร้อมกันวันนี้ก็ได้” ในที่สุดพี่มันก็พูดออกมาแบบนั้นในตอนที่ก็เงียบเสียงไปนาน...เป็นคำตอบที่ผมพอใจ แต่ก็ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกห่อเหี่ยวลงมากขึ้นตอนที่ได้ยินก็ไม่รู้



“แต่มึงจำไว้นะเอม...กูไม่มีวันปล่อยมึงไป ครั้งนี้ที่ไม่บังคับให้มึงกลับไปด้วยกันก็เพื่อความสบายใจของมึง แต่มันก็แค่ชั่วคราวเท่านั้น อย่าคิดว่ามึงจะหลบหน้ากูได้ เพราะมึงไม่มีทางทำได้”



“... และที่สำคัญ กูชอบมึง ก็แค่ชอบมึงแค่คนเดียวในตอนนี้ คนที่กูอยากอยู่ด้วยและเดินต่อไปด้วยกันก็มีแค่มึงไม่ใช่คนอื่น มึงอาจจะรู้สึกว่ามันก็แค่คำพูดใครก็พูดได้ แต่คำพูดของกู มันไม่เหมือนของใคร อยากให้มึงมั่นใจว่ากูจะไม่เหมือนใครคนก่อนๆที่มึงเคยเจอ ... ส่วนเรื่องของพระพาย ถ้ามึงจะน้อยใจอะไรก็ได้ ตามสบายมึงเลย แต่กูอยากจะบอกให้เข้าใจนะ ว่าต่อจากนี้มันจะไม่มีเรื่องอะไรระหว่างกูกับพายอีก เพราะกูบอกพายไปแล้วว่ากูรู้สึกกับมึงแค่คนเดียวไม่ใช่เค้า”



คำพูดยาวๆที่ทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นไปมองอย่างตกใจ เส้นผมสีทองสว่างของคนที่ปีนรั้วอยู่บนนั้นพัดไปตามลมเย็นๆปลิวน้อยๆอยู่บนนั้น สายตาคมที่นิ่งสงบไม่ต่างจากน้ำเสียงก่อนหน้านี้ คำพูดที่ทำให้ผมรู้สึกอยากวิ่งไปเปิดประตูแล้วบอกว่าเจ๊ผมกลับด้วย ... แต่ถ้าทำแบบนั้น มันคงไม่มีอะไรก้าวไปข้างหน้า ได้แต่จิกเล็บลงไปบนเนื้อกำมือตัวเองแน่นๆแล้วข่มใจไว้



ถ้าวิ่งไปนี่แรดเลยนะไอ้เอม ฮึบไว้ มึงจะยอมตั้งแต่หน้าประตูไม่ได้นะมึง



“งั้นวันนี้กูกลับก่อน กูให้เวลามึง3วัน ถ้ามึงยังไม่กลับ กูจะมารับมึงกลับบ้านของเราเอง



‘พรึบ’



พูดออกมาแบบนั้นจบแล้วกระโดดลงมาจากรั้วทันที ไอ้หยีที่เผลอกรี๊ดออกมาด้วยความตกใจ รวมถึงผมด้วยที่ขยับเท้าเข้าไปใกล้อีกหลายก้าว แต่จริงๆคือเจ๊พี่มันกระโดดลงมาที่พื้นด้วยความเท่และค่อยๆลุกขึ้นยืนด้วยความมั่นคงไม่เซเลยซักนิด



“น้องหยีพี่ขอโทษนะที่มาสร้างความเดือดร้อนให้” พี่มันที่หันไปหาไอ้หยีพร้อมบอกออกไปแบบนั้น หันไปเห็นไอ้หยีที่ได้แต่ทำหน้าแหยๆส่งไปให้ ในใจมันคงอยากด่าพ่ออิเจ๊อ่ะครับ ดึงขนาดนี้เสือกมาปีนบ้านคนอื่นเอะอ่ะ



“ไม่เป็นไรค่ะพี่”



“พี่ฝากดูเอมมันด้วยนะครับ” บอกย้ำออกมาอีกครั้งก่อนจะหันมามองหน้าผมนิ่งๆ สายตาคมที่ส่งผ่านรั้วเหล็กดัดลายสไตล์ยุโรปนั่นมามองหน้าผม



“อย่าดื้อ อย่าหนี เพราะพี่จะไม่ยอมให้เอมทำแบบนั้น จำไว้นะครับ”



บอกแค่นั้นก่อนจะค่อยๆหันหลังเดินกลับไปขึ้นรถ มองจากตรงนี้พึ่งรู้ว่าพี่มันขับรถมา ไม่ได้ขับมอเตอร์ไซค์แบบปกติที่ชอบขับ ... อดคิดไม่ได้ว่าจริงๆแล้วมันอาจจะตั้งใจขับมารับผมให้กลับไปด้วยกัน



รถคันหรูที่ค่อยๆขับออกไปช้าๆ จนสุดท้ายก็ค่อยๆแล่นหายไปจากสายตาของผม มองตามหลังไปจนมองไม่เห็นแม้กระทั่งไฟท้ายรถคันนั้น



“ชะเง้อตามขนาดนี้ ทำไมมึงถึงไม่กลับไปกับพี่เค้าคะมึง” ไอ้หยีที่เดินเข้ามาใกล้ยกมือขึ้นตบไหล่ผมพร้อมถามออกมาแบบนั้น หันไปมองหน้ามันพร้อมถอนหายใจหนักๆ



“หน้ากูมันบอกหรอว่าอยากกลับไป”



“โถ่ หนูลูก อีกนิดนึงมึงก็ร้องเพลงยอมตั้งแต่หน้าประตูออกมาพร้อมเทคตัวกระโดดขึ้นรถเค้าแล้วค่ะ” เบะปากออกมาใส่ผมพร้อมมองแรง



“เพลงเก่าจังวะป้า”



“กูไปแก่ทับบ้านเลขที่มึงหรอคะอิน้องเอม ฮึ่ย หมั่นไส้นัก”



“คือโกรธอะไรกูอ่ะ” ถามมันออกไปแบบนั้นพร้อมเกาหัวแบบงงๆแล้วเดินตามมันเข้าไปในบ้านไป



“มีผู้มาตามง้อปีนรั้วบ้านถึงที่ แต่ไม่ยอมกลับไปกับเค้า ทั้งๆที่ใจคือไปนอนรอเค้าบนเตียงแล้ว” จีบปากจีบคอใส่กันทั้งแบบนั้น ก็คือแสดงอาการริษยาออกมาผ่านหน้าตาสวยๆของมันแบบไม่ปิดบังเลยแม้แต่น้อย ... ไม่มีผู้ก็เศร้าหน่อยอ่ะโน๊ะ



ได้แต่คิดแต่ต้องเงียบไว้ครับ พลังของสาวโสดมันน่ากลัว โสดแล้วพาลก็งี้



“กลับไปแล้วจะยังไงวะป้า”



“มึงพูดแบบนี้หมายความว่ายังไงวะ” มันที่หันมามองหน้าผมในตอนที่เราหยุดยืนกันอยู่ที่หน้าประตูห้องนอนของมัน



“ก็ถ้ากลับไปแล้วทุกอย่างมันยังเหมือนเดิมมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรือเปล่าวะ ... สุดท้ายมันก็เป็นเหมือนเดิม” ผมที่บอกออกไปแบบนั้น



“แล้วมึงมาอยู่กับกูแบบนี้มันมีประโยชน์อะไรหรอวะ กูดูก็รู้แล้วว่ามึงเองก็ชอบเจ๊มัน มึงอย่าอะไรกับภาพลักษณ์พี่มันนักเลยว่ะเอม”



“แล้วถ้าภาพลักษณ์นั้นที่พี่มันเป็น ถูกสร้างมาเพราะคนที่เคยอยู่ในใจมันล่ะวะ ... โอเค กูก็ชอบแหล่ะผู้ชายเท่ๆที่ให้ความมั่นใจกับกูได้ แต่ตอนนี้นอกจากพี่มันจะไม่เท่แล้ว แต่ที่มันชอบทำท่าออกสาวแบบนี้ก็เพราะพาพวยนั่น”



“มึงรู้ได้ไง”



“ก็พาพวยมันบอกกู”



“แล้วมึงก็เชื่อหรอคะลูก” ไอ้หยีที่ทำหน้าออกมาแบบ อินี่ทำไมมันโง่แบบนี้มองหน้ากัน



“มันก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องไม่เชื่อ แล้วกูก็มั่นใจว่ามันเป็นเรื่องจริง”



“สมมุติว่ามันจริง แต่เรื่องแบบนี้มันก็ต้องคุยกันนะมึง มึงจะมาอยู่ของมึงแล้วคาดหวังให้ใครคนนึงเปลี่ยนไปตามใจที่มึงคิดมึงหวังมันไม่ได้นะ พี่ดาบมันไม่ใช่พระพุทธเจ้าที่จะตรัสรู้เองได้ เรื่องของคนสองคน มึงจะผ่านไปคนเดียวมันไม่ได้นะกูขอเตือน” ไอ้หยีที่พูดออกมาแบบจริงจังแบบนั้นแล้วมองหน้าผมนิ่งๆ คำพูดของมันก็ย้ำเตือนผมได้ดี แต่ถึงแบบนั้น ผมก็ยังไม่มีความกล้ามากพอที่จะทำ เพราะถ้ากล้ามากกว่านั้น วันนั้นที่พาพวยมายั่วอารมณ์ผม ผมคงไม่สาดขาหมูใส่ แทนการวิ่งไปหาอิเจ๊พี่มันแล้วล่ะ ... เพราะใจลึกๆแล้วจริงๆแล้วผมกลัว กลัวว่าคนที่มันเลือกจะไม่ใช่ผม



“ป้า...”



“จริงๆนะมึง เหนือสิ่งอื่นใดคือมึงหนีใจตัวเองไม่ได้หรอก มึงปฏิเสธไม่ได้หรอกว่ายังไงมึงก็รู้สึกกับพี่มันไปแล้ว กูมั่นใจว่าคนแบบพี่มันจะหาทางออกที่ทำให้มึงสบายใจที่สุดมาให้”



“แต่กูก็กลัว คนแบบกูมีอะไรสู้ใครได้วะป้า โดยเฉพาะกับกูที่มาทีหลัง กับเค้าที่มาก่อน คนที่มันเคยรักมากๆคนนั้นอ่ะ กูจะเอาอะไรไปสู้วะ”



“เรื่องนี้ไม่มีใครบอกมึงได้ นอกจากตัวพี่มันเองที่มึงควรจะไปถาม ... แต่สิ่งนึงที่กูอยากจะบอกก็คือ ถ้ามึงเป็นคนที่ใช่ พี่มันจะไม่ปล่อยให้มึงต้องสู้ให้เหนื่อย”



“แล้วกูจะเป็นคนนั้นหรอวะ...คนที่ไม่มีอะไรเลยแบบกู ไม่มีอะไรเลยนอกจากใจกู”



“มึงไม่จำเป็นต้องรีบไปคิดแทนพี่มันจะได้ไหมคะ พี่มันน่ะมีทุกอย่างเยอะแล้ว กูว่าสิ่งที่พี่มันต้องการมากที่สุด ก็อาจจะเป็นแค่ใครสักคนที่อยู่ข้างๆ”



“และคอยชมมันว่าสวย”



“โอ๊ยย อิสัด อย่าเอาความจริงมาล้อเล่นแบบนี้ ฮ่าๆ” และสุดท้ายทั้งผมและป้ามันก็มองหน้ากันแล้วหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ แค่หลับตาก็นึกภาพพี่มันออก คนที่ตัวใหญ่ๆที่ชอบทาปากแล้วยกมือทัดผมแล้วถามชาวบ้านว่ามันสวยไหม ทั้งๆที่ตัวจริงก็โคตรจะห่างไกลจากคำว่าสวยมากจริงๆ



‘ครืด ครืด’



เสียงหัวเราะของเราสองคนต้องหยุดลงในตอนที่โทรศัพท์ในมือของไอ้หยีสั่น มันที่ยกมือถือขึ้นมาดู ก่อนจะหันหน้าจอโทรศัพท์ที่สว่างขึ้นมา ปรากฏชื่อของคนที่โทรเข้า



“ไอ้เก้อ”



“มึงอย่าบอกมันว่ากูอยู่นี่นะป้า กูไม่อยากให้มันมาตามกู” ผมบอกออกไปแบบนั้น แค่นี้ก็รู้แล้วว่าไอ้เก้อโทรมาเรื่องอะไร เพราะก่อนหน้านี้ผมไม่ยอมตอบข้อความมันไปว่าอยู่ที่ไหน หยีมันถอนหายใจออกมาหน่อยๆก่อนจะพยักหน้า



“กูรู้ค่ะว่าต้องบอกอะไร มึงอย่าห่วงเลย มึงไปนอนเถอะค่ะลูกกู”



“ครับแม่”



“มีลูกแบบมึงนี่เหนื่อยมาก หัวกะไดกูไม่เคยแห้ง ผู้ชายวุ่นวายมึงเยอะนัก”



“ขอโทษทีที่สวยนะแม่นะ”



“อิสัด”



...

(50%)



ขออนุญาตลงเท่านี้ก่อนนะคะ จริงๆมีต่อแต่ว่าเขียนยากมากๆเพราะคอมตาย เลยขอลงเท่านี้ก่อน

ทีมผัวพี่ดาบมาค่ะ ต้องมาแล้วนะ

ฉันแพ้คำว่า 'ครับ'ของพี่เค้า

ฝาก #สวยๆเป็นผัว ในทวิตเตอร์ด้วยนะคะ

ปล. อยากให้คนอ่านได้อ่านนะคะ

ต้องขออภัยคนอ่านที่แคทเขียนได้ไม่ดีและไม่สนุก แถมยังช้าอีก เหตุผลก็คือว่า

1.แคทไม่เก่งค่ะจริงๆแต่ละตอนคิดว่าตัวเองเขียนสนุกแล้ว แต่ก็ยังทำให้คนอ่านรู้สึกว่าเนื้อเรื่องไม่ดี ไม่ไปไหนมาไหนสักที

แคทขอยอมรับและขอโทษมากๆ จะพยายามพัฒนาให้มากขึ้นนะคะ

2. คือโน๊ตบุ๊คตาย ตามที่ได้แจ้งไว้ในเพจแล้วว่ามันตายตั้งแต่ก่อนวันที่20 เพราะฉะนั้นเลยต้องใช้คอมที่บ้าน

แต่ทุกวันนี้พ่อก็หยุดอยู่บ้าน ทำงานที่บ้านเพราะฉะนั้นเลยต้องแย่งคอมกันค่ะ งานแคทเลยช้า ตั้งใจจะซื้อโน๊ตบุ๊คใหม่

แต่แคทก็ไม่มีเงินมากขนาดนั้นในตอนนี้ ที่มีไว้10,000บาท ตอนนี้ก็จะเอาไปจ่ายหน้าปกของนิยายเรื่องนี้ค่ะ

เพราะฉะนั้น แคทเลยเขียนนานได้ช้า แคทต้องขอโทษคนอ่านมากๆจริงๆนะคะ :mew1:

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ Tassanee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เก่งมาก สนุกมากค่ะ  คนเขียนอย่าท้อนะคะ  คนอ่านตามติดเป็นปลิงอยู่ 55555

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
เป็นกำลังให้ไรท์และเฮียดาบนะคะ    :3123:

รอจ้า

ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1960
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
สนุกมากครับ. รออ่านนะครับ,,,

ออฟไลน์ Pangogi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ดานี่ ทิ้งคำพูดไว้แมนมาก 555

ออฟไลน์ LifePo-YuGu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
โอเค๊ ตอนนี้ให้คะแนนความผัวอิ๊พี่เต็ม 100 เลยจ้า  :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ Yoghurt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
    • แฟนเพจ
บทที่ 25.2


...


...

“ใจเย็นๆหน่อยพี่มึง รีบขนาดนี้เดี๋ยวมึงก็ขาขวิดตายหรอก”



ผมที่ตะโกนตามหลังคนที่กำลังสาวเท้าก้าวขายาวๆเข้าไปที่คอนโดของตัวเองอย่างเร่งรีบ เป็นครั้งแรกที่ผมได้มาที่คอนโดของพี่มัน เป็นคนโดหรูที่ความปลอดภัยแน่นหนาย่านสาทร ผมที่ต้องวิ่งตามมันเข้าไปแทนการเดินเพราะอีกฝ่ายรีบเหมือนควายหาย ขืนช้ากว่านี้ผมก็กลัวว่าจะถูกยามของคอนโดนี้โยนผมออกไปเพราะคิดว่าเป็นคนแปลกหน้าได้



“พี่มึง” วิ่งตามไปจนทันมัน เรียกอีกคนไว้แบบนั้นพร้อมเอื้อมมือไปจับแขนของมันไว้ แต่อีกฝ่ายกลับสะบัดแขนหนีมือผมอย่างหงุดหงิด ท่าทางของมันที่มองซ้ายทีขวาทีอย่างร้อนใจ ไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าผมกำลังหอบจนลิ้นฮ้อยเหมือนมาหอบแดด



“อย่าพึ่งกวนกูดิ๊ไอ้เสือ”  มันที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วหันมาจ้องกันตาขวาง คือเป็นKอะไรของมึงอ่ะสัดพี่เก้อ ... อยากจะพูดด่ามันออกไปแบบนั้น แต่คนตรงหน้าผมก็ไม่รอให้ผมได้ด่า มันที่แค่เดินผ่านตัวผมไปแล้วเริ่มต้นมองหาคนที่มันตั้งใจมาเจอแถวบริเวณล็อบบี้ของคอนโดมันอย่างเอาเป็นเอาตาย



“K” สบถออกมาแบบนั้นพร้อมกรอกตาให้แม่ง แต่ไอ้คนที่ผมด่ามันก็ไม่ได้ยินอยู่ดี สุดแสนจะระอาใจ เห็นแบบนั้นเลยต้องถอนหายใจออกมาหน่ายๆ แต่ก็เดินตามเข้าไปหามันที่ตอนนี้กำลังเดินไปหาลุงยามหน้าคอนโดด้วยอาการฟึดฟัด กูนี่แอบสงสารลุงยามเลย



“แน่ใจหรอวะลุงว่าไม่มี!” เสียงไอ้พี่เก้อที่ตะโกนดังลั่นโถงด้านนอกของด้านคอนโด เห็นแบบนั้นแล้วได้แต่ส่ายหัวกับสภาพหมาบ้าของมัน



“แน่ใจครับ ลุงเฝ้าอยู่ที่นี่ทั้งวัน ใครเข้าใครออกลุงต้องรู้ แต่ไม่มีใครมาหาคุณเก้อเลยครับ”



“ลุงอาจจะไม่เห็นตอนเค้ามาก็ได้ไหมวะ” มันที่พูดออกมาแบบนั้นด้วยท่าทางหงุดหงิดแบบสุดๆ ฝ่ามือหนาของมันที่ยกมือขึ้นเสยผมแบบสุดจะหงุดหงิด ร่างสูงใหญ่ที่หันรีหันขวางแบบทำอะไรไม่ถูก แต่เหมือนอยากจะหาที่ระบายอยู่หน่อยๆ ด้วยกลัวว่ามันจะเผลอซัดหน้าลุงยาม ผมเลยรีบเดินเข้าไปหามัน



“ลุงเค้าว่าไม่มี ก็คงไม่มีแหล่ะพี่มึง”



“แล้วมันจะไปอยู่ไหนวะ!”  หันมาฉุนเฉียวใส่ นี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นคนตรงหน้าดูร้อนรนแบบนี้



“พี่มึง กูว่ามึงหลุดแล้วนะ มีสติหน่อยสิวะ”



“มึงไม่เข้าใจไอ้เสือ! ถ้ามันเป็นอะไรไปจะทำไงวะ”



“แล้วมึงเป็นแบบนี้จะรู้เรื่องมากขึ้นงั้นดิ” อดว่ามันออกมาอีกไม่ได้ มันที่หันมามองผมตาขวางในตอนนี้



“มึงแม่งไม่เคยห่วงใครมากๆแบบกูไง มึงจะรู้อะไรวะ สิ่งที่มึงก็มีแค่เรื่องตัวเอง”



มันที่ว่าออกมาแบบนั้นทำให้ผมที่กำลังจะเอื้อมมือคว้าแขนของมันไว้ในตอนนั้นก็ชะงักค้างอยู่ในอากาศในตอนนี้ ได้แต่จ้องหน้ามันนิ่งๆไปหลายนาที ก่อนจะต้องยกยิ้มออกมา ใช้ลิ้นเลียริมฝีปากของตัวเองที่อยู่ดีๆก็รู้สึกแห้งลงซะแบบนั้น ก่อนจะใช้ลิ้นดุดกระพุ่งแก้มตัวเองแล้วจ้องหน้ามันก่อนจะเผลอแสยะยิ้มออกมา



“เหอะ กูไม่เคยห่วงใครนอกจากตัวเองหรอวะ สมองหมาแบบมึงแม่งก็คิดได้แค่นี้แหล่ะไอ้สัด เสียเวลากูถ่อสังขารมาถึงนี้กับมึง ถุย! โคตรเหี้ย”  ว่าออกไปแบบนั้นก่อนจะยกมือขึ้นผลักอกมัน แล้วเดินหนีออกมา ไอ้หน้าสัด...พูดออกมาได้ เฮงซวย!



ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ในครั้งนี้ที่โดนไอ้สัดพี่เก้อด่าแบบนั้น มันกลับรู้สึกแย่มากกว่าทุกที มากกว่าทุกทีที่ผมกับมันเคยด่ากัน หรือจริงๆแล้วมันอาจจะนานมาแล้วก็ได้ที่มันกับผมไม่ได้ด่ากันแรกๆ หรือแม้กระทั่งเลิกต่อยกันไปนานแล้ว...กูแม่งไม่น่าชินกับคนสันดานหมาแบบแม่งเลย



ผมที่ก้าวยาวๆเดินหนีออกมาจากคอนโดห่านี่ไวๆ เป็นการเดินที่ไวที่สุดเท่าที่เคยเดินมา รู้สึกอยากส่งตัวเองลงกีฬาเดินไวในโอลิมปิกเลยแม่ง คิดว่าตัวเองต้องชนะ ... ผมที่เดินออกมาจากคอนโดจนถึงถนนใหญ่ มองซ้ายมองขวาหารถกลับบ้าน ถึงยังไงตอนนี้ก็ดึกแล้ว สถานีรถไฟฟ้าก็ยังคงไกลจากตรงนี้ ยังไงก็คงต้องขึ้นแท็กซี่กลับไป แถมหอผมกับตรงนี้ก็คนละทางกันอีกต่างหาก ... ไม่น่ามาให้เสียความรู้สึกเลยจริงๆ



‘ตึกตักตึกตัก’



“แฮ่ก...เดี...เดี๋ยวไอ้เสือ”  เสียงวิ่งที่ปะปนมาพร้อมเสียงหอบหายใจหนักๆ ก่อนจะตามมาด้วยฝ่ามือหนาที่เอื้อมมาดึงแขนของผมเอาไว้ พอหันหน้ากลับไปก็เห็นไอ้หน้าสัดเมื่อกี้ที่ตอนนี้กำลังก้มตัวเอามือเท้ากับหัวเข่าของตัวเองแล้วหอบหายใจ ส่วนมืออีกข้างของมันก็จับแขนของผมเอาไว้แน่นๆอยู่แบบนั้น



“ปล่อยไอ้เหี้ย” ว่าออกไปแบบนั้นแล้วดึงแขนตัวเองหนี แต่มันก็ไม่ยอมปล่อย แถมเพิ่มแรงกำแขนกันไว้จนรู้สึกเจ็บ แรงควายจนผมต้องขมวดคิ้ว



“อย่าสะดีดสะดิ้งนักสิวะ”  มันที่ยืดตัวขึ้นมายืนดีๆแล้วว่าออกมาแบบนั้น พอมองหน้ามันแล้วอารมณ์ฉุนขึ้นมาเลยทันทีแบบอัตโนมัติ



“สะดีดสะดิ้งเหี้ยไร ปล่อย!” ตะโกนใส่มันไปพร้อมๆกับกระชากแขนตัวเองออกอย่างแรง และในครั้งนี้ก็สะบัดมันหลุดได้สักที



“เฮ้ย เดี๋ยวสิวะไอ้เส...โอ๊ย!”



‘ผลั้ว!’



“ไปไกลๆไอ้เหี้ย” หันไปจ้องมันตาขวาง มันที่ตอนนี้ก็ล้มลงไปนั่งกับพื้นพร้อมมือขวาที่ยกขึ้นมากุมแก้มตัวเอง ผมที่จ้องมันเขม็งแล้วเริ่มหายใจแรงๆ หงุดหงิดจนบอกไม่ถูกเลยจริงๆ แต่พอได้ต่อยหน้ามันไปก็เหมือนจะรู้สึกดีขึ้นนิดหน่อย



“เห้ยๆ ต่อยกูแล้วยังจะไปไหนอีกวะ”



“เรื่องกู เสือก!”



“เดี๋ยวๆสิวะ”  เป็นแม่งอีกแล้วที่ลุกขึ้นวิ่งตามแล้วมาคว้าข้อมือของผมไว้อีกหน มันที่ดึงมือของผมให้หันไปหามันแรงๆ แล้วตัวควายๆแบบนั้นกูก็ปลิวไปสิวะ หงุดหงิดไอ้สัด หนีไม่ได้เลยได้แต่จ้องหน้ามันเขม็ง อีกคนที่ก็มองหน้ากันนิ่งๆ ไม่มีใครพูดอะไร และสุดท้ายก็เป็นมันเองที่ถอนหายใจออกมาหนักๆ



“ไอ้เสือกูผิดเอง”



“ผิดเหี้ยไร ปล่อย กูจะกลับบ้าน”



“อย่าเป็นงี้ดิวะ”



“เป็นงี้คือเป็นเหี้ยอะไร” จ้องตามันแบบหงุดหงิดเต็มทน ไม่รู้ทำไมพอมันพูดว่าอย่าเป็นแบบนี้แล้วผมยิ่งหงุดหงิด ท่าทางที่มันทำเหมือนเป็นผู้หญิงที่ชอบทำตัวงี่เง่า ทั้งๆที่คนที่งี่เง่าคือมันแท้ๆ อารมณ์กูกรุ่นขึ้นมาอีกแล้วเนี่ย



“โอเค กูขอโทษเสือ ขอโทษที่หงุดหงิดแล้วพาลพูดจาหมาๆแบบนั้นกับมึง” มันที่เลื่อนฝ่ามือมาจับมือของผมเอาไว้ ท่าทางที่ดูหมดทางจะไปแบบนั้นมองหน้าผมแบบขอร้อง K



“นะ”  นะพ่อนะแม่มึง กูเกลียดคำว่านะของมึงไอ้สัดพี่เก้อ



“มึงอย่าเงียบสิวะ ไหนๆมึงก็ต่อยหน้ากูไปแล้ว หายงอนได้แล้วนะมึง”



“งอนเหี้ยไร ใครงอนมึง” กูจะหายโมโหอยู่แล้วเชียว เสือกพูดกวนตีนกูอีก พอหันไปถลึงตาใส่มันกลับยิ้มตอบกลับมาให้แทนซะแบบนั้น  น่ารำคาญ



“ปะ ไปกัน” มันที่ว่าแบบนั้นแล้วดึงมือผมนิดๆ



“ไปไหนอะไรของพี่มึง กูจะกลับห้องกู”



“กลับอะไรของมึง มึงมาแล้วก็ช่วยกูต่อหน่อยสิวะ กลับไปกับกูเนี่ยแหล่ะ ไปช่วยกูตามหาไอ้เอมต่อหน่อย นะน้องเสือนะ”



“กูจะไม่ไปก็ตรงน้องเสือของมึงนี่แหล่ะ สัด”



“พูดแบบนี้แสดงว่าไป ดีมากไอ้น้อง ปะ” ไม่สนใจหน้าตาหรือแม้กระทั่งท่าทางของกูที่ดูว่าฝืนใจแค่ไหน มันที่แค่กระชากตัวผมเข้าไปกอดคอเหมือนแบบทุกทีที่มันชอบทำ แล้วเริ่มต้นลากตัวผมให้เดินกลับไปตามทางเก่าที่ก่อนหน้านี้ผมพึ่งสับตีนไวๆเดินจากมา



.

.

.



“เชี่ย โคตรหรู นี่อยู่คนเดียวหรอวะพี่มึง”  ผมที่ก้าวเท้าเข้ามาในห้องของมันแล้วต้องอ้าปากค้าง อย่าใช้คำว่าห้องเลย เรียกว่าเหมือนบ้านขนาดย่อมๆเลยจะดีกว่า เป็นห้องDuplexแบบ3ห้องนอนมีสองชั้น  กลางห้องโถงด้านล่างเป็นห้องรับแขกเพดานสูงที่มองขึ้นไปเห็นชั้นสองได้



“อืม จะให้ใครมาอยู่ด้วยวะ”



“ก็เผื่อมึงหิ้วเด็กงี้”  หันไปพูดกับคนที่เดินเข้าไปในห้องครัวแบบนั้น ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งที่โซฟาของมันแบบเอาเท้าขึ้นมานอนเหยียดยาวไปเลย



“กูไม่เคยพาพวกOne Nightมานอนที่นี่ ... อะ แล้วมึงก็ทำตัวตามสบายไปไหมไอ้สัด” มันที่เดินกลับมาจากในครัวพร้อมขวดน้ำเปล่าที่ยกกระดกแดกแบบไม่เชื้อเชิญแขกแบบกู คือเป็นเจ้าของบ้านยังไงวะ



“แล้วไง แต่คือพี่มึงนี่กะเอาน้ำมาแดกคนเดียวเลยงี้ แล้วกูล่ะ”



“มึงหิว?” ถามพร้อมเลิกคิ้วใส่ จริงๆดูออกว่ากวนตีน



“เออสิวะ ร้อนก็ร้อน”



“แล้วใครเสือกให้มึงเดินหนีกูสะบัดสะบิ้งไปแบบนั้นวะ” มันที่ว่าแบบนั้นแล้วยื่นขวดน้ำที่มันกระดกเมื่อกี้มาให้



“สะบัดสะบิ้งเหี้ยไรล่ะ แล้วนี่อะไร ให้อมปากเดียวกับมึงอ่ะนะ”



“แล้วไงวะ แลกลิ้นกับกูก็เคยมาแล้วไหม ดัดจริตเหี้ยไรครับน้องเสือ”



“K!”  ด่ามันออกไปแบบนั้นแล้วเอื้อมมือไปกระชากขวดน้ำมากระดกดื่มทั้งแบบนั้น ไม่สนใจไอ้เจ้าของห้องที่ตอนนี้หัวเราะขำผมเบาๆ เสียงหึหึเท่ๆที่ดังมาจากในลำคอนั่นยิ่งดูกวนส้นตีน แม่งนึกว่าตัวเองเป็นพระเอกนิยายมั้ง ทำตัวถ่อยแล้วดูเท่งี้ เรื่องจริงคือดูเหี้ยต่างหากล่ะโว้ย แค่น้ำก็เอามาให้กันไม่ได้ ไอ้แล้งน้ำใจ



“เฮ้อ”  ไอ้ร่างหมีควายที่เคลื่อนตัวมานั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกับผม ถ้าพูดง่ายๆก็คือตรงปลายตีนผม พี่มันที่ถอนหายใจออกมาแบบคนคิดไม่ตก มองจากตรงนี้เห็นหน้าของมันที่ดูจะเครียดแบบไม่เลิกไม่ลา



“เครียดขนาดนั้นเลยหรอวะ”



“อือ”



“กับอิแค่หาเพื่อนไม่เจอ” เลิกคิ้วส่งไปเป็นคำถามในตอนที่พี่มันก็หันมามองหน้ากันพอดี มันที่ส่ายหัวหน่อยๆแต่ไม่ยอมพูดต่อ ก็ไม่เข้าใจว่าการส่ายหัวของมันหมายถึงอะไร แต่ถึงแบบนั้นผมก็เลือกจะพูดต่อไปแทน



“พี่เอมเค้าไม่ได้มีเพื่อนแค่พี่มึงไหมวะ ทำไมไม่ลองถามคนอื่น”



“ปกติมันต้องเลือกมาหากูก่อนใคร”



“อย่าสำคัญตัวมากไอ้สัดพี่มึง ขอร้องล่ะ” กูนี่เบ้ปากใส่แม่งเลย มันที่หันมาทำหน้าดุๆใส่ แต่ผมก็เลือกจะเบ้ปากอีกรอบให้มันเห็นชัดๆแทน



“ลองถามดูก็ไม่เสียหายไหมวะ แต่ก็แล้วแต่มึงนะ ก็แค่เสนอความคิดอ่ะ” บอกออกไปแบบนั้นแล้วยักไหล่แบบไม่ได้สนใจอะไร ก็อย่างน้อยผมก็มีสติมากกว่ามัน หรือจะพูดง่ายๆก็คือมันไม่ใช่เรื่องของผม พออะไรที่มันไม่ใช่เรื่องของตัวเองมันก็ดูง่ายไปหมด มันก็แบบนี้อยู่แล้ว คนเรามักจะฉลาดในเรื่องของคนอื่น แต่โง่เรื่องของตัวเองเสมอ



ผมที่นอนกระดิกตีนอยู่บนโซฟาหนังดิ๊กๆ เอื้อมมือไปคว้ารีโมทมากดเปิดทีวี เข้าNetflixไว้แล้วเรียบร้อย ดีเลย สะดวกสบายไปหมด



“พี่มึง กูดูนะ”



“มึงก็เปิดแล้วไหมวะ ดูๆไปเหอะ ปกติกูก็สมัครไว้แต่ไม่ค่อยได้เปิดดูอยู่แล้ว” มันที่บอกผมแบบนั้นแล้วก้มหน้าดูมือถือในมือตัวเอง ก็ไม่รู้ว่าแม่งเพ่งมองดูอะไรนักหนา ช่างแม่งละกัน เปิดดูKingdomเลยละกัน ช่วงนี้เห็นกำลังดัง



ไม่รู้ว่าผ่านไปกี่นาที แต่ว่าผมที่กำลังลุ้นว่าพระเอกจะได้เข้าพบเสด็จพ่อของมันไหมก็ต้องสะดุ้งขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงดังของคนที่อยู่ที่ปลายเท้าของผม ดังจนกูสะดุ้ง



“ทำห่าไรอยู่วะมึงถึงไม่รับ!”



คนตรงหน้าที่ตะคอกออกมาแบบนั้นแล้วกระแทกปลายนิ้วจิ้มเข้าที่หน้าจอมือถือของมันอีกครั้ง โชคดีที่มือถือเป็นรุ่นใหม่เหมือนพึ่งถอยมาหมาดๆ ไม่งั้นหน้าจอมันอาจพังไปแล้ว ก็ไม่รู้จะใส่อารมณ์ทำห่าอะไรขนาดนั้น และพอผมหันกลับไปสนใจหน้าจอ ... เนื้อเรื่องช่วงที่กำลังลุ้นก่อนหน้านี้ก็ถูกตัดไปแล้ว Kพี่เก้อ! แม่ง! ... สุดท้ายผมเลยเลือกที่จะกดปิดทีวีมันซะเลย เพราะดูไปก็ไม่รู้เรื่อง มีไอ้บ้าข้างตัวที่ฟึดฟัดๆเป็นหมาบ้าอยู่แบบนี้ใครมันจะไปมีสมาธิดูวะ



“ฮัลโหลไอ้หยี มึงทำห่าไรอยู่ถึงพึ่งมารับวะ!” เหมือนว่าในที่สุดก็มีคนรับสายมันสักที พี่เก้อมันกระชากเสียงใส่ปลายสายได้อย่างน่าตบ ผมรับรองว่าถ้าผมเป็นปลายสายจะแหกปากด่าว่าโทรมาหาพ่องมึงหรอดึกขนาดนี้ ดึกขนาดนี้แล้วยังกล้ามาตะโกนใส่กู มึงต้องเจอกูแน่



“ไอ้เอมมันอยู่กับมึงใช่ไหม”



“มึงอย่ามาโกหกกูหยี กูรู้ว่าไอ้เอมมันไม่ได้อยู่กับไอ้สัดตุ๊ดปลอมนั่น”  ได้ยินมันตะคอกออกไปแบบนั้นอีกครั้งแล้วรู้สึกว่าตัวผมเองไม่น่ามานั่งอยู่ตรงนี้เลยสะกิดแขนล่ำๆของมันเบาๆ อีกฝ่ายที่หันมามองกัน คิ้วเข้มๆของมันที่ขมวดนิดๆตอนหันมามอง



“ไปหาไรแดกนะ” บอกมันออกไปเบาๆ มันที่ทำแค่พยักหน้าแบบขอไปทีแล้วหันกลับไปกระชากเสียงใส่คนในโทรศัพท์ต่อ และผมมั่นใจว่าคนในโทรศัพท์ของมันต้องเป็นพี่หยีแน่ๆ ... พี่หยีซวยฉิบหายที่ต้องมาเป็นสนามอารมณ์ของไอ้สัดพี่เก้อนั่น คนสวยขนาดนั้น น่าสงสารว่ะครับ



ผมที่เดินเข้าไปในห้องครัวของมันแล้วต้องอ้าปากค้าง ห้องครัวขนาดใหญ่ตกแต่งด้วยสไตล์ทันสมัยที่มีข้าวของครบครัน แต่ผมมั่นใจมากว่าไอ้เจ้าของห้องมันต้องไม่เคยแตะครัวเพื่อเข้ามาทำอาหารแน่ๆ เหลือบมองไปมุมนึงข้างๆไมโครเวฟ มองเห็นมาม่าหลายยี่ห้อถูกวางทิ้งไว้กระจัดกระจายอยู่ตรงนั้นหลายแพ็ค ... นี่มึงกักตุนอาหารเตรียมพร้อมประเทศเราปิดเมืองหรอวะ กูว่าไอ้สัดพี่เก้อคิดมากไปแล้ว น้ำหน้าแบบประเทศเราจะมากล้าปิดเมืองปิดประเทศได้ยังไงกันล่ะครับ เอ้อ .... ผมเลือกจะเดินตรงไปที่ตู้เย็นสองประตูขนาดใหญ่นั่น เปิดออกแล้วเสียใจแทนตู้เย็น ใหญ่ซะเปล่าแม่งกลับไม่ค่อยมีอะไร มองเห็นข้าวกล่องแบบพร้อมทานวางไว้สามสี่กล่อง ไส้กรอกแพ็คนึง ไข่ น้ำเปล่า และนอกนั้นก็คือเบียร์หลายกระป๋องวางเรียงไว้ไม่ต่ำกว่าสิบกระป๋อง มึงกะเอามาขายแล้วล่ะเยอะขนาดนี้ ส่ายหน้าหน่ายๆ แต่สุดท้ายผมก็แบกมันออกมาถือไว้ในอ้อมแขนสี่กระป๋องใหญ่ ก่อนจะเดินกลับไปที่โซฟาที่ห้องรับแขกอีกครั้ง แต่สภาพของคนตรงหน้ากลับแตกต่างจากก่อนหน้านี้ที่มันตะเบงเสียงใส่พี่หยีโดยสิ้นเชิง ตอนนี้มันแค่นั่งเอาแขนสองข้างพาดไปกับพนักโซฟา แล้วทิ้งหัวพิงพนักแบบหมดสภาพ ...



“เป็นอะไรของมึงวะพี่เก้อ”



“เค้าไม่อยู่แล้วว่ะ มันถูกของมึงว่ะไอ้เสือ มึงบอกกูว่าอย่าสำคัญตัวผิด ... แล้วกูแม่ง สำคัญตัวผิดไปจริงๆว่ะ”



“มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่วะ ใจเย็นๆก่อนมึงเพ้ออะไรวะพี่เก้อ”



“เค้ากลับไปกับคนของเค้าแล้วว่ะ กูแม่ง ...น่าสมเพชฉิบหายที่คิดว่าเค้าจะคิดถึงกูก่อน แต่ที่ไหนได้ ลำดับสุดท้ายเค้ายังไม่นึกถึงกูเลยว่ะ”



มันที่บอกออกมาแบบนั้น หันหน้ามามองผมแล้วยิ้มออกมา เป็นรอยยิ้มแบบที่สุดแสนจะขมขื่น ตั้งแต่รู้จักมันมา มันเป็นคนที่เท่มากๆเพราะมั่นใจในตัวเองสูง ไม่สรใจใครหน้าไหน แต่พอมาเห็นแบบนี้แล้ว ผมกลับไม่ชอบมันที่เป็นแบบนี้เลยว่ะ คนที่นั่งเศร้าแล้วตัดพ้ออยู่ตอนนี้ ... โดยเฉพาะมัน มันที่กำลังตัดพ้อด้วยความเศร้าถึงใครอีกคนที่ไม่ได้รักมัน ...ให้กูฟัง



“แดกเบียร์กัน เผื่อมึงจะหายบ้า” ชูเบียร์ที่อยู่ในมือขึ้นไปให้มันเห็น แล้วยกยิ้มให้มันไปในตอนนี้ ก็แค่คิดว่ามันอาจจะเป็นทางออกที่ดี มากกว่าต้องมานั่งฟังมันเศร้าถึงคนอื่นก็แค่นั้น



--------------To be continued--------------



มาต่อครบแล้วจ้า ตอนเวลา ตี2สามสิบสี่นาที คิ๊กคัก จะมีใครรู้ใครเห็น ใครมาอ่านไหมน้าาา



ฝาก #สวยๆเป็นผัว ในทวิตเตอร์ด้วยนะคะ :mew1:




ออฟไลน์ Chucream.nabi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :katai2-1: นี้เดานะ...เมาแล้วได้กัน
ช่วงนี้ดูแลสุขภาพด้วยนะ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2598
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ Yoghurt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
    • แฟนเพจ
บทที่26



“มึงอยากแดก” พี่มันที่ขมวดคิ้วแล้วถามผมออกมาแบบนั้น ก็แค่ยักไหล่ส่งไปเป็นคำตอบให้มันหน่อยๆก่อนจะเดินเข้าไปนั่งลงข้างๆมัน



“ก็เบียร์ฟรีป่ะวะ ใครไม่อยากแดกของฟรีบ้างอ่ะ อย่าโง่” บอกมันออกไปแบบนั้นแล้วเปิดกระป๋องเบียร์ขึ้นกระดกดื่ม



‘ซ่า’



เสียงซาบซ่าบาดหูตอนเปิดกระป๋องเบียร์ทำเอาประทับใจจนต้องยกยิ้มมุมปาก เบียร์มันต้องกินตอนเย็นๆครับ ถ้าปล่อยไว้นานๆหรือกินตอนไม่เย็นมันจะขม



“กูบอกหรอวะว่าฟรี”



“แล้วคือมึงจะคิดเงินกับกูหรอสัดพี่เก้อ จิตใจคนเป็นพี่แบบมึงแม่งเชื่อถือไม่ได้”



“ก็ถ้าจะด่ากูขนาดนี้ กูไปเผาบ้านมึงหรือไงวะ จะแดกก็แดกไปเหอะ” มันที่ว่าแบบนั้นแล้วทำหน้าเพลียก่อนจะเอนตัวลงพิงพนักโซฟาด้วยท่าทางง่อยๆแบบนั้นเหมือนเดิม เฉามากเหมือนจะตาย



“สภาพเหมือนคนตายแบบนี้ไม่เหมาะกับมึงเลยว่ะ เห็นแล้วขยะแขยงลูกตา กูอยากเอาเท้าหนีบมึงไปหย่อนลงถังขยะ”



“สัด กูพี่มึงนะ”



“มึงเป็นใคร กูลูกคนเดียว” พูดออกไปแบบนั้น แล้วยิ้มกว้างใส่มันแบบกวนตีนกัน มันที่เอื้อมมือมากระชากกระป๋องเบียร์ที่ผมถืออยู่ไปหน้าตาเฉย ก่อนที่ฝ่ามือหนาๆของมันจะยื่นมือมาผลักหัวกันจนหัวกูโยก แรงควายฉิบหาย



“กวนส้นตีนจริง”



“แล้วทำไมต้องมาเอาของกูด้วยวะ นู่น ตั้งเยอะแยะ”



“กูพอใจจะแดกอันนี้ เบียร์กู เสือกไร”



“อะ แล้วแต่มึงเลยแม่ง”



หมดคำจะพูด กูจะถือว่าอาการวันนี้ของมึงไม่ค่อยดีหรอกนะถึงยอมให้วันนึง ไม่งั้นมึงเจอกูต่อยอีกรอบแน่ไอ้สัดพี่เก้อ .... ผมที่ส่ายหน้าหน่อยๆ ก่อนจะไถลตัวลงไปนั่งที่พื้น แล้วเอาหลังพิงโซฟาไว้แทน นั่งกับพื้นแบบนี้ก็สบายดี แถมพื้นห้องมันยังปูพรหมนุ่มตีนไปทั้งห้อง จะนั่งตรงไหนก็สบายไปหมดอยู่แล้วครับ ผมที่เอื้อมมือไปหยิบเบียร์กระป๋องใหม่มาเปิดดื่ม อืม...ก็ยังอร่อย เป็นเบียร์นอกครับ ดื่มแล้วนุ่มๆลิ้นดี



“พี่เก้อ”



“หื้ม”



“พี่มึงโอเคยังวะ” ผมที่เลือกจะถามออกไปแบบนั้นในตอนที่ผมดื่มเบียร์ลงไปจนครึ่งกระป๋องแล้ว บรรยากาศมันเงียบมากเกินไป ไม่มีเสียงอะไรจนผมต้องเป็นฝ่ายถามออกมาเองทั้งแบบนั้น



“อืม”  มันที่แค่ตอบรับกลับด้วยเสียงที่เปล่งผ่านลำคอแบบไม่ได้ดังไม่เบา สงสัยจริงๆว่ามันทำหน้ายังไงตอนที่ทำเสียงแบบนั้นออกมา สงสัยจนต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง ผมที่เอนหัวลงไปพิงไว้กับที่นั่งของโซฟาแล้วจ้องหน้าอีกคน มันที่นั่งอยู่บนนั้นก้มหน้าลงมามองกันในตอนนั้นพอดี



“พี่มึง...”



“กูโอเค ขอบใจที่คืนนี้มึงอยู่ด้วย” มันที่บอกแบบนั้นแล้วก้มหน้าลงมามองหน้ากัน หน้าของมันที่ก้มลงมาใกล้ ในตอนนั้นที่ลมหายใจของผมก็รู้สึกสะดุดแปลกๆ อาจเป็นเพราะคืนนี้ผมกินทั้งเบียร์กินทั้งเหล้าผสมกันมากไปหรือเปล่าก็ไม่รู้ ตอนนี้มันถึงรู้สึกแปลกๆอย่างบอกไม่ถูก



“ใครบอกกูจะอยู่ด้วย เดี๋ยวแดกกระป๋องนี้หมดกูกลับละ” บอกมันแบบนั้นแล้วเด้งหัวมานั่งตัวตรงดีๆ



“ทำไมมึงกลับวะ”



“ก็เพราะกูไม่อยากอยู่ไงวะ มึงก็ถามไม่คิดเลยสัดพี่เก้อ” บอกออกไปพร้อมทำหน้าเพลีย แต่จริงๆก็ไม่ได้หันหน้ากลับไปมองมันอีก ผมที่ทำแค่จ้องหน้าจอทีวีสีดำเพราะตอนนี้ปิดทีวีไปนานแล้ว ไม่ได้หันไปมองหน้ามันอีก ถึงแบบนั้นกลับรู้สึกเย็นๆวาบๆที่หลังคอยังไงก็ไม่รู้



“มึงกลัวกู?” สัด ... อยากจะหันกลับไปด่ามันด้วยประโยคนี้ แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะเงียบไม่เถียงแม่งออกไปอีก รำคาญ



“ไอ้เสือ...ว่าไง” แต่ไอ้คนที่นั่งขัดตะหมาดอยู่บนโซฟาเหมือนจะไม่ยินยอมให้กูอยู่เงียบๆ มันที่เลื่อนเท้ามาสะกิดไหล่กันยิกๆ มึงไม่ฟาดหน้ากูไปเลยล่ะ



“เซ้าซี้เหี้ยไรวะพี่ เจ๊าะแจ๊ะว่ะพี่” ขมวดคิ้วสะบัดหน้าหันไปมองหน้ามัน และก็เป็นช่วงเวลาที่มันเองก็ก้มหน้าเข้ามาหา ปลายจมูกของผมกับมันที่สัมผัสกันแบบไม่เบาทำเอารู้สึกเจ็บนิดๆ เห็นแบบนั่นแล้วได้แต่ผงะกายออก แต่ติดตรงที่อีกฝ่ายก็เอื้อมมือมาดึงแขนกันไว้ก่อน



“หนีทำไมวะ”



“หนีเหี้ยไรล่ะ แล้วมึงจะเลื่อนมาเข้ามาทำKอะไรสัดพี่เก้อ”



“หึ”



“ไม่ต้องมามองหน้ากู บีบคั้นเหี้ยไรปล่อยแขน” ว่าแบบนั้นใส่หน้าไอ้คนที่จ้องตากันไม่เลิก และเป็นผมที่ดึงแขนตัวเองออกมาจากฝ่ามือของมันได้ในที่สุด หันหน้าไปหยิบกระป๋องเบียร์ของตัวเองมากระดกขึ้นจนหมดกระป๋องแล้วบี้มันให้แบนด้วยมือข้างเดียวแล้วโยนมันลงพื้น ก่อนที่ผมจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงของตัวเอง ไอ้คนที่ยังนั่งอยู่บนโซฟาเงยหน้ามองตามมา



“กูรู้นิสัยมึงดีพี่ ถ้าพอเมาแล้วมึงชอบเลื้อย” บอกออกไปแบบนั้น พออีกคนได้ฟังมันก็หัวเราะออกมานิดนึงแล้วยกยิ้มมุมปากเหมือนจะกึ่งขำกึ่งถูกใจกับคำพูดของผม



“ส่วนมึง เมาแล้วชอบเงี่ยน กูก็รู้” มันที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วยักคิ้วใส่กันทีนึง กวนตีนจนกูอยากเอื้อมมือไปถอนขนคิ้วแม่ง



“เออ เพราะงั้นกูจะกลับไปนอนหอกู”



“กลัวเหี้ยไรวะ มึงกับกูยังไม่เมาสักหน่อยไหมวะ”



มันที่ว่าแบบนั้นทั้งๆที่ตอนนี้ก็เริ่มจะหน้าแดงๆ ส่วนผม ... ผมรู้ตัวเองดีว่าสติไม่ได้ครบถ้วนอะไรเท่าไหร่ แต่ที่ฝืนอยู่ก็เพราะเห็นว่ามันไม่ปกติ เพราะถ้าเป็นปกติ ทั้งผมทั้งพี่มันก็คงต่างคนต่างไป และตอนนี้เราทั้งคู่คงนอนอยู่บนเตียงของใครสักคนที่เราจำหน้าได้ไม่ดีล่ะมั้ง ... ผมกับมัน นิสัยคล้ายกันมากจนเกิน เพราะแบบนี้...ผมถึงต้องกลัว



“พอๆ ไม่ต้องมามองหน้ากู กูไม่เลื้อยมึงหรอกน่า”



“อย่ามาพูด มึงตัวดีสัดเก้อ”



“ลามปามเป็นขี้กากเลยนะ นั่งๆ หมดในตู้เย็นมึงค่อยกลับ”



“พ่อมึง แดกขนาดนั้นกูคงกลับได้หรอก” นึกถึงเบียร์ที่ยังอยู่ในตู้มันกูคิดว่าคงต้องเอามาอาบแทนเอามากินมันถึงจะหมด



“ไม่คนามือเราสองคนหรอกว่ะ ...นะไอ้เสือ กู....กูยังไม่อยากอยู่คนเดียวว่ะ”  ในที่สุดมันก็พูดออกมาแบบนั้น สายตาคมที่อวดทำเป็นเข้มของก่อนหน้านี้ แสงในตาของมันที่ดูหม่นลงไปแบบไม่ใช่เรื่องตลกนั่นทำให้ผมต้องถอนหายใจออกมาก่อนจะทรุดตัวลงนั่งที่เดิม



“ไหน อาการเป็นไงไหนบอกหมอสิหนู”



“หึ ไอ้หมอเด็ก”



“อะ กวนตีนกูละ สรุปจะให้อยู่ด้วยไหม”



“เออๆ ฉุนเฉียวไวจังวะ เฮ้อ...ไอ้เสือ กูว่ากูเจ็บว่ะ”  มันที่บอกแบบนั้นพร้อมถอนหายใจออกมาหนักๆ ถ้าพูดตรงๆก็ไม่เคยเห็นมันในสภาพเหี่ยวเฉามากขนาดนี้มาก่อน ... ความรู้สึกรักใครสักคนมันน่ากลัวขนาดนี้เลยหรอวะ ถ้ามันไม่ดีขนาดนี้ แล้วจะไปอยากมีความรักกันเพื่ออะไรนักวะ ผมแม่งโคตรไม่เข้าใจ



“พี่มึงรักเค้าขนาดนั้นเลยหรอวะ”  อดไม่ได้ สุดท้ายก็ถามมันออกไป หันไปมองหน้าคนที่นั่งอยู่บนโซฟา เสี้ยวหน้าหล่อคมของมันทำให้ผมสงสัยว่าคนที่หล่อ รวย และถ้าพูดถึงนิสัย ผมว่ามันเป็นคนจริงใจ แล้วคนที่พร้อมขนาดนี้ ทำไมถึงมีวันที่มันพูดออกมาว่าเสียใจเพราะความรักได้วะ



“กูไม่รู้ว่ะ ... รู้แค่ว่ากูเจอมันตอนปี1 มันที่เดินทำหน้างงๆเข้ามาแล้วทักกูว่า ‘ฮัลโหลจ้าไอ้สัด’ แล้วยิ้มในตอนนั้นแม่งโคตรจะน่ารักเลยว่ะ”



“รักแรกมึงแปลกๆนะ” ความประทับใจแม่งพิสดารจนกูอดพูดไม่ได้ คนห่าไรชอบคนทักว่าฮัลโหลจ้าไอ้สัด เป็นคนจะถีบให้ด้วย



“มึงไม่เข้าใจ ตอนไอ้เอมยิ้มมันน่ารักมาก มันเป็นคนสดใสแต่ชีวิตแม่งเสือกเฮงซวย ... กูอยากปกป้องมัน”



“มึงเป็นใครก่อนอ่ะเก้อ”  ผมที่ถามออกไปแบบนั้น และมันเองก็เหมือนจะชะงักเรื่องราวที่กำลังเล่าอยู่แล้วหันมามองหน้าผมที่ก็มองตอบมันกลับไปแบบไม่หลบตา แม้ว่าสายตาของมันในตอนนี้จะไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่



“มึงหมายความว่าอะไร”



“ก็หมายความตามที่พูด มึงเป็นใคร”



“กู...”



“มึงเป็นแค่เพื่อนเค้า”



“มึงไม่ต้องมาย้ำได้ไหมวะ แม่ง” เหมือนมันจะหงุดหงิดขึ้นมาทันที ผมสังเกตหลายครั้ง จริงๆมันเป็นคนใจร้อน แต่มักจะร้อนมากๆกับเรื่องพี่เอม ครั้งก่อนมันเคยเล่าให้ผมฟังว่ามันทะเลาะกับพี่หยีเพราะพี่หยีบอกให้มันหยุดคิดเรื่องพี่เอม และครั้งนั้นก็ต้องลำบากกูไปหาซื้อเครื่องสำอางค์มาง้อพี่หยี เหตุเพราะคู่นอนผมเยอะ ผ่านประสบการณ์ที่ผู้หญิงแต่งหน้าหนาๆมาหลอกว่าสวยพอตอนเช้าตื่นมาหน้าสดแล้วตกใจบ่อย ผมเลยรู้ว่ายี่ห้อไหนกำลังดัง ... นั่นแหล่ะ ครั้งนั้นก็เพราะเรื่องพี่เอม และดูเหมือนครั้งนี้คำพูดของผมก็จะไปสะกิดส้นตีนมันเช่นกัน แต่ผมก็ไม่คิดจะหยุดพูด



“กูไม่ได้ย้ำ แค่อยากบอกให้มึงเข้าใจสถานะของตัวเองในตอนนี้”



“แล้วกูไม่ดียังไงวะ ไม่ว่าเมื่อไหร่กูถึงไม่เคยชนะใจไอ้เอมเลย ตอนนั้นมันก็คบกับไอ้เหี้ยมาร์ช แล้วเป็นไงสุดท้ายก็ต้องเจ็บ พอหมดไอ้เหี้ยมาร์ช แม่งยังมีไอ้เหี้ยดานี่ ดาบพ่อแม่ไรนี่มาอีก สัด ตุ๊ดปลอม! ถ้ามันคบกับกู กูจะไม่ปล่อยให้แม่งต้องเจ็บแบบนี้เลย”



มารัวๆ กูงงตั้งแต่มาร์ช มาร์ชไหนก่อน แต่เดาเอาเองว่าน่าจะเป็นชื่อของแฟนเก่าพี่เอม ... ส่วนดาบดานี่เหี้ยไรนี่ คิดว่ามันน่าจะหมายถึงเจ้าของร้านที่มันไปตั๊นหน้าเค้ามาในคืนนี้ ผมไม่รู้ตื้นลึกหนาบางเรื่องของพี่เอมมาก แค่เก็บเล็กผสมน้อยจากคำพูดที่ไอ้พี่เก้อมันชอบพร่ำ และได้ข้อสรุปว่า พี่ดาบดานี่เหี้ยไรนี่ กับพี่เอม...เค้าคงชอบกัน ไม่งั้นสภาพพี่เก้อมันคงไม่เป็นหมาแบบนี้



“มึงอาจจะทำให้เค้าไม่ต้องเจ็บได้ แต่มึงไม่เข้าใจว่ะพี่เก้อ”



“ไม่เข้าใจเหี้ยไรวะ กูเข้าใจไอ้เอมที่สุด”



“หรอวะ...ถ้ามึงเข้าใจพี่เอมที่สุด ทำไมมึงถึงไม่เข้าใจล่ะวะ ว่าเค้าไม่ได้ชอบมึง”



“มึง...ไอ้เสือ มึงพูดเหี้ยไรออกมา!” ผมถอนหายใจออกมาเงียบๆหลังจบคำถามของมัน เหมือนคำพูดของผมจะแทงใจมัน แรงไปหรอวะ แต่คิดว่าไม่นะ ถ้าเบากว่านี้แม่งก็ไม่เข้าใจสักที



“มึงมั่นใจว่าจะให้กูพูดอีกรอบ” ผมที่จ้องหน้ามันแล้วถามออกไปแบบนั้น มันที่จ้องตาผมแบบดุๆ เป็นสายตาแบบนี้ทุกครั้งเวลาที่มันโมโห สายตาในครั้งแรกที่ผมกับมันเจอกัน



“ยอมรับเหอะว่ะพี่”



“มึงแม่งไม่เคยมีความรักไอ้เสือ มึงไม่เข้าใจ แบบมึงที่ก็แค่ไปนอนๆกับใครก็ได้น่ะ” ผมขมวดคิ้วตอนที่ได้ยินมันพูดออกมาแบบนั้น จริงๆใครจะพูดแบบนี้กับผมก็ได้นะ ผมได้ยินบ่อยแล้ว แต่จากมันนี่เป็นครั้งแรก



“ทำไม มึงไม่พอใจที่กูพูดหรอวะ” มันที่ถามออกมาอีกครั้ง



“ใช่ กูไม่เคยมีความรัก ก็แค่ความเงี่ยนนำแต่กูไม่เคยใช่สมองตามนะ สมองกับความเงี่ยนกูไปพร้อมกัน กูรู้ว่ากูทำอะไรอยู่ แต่คนที่มีความรักแบบนี้ได้ใช้สมองบ้างไหมล่ะ ตอนนี้มึงถึงยังไม่เข้าใจว่าไม่ใช่มึงไม่ดีพอ แต่มึงที่ดีมากๆจะไม่มีวันชนะใจพี่เอมได้ เพราะเค้าไม่ได้รักมึง”



“ไอ้เสือ!” มันที่ตะคอกออกมาดังลั่นแบบหมดความอดทนที่จะทนฟัง สายตาที่ไม่เป็นมิตรมากๆของมันในตอนนี้ทำเอาผมรู้สึกกลัว แต่ผมก็เลือกที่จะจ้องหน้ามันกลับไปเหมือนไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น ถึงแม้ว่าในใจจริงๆตอนนี้จะสั่นมากๆก็ตาม



“สัด” มันที่สบถออกมาแบบนั้นแล้วยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองแล้วหายใจหนักๆออกมาจนผมได้ยิน เหมือนมันกำลังข่มใจมากๆ ... ข่มใจไม่ให้ลุกขึ้นมาต่อยหน้าผม ซึ่งนั่นก็ดีแล้ว



“ถ้าเป็นคนอื่นกูจะกระทืบที่พูดแบบนี้กับกู” มันที่ชันหัวเข่าข้างนึงขึ้นเหยียบบนโซฟาแล้วใช้แขนวางลงบนหัวเข่าข้างนั้นเอียงหน้ามองผมนิดหน่อย เป็นสภาพเละเทะที่ต้องยอมรับว่าหล่อฉิบหาย



“พอเป็นกูแล้วไม่ทำ รักกูมากล่ะสิ รู้”



“หึ เออ...ก็มึงน้องกูนี่หว่า มา เอามาแดกอีก กูจะแดกให้ลืมไอ้เอมเลยแม่ง”



“สาธุบุญครับพี่รหัส ถ้าแดกหมดแล้วมึงมูฟออนได้กูก็จะยอมแดกเป็นเพื่อน เอ้า เอาไปกูเปิดให้”



ยื่นกระป๋องเบียร์กระป๋องใหม่ไปให้ไอ้คนที่นั่งหน้าแดงอีกกระป๋อง แล้วผมก็ยกมาเปิดกินไปอีกกระป๋อง สติของผมกับมันไม่ได้ครบเท่าไหร่ แต่พวกเราก็เลือกที่จะเปิดเบียร์กระป๋องแล้วกระป๋องเล่าไปเรื่อยๆ ตรงโต๊ะหมดก็ไปเอาจากในตู้เย็นมาใหม่ กินกันไปอยู่แบบนั้นเรื่อยๆไม่ต่ำกว่าสิบกระป๋อง ไอ้พี่เก้อที่ไถลลงมานอนที่พื้นข้างๆผม ส่วนผมก็เอนตัวนอนลงบนพื้นแม่งเลย รู้สึกเวียนหัว มองเห็นเพดานสูงโปร่งของห้องมันที่หมุนไปรอบๆ ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่บนเรือกลางทะเล ตัวเรารู้สึกโครงๆเครงๆแต่หัวก็เหมือนถูกบีบ เหมือนมีค้อนใหญ่ๆตอกลงมาที่หัวดังตุบๆอยู่ตลอดเวลา ...



อืม ชัดเลย ดีใจด้วย กูเมาแล้ว



เอียงหัวพยายามลืมตา ให้กว้างที่สุดไปมองไอ้คนที่เอาหลังพิงโซฟาอยู่ตอนนี้ ดวงตาคมของมันที่หลับลงเรียบร้อยแล้วในตอนนี้ ชัดเหมือนกัน มันเองก็เมาแล้วแน่นอน



“พี่เก้อ”



“อื้ออ ว่าไงวะ เอิ๊ก” ความเมาทำให้สะอึกออกมาแบบขัดกับความหล่อของหนังหน้า ตลกฉิบหาย



“กูง่วงว่ะ”



“ง่วงก็นอนเลย กูก็ลืมตาไม่ขึ้นแล้วว่ะ มึนสัดๆ”



“ปิดไฟ กูแสบตา” บอกมันแบบนั้นแล้วหลับตาลง ได้ยินเสียงกุกกักจากข้างๆตัว ฝืนลืมตาขึ้นมาดูนิดหน่อย มองเห็นพี่เก้อมันหยิบรีโมทเล็กๆขึ้นมากด แล้วไฟในห้องมันทั้งชั้นนี้และชั้นสองก็ค่อยๆหรี่ลงช้าๆ ก่อนที่ทุกอย่างจะตกอยู่ในความมืด มีเพียงแสงสลัวๆที่ส่องเข้ามาจากกระจกบานสูงข้างๆห้องรับแขกนี้ที่ทำให้แสงสว่างจากท้องฟ้าข้างนอกส่องเข้ามาได้ เพราะมันไม่ได้ปิดม่าน ... กระจกบานนี้สูงถึงชั้นสองเลย คิดว่ามันคงสั่งทำเป็นพิเศษเพื่อให้ได้มองเห็นวิวของแม่น้ำด้านนอกในตอนเช้าๆล่ะมั้ง ... นิสัยรวย



“นอนเหอะมึง”



“อื้อ”  ตอบรับมันออกไปแบบนั้น แล้วทั้งผมและมัน เราทั้งคู่ก็แค่หลับตาลงไปพร้อมๆกันในตอนนี้



.

.

.



(มีต่อจ้า)

ออฟไลน์ Yoghurt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
    • แฟนเพจ

ผมที่พลิกตัวไปมาอยู่บนพื้นพรหมที่ไม่ได้นิ่มเหมือนเตียงนอนนี่ไปมา ความรู้สึกที่ทั้งมึนทั้งอึดอัดนี่ทำให้หงุดหงิดฉิบหาย แดกเมาทีไหร่เป็นแบบนี้ทุกที



“ซี๊ด”  หงุดหงิดจนเผลอซี๊ดปาก อยากจะลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ แต่ก็มึนเกินกว่าจะอยากลืมตาลุก



“อือ มึงเป็นไร นอนไม่หลับ” เสียงทุ้มเข้มที่ดังมาจากข้างหลังดังอยู่ข้างๆหู ทำให้ขนที่หลังคอลุกขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ ลมหายใจร้อนๆที่รินรดอยู่ตรงนั้นยิ่งทำให้ต้องเผลอกัดปาก



“เปล่า พี่มึงนอนเหอะ” บอกปัดออกไปแบบนั้น แต่ก็ต้องสะดุ้งอีกครั้งเมื่อช่วงเอวถูกวงแขนแกร่งวางพาดลงมา



“สัดพี่เก้อ”



“กอดหน่อย กูหนาว อืม”



“กูไม่ใช่หมอนข้างนะ มึงปล่อย” แม่งเป็นงี้ทุกที ไหนบอกไม่เลื้อยไงวะสัด



“มึงมั่นใจว่าอยากให้กูปล่อยหรอวะ”  คำพูดของมันที่ถามออกมาแบบนั้น ผมที่ถูกแขนแข็งแกร่งนั่นกอดอยู่แบบนั้น ทำได้แค่เอียงหน้าหันหลังกลับไปมองหน้ามันด้วยความสงสัย และพอมองเห็นสายตาคมวิบวับในตอนนี้ก็เผลอที่จะกัดปากออกมาไม่ได้ ... ไม่ชอบความรู้ดีของมัน



ฝ่ามือหนาที่วางพาดอยู่ตรงหน้าท้องของผม เลื่อนลงไปช้าๆจากหนาท้อง สะดือ จนถึงท้องน้อย ... ได้แต่เผลอหายใจสะดุดในตอนนี้ และต้องกลั้นใจหายใจอีกครั้งในตอนที่ฝ่ามือวางทาบลงบนแกนกายของผมผ่านกางเกงที่ผมสวมใส่



“อึก ไอ้...”



“มึงแข็งว่ะเสือ มึงอยากหรอวะ”



“สัด รู้แล้วถามทำเหี้ยไรวะ มึงปล่อย” บอกมันออกไปแบบนั้นอย่างหงุดหงิด และยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นกว่าเดิมเพราะพอมือของมันวางลงตรงนั้น ดูเหมือนร่างกายของผมก็จะยิ่งตอบสนองดีโดยการสู้มือมันมากขึ้นกว่าเดิม ... ผมที่กำลังรู้สึกกลัว เป็นความรู้สึกกลัวตัวเอง กลัวร่างกายของตัวเอง ...และที่สำคัญ ผมกลัวใจของตัว



“ไอ้พี่เก้...อึก อืม”



ผมที่ตั้งใจจะด่ามันแบบนั้น หันหน้าไปพูดกับมันยังไม่ทันที่จะจบประโยคดี คำพูดของผมก็ถูกกลืนหายลงไปในลำคอของตัวเองตามเดิม พร้อมๆกับริมฝีปากอุ่นของมันที่บดเบียดเข้ามาหา วงแขนแข็งแกร่งอีกข้างที่สอดจากข้างใต้ลอดตัวของผมและดึงตัวของผมให้พลิกกลับหันหน้าเข้ามาหามัน  ความรู้สึกแนบชิดที่ใกล้กันจนตัวผมสั่น ลมหายใจที่ถี่กระชั้นขึ้นมาแบบห้ามไม่อยู่ นี่ไม่ใช่จูบแรกของผมกับมัน แต่เป็นจูบครั้งแรกที่ความรู้สึกวาบหวามขนาดนี้ เราสองคนที่นอนตะแคงข้างเข้าหากันแล้วจูบกันอย่างร้อนแรงอยู่แบบนี้ และยิ่งวูบไหวในอกมากขึ้นไปอีกครั้งที่รับรู้ได้ถึงต้นขาแข็งแกร่งที่สอดเข้ามาระหว่างหว่างขาของผมช้าๆ ต้นขาแข็งแกร่งของมันที่ถูไถไปที่กลางกายของผมอย่างตั้งใจ



“อึก พี่มึง...อ๊ะ”

เสียงร้องของตัวเองที่ทำให้รู้สึกอยากลุกขึ้นต่อยตัวเอง แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ ทำได้เพียงแค่เบียดตัวเข้าไปหามันมากขึ้นในตอนที่ฝ่ามือของมันล้วงเข้ามาในเสื้อของผม มือของมันเย็นจนผมสะดุ้ง คิดว่าเย็นจากแอร์ที่เราเปิดไว้ แต่ไม่คิดว่ามันจะเย็นขนาดนี้ แต่สุดท้ายก็ต้องสะดุ้งในตอนนี้นิ้วเรียวของมันคีบลงบนหัวนมของผม



“อ๊ะ อืม”



และแทนที่ผมจะลุกขึ้นปัดป้อง แต่กลับเป็นตัวผมที่แทรกลิ้นของตัวเองเข้าไปในโพรงปากของมัน จูบตอบมันแบบไม่ยอม จากความรู้สึกวาบหวามเมื่อก่อนหน้านี้กลายเป็นความร้อนแรงในนาทีต่อมา มือของผมที่พยายามเกร็งจิกเข้ากับฝ่ามือตัวเอง สติที่กำลังกระซิบบอกผมว่า มึงตั้งสติหน่อยสิวะไอ้เสือ มึงที่เคยด่าพี่มันว่าสมองต้องเดินไปพร้อมกับความเงี่ยนไง เพราะฉะนั้นมึงช่วยมีสติและลุกขึ้นผลักมันออกสิวะ



มือของพี่มันอีกข้างที่ล้วงเข้าไปในกางเกงของผมในตอนนี้ทำให้สติของผมกระเจิดกระเจิงไปในที่สุด มันที่ผละริมฝีปากละจูบออกมา แต่ใบหน้าของมันที่ก็ไม่ได้ผละไปไกลทำให้ผมเห็นดวงตาคมคู่นั้นที่ยังมองกันอยู่ในตอนนี้ สายตาพราวที่มองกันอย่างร้อนแรง



“หึ” มันที่หัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะเอียงหน้าลงมาจูบแก้มผมเบาๆ ได้แต่หลับตาลงช้าๆในตอนนั้น



“เสือ...กูอยาก”



“อืม...กูก็อยาก”



   บ่อยครั้งที่ตัวผมเองก็รู้สึกว่าคนเราไม่ได้ต่างจากแมลงเม่ามากเท่าไหร่ มองเห็นแสงไฟก็กระโจนเข้าไปเพียงเพราะต้องการเล่นกับมัน ... และก็คงไม่ต่างจากตัวผมในตอนนี้ ที่กำลังบอกตัวเองว่า มันก็แค่ไฟกองเล็กๆกองนึงเท่านั้น แค่โดดลงไปไม่ทำให้ตัวไหม้หรอก อย่างน้อยมึงก็มีน้ำที่เอาไว้ดับไฟ โดดลงไปเล่นสนุกกับมันสิ ...ก็แค่ครั้งเดียว ครั้งเดียวก็แค่นั้นเอง



   ลำตัวแข็งแรงของมันที่ทาบทับลงมาแนบกับลำดับตัวของผมในตอนนี้ ริมฝีปากของเราที่ถูกดึงดูดเข้าหากันอย่างอัตโนมัติ เราสองคนที่จูบกันอีกครั้ง ครั้งแล้วครั้งเล่า น้ำใสที่ไหลออกมาจากมุมปากเพราะจูบกันนานจนเกินไป ฝ่ามือหนาที่เอื้อมลงไปกระชากกางเกงของผมให้ออกไปให้พ้นทางพร้อมๆกับกางเกงในและตามมาด้วยเสื้อที่ถูกพี่มันเหวี่ยงออกไปไกลๆ เป็นความรู้สึกสั่นไหวในหัวใจ หัวใจของผมที่เต้นไม่เป็นจังหวะมากกว่าครั้งไหนๆในชีวิตนี้ ริมฝีปากอุ่นที่ผละจากกันแล้วเปลี่ยนเป้าหมายมาครอบลงบนหัวนมของผม ตกใจจนเผลอสะดุ้งเฮือกแอ่นหน้าอกขึ้นมาในตอนนี้ ฝ่ามือหนาของมันที่ก็ไม่ปล่อยให้ตัวเองว่าง เลื่อนลงไปวางอยู่ที่แกนกายของผมแล้วขยับฝ่ามืออย่างต่อเนื่องปลุกเร้าอารมณ์ของผมให้ไม่สะดุด ... ผมรู้ว่ามันเก่ง และผมเองก็มั่นใจว่าเรื่องแบบนี้ผมเองก็เก่ง แต่ไม่เคยคิดมาก่อนว่ามันเก่งมากขนาดนี้



มันที่จับผมพลิกตัวลงนอนคว่ำกับพื้นแล้วดึงสะโพกของผมให้ยกสูงขึ้นมา ในตอนนี้ก็เป็นช่วงเวลาที่เหมือนผมจะได้สติขึ้นมาบ้างแล้ว ความคิดบางอย่างที่ทำให้ผมดิ้นตัวหนีจากมัน ได้ยินเสียงมันจิ๊ปากขัดใจเบาๆ แต่ถึงแบบนั้นก็ไม่สน ทำแค่ยันขาถีบขามันให้ออกห่าง



“ปล่อยไอ้พี่เก้อ กูไม่ถูกเสียบ...อ๊ะ อื้ออ”  ประโยคคำพูดของที่เปล่งออกมาได้ยังไม่ทันครบประโยคดีก็ถูกแทนที่ด้วยเสียงครางของตัวเอง พร้อมๆกับตัวผมที่ต้องทรุดลงไปนอนราบกับพื้น ในตอนที่นิ้วเรียวยาวของมันแทรกเข้ามาในช่องทางด้านหลัง เป็นความรู้สึกเจ็บที่ต้องเผลอกัดปาก เจ็บจนด่ามันไม่ออก



“มึงยังซิงจริงๆนี่หว่า”



“สัดพี่เก้อ อื้ออ” นิ้วที่สองและนิ้วที่สามตามมาในเวลาต่อมาแบบไม่ให้พักหายใจ สาบานว่าถ้าหลุดออกจากตรงนี้ไปได้กูจะเอาตีนแนบหน้ามึงไอ้สัดเก้อ



ลมหายใจของผมที่ถี่กระชั้นขึ้นมา เป็นความรู้สึกแปลกใหม่ในตอนที่นิ้วอุ่นๆของมันผลุบเข้าผลุบออกในช่องทางด้านหลัง ก่อนที่จะต้องสะดุ้งอีกครั้งเมื่อนิ้วอุ่นๆนั่นชนเข้ากับผนังด้านในที่ทำให้ผมต้องขมิบช่องทางด้านหลังแบบอดไม่อยู่



“ตอดนิ้วกูไม่หยุดเลยว่ะเสือ กูจะไม่ไหวแล้วว่ะ” เสียงกระซิบแหกพร่าที่มาพร้อมริมฝีปากอุ่นที่จูบลงมาที่ใบหูของผมเบาๆทีนึง พร้อมๆกับนิ้วที่สอดอยู่ที่ช่องทางของผมถูกดึงออก เป็นความรู้สึกวูบๆโหวงๆในช่องทางด้านหลังที่ชวนขัดใจ



“หึ ใจเย็นๆ”  มันที่ว่าออกมาแบบนั้นด้วยเสียงหัวเราะเบาๆที่ชวนให้โมโห เพราะเหมือนมันล้อกัน รับรู้ถึงแกนกายร้อนๆที่ถูไถอยู่ใกล้ๆช่องทางด้านหลังของผมในตอนนี้ และนั่นก็ทำให้ต้องเบียงสะโพกหนีอีกครั้ง



“อยู่นิ่งๆสิวะ”



“ไม่ ไอ้สัด! มึงใส่ถุงเลย” หันหน้าไปบอกมันแบบนั้นพร้อมจิกหัวมันด้วยหนึ่งที เห็นมันเบ้หน้าด้วยความเจ็บ แต่ถือว่ากูแก้แค้นที่เมื่อกี้มึงกระแทกนิ้วเข้ามาแบบกูไม่ยินยอม



“มึงไม่ไว้ใจกู”



“หน้าแบบมึงอ่ะเอดส์จะแดกก่อนจะตายตามอายุขัยอีกไอ้สัด โคตรมั่ว”



“สัด มึงต่างจากกูมากมั้ง” มันที่ว่าแบบนั้นแต่เอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าตังค์ของมันที่มันโยนไปไว้แถวโซฟาแล้วหยิบถุงยางออกมาจากกระเป๋าอันนึง



“มึงนี่เตรียมพร้อมฉิบหาย”



“กูไม่เคยสดกับใครเลย มึงจำเอาไว้” มันที่บอกแบบนั้นแล้วใช้ปากฉีกถุงยางออก เป็นภาพที่ต้องเผลอกลืนน้ำลายในตอนนี้เห็น ใบหน้าคมที่ชื้นเหงื่อตามไรผม มองไล่ลงมาที่อกแกร่ง และหน้าท้องมีซิคแพคแน่นๆของมันจนถึงแกนกายขนาดใหญ่ที่ตอนนี้ขยายเต็มที่แล้วที่กำลังชี้หน้าผมอยู่ เห็นแล้วได้แต่กลืนน้ำลาย กูจะตายไหมวะ



“หึ” หัวเราะออกมาแบบนั้นตอนที่มันเห็นสายตาของผม ฝ่ามือหนาที่ยกขึ้นเสยผมที่ปรกหน้าของตัวเองให้ออกจากหน้าที่นึง มืออีกข้างที่สาวแกนกายแกร่งอยู่ตรงหน้าของผมก่อนจะครอบถุงยางลงไปตามความยาว ก่อนที่มันจะดันตัวผมให้ลงไปแนบกับพื้นอีกครั้งแล้วดึงสะโพกของผมให้ลอยขึ้นไปหา



“อึก อื้ออ” ได้แต่ร้องครางออกมาแบบนั้นในตอนที่ส่วนหัวค่อยๆแทรกตัวเข้ามาในตัวของผม เป็นความรู้สึกแปลกใหม่ที่ทั้งเจ็บและจุก ตัวของผมสั่น ไม่ต่างจากหัวใจของผมที่สั่นระรัว ริมฝีปากอุ่นที่มาพร้อมๆกับวงแขนแข็งแกร่งที่กอดตัวของผม ริมฝีปากที่จูบลงที่หลังคอ หัวไหล่ ขบเม้มเบาๆตามสันหลัง รู้สึกเสียววาบไปทั่วทั้งตัว



“อ๊ะ อื้มม” น้ำตาของผมไหลลงมาในตอนที่ความยาวใหญ่นั้นกระแทกเข้ามาจนสุดความยาว เสียงหายใจหอบถี่กระชั้นมากขึ้นอีกพร้อมๆกับช่องทางด้านหลังที่รับรู้ว่ากำลังตอดตุบๆ รับรู้ถึงอะไรบางอย่างที่ถูกแทรกเข้ามา อะไรบางอย่างที่ไม่ใช่อวัยวะของเรา แต่เป็นของใครอีกคน...ใครอีกคนที่กำลังโอบกอดตัวของผมไว้ และจูบไล้ไปตามข้างแก้มอย่างแผ่วเบา



“ครั้งแรกของมึง”



“สัด อย่าพูด อึก อื้มม”



“กูจะทำมันให้ดี”  มันที่บอกแบบนั้น กระซิบเสียงแหบพร่าเหมือนเป็นคำสัญญา แต่ไม่ว่าจะเป็นคำพูดแบบไหน แต่ข้อสุดท้ายที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ก็คือ กูเป็นของมัน และมันเป็นคนแรกของกู ... พี่เก้อเป็นคนแรกของมึงไอ้เสือ



“อึก อ๊ะ พี่เก้อ เบา อ๊ะ อ๊ะ” แรงกระแทกเนิบนาบเป็นจังหวะที่ค่อยๆเปลี่ยนเป็นรุนแรงและถี่กระชั้นมากขึ้นเรื่อยๆแบบมีจังหวะและชั้นเชิง แกนกายของมันที่เด้งตัวกระแทกกระทั้นสวนเข้ามาจนมิดด้ามทุกๆครั้งก็กระแทกลงตรงจุดกระสันของผมอย่างตั้งใจ ได้แต่ร้องครางแบบที่ห้ามปากตัวเองไม่อยู่ น้ำตาของผมไหลลงมาอาบแก้ม อธิบายไม่ถูกว่าเป็นเพราะความเจ็บหรือเพราะความสุขที่ได้รับมากเกินไปก็ไม่รู้ ฝ่ามือหนาอีกข้างที่ไม่ได้ประคองเอวของผมไว้ เลื่อนลงไปชักรูดแกนกายของผมให้เข้ากับจังหวะกระแทกกระทั้นของมันอย่างเหมาะเจาะ



‘ตับ ตับ ตับ’



เสียงเนื้อกระแทกเนื้อที่มาพร้อมเสียงครางและเสียงหอบกระเส่าของเราทั้งคู่ที่ดังไปในห้องรับแขก อุณหภูมิความเย็นที่ก่อนหน้านี้เหมือนหนาว ตอนนี้กลับไปเปลี่ยนเป็นร้อน เหงื่อของเราทั้งคู่ที่ไหลซึมผ่านร่างของกันและกันแบบไม่รู้สึกรังเกียจ



“อ๊ะ อ๊ะ พี่เก้อ จะ...จะเสร็จ อึก กูจะเสร็จ”



ร้องบอกออกไปแบบนั้นในตอนที่ความรู้สึกมันถูกตีตื้นขึ้นมาแบบอัดแน่น สะโพกของผมที่ขยับโยกไปตามจังหวะชักนำของมันกระแทกกระทั้นขยับสู้กับแกนกายของมันที่ก็กระแทกเข้ามาแบบไม่ผ่อนแรง ทั้งเร็วและแรงจนผมต้องเผลอกัดริมฝีปากแบบห้ามไม่อยู่ ในช่องทางด้านหลังที่ก็ขมิบตอดแกนกายของมันถี่ๆ ส่วนหัวของแกนกายของผมที่ผลุบเข้าผลุบออกในฝ่ามือของมันปริ่มน้ำขึ้นมาแล้วในที่สุด



“อ๊ะ อ๊ะ อ้าห์!”



“อึก ซี๊ดด....”



เสียงร้องครางของผมและของพี่มันที่ครางกระเส่าออกมาพร้อมๆกันในตอนที่น้ำอุ่นร้อนของผมและของมันปลดปล่อยออกมา ฝ่ามือหนาที่ยังคงชักรูดแกนกายของผมต่อไปเรื่อยๆเพื่อรีดน้ำออกมาให้จนหมด รับรู้ถึงแรงดันรุนแรงที่กระแทกเข้ามาในช่องทางด้านหลังแต่ไม่รู้สึกเหนียวหรือรำคาญอะไรเพราะอีกฝ่ายที่ใส่ถุงยางเอาไว้ ผมที่ทรุดตัวลงไปนอนและมีอีกฝ่ายที่ทรุดตัวลงมาแนบอยู่ที่หลังของผม ริมฝีปากอุ่นๆที่จูบลงบนหัวไหล่ของผมพร้อมๆกับเสียงหอบกระเส่า เสียงทุ้มเข้มที่ดังแผ่วๆอยู่ข้างหู เป็นเสียงแผ่วเบามากๆที่แทบจะไม่ได้ยิน ...แต่ติดตรงที่ว่าอีกคนดันซบลงมาข้างๆลำคอกันผมถึงได้ยินชัด



“เอม....”



ชัดจนได้ยินดังไปถึงกลางใจของผม



   คนเราชอบกระโจนลงไปเล่นกับไฟ มั่นใจว่าในมือถือขันน้ำ และตรงหน้าก็เป็นแค่ไฟกองเล็กๆ ... แต่ไม่เคยเฉลียวใจเลยว่า ขันน้ำที่ถืออยู่ จริงๆมันเป็นน้ำมัน ที่พอราดลงไปในกองไฟ สุดท้ายไฟกองเล็กที่เคยเห็นมันก็ลุกลามกลายเป็นไฟกองใหญ่  พอไฟมันเผาใจ แล้วทำไมเราต้องเศร้า ทั้งๆที่เราก็เลือกกระโจนลงมาเอง .... นั่นสิ ทำไมต้องเสียใจ



เป็นคำถามที่ผมก็ยังหาคำตอบไม่ได้ พอกับน้ำตาที่ไหล ก็ไม่เข้าใจว่ามันเจ็บที่ตรงไหนระหว่างกายหรือใจมากกว่ากัน



...


(มีต่อจ้า)


ออฟไลน์ Yoghurt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
    • แฟนเพจ
“หาวววว เจ๊ มีอะไรแดกบ้าง!” ผมที่เปิดประตูออกมาจากห้องนอนพร้อมๆกับมือข้างนึงที่ยกขึ้นเกาหัวไปด้วยเหมือนปกติทุกๆวันที่ทำแบบนั้นจนเคยชิน เดินออกมาทั้งๆที่ตาก็ยังไม่ได้ลืมขึ้นมาด้วยซ้ำ แต่เพราะท้องมันร้อง ตัวมันก็เลยต้องตื่น ... บอกย้ำอีกครั้ง เรื่องกินเรื่องใหญ่มากสำหรับไอ้เอมนะ



“อยู่บ้านคนอื่นก็หัดมีมารยาทซะบ้างสิ”  เสียงที่ดังขึ้นมาในตอนนี้ทำเอาผมสะดุ้งตัวตื่นลืมตาที่มีแต่ขี้ตานั่นเบิกโพรงขึ้นมาอย่างเต็มตา หญิงสาววัยกลางคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าทำเอาผมต้องสะดุ้ง ก่อนจะยกมือขึ้นมาไหว้เธอในทันที สติที่เหมือนจะกระโดดเข้ามาในร่างแล้วในตอนนี้ทำให้นึกขึ้นได้ว่าตอนนี้ผมอยู่ที่ไหน ... บ้านไอ้หยี



บ้านไอ้หยีไม่ใช่บ้างของอิเจ๊พี่มันแบบในทุกๆวันที่ผมตื่นมาก็มีคนทำกับข้าวมาให้



“อาอี๊สอง”



“เห็นว่ามาตั้งแต่เมื่อคืน ยัยหยีนี่เอาใหญ่ ให้ผู้ชายมานอนค้างอ้างแรม งามหน้าจริง” เธอที่มองเหยียดมาที่ผมแล้วว่าออกมาแบบนั้น เป็นความรู้สึกอึดอัดที่ไม่รู้ว่าจะวางสายตาไปไว้ที่ไหนดี



“ผมกับหยีเป็นแค่เพื่อนกันจริงๆครับอี๊สอง” รีบบอกออกไปแบบนั้นแต่อีกฝ่ายก็ทำแค่มองแรงมาใส่พร้อมส่ายหน้า ริมฝีปากบางเฉียบของเธอที่เหมือนกำลังจะพ่นอะไรออกมาอีก แต่ติดตรงที่เสียงของคนมาใหม่ที่ทำให้ชะงักไว้ก่อน



“อี๊สองมาทำอะไรตรงนี้คะ บ้านอี๊สองอยู่ข้างหลังไม่ใช่หรอ ขึ้นมาบ่นนี้ทำไมก่อนเอ่ย มารยาทนิดนึงเนอะ นี่พื้นที่ส่วนตัวนะคะ”



“หึ ก้าวร้าวไม่เคยเปลี่ยน นี่มันบ้านแม่ฉัน ฉันจะเดินไปตรงไหนก็ได้นะยัยหยี”



“อ๋ออออ ค่ะๆๆ งั้นก็ตามใจอี๊สองละกัน แต่หยีขอตัวพาเพื่อนหยีลงไปหาไรกินก่อนนะ เชิญอี๊อยู่นี่ไปคนเดียวละกันค่ะ ... ไอ้เอมปะๆกินข้าวกันมึง” หยีที่วันนี้มันยังสวยในเสื้อครอปสีโอรสกับกางเกงยีนส์ขายาวสีดำ วันนี้มันมัดหางม้าและปล่อยผมหน้าม้าลงมา ยังสวยเหมือนเดิมแต่สายตาไม่เป็นมิตรเหมือนเดิมเหมือนเวลาที่มันเห็นคนที่มันไม่ชอบ



“หึ เพื่อนหรืออะไรกันแน่จ๊ะเธอ”



“อี๊ที่ไม่มีผัวก็ชอบคิดแต่อะไรแบบนี้นะคะ”  ไอ้หยีที่สวนออกไปแบบไม่ไว้หน้าในทันที ผมที่ได้แต่เอื้อมมือไปดึงแขนของมันไว้แบบพยายามที่จะห้าม



“ยัยหยี! มันจะมากเกินไปแล้วนะ เจ๊ใหญ่ไม่สั่งไม่สอนแกบ้างรึไงนะฉันอยากจะรู้ ถึงว่าเรียนอะไรก็ไม่ได้เรื่อง เดี๋ยวเรียนเดี๋ยวออกเละๆเทะๆไม่ได้ความอยู่แบบนี้ ดูแบบลูกหลานบ้านอื่นเค้าบ้างสิไปถึงไหนต่อไหนแล้ว หรือไม่ก็ดูอาจ้านอีบ้างไปเรียนถึงทำงานถึงเมืองนอกนู้นแล้ว เราน่ะที่แค่เป็นเด็กก้าวร้าวอยู่แบบนี้จะเอาปัญญาอะไรมาเลี้ยงดูพ่อแม่”



“เหอะ เปรียบเทียบเก่งจังเลยนะอี๊สอง ทำตัวเหมือนมนุษย์ป้าที่แท้ทรู หนูว่า หนูจะทำไรก็ไม่รบกวนอี๊สองเป็นห่วงหรอกค่ะ เสียเวลาชีวิตปั้นปลายของอี๊สองที่ไม่มีลูกดูแล”



“ยัยหยี! นี่แก!!”  อี๊สองที่ยกมือขึ้นตั้งท่าจะตบไอ้หยีในตอนนั้น แต่ติดตรงที่ผมวิ่งเสนอหน้าเข้าไปขวางซะก่อน หน้าที่ควรจะหันไปเพราะแรวตบกลับกลายเป็นหน้าของผมแทน



‘เพี๊ยะ’



“ไอ้เอม!”



“นี่มันอะไรกัน! พวกลื้อทำอะไรกันเสียงดังอยู่ตรงนี้!!”  เสียงของผู้มาใหม่ที่ทรงอำนาจของหญิงอาวุโสของบ้านนี้ที่เดินถือเท้าเข้ามา หลังที่คล่อมลงตามการเวลาเดินตรงเข้ามาด้วยก้าวที่มั่นคงต่างจากอายุที่มากขึ้นแล้วถึง88ปี



“อาม่า! อี๊สองตบเพื่อนหยี” เป็นไอ้หยีที่ตะโกนออกมาแบบนั้นก่อนใคร



“อาจิง ลื้อทำอะไร”



“อาม้าคะ หนูไม่ได้ตั้งใจตบเพื่อนยัยหยีนะคะ แต่ยัยเด็กนี่พูดไม่ดีกับหนูก่อน”



“แต่อาอี๊ก็พูดไม่ดีกับเพื่อนหยีก่อน แถมพูดไม่ดีกับหยีด้วย มันทำไมล่ะคะ แค่เพราะแก่กว่าจะพูดจายังไงก็ได้หรอ หยีไม่ยอมหรอก”  ไอ้หยีที่เถียงออกมาคอเป็นเอ็น มันที่เดินมาประคองตัวผมเอาไว้เหมือนผมเจ็บมาก จริงๆก็ไม่ได้มากอะไรขนาดนั้น ก็แค่แสบๆแก้ม แต่คิดว่ามันอาจจะเป็นรอยมือ หันไปมองไอ้หยีที่ตอนนี้มันเหมือนจะมีน้ำตาคลอด้วยเพราะความโกรธ



“หยี กูไม่เป็นไร”



“ไม่เป็นเชี่ยไร มึงเจ็บนะ!”



“แล้วอาม้าดูนะคะ ยัยหยีพาผู้ชายเข้าบ้าน”



“นี่เพื่อนยัยหยี อั๊วรู้จักแล้ว อาเอมมาทำงานกลุ่มกับยัยหยี”  อาม่าที่ว่าออกมาแบบนั้น นั่นเป็นเพราะไอ้หยีบอกออกไปแบบนั้นว่าผมมาทำรายงานกลุ่มด้วย ได้แต่ถอนหายใจตอนที่หันซ้ายหันขวามองเห็นครอบครัวไอ้หยีเถียงกันหน้าดำหน้าแดงอยู่ในตอนนี้ และเรื่องราวทั้งหมดนั่นก็มาจากตัวผมเอง



“มาทำรายงานจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ ถึงจะเป็นเพื่อนกันมาค้างอ้างแรมผู้ชายผู้หญิงแบบนี้มันก็ดูไม่ดีนะคะม้า จิงก็แค่มาเตือนดีๆเพราะเห็นเป็นลูกเป็นหลาน” เธอที่ว่าออกมาแบบนั้นทำให้ผมต้องถอนหายใจเบาๆออกมาตอนที่ได้ยิน มันทำให้ผมนึกถึงป้าของผม กี่ครั้งแล้วที่เพราะคำว่าเป็นห่วงลูกหลาน ถูกเอามาใช้แบบผิดๆในการด่าทอแบบไม่มีเหตุผลแบบนี้



“เอมมันเป็นเพื่อนหยี!”



“จ้า เพื่อนที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้า ฉันรู้นะว่าเมื่อคืนดึกดื่นยังมีคนมาปีนรั้วบ้าน เพื่อนเธอแต่ละคนนี่ดีๆทั้งนั้น”



“นั่นก็เพื่อนหยีอีกเหมือนกัน อี๊มีอะไรนัก”



“พอๆๆ พวกลื้อพอกันสักที” อาม่าที่ดูจะปวดหัวกับเรื่องนี้มากเต็มทีโบกมือไล่ให้ทั้งไอ้หยีและอี๊สองหยุดเถียงกันสักที แต่เหมือนคู่นี้จะไม่มีใครยอมใคร จนสุดท้ายต้องเป็นผมที่ต้องพูดขึ้นมาแทน



“อี๊สองไม่ต้องเป็นกังวลไปหรอกครับ ผมมาแค่คืนเดียว ตอนนี้ผมก็จะกลับแล้วครับ แล้วอีกเรื่องคือผมกับหยีไม่ได้ทำอะไรเสียหายจริงๆ เราเป็นเพื่อนกันจริงๆครับ เรื่องนี้ผมอยากให้ทุกคนวางใจ หยีเป็นเพื่อนที่ดีของผมมากๆครับอาม่า”



“มึงจะกลับไปไหน จะกลับได้ไง กลับแล้วมึงจะไปอยู่ไหน!”  ไอ้หยีที่ร้องออกมาแบบนั้น มันที่มองหน้าผมแล้วขมวดคิ้วจนหน้าสวยๆของมันเริ่มยับย่น อยากจะกระซิบบอกมันเรื่องรอยตีนกา แต่คิดว่าในตอนนี้คงไม่มีจังหวะที่จะได้พูดออกไป



“ต๊าย จะไปอยู่ไหน ก็ไปอยู่บ้านเค้าสิย๊ะ หรือจะบอกว่าเจ้าเด็กนี่ไม่มีบ้านอยู่” อาอี๊สองที่พูดออกมาแบบนั้นอีกแล้วมองเหยียดตั้งแต่หัวจรดเท้าของผม แต่คำพูดของเค้าก็ทำให้ผมชะงักขึ้นมานิดหน่อย นั่นสินะ...ผมไม่มีบ้านจริงๆนั่นล่ะ แต่ถึงแบบนั้นผมก็เลือกจะยิ้มออกไป มึงต้องยิ้มนะไอ้เอม อย่าร้องไห้ อย่าบอกให้ใครรู้ว่ามึงกำลังเสียใจ ...บอกตัวเองแบบนี้เป็นครั้งที่ล้านตั้งแต่เด็กจนโตด้วยคำพูดแบบนี้ และไม่ว่ากี่ทีผมก็ผ่านมันมาได้เสมอ



“ครับ ผมจะกลับบ้านอี๊ไม่ต้องห่วง อาม่าด้วยนะครับ ผมขอบคุณมากที่ให้ผมพักที่นี่เมื่อคืนนี้ ขอโทษด้วยนะครับที่ผมมารบกวน” ยกมือไหว้พร้อมบอกออกไปแบบนั้น แต่อาม่าของไอ้หยีแค่ถอนหายใจพร้อมๆกับส่ายหน้า



“ไม่รบกวนๆ อาเอมมาได้เสมอเลย” อาม่าที่ว่าออกไปแบบนั้น ผมที่ยิ้มตอบและมองเห็นริ้วรอยแห่งความกังวลบนใบหน้าของคนชรา ผมรู้ดีว่าอาม่าของไอ้หยีใจดี แต่ถ้าจะพูดอีกทีที่อี๊สองพูดมันก็ไม่ได้ผิดทั้งหมด ไอ้หยีมันเป็นผู้หญิง และผมเป็นผู้ชายมันไม่ควรมานอนบ้านกันแบบนี้แม้ว่าจะเป็นเพื่อนก็ตาม ....ถึงแม้ว่าผมจะไม่เคยมองว่าไอ้หยีเป็นผู้หญิงก็ตาม ในสายตาผมมันก็แค่ผู้ชายที่ใส่กระโปรงแหล่ะครับ ... แต่ถึงแบบนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันดูไม่ดี



ผมที่ขอตัวไปเก็บของและเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกจากบ้านของไอ้หยี เห็นมันที่วิ่งตามมาหาพร้อมขอบตาแดงๆของมัน น้อยครั้งมากๆที่ผมจะเห็นมันเป็นแบบนี้



“ไอ้เอมกูขอโทษ”



“มึงขอโทษอะไรกูวะป้า” ผมที่ว่าแบบนั้นแล้วยิ้มกว้างๆส่งไปให้มัน แต่มันก็เอาแต่ส่ายหน้าจนผมหางม้าของมันสะบัดไปมา



“ขอโทษแทนญาติปัญญาอ่อนของกู กูขอโทษที่ทำให้มึงต้องมาเจอไรแบบนี้”



“โหย เรื่องแค่นี้เองป้า จริงๆกูเข้าใจอี๊สองนะ มึงเป็นผู้หญิง กูเป็นผู้ชาย จริงๆมันก็ดูไม่ดี”



“ดัดจริต จริงๆก็แค่หาเรื่องแขวะกูแค่นั้นแหล่ะ ไอ้เอมมึงไม่ต้องไปหรอก อยู่บ้านกูก่อนนี่แหล่ะ” มันที่บอกแบบนั้นแล้วดึงแขนผมเอาไว้ จริงๆผมซึ้งใจกับความเป็นเพื่อนของมันมาตลอดเลย เพราะแบบนั้นมันเลยยิ่งทำให้ผมต้องทำให้มันลำบากใจไม่ได้



“ไม่เป็นไรมึง กูออกมาอ่ะดีแล้ว”



“แล้วมึงจะไปอยู่ไหนวะ”



“เอาน่า กูมีที่ไปน่ะป้า มึงไม่รู้จักไอ้เอมเก้าชีวิตหรอวะ ชิลๆน่า”



“ไม่ตลกนะคะอิสัด กูไม่อยากให้มึงไป”



“ป้า มึงอย่าทำเหมือนกูเป็นผัวที่กำลังจะทิ้งมึงได้ไหมวะ ขอร้องนะ กูจะอ้วก” บอกมันออกไปแบบนั้นแล้วแกล้งทำท่าจะอ้วกใส่ มันที่ถลึงตาใส่กันพร้อมยื่นมือมาตบหัวผม เอาซะหัวสั่น



“อิสัดเอม”



“เอาน่า เดี๋ยวกูอาจจะไปหาไอ้เก้อ มึงก็รู้ว่ามันยินดีตอนรับกูตลอดแหล่ะ” ผมบอกออกไปแบบนั้น จริงๆก็แค่พูดให้มันสบายใจ ใจจริงไม่คิดจะไปหาไอ้เก้ออยู่แล้ว ไปให้มันด่าหูระบบซักกูเป็นผ้าขาวเรอะ



“แต่มึง...”



“เออน่า กูไปล่ะป้า เดี๋ยวโทรหา พรุ่งนี้เจอกันที่มหาลัยนะ” บอกมันออกไปแบบนั้นแล้วยกมือขึ้นโบกให้มัน ตอนนั้นแกร็บไบค์ก็ขับเข้ามาพอดีเพราะผมเรียกไว้ เพราะแบบนั้นเลยขึ้นคล่อมมอไซด์แล้วจากมันมาแบบนั้น ขืนอยู่ต่อไอ้หยีก็ต้องวอแวให้ผมอยู่ต่อ ผมเข้าใจมันห่วงผม ... แต่ถึงแบบนั้น เราก็พึ่งคนอื่นไปตลอดไม่ได้หรอกครับ



“ขอบใจมากพี่” ผมที่คืนหมวกกันน็อคให้พี่แกร็บไบค์แล้วกล่าวขอบคุณเค้า ผมมาลงในสถานที่แห่งหนึ่ง เป็นสถานที่ที่ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงกดให้แกร็บไบค์มาส่งที่นี่



“เฮ้อ” ได้แต่ถอนหายใจออกมาในตอนที่แหงนหน้าขึ้นไปมองดูจำนวนตัวตึกหลายชั้นที่อยู่ตรงหน้าในตอนนี้



“น่าสมเพชว่ะไอ้เอม มึงแม่งไม่มีที่ไปจริง” ผมที่ก้มหน้าลงมองพื้นพร้อมกอดกระเป๋าเป้ที่เอามาด้วยไว้แบบนั้น ยืนนิ่งๆก้มหน้ามองเท้าตัวเองอยู่แบบนี้



‘จ๊อกๆ’



เสียงท้องที่ร้องออกมาในตอนนั้นทำให้รู้สึกแสบท้อง หยิบมือถือเอสสี่เครื่องเดิมที่มันบอกให้ลบแอพออกเพราะความจำไม่พอเครื่องเดิมขึ้นมาดูเวลา นาฬิกาที่บอกเวลาว่าสิบเอ็ดโมง ... ถึงว่าทำไมแสบท้อง ปกติไม่เกินสิบโมงอิเจ๊พี่มันจะต้องไปปลุกให้มากินข้าว แต่โดยปกติทุกวันจะเป็นผมที่ตื่นเองเพราะถูกกลิ่นกับข้าวในครัวของเจ๊พี่มันปลุกให้ผมตื่นขึ้นมา เพราะแบบนั้นมันเลยนานมาแล้วที่ผมไม่ได้รู้สึกปวดท้องเพราะไม่ได้กินข้าวแบบนี้



“กูคิดถึงมึงอีกแล้วว่ะเจ๊” บ่นพึมพำกับตัวเองออกมาแบบนั้น ... ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่อิเจ๊พี่มันมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตผม มันที่อยู่ในทุกช่วงเวลาในทุกๆวันจนกลายเป็นความเคยชิน ผมที่เคยเป็นคนที่เอาตัวรอดเก่ง ไม่เคยยอมให้ตัวเองอดตาย ไม่เคยยอมให้ตัวเองไม่มีที่หลบฝน แต่ตั้งแต่มีอิเจ๊พี่มันเข้ามาอยู่ในชีวิต เรื่องพวกนี้ผมก็ลืมไปแล้วว่าต้องทำยังไง เพราะในทุกๆวันเคยมีแต่มันที่ดูแลเอาใจใส่ผมในทุกๆเรื่อง



“ผมคิดถึงเจ๊มากๆเลย” พูดออกมาแบบนั้นเบาๆ รู้สึกร้อนๆที่หน่วยตาในตอนนั้น .... ความรู้สึกอ่อนแอ คำพูดของอี๊สองที่ว่าผมมันกระทบใจของผมมากเกินไป เป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าผมไม่มีบ้าน ไม่มีครอบครับ และไม่มีใคร ...



คนเดียวที่ผมคิดถึงในตอนนี้ก็คืออิเจ๊ดานี่ ... เพราะแบบนั้นผมเลยมายืนอยู่ตรงนี้ หน้าคอนโดของมัน



แต่ถึงแบบนั้นก็ไม่กล้าก้าวเข้าไป เพราะไม่รู้ว่าจะเดินเข้าไปทำหน้ายังไง จะพูดยังไงกับคนๆนึงที่ผมบอกมันว่าเราควรห่างกัน เพื่อให้รู้ใจตัวเอง แต่พึ่งจะผ่านไปแค่วันเดียว ผมกลับคิดถึงมันมากขนาดนี้ มันที่มีอิทธิพลในใจของผมมากแล้วจริงๆนั่นแหล่ะ ... ผมที่ยกมือขึ้นปาดน้ำตาตัวเอง ก่อนจะหมุนตัวหันหลังออกมา แต่ก็กระแทกเข้ากับอะไรบางอย่างจนต้องเซถอยหลัง



คนตรงหน้าหน้าที่ผมชนเข้าจังๆอยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นพอดีเข่า ในมือมีถุงจากห้างที่ในนั้นคงมีของสดและผักต่างๆที่มันไปซื้อมา สายตาคมๆที่มองจ้องมาที่ผม ริมฝีปากของมันที่มีสีแดงอ่อนๆต่างจากทุกวันที่ต้องแดงจัด ที่เปลือกตาก็ไม่ได้ถูกทาสี พูดจริงๆว่าหน้าทั้งหน้าน่าจะไม่ได้ทารองพื้นด้วย เป็นอีกมุมที่ได้เห็นไม่ปล่อยนัก



“เจ๊”...



ผมที่เรียกคนตรงหน้าออกมาด้วยเสียงแผ่วเบา เป็นความรู้สึกที่พูดไม่ออก แต่แค่มองหน้าอีกคนก็อยากจะร้องไห้



“กลับมาแล้วหรอครับ พี่ไปซื้อของสดมา จริงๆก็แอบหวังว่าเอมจะกลับมา พี่จะได้ทำกับข้าวให้กิน ไม่คิดเลยว่าความหวังพี่จะจริง ดีจังวะ ... เอมกลับมาแล้ว ขึ้นบ้านเรากันครับ



คำพูดสั้นๆที่พูดออกมาแบบนั้นมาพร้อมรอยยิ้มอบอุ่นที่ทำให้ผมน้ำตาคลอ รู้สึกร้อนๆที่นัยน์ตา และสุดท้าย ... น้ำตาที่มันห้ามเอาไว้ไม่ไหวก็ไหลลงมาอาบหน้าผมแบบนั้น เดินเข้าไปหาพี่มันช้าๆ ความรู้สึกที่ว่านี่เป็นบ้านเป็นครอบครัวที่อบอุ่นของผมที่สุด คนตรงหน้าที่กางแขนออกและผมก็ตรงเข้าไปกอดพี่มันเอาไว้พร้อมสะอื้น ไม่รู้ทำไมว่าต้องร้องไห้แบบนี้ แต่ถึงแบบนั้นก็ยังกอดมันไว้แล้วซุกหน้าร้องไห้กับอกแกร่งอยู่แบบนั้น



“ร้องทำไม หื้ม พี่อยู่นี่แล้วนะ...ไม่เป็นไรแล้วนะครับ”



--------------To be continued--------------



มาแล้วจ้าาาาา แคทมาแล้วจ้า

ตอนนี้เขียนยาว19หน้าเลย เนื้อหาแน่นๆ แน่นมากๆจริงๆค่ะ

ไม่รู้ว่าคนอ่านจะชอบมากน้อยแค่ไหน แต่แคทตั้งใจเขียนมากๆค่ะที่จะบอกเล่าเรื่องราวของคนในหลากหลายรูปแบบ

หลากหลายความคิดหลากหลายการกระทำมากๆจริงๆ

และในตอนนี้ เก้อเสือก็นำไปก่อนแล้วจ้า

ดาบเอมคือแขนพึ่งจะได้จับนะแม่ ฮึมฮ่ำ

คิดว่าในตอนนี้คนอ่านต้องเกรี้ยวกราดมากแน่ๆ แต่ในตอนนี้แคทอยากจะให้ทุกคนเข้าใจถึงพื้นฐานความคิดของ

พี่เก้อและเสือนะคะ ... คนสองคนที่มีมุมมองในความรักต่ำแต่เรื่องเซ็กสูง

และแน่นอนว่า เมื่อเป็นแบบนั้น มันต้องมีผลของการกระทำอื่นๆตามมา อยากให้คนอ่านติดตามแล้วหวังว่าจะชอบกันนะคะ

ฝาก #สวยๆเป็นผัว ในทวิตเตอร์ด้วยนะคะทุกคน จุ๊บเลยค่า

 :mew1: :hao7: :katai4:


ขอขอบคุณคนอ่านจากทางเล้าเป็ดมากๆนะคะที่ทั้ง2ตอนที่พึ่งลงไป ก็มีคนอ่านมาให้กำลังใจแคทในทุกๆตอนเลยนะคะ


คอมเม้นท์ตอนที่25

:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
  ขอบคุณมากๆเลยนะคะ แคทหวังว่าจะชอบนะคะ

รอๆ
แคทมาต่อตอนที่25ครึ่งหลังแล้วนะคะ

เก่งมาก สนุกมากค่ะ  คนเขียนอย่าท้อนะคะ  คนอ่านตามติดเป็นปลิงอยู่ 55555
ขอบคุณมากๆจริงๆนะคะ แคทขอบคุณกำลังใจดีๆที่มอบให้แคทนะคะ เหนือสิ่งอื่นใดคือขำออกเสียงตรงตามติดเป็นปลิงนี่ล่ะค่ะ 55555

เป็นกำลังให้ไรท์และเฮียดาบนะคะ    :3123:

รอจ้า
  คุณวายซ่า ขอบคุณมากๆนะคะ อยู่กันมาตลอดเลย น่ารักกก

:กอด1:
กอดๆกันนะคะ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ

สนุกมากครับ. รออ่านนะครับ,,,
  แคทดีใจที่ได้ยินแบบนี้นะคะ แคทมาแล้วน้าา

ดานี่ ทิ้งคำพูดไว้แมนมาก 555
สวยๆเป็นผัวจริงๆนะคะ 5555

โอเค๊ ตอนนี้ให้คะแนนความผัวอิ๊พี่เต็ม 100 เลยจ้า  :impress2: :impress2:
โง้ยยย มาๆ อิเจ๊พี่มันได้คะแนนบ้างแล้วค่ะ


คอมเม้นท์ตอนที่25.2


:katai2-1: นี้เดานะ...เมาแล้วได้กัน
ช่วงนี้ดูแลสุขภาพด้วยนะ
เนี่ยยยย คนแต่งมันเล่นง่ายแบบนี้คนอ่านถึงรู้ทันเนี่ย งึ้ย คนอ่านเลยไม่แปลกใจเลยง่า


รอๆ
  แคทมาแล้วนะคะ มาอัพอีกแล้วน้า อย่าพึ่งเบื่อกันนะคะ


:katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ขอบคุณมากๆนะคะ :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-04-2020 22:40:38 โดย Yoghurt »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด