Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ ตอนพิเศษ {22/05/21}]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Beauty and the boy สวยๆเป็นผัว [อัพ ตอนพิเศษ {22/05/21}]  (อ่าน 177645 ครั้ง)

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :pig4: :pig4: :pig4:
สงสารน้องเสือ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
มีความพูดครับ องค์พี่ดาบลงแล้ว~

ออฟไลน์ Chucream.nabi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ต่อให้จะมีเดาได้บ้าง แต่มันก็สนุกนะ o13
แต่เราไม่อยากให้น้องเสือเจ็บอ่าาาา :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ LifePo-YuGu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
โอ๊ยยยย สงสารน้องเสืออ่า กอดปลอบนะลูก อิ๊พี่เก้อแก๊ อย่าทำน้องนะ  :กอด1: :กอด1:

สงสารน้องเอมด้วย ทำไมชีวิตคนๆนึงถึงน่าสงสารขนาดนี้  :กอด1: :กอด1:
พี่ดาบจ้า ดูแลน้องดีๆนะ

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
โถน้องเสือ ยอมอิพี่เก้อมันทำมายยย  อยากลองหรือชอบอิพี่มันไปเหรอ.  :katai1:

องค์พี่ดาบนี่ เสียงละมุนกะน้องเอมมาก ใจละลายหมดแล้ว. งื้อออ

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
เจ๊ดูอบอุ่น,,,

ออฟไลน์ Yoghurt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
    • แฟนเพจ
บทที่27



“เจ๊....”   เสียงของไอ้เด็กที่ยืนอยู่แถวบริเวณหน้าประตูห้องเรียกผมออกมาแบบแผ่วเบา ท่าทางกล้าๆกลัวๆของมันเหมือนว่ากำลังทำตัวไม่ถูก มันที่มองไปรอบๆห้องแบบใช้ความคิด ก่อนสุดท้ายจะจบลงด้วยการที่มันเม้นริมฝีปากเข้าหากันแล้วก้มหน้าลงมองพื้น



“เข้ามา ยืนทำอะไรอยู่ตรงนั้น”  ผมที่เดินออกไปจากห้องครัวหลังจากเดินไปเก็บของเสร็จพูดออกไปแบบนั้น ค่อยๆสาวเท้าเดินเข้าไปหามัน เอื้อมมือไปคว้าข้อมือของอีกคนแล้วจัดการดึงให้มันเดินตามเข้ามาในห้อง ทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาก่อนจะดึงให้อีกฝ่ายตามลงมานั่งข้างๆแล้วดึงตัวมันมากอดเอาไว้



คิดถึง ... คงมีแค่คำนี้ที่พอจะแทนความรู้สึกของผมได้



ไอ้เอมที่นั่งนิ่งๆปล่อยให้ผมกอดอยู่แบบนั้น ผ่านไปสักพักวงแขนเล็กๆของมันก็ค่อยยกขึ้นมากอดตอบผม ตามมาด้วยหัวทุยๆของมันที่เอาแต่ซูกอยู่ที่อกผมแล้วกอดผมไว้แน่นๆ มองจากตรงนี้ก็เห็นไหล่เล็กๆที่สั่นไหว



มันกำลังร้องไห้ ... และนี่ก็เป็นสิ่งสุดท้ายที่ผมอยากจะเห็น



“เลิกร้องได้แล้วมั้ง ตาบวมหมดแล้ว...หรือว่ายังไง ให้กูไปต่อยให้เลยดีไหม คนที่ทำมึงเสียใจแบบนี้ต้องโดนกูต่อยนะ”



“ฮึก บ...บ้าเปล่าวะ นั่นมันอิ้ไอ้หยีเลยนะ” พูดอู้อี้ออกไปแบบนั้นทั้งที่ยังคงเอาหน้าซุกอยู่ที่อกของผม มันที่ดูเหมือนกับว่ากำลังพยายามกลั้นเสียงให้หยุดสะอื้นแต่ก็ดูจะยากเย็นพอสมควร



“อ่อ เป็นอิ๊ไอ้หยีที่ทำมึงของกูเสียใจแบบนี้สินะ”



“ฮึก ... เจ๊พี่มึงทำกูเสียใจมากกว่าอิ๊ไอ้หยีอีกเถอะ”  มันที่บอกออกมาแบบนั้นด้วยเสียงอู้อี้ คำพูดของมันที่ทำให้ผมยิ่งรู้สึกผิด เพราะแบบนั้นเลยกอดกระชิบตัวมันให้แน่นขึ้น



“ขอโทษครับ เสียใจมากเลยใช่ไหมวันนั้น”  พูดออกไปแบบนั้น แต่อีกคนก็ยังคงทำแค่เงียบ



“เอม”



“ฮึก..อ..อย่าเรียกชื่อนะ” มันที่ร้องออกมาแบบนั้นพร้อมๆกับกำปั้นเล็กๆที่ทุบลงมาที่อกของผม ไม่เจ็บมากก็แค่คันๆ หมัดลูกควาย



“เฮ้อ ไม่เรียกก็ไม่เรียก”  พูดออกไปแบบนั้นแล้วยกมือขึ้นมาลูบหัวผมเบาๆ แต่เหมือนว่าพอยิ่งทำแบบนั้นมันจะยิ่งร้องไห้หนักขึ้นกว่าเดิม ผมไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้เลย อยากจะพูดทุกอย่างออกไปให้เคลียร์กันซักที แต่คิดว่าทางที่ดีควรรอให้อีกฝ่ายพร้อม



“เจ๊” 



“หื้ม ว่าไง”



ผมที่ผละตัวออกมา แล้วดึงตัวมันให้หันมาจ้องกันดีๆในตอนนี้ ไอ้เอมที่ช้อนตาแดงๆของมันมองมาที่ผม ริมฝีปากบางที่ตอนนี้ถูกมันขบเม้มนิดๆเหมือนคนกำลังกังวล ไหล่เล็กๆนั่นที่ก็สั่นนิดๆเพราะแรงสะอื้นที่เจ้าตัวกำลังพยายามหยุด ... รวมเลยคือมันดูน่าสงสาร เพราะแบบนั้นเลยอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปลูบข้างแก้มใสนั่นๆเบาๆอีกหนึ่งที

ไอ้เอมที่หลุบตาลงต่ำในตอนนั้น ข้างแก้มของมันที่ดูขึ้นสีหน่อยๆแม้ว่านัยต์ตาจะยังคลอด้วยน้ำตาก็ตาม มันที่สูดหายใจเข้าปอดลึกๆ ไม่เข้าใจว่ามันเป็นอะไร



“ผม...”



“หื้ม”



“ผมเสียใจที่เจ๊เลือกเค้าว่ะ ไม่อยากจะพูดแบบนี้เลย แต่ผมก็เสียใจว่ะ ตอนที่เจ๊เลือกทิ้งผมไปกับเค้าผมโคตรเสียใจเลย ทั้งๆที่จริงๆเราก็ไม่ได้เป็นอะไรกันสักอย่าง แต่ถึงแบบนั้นเจ๊ก็บอกว่าจีบผมอยู่ไม่ใช่หรอวะ แล้วทำไมถึงยังเลือกเค้าแบบนั้นอีก” มันที่ว่าออกมารัวๆแบบนั้นเหมือนจะไม่ได้หายใจด้วยซ้ำตอนที่เอาแต่ก้มหน้าแล้วว่าออกมารัวๆ



“เอม กูไม่ได้เลือกพาย”



“ไม่ได้เลือกพาพวยแล้วไปกับเค้าทำไมวะ เจ๊ไปกับเค้าทั้งๆที่ผมก็ยืนอยู่ตรงนั้น” มันที่เงยหน้าขึ้นมามองหน้ากัน รับรู้ถึงความเสียใจมากมายของมันผ่านสายตาที่มองมา



“พายขาเจ็บ มึงก็เห็น กูแค่อยากพาเค้าไปหาหมอ”



“คือเจ๊เป็นห่วงเค้า” มันที่พูดออกมาแบบนั้น ในน้ำเสียงเจือความน้อยใจออกมาให้ผมได้ยินแบบปิดไม่มิด แต่ผมเข้าใจดี



“กูไม่ได้ห่วงเค้ามากกว่ามึง ที่พาพายไป นอกจากอยากพาไปทำแผล ก็เพราะมีเรื่องจะคุยกับพาย”



“ข้ออ้างหรอวะ”



“มันไม่ใช่ข้ออ้าง แต่มันเป็นเรื่องจริงที่กูทำ กูพาเข้าไปทำแผลที่โรงพยาบาล แล้วก็บอกเค้าแบบจริงจังว่าตอนนี้กูไม่ได้รู้สึกอะไรกับเค้าแล้ว กูตั้งใจจะกลับมาพูดเรื่องของเราอธิบายทุกอย่างกับมึงให้เข้าใจ...แต่มึงก็ไม่อยู่รอฟังแล้ว” บอกมันออกไปแบบนั้น ไอ้เอมก็เม้มปากแน่น มองเห็นสีหน้าของมันที่ยังมีความดื้อดึง ผมเข้าใจดีว่าแค่คำพูดไม่กี่ประโยคนี้ มันคงไม่สามารถทำให้มันรู้สึกดีขึ้นมาได้ง่ายขนาดนั้น



“กูไม่รู้หรอกว่าวันนั้นเกิดอะไรขึ้นระหว่างมึงกับพาย แต่กูเชื่อว่ามึงมีเหตุผลของมึงที่ทำลงไปแบบนั้น กูไม่ว่ามึง แต่อย่าทำอีก”



“สุดท้ายเจ๊ก็แคร์เค้า”



“ฟังก่อน” บอกออกไปแบบนั้นแล้วมันก็ใช้สายตาค้อนแรงๆมาใส่ผม แต่ก็เลือกที่จะเงียบฟัง ... เอมมันเป็นแบบนี้เสมอ มันดื้อ รั้นในแบบของมัน แต่มันก็ไม่ใช่เด็กนิสัยแย่ที่ไม่ยอมรับฟังอะไรเลย



“มึงสาดขาหมูไปแบบนั้น จานก็แตก ที่สำคัญ ขาหมูถุงนั้นมึงตั้งใจซื้อมาให้กูกินไม่ใช่หรอ กูยังไม่ได้กินเลย เสียดายของ”



“หึ กับอิแค่ขาหมูถูกๆเจ๊จะมาอยากกินอะไรวะ”



“อืมมันราคาถูก แต่เป็นมึงที่ซื้อมา กูเลยถูกใจ” อยากให้มันเข้าใจว่าเพราะทุกอย่างที่เป็นมัน ผมจะไม่มีทางเลือกอย่างอื่น ... บอกออกไปแบบนั้นแล้วรอคอยอย่างใจเย็น มองเห็นไอ้เด็กที่เม้มปากแน่นๆแล้วอยากจะยื่นหน้าไปจูบ ไม่อยากให้ปากของมันต้องมีแผลเลยจริงๆ อย่างน้อยถ้าจะมี ก็ให้เป็นรอยแผลเพราะปากผมจะดีกว่า



“เค้าบอกผม ... พาพวยน่ะ เค้าบอกผมว่าเจ๊ไม่มีทางเลือกผม ไม่ว่าผมจะนอนกับเจ๊มากี่ครั้ง ต้องแลกอะไรมาจากทั้งชีวิตของผมเพื่อให้เจ๊ เจ๊ก็ไม่มีทางรักผมแบบจริงๆได้หรอก ... คนที่ไม่มีอะไรแบบผมน่ะ” เอมมันว่าออกมาแบบนั้นแล้วก้มหน้าลงต่ำ ผมเห็นน้ำตาเม็ดเล็กที่หยดลงจากหางตาของมัน ไหลลงมาที่ข้างแก้มก่อนจะหยดลงไปบนหลังมือของมัน เห็นแบบนั้นแล้วใจของผมรู้สึกถูกบีบ พร้อมๆกับความไม่เข้าใจปนหงุดหงิดหน่อยๆว่าพายมีสิทธิ์อะไร และเป็นอะไรถึงพูดแบบนั้นออกมาได้



“พาพวยบอกว่า ที่เจ๊เป็นเจ๊แบบทุกวันนี้ ก็เพราะว่าเค้าอยากให้เป็น เจ๊เลยเป็นตุ๊ดแบบนี้” มันที่พูดประโยคนั้นจบแล้วเงยหน้าขึ้นมาจ้องหน้าผม ทั้งๆที่น้ำตามันยังไหล ความเสียใจของมันยังมีอยู่เต็มใบหน้า ค่อยๆเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้มันเบาๆ



“พระพายกับกูใครสำคัญกับมึง” ถามออกไปแบบนั้นแล้วมองตาคนตรงหน้าที่ดูจะสับสนขึ้นมาตอนที่ผมถามออกไปแบบนั้น



“เจ๊ถามอะไรวะ”



“ตอบสิ”



“ก็ต้องเจ๊สิ” บอกออกมาแบบนั้น ผมที่ยิ้มแล้วลูบแก้มใสของมันไปด้วยเบาๆ



“ในเมื่อกูสำคัญกับมึง แล้วทำไมมึงถึงเชื่อพายมากกว่ากู” ถามออกไปแบบนั้น ไอ้เอมที่จ้องหน้าผมอยู่ก็ยู่ปากออกมานิดๆ มันที่มองค้อนกันหน่อยๆ แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะก้มหน้าหลบตาหนีกัน



“ทำไมมึงถึงไม่ถามกู อยากรู้อะไรก็แค่ถามกู กูจะไม่โกหกมึงเอม แค่เป็นมึง กูจะบอกเรื่องจริงทั้งหมด”



“แล้วถ้าเจ๊โกหก ผมก็ไม่มีวันรู้อยู่ดี....”



“แล้วไม่คิดบ้างหรอว่าพายก็อาจจะโกหกมึงได้เหมือนกัน ... เค้าที่เป็นคนอื่นด้วยซ้ำ แต่กูไม่ใช่นะ กูคือผัวมึง” ผมที่สวนออกไปแบบนั้นทำให้ไอ้เอมต้องหุบปากลงทันที มองเห็นอาการสับสนของมันที่เหมือนอยากจะเถียงแต่ก็เหมือนยอมรับกับคำพูดของผมแต่โดยดีเลยต้องเงียบลงไปอีกครั้ง เห็นแบบนั้นแล้วก็อดจะเลื่อนมือไปลูบหัวมันไม่ได้ ... ควายน้อยของผมกำลังใช้สมองอย่างหนักมากไปแล้วในวันนี้ สงสารครับ



“จริงๆพายเป็นคนน่าสงสารนะ”



“แล้วผมไม่น่าสงสารหรอวะ” มันที่โพล่งขึ้นมาแบบนั้นอีกรอบแล้วเงยหน้ามองหน้าผม



“ผมไม่น่าสงสารหรอวะ เจ๊ถึงเลือกไปกับเค้าแบบนั้น ผมเสียใจนะ มากๆเลยนะโว้ย” เห็นแบบนั้นแล้วอดไม่ได้ที่จะต้องเผลอยิ้มออกมาเอื้อมมือไปดึงตัวมันเข้ามาชิดแล้วกอดมันเอาไว้ อยากจะกอดแน่นๆเท่ากับความเสียใจที่มันต้องเจอ ถ้ากอดของผมทดแทนได้มันก็คงดี



“มึงไม่น่าสงสาร...ฟังก่อน ที่กูบอกว่ามึงไม่น่าสงสารเพราะมึงมีกู แต่พายไม่มีใคร และแน่นอนว่าเค้าก็จะไม่มีทางมีกูด้วย เพราะกูมีมึง”



“พูดอะไรก็ไม่รู้ งงฉิบ”  ว่าออกมาแบบนั้น แต่ผมรู้ว่ามันเข้าใจ ก็แค่พูดกวนตีนกันแบบที่มันชอบทำเวลามันเขิน



“จะฟังต่อไหมลูกควาย”



“ก็เล่ามาสิ แต่ผมไม่เป็นลูกควายด้วย!”  ผมที่ยิ้มออกมากับคำพูดของมัน แล้วเลือกจะไม่เถียงมันแต่เปลี่ยนเป็นเล่าเรื่องต่อแทน



“กูกับพายเรียนคณะเดียวกัน ตอนปี1ไม่ค่อยรู้จักพายเท่าไหร่ แต่พอหลังจากขึ้นปี2ก็บังเอิญได้มาทำงานกลุ่มเดียวกัน แต่ก็มีปัญหาเพราะพายไม่ค่อยมาเรียน จากกูที่ไม่เคยเห็นพายในสายตาก็เริ่มรู้สึกสนใจ ... เป็นมึงไม่สนใจหรอ ใครคนนึงที่ต้องทำงานด้วยกันแต่หายไปตลอด แม่งเอาเปรียบ”



“เจ๊สนใจหรืออยากดักตีเค้ากันแน่วะ” มันที่พูดออกมาอู้อี้ๆเพราะตอนนี้เอาหน้าถูไปกบอกเสื้อของผม



“จริงๆตอนแรกที่ยังไม่เจอก็อยากดักกระทืบเหมือนกัน แต่พอหลังจากที่กูกับไอ้เมฆไอ้จั๊มตามสืบจนไปตามหาพายถึงได้รู้ว่าพายอยู่หอคนเดียว หนีออกจากบ้านมา ทั้งๆที่ครอบครัวก็มีเงิน”



“ชีวิตสบายมากหรอวะ เลยอยากหาเรื่องลำบาก เปลี่ยนกับกูไหมอยากถามแค่นี้ เหอะ” 



“ถ้ามึงรู้ กูว่ามึงไม่น่าจะอยากเปลี่ยนชีวิตกับพายหรอกว่ะ”



“มีเงินไม่ดีตรงไหนวะ ยิ่งช่วงเศรษฐกิจเฮงซวยแบบนี้เงินสิยิ่งสำคัญ นักศึกษาก็ไม่ได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐนะเจ๊รู้ยัง”



“จุ๊ๆ...พูดไปถึงไหนเนี่ยมึง ฟังต่อนะ ....พายน่ะถูกพ่อเลี้ยงตัวเองข่มขืนตั้งแต่ม.ปลาย ทำให้กลายเป็นคนที่กลัวการเข้าใกล้ผู้ชาย กูก็ไม่รู้เท่าไหร่ว่ามันคือโรคอะไรกันแน่ กูไม่ได้จบแพทย์...แต่รู้ว่าพายจะมีอาการมากๆเวลาที่ต้องอยู่ใกล้ชิดผู้ชาย โดยเฉพาะผู้ชายแปลกหน้า จะแน่นหน้าอก มือสั่น เหงื่อออก หายใจไม่ออก บางครั้งก็หมดสติ เวลาเป็นแล้วน่าสงสารมาก”



“เหี้ย! โดนข่มขืนหรอวะ”



“อืม ตอนกูรู้กูก็ตกใจแบบมึง มันต้องแย่แค่ไหนวะ กับเด็กที่อายุแค่ไม่เท่าไหร่ต้องมาเจอเรื่องแบบนั้น พอกูรู้กูเลยพยายามเข้าหาพาย อยากให้พายได้มาเรียนได้มีเพื่อน เจอเรื่องดีๆ แต่ว่าพายก็เอาแต่หนี จากความสงสารก็กลายเป็นความรู้สึกดีๆ กูอยากเห็นเค้าหายและมีความสุข ใช้ชีวิตปกติแบบคนทั่วไป”



“เจ๊ก็เลยเปลี่ยนตัวเองเป็นเจ๊ดานี่ เพื่อเค้าหรอวะ”



“จริงๆกูชอบแกล้งเล่นเป็นตุ๊ดมานานแล้วก่อนเจอพายด้วยซ้ำนะ”



“เดี๋ยวนะ....มึงชอบเล่นอะไรนะ”  มันที่ถามออกมาเสียงสูงแล้วเงยหน้าขมวดคิ้วมองหน้าผมแบบไม่เข้าใจ ... คืองงอะไร



“มึงไม่เคยเล่นหรอวะสมัยมัธยมอ่ะ แกล้งๆทำตัวเป็นตุ๊ด ตลกดีจะตาย” บอกมันออกไปแบบนั้นแล้วอีกฝ่ายก็ทำสีหน้าที่ผมอ่านออกได้ว่า ‘คงมีแต่มึงนี่ล่ะที่สนุก’ ส่งมาให้



“อย่ามามองกูด้วยสายตาเหมือนว่ากูเป็นคนบ้าได้ไหมวะ” บอกออกไปแบบนั้นแล้วเอื้อมมือไปบีบจมูกมันอย่างหมั่นเขี้ยว



“แล้วยังไงต่อวะเจ๊ เล่าสิวะ”



“ก็ไม่ยังไง กูก็เลยลองแกล้งๆทำตัวเป็นตุ๊ดใส่ ก็เห็นพายลดช่องว่างกับกูมากขึ้น ค่อยๆเปิดใจกล้าพูดกล้าคุยมากขึ้นจนเข้ามาเป็นเพื่อนในกลุ่มของกูได้”



“เอ้า แล้วกลับพี่เมฆพี่จั๊มล่ะ เค้าไม่เห็นต้องแกล้งเป็นตุ๊ดแบบเจ๊เลยไหมวะ”



“ตอนแรกกับไอ้สองตัวนั้นพายก็ยังไม่สนิทใจ แต่เพราะมีกูเป็นตัวกลางคอยเชื่อมความสัมพันธ์ให้ก็เลยค่อยๆลดการระแวงลง แต่ก็ไม่ได้ดีทั้งหมด หลักๆพายก็สนิทกับกูที่สุด และอีกอย่างหลังจากนั้นกูก็เริ่มรู้สึกชอบพาย กูก็เลยทำตัวเป็นตุ๊ดแบบนั้นมาเรื่อยๆตัดความยุ่งยากเวลามีผู้หญิงเข้าหากูด้วย”



“เยอะหรอวะ ผู้หญิงที่ว่า”



“มึงดูหน้ากูด้วยครับ”



“ก็งั้นๆป่ะวะ”



“หึ กล้าพูดนะ คนที่ชอบกูมากแบบมึงยังกล้าพูดว่างั้นๆได้อีกหรอหนู” ดึงตัวมันมาชิดแล้วก้มหน้าลงไปหอมแก้มมันแบบอดไม่ได้หนึ่งฟอดเต็มๆ มองจากตรงนี้มองเห็นแก้มของมันแดงขึ้นมาหน่อยๆ น่ารักดีครับ ควายน้อยของผมแม่งน่ารักว่ะ



“อย่ามาหอมแก้มผมนะเว้ย เราไม่ได้เป็นอะไรกันนะเว้ยเจ๊”



“งั้นมึงรออะไรล่ะ ...เป็นแฟนกับพี่เถอะเอมหมดความอดทนได้หรือยัง กับความสัมพันธ์ที่ไม่ชัดเจนของเราน่ะ มึงหมดความอดทนได้หรือยังวะ” พูดออกไปแบบจริงจัง ก่อนจะดันตัวมันออกมาจากอกของผม จ้องหน้าคนตรงหน้าแบบไม่ล้อเล่นในคำพูด



“ผมอยากหมดความอดทน” มันที่ว่าแบบนั้นแล้วก็ช้อนตามองหน้า ในสายตาใสๆของมันยังมีแววไม่แน่ใจ



“แล้วมึงรออะไรคะ!” อดไม่ได้ที่จะขึ้นเสียงใส่มันหน่อยๆในประโยคนั้น เรื่องราวของเราในตอนนี้มันควรจะก้าวไปสักทีได้แล้ว



ไอ้เอมที่ก้มหน้าลงมองมือตัวเองอีกครั้ง ก่อนจะพูดออกมาด้วยเสียงเศร้าๆ



“ผมน่ะเป็นคนที่ไม่มีอะไรเลยนะเจ๊ ไม่มีพ่อไม่มีแม่ ไม่มีเงิน ไม่มีบ้าน แล้วแบบนี้...เจ๊จะอยากมีผมไปทำไมวะ คนที่ไม่มีอะไรพอที่จะทำให้เจ๊ภูมิใจได้เลยนะ คนที่ไม่เท่าเทียมกับเจ๊แบบผม  มันไม่ใช่ละครหรือเปล่าวะ ...หึ มันจะมีจริงๆหรอวะ พระเอกที่เหมือนในละคร พูดแล้วอยากจะขำ แม่งไม่มีหรอก คนที่รักและทำเพื่อเราได้ขนาดนั้น  ”



“มึงพูดแบบนี้หมายความว่าไง...” ขมวดคิ้วแล้วถามมันออกไปแบบนั้น



“ก็แล้วมันไม่จริงหรอวะ คนดีๆที่จะมาดึงเราให้เข้าไปอยู่ในโลกใบใหม่แบบในละคร แม่งไม่มีหรอกว่ะ” มันที่ว่าแบบนั้นออกมา แต่จริงๆเหมือนมันไม่ได้กำลังพูดกับผม แต่เป็นการย้ำเตือนกับตัวเองซะมากกว่า เหมือนกับว่าจริงๆแล้วมันมีเรื่องราวบางอย่างที่ฝังใจอยู่ ... เห็นแบบนั้นแล้วอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาหนักๆก่อนจะโพล่งออกไปแบบอดไว้ไม่อยู่



“ก็กูไงคะ ...เอ๊ะ มองกูแบบนั้นหมายความว่าไง กูไม่เหมาะที่จะเป็นพระเอกหรือไงคะอินี่” พูดละองค์กูลงเลย อดไม่ได้ที่จะเผลอจีบปากจีบคอใส่มัน ตอนนี้ที่มันเองก็มองแรงมาใส่ผม



“ก็แล้วพระเอกที่ไหนมันจะปากแดง แล้วก็บล็อคตาแน่นแบบนี้บ้างล่ะวะ!” ขมวดคิ้วแล้วยู่ปากใส่ ท่าทางเหมือนลูกแมวโมโห ฉุนเฉียบน้อยๆกำลังน่ารัก แต่ในสายตาผม ไอ้น้องเอมมันก็เป็นได้แค่ลูกควายตัวดื้อเท่านั้นล่ะครับ



“แบบกูนี่ไง สวยๆเป็นผัว มึงไม่เข้าใจหรอคะ โดนเองมากับตัวมึงยังจะมาปากดี ... กูปากแดงสวยๆแล้วไง ก็เป็นผัวมึงได้ก็แล้วกัน”



“ก็เพราะเจ๊เป็นแบบนี้ไงเล่า ผมถึงไม่มั่นใจสักที เจ๊ที่เอาแต่เป็นเจ๊ดานี่ของพาพวย แล้วทำไมถึงเป็นพี่ดาบของผมบ้างไม่ได้วะ!” ไอ้เอมที่ตะคอกกลับมาทันทีที่ผมพูดจบ มันที่ว่าออกมาแบบนั้นด้วยเสียงที่ดังด้วยหน้าที่แดงๆของมัน ไม่รู้ว่าโมโหหรือเขินกันแน่



“มึงอยากให้กูเป็นไอ้ดาบ?”



“ก็เจ๊เอาแต่เป็นตุ๊ดเพราะพาพวย”



“จริงๆกูเป็นตุ๊ดเพราะกูอยากเป็น แต่ที่ทำกับพายก็แค่ผลพลอยได้ ที่คิดว่าทำแล้วพายจะชอบกู แต่จริงๆก็ไม่”



“งั้นเจ๊ก็กลับมาเป็นผู้ชาย เป็นพี่ดาบเพื่อผมได้ไหม” มันที่ว่าแบบนั้นช้อนตามองผมแบบขอร้อง ... ผมนึกย้อนกลับไปถึงคำพูดของไอ้เมฆที่ว่า ถ้าผมยังยึดติดกับความคิดที่ว่าเอมไม่มองที่ตัวตนของผม ความสัมพันธ์ของเรามันก็จะไปต่อไม่ได้



“กูจะไม่เป็นดาบเพื่อมึง” บอกมันออกไปแบบนั้น มองเห็นสีหน้าที่ดูจะเสียใจมากๆของมัน ผมที่ค่อยๆโน้มหน้าเข้าไปหามันช้าๆ  ใกล้กันจนระยะห่างของลมหายใจทำให้เรารู้สึกถึงกันได้ ในดวงตากลมโตของมันที่มองช้อนขึ้นมามองหน้าผมช้าๆในตอนนี้ ทำได้แค่ยกยิ้มมุมปากส่งออกไป ก่อนจะพูดบอกออกไปว่า



“แต่กูจะเป็นกู...เพื่อเรา”




“หื้ม...เจ๊หมายความว่าอะ... อึก อื้มม” ผมที่แนบริมฝีปากของตัวเองลงไปบนริมฝากของคนตรงหน้าแบบไม่อยากจะทน ยื่นแขนของตัวเองออกไปคว้าเอวบางเข้ามา ดึงรั้งตัวของมันให้ขึ้นมานั่งคล่อมตัวอยู่บนตักของผม ก่อนจะเอนหลังตัวเองพิงลงไปที่พนักโซฟาช้าๆ มืออีกข้างที่ว่างก็เอื้อมไปประคองใบหน้าน่ารักของมันให้หมุนทำมุมเปลี่ยนองศาให้สอดคล้องกันมากขึ้นในตอนที่ลิ้นร้อนชื้นของผมสอดเข้าไปเกี่ยวรัดกับลิ้นของมันอย่างเอาแต่ใจ อยากจะกดจูบมันอยู่แบบนี้ทั้งวัน แต่ถึงแบบนั้นก็ต้องผละออกมา หน้าของมันที่ขึ้นสีแดงจัด สายตาที่เป็นประกายวาววับในตอนที่มองหน้าผม



“คบกับกูนะเอม ... ต่อจากนี้กูจะเป็นกู กูที่รักมึงและทำให้มึงมีความสุขมากกว่าใคร ในแบบของกูเอง”



“เจ๊...”



“พี่ชอบเอม พี่รักเอม เป็นแฟนพี่นะ” จ้องตามันพร้อมบอกความรู้สึกทุกอย่างผ่านสายตานี้ ไอ้เอมที่น้ำตาคลอขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนที่มันจะค่อยๆเผยรอยยิ้มออกมาช้าๆ ก่อนจะพยักหน้าลงมาน้อยๆในตอนที่หน้าก็แดงไปแล้วทั้งหน้า



“อื้อ”



“อืออะไรคะหนู”



“คบกันไงเล่า! คบกันกับเอมแล้วนะ เป็นแฟนเอมแล้วนะ เอมหึงได้แล้วนะ” มันที่ว่าออกมาแบบนั้นด้วยท่าทางน่ารักจนผมต้องยิ้มกว้างๆออกมา และก็เป็นอีกครั้งที่อดไม่ได้ที่จะยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มมัน



“ก่อนหน้านี้ไม่เป็นก็หึงไปแล้วไหม...แต่ก็ถูก ตอนนี้พี่เป็นของเอมครับ”



ตอบออกไปแบบนั้นแล้วมองตาเด็กตรงหน้า น้องเอมที่มันค่อยยิ้มกว้างออกมาทั้งหูทั้งตา เป็นรอยยิ้มที่สว่างสไวที่สุดเท่าที่ผมเคยได้รับมาจากมัน และรอยยิ้มนี้ ที่ผมจะพยายามรักษามันไว้ให้ดีที่สุด



“เป็นแฟนกันแล้ว”



“อื้ออ” ไอเอมที่พยักหน้าเขินๆ พร้อมๆกับผมที่โน้มหน้าเข้าไปกระซิบลงที่ข้างหูมันเบาๆ



“งั้นก็เอากันได้แล้วดิคะ”



“ไอ้สัดเจ๊พี่มึง! ปล่อยเอวเลยนะโว้ยยย!!”



...



‘ปังๆๆ!!’



เสียงเคาะประตูดังลั่นที่ทำให้ผมต้องขมวดคิ้วก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้นมาช้าๆ รู้สึกปวดเนื้อปวดตัวมากจนไม่อยากจะขยับ



นี่กูถูกรถไฟวิ่งชนมาหรือเปล่าวะ



ได้แต่ยกมือขึ้นเสยผมให้ออกไปจากหน้า ปรับสายตาให้คุ้นชินกับความมืดของห้องก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองนาฬิกาที่ตั้งอยู่ที่โต๊ะตรงปลายเตียง มันบอกเวลาว่าบ่ายสามโมงแล้ว



‘ปังๆๆ!!’



เสียงเคาะ ... จริงๆไม่ควรใช้คำว่าเคาะ เรียกว่าทุบจะดีกว่า เสียงทุบประตูห้องผมยังคงดังขึ้นมาอีกอย่างต่อเนื่องนั่นทำให้ต้องขมวดคิ้ว หงุดหงิดฉิบหาย



“พ่อใครตายวะไอ้สัด”  ได้แต่พูดออกไปแบบนั้นแล้วค่อยๆขยับตัวลุกขึ้นจากเตียง ในตอนที่ปลายเท้าแตะลงที่พื้นห้องเย็นๆก็ต้องซี๊ดปาก ความรู้สึกเจ็บร้าวแล่นงานขึ้นมาที่สมองเลยในตอนนี้



“สัดเอ้ย”



‘ปังๆๆ!!’



เสียงทุบที่ยังดังมาอย่างต่อเนื่องนี่ก็ยิ่งทำให้หงุดหงิด ผมที่ได้แต่ค่อยๆเดินไปที่ประตูช้าๆ ก่อนจะเอื้อมมือเปิดประตูในเวลาต่อมา คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าที่กำลังทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ในตอนนี้ก็ทำให้ผมต้องถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่อยู่



“ไอ้เสือ!”



“ตะโกนทำไมวะพี่มึง แล้วทุบประตูห้องกูขนาดนี้มีใครตายหรอวะ” ถามมันออกไปแบบนั้นแล้วจ้องหน้าคนตรงหน้าที่ตอนนี้ยกมือข้างนึงยันไปที่ขอบประตู



“มึงสิจะตาย กลับมาทำไมไม่บอกกู”



“เห็นมึงหลับเหมือนตายอยู่ ก็ไม่จำเป็นต้องปลุกไหมวะ” ตอบมันออกไปแบบนั้นแล้วยักไหล่ให้มันไปทีแบบไม่ใส่ใจอะไร



“สัด...แล้วนี่ทำไมมึงไม่หลบ กูจะเข้าห้องมึง” มันที่ว่าแบบนั้นแล้วผลักตัวผม ดีที่เกาะประตูไว้แน่นเลยไม่เซ



“พี่มึงจะเข้ามาทำไมวะ”  บอกมันออกไปแบบนั้น และคนตรงหน้าที่ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันทีในตอนที่ได้ยิน



“แล้วทำไมกูจะเข้าไม่ได้ กูมีเรื่องต้องคุยกับมึงด้วย”



“แต่กูไม่มี กูเหนื่อย กูง่วง พี่มึงกลับไปก่อนไป” บอกมันแบบนั้นแล้วทำท่าจะปิดประตู แต่ก็ถูกมือแกร่งของมันที่ยันเอาไว้ได้ทันก่อนที่ประตูจะปิดลง



“ไอ้สัดพี่ ปล่อยประตูไอ้สัดเก้อ”



“กูจะคุยกับมึง มึงหนีกลับมาได้ไงวะ สัด มึงเดินไหวได้ไง”



“แล้วทำไมกูจะเดินไม่ไหววะ พอ! มึงเลิกพูดเหอะสัดพี่เก้อ” ผมที่ขมวดคิ้วแล้วบอกมันออกไปแบบนั้น ได้แต่ถอนหายใจหนักๆแบบเหนื่อยๆ อย่างน้อยก็ในตอนนี้ที่ไม่อยากจะคุยกับมัน แต่เหมือนว่าคนตรงหน้าแม่งจะไม่ให้ความร่วมมือ



“ถอย!” มันที่ว่าแบบนั้นแล้วดันประตูเข้ามาเต็มแรง จนผมต้องเซถอยหลังไปอีกหลายก้าว และมันเองก็ก้าวเท้ายาวๆเข้ามาในห้องผมแบบหน้าด้านๆ ฝ่ามือหนาของมันที่เอื้อมไปเปิดไฟห้องของผมแบบรู้ดีว่าตรงไหนเป็นตรงไหน



ห้องมึงหรือไงไอ้สัด!



“เป็นเหี้ยอะไรของมึงวะไอ้สัด!” หงุดหงิดจนต้องเขวี้ยงขวดน้ำใกล้ๆมือไปใส่หัวมัน



“โอ้ย กูเจ็บนะไอ้เสือ”



“เรื่องมึง! กูบอกว่ากูอยากนอน เสือกดันทุรัง เป็นเหี้ยไรนักวะ”



“เป็นคนที่เอากับมึงมาไงเมื่อคืนมึงลืมหรอสัด” มันที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วจ้องหน้าผมเขม็ง และก็เป็นผมที่ต้องขมวดคิ้วแน่นๆในตอนนี้หลังจากที่มันพูดออกมาแบบนั้น



“มึงจำคนผิดเปล่าไอ้สัดพี่เก้อ มึงไม่ได้เอากับกูหรอก” ผมที่บอกแบบนั้นแล้วเดินไปยืนพิงโต๊ะหันหน้าไปมองกลับมันที่ยืนอยู่ตรงข้างๆเตียงนอนของผม มองเห็นหน้ามันที่ขมวดคิ้วมองมา



“ไอ้เสือ มึงไม่ต้องเล่นลิ้น กู....กูจะรับผิดชอบมึงเอง!” มันที่หลับหูหลับตาตะโกนออกมาแบบนั้น มองดูจากนอกโลกก็รู้ว่ามันเองก็ลำบากใจ ผมรู้ดีว่ามันไม่ได้รู้สึกอะไรกับผม เพราะแบบนั้นเลยยกยิ้มมุมปากออกมาหน่อยๆ



"รับผิดชอบเหี้ยไร กูยอมมึงเอง ก็แค่ปล่อยน้ำป่ะวะ"  บอกมันแบบนั้นแล้วยักไหล่ทำท่าสบายๆแบบไม่ใส่ใจเท่าไหร่



"มึงไม่ได้ยอม"  มันที่เงยหน้าขมวดคิ้วมองมาที่ผมแบบไม่เข้าใจ



"แต่สุดท้ายกูก็ยอม มึงไม่ต้องพูดไรมากหรอกพี่เก้อ ทำตัวให้มันปกติหน่อยดิวะ ก็แค่ได้กัน"



"แต่นั่นครั้งแรกของมึง"



"แล้วไงวะ หรือว่ามึงต้องตามไปรับผิดชอบทุกคนที่มึงพรากซิงมา พอเหอะเลิกพูด" บอกแบบนั้นแล้วยกมือขึ้นปัดๆ บอกให้มันรู้ว่าเลิกพูดเถอะ



"แต่กับมึงไม่เหมือนกัน มึงคือน้องกู" มันที่ว่าออกมาแบบนั้น ทำให้ผมต้องชะงักมือที่กำลังจะเอื้อมไปเปิดขวดน้ำมาดื่ม รู้สึกคอแห้ง ... แต่ตอนนี้กลับไม่อยากจะกินมันแล้ว เลยต้องผละหน้าหันไปมองหน้าคนที่ยืนตรงหน้าผมอีกครั้ง



"อืม....กูคือน้องมึงไง เพราะงั้นก็ไม่ควรพูดเรื่องนี้อีกไหมวะ มึงกับกู เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน"



"แต่..."



"ถ้ามึงไม่หยุดก็ถอดกางเกงให้กูเอามึงคืนตอนนี้เลย มึงจะยอมไหม" บอกมันแบบนั้นแล้วสาวเท้าเข้าไปหา มันที่ขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะถอยหลังหนีไปอีกหลายก้าว



"ก็เหี้ย!"  สองคำสั้นๆที่กระแทกหน้า อยากจะบอกเหลือเกินว่า มึงสิไอ้เหี้ย!



"ก็เออไง มึงไม่ยอม เพราะงั้นก็จบเรื่องนี้ มึงกับกูก็แค่ใช้ชีวิตปกติของใครของมันไปเหมือนเดิม แค่นั้น"  บอกมันออกไปแบบนั้นด้วยท่าทางสบายๆ มองมันที่ทำสีหน้าลำบากใจ ก่อนจะจ้องหน้าผมเงียบๆ



"มึงเอาแบบนั้นนะ?" 



"เออ กูเอาแบบนั้น"



"เออ งั้นก็แล้วแต่มึงละกัน" มันที่ทำหน้าหงุดหงิดๆหน่อยๆ ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงนอนของผมแรงๆแบบคนหงุดหงิด ก็ไม่รู้ว่ามึงหงุดหงิดอะไร มึงควรจะดีใจมากๆด้วยซ้ำ



"เคดีล...แต่"



"หื้ม?" มันที่หันมามองกันอีกครั้งพลางเลิกคิ้วมองหน้าผม เห็นแบบนั้นผมก็ค่อยๆแสยะยิ้มออกมาหน่อยๆแล้วจ้องหน้ามันนิ่งๆแบบไม่หลบสายตา



"ครั้งหน้าถ้ามึงจะไปเอากับใคร อย่าเผลอครางชื่อเค้าตอนสุดท้ายอีกนะ แม่งโคตรเหี้ย"



"ไอ้เสือ...มึงได้ยิน" มันที่เบิกตากว้างขึ้นแล้วเด้งตัวขึ้นมาจากที่นอนของผมแบบคนมีความผิดติดตัว ปากของมันที่พยายามจะพูดอะไรออกมาสักอย่างแต่เหมือนจะพูดไม่ออก และผมก็ไม่สนใจที่จะฟัง



"พอดีบังเอิญว่ากูมีหูไง กูเป็นคนมีหูที่ไม่ได้ใช้Kไว้นำทางสมองแบบมึง มึงควรจะให้เกียรติคู่นอนมึงบ้างนะ ถึงแม้ว่ากูจะยอมเอง แต่เป็นแบบนั้นแม่งก็เหี้ยอยู่ดี"



"ไอ้เสือกูขอโทษ"



"ช่างแม่งเหอะสัดพี่ มึงกับกูแม่งก็แค่คนเงี่ยน2คนที่หาทางระบายก็แค่นั้นแหล่ะ ... จริงไหม"



บอกมันออกไปแบบนั้น แล้วหันหลังให้มัน ก็แค่ไม่อยากจะมองหน้ามันในตอนนี้ มองเห็นสายตาของมันที่เหมือนอยากจะเถียงอะไรออกมาอีกแต่ผมก็ไม่อยากฟัง ...



เรื่องราวของเราที่มันไม่ควรเริ่ม มันก็ควรจะจบลงตรงนี้...



จบลงไปซะจากใจของกูซะ ก่อนที่มันจะเจ็บมากไปกว่านี้ดีกว่าไอ้เสือ





--------------To be continued--------------



คุณผู้อ่านคะ เค้าคบกันแล้วจ้าาาาาาาา และใช่ค่ะ อีกคู่กับจบกันแล้ววววว (หรอ?)

มามะมาอ่านมาเม้นท์กัน ตอนนี้เอาไปเบาๆ เพราะตอนที่แล้วยาวคนไม่ค่อยอ่านง่ะ คิกคัก

ฝาก #สวยๆเป็นผัว ในทวิตเตอร์ด้วยนะคะ เชิญชวนมาอ่านมาหวีดใส่แทคกันจ้าาา

 :mew1: :katai4:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-04-2020 22:32:14 โดย Yoghurt »

ออฟไลน์ Chucream.nabi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :impress3:อิเก้อ อิห่าา :angry2: :angry2:

ออฟไลน์ Yoghurt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
    • แฟนเพจ
ขอขอบคุณคนอ่านจากทางเล้าเป็ดที่คอมเม้นท์ในตอนที่26ที่ยังอยู่ด้วยกันนะคะ :กอด1:


:pig4: :pig4: :pig4:
สงสารน้องเสือ
แคทฝากโอบกอดน้องด้วยนะคะ แง้


มีความพูดครับ องค์พี่ดาบลงแล้ว~
มาจ้าาา ยาวมากับตอนนี้เล้ยยย


ต่อให้จะมีเดาได้บ้าง แต่มันก็สนุกนะ o13
แต่เราไม่อยากให้น้องเสือเจ็บอ่าาาา :hao5: :hao5:
อู้ยยย แคทหวังว่าคนอ่านจะยังสนุกไปด้วยกันนะคะ ขอบคุณกำลังใจดีๆที่มอบให้แคทนะคะ ... ส่วนน้องเสือน้านนนน
น้องเป็นคนเข้มแข็งในระดับนึงเลยค่ะ แต่ฝากโอบกอดน้องด้วยน้า



โอ๊ยยยย สงสารน้องเสืออ่า กอดปลอบนะลูก อิ๊พี่เก้อแก๊ อย่าทำน้องนะ  :กอด1: :กอด1:

สงสารน้องเอมด้วย ทำไมชีวิตคนๆนึงถึงน่าสงสารขนาดนี้  :กอด1: :กอด1:
พี่ดาบจ้า ดูแลน้องดีๆนะ
ทางด้านน้องเอม ชีวิตน้องน่าสงสารจริงๆค่ะ และบ้านหลังใหม่ของน้องก็คงจะมีแค่อิเจ๊พี่มันจริงๆ
ส่วนเก้อเสือ แคทอยากจะฝากให้ดูกันไปน้าาา อิอิ


โถน้องเสือ ยอมอิพี่เก้อมันทำมายยย  อยากลองหรือชอบอิพี่มันไปเหรอ.  :katai1:

องค์พี่ดาบนี่ เสียงละมุนกะน้องเอมมาก ใจละลายหมดแล้ว. งื้อออ
น้องเสือกับพี่เก้อ อยากจะฝากให้ดูกันไปอีกยาวๆนะคะ อิอิ ส่วนพี่ดาบน้านนน มา พี่จะชงให้ยับ อิอิ


เจ๊ดูอบอุ่น,,,
  มายาวๆกันไปกับความอุ่นๆเป็นไฟเยอร์ อิอิ



ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
คือเราสังเกตมาหลายตอนแล้ว คำว่า"มันที่พูด..." "มันที่บอก..." "แบบนั้น"จะมีทุกประโยคหลังจบบทสนทนา คนเขียนใช้คำแบบนี้ซ้ำๆ ใช้คำเปลืองมาก เวลาอ่านต้องขมวดคิ้วเลยอ่ะ ฝากไว้ด้วยจ้า

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
เย้ๆ ดีใจกะน้องเอม มีแฟน (ผัว) เป็นตัวเป็นตนแล้วจ้า. หึงได้เต็มที่เลยลูก.  :katai2-1:

ส่วนอีกคู่น้านนน อิพี่เก้อจะเอายังงัยกะน้องเสือฮะ.  น่าจะกลับมาเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมไม่ได้แล้วมั้ง. สงสารน้องอ่ะ.  :monkeysad:

ออฟไลน์ Yoghurt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
    • แฟนเพจ
บทที่28


“เจ๊!! อ๊ากกก พี่มึงปล่อยเลยนะโว้ยยย ปล่อยๆๆๆ”



ไอ้เด็กใต้ร่างที่แหกปากออกมาแบบนั้นในตอนที่ผมทาบทับตัวลงไปแนบกับตัวของมัน เหมือนลูกแมวขาสั้นๆที่โดนหงายท้องแล้วตะกุยทั้งขาทั้งมือแต่ก็ยังลุกไม่ได้ ผมที่ก้มมองภาพตรงหน้าแล้วได้แต่ยกยิ้ม เอ็นดูฉิบหาย



ผมเลือกอดใจไม่ก้มหน้าลงไปจูบมันแรงๆ ทำแค่มองหน้าคนที่หลับตายกแขนยกขาตะกุยอากาศอยู่แค่นั้น ... ตลกมัน



ไอ้เอมที่ดูเหมือนจะเริ่มรู้สึกแปลกๆ มันที่ขมวดคิ้วนิดๆก่อนจะค่อยๆหรี่ตาขึ้นมามอง ในตอนที่ดวงตากลมใสของมันลืมขึ้นมาเต็มตา มันที่จ้องมองหน้าผมแล้วเบิกตากว้างขึ้นพร้อมๆกับเริ่มทำหน้าหงุดหงิด



“จ้องทำไมวะเจ๊”



“กูจ้องแฟนกู ทำไมจะจ้องไม่ได้”  พูดออกไป ไอ้เด็กตรงหน้าก็เอาแต่ขมวดคิ้วใส่



“ห้ามๆๆ”



“มึงห้ามกูได้หรอหนู มากกว่าจ้องกูก็ทำมาแล้วหรือเปล่าวะ” กระซิบเสียงเบาๆพร้อมๆกับโน้มหน้าลงไปหา ไอ้เอมที่ก็หดคอหนีแล้วหลับตาปี๋อีกครั้ง ลมหายใจถี่กระชั้นขึ้นมาของมันเหมือนจะปลุกอารมณ์บางอย่างของผมให้ลุกโชนขึ้นมาจริงๆ จากตอนแรกที่ก็แค่อยากจะแกล้งมันเล่นๆ แต่ตอนนี้เสียงครางกระเส่าที่เคยได้ยินเมื่อนานมาแล้วก็ดังขึ้นในหัวแบบห้ามไม่อยู่ซะแบบนั้น



“อ๊ะ อึก อื้ออ พ...พี่”

“อ่ะ…อ่าาาาา!”



แรงกระแทกกระทั้น ความร้อนจากแกนกายที่ถูกบีบรัดจากช่องทางอ่อนนุ่ม ลมหายใจร้อนๆที่รินรดผิวของกันและกันที่มาพร้อมๆกับนิ้วมือเรียวที่เกร็งจิกไปที่หลังในตอนที่สอดใส่ ...



อยู่ๆก็รู้สึกว่าอยากได้ยินอีกครั้ง...ในตอนนี้



วางมือลงบนเอวของมัน รับรู้ได้ถึงหน้าท้องที่หดเกร็งลงในตอนที่ผมก็ค่อยๆลูบมือลากผ่านเข้าไปในเสื้อของมันช้าๆ



“พ...พี่ ...”



“อืม ว่าไงครับ” 



โน้มหน้าลงเข้าไปใกล้ ใช้ปลายจมูกใล้ไปตามแก้มใส ริมฝีปากสีส้มอ่อนๆของมันที่ตอนนี้ก็ถูกเจ้าตัวเม้มเข้าหากันอย่างประหม่า เห็นแบบนั้นแล้วได้แต่ยกยิ้มออกมากับท่าทางของมัน  ค่อยทาบตัวลงไปบดเบียดกับส่วนกลางลำตัวของมันช้าๆอย่างจงใจ อยากจะเห็นสีหน้าที่ทำอะไรไม่ถูกของมันให้มากขึ้นอีกหน่อย เวลามันอายแล้วพึ่งรู้ว่ามันน่ารักดี โดยเฉพาะมันอายตอนที่อยู่ใต้ร่างของผม เลื่อนมือจากข้างเอวของมันมาช้าๆ ลูบใล้ขึ้นมาเบาๆที่ท้องน้อย ก่อนจะลากยาวขึ้นมาที่สะดือ ลมหายใจของมันที่สะดุดพร้อมๆกับที่ใบหน้าแดงซ่านนั้นก็เชิดขึ้นแบบห้ามไม่อยู่



“พ...”



“ว่าไง.ครับ”



“ผม... โครกกก จ๊อกๆ~~~”



ผมที่หยุดชะงักใบหน้าของตัวเองที่กำลังโน้มลงไปกดจูบที่ริมฝีปากของมันในตอนนี้ที่ไอ้เอมที่ลืมตาขึ้นมา ดวงตาใสๆของมันที่เป็นประกายวิบวับๆพร้อมรอยยิ้มแหยๆที่ส่งมาให้กัน ใบหน้าของมันขึ้นสีจัดเหมือนคนที่กำลังอาย



“เอ่อ....แหะๆ...แบบว่าผม ผม ...มันหิวข้าวอ่ะเจ๊ แบบว่าเสียงท้องมันเลยครวญครางแบบห้ามกันไม่อยู่”



มันที่บอกแบบนั้นแล้วเอามือลูบท้องตัวเองเป็นท่าทางประกอบ กูที่ได้แต่ถอนใจออกมาหนักๆแล้วได้แต่พูดว่า ‘ไอ้สัด’ อยู่ในใจเป็นร้อย ๆครั้ง ผมที่ลุกขึ้นนั่งพร้อมยกมือขยี้หัวอย่างลวกๆ ได้แต่สูดหายใจเข้าจมูกแบบข่มกลั้นอารมณ์ ไอ้สัดเอ้ย ในช่วงที่เข้าได้เข้าเข็มแบบนี้ เสียงท้องร้องมันไม่ควรมีมาหรือเปล่าวะ สัด!



แข็งจนเจ็บแต่ต้องมาหยุดเพราะเสียงโครกคราก ไอ้เอมนี่แม่งไอ้เอมจริงๆ



“แหะๆ เจ๊...หิวข้าวน่ะ”



“กูรู้แล้ว มึงไม่ต้องบอกกูก็มีหู” หันไปมองมัน ไอ้เอมที่ดันตัวลุกขึ้นมานั่งข้างๆแล้วยิ้มประจบ มือเล็กๆของมันที่เอื้อมมาจับต้นแขนของผมไว้ เอียงใบหน้าของมันเข้ามามองกันใกล้ๆอีกนิดนึง



“โมโหมากเลยหรอวะ คือเจ๊พี่มึงแสดงอาการชัดไปไหมอ่ะ คืออยากจะเย่เย้กูจริงหรอ” มันที่ถามออกมาแล้วกระพริบตาใส่กันปริบๆ



“นาบตัวลงไปหามึงขนาดนั้น จริงๆกูคงหวังซักผ้าแหล่ะหนู” บอกมันออกไปก่อนจะยกมือเสยผมลวกๆ  สัด...ค้าง!



ลุกขึ้นยืน ในตอนนั้นไอ้เอมก็รีบคว้ามือกันไว้ พอก้มลงไปมองก็เห็นเด็กมันช้อนตามอง



“เจ๊จะไปไหน คือผมไม่ได้ตั้งใจ คือ...”



“ไปทำกับข้าวให้ลูกควายกำลังโต ... ทำไมทำหน้าแบบนั้นคะหนู” ถามมันออกไปตอนที่เห็นมันทำสีหน้าแปลกๆ



“คือผมขอโทษนะเว้ย คือผม...” อ่อ สรุปรู้สึกผิดที่กูอยากเยแต่มึงดันหิวข้าว ... น่ารักว่ะแม่ง



“กูมีเวลาเอามึงตอนไหนก็ได้น่า ตอนนี้กูต้องหาอาหารขุนลูกควายให้อ้วนๆก่อน จับกินจะได้แน่นๆ”



“สัดเจ๊พี่มึงแม่ง แล้ว...”



“หื้ม?”  แล้วอะไรของมันวะ ถามแล้วก็หยุดพูดด้วย พอหันไปมองหน้ามัน ไอ้เอมก็ใช้สายตาของมันไล่ลงมาที่ ... อืม ชัดเจน



“ทำไม มึงสงสัยอะไร”



“ก็เปล่านะเว้ย ไม่ได้สงสัย เห้ย!” ผมที่ก้มตัวลงไปดึงมือของมันมาทาบลงบนแกนกายของผมผ่านกางเกงที่ใส่อยู่ ไอ้เด็กตรงหน้าที่พอมือของมันวางลงบนเป้ากางเกงของผมก็แหกปากออกมาทันที ชักมือหนีเหมือนโดนของร้อน ยังไง มึงตกใจอนาคอนด้ากูเรอะ



“ชัดยัง เข้าใจยัง กูก็ค้างนะ แต่มีเวลาเอามึงอีกเยอะจ๊ะหนู”



‘ฟอด’



บอกมันแล้วก็ก้มหน้าลงไปหอมแก้มมันแบบไม่เบา หอมแบบเน้นๆ ถ้าทำได้กูอยากให้แก้มมันหายเข้าไปในจมูกกูซะเลย หมั่นไส้ครับ



ไอ้เอมที่กำลังอ้าปากค้าง แก้มใสๆของมันที่ขึ้นสีระเรื่อ เห็นแบบนั้นเลยได้แต่ยกยิ้มมุมปากขึ้นมองมันนิดๆ ... เหมือนกับว่า พอสถานะของเราสองคนเปลี่ยนไป อาการเก้อเขินกันและกันแบบนี้ก็เลยมีให้เห็น ถ้าเป็นปกติมันคงจะเขินผมหรอกกับอิแค่หอมแก้มนิดเดียว เอากันก็เคยมาแล้วมันยังไม่เห็นจะเขินเลย



“หึ”  ยื่นมือไปขยี้หัวมันเบาๆ แล้วปล่อยให้มันนั่งเขินอยู่ตรงนั้นต่อไป ส่วนผมก็ตรงเข้าไปในครัว เลือกทำอาหารง่ายๆให้ไอ้ลูกควายมันได้รองท้อง



.

.

.



“หอม หอม หอมโว้ยยยย”



“ใจเย็นๆก่อนนะ อย่าทำน้ำลายหกใส่หม้อข้าวกู”



“ผมไม่ใช่หมาบ้านะเว้ยที่น้ำลายจะไหลตลอดอ่ะ”



“รู้...เพราะมึงไม่เหมือนหมา มึงเหมือนควายน้อยของกูไง” ไอ้พี่มันที่หันมาจากหน้าเตาแก๊สพร้อมกับจานไก่ทอดแบบเกาหลีแล้วว่าออกมาแบบนั้น ขยิบตาให้กันด้วยหนึ่งที กวนตีนกูจังเลยครับ



“เดี๋ยวเอาเขาทิ่มแม่งเลย ชอบว่ากันว่ะ” บ่นออกไปแบบนั้นแล้วมองค้อนมันทีนึง พี่มันที่ก็ทำแค่อมยิ้มนิดๆ ดวงตาคมคู่นั้นที่มองกันนิ่งๆ สายตาวาววับแปลกๆของมันที่ทำให้ผมรู้สึกเขินที่หน้าแปลกๆจนต้องเสหน้าหนี



“ก็มึงน่ารักทำไมล่ะ กูเลยชอบแกล้ง” พี่มันที่เดินออกมาจากในครัว เดินผ่านหน้าของผมไปพร้อมๆกับเอื้อมมือมาหยิกแก้มกันเบาๆหนึ่งที เงยหน้ามองหน้ามันในตอนนี้ที่อีกคนก็แค่ยกยิ้มมุมปาก แล้วก็เดินผิวปากผ่านหน้าผมไปแบบหน้าตาเฉย



ไอ้สาดดดดด มันเอาเรื่องจังวะเจ้พี่มึง!



“มา มาแดกอะไรรองท้องก่อน”



“ทำไมต้องรองท้องวะ ผมอยากกินเยอะๆอิ่มๆเลยไม่ได้หรือไงอ่ะ”



“จะพาออกไปหาอะไรกินอย่างอื่นที่ข้างนอกด้วย ทำไม มึงจะไม่ไปหรอวะ”



“ไปๆๆ ไปดิ” พอได้ยินมันบอกแบบนั้น กูก็พยักหน้าระรัวเลยครับ อยากออกไปเที่ยวเหมือนกัน ไม่รู้หรอกว่าอิเจ๊พี่มันจะพาไปไหน แต่ถ้าไปกับมันแล้วล่ะก็ จะที่ไหนผมก็อยากไป ... โดยเฉพาะในตอนนี้ ตอนที่สถานะของเราสองคนไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป



“อื้มมมม อาหย่อยยย”



“เคี้ยวให้หมดก่อนสิวะ เลอะเทอะไปหมดมึงเนี่ย”  มันที่ทำตาดุใส่ตอนที่ผมเคี้ยวปีกไก่เข้าปากแต่ก็พูดออกมาด้วย มันที่ยื่นมือเข้ามาหาก่อนจะเช็ดที่มุมปากออกให้ ร้อนหน้าดังฉู่ฉ่า หน้าไหม้เหมือนกระทะร้อนๆในตอนนี้เลยครับ



“ไม่ต้องคาดหวังว่ากูจะเอานิ้วเข้าปากนะ มีแต่ในละครเท่านั้นล่ะบอกก่อนเลย เผื่อมึงกำลังหวัง”



“โว้ย ใครมันจะคิดอะไรแบบนั้นวะ” เบ้ปากใส่ไอ้คนที่พูดออกมาแบบนั้น กวนตีนกันไม่หยุดอีกแล้วครับ จ้องหน้ามันที่ตอนนี้ก็มองกันมานิ่งๆแบบไม่ละสายตา มันที่ยกยิ้มมุมปากนิดๆแล้วมองหน้าผมอยู่แบบนั้น



“เจ๊....”



“ว่าไง”



“ทำไมเจ๊ถึงเล่าเรื่องพาพวยให้ผมฟัง เรื่องของเค้า อดีตของเค้า” ถามเรื่องที่คาใจออกไป จริงพี่มันจะไม่พูดก็ได้ แต่มันก็พูดออกมา เรื่องในอดีตร้ายแรงของคนที่มันเคยรัก เล่าให้ผมฟัง ผมที่เป็นคนอื่น มันจะดีหรอวะ



“กูไว้ใจมึง ว่ามึงจะไม่เอาเรื่องของพายไปพูดต่อ ส่วนอีกข้อที่ทำให้กูเล่า ก็เพราะกูแคร์มึง” พี่มันที่จ้องหน้าผมแล้วเอื้อมมือไปหยิบชิ้นปีกไก่อีกชิ้นวางลงในจานให้กัน



“แคร์...แคร์ผมหรอวะ?”



“ถ้ามึงไม่รู้เรื่องจริงๆทั้งหมด มึงก็จะไม่หยุดสงสัย ไม่หยุดคิดมาก และก็จะไม่เข้าใจ กูเข้าใจว่าชีวิตคู่ของหลายๆคนก็ไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องของกันทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องในอดีตที่บางทีก็ไม่น่าให้รู้ แต่สำหรับกู ถ้ากูเลือกจะมีมึงในชีวิต กูจะไม่ปิดบังมึง แม้ว่านั่นจะเป็นเรื่องของคนอื่น แต่หนึ่งในเรื่องของคนอื่น หนึ่งส่วนในนั้นเป็นเรื่องของกูที่ทำให้มึงกังวล เพราะแบบนั้นกูเลยเลือกที่จะเล่าให้ฟัง อาจจะดูไม่ดีเท่าไหร่ที่เอาเรื่องพายมาพูดแบบนี้ แต่เพราะว่ามึงไม่ใช่คนอื่นสำหรับกู กูเลยเลือกจะเล่าให้ฟัง”



“เจ๊...ขอบคุณนะครับ ขอบคุณที่เล่าให้ผมฟัง” อยู่ๆผมก็รู้สึกดีจนอยากร้องไห้ขึ้นมาซะแบบนั้น กับคำพูดที่บอกว่าผมไม่ใช่คนอื่นสำหรับมัน



“กูดูทำเพื่อพายเยอะเลยใช่ไหมล่ะ” มันที่ถามออกมา ผมที่กำลังยกไก่ขึ้นมากัดก็ชะงักในตอนนี้ จ้องมองหน้าหล่อๆตาคมๆที่ในแววตาตอนนี้ไม่ได้ดูเศร้าอะไรที่ต้องพูดถึงเรื่องของพระพาย คนที่เค้าเคยรักมากๆคนนั้น



“อืม ก็ ก็คงใช่...ก็เจ๊เปลี่ยนเป็นตุ๊ดเพื่อเค้า ถึงจะไม่ใช่เหตุผลทั้งหมดก็ตาม แต่ว่า...เค้าก็คงสำคัญมากๆ”



“อืม แต่จำไว้ กูสัญญาว่าต่อจากนี้ต่อไป สำหรับกูแล้ว มึงจะเป็นเรื่องสำคัญที่สุดต่อจากนี้ ไม่ใช่เค้า”



“เจ๊ อย่าสัญญาออกมาเลยว่ะ” ผมบอกออกไปแบบนั้น ก่อนจะก้มหน้าลงมามองปีกไก่ที่อยู่ในจาน จริงๆตอนนี้มันก็ดีมากๆอยู่แล้ว ผมก็แค่อยากจะให้มันดีแบบนี้ต่อๆไป โดยที่ไม่ต้องมีคำสัญญาใดๆมาผูกมัด”



“คำสัญญา ถ้าพอวันนึงเกิดทำมันไม่ได้ขึ้นมา คนที่เสียใจที่สุดก็คือคนที่ยังจำมันอยู่ และคนๆนั้นก็คงจะไม่ใช่ใครนอกจากผมเอง” เงยหน้าขึ้นมาแล้วบอกมันออกไป อีกคนที่ก็จ้องหน้ากันมานิ่งๆ ผ่านไปหลายนาทีที่เราไม่ได้พูดอะไรกันออกมา สุดท้ายก็เป็นพี่มันที่ถอนหายใจหนักๆก่อนจะเอื้อมมือมาจับกันเอาไว้



“กูไม่รู้ว่าอาจจะเคยมีใครรักษาสัญญากับมึงไม่ได้ แต่คนๆนั้นจะไม่ใช่กู มึงไม่ต้องเชื่อ แต่ต่อจากนี้ทุกวันกูจะทำมันให้ดี มาเริ่มกันใหม่นะเอม เริ่มไปในทุกๆวันด้วยกันนะมึง”



เลื่อนสายตามองลงไปที่ฝ่ามือของผม นิ้วมือเรียวยาวทั้งห้าของคนตรงหน้าที่ค่อยๆสอดประสานเข้ากับนิ้วมือของผม เราทั้งคู่ที่กุมมือกันช้าๆ เป็นความรู้สึกอบอุ่นจากฝ่ามือที่ตรงขึ้นมาถึงหัวใจ ผมไม่ได้พูดตอบอะไรออกไป ทำแค่กระชับฝ่ามือให้แน่นขึ้นไปอีกก็แค่นั้น



‘แชะ’



“ทำอะไรอ่ะเจ๊”



“อัพไอจี”



“อัพรูปที่เราจับมือกันเนี่ยนะ” 



“อื้ม สวยไหม กูใส่ฟิลเตอร์ฟรุ้งฟริ้งด้วยนะ น่ารักแบบสุดๆ” ว่าแบบนั้นแล้วยื่นหน้าจอมาให้ดู ในภาพเป็นรูปโทนอุ่นๆสีออกไปทางน้ำตาลอมส้มเหมือนถ่ายอยู่ในคาเฟ่น่ารักๆ ทั้งๆที่จริงๆเราก็แค่นั่งกินข้าวกันอยู่ในห้องของมัน ไม่รู้มันใช้ฟิลเตอร์อะไร ผมไม่ค่อยสันทัดเรื่องแบบนี้เท่าไหร่ แต่จากในภาพก็ดูแล้วอบอุ่นดี พร้อมแคปชั่นที่มันเขียนเอาไว้ว่า ‘กรี๊ดๆๆ มีเมียแล้วค่ะอิดอกกกก~’



“หนู”



“หื้ม?”



“มือมึงสากมาก เดี๋ยววันนี้กูพาไปซื้อแฮนด์ครีมมาทามือนะ จะได้นุ่มๆอ่ะเนอะ” บอกแบบนั้นพร้อมรอยยิ้มสดใสและขยิบตามาให้กันอีกหนึ่งที



ได้แต่พูดกับตัวเองในใจว่า สักฝุ่นไหมสาดดดดด~~



เดี๋ยวก่อน กูจะเอาลิปในห้องมึงมาหักเล่น ชอบล้อกู!






“เห้ยๆ ใจเย็นเว้ยไอ้เสือ กระดกเอาๆเลยนะมึง”



“มึงอย่าพูดคำว่าเสือ กูชื่อเก้อ!”



“เอ้า เป็นKอะไรล่ะพ่อหนุ่ม พูดชื่อเด็กมึงก็ไม่ได้หรอวะ ฮ่าๆ”  ไอ้จั๋นที่หัวเราะออกมาแต่ยังไม่เลิกกวนตีนกัน



“สรุปไอ้น้องเสือไรนั่นเด็กมึงจริงๆหรอวะ” ไอ้แมทที่นั่งอยู่ข้างๆกันก็ถามออกมาอีกครั้งอย่างคนอยากเสือก ดูหน้าก็รูว่าอยากเสือกมากๆ



“มึงถามทำไม” ผมที่ไม่ตอบแต่เลือกจะถามมันออกไป ไอ้แมทก็ทำแค่ยักไหล่เหมือนไม่มีอะไร



“กูก็แค่สงสัย เห็นไอ้จั๋นเที่ยวไปโพทนาที่มหาลัยว่าน้องเสือไรนั่นเป็นแฟนมึง”



“เอ้า ก็มันบอกให้กูกระจ่ายข่าว กูก็ทำหน้าที่กู กูทำถูกใช่ป่ะวะเพื่อนเก้อ” ไอ้จั๋นที่ยิ้มออกมาเหมือนเป็นเรื่องสนุก มันที่ถามผมจบก็ยกแก้วขึ้นกระดกอีกอึกหน้าตาเฉย



“ทำไมพวกมึงถึงบอกว่ามันเป็นเด็กเสี่ย” 



เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมคาใจ แต่ที่แน่ๆมันใจมากว่ามันไม่ได้เป็นเด็กเสี่ยที่ไหนหรอก ถ้าบอกว่ามันเป็นเสี่ยน่ะไม่แน่ เอะอ่ะหาเรื่องไปเอาสาวไปเรื่อย แล้วพอคิดมาถึงตรงนี้กูก็หงุดหงิดใจไม่ได้ทุกที ... แล้วนี่มันก็ไล่ผมออกมาจากห้องมันตั้งแต่เที่ยง จนตอนนี้โทรไปแม่งก็ไม่รับสาย



“แม่ง!” คิดมาถึงตรงนี้ก็อดจะสบถออกมาแบบไม่สบอารมณ์ไม่ได้ แม่ง หลบหน้ากู



“เอ้า หงุดหงิดอะไรของมึงวะ what's wrong with you man?” ไอ้แมทที่ทำหน้างงๆแล้วถามผมแบบนั้น มันหันไปหาไอ้จั๋นแบบขอความช่วยเหลือ แต่ไอ้จั๋นก็ทำแค่ยักไหล่แบบไม่เข้าใจผมเหมือนกัน ...



พวกมึงไม่ต้องมาทำงงไม่เข้าใจกู ขนาดกูยังไม่เข้าใจตัวเองเลยสัด



“แล้วที่กูถามเมื่อไหร่พวกมึงจะตอบ”



“กูก็ไม่รู้ไรมากหรอก ก็แค่ได้ยินเค้าพูดต่อๆมา”



“พูดว่ามันเป็นเด็กเสี่ยอ่ะนะ”



“อืม ก็พวกที่แบบชอบหาเด็กไซด์ไลน์ในม.กูมันพูดๆกัน มึงก็รู้ใช่ไหมล่ะว่าแบบเราๆแม่งมีกรุ๊ปไลน์แบบนี้อยู่แล้ว มันเคยพูดกันว่าอยากได้เด็กนี่ แต่เหมือนได้ยากเพราะมีเสี่ยเลี้ยง” ไอ้จั๋นว่าแบบนั้น ก่อนจะขยับตัวหนีออกจากผม



“กูเพื่อนมึงนะสัด กูแค่เล่าตามที่ได้ยินมา แต่กูก็ไม่ได้สนใจไรมาก”



“สัด! กับคำพูดไม่กี่คำของคนอื่นที่ส่งต่อๆกันมา คนแม่งก็เสือกเชื่อไปหมดแล้วหรอวะ ทั้งๆที่ไม่ได้รู้อะไรเลย” หงุดหงิดขึ้นมาเลย เพราะผมรู้ดีว่าไอ้เสือมันไม่ได้เป็นแบบนั้น กูมั่นใจมากๆ



“สรุปน้องมันไม่ใช่แบบนั้น”



“เออ ไม่ใช่ มันเป็นแฟนกู”



“คือมึงจะบอกว่าน้องมันเป็นแฟนมึง คือมึงได้มันคนแรกเลยงี้หรอวะ” ไอ้แมทที่ขมวดคิ้วถามกัน และในตอนนั้นกูก็รู้สึกหงุดหงิดส้นตีนแปลกๆ ทั้งๆที่ปกติพวกเราก็แชร์เรื่องราวของคู่นอนให้กันรู้แบบไม่ปิดบัง แต่สำหรับไอ้เสือ ผมไม่ชอบที่จะได้ยินใครถามถึงเรื่องบนเตียงระหว่างผมกับมัน



“กูไม่พูดเรื่องบนเตียงของกูกับแฟน”



“เชี่ย มึงซีเรียสหรอวะ So sorryมึง ปกติเห็นมึงพูดได้” ไอ้แมทว่าแบบนั้น มันที่รีบยกมือขึ้นตบไหล่ผมเบาๆแบบขอโทษ



“มึงเปลี่ยนไปจนกูตั้งตัวไม่ทันเลยเพื่อน”



“มึงแม่งไม่เข้าใจไงไอ้แมท ลองมึงเจอคนที่มึงรักจริงๆดูดิ แล้วมึงจะรู้ว่าเราไม่อยากให้ใครรู้เรื่องแบบนี้ของแฟนเราหรอกว่ะ” ไอ้จั๋นที่บอกออกมาแบบนั้นแล้วยกยิ้มให้ผม



คำพูดของมันที่ดูจะเข้าใจดี แต่ติดตรงที่ กูไม่เห็นจะเข้าใจอะไรเลย กูไม่ได้รักไอ้เสือสักหน่อย ก็แค่ไม่อยากจะพูดถึงเรื่องบนเตียงของกูกับมันเฉยๆแค่นั้นเองไหมวะ



‘ตื่อดึง’



[[หยี: กรี๊ดดดดดดดดดดด น้องเอมลูกแม่ มึงคบกับพี่ดาบแล้วหรอคะ ประกาศขนาดนี้อ่ะลูกกกกก]]



ขอความที่เด้งขึ้นมาในไลน์ในตอนนี้ทำให้ผมชะงักค้าง ความรู้สึกเหมือนมีสายฟ้าฟาดลงมาที่หัวแบบไม่ทันตั้งตัว ได้แต่บอกตัวเองซ้ำๆว่า ‘ไม่จริง’



“ไม่จริง!”





--------------To be continued--------------


ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1

ออฟไลน์ Tassanee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
กำลังจะเลือดโชกกกก มาหิวอารายตอนนี้ลูกกกกก

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
ขอหยิกพุงน้องเอมที ทำไมมาร้องเอาตอนกำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็มงี้.   :katai1:

อิพี่เก้อก็ไม่หายสับสนซักที  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
เอาละสิ น่าจะวุ่นวายน่าดู,,,

ออฟไลน์ Chucream.nabi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :fire: :angry2: มึงเอาไงว่ามาเก้อ....ลังเลนะมึงอะ
 จะเอาน้องเสือของฉันเป็นแฟน
ทำไมมึงยังหวงเกินเพื่อนกะอิหนูเอมอีก :z6: :z6:
สักทีมั้ยห่ะ :beat: :beat: :beat:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
เป็นแฟนกันแล้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ LifePo-YuGu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
รอวันที่น้องเอมโดนเสียบนะจ้ะ  :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ Nighttime

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 67
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
กรี้ดดดเจ้ดานี่มีเมียแล้ววว

ออฟไลน์ Yoghurt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
    • แฟนเพจ
บทที่29



“มึงอยากกินอะไร”



“จริงๆ ผมก็ยังอิ่มอยู่เลยนะ”



ผมหันไปหาคนข้างตัวที่ตอนนี้กำลังถอยรถเข้าซองจอดในลานจอดรถของห้างใหญ่ใจกลางเมือง ห้างที่ผมไม่ค่อยได้มาเท่าไหร่ จำได้ว่าเคยมาครั้งนึงตอนวันเกิดไอ้หยีเมื่อปีก่อน เป็นห้างดังที่มีเสื้อผ้าแบรนด์ดังและสินค้าแพงๆ ขายอยู่เยอะไปหมด



“ถ้าอิ่มก็ยังไม่ต้องแดกละกัน” พี่มันหันมามองหน้ากันแล้วยกยิ้มมุมปากนิดๆ ส่งมาให้กัน



“แล้วพามาห้างทำไมอ่ะถ้างั้น”



“มาห้างนี่ต้องมาแดกอย่างเดียวหรอหนู มาเดินเล่นสวยๆ มาซื้อของทำไรก็ได้ไหมวะ” มันที่บอกออกมาแบบนั้นแล้วเข้าเกียร์ที่ตัวPก่อนจะดับเครื่องยนต์เป็นที่เรียบร้อย



“พี่มึงไม่สวย”



“กูรู้น่า กูแค่เปรียบเปรยไหม หวาดระแวงเหี้ยไรนักล่ะกับความสวยของกูอ่ะ” หันมาบอกผมพร้อมมองแรงใส่ แกล้งจิกตามองผมเล็กๆ จริงๆ ผมรู้ว่าก็เป็นท่าทางที่มันทำอยู่คือตั้งใจจะกวนตีนกันก็แค่นั้นครับ เราสองคนที่เดินเข้าไปในห้าง ไปแบบไม่มีจุดหมายอะไรนักก็แค่คนนึงอยากมากับอีกคน และอีกคนก็แค่อยากพามาก็แค่นั้น



ปกติผมไม่ค่อยได้มาห้างแบบนี้เท่าไหร่ เพราะเมื่อก่อนทุกๆ วันตอนเย็นจะต้องรีบกลับบ้านไปเตรียมตัวทำงานในช่วงกลางคืน เลยไม่ค่อยมีเวลามาทำเรื่องแบบนี้ แต่ไอ้หยีกับไอ้เก้อมาเดินบ่อย หยีมาช็อปปิ้งเพราะบ้านมันรวย ส่วนไอ้เก้อชอบพาสาวมาเปย์ซื้อนู่นนี่นั่นครับ



“มึงอย่าล่อกแลกมากจะได้ไหมวะหนู เป็นอะไรชะเง้อมองอะไรนัก”



“ก็กูตื่นเต้นไหมอ่ะเจ๊พี่มึง อันนั้นคือร้านอะไรวะ อยากไปดูอ่ะ ใช่ร้านขนมที่มาจากญี่ปุ่นที่ไอ้หยีบอกหรือเปล่าวะ”



“ใจเย็นๆ เดี๋ยวกูพาไป มึงมานี่” มันที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วก็คว้ามือของผมไปจับไว้ ในตอนนั้นที่ผมก็ชะงักขาของตัวเองที่กำลังลุกลี้ลุกลนอยากจะเดินไปดูอะไรต่อมิอะไรที่เมื่อก่อนเพื่อนๆ ชอบพูดถึง ได้แต่หันไปมองหน้าคนที่สอดนิ้วเข้ามากุมมือผมอยู่ตอนนี้



“เจ๊...”



“หื้ม?”



“จับมือผมแบบนี้...ไม่เป็นไรหรอวะ” หันไปถามอีกคนในตอนที่พี่มันก็มองมาพอดี สายตาคมที่วันนี้มันไม่ได้กรีดอายไลน์เนอร์และไม่ได้ทาอายแชโดว์เหมือนทุกวันที่ชอบทำ มันยิ่งทำให้ดวงตาคู่นั้นทั้งคมทั้งดุแต่กลับยิ่งมีสเสน่ห์มากกว่าทุกวัน



อยู่ๆ หัวใจของผมก็สั่น รู้สึกร้อนๆ หน้าจนต้องเสหน้าหนี และในตอนนี้พี่มันก็ขยับฝ่ามือ บีบกระชับฝ่ามือที่สอดเข้ากับนิ้วมือทั้งห้าของผมให้แน่นขึ้นไปอีก



“ทำไมต้องเป็นไรวะ มึงเป็นแฟนกู ทำไมกูจะจับมือกับมึงไม่ได้วะ”



“แต่มันกลางห้าง แล้วผู้ชายสองคนจับมือกันแบบนี้...”



“มึงอายหรอที่จับมือกับกู”



“เปล่า ผมเปล่านะเว้ย แต่ผมแค่กลัวว่าเจ๊...” เงยหน้าขึ้นไปตอบมันทันทีตอนที่ได้ยินมันถามแบบนั้น แบบผมหรอวะจะอาย พี่มันไม่มีอะไรน่าอายสักหน่อย ถ้าเป็นผมที่แต่งตัวด้วยกางเกงยีนส์เก่าๆ กับเสื้อยืดสีดำธรรมดาๆ อยู่ตอนนี้สิถึงจะหน้าอาย



“ถ้ากลัวกูจะอายก็หยุดคิดซะ กูไม่อาย กูจับมือแฟนกูทำไมกูต้องอายด้วย ... กูอยากจับมือมึงแบบนี้ ในสถานะแบบนี้มานานแล้ว กูไม่อายหรอกเอม” จ้องเข้าไปในดวงตาคมลึกของมันตอนที่อีกฝ่ายพูดจบประโยค อยู่ๆ ผมก็รู้สึกเหมือนหัวใจของผมถูกเติมเต็ม ผู้ชายตรงหน้าที่ทำในทุกๆ เรื่องให้เป็นเรื่องง่าย หรือถ้าพูดง่ายๆ ก็คือ ในทุกๆ ครั้งที่ผมอยู่กับเจ๊พี่มัน ไม่ว่าเรื่องอะไรจะยากมากแค่ไหน ทุกๆ อย่างมันก็จะกลายเป็นง่ายเสมอ...แค่มีมัน



“อื้ม” ได้แต่พยักหน้าลงช้าๆ และเงยหน้าขึ้นตอบรับอีกฝ่ายออกไป เจ๊พี่มันที่ก็ยกยิ้มมุมปากขึ้นมาก่อนจะดึงมือผมให้เดินไปด้วยกัน ... และสุดท้ายเราสองคนก็มาหยุดยืนอยู่ชั้นบนสุดของห้าง และกำลังเงยหน้ามองรอบหนัง



“เจ๊พี่มึงอยากดูหนังหรอ”



“มึงไม่อยากหรอ”



“ก็เปล่า ผมดูได้หมดแหล่ะ” ใช่ ดูได้หมดแหล่ะ ถ้าดูกับมึงอ่ะ ได้แต่ต่อประโยคนี้อยู่ในใจ เพราะถ้าพูดไปอิเจ๊พี่มันต้องทำหน้ากรุ้มกริ่มแล้วล้อกูไปจนลูกบวชแน่ๆ ... อะ กูมีลูกไม่ได้นี่หว่า แบบนั้นแม่งต้องล้อกูไปจนถึงวันตายแน่ๆ เลย



“อืม งั้นดี มึงว่าเรื่องนั้นรอบนั้นเป็นไง รอบบ่ายสามโมงครึ่ง ยังมีเวลาอีกชั่วโมง เราไปเดินเล่นก่อนค่อยกลับมา” มันชี้มือขึ้นไปให้ผมมองตามรอบหนังตรงหน้า และสุดท้ายเราก็ได้ตั๋วหนังมาอยู่ในมือ



“มึงเอาตั๋วหนังมานี่ก่อนสิหนู”



“อะ” ยื่นไปให้มันทั้งสองใบเลยครับ อีกคนที่ก็แค่ยื่นมือมาจับอีกมุมนึงของตั๋ว และตัวผมที่ก็จับอยู่อีกมุมนึง ได้แต่มองแบบไม่เข้าใจ กำลังจะอ้าปากถามออกไป แต่อีกฝ่ายก็ทำแค่หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายภาพนั้นซะก่อน เห็นมันถ่ายลงไอจีอีกแล้ว



“ถ่ายทำไมวะเจ๊”



“เก็บเป็นเรื่องราวดีๆ ของกันและกันไงวะ” บอกออกมาแบบนั้นแล้วเลิกสนใจตั๋วหนังในมือของผม พี่มันที่ก้มลงไปยิ้มกับภาพในมือถือ กดๆ จิ้มๆ อยู่นิดหน่อยก่อนจะหันมามองผม



“ทำไม”



“ไอจีมึงชื่ออะไร กูจะแท็ค กูจะฟลอมึงด้วย” บอกออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง ผมยิ้มตอบก่อนจะส่ายหน้า



“จะแท็คผมทำไม”



“กูแท็คแฟนกู มึงจะทำไม” ถามออกมาแบบหาเรื่อง อีกนิดกูจะนึกว่ามึงจะท้ากูต่อยแล้วนะอิพี่แด็ปโดโรที



“ไม่ทำไมหรอกครับพี่ครับ ผมแค่ไม่มีไอจีอ่ะ” บอกออกไปตามตรง แต่อีกคนก็ขมวดคิ้วใส่กัน ทำหน้าตาเหมือนไม่เชื่อ



“ไม่ได้หลอก เจ๊พี่มึงดูมือถือกูก่อนครับ” หยิบมือถือออกมาจากในกระเป๋ากางเกงแล้วยื่นให้มันดู อีกคนที่ยืนมองมือถือผมพร้อมขมวดคิ้วแน่นๆ



“นี่ก้อนวัตถุโบราณจากนอกโลกหรอหนู มึงขโมยเศษจานUFOของมนุษย์ต่างดาวมาหรือเปล่า สารภาพบาปกับกูมา”



“สัด เจ๊แม่งบูลลี่มือถือกูอ่ะ” กูนี่ชักมือถือกลับมาเก็บใส่กระเป๋ากางเกงเลย อีกคนที่เห็นผมทำแบบนั้นก็หัวเราะขำออกมาเหมือนสะใจมากๆ มันแค่ยกมือขึ้นยีหัวผมเบาๆ แต่ก็ไม่ว่าอะไรต่อ



“ผมว่าหนังฝรั่งเรื่องนี้มันต้องยิงกันทั้งเรื่องแน่ๆ เลยว่ะ” พูดออกไปตอนที่พวกเราลงบันไดเลื่อนมาที่ชั้นสามเพื่อเดินหาอะไรกินเล่นๆ กับของที่อิเจ๊พี่มันอยากจะซื้อกลับห้อง ก่อนหน้านี้มันบ่นว่าอยากได้ครีมทาผิวครับ



“มึงไม่อยากดูเรื่องนี้หรือเปล่าหนู งั้นทิ้งแล้วไปซื้อเรื่องใหม่กัน”



“มึงบ้าเปล่าเจ๊ เปลืองเงิน”



“ทำไม กูรวย” อะ เป็นผู้ชายนิสัยรวยอ่ะเนาะ แต่ถึงแบบนั้นผมก็ไม่ชอบนะ



“มึงรวยแล้วเงินมึงหมดไม่เป็นหรอวะ เศรษฐกิจแบบนี้มึงต้องยิ่งรู้จักประหยัดดิวะ อย่าทำนิสัยแบบนี้สิ แล้วอีกอย่างผมก็ดูได้ ผมแค่พูดถึงเฉยๆ เอง” บอกออกไปแบบนั้นแล้วจ้องหน้ามันแบบจริงจัง ผมไม่อยากให้มันใช้เงินทิ้งๆ ขว้างๆ แบบนี้ โดยเฉพาะใช้เงินกับผม



“อย่ามองหน้ากูเหมือนเวลาเมียโมโหที่ผัวเอาเงินไปซื้อของไร้สาระแบบนี้สิวะ เออๆ กูรู้แล้วน่า จะไม่ใช้เงินทิ้งๆ ขว้างๆ หรอก...กูก็แค่”



“ก็แค่อะไร...”



“ก็แค่อยากให้เดทแรกของเราในวันแรกที่เราเป็นแฟนกันมันดีที่สุดกับใจมึงก็แค่นั้น”



ฉ่าาาา รู้สึกร้อนๆ ที่ข้างแก้ม



ใช่ครับ เสียงแก้มกูเอง แก้มไหม้เลยไหมล่ะตัวกู เขินแบบหนักๆ เขินจนต้องแอบจิกตีนในร้องเท้าผ้าใบที่ใส่อยู่



“ไอ้เอมคะ”



“อ...อะไรวะเจ๊”



“แก้มแดงว่ะ เป็นแบบนี้คือมึงเขินกู ดูออก” อีกคนที่เลื่อนหน้าเข้ามากระซิบลงข้างๆ หูของผมแล้วว่าออกมาแบบนั้น ลมหายใจร้อนๆ ที่รดอยู่ที่ข้างแก้มทำให้หน้าของผมยิ่งร้อนเข้าไปอีก ไอ้บ้าเอ้ย หยุดแดงเลยนะไอ้แก้มเฮงซวยเอ้ย



“กูอยากกินเค้กร้านนั้นว่ะ ไปดูก่อนนะ” บอกมันแบบนั้นโดยที่ผมไม่ยอมหันไปมองหน้า ทำแค่ก้าวยาวๆ สาวเท้าเดินหนีมันออกมา



“เขินแล้วหนี ดูออกนะคะๆ”



“เรื่องของมึงเลยโว้ย”



“ฮ่าๆๆ” ผมที่เดินห่างออกมา ได้ยินเสียงหัวเราะดังๆ ของมันดังไล่ตามหลังมา แม่ง...เป็นโรคจิตหรอวะ ชอบล้อกันอยู่ได้ กับอิแค่แก้มแดง แดงก็เพราะเขินมึงนี่แหล่ะสาดดดด คนบ้าไรวะชอบทำให้ใจเต้นอยู่เรื่อย ไอ้ใจนี่แม่งก็ไม่เคยรักดี ไม่รักดีเลยสักอย่างทั้งแก้มทั้งใจ แต่สุดท้ายก็น่าจะใช่ .... กูรักมัน



“ยังไง ไหนอยากกินอะไร” พี่มันที่เดินยิ้มหน้าบานตามมาถึงตัวผมในที่สุด วงแขนแกร่งที่เอื้อมมาพาดลงบนไหล่ของผม พร้อมๆ กับที่เจ้าตัวมันก็ยื่นหน้ามองเข้าไปเค้กในตู้กระจกที่ผมยืนมองอยู่ก่อน เป็นร้านฟาร์มที่มีทั้งเค้กและน้ำปั่น



“เจ๊...”



“หื้ม อยากกินชิ้นไหนหรอ กูว่าสตอร์เบอรี่ชิ้นนั้นก็ดีนะ น่ารักเหมาะกับเราสุดๆ” พูดออกมาแบบนั้นพร้อมขยิบตาให้กันอีกหนึ่งที ผมยิ้มออกมานิดๆ ก่อนจะหันหน้าไปหามัน



“หื้ม มองหน้ากูทำไมหนู”



“เจ๊พี่มึงไม่ต้องพยายามทำให้เดทแรกของเราดีที่สุดหรอกนะ ไม่ต้องพยายามอะไรเลย เพราะว่าแค่มีพี่มึงอยู่กับผม แค่นี้มันก็เป็นอะไรที่ดีที่สุดมากพออยู่แล้ว”



“เอมครับ มึงแม่งน่ารักจังเลยว่ะ”



อืม ลาก่อนนะ ตายไปเลยไอ้ชะเอม อย่าเหลือร่างไว้ให้อิเจ๊พี่มันจู่โจมหัวใจได้อีกล่ะ



.

.

.



“มึงหนาวหรือเปล่า”



“ไม่นะ หนังผมทนแดดทนฝนทนร้อนทนหนาว แค่นี้สบายๆ น่า”



“โอเค คิดว่าใช่เหมือนกันเพราะผิวมึงหยาบมาก ดูดิโดนแขนกูแล้วเจ็บเลย เดี๋ยวคืนนี้กลับบ้านไป กูจะเอาครีมทาผิวอาบมึงเองนะ” ไอ้คนข้างตัวที่เอียงหน้าเข้ามาใกล้กระซิบบอกแบบนั้นแล้วพยักหน้าแบบแข็งขันเห็นด้วยกับคำพูดของตัวเอง ผมได้แต่เบ้หน้า รู้สึกอยากเอื้อมมือไปต่อยมันแรงๆ สักที และใช่ กูทุบแขนล่ำๆ ตรงกล้ามแม่งเลยหนึ่งที



“โอ้ย กูเจ็บนะหนู”



“ชอบว่ากูนัก” บอกออกไปแบบนั้นแล้วละสายตามามองที่หน้าจอที่ตอนนี้กำลังฉายเทลเลอร์หนังเรื่องต่างๆ ที่มีแพลนจะเข้าโรงในเดือนต่อๆ ไปแทน เบื่อจะพูดกับเจ๊พี่มันแล้วครับ ... แต่ถึงแบบนั้นความรู้สึกแปลกๆ ตรงแขนของตัวเองก็ทำให้อดไม่ได้ที่ต้องหันกลับไปมองอย่างหงุดหงิดอีกรอบเพราะรู้สึกถูกกวน



“อะไรอีกเล่า จะดูไหมหนังเนี่ย”



“ดู แต่มันยังไม่ฉายเลยนี่หว่า คนก็น้อยด้วย” ก็มึงพากูมาดูหนังนอกกระแส คนจะเยอะได้ไงล่ะกูอยากจะถาม



“แล้วทำไม เอามือออกจากแขนผมสักทีสิวะ” เลื่อนสายตาไปมองที่แขนข้างซ้ายของตัวเองที่กำลังถูกฝ่ามือแกร่งลูบขึ้นลูบลงเล่นอยู่แบบนั้น



“บอกว่าผิวผมสากก็อย่ามาลูบสิวะ”



“มันงอนๆ มันเป็นงอนๆ อ่ะเนอะ”



“ใครงอนวะ ผมไม่...อื้ออ” ริมฝีปากของผมที่ถูกประกบลงด้วยริมฝีปากของอีกฝ่าย พี่มันที่จูบผมเบาๆ และใช้ลิ้นร้อนของมันคลอเคลียไปบนริมฝีปากของผมช้าๆ ฝ่ามือหนาของอีกคนที่เริ่มเคลื่อนไหวช้าๆ จากแขนของผมที่ก่อนหน้านี้มันก็ลูบอยู่ก่อนแล้ว เลื่อนเบาๆ มาจนถึงปลายนิ้ว ก่อนจะเลื่อนลงมาแตะกันที่ข้างเอวของผม และค่อยๆ สอดมือเข้าจากทางชายเสื้อฝ่ามือแกร่งทีดึงตัวผมเข้าไปกอดไว้ และก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่แสงไฟทั้งโรงก็ค่อยๆ มืดลงในที่สุด หนังตรงหน้าที่กำลังเริ่มฉาย แต่ทั้งผมและอิเจ๊พี่มันก็ไม่มีใครสนใจจดจ่ออยู่กับเนื้อเรื่องตรงหน้าในตอนนี้แล้ว มือเย็นๆ จากอุณหภูมิของแอร์ที่ลูบเข้ามาด้านใน เลื่อนขึ้นมาที่สีข้าง ลูบไล้เบาๆ พร้อมๆ กันกับที่เราก็จูบกันอย่างดูดดื่มมากขึ้นไปอีก ลิ้นร้อนชื้นที่สอดเข้ามาในโพรงปากของผม ดูดดุนเบาๆ เข้ากับปลายลิ้นอย่างหยอกล้อ พร้อมๆ กับที่ฝ่ามือของมันที่ก็เลื่อนขึ้นมาด้านบน ปลายนิ้วเรียวยาวที่ค่อยๆ คีบ บีบคลึงลงไปที่หัวนมของผมช้าจนต้องสะดุ้ง ทั้งขนลุกทั้งตกใจ



" อ๊ะ..อื้ออ เจ๊ " ส่งเสียงลอดไรฟันไปแบบเข้มๆ ตั้งใจจะเตือนให้มันรู้ว่ากูไม่พอใจนะ จะตีแสกหน้ามึงนะ แต่อีกฝ่ายที่ก็ทำแค่ละจูบออกมามองหน้ากันตรงๆ ก่อนจะยกยิ้มให้กันอย่างไร้ความรู้สึกผิดใดๆ ที่ลวนลามผมกลางโรงหนัง ได้แต่หันซ้ายหันขวาว่ามีใครเห็นกูไหม โชคดีไปที่ตรงแถวที่นั่งของพวกเราไม่มีใครอยู่เลย



“คนเยอะแยะ เจ๊แม่ง”



“งั้นถ้ากลับบ้านไปก็ได้สินะ คนน้อยดี แบบสองต่อสองเลยนะ เนื้อแนบเนื้อได้เลยเนอะ” พี่มันที่บอกแบบนั้นพร้อมๆ กับสอดมือเข้ามาจับมือของผมไปกุมไว้ แล้วพูดขึ้นมาเบาๆ อีกหนึ่งที



“ผิวที่แขนมึงอาจจะสาก หึ... แต่ผิวที่ตัวมึงนุ่มมากเลยนะ กูทดสอบดูแล้วกับมือเมื่อกี้นี้ นิ่มสู้มือกูมากๆ เลย”



ผมที่ไม่ได้หันไปพูดอะไรกับพี่มันอีก เพราะขนาดแค่หางตายังมองเห็นเลยว่าอีกฝ่ายยิ้มร้ายๆ ใส่กันแบบมีแผนในใจมากแค่ไหน รู้สึกหนาววาบไปทั้งตัวเลยในตอนนี้ และสุดท้ายเสียงของเราทั้งคู่ก็เงียบลงและได้เวลาตั้งใจดูหนังกันจริงๆ สักที ...



และถึงแม้ว่าผมจะดูไม่รู้เรื่องเพราะมัวแต่นึกถึงสัมผัสที่ยังคงรู้สึกเหมือนว่ามือของมันยังวางจับอยู่ที่หัวนมกันอยู่ก็ตาม





...


10 PM.



“ไอ้สัด! ไม่จริง”



“Hey Bro…มึงเป็นอะไรอีกเพื่อน โมโหเชี่ยไรมึงอีกเนี่ย” ไอ้แมทที่มองหน้าผมแบบงงๆ มันที่มองผมแล้วสลับไปมองไอ้จั๋นแบบสงสัย แต่แน่นอนว่ามันทั้งคู่ต้องไม่เข้าใจอยู่แล้วว่าผมเป็นอะไร



“กูไม่เป็นไร กูขอกลับก่อน” บอกพวกมันออกไปแบบนั้น ก่อนจะวางแบงค์พันลงบนโต๊ะแล้วลุกขึ้นออกมาจากโต๊ะเลยในทันที ไอ้จั๋นที่พยายามบอกว่าไม่ต้องจ่ายแต่ผมก็ไม่สนใจ แค่เงินไม่เท่าไหร่ มันเทียบไม่ได้กับความรู้สึกของผมในตอนนี้ หัวใจของผมในตอนนี้ ประโยคของไอ้หยีก่อนหน้านี้คืออะไร ข้อความในไลน์ที่มีความหมายว่า ไอ้เอมคบกับไอ้ตุ๊ดปลอมแม่งคืออะไรวะ



มันไปคบกันได้ยังไง เมื่อไหร่ ตอนนี้



คำถามมากมายพวกนี้ที่หลั่งไหลเข้ามาในหัวของผม มีแต่คำถามพวกนี้แค่นั้นที่ผมอยากจะได้คำตอบ เพราะแบบนั้นเลยกดเข้าไปในไลน์และพิมพ์ข้อความลงไปแบบที่ใจคิด



[[TGer: คบอะไร คบได้ยังไงวะ!] ]



ผมที่ก้าวขายาวๆ ไปที่ลานจอดรถพร้อมๆ กับก้มมองมือถือไปด้วย ขึ้นข้อความว่าถูกอ่านแล้วหนึ่งคน ในห้องแชทของเรามีแค่สามคน คือผม ไอ้เอม และไอ้หยี มันต้องเป็นใครสักคนในสองคนนี้ที่อ่านแล้วไม่ตอบข้อความผม ยิ่งเป็นแบบนี้ความรู้สึกโกรธมันก็เกาะกินใจของผมจนรู้สึกร้อนไปหมดทั้งตัว



“แม่ง!”



[[TGer: ตอบดิวะ! อ่านแล้วเงียบทำKอะไรกัน!] ]



[[TGer: ใครอ่านกู!] ]



[[หยี: กูเอง มึงจะทำไม] ]



เป็นไอ้หยีที่ตอบกลับออกมาแบบนั้น ผมได้แต่ถอนหายใจออกมาหนักๆ ตอนที่ได้รับคำตอบ อย่างน้อยๆ ก็ไม่ใช่ไอ้เอม จริงๆ แล้วไอ้หยีมันอาจจะเข้าใจผิดไปเองก็ได้ ... ผมที่ยังคงหอบความหวังเล็กๆ เอาไว้ในใจ ก็แค่ความหวังเล็กๆ เหมือนที่เคยหวังมาตลอด



[[TGer: มึงบอกว่าไอ้เอมคบกับไอ้ตุ๊ดปลอมนั่น มึงเอามาจากไหน] ]



[[หยี: มึงเรียกพี่ดาบเค้าให้ดีๆ หน่อยดิวะ นั่นมันแฟนเพื่อนเรานะ] ]



[ [TGer: แฟนเหี้ยไรมึงอย่ามามั่วนะไอ้หยี] ]



พิมพ์ข้อความตอบกลับไปทั้งๆ ที่รู้สึกฉุนขาด มันที่เอาแต่พิมพ์ตอบกลับมาว่าไอ้ตุ๊ดปลอมนั่นเป็นแฟนไอ้เอมยิ่งทำให้ผมรู้สึกโมโห แฟนเหี้ยอะไร ไม่จริงหรอกไอ้สัด



[[หยี: กูไม่ได้โง่ค่ะอิสัด กูมีหูมีตา ไม่ได้มีแต่เขาเหมือนมึง] ]



[[TGer: ไอ้หยีมึงอย่ากวนโมโหกู มึงอย่ามามั่ว] ]



[[หยี: กูไม่ได้มั่ว งั้นมึงเชิญดูนี่จ้า] ]



มันที่ตอบกลับผมมาแบบนั้น พร้อมแนบลิ้งค์จากอินสตาร์แกรมมาให้กันด้วย ผมไม่รอช้าก็จิ้มกดตามเข้าไป และภาพตรงหน้าที่เห็นก็คือไอจีของคนที่ใช้ชื่อว่า ‘dani_dorothy’ กับภาพมือสองมือที่จับกันจากบนโต๊ะ พร้อมใช้แคปชั่นที่ว่า ‘กรี๊ดๆๆ มีเมียแล้วค่ะอิดอกกกก~’ ผมกดออกแล้วเปิดหน้าไอจีของมันอีก มีภาพที่ถูกเพิ่มขึ้นมาใหม่เมื่อหลายชั่วโมงก่อน เป็นภาพตั๋วหนังสองใบ พร้อมแคปชั่นใต้ภาพว่า ‘ดูหนังกับแฟนค่ะสังคม’



“สัด!” สบถออกมาแบบนั้นกับแคปชั่นของมันที่เริ่มจะทนไม่ไหว สัด ไอ้ตุ๊ดปลอม และสุดท้าย ด้วยใจไม่รักดีของผมเองก็กดเข้าไปดูรูปสุดท้าย รูปล่าสุดที่เหมือนจะพึ่งถูกอัพโหลดลงเมื่อประมาณครั้งชม.ก่อน ... ภาพของใบหน้าน่ารักที่กำลังนอนหลับ ขนตาเรียวยาวที่ถูกปิดสนิทลง และถูกผ้าห่มคลุมทับจนถึงคอ เป็นภาพของไอ้เอม เป็นไอ้เอมจริงๆ ข้อความใต้ภาพที่ทำให้ผมต้องปามือถือทิ้งในตอนนี้



‘ตุบ’



“สัด! ไอ้สัด!!”



ข้อความที่เขียนว่า ‘ขอโทษที่ทำให้เหนื่อยนะครับ นอนพักเยอะๆ นะควายน้อยของพี่ ...แต่ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ นะว่าเวลาแฟนเหนื่อย แม่งโคตรน่ารักเลยว่ะ’



ข้อความที่ดูไม่มีอะไร แต่อธิบายความสัมพันธ์ทุกอย่างของคนทั้งคู่ได้หมดว่ามันถึงไหน และไอ้เอมที่ไม่ได้เข้ามาตอบข้อความของกลุ่มเรานั่นก็น่าจะเป็นคำตอบที่ดังที่สุด คำตอบดังๆ ที่ผมไม่อยากได้ยิน



“ทำไมวะ ไม่ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ทำไมกูต้องช้ากว่าคนอื่นทุกทีเลยวะ!” ได้แต่กำมือแน่นๆ อยากระบายโดยการต่อยกำแพงแรงๆ ความรู้สึกตื้อๆ ตันๆ กระแทกใจจนบอกไม่ถูก ผมที่เฝ้ารอไอ้เอมมาตลอด แต่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ไม่เคยทันใครสักที ทำไมแม่งต้องเป็นแบบนี้วะ



“โว้ย!” ร้องออกมาแบบนั้นแล้วทรุดตัวลงนั่งข้างๆ รถของตัวเอง ... มึงช้าอีกแล้ว ไอ้เก้อมึงช้าอีกแล้ว



ผมได้แต่แค่นยิ้มหยันให้ตัวเอง ไม่ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ผมก็ไม่เคยไปอยู่ในสายตาไอ้เอมเลยจริงๆ แค่อยากรู้ว่าทำไม ทำไมกันวะ แล้วเสียงๆ นึงอยู่ๆ มันก็ดังเข้ามาในหัว กับคำพูดของมันที่เหมือนจะกระแทกเข้าไปในใจของผมอีกครั้งในวันนี้



‘ถ้ามึงเข้าใจเขามากที่สุด แล้วทำไมมึงไม่เข้าใจว่าเขาไม่ชอบมึงวะ’



นั่นสิ...ทำไมกูถึงไม่เข้าใจ ว่าจริงๆ แล้วเอมแม่งไม่ได้รักกูเลยแบบที่ไอ้เสือมันว่าจริงๆ



“อาอย่ามาตามผมได้ไหมวะ!”



“ก็แล้วทำไมจะตามไม่ได้ กลับบ้านไปกับอา”



“นี่มันเรื่องของผม อาต่างหากที่อย่ามายุ่งกับผม กลับไปหาครอบครัวของอา เราต่างคนต่างไปสักทีสิวะ!”



“ก็อารักเสือ!”



“หยุดพูดเห็นแก่ตัวแบบนี้ได้ไหมวะ คนรักกันเค้าไม่ทำแบบอาหรอก เหี้ยว่ะ! โอ้ย ปล่อยสิวะ เจ็บนะโว้ย!” เสียงของคนสองคนที่ดังไปทั่วลานจอดรถ จริงๆ ไม่ได้อยากสนใจอะไร เพราะตอนนี้ผมกำลังเจ็บ เจ็บกับความจริงที่ตีแสกหน้าว่าไอ้เอมไม่มีทางเป็นของผมอีกแล้ว ... มันไปคบกับไอ้ตุ๊ดปลอมนั่นแล้ว



“ปล่อยผมนะโว้ยอาหนึ่ง!”



“อาไม่ปล่อย เสือต้องกลับไปกับอา”



แต่เพราะเสียงสองเสียงนี้มันคุ้นเหลือเกิน รวมถึงชื่อนั่นก็ด้วย .... “ไอ้เสือ”



เพราะแบบนั้นผมเลยต้องลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้าไปดู และก็เป็นจริงแบบที่คิด เป็นไอ้เสือจริงๆ มันที่กำลังถูกผู้ชายคนนึงที่อายุน่าจะประมาณสามสิบต้นๆ รูปร่างภูมิฐานดูมีฐานะ เพราะไอ้เสือกำลังถูกมันยัดเข้าไปในรถBMWรุ่นใหม่อยู่ตอนนี้



“เห้ย! ทำอะไรวะ” ตะโกนออกไปแบบนั้น ไอ้เสือที่ถูกยัดเข้าไปในรถหันหน้ามาเห็นผม หน้าตาของมันที่กำลังเหมือนอยากจะร้องไห้ ข้อมือของมันที่ถูกจับไว้แดงไปหมด มองจากตรงนี้ยังเห็นเพราะมันเป็นคนขาว



“ไม่มีอะไร ผมจะพาแฟนผมกลับบ้าน” ผู้ชายคนนั้นว่าออกมาแบบนั้นอย่างสุภาพ คนที่ไอ้เสือเรียกมันว่าอา



“ผมไม่ใช่แฟนอา! ปล่อยนะเว้ย”



“นั่นสิ เค้าไม่น่าใช่แฟนคุณ ปล่อยมันลงมา” ผมที่สาวเท้ายาวๆ เข้าไปหา เห็นไอ้เสือที่พยายามจะลงมาจากรถ แต่ถูกผู้ชายคนนั้นขวางมันไว้ก่อน



“เค้าเมามากแล้ว เราทะเลาะกันนิดหน่อย เค้างอนผมก็เลยพูดออกไปแบบนั้น ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมจะพาแฟนกลับบ้าน” เค้าหันมาบอกผมแบบนั้น แต่นั่นยิ่งทำให้ผมต้องขมวดคิ้วเข้าหากัน ... ไม่เคยได้ยินว่าไอ้เสือมันมีแฟน มึงเป็นใครมาสวมรอยวะ



“ผมว่าคุณตอแหลแล้วล่ะ ไอ้นี่มันไม่มีทางเป็นแฟนคุณ” ผมว่าออกไปแบบนั้น และผู้ชายตรงหน้าที่เริ่มจะหงุดหงิดเพราะผมเซ้าซี้ไม่เลิก



“คุณจะไปรู้อะไร”



“แล้วจะไม่รู้อะไรได้ไงวะ ก็ไอ้ที่มึงลากขึ้นรถไปน่ะมันเมียกู!”



พูดออกไปแบบนั้นแล้วจ้องตามันนิ่งๆ มองเห็นไอ้เสือที่ทำหน้าตกใจเหมือนเห็นผีอยู่ข้างหลังไอ้ผู้ชายคนนี้ ... กูพูดผิดหรอวะ ถึงจะแค่คืนเดียวก็เถอะ



สัด! วันนี้แม่งวันอะไรถึงมีแต่เรื่องให้กูหงุดหงิด ... กูที่กำลังเสียใจ และตอนนี้กูก็พร้อมจะถีบยอดหน้าไอ้หล่อนี่มากๆ ด้วย



“ปล่อยไอ้เสือลงมา!”



...


(มีต่อจ้า)

ออฟไลน์ Yoghurt

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-2
    • แฟนเพจ
‘คลิ๊ก’



เสียงปิดประตูห้องที่ทำให้ผมต้องหันไปมอง เป็นอิเจ๊พี่มันที่เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพที่ผมต้องเบิกตากว้างๆ เพราะไม่เคยเห็นมันในสภาพนี้มาก่อน คนร่างสูงที่พันแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวอย่างหมิ่นเหม่อยู่ที่เอวต่ำๆ เพราะแบบนั้นเลยมองเห็นหน้าท้องที่มีซิคแพคและกล้ามท้องตัววีที่ต่ำลงมา โชคดีที่ว่ามีผ้าพันเอาไว้ ได้แต่เผลอกลืนน้ำลายก่อนจะหันหน้าหนี



“หันหนีกูทำไมคะหนู มาทาผิว”



“เจ๊พี่มึงก็ไปแต่งตัวดีๆ สิวะ”



“กูสะดวกแบบนี้” มันที่ตอบผมออกมาแล้วเดินตรงเข้ามาหากัน พอหันไปก็เห็นอีกฝ่ายอยู่ใกล้กันแล้ว กลืนน้ำลายลงคอไปทีนึง ก่อนจะเด้งตัวหนีไปอีกฝั่งของเตียงนอนทันที



“ผม ผม...ผมหิวน้ำมากๆ เลยว่ะ ฮ่าๆ ขอออกไปกินก่อนนะ” หันไปบอกอีกคนที่ยืนอยู่อีกฝั่งของเตียงนอนด้วยรอยยิ้มกว้างๆ กว้างแบบบางทีกูก็คิดว่ากูยิ้มกว้างไป เป็นรอยยิ้มตอแหลที่ใครๆ ก็ดูออกว่าไม่เนียน ... แต่แล้วไงอ่ะ ไอ้เอมหน้าด้านพอ กูไม่สนหรอก กูจะหนี!



‘หมับ’



“หิวอะไร มึงพึ่งกินมา” ฝ่ามืแกร่งที่ตรงมาคว้าข้อมือของผมเอาไว้ได้ก่อนและดึงตัวผมให้เข้าไปหา อีกแค่นิดเดียว แค่นิดเดียวเท่านั้นกูก็จะไปถึงประตูแล้วแท้ๆ ไอ้เอม มึงแม่งขาสั้นไอ้สัด!



“จ...เจ๊”



“เจ๊อะไร ทำไมไม่เรียกพี่ดาบล่ะ” คนตรงหน้าที่โน้มหน้าเข้ามาหาผม พร้อมๆ กับวงแขนแข็งแกร่งที่โอบเข้าที่เอว มือของอีกฝ่ายที่วางลงบนสะโพกของกันจนรู้สึกใจสั่นไปหมด



“ถ้าเอมไม่พร้อมพี่จะไม่บังคับหรอก ... อยากให้ครั้งนี้ของเรา เป็นเรื่องที่เราพอใจ อยากทำ และรู้ตัว” พี่มันที่เอื้อมมือมาจับปลายคางของผมให้ช้อนขึ้นไปจ้องตากับมันตรงๆ



“อยากให้เอมรู้ไว้ว่าความสัมพันธ์ของเรามันคือเรื่องจริง มันจะไม่เหมือนครั้งก่อนๆ ที่ผ่านมาอีกนะ และไม่อยากให้เอมคิดว่าที่มาคบกันก็เพราะเรื่องเซ็กอย่างเดียวด้วย ถ้าเอมไม่อยากให้ทำ พี่ก็รอได้” พูดจบแค่นั้นแล้วโน้มหน้าลงมาหอมแก้มผมเบาๆ เป็นการกระทำแผ่วๆ ที่เน้นย้ำไปถึงใจของผม ผมที่ได้แต่ก้มหน้าลง ไม่ยอมสบตากับพี่มันอีก สายตาของมันที่กำลังบอกผมว่ามันพูดจริงๆ ผมที่เงียบเสียงลงแล้วไม่ยอมตอบอะไรมันกลับไป จนสุดท้ายอิเจ๊พี่มันก็ผละตัวออกพร้อมวางฝ่ามือใหญ่ลงมาที่หัวของผมเบาๆ



“เดี๋ยวไปแต่งตัวก่อน แล้วเดียวจะมาทาผิวให้นะ”



‘หมับ’



“พี่...”



“หื้ม ว่าไง” อีกคนที่ตอบผมกลับมา พร้อมๆ กับหันหน้ามามองผมแบบไม่เข้าใจเพราะผมคว้าต้นแขนของมันไว้ ถ้าจะพูดจริงๆ เรียกว่าตะครุบจะเหมาะกว่า ผมได้แต่ช้อนตาไปมองตาคมนั่นแบบไม่มั่นใจ เม้มปากน้อยๆ ก่อนที่สุดท้ายจะยอมพูดออกไป



“พี่...อย่าไป”



“ไม่อยากให้ไปหรอ” สายตาคมของพี่มันที่กำลังมองมาที่ผมตอนนี้ เป็นสายตาที่เหมือนกับว่าจะเคล้นเอาคำตอบจากผมคให้ได้ อีกคนที่ขยับเท้าเดินกลับเข้ามาใกล้ พร้อมก้มหน้าลงมาชิดจนผมต้องเงยหน้าขึ้นไปมองตอบ



“ว่าไงครับ เอมไม่อยากให้พี่ไปหรอ”



“อืม เอมไม่อยากให้พี่ดาบไป เอม...เอมพร้อมนะ” พูดออกมาแบบนั้นด้วยเสียงเบาๆ และในนาทีต่อมา คนตรงหน้าของผมก็ยิ้มออกมา เป็นรอยยิ้มที่ยิ้มทั้งหูทั้งตาแบบคนมีความสุขที่ปิดไม่มิดเลยจริงๆ



ร่างกายของผมที่ถูกทิ้งตัวลงกลางเตียงนอน เสื้อผ้าชุดนอนของผมที่ถูกถอดออกไปให้พ้นตัวอย่างรีบร้อน และในไม่กี่วินาทีต่อมาเสื้อผ้าของผมก็ถูกโยนทิ้งขว้างออกไปอย่างไม่ใยดีด้วยฝีมือของคนบนร่าง ผมที่ช้อนตามองจ้องตากับคนตรงหน้าที่ก็สบตาผมแบบไม่ละสายตาหนี ก่อนที่อีกฝ่ายจะโน้มหน้าลงมากดจูบที่ข้างแก้มกันอีกหนึ่งทีแบบเน้นๆ



“มึงน่ารัก”



พูดจบแบบนั้นแล้วแนบริมฝีปากลงมาประกบจูบกัน ลิ้นของเราที่พัวพันกันอยู่ในโพรงปากแบบไม่มีใครยอมใคร เพราะว่ามันไม่ใช่จูบครั้งแรกของกันและกัน และเพราะแบบนั้นเลยเลื่อนมือขึ้นไปวางอยู่ที่หลังศีรษะของมัน สอดแทรกนิ้วของผมเข้ากับกลุ่มผมสีสว่างของมันอย่างร้อนแรง เสียงหอบหายใจครางกระเซ่าดังขึ้นเป็นระรอกในทุกๆ ครั้งที่ปลายจมูกโด่งไล้จูบไปตามลำคอ หัวไหล่ และไล่มาจนถึงยอดอก



“อึก อ๊ะ...” ได้แต่ร้องออกมาแบบนั้นพร้อมๆ กับที่ก็เด้งหน้าอกขึ้นไปตอนที่อีกฝ่ายครอบริมฝีปากลงบนหัวนมของผม ปลายลิ้นนุ่มๆ ที่เลียดุนดันกับยอดอกจนรู้สึกเสียวซ่านไปทั้งตัวจนต้องละมือลงมาจิกเข้ากับผ้าปูที่นอน มือซ้ายของพี่มันที่ก็ไม่ปล่อยว่างเลื่อนมือผ่านหน้าท้อง ลูบมืออย่างอ้อยอิ่งที่สะดือทำเอาผมหายใจกระตุก ช้อนตาขึ้นไปมองคนตรงหน้าที่กำลังยิ้มกริ่มอยู่ในตอนนี้



“เจ๊...”



“พี่ดาบสิน้องเอม” มันที่ว่าออกมาแบบนั้นแล้วเลื่อนฝ่ามือลงไปที่แกนกายของผม เลื่อนมือรูดรั้งให้แข็งขืนอย่างหยอกล้อ



เพราะมึงเป็นแบบนี้....ตอนนี้กูเลยไม่อยากจะเรียกพี่ดาบยังไงล่ะวะ เรียกดาบให้เอาดาบมาเสียบกูหรอ ...และใช่ ดูท่าแล้วน่าจะเสียบกูให้ตายในเวลาต่อมา! เพราะฝ่ามือหนาที่ละออกจากแกนกายของผมก็เลื่อนผ่านไปที่ช่องทางด้านหลัง พร้อมๆ กับที่เจ้าตัวเลื่อนริมฝีปากจูบไล้แผ่วๆ ตามลงมาที่หน้าท้อง สะดือและท้องน้อยจนผมหดเกร็งไปหมด พี่มันที่ละตัวออกไปก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดลิ้นชักที่หัวเตียง ก่อนจะดึงขวดเจลหล่อลื่นออกมา ...เดี๋ยวนะ



“ซื้อไว้วันนี้ตอนมึงไปเข้าห้องน้ำ” ตอบออกมาเหมือนอ่านสีหน้าผมออก นี่มึง....นี่มึงเตรียมพร้อมจะได้กูมากเลยนะอิพี่แด็ป!



“อ๊ะ อึก....อื้ออ” นิ้วเรียวยาวที่ถูกสอดเข้ามาในร่างของผม เป็นความรู้สึกเจ็บแม้ว่านี่จะไม่ใช่ครั้งแรกของเรา แต่หลังจากครั้งสุดท้าย มันก็ผ่านมานานหลายเดือนแล้ว ทุกส่วนของผมหดเกร็ง พอเป็นแบบนั้นอีกฝ่ายเลยโน้มหน้าลงมากดจูบกันเบาๆ ก่อนจะกดย้ำเข้าที่จุดในช่องทางด้านหลังของที่ทำให้ต้องอ้าปากร้องออกมาดังอย่างห้ามไม่อยู่ รู้สึกเสียวซ่านจนสมองเบลอไปหมด



“อ๊ะ พี่ด...พี่ดาบ อื้ออ” ร้องออกไปแบบนั้นเพราะรู้สึกทรมานไปหมด เสียวจนต้องจิกเท้าและกำมือเข้ากับผ้าปูที่นอนแน่นๆ แล้วร้องครางออกมาแบบลืมอาย ลืมตามองคนตรงหน้าที่ต้องยอมรับว่ามันเก่งมาก มึงไม่ใช่จริงๆ ด้วยเจ๊ มึงมันตุ๊ดปลอมจริงๆ ด้วย!



“น้องเอมไม่ไหวแล้วใช่ไหมน้า” มึงไม่ต้องมาทำเสียงเล็กเสียงน้อย ฮื่ออ แม่ มันล้อเอม อิเจ๊พี่ดาบมันแกล้งเอม! ... อยากจะร้องด่าออกไปแบบดังๆ แต่สิ่งที่ทำได้มีแค่เสียงครางกระเซ่ากับสายตาเชื่อมๆ ที่กำลังร้องขออีกฝ่าย พี่มันที่เห็นแบบนั้นก็ยกยิ้มออกมาพร้อมๆ กับหัวเราะอยู่ในลำคอแบบมีความสุข นี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นมันยิ้มกว้างๆ แบบนี้



กำลังจะเอากู มีความสุขมาสินะๆ!



ฝ่ามือแกร่งที่เลื่อนมือไปกระตุกผ้าขนหนูที่ใส่อยู่ ก่อนจะโยนมันทิ้งไปที่ข้างเตียงแบบไม่ใยดี และในตอนนั้นผมเองก็ต้องเบิกตากว้างขึ้นมองส่วนที่ขยายตัวอยู่ตรงหน้าของผมในตอนนี้ ได้แต่กัดปากตัวเองแน่นๆ ...



“เคยเจอมาแล้วตกใจอะไรคะ” ถามกันแบบนั้นแล้วโน้มตัวไปหยิบถุงยางจากลิ้นชักเดิมมาใส่ เตรียมมาพร้อมซ้อมจะมาเอากูแบบเป๊ะๆ ดูออก



“เริ่มล่ะน้า” ร้องออกมาแบบนั้นพร้อมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ มึงไม่ต้องมาทำเหมือนให้เตรียมตัว เพราะใช่ ไม่ได้ให้กูเตรียมตัวอะไร พี่มันที่พูดประโยคนั้นจบก็ดันส่วนหัวเข้ามาในทันทีแบบไม่ให้กูทำใจ



“อึก อื้อออ”



“น้องเอม อย่าเกร็ง” บอกแบบนั้นพร้อมๆ กับเลื่อนหน้ามาจูบกันที่ข้างแก้ม ผมที่ได้แต่เชิดหน้าขึ้นไปมองเพดาน เป็นความรู้สึกทั้งเจ็บทั้งจุกจนร้องแทบไม่ออก ... ครั้งก่อนๆ กูผ่านมาแบบไม่ตายได้ยังไงหรออยากรู้



พี่มันที่ค่อยๆ สอดแกนกายเข้ามาจนสุดแบบช้าๆ และไม่เร่งรีบ ริมฝีปากที่ก็คอยกดจูบไปตามข้างแก้ม ลำคอ และหัวนมของผมไปพร้อมๆ กัน สะโพกแกร่งที่ค่อยๆ ขยับเข้าออกช้าๆ เหมือนพยายามให้ผมคุ้นชินแบบไม่เร่งรีบ ...เป็นการเอาใจใส่กับการมีอะไรกันต่างจากทุกครั้งจริงๆ ... และเพราะแบบนี้ หัวใจของผมอยู่ๆ ก็รู้สึกอิ่มฟูขึ้นมาแบบพูดไม่ออก



การมีเซ็กแบบแค่ทำให้มันผ่านๆ ไป กับการมีเซ็กกันระหว่างคนรักมันต่างกันมากจริงๆ



“อ๊ะ อื้ออ” ผมที่ร้องออกมาแบบนั้นอีกครั้งในตอนที่อีกฝ่ายค่อยๆ สอดใส่เข้ามาแบบเพิ่มแรงและจังหวะเข้ามาแบบเน้นๆ ในตอนที่พี่มันเห็นว่าผมเริ่มคุ้นชิน สะโพกแกร่งที่กระแทกกระทั้นเข้ามาจนผมต้องกัดริมฝีปาก ปรือตามองหน้าคนบนร่างที่ลูบฝ่ามือไปที่ขาของผม ก่อนที่เจ้าตัวจะยกขาของผมพาดลงไปที่บ่าแกร่ง ดึงเอวของผมให้ชิดเข้าหาลำตัวของพี่มันมากขึ้นแล้วสอดใส่เข้ามาแบบเน้นๆ และรัวเร็วมากขึ้นกว่าเดิม เป็นจังหวะที่ทำเอาตัวผมยกคลอนแบบห้ามไม่อยู่



“อ๊ะ อ๊ะ พี่ดาบ แรง...แรงไปนะ”



“เอมเสียวหรอเปล่า หื้ม” ถามผมแบบนั้นด้วยเสียงแหบพร่า เป็นเสียงที่บอกได้แค่ว่าเซ็กซี่จนผมต้องหน้าแดง



“อ๊ะๆ อื้ออ”



“เอมครับ ว่าไง ...”



“อึก อ๊ะ พี่ดาบ อย่าแกล้ง” ได้แต่ยกมือขึ้นปิดหน้าตัวเองในตอนที่สายตาคมจ้องมองกันแล้วถามผมแบบนั้นไม่หยุด แกนกายใหญ่ของมันที่สอดเข้าออกแบบหนักหน่วงตามจังหวะที่เจ้าตัวพอใจ รู้สึกเสียวจนช่องทางด้านหลังต้องบีบถี่ๆ



“เอมครับ ตอบหน่อย อึก”



“พี่ดาบ อ๊ะ เอมเสียว เอม...”



“หึ น่ารักจังวะเอม”



พี่มันที่ว่าแบบนั้นแล้วจัดการซอยสะโพกให้เร็วขึ้นไปอีก ตัวของผมที่ขยับไปตามแรงสอดใส่ของมัน ทั้งรุนแรงทั้งเสียวซ่าน อีกฝ่ายที่ดึงขาของผมให้อ้าออกกว้างขึ้น ก่อนเพิ่มความเร็วให้มากขึ้น รู้สึกเหมือนลมหายใจขาดห้วง ช้อนตามองหน้าพี่มันที่จับขาของผมให้กว้างออก สายตาของคมแวววาวของอีกฝ่ายที่จ้องมาที่ผมอย่างพอใจ เหงื่อของมันที่เริ่มออกมาขึ้นเกาะไปตามหน้าท้องแกร่ง เลื่อนขึ้นไปมองที่ใบหน้าชื้นเหงื่อแบบนั้น และพี่มันที่ก็ยกยิ้มมุมปากส่งมาให้ก่อนจะยกมือขึ้นเสยผมไปด้านหลังในตอนนี้ ... เป็นภาพที่เคยเห็นบ่อยๆ เวลามาอีกฝ่ายหงุดหงิด แต่ไม่เคยรู้เลยว่า เวลาแบบนี้พอได้เห็นมันทำแล้วใจผมจะกระตุกขนาดนี้



หล่อฉิบหาย หล่อแบบวัวตายควายล้มตึงไปหมด ... เอาเลยดาบ เอาให้ตายกันไปเลยนะ



“พี่ดาบ เอม...เอมจะเสร็จ อ๊ะๆ อื้ม อ๊ะ”



“พร้อมกันนะครับ” เลื่อนหน้ามาพูดข้างหูก่อนจะกดจูบไปที่ใบหูของผม เสียงหอบหายใจของกันและกันที่ดังไปทั่วทั้งห้องนอน ผมที่หลับตาแน่นแล้วอ้าของออกกว้างมากขึ้นในตอนที่พี่มันก็กระแทกกระทั้นเข้ามาแบบเน้นๆ ในทุกจังหวะ



“อ๊ะ อ๊ะ อ๊า..อื้อ”



“อึก อา...ซี๊ดดด”



ร่างกายของผมกระตุกถี่ๆ พร้อมๆ กับที่ปลดปล่อยออกมาเลอะที่หน้าท้องของตัวเอง และอีกฝ่ายที่ก็ฉีดพุ่งน้ำรักเข้ามาในช่องทางด้านหลังของผมพร้อมๆ กัน ช่องทางด้านหลังของผมที่กระตุกถี่ๆ บีบรัดแกนกายแกร่งบีบเค้นเอาน้ำรักทุกหยาดหยุดของอีกฝ่ายที่ทะลักออกมา โชคดีที่ใส่ถุงยาง ไม่งั้นคงลำบากผมน่าดู



ได้แต่หอบหายใจถี่ๆ รินรดกันและกันอยู่แบบนั้น พี่มันที่กอดตัวของผมไว้แน่นๆ ก่อนจะโน้มหน้าลงมากดจูบลงที่ข้างแก้ม หน้าผาก และริมฝีปากของผมเบาๆ อีกครั้ง การกระทำที่ทำให้ผมต้องยิ้มออกมาแม้ว่าจะกำลังหลับตาหอบหายใจแบบเหนื่อยๆ ก็ตาม รับรู้ได้ถึงมันที่ค่อยๆ ถอนแกนกายออกไปช้าๆ เป็นความรู้สึกวูบโหวงแบบแปลกๆ พี่มันที่ถอดถุงยางออกแล้วล้มตัวลงมากอดตัวผมเอาไปแนบอก รู้สึกเหนื่อยจนอยากจะหลับลงไปในตอนนี้ แต่ถึงแบบนั้น ประโยคสุดท้ายก่อนผมจะหลับลงไปก็ยังได้ยินชัด...



ชัดไปถึงหัวใจของผม



“พี่รักเอมนะ”



“อื้ม....เอมก็รักพี่ดาบ”




ตอบกลับออกไปแบบนั้นเบาๆ พยายามลืมตาขึ้นมองภาพเบลอๆ ตรงหน้าที่มองเห็นหน้าคนตรงหน้าจางๆ ภาพสุดท้ายก็ยังคงเป็นรอยยิ้มของพี่มัน รอยยิ้มมีความสุขที่ส่งมาให้ผม พร้อมๆ กับเสียงแชะที่ผมไม่เข้าใจว่าคือเสียงอะไร......แต่ถึงแบบนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าความสุขที่แท้จริง มันเป็นแบบนี้นี่เอง





--------------To be continued--------------



มาแล้วค่ะสังคมมมม ยังมีใครอ่านอยู่ไหมมมม

ตอนที่แล้วคนอ่านน้อยลงจนใจหาย อาจจะไม่สนุกมาก แต่แคทยังตั้งใจเหมือนเดิมนะคะ

คนอ่านน้อยมากจนตอนนี้เหลือแต่ผีในห้องที่อ่านแล้วจ้า



แคท: เศร้ามากๆ ไม่มีคนอ่านเลย

ผีในห้องแคท: เขียนต่อสิย๊ะ ฉันอ่านอยู่!



ฝากแฮชแทค #สวยๆเป็นผัว ในทวิตเตอร์ด้วยนะคะ


ขอขอบคุณคนอ่านจากเล้าเป็ดที่ยังอยู่ด้วยกันนะคะ

:pig4: :pig4: :pig4:
   :mew1: ขอบคุณนะคะ มาอ่านอีกน้าาา


กำลังจะเลือดโชกกกก มาหิวอารายตอนนี้ลูกกกกก
  น้องเป็นเด็กกำลังโต ฮ่าาาา มันเลยจะหิวๆสักนิดนึง แต่ว่า ... ตอนนี้แคทจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังนะคะ :hao6:


ขอหยิกพุงน้องเอมที ทำไมมาร้องเอาตอนกำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็มงี้.   :katai1:

อิพี่เก้อก็ไม่หายสับสนซักที  :เฮ้อ:
  อย่าหยิกพุงน้องน้าาา น้องเป็นคนกินเก่ง ยังไม่ได้กินมันเลยร้องๆนิดนึง 5555
แต่ตอนนี้แคทจะไม่ทำให้ผิดหวังค่ะ จัดไปปปปป  :heaven


เอาละสิ น่าจะวุ่นวายน่าดู,,,


:fire: :angry2: มึงเอาไงว่ามาเก้อ....ลังเลนะมึงอะ
 จะเอาน้องเสือของฉันเป็นแฟน
ทำไมมึงยังหวงเกินเพื่อนกะอิหนูเอมอีก :z6: :z6:
สักทีมั้ยห่ะ :beat: :beat: :beat:
  ในทางพี่เก้อน้านนนน อยากจะเล่าให้คนอ่านฟังมากๆค่ะ แต่คิดว่า รอด่าพี่แกเองจะดีกว่า ฮ่าา


เป็นแฟนกันแล้ว
  ในที่สุดนะคะ เจ๊แกประกาศเต็มที่ไปเล้ยยยย


รอวันที่น้องเอมโดนเสียบนะจ้ะ  :hao6: :hao6:
งั้นต้องมาจัดตอนนี้แล้วนะคะ อิอิ  :hao6:



กรี้ดดดเจ้ดานี่มีเมียแล้ววว
  เป็นเมียจริงๆแล้วในตอนนี้ อั๊ย :hao5:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-05-2020 22:12:22 โดย Yoghurt »

ออฟไลน์ sailom_orn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: คู่เอกผ่านไปด้วยดี

ปูเสื่อรอมาม่าจากพี่เก้อ+นุ้งเสือ

ออฟไลน์ Tassanee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อร๊ายยยยยยยยย  ลูกชายคะ.....ปรบมือค่ 


รัวๆๆๆๆๆ   ดีใจด้วยนะหนู


 :mc4: :z1: :m25:

ออฟไลน์ Chucream.nabi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เอมกะอิเจ๊มันมีความสุขกันละ :hao7:
 :m16: เก้อแกมาดูแลน้องเสือของฉันดีๆเลยนะ
อย่าให้ต้องลงไม้ลงมือนะ o18 o18

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
พี่ดาบ-น้องเอมลงเอยกันด้วยดี ได้กันซักที  :laugh:

ส่วนอีกคู่น้านนนคงต้องรอลุ้นกันต่อไปสินะ. 

ออฟไลน์ Nighttime

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 67
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :haun4: เจ้ดานี่สุดแซ่บ น้องเอมเหนื่อยเลยย :hao6:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด