ข้าวเหนียวมะม่วงหมดลงแล้ว สหรัฐตั้งท่าจะขออยู่ร่วมมื้อเย็นอีกมื้อ แต่คุณภัสสรลากลูกชายตัวดีกลับบ้านเสียก่อน แต่…คิดหรือว่าคนอย่าง ‘พี่เสือ’ จะยอมกลับไปง่ายๆ โดยไม่ทิ้งปมปัญหาอะไรไว้
“คุณยายครับ อาทิตย์หน้าวันสงกรานต์ ไม่ทราบว่าคุณยายอยู่บ้านรึเปล่าครับ?”
“อยู่จ้ะ”
“ถ้าอย่างนั้น ผมขออนุญาตมารดน้ำดำหัวคุณยายนะครับ เมื่อครู่ตอนช่วยแยมยกของขึ้นชั้นสองผมเห็นโต๊ะหมู่บูชาด้วย ปกติวันสงกรานต์แยมเป็นคนสรงน้ำพระรึเปล่าครับ” เขาถามเรื่องของญาณธรกับคุณยายโสภาเสียเลย เพราะเกรงว่าถ้าหันไปถามเจ้าตัว เจ้าตัวก็คงอึกอักไม่ยอมตอบเหมือนตอนนั่งทานข้าวเหนียวมะม่วงที่เขาชวนคุยเท่าไหร่ อีกฝ่ายกลับตอบแค่ ‘ครับ’ กับ ‘ไม่ครับ’ เท่านั้น
…ก็เข้าใจหรอกว่ากำลังตกใจเรื่องที่เขาจู่โจม แต่…แหม…เลิกตกใจบ้างก็ได้นะแยม
“อื้อ…ปกติแยมเขาก็ทำนั่นแหละ เสือพูดอย่างนี้แสดงว่าจะมาช่วยเหรอจ้ะ”
“ครับ! คุณยาย เดี๋ยวงานนี้พี่เสือจะมาช่วยแยมสรงน้ำพระเองครับ” สหรัฐพูดแล้วยิ้มก่อนจะขึ้นรถจากมา และทันทีที่ขึ้นรถแล้ว ลูกชายตัวแสบก็หันมาทางมารดาทันที
“แม่…ปกติบ้านเราใครสรงน้ำพระวันสงกรานต์”
“ถามทำไม”
“โธ่! แม่ อย่าเพิ่งทำเสียงโมโหสิ คราวนี้จะหาลูกสะใภ้ตัวจริงเสียงจริงให้เนี่ย ไม่ดีใจเหรอ”
“ก็คงจะดีใจกว่านี้ ถ้าลูกสะใภ้ไม่ใช่คนที่เราจะดึงเขาลงมาตกต่ำ…” คุณภัสสรพูดแล้วเหวี่ยงหน้าเชิดไปอีกทาง
“ผมไม่พาแยมตกต่ำหรอกแม่ แม่ไม่เห็นเหรอว่าคนไม่ธัมมะธัมโมอย่างผมยังคิดจะมาช่วยเขาสรงน้ำพระเลยเนี่ย นี่เข้าทางธรรมเลยนะ จีบใครก็ไม่เหมือนคนนี้ ทุ่มสุดตัวแบบนี้แม่ยังไม่เห็นถึงความจริงใจอีกเหรอ”
“จ้ะ! พ่อลูกชาย!! รายนี้จริงใจแน่ใช่มั้ย!! ไม่ใช่จีบติดแล้วทิ้งนะ แม่จะเชือดเราให้ดู แยมเขาเป็นผู้ชายแท้ๆ เป็นหลานที่น่ารักมากๆ เขาพาคุณยายขึ้นวัดฟังธรรมทุกเสาร์อาทิตย์ ทั้งๆที่เขาเองก็ยังวัยรุ่นน่าจะได้ไปสังสรรค์กับเพื่อนๆแต่ก็ต้องมาคอยติดตามคนแก่แบบนี้ เขาเป็นเด็กดีกตัญญู เสือจะทำให้เขาเสียใจไม่ได้รู้มั้ย”
มารยาทอันอ่อนน้อมสุภาพและความประพฤติของญาณธรอยู่ในสายตาคุณภัสสรเสมอมา ยังแอบคิดว่าถ้าตัวเองมีลูกสาวสักคนก็คงจะดีจะได้แนะนำให้มารู้จักกับเด็กกตัญญูน่ารักนิสัยดีแบบนี้ แต่ไม่นึกมาก่อนว่าถึงหล่อนจะไม่มีลูกสาว…แต่หล่อนก็อาจได้เกี่ยวดองกับญาณธรเช่นกัน!!...
…งานนี้จะสงสารก็แต่คุณยาย…ตัวหล่อนที่ได้เปิดหูเปิดตาในโลกกว้างอันเปลี่ยนแปลงนั้น ก็พอจะทำใจในอะไรหลายๆเรื่องได้หรอก แต่อย่างคุณยายโสภา อายุมากโขปานนั้นแต่ต้องมารับรู้ว่าหลานชายตัวเองกำลังจะถูกผู้ชายจีบนี่ก็ออกจะ…
“ผมไม่ทำให้เขาเสียใจแน่นอนแม่ แต่ก่อนอื่นเลย ต้องไปหาวิธีสรงน้ำพระมาก่อน ไม่งั้นอาทิตย์หน้าล่มแน่ๆ”
……………….
ไม่ใช่เวลาหนึ่งอาทิตย์สำหรับการเตรียมตัว…เพราะวันสงกรานต์ปีนี้ตรงกับวันธรรมดาช่วงกลางสัปดาห์ นอกจากสหรัฐจะต้องเคลียร์งานให้เรียบร้อยแล้ว ยังต้องแบ่งเวลามาท่องจำวิธีสรงน้ำพระซึ่งได้ความรู้มาจากพี่ชายด้วย งานนี้เล่นเอางงเป็นไก่ตาแตกกันทั้งบ้านที่เห็นลูกชายคนเล็กผู้แสนฮาร์ดคอร์หันมาเอาดีทางพระพุทธศาสนา
และแล้ว…วันสงกรานต์ที่สหรัฐรอคอยก็มาถึง…
“สวัสดีครับ คุณยาย” สหรัฐพร้อมมารดามาถึงบ้านของคุณยายโสภาแต่เช้า พร้อมข้าวของเต็มสองมือ
“จ้ะ…แล้วนั่นเอาอะไรมาเยอะแยะเชียว”
“ดอกไม้กับน้ำอบครับ ผมอยากจะขอรดน้ำคุณยายด้วย” มารยาทของพ่อลูกชายกินขาดจนคุณภัสสรอยากจะถอนหายใจใส่หน้าสักที
…ให้มันได้อย่างนี้เถอะ!! สงกรานต์ปีไหนๆก็อย่าหวังเห็นหัวเจ้าลูกคนนี้ แต่พอมาปีนี้กลับเสนอตัวมาขอรดน้ำผู้หลักผู้ใหญ่ที่เพิ่งรู้จักกันไม่กี่สัปดาห์…เอาคะแนนพัฒนาการไปเลยร้อยเต็มย่ะ!!...
“น่ารักจริงเชียว วันนี้อยู่ทานข้าวกลางวันกับยายด้วยนะ มีข้าวมันน้ำพริกมะม่วง ชะอมไข่แล้วก็หมูทอด…เสือทานเป็นมั้ยลูก ข้าวมัน”
“เหมือนข้าวมันไก่มั้ยครับ”
“คล้ายๆ แต่ข้าวมันนี้ยายหุงกับกะทิ คุณภัสเคยทานมั้ยคะ” คุณยายโสภาเดินนำแขกเข้าบ้าน
“เคยทานสมัยเด็กๆค่ะ แต่พอโตขึ้นมาก็หาทานยาก…วันนี้ยังไงภัสขอจดสูตรกลับไปเก็บเป็นความลับนะคะ” คุณยายโสภายิ้มละไมอย่างเต็มใจที่จะถ่ายทอดสูตรโบราณ ทั้งสามเดินเข้ามาในบ้าน พอดีกับที่ญาณธรเดินลงจากบันไดพร้อมกับประคององค์พระพุทธรูปด้วย ทำเอาสหรัฐรีบวางข้าวของในมือลงกับโต๊ะกระจกหน้าเก้าอี้รับแขก แล้วจึงวิ่งขึ้นบันไดไปดึงองค์พระมาอุ้มเสียเอง
“ทำไมไม่รอพี่ล่ะแยม! พี่บอกแล้วไม่ใช่หรือว่าจะมาช่วยสรงน้ำพระ” เขาดุเสียงเข้ม แต่ญาณธรก็ยังไม่ยอมปล่อย
“ผมทำเองได้ครับ” เขาว่าอย่างนั้นแล้วพยายามประคององค์พระเอาไว้ก่อนจะเดินหนีลงบันไดมา แต่ก็ก้าวได้เพียง 2-3 ก้าว เพราะสหรัฐตามลงมาดึงแขนเอาไว้
“อย่าดื้อสิ! พี่บอกว่าพี่จะช่วยเพราะเห็นว่าแยมทำคนเดียวมันลำบาก องค์พระไม่ใช่เบาๆนะแยม”
“ไม่เป็นไรครับ ผมจัดการได้…อ๊ะ!” แต่เพราะการเยื้อยุดกันอยู่บนขั้นบันไดของบ้านไม้เก่า ซึ่งขั้นไม่กว้างมากนัก ทำให้ญาณธรเสียหลักเซจะตกจนสหรัฐต้องคว้าโอบคนร่างโปร่งเอาไว้ทั้งตัว
“แยม!” ไม่ใช่แค่ร่างสูงเท่านั้นที่ใจหายใจคว่ำ แต่คนแก่อย่างคุณยายโสภากับคุณภัสสรก็พากันยกมือแตะหน้าอกกันเป็นแถว
“พ่อเสือ แยม ลงมาข้างล่างเถอะ ไปเยื้อยุดกันอยู่ตรงนั้นจะตกลงมาทั้งคู่…” คุณยายเอ่ยเสียงสั่นด้วยความห่วงใย สหรัฐจึงถือโอกาสคว้าองค์พระมาอุ้มด้วยมือข้างหนึ่ง มืออีกข้างโอบเอวญาณธรยกอีกฝ่ายจนขาลอยจากขั้นบันไดแล้วพาลงมาที่ชั้นล่างออกไปทางหลังบ้าน เล่นเอาคุณภัสสรถึงกับตาเหลือก
“ตาเสือ!!!” หล่อนคำรามในลำคอกับการกระทำอุกอาจต่อหน้าคุณยายโสภาแบบนั้น
“มีอะไรหรือ คุณภัส” แต่แม้เสียงของคุณภัสสรจะอยู่ในลำคอ แต่คุณยายโสภาเจ้าของบ้านก็ยืนใกล้พอจะได้ยินจนต้องหันมาถาม
“อุ๊ย! เปล่าค่ะคุณยาย…แหม…ก็…ตาเสือตัวปัญหาน่ะค่ะ นี่ถ้าไม่ไปยุ่งวุ่นวายกับแยมล่ะก็ เมื่อกี้แยมก็คงจะไม่เกือบตกลงมาหรอก…”
“…พ่อเสือมีน้ำใจ…แยมต่างหากไม่รับน้ำใจเลย…” คุณโสภาพูดแล้วยิ้มบาง อย่างที่ทำเอาคุณภัสสรรู้สึกร้อนวูบๆเหมือนวัวสันหลังหวะกลัวอีกฝ่ายจะจับไต๋ลูกชายตนเองได้จนต้องเป็นฝ่ายหลบสายตา
“เอ่อ…แล้ว…ระหว่างรอพวกหนุ่มๆ คุณยายมีอะไรให้ภัสช่วยทำบ้างมั้ยคะ” เจ้าของบ้านยิ้มบางไม่ตอบ แต่เดินนำออกไปแล้วเรียบร้อย
……………………..
ที่หลังบ้านอันเงียบสงบ ญาณธรถูกชายหนุ่มร่างกายกำยำอุ้มออกมา ก่อนจะยอมปล่อยให้เป็นอิสระ และทันทีที่เป็นอิสระ ร่างโปร่งก็ขอพระพุทธรูปคืน
“ส่งพระพุทธรูปมาให้ผมเถอะครับ ผมจะได้สรงน้ำ”
“พี่บอกว่าจะมาช่วยสรง…ทำไมแยมไม่รอพี่ อุ้มพระลงจากชั้นสองคนเดียว เกิดตกบันไดขึ้นมาทำยังไง” สหรัฐดุเสียงเข้มทันที
“ผมอุ้มมาทุกปีไม่เคยตกนี่ครับ”
“แล้วถ้าปีนี้ตก…” ญาณธรหันหน้าไปอีกทางอย่างเบื่อหน่ายจะเถียงด้วย ทำเอาร่างสูงต้องถอนหายใจอย่างหงุดหงิด เขารึเป็นห่วงแทบตายแต่เจ้าตัวนึกห่วงตัวเองบ้างรึก็เปล่า…ให้มันได้อย่างนี้สิ…
“ไหนล่ะถังน้ำที่จะใช้สรงพระ…” เขาถามเปลี่ยนเรื่อง ญาณธรเลยยอมหันกลับมามอง ก่อนจะเดินไปเปิดน้ำใส่กะละมังที่เตรียมเอาไว้แล้ว
“ดอกไม้กับน้ำอบมีมั้ย” ร่างโปร่งเดินไปหยิบดอกไม้และน้ำอบที่วางเอาไว้บนโต๊ะมา สหรัฐวางพระพุทธรูปลงในถาดข้างๆกะละมังใส่น้ำ แล้วจึงหันมารับดอกไม้กับน้ำอบไปผสมลงในกะละมัง
“คุณทำเป็นจริงๆหรือครับ” เห็นท่าทางไม่เก้กัง แถมไม่เคอะเขินอย่างน่าแปลกใจ ญาณธรเลยต้องเอ่ยปากถาม ชายหนุ่มหันกลับมามองก่อนพูด
“พี่เสือ…เรียกว่าพี่เสือแล้วพี่จะตอบ”
“พี่เสือ…สรงน้ำพระเป็นด้วยหรือครับ”
“พอทำเป็นบ้าง…” ความจริงคือเพิ่งทำเป็นเมื่อวาน แต่มันก็ไม่ยากเย็นอะไร ไม่ต้องท่องบาลีเหมือนตอนจะบวชพระ ไม่ต้องอารัมภบทอะไรมากมาย แค่เพียงผสมน้ำแล้วตักขึ้นรดบนไหล่ขององค์พระเท่านั้นเอง
“ไม่เชื่อว่าหน้าอย่างพี่ทำเป็นล่ะสิ” เขาย้อนถามอย่างอารมณ์ดี ส่งขันใบเล็กที่เต็มไปด้วยน้ำเปล่าผสมกลีบดอกไม้และน้ำอบให้เจ้าบ้าน
“ก็…ตอนเจอกันครั้งแรก พี่เสือตักบาตรไม่เป็นด้วยซ้ำ” ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ ไม่กล้าบอกว่า ตัวเองไม่ใช่คน ‘ตักบาตรไม่เป็น’ แต่แค่ ‘ทำตัวเหมือน’ ตักบาตรไม่เป็นเท่านั้นเอง
“พี่ก็ต้อง…เปลี่ยนแปลงตัวเองบ้างสิ บอกแล้วไงว่าอยากอยู่ข้างๆคนดีๆแบบแยม ธัมมะธัมโมแบบแยม พี่ก็ต้องธัมมะธัมโมให้ได้มากกว่าหรือเท่ากับ…”
“แค่แยมขึ้นวัด พี่เสือก็คิดว่าแยมเป็นคนดีแล้วเหรอครับ…” ญาณธรย้อมถามด้วยน้ำเสียงเรื่อยๆ ชายหนุ่มเงยหน้ามองพลางส่ายหน้า
“เปล่า…พี่ไม่ได้คิดว่าเพราะแยมขึ้นวัด แยมถึงเป็นคนดี แต่พี่คิดว่าแยมเป็นคนดีเพราะแยมยอมสละความสุขความสบายของตัวเองพาคุณยายขึ้นวัดต่างหาก…คนดีสำหรับพี่คือคนกตัญญู”
การที่ผู้ชายรุ่นราวคราวเดียวกับสหรัฐจะขึ้นวัดทำบุญฟังเทศน์ฟังธรรมเป็นกิจวัตรไม่ใช่เรื่องง่ายนักหรอก ต่อให้ไอ้หมอนั่นเรียบร้อยปานผ้าพับไว้มากแค่ไหน แต่เชื่อในนิสัยของเพศผู้เถอะ มันทำแบบนั้นกันได้ไม่นานจริงๆ
แต่กับญาณธร…แม่บอกกับสหรัฐว่านับตั้งแต่หันมาเข้าวัดฟังธรรมเมื่อหลายปีก่อนก็เห็นเด็กวัยรุ่นผู้ชายคนหนึ่งพาคุณยายมาวัดทุกเสาร์อาทิตย์และทุกวันพระใหญ่ จนกระทั่งบัดนี้…จากเด็กวัยรุ่นเติบโตเป็นชายหนุ่ม เขาคนนั้นก็ยังทำกิจวัตรเหมือนเดิมไม่เคยขาด
“แยมแค่อยากให้ยายมีความสุข…” เพราะยายเหนื่อยกับการเลี้ยงดูหลานมามากแล้ว ในชีวิตบั้นปลายที่เขาพอจะทำมาเลี้ยงชีพตัวเองได้ พอจะยืนหยัดด้วยสองขาของตัวเองได้ ญาณธรจึงไม่ลังเลที่จะดูแลยายเท่าที่สองแรงจะมี
“นั่นแหละ…ที่ทำให้พี่มองว่าแยมเป็นคนดี…” สหรัฐพูดแล้วยิ้มบาง ก่อนจะเสริมต่อ
“และพี่…ก็ชอบคนดีแบบแยม…” เกิดเป็นความเงียบเมื่อคนพูดก้มหน้าลงสรงน้ำพระต่อ ในขณะที่คนฟังกลับเงยหน้าขึ้นมองอย่างตกตะลึง
ติดตามตอนต่อไปเน้อออออ>>>
สวัสดีค่ะ ^.^ มีใครจำกันได้มั้ยน้า ไม่ได้เข้ามาลงนิยายเป็นปีแล้ว นับตั้งแต่น้องถ้วยฟูจบ แหะๆ
แบบว่าปีที่แล้วยุ่งมากเลยค่ะ เพิ่งมาว่างนี่ล่ะนะ
เรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นในซีรี่ส์ชุด “ตำนานรักดอกไม้” นะคะ เห็นว่าเข้ากับเทศกาลพอดีเลยเอามาลงซะหน่อย
แต่พาร์ทแรกยาวมากกกกกก ฮ่าฮ่า พิมพ์มันไปหน่อย พาร์ทหน้าสัญญาว่าจะไม่ยาวอย่างงี้แล้วค่ะ 
ยังไงก็ฝากเรื่องนี้ด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ