[เรื่องสั้น]...ตำนานรักดอกไม้ ตอนพิเศษ 29 ธันวา (อัพ 29/12/2016) หน้า 33
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น]...ตำนานรักดอกไม้ ตอนพิเศษ 29 ธันวา (อัพ 29/12/2016) หน้า 33  (อ่าน 356706 ครั้ง)

ออฟไลน์ ThE_PaRaN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ชอบพี่เสือที่่สุดเลย  :-[ (ไม่เกี่ยวแล้ว)

กลับไปตามพี่น้องด่วนเลยค่ะ

แล้วอย่าลืมบอกรักด้วยนะ (รู้ตัวเองหรือยังว่ารักพี่น้องอ่ะ)


samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆจับลูกเจ้าพ่อกดซะงั้นนะพี่ภู 55555555

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
โห มาอ่านตอนนี้ไม่คิดว่าจะโดน




โดนใจอย่างแรง  :laugh:

lazewcielo

  • บุคคลทั่วไป
ป๊ะ ได้ใจจริงตอนนี้
เป็นกำลังใจให้ภูผานะะะะ

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15

ออฟไลน์ คนริมคลอง

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-1
แทนที่จะไปเฉยๆ ยกขันหมากไปเลยดีกว่ามั้ง พี่ภู  โห่....ฮิ้วววววว

ออฟไลน์ aeyja55

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
น้องใจเด็ดสมเป็นลูกเจ้าพ่อจริงๆนะเนี่ย

ออฟไลน์ พี่วันเสาร์

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +282/-3
มีสองทางสำหรับภูคือได้เลือดกลับมาหรือได้เมียกลับมา
อยู่ที่ภูว่าจะทำให้ตัวเองได้สิ่งไหนกลับมา
แต่มีแววว่าจะได้ทั้งสองอย่างเพราะน้องเป็นถึงลูกเจ้าพ่อ :laugh:
+1จ้า :L2:

พี่เสือน้องแยมน่ารัก :กอด1:
ชอบวีธีสงบสติอารมณ์ของพี่เสือ…แยมอยู่หนอ ยุบหนอ…แยมอยู่หนอ ยุบหนอ… :m20:

ออฟไลน์ ขนมหวาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +190/-2
นึกแล้วว่าพี่ภูแกรต้องมาแนวนี้ ใจร้อน ลงมือเลย :beat:
สมน้ำหน้า ให้พี่น้องหนีไปเลยดีแล้ว คราวนี้ให้ไปเผชิญหน้า
กับพ่อตาเจ้าพ่อดูมั่ง ว่าจะเอาอะไรไปบอกท่านพ่อตา หุหุ

ปล.พี่เสือและน้องแยมน่ารัก (ถึงจะมีคิวออกมานิดเดียวก็เหอะ)


fffx

  • บุคคลทั่วไป
อ๊ากกกกน้องเสร็จภูจนได้ โฮกกกก
ฮาภูตอนย้ำหนักหนาและว่าเป็นผัว ทีต่อหน้าละไม่ยักกะพูด
รีบไปตามน้องกลับมาเลยนะ เชอะ
รอตอนต่อไปค่าาาา ภูไปเจอพ่อตาจะว่าไงยบ้างละเนี่ย
ฮ่าๆๆๆๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






emmie

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามาให้กำลังใจคนเขียนจ้า มาเร็วๆ นะ รอดูไอ้พี่ภูโดนคุณพ่อตาและคุณพี่ภรรยาสอย โทษฐานทำร้ายจิตใจคุณน้องอย่างรุนแรง หึหึ
 

ออฟไลน์ Acacha

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2
ภูพร้อมลุย อย่างงี้มีลุ้น  :mc4:

chartery

  • บุคคลทั่วไป
มาเป็นกำลังใจอยู่ห่างๆ

ออฟไลน์ jiki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1567
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +175/-2
“ลูกเจ้าพ่อนะมึง ลูกเจ้าพ่อ”



   “แล้วไง ไอ้น้องลูกเจ้าพ่อ แต่กูก็ผัวลูกเจ้าพ่อเหมือนกัน!

เอาใจไปเลย กับคำพูดเนี้ย

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
มันมีบางอย่างที่ซะมีทำได้ แต่เพื่อนทำไม่ได้ไง งานนี้ภูเลยต้องรีบตามเมียกลับมาอย่างด่วน :z1:

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1510
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
แหม กว่าจะรู้ใจตัวเองนะพ่อภู ไปหาแล้วไม่ใช่ไปทะเลาะกับเค้าอีกนะ รักก็บอกน้องไปตรงๆสิ เป็นผัวเค้าแล้วนิ 555

butterfly_bee

  • บุคคลทั่วไป
กว่าจะรู้ใจตัวเองนะนายภูผา
เจอศึกหนักหน่อยล่ะทีนี้ พ่อตาดุซะด้วย หุหุ

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
น้อง-ภู ชอบคิดไปเองอยู่เรื่อย

ออฟไลน์ zeit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
ถ้วยฟูไม่รู้ไม่ผิด ให้อภัยเพราะน่ารัก
แต่ะภูผิดเต็มๆเพราะทำร้ายจิตใจน้อง
ไปง้อเลยยยย สงสารน้องจัง
ไปง้อดีๆน้ะไม่ใช่ไปอ้างว่ามารับผิดชอบเพราะว่าได้กันอีกล้ะ
ไปบอกเขาซะดีๆว่ารักล้ะ

ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
ต้องอย่างค่ะพี่ภู น้องปากแข็งต้องแบบนี้แหล่ะ
อ๊ากกกว่าแต่พี่ภูกับพี่เสือคุยกันไม่เกรงใจน้องแยมเลยป่านนี้หน้าแดงไปไหนต่อไหนแล้ว
พี่ภูเถื่อนได้ใจจริง ๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ @BUA@

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +427/-8
ขอให้โชคดี รอดออกมาจากดงเจ้าพ่อให้ได้นะคะพี่ภูผา  :z2:

ออฟไลน์ vanny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 286
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
พี่ภู....วันนี้เท่ห์ได้ใจมั่กมาก

มันต้องอย่างนี้สิ ถึงจะสมเป็น ผัวลูกเจ้าพ่อ

ตามเอาใจช่วยพี่ภูบุกถ้ำเสือ เพื่อขอลูกเสือค่ะ

 o13 o13 o13

ออฟไลน์ konnarak

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-0
พี่ภูสู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

พีน้องก็อย่า งอลนานนะ

ออฟไลน์ himecrazy

  • Alon€ In th€ DarK
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
ขอให้น้องงอนภูไปนานๆเลย จะได้สมกับ10 ปีที่แอบรักมา อิอิ^^

chae

  • บุคคลทั่วไป
อ่านะ ทีตอนข่มขื่นไม่คิด
คิดตอนข่มขืนแล้ว ดีจิงๆ

ออฟไลน์ sine

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 321
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +129/-3
ในเล้าไปไกลกว่าที่บอร์ดนาบูเยอะเลยนะคะเนี่ย
นั่งอ่านไปอย่างมีความสุขรวดเดียวเลย

หลายเรื่อง  ชวนให้ยิ้มและหัวเราะกับทุกเรื่อง
คราวนี้มาลุ้นเรื่องราวของลูกชายเจ้าพ่อแล้ว
น้องน่าสงสารอ่ะ

รอดูว่าที่นี้คุณสามีจะทำยังไงให้ได้ภรรยาคืนมา5555


มาให้กำลังใจค่ะ o13

ออฟไลน์ เฉาก๊วย

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +251/-6

วันนี้วันพุธ  เข้ามานั่งรอนอนรอ  :z13:

ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8
   NOV: ตำนานรักดอกพิกุล (จะร่วง)
BY: Dezair
……………………..
ดอกที่ 3



   เสี่ยสมภพไม่คิดว่าลูกชายคนเล็กจะเดินทางกลับมาที่บ้านเอากะทันหันแบบนี้มาก่อน



ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ หัวเด็ดตีนขาดอย่างไรก็จะอยู่กรุงเทพให้ได้ จนเขาต้องใจอ่อนยอมตามใจเรื่อยมา โดยแลกกับการที่นภศรต้องต้องกลับมาเยี่ยมบ้านทุกสามเดือน



   “ป๊า…”



นภศรลุกจากโซฟาเดินตรงเข้าไปยกมือไหว้บิดาก่อนจะเข้าสวมกอดชายวัยปลายที่แม้อายุอานามจะไม่น้อยแล้ว แต่ร่างกายยังแข็งแรง ดวงตายังเด็ดเดี่ยวสมกับเป็น ‘เจ้าพ่อ’ ไม่เสื่อมคลาย



   “น้อง…กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมไม่โทร.ไปบอกป๊า ป๊าจะได้รีบกลับบ้าน”



เสี่ยสมภพสำหรับคนรอบข้างคือชายผู้มากไปด้วยอิทธิพล คุมเครือข่ายการขนส่งเส้นหลักโดยเฉพาะเส้นระหว่างนิคมอุตสาหกรรมและท่าเรือ เป็นบุคคลผู้น่าเกรงขามและน่าหวั่นเกรง ทว่า…เมื่อมาอยู่กับบุตรชายสุดที่รักอย่างนภศรแล้ว ‘เสี่ย’ กลายเป็นเพียง ‘ป๊า’ ที่แสนอ่อนโยนเท่านั้น



   “คิดว่าป๊าน่าจะงานยุ่ง แล้วน้องก็เพิ่งมาถึงด้วย”



   “แล้วนึกยังไงกลับบ้าน นี่ยังไม่ครบกำหนดสามเดือนเลยนะ”



   “ก็…คิดถึงบ้าน อยากอยู่กับป๊าด้วย หรือป๊าไม่อยากให้น้องกลับ ซ่อนกิ๊กไว้ในบ้านรึเปล่าป๊า…”ประโยคตอนท้าย นภศรทำเสียงขู่บิดาอย่างที่ทำเอาเสี่ยสมภพถึงกับหัวเราะร่วน



   “ลูกดุขนาดนี้ ป๊าจะกล้าได้ยังไงเล่า!” สองพ่อลูกพากันหัวเราะ นับตั้งแต่ภรรยาของเสี่ยสมภพจากไป นภศรก็งอแงไม่อยากได้แม่ใหม่มาตลอด และเจ้าตัวก็เป็นที่รักของเสี่ยมากเสียจนแม้กระทั่งเรื่องการแต่งงานใหม่ของตัวเอง เสี่ยก็ยังตามใจลูกชายคนนี้



   “เอ้า! แล้วนี่มาคนเดียว? เสือกับภูล่ะ ปกติเห็นยกโขยงกันมา” คำถามของชายวัยปลายทำเอานภศรนิ่งไปเล็กน้อย แต่แม้จะเล็กน้อย…เสี่ยก็ยังมองเห็นความลังเลบนสีหน้าลูกชาย



   “ก็…พวกนั้นยุ่งๆ ไอ้เสือก็มีคนรักแล้วด้วย เดี๋ยวนี้มันทิ้งเพื่อนแล้วป๊า” เสี่ยพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะถามต่อ



   “ภูด้วยเหรอ?” คราวนี้ลูกชายนิ่งงัน จนคนถามตอบตัวเองในใจได้ในวินาทีนั้นว่าลูกชายของแก ‘มีเรื่อง’ กับเพื่อนสนิทที่ชื่อว่าภูผาเสียแล้ว



   “ก็…อือ…ไอ้ภูมันกำลังหาแฟน น้องเลยไม่อยากชวนพวกมันมาด้วย ป๊ากินข้าวมารึยัง? ไปกินข้าวกัน น้องหิวมากเลย” เมื่อลูกชายตั้งใจเปลี่ยนเรื่อง คนเป็นพ่อจึงไม่ถามอะไรต่อ ได้แต่เออออโอบไหล่นภศรเบี่ยงปลายเท้าจะเดินเข้าห้องอาหาร ทว่าสองพ่อลูกยังไม่ทันจะเดินเข้าไป ลูกน้องของเสี่ยสมภพก็เดินเข้ามารายงาน



   “เสี่ยครับ คุณน้อง…เพื่อนคุณน้องที่ชื่อคุณภูผามาขอพบครับ” นภศรตกตะลึงไปชั่วขณะเพราะไม่คิดว่าภูผาจะตามเขาเร็วขนาดนี้



   …ภู…ภูมาอย่างนั้นหรือ?...รู้ได้ยังไงว่าเขากลับบ้าน?! ไม่สิ! ต้องตกใจเรื่องที่ว่าทำไมมันยังกล้ามา ทั้งๆที่รู้ว่าเขากลับมาบ้าน!!...



   “อ้าว ก็ให้เขาเข้ามาสิ ฉันบอกแล้วไงว่าถ้าเป็นนายภูกับนายเสือน่ะ ปล่อยให้เข้ามาได้เ…ล…”



   “ไม่ได้นะป๊า!” นภศรร้องลั่นออกไปแล้วถึงได้รู้ว่าตัวเองไม่ควรไปขัดคำพูดบิดาต่อหน้าลูกน้องเช่นนี้เลย ร่างโปร่งก้มหน้าอย่างสำนึกผิดและเหมือนจะเพิ่งสงบสติอารมณ์ได้



   “ขอโทษครับป๊า…แต่…แต่…แต่นี่มันดึกมากแล้ว…พี่ชิต ไปบอกเขาให้กลับไป…” นายชิตเหลือบตามามองเสี่ยอีกครั้ง เมื่อเห็นชายผู้เป็นใหญ่ที่สุดในบ้านหลังนี้พยักหน้าน้อยๆ เขาจึงออกไปจัดการ



   “น้อง…อยากให้ป๊ารู้มั้ย” ไม่ต้องถามว่าอยากบอกป๊ารึเปล่า เพราะถ้านภศรไม่ปริปากก็แสดงว่าไม่อยากพูด



แต่…ไม่อยากพูด กับไม่อยากให้รู้ มันเป็นคนละเรื่องกัน…เรื่องบางเรื่องพูดได้ แต่คนอื่นจะเข้าใจหรือไม่นั้นไม่เป็นไร…แต่กับเรื่องบางเรื่อง…ปากไม่อยากพูด แต่ใจอยากระบายให้คนอื่นรับรู้…



   “น้อง…เอ่อ…น้อง…น้อง…ทะเลาะกับภูครับป๊า…” เสี่ยสมภพถอนหายใจแผ่วเบา



   “คบกันมาตั้งนานแล้วไม่ใช่หรือ?” ชายวัยปลายถาม พลางโอบไหล่พาบุตรชายเข้าไปในห้องอาหาร



   “ก็…เป็นเพื่อนกันก็ต้องทะเลาะกันบ้างใช่มั้ยล่ะป๊า…ป๊าก็เคยทะเลาะกับเพื่อนใช่มั้ยล่ะ”



   “ใช่…ป๊าเคยทะเลาะกับเพื่อน แต่ป๊าไม่เคยหนี…น้อง…น้องจำคำพูดของป๊าเอาไว้นะ ‘เพื่อน’ มีไว้ ‘พึ่งพา’ มีไว้ ‘อภัย’ และ มีไว้ ‘นับถือ’…คนที่จะมาเป็นเพื่อนเรา เราต้องเป็นที่พึ่งให้เขาโดยไม่หวังอะไร เราต้องให้อภัยเขาในความผิดที่เขาทำกับเรา และ…เราต้องนับถือในตัวตนของเขาให้เท่ากับที่เรานับถือตัวตนของเรา…ถ้าน้องให้คำใดคำหนึ่งในสามคำนี้กับใครไม่ได้ ก็ลดสถานะเขาคนนั้นจาก ‘เพื่อน’ เป็น ‘คนรู้จัก’ ก็พอ…”



   “ป๊า…ไม่ใช่ว่าน้องไม่ให้อภัยไอ้ภู แต่ว่า…น้องยังไม่อยากเจอหน้ามันตอนนี้” นภศรไม่โกรธภูผาเลย เขาโกรธตัวเองต่างหากที่ไม่ต่อต้านให้เต็มที่และใจง่ายยินยอมให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น



   “ไม่อยากเจอก็ไม่ต้องเจอ…ว่าแล้วว่าทำไมลูกชายคนนี้ของป๊าถึงกลับมาบ้านได้ ที่แท้หนีเสือมาพึ่งจระเข้นี่เอง”



   “ป๊า เขามีแต่หนีเสือปะจระเข้…” นภศรแก้คำผิดให้ เสี่ยสมภพหัวเราะร่วนอีกครั้ง



   “เอาหน่า หนีเสือมาพึ่งจระเข้ก็พึ่งจระเข้สิ บอกไว้ก่อนว่าจระเข้ตัวนี้กัดเสือตายได้เลยนะ” คนเป็นลูกนิ่งไปเล็กน้อยเมื่อคำพูดของบิดาซ่อนความนัยเอาไว้ทั้งเนื้อหา น้ำเสียงและแววตาที่มองมาที่เขา ร่างโปร่งเสยิ้ม



   “ไหนป๊าเพิ่งสอนเมื่อกี้ว่าให้น้องให้อภัยเพื่อนไง ป๊าเองก็ต้องให้อภัยเพื่อนของลูกด้วยนะครับ”



   “ป๊ารู้ ป๊ารู้ ไป…ไปกินข้าวกันเถอะ” สองพ่อลูกเดินลับหายเข้าไปในห้องอาหารแล้ว ทิ้งใครบางคนที่กำลังโวยวายโหวกเหวกอยู่นอกรั้วบ้านให้เป็นอย่างนั้นต่อไปโดยที่สองพ่อลูกไม่ได้ยิน



…………………………



   “อะไรนะ!! ไอ้น้องบอกให้กลับไปงั้นเหรอ?!!” ภูผาตะโกนลั่นอย่างไม่สบอารมณ์เมื่อบอดี้การ์ดหน้าเหี้ยมคนหนึ่งของเสี่ยสมภพเดินออกมาบอกเขาว่า ‘คุณน้องบอกให้คุณกลับไปครับ ท่านไม่รับแขก’



   …แขกหอกอะไร!! กูเป็นผัวโว้ย!!!...



   “คุณน้องท่านพูดแบบนั้นจริงๆครับ คุณกลับไปเถอะครับ วันนี้คุณน้องไม่รับแขกจริงๆ” ภูผาหัวเสีย หงุดหงิดงุ่นง่านไม่รู้จะทำยังไง พอดีกับที่รถยนต์คันหนึ่งวิ่งเข้ามาจอดที่หน้าประตูรั้วอัลลอย



   กระจกรถถูกกดลง พร้อมกับชายคนหนึ่งส่งยิ้มให้กับภูผา เล่นเอาชายหนุ่มถึงกับตาโตต้องรีบยกมือไหว้



   “เฮียหนึ่ง สวัสดีครับ”… เฮียหนึ่ง เป็นพี่ชายของนภศร เรื่องหวงน้องรักน้องนั้นไม่แพ้ ‘ป๊า’ เลยทีเดียว



   “อือ แล้วทำไมไม่เข้าบ้านล่ะภู”



   “คุณน้องไม่ให้เข้าครับ คุณหนึ่ง” บอดี้การ์ดของเสี่ยเป็นคนพูด นทีเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะยิ้มให้ภูผา



   “ทะเลาะกับน้องเหรอ”



   “เอ่อ…ก็…ผมยังไม่รู้เลยว่าถูกโกรธรึเปล่าน่ะเฮีย…”



   “อืม…เฮียก็อยากช่วยให้ได้เข้าไปคุยกับน้องล่ะนะ แต่เฮียไม่อยากถูกน้องโกรธว่ะ กลับบ้านไปนอนรอสักวันสองวัน ไว้น้องโทร.ไป ค่อยมาอีกรอบแล้วกันนะ” นทีว่าอย่างนั้น ก่อนจะกดกระจกรถขึ้นแล้วสั่งให้คนขับเอารถเข้าบ้านโดยไม่แม้แต่จะหันมองมายังภูผาเลยแม้แต่นิดเดียว



   ชายหนุ่มร่างสูงพยายามกลั้นอารมณ์ รู้ดีว่าบ้านนี้ ‘น้อง’ ใหญ่แค่ไหน ทั้งป๊ามัน ทั้งเฮียมันเลี้ยงมันอย่างกับไข่ในหิน ทั้งรักทั้งตามใจ แล้วถ้าเกิดตามใจจนไม่ยอมให้เขาได้เจอหน้ามันเลยจะทำยังไงวะเนี่ย!! โธ่เว้ย! อย่าให้กูได้เจอหน้ามึงนะ ไอ้น้อง!! มึงโดนหนักแน่!!!



   “กลับไปเถอะครับ คุณภูผา” ชายที่มาส่งข่าวบอกคำเดิม



   “ไม่ให้เข้าก็ไม่เข้าโว้ย!! จะรอแม่งหน้าบ้านนี่ล่ะ เข้าไปบอกน้องด้วย ว่าฉันจะรอจนกว่ามันจะยอมออกมา!!”




……………………………


   “เขาว่าอย่างนั้นแหนะ น้อง…เห็นว่าจะไม่ยอมไปไหน ถ้าน้องไม่ออกไปคุย” นทีกลับเข้ามาในบ้านแล้วเอ่ยปากบอกน้องชายที่กำลังร่วมมื้อเย็นกับบิดา



   “งั้นก็ให้เขารอไปนั่นแหละเฮีย…บอกแล้วว่าไม่คุย พูดไม่รู้เรื่อง” นทีรีบเข้ามานั่งบนเก้าอี้ข้างๆอย่างสนอกสนใจ เพราะร้อยวันพันปีน้องชายเขาออกจะขรึมเงียบ ไม่เห็นจะมานั่งงอนนั่งโมโหแบบนี้เลย



   “นี่โกรธขนาดนั้นเลยเหรอ น้องทะเลาะกับไอ้ภูเรื่องอะไร บอกเฮียมาเดี๋ยวเฮียจัดการเอง”



   “ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอกเฮีย…เอาหน่า…บอกว่าให้ปล่อยไว้แบบนั้นก็เอาไว้แบบนั้นเถอะ มันอยู่ได้ไม่เกินชั่วโมงเดี๋ยวมันก็กลับ หน้าอย่างไอ้ภูไม่อดทนหรอก” นภศรรู้ดี คนอย่างภูผาขี้เบื่อ และไม่มีความอดทนมากพอจะนั่งรอใครเป็นชั่วโมงหรอก…แล้วยิ่งกับเขา…แค่เพื่อนผู้ชายหนึ่งคนที่…พลาดกันแค่ครั้งเดียว จะมาแยแสอะไรกันนักหนา…



   “น้อง…” นทีเรียกน้องชายด้วยน้ำเสียงจริงจัง ทำเอาคนกำลังเขี่ยข้าวในจานไปมาต้องหันมามองพี่ชาย



   “เฮียไม่ได้กลัวว่าไอ้ภูจะอดทนได้เท่าไหร่ แต่เฮียกลัวว่าน้องจะอดทนได้เท่าไหร่ต่างหาก น้อง…ที่บ้านนี้น้องเป็นหัวใจของป๊าและเฮีย…เพราะฉะนั้น ถ้าน้องเจ็บ ป๊าและเฮียก็เจ็บ ถ้าน้องเสียใจ ป๊าและเฮียก็เสียใจ…บ้านเราเป็นคนจีน กตัญญูคือสิ่งสำคัญ ลูกคนไหนทำพ่อแม่เสียใจ ลูกคนนั้นเนรคุณ ตอนนี้น้องกำลังกำภาระหนัก จำเอาไว้ว่าถ้าน้องเสียใจ ป๊าก็เสียใจ ถ้าน้องเจ็บ ป๊าก็เจ็บ มีแต่ลูกเนรคุณเท่านั้นที่ทำให้พ่อแม่เป็นแบบนี้…”



นภศรกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก นับตั้งแต่มารดาจากไป เขาถูกเลี้ยงดูโดยมือผู้ชายสองคนคือ ‘ป๊า’ และ ‘เฮีย’ ผู้ชายสองคนที่ทุ่มเททุกอย่างให้เขา รักเขาและห่วงใยเขา ตอนนี้…ถึงเวลาที่เขาจะตอบแทนทุกสิ่งที่ป๊าและเฮียทุ่มเทให้แล้ว หน้าที่ของเขาคือการไม่ให้ใครมาทำให้เสียใจ เพราะนั่นหมายถึงป๊าและเฮียจะเสียใจ…



   “…แต่เฮียจะไม่ปล่อยให้น้องเสียใจหรอก น้องจะเป็นลูกเนรคุณไม่ได้ เพราะฉะนั้น เฮียจะไม่ปล่อยให้ไอ้ภูอยู่…” นทีลุกขึ้นยืน ใบหน้านิ่งสงบทว่านภศรผู้เป็นน้องชายกลับใจหายวาบรีบคว้าแขนอีกฝ่ายไว้



   “อย่านะเฮีย! เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต แค่เพื่อนทะเลาะกัน แค่เด็กทะเลาะกันน่ะเฮีย เพราะฉะนั้นเฮียอย่าทำอะไรไอ้ภูนะ ปล่อยมันไว้แบบนั้น น้องสัญญา…ว่าถ้าพรุ่งนี้เช้ามันยังอยู่ น้องจะออกไปคุยกับมัน” ชายหนุ่มยิ้มบาง แล้วลูบศีรษะน้องชายแผ่วเบา



   “เฮียดีใจที่ได้ยินคำว่าเป็นแค่เรื่องเด็กทะเลาะกัน เพราะถ้าเรื่องที่น้องโกรธกับไอ้ภูเป็น ‘เรื่องผู้ใหญ่ทะเลาะกัน’ เฮียและป๊าคงอยู่เฉยไม่ได้ น้องเข้าใจคำพูดเฮียนะ” นภศรสะอึก เขารู้ดีว่าตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางของบ้าน แต่เรื่องนี้…เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดใครเลย ไม่ใช่แม้กระทั่งความผิดของภูผาด้วยซ้ำ…ไม่ควรมีใครจะต้องเป็นอะไรทั้งสิ้น…ยกเว้นเขา



   “ครับเฮีย” ร่างโปร่งรับคำไม่เต็มเสียงนัก ก่อนจะก้มหน้าลงตักข้าวเข้าปาก…เขาได้แต่หวังว่าภูผาจะความอดทนต่ำเหมือนคราวอื่นๆ ภูผาจะได้กลับไปเสีย เรื่องทั้งหมดจะได้ไม่ต้องมารื้อฟื้นกันอีก



   ในขณะที่นภศรเอาแต่ก้มหน้าตักข้าวเข้าปากนั้น นทีเหลือบมองบิดา เสี่ยสมภพพยักหน้าน้อยๆเหมือนเป็นสัญญาณให้บุตรชายคนโต ‘จัดการ’…




…………………………


   ภูผาไม่ใช่คนมีความอดทนสูง เรื่องนี้เขามั่นใจว่านภศรรู้ดีว่าคนอย่างเขาไม่ใช่คนมานั่งรอคอยใคร แต่แล้วทำไมมันยังปล่อยให้เขารอมันวะเนี่ย!!!



   “ร้อนโว้ย! นั่งข้างนอกก็ยุงกัด นั่งในรถแม่งก็ร้อน!!” ภูผาใช้หลังมือปาดเหงื่อที่ผุดบนหน้า อยากสตาร์ทรถเปิดแอร์อยู่หรอก แต่…ถ้าเกิดไอ้น้องออกมาเห็น สำนึกรักษ์โลกของมันก็จะดลบันดาลให้มันด่าเขาอีก! ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายจะเข้ามาแทรกล่ะงานนี้!!



   “ไอ้น้องนะไอ้น้อง! เป็นเมียกูเสือกทิ้งผัวแบบนี้ใช้ได้ที่ไหน!! อย่าให้กูเข้าไปได้นะโว้ย!!” ภูผามองประตูอัลลอยอย่างแค้นอาฆาต ก่อนจะเหลือบไปเห็นกำแพงสูงตระหง่านที่โอบล้อมคฤหาสน์เอาไว้



   …กำแพง!! จริงด้วย!! เข้าทางประตูไม่ได้ก็เข้าแม่งทางกำแพงเนี่ยล่ะ!!!...



   ภูผาเปิดประตูลงจากรถลงไปที่ประตูอัลลอย บ้านของเจ้าพ่อนั้นไม่เหมือนบ้านคนธรรมดา พวกลูกน้องขวักไขว่เดินไปเดินมาไม่หลับไม่นอน ชายหนุ่มสอดสายตามองเข้าไปในอาณาเขตบ้าน หมายจะหามุมมืดมุมอับที่พวกลูกน้องของเสี่ยสมภพไม่สนใจ



   “ยังไม่กลับไปอีกหรือครับคุณภูผา” นายชิตเดินออกมาถาม เมื่อเห็นภูผามายืนชะเง้ออยู่หน้าประตู



   “ก็…กำลังจะไปแล้วเนี่ยแหละ!! ไปบอกน้องด้วยว่านายภูผาจะ!ไป!แล้ว!!” ชายหนุ่มโกหกหน้าตาย ก่อนจะทำตาขวางหมุนตัวเดินกลับไปที่รถแล้วสตาร์ทขับออกไปในทันที



……………….



   “คุณภูผากลับไปแล้วครับ” นภศรฟังคำพูดของลูกน้องบิดาด้วยหัวใจที่แห้งเหือด…ไปแล้ว…ไปแล้วและคงจะไม่กลับมาอีกแล้ว…เขาคงต้องทำใจสักพัก กว่าจะกลับไปพบหน้าภูผาได้เหมือนเดิม



   “เห็นมั้ยล่ะเฮีย บอกแล้วว่าไอ้ภูมันไม่อด…” พูดยังไม่ทันจบประโยค ลูกน้องอีกคนของเสี่ยสมภพก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในบ้าน



   “แย่แล้วครับ!! คุณภูผาปีนรั้วเข้ามาครับ!!!” นภศรหันขวับไปมองคนพูดอย่างตกตะลึง ก่อนจะรีบหันกลับมาพูดรัวเร็วกับบิดา



   “อย่าให้ใครทำอะไรมันนะป๊า!!”



 เพราะอาชีพของบิดานั้นมีทั้งเหยียบหางคนอื่นและใช้เส้นสายในทางมืด คนปองร้ายจึงมีมากพอๆกับคนที่นับหน้าถือตา หลายครั้งที่มีคนพยายามจะเข้ามาเหยียบย่างในอาณาเขตคฤหาสน์หลังนี้เป็นต้องถูก ‘สอยร่วง’ ทุกราย…แต่ต้องไม่ใช่รายที่ชื่อภูผา!!!



   “น้องพูดถูก ภูมันไม่ใช่คนมีน้ำอดน้ำทนจริงๆด้วย” นทีพูดกลั้วหัวเราะ



   “ให้คนไปพามันมาที่ห้องฉัน…ป๊า เฮีย น้องจะคุยกับมันเอง” นภศรลุกจากโซฟาแล้วเดินขึ้นไปยังห้องนอนตัวเอง อีกไม่เกิน 5 นาที ภูผาจะต้องถูกพามาที่ห้องเขาแน่นอน แต่ 5 นาทีนั้นนานเกินไปสำหรับสองพ่อลูกอย่างเสี่ยสมภพและนที คล้อยหลังนภศรไปเพียงเล็กน้อย นทีจึงกดโทรศัพท์หาเพื่อนอีกคนของน้องชาย



   …และเขาเชื่อว่าเพื่อนคนนี้จะต้องบอกเขาได้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น…



   “ฮัลโล เสือ…นี่เฮียหนึ่งเองนะ เฮียมีเรื่องอยากจะถามเกี่ยวกับน้องและไอ้ภูและเฮียคาดหวังว่าเสือจะบอกเฮียได้ บอกเฮียตามความจริง และบอก ‘ทุกอย่าง’ กับเฮีย”




………………………….


   ภูผาที่ถูกจับได้ตั้งแต่ยังตวัดขาไม่พ้นรั้วฝั่งหนึ่งไปยังอีกฝั่งถูกพาตัวลงจากรั้วสูงเข้ามาในบ้าน เขาเหลือบเห็นเสี่ยสมภพและนทีพี่ชายของนภศรนั่งหน้าเครียดอยู่ในห้องนั่งเล่น อยากจะเข้าไปยกมือไหว้อยู่หรอก แต่คนที่นำเขาเข้ามาเดินลิ่วขึ้นบันไดไปแล้ว



   …เอาวะ! คุยกับไอ้น้องก่อนแล้วค่อยลงมาสวัสดีป๊ากับเฮียก็ได้!!...



   ภูผาถูกพาเข้ามาในห้องนอนของนภศรที่เขาเคยมาหลายครั้ง ยามมาเที่ยวเล่นที่นี่ ร่างโปร่งยืนกอดอกพิงกำแพงอยู่ข้างหน้าต่างด้วยใบหน้าเรียบเฉยไม่บอกอารมณ์ ชายหนุ่มเหลือบมองจนแน่นใจว่าลูกน้องของเสี่ยสมภพออกจากห้องไปแล้วและปิดประตูเรียบร้อย เขาจึงก้าวขาเข้ามาดึงร่างโปร่งเข้าไปกอด



   “ภู!! ปล่อย!”



   “ไม่ปล่อย ปล่อยแล้วเมื่อเย็นเป็นไงล่ะ หนีมาถึงนี่…” ภูผาพูด เขากดหน้าลงกับลาดไหล่ของอีกฝ่ายกระชับวงแขนให้มากกว่าเดิมเพื่อรับรู้ว่าร่างในอ้อมแขนนี้จะไม่หายไปอีก



   …เนื้ออุ่นๆ…เสียงเต้นของหัวใจ…ลมหายใจร้อนผ่าว…ทั้งหมดนี่เป็นของนภศร...ภูผาเพิ่งรู้ตัวว่าเขามีสิ่งเหล่านี้อยู่กับตัวมาตลอด จนกระทั่งวันนี้ที่มันหายไป…และตอนนี้…เขาก็ได้กลับมาแล้ว เขาจะไม่ให้ทุกอย่างของนภศรไปจากเขาอีก ไม่ให้แม้แต่ปลายเล็บ…



   “ภู ปล่อยเถอะ…ไม่ปล่อยจะคุยกันรู้เรื่องได้ยังไง…” นภศรพยายามทำใจเย็น



   “ถ้าปล่อยแล้วจะหนีรึเปล่า”



   “จะหนีไปไหนล่ะ ไม่มีที่ให้หนีอีกแล้วนี่…” ขนาดหนีมาอยู่กับป๊า ไอ้ภูยังกล้าตามมา ถ้าลองเป็นแบบนี้ ต่อให้หนีไปที่ไหน มันก็ตามเขาได้ทั้งนั้น



   ภูผายอมถอยห่างเล็กน้อย เขาจูงมืออีกฝ่ายเดินไปที่เตียง ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งแล้วดึงนภศรให้นั่งลงทับตักเขา



   “เฮ้ย!”



   “นั่งกันแบบนี้แหละ จะได้หนีไปไหนไม่ได้…” ร่างสูงว่าอย่างนั้นแล้วยิ้มกริ่ม เมื่อเห็นนภศรหมดทางช่วยเหลือตัวเอง



   “ไม่ใช่เด็กๆกันแล้วนะเว้ยภู”



   “ก็ไม่เด็กไง ถ้าเด็กจะทำแบบนั้นได้เหรอ” คนฟังหน้าขึ้นสีในวินาทีนั้น นภศรกะพริบตาเพื่อเรียกสติตัวเอง



   “เรื่องนั้นให้มันแล้วกันไป ลืมมันเถอะไปเถอะ”



   “ลืม?...ให้ลืมเรื่องที่เรามีอะไรกันงั้นเหรอ?! ทำไมกูต้องลืมด้วย?” ภูผาย้อนถามอย่างไม่พอใจนัก แต่นภศรยังคุมอารมณ์ตัวเองเอาไว้ ไม่ให้เผยความรู้สึกที่เก็บกักเอาไว้นานออกมา



   “มึงจะได้แต่งงาน…”



   “กูไม่แต่งแล้ว!”



   “ภู ยังไงซะเราก็เป็นเพื่อนกัน เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งนานแล้ว…”



   “แล้วไง! เป็นเพื่อนกันแล้วตอนนี้เป็นผัวเมียกันมันผิดตรงไหน! กูยอมรับเรื่องที่กูเป็นผัวมึงได้นะน้อง แต่มึงต่างหากที่ไม่ยอมรับว่ากูเป็นผัวมึง มึงอยากได้อะไรมึงบอกมาสิ มึงอยากให้กูแก้ไขตรงไหน กูยอมทำหมดแหละเพื่อให้มึงยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้น และยอมรับว่าเราสองคนเปลี่ยนไปแล้ว! เราไม่ใช่เพื่อนกัน!...”



   “แต่เราก็ไม่ใช่คนรักกันอยู่ดี!” นภศรร้องขัดอย่างเจ็บปวด



…ผัวเมียอย่างนั้นหรือ เขาไม่ยอมรับภูผาอย่างนั้นหรือ…จะให้ยอมรับได้อย่างไรกัน ในเมื่อตัวภูผาเองต่างหากที่ไม่รู้ความรู้สึกของเขา สิ่งที่ภูผาพูดมามันไม่ต่างจากการรับผิดชอบในการกระทำที่ทำลงไป…รับผิดชอบเพราะหน้าที่ รับผิดชอบเพราะเคยเป็นเพื่อนกันมาก่อน รับผิดชอบเพราะหักหาญน้ำใจกันไม่ลง…มันก็แค่การรับผิดชอบเท่านั้น…



   ภูผาเงียบ   



    “ภู…เราไม่ได้รักกัน เราไม่ใช่คนรักกัน เพราะฉะนั้นกูถึงยอมรับไม่ได้ว่าเรื่องนั้นเกิดขึ้น ปล่อยให้มันเป็นฝัน เป็น…เป็นอะไรก็ได้ที่วันนึงจะลืม…ปล่อยมันไปเถอะ…”



นภศรพูดด้วยหัวใจที่แหลกเหลวจนแทบไม่เหลือเศษซาก…ทั้งๆที่รัก แต่ต้องพูดเหมือนไม่ได้รัก…ทั้งๆที่อยากจำ แต่ต้องบอกให้ลืม…ต้องพูดทุกอย่างตรงข้ามกับหัวใจ แต่…ก็ไม่มีหัวใจเหลือแล้ว จะแยแสไปทำไม…



   “ไม่ปล่อย! แล้วมันก็ไม่ใช่ฝัน! ความฝันบ้าบออะไรกูเสร็จไปตั้งหลายครั้ง! ฝันเปียกเหรอ?!!”



   “ภู มึงอย่ามาเกรียนตอนนี้ได้มั้ย”



   “กูไม่ได้เกรียน แต่มึงต่างหากที่พูดไม่รู้เรื่อง พูดบ้าพูดบออะไรบอกว่าให้คิดว่าเป็นฝัน! มึงอยากฝันมึงฝันไปคนเดียว กูไม่ฝันกับมึงหรอก! อยากหลอกตัวเองแบบนั้นก็ตามใจมึง แต่กูจะไม่หลอกตัวกูเอง และกูจะไม่หลอกใคร กูจะบอกเรื่องนี้ให้ป๊ามึง เฮียมึงรู้ด้วย!”



   “อย่านะไอ้ภู!”



   “ถ้าไม่ให้กูบอกมึงก็กลับไปกรุงเทพกับกู! ไปอยู่กับกู!”



   “แล้วแฟนมึงล่ะ ไหนจะเรื่องที่มึงจะแต่งงานอีก…” ภูผาขยี้หัวตัวเองอย่างหงุดหงิด



   “โว้ย!! กูได้มึงเป็นเมียแล้วกูจะมีแฟนได้ที่ไหนล่ะ! ถ้ากูจะแต่งงานก็ต้องแต่งกับมึงนั่นแหละ!!”



   “พูดเป็นเด็กเล่นขายของ…” แม้ใจจะเต็มตื้นกับคำพูดของร่างสูง แต่นภศรไม่กล้าให้ความหวังกับตัวเอง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-11-2020 20:59:40 โดย Dezair »

ออฟไลน์ Dezair

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 533
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1543/-8
“วะ!! กูพูดก็หาว่ากูเล่นขายของ!! เปิดใจหน่อยได้มั้ยไอ้น้อง!! กูบอกว่ากูไม่มีแฟน และกูก็จะไม่แต่งงาน!”



   “แต่ตอนนั้นมึงบอกเองว่ามึงจะมีแฟนและมึงจะแต่งงาน” ภูผานึกหงุดหงิดไอ้คนบนตักเขาจริงๆ ทีเวลาแบบนี้แม่งจำได้จำดี จำกระทั่งคำพูดเขา ทีเรื่องที่ได้เสียกันเป็นผัวเป็นเมียเสือกบอกให้ลืม! ไอ้น้องเอ๊ย!!



   “ภู…ถ้ามึงจะทำเพื่อรับผิดชอบ มึงอย่าทำเลย เห็นใจกูเถอะ กูเป็นผู้ชาย จะให้มึงที่เป็นผู้ชายเหมือนกันมา…อ๊ะ!...” นภศรพูดไม่ทันจบ ภูผาก็หยุดริมฝีปากที่กำลังขยับด้วยการประกบปากเข้าจูบ



ร่างโปร่งตาเหลือกโตด้วยความตกใจ ริมฝีปากของภูผานั้นร้อนผ่าวราวเปลวไฟ มันขยับบดคลึงหนักหน่วงก่อนจะถอยห่าง ตาสบตาก่อนที่ภูผาจะลดสายตาลงมองริมฝีปากชื้นและแดงเรื่อน้อยๆเพราะแรงบดจูบ เขายกมือขึ้นสัมผัสมันแผ่วเบา แล้วยิ้มบาง



   “เสียดายเวลานะ เรารู้จักกันมาตั้งนาน แต่ไม่เห็นเคยรู้ว่าจูบของน้องจะทำให้ภูรู้สึกดีขนาดนี้…” คนฟังใจสั่นรัวอย่างไม่คาดฝันกับคำพูดอ่อนโยนนั้น ภูผาเหลือบตาขึ้นสบดวงตาตกใจของคนบนตักเขา ก่อนจะส่งยิ้มให้



   “น้อง…ถ้าจะรับผิดชอบ ภูไม่ตามมาถึงนี่หรอก…ไอ้เสือเคยพูดว่ามันไม่เคยจูบคุณแยมเพราะมันอัดอั้น แต่มันจูบเพราะรักคุณแยม…ภูเองก็รู้ว่าภูไม่ได้จูบน้องเพราะภูอัดอั้น ภู…จูบน้องเพราะอยากจูบ ที่เรามีอะไรกัน ไม่ใช่เพราะภูอัดอั้น ตอนแรกภูโกรธที่น้องแคร์ไอ้เสือมากกว่า แต่ว่า…หลังจากนั้น…หลังจากนั้น…ภูทำเพราะใจภูอยากให้ทำ…” เหมือนหัวใจอันแหลกเหลวของนภศรจะถูกหลอมเหลวแล้วล่อหลอมให้กลายเป็นหัวใจดวงใหม่



   “กลับไปด้วยกันนะน้อง…กลับไปอยู่ด้วยกันนะ…” ภูผาวางหน้าผากลงกับลาดไหล่ของคนบนตักราวกับจะอ้อนวอนขอความเห็นใจ



   …นภศรรู้…รู้ทั้งรู้ว่าอนาคตไม่แน่นอน ภูผาอาจตาสว่างขึ้นมาวันใดวันหนึ่ง และวันนั้นเขาก็ต้องระหกระเหินออกมาอีก…แต่หัวใจ…ถ้าหัวใจมันแข็งแกร่งให้ได้กว่านี้สักนิด เขาก็คงไม่…



   “นะน้อง…กลับไปอยู่กับภูนะ…”



 …ยกให้ภูผาหมดแล้ว ทั้งตัวทั้งหัวใจ สิบปีผ่านมาความรู้สึกที่มีเพิ่มพูนจนไม่เหลือที่ว่าง วันนี้ที่ถูกขอร้อง นภศรจึงได้แต่นิ่งเงียบ ไม่ใช่เพราะลังเลแต่เพราะจำนนกับความรู้สึกของตน



   “กลับไปอยู่ด้วยกันแบบไหนล่ะ? แบบเพื่อน หรือว่า…”



   “แบบคนรักกัน…ได้มั้ยน้อง กลับไปอยู่ด้วยกันแบบนั้น เราอยู่กันแบบเพื่อนไม่ได้แล้ว เราอยู่กันแบบคนรักนะ ให้ภูได้พิสูจน์ตัวเอง น้องไม่ต้องรักภูก็ได้ แต่ขอให้ภูได้อยู่ใกล้ๆ ให้เราได้อยู่ด้วยกัน อย่าหนีภูไปไหนอีก…”



   “ไม่หนีแล้ว ไม่หนีไปไหนอีก” ภูผากอดรัดร่างคนพูดแน่นขึ้น เขายินดี เขาเต็มตื้น ยิ่งกอดรัดแน่นก็ยิ่งรับรู้ถึงการมีอยู่ เขาฝังหน้าลงกับอกแบนเรียบ แล้วหลับตารับรู้ถึงความสุขที่ไหลบ่าเข้ามาในใจเขา



   …ความรู้สึกแบบนี้รึเปล่าที่ทำให้ไอ้เสือไม่อยากจากคุณแยมไปไหนนานๆ…อยากอยู่ใกล้ๆ อยากอยู่ข้างๆ อยากอยู่กันแบบนี้เรื่อยไป…



   แขนสองข้างของนภศรขยับอ้อมไปโอบกอดร่างของภูผา พวกเขากอดกันแนบแน่น ภูผาเงยหน้าขึ้นสบตา ยืดหน้าขึ้นไปจูบคนบนตักอย่างอ่อนหวานและอ่อนโยน ร่างโปร่งได้แต่หลับตาลงรับสัมผัสที่ทำให้หัวใจหวั่นไหวด้วยความเต็มใจ



   พวกเขาจูบกันซ้ำๆ จูบกันเนิ่นนาน จูบ…จนหัวใจแทบหลอมละลายเป็นเนื้อเดียวกัน…



   ……………………..



   นภศรเดินลงมาจากชั้นสองด้วยใบหน้าเคร่งเครียดเล็กน้อย ข้างหลังคือภูผาที่ยิ้มแก้มแทบปริ มีความสุขจนออกนอกหน้า ในขณะที่ตัวคนเดินนำกำลังคิดว่าจะอธิบายบอกป๊าและเฮียอย่างไรดี



   …อยู่ดีๆก็มา แล้วอยู่ดีๆก็จะกลับไปพร้อมไอ้ภู…ป๊าและเฮียต้องสงสัยแน่ๆ…



   “มึงอย่าเพิ่งยิ้มระรื่นได้มั้ย ภู…กูยิ่งเครียดๆอยู่…” ร่างโปร่งหันมาว้ากภูผาเบาๆ



   “เครียดทำไม ถ้าป๊ากับเฮียหนึ่งว่าอะไรเดี๋ยวกูรับแทนเอง…”



อยากพูดจาจ๊ะจ๋าอยู่หรอก แต่หน้าตาเคร่งเครียดของนภศรตอนนี้ แถมด้วยการที่เจ้าตัวขึ้นประโยคด้วยคำว่า ‘กู’ ก็ทำเอาภูผาต้องคล้อยตามบรรยากาศแบบ ‘เพื่อน เพื่อน’ ไปก่อน รู้ไว้ในใจก็พอว่าตอนนี้คบกันฉันคนรักไปแล้ว…



   “พูดเป็นเล่น…อ๊ะ เฮีย…” นภศรหันมาดุ แล้วพอหันกลับไปเขาก็ต้องชะงักกึกเมื่อพบว่านทีออกมายืนที่หน้าซุ้มโค้งของประตูห้องนั่งเล่น



   “จะกลับกรุงเทพหรือ?” หน้าตานทีไม่มีวี่แววของพี่ชายที่แสนใจดีเมื่อครู่เลยแม้แต่น้อย ซ้ำดวงตาคมกริบยังจับจ้องไปยังภูผาอีกต่างหาก นภศรกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ก่อนจะพูด



   “ครับ เฮีย”



   “งั้นเข้ามาคุยกับเฮียก่อนสิ…เฮียอยากรู้เรื่องที่โรงแรม…”



 คนเป็นน้องถึงกับตาโต ทว่ายังไม่ทันทีเขาจะก้าวขาเดิน ภูผาก็เดินแซงหน้าเขาไปหานทีเสียแล้ว



   “ถ้าอยากรู้เรื่องนั้น ต้องให้ผมเป็นคนพูดครับ เฮียหนึ่ง…เพราะเรื่องที่โรงแรม ผมเป็นคนทำเองทั้งหมด”



   “เฮีย!...อย่านะเฮีย เรื่องนั้นไม่เกี่ยวกับไอ้ภู…” นภศรรีบวิ่งไปคว้าแขนพี่ชายเอาไว้ ทว่านทีกลับหันมามองด้วยสายตาเย็นเยียบ



   “เฮียเพิ่งบอกน้องไปนะ ว่าน้องคือจุดศูนย์กลางของเฮียและป๊า น้องคือดวงใจของเฮียและป๊า …ถ้าจะมีใครมารับช่วงต่อเอาดวงใจดวงนี้ของเฮียและป๊าไปดูแล เฮียก็ต้องมั่นใจว่า ‘ไอ้คนๆนั้น’ จะไม่ทำให้ดวงใจของเฮียและป๊าเจ็บ…เพราะฉะนั้น เรื่องนี้ขอเฮียกับป๊าคุยกับ ‘ไอ้ภู’ ตามลำพัง”



ร่างโปร่งพูดไม่ออก ภูผาเองก็หันมาพยักหน้าให้เขาวางใจ ก่อนจะเดินตามนทีเข้าไปในห้องนั่งเล่น แล้วประตูก็ปิดลงโดยทิ้งนภศรเอาไว้นอกห้องเพียงลำพัง



………………………………



   ‘กูจะทำยังไงดีเสือ! ป๊ากับเฮียต้องรู้เรื่องแล้วแน่ๆที่กูไปอยู่โรงแรม…’



สหรัฐแอบปาดเหงื่อบนหน้าผากตัวเองเล็กน้อย ไม่อยากจะบอกเพื่อนรักเลยว่าที่ป๊าและเฮียของมันรู้เรื่องก็เพราะเขานี่แหละยอมคายความลับ



   …ไม่คายได้ไง พอเขาทำอมพะนำบอกไม่รู้ ไม่รู้ เฮียหนึ่งใช้วิธีถาม…



 ‘ได้ข่าวว่ามีคนรักแล้ว ชื่อญาณธรใช่มั้ย ทำงานอยู่ที่ไหนนะ?...บริษัทค้าปลีกรึเปล่า? รู้สึกว่าเฮียจะรู้จักกับเจ้าของพอดี…’



เล่นเอางานของแยมมาพูดถึงแบบนี้ ไอ้เขาก็กลัวเฮียจะไปบีบเอาตรงนั้น เกิดแยมตกงานแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่จะกลายเป็นว่าแยมคิดมากอีก! วู้!! เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเขาแท้ๆ แล้วมันมาซวยได้ไงวะเนี่ย!...



   “ใจเย็นๆนะมึง กูว่าแทนที่มึงจะเครียดเรื่องนั้น มึงเครียดว่าไอ้ภูจะพูดอะไรก่อนดีมั้ย…ไอ้บ้านั่นยิ่งปากไม่มีหูรูดอยู่…”



   ‘พูด?...อ๊ะ…ส…เสือ…นี่…นี่มึงรู้เหรอ?’ น้ำเสียงของนภศรที่ตอบกลับมานั้นเต็มไปด้วยแววตกใจ สหรัฐถอนหายใจเบาๆ



   “ก็…ไอ้ภูมันมาโวยวายกับกูว่ามัน…เอ่อ…ได้มึงแล้ว แล้วมึงดันหนีมัน…”



   ‘ไอ้หอกภู!’



   “เอาล่ะๆ กูว่าตอนนี้มึงภาวนาให้ความเกรียนของไอ้ภูเอาชนะใจทั้งป๊าและเฮียมึงให้ได้เถอะน้อง” สหรัฐได้แต่แนะนำเพื่อนไปแบบนั้น นภศรถึงได้ยอมวางสาย แล้วร่างสูงก็เลยถอนหายใจอีกเฮือก



   …เขาเองก็ควรภาวนาให้เรื่องทั้งหมดจบลงด้วยดี อย่างน้อยสิบปีของไอ้น้องจะได้ไม่สูญเปล่า ไอ้ภูจะได้มีหลักแหล่งของหัวใจเหมือนที่เขาเองก็มีแยมเป็นหลักยึด…และเหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด จะได้ไม่มีใครมาถามเขาด้วยน้ำเสียงสดใสแต่แฝงขู่ไว้ในทีทำนองว่าจะทำให้สุดที่รักของเขาตกงาน!!!...ไม่แฟร์นะโว้ย!! เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง แล้วใครเอากระดูกมาแขวนคอกูล่ะเนี่ย!!!!...



…………………………..



   ภูผาบอกตามตรงว่าตัวเองก็ไม่ใช่พวกกล้าตายอะไรนักหรอก ถึงจะเกรียนเอาโล่ตั้งแต่สมัยเรียน แต่ตอนนี้อายุอานามก็ไม่น้อยแล้ว อีกไม่เกิน 3 ปีก็จะ 30 อยู่รอมร่อ ซ้ำเพิ่งจะได้มี ‘เมีย’ เป็นตัวเป็นตน จะมาตายเอาวันนี้ก็ออกจะไม่คุ้มกับที่เกิดมา



   “รู้ใช่มั้ยว่าบ้านนี้รักน้องมากแค่ไหน”



น้ำเสียงของนทีแทบจะกรีดเข้าไปในใจแล้วตัดเส้นเลือดใหญ่ของภูผา เอาให้แดดิ้นตายตรงนี้ คนถูกถามเหลือบตามอง อยากยกมือปาดเหงื่อที่ผุดเต็มหน้าแต่ก็เกรงว่าจะไม่เหมาะกับตำแหน่ง ‘ว่าที่ลูกเขยเจ้าพ่อ’ ก็เลยต้องรอให้เหงื่อมันแห้งเอง



   “ทราบครับ…” นทีกระตุกยิ้ม ก่อนจะเดินอ้อมโซฟาที่ภูผานั่ง เล่นเอาเสียวสันหลังวูบ ไอ้จะหันตามก็ไม่ได้ เพราะตรงหน้าภูผาคือเสี่ยสมภพที่นั่งนิ่ง ใช้สายตา ‘ขึงผืด’ เขาให้อยู่กับที่



   “ทราบ…แกใช้คำว่าทราบ…ทั้งๆที่ทราบแต่ก็ทำแบบนั้นกับน้อง…” ร้อยวันพันปี นทีไม่เคยใช้สรรพนามว่า ‘แก’ เรียกเพื่อนของน้องชายคนไหน แต่ยกเว้นรายนี้เอาไว้คน



   “ผมทำเพราะไม่อยากให้น้องจากผมไป…”



   “อ้อ เห็นแก่ตัว…”



   “ครับ ผมเห็นแก่ตัวจริงๆ” ด้วยระดับความเกรียนที่มีมานาน ภูผาหน้าด้านพอจะยอมรับอย่างหน้าชื่นตาบานว่าเขาเห็นแก่ตัวกับเรื่องนี้ นทีค้ำสองแขนลงกับพนักพิงของโซฟาตัวที่ภูผานั่งอยู่



   “แล้วแกรู้มั้ย…ว่าคนที่เห็นแก่ตัวกับน้อง สุดท้ายแล้วมันเป็นยังไง คนที่ทำให้น้องเจ็บ คนที่ทำให้น้องเสียใจ แกรู้รึเปล่าว่าพวกฉันไม่เคยปล่อยให้มันหายใจนานเกิน 24 ชั่วโมง”



   “ถ้าอย่างนั้นผมคงต้องมีสักร้อยชีวิตล่ะครับ เพราะตอนนี้ผมกับน้องเป็นคนรักกันแล้ว ความรักก็เหมือนเหรียญ มีสองด้านในตัวมันเอง วันนี้ความรักทำให้มีความสุข วันต่อไปความรักทำให้มีความทุกข์…ถ้าเฮียจะทำอะไรผมทุกครั้งที่ผมทำให้น้องเสียใจ ผมคิดว่าเฮียคงต้องทำแทบทุกวันเลยล่ะครับ…”



   “นี่แก…แกคิดว่าพวกฉันจะปล่อยให้น้องได้รักกับแกอย่างนั้นเหรอ?!!” ภูผาหันมองคนถาม ก่อนจะยิ้มบาง



   “ไม่คิดหรอกครับ ผมคิดแค่ว่าน้องเป็นดวงใจของทั้งเฮียและป๊า เพราะฉะนั้น เฮียและป๊าคงไม่ขัดใจน้อง” นทีปวดหัวตุ้บ เมื่อเจอไอ้คนตรงหน้าย้อนเอาแบบนี้ เสี่ยสมภพขยับตัวเล็กน้อยเป็นสัญญาณว่าตัวเองจะพูด



   “เอาล่ะ…แกพูดถูก ภูผา…น้องเป็นดวงใจของพวกฉัน ไม่มีใครขัดใจเขา ไม่มีใครทำให้เขาเสียใจ ไม่มีใครทำให้เขาเจ็บ…แต่แกก็อย่าลืม…น้องเองก็รักพวกฉันเหมือนกัน และแน่นอน…ถ้าฉันว่าไม่…เขาก็ว่าไม่…” ภูผานิ่งอึ้งเมื่อเสี่ยสมภพพูดแบบนั้น



   “…พวกฉันจะไม่บังคับน้องเรื่องนี้ แต่ฉันจะ ‘แค่’ บอกน้องว่า…พวกฉันไม่อยากให้น้องอยู่กับแก…แกคิดว่ายังไงล่ะภูผา น้องจะทำยังไง ดื้อแพ่งหนีไปแก? หรือว่าจะไล่แกกลับไปคนเดียว…” ไม่ต้องถามภูผาก็มีคำตอบในใจ นภศรถูกเลี้ยงมาในครอบครัวที่ทุ่มเททั้งหัวใจและแรงกาย เพราะฉะนั้น นภศรจึงตอบแทนครอบครัวด้วยสิ่งเดียวกัน และนั่นหมายถึงมันจะไม่ขัดใจป๊าและเฮีย



   ภูผาทรุดตัวลงนั่งคุกเข่ากับพื้น แล้วยกมือไหว้แทบท่วมหัว



   “ป๊าครับ อย่าทำแบบนั้นเลย ผมรู้ว่าน้องไม่มีทางไปกับผม ถ้าป๊าทำแบบนั้น สู้ให้ผมอยู่ที่นี่เถอะ…”



   “นี่แกยังกล้าขอ?!!!” นทีร้องลั่น ไม่คิดว่าภูผาจะหน้าด้านแบบนี้ พูดปากเปียกปากแฉะว่าจะไม่ยอมให้นภศรไปกับมัน มันก็ขออยู่ที่นี่ซะเลย! มันคิดว่าที่นี่เป็นอะไร โรงแรมห้าดาวเดินเข้ามาเช็คอินเมื่อไหร่ก็ได้งั้นเหรอ?!!



   ภูผาหันมามองคนร้อง แล้วยกมือไหว้อีกครั้ง



   “นะครับเฮีย ผมอยู่ที่นี่ในฐานะคนสวนก็ได้ ผมยอม…แต่อย่าพูดแบบนั้นให้น้องต้องเลือก น้องรักป๊ากับเฮียมาก แต่ผมเองก็รักน้องมากเหมือนกัน”



   “รักมาก?...ทำไมถึงแน่ใจล่ะ ตลอดสิบปีที่ผ่านมา ไม่เห็นเคยรักมากนี่” เสี่ยสมภพถาม ภูผาก้มหน้าอย่างจำนนและสำนึกผิด



   “ผมมันโง่ครับป๊า ผมไม่เคยรู้ตัวว่าตัวเองมีของดีที่สุดอยู่ในมือ จนกระทั่งวันนี้ที่น้องจะไป ผมถึงได้รู้…น้องคือชีวิตผมทั้งชีวิต น้องคือหัวใจผมทั้งดวง ถ้าไม่มีน้อง ผมก็…ผมก็จะไม่เป็นผมอย่างทุกวันนี้…ผมขอล่ะครับป๊า อย่าพูดแบบนั้นกับน้องเลยนะครับ”



   “แกพูดอะไรได้น้ำเน่าดีนะ ภูผา…ฉันเห็นแกมาตั้งนาน นึกว่าแกจะเป็นพวกหยาบๆซะอีก…หนึ่ง ไปตามน้องมา ป๊าจะพูดต่อหน้าน้อง…” ภูผาใจเต้นตุ้มๆต่อมๆเพราะไม่รู้ว่าเสี่ยสมภพจะพูดอะไร จะไล่เขาให้กลับไป หรือว่าจะบอกให้นภศรเลือก



   ไม่ถึงอึดใจ นทีก็เดินนำน้องชายเข้ามา นภศรเหลือบมองหาภูผาอย่างห่วงใย



   “ไปนั่งกับพื้นทำไมน่ะ ภู”



   “ไม่มีอะไรหรอกน้อง มานั่งกับป๊านี่…” เสี่ยสมภพตบลงบนพื้นที่ว่างข้างตัวเป็นสัญญาณ นภศรจึงเดินเข้าไปทรุดตัวนั่งข้างๆ



   “น้อง ป๊าจะให้หนึ่งไปส่งที่กรุงเทพคืนนี้เลยนะ…ส่วนภูผา เขาบอกว่าจะมาเป็นคนสวนที่นี่ เพราะฉะนั้นคืนนี้น้องไปนอนกับเสือก่อนแล้วกัน”



   “คนสวน?!!” นภศรร้องด้วยความตกใจ หันมองภูผาที่อ้าปากค้างตาโตเพราะถูกว่าที่พ่อตาย้อนศรอย่างเจ็บแสบ



   …รับเขาเป็นคนสวนที่นี่ แต่ถีบไอ้น้องกลับกรุงเทพแล้วแบบนี้เขาจะเป็นคนสวนทำไมวะ?!...



   “ใช่ ภูผาบอกว่าขอมาเป็นคนสวนที่นี่ จริงมั้ยภูผา…”



   “มัน…มันก็จริงครับป๊า แต่แบบ…แบบ…ผมนึกว่าผมจะได้มาอยู่ที่นี่กับน้อง!!” นภศรนิ่งชะงักเพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะพูดจาตรงเผงแบบนี้ เขาถลึงตาใส่ภูผาเป็นเชิงให้เงียบ



   “อ้าว…เหรอ…ถ้าอย่างนั้นคงไม่ได้หรอก เพราะน้องไม่ชอบอยู่ต่างจังหวัด แกก็รู้นี่ภูผา ว่าบ้านนี้ไม่เคยขัดใจน้อง และแกก็ไม่ควรขัดใจน้องด้วย” เสี่ยสมภพว่าอย่างนั้นทำเอาภูผาถึงกับตาละห้อย



   “ส่วนเรื่องคอนโดที่จะหาใหม่ ป๊าจะให้ลูกน้องดูเอาไว้ให้แล้วให้น้องเลือกเอง เอาแบบอยู่คนเดียวก็สบายดีนะ ระบบรักษาความปลอดภัยเข้มๆหน่อย แล้วก็ซื้อห้องข้างๆให้พวกไอ้ตรีมันอยู่ ป๊าจะได้สบายใจ”



   “อยู่คนเดียวไม่ได้นะป๊า!!” ภูผาตีซี้ตีสนิทเรียก ‘ป๊า’ ของนภศรได้เต็มปากเต็มคำ แถมคำพูดยังคล้ายๆจะออกคำสั่งอีกต่างหาก



   “ทำไมจะอยู่ไม่ได้ น้องโตแล้ว ไม่ต้องให้ใครมาอยู่เป็นเพื่อนหรอก”



   “อยู่ไม่ได้ก็คืออยู่ไม่ได้!! ผมไม่ยอมหรอก! น้องเป็นเมียผม แยกผัวแยกเมียแบบนี้มันบาปนะครับ!!” ภูผาไม่พูดอย่างเดียวแต่เจ้าตัวยังถลาไปกอดนภศรเอาไว้ ร่างโปร่งตาโตกว่าเดิมเป็นล้านเท่าเมื่อภูผาแจกแจงสถานะของเขาและมันอย่างออกนอกหน้า



   “ผมไม่ยอม! ยังไงๆก็ไม่ยอม!”



   “ปล่อยน้องซะไอ้ภูผา!!” นทีเค้นเสียงหนักด้วยเริ่มไม่พอใจ



   “ไม่ครับเฮีย!...ผมมาที่นี่เพื่อมาตามน้องกลับไปอยู่ด้วยกัน แต่เฮียกับป๊าพยายามกันผมออกจากน้อง แบบนี้ผมยอมไม่ได้!!! ผมรักน้อง!!และผมก็จะอยู่กับน้องด้วย!!!” นภศรถึงกับชะงัก เมื่อคนที่ยังกอดเขาเอาไว้ดันเปิดปากพูดความรู้สึกออกมา



   …ภูผาน่ะหรือรักเขา? ไม่จริงหรอก ไม่จริง…ภูผาจะรักเขาได้อย่างไรกัน ในเมื่อตลอดเวลาที่ผ่านมา มันไม่เคยมีทีท่าจะรักเขาแม้แต่นิด…



   “น้อง…บอกเฮียกับป๊าสิ ว่าน้องก็จะอยู่กับภูเหมือนกัน” ภูผารีบผลักดันคนในอ้อมกอดเขาให้เปิดปากพูด แต่เจ้าตัวยังเอาแต่เงียบ



   “น้อง…” ภูผาเรียกอีก นภศรถึงได้รู้สึกตัว เขาเหลือบตามองบิดาและพี่ชายด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งอยากขอโทษ ทั้งเสียใจ และ…ทั้งอยากดื้อดึงเอาแต่ใจตัวเอง



   “ป๊าครับ…เฮีย…น้อง…ทำตามใจตัวเองได้มั้ย…” เสี่ยสมภพมองหน้าลูกชายคนเล็กนิ่งนาน ก่อนจะอ้าแขนออกช้าๆ นภศรก็ปลดแขนภูผาที่กอดรัดตนไว้ ก่อนจะโผเข้ากอดบิดา



   “เชื่อคำพูดของภูผาขนาดนั้นเลยเหรอ น้อง” เสี่ยสมภพเอ่ยปากถามบุตรชายต่อหน้าภูผา เล่นเอาร่างสูงเหมือนน้ำท่วมปาก อยากจะเจียระไนว่าเขารูสึกเช่นไร แต่คิดอีกที เขาคงเพิ่งพูดเอาตอนนี้…เพิ่งบอกว่ารัก…ก็คนมันเพิ่งรู้ตัวนี่หว่า เพิ่งรู้ตัวตอนนี้แล้วจะให้บอกปีมะโว้ไหนล่ะ!!...



   “ไม่เชื่อหรอก ป๊า”…อ้าว…ภูผาอยากจะอ้าวดังๆ แต่เกรงใจสามพ่อลูกนี่อยู่บ้าง เลย ‘อ้าว’ ในใจพอ



   “…แต่ว่า…แต่ว่าน้อง…” นภศรได้แต่อ้ำอึ้งอยู่กับอกบิดา เพราะไม่รู้จะอธิบายเช่นไรดี เขาไม่เชื่อคำพูดภูผา เพราะภูผาไม่เคยทำอะไรให้เขารู้สึกว่าอีกฝ่ายรักเขามากกว่าเพื่อน…แต่เพราะตัวเขาเองที่รัก…เพราะเขารัก…เขาถึงอยากให้โอกาสได้พิสูจน์คำพูดนั้น…



   “เอาเถอะ…ไม่เป็นไร ถ้าใจน้องอยากจะไปกับเขา ป๊าก็ไม่ว่าอะไร แต่ป๊าขออย่างเดียว เมื่อไหร่ที่ไม่ไหว ให้กลับมา…ที่นี่มีที่ให้น้องเสมอ…” เสี่ยสมภพก้มลงพูดกับบุตรชายอย่างรักใคร่ นภศรได้แต่ยิ้มรับ เขาคลายกอดบิดาก่อนจะหันไปทางพี่ชายที่ยังเอาแต่ยืนนิ่ง ใบหน้าแบบลูกคนจีนติดจะหงุดหงิดและไม่พอใจ แต่เมื่อเขาลุกขึ้นเดินเข้าไปสวมกอด นทีก็คลายคิ้วที่ขมวดปมลง



   “เฮีย…น้องรักเฮียนะ เฮียรักน้องมั้ย”



   “เฮียจะไม่รักน้องได้ยังไง เฮียเลี้ยงน้องมาตั้งแต่เกิด ชื่อน้อง เฮียก็เป็นคนตั้ง…”



   “ถ้าอย่างนั้น น้องขอให้เฮียให้โอกาสภูแบบที่น้องให้ได้มั้ย…นะเฮีย” นทีได้แต่ถอนหายใจ ถูกน้องชายขอร้องเข้าหน่อยเขาก็ใจอ่อนไปหมด ได้แต่พยักหน้ารับอย่างจำยอม



   “แต่ถ้ามีอะไร น้องสัญญาได้มั้ยว่าจะบอกเฮีย ถ้าใครทำน้องเจ็บ น้องต้องบอกเฮีย เฮียจะได้ไม่เอามันไว้” ท้ายประโยค นทีเหลือบตามาจ้องภูผา เล่นเอาชายหนุ่มเสียวสันหลังวูบ แต่ก็ยังใช้สายตาจ้องกลับไป เพราะถือว่าอย่างน้อยเขาก็เป็น ‘ลูกเขยเจ้าพ่อ’ จะมากลัวนั่นกลัวนี่ซี้ซั้วได้ยังไง



   “ครับ” นภศรยิ้มรับ แล้วกอดรัดพี่ชายแน่นๆอีกครั้ง ก่อนที่เขาและภูผาจะออกจากคฤหาสน์หลังงามมา



………………………..



   คอนโดห้องเดิมที่เคยอยู่มาตลอดสิบปี…นภศรกวาดสายตาไปรอบห้อง ทุกอณูอากาศมีกลิ่นอายของเขาและภูผารวมกันอยู่ทุกมุม ไม่ว่าจะบนโซฟา ที่โต๊ะทานข้าว ในห้องครัว ในห้องน้ำ หรือแม้แต่เตียงนอน…



   แรงกอดรัดจากทางด้านหลังทำเอาร่างโปร่งสะดุ้ง หันมองด้วยความตกใจ ก่อนจะรีบหันกลับมาเพราะภูผายื่นหน้ามาวางบนไหล่เขาอย่างใกล้ชิด



   “อย่าหนีไปจากที่นี่อีกนะน้อง ที่นี่ก็เป็นที่ของน้องเหมือนกัน…”



   “ภู…ทำไมตอนนั้นถึงพูดว่ารักล่ะ”



   “ก็…มัน…เพิ่งรู้ตัวมั้งว่าอยากพูดมาตลอด มาคิดดูแล้ว…ฉันอาจจะชอบ ‘นายนภศร อาชาอาจ’ มาตั้งนานแล้วก็ได้ จำได้มั้ย แต่ก่อนตอนไปเที่ยวด้วยกัน ฉันโวยวายใหญ่ไม่ยอมเรื่องที่นอน ไม่อยากให้ไอ้เสือนอนใกล้นาย เวลาสาวๆมาขอเบอร์นายจากฉัน ฉันก็ไม่เคยให้สักครั้ง…เอ…หรือว่าฉันจะรักนายตั้งแต่นายมาช่วยฉันตอกตะปูทำคัตเอาท์งานกีฬาเฟรชชี่หว่า…”



ภูผาพยายามนึกย้อนความทรงจำไปถึงช่วงที่เพิ่งเป็นเพื่อนกันใหม่ๆ ทุกเรื่องในรั้วมหาวิทยาลัยของนายภูผา มีนายนภศรร่วมด้วยเสมอ ไม่ว่าจะเป็นตอนเรียน ตอนสอบ ตอนทำกิจกรรม หรือแม้แต่ตอนเวลาว่าง



   “สิบปี…ฉันมันโง่อย่างที่นายกับไอ้เสือเคยด่าเอาไว้จริงๆ ตั้งสิบปี…แต่ไม่รู้ตัว…จริงสิ ไอ้เสือพูดว่า ‘สิบปี’ อะไรสักอย่างเหมือนกัน มันบอกให้มาถามเอาจากนาย…” นภศรก้มหน้าลงเหมือนไม่อยากพูด และภูผาก็ไม่คาดคั้นให้ตอบ เขายิ้มกับตัวเอง พิงศีรษะกับศีรษะคนที่เขากำลังกอดอยู่



   “ไม่เป็นไร ไว้พร้อมเมื่อไหร่ค่อยพูดก็ได้…แต่ว่า…ฉันมีเรื่องอยากจะถาม…จำตอนเราเรียนอยู่ปีสองมั้ย ที่ฉันแอบเข้าไปหลับในห้องชมรมฟุตบอล…” นภศรคิดตาม ก่อนจะหันมามองคนพูด



   “นายหนีไปหลับบ่อยจะตาย…”



   “ไม่สิ…เอาเฉพาะตอนปีสอง แล้วนายก็เข้าไปตามฉัน วันนั้นน่ะ…นายจูบฉันใช่มั้ย” ร่างโปร่งชะงักตาโตด้วยความตกใจ ก่อนจะละล่ำละลักถาม



   “นาย…ตื่นเหรอ ตอนนั้น….”



   “ไม่ได้ตื่น แต่สะลึมสะลือ ตอนนั้นฉันเข้าใจว่าฝัน แล้วก็คิดว่าตัวเองฝันมาตลอด แล้วก็ทำเป็นลืมมันไป…แต่ว่า…มานึกได้อีกครั้งตอนที่เราจูบกัน…” นภศรรีบหันหน้าหนีอีกครั้งด้วยใบหน้าแดงจัด ทำเอาภูผานึกอยากแกล้งอีกฝ่าย เขายังกอดแน่น ลอยหน้าลอยตาพูด



   “ชักเข้าใจแล้วว่า ‘สิบปี’ ที่ไอ้เสือพูดน่ะหมายถึงอะไร…นายรักฉันมาสิบปีใช่มั้ยน้อง” ยิ่งถามก็เหมือนหน้าของนภศรจะยิ่งแดงมากกว่าเดิม ร่างโปร่งก้มหน้าก้มตาพยายามปลดมือของภูผาที่โอบรอบเอวตนอยู่



   “ปล่อยได้แล้ว จะเอาเสื้อผ้าไปเก็บ”



   “ไม่ปล่อย ยอมรับมาก่อนว่ารักฉันมาสิบปีแล้ว เร็วน้อง…ไม่งั้นได้ยืนกอดกันแบบนี้ทั้งคืนแน่…”



   “ยอมรับว่าตัวเองบ้าน่ะสิที่ไป…เอ่อ…รักนาย…” คำว่ารักของนศรเบาหวิวสมกับที่อีกฝ่ายเป็นคนขี้อาย แต่เพียงเท่านั้นภูผาก็ยิ้มแก้มแทบปริแล้ว เขาขยับเข้าไปจูบที่แก้มของคนพูดแรงๆด้วยความหมั่นเขี้ยว ก่อนจะปลดอ้อมกอดออกแล้วพลิกตัวนภศรให้หันกลับมาประจัญหน้ากับเขา แล้วจึงอุ้มอีกฝ่ายขึ้นแบกบนไหล่



   “เฮ้ย!! ภู! ทำอะไรเนี่ย!!”



   “เข้าห้องหอน่ะสิ! รอมาตั้งสิบปี ต้องเก็บต้นเก็บดอกเอาให้คุ้มกับสิบปีเลยนะ” เขาพูดแล้วหัวเราะลั่นก่อนจะเดินตรงดิ่งเข้าห้องนอนในขณะที่นภศรได้แต่ทุบไหล่คนหัวเราะด้วยความเขินจัด



   “ไอ้บ้า!” เสียงด่าของนภศรเบาลงทุกที เมื่อภูผาพาเขาเดินเข้าห้องนอน และทันทีที่ประตูปิดลง คำสบถด่าก็ถูกปิดกั้น ก่อนที่ภูผาจะปล่อยให้อีกฝ่ายได้แต่ครางเครือแผ่วเบาอย่างหวามไหวแทน







   FIN



   
อิอิ เอามาลงก่อนไปเที่ยวแหละค่า ดอกต่อไปยังไม่สัญญานะ :sad4: เพราะว่ายังคิดไม่ออกเลยค่ะ
ซีรี่ส์นี้แต่งสดมากมาย ฮ่าฮ่า :z1:

 เดี๋ยวกลับมาจากไปเที่ยว จะมาบอกพร้อมกับสเปดอกนี้…ทุกคนจะได้เห็นความดีความงามของภูบ้าง :z2: ฮ่าฮ่า  (และแน่นอน มีภูต้องมีพี่เสือ ขโมยซีนตลอดเว…  :laugh:)

ขอบคุณมากๆสำหรับการอ่าน การเม้นท์ และทุกการติดตามเลยนะคะ ขอบคุณพื้นที่บอร์ดด้วยค่ะ :pig4:



ออฟไลน์ kokikung

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1594
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-3
รักป๋ากะเฮียจังเลยอ่า
แต่ภูนี่รักน้องง่ายจริงๆๆๆๆ
ดีแล้วที่10ปีไม่ศูนย์เปล่า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด