#ชอกะเชร์คู่กันต์
ตอน 03
ชายหนุ่มผู้มาสะเทือนโต๊ะส้มตำ
“นี่มึงนอนบ้างยัง หรือว่าตาใสได้เพราะกระทิงแดง?”
แจ็คขมวดคิ้วมองรุ่นน้องที่แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วโดยที่เขาไม่ต้องแตะคีย์การ์ดขึ้นไปตบกะโหลกถึงเตียง เจ้าของหน้าวอนตีนนั่งอ้าขาบนม้าหินอ่อน เอนหลังเท้าศอกทั้งสองข้างกับโต๊ะ พลางพ่นควันบุหรี่อย่างใจเย็น
เชิ้ตเรียบกริบ แถมหน้าตาก็ดูสดชื่นเกินมนุษย์มนา ถ้ามันตอบว่าไม่ได้นอนเพราะเล่นเกมยันเช้า สาบานได้เลยว่าจะต้องมีคนเจ็บตัวโดยไม่ต้องสืบ
“นอนแล้วดิ พูดแล้วจะหาว่าคุย ตั้งแต่ฝึกงานเมื่อวานยันตอนนี้ยังไม่ได้เปิดคอมเล่นเกมเลยนะจ๊ะ”
“...”
“จริงพี่ พอกูทอดเกี๊ยวกินให้บอสฟัง โม้ไปสักพักก็วาร์ป โผล่อีกทีตีห้าเลย” แจ็คเพิ่งรู้เมื่อวานว่าบอสชอบของแปลกแบบนี้ ถึงจะบอกว่าชอบสิ่งที่มันทำ แต่เสียงที่พูดออกมาแต่ละคำก็ยังมีความเป็นตัวตนไอ้แหลมอยู่ เช่นความทะเล้น เป็นต้น
มันไม่ได้กินเสียงดังจนดูน่าหงุดหงิด แจ็คเชื่อว่าถ้าคนดูยังไม่ได้กินข้าวคงมีแววลุกไปเข้าครัวเพราะไอ้แหลมมีความสามารถพิเศษอย่างหนึ่งคือ แม่งกินอะไรก็น่าอร่อยไปหมด แม้แต่ตะไคร้สด ๆ ก็ยังเอามาแทะได้ แถมบอกว่าจิ้มมายองเนสแล้วรสชาติอร่อยเหาะอีก ก็ต้องยอมมัน
แม้ตอนทำคลิปจะใช้คำพูดสุภาพเกินปกติไปสักนิด แต่ความกวนตีนที่เป็นเอกลักษณ์ของมันก็ยังคงอยู่... ก็เอาเถอะ การไม่ต้องจ้ำจี้จำไชเหมือนจำลองการมีลูกก็เป็นเรื่องดีแล้ว
ไอ้แหลมไม่ใช่เด็กงอแงอะไรหรอก ความจริงเป็นเขาเองที่กังวลเกินเหตุว่ารุ่นน้องจะตื่นไม่ทัน กลัวจะนู่นนี่นั่น เหมือนลุงแก่ ๆ คนหนึ่งที่คิดมากไม่เข้าท่า เห็นมันกวนส้นตีน ประสาทแดก ทำตัวร่างกายต้องการเบตาดีนตลอด แต่พอเป็นเรื่องจริงจังแล้วมันก็เต็มที่อยู่
แจ็คไม่เคยบอกเจตนาว่าที่มารับก็เพราะอยากให้น้องนุ่งอุ่นใจในช่วงแรกของการฝึกงาน พอมันเริ่มคุ้นเคยกับพี่ ๆ แล้วค่อยตัดหางปล่อยวัดทีหลัง แล้วให้มันเริ่มกระพือปีกด้วยตัวเอง
“ยังไง แค่กินให้เขาฟังจนหลับเหรอวะ?” ชายหนุ่มสตาร์ทรถพร้อมยื่นหมวกกันน็อกให้รุ่นน้อง
แจ็คยังคาใจว่าทำไมคนมีกำแพงสูงอย่างคุณกันต์กวินทร์ถึงเลือกให้ไอ้แหลมช่วย ด้วยนิสัยของบอสที่พนักงานต่างรู้ดีว่าเป็นอย่างไร ทั้งหยิ่ง และไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากใครง่าย ๆ นั่นน่ะ... นอนไม่หลับจนไร้ทางแก้จริง ๆ หรือเพราะเห็นไอ้แหลมเป็นเด็กกะโหลกดูไม่มีพิษมีภัยถึงได้เลือก?
“คืองี้ มันเริ่มตั้งแต่กูแวะตลาด ก็โทรมาเช็กตั้งแต่หัววันเลยไง ขนาดแว๊นมอไซค์เข้าเมืองเอกก็ยังไม่ยอมวางอ้างว่าขี้เกียจโทรใหม่อีกรอบ คือกูโทรกลับก็ได้ปะ หรือถ้าแคร์เรื่องค่าโทรศัพท์เดี๋ยวกูยิงให้ก็ได้ พอกูถึงหน้าหอก็บ่นว่าตอนแว๊นมอไซค์รำคาญเสียงลมมาก เอ้า! ก็เอามือถือไปแนบหูเองปะ ความผิดใคร? ตอนนั้นกูกัดฟันขมิบตูดจนเจ็บแผลผ่าฟันคุดอะมึงนึกภาพออกปะ เดือดไง ถ้าเป็นเด็กแถวบ้านกูป่านนี้หยอดน้ำเกลือไปละ ซ่าไม่เลือกคน”
“จะเข้าเรื่องได้ยัง?”
“กำลังจะเข้า -- ต่อนะ ตอนพี่แกบ่น ๆ กูก็จะทอดเกี๊ยวแดกใช่ปะ กะจะมอมให้น็อกตั้งแต่หัววันแล้วตื่นมาลั่นกลางดึก แต่อยู่ ๆ เสือกบอกกูให้เอาไว้ก่อน จะให้กินตอนสามทุ่มครึ่ง เพราะพี่แกจะฟังเสียงกูแล้วหลับไปเลย พี่แจ็ค... เจ้านายมึงเห็นแก่ได้มากรู้ปะ? ไม่ได้สนสี่สนแปดเลยว่าถ้าแดกตอนนั้นมันจะส่งผลต่อน้ำหนักและหน้าท้องกูยังไง เกี๊ยวทอดอุดมไปด้วยน้ำมันนะเว้ย ไม่ได้แดกแบบมังสวิรัติ”
“แต่มึงแดกหมูกระทะเวลานั้นมาครึ่งค่อนชีวิตแล้วนะรู้สึก”
“มันไม่เหมือนกันเว้ย อย่างน้อยตอนแดกหมูทะก็ยังมีพวกมึงคอยหารแคลอรี่ปะ?”
“สรุปทอดเกี๊ยวแดกสามทุ่มครึ่ง แล้วก่อนหน้านั้นมึงทำอะไร คุยกันเรื่อย ๆ เหรอ?”
“กูก็ขอไปอาบน้ำเพราะเหนียวตัว เห็นซกมกงี้ร่างกายกูก็ต้องการสัมผัสน้ำนะจ๊ะ ทำงานในห้องแอร์ก็จริง แต่พอเดินออกจากออฟฟิศไปเจอหนังชีวิตแถวหน้าเดอะมอลล์งามฯ ยางตายกูก็ไหลออกมาเหมือนสารร่างจะกลายเป็นของเหลว แต่เจ้านายมึงไม่อยากรอไง เป็นเชี่ยไรไม่รู้บอกให้กูเปิดสปีกเกอร์โฟนไว้ จะฟังเสียงน้ำไหลจากฝักบัวด้วยว่างั้น คือกูเข้าใจว่ามันก็เป็นหนึ่งใน ASMR แต่พี่มึงรู้ปะว่าตอนนั้นกูทำไร?”
“มึงบอกบอสว่าปวดขี้”
“ผิด!!! กูเนียนเยี่ยวไปด้วย ตอนนั้นแอบสะใจนิดนึงเพราะบอสได้บำบัดผ่านทางเสียงเยี่ยวกู 55555555” แหลมหัวเราะสะใจ สู้กับเสียงลมระว่างแว๊นมอเตอร์ไซค์ไปออฟฟิศ
“แค่นี้ก็เอา ถ้าบอสรู้แล้วมึงจะหนาว”
“ถ้ามึงไม่พูด กูไม่พูด แล้วใครจะรู้? แหม่พี่แจ็ค ถ้าบอสไม่ชอบช่องกู ๆ ก็ไม่กล้าทำหรอก อันนี้ถือไพ่เหนือกว่านิดนึงก็เลยกวนตีนเล่น”
“แต่ท่าทางเขาคงต้องการผ่อนคลายจริง ๆ ว่ะ” แจ็คครุ่นคิด บอสเป็นคนอารมณ์ฉุนเฉียวอยู่แล้ว พอมีปัญหาเรื่องนอนไม่หลับคงหนักกว่าเดิม เพราะการนอนไม่พอมันส่งผลถึงอารมณ์ด้วย ไม่มากก็น้อย “กูเคยได้ยาช่วยหลับมา แต่มันเป็นยาเฉพาะอาการ เดี๋ยวปรึกษาเพื่อนที่เปิดร้านยาก่อน เผื่อมันมียาแนะนำให้ อย่าง G-Night ที่ชาวบ้านชาวช่องกินกันนั่นบอสจะลองกินหรือยังวะ?”
“เคยลองแล้ว พี่แกบอกไม่ได้ผล ถ้ามึงไปถามเพื่อนก็ฝากบอกด้วยนะว่าขอยาสำหรับคนนอนไม่หลับที่ขวางโลกเก่ง”
“นี่ก็ขยี้จัง คุยกันแค่คืนเดียวก็รู้หมดแล้วเหรอว่าเขาเป็นคนยังไง?”
“เปล่า กูเก็บดีเทลจากมึงมาเรื่อย ๆ พอคุยด้วยเมื่อคืนเลยอินหนัก”
“ถุ้ย”
*
การฝึกงานวันที่สองเริ่มมีความผิดปกติ เพราะอยู่ ๆ พี่บางคนก็เริ่มมองแปลก สายตาเหมือนชั่งใจว่าจะใช้ให้เขาไปชงกาแฟดีไหม แต่สุดท้ายพี่แกก็ไปเอง จนวันนี้แอบดูว่างเล็กน้อยถึงปานกลาง พี่แจ็คก็เลยเรียกไปสอนงานให้
หรือมันจะเป็นผลพวงจากการใช้สกิลระดับเทพลงกลางห้องประชุมเมื่อวานวะ?
ต้องใช่แน่ ๆ เจอเด็กฝึกงานโชว์เหนือต่อเข้าไปพวกที่เรียนจบมาหลายปีถึงกับหน้าม้านกันไปดิ แต่ก็ว่าไม่ได้น่ะนะ อายุไม่ได้บ่งบอกว่าจะมีความรู้มากกว่า ของแบบนี้มันอยู่ที่พรสวรรค์และพรแสวงด้วย แหลมเริ่มเห็นอนาคตเลยว่าถ้าหากเดินทางสายนี้ไปเรื่อย ๆ การเป็นเจ้าของบริษัทเกมก็คงไม่ไกลเกินเอื้อมนัก
แต่แบบนี้อีกละ... ทุกครั้งที่จินตนาการว่าจะต้องเป็นแบบไหน แม่งก็จะเอาความจริงมาตอกหน้าว่า ‘ไม่ใช่อย่างที่มึงมโนหรอกโว้ยไอ้เด็กกะโหลก’ เพราะตอนพักเที่ยงไปร้านส้มตำ พี่ ๆ บอกว่าที่ไม่กล้าใช้งานเพราะบอสสั่งไว้ว่าห้ามใช้เขาไปชงกาแฟ ห้ามเดินเอกสาร แต่ให้เริ่มสอนงานไปเลย โว๊ะ!!!
“น้องเชร์ เมื่อวานบอสว่าไงบ้าง?”
“ถูกลวนลามปะ?”
“อะไรนะพี่?” เด็กหนุ่มเลิกคิ้ว มือค้างอยู่ท่าปั้นข้าวเหนียว ก่อนจะหันไปสบตากับพี่แจ็คเพื่อขอคำตอบ แต่อีกฝ่ายก็พยักหน้าเหมือนอยากบอกว่าให้ฟังไปก่อน “ไม่นะ?”
“ไม่โดนอะไรเลยเหรอ อย่างเช่นจับก้นน่ะ?”
“หรือว่าไม่ได้ทำตรงนั้น แต่ตามไปหาถึงห้องเลย?”
“เดี๋ยวพี่เดี๋ยว นอกจากโดนแซะก็ไม่มีเรื่องอื่นเกิดขึ้นเลยนะ ว่าแต่พวกพี่โดนจับก้นมาเหรอ เช้ดเข้...” แต่ก็งง ๆ ว่ะ แหลมพยายามจับต้นชนปลายว่าความเป็นไปได้มันอยู่ตรงไหน ทำไมบอสต้องจับก้นเด็กฝึกงานอย่างเขา ถ้าบอสเคยจับก้นพี่ ๆ ผู้หญิงฝ่ายมาเกตติ้งมาก่อน
แล้วบอสจะตามมาหาถึงห้องทำไม นี่ไม่ได้เล่าเรื่องหิว ASMR ของบอสให้ใครฟังนอกจากซึมเศร้าแมนนะเว้ย จะว่าพี่มันปากเปราะก็ไม่ใช่ เพราะใครก็ตามที่มีความลับก็สามารถเอาไปโยนใส่พี่แจ็คได้เลย เพราะพี่มันเก็บเก่งชนิดว่ากระดูกยังตายไปพร้อมวิญญาณไม่ได้ แต่ความลับของทุกคนในโลกสามารถตายไปพร้อมพี่แจ็คได้
“ไม่เคยค่ะ คืองี้นะน้องเชร์ บอสเขาเป็นเกย์”
เซอร์พร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย
“อ่อ” ค่อนข้างแปลกใจในความไม่แปลกใจ งงปะ เออ ก็งงตัวเองเหมือนกัน
“เห็นเมื่อวานถูกเรียกไป พวกพี่ ๆ ที่อยู่อีกฝั่งก็เลยเป็นห่วงเพราะไม่ได้อยู่ใกล้ ๆ น้องเชร์เหมือนฝั่งเกมดีไซน์เนอร์ เป็นห่วงนะคะ ตัวเล็ก ๆ หน้าลูกครึ่งแบบนี้คงเป็นสเปกบอส” สีหน้าไม่ได้ดูเป็นห่วงอะ ดูอยากล่อซื้อความลับมากกว่า
“ไม่ใช่แล้วพี่ ไม่มีอะไรแบบนั้นเลย – จริง ๆ” แหลมพยายามยืนยันความบริสุทธิ์ใจ แต่คนรอบข้างคงไม่ค่อยอยากเชื่อนัก สังเกตได้จากสีหน้าและรอยยิ้มเจื่อน ๆ
ส้มตำเริ่มเซ็งแล้วเพราะตอนนี้ไม่มีใครสนใจกินมัน ก็พอเข้าใจบรรยากาศลูกจ้างซุบซิบเจ้านายน่ะนะ แต่แกทเชื่อมโยงพวกพี่จะพุ่งทะลุหลังคาร้านส้มตำแบบนี้ไม่ได้ปะ เมื่อวานบอสเรียกไปคุยเรื่องช่องในยูทูปโว้ย จะแก้ตัวอย่างนี้ก็ไม่ได้ สัญญากับบอสไปแล้วว่าจะไม่ปากโป้ง
“เฮ้ยเชร์” รุ่นพี่หน้าหนวดใส่แว่นฝ่ายอนิเมลุกขึ้นยืนพร้อมวางมือบนบ่าเขาด้วยแววตาจริงจังจนงง อีหยังอี๊กกก “ฟัง ๆ ไว้เถอะ เคยมีคนเจอมาแล้ว ถูกเรียกไปแบบมึงเลย”
หลังจากพี่หนวดพูดจบ แหลมก็หันไปขอความเห็นจากซึมเศร้าแมน แล้วมันก็พยักหน้า มึงทำอย่างอื่นไม่เป็นแล้วใช่ปะพี่แจ็ค พึ่งพาไม่ได้เล้ย
“เอางั้นเลยนะ” ตั้งแต่คุยกันประโยคแรกยันหลับ มันไม่มีจุดไหนเลยที่จะทำให้คิดว่า ‘เชี่ย บอสแกล้งเข้าหากูด้วยวิธีนี้เพราะจะเนียนล่อซื้อกูแน่ ๆ’ เพราะจากที่คุยกัน มีแต่โดนขบกัดด้วยประโยคสั้น ๆ แล้วก็เถียงข้าง ๆ คู ๆ
แหลมมีเซนส์เรื่องพวกนี้ค่อนข้างสูง ตั้งแต่ปีหนึ่งยันตอนนี้ก็ต้องยอมรับว่าตำแหน่งขวัญใจกะเทยในคณะยังคงเป็นของเขาและไม่มีใครแย่งได้ เพราะความกวนตีนจนโดนกะเทยตะโกนด่าด้วยโทนเสียงในฟิล์ม ทุ้มเข้มยิ่งกว่าคนเป็นชายแท้นั่นก็มีแค่ไอ้แหลมคนนี้คนเดียว ดังนั้นประสบการณ์พวกนี้บอกเลยว่าโชกโชนมาก ยิ่งไอ้ห่าพี่ธีร์กลายร่างยิ่งเห็นชัดขึ้น เซนส์แม่นแน่นอน
“ระวังนะ เด็กฝึกงานคนก่อนอยู่ไม่ได้เพราะเจองี้แหละ...”
“เจออะไรเหรอครับ?”
อยู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนได้ยินเสียง ‘เปรี๊ยะ!’ เกิดขึ้นกลางวงส้มตำ ไม่รู้ว่ามันเกิดจากการถูกฟรอสต์ด้วยสกิงเสกน้ำแข็งหรือเพราะหน้าที่แตกร้าวหลังของพี่ ๆ จากได้ยินเสียงเย็นยะเยือกของผู้มาใหม่
คนที่เคยนินทาอย่างเมามันค่อย ๆ เอี้ยวตัวไปข้างหลังเพื่อพบว่ามีเงาดำยืนย้อนแสงให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในเกม Slender Man ชายหุ่นนายแบบคนนั้นมีความยืนล้วงเป๋าเกงอยู่หน้าร้านส้มตำ ปล่อยออร่าบางอย่างออกมาที่มองไม่เห็นด้วยตาแต่สัมผัสได้ทางความรู้สึก
คำแนะนำสำหรับพนักงาน = ถ้าจะนินทาเจ้านาย ให้เลือกนั่งโต๊ะด้านในสุดหรือไม่ก็ส่งนกพิราบสื่อสารเอา
“บอส... หวัดดีค่ะ”
“หวัดดีครับบอส มาไงครับเนี่ย ฮะ ๆๆๆ”
“เฮ้ยแก เราปวดท้องว่ะ ขอกลับไปเข้าห้องน้ำออฟฟิศก่อนนะ”
“เออแจ็ค จ่ายไปก่อนนะ เดี๋ยวเคลียร์เงินกันทีหลัง ผมไปก่อนนะครับบอส ลืมว่าทำงานค้างไว้ ฮะ ๆๆๆ”
ยิ่งกว่ามดแตกรัง โต๊ะส้มตำที่เคยคึกครื้นกลายเป็นโซนวอล์คกิ้งเดธทันทีเมื่อพี่ ๆ เหล่านั้นหนีทหารกลับออฟฟิศจนเหลือเพียงแหลมกับพี่แจ็คสองคนซึ่งนั่งอยู่กับส้มตำและเมนูอีสานที่สั่งมาอย่างจัดเต็ม
“สวัสดีครับบอส” พอเห็นซึมเศร้าแมนยกมือไหว้แหลมเลยเอาด้วย เขามองตามเจ้าของหุ่นน่าอิจฉานั่นเดินเข้ามาหยุดอยู่ฝั่งตรงข้าม ก่อนจะนั่งลงเพื่อให้เก้าอี้พลาสติกที่ผ่านสงครามเวียดนามได้สัมผัสกับสูทตัวนั้นว่ามันแพงแค่ไหน
“ไหนบอกว่าวันนี้ไม่เข้าไง?” เด็กหนุ่มกดเสียงต่ำพลางชำเลืองมองโต๊ะข้าง ๆ ซึ่งมีทั้งคนในบริษัทตัวเองและบริษัทเพื่อนบ้างที่คงงึด*ตาแตกว่าชายหนุ่มมาดผู้ดีมาทำมะเขืออะไรในร้านส้มตำเพิงหมาแหงนแบบนี้
*งึด = เหลือเชื่อ“เพราะผมมีเรื่องที่ต้องสะสาง” ไม่พูดอย่างเดียว มีความกอดอกมองมาเหมือนอยากบอกว่า ‘สะสาง’ ที่ว่านั่นต้องเกี่ยวกับเขาแน่ ๆ
“จะมาด่าที่วันนี้พี่แจ็คไม่ได้ใส่เสื้อโปโลของบริษัทเหรอ คืองี้บอสให้ผมเล่า เมื่อวานก่อนอี – ผมหมายถึงไอ้แหม่ม น้องสาวพี่แจ็คมันอยากได้ค่าขนมเพิ่มเลยอ้อนด้วยการซักเสื้อให้ แต่มันดันเอาไปซักรวมกับเสื้อยืดตัวละ 199 ที่เพิ่งซื้อมาใหม่สีเลยตกใส่ สีนี่เป็นมัดย้อมเลยนะ แต่เมื่อเช้าพี่มันไปขอตัวใหม่มาแล้ว ที่ไม่ได้เปลี่ยนทันทีก็เพราะต้องซักก่อน ไม่งั้นใส่ไม่ได้ กลิ่นเสื้อใหม่ไม่ถูกกับลูกเจ้าของร้านซักรีด”
“อธิบายสั้น ๆ ให้ได้ใจความไม่ได้เลยหรือไง?”
“ก็ได้แหละบอส แต่ผมชอบให้เห็นภาพไปด้วย”
“อย่างเช่นเมื่อคืนที่คุยกันแล้วคุณก็หลับไปกลางอากาศ ปล่อยให้ผมค้างอยู่อย่างนั้นจนขอบตาคล้ำแบบนี้ใช่ไหม?” ไม่พูดอย่างเดียว มีความถอดแว่นแล้วยื่นหน้าเข้ามาเพื่อชี้ถุงใต้ตาให้ดูด้วย อ่อ อยากฟ้องด้วยภาพบ้างว่างั้น เดี๋ยวโชว์ให้ดูบ้างว่าที่ท้องร้องดังขนาดนี้เป็นเพราะหิว แล้วก็กินส้มตำบนโต๊ะไปได้แค่คำเดียว
“เอ้า เมื่อคืนบอสยังไม่หลับเหรอ ผมเห็นเงียบ ๆ นึกว่าวาร์ปแล้ว”
“อย่าคิดเอาเองถ้ามองไม่เห็นด้วยตา”
“แล้วผมจะเห็นหน้าบอสผ่านเสียงได้ไงอะถามก่อน หื้อออออออออออออ?” แหลมเชิดหน้าเถียง “แบบนี้ไม่ต้องพูดยันตีห้าเลยเหรอ จะรู้ปะว่าบอสหลับตอนไหน ก็เห็นเงียบ ๆ ไปแล้ว ผมก็ง่วงปะ ตื่นแต่เช้าแถมยังฝึกงานทั้งวัน กินอิ่ม หนังท้องตึง หนังตาหย่อน”
ยอมรับว่าตกใจพอสมควรที่บอสยังเฉยได้ทั้งที่ไอ้แหลมเกรียนแตกใส่ขนาดนี้ แจ็คพยายามปรามรุ่นน้องด้วยการสะกิด แต่ปากไอ้เด็กนี่ก็ยังงุบงิบไม่หยุดเลยให้ตาย จริงอยู่ที่บอสชอบเสียงจากคลิป ASMR ของมัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าอีกฝ่ายจะละเว้นเรื่องมารยาทและความเกรงใจให้นะเว้ย
“งั้นคืนนี้เฟซไทม์ คุณจะได้รู้ว่าผมหลับแล้วหรือว่ายังฟังอยู่”
“เดี๋ยว ๆ” แหลมคิดว่าเปิดกล้องคุยกันเริ่มจะเกินเหตุ เพราะที่เคยทำก็มีแต่เด็กเก่าที่เคยคั่วกันชั่วครั้งชั่วคราว แต่จะให้เห็นหน้าเจ้านายก่อนนอนมันก็ไม่ใช่เรื่องเปล่าวะเพื่อน?!
แจ็คเลิกคิ้ว ความจริงเขาไม่ได้ใส่ใจที่เพื่อนร่วมงานเอาเรื่องบอสมานินทาบ่อย ๆ เพราะมันมีทั้งเรื่องจริงและไม่จริง บางคนแต่งเรื่องขึ้นเพื่ออรรสรถในการคุย ส่วนเรื่องจริงที่เคยเห็นก็มีแค่เรื่องเด็กฝึกงานถูกไล่ออกเพราะอัพเฟซบุ๊กด่าบริษัทเสีย ๆ หาย ๆ
“บอส เมื่อคืนมันยืนยันได้แล้วว่าการโทรคุยมันไม่ได้ผล บอสกลับไปดูคลิปผมเหมือนเดิมเหอะ มาหาผมถึงร้านส้มตำแบบนี้ระวังโดนเอาไปนินทาอีกนะ” แหลมมองโต๊ะอื่นเพื่อบอกให้เห็นด้วยภาพว่าตอนนี้กลายตกเป็นเป้าสายตาอย่างไร แต่ดูเหมือนบอสจะไม่แคร์
“อย่างเช่นอะไร ผมเป็นเกย์น่ะเหรอ?”
“อันนี้ผมไม่ได้พูดนะเว้ย บอสพูดเองอะ” เด็กหนุ่มหน้าลูกครึ่งรีบปฏิเสธ
“ผมไม่ได้หูหนวก เพราะฉะนั้นเรื่องที่พวกคุณคุยกันช่วงหลัง ผมได้ยินกับหูแล้ว” บอสก็ย่อเรื่องให้มันสั้น ๆ จับใจความไม่ได้เหมือนกันปะ หึย...
“บอสจะหักเงินเดือนพวกเราไหมครับ?” แจ็คถามอย่างหวั่น ๆ เพราะหลายเดือนก่อนบอสเคยจับได้คาหนังคาเขาอย่างนี้มาแล้ว และคนที่จับกลุ่มนินทาก็โดนหักเงินเดินไปคนละห้าร้อยบาท
“ถ้าบอสหักเงินพี่ผม ผมจะไม่รับสายบอสอะเอาดิ”
“กำลังขู่ผม?” สายตาเอาเรื่องคู่นั้นมองทะลุเลนส์แว่นออกมา ก่อนจะแค่นยิ้มเหมือนจะบอกว่าคนแพ้ต้องเป็นเด็กฝึกงานแน่นอน “ถ้าคุณไม่รับสาย ผมจะทำให้คุณอายมากกว่านี้”
“อ้าวบอส คือไร”
“ผมนอนไม่หลับ และผมต้องการนอน อย่าสร้างปัญหาให้มันมากนัก” คนเป็นเจ้านายพูดอย่างเอาแต่ใจ แหลมขมวดคิ้ว สบถคำว่า 'เอ๋า...' พลางมองคนตรงหน้าที่ถอดแว่นออกมานวดขมับ
“เรื่องอยากนอนก็เข้าใจ แต่จะหักเงินเดือนลูกจ้างเพราะนินทาเจ้านายเนี่ยนะ โถ ๆ ใจเย็นก่อนมายบอส ที่ไหนก็นินทาเจ้านายทั้งนั้นแหละน่า แต่ขึ้นอยู่กับว่าเจ้านายจะได้ยินไหม”
“แล้วผมก็ได้ยิน”
“ทำไม ถ้าจะเถียงว่าไม่เป็นความจริงบอสก็จัดมาเลย แมน ๆ คุยกันอะ” แหลมนั่งยืดหลังตรงพลางทุบอกโชว์ ถ้าเป็นชายแท้ก็อย่าปล่อยให้พวกพี่ ๆ ขี้เม้าเอามานินทาดิวะ “ยืนหยัดในความเป็นตัวเองโชว์ให้โลกรู้ไปเลย เคยควงสาวเข้าโรงแรมยังไง วันหลังให้พาเข้าบริษัทนี้ด้วย”
“ผมไม่ควงผู้หญิง”
พอได้ยินคำตอบแจ็คจึงดึงทิชชู่ออกมาเช็ดปาก มื้อเที่ยงคงเป็นหม้ายแล้วหลังจากถูกโจมตีด้วยคนเป็นเจ้านาย และประโยคต่อไปนี้คงทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงกับไอ้แหลมแน่นอน
“เพราะผมชอบผู้ชายอย่างที่คนพวกนั้นว่าจริง ๆ”
“HEAD SHOT” แหลมสบถพร้อมปรบมือ และหาเหตุผลให้ตัวเองไม่ได้ด้วยว่าทำไปเพื่ออะไร
“แต่คน ๆ นั้นไม่ใช่คุณหรอก วางใจได้” อีกฝ่ายกล่าวอย่างสบาย ๆ โดยไม่หลบสายตา คงตั้งใจอยากให้รู้ว่า ‘ถ้าให้ชอบเด็กกะโหลกแบบคุณ ผมยอมลาหมาบวชดีกว่า’
“ทำไมอยู่ ๆ ผมถึงรู้สึกเหมือนโดนบอสเหยียด” เด็กหนุ่มหรี่ตามอง
“ผมไม่ได้เหยียด แต่คุณไม่ใช่สเปกผม”
“ก็ดีแล้วปะ ผมก็ไม่ได้อยากเป็นสเปกบอส”
แจ็คหันมองฝั่งขวา น้องชายเขาดูจะมีภาษีกว่านิดหน่อยในยกนี้
“งั้นเหรอ ผมก็แค่ชอบเสียงคุณเหมือนกัน เจตนาชัดเจนนะ?”
อืม... หมัดนี้บอสได้ ให้คะแนนกับฝั่งซ้ายหน่อยแล้วกัน
“เหรอ ๆๆๆ แล้วไงต่ออะ?”
“ก็ไม่ยังไง ผมจะฟังเสียงคุณ”
“ไม่ให้ฟัง”
“งั้นผมจะหักเงินเดือนพี่คุณ”
เดี๋ยว ๆ อันนี้เริ่มไม่ใช่แล้ว
“พาลว่ะ ยังไงก็ไม่ให้ฟังหรอก”
“ผมหักทุกคนที่ร่วมนินทาบนโต๊ะนี้ด้วย หลังจากนั้นผมก็จะสร้างเรื่องให้ทุกคนเข้าใจว่าที่ถูกหักเงินมันเป็นเพราะคุณ”
“โห... อันนี้ก็เกินป๊ายยย”
“ผมทำได้มากกว่านี้ ถ้าอยากรู้จะลองดูก็ได้นะครับ”
“รู้อะไรอะ เป็นเกย์ก็เป็นเอง พอมีคนพูดถึงแล้วรับไม่ได้เฉย” แหลมส่ายหน้าหน่าย ๆ
“แหลม มึงระวังปากหน่อย” แจ็คกดเสียงลงต่ำ ถ้ามันพูดมากกว่านี้คงได้เอามือตะปบปากมันไว้แน่ ๆ
“มันไม่ใช่เรื่องเป็นเกย์หรอกครับ ผมรู้ตัวดีว่าผมเป็นอะไร และผมมีความสุขดีที่จะเป็นแบบนี้ แต่ที่ผมไม่ชอบก็คือเรื่องมารยาททางสังคมที่ไม่ว่าใครก็ควรรู้เอาไว้ว่าไม่ควรนินทาลับหลัง โดยเฉพาะเรื่องของเจ้านายที่มันไม่เป็นความจริง”
“ไม่จริงก็เถียงดิ”
“ผมควรยืนจ้องหน้าเธอคนเมื่อกี้แล้วบอกว่า ‘ผมไม่เคยจับก้นพนักงานคนไหนเลย’ อย่างนั้นน่ะเหรอ? เชร์ครับ คุณก็อายุยี่สิบต้น ๆ แล้ว คิดหน่อยสิว่าการอธิบายมันไม่ใช่การแก้ปัญหาของทุกเรื่อง”
“ก็เลยหักเงินเดือนเอา”
“หรือถ้าคุณมีวิธีที่ดีกว่านี้ก็ทำให้ผมเห็นสิ” ชายหนุ่มยกยิ้มอย่างผู้ชนะ ยกนี้บอสวินว่ะ ส่วนไอ้เด็กกะโหลกถึงกับหน้าแห้งไปเลย
ตอนแรกแจ็คคิดว่ามันน่ากังวลอยู่ไม่น้อยเพราะบอสก็แรง ไอ้แหลมก็ไม่ยอมคน แต่พอพักยกถึงได้รู้ว่าความขัดแย้งของทั้งคู่มีความดึงดูดกันอยู่ แวบหนึ่งเขารู้สึกว่าบางทีไอ้เด็กนี่อาจจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงความเป็นบอสได้ แต่นั่นก็เป็นเพียงความคิดที่เกิดขึ้นในช่วงวินาทีสั้น ๆ เท่านั้น เพราะอะไรก็ไม่แน่นอนถ้าเป็นกันต์กวินทร์ บางทีไอ้แหลมอาจจะอยู่ทำงานไม่ถึงอาทิตย์ก็ได้
“เราควรโฟกัสแค่เรื่องเสียงที่ผมอยากฟังจนหลับมากกว่าเรื่องไร้สาระที่จะทำให้เปลืองน้ำลาย”
“บอสอะเวอร์ เหมือนผมเป็นคนเดียวที่จะทำให้หลับได้งั้นอะ เปิดใจหน่อยดิบอส มี ASMR Artists ที่เจ๋งกว่าผมอีกเยอะมาก เดี๋ยวช่วยหาเอาปะ เลือกจนตาแฉะไปข้าง”
“ทำไมผมต้องหาคนอื่นอีกในเมื่อคุณอยู่ตรงนี้แล้ว?”
“หลังจากรู้ว่าบอสชอบผู้ชาย ประโยคเมื่อกี้ก็น่าขนลุกขึ้นมาเลย” เด็กหนุ่มกล่าวหน้านิ่ง รู้สึกเสียวสันหลังวาบเพราะวูบหนึ่งบอสมีความยิ้มใส่ ปั่นเฉย!
“ก็บอกแล้วไงว่าคุณไม่ใช่สเปกผม ถ้าคุณยืนแก้ผ้าตรงนี้บอกเลยว่าสิ่งเดียวที่ผมจะรู้สึกก็คืออับอาย”
“พูดงี้ลากผมไปกระทืบกลางสี่แยกแครายก็ได้นะที่จริง...” ขนาดอีแนนซี่ กะเทยร้านชานมหลังมอยังไม่ด่าแรงขนาดนี้
“การที่ผมชอบเพศเดียวกัน ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะชอบผู้ชายทุกคนในโลกหรือเปล่าครับ?”
“จ้าบอส พูดอะไรมาก็ถูกหมดเลย”
“ดีครับ หัดขานตอบเหมือนคนทั่วไปบ้าง ไม่ใช่เอาแต่เถียงอย่างเดียว”
“นี่มาฝึกงานหรือหาพ่อใหม่ เมื่อคืนก็บ่นเรื่องสุขภาพ”
“ผมไม่ชอบคนสูบบุหรี่ เลิกสูบซะ” พอถึงประโยคนี้แจ็คถึงกับสำลักน้ำดื่ม กลัวเหลือเกินว่าอารมณ์เกรี้ยวกราดของบอสจะชิ่งมาถึงตัวจนถูกหักเงินเดือนเพราะเป็นสิงห์อมควัน
“เฮ้อ แล้วแต่ละกัน เถียงกับบอสแล้วอย่างหิว” คงกินข้าวมาแล้วอะดิเลยมีแรงมานั่งเถียงกับเด็ก ก็สุดเกิ๊น
“ถ้าคุยกันดี ๆ แต่แรกคุณก็กินไปด้วยได้ ระหว่างนั้นผมก็รีแล็กซ์ไปกับการกินของคุณด้วย มีแต่ได้กับได้” ชายหนุ่มมองคาดโทษเจ้าของหน้าซน ๆ ที่พึมพำขณะกินส้มตำปูปลาร้าที่เขาไม่รู้ว่ารสชาติเป็นแบบไหน
“บอสก็ชอบขัด ขี้บ่นก็ที่หนึ่ง”
“เด็กนี่มันปากไม่ค่อยดี แต่จริง ๆ มันไม่มีพิษมีภัยกับใครหรอกครับบอส อย่าถือสาเลยนะครับ” พอสงครามเริ่มสงบลงแจ็คก็จะอธิบาย เพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายฉุนเฉียวเพราะคำพูดรุ่นน้อง “ขอโทษแทนมันด้วยครับ”
“ได้ยินไหมครับเชร์ คุณทำให้แจ็คต้องขอโทษผมนะ”
“จากใจนะบอส ผมไม่รู้สึกผิดอะ... โอ๊ย!!!” กันต์สะดุ้งเล็กน้อยทันทีที่เห็นแจ็คตบหัวเด็กฝึกงานใหม่จนหน้าแทบคว่ำ อยู่ด้วยกันมานาน เขาไม่เคยเห็นอีกฝ่ายลงไม้ลงมือกับใครสักครั้งเลยให้ตายสิ
“ซนจริง ๆ”
“ไม่เอาคำนี้ได้ไหมบอส ขนลุกอะ” รู้สึกเหมือนเป็นตัวอะไรสักอย่างที่น่าเอ็นดู ซึ่งไอ้แหลมคนนี้ไม่ใช่โว้ย เคยได้ยินไอ้โซ่พูดกับไอ้พี่ธีร์แบบนี้ตอนมันสลับบทเป็นพี่เป็นน้อง หมั่นตีนจนอยากอ้วกด้วย
“เพราะคุณไม่ชอบ งั้นหลังจากนี้ผมจะพูดอีกบ่อย ๆ” ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนเต็มความสูง กระชับสูทตัวนอกพร้อมยกยิ้มอย่างอารมณ์ดี
เหอะ ๆ กวนตีนเด็กแล้วสบายใจว่างั้น?
“ผมจะกลับโรงแรมแล้ว กินข้าวให้อร่อยล่ะ”
“ส้มตำเซ็งหมดละจะเอาอะไรมาอร่อยล่ะครับบอส?” เด็กหนุ่มปั้นหน้าปั้นตายิ้มประชด โผล่มาทำลายบรรยากาศมื้อเที่ยงคนอื่น พอฟินแล้วก็จะกลับไปทำงานต่องี้เรอะ?
“อ่า นั่นสินะ ผมเข้าใจ” เจ้าของหุ่นนายแบบเอากระเป๋าเงินออกมาแล้วพยักหน้าเรียกแม่ค้า ป้าวัยห้าสิบจึงเดินเข้ามาหา ก่อนบอสจะชี้นิ้วมายังโต๊ะที่เขากับพี่แจ็คนั่งอยู่ “ช่วยเก็บโต๊ะแล้วทำทุกอย่างใหม่ให้ด้วยครับ”
บอสยัดแบงก์พันสองใบใส่มือป้าแล้วเดินออกไปโดยไม่สนว่าควรต้องยืนรอเงินทอนก่อน เดี๋ยวก่อนโว้ย ส้มตำขายที่ประเทศไทยไม่ใช่อังกฤษที่จะได้สั่งจัดเต็มแล้วโดนไปบิลละสอง-สามพัน
“อั่น บักหล่า สิไห่ป้าเฮ็ดจั่งได๋หนิ” (นี่ลูก จะให้ป้าทำยังไงเนี่ย?)
“คิดเงินเลยป้า บ่ต้องเฮดใหม่ ส่วนเงินทอนเอามาพี้” (คิดเงินเลยป้า ไม่ต้องทำใหม่ ส่วนเงินทอนเอามานี่) แหลมรับเงินทอนมากรีดนิ้วนับ นอกจากจะได้กินฟรีแล้วแถมยังได้เงินอีก เย็นนี้จัดหมูทะร้านพี่ตั้บด่วน
ไอ้แหลมพูดภาษาบ้านเกิดกับป้าเจ้าของร้านเหมือนรู้จักกันมาชาติเศษ เขามักจะเห็นภาพแบบนี้เมื่อคนขายและลูกค้าเป็นคนบ้านเดียวกัน บวกกับความเข้ากับคนง่ายของไอ้แหลมด้วย คนแบบนี้ไปไหนก็ไม่อดตาย
“ป๊าด คึมารวยคักแท้ กินห้าร้อยจ่ายสองพันพะนะ เพิ่นเป็นไผล่ะฮั่นน่ะ อ้ายโตบ่?” (โอ้โห ทำไมรวยขนาดนี้ กินห้าร้อยแต่จ่ายสองพัน เขาเป็นใครน่ะ พี่ชายเหรอ?)
“บ่ ๆ เพิ่นเป็นเจ้านาย” (ไม่ใช่ นั่นเจ้านาย)
“ป๊าด อยู่บริษัทนี้บ่ คือบ่เคยเห็นหน้า?” (โอ้โห อยู่บริษัทนี้เหรอ ทำไมไม่เคยเห็นหน้า) ป้าร้านส้มตำชี้ไปทางบริษัทที่อยู่ไม่ห่างจากตรงนี้
“สิเคยเห็นได้จั่งได๋ เพิ่นบ่เคยถืกแดดถืกลมจั๊กเถื่อ” (จะเคยเห็นได้ยังไง เขาไม่เคยออกมาถูกแดดถูกลมสักครั้ง)
คุณได้รับข้อความจาก...
‘เจ้าหนี้’
[ ทำไมถึงชอบกินส้มตำปลาร้า คืนนี้เล่าให้ผมฟังด้วย ]
แหลมทำปากลิงใส่เจ้าของข้อความ
คุณกำลังส่งข้อความถึง...
‘เจ้าหนี้’
[ กินส้มตำปูปลาร้าให้ดูก่อน แล้วผมจะเล่าให้ฟัง ]
คิดว่าคืนนี้คงหลีกเลี่ยงการเปิดกล้องคุยไม่ได้แล้ว ถึงหลายครั้งบอสจะดูงี่เง่าเอาแต่ใจ แต่ก็มีชั่ววูบสั้น ๆ ที่แหลมรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่ไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไร ‘บางทีก็คุยสนุก’ งั้นเหรอ? ดูดีไป ขอใช้คำว่า ‘ทะเลาะเพลิน ๆ แก้เหงา’ แล้วกัน น่าจะได้ เพราะมันคงเหมาะกับเขาทั้งคู่ที่สุดแล้ว
คุณได้รับข้อความจาก...
‘เจ้าหนี้’
[ ผมจะกิน ถ้าคุณนั่งกินเป็นเพื่อน ]
To be continued
*มองบอสด้วยอินเนอร์สาวออฟฟิศที่นั่งอยู่โต๊ะข้าง ๆ*