[กันต์/แหลม] สเปวันเด็ก▲คบวันนี้เลิกกันปีใหม่▲#ชอกะเชร์คู่กันต์ (12/01/62)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [กันต์/แหลม] สเปวันเด็ก▲คบวันนี้เลิกกันปีใหม่▲#ชอกะเชร์คู่กันต์ (12/01/62)  (อ่าน 169430 ครั้ง)

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
 :z6: ชั้นว่าแล้วว่าต้องเป็นอิพ่อเลี้ยง! แต่ไม่คิดว่าแม่จะรู้เรื่องด้วย

ผีเอ้ย เออ ถ้านี่เป็นธูปก็ไม่อยู่อะ คงหนีตายมากทม.เหมือนกัน

ออฟไลน์ wildride

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
  :pig4:

 งานเขียนของคุณนี่น่าจัดเป็นงานพีเรียดร่วมสมัย

 แบบสมัยฮาครืน สมัยหื่นมาก สมัยดาร์กสะเทือนอารมณ์

 
ขอตามอุดหนุนทุกเรื่องไป

ออฟไลน์ pornwicha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
ฉันมารอพี่ที่เล้าเป็ดทุกเวลา :ling3:

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
อยากให้เรื่องของเทียนมีแค่ในนิยาย

ออฟไลน์ onlyplease

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0

ออฟไลน์ หน่วยกล้าวาย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0



#ชอกะเชร์คู่กันต์
ตอนที่ 22
วันสิ้นปี


ไม่มีคนสร้างความวุ่นวายในสถานีตำรวจอีกแล้ว ตอนนี้ทุกอย่างโดยรอบมันเงียบจนเหลือเพียงเสียงความคิดที่ไม่รู้จะทำอย่างไรถึงจะหยุดลงได้ ก่อนสามีภรรยาโลกแตกจะกลับไปตำรวจก็เข้ามาไถ่ถามว่าจะเอาเรื่องที่ถูกชกปากหรือไม่ เขาโอเคที่อีกฝ่ายนึกขึ้นได้ว่าควรถาม แต่สุดท้ายการประนีประนอมก็ยังเป็นทางเลือกที่แหลมสนใจ

ไม่ใช่เพราะสงสารแม่ไอ้ธูปที่เอาแต่ร้องไห้ แต่เป็นเพราะเขากลัวทนมองหน้าไอ้เลวนั่นไม่ไหวจนต้องเข้าไปซัดหมัดคืนจนกว่ามือจะหัก

เด็กหนุ่มเดินเข้าไปในห้องน้ำ หยุดยืนอยู่หน้าอ่างล้างมือพลางเงยหน้าขึ้นมองกระจกบานเล็ก คำพูดของเทียนมากมายที่เคยคิดว่าปกติธรรมดากลายเป็นคำบอกใบ้ ทำไมเขาถึงไม่เอะใจ แหลมได้แต่กล่าวโทษตัวเอง

นึกย้อนไปตอนที่เธอถูกนินทาว่าร้ายหลังจากตายไปแล้วก็ยิ่งโกรธ ไม่มีใครรู้ว่าความจริงเป็นอย่างไร คนเหล่านั้นดีแต่พูดตามสิ่งที่คาดเดาแล้วเอามายำให้สนุกปากในวงสนทนา คนตายจะเสียเกียรติเสียศักดิ์ศรีเท่าไหร่ไม่มีใครสน แทบจะทุกคนที่เชื่อว่าเทียนฆ่าตัวตายเพราะหนีปัญหาท้องกับเสี่ย

พยายามยัดเยียดให้เทียนเป็นผู้หญิงขายตัวถึงขั้นไม่สนใจเรื่องที่ถูกข่มขืนจนช่องคลอดฉีกขาด คนบางคนก็โง่เกินกว่าจะคิดเรื่องดี ๆ ได้

บรรยากาศงานศพ บทสวด และเสียงตะโกนต่อว่าของแม่เทียน สายตาผู้คนที่มองมานั้นไม่สำคัญเท่าความรู้สึกตอนต้องถือป้ายรูปศพถ่ายรูปรวมรุ่น แหลมจำได้ว่าช่วงนั้นเขาเป็นอย่างไร เสียหลักจนนึกไม่ออกว่าจะกลับมาเป็นคนร่าเริงได้อีกไหม แผลนี้มันใหญ่เกินไปสำหรับเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ยังไม่ประสีประสา

‘ไปเรียนกรุงเทพฯ ไหม?’
‘...’
‘ไปอยู่กับพวกพี่ธีร์ เล่นเกมกับพี่ ๆ แล้วก็เรียนให้จบนะลูกนะ’

พยายามอดทนไม่แสดงความอ่อนแอแล้ว แต่พอถูกแม่ลูบหัวน้ำตามันก็ไหลออกมาราวกับว่าสวิตซ์มันถูกเปิด แม่รั้งเด็กโง่คนนั้นเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดที่เต็มไปด้วยความเข้าใจ แหลมสะอึกสะอื้นร้องไห้กับความจริงที่ไม่อยากยอมรับว่าเขาช่วยอะไรเทียนไม่ได้เลย

กวักน้ำล้างหน้าแล้วบ้วนปากเอาเลือดจาง ๆ ออก เด็กหนุ่มมองกระจกอีกครั้งเพื่อบอกตัวเองว่าให้ตั้งสติก่อน เขายังคงสะเทือนใจเรื่องเทียน แต่สิ่งสำคัญตอนนี้คือเรื่องไอ้ธูปที่ต้องจัดการ แต่ก่อนจะเอาตัวเองไปจมอยู่กับความยุ่งยากก็ขอโทรบอกใครอีกคนที่มีนัดกันในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า เขาควรบอกบอสว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นและเดทวันนี้คงต้องยกเลิกอย่างไม่ตั้งใจ

( ...ครับ )

“พี่นอนอยู่เหรอ?” เสียงบอสเหมือนเพิ่งตื่น แต่ก็ดูเหนื่อย ๆ เพลีย ๆ อย่างบอกไม่ถูก

( เปล่าครับ เราตื่นแล้วเหรอ? )

“เรื่องนั้น...” เด็กลูกครึ่งแตะรอยแผลตรงมุมปากพลางลดระดับสายตาลง “พี่ วันนี้ผมคงไปไม่ได้แล้ว”

( ทำไมครับ เกิดอะไรขึ้น? )

“คือ...” ไม่รู้จะเริ่มอธิบายอย่างไร พอมองออกไปก็เห็นว่าเริ่มมีคนเดินเข้าโรงพักแล้ว อาจจะเป็นญาติเด็กที่อยู่ในห้องขังเดียวกับไอ้ธูป ไม่ก็คนที่เข้ามาติดต่อธุระส่วนตัว แต่ไม่ว่าอย่างไรผู้คนเหล่านั้นก็ทำให้เขาลนอย่างบอกไม่ถูก แหลมรู้สึกเหมือนไอ้ธูปจะถูกจับเข้าคุกอยู่ตลอดเวลา และเขาควรรีบทำตามขั้นตอนทุกอย่างเพื่อช่วยเด็กนั่น “ไอ้ธูปโดนจับเรื่องยาเสพติด ผมต้องช่วยมัน”

( ยาเสพติด? )

“ขอโทษนะ ผมไม่ได้ตั้งใจจะพังวันสำคัญของเราเลย แต่ผมก็ปล่อยให้น้องมันอยู่ในห้องขังนาน ๆ ไม่ได้ พี่เข้าใจผมใช่ไหม?”

( ตอนนี้เราอยู่ไหนครับ สถานีตำรวจเหรอ? )

“อือ ผมกำลังจะทำเรื่องประกันตัว พี่พอจะมีอะไรแนะนำไหม พี่น่าจะรู้เรื่องกฎหมายมากกว่าผม”

อยากโทรหาเหล่าขี้ซุยฯ แต่ก็กลัวว่าจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้วันดี ๆ ของทุกคนพังลง พี่ตั้บควรได้ฉลองกับลูกเมียอย่างมีความสุข พี่ธีร์กับไอ้โซ่ก็คงมีแพลนเคาท์ดาวน์หรือไม่ก็ทำอะไรสักอย่างที่เป็นความทรงจำดี ๆ ร่วมกันกับปีใหม่ครั้งที่สอง ส่วนพี่แจ็คยิ่งไม่ควรเลย รายนั้นเป็นพวกชอบเก็บเรื่องคนอื่นไปคิดแทน กลัวจะเครียดจนต้องพึ่งยาช่วยหลับอีก

( ถ้าเป็นเรื่องยาน่าจะหลุดยาก เขาเสพหรือว่าขายครับ? )

“ไม่ทั้งสองอย่างเลย มันแค่อยู่ตรงนั้นแล้วโดนหางเลขไปด้วย” บอสเงียบไป คิดว่าอีกฝ่ายคงไม่เชื่อที่พูดแต่ก็เลือกเก็บไว้ในใจมากกว่าจะพ่นความคิดเหล่านั้นออกมาทำร้ายความรู้สึกเด็กกะโหลกอย่างเขาที่อยู่ในสภาวะอ่อนไหว

( เดี๋ยวพี่ไปหา )

“ผมไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ถึงไอ้ธูปจะเป็นเด็กปากหมาแต่ผมก็ไม่อยากให้มันต้องไปเจอเรื่องในคุก”

( พ่อแม่เขาล่ะครับ? )

“มาแล้ว กลับไปแล้ว”

( ว่าไงนะ? )

“อือ แม่งโคตรเหี้ยเลยพี่ ผมมีเรื่องอยากเล่าให้พี่ฟังเยอะแยะเต็มไปหมดแต่ก็ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนก่อน ผมเหมือนจะอ้วกมันออกมาแล้ว” เด็กหนุ่มทรุดตัวลงนั่งยอง ๆ ซบหน้ากับเข่าตนเอง เขาอยากให้บอสอยู่ตรงนี้แล้วกอดเขาไว้แน่น ๆ จนกว่าเรื่องเหล่านี้จะผ่านไปได้

( เชร์ฟังพี่นะ หายใจเข้าลึก ๆ )

“ผมทำอยู่...”

( ดีครับ คราวนี้เราก็ออกไปซื้อน้ำหวานดื่มแล้วก็นั่งรอจนกว่าพี่จะไปถึงนะ )

“พี่จะช่วยผมใช่ไหม ผมขอโทษนะ”

( อย่าเพิ่งคิดเรื่องอื่น ตอนนี้พี่กำลังจะลงลิฟต์แล้ว ทุกอย่างจะต้องดีขึ้นเราเชื่อใจพี่หรือเปล่า? )

“อือ แต่ผมไม่ได้ขอให้พี่ช่วยเรื่องเงินประกันนะ ผมจะจ่ายให้มันเอง พี่อย่ารู้สึกแย่นะ” ก็รู้ว่าบอสไม่ชอบไอ้ธูป แค่ขอให้มาช่วยก็ถือว่าฝืนใจมากพอแล้ว แหลมไม่ได้เคยชินกับความใจดีจนลืมไปว่าอีกฝ่ายเคยเป็นอย่างไร

( เชร์ครับ ก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าถ้าเป็นเรื่องเราแล้วพี่ไม่เคยคิดเล็กคิดน้อย )

“ไม่รู้สิ ผมแคร์พี่นะ ถึงปากจะบอกว่าไม่ได้ตื่นเต้นกับวันปีใหม่ แต่พอพี่บอกว่ารอวันนี้ผมก็อยากให้มันออกมาดี ๆ แต่ผมกลับทำพังหนำซ้ำยังเอาความเดือดร้อนไปให้ด้วย”

( พี่ไม่ได้รู้สึกติดลบอะไรทั้งนั้น กลับกันแล้วพี่รู้สึกดีด้วยซ้ำที่เราไว้ใจพี่ )

“มากกว่าที่พี่คิด”

( ได้ยินแค่นี้ก็ดีใจแล้ว ตอนนี้เรามาคิดเรื่องช่วยธูปดีกว่านะครับ ส่วนฉลองปีใหม่มันไม่เป็นไรจริง ๆ )

“พี่รีบมานะ ผมจะไปซื้อโค้กกินรอ”

( ก็รู้ไม่ใช่เหรอครับ ว่าพี่ไม่เคยปล่อยให้เราต้องรอนาน ๆ )

คนฟังอบอุ่นใจจนได้รอยยิ้มแรกของวัน แม้จะไม่เห็นปลายทาง แต่เขากลับรู้สึกว่าทุกอย่างจะดีขึ้นหากมีบอสอยู่ข้าง ๆ


*


เด็กหนุ่มวางถุงเซเว่นลงข้าง ๆ แล้วนั่งบนขั้นบันไดด้านหน้าสถานีตำรวจ ตอนนี้ไอ้ธูปน่าจะหลับอยู่หรือไม่ก็นั่งเหม่อไปกับความหวังที่ริบหรี่ แต่ไม่ว่าจะเครียดจนกินไม่ลงแค่ไหน แหลมก็จะยัดขนมปังเข้าไปแล้วดื่มน้ำตาม หลังจากนั้นก็อัดพาราสักสองเม็ดคลายอาการปวดศีรษะ น้องจะเหนื่อยแค่ไหนแต่พี่มันต้องเก็บแรงไว้สู้คดี

สายตาทอดมองตรงประตูทางเข้าอยู่ทุกนาที ผ่านไปชั่วโมงครึ่งแล้วแต่คนที่อยู่สาทรก็ยังไม่มาถึง ระหว่างนั้นก็คิดว่าคงรถติด แต่เขาไม่อยากโทรเร่งเพราะกลัวอีกฝ่ายเสียสมาธิระหว่างอยู่บนถนน

ตอนนี้ข้างในโรงพักดูวุ่นวายหลังจากใครคนหนึ่งเดินเข้าไป ดูจากภายนอกแล้วน่าจะเป็นตำรวจยศใหญ่เข้าไปสั่งการอะไรสักอย่าง เพราะอยู่ ๆ ตำรวจก็พร้อมใจกันลุกไปยืนเรียงกัน แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะต้องสน บางที แหลมยังคงนั่งอยู่บนขั้นบันไดมองปากทางเข้าตาละห้อยเหมือนหมารอเจ้านายกลับบ้าน

RRRrrrrr!!!

เพียงชั่วอึดใจเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น  เด็กที่ใช้เวลาไปกับการรอเป็นชั่วโมงจึงคว้าขึ้นมาดูเบอร์ แต่ที่โทรมากลับไม่ใช่คนที่รออยู่แต่เป็นแม่บอสเสียอย่างนั้น เธอมักจะโทรมาปรึกษาเรื่องสูตรอาหาร หรือชวนไปกินข้าวที่บ้าน บางทีแม่อาจจะอยากให้เขาชวนบอสไปฉลองปีใหม่ด้วยกันพรุ่งนี้

“ครับแม่?”

( อยู่ไหนลูก? )

“เอ่อ เชร์อยู่ข้างนอก แม่มีอะไรเหรอครับ?”

( อยู่ไหน เดี๋ยวแม่ให้คนไปรับ )

“เดี๋ยวนะครับ แม่มีอะไรหรือเปล่า?” อยู่ ๆ ก็กังวลขึ้นมาเพราะคนปลายสายส่งความเครียดมาทางเสียงอย่างเห็นได้ชัด

( ตอนนี้แม่อยู่โรงพยาบาลเพราะพี่กันต์ขับรถชนเสาไฟ เชร์ว่างไหมลูก มาหาพี่เค้าหน่อย )

“...”

สมองตายไปแล้ว เด็กหนุ่มนั่งนิ่งอยู่อย่างนั้นพร้อมเสียงบอกเล่าของคนในสายที่เริ่มจับใจความไม่ได้ หน้าอกข้างซ้ายมันเต้นเร็วแรงเหลือเกิน สองมือที่เคยวางนิ่งอยู่บนหน้าขากำลังสั่นเพราะความกลัวที่ไม่สามารถจินตนาการได้ว่าตอนนี้บอสจะเป็นอย่างไร

ทันทีที่ได้สติก็รีบวิ่งไปหน้าสถานีตำรวจแล้วหยุดตรงฟุตปาธ ลนลานหันซ้ายขวามองถนนโล่ง ๆ ในวันสุดท้ายของปีพร้อมโบกแท็กซี่คันแรกที่มาถึง แต่พระเจ้าคงอยากเล่นตลกกับเด็กอย่างเขา เพราะหลังจากบอกชื่อโรงพยาบาลที่อยู่ไกลจากตรงนี้จึงถูกคนขับปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย

“พี่ไปส่งผมเถอะนะ ผมรีบจริง ๆ”

“ไปคันหลังแล้วกันน้อง พี่ต้องส่งรถ” เด็กหนุ่มกัดฟันกรอดกำหมัดแน่น ปิดประตูกระแทกเสียงดัง แล้วหันไปหายใจลึก ๆ เพื่อสงบสติอารมณ์

เรื่องร้อนใจที่มีบอสเป็นตัวประกันก็ทำให้เขาอยากวิ่งไปโรงพยาบาลเอง แหลมยังคงยืนสู้กับแดดร้อนในกรุงเทพฯ พร้อมโบกมือเรียกแท็กซี่แต่ก็ไม่เป็นผล สุดท้ายก็ตัดสินใจวิ่งหาวินมอเตอร์ไซค์ซึ่งความโชคร้ายก็ยังไม่ไปไหนเมื่อทันทีที่ไปถึงก็พบเพียงความว่างเปล่า

“รอแป๊บนะน้อง เดี๋ยวก็มา”

เด็กหนุ่มพยักหน้ารับพลางชะเง้อหน้ามอง ระหว่างที่ยืนอยู่ตรงนั้นเกือบห้านาทีก็ร้อนใจจนไม่สามารถทิ้งตัวนั่งลงได้ ป่านนี้บอสจะเป็นอย่างไร แขนขาเจ็บมากไหม ไม่มีทางไหนเลยที่จะทำให้เด็กคนนี้สบายใจลงได้จนกว่าจะเห็นเองกับตา

มอเตอร์ไซค์มาถึงแล้ว แหลมรีบก้าวขาขึ้นคาบพร้อมบอกที่หมายซึ่งพี่วินก็ยื่นหมวกกันน็อกให้พร้อมหันมาพูดบางอย่างที่ทำให้น้ำตาแทบไหลออกมาอีกครั้ง

“ไม่เป็นไรนะ พี่จะไปส่งน้องเอง”



*


“แม่ครับ!”

“เชร์” เจ้าของชื่อรีบวิ่งเข้าไปหาคนที่ยืนอยู่หน้าเคาท์เตอร์ซึ่งเธอก็สวมกอดเขาทันทีที่ไปถึง “ทำไมมอมแมมแบบนี้ลูก แล้วปากไปโดนอะไรมา?”

“ทะเลาะกับเพื่อนนิดหน่อยครับ เคลียร์กันเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้พี่กันต์เป็นยังไงบ้างครับ?”

“พี่เค้าไม่เป็นไรแล้วจ้ะ ใจเย็น ๆ นะ” แฟนลูกก็มีอาการเดียวกับเธอตอนเพิ่งรู้เรื่องไม่มีผิด ผู้เป็นแม่เปิดกระเป๋าเอาทิชชู่ออกมาซับหน้าให้เด็กหนุ่มที่นับเป็นลูกชายอีกคน

เธอกุมมืออีกฝ่ายหวังช่วยดับความกังวล แต่สีหน้าของเชร์ก็ไม่ดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย แน่ล่ะ ถ้าไม่ได้เห็นกับตาว่าลูกชายยังสบายดีเธอก็คงไม่วางใจเหมือนกัน

“พักเหนื่อยอยู่กับแม่ตรงนี้ก่อน ตอนนี้พยาบาลกำลังดูแลพี่กันต์อยู่ เดี๋ยวพอจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายเสร็จแล้วเราค่อยเข้าไปหาพี่เค้าพร้อมกันนะ”

“พี่กันต์เจ็บมากไหมครับ...?” คนถูกถามส่ายศีรษะเป็นคำตอบ เธอลูบศีรษะเจ้าของจมูกแดง ๆ เหมือนอยากจะร้องไห้ออกมาอย่างไรอย่างนั้น

“ดีที่คาดเข็มขัดกับได้ถุงลมช่วยไม่งั้นอาจจะเจ็บหนักกว่านี้ จำไว้นะเชร์ ถ้าจะซื้อรถให้ซื้อคันที่ระบบถุงลมนิรภัยดี ๆ แบบนี้ ถึงมันจะแพงแต่ก็ช่วยเวลาเกิดเรื่องไม่คาดคิดได้ ดีนะที่เป็นวันสิ้นปีรถก็เลยน้อย จากที่จะชนคนอื่นเลยกลายเป็นชนเสาแทน”

“ทำไมเป็นแบบนั้น พี่กันต์ขับรถเร็วเหรอครับ?” ถ้าใช่คงโกรธตัวเองจนไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรถึงจะให้อภัยได้ เพราะเร่งให้บอสรีบไปสถานีตำรวจแท้ ๆ ไม่งั้นเรื่องคงไม่เกิดขึ้น

“เปล่าเลย พี่เค้าหลับในน่ะ”

“หลับใน?”

“จ้ะ” แม่เซ็นเอกสารแล้วยกมือไหว้ตอบพยาบาลหน้าเคาท์เตอร์ “หมอบอกว่าร่างกายอ่อนเพลียเพราะพักผ่อนไม่พอ ไม่รู้อดนอนอะไรขนาดนั้น”

“พักหลังพี่กันต์ก็ไม่ได้งานยุ่งมากนี่ครับ แต่ทำไมถึงกลายเป็นพักผ่อนไม่พอล่ะ?”

“นั่นน่ะสิ”

เขาขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจแล้วปล่อยให้แม่เดินควงแขนไป หรือที่ขึ้นเตียงนอนพร้อมกันก็เพราะอยากให้เขาสบายใจแต่ความจริงแล้วบอสลุกไปทำงานต่อ พยายามทำทุกอย่างให้เสร็จเพราะอยากใช้เวลาอยู่ด้วยกันในช่วงปีใหม่จนไม่ค่อยได้พักเหรอ หรือว่ามีเรื่องเครียดจนทำให้กลับไปนอนไม่หลับเหมือนเดิมอีก

แหลมมองอีกคนที่นอนหลับไม่ได้สติผ่านช่องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ หน้าประตู ก่อนจะหันไปสบตากับแม่ที่ยิ้มบาง ๆ พลางลูบหลังปลอบใจ “เข้าไปอยู่กับพี่เค้าก่อนนะ แม่ขอโทรบอกพ่อก่อน”

“ครับ”

ตลอดเวลาที่คบกัน สิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดอย่างหนึ่งคือการเห็นบอสหลับนาน ๆ โดยไม่ต้องสะดุ้งตื่นเพราะได้ยินเสียงสิ่งรอบข้าง ดังนั้นวันนี้ก็เช่นกัน แหลมค่อย ๆ ดันประตูเข้าไปพร้อมก้าวเข้าหาเตียงคนไข้โดยให้เกิดเสียงน้อยที่สุด

เด็กหนุ่มสังเกตร่างกายอีกฝ่ายด้วยตา ไม่มีรอยแผล ไม่มีส่วนไหนต้องใส่เฝือก แต่นั่นก็ไม่ได้ทุเลาความเป็นห่วงลงไปแม้แต่น้อย เขายกเก้าอี้มาตั้งข้างเตียงแล้วนั่งลง อยากจับมือ อยากแตะต้องตัวอุ่น ๆ แต่ก็ทำได้แค่มองเพราะไม่อยากให้ตื่นเวลานี้

บอสควรได้พักผ่อน จะนอนยาวถึงเช้าเลยก็ได้ เขายังพอมีเวลาจัดการเรื่องไอ้ธูปอยู่ พอเห็นว่าดีขึ้นแล้วค่อยนั่งแท็กซี่กลับไปสถานีตำรวจอีกครั้งมันก็ยังไม่สายเกินไป

“มานานหรือยังครับ...”

“...”

เด็กหนุ่มละสายตาจากมือแกร่งพลางมองใบหน้าซีดเซียวที่ยังคงยิ้มให้แม้จะเพิ่งเจอเรื่องเฉียดตายมา อยู่ ๆ บรรยากาศก็กลับเข้าสู่ความเงียบทั้งที่มีเรื่องอยากพูดมากมาย บอสปลอดภัยแล้วใช่ไหม นั่นคือสิ่งที่เขาถามย้ำกับตัวเองจนกว่าจะแน่ใจ

“เชร์” รอยยิ้มจางหายไปหลังจากถูกแทนที่ด้วยความกังวลเมื่ออยู่ ๆ เจ้าของชื่อก็เอื้อมมาประคองมือ ทุกอย่างเบาเสียจนกันต์คิดว่าน้องคงกลัวเขาเจ็บ “บอกพี่หน่อยได้ไหมครับว่าเกิดอะไรขึ้นกับรอยแผลตรงปากเรา?”

เชร์ไม่ตอบคำถาม เด็กคนนี้เอาแต่ลูบหลังมือเขาเบา ๆ จนน้ำตาไหลอาบแก้ม

“เจ็บไหม...”

“นิดหน่อยครับ จริง ๆ นะ” กันต์ยิ้มยืนยันคำพูด แต่สายตาอีกฝ่ายที่มองมากลับไม่คิดอย่างนั้น “ขอโทษที่ทำให้เครียดกว่าเดิมนะครับ”

“ไม่ใช่เรื่องนั้น...” เชร์เม้มริมฝีปากพยายามกักเก็บความรู้สึกเอาไว้ มีไม่กี่ครั้งที่ทำให้เด็กคนนี้ยอมเงียบไม่ตอบคำถามได้ ครั้งแรกที่เห็นตอนนั่งดื่มเบียร์อยู่ริมหาด

กันต์พาร่างกายที่บอบช้ำให้ลุกขึ้นนั่งพร้อมอ้าแขนออก เขายังคงยิ้มพร้อมพยักหน้าเรียกซึ่งน้องก็เข้ามาสวมกอดหลวม ๆ ราวกับกลัวว่าเขาจะเจ็บกับสัมผัสนี้ “ตรงนี้เจ็บไหม...?”

“ไม่ครับ”

“แล้วตรงนี้ล่ะ?” ชายหนุ่มส่ายศีรษะปฏิเสธ ซิมบ้าน้อยถึงได้วางใจยอมทิ้งน้ำหนักลงมา

“เดี๋ยวไปช่วยธูปกันนะครับ”

“ตัวเองเจ็บอยู่ยังจะห่วงคนอื่นอีกเหรอ... ทำไมพี่ทำแบบนี้?”

“ขอโทษครับ พี่ประมาทเอง”

“ถ้าพี่เป็นอะไรไปแล้วผมจะทำยังไง พี่คิดว่าตัวเองมีร้อยชีวิตเหรอ?” ชายหนุ่มนิ่วหน้ากับการกระชับกอดให้แน่นขึ้น เขายอมเจ็บอีกหน่อยถ้ามันแลกกับความอบอุ่นที่เด็กคนนี้จะได้รับ “อย่าทำให้ผมรู้สึกเหมือนสักวันจะต้องเสียพี่ไปได้ไหม... พี่มีแค่คนเดียวนะ”

คนฟังรู้สึกผิดแต่ก็อบอุ่นใจไปพร้อม ๆ กัน ชายหนุ่มพยักหน้าพร้อมลูบศีรษะปลอบเด็กน้อยที่เคยซนเป็นลูกลิง แต่ตอนนี้กลับร้องไห้สะอึกสะอื้นเพราะโกรธที่เขาพาตัวเองเข้าใกล้ความตาย

“ตอนแรกพี่กะจะนอนสักงีบแล้วค่อยออกไปหาเราตอนช่วงบ่าย”

“แต่ผมก็ทำให้พี่ต้องออกมาตอนเก้าโมง”

“ไม่หาคนผิดได้ไหมครับ เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นบทเรียนของพี่นะ พี่จะไม่ประมาทอีกแล้ว”

“ผมกลัวอะ... ตอนรู้ว่าพี่อยู่โรงพยาบาลผมก็ทำอะไรไม่ถูกเลย” กันต์ไม่เคยคิดว่าจะดึงมุมนี้ของเชร์ออกมาได้ เขาไม่รู้ว่าควรดีใจหรือไม่กับการพิสูจน์ความรักที่แลกมากับน้ำตาน้อง

ชายหนุ่มจูบขมับแฟนเด็กค้างไว้แล้วผละออกมาสบตากัน เขาไล้น้ำตาออกจากแก้มอีกฝ่ายอย่างใคร่รัก พร้อมคิดไปว่าถ้าหากวันนี้ไม่ใช่เสาแต่กลับเป็นรถคันอื่น ป่านนี้เรื่องราวมันคงบานปลายจนอาจทำให้คนตายได้

“พักผ่อนไม่พอเหรอ?”

“นิดหน่อยครับ คือพี่มัวแต่ทำบางอย่างจนไม่ได้นอน”

“ทำอะไร บอกได้ไหม?”

“ขอไม่บอกตอนนี้ได้ไหมครับ ช่วยธูปเสร็จก่อนแล้วจะบอกว่ามันคืออะไร” แฟนเด็กไม่ได้ทำตัวทะโมนคาดคั้นเอาคำตอบเหมือนอย่างเคยแล้ว เชร์เพียงจ้องตากันแล้วพยักหน้าอย่างว่าง่าย ราวกับว่านาทีนี้ยอมให้เขาทุกอย่างแล้วขอแค่หายไว ๆ ก็พอ

“แม่พี่ออกไปคุยโทรศัพท์เดี๋ยวก็คงมา ตอนนี้พี่นอนพักก่อนนะ ผมจะนั่งเฝ้าเอง” แหลมลุกขึ้นนั่ง ปาดน้ำหูน้ำตาลวก ๆ พยายามไม่แสดงความอ่อนแอมากไปกว่านี้ บอสโอเคแล้วก็เห็น ๆ กันอยู่

“ตรงนี้เหรอครับ?” กันต์ก้มลงมองเก้าอี้ตัวนั้น ก่อนจะกลับมาให้ความสนใจเจ้าของจมูกแดง ๆ อีกครั้ง

“อือ”

“เราก็ยังไม่ได้นอนไม่ใช่เหรอ?”

“ผมอดนอนบ่อยแล้ว ทนได้”

เห็นคนเก่งแสดงความต้องการชัดเจนว่าอยากดูแลแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ กันต์ขยับตัวเข้าไปชิดกับเตียงคนป่วยฝั่งซ้ายพร้อมตบท่อนแขนตนเองเบา ๆ ซึ่งอีกฝ่ายก็มองมาพร้อมส่ายศีรษะปฏิเสธ

“ไม่เอา พี่เจ็บอยู่”

“ข้างนี้ไม่เจ็บครับ ไม่เชื่อลองจับดูสิ” เขาโกหกคำโต แต่ถ้ายอมอดทนสักนิดเพื่อแลกมากับความสบายใจของแฟนเด็กมันก็น่าสนใจไม่น้อย

เชร์กวาดสายตามองเหมือนพยายามเช็กด้วยตัวเองว่าประโยคเมื่อครู่มีความจริงมากแค่ไหน  ผ่านไปชั่วอึดใจซิมบ้าน้อยก็ค่อย ๆ พาตัวเองขึ้นมาบนเตียงคนไข้พร้อมบดเบียดเข้าหาอ้อมกอดช้ำ ๆ ของเขา

“ได้แค่แป๊บเดียวนะเดี๋ยวแม่พี่มา...”

“โอเค ถ้าแม่มาแล้วเดี๋ยวพี่รีบกระโดดลงไปนั่งเก้าอี้เลย -- โอ๊ย!”

“มันต้องผมดิ!”

“เมื่อกี้เจ็บนะครับ” เขามองเด็กน้อยที่นอนซบอกทำเหมือนไม่สนใจ แต่สุดท้ายก็แอบลูบจุดที่ฟาดมือลงไปราวกับจะโอ๋ย้อนหลังอย่างไรอย่างนั้น

“ห้ามตายนะ”

“ยังไม่ได้สร้างบ้านอยู่ด้วยกันเลย พี่คงไม่ยอมตายง่าย ๆ หรอกครับ”

“ผมรักพี่” กันต์เลิกคิ้วกับคำบอกรักที่ใช่ว่าอีกฝ่ายจะพูดมันให้ได้ยินบ่อย ๆ ไหนจะจับมือเขาไปจูบซ้ำ ๆ อย่างออดอ้อนเอาใจ คนเจ็บที่มองทุกการกระทำอยู่จึงก้มลงไปจูบศีรษะทุยเบา ๆ

“วันนี้อ้อนผิดปกติหรือเปล่าครับ?”

“ผมพูดจริง ๆ นะ วันนึงเราอาจจะเลิกกันแต่ผมก็ยังอยากให้พี่กินอิ่มนอนสบายอะ อย่าเจ็บอย่าป่วยได้ไหม พี่ต้องดูแลตัวเองให้ดีดิ”

“แต่ถ้าเชร์อยากให้พี่ดูแลตัวเอง อยากให้ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง พี่จะทำตามนะครับ แต่อย่าพูดเรื่องเลิกกันเลยนะ ใจพี่ไม่ได้เผื่อไว้เพื่อเรื่องนั้นหรอก”

“อือ ไม่พูดแล้ว เพราะผมก็ไม่ได้เผื่อเหมือนกัน” เด็กหนุ่มเว้นจังหวะไปครู่หนึ่งแล้วเงยหน้าขึ้นสบตาเพื่อยืนยันกับตัวเองว่าบอสยังสบายดี

“พี่ไม่ได้เป็นอะไรมาก เราไม่ต้องกังวลแล้วนะครับ พอแม่กลับมาแล้วเดี๋ยวเราจะไปช่วยธูปกัน เราว่าไงครับ?”

แหลมพยักหน้าแล้วซบลงกับอกกว้างของคนเจ็บเพื่อหยุดพักกายและใจ ‘บอสไม่เป็นอะไรแล้ว’ เขายังคงปลอบใจตัวเองด้วยคำนั้น เด็กหนุ่มขอเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ หลังจากนั้นค่อยลุกขึ้นมาหาวิธีช่วยไอ้ธูปอีกที ซึ่งหวังว่าจะทำอะไรได้มากกว่าตอนเรื่องของเทียน



*



ไม่ได้คิดจะเล่า... แต่ระหว่างทางที่คนขับรถแม่บอสมาส่งก็โดนถามว่าพ่อเลี้ยงกับแม่ไอ้ธูปไปถึงสถานีตำรวจเพื่ออะไรถ้าเจตนาไม่ใช่เพื่อช่วยลูก เขากะจะเกริ่นให้ฟังคร่าว ๆ แต่สุดท้ายก็กลายเป็นหมดเปลือกเสียได้ แถมด่าไอ้เชี่ยลุงนั่นไปเยอะด้วย

“พี่ศักดิ์กลับเลยนะครับไม่ต้องรอ”

“ครับคุณกันต์” คนขับรถขานรับว่าพลางโค้งศีรษะให้ลูกเจ้านาย ชายหนุ่มเลิกคิ้วมองอีกคนที่ยื่นมือมา พร้อมพูดเบา ๆ ว่า ‘จับไว้เดี๋ยวล้ม’ ซึ่งคนรักแฟนเก่งอย่างเขาก็คงโง่เกินไปถ้าจะปฏิเสธความหวังดีของซิมบ้าน้อยที่อยากช่วยให้เขาเดินได้สะดวกขึ้น

“พี่น่าจะนอนต่ออีกสักคืน”

“นอนเฉย ๆ ก็ไม่หายหรอกครับ สู้ออกมาจัดการธุระให้เสร็จแล้วกลับไปนอนทีเดียวเลยคงดีกว่าเป็นไหน ๆ” แหลมไม่เถียงเพราะถ้าเป็นเขาก็คงค้างคาใจ ถึงจะพูดไปอย่างนั้นแต่ลึก ๆ ก็อยากให้บอสรีบเข้าไปช่วยคุยว่าจะเอาไงกับไอ้ธูปดี

CEO โรงแรมใหญ่ขนาดนี้ต้องรู้เรื่องกฎหมายเยอะอยู่แล้ว เขาไว้ใจบอสได้ ทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดีเหมือนที่อีกฝ่ายบอกไว้ เลิกแพนิกได้แล้ว คิดได้อย่างนั้นก็หายใจเข้าลึก ๆ จนเข้าไปถึงด้านในเขาจึงปล่อยมือออก ก่อนจะพบว่าตำรวจทั้งสน.ลุกขึ้นมายกมือไหว้บอสอย่างพร้อมเพรียง

เดี๋ยว...

“สวัสดีครับคุณกันต์ กำลังรออยู่พอดีเลย”

อะไร?

ผู้ชายคนนี้ที่ขับรถเข้ามาตอนสาย ๆ แล้วก็สั่งให้ตำรวจไปทำอะไรสักอย่างอะ เขาจำได้

“ขอโทษที่ให้รอนานนะครับ พอดีผมเจออุบัติเหตุก็เลยมาช้า” บอสยกมือไหว้พร้อมอธิบายด้วยการชี้แขนตนเองที่ต้องใส่ตาข่ายคล้องแขนเพราะแม่บังคับ

“ไม่เป็นไรเลยครับ เอาเป็นว่าเชิญทางนี้ดีกว่านะ ทนายจิระวัฒน์รออยู่ข้างในแล้ว”

เฮ้ย... มันชักจะไปกันใหญ่แล้วไหม... แหลมขมวดคิ้วมองเจ้าของแผ่นหลังกว้างที่กำลังเดินเข้าไปด้านใน ตำรวจนายหนึ่งตรงเข้ามายื่นน้ำดื่มให้ซึ่งบอสก็แสดงความนอบน้อมจนอดคิดไม่ได้ว่าถ้าเป็นกันต์กวินทร์เวอร์ชั่นแรกจะมีความก้มขนาดนั้นไหม

กวาดสายตามองชายในเครื่องแบบทั้งสถานีตำรวจ เหมือนเซ็ทเมื่อคืนจะเปลี่ยนกะไปแล้วถึงได้มีหน้าใหม่ยืนทำหน้าอึน ๆ เรียงรายอยู่โดยรอบ แหลมเดินตรงเข้าไปหาไอ้ธูปขณะที่บอสกำลังคุยกับผู้ชายคนนั้นและคนที่บอกว่าเป็นทนาย

“พี่เชร์!” เจ้าของชื่อหันไปตามเสียง ก่อนจะตรงเข้าไปหาไอ้เด็กกะโหลกในกรงเหล็กที่ดูเหมือนจะตกใจไม่แพ้กัน

“อย่าถามกูนะ เพราะกูก็งง” จนถึงตอนนี้ตำรวจทั้งสน.ก็ยังไม่ยอมนั่ง ทั้งคู่สบตากันก่อนแหลมจะขยับไปถามนายตำรวจที่อยู่ใกล้ตัว “พี่ ๆ ทำไมต้องยืนเหรอครับ?”

“ผู้กำกับสั่งมาน่ะสิ...” ชายในเครื่องแบบหันมาพูดเบา ๆ เหมือนกลัวสามคนนั้นได้ยิน

“สั่งอะไรอะครับ?”

“ให้ต้อนรับหลานท่านผู้การ... คนนั้นที่มากับน้องไง” พูดจบก็ชี้ไปทางบอส เดี๋ยวอีกครั้ง... คือรู้ว่ามีแฟนเป็นคนรวย บ้านมีฐานะแต่ก็... หลานท่านผู้การเลยเหรอวะ?

“ได้ทนายคนดังมาช่วยงี้สบายแล้วน้องเอ๊ย” นายตำรวจอีกคนว่า เขาจึงหันไปมองหน้าไอ้ธูปที่คงเหวอหนักกว่าเดิมอีกกับคำว่า ‘ทนายคนดัง’ นอกจากจะมีลุงแล้วยังมีทีมกฎหมายเบอร์ใหญ่อีก

“คือ --” ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ เหมือนทุกอย่างตอนนี้มันกระโดดถีบความกังวลในใจไปหมดเพราะความใหญ่โตที่ไม่เคยรู้มาก่อน

บอสตอนยืนคุยกับตำรวจและทนายประหนึ่งดีลธุรกิจ แหลมรู้สึกเหมือนตัวเขาเล็กนิดเดียวในโลกใบใหญ่ที่ยังไม่รู้อะไรอีกมาก ชั่วขณะหนึ่งก็ได้แต่คิดว่าถ้าไม่มีบอสตอนนี้เขาจะจัดการปัญหาอย่างไร จะนั่งปวดหัวแล้วฝืนใจติดต่อพี่ ๆ ไปหรือไม่ สุดท้ายเขาก็คงต้องพังวันดี ๆ ของทุกคนสินะ

แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น โชคดีเหลือเกินที่เด็กกะโหลกอย่างเขามีบอสอยู่ในชีวิต

ตำรวจนายหนึ่งถูกเรียกให้ไปคุย ผู้ชายคนนั้นพยักหน้ารับแล้วตรงมาทางนี้พร้อมเปิดประตูห้องขัง

“อะไรครับ?”

“ระหว่างรอศาลตีราคาเดี๋ยวย้ายไปอยู่ห้องรับรองก่อนนะครับ” แหลมกับธูปมองหน้ากันอีกครั้ง และการเข้าไปในห้องนั้นเหมือนจะดีกว่านั่งดมกลิ่นไม่พึงประสงค์ในกรงเหล็ก เพราะผู้กำกับหันมาบอกให้หาข้าวหาน้ำให้ไอ้ธูปกินด้วย แถมยังถามอีกว่าต้องการหมอนกับผ้าห่มหรือไม่




ออฟไลน์ Keane

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-0

ออฟไลน์ หน่วยกล้าวาย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0

(ต่อด้านล่างนะคะ)


“พี่”

“เข้าไปก่อน เดี๋ยวกูคุยกับเขาแล้วจะเล่าให้ฟัง” ไอ้ธูปดูไม่ดีใจ เขามองตามอีกฝ่ายที่เดินตามตำรวจคนนั้นไปก่อนจะชะลอฝีเท้าลงเพราะถูกบอสเรียก

“ไม่ต้องห่วงนะคุณกันต์ เดี๋ยวทางนี้ผมจะจัดการให้เอง”

“รบกวนแล้วนะครับ”

ชายหนุ่มยกมือไหว้ผู้กำกับอีกครั้งกระทั่งอีกฝ่ายออกไปด้านนอก เหมือนผู้กำกับอยู่ยาวจนถึงตอนนี้เพราะรอบอสเลยว่ะ พอเสร็จธุระก็ขับรถแพง ๆ ออกไป ตำรวจที่ยืนเกร็งอยู่นานถึงได้นั่งลงสักที ความเส้นสายทำให้ทำเรื่องเวอร์ ๆ กันได้ขนาดนี้เลยสินะ

“ขอบคุณนะครับคุณจิระวัฒน์ เรื่องนี้คงต้องรบกวนคุณแล้ว”

“ไม่เป็นไรเลยครับคุณกันต์ พ่อคุณช่วยผมไว้มาก เรื่องแค่นี้เล็กน้อยครับ” อื้อหือ... มีความตอบแทนตั้งแต่รุ่นพ่อ...

ธูปไม่อยากคิดในแง่ดีว่าการช่วยเหลือทั้งหมดนี้จะเป็นเพราะน้ำใจ เพราะสีหน้าสมเพชเวทนาของผู้ชายคนนั้นยังคงชัดเจนในความทรงจำของเขา เด็กหนุ่มมองอีกฝ่ายอย่างหวาด ๆ ดวงตาคู่นั้นที่มองมาเหมือนอยากย้ำว่าคำพูดในวันนั้นได้เกิดขึ้นจริงแล้ว

‘แล้วผมจะรอดูว่าคุณจะบินไปไกลได้สักแค่ไหนหลังจากตัดปีกด้วยมือตัวเอง’

“เชร์ออกไปโทรหาแม่ให้พี่หน่อยได้ไหมครับ บอกว่าพุธนี้พี่จะพาเราเข้าไปกินข้าวด้วย” คนถูกวานพยักหน้าแล้วหันมามองเขาพร้อมบีบไหล่ให้กำลังใจ ธูปรู้ว่าผู้ชายคนนี้แค่หาทางให้พี่เชร์ออกไปเพื่อไม่ต้องฟังบทสนทนาที่กำลังจะเกิดขึ้น

“จะสมน้ำหน้าผมเหรอ?”

“อยากทำเหมือนกันครับ ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นช่วงต้นปี”

“อยากพูดอะไรก็พูดเถอะ ตอนนี้ผมทำอะไรไม่ได้แล้ว”

“คุณไม่ต้องทำอะไรหรอกครับ เพราะผมคงไม่บังคับให้ขอโทษหรือขอบคุณ”

“แล้วคุณต้องการอะไร?” ธูปยังไม่วางใจ และเขาไม่รู้ว่าต้องแสดงออกอย่างไรกับความจนตรอกครั้งนี้

“ผมไม่ได้ช่วยคุณเพราะสงสาร แต่ผมทำเพราะเชร์รักคุณ เหตุผลมีแค่นี้ครับ”

“ที่ทำให้คนทั้งสน.แตกตื่นน่ะเหรอที่เรียกว่าแค่นี้?”

“ถึงจะไม่ได้ตั้งใจแต่ก็... ครับ” อีกฝ่ายกล่าวอย่างไม่ยี่หระ ดูเหมือนว่าเขาคงต้องศึกษาข้อมูลผู้ชายคนนี้เสียแล้วว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร “ความจริงเรามีอะไรเหมือนกันหลายอย่างนะ ที่เห็นได้ชัดเลยก็คือชีวิตที่พังไปครึ่งนึง”

อีกฝ่ายนิ่งไปแต่ยังมองมาคล้ายกับว่าอยากให้เด็กคนนี้ลองทบทวนและคิดตาม ธูปไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้ แต่บางทีมันก็อาจจะถึงเวลาแล้วที่เขาต้องลองลืมตาขึ้นรับความเป็นจริง อย่างน้อยก็เพื่อพี่ชายโง่ ๆ นั่นที่แสดงออกให้เห็นจนถึงวินาทีสุดท้ายว่าต่อให้จะเกิดอะไรขึ้นก็จะไม่ทิ้งเขาไว้ข้างหลัง

“ผมเป็นคนหนึ่งที่พังทุกอย่างในชีวิตได้เก่งจนคุณคิดไม่ถึง อยู่กับอีโก้ที่ไม่ว่าอะไรโลกก็ต้องหมุนวนรอบตัวผม ไม่สนใจใคร คิดแค่ว่าตัวเองถูกต้อง เมื่อก่อนคิดแค่ว่าชีวิตมันอาจจะแย่ตรงที่ไม่มีใครคบแต่อย่างน้อยผมก็ยังมีเงินที่ใช้ทำอะไรก็ได้ อยู่ในจุดที่ใคร ๆ ต่างก็ยอมรับ จนมาเจอพี่ชายคุณ”

“...”

“ผมไม่คิดว่าจะเปลี่ยนอะไรได้ แต่พอมีเขาเข้ามาในชีวิตผมเหมือนได้มองเห็นโลกอีกด้านหนึ่ง ด้านที่ทำให้รู้สึกว่าการถูกเห็นใจสักครั้งมันก็ไม่ได้แย่อะไร”

ธูปมองออกไปด้านนอก มองใครอีกคนที่กำลังคุยโทรศัพท์พลางเอานิ้วแตะแผลตรงริมฝีปาก รอยนั่นก็ได้มาเพราะพยายามช่วยเขา

“ผมไม่ชอบความรู้สึกแบบนั้น แต่การทำเหมือนไม่แคร์ไม่รู้สึกอะไรทั้งที่ความจริงก็รู้สึกมันคือการหลอกตัวเอง พี่คุณทำให้ผมกล้ายอมรับความเป็นไอ้ขี้แพ้ในตัวเพื่อยอมรับว่าคนที่เพอร์เฟ็คก็ล้มเหลวกับบางเรื่องได้”

“คุณไม่ได้ดูเหมือนคนล้มเหลว”

“แน่ล่ะ ก็คุณไม่รู้จักผม” กันต์ยิ้มขำพลางหันไปด้านหลัง ก่อนจะพบว่าเด็กแสบกำลังชะโงกหน้าแอบฟังอยู่ไม่ห่างจากตรงนี้มากนักจึงปัดมือไล่ ซึ่งซิมบ้าน้อยก็มองเขาสลับกับน้องชายสลับอย่างหวาด ๆ คงเป็นห่วงว่าคนใจร้ายอย่างกันต์กวินทร์จะทำร้ายใครกลางสถานีตำรวจหรือไม่

“คุณอาจจะไม่อยากรับไว้ แต่ยังไงผมก็อยากพูดอยู่ดี ผมขอโทษที่เคยเหยียดเพศด้วยคำพูดแบบนั้น”

“ผมจะรับไว้”

เหมือนจะโล่งอกแต่ก็พูดได้ไม่เต็มปาก ธูปยังกระดากอายที่จะสำนึกผิดหลังจากทำเรื่องเลวร้ายเอาไว้ เด็กหนุ่มเคยชินกับการทำตัวไม่สนใจโลกเพื่อกลบเกลื่อนความผิดในใจมาตลอด แต่คราวนี้เขาจะไม่ทำอย่างนั้นอีกแล้ว

“ทำตัวดี ๆ กับเชร์หน่อยนะครับ เขารักคุณมากนะ” ลึก ๆ ก็ยังโกรธอยู่ แต่พอเห็นว่าเด็กคนนี้ทำหน้าหงอก็ใจร้ายไม่ลง อันที่จริงก็คิดไว้แล้วว่าจะพูดแย่ ๆ ใส่สักประโยค แต่นั่นก็ในกรณีที่เด็กธูปไม่สำนึก

“ผมไม่ควรได้รับอะไรจากใครอีกแล้ว พี่เชร์ไม่ควรเสียความรู้สึกกับผมอีก”

“โอกาสมีให้คนที่อยากแก้ไข และผมคิดว่ามันคงไม่แย่อะไรถ้าจะรอดูคุณเอากาวติดปีกเข้าไปใหม่”

“...”

“ถึงมันจะมีรอยแผล รอยหัก แต่สักวันมันจะเชื่อมกลับไปจนกลายเป็นส่วนหนึ่งในร่างกายคุณได้อีกครั้ง”

“...”

“ผมเข้มใช่ไหมล่ะ?” ประโยคนี้ทำคนฟังถึงกับเลิกคิ้ว กันต์กำมือป้องปากขำตัวเองที่กล้าเอาคำพูดแฟนเด็กมาใช้ในเวลานี้

“คุณเป็นคนแบบไหนกันแน่?”

กันต์ไม่ได้ตอบคำถามเพราะตัวเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทุกวันนี้เป็นคนแบบไหนกันแน่ บางวันก็จริงจัง เครียดจนเส้นสมองจะแตก แต่พอฟ้ามืดทุกอย่างก็หายเป็นปลิดทิ้งเพราะได้อ้อนเชร์ ไหนจะวันว่างที่เปลี่ยนเข้าโหมดหนุ่มนักรักอีก

“ผมคงต้องไปแล้ว อดทนอีกหน่อยแล้วกันนะครับ เดี๋ยวทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อย”

คนฟังพยักหน้าช้า ๆ แล้วยกมือขึ้นไหว้อย่างไม่คุ้นชิน ซึ่งการที่อีกฝ่ายยิ้มแล้วยกมือไหว้ตอบมันก็ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาไม่มากก็น้อย

“ถึงเชร์จะชอบทำเหมือนเก่ง แต่ความจริงเขาอ่อนไหวมากนะครับ อีกเรื่องหนึ่งที่ผมอยากให้คุณรู้ไว้ว่าเขาไม่ได้ลืมเทียน เธอยังอยู่ในใจเขาเสมอเชื่อผมเถอะ”

ตำรวจยังคงยืนรออยู่ห่าง ๆ เพื่อรอพาเขาเข้าไปห้องรับรอง เรื่องนี้จะจบง่าย ๆ จริงเหรอ เขารู้สึกว่ามันง่ายเกินไปสำหรับคนที่ต้องได้รับบทเรียนร้าย ๆ สักครั้ง แต่ถึงอย่างนั้นอีกใจก็ย้อนแย้งว่าบุญหัวเขาแล้ว

ธูปมองรุ่นพี่ที่นั่งรออยู่บนขั้นบันไดด้านนอก เสี้ยววินาทีหนึ่งที่ความทรงจำย้อนกลับไปเมื่อตอนมัธยมว่าเด็กหนุ่มเคยเห็นภาพนี้มาก่อนตอนทั้งคู่จะไปเตะบอลด้วยกันหลังเลิกเรียน หลังจากนั้นก็ไปนั่งกินนมปั่นหน้าสถานีตำรวจซึ่งแน่นอนว่าตรงนั้นมีพี่สาวของเขาอยู่ด้วย

“ถ้าพี่เทียนยังอยู่ในใจ แล้วคุณคืออะไรสำหรับพี่เชร์?”

ผู้ชายคนนั้นหยุดฝีเท้า หรือประโยคนั้นแค่พูดเพื่อให้สวยหรูเพื่อให้เขาเชื่อในความรักของผู้ชายสองคน เด็กหนุ่มไม่เข้าใจว่ามันยอมได้จริง ๆ เหรอถ้าจะให้คนอื่นอยู่ในใจทั้ง ๆ ที่มีแฟนในชีวิตจริงอยู่แล้ว

“ผมเป็นอะไรสำหรับเชร์น่ะเหรอ?” ผู้ชายคนนั้นเว้นจังหวะไปชั่วอึดใจ ก่อนจะอมยิ้มเล็ก ๆ กับความคิดตนเอง “เรียกว่าปัจจุบันกับอนาคตก็ได้ครับ”

เด็กหนุ่มยืนนิ่งกับคำตอบ เขามองผู้ชายคนนั้นถอดผ้าคล้องแขนออกแล้วตรงเข้าไปดึงแขนคนที่นั่งอยู่ตรงบันไดให้ลุกขึ้น สองคนนั้นดูสนิทสนมจนอดคิดไม่ได้ว่าผู้ชายแบบนั้นมีดีมากแค่ไหนถึงดึงพี่เชร์ออกมาจากโลกที่มีแต่พี่เทียนได้

“กูไปส่งพี่กันต์ก่อนนะเดี๋ยวกลับ --” ยังพูดไม่จบประโยคด้วยซ้ำผู้ชายเส้นสายใหญ่ก็เอามือปิดปากพี่เชร์ไว้เสียก่อน

“ผมจะให้คนมารับคุณไปส่งหอ สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าครับ”

“...”

สองคนนั้นเดินออกไปจากสถานีตำรวจแล้ว และน่าแปลกที่ตอนนี้เขาไม่รู้สึกรังเกียจที่เห็นผู้ชายคนนั้นกอดคอพี่เชร์ เป็นเพราะเพิ่งได้รับความช่วยเหรอเหรอ... ก็คงใช่ แต่นอกเหนือจากน้ำใจที่ไม่รู้ว่าจะหาเงินจากไหนมาคืนให้ ธูปก็ได้มองเห็นความรักอีกรูปแบบหนึ่งที่เขาอาจจะยังไม่เข้าใจอย่างเต็มร้อยในทันที

ปัจจุบันกับอนาคตงั้นเหรอ?
ทำไมถึงมั่นใจในความรักขนาดนั้นนะ?



*




“มีคนรู้จักเป็นคนใหญ่คนโตแต่ไม่เคยบอกผมเลยคือไร พี่น่าจะเกริ่นไว้บ้างผมจะได้ไม่ช็อกตอนเดินเข้าโรงพัก”

“พี่ก็ไม่รู้ว่าทางนั้นจะเล่นใหญ่นี่ครับ ก่อนออกไปหาเราก็รีบโทรหาทนายแล้วก็ต่อด้วยลุงขอให้เขาช่วยเรื่องนี้หน่อย สุดท้ายก็นั่นแหละลุกขึ้นยืนทั้งสน.”

“ผมรู้ว่าพี่ฟิน ตอนผู้กำกับออกมารับนี่เก๊กหน้าใหญ่เลยน้า” คนถูกแซวอมยิ้มนั่งยืดหลังตรง ก่อนจะชำเลืองมองเด็กน้อยข้างตัวที่สุดท้ายก็ยิ้มได้เสียที

“พี่เท่ล่ะสิครับ...”

“เข้มจัดอะแฟนผม...” 

ทั้งคู่กระซิบกระซาบบนรถเมล์ที่มีผู้โดยสารอยู่เพียงไม่กี่คน นานแค่ไหนแล้วที่กันต์ไม่ได้เดินทางแบบนี้ มันเคยดูวุ่นวายหากมองจากรถส่วนตัว แต่ในวันนี้เขารู้สึกดีกับรถเมล์เป็นพิเศษ กันต์มองแฟนเด็กที่แบมือออกมาซึ่งเขารู้ดีว่าหัวใจจะพองโตได้หากวางทับลงไป

ชายหนุ่มอมยิ้มกับเรียวนิ้วที่สอดประสาน แฟนเด็กที่เคยร้องไห้จนตัวสั่นในตอนนี้เอาแต่จูบหลังมือเขาแล้วแนบแก้มลงไป เห็นแผลตรงปากน้องทีไรก็โมโห กล้าดีอย่างไรมาทำให้ซิมบ้าน้อยของเขาต้องเจ็บ

“อย่าแคนเซิลนัดเลยนะครับ คืนนี้พี่อยากอยู่กับเราจริง ๆ นะ”

“อือ ไม่ไปไหนแล้ว จะอยู่กับพี่ยันปีหน้าเลย”

คนถูกอ้อนเริ่มเมื่อยแก้มเสียแล้ว กันต์หันซ้ายขวาเพื่อเช็กว่ามีคนมองอยู่หรือไม่ ก่อนจะก้มลงไปหวังจะหอมแก้มแต่เด็กแสบก็ทำลายความตั้งใจนี้ด้วยการหันหน้ามาจนกลายเป็นว่าริมฝีปากแตะกันในที่สุด

“แบบนี้พิเศษพอสำหรับปีใหม่ไหมอะ?” เด็กที่ไม่เคยอินกับวันพิเศษถามเบา ๆ อย่างคาดหวังคำตอบ และคนที่มองเห็นความตั้งของแฟนเด็กก็อมยิ้มพลางพยักหน้า กันต์เอนศีรษะลงไปเล็กน้อยพร้อมเอานิ้วชี้จิ้มแก้มตัวเอง ซึ่งเจ้าตัวดื้อก็ดับความโรแมนติกด้วยการอ้าปากพยายามจะงับเสียอย่างนั้น

“จะหวานให้สุดทางมันไม่ได้เลยใช่ไหมครับ?” นั่น พอทักเข้าหน่อยก็หัวเราะไม่มีเสียงทำหน้าเป็นลิงเป็นค่าง

“เออ ว่าจะถามพี่ตั้งแต่ตอนอยู่โรงพยาบาลแล้วว่าไปทำอะไรมา ทำไมมือมีแต่รอยติดพลาสเตอร์?”

“นักเลงย่อมมีบาดแผลครับ”

“นักเลงมากม้างงงงงงงงงงงงงงงงงง” แหลมทำหน้าแหย มองอีกคนตั้งแต่หัวจรดเป้ากางเกงไงก็ไม่เห็นแววนักเลงออกมาจากผู้ชายคนนี้

“เดี๋ยวก็รู้ว่าเพราะอะไร”

“ฮั่นแน่ จะเซอร์ไพรส์ก็บอก” เขายิ้มพลางชี้หน้าอย่างรู้ทัน

“เมื่อยจังครับ ของีบก่อนนะ”

คนถูกจับได้แกล้งเฉไฉ แหลมเบ้ปากพลางมองอีกฝ่ายซึ่งเลื้อยตัวลงไปกับเบาะรถเมล์จนเอนซบไหล่เขาได้ คนสูงไม่มากจึงพยายามนั่งยืดหลังตรงเพื่อให้บอสไม่ปวดคอจนเกินไป อีกทั้งยังประคองศีรษะคนง่วงให้นอนในท่าสบาย ๆ ก่อนจะจุ๊บศีรษะเบา ๆ เฮ้อ แฟนไอ้แหลมน่ารักจังน้า

“ทำ ASMR หัวข้อบอกรักพี่กันต์เร็วครับ”

“นี่ก็อ้อนไม่หยุดเลยเว้ย นอนไปเลย เดี๋ยวถึงแล้วจะปลุก”

“เชร์รักพี่กันนะค้าบ”

“ผมไม่ได้ทำเสียงแบบนั้นปะ?! -- เอ่อ ขอโทษครับ”

ถึงคนบนรถเมล์จะมีไม่กี่คนแต่การแหกปากเมื่อครู่ก็เรียกความสนใจได้ไม่น้อย แหลมมองคนรักที่กำลังหัวเราะในลำคอ จึงแกล้งเขย่าเบา ๆ ซึ่งศีรษะที่ซบอยู่บนบ่าก็โคลงตามและเขาก็เป็นคนประคองไว้เพราะกลัวบอสหัวทิ่ม แล้วดูดิ... มีความบดเบียดออดอ้อนกับซอกคออีก มันเขี้ยวจังโว้ย

แหลมเท้าศอกกับหน้าต่างรถพลางทอดสายตาออกไปในถนนโล่ง ๆ ในวันสิ้นปี อากาศวันนี้ยังคงร้อนเหมือนกับทุกวัน วินมอเตอร์ไซค์ตรงนั้นก็ยังคงทำงานไม่ต่างจากวันปกติ โลกยังคงหมุนเหมือนเดิม แต่คนครึ่งหนึ่งอาจจะทำให้วันนี้พิเศษมากขึ้น

สำหรับเด็กอย่างเขามันอาจจะหนักหนาจนมีน้ำตาไปบ้าง แต่ถ้ามีบอสอยู่ข้าง ๆ แบบนี้ปีหน้าก็คงไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว


TBC


อะ ตอนหน้าจบจริง ๆ แล้ว รักกันทั้งตอนไปเร้ย เหม็น ๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-10-2018 12:43:30 โดย หน่วยกล้าวาย »

ออฟไลน์ killua1a

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 138
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ PsychePie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
พี่กันต์โคต so damned ป๋า
นังแหลมนี่โชคดีจริงๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ pornwicha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
กำลังจะหลับ แวะเข้ามาดูอู้ยยยฟิน :z3: o13

ออฟไลน์ nevergoodbye

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
ฮืออ พี่กันต์สูงเกินเอื้อมจริงๆ
เป็นบุญของนังแหลมมันแล้วค่ะเจ๊พร  :ling1:

ธูปไม่ต้องเครียดนะ เงินประกันเดี๋ยวก็ได้คืน
ไว้ทำตัวดีๆตอบแทนพี่แกดีกว่า

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ maplub_oyaya

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ เนเน่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
รู้้้้อย่างเกียวว่าแหลมโคตรโชคดีมีครอบครัวดีมีเพื่อนดีและมีแฟนดีฝากน้องด้วยนะคะพี่กันต์จากอิป้าข้างบ้าน

ออฟไลน์ didididia

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
รักกันจนอิจฉาไปหมดแล้วววววว

ออฟไลน์ Naamtaan22

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ให้ตายสิ  นั่นคือคำอุทานในใจเราตอนที่อ่านถึงว่าพี่กันต์รถชนเสาไฟ อินเว่อร์จนน้ำตาซึมเลย แล้วก็มาอึ้งต่อกับความเส้นใหญ่ของบอส แล้วสุดท้ายก็เคลียร์ทุกอย่างแบบคนเข้มๆ อ่ะบอกได้แค่ว่าอิจเชร์มากกกกกกกกกก

ออฟไลน์ yasperjer

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
ฮือ ตอนแรกเปิดมาแบบเครียดเลย ยิ่งตอนบอสรถชนนะ จะล้องงงงง
ก็คิดในใจว่าวันอะไรของเชร์รู้กแม่ ดีที่บอสไม่เป็นไรมากนะคะ  :hao7:

แหมมมมมมมม วันกันบนรถเมล์เลยนะคะ เหม็นฟามรัก  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
เวลาฉุกเฉินมีเส้นสายไว้บ้างก็ดีเหมือนกันนะ
บอสเป็นผู้ใหญ่ที่พึ่งพาได้ ไม่โมโหเกรี้ยวกราดที่แฟนไปช่วยคนอื่นที่ไม่ใช่เรื่องของตัว
ดีอะ ใส่ใจทุกคนที่อยู่รอบตัวน้อง อยู่ด้วยแล้วอบอุ่น
สำหรับเด็กธูปคงได้บทเรียนเป็นอย่างดี ไม่อยากผิดซ้ำก็ต้องเชื่อฟังพี่แหลมนะหนู

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
 :o12: ขวัญเอ้ย ขวัญมานะคะบอส ใจหายใจคว่ำหมด ฮือ

ส่วนเรื่องที่เกิดบนสน.ตอนกันต์จะมานั่น นั่นล่ะ มันสะท้อนอยู่ลึกๆ

อ่านจนถึงทอล์ค แอบตกใจนิดๆ จะจบแล้วเหรอคะ (กอดขา)

ถ้าจบแล้วคงคิดถึงขี้ซุ่ยมากแน่ๆ ไหนจะบอสอีก

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
อื้อหือ จะร้องและ ธูปติดคุก บอสรถชน

แต่กลายเป็นเหม็นความรักแทนนนน อ้อนแล้วอ้อนอีก




ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3

ออฟไลน์ หน่วยกล้าวาย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0

 
 
 
#ชอกะเชร์คู่กันต์
ตอนจบ
คบวันนั้นปีใหม่ก็ยังรักกันอยู่ปะ?




“ไหวแน่นะ?”

แหลมหรี่ตามองคนข้าง ๆ ที่หมดสภาพจนต้องยืนพิงลิฟต์ พอสิ้นสุดคำถามเจ้าของใบหน้าอิดโรยก็หันมาพยักหน้าพร้อมยิ้มเล็ก ๆ บอสคงเหนื่อยมาก และสิ่งเดียวที่อีกฝ่ายควรทำคือพาสารร่างพัง ๆ ไปนอนฟื้น HP จนกว่าจะดีขึ้นมากกว่าจะคิดเรื่องเดทในวันสิ้นปี

มือใหญ่ที่เคยดีแต่ชี้นิ้วใช้สั่งคนอื่นตอนนี้กำลังแบออกมาราวกับว่าถ้าได้รับความอบอุ่นจากมือสาก ๆ ของเด็กกะโหลกคนนี้เรี่ยวแรงที่หายไปก็คงได้คืนมาง่าย ๆ เหมือนมีพรีสเลเวล 99 มาฮีลให้ ซึ่งแหลมก็คว้ามือนี้เอาไว้แล้วสอดประสานนิ้วหลวม ๆ

ไม่กล้าจับแรงเพราะกลัวบอสเจ็บ ถึงปากจะพูดว่าโอเคแต่ข้างในคงฝืนอยู่ ต้องฮึบไว้สุดฤทธิ์เพราะกลัวเขาหาว่าไม่เท่

“เดี๋ยวพี่ทำแผลให้นะครับ”

ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงสวนกลับไปว่า ‘ดูสภาพตัวเองก่อนแล้วค่อยห่วงคนอื่น’แต่ตอนนี้แหลมแค่ยักคิ้วกวนแล้วปล่อยให้แฟนจ๋าลูบหัวเหมือนเป็นลูกหมาเชื่อง ๆ ที่พร้อมจะทำตามคำพูดเจ้านายทุกอย่าง

แหลมโอบเอวคนร่างกายบอบช้ำจากอุบัติเหตุออกจากลิฟต์ ตอนแรกก็เป็นห่วงว่าบอสจะไปทำงานอย่างไรเพราะได้ข่าวว่ารถด้านหน้าจูบเสาไฟแรงมากจนต้องซ่อมยาว ๆ แต่พอนึกขึ้นได้ว่ายังมีเบนซ์เอสคลาสอีกคันปัญหานั้นจึงหมดไป อีกอย่างแม่คงไม่ปล่อยให้ลูกชายผู้เป็นที่รักได้แตะต้องพวงมาลัยหรือเอื้อมฝ่าตีนไปเหยียบคันเร่งทั้ง ๆ สภาพอย่างนี้แน่ จนกว่าหมอจะบอกว่า ‘ลูกชายคุณหญิงหายดีแล้วนะครับ’ นั่นแหละถึงจะโอเค

คิดอยู่ว่าพอส่งบอสเข้านอนเสร็จก็กะจะไปเดินซุปเปอร์มาเก็ตแถว ๆ นี้ ในเมื่อไปฉลองข้างนอกไม่ได้ก็ควรหาซื้ออะไรมาทำกินกันเอง เอาแบบที่สะดวกต่อคนปากแตกและบำรุงร่างกายอันชอกช้ำของบอสด้วย บุญบาป เป็นปีใหม่ที่ทุลักทุเลสุดตั้งแต่เกิดมา

ก่อนหน้านี้เห็นบอสโทรไปย้ำกับลุงเรื่องไอ้ธูปและก็ได้รับคำยืนยันแล้วว่ามันจะรอดจากคดีนี้ เอาจริงนะ ไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่เลยว่ะกับวิธีแก้ไขที่ใช้เส้นสายเข้ามาช่วย ซึ่งบอสก็อธิบายให้เข้าใจว่าโลกนี้มันเป็นอย่างไร ก็รู้นะ แต่บางทีมันก็แปลกใหม่สำหรับเด็กที่อยู่กับความยุติธรรมมาตลอด
 

‘การใช้เส้นสายมันไม่ใช่เรื่องดี แต่บางครั้งเราก็จำเป็นต้องทำเพื่อไม่ให้ชีวิตยุ่งยาก โลกที่พี่อยู่มันก็เป็นสีเทา ถ้าพี่ไม่ทำคนอื่นก็อาจจะใช้มันทำกับพี่ก็ได้’
‘ที่พี่พูดก็ถูก สังคมที่เราอยู่มันต่างกัน เด็กอย่างผมคงอยากทำให้เรื่องมันผ่านขั้นตอนยุติธรรม แต่สำหรับบางเรื่องในสังคมของพี่ความยุติธรรมมันอาจจะแย่กว่าก็ได้’
‘ขอโทษที่ร้ายกาจนะครับ’
‘ผมต้องขอบคุณพี่ดิถึงจะถูก พูดก็พูดเหอะ ผมเชื่อไอ้ธูปนะ ถึงมันจะเป็นเด็กห่าเหวดูไม่น่าไว้ใจ แต่ถ้ามันทำจริงคงตะโกนใส่หน้าผมไปแล้ว มันไม่ใช่เด็กโกหกเนียนหรอก’
‘เดี๋ยวรอดูครับ ถึงจะช่วยออกมาได้แต่พี่ก็ยังอยากรู้อยู่ดีว่าความจริงเป็นยังไง’
‘ฝากด้วยนะ ถึงพี่จะไม่มีลูก แต่ก็เป็นพ่อพระไปแล้ว’
‘...จะเล่นมุกนี้จริง ๆ เหรอครับ?’
‘555555555555555555555555555555’


พอมาถึงหน้าห้องคนเจ็บก็ยืนพิงผนังแล้วอมยิ้มอย่างผิดสังเกต จะบอกว่ามองเพราะรักและแรงพิศวาสก็คงไม่ใช่ แบบนั้นน่ะไอ้แหลมดูออก

“อะไรอะ?” บอสไม่ตอบคำถาม แต่กลับเอื้อมมือขึ้นมาลูบศีรษะเขาก่อนจะค่อย ๆ ไล้มือลงมาหยุดที่แก้มแล้วคลึงเบา ๆ ที่ริมฝีปากล่าง

“ทำไมถึงน่ารักขนาดนี้ล่ะครับ?”

“อารมณ์ไหน อยู่ดี ๆ ชม?” หรือจะเป็นผลพวงจากขับรถชนเสา บอสถึงได้ดูเหมือนคนลอย ๆ ไปกับฟองสบู่ความรักอย่างนี้

“ที่จริงพี่อยากพูดบ่อย ๆ แต่ก็ต้องห้ามปากตัวเองไว้ เพราะรู้ว่าคนบางคนจะขมวดคิ้วใส่อย่างนี้ไง” นั่น ไม่ทันได้ตั้งตัวหน้าก็แหงนขึ้นเพราะถูกจุ๊บหน้าผาก แหลมยกมือขึ้นทาบรอยนั้นพลางเงยหน้ามองคนรักที่หันไปเปิดประตูห้องทั้งที่ยังไม่ทิ้งรอยยิ้มไปไหน

“ดีใจที่ได้อยู่กับผมอะดิ๊”

“ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเลยนะครับน่ะ” เล่นมุกเก่งงงงงง แหลมหรี่ตามองคนอายุมากกว่าที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่พลางจูงมือเขาเข้าไปด้วยกัน

“รีบนอนเลยนะ ตื่นแล้วค่อยอาบน้ำ” รีบดักคนรักสะอาดก่อน ถ้าเกิดเป็นคนสกปรกเหมือนกันไอ้แหลมคงปล่อยเซอร์ไปแล้ว

“พี่ขอวิ่งผ่านน้ำก่อนได้ไหม ตัวเหนียว ๆ แบบนี้นอนไม่สบายตัวเลยครับ” แต่ก็ชอบตอนเวลาบอสหันมาขอกับเรื่องที่จะไม่ฟังก็ได้อะ ก็แค่พูดว่า ‘พี่จะอาบ!’ แล้วคว้าผ้าขนหนูขึ้นมาสะบัดไปข้างหลังแบบคูล ๆ แค่นั้นก็จบแล้วปะ ไอ้แหลมไม่ได้เรื่องเยอะวึ่นวือขนาดนั้น

แต่เขาก็มองหน้าติดอ้อนนิด ๆ ของคนตรงหน้าแล้วแสร้งทำเป็นขมวดคิ้วอย่างคนฟอร์มจัด “เคยวิ่งได้ที่ไหนล่ะเราอะ น้อยสุดก็สิบนาทีแล้ว”

“เดี๋ยวพี่ทำให้ดู คราวนี้จะทำสถิติสามนาทีให้ได้เลย” มันเขี้ยวว่ะ ง่วงจะตายอยู่แล้วยังมายิ้มแป้นแล้นใส่อีก ถ้าทรุดอีกรอบเดี๋ยวรู้เรื่อง


จะสมน้ำหน้าเหรอ? -- เปล่า! จะแบกไปนอนเตียง!


ข้างในมืดสนิทจึงเอื้อมมือไปหวังจะเปิดไฟระบบทัชสกรีน แต่ยังไม่ทันเจอแสงสว่างตัวเขาก็ถูกรวบกอดจากด้านหลังไว้เสียอย่างนั้น แหลมยืนนิ่งพลางหันไปมองเจ้าของจมูกโด่งที่สูดหอมซอกคอเขาอย่างไม่รังเกียจ พร้อมวงแขนที่กระชับกอดแน่นจนกังวลว่ากระดูกแหลม ๆ บนร่างกายเขาจะทิ่มโดนรอยช้ำเข้าให้

“อะไรเนี่ย เดี๋ยวก็เจ็บ”

“ไม่เท่าตอนคิดว่าทำยังไงก็ไม่ได้ใจเราหรอกครับ ตอนนั้นพี่เจ็บกว่านี้อีก”

“แหม่ ย้อนอดีตเก่ง ตอนนี้ก็ได้มากกว่าใจแล้วปะ?” อ้อนทางคำพูดไม่พอ ยังมีความหัวเราะเบา ๆ แล้วงับคอเขาอีก คนเพิ่งขับรถจูบเสามีความสุขเก่งจังโว้ย

“จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่อยากเชื่อเลยว่าเรายอมเป็นแฟนพี่แล้ว”

“ก็ถ้าหลังจากจูบกันคืนนั้นแล้วพี่ยังหลบหน้าผมเรื่อย ๆ มันก็คงไม่เกิดขึ้นหรอก”

“นั่นสิครับ ขอบคุณที่วันนั้นโมโหใส่พี่นะ”

“ทำไมอยู่ ๆ พูดเรื่องเก่าขึ้นมา เริ่มแก่แล้วนะเราอะ” เขาเอื้อมมือไปเปิดไฟแล้วหันหน้าเข้าหาอีกฝ่ายที่จ้องมองมาเหมือนอยากยืนยันกับตัวเองว่าเด็กกะโหลกมีตัวตนอยู่จริง

“พอเห็นเชร์อยู่กับพี่ในวันพิเศษอย่างนี้พี่ก็อดคิดไม่ได้น่ะว่าเริ่มแรกเราเคยเป็นยังไงก่อนจะหลงกลพี่ได้”

“เพราะผมพลาดไง”

“ระยะยาวด้วยนะครับ ไม่ใช่เล่น ๆ”

“เดี๋ยวนี้กวนเก่งน้า”

คนถูกแซวยิ้มตาหยีขณะถูกแฟนเด็กบีบแก้มทั้งสองข้าง เหมือนต่างคนต่างมันเขี้ยวกันและกัน ซึ่งชายหนุ่มไม่รู้ว่าจุดสิ้นสุดของความหลงแฟนอยู่ตรงไหน เชร์ไม่เคยหยุดน่ารัก ไม่เคยทำให้เขารู้สึกว่า ‘อ่า หมดช่วงโปรโมชั่นแล้วสินะ มันคงถึงเวลากลับไปมีชีวิตเหมือนปกติแบบที่ไม่ต้องขับรถไปเมืองเอกแทบทุกวันแล้ว’


เชร์จะคิดเหมือนกันไหม?
การมีผู้ชายอย่างกันต์กวินทร์อยู่ในชีวิตมันเป็นเรื่องดีสำหรับเด็กคนนี้หรือเปล่า?


“งั้นมาสร้างความทรงจำดี ๆ กัน สิ้นปีหน้าคนแก่จะได้อมยิ้มแก้มแตกเวลานึกถึงวันนี้”

“อย่างเช่นอะไรดีครับ จ้ำจี้เหรอ?”

“ดูสภาพตัวเองก่อนนนนนนนนนน” เด็กแสบลากเสียงยาวประชด เขาจึงหลุดขำออกมาอย่างห้ามไม่ได้ “ยืนยังจะทรงตัวไม่ไหวจะเอาแรงจากไหนมาป๊าบผมเหรอ?”

“ออนท็อปสิครับ เราทำมันได้เยี่ยมเลยนะ...” แหลมทำมือปัด ๆ เหมือนรำคาญกับบทสนทนาแสนทะลึ่งที่ทั้งคู่เดินมาไกลเกินกว่าจะกระดากอายแล้ว

“เจ็บแบบนี้เดี๋ยวช่วยอาบน้ำให้ดีกว่า” พอพูดไปอย่างนี้คนบางคนก็ตาเป็นประกายเลย เป็นเบบี๋เหรอ ทำไมต้องอินเวลามีคนบอกว่าจะอาบน้ำให้

พอหมดมู้ดอินเลิฟหน้าประตูห้องแล้วเด็กหนุ่มจึงเดินเข้าไปข้างใน อันดับแรกต้องเตรียมน้ำอุ่นใส่อ่างก่อนแล้วพอขัด ๆ ถู ๆ ให้คนเจ็บเสร็จค่อยส่งเข้านอน หลังจากนั้นค่อยไปคิดเรื่องทำข้าวเย็น

แต่พอเข้าไปถึงห้องนั่งเล่นบรรยากาศโดยรอบก็กระชากคอเขาไว้ให้หยุดยืนอยู่ตรงนี้ ลูกโป่งหลากสีลอยติดเพดานนั่นมันใช่สิ่งที่ควรอยู่ในห้องหรูหรานี่เหรอ ไหนจะผนังห้องอีก มันถูกตกแต่งด้วยสิ่งต่าง ๆ นานาจนดูออกได้ง่าย ๆ เลยว่าห้องนี้ต้องถูกจัดเตรียมไว้เพื่อปาร์ตี้ปีใหม่แน่ ๆ


‘HAPPY NEW YEAR BABY ♥’


ตรงนั้นมีฟ้อนกระดาษแบบรู้เลยว่าไม่ได้ซื้อสำเร็จมาติดกาวแปะแต่อย่างใด คงมีใครสักคนในโลกลงมือร่างมันด้วยดินสอแล้วใช้กรรไกรตัด ซึ่งก็ออกมาดูทุลักทุเลแต่ก็น่ารักจนแอบคิดไปว่าถ้าบอสทำเองคงเอาไปล้อย้อนหลังได้

บนโซฟามีตุ๊กตาหมีตัวใหญ่เท่าควายนั่งทำหน้าโง่ ๆ อย่างไร้เหตุผล และถ้าก้มลงต่ำก็จะเห็นแจกันกุหลาบนับร้อยตั้งอยู่บนพื้นพร้อมกระดาษสีสวยกับริบบิ้นซึ่งถูกตัดไปได้เพียงครึ่งเดียว


อย่าบอกนะ...


“ชอบไหม?” คนถูกถามแค่หันไปทำตาเหลือกใส่ผู้ชายตัวใหญ่ที่เข้ามากอดเขาอีกครั้งพร้อมฟัดหอมแก้มซ้ำ ๆ อย่างเอาอกเอาใจ นี่มันใช่ห้องของคนที่วางแผนว่าจะออกไปเที่ยวกับเขาตอนบ่ายสามเหรอ เป็นอะไรไหนพูดซิ

“พี่ทำเองหรือว่าจ้างชาวบ้านมาทำให้?” เขาฉายแววตาสงสัย ซึ่งถ้าอีกฝ่ายตอบอย่างหลังก็คงไม่แปลกใจและก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไรด้วย เพราะเข้าใจว่าเนเจอร์ของบอสคือคนชอบใช้เงินแก้ปัญหาอยู่แล้วไง

คนที่สวมกอดแฟนเด็กให้คำตอบด้วยการแบมือทั้งสองข้างออกให้ดู โชว์รอยพลาสเตอร์ที่ยังเจ็บ ๆ แสบ ๆ อยู่หากมันสัมผัสโดนอะไรสักอย่าง

“ดูสิครับ ไอ้แดง ๆ นั่นกับกระดาษบนผนังทำพี่เป็นแผลไปหมดเลย” ใบหน้าหล่อโน้มลงมากระซิบพร้อมพยักหน้าไปทางแจกันกุหลาบเป็นร้อย ๆ ดอก พอถึงตอนนี้ไอ้แหลมก็พอจะรู้ทันแล้วว่าอะไรเป็นอะไร จึงจับมือแกร่งขึ้นมามองใกล้ ๆ แล้วเป่าลงไปเบา ๆ

“หายยัง?”

“ถ้าเชร์บอกว่าชอบห้องนี้มากมันก็จะหายทันทีเลยครับ”

“เวอร์ อย่าบอกนะว่าที่ไม่ได้หลับไม่ได้นอนเพราะเตรียมของพวกนี้?” ถ้าใช่ก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว ไม่แน่ใจด้วยว่าจะดุลงไหม ซึ่งบอสก็พยักหน้า พร้อมมองมาเหมือนอยากขอความเห็นใจในความพยายามทั้งหมดนี้

“อย่าโกรธพี่เลยนะครับ พี่ไม่เคยทำแบบนี้ให้ใครมาก่อนก็เลยไม่รู้ว่ามันต้องใช้เวลาเตรียมตัวนานกว่าที่คิด ระหว่างทำพี่ก็รีบแล้ว พลาดบ้าง ทำถูกบ้าง แต่พอหันไปดูนาฬิกาทีไรเวลานัดของเรามันก็ใกล้เข้ามาทุกทีเลย ตอนที่เชร์โทรหามันเป็นช่วงที่พี่หยุดพักงีบ กะว่าถ้าตื่นแล้วจะจัดช่อดอกไม้ต่อแล้วค่อยอาบน้ำไปหาเราที่หอ”

ก็รู้ไส้รู้พุงกันประมาณหนึ่งแล้ว บอสถึงได้สาธยายยืดยาวให้ฟังเพราะกลัวโดนดุ ใช่ ไอ้แหลมอยากทำอย่างนั้นแหละ แต่ก็รู้ว่าจะได้ประโยชน์อะไรขึ้นมาเพราะทั้งคู่ไม่สามารถย้อนอดีตกลับไปแก้ไขได้ ขืนบ่นไปคนที่นั่งหลังขดหลังแข็งทำทุกอย่างในห้องนี้คงได้เฉาตาย บรรยากาศวันสิ้นปีพังฉิบหายไปอีกไอ้แหลมไม่อยากให้เกิดขึ้นอย่างนั้น อีกอย่างถ้าบอสได้พักงีบก็คงไม่ต้องหลับใน ซึ่งเขาก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อุบัติเหตุเกิดขึ้น

“ต้องขนาดนี้เลยเหรอ?” เด็กหนุ่มกวาดสายตาไปรอบตัว มองความพยายามของผู้ชายคนหนึ่งที่คิดว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้เด็กกะโหลกอย่างเขาดีใจ ซึ่งก็ได้ผล แต่ไม่ใช่เพราะความอลังการงานสร้างรกรุงรังไปหมดอย่างที่ตาเห็น แต่เป็นเพราะอีกฝ่ายตั้งใจทำมันเพื่อเขาต่างหาก

“เราเคยบอกว่าเงินซื้อทุกอย่างไม่ได้ พี่ก็เลยอยากทำอะไรด้วยมือให้สักครั้งน่ะครับ”

ด้วยความสัจจริงว่าหลังจากได้ยินประโยคนี้หน้าอกข้างซ้ายถึงกับวูบไป มันหนุบ ๆ หนับ ๆ อยู่ในใจกับความพิเศษที่เพิ่งได้รับจากใครสักคนเป็นครั้งแรกในชีวิต ยิ่งท่าทีบอสตอนอธิบายพร้อมหูแดง ๆ นั่นน่ะ... น่ารักจังวะแฟนกู

“ใครเขาทำช่อดอกไม้เอง ขนาดวาเลนไทน์หน้าโรงเรียนผมยังมีดอกไม้ขายเต็มไปหมด”

“พี่อยากให้ในโทรศัพท์มีรูปเราถือช่อดอกไม้ที่พี่ทำเองกับมือนี่ครับ ใครจะขายยังไงพี่ไม่สนใจหรอก”

“ขี้โรแมนติกจริงโว้ย แบบนี้ผมก็เด๋อเลยดิไม่มีอะไรมาให้เลยเนี่ย” กันต์ยิ้มขำเมื่อเด็กแสบทำหน้างอแงพร้อมแบมือออกมา “คราวหน้าต้องเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่น ๆ เลยนะ จำบทเรียนนี้ไว้เลย”

“จะไม่พลาดซ้ำสองแล้วครับ แต่ก่อนอื่น... เชร์ยิ้มให้พี่ดูหน่อยนะ” นอกจากจะไม่ต้องห้ามอารมณ์อยากดุคนแล้ว ยังต้องมาเอ็นดูความอ้อนเลเวล 99 ของบอสอีก บุญบาป วินาทีนี้ต้องได้เทิร์นผัวแล้วไหม อยากรั้งท้ายทอยมาซบไหล่แคบ ๆ ของบักแหลมแล้วบอกว่า ‘ยั่วมากเข้าเดี๋ยวพรุ่งนี้เดินไม่ไหวแล้วจะหาว่าผมไม่เตือน’ แต่สุดท้ายก็สำเหนียกได้ว่านั่นไม่ใช่คำพูดของกู

“อะ ยิ้ม” เด็กลูกครึ่งฉีกปากกว้างประชดก่อนจะกลับมาหน้านิ่งเหมือนเดิม “ถ้าวันนี้พี่ไม่เจ็บตัว ทุกอย่างในห้องนี้จะเพอร์เฟ็คเลยอะ”

“ผิดที่เสาแล้วล่ะครับ ใครบอกให้มันไปตั้งอยู่ตรงนั้น”

“เล่นแม่งเลยปะล่ะ?”

“พอได้ไหลแล้วก็หยุดยากใช่ไหม ตามน้ำไปเรื่อยเลยนะเราน่ะ เข็ดฟันจริง ๆ เด็กคนนี้” กันต์ยีผมคนตรงหน้าแล้วกอดคอให้เดินเข้าไปในห้องน้ำด้วยกัน




*




“ลงมาอาบด้วยกันนะครับ” กันต์จับมือคนที่กำลังถูแขนให้เขาตรงขอบอ่างพร้อมมองดวงตาคู่นั้น มันคงดีถ้าหากว่าเขากับเด็กคนนี้จะมีช่วงเวลาผ่อนคลายด้วยกันในอ่างน้ำอุ่น ๆ

เชร์ลุกขึ้นยืนแล้วถอดเสื้อกับกางเกงออกโดยไม่พูดอะไรสักคำ เป็นช่วงวินาทีสั้น ๆ ที่ชายหนุ่มได้มองหุ่นน่าฟัดของแฟนเด็กที่กำลังก้าวขาเข้ามาในอ่าง ก่อนมือนั้นจะประคองร่างของเขาให้นั่งพลิกหันหลัง พร้อมรั้งให้เอนลงไปซบกับอกน้องซึ่งก็ไม่ได้กว้างมากนัก

“ตัวพี่หนักไหมครับ?”

“ถึงสภาพผมจะแห้ง ๆ แต่ผมแข็งแรงกว่าที่พี่คิดนะเว้ย” คนเก่งบอกให้รู้พร้อมถูฟองน้ำไปตามแผงอกเขาเบา ๆ “รู้ว่าไม่ชินกับท่านี้ แต่เทน้ำหนักตัวลงมาเถอะ อยู่กับผมพี่จะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้นแหละ”

กันต์เอี้ยวหน้าหันไปมองเด็กน้อยที่มองมาราวกับจะย้ำคำพูดตนเอง ใช่ เขาไม่ชินกับการนอนในอ้อมกอดใคร โดยเฉพาะในอ่างอาบน้ำที่ตำแหน่งนี้ควรจะเป็นซิมบ้าน้อยมากกว่าจะเป็นผู้ชายตัวใหญ่ ๆ อย่างเขา

“เข้าใจเปล่าจ๊ะ?” แหลมจุ๊บขมับคนในอ้อมกอดแถมหอมแก้มซ้ำ ๆ ซึ่งมั่นหน้าว่าตรงนี้คงไม่กระแทกอะไรมา และบอสก็ยืดตัวขึ้นมาจูบเบา ๆ แล้วผละออกมาสบตากัน

“เข้าใจแล้วครับ”

“รู้ปะว่าเอาจริง ๆ ผมก็เสียบพี่ได้”

“ยังอีก?”

“55555555555555555555555555” เด็กขี้แกล้งระเบิดหัวเราะอัดหูเขาจนต้องเอานิ้วชี้อุด ซิมบ้าน้อยยังเข็ดฟันไม่เลิก ทั้งที่ชอบตอนตัวเองนอนอยู่ใต้ร่างเขาขนาดนั้นยังคิดที่จะหาเรื่องเหนื่อยอีก




*



นานแค่ไหนแล้วที่กันต์ไม่ได้สัมผัสคำว่าหลับเป็นตาย ขนาดเมื่อก่อนที่ว่าฟังเสียงเชร์จนหลับไปก็ยังสะดุ้งตื่นง่าย ๆ ตอนได้ยินเสียงนาฬิกาปลุก แต่วันนี้ไม่ใช่ เขาหลับลึกเกินไปจนตื่นมาอีกทีทุกอย่างโดยรอบก็มืดไปหมดแล้ว

กันต์รีบดีดตัวขึ้นนั่งแล้วคลำหาแฟนเด็กที่เข้านอนด้วยกันไปตอนช่วงเย็น ให้ตาย เขาหลับไปนานแค่ไหน มันคงไม่นานจนผ่านคืนปีใหม่ไปแล้วใช่ไหม?

“เชร์”

พอไม่เห็นลูกลิงนอนอยู่ข้าง ๆ จึงขมวดคิ้วก่อนจะเอื้อมไปเปิดไฟตรงหัวเตียง ซึ่งรอยยับบนที่นอนข้างตัวคือสิ่งเดียวที่อีกฝ่ายทิ้งเอาไว้ให้ ขายาวรีบพาร่างช้ำ ๆ ออกไปด้านนอก ก่อนความกังวลจะหายเป็นปลิดทิ้งเพราะได้ยินเสียงแหกปากลั่นดังออกมาจากห้องครัว

แฟนเด็กในชุดนอนกำลังยืนกระต่ายขาเดียวพร้อมตะหลิวในมือ กันต์ยิ้มขำยืนกอดอกพิงกับวงกบประตูมองซิมบ้าน้อยที่กำลังต่อสู้กับน้ำมันซึ่งกระเด็นออกมาอย่างไม่รู้จักจบสิ้น

“อ๊า! ไอ้แม่ย้อย!”

“ไหนบอกทำอาหารเก่งไงครับ ทอดยังไงให้น้ำมันกระเด็นใส่อย่างนั้นหื้ม?”

“ก่อนเอาลงมันมีน้ำอยู่นิดนึงอะ -- โอ๊ย! แม่งเอ๊ย!” ถึงปากจะบ่นแต่ก็ยังตั้งการ์ดสู้กับเมนูในกระทะร้อน ก่อนจะถอยกลับมาตั้งหลักอีกครั้ง เจ้าของผมชี้ฟูยึกยักอยู่อย่างนั้นกระทั่งเอาของทอดออกมาใส่จานได้ในที่สุด

“ไหน ขอพี่ดูหน่อย”

“ยังไม่ตาย”

“รู้ครับ” เขาเงยหน้าส่งสายตาดุ ซึ่งเจ้าตัวดื้อก็ยอกย้อนใส่ด้วยการทำหน้าลิง ทั้งที่แขนเป็นรอยแดงขนาดนี้แต่ก็ยังซ่าไม่เลิก กันต์จับมือแฟนเด็กไปล้างน้ำเย็น ก่อนศีรษะทุยจะเอนซบลงมาอย่างออดอ้อน

“สโนว์ไวท์ของผมตื่นเร็วจังน้า”

“เหรอครับ?” หลังจากพูดจบก็เงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาที่ติดอยู่กับผนัง ก่อนจะได้คำตอบว่าตอนนี้เพิ่งจะสี่ทุ่มสิบสองนาทีเท่านั้น... โล่งอกไปที

“ผมกะว่าจะปลุกตอนห้าทุ่มอะ กินข้าว ทำอะไรเสร็จก็น่าจะห้าทุ่มกว่าพอดี หลังจากนั้นจะได้มีเวลาเตรียมนอนดูพลุ”

“ไหนบอกไม่อินวันพิเศษ... นอนดูพลุมาจากไหนหื้ม?” เขาขมวดคิ้วอมยิ้มเล็ก ๆ จ้องซิมบ้าน้อยที่กลอกตาล่อกแล่กเพราะถูกจับได้

“พี่ชอบผมก็ต้องเอาใจหน่อยปะ โด่”

“ไม่ใช่อยากดูเองหรอกเหรอ วางแผนหาองศาให้พี่จูบถนัดด้วยหรือเปล่านะ?”

“ฝันเด้อ อย่างผมไม่เคยต้องนอนรอหรอก อยากทำก็ทำเลย รุกก่อนได้เปรียบ”

“ได้ยินอย่างนี้พี่เริ่มอยากให้ถึงเที่ยงคืนไว ๆ ซะแล้วสิ” บอสขยิบตา โด่... ทำมาเป็นรู้เยอะ ไอ้เรื่องอยากดูพลุอะพูดถูก แต่เรื่องเล่นตัวรอให้ถูกจูบน่ะเอาไว้ให้เมียเก่าบอสทำเหอะน้า

“ไหนรางวัล ผมอุตส่าห์ตื่นมาทำกับข้าวให้เลยนะ”

“เอาอะไรดีครับ รถสักคันดีไหม?”

“หอมแก้มก็พอไหม หอมแก้มมมมมมมมม”

“แค่นั้นเหรอ มักน้อยจัง” มีความถอนหายใจแล้วโอบหน้าเขาไปหอมจนแก้มยู่แถมยังพูด ‘ขอบคุณนะครับ’ ซ้ำ ๆ เหมือนอยากประชดอะ

ขนาดนอนไปตื่นนึงแล้วบอสก็ยังตัวหอมอยู่เลย พอมีกลิ่นแบบนี้ใกล้ ๆ ก็สดชื่นอย่างบอกไม่ถูก ขนาดใช้สบู่เหลวขวดเดียวกันแต่กลิ่นบอสกลับต่างจากกลิ่นเขาอย่างสิ้นเชิง


ว่าแต่... ไม่หอมแช่ไว้นานเกินไปเหรอวะ?


“พอละปะ น้ำลายเลอะหน้าผมแล้วมั้งเนี่ย” ทั้งที่ชอบแต่ก็แกล้งบ่นไปอย่างนั้น เด็กลูกครึ่งเอนศีรษะออกให้พ้นองศาปลายจมูกโด่ง ก่อนบอสจะรั้งให้กลับมาอีกครั้งพร้อมจงใจเลียหูเขาช้า ๆ

“แบบนี้ถึงจะเรียกว่าเลอะ”

“...”

“อะไรครับที่รัก เลียแค่นี้ถึงกับหูแดงเลยเหรอ?”

“ก็รู้อยู่แล้วปะว่าตรงนี้เป็นจุดอ่อนผม?!!!” แหลมรีบตะปบหูตัวเอง ถลึงตาคาดโทษคนอายุมากกว่าที่เล่นจุดอ่อนกันอย่างหน้าตาเฉย

“ใช่ครับ พี่รู้ทุกอย่างบนร่างกายเรา”

“ออกไปรอข้างนอกเลย”

“เดี๋ยวพี่ช่วยยก”

“ไม่ ตัวช้ำอยู่อย่าขยับเยอะ”

“มันไม่ขนาดนั้นหรอกครับ ให้พี่ช่วยเถอะนะ พี่อยากมีส่วนร่วมด้วยครับ” ไม่พูดอย่างเดียว บอสเข้ามากอดเอวเขาพร้อมเอาคางเกยไหล่อย่างออดอ้อน แถมยังกระซิบว่า ‘ช่วยกันนะครับ’ พร้อมหอมซอกคอกดดันอีก

“ดื้อจริงโว้ยเมียกู” คนเจ็บยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ขณะเข้ามาช่วยยกถาดอาหารก่อนมื้อสุดท้ายของปีจะเริ่มขึ้น

คนหิวแห่งปีตั้งหน้าตั้งตากินจนอดคิดไม่ได้ว่าเพราะฝีมือเขาหรือเพราะกระเพาะมันเรียกร้องกันแน่ แหลมเท้าคางมองใบหน้าหล่อที่จ้องเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักเบื่อ เด็กอย่างเขาเพิ่งค้นพบว่าการทำกับข้าวให้แฟนกินก็เป็นความสุขอีกอย่างหนึ่ง และหวังว่าบอสจะชอบจนอยากให้บรรยากาศแบบนี้เกิดขึ้นบ่อย ๆ




(ต่อด้านล่างนะคะ)

ออฟไลน์ หน่วยกล้าวาย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0


*




หลังจากท้องอิ่มทั้งคู่ก็มานั่งจ้องหน้ากันบนพื้นท่ามกลางลูกโป่งที่ลอยอยู่บนเพดานพร้อมตุ๊กตาหมีหน้าโง่ที่นั่งเป็นฉากอยู่ข้างหลัง ไหนจะกรวยหมวกกระดาษนี่อีก อยู่บนหัวเขาก็ไม่เท่าไหร่หรอก แต่พอบอสใส่แล้วอยากจะถ่ายรูปลงให้โลกเห็นเหลือเกินว่า CEO หน้าหล่อสุดขรึมได้กลายเป็นสายคิขุไปแล้ว แต่พูดก็พูดเถอะ ลงไปแล้วใครจะอินเพราะไม่มีใครรู้จักบอสนอกจากพวกพี่ ๆ ใน PHENOMENAL 

แหลมรู้สึกได้ถึงความเด๋อด๋า แต่ก็ไม่รู้ว่าควรทำอะไรดีในเมื่ออีกไม่กี่นาทีข้างหน้าก็จะเข้าปีใหม่แล้ว

“พี่ว่าบรรยากาศมัน Awkward แปลก ๆ นะครับ”

“ผมรู้สึกได้ตั้งแต่ห้านาทีก่อนแล้ว เราควรหาอะไรทำเพื่อให้บรรยากาศมันปกติปะ เพราะที่เป็นอยู่ทั้งผมทั้งพี่คือโคตรกากเลย เหมือนเด็กน้อยปอหกเพิ่งนัดเดทแฟนครั้งแรก”

“เดทตั้งแต่ตอนปอหกเลยเหรอครับ เด็กแก่แดด”

“เขาเรียกเฟี้ยวเว้ย” พูดจบก็ควานหาถุงขนม แหลมแกะริงป็อปออกมาใส่นิ้วเหมือนตอนเด็ก ๆ ชอบทำก่อนจะตามด้วยซองเยลลี่รสองุ่นผู้เป็นที่รัก แดกเข้าปีใหม่น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี “ตรงนี้เจ็บปะ?”

เด็กกะโหลกเหยียดขาออกพาดไหล่คนตรงหน้าพร้อมยักคิ้วเพื่อบอกให้รู้ว่านาทีนี้ใครเป็นใหญ่ “ไม่ครับ แต่ถ้าข้างนี้พี่จะเจ็บ”

“เหยียดขาเร็ว นั่งขัดสมาธินาน ๆ เป็นตะคริวเดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน” เด็กแสบยันตัวขึ้นเล็กน้อย ทั้งที่ขาพาดอยู่บนไหล่อย่างนี้แต่ก็ยังมีความพยายามช่วยจัดแจงท่านั่งให้เขา

“เชร์”

“จ๋าจ้ะ”

“มันอาจจะเร็วเกินไป แต่เราซื้อบ้านอยู่ด้วยกันเถอะนะครับ”

ค้างอยู่ในท่ายัดเยลลี่ห้าเม็ดเข้าปากพร้อมกันกับสีหน้าจริงจังที่อีกฝ่ายส่งมาอย่างไม่กักเก็บ แหลมรู้ว่าบอสมีความคิดแบบนี้ แต่ทุกครั้งที่พูดขึ้นมาก็เหมือนชวนคุยเล่น ๆ มากกว่าจะอยู่ในบรรยากาศอย่างที่เป็น

“เราอาจคิดว่ามันเร็วไป แต่สำหรับพี่มันเป็นเรื่องเสียเวลาทิ้งไปเปล่า ๆ เพราะพี่อยากอยู่กับเราทุกวันแล้ว”

“ก็รู้แต่ -- บ้านเลยเหรอ?” เขาเลิกคิ้วมองทั้งที่ปากยังเคี้ยวเยลลี่รสองุ่นอยู่ ซึ่งบอสก็พยักหน้าเป็นคำตอบ

“พี่เล็งไว้อยู่สองที่ หลังหนึ่งราคากำลังดีแต่ไกลมหา’ลัยเรา ส่วนอีกที่ราคาไม่เท่าไหร่แต่เดินทางไปมหา’ลัยง่าย พี่จะให้เชร์ตัดสินว่าชอบหลังไหนเพราะยังไงก็ต้องเดินทางไปเรียนอีกแค่ปีเดียว ถ้าไม่ซีเรียสเรื่องระยะทางเดี๋ยวพี่สอนขับรถให้”

“อะไรเนี่ย อยู่ดี ๆ ก็โบ้ม ๆ มา ถามก่อนได้ไหมว่าผมควรดุ้งเรื่องไร ระหว่างบ้านหรือสอนขับรถทั้งที่ยังไม่มีรถ -- อ๊ะ ๆๆ ไม่ต้องเลย รู้ว่าจะพูดอะไร ผมรู้”

“พี่จะพูดอะไรเหรอครับ?” กันต์มองแฟนเด็กที่หรี่ตายิ้มพลางชี้หน้าเขาเหมือนอ่านใจออก

“พี่จะซื้อรถให้ผมน่ะสิ!!!!”

“ถูกต้อง!” ชายหนุ่มขมวดคิ้วชี้หน้าซิมบ้าน้อยที่ยื่นหน้าเข้ามาสบตากันใกล้ ๆ

“ไม่เอา ผมจะซื้อเอง”

“เราไม่ชอบขับรถ ชาติไหนดีล่ะครับถึงจะยอมควักตังซื้อ?”

“ชาตินี้แหละแต่ขอทำใจก่อน”

“แล้วถ้าเกิดเรื่องแบบวันนี้อีกเชร์จะทำยังไงครับ ยกตัวอย่างง่าย ๆ เลยก็ได้ ถ้าพี่หายใจไม่ออกเราจะรอให้แอมบูแลนซ์มารับพี่เหรอ?”

“โธ่ อย่ากดดันดิ ผมกลัวอะ ไม่กล้าขับ”

“พี่จะสอนให้ไงครับ”

เด็กกะโหลกเบ้ปากขอความเห็นใจ ก็กลัวรถแต่ไหนแต่ไรถึงไม่ยอมแตะพวงมาลัยเลยไง ขนาดพี่ธีร์ตบหัวล้านรอบยังไม่ยอมหัดเลย

“ถ้ายังไม่พร้อมขับ งั้นพี่ซื้อให้เป็นของขวัญรับเข้าบ้านก็ได้ครับ”

“บอกว่าไม่ไง เรื่องนั้นให้เป็นหน้าที่ของขนมเจ้าเด็ดในละแวกบ้านก็พอปะ?”

“หมายความว่าเราตกลงเรื่องอยู่ด้วยกันแล้วเหรอ?”

ทั้งคู่ยังคงกระซิบกระซาบ และคนถูกขอความรักระดับ Hard Mode ก็ยกมือขึ้นตบหน้าผากอย่างคนแพ้ ไม่รู้ดิ... การซื้อบ้านสักหลังมันเป็นเรื่องใหญ่มากเลยนะ ไม่ใช่ขนมซองละห้าบาทสิบบาทที่จะโยนทิ้งตอนไหนก็ได้อะ อีกอย่าง... เท่าที่เสือกมาบอสก็ไม่เคยทำแบบนี้กับแฟนคนไหนเลยด้วย ซึ่งถ้าย้ายเข้าไปอยู่ด้วยกันก็ต้องตื่นมาเจอหน้ากันทุกเช้าแล้วก่อนเข้านอนอะดิ...

แบบนี้ก็เหมือนคู่ผัวตัวเมียเต็มตัวแต่ติดแค่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสสินะ?

“ไม่ได้คิดเผื่อเลิกกับผมเลยใช่ปะ?”

“บอกตามตรงว่าไม่ครับ”

“อือ ไม่คิดเหมือนกัน”

ยัดขนมเข้าปากแก้เขิน หน้าแม่ลอยขึ้นมาให้นึกถึงก่อนเลย ถ้าเจ๊พรรู้ว่าเขามีแฟนเป็นผู้ชายก็คงตกใจแล้ว แต่นี่มีแผนจะย้ายไปอยู่บ้านหลังเดียวกันอีก แม่จะรับได้มากน้อยแค่ไหนว้า...

“งั้นเรื่องนั้นเอาไว้ก่อนดีกว่า ถ้าชีวิตในหลังคาเดียวกันมันไม่เวิร์กเดี๋ยวพี่ย้ายกลับมาอยู่ที่นี่เอง”

“จะยกบ้านหลังนั้นให้ผมเหรอ ไม่อยากได้นะเว้ยบอกก่อน”

“พี่ก็พูดไปอย่างนั้นแหละครับ ซื้อใจ” ทำเป็นตบมุกหน้าตาเฉย รักไอ้แหลมขนาดนี้แล้วถ้าวันหนึ่งทะเลาะกันก็ต้องยอมแน่ ๆ อะเขารู้

“รำคาญว่ะ ทำไมชอบเล่นใหญ่ คิดว่ารวยแล้วจะทำอะไรก็ได้งั้นดิ?”

“ก็ใช่ครับ” เด็กลูกครึ่งถอนหายใจพลางส่ายหน้าหน่าย ๆ ใส่คนที่ยังรอฟังว่าเด็กคนนี้จะเอาอย่างไร ซึ่งเขาก็ถอดแหวนริงป็อปออกมามองใกล้ ๆ ก่อนจะตัดสินใจสวมให้มือใหญ่ตรงหน้า

“จะแต่งก็ต้องหมั้นก่อน”

“...”

“ถ้าจะไปดูบ้านวันไหนก็บอกด้วยแล้วกัน ผมจะได้รีบนอนไว ๆ อะ” กันต์มองแฟนเด็กที่ก้มหน้างึมงำกับตัวเองแก้เขิน ก่อนเขาจะลดระดับสายตามองแหวนลูกอมบนนิ้วมือที่มันน่ารักเสียจนคิดไม่ถึงว่าจะมาจากเด็กคนนี้

“นี่”

“อือ”

“มองหน้าพี่หน่อยสิครับ”

เขาเชยคางขึ้นมาจนได้เห็นว่าแก้มเด็กแสบกำลังแดงระเรื่อ กันต์อมยิ้มขณะมองดวงตาคู่นี้ที่มีแต่ความจริงใจ ‘เชร์ชอบตอบตกลงอยู่ด้วยกันแล้วจริง ๆ ใช่ไหม?’ กันต์ถามย้ำกับตัวเอง แค่คิดว่าจะได้ตื่นมาเจอน้องและรอให้คุณเกมเมอร์ปีนขึ้นเตียงมานอนด้วยกันหลังจากไลฟ์สตรีมเสร็จ... หัวใจของเขาก็เหมือนได้รับการเติมเต็มแล้ว

“เจ็บหน่อยนะ”

ซิมบ้าน้อยบอกคำเตือนในเรื่องที่เขาไม่กลัว กันต์มองแฟนเด็กที่ยันตัวลุกขึ้นนั่งพร้อมรั้งท้ายทอยเขามาจูบราวกับเด็กคนนี้อยากให้เขารู้ว่าคิดเหมือนกัน เชร์ไม่เคยกลัวเจ็บจากอะไรในโลก ดังนั้นแผลตรงมุมปากจึงไม่ใช่อุปสรรคในการบดขยี้ความรักให้กับเขา

เจ้าของจูบรสองุ่นลุกขึ้นมานั่งคร่อมบนตักที่ยังรู้สึกได้ถึงความช้ำจากอุบัติเหตุ แต่วินาทีนี้มันจะไปสำคัญอะไร กันต์ตวัดแขนกอดเอวคอดและพยายามจูบตอบโดยไม่ให้โดนแผลน้อง ก่อนเสียงพลุจากด้านนอกจะทำให้รู้ว่าวันแรกของปีได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

ซิมบ้าน้อยถอนริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่ง สองมือเย็นเฉียบโอบใบหน้าเขาเอาไว้พร้อมจ้องมองมา ก่อนจะพูดคำบางคำที่ทำให้หัวใจกันต์กวินทร์พองโตจนแทบจะระเบิดออกเป็นเสี่ยง ๆ
 
“ผมรักพี่”

อาจเป็นเพราะเป็นฝ่ายบอกมาตลอด พอได้ยินเชร์พูดอย่างนี้ทีไรหัวใจมันจึงทำงานหนักทุกที กันต์อมยิ้มพร้อมไล้ปลายนิ้วหัวแม่มือลงบนริมฝีปากนุ่มนิ่มทั้งที่เสียงพลุข้างนอกยังคงสร้างบรรยากาศให้ค่ำคืนนี้วิเศษยิ่งกว่าเดิม

“พูดอีกได้ไหมครับ?”

ซิมบ้าน้อยไม่ได้แกล้งซนทำลายบรรยากาศ กลับกันแล้วเจ้าตัวดันเม้มริมฝีปากแล้วเลี่ยงการสบตาเขาราวกับว่าคำพูดนี้ต้องใช้ความกล้ามากกว่าตอนแก้ผ้าให้เขาเห็น

“ผมรักพี่”


‘ขี้แซะ เหยียดไม่เหยียดมันเกี่ยวอะไรกับการเป็นแฟนบอสอะ บอสไม่ได้ชอบผมไม่ใช่ไง หรือว่าเป็นพวกปากแข็งแล้วทำเป็นสร้างสถานการณ์ ต้องใช่แน่ ๆ’
‘ตอนนี้ยังครับ แต่ในอนาคตไม่แน่’

คู่รักคู่อื่นฉลองปีใหม่แบบไหนกันต์ไม่ได้สนใจ ค่ำคืนนี้มันไม่ได้พิเศษหวือหวาอย่างที่เคยคิดไว้ว่าจะดี แต่ในขณะเดียวกันมันก็พิเศษในแบบของมันเพราะมีเด็กคนนี้เป็นตัวแปรของทุกอย่าง กันต์เริ่มหลงรักความเรียบง่ายตั้งแต่รู้จักเชร์  และเขาเริ่มเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วว่าความสุขอย่างเสมอต้นเสมอปลายมันดีกว่าการใจเต้นไปกับเหตุการณ์สำคัญในค่ำคืนเดียวอย่างไร

‘อย่าเลยน่า ชอบผมก็บอกว่าชอบสิ’
‘เริ่มต้นจากคำว่าอยากกำราบแล้วกันครับ’


นึกย้อนเวลากลับไปในจุดเริ่มต้นตอนที่เขาไม่แม้แต่จะรู้สึกชอบหน้าเด็กคนนี้ เขาเหมือนมองเห็นตัวเองนั่งอยู่บนเก้าอี้บนหัวโต๊ะ มองเด็กฝึกงานคนนั้นที่กล้าออกไอเดียออกมาอย่างฉะฉาน ก่อนจะปีนเกลียวทันทีที่รู้ว่าเป็นฝ่ายถือไพ่เหนือกว่าเพราะปัญหานอนไม่หลับจนต้องพึ่งคลิป ASMR

เด็กฝึกงานที่กวนประสาทจนนึกไม่ออกว่าจะมีวันไหนที่ทั้งคู่ยอมคุยกันดี ๆ ได้ไหม และเพราะว่าความบ้าของเขากับอีกฝ่าย ทุกอย่างถึงออกมาลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อแบบนี้


“เชร์รักพี่กันต์”


จะคบวันไหนแต่ถ้าตอนนี้ยังรักกันอยู่ แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว (:




THE END



จบแร้วค่า
กราบขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ บางคนอาจจะเคยอ่านน้องโซ่เลยหลงผิดมาเรื่องนี้ หรือบางคนอาจจะไม่ได้อ่านน้องโซ่แล้วลุยเดี่ยวเรื่องนี้เลยก็ไม่เป็นไร หวังว่าคนอ่านจะได้ความสนุกกลับไปไม่มากก็น้อย เพราะนิยายของเราเต็มเปี่ยมไปด้วยสาระอยู่แล้วโดยเฉพาะสาระแนกับสารเลว(ของพระเอกภาคก่อน)
ไม่รู้จะพูดอะไรเล้ย TT_TT นึกไม่ออก เหมือนมันจุก ๆ อยู่ในอก เหมือนส่งลูกอีกคนไปเรียนนอกแล้วตัวเองนั่งจกส้มตำอยู่บ้านเงียบ ๆ อะ
เอาเป็นว่าถ้านึกออกจะไปจ่มใน talk ท้ายเล่มแทนนะ ขอกระดาษให้หนูสักสองหน้า

สำหรับใครที่ต้องการสั่งซื้อเล่มก็กดเข้าเพจหน่วยกล้าวายในเฟซบุ๊กได้เลยน้า หนูปักหมุดลิงก์ไว้บนสุดเลย ในทวิตเตอร์ก็เหมือนกันงับ ขอบอกไว้ก่อนว่าของแถมหลัก ๆ จะได้แค่รอบนี้เด้อ ถ้ารอบรีปริ๊นท์จะได้แค่โปสการ์ดอย่างเดียว บัตรฝึกงานกับปฏิทินไม่มีแล้วน้า

ปิดโอน 10 พ.ย. เดือนหน้าจ้า //ปิดหน้าร้องไห้แล้ววิ่งหนีออกไป




ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ yasperjer

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
จบแล้วอะ​ ฮือออออออออ :z3:  ต้องคิดถึงนังแหลมมากแน่ๆเลย​ เป็นอีกเรื่องที่เราชอบมากๆ​ แบบมากๆแทบจะถูกชะตาที่สุดของนิยายวายในปีนี้เลยย​ อาจเพราะถูกจริตเคะแบบแหลม​
ขอบคุณที่แต่งนิยายตลกๆให้อ่านนะคะ(แต่บทจะดราม่าก็สุดจ๊นนน)​ รออ่านพี่แจ็คและเรื่องอื่นๆต่อนะค้าาส

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
ขอบคุณมาก ๆ ที่เขียนนิยายดี ๆ ให้อ่าน

ชอบตั้งแต่น้องโซ่กับพี่ธีร์ มาถึงเชร์กับพี่กันต์ก็ยิ่งชอบ

ตามไปชอบแจ็คเท็นด้วยล่ะ

ได้เห็นการเติบโตของทั้งตัวละครและคนเขียน เขียนดีมากเลย

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ไม่น่าเชื่อว่าจะรักกันได้ แถมยังไปกันได้ดีอีกต่างหาก
เรื่องรักน้องแหลมไม่กากเลยนะ บอสด้วย อ่านแล้วอิ่มเอมใจ
ขอบคุณคนเขียนจ้า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด