[กันต์/แหลม] สเปวันเด็ก▲คบวันนี้เลิกกันปีใหม่▲#ชอกะเชร์คู่กันต์ (12/01/62)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [กันต์/แหลม] สเปวันเด็ก▲คบวันนี้เลิกกันปีใหม่▲#ชอกะเชร์คู่กันต์ (12/01/62)  (อ่าน 169797 ครั้ง)

ออฟไลน์ เนเน่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ขอก้านมะยมด้วยค่ะจะไปตีเด็กข้างบ้าน ...

ออฟไลน์ mayyiyi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ PsychePie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เข้ ไอ่หมาโคตร้อนแรง
ยอมใจบอสกับการบอกเดอะแก็งว่าเป็นเมียน้อง

ปล. น้องโซ่น่ารักเสมอ กิกิ

ออฟไลน์ ursleepingxd

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ร้ายพอกันเลยสองค๊นนนนน

น้องโซ่ลูกก น่ารัก ฮืออ ; w ;

ออฟไลน์ allmysecret

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :katai2-1:
พี่แหลมจ๋า วินมาก ชอบอ่ะ แต่อยากอ่านเอ็นซีคู่พี่ธีร์โซ่มาก  และฃอบที่ยังมีโมเมนต์คู่นั่นอยู่ พี่กันต์ ฮืออออออออ  --////////--

ออฟไลน์ Justccwpo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
กรี๊ดด ร้อนแรง ขี้ยั่ว พอกันทั้งคู่!

ออฟไลน์ yasperjer

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
แซ่บไปอี๊กกกกกกกกก​ แซ่บแพ็คคู่​ เหมือนเกิดมาเพื่อกันและกันจริงๆ​ เชร์ไปสุดมากหนูรู้กกกกกก
อ่านแล้วจะเปงลมจีงๆ :hao6:

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
ช่วยด้วย เราหยุดหื่นไม่ได้

ทำไม ฟังคำที่เรียกน้องว่าหนู แล้วตูเขินนนนน 555555

ออฟไลน์ may27

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 297
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
 :haun4:  เปิดเผยและลามกได้ใจพี่จริงๆ   55555   สงสารน้องโซ่เบาๆ  ยังดีที่ อิพี่ธีร์ขนาดเมาแล้วยังคิดถึงน้องโซ่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ pornwicha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1

ออฟไลน์ panpang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
คือแบบอ่านตอนล่าสุดแล้ว แต่ลืมอ่านตอนนี้ 5555

งงๆ แต่ตอนนี่ก็ฮา 5555 ตลกมากอะ ขำจะบ้า  :laugh:
--------------------

เอ้อ ว่าจะพิมพ์ถึงธูปลืมเลย คือสรุปธูปเอาเงินไปทำไรอะ

ติดยาหรือติดเที่ยวใช่มะ อ้อหอ ถ้ามีพี่ให้ขอเงินแบบนี้คือสบายอะ

หลงแสงสีแน่ๆ เพื่อนแหละคงจะพาเสีย

ออฟไลน์ หน่วยกล้าวาย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0
#ชอกะเชร์คู่กันต์
ตอนที่ 20
ผิดหวัง


กว่าจะตื่นบวกอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็นู่นเลยสิบโมงครึ่ง แหลมสาบานได้ว่าเดินเบา ๆ แล้ว แต่บอสก็ลืมตาตื่นสะลึมสะลือเหมือนเขาเดินเตะถังขนมปี๊บ จริงอยู่ที่พักหลังบอสนอนง่ายขึ้นแต่ก็ใช่ว่าจะหายขาด ผู้ชายคนนี้ยังคงตื่นง่ายหลับยาก สุดท้ายก็ลุกมาอาบน้ำในเวลาไล่เลี่ยกัน

พอออกไปก็เจอซ้อเจนกำลังพาลูกเดินเล่น สีหน้าพี่แกดูไม่ได้หงุดหงิดหัวเสียอะไรกับเรื่องเมื่อคืนนี้จึงไถ่ถามเรื่องปากท้อง ซึ่งแม่ลูกอ่อนก็รู้จักรับผิดชอบตัวเองและนังแตงอ่อนด้วยการหาอะไรกินก่อนโดยไม่ต้องปลุกผัวหรือรอพวกคนเมาลุกขึ้นมาล่าเหยื่อ

ต่อให้เมื่อคืนจะเมาหรือเจอศึกหนักมาบอสก็ตื่นเช้าได้ ด้วยความเป็นโรคนอนไม่หลับ นอนยากตื่นง่าย เหล้าแรงแค่ไหนก็นอนนานกว่านี้ไม่ไหว บอสจึงตื่นไล่เลี่ยเวลาเดียวกันโดยไม่ต้องกะเวลาว่าต้องปลุกเมื่อไหร่

จู๊กมาสเตอร์เป็นรายถัดมา สภาพเด็กนั่นยังคงอึน ๆ หงอย ๆ พร้อมถามว่าเมื่อคืนเผลอเรื้อนใส่ใครไปบ้างหรือไม่ ซึ่งบอสก็ปั่นด้วยการบอกว่าน้องมันตะโกนด่าพี่ธีร์แรงมาก คำหยาบหลุดออกมาสารพัดจนคนตกใจทั้งรีสอร์ท คนถูกอำทำหน้าเหวอเหมือนช็อกไปแล้ว สุดท้ายพวกเขาก็หลุดขำกันไม่เว้นแม้แต่ซ้อเจน

“เมื่อคืนโซ่ฝันว่าโดนพี่เจนดุด้วย” แม่ลูกอ่อนเลิกคิ้วฉายแววตาสงสัย และคงมีแต่ไอ้แหลมคนนี้ที่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังจะพูดถึงอะไร จึงแหย่นิด ๆ หน่อย ๆ พอให้ขำกรุบกริบ

“ฝันว่าไรวะ?” น้องเล็กหุบยิ้ม อึกอักเหมือนกำลังคิดว่าจะเล่าเรื่องซ้อเจนในร่างโต๊ะกับแจกันดอกไม้ดีหรือไม่

“แค่ฝันว่าโดนดุเฉย ๆ ครับ แหะ”

“พี่จะดุโซ่เรื่องอะไรหื้อ?” ความสองมาตรฐาน ซ้อเอื้อมมือไปยีผมน้องเล็กอย่างเอ็นดูซึ่งคนถูกโอ๋ก็ยังคงนั่งทำหน้าเหมือนอมความผิดไว้กับตัว ระหว่างนั้นบอสก็มองมาอย่างรู้ทัน เหมือนอยากถามว่ารู้อะไรเกี่ยวกับอาการเลิ่กลั่กของน้องเล็กหรือไม่ เขาจึงโน้มตัวไปกระซิบให้ฟังซึ่งอีกฝ่ายก็ยิ้มขำกับอาการเมาเรื้อนที่คิดว่าแค่ฝันไป

“ซึมเศร้าแมนมาละ”

ทุกคนหันไปทางชายร่างผอมสูงที่เพิ่งเดินออกมาจากบ้าน พี่แจ็คดูไม่ต่างจากเดิมเลยสักนิดไม่ใช่เพราะสร่างเมาแล้ว แต่เพราะมันมีหน้าเดียวไม่ว่าจะตอนปกติหรืออารมณ์ไหน ระหว่างนั้นก็ลุ้นกันว่าพี่ธีร์กับพี่ตั้บใครจะตื่นก่อน ซึ่งแหลมลงไปทางพี่ใหญ่ร้อยนึง แต่รอบนี้ไม่มีใครได้หรือเสียเพราะทุกคนพร้อมใจลงเป็นเสียงเดียวกันหมด

เพราะพูดไม่ทันขาดคำเจ้าของร่างตุ้ยนุ้ยก็เดินกุมศีรษะออกมาแล้วโหยหาข้าวเช้าตอนเกือบเที่ยง



*

 

ทริปสานสัมพันธ์สิ้นสุดลง แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่แหลมกลับรู้สึกเหมือนอยู่ตรงนั้นเป็นอาทิตย์ จริงอยู่ที่เกมช่วยฮีลลิ่ง แต่การพักสายตาจากจอคอมแล้วหันหน้าเข้าหาธรรมชาติบ้างมันก็ดีจนอยากชวนพี่ ๆ ไปทำตัวบ้าบอแบบนี้ด้วยกันอีก

แหลมเป็นคนช่างพูดซึ่งนั่นทำให้เขาเป็นที่รู้จักในคณะ เขามีเพื่อนเยอะก็จริง เพื่อนกินเหล้า เพื่อนเรียน เพื่อนทำงาน เพื่อนเล่นเกม แต่ก็ไม่มีใครทำให้รู้สึกว่า ‘คนพวกนี้แหละที่กูอยากให้อยู่ด้วยในวงจรชีวิตไปเรื่อย ๆ’ และขี้ซุยบราเทอร์ก็ดันตอบโจทย์ได้ทุกข้อ

ดังนั้นไม่ว่าจะทำอะไร ไปไหน เป็นอยู่อย่างไร เขาจึงนึกถึงคนกลุ่มนี้ก่อนเสมอ

ไม่รู้ดิ การไปเที่ยวอย่างสบายใจมันควรไปกับคนที่เข้าใจเรา และเราก็เข้าใจพวกห่านั่นดีที่สุดปะวะ?

ทันทีที่รถตู้จอดหน้าบ้านพี่แจ็คคนที่หลับอยู่จึงต้องลืมตาตื่นมาพบความจริงว่าวันพักร้อนสิ้นสุดลงแล้ว ระหว่างคว้าเอากระเป๋าลงคนที่ไม่ถนัดเรื่องเข้าหาชาวบ้านก็ยืนนิ่งรวบรวมความกล้าก่อนจะเอ่ยปากพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้เขาภูมิใจเล็ก ๆ อีกแล้ว

“ถ้าพวกคุณอยากขึ้นไปกินลมชมวิวบนเขาก็บอกนะครับ” ทุกคนหันไปมองบอส แหลมรู้สึกได้เลยว่าอีกฝ่ายพยายามซ่อนอาการประหม่าไว้ จริงอยู่ที่ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี แต่ถึงอย่างนั้นบอสก็คงไม่กล้าวางใจจนกว่าจะสนิทสนมกับคนอื่น ๆ ให้มากกว่านี้

“ทำไม พี่จะหาที่พักให้พวกผมอีกหรือไง?” พี่ธีร์ไม่ได้นอบน้อมเหมือนคนอื่นเป็น ซึ่งแหลมคิดว่าดีเหมือนกัน เพราะถ้าหากทุกคนมัวแต่เกรงใจ นอบน้อม บอสก็คงเกร็งจนทำตัวไม่ถูก

“ครับ พวกเราอยากเที่ยวเหนือ” พี่แจ็คมองคนเป็นเจ้านายพลางยิ้มบาง ๆ

“แต่ว่าคราวนี้ตุ้บตั้บกับแฟมมิลี่ขอหารค่าใช้จ่ายนะครับ” คนอุ้มลูกเสริมเพื่อให้ความสบายใจกับตนเองและน้อง ๆ

ใคร ๆ ก็ชอบของฟรี แต่ถ้าหากมันมาจากคนใกล้ตัวพวกเขาก็รู้สึกว่ามันเกินไป แหลมรู้ว่าพี่ ๆ ทุกคนเป็นอย่างไร และเขาก็เชื่อว่าบอสจะรับรู้ได้จากการให้ใจกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ

“พี่จะโชว์ป๋าอยู่คนเดียวไม่ได้ โอเคนะ?” พี่ธีร์ขมวดคิ้วหน้านิ่งอย่างอ้อนตีน ซึ่งบอสก็พยักหน้ารับแล้วถอยหลังหนึ่งก้าวให้ทุกคนแยกย้ายกลับไปขึ้นรถของตนเองที่จอดอยู่หน้าบ้านแจ็ค

หลังจากรถพี่ตั้บกับพี่ธีร์โบกมือบ๊ายบายที่ตรงนี้เหลือเพียงคนขับรถตู้และคู่รักโลกแตกเท่านั้น ใจฟูไปหมดแล้ว แหลมชอบบรรยากาศตอนนี้จนหุบยิ้มไม่ได้

“กลับไปอาบน้ำแล้วนอนสักงีบนะ เดี๋ยวผมจะอยู่กินข้าวกับแม่พี่แจ็คก่อนแล้วค่อยกลับหอ”

“แจ็คจะไปส่งใช่ไหม ถ้าว่างแล้วเราโทรหาพี่ด้วยนะครับ”

“ไม่ว่างโทรได้ปะ?”

“เคยไม่ได้หรือไงหื้อ?” กันต์ชำเลืองมองรอบข้างก่อนจะดึงแก้มคนตรงหน้าอย่างมันเขี้ยว

“ยังอยากอยู่ด้วยอยู่เลย ไว้จะรีบโทรหาน้า” เด็กดื้อหลับตายิ้ม เอาแก้มถู ๆ กับมือเขาแปลงร่างจากซิมบ้ากลายเป็นลูกหมาเหมือนที่แฟน ๆ ใน Twitch ชอบเรียก

“ขอบคุณนะครับ เมื่อคืนพี่สนุกมากจริง ๆ” แหลมเม้มปากกับคำว่า ‘สนุกมาก’ เกือบจะซึ้งแล้วถ้าไม่ติดว่าในหัวมีเรื่องจังไรลอยมาให้คิดก่อน

เดธแอร์สุด เหมือนบอสจะรู้ทันถึงได้ขมวดคิ้วแล้วดึงแก้มเขาแรง ๆ จนต้องนิ่วหน้า

“อะ... โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยย”

“เด็กลามก”

“ก็พี่พูดสองแง่สองง่ามเองปะ” ถึงจะขึ้นเสียงแต่หน้าก็ยังยิ้มกับเรื่องในหัว ดีแค่ไหนแล้วที่ไม่ถามว่าระหว่างเมาเหล้าจนตกน้ำกับเล่นเป็นเงือกในอ่างกับบักแหลมอะไรเด็ดกว่ากัน “หุบยิ้มได้ละ มีความสุขเกินไปแล้วนะเราอะ”

คนถูกแซวอมยิ้มอย่างห้ามไม่ได้ นานแค่ไหนแล้วที่กันต์ไม่ได้รู้สึกสบายใจอย่างนี้ กับการได้รับมิตรภาพใหม่ ๆ แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน เพื่อนสมัยเรียนก็อีกเรื่อง เพื่อนวัยทำงานก็ยิ่งไปอีกอย่าง ความสัมพันธ์แบบนั้นก็ดี แต่เขาก็ชอบแบบที่พี่น้องของซิมบ้าน้อยเป็น

“นี่ พี่กันต์”

“ครับ?”

“ไม่ว่าจะเคยเจอแบบไหนมา แต่รู้ไว้เลยนะว่าคนกลุ่มนี้ไม่ต้องใช้เงินซื้อมิตรภาพก็ได้”

“...”

“พวกผมใจง่าย ขอแค่คุยถูกคอ เป็นคนสบาย ๆ แค่นั้นก็เป็นเพื่อนกันได้โดยไม่ต้องมีใครทุ่มเทอยู่ฝ่ายเดียวแล้ว เพราะงั้นพี่อยากไปไหนก็ให้บอกนะ ถ้าทุกคนว่างผมมั่นใจว่าพวกมันต้องไปโดยไม่คิดมากว่าต้องจ่ายแค่ไหน พี่ควรเรียนรู้การได้รับเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ จากคนอื่นบ้าง”

“แต่พี่จ่ายไหวนะครับ พี่ไม่อยากให้ลำบาก โดยเฉพาะตุ้บตั้บกับเจนที่ต้องเลี้ยงดูลูก”

“พี่ พวกมันไม่ได้จนนะ แต่แค่ไม่ฟุ้มเฟือยเพราะอยากมีเงินเก็บไว้ให้ลูกเยอะ ๆ” แหลมยิ้มขำ “เราไม่ได้เที่ยวกันทุกวันสักหน่อย ผมพูดถูกไหม?”

ไม่ชินกับสิ่งที่เรียกว่า ‘หาร’ แต่กันต์ก็รู้สึกได้ถึงความจริงใจเพราะคนเหล่านั้นต่างก็รู้ว่าเงินของเขาสามารถซื้ออะไรได้บ้าง แต่ก็ยังเลือกที่จะแชร์ค่าใช้จ่ายกัน

“พี่ต้องเรียนรู้อีกเยอะเลย”

“ไม่ต้องรีบ ขี้ซุยบราเทอร์อยู่ตรงนี้ตลอด ไม่ได้ไปไหนอยู่แล้ว” อยู่ ๆ ซิมบ้าน้อยก็เท่ขึ้นมาเสียอย่างนั้น กันต์โคลงศีรษะแฟนเด็กที่ยืนกอดอกเก๊กหน้าหล่อ ก่อนจะจ้องตากันเหมือนอยากเข้าไปจุ๊บปากแสดงความรักสักนิด

“เอ่อ”

แต่ก็ต้องยิ้มค้างเพราะเสียงปริศนาที่มาขัดจังหวะเสียก่อน

ทั้งคู่กันไปทางลูกเจ้าของร้านซักรีดที่ยืนอยู่ตรงนั้นพร้อมถุงขนมไทย จังหวะนั้นบอสจึงละมือออกแล้วขยับถอยไปสองก้าวเหมือนโมเสสแยกทะเลแดง

“แม่ผมฝากขนมมาให้บอสน่ะครับ...”

“อ้อ... ขอบคุณนะ ไม่สิ ผมควรเดินเข้าไปขอบคุณเธอเอง” พี่แจ็คเหมือนจะยิ้มแต่เอาเข้าจริงเรียกว่ามุมปากแค่ยกขึ้นเฉย ๆ คงจะถูกกว่า เด็กลูกครึ่งเหล่มองรุ่นพี่ที่มองมาเหมือนอยากจะบอกว่าเขาทำอะไรประเจิดประเจ้อ ขณะที่บอสเดินหายเข้าไปในบ้านแล้ว

 “ไร?”

“คนมีความรักโลกมักเป็นสีชมพู” ว่ะ อเมริกาต้องจุดพลุขึ้นฟ้าแล้วไหมซึมเศร้าแมนงัดปากแซวทั้งทีงี้

“อิจฉาก็หาเมียดิ”

คนถูกย้อนไหวไหล่หน้าตาย ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในบ้านโดยที่ยังหันมามองหน้านิ่งเป็นระยะ วันนี้พี่แจ็คกวนตีนว่ะ สงสัยอารมณ์ดีจัด



*



ทริปหนึ่งคืนช่วยฮีลใจคนที่เครียดกับการแข่งได้ดีเลยทีเดียว พอกลับมาซ้อมอีกครั้งก็ปล่อยของกันยกใหญ่เหมือนพร้อมจะฟาดหน้าคู่ต่อสู้อยู่ทุกวินาที แต่ละคนไปสุดทางจนงงว่าคึกอะไรกันขนาดนั้น

เล่นเกมมันสนุกแต่ก็เครียด แหลมเคยเห็นคนเสียเพื่อนเพราะอารมณ์ร้อนแล้วพาล ขึ้นเสียงใส่จนลืมว่าจุดประสงค์แรกคือความสนุก แต่เขาก็เข้าใจเพราะบางครั้งการจะสนุกได้มันต้องชนะ ขี้ซุยบราเทอร์เคยผ่านจุดที่ต้องทนอยู่ในบรรยากาศแบบนั้นมาแล้วช่วงก่อนได้แชมป์ครั้งแรก

หลายครั้งที่เขาและพี่ธีร์เผลอหัวร้อนพูดจาโง่ ๆ แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็ได้เรียนรู้ว่าควรจะใจเย็นลงหน่อย เพื่อนดี ๆ ไม่ได้หาง่ายขนาดนั้น การถนอมน้ำใจกันจึงเป็นเรื่องที่ทุกคนต่างก็ใส่ใจ ถึงจะชอบพูดหยาบคายปีนเกลียว แต่พอถึงจุดที่ใครคนหนึ่งล้ม ทุกคนก็พร้อมจะเหยียบแล้วหัวเราะใส่ก่อนจะประคองให้ลุกขึ้นได้โดยไม่หนีหายไปไหน

และก็ใช่ รอบนี้ขี้ซุยบราเทอร์คว้าชัยชนะมาได้อีกครั้ง พวกเขาได้กลิ่นเส้นทางสู่รอบชิงชนะเลิศ มันยังคงหอมหวานเหมือนตอนต้นปีไม่มีผิด

หลายคนอาจไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง แต่แหลมเป็นคนหนึ่งที่ตื่นเต้นกับมัน บางครั้งเจอเรื่องกาก ๆ เข้ามาให้ปวดหัวบ้าง แต่เด็กอย่างเขาก็รักที่จะเปลี่ยนเรื่องแย่ ๆ ให้กลายมาเป็นบทเรียนน่าสนุกได้ เช่นการที่บอสเข้ามาวนเวียนอยู่ในขี้ซุยบราเทอร์มากขึ้น ตอนแรกโคตรรำคาญเลย แต่พอเปิดใจรับเข้ามาครั้งเดียวเท่านั้นแหละ คนที่เคยไม่อยากรับสายก็กลายเป็นคนที่อยู่ด้วยกันไปจนหลับทุกคืน

บางทีก็เห็นใจเพราะพวกเขาใช้ชีวิตสบาย ๆ จนบอสต้องเป็นฝ่ายปรับตัวเข้าหา เช่นปาร์ตี้หมูกระทะซึ่งเป็นแหล่งอุดมไปด้วยแคลอรี่ สวนทางกับคนที่ไม่ค่อยได้กินข้าวเย็น ดังนั้นการเป็นส่วนหนึ่งในปาร์ตี้จึงมีความเกร็งเล็กน้อยถึงปานกลาง

แต่พอผ่านไปสักพักอะไร ๆ ก็เริ่มดีขึ้น เป็นเพราะต่างฝ่ายต่างยอมถอยคนละก้าว พี่ ๆ ของเขาถึงได้ชวนกินอย่างอื่นบ้างเพียงเพราะรู้ว่าหมูกระทะไม่ใช่เมนูที่บอสอยากหยิบเข้าปาก พอได้ยินอย่างนั้นบอสก็ยิ้มพร้อมบอกว่า ‘ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ได้มากินหมูกระทะกับทุกคนบ่อย ๆ สักหน่อยนี่นะ?’ หลังจากนั้นก็กินหมูทะหน้าตาเฉยเลยเว้ย เอ้อ น้ำหนักเพิ่มก็ลดได้ แต่ซื้อใจเพื่อนอะต้องวันนี้!

ได้ใจพวกขี้ซุยฯ ไปอีก แหลมนั่งยืดหลังตรงยิ้มเล็ก ๆ พลางยักคิ้วใส่พี่แจ็ค ซึมเศร้าแมนเป็นคนที่รู้จักบอสมานานกว่าใคร ดังนั้นพี่มันคงอัศจรรย์ใจอยู่ไม่น้อยกับความเปลี่ยนแปลงใหม่ที่อัปเกรดขึ้นอย่างโหด


*
 

( ยังไม่ตื่นเหรอครับ? )

“อือ...”

( พี่โทรมาบอกว่าคงไปช้าหน่อยนะครับ รถดันเสียบนทางด่วน ตอนนี้รอช่างอยู่ )

“ค้าบ...”

ขานตอบยาวพอ ๆ กับสันหลังซึ่งเหยียดไปพร้อมความขี้เกียจ เด็กลูกครึ่งที่ใช้เวลาไปกับการเล่นเกมกับพี่ ๆ จนถึงตีห้านอนหันข้างหลับตาคุยโดยวางโทรศัพท์ไว้บนหู ตอนคบกันแรก ๆ ก็คึกนอนเร็วเพื่อจะตื่นมาอาบน้ำแต่งตัวรอ แต่พอผ่านช่วงโปรถึงรู้ว่าเขาสามารถสกปรกอย่างเป็นตัวเองได้นะ

( หิวหรือยัง รออีกหน่อยนะครับ พี่จะรีบนั่งแท็กซี่ไป )

“ไม่เป็นไรผมยังไม่หิวเท่าไหร่ พี่จัดการเรื่องรถก่อนเลย...”

( เอางั้นเหรอ? )

“อือ ขอนอนต่ออีกนิด พอพี่มาถึงแล้วผมจะได้ไม่หาวใส่”

( โอเค งั้นไปนอนต่อนะครับ ถ้าถึงแล้วเดี๋ยวพี่ปลุก )

“คิดถึงจังค้าบบบบ”

( ไม่เชื่อคนขี้เซาหรอกนะครับ )

“โทษพี่ธีร์ดิ มันเห่อเกมใหม่อะ...”

( ไว้จะไปฟังเองกับหู พอถึงตอนนั้นแล้วจะคิดดูอีกทีว่าเชื่อดีไหม? )

“มั๊วะ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”

ได้ยินเสียงคนปลายสายหัวเราะในลำคอหลังจากถูกจุ๊บอัดโทรศัพท์ วันนี้ตั้งใจว่าจะออกไปเดินห้าง กินข้าว ดูหนังสักเรื่องเพราะอาทิตย์หน้าคงแทบไม่ได้เจอกันเพราะบอสงานยุ่ง วันนี้ไปเที่ยวแบบชาวบ้านชาวช่องได้แล้วสินะ ก็ดี พอคิดว่าอีกฝ่ายไม่มีรถขับก็ตื่นเต้นเหมือนแอบสะใจที่เห็นแฟนได้รับความทุกข์ทรมานเล็ก ๆ

นอนต่อไม่น่าถึงครึ่งชั่วโมงก็ต้องตื่นอีกรอบเพราะได้ยินเสียงไขกลอนประตู เด็กลูกครึ่งยันตัวขึ้นเล็กน้อยพลางขยี้ตามองเพื่อให้ภาพชัดขึ้นว่าใครกันที่โผล่มาแต่เช้า บอสตอแหลว่ารถเสียแต่จริง ๆ แอบมาเซอร์ไพรส์งี้เหรอ เนื่องในโอกาสอะไร วันเกิดก็ไม่ใช่ปะ?

จากความสูงแล้วคงทายผิด ตัดบอส พี่ธีร์ พี่แจ็คออกไปได้เลย ไอ้โซ่ก็ยังไม่ได้ปั๊มกุญแจให้ แล้วร่างผู้ชายคนนั้นก็ผอมเกินกว่าจะเป็นพี่ตั้บด้วย ผ่านไปชั่วอึดใจทุกอย่างก็ชัดขึ้น แหลมอ้าปากค้างอยู่อย่างนั้นเมื่อเห็นรอยยิ้มของไอ้ธูปที่ไม่รู้ว่าลมห่าอะไรพัดพามาถึงที่นี่ได้

“กูฝันอยู่ถูกปะ?”

“อุตส่าห์มาหา ทักทายกันแบบนี้เหรอ?” ไม่ใช่แค่โผล่หน้ามาแต่รอยยิ้มบนหน้ามันเนี่ยสิที่ชวนให้สงสัย ร้อยวันพันปีเคยทำหน้าแบบนั้นใส่ด้วยหรือไง เด็กลูกครึ่งดีดตัวขึ้นนั่งบนเตียงพร้อมผมเผ้าที่ชี้โด่เด่ สายตาจ้องมองตามทุกความเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายว่าจะมาไม้ไหน

“กูนึกว่ามึงทิ้งกุญแจไปแล้ว” ตอนไอ้ธูปเพิ่งมาอยู่กรุงเทพฯ เขาเป็นคนชวนให้มันมาอยู่ด้วยกันก่อนเพราะจะช่วยได้แนะนำเรื่องการใช้ชีวิตและการเดินทาง แต่พอมันย้ายไปอยู่หอ เริ่มปีกกล้าขาแข็งเข้ากับสังคมเพื่อนได้แล้วก็ไม่เคยมาเหยียบที่นี่อีกเลย

“ผมรู้ว่าพี่รู้สึกแย่ที่ผมทำตัวไม่ดีใส่”

“...”

“แต่ผมอยากบอกว่าผมรู้สึกผิดแล้วนะ” 

จากประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้ไม่อยากปักใจเชื่อง่าย ๆ เด็กหัวรั้นที่เคยพยายามอธิบายดี ๆ แล้วแต่ก็ไม่ฟังน่ะเหรอจะเปิดประตูห้องมาหาพร้อมทำเหมือนว่าเข้าใจโลกแล้ว ไอ้ธูปอยากยืมเงินอีกหรือว่าอะไร แหลมลดระดับสายตามองถุงที่อีกฝ่ายวางลงบนเตียง ก่อนจะใช้นิ้วกดลงเพื่อดูว่าข้างในนั้นมีอะไรซ่อนอยู่ แล้วก็พบว่าคือเสื้อผ้าราคาหลักพัน

“ของฝาก แล้วก็เอาเงินมาคืน”

“มึง”

“ไว้ก่อนได้ไหม?” ไอ้ธูปส่งเสียงอ่อนใจ มองเขาอย่างเว้าวอนเพราะไม่อยากให้พูดถึงเรื่องที่รู้กันดีอยู่แล้ว “ผมแทงบอลได้ โอเค มันไม่ดี แต่มันทำให้ผมมีเงินมาคืนพี่ได้แถมยังเหลือใช้อีกด้วย”

“กูไม่ได้ให้มึงยืมไปเพื่อที่จะหามาคืนด้วยวิธีนี้ปะ?”

“แต่มันได้เยอะ พี่ก็รู้” อยากด่า แต่พูดมากกว่านี้ก็ไม่ได้เดี๋ยวบรรยากาศจะพังหมด ไอ้ธูปเป็นคนความอดทนน้อยแค่ไหนแหลมรู้ดี แต่เขาก็ไม่อยากให้ไอ้เด็กนี่หลงคิดไปว่าการพนันคือหนทางที่จะทำให้ชีวิตสบายในกรุงเทพฯ ได้ “มองแค่เรื่องที่ผมซื้อของมาให้พี่ดิจะได้สบายใจ”

“มึงติดพนันบอลเหรอ?”

“ไม่ได้ติดแค่ลองเล่นเฉย ๆ แล้วก่อนหน้านี้มันเสียไง แต่ตอนนี้ได้คืนแล้ว หลายเท่าด้วย”

“มึงต้องเลิกนะธูป ไม่งั้นกูโกรธจริง ๆ” เขากล่าวอย่างไม่โกหก และอีกฝ่ายก็ทิ้งระยะไปชั่วครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้ารับโดยจะแม้แต่จะหันมามองหน้ากัน “ถึงเราจะไม่ค่อยได้คุยกันดี ๆ แต่กูเป็นห่วงมึงมากนะ”

“เพราะพี่เทียน ผมรู้”

“นั่นก็ส่วนนึง แต่การที่เค้าไม่อยู่แล้วแต่กูยังอยู่กับมึงจนถึงวันนี้ นั่นหมายความว่ากูเห็นมึงเป็นน้องชายแท้ ๆ ไปแล้ว เข้าใจเปล่าวะ?” แหลมไม่ค่อยได้จริงจังนัก และเขาจำเป็นต้องใช้มันกับไอ้เด็กเข้าใจยากโดยไม่ต้องคำนึงถึงฟอร์มที่จะเสียไป

“ทั้งที่ผมทำตัวไม่ดีใส่พี่อยู่ตลอดน่ะเหรอ?”

“อืม”

“ไม่หรอก เพราะพี่ยังรักพี่เทียนอยู่มากกว่า”

พอได้ยินประโยคนี้ก็หน้าชา มันจริงอย่างที่ไอ้ธูปพูดว่าเขายังรักเทียน แต่นั่นก็ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว แหลมไม่ได้ปักใจอยู่กับเธอเหมือนอย่างที่เคย เพราะตั้งแต่ยอมเปิดใจให้บอส เขาก็เก็บเทียนไว้ในความทรงจำมาตลอด

“บางทีกูอาจจะคันตีนบ้าง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะคุยกันดี ๆ ไม่ได้ใช่ไหมวะ?” แหลมขยับเข้าไปหาอีกฝ่ายพร้อมเอาหมอนอัดปากตัวเองทั้งที่ยังสบตากัน

“ทำไรของพี่?”

“กูปากเน่า ยังไม่ได้แปรงฟัน” คนฟังหลุดขำ ก่อนจะพยักหน้าเข้าใจ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้ธูปก็อารมณ์ดีไปเสียหมด มันคงเป็นผลพวงจากการได้เงินเยอะ “เราเริ่มต้นใหม่กันได้ โอเคไหม?”

ก็ไม่ได้คาดหวังว่าไอ้ธูปจะพยักหน้าตกลงทันที แต่การที่มันหลุบสายตาลงเหมือนกำลังคิดอะไร ก่อนจะเงยหน้ามามองกันก็ทำให้รู้ว่าบางทีการกลับไปคุยกันดี ๆ อาจจะเป็นเรื่องยาก

“โอเค”

“เยี่ยม มันต้องแบบนี้ดิวะ” คนถือหมอนอัดปากยกนิ้วโป้งขึ้น หลังจากนั้นไอ้ธูปก็เอากระเป๋าเงินออกมาพร้อมเงินสดจำนวนหนึ่ง

“สองหมื่นนะ ส่วนที่เหลือไว้ค่อยว่ากัน ถ้าคืนหมดเดี๋ยวพี่ไม่มีเรื่องให้บ่น”

“กูกลายเป็นลุงแก่ ๆ เพราะใครล่ะห่า” เขาผลักหัวไอ้เด็กเหี้ย ซึ่งการที่อีกฝ่ายหัวเราะมากกว่าจะชักสีหน้าใส่ก็ทำให้อุ่นใจขึ้นเยอะ “แต่กูไม่ได้รีบใช้ มึงเก็บไว้ก่อนเหอะ”

“คืนดีกว่า เผื่อมีอะไรอีกจะได้ขอยืมง่าย”

“ส้นตีนตลอด มึงห้ามแทงบอลนะธูป กูพูดตรงนี้” แหลมชี้หน้าอีกฝ่ายอย่างเอาเรื่อง

“เห็นไหม ยังไม่ทันไรก็ด่าผมอีกละ ไหนบอกจะเริ่มต้นใหม่ไง”

“เอ้อ กูขอโทษได้ไหมล่ะ”

บนใบหน้าเริ่มแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้ม หัวใจพองโตเหมือนหญ้าโดนฝนในฤดูแล้ง แหลมมองน้องชายที่ลุกขึ้นยืนเหมือนว่าธุระวันนี้สิ้นสุดลงแล้ว และเขาคงไม่รั้งให้อยู่ต่อเพราะมันเสี่ยงต่อการชวนทะเลาะเกินไป

“ผมกลับละ”

“เออ เดินทางดี ๆ จำทะเบียนแท็กซี่ด้วย” ไอ้ธูปพยักหน้าแล้วเดินออกไปพร้อมทิ้งความสบายใจไว้ให้เขาด้วย

วันนี้เริ่มต้นดีแต่เช้าเลยว่ะ แหลมเดินไปแปรงฟันในห้องน้ำ ระหว่างฟองเต็มปากก็หายใจเข้าลึก ๆ แล้วผ่อนออกอย่างโล่งอก หวังว่าการเริ่มต้นใหม่ครั้งนี้จะทำให้คำว่าพี่น้องกลับมาสู่เขากับไอ้ธูปอีกครั้ง

แต่แปรงฟันยังไม่ทันเสร็จก็ต้องชะงักมือเพราะเซนส์บางอย่างบอกให้ออกไปนอกระเบียง ตอนนั้นเขาถึงได้เห็นว่าไอ้ธูปกำลังวิ่งฝ่าห่าฝนที่ตกลงมาอย่างหนักไปหารถยนต์สีดำซึ่งราคาน่าจะเกือบล้าน และแน่นอนว่าไม่ใช่เงินแม่มันซื้อให้แน่ ๆ

อย่าบอกว่าไอ้ธูปแทงบอลจนได้รถ? ไม่มั้ง... เพราะนั่นก็ไม่ใช่รถใหม่ที่เพิ่งถอยมาสักหน่อย หรือมันจะยืมเพื่อนมา เออ อันนี้อาจเป็นไปได้ แล้วไอ้เด็กนั่นไปหัดขับตอนไหนวะ? ตอนนี้มีแต่คำถามในหัวอยู่เต็มไปหมด

“ที่รักครับ”

วันนี้ห้องไอ้แหลมฮอตจังโว้ย เด็กลูกครึ่งหันขวับไปทางประตูห้องก่อนจะพบแฟนหนุ่มในชุดลำลองแสนหล่อแต่สภาพเปียกโชกจนเห็นแผงอกทะลุเชิ้ตขาว รองเท้าแพง ๆ นี่เปียกไม่เหลือดี

“...ช่วยพี่ด้วย”

“เอ๊า!!!” พอเห็นบอสเบะปากก็รีบกลับเข้าห้องน้ำไปบ้วนฟองยาสีฟันออกแล้วล้างหน้าอย่างลวก ๆ

“ผ้าขนหนูเร็วครับ... มันไหลเข้าไปในกางเกงพี่แล้ว”

“เยี่ยวหยอดเปล่าเนี่ย?!” ทั้งแซวทั้งหาผ้าแห้งให้ แหลมหลุดขำใส่หน้าอีกฝ่ายที่ยืนทำหน้าเหวอกางแขนออกประหนึ่งหุ่นประกอบวิชาวิทยาศาสตร์ ทำหน้างอแงจนอยากเขย่งไปจูบหัวโอ๋สักทีสองที “ทำไมเปียกขนาดนี้ แท็กซี่เทหน้าปากซอยเหรอ?”

“รถมันติดมากพี่ก็เลยเรียกมอเตอร์ไซค์มาน่ะสิครับ แล้วฝนก็ดันตกตอนอยู่กลางเมืองเอกพอดี” กันต์ปลดกระดุมเชิ้ตขาวออกแล้วผึ่งไว้กับเก้าอี้โดยมีแฟนเด็กคอยเช็ดผมให้

“ขี้บาปก็งี้... โอ๊ะ!!! พี่!!!” ตื่นเต็มตาเลยกู แหลมเอนตัวหลบอ้อมกอดที่กำลังยัดเยียดให้เปียกด้วยกันพร้อมเอามือดันคางไว้แต่บอสก็ยังทำท่าเหมือนจะจุ๊บให้ได้ วันนี้กวนตีนจัดอะไปคึกไรมา

“รังเกียจเหรอครับ?”

“มาก ออกไปเลย ตัวแห้งก่อนค่อยว่ากัน”

“ทีเรารีบแปรงฟันล้างหน้าลวก ๆ พี่ยังไม่ว่าอะไรเลยนะ”

“แล้วไง? ฮ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา”

“...” กันต์แกล้งทำหน้าเหยเกแล้วปล่อยตัวซิมบ้าน้อยเพื่อปิดจมูกตัวเอง แต่เด็กแสบมีหรือจะเสียฟอร์มเป็น นอกจากจะไม่อายแล้วยังพยายามจะแกะมือเขาเพื่อพ่นกลิ่นยาสีฟันใส่อีก

“กวนมากเหรอ มานี่ดิ๊” แหลมผลักอีกคนลงไปนอนบนเตียงแล้วขึ้นคร่อม ทั้งต่อยแขนทั้งกัดเอาให้รู้ว่าไม่ควรซ่ากับเจ้าถิ่น

“ไม่เอาแล้วพี่สู้กลิ่นปากไม่ไหว เชร์! อย่าบีบครับพี่เจ็บ! โอ๊ย!” ทั้งหัวเราะทั้งขอร้องให้หยุดแต่แฟนเด็กก็บีบลูกชายเขาเหมือนไม่รักมันแล้ว กันต์นอนขดตัว พยายามปกป้องเป้ากางเกงอย่างถึงที่สุด แต่เชร์ก็ยังบีบเหมือนสนุก ถ้าใช้งานไม่ได้ล่ะน่าดู

“ทำเหี้ยไรกันวะ...?”

รู้สึกเหมือนโลกหยุดหมุนตอนที่หันไปเห็นว่าไอ้ธูปยืนอยู่หน้าประตู แววตาคู่นั้นตื่นตระหนกเกินกว่าจะอธิบายให้รู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้คืออะไร และต่อให้พูดไปก็ไม่รู้ว่าเด็กอย่างมันจะเข้าใจไหม กับการเห็นเขาขึ้นคร่อมทับตัวผู้ชายอีกคนที่เปลือยทนบนอยู่แถมยังกอดรัดกันอย่างนี้

“ธูป -- กู”

อีกฝ่ายแค่ลุกขึ้นยังไม่ทันเดินเข้ามาด้วยซ้ำขาคู่นี้ก็ก้าวถอยหลังเสียแล้ว ธูปมองผู้ชายสองคนนั้นพร้อมสองมือที่มั่นสั่นอย่างบอกไม่ถูก นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน เขากลับมาเพราะลืมโทรศัพท์ไว้แต่มันก็แค่ไม่กี่นาทีเท่านั้นเองไม่ใช่หรือไง ทำไมพี่เชร์ถึง...?

“กู --”

“กูอะไร?”

“...”

เด็กหนุ่มมองสองคนนั้นสลับกัน บนหน้าคนที่เรียกว่าพี่ชายมีแต่คำว่า ‘หักหลัง’ เท่านั้นที่ธูปพอจะมองเห็นได้

“นี่เหรอที่บอกว่ารักพี่เทียน?”

“มึงใจเย็นก่อนนะ เรื่องเทียนกูอธิบายได้”

“อธิบายเหี้ยไร อธิบายว่าทำอะไรกับผู้ชายคนนั้นอยู่ก็น่าจะพอมั้ง?”

“ฟังเชร์ก่อนนะครับ”

“อย่าเสือก ไม่ได้พูดด้วย”

“ธูปมึงใจเย็นหน่อยได้ไหมวะ?” พอเห็นไอ้เด็กห่านี่พาลไปถึงบอสเขาก็ไม่รู้แล้วว่าต้องทำตัวอย่างไร เหมือนว่าขยับตัวไปทางไหนก็ผิดทุกอย่าง

“ถึงว่าล่ะ ตอนพูดเรื่องพี่เทียนนี่เงียบเลย”

“...”

“ก็เข้าใจอยู่หรอกว่ารักคนตายมันไม่ได้อะไร ว่าแต่ใครผัวใครเมียล่ะ ขุดทองสนุกเลยใช่ไหม?”

“ระวังปากหน่อย”

“กูบอกว่าอย่าเสือกไง”

กันต์กัดฟันกรอด ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้เชร์บีบมือไว้ เขาคงลุกไปทำอะไรสักอย่างกับปากพล่อย ๆ นั่นสักครั้ง

“ที่จริงกูก็ไม่เคยคาดหวังในตัวมึงหรอกนะเหี้ยเชร์ แต่ตอนนี้ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมกูผิดหวังฉิบหาย”

“...”

“ต่อไปก็ไม่ต้องมาพูดถึงชื่อพี่กูอีก ไม่ต้องโอนเงินมาแล้ว อยากจะลองรสชาติแปลกใหม่ยังไงก็เชิญ”

ไม่เคยเห็นเชร์ยอมแบบนี้มาก่อน ยอมถึงขั้นที่นั่งมองอยู่เฉย ๆ ราวกับขอโอกาสให้เด็กคนนั้นคิดทบทวนดูสักนิด ซึ่งธูปก็แค่นิ่งไป และเขาคิดว่าอีกฝ่ายคงกำลังคิดคำพูดแย่ ๆ ออกมาทำร้ายเชร์มากกว่าจะกล่าวขอโทษที่ใจร้อนแบบนี้

“เอากันให้สนุกล่ะ”

ถึงตัวไอ้ธูปจะยืนอยู่ตรงหน้าประตู แต่แหลมกลับรู้สึกเหมือนถูกชกหน้าอย่างแรงจนแทบลุกไม่ขึ้น ในหูมีเสียงหวีดหวิวกึกก้องราวกับอยู่ในเหตุการณ์ระเบิด ขาทั้งสองข้างขยับไม่ได้ แม้แต่ตอนที่เห็นว่าอีกฝ่ายไปแล้ว เขาก็ยังอยู่ตรงนี้พร้อมหัวใจที่แหลกละเอียดไม่เหลือชิ้นดี

เด็กหนุ่มยกมือขึ้นปิดหน้านั่งนิ่ง ริมฝีปากสั่นไปกับความรู้สึกที่บีบอัดจนกลั่นออกมาเป็นน้ำตา เขาไม่ได้ตั้งใจทำร้ายไอ้ธูป แต่เขาก็ปฏิเสธความจริงที่เป็นอยู่ไม่ได้

อ้อมกอดของบอสทำให้รู้ว่าเสียงสะอื้นในลำคอมันเบากว่าความผิดหวังที่ไอ้ธูปมีให้ จากที่แค่น้ำตาไหล สุดท้ายเขาก็ร้องไห้ออกมาดัง ๆ



TBC


*นั่งเหม่ออยู่แถวโทรลเวย์*



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-09-2018 19:52:28 โดย หน่วยกล้าวาย »

ออฟไลน์ killua1a

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ mayyiyi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เอ้งตกใจแต่ก็ไม่น่าจะพูดแบบนั้นป่ะธูป เฮ้อ

ออฟไลน์ yasperjer

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
ธูปปปปปปปปทำไมน้ำเสียงไม่อ่อนหวานเหมือนตอนยืมเงินเลย​ แล้วมีสิทธิ์อะไรมาผิดหวังในตัวเชร์​ มีสิทธิ์ไรทำเชร์ร้องไห้อะ​ เด็กนิสัยไม่ดียยยยย์
 :hao7:

ออฟไลน์ PsychePie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
โอ้ววววววว มายกึ้ดเนส
หนูมีสิทธิ์ไปคาดหวังในตัวพี่เขาขนาดนั้นเลยเหรอ
มันน่าเอาซักหมัด สองหมัดเรียกสติ

ออฟไลน์ RinNam

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ธูปเป็นเด็กที่จริงๆแล้วก็คงเป็นคนดี 

แต่เป็นเด็กมากกก เด็กมากๆ เด็กสุดๆ เด็กแม่งทุกอย่าง

อาจจะด้วยสภาพแวดล้อมหรือสังคมรอบตัวที่ไม่เอื้อต่อการพัฒนาด้านจิตใจและความคิด

คงบวกประกอบด้วยความตกใจที่เจอเรื่องไม่คาดฝัน

ทำให้พูดสิ่งที่ทำร้ายใจคนที่ก็รู้ว่าหวังดีกับตัวมากๆ

เป็นเด็กวัยรุ่นที่ทำตัวมีปัญหา ไม่น่ารักเลย

อยากให้คิดได้ไวๆนะน้อง

เป็นห่วงเชร์นะ แต่คิดว่าบอสและเดอะแก๊งเอาอยู่

แม้จะเจอเรื่องอะไร หนักขนาดไหน ตัวเชร์มีคนดีๆรายล้อมเสมอ

รักตัวเองให้มากๆ

อย่าเอาคำไร้ค่าของเด็กที่ยังไม่มีวุฒิภาวะห่านใดๆมารกหูรกใจเลยนะเชร์

 :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ursleepingxd

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 148
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อย่างธูปนี่ยังกล้าผิดหวังในตัวคนอื่นอีกหรอ ตัวเองนี่ดีมากเลยดิ  :katai4:

หัวร้อนเลยอะ บอสดูแลน้องดีๆนะ ;  w  ;

ว่าแต่จะมีเรื่องของธูปมั้ยน้าา

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ทีตัวเองเห็นเขาเป็นพี่เฉพาะเวลาต้องการความช่วยเหลือหรอกน่า
ตัวเองก็ใช่ว่าดีเหลือล้น แล้วมานั่งคาดหวังอะไรกับคนอื่น ประหลาดคน

ออฟไลน์ pornwicha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
 :hao5:  ตัดแบบนี้น้องไม่ไหววววว รอตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ PandP

  • Déjame vivir esa fantasía.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-0
    • http://www.facebook.com/iAMpingPINGping
โห เป็นเราตัดคนแบบนี้ออกจากชีวิตแล้วอ่ะ สายเลือดเดียวกันก็ไม่ใช่ ให้ข้าวให้น้ำแล้วยังมาทำตัวแบบนี้ ก็คงต้องปล่อย แล้วรอมันซมซานกลับมาเอง จะเด็ก จะไม่ทันคิดอะไรก็คงไม่ใช่ข้ออ้าง เพราะคิดชั่วขนาดนี้ได้ แต่ดันคิดดี สำนึกบุญคุณไม่ได้ ไม่น่าเก็บไว้ในชีวิต

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
……


ไม่เข้าใจว่าธูปโกรธอะไรนักหนา. 

เพราะเชร์มีแฟนใหม่. หรือมีแฟนเป็นผู้ชาย แล้วไง?


 :katai1:  :katai1:  :katai1:  :katai1:  :katai1:  :katai1:


……

ออฟไลน์ 19th

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
กลัวว่าพอเลิกรักพี่สาวตัวเองแล้วจะไม่สนใจตัวเองหรอ เด็กหนอเด็ก.... อย่าเตลิดนะธูป ไม่อยากให้เชร์โทษตัวเองอีก  :katai1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
 :z6: สักร้อยทีให้ไอ้เด็กนี่

ออฟไลน์ may27

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 297
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
 :m31:  คนบางคนมันไม่คิดถึงใจคนอื่นหรอก  ไอ้ธูปก็เหมือนกัน  ต้องให้มันรู้ความจริงเรื่องเทียน จะได้รู้ว่าควรทำแบบนี่หรือเปล่า

ออฟไลน์ mijimaria

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ธูปปปป ทำไมพูดแบบนั้น จริงอยู่ว่าเชร์อาจจะเคยรักเทียนแต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้วนะ แล้วแถมเชร์ยังดูแลธูปตลอดมาด้วย   :katai1: :katai1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-09-2018 20:10:21 โดย mijimaria »

ออฟไลน์ หน่วยกล้าวาย

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0
#ชอกะเชร์คู่กันต์
ตอนที่ 21
ความลับ


 

ใบปัดน้ำฝนโบกสะบัดเหมือนอยากกวาดไล่ความโทสะจากใจเขาลงไปด้วย ธูปยังคงเหยียบคันเร่งพร้อมบีบแตรอัดรถคันข้างหน้าที่ขับงี่เง่าจนอยากปาดไปขวางแล้วกระชากคอเสื้อมาถามว่าพ่อมึงซื้อใบขับขี่ให้เหรอถึงขับส้นตีนอย่างนี้

 

อะไร ๆ ก็ดูแย่ไปหมด คำว่าอารมณ์ดีคงห่างไกลเด็กผู้ชายคนนี้ตราบใดที่ภาพน่ารังเกียจเหล่านั้นยังคงติดตา เด็กหนุ่มกัดฟันกรอดกำมือแน่นทุกครั้งที่นึกถึงใครอีกคนเปลี่ยนไปแล้ว มันเกินความคาดหมายเกินไป ผู้ชายคนนั้นจะมีแฟนใหม่เป็นผู้หญิงที่ไหนก็ได้แต่การหันไปเอาผู้ชายด้วยกันมันไม่ทุเรศเกินไปหน่อยเหรอ?

 

แค่คิดก็ขยะแขยง จะอ้วก ไม่รู้ทำลงไปได้อย่างไร

 

อยากโทรหาเพื่อนแต่ก็ทำได้แค่สบถคำหยาบกับตัวเองเพราะมือถือยังอยู่ในห้องนั้น ธูปพยายามข่มอารมณ์ด้วยการนึกถึงเรื่องดี ๆ ที่เคยมีร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นตอนที่พี่สาวยังมีชีวิต หรือตอนที่เห็นผู้ชายคนนั้นเป็นต้นแบบที่อยากเลียนแบบ

 

เขาอยากเท่ได้แบบนั้นบ้าง อยากเป็นคนมีความสามารถและอยู่ได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งใคร แต่ถ้าทำได้อย่างนั้นแล้วต้องเสียศักดิ์ศรีด้วยการหันเข้าหาผู้ชายด้วยกันอย่างนั้น ธูปขอยอมตายดีกว่า

 

 

 

*

 

 

 

แม้จะมียินเสียงฝนจากด้านนอก แต่กันต์กลับรู้สึกว่าห้องนี้เงียบสงัดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาเคยชินกับเสียงหัวเราะ เสียงพูดจ้อเจื้อย และเสียงหวีดร้องของเด็กผู้ชายที่ชอบเล่นเกมเป็นชีวิตจิตใจ แต่ตอนนี้เด็กคนนั้นกำลังนอนนิ่ง ๆ หลงเหลือเพียงคราบน้ำตาที่เขาไม่อยากให้เกิดขึ้นไม่ว่าจะกับเรื่องอะไร

 

กันต์ขยับตัวเล็กน้อยเพื่อกระชับคนในอ้อมกอด เด็กที่เพิ่งถูกควักหัวใจออกไปเหยียบย่ำจนไม่เหลือชิ้นดียังคงนอนนิ่งไม่รับรู้ถึงการเคลื่อนไหวของเขา ชายหนุ่มกดริมฝีปากลงบนกลุ่มผมสีอ่อน ลูบศีรษะคนน้องเบา ๆ แล้วปล่อยให้สมองได้หาทางว่าเขาควรทำอย่างไรกับเรื่องนี้ดี

 

แรงสั่นสะเทือนเรียกความสนใจให้หันไปมอง กันต์รีบคว้ามือถือหน้าตาไม่คุ้นขึ้นมาเพราะคิดว่ามันคงไม่ดีสักเท่าไหร่หากเชร์จะต้องตื่นเพราะเสียงของมัน

 

โทรเข้า...

‘BALL’

 

( อยู่ไหนวะธูป เย็นนี้ว่าไง? )

 

ชายหนุ่มนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะประคองคนในอ้อมกอดให้นอนหมอนดี ๆ กันต์เดินออกไปตรงระเบียงเพื่อเลี่ยงการส่งเสียง เขามองโทรศัพท์ในมือแล้วเอาแนบหูอีกครั้ง

 

( เชี่ยธูป มึงได้ยินไหม? )

 

จ้องมองสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก กันต์หันไปมองเด็กคนนั้นที่ยังคงหลับไม่ได้สติอยู่บนเตียง พร้อมการตัดสินใจที่ทบทวนเป็นอย่างดีแล้วว่าหากไม่ทำสิ่งนี้คงนอนไม่หลับแน่

 

“เขาลืมมือถือไว้ บอกที่อยู่ธูปมาเดี๋ยวผมเอาไปให้เขาเอง”

 

 

 

*

 

 

 

Aya: จะมารับเมื่อไหร่อะ ไหนบอกเอาของไปคืนพี่แป๊บเดียวไง????????

Thoop: เดี๋ยวไปแล้ว ๆ ขออาบน้ำแป๊บนึงนะคะ เค้าเปียกฝนอะ

Aya: ทำไมเปียก มีรถไม่ใช่หรือไง???????

Thoop: ไม่ได้เอาร่มไปด้วยอะตัวเอง

Thoop: เออ ไม่ต้องโทรหานะ เค้าลืมโทรศัพท์ไว้ห้องนั้น

Aya: แล้วนี่เล่นในไหน?

Thoop: คอมในห้องค่ะ อย่าโมโหนะ จะรีบไปนะคะ

Aya: เซ็งอะ นัดกันแล้วทำไมต้องช้าเหรอธูป ก็รู้ว่าช่วงบ่ายร้านนี้คนเยอะ

Aya: แม่ง ต้องไปรอคิวงี้เหรอ หงุดหงิด

Thoop: ขอโทษษษษษษ

Aya: ขอโทษแล้วมันหายไหม?

Aya: ???????????????

Thoop:  ถ้าเค้าซื้อกระเป๋าใบใหม่ให้ ตัวเองจะหายงอนไหม?

Aya: พูดเองนะ

Aya: รีบมาแล้วกันค่ะ อายะจะรอ

 

 

ข้อความบนหน้าจอเปลี่ยนอารมณ์ภายในเสี้ยววิ เด็กหนุ่มผละออกมานั่งมองนิ่ง ๆ โดยที่ยังไม่กล้าลุกไปเข้าห้องน้ำเพียงเพราะกลัวแฟนสาวที่เหมือนใจเย็นลงแล้วจะกลับมาพร้อมพายุโหมกระหน่ำอีก ธูปต้องระวังทุกอย่างหากไม่อยากให้อายะหงุดหงิด เธอเป็นผู้หญิงเอาแต่ใจ ไม่ชอบรอ แต่เวลาทำตัวน่ารักออดอ้อนก็ทำให้ใจเขาพองโตจนทำให้มองข้ามเรื่องเหล่านั้นไปได้ง่าย ๆ

 

อายะเป็นคนสวยที่ใคร ๆ ต่างก็อยากได้เป็นแฟน กว่าเธอจะตอบตกลงคบกันก็ต้องตามจีบอยู่นาน ธูปพาอายะไปกินข้าว ดูหนัง นั่งร้านอาหารแพง ๆ เพื่อให้เธอรู้สึกว่าฝากชีวิตไว้กับเขาได้ ก็รู้ว่ามันโง่เง่านัก แต่ก็ห้ามตัวเองในโลกแสงสีไม่ไหว ถึงจะรู้ตัวว่าทำผิดไปหลายต่อหลายครั้ง แต่เด็กหนุ่มก็แกล้งเบลอปลอบใจตัวเองว่าใคร ๆ ก็เป็นอย่างนี้

 

ล่าสุดเพื่อนสนิทให้ยืมรถมาใช้ จากเด็กที่ไม่เคยคาดหวังว่าจะมีของพรรค์นี้ แต่พอได้ขับไม่กี่ครั้งก็มีความคาดหวังว่าจะได้เป็นของตัวเองสักคัน แต่สำหรับคนที่ไม่มีเงินเดือน พ่อแม่ไม่ได้ส่งเสียแล้วก็คือความหวังลม ๆ แล้ง ๆ ธูปหงุดหงิดทุกครั้งที่เห็นว่าคนอื่นมีต้นทุนชีวิตดีกว่า ส่วนตัวเขาแทบไม่มีอะไรเลย

 

เสียงเคาะประตูเรียกให้หลุดจากความคิด เด็กหนุ่มเดินออกไปหมุนลูกบิดก่อนจะเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อพบว่าคนที่ยืนอยู่หน้าประตูคือผู้ชายที่เป็นคู่เกย์กับคนที่เคยเรียกว่าพี่ ดวงตาคู่นั้นมองมาอย่างเรียบเฉย อาจจะแฝงไปด้วยคำด่าทอหรืออะไรก็ตามแต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาต้องรับฟัง

 

อาจจะสองถึงสามวิที่ธูปใช้ไปอย่างเสียเวลา ทั้งคู่สบตากันท่ามกลางความเงียบและให้ความจงเกลียดจงชังทำงาน ก่อนเด็กหนุ่มจะจงใจปิดประตูใส่แต่อีกฝ่ายกลับดันไว้ได้ทัน

 

“อะไรอีกวะ?”

 

“เปิดประตู”

 

“เปิดทำเหี้ยไร ไม่มีอะไรจะคุยด้วย กลับไปหาคู่เกย์มึงเลยไป!” ธูปกัดฟัน พยายามดันสู้แรงอีกคนที่มีมากกว่า ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องสนใจหรือให้เกียรติเลยสักนิด เขาไม่อยากรับรู้อะไรแล้ว

 

กันต์ลดระดับสายตามองประตูที่กำลังสั่นเพราะแรงดันจากทั้งสองฝั่ง เขาถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย ก่อนจะผละตัวออกมาเล็กน้อยแล้วถีบประตูเข้าไปจนคนที่อยู่ด้านในกระเด็น

 

“คุยดี ๆ มันยากนักหรือไง?”

 

ชายหนุ่มขมวดคิ้วพลางพรูลมหายใจทางริมฝีปาก กันต์เคยเป็นคนฟิวส์ขาดง่ายยิ่งกว่าเส้นพาสต้า แต่ก็พยายามปรับเปลี่ยนตัวเองมาตลอดหลังจากคบกับเชร์ แต่เด็กคนนี้ก็เก่งเหลือเกินที่ทำให้เขาหมดความอดทน กันต์มองเด็กเมื่อวานซืนที่นอนขดตัวบนพื้นหลังจากศีรษะกระแทกกับขาโต๊ะ เขาปล่อยให้อีกฝ่ายลิ้มรสความบ้าคลั่งของตนเองก่อนจะปิดประตูแล้วตรงเข้าไปกระชากคอเสื้อให้ลุกขึ้น

 

“อย่ามาจับตัวกู!!!” ธูปเหวี่ยงหมัดมั่วซั่ว แต่ผู้ชายคนนี้ก็บล็อกได้อีกทั้งยังจับตัวเขาพลิกหันหลังก่อนจะดันจนหน้าติดผนัง “โอ๊ย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”

 

คอของเขาถูกดันไว้ด้วยท่อนแขนแกร่งจนรู้สึกได้ถึงความเย็นเฉียบของผนัง เด็กหนุ่มหอบหายใจอย่างเหลืออดกับการถูกเหยียบหยามศักดิ์ศรี

 

“ไม่ว่าคุณจะมีมุมมองแย่ ๆ กับเพศที่สามยังไง แต่สิ่งหนึ่งที่คุณควรจะมีหลงเหลือไว้ในเบื้องลึกของจิตใจก็คือคำว่าบุญคุณ”

 

“...!!!” ธูปยังคงพยายามดิ้นต่อสู้ แต่อีกฝ่ายก็ออกแรงกดท่อนแขนแรงขึ้นจนเขาแทบหายใจไม่ออก

 

“ทุกคนเคยมีช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อหรือตอนที่คิดว่าตัวเองเก่งมากพอจนไม่ต้องฟังความเห็นจากใคร ผมก็เคยเป็นอย่างนั้น แล้วการมั่นใจโง่ ๆ ก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตผมดีขึ้น ผมไม่เหลือเพื่อน ผมทำให้คนที่อยู่รอบตัวกลัวจนค่อย ๆ ถอยห่างไป” กันต์เว้นจังหวะพลางมองท่าทีอีกฝ่าย และการคาดหวังว่าเด็กหัวรั้นจะเปิดใจรับฟังภายในประโยคเดียวมันก็คงเป็นเรื่องที่เพ้อฝันเกินไป  “คุณคงไม่เข้าใจ แต่ผมเชื่อว่าสักวันคุณคงตาสว่างได้หลังจากเจอมันเองกับตัวว่าการก้มลงมองแต่ปลายเท้าตัวเองโดยไม่เงยหน้าขึ้นมามองโลกแห่งความเป็นจริงมันเป็นยังไง”

 

“พ่อก็ไม่ใช่ มีสิทธิ์อะไรมาสั่งสอนคนอื่น คิดว่าตัวเองดีนักหรือไง?”

 

“ครับ คุณพูดถูก” กันต์มองเสี้ยวหน้าเด็กหนุ่มที่กำลังขบกรามแน่น “ผมถามคุณข้อนึงสิ”

 

“มีอะไรก็พูดมา แล้วก็ไสหัวไปจากที่นี่สักที” เขาต้องมีความอดทนอีกสักกี่ร้อยระดับถึงจะทนยืนเฉยโดยไม่ต่อยหน้าเด็กคนนี้ได้ กันต์พยายามหายใจเข้าลึก ๆ นึกถึงหน้าเชร์ให้มาก ๆ ก่อนจะตัดสินใจทำอะไรลงไป

 

“คุณคิดว่าตัวเองเก่งมากพอที่จะใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯ ได้โดยไม่มีเชร์เหรอครับ?”

 

“ถ้าจะถามควาย ๆ แบบนี้ก็กลับไปเถอะ มึงไม่ได้รู้จักกูเลยสักนิด ไม่ต้องทำตัวเป็นไม้บรรทัดสั่งสอนคนอื่น อยากต่อยก็ต่อยเลย รอห่าอะไรอยู่ล่ะ?”

 

“ผมไม่ทำหรอก เรื่องแบบนั้นเอาไว้ให้คุณเจอหลังจากไปยืมเงินคนอื่นแล้วไม่มีคืนดีกว่า”

 

“เพื่ออะไรวะ มันใช้ให้มาเหรอ รักกันมากมั้ง อัดคลิปไปเลยดิ มันจะได้เห็นว่ามึงเชื่องแค่ไหน” เด็กหนุ่มยังคงปากดี ปล่อยให้ความโกรธออกมาทำหน้าที่เต็มร้อยโดยไม่ยั้งปาก

 

“คุณไม่ได้อยากพูดแบบนี้หรอก” กันต์ผละออกพลางมองเด็กหนุ่มที่ส่งสายตาต่อต้านพร้อมจับเนื้อจับตัวตนเองราวกับกลัวว่าจะมีอะไรแตกหักหลังจากถูกเขาแตะต้อง “ต่อให้คุณจะโกรธแค่ไหน แต่ใจคุณรู้อยู่แล้วว่าเชร์เป็นคนยังไง”

 

‘ขนาดพี่เทียนยังไม่อยากอยู่ แล้วผมจะอยู่ไปทำไมวะพี่?’

‘เพื่อมีชีวิตเป็นของตัวเองไง’

‘...’

‘การที่คนในบ้านมึงแย่ มันไม่ได้หมายความว่าทั้งชีวิตมึงจะแย่ไปด้วยนะธูป ตอนนี้แผลมันยังสด มึงกำลังรู้สึกว่าโลกมืดแปดด้าน แต่ชีวิตก็งี้แหละมึง ชอบมีเรื่องสะเทือนใจหนัก ๆ มาทดสอบความอดทนตลอด’

‘...’

‘กูคงห้ามเรื่องคิดมากไม่ได้ เป็นใครแม่งก็ต้องคิดทั้งนั้นอะ แต่กูอยากให้มึงโฟกัสเรื่องเรียนไว้ก่อนนะ การมีวุฒิติดตัวมันอุ่นใจ มึงต้องมีมันถ้ามึงอยากมีงานทำ และบางอาชีพต้องใช้เกรดสูง ๆ ด้วย พอมีงานทำ มีเงินเลี้ยงตัวเอง มึงก็หลุดพ้นออกมาจากวงจรนั้นได้แล้ว’

‘...’

‘ขาดเหลืออะไรให้รีบบอกนะ มึงไม่ต้องเกรงใจกูหรอก ถ้ารู้สึกไม่ไหว อยากร้องไห้ยังไงก็อย่าเก็บไว้คนเดียวไม่งั้นเครียดตายห่า มีคนคอยรับฟังแล้วก็เล่าให้เขาฟังเหอะ’

‘พี่ทำแบบนี้เพื่ออะไร แค่เพราะชอบพี่เทียนหรือว่าสงสารผมอะ?’

‘ก็ทั้งสองอย่าง แต่เพิ่มความผูกพันมาด้วย มึงคิดดูนะ ถ้ามองกลับกันแล้วกูคือคนที่ตกอยู่ในที่นั่งเดียวกับมึง มึงจะอยากช่วยกูไหม?’

‘ช่วยดิ พี่ทั้งคน’

‘เออ ก็คำตอบเดียวกัน มึงก็น้องกูทั้งคน’

‘...’

‘กูเท่ปะ’

‘เกือบละ’

‘5555555555’

‘เครียดว่ะ แม่งมืดแปดด้านไปหมด’

‘มันจะสักแค่ไหนกันวะ ถ้าคิดว่ามืดจนมองไม่เห็น ก็หยิบไฟฉายจากมือกูไปส่องดิ ตรงนี้ยังมีพี่มึงอีกคนนะ’

 

 

วูบหนึ่งที่หัวใจชาวาบ ธูปลดระดับสายตาลงเลียริมฝีปากกับความเศร้าที่ตามมาด้วยเสียงหัวเราะหลังจากได้รับคำปลอบใจ แม้จะผ่านไปนานแล้วแต่เขายังจำได้ขึ้นใจ เรื่องราวหลังงานศพกับครอบครัวบ้า ๆ แต่บางอย่างในหัวก็ตะโกนสั่งให้กดความรู้สึกเหล่านั้นเอาไว้

 

“ทั้งที่พี่สาวคุณจากไปแล้ว ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่เขาจะให้เงินคุณ เป็นผมคงอยู่ให้แค่ฐานะคนรู้จัก น้องเมียก็ไม่ใช่ด้วยซ้ำ พี่สาวคุณกับเขาไม่เคยแม้แต่จะเป็นแฟนกัน”

 

“นั่นสิ บางทีคนบางคนอาจจะอยากทำตัวเป็นอัศวินขี่ม้าขาว เงินที่ให้ผมมาก็ใช่ว่าจะยากเย็น” คำพูดร้าย ๆ ยังคงพ่นออกไปไม่รู้จักจบสิ้น เหมือนเบื้องลึกสั่งการให้เป็นคนเลวอย่างถึงขีดสุด เพราะถ้าหากสำนึก ความผิดทั้งหมดก็จะมากองอยู่ที่ตัวเขา

 

“อย่างนั้นเหรอ?” กันต์แค่นยิ้ม “คุณคิดว่าการเป็นสตรีมเมอร์แค่เปิดคอมเล่นเกมก็เป็นได้หรือไงครับธูป?”

 

เจ้าของชื่อเบนสายตาไปทางอื่น แสร้งทำไม่รู้สึกรู้สากับคำพูดเหล่านั้น

 

“ถ้าใช่ป่านนี้เกมเมอร์คงรวยกันทั้งโลกแล้ว ถ้าหาทางตอบโต้คำพูดผมไม่ได้ หุบปากของคุณไว้แล้วฟังเฉย ๆ ก็ดีนะ” ธูปหันไปทางใครอีกคนที่ยืนล้วงกระเป๋ากางเกงพร้อมจองมองมาราวกับว่าเขาน่าสมเพชนักหนา

 

“จะอธิบายเรื่องวงเวียนชีวิตสตรีมเมอร์เหรอ ไม่ต้องนะ ไม่ได้อยากฟัง”

 

“รู้ไว้สักนิดก็น่าจะดีครับ เพราะเงินที่คุณใช้อย่างสุขสบายทุกวันนี้ก็มาจากวงเวียนชีวิตที่ว่านั่นแหละ”

 

“...”

 

“เชร์เป็นสตรีมเมอร์คนหนึ่งที่มีรายได้ดี ผมภูมิใจในตัวเขาที่หาเงินเลี้ยงตัวเองได้อีกทั้งยังเหลือส่งให้ครอบครัวใช้ อ่อ น้องนอกไส้อย่างคุณอีกคน”

 

ในทีแรกธูปอยากให้ผู้ชายคนนี้เจ็บใจเพราะคำพูดเขา อยากยั่วโมโหเอาให้หมดความอดทนจนเข้ามาต่อยหน้าสักครั้ง เอาให้เรื่องมันถึงโรงพักไปเลย แต่สองมือนั้นยังคงอยู่ในกระเป๋ากางเกง พร้อมรอยยิ้มเย้ยหยันที่กลายเป็นว่าคนหัวร้อนคือเขาเสียเอง

 

“ตอนได้ยินว่าคุณงี่เง่าใส่หรือหาวิธีบ่ายเบี่ยงไม่มาเจอเขา ผมก็ได้แต่คิดว่า ‘เด็กคนนี้เป็นคนแบบไหนกันนะ?’ จนได้เห็นเองกับตาวันนี้ผมถึงได้รู้” กันต์ไม่อยากทำแบบนี้ แต่เขาก็ถนัดเรื่องทำร้ายจิตใจคนอื่นไม่แพ้อีกฝ่ายเช่นกัน “ผมไม่ได้เป็นคนดีเหมือนเชร์ ผมทำลายชีวิตคุณได้ด้วยซ้ำ แต่ผมคงไม่ต้องทำอย่างนั้นเพราะคุณทำมันลงไปด้วยตัวเองแล้ว”

 

“...”

 

“เก่งนักใช่ไหมครับ เด็กอย่างคุณน่ะ?”

 

กันต์สบตากับเด็กหนุ่มที่ยังคงมองมาอย่างต่อต้าน ก่อนจะโยนโทรศัพท์คืนให้ซึ่งอีกฝ่ายก็รับไว้อย่างทุลักทุเล สำหรับเด็กที่กำลังหลงระเริงกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง มันคงยากเกินไปสำหรับเขาหากจะพูดหรือแนะนำอะไรกับคนที่ไม่ต้องการฟัง

 

ชายหนุ่มยิ้มเล็ก ๆ แล้วเดินไปหยุดอยู่หน้าประตู อย่างที่บอกไปว่าเขาไม่ได้ใจดีเหมือนเชร์และพร้อมจะร้ายกับทุกคนที่เป็นมลพิษในชีวิต ซึ่งธูปก็คือคนแบบนั้น

 

“ผมจะรอดูว่าคุณจะบินไปได้ไกลสักแค่ไหนหลังจากตัดปีกด้วยมือตัวเอง”

 

 

*

 

 

ตื่นมาพบความมืดและเสียงฝน แหลมกระพริบตาช้า ๆ เพื่อพบว่าสมองกับร่างกายมันพร้อมจะพักผ่อนต่อ แต่ความสนใจทั้งหมดในตอนนี้มันเทไปที่ใครอีกคนซึ่งไม่ได้อยู่ข้าง ๆ แล้ว บอสคงหัวเสียที่ต้องเจอความบ้าบอของไอ้ธูป หรืออาจจะเซ็งที่เห็นเขาร้องไห้โดยไม่โต้ตอบอะไรกลับไปสักอย่างเดียว

 

เด็กหนุ่มลุกขึ้นพาสภาพพัง ๆ ไปล้างหน้าเผื่อว่าจะสดชื่นขึ้น มองตาบวม ๆ ของคนในกระจกแล้วก็อดน้อยเนื้อต่ำใจไม่ได้ ก็รู้ว่าคนเรารู้สึกไม่เท่ากัน แต่เขาก็ไม่เคยคิดว่าจะถูกด่าแรง ๆ ขนาดนั้นจากน้องชายที่รักมากคนหนึ่ง

 

ทำดีไม่ขึ้นอย่างที่แม่เคยบอกจริง ๆ ด้วย มีคนเคยบอกว่าเวลาทำดีอย่าคาดหวังสิ่งตอบแทน แต่ที่เขาคาดหวังก็ล้วนแต่ส่งผลดีกับชีวิตไอ้ธูปทั้งนั้น แค่นี้ก็ไม่ได้เหรอ

 

โลกไปถึงไหนแล้วไอ้เด็กเวรก็ยังอยู่ในกะลา เหยียดเขาคนเดียวยังพอทนรับได้ แต่ไอ้ธูปเล่นด่าแรง ๆ อย่างนั้นกับบอสซึ่งเป็นคนแปลกหน้า มันกลืนคำว่ามารยาทลงไปในท้องหมดแล้วหรือไง

 

เปิดไฟทั่วห้องเพื่อไม่ให้บรรยากาศดูแย่ไปกว่านี้ แหลมหยุดอยู่หน้าตู้เย็นคว้าขวดน้ำขึ้นมาถือไว้ แต่ยังไม่ทันยกดื่มประตูก็เปิดออกโดยคนที่คิดว่าวันนี้คงไม่กลับมาแล้ว

 

“ตื่นแล้วเหรอ พี่ไปซื้อข้าวหน้าเนื้อกับซูชิมาน่ะ”

 

ทั้งที่คิดว่าอยู่คนเดียวได้ แต่พอเห็นว่าบอสกลับมา หัวใจมันก็รู้สึกเหมือนได้รับการเยียวยาจนรู้ได้เลยว่าเขาไม่ได้อยากอยู่คนเดียว

 

“ร้านเพิ่งเปิดใหม่เลยได้โปรลดสิบเปอร์เซ็นต์ด้วย แถมตอนเดินเข้าไปซื้อโดยไม่ต้องหาที่จอดรถมันรู้สึกดีแปลก ๆ ยังไงก็ไม่รู้ ระหว่างนั่งแท็กซี่กลับก็มีเวลาอ่านใบเสร็จอีกต่างหาก การได้สิทธิ์ลดราคานี่มันเท่จริง ๆ เลย ไว้คราวหลังเรานั่งแท็กซี่ไปเดทกันดีไหมครับ?”

 

มาถึงก็พูดจ้อเจื้อย แหลมมองตามอีกคนที่เอาถุงไปวางไว้บนโต๊ะแล้วเดินกลับมาแย่งขวดน้ำไปจากมือเขาเพื่อรินใส่แก้วก่อนจะดื่มเอง บอสเอาแต่ยิ้มเหมือนวันนี้ไม่เคยมีเรื่องแย่ ๆ เกิดขึ้น

 

“นึกว่าจะไม่กลับมาแล้ว”

 

ตอนจ้องตาปริบ ๆ ไม่เหลือคราบเด็กซนอีกแล้ว กันต์อมยิ้มพลางยีผมคนตรงหน้าเบา ๆ แล้วรั้งเข้ามากอดจนซิมบ้าน้อยส่งเสียงอู้อี้ เขาจึงกดศีรษะทุยให้ซบกับอกที่แห้งไปตามเวลา ซึ่งเด็กน้อยก็กอดตอบแน่นเหมือนกลัวว่าผู้ชายคนนี้จะหนีไปอย่างไรอย่างนั้น

 

“รุ่นนี้ต่อให้ไล่ก็ไม่ไปหรอกนะครับ”

 

“ชิ้ว”

 

“นั่นหมา”

 

“อ้าวผิดเนอะ โทษน้า” คนเก่งก็ยังคงพยายามฮึบไว้ กันต์ทั้งเอ็นดูและสงสารแฟนเด็กจับใจ แต่การเปิดปมขยี้อีกครั้งก็คงไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก “ทำไมใส่เสื้อตัวนี้ออกไปอะ เหมือนจะแห้งแต่ก็แฉะ ๆ”

 

“ก็เสื้อเราแต่ละตัวมันสตรีทเกินไป ขืนพี่ใส่ออกไปคงเหมือนเด็กโข่ง”

 

“ยังจะห่วงหล่ออีก เวลาอยู่คนเดียวต้องขี้เหร่ดิ จะได้ไม่มีคนมาชอบ”

 

“เอ... งั้นพี่ควรใส่อะไรดีครับ?”

 

“บ็อกเซอร์ไปเลย”

 

“หืม แบบนั้นจะไม่ถูกมองกว่าเดิมอีกเหรอ?” เขาจุ๊บศีรษะแฟนเด็กพลางโยกตัวซิมบ้าน้อยในอ้อมกอด

 

“ไม่เอา งั้นเปลี่ยนเป็นเสื้อยืดเกงขาสั้น แล้วก็ออกไปซื้อด้วยกัน แบบนี้นะ เคาะ”

 

กันต์ยิ้มบาง ๆ กับความรู้สึกในตอนนี้ ใช่... เขายังเจ็บใจแทนเชร์ แต่ระหว่างที่เกิดเรื่องแย่ ๆ ขึ้นมันก็มีเรื่องดีพอให้นึกถึงอยู่บ้าง คนที่เก่งเรื่องบริหารธุรกิจแต่ดูแลใครสักคนในชีวิตไม่ได้ในตอนนี้กำลังกอดแฟนเด็กเอาไว้พร้อมปลอบประโลมด้วยความจริงใจทั้งหมดที่มี และกันต์หวังว่าสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ จากเขาจะเยียวยาอีกฝ่ายได้ ...สักนิดก็ยังดี

 

“ขอโทษนะครับ”

 

“หือ เรื่องอะไรอะ?” ซิมบ้าน้อยผละออกมาสบตา ชายหนุ่มจึงลูบสองแก้มเบา ๆ แล้วจ้องใบหน้าที่เขาอยากทะนุถนอมให้ดีที่สุด

 

“อะไรก็ตามที่ทำให้เราเสียใจ”

 

“ถ้าเป็นเรื่องคบกับพี่ ผมไม่เคยเสียใจนะ”

 

“...”

 

“ไอ้ธูปอาจจะโกรธที่ผมเป็นแบบนี้ แต่มันคือความจริงแล้วผมก็มีความสุขมากที่มีพี่” มันไม่ใช่เวลาหัวใจพองโต เขาควรจะทำให้เชร์รู้สึกดีขึ้นมากกว่าจะเป็นฝ่ายรู้สึกเสียเอง “เพราะงั้นอย่าโทษตัวเองนะ ผมเครียดได้ แต่พี่ห้ามเอาตัวเองมาดิ่งด้วย สัญญากันก่อน”

 

“ห้ามไม่ได้หรอกนะครับ พี่เป็นห่วงเราจะบ้าแล้ว”

 

“นี่ผมเป็นแฟนกับคนบ้าช่ะ?!” กันต์ยิ้มขำกับเสียงสูงที่มาพร้อมหน้าตาตื่น ๆ

 

“พี่พูดจริงนะครับ”

 

“อือรู้ แต่ผมรับผลที่ตามมาได้นะ ตอนนี้มันอาจจะทำใจยากทั้งตัวผมแล้วก็ไอ้ธูป มันเป็นแค่เด็กที่อยู่ในสังคมที่ปลูกฝังว่าผู้ชายต้องคู่กับผู้หญิง ส่วนเกย์คือพวกผิดเพศน่ะ สักวันถ้ามันได้ไปอยู่ในสังคมที่โตขึ้น หรือเจอสิ่งที่ทำให้เปิดใจ ผมคิดว่าคนเราคงเปลี่ยนมุมมองกันได้”

 

“โกรธน้องบ้างไหมครับ?”

 

“ก็มีบ้างแต่สะเทือนใจมากกว่า เหมือนเรารักคนนึงมาก ๆ แบบไม่เคยคิดเผื่อไว้ว่าสักวันหนึ่งเขาอาจจะเอาดาบบวกสิบมาแทงใจกันอะ 555555”

 

คนเก่งของเขายังคงหัวเราะได้ แม้ว่าตายังคงบวม และจมูกเริ่มแดงนิด ๆ เหมือนคนจะร้องไห้ทุกครั้งเมื่อนึกถึงเรื่องนี้

 

“สักวันมันคงรู้สึกผิดย้อนหลังแหละ เหมือนตอนเป็นเด็กที่ผมเคยพูดไม่คิด ตอนนั้นผมมั่นใจมากว่าตัวเองถูก แต่พอเวลาผ่านไปเดี๋ยวโลกก็สอนให้รู้เองว่าเรากะโหลกเพื่อที่จะโตขึ้น”

 

“แฟนพี่นี่จัดจ้านจังเลยน้า” คนถูกแซวทั้งคำพูดและเสียงถึงกับหุบยิ้ม แหลมกลอกตาล่อกแล่กแล้วต่อยอกคนขี้เลียนแบบเบา ๆ ไปหนึ่งทีข้อหาแซวขัดจังหวะคนกำลังเข้ม “บอกไปไม่รู้กี่ล้านครั้งแล้ว แต่ฟังอีกสักครั้งนะครับว่าพี่น่ะรักเรามาก”

 

“รักแล้วก็ช่วยฮีลด้วย อ่อนแอมากเลยตอนนี้อะ”

 

เด็กหนุ่มสวมกอดคนตรงหน้าอีกครั้ง หลับตาลงซึมซับความอบอุ่นเดียวที่เยียวยาหัวใจได้ แหลมไม่อยากอ่อนแอ ไม่อยากทำให้คนรอบข้างหม่นหมองไปด้วย เขาชอบตัวเองเวลาหัวเราะโง่ ๆ ส่วนเรื่องไอ้ธูปคงต้องทำใจแล้วค่อยมองดูอยู่ห่าง ๆ เพราะถ้าจะให้ทิ้งไปเลยก็ทำไม่ลง

 

“กินข้าวไหม เดี๋ยวพี่ใส่จานให้”

 

“ไว้ก่อน ตอนนี้อยากกอดพี่”

 

“อ้อนอะไรตอนนี้ครับ กินก่อนแล้วค่อยกอดไม่ได้เหรอ?” เขาอาจจะเป็นฮีโร่สักตัวในเกมที่มีพลังฮีล ซิมบ้าน้อยถึงเริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ จนเอาแต่หอมแก้มเขาแบบนี้

 

“ผมกำลังดูดพลังจากพี่อยู่ ไว้เต็มแล้วจะไปนั่งกิน”

 

“แต่เมื่อกี้พี่ได้ยินเสียงท้องร้อง แล้วมันก็ไม่ได้มาจากพี่แน่ ๆ” เขาขมวดคิ้วพลางเอามือดันหน้าผากเอาไว้แต่เด็กดื้อก็สู้ด้วยการพยายามดันเข้ามา

 

“กอดหน่อย” กันต์ทั้งยิ้มขำทั้งถอนหายใจกับความงอแงของแฟนเด็กที่อยู่ ๆ ก็ก่ายขาเกี่ยวเอวเขาจนกลายเป็นลูกลิงไปแล้ว

 

“งั้นกอดต่อไปนะครับ พี่จะกินข้าวแล้ว”

 

“กินด้วยดิ”

 

“ไม่ให้กินหรอกครับ นั่น เสียงท้องใครร้องอีกแล้ว เสียงดังกว่าฟ้าร้องอีก”

 

บรรยากาศหม่น ๆ เริ่มจางหายไปและแทนที่ด้วยความห่วงใยของบอส แหลมกระชับกอดเกาะแหมะแน่นยิ่งกว่าปลิงขณะที่อีกคนเดินไปจัดแจงจานเหมือนตัวเขาเบาเกินกว่าจะรู้สึกหนัก

 

‘เราอ่อนแอได้นะ’ เหมือนได้ยินคำนี้ออกมาจากทุกการกระทำของบอส แหลมซบแก้มกับศีรษะคนขี้เอาใจที่ยอมให้เขานั่งลงบนตัก ก่อนหน้านี้ถ้ามีเรื่องให้ปวดหัวก็ยังมีพี่ ๆ คอยปลอบ แต่ตอนนี้แหลมมีบอสเพิ่มเข้ามาอีกคนแล้วก็ฮีลเก่งมากด้วย

 

“กินด้วย” เจ้าของใบหน้าหล่อแกล้งหูทวนลม กินซูชิกับข้าวหน้าเนื้อหน้าตาเฉยแล้วปล่อยให้เขานั่งมองตาละห้อย “เอาซูชิคำนั้นใส่วาซาบิอะ”

 

“กอดต่อไปสิครับ ฮีล” บอสหันมาหรี่ตามองพร้อมเคี้ยวโชว์ โห อย่างแน่นแก้มอะ ไหนคนไม่กินข้าวเย็น

 

“กินด้วยน้า” เบะปากกอดคอพร้อมเขย่าตัวเหมือนเด็กอนุบาลจนอีกคนหัวเราะ ไม่เอาแล้ว... จะยอมทำตัวปัญญาอ่อนสักวันก็ได้ขอให้บอสอารมณ์ดีก็พอ ก็ถ้าพยายามเพื่อเขาขนาดนี้ มันไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่แหลมจะทำหน้าอมทุกข์จนสูญเสียเวลาดี ๆ ไป

 

คิดมากเรื่องไอ้ธูปได้ แต่อย่าทำให้คนรักดิ่งลงไปด้วย

 

“แค่นี้พอไหม?” เด็กลูกครึ่งพยักหน้ากับซูชิที่แตะวาซาบิไว้ข้างบนเล็กน้อย 

 

“ป้อนผมเร็ว ป้อน ๆๆๆๆๆๆ”

 

“ถ้าพี่หยาบคายคงด่าว่าเราเป็นง่อยแล้ว”

 

“นี่ขนาดยังไม่ด่านะ” แหลมหรี่ตาคาดโทษ ซึ่งบอสก็ทำหน้าเลียนแบบจนอดไม่ได้ต้องหอมแก้มแรง ๆ เดี๋ยวนี้พัฒนาใหญ่แล้ว เก่งจนรู้ว่าจะดึงไอ้แหลมคนนี้ขึ้นมาจากหลุมดำอย่างไร “ผมจะห้ามพี่คุยกับพี่ธีร์ละ แม่งสอนแฟนผมให้พูดจาไม่ดี”

 

“ติดจากเรานั่นแหละ ไม่ต้องโทษคนอื่นเลย ดื้อ”

 

“อ้าว ผมช่ะ?”

 

“อ้าปากครับ ซูชิเดลิเวอร์รี่มาส่งอีกคำแล้ว”

 

ทั้งคู่สบตากันพร้อมรอยยิ้มเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นท่ามกลางความเจ็บปวดในใจ แหลมอ้าปากรับข้าวคำที่สองของวันและเคี้ยวไปกับน้ำตาที่ไหลออกมาพร้อมรอยยิ้ม จึงรีบใช้หลังมือปาดออกเพราะกลัวอีกฝ่ายจะเป็นกังวล แต่บอสก็จับข้อมือเขาไว้แล้วส่ายหน้าทั้งที่ยังยิ้มอยู่ ตะเกียบในมือถูกวางลงก่อนมือนั้นจะเอื้อมขึ้นมาไล้น้ำตาให้

 

“วาซาบิเผ็ดไปนิดนึง แต่ไม่เป็นไรหรอกนะครับ” คนฟังอบอุ่นไปทั้งหัวใจ น้ำตาที่ไม่ได้บีบหยดเผาะลงผ่านแก้ม และเขาก็ยิ้มพร้อมพยักหน้าเห็นด้วย

 

“พี่จะกลับตอนไหน?”

 

“จาก ‘พี่จะกลับตอนไหน?’ เป็น ‘อยู่ด้วยกันได้ไหม?’ น่าจะตรงใจมากกว่าหรือเปล่านะ?”

 

“เค งั้นพี่อย่ากลับนะ อยู่กับผม”

 

“อืม... ไม่รู้สิครับ” กันต์แสร้งขมวดคิ้วทำหน้าครุ่นคิด ชำเลืองมองแฟนเด็กที่ทำหน้าทำตาทะเล้นเหมือนทุกครั้ง อยากให้พูดจาน่ารัก ๆ สักหน่อย แต่ถ้าได้ยินแล้วก็กลัวหัวใจจะทำงานหนักเหลือเกิน

 

“พี่กันต์อยู่กับเชร์น้าค้าบ”

 

เรียกแอมบูแลนซ์ได้แล้ว ตรงนี้มีคนหัวใจทำงานหนักมาก

 

 

(จบครึ่งแรก)

 

 

ตอนนี้ไม่มีมุกมาเล่น แต่จะบอกว่าครึ่งหลังยาวนิดนึงน้า

เพราะความลับที่ว่าอยู่ตรงเน้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-09-2018 23:21:19 โดย หน่วยกล้าวาย »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด