(Mpreg)โซ่รักคล้อง(หัว)ใจ(นาย) จะขอลบนิยายเรื่องนี้และรีไรท์ใหม่นะคะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (Mpreg)โซ่รักคล้อง(หัว)ใจ(นาย) จะขอลบนิยายเรื่องนี้และรีไรท์ใหม่นะคะ  (อ่าน 21290 ครั้ง)

ออฟไลน์ Alessa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
EP.27 แม่บีมปะทะแพรวายกที่สอง P1

EP.27 แม่บีมปะทะแพรวายกที่สอง(เหมือนพี่เธียรวิชย์กำลังมองหาทางออก)P2

        //ฮัลโหลม๊า ผมกับบีมจะไปทานข้าวที่บ้านครับ ใช่ครับ ได้ครับ ตื่นหรือยัง ได้ครับม๊า เจอกันครับม๊า” พี่เธียรวิชย์พูดกับคนในสาย ผมเดินผ่านห้องธุรการพอดีเลย ผมเดินแวะเข้าไปในห้องนั้นสักหน่อย ไม่รู้ว่าน้องฝึกงานเป็นยังไงบ้าง

“จริงดิ พี่ว่าคุณบีมน่ะมีรัศมีความเป็นผู้บริหารมากกว่านางอีก สาธุ ขออย่าให้มาอีกเลย ไปแล้วไปลับเลยน่ะ คนอะไรยังกับนางมาร “ผมได้ยินพี่ๆ และน้องเขาพูดถึงแพรวา

“คุณบีมมาแล้ว” พี่ธุรการหันไปบอกน้องๆ เขารีบลุกมาหาผมทันที

“คุณบีม”

“เรียกพี่บีมก็ได้ครับ เรื่องในห้องประชุมไม่ต้องไปคิดมาน่ะ เราทำดีที่สุดแล้ว สำหรับพี่ว่ามันโอเค”

“หนูรีบไปหน่อยค่ะ กลัวไม่ทัน รอบหน้าจะทำให้น่าทานกว่านี้ค่ะ”

“พี่เชื่อครับแต่รสชาติใช้ได้แล้วนะครับ แต่รอบหน้าอาจจะปรับลดปริมาณที่ใส่ไปหน่อย คราวนี้ไม่มีกล้าว่า แน่นอนครับ”ผมพูดน้องๆเขาหันมายิ้มกันใหญ่

“ขอบคุณนะคะที่ช่วยพูดให้หนูสองคนนะคะ หนูอายเขามากเลยค่ะที่คุณคนนั้นเขาพูด”

“เขาก็เป็นแบบนี้แหละ เราก็ดูไว้เป็นแบบอย่าง สิ่งไหนที่ดีก็เก็บเอาไว้และสิ่งที่ไหนไม่ดี บั่นทอนจิตใจเรา ก็ปล่อยผ่านไป พี่เคยฝึกงาน พี่เข้าใจครับ”

“แต่พี่ขอบคุณเราสองคนน่ะ ถือว่าเป็นการแก้สถานการณ์ได้ดี ที่ช่วยกันทำแซนด์วิชให้วันนี้ พี่ไปก่อนแล้วกันน่ะ “ผมพูดก่อนจะเดินออก

“ทำเยอะไปหน่อยเหลือเยอะเลย” ผมได้ยินน้องเขาหันไปพูดกัน

“น้องครับ พี่ว่าลองเอาไปให้ลุงคนทำสวนเขาทานดูนะ เขาทำงานกลางแดดร้อนน่าดู เอาน้ำไปให้สักขวดก็ดีนะครับ “ผมหันมาบอกน้องเขา ก่อนจะเดินออกมาหาพี่เธียรวิชย์

“ป๊าบอกว่าจะมาทานอาหารกลางวันด้วย สงสัยเรื่องแพรวาด้วย พ่อนางคงโวยวายกับป๊าพี่อีกแล้ว แต่พี่เชื่อว่าป๊าเลือกลูกสะใภ้มากกว่า พี่ได้ยินม๊าบอกว่าป๊าปฏิเสธลุงรัตน์หลายเรื่องแล้ว แต่ม๊าไม่ได้บอกพี่น่ะว่าเรื่องอะไรบ้าง “พี่เธียรหันมาบอกผม ผมพยักหน้ากับพี่เธียร ระหว่างที่ขึ้นไปอยู่ในรถ ผมนึกขึ้นได้

“พี่เธียรพี่บอกผมว่าเซอไพรส์ให้ผมไม่ใช่เหรอครับ” ผมถามพี่เธียร พี่เขาหันมามองหน้าผม

“ว่าไงครับพี่เธียร” ผมถามพี่เธียร

“พี่ให้พี่รินทร์เขามาขายอาหารในห้องอาหาร” พี่เธียรหันมาบอกผม

“อ้าวแล้วน้องไอรินล่ะครับ”

“พี่ให้เขามาฝากเลี้ยงไว้ได้อยู่ใกล้ๆ พี่รินทร์ด้วย พี่ไม่เก็บค่าเลี้ยงน้องเขาน่ะ “พี่เธียรพูด ผมหันมามองหน้าพี่เธียร

“พี่เขากลัวว่าเราจะรู้สึกไม่ดี ที่พี่ยื่นมือไปช่วยเขาเยอะเพราะว่าเขาแค่ช่วยแบ่งน้ำนมมาให้ และเขาก็เกรงใจบีมมากเลยน่ะ” พี่เธียรบอกผม

“น่าเสียดายจัง” ผมหมายถึงอดเจอพี่รินทร์กับน้องไอรินเลย

“พรุ่งนี้ไง มาช่วยป๊าอีกน่ะ ม๊าจะได้พักบ้าง ม๊าพี่เขาก็อยากจะเลี้ยงเจ้าลูกโซ่ เพราะว่ายิ่งเลี้ยงก็ยิ่งหลง นี้อาม่าก็มาหาลูกโซ่ด้วยน่ะวันนี้น่ะ อ้อนให้โกวหงส์มาส่งแต่โกวหงส์รีบกลับไปช่วยงานเตี่ยวิทย์ต่อ” พี่เธียรวิชย์บอกผม ผมก็พยักหน้าเบาๆ ผมนั่งเอนหลังพิงเบาะคิดอะไรเพลิน ผมนั่งเอนหลังพิงเบาะคิดอะไรเพลิน ขณะที่พี่เธียรกำลังวิ่งผ่านร้านกาแฟสด บรรยากาศน่านั่งมาก เป็นตึกสามชั้นครึ่ง

“อยากดื่มกาแฟเหรอครับ” ผมมองที่ร้านนั้นนานไปหน่อย ผมยังไม่ทันหันไปบอกเลย พี่เธียรก็เลี้ยวรถเข้าไปจอดซะแล้ว ผมลงจากรถไปกับพี่เธียร ผมเห็นมีคนนั่งทานและยืนรอต่อคิวซื้อเยอะพอสมควร แต่ว่าผมดันไปเห็นป้ายประกาศขายตึก

“เขาขายดีแต่ทำไมเขาประกาศขายอะพี่เธียร” ผมถามพี่เธียรวิชย์ พี่เขาหันไปมองป้ายด้วยความแปลกใจไม่ต่างจากผม จนกระทั่งถึงคิวผมสองคน

“รับอะไรดีคะคุณ”

“เอาลาเต้เย็นครับหวานน้อย สองแก้วครับ” พี่เธียรสั่งเครื่องดื่ม

“ขอโทษนะครับ ขายดีขนาดนี้ทำไมประกาศขายกิจการละครับ” พี่เธียรถามคู่สามีภรรยาที่กำลังชงกาแฟอยู่ เขาหันมามองผมสองคน

“ลูกสาวน่ะเขาชวนไปอยู่ที่ออสเตรเลียค่ะ  เราสองคนก็ทำมานานแล้วเหนื่อย เลยอยากจะพักบ้าง ไปช่วยลูกสาวดูหลานดีกว่า ลูกสาวกับลูกเขยเปิดร้านอาหารที่นั่นค่ะ “เขาบอกผมดูน่าจะอายุสี่สิบกือบห้าสิบได้ ผมพยักหน้า

“ที่นี้ขายดีค่ะ ยิ่งตอนเย็นๆ บางที่ก็มีติวเตอร์มานั่งรับติวเด็กทุกวันค่ะ แต่เราสองคนก็คิดถึงลูกถึงหลายเลย เลิกกิจการดีกว่าค่ะ” ผู้เจ้าของร้านหันมาส่งแก้วเครื่องดื่มให้ผม พี่เธียรวิชย์พยักหน้าก่อนจะรับมาถือแทนผม ผมสองคนเดินออกมาแต่ว่าพี่เธียรหยุดเดินก่อนจะรีบถ่ายรูปป้ายประกาศขายตึกนั้นทันที ผมหันมามองพี่เธียร เขาก็รีบดันผมให้เดินออกซะก่อนที่จะได้ถามว่าถ่ายทำไม

“ลูกรอแล้วม๊า ไม่ยอมทานอาหารกลางวันรอเราสองคนอยู่” พี่เธียรวิชย์พูด



             Part’ s เธียรวิชย์ ผมขับรถพาบีมกับบ้านมาทานอาหารกลางวันกัน สีผมยิ้มให้บีมแต่ในหัวผมคิดไปต่างๆ นานๆ ถ้าเธอบอกเธอมีจดหมายที่อากงเขียนให้เธอกับผมแต่งงานกันจริงๆ ผมคงจะเลือกสิ่งที่ผมไม่อยากเลือก เพื่อรักษาคนข้างๆ ของผมเอาไว้ และดวงใจของผมลูกโซ่ อาการของเธอวันนี้มันทำให้ผมรู้ว่าเธอป่วยมากเกินกว่าจะรักษาได้แล้ว ผมเองคงไว้ใจให้เธอเข้าใกล้บีมไม่ได้ ผมเป็นห่วงเขามากจริงๆ ผมเลี้ยวรถเข้ามาในบ้าน รถเฮียธีและเฮียธามจอดอยู่ แต่ไม่มีรถเฮียธัน

“สงสัยเฮียธันจะไปทานข้าวกับฟิล์มแน่ๆ เลย” ผมหันมาแซวบีม

“ฟิล์มมันไม่เห็นจะบอกอะไรผมเลย”

“แม้เขาก็คงยังไม่ลงตัวกันดี พี่เชื่อว่าเขาจะบอกเองแหละเมื่อเขาทั้งคู่พร้อม และเฮียธันก็ยังไม่ได้บอกอะไรพวกพี่เหมือนกันน่ะบีม แต่พวกพี่ก็พอเดาได้แหละ กุ๊กกิ๊กกันขนาดนั้น” ผมพูดกับบีม ผมเดินเข้ามาในบ้าน ได้ยินเสียงอาม่าหัวเราะมีความสุข ผมหันมามองหน้าบีม

“ตั้งแต่อากงเสีย อาม่าไม่เคยหัวเราะมีความสุขแบบนี้เลยน่ะ บีม” ผมพูดกับบีม บีมยิ้มให้ผม เราสองคนเดินผ่านประตูเข้าไปในบ้าน อาม่ากำลังดูเจ้าลูกโซ่ ที่พยายามทำท่าทางประกอบเพลงที่เฮียธามสอน Twinkle little star บีมเขาร้องเพลงนี้ให้ฟังบ่อย ผมว่าบีมนี้เขาดูแลและเข้าใจเด็กมาก มันยิ่งทำให้พัฒนาการเจ้าลูกโซ่เด่นชัดขึ้นทุกวัน

“แมงมุมลายตัวนั้น ฉันเห็นมันซมซานเหลือทน วันหนึ่งมันเปียกฝน ไหลหล่นจากบนหลังคา พระอาทิตย์ส่งแสง ฝนแห้งกลับไปลับตา มันรีบไต่ขึ้นฟ้า หันหลังมาทำตา ลุกวาว!” ผมปิดปากขำตรงท่าหันมาทำตาลุกวาวนี่แหละ และเขาก็

“อ้า ปะ ปะ ปะ ป๊า” เจ้าลูกโซ่ ยืนและพยายามเดินมาหาผม ลูกโซ่เริ่มเรียกผมว่าป๊าได้แล้ว แม้จะชัดบ้างไม่ชัดบ้างก็ตาม เจ้าลูกโซ่พยายามเดินมาหาผม แต่พอเดินมาได้ก้าวสองก็ล้มลง แถมยังยื่นมือขึ้นมาอ้อนให้ผมมาอุ้มเขาหน่อย เดินไม่ไหว ผมเดินเข้าไปอุ้มเจ้าก้อนเต้าหู้ขึ้นมาทันที ผมไม่อยากคิดว่าลูกชายผมยังหลงขนาดนี้ ลูกสาวคงหลงน่าดู

“อาม่าสวัสดีครับ “บีมเดินไปหาอาม่า ผมก็เช่นกันยกมือไหว้ อาม่าหันมาเอามือลูบหัวผมเบาๆ และบีมเบาๆ

“อาบีมเอ๊ย เหนื่อยไหมลูก วันนี้ไปช่วยอาเธียรเขาทำงานน๊า” อาม่าถามบีม ผมรู้ว่างานไม่เหนื่อยสำหรับบีมแต่ต้องมาสู้รบตบมือกับแพรวานี้แหละเหนื่อยมากกว่า ผมเองก็เหนื่อยแล้วเหมือนกัน

“เป็นไงบ้างละ แม่ชะนีโรคประสาทนั้น ปั่นป่วนอะไรหรือเปล่าล่ะบีม” เฮียธามถามผม

“อาหราย ทำไมลื้อให้อี้ไปทำงานกับอาเธียรและอาบีม ลื้อก็รู้ว่าอี้ คิดไม่ซื่อ อาเกริก แถมพ่อยังไม่เคยคิดว่าที่ลูกตัวเองทำน่ะมันผิดอีก”

“พี่รัตน์เขาขอนะม๊า คนที่ทำงานต่างพากันเพ้งเล็งแพรวา ต่างเริ่มพูดกันแล้วว่า เธอไม่ปกติ พี่รัตน์เขาเลยขอให้เธอมาทำงานกับผมเหมือนกับฝึกงานมากกว่านะม๊า “ป๊าพูดผมพยักหน้าทันที เรื่องมันเป็นแบบนี้นี่เอง

“ ยังไงแพรวาก็เป็นหลานเพื่อนของป๊าน่ะม๊า จะให้ผมปฏิเสธก็ยังไงอยู่นะม๊า” ป๊าหันมาพูดกับอาม่า

“แล้วอาบีมไม่ใช่ลูกสะใภ้ลื้อหรือไง อาม่าเห็นเขาว่าอาบีมแล้ว อารัตน์นี้เป็นพ่อที่ใช่ไม่ได้ ไม่ห้ามปรามลูกตัวเอง เหมือนส่งเสริมลูกตัวเองให้เป็นคนไม่ดี ทั้งที่รู้ว่าเธียรมันก็มีลูกมีเมียแล้วน๊า” อาม่าพูด

“ลื้อต้องจัดการน่ะเกริก อั๊วะก็ไม่ชอบน๊ามาทำนิสัยแบบนี้ ทำเป็นคนไม่รู้กาลเทศะไม่ได้น๊า เกริกน๊า” อาม่าหันไปบอกป๊า ป๊าพยักหน้ากับอาม่า

“มาแล้วเหรอเธียร บีม “ม๊าเดินออกมาจากห้องครัว

“ม๊า อากันจะมารับม๊าใช่ไหมจะได้จัดโต๊ะเพิ่มทานอาหารก่อนแล้วกันน่ะ”

“ม๊าจะไปไหนต่อล่ะ” ป๊าถามอาม่า

“จะไปหาหมอน๊ะ ช่วงนี้ไม่ค่อยลี ร้อนๆ หนาวๆ ยังไงก็ไม่รู้”

“ไม่สบายเป็นไข้หรือเปล่าม๊า ร้อนๆหนาวๆนะ ” ม๊าถามอาม่า บีมหันมามองด้วยความเป็นห่วง

“ก็ตอนอยู่บ้านอั๊วเปิดแอร์ไว้พอมันหนาว อั๊วก็ปิด พออั๊วปิดมันก็ร้อน อั๊วะก็เปิดใหม่และ พอมันหนาวอั๊วะก็ปิด อัํวะก็ปิดๆ เปิดๆ แอร์มันทั้งวันน๊ะ  มันก็เลยร้อนๆ หนาวๆทั้งวัน”อาม่าพูด

“อาม่า!!!” ผมสามคน

“แล้วอาม่าปิดๆ เปิดๆ มันยังไงอ่ะ “เฮียธามถามอาม่า

“รีโหมดไงไม่เห็นจะยาก ปุ่มเขียวก็เปิด ปุ่มแดงก็ปิด มันอยู่ใกล้กันอั๊วก็แค่กดสลับกันแค่นี้ ง่ายจะตาย” อาม่าพูด

“แล้วไปปิดๆ เปิดๆ มันทำไมล่ะม๊า เดี๋ยวก็ไม่สบายกันพอดี” ป๊าผมรีบหันมาทักท้วงอาม่า

“ก็นี่ไงอั๊วว่าจะให้อากันพาอั๊วไปหาหมอ”

“หาหมอให้มาซ่อมแอร์ให้อาม่าเหรอครับ” เฮียธีหันมาถาม

“ซ่อมอั๊วนี่แหละ ซ่อมทำห่าอาหรายแอร์ แอร์มันไม่เสียน๊า อั๊วนี้แหละที่จะซี่แหง๋แกก่อนแอร์มันพังน๊ะ” อาม่าพูด

“อาม่า ธามว่า อาม่าซ่อมแอร์เถอะ เพราะผมเดาว่าปัญหาคงอยู่ที่แอร์ไม่ใช่อาม่า เล่นปิดๆ เปิดๆ ขนาดนี้ สักวันมันคงมีอันเป็นไปก่อน” เฮียธามพูดปนหัวเราะ และเฮียธีหันมา

“ไฮไฟ!!” เฮียธียื่นมือ เฮียธามรีบแตะมือทันที แถมตามด้วยเจ้าลูกโซ่ ยื่นไปแตะกับเขาบ้าง ผมหันไปเห็นอากันเดินเข้ามาพอดี

“ฉลาดน่ะ มาทำให้โจวม่ามั้งซิ อาตี๋น้อยๆ” อาม่าพูดพร้อมกับแบมือขึ้นมาแต่

“มันว่าอะไรของมันนะ ไฮ อะไรว่ะ “อาม่าทำท่าจะพูด

“ไฮไฟครับอาม่า อาม่าก็ยกมือขึ้นและบอกเหลนว่าไฮไฟ” เฮียธีสอนอาม่า

“มา มา ไฮไฟ “อาม่าพูด เจ้าลูกโซ่เปิดเป๋ไปทันทีตั่งแต่อาม่ายกมือแล้ว “แป๊ะ!!” ทำเอาป๊าผมยิ้มในความฉลาดของลูกโซ่ทันที และลูกโซ่ก็หันไปมองคนที่มาเยือนคนนั้นคือากัน เขาเห็นอากันเดินมาหยุดมองเขาอยู่เช่นกัน ลูกโซ่ยื่นมือขึ้นควักมือเรียก อากันย่อตัวลงกางแขน คราวนี้เจ้าลูกโซ่โผไปหาทันที

“คราวนี้ให้เหล่ากู๋อุ้มได้แล้วเหรอ เจ้าเธียรสอง” อากันพูดก่อนจะอุ้มลูกโซ่ขึ้นมา

“อากันทานข้าวด้วยกันก่อนเลยซิ เห็นม๊าบอกว่าจะให้เราพาไปหาหมอไม่ใช่เหรอ” ป๊าถามอากัน

“ใช่ครับเฮียเกริก” อากันตอบก่อนจะหันมามองอาม่า

“ม๊า ม๊าให้พี่สโนโทรไปเปลี่ยนเป็นหมอภีมทำไมล่ะม๊า มันไม่ตรงกับโรคของม๊าน่ะ” อากันหันมาถามอาม่า

“เออ หมอภีมนี้หมอทำคลอดลูกโซ่หรือเปล่า บีม” ผมหันไปถามบีม

“ใช่ครับ หมอภีมคือหมอสูตินรีแพทย์ “บีมตอบ ทุกคนหันมามองอาม่ากันหมด

“ม๊าเป็นอะไรไปหาหมอภีมทำไมน่ะ “ป๊าผมหันมาถามอาม่าทันที

“ก็ป่วยไง หรือว่าลื้อคิดว่าอั๋วเป็นไข้ใจหรือไง ถึงได้ต้องไปหาหมอน่ะ โอ๊ย ถามไม่คิด” ป๊าผมถึงกับกุมขมับตัวเอง แต่ม๊าแตะแขนห้ามป๊าผมแทน

“ม๊า เฮียน่ะเขาหมายถึงว่า ม๊าน่าจะไปหาหมอให้ตรงกับโรค”

“อั๊วยังไม่รู้เลยว่าอั๊วเป็นอาหราย อั๋วะไม่ใช่หมอน๊า และทุกทีอั๊วก็ไปหาอาภีมน่ะ เขาก็รักษาได้หมดน๊า”

“ปวดหลังได้ไหมอาม่า ช่วงนี้หลังยอก” เธียธีถาม ทำท่ายอกหลังด้วย

“ทำไมอ่ะ เมียมึงเตะเอาเหรอหลังยอกเลย” อาม่าพูด ผมหันไปชี้เลยเจ๊มิวจัดให้ใช่ไหม

“ตอนแรกก็แค่ปวดหลังเพราะนั่งทำงานนาน แต่พอให้มิวนวดเท่านั้นแหละยอกเลยอาม่า” เฮียธีพูด

“นวดอย่างเดียวเหรอถึงได้ยอกน่ะ เอวเขล็ดด้วยหรือเปล่า เฮีย” เฮียธามแซวทันที ผมเข้าใจความหมายอยู่ ทะลึ้งครับ

“แล้วถ้าปวดหัวล่ะอาม่า” เฮียธามถาม

“ก็รักษาได้ ปวดแค่ไหนก็รักษาได้น๊า ทำไมลื้อปวดหัวเหรออาธาม” อาม่าพูดก้อนจะถามเฮียธีกลับ

“เฮียธีแกชอบบ่นปวดหัวเวลาเฮียแกโดนเมียบ่นนะอาม่า” เฮียธามพูด

“อ้าวเฮ้ย!!” เฮียธีสะบัดหน้าไปมอง อาม่าหันมามองเฮียธีทันที

“เมียบนเยอะปวดหัว เหรออาธี” อาม่าพูด เฮียธีพยักหน้า

“ไปบอกมิวว่าให้หาเจ้าบ่าวใหม่ มันจะได้เลิกปวดหัวน๊าไอ้นี่น่ะ” อาม่าหันไปบอกม๊าแทน

“ไม่เอาอาม่า บ่นเยอะแต่ก็รักครับอาม่า จะแต่งแล้วด้วย หาไม่ทันหรอก” เฮียธีรีบดึงแขนอาม่ามาอ้อนทันที

“ปวดฟันล่ะอาม่า” ผมถามอาม่า

“รักษาไม่ได้  อั๊วไปมาแล้วอีส่งอั๋วไปให้หมอฟัน อีบอกอีฟันไม่ได้ อีไม่ใช่หมอฟัน!” อาม่าพูด

“อาม่า ทันตกรรมเถอะ ฟังแล้วเสียวเลย ไปให้หมอฟัน” เฮียธีพูด

“โรงพยาบาลอะไรอาม่า ธามอยากไปเลยอ่ะ อยากไปให้หมอฟัน ถ้าหมอฟันไม่ได้ ธามนี้จะฟันหมอเอง” เฮียธามพูด บีมยังปิดปากขำเฮียธาม

“เฮ้ย!!!” ผมกับเฮียธีอุทานออกมาพร้อมเพียงกัน พร้อมกับหันมามองพี่ชาย ป๊าผมเหลือกตาขึ้นบนก่อนจะรีบลุกเดินเข้าไปทันที ผมว่าป๊ารู้แล้วแหละว่าลูกชายไม่เหลือแล้ว “ไม่ได้เหรอ” เฮียถามหันมาถามผม ผมชี้ไปที่ป๊า

“ถามป๊า” ผมบอกเฮีย ป๊าเดินไปโน่นแล้ว

“ถ้าไอแล้วเจ็บเข่าล่ะอาม่า ไอ้เธียรมันเป็นอาม่า” เฮียธามรีบถามอาม่าและชี้มาที่ผม ส่วนบีมนะขมวดคิ้วแปลว่าเขาไม่เข้าใจมันคืออะไร

“โรคอะไรของมันว่ะ มึงจะไอหรือว่ามึงจะเจ็บเข่า เอาสักโรคซี้” อาม่าพูด

“มันมาพร้อมกันอาม่า ไอเจ็บเข่าอาม่า” เฮียธีพูด

“อากัน โทรไปถามหมอภีมซิว่าเขารักษาได้ไหม ไอ้โรคไอเจ็บเข่านี่น๊า” อากันสะบัดหน้ามามองอาม่า ก่อนจะเหลือตาขึ้นบนแทน ผมว่าอากันรู้ อากันรีบเดินหนีทันที

“โรคอะไรของพี่น่ะ” บีมกระซิบถามผม

“โรคเอาแล้วเจ็บไข่ไงครับน้องบีม” เฮียธีกระซิบ บีมนี้หน้าแดงขึ้นมาทันที

“ไม่เจ็บ แข็งแรงให้เอาดัมเบลมาแขวนยังได้” ผมหันไปคุยทันที

“ไอ้ปากดี แค่ดินสอมึงก็ยกไม่ขึ้นเชื่อกูดิ” เฮียธามพูด มันช่างดูถูกน้องมากดินสอมันเบามากนะ

“พอแล้วไปกินข้าวได้แล้ว พี่น้องนี้เขาคุยอะไรกัน สงสารอาม่าบ้างทะลึ่งจริงๆ เลย” ม๊าหันมาเอ็ดผมสามคน

“ไปกินข้าวเถอะ เดี๋ยวก็ได้เลยนัดไม่เจอกันล่ะหมอภีมนะ ม๊า “ม๊าผมรีบเปลี่ยนเรื่องทันที พวกผมเดินเข้าไปในห้องอาหารแม้จะเป็นแค่มือกลางวัน ก็ช่วงนี้บรรดาเฮียก็พากันยุ่งๆ  เลยไม่ได้กลับบ้าน ส่วนเฮียธันนี้ยุ่งมากไม่เห็นกลับมาบ้านเลย ไม่รู้ว่ายุ่งอยู่กับใคร ผมรู้ว่าแฟนคนแรกเฮียน่ะเป็นผู้ชาย คบกันสามปีตอนนั้นเฮียเป็นทั้งผู้สนับสนุนรายใหญ่และนักแข่งรถเองด้วย และต่อมาแฟนเฮียก็เข้ามาเป็นนักแข่งแทน แต่สุดท้ายก็เลิกไปเพราะว่าเขาเลือกคนที่ให้ผลประโยชน์มากกว่า ผมเห็นเฮียเสียใจมากและนับจากนั้นเฮียก็ไม่เคยมีแฟนเป็นผู้ชายอีกเลย หรือว่าฟิล์มจะเข้ามาแทนพี่ไนท์น่ะ แต่ผมก็ว่าเขาเหมาะสมกันดี

TBC.....

          ตอนหน้าขอเป็นอากันตถณกับหมอภีมนะคะ อากันจะใจอ่อนให้หมอภีมได้หรือเปล่า อาม่าช่วยขนาดนี้แล้วนะ

คนแต่งจะมาตามรีไรท์อีกทีนะคะ คนแต่งภาษาไทยไม่แข็งแรงจริงๆยอมรับ กราบขอโทษนักอ่านที่น่ารักด้วยนะคะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-04-2021 09:26:26 โดย Alessa »

ออฟไลน์ Nattie69

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 777
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ Alessa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
   Part’ s กันตถณ ผมพาอาม่ามาหาหมอภีมปภพ ไม่รู้ว่าแผนอาม่าหรือเปล่า แต่ว่าเล่นนัดเองเลยเนี๊ยะ! แถมยังร้องงอแงให้ผมต้องเป็นคนพามาเองอีกต่างหาก โชคดีที่มีสอนคาบเช้าและอีกคาบบ่ายสองเลย และวันนี้ผมได้เข้าไปให้สัมภาษณ์ ถึงเรื่องความไม่โปร่งใส่เกี่ยวกับการเข้ารับเกียรตินิยมอันดับสองของแพรวาทำให้รู้ว่าเขารับเงินมาจริงและบางคนก็โดนกดดันให้ต้องทำ ผมว่างานนี้อาจารย์เปรมสินีโดยตรวจสอบละเอียดยิบแน่ๆ ส่วนเรื่องบีมถูกตัดสิทธิ์ ผมยื่นเรื่องยกเลิกก่อนแล้ว จึงไม่มีผลกับรูปที่อาจารย์เปรมสินีเอามายื่นประกอบและผมได้นำวีดิโอคำสารภาพจากผู้จัดการที่เป็นคนรับงานเขาสารภาพหมดว่าเรื่องทั้งหมดไม่เป็นความจริง แต่เขาไม่ได้ระบุว่ามาจากอาจารย์เปรมสินี ทำให้บีมพ่นจากข้อกล่าวหา อาจารย์แต่ล่ะคนลงความเห็นว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการรับปริญญาบัตรของบีมเขาสามารถเข้ารับได้ตามปกติ แต่ทางกฎหมายบีมสามารถเอาผิดได้คงต้องรอคุยกับเธียรวิชย์อีกที

“ม๊า คิวเยอเลยเห็นไหมเนี๊ยะ” ผมหันถามม๊าขณะที่ผมกำลังนั่งไขว่ห้างรออยู่ข้างๆ ม๊า

“ลือเคยได้ยินไหมว่า ช้าๆ ได้พร้าเล่มงามน๊า” ผมหันไปมองม๊า มันเกี่ยวกับที่ต้องมารอคิวพบหมอนานแบบนี้ด้วยเหรอ แต่ผมไม่อยากเถียงกับม๊า เดี๋ยวจะมีคนน้อยใจ

“เคยซิครับม๊า เพราะว่าป๊าสอนผมประจำม๊า” ผมพูดกับอาม๊า ผมจำทุกคำสอนของป๊าไว้ได้หมด ต่อให้คนอื่นจะมองว่าป๊าไม่รักผมเพราะป๊าไม่ให้อะไรผมแต่ผมรักป๊ามาก ผมรู้ว่าป๊าพยายามที่จะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ผม ป๊ามองไปถึงอนาคตของผมกับภีม ป๊าแค่ไม่อยากให้ผมใช้ชีวิตในสังคมที่มองว่าความรักของผมผิดปกติ ดังนั้นผมเชื่อว่าป๊ารักผมเท่าๆ กับลูกๆ คนอื่น

“แต่ตอนนี้นะ อั๊วว่าลื้อรีบเหอะ!” ผมต้องเงยหน้าจากหนังสือพิมพ์รายวัน หันไปมองม๊า

“ก่อนจะไม่ได้พล้าเล่มงามของลื้อคืน ดูท่าผู้หญิงคนนั้นมันจะคาบเอาพล้าเล่มงามของลื้อไปใช้ซะก่อนหน่า” ม๊าหันมาพูดกับผมก่อนจะชี้นิ้วไปทางหมอภีมปภพ เขาเดินออกมาจากห้องตรวจพร้อมหญิงสาวรูปร่างดีหุ่นสวย ดูแล้วน่าจะรักสุขภาพมากและคงเป็นแฟนคลับหมอภีม เพราะว่าภีมอยู่ในสังกัดหมอหล่อบอกต่อด้วย เธอหันมาช้อนตามองหมอภีมปภพดวงตาแวววาว ดูท่าจะคุยกันถูกคอซะด้วย

“ดูซิ อี๊มองเป้ามากกว่าหน้าอาภีมอีกนะ อากันนะ” ม๊าพูดกับผมแถมยังสะกิดให้ผมหันไปดูให้ได้อีก

“ม๊าอย่าไปว่าเขาอย่างนั้นซิ “ผมหันบอกม๊า ก่อนจะหลุบตาลงอ่านหนังสือพิมพ์ต่อ แต่จะว่าไปก็แอบมองนิดนึง เออจริงอย่างที่ม๊าพูดเลย มองเป้าบ่อยกว่ามองหน้าหมอภีมซะอีก และภีมมันเล่นใส่เข้ารูปขนาดนั้น เป็นใครก็มอง ถึงจะมีเสื้อกาวคุมอยู่ก็เถอะ

“อากัน “ม๊าเรียกผม ผมหันมามองม๊า

“ว่าไงม๊า จะดื่มน้ำเหรอครับ” ผมาถามม๊า

“ไม่มีใครอ่านใจใครออกหรอก ถ้าไม่พูดไม่บอกกันตรงๆ น๊ะ ขนาดผัวเมียยังผิดใจกันเลย” ม๊าพูดกับผม

“มีอะไรก็คุยๆ กันน๊ะ เล่นตัวอยู่ได้!! “อันนี้แหละที่ทำให้ผมสะบัดหน้ามามองม๊า

“ม๊า!!”

“ตอนม๊าน่ะอยู่กับป๊าลื้อใหม่ๆ ไม่เคยเรียนรู้กันมาก่อน ถูกบ้างผิดบ้าง งอนกันบ้าง แต่พออยู่ไปนานๆ เริ่มรู้แล้วว่า ป๊าลื้อมันนั่งทานในอ่านใจอั๊วะไม่ได้หรอก มันต้องหันมาคุยกันนั่นแหละถึงได้เข้าใจ” ม๊าพูด เอาจริงๆ ม๊ากับป๊าก็เถียงกันตลอดแหละแต่สุดท้าย ม๊าก็หันมาดูแลป๊าเหมือนเดิม ผมแอบยิ้มเล็กน้อย

“ชอบหรือไม่ชอบอะไรก็บอกกัไนปตรงๆ มีอะไรในใจก็คุยกันรู้ไหม”

“ลื้อจะมานั่งเก็บมันไว้ทำไมอากัน สิ่งที่ลื้อแบกไว้มันก็เหมือนก้อนหิน ยิ่งลื้อกำมันแน่นเท่าไหร่มันก็เจ็บตัวเจ็บใจลื้อเปล่าๆ สู่โยนมันทิ้งไปและหันมาเริ่มต้นกันใหม่ ก่อนที่มันจะสายไปน๊าอากัน” ม๊าบอกผม ม๊าจับมือผมไปกุมไว้

“ม๊ารู้ว่าลื้อเสียใจเรื่องป๊า ลื้อคิดว่าลื้อคือต้นเหตุให้ป๊า ความจริงไม่ใช่ลื้อหรอก ป๊าน่ะเป็นโรคหัวใจมาพักหนึ่งแล้วแต่ป๊าของลื้อนะดื้อ และป๊าลื้อก็ไม่อยากให้อาเกริกกับลื้อต้องมาเป็นห่วง อันที่จริงวันรุ่งขึ้นหมอนัดแล้วนะแต่ว่า ไม่ทัน ม๊าก็เสียใจแต่ชีวิตเรามันต้องเดินต่อไปอากัน” ม๊าบอกผม ผมรู้ว่าป๊าเห็นรูปผมกับภีม เป็นรูปที่หลินได้จากหมอภีมปภพแต่ผมไม่คิดว่าเธอจะทำให้ป๊าผมเห็นภาพนั้น และนั้นมันทำให้ผมรู้สึกผิด

“สวัสดีครับม๊า มาหาผมอีกแล้วเหรอครับ” หมอภีมเดินมานั่งยองตรงหน้าม๊า เขาหันมามองผม ผมแค่พยักหน้าทักทายหมอภีมปภพ ผมยอมรับว่าผมไม่ได้คุยกับหมอภีมเลยตั้งแต่วันที่เขาช่วยผมออกมาจากผับนั้นวันนั้น

“ไม่สบายน่ะ ร้อนๆ หนาวๆ ยังไงก็ไม่รู้ เป็นมาหลายวันแล้ว “ม๊าพูด

“แล้วตอนนี้ล่ะครับ ม๊า ยังเป็นอยู่ไหมครับ” หมอภีมถามม๊า

“แปลกน่ะ เป็นแต่ที่บ้าน ว่าแต่แอร์ยี่ห้ออะไร เย็นดีน่ะ ที่บ้านม๊าน๊ะ เปิดก็เย็นปิดก็ร้อน เปิดๆ ปิดๆ มันก็ร้อนๆ หนาวๆ น๊า” ม๊าพูด นี้ทำให้ไอ้ภีมถึงกับกลั้นหัวเราะแทน ผมนี่สั่นหัวไปมาเล็กน้อย สงสัยม๊าผมไปปรับแอร์อีกแล้ว ผมอุตส่าห์ตั้งให้ว่าถ้าเย็นเกินไปก็ตัดพอกลับมาร้อนก็ทำงานใหม่

“โอเค ถ้าอย่างนั้นยาฮอร์โมนที่เพิ่งให้ไปละครับม๊า ได้ทานบ้างหรือเปล่า” หมอภีมปภพถามม๊า

“ไม่ได้ทานหรอกภีม “ผมตอบแทนม๊าทันที

“ทำไมล่ะครับม๊า “หมอภีมถามม๊าผม

“กลัวหายน่ะ” ม๊าผมพูด หมอภีมถึงกับขมวดคิ้ว

“อ้าวม๊าครับทำไมล่ะครับ ผมว่าม๊าทานเถอะครับ เพราะว่ามันช่วยได้น่ะ จะได้ดีขึ้น” หมอภีมปภพพูด

“ไอ้ที่กลัวหายน่ะ กลัวหายไปจากโลกนี้ “ม๊าบอกหมอภีม

“ม๊า!! ม๊ายังดูแข็งแรงอยู่เลยน่ะม๊า ไม่หายไปไหนแน่นอน” หมอภีมพูด ผมรู้ว่าทำไมม๊าถึงได้รักภีมเหมือนลูกอีกคนเพราะว่าภีมเป็นคนเอาใจม๊าเก่ง

“ยาม๊าเยอะแยะ จำไม่ได้น่ะ จำได้อยู่ยาเดียวเลย ขอสโนมันปุ๊ป มันเปิดให้ม๊าฟังทันที” ม๊าพูดกับหมอภีม

“เออ ยาอะไรครับม๊า”

“ยาใจคนจนน๊ะ “ผมถึงกับต้องวางหนังสือพิมพ์ลง

“นั้นมันเพลงนะครับม๊า คนละยากันครับม๊า ผมว่าม๊าจะไม่หายก็เพราะว่ายาใจคนจนนี้แหละครับม๊า หึๆ” หมอภีมขำม๊าผมอีก

“ว่าแต่วันนี้ทำไมม๊าลากลูกชายม๊าให้พามาผมได้ล่ะครับ” หมอภีมปภพถามม๊า ก่อนจะหันมามองผม เขาหันมายิ้มให้ผม

“อยากมาหลายวันแล้วน๊า คนพาไม่ค่อยว่าง เล่นตัวอยู่นั่นแหละ” ม๊าพูดว่าผมเล่นตัว ผมหันไปมองม๊า

“ม๊า ผมยุ่ง สอนหนังสือนะม๊า” ผมมาพูดกับม๊า

“เห็นไหมมันยุ่งจนไม่มีเวลาให้ม๊าเลยะ ลื้อเห็นไหมอาภีม” ม๊ารีบหันไปพูดกับหมอภีมทันที

“ถ้าอย่างนั้น ผมว่าเข้าห้องตรวจเลยแล้วกัน ผมลัดคิวให้ คนไข้อีกคนเขาต้องรอไปเจาะเลือกตรวจเบาหวานขณะตั้งครรภ์นะครับม๊า” หมอภีมพูดก่อนจะเรียกพยาบาลมากระซิบกับพยาบาล ผมก็เข็นอาม๊าตามพยาบาลเข้าไปในห้องตรวจหมอภีม หมอภีมก็ตรวจเหมือนหมอทั่วไป วัดความดัน ฟังปอด ดูผลตรวจเลือดคราวที่แล้วตรวจหาไขมัน เบาหวาน ผลออกมาทุกอย่างปกติ ผมยืนมองหมอภีมปภพคุยกับม๊า เขาสองคนคุยกันถูกคอ

Rrrrr โทรศัพท์ผมสั่นผมหยิบขึ้นมาดู เป็นเบอร์โทรหลินที่โทรเข้ามา

“ม๊าผมไปรับสายหลินก่อนนะ ผมมีเรื่องด่วนนะครับ” ผมกระซิบบอกม๊า หมอภีมเงยหน้าขึ้นมองผม ผมก็รีบเดินออกทันที

//ฮัลโหลหลินว่าไง//

//อาจารย์เปรมสินี เขายื่นเรื่องอุทธรณ์กับทางคุรุสภา เขาหาว่าหลินที่เป็นคนเข้าไปตรวจสอบเขาไม่มีความโปร่งใส เขาระบุว่าหลินเคยเป็นภรรยาของพี่มาก่อน เขาบอกว่าหลินอาจจะร่วมมือกับพี่กลั่นแกล้งเขาเพราะความอิจฉาในหน้าที่การงานเธอค่ะ พี่กัน “หลินบอกผม ผมถึงกับต้องพ่นลมหายใจออกมายาวๆนี่มันคือการเถียงแบบข้างๆ คูๆ ผมนี่นะ จะไปอิจฉาเธอเพราะหน้าที่การงานของเธอ แถมยังไม่ได้มาด้วยความสามารถของเธออีกด้วย

//หลิน สิ่งที่เขาทำผิดจริงและไม่มีอาจารย์คนไหนจะทำร้ายลูกศิษย์แบบนี้หรอกน่ะ //

//หลินทราบค่ะ และนี้คือสาเหตุ เขาต้องการให้หลินถอนตัวออกและให้เป็นคนอื่นตรวจสอบแทนค่ะ หลินคิดว่าเขาน่าจะใช้อำนาจจากผู้ใหญ่ที่เคยหนุนเขามาก่อนช่วยค่ะ//

//ส่วนแพรวา พ่อเธอให้ทนายเข้ามาคุย เขาปฏิเสธทุกข้อหาว่าไม่ได้มีส่วนร่วมกับอาจารย์คนดังกล่าวค่ะ เขาให้เหตุผลว่าอาจารย์เปรมสินียื่นข้อเสนอเรื่องการให้เขาเข้ารับเกียรตินิยมกับเธอเอง ทนายของคุณธรรมรัตน์พูดเหมือนลูกสาวเขาถูกหลอกอีกทีหนึ่งค่ะ//

// และเรื่องเกรดก็เช่นกัน ทนายคุณธรรมรัตน์ก็บอกว่าอาจารย์ที่ให้เกรดเธอแบบนั้น เขายื่นขอเสนอมาเองเหมือนกันค่ะ ไม่ใช่ความผิดลูกสาวเขาค่ะและอธิการบดีก็ขอร้องไว้ให้เห็นแก่พ่อเธอเลยจะให้แพรวาเรียนซ้ำปีหน้าแทนค่ะ //

//พี่ไม่ติดใจเรื่องแพรวานะหลิน เพราะว่าแค่ให้เธอไปเรียนใหม่ มันก็ทำร้ายจิตใจเธอมากพอแล้ว แต่พี่ติดใจเรื่องอาจารย์เปรมสินี เขาทำผิดจนไม่สมควรเป็นอาจารย์ต่อไปได้อีก ดังนั้น//

//พี่มีหลักฐานจากเป็กซ์อีกพรุ่งนี้เขาจะเอามันมาให้พี่ พี่หลักฐานนี้ ต่อให้คนหนุนหลังใหญ่แค่ไหนก็ช่วยเธอไม่ได้ เผลอๆ จะโดนไปด้วย//ผมพูด

//ได้ค่ะพี่กัน ถึงหลินจะไม่ได้ดูแลแต่คนที่ทำหน้าที่แทนหลิน หลินรู้จักค่ะ เขาไม่ไขว้เขวแน่นอนค่ะ หลินรับประกันได้ค่ะ //หลินบอกผม ผมพยักหน้า

//ขอบคุณนะครับหลิน //

//พี่กันค่ะ หลินเพิ่งไปตรวจครรภ์มาเมื่อวาน พอดีหมอที่ทำคลอดให้หลินนะคะ เขาขอไปเรียนต่อเมืองนอก เขาเลยฝากเครสของหลินไว้กับหมอภีม //

//หลินได้คุยกับหมอภีมแล้วนะคะ ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นค่ะ หลินคิดว่าพี่กันเลิกโทษตัวเองและคิดว่าตัวพี่เองคือสาเหตุที่ทำให้ป๊าของพี่เสียใจเลยนะคะ //

//และหลินต้องขอโทษที่ ทำให้ป๊าเห็นรูปนั้น หลินเองก็มีส่วนผิด//

// หลินไม่ผิดหรอกครับ พี่ต้องขอบใจหลินที่ตลอดห้าปีนี้ ช่วยพี่ดูแลป๊าและม๊าพี่เป็นอย่างดี // ผมพูดกับหลิน

//เพราะท่านดีกับหลิน หลินถึงได้มีทุกวันนี้ค่ะพี่กัน //

//พี่กันค่ะ หลินว่าหลินดูออก ทำไมพี่ทำให้หมอภีมคิดว่าพี่หมดรักโดยการดึงน้องคนนั้นเข้ามา ถ้าเป็นเพราะว่าหมอภีมเป็นลูกชายคนเดียวของพ่อแม่เขา และพ่อเขาเคยพูดขอร้องพี่กันไว้ หลินอยากให้พี่กันลองฟังหัวใจตัวเองดีกว่าไหมคะ//

//หลินคิดว่าพ่อของหมอภีมเขายอมแล้วแหละค่ะ แม้กระทั่งหลินเอง หลินก็ยอมค่ะ ยอมรับในความมั่นคงของหมอภีมที่เขารอพี่ ทั้งที่พี่เองก็เหมือนจะพยายามกันเขาออกไปตามที่พ่อเขาเคยขอพี่ไว้ แต่ให้คงไว้แค่เพื่อน มันทรมานน่าดูใช่ไหมคะพี่กัน” หลินพูด ผมยืนเอามือล้วงกระเป๋ากางเกง

//หลินยอมรับว่าหลินไม่อยากคืนพี่ให้หมอภีม แต่พอหลินเห็นพี่ตอนที่เราอยู่ด้วยกันแล้ว หลินรู้สึกผิดมากค่ะ ที่เข้ามาแทรกกลางระหว่างพี่สองคน//

// ตอนนี้หลินมีครอบครัวที่น่ารักแล้ว พี่ไม่ต้องเป็นห่วงหลินแล้วนะคะ หลินยอมแล้ว กลับไปหาหัวใจตัวเองเถอะค่ะ ก่อนที่อะไรจะสายเกินไป // หลินพยายามพูดกับผม ผมหันมาเจอผู้ชายคนหนึ่ง ผมไม่ได้เจอเขาเลยหลังจากที่เขาเรียกผมไปคุย เรื่องที่เขาต้องการให้ผมลดสถานะลง ระหว่างคนรักกับหมอภีม ผู้ชายคนนั้นคือพ่อของหมอภีมเอง เขาหันมาเห็นผมยืนคุยโทรศัพท์อยู่ เขาโบกมือให้สักคนไปก่อนที่เขาจะเดินตรงมาหาผม

//งั้นแค่นี้ก่อนนะหลิน พี่พาม๊ามาหาหมอนะครับ//

// ได้ค่ะพี่กัน หลินว่าจะเข้าไปหาม๊าน่าจะวันหยุดนะคะ จะพาเด็กๆ ไปเยี่ยมม๊าด้วยค่ะ// หลินบอกผมก่อนจะวางสายไป ผมหันมามองคนที่เดินมาหยุดตรงหน้าผมแล้ว

“กันตภณ”

“สวัสดีครับท่าน”

“เรียกพ่อเหมือนเดิมเถอะ หรือว่ายังโกรธที่พ่อเคยเรียกเรามาคุยเรื่องหมอภีม” พ่อของหมอภีมถามผม

“คือ ผม ไม่โกรธท่านครับ คนเป็นพ่อทุกคนย่อมที่จะทำเพื่อลูก ถ้าผมเป็นท่านผมคงจะทำเช่นเดียวกันครับ” ผมพูด

“ขอพ่อคุยด้วยหน่อยได้ไหมไม่นานหรอก” พ่อของภีมปภพถามผม ผมหันไปมองม๊ายังไม่ออกมาเลย

“ม๊าอยู่ในห้องตรวจกับหมอภีมนะครับ”

“ดูท่าม๊าเราจะเป็คนไข้แฟนคลับหมอภีมเขาละซิ หึๆ “พ่อของหมอภีมพูด

“ครับ ร้องมาหาตลอด เป็นอะไรก็จะมาหาแต่หมอภีมนะครับ”

“เอา ไปหาที่คุยกับพ่อตรงโน้นแป๊ปหนึ่ง ไม่นานหรอกนะกัน” พ่อของหมอภีมปภพพูดก่อนจะผายมือให้ผมเดินตามท่านไป ผมเดินตามออกมาได้สักระยะ จนท่านผายมือให้ผมนั่งลง ท่านก็นั่งลงด้านข้างของผม ท่านหันมามองหน้าผม ก่อนจะวางแฟ้มลงที่ตัก เขามองหน้าผมนิ่ง จนน่าใจหาย

“หมอภีมเขารักเรามากน่ะกัน”

“เออ คือ”

“กันล่ะ ไม่รักภีมเขาแล้วเหรอ”

“รักครับ แต่ผมก็รักเขาอย่างเพื่อน เพราะภีมคือเพื่อนคนแรกของผม” ผมบอกพ่อของหมอภีม

“ไม่ต้องปิดแล้วกัน พ่อขอโทษที่พ่อเคยพูดกับเราว่า อยากเห็นหมอภีมแต่งงานกับผู้หญิงเหมือนที่กันทำ พ่ออยากให้เขาใช้ชีวิตเหมือนเช่นคนปกติเขาทำกัน ทั้งที่มันเป็นไปไม่ได้ ใจเขาเลือกไปทางนี้แล้ว” พ่อของหมอภีมพูด

“พ่อขอโทษนะ ตอนนั้นพ่อแค่ไม่อยากให้หมอภีมต้องมาเจอกับปัญหาที่จะตามมาของเราสองคน ความรักแบบนี้ในตอนนี้ ยังไม่เป็นที่ยอมรับในสังคม กันรู้ใช่ไหม”

“อุปสรรคขวางหนามก็เยอะและเราทั้งคู่ก็มีคนรู้จักมากมาย คือถ้าใครถามถึงสถานะของเราสองคนขึ้นมา พ่อไม่รู้ว่าเราสองจะตอบคำถามเขายังไงและเราสองคนจะรับปัญหานี้ด้วยกันไม่ได้” พ่อของหมอภีมพูด ก่อนจะหันไปมองทางอื่น

“แต่ตอนนี้พ่อเชื่อแล้วว่า เรากับภีมจะรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้เอง ด้วยวัยวุฒิและคุณวุฒิที่เพิ่มขึ้น” พ่อของหมอภีมพูด

“พ่อขอบใจนะกันที่ตอนนั้นกันยอมเพื่อพ่อและกันยังไม่เคยบอกเรื่องที่พ่อเรียกเรามาคุยทั้งที่ ถ้าเราเลือกบอกภีมเขาก็ต้องเลือกเราอยู่ดีกัน” พ่อของภีมพูด

“ผมทราบครับ ผมก็รู้นิสัยของภีมว่าเขาจะทำยังไง ผมเลยเลือกที่จะไม่บอกเขาดีกว่า ผมไม่อยากให้ภีมต้องมาเสียใจภายหลัง ถ้าเขาตัดสินใจทำบางสิ่งลงไปเพราะความคิดชั่ววูบ” ผมพูดกับพ่อของเขา

“ผมไม่อยากให้เขาเสียใจเหมือนผม เรื่องป๊าของผมนะครับ “ผมพูด

“กันทำดีที่สุดแล้ว และเรื่องมันก็ผ่านมาแล้ว เรากลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว เราต้องอยู่กับปัจจุบันซิกัน”

“พ่อน่ะเห็นภีมเขารักและรอเราแบบนี้ พ่อเองก็ยิ่งรู้สึกผิดน่ะ ทำไมไม่ลองหันมาคุยกันดูล่ะ กันเองก็ไม่มีใครไม่ใช่หรือ หรือว่ากันมีคนอื่นไปแล้วล่ะ” พ่อของหมอภีมถามผม ผมหลุบตาลงมองพื้น

“ถ้าเป็นเรื่องหมอสายป่าน เขาบอกพ่อกับแม่แล้วแหละว่า เรื่องทั้งหมดไม่เกิดขึ้นจริง เป็นเพราะว่าเขาเห็นพี่สาวเขาเสียใจและภีมก็ยอมรับพ่อว่าเขาเป็นคนส่งรูปนั้นไปให้หลิน ภรรยาเก่าของเราจริง”

“เขายอมรับว่าเขาหึงหวงเรามากแต่เขาแสดงออกไม่ได้มาก เพราะว่าเขาเปิดเผยมันไม่ได้ ส่วนหนึ่งก็มาจากพ่อเองเช่นกันที่ไม่เปิดใจเรื่องพวกนี้ตั้งแต่ทีแรก” พ่อของหมอภีมพูด ผมพยักหน้า ผมยอมรับว่าผมโกรธภีมมากที่ทำแบบนั้นและดีที่หลินไม่ถึงกับเสียสติไป ส่วนป๊าผมก็เสียใจจนไม่พูดกับผมเป็นเดือน

“หลินเขาบอกผมแล้วว่า เขาได้คุยกับหมอภีมแล้วเขาทั้งคู่เข้าใจกันแล้วครับ” ผมบอกพ่อของหมอภีม

“รักวัยรุ่นน่ะ ความรักมันก็เหมือนดาบสองคม พร้อมจะฟาดฟันได้ทั้งสองด้าน ด้านหนึ่งคือฟาดฟันศัตรูให้แพ้พ่ายและอีกด้านมันก็อาจจะฟาดฟันหัวใจเราเอง ดังนั้นรักได้แต่ควรตั้งอยู่ในความไม่ประมาทจะดีที่สุด “พ่อของหมอภีมพูดก่อนจะลุกขึ้น

“พ่อมีประชุมกับอาจารย์หมอนะกัน งั้นพ่อไปก่อนนะ”

“เอาที่พ่อพูดไปคิดดูเอาแล้วกันน่ะ หัวใจเราสำคัญที่สุด ลองถามใจเราสองคนดู ว่าอยากกลับมาอยู่ด้วยกันอีกไหม ถ้าคิดว่ายังรักกันอยู่”

“พ่อกับแม่ก็ยินดี พ่อแม่ไม่ใช่เจ้าชีวิตแม้จะให้ชีวิตก็ตาม สิ่งที่ลูกเลือกพ่อแม่ก็ควรยอมรับเพราะว่านั้นคือหัวใจของเขา” พ่อของหมอภีมพูดก่อนจะเดินออก

“พ่อคิดว่าหมอภีมเขาเรียนรู้อะไรได้มากขึ้นแล้ว เขาเป็นผู้ใหญ่พอแล้วกัน พอจะมีครอบครัวกับเขาสักที” พ่อของหมอภีมปภพพูด ผมพยักหน้าพร้อมกับยกมือไหว้ท่าน ผมรีบหันหลังเดินกลับมาหาม๊าของผม ม๊านั้งอยู่กับพยาบาลด้านนอกแล้ว แต่ผมไม่เห็นหมอภีม

“ม๊า เสร็จนานหรือยังครับ”

“นานแล้วเนี๊ยะ! ลื้อหายไปไหนมาน๊ะ” ม๊าพูด ผมหันไปยิ้มกับพี่พยาบาลที่อยู่เป็นเพื่อนม๊าของผม

“ไม่นานหรอกค่ะ ประมาณสิบนาทีได้ค่ะ” พี่พยาบาลพูดกับผมไม่ดังมาก

“ม๊า พี่เขาบอกว่าเพิ่งออกมาได้สิบนาทีเองนะ ไม่นานหรอกม๊า” ผมบอกม๊า ม๊าหันมามองหน้าผม

“แล้วแค่ไหนถึงจะนานล่ะ ให้อั๊วะนั่งอยู่นี้สักคืนไหมล่ะ ถึงจะบอกได้ว่านานน๊ะ"ม๊าหันมาพูด ทำเอาผมถึงกับกุมขมับก่อนจะหันไปพยักหน้ากับพี่พยาบาล เดี๋ยวผมดูแลเองคนแก่ขี้งอน

“ผมไปส่งม๊าก่อนนะ ผมมีสอนครับม๊า” ผมบอกม๊า

“ม๊าแล้วภีมล่ะ” ผมถามม๊า

“มีเครสด่วนน๊ะ แล้วเครสด่วนนี้มันคืออะไรหว่าอากัน “ม๊าถามผม

“ก็คือมีคนไข้ฉุกเฉินมาน่ะม๊า “ผมบอกกับมา

“เดี๋ยวเรียกเจ้าหน้าที่มาเข็นคนไข้ให้นะคะคุณกันตภณ” พยาบาลหน้าห้องตรวจหมอภีมเดินมาบอกผม ผมพยักหน้าเป็นการขอบคุณ พี่เขาเข็นม๊าผมออกไป ผมรีบเดินไปที่ผมจอดรถเอาไว้ก่อนจะขับวนมารับม๊าขึ้นรถนี้คือเหตุผลที่ผมยังไม่ตัดสินใจไปเป็นอาจารย์ที่ออสเตรเลีย ผมเป็นห่วงม๊า ถึงเขาจะเสนอตำแหน่งและเงินเดือนที่สูงกว่าที่ผมทำอยู่นี้หลายเท่าก็ตาม

   ผมขับรถไปส่งม๊าที่บ้าน ทานข้าวเที่ยงกับม๊าและรีบกลับไปมหาวิทยาลัยทันที ผมกลับมาทำหน้าที่อาจารย์สอนหนังสือวิชาเศรษฐศาสตร์ เวลาสอนผมจะตั้งใจมาก เพราะว่าวิชานี้เป็นวิชาที่ยาก คนสอบตกเยอะถ้าไม่ตั้งใจเรียน ดังนั้นนักเรียนจะเห็นสีหน้าที่นิ่งจนเขาพากันเกร็งไปทั้งคาบแต่ผมก็ตั้งใจสอนพวกเขาเต็มที่  จนกระทั่งหมดคาบสุดท้ายของวันนี้ ผมสอนเสร็จก็ปาเข้าไปหกโมงพอดี วันนี้เจ๊หงส์บอกว่าจะมารับม๊าไปทานข้าวที่บ้าน ผมเลยไม่ต้องเป็นห่วงม๊า

   ผมเดินมาถึงที่รถเก๋งคันหรูของผม ผมกลับนึกถึงทุกคำพูดที่ผมได้คุยกับพ่อของภีมปภพ ผมสตาร์ตรถก่อนจะขับออกมาในซิผมจะเลือกไปทางไหนดี กลับบ้านหรือว่าจะไปหาหมอภีมดี ไปคุยกัน ผมตัดสินใจขับรถไปที่โรงพยาบาล ปกติหมอภีมเลิกงานหนึ่งทุ่มครึ้งทุกวัน ผมนำรถเข้าไปจอดที่จอดรถก่อนจะเดินออกมาและตรงไปยังแผนกสูตินรีเวช

“สวัสดีค่ะ คุณกันตถณ ไม่ทราบว่ามาหาคุณหมอภีมหรือเปล่าคะ”

“เออ ใช่ครับ เขาเลิกงานหรือยังครับ” ผมถามพยาบาลประจำหน้าห้อง เขารู้ว่าผมเป็นเพื่อนกับหมอภีม

“คุณหมอกลับบ้านไปแล้วค่ะ สงสัยวันนี้จะเหนื่อยมากค่ะ เลยไม่ลงตรวจต่อแต่ให้หมอพาร์ทไทม์มาลงตรวจแทนค่ะ” คุณพยาบาลบอกผม

“วันนี้คุณหมอมีเครสผ่าคลอดสามเครสติดเลยค่ะ เครสคุณหมอ เครสผ่าตลอดฉุกเฉินและเครสคุณหมออีกท่านแต่เขาไม่อยู่ไปธุระเลยต้องให้หมอภีมเข้าเครสแทนค่ะ” คุณพยาบาลบอกผม ผมพยักหน้าก่อนจะส่งยิ้มให้ ผมเดินหันหลังออก

“อ้าวกัน” ผมหันมาเจอแม่ของหมอภีมปภพพอดี

“สวัดสีครับคุณหญิง” แม่ของหมอภีมเขามียศเป็นคุณหญิง

“โอ๊ยเรานี่ จะเรียกแม่ซะเต็มยศทำไมล่ะเรานี่ ว่าแต่นี้เราพาม๊ามาหาหมอเหรอ” แม่ของหมอภีมพูด ตีแขนผมเบาๆ

“ผมพามาตั้งแต่เช้าแล้วครับ" ผมตอบแม่ของหมอภีมไป

  "พอดีผมเพิ่งจะสอนเสร็จนะครับ ผมเลย เออ เลย จะแวะมาหาภีมซะหน่อยนะครับ เมื่อเช้าเขารีบเลยไม่ไ่ด้คุยกัน” ผมบอกแม่ของภีม เขาก็มองหน้าผมยิ้มเล็กน้อย

“หมอภีมเขากลับแล้วนะครับ” ผมตอบ

“แม่ก็เพิ่งจะรู้เหมือนกัน จะถามสักหน่อยว่าจะไปทานข้าวบ้านไหม เห็นทำแต่งาน กลัวลูกชายผม” แม่ของหมอภีมบอกผม

“เราก็ยุ่งมากเหมือนกันนิ เห็นหมอภีมบอกแม่” แม่ของหมอภีมถามผม พยักหน้าใช่ครับผมยุ่งหลายเรื่องเลย ตั้งแต่ผมไม่ได้ทำหน้าที่ดูแลบีม ผมก็แทบจะไม่ได้คุยกับหมอภีมอีกเลย

“นี้แม่พยายามโทรหาเจ้าลูกตัวดี ไม่รับสายแม่เลย “แม่ของหมอภีมพูด

“อุ้ยตายแล้ว เดี๋ยวแม่ขึ้นไปดูพ่อก่อนนะ ป่านนี้คงเลิกประชุมแล้ว” แม่ของหมอภีมหันมาบอกผม ผมพยักหน้าก่อนจะยกมือไหว้

“กัน พ่อเขาบอกว่าเขาคุยกับเราแล้วใช่ไหมลูก”

“ครับ พ่อคุยกับผมแล้ว”

“ดีแล้วแหละ อันที่จริงพ่อเขาก็ไม่ได้รังเกียจอะไรน่ะแต่ว่าเขาแค่มองอนาคตของเราทั้งคู่ เพราะว่าในตอนนั้นน่ะ อาจจะยากสักนิดนึงน่ะที่พ่อเขาจะเข้าใจ แต่ว่าตอนนี้ เข้าใจกันดีแล้วใช่ไหมลูก” แม่ของหมอภีมถามผม ผมพยักหน้า

“ผมไปก่อนนะครับ ผมมีธุรนะครับ” ผมบอกแม่ของหมอภีม ก่อนจะเดินออกและแม่ของหมอภีมก็เดินเข้าไปด้านใน ผมหยิบมือถือขึ้นมา กดโทรไปที่เบอร์หมอภีมปภพ ดังแต่ไม่รับสายเป็นอะไรของเขาน่ะ ผมเดินเข้าไปในรถเก๋งคันหรูอีกครั้ง เหลือบไปมองในกล่องลิ้นชักในรถยนต์ ผมใช้มือถึงเปิดออกมาก็เจอกับกุญแจบ้านหมอภีมยังอยู่กับผม ผมไม่ได้คืนภีมไปแต่ไม่ได้ใช้มันมาหลายปีแล้ว เขาอาจจะเปลี่ยนไปแล้วก็ได้

TBC.....

ออฟไลน์ Nattie69

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 777
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0

ออฟไลน์ tiger2006

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 334
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :กอด1:


เอาใจช่วยคู่นี้สุดพลัง

ออฟไลน์ Alessa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
EP.29 (หมอภีมXอากัน)ขอบคุณที่ยังรักกันP1

       Part's กันตภณ ผมใช้กุญแจไขประตูบานเล็กก่อน ปรากฏว่ามันยังใช้ได้ แสดงว่าเขาไม่ได้เปลี่่ยนหรือคิดจะเปลี่ยนมัน ผมเปิดเข้ามาก่อนจะเดินไปกดเปิดประตูเลื่อนเพื่อขับรถเก๋งของผมเข้ามาจอดด้านใน ผมหันไปมองตรงมุมสวนไม้ดอกไม้ประดับที่ผมกับภีมเคยช่วยปลูก ตั้งแต่เริ่มซื้อบ้านหลังนี้ใหม่ๆ มันยังคงอยู่เหมือนเดิมและภีมก็ดูแลมันอย่างดีแทนผม

ทันทีที่ผมนำรถของผมเข้ามาจอดไว้ด้านในข้างๆ รถของหมอภีมปภพ ผมแปลกใจ รถเขาก็ยังจอดอยู่แต่คนล่ะยังอยู่ไหม ทำไมใจผมถึงได้เต้นแรงมากขนาดนี้ ผมเดินไปที่ประตูบ้าน ผมหยิบพวงลูกกุญแจขึ้นมาดู พวกกุญแจรูปหัวใจที่แหว่งอยู่ตรงกลาง ลอยที่หายไปคือลูกกุญแจที่เสียบเอาไว้

"กันหัวใจส่วนภีมคือกุญแจและภีมคือคนไขหัวใจของกัน" ผมยืนพ่นลมหายใจอยู่ทำท่าว่าจะไขมันเข้าไปดีไหม ผมยืนถือกุญแจดอกสำคัญนั้นอยู่ กุญแจบ้าน ภาพวันแรกที่เขาพาผมมาที่หลังนี้ ภายหลังจากที่เขาซื้อไว้ บ้านหลังนี่ถูกรีโนเวทใหม่ให้เป็นสีขาวตามที่ผมเคยเขาเอาไว้   เขาพาผมมาในวันครอบรอบที่เราเป็นแฟนกัน แต่หนึ่งปีให้ไล่หลังก็เป็นวันที่ผมลดสถานะของการเป็นแฟนลงมาเพราะว่าผมต้องไปแต่งงาน และนั้นเป็นวันครอบรอบ 7 ปี จะว่าไปก็เหมือนเจ็ดปีอาถรรณ์เหมือนกันนะ

          ผมยืนหันรีหันขวางก่อนจะตัดสินใจ หันไปและค่อยๆไขกุญแจดอกนั้นลงไป ผมกลัวว่ามันจะไขไม่ได้ มุมปากผมกระตุกเป็นรอยยิ้ม มันยังคงใช้ได้เขาไม่ได้เปลี่ยน  ผมเปิดประตูเข้าไปภายในบ้าน ผมยืนกวาดสายตามองไปรอบๆตัวบ้านที่ถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์โทนสีขาวตัดกับพื้นไม้ปาร์เกต์ขัดเงา อันนี้ผมเป็นคนเลือกเพราะว่าภีมเขาซื้อบ้านหลังนี้ต่อจากครอบครัวหนึ่งเขากำลังจะย้ายไปอยู่ต่างประเทศ ผมสองคนเลยต้องตกแต่งภายในกันใหม่หมด
ผมมองไปรอบๆทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ก่อนจะเดินไปมองรอบๆ เพื่อหาเจ้าของบ้าน ผมกดโทรศัพท์เพื่อนโทรหาเจ้าของบ้าน โทรติด ผมถือสายรออยู่แต่กลับไม่มีคนรับ แปลกมันผิดวิสัยของหมอภีมปภพ ผมเลยถือวิสาสะขึ้นไปบนบ้าน ถึงแม้ว่าเมื่อก่อนผมจะเข้าออกเหมือนบ้านตัวเองก็ตาม แต่ว่าสถานะของผมกลับเขามันไม่ใช่แฟนกันมาพักใหญ่แล้ว

         ผมเดินขึ้นไปยังชั้นที่สองของตัวบ้าน บ้านนี้มีสองห้องนอน ห้องนอนใหญ่และห้องนอนสำหรับแขก และมีครัวที่ชั้นสองของบ้าน ผมชอบออกไปนั่งทานอาหารพร้อมกับจิบไวน์กันด้านนอก ตรงระเบียงก็มีวิวทะเลสาบให้ดู ตอนนี้ผมมาอยู่ที่ตัวบ้านชั้นสองแล้ว บรรยากาศภายในเงียบมาก ผมมองไปที่ประตูห้องนอนใหญ่ ภีมน่าจะอยู่ในห้องนั้น ผมเดินหยุดยืนก่อนจะค่อยๆใช้มือจับลูกบิดผมยืนนิ่งอยู่พักหนึ่ง ทำไมผมถึงได้ใจเต้นแรงมากขนาดนี้  เพราะว่าภาพคืนนั้นมันยังติดตาของผมอยู่ ภาพที่เปิดไปแล้วเจอหมอภีมนอนอยู่บนเตียงกับหมอสายป่าน ตอนนั้นผมยังไม่รู้ว่าเธอคือใคร แต่มารู้ ทีหลังว่าเขาชื่อหมอสายป่านและยังเป็นน้องสาวต่างบิดาของหลิน

“ฟู่!!” ผมพ่นลมหายใจออกมายาวๆ ยิ่งกลับมาเร็วแบบนี้ด้วยมันแอบทำให้ผมอดคิดแบบนั้นไม่ได้ “เอาว่ะ “ผมบอกตัวเองก่อนจะเปิดประตูเข้าไปทันที และภาพที่ผมเห็นคือ หมอภีมปภพนอนอยู่บนเตียงคนเดียว กายในห้องนอนทุกอย่างเป็นโทนสีขาวแบบที่ผมชอบ ผมเดินไปยืนมองคนที่นอนหลับสนิท นี่แสดงว่าเหนื่อยจริงถึงได้ไม่รับรู้การเข้ามาของผมสักนิด ผมเหลือบมองไปที่โทรศัพท์ที่วางอยู่ เสียงสั่นสะท้านขนาดนี้ คนหลับก็หลับเป็นตายเลยไม่ได้รู้สึกเลยสักนิด ผมเอื้อมมือไปหยิบมือถือขึ้นมาก่อนจะเดินออกจากห้อง

“สวัสดีครับแม่” ผมรับสายแทนหมอภีม

“อ้าว กันเหรอลูก” แม่ของหมอภีมเขาจำเสียงผมได้

“ครับแม่ ผมขับรถมาดูภีมนะครับ”

“แล้วพ่อตัวดีแม่ล่ะ แม่นี่ก็เป็นห่วงลูก นี่กะว่าถ้าไม่รับอีกแม่จะให้คนขับรถขับไปดูเหมือนกัน” แม่ของหมอภีมบอกผม

“ภีมเขานอนหลับครับ นี่หลับสนิทเลย ผมเข้ามาเขาก็ยังไม่ตื่นเลยครับ” ผมบอกแม่

“สงสัยจะเหนื่อยนะกัน ช่วงนี้เครสฝากครรภ์ของหมอภีมเขาหลายคน "

"และนี้แม่คงไม่ต้องไปดูแล้วแหละมั้ง แม่จะได้บอกแม่บ้านไม่ต้องจัดอาหารเย็นรอด้วยแล้วมั้ง” แม่ของหมอภีมพูด

“ผมจะดูอะไรทำทานเองแล้วกันนะครับแม่ ดูท่าทางภีมเขาเหนื่อยคงนอนหลับอีกสักพักนะครับ” ผมพูดกับคนปลายสาย

“ได้ลูก แม่ฝากภีมด้วยน่ะ ลูกคนนี้ดื้อกับแม่กับพ่อน่ะ แต่มีคนเดียวแหละที่ไม่เคยกล้า ดื้อก็กับกันนี่แหละ” แม่ของหมอภีมพูด

“ครับ “ผมพูดแค่นั้น

“แม่ดีใจน่ะ ที่กันกับภีมจะกลับมาหากัน อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่าน และถือซะว่านี่คือบทเรียน ต่อไปจะได้ไม่เกิดขึ้นอีก นะลูกนะ แค่นี้ก่อนนะลูก”

“ครับแม่ สวัสดีครับ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ผมวางโทรศัพท์ของหมอภีมเอาไว้จนโต๊ะสำหรับทานอาหารเช้าที่ต่อมาจากซิงค์น้ำ ผมเดินไปเปิดตู้เย็น ดูว่าพอจะมีอะไรให้ทำอาหารทานได้บ้าง พอเปิดดูก็รู้เลยว่า เมนูมือนี้ต้องเป็นสเต๊กซอสไวน์แดงท่านคู่กับผักสลัด ผมจัดการปลดเนกไทออก ปลดกระดุมที่ข้อมือถลกแขนเสื้อขึ้นก่อนจะลงมือทำอาหารทันที ผมเองก็ไม่รู้ว่าภีมหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ และอีกนานแค่ไหนกว่าจะตื่น ผมจัดการทุบเนื้อสเต๊กที่ภีมซื้อเอาไว้ ภีมเป็นคนชอบทานสเต๊ก เขาชอบอ้อนร้องขอให้ผมทำให้เขาทานประจำ  ภีมเขาชอบสเต๊กแบบมีเดียมแรร์  เนื้อสเต๊กจะมีสีชมพูอยู่ด้านในและสีน้ำสีแดงคล้ายกับเลือดแต่ไม่ใช่เลือดมันคือ ไมโอโกลบิน เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่อยู่ในกล้ามเนื้อสัตว์ทุกชนิด ผมเคยตรวจเจอธาตุเหล็กต่ำและภีมก็ให้ผมทานแบบนี้มาตลอด

ขณะที่ผมกำลังทำซอสไวน์แดงสำหรับราดบนสเต๊กเนื้อโคขุน ผมก็นำเนื้อใส่ในเครื่อง Air fryer หม้อทอดไร้น้ำมัน ผมได้ยินเสียงฝีเท้าใครสักคนเดินออกมา เสียงฝีเท้า นั้นหยุดนิ่งพร้อมกับ

“เฮ้ย!!” เสียงอุทานตกใจ ทำให้ผมต้องเหลียวหลังหันไปมอง ผมเห็นหมอภีมยืนเอามือกุมหน้าอกตัวเอง

“ทำไม ช๊อคจนหัวใจวายหรือไง “ผมแค่หันไปถามคนที่ยืนทำสีหน้าตกใจ ก่อนจะหันมาดูซอสที่ผมคนวนไปมาอยู่ในหม้อ

"ก็เล่นมายืนในบ้านแบบนี้ เกือบได้โทรเรียกรถพยาบาลแล้วนะ" คนที่ยืนอยู่พูดปนหัวเราะ

“มายังไงครับ” คำถามแรกจากคนด้านหลังของผม

“ก็ขับรถมา” ผมตอบโดยไม่ได้หันไปมอง

“นึกยังไงนิถึงได้มาและมาหากันแบบ ไม่บอกล่วงหน้าเลยนะ” เสียงนั้นเริ่มเข้ามาใกล้ ผมรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ที่รดต้นคอของผมอยู่

“หมับ” ยังไม่ทันได้หันไปพูดอะไร คนด้านหลังก็สวมกอดผมทันที ปลายจมูกฝังลงที่ศอกคอของผม

“ทำไมล่ะ ถ้าไม่บอกล่วงหน้าอาจจะมาเจอ นอนอยู่กับใครหรือไง” ผมพูดเชิงเป็นคำถาม

“กัน!! ภีมไม่ทำแบบนั้นหรอกน่ะ มีแค่ครั้งนั้นครั้งเดียวและภีมทำไปเพราะว่า เขาวางยาภีมต่างหาก กันก็รู้แล้วไม่ใช่เหรอ” ภีมพูดพร้อมกับเอาคางมาเกยไว้ที่บนบ่าของผม

“คิดถึงอ่ะ นานจังนะกว่ากันจะยอมมาหาภีม” ภีมพูดพร้อมกับสูดดมที่ศอกขอของผม

“ก็อยากจะ ให้รอไปสักห้าสิบก่อนเหมือนกันน่ะ หรือว่าอยากจะรอต่อจะได้กลับ” ผมไม่หันไปมองหน้า

“นานกว่านั้นก็รอ “คนที่กอดผมอยู่เขาบอกผมพร้อมกระชับอ้อมกอดเข้าเหมือนเขากลัวว่าผมจะกลับไปจริงๆ ผมแอบอมยิ้มเล็กน้อย "แต่ว่าตอนนี้ เข้ามาแล้ว ไม่ให้กลับออกไปง่ายๆแน่" หมอภีมรีบบอกผมทันที

“ทำอะไรให้ภีมทานเนี๊ยะ หอม! หิวเลย” หมอภีมคลายกอดจากผมก่อนจะมายืนข้างๆ โอบเอวผมเอาไหว้ ผมหันไปมองคนข้าง

“ปกติชอบทานอะไรล่ะ เห็นร้องขอให้ทำให้กินบ่อยๆ “ผมถามหมอภีม

“ไม่ได้ทานนานแล้วอ่ะ ไม่มีใครทำอร่อยเหมือนกัน” หมอภีมบอกผม

“แล้วนี่ทำไมไม่ปลุกภีมล่ะ “หมอภีมถามผม เขายืนกอดอกหลังพิงขอบ เอนตัวมองใบหน้านิ่งๆของผม

“ก็เห็นหลับอยู่ดูท่าจะเหนื่อย เลยไม่อยากปลุก “ผมพูดก่อนจะหันไปชำเลืองมองคนข้างๆ รีบหันกลับมาดูซอสในกระทะต่อ

“ก่อนจะมาก็โทรมาหลายสายแล้วแต่ไม่ยอมรับ และแม่ของภีมก็โทรมาหลายสายเหมือนกัน และพอกันเข้ามาถึง ก็เลยกดรับสายให้ “ผมพูด ผมสังเกตเห็นหมอภีมหันไปเห็นโทรศัพท์ขึ้นมาดู ผมหยิบออกมาจากห้องนอนเขาตอนที่ผมคุยกับแม่ของเขา

“งั้นแม่ก็รู้น่ะซิว่า วันนี้มีคนดูแลลูกชายแล้ว” หมอภีมพูด เขากลับมายืนหลังพิงที่จุดเดิมไม่ไกลจากผมยืนอยู่หน้าเตา ผมปิดเตาก่อนจะหันไปมองภีม

“หมับ” ภีมดึงแขนผมและรั้งตัวผมเข้าไปหาเขา แผ่นอกของผมกระแทกกับอกตันๆ ของหมอภีม

“ตกลงกัน หายโกรธภีมแล้วใช่ไหม บอกภีมซิ ภีมรู้ว่าภีมผิด ภีมเจ็บพอแล้วนะกัน ให้อภัยภีมได้หรือยัง” ภีมพูดกับผม แววของเขามันบ่งบอกว่าเขารู้สึกเสียใจกับเรื่องที่ผ่านมาจริงๆ ผมหลุบตาลง

“หมับ” เขาดึงผมเข้าไปกอดแน่นมาก ผมเลยต้องสวมกอดภีมกลับ มันกลายเป็นเรากอดกัน

“พอแล้วภีม!” ผมบอกภีมเพื่อให้เขาปล่อยผมได้แล้ว

“ทำไมล่ะอยากกอด ไม่ได้กอดนานแล้วน่ะ เจอแต่ก็เข้าไปกอดไม่ได้ ถ้าไม่ยอม ภีมก็ไม่กล้าทำหรอกถึงอยากจะกอดมากแค่ไหน แต่ตอนนี้กันยอมแล้วนิ แสดงว่ากันให้อภัยภีมแล้ว เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้วใช่ไหมกัน “หมอภีมพูดกับผมไม่ยอมหยุด

“อืม ก็มายืนทำอาหารให้ขนาดนี้ ยังจะถามอีกเหรอภีมว่า ยอมหรือยัง” ผมพูดก่อนจะพยายามดันภีมออก

“ไปจัดโต๊ะจะได้กินอาหารเย็นนี่มันสองทุ่มกว่าแล้วน่ะ “ผมบอกหมอภีม

“ไม่กินได้อาหารเย็นอ่ะ ข้ามไปเลย อยากกินคนทำมากกว่า” หมอภีมพูด ผมเหลือกตาขึ้นบน ผมยืนทำตั้งนาน หิวก็หิว

“ไปจัดโต๊ะ!!”

“เลิกสอนแล้ว ทำไมต้องดุภีมอีกแล้ว ดุยังกับว่าภีมนี้เป็นลูกศิษย์นะครับ อาจารย์กันตภณครับ”

“ก็ไม่ยอมฟังนิ ไปจัดโต๊ะ เดี๋ยวนี่!” ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่ดุเล็กน้อย หมอภีมก็คลายกอดผม เขาเดินไปหยิบอุปกรณ์จัดโต๊ะ ผมก็จัดการจัดอาหารใส่จาน ก่อนจะหันมาเห็นภีมเดินไปหยิบขวดไวน์ออกมา ผมหันไปมองโต๊ะที่เขาจัดผมถือจานอาหารไปวางเอาไว้ บนโต๊ะมีแจกันดอกไม้วางอยู่ตรงกลาง ดอกไม้นี้เหมือนดอกไม้จริงมาก ผมเดินเข้าไปจับดู ผมก็ถึงได้รู้ว่านี้คือดอกไม้พรีเซิร์ฟเขาเรียกกันว่าดอกไม้อมตะเป็นดอกไม้จริงที่ผ่านการอบแห้งด้วยกระบวนการที่ทันสมัย ผมสังเกตเห็นป้ายที่ห้อยอยู่ "Congratulations!!" อย่าบอกนะว่านี้เขาซื้อให้ผมเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เพราะว่าผมเรียนจบปริญญาเอก จริงๆผมเป็นดอกเตอร์แล้ว  บนโต๊ะมีแก้วไวน์สองใบที่ถูกรินไวน์แดงใส่ไว้ในแก้ว มีเชิงเทียนวางไว้ด้วย ภีมเขาเดินไปหรี่ไฟให้ดูสลัวๆ ก่อนจะจุดเทียนเพื่อให้ดูสว่างเล็กน้อย  ผมเดินไปนั่งลงตรงข้าม หมอภีมเดินมาไปเปิดเพลงรักอีก  ผมนั่งกอดอกมองคนที่เดินไปทำนั้นทำนี้ ประมาณว่าเยอะไปไหม

“พอแล้วภีม มาทานได้แล้ว” ผมบอกหมอภีม เขาก็เดินกลับมา มานั่งตรงข้ามกับผม

“รู้ไหมว่า ช่วงที่ไม่มีกัน ภีมนั่งคนเดียว ภีมคิดถึงวันที่เรามีกันและกัน”

“ก็อย่าทำอีกแล้วกัน เข้าใจไหม จะให้แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวน่ะ “ผมพูดก่อนจะก้มลงทานอาหาร

“ก็ภีม แค่อยากให้เขารู้ว่ากันเป็นของภีม”

“ถ้าภีมเชื่อกั และไม่ส่งรูปนั้นไป ทุกอย่างมันก็ไม่เป็นแบบนี้ กันคงไม่เสียป๊าไป ทั้งที่ป๊ากำลังจะบอกว่า ถ้ากันอยู่กับหลินไม่ได้ เขาจะยอมให้กันหย่า ภีม! “ผมพูดก่อนจะวางช้อนกับมีลง จู่ๆคนตรงข้ามผมก็เดินมาและเขาก็กอดผมเอาหน้าซบลงที่หน้าท้องผม

“ภีมขอโทษกัน ภีมรักกัน ภีมไม่อยากเสียกันไป กันคือคนรักคนแรกของภีม”

“ภีมรู้ไหมว่า พ่อของภีมเขาอยากให้ภีมแต่งงานเหมือนที่กันแต่งกับหลิน เขาอยากให้ภีมกับกันอยู่ในสถานะแค่เพื่อนเท่านั้น” ผมพูด

“อะไรน่ะ ทำไมกันไม่เคยบอกภีมมาก่อนเลย ว่าพ่อพูดแบบนี้กับกัน กันจะไปถามพ่อ”

“ภีม นั้นมันหลังจากที่กันแต่งงานแล้ว แต่พ่อของภีมเขารู้ว่าเรายังติดต่อกันอยู่ และพ่อเขาขอให้กันเข้ามาพบ พ่อเขาไม่ได้ว่ากันหรอก แต่คำพูดของพ่อมันเหมือนเชิงขอร้องมากกว่า “ผมพูด และภีมชักสีหน้าไม่พอใจและทำท่าจะลุกแต่ว่าผมคว้าแขนเขาเอาไว้ได้

“วันนี้กันก็เจอพ่อ พ่อบอกว่าพ่อเขายอมแล้วภีม” ผมพูดกับภีม ภีมมองหน้าผม

“ที่กันไม่บอกเพราะว่าภีมจะทำแบบนี้ไง เขาคนนั้นคือพ่อนายน่ะ พ่อทุกคนแหละแม้กระทั่งกันก็เช่นกันถ้ากันเป็นพ่อคนคงทำเหมือนกัน ภีม” ผมบอกภีม

“แต่ขอบคุณน่ะ มันทำให้กันรู้ว่า ภีมจะไม่กลับไปทำเหมือนเดิมอีก ขอบคุณในความมั่นคงที่ภีมมีให้กัน”

“ภีมรักกันไง กันเป็นคนแรก เป็นผู้ชายคนแรกที่ภีมอยากได้เป็นแฟนตั้งแต่เห็นหน้าที่ห้องอาหารแล้ว “หมอภีมพูด

“พอแล้วไปทานอาหารได้แล้ว จะได้อาบน้ำนอน เพลียไม่ใช่เหรอ” ผมบอกหมอภีม เขาลุกขึ้นไปนั่งทาน ผมก็ทานไปด้วยจิบไวน์แดงไปด้วย ก่อนจะคิดว่านี้ยี่ห้ออะไรน่ะ

“สั่งมาไว้ให้ เพราะรู้ว่ากันชอบ แต่น่าเสียดาย ต้องนั่งดื่มคนเดียวทุกครั้ง คิดถึงคนที่นั่งดื่มด้วยกันทุกวันเลยรู้ไหม” หมอภีมพูด ผมช้อนตาขึ้นมามอง คนที่นั่งทานตรงข้ามผม ผมสองคนทานไปคุยกันไปด้วย ทั้งที่ผมก็เจอภีมบ่อย พาม๊ามาหาหมอทุกเดือน จนกระทั่งทานอาหารเสร็จ หมอภีมก็ช่วยผมเก็บล้างเหมือนเช่นทุกครั้ง

“กัน ไปอาบน้ำเลยไหม” ภีมถามผม ผมหันมามองคนที่ยืนเช็ดเพื่อนำทุกอย่างเก็บเข้าที่

“ค้างนี่นะ นะครับ” ภีมหันมาอ้อนผม ใช้ปลายนิ้วเขี่ยที่แผ่นอกแมนของผม

“นะกัน “ภีมยังคงออดอ้อนผมต่อ

“หมับ” ผมจับนิ้วนั้นก่อนจะไต่ไปถึงไหนๆ

“พอแล้ว ค้างก็ค้าง อายุก็เยอะแล้วยังไม่เลิกอ้อนอีก “ผมพูดก่อนจะปลอดผ้ากันเปื้อนมาคาดให้คนที่จะทำหน้าที่เก็บล้างต่อจากผมและผมจะได้ไปอาบน้ำ

มีต่อด้านล่าง

ออฟไลน์ Alessa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
EP.29 (หมอภีมXอากัน)ขอบคุณที่ยังรักกัน P1

            ผมเดินออกมาตรงไปยังห้องนอนใหญ่ ผมเดินไปที่ห้องเสื้อผ้า ก่อนจะเลื่อนเปิดบานประตู ผมเห็นชุดนอนของผมถูกแขวนเอาไว้ ผมเลือกหยิบมาหนึ่งชุดพร้อมกับเปิดตู้ ผมแยกกันอย่างชัดเจนส่วนของผมกับของภีม ทุกอย่างเขายังเก็บไว้เหมือนเดิม ผมเดินเข้าไปห้องน้ำถอดเสื้อผ้าออกใส่ตะกร้าไว้ ผมเป็นคนมีระเบียบมากภีมเขารู้ดี ตอนนี้ร่างกายของผมที่ปราศจากสิ่งปกปิด ผมไม่มีกล้ามเนื้อเพราะว่าไม่ใช่คนชอบเล่นเวทเหมือนภีม แต่เป็นคนชอบเล่นโยคะ และตีแบทมินตันกับเพื่อนอาจารย์ด้วยกัน ผมเข้าไปในตู้อาบน้ำ เปิดน้ำให้ไหลลงมาจากฝักบัวลอยอยู่เหนือหัวของผม สายน้ำกระทบลงที่ศีรษะก่อนจะผ่านมาที่ลำตัว สายน้ำทำให้ผมต้องยืนหลับตานิ่ง ภาพวันวานเก่าๆ ที่ผมกับภีม เรารักกัน ภีมคือผู้ชายคนแรกของผมเหมือนกัน จนกระทั่ง

“หมับ” ผมรับรู้ได้ว่ามีคนเข้ามากอดผม เนื้อแนบเนื้อ ผมหันไปมองหมอภีม

“อาบน้ำแล้วไม่ใช่เหรอภีม” ผมถามภีม

“ก็มันเลอะอีกนี่กัน ก็เลยต้องอาบอีกรอบ แต่รอบนี้อยากอาบนานนานเลย “หมอภีมพูด มือไม้ที่ไต่ไปรามเรือนร่างผม ภีมยื่นมือไปบีบสบู่ ใส่ฟองน้ำสำหรับถูกตัว มาไล่ถูไปตามแผ่นหลังของผมจนทั่ว ก้อนฟองน้ำนั้นค่อยๆ เลื่อนมาลูบไล่ที่ด้านหน้า วนไปมาที่หน้าท้อง ผมยืนนิ่งกลืนน้ำลายลงคอ เลียริมปากบางๆของผม นี้คือการยั่วยุอารมณ์ผมชัดๆ

“ปึก” ผมดันหมอภีมให้หลังไปชนกับฝาผนัง ผมใช้แขนผมดันกำแพงไว้

“อืมม” ริมฝีปากบางของผมประกอบริมฝีปากหนาได้รูปของภีม บดขยี้อย่างดุเดือดเลือดผ่าน มือภีมก็จับเอวผมบีบ ภีมก็พลิกร่างผมให้มาอยู่ภายใต้วงแขนของเขาบ้าง

“อ้าห์ ภีม” ผมร้องครางเบาๆ เมื่อภีมเริ่มซุกไซ่ที่ตามแผ่นอกของผม แขนสองข้างถูกภีมจับขึงไว้

“ซี้ด” ผมร้องครางลากยาวทันทีที่ปลายลิ้นของหมอภีมตวัดลงที่สองจุดนั้นของผม สลับกันไปมา หมอภีมทั้งโลมเลียและดูดดุนด้วยปลายลิ้นนุ่มๆนั้น จนผมเองก็แทบจะทนไม่ไหว ต้องแอ่นแผ่นอกขึ้นลงเพื่อลดลั่นความเสียวซ่าน สายน้ำเริ่มหยุดไหล่ หมอภีมกดปิดเรียบร้อยแล้ว เขาย่อตัวลงใบหน้าอยู่ตรงแกนกายของผม หมอภีมเริ่มใช้ปากกับสิ่งนั้น อย่างกับมันคือไอติมแท่งโปรดปลายลิ้นเลียจากโคนมาถึงปลาย มันเสียวจนต้องใช้แขนดันไว้กับมุมสามเหลียของตู้อาบน้ำ ผมแอ่นส่วนนั้นขึ้นลงตามจังหวะของภีม

“ใครก่อนดี” หมอภีมช้อนตาขึ้นมาถามผม

“น่าจะรู้น่ะว่าใครก่อน “ผมถามภีมกลับ เขามองหน้าผมมุมปากกระตุกเป็นรอยยิ้มก่อนจะพยักหน้า ภีมลุกขึ้นยืน เขาเดินออกไปหยิบเอาผ้าขนหนูมาให้ผมและเขาคนละผืน ต่างพากันช่วยเช็ดน้ำตามลำตัวและผมของผมสองคน หมอภีมเดินออกไปเสียบสายเครื่องเป่าผม ผมเดินตามออกไปก่อนจะก้มลงให้ภีมเป่าผมเหมือนที่เขาชอบทำให้ผมประจำ ภีมถือไดเป่าผมมไล่เป่าไปทั่วทั้งจนผมของผมสองคนเริ่มแห้ง ผมเดินออกมาจากห้องน้ำก่อน หมอภีมเดินตามมาพร้อมกับอุปกรณ์รักของผมสองคนถุงยางและเจลหล่อลื่น

“หมดอายุยังน่ะ” ผมหันไปถามหมอภีม

“ไม่หมดเพิ่งซื้อมา” หมอภีมพูด ผมหันมากอดอกมอง ก็เขาบอกว่าเพิ่งซื้อมาแล้วซื้อมาใช้กับใคร

“เพิ่งซื้อมาวันนั้นน่ะ วันทีที่ไปพากันมาจากผับไง แวะซื้อมาที่ร้านสะดวกซื้อ นึกว่าตื่นมาจะให้สักยกแต่ที่ไหนได้ทิ้งหนีกันไปเลย” หมอภีมพูด ผมเหลือกตาขึ้นบนก่อนจะเดินไปหยิบของในมือเขามาวางไว้ที่หัวเตียง ผมปลดผ้าขนหนูลงไป มันเผยให้เห็นแกนกายของผม หมอภีมก้มลงมอง ก่อนจะปลดของตัวเองออกบ้าง ไม่น้อยหน้ากันเท่าไหร่ ของผมน่ะเน้นยาวแต่ของหมอภีมมันเน้นใหญ่ความยาวมาตรฐานชายไทย ผมผลักภีมลงไปนอนและผมก็ตามขึ้นไปคร่อมร่างนั้นเอาไว้ทันที เริ่มเล้าโลมด้วยรสจูบที่เร่าร้อน ไม่ลืมฝังรอยไว้ที่รอบขาวๆ ของหมอภีมปภพ

“ทำรอยแบบนี้เดี๋ยวพยาบาลแซวแน่ๆ เลย” หมอภีมพูด

“ทำโทษ ที่ทำตาเล็กตาน้อยให้คนไข้เมื่อเช้า” ผมพูด ใช่ครับผมหมายถึงผู้หญิงที่ม๊าพูดถึง ถึงไม่ได้มองตลอดแต่เห็นนะ

“คนไหน” หมอภีมกระดกหัวขึ้นมาถามผม ขณะที่ผมกำลังก้มลงหยอกเล่นกับสองจุดของหมอภีม

“คนที่ไม่ได้ท้องน่ะ คนที่สวมกระโปรงสั้นมาก เดินคุยกันออกมาจากห้องตรวจด้วย คนไข้ในสังกัดคุณหมอหล่อเหรอ” ผมถามหมอภีม เขาทำท่าคิดก่อนจะชี้น้ิวแหลมมาที่ผม

“เขาเป็นผู้แทนยา เขาเอายาตัวอย่างมาให้ภีมดู และแน่นอนเขาต้องมีแต่งตัวให้ดึงดูดนิดนึง เพื่อยอดขาย” หมอภีมบอกผม ผมกระดกหัวขึ้นมอง มันเกี่ยวกันไหม คุณภาพยากับการแต่งตัวของคนขายนะ  "หึงเหรอ หึงทำไมอ่ะ " หมอภีมถามผม

“ก็เห็นว่าเขามอง …” ผมพูดหมอภีมหรี่ตามองผม

“มองเน้นเฉพาะตรงเป้า เพราะว่าคุณหมอใส่ฟิตมากน่ะวันนี่น่ะ กางเกงคุณหมอนะ” ผมพูด

“จริงดิ แสดงว่าไม่ใช่แค่เขาแล้วแหละที่มองเป้าภีม สงสัยอาจารย์กันจะมองเป้าหมอด้วยนะครับ ถึงได้รู้ ว่าผมฟิตมาก” หมอภีมพูด ยังอีกผมสั่นหัวเล็กน้อยก่อนจะรีบก้มลง

โอ๊ย!!!” เสียงร้องดังลั่น ผมกัดเข้าที่หน้าท้อง

“โอ๊ยย!! กัน กัดภีมทำไมเนี๊ยะ อู้ยย! เจ็บ” หมอภีมพูดพร้อมกับเอามือลูกที่หน้าท้องที่ผมกัดไป ผมเงยหน้ามองหมอภีม

“โอเค คราวหน้าจะบอกว่าให้ส่งผู้แทนที่แต่งตัวด้วยชุดที่ดูสุภาพห้ามใส่คอลึก ห้ามนุ่งสั้น และถ้าเป็นมนุษย์ป้ามาได้จะดีมาก เพราะว่าผมเน้นคุณภาพยาไม่ใช่ดีเทลสวย โอเคนะครับอาจารย์สายโหด” หมอภีมพูดและยกมือยอมแพ้ให้ผม ผมก็เลื่อนตัวขึ้นไปหยอกเล่นกับสองจุดของภีมต่อ ภีมก็แอ่นขึ้นทุกครั้งที่ผมดูดดุนด้วยปลายลิ้น ผมเริ่มไล่ลงมาที่หน้าท้อง หน้าท้องภีมเป็นลอนสวยแสดงว่ามีเวลาฟิตหุ่น ผมคิดว่าของผมได้ทีแล้วเลยหันไปหยิบถุงยางมาสวมใส่และเจลทาลงที่ส่วนปลายและช่องทางรักของหมอภีม ใช่ครับผมเป็นรุก ผมกลับขึ้นมายกขาของหมอภีมขึ้นมาตั้งพร้อมกับค่อยๆ สอดแกนกายเข้าไป

“โอ๊ย” เสียงร้องเบาๆ ของหมอภีม ผมเหลือบตาขึ้นมองดู ผมเห็นนิ้วมือของหมอภีมจิกลงที่บนผ้าปูที่นอน

“เคยเห็นที่สวนก้นเวลาถ่ายไม่ออกป่ะ แต่อันนี้มันใหญ่กว่านั้นเยอะอ่ะกัน อู้ย แน่นมาก!!” หมอภีมกระดกหัวขึ้นมาคุยกับผม

“โอ้ววว “ร้องออกมาอีกทีเมื่อผมค่อยๆ ดันมันเขาไป แถมยากมาก มันค่อยๆ เข้าไปจน

“อ๊าห์” เสียงครางเพราะว่าผมเข้าไปจนสุดแล้ว ผมนิ่งรอให้ภีมส่งสัญญาณว่าพร้อมหรือยัง และเขาก็เริ่มจับเอวผมให้ขยับ นั้นแปลว่าเขาพร้อมแล้ว ให้ขยับได้เลย ผมเริ่มเด้งสวนเข้าออกช้าๆ บ้างเร็วบ้าง สลับกันไป หมอภีมใช้แขนดันตัวเองขึ้นมาจูบผม รสจูบที่ดูดดื่ม ลิ้นเริ่มสอดเข้าไปหากันเกี่ยวพันกันจนแทบจะรวมเป็นอันเดียวกัน

“อ้าห์ ซี้ด ภีม อ้าห์” ผมเริ่มเด้งสวนเร็วขึ้นเรื่อยๆ “ตับ ตับ ตับ “ไม่นานของผมกำลังจะมา แกนกายเริ่มกะตุ๊กจนผมต้องเกร็งหน้าท้อง หมอภีมโน้มตัวผมลงไปจูบ ตอนนี้สิ่งที่อยู่ภายในกายมันสงบนิ่งลงแล้วผมค้างไว้สักพักถึงได้ถอนออก ก่อนจะลุกขึ้นหยิบเอากระดาษทิชชูเพื่อเพื่อเช็ดทำความสะอาดและถอดเกาะป้องกันออกไป ผมนำไปทิ้งลงที่ถังขยะในห้องน้ำ

“หมับ” มีคนลุกเดินตามผมเข้าไปติด เขามาจับเอวผมให้หมุนไปหาเขา หมอภีมไม่พูดพร่ำทำเพลง เขาจับผมให้ไปนั่งอยู่บนอ้างล้างมือ ตรงช่องว่างระหว่างอ่างสองอัน

“ขอหน้ากระจกเลยนะที่รัก” หมอภีมกระซิบกับผม เขาแยกหน้าขาผมออก ภีมเล้าโลมผมอีกครั้ง ด้วยรสจูบที่เร่าร้อน พร้อมกับพรมจูบไปทั่ว เรารุกทั้งคู่ ยอมรับว่าตอบสนองกันได้ดี ภีมชอบปลุกเร้าผมราวกับคนหื่นกระหาย ส่วนผมชอบปลุกเร้าแบบนุ่มนวลแต่แปลกมันกลับไปกันได้ ผมแอ่นอกขึ้นลงทุกครั้งที่หมอภีมขบและเม้มปากเล่นกับสองจุดของผมเล่น

“ภีม ซี้ด “ผมเริ่มจะไม่ไหวแล้วต้องร้องห้ามคนที่แกล้งผมเล่น กรงเล็บจิกลงที่แผ่นหลังของหมอภีม ผมเป็นคนปลายเล็บมล มีปลายเล็บยาวออกมาเล็กน้อย คงได้ครู้ดแผ่นหลังหมอภีมจนเป็นรอยแดง

“อยากได้ของภีมแล้วเหรอครับ” หมอภีมถามผมแต่ไม่ยอมหยุดสักนาที

“ภีม ซี้ด อ้าห์” ภีมเริ่มเม้มและดูดที่หน้าท้องของผม มันยิ่งทำให้ผมหายใจได้ไม่ทั่วท้อง ผมรู้สึกว่าภีมกำลังสวมใส่เกาะป้องกันของตัวเอง ทาเจลที่ไว้ที่ส่วนปลายเช่นเดียวกับที่ผมทำ นิ้วมือเริ่มแตะที่ตรงช่องทางรักของผม ผมเริ่มสูดลมหายใจเข้าปอด

“อ้าห์!!” นิ้วที่หนึ่งเริ่มสอดเข้าไปในช่องทางแคบ

“อืม” ริมฝีปากของหมอภีมประกบริมฝีปากผมไปด้วย ผมเริ่มรู้สึกคับแคบที่ช่องทางรัก นั้นเขาเริ่มสอดเข้าไปสามนิ้วแล้ว ผมเริ่มสูดลมหายใจเข้าแบบถี่ๆ หน้าท้องเริ่มเกร็ง

“อ้าห์!! ภีม!!!“ผมเริ่มจิกกรงเล็บลงที่หลังของภีมอีกครั้ง ผมรับรู้ได้ว่าส่วนหัวกำลังสอดแทรกเข้าไปในช่องทางรักที่คับแคบมาก ถึงจะคุ้นเคยกันมาก่อนก็ตาม แต่ตอนนี้เหมือนเริ่มต้นใหม่ เหมือนวันแรกที่ผมมีอะไรกับภีม กว่าจะยอมให้ภีมมีอะไรกับผมทางประตูหลัง ก็คบกันไปเกือบสองปีแต่เขายอมให้ผมมีอะไรกับเขาและใช้ปากทำให้ภีมแทน ผมจำได้ดีวันแรกเจ็บจนลุกไม่ขึ้น ไม่ได้เข้าห้องสอบอีก ดีที่ผมมีไข้เลยเป็นเหตุผลให้ผมสอบทีหลังได้ ตอนนั้นป๊าเกือบจำได้แล้ว 

“โอ๊ย ภีม ซี้ด เจ็บ” ผมร้องเสียงดังเกือบลั่นในห้องน้ำ ผมรู้สึกเจ็บจนจุก ภีมหยุดชะงักก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองหน้าผม

“สงสัยงานนี้หมอเลือกเข็มผิดขนาดนะครับที่รัก”

“กลับไปเปลี่ยนทันไหมล่ะครับ คุณหมอ” ผมหรี่ตาลงถามหมอภีม

“เห็นทีจะไม่ได้ละครับ โรงพยาบาลอยู่ไกล ใช้ไซ้นี้ไปก่อนนะครับที่รัก เจ็บนิดเดียว หมอฟันบอกมา “ผมยิ้มให้หมอภีม ไม่น่าจะให้เลยรู้อย่างนี้แกล้งบอกว่าเหนื่อยซะก็ดี แต่จะว่าไปนี่ก็นานมากแล้วนะที่ไม่ได้ยินคำนี้ "ที่รัก" ภีมก้มลงจูบผมเผื่อว่าจะทำให้ผมรู้สึกดีขึ้น ผมจูบภีมตอบจนผมรู้สึกพร้อมแล้วที่จะไปต่อ ผมก็พยักหน้าเขาเด้งสวนเข้าไปอีก พร้อมกับซุกไซ้ ไปตามรอบคอและแผ่นอก นิ้วมือก็บี้สองจุดเล่นอย่างเมามัน

“อ้า!!” ผมร้องอีกครั้งแต่ไม่ได้เจ็บเหมือนตอนนาทีแรก ภีมเริ่มเด้งสวนเข้าไปจนสุดและออกเกือบสุด  ภีมกัดปากตัวเองและเริ่มโยกเข้าออกเร็วขึ้น ขาที่เปิดกว้างขึ้นเพื่อรองรับการเด้งสวนของผมภีมได้ถนัด ภีมใช้แขนสองข้างสอดและยกขาผมขึ้นมาประคองไว้ด้วยสองแขนที่กำยำนั้น

“อ้า ภีม “ผมเริ่มร้องครางดังขึ้น แถมยังเด้งรับอย่างรู้จังหวะ เคยรุกมาก่อนผมถึงได้รู้ว่าจังหวะไหนที่พีคที่สุด ผมปล่อยให้ภีมเร่งความเร็วไปเรื่อยๆ

“อ้า ภีม โอ้วว ภีม เร็วอีกหน่อย อืมม” ผมครางจนคนที่คุมเกมอยู่ยิ้มอย่างพึงพอใจ เขาคนเดียวเท่านั้นที่ได้เห็นเบื้องหลังของคนที่ทำหน้านิ่งสงบ แต่พออยู่บนเตียงภาพนั้นมันหายไปหมดสิ้น

“เร่งผมเหรอครับอาจารย์” หมอภีมพูดกระเซ้าเย้าแหย่ผมเล่น และการเด้งสวนของเขาไม่ได้ลดความเร็วลงเลย

“ภีม!!!” ผมร้องเรียกภีมอีกครั้ง

“ใกล้แล้วที่รัก อ้าห์ ซี้ด อืมม อ้าห์!!” ผมรับรู้ได้ถึงการเกร็งและกระตุกของแท่งร้อนที่อยู่ในกายผมนั้น แม้จะไม่ได้สัมผัสถึงความอุ่นเพราะว่ามีถุงยางมากั้นเอาไว้ ผมเงยหน้าขึ้นมองภีมก่อนจะจูบอย่างดูดดื่ม และภีมก็ถอดสิ่งนั้นออก เขาถอดเอาถุงยางออกและทิ้งมันลงในถังขยะทันที ภีมกลับมากอดผมเอาไว้แน่น

“ขอบคุณนะครับที่รัก” ภีมกระซิบที่ข้างหูผม

“รู้สึกว่าอาจารย์ของผมจะเร่าร้อนน่าดูน่ะคืนนี้นะ “หมอภีมพูดแซวผม ผมใช้มือประคองใบหน้าของหมอภีมเอาไว้ ผมจูบอย่างดูดดื่มอีกครั้ง “ขอบคุณครับ” ผมขอบคุณหมอภีมที่มอบความสุขให้ผมเช่นกัน ทันทีที่ภีมก้าวถอยหลัง ผมก็เดินไปเปิดสายน้ำจากฝักบัวเพื่อล้างชำระช่วงล่าง หมอภีมก็เช่นกัน เราผลัดกันเช็ดตัวก่อนจะคว้าเอาชุดนอนมาสวมใส่ หมอภีมมองหน้าผม เอาโอบกอดผมไว้ เหมือนกับว่ากลัวว่าผมจะหายไปจากเขาอีก

“ภีมรักกันนะครับ ภีมรักมาก มากจริงๆ”

“กันล่ะรักภีมไหม” หมอภีมถามผม ผมหันมามองชอบอ่อนให้ผมบอกรักอยู่เรื่อยเลย ทั้งที่ผมเองเป็นคนแสดงเรื่องพวกนี้ไม่ค่อยเก่ง เท่าหมอภีม ผมหันมามองหน้าหมอภีมเขากอดผม แววตาคู่นั้นเหมือนกำลังเฝ้ารอคำตอบอยู่

“รักซิ ไม่รักจะยอมกลับมาหาเหรอ” ผมพูด

“อืมม” ภีมจูบผม

“อย่าไปอีกได้ไหม ไปรอบนี้ ภีมคงทนไม่ได้ ที่อยู่ได้ทุกวันนี้เพราะว่าภีมเชื่อว่า ภีมยังได้เจอกันอีก เพราะว่ากันต้องพาม๊ามาโรงพยาบาลของภีมอยู่ดี”

“อย่างน้อยกันก็ยังต้องคุยกับภีมถึงอาการของม๊า บางทีมันยากสำหรับภีมมากนะ ที่ต้องอดทนเห็นคนที่ตัวเองรักอยู่ตรงหน้าแต่ทำได้มากกว่านั้นไม่ได้ “หมอภีมพูดกับผม ผมใช้ฝ่ามือประคองใบหน้าของภีมเอาไว้ ผมก็เจ็บพอ พอกับที่ภีมเจ็บนั่นแหละ ผมเหลือบตาไปมองนาฬิกา นี้เกือบจะสี่ทุ่มแล้วเหรอ

“ภีมนอนเถอะ พรุ่งนี้กันมีสอนแต่เช้าด้วย” ผมพูด เพราะว่าปกติผมเข้านอนเร็วนอนตั้งแต่สามทุ่มเลยแต่นี้สี่ทุ่มกว่าแล้วด้วย ผมเดินไปขึ้นเตียงก่อน ภีมเดินไปปิดไฟกลางห้อง เหลือไว้แค่ไฟหัวเตียง ผมเห็นหนังสือที่ผมชอบอ่านโรเมโอและจูเรียตวางอยู่บนหัวเตียง มีอีกสองสามเล่มที่ผมใช้อ่านประจำ ก่อนนอนจะนั่งอ่านหนังสือก่อนเสมอ การที่เราอยู่ด้วยกันก็ไม่ได้จะต้องจบที่กิจกรรมอย่างว่าแล้วถึงนอนทุกคืน เราอ่านหนังสือด้วยกันจนง่วงและส่วนมากจะเป็นภีมที่ผล๋อยหลับคาหนังสือก่อนเสมอ

“นี่ยังเอามาอ่านอีกเหรอ ภีม” ผมหันไปถามภีม เขานอนลงข้างๆ ผม ภีมพลิกมากอดผม

“เป็นหนังสือนิยายรักเล่มแรกที่ภีมได้จากกัน เพราะตลอดเวลาพ่อให้ภีมอ่านแต่หนังสือเรียน เขากลัวภีมจะสอบหมอไม่ติด” หมอภีมพูด ผมรู้ว่าภีม มันอยากมีเวลาทำอย่างอื่นที่่ไม่ใช่แค่เรียนหรืออ่านหนังสือเรียน ส่วนผมก็เรียนหนักแต่ก็หาเวลาผ่อนคลายด้วยการอ่านหนังสือนิยายรักบ้าง และเล่มนี้คือนิยายรักเรื่องแรกที่ผมให้ภีมลองอ่านดู แต่ก็ไม่คิดว่าความรักของผมกับภีมจะคล้ายๆ กับเรื่องนี้แต่โชคดีที่ไม่ได้จบลงเหมือนกันแต่ก็บอบช้ำไม่ต่างกัน ผมหันไปเก็บหนังสือเล่มนี้ใส่ไว้ที่เดิม ผมหันมามองหมอภีม ผมยิ้มอ่อนๆ ให้หมอภีม

“นอนเถอะภีม และถ้าพรุ่งนี้เลิกเร็ว ไปทานข้าวกับม๊ากันนะ ม๊านะบ่นอยากให้ภีมไปทานข้าวบ้านบ่อยๆ ” ผมบอกภีม ภีมเขาพยักหน้า ผมค่อยๆเลื่อนตัวลงนอนข้างๆ หมอภีมกอดผมเข้าไปหาตัวเขา นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้กอดกันแบบนี้ เจอกันก็ทักทายกันคงสถานะไว้แค่เพื่อนมาตลอด แต่ในใจมันไม่ใช่แต่ต้องทนเก็บไว้ เจ็บไหม ตอบได้ว่าเจ็บมาก ตอนนี้เราเหมือนกลับมาเริ่มต้นเป็นแฟนกันใหม่ ดังนั้นผมจะไม่ยอมให้ประวัติศาสตร์จะมาซับรอยเป็นอันขาด  ภีมกอดผมจากด้านหลัง เขาฝังปลายจมูกของเขาไว้ที่ศอกคอผม ผมโชคดีที่หมอภีมมั่นคง ไม่อย่างนั้นคนอื่นๆคงได้เขาไปเป็นแฟนแล้ว ทั้งหล่อและมีความสามารถขนาดนี้ "ขอบคุณนะภีมที่ยังรักและมั่นคงกับกัน" ผมพูดเบาๆกับคนที่หลับสนิทไปแล้วฟัง

ออฟไลน์ Nattie69

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 777
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ evanescence_69

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-3
นึกว่าหมอเป็นเมีย ที่ไหนได้รุกซะงั้น  :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ tiger2006

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 334
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ Alessa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
EP.31 (พี่ไปส์Xเป็กซ)เผลอตัวจนได้ NC18+

Part’ s เป็กซ์ ผมชื่อนายจิรายุ วรเพชรสกุล ผมเป็นเพื่อนรักของบีมแต่ผมดันซวยมีแฟนเฮียอย่างไอ้พี่โก้ มันแก่กว่าผมแค่ปีเดียว มันเรียนคณะวิศวฯ คอมพิวเตอร์และมันเองก็มาจีบผมก่อน ผมยอมรับว่ามันหล่อแต่พอคบไปนานๆ ถึงได้รู้ว่าเงินทองที่มันมี เสื้อผ้าราคาแพงที่มันใส่ รถหรูๆ ของมันที่ถอยมาและขายทิ้งถอยใหม่เป็นว่าเล่น มันได้มาจากการเล่นพนันฟุตบอลแถมมันยังรับแท่งอีกต่างหาก มันมีโต๊ะบอลที่เป็นลูกของนายตำรวจ

นี้คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมต้องหักหลังเพื่อนทั้งที่ไม่อยากทำ เพราะว่ามันดันไปติดหนี้เขาไว้เกือบครึ่งแสนและไอ้คนที่เป็นลูกหนี้เขามันก็รู้จักกับอาจารย์เปรมสินีอีก ผมเลยซวยสองต่อ ผมเลยต้องยอมทำ แต่สุดท้าย เพื่อนผมมันให้อภัยผมอีก แถมเพื่อนของแฟนเขาก็ให้ผมพักที่นี้เพื่อนหลบคนของอาจารย์เปรมสินี วันก่อนเขาโทรมาหาผม ผมบอกว่าผมอยู่ต่างจังหวัด เพื่อให้เขารู้ว่าผมไม่ได้อยู่ในกทมแล้ว และเขาจะมั่นใจว่าผมไม่ได้เอาหลักฐานอะไรไปให้ทางอาจารย์กันตภณ แต่จริงๆ แล้วผมซ้อนไว้ที่บ้าน วันก่อนผมให้น้องสาวต่างบิดาไปให้อาจารย์แล้ว ว่างานนี้อาจารย์เปรมสินีโดนหนักแน่ๆ

Rrrrr ผมกดรับสายแม่ของผม

//แม่// ผมเรียกแม่ผ่านมือถือ คิดถึงแม่เหลือเกินแต่อาจารย์กันยังบอกว่าให้ผมไปบ้านไม่ได้ ให้อยู่ที่นี้ไปก่อน

// เป็กซ์เป็นไงบ้างละ วันนี้มะนาวกับใบชาเขามาหาแม่ เขาฝากเงินมาให้แม่ด้วย เขาบอกเป็กซ์ฝากมาให้ อันที่จริงไม่ต้องก็ได้น่ะ ให้ไว้คราวที่แล้วก็ยังอยู่ อยู่เลย// แม่บอกผม ว่าแต่เงินใครกันน่ะ เอาไว้ถามมะนาวดีกว่า
// แม่ต้องไปให้คีโมอีกไหมครับแม่//
//แม่ให้มาจบครอสแล้วเป็กซ์ เหลือแต่ไปเจาะเลือดดู แม่รู้สึกดีขึ้นเยอะแล้วนะเป็กซ์ //
//แม่แล้ว แป้งได้ช่วยแม่ไหมตอนนี้//
//ช่วยซิ ช่วยได้เยอะเลย นี้แม่ว่าจะกลับไปทำงานนะเป็กซ์ แม่พอจะทำไหวแล้ว// แม่บอกผม
//เอาไว้ก่อนดีกว่าครับแม่ อย่าเพิ่งไปเลยนะแม่ //
//ไม่ได้หรอกเป็กซ์ แป้งก็ต้องเรียนต่อ แม่คิดว่า… //
//ผมจะหางานเพิ่มผมจะส่งแป้งเองครับแม่ ถึงยังไงแป้งก็น้องผม แม่อย่าเพิ่งไปทำเลยนะครับ// ผมบอกแม่ จังหวะนั้นผมได้ยินเสียงคนคุยกัน ดังมาจากในห้องนั่งเล่น ใครกันนะ
//แม่แค่นี้ก่อนนะครับ พรุ่งนี้ผมจะโทรหาแม่อีกที เป็กซ์รักแม่นะครับ บายครับ // ผมพูดก่อนจะกดวางสาย ผมรีบเดินออกไปด้านนอก พอผมออกไปถึงผมก็ต้องตกใจ เพราะว่ามีผู้ชายแปลกหน้ามายืนอยู่สองคน

“เว้ยย!!” พี่เขาสองคนหันมาเจอผมเข้าก็ผงะตกใจไม่แพ้กันกับผม

“น้องเป็นใครอะครับ” พี่คนที่ยืนอยู่ แต่งตัวเฟี้ยวมากผมยอมรับ ยังกับโอป้าเกาหลีมาเอง

“ผมคือ…” ผมกำลังคิดว่าผมควรจะตอบดีไหม

“เดี๋ยวน่ะ ใช้น้องที่ไอ้ไปส์มันให้มาอยู่ที่คอนโดมันหรือเปล่าครับ ที่ว่าเป็นเพื่อนกับเมียไอ้เธียรนะ “พี่เขาถามผม

“ใช่น้องเป็กซ์ไหมครับ” พี่อีกคนออกแนวแรพโย่วมากกว่าแต่ก็เท่ไม่น้อยหน้าอีกคน พี่เขาถามผมแถมระบุชื่อผมได้ถูกต้องด้วย แสดงว่าเขาคือคนที่รู้จักกับพี่ไปส์แน่ๆ ว่าแต่พี่ไปส์อยู่ไหนล่ะ

“ไอ้ไปส์มันบอกกูไว้ว่ะ” พี่เขาหันไปบอกเพื่อนของพี่เขา

“พี่ชื่อพีชครับและนี้ไอ้ณัฐครับ พี่สองคนเป็นเพื่อนสนิทกับไอ้พี่ไปส์มัน ไอ้ขี้เมานี่นะครับ” พี่เขาแนะนำตัวก่อนจะชี้ไปที่โซฟา ผมเดินอ้อมมาดู ผมก็เห็นสภาพพี่ไปส์ ก่อนเงยหน้ามองพี่ๆ เขาอีกที ประมาณว่าแล้วทำไมพี่เขากลับมาสภาพแบบนี้ล่ะ และพี่เขาไม่เคยมานอนที่นี้ นอกจากจะมารอรับน้องชายเรียนพิเศษไม่ไกลจากนี้

“ตุบ!!” เสียงบางสิ่งตกลงพื้นไม่สูงมาก

“เว้ย!!” ผมสามคนร้องออกมาพร้อมกัน เพราะคนที่เมาดิ้นลงมาลงอยู่ที่พื้น และพี่เขาสองคนก็ช่วยกันจับเอาคนเมาขึ้นไปอยู่บนโซฟาเหมือนเดิม พร้อมกับปาดเหงื่อไปด้วย

“มันเมานะครับ มันทะลึ่งดื่มซะเยอะ ตอนแรกพี่สองคนบอกมันว่าจะเมาแต่มันดันชิ่งไง พี่เลยต้องพามามันมาส่งก่อนแล้วค่อยกลับไปใหม่ “พี่เขาพูดผมก็เลิกคิ้วสูง เมาแบบนี้ใครดูแลล่ะ

“ถ้ามันเมา มันไม่อยากให้ไปส่งที่บ้าน ป๊ากับม๊ามันจะด่าเอานะครับ พี่ก็ไม่อยากโดนไปด้วยเลย เอามาไว้ที่นี่ด้วยแล้วกันเนอะ “พี่พีชบอกผม ผมสะบัดหน้าไปมองพี่เขา

“แล้ว?” ผมเหมือนจะถามว่าใครจะดูแลพี่เขาล่ะ

“น้องครับ ไหน ไหน น้องก็อยู่นี้แล้ว ดูแลที พี่ต้องรีบไปครับ พี่มีเด็กรอ เอ๊ย! คนรู้ใจรออยู่ นะครับ พี่รีบจริง ๆ “พี่เขาพูดก่อนจะหันไปหยิบทุกอย่างมาถือไว้

“ขอบคุณนะครับ พี่กราบงามๆ เลยครับ” พี่เขาพูดก่อนจะรีบหันหลังเดินออกไปเลยอย่างรวดเร็ว ผมก็ยังไม่ได้บอกเลยว่าผมจะดูแลให้ แถมพี่เขารีบชิ่งออกไปซะก่อนแล้ว

“พี่เดี๋ยว!!” ผมทำท่าจะเรียกไม่ทันแล้วพากันเพ่นออกไปกันหมด เหลือไว้แค่ผมและคนเมา

“ตุ๊บ” นั้นคนเมาดิ้นลงมาจากโซฟาอีกแล้ว

“เห้ย!! ใครถีบว่ะ” ผมยืนเอามือเท้าเอว ใครจะไปถีบ นอนอยู่คนเดียวแบบนั้น ผมก็เดินลงย่อตัวลงนั่งยองๆ

“พี่ไปส์” ผมเรียกพี่ไปส์ สะกิดเรียกด้วย “พี่ไปส์ “ผมเรียกคนเมาอีกครั้ง

“อึก อึก อ้วก!!” ผมต้องเหลือกตาขึ้นบน วันนี้ผมเพิ่งจะถูพื้นไปเองนะ นี่พี่แกยังมาอาเจียนลงบนพื้นอีก ดีที่ตรงนี้ไม่มีพรมนี้ ผมต้องวิ่งไปหาผ้า หากะละมังใส่น้ำมาวางไว้ คงต้องเช็ดตัวกันก่อนเลย

ผมเลือกถอดรองเท้ามันก่อนเลย ดูแล้วมันคงจะแพงน่าดูผมจำได้ ยี่ห้อ Nike Jardan 1 retro สีทองสีดำด้านหน้า รองเท้าที่ผมทำได้แค่ฝันเพราะราคามันแพงมาก ผมรีบถอนมันออกไปก่อน ถ้าผมทำรองเท้าคู่นี้เป็นรอยขึ้นมามันคงเม้งแตกแน่ๆ ราคาเป็นหมื่นเลย แพงเว้อ!! ใส่แล้วมึงก็ต้องขำรถอยู่ดี ใส่แล้วมึงก็ยังบินไม่ได้จะซื้อทำไมว่ะ ผมแอบด่าในใจ

ผมจับพี่แกนอนหงาย ก่อนจะรีบหันไปเช็ดอาเจียนที่พี่แก จัดเอาไว้หนึ่งกองออกไปซะก่อน ผมเช็ดทุกอย่างและโยนใส่ถังขยะไปผมกลัวว่าไอ้คนที่นอนดิ้นอยู่นี้มันจะทำถึงขยะล้มระเนระนาดผมเลยเอาไปเก็บในครัวก่อนดีกว่า พอผมเดินกลับมาผมย่อตัวลงเพื่อจะได้ถอดเสื้อแจ็คเก็ตหนังแกะแท้ยี่ห้อดัง ผมเคยไปสมัครเป็นพนักงานขายแผนกเสื้อผ้าผู้ชายตอนปิดเทอม ผมเลยรู้ว่ายี่ห้อนี้แพงโคตร ตั้งสองหมื่นกว่าบาทเลยผมเลยต้องถอดอย่างระมัดระวัง ถ้าผมทำขาดขึ้นมามีหวังไอ้พี่นี้มันเอาผมตายอีก แถมยังเลอะอ้วกพี่แกอีกด้วย

“แล้วกูจะซักยังไงวะ เอาไว้ก่อนกัน” ผมพูดกับคนที่เมาไม่รู้เรื่อง ก่อนจะวางเสื้อนั้นลงแต่พอเห็นเสื้อยืดตัวในยี่ห้อกุชชี เสื้อยืดยี่ห้อนี้แพงเข้าไปอีก เกือบสองหมื่นได้มั้ง มันก็แค่เสื้อยืดปะวะ แม่งแพงได้อีก ถอดยังไงล่ะเนี่ยะ ถ้าถอดมาเสื้อผ้ามันเสียหาย ผมชดใช้ตายเลย ผมค่อยๆ เลิกเสื้อยืดนั้นเพื่อจะได้ถอดจากหัวไป และกว่าจะถอดออกมาได้เล่นเอาผมเกร็งไปทั้งตัว

“ค่อยยังชั่วหน่อย” ผมพูดผมกับมองเสื้อยืดที่ผมถอดออกมา สภาพที่ไม่มีความเสียหายใดๆ เก่งเหมือนกันนะเราเนี่ยะแอบชมตัวเอง คนที่เมาก็เริ่มยันตัวเองขึ้น เขาหรี่ตามองหน้าผมก่อนชี้โบ๊ชี้เบ๊ ไปไหนก็ไม่รู้ แต่ชี้ไปที่ครัว นี่พี่มันจะให้ผมเข้าไปทำอะไรให้พี่เขากินเหรอว่ะ

“จะกินอะไร ตึกป่านนี้แล้ว” ผมถาม มันส่ายหน้าและทำท่าขย้อน

“อึก อึก “เฮ้ย ผมหันซ้ายหันขวา นี้แปลว่าไอ้พี่ไปส์มันจะอาเจียนอีกรอบ ผมก็ดันเอาถังขยะไปเก็บแล้วด้วย

“อ้วก!!!” แล้วสิ่งที่ผมคิดไว้มันก็พุ้งออกมา ผมก็กลัวเลอะเพิ่งเช็ดไปหมาดๆ รีบเอาเสื้อในมือไปรองเอาไว้ได้ทัน คนที่โก่งคออาเจียนก็ยกมือว่าโอเคก่อนจะพลิกตัวลงไปนอน ผมก้มลงมองเสื้อที่ผมกอบอาเจียนพี่เอาไว้ได้อย่างแม่นมาก แต่!!!

“ฉิบหายแล้วกู!!” เสื้อยืดราคาแพงแถมสีขาวอีกด้วย อุตส่าห์ถอดออกมาด้วยความระมัดวังสุดๆ แต่มาตกม้าตายตรงอาเจียนนี่แหละ มันตื่นมาเห็นนี้มันด่าผมตายเลยครับ

“เสื้อราคาแพงของมึง เลอะอ้วกมึงขนาดนี้ จะใส่ลงอีกไหมว่ะเนี่ยะ” ผมพูดก่อนจะยกขึ้นดมดู “อึก อึก “ผมก็ทำท่าจะอาเจียนตามเหมือนกัน ผมว่าตอนนี้ราคาก็ไม่ต่างอะไรกับผ้าขี้ริ้วแล้วแหละเหม็นขนาดนี้

“เสื้อแจ็คเก็ตมึงก็แพง เสื้อยืดมึงยังแพงอีกแถมรองเท้าแม่งก็โคตรแพงเข้าไปอีก ของทั้งหมดนี้ มีเงินอย่างเดียวนี้ทำไม่ได้นะ ต้องไม่มีสมองด้วยมึงรู้ปะและมันต่างอะไรกับเสื้อผ้าโบ้เบ้ว่ะ กูอยากรู้ ก็แค่ราคาแพงปะวะ” ผมบ่นไอ้คนเมา มันเมาไม่รู้เรื่องหรอก

“ใครด่ากูว่ะ “ไอ้พี่ไปส์มันดีดตัวพรวดขึ้นมานั่ง “เว้ย!! มันได้ยินเหรอว่ะ”

“ใครแม่งปากดี มาต่อยกับกูเลย เฮ้ย!!” ไอ้พี่ไปส์มันชี้ไปมัวๆ ไม่ได้ชี้มาที่ผม คงเมาละเมอมากกว่า ทำเอาผมตกใจหมดเลย

“ดูแลให้ดีนะเสื้อกูแพง เดี๋ยวม๊าบ่นรู้ป่ะ “ยังมีหน้ามาห่วงเสื้อผ้าแพงๆ มึงอีกเหรอ ผมเอาเสื้อยืดไอ้พี่มันไปแอบไว้ด้านหลัง ไอ้พี่มันพูดจบมันก็คลานขึ้นไปนอนบนโซฟาเอง

“ให้กูนอนพื้นทำไมว่ะ เจ็บหลัง” ยังมีหน้ามาบ่นผมอีกเหรอ

“ก็ลงมาเองอ่ะ ใครจะแบกกลับขึ้นไปล่ะ ลงมาเองได้ก็ขึ้นไปเองดิ” ผมพูดและทำการเก็บทุกอย่าง อย่างแรกคงต้องเอาเสื้อผ้าไปใส่ไว้ในซิงค์ห้องซักผ้าก่อน คงไปเสิร์จหาวิธีซักเสื้อผ้าราคาแพงพวกนี้จากกูเกิ้ล ผมเดินกลับมาก็เห็นว่า พี่แกถอดกางเกงกองไว้แล้ว เหลือแต่กางเกงยางยืด เนื้อตัวนี้แดงไปหมดแสดงว่าเป็นคนทานเหล้าแล้วตัวแดงแน่เลย

“ร้อนอ่ะ “พี่แกบ่น ผมเลย ต้องเดินมาก้มลงมอง

“เดี๋ยวเช็ดตัวให้แล้วกัน ลำบากกูอีก ถ้าตื่นมาปากดีน่ะมึงโดนแน่” ผมพูดบ่นไอ้พี่ไปส์ ที่อยู่ในสภาพเมามายไม่ได้สติ ผมจัดการเอากะละมังใส่น้ำที่เตรียมเอาไว้ เอาผ้าชุบน้ำ เริ่มเช็ดตามหน้าตาพี่เขาก่อน จะว่าไปพี่ไปส์เป็นหนุ่มหล่อแบบตี๋ๆ สาวไหน ๆ ก็ใจละลาย ขนาดผมเองยังใจสั่นเลย แต่ปากนี้ขอบอกว่าทำเอาผมต้องลืมความหล่อไปชั่วขณะ ผมค่อยๆ ไล่เช็ดไปเรื่อย ๆ ผมเพิ่งจะสังเกต พี่เขามีรอยสักรูปเสือที่ตรงหัวไหล่ มันสวยมากจนผม ต้องเอามือไปลูบดู รายละเอียดแบบสวยงามมา ผมเองก็มีรอยสักนะแต่อยู่ตรงข้อเท้าผม เป็นรูปเสือง่วงนอน เล็กมากไม่กล้าโชว์ใครอายเขา ตอนสักไม่ได้คิด ตอนนี้เอาปลาสเตอร์ปิดไว้แทน ผมก็ค่อยๆ เช็ดตามลำตัวของพี่ไปส์ จนมาหยุดที่ขอบกางเกงยางยืด ภายในกางเกงมันแข็งมาก พี่แกก็นอนพลิกไปมา ผมก็ต้องหลับหูหลับตาเช็ดเข้าไปภายในกางเกงยางยืดนั้น เช็ดไปก็ชนเสากระโดงพี่แกไปด้วย มันแข็งจนมือผมนี้แหละที่เจ็บ

“อืมม” เสียงครางเบาๆ จากคนที่นอน

“ทำให้หน่อยซิ พี่วอนทฺ “พี่เขาหลับหูหลับตาพูด

“ปึก” ผมรู้สึกว่ามีมือมาจับต้นคอผมกดลงไปที่ตรงเป้านั้น

“เฮ้ย!!” ผมร้องออกมาก่อนจะหันไปมองคนที่นอนกัดปากตัวเอง แต่จะว่าไปมันก็น่ากินอยู่น่ะ ผมเลยค่อยๆ จับขอบกางเกงยางยืดรูดออกไปจนเผยให้เห็นมังกรยักษ์ไม่ใหญ่จนเกินไปแต่ก็ใหญ่ว่าที่ผมเคยพบผ่านมา น่าจะมาตรฐานชายไทยแน่นอน ดูแล้วคงผ่านการบำรุงมาอย่างดี ผมเลียริมฝีปากก่อนจะใช้มือจับ มันแข็งเต็มไม้เต็มมือมาก ผมรูดมันเบาๆ ก่อนจะหันไปมองคนที่นอนทำหน้าฟิน มันรู้ไหมน่ะหรือว่าไอ้พี่มันรู้กันแน่ว่ะ เอาว่ะ ผมก็ครอบปากลงไปที่สิ่งนั้น ผมใช้ลิ้นเลียราวกับว่า มันคือไอติมแท่งโปรดของไอ้โก้มันสั้นกว่านี้เยอะ อันนี้แหละมาตรฐานที่เป็กซ์ตั้งเป้าเอาไว้

“อื้มม ซี้ด เยี่ยม อ้าห์ พี่ขอเน้นๆ โอ้วว” คนที่นอนก็แอ่นตรงนั้นขึ้นลง จนผมต้องกดเอาไว้ก่อน เดี๋ยวได้ทะลุคอผมตายซะก่อน ไม่ได้ตายเพราะคนอื่นหรอก แต่จะตายก็เพราะไอ้พี่นี่แหละ ผมทั้งดูดทั้งเลียจนเพลิน ผมหันไปมองไอ้พี่นั้น เฮ้ย!! พี่มันยันตัวเองขึ้นมานั่งตอนไหนไม่รู้ และที่แน่ๆ มันมองผมด้วยความตกใจที่ผมกำลังเล่นนกเขาพี่เขาอยู่ อย่างเมามันขนาดนี้ ผมเองก็กลืนน้ำลายลง

“เออ คือ ผม ผมแค่เช็ดตัวให้นะครับ” ผมลุกพรวดขึ้นทันที ผมบอกว่าเช็ดตัวให้แต่อีพี่มันมองไอ้ที่ชี้โด่เด่อยู่นั้นและผมเองก็เพิ่งจะถอนปากออกมา “อันนี้ก็เช็ดให้ด้วย “ผมหันไปบอกก่อนจะรีบหันหลังทำท่าจะเดินออกเพราะอายมันมากเลย

“หมับ” มีค้นคว้าข้อมือผมเอาไว้และดึงจนผมเด้งกลับไป ตัวผมล้มลงไปกระแทกที่หน้าอกคนที่นอนกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ เขามองผมแววตามันเยิ้มมาก

“ทำให้พี่ต่อซิ พี่ชอบ” พี่ไปส์พูด ส่งสายตาอ้อนวอนมาให้ผม ผมเลิกคิ้วมองจะดีเหรอ

“นะครับ เป็กซ์” พี่เขาพูดกับผมมันสุภาพมาก แต่จะว่าไปก็ยังเพลินอยู่เลย ผมเลยลงมาคุกเข่าและก้มลง ใช้ลิ้นกับสิ่งนั้นต่อ ผมรับรู้ได้ว่ามีมือหนาๆ มาลูบหัวผมเบาๆ ก่อนจะดึงรั้งผมเข้าไปหาเขาและประกบจูบผมอย่างเร่าร้อน พี่ไปส์กอดรั้งตัวผมให้ลงไปนอนบนโซฟา พี่ไปส์ขึ้นมาคร่อมร่างผมไว้อย่างรวดเร็ว รสจูบที่นุ่มนวลสลับกับฮาร์คอมันยิ่งปลุกเร้าอารมณ์ของผมเช่นกัน เสื้อยืดของผมถูกถอดออกไปจนพ้นทาง พี่ไปส์เริ่มฝังริมฝีปากลงที่แผ่นอกของผม

“พี่ไปส์ ผม ว่า อย่า เลยพี่ พี่ไปส์ “เหมือนผมจะพยายามร้องห้ามแต่กายผมไม่ยอมฟังมันแอ่นอกสู้ลิ้นพี่ไปส์

“อืม ซี้ด พี่หยุดไม่ได้ ขอพี่นะครับ “พี่ไปส์บอกผมและเขาก็เริ่มจูบไปทั่วจนถึงหน้าท้องของผม กางเกงขาสั้นที่ผมเอาไว้ใส่นอนถูกรูดออกไป แถมยังไปพร้อมกันกับกางเกงยางยืด แสดงว่าชำนาญการเรื่องแบบนี้มาก เล่นถอดไปพร้อมกันขนาดนั้น พี่เขาหันไปมองหา เหมือนจะหาอะไรสักอย่าง

“หาอะไรน่ะพี่ไปส์” ผมถาม

“กางเกงพี่อยู่ไหนครับ” พี่เขาถาม ผมต้องขมวดคิ้ว จะทำกันอยู่แล้วมึงมองหากางเกงทำไม

“จะใส่กางเกงเหรอ” ผมถามพี่ไปส์

“จะใส่ทำไม จะเอาครับ แต่ของพี่มันอยู่ในกางเกง “พี่ไปส์พูดก่อนจะเห็นว่ามันกองอยู่ เลยรีบลงไปหยิบมา เขาล้วงมือลงไปในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะหยิบมาสองห่อ ถุงยางอนามัยและอีกห่อผมไม่รู้ พี่เขาฉีกซองก่อนจะหยิบมันออกมาสวมลงไปที่แท่งร้อนนั้น และฉีกอีกซองทันทีเช่นกัน มันคือเจลหล่อลื่น ไม่พร้อมเลยพี่ท่าน เขาละเลงมันลงก่อนจะจับขาผมยกขึ้น พี่ไปส์รีบแทรกตัวเข้ามาและเขาก็ดัน

“โอ๊ย!!” เจ็บเลยซิ แถมจุกด้วย ไซ้มันต่างจากไอ้โก้เยอะเลย ไอ้โก้นี้มึงเด็กน้อยดีดีนี้เอง

“พี่ไปส์เบาๆ หน่อยครับ ผมเจ็บ” ผมบอกพี่ไปส์ ผมใช้มือดันห้ามพี่เขาเอาไว้ที่แผ่นอก พี่เขาพยักหนักหน้าเบาๆ ก่อนจะจับมือผมมากุมไว้

“พี่ขอโทษนะครับ พี่จะทำเบาๆ ครับ พี่สัญญา “พี่เขาพูดมันเป็นคำมั่นสัญญาที่ทำให้ผมเหมือนต้องมนต์สะกด เพราะว่าพี่เขาพูดเพราะกับผมขนาดนี้ เหมือนโดนยาเสน่ห์เลยผม ผมจับเอวพี่ไปส์ ส่วนพี่เขาก็สวนเข้าไปช้าๆ พี่ไปส์หลับตาพริ้มพร้อมกับเลียริมฝีปากจนกระทั่งเข้าไปสุด มือผมก็ลูบแผ่นอกพี่ไปส์ นิ้วมือก็เขี่ยสองจุดของพี่เขาเล่นไปด้วย พี่เขาหยุดก่อนจะพยักหน้ากับผม ผมก็เลิกคิ้วสูงประมาณว่าอะไรอ่ะ พี่เขาพลิกผมให้มานั่งคร่อมเขาแทนโดยไม่ยอมให้หลุดจากช่องทางรักของผมเลย ผมโอบรอบคอพี่เขาไปไว้ พี่ไปส์มองผมสายตานี้เยิ้มมากแต่มันก็ละลายใจผมมิใช่น้อย ผมก้มลงจูบพี่ไปส์ และโยกสะโพกผมเบาๆ ตอนนี้ผมเหมือนได้ควบม้ารุ่นที่แข็งแรงราวกับวัวกระทิง ผมก็ต้องควบมันหนักขึ้นแรงขึ้น

“เป็กซ์ อ้าห์ พี่ชอบ ควบให้พี่หนักๆ เลยพี่ชอบ “เสียงกระเซ้านั้นยิ่งทำให้ผมฮึกเหิม” ปึกๆ ๆๆๆ” ผมควบมันหนักขึ้นจนกระทั่ง

“อ้าห์เป็กซ์ พี่จะ จะ อู้ยย เสร็จแล้วววว มาแล้วววว” สิ้นเสียงนั้นพี่เขาก็เกร็งไปหมด ผมรู้ได้เลยว่าเขาเรียบร้อยแล้ว ผมก็เรียบร้อยแล้วเช่นกัน ผมก็พ่นไปที่พุงของพี่เขาเต็มๆ อย่างควบคุมไม่อยู่ ผมก้มลงมองด้วยความตกใจ เวรแล้วไงละผม ผมรีบหันไปมองหาว่ะจะเอาอะไรมาเช็ดดีล่ะ

“อึมม” คนที่เป็นเจ้าของแท่งร้อนนั้นที่คางคาอยู่ในกายผม ยื่นกล่องกระดาษทิชชูมาให้ผมดู

“หากระดาษทิชชูเหรอ เล่นซะเต็มหน้าท้องพี่เลยนะ จัดเต็มเหมือนกันนิ หลายวันแล้วซิหึ” พี่เขาถามผมปนหัวเราะ ผมก็หยิบกล่องกระดาษมาจากพี่เขา ผมบรรจงเช็ดให้ ก่อนจะค่อยๆ ยกก้นตัวเองขึ้นจากแท่งนั้น คนพี่ก็นั่งแผ่ไม่อายผมเลยสักนิด ก่อนจะก้มลงมองที่ปลายถุงที่หอยอยู่ น้ำเยอะไม่เบาเลยพี่เขาน่ะ เขายักคิ้วให้ผม

“พี่ขอน้ำแก้วหนึ่งได้ไหมครับ” พี่ไปส์บอกผมเสียงอ่อยๆ คงยังมึนอยู่ ผมพยักหน้าก่อนจะแต่งตัวและรีบเดินไปรินน้ำอุณหภูมิห้องปกติมาให้ ผมไม่ลืมหยิบยาแก้ปวดมาให้ด้วย

“ขอบคุณครับ” พี่ไปส์รับแก้วน้ำไปจากผม ผมยืนมองอยู่ จะว่าไปพูดเพราะก็เป็นนะ พี่เขาดื่มน้ำก่อนจะ

“แปะๆ” เขาให้ผมนั่งลงข้างๆ ผมก็นั่งลง

“นึกยังไงทำให้พี่น่ะ” พี่เขาหันมาถามผม

“เออ ก็ พี่ขอให้ผมทำให้อะ และนี้ก็ถือซะว่าเป็นค่าที่ให้อยู่แล้วกัน” ผมพูดก่อนจะรีบลุกขึ้นและหยิบเอาเสื้อผ้าพี่เขาไปด้วย ผมวางแผงยาเอาไว้

“พี่ทานยาด้วยน่ะ และห้ามไปอาบน้ำน่ะ เขาบอกคนเมาไม่ควรอาบน้ำ “ผมบอกพี่ไปส์ พี่เขายิ้มให้ผม

“ผมเช็ดตัวให้หมดแล้วแหละ ไม่ต้องอาบหรอก ไม่เหม็นแล้ว” ผมหันมาบอกอีกทีก่อนจะรีบเดินไปที่ห้องซักผ้า ผมเอาเสื้อที่เลอะอาเจียนมาซักมือล้างน้ำซะก่อน แอบคิดนี้ผมทำอะไรลงไปว่ะ ไปมีอะไรกับพี่เขาได้ยังไง แฟนก็ไม่ใช่ ผมจัดการล้างน้ำจนหมดและผมก็อ่านดูที่เครื่องซักผ้า มีระบบสำหรับเสื้อผ้าที่ตัองซัก อย่างระมัดระวัง ผมก็ใส่เครื่องซักผ้าลงไปและกดตั้งตามที่หน้าจอมี ผมเดินออกมาก็ไม่เจอพี่ไปส์ สงสัยเขาจะเข้าห้องนอนไปแล้ว ผมเก็บทุกอย่างก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องนอนตัวเอง ผมมองไปที่ห้องนอนใหญ่อีกที จะว่าไปเดินเข้าไปดูพี่เขาหน่อยดีกว่าเพราะว่าเพื่อนพี่เขาก็ฝากให้ผมดูแลพี่เขาด้วย พี่ไม่ได้ปิดประตูสนิท เขาเปิดประตูแง้มๆ เอาไว้ ผมเดินเข้าไปในห้องก็เห็นคนพี่นอนอยู่บนเตียงไม่ได้ใส่เสื้อผ้า แต่ห่มผ้าห่มเอาไว้แทน คงไม่เป็นไรแล้วมั้ง ผมทำท่าจะเดินหันหลังออกเพื่อกลับห้องตัวเอง

“หมับ” พี่ไปส์จับมือผมไว้ ขณะที่ผมกำลังหันหลังเดินออก

“เป็นห่วงเหรอ ถ้าอย่างนั้นก็นอนนี้เลยดิ “พี่ไปส์พูด

“พี่รู้สึกไม่ค่อยดีและเพื่อว่าพี่เป็นหนัก พี่เดินไปเรียกไม่ไหวนะ อาจจะตายซะก่อน” พี่ไปส์บอกผม ผมก็ต้องหันหลังมามอง พี่เขาก็ขยับออกให้ผมนอนตรงหน้าเขา ผมต้องลงนอนข้างๆ เขาจริงๆ ใช่ไหม ผมเปิดผ้าห่ม เกือบได้ฮาร์ทแอทแท๊กดีที่มีกางเกงยางยืดอยู่

“ผิดหวังเหรอ ถอดออกก็ได้นะ” พี่ไปส์พูด เขาหมายถึงกางเกงยางยืดนะ

“ไม่ต้องอ่ะ ใส่ไว้นั่นแหละดีแล้ว “ผมพูดก่อนจะแทรกตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มนั้น พี่ไปส์พลิกมานอนตะแคงมองผม

“ขอบคุณนะครับ ที่ดูแลพี่ “พี่ไปส์พูด

“ก็เมามาขนาดนี้ ผมใจร้ายไม่ลงหรอก” ผมหันไปบอกพี่ไปส์

“พี่ทะเลาะกับป๊าพี่มา เรื่องไม่เป็นเรื่องแต่พี่ก็น้อยใจอะ พอดีไอ้พีชมันชวนไปดื่มเลย จัดหนักไปหน่อย” พี่ไปส์พูด นี้ขนาดเขารวยพ่อตามใจเขาขนาดนี้ยังทะเลาะกับพ่ออีกเหรอ ผมเสียพ่อไปตั้งแต่ผมยังเด็กมาก พ่อทำงานหนักหาเงินจนเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตและนั้นผมต้องอยู่กับพ่อเลี้ยง เขาไม่เคยตามใจผมเลย ตีผมเยอะที่สุด จนผมคิดว่าผมจะไม่มีวันเลี้ยงดูมันเด็ดขาด

“ผมไม่อยากจะเชื่อเลยน่ะว่าป๊าพี่เขาตามใจพี่ขนาดนี้ พี่ยังทะเลาะกับป๊าพี่อีกเหรอ “ผมถามพี่ไปส์

“เราไม่เคยทะเลาะกับพ่อเหรอ” พี่ไปส์ถามผม

“พ่อผมน่ะไม่เคย เพราะว่าพ่อผมเสียไปนานแล้ว มีแต่พ่อเลี้ยง ที่มีเรื่องกับผมตลอด จนผมเองแทบไม่อยากจะกลับบ้าน ตอนนี้มันไปทำงานที่ต่างประเทศ มันก็ส่งเงินมาให้แต่ไม่มาก ถ้าเทียบกับเงินที่แม่ผมให้มันไปเป็นค่านายหน้าและค่าเครื่องบิน มันยังห่างอีกเยอะ “ผมพูดกับพี่ไปส์ พี่เขานอนตาปรือๆ

“พี่ง่วงแล้วนอนเถอะ” ผมหันมาบอกพี่ไปส์ พี่เขาพยักหน้าเบาๆ ผมเอื้อมมือไปหยิบปิดไฟ ผมเห็นมือถือ พี่ไปส์มีข้อความเข้ามา

//พี่ไปส์ครับ ทำไมพี่ไม่รอวินนี่ครับ ผมบอกว่าผมเปิดแผ่นเสร็จผมจะลงมาหาพี่ไงครับ แต่นี่พี่กลับก่อนทำไมครับ // คนที่ชื่อวินนี่ ส่งข้อความหาพี่ไปส์ สงสัยจะแฟนพี่ไปส์แน่ๆ

//พี่ไปส์โทรกลับหาผมเดี๋ยวนี้น่ะ ไม่อย่างนั้นผมจะไปหาพี่ที่คอนโด// ผมตกใจมากเลยหยิบมือถือมา

“พี่ไปส์แฟนพี่ส่งข้อความมาอ่ะ ว่าจะมาหาที่คอนโด” ผมสะกิดเรียกพี่ไปส์ พี่เขาลืมตาขึ้น ผมส่งมือถือพี่เขาไปให้พี่ไปส์ดู พี่เขาก็อ่านข้อความ

“ไม่ใช่แฟน ยังไม่มีแฟน คนนี้เขาเป็นเด็กที่เปิดแผ่นในผับนะครับ พี่เคยพาไป ปั่ม ปั๊ม มาครั้งหนึ่ง พี่ไม่ชอบเขาอ่ะแต่ให้ก็เอา ตอนแรกน้องมันก็เฉยๆ กับพี่น่ะ แต่พอน้องรู้ว่าพี่เป็นลูกใคร มันเลยพยายามติดต่อพี่ และพี่รู้มาว่ามันชอบจับแต่คนรวยๆ “พี่ไปส์บอกผมก่อนจะส่งมือถือคืนมาให้ผมอย่างไม่สนใจ

“แต่เขาบอกจะมาหาพี่นะ”

“ก็นี่ไงพี่เลยย้ายมาพักที่ใหม่ รำคาญ และนี่มันก็มาไม่ถูกหรอกพี่ไม่เคยบอกที่ใหม่ว่าพี่อยู่ตรงไหน” พี่ไปส์พูดผมก็พยักหน้าค่อยยังชั่วหน่อย

“พี่นอนได้ยัง พี่ง่วง พี่เพลียด้วย เพราะว่าพี่เสียน้ำเยอะ” พี่ไปส์บอกพร้อมกับรอยยิ้มทั้งที่ตาปรือมากเลย

“ครับนอนได้แล้วครับ” ผมพูด ยังไม่ทันคาดคำพี่แกหลับไปแล้ว พลิกตัวมานอนตะแคง ตกลงนี้ผมให้เขาเพราะอะไรวะ แล้วพี่เขาล่ะมีอะไรกันผมเพราะอะไรกัน มันแปลกไหม ไม่ใช่คนรักกันมาก่อนแต่มามีอะไรกันเลย

“หมับ” ผมรู้สึกว่ามีคนกอดผมจากด้านหลัง ผมค่อยๆ พลิกไปมองคนที่กอดผมเขายังหลับสนิทอยู่ จู่ๆ มือพี่ไปส์ก็จับแขนผมไปพาดกับลำตัวของเขา

“พี่ชอบให้มีคนกอดแต่พี่ก็เลือกนะ น้อยคนมากจะได้สิทธิ์นั้นและคนนั้นพี่ต้องรู้สึกพิเศษจริงๆ “ผมควรจะดีใจดีไหม และผมก็เลือกที่จะกอดเขา เอาใบหน้าซบลงที่แผ่นอกคนที่พูดทั้งที่หลับอยู่ ทำไมผมรู้สึกดีแบบนี้น่ะ ใบหน้าผมซบที่อกพี่ไปส์ ซุกไซ้เหมือนกำลังโหยหาไออุ่นจากใครสักคน

TBC....



ออฟไลน์ Nattie69

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 777
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0

ออฟไลน์ tiger2006

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 334
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ Alessa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
EP.32 (พี่ไปส์Xเป็กซ)เป็กซ์หายตัวไป P1

              Part's ไปส์ ผมตื่นมาด้วยอาการมืนๆ งงๆ แต่พอจำได้บ้างไม่ได้บ้างแต่ที่แน่ๆ ผมจำได้ว่า คนที่ผมนอนกอดอยู่เขามอบความสุขให้ผมไว้ แถมยังมานอนให้ผมกอดอีก ผมเป็นลูกคนโตของครอบครัว ป๊าและม๊าดูแลกิจการร้านท้องมาตั้งแต่รุ่นอากงของผม มีสาขามากมายและยังมีธุรกิจอสังสังหาริมทรัพย์ที่เป็นอาคารพาณิชย์อยู่ในย่านธุรกิจมากมายหลายที่ น้องสาวก็เลือกเรียนจิตวิทยา มีน้องชายคนเล็กก็อยากจะเรียนเป็นหมอขึ้นมาอีก ดังนั้นตอนนี้ผมเลยโคตรเหนื่อยเลย ที่ต้องช่วยป๊ากับม๊าดูแลกิจการไม่รู้กี่สาขาแถมม๊าก็ขยันบินไปจีนอีก เพราะว่าครอบครัวของม๊าผมมาจากจีนแท้ๆ ผมเลยอยากจะออกมามีโลกส่วนตัวหาคอนโดอยู่ และคอนโดนี้ก็เป็นคอนโดของโกวผมเอง น้องสาวป๊าของผม พนักงานที่นี้เขาจึงรู้จักผมดี

   ผมก้มลงใช้นิ้วเขี่ยเส้นผมที่ปกหน้าผากหนุ่มน้อยที่นอนกอดผมอยู่ ริมฝีปากรูปกระจับนั้น แถมฟันกระต่ายอีกต่างหาก ผมก้มลงมองก่อนจะค่อยๆประกบจูบเบาๆ คนที่หลับอยู่ก็เผยอริมฝีปากให้ผมได้สอนลิ้นเข้าไป ผมจูบคนที่หลับอยู่ ผมค่อยแทรกขาเข้าไปกึ่งกลางระหว่างขาคู่นั้น เป็กซ์เริ่มจูบผมตอบก่อนจะลืมตาขึ้นมามองหน้าผม ผมรีบพลิกตัวขึ้นมาคร่อมร่างนั้นไว้ ผมขึงแขนของเป็กซ์ไว้เหนือศีรษะ เมื่อคืนเมามีสติบ้างไม่มีบ้างแต่ตอนนี้สร่างเมาแล้ว ผมมอบรสจูบที่เร่าร้อนให้คนที่อยู่เบื้องล่าง ทำเอานอนดิ้นไปมาเพราะว่าความเสียวซ่านที่ผมปรนเปรอให้

“พี่ไปส์ “เป็กซ์เรียกผมเสียงอ้อนเสียงหวาน

“พี่ขอนะครับ พี่ยังค้างอยู่ เมื่อคืนพี่ไม่ค่อยมีสติดีแต่พี่จำได้น่ะ ว่าเราทำอะไรพี่ไว้” ผมพูดกระซิบก่อนจะดึงกางเกงขาสั้นของเป็กซ์ออกไปทั้งตัวในตัวและตัวนอก ผมก็ยกเท้าเป็กซ์ขึ้นทันที มันโด่ขึ้นมาตั้งแต่คนนี้หันมากอดผมแล้ว ผมรีบแทรกเจ้าไปส์น้อยใส่เข้าไปในช่องทางรักของเป็กซ์ทันที แต่ไม่มีเจลเพราะว่าผมไม่ได้ซื้อไว้ ผมเลยใช้น้ำลายแต่แทน ก่อนจะค่อยๆ ดันแท่งร้อนของผมเข้าไปในกายเป็กซ์

“โอ๊ะ โอ๊ย พี่ไปส์ ซี้ด” เป็กซ์ร้องครางเบาๆ และผมก็ค่อยๆดันแท่งร้อนผมเข้าไปช้าๆ ผมไม่ได้ดันพรวดเดียวเลยมันเถื่อนไป แต่ค่อยเป็นค่อยไปจนกระทั่งหมดด้ามและผมก็โยกเบาๆ ที่นอนด้านล่างก็โยกขึ้นโยกลงตามแรงของผม ดวงตาคู่นั้นมองผมตาแป๋วมาก ผมก้มลงไปจูบและทำการเด้งสวนไปเรื่อยๆ ถุงก็ไม่ได้ใส่ เอาว่ะคงไม่ท้องหรอกมั้ง คงไม่แจ็คพ๊อตเหมือนไอ้เธียรเพื่อนผม ไม่นานก็เรียบร้อยโรงเรียนไปส์

“อ้าห์” ผมดันสุดและค้างเอาไว้ด้านใน น้ำอุ่นๆ ไหลถลักย้อนออกมา ผมพักเหนื่อยก่อนจะก้มลงจูบเป็กซ์ ผมเองก็ไม่รู้ว่าคนที่นอนมองผมอยู่นี่ เขาอึ้งหรือว่าเหนื่อยไม่เห็นพูดอะไรเลย ผมค่อยถอนเจ้าแท่งร้อนของผมออกและมานอนแผ่ข้างๆ เป็กซ์

“พี่ยังเมาอยู่อีกเหรอ “เป็กซ์หันมาถามผม

“หายแล้ว หายแต่เอารอบแรกแล้ว “ผมพูดก่อนหันไปชำเลืองตามองคนข้าง คนข้างๆ ผมหน้าแดงขึ้นมาทันที ผมก็พลิกตัวมานอนตะแคงเอาแขนมาเท้าศีรษะมอง ผมใช้นิ้วเขี่ยปลายจมูกคนที่นอนข้างๆ เขาแค่หันมามองผมก่อนจะดีดตัวก็ลุกขึ้นนั่ง สวมกางเกงใส่กลับเข้าไป

“พี่จะทานอะไรอ่ะ อาหารเช้านะ ผมจะไปทำไปทำให้ครับ” เป็กซ์หันมาถามผม

“ขอเป็นไข่ลวกนะครับ “ผมเท้าแขนพูดกับเป็กซ์

“เพราะว่าพี่ต้องบำรุงหนักๆ แล้วแหละ “ผมพูด คนที่ผมสั่งหันมาเบ้ปากและมองบน

“มองแบบนี้เดี๋ยวจับกดอีกรอบเลย ยังไหวนะ” ผมพูดกับคนที่ยืนอยู่ เป็กซ์รีบหันหลังเดินออกไปทันที ผมลุกขึ้นก่อนเดินไปหยิบมือถือมาเปิดดู ข้อความต่อว่าผมต่างๆ นานาจากเด็กเปิดแผ่น นอนด้วยครั้งเดียว ตอนแรกทำเป็นไม่สนใจเพราะว่าผมไม่ได้บอกว่าเป็นลูกใคร พอเขารู้ทีหลังเขาบอกว่า มีอะไรกับผมคนแรกดังนั้นผมต้องรับผิดชอบเขาโดยการเป็นแฟนเขา และผมเองก็ไม่เคยเมมเบอร์เขาไว้เลย และเขาก็คงรู้ ใช้ชื่อแทนตัวตลอดกลัวผมไม่รู้ว่าเป็นเขา

“ไม่ต้องส่งข้อความหาพี่แล้วน่ะวินนี่ พี่มีแฟนแล้วครับ เลิกติดต่อพี่ด้วยนะครับ ไม่อย่างนั้นน้องวินนี่จะไม่มีที่ทำงาน เพราะว่าผับน่ะพี่รู้จักเกือบหมดโอเคนะครับ “ผมส่งข้อความไปให้วินนี่ ผมมีลูกพี่ลูกน้องพี่เขาเปิดผับอยู่ วงการเจ้าของผับต้องรู้จักลูกพี่ลูกน้องผมเช่นกันและเฮียเขาก็เป็นเพื่อนกับปู่รหัสผมอีก ผมเดินเข้าห้องน้ำอาบน้ำอาบท่า ผมเดินออกมาสวมเสื้อผ้าอยู่บ้าน

//ม๊า// ผมโทรหาม๊าของผม
//ว่าไงไปส์ และนี่อยู่ไหนแล้วเรา//ม๊าถามผม
//ม๊า ผมดื่มหนักอ่ะเมื่อคืนผมไม่ไปที่ร้านทองนะม๊า”
//เอาอีกแล้วไปส์ ป๊าบอกว่าให้ได้เฉพาะวันเสาร์ไง เรานี่น่ะ //
//ก็เมื่อวานป๊าด่าไปส์อ่ะม๊า//
//ป๊าแค่บ่นเรานี่น่ะ “ม๊าพูด
//ถ้าอย่างนั้น แก้ไขระบบสาขาใหม่ให้ม๊าด้วยนะ มีคอมฯ ไม่ใช่เหรอที่คอนโดนะ” ม๊าบอกผม
//ได้ครับม๊า ไปส์รักม๊านะ //
// ม๊าก็รักไปส์ ดื้มกับป๊าให้น้อยๆ ลงหน่อย ยี่สิบห้าแล้วนะไปส์นะ ลูกคนนี้นิ แค่นี้น่ะ กลับมากินข้าวบ้านก็โทรมาบอกม๊านะ ม๊าจะได้ให้เขาทำของโปรดไว้ให้” ม๊าบอกผม
//ครับม๊า เออ ถ้าผมไปผมอาจจะพา คนพิเศษผมไปทานข้าวด้วยได้ไหมม๊า//
//แน่ใจแล้วเหรอว่าคนนี้นะ// ม๊าถามผม ม๊ากับป๊าไม่เคยว่าผมเรื่องจะรักผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่ป๊าขอแค่เรื่องเดียวเรื่องอนาคตให้ดูให้แน่ใจซะก่อน ค่อยพาเข้าบ้าน ผมเคยมีแฟนเป็นแฟนเป็นผู้ชาย ผมพาเข้าบ้านแต่สุดท้าย เขาเลือกคนอื่นที่ให้เขาได้มากกว่าผม
//ครับม๊า ผมแน่ใจแล้วม๊า //
//งั้นก็พามาแล้วกันน่ะ แค่นี้ก่อนนะไปส์ แม่มีลูกค้าเก่านะ เอาไว้คุยกันนะ// ม๊าเป็นผู้หญิงที่เข้าใจผมมากที่สุด ผมกดวางวางสายไป ผมเดินออกมาก็เห็นอาหารเช้าวางอยู่พร้อมอยู่บนโต๊ะ มีไข่ลวกและขนมปังปิ้งวางไว้บนโต๊ะ ผมก็นั่งลงก่อนจะมองไปรอบๆ เพื่อหาเป็กซ์แต่ก็ไม่เห็นเขาเลย ผมนั่งทานไข่ลวกที่เขาทำไว้ให้ จะว่าไปรสชาติใช้ได้น่ะ ขนมปังปิ้งทาเนยไว้ให้ด้วย

“ปึก” เสียงถุงวางไว้บนโต๊ะ ผมเงยหน้าขึ้นมา

“หายไปไหนมา “ผมถามหน้าขึ้นถาม

“ไปซื้อนมถั่วเหลืองมาให้ไง กลัวไม่อิ่ม” เป็กซ์บอกผม ก่อนจะนั่งลงและแกะนมถั่วเหลืองใส่แก้วให้ผม เป็กซ์เขาฉีกปาท่องโก๋ให้ผมด้วย ใส่ลงไปในแก้วน้ำเต้าหู้

“รู้ไหมว่าม๊าพี่ชอบทำให้พี่ทานแบบนี้ก้อนไปโรงเรียนทุกวัน เพราะว่าแต่ละวันม๊าต้องรีบไปที่ร้านทองหลังจากส่งพี่ไปโรงเรียน” ผมบอกเป็กซ์ ผมเห็นเขาเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วแสดงว่าอาบน้ำแล้ว

“อาบน้ำแล้วเหรอ” ผมถามเป็กซ์

“อืมม อาบแล้ว ชอบอาบน้ำตอนเช้า มันโปร่งตัวดี ทำไมเหรอครับ” เป็กซ์ถามผม แต่ว่ามันแปลกไปกว่าทุกวันน่ะ ผมก็เงยหน้ามองเป็นระยะ คนที่ดื่มน้ำเต้าหู้ก็เงยหน้าขิ้นมามองผมก่อนจะวางช้อน

“มีอะไรน่ะมองหน้าตั้งหลายรอบแล้วน่ะพี่ไปส์” เป็กซ์ถามผม

“ก็แค่แปลกใจ “ผมพูด เป็กซ์มองหน้ามองพร้อมกับขมวดคิ้ว

“แปลกใจอะไรของพี่นะ” เป็กซ์ถามผม

“แปลกใจที่ พอจับกดนี้น่ารักขึ้นเยอะเลย รู้อย่างนี้จับกดไปตั้งนานแล้วจะได้ ไม่กล้าแพงฤทธิ์กับพี่อีก” ผมพูดแต่คนฟังนี้ชักสีหน้าขึ้นมาทันที

“ปึก!” เป็กซ์วางช้อนลงทันที ก่อนจะจะลุกพรวดขึ้นมายืนมองหน้าผม

“ที่มึงทำ มึงคิดแค่นี้ใช่ป่ะ ไอ้ไปส์ “น้องมันพูดด้วยความโมโหใส่ผม

“นี้โกรธเหรอ” ผมถามคนตรงหน้า

“กูไม่รู้จะพูดเชี้ยอะไรกับมึงดีไง กูจะออกไปธุระ และไม่กลับมากินข้าวเที่ยง มึงทำเองแล้วกัน” เป็กซ์พูดก่อนจะลุกเดินไปเลย ผมก็มอง แล้วใครจะล้างชามให้ว่ะเนี๊ยะ

“เดี๋ยว” “ผมเรียกคนนั้นไว้ เขาชะงักเท้ารอ “ใครจะล้างชามละ” ผมถามเป็กซ์ แอบโมโห ทำไมมึงไม่ขอโทษแทนว่ะไอ้บื้อ ผมนึกด่าตัวเองในใจ

“ล้างไม่ก็เป็นกองไว้ กูกลับมากูล้างเอง” เป็กซ์พูดโดยไม่ได้หันมามองผมเลย  ผมก็ “อะไรวะ แค่นี้ก็โกรธ แซวเล่นเองน่ะ คนอะไรใจน้อยชะมัด” ผมบ่นอุบอิบอยู่คนเดียว ผมก็รีบกินและจะรีบเข้าไปแก้ไขระบบคอมพิวเตอร์ให้ ผมจบวิศวะคอมพิวเตอร์มาแต่ต้องมาดูแลกิจการให้ป๊าและม๊าคือร้านท้องแทน ผมเข้าไปนั่งในห้องคอมพิวเตอร์ ผมก็ยังคิดถึงใบหน้าเป็กซ์ดูเขาเสียใจมากที่ผมพูดแบบนั้น

“ปากน่ะปากกู แม่งเอ๊ย “ผมพูดบ่นกับตัวเอง

“กลับมาพาไปกินข้าวนอกบ้านก็ได้ว่ะ ง้อหน่อย” ผมพูดก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมากดโทรหา เป็กซ์ แต่ว่ามันฝากข้อความ อะไรกันว่ะ แค่นี้ก็งอนไม่รับสายเลย ผมก็เลยฝากข้อความเสียงเอาไว้

//เป็กซ์พี่ขอโทษ พี่ปากไม่ดี เออ ตอนเที่ยงกลับมาทานข้าวกับพี่น่ะ พี่พาไปกินที่ห้าง จะพาไปซื้อของใส่ตู้เย็นเอาไว้ให้เราด้วย ถ้าหายโกรธพี่แล้วโทรหาพี่ด้วยนะครับ// ผมฝากข้อความเสียงเอาไว้ ผมก็จัดการระบบคอมพิวเตอร์ให้ม๊าผมต่อ 

Rrrrrr มีเบอร์ไม่คุ้นเคยโทรเข้าเครื่องของผม ผมก็รีบกดรับสายทันที
//สวัสดีครับ//
//สวัสดีครับพี่ ผมใบชา…//ผมต้องขมวดคิ้วทันที ใบชาที่ใช้ชงชาไหมหรือเปล่า
//ผมไม่ดื่มชาครับ คุณโทรผิดแล้วครับ//ผมบอกคนปลายสายไป
//เออ ไม่ทราบว่าผมนี่ไปเสนอให้ดื่มตอนไหนครับคุณครับ ผมชื่อใบชา เห็นหน้าตาแบบนี้ กูเลือกครับ!! // น้องคนนี้ปากใช้ได้
//ยังเลือกได้อีกเหรอครับน้อง//
//โอ๊ย!! กูเชื่อแล้ว เห็นไอ้เป็กซ์มันบอกว่า ปากพี่นี้ สุนัขเรียกพี่ครับมึงครับ// ชมกันขนาดนี้เลยเหรอ ถ้าอยู่จะทำโทษให้
//อ้าวน้อง ตกลงนี้น้องคือเพื่อนของเป็กซ์ใช่ไหมครับ//ผมถามคนปลายสาย
//ใช่ครับ //น้องเขาตอบ มิน่าปากร้ายเหมือนกัน
//โทรมาหาพี่มีอะไรครับ //ผมถามคนปลายสาย
//ผมโทรหาเป็กซ์มันไม่ติดนะครับ มันอยู่กับพี่ไหมครับ // คนปลายสายถามหาเป็กซ์
//ไม่อยู่ครับ น่าจะออกไปทำธุระใกล้นี่นะครับ น้องมีเรื่องด่วนไหมครับ// ผมถามคนปลายสาย
//มันจะกลับมาใช่ไหมพี่ มันไม่ได้ไปหาแม่มันใช่ไหมพี่//
//ไม่รู้ซิ มีอะไรเหรอครับ//
//ผมเพิ่งไปบ้านแม่มันมา แม่มันบอกว่าไอ้โก้มันขับรถมาวนไปมาเหมือนมองหาเป็กซ์ เลยจะบอกว่า อย่าเพิ่งออกมาหรือไปหาแม่มันเด็ดขาดนะพี่ // ใบชาบอกผม
// “เขาเลิกกันแล้วไม่ใช่เหรอ// ผมถามกลับ
//ใช่พี่แต่เหมือนไอ้โก้ มันจะทำอะไรเป็กซ์มันหรือเปล่า ไอ้นี้มันผีพนันบอลอยู่ ใครจะไปเดาความคิดมันถูก//
//ที่แน่ๆ มันคงไม่มากราบขอโทษไอ้เป็กซ์ที่ใช้หนี้แทนมันตั้งเกือบครึ่งแสนหรอกมั้งครับพี่// ใบชาบอกผม เวรเลยผมเริ่มเป็นห่วงแล้วซิ นี้ส่งข้อความไปก็ไม่อ่านด้วย
//พี่จะโทรหาเป็กซ์น่ะ เพราะว่าเขาออกไปทำธุระแต่ไม่ได้บอกว่าไปไหน จะว่าไปก็ออกไปได้สักพักแล้ว // ผมบอกใบชา
//จริงดิพี่ ผมหวังว่ามันไม่ได้ออกไปหาแม่มันนะ// ใบชาพูด

   ผมรีบกดวางสายอย่างรวดเร็ว ผมกดโทรหาเป็กซ์ทันที ดังแต่ไม่รับ ตอนนี้เป็กซ์ใช้ไอโฟนอีกเครื่องหนึ่งของผมอยู่ คือม๊าซื้อให้แต่ผมไม่ชอบสีเลยเก็บไว้เฉยๆ และโทรศัพท์เป็กซ์เขาหล่นลงน้ำไปด้วยผมเลยให้ใช้ของผมแทนไปก่อน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-04-2021 11:01:13 โดย Alessa »

ออฟไลน์ Alessa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
EP.32 (พี่ไปส์Xเป็กซ)เป็กซ์หายตัวไป P1

EP.32 (พี่ไปส์Xเป็กซ)เป็กซ์หายตัวไป P2

   ผมรีบหันไปหยิบกุญแจรถทันทีเป็นห่วงขึ้นมาทันทีเช่นกัน ผมกดปิดทุกอย่างก่อนจะรีบเดินลงไปด้านล่าง ไอ้นั่นมันคงไม่รู้หรอกว่าเป็กซ์อยู่ที่นี้กับผม ถ้ารู้มันคงมาโวยวายแล้ว แต่ถ้ามันไม่โวยวายแสดงว่ามันกำลังจะทำอะไรเป็กซ์โดยที่ไม่ต้องการให้ใครรู้ เฮ้ย! ดูหนังมากไปไหมกู ผมด่าตัวเองในใจ คงไม่มีใครกล้าทำแบบนั้นหรอกน่ะ มันอุอาจไปไหม

“สวัสดีค่ะ คุณไปส์” ผมเดินผ่านเจ้าหน้าที่ดูแลคอนโดนี่ นี่คอนโดของผม เขาเลยรู้จักผมกันหมด

“สวัสดีครับ มีอะไรเหรอครับ”

“พอดีมีผู้ชายนะคะ ท่าทางไม่น่าไว้ใจ มาถามหา ผู้ชายคนหนึ่งค่ะ เขาเอารูปให้ลุงรปภ ดู หน้าตาเหมือนนน้องที่อยู่ห้องคุณไปส์ตอนนี้นะคะ “ผมสะบัดหน้าไปมอง ลุงรปภ

“ใครเหรอครับลุง”

“ลุงก็ไม่รู้ครับ ท่าทางเหมือนคนติดยา ลุงก็ไม่ได้บอกน่ะว่าคุณเขาพักที่ห้องไหน เพราะดูท่าไม่น่าไว้ใจ แถมเมื่อเช้าก็มาจอดรอแต่นี้มันออกไปแล้วครับ”

“ลุงเห็นน้องที่อยู่ที่ห้องผมเดินผ่านไหมครับ”

“เห็นครับ เมื่อตอนเช้าเดินออกไปซื้อน้ำเต้าหู้ก็ถือมาให้ลุงถุงหนึ่งใจดีนะครับ ลุงเห็นอีกทีเดินหน้ามุ่ยออกไป ผมเลยไม่ได้ทัก ลุงว่าน่าจะ เก้าโมงได้ครับคุณไปส์ และ เออ ไอ้รถคันนั้นมันก็ออกไปประมาณ เก้าโมงกว่าๆ เหมือนกันครับ” ลุงรปภ พูด

“ขอบคุณครับลุง” ผมพูดและกดโทรศัพท์หาใบชาทันที เป็กซ์นะเป็กซ์ ถ้ารู้ว่าตัวเองมีอันตรายจะออกไปทำไม

//ใบชา ใบชาพอจะเคยเห็นรถไอ้โก้อะไรนี่ไหม รปภ ที่คอนโดพี่เขาบอกว่ามีคนมาถามหา เป็กซ์และมันก็มาจอดดักรอวันนี้ด้วย //

//อะไรนะพี่ พี่จะบอกผมว่าไอ้โก้ไปที่คอนโดพี่เหรอ//

//ใช่พี่คิดว่าใช่ครับใบชา// ผมพูด

//เดี๋ยวผมส่งให้พี่ ผมว่ามันมีรถคันนี้คันเดียวน่ะ เป็นรถกระบะวีโก้ สีบรอนซ์ทองครับ// ใบชาบอกผม

“ลุงครับ ใช่รถกระบะวีโก้สีบรอนซ์ทองไหมครับที่ลุงเห็นนะครับ” ผมหันมาถามลุงรปภ. อีกครั้ง

“ใช่ครับใช่ มีสติกเกอร์กวนๆ ติดเต็มไปหมดครับ ผมเลยว่ามันไม่น่าจะใช้รถของคนที่พักที่นี้ครับ” ลุงรปภ ยืนยันกับผมอีกครั้ง

//ใบชา รถไอ้โก้อะไรนี้ มีสติกเกอร์เยอะแยะไปหมดเลยใช่ป่// ผมหันมาถามคนในสาย

//ใช่พี่ใช่ สติกเกอร์ทีมฟูตบอลมันนั่นแหละพี่//

//โอเค พี่ว่างานเข้าแล้ว//

//เอาอย่างนี่ พี่มีรุ่นพี่แฮ้กโคตรเก่งเลย เขาเป็นปู่รหัสพี่ พี่จะให้เขาแฮ้กเฟสมันให้ พี่ขอชื่อนามกุลมันหน่อยครับ// ผมบอกใบชา

//ได้พี่แป๊บหนึ่งน่ะ เป็กซ์มันเคยถ่ายรูปบัตรนักศึกษามาให้ผม นี้ๆ ผมส่งให้เลยพี่// ใบชาบอกผม และขอ้ความก็เข้ามือถือผม

//พี่ได้แล้ว แค่นี้ก่อนนะ ได้เรื่องอะไรแล้วพี่โทรกลับ// ผมบอกใบชา

   ก่อนจะรีบเปิดดูรูปที่ใบชาส่งมาให้ผม และผมก็รีบกดโทรหา พี่กอล์ฟ ลุงรหัสของผม (พี่กอล์ฟ คือเพื่อนพี่รชานนท์ พี่เขาคือดารารับเชิญจากเรื่อง อุบัติ (เหตุ) จนได้รัก)  พี่เขาเก่งเรื่องการแฮ้กข้อมูลมาก เซียนระบบคอมพิวเตอร์เลยก็ว่าได้

//พี่กอล์ฟ ผมไปส์นะพี่//
//อ้าวไอ้ไปส์มีอะไร//
//พี่กอล์ฟ ผมมีเรื่องอ่ะพี่ น้องผมมันหายไป และดูแล้วน่าจะโดนลักพาตัวพี่ ผมรบกวนพี่แฮ้กข้อมูลไอ้คนที่ผมส่งอินบ๊อกหาพี่ให้ผมหน่อยได้ไหมพี่//
//เออๆ ได้ ได้ ส่งมาว่ะ // พี่กอล์ฟ พูด ผมกดวางสายจากพี่กอล์ฟ และต่อด้วยต่อสายไปหาไอ้เธียรวิชย์ทันที ผมต้องคุยกับเธียรด้วย เพราะว่าเป็กซ์คือเพื่อนขอบีมภรรยาไอ้เธียรมัน

//ว่าไงไปส์// เสียงไอ้เธียร (พี่เธียรผมลงไปดูลูกโซ่ก่อนนะครับ เดี๋ยวผมขึ้นมา) (จ๊ะเมียจ๊า) อันนี้ผมเหลือกตาขึ้นบน
// ไอ้เธียร งานเข้าว่ะ น้องเป็กซ์โดนลักพาตัวว่ะ //บอกคนปลายสาย
//มึงว่าอะไรนะ!!” คนละโหมดกับเมื่อสักครู่เลยไอ้เธียร
//น้องเป็กซ์หายไป น่าจะมีคนจับตัวไป//
//เชี้ยเอ๊ย!! มึงดูน้องยังไงวะ//ไอ้เธียรมันต่อว่าผมทันที
//แล้วใครวะ ยังกล้ามาล้วงคองูเห่าอย่างมึงว่ะ// ไอ้เธียรพูด
//ก็น้องเขาเดินลงไปจากคอนโดกู เพราะว่ากู…” ผมพูด
//มึงไล่น้องเขาเหรอว่ะ//
//กูไม่ได้ไล่ แต่กูปากเสียไปหน่อย น้องเขาเลยงอนกู//ผมพูด คนปลายสายเงียบทันที
// กูเดาว่าแฟนน้องเขาวะ แฟนเก่าน้องเขาที่ชื่อไอ้โก้อะไรนี่แหละที่ให้น้องเขาทำเรื่องไม่ดีไง //
// กูก็ไม่รู้ว่าแฟนมันจะตามมาที่นี้นี่หว่า เมื่อเช้า กูดันปากหมาไปใส่น้องเขาไปหน่อย น้องมันเลยงอนลงไปคนเดียว ปกติกูจะพาเขาไปไง//ผมพูดอย่างรู้สึกผิด
// โทรแจ้งตำรวจได้ไหมว่ะ//เธียรมันถามผม
// เขาไม่รับแจ้งไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมง และกูว่าช้ากว่าว่ะ กูว่าตามแม่งเลยดีกว่า// ผมพูดก่อนจะ
//เออว่ะ ถ้าให้รอยี่สิบสี่ชั่วโมง ตายพอดี เดี๋ยวกูออกไปเลย เจอกันที่ไหนบอกด้วย // ไอ้เธียรวิชย์บอกผม
//กูตั้งไฟไอโฟนไว้ว่ะ กูให้เป็กซ์ใช้มือถือกูเพราะว่าวันนั้นมือถือน้องเขาร่วงลงไปในแม่น้ำก่อนน้องเขาว่ะ// ผมพูดบอกไอ้เธียร
//ไปส์ อย่าเพิ่งบอกบีมน่ะ กูไม่อยากให้เมียกูเครียด คือว่า เออ คือ // ผมต้องชะงัก
//อะไร? // ผมถามไอ้เธียร ตอนนี้เดินเข้าไปในรถเก๋งคันหรูของผม เครื่องแรงมาก
//กูว่าเมียกูท้อง ดังนั้นอย่าเพิ่งบอก กูขอร้องล่ะไอ้ไปส์//
//แต่เขาเพื่อนกันไอ้เธียร!! //
//กูกำลังจะออกนี่ไง ไปแทนเมียกู นะไปส์นะ// เธียรพูดอ้อนผมอีก
//เออๆ กูโทรหาพวกไอ้พีช ไอ้ณัฐก่อนว่ะ แค่นี้น่ะ” ผมบอกก่อนไอ้เธียรก่อนจะสตาร์ทรถ ผมกดโทรหาไอ้พีชก่อน ผมเดาว่ามันต้องอยู่ด้วยกันเมื่อคืนแน่ๆ
// พีช มึงอยู่ไหน//
//อยู่คอนโดดิ พึ่งตื่นมีไรว่ะ//
//งานกูเข้าว่ะ น้องที่อยู่กับกูน่ะ//
(ไอ้ณัฐ มึงจ่ายกูมาเลยหมื่นหนึ่งน่ะ น้องเขาไม่รอด เสร็จไอ้ไปส์แล้ว) (ก็มึงฝากปลาย่างให้ดูแลแมวอย่างไอ้ไปส์ มันก็ต้องแดกปลาย่างดิว่ะ) ไอ้ณัฐ ไอ้สองตัวนี่มันรู้ได้ไงว่ะเนี๊ยะ
//มึงรู้ได้ไง!! //
//แสดงว่าใช่เลย//ไอ้พีช
//แต่ว่างานที่เข้าไม่ใช่เรื่องนี้ น้องเขาหายและกูคิดว่าเขาโดนลักพาตัวไปป่ะ กูจะไปตามว่ะ//
// ใครมาพรากน้องเป็กซ์ไปจากอกมึงว่ะ ไปส์ // ไอ้พีชถามผมได้ตรงใจพี่ไปส์มาก
// แฟนเก่าน้องเขาว่ะ กูค่อนข้างมั่นใจว่ะ//
//เขาอยากได้น้องคืนเหรอว่ะ//
//กูว่าไม่ใช่ว่ะ ถ้าอยากได้คืนมันมาแสดงตัวแล้วไม่ใช่แอบมาลับๆ ล่อๆ แบบนี้และน้องก็หายไปมันก็ขับรถออกพอดี อันนี้รปภ ที่คอนโดกูบอกมาว่ะ//
// เออๆ งั้น กูจะออกไป มึงใกล้ถึงยัง//
//ใกล้แล้วอีกสิบนาที ออกมารอเลย เอาไอแพตมึงออกมาด้วยพีช // ผมบอกไอ้พีช คอนโดไอ้พีชมันไม่ไกลจากคอนโดใหม่ผมมากหนัก ผมก็พยายามกดโทรหาเป็กซ์ ติดแต่ไม่มีคนรับสาย

Rrrrr สายโทรเข้าจากพี่กอล์ฟ ผมรีบกดรับสายทันที
//พี่กอล์ฟ//
//พี่แฮ้กซ์เฟสคนที่เราส่งมาให้ดูแล้วว่ะ ไอ้เชี้ยนี้มันบ้าฟุตบอลมากว่ะ และดูท่ามันจะผีพนันบอลด้วย รูปที่มันถ่ายล่าสุด รถกระบะสีทองว่ะไปส์ พี่เห็นมีรูปหนึ่งมันมีปืนในรถด้วยว่ะ”
//แล้วเด็กมึงที่ว่าหายไปเป็นอะไรกับไอ้นี่ ขอโทษทีว่ะที่ถาม//
//แฟนเก่าพี่ ผมจะแจ้งตำรวจก็จะช้าไปนะพี่//
//เฮ้ย มันมีรูปล่าสุดเมื่อเดือนที่แล้วด้วยว่ะ มันถ่ายที่ชลบุรีว่ะ ไปนั่งร้านอาหารหรูด้วย ที่มันถ่ายมีรูปสะท้อนมีผุ้หญิงนั่งกินข้าวกับมันอยู่ว่ะ แต่เห็นไม่ชัดว่ะ ต้องเข้าไปขยายอีกทีวะ// พี่กอล์ฟบอกผม
//ในอินบ๊อกซ์มันก็ไม่มีอะไรที่จะบอกว่า มันจะวางแผนทำอะไรแบบนี้น่ะ เออ เฮ้ย!! มันคุยกับใครไม่รู้ว่ะแต่ไม่ได้บอกว่าชื่อว่าชื่ออะไร น่าจะแอคเคาท์ปลอม มันบอกไอ้คนนี้ว่าเอาพลั่วมาด้วยมาขุดดิน แต่มันบอกว่ายังเลือกสถานที่ไม่ได้ มันยังคุยกันอีกว่า ถ้าไม่ทำมันกับไอ้เวรนั้นตาย มันพูดแค่นี้ว่ะ//พี่กอล์ฟ
//ถ้าอย่างนั้นแค่นี้ก่อนนะพี่ ผมคุยกับเพื่อนผมก่อน ขอบคุณมากพี่กอล์ฟ//ผมรีบวางสายพี่กอล์ฟ ผมนำรถเข้ามาจอดเห็นได้พีช ไอ้ณัฐ และมีคนขับรถมาจอดอีกคันคือไอ้ราเชนทร์

“เกิดอะไรขึ้นว่ะ ไอ้เธียรบอกว่ามึงงานเข้าและให้กูขับมาที่คอนโดไอ้พีช มีอะไรวะ ไปส์” ราเชนมันถามผม

“น้องคนนี้เป็นเพื่อนบีมและเขารู้ว่าใครคือคนที่จ้างไอ้ผู้จัดการนั้น กูเลยให้เขาไปพักที่คอนโดกู เพื่อความปลอดภัยของน้องเขา” ผมบอกเพื่อนๆ ของผม

“กูว่าไม่ปลอดภัยทางประตูหลังน้องเขาตั้งแต่มาอยู่กับมึงแล้ว” ไอ้ราเชนมันพูด

“เออๆ กูยอมรับ พอใจพวกมึงยัง” ผมพูดกับพวกมัน มันยักไหล่กัน

“แม้ไอ้เชี้ยเล่นน้องเขาเลยนะมึงนะ” ไอ้พีชพูด

“แล้วตกลงนี้น้องเขาหายไปกับแฟนเก่า มึงแน่ใจนะ” ไอ้ณัฐมันถามผม

“กูมั่นใจ รปภ เขาบอกว่ามีรถมาจอดดักรอ กูมันคงมารอหลายวันแล้ว มันไปตามดูน้องตากที่บ้านน้องเขา หลายวันก่อนน้องเขาเอาของไปให้แม่เขามา “ผมพูด

“แล้วมึงจะทำยังไง”

“กูว่ามันต้องไปชลบุรีว่ะ ไทม์ไลน์ล่าสุดมันอยู่ชลบุรี” ผมพูด

“แจ้งตำรวจก่อนไหม ลุงกูเป็นผู้บังคับบัญชาที่ชลบุรี” ไอ้ณัฐพูด

“ตามสัญญาณมือถือไอโฟนก่อน กูตั้งฟายด์มายไอโฟนเอาไว้ กูกลัวมันจะทำอะไรน้องก่อนว่ะ เพราะว่ามันให้เพื่อนมันเอาพลั่วขุดดินมาด้วยว่ะ “ผมพูดก่อนจะโชว์หน้าจอรถที่พี่กอล์ฟส่งมาให้ดู แต่ทะเบียนผมว่ามันอาจจะใช้ทะเบียนปลอมได้ พวกมันพยักหน้า

“นี่มันจะใช้พลั่วนั้นตีหัวน้องเขาให้ตายเหรอวะ โหดสาด!!” ไอ้ณัฐมันพูด

“กูว่ามันคงจะฆ่าและฝังเลย ไอ้สัสนี้” ไอ้ราเชน พูดมันฟังดูยิ่งโหดเข้าไปอีกและทำให้ผมถึงกับต้องกำมัดแน่น

“มึงจะตามสัญญาณไฟด์มายไอโฟนน้องเขาไปเหรอว่ะ มึงตั้งไว้ด้วยเหรอ” ไอ้พีชมันหันมาถามผม ผมพยักหน้าว่าใช่

“มึงนี่แม่งรอบคอบเนอะ ตั้งไฟด์มายไอโฟนให้น้องเขาด้วย เป็นผู้ชายหยุมหยิมกับเขาด้วยเหรอครับ พี่ไปส์ครับ” ไอ้พีชหันมาถามผม

“กูบอกว่าตั้งไว้ เพื่อหนีไป กลัวขโมยอะไรไปน้องมันเลยยอม” ผมพูด พวกมันมองหน้าผมไม่เชื่อ

"เออ กูยอมรับว่า กูตั้งไว้เพราะกูเป็นห่วงเขา "ผมพูดพวกมันถึงได้พยักหน้าพร้อมๆกัน

“เมียมึงให้ตั้งแบบนี้ไหมไอ้ราเชน” ไอ้ณัฐมันหันไปถามไอ้ราเชนไอ้กะล่อนตัวพ่อของกลุ่ม

“กูเหรอจะยอม ของแบบนี้น่ะ ยอมไม่ได้หรอก มันหยามศักดิ์กัน” ไอ้ราเชนพูด

“กูเห็นมันตามมึงไปได้ทุกที สงสัยเมียมึมีดีกว่าไฟไอโฟน กุว่าเมียมึงมีกุมารตามมึงว่ะ ฮาๆ “ไอ้พีชพูด ผมนี้อยากโบกกระบาลมันจริงๆ นอกเรื่อง

“เขาไปหาสัญญาณน้องให้กูก่อน ไอ้พีช อย่านอกเรื่อง!” ผมบอกมัน มันก็ยกนิ้วกลางตอบมาให้ผม

“เจอแล้ว มันเคลื่อนที่ตลอดว่ะ แสดงว่า อยู่บนรถว่ะ นี้กำลังมุ่งหน้าไป น่าจะไปขึ้นทางด่วนว่ะ “ไอ้พีช

“มึงไปกับกูไอ้พีช ไอ้ณัฐมึงขับตามไป โทรบอกให้เธียรด้วย” ผมหันไปชี้หน้าไอ้ณัฐ

“มึงเอารถจอดไว้นี้ไอ้เชนและไปรถกู “ไอ้ณัฐหันไปบอกราเชน

“มึงมารถกูไอ้พีช รถกูแรงกว่ามึง “ผมบอกไอ้พีช มันก็วิ่งมาขึ้นรถผมทันที ผมก็รีบขับออก ระหว่างนั้นก็กดโทรหาเป็กซ์ไปด้วย ผมโทรติดแต่เป็กซ์ไม่รับสาย

“ไอ้ไปส์ มันจะขึ้นทางด่วนพิเศษศรีรัชแล้วว่ะ มันตั้งใจจากกรุงเทพว่ะ”

“มันไปชลบุรีแน่ๆ ตามที่ปู่รหัสกูบอกมา” ผมพูดก่อนจะกดโทรหาเพื่อนผม แอร์พอร์ตที่เสียบหูอยู่

//ณัฐ ไปทางด่วนพิเศษศรีรัช มันน่าจะมุ่งหน้าไปชลบุรีว่ะ” ผมบอกไอ้ณัฐ//
//กูโทรบอกลุงกูให้ว่ะ ลุงกูเป็นผู้บังคับบัญชาสน ชลบุรีว่ะ//
//น้องชื่อจิรายุ น้องหายไปวันนี้วะ ตอนเก้าโมงเช้า// ผมบอกไอ้ณัฐ เพื่อให้ข้อมูลกับณัฐมัน

“ไอ้เธียรมันรู้แล้วว่ะ ว่าเราจะไปไหน มันอ่านข้อความแล้ว” ไอ้พีชหันมาบอกผม ผมพยักหน้า ตอนนี้ผมขับรถแบบแซงตลอด เพื่อจะไปให้ทัน

ตื้ดดดด ผมกดโทรอีกครั้ง คราวนี้มีการกดรับสาย
“เป็กซ์ เป็กซ์ อยู่ไหน” ผมรีบถามทันที
“อืมมมม” เสียงตอบมาเหมือนกับว่าเขาน่าจะโดนมัดปาก และมีเสียงแกร็งๆ เหมือนกับว่าเขาอยู่ด้านหลังน่าจะ หลังกะบะรถ เพราะดูจากรูที่พี่กอล์ฟส่งมาให้ รถมันเปิดท้ายมีฝ่าปิดกระบะ
“เฮ้ย รถหยุดว่ะ แต่มันหยุดบนทางด่วนอยู่ว่ะ” แต่ผมยังไปไม่ถึงทางด่วยเลย ผมก็รีบขับเส้นข้างหน้ารถก็ติด
(พี่ครับ มาด่วนเลยครับ รถผมยางแบน ครับผม ผมจอดอยู่บนทางด่วนเลยพี่)
“เฮ้ย รถมันยางแบนว่ะ แม่งอีกไกลแค่ไหนว่ะไอ้พีช”
“น่าจะชั่วโมงครึ่งได้ว่ะแต่ถ้ารถติดแบบนี้ สองชั่วโมงเถอะวะ” ไอ้พีชพูด
(มึงจะฆ่าน้องมันจริงๆ เหรอวะ) เสียงเพื่อนมันคุยกับไอ้เวรนั้น
(ถ้าไม่ฆ่ามัน อีนั้นบอกเอากูตายอ่ะ กูรักชีวิตกู)
“เชี้ยแล้วมันจะฆ่าเป็กซ์ ไอ้สัสเอ๊ยยย” ผมพูดผมกำปั้นทุบพวกมาลัยรถ ก่อนจะพยายามแทรกรถแม้จะมีบีบแตรด่าบ้าง ผมเข้าคิวจ่ายค่าทางด่วน
(สวัสดีครับ พี่ชื่อเอกครับ ที่รับปะยางนอกสถานที่นะครับ นี่น้องที่โทรไปแจ้งให้มาปะยางหรือเปล่าครับ)
(พี่ปะให้ผมหน่อยผมรีบครับ)

“ไอ้พีช เข้าไปดูดิวว่า เอกรับปะยางนอกสถานที่อ่ะ เบอร์โทรอะไร มึงโทรถามเขาให้ด้วยว่าใครไปป่ะยางให้ไอ้เวรนี้บนทางด่วน” ผมบอกไอ้พีช มันก็รีบค้นหา
//เป็กซ์ พี่กำลังไปนะ พี่จะหาเป็กซ์ เป็กซ์รอพี่น่ะ” ผมพูด ผมก็ยื่นมือไปจ่ายค่าทางด่วนทันทีก่อนจะขับออกมาผมเห็นรถไอ้ณัฐ มันจ่ายค่าทางด่วนแล้วเหมือนกัน ไอ้ราเชนโบกมือให้ผมว่าไปเจอกันข้างหน้า ผมก็ออกรถ
“ไอ้พีช มึงเจอคนที่รับปะยางหรือยัง”
“มีเยอะแยะเลยมึงรับปะยางน่ะ กูโทรให้มึงอยู่นี้ไง เป็นสิบเจ้าเลยมึง “ไอ้พีชบอกผม
(เสร็จแล้วครับ ค่าปะยาง 300 บาท)
(นี่ครับพี่ ขอบคุณครับ)
“เชี้ย มันปะยางเสร็จแล้ว” ผมหันมาพูดกับไอ้พีช
(มีปัญหาอะไรติดต่อประสิทธิ์การยนต์ได้เลยนะครับ ขอบคุณครับ)
“ไอ้พีชประสิทธิ์การยนต์” ผมหันไปบอกไอ้พีช
“กูว่ามึงไปสอบเป็นตำรวจเถอะไอ้เชี้ย และกูน่าจะไปทำงานอยู่หน่วยสืบสวนสอบสวนกับมึง ว่าไหม นี้เร็วกว่าตำรวจอีก “ไอ้พีชพูด

“ไอ้เธียร!! รถไอ้เธียรว่ะ แม่งเร็วโคตรเลยนี้ขับมาเกือบทะลุไมล์เลยมั้ง” ไอ้พีชมันชี้ไปที่รถคันหรูที่ขึ้นมาตีคู่กับรถผม ผมเปิดกระจก ส่งสัญญาณมือว่าไปจอดข้างหน้า มันพยักหน้าและมันก็แซงไปเลย ผมก็แซงซ้ายตามรถไอ้เธียรไปติดจนกระทั่งหาที่จอดได้ ไอ้เธียรมันลงจากรถมา มันถอดเนกไทออก

“มึงรู้เหรอวะว่าใครพาน้องเขาไป “ไอ้เธียรมันลงมาได้มันยิงคำถาม ถามผมทันที

“กูว่าไอ้แฟนเก่าว่ะ” ผมพูดกับไอ้เธียร

“ไอ้ไปส์ กูโทรติดต่อพี่คนที่ไปปะยางไอ้เวรนั้นได้แล้วเขาบอกว่า เขาป่ะยางรถให้มันจริงๆ และเขาก็ได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรดังอยู่ที่กระบะหลังว่ะ แต่เขาไม่กล้าถามมากดูท่ามันจะมีปืน นี้เขาเพิ่งจะโทรไปบอกตำรวจมา แต่รถไอ้เวรนั้นมันออกไปแล้ว “ไอ้พีชบอกผม

“กูบอกลุงกูแล้วว่ะ เขากำลังให้ตำรวจสน. ใกล้ๆ ออกไปตรวจสอบให้ว่ะ “ไอ้ณัฐบอกผม

“เฮ้ย สัญญาณโทรศัพท์หายไปแล้วไอ้ไปส์ นั้นแปลว่ามันรู้แล้วว่า เราตามมันอยู่” ไอ้พีชบอกผม

“แล้วสัญญาณมันหายไปตอนไหนวะ”

“เออนี่มันลงทางด่วนไปแล้วนี่หว่า”

“เฮ้ย!! ไอ้ตรงทางด่วนนี้มัน ที่เราเคงลงผิดปะวะ ที่ว่าจะไปดูไอ้เธียรลงสนามแต่มัวแต่คุยกันอยู่เลยลงไปผิดที่ และตรงนั้นมันมีสนามฟุตบอลร้างอยู่ “ผมได้ยินแบบนี้ ก็รีบหันหลังวิ่งกลับไปขึ้นรถทันที

“อ้าวเฮ้ยย!!” พวกเพื่อนๆ ผมอุทานออกมาพร้อมกันและพากันวิ่งไปขึ้นรถตัวเอง ส่วนไอ้พีชวิ่งตามผมมาขึ้นรถแทบไม่ทัน ผมรีบออกรถไปทันที ผมโทรหาเป็กซ์อีกแต่ว่าคราวนี้ฝากข้อความตลอดแล้ว แสดงว่าไอ้เชี้ยนั้นมันรู้ ว่าผมตามมันอยู่

TBC...

ออฟไลน์ Nattie69

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 777
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ Alessa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
     

          Part’ s เป็กซ์ ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น กำลังโมโหไอ้พี่ไปส์ ก็มันดันพูดเหมือนกับว่าที่มันมีอะไรกับผมเพราะว่ามันอยากให้ผมอ่อนให้มันนี่มันคิดได้แค่นี้จริงๆ ใช่ไหม ไอ้พี่ไปส์ ไอ้พี่บ้า ผมก็ไม่น่าจะไปเผลอมีอะไรกับมันเลย ยอมรับว่า ไอ้จู๋อีพี่ไปส์มันน่าหม่ำอยู่น่ะ แต่มันยังไม่ซวยเท่า ผมเดินมาเจอใครก็ไม่รู้ มันฟาดหัวผมจนสลบ ผมมาฟื้นอีกทีก็อยู่หลังกระบะที่มีฝาปิดมิดชิด ผมเห็นอุปกรณ์สำหรับขุดดิน มือผมก็ถูกมัดเอาไว้ด้วยสายรัดซิลิโคนดิ้นยังไงก็ขาด ปากก็ปิดด้วยสก๊อตซ์เทปกาว ขาก็ถูกหมัดไว้ ดีที่ขยับจนโทรศัพท์ดันออกมาจากกระเป๋ากางเกง ผมพยายามกดรับสายกว่าจะได้ก็เล่นเอาตัวผมกระแทกกับกระบะจนเจ็บไปทั้งตัว แต่ผมก็คุยกับคนปลายสายไม่ได้อยู่ดี เพราะว่าผมถูกปิดปากเอาไว้ด้วยสก๊อตซ์เทปกาว แต่สิ่งที่ทำให้ผมดีใจจนน้ำตาไหลคนที่โทรหาผมคือพี่ไปส์ พี่เขาบอกว่าจะตามผมให้ได้ ผมเชื่อใจพี่เขา ตอนแรกผมคิดว่าพี่เขาไม่สนใจผมหรอก ว่าผมจะหายไปยังไงแต่นี่ผมต้องคิดใหม่ พี่เขาไม่ใช่แบบที่ผมเข้าใจ แต่โชคร้ายตรงที่ใครก็ไม่รู้มันลงจากรถและมันก็เห็นว่ามือถือผมมีคนโทรหาผม มันเลยรีบเอามือถือไปจากผมทันที มันรู้แล้วว่าพี่ไปส์พยายามตามตัวผมอยู่ ป่านนี้มันคงปิดมือถือผมแล้ว

“ปึก” ร่างผมกลิ้งไปกระแทกกับกระบะอีกที คราวนี้แรงกว่าทุกครั้งและเสียงเครื่องยนต์นิ่งแล้วแสดงว่ามันจอดรถแล้ว

“ปัง!! ๆ” ผมก็กระแทกเพื่อให้เกิดเสียงดัง จนกระทั่ง

“ปึก” เสียงเปิดฝ่ากระบะและท้ายกระบะถูกเปิดออกเช่นกัน ผมพยายามจะดันตัวขึ้นนั่งแต่ก็ล้มลงอีก ผมได้เห็นหน้าไอ้คนที่เอาตัวผมมา มันคือไอ้โก้ นี่มันหายหัวไปตั้งแต่ผมต้องใช้หนี่แทนมัน และต้องหักหลังเพื่อนรักเพราะว่าโดนอาจารย์เปรมสินีจับได้ว่าผมมีส่วนเกี่ยวข้องกับการพนันบอล ทั้งที่ผมไม่เคยคิดจะแตะต้องมันเลยแต่นี่ผมดันได้แฟนเชี้ยเลยโดนร่างแหไปกับมัน

“อืมมม ไอ้เอี้ย” ผมพยายามด่าทั้งที่มีสก๊อตซ์เทปปิดปากอยู่

“ปื้ด!!” เสียงดึงสก๊อกเทปที่ปิดปากผมอยู่ถูกดึงออก

“ไอ้เชี้ย ไอ้โก้ มึงจับกูมาทำไม ไอ้สัส! ไอ้ควาย ไอ้เลว ไอ้ชาติหมา!!” ผมด่ามันรัวๆ ทันที

“ปึก”

“อุ๊บ” ผมจุกจนร้องไม่ออกเพราะว่าไอ้พี่โก้ มันลากผมลงมาจากรถกระบะ มันสูงขนาดนี้ พอร่างผมตกกระทบพื้น ผมรู้สึกจุกจนตัวงอร้องไม่ออกเลย

“ก็มึงดันไม่เก็บความลับ เขาบอกให้มึงเก็บความลับก็เสือกเอาไปปล่อย”

“กูบอกเขาแล้วว่าอย่าใช่มึงทำ มึงมันอ่อนไอ้เป็กซ์” พี่โก้พูดแสดงว่ามันรู้เรื่องอาจารย์เปรมสินี

“ไอ้กิต ขุดหลุมดิมึง เอาลึกๆ “ไอ้โก้มันหันไปบอกเพื่อนมัน

“พี่โก้ พี่อย่าทำผมเลย ผมมีแม่ พี่โก้ อย่า” ผมร้องขอพี่โก้ อย่างนั้นผมกับมันก็เคยรักกัน

“กูก็รักชีวิตกูไอ้เป็กซ์ และมึงเสือกทำเมียกูไม่พอใจ” ผมสะบัดหน้ามามองหน้ามัน ใครคือเมียมัน

“ใครว่ะเมียมึง?” ผมเงยหน้าขึ้นมองหน้ามัน

“อาจารย์เปรมสินีนั้นน่ะเมียกู กูมีเงินใช้ทุกวันนี้ก็เพราะว่าเขา มึงมีให้กูปะ ไอ้เชี้ย” ไอ้พี่โก้มันพูดกับผม ผมนี้น้ำตาไหลเลยนี้มันหลอกผมมานานแค่ไหนแล้ว ไอ้หน้าตัวเมีย

“แต่กูใช้หนีให้มึงน่ะ ไอ้เชี้ย” ผมเงยหน้าขึ้นพูดกับมัน

“เงินจากเมียกูอีกที่นี่นะเหรอ ไอ้โง่เอ๊ย” ไอ้โก้พูด มันใช้นิ้วจิ้มหัวผม นี่ผมโดนหลอกเหรอว่ะ
“ไอ้เชี้ยโก้มาช่วยกูขุดดิวะ จะได้เอามันลงหลุมและจะได้กลับกัน เพราะว่าจส. ร้อยเขาประกาศแล้วว่า น้องมันหาย ตำรวจจะแห่กันมา เขากำลังตามสกัดจับมึงกับกูอยู่” เพื่อนมันหันมาบอกไอ้โก้
“ตรงนี้อับสัญญาณ และมันหาไม่ได้หรอก กูปิดมือถือมันไปแล้ว “ไอ้โก้หันไปบอกเพื่อนมัน

“มึงคิดว่าผัวใหม่มึงจะหาเจอเหรอ ฝันไปเถอะ ไปเกิดใหม่แล้วกันน่ะไอ้ตุ๊ดเอ๊ย!” ไอ้โก้มันด่าผม

“แต่มึงก็เอากูไอ้สัส ไอ้หน้าตัวเมีย!” ผมเงยหน้าด่ามัน มันโกรธน่าดู

“ปึก” มันจิกหัวผมจนผมรู้สึกเจ็บที่หนังศีรษะ

“กูอยากลองของแปลกไง แต่กูว่าคนที่ให้เงินกูใช้ดีกว่าว่ะ” ไอ้โก้พูดมันสะบัดผมจนหน้าทิ่มพื้นดิน ผมดิ้นอยากจะต่อยแม่ง แต่ผมโดนหมัดมือมัดเท้าเอาไว้ พี่ไปส์พี่อยู่ไหน เมื่อเช้าผมไม่น่าจะงอนพี่เลย ฮือ ๆ

“อย่าพี่โก้ พี่อย่าทำผม พี่โก้ ผมขอร้อง ปล่อยผมไปเถอะ พี่โก้ พี่โก้” ไอ้พี่โก้แค่หันมามองหน้าผม พวกมันก็ขุดหลุมกันใหญ่เลย น้ำตาผมไหล ผมเป็นห่วงแม่ ผมพยายามดิ้นยังไงก็ไม่ยอมหลุด

“ลึกพอยังว่ะ กูว่าพอแล้ว โยนมันลงมาเลย” ผมก็มองพวกมันสองคนนี่มันจะฝังผมทั้งเป็นจริงๆ เหรอ

“ลงไปนอนให้สงบน่ะเป็กซ์ พี่ขอโทษว่ะ ถ้ามึงเก็บความลับต่อมึงก็ยังมีลมหายใจอยู่ได้แต่นี่มึงรักเพื่อนมากไง เพื่อนแม่งไม่เห็นจะโผ่หัวมาช่วยมึงสักคน ยกโทษให้พี่น่ะ ที่พี่เลือกคนที่ให้เงินพี่ใช้ว่ะ ขอบคุณนะที่ผ่านมาเป๊กซ์” พี่โก้มันพูด ผมอยากจะถุยน้ำลายใส่หน้าแม่งเลย

“มึงเป็นแฟนที่น่ารักน่ะ “รอยยิ้มนี้ รอยยิ้มที่มันเคยยิ้มให้ผมแต่ว่ามันบอกผมอยู่ว่ามันเลือกคนที่ให้เงินมันใช้มากกว่า

“ไอ้เชี้ย!! กูไม่ยกโทษให้มึง!!”

“ปื้ด!” มันปิดปากผมด้วยสก๊อตซ์เทปอีกครั้ง พร้อมกับเอาถุงกระสอบมาครอบผมเอาไว้ น้ำตาผมไหลรินเลยคราวนี้ นี่ผมต้องมาตายแบบนี้จริงๆ เหรอ

“อื้อๆ” ผมร้องไห้

“ตุบ!! “ร่างผมถูกโยนลงไปในหลุมที่มันขุด ผมเองก็ไม่รู้ว่าผมอยู่ที่ไหน ทำไมผมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ทำไม พี่ไปส์ไหนพี่บอกจะหาผมไง

“กลบดินเร็วดิว่ะ” ผมได้ยินพวกมันบอกว่าให้กลบหลุมผมนอนอยู่ น้ำตาก็ยิ่งไหล

“แม่ ช่วยเป็กซ์ด้วย” ผมพูดเบาๆ ในใจ ขณะที่ดินเริ่มลงมาคลุมร่างผมไว้ มันโกยดินลงมาเริ่มจากปลายเท้าผมก่อน ผมเริ่มกระดุกกระดิกไม่ได้

“พี่ไปส์ พี่จะหาผมเจอไหม พี่ไปส์ ฮือๆ” ผมร้องไห้คร่ำครวญดินเริ่มมาคลุมที่ตัวผม และเริ่มมาคลุมที่ช่วงบ่าของผม และเริ่มมาทับที่หัวผม ผมเริ่มรู้สึกอึดอัด หายใจไม่ออก เหมือนอากาศจะค่อยๆ หมดลงไป

“บีมกูขอโทษนะบีม กูขอเกิดมาเป็นเพื่อนมึงอีกนะบีม บอกฟิล์มด้วยกูรักมันไม่น้อยไปกว่ามึงบีม อือๆ” ผมกลับนึกถึงบีมในตอนนี้ ผมเริ่มหายใจไม่ออก เริ่มไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งนั้น ทุกอย่างเริ่มมืดมิด

“อึก!!” เริ่มไม่มีอากาศเพียงพอให้ผมหายใจ ผมหลับตาลง

“เป็กซ์!!” เสียงที่ทำให้ผมพยายามลืมตาในความมืด เสียงพี่ไปส์นี้แต่ว่ามันเบามาก ผมพยายามขยับๆ แต่ว่ามันอึดอัด ผมรู้ว่าเท้าผมเริ่มขยับได้ มีคนกำลังช่วยผมอยู่ แต่อากาศหายใจเริ่มไม่เพียงพอ

“พี่ไปส์ พี่ไปส์” ผมร้องเรียกแต่มันดังอยู่ในใจผมเพราะว่าปากผมขยับไม่ได้ ผมเริ่มขยับช่วงล่างได้บ้าง

“ปื้ด” มีคนงัดผมขึ้นจากกองดินและรีบดึงถุงออกที่ครอบหัวผมออก “ปึด!” พร้อมกับดึงที่ปิดปากผมไว้ออกทันที

“เฮือก!” สิ่งแรกที่ผมทำคือรีบหายใจเฮือกใหญ่ ผมหันมองหน้าคนที่มากอดผมไว้ พี่ไปส์ พี่ไปส์จริงๆ ด้วย

“พี่ไปส์!! ฮือๆๆ มันจะฆ่าผม ฮือๆ มันจะฆ่าผมอ่ะพี่ ฮือๆ “ผมปล่อยโฮทันที

“พี่อยู่นี้แล้วเป็กซ์ พี่อยู่นี้แล้ว ไม่มีใครทำอะไรเป็กซ์แล้ว พี่บอกแล้วไงพี่จะหาเป็กซ์ให้เจอ นี้ไงพี่เจอแล้ว “พี่เขากอดผมและประคองให้ผมนั่ง ผมเห็นพี่เธียรที่นั่งหอบแบบหมดสภาพ นี้เขาช่วยกันขุดผมขึ้นมา มือไม้เลอะไปด้วยขี้ดิน ไม่ต้องถามถึงเสื้อผ้าเลย

“มันจะฆ่าผมอ่ะพี่ไปส์ ฮือๆ ทั้งขอร้องอ้อนวอนมันแล้ว ว่าผมมีแม่ ฮือๆ ” ผมพูดไปร้องไห้ไปด้วย พี่ไปส์กับพี่เธียรพยุงผมขึ้นมา พี่ไปส์ หันไปมองหาว่าอะไรที่จะใช้ตัดที่พันธนาการมือผมไว้

“นี่ว่ะ” พี่เธียรส่งมาให้ เป็นมีดพก

“ปึก” มือของผมเป็นอิสระและเท้าผมด้วย ผมหันมาเห็นรถไอ้พี่โก้มันจอดอยู่ แสดงว่ามันวิ่งหนีไป และเท้าผมก็เป็นอิสระ

“หมับ” ผมกอดพี่ไปส์ไว้แน่นมาก

“จับมันทันไหมวะ” พี่ไปส์ถามพี่เธียร

“ทันว่ะ มาแล้วนั้นไง” พี่เธียรลุกขึ้นยืน ผมเห็นคนที่ลากคอไอ้พี่โก้มา ผมจำเขาได้เขาคือเพื่อนพี่ไปส์ คนที่พาพี่เขามาส่งที่คอนโดวันที่เขาเมา พี่เขาโยนมันลงมากับพื้น

“ตุบ!!” ร่างไอ้พี่โก้กระแทกพื้น ไอ้พี่โก้มันเงยหน้ามองพี่ๆ เขา

“จับได้คนเดียวว่ะ ไอ้เวรนั้นวิ่งออกไปได้ “พี่พีชพูด พี่ไปส์ลุกขึ้น ผมจะคว้าแขนห้ามพี่ไปส์แต่พี่ยกมือขอผมไว้ ก่อนจะเดินไปมองไอ้พี่โก้

“มึงผัวใหม่มันซินะ เป็นไง เมียเก่ากูนะ มันร่านดีใช่ไหมล่ะ ถูกใจมึงดิ!” ไอ้โก้มันพูดว่าผมกับพี่ไปส์ พี่ไปส์หันมามองหน้าผมก่อนจะย่อตัวลง

“หมับ” พี่เขาจับขอเสื้อไอ้พี่โก้ขึ้นมา

“นี้มึงถึงกับต้องฆ่าน้องเขาเลยเหรอว่ะ ไอ้สัส!”

“ต่อให้โมโหแค่ไหนก็ไม่ควรทำปะวะ น้องเขามีพ่อมีแม่ มึงคิดว่าพ่อแม่เขาจะไม่เสียใจเหรอไอ้เชี้ย!!”

“ผลัก!” หนึ่งหมัดเข้าที่ใบหน้าพี่โก้

“น้องเขาต้องดูแลแม่เขา ถ้าเขาตายไปใครจะดูแล ไอ้เลว!!”

“ผลัก” อีกหมัดกระทบหน้าไอ้พี่โก้ เลือดที่สีแดงสดไหลออกมาที่มุมปาก

“มึงไม่มีพ่อแม่หรือไง ลองเป็นมึงดิพ่อแม่มึงก็เสียใจไอ้ควาย!! ผลักๆ” หลายหมัดถูกกระหน่ำลงที่ใบหน้าไอ้พี่โก้ ผมไม่เห็นพวกพี่ๆ เขาห้ามเลย เขายืนมองกันเฉยเลย แต่ผมว่ามันสมควรโดนเพราะว่านี้มันจะฆ่าผมเลยนะ

“แถมน้องมันต้องมาทำเรื่องเชี้ยๆ กับเพื่อนที่น้องเขารักก็เพราะมึงไอ้ น้องเขาต้องใช้หนีแทนมึง ไอ้หน้าตัวเมีย!!”

“ผลักๆๆๆ หลายหมัดที่กระหน่ำตามลงไปอีก

“และอีกอย่าง มึงไม่มีสิทธิ์มาว่าของของกู ไอ้เชี้ย!!” พี่ไปส์ด่าไอ้พี่โก้

“ผลัก ผลัก ผลัก”

“ตอนนี้เขาเป็นของกูแล้วมึงจำใส่หัวมึงไว้ด้วย ผลักๆๆๆๆ” หมัดที่กระทบหน้าไอ้โก้แบบรัวๆ นับไม่ถ้วน

“ถ้าไอ้ไปส์มันของขึ้น นี้ไม่ต้องเข้าไปห้ามเลยนะ “พี่เธียรหันมาบอกผม ก่อนจะหันไปยืนเอาสองมือล้วงกระเป๋ามองไอ้พี่โก้โดนพี่ไปส์ต่อยไม่ยั้ง

“ก็สมควรโดนแล้ว เสือกทำน้องเขาขนาดนี้ นี้แม่งตั้งใจฆ่าเลยด้วย” พี่ณัฐพูดอีกคน

“เอาให้เต็มที่ไปเลยครับพี่ไปส์ครับ ก่อนที่พ่อจะมาถึง เอาเลยครับ พวกผมมีเวลานั่งดูครับ “พี่พีชพูดก่อนจะนั่งยอง ๆ ดู พี่ไปส์ก็กระหน่ำต่อยจนเลือดกบหน้าพี่โก้ กำปั้นพี่ไปส์แดงฉานไปด้วยเลือด พี่เธียรเดินออกไปตอนไหนไม่รู้ มารู้อีกทีพี่เขาเดินกลับมาพร้อมกับขวดน้ำเปล่า

“ดื่มน้ำหน่อยครับเป็กซ์” พี่เธียรส่งขวดน้ำที่เปิดฝามาให้ผมแล้ว ผมรับมาดื่ม ผมได้ยินเสียงรถตำรวจแล่นมาจอดรอบนอก

“ไอ้ไปส์ พอๆ ตำรวจมา พอก่อนว่ะ” พี่ณัฐลงไปห้ามพี่ไปส์ ผมเห็นบุคคลในเครื่องแบบเดินมาสองสามนายและนอกเครื่องแบบอีก เขามองมาที่ผมและหลุมที่ถูกขุดกระจุยกระจายเอาไว้ เขามองไปรอบๆ จนไปหยุดที่พี่โก้ สภาพที่ใบมีแต่เลือด

“ไอ้เวรนี้มันฝังน้องเขาทั้งเป็นเลยครับคุณตำรวจ” พี่ราเชนหันไปบอกพี่เขา เขามองมาที่ผม ผมพยักหน้าว่าใช่

“แล้วไอ้คนที่วิ่งหนีเตลิดออกไป พวกเห็นมีพิรุธเลยจับเอาไว้ก่อน” คุณตำรวจพูด

“เพื่อนมันครับ มันรวมหัวกันจะฆ่าน้องเขาครับ “พี่พีชพูด

“พวกผมมาถึงกำลังกบดินใส่น้องเขาอย่างดีเลยครับ ดีที่เพื่อนผมช่วยกันขุดเอาน้องขึ้นมาได้ทัน เกือบตายแล้วครับคุณตำรวจ “พี่เธียรพูด

“ถ้ามาช้าสักสิบนาที ตายแล้วครับ” พี่ราเชนพูด พี่ไปส์เดินมาประคองผม ผมก้มลงมองมือที่ต่อยหน้าไอ้พี่โก้ เลือดแดงไปหมดพี่เขาคงเจ็บมือบ้างแหละ ผมจับมือนั้นมามอง

“เจ็บไหมพี่ไปส์” ผมถามพี่ไปส์ พี่เขาสั่นหัวเบาๆ

“พวกผมลงมาแล้วแต่ไม่คิดว่าจะมีคนเข้ามาในนี้เลย ขับเลยไปดูตรงโน้นแทนนะครับและด้านหน้าประตูถูกใส่กุญแจล๊อกเอาไว้ กว่าจะหาทางเข้าเจอ ก็ขับวนหาอยู่หลายรอบเลย” คุณตำรวจพูด

“ผมขับวนหาและไปเห็นรอยล้อรถของพวกมัน ตรงกอหญ้าด้านหลังนะครับ พวกผมเลยขับตามเข้ามากันครับ” พี่พีชพูด

“สงสัยต้องให้คนมาตรวจสอบที่นี้บ้าง อาจจะมีการกระทำแบบนี้อีก ที่ตรงนี้รกร้างมาหลายปี ผมต้องชื่นชมในความกล้าพวกคุณนะ และนี้มาเร็วกว่าตำรวจท้องที่ซะอีก “คุณตำรวจกล่าวชมพวกผม

“พอดีผมตั้งไฟด์มายไอโฟนไว้ที่มือถือน้องเขาน่ะครับ เลยตามได้ ตอนที่ผมพยายามโทรหาน้องเขา น้องเขากดรับสาย จังหวะที่ไอ้เวรนี้ยางแบน ผมเลยได้ยินมันคุยกับคนปะยางครับ เพื่อนผมเลยโทรหา พี่เขาบอกว่าพี่เขาก็เห็นอะไรผิดปกติตรงกระบะหลังแต่ไม่กล้าถามเพราะว่าไอ้นี่มีปืน” พี่ไปส์พูดผมหันมามองพี่เขา ตอนแรกนึกว่าตั้งไว้เพราะเขากลัวผมขโมยของในห้องเขาหนี ผมนี้โคตรเคืองพี่มันเลย เหมือนมันคิดว่าผมอยากได้เงินมันมากแต่ที่ไหนได้มันกลับมาช่วยชีวิตผมเอาไว้ พี่เขาเอามือลูบหัวผมเบาๆ

“จ่าครับ เดี๋ยวค้นรถคนร้ายเลยครับดูว่ามีอาวุธอะไรในรถบ้าง” คุณตำรวจหันพูดกับตำรวจอีกนายหนึ่ง และนายตำรวจท่านนั้นก็หยิบปืนออกมาสองกระบอก โชคดีแค่ไหนที่มันไม่ได้เอาออกมายิ่งพวกพี่เขาน่ะ

“ข้อหาที่ได้แน่ๆ คือ มีอาวุธปืนในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” คุณตำรวจหันมาบอกไอ้โก้ ทั้งที่ไอ้โก้มันก็เคยโดนมาแล้วรอบหนึ่งมีปืนในครอบครอง ให้พ่อแม่ว่าเต้นน่าดูเสียไปหลายแสนบาท

“ผมว่าพาน้องไปโรงพยาบาลก่อนไหมครับ รถโรงพยาบาลมาแล้วครับ” คุณตำรวจหันมาบอกพี่ไปส์ พี่เขาพยักหน้าก่อนจะพยุงผมขึ้น ผมแทบจะไม่มีแรงเดินเลย

“พี่อุ้มดีกว่า” พี่ไปส์บอกผมก่อนจะพยายามอุ้มผมขึ้น ผมสั่นหัวว่าผมเดินได้ให้พี่เขาประคองก็พอ พี่ไปส์หันไปมองไอ้โก้ ผมหันไปมองหน้ามันก่อนจะ

“ถุ๋ย!!” ผมถุ๋ยน้ำลายใส่หน้ามัน ไอ้เชี้ยโก้ มันหลอกผมมาตั้งนาน ที่แท้มันเป็นผัวอาจารย์ไอ้สัสเอ๊ย

“ไอ้เชี้ย!!!” ไอ้โก้มันด่าผม มันทำท่าจะลุกมาทั้งที่มันถูกใส่กุญแจมือไว้แท้ๆ

“อ้าวไอ้นี้ ใส่กุญแจมือแล้วยังซ่าอีก หน้าบวมขนาดไม่มีที่ลง มึงยังอยากจะโดนอีกเหรอ”นายตำรวจอีกนายที่ยืนอยู่กดมันลงให้นอนราบ ไอ้โก้มันยังมองจ้องพวกผมเขม็ง

“มึงลองลุกมา มึงเจออีก” มีไปส์ชี้หน้ามันเอาไว้ สายตาไม่ได้เกรงกลัวมันเลยสักนิด เป็นไงล่ะผมว่ามันเจอคนจริงแล้วแหละ

“ทำไมมึงไม่จบใช่ปะ ถ้ามึงไม่ได้เข้าคุก มึงเจอกูแน่ และถ้ามึงเข้าคุกแล้วออกมายังไม่จบ มึงก็เจอกูอีก มึงมองหน้ากูไว้ จำหน้ากูไว้เลย จำชื่อกูไว้ด้วย กูไปส์ มึงจำไว้เลย!! ถ้ามึงอยากลองดีกับกู! “พี่ไปส์พูดพร้อมกับชี้หน้ามัน นาทีนี้พี่ไปส์โคตรเท่สำหรับผมเลย ผมแตะแขนพี่ไปส์ว่าพอแล้ว พี่เขาก็ะพยุงผมออกไป พวกพี่ๆ เขาหันมายักไหล่ใส่กันแค่นั้น

“เห็นพี่ไปส์แบบนี้เวลาโหด โหดจนพวกพี่ไม่กล้าห้ามมันเลยน่ะ เพราะว่าพี่แกสายวิศวฯ” พี่พีชหันมากระซิบบอกผม ผมพยักหน้าว่าเชื่อแล้ว พี่เขาพยุงผมออกมา ผมก็เห็นพี่เจ้าหน้าที่ทีมกู้ชีพ พี่เขากำลังเข็นรถเข้าไปแต่ผมออกมาด้านนอกซะก่อน และพี่ไปส์ก็พยุงผมขึ้นไปนอนบนเตียงคนไข้

“ไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดก่อนไหมคะ “พี่เขาถามพี่ไปส์พยักหน้า

“น้องเขาปลอดภัยแล้วเจ๊ ไปรับบีมให้หน่อยนะเจ๊นะ อย่าบอกนะ ว่าเพื่อนเขาเกือบถูกฆ่าปิดปาก จะไปที่โรงพยาบาลที่ใกล้ๆ ก่อน อืมมม แค่นี้ รักเจ๊” พี่เธียรกดวางสายพอดี ก่อนจะเดินมาหาผม

“พี่ยังไม่ได้บอกบีม เพราะว่าบีมเขา พี่กลัวบีมเครียด บีมเขากำลังจะ มีน้องพี่คิดว่านะ” พี่เธียรบอกผม ผมพยักหน้าว่าผมเข้าใจ

“กู้ให้เจ๊ธามไปรับเมียแทนกู นี้เราไปโรงพยาบาลกันเลยใช่ไหมว่ะ” พี่เธียรหันมาถามพี่ไปส์

“ไอ้พีช ขับรถกูไป “พี่ไปส์หันไปบอกเขาก่อนจะเดินมาจับมือผม

“พี่จะไปกับเป็กซ์” พี่ไปส์บอกผม ผมยิ้มให้พี่เขา พี่เขากุมมือผมไว้ด้วยและพี่เจ้าหน้าที่เขาก็มาพาผมเข้าในรถพยาบาล เขาก็เช็กทุกเบื้องต้น ก่อนจะเอาออกซิเจนมาใส่ครอบให้ผม คงเป็นเพราะว่าผมเกือบจะขาดอากาศหายใจ พี่ไปส์นั่งใกล้ๆ ผม

“พี่ไปส์ พี่รู้ได้ยังงว่าผมอยู่ที่นัน” ผมพูดกับพี่ไปส์

“พี่ให้รุ่นพี่ที่เรียนวิศวะคอมพิวเตอร์ เขาเป็นปู่รหัสของพี่ เซียนเรื่องแฮ็กข้อมูลเลย เข้าไปแฮ็กเฟสบุ๊กไอ้โก้นี้ ถึงได้รู้ว่ามันบ้าฟุตบอลมาก และสัญญาณเราก็หายไปตรงทางแยก”

“พวกพี่เคยมาหลงตรงแยกนี้กัน ขับวนไปวนมาเพื่อหาทางออกแต่ดันไปเจอ สนามฟุตบอลร้างที่เจ้าของเขาปิดตายไปหลายปี”

“พอสัญญาณเราหายไปแถวนี้ พวกพี่คิดถึงตรงนี้เลย พี่คิดว่าไอ้นี่มันบ้าฟุตบอลมันน่าจะพาเรามาที่นี้แต่ไม่คิดว่ามันจะทำเราแบบนี้” พี่ไปส์พูดเขาเอามือลูบหัวผมไปด้วย แววตาของพี่เขามันไม่เหมือนทุกครั้ง

“มันรักฟุตบอลมากมันเลยคิดจะฝังผมไว้ที่สนามฟุตบอลร้างแทนเหรอพี่ ฟังแล้วดูดีเนอะ” ผมถามพี่ไปส์ พี่เขาเกาหัวเล็กน้อย

“โอ๊ย!” พี่เขาดีปลายจมูกผมหนี่งที ผมรีบเอามือกุมปลายจมูกผมทันที “คิดได้ไงเนี๊ยะ!” พี่ไปส์ถามผมปนหัวเราะ

“แต่ ผมขอบคุณนะครับพี่ไปส์ ที่หาผมเจออย่างที่พี่บอกผม ผมโคตรดีใจน้ำตาไหลเลยตอนที่พี่โทรหาผม ตอนที่ผมอยู่ในหลังรถกระบะ อย่างน้อยมันทำให้ผม อยากจะมีมีชีวิตรอดให้ได้ “ผมพูดขอบคุณพี่เขาอีกครั้งน้ำตาผมไหล พี่เขาปาดน้ำตา

“หายโกรธพี่แล้วใช่ไหม พี่ขอโทษ พี่ไม่ตั้งใจพูดแบบนั้น พี่หมายถึงว่า เราน่ารักกับพี่ขึ้นน่ะ แต่พี่อาจจะปากเสียไปหน่อย หายโกรธพี่นะเป็กซ์” พี่ไปส์พูดอ้อนผม ผมมองเขาไม่น่าเชื่อเลยคนที่กวนผมจนผมไม่อยากญาติดีด้วยแต่กลับช่วยผมทุกอย่างแม้กระทั่งช่วยชีวิตผมไว้

“ผมขอโทษพี่ไปส์ อันที่จริงมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ผมควรจะมาคิดเล็กคิดน้อยเลย” ผมพูดกับพี่ไปส์

“ตกลงหายโกรธพี่แล้วใช่ไหมครับ” พี่ไปส์ถามผมอีกครั้ง

“พี่ว่าหายเถอะค่ะ ไปช่วยขนาดนี้แล้ว อิจฉาเลย” ผมลืมไปเลยว่าพี่พยาบาลเขานั่งมาด้วยในรถ

“อยากมีโมเม้นแบบนี้จังเลยอ่ะ จ้างคนมาชุดพี่ไปและโทรหาสามีพี่ซิมันจะมาไหม” พี่พยาบาลเขาแซวกับพี่อีกคนที่นั่งอยู่ด้านหน้า

“ผมว่าไม่ครับ” พี่คนขับรถรีบตอบแทน

“ทำไมล่ะ” พี่เขาหันหลังไปถาม

“ผมว่าสามีพี่อาจจะปิดซอยเลี้ยงฉลองแทนครับ แถมยังประกาศโสดทันทีเลยพี่ ส่วนพี่นี้ผมเดาว่าคงนอนอืดแทนนะพี่นะ ไม่น่าจะมีพระเอกขี่ม้าขาวเหมือนน้องเขาแน่ๆ อย่าเสี่ยงเลยพี่” พี่คนขับรถพูด

“อุ๊ยตายแล้ว!! พูดซะเห็นภาพเชียว” พี่เขาพูดปนหัวเราะ

“แฟนน่ารักน่ะ อย่างอนกันอีกล่ะ รักนานๆ และคนรักก็แบบนี้แหละ มีตีบ้าง งอนกันบ้าง ก็เหมือนไอ้แก่ของพี่นะคะ ทะเลาะกันตีกัน แต่ก็ยังเป็นห่วงกันอยู่ดี ว่าแล้วก็โทรหาไอ้แก่ก่อนจะกินอะไรดี “พี่เขาพูดก่อนจะหยิบมือถือมาโทรหาแฟนเขาเหมือนกัน ผมหันมามองพี่ไปส์ ผมเองยังไม่รู้เลยว่าผมเป็นอะไรกับพี่เขา พี่ไปส์เอามือลูบหัวผมเบาๆ จนกระทั่งรถแล่นมาจอดที่โรงพยาบาลและผมก็ถูกพาเข้าไปในห้องฉุกเฉินทันที

TBC…



ออฟไลน์ Nattie69

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 777
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ johnsonti

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1

ออฟไลน์ Alessa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
EP.33.1 (พี่ไปส์Xเป็กซ)กว่าจะเข้าใจ(ครึ่งหลัง) P1

         Part’ s พี่ไปส์ ผมมากับรถโรงพยาบาลที่ใกล้กับที่เกิดเหตุ ตอนนี้เป็กซ์อยู่ในห้องฉุกเฉิน ผมนั่งรออยู่ที่หน้าห้อง ผมรอหมอจะว่ายังไง ถ้าต้องให้น้องเขานอนโรงพยาบาลผมว่าจะให้ย้ายไปโรงพยาบาลเอกชน พวกเพื่อนๆ ผมเดินเข้ามากันแล้ว ผมเห็นตำรวจคุมตัวไอ้คู่อริมาด้วย มันคงต้องมาทำแผลก่อน ผมหันไปมองหน้ามัน

“อ้าว! รีบๆ เดินเข้าไปเดี๋ยวมึงก็โดนอีกหรอก” พี่ตำรวจเขารู้เลยดันตัวมันเข้าไปซะก่อน

“มึงแม่งจัดมันซะหนักเลยนะไอ้โหดสาด!!” ไอ้พีชมันหันมาแซวผม

Rrrrr เบอร์ไอ้ปาร์ค น้องชายผม ผมเหลือบมองนาฬิกาข้อมือมันเลิกเรียนแล้วนี่หว่า

//ปาร์ค ว่าไง//
//เฮีย เฮียไม่มารับผมเหรอ//
//ปาร์ค นั่งแท็กซี่กลับเองได้ไหม เฮียมีเรื่อง//ผมบอกน้องชายผม
//ใครอ่ะเฮีย หรือว่าเฮีย//
//ไม่ใช่เฮีย แต่เป็น เออ เป็น แฟนเฮีย// ผมพูด
(เฮ้ยย เขาใช้คำว่าแฟนกันแล้วว่ะ) มีเสียงกระซิบจากไอ้คนนั่งข้างๆ ผม ที่หันไปพูดกับเพื่อนๆ ผม
(มันมาไกลกว่าคำว่าแฟนแล้วครับเพราะว่าเอาเขาแล้ว เมียเถอะครับมึงครับ) ไอ้ราเชนพูด ผมหันไปยกนิ้วกลางให้มัน
//นะปาร์ค เฮียขอโทษทีไปรับไม่ได้ กลับไปแล้วจะเอาเงินค่ารถแท็กซี่คืนให้ //
//โอเคๆ ไม่เอาเงินได้ปะเฮีย โหลดเกมส์ใหม่ให้หน่อยน่ะ ขอเล่นคอมฯ ในห้องนอนเฮียด้วย เครื่องมันแรงกว่าของผม //ปาร์คพูด
//เออๆ เฮียทำให้ ก็รู้ว่าป๊าด่ายังให้เฮียโหลดให้อีก//
//เรียนก็เครียดแล้วขอ ปลดปล่อยหน่อยเฮีย//
//แค่นี้ก่อนน่ะ ปาร์ค ถึงบ้านแล้วส่งข้อความบอกเฮียด้วย เฮียเป็นห่วง” ผมพูดก่อนจะว่างสายจากน้องชายคนเล็ก ผมลุกขึ้น ผมเห็นหมอเดินออกมา

“สวัสดีครับ ผมเป็น เออ เป็น แฟนน้องที่ถูกส่งมากับรถพยาบาลนะครับ ที่โดนทำร้ายร่างกายนะครับ” ผมบอกคุณหมอ

“สวัสดีค่ะ น้องที่ว่าโดนคนร้ายจับฝังลงไปในดินใช่ไหมคะ ตอนนี้น้องปลอดภัยแล้วนะคะ แต่ว่าอยากจะให้อยู่โรงพยาบาลสักคืน หรืออาจจะต้องได้รับยาฆ่าเชื้อไว้ก่อนเพราะเราไม่รู้ว่าดินตรงนั้นมีเชื้อโรคอะไรหรือเปล่านะคะ” คุณหมอพูดกับผม

“ได้ครับ แต่ผมอยากจะให้ส่งน้องเข้าไปที่กรุงเทพได้ไหมครับเป็นโรงพยาบาลแฟนของอี๊ผมเองนะครับ นพ.ภาสกร ธนเกียรติโกศล” ผมบอกคุณหมอเขารู้จักแน่นอน

“ค่าใช้จ่ายทุกอย่างผมรับผิดชอบหมดครับ” ผมบอกคุณหมอ คุณหมอยิ้มให้ผม ก่อนจะหันไปพยักหน้ากับพยาบาลที่ยืนใกล้ๆ

“ได้ค่ะ เดี๋ยวหมอจะออกไปรีเฟอร์คนไข้ให้นะคะ โรงพยาบาลอะไรบอกมาได้เลยค่ะ ทางเราจะได้ติดต่อโรงพยาบาลและคุยกับแพทย์ที่จะดูแลน้องเขาต่อให้ค่ะ” คุณหมอพูด ผมรีบยกมือไหว้ขอบคุณ

“ตอนนี้ให้น้องถูกส่งไปเอกซเรย์ปอดก่อนนะคะและรอผลเลือด แล้วทางเราถึงจะรีเฟอร์แฟนของคุณไปโรงพยาบาลที่คุณแจ้งไว้ให้ค่ะ” คุณหมอหันมาบอกผม ผมพยักหน้า ก่อนจะเดินกลับมานั่ง ผมกดโทรศัพท์ โทรหาพี่หมอภีมปภพ แม่พี่หมอภีมเขาเป็นพี่สาวแม่ผมแต่งงานกับลุงหมอ ไอ้เธียรมันก็รู้ แต่ว่าผมเองไม่ค่อย แทบจะไม่ป่วยเลย เลยไม่ค่อยได้ไปหานอกจากตรุษจีน ปีใหม่

//สวัสดีครับ//
//เฮียภีม//ผมจะเรียกเฮีย แต่จริงๆ พี่หมอภีมเขาเป็นลูกครึ่งป้าผมเป็นจีนแต่ลุงผมน่ะไทยแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์
//ไปส์เหรอ ว่าไง// หมอภีมรู้ทันทีว่าเป็นผม เพราะว่ามีแค่ครอบครัวทางแม่ผมที่เรียกหมอภีมว่าเฮียเท่านั้น
// เฮีย ผมจะรีเฟอร์แฟนผมไปที่นั่นน่ะเฮีย//
//แฟนเป็นอะไรไปล่ะไปส์//
//เดี๋ยวคุณหมอเขาโทรคุยกับเฮียครับ ผมแจ้งคุณหมอไว้แล้วครับ//
(คุณหมอค่ะมีสายด่วนจาก รพ.XXXXXจะขอรีเฟอร์คนไข้ชื่อจิรายุ)
//เฮีย คนนี้แหละแฟนผม นะเฮีย//
//เดี๋ยวเฮียคุยกับคุณหมอเขาก่อนแล้วกันนะ เฮียดูห้องพิเศษไว้ให้แล้วด้วย//
//ขอบคุณครับเฮีย// ผมพูดหมอภีมปภพก็วางสายไปทันที ไอ้เธียรมันเปลี่ยนชุดแล้ว มันยืนเอากอดอกมองผมอยู่

“ไงว่ะ ตกลงมึงกับน้องเขา” ไอ้เธียรมันถามผม ผมหันมามองหน้ามัน

“เออ กูยอมรับว่ากู กับน้องเขามีอะไรกันแล้ว “ผมบอกไอ้เธียร

“กูว่ากู กูชอบน้องเขาว่ะ คือน้องเขาอยู่ห้องกูไม่ได้อยู่เฉยๆน่ะ ซักผ้ารีดผ้า ทำความสะอาดห้องให้ด้วย แถมน้องเขายังทำขนมอะไรเอาไว้ให้อีก คือกูไปรอรับไอ้ปาร์คไง ก็ขึ้นไปกินขนมบ้างอะไรแบบนี้” ผมพูดกับมันแอบเขินด้วย ไอ้เธียรมันกลั้นหัวเราะผมอยู่

“พอแล้วไอ้เชี้ย” ผมหันไปด่ามัน

“กูว่ามึงชอบน้องเขาเพราะว่าน้องเขามีฟันกระต่ายใช่ปะว่ะ” ผมหันมามอง ผมพยักหน้าว่าใช่ ผมชอบคนมีฟันกระต่ายมาตั้งนานแล้ว ไม่รู้ผมเหมือนเคยเจอคนที่มีฟันกระต่ายแต่ผมจำไม่ได้ และนี่คือจุดเริ่มต้นถ้าผมเห็นคนมีฟันกระต่ายแล้วผมใจสั่นทันที

“ไอ้เธียร เจ๊มึงมาว่ะ” ไอ้ราเชนเรียกไอ้เธียร เฮียธามพี่ชายมันแต่พวกผมรู้กันหมดว่าเป็นเจ๊ เคยไปเจอเจ๊ะแกในผับ ผับประจำที่ไปคือผับเฮียธันผม เป็นลูกของกู๋ผม เฮียธีมก็เป็นเพื่อนกับปุ่รหัสผมอีกที เจ๊ธามเขาคือเลดี้กาก้าสองที่ทุกคนตั้งฉายา เจ๊ะแกแต่งหน้าซะพวกผมจำไม่ได้เลย เป็นผู้หญิงไปเลยแหละ

“เจ๊มาทำไมนะ” ไอ้เธียรมันถามเฮีย

“กูไม่ได้มาคนเดียวไอ้ตี๋น้อยเพราะว่าตอนที่มึงโทรหากูนะ กูเปิดลำโพง และเมียมึงอยู่ข้างๆ กู กูก็ไม่กล้าปิดเลยต้องให้เมียมึงฟังไปด้วยกันความลับมึงน่ะ” เฮียธามพูด

“เฮ้ยเจ๊!! งั้นเมียผมก็รู้ดิ” ไอ้เธียรมันตกใจมาก

“นั้นไงมาแล้วไอ้เธียร แม่มึงน่ะ” พวกมันพูดเป็นเสียงเดียวกันหมด ผมหันไปมองบีมเดินอุ้มลูกมาอย่างเร็ว ไอ้เธียรกุมขมับเลย

“เวรแล้วกู ดูหน้าเมียกูดิ ใครเผาบ้านเมียกูแน่ๆ “ไอ้เธียรพูด บีมเดินมาถึง เอาลูกเข้าเอว

“ทำไมพี่ไม่บอกผมว่าเพื่อนผมโดนทำร้าย! พี่เธียร!!” น้องบีมพูด

“บีมใจเย็นๆ คือที่ไอ้เธียรมันไม่บอกเพราะว่ามันเป็นห่วงบีมและพี่ก็คิดว่าพวกผมจัดการกันได้ “ผมรีบลุกขึ้นบอกบีม บีมหันขวับมามองหน้าผม

“แล้วเพื่อนผมไปโดนตอนไหนอ่ะ ไอ้โก้มันไปลักพาตัวเพื่อนผมได้ไงอ่ะ” บีมหันมาถามผม

“เมียจ๋า ที่นี้โรงพยาบาล อย่าเสียงดัง” ไอ้เธียรพูดกับบีม

“งั้น เราไปหาที่สงบคุยกันไหมครับ คุณเธียรวิชย์”

“อู้ยย มาเต็มๆ คุณเธียรวิชย์ ดีไม่พ้วงนามสกุลมาด้วย สงสัยงานนี้เธียรโดนจัดหนักว่ะ” ไอ้ณัฐพูด มันให้กำลังใจเพื่อนมันดีมาก

“เฮียธามครับ ผมฝากลูกโซ่แป๊บหนึ่งนะครับ ผมไม่อยากให้ลูกเห็น เดี๋ยวลูกผมเอาแบบอย่าง” บีมพูด ก่อนจะส่งลูกโซ่ไปให้เฮียธามอุ้ม

“เป็นความคิดที่ดีม๊า เราไม่ควรให้ลูกดู….โอ๊ย!!!!” และบีมก็รีบดึงหูไอ้เธียรออกไปทันทีแถมมีคนโบกมือบาย บายป๊ามันเองด้วย

“ลูกดีดี้ ไม่คิดจะช่วยป๊าบ้างเหรอลูก” เจ๊ธามถามเด็กน้อย “อ้าห์ ป๊าๆ “ผมสะบัดหน้าไปมองกางมือกางไม้คุยขนาดนี้

“ป๊ามันสมควรโดน เริศมากค่ะลูก!! คิดถูกแล้วที่หนูเลือกอยู่ฝั่งม๊าค่ะลูก” พวกผมสะบัดไปมองเจ๊ะเข้าใจได้ไง ภาษาเด็กน้อย

“โอ้วว!! หลานเจ๊ นี้เขามาจากดาวอะไรอ่ะครับ ผมจะได้ถามอากู๋แปลให้ครับ ดูแล้วไม่น่าจะใช้ภาษามนุษย์” ไอ้พีช

“ภาษาเทพ ต้องคนใกล้ชิดถึงจะเข้าใจค่ะมึงคะ ไม่ต้องไปถามอากู๋ เพราะว่ากูเกิลโฮมที่บ้านยังฟังหลานกูไม่รู้เรื่องเลยค่ะ” เจ๊ธามหันมาพูด

“เออไอ้เธียร!!! ให้เจ๊ ไปยื่นเรื่องทำประวัติคนไข้รอไหม เพื่อมึงต้องนอนโรงพยาบาล” เฮียธามตะโกนไปถาม

“ไม่ต้อง แค่ไปคุยกันเบาๆ จริงๆ “ไอ้เธียรมันโผ่มาจากมุมตึกตะโกนตอบกลับเฮียธามแต่ไม่ดังมาก

“เอานี่ เอาลูกเพื่อนมึงไปอุ้มกันบ้างดิ “เฮียธามหันมาส่งลูกชายไอ้เธียรให้พวกผม ผมเองก็ยังไม่เคยมีลูก อุ้มไม่เป็นโบกมือให้ผ่านไปก่อน ไอ้ณัฐกับไอ้พีช มันมองหน้ากันและกันใครจะเป็นหน่วยกล้าตาย

“ให้ไอ้ราเชนมันอุ้มเลยเฮีย เมียมันอาจจะท้องเร็วๆ “ไอ้พีชมันบอกไอ้ราเชนมันชี้ตัวมันเอง เฮียรีบอุ้มไปยืนให้ไอ้ราเชนทันที มันทำหน้าตกใจ

“อ้าวรับไปซิมึงค่ะ เมียท้องขึ้นมาไม่จะได้มีความพร้อม หลานเจ๊น่ารัก เหมือนตุ๊กตาเฟอร์บี้เลยค่ะมึง รับไปซิ!!” ไอ้ราเชนมันหันมามองพวกผม มันก็รับหลานไปอุ้มแบบกล้าๆ กลัวๆ ดูมันอุ้มหลานและยื่นไว้ตรงหน้า หลานมันก็ดิ้นแด้วๆ

“มึงอุ้มไปก่อนน่ะ เฮียจะไปรับสายเฮียธันมันก่อน มันบอกจะพาเพื่อนน้องเขามาด้วย” เฮียธามพูดและรีบเดินไปหาที่คุย

“นี่มึงอุ้มหลานยังไงของมึงเนี๊ยะ” ไอ้ณัฐมันถามไอ้ราเชน

“เออ ไอ้เชี้ย หลานนะมึง แม้อุ้มเหมือนตัวอะไรเลย อุ้มดีดีดิว่ะ” ไอ้พีชหันไปถามไอ้ราเชน

“อุ้มแนบอกดิครับมึงครับ “ไอ้พีชมองไอ้ราเชน มันหันมามองหน้าพวกผม

“กูกลัวหลานมันจะเล่นจุกนมกู ดูจากท่ากัดหัวนมหลอกของหลานกูซะก่อน ทั้งกัดทั้งดึงขนาดนี้ เห็นแล้วเสียวเลย ไม่ใช่เสียวซ่านนะแต่เสียวว่าจะโดนกัดขาด น่ากลัวว่ะ!!!” ไอ้ราเชนพูด ผมก็ว่าเห็นด้วยเลย ทั้งกัดทั้งดึงขนาดนั้น จุ๊กนมหลอกเขาน่ะ

“และที่กลัวมากคือ ไม่รู้จะขวนหน้ากูหรือไม่ก็กัดหูกูเอาว่ะ” ไอ้ราเชนพูดกับเด็กน้อยดิ้นแด้วๆ อยู่กลางอากาศ

“หนูพันธุ์อะไรลูก ลุงจะได้บอกหมอถูก ถ้าหนูเกิดกัดลุงขึ้นและเขาจะได้ไปหาเซรุ่มมาฉีดรักษาลุงทัน ดูท่าจะดุไม่ใช่น้อยน่ะสังเกตจากหางตา เอาเรื่องว่ะ โงวเฮ้งหนูดีมากเลยลูก ดูท่าจะดื้อไม่เบาด้วย มีครบหมดมั้งเนี่ย” ไอ้ราเชนมันพูดกับเด็กน้อย

“พวกมึงคิดว่าหลานเราพันธุ์อะไรว่ะ ร๊อตไวเลอร์ไหมว่ะ” ไอ้ราเชนหันมาถามพวกผม

“ไอ้เชี้ย!!” พวกผมหันไปด่ามัน

“อุ้มลูกเขาดีดีไอ้เชน อุ้มไม่เป็นเอามานี่” ไอ้พีชมันหันมาว่ามัน ก่อนจะหันมาอุ้มหลานแทน ไอ้พีชมันมีหลานแล้ว ลูกพี่ชายมันมันเลยอุ้มเด็กเป็นไง

“มิน่าล่ะไม่ต้องสืบให้ยากเลยว่าใครพ่อเด็ก ถอดไอ้เธียรแบบชนิดที่เรียกว่าฝาแฝดกันเลย” ไอ้ณัฐพูด ผมพยักหน้าว่าเห็นด้วยว่ะ

“เฮ้ยๆ คู่อริออกมาแล้วว่ะ” ไอ้ราเชนพูดผมหันไปมอง ไอ้โก้มันกำลังเดินคุมตัวออกมาจากห้องพยาบาล มันมองหน้าผม

“ไอ้ณัฐลุงมึงมาว่ะ” ไอ้ราเชนมันพูด ผมหันไปมอง ผู้กำกับที่เป็นลุงของไอ้ณัฐ เดินมาทางพวกผม พวกผมก็พากันยกมือไหว้ท่าน และท่าก็ยกมือเบรกพวกผมไว้ก่อนว่ายังไม่ต้องพูดอะไร

“สวัสดีครับท่าน” คุณตำรวจตะเบ๊ะทำความเคารพ ผู้บังคับบัญชา

“ผมพอจะทราบเรื่องคร่าวๆ แล้ว ผมรบกวนเอาคนร้ายไปฝากขังเลยนะครับเพราะว่าคดีนี้ห้ามประกันตัวและเตรียมออกหมายเชิญดอกเตอร์เปรมสินี มาให้ปากคำด้วย”

“ครับท่าน” นายตำรวจรับคำสั่ง

“สวัสดีรับลุง” พวกผมยกมือไหว้

“ไงไอ้ณัฐ ซ่าจริงๆ บุกเข้าไปได้ยังไง ทั้งที่มันมีปืน พวกเรานี้นะ พ่อแม่เราเกือบได้ดมยาดมรอแล้วไหมล่ะ “ลุงของไอ้ณัฐหันมาบ่นมันทันที

“พวกผมกลัวน้องเป็นอะไรนะครับลุง ผมขอโทษครับ” ผมยกมือไหว้ขอโทษแทนไอ้ณัฐมัน

“ลุงขอไปคุยกับ เด็กที่โดนทำร้ายก่อนน่ะ “ลุงของณัฐหันมาบอกพวกผม ผมได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งมาทางหน้าห้องฉุกเฉิน ผมเห็นมีผู้ชายตัวเล็กและผู้หญิงที่ดูท่าไม่น่าจะวิ่ง น่าจะกลิ้งได้ดีกว่า วิ่งมาหยุดที่พวกผม ผมก็มอง ผมเริ่มจำได้ เพื่อนเป็กซ์นั้นเอง

“พี่ไปส์ เพื่อนผมล่ะ” น้องใบชาถามผม

“อยู่ในห้องครับน้อง เป็กซ์ไม่เป็นอะไรมากแล้วครับ แต่ว่ารอเอกซเรย์ปอดเพราะว่า” ผมพูดก่อนจะหันไปมองไอ้คู่กรณี

“ไอ้เวรนี้มันฝังน้องเขาลงไปแล้ว เลยต้องเอกซเรย์ดูว่าไม่มีอะไรเข้าไปในปอดน้องเขาไหม” ผมพูด ทั้งคู่หันไปมองไอ้โก้กันหมด

“ไอ้โก้!!”

“มึงอย่าอยู่เลย” และน้องผู้หญิงนี้ตรงปรี่ไปทันที และ

“ปึก!”

“เว้ยย!!!” พวกผมร้องออกมาพร้อมกันก่อนจะพากันลุกขึ้น เพราะว่าน้องเขาตรงไปและไปกระโดดทับไอ้โก้ น้องเขาอ้วนมากไง คุณตำรวจที่มัวแต่ยืนโทรศัพท์อยู่ก็ไม่ได้หันมามอง พวกผมนี้ตกใจกันมา มันเหมือนมวยปล้ำตอนที่กำลังโดนคู่ต่อสู้ทับลิ้นแลบ แทบยังพยายามยื่นมือขอให้กรรมการช่วย แต่กรรมการ

“อีมะนาว!! มึงทำเชี้ยอะไรของมึงเนี๊ยะ!” ใบชาร้องตกใจ ไอ้คนร้ายที่โดนทับอยู่ มันก็พยายามโบกมือเรียกคุณตำรวจกูจะตายแล้ว และใบชาก็เข้าไปลากเพื่อนพยายามลากให้ออกมา แต่ก็ไม่ออกแน่ล่ะ เหมือนมันซี่ไปงัดไม้ซุงเถอะครับ

“มึงเข้าไปช่วยน้องเขาลากเพื่อนออกมาดิ เดี๋ยวไอ้เวรนี้ตายและสุดท้ายคดีพลิก” ไอ้ณัฐมันบอกแต่พวกผมโบกมือไม่เอาว่ะ

“ไม่เอาว่ะ กูว่าน้องเขามีองค์” ไอ้ราเชนมันหันมาพูด

“องค์อะไร” ไอ้พีชหันไปถามไอ้ราเชน

“องค์บากว่ะ “ไอ้ราเชนพูด

“กูว่าน้องเขาคือช้างที่จาพนมตามหาว่ะ ช้างกูอยู่ไหน กูว่าอยู่นี่แหละ! โธ่น้องช้างน้ำที่น่ารักไม่น่ากระทำการอันอุกอาจเช่นนี้เลย” ไอ้พีชมันพูดและมันก็ปิดตาหลานด้วยไม่กล้าให้หลานดู

“เฮ้ยย!!! ตายแล้วลูกสาวกู ไปทำอะไรเขาลูก!” เฮียธามเดินออกมาก็ร้องตกใจนั่นแหละคุณตำรวจถึงได้หันมาดู

“เฮ้ยคุณ! นี้คุณทำอะไรผู้ต้องหาครับ ลุกๆ ตาย! เดี๋ยวเขาก็ตายกันพอดี คดีพลิกนะคุณ! “คุณตำรวจเลยรีบบอกน้องเขาให้ลุกออกไปจากผู้ต้องหา พอลุกมาได้ ไอ้เวรนั้นแทบจะต้องเรียกขอออกซิเจนเกือบขาดอากาศหายใจตาย

“ก็มันจะฆ่าเพื่อนหนูนี่ค่ะคุณตำรวจ หนูเลยจะให้มันขาดใจตายแทนเพื่อนหนูค่ะ” น้องเขาพูด

“อันนี้กูว่าทรมานกว่าจับมันฝังทั้งเป็นอีกน่ะ เครื่องในพังไหมว่ะ” ไอ้ณัฐหันมากระซิบกับพวกผม

“ผมรู้ครับ ปล่อยให้เป็นกระบวนการของกฎหมายครับ ไม่ใช่มากระโดดทับเขาแบบนี้ครับ “คุณตำรวจรีบพูดก่อนจะพาผู้ต้องหาออกมาจากน้องมะนาวได้ ส่วนน้องมะนาวเพื่อนเขาก็พยายามช่วยจับให้ลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล

“อีนาว อีว๊อก!! กระโดดไปได้ดีที่พื้นเขาไม่ร้าวละอีบ้า!” เพื่อนน้องเขาบ่นเป็นชุด บีมและเธียรก็เดินออกมาต่างก็พากันตกใจ

“มะนาว” บีมเรียกเพื่อนเขา

“เอาๆ รีบเอาผู้ต้องขังไปก่อนที่จะโดนญาติคนเจ็บจะกระโดดทับอีกรอบ รอบนี้มึงตายแน่ นี่ขนาดหันหลังแป๊บเดียว” คุณตำรวจพูดก่อนจะพาให้คนร้ายออกไป

“ไอ้คนนี้เหรอที่มันเอาดินกลบน้องเขาน่ะ” เจ๊ธามถามก่อนจะชี้ไปที่ไอ้โก้

“ใช่เจ๊” ผมตอบ

“แล้วมึงเอามันกลับมาทำไมวะ ทำไมไม่ถีบมันลงไปแทนน้องเขาและกลบดินมันไปเลย “เจ๊ธามพูด ผมหันมามองหน้ากัน

“เออว่ะ ที่จริงน่าจะทำอย่างที่เจ๊แกพูดนะมึง” ไอ้ราเชนมันหันมาพูด

“เจ๊เราไม่โหด” ไอ้ณัฐ

“เป็นเจ๊นะ เจ๊จะเอาขี้ดินยัดปากแม่งไปด้วย “เจ๊ธามพูด พร้อมกับยืนเอามือเท้าเอว ไอ้คนร้ายมันมามองแบบระแว้ดระวัง มันคงกลัวเหมือนกัน

“ตกลงน้องสองคนนี้เพื่อนเป็กซ์เหรอ” ไอ้ณัฐมันถามก่อนจะหันมามองหน้าทั้งคู่ ไอ้ณัฐมันทำท่าคิด

“เออ นี้เพื่อนเป็กซ์และเพื่อนบีมเขามีอะไรวะ” ไอ้เธียรมันเดินไปอุ้มลูกมันคืนจากไอ้พีช

“หน้าคุ้นๆ น่ะน้องน่ะ เหมือนเคยเจอที่ไหนวะ ไม่นานนี้ด้วย น่าจะเมื่อคืนนะ” ไอ้พีชมันพูดและเกาหัวเล็กน้อย มันชี้ไปที่ใบชา ใบชาก็หันมามองหน้าจ้องหน้าไอ้พีชก่อนจะหันไปมองไอ้ณัฐ น้องเขาก็หันไปสะกิดเพื่อนเขาทันที พร้อมกับลากกันออกไป เขาไปซุบซิบกันสองคน พวกผมก็มองตามซุบซิบอะไรกันว่ะ

“ใช่ไหมว่ะ ไม่น่าจะใช่ กูว่าไม่ใช่” ไอ้ณัฐหันไปกระซิบกับไอ้พีชบ้าง ผมหันมาเหล่ตามองมันสองคน

“เฮียมึงมาถึงแล้วไอ้เธียร “ผมหันไปมองเฮียธัน เฮียเดินมาพร้อมกับเพื่อนเป็กซ์อีกคน คนนี้ชื่อฟิล์ม เขาเดินมาหาเพื่อนๆ ของเขาทันที ผมเห็นเป็กซ์ถูกเข็นกลับมาจากห้องเอกซเรย์แล้ว แต่เพื่อนๆ นี้ตรงไปหาเป็กซ์ก่อนเลย

“ให้เพื่อนเขาคุยกันก่อนเถอะว่ะ” ไอ้เธียรมันบอกผม

“ไปหากาแฟสดดื่มกันก่อนดีกว่าไหมวะ” ไอ้พีชพูดผมพยักหน้าก็ได้ เฮียธันหันไปอุ้มหลานแทนไอ้เธียร

“เจ๊พาหลานไปหาที่เซลฟี่แล้วกัน” เจ๊ธามพูดก่อนจะพยักพเยิดให้เฮียธันอุ้มหลานไป พวกผมพากันเดินไปที่ซุมกาแฟสดที่เปิดอยู่ในโรงพยาบาล

“พวกมึงเป็นอะไรกันว่ะ ทำไมต้องตกใจเวลาเจอน้องใบชาด้วยวะ” ไอ้ราเชนถามไอ้พีชกับไอ้ณัฐ

“หน้าเหมือนน้องซินเดอร์เรลล่าของมึงว่ะไอ้ณัฐ” ไอ้พีชพูด ผมหันมามองหน้ามัน

“ก็หลังจากที่กูส่งมึงกลับไปหาน้องเป็กซ์ และพวกกูก็กลับไปที่ผับเฮียธัน”

“เฮียธันลูกพี่ลูกน้องกูไง” ผมหันไปบอกไอ้เธียร

“และกูก็เจอน้องเขา น่ารักมาก หันมาส่งสายตาให้ แม่งเหมือนเดินศรรักปักอกเลย นมเป็นนม ก้นเป็นก้น หน้าเหมือนมากแต่น้องคนนั้นผู้หญิงนะโว้ย!” ไอ้ณัฐมันพูด

“เขามีนิกเนมว่าซินเดอร์เรลล่าเหรอวะ” ไอ้เธียรมันถามปนหัวเราะ ผมเดินมาที่ซุ้มกาแฟสด

“น้องเขาเต้นสีกับไอ้ณัฐอยู่พักใหญ่ พอเที่ยงคืนน้องแกวิ่งพรวดหายออกไปเลย ไอ้ณัฐกำลังว่าจะพาไป จุด จุด จุด ต่อซะหน่อย มันเลยอดเหมือนพระเอกในเรื่องซินเดอร์เรลล่าไม่มีผิดเลยมึง อดตอนเที่ยงคืน “ไอ้พีชพูด ผมหันมามองหน้ามัน ผมกับไอ้เธียรสั่นหัวกันก่อนจะรีบสั่งกาแฟสด

“ดีเขาไม่ถอดรองเท้าปาใส่หน้ากูไว้ก็บุญหนักหนาแล้ว “ไอ้ณัฐพูด

“สั่งกาแฟก่อน กูยิ่งนอนน้อยๆอยู่ “ไอ้ณัฐรีบเปลี่ยนเรื่องทันที

“กูเอานมเย็นวะ” ผมบอกพวกมัน

“ห๊ะ!!” พวกมันหันมามองผมกันหมด

“เขามีไม่ใช่เหรอนมเย็นน่ะ แปลกตรงไหนว่ะ” ผมถามพวกเพื่อนๆ ผม

“เออ มึงกินนมเย็นด้วยเหรอว่ะ พวกกูไม่ยักกะรู้ว่ะ “ไอ้ณัฐมันหันมาถามผม

“เออ! กูไม่เอากาแฟ กูไม่อยากกินกาแฟนแล้วไง เบื่อ ลองของใหม่ เอานมเย็น “ผมบอกพวกมัน ผมจะซื้อไปให้เป็กซ์ไอ้เธียรมันรู้เลยหันมายักคิ้วให้ผม
 
ต่อด้านล่างค่ะ

ออฟไลน์ Alessa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
EP.33.1 (พี่ไปส์Xเป็กซ)กว่าจะเข้าใจ(ครึ่งหลัง)P1

EP.33.1 (พี่ไปส์Xเป็กซ)กว่าจะเข้าใจ(ครึ่งหลัง)P2
   Part’ s เป็กซ์ ผมถูกส่งตัวไปเอกซเรย์ปอด มีเศษดินที่ผมหายใจเข้าไป คุณหมอตรวจดูแล้วไม่น่าเป็นอันตรายอะไรกับมาก แต่คุณหมอต้องการให้ผมรับยาฆ่าเชื้อไว้ก่อน พี่พยาบาลบอกผมว่า แฟนบอกให้ผมย้ายไปโรงพยาบาลเอกชนและเขาจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลเอง ผมแอบอมยิ้มเลยจนเพื่อนๆ ผมนี้มองกันหมด

“ไปเป็นแฟนกันตอนไหนแก” มะนาวถามผม

“เออ กู เออ”

” ไอ้เป็กซ์ มึงไปอยู่กับเขามึงเรียบร้อยเขาไปแล้วเหรอวะ” ไอ้ฟิล์มมันถามผม

“ฟิล์ม” บีมหันมา

“กูยอมรับ ว่ากูเผลอตัวไปแล้วแต่ไม่คิดว่าพี่เขาจะบอกว่ากูเป็นแฟนเขาแล้วนี่หว่า” ผมพูด

“แต่จะว่าไป เพื่อนไอ้พี่ไปส์มึงอ่ะ มันจะจำกูได้ไหมวะอีช้างน้ำ” ไอ้ใบชาพูด ผมหันไปมอง

“ใครวะ” ฟิล์มถามไอ้ใบชา

“มึงสองคนไปทำอะไรมา” บีมถามใบชากับมะนาว ดูมันสองคนมองหน้ากัน ผมก็กอดอกมองหน้ามันอีกคน ไอ้ฟิล์มพยักหน้ากับมันสองคน

“กูสองคนไปแรดมาเมื่อคืนและอีใบชามันให้กูช่วยแต่งตัวให้มัน แบบสาวน้อยอ่ะแก ใส่วิก แต่งหน้าซะซวยเลย เล่นเอาชะนีที่แท้ทรูอย่างกูแห้วรับประทานไปเลยมึง ขนาดกูจัดเต็มขนาดนั้นยังแพ้อีใบชา!” มะนาวพูด

“จัดเต็มขนาดที่ว่าแม่มันเห็น ยังเอาไม้กวาดไล่ตี นึกว่าใครเข้ามาในบ้าน ฮาๆ” ใบชาพูดไปพวกผมก็อดขำมะนาวมันไม่ได้ มะนาวมันมีพรสวรรด์เรื่องการแต่งหน้า

“กูไปเจออีพี่มึงด้วยนั่งกินเหล้าราวกับกินน้ำ มีสาวๆ มาเต้นสีพี่แก พี่เขายังเมินใส่เลยและโบกมือไล่ด้วย” ใบชามันหันมาบอกผมว่าเจอพี่ไปส์ กินเหล้าแน่ล่ะเมามาด้วยสภาพแบบนั้นแต่พี่เขาบอกผมแล้วว่าเขาทะเลาะกับพ่อมา ผมแอบหันไปยิ้ม

“แม้ยิ้มใหญ่เลยนะ พอรู้ว่าเขาไม่สนชะนีน่ะ” มีคนแซวผม ผมขยิบตาให้เลิกแซวได้แล้ว

“แต่กูหันมาก็ไม่เจออีพี่มึงแล้ว “ใบชาพูดแน่ล่ะเพื่อนเขาแบกมาส่งให้ผมดูแลไง

“ไปผับใครมาว่ะ” ไอ้ฟิล์มมันถาม

“ผับดังที่มีแต่ไฮโซไง และคืนนั้นก็มีดีเจหุ่นล้ำๆ ไปเปิดแผ่นด้วย พวกฉันเลยไปแก”

“และไอ้พี่นี้กูสองคนไม่รู้ว่าเป็นเพื่อนอีพี่มึง เขาเดินมาสะดุดเจอใบชา อึ้งไปหลายนาที รีบเดินมาถามเลยนะ ขอเลี้ยงเหล้าอะค่ะ และพวกกูจะรอเชี้ยอะไรละคะ โอเค”

“ใช่ไหมคะ น้องเลมอนที ชื่อนางคะมึงค่ะ เต้นสีกันน่าดู ชะนีโต๊ะข้างๆ กอดอกมองด้วยความหมั่นไส้อีใบชา” คนฟังนี้เชิดคอด้วยความมั่นใจตัวเองมากฟิล์มมันพยักพเยิดกับบีม

“แต่เสือกมานกเอาตอนเที่ยงคืน พ่ออีใบชาเขาบินมาเยี่ยมลูกเขากลางดึก โอ๊ย!! กลับบ้านแทบไม่ทันมึงค่ะ” มะนาวพูด

“จู่ๆ พ่อกูก็บินมาจากเชียงใหม่ ดีน่ะที่กูเปลี่ยนเสื้อผ้าทัน หัวใจกูจะวาย” ใบชาพูด

“เหมือนพ่อกูมีญาณวิเศษเลยว่ะ เหมือนจะรู้ว่า….”

“มึงจะออกไปแรด!!” พวกผมพูดออกมาพร้อมกัน

“ขอบคุณที่ชมนะ กราบงามๆ เว้ย!! “ใบชาหันมาค้อนปะหลับปะเหลือกใส่พวกผม ผมหันมากอดอกกลั้นหัวเราะไม่รู้จะสงสารมันดีไหม พ่อใบชาเป็นพ่อเลี้ยงทางเหนือ ไว้หนวดแบบดูโหด แถมใบชายังไม่เคยบอกพ่อมันเลยว่ามันเป็นอะไร

“กูว่ามึงบอกพ่อมึงไปเถอะว่ะ “ไอ้ฟิล์มพูด

“พ่อกูจะรับได้เหรอวะ” ใบชาหันมาถาม

“มึงคิดว่ามึงจะเป็นแค่วันนี้แล้วพรุ่งนี้มึงหายไหมล่ะ” บีมกอดอกถามใบชา

“ไม่ว่ะ สงสัยตลอดชีวิตว่ะ” ใบชาพูด

“ก็แน่ละ นี่มันไม่ใช่โรคริซซี่นี่ค่ะมึง จะได้รักษากินยาแล้วหายนะ” มะนาวพูด และจังหวะนั้นพวกพี่ๆ เขาเดินเข้ามาพอดี ใบชามันสะกิดมะนาว บีมหันไปมองพี่เธียร เดินเข้ามาคนเดียวไม่มีน้องลูกโซ่มาด้วย

“พี่ให้เฮียธันดูลูกโซ่ไปก่อน ไม่อยากพาเข้ามา” พี่เธียรเดินมากระซิบกับบีม

“เดี๋ยวจะย้ายเราไปโรงพยาบาลที่กรุงเทพนะครับ พี่จองห้องพิเศษไว้ให้แล้ว” พี่ไปส์พูด ผมหันมามองพี่ไปส์ พี่เขายืนใช้แขนเท้าที่กันข้างเตียงมองผม แววตาคู่นั้น มันไม่กวนผมเหมือนที่ผ่านๆ มา และพี่เขาก็ชูแก้วนมเย็นมาให้ผม

“ดื่มหน่อยไหม” พี่ไปส์ถามผม

“อู้ย!!!” เสียงแซวผมจากพวกเพื่อนๆ ผม

“แม้ไอ้ตอแหล แล้วบอกว่ามึงดื่มเอง โธ่ ซื้อมาให้เขาก็บอกดิครับ” พี่ณัฐรีบหันมาแซวพี่ไปส์ใหญ่เลย ผมก็รับนมเย็นมาจากพี่ไปส์

“ให้บีมนอนเป็นเพื่อนไหมเป็กซ์” บีมถามเป็กซ์ คงหมายถึงที่โรงพยาบาล

“บีม พี่ว่า” พี่เธียรสะกิดบีม ผมรู้ว่าหมายถึงอะไร

“บีม พี่เฝ้าเองครับ แฟนพี่ทั้งคน” พี่ไปส์พูด ผมหันมามอง ผมค่อนข้างตกใจที่เขาใช้คำว่าแฟนกับผมแล้ว

“แฟนด้วยอะ “มะนาวแซวผมกับพี่ไปส์ทันที

“งั้นผมฝากด้วยนะครับพี่ไปส์ “บีมหันมาบอกพี่ไปส์

“เป็กซ์ มึงต้องบอกแม่มึงน่ะ เขาเป็นห่วงมึงมากเลยว่ะ “ไอ้ฟิล์มบอกผม ผมพยักหน้าว่าผมจะบอกเอง ไปถึงโรงพยาบาลก่อนค่อยโทรไปหาแม่แล้วกัน

“งั้นก็แยกย้ายกันเลยแล้วกัน พวกกูจะได้กลับบ้านเลย พ่อแม่และว่าที่เมียเป็นห่วง “พี่ราเชนหันมาพูดและมองพวกผมที่ยกมือไหว้พี่เขาแต่ก็มาสะดุ้งตรงน้องมะนาวนี่แหละ เอามือกุมหน้าอกตัวเองอีก

“ตกใจทำไมละคะ” มะนาวถามพี่ราเชน

“ก็น้องเล่นกระโดดเขาลอยไปหาผู้ต้องหาเขาขนาดนั้น เป็นใครก็สยองครับน้องครับ “พี่ราเชนพูด

“มึงแน่ใจเหรอครับว่านั้นท่าเข่าลอย”

“ยกแล้วแต่ไม่ขึ้น สุดท้ายเลยแทบไอ้เวรนั้นแทน เครื่องนั้นมันคงได้ฟกช้ำบ้างแหละครับ” พี่ราเชนพูด ผมหันไปมองอีมะนาวมึงทำอะไรไอ้โก้มัน

“อีมะนาวมันอยากล้างแค้นให้มึงเลยกระโดดทับไอ้โก้ลิ้นแลบไปเลย” ใบชาพูด ผมหันมาสั่นหัวมึงทำไม

“เฮ้ย!! อีบ้า” ผมร้องตกใจหันมาว่ามะนาว

“ไปส์ มึงก็ไปกับรถโรงพยาบาลแล้วกัน กูขับรถมึงกลับไปคอนโดมึงเอง และจะไปเอาของใช้ไปให้มึงว่ะที่โรงพยาบาล “พี่พีชหันมาบอกพี่ไปส์ ผมก็กุมมือพี่ไปซ์เอาไว้ ผมเกรงใจเขาด้วยเหมือนกัน

“มึงสองคนมายังไงกันวะ” ฟิล์มหันไปถามมะนาวกับใบชา ทั้งคู่หันไปมองคนที่จ้องมองมะนาวและใบชาอยู่ทำท่าคิดด้วย พี่ณัฐกับพี่พีช

“มารถมาะนาวมันไง New beetle สีเหลือง สงสัยมันคิดว่ามันขับบอมเบิ้ลบีอยู่มั้ง “ใบชาพูดมะนาวหันขวับมาทันที พวกผมเหลือกตาขึ้นบนเป็นแถว มันเลิกกัดกันสักนาทีได้ไหม ก่อนจะหันไปมองพี่สองคนนั้นที่มองใบชากับมะนาวสลับกันไปมา

“น้องครับ พี่ถามหน่อยได้ไหมครับ น้องมีพี่สาวหรือนางสาวไหมครับ เหมือนมากเลย เหมือนน้องที่ “จู่ๆ พี่ณัฐก็ถามใบชา ผมหันมามองหน้ากัน ใบชามันค่อยๆ หันไปยิ้มให้

“น้องเลมอนที!”

“เลมอนทีอะไร ชื่อใบชา ใบชาโว้ย!!” ใบชามันหันไป แม้โมโหเขากลบเกลื่อนไอ้นี่

“ตกลงมีไหมครับ น้องสาวหรือพี่สาวนะครับ” พี่ณัฐเขาถาม

“มีแต่อยู่ไกล ทำไมเหรอ!!” ใบชามันทำเสียงออกสาวแตกมากกว่า พี่เขาขมวดคิ้วมอง “เออ ทำไมเหรอครับ” ใบชาถามใหม่อีกครั้งคราวนี้เปลี่ยนโทนเสียงใหม่

“บ้านน้องอยู่ไหนครับ” พี่ณัฐถามใบชา

“น้องเขาอยู่เชียงใหม่ค่ะ “มะนาวตอบแทน

“น้องเหมือนน้องผู้หญิงคนหนี่ง ส่วนน้องนี้ก็เหมือนอยู่น่ะ อ้วนเหมือนกันเลยแต่น้องคนนั้นดูสวยกว่า จริงๆน่ะ” พี่พีชพูดก่อนจะหันมามองมะนาว มะนาวหันขวับไปมอง

“พูดแบบนี้เดี๋ยวกระโดดทับเหมือนไอ้คนนั้นเลยนิ” มะนาวพูด ดีที่บีมมันดึงมะนาวไว้ก่อน

“เฮ้ยๆ เดี๋ยวๆ พี่พูดเล่น น้องสวยเสมอครับ พูดแค่นี้ก็ขึ้น มีของแน่เลย “พี่พีชพูด

“และมรดกพ่อพี่เยอะพี่ยังไม่อยากตายครับ ขออยู่ใช้ก่อน” พี่คนนั้นโผ่ออกมาบอกมะนาว

“ขอโทษนะคะ รถพยาบาลที่จะมารับคนไข้รีเฟอร์มาถึงแล้วค่ะ “พี่พยาบาลเดินมาบอกผม ผมหันไปมองเพื่อนๆ ของผม

“พรุ่งนี้กูไปเยี่ยมมึงน่ะ” บีมหันมาบอกผม ผมพยักหน้า ผมว่าพรุ่งนี้ค่อยคุยกับบีมดีกว่า เรื่องที่ไอ้โก้มันบอกผมนะครับ พี่ไปส์กุมมือผมเอาไว้ก่อนจะให้พี่พยาบาลเข้ามาพาผมไปนั่งเตียงเข็นคนไข้อีกเตียง พวกเขาพาผมไปที่รถพยาบาล โดยมีพี่ไปส์เดินคุยโทรศัพท์ออกมาด้วย

“ครับม๊า ผมรู้ครับแต่นี่ คนพิเศษของผมจริงๆ เอาไว้ค่อยคุยกันได้ไหมครับม๊า ครับ ไปโรงพยาบาลใกล้ๆ กับคอนโดผมไงม๊า ครับม๊า รักม๊าครับ” พี่ไปส์รีบพูดและวางสายก่อนจะเดินมานั่งข้างๆ ผมเขากุมมอืผมไว้ ระหว่างการเดินทางผมก็เผลอหลับไปอีกรอบด้วยฤทธิ์ยา ผมาตื่นอีกทีตอนที่ถึงโรงพยาบาลแล้ว และขึ้นมาที่ห้องพักคนไข้ เป็นห้องพิเศษ เหมือนที่บีมมานอนหรือว่าโรงพยาบาลเดียวกัน

“น้องตื่นแล้วครับเฮีย” ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ ก่อนจะพยายามลุกขึ้นนั่งโดยมีพี่ไปส์เข้ามาประคองผมไว้ ผมสวมเสื้อคนไข้ ใช่จริงๆ ด้วยโรงพยาบาลเดียวกับตอนที่บีมมาคลอดน้องลูกโซ่ ผมหันไปมองพี่ไปส์ พี่เขาเปลี่ยนชุดแล้ว และอีกคน ผมตกใจ คุณหมอภีมปภพ หมอที่คลอดให้ลูกโซ่ ผมไม่ได้ท้อง!!! มาที่นี้ทำไม???

“ทำไมทำหน้าตกใจขนาดนั้นล่ะเป็กซ์ พี่ก็เป็นหมอทั่วไปได้ครับ ไม่ได้ทำคลอดอย่างเดียว” พี่หมอภีมคงเดาความคิดผมออก

“สวัสดีครับพี่หมอภีมปภพ ก็ปกติผมเห็นพี่แต่ในห้องฝากครรภ์นะครับและพี่ยังเป็นหมอทำคลอดให้ไอ้บีมอีก ผมก็ตกใจซิครับ” ผมยกมือไหว้พี่หมอก่อนจะหันมามองพี่ไปส์ สลับกันไปมา

“พี่ก็นึกว่าใครกันที่เป็นคนพิเศษ น้องชายพี่ เป็กซ์นี้เอง “พี่หมอพูดก่อนจะหันไปมองพี่ไปส์ และหันกลับมาหาผมอีกที

“ผมไม่รู้นี้ครับว่า เฮียรู้จักน้องเขาด้วย” พี่ไปส์หันมาพูดกับพี่หมอภีมแถมเรียกเฮียอีกต่างหาก

“พี่หมอเขาเป็นลูกชายอี๊ของพี่ครับเป็กซ์ พี่สาวของม๊าพี่นะครับ” พี่ไปส์พูด ผมพยักหน้าเบาๆ

“เป็กซ์มักจะมากับบีมเขาบ่อยๆ ตอนมาตรวจครรภ์น่ะไปส์” พี่หมอภีมปภพหันมาบอกพี่ไปส์

“แล้วไปทำยังไงถึงได้โดนคนร้าย ทำร้ายเราขนาดนี้ล่ะเป็กซ์” พี่หมอภีมถามผม ผมมองหมอภีมปภพ ก่อนจะหันมามองพี่ไปส์

“ผมอยากคุยกับอาจารย์กันตภพนะครับ ได้ไหมครับพี่หมอ ผมมีเรื่องต้องบอกเขาครับ” ผมพูดกับพี่หมอภีม ตอนนั้นที่อยู่กับบีมผมไม่กล้าบอกมัน ผมกลัวมันจะคิดมากอย่างที่พี่เธียรบอกผม

“เรื่องด่วนไหม อีกสิบนาที กันเขาจะมาหาพี่ที่นี้” พี่หมอภีมปภพถามผม ผมยิ้มออกมาทันที

“ผมรอได้ครับ” ผมรีบตอบ

“ถ้าอย่างนั้นทานอาหารเย็นก่อนแล้วกันและนี่พี่ให้ยาฆ่าเชื้อผ่านสายน้ำเกลือเอาไว้ พรุ่งนี้ค่อยเอาออก และพี่จะให้อาจารย์กันเขาขึ้นมาหาเราที่นี้ พี่ไปดูคนไข้ของพี่ก่อนนะครับ” พี่หมอภีมบอกผมก่อนจะหันไปแตะไหล่พี่ไปส์

พี่พยาบาลยกถาดอาหารเย็นมาให้ผม ก่อนจะเดินออกไปเหลือแค่พี่ไปส์ พี่เขาเดินมาจัดโต๊ะให้ผมและปรับเตียงให้ผมนั่ง พี่ไปส์ขึ้นมานั่งข้างๆ ผมก่อนจะจัดการเปิดสำหรับอาหารให้ผม เขาตักอาหารมาจ่อจะป้อนผมด้วย ผมก็มองอะไรเนี๊ยะ

“พี่จะป้อนไงครับ ทำไมล่ะไม่อยากให้พี่ป้อนเหรอ “พี่ไปส์ถามผม ทำไมต้องทำเสียงออดอ้อนผมด้วยน่ะ

“ผมทานเองได้” ผมหันไปพูดเสียงอ่อยๆ

“อย่าดื้อซิเรานี่ พี่ป้อนให้ เร็ว ๆ อ้าปาก อั้ม! “พี่ไปส์สั่นหัวก่อนจะพยายามดันช้อนให้ผมอ้าปาก ผมก็ต้องยอม จนพี่พยาบาลเดินเข้ามาพร้อมกับแก้วใส่ยามาให้ผม

“ยาหลังอาหารค่ะ แฟนน่ารักนะคะ เช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อยเชียว มีอะไรกดเรียกได้เลยนะคะ” พี่พยาบาลพูดแซวผม ผมหันไปมองพี่ไปส์ แอบหนีบขาตัวเอง

“ไม่ต้องอายแล้ว เห็นหมดแล้ว” พี่คนที่กำลังป้อนข้าวผมอยู่กระซิบกับผม และพี่พยาบาลก็ออกไปจากห้อง พี่ไปส์ทำหน้าที่ป้อนข้าวป้อนน้ำให้ผม แถมยังบังคับให้ผมทานยาอีกด้วย ผมดื่มน้ำจนหมดแก้ว พี่ไปส์เก็บทุกอย่างเข้าด้านข้างรอพี่เขามาเก็บภาชนะคืนไป ผมว่าจะหันไปหยิบรีโหมดแต่พี่ไปลุกมาหยิบเอื้อมเพื่อจะหยิบให้ผมแทน มันทำให้มือผมกับพี่ไปประสานกัน ผมหันมามองคนที่เอื้อมมือผ่านไปผมไป ริมฝีปากเขาอยู่ใกล้ผมมาก จนผมต้องเม้มปากเข้าหากัน ริมฝีปากพี่ไปส์ก็ขยับเข้าหากันเหมือนอยากจะ จุมพิตผมและสุดท้ายมันเป็นผมเอวเผยอปากจูบคนตรงหน้า ผมรู้สึกเบาหวิวเพราะว่ารสจูบที่ซาบซ่านนั้นจากผู้ชายคนนี้

   ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตู ที่ทำให้ผมกับพี่ไปส์ต้องผละออกจากกันทันที ผมใช้มือแตะที่ริมฝีปากตัวเอาเบาๆ ก่อนจะหันไปมองที่ตรงประตู คนที่เปิดเข้ามาคืออาจารย์กันตภพ

“เป็นไงบ้างเป็กซ์ อาจารย์รู้เรื่องแล้ว ตกใจมากเลยน่ะเป็กซ์ นี้เขาทำกับเราขนาดนี้เลยเหรอ” อาจารย์กันตภณถามผมทันที

“สวัสดีครับอากัน” พี่ไปส์ยกมือไหว้อาจารย์กันตภณ “สวัสดีไปส์” อากันยกมือรับไหว้พี่ไปส์

“ผมมีอีกเรื่องเกี่ยวกับอาจารย์เปรมสินีครับ” ผมพูดขึ้น

“ถ้าอย่างนั้นให้พี่ออกไปข้างนอกแล้วกัน” พี่ไปส์พูด

“หมับ” ผมคว้ามข้อมือพี่ไปส์เอาไว้

“พี่ไม่ใช่คนอื่นสำหรับผมแล้วนะครับ” ผมพูด พี่ไปส์หันมายิ้มให้ผม

“พี่ควรจะได้ฟังเพื่อว่ามันอาจจะ ทำให้พี่เข้าใจผมมากขึ้น” ผมพูดกับพี่ไปส์ พี่เขานั่งลงข้างๆ ผม อาจารย์กันตภณหันมาลากเกาอี้มานั่งใกล้ๆ กับผม

“อาจารย์ครับ ผมว่าเรื่องทั้งหมดมันถูกวางแผนมาตั้งแต่ทีแรกแล้ว ไอ้พี่โก้ที่เป็นแฟนผมตอนที่ผมเรียนปีสาม แท้จริงแล้วมันกับอาจารย์เปรมสินีมีสัมพันธ์สวาทกัน เขามีอะไรกันมาก่อนผม” ผมพูดผมหันมามองพี่ไปส์ ก่อนจะหันกลับมามองอาจารย์กันตภณ

“ไอ้พี่โก้มันบอกว่าผมไปทำให้เมียมันไม่พอใจ เรื่องที่ผมเอาความลับมาเปิดเผย และเมียมันก็คืออาจารย์เปรมสินีครับ” ผมพูด อาจารย์กันตภณ นั่งทำหน้านิ่งมาก ก่อนจะพยักหน้าเฉยๆ ไม่มีอาการตกใจเลยสักนิด ก็แน่ล่ะเขาไม่ได้รู้สึกอะไรพิเศษกับอาจารย์เปรมสินีสักนิด ผมแอบสะใจแทน

“ผมไม่รู้ว่ามันทำเพราะโดนเขาสั่งมาหรือว่าเขาขู่มันไว้ด้วยที่มันจะฆ่าผมนะครับ เพราะว่ามันก็บอกผมว่า ถ้ามันไม่ทำมันก็ตาย” ผมพูดกับอาจารย์กันตภณ

“ผมเองก็ยังโดนมันหลอกมาตั้งนานอาจารย์” ผมพูดน้ำตาผมเริ่มไหล แต่มีคนยื่นผ้าเช็ดหน้ามาซับมันทันที

“อย่าไปร้องไห้ ให้คนไม่มีค่าอย่างไอ้โก้มัน “พี่ไปส์บอกผม อาจารย์กันตภณพยักหน้าเห็นด้วย

Rrrrr โทรศัพท์ของพี่ไปส์ดังขึ้น พี่เขาขอตัวไปรับสายซะก่อน

“อาจารย์คิดว่ามันเกินไปแล้วน่ะ ที่จะถึงขั้นจะฆ่าเราเลยน่ะเป็กซ์ อาจารย์แนะนำว่า เอาเรื่องให้ถึงที่สุด”

“แต่ผม”

“อาจารย์จะหาทนายให้ เราหาหลักฐานว่านายโก้กับอาจารย์เปรมดิ์ เขามีการติดต่อด้วยกันจริง” อากันตภณพูด จังหวะนั้นพี่ไปส์เดินกลับเข้ามา

“พอดีลุงของณัฐเขาเป็นผู้กำกับอยู่ที่ สน ที่ใกล้จุดเกิดเหตุ เขาต้องการให้ เป็กซ์เข้าไปให้ปากคำเมื่อเป็กซ์พร้อมครับ” พีไปส์บอกผม

“เมื่อกี้ผมได้ยินว่าจะหาหลักฐานการติดต่อของทั้งคู่ ผมไม่แน่ใจครับอา ตอนที่พี่กอล์ฟเป็นรุ่นพี่เรียนวิศวะคอมพิวเตอร์ที่เดียวกับผมนะครับอา ผมขอให้พี่คนที่แฮ็กข้อมูลไอ้โก้ให้”

“พี่เขาเจอรูปที่มันไปร้านอาหารที่ชลบุรี ตอนมันถ่ายรูปลงเฟสบุ๊คมันนะครับ พี่เขาขยายจนเห็นว่ามีภาพสะท้อนผู้หญิงที่นั่งทานอาหารตรงข้ามกับมันด้วยครับ” พี่ไปส์พูด ผมหันไปมองพร้อมกับอาจารย์กันตภณ และพี่ไปส์ก็หยิบมือถือขึ้นมามากดไล่หารูป ก่อนจะส่งมาให้ผมดู ผมเห็นภาพผู้หญิงสะท้อนผมจำได้ดีแม้จะเบลอๆ ก็ตาม

“อาจารย์ครับ ใช่อาจารย์เปรมสินีจริงๆ ด้วยครับ” ผมบอกอาจารย์กันตภณ ก่อนจะส่งมือถือให้อาจารย์ดู

“ส่งหลักฐานนี้ให้พี่ด้วยไปส์และให้เป็กซ์เก็บติดตัวไว้ ถ้าวันที่ไปให้ปากคำ ถ้านายโก้ให้การปฏิเสธเพื่อปกป้องเขา เอารูปนี้ให้ตำรวจดูด้วยน่ะ” อาจารย์กันตภณบอกผม

“อาจารย์จะช่วยเราด้วยไม่ให้ได้รับโทษอะไรทั้งนั้น “อาจารย์กันตภณพูด คุณหมอภีมปภพเดินเข้ามาพอดี

“ครับแม่ อ้อ ครับ ได้ครับ ครับผมไม่กลับนะครับ เดี๋ยวผมบอกไปส์ให้ครับ ครับแม่ครับ บายครับ” หมอภีมปภพเดินเข้ามาในห้องก่อนจะหันไปมองพี่ไปส์

“ไปส์ ม๊าเราโทรหาอี๊เรา ม๊าเราบอกว่าโทรหาเราไม่ติดเลย เขาเป็นห่วง” หมอภีมปภพหันมาพูดกับพี่ไปส์

“สงสัยตอนที่ผมรับสายจากไอ้ณัฐมันนะครับเฮีย” พี่ไปส์พูด

“โทรกลับด้วยน่ะ รู้สึกว่าเรานี้จะโลดโผนไปหน่อย เบาๆ หน่อย ลูกคนโตน่ะเรานะ” หมอภีมปภพพูดกับพี่ไปส์

“ถ้าอย่างนั้น อาจารย์กลับก่อนน่ะ และดูแลตัวเองด้วยล่ะรู้ไหม พักผ่อนเยอะ เรื่องอื่นอาจารย์จัดการเอง “อาจารย์กันตภณบอกผม ผมก็ยกมือไหว้อาจารย์ พี่ไปส์หลบไปหาที่คุยโทรศัพท์ ผมก็หยิบมือถือผมขึ้นมา ผมต้องโทรหาแม่ผมเช่นกัน ผมยกมือไหว้พี่หมอก่อนที่ทั้งคู่จะออกไปจากห้อง

//แม่//
// เป็กซ์ เป็นไงบ้าง แม่รู้เรื่องจากใบชา แม่ตกใจมากเลยลูก//
// ผมไม่เป็นไรแล้วแม่ มีคนไปช่วยผมไว้ พี่คนที่ให้ผมอยู่ที่คอนโดนะครับ//
//บุญรักษานะเราน่ะ และนี่ไอ้โก้มันถูกจับแล้วใช่ไหม//
//ครับแม่ แม่ไม่ต้องเป็นห่วงผมหรอก ผมยังเหนียวอยู่// ผมพูดเหมือนจะตลกแต่น้ำตาผมดันไหลออกมา ผมคิดว่าจะไม่ได้กลับมาหาแม่ผมแล้ว
//ทำเป็นเก่งนะเราน่ะ แม่ว่าจะไปเฝ้า//
//ไม่ต้องหรอกครับ พี่เขาเฝ้าผมแทนครับแม่//
//งั้นพรุ่งนี้แม่ไปหาและจะทำของโปรดไปให้เราแล้วกัน //
//จริงน่ะแม่ ผมอยากกินต้มข่าไก่อ่ะแม่//
//พรุ่งนี้ต้มไปให้ อ้อนได้นี้แปลว่าหายแล้วจริงๆ //แม่พูด
//แค่นี้แล้วกันน่ะ เราจะได้พักและหายแล้วไปไหว้พระด้วย จะได้หมดเคราะห์ // แม่บอกผม ผมพยักหน้าอยู่คนเดียว
//แม่รักลูกน่ะ ถ้าพ่อยังอยู่เขาคงปกป้องลูกได้ดีกว่าแม่//
//แม่ ผมเข้มแข็งได้ก็เพราะว่าแม่คือแบบอย่าง แม่เข้มแข็งกว่าผมอีก แม่เป็นได้ทั้งพ่อและแม่ให้ผมเลย แม่เก่งที่สุดแล้ว เก่งกว่าผมอีก” ผมพูดไปด้วยปาดน้ำตาไปด้วย
//แม่ผมจะหางานทำใหม่ และผมจะเลี้ยงแม่เลี้ยงน้องแทนนะครับแม่ ผมสัญญา // ผมพูดกับคนปลายสาย ก่อนจะหันมามองพี่ไปส์เขายืนมองผมอยู่ ผมรีบหันหนีปาดน้ำตาทิ้ง
// รอให้หายก่อนเถอะ แค่นี้น่ะ นอนได้แล้วล่ะ ฝันดีน่ะลูก//แม่บอกผม ผมก็หันมามองพี่ไปส์

“ขี้แยอีกแล้ว “พี่ไปส์พูด พร้อมกับใช้นิ้วหัวแม่โป้งปาดน้ำตาของผม ผมหันมาก่อนจะประกบจูบพี่ไปส์ เมื่อสักครู่มีคนมาขัดแต่รอบนี้คงไม่มีแล้วแหละ ผมกับพี่ไปส์จูบกันไม่รู้นานแค่ไหนแต่เล่นเอาผมแอบจะขาดอากาศหายใจตาย แต่แปลกน่ะ มันทำให้ผมเคลิ้มจนไม่อยากถอนปากออก ต่อให้ต้องตายคาอกคนนี้ก็ยอมมั้ง

*****

    ขอโทษทีนะคะ ที่หายไป เห็นเงียบเลยคิดว่าไม่ค่อยมีคนอ่านและคนแต่งกำลังรีไรท์ตอนเก่าด้วยค่ะ แก้คำผิดนะคะ แต่จะมาลงให้ต่อน่ะ ช่วงนี้โควิด19 ระบาดเยอะ ดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ 

สปอยด์ตอนหน้าพี่ไปส์กับเป็กซ์เขาเคยเจอกันมาก่อน มิหน้าล่ะ พี่ไปส์ถึงได้รู้สึกชอบคนมีฟันกระต่าย

ออฟไลน์ Nattie69

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 777
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ johnsonti

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด