EP.14 พาลูกเมียเข้าบ้าน หลังจากที่ทำผมพาลูกโซ่ บีมและตัวผมเองเข้ารับการเก็บเนื้อเยื่อที่กระพุ้งแก้มเพื่อตรวจหาดีเอ็นเอเรียบร้อยแล้ว ผมก็พาบีมไปหาอะไรทานกันก่อน พาไปหาร้านอาหารที่มีสนามเด็กเล่น และมือถือผมก็สั่นตลอดเวลา คราวนี้เป็นเบอร์แพรวาเอง ผมก็ไม่ยอมรับสายเธอ ผมนั่งมองบีม เขาลูกโซ่ไปนั่งชิงช้าเล่นในสนามเด็กเล่น
// พี่เธียร รับสายแพรวาเดี๋ยวนี้นะคะ พี่ควรจะรู้ว่าถ้าพี่ไม่รับสาย ใครจะเดือดร้อน และพี่ควรจะรู้ว่า พี่เป็นของแพรวาคนเดียวเท่านั้น // แพรวาส่งข้อความหาผม
//เธียร ม๊ากับป๊าจะถึงบ้านแล้วน่ะลูก มีอะไรเข้ามาคุยกันน่ะ ป๊าเขาก็พร้อมจะรับฟังน่ะเธียร// ม๊าส่งข้อความมาหาผมเช่นกัน เป็นข้อความที่ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นเยอะเลย
“บีมกลับกันหรือยัง “ผมเดินไปหาบีม ดูเจ้าลูกโซ่ยังเล่นสนุกอยู่เลย บีมหันมามองหน้าผมก่อนจะพยักหน้ากับผมกลับได้แล้ว ผมพาทั้งคู่เดินไปขึ้นรถ ผมไม่รู้ว่าจะเจออะไรบ้าง แต่ผมจะไม่ยอมให้ลูกและคนที่เป็นแม่ของลูกผมต้องไปอยู่ตามลำพังเด็ดขาด ผมเดินขึ้นไปนั่งในรถ
“กลับบ้านเลยครับพี่สิงห์” ผมบอกพี่คนขับรถ บีมหันมามองหน้าผม
“ไม่ไปส่งก่อนเหรอ” บีมหันมาถามผมคงหมายถึงเขากับลูก
“ไม่ครับ ไปอยู่บ้านกับพี่ เพราะว่านี้ลูกพี่ “ผมชี้ไปที่เจ้าลูกโซ่
“ส่วนบีมก็คือแม่ของลูกพี่ พี่ไม่ทิ้งเช่นกัน “ผมพูดบอกบีมก่อนจะจับสายเข็มขัดนิรภัยมาคาดให้บีม บีมอุ้มเจ้าลูกโซ่เอาไว้ ผมก็คาดของผมเช่นกัน ผมนั่งเงียบไปตลอดทางจนถึงบ้านคฤหาสน์หลังใหญ่ของผม ผมไม่เห็นบีมจะตื่นเต้นกับบ้านหลังใหญ่ของผมเหมือนกับ นิน่า ที่เขามาดูโปรไฟล์ของผมและทำท่าตื่นเต้นจนออกนอกหน้า รถฟอร์จูนเนอร์เข้ามาจอดด้านใน ผมคิดว่ายังไม่มีใครมาถึงเช่นกัน เพราะผมก็ยังไม่เห็นรถใครเข้ามาจอด ผมลงมาก่อน และหันไปมองบีมที่นั่งกอดลูกชาย เจ้าลูกโซ่มองผม
“บีม ลงมาซิครับ พี่เลือกที่จะรับผิดชอบสิ่งที่พี่ทำ”
“ไม่จำเป็นก็ได้มั้ง ที่จะต้องเอาทั้งชีวิตของพี่มาอยู่กับผม คนที่พี่ไม่ได้รัก”
“พี่รู้ว่ายังไม่ถึงขั้นรักแต่พี่เลือกคนที่สำคัญกับลูกพี่ เพราะคำว่าแม่ ไม่ใช่ว่าใครจะมาแทนก็ได้ ดังนั้น พี่เลือกลูกและบีม ลงมาซิครับ” ผมพูด บีมหันมามองหน้าผม ส่วนลูกโซ่ก็มองผม ผมกางมือออก เขาเงยหน้ามองบีม และสุดท้ายบีมก็เรื่องที่จะเดินลงมา
“แต่ว่าผมไม่ได้เอาของใช้ลูกมาด้วย” บีมพูด
“ซื้อใหม่ก็ได้นี้”
“แต่” บีมเงยหน้าขึ้นมองผม
“ไม่อยากซื้อใหม่ก็ไปขนมาไว้ที่นี้เลยแต่ว่าคืนนี้นอนนี้นะครับบีม พี่อยากให้ป๊ากับม๊าเจอหลาน “ผมบอกบีม เขาหันมามองหน้าผม และคนใช้เดินออกมาก็มีสีหน้าที่ตกใจกับสิ่งที่เห็น จังหวะนั้น ก็มีรถแล่นเข้ามาอย่างรวดเร็ว ผมเดาได้ว่ารถอากันตภณ ผมหันไปมองก่อน ใช่จริงๆ ด้วย ผมเห็นอาก้าวลงจากรถมาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเดินตรงมาที่ผมยืนอยู่
“นี้มันอะไรกันเธียร” อากันตภณเดินปรี่ออกมาจากรถเก๋งคันหรูทันที พร้อมกับยิงคำถามใส่ผมทันทีเช่นกัน ก่อนจะหันไปมองบีมที่ยืนกอดลูกชายอยู่
“บีมคือเมียผม และเด็กนั้นคือลูกผมครับอา” ผมตอบอากัน
“บีม ไม่จริงใช้ไหม บีมบอกพี่ซิ “อากันตภณถามบีม ผมหันไปมองหน้าบีม เขายืนหันหลังให้อากันอยู่ เขากอดเจ้าลูกโซ่ ที่เหลือกตาขึ้นมองผมทีและอากันที
“บีม” อากันเดินมาจับแขนของบีม
“อา นี้เมียผม นี้ลูกผม “เดินมาจับมืออากันเอาไว้
“แต่นายไม่ได้ดูแลเขา!! “อากันหันมาขึ้นเสียงดังใส่ผม และคนใช้ในบ้านผมเริ่มออกมายืนมองกันหมด
“ก็ผมไม่รู้มาก่อนนิครับอา” ผมบอกอากัน
“แล้วทำไม ไม่คิดจะตามหาตั้งแต่ทีแรกเธียร” อากันตภณพูด เขามองหน้าผม
“ผมว่าอาคงเดาอะไรออกบ้าง เพราะอาคือคนที่อยู่ใกล้ชิดผมเท่าๆ กับอาม่า แต่อาไม่เคยคิดจะพูดหรือถามผมสักนิด” ผมพูดและมองหน้ากันตภณ
“และผมเองไม่เคยรู้ว่าบีมจะท้องได้จริงๆ ถึงแม้ว่าเขาบอกผมวันนั้น วันที่ผม ..” ผมกำลังจะพูดว่าวันที่ผมมีอะไรกับบีมครั้งแรก
“วันที่ผมมีอะไรกับเขาและแม้ว่าครั้งนั้นผมจะทำไปเพราะว่าผมไม่มีสติ แต่ว่าวันนี้ผมมีสติพอที่จะกล้ายอมรับผิดในสิ่งที่ผมทำกับอา” ผมพูดกับอากันตภณ อามองหน้าผม
“แต่อารักบีม” อากันตภณพูดกับผม
“ผมก็รักลูกผมน่ะอา และลูกผมก็ไม่อยากเสียแม่เขาไปครับอา ผมต้องเก็บทั้งคู่เอาไว้กับผม ผมให้อาไม่ได้ทั้งคู่” ผมพูดก่อนจะดันบีมเข้าบ้าน
“หมับ” อากันตภณจับแขนบีม
“อา “ผมจับแขนอาเช่นกัน สายตาที่ประสานกัน อาที่เคยเป็นอาที่ผมรัก วันนี้มันกลับกลายมาเป็นศัตรูหัวใจกันและกันอย่างนั้นหรือ
“อาไม่ยอมให้นายที่ยังดูแลตัวเองไม่ได้ ดูแลบีม” อากันตภณพูด
“ใช่วันนี้ผมยังเหมือน ผมยังดูแลใครไม่ได้แม้แต่ตัวเอง แต่ผมเชื่อว่าผมต้องทำได้อา” ผมพูด
“บีมกลับบ้าน” อากันตภณพยายามดึงแขนบีมเอาไว้ แต่ผมก็ดึงรั้งบีมและลูกไว้เช่นกันจนกระทั่งรถแล่นเข้ามาจอดติดๆ กันหลายคัน และคนที่ลงมาจากรถก่อนคือม๊าของผม
“อากันอะไรกันน่ะ อากัน อาเธียร” ม๊ารีบตรงมาเพื่อจะมาห้ามทัพของผมกับอากันตภณ
“เกิดอะไรขึ้น เธียร กัน” ป๊าเดินมาถามผมก่อนจะหันไปมองหน้าอากันเช่นกัน รถเฮียที่พากันเดินลงมาจากรถตัวเองมองหน้าผมและอากัน ที่กำลังยื้อแย่งคนคนเดียวกัน
“เข้าไปคุยกันบ้าน เดี๋ยวนี้!! “ป๊าพูดก่อนจะหันไปมองรถอีกคันที่แล่นเข้ามาจอดจนฝุ่นตลบอบอวลไปหมด และคนที่ก้าวเท้าลงมาอย่างรวดเร็วคือแพรวา เธอเดินปรี่มาหาผมเช่นกัน
“พี่เธียร!! พี่ขับรถหนีแพรวาแบบนี้ไม่ได้นะคะ!!” แพรวาพูดก่อนจะมองคนที่ยืนหันหลังอยู่
“แพรวาเห็นพี่เอาไอ้เด็กที่ท้องไม่มีพ่อขึ้นรถมา ทำไมคะ” แพรวาพูด แต่สิ่งที่เธอพูดออกมา มันทำให้ทุกคนในครอบครัวผมหันไปมองเธอกันหมดแม้กระทั่งอาโกวหงส์ น้องสาวของพ่อผมที่เพิ่งจะมาถึงเช่นกัน
“เข้าไปคุยกันในบ้าน” ป๊าพูดออกคำสั่งและแพรวาที่รีบเดินแทรกทุกคนขึ้นมาหาผมก่อน
“หมับ” เธอจับแขนผมแน่นๆ และหันไปมองบีม ที่ยืนนิ่งไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น ส่วนลูกโซ่ก็กอดบีมไว้แน่นเช่นกัน
“นี้มันอะไรกันค่ะพี่เธียร” แพรวาถามผม ผมหันมามองหน้าเธอก่อนจะค่อยๆ แกะมือเธอออกและผมก็จับแขนบีมแทน
“เขาบ้านนะบีม “ผมบอกบีม บีมหันมามองหน้าผมและหันไปมองแพรวา
“พี่บอกแล้วไง ว่าพี่เลือกคนที่จะเป็นแม่ของลูกพี่ เพราะว่าลูกพี่สำคัญ แล้วบีมล่ะ เลือกใคร คนที่บีมคิดว่าสำคัญกับลูกชายของบีม พี่รู้ว่าพี่ผิดแต่นี่ลูกของพี่ และลูกพี่ก็ต้องการบีม พี่พร้อมจะทำตัวเองให้ดีกว่าที่ผ่านมาก แค่ขอโอกาสจากบีม “ผมถามบีม บีมหันมองหน้าผมก่อนจะ เลือกก้าวเท้าเดินขึ้นไป อากันตภณกลับเป็นฝ่ายปล่อยแขนจากบีม
“พี่เธียร!! พี่พูดอะไรของพี่น่ะ ปล่อยมันเดี๋ยวนี้น่ะ” แพรวาพยายามกระชากแขนผม ผมก๊เลือกที่จะแกมือเธอให้ออกและหันมาโอบพาบีมเข้าบ้านของพ่อแม่ของผม ผมหันไปเห็นเฮียธี ที่ยืนมองผมอยู่ เฮียยกนิ้วโป้งให้ผม แต่แพรวาพยายามจะมาดึงแขนผมให้ออกจากบีม
“แพรวาปล่อยพี่ครับ” ผมหันไปบอกแพรวา
“มันเป็นอะไรกับพี่!!”
“แม่ของลูกพี่” ผมหันมาตอบ แพรวามองหน้าผมก่อนจะหันไปมองหน้าเด็กที่บีมอุ้มอยู่ เธอคงเห็นได้ชัดเจนว่าเขาคือลูกของผมจริงๆ
“ไม่จริงอ่ะ ไม่จริง! แพรวาไม่ยอม แพรวาไม่ยอม!!!”
“โอ๊ย!!! แพรวา เธออายุเท่าไหร่แล้ว กรีดร้องเพลงหนูไม่ยอม หนูไม่ยอมมากี่ปีแล้วเนี๊ยะ! เปลี่ยนเพลงได้แล้วมั้ง” พี่ธามพี่ชายคนที่สองที่อดรนทนไม่ไหว จนต้องพูดออกมา ผมหันไปมองป๊ากับม๊า และโกวหงส์ ที่ยืนอยู่ข้างๆ อากันเช่นกันโกวหงส์จับแขนอากันเอาไว้ ผมรู้ว่าอากันคงเสียใจหรือไม่ก็โกรธแต่นี้เลือดเนื้อของผม ผมเหมือนคนไม่มีความรับผิดชอบในสายตาใครหลายคนแต่ผมคงยอมให้คนอื่นมาทำหน้าที่นี้แทนผมแน่นอน
ผมเดินตามหลังบีมเข้าไปในบ้านทุกคนมองบีมและลูกโซ่กันหมด ป๊า ม๊าและโกวหงส์หันมามองหน้ากัน ก่อนจะพยักหน้าและหันไปคุยกัน พี่ๆ ผมเดินตามเข้ามาเช่นกัน อาเหมยก็มองบีมและลูกโซ่
“อาเหมยจำได้ พี่ที่อาม่าบอกว่านี่ลูกเฮียเธียรอ่ะ วันก่อนที่พี่บอกว่าพาน้องไปฉีดวัคซีนวันก่อนนะคะ” อมเหมยพูด บีมแค่หันไปยิ้มพยักหน้าเบาๆ
“พี่เธียร! พี่จะไปประคองมันทำไมค่ะ พี่ต้องมาอยู่ข้างๆ แพรวาซิ “แพรวาพูดและจะเข้ามาหาผมแต่พี่ธามยืนขวางเอาไว้
“นี่เธอ ยืนเองไม่เป็นเหรอ ตัวโตซะเปล่า และนี้ไอ้เธียรมันก็ควรจะอยู่ข้างลูกข้างเมีย เธอน่ะเป็นอะไรกับมันล่ะ " พี่ธามหันมาพูดกับแพรวา "สมองน่ะคิดเยอะๆ หน่อย ก่อนที่มันจะฝ่อ” เฮียธามพูดต่อแพรวาชักสีหน้าไม่พอใจทันที
“นี่เป็นพี่ก็ไม่ได้แปลว่าต้องยุ่งไปทุกเรื่องน่ะ อันนี้เรียกว่าเสือก!!” แพรวาหันไปบอกพี่ธาม พี่ธามคงโมโหจนเกือบจะกางมือออก ผมหันไปมองพี่ธีก็ยืนสั่นหัวทันที
“อีนี่ปากดีนะมึง เดี๋ยวได้เจออะไรที่มันดีกว่าปากมึงแน่ ฝ่ามือกูนี้!!” เฮียธามทำท่าจะกางมือแปขึ้นมารอทันทีและแพรวาเองก็ไม่กล้ากับเฮียธามอยู่แล้ว นางถึงกับชะงักเท้าเอาไว้แต่ว่ามีมือใครบางคนจับมือเฮียธามห้ามเอาไว้ได้ทัน
“อย่าเฮีย อย่าไปทำแบบนั้น เดี๋ยวป๊าก็ได้รู้หรอก “เฮียธันกระซิบบอกเฮียธาม
“รู้ว่า” เฮียถามถามกลับ”
“ป๊าน่ะเสียลูกชายไปนานแล้ว เล่นกางมือแปรอตบเขาซะขนาดนี้ นี่มันลูกสาวเขาทำกัน! “เฮียธันพูดกระซิบกับเฮียธาม
" อู้ย เจ๊ลืมตัว" เฮียธามเอามือทาบอก "เว้ยย"เฮียธี "เออ เฮียลืมตัวว่ะ " เฮียแกเลยต้องชักมือลง ผมหันไปมองพี่ธาม ผมสั่นหัวเบาๆ ว่าอย่าเลยเฮีย ส่วนเฮียธีน่ะเอามือกุมหน้าอกตัวเองคงลุ้นน่าดู ทุกวันนี้ที่ช่วยปิดก็แย่แล้วน่ะ ยังไม่เก็บอาการอีกเวลาป๊าอยู่ และจังหวะที่ป๊า ม๊า และอาโกว เดินเข้ามาพอดี
“นั่งลงซิบีม” ป๊าบอกบีมให้นั่งลง ผมก็รีบจับบีมไปนั่งแต่แพรวารีบเข้ามาดึงรั้งผมอีก
“แพรวา นั่งลงก่อน เธออย่าทำให้ภาพลักษณ์เธอดูแย่ไปกว่านี้เลยน่ะ ดูบีมซิ เขานิ่งกว่าเธอ เขาดูมีราคากว่าเธออีก เธอเป็นผู้หญิงแท้ๆ สำรวมหน่อยซิ” โกวหงส์ถึงกับต้องเอ่ยปากพูด เพราะโกวหงส์คงทนไม่ไหวจริงๆ เช่นกัน แพรวาถึงกับชักสีหน้าด้วยความไม่พอใจทันที ผมยอมรับเลยว่าบีมนิ่งมาก นี้แหละวางมาดได้เหมือนม๊าของผมจริงๆ
“และฟังอะไรให้มันเรียบร้อยซะก่อน ไม่ใช่เอาแต่ร้องแลกแหกกะเชิง มันดูไม่สมกับที่เธอเป็นถึงลูกท่านรัฐมนตรี”
“นั่งลงซะแพรวา “ม๊าพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่มนวล ผมหันไปมองเธอและพยักหน้าให้เธอปล่อยแขนผมซะ ผมเดินไปนั่งข้างๆ บีมทันที และทุกคนก็หาที่นั่ง แต่แพรวามัวแต่มองผมเลยได้ไปนั่งที่ไกลออกไป เธอคงไม่อยากโดนอี๊ผมว่าเธอ เธอเลยต้องนั่งลงอย่างเงียบๆ
“เอาล่ะ เธียร เกิดอะไรขึ้น บอกป๊า บอกม๊าและอาโกวมา “ป๊าถามขึ้น ผมหันมามองหน้าบีม ส่วนเจ้าลูกโซ่ที่กอดบีมตัวสั่นเล็กน้อย
“โธ่ถังพ่อคุณ ไม่ต้องกลัวลูก “โกวหงส์ผมเอามือลูกหลังเจ้าลูกโซ่ของผม
“ป๊า ผมทำบีมเขาท้อง” ผมพูด ทุกอย่างเงียบลงทันทีแต่
“อ้ายยยย!!” แพรวากรีด นี้บรรดาเฮียผมถึงกับหยิบเอาแอร์พอตมาอุดหูไว้ทันที
“แพรวา เธอจะกรี้ดทำไมอีก “โกวหงส์หันไปถาม
“หนูรับไม่ได้ค่ะ” แพรวาพูด
“แพรวาครับ เขาก็ไม่ได้ให้แพรวารับครับ แต่เขาให้ไอ้เธียรมันรับครับเพราะว่ามันเป็นคนทำเขาท้องครับ” เฮียธันหันไปพูด
“แพรวาหมายถึงแพรวารับไม่ได้ค่ะ และพี่เธียรไปทำไอ้นี่มันท้องได้ยังไงกันค่ะ พี่ทำมันท้องตอนไหน “แพรวาลุกขึ้น อาโกวผมถึงกับส่ายหัวและหันไปมองป๊าผม ส่วนบีมที่ยังนิ่งและกอดเจ้าลูกโซ่เอาไว้
"ก็ทำนิสัยแบบนี้ไง ชาตินี้ก็คงไม่รู้หรอกว่าเขาทำกันยังไงถึงได้ท้อง และพี่เองก็ยังไม่เห็นจะมีใครหน้าไหน ยอมเป็นหน่วยกล้าตายให้เธอสักคน ขนาดไอ้เธียรเอง มันยังไม่กล้าเลย " เฮียธามคนเดิม ผมสะบัดหันไปมองหน้าเฮีย อย่าโยนมาหาผม และม๊าก็หันมามองเฮียธามทันที "ครับม๊าผมจะนั่งเงียบๆ "เธียธามพูด
"เฮีย!! นี้เฮียกล้าว่าแพรวาเหรอคะ" ส่วนแพรวาที่ดูท่าจะไม่ยอมหยุดง่ายเช่นกัน
“แพรวา ฟังเธียรพูดให้จบก่อนแพรวา น้าขอล่ะ และธามก็หยุด! ม๊าขอ “ม๊าของผมเป็นคนพูดก่อนจะหันไปมองป๊าผม "แต่แพรวาก็ยังไม่ยอมอยู่ดี"เธอยังยืนยันจะไม่ยอมฟังผมพูด
“ถ้าเงียบแบบคนอื่นเขาไม่ได้ จะให้ยืมตะกร้อเอาไหม" เฮียธามหันไปถามแพรวา
"ตะกร้ออะไร" แพรวาหันขวับไปถามเฮียธามทันที
" มันเหมาะกับเธอแน่นอนแพรวา เพราะว่ามันคือตะกร้อครอบปากสุนัข เห็นมันว่างอยู่อันหนึ่งน่ะ เอาไหมครับ และพี่จะได้ให้แม่บ้านเขาไปหยิบเอามาให้” พี่ธามหันไปบอกแพรวาพร้อมรอยยิ้ม แต่ม๊าผมหันมามองเฮียธามอีกที เหมือนกำลังพยายามจะรับหนึ่งถึงสิบอยู่น่ะ
“ธาม!!” ม๊าหันมาเอ็ดพี่ชายผมทันที
“พี่ธาม แพรวาไม่ใช่หมานะคะ” แพรวาหันขวับมาพูด
“พี่ไม่ได้ว่าแพรวาเป็นหมานี่ครับ แต่แพรวาแค่ปากหมานะครับ” พี่ธามพูดต่อและหันไปยิ้ม
“ไอ้ธาม พอ!!” ป๊าหันมาปรามเฮียธามอีกคน ปกติป๊าผมเป็นคนพูดน้อย
“เออ ตกลงเอาไหมคะ ตะกร้อนะคะ ที่เอาไว้ครอบปากสุนัข พี่มลจะได้ไปหยิบมาให้ค่ะ” คนใช้บ้านผมเอาน้ำมาเสิร์ฟพอดีเลย ทำให้ม๊ากับป๊าผมหันไปมองพร้อมกันทันทีคนใช้บ้านผม
“เฮ้ยย!!” ผมกับเฮียธีและเฮียธันร้องออกมาพร้อมกันเลย
“เอาครับพี่มล” พี่ธามรีบตอบทันทีเช่นกัน และ “ไม่เอาจ๊ะมล! วางแก้วน้ำให้แขกและเข้าไปเตรียมทำอาหารเย็นได้แล้ว ขอบใจมาก ที่ช่วยกันได้ดีจริงๆ” ม๊าของผมบอกคนใช้ ทุกคนหันมาหน้ากัน ก่อนจะหันไปมองพี่ชายคนที่สอง ขยันใส่ไฟนางเหลือเกิน "ค่ะ"พี่มลตอบก่อนจะหยิบถาดและถือกลับไป
“ตกลง คนที่พามานี้ ลูกเมียเราใช่ไหมเธียร” โกวหงส์หันมาถามผม ผมหันไปพยักหน้าตอบโกวหงส์
“หนูใช่คนที่ทำงานตำแหน่งธุรการหรือเปล่าลูก” โกวหงส์หันมาถามบีม
“ใช่ครับ ผมทำงานตำแหน่งธุรการครับ” บีมพูดพร้อมกับกอดเจ้าลูกโซ่เอาไว้ และผมก็เห็นว่าบีมอุ้มนานแล้ว ผมแบมือไปขออุ้มลูกแทนบ้าง บีมหันมามองผมเขาส่งลูกมาให้ผมอุ้ม แต่ครั้งนี้มันง่ายขึ้น
“แล้วพี่แน่ใจได้ยังไงว่าเด็กนี้ลูกพี่น่ะ พี่เธียร เพื่อว่ามันอาจจะไปนอนกับใครต่อใครมาก็ได้ และที่มหา’ลัยน่ะ ใครก็พูดกันว่ามันไปคลุกอยู่กับอากัน” แพรวาลุกขึ้นมาพูด ผมหันไปมองอากันว่าเขาจะพูดยังไงกับเรื่องนี้ ถ้าเขาพูดว่ามันคือเรื่องจริงนี้เขาก็ทำร้ายบีมทางอ้อมเช่นกัน
“ว่าไงล่ะ กัน ที่แพรวาพูดน่ะ เรื่อง “ป๊าผมหันไปถามอากันตภณทันที
“ใช่ครับเฮีย มีคนในมหาวิทยาลัยพูดกันแบบที่แพรวาพูด แต่ว่าบีมเขารับทำวิทยานิพนธ์ครับ และผมก็เป็นคนแนะนำเขาทำรายงานเพื่อหาค่าเรียนหนังสือเขาเลยมาปรึกษาผม”
“และคงไม่มีใครกล้าทำเรื่องน่าอับอายเพื่อประจานตัวเองในห้องที่มีอาจารย์นับสิบคนแบบนั้นหรอกมั้ง แพรวา เพราะทุกครั้งที่บีมมาหาผม เขาก็มาในเวลาที่มีอาจารย์เขานั่งกันอยู่ตลอด” อากันพูด ตอนแรกแพรวาก็ยิ้มเยอะแต่ก็ต้องหุบยิ้มแทบไม่ทัน
“ทำงานส่งตัวเองเรียนเหรอลูก แล้วพ่อแม่ล่ะ”
“พ่อผมเสียไปตั้งแต่ผมอายุได้เจ็ดขวบครับ และพ่อผมเป็นคนต่างชาติ พอแม่ผมแต่งงานใหม่ ท่านก็ส่งผมมาอยู่ที่ไทยกับยาย แต่พอยายผมเสีย ผมก็ไปอยู่คอนโดที่แม่ผมซื้อเอาไว้สำหรับมาพักผ่อนครับ” บีมตอบ ผมไม่เคยรู้เรื่องนี้ของบีมมาก่อนเลย บีมหันมามองหน้าผม
“ผมเองก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าตัวเองจะเป็นแบบนี้ แม่เพิ่งจะบอกกับผมว่า เรื่องทั้งหมดเป็นเพราะว่าพ่อผมที่เป็นนักวิทยาศาสตร์แต่เขาทำอะไรกับผมบ้าง ผมไม่เคยรู้หรอกครับจนกระทั่ง ..” บีมพูดก่อนจะหันมามองผมกับเจ้าลูกโซ่
“แกจะบอกว่าแกท้องและพี่เธียรต้องรับผิดชอบแกอย่างนั้นเหรอ “แพรวาลุกขึ้นอีกครั้ง ทุกคนหันไปมองเธออย่างเอือมระอา
“แพรวาใจเย็นนั่งลงก่อนได้ไหมแพรวา “ม๊าของผมพยายามใช้น้ำเย็นเข้าลูบเพื่อให้แพรวาใจเย็นลง แต่ผมว่าน้ำอะไรก็เอาแพรวาไม่อยู่แล้วแหละ เธอเอาแต่ใจจนใครๆ ก็เอือมระอาไปหมด
“ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องไปรับผิดชอบเลย ก็แค่ท้องในคืนเดียวและที่ได้กับพี่เธียรน่ะ เขาวางยาพี่เธียรหรือเปล่า ทำเหมือนในละครน่ะ ใช่ไหม แกทำแบบนั้นใช่ไหม” แพรวาพูดแต่บีมน่ะหันมามองหน้าผม
“ผมโดนวางยาจริง “ผมพูด
“นั้นไง มึง…มึงกล้าวางยาพี่เธียรของฉันเหรอ” แพรวารีบพูดต่อทันทีและทำท่าจะเข้ามาทำร้ายบีมแต่ อาโกวหงส์หันไปยิ่งสายตาที่บ่งบอกว่าจะเริ่มหมดความอดทนแล้วน่ะ ป๊ากับม๊าถึงกับออกอาการตกใจทันทีได้ยินว่าผมโดนวางยา
“แต่ไม่ใช่บีมเป็นคนวางยาผม แต่บีมก็โดนเพื่อนผมที่เล่นพิเรนทร์ วางยาเขาก่อนและผมเองก็ควบคุมสติตัวเองไม่ได้ ผมเลยทำสิ่งที่ไม่น่าจะทำกับคนที่ไปทำงานที่นั่น อย่างบีม” ผมพูด
“แต่ตอนนั้นผมตกใจและขี้ขลาดเกินไปจะยอมรับใส่สิ่งที่ตัวเองทำลงไป จนกระทั่งผมได้เห็น ลูกผมอ่ะป๊า ผมเลย…”
“ถ้าอย่างนั้น เราจะทำยังไงกับเรื่องนี้เธียร” ป๊าถามผม ผมหันไปมองบีม
“ผมจะรับผิดชอบบีมและลูก” ผมพูด
“มันก็แค่ท้องอ่ะ พี่ต้องรับผิดชอบมันเลยเหรอ ทำไมเหรอคะ ไม่เห็นจะต้องรับผิดชอบเลย” แพรวาลุกขึ้นพูดอีกครั้ง ป๊าผมลุกขึ้นเช่นกันและเดินออกไปผมไม่รู้ว่าไปไหน
“แพรวา เธอพูดแบบนี้ก็ไม่ถูกน่ะ ลองคิดกลับกัน ถ้ามีคนมาทำให้เธอท้องเหมือนบีมและแทนที่จะรับผิดชอบกลับบอกว่าเธอก็แค่ท้องล่ะ พูดว่าไม่เห็นจะต้องรับผิดชอบเธอเหมือนกัน เธอจะรู้สึกยังไงล่ะแพรวา และนี่เธียรเขาก็ตัดสินใจของเขาแล้วว่าจะรับผิดในสิ่งที่เขาทำลงไป”
“แต่พี่เธียรคือของแพรวา”
“พี่ไม่เคยบอกว่าพี่เป็นของแพรวาครับ” ผมหันไปบอกเธอ บีมหันมามองผมด้วยเช่นกัน แพรวามองผมก่อนจะหันไปมองรอยๆ
“คุณน้าจะให้พี่เธียรตัดสินใจแบบนี้ไม่ได้นะคะ เพราะว่าพ่อแพรวาไม่ยอมแน่ๆ และที่สำคัญ คุณน้ากับคุณอาคงลืมไปว่าตระกูลของแพรวาเคยช่วยตระกูลคุณน้ามาก่อน “แพรวาขุดเอาเรื่องนี้มาพูดทันที
“แล้วฉันต้องยกลูกชายให้เธอเหรอ แพรวา ถ้าเขาไม่ได้ต้องการจะเลือกเธอน่ะ “ม๊าหันมาพูดกับแพรวา ทั้งที่ไม่เคยพูดแบบนี้มาก่อน พ่อผมเดินกลับมาพอดี
“แพรวา ไอ้เธียรมันไม่ใช่สัตว์เลี้ยงของเธอน่ะ พี่ว่าเธอควรจะไปทำตัวเองให้เป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้จะดีกว่า พูดมาได้ยังไง ว่าเธียรคือของแพรวา ทั้งที่มันไม่เคยบอกเธอเลยน่ะว่า มันอยากเป็นอย่างที่เธอนั่งฝันกลางวันเอาเอง หรือที่เขาเรียกกันว่าโรคมโน คิดเองเออเองอยู่คนเดียว “พี่ธามพูดก่อนลุกขึ้นและเดินออกไปเป็นคนแรก คงเบื่อที่จะฟังความงี่เง่าของแพรวา ผมก้มลงมองเจ้าลูกโซ่เห็นเงียบๆ เหลือกตาขึ้นมองผมและหันไปมองแพรวาก่อนจะรีบหันมาซุกอกผม ส่ายหัวด้วยไม่ว่ารำคาญเหมือนกันหรือว่ากลัวกันแน่
“งั้นผมพาบีมกับลูกขึ้นห้องผมก่อนนะครับม๊า ป๊า เพราะว่าลูกโซ่ดูท่าจะง่วงแล้ว” ผมเองก็เบื่อที่จะพูดกับคนไม่รู้เรื่องอย่างแพรวา ผมพยักหน้ากับบีม บีมก็ทำท่าจะลุกเช่นกัน ผมอุ้มลูกโซ่ขึ้น
“ไม่ได้น่ะ พี่จะไปกับมันไม่ได้พี่จะให้มันนอนบ้านเดียวกับพี่ไม่ได้ ไม่ได้”
“ได้ครับแพรวา เพราะว่าบีมคือว่าที่ภรรยาของพี่ “ผมพูด บีมหันมามองหน้าผม”
“และพี่ก็.... เอาแหวนของพี่ให้บีมไปแล้ว” ผมหันไปบอกแพรวา
“อ้าว! ถ้าอย่างนั้นเราก็ขอบีมเขาแต่งงานไปแล้วซิ แหวนวงศ์ตระกูลน่ะ ถ้าให้ใครนั้นแปลว่า เราเลือกบีมแล้วใช่ไหม” โกวหงส์พูดขึ้น
“ไม่จริงอ่ะ! พี่บอกว่าพี่ทำหายไม่ใช่เหรอคะ”
“พี่โกหกแพรวา “ผมหันไปบอกแพรวา
“บีมเอาแหวนออกมาซิ “ผมบอกบีม บีมมองหน้าผม
“แหวนน่ะบีม” ผมกระซิบอีก เขาก็พึ่งจะนึกขึ้นมาได้เลยหยิบออกมาจากสร้อยคอที่ห้อยอยู่
“ชัดเลย! ยินดีด้วยครับคุณได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้” พี่ธันพูดพร้อมกับชี้นิ้วมาที่บีม
“ไม่จริง!! นั้นมันต้องเป็นของฉัน เอาคืนมาน่ะ” แพรวาทำท่าจะก้าวเท้ามาหาบีมแต่ผมก็ต้องกันบีมออก และจู่ๆ แพรวาก็ล้มลง เพราะสะดุดเท้าอาเหมย
“เออ โทษน่ะ ไม่ตั้งใจน่ะ” อาเหมยพูดแต่ผมรู้ว่าเหมยมันตั้งใจ แพรวาลุกขั้นมาได้ ก็หันไปมองอาเหมยด้วยความพอใจ แต่อาเหมยทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“พอ พอ พอได้แล้ว! “ม๊าผมลุกพรวดขึ้นยกมือห้าม
“พ่อแม่เธอจะมารับแล้วแพรวา กลับไปตั้งสติตัวเองให้ดีดี ไม่ใช่เอาแต่โวยวายแบบนี้”
“เธอน่ะคลุกคลีกับครอบครัวน้ามาตั้งแต่เด็ก เมื่อก่อนก็วิ่งตามพี่เธียร และน้าก็เห็นว่าเราน่ะ เป็นลูกคนเดียว ส่วนเธียรก็ไม่อยากให้เธอเอาแต่ร้องไห้งอแง ก็เลยยอมแต่นี้เธอโตแล้วแพรวา เธอควรจะรู้ได้แล้วว่า สิ่งที่เธอทำน่ะ มันใช้ไม่ได้แล้วน่ะที่จะงอแง โวยวายโดยไม่แคร์ว่านี้มันสมควรหรือไม่สมควร เพราะเธอไม่ใช่เด็กสองสามขวบแล้ว แพรวา!! “ม๊าผมพูด ปกติม๊าผมเป็นผู้หญิงเรียบร้อย ไพเราะอ่อนหวาน ม๊าเป็นคนที่เก็บอาการโมโหได้ดีมากมาตลอด แต่วันนี้เล่นเอาพวกผมแม้กระทั่งป๊าผมเองก็ยืนอึ้งไปตามๆ กัน
“ม๊า” ป๊าผมเองยังไม่อยากจะเชื่อเลย โกวหงส์ก็ยังงงเลยที่เห็นมาผม ของขึ้นกับเขาเหมือนกัน
“ชอบ…กดไลฟ์” เฮียธี
“มันใช่เลย งั้นกดแชร์” เฮียธีอีกคน ม๊าหันขวับไปมองพี่ชายสองคนของผม ถึงกับหดเป็นแถว
“เธียรพาบีมและลูกไปพักเถอะ โกวจะกลับแล้ว ไปอาเหมย เดี๋ยวไม่ได้กลับกันพอดีมืดค่ำซะก่อน” โกวหงส์พูดก่อนจะลุกขึ้นเช่นกัน
“ไม่แพรวาไม่กลับ” แพรวาพูด ผมหันมามองแพรวา ภาพเด็กผู้หญิงน่ารักที่เคยวิ่งตามผมเล่นกับผม ไม่น่าเชื่อว่านี้เธอช่างดูน่ากลัว ผมหันมาเอาแขนไปดันบีมที่หันไปมองแพรวาให้เดินออก ผมรู้ว่าเขารู้สึกผิดแต่คนที่ผมอุ้มอยู่นี้ก็สำคัญกับผมมากเช่นกัน ผมเอามือลูบหัวเบาๆ และนี้ผมเลือกแล้วผมเดินออกโดยไม่สนใจเสียงโวยวายของเธอ
“พี่เธียร!!!” แพรวาจะเข้ามาหา ผมเองก็ไม่ได้หันกลับไปมองเธอ ผมต้องยอมใจร้ายบ้างแล้วเพื่อไม่ให้เสียสิ่งที่สิ่งที่สำคัญกับผม นั้นคือลูกและอีกคนที่ควรค่ากับคำว่าแม่ของลูกมากกว่าแพรวา
“แพรวา” เสียงแม่ของแพรวาเรียกเธอ
“คุณแม่คุณพ่อ แพรวาไม่ยอมนะคะ แพรวาไม่ยอม พี่เธียรทำแบบนี้กับแพรวาไม่ได้ ฮือๆ คุณแม่คุณพ่อ ทำอะไรสักอย่างซิคะ แพรวาไม่ยอมให้พี่เธียรกับไอ้บ้านั้น ต้องเป็นแพรวาคนเดียว ฮือๆ ” ผมสั่นหัวให้บีมว่าอย่าไปฟังและผมก็ปล่อยให้พ่อแม่ของเธอจัดการกับลูกสาวของเขาเอง ผมพาบีมขึ้นมาบนบ้านและพาไปยังห้องนอนของผม และทันทีที่ปิดประตูห้องนอนปิดลง
“ฟู่!!” ผมพ่นลมหายใจออกมายาวๆ บีมยืนมองผม
“อันที่จริงพี่ไม่ต้องรับผิดชอบผมหรอกน่ะ ดูเธอเสียใจมากที่”
“พี่เลือกแล้ว บีม “ผมพูดก่อนจะเอาเจ้าลูกโซ่ไปล้างมือในห้องน้ำซะก่อนเพราะว่าเล่นเครื่องเล่นมา ผมกลัวลูกเอามือใส่ปากไม่รู้ว่าไปจับอะไรมาบ้าง ก่อนจะเดินออกมาเห็นบีมยืนมองรูปถ่ายผมสมัยเด็กๆ กับพี่ๆ และเขาก็หันมามองเจ้าลูกโซ่
“แล้วของใช้ลูกล่ะ ผมจะทำยังไง”
“บีมจะใช้อะไรบ้างล่ะ พี่จะได้ให้คนในบ้านไปซื้อให้ มีร้านค้าอยู่น่ะออกไปจากหมู่บ้านหน่อย” ผมบอกบีม บ้านของผมตั้งอยู่ในหมู่บ้าน ที่ค่อนข้างแพงทำเลดี ทำเลดีของป๊ากับม๊า คือไม่วุ่นวาย เงียบสงบแต่ยังอยู่ใกล้ตัวเมือง เพื่อความสะดวกสบาย จังหวะนั้นเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น ผมและบีมหันไปมองที่ประตูพร้อมกัน
TBC......
คนแต่งต้องบอกก่อนว่านายเอกเรื่องนี้ไม่ใช่นักบู๊ แต่คนแต่งตั้งใจให้เขาเป็นคนนิ่งๆ ไม่จำเป็นต้องไปออกรบเองเพราะว่าบีมเป็นคนที่น่ารัก มีคนปกป้องเยอะอยู่แล้ว
ตอนหน้าอาม่าจะมาหาหลาน อาม่าคือคนที่เธียรรักมากที่สุดรองลงมาจากป๊ากับม๊าและเป็นคนที่เธียรเชื่อฟังมากที่สุด มากกว่าป๊าเขาอีก เรามาดูซิว่าเจ้าลูกโซ่จะทำให้อาม่าหลงได้ไหมน่ะ
ขอบคุณทุกกำลังใจค่ะ เราจะสู้ไปด้วยกันจนจบ
