Part’ s หมอภีมปภพ หลังจากที่ผมวางสายจากบีม ผมก็รีบลุกจากที่นอน ตอนแรกว่าจะเข้านอนเร็วหน่อย ผมมีขึ้นเวรแต่เช้าถึงจะเป็นโรงพยาบาลพ่อผมเองก็ตามแต่ถ้าไปสายก็โดนว่าเหมือนกัน ผมมาซื้อบ้านอยู่ใกล้ๆ กับโรงพยาบาล พ่อผมซื้อเอาไว้ให้ผมนานแล้วและบ้านหลังนี้มันก็มีความหมายกับผมและกันมาก
ผมชับรถเก๋งไปที่ผับแห่งหนึ่ง ผับนี้ผมเคยสะกดรอยตามกันมา เขาขับมาที่เพื่อจะมาตามหาคนที่ทำให้บีมตั้งครรภ์ เพราะว่าบีมเคยทำงานที่นี้มาก่อน กันเคยบอกกับผมว่าเขาโดนผู้ชายคนหนึ่งข่มขืนที่นั่น ผมเดาว่ากันน่าจะรู้แล้วว่าใครกันที่ทำให้บีมท้องในคืนนั้น
“ขอโทษนะครับ ผมมาตามหาเพื่อนนะครับ เขาน่าจะมาที่ผับนี้ และผมเดาว่าคงดื่มหนักจนกลับไม่ไหวนะครับ” ผมเดินไปถามพนักงานในร้านที่ยืนอยู่
“รอสักครูนะคะ เดี๋ยวไปตามผู้จัดการร้านให้ค่ะ”
“พี่ พี่เห็นพี่นิน่าไหมคะ พอดีมีเพื่อนลูกค้าเขาบอกเพื่อนเขามาเมาที่นี้ค่ะ”
“พี่นิน่าคุยกับลูกค้าค่ะ เห็นนั่งคุยกันพักหนึ่งแล้ว ที่เข้ามาถามหาผู้จัดการคนเก่าที่ลาออกไปได้สามเดือนแล้วอ่ะ” ผมเดาว่าคนที่เขาพูดถึงคือกันตภณแน่ๆ “พี่นิน่าเขาบอกว่า ถ้าไม่มีอะไรเร่งด่วนไม่ต้องไปเรียกเขาน่ะ พี่เขาไม่ว่างน่ะแถมยังบอกว่าเตรียมตัวเลี้ยงฉลองได้เลย พี่เขาได้สามีรวยแน่วันนี้”
“โต๊ะไหนครับ คนนั้นแหละเพื่อนผม “ผมรีบกระชากแขนเธอ และถามผู้หญิงคนนั้นทันที
“เออ คือ “เธอมองผมด้วยสายตาที่แปลกใจว่าผมเป็นใครกัน
“ผมถามว่าโต๊ะไหนครับ” ผมเธอย้ำอีกครั้ง เธอหันไปมองหน้าเพื่อนๆ ที่ยืนอยู่
“ถ้าไม่ตอบผม มีปัญหาแน่ เพราะว่าเพื่อนผมนี้ พี่ชายเขาเป็นเจ้าของโรงเรียนที่มีชื่อเสียงนะครับ” ผมถามเธอ ผมมองจ้องหน้าเธอ เพื่อให้เธอรับรู้ว่าผมเอาจริงนะ
“ว่าไงครับ!” ผมเริ่มตะคอกเสียงดังใส่เธอ คนที่ผมถามถึงกับสะดุ้งสุดตัวทันที สีหน้าเธอสลดลงจากเมื่อสักครู่ทันที
“ว่าไงครับคุณ เขาเป็นเพื่อนผม ผมรู้จักนิสัยเขาดี ผมว่าเขาไม่ทำอย่างที่คุณพูดแน่ถ้าเขามีสติสัมปชัญญะครบถ้วน แต่ผมคิดว่าผู้จัดการคุณน่ะ ต้องทำอะไรสักอย่างกับเขาแน่ๆ บอกผมมา และผมจะไม่เอาผิดคุณ โทษฐานสมรู้ร่วมคิด” ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่พยายามระงับอารมณ์โกรธสุดๆ
“เออ หนู เห็นพี่นิน่ากำลังจะพาไปพักนะคะเพราะว่า เขาเมามากค่ะ” ผมก็พยักหน้า เพราะว่ามันเป็นไปไม่ได้ว่ากันตภณจะดื่มจนเมาไม่ได้สติ ถ้าไม่โดนอะไรสักอย่าง
“ถ้าไม่บอกผม ผมจะเรียกตำรวจเดี๋ยวนี้ ลุงผมเป็นผู้บังคับบัญชาสน.ใกล้ๆ นี้ซะด้วย เพื่อว่าบุคคลในเครื่องแบบมาแล้วคุณอาจจะตอบคำถามท่านได้ดีกว่าตอบผม แต่หลังจากนี้ก็หาเงินประกันตัวเองแล้วกัน” ผมไม่พูดเปล่ารีบหยิบมือถือขึ้นมาทันที
“บอก บอก บอก แล้วค่ะ อย่าแจ้งตำรวจเลยนะคะ “ได้ผลเธอรีบปริปากบอกผมทันทีจากที่ยืนอ้ำอึ้งอยู่พักหนึ่ง
“พี่นิน่าเขากำลังจะพาไปที่ห้องพักสำหรับแขกวีไอพีค่ะ แต่หนูไม่รู้นะคะว่าพี่เขาดื่มไปเยอะหรือว่าโดนอะไร แต่พี่เขาอยู่ในสภาพมึนเมาจริงๆ ค่ะ “น้องคนนั้นตอบผม
“พาผมไปเดี๋ยวนี้!!” ผมบอกเธอเชิงออกคำสั่ง เพื่อนๆ ของเธอพยักหน้าให้เธอพาผมไป เธอก็รีบนำหน้าผมทันที ผมเดินตามเธอเข้าด้านใน ดูแล้วน่าจะมีห้องพักที่สำหรับคนที่ต้องการพักเพื่อทำกิจกรรมอย่างว่า ผมมาหยุดที่หน้าห้องหนึ่ง ผมหันมาพยักหน้ากับเธอให้เธอเคาะประตู
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ผมยืนกอดอกรออยู่สักสิบนาทีได้ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกมาด้วยสีหน้าหงุดหงิดดูจากสภาพเสื้อผ้าของเธอ ผมยืนมองหน้าเธอ กรามขบเข้าหากันจนเป็นสันนูน ถ้าไม่ติดว่าเป็นผู้หญิงผมคงกระชากคอเสื้อมาต่อยแล้ว เธอหันมามองหน้าผม แววตาชวนให้สงสัยว่าผมคือใครกัน ก่อนจะหันมามองผู้หญิงที่ยืนหลุบตาลงมองพื้น
“มีปัญหาอะไร กูกำลังจะได้ผู้ชายมาเป็นผัว” เธอพูดตะคอกเสียงใส่ลูกน้องของเธอ
“พี่คนนี้เขาเป็นเพื่อนของคนที่พี่มาพาน่ะพี่นิน่า เขามาตามเพื่อนเขาและเขาขู่จะแจ้งตำรวจด้วยพี่” น้องเขาบอกผู้จัดการร้าน เธอถึงกับชักสีหน้าตกใจ ผมยืนมองเธอนิ่ง
“เปิดประตูเดี๋ยวนี้!! ถ้าไม่เปิดคุณมีเรื่องกับผมแน่” ผมพูดและคนตรงหน้าก็ยอมให้ผมเปิดประตูเข้าไป และสิ่งที่ผมเห็น มันทำให้ผมต้องผมหันกลับมามองหน้าผู้หญิงที่ร่านมาก เขากำลังถอดเสื้อผ้ากันตภพณออก
“คุณนี้มัน!!” ผมหันมามองเธอด้วยแววตาโกรธเกรี้ยวมาก แต่ว่าน้องผู้หญิงเขารีบเดินมาห้ามผมทันที
“พี่ค่ะ อย่าเลยนะคะ อย่ามีเรื่องเลยค่ะ เพราะว่าถ้าพี่มีเรื่องพวกหนูโดนพักงานแน่ๆ ค่ะ” น้องคนนั้นรีบขอร้องผมทันที
“ทำไม เมียมันเหรอ สงสัยตระกูลนี้คงเป็นทั้งหมดล่ะซิ วันก่อนก็มาถามหาไอ้ที่มาเป็นเรียนงานผู้จัดการแต่ดันอัพยากับลูกค้า จนเจ้าของร้านจับได้ หามันเจอหรือยังล่ะ ป่านนี้ไปเป็นเมียใครต่อใครแล้วมั้ง” ผมยืนมองหน้าเธอ พร้อมกับสูดลมหายใจออกยาวๆ ไม่อย่างนั้นหมัดผมคงได้ปล่อยตรงไปที่หน้าสวยๆ ของเธอแน่ๆ
“พี่นิน่าไปเถอะ เดี๋ยวก็มีปัญหาถึงคุณอรรณพหรอกพี่” ผู้หญิงที่ห้ามผมเธอรีบดึงรั้ง ผู้จัดการไร้ยางอายนั้นออกไป ผมก็เข้าไปแต่งตัวให้กันตภณแบบลวก ผมเอามือลูบใบหน้านั้น ผมสัมผัสได้ถึงการเต้นหัวในที่เร็วแต่ไม่ได้อันตรายมาก นั้นแปลว่าเขาโดยวางยาในเครื่องดื่ม ผมหันไปมองรอบๆ ห้อง มีการตั้งกล้องเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ทำไมช่างไร้ยางอายได้ขนาดนี้
“หมับ” มือของกันตภณจับที่ข้อมือผม
“บีม ทำไมบีมต้องเลือกหลานพี่ทั้งที่ไอ้เธียรมันทำให้บีมต้องมีมลทินแบบนั้น “ผมได้ยินเสียงกระซิบที่เบาแต่มันดังก้องในหัวผม
“พี่คิดว่าบีมจะไม่ทำให้พี่เสียใจเหมือน….” ผมนิ่งไปพักหนี่ง ผมดูจากอาการผมเดาได้ว่ากันตภพณ โดนแค่ยาหลอนประสาทที่ทำให้มึนงงและเหมือนคนเมาเหล้า ผมก็ต้องแบกกันขึ้นมา ก่อนจะพยุงพาร่างของกันตภณออกมา พอผมออกมาถึงหน้าประตู ผมก็เจอผู้ชายแต่งตัวดีคนหนึ่งมายืนพร้อมพนักงานที่ผมเข้าไปสอบถามตอนแรก
“ขอโทษครับ ผมอรรณภครับ ผมเป็นเจ้าของผับนี้ครับ และพอดีพนักงานผมแจ้งว่าคุณเป็นเพื่อนกับลูกค้าของผมและน้องเขาก็บอกว่าลูกค้มผมอยู่ในห้องพักนะครับ”
“ใช่ครับ ผมชื่อหมอภีมปภพ เกียรติบดินเดชากุล “ผมบอกคนที่ยืนตรงหน้า ใครก็เคยได้ยินชื่อและนามสกุลพ่อผมทั้งนั้น เป็นคุณหมอที่มีชื่อเสียงและมีโรงพยาบาลบดินเดชากุล ที่มีตั้งสามสาขาในกรุงเทพแถมเป็นโรงพยาบาลทีมีชื่อเสียงอีกต่างหาก และคนตรงหน้าผมชักสีหน้าด้วยความตกใจทันที ที่ได้ยินนามสกุลของผม
“คุณควรจะไปอบรมผู้จัดการดูแลผับคุณหน่อยนะครับ ไม่ใช่มอมยาแขกแล้วพาเขามาทำอะไรแบบนี้ เป็นผู้หญิงซะเปล่าไร้ยางอายที่สุด”
“และผับที่ดูไฮโซแต่คุณปล่อยให้พนักงานของคุณทำแบบนี้ได้ด้วยเหรอครับ หรือว่าคุณสนับสนุนให้พนักงานของคุณเป็นมิจฉาชีพซะเอง “ผมพูดตอกใส่หน้าเจ้าของผับไป ก่อนที่ผมจะพยุงกันตภณออกไปทันทีเช่นกัน ผมเดินออกไปจนถึงด้านหน้า ผมหันไปบอกเด็กที่มารับรถไปจอด เขาก็นำรถคันหรูของผมออกมาส่งให้ ผมรีบพาร่างกันตภณเข้าไปไว้ในรถของผมก่อน ผมรู้สึกว่าโทรศัพท์ของกันตภณ สั่นอยู่ในกระเป๋ากางเกงสแลกเข้ารูป ผมก็ใช่มือของผมล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของกันตภณและหยิบออกมาดู เป็นสายของอาม่าที่พยายามโทรหากัน ผมรู้ว่าอาม่าน่ะอายุเยอะแล้ว และถ้าผมบอกว่ากันตภณโดนอะไรนี้ อาม่าคงจะเป็นห่วง ผมเดินเข้ามาในรถ ผมรีบกดส่งข้อความไปหาเฮียเกริก
//เฮียผมไม่กลับบ้านน่ะ ผมจะไปหาเพื่อนนะครับ ฝากบอกม๊าด้วยครับ ไม่ต้องเป็นห่วง // ผมกดส่งข้อไปหาเฮียเกริกแทน ก่อนจะรีบขับรถออกทันที ผมหันมามองกันตภณ ที่หลับใหลไม่ได้สติ ผมดึงมือนั้น มือที่ผมเคยกุมเอาไว้มากุมไว้อีกครั้ง
ผมจำได้ดี วันที่ผมรู้จักกันตภณ ในห้องอาหารของโรงเรียน ผมรู้ว่าเขาเป็นเหมือนผม อยู่ในกลุ่มชายรักชาย แต่ผมก็ยังไม่กล้าบอกความในใจกับกันในตอนนั้น ผมเลือกไปเรียนพิเศษที่เดียวกับกันตลอดจนเริ่มสนิทกันมากขึ้น ผมรู้ว่าป๊าเขาดุมากมีรถมารับมาส่งเขาตลอด และกันก็ต้องเรียนหนักมาก ขนาดผมเองถูกแพลนไว้ว่าต้องเป็นหมอยังไม่หนักเท่ากันตภณเลย เห็นเขาเรียนพิเศษทุกวัน ทั้งที่กันตภณเป็นคนเรียนเก่งอยู่แล้ว ผมแอบชอบกันมานานมาก ผมพยายามสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่กันตภณสอบติด และพอเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกันก็ได้มาอยู่หอในนั่นแหละผมถึงได้มีโอกาส ได้บอกความในใจกับกัน และนั้นคือการเริ่มต้นความรักของผมกับกัน
เราคบกันนานหลายปี แบบหลบๆ ซ้อนๆ จนกระทั่ง กันจบมหาวิทยาลัยและกันตภณก็ไปเรียนปริญญาโทต่อจนจบผมก็เพิ่งจะจบแพทย์ และผมกำลังจะขอกันแต่งงาน แต่ความลับมันก็ไม่มีในโลก เมื่อป๊าของกันตภณจับได้ เขารับไม่ได้กับความสัมพันธ์ของผมกับกัน และนั้นเขาเลยไปทาบทามผู้หญิงที่ชื่อหลิน เธอทำงานอยู่ที่คุรุสภาเธอเป็นรุ่นน้องกันตภณสามปี และกันก็ต้องแต่งงานตามคำสั่งป๊าของเขา
วันที่ผมเสียใจที่สุดคือผมต้องทนดูคนที่ตัวเองรักไปแต่งงานกับคนอื่น ไปนอนกับคนอื่น แถมยังมาหาผมเพื่อปรึกษาเรื่องการมีบุตรกับผมอีก ถามว่าผมเจ็บไหม ผมเจ็บมาก แต่หลังจากห้าปีผ่านไป ป๊าของกันก็เสีย และกันก็ขอหย่ากับหลินเพราะว่าเขาทั้งคู่ที่พยายามจะมีบุตรด้วยกันแต่ก็ไม่สามารถจนกระทั่ง กันมาตรวจกับผมอย่างละเอียดอีกทีนั่นแหละถึงได้รู้ว่า กันตภณเป็นหมันมานานแล้ว ผมกลับยิ้มดีใจผมกลัวเหลือเกิน ผมกลัวว่าถ้าหลินจะมีลูกกับกันและเรื่องระหว่างกันกับผมคงต้องจบ และช่วงนั้นผมกับกันตภณแอบมาคุยกันและนัดเจอกันบ้างแต่น้อยมาก ผมรักกันมากต่อให้เขาแต่งงานแล้วผมก็ตัดใจจากกันไม่ได้ เจ็บมากที่ต้องทำหน้าที่ได้แค่เพื่อนที่คอยมองเวลาเขาพาหลินมาเพื่อตรวจและหาวิธีที่จะมีลูกด้วยกัน
จนกระทั่งวันที่กันได้หย่าขาดกับหลิน ทุกอย่างควรจะเป็นไปได้ด้วยดีถ้าไม่มี ผู้หญิงคนนั้นเข้ามา ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอคือน้องสาวของหลินและคืนที่ผมไม่ได้ตั้งใจมันเปลี่ยนทุกอย่างไปหมด กันตภณตัดขาดการติดต่อจากผมปีกว่าแต่ก็ยังคุยกันแบบไม่ให้ม๊าไม่สบายใจทุกครั้งที่ม๊าเขามาโรงพยาบาล พูดคุยกันแค่ในสถานะของเพื่อน จนถึงวันทีเขาโทรมาหาผมอีกครั้ง เขาบอกว่ามีเด็กที่เป็นลูกศิษย์ ของเขาตั้งครรภ์ ต้องการให้ผมดูแลน้ำเสียงที่ดูเป็นห่วงนั้น มันทำให้ผมเจ็บมากว่าตอนที่เขามีหลินซะอีก แต่ผมกลับไม่โกรธบีม ผมเห็นบีมแบบนี้แล้วผมสงสารบีมมากกว่าโกรธแค้น
ผมพยุงกันตภณออกมาจากรถเก๋งของผมที่นำเข้ามาจอดในโรงจอดรถเรียบร้อยแล้ว โชคดีที่มีห้องรับแขกอยู่ชั้นล่าง ผมคงต้องให้กันนอนห้องนี้ก่อน ถามว่าเวลานี้คือโอกาสทองแต่ทำไมผมไม่ทำ เพราะผมรู้จักกันตภณดี ถ้าเขาไม่ให้ นั้นคือไม่ให้ ผมก็ปล่อยร่างนั้นนอนลงบนที่นอน
“ภีมยังรักกันอยู่น่ะ ต่อให้กันจะบอกว่าเราไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิมแต่ภีมก็ยังรักและยังรอกันอยู่ และจะรอตลอดไป ต่อให้ต้องรอ” ผมพูดกับคนที่ยังคงไม่รู้สึกตัว ผมค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าของกันภณออกจนหมดและผมก็เดินไปหยิบภาชนะมาใส่น้ำเพื่อเช็ดทำความสะอาดร่างกายให้กัน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมทำแบบนี้ ผมดูแลกันมาตลอดตั้งแต่เป็นแฟนกัน ตอนกันเป็นไข้ไม่สบายก็ดูแลอย่างใกล้ชิดแบบนี้ ก่อนที่ผมจะลุกขึ้นไป ผมห่มผ้าห่มให้กัน ผมก้มลงจูบเบาๆ ที่หน้าผากของคนที่นอนหลับสนิท
TBC....
พี่กันตภนจะยอมกลับมาหาพี่หมอไหม สงสารพี่หมอเหมือนกัน ตอนหน้า พี่กันจะทำยังไงถ้าพี่กันรู้ว่าแพรวาไม่หยุดและยังจะกลับมาทำร้ายบีมอีก