Part’ s กันต์ธีย์ ผ่านไปเกือบสามเดือนที่ผ่านมา ที่ผมกลายเป็นแม่ลูกอ่อน วุ่นวายกับเจ้าลูกโซ่และโชคดีที่เพื่อนๆ ผมที่รอบริษัทเรียกตัวอยู่ เลยมีเวลามาคลุกอยู่กับผมพักหนึ่ง แต่ทว่าเดือนนี้ซิ คงเป็นผมคนเดียวแล้วก็เพื่อนๆของผม ได้งานกันหมดแล้วเหลือแต่ผมที่ยังต้องอยู่บ้านดูแลเจ้าลูกโซ่ โดยมีแม่ของผมคอยส่งเงินมาให้ใช้ทุกเดือน และแม่ก็บอกว่าช่วงนี้ทะเลาะกันกับแฟนใหม่ เรื่องที่ยังคงส่งเงินให้ผมอีกทั้งที่ผมเพิ่งเรียนจบใหม่ๆ ก็อย่างที่บอกฝรั่งเขาไม่ส่งเงินให้ลูกแล้วถ้าโตพอจะหางานทำเองได้ ผมเองก็เกรงใจแม่ผมแย่แล้วเหมือนกัน จะหางานทำใครล่ะที่จะดูลูกให้ผม
//บีม มะนาวไปหานะตอนเย็นน่ะ จะซื้อส้มตำไปทานกัน พวกไอ้ฟิล์มมันก็จะเข้าไปมันคิดถึงอยากฟัดหลาน// มะนาวส่งข้อความมาหาผม ผมหันไปมองคนที่เปิดประตูเข้ามาพร้อมกับของข้างมากมายที่หิวมาให้ ผมก็รีบวิ่งไปช่วยอาจารย์กันตภณถือทันที ส่วนเจ้าลูกโซ่น่ะ พลิกคว้ำพลิกง่ายเล่นที่พวกเพื่อนๆของผมช่วยกันซื้อมาให้ มันเป็นเพลย์ยิมสำหรับฝึกของเด็กกำลังหัดคว้ำ
“แล้วตกลงเราเหลืออีกกี่ตัวถึงจะจบล่ะ “อาจารย์กันตภณคุยกับคนปลายสาย
“เหลือทำThesist อย่างเดียว จะให้อานี่น่ะหาคนทำให้เหรอ “ผมได้ยินเช่นนั้น ผมหันมามองหน้าอาจารย์ทันที อาจารย์ก็มองหน้าผม เลิกคิ้วสูง ผมก็ชี้ตัวผมเอง ผมทำได้น่ะ
“จะให้หาให้แต่นายต้องจ้างเขานะ”
“เราจะรับทำเหรอ” อาจารย์กันตภณถามผมโดยใช้ฝ่ามือป้องโทรศัพท์เอาไว้
“ผมทำได้ครับ ผมว่าง และผมควรจะมีรายได้บ้าง ผมเกรงใจที่จะต้อง”
“แต่ว่า” พี่กันตภณทำท่าจะค้าน
“ตอนลูกโซ่หลับผมก็ว่างเยอะอยู่นะครับ พี่กัน” ผมพูดจาอ้อนอาจารย์กันตภณ
“ก็ได้ ส่งรายละเอียดมาให้อาทางอิเมลเข้าใจไหม ตอนนี้อาก็ยุ่งมาก ได้แค่นี้น่ะ ที่ช่วยเพราะว่าพี่ชายอาน่ะบ่นว่านายกับอาทุกวัน เขารอให้นายมาดูแลโรงเรียนที่อากงอุตส่าห์ก่อตั้งไว้ให้ลูกหลานแต่นายยังเกเรอยู่เลย อืม ไม่บ่นก็ได้ ส่งมาเลยน่ะ “อาจารย์กันตภณวางสายไป
เขาก็มองหน้าผม ที่กำลังเก็บของที่อาจารย์ซื้อมาให้ผม มีผ้าอ้อม และนมกระป๋อง อาจารย์เขาซื้อนมแพะให้เจ้าลูกโซ่ทาน อันนี้ผมก็เกรงใจหนักเข้าไปอีก นมแพะแพงน่ะสำหรับผมคนที่ไม่มีรายได้ ผมได้นมจากพี่รินทร์สำหรับเจ้าลูกโซ่ สองเดือนเต็มๆ ผมก็เกรงใจพี่เขาเลยต้องหัดลูกโซ่ทานนมผงแทน และตอนนี้พี่รินทร์ก็ยุ่งมาก เพราะว่าลูกเขาตรวจผมว่าเป็นโรคหัวใจต้องเข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาลบ่อยมาก ผมก็บอกกับพี่รินทร์ว่ามีอะไรให้ผมช่วย ผมยินดีที่จะช่วยเท่าที่ช่วยได้
“บีม” ผมหันมามองคนที่เรียกชื่อผมอย่างรวดเร็ว โดยไม่ทันตั้งตัว ผมเลเสียหลักเล็กน้อยจนเกือบจะล้ม แต่ก็ไม่ล้มเพราะว่ามีคนมาประคองเอวผมเอาไว้ได้ทัน สายตาผมประสานกันกับสายตาคู่นั้น ที่ดูอบอุ่นสำหรับผมเสมอ อาจารย์กันตภณ ใบหน้าของอาจารย์อยู่ใกล้ชิดกับผมมาก จนผมรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ที่พ่นออกมาจากปลายจมูกโด่งนั้น ริมฝีปากที่ขยับเม้มเข้าหากัน ก่อนจะค่อยๆเข้ามาใกล้ผมทุก เข้ามาใกล้ผมมากจนเกือบจะประกบริมฝีปากบางๆ ของผม
“แหง๋!” เสียงร้องจ๋าของเจ้าลูกโซ่ ทำให้ผมต้องผลักอาจารย์กันตภณกระเด็นออกไป และผมก็หันไปมองหาเจ้าลูกโซ่ น้องไม่ได้อยู่ที่ตรงเพลย์ยิมแล้ว ผมก็ย่อตัวลงมองหาว่าไปไหน
“ลูกโซ่!!” ผมเรียกหาทันที และผมก็พบว่าน้องกลิ้งไปติดที่แคบ
“กลิ้งไปยังไงของเราน่ะลูกโซ่” ผมพูดปนหัวเราะก่อนจะคลานเข่าเข้าไปดึงเจ้าลูกชายตัวดีออกมา พอผมอุ้มก็กอดผมหมับ ใบหน้าที่ก็ซุกไซ้จะหาแต่ผมแบนๆ ของผม
“ไม่เอาแล้วครับลูกโซ่ ลูกโซ่ต้องดื่มจากขวดนมน่ะครับ เพราะว่ามี้ให้ลูกโซ่ดูดนมมี้ไม่ได้นะครับ” ผมบอกลูกชาย สีหน้าผิดหวัง แต่ผมก็ต้องขัดใจ ไม่อย่างนั้น ผมต้องคอยใส่เสื้อในและต้องมีที่ซับน้ำนมที่ไหลซึมออกมาตลอดเวลา พอผมบอกไม่ได้ทำหน้างอทันที ลูกโซ่เป็นเด็กฉลาดมาก พูดอะไรไปก็รู้เรื่องไปซะหมด ผมหันมามองอาจารย์กันตภณ
Rrrrr มือถือของอาจารย์กันต์ภณ ดังขึ้น ซะก่อนที่อาจารย์จะเดินมาหาผม แต่ผมเหลือบมองนาฬิกาตั้งโต๊ะ ตอนนี้ได้เวลาลูกโซ่ต้องดื่มนมแล้ว และดูท่าจะง่วงนอนแล้วด้วย ผมจับเจ้าลูกโซ่ไปนอนเล่นในเปลเด็กก่อน เป็นแปลแบบพับได้ และมีโมบายแขวนให้ลูกโซ่ดู แต่ว่าลูกโซ่ของผมกลับไม่ได้ใช้แค่ตาดูครับ ใช้เท้าอันทรงพลังเตะหมุนไปมาได้ (ปกติเด็กน้อยเขาจะมองกันเพื่อความบันเทิงแต่เจ้าลูกโซ่ของผมยกเท้าขึ้นมาหมุนโมบายเล่นซะเพลินเชียว บันเทิงไปอีกอย่าง)
“บีม พี่ต้องกลับก่อนนะครับ บีมอยู่ได้หรือเปล่า” พี่กันตภณเดินมาบอกผม ผมหันมามองอาจาย์ ผมพยักหน้าว่าผมอยู่ได้
“ม๊าพี่น่ะ เขาล้มพี่ต้องรีบไปนะครับ พี่…”
“ไปเถอะครับพี่กัน เพราะว่าม๊าพี่สำคัญนะครับ พี่ไปดูม๊าพี่เถอะน่ะครับ “ผมพูดกับอาจารย์กันตภณ
“มีอะไรโทรหาพี่ได้ตลอดนะครับ “อาจารย์กันตภณพูดก่อนจะเข้ามาหอมที่หน้าผากของผม ก่อนจะหันไปเอื้อมหยิบกุญแจรถยนต์ ผมหันไปเห็นแหวนที่นิ้วนางข้างขวา แหวนพลอยแดงเหมือนกับแหวนที่ผมได้มาคืนนั้นไม่มีผิดเพี้ยนเลย
“บีม มีอะไรครับ” ผมคงเพ้งมองแหวนวงนั้นนานไปหน่อย
“แหวนสวยนะครับ ผมไม่เคยเห็นพี่สวมแหวนวงนี้มาก่อน”
“ก็สวมบ้างแต่บางทีก็ลืมอ่ะครับ นี่เป็นแหวนวงศ์ตระกูลพี่ครับ” อาจารย์กันตภณพูด ผมเงยหน้ามอง แหวนวงศ์ตระกูลอย่างนั้นเหรอ แต่ว่าไอ้แหวนวงนั้นมันแค่ ด.เด็กตัวเดียว ตระกูลไอ้นั้นมันคงจะด้วนไปน่ะ มีแค่ดอเด็กตัวเดียว
“ม๊าพี่เคยพูดกับพี่น่ะ ถ้าเจอคนที่ใช่ ให้ใช้แหวนวงนี้ หมั้นคนนั้น เพราะว่าแหวนวงนี้ป๊าพี่เป็นคนออกแบบเพื่อให้ ลูกชายและหลานชายของวงตระกูลใส่เท่านั้น” อาจารย์กันตภณบอกผม ผมก็ต้องยิ้ม ผมแอบคิดว่าอาจจะมีคนแอบก็อปปี้ก็ได้มั้ง
“แหง๋ๆๆ” เสียงร้องปรีดของลูกโซ่ ทำให้ผมต้องรีบหันไปชงนมทันที ตายแล้วผมลืมชงนมให้ลูกไปเลย
“พี่กันรีบไม่ใช่เหรอครับ” ผมหันมาถามอาจารย์กันตภณ
“เออ ครับ พี่ไปก่อนน่ะ” อาจารย์กันตภณบอกผม ก่อนจะเดินออกไป ผมก็รีบเดินไปควักเอาเจ้าลูกโซ่ที่ดิ้นกระจัดกระจายอยู่เปลเด็ก ผมอุ้มมาป้อนนมก่อน ผมไม่ปล่อยให้ลูกนอนกินนมในเปล คือถ้าลูกสำลักเราจะไม่รู้เลย ผมเลยเป็นห่วงตรงนี้มาก ผมป้อนจนตัวแสบหลับปุ๋ยไปแล้ว และนั้นถึงได้อุ้มขึ้นมาพาดบ่าผมก่อนจะวางลงนอนในเปลเด็กอีกครั้ง
****
Part’ s เธียรวิชย์ ตอนนี้ผมแทบจะไม่มีเวลาออกไปเที่ยวเลย ก็เพราะว่าพ่อผมขีดเส้นตายเอาไว้แล้วว่าภายในสามเดือนนี้ต้องจบปริญญาโทและบินกลับทันที และงาน Thesist ที่ผมดองไว้ ก็ต้องมาเร่งทำเอาตอนนี้เลยทำไม่ทัน นี้ผมต้องส่งข้อมูลทุกอย่างให้อากัน อากันคือน้องชายคนเล็กของป๊าของพวกผม
//ฮัลโหล อากัน//
// ว่าไงเธียร อาจะไปหาอาม่าของเราน่ะ”
//อากัน อาม่าเป็นอะไรไปครับ//
//เด็กที่บ้านโทรมาบอกอาว่าอาม่าเราน่ะล้ม และโกวหงส์ พามาส่งโรงพยาบาลแล้ว เธียร//
//แล้วนี่เรานะตั้งใจเรียนให้มันจบซะที่ซิ อาม่าก็คิดถึงเราน่ะ นี้บ่นหาทุกวัน//
//ก็รอให้ผมทำThesisส่ง ผมก็กลับแล้วอากัน//
//อาได้คนทำรายงานให้เราแล้วน่ะ เขาเป็นลูกศิษย์ของอา และเขาก็เพิ่งจะเรียนจบปริญญาตรี แต่ว่าตอนนี้เขายังไม่ได้ทำงาน อาจะวานให้เขาทำให้แต่เราต้องจ่ายเงินให้เขาน่ะ เธียร//
//และคนนี้เขาเป็นคนเก่ง ทำงานละเอียดเรียบร้อยดี //
//นาทีนี้ ผมไม่เลือกแล้วอา เพราะว่าถ้าผมไม่จบ ป๊าบอกให้ผมหางานทำที่นี้ไปเลยไม่ต้องกลับแล้วอ่ะ//
//กลัวขึ้นมาหรือไงล่ะ//
//ถ้าให้ผมไปทำงานตามบริษัทที่นี้ก็เป็นลูกจ้างนะดิอา งั้นผมเลือกกลับไปช่วยป๊าดีกว่า//
//กว่าจะคิดได้น่ะนายนี้ เอาล่ะ ส่งอิเมลรายงานที่นายต้องการมาให้อา และอาจะดูหนังสือที่ต้องใช้ประกอบให้กับกันต์ธีย์เขาทำให้//
// โอนเงินให้เขาเองด้วยน่ะ อาจะส่งเลขที่บัญชีไปให้ นะเธียร//
//แค่นี้ก่อนน่ะเธียร อาจะไปดูอาม่าแล้ว //
//ครับอา // ผมกดวางสายจากมือถือากันก่อนจะหันไปสแกนรายวิชาที่ผมต้องการให้ คนที่อาจ้างมาทำรายงานให้ผม แต่ชื่อกันต์ธีย์ ชื่อแปลกดีน่ะ และอายังบอกว่าเด็กคนนี้เพิ่งจบแต่ไม่มีงานทำ แต่ผมก็ไม่ได้ถามว่าเขารับทำเท่าไหร่ ผมนั่งนึก ผมเคยจ้างเขาทำอยู่ที่ สองหมื่นห้า เอาว่ะ จ่ายตามนี้แล้วกัน
// ฮัลโหล //พี่ธันรับสายผม พี่ชายคนที่อายุห่างจากผมแค่หนึ่งปีเอง พี่ๆ ผมเรียนจบที่ไทยกันหมดแต่มีแค่ผมคนเดียว ที่ถูกส่งมาเรียนปริญญาโทที่ต่างประเทศ ผมรู้ว่าทำไมป๊าส่งผมมา เพราะแพรวานั้นแน่ๆ คือว่าผมเกิดมาหล่อเกินไป จนเธอไม่ยอมต้องอยู่ติดผมให้ได้ ถ้าอยู่ไทยนี้สาวๆคนไหนมาใกล้ผมนี้เธอจัดการหมด ผมเลยซ่าได้แค่ที่เมืองนอกเท่านั้น และที่นี้เราก็เสมอกันผู้หญิงผู้ชายและเรื่องเซ็กส์มันก็คือความสุขพื้นฐาน
//เฮีย// ผมเรียกเฮียธัน
//ว่าไงว่ะ เธียร // น้ำเสียงที่กำลังหงุดหงิดเพราะถูกขัดจังหวะแน่ๆ ฮั้นแน่ หนีป๊ามาหาเด็กเฮียน่ะซิ
//ทำไมทำเสียงแบบนั้นล่ะเฮีย ขัดจังหวะเฮียเหรอครับ//
//มีอะไรรีบพูดมาเลย เฮียรีบ เพราะว่าต้องรีบกลับบ้าน ไปกินข้าวบ้าน //
//เฮียอยู่ไหนอ่ะ//
//อยู่คอนโดกูดิ มีอะไร//
//มาคอนโดแสดงว่า//
//กูไม่ใช่มึงครับไอ้เธียร ถ้าเป็นแฟนกูก่อนแล้วกูค่อยขอเขา มึงน่ะเจอปั๊บฟันปุ๊ปทิ้งขว้างทันที และนี่มีอะไรว่ามาเฮียจะรีบไปอาบน้ำแล้วต้องกลับไปหาม๊า ช่วงนี้ม๊าน้อยใจอยากให้อยู่ทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาอยู่ ขาดแต่มึงนี่แหละ//
//เฮียโอนเงินให้หน่อย ผมจ้างเขาทำThesis ให้น่ะเฮีย สองหมื่นห้าพันบาท เฮีย //
//เอาเลขที่บัญชีมา // เฮียธันบอกผมโดยไม่ต้องคิดมากทันที
//เดี๋ยวส่งให้เลยเฮีย//
//อืมงั้นแค่นี้น่ะ เฮียรีบ//
//ปั่ม ปั๊ม สาวเหรอเฮีย//
//รู้อีกแค่นี้แหละ // และเฮียธันก็วางสายจากผม ผมก็รีบ forward เลขที่บัญชี คนที่อากันของผมจ้างให้ทำThesis ให้ผมทันที โอนก่อนเลยน้องจะได้ไม่เปลี่ยนใจ ถ้าเพิ่งจบก็ต้องอ่อนกว่าผมสองสามปี เพราะว่าแพรวาก็จบปีนี้ ยังอ่อนกว่าผมสามปีเลย
*****
Part’ s อาจารย์กันตภณ ผมรีบมาที่โรงพยาบาลของเพื่อนรักของผม ไอ้หมอภีมปภพ หลังจากที่พี่สาวผม เจ๊หงส์พี่สาวของผมโทรบอกผม ว่าม้าของผมหกขล่ม ผมก็รีบขับรถออกมาจากคอนโดของบีมทันที ผมยอมรับว่าผมเข้าบ้านดึกแต่ม้าผมก็เข้าใจว่าผมทำงานเลิกเย็นมาก แต่จริงๆ ช่วงนี้ผมมาดูแลบีมเขา ก็ไอ้หมอภีมบอกว่าต้องมีคนดูแลบีมช่วงนี้จนถึงหกสัปดาห์ขึ้นไป เพราะว่าแผลผ่าตัดยังไม่ประสานกันดี บีมยังยกของหนักไม่ได้ ขับรถไม่ได้ ดังนั้นผมก็จะคอยซื้อของไปให้ และนี้ก็เลยไม่ค่อยได้เจอม้า เพราะกลับมาถึงม้าก็เข้านอนแล้ว
//เจ๊ ผมกำลังจะเข้าไป อยู่แผนกออร์โทพีดิกซ์ใช่ไหมเจ๊ ได้เจ๊ ผมเห็นอาเหมยแล้วเจ๊// ผมกดวางสายขณะที่ผมชะเง้อคอมองเห็นอาเหมยหลานสาวคนโตเป็นลูกของพี่สาวผมเอง เหมยเรียนมหาวิทยาลัยที่ผมสอนแต่เรียนคณะเภสัชศาสตร์ ผมเลยไม่ค่อยได้เจอกัน
“พี่กันคะ” ผมสะดุ้งสุดตัวทันทีที่มีคนเรียกผม ผมหันมามองต้นเสียง
“น้องหมอป่าน”
“ค่ะ ทำไมต้องตกใจสายป่านขนาดนั้นล่ะ หรือว่าพี่กันรู้สึกผิด”
“สายป่าน พี่ไม่ได้รู้สึกผิดอะไรนี่ครับ และพี่ก็รีบครับ ม๊าของพี่เขามาหาหมอนะครับ พี่เลยรีบ” ผมอธิบายกับหมอสายป่าน ผมเห็นหมอสายป่านมองเหมือนจะถามหาบีมซิน่ะ
“บีมเขาดูลูกเขาน่ะ”
“น้องสบายดีไหมคะ ตอนนี้คงจะสามเดือนแล้วใช่ไหมคะ”
“ครับ น้องสบายดีครับ” ผมพูดกับหมอสายป่าน
“พอป่านเห็นเด็กคนนั้น มันทำให้ป่านคิดว่า พี่ไม่ได้โกหกอะไรพี่สาวป่านเพื่อต้องการหย่าหรอกมั้งคะ”
“หมอสายป่านครับ ที่พี่เลือกที่จะหย่าเพื่อให้หลินไปเจอคนที่เขารักจริงๆ พี่สายป่านน่ารู้ดีกว่าพี่ เพราะหลินคือพี่สาวแท้ๆ ของสายป่าน”
“ไม่ใช่เพราะว่าพี่หลินจับได้ว่าพี่ มีสัมพันธ์สวาทกับผู้ชายเหรอคะ” หมอสายป่านถามผม ผมหันไปมองหน้าเธอ
“สายป่านไม่ได้แอนตี้รักแบบนี้ แต่สายป่านแอนตี้พี่เพราะว่า ทำไมพี่ไม่บอกป๊าของพี่ตั้งแต่ก่อนจะแต่งงานกับพี่สาวสายป่านละคะว่าพี่ชอบแบบไหน”
“พี่ว่ามันจบไปแล้ว”
“พี่ไม่รู้หรอกว่า พี่หลินเขาดีใจที่จะได้ผู้ชายดีดีอย่างพี่มาเป็นสามี ทั้งที่ยังไม่รู้เลยว่าจะรักไหม แต่พี่หลินก็พยายามซื้อใจพี่”
“สายป่านพี่”
“ไอ้กัน ม๊ามึงรออยู่” เสียงที่ทำให้การสนทนาของผมกับหมอสายป่านหยุดชะงัก ผมหันไปมองหมอภีมปภพ หมอภีมปภพมองหน้าผมกับหมอสายป่านสลับกันไปมา
“สายป่านขอตัวนะคะ มีคนไข้ค่ะ “หมอสายป่านพูด ผมหันมามองหน้าหมอภีมปภพ
“หมับ” หมอภีมปภพ จับต้นแขนผม
“มีปัญหาอะไรกันเหรอว่ะ”
“ไม่มีหรอก เขาแค่ ไม่เชื่อว่าผลการตรวจว่ากูเป็นหมันคือเรื่องจริง” ผมพูดก่อนจะสะบัดแขนไปจากหมอภีมปภพ ผมเดินตรงไปหาม๊าของผม
“จะแห่กังมาทำไม ไม่ได้เป็งอาลาย ม๊ากสักหน่อย” ม๊าของผมพูดแต่ใจก็อยากให้ลูกๆ หลานๆ มาดูแหละ
“อ้าวเฮียเกริกมาแล้วม๊า” เจ้หงส์พี่สาวของผม ผมมีพี่น้องกันทั้งหมดสามคน พี่เกริกคือพี่ชายคนโต เจ้หงส์และผมคนที่สามแต่ผมนี้เป็นลูกหลง ม๊าอยากมีหลายคนแต่ว่าแท้งไปซะส่วนใหญ่ จนเหลือแค่สามคนนี้แหละ
“กัน มึงมาเหมือนกันเหรอ “ผมหันไปยกมือไหว้พี่ชายของผม และหลานชายอีกสองคนที่มากับพี่ชายผมก็ยกมือไหว้ผมเช่นกัน หลานชายคนโต และอีกคน ธาม เป็นหลานคนที่สอง มีอีกคนชื่อธัน เป็นหลานคนที่สามและเธียรคือหลานคนที่สี่ ลูกคนสุดท้องของพี่ชายผม
“มากังให้วุ่นวาย อะไรก็ไม่รู้ แล้วนี่อาเธียรล่ะ มันยังไม่กลับอีกเหรอ อาเกริก “อาม๊าถามหาเจ้าเธียรกับพี่ชายผมทันที
“ใกล้แล้วม๊า”
“เลิกเรียน มันเลิกกี่โมงว่ะ อาเหมย” ใช่แม่ผมเป็นโรคอัลไซเมอร์ หลงๆ ลึมๆ จำได้บ้างจำไม่ได้บ้าง แต่เรื่องในอดีตจำได้แม่นมากโดยเฉพาะเรื่องเจ้าเธียรวิชย์
“ม๊า อาเธียรน่ะเรียนมหาลัยแล้วครับม๊า และมันก็เรียนที่อังกฤษโน่นเลย ตอนนี้ผมบอกมันแล้วน่ะม๊า ว่าถ้ามันไม่กลับมาในอีกสองเดือนนี้ผมจะให้มันอยู่ที่โน่นไปเลย” พี่ชายของผมเฮียเกริกบอกกับม๊าของผม
“ม๊าเข้าห้องน้ำก่อนไหม ขึ้นรถจะได้ไม่ต้องปวดเพราะว่าจะถึงบ้านคงเกือบชั่วโมงนะม๊า” เจ๊หงส์ถามม๊า ก่อนจะเข็นรถพาม๊าไปห้องน้ำ
“ม๊าเป็นไงบ้างว่ะไอ้หมอ” ถามหมอภีมปภพ
“ก็ข้อเท้าพลิกน่ะไม่ถึงกับหักน่ะ แต่ก็ระวังหน่อยเพราะถ้าล้มอีกอาจจะหักได้และม๊าน่ะอายุเยอะแล้วผ่าตัดก็ฟื้นตัวช้า “หมอภีมปภพพูด ผมเห็นพยาบาล ออกมาขอคุยกับหมอภีมปภพ
“กัน ตกลงยังไง เรื่องเด็กที่เราบอกว่า ท้องนะ”
“ไม่มีอะไรแล้วครับเฮีย เพราะว่าผมยกเลิกเสนอชื่อน้องเขาเข้ารับปริญญาเกียรตินิยมอันดับสองไปแล้ว ตอนนี้น้องเขาก็จบแล้วครับเฮีย”
“นายไม่ได้ทำเขาท้องน่ะ”
“เฮีย เฮียน่าจะรู้จักผมดี”
“ก็แค่ถามดู กูยังไม่เชื่อเลย ม๊าเองยังไม่เชื่ออีกคน”
“ม๊ารู้แล้วเหรอเฮีย”
“รู้แล้ว ขำตายเลยที่รู้ว่ามึงไปทำใครท้องน่ะ” เฮียเกริกพูด
“ป๊า ไอ้เธียรมันโทรมาขอเงินเพิ่มอ่ะป๊า” ธันหลานชายผมเดินมาบอกพี่เกริก พี่ชายผมถึงกับส่ายหัวไปมาทันที ก่อนจะหันไปรับโทรศัพท์จากธัน เพื่อไปคุยกับลูกชายคนเล็ก
“โรงเรียนสาขาที่กูจะยกให้มันดูแล กูว่ายกคืนให้มึงดีกว่าไอ้กัน เลิกเป็นอาจารย์เงินเดือนน้อยแต่ใช้งานราวกับเป็นเจ้าของเถอะ ” พี่เกริกหันมาพูดกับผมก่อนจะเดินออกไปเช่นกัน ผมหันมามองหลายชายอีกสองคน
“อย่ามองผมเลยอา ผมก็เต็มมือ เหลือแต่ไอ้พ่อพวงมาลัยของอานี้แหละ “ธาม รีบปฏิเสธทันที ผมเองไม่อยากยุ่งไม่อยากได้เพราะว่าอยากให้พี่ชายผมยกให้หลานมากกว่า ส่วนพี่สาวผมน่ะเขาแต่งงานกับลูกเจ้าของโรงแรมเขาก็ไม่เอากิจการของป๊าผมเหมือนกัน ผมคงต้องโทรไปคุยกับไอ้เธียรวิชย์หลานชายผมแล้วซิน่ะ ว่าให้มันกลับมาได้แล้ว ม๊าผมออกมาจากห้องน้ำ
“ตกลงไอ้เธียรมันมาหรือยังอ่ะ “ม๊าถามหาเธียรวิชย์อีกแล้ว ทำไมนะเหรอครับ เพราะว่าม๊าผมเลี้ยงเธียรวิชย์มาตั้งแต่อาซ้อคลอด อาซ้อตรวจพบว่าเป็นเนื้องอกเลยต้องรักษาก่อน ส่วนผมนี่ก็ช่วยม๊าของผมเลี้ยงไอ้เธียรวิชย์มาเหมือนกันทั้งที่อายุสิบกว่าๆ เอง
“มันไม่อยู่เหรอ หรือว่ามันเลี้ยงลูกมันอยู่” อาม๊าพูด ทำให้ทุกคนหันไปมองม๊าของผมกันหมด
“ม๊าพูดอะไร อาเธียรวิชย์มันยังไม่มีเมียเลยน่ะม๊า” เจ๊หงส์บอกม๊า
“ก็มันไปหาม๊าอ่ะ มันอุ้มลูกมันไปด้วยอ่ะ และเมียมังด้วย สงสัยเมียมันจะเป็นทอม ผมสั้นเหมือนรองทรง” ม๊าของผม ผมก็ต้องพากันแตะหน้าผาก
“อาม่าบอกเหมยว่าฝันว่าเฮียเธียรวิชย์อุ้มหลานมาหา อาม่าเลยถามหาแต่เฮียตลอดและเหลนด้วย” อาเหมยบอกผม
“อาม่า เธียรวิชย์มันยังไม่มีเมีย เป็นตัวเป็นต้นเลยน่ะอาม่า” ธามพูดกับม๊า ปนหัวเราะ
“แล้วเมียมันไม่เป็นตัวตัวเหรอว่ะ”
“ยังอาม่า เพราะว่ามันมีผู้หญิงพร้อมๆ กันทีเดียวหลายๆคน เลยยังตกลงไม่ได้ว่าใครจะเป็นเมียตัวเป็นๆ ของมันน่ะอาม่า” ไอ้หลานชายผม
“ธาม พูดอะไรเกรงใจอาม่าหน่อยซิเรานิ “เจ๊หงส์ หันไปจะตีหลานชาย เฮียเกริกเดินกลับมาพอดีเลย
“งั้นม๊ากลับบ้านเลยแล้วกัน ผมต้องย้อนกลับไปรับ ม๊าเจ้าสองตัวนี้ก่อน “พี่ชายคนโตพูด
“ผมพาม๊ากลับบ้านเองเฮีย ผมไม่ไปไหนแล้ว” ผมบอกพี่ชายคนโตของผม
“งั้นก็ตามนั้นน่ะกัน เฮียขอโทษที ช่วงนี้วิ่งรอกหลายทีเพราะว่ามีปัญหาผู้ปกครอง น่ะเฮียต้องเข้าไปแก้ไขเอง” เอียเกริกหันมาบอกผม ผมพยักหน้า เพราะเหตุนี้ เจ๊หงส์เลยไม่อยากรับช่วงต่อด้วย
“ม๊า ผมไปเอารถก่อนนะม๊า เราจะกลับบ้านกัน”
“ไม่กลับบ้านแล้วมึงจะไปไหนอากัน ก็กลับบ้านดิ ทำเหมือนไม่มีบ้านอย่างนั่นแหละ “ม๊าของผมพูด ผมก็หันมามองเจ๊หงส์ เจ๊หงส์พยักพเยิดให้ผมออกไปเอารถเถอะ ก่อนจะเดินออกไปก่อนจะหันซ้ายแลขวามองหาไอ้หมอภีมแต่ว่าดูท่ามันจะยุ่ง เดี๋ยวค่อยโทรมาคุยกับไอ้หมอภีมแล้วกัน ระหว่างที่ผมกำลังจะเดินออก
//บีม//
//ครับพี่กัน//
//เพื่อนมาหรือยังครับ//
//มาแล้วครับพี่กัน ตอนนี้กำลังป้อนนมเจ้าลูกโซ่กันอยู่ครับ//
//พี่ไปหาเราพรุ่งนี้แล้วกันนะ และจะเอาอะไรเพิ่มบอกพี่น่ะครับ พี่จะได้ซื้อไปให้ครับ//
//ไม่เป็นไรครับพี่กัน เออ พี่กันพี่ส่งอิเมลงานมาให้ผมเลยก็ได้ครับ ผมจะได้ร่างไว้ก่อนนะครับ //
//อ้อรายละเอียดทำthesis ให้หลานชายพี่นะเหรอครับ ได้ครับ พี่จะส่งให้นะครับ แค่นี้ก่อนนะครับบีมพี่ต้องไปเอารถ และไปพาม๊าพี่กลับบ้านครับ//
// ครับพี่กัน ไม่ต้องเป็นห่วงผมครับ อยู่กับม๊าพี่บ้างนะครับ คนแก่น่ะเขาขี้ใจน้อยนะครับ ส่วนผมกับเจ้าลูกโซ่น่ะโอเคครับ//
// ขับรถดีดีนะครับพี่กัน ผมเป็นห่วง// นี่แหละที่ทำให้ผมหลุดยิ้มทันที ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาเจอกับหมอสายป่าน ที่ยืนกอดอกมองผมอยู่
//แค่นี้น่ะครับ มีอะไรโทรหาพี่ได้ตลอดครับบีม// ผมกดวางสายจากบีมก่อนจะ และกำลังจะหันหลังเดินออก ผมเองก็ไม่อยากจะปะทะคารมกับหมอสายป่านหนัก ผมรู้ว่าเธอไม่พอใจเรื่องพี่สาวของเธอ
“เนื้อก็ไม่ได้กิน หนังก็ไม่ได้รองนั่ง แต่กลับเอากระดูกมาแขวนคอ อย่างนั้นหรือคะพี่กัน”
“พี่เคยพูดกับพี่หลินตอนที่พี่หลินอยากจะขอเด็กมาเลี้ยงแต่พี่กลับปฏิเสธ และกลับบอกว่าไม่ใช่ลูกตัวพี่ไม่เอาแต่นี่พี่กลับเต็มใจไปเลี้ยงลูกคนอื่น นั้นแปลว่า พี่ก็อยากจะเลิกกับพี่หลินอยู่แล้ว ถูกต้องไหมคะ”
“ต่อให้พี่หลินพยายามประคับประคองให้อยู่กันมากแค่ไหนแต่พี่ก็ไม่เคยพยายามรักษาเช่นกัน”
“แถมพี่หมอภีมก็ช่วยพี่น่าดู พี่กับหมอภีมน่ะมีอะไรลับหลังพี่หลิน ทำไมป่านจะไม่รู้ และพี่ก็ทำให้พี่หลินเองที่เป็นฝ่ายขอเลิกเพราะทนพฤติกรรมแบบนี้ไม่ได้”
“แต่ก็น่าสมเพชแทนหมอภีมนะคะที่ทำมาทั้งหมด สุดท้ายพี่ก็กลับไปเลือกเด็กที่เป็นลูกศิษย์ตัวเอง “หมอสายป่านพูดก่อนจะเดินหลังออกไป ผมก็เดินแยกไปเอารถยนต์ผมทันที เพื่อมารับม๊ากลับบ้าน
// ไอ้กัน กูว่าจะออกมาคุยกับมึงอ่ะ ไปไหนวะ และนี่จะกลับบ้านเลยไหม// หมอภีมปภพ ผมหยิบมือถือขึ้นมาอ่าน
// กูจะพาม๊ากลับบ้านว่ะ ภีม //
//เออๆ และอย่าลืมบอกบีมล่ะ ว่านัดฉีดวัคซีนลูกโซ่ ตอนสี่เดือนน่ะ มึงพามาเองไหม //
// อืมจะพามาเอง //
//โอเค แล้วเจอกันว่ะ // ผมขับรถมาจอดที่ด้านหน้า เฮียเกริก เข็นม๊ามารอผมแล้ว ผมก็ลงไปเปิดประตูให้ม๊าขั้นมานั่ง
“พรุ่งนี้เหมยไม่ไปนะคะอา เพราะว่าเหมยต้องเตรียมตัวเรียนปริญญาโทก่อนนะคะ “อาเหมยหลานสาวของผม
“พรุ่งนี้ม๊าอยู่กับพี่บัวก่อนแล้วกัน และอาจะเลิกเร็วหน่อยมาอยู่กับอาม่าเองเหมย ขอบใจมากน่ะเหมย” ผมพูดก่อนจะเดินเข้าไปทำหน้าที่คนขับรถ ม๊าที่นั่งข้างๆ ผม ม๊าหันมามองผม
“อากัน ลื้อ ไม่หาใครสักคนล่ะ เลิกกับอาหลินไปนานแล้ว หาสักคนซิ จะได้มาอยู่เป็นเพื่อนม๊าบ้าง”
“อากัน จะผู้หญิงผู้ชาย ม๊าไม่ว่าหรอก ม๊าไม่เหมือนเตี่ยลื้อ เตี่ยลื้อมันเป็นพวกรักเชื้อสายวงค์ตระกูล มันแค่กลัวไม่มีใครสืบนามสกุลมันต่อน่ะ” ม๊าพูดกับผม ผมหันมาจับมือม๊า
“จริงนะม๊า ถ้าผมเจอแล้ว ม๊าจะไม่ว่าผมน่ะ ถ้าเขาไม่ใช่ผู้หญิงทั่วไป”
“อากัน เรื่องมันผ่านมาน่านแล้วน่า และม๊าก็รู้สึกผิดที่ไม่มีปากมีเสียงช่วยลื้อในตอนนั้นน่ะ ทุกอย่างมันคงไม่ต้องเป็นแบบนั้น ลื้อคงไม่ต้องกล้ำกลืนฝืนทน ถึงจะแค่ห้าปีก็เถอะ”
“และนาทีนี้ ม๊ายังเลือกได้อีกเหรอ พามาเหอะ เดี๋ยวม๊าซี้แหง๋แก๋ก่องได้เห็นหน้าเมียลื้อ ” ม๊าผมเป็นคนตลกครับ และผมก็รักม๊าผมมากเช่นกันผมถึงไม่ย้ายออกไปไหน ขนาดปําแถบจะไม่พูดกับผมเลยตั้งแต่รุ้ว่าผมมีรสนิยมชายรักชาย และม๊าเข้าใจผมมากกว่าป๊าผมอีก แต่ก่อนที่ป๊าจะเสีย ม๊าแทบจะไม่มีปากมีเสียงอะไรเลย ที่จะค้านช่วยลูกๆ แม้กระทั่งเจ๊หงส์แถมลูกสาวพ่อไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญมากเพราะว่าคิดว่าต้องแต่งงานออกไปอยู่กับคนอื่น และนี้ป๊าบังคับให้ผมแต่ง ผมก็ต้องแต่งถึงแม้ว่าม๊าอยากจะค้านแต่ก็ค้านไม่ได้ สุดท้าย ผมก็เลิกกลับหลินจนได้หลังจากป๊าเสียไม่ถึงปี และผมก็เลือกที่จะขอยู่กับผุ้หญิงคนนี้แต่ว่าตอนนี้ผมกลับกำลังจะเจอคนที่ผมอยากจะพามาเปิดตัวกับม๊าอีกครั้ง
TBC….
ขอบคุณกำลังใจให้คนแต่งนะคะ
คนแต่งจะพยายามให้ดีที่สุด มีคำผิดจะเข้ามาแก้ไขให้เรื่อยๆค่ะ เป็นกำลังใจให้คนแต่งด้วยนะคะ เม้นหนึ่งกำลังใจค่ะ