#น้องคนดีมีรอยสัก - แจ้งข่าวรูปเล่ม [24/09/19]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: #น้องคนดีมีรอยสัก - แจ้งข่าวรูปเล่ม [24/09/19]  (อ่าน 332292 ครั้ง)

ออฟไลน์ Jiraapp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: #น้องคนดีมีรอยสัก - 7. A sweet lie [19/2/2019]
«ตอบ #360 เมื่อ24-02-2019 12:07:15 »

ผช.คนนั้นเป็นใครมาตามพี่คนดีทำไมฮะ นังครามเบามือหน่อยพี่คนดีช้ำหมดแล้ว >////<

ออฟไลน์ oohsg94

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 92
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: #น้องคนดีมีรอยสัก - 7. A sweet lie [19/2/2019]
«ตอบ #361 เมื่อ24-02-2019 12:47:38 »

โง้ยยย คนดีน่ารักแบบเต็ม10ให้ล้านไปเลย อยากได้ๆๆๆ อิจฉาครามๆๆๆ

ออฟไลน์ zearet17

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 345
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +555/-0
    • facebook
คุณหมีกับลูกเจี๊ยบ



“คนนั้น เขายังมากวนคนดีอยู่ไหม”
 
ผมถามขึ้นในเย็นวันศุกร์ที่มารับเขาถึงที่ฝึกงาน ตั้งแต่เจอเรื่องวันนั้นจากที่ผมกะเวลาขับรถมารับเขาให้พอดีเลิกงาน ผมก็รีบออกมาก่อนเพื่อที่จะได้รอเขา

...ผมไม่อยากให้เขาเจออะไรไม่ดีอีก...
 
“ครามรู้ว่าคนดีไม่อยากเล่า แต่ครามเป็นห่วงคนดีมากเลยนะ”
 
ผมบอกคนข้างตัว คนดีส่ายหน้าไปมาอย่างเคยเวลาที่อยากจะปฏิเสธ
 
“ผมไม่เป็นไรครับ”
 
ว่าแล้วว่าต้องได้คำตอบแบบนี้ ผมถึงคิดเผื่ออยู่หลายอย่าง
 
“งั้นคนดีไปเรียนพวกมวยไทยมั้ย เวลาครามไม่อยู่ จะได้สู้เขาได้ หรือไม่ก็พกพวกอุปกรณ์ป้องกันตัว”
 
คนดีส่ายหน้า
 
“ตอนเด็กๆเคยเรียนเทควันโด้ครับ แต่ก็ไม่รอด”
 
เขาเล่าพร้อมกับยิ้มน้อยๆ
 
“แล้วครามจะช่วยอะไรคนดีได้บ้าง ครามไม่อยากให้คนดีโดนใครทำร้ายนะ”
 
“ผม…”
 
“ครามรักคนดี เลยเป็นห่วงคนดีมาก”
 
ผมว่า คนดีอาจจะไม่รู้หรือไม่ก็อาจจะไม่คิดก็ได้ว่าผมเป็นห่วงเขามากขนาดไหน
 
“ผมไม่เป็นไรครับ”
 
ผมถอนหายใจพร้อมกับมองไปยังแยกข้างหน้าที่รถติดขนัด เรานั่งเงียบกันไม่เหมือนอย่างเคย

ผมยอมรับว่าตัวเองหงุดหงิดและอย่างที่พวกไอ้แซมรู้ว่าผมเป็นคนใจร้อนมาก แต่กับคนดี ผมไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงจริงๆ

ผมมองไปยังถนนข้างหน้า ข้ามแยกนี้ไปก็จะถึงบ้านของคนดีแล้ว
 
“คราม โกรธเหรอครับ”
 
“โกรธใคร”
 
ตอนนี้ถ้าโกรธคงโกรธตัวเองที่ทำอะไรไม่ได้เลย ผมเอาแต่คิดว่าถ้าเขาเจอเรื่องแบบนั้นแล้วผมไม่ได้บังเอิญไปทันพอดี คนดีจะเป็นยังไงบ้าง แล้วผมจะทำยังไงได้บ้าง
 
คนดีเขาเอื้อมมือมาจับมือผมตรงกระปุกเกียร์ ตาคู่สวยมองกันเหมือนกำลังรู้สึกผิดมากมาย
 
“ครามโกรธคนดีเหรอครับ”
 
ผมถอนหายใจอีกรอบ เป็นแบบนี้ใครจะโกรธลง
 
“คนดีฝึกงานเป็นไงบ้าง”
 
ผมเปลี่ยนเรื่องคุย เพราะถามเขาเรื่องผู้ชายคนนั้นทุกวัน และคนดีก็ไม่เคยให้คำตอบอะไรผมเลย
 
“ก็สนุกดีครับ ครามล่ะ ใกล้สอบแล้วอ่านหนังสือยังครับ”
 
“อ่านแล้ว”
 
ผมตอบก่อนจะจอดรถที่หน้าบ้านหลังสวย เห็นว่าไฟเปิดแล้ว
 
“วันนี้พี่คู้กับโต้ซังกลับมาแล้วใช่ไหม”
 
หลังจากเหตุการณ์วันนั้นผมไม่ปล่อยให้เขาอยู่คนเดียวเลย ซึ่งก็ดูเหมือนคนดีจะรู้ เขาถึงยอมให้ผมไปรับส่งทุกวัน และถ้าวันไหนที่บ้านเขากลับช้าก็จะเป็นผมที่อยู่กับเขาจนกว่าที่พี่คู้หรือโต้ซังจะกลับมา
 
“กลับแล้วครับ”
 
ผมพยักหน้ารับก่อนจะลูบหัวคนที่ผมยาวมากแล้ว
 
“งั้นครามกลับแล้วนะ”
 
คนดีแตะมือที่แขนผมเบาๆ ผมจับมือนั่นขึ้นมาแนบแก้ม
 
“ว่าไงคะ”
 
“คือจริงๆแล้วโต้ซังชวนกินข้าวเย็นนี้ครับ ไม่รู้ว่าครามสะดวกไหม”
 
พ่อกับพี่ชายเขาเจอผมแทบจะทุกวันที่บ้าน นอกจากทักทายแล้วก็ยังไม่ได้ถามไถ่อะไรกันมาก ผมว่าผู้ใหญ่ดูออก แค่รอเวลาที่จะพูดเท่านั้นเอง
 
“สะดวก แต่ครามจะไม่โดนโต้ซังตีใช่ไหม”
 
ผมถามพร้อมกับหัวเราะ แต่คนดีส่ายหน้า
 
“โต้ซังใจดี”
 
พ่อที่ไหนก็ใจดีกับลูกตัวเองทั้งนั้น แต่กับลูกคนอื่นน่าจะเป็นอีกเรื่อง ผมกดจูบที่ฝ่ามือเขาก่อนจะดับเครื่องยนต์
 
แต่ก่อนผมมักจะกังวลและกลัวกับการเจอพ่อแม่ของแฟน แต่กับบ้านคนดีที่เคยเจอหลายครั้งกลับคนละแบบ
 
“สวัสดีๆ”
 
โต้ซังที่กำลังทำอาหารอยู่ในครัวยกมือรับไหว้เรา คนดีเดินเข้าไปหาพ่อเขาก่อนจะถาม
 
“พี่คู้ล่ะครับ”
 
“พี่คู้อยู่ที่ร้านเสื้อผ้า คงไม่กลับ คนดีอยากกินอะไร โต้ซังทำผัดผักกับซุปให้ไหม”
 
คนดียิ้มพร้อมกับมองวิตถุดิบทำกับข้าวของคนเป็นพ่อ
 
“ได้หมดเลยโต้ซัง ขอบคุณครับ”
 
“ไปอาบน้ำ ค่อยลงมากกินนะ”
 
ผมมองพ่อเขาเหมือนเห็นตัวเองกับพ่อเมื่อก่อน คนดีพยักหน้ารับก่อนจะเดินออกจากห้องครัว ผมที่กะจะเดินตามเขาโดนรั้งไว้ในครัว
 
“เธอไม่ต้องขึ้นไป มานี่ๆ มาช่วยโต้ทำกับข้าว”
 
และผมก็รู้ว่าบทสนทนาของคนเป็นพ่อแฟนกับผมจะเริ่มที่นี่ ผมพยายามไม่เกร็งแต่กลับได้คำถามแรกมาตรงจุดอย่างไม่น่าเชื่อ
 
“ชอบคนดีเหรอ”
 
“ครับ”
 
ผมตอบตามตรง
 
“เรียนจบยัง”
 
“ยังครับ ผมเด็กกว่าคนดีอยู่ 1 ปี”

พ่อเขายิ้มๆอย่างที่เคยเห็นประจำ ก่อนจะหันมาถาม
 
“จบไปแล้วทำงานอะไรล่ะ”
 
เรื่องที่คนดีชอบผู้ชายพ่อและพี่ชายเขาคงรู้ดีอยู่แล้ว แต่คงเพราะเป็นห่วงถึงได้เรียกผมมาหา ผมเข้าใจนะ ถ้าแนนมีแฟนผมก็คงถามคำถามพวกนี้เหมือนกัน
 
“น่าจะสอบข้าราชการครับ”

โต้ซังทำท่าคิดอยู่หน่อย ก่อนจะหั่นผักต่อ
 
“ทำกับข้าวเป็นไหม”
 
“พอทำได้ครับ”
 
“มา ช่วยหน่อย”
 
ผมเดินไปล้างผักในซิงก์ อาจจะเพราะว่าผมเข้าครัวประจำ ถึงไม่ได้รู้สึกอึดอัดกับสถานที่ตรงนี้นัก
 
“เพราะโต้ซังให้กินแต่อาหารญี่ปุ่นตั้งแต่เด็ก คนดีถึงกินเผ็ดไม่ได้เลย”
 
นี่เป็นสาเหตุของคนที่กินแม้กระทั่งน้ำจิ้มของเต้าหู้ทอดไม่ได้ ผมเคยเห็นเขาพยามกินเพราะผมซื้อมาให้แต่สุดท้ายก็หน้าแดงจัดแล้วก็น้ำตาไหล ทำเอาผมจำขึ้นใจว่าเขาไม่ใช่แค่กินเผ็ดไม่ได้แต่กินอะไรที่มีพริกไม่ได้เลยต่างหาก
 
“โต้ซัง คนดีชอบกินอะไรครับ”
 
ผมถาม เพราะเวลาผมทำอะไรให้เขาก็จะบอกว่าอร่อย ซึ่งผมไม่เข้าใจความอร่อยของเขาเลย
 
“คนดีกินง่ายนะ ทำอะไรให้ก็กิน มีแต่โต้ซังที่กลัวเขาไม่อร่อย”
 
ผมหัวเราะก่อนจะพยักหน้าเห็นด้วยกับพ่อของเขา
 
“เขาเลิกกินเนื้อมานานแล้วใช่ไหมครับ”
 
ผมถามถึงอีกคำถามที่เคยถามเจ้าตัว แต่ก็ไม่ได้คำตอบอะไร ได้แค่ยิ้มหวานกลับมา
 
“ก็ตั้งแต่อายุ 12 มั้ง เขากลับมาแล้วก็กินไม่ได้อีกเลย”
 
โต้ซังยิ้มเศร้า
 
“กลับมาจากไหนครับ”
 
พ่อของคนดีเงียบไปเหมือนรู้ว่าตัวเองหลุดสิ่งที่ไม่ควรพูด
 
“เดี๋ยวให้คนดีเล่าเองนะ เดี๋ยวเขาพร้อมเขาจะบอกเอง”
 
ผมพยักหน้ารับ แปลกดีที่ไม่ได้รู้สึกน้อยใจหรือฟูมฟายอะไรแต่กลับเข้าใจ สำหรับผม การที่คนดีให้เข้ามาในที่ของเขาขนาดนี้ ผมก็ดีใจมากแล้ว
 
“แล้วครามกินเนื้อไหม โต้ได้เนื้อโกเบมา”
 
“กินครับ ของโปรดผมเลย”
 
พ่อคนดีหัวเราะก่อนจะพึมพำว่าเจอพวกเดียวกัน ผมยืนหั่นผักเพื่อที่จะทำหม้อไฟ พ่อคนดีทำกับข้าวเก่ง ถึงได้ช่วยบอกอะไรผมหลายอย่าง เขาสอนให้ผมจับมีดแบบที่ถูกต้อง ก่อนที่วกกลับมาคุยเรื่องคนดี

“โต้ไปเจอคนดีตอนสองขวบ ตอนนั้นไปเลี้ยงขนมบ้านเด็กกำพร้า เห็นเขากำลังนั่งวาดรูปอยู่คนเดียว เขากลัวคนนะ ไม่คุยกับใครเลย”
 
โต้ซังว่ายิ้มๆ
 
“แต่เขาก็พยายามเอารูปวาดมาขอบคุณขนมที่โต้ให้”
 
ผมยิ้มตามแต่กระบอกตากลับร้อนผ่าว เรื่องนี้คนดีไม่เคยปิดบังมาตั้งแต่แรก เขาบอกมาตั้งแต่วันแรกที่เรารู้จักกันว่านามสกุลของเขามาจากพ่อเลี้ยง
 
“จำได้ว่าเขาตัวเล็กมากๆเลย ตัวมีแต่แผล รู้ตัวอีกทีก็พามาอยู่บ้านแล้ว”
 
ผมนึกถึงแผลที่หลังกับหลายจุดบนร่างกายเขาที่โดนสักทับไว้
 
“ที่เล่าเพราะไม่อยากปิดบังเธอนะ ไม่อยากให้ใครมาเข้าใจอะไรคนดีผิด”
 
“ยังไงครับ”
 
ผมถามผู้ชายที่น่าจะอายุเท่าๆพ่อผมถ้าพ่อผมยังมีชีวิตอยู่
 
“มีคนแถวบ้านเคยพูดไม่ดี ว่าคนดีเขาเป็นเด็กของโต้ เด็กแบบในทางไม่ดี”
 
ผมนึกถึงตาสวยของเขาเวลามองตรงมา นึกถึงความสงบของเขา ไม่รู้เลยจริงๆว่าที่ผ่านมาเขาเจออะไรมาบ้าง
 
“โต้มีภรรยาและลูกสาวอยู่แล้วที่ญี่ปุ่นพอเลิกกันเลยมาทำธุรกิจไทย ทางนั้นก็มีครอบครัวใหม่แต่ก็ติดต่อกันอยู่ตลอด ตอนเด็กๆคนดีกับคู้ก็เคยไปเที่ยวที่นู่นบ่อย โต้เลี้ยงคู้กับคนดีมาก็รักเขาเหมือนรักลูก”
 
ภาษาไทยของพ่อคนดีมีสำเนียงแปร่งอยู่หน่อย แต่ผมว่าเขาเก่งมาก เก่งที่ทำงานมีร้านใหญ่โตแล้วก็เป็นพ่อที่ดีในเวลาเดียวกันได้
 
“ทำไมคนดีถึงสักครับ”
 
ผมสงสัยมานานแล้ว ผมอยากให้เป็นเพราะอิทธิพลจากร้านพ่อของเขา ไม่ใช่เพราะแผลพวกนั้น
 
พ่อของเขายิ้มเศร้าอีกครา ก่อนจะบอกเท่าที่พูดได้
 
“ที่ทำร้านสักก็เพราะคนดีนะ ธุรกิจของโต้จริงๆคือนำเข้าปลา”
.
.
.
.
 
“ทำงานเป็นไงบ้างคนดี”

โต๊ะอาหารของบ้านวันนี้มีผมนั่งอยู่ข้างคนดีแทนที่จะเป็นพี่คู้อย่างเคย
 
“ดีครับโต้ซัง ได้ทำโปรเจคกับพี่ที่เก่งๆด้วย เดี๋ยวมีจัดนิทรรศการ โต้ซังต้องไปดูนะ”

เขาว่าพร้อมกับยิ้ม
 
“ไปสิ ต้องไปอยู่แล้ว”

ผมนั่งฟังพ่อลูกคุยกันเรื่อยๆ คนดีดูเป็นธรรมชาติมากในตอนที่อยู่กับพ่อหรือพี่ชาย ต่างจากเวลาที่อยู่กับผม เขามักจะเก็บบางส่วนไว้ เหมือนไม่อยากให้เห็น
 
“ผมยาวไปไหม อยากตัดยัง”

พ่อเขาถามถึงผมดำหนาและยาวเลยบ่ามาแล้ว
 
“อยากรอจบแล้วค่อยตัดทีเดียวครับ”
 
“เขาเคยตัดสกินเฮดนะ เหมือนพระญี่ปุ่น”

พ่อเขาหันมาบอกผม คนดีทำตาโตเหมือนไม่อยากให้เล่าก่อนจะบอกออกมาเสียงเบา
 
“ตอนนั้นทำทรงเดร็ดร็อคตามเพื่อนครับแล้วรำคาญเลยตัดทิ้ง”
 
ขนาดคำว่ารำคาญจากปากเขา ยังดูไม่น่ารำคาญเท่าไหร่เลย
 
“โต้ซังมีรูปเก็บไว้ด้วยนะ”
 
ผมขำคุณพ่อที่ดูชอบล้อลูกชาย ผมมองคนผมยาว แอบนึกไม่ออกว่าถ้าผมสั้นคนดีจะหน้าตาเป็นยังไง
.
 
.
 
.
 
.
 
“มีอะไรวะ”

พี่เพนท์เพื่อนของคนดีนั่งลงในร้านกาแฟในห้างที่เรานัดกันไว้ ผมได้เบอร์พี่แกมาจากไอ้แซม ก่อนจะโทรนัดออกมา
 
“ผมอยากถามเรื่องคนดีครับ”
 
“ทำไม จะจีบมันเหรอ”

พี่เพนท์ถามพร้อมกับหันไปสั่งเครื่องดื่มกับพนักงาน ผมเลี่ยงที่จะตอบคำถามนั้นก่อนจะถามคำถามที่คุยกันมาบ้างแล้ววันก่อนในแชท
 
“ผมอยากรู้ว่าเด็กอีกม.ที่พวกพี่พูดถึงเป็นใครครับ”

พี่เพนท์ยิ้มๆก่อนจะบอก
 
“ไอ้โป้ง แม่งจีบคนดีมาตั้งแต่เข้าค่ายศิลปะรวมปีหนึ่งแล้ว แต่คนดีไม่ชอบ บอกว่าน่ากลัว”
 
“ใช่คอนที่ผอมๆสูงๆไหมพี่”
 
“ไม่ใช่นะ ทำไมวะ”

พี่เขาหยิบมือถือขึ้นมาเปิดรูปในโซเชียลให้ดู คนชื่อโป้งมีตัวสมส่วน หุ่นแบบคนออกกำลังกายมาดีมาก หน้าตาติดจะต่างจากคนที่เห็นวันนั้นลิบลับ
 
“วันนั้นผมไปรับคนดีที่ทำงานพี่ แล้วเจอใครไม่รู้จะลากเขาขึ้นรถ ผมคิดว่าเป็นคนชื่อโป้ง แต่ไม่ใช่”

พี่เพนท์ขมวดคิ้ว
 
“แล้วพวกมึงแจ้งความยัง”
 
“ผมถามคนดีหมดแล้วพี่ เขาไม่พูดอะไรเลย”

พอบอกออกไปแบบนั้นเพื่อนคนดีก็ถอนหายใจ
 
“มันเป็นคนเงียบ ต้องสนิทหน่อยถึงจะพูด”
 
“ผมเป็นแฟนเขา ยังไม่สนิทอีกเหรอวะพี่”
 
“ก็เหี้ย”

พี่เพนท์ทำหน้าแบบไม่อยากจะเชื่อ ผมได้แต่หัวเราะ
 
“ผมพูดจริง ฝากบอกคนชื่อโป้งด้วยนะพี่เพนท์”
 
“กวนตีนฉิบหายเลยมึง”

พี่เขาว่าพร้อมขำแต่ก็ดูเหมือนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
 
“ไปทำยังไงวะ มันถึงยอม”
 
“ก็ขอดีๆครับ”

พี่เพนท์พยักหน้า
 
“มันแพ้คนเอาใจใส่ กูก็เคยถามว่ามึงเป็นใคร มันก็ไม่ตอบนะ แต่คุยกับสาว่ากลับบ้านก็ไม่เหนื่อยเพราะมึงมารับทุกวัน”

ผมยิ้ม
 
“คนดีเป็นคนที่ไม่ควรโดนใครทำร้ายนะ มึงรู้ใช่ไหม”
 
“ผมรู้ครับพี่”

ใครๆก็เป็นห่วงคนดี อันนี้ผมก็รู้ ขนาดแนนเองยังคอยถามอยู่ประจำว่าพี่คนดีเป็นยังไงบ้างทั้งๆที่ตัวคนดีเองก็สบายดี
 
“คนดีมันสนิทกับสา ชอบคุยเรื่องส่วนตัวกัน เดี๋ยวกูลองๆถามฝั่งนั้นให้”
 
“ขอบคุณมากเลยครับพี่”

ผมยกมือไหว้พี่เขา
 
“แล้วจะเอายังไงต่อวะ”
 
“ผมอยากไปลงบันทึกประจำวัน ทำอะไรให้มันเป็นกิจลักษณะพี่ แต่ผมไม่รู้จริงๆว่าคนนั้นเขาเป็นอะไรกับคนดี”
 
“คุยกับโต้ซังยัง”
 
“กลัวคนดีเขาไม่อยากจะให้พ่อเขารู้ว่ะพี่”
 
“เออ แม่งชอบทำให้คนอื่นห่วง ตัวแม่งไม่เดือดร้อนหรอก คนรอบตัวเนี่ยจะตายเอา เหมือนสอบโปรเจคเทอมที่แล้วไง กูก็โมโห ไอ้สาก็ร้องไห้จะตาย แม่งเอาแต่ยิ้มบอกไม่เป็นไรๆ”

พี่เพนท์พูดถึงตอนที่คนดีโดนว่าเรื่องรอยสัก ทั้งๆที่มันไม่เกี่ยวกับงานเขาแม้แต่น้อย
 
“แต่เห็นหน้าก็โมโหไม่ลงนะพี่”

ผมว่าพร้อมกับขำตัวเอง
 
“เออ จริง”
 
“ตอนแรกผมคิดว่าพี่ชอบคนดี”

ผมพูดถึงตอนแรกๆที่รู้จักพวกเขา พี่เพนท์กับคนดีเหมือนจะตัวติดกันตลอดเวลา พี่เพนท์ดูจะไม่ค่อยชอบใจผมเท่าไหร่ด้วย
 
“เฮ้ย กูชอบแบบมีนม”

เขาว่าพลางขำ
 
“แต่คนชอบมันเยอะกูเลยกลายเป็นไม้กันหมา”
 
ผมขำบ้าง คิดว่าดีเหมือนกันที่ผมเป็นหมีแบบที่คนดีบอก
 
.
.
.
.
 
“ไปหาเพนท์มาเหรอครับ”
 
“ใช่ค่ะ”
 
ผมตอบรับแล้วมองคนที่เหมือนจะพูดอะไร แต่ก็ไม่พูด เป็นแบบนี้ประจำเลย
 
“เคโระไม่อยู่อีกแล้วเหรอ”

ผมถามเมื่อเดินเข้ามาในบ้านของคนดีแล้วไม่เจอแมวตัวอ้วน วันนี้เหมือนพี่คู้กับโต้ซังจะกลับช้า
 
“เคโระโดนแฟนพี่คู้ยึดไปแล้วครับ”

คนดีว่าพลางขำ
 
“พี่คู้มีแฟนแล้วเหรอคะ”
 
“มีแล้วครับ”
 
พอได้ยินแบบนี้เดี๋ยวต้องเอาไปบอกแนน เพื่อนแนนคงอกหักกันเพราะเห็นบอกว่ามีหลายคนแอบปลื้มพี่คู้อยู่
 
“อันนี้คนดีใช่ไหม”

ผมถามถึงรูปในอินตราแกรมของร้านพี่คู้ คนดีสวมเสื้อตัวโคร่งกับกางเกงลูกฟูกสีน้ำเงินนั่งอยู่บนรถเก่า ดูจากภาพก็รู้ว่าใช้
โปรโมทเสื้อ แต่ก็เห็นหน้านายแบบอยู่บ้าง คนดียื่นหน้ามาที่มือถือผมก่อนจะพยักหน้าเบาๆ

“ใช่ครับ”
 
“สวยนี่”
 
“ใช่ครับ เสื้อที่พี่คู้ทำสวยทุกตัวเลย”

คนที่พยายามขายของให้พี่ชายว่า
 
“คนดีต่างหากที่สวย”
 
“ผม...เปล่า”
 
เขาส่ายหน้าไปมาแล้วก็หลบตา ดูก็รู้ว่าเขิน ผมยิ้มตามก่อนจะเอื้อมมือไปดึงเขาเข้ามาหาตัว กอดไว้จากข้างหลังแล้วเอาคางเกยไหล่ ก่อนจะดึงตัวเขามานั่งตักกันบนโซฟา

วันนี้พี่คู้กับโต้ซังน่าจะกลับดึก
 
“คราม...”
 
“ครามไปสักบ้างดีไหม”

ผมถามพร้อมกับกดจูบตรงหลังคอเขา ผมยาวนิ่มปัดไปมาตรงปลายจมูกผม
 
“อย่าเลยครับ มันจะยากกับงานครามนะ”
 
ผมสอดมือเข้าไปประสานกับนิ้วเขาไว้ นึกอยากรู้อดีตของเขาอยู่หลายอย่างแต่ก็ไม่อยากพูดถึงสิ่งที่เขาเองไม่อยากพูดถึง แต่ภาพวาดรูปวงกลมบูดเบี้ยวตามประสาเด็กที่โต้ซังสักไว้ที่แขนแล้วเปิดให้ผมดูเมื่อหลายอาทิตย์ก่อนยังติดตาผมอยู่จนถึงทุกตอนนี้

พ่อเขาบอกว่าภาพนี้เป็นของที่คนดีในวัย 2 ขวบ เอาไว้ขอบคุณสำหรับขนมแค่ไม่กี่ชิ้น
 
“สักไว้ลึกๆ คงไม่มีใครเห็นมั้ง”
 
“โดนโต้ซังล่อลวงใช่ไหมครับ”
 
คนดีถามพร้อมกับขำ ผมกระชับกอดให้แน่นขึ้น นึกขอบคุณอะไรก็ตามที่ทำให้เขาอยู่ตรงนี้กับผม
 
“ที่อยู่บนตัวคนดีทุกลาย ครามว่าสวยดี”
 
คนดีหันมามองผม
 
“ไม่น่ากลัวเหรอครับ บางคนก็บอกว่ามันสกปรก”
 
เขาถาม ผมเลยส่ายหน้าพร้อมกับยิ้ม
 
“ไม่น่ากลัวเลย”
 
คนดียิ้มบาง ผมจับตัวเขาพลิกให้นั่งคร่อมกันไว้ ก่อนจะเงยหน้าไปขอจูบ...ซึ่งคนดีก็ยอมให้โดยดี กลิ่นหอมจากน้ำหอมที่ติดตัวเขาทำผมอยู่ไม่เป็นสุข
 
“วันนี้โต้ซังกลับกี่โมง”
 
ผมถามพร้อมกับกอดเขาไว้แนบตัว และพอยิ่งได้กอดก็ยิ่งอยากทำมากขึ้น
 
“น่าจะอีกสักพักมั้งครับ ครามจะกลับยัง”
 
เพราะช่วงนี้น้องแนนกลับไปอยู่บ้านแล้ว ผมเลยไม่ค่อยพะวงเรื่องน้องสาวมากนัก
 
ผมเลื่อนมือจากเอวเขามาเกาะที่สะโพกบาง ลูบมือกับก้นนุ่มนิ่มผ่านกางเกงสแล็คนักศึกษาสีดำ หลังจากวันนั้นเกือบเดือนแล้ว ผมยังไม่มีเวลาอยู่กับเขาแค่สองคนเลย
 
“คราม…”
 
คนดีเรียกเมื่อผมจูบลงที่ไหปลาร้าเขา ขบให้เส้นสีดำที่สักไว้ช้ำขึ้นรอย
 
“ไปที่ห้องกันไหมคะ”
 
คนดีเบิกตากว้าง ผมอยากบีบก้อนก้นนุ่มให้ติดมือ อยากจะตีให้ขึ้นรอยแดง แต่เพราะคร้งที่แล้วผมทำเขาเจ็บ...ครั้งนี้ถึงได้ยากนัก
 
“ครามอยากกอดคนดี ได้ไหมคะ”
 
ผมเอียงหน้าเพื่อที่จะมองคนหลบตาได้ถนัด กดจมูกที่แก้มใสย้ำๆ ก่อนจะยื่นมือให้เขาจับ คนดีเหมือนจะะจับ แต่สุดท้ายก็ไม่จับ
 
“ไม่เอาครับ เดี๋ยวโต้ซังกลับมา”
 
เขาหลบตาแล้วส่ายหน้า ผมลูบผมยาวเบามือ ก่อนจะแตะเข้าที่ปากตัวเอง
 
“งั้นตรงนี้ ทำให้ครามได้ไหมคะ”
 
คนดีมองมือผม ก่อนจะมองไปรอบๆบ้านที่ยังเงียบสงัด เขาก้มหน้าลงกดจมูกลงที่แก้มผม
 
“ลูกเจี๊ยบขี้โกงคุณหมีเหรอคะ”
 
ผมว่าก่อนจะยืนขึ้นรวบตัวเขาเข้ามากอด แล้วก้มต่ำลงไปชิดปลายจมูกลงที่จมูกเรียวโด่งของอีกคน มองจิวบนมุมปากสวย
 
เห็นทีต้องสอนอีกรอบว่า...จูบ...ต้องทำยังไง
 
.
.
.
.



ออฟไลน์ zearet17

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 345
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +555/-0
    • facebook
 
ปกติเวลาคนดีทำงานผมจะไม่ค่อยอยากจะกวนเขา แต่ครั้งนี้คนดีมีถ่ายงานให้พี่คู้วันอาทิตย์ที่ผมเองก็ไม่ได้ไปไหน แม้จะต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบพรุ่งนี้ก็ไม่ได้เครียดอะไร ถึงได้มาเกาะติดดูว่าลูกเจี๊ยบหมวกสีเหลืองวันนี้ทำอะไรบ้าง
 
โลเคชั่นวันนี้เป็นโลเคชั่นกลางแจ้ง หน้าห้างสรรพสินค้าที่เช่าพื้นที่ไว้ ท่ามกลางแดดร้อนระอุ ผมนั่งอยู่ในเตนท์ออกกองของช่างภาพ มองอีกคนที่กำลังโดนช่างแต่งหน้ากับช่างทำผมรุมอยู่
 
“ผมน้องคนดีสุขภาพดีมากเลยค่ะ ดัดไม่อยู่ทรงเลย”
 
พี่ผู้หญิงคนที่กำลังทำผมให้คนดีว่า ผมมองแก้มใสที่โดนแต้มสีลงไป ถึงจะดูรู้ว่าเขาเป็นผู้ชาย แต่ก็คงไม่มีใครเถียงว่าเขาไม่สวย
 
“น้องคนนี้เป็นนายแบบด้วยไหมคะ มาต่อคิวแต่งหน้าเลย”
 
ช่างแต่งหน้าหันมาหาผม คนดียังไม่ได้ตอบอะไรเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าเจ้าของงานวันนี้ก็เดินมา
 
“เป็นเด็กยกน้ำพี่”
 
พี่คู้ว่า ผมยกมือไหว้คนที่เป็นรุ่นพี่อยู่เกือบสิบปี
 
วันนี้มีนายแบบสามคนและนางแบบสามคนถ่ายงานด้วยกัน งานค่อนข้างจะวุ่นวายและร้อนมาก ผมที่คิดว่าตัวเองคงจะมานั่งเฝ้าแฟนเฉยๆโดนพี่ของแฟนใช้ทำหลายอย่าง ตั้งแต่ซื้อกาแฟจนถือแฟลช แต่ผมว่ามันก็สนุกดี
 
ผมได้ยินเขาคุยกันว่าคอนเสปต์วันนี้เป็นเสื้อผ้าแบบ unisex คือสามารถใส่ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เสื้อผ้าเป็นแนวสตรีทผสมวินเทจสีเรียบแบบที่ผมเห็นคนดีใส่ประจำ
 
งานเริ่มถ่ายตั้งแต่เช้าจนถึงบ่ายท่ามกลางอากาศร้อนจัดแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะเสร็จภายในวันเดียว คนดีเป็นนายแบบจำเป็นที่พี่คู้สั่งตากล้องว่าไม่ต้องถ่ายให้เห็นเต็มหน้า ซึ่งผมเห็นด้วย...ผมไม่อยากให้คนรู้จักเขา
 
“ร้อนไหมคะ”
 
คนดีเป็นคนแรกที่ถ่ายเสร็จ เขาเข้ามายืนในเตนท์ อาจจะเพราะแดดจ้าถึงเห็นเขากระพริบตาปรับแสงอยู่นาน
 
“แสบตาเหรอคนดี”
 
ผมที่พอรู้ว่าเขาตาแพ้แสงมองคนที่ขมวดคิ้วแน่น
 
“ครับ”
 
“เอาแว่นกันแดดมาหรือเปล่า”
 
คนดีส่ายหน้า ผมที่ปกติไม่พกของแบบนี้พึ่งฉุกคิดได้ว่าคราวหลังควรเอาติดรถไว้ด้วย
 
“เอายาหยอดตาไหม เดี๋ยวครามไปซื้อให้”
 
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวก็หาย”
 
คนดีว่าก่อนจะเดินกลับไปหาพี่คู้ เขาคุยกันอยู่ไม่นานก่อนที่คนดีจะกลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะงานส่วนของตัวเองเสร็จแล้ว
 
“เหนื่อยไหม”
 
ผมถามพร้อมกับถือกระเป๋าแล้วเดินนำไปที่รถ
 
“ก็เหนื่อยครับ แต่ก็สนุกดี”
 
ถึงปากจะบอกแบบนั้นแต่ดูก็รู้ว่าเขาน่าจะล้าพอตัว
 
“ทำแบบนี้บ่อยไหม”
 
“นานๆทีครับ พี่คู้หาคนไม่ได้ถึงได้มาใช้ผม”
 
คนดีว่าพลางขำ เพราะมาวันนี้ผมถึงพึ่งรู้ว่าเขามักจะขี้อายแต่ไม่ใช่กับงานและคนที่สนิทใจ คนดีทำงานได้เก่งมาก
 
“โต้ซังทำกับข้าวไว้ยัง ให้ครามแวะซื้ออะไรไหม”
 
ผมถามคนที่น่าจะหิว
 
“วันนี้โต้ซังไม่กลับครับ”
 
ผมที่ได้ยินว่าพี่คู้จะนอนที่ร้านเหมือนกันรีบกลับรถไปที่ร้านอาหารที่เราไปประจำ ที่นั่นมีอาหารสำหรับวีแกนอยู่
 
“งั้นไปกินข้าวกันก่อนนะ เดี๋ยวครามไปส่ง”
 
.
.
.
.
 
“ครามไม่อยากให้คนดีอยู่ที่บ้านคนเดียว”
 
ผมบอกตามตรงเมื่อเห็นว่าคืนนี้เขาต้องนอนคนเดียว เรานั่งกันอยู่ในร้านอาหารฟิวชั่นไทย อินเดียน โชคดีที่อาหารที่นี่กลิ่นเครื่องเทศไม่แรง คนดีถึงได้ชอบ
 
“ผม…”
 
“เดี๋ยวครามนอนที่ข้างล่างก็ได้ ไม่อยากให้อยู่คนเดียวจริงๆ”
 
ผมบอกตามตรงก่อนจะสั่งอาหารจานของตัวเอง พออยู่กับเขามากๆก็เริ่มชินกับการที่ต้องกินผักเป็นส่วนใหญ่ ผมไม่ได้ฝืนอะไร เพราะวันไหนที่ไม่ได้อยู่กับเขาก็กินอาหารปกติ แต่ถ้าเลือกได้ก็อยากนั่งกินสลัดกับเขามากกว่า
 
“พรุ่งนี้ครามมีสอบแต่เช้าไม่ใช่เหรอครับ”
 
คนดีถามถึงสอบกลางเทอมของผม
 
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าไปส่งคนดีที่ทำงานก่อนค่อยกลับไปห้องยังทัน”
 
“แต่ครามยังไม่ได้อ่านหนังสือเลย วันนี้ก็ยุ่งเพราะโดนพี่คู้ใช้”
 
ผมยิ้มให้คนที่ดูกังวลกว่าคนสอบเสียอีก
 
“อ่านไปนิดนึงแล้ว ครามห่วงคนดีมากกว่า เดี๋ยวสรุปในมือถือกับเพื่อนอีกรอบก็ได้”
 
ผมว่าพร้อมกับมองชามสลัดที่พนักงานพึ่งเอามาวาง
 
“ผม...”
 
คนดีมองชามสลัดบนโต๊ะนิ่ง เวลาที่เขาต้องใช้สมาธิเขามักจะเป็นแบบนี้
 
“ผม...ไปนอนที่ห้องครามก็ได้ครับ”
 
แก้มเขาแดงจัดไม่รู้ว่าเป็นเพราะเขินหรือเพราะที่แต่งหน้ามาตั้งแต่เช้า
 
“ผมอยากให้ครามได้อ่านหนังสือ”
 
ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาจะบอกผมว่าไม่เป็นไรเขาจะอยู่คนเดียว แต่หลังจากวันนั้น คนดีเองก็ดูกลัวเหมือนกันที่ต้องอยู่คนเดียว หรือถ้าผมจะคิดเข้าข้างตัวเองก็คงเป็นเพราะเขาเองไว้ใจผมบ้างแล้ว
 
“ถ้าอย่างนั้นไปห้องครามนะ”
 
.
 
.
 
.
 
.
 
“คนดีทำอะไร”
 
ผมถามคนที่กำลังเอาสำลีเช็ดหน้าอยู่ที่กระจกห้องน้ำส่วนตัวผมที่อยู่ติดกับห้องนอน
 
“เช็ดเครื่องสำอางค์ครับ”
 
ผมมองขนตายาวของเขา วันนี้ยิ่งเห็นชัดเพราะโดนปัดจนดำสนิทเป็นแพ ผมนึกถึงน้องแนนที่มักจะถามว่าพี่คนดีใช้สกินแคร์อะไรยืนมองคนที่ค่อยๆเช็ดหน้าออก
 
ผมว่าผมชอบแก้มใสแบบเดิมมากกว่า
 
“วันนี้ตอนถ่ายงานมีคนบอกว่าคนดีสวยหลายคนเลย”
 
เขาหันมามองผมก่อนจะส่ายหน้า
 
“ผมเปล่าสวย”
 
ผมขำกับคำปฏิเสธของเขา ตอนที่ถ่ายงานวันนี้ คนมองเขาเต็มไปหมด ผมไม่ชอบใจเลย
 
“ปกติคนดีก็ต้องทำแบบนี้เหรอ”
 
ผมถามถึงพวกเครื่องล้างหน้าในกระเป๋าใบเล็กของเขา เดาว่าแนนคงอยากรู้มากแน่ๆ
 
“เปล่าครับ อันนี้แฟนพี่คู้ให้มา”
 
คนดีว่า
 
“ที่จริงผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้หรอกครับ พี่คู้ดูแลตัวเองเก่ง เลยชอบมาบังคับให้ทาครีม”
 
ผมยิ้มให้กับคำบอกเล่า
 
“หลับตา เดี๋ยวครามเช็ดตรงเปลือกตาให้”

 ผมหยิบสำลีเปียกที่เขามีขึ้นมาแล้วก้มลงค่อยๆเช็ดสีส้มอ่อนๆที่เปลือกตาให้ กลิ่นเครื่องสำอางที่ฉุนไม่ได้ทำให้ผมละสมาธิจากปากอิ่มได้เลย

...ผมว่าคืนนี้คงไม่ได้อ่านหนังสือสอบอย่างที่บอกไว้…

“ถ้าเจ็บลูกเจี๊ยบต้องบอกครามนะ”

ผมว่าพร้อมกับพยายามเช็ดเปลือกตาคู่สวยเบาๆ คนดีเอื้อมมือมาจับที่เอวผมไว้เหมือนกลัว

“ถึงคนดีบอกว่าเจ็บ...คุณหมีก็ไม่หยุดอยู่ดี”

เขาว่าหน้าแดง

ผมหัวเราะเสียงดังก่อนจะก้มลงไปฟัดซอกคอร้อนของอีกคนแล้วแกล้งจี้เอว คนดีฟาดหลังผมไปหลายทีถึงได้หยุด ที่ทำกันครั้งที่แล้วคนดีเขาเมื่อยขา พยายามบอกยังไงผมก็ไม่หยุด จนเจ้าตัวเริ่มงอน ผมถึงได้บอกตัวเองให้พอ

ซึ่งเวลางอนก็จะเม้มปากแน่นแล้วก็เงียบ ไม่รู้น่ากลัวตรงไหน

“ลูกเจี๊ยบตีครามเหรอคะ”

ผมถามพร้อมกับจรดหน้าผากลงบนหน้าผากมน นึกอยากจูบเขาแรงๆแต่เดี๋ยวลูกเจี๊ยบตกใจ

“ทำไมครามถึงเป็นคุณหมีล่ะ”

ผมถามคนที่เงียบไป

“ครามตัวใหญ่มั้งครับ แล้วชอบส่งสติกเกอร์ไลน์เป็นหมี”

ผมหัวเราะกับคำตอบของเขา ผมสูงร้อยแปดสิบกว่าแถมยังเล่นบาสมาตั้งแต่มัธยมเลยทำให้ตัวใหญ่กว่าเขาเยอะ ทั้งๆที่คนดีเองก็สูงเท่าๆกับผู้ชายไทยทั่วไป เพียงแต่เขาติดจะผอมบาง

“ของใช้ในห้องน้ำใช้ได้ใช่ไหม”
 
ผมถามถึงของผมที่เป็นพวกสบู่เหลวกลิ่นของผู้ชายที่น้องแนนซื้อมาไว้ให้
 
“ได้ครับ ไม่เป็นไร”
 
คนดีว่าก่อนจะเดินเข้าห้องอาบน้ำไป ผมว่าผมต้องซื้อของใช้ที่เขาใช้ได้มาติดไว้บ้างแล้ว
 
.
.
.

ผมเงยหน้าขึ้นจากหนังสือเมื่อได้กลิ่นฉุนของครีมอาบน้ำผู้ชายที่ผมใช้ประจำ ก่อนจะเข้าไปอาบบ้างเพราะวันนี้ร้อนมาทั้งวัน
 
พอออกมาก็เห็นคนดีกำลังนอนคว่ำหน้าอ่านหนังสือเล่มเล็กที่ผมเห็นว่าช่วงนี้เขาพกไปไหนมาไหนด้วย เขาสวมเสื้อยืดของผม สวมบ็อกเซอร์ใส่นอนตัวใหม่ที่ผมมี ผมมองผมที่หยักเป็นลอนตั้งแต่เช้า ลำตัวผอมบาง ก้นกลม ไล่ไปจนถึงขายาวสวย เมื่อเขาเผลอขยับขาผมก็มองลึกจนเห็นรอยสักตรงโคนขาด้านในโผล่ออกมาเล็กน้อยเพราะกางเกงขาบานกว้าง
 
“คราม...”
 
ผมทาบตัวลงไปบนตัวเขาทั้งๆตัวเองพึ่งออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าขนหนูตัวเดียว
 
“ไปสวมเสื้อผ้าก่อน”
 
คนดีว่าก่อนจะเอี้ยวหน้ามาหา เขาเองดูตกใจ
 
“ไม่ไหวแล้วค่ะคนดี”
 
ผมว่าพร้อมกับลากมือเย็นเฉียบของตัวเองเข้าไปในเสื้อตัวโคร่ง เลิกมันขึ้น บีบหน้าอกแบนให้ยอดอกชูเด่น ก้มลงจูบซับไปทั่วแผ่นหลังรูปนกอินทรีย์
 
“ครามต้องอ่านหนังสือ”
 
คนดีว่าทั้งพยายามดันผมออก
 
“เดี๋ยวค่อยอ่าน”
 
เขาทำหน้าดุ แต่ไม่รู้น่ากลัวตรงไหน
 
“ทำไมครามชอบทำแบบนี้ครับ”
 
“คนดีไม่ชอบทำกับครามเหรอคะ”
 
ผมถามคนหน้างอ จูบสันกรามเขาซ้ำๆ พร้อมกับบดสะโพกเข้ากับก้นนิ่ม
 
“ไม่ชอบเหรอคะ”
 
ผมถามย้ำ
 
“คราม…”
 
คนดีตัวสั่นเมื่อผมดึงเสื้อออกจากตัวเขา ก่อนจะปลดผ้าเช็ดตัวที่อยู่บนเอวตัวเองออก ผมซุกจมูกเข้าที่คอด้านหลังเขา ดึงกางเกงขาขาสั้นออกจากขาเพรียวสวย แล้วบีบซากุระสีสวยให้แดงฉ่ำสมกับที่รอมาเดือนกว่า

ผมสูดหายใจเข้าลึก พยายามบอกให้ตัวเองใจเย็นทั้งๆที่ตามองแต่เนื้อตัวเขา

“คืนนี้”

ยิ่งเขาขยับหนี ลวดลายบนตัวเขายิ่งยั่วยวน
 
“ครามขอนะคะ”
 
.
 
.
 
.
 
.
 
TBC.
 
ระหว่างสอบกับซากุระ ครามเรียงลำดับความสำคัญได้ถูกต้องค่ะ เกรดเอแน่นอนเจ้าหมี 55555
จริงๆปมไม่มีอะไรมากค่ะ แต่ที่มีหลายๆตอนคือเนื้อเรื่องไม่ไปไหน มีแพชชั่นว่าจะเขียนแทะโลมน้องคนดีไปเรื่อยๆ 55555
อยากโดนเรียกว่าคุณหมีบ้างค่ะ v_v

มาเร็วเพราะพรุ่งนี้ต้องไปทำงานตั้งแต่เช้ามืดกลับอีกทีก็ดึก กลัวโดนลูกค้าคิลกลับมาแล้วไม่ได้สติค่ะ ต้องรีบลง 55555



 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-02-2019 23:52:40 โดย zearet17 »

ออฟไลน์ แพรวฐา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
งื้อซากุระของคนดีคือที่สุดแล้วง้ะ หวงๆๆๆๆๆๆๆๆ
คุณหมีร้ายตลอดดด ชั้นอิจฉาาาาา

ออฟไลน์ grayliette

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ครามนี่หมือนจะอ่อนโยนแต่ไม่อ่อนโยนเลยนะ คนดีของเราช้ำตลอด หนีมากับเรานะคนดี อยากให้โต้ซังดุครามบ้าง เขามาล่อลวงคนดีค่ะโต้ซัง จัดการเลย :katai4: สำหรับเราคิดว่าคนดีแคร์ครามมากด้วยแหละ เลยยังไม่กล้าเล่าอะไรมาก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-02-2019 02:28:02 โดย grayliette »

ออฟไลน์ Majariga

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ฮืออออ น้องคนดีของแม่เสร็จเจ้าครามอีกแล้วววว  :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ magmild

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
นังหมี!! แงงงงงงงเอ็นดูลูกเจี๊ยบ ไม่เคยหนีเงื้อมมือเจ้าหมีพ้นเลย เบาหน่อยค้าบ

Sent from my GT-I8262 using Tapatalk


ออฟไลน์ pharuthai

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
นังคราม วันๆจะกินแต่ลูกเจี้ยบน่าตีจริงๆ

ออฟไลน์ nisaday

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
คือ ทุกครั้งเวลาคอมเม้นเรื่องนี้ในหัวจะมีแต่คำว่า
นังคราม นังทัวร์ดีย์ตลอดเลยค่ะ

อยากอ่านตอนโต้ซังแซวพี่คนดีเยอะๆ
น่ารักกก แล้วไปลดแอร์ไทม์นังครามแทนค่ะ
555555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ Ti0590

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 455
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ถ้าครามเป็นหมี ควรเป็นหมีอะไรดีคะ หมีกรีซลีย์  หมีขาว 



ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5
คนดีจะโดนกินอีกแล้ว  :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ wikawee

  • มีชีวิตอยู่เพื่อทำฝันให้เป็นจริง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-7
ลูกเจี๊ยบโดนเจ้าหมีกินอีกแล้ว  :hao6:

ออฟไลน์ may27

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 297
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
 :serius2: สั้นไปปปปๆๆๆ

ออฟไลน์ sripaerrr

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
ก็อยากรู้เรื่องคนดีมากกว่านี้ แต่กลัวทำใจไม่ได้ TT

ออฟไลน์ noy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-9

ออฟไลน์ mameemamey

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เจ้าาาาครามมมมเอาอีกกกแล้ววววว สงสารคนดีลูกแม่ อย่าไปยอมนังครามมากสิลูก สู้เค้าหน่อยยยย แม่จะเป็นลมมมม

ออฟไลน์ MmBb

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 180
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ครามต้องใจเย็นนะต้องทำให้คนดีไว้ใจมากกว่านี้อีกถึงจะรู้เรื่องทั้งหมด

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
จับอิครามไปทิ้ง แล้วเดี๋ยวเราเป็นคุณหมีให้เทอเอง

อยากฟัดลูกเจี๊ยบอ้ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Ddubonie

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
นังครามมมม​ม​ เธอมันร้ายยยยย
 :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ fammykiki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ piiya

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-2
แกวางแผนไ้ว้หมดแล้วใช่ไหมนังหมีกริซลี่ หลอกล่อให้พี่คนดีมาอยู่ด้วย :hao7:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
รอตอนต่อไป

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
ดักตีหัวหมี มันได้บีบซากุระอีกแล้ววว   :serius2:
ไม่ยอมๆๆ จะบีบด้วยๆ  :ling1:

ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
คราม จะรังแกคนดีอีกแล้วนะ

ออฟไลน์ องศาวาย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
นังครามเอะอะก็จะบีบพี่คนดี ซากุระช้ำไปหมดแน้วววว รู้เลยวันไหนพี่คู้กับโต้ซังไม่อยู่นังต้องยิ้มร้ายยย แล้วผชที่มาตามพี่คนดียังคงเป็นปริศนา !

ออฟไลน์ เจ้าหญิงขี้ลืม

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
ชอบเรื่องนี้จัง คนดีน่ารัก น่าแกล้งมาก
มิน่า คุณหมีถึงไม่ห่างไหนเลย
อยากรู้เรื่องปมของคนดีด้วย

ออฟไลน์ Pakeleiei

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 850
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
อยากเห็นดอกซากุระด้วยจัง55555555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด