THIEF MAN #แฟนโจร (end) --------- SPECIAL หนุ่มหน้าใสกับชายมลทิน [10/08/19]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: THIEF MAN #แฟนโจร (end) --------- SPECIAL หนุ่มหน้าใสกับชายมลทิน [10/08/19]  (อ่าน 59550 ครั้ง)

ออฟไลน์ Blackmamba

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
*******************************

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*******************************




THIEF MAN #แฟนโจร
แบล็กแมมบ้า เขียน



ใครจะรู้ว่าแค่เปิดประตูห้องนอนทิ้งไว้

จะเป็นการอัญเชิญเทพเจ้าแห่งความโชคร้ายที่ชื่อว่า 'โจรอู๋' มาสู่ชีวิตผม

ทีแรกมันขู่จะเอาผมไปขายให่เสี่ยบ้ากาม

แต่ไหงไปๆ มา...

มันกลับจับผมทำเมียแทนซะงั้น!!


.
.
.

จริงๆ เคยลงเว็บอื่นมาก่อน ชื่อเรื่อง 'เมียโจร' แต่โดนลบไป แง้งงงง

เลยเขียนใหม่แล้วลองมาลงที่นี่ดู ยังไงก็ขอฝากโจรกากๆ คนนี้ไว้ด้วยนะคะ 5555 :))


contact me: twitter @sunnblaze

[ B L A C K M A M B A ]



# # # #  สารบัญ  # # # #

INTRO
1.ในรังโจร
2.ผัวกูเป็นโจร
3. WON'T HURT YOU
4.โจรมันชั่ว
5.เริ่มต้นการสืบสวน!
6.ไปเดตกัน
7.คืนเดียวกัน & อเมริกันแมน
8.คืนเดียวกัน & คุณชายน้อย
9.ลาก่อนเมียโจร
10.พาไปขาย!!!
11.โพลิซแมน & เดลิเวอรี่บอย (1/2)
11.โพลิซแมน & เดลิเวอรี่บอย (2/2)
12.ผัวโจร NEW VERSION
13.รักๆ เหล้าๆ
14.ภารกิจสองผัวเมีย [1/2]
14.ภารกิจสองผัวเมีย [2/2]
15.วิธีง้อเมีย
16. - สืบ -
17. - เสาะ -
18. - เจาะ -
19. - เค้น -
20. เป็นแฟนกันหม้าย?
21. คู่พ่อลูกที่ถูกหลอก
22. หมา หมา หมา
23. ทั้งชีวิต... [1/2]
23. ทั้งชีวิต...[2/2]
24. Friend With Benefits
25. แตก/หัก [1/2]
25.แตก/หัก
[2/2]

26. I Hurt You Hurt [1/2]
26. I Hurt You Hurt [2/2]
27. ตื๊อเท่านั้นที่รกโลก
28. ขังดึก
29. คนขาย หมายเลขถัดไป
30. คืนดีดี
31. 'กูรักมึง'
32. ปิดฉากความรัก part1 [1/2]
32.ปิดฉากความรัก part1 [2/2]
33.ปิดฉากความรัก part2 "Goodbye B"
34.ปิดบัญชีแค้น [1/2]
34.ปิดบัญชีแค้น [2/2]
35.ปิดฉากความรัก (สุดท้าย) [1/2]
35.ปิดฉากความรัก (สุดท้าย) [2/2]
36.ทางรอด
37.Bay is Bae
38.ก่อนม่านจะปิด
39.เทวดา & มาเฟีย
40. เมียโจร forever [END]
SPECIAL หนุ่มหน้าใสกับชายมลทิน part I
SPECIAL หนุ่มหน้าใสกับชายมลทิน part II
SPECIAL หนุ่มหน้าใสกับชายมลทิน part III

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-08-2019 15:28:20 โดย Blackmamba »

ออฟไลน์ เพียงเพื่อน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
Re: THIEF MAN #แฟนโจร (18/9/18) intro
«ตอบ #1 เมื่อ18-09-2018 21:36:07 »

สงสารนางงงง  :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
Re: THIEF MAN #แฟนโจร (18/9/18) intro
«ตอบ #2 เมื่อ19-09-2018 21:05:45 »

คู่นี้จะรักกันยังไงเนี่ย5555

ออฟไลน์ ป่ามป๊ามป่ามปาม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: THIEF MAN #แฟนโจร (18/9/18) intro
«ตอบ #3 เมื่อ20-09-2018 14:36:21 »

ทำไมเขียนบรรยายได้สนุกจัง เรื่องนี้มาแนวฮาใช่มั้ยคะ ติดตามๆ

ออฟไลน์ anandawan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 363
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
Re: THIEF MAN #แฟนโจร (18/9/18) intro
«ตอบ #4 เมื่อ20-09-2018 15:21:32 »

คนเขียนคะ อย่าลืมใส่กฎเล้าด้วยเด้ออ

ออฟไลน์ Blackmamba

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
Re: THIEF MAN #แฟนโจร (18/9/18) intro
«ตอบ #5 เมื่อ20-09-2018 19:16:34 »

เดี๋ยวแก้ไขใส่กฏเล้าให้นะคะ อยู่นอกบ้านแก้ในมือถือลำบาก ลงครั้งแรกตื่นเต้นไปหน่อยค่า  :o8:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: THIEF MAN #แฟนโจร (18/9/18) intro
«ตอบ #6 เมื่อ20-09-2018 21:08:19 »

เราขำ ทำไมโจรโง่ 555555555555

ออฟไลน์ zaturday

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
Re: THIEF MAN #แฟนโจร (18/9/18) intro
«ตอบ #7 เมื่อ20-09-2018 21:39:07 »

โอ้ยย ขำ คู่นี้จะลงเอยกันยังไงเนี่ย 555 มาอัพไวๆนะจ้ะ รออยู่

ออฟไลน์ Kumamon_Kung

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: THIEF MAN #แฟนโจร (18/9/18) intro
«ตอบ #8 เมื่อ20-09-2018 22:52:55 »

รอค่าาาาาา

ออฟไลน์ Blackmamba

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
Re: THIEF MAN #แฟนโจร (20/9/18) INTRO
«ตอบ #9 เมื่อ20-09-2018 23:40:56 »

INTRO



เสืออู๋รู้สึกพลาด


นี่เป็นครั้งแรกในรอบครึ่งปีที่ถูกจับได้คาหนังคาเขาอย่างไม่น่าให้อภัย และเป็นครั้งแรกที่เขาตระหนักถึงความประมาทของตัวเอง


“ข่าวด่วน!!! โจรหนวดหนาออกอาละวาด กวาดขโมยทรัพย์สินจากบ้านเศรษฐีย่านรัชดา มูลค่าความเสียหายกว่าสิบล้านบาท คาดว่าเป็นคนๆ เดียวกับที่ก่อคดีปล้นบ้านเหล่าเศรษฐีในระยะหลายเดือนที่ผ่านมา หากผู้ใดพบเห็นโจรผู้นี้โปรดแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยค่ะ!”


เมื่อครู่ตอนเดินผ่านร้านเหล้า เขาบังเอิญเห็นภาพถ่ายใบหน้าของตัวเองชัดแจ๋วระดับ Full HD 1080p ในรายการข่าวสั้นทันด่วน...พยานซึ่งเป็นสาวใช้ให้การแก่ตำรวจว่าผู้ร้ายปล้นบ้านเป็นชายฉกรรจ์ไม่ทราบอายุ สูงเกือบสองเมตรจนทีแรกหล่อนนึกว่าเป็นเปรตไม่ใช่มนุษย์ ผิวขาวสว่างไม่รู้เอเชียหรือฝรั่ง รูปร่างใหญ่โตบึกบึนเหมือนควายป่าผสมหมีกริซลีย์ ไว้หนวดเคราดกดำครึ้มกินพื้นที่เกือบครึ่งใบหน้าช่วงล่างลามลงไปถึงลำคอ เมื่อได้รับแจ้งตำรวจก็ดำเนินการค้นหาตัวผู้ร้ายทันที

เสือหนุ่มแอบชื่นชมพวกเจ้าหน้าที่ชุดสีน้ำตาลเข้มอยู่ในใจ...ไม่ใช่เพราะความกระตือรืนร้นค้นหาตัวเขาไวเหมือนติดจรวดต่างจากคดีอื่นๆ หรอก แต่เป็นความประจบประแจงเก่งต่างหาก

แหม...นี่ถ้าผู้เคราะห์ร้ายไม่ใช่คุณนายไฮโซเจ้าของทรงผมกระบังลมโป่งพองอันลือลั่นที่ขยันออกรายการบางกอกกระซิบทุกเทปแล้วล่ะก็ มีหรือที่คุณตำรวจกับสื่อมวลชนทั้งหลายจะสนใจ เขาพลาดเองแท้ๆ ที่ไปแหย่หนวดเสือเข้าซะได้ แถมพอข่าวออกก็มีผู้เคราะห์ร้ายอีกหลายรายติดต่อมาที่สน. ว่าถูกโจรรูปพรรณสัณฐานคล้ายกันนี้ปล้นในระยะหกเดือนที่ผ่านมาอีกด้วย


เออวะ ให้มันได้อย่างนี้สิ ซวยซ้ำซวยซ้อนฉิบหาย
แต่ข้าไม่ยอมให้พวกเอ็งจับง่ายๆ หรอกโว้ย!

         
เมื่อคิดว่ามาหนีมาได้ไกลแล้ว เขาก็หยุดพักใต้ต้นไม้หลังอพาร์ทเม้นต์แห่งหนึ่งที่ผู้อาศัยปิดไฟเข้านอนกันเกือบทุกห้องแล้ว ก่อนจะเปิดกระสอบดูข้างในสำรวจว่าได้อะไรมาบ้าง ปรากฏว่ามีสร้อยคอทองคำเส้นเท่านิ้วโป้งสามเส้น แหวนเพชรเม็ดเป้งสองวง กำไลทับทิมหนึ่งวง กับเงินสดอีกหนึ่งปึก คาดคะเนโดยสายตาน่าจะประมาณสิบล้านบาท ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับความร่ำรวยชนิดนอนตีพุงถลุงเงินไปวันๆ ยันทายาทรุ่นที่สิบก็ไม่หมดของคุณนายผู้เป็นเจ้าทรัพย์


เสียดายว่ะ ได้นิดเดียว ถ้าไม่ติดว่านังคนใช้ต่างด้าวเสือกเข้ามาเจอซะก่อนคงกวาดได้เยอะกว่านี้


ชายหนุ่มเม้มปาก คิ้วหนาดกเข้มขมวดเข้าหากันเป็นรอยย่น มือลูบคางที่เต็มไปด้วยหนวดเคราอย่างเคร่งเครียดขณะใช้ความคิด เส้นตายของเขางวดใกล้เข้ามาทุกที แต่ทรัพย์สินที่ขโมยมาได้ยังไม่ถึงครึ่งของที่ต้องการด้วยซ้ำ แล้วจะทำยังไงดี?

ทันใดนั้นเองโจรอู๋ก็เห็นแสงสว่าง...เป็นแสงจากเบื้องบนส่องประกายในความมืดมิด สำหรับเขามันเหมือนแสงสุดท้ายจากปลายอุโมงค์

แสงจากทีวีเล็ดลอดออกมาจากห้องๆ หนึ่งบนชั้นสาม

ริมฝีปากเบื้องหลังหนวดเครายาวเฟิ้มกระตุกขึ้นเป็นรอยยิ้มอันเกิดจากความหวัง เขานั่งลงกับพื้น ดวงตาจ้องมองประตูหลังห้องนั้นอย่างใจจดใจจ่อ

รอจนกว่ามันดับไฟ... แล้วจะเข้าไปขโมยทีวี





“ตัวเอง มาทำกันเถอะ”

คนร่างเล็กสะกิดแขนคนตัวใหญ่กว่าที่นอนข้างๆ ด้วยน้ำเสียงออดอ้อน แต่อีกคนกลับมีท่าทีแตกต่าง พอถูกสะกิดก็ทำท่าเบื่อหน่ายแล้วพลิกตัวหันหลังให้

“ไม่เอาเหนื่อย วันนี้ของดละกัน”

“แต่เดือนนี้เรายังไม่ได้ทำสักครั้งเลยนะ...”

“แล้วไง”

“ตัวเองไม่รักเค้าแล้วเหรอ”

“เกี่ยวกันตรงไหน รักก็ส่วนรัก เซ็กส์ก็ส่วนเซ็กส์ พอละอย่าเซ้าซี้ จะนอน ปิดทีวีด้วย แสงแยงตา” ฝ่ายที่หันหลังพูดตัดบทแล้วดึงผ้าห่มคลุมโปง เขยิบห่างออกไปจนชิดติดข้างฝา

คนตัวเล็กแววตาสั่นไหว... แต่ที่สั่นกว่าคือหัวใจ

หากมองเผินๆ เขาคงเป็นคนที่น่าอิจฉาคนหนึ่ง เพราะแฟนหนุ่มร่างสูงที่กำลังนอนเหยียดยาวข้างกายคนนี้คือคนเดียวกับที่เพิ่งปรากฏตัวบนป้ายโฆษณาเสื้อผ้าแบรนด์ดังกับนิตยสารแฟชั่นหลายฉบับ ชื่อของเขาคือ ‘เฟลม-เปรมประกิตติ์ ดุจเทวะ’ ชายหนุ่มผู้ใช้หน้าตาหล่อเหลาเป็นใบเบิกทางสู่วงการบันเทิงที่ใฝ่ฝันโดยเริ่มจากการเป็นเน็ตไอดอลรีวิวครีมก๊อกแก๊กในโซเชียล ก่อนจะมีคนเห็นแววความหล่อออร่าสไตล์โอปป้าเกาหลีชักชวนเข้าวงการอย่างเป็นทางการ

แต่น้อยคนนักจะรู้ว่าเบื้องหลังสุดหล่อคนนี้มีแฟนเป็นผู้ชาย ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ใช่ว่าเขาไม่รักแฟน เพียงแต่ยังไม่พร้อมเปิดเผย เพราะกลัวกระทบกับงานที่กำลังเรืองรุ่งพุ่งทะยานแค่นั้นเอง

“ลุกขึ้นมาคุยกันให้รู้เรื่องก่อนเฟลม ที่นายเย็นชาแบบนี้เพราะ กำลังนอกใจเราใช่ไหม”

ตัวเล็กเขย่าตัวคนที่อยู่ในม้วนผ้าห่ม สรรพนามเปลี่ยนจากโหมดออดอ้อนเป็นโหมดจริงจัง อีกทั้งคำพูดตัดพ้อก็ทำให้อีกคนถึงกับผุดลุกขึ้นนั่งด้วยสีหน้าไม่พอใจ
 
“อย่ามาหาเรื่องกันนะแสงเทียน!”

“ก็นายเปลี่ยนไปอย่างนี้ จะให้คิดว่าไงล่ะ!”
 
พอถูกตะคอกใส่ แสงเทียนก็อดไม่ได้ที่จะกระชากเสียงตอบกลับบ้าง ไม่ต่างกับการราดน้ำมันเข้ากองไฟที่อยู่ในตัวทั้งสองคน เฟลมคือเปลวไฟที่โหมแรงสมชื่อ ส่วนแสงเทียนก็รุ่มร้อนเช่นกัน ถึงจะมีอานุภาพน้อยกว่า แต่ยังไงก็คือไฟ ปะทะกันทีไรก็มีแต่เผาไหม้กันจนพังพินาศ

ทั้งคู่รู้นิสัยตัวเองดี ตลอดสามปีที่คบกันมาก็ทะเลาะกันบ้างประปราย แต่ต่างฝ่ายต่างก็ยอมโอนอ่อนให้กันเสมอเพราะคำว่ารัก

ทว่าหลังจบปีสาม พ่อเปรมประกิตต์ก็ดรอปเรียนเอาดื้อๆ ด้วยเหตุผลที่ว่าอยากทำงานให้เต็มที่ซะก่อน ทำให้แสงเทียนผิดหวังและโมโหสุดๆ เพราะอีกแค่ปีเดียวก็จบแล้ว แม้เฟลมจะอ้างว่า ‘ไอดอลเกาหลีหลายคนก็ไม่เห็นจะจบมหา’ลัยกันเลย’ แสงเทียนไม่เถียงว่าหน้าตาแฟนตัวเองสูสีกับโอเซฮุนจริง  แต่มันก็ไม่สมเหตุสมผลอยู่ดีไหม? สองคนเลยมีปากเสียงกันบ่อยขึ้น กองไฟที่สะสมในใจมานานก็เริ่มเล่นงานทั้งคู่จนนับวันก็ยิ่งเลวร้ายลงเรื่อยๆ

ถ้าเปรียบความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นป่าสักผืน ป่านนี้ก็คงถูกเผาราบจนเหลือต้นไม้แค่สองสามต้นเท่านั้นล่ะมั้ง

ยิ่งช่วงนี้เฟลมกำลังดัง ก็ยิ่งมีเรื่องระแคะระคายเข้ามากวนใจแสงเทียนบ่อยเป็นเงาตามตัว ไหนจะเรื่องไม่มีเวลาให้, นิสัยเปลี่ยนไป, สังคมใหม่ๆ กับผู้คนมากมายที่พยายามกลืนกินแฟนเขา ยารักษาความสัมพันธ์ขนานเอกใดๆ ก็เยียวยาบาดแผลที่เริ่มลุกลามนี้ไม่ไหว

“เราเปล่านอกใจ! นายก็รู้ว่าวันๆ เราทำงานหนักแค่ไหน เราเครียด เหนื่อย ไม่มีอารมณ์ จบป้ะ!” เฟลมเถียง

“แล้วนายคิดว่าเราไม่เหนื่อยรึไง!”

“นายเรียนอย่างเดียวไม่เหนื่อยเท่าเราหรอก แล้วนายก็มีความต้องการมากเกินไปจนเราสนองให้ไม่ไหว หัดยับยั้งชั่งใจซะบ้าง ทำไม่ได้ก็ไปห้องน้ำนู่น” เฟลมพูดจบแล้วล้มตัวลงนอนอีกครั้ง แต่แสงเทียนรั้งตัวไว้

“อะไรอีก!” นายแบบหนุ่มตวาดอย่างคนสติขาด

“ตอนนายออกไปซื้อข้าวเย็น มีเบอร์แปลกโทรเข้าเครื่องนายด้วย”

“....” รูม่านตาของเฟลมขยายกว้างเหมือนแมวตกใจเมื่ออันตรายกำลังจะถึงตัว

“เขาบอกว่าชื่อมาร์ค เป็นนายแบบรุ่นพี่ในสังกัดกับนาย เราถามว่าโทรมาทำไม แต่เขาดันถามเรากลับว่าเราเป็นอะไรกับนาย ทำไมต้องยุ่ง” แสงเทียนจ้องหน้าเฟลมเขม็งเหมือนจะทะลุทะลวง “เขาไม่รู้เหรอว่านายมีแฟนแล้ว?”

“ไร้สาระน่า” เฟลมหลบตา สายตาวอกแวก

“นายนอกใจเรา!” แสงเทียนหยิบหมอนขว้างใส่ตัวแฟน

“ไม่ได้นอกใจ!” อีกฝ่ายขึ้นเสียง ทั้งโกรธทั้งละอาย

“แล้วทำไมไม่บอกคนอื่นว่าเราเป็นอะไรกัน!”

“อย่างี่เง่าได้ปะ เราคุยเรื่องนี้กันหลายรอบแล้วนะ” เฟลมพยายามรักษาระดับเสียงไม่ให้ดังและรุนแรงกว่านี้ เพราะรู้ว่าอาจจบเห่ได้

“คุยหลายรอบ แต่ก็ไม่รู้เรื่องซักรอบ” แสงเทียนแขวะ “ตกลงกับมาร์คคือยังไง ตอบมาตรงๆ หรือจะให้เราโทรกลับไปถามเขาเอง”

คนพูดจ้องอีกฝ่ายเขม็ง จนคนถูกจ้องเหมือนโดนต้อนจนมุม

“เออก็ได้ เราไม่ปฏิเสธว่าคุยกับพี่เขาจริง แต่ก็เพราะเรื่องงาน ตอนนี้พี่เขาดังสุด งานเยอะสุด ส่วนเรามันเด็กใหม่ คบพี่เขาไว้เพราะผลประโยชน์แค่นั้น”

“คุยหรือว่านอนด้วยกันแน่ งานนายถึงได้แน่นขนาดนี้น่ะ”

“แสงเทียน!!!” เฟลมเงื้อกำปั้นขึ้นอย่างน่ากลัวจนอีกฝ่ายสะดุ้งตัวหดหลับตาปี๋ แต่นายแบบหนุ่มก็ลดกำปั้นลงแล้วลุกจากเตียง

“จะไปไหน” คนตัวเล็กถามตามหลัง

“ไปสงบสติอารมณ์ ขืนยังคุยกันไม่รู้เรื่องแบบนี้ เรากลัวทำนายเจ็บตัว”
 
เฟลมเก็บมือถือ กระเป๋าตังค์ สะพายเป้ออกไปจากห้องภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที มีเพียงเจ้าตัวเท่านั้นที่รู้ว่าการกระทำแบบนี้ก็เพื่อหลบหนีความผิดอันน่าละอาย ไม่ใช่สงบสติห่าเหวอะไรทั้งนั้น 

เสียงประตูกระแทกบานพับอย่างแรงคือเสียงสุดท้ายที่แสงเทียนได้ยินจากแฟน ถัดจากนั้นร่างเล็กก็เอนตัวลงนอนหงาย ร้องไห้อย่างหมดอาลัยตายอยาก ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าแฟนเขาจะไปไหน ก็ไปหาไอ้พี่มาร์คเหี้ยคนนั้นไง จะใครซะอีก

อุตส่าห์ระแวงพวกนางแบบสวยๆ เซ็กซี่ตั้งนาน ดันลืมไปว่าหนุ่มหล่อๆ ล่ำๆ นั่นแหละตัวดี 

 
มันคงจะถึงจุดอิ่มตัวแล้วสินะ สามปีที่คบกันมาคงไม่มีค่าถ้าเทียบกับเงินทอง ชื่อเสียง ความสบาย และผู้ชายโคตรหล่อที่กำลังถาโถมถล่มทลายเข้ามาในชีวิตของนาย สิ่งเหล่านั้นเป็นความต้องการของนายมาแสนนาน...สิ่งที่เราไม่สามารถเติมเต็มให้ได้

แต่ถึงยังไง...เราก็ไม่อยากเลิกกับนายนะเฟลม





เสืออู๋รออยู่ข้างล่างจนกระทั่งห้องนั้นเงียบ จากการแอบฟังคนในห้องน่าจะมีสองคน พวกเขาทะเลาะกันเสร็จแล้วคนหนึ่งก็ออกไปจากห้อง...หรือไม่ก็ออกไปทั้งคู่ ห้องจึงเงียบกริบ โทรทัศน์ก็ถูกปิดด้วย
 
แต่จะกี่คนช่างมัน อู๋ไม่สน อู๋จะเอาทีวี

ข้างตึกมีต้นมะขามต้นใหญ่เป็นสะพานชั้นดีให้เขาปีนขึ้นไปชั้นสามของตึกได้อย่างง่ายดาย ภายในเวลาไม่นานชายหนุ่มก็ก้าวมายืนอยู่ที่ระเบียง ประตูหลังห้องที่หมายปองเปิดอ้าราวกับต้อนรับการมาเยือน

หนุ่มหนวดเยอะใช้ฝีเท้าเบาราวกับตีนแมวก้าวเข้าไปในห้องที่มืดสนิท แต่นั่นไม่เป็นปัญหา สายตาของเขามองเห็นได้ดีในความมืดจากการทำงานโดยไร้แสงไฟจนชินชากว่าครึ่งปี สิ่งแรกที่สะดุดตาจอมโจรคือบางอย่างสีขาวๆ วางยาวอยู่บนเตียง เขายื่นหน้าไปพินิจพิเคราะห์ใกล้ๆ และพบว่ามันเป็นอะไรที่สวยงามมาก

มนุษย์ตัวเล็กบอบบาง ผิวขาวเนียนเรียบไร้ขน ผมสั้นสีน้ำตาลอ่อนตัดหน้าม้า ขนตายาวเป็นแพ จมูกโด่งปลายเชิดรั้น ริมฝีปากเล็กๆ น่ารักจิ้มลิ้ม...เกือบคิดว่าเป็นผู้หญิง ถ้ามองไม่เห็นลูกกระเดือกซะก่อน


ผู้ชายบ้าอะไรสวยสัดขนาดนี้วะ...


ราคาทีวีเครื่องละไม่ถึงหมื่น แต่คนๆ หนึ่งแถมสวยมากอาจขายได้ราคาสูงลิบ ไม่ต้องคำนวณให้ยุ่งยากก็รู้ว่าควรขโมยอะไร ไม่รอช้าชายหนุ่มเอาเชือกกับสก็อตเทปออกจากกระเป๋า

จับร่างเล็กขาวบางพับแขนพับขา

ปิดปากปิดตา

เอาเชือกมัด

ยัดใส่กระสอบ

แล้วหอบออกไปจากห้อง





ตุบ!!!

ชายหนุ่มโยนกระสอบลงบนพุ่มไม้หนาที่อยู่ข้างล่างอย่างแม่นยำ สาเหตุที่ไม่แบกลงไปเนื่องจากกระสอบหนักอาจปีนต้นไม้ลำบาก ดีไม่ดีกิ่งจะหักเอา

ในตอนนั้นเองคนที่อยู่ในกระสอบเริ่มรู้สึกตัว แสงเทียนเจ็บระบมทั้งร่างเหมือนถูกโยนลงจากที่สูงกระแทกกับอะไรสักอย่างที่แหลมเหมือนเข็ม ตอนแรกนึกว่าฝันเพราะลืมตาแล้วเจอแต่ความมืด แต่พอออกแรงขยับตัวก็รู้ว่าไม่ใช่ มือสองข้างของเขาถูกมัดไพล่หลัง เท้าสองข้างถูกมัดติดกัน มีผ้าปิดตากับปิดปากแน่นสนิท ทำให้ไม่สามารถขยับตัวหรือส่งเสียงได้

ชัดเจน...

มันคือการลักพาตัว!!!!

แสงเทียนเดาว่าตัวเองอยู่ในถุงกระสอบฟางเพราะสัมผัสของมันสากๆ คันๆ จากนั้นถุงก็ถูกยกขึ้นสูง... หนุ่มน้อยตกใจสุดขีด คนที่ไหนจะแบกน้ำหนักตัวหกสิบกิโลของเขาได้อย่างสบายเช่นนี้ ถ้าไม่ใช่ผีหรือยักษ์!

หัวสมองประมวลผลอย่างรวดเร็วว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร

นึกย้อนกลับไปถึงตอนที่ทะเลาะกับเฟลมแล้วร้องไห้จนหลับทั้งที่ไม่ได้ปิดประตูห้อง ที่ทำอย่างนั้นเพราะเขาเป็นคนขี้ร้อน แถมแอร์ก็เสือกเสีย เลยต้องเปิดให้ลมพัดเข้ามา และด้วยความที่ห้องอยู่ตั้งชั้นสาม จึงมั่นใจว่าไม่มีมนุษย์ที่ไหนปีนขึ้นมาได้ หรือถ้าจะปีนต้นไม้ กิ่งที่ใกล้ที่สุดก็ห่างจากระเบียงตั้งเป็นเมตร คนธรรมดาไม่มีทางก้าวเข้ามาได้แน่... เว้นเสียแต่ว่าขายาวโคตรๆ

และเหมือนจะเป็นอย่างนั้น ไอ้หัวขโมยก้าวไวมาก นั่นหมายถึงขาของมันยาวมากเช่นกัน มันเดินเร็วจนแสงเทียนจำไม่ได้ว่าเลี้ยวไปทิศทางใดบ้าง ผ่านไปเกือบสิบห้านาทีมันก็หยุดเดิน จากนั้นเขาก็ถูกวางลง ตามด้วยเสียงสตาร์ทมอเตอร์ไซค์ แล้วรถก็แล่นออกไปด้วยความเร็วที่ทำให้คนในกระสอบหวาดเสียวเยี่ยวแทบราด

แสงเทียนกลัวจนไม่กล้าขยับเขยื้อน สักพักรถก็หยุดลง กระสอบถูกยกขึ้นอีกครั้ง มีเสียงไขกุญแจ... เสียงเปิดประตู... เสียงปิดประตู... หนุ่มน้อยรู้โดยลางสังหรณ์ว่าตนได้มาอยู่ในรังโจรเรียบร้อยแล้ว

โจรเดินขึ้นบันได ก่อนจะเปิดประตูอีกครั้งและโยนกระสอบลงกับพื้นซีเมนต์อย่างไร้ความปราณี เหมือนลืมไปแล้วว่ามีมนุษย์อยู่ข้างใน คนโดนลักพาตัวเจ็บหลังอย่างสาหัสเหมือนกระดูกจะร้าว นอนตัวงอสาปแช่งไอ้โจรอยู่ในใจถึงขั้นให้มันจู๋หด

พอโจรเปิดปากกระสอบ คนที่อยู่ข้างในก็ได้สัมผัสกับกลิ่นไม่น่าพึงประสงค์ลอยมากับอากาศหนาวเย็นภายในสถานที่แห่งนี้ ทั้งกลิ่นเหม็นอับชื้นจากเชื้อรา กลิ่นขยะ กลิ่นกายของผู้ชาย กลิ่นเหล้า เคล้ากลิ่นบุหรี่

โจรเทกระสอบ ส่งผลให้ร่างของแสงเทียนร่วงลงกระแทกพื้นเป็นอย่างแรก ตามด้วยเครื่องประดับและเงิน หนุ่มน้อยเจ็บมากเหมือนร่างจะแหลก แต่ก็ส่งเสียงร้องไม่ได้สักแอะ

“ตุ๊กตายาง” โจรพูด “สวยอย่างกับตุ๊กตายาง”


             
ตุ๊กตายางพ่อง!!!



โจรตบหัวแสงเทียนเต็มแรงเหมือนจะปลุก ก่อนจะสั่งด้วยเสียงแหบห้าว ฃ

“เฮ้ย ตื่นดิวะ!”

แต่แสงเทียนยังคงนอนแน่นิ่ง ทว่าข้างในสั่นสะท้ายด้วยความเจ็บและแค้น ไอ้โจรขมวดคิ้วอย่างงุนงงแล้วตบหัวอีกรอบ

“ทำไมมึงไม่ตื่น!”



ตื่นแล้วโว้ยไอ้ควาย แต่โดนปิดปากปิดตามัดแขนขาอย่างนี้ จะให้กูตอบมึงได้ไง!!!



โจรหนุ่มมองร่างเล็กของแสงเทียนอย่างใช้ความคิด

“หรือว่าเป็นตุ๊กตายางจริงๆ นิ่งได้นิ่งดี”



เดี๋ยวนะ มันคิดว่าเราเป็นตุ๊กตายางงั้นเหรอ? ถ้างั้นแกล้งทำนิ่งเป็นตุ๊กตาไปก่อนแล้วกัน เผื่อจะได้หาทางหนีทีหลัง!



โจรดึงสก็อตเทปออกจากปากของเหยื่อแบบย้อนแนวขนจนหนวดอ่อนถูกถอนเกลี้ยง ก่อนจะดึงสก็อตเทปที่ตาด้วยท่าเดียวกันจนขนตาที่ยาวหนาเป็นแพหลุดหายไปหลายเส้น แต่ถึงอย่างนั้นผู้เคราะห์ร้ายก็อดทนไม่ส่งเสียง นอนนิ่งท่าเดิม...จะตบตาเสือทั้งที ต้องนิ่งที่สุด!

โจรยังไม่หมดข้อสงสัย เอานิ้วจ่อใต้จมูกเหยื่อเพื่อทดสอบลมหายใจ แต่อีกฝ่ายกลั้นไว้เรียบร้อยแล้ว

“เฮ้ย ตุ๊กตาจริงเหรอวะ”

เสียงใหญ่ทุ้มแสดงความแปลกใจ แสงเทียนได้ยินเสียงมันเกาหัวแกรกๆ จากนั้นมันก็ดึงตัวเขาขึ้นจากพื้น หนุ่มน้อยเบิกตาโพลงเหมือนตุ๊กตาเปิดปิดตาเวลาล้มลุก ทำเอาโจรตกใจ

แต่เมื่อได้เห็นใบหน้าของกันและกัน คนที่ตกใจมากกว่ากลับเป็นแสงเทียน

โจรเป็นชายร่างใหญ่บึกเหมือนหมี สูงพอๆ กับแป้นบาส ผิวขาวเกือบซีด ผมดกดำยุ่งไม่เป็นทรง คิ้วเข้มหนาเหมือนทางด่วน ดวงตาทรงพลังปานเหยี่ยว จมูกโด่งเป็นสันคมแทบจะใช้หั่นเนื้อได้ ไว้หนวดเครายาวครึ้มดั่งป่าดงพญาไฟ แต่งกายด้วยเสื้อกล้ามโชว์รอยสักรูปมังกรที่ต้นแขนขวา สวมทับด้วยเสื้อกั๊กหนังเทียมสีเลือดหมู กางเกงยีนขายาวขาดๆ เน่าๆ กับรองเท้าผ้าใบยี่ห้อดังที่น่าจะได้จากการขโมย กลิ่นกายเป็นกลิ่นเครื่องดื่มชูกำลังผสมกลิ่นบุหรี่


นี่มันไม่ใช่โจรแล้ว...

ผู้ก่อการร้ายชัดๆ!!!


นอกจากใบหน้าของโจร แสงเทียนยังมองเห็นสถานที่ที่อยู่ในตอนนี้ว่าเป็นห้องสภาพโทรมๆ เท่ารูหนู ผนังด้านหนึ่งมีกล่องกระดาษลังวางเรียงกันสูงเกือบถึงเพดาน รูขาดๆ ทำให้มองเห็นด้านในว่าใส่อาหารและเสื้อผ้า พื้นห้องเลอะเขรอะไปด้วยฝุ่น เศษขยะ คราบฉี่หนู และขี้ตุ๊กแก...สภาพแย่ยิ่งกว่าบ้านร้างผีสิง 
   
โจรดันแสงเทียนนอน ดึงขึ้นมานั่ง ดันลงนอน ดึงขึ้นนั่ง หลายต่อหลายครั้งราวกับจะทดสอบว่าเขาเป็นตุ๊กตาจริงหรือไม่ ซึ่งแสงเทียนก็เปิด-ปิดเปลือกตาเหมือนตุ๊กตาล้มลุกจริงๆ ทำเอาโจรถึงกับเกาหัว ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกห่างจากตัวหนุ่มน้อยเหมือนยอมแพ้
   
แสงเทียนมีความหวังว่ามันจะทิ้งให้เขาอยู่คนเดียว แต่กลับผิดหวังเมื่อโจรใช้มือหยาบหนาและใหญ่ปานมือเปรตบีบรอบคอเล็กๆ ของหนุ่มน้อยอย่างโหดเหี้ยมแทน ตอนแรกแสงเทียนคิดว่ามันจะฆ่าเขา แต่ได้ยินมันบ่นกับตัวเองว่า ‘ใช้ไฟฟ้าหรือถ่านวะ’ ก็รู้ว่ามันกำลังตรวจสอบการทำงานของตุ๊กตายางต่างหาก

เหยื่อเริ่มขาดอากาศหายใจ ดวงตาสั่นระริก หน้าซีดเผือด เย็นเยือกไปทั้งตัว หากยื้อไว้นานกว่านี้เขาคงขาดใจตายจริงๆ

สุดท้าย...

“แค่กๆ!” เขาแสดงต่อไปไม่ไหว ต้องไอออกมา

“เฮ้ย!!!!” โจรตะโกนเสียงดังอย่างผวาสุดชีวิต ปล่อยมือออกจากคอเหยื่ออย่างเร็ว “ทำไมไอได้!”

“ก็เป็นคนไง!”

“คนเหรอ!?”

“เออ คน!” แสงเทียนพูดเสียงแหบ สูดอากาศเข้าทางปากและจมูกยาวๆ “คุณจับผมมาทำไม!”

โกรธเกลียดแค่ไหนก็ต้องสุภาพไว้ก่อน เพราะมันถือไพ่เหนือกว่า ขืนหยาบคายพูดกูมึงใส่อาจทำให้มันยิ่งโมโห

“จะเอาไปขาย” โจรตอบหน้าซื่อ

“ขาย!?” แสงเทียนหูผึ่ง “ผมเป็นคน ไม่ใช่สินค้า จะเอาไปขายได้ไง มันผิดกฎหมายนะครับ ปล่อยผมไปเถอะ!”

“ไม่ได้ ขืนปล่อยเอ็งไปข้าก็ถูกจับสิวะ”

“ไม่หรอก ผมจะไม่แจ้งความ ไม่เอาผิดคุณเลย...จริงๆ” แสงเทียนทำหน้าออดอ้อนน่าสงสาร “เอางี้ๆ คุณอยากได้เงินเท่าไหร่บอกมา ผมจะเอามาให้ แต่คุณต้องปล่อยผมนะ”

“ไม่จำเป็นหรอก เพราะเดี๋ยวข้าเอาเอ็งไปขายก็ได้เงินอยู่แล้ว”

แสงเทียนหน้าแหย หัวสมองคิดหาแผนการเอาตัวรอดฉับไว

“อย่าเอาผมไปขายเลยนะ ผมเป็นเสาหลักของบ้าน ต้องทำงานหาเงินส่งเสียเลี้ยงดูพ่อที่ป่วยเป็นโรคหัวใจ แม่เป็นอัลไซเมอร์ น้องชายเป็นเอ๋อ กับน้องสาวพิการ คุณจับผมมาอย่างนี้ ไม่ใช่ชีวิตผมคนเดียวที่จบเห่ แต่ครอบครัวของผมก็ด้วย... เมตตาผม ปล่อยผมเถอะนะครับพี่สุดหล่อ”

มือสองข้างที่ไพล่หลังไว้ไขว้นิ้วทั้งคู่ กล่าวขอโทษพ่อแม่และน้องๆ ในใจที่ถูกใช้ปู้ยี้ปู้ยำเป็นเครื่องมือเอาตัวรอด

ทว่าโจรอู๋เหมือนจะรู้ทันว่าเขาโกหก หรือไม่ก็ไม่สนใจชีวิตแสนรันทดของคนอื่น

“ไม่ปล่อยโว้ย” โจรพูดเสียงเหี้ยม

“ผม...” พยายามคิดหาคำพูดโน้มน้าวใจที่รุนแรงที่สุด “ผมเป็นเอดส์!!! คุณเอาไปขายไม่ได้! ถ้าลูกค้ารู้คงไม่ซื้อตัวผมหรอก!”

“ช่างแม่งสิ เรื่องอะไรข้าจะบอกว่าเอ็งเป็นเอดส์ พอข้าเอาเอ็งไปขายแล้วข้าก็ชิ่งหนี ส่วนมันกับเอ็งจะเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่เกี่ยวกะข้า”



ทำไงดี มันไม่ยอมหลงกลเลย



“แต่...” ไอ้โจรคุกเข่าลงตรงหน้าแสงเทียนด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์ “คิดดูก็สงสารลูกค้าเหมือนกัน ถ้าเขารู้ว่าเอ็งมีโรค”

“งั้นปล่อยผมสิ” แสงเทียนส่งเสียงเว้าวอน

“ไม่เอา คนเป็นโรคร้ายเก็บไว้ก็เป็นภัยต่อสังคมเปล่าๆ ข้าว่า...” โจรล้วงบางอย่างออกจากกระเป๋ากางเกงมาจ่อคอผู้เคราะห์ร้าย “...ฆ่ามันทิ้งเลยดีกว่า”

หัวใจของหนุ่มน้อยแทบจะหยุดเต้น เมื่อรู้ว่าวัตถุเย็นๆ ที่จอใต้คางคือปืน!!!

“หยุดก่อน อย่ายิง! ผมไม่ได้เป็นเอดส์! อย่าฆ่าผมเลย!!!”

แสงเทียนเกือบจะร้องไห้ ไอ้โจรหัวเราะอย่างชั่วร้ายแล้วเก็บปืนไว้ที่เดิม จากนั้นผลักร่างเล็กนอนลงกับพื้นแล้วขึ้นคร่อมกลางลำตัว หนุ่มน้อยใจหายวาบราวกับรับรู้ชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป

“จะ... จะทำอะไร” เหยื่อถามด้วยเสียงสั่นรัว ทั้งที่พอจะเดาได้

“เล่นตุกติกดีนัก ข้าจะสั่งสอนว่าผลของการเล่นกับโจรเป็นยังไง”
 
ไม่เท้าความให้ยืดยาว คนข้างบนโน้มตัวลงมาซุกไซ้ซอกคอคนข้างล่างอย่างหื่นกระหายรุนแรงทันที แสงเทียนร้องลั่นด้วยความรังเกียจและขยะแขยงแทบขาดใจ ตำแหน่งที่โดนกัดจูบเจ็บเหมือนโดนเสือขย้ำไม่มีผิด อีกทั้งหนวดเครายาวหยาบของผู้กระทำก็ครูดบาดผิวบางของเขาจนแสบคันไปหมด
 
ขณะที่ถูกคุกคาม แสงเทียนก็คิดถึงและร่ำร้องเรียกร้องหาคนๆ หนึ่งอย่างสิ้นหวัง แม้จะรู้ว่าเสียงนี้ไม่มีวันดังไปถึง หรือต่อให้คนๆ นั้นมาจริง ก็คงจะรังเกียจสภาพที่เต็มไปด้วยมลทินของเขาจนไม่อยากแม้แต่จะเหลือบหางตามองด้วยซ้ำ


แต่เขาก็ยังหวัง


“ช่วยเราด้วย... เฟลม”




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-10-2018 23:46:09 โดย Blackmamba »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: THIEF MAN #แฟนโจร (20/9/18) INTRO
« ตอบ #9 เมื่อ: 20-09-2018 23:40:56 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Blackmamba

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
RE: THIEF MAN #แฟนโจร EP.1 ในรังโจร (20/09/18)
«ตอบ #10 เมื่อ21-09-2018 00:04:30 »

   
EP1
ในรังโจร



ช่างเป็นเรื่องน่าอัปยศอดสูจริงๆ


คำว่าศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์คืออะไร คำว่าความยุติธรรม สิทธิมนุษยชน และกฎหมาย มีค่าแค่ไหน? ทำไมคนๆ หนึ่งถึงได้ทำร้ายอีกคนที่ไร้ทางสู้ได้อย่างไร้ซึ่งความเกรงกลัวใดๆ? ตำรวจ พลเมืองดี กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เฝ้าภาวนาให้คุ้มครองทุกเช้าเย็นไปอยู่ที่ไหนกันหมด?


ทำไมถึงทิ้งให้ผมถูกย่ำยีเหมือนไม่ใช่คนอยู่แบบนี้?


เมื่อคืนตอนถูกไอ้โจรชั่วช้าหน้าขนเล้าโลมอย่างหนักหน่วง ผมก็ร้องไห้จนหมดสติไปแบบไม่รู้ตัว ลืมตาตื่นอีกทีก็พบว่าตัวเองอยู่ในสภาพกึ่งเปลือย กระดุมเสื้อหลุดเกือบทุกเม็ด เผยให้เห็นเนื้อตัวท่อนบนซึ่งเต็มไปด้วยบาดแผลจากการต่อสู้ รวมทั้งรอยช้ำเป็นจ้ำสีแดงที่เกิดจากริมฝีปากโจร ที่น่ารังเกียจที่สุดคือ ’ของบางอย่าง’ ที่มันถล่มยิงทิ้งไว้บนร่างกายของผมไม่ต่างกับหนังโป๊โรคจิต บ่งบอกแสนยานุภาพของผู้กระทำว่ารุนแรงเพียงใด

“ตื่นซะที แม่งหลับโคตรนาน นึกว่าตายแล้ว”

ไอ้โจรนั่งพิงฝาผนังฝั่งตรงข้ามบ่นเป็นอย่างแรกเมื่อผมลืมตาสบกับมันเข้า แววตาก้าวร้าวคู่นั้น เดาไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไร สมน้ำหน้า สะใจ หรืออะไรอื่น... แต่แววตาที่ผมมองมันมีแต่ความเกลียดชังและคั่งแค้นล้วนๆ หากเขียนคำด่าที่อยู่ในใจเป็นออกมาเป็นหนังสือได้ คงหนาเท่าสามก๊กเรียงต่อกันร้อยเล่มโน่นแหละ

“ตายไปก็คงดีกว่า”

เมื่อผมเปล่งเสียงพูดก็ตกใจเสียงที่แหบพร่าราวกับลำคอเต็มไปด้วยกรวดทราย ไม่แปลกเพราะเมื่อคืนผมแหกปากร้องไห้ดังลั่น ผมดันตัวเองขึ้นนั่ง กระเถิบถอยหลังออกห่างจากมันให้มากที่สุดจนแผ่นหลังติดกับผนังห้อง

"จะรีบตายไปทำไม ยังไม่ทันได้กันเลย” มันว่า

“สัด! น้ำท่วมตัวกูขนาดนี้ยังพูดอีกเหรอว่าไม่ได้!”

“ก็ใช่ไง เอ็งเสือกสลบไปก่อน ข้าเลยไม่ได้เอา ไม่ชอบลักหลับน่ะ ถึงทำก็เหมือนเอากับตุ๊กตายาง ไม่ได้อารมณ์เหมือนคนจริงๆ”

“...”
 
เออว่ะ จะว่าไปผมก็ไม่เจ็บประตูหลัง อีกทั้งไม่มีเลือดสักหยดอย่างที่ควรเป็นเมื่อถูกทารุณกรรมด้วย โอ้โห...นี่แหละคือประโยชน์ของการอ่านหนังสือจนอดนอนมาสามวันล่ะ ผมเลยเหนื่อยล้าเป็นลมไปง่ายๆ แบบนี้เขาเรียกคนดีผีคุ้มแท้ๆ!

“ขอบคุณมากนะครับคุณโจรที่ไม่ข่มขืนผม ถึงคุณจะใช้เรือนร่างผมกระตุ้นอารมณ์จนสำเร็จความใคร่จนเลอะเทอะก็เหอะ รู้ใช่ไหมล่ะว่าทำโดยไม่ใส่ถุงมันอันตราย เสี่ยงติดโรคได้ง่ายโดยเฉพาะผู้ชายอย่างเราๆ ที่คุณทำน่ะถูกต้องที่สุดแล้วครับ เซฟๆ วินๆ ทั้งสองฝ่าย”

ความโกรธเปลี่ยนเป็นความดีใจจนน้ำตาแทบไหล เช่นเดียวกับสรรพนามที่เปลี่ยนจากหยาบคายเป็นสุภาพ แต่ไอ้โจรก็เบรกผมแทบหัวทิ่ม

“เปล่า ถุงน่ะมี เยอะด้วย”

“...?”

“ปัญหาจริงๆ คือของข้าใหญ่เกินไป ยัดรูเอ็งไม่เข้าต่างหาก”

“.......”
 
ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!

“เอ็งชื่ออะไร” มันถามเปลี่ยนเรื่อง แต่ผมโกรธจนหูดับ ปากชา หน้าร้อน ไม่อาจตอบโต้ใดๆ ได้

“จะบอกดีๆ หรือให้ใช้กำลัง” มันขู่ 

“แสงเทียน... เรียกเทียนก็ได้” ผมพูดลอดไรฟัน

“อายุ?”

“ยี่สิบสอง”

“ยี่สิบสอง?”

“ใช่”

“เหมือนกัน”

เหอะ น้ำหน้าอย่างมึงเนี่ยนะยี่สิบสอง นึกว่าห้าสิบซะอีก

ไอ้โจรเขยิบเข้ามาใกล้ด้วยสีหน้าอยากรู้อยากเห็นแล้วถามต่อ

“ทำงานหรือเรียน”

“ถามเพื่อ? ตอบแล้วมึงจะปล่อยกูไง้” ผมย้อน

“ก็ไม่แน่”

ผมรู้มันตอแหล แต่ก็ตอบไปงั้น

“เรียนปีสี่ คณะรัฐศาสตร์ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ”

“อยากเป็นทูตเหรอ”

มันถามเหมือนคนส่วนใหญ่ที่เคยถามผม แต่ต่างตรงที่ตาของมันแสดงความเยาะเย้ย ไม่ใช่ชื่นชม

“เปล่า” ผมว่า “อยากเป็นนักการเมือง จะได้ออกกฎหมายกวาดล้างโจรชาติชั่วให้สิ้นซาก ไม่ให้เหลือเป็นกากเดน รกแผ่นดิน”

“อื้อหือ เฉียบขาด... แต่กว่าจะถึงวันนั้น ท่านอาจไม่มีชีวิตอยู่แล้วก็ได้นะครับ ท่านว่าที่รัฐมนตรี”

มันเอื้อมมือมาจับปลายคางของผมเชิดขึ้นแล้วผลักใบหน้าของผมออกห่างอย่างแรง เหมือนต้องการเยาะเย้ยว่าคำพูดของผมเหลวไหล

แต่ผมขอสัญญา ถ้าหากหนีพ้นจากมันไปได้ล่ะก็ ผมจะไปแจ้งความกับตำรวจ จะแฉวีรกรรมความเหี้ยของไอ้โจรลงบนเฟซบุ๊ค ยูทูป กับเว็บดังๆ ทั้งหลายแหล่ให้รู้ทั่วกัน เรื่องนี้จะต้องดัง เรื่องนี้จะต้องเป็นข่าว นายแสงเทียน สว่างช่วงโชติจะต้องถูกอ่านชื่อในทีวีและมีภาพลงบนหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งทุกฉบับ เนื่องจากเปิดโปงวีรกรรมของคนชั่วได้ ไอ้เวรที่จับผมมาจะได้ไม่มีที่ยืนในสังคมอีกต่อไป มันต้องถูกจับ ถูกรุมประชนทัณฑ์ ถูกประหารชีวิต!

ผมเชื่อว่าผมคงไม่ใช่คนแรกที่โดนกระทำ อาจมีเหยื่อรายอื่นที่ถูกทารุณก่อนหน้านี้แล้วหลายราย และผมคงไม่ใช่คนสุดท้ายด้วย

ถ้าหากเรื่องของผมจะเป็นกระบอกเสียงให้กับคนจำนวนมากได้รับรู้และตื่นตัวกับไอ้ภัยสังคมนี่... ก็ถือว่าเป็นการเสียสละที่คุ้มค่าเหมือนกัน ผมจะยอมเป็นคนๆ นั้นก็ได้ ผมยอมตายเพื่อให้ล้านคนตื่น

แต่ก่อนอื่นผมต้องพยายามเอาตัวรอดให้ได้ก่อน ยกเว้นจะหมดสิ้นหนทางจริงๆ ค่อยคิดเรื่องตาย
 
เท่าที่สังเกตด้วยสายตาอย่างละเอียดแล้ว พบว่าห้องนี้ไม่มีหน้าต่าง ไม่มีปล่องเพดาน เป็นห้องทึบๆ มีทางออกเพียงทางเดียวคือประตู แต่ไอ้โจรล็อคอย่างแน่นหนา มีสายโซ่คล้องกลอนไว้พร้อม ไม่ต่างอะไรกับการขังตัวเอง ผมไม่รู้ว่ามันซ่อนกุญแจไว้ตรงไหน... แต่เอาเถอะ ยังไงมันต้องเปิดออกไปขี้เยี่ยวบ้างล่ะ ค่อยสังเกตเอาละกัน

ภายในกล่องกระดาษลังที่วางเรียงกันสูงชิดผนังฝั่งหนึ่งของห้อง นอกจากจะมีเสื้อผ้ากับเสบียงอาหารแล้ว ผมคิดว่าคงมีของที่มันขโมย กับยาบ้าไม่ก็อาวุธสงครามด้วยแน่ๆ ถึงได้มีจำนวนมากขนาดนั้น... พอจะมีอะไรที่สามารถปลดปล่อยผมให้เป็นอิสระได้บ้างไหมนะ เช่นมีด กรรไกร หรือของมีคม ลำพังไอ้โจรคงไม่แก้มัดให้ง่ายๆ ผมต้องหาทางแก้ด้วยตัวเอง
 
ได้ยินเสียงจุดไฟแช็ก ผมละสายตาจากกล่องลังหันไปมองไอ้โจร มันกำลังจุดไฟสูบบุหรี่

“เฮ้ย จะสูบก็ไปสูบข้างนอกสิ” ผมใจหาย

“เรื่องของข้า”

“กูเป็นภูมิแพ้ แพ้ฝุ่น แพ้ควัน อยากให้ไม่สบายรึไง เดี๋ยวก็ขายไม่ได้พอดี แถมต้องเสียเงินซื้อยาให้อีก”

“วะ! เรื่องมาก” โจรสบถ ลุกขึ้นยืนอย่างรำคาญเดินเข้ามาหาผม “ข้าไม่เชื่อหรอกว่าเอ็งเป็นภูมิแพ้ เมื่อคืนเอ็งยังโกหกเลยว่าเป็นเอดส์”

“กูเป็นภูมิแพ้จริงๆ!” นี่ผมกำลังพูดความจริง ให้ตายเถอะ!

“ไม่เชื่อ” โจรพูดแล้วพ่นควันสีเทาใส่เต็มหน้าผม

“แค่ก.... แค่กๆ!” ผมสำลักควันจนไอ แล้วก็จาม กลิ่นเหม็นจากบุหรี่ติดอยู่ในรูจมูก ขมไปถึงลำคอ

“อย่ามาแสดงละคร”

ไอ้ชั่วเป่าควันใส่หน้าผมเป็นครั้งที่สอง คราวนี้ผมไอหนักขึ้น รู้สึกเหมือนขาดอากาศหายใจ ทั้งไอและจามเป็นบ้าเป็นหลัง อีกทั้งยังเคืองตาจากเขม่าควันที่มันพ่นใส่หน้าด้วย

“แค่ก... แค่ก... แหวะ... เฮือก”

แย่แล้ว... อึดอัด... ทรมาน... ผมอาจตายจริงๆ ถ้ายังมีควันพิษพวกนี้ลอยเต็มห้อง... ตาย ตายแน่ๆ

“เฮ้ย”

ไอ้โจรตกใจที่เห็นผมอาการหนักเกินกว่าจะเป็นแค่การแสดง มันถอยห่างออกไปสามก้าว แต่ก็ยืนเฉยๆ ไม่ดับบุหรี่แต่อย่างใด อาจเป็นไปได้ว่ามันกำลังรอดูผมตายอย่างทุรนทุรายต่อหน้าต่อตา

ใช่สิ โจรอย่างมันคงผ่านการฆ่าคนมานับไม่ถ้วน เพิ่มผมไปอีกสักศพคงไม่ทำ ให้มันเดือดเนื้อร้อนใจมากกว่าเดิมเท่าไหร่หรอก

 
ปังๆๆๆๆ!!!!


“เฮีย!!! เปิดประตูเร็ว! มีเรื่องจะคุย!!!”

จู่ๆ ก็มีเสียงทุบประตูปึงปังพร้อมกับตะโกนเสียงดังโวยวาย โจรมองผมสลับกับประตูอย่างชั่งใจ ก่อนจะเดินไปเปิดโดยคีบบุหรี่ไว้ในปาก


กุญแจอยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านซ้ายของมัน...


“มีไร” โจรเปิดประตู แง้มให้คนข้างนอกเห็นเพียงครึ่งหน้า

“นี่มันเรื่องบ้าอะไร ทำไมหน้าเฮียไปโชว์หราอยู่บนหนังสือพิมพ์คอลัมน์ประกาศจับ!”

คนที่อยู่ข้างนอกยัดม้วนหนังสือพิมพ์ประจำวันใส่มือไอ้โจร แต่โจรไม่แม้แต่จะอ่านสักตัวเดียว

เป็นการดีที่ประตูเปิด แม้จะช่องเล็กๆ ก็ทำให้ควันบุหรี่ที่คละคลุ้งอยู่ในห้องเบาบางลงไป ผมแอบขอบใจบุคคลที่สามที่มาได้ถูกจังหวะพอดี

ระหว่างที่โจรคุยกับคนที่อยู่ด้านนอกโดยไม่สนใจผม สายตาของผมก็สะดุดเข้ากับวัตถุอย่างหนึ่งที่สะท้อนแสงแดดเป็นประกายเหมือนไข่มุกในบ่อโคลน

วงเวียน... อันที่มันเอาเจาะแขนผมเมื่อคืน...วางอยู่บนพื้นห่างไปไม่ถึงเมตร!

ผมแอบเขยิบกระเถิบเข้าไปใกล้อาวุธปลายแหลมนั้นอย่างเงียบเชียบพลางมองแผ่นหลังโจรเหี้ยอย่างระมัดระวัง ทว่ามันไม่ก็ยังคุยกับลูกน้องโดยปราศจากความเอะใจใดๆ

“ก็เมื่อคืนตอนกำลังขโมย นังคนใช้ดันเดินมาเจอพอดี มันเลยสาดแสงแฟลชใส่เต็มหน้าข้า แล้วก็เป็นเรื่อง” โจรบอกคนที่มาหา

“หน้าเฮียโคตรทุเรศเลย”
 
“เออ เอ็งจะให้ข้ายิ้มแอ๊บแบ๊วใส่มันรึไงวะ”

“ทำไมไม่ทุบหัวให้สลบล่ะ จะได้ขโมยต่อ อุตส่าห์บุกบ้านเศรษฐีนีได้ทั้งที น่าจะกอบโกยได้เยอะกว่านี้แท้ๆ”

“พูดง่ายนะมึง อีนังนั่นเล่นกรี๊ดเสียงดังลั่นบ้าน ทั้งคนทั้งหมาตื่นมาไล่จับข้ากันหมด เกือบไม่รอด”
 
“เฮงซวยมากอ่ะ” คนที่อยู่หน้าประตูถอนหายใจ “ตำรวจตามหาตัวเฮียกันให้วุ่นอย่างนี้ เฮียก็ออกไปทำงานไม่ได้แล้วสิ”

“คงงั้น”

“สรุปเมื่อคืนได้อะไรมาบ้าง”

“เครื่องประดับกับเงิน รวมแล้วประมาณสิบล้าน”

“โหย น้อยจัง อย่างนี้เมื่อไหร่จะครบ ใกล้เดดไลน์เข้ามาทุกทีแล้วด้วย เฮียนะเฮีย ไม่น่าพลาดเล้ย”

“เอ็งไม่ลองเป็นข้าดูบ้างล่ะ จะรู้ว่ามันลำบากแค่ไหน” 

“ไม่อ่ะ ให้ผมไปย่องเบาอย่างเฮียคงไม่ได้หรอก เป็นโจรกรีดกระเป๋าน่ะดีแล้ว”

ในที่สุดผมก็มาถึงจุดหมายแล้วคว้าวงเวียนเอาไว้จนได้ ไม่รอช้าเอาปลายแหลมของมันแทงซ้ำๆ ตรงเชือกที่มัดมือข้างหลัง ดีที่ไม่ใช่เชือกเส้นใหญ่ เหมือนเชือกผูกรองเท้ามากกว่า ผมภาวนาสุดใจขอให้พวกมันคุยกันนานๆ อย่าเพิ่งหันมาตอนนี้เลย

“แล้วจะเอาไงกันต่อดี” ลูกน้องถาม

“พวกเอ็งก็ทำงานกันตามปกติ ส่วนข้าจะอยู่ที่นี่จนกว่าข่าวเงียบหรือไม่อาจปลอมตัวใหม่ ข้าให้พวกเอ็งทำตามลำพังแล้วตัวเองอยู่เฉยๆ ไม่ได้หรอก”

“ตามใจเฮีย”

บทสนทนาเหมือนจะจบลงแค่นั้นเมื่อไม่มีใครพูดอะไรต่อ แต่ลูกน้องก็จุดประเด็นใหม่ด้วยความสงสัย

“เฮียถอดเสื้อทำไมอ่ะ”

“...ร้อน” เว้นช่วงอย่างมีพิรุธ

“เฮียลืมรูดซิปด้วย”
 
“...”

โจรร่างใหญ่แก้มแดง แต่ลูกน้องมองไม่เห็นเพราะหนวดดกหนาบดบังใบหน้ามิด เขารูดมันปิดด้วยท่าทีเรียบเฉย แต่ลูกน้องกลับหัวเราะคิก

“ไม่มีอะไรแล้วก็ไสหัวไป” ลูกพี่โบกมือไล่ ทำท่าจะปิดประตู ลูกน้องพยักหน้ายิ้มๆ แล้วเดินจากไปแต่จู่ๆ ก็ตะโกนตามหลัง “ไอ้เบย์!”

“ครับ?”

“มาเฝ้าห้องให้ข้าแป๊บ”

“อ้าว ทำไม”

“จะไปสูบข้างนอก”
 
“...ครับๆ” ทุกทีก็สูบในห้องนี่วะ... ลูกน้องคิดขณะที่เดินกลับมาหน้าห้องลูกพี่

“ห้านาที อย่าทำอะไรของๆ ข้า เข้าใจ?”
 
“ครับเฮีย”

โจรหนวดหันมามองผมแวบหนึ่งก่อนจะเดินออกไปจากห้อง แล้วโจรอีกคนที่เป็นลูกน้องก็เข้ามาแทน ผมรีบขยับมาอยู่ในมุมห้อง ทำตัวให้ลีบเล็กที่สุดเพราะไม่อยากให้มันเห็นสภาพทุเรศทุรัง อีกใจก็กลัวว่าจะถูกมันปล้ำซ้ำด้วย... แต่ก็ไม่เป็นดังหวัง มันเห็นผมจนได้

“เฮ้ย! นายเป็นใคร แล้วทำไมไม่ใส่เสื้อผ้าดีๆ” โจรถาม
 
ผมไม่รู้ว่าจะตอบมันว่ายังไงเลยเงียบ ไม่รู้ว่าหมอนี่คิดอะไรของมันถึงถอดเสื้อแจ็คเก็ตของตัวเอง เดินถอยหลังมาทางผม แล้วเอาคลุมร่างกึ่งเปลือยให้อย่างเก้ๆ กังๆ
 
“สวมไว้ซะ เดี๋ยวยุงกัด” เขาว่า ก่อนจะหันตัวกลับมาแล้วนั่งลง

ผมจึงเห็นชัดๆ ว่าเขาเป็นผู้ชายรูปร่างใกล้เคียงผม สูงประมาณร้อยเจ็ดสิบปลายๆ ไม่อ้วนไม่ผอม ผิวขาวจัด ตาชั้นเดียว ผมยาวประบ่ารุงรังกระเซอะกระเซิง ไว้หนวดเหนือริมฝีปากบนเหมือนปลิง เสื้อผ้าซอมซ่อขาดปุปะ ดูเผินๆ ดีกรีความเป็นโจรไม่น้อยไปกว่าไอ้หนวดลูกพี่เลย
 
แต่สิ่งเดียวที่ทำให้แลดูร้ายกาจน้อยกว่าคือรอยยิ้มกว้างและดวงตาฉายแววเป็นมิตรที่มอบให้ผมนี่เอง ถ้าตัดผมโกนหนวดให้เกลี้ยงแล้วล่ะก็...คงเป็นแค่เด็กผู้ชายธรรมดาๆ คนหนึ่งเท่านั้น

“หวัดดี” โจรทักทายด้วยรอยยิ้ม “เราชื่อเบย์ นายชื่ออะไร”






อีกด้านหนึ่ง

“เมียผมหาย!!!!"

เสียงตะโกนของชายหนุ่มเจ้าของส่วนสูงร้อยแปดสิบห้าและใบหน้าหล่อเหลาทำให้ตำรวจและประชาชนทั้งสน. สะดุ้งสะเทือนกันถ้วนหน้า เมื่อเขาวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาด้วยท่าทางร้อนรน
 
เฟลมสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเมื่อกลับถึงอพาร์ตเม้นต์ในตอนเช้าแล้วไม่พบแสงเทียน ตอนแรกเข้าใจว่าคงงอนเลยหนีไปนอนหอเพื่อนหรือไปเรียน แต่มือถือและกระเป๋าตังค์ของแสงเทียนก็ยังอยู่ในห้อง ไม่มีทางที่จะออกไปโดยไม่พกของพวกนี้ติดตัวไปด้วย นายแบบหนุ่มดาวรุ่งจึงโทรถามเพื่อนหลายคนของแฟน แต่ทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าแสงเทียนไม่ได้มาหา โทรหาอาจารย์ก็บอกว่าไม่ได้มาเรียน ทำให้หัวใจชายหนุ่มหล่นวูบทันที...ถ้างั้นแล้วหายไปไหน?

หรือว่าโกรธที่ทะเลาะกันเมื่อคืนเลยหนีออกจากบ้าน... แต่ก็ไม่น่าเป็นไปได้เพราะห้องเป็นระเบียบเรียบร้อยไม่มีร่องรอยการเก็บของหนี เฟลมคิดจนหัวแทบระเบิดก็ไม่ได้คำตอบ จึงมาพึ่งตำรวจ

ร้อยตำรวจโทหริรักษ์ ป้องปกเกียรติ หรือที่เรียกกันว่า ‘หมวดรักษ์’ ตำรวจหนุ่มฝ่ายสืบสวนที่กำลังนั่งอ่านนิยายรักหวานแหววเพลินๆ พอได้ยินเสียงดังโหวกเหวกนั้นก็วางหนังสือลงอย่างขัดใจ

ที่จริงเวลานี้อยู่ในช่วงพักเที่ยง และเจ้าหน้าที่รับเรื่องร้องเรียนก็ดันไปกินข้าวข้างนอก หมวดรักษ์เลยมานั่งแทน ฉะนั้นจึงเซ็งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งถูกขัดจังหวะแบบนี้ก็ยิ่งเซ็งคูณสอง

“สถานที่ราชการ กรุณารักษาความสงบด้วย”

เขาบอกผู้ร้องทุกข์เชิงตำหนิ แต่ในเวลานี้เฟลมไม่สนใจเรื่องมารยาทอะไรทั้งนั้น

"เมียผมหาย! คุณต้องช่วยผม!”
 
เฟลมทุบกำปั้นลงบนโต๊ะที่หมวดนั่งอย่างไร้ซึ่งความเกรงใจ ท่าทางของเขาทำให้หมวดรักษ์ยิ่งหงุดหงิดกว่าเก่า เบื่อนักพวกที่ทำเหมือนปัญหาตัวเองใหญ่กว่าใครในโลกเนี่ย ถ้าไม่ติดว่าบรรพบุรุษเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์มาสี่ชั่วอายุคน จนทายาทของตระกูลอย่างเขาไม่มีทางเลือกอื่นนับแต่ถือกำเนิดเป็นแค่ไซโกตในท้องแม่แล้วล่ะก็ ฝันไปเถอะว่าเขาจะทำอาชีพ ‘รับใช้’ ประชาชนนี่น่ะ

“หายตั้งแต่เมื่อไหร่” หมวดถาม

“ไม่รู้ ผมกลับบ้านไปแต่ไม่เจอเขา”

“ครั้งสุดท้ายที่เห็น เวลาประมาณเท่าไหร่”

“ห้าทุ่มครึ่งเมื่อคืน”

เฟลมตอบด้วยสายตาเปี่ยมความหวัง ในขณะที่เขาร้อนรนจนแทบลุกเป็นไฟ หมวดรักษ์กลับยกถ้วยกาแฟขึ้นจิบด้วยท่าทางเย็นใจไม่เดือดร้อน แถมยังทำหน้ามึนๆ เหมือนคนพึ่งตื่นอีก

นายแบบหนุ่มรอฟังคำพูดที่จะทำให้เขาสบายใจขึ้นได้บ้าง แต่ก็ต้องผิดหวังอย่างรุนแรง

“ยังไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมง แจ้งความคนหายไม่ได้”

หมวดพูดแล้วยกหนังสือขึ้นมาอ่านต่อ กลายเป็นฉากกั้นระหว่างเขาและเฟลมโดยปริยาย

“อะไรนะ! ต้องรอให้ครบยี่สิบสี่ชั่วโมงเชียวเหรอ!? ถ้าเกิดแฟนผมถูกจับไปเรียกค่าไถ่ ถูกจับไปฆ่า หรือพาไปข่มขืนล่ะ! ต้องรอให้เขาเป็นศพก่อนใช่ไหมพวกคุณถึงจะไปตามหา!”

เฟลมระเบิดความทุกข์ร้อนใจออกมาอย่างเดือดดาล น้ำตาก็พาลจะไหลรอมร่อ

หมวดรักษ์ลดระดับหนังสือลงครึ่งหน้า ให้อีกฝ่ายได้เห็นแค่ดวงตามึนๆ

“ถ้าเป็นการเรียกค่าไถ่ เราจะออกตามหาทันทีที่คนร้ายติดต่อมา แต่ถ้าไม่ใช่ เราก็แค่ต้องทำไปตามกฎ” หมวดพูดด้วยสีหน้านิ่งๆ น้ำเสียงเรียบๆ “อีกอย่างคุณอย่ามาโวยวาย เพราะคุณไม่ใช่คนแรกในโลกที่ทำเมียหาย... แต่ส่วนใหญ่ผู้ร้ายก็มักจะเป็นผัวล่ะนะ”

“ผมไม่ได้ทำ!” เฟลมกำหมัด กัดฟันกรอด “เราแค่ทะเลาะกันแล้วผมก็ออกจากบ้าน กลับมาอีกทีก็ไม่เจอเขาแล้ว”

หมวดฟังโดยมีสีหน้าเรียบเฉยติดจะเย็นชา

“รอให้ครบยี่สิบสี่ชั่วโมงแล้วค่อยแจ้งความ ฟังภาษามนุษย์รู้เรื่องนะครับ”

แล้วก็ลุกเดินจากเก้าอี้ไปชงกาแฟเพิ่มอีกแก้ว

เฟลมทุบโต๊ะอย่างโมโหก่อนจะเดินออกมาจากโรงพักด้วยความเจ็บใจ ทีข่าวโจรขโมยขึ้นบ้านเศรษฐีทำไมถึงไล่จับกันไวนัก แต่นี่คนหายไปทั้งคน ทำไมถึงทำเฉยเมยคนละขั้ว!

แต่จะโทษตำรวจก็ไม่ถูก เป็นความผิดของเขาเองที่ทิ้งแฟนไว้ที่ห้องคนเดียว... และยิ่งรู้สึกผิดเมื่อคิดว่าขณะที่ตนกำลังเริงรักกับรุ่นพี่นายแบบสุดฮอต แสงเทียนอาจกำลังเผชิญหน้ากับผู้ร้ายอย่างไร้ทางสู้

“เราขอโทษ...”

ร่างสูงโปร่งหยุดเดิน เอาหลังพิงกำแพงตึกอย่างอ่อนล้า ก้มหน้าปล่อยน้ำตาที่ไม่ได้ไหลมานานให้ทะลักออกมา เหมือนฉากหนึ่งในเอ็มวีที่เขาเคยแสดง แต่คราวนี้ไม่มีผู้กำกับ ไม่มีผู้ชม ไม่มีกล้อง มีแต่ของจริงล้วนๆ ทำให้เขารู้ว่าความเจ็บปวดที่ยิ่งกว่าการอกหักคือการจากลาที่ไร้สัญญาณแจ้งเตือนล่วงหน้าแบบนี้เอง

“นายอยู่ที่ไหน... เทียน”



TBC...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-09-2018 00:40:21 โดย Blackmamba »

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
Re: THIEF MAN #แฟนโจร EP.1 ในรังโจร (20/09/18)
«ตอบ #11 เมื่อ21-09-2018 00:25:43 »

รักกันเลย พาไปเย้ยแฟนเก่าด้วยนะ
ให้มันกระอักเลือดตายไปเล้ยยย555

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
Re: THIEF MAN #แฟนโจร EP.1 ในรังโจร (20/09/18)
«ตอบ #12 เมื่อ21-09-2018 02:46:24 »

สรุปเรื่องนี้พี่โจรหรือเฟลมเป็นพระเอกกันแน่นะเนี่ย ลุ้นค่ะ

กลัวม่าจังเลย ดูเหมือนเฟลมจะยังรักเทียนนะ ส่วนคุณโจร

เหมือนที่ทำอยู่โดนสั่งหรือบังคับมาให้ทำอีกที

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
Re: THIEF MAN #แฟนโจร EP.1 ในรังโจร (20/09/18)
«ตอบ #13 เมื่อ21-09-2018 05:32:35 »

เพลียกับตำรวจ
ท่าทางโจรจะไม่ปล่อยเทียนง่ายๆแน่

ออฟไลน์ yasperjer

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
Re: THIEF MAN #แฟนโจร EP.1 ในรังโจร (20/09/18)
«ตอบ #14 เมื่อ22-09-2018 10:41:36 »

คูตำหนวดก็นะ​ ถ้าเทียนโดนลัดพาตัวไปฆ่าป่านนี้ก็ไม่เหลือละแหละะ​ ส่วนเฟลมเป็นไงล่ะเพิ่งจะมารู้สึกตอนที่เค้าไม่อยู่ละเห็นมั้ย​ สรุปใครพระเอกน้อออ?

ออฟไลน์ Warapich

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: THIEF MAN #แฟนโจร EP.1 ในรังโจร (20/09/18)
«ตอบ #15 เมื่อ22-09-2018 22:31:41 »

แอบตลกในความเด๋อของโจร พลอตเรื่องน่าสนใจมาก อ่านง่ายดีค่ะ ติดตามนะคะ

ออฟไลน์ Blackmamba

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
EP.2
ผัวกูเป็นโจร


“ชื่อเล่นจริงๆ เราคือบอมเบย์ Bombay ที่เป็นชื่อเดิมของเมืองมุมไบประเทศอินเดียน่ะ แต่มันยาวเกินไป คนเลยเรียกสั้นๆ ว่าบอมบ์ที่แปลว่าระเบิด หรือไม่ก็เบย์ที่แปลว่าอ่าว ความหมายชื่อเราเลยเพี้ยนไปหมด! แต่เราชอบชื่อเบย์มากกว่าเพราะว่าบอมบ์มันโหล แต่นายจะเรียกอะไรก็ได้นะ เราเพิ่งอายุยี่สิบเอ็ดเมื่อวานนี่เอง เราน่ะทำงานเป็นโจรกรีดกระเป๋าตามย่านที่คนเยอะๆ อย่างสยาม ประตูน้ำ บางทีก็สุ่มไปเรื่อยเปื่อย ขอแค่คนแออัดไว้ก่อน เป้าหมายคือนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะพวกนี้น่ะมีเงิน”

นับจากที่เราเริ่มคุยกันประโยคแรกจนถึงตอนนี้ก็เกือบห้านาที หมอนี่ยังพูดน้ำไหลไฟดับแทบไม่พักเลย เขาเล่าเรื่องของตัวเองให้ผมฟังอย่างเปิดเผย ส่วนใหญ่เป็นภารกิจที่เคยทำ เหมือนไม่กังวลเลยว่าผมอาจจะไปแจ้งตำรวจภายหลัง บางทีเขาอาจคิดว่าผมจะมาเป็นสมาชิกใหม่ในแก๊งโจรก็ได้ ผมเลยปล่อยตามเลย ไม่ทักท้วงใดๆ ขณะเดียวกันก็เอาวงเวียนเจาะแทงเชือกที่มัดข้อมืออย่างไม่หยุดหย่อนไปด้วย

ข่าวดีคือผมทำมันขาดไปหนึ่งจากสามทบแล้ว

“เราอยู่กับพี่อู๋มานานตั้งแต่ตอนพี่แกเป็นโจรแรกๆ โน่น เขายกให้เราเป็นสมุนมือซ้าย เพราะเราเก่งเรื่องของชาวบ้าน เขาเลยให้ไปเสือก เอ๊ย! สืบหาแหล่งที่จะขโมยบ่อยๆ”


อืม... พวกนี้ทำงานกันเป็นขบวนการนี่เอง ร้ายกาจ


“แล้วพี่อู๋เขาให้นายทำงานตำแหน่งไหนล่ะ”

ในที่สุดเบย์ก็เปิดโอกาสให้ผมพูดบ้าง หลังจากเอาแต่จ้อฝ่ายเดียว

“เขาไม่ได้จับเรามาทำงานด้วยหรอก แต่จะเอาไปขาย”

“ขาย!!!” ดวงตาตี่เล็กเบิกกว้างเป็นสามเท่า “ไม่จริงน่า! พี่อู๋เคยแต่ขโมยของ ไม่เคยขโมยคน เขาไม่ใช่แมงดานะจะได้จับคนไปขาย”

“แต่เขาจับเรามา นายก็เห็น” ผมว่า

เบย์มองเท้าของผมที่ถูกมัดไว้แล้วก็หน้าเหวอไป สักพักหนึ่งไอ้โจรอู๋ก็กลับจากสูบบุหรี่เข้ามาในห้อง เบย์ลุกขึ้นยืนแหงนหน้าพูดกับมันพร้อมกับยกมือขึ้นเท้าสะเอว ดูเผินๆ คล้ายเมียจับผิดผัวมากกว่าลูกน้องคุยกับลูกพี่

“พี่อู๋ เด็กคนนี้บอกว่าถูกพี่จับมาจะเอาไปขาย จริงไม่จริง!”

“ก็ตามนั้น” ไอ้โจรหน้าหนวดยักคิ้ว “เขาอายุยี่สิบสอง แก่กว่าเอ็งอีก ไปเรียกเขาเด็กได้ไง”

“นั่นไม่ใช่ประเด็น เฮียปล่อยเขาไปเหอะนะ ดูสิน่าสงสารออก”

“เอ็งก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าเฮียต้องการเงินมากขนาดไหน แถมตอนนี้ก็ออกไปขโมยของไม่ได้อีกแล้ว ทางเดียวที่จะได้เงินจำนวนมากในเร็วๆ นี้ก็มีเพียงแค่เอาไอ้หน้าสวยนี่ไปขายให้เศรษฐีบ้ากาม”

“ไม่เห็นต้องทำขนาดนี้เลย เขาน่าสงสารจะตาย” เบย์ว่า แล้วก็โดนไอ้โจรอู๋เบย์บกรามพอให้หวาดเสียว

“เอ็งเป็นลูกน้อง ไม่ต้องมาสั่งสอนข้า หมดหน้าที่แล้วก็ออกไป”

พูดเสร็จก็ผลักเบย์จนเซ ก่อนออกจากห้องเบย์หันมามองหน้าผม ส่งสายตาเป็นเชิงว่า ‘เข้มแข็งไว้นะ’ แล้วก็หายไป ในห้องจึงเหลือเพียงผมกับไอ้หนวดชั่วสองคน มันนั่งลงตรงหน้าผม กลิ่นบุหรี่จากตัวทำให้ผมคันจมูกฟุดฟิด จากนั้นมันก็เหลือบมองเสื้อแจ็คเก็ตที่คลุมตัวผมอย่างสงสัย

“ปิดทำไม”

“เบย์คลุมให้ เขากลัวยุงกัด”



และทำให้กูหนีพ้นจากน้ำมือของมึงได้ด้วย ไอ้ชั่ว



“ฮะ...” มันแค่นหัวเราะ “ประทับใจมันเข้าแล้วสินะ แต่อย่าไปตกหลุมรักมันล่ะ ข้าขอเตือน”


“กูไม่มีทางรักไอ้โจรเวรหน้าไหนทั้งนั้น”



เชือกทบที่สองขาดแล้ว ขอบคุณพระเจ้า



“ก็ดี๊...” ไอ้โจรอู๋ชักเสียงสูงอย่างเสแสร้ง “เอ็งไม่ต้องรักหรอก เพราะโจรแม่งก็รักใครไม่เป็นอยู่แล้ว”


“ก็ดี๊...” ผมชักเสียงสูงเลียนแบบมัน

เราจ้องตากันเขม็ง เครียดเคร่งราวกับสงครามทางจิต ดูว่าใครจะแน่กว่ากัน ผมบังคับไม่ให้ตัวเองหวั่นไหวเนื่องจากดวงตาของมันสวยงามและดุดันเหมือนดวงตาราชสีห์ มองแล้วชวนให้รู้สึกหวิวๆ ...แต่ผมก็ค่อนข้างมั่นใจว่าดวงตาโตเหมือนกวางของผมมีพลังมากพอจะสยบมันได้ เพราะเวลาเล่นเกมจ้องตากับคนอื่นทีไร ผมชนะเสมอ

ดี... จ้องกันแบบนี้แหละ มึงจะได้ไม่สนใจว่ากูกำลังทำอะไรอยู่หลังเสื้อแจ็คเก็ต

เรากะพริบตาพร้อมกัน แล้วเกมก็จบแค่นั้น

เช่นเดียวกับเชือกทบสุดท้ายที่ข้อมือของผมขาดพอดี

“นี่ ขอใส่เสื้อผ้าบ้างได้รึเปล่า”

ผมทำเปลี่ยนเรื่อง รู้ว่าถ้าจะใส่กางเกงต้องแก้มัดเชือกที่เท้า ดังนั้นต้องโน้มน้าวใจมันให้ได้ พอหลอกให้มันเผลอสำเร็จ ผมจะได้หาจังหวะเหมาะๆ ในการหนี

“ไม่ให้ใส่” มันตอบอย่างไม่ลังเล

“กูโดนยุงกัดจนขาลายหมดแล้วนะ ขอร้องเถอะ แค่บ็อกเซอร์ตัวเดียวก็ได้”

ผมขอร้องมันด้วยเสียงอ่อนเสียงหวาน สายตาออดอ้อนสุดฤทธิ์

แล้วก็ได้ผล ไอ้โจรถอนหายใจอย่างรำคาญ

“เออๆ เดี๋ยวหาให้”

มันลุกไปที่ฝั่งหนึ่งของห้อง ค้นกล่องเสื้อผ้ารกๆ แล้วหยิบกางเกงบ็อกเซอร์มาตัวหนึ่ง สภาพอุบาทว์มากจนผมแทบร้องไห้ เนื้อผ้าเปื่อยยุ่ย ขอบเอวยานย้วย แถมยังดูเหมือนไม่ได้ซักมาสามชาติ คิดถูกรึเปล่าวะที่ขอ... แต่ช่างเถอะ ให้แก้เชือกเท้าได้เป็นพอ

“อ้ะ” มันโยนใส่ตักผม

“จะใส่ได้ไง โดนมัดอย่างนี้น่ะ” ผมย้อน

“เรื่องมาก”

มันทำหน้ายุ่งยากใจแล้วนั่งลงตรงหน้าผมอีกครั้ง มือจับที่เชือก กำลังจะแก้ปมแล้ว แต่...

“อย่าเล่นตุกติก”

“...”

“ขอเตือนว่าถ้าคิดไม่ซื่อล่ะก็ ข้าเอาจริงแน่”    
   
“...อืม” ผมทำเป็นนิ่งๆ

แล้วไอ้โจรก็แก้เชือกให้ ปรากฏรอยแดงเป็นริ้วบนผิวของผม จากนั้นมันก็ใส่กางเกงบ็อกเซอร์ให้อย่างลวกๆ

ตอนนี้แหละผมออกแรงถีบมันเข้าที่หน้าอกด้วยสองเท้า ไอ้โจรหงายหลังล้ม แล้วผมก็เอาอาวุธปลายแหลมที่ซ่อนอยู่ข้างหลังออกมาแทงที่แขนซ้ายของมันจนมิด!

ไอ้โจรร้องลั่นอย่างเจ็บปวด เลือดพุ่งกระฉูดติดหน้าผมสามหยด สะใจจริงๆ ที่เห็นมันเจ็บอย่างที่ผมเจ็บเมื่อวาน ผมรีบล้วงกระเป๋าหลังของกางเกงข้างซ้ายของมันอย่างร้อนรน และก็ได้กุญแจมาครอง! 

“อย่าคิดว่าจะง่ายนัก!”

ไอ้โจรใช้มือใหญ่บีบคอผมจนหยุดชะงัก แต่ผมก็เอาเหล็กแหลมแทงมือของมันจนต้องปล่อยไป เมื่อได้กุญแจแล้วผมก็รีบไขประตูอย่างรวดเร็ว มือสั่นมากจนเกือบจะถือไม่อยู่

ไอ้โจรลุกขึ้นมา ทำท่าจะแย่งกุญแจ

ผมไขได้แล้ว

เลยเหวี่ยงประตูใส่ตัวมันเต็มแรง!

พอประตูเปิดผมก็รีบวิ่งออกมาจากห้องขังนรกสุดฝีเท้า โชคดีที่ตึกไม่ใหญ่มากจึงหาทางออกได้อย่างไม่ยากนัก ผมวิ่งไปตามระเบียง วิ่งลงบันไดจนมาถึงชั้นล่างสุด...แต่เฮงซวย ประตูใหญ่ทางเข้าถูกล็อก!

       

ตั้งสติ แสงเทียน กุญแจนี่มันมีสองดอกไม่ใช่เหรอ อีกดอกต้องเป็นกุญแจของประตูใหญ่แน่ๆ



ผมใช้กุญแจอีกดอกไขอย่างเร่งร้อน หัวใจเต้นแรงราวกับจะทะลุออกมาข้างนอก แต่โชคดีที่ไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของใครตามหลังมา นั่นแสดงว่าปลอดภัยในระดับหนึ่งแล้ว

ในที่สุดผมก็ไขได้ ประตูบานใหญ่เปิดออกสู่โลกภายนอก สำหรับผมมันเหมือนกับตายแล้วเกิดใหม่ เบื้องหน้ามีถนนลูกรังทอดยาวจากตัวตึกเป็นระยะทางประมาณห้าร้อยเมตรสู่ถนนคอนกรีต สองข้างทางเป็นป่ากล้วยรกทึบ ช่างเป็นทำเลที่เหมาะกับการซ่อนตัวของโจรโดยแท้
 
ผมออกวิ่งด้วยเท้าเปล่า มือกำขอบกางเกงบ็อกเซอร์เน่าไว้ตลอดเวลาเพราะไซส์ของไอ้โจรหนวดกับผมต่างกันเยอะ วิ่งไปกางเกงจะหลุดไป ระหว่างที่วิ่งก็หันไปมองข้างหลังอย่างหวาดระแวง แต่โชคดีที่ไอ้โจรสารเลวไม่ตามมา ที่ถูกประตูเหวี่ยงใส่เมื่อกี้ผมมั่นใจว่าเหวี่ยงสุดแรงเกิด มันคงสลบไปแล้ว

ระยะทางห้าร้อยเมตรดูยาวไกลเหมือนพันกิโล ผมถูกก้อนหินทิ่มตำเท้าจนวิ่งช้าเกินกว่าที่ควร แถมยังรู้สึกเวียนหัวตาลายคล้ายจะเป็นลม  อีกทั้งยังปวดร้าวระบมในทุกย่างก้าว ทันทีที่วิ่งออกมาสู่ถนนคอนกรีตได้  ผมก็เหนื่อยจนเข่าอ่อนทรุดตัวลงกับพื้นถนนอย่างคนสิ้นแรง

แถวนี้ไม่คุ้นตาเลย เป็นถนนโล่งๆ ไม่มีรถวิ่งผ่าน ไม่มีป้ายบอกสถานที่ แถมยังเปลี่ยวมากด้วย ผมจะไม่แปลกใจเลยถ้าอีกสักพักจะมีฝูงซอมบี้วิ่งเข้ามารุมแดกสมอง เพราะแม่งโคตรร้างจริงๆ อย่างกับโลกยุคดิสโทเปีย

ผมรวบรวมเรี่ยวแรงที่เหลืออยู่ลุกขึ้นยืน มองฝั่งซ้ายขวาของถนนเผื่อจะมีรถผ่านมาสักคัน แต่ผ่านไปหลายนาทีก็ยังไร้วี่แวว


พระเจ้า... ช่วยส่งใครก็ได้มาที... พาผมไปจากนรกนี่ที   


ขณะที่ดวงตาเริ่มพร่าเลือนด้วยเม็ดเหงื่อและน้ำตาคลอ ก็มีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งแล่นใกล้เข้ามา ดูจากคนขับใส่ชุดสีเขียวแดง สวมหมวกแกป ที่เบาะมีกล่องสี่เหลี่ยม น่าจะเป็นรถส่งอาหารแบบเดลิเวอรี่ ผมยืนขวางถนน มอเตอร์ไซค์พอเห็นแล้วก็เหยียบเบรกดังเอี๊ยด

“เป็นบ้ารึไงวะ! ไม่เห็นเหรอว่ารถวิ่งอยู่!”
 
คนขับเปิดบังหน้าหมวกกันน็อคแล้วตะโกนด้วยสำเนียงโมโหโทโสผ่านหน้ากากอนามัยสีดำที่ปิดครึ่งหน้า เผยให้เห็นเพียงดวงตาคมๆ

“ช่วย... ผม... ด้วย...”

ผมพูดด้วยเสียงแหบและเบา แม้แต่ตัวเองก็เกือบจะไม่ได้ยิน

ดวงตาโตคมของเขาฉายแววแปลกใจ

“เป็นอะไรมาล่ะ”

“ผม... กำลังหนี...” ผมว่าพลางชี้ไปด้านในถนนลูกรัง “โจร... โจรจับผมมา... ผมกำลังหนีมัน”

คนส่งเดลิเวอรี่มองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างพิจารณา จ้องเป็นพิเศษที่กางเกงบ็อกเซอร์

“แต่ผมกำลังรีบไปส่งของให้ลูกค้า”

“ผมขอติดรถไปด้วยนิดเดียว ขอแค่เจอชุมชน เจอโรงพัก เจอใครก็ได้ คงไม่รบกวนคุณเกินไป”

ผมขอร้องเขาอย่างคนสิ้นหวังไร้ที่พึ่ง แอบเสียใจที่เห็นท่าทีเฉยชา ไม่อยากมองโลกในแง่ร้ายนะ แต่เขาเหมือนไม่อยากช่วยผมเลย


นี่หรือน้ำใจคน... ซาบซึ้งที่สุด


“อ่า ช่วยไม่ได้ เบาะแคบหน่อยนะ”

“...ขอบคุณ!!!”

ผมแทบจะกระโดดเมื่อได้ยินอย่างนั้น รีบขึ้นไปนั่งซ้อนท้ายอย่างไม่รอช้า แล้วรถมอเตอร์ไซค์ก็เคลื่อนต่อไป ไม่กี่วินาทีที่ได้นั่งซบหลังผู้ชายคนนี้ผมก็เผลอหลับไปอย่างไร้เรี่ยวแรง


ขอบคุณพระเจ้า   





   
รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนรถจอด

ผมไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน มันมืด เย็น และเหม็นอับ คงจะเป็นโรงพักล่ะมั้ง เดลิเวอรี่แมนพาผมมาที่นี่เพื่อให้ตำรวจช่วย เสียดายยังไม่ได้ขอชื่อกับเบอร์โทรเขาเผื่อตอบแทนบุญคุณในอนาคตเลย

“ไง ฟื้นแล้วสินะ ไอ้ตุ๊กตายาง”

“...”

เสียงผีห่าดังขึ้นที่ปลายเท้า

เสียงที่เพิ่งหนีก่อนหน้านี้ กลับมาหลอกหลอนผมอีกครั้ง

พอดวงตาเปิดกว้างมองเห็นได้ชัด ความสิ้นหวังก็เข้าเกาะกุมหัวใจของผมทันที...

นี่คือห้องของไอ้โจรชาติชั่ว!

มันอะไรกัน งงไปหมดแล้ว ทำไมถึงกลับมาที่นี่ นายคนขับเดลิเวอรี่ทำอะไรของเขา! ยิ่งกว่านั้นคราวนี้ผมไม่ได้แค่ถูกมัดด้วยเชือก...

แต่ถูกล่ามโซ่!!!

"เก่งมากนะ หนีไปได้ไกลขนาดนั้น”
 
ไอ้โจรเหี้ยแสยะยิ้มโรคจิต ร่างกายเปื้อนไปด้วยเลือดไหลออกจากบาดแผลที่โดนผมแทง แต่มันดูไม่เจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย ก็คงเป็นงั้นเพราะคนอย่างมันไม่มีความรู้สึกเหมือนมนุษย์ปกติหรอก

“เฮีย แดกข้าว”

เสียงเคาะประตูตามด้วยเสียงห้าวดังขึ้นที่หน้าห้องขัดจังหวะ โจรอู๋ลุกไปเปิดประตูออกกว้าง ผมจึงได้เห็นผู้ชายที่อยู่หน้าห้องคนนั้น แล้วก็แทบจะหมดสติอีกรอบ


ชายหนุ่มเดลิเวอรี่นั่นเอง


“...ไม่จริง”

ผมรู้สึกเหมือนถูกตีีนตบหน้าสามสิบห้ารอบ โลกนี้ไม่มีใครไว้ใจได้เลย!

“ต้องขอบใจเอ็งที่พาสินค้าของข้ากลับมา”

ไอ้โจรตบไหล่ชายเดลิเวอรี่อย่างคุ้นเคยแล้วหันมามองผมด้วยหางตาอย่างเยาะเย้ยถากถาง

“ผมจำบ็อกเซอร์เน่าของเฮียได้”

“หึๆ ดีมาก พวกเอ็งไปแดกก่อนเหอะ เฮียจะตามไปทีหลัง”

“ตามใจ” ชายคนนั้นว่า แล้วประตูก็ปิดลง

ไอ้โจรสารเลวย่างสามขุมเข้ามาหาผม ดวงตาหรี่ลงครึ่งหนึ่ง รังสีอำมหิตแผ่กระจายรอบตัว เหมือนกับปีศาจจากนรกขุมสุดท้าย

“เอ็งทำข้าเจ็บตัว”

“...”

“เอ็งฝ่าฝืนคำเตือนของข้า”

“...”

“เอ็งหนี”

“...”

“และเอ็งทำให้ข้าโกรธมาก”

มันยืนอยู่เหนือร่างของผม ร่างสูงตระหง่านทำให้มันแลดูคล้ายเปรตมากกว่ามนุษย์ แล้วมันก็นั่งยองๆ ตรงช่องหว่างขาของผม

“ข้าจะลงโทษให้สาสม”

“....ไม่...อย่า”

สมเพชตัวเองเหลือเกินที่ต้องร้องอ้อนวอนขอความเห็นใจจากเศษมนุษย์อย่างมันด้วยสภาพรันทดยิ่งกว่าหมาจนตรอก ผมทั้งกลัว โกรธ เสียใจ... แต่ไม่สามารถร้องไห้ได้อีกแล้ว

ไอ้โจรเปิดกล่องอุปกรณ์ข้างฝาแล้วหยิบอะไรสักอย่างออกมา แวบแรกผมใจหายวาบ หัวใจแทบหยุดเต้น เพราะเห็นว่าสิ่งที่มันถือคือสว่าน ผมคงถูกมันฆ่า-เจาะ-ศพ เป็นรูพรุนทั้งร่างแหงๆ กำลังจะท่องนะโมตัสสะ เตรียมตัวละสังขาร แต่พอมันเดินมาใกล้ๆ ก็เห็นว่าไม่ใช่สว่าน เป็นเครื่องสักต่างหาก ที่สีข้างด้านซ้ายของผมมีตัว ‘F.’ สลักติดอยู่ (แน่นอน มาจากคำว่าเฟลม) ผมจึงรู้ว่ามันหน้าตาเป็นยังไง

ไม่พูดพร่ำทำเพลง ไอ้โจรตะปบไหล่ผมกดแนบกับพื้นป้องกันการดิ้นขัดขืนแล้วเอาปลายเข็มจรดลงบนผิวของผมอย่างป่าเถื่อน

“ไอ้เหี้ย!!!” ผมร้องเสียงดังอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ น้ำตาที่คิดว่าไหลหมดตัวแล้วก็ยังไหลออกมาเป็นสายทะลักทลายยิ่งกว่าแม่น้ำโขง “ทำไม่เป็นจะทำทำไมวะ ยาก็ไม่ทา แอลกอฮอล์ก็ไม่เช็ด! กูเจ็บนะรู้มั้ย!”

“อือ รู้ ก็อยากให้เจ็บไง”

“มึง!!!”

“หุบปาก แล้วก็อยู่นิ่งๆ ถ้าไม่อยากโดนเจาะตาย”

“ฮึก...มึงเปลี่ยนเข็มยัง!”

“ถามใช่เรื่องมั้ย” มันหรี่ตาลงแบบรำคาญ   

“กูยอมตายเพราะถูกฆ่าหรือเป็นโรคห่าอะไรก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่ตายเพราะเอดส์!”

“อ้าว เมื่อคืนไหงบอกว่าเป็นล่ะ นึกว่าอยากเป็นไม่ใช่เหรอ?”

“ไม่โว้ย!!!” ผมดิ้นพราดๆ ใจจะขาดรอนๆ ทั้งเจ็บทั้งกลัว “กูยอมแล้ว อย่าทำกูเลยนะ สัญญาจะไม่หนีอีก...จริงๆ”

โจรหัวเราะ ‘หึ’ ครั้งเดียวพร้อมกับกระตุกยิ้มมุมปาก เหมือนพวกตัวร้ายชอบทำเวลาได้ยินข้อเสนอโง่ๆ จากพระเอก และเป็นคำตอบ แทนคำว่า ‘ไม่’

“หายห่วงเหอะ กูเพิ่งเปลี่ยนเมื่อวาน ยังไม่ทันใช้”

“ฮือ...ไม่ทำได้มั้ย ขอร้องละนะ ให้กราบตีนก็ยอม” ผมวิงวอนจากใจ

แต่โจรก็ย้ำเสียงแข็ง “ไม่”

มันแก้ตัว F. เฉยๆ ด้วยการเติมตัว U. C. และ K. ต่อท้าย เปลี่ยนความหมายและทำลายตัวแทนความรักของผมโดยสมบูรณ์ ก่อนจะสร้างแลนด์มาร์คแห่งใหม่บนหน้าอกของผม ผ่านไปเกือบสิบนาทีกว่าจะทำเสร็จ แล้วก็ลุกออกไปจากตัวผม ก้มมองผลงานด้วยสายตาพึงพอใจ

“นี่จะเป็นยันต์ป้องกันไม่ให้คนอื่นมาเอาเอ็งไป และป้องกันไม่ให้เอ็งหนีจากข้าไปด้วย”

ผมก้มมองดูยันต์ที่มันว่า เป็นตัวหนังสือพาดยาวเต็มหน้าอก ตัวใหญ่เท่าควาย
 

‘ผัวกูเป็นโจร’


“หึๆ”

มันมองผมด้วยหางตาอย่างเหยียดหยามแล้วเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้ผมนอนร้องไห้เพียงคนเดียว



ตลกร้ายสิ้นดี


ผมชื่อแสงเทียน


แต่ชีวิตตอนนี้กลับมืดมนไร้หนทางยิ่งกว่านรกขุมสุดท้ายซะอีก




TBC...




####

มาอัพเอาป่านนี้จะมีคนอ่านมั้ย 55555
ยังไงก็ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอยู่นะคะ ดีใจมากๆ เลย <3 <3 เลิ้บบบบ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-10-2018 23:50:21 โดย Blackmamba »

ออฟไลน์ Kumamon_Kung

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สงสารน้องงงงงงงงงง  :sad4: :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
ชีวิตน้องบัดซบจัง :katai1:

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
โถ่แสงเทียน มันจะมากเกินไปแล้วทำผิวสวยๆๆของน้องมีตำหนิเสียแล้ว :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Warapich

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สงสารน้องง อุตส่าห์หนีได้แร้วว ผัวเป็นโจรซะงั้น น้องเบย์์่น่ารักมาก ชอบๆ ฝั่งหลัวตัวจริงว่าไงจะตามหาเมียเองมั้ย ลุ้นๆ

ออฟไลน์ cheezett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
โห โคตรน่าขยะแขยงเรื่องการสักน่ะค่ะ มันสะอาดไหมอ่า ไม่รู้สิรู้สึกกลัวแทนนายเอกเลย สงสารอ่า จะเป็นไงต่อ ลุ้นมาก มาต่อบ่อยๆนะคะ

ออฟไลน์ 19th

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
สงสารน้องเทียนนน ฮือออ  :hao5:

ปล. แจ้งคนหายไม่ต้องรอ24ชม.แล้วแต่ดุลยพินิจตำรวจฮับ

ออฟไลน์ lovenine

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
โหด แท้ ..อืม ประทับตราไว้ล่ะ อิอิ เสร็จ โจร แหง่มๆ

ออฟไลน์ เพียงเพื่อน

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
นี่ถ้าเป็นแสงเทียนคือเลิกกับ เฟรมละนะ ผัวเราไปเป็นเมียคนอื่นงี้อ่อ อี๋ แค่คิดก็ขนลุกกกกก  :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2: :katai2-1: o13

ออฟไลน์ Blackmamba

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
Re: THIEF MAN #แฟนโจร --------- EP.3 'WON'T HURT YOU' (25/09/18)
«ตอบ #26 เมื่อ25-09-2018 02:50:45 »

3
Won’t Hurt You



แก๊งโจรสามคนนั่งล้อมวงกินอาหารที่ห้องฝั่งตรงข้ามของห้องเสืออู๋ มื้อนี้เป็นพิซซ่าหน้าฮาวายเอี้ยนขนาดใหญ่จากร้านที่ลูกน้องโจรคนหนึ่งทำงานอยู่ กลิ่นแป้งอบนุ่มๆ โรยหน้าด้วยหมูแฮม สัปปะรด ไส้กรอก และชีสร้อนๆ หอมกรุ่นไปทั่วท้องห้องโทรมๆ

“วันนี้เฮียรักเอ็งเป็นพิเศษเลยว่ะเคฟ” หัวหน้าแก๊งกินพิซซ่าไปยิ้มไปอย่างอารมณ์ดี คนที่ถูกพาดพิงมองหน้าลูกพี่แล้วถามขึ้น

“คนนั้นเขาเป็นแฟนเฮียเหรอ”

ลูกพี่สำลัก เอามือทุบหน้าอกเบาๆ “ไม่ใช่โว้ย เฮียจับมาจะเอาไปขายต่างหาก”

เคฟพยักหน้า แต่สายตาบอกว่าไม่เชื่อ “ดีนะที่ผมมาถึงพอดี ไม่งั้นมันคงหนีไปแจ้งความ พวกเราได้ซวยกันหมด”

“อือ เอ็งเอ่งอ้าก”

ลูกพี่พูดเสียงอู้อี้ ยัดพิซซ่าเข้าปากเป็นชิ้นที่สอง ซอสมะเขือเทศเลอะไหลเปื้อนหนวดใต้คาง เคฟมองดูพี่ชายกินอาหารอย่างหิวโหยเหมือนปอบสิงแล้วหันไปมองเพื่อนร่วมวงอีกคนที่นั่งข้างๆ
 
“พี่เบย์เป็นไร ทำไมไม่กิน” น้องเล็กสะกิดแขน

“อ้อ... เปล่า”

เบย์สะดุ้งน้อยๆ ก่อนจะหยิบพิซซ่าขึ้นมาชิ้นหนึ่ง ความคิดของเขาคือระหว่างที่ตนและพรรคพวกกำลังกินอย่างอิ่มหนำสำราญนี้ คนที่ถูกล่ามโซ่อยู่อีกห้องหนึ่งคงหิวโหยจนไส้จะขาด
 
“เฮีย” เบย์ตัดสินใจพูด “ขอแบ่งไปให้แสงเทียนกินหน่อยได้ปะ”

เสืออู๋ที่ครองถาดพิซซ่าตวัดสายตามองลูกน้อง

“ฤทธิ์เยอะขนาดนั้นมันไม่หิวหรอก”
 
แล้วก็หยิบพิซซ่ากินต่ออย่างไม่สนใจ ตอนนี้ในถาดเหลืออีกแค่สองชิ้น

เคฟหันไปถามรุ่นพี่ “แสงเทียนคือใคร ไอ้หนุ่มคนนั้นเหรอ?”

เบย์พยักหน้า สายตาจับจ้องอยู่ที่พิซซ่าชิ้นสุดท้ายซึ่งถูกเฮียอู๋หยิบเข้าปากไปเคี้ยวครึ่งหนึ่งแล้ว เขาเริ่มกระวนกระวายใจ เพราะถ้าไม่มีอาหารนี้ก็ไม่มีอะไรให้กินอีก ต้องรอเคฟกลับจากทำงานตอนสามทุ่มโน่นถึงจะได้กินอีกครั้ง แสงเทียนคงทนถึงตอนนั้นไม่ไหวแน่

ในที่สุดลูกน้องหนวดปลิงก็ตัดสินใจฉกพิซซ่าที่เหลือเพียงครึ่งเดียวจากปากลูกพี่อย่างกล้าหาญ ท่ามกลางความตกใจของเสืออู๋และเคฟ

“อะไรของเอ็งวะ! อย่ามาแย่งข้านะเว้ย เอาคืนมา!”
 
“เฮียกินเยอะแล้ว อ้วนขึ้นมาจะย่องเบาเข้าบ้านคนลำบาก”

พูดจบก็ลุกเดินไปยังห้องฝั่งตรงข้าม โดนเสืออู๋คำรามตามหลังแต่ก็ไม่ได้ทำอะไร เพราะที่จริงเขาก็อิ่มนานแล้ว

 

   
“หิวใช่ไหม กินนี่สิ”

ประตูห้องเปิดออกพร้อมกับเบย์ที่ถือพิซซ่าหน้าฮาวายเอี้ยนครึ่งซีก เขายื่นมันให้ผมประหนึ่งนักบุญผู้อารีที่เมตตาขอทานอนาถาข้างถนน  ผมมองเห็นที่ขอบมีรอยฟันด้วย แต่เนื่องจากไม่มีอะไรตกถึงไส้ตั้งแต่เมื่อวาน จะเป็นรอยฟันหรือคราบน้ำลายของใครก็ช่างแม่งเถอะ

“ขอบคุณนะ” ผมบอกเบย์อย่างจริงใจ

“ไม่เป็นไร”

เขายิ้มและป้อนพิซซ่าใส่ปากให้ ผมอมมันไว้ทั้งหมดจนแก้มตุงแล้วเคี้ยวอย่างช้าๆ จะได้ไม่อิ่มเร็ว พอกลืนเสร็จแล้วเขาก็หยิบขวดน้ำมากรอกให้อีก

“ขอบคุณจริงๆ” น้ำตาผมเกือบปริ่มด้วยความซาบซึ้ง สิ่งที่เบย์ทำเปลี่ยนนิยามที่ผมมีต่อโจรทั้งโลกโดยสิ้นเชิง

“ไม่เอาน่า พูดขอบคุณบ่อยงี้เราก็เขินแย่สิ” เบย์ยิ้มตาหยี ขัดกับรูปลักษณ์โฉดชั่ว ผมเลยอดไม่ได้ที่จะพูด

“นายดูเหมือนโจรน้อยกว่านายคนส่งเดลิเวอรี่ซะอีก”

“ก็จริง นายพลาดแล้วที่ขอติดรถเขา”

ผมส่ายหน้า ถอนหายใจ “ใครจะไปรู้ล่ะว่าเดลิเวอรี่จะเป็นโจรได้”

“หมอนั่นชื่อเคฟ อายุยี่สิบ เป็นลูกพี่ลูกน้องกับพี่อู๋ เคฟเป็นโจรก็จริงแต่ไม่ใช่โจรอย่างเรากับพี่อู๋หรอก เขาเป็นโจรพาร์ทไทม์ ทำงานมิจฉาชีพเฉพาะเวลาว่างเท่านั้น”


แบบนี้ก็มีด้วยเหรอ?


“ที่เขาเอานายมาส่งคืนก็เพราะนายดันใส่บ็อกเซอร์พี่อู๋ แล้วนายก็รู้ว่าพวกเราเป็นโจรไง... ขืนปล่อยนายไป พวกเราซวยหมู่แน่ๆ” เบย์มีสีหน้าไม่สบายใจ เหลือบมองผมอย่างหวั่นๆ “นายคงไม่หนีอีกแล้วใช่ไหม?”

“ถ้านายคิดว่าเราสามารถหลุดจากโซ่พวกนี้ได้นะ” ผมมองโซ่ทั้งสี่เส้นแล้วถอดใจ ล่ามขนาดนี้ต่อให้เป็นกระทิงก็ดิ้นไม่หลุดหรอก
   
“สมมติว่าหนีได้ล่ะ” เบย์พูด

“เราก็จะไปแจ้งความไง พวกนายต้องถูกจับข้อหาลักพาตัว ทำร้ายร่างกาย กระทำอนาจาร พ่วงคดีกักขังหน่วงเหนี่ยวด้วย”

หน้าเบย์ซีดเผือดทันที ผมรู้สึกปิ๊งเมื่อเห็นอย่างนั้น หมอนี่น่าจะขี้ใจอ่อน ดูจากการช่วยผมหลายครั้ง ดังนั้นต้องโน้มน้าวให้ได้ บางทีเขาอาจเป็นโอกาสเดียวที่จะช่วยให้ผมหนีสำเร็จ

“แต่ถ้านายช่วยเราหนี เราจะไม่พาดพิงถึงนาย”

“เฮ้ย...” เบย์เบิกตากว้าง นั่นทำให้ผมมีความหวังขึ้นมา

“โทษของพวกนายหนักมากนะ โดยเฉพาะไอ้หัวหน้าหนวดยาว ถ้าตำรวจจับมันได้ พวกเขาจะสาวถึงตัวนายและเพื่อนร่วมแก๊งแบบถอนรากถอนโคน สุดท้ายพวกนายจะถูกจำคุก รู้ใช่ไหมว่าเด็กใหม่เข้าคุกแล้วจะโดนรับน้องยังไง? ก็เหมือนเรื่อง Shawshank Redemption ไงล่ะ”

“...มันเป็นยังไงเหรอ?” เบย์แลดูสงสัย
 
“พูดไปจะหาว่าเราขู่ นายไปดูเองละกัน แต่จะบอกใบ้ให้ว่าไม่โดนซ้อมก็โดน...นั่นแหละ”

ผมยักไหล่ในช่วงท้าย เว้นไว้ในฐานที่เข้าใจ

เบย์น่าจะเดาออกเลยทำหน้าอยากร้องไห้ สายตาส่อแววลังเล

“ช่วยเราเถอะนะเบย์ นายก็เห็นว่าลูกพี่นายทำร้ายเราขนาดไหน สักลายติดตัวอย่างนี้แปลว่าเขาคงไม่เอาไปขายแล้ว... บางทีเขาอาจจะฆ่าเราทิ้งก็ได้”

“เฮ้ย! จริงเหรอ!” เบย์เบิกตากว้าง ปากสั่นๆ

ผมพยักหน้า “ใช่ เขาต้องฆ่าเราแน่ๆ ของมีตำหนิแบบนี้ใครจะอยากซื้อกันล่ะ”

ขณะที่เบย์อ้าปากกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ก็ดันมีมารผจญขัดขวาง...

“เฮ้ย!!! ไอ้เบย์ ให้อาหารเสร็จแล้วก็ออกไปจากห้องข้าเลย!”
 
ไอ้โจรอู๋ยืนหลังพิงประตูห้อง สองมือเท้าสะเอว สายตาคมจ้องมามาที่ผมกับเบย์อย่างดุดัน ผมยอมรับว่ามันหุ่นดีมากขนาดเฟลมยังเทียบไม่ติด ถึงขั้นเป็นนายแบบได้สบาย และคงเพอร์เฟ็คต์เลยทีเดียว ถ้าตัดหัวทิ้ง

แต่สิ่งที่ทำให้ผมฉุนมากกว่าการปรากฏของมัน ก็คือที่มันใช้คำว่า ‘ให้อาหาร’ กับผมนี่แหละ นี่คนนะไอ้เวร ไม่ใช่ยีราฟ!

“ไปก่อนนะ แล้วเจอกัน” เบย์บอกผมก่อนจะเดินจากผมไปพร้อมกับโอกาสที่หลุดลอย

ไอ้โจรเลวมองมาที่ผมพลางยิ้มเจ้าเล่ห์

“ว่าไง เตรียมรับบทลงโทษบทต่อไปรึยัง”

ฟังดูเหมือนประโยคคำถาม แต่มันไม่ต้องการคำตอบ ในเมื่อผมไม่สามารถปฏิเสธได้ บทลงโทษที่ว่าของมันต้องไม่พ้นการข่มขืนแหงๆ และด้วยสภาพของผมตอนนี้ที่ถูกล่ามโซ่สี่เส้นทั้งแขนขา เลยดูเหมือนฉากในหนังเอ็กซ์ BDSM ไม่มีผิด ขาดก็แต่แส้กับเทียนไขเท่านั้นแหละ

ไอ้โจรอู๋นอนคร่อมเหนือร่างของผม แววตาของมันเหมือนเสือหิวกวาง

“ก่อนข้าจะขายเอ็งเร็วๆ นี้ ขอใช้ร่างกายงามๆ ให้คุ้มซักหน่อยเถอะ”

“มึงยังจะเอากูไปขายอีกเหรอ! สักหราเต็มหน้าอกอย่างนี้แล้วใครเขาจะซื้อ!”

“เรื่องอะไรข้าจะให้พวกมันเห็นรอยสักล่ะ ข้าแค่จะส่งรูปหน้าเอ็งให้ดูเท่านั้น ถึงเวลาส่งของข้าก็จะห่อหุ้มเอ็งอย่างดี กว่าลูกค้าจะเห็นรอยสักก็ต้องแก้ผ้าเอ็ง ถึงตอนนั้นข้าก็เผ่นไปไกลแล้ว”

ผมเจ็บใจกับคำว่า ‘ส่งของ’ นี่แปลว่าในสายตาของมันไม่เห็นคุณค่าความเป็นคนของผมเลยสินะ?

ไอ้ชั่วฉีกกางเกงบ็อกเซอร์ซึ่งเป็นสิ่งปกปิดร่างกายเพียงชิ้นเดียวของผมทิ้งอย่างโหดร้าย ก่อนจะปลดประตูป้อมปราการของตัวเองแล้วงัดเอาอาวุธอันน่าเกรงขามออกมา ผมสะดุ้งหัวใจแทบหยุดเต้นเมื่อเห็นอาวุธที่ใหญ่เกินจินตนาการและคำอวดอ้างของมัน

แม่งเอ๊ย ใหญ่กว่านี้ก็ขีปณาวุธแล้ว!

ผมหลับตาหันหน้าไปทางอื่น เพราะรังเกียจเกินกว่าจะทนดูได้ มันเอามือกดไหล่ผมยึดติดกับพื้นราวกับกลัวผมดิ้นหนีทั้งๆ ที่ถูกล่ามโซ่จนแทบขยับไม่ได้อยู่แล้ว จากนั้นก็ใช้มืออีกข้างลูบคลำเรือนร่างโดยเฉพาะบั้นท้าย นั่นทำให้ผมเกิดอารมณ์อย่างไม่ตั้งใจ

“บทลงโทษนี้สำหรับที่เอ็งกล้าเล่นตุกติก ข้าจะทำให้เอ็งปวดเอวลุกไม่ได้สักสามวัน ดูซิยังจะมีปัญญาหนีได้อีกรึเปล่า”

ริมฝีปากที่อยู่เบื้องหลังหนวดสากๆ ของมันจูบพรมหน้าท้องน้อยอันเป็นจุดไวต่อความรู้สึกของผม แล้วเลื่อนขึ้นมาที่หน้าอกที่มีรอยสักอุบาทว์พาดเป็นทางยาว จูบยอดอกสีชมพูและเลียเบาๆ เชิงหยอกเย้า ทำเอาผมเสียวซ่านขนลุกซู่


อย่า แสงเทียน แข็งใจไว้ อย่าเผลอไปมีอารมณ์ร่วมกับมัน!


ไอ้โจรจูบไล่ขึ้นมาที่ไหปลาร้าแล้วจบที่ซอกคอ ทั้งหอมและจูบอย่างหื่นกระหาย เท่าที่สังเกตเหมือนมันจะชอบซุกไซ้ที่บริเวณนี้เป็นพิเศษ ไม่รู้เพราะอะไร

ริมฝีปากร้อนๆ ของมันนาบลงกับผิวที่ซอกคอของผมหลายครั้ง จูบย้ำๆ จนเกิดเป็นรอยแดง ผมกัดฟันแน่นตลอดกระบวนการเล้าโลมเพื่อไม่ให้มีเสียงร้องออกมาสักแอะ ส่งผลให้ไอ้โจรผละจากซอกคอแล้วมองหน้าผมอย่างฉงนใจ

“ตายด้านหรือยังไง เล้าโลมขนาดนี้ยังไม่ร้องสักนิด”

“...” ไม่ตอบ

“หึ อยากรู้นักว่าจะทนได้สักแค่ไหน”

พูดจบแล้วมันก็ทำท่าเหมือนจะจูบผม แต่ก็ไม่จูบ เบี่ยงหน้าไปซุกไซ้ซอกคออีกด้าน สงสัยจะรู้ว่าถ้าจูบ ผมกัดลิ้นมันขาดแน่ แต่มันก็แก้เผ็ดผมอย่างเจ็บแสบด้วยการเป่าลมเบาๆ ที่ใบหูของผม ‘ฟู่ว’ เพียงเล็กน้อยก็พัดพาสติของผมให้หลุดลอยไป

สุดท้ายผมก็แพ้

“สวยมาก...”

มันกระซิบแล้วจูบที่หู ทันใดนั้นผมก็รู้สึกเสียวแปลบเหมือนมีกระแสไฟไหลไปทั่วร่าง

“...น่าเสียดาย”
   
โจรพูดพึมพำเหมือนบอกตัวเอง ผมฟังไม่ชัดว่ามันพูดอะไร

เมื่อปลุกเร้าอารมณ์จนพร้อม มันก็ควักซองฟอยล์ในกระเป๋าหลังกางเกงออกมาฉีกด้วยปากแล้วสวมอย่างชำนิชำนาญ และก่อนที่ผมจะปฏิเสธใดๆ มันก็จ่อแทงตรงทางเข้าแล้ว ผมสะดุ้งเฮือกตัวแข็งเกร็งกับสัมผัสที่ไม่คุ้นเคย ความเจ็บปวดกะทันหันราวกับฝันร้ายที่ถูกยัดเยียดเข้ามาให้ ส่งผลให้ผมถีบมันออกไปสุดแรงด้วยสัญชาติญาณ

“โอ๊ย!” โจรหงายหลังก้นกระแทกพื้น “ชอบแบบรุนแรงใช่มั้ย ได้!”

“ไม่ใช่โว้ย กูเจ็บ!” ผมแหกปากลั่น ตัวสั่นสะท้าน

“เคยมีผัวมาแล้วไม่ใช่เรอะ แค่นี้ทำไมเจ็บ”

“มึงรู้ได้ไง!”

“ก็แอบฟังพวกเอ็งทะเลาะกันไงวะ เอ๊ะ หรือว่าไม่ใช่ผัว แต่เป็นเมีย อืมๆ ถ้างั้นก็พอเข้าใจได้ เอ็งยังไม่เคยโดนแทงสินะ ครั้งแรกก็เจ็บงี้แหละ ทำบ่อยๆ เดี๋ยวก็ชิน”

“ไปใหญ่แล้ว!!!”

ผมไม่รู้จะโกรธ เศร้า หรือขำความคิดของมันดี

อย่างไรก็ตามไอ้โจรไม่ละทิ้งปณิธานของตน มันตะปบไหล่ผมไว้อีกครั้งแล้วจับอาวุธจ่อเข้ามาเป็นครั้งที่สอง แต่เข้ามาได้ไม่ถึงห้ามิล ผมก็ดิ้นพราดๆ เหมือนปลาไหลโดนน้ำร้อน จนมันต้องล่าถอยออกไปอีกรอบ

“อดทนหน่อยไม่ได้รึไง!” มันทำเสียงฉุนเฉียว

“มึงไม่มีทางยัดขวดเบียร์ทั้งขวดเข้าไปในจมูกได้หรอก!”
 
ผมตอกกลับอย่างสุดทน ต่อให้ยัดลงก็คงขาดใจตายทั้งคู่กูกับมึง

ทีแรกผมคิดว่ามันจะทำต่อเพราะสันดานโจรย่อมเป็นเช่นนั้น มันไม่สนใจห่าเหวใดๆ นอกจากตัวเอง แต่คำพูดต่อมาของมันทำให้ผมรู้ว่าแม่งต้องเป็นโจรมือใหม่แหง โจรแท้ๆ ที่ไหนจะยื่นเงื่อนไขให้เหยื่อแบบนี้กัน

“งั้นก็ใช้ปาก” มันว่า

“เอาสิ ของถนัดเลยล่ะ” จะได้กัดแม่งให้ขาด!

แต่ไอ้โจรก็ฉลาดพอจะไหวตัวทัน “ไม่ดีกว่า ข้ารู้เอ็งคิดอะไร”

ในเมื่อไม่สามารถฝืนความต้องการไหว โจรจึงดึงดันไปต่อจนสุดด้วยการปลดล็อกโซ่เส้นหนึ่งที่มือขวาของผม มันออกคำสั่งโดยปราศจากคำพูดผ่านทางสายตาเฉียบคม เท่านั้นผมก็เข้าใจว่ามันต้องการให้ทำสิ่งใด

‘งานมือ’ คือของที่ผมโคตรไม่ถนัด...ไม่ถนัดทำให้คนอื่นน่ะ แต่ตัวเองทำบ่อยอยู่ ก็เพราะผมเหงา แฟนไปเอากับชู้ อย่างที่คุณรู้นั่นแหละ

พอผมเริ่มทำ มันก็ทำให้ผมเช่นกัน นับเป็นประสบการณ์แปลกใหม่เพราะผมไม่เคยให้ใครทำมาก่อน แม้แต่กับแฟนก็เถอะ ปกติเราทำแต่ท่าพื้นฐานเพียงอย่างเดียว นี่อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาเบื่อผมด้วยมั้ง เพราะผมแม่งไม่เก่งไม่เร้าใจไง


คิดแล้วก็โคตรเศร้า ใครบอกเซ็กส์ไม่สำคัญกับชีวิตรักวะ? ผมคนนึงล่ะขอเถียงหัวชนเตียงแรงๆ เลย...   


อ้ะๆ กลับมาที่ปัจจุบันกันก่อน

นาทีนี้โลกทั้งใบของผมเทียบได้กับนิ้วมือของโจรแค่สามนิ้ว ขณะที่มือทั้งมือของผมกำโลกของมันเกือบไม่รอบ โจรส่งเสียงครางต่ำๆ ในลำคอบ่งบอกความรู้สึกดี ผมเองก็ร้องด้วยความวาบหวามอย่างห้ามไม่อยู่เช่นกัน มือของเราที่เกาะกุมโลกที่ร้อนไม่ต่างกับดวงอาทิตย์ของอีกฝ่ายค่อยๆ เร่งจังหวะจากเนิบนาบไปเร็วขึ้น ผมทั้งเจ็บและรู้สึกดี แรงบีบของมันก็กำลังพอเหมาะ โดยรวมแล้วถือว่าไม่เลว

จะว่าไปก็ไม่ใช่การข่มขืนซะทีเดียว เพราะผมยอมรับว่ามีอารมณ์ร่วมไปกับมันด้วย

แต่เหนือความรู้สึกใด... คือรู้สึกเศร้า

ผมคิดถึงเฟลม...ไม่ได้เชิงโหยหา แต่เชิงตั้งคำถาม

เขาจะรู้สึกแบบเดียวกับผมบ้างไหมตอนที่มีอะไรกับคนอื่น? จะสำนึกผิดจนอยากร้องไห้เหมือนผมรึเปล่า? จะคิดถึงหน้าผมเหมือนที่ผมคิดถึงหน้าเขาหรือไม่ เวลาเอากับใครที่ไม่ใช่แฟนตัวเอง?

ผมไม่รู้คำตอบของเขาหรอก รู้แค่คำตอบของตัวเอง

คือผมรู้สึกแย่ แย่บัดซบ แย่เหี้ยๆ แย่นรกแตกแหกห่า รู้สึกตัวเองเหมือนคนไร้ค่า ขี้ร่านสำส่อน หมดซึ่งความดีงามทุกสิ่งในชีวิต เหมือนหนอนแมลงวันในกองขี้ที่เวียนว่ายตายเกิดอยู่กับความโสมม จมอยู่กับความคาวเน่าไม่มีวันได้กลับไปสู่แสงสว่างอีกแล้ว

แต่บางทีการกระทำครั้งนี้อาจหักล้างกันก็ได้ ในเมื่อเขามีชู้ ผมก็ถูกโจรล่วงเกิน เราต่างก็สกปรกพอกัน จะได้ไม่รู้สึกผิดต่อกันไง

เหอะ... แต่เขาคงไม่แคร์หรอก น่าจะดีใจด้วยซ้ำที่ผมหายไปจากชีวิต จะได้คบกับนายแบบรุ่นพี่สุดฮอตคนนั้นอย่างเปิดเผยซะที ไม่ต้องแอบกินกันเงียบๆ ลับหลังคนอื่นเหมือนเคย เขาเลิกคิดถึงผมตั้งแต่วันที่ตัดสินใจหันหลังให้ผมวันนั้นแล้ว มีแต่ผมคนเดียวนี่แหละที่ยังเป็นบ้าคิดถึงเขา เฝ้าหวังที่สิ้นหวังว่าเขาจะมาตามหา

จู่ๆ ไอ้โจรก็หยุดการเคลื่อนไหว เอื้อมมืออีกข้างที่ว่างอยู่มาจับใบหน้าของผมให้หันไปมองมัน

“ร้องไห้ทำไม”

“...” อ้าว น้ำตาไหลตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะเนี่ย
 
“เจ็บขนาดนั้นเลยเหรอ” มันถาม

“อือ... เจ็บมาก”

หัวใจของผมบีบรัดแน่นเมื่อคิดถึงเฟลมจนน้ำตาไหลออกมาเองอย่างไม่รู้ตัว... แล้วมันก็บีบหนักขึ้นเมื่อถูกไอ้โจรถามด้วยน้ำเสียงอ่อนลง มือของมันจับที่ใบหน้าของผมเบาๆ แววตาเศร้าราวกับรู้สึกผิด ไม่รู้ผมคิดไปเองหรือไม่ว่าท่าทางของมันในตอนนี้แทบจะไม่เหมือนโจรเลวคนเดิมเลย


“ข้าจะไม่ทำให้เอ็งเจ็บ”


“...”

คำพูดของมันทำให้ผมน้ำตาไหลพราก ทั้งที่มันอาจจะหมายถึงการทำให้ผมเจ็บตัวเฉยๆ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่ามันอาจจะรู้ว่าผมกำลังเสียใจ 

โจรพาผมไปจนสุดสายปลายทาง ไม่หงุดหงิดแม้ว่าผมจะถึงก่อน ปล่อยให้มันค้างอยู่ฝ่ายเดียว จากนั้นก็โน้มตัวลงมาสอดสองแขนใต้แผ่นหลังและโอบกอดผมไว้ในอ้อมแขนอันแข็งแกร่ง ลมหายใจผ่อนคลายลง ใบหน้าแนบกันกับผม แต่แปลกที่ผมไม่รู้สึกคันหนวดของมันแล้ว
 
และแปลก... ที่รู้สึกอยากจะให้แขนหลุดจากโซ่


ผมอยากจะกอดมันแน่นๆ สักหนึ่งที







######

คนเขียนเป็นมนุษย์กลางคืน ชอบอัพตอนชาวบ้านหลับกันหมดแล้ว ฮ่อยยย 55555
ยังไงก็ขอบคุณทุกท่านทีี่ตามอ่านกันอยู่นะคะ เอาใจช่วยน้องเทียนไปด้วยกันเนอะ
อยากสกรีมก็ติดแท็ก #แฟนโจร นะฮะ อุอิ =.,=
ฝันดี & อรุณสวัสดิ์จ้า 555


ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
Re: THIEF MAN #แฟนโจร --------- EP.3 'WON'T HURT YOU' (25/09/18)
«ตอบ #27 เมื่อ25-09-2018 07:22:50 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
Re: THIEF MAN #แฟนโจร --------- EP.3 'WON'T HURT YOU' (25/09/18)
«ตอบ #28 เมื่อ25-09-2018 09:06:05 »

เป็นโจรที่อึนมาก555

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
Re: THIEF MAN #แฟนโจร --------- EP.3 'WON'T HURT YOU' (25/09/18)
«ตอบ #29 เมื่อ25-09-2018 09:38:53 »

กลุ่มโจรที่แปลก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด