Cr. Pic [Pinterest]
say-hi ในทวิตเตอร์ ฝากติด #พี่กันต์สายอ่อย ด้วยนะคะ
ไม่ขออะไรมาก คอมเมนต์ให้กำลังใจกันหน่อยก็ดีจ้า
อย่าเป็นนักอ่านเงาเลย คนแต่งหมดกำลังใจเนอะ บท28 l “ครอบครัวบริสตัน”“แด๊ดครับ...” เดียร์เรียกคนที่เดินนำหน้าเขาอยู่เสียงเบา ไม่รู้ว่าแด๊ดดี๊อยู่ในอารมณ์แบบไหนกันแน่
“เข้าห้องไปอาบน้ำนอนได้แล้ว มันดึกแล้ว นอนเลยนะ ห้ามแอบคุยกันใคร” แด๊ดดี๊หันมาบอกเมื่อเดินมาถึงหน้าห้องของเดียร์
“แด๊ดครับ คือว่าผมกับพี่กันต์น่ะ...”
“พรุ่งนี้ค่อยคุยกัน แต่วันนี้เข้าห้องนอนได้แล้ว” เปิดประตูให้พร้อม เดียร์เลยได้แต่เดินเข้าไปในห้อง หันมามองหน้าแด๊ดดี๊พลางทำหน้าอ้อน เพราะดูแล้วแด๊ดดี๊เหมือนจะไม่พอใจอารมณ์ไม่ดี “พรุ่งนี้เราจะได้พูด ได้อธิบายเยอะแน่นอนไม่ต้องห่วง ถ้านอนไม่หลับก็คิดคำพูดดีๆ เอาไว้พูดพรุ่งนี้ก็แล้วกัน”
“ครับ... แด๊ดดี๊”
แด๊ดดี๊ปิดประตูห้องนอนให้เรียบร้อย เดียร์ได้แต่วางกระเป๋าเดินทางเอาไว้ที่พื้นข้างๆ ตะกร้าสำหรับใส่เสื้อผ้าใส่แล้ว พลางถอนหายใจ ท่าทางของแด๊ดดี๊เหมือนจะรู้แล้วเลยว่าเขากับกันต์กำลังคบกันอยู่ แต่ถ้าแด๊ดอยากจะรู้ก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย แค่วันสองวัน ทั้งความสัมพันธ์ของเขากับกันต์ ความสัมพันธ์ของกันต์กับอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน หรือคนรัก แด๊ดดี๊ก็สามารถหาข้อมูลมาได้อยู่แล้ว
ถ้าเกิดแด๊ดดี๊จะรู้แล้วว่าเขากับกันต์กำลังคบกันอยู่ก็คงไม่แปลกใจอะไร
แต่เพราะถามใครก็ไม่ได้เดียร์เลยเดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะกระโดดขึ้นมาบนเตียง หยิบโทรศัพท์มากดดู กันต์ส่งข้อความมาน่าจะเป็นตอนที่เข้าห้องไปอาบน้ำ อีกฝ่ายถึงบ้านแล้ว และก็กำลังจะไปอาบน้ำ เดียร์เลยตอบข้อความเอาไว้แบบนั้น เข้าแอปเกมเล่นค่าเวลารอให้อีกฝ่ายตอบข้อความกลับมา
KAN
จะนอนหรือยัง??
*ส่งสติ๊กเกอร์*เดียร์เลื่อนนิ้วไปกดดูข้อความของกันต์ทันทีที่มันแจ้งเตือนมา ก่อนจะรีบกดข้อความตอบกลับไป
_Dear
ยังไม่นอนครับ
พี่ถึงบ้านเร็วอยู่นะ รถไม่ค่อยติดเหรอ KAN
ไม่ค่อยติดแล้วล่ะ เลยถึงเร็ว
แล้วนี่ทำอะไรอยู่
ยังไม่ง่วงเหรอ_Dear
นอนไม่หลับ...
เหมือนแด๊ดจะรู้แล้วล่ะว่าเราคบกัน แต่ไม่รู้นะว่าแด๊ดรู้ได้ยังไง KAN
แล้วแด๊ดดี๊เขาพูดว่าอะไรเขาบ้างหรือเปล่า_Dear
แด๊ดยังไม่พูดอะไรครับ ให้ผมเข้าห้องนอน
แล้วก็บอกว่าพรุ่งนี้ค่อยคุยกัน นึกแล้วก็ต้องถอนหายใจ ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะต้องเจอกับอะไรบ้าง ไม่รู้ว่าเรื่องที่แด๊ดจะคุยจะใช่เรื่องของเขากับกันต์หรือเปล่า ถ้าสมมติว่าแด๊ดไม่ยอมให้เขากับกันต์คบกัน เขาจะต้องทำยังไง
KAN
เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่จะเข้าไปหาที่บ้านนะครับ
จะได้คุยกับแด๊ดแล้วก็มัมของเดียร์ด้วยเลย
ไม่ต้องกังวลหรือคิดมากอะไร
เดี๋ยวพี่คอลหาดีกว่า คุยแบบนี้ไม่ถนัดเลยกันต์ส่งข้อความมาแบบนั้น ทำเอาเดียร์ตาโตเมื่ออีกคนบอกว่าพรุ่งนี้จะมาหาที่บ้าน รู้สึกว่าทุกอย่างมันเร็วไปหมด เดียร์ยังไม่ทันได้วางแผนหรือเกริ่นนำอะไรเอาไว้ก่อนเลย บทจะรวดเร็วก็รวดเร็วไปหมดเลย
เปลี่ยนจากส่งข้อความคุยกันเป็นโทรวีดิโอคอลหากันแทน เดียร์กดรับสายจากอีกฝ่าย กันต์เองก็อยู่ในชุดนอนแล้ว กำลังกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงเหมือนกันกับเขานี่
[ง่วงหรือยังคุณอุ๋ง]
เดียร์ส่ายหน้ากับคำถามของกันต์ สีหน้าของน้องตัวเล็กไม่สู้ดีนักคงกังวลกับเรื่องที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ [เดียร์ จำที่พี่พูดได้ใช่ไหม]
“อะไรเหรอครับ”
[ที่พี่บอกว่าจะไม่ปล่อยมือน่ะ จำได้ใช่ไหม]
เดียร์พยักหน้าเป็นเชิงบอกว่าเขาจำได้ เพราะเพิ่งจะคุยกันไปเมื่อวันก่อนนี้เองเรื่องที่เดียร์จะบอกกับที่บ้านว่าคบกับกันต์ และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น กันต์จะไม่มีทางปล่อยมือเด็ดขาด
[พี่ยืนยันคำเดิมนะ ไม่ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นพี่ก็จะไม่มีวันปล่อยมือของเดียร์เด็ดขาด ถ้าไม่ได้รับการยอมรับ พี่จะทำให้ยอมรับเอง แล้วเดียร์ล่ะ... จะไม่ปล่อยมือเหมือนกันใช่ไหม]
“ครับ... ผมก็จะไม่ปล่อยมือเหมือนกัน”
[น่ารักมากครับคุณอุ๋ง] กันต์ยิ้ม ถ้ายื่นมือทะลุหน้าจอโทรศัพท์ออกมาได้เขาก็อยากจะยื่นมือมาลูบผมของน้องเบาๆ [ดึกมากแล้วนะ นอนได้แล้วครับคุณอุ๋ง พรุ่งนี้เจอกันนะ]
“พี่จะวางแล้วเหรอ” เดียร์ยังไม่อยากให้อีกฝ่ายวางสายไปเลย
[พี่ร้องเพลงให้ฟังไหม คืนนี้ไม่ต้องฟังเพลงจากโทรศัพท์สักวันเนอะ ฟังเพลงจากพี่แทนดีไหม]
“ครับ พี่ร้องให้ฟังนะ”
[รอแปบหนึ่งนะ] กันต์บอกก่อนที่เจ้าตัวจะหายไปจากหน้าจอให้เดียร์ได้แต่มองอย่างงงๆ ไม่นานเจ้าตัวก็กลับมาพร้อมกับกีตาร์ในมือ
“พี่จะเล่นกีตาร์ให้ฟังด้วยเหรอ พี่เล่นเป็นด้วยเหรอ”
[ไม่ได้เล่นสักพักแล้วเหมือนกัน เพี้ยนหน่อย แต่ยังไงก็อดทนฟังเอาแล้วกันนะ] กันต์บอกยิ้มๆ เจ้าตัวขยับโทรศัพท์เพื่อหาที่วางที่จะมองเห็นได้โดยไม่ต้องถือเอาไว้ สุดท้ายก็ต้องย้ายไปนั่งที่โต๊ะทำงานแทน เอาโทรศัพท์วางไว้กับที่วาง [นอนลงเลย นั่งแบบนี้เดี๋ยวก็ไม่หลับหรอก]
เดียร์ยิ้มรับ ขยับตัวลงนอนตะแคงข้าง แล้วมองอีกคนผ่านทางจอโทรศัพท์ กันต์ปรับสายจูนสายอยู่ไม่นานก็เงยหน้าขึ้นมามองก่อนจะยักคิ้วให้ นิ้วยาวๆ กรีดไปตามสายของกีตาร์จนเป็นทำนองเพลงช้าๆ หัวใจของเดียร์เต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อได้ยินทำนองเพลงที่เขาเคยฟัง
[ถ้าฉันนี้เป็นคนธรรมดาทั่วไป ไม่ใช่ภาพสวยงามอย่างที่เธอวาดไว้ ขอถามสักคำหนึ่ง จะมีสิทธิไหมจะบอกคำนี้ไปกับเธอ]
[เพราะฉันไม่ใช่คนมีเวทมนต์วิเศษ เนรมิตดวงดาวให้เธอก็คงไม่ไหว ที่ฉันพอทำได้คือเอ่ยคำนี้ที่เก็บไว้ข้างใน นี่คือสัญญาที่มาจากหัวใจ ก็ไม่รู้จะเอ่ยคำไหน ได้ดีกว่าสี่พยางค์ ที่ฉันจะขอพูดไป]
ตอนนี้เดียร์รู้แล้วว่าทำไมเรามักจะเขินเวลาที่แฟนมาร้องเพลงให้ต่อให้คนนั้นจะร้องไม่เพราะก็ตาม มันเป็นเพราะอารมณ์ ความรู้สึกทั้งหมดที่คนร้องพยายามจะส่งให้กับคนฟัง เหมือนอย่างกันต์กับเดียร์ในตอนนี้
คนที่กำลังตั้งใจร้องเพลงนี้เพื่อถ่ายทอดความรู้สึกของตัวเองออกมาให้เดียร์ได้รับรู้
[รักเธอคนเดียว แค่เท่านี้ที่ใจของฉันมี คือรักแท้ให้เธอทุกนาที ให้เธอช่วยรับมันไปได้ไหม รักเธอคนเดียว แม้จะดูเป็นคำสั้นๆ คำหนึ่งเท่านั้น แต่ว่ามันจะยาวนานแสนนาน ตราบที่มีลมหายใจ ขอให้เชื่อใจฉัน]เสียงของกันต์นั้นทุ้มน่าฟัง ยิ่งมาร้องเพลงแบบนี้ก็ยิ่งน่าฟังมากขึ้นไปอีก เดียร์ได้แต่นอนอมยิ้มมองกันต์เล่นกีตาร์แล้วก็ร้องเพลงให้ฟังจนกระทั่งจบเพลง
[นอนได้แล้วนะ]
“ครับ พี่ก็นอนได้แล้วเหมือนกัน”
[พี่ก็จะนอนแล้ว ถ้าไม่อยากวางสายก็เอาไว้แบบนี้ก็ได้ ดีไหม]
พอกันต์ถามมาแบบนั้นเดียร์ก็พยักหน้าทันที ดวงตากลมโตมองกันต์เอากีตาร์ไปเก็บ เดินมาหยิบโทรศัพท์ที่กำลังวีดิโอคอลหาเขาอยู่แล้วเดินมาที่เตียง จนกระทั่งล้มตัวลงนอนตะแคงข้าง เหมือนพวกเขากำลังนอนอยู่บนเตียงเดียวกัน แล้วหันหน้าเข้าหากัน
[ฝันดีนะครับคุณอุ๋ง พรุ่งนี้ตื่นมาก็จะยังเห็นพี่อยู่แบบนี้]
“ครับ... ฝันดีนะครับคุณหมี”
[หลับตาเลย]
เดียร์หลับตาลงตามคำบอกของอีกฝ่าย กันต์ร้องเพลงคลอไปเรื่อยๆ เพื่อต้องการกล่อมให้น้องตัวเล็กของเขาหลับ พลางมองใบหน้าของเดียร์ที่กำลังนอนหลับสบายผ่านทางโทรศัพท์ นึกอยากจะทะลุจอไปนอนกอดเสียจริงๆ
กันต์นอนดูหน้าน้องตอนหลับแบบนั้นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งตัวเองเผลอหลับไปแบบไม่รู้ตัวเหมือนกัน
เดียร์รู้สึกตัวตื่นเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูห้อง เจ้าตัวสะลึมสะลือก่อนจะส่งเสียงอู้อี้ตอบกลับไปว่าตื่นแล้ว เสียงเคาะประตูถึงได้เงียบลง พอเริ่มได้สติก็หันไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างๆ มากดดู แต่ทุกอย่างก็ดำมืดไปหมด แบตคงหมดตั้งแต่เมื่อคืนที่วีดิโอคอลทิ้งเอาไว้ เลยต้องหันไปดูเวลาที่นาฬิกาแบบตั้งโต๊ะแทน แปดโมงกว่าแล้ว... จะว่าเช้าก็ยังเช้าอยู่ แต่จะว่าสายก็เริ่มสายแล้วเหมือนกัน
ลุกขึ้นนั่งให้หายงัวเงีย หยิบโทรศัพท์มาชาร์จแบตก่อนจะเดินลากเท้าเข้าไปในห้องน้ำเพื่อจัดการตัวเองให้เรียบร้อย แล้วจึงเดินลงไปข้างล่าง สมาชิกทุกคนในบ้านนั่งพร้อมหน้ากันที่โต๊ะอาหารแล้ว เดียร์เอ่ยทักทายควอตซ์กับน้ำเหนือ รวมไปถึงพี่ชายฝาแฝดแล้วก็น้องสาวคนเล็กด้วย
“เมื่อคืนหลับสบายไหมครับ” มัมมี๊ถาม พร้อมกับส่งยิ้มใจดีมาให้
“ก็สบายดีครับ” เดียร์ยิ้มตอบ เหลือบมองแด๊ดดี๊ควอตซ์ แต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้พูดหรืออะไรนอกจากยกแก้วกาแฟขึ้นจิบพร้อมกับอ่านข่าวในไอแพดไปด้วย เดียร์เลยหันกลับมาสนใจกับข้าวต้มอุ่นๆ ที่ส่งกลิ่นหอมน่ากิน
“กินข้าวเถอะครับ เดี๋ยวจะเย็นเสียหมดแล้วจะไม่อรอ่ย”
“ครับ” รับคำก่อนจะตักข้าวต้มขึ้นกิน
มื้อเช้าของครอบครัวบริสตันผ่านไปอย่างเรียบง่าย พูดคุยกันบ้าง หัวเราะกันบ้าง อย่างที่เป็นเหมือนทุกครั้ง
“เอาล่ะ ไปที่ห้องนั่งเล่นดีกว่า แด๊ดมีเรื่องจะพูดด้วย โดยเฉพาะกับเรา... เดียร์” ควอตซ์พูดหลังจากมื้อเช้าจบลง พูดจบก็เดินออกจากห้องอาหารไปทันที
“หือ... เรื่องอะไรเหรอคะ” เลิฟหันมาถามพี่ชายของเธอ
“เดี๋ยวก็คงได้รู้เองนั่นแหละ ไปเถอะ ช้าเดี๋ยวแด๊ดโกรธ” เดียร์ตอบเสียงเบาก่อนจะลุกเดินตามแด๊ดดี๊ไปอีกคน คนอื่นๆ เลยเดินตามไปบ้าง
“เดียร์มีอะไรจะบอกแด๊ดกับมัมไหม” ควอตซ์ถามทันทีที่ลูกชายคนเล็กเดินมาถึง
เดียร์มองหน้าแด๊ดดี๊กับมัมมี๊สลับกันก่อนจะถอนหายใจออกมาแล้วพยักหน้ารับ “ครับ เดียร์มีเรื่องจะบอกแด๊ดกับมัม”
“ว่ามาสิ” แด๊ดดี๊ว่า
ปกติเดียร์ก็มักจะกลัวแด๊ดดี๊มากกว่ามัมมี๊อยู่แล้ว เพราะถ้าเวลาพวกเขาดื้อ หรือทำตัวไม่ดีแด๊ดก็จะเป็นคนดุแถมยังลงโทษพวกเขาด้วย แต่ถ้าตอนไม่ได้ทำอะไรผิดแด๊ดก็ทั้งน่ารัก ทั้งใจดี ตอนนี้แม้สีหน้าของแด๊ดจะไม่ได้โกรธ แต่คนมีเรื่องติดตัวอย่างเดียร์ก็อดกลัวไม่ได้
“เดียร์มีแฟนแล้วครับ” เดียร์บอกเสียงเบา แต่เพราะไม่มีใครพูดอะไรภายในห้องจึงเงียบสนิท ทำให้ได้ยินเสียงของเดียร์ชัดเจน “เป็นรุ่นพี่ที่คณะ แล้วแฟนเดียร์ก็... เป็นผู้ชายด้วย”
มัมมี๊ดูตกใจเมื่อได้ยินแบบนั้น ผิดกับแด๊ดดี๊ที่ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมา อีกฝ่ายคงรู้แล้วแน่ๆ ไม่ก็น่าจะเดาได้จากเมื่อคืนนี้
“คนที่มาส่งเราเมื่อคืน”
เดียร์พยักหน้ารับกับคำถามของแด๊ดดี๊ “ใช่ครับ พี่กันต์ เป็นพี่ที่คณะครับ”
“แล้วคบกันได้ยังไง”
“ขอโทษนะคะ” เมดเดินเข้ามาในห้องก่อนจะพูด “พอดีว่ามีคนมาขอพบคุณควอตซ์ค่ะ เป็นเด็กหนุ่มน่าจะอายุพอๆ กับคุณหนู ชื่อกันต์ค่ะ”
ควอตซ์หรี่ตามองก่อนจะหันมาหน้าลูกชายที่ทำตาโตหันไปมองเมดสาวที่เดินเข้ามารายงาน ก่อนที่แด๊ดดี๊ควอตซ์จะพยักหน้าให้เป็นเชิงบอกให้พาเขาเข้ามา ไม่นานร่างสูงของกันต์ก็เดินเข้ามาในห้อง เจ้าตัวชะงักไปนิดเมื่อเห็นว่าในห้องไม่ได้มีแค่คนที่เขามาขอพบ ทุกคนในครอบครัวของน้องนั่งอยู่กันพร้อมหน้ารวมถึงเดียร์ด้วย
กันต์ยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองคน เขาจำได้จากในรูปที่น้องเคยเอาให้ดู คือพ่อกับแม่ของน้อง “สวัสดีครับ ผมกันต์ครับ ชนกันต์ กิจไพศาลกุลครับ”
“มาที่นี่มีธุระอะไร” ควอตซ์ถามเสียงเรียบ ไม่แม้กระทั่งเชื้อเชิญแขกให้มานั่ง
กันต์เดินเข้าไปใกล้มาขึ้นก่อนจะนั่งลงกับพื้นใกล้ๆ กับโซฟาตัวที่เดียร์นั่งอยู่ เขาเงยหน้าขึ้นมองน้องที่มองมาที่เขาไม่วางตาก่อนจะหันกลับไปมองผู้ใหญ่ทั้งสองคน “ผมมาเพื่อแนะนำตัวครับ แล้วก็มาเพื่อขออนุญาตคุณอาทั้งสอง ผมเป็นแฟนกับเดียร์ครับ เลยอยากจะขออนุญาตคุณอาให้ผมได้คบกับเดียร์ด้วยนะครับ”
“แล้วทำไมฉันต้องยอมให้เธอคบกับลูกชายของฉันด้วย” ควอตซ์เป็นผู้ผูกขาดบทสนา เจ้าตัวยกมือจับมือของน้ำเหนือเอาไว้เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายอยากจะพูดอะไร น้ำเหนือเลยได้แต่นั่งฟัง
“ผมรักเดียร์ครับ ผมอยากคบกับน้อง อยากดูแลน้องในฐานะผู้ชายคนหนึ่งครับ” ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงของกันต์นั้นทั้งจริงจัง และมุ่งมั่น
“เจอลูกชายฉันแค่ไม่กี่เดือน อะไรจะให้มั่นใจขนาดนั้น”
“ผมอาจจะเพิ่งรู้จักน้องจริงๆ ได้ไม่กี่เดือน แต่น้องอยู่ในความรู้สึกของผมมาสิบปีครับ” กันต์ตอบ เขาเหลือบตาไปมองน้องตัวเล็กที่นั่งมองเขาอยู่ก่อนจะยิ้มออกมาแล้วหันไปมองหน้าของคนที่เป็นพ่อของเดียร์
“หมายความว่ายังไง” น้ำเหนือถามด้วยความสงสัยกับคำตอบของกันต์
“ผมเคยเจอน้องมาก่อนครับ นานมากแล้ว ตั้งแต่สิบปีก่อนได้ที่สวนสาธารณะครับ น้องหลงทางแล้วผมก็เจอน้องเข้า ตอนแรกผมก็คิดนะครับว่าผมคงแค่อยากเจอน้องเพราะอยากเล่นด้วย แต่ความรู้สึกอยากเจอน้องมันไม่ได้หายไปไหนจนถึงตอนนี้ และพอผมได้เจอน้อง ผมถึงได้รู้ว่าที่ผมคิดมาตลอดมันผิด ผมไม่ได้อยากเจอน้องเพราะอยากมีเพื่อนเล่น แต่นานวันเข้าผมอยากเจอเพราะอยากเจอจริงๆ คิดถึง แล้วก็ไม่เคยลืมน้องตัวเล็กในตอนนั้นไปได้เลย” กันต์มองควอตซ์และน้ำเหนือ “อาจจะฟังดูเวอร์ แต่มันคือเรื่องจริงครับ”
“เจอน้องเดียร์ ที่สวนสาธารณะเหรอ เราบอกว่าน้องหลงทางก็เลยเจอน้องอย่างนั้นเหรอ” น้ำเหนือถาม เขาพยายามนึกไปถึงอดีต ลูกชายคนเล็กของเขาเคยหนีไปเที่ยวที่สวนสาธารณะแล้วก็หลงทางจริงๆ ตอนนั้นคนที่มาเจอลูกชายของเขาก็คือ “เอ๊ะ! หรือว่าเราคือ...”
“พี่กันต์คือพี่ตัวโตครับมัมมี๊ แด๊ดดี๊”
************************************************
มาอัปแล้วค่า ฟางหนีไปเที่ยวมา ไปชาร์จพลังมาค่ะ ปีนี้เป็นปีที่หนักหนาพอควรเลย เหมือนกับพี่กันต์น้องเดียร์ตอนนี้เลยเนอะ เผชิญหน้ากันแล้วจ้า พี่กันต์มาขออนุญาตแด๊ดดี๊มัมมี๊แล้ว เอาใจช่วยพี่กันต์กันนะคะว่าจะเป็นยังไงบ้าง จะผ่านด่านแด๊ดดี๊ไปได้หรือเปล่า ลุ้นเลย... ลุ้นเลยจ้า~~~~
ยังไงก็เจอกันตอนหน้านะคะ ^^
ปอลอ. ขอบคุณทุกคอมเมนต์ ทุกความคิดเห็นนะคะ ขอบคุณที่ติดตามนิยายของฟางจ้า ขอบคุณนะคะ
ปล. เหตุการณ์รับน้อง การเรียนการสอน รวมไปถึงข้อมูลบางส่วนที่ใส่ในนิยาย บางส่วนฟางเอามาจากชีวิตจริงที่ฟางได้เจอมาตอนเรียน บางส่วนฟางแต่งเติมเสริมขึ้นมาเอง และได้รับการอนุญาตจากทาง รศ.ดร.นฤพนธ์ ไชยยศ คณบดี คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ให้เผยแพร่แล้วค่ะ
เจอคำผิด บอกได้ค่า
ไม่อยากจะขออะไรมาก แต่ขออย่างเดียวอ่านแล้วเมนต์หน่อยน้า ไม่งั้นพี่กันต์น้อยใจแย่เลย รักพี่กันต์เมนต์ รักน้องเดียร์เมนต์ รักคนแต่งเมนต์ ไม่รักกันก็เมนต์ค่า
สำหรับเฟสบุ๊คค่ะ https://www.facebook.com/fgc32yaoi
สำหรับทวิตเตอร์ค่ะ https://twitter.com/Fangiily_GC
เข้าไปพูดคุย สอบถาม ทวงหานิยายกันได้เลยนะคะ ยินดีตอบทุกคน ทุกข้อสงสัย(ที่ตอบได้จ้า)
รัก #พี่กันต์สายอ่อย กันเยอะๆ นะคะ กดเฟบ กดเมนต์ กดโหวด กดแชร์ แล้วแต่สะดวกเลยน๊า คนละนิดคนละหน่อยเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ จุ๊บๆ ขอบคุณค่ะ