ตอนที่ 11 เบาะแส
รถกระบะตราโล่เลี้ยวเข้ามาในถนนสายเล็กที่คลาคล่ำไปด้วยร้านรวงผับบาร์อาจจะเรียกได้ว่าเป็นถนนสายเริงรมย์สำหรับชนชาวสีม่วงโดยแท้ ที่หน้าด้านหน้าแต่ละร้านมีชายหนุ่มคอยยืนดักต้อนให้คนที่เดินผ่านไปมาให้เข้าไปใช้บริการในร้านของตน บรรดาคนเหล่านี้อาจจะมีผิดแผกแตกต่างกันไปบ้างตามรูปลักษณ์ภายนอกที่มองเห็นแต่งสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือมธุรสวาจาที่เอื้อนเอ่ยออกมาเชิญชวนชักจูงให้เข้าไปใช้บริการ
นายตำรวจหนุ่มในเครื่องแต่งกายที่แปลกออกไปจากปกติเพียงเล็กน้อยเขาถอดเสื้อเครื่องแบบออกแขวนเอาไว้ด้านหลังที่นั่งคนขับ มีเพียงเสื้อยืดคอกลมขลิบรอบคอสีแดงเลือดหมูสวมทับด้วยแจ็คเก็ตสีดำพอดีตัวแต่กางเกงยังคงเป็นสีกากีและรองเท้าหนังเฉกเช่นที่เคยเป็นมา เขาเลี้ยวรถเข้ามาจอบในซอยใกล้ ๆ กับ เดอะบัตเตอร์ฟลายบอย เล็กน้อย ส่วนคนที่นั่งอยู่ด้านข้าง สวมใส่เสื้อโปโลสีม่วงแดงกับกางเกงขาเดฟสีขาวและรองเท้าหนังปลายเรียวสีน้ำตาลอ่อน ใบหน้าใส ๆ แก้มนวล ๆ ชวนให้น่าสัมผัสและลูบไล้ เล่นเอาคนที่ทำหน้าที่สารถีอยู่ไม่สุขเผลอแอบชำเลืองมองเอาอยู่บ่อย ๆ เมื่อรถกระบะตราโล่พาหนะคู่ใจของยอดสารถีเข้าจอดสนิทและดับเครื่องยนต์จนเรียบร้อย หน่องที่ตั้งท่าเตรียมจะเปิดประตูลงจากรถ กลับต้องตกใจเมื่ออยู่ดี ๆ มือหนาใหญ่ของผู้หมวดหนุ่มกลับมาคว้าจับต้นแขนของเขาเอาไว้เสียก่อน หน่องเองถึงแม้จะไม่ค่อยพอใจเท่าใดนักทำได้เพียงแต่ส่งเสียงจิเบา ๆ ออกจากปาก ก่อนจะหันไปถลึงตาใส่ตัวต้นเหตุ
"นี่คุณเรามาตกลงกันก่อนสักนิดดีไหม อย่างเพิ่งดุผมสิคุณ" หมวดพชรเอ่ยบอกก่อนจะคลายมือออกจากท่อนแขวนของคนข้าง
"มีอะไรก็ว่ามาสิหมวด" หน่องเอ่ยถามเสียงเขียว
"ก็แถวนี้มันเป็นยังไงคุณไม่รู้เหรอ เดินเทิ่ง ๆ ไปเรื่อย ๆ คนเดียวเดี๋ยวก็โดนคนหิ้วไปหรอก" หมวดหนุ่มบอกยียวนก่อนจะยิ้มยั่วใส่
"ไม่มีใครเค้ามาสนใจผมหรอก อีกอย่างผมว่าผมเอาตัวรอดได้หรอกน่า" หน่องบอกเสียงดังฟังชัดแบบเต็มสองหูคนช่างยั่วเต็ม ๆ
"นี่คุณไม่รู้ตัวเองมั่งเลยเหรอ ช่างเหอะ เอาเป็นว่า ถ้าผมจะจูงมือ โอบเอว หรือกอดคอคุณบ้างก็อย่าว่าอะไรผมแล้วกัน ถือซะว่าผมเป็นไม้กันหมาให้คุณฟรี ๆ " หมวดหนุ่มเปลี่ยนโหมดกะทันหันเล่นเอาหน่องนิ่งอึ้งด้วยความงงอยู่เพียงครู่ ปล่อยให้สารถีเปิดประตูลงจากรถแล้วอ้อมมาเปิดประตูให้ตัวเองพร้อมกับเอามือมาจับจูงมือให้ลงจากรถแล้วเดินตามต้อย ๆ ไปติด ๆ
"นี่แล้วคุณแน่ใจได้ยังไงว่าเอกวิน นรลักษณ์ เค้ามาที่นี่ก่อนที่เค้าจะตาย" หมวดพชรเอ่ยถามก่อนจะหยุดเดินหันกลับมามองจ้องตาคนที่จับมือจูงอยู่
"ก็พี่อ๊อบนะสิ เค้าเป็นคนบอกกับผมเอง" หน่องเอ่ยตอบพร้อมกับหลุบตามองเพียงแต่มือใหญ่ที่จับข้อมือของเค้าจูงอยู่
"แล้วหมวดก็ปล่อยมือเถอะผมไม่ใช่เด็กเล็ก ๆ นะ ผมเดินตามหมวดไปเองได้" หน่องร้องท้วงก่อนจะพยายามเอามือที่ว่างมาแกะมือหนาใหญ่ที่เกาะกุมข้อมือของตนไว้ออก
"ไม่เป็นไรผมไม่ถือ" หมวดหนุ่มบอกก่อนจะปล่อยข้อมือเล็กออกแล้วเอามือไปสอดประสานกับมือที่เล็กกว่าเอาไว้แล้วเริ่มออกเดินอีกครั้ง
แสงไฟกระพริบไหววูบวาบ เสียเพลงดังกระแทกกระทบเข้าโสตประสาททันทีที่ประตูด้านหน้าเปิดรับทั้งคู่เข้าไป ทั้งสองเข้ามาหยุดยืนรออยู่ที่หน้าประตูชั้นในซึ่งเป็นกระจกฝ้าหนาจนไม่สามารถที่จะแลทะลุเข้าไปให้เห็นถึงด้านในได้ชัดเจนนัก มีเพียงเงาวูบวาบจากแสงกระพริบที่สาดผ่านร่างของบรรดานักเที่ยวที่กำลังลุกขึ้นโลดแล่นไปกับเสียงเพลงอันสุดแสนจะเร้าใจและลีลาชวนสยิวของนักเต้นบนเวทีพร้อมกับเสียงตะโกนเชียร์สลับกับผิวปากแหลมสูงและเสียงปรบมือ
ผู้หมวดพชรทำทีเอามือโอบบ่าคนข้าง ๆ ที่มาด้วยกันเอาไว้ ก่อนจะเอามืออีกข้างที่ว่างยื่นส่งกระดาษใบเล็กสีขาวไปให้กับพนักงานต้อนรับพร้อมกับเอ่ยปาก
"ผมมาขอพบผู้จัดการร้านเดอะบัตเตอร์ฟลายบอยครับ ผมมีเรื่องอยากสอบถามเสียหน่อย" หมวดหนุ่มกล่าวก่อนจะส่งยิ้มหวานไปให้ชะนีแปลงด้านหน้า
"ได้ค่ะ เดี๋ยวรบกวนหมวดรอสักครู่ ดิฉันจะไปเรียนผู้จัดการให้คะ" หล่อนรับนามบัตรจากมือนายตำรวจหนุ่มพลางชำเลืองมองดูเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยพร้อมกับแยกตัวไป
"สวัสดีครับหมวด ผมชื่อกริช ทำหน้าที่รักษาการแทนผู้จัดการของเดอะบัตเตอร์ฟลายบอยครับ ไม่ทราบว่าหมวดมีเรื่องอะไรจะสอบถามหรือครับ" กริชกล่าวทักทายเมื่อพนักงานของร้านนำหมวดตำรวจและเด็กหนุ่มขึ้นมาพบเขาที่ห้องทำงาน
"ครับ สวัสดีครับ ผมร้อยตำรวจโทพชร และนี่คุณนิวัฒน์ แก่นกำภู เป็นเพื่อนกับคุณเอกวิน นรลักษณ์และเป็นนักข่าวด้วย" ร้อยตำรวจโทพชร เอ่ยแนะนำหน่องด้วยอีกคน
"สวัสดีครับคุณกริช" หน่องเอ่ยทักทายอย่างเป็นกางการ
"เอกวิน นรลักษณ์ คุณหมายถึงอเล็กซ์เหรอครับ" กริชถามออกมาด้วยสีหน้าแสดงความสงสัยเอาไว้ไม่มิด
"ใช่ครับก่อนเค้าจะตาย เค้ามางานเลี้ยงฉลองวันเกิดใครสักคนที่นี่" หน่องถามร้อนรนตรงประเด็น
"ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน ผมเพิ่งจะเข้ามารับตำแหน่งได้ไม่นาน ผมเองไม่รู้จักกับเอกวินเป็นการส่วนตัวเสียด้วยสิครับ แต่..." กริชบอกก่อนจะหยุดชะงักไปเพราะเสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขัดจังหวะขึ้นมาเสียก่อนพร้อมกับร่างของบริกรในชุดนุ่งน้อยห่มน้อยเสียจนไม่มิดชิดอวดสรีระรูปร่างยั่วตายั่วใจดันประตูเปิดเข้ามา
"ก๊อก! ก๊อก! คุณกริชครับ เจ้ญ่าให้ผมเอาเครื่องดื่มมาให้ครับ" หนุ่มน้อยในชุดอวดเนื้อหนังเดิมเข้ามาพร้อมกับยกแก้วค็อกเทลสีสวยมาวางลงตรงหน้าของแขกทั้งสองก่อนจะหันหลังกลับออกไป
"พี่ธัญญ่า น่าจะรู้เรื่องนี้ดีกว่าผมนะครับ เดี๋ยวผมให้คนไปตามมาให้แล้วกัน" กริชพูดก่อนจะเดินออกไปจากห้องปล่อยให้แขกสองคนนั่งอยู่บนโซฟาในห้องทำงานของเขา
"คุณว่าคืนนั้นอเล็กซ์มาที่นี่จริง ๆ ใช่ไหม" นายตำรวจถามอย่างงสงสัยใคร่รู้พลางหันหน้าไปสบตากับคนข้าง ๆ ที่กำลังยกแก้วเครื่องดื่มสีสวยขึ้นมาจิบ
"ก็พี่อ๊อบบอกว่ามาก็ต้องมาสิ แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าขากลับ กลับไปตอนไหน กับใครนะสิ" หน่องตอบพลางละเลียดจิบชิมเครื่องดื่มไปเรื่อย ๆ
"คุณ... ดูทำเข้าสิ กินเข้าไปเยอะเดี๋ยวก็เมาหรอก คุณเป็นคนชวนผมมาสืบคดีไม่ใช่เหรอ" หมวดหนุ่มบอกพลางเอามือแตะเข้าที่แขนของหน่องเพื่อปราม
"ไม่เมาหรอกน่า น้ำผลไม้นี่อร่อยดีออก" หน่องบอกพลางหันมายิ้มให้จนตาหยีก่อนจะกระดกยกดื่มเสียจนหมดแก้วในคราเดียว แล้วแอบไปคว้าอีกแก้วตรงหน้าหมวดพชรมาดื่มไปหลายอึก
"เฮ้ย! บอกอะไรทำไมไม่ฟังกันบ้างนะ ดื้อจริง ๆ เชียว คุณนี่" หมวดหนุ่มเอ่ยพร้อมกันสั่นศีรษะเล็กน้อยไปให้อย่างระอา
"ก็มันอร่อยดีนี่ หวาน ๆ หอม ๆ หมวดไม่ชิมหน่อยเหรอ" หน่องบอกพลางยกแก้วในมือไปจ่อที่ริมฝีปากของนายตำรวจก่อนจะยิ้มหวานไปให้ ทั้งที่ใบหน้าเริ่มแดงเพราะฤิทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไป
กริชกลับเข้ามาในห้องอีกครั้งพร้อมกับธัญญ่า ทั้งสองหันไปมองสบตากันเพียงครู่ก่อนที่กริชจะกระแอมออกมาเบา ๆ เพื่อให้ทั้งสองคนที่โซฟาได้รู้สึกตัวว่าไม่ได้อยู่กันเองเพียงลำพัง หน่องหันกลับมาส่งตาเชื่อมหวานให้กับผู้มาใหม่ ก่อนจะโดนหมวดหนุ่มคว้าแก้วในมือของหน่องมาไว้แล้วกระดกยกดื่มจนหมด
"นี่พี่ธัญญ่า เป็นผู้ช่วยของผมครับ และพี่เค้าก็รู้จักกับอเล็กซ์ดีกว่าผมแน่ ๆ" กริชแนะนำธัญญ่าให้ทั้งสองรู้จักก่อนจะพากันไปนั่งที่โซฟาฝั่งตรงข้าม
"สวัสดีค่ะ หมวดอยากจะทราบเรื่องอะไรบ้างคะ ถ้าตอบได้ดิฉันจะตอบให้ทั้งหมด" ธัญญ่ากล่าวทักก่อนจะเอ่ยถามออกไป ซึ่งหมวดเองก็เริ่มเปิดประเด็นซักถามพูดคุยกันจนเวลาล่วงผ่านไป หมวดหนุ่มจึงอำลาพร้อมกับพานักข่าวคอแป๊บกลับออกไป
"กลับไปแล้วครับท่าน เห็นคุยกันนานพอดู ผมเองก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกันว่าข้างในเค้าคุยอะไรกันบ้าง"
'ลงมือจัดการตามที่สั่งรึยัง อย่าให้มีพิรุธทำให้เหมือนกับว่าเป็นอุบัติเหตุแล้วกัน คนอื่นจะได้ไม่สงสัย'
"เรียบร้อยแล้วครับท่าน ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ตอนนี้ฝนกำลังตกพอดี ถนนกำลังลื่น หากว่าขับรถเร็วแล้วต้องเบรกกะทันหัน คงมีอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นอีกรายในคืนนี้ครับ"
'ดี จัดการให้เรียบร้อย แล้วโทรกลับมารายงานด้วย'
ร้อยตำรวจโทพชร โอบประคองหน่องที่กำลังมึนเมาอันเป็นผลมาจากเครื่องดื่มสีสวยรสหวานลิ้นแต่เปี่ยมด้วยแอลกอฮอล์ ความหวานของน้ำผลไม้ที่กลบกลิ่นและรสขมของมันเอาไว้กลับช่วยผลักดันฤิทธิ์ให้แรงยิ่งขึ้นตอนนี้เองที่หน่องคนเก่งถึงกับเดินโซเซใกล้จะหมดแรงไปเสียเฉย ๆ ใบหน้าแดงซ่าน เปลือกตาก็หรี่ปรือไปเสียแล้วหมวดหนุ่มเปิดประตูรถออกกว้างก่อนจะจับคนเมายัดเข้าไปที่เบาะหน้าจนเรียบร้อย เขาปิดประตูรถแล้วอ้อมไปยังที่นั่งฝั่งตรงข้ามเพื่อทำหน้าที่สารถีนำพาหนะคู่ใจออกจากที่จอดมุ่งหน้ากลับไปยังทางเก่าตอนขามา
_____________________________________________________________
มาเร็วไปไหมคะ
ความน่ากลัวคือสิ่งที่หนูชอบรึเจ้าคะ
v
v
v