เตชวัฒน์พาวริศรินทร์ออกไปพบเอเจนซี่ที่ว่าจ้างให้นายแบบหนุ่มถ่าย banner ads ของเสื้อผ้าแบรนดังจากเมืองนอก วริศรินทร์กำลังถอดเสื้อผ้าให้ช่างเสื้อวัดไซด์ซึ่งเหล่าบรรดาช่างเสื้อก็ทั้งวัดทั้งลูบซึ่งภาพนั้นสร้างความรำคาญใจให้ชายหนุ่มพอสมควร
“น้องไนท์ผิวเนี๊ยน เนียว ผิวก็ลื่นด้วย ปูเป้ละอิจฉ๊า อิจฉา อยากมีผิวแบบน้องไนท์จังเลย” ปู้เป้ลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของนายแบบหนุ่ม วริศรินทร์เอียงตัวลบเล็กน้อยและมองด้วยสายตาว่างเปล่า
“เอาละค่ะ เดี๋ยวขอวัดต้นขาหน่อยนะค่ะ” ปูเป้เปลี่ยนท่าทีเป็นการเป็นงานเมื่อสัมผัสได้ถึงบรรยากาศของที่นิ่งเฉยเกินไปของวริศรินทร์ ช่างเสื้อสาวรีบกุลีกุจรวัดขนาดร่างกายอย่างเป็นการเป็นงาน ซึ่งนั่นเป็นครั้งแรกทำให้เตชวัฒน์รู้สึกพอใจกับความนิ่งเฉยของวริศรินทร์
“ไนท์ เดี๋ยวเราต้องไปทำสีผมใหม่นะ มีปัญหาใหม่” เตชวัฒน์เดินเข้าไปถามหลังจากที่วริศรินทร์ใส่เสื้อผ้ากลับเข้าไปเรียบร้อยแล้ว วริศรินทร์ส่ายหน้าช้าๆ
“โอเคงั้นเราไปทำสีผมกัน” ร่างสูงใหญ่โอบไหล่อีกฝ่ายเดินออกมาทันที เตชวัฒน์พาวริศรินทร์ไปที่ร้านทำผมชื่อดังที่ได้รับการแนะนำมาจากเอเจนซี่เจ้าของแบรน เตชวัฒน์ต้องเป้นคนจัดการคุยเรื่องสีและรายละเอียดต่างๆ ของทรงผมเพราะตัววริศรินทร์นั้นไม่พูดไม่จา เอาแต่นั่งเงียบให้เขาจัดการทุกการโดยไม่ปริปากบ่น
“ค่ะคงต้องกัดสีก่อนแล้วค่อยโกรกทับ แต่เสียดายผมแทนนะค่ะเนี่ย ผมทั้งนุ่มทั้งสวย ทำสีแบบนี้ผมคงเสีย” คำพูดของช่างทำผมทำให้เตชวัฒน์รู้สึกเสียดายเขายังจำความรู้สึกยามสัมผัสผมนุ่มลื่นนั้นได้
“อีกประมาน2-3 ชั่วโมงถึงจะเรียบร้อยค่ะ” ช่างทำผมให้คำตอบและให้เขาไปนั่งรออยู่ที่โซฟาพร้อมเสิร์พชาร้อนมาให้
แรกเริ่มเตชวัฒน์นั่งเปิดนิตยสารไปเรื่อยฆ่าเวลา จนฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าพรุ่งนี้ก็จะเป็นวันเกิดของวริศรินทร์แล้ว แต่เขายังไม่มีของขวัญให้อีกฝ่ายเลย
“ไนท์ เดี๋ยวพี่ไปทำธุระแป๊บนะ เราอยู่คนเดียวได้ไหม” เขาเดินเข้าไปถามวริศรินทร์ที่เพิ่งสระผมเสร็จและกำลังจะเริ่มต้นตัดผม วรินทร์พยักหน้าตอบรับ
“เดี๋ยวพี่มาครับ” เตชวัฒน์ยิ้มให้อย่างอ่อนโยน ก่อนจะเดินจากมา
เตชวัฒน์มาที่ห้างสรรพสินค้าใจกลางกรุงเทพที่รวบรวมสินค้าแบรนเนมและของมีชื่อมาจากทั่วโลก เตชวัฒน์ลังเลว่าควรจะซื้ออะไรให้กับไนท์ดี เพราะเท่าที่ดูไนท์ก้ไม่มีอะไรชอบมากเป็นพิเศษ เขาเดินไล่ดูไปเรื่อยๆ ก็ไม่พบอะไรน่าซื้อจนไปสะดุดตากับแผนกของเล่น ตุ๊กตาลูกสุนัขตัวใหญ่ ชายหนุ่มรู้ว่าอีกฝ่ายชอบสุนัขแต่กฏของที่พักไม่อนุญาติให้เลี้ยงสัตว์
“ต้องการซื้อ ตุ๊กตาให้ลูกชายเหรอค่ะ” พนักงานสาวเดินเข้ามาตอนรับ ทำให้เตชวัฒน์รู้สึกขัดเขิน เขาไม่คิดว่าวริศรินทร์จะเป็นลุกชายของเขาได้ แต่เขาก็ทำเพียงยิ้มและพยักหน้ารับ
“ต้องการตุ๊กตาแบบไหนค่ะ” เขาตอบไปว่าอยากได้ตุีกตาสุนัข พนักงานขายคนนั้นพาเขาไปเลือกในโซนตุ๊กตาที่มีหลายหลายจนเขาเองก็เลือกไม่ค่อยถูก เตชวัฒน์เดินพิจรณาตุ๊กตาไปเรื่อย จนเขามาหยุดชะงักกับตุ๊กตาสุนัขสีน้ำตาลตัวใหญ่ที่เขาเห็นแล้วรู้สึกกับว่าคล้ายบราว ลุกสุนัขที่บ้านที่เขาให้ไนท์ตั้งชื่อ
“ตัวนี้ครับ ผูกโบว์เป็นของขวัญให้ด้วยนะครับ” เขายิ้มส่งตุ๊กตาให้พนักงานขายแล้วไปชำระเงิน เตชวัฒน์อุ้มตุ๊กตาตัวใหญ่กลับไปที่รถ เขาดูเวลาที่นาฬิกาข้อมมือแล้วคิดว่ายังมีเวลาเหลือกับการนำตุ๊กตาไปเก็บ เขาหาที่เก็บอยู่นานในตอนแรกเขาคิดจะซ่อนไว้ในห้องนอนของตนแต่เขาก็ไม่รู้ว่าไนท์จะเข้ามาตอนไหน เขาจึงเลือกเก็บในตู้เสื้อผ้าใบวใหญ่แต่ก็ต้องนำเสื้อผ้าบางส่วนออกมา กว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยก็กินเวลานาน
เขามองเวลาอีกทีก็พบว่ามันเกินกำหนดที่จะไปรับไนท์แล้ว ร่างสูงใหญ่รีบกุลีกุจรออกไปจากห้องทันที เขาต้องไปรับไนท์หลังทำผมเสร็จซึ่งนี่มันกินเลยเวลา3ชัวโมงมาแล้ว
“คุณไนท์เหรอค่ะ เมื่อสักครู่นี้เห็นอยู่แถวๆนี้นี่ค่ะ” พนักงานสาวตอบคำถามอย่างงุนงง เมื่อเตชวัฒน์เข้าไปแล้วไม่พบวริศรินทร์ เมื่อถามหลายๆ คนในร้านก็ไม่มีใครเห็นนายแบบหนุ่มมาพักใหญ่ๆ แล้ว
“เมื่อสักครู่นี่มีคนมาบอกว่าคุณเตรอคุณไนท์อยู่ที่ร้านจอดรถค่ะ” พนักงานสาวคนหนึ่งตอบกลับมา ซึ่งนั่นทำให้เตชวัฒน์รู้สึกเป็นห่วงและร้อนใจมากขึ้นไปอีก ในเมื่อเขาเพิ่งกลับมาจากการไปซื้อของแล้วจะเป็นได้ยังไงที่เขาจะบอกให้วริศรินทร์ออกไปหาที่ลานจอดรถ เตชวัฒน์ขอดูกล้องวงจรปิดของทางร้านในทันทีเมื่อฟังจบ และเมื่อย้อนเวลาไปดูตามกล้องวงจรปิด เขาเห็นไนท์เดินออกไปด้านนอกและมีคนโปะอะไรบางอย่างที่ใบหน้านายแบบหนุ่มจนหมดสติและโดนอุ้มขึ้นรถไป
........................................................