พิมพ์หน้านี้ - The rainbow project เรื่องสั้น 7 เรื่อง 7 คนเขียน (อัพให้ใหม่ง่ายกว่าทำลิ้งค์)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: จงกลนี ที่ 15-05-2011 15:28:53

หัวข้อ: The rainbow project เรื่องสั้น 7 เรื่อง 7 คนเขียน (อัพให้ใหม่ง่ายกว่าทำลิ้งค์)
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 15-05-2011 15:28:53
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน

ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
 
_______________________________________________________
ประกาศ
เรื่องแจ้งเพื่อทราบ
ตามที่นักเขียนทั้งเจ็ดคน อันประกอบด้วย


anajulia, Cha Ris Ma, eiky, nataxiah, PEENAT1972, RemySexyCool และอนันตกาล

ได้มีโครงการร่วมกันในนาม The rainbow project โดยการนำสีของสายรุ้งทั้งเจ็ดสี
มาตีความหมายตามทรรศนคติของแต่ละคน เพื่อนำเสนอเรื่องสั้น 7 เรื่อง 7 แนว 7อารมณ์
แก่ผู้อ่านทุกท่าน โดยมี จงกลนี สีม่วง เป็นเรื่องสั้นเรื่องแรก
และได้ลงมาให้ท่านได้อ่านกันไปแล้วจำนวน 9 ตอนนั้น

ดิฉันขอเรียนให้นักอ่านทุกท่านทราบว่า
เนื่องจาก นักเขียนจำนวน 1 ท่าน ที่ร่วมโครงการ คือ ananulia
และ pandaๅ123 ซึ่งเป็นผู้ลงเรื่องให้ทุกท่านได้อ่าน ติดภาระกิจส่วนตัว
ไม่สะดวกที่จะร่วมโครงการต่อไป ดังนั้น

สีของสายรุ้งทั้งเจ็ดสี จะขาดไปสีใดสีหนึ่งมิได้
จึงได้ทำการเชิญนักเขียนอีกท่านหนึ่งให้มาทำหน้าที่เขียนเรื่องสั้นแทน คือ
Restinest

ส่วนเรื่องการลงเรื่อง นักเขียนแต่ละท่านจะเป็นผู้ลงเรื่องให้ทุกคนได้อ่านด้วยตัวเอง
ด้วย User ที่ได้สมัครใหม่ ตามนามปากกาของแต่ละท่าน โดยแต่ละเรื่องจะแยกลงตามอิสระ
แต่ละท่าน ขอเชิญนักอ่านทุกท่านคอยติดตามได้ในห้องนิยายนะคะ เร็ว ๆ นี้

สำหรับการทายปัญหาชิงรางวัล กติกาคงเดิม แจกของเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
แต่ขอให้ทุกท่านส่งคำทายไปที่ ห้องพูดคุย (จิ้มเบา ๆ นะคะ)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23990.msg1411954#msg1411954

จึงเรียนมาเพื่อทราบและซักซ้อมความเข้าใจให้ตรงกัน

สำหรับของรางวัล มีชิ้นเดียว อันเดิมเลยแหละ

(http://a1.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/189166_1613381299027_1371123300_31303532_3135310_n.jpg)


จงกลนี


ปล. เดี๋ยวจะเอาของเก่ามาอัพใหม่อีกครั้งนะคะ



ลิ้งรวมของทุกสี
The rainbow project
สีม่วง "เพลิงพราย" โดย จงกลนี (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25519.0)
สีคราม "รักลวงตา" โดย ภาพฝัน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25535.0)
สีน้ำเงิน "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" โดย สายลมห่มฟ้า (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25536.0)
สีเขียว "DOOM" โดย Nassiiz (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25540.0)
สีเหลือง "เล่ห์ร้าย" โดย เจ้าชายรองเท้าแตะ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25542.0)
สีแสด "Butterfly" โดย Monarch (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25548.0)

สีแดง "เพลิงกุหลาบ" โดย แรงเทียน
(http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25550.0)
......................................................................................

เพลิงพลาย เริ่มอัพใหม่ ที่หน้า 57 ตอนที่ 1-13 วันที่ 1/12/54


หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" ประกาศด่วน แจ้งเพื่อทราบ ตั้งใหม่อีกที
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 15-05-2011 15:36:57
 :serius2: คราวนี้ทุกอย่างคงเรียบร้อย


เม้นโผมมมมมมมมมมม หายหมดเลย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" ประกาศด่วน แจ้งเพื่อทราบ ตั้งใหม่อีกที
เริ่มหัวข้อโดย: onjazz26 ที่ 15-05-2011 18:13:05
เรนเจอร์ทั้งสอง ผู้อ่านพร้อมแย้วววว :m14:
แต่เหล่าๆเรนเจอร์ ยังไม่พร้อม :m21:
ทู้นี้รวม เรนเจอร์ ได้แค่ 2 เอง  หุ หุ  :m12:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" 6/06/2011 โดย อนันตกาล
เริ่มหัวข้อโดย: ภาพฝัน ที่ 15-05-2011 22:22:23
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน

ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
หัวข้อ: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนจบ สายลมที่หวังดี P:8 5/6/11
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 15-05-2011 22:30:35
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน

ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า"
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 15-05-2011 22:34:05
สีน้ำเงิน: ท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้มก่อนฝนตกมักพาเรื่องเศร้า เหงา และหดหู่มาให้เสมอๆ แต่ถ้าในความรู้สึกเหล่านั้นแฝงไว้ด้วยความมั่นคงและการปกป้องคนที่รัก แล้วจะทำให้คุณมองท้องฟ้าเปลี่ยนไป...สายลมห่มฟ้า

เตรียมพบกับเรื่องสั้นสีน้ำเงินได้เร็วนี้ครับ

(http://upic.me/i/y7/qsky3.jpg) (http://upic.me/show/24228533)


กดพูดคุยกับนักเขียนพร้อมชิงรางวัลนะครับ (ไว้ไปโม้กันนอกเรื่องในนั้นนะครับ) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23990.0)

เรื่องสั้นระบำสีรุ้ง

สีม่วง "เพลิงพราย" โดย จงกลนี (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25519.0)

สีคราม "รักลวงตา" โดย ภาพฝัน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25535.0)

สีเขียว "DOOM" โดย Nassiiz (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25540.0)

สีเหลือง "เล่ห์ร้าย" โดย เจ้าชายรองเท้าแตะ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25542.0)

สีแสด "Butterfly" โดย Monarch (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25548.0)

สีแดง "เพลิงกุหลาบ" โดย แรงเทียน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25550.0)
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา"
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 15-05-2011 22:46:52
เจาะไข่คนโพสต์ 
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา"
เริ่มหัวข้อโดย: onjazz26 ที่ 15-05-2011 23:03:03
เหล่าเรนเจอร์มาโฆษณาไว้มากมาย :m11:
รีบๆมาลงนะคับ รอชื่นชมผลงานอยู่
 :m24:
สู้เค้า...เรนเจอร์สีคราม o13
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา"
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 15-05-2011 23:09:43
นั่งรอเรื่องใหม่เจ้าค่ะ
มาลงไวว่องนะค่ะ
 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/ จบแล้วจ้าาา!! (5-6/6/54)
เริ่มหัวข้อโดย: Nassiiz ที่ 15-05-2011 23:26:12
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,หยาบคาย,เป็นที่รังเกียจ,ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใด ๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
-กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่- (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0)

ลิ้งรวมของทุกสี
The rainbow project
สีม่วง "เพลิงพราย" โดย จงกลนี (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25519.0)
สีคราม "รักลวงตา" โดย ภาพฝัน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25535.0)
สีน้ำเงิน "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" โดย สายลมห่มฟ้า (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25536.0)
สีเขียว "DOOM" โดย Nassiiz (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25540.0)
สีเหลือง "เล่ห์ร้าย" โดย เจ้าชายรองเท้าแตะ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25542.0)
สีแสด "Butterfly" โดย Monarch (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25548.0)
สีแดง "เพลิงกุหลาบ" โดย แรงเทียน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25550.0)
หัวข้อ: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz -สารบัญ-
เริ่มหัวข้อโดย: Nassiiz ที่ 15-05-2011 23:32:24
(http://upic.me/i/ir/ijtv-.jpg)
Chapter.1 Minimart (rise) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25540.msg1476872#msg1476872) Chapter.2 Police Station (inquire) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25540.msg1478096#msg1478096) Chapter.3 Cell (fact) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25540.msg1480202#msg1480202)  
Chapter.4 Loophole (escape) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25540.msg1481781#msg1481781) Chapter.5 Alley (strait) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25540.msg1483051#msg1483051) Chapter.6 Lair (contact) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25540.msg1483917#msg1483917)
Chapter.7 Shelter (love) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25540.msg1484539#msg1484539) Chapter.8 Cabinet (line) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25540.msg1488526#msg1488526) Chapter.9 Parking (retreat) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25540.msg1488552#msg1488552)
Chapter.10 Street (branch) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25540.msg1491170#msg1491170) Chapter.11 Sports Center (narrow) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25540.msg1491178#msg1491178) Chapter.12 Car (fai) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25540.msg1500420#msg1500420)
Chapter.13 Enroute (ally) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25540.msg1500426#msg1500426) Chapter.14 Skyscraper (diskussion) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25540.msg1500427#msg1500427) Chapter.15 Dead-zone (coursing) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25540.msg1505057#msg1505057)
Chapter.16 Laboratory (true) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25540.msg1505082#msg1505082) Chapter.17 Bridge (dawn) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25540.msg1505096#msg1505096) Epilogue The End (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25540.msg1505312#msg1505312)
Download .pdf version. (http://www.mediafire.com/?qgg7hgdwd9xh412)
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz ขออนุญาติตั้งเอาไว้ก่อนนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: onjazz26 ที่ 15-05-2011 23:37:53
มาจิ้มๆ เรนเจอร์สีเขียว :z13:
ดีใจมากมายที่จะมีนิยายใหม่ให้อ่าน :z2:
มาจองพื้นที่ก่อนนะคับ

เรนเจอร์เขียว....สู้ต่อไป :a9:
หัวข้อ: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนจบ [05/06/54] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 15-05-2011 23:49:01
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม
5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน
ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย"
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 15-05-2011 23:59:26
สีเหลือง: ความสดใส เจ้าเล่ห์ และอ่อนวัยแต่ไม่ไร้เดียงสา จะร้อยเรียงเป็นเรื่องราวเช่นไรติดตามได้ในมุมมองความรักของ
...เจ้าชายรองเท้าแตะ

เตรียมพบกับเรื่องสั้นสีเหลืองได้เร็วๆนี้


กดเบาๆ ส่งคำตอบชิงรางวัลและพูดคุยนอกเรื่องกับนักเขียนทั้งเจ็ด (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23990.0)

(http://img9.mediafire.com/86ae3a08c431003abbbd18f685284eafe62bb582b34be6359129055ec46037845g.jpg)
รางวัลสำหรับผู้ชนะเกมทายชื่อนักเขียน

เรื่องสั้นระบำสีรุ้ง
สีม่วง "เพลิงพราย" โดย จงกลนี (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25519.0)
สีคราม "รักลวงตา" โดย ภาพฝัน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25535.0)
สีน้ำเงิน "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" โดย สายลมห่มฟ้า (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25536.0)
สีเขียว "DOOM" โดย Nassiiz (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25540.0)
สีแสด "Butterfly" โดย Monarch (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25548.0)
สีแดง "เพลิงกุหลาบ" โดย แรงเทียน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25550.0)

หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" ประกาศด่วน แจ้งเพื่อทราบ ตั้งใหม่อีกที
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 16-05-2011 00:04:00
(http://img28.mediafire.com/b6f242d94a346b9095740bdfdd1f8ac23fc115dbd2c7ec5da35aca98f1eb05c75g.jpg)
 
ตอนแรก "คำสัญญา"
เด็กชายหน้าตาน่าเอ็นดูด้วยเหตุที่มีลักษณะถอดแบบชาวตะวันตกทั้งที่แม่เป็นคนไทย อาจเพราะพ่อของเด็กคนนี้เป็นชาวต่างชาติ แต่กระนั้นเจ้าตัวก็ไม่เคยเห็นหน้าทั้งพ่อและแม่ นับตั้งแต่วันที่ได้ลืมตาขึ้นมาบนโลกใบนี้
เขาวิ่งไล่ตามท้ายรถญี่ปุ่นกลางเก่ากลางใหม่ที่กำลังแล่นออกไปอย่างช้าๆ เพราะเพื่อนตัวน้อยของเขาได้ผู้อุปการะพาไปอยู่ด้วยในฐานะสมาชิกใหม่ของครอบครัว
เด็กทั้งสองคนเติบโตมาด้วยกันในบ้านหลังนี้ บ้านที่เป็นที่อุปถัมภ์ค้ำชูพวกเขา และบรรดาเด็กน้อยอีกหลายชีวิต บ้านที่มีคนเอาใจใส่ดูแลด้วยความรักจนพวกเขาเรียกได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่าแม่ บ้านที่คนภายนอกรับรู้กันด้วยคำว่า "บ้านเด็กกำพร้า"
นัยน์ตาสีอ่อนซึ่งเปรอะไปด้วยม่านน้ำตา เช่นเดียวกับเพื่อนรักซึ่งหันกลับมามองเขาอยู่ในที่นั่งตอนหลังผ่านกระจกบานหนาของรถพร้อมกับมือน้อยที่โบกส่ายให้อยู่ไหว ๆ หน่วยตาก็ฉ่ำน้ำไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลยสักนิด ถึงแม้ว่าเมื่อคืนที่ล่วงมาทั้งสองจะผ่านการร่ำไห้และนอนกอดกันจนหลับสนิทไปทั้งคู่เมื่อช่วงรุ่งสางของวันนี้เอง
"หน่อง! สัญญานะว่าจะไม่ลืมหรั่ง... หน่อง!!" เสียงตะโกนของเด็กน้อยที่วิ่งตามมาด้วยสองขายาวเก้งก้างซึ่งโบกมือใหญ่ตามส่วนผสมแห่งชาติพันธุ์ของเจ้าตัวส่งให้เพื่อน ร้องบอกมาจากด้านหลังรถคันนั้นทั้งที่ยังร่ำไห้ จนสองสามีภรรยาที่อยู่ในที่นั่งตอนหน้าของรถ ต้องชะลอความเร็วลงก่อนที่ฝ่ายสามีซึ่งเป็นคนขับ จะกดปุ่มเลื่อนกระจกข้างในตอนท้ายให้กับลูกชายคนใหม่ของเขาเพื่อให้ได้ยินคำสั่งลานั้นอย่างชัดเจน
เด็กชายตัวน้อยได้เพียงแต่ชะโงกหน้าออกไปนอกตัวรถพลางตะโกนตอบกลับไปให้กับเพื่อนรักของเขาเหมือนเป็นคำมั่นสัญญา
“หน่องไม่ลืมหรั่งหรอก! หรั่งก็อย่าลืมหน่องนะ!”  มือน้อยที่เกาะอยู่บนขอบประตูเพื่อใช้พยุงตัวเองข้างหนึ่ง ถูกส่งออกไปโบกลาเพื่อนรักของตนเองส่งท้ายจนรถเคลื่อนออกไปพ้นอาณาเขตรั้วของสถานที่ ซึ่งนับจากนี้จะเป็นเพียงความทรงจำ ก่อนที่เจ้าตัวจะหดศีรษะกลับเข้าไปในตัวรถ แต่ก็ยังคงหันมาทอดสายตาอาลัยให้เพื่อนที่เห็นอยู่ไกลๆ กระทั่งลับสายตาไป
 
ในบ้านหลังน้อยที่อบอุ่น คุณสุมาลี และคุณอธิป สองสามีภรรยา ที่แต่งงานมาด้วยกันหลายปีแต่เป็นที่ตัวคุณอธิปเองไม่สามารถมีลูกได้ สามี ภรรยาคู่นี้จึงไปขออุปการะเด็กมาเป็นลูกบุญธรรม พวกเขาฟูมฟักเลี้ยงดูหนูน้อยด้วยความรักจนบัดนี้เด็กคนนั้นเติบใหญ่เป็นคนร่าเริงแจ่มใส ช่างเจรจา และไม่ได้คับแค้นใจในเรื่องที่ตนเองไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่กลับเรียกทั้งสองว่า พ่อ กับ แม่ ด้วยความสนิทใจ   
“หน่อง… หนูไปสมัครงานไว้ที่ไหนบ้างล่ะลูก” ผู้เป็นแม่ถามขึ้นระหว่างมื้อเช้าบนโต๊ะอาหาร ก่อนจะหันไปสบตากับลูกชายที่ฝั่งตรงข้าม
“หน่องก็ร่อนจดหมายสมัครไปเรื่อยแหละแม่ ที่ไหนเรียก ที่ไหนรับ หน่องก็ทำที่นั่นแหละครับ” หน่องตอบกลั้วหัวเราะเบาๆ   
“ถ้าไม่ไหวจริงๆ เดี๋ยวพ่อจะฝากงานให้แล้วกันนะ” คุณอธิปพูดขึ้นมาลอย ๆ ทั้งที่กางหนังสือพิมพ์บังตัวเองเอาไว้เสียมิด หน่องได้แต่หันไปมองทางมารดาพลางทำหน้าเจื่อนพร้อมกับส่งยิ้มปุเลี่ยน ๆ ให้
"ไม่ต้องมาทำเป็นสลดใส่แม่เลยนะหน่อง ดีแล้ว... จะได้ไม่ต้องหาให้เหนื่อย ให้พ่อฝากให้ก็ดี เราน่ะรับปริญญามาได้ก็หลายเดือนแล้วนะ อีกอย่าง...งานสมัยนี้มันหายากนะลูก ถ้าไม่มีเส้นมีสายกับใครเค้าไม่ต้องตระเวนหาไปเป็นปีหรอกรึไง” คนเป็นแม่ได้แต่บ่นด้วยไม่อยากให้ลูกต้องเหนื่อยกับการตระเวนหางานแบบนี้ไปเรื่อย ๆ พอฝ่ายสามีออกปากจึงออกเสียงสนับสนุนให้ในทันที                                               
“ครับพ่อ ครับแม่ เอาไว้อีกสักเดือน ถ้าไม่มีใครเขาเรียก หน่องจะทำตามที่พ่อว่าก็ได้ครับ”
หน่องจำใจต้องยอมตกปากรับคำออกไป แต่ก็ขอเติมข้อแม้ให้ผู้เป็นพ่ออีกสักหน่อย                                                 
“ตกลงว่าหน่องสัญญากับพ่อแล้วนะ” คุณอธิปได้ทียึดถือคำพูดลูกชายเป็นสัญญาพลางยกยิ้มบางก่อนพับหนังสือพิมพ์ลงวางไว้ข้างตัว แล้วลุกจากโต๊ะอาหารเพื่อเตรียมตัวออกไปทำงาน
 
ภายใต้แสงไฟสีสวยเย้ายวนตาซึ่งมีแสงวูบวาบจากแฟลชกระพริบประกอบตามจังหวะที่ถูกกำหนดไว้อยู่เป็นระยะ เรือนร่างกำยำที่แทบจะปราศจากอาภรณ์ของเหล่าชายหนุ่มซึ่งพากันยักย้ายส่ายเอวออกลีลาอย่างยั่วตายั่วใจตามจังหวะเสียงดนตรีที่เร่งเร้าอยู่บนเวทีขนาดพอประมาณที่ประดับไว้ด้วยเสาสแตนเลสสีเงินวาววับ เสียงเบสหนัก ๆ ราวกับว่าจะปลุกเร้าจังหวะการเต้นของหัวใจผู้ที่ได้รับฟังให้แทบจะกระดอนออกมาเต้นอยู่นอกช่องอก
ม่านควันที่ถูกฉีดพ่นออกมาจากเครื่องกำเนิดควันพาให้บรรยากาศรายรอบแลดูสลัวเลือนรางราวกับม่านแห่งความฝัน
ภายในร้านที่เต็มไปด้วยชายหนุ่มหลายวัยและหลากชาติพันธุ์ ต่างพากันเป่าปากส่งเสียงเล็กแหลม ปรบมือและหัวเราะร่าอยู่ในส่วนของโซฟาหนังหนานุ่มสีส้มสดที่หันหน้าไปยังเวที เสียงตะโกนยั่วยุพวกหนุ่ม ๆ ที่อยู่บนเวที ให้ถอดปราการสุดท้ายบนเรือนร่างที่สมบูรณ์ไปด้วยกล้ามเนื้อของวัยหนุ่มให้หลุดออกจากส่วนสงวน โดยที่ที่นั่งริมขอบเวทีมีสารพัดเพศพันธุ์ ทั้ง เก้ง กวาง หรือแม้แต่ ชะนี นั่งรายล้อมอยู่เต็มไปหมด เสมือนว่าเป็นทำเลทองแห่งการโลมเลียด้วยสายตาและวาจา รวมไปถึงการจาบจ้วงด้วยสัมผัสตามแต่ใจจะปรารถนา
เหล่าผู้ชมต่างพากันโบกธนบัตรมูลค่าหลักร้อยไปจนหลักพันให้สะบัดไปตามแรงมือ แต่ก็มีบางคนที่ทำเป็นใจดี ทั้งที่จริง ๆ ใจกล้าถึงขั้นจงใจเอาธนบัตรสอดใส่ลงไปในขอบของปราการด่านสุดท้าย เพียงเพื่อต้องการจะได้สัมผัสกับส่วนแข็งขันที่ซุกซ่อนอยู่ด้านในแบบเต็มไม้เต็มมือ
มีเพียงกะเทยสาวแอ็คชงค์หนึ่งเดียวซึ่งไม่เพียงแต่จะเอาธนบัตรห้าร้อยบาทในมือของตนสอดเข้าไปเท่านั้น แต่เขากลับแนบนามบัตรที่ระบุชื่อและเบอร์โทรใส่ไปในเครื่องนุ่งห่มที่แสนจะเล็กและรัดรูปอวดสรีระร่างกายของชายหนุ่มที่ดูโดดเด่นกว่าคนอื่นด้วยกัน
บนเวทีแห่งนั้น ชายหนุ่มซึ่งเพื่อนร่วมอาชีพกล่าวขานเรียกนามของเขาแบบง่ายๆ ตามลักษณะที่ปรากฏให้เห็นเด่นชัดอย่างภาพลักษณ์ของเขาว่า "หรั่ง"
 
ในห้องชุดพักอาศัยของคอนโดมิเนียมหรูกลางใจเมือง ร่างล่ำสันบนที่นอนหนานุ่มซึ่งเปลือยเปล่าอวดกล้ามเนื้อแน่นตามแบบฉบับของคนที่ออกกำลังกายอยู่เสมอ แต่แท้ที่จริงแล้วความสมบูรณ์ของเรือนร่างและมัดกล้ามนั้นได้มาจากการรับจ้างทำงานหนักเมื่อครั้งอดีตแต่เยาว์วัย ผิวขาวอมชมพูตามชาติพันธุ์ ส่วนผสมที่กลมกลืนกันระหว่างตะวันออกและตะวันตก ริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูสด ประดับรอยบุ๋มบนสองข้างแก้มให้ชวนมอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อยามที่เจ้าตัวแย้มยิ้มหรือหัวเราะ
เสียงเพลงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงนอนหนานุ่มทำให้เจ้าตัวหลุดออกจากนิทรารมย์พร้อมกับเอื้อมมือออกไปคว้ามากดรับก่อนจะแนบที่ข้างหู
"อเล็กซ์ ตื่นรึยัง วันนี้พี่ไม่ได้ไปรับเองนะ พี่ให้รถตู้ของหนังสือแฟชั่นที่เธอจะไปถ่ายแบบให้เขาเข้าไปรับแทน เธอไปถ่ายแฟชั่นชุดว่ายน้ำให้เสร็จก่อน แล้วพี่จะพาไปแคสต์หนัง พี่ติดต่อทีมงานไว้ให้แล้ว เร็ว ๆ นะ เดี๋ยวเจอกันเราค่อยคุยรายละเอียดกันอีกที"
อ๊อบที่เข้ามาเป็นผู้จัดการและชักนำให้เขาเข้ามาสู่วงการบันเทิงโทรมาปลุกเขาแต่เช้า แถมร่ายยาวจนคนรับแทบลืมหายใจไปชั่วครู่ก่อนจะวางสายไป
ชายหนุ่มกระเด้งตัวขึ้นจากที่นอนก่อนผลุนผลันพาร่างเปลือยเปล่าของเขาเข้าห้องน้ำ โดยไม่ลืมที่จะเร่งรีบทำเวลาด้วยรู้ดีว่า ที่พี่อ๊อบโทรมาปลุกนั้น แสดงว่าในเวลาอีกไม่เกิน 30 นาที เขาจะต้องพร้อมและลงไปรอรถที่จะมารับเขาไปทำงานก่อนเวลานัดหมายเล็กน้อย และนี่ก็จวนได้เวลาแล้วจริง ๆ 
 
"เป็นไง... เมื่อคืนหนีไปเที่ยวไหนมา เช้านี้ถึงมานั่งทำเป็นเซื่อง" อ๊อบหันไปต่อว่าอเล็กซ์พลางส่งสายตาดุ ๆ ไปให้ชายหนุ่มรุ่นน้องที่ตนเองกำลังปลุกปั้นเพื่อเป็นดาราในสังกัดของตนด้วยเห็นว่าปลอดสายตาของผู้สอดรู้สอดเห็น หลังจากชายหนุ่มแต่งหน้าจนเสร็จและรอเวลาเซตฉากในสตูดิโอ
"ผมไปหาเพื่อนที่บาร์มาน่ะพี่ ไม่ได้แอบไปเที่ยว สามทุ่มผมก็กลับมานอนที่ห้องแล้ว" อเล็กซ์ตอบตามตรง
"ทีหลังอย่าไปอีกเลยนะ พี่ขอ เรากำลังจะมีชื่อเสียง พี่ไม่อยากให้ใครมาระแคะระคายเรื่องอดีตของเรา" อ๊อบสั่งห้ามพร้อมกับแจกแจงเหตุผล
"ครับ" อเล็กซ์เองทำได้เพียงแค่ตอบรับไปเท่านั้น ลึกๆ ในใจแล้ว เขาเองก็เหงา แค่อยากออกไปเจอะเจอกับคนรู้จักในบ้างครั้งก็เท่านั้น
"เดี๋ยวถ่ายแบบชุดนี้เสร็จพี่จะพาเราไปหาหม่อมเอียด ผู้กำกับชื่อดังเลยนะ พี่เอารูปและพอร์ตโฟลิโอของเราไปให้ท่านดู ท่านสนใจ... เลยให้เรียกไปคุยด้วย เห็นว่าท่านกำลังหานักแสดงประกบพระเอกดังเลยนะ... น่าจะเป็นโอกาสดีของเราล่ะ" อ๊อบบอกยืดยาวตามนิสัย
"เสร็จจากนี่ก็คงบ่ายแก่ ๆ กว่าจะไปถึงไม่ค่ำเลยเหรอพี่" อเล็กซ์ท้วงเสียงอ่อย
"ไม่เป็นไร... ท่านนัดที่วังตอนค่ำๆ ท่านบอกไม่ได้ไปไหน... ท่านจะรอ" อ๊อบแย้ง
"แหม! แหม! แหม! คุณป้ากับคุณน้องสองคนนัดจะไปไหนกันเหรอคะ" ช่างแต่งหน้าสาวประเภทสองฝีมือดีแซวทักเสียงดังขณะก้าวเข้ามาในห้องแต่งตัว
"คืนนี้ไม่ไปปาร์ตี้กับพวกหนูรึคะคุณป้า" หล่อนกรีดกรายพลางร้องถามด้วยโทนเสียงสูงที่ดัดจนเล็กแหลม
"ฉันกับอเล็กซ์คงไปด้วยไม่ได้หรอก นัดหม่อมเอียดเอาไว้น่ะ เสร็จจากนี่ก็ต้องรีบไปกันเลย" อ๊อบปฏิเสธกะเทยรุ่นน้องไปตามตรง
"เสียดายจังป้า นาน ๆ จะได้เจอกันสักที ปาร์ตี้นี่ก็เหมือนเป็นเลี้ยงขอบคุณป้ากับน้องอเล็กซ์นะคะ" คุณน้องช่างแต่งหน้าพยายามชักชวน
"พี่หมี... เจ๊ภาให้มาตามนายแบบแล้วครับ" เสียงทีมงานที่มาชะโงกหน้าประตูร้องบอก
"ไอ้หมาวัด ทีหลังเรียกชื่อชั้นเต็ม ๆ นะแก ไม่ต้องย่อ รัศมีย่ะรัศมี" กะเทยสาวช่างแต่งหน้าแทบจะกรีดร้องด้วยเคืองที่ถูกเรียกชื่อตัวเองย่างย่อๆ จากชายหนุ่มรุ่นน้องที่เพิ่งจะหัวเราะใส่ซะเสียงดังก่อนจะเดินจากไป
"อเล็กซ์ไปเถอะ เดี๋ยวพี่จะตามไปก็แล้วกัน พี่ขี้เกียจแสบตาถ้าต้องไปดูเค้าถ่ายแบบนานๆ ขอนั่งเล่นอยู่นี่ก่อนดีกว่า" อ๊อบบอกพลางรุนหลังของอเล็กซ์ให้เดินตามช่างแต่งหน้าสาวประเภทสองออกไป
 
"อ๊อบ... ฉันถูกใจพ่อคนนี้ของเธอจัง รูปร่างหน้าตาเป็นอย่างที่ใจฉันคิดเอาไว้เลย"
หม่อมราชวงศ์รังสรรค์ เทวฤทธิ์ หรือที่คนในวงการมักเรียกว่า 'หม่อมเอียด' เอ่ยปาก
หลังจากที่อ๊อบพาอเล็กซ์เข้าไปนั่งบนเก้าอี้หลุยส์พร้อมกับยกมือไหว้อย่างนอบน้อม ในห้องรับแขกที่หรูหรา ซึ่งอยู่ภายในตำหนักไม้เก่าสไตล์วิคตอเรีย มรดกตกทอดจากท่านพ่อของหม่อมเอียด ซึ่งได้สืบทอดจากท่านปู่ของหม่อมเอียดมาอีกต่อหนึ่งเช่นกัน
"อ๊อบดีใจที่หม่อมชอบค่ะ พ่อคนนี้น่ะ... อ๊อบเห็นแววก็เลยชวนมาเข้าวงการ ถ้าหากว่าหม่อมจะให้อเล็กซ์ทำอะไร... หม่อมก็บอกได้เลยนะคะ"  อ๊อบตอบพลางส่งยิ้มประจบประแจง
"เขาเหมาะมากที่จะให้เล่นหนังของฉันนะอ๊อบ แต่..." หม่อมเอียดพูดยังไม่ทันจะจบดี
"แต่..อะไรคะหม่อม ถ้าเรื่องเรียนการแสดง อ๊อบก็กะจะให้อเล็กซ์เข้ามาเรียนกับหม่อมที่วังอยู่แล้วน่ะค่ะ" อ๊อบจีบปากจีบคอตอบ
"เธอนี่รู้ใจฉันดีจังนะ แล้วพ่อคนนี้เขาจะว่างมาได้วันไหนบ้างล่ะ" หม่อมเอียดถามพลางส่งยิ้มไปทางอเล็กซ์
"หม่อมสะดวกวันไหนบอกมาได้เลยนะคะ อ๊อบจะกันคิวเอาไว้ให้ ช่วงนี้ก็มีแค่งานพวกถ่ายแบบนิตยสาร กับเดินแบบนิดหน่อย อเล็กซ์เองก็เพิ่งจะเข้าวงการใหม่ๆ ถ้ายังไงอ๊อบรบกวนฝากหม่อมให้ช่วยอบรมสั่งสอนอเล็กซ์ด้วยนะคะ พ่อคนนี้เค้าตัวคนเดียว... หาเงินส่งเสียตัวเอง เพราะไม่มีพ่อมีแม่เหมือนคนอื่นเขาน่ะค่ะ" อ๊อบร่ายสรรพคุณของอเล็กซ์เสียยืดยาวพร้อมกับเรียกคะแนนความสงสารจากหม่อมเอียดเต็มที่
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่1 [16/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 16-05-2011 01:19:52
(http://upic.me/i/ns/2s3-1.jpg) (http://upic.me/show/24229901)


เล่ห์ร้าย
ตอนที่ 1.

“ถอดสิ”

...แค่เพียงประโยคคำสั่งสั้นๆ จากริมฝีปากบางอิ่มอมชมพูระเรื่อของเด็กชายคนหนึ่ง แต่กลับทำให้ผู้ได้รับคำสั่งนั้นตกใจจนถึงกับต้องสะดุ้ง
ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งทำตาโตมองไปยังร่างเล็กที่นั่งเอกเขนกสบายอารมณ์บนโซฟาสีดำหลังใหญ่
“ถอดเสื้อผ้าออกให้หมด ฉันอยากเห็น” เมื่อเห็นอีกฝ่ายยังไม่กระทำอย่างที่ตนต้องการ ร่างเล็กจึงออกคำสั่งอีกครั้ง โดยที่สีหน้ายังคงนิ่งเฉยดังเดิม มีเพียงนัยน์ตาที่วาววับ ฉายแววเอาแต่ใจของเด็กชายที่กำลังมองของเล่นชิ้นใหม่อย่างถูกใจ
ดูเหมือนคำสั่งครั้งที่สองจะเป็นการเรียกสติของชายหนุ่มให้กลับมา ด้วยรู้ดีว่าไม่มีทางที่จะปฏิเสธได้ เขาจึงทำได้เพียงทำตามคำสั่งนั้นอย่างช้าๆ ในสมองก็ครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้


...เมื่อวาน...

“ฉันคงจะช่วยเธอไม่ได้อีกแล้ววิธวินท์” เสียงเรียบของประมุขคนปัจจุบันของคฤหาสน์หลังงามเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงปกติ แต่กลับทำให้คนที่ได้ฟังต้องก้มหน้าลงต่ำด้วยความรู้สึกสิ้นหวังที่กำลังเอ่อขึ้นมาในใจ
“แต่คุณท่านครับ ผม...”
“ตั้งแต่สมัยคุณพ่อยังอยู่ ท่านก็ช่วยเหลือครอบครัวเธอไว้ตั้งเท่าไรแล้ว”
“แม่ผมจะต้องผ่าตัด ผมต้องใช้เงินจำนวนมาก มันจำเป็นจริงๆ นะครับ”
“ฉันทำธุรกิจนะไม่ใช่การกุศล”
คำพูดของคุณท่านที่เอ่ยมา ทำให้ชายหนุ่มน้ำตาคลอขึ้นมาเล็กน้อย คำที่จะเอ่ยอ้อนวอนจุกอยู่ในลำคอไม่อาจเปล่งเสียงออกมาได้ ในใจก็รู้ดีว่าครอบครัวของตัวเองนั้น เคยมารบกวนเรื่องเงินกับคุณท่านหลายต่อหลายครั้งตั้งแต่วิธวินท์ยังเด็ก เพราะตาของชายหนุ่มเป็นคนสนิทของคุณปู่พ่อคุณท่าน และแม่ของวิธวินท์เองก็เคยช่วยงานอยู่ในคฤหาสน์แห่งนี้จนแต่งงานมีครอบครัวจึงได้ย้ายออกไป

...ครอบครัวของชายหนุ่มประกอบธุรกิจเล็กๆ เมื่อเขาอายุ 7 ปี พิษเศรษฐกิจก็ทำให้มันล้มอย่างไม่เป็นท่า ก็ได้ใบบุญของคุณปู่ที่เข้ามาช่วยพยุงเอาไว้ พอธุรกิจกำลังจะฟื้นคืนขึ้นมาได้ ผู้เป็นพ่อก็เกิดโชคร้ายต้องจากไปก่อนวัยอันควรด้วยอุบัติเหตุ ครั้งนั้นแม้จะมีเงินประกันเข้ามาช่วยอีกทาง กว่าที่แม่พาธุรกิจยืนขึ้นได้อีกครั้งก็ช่างยากลำบากเหลือเกิน จนเมื่อ 5 ปีที่แล้วธุรกิจของครอบครัวก็ล้มลงอีกครั้งและครั้งนี้ไม่อาจจะยืนขึ้นมาได้อีก แม่ของชายหนุ่มต้องยอมเป็นบุคคลล้มละลาย ขายทรัพย์สินทุกอย่างไม่เว้นแม้แต่บ้านที่พ่อและแม่สร้างกันมาด้วยน้ำพักน้ำแรงก็ต้องขายทอดตลาดเพื่อชดใช้หนี้สิน หลังจากนั้นวิธวินท์และแม่ต้องทำงานหนักเพื่อช่วยกันชดใช้หนี้สินที่ยังคงเหลืออยู่ แม้ต้องย้ายมาอาศัยอยู่ในห้องเช่าราคาถูก ก็กัดฟันสู้กันเรื่อยมา แต่ก็พอจ่ายแค่เพียงดอกเบี้ย หนี้สินนั้นแทบไม่ได้ลดลงเลย จนเมื่อปีที่แล้วแม่ของชายหนุ่มล้มป่วยลงด้วยโรคหัวใจ จึงไม่สามารถทำงานหนักได้เหมือนเดิม เจ็บออดๆ แอดๆ เข้าออกโรงพยาบาลอยู่เป็นประจำ และเมื่อไม่กี่วันมานี้อาการก็กำเริบจนต้องรับการผ่าตัดด่วน แต่วิธวินท์ก็ไม่มีเงินมากพอที่จะจ่ายค่ารักษาพยาบาล จึงต้องเข้ามาพบคุณท่านอีกครั้ง
“ฉันคงให้ได้แค่นี้เท่านั้น เพราะเห็นแก่แม่ของเธอที่เป็นคนเก่าคนแก่ของที่นี่” ชายวัยกลางคนลุกขึ้นจากโต๊ะไม้สักตัวใหญ่หลังจากก้มหน้าลงเขียนอะไรอยู่สักครู่ แล้วเดินอ้อมโต๊ะมาที่วิธวินท์ คุณท่านส่งเช็คเงินสดสั่งจ่ายไว้ด้วยจำนวนเลขห้าหลัก ในเวลาปกติเงินจำนวนนี้คงทำให้วิธวินท์และแม่อยู่กันได้อีกหลายเดือน แต่มันกลับไม่เพียงพอในเวลานี้
เสียงฝีเท้าของคุณท่านเดินห่างออกไปเรื่อยๆ น้ำตาก็ไหลออกจากดวงตาของชายหนุ่มที่สิ้นหวังที่ยังนั่งอยู่ในท่าเดิม ในมือของวิธวินท์กำเช็คเงินสดไว้มั่น ถึงจำนวนจะไม่เพียงพอกับค่าผ่าตัด แต่มันก็จะทำให้เขาและแม่อิ่มท้องไปได้อีกหลายวัน

...วิธวินท์เดินลากเท้าออกไปตามทางเดินของคฤหาสน์อย่างช้าๆ สวนสวยและน้ำพุจำลองขนาดใหญ่ที่สร้างไว้อย่างงดงามแต่ชายหนุ่มกลับไม่มีใจที่อยากจะชื่นชมมันแม้แต่น้อย ในใจคิดทบทวนถึงหนทางที่จะหาเงินให้เพียงพอกับจำนวนที่จะต้องจ่าย
“คุณครับ” น้ำเสียงสุภาพดังขึ้นจากด้านหลัง วิธวินท์จึงหันกลับไปตามเสียงเรียก
“เอ่อ..ครับ” ชายหนุ่มตอบรับเบาๆ กับชายร่างสูงใหญ่ที่คิดว่าเป็นคนของคฤหาสน์เพราะแต่งกายด้วยสูทสีดำเหมือนพวกบอดี้การ์ด
“เชิญทางนี้สักครู่ได้ไหมครับ” ชายคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงระดับเดิม พร้อมกับผายมือไปที่รถเก๋งคันใหญ่ที่จอดติดเครื่องอยู่ถัดออกไป เพราะวิธวินท์มัวแต่จมอยู่กับความคิดเลยไม่ได้สังเกตว่ามีรถคันนี้ขับสวนเข้ามา
“เอ่อ..คือ”
“คุณหนูคิดว่าพอจะมีทางช่วยคุณได้น่ะครับ” ชายคนเดิมพูดอีกครั้ง แต่ประโยคที่เอ่ยออกมาครั้งนี้ทำให้วิธวินท์เริ่มมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง
“ครับๆ” ด้วยความดีใจ  ชายหนุ่มจึงตอบรับโดยไม่ลังเลอีกต่อไป รีบสาวเท้าตามชายคนนั้นไปยังรถคันใหญ่ แล้วขึ้นไปนั่งบนรถทางประตูหลังที่เปิดรอไว้

...เมื่อชายหนุ่มขึ้นไปนั่งที่เบาะหลังเรียบร้อย เสียงของเด็กชายที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาก็ดังขึ้น
“ไปเรือนคุณปู่” แล้วรถคันใหญ่ก็แล่นไปอย่างช้าๆ ผ่านตึกใหญ่ที่วิธวินท์พึ่งเดินออกมาเมื่อครู่ ชายหนุ่มรู้สึกใจชื้นขึ้นเมื่อคิดว่ามีหนทางที่จะช่วยแม่ของตัวเองได้จึงไม่สนใจทุกสิ่งรอบตัวว่ารถคันนี้จะพาไปที่แห่งใด
จนกระทั่งได้ยินเสียงเปิดประตูรถ ชายหนุ่มก็ไม่รอช้า รีบเปิดประตูแล้วก้าวตามเด็กชายร่างเล็กความสูงประมาณหน้าอกของชายหนุ่มเท่านั้นที่เดินนำเข้าไปในเรือนคุณปู่ วิธวินท์กวาดสายตามองไปรอบๆ ตัว
เรือนเล็กหลังนี้เป็นแบบกึ่งไม้กึ่งปูน ทางเดินเข้าเรือนทำเป็นสระน้ำกว้างประมาณสองช่วงตัว ในสระปลูกบัวหลวงสีชมพูอยู่กระจัดกระจายไม่หนาตาแซมด้วยกกราชินีตามขอบมุมไว้อย่างลงตัว มีสะพานไม้พาดไว้เป็นทางเดินยาวรูปตัวแอล ที่มุมสะพานมีศาลาเล็กๆ เลี้ยวขวาเดินไปอีกสามสี่ก้าวก็ถึงตัวบ้าน ด้านหน้ามีระแนงไม้ที่ปลูกต้นมาลัยทองไม้เลื้อยออกดอกสีเหลืองสะพรั่งห้อยเป็นระย้า ด้านซ้ายของตัวบ้านยังปลูกไม้เลื้อยเกาะอยู่จนเขียวชอุ่มไปทั้งกำแพง และรอบๆ บ้านยังปลูกไม้ดอกไม้ประดับไว้อย่างสวยงาม
วิธวินท์คิดในใจว่าเรือนหลังนี้สมแล้วที่เป็นของคุณปู่ที่ล่วงลับไปแล้ว บรรยากาศรอบตัวบ้านช่างดูอบอุ่นเสียเหลือเกิน ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะคิดถึงใบหน้าเปื้อนยิ้มและฝ่ามือใหญ่ที่เคยลูบหัวเขาเมื่อสมัยที่แม่พาเข้ามากราบท่าน เมื่อคิดถึงตอนนั้นก็ทำให้ชายหนุ่มอมยิ้มเล็กๆ ได้ในสถานการณ์ที่บีบคั้นเช่นนี้

“นั่งสิ” วิธวินท์แทบไม่รู้ตัวว่าตัวเองเดินตามคุณหนูเข้ามาในเรือนตั้งแต่เมื่อไร จนกระทั่งคุณหนูสั่งให้นั่งลงบนโซฟาตัวใหญ่สีดำดูนุ่มสบาย ชายหนุ่มกระพริบตาสองสามครั้งก่อนจะนั่งลงอย่างช้าๆ
เด็กชายที่อยู่ตรงหน้าวิธวินท์คนนี้ คือคุณลลิตคุณหนูเล็กแห่งตระกูลนี้ ชายหนุ่มเคยได้ยินชื่อของคุณหนูและเคยเห็นในระยะไกลมาบ้าง ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้พูดคุยและได้เห็นหน้าคุณหนูริชใกล้ๆ แบบนี้
“มาหาพ่อฉันทำไม” คุณหนูริชถามต่อทันทีที่วิธวินท์นั่งลงเรียบร้อย ชายหนุ่มจึงเล่ารายละเอียดไปตามความจริง
สักพักคนสนิทของคุณหนูที่เป็นคนลงไปเรียกวิธวินท์ก็ขออนุญาตและเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับกระดาษสองแผ่น เนื้อความในกระดาษเป็นสัญญาระหว่างเขาและคุณหนูที่จะต้องแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน
ในสัญญาระบุว่าชายหนุ่มต้องทำตามคำสั่งของคุณหนูทุกประการ และต้องมาคอยรับใช้คุณหนูในช่วงเย็นสามวันต่อสัปดาห์ และวันหยุดเสาร์หรืออาทิตย์วันใดวันหนึ่ง สัญญานี้จะจบลงเมื่อคุณหนูพอใจ หรือจนกว่าชายหนุ่มจะชดใช้เงินจนหมด
เขาสามารถทำงานที่อื่นได้ แต่ต้องแจ้งให้คุณหนูทราบก่อน รวมทั้งตารางเรียนในชั้นปีสุดท้ายของเขาด้วยเช่นกัน
วิธวินท์ลงลายมือชื่อของเขาในกระดาษทั้งสองแผ่นโดยแทบจะไม่ต้องใช้เวลาคิดทบทวนเลยแม้แต่น้อย เพราะเวลาที่กระชั้นชิดขนาดนี้ เมื่อมีข้อเสนอที่ไม่ต้องไปทำเรื่องผิดกฎหมายแบบนี้เค้าก็ยินดีที่จะแลก


“!!!” วิธวินท์สะดุ้งหลุดออกจากภวังค์ความคิด เมื่อปลายนิ้วเย็นๆ มาแตะที่เหนือสะโพกด้านหลัง
“รอยอะไร” นิ้วเล็กๆ นั้นยังคงลูบเบาๆ บนรอยแผลเป็นจางๆ เรื่อยๆ ลมหายใจอุ่นเป่ารดอยู่แถวกลางหลัง
“แผลเป็นเคยลงไปช่วยคนตกน้ำแล้วโดนกิ่งไม้เกี่ยว หลายปีแล้วครับ”
“มีตำหนินะ..” มือเล็กๆ นั่นยังไล้วนต่อ และลงมาเรื่อยๆ อย่างไม่มีท่าทีว่าจะหยุด
ชายหนุ่มเกร็งตัวขึ้นรับสัมผัสแผ่วเบานั้นด้วยความตกใจ
ร่างเล็กเดินวนดูทุกส่วนโดยที่มือเล็กยังไล้เบาๆตามผิวของชายหนุ่มไปด้วย จนมาหยุดอยู่ทางด้านหน้าของชายหนุ่ม

“ทำให้มันแข็งสิ” ดวงตากลมโตจับจ้องที่จุด ที่ชายหนุ่มใช้มือกุมเอาไว้อย่างมิดชิด
“ฮะ!! ครับ”
“ทำไอ้นั่นของนายให้มันแข็งๆ สิ ฉันจะดู”
เมื่อพูดจบเด็กชายในชุดนักเรียนกางเกงสีน้ำเงิน เสื้อเชิ้ตสีขาวแบบชายตรงปล่อยชายลงมาปิดหัวเข็มขัด ที่หน้าอกปักตราโรงเรียนนานาชาติชื่อดังก็ถอยห่างออกไปสองสามก้าว
“คือ..ผม..เอ่ออ”
“ทำไม ฉันรออยู่ อย่าช้า” เสียงเล็กๆ เริ่มขึ้นจมูกเล็กน้อย แสดงถึงอาการขัดใจ เด็กชายรออยู่ครู่หนึ่งเมื่อเห็นชายหนุ่มยืนรีๆ รอๆ ก้มซ่อนหน้าแดงๆ จึงเดินเลี่ยงไปที่เคาท์เตอร์ใกล้ๆ หยิบขวดเจียระไนคริสตัลทรงสวยขึ้นมา แล้วยกขวดเทน้ำสีอำพันลงในแก้วใสทรงเตี้ยที่ดึงออกมาจากที่เก็บเกือบเต็มแก้ว แล้วเดินถือแก้วบรั่นดีชั้นเยี่ยมมาส่งให้วิธวินท์
“อ่ะ ดื่มซะ” ชายหนุ่มรับแก้วมา มองอยู่ชั่วครู่ แล้วกระดกน้ำสีเหลืองทองกลิ่นหอมอ่อนๆ ลงคอไปแบบรวดเดียวหมด หน้าที่แดงเพราะความไม่ชินที่ต้องเปลือยกายต่อหน้าใคร ก็แดงยิ่งขึ้นด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์
เด็กชายดึงแก้วคืนจากมือชายหนุ่ม แล้วหันกลับไปวางไว้ที่โต๊ะกระจกหน้าโซฟาอย่างไม่ไยดี
วิธวินท์ได้แต่หลับตาแน่น ความร้อนวูบจากลำคอไล่ลงไปถึงช่องท้อง สติเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัวสำหรับคนคออ่อนไม่ค่อยมีโอกาสได้แตะของมึนเมา

“ทีนี้ก็ทำให้มันแข็งได้แล้ว” เด็กชายยกแขนขึ้นกอดอก คิ้วเรียวเริ่มขมวดเข้าหากัน
เมื่อได้รับคำสั่งอีกครั้งชายหนุ่มจึงเริ่มลงมือทำตาม ในสมองก็สั่งแต่ว่าต้องทำ นี่คือคำสั่งของคุณหนูริช คิดวนไปวนมาซ้ำๆ เพราะสัญญาที่ได้ลงชื่อไว้เมื่อวาน กับเงินในบัญชีที่ถูกถอนไปแล้ว เพื่อนำไปจ่ายค่าผ่าตัดให้แม่ของเขาเมื่อเช้า


=========> โปรดติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่1 [16/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Mileson ที่ 16-05-2011 01:56:13
เด็กอะไรนี่..อยากเห็นซะจริง..น่าติดตามครับ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า"
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 16-05-2011 02:00:28
(http://upic.me/i/y7/qsky3.jpg) (http://upic.me/show/24228533)

ตอนที่ 1 ยิ่งสูงยิ่งหนาว

                “คุณปลายฟ้าคะ คุณรู้สึกยังไงที่ได้รับบทเป็นพระเอกของหนังเรื่องใหม่ของหม่อมเอียดคะ แล้วนี่เป็นเรื่องแรกที่ได้ร่วมงานกันใช่ไหมคะ”
นักข่าวสาวร่างเล็กจีบปากจีบคอถามอย่างใคร่รู้

                “ผมก็รู้สึกดีใจครับที่ได้ร่วมงานกับท่าน เพราะว่าผลงานที่ผ่านมาของท่านยังเป็นที่จดจำของใครหลาย ๆ คนจนทุกวันนี้ ผมก็จะพยายามทำให้ดีที่สุดครับให้สมกับที่ท่านไว้ใจยกบทพระเอกให้ผมเล่น”
เสียงนุ่มตอบคำถามอย่างราบเรียบราวกับเตรียมตัวไว้อย่างดี

ปลายฟ้าเด็กหนุ่มผิวขาว หน้าตาหล่อสูง 180 กว่า กับรูปร่างที่สมส่วนเพราะการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ด้วยความที่รูปร่างหน้าตาดี ทำให้มีแมวมองติดต่อเข้าวงการบันเทิง โดยเริ่มจากการถ่ายแบบ จนมีงานโฆษณาตามมาอีกหลายชิ้น หลังจากนั้นค่าย เนไรว่า โปรดักชั่น ค่ายที่มีนักแสดงชื่อดังมากมาย ชักชวนให้เซ็นต์สัญญาเข้าสังกัด เพื่อเล่นละครอีกหลายเรื่อง จนชื่อเสียงของ ปลายฟ้า นวกมล โด่งดังมากขึ้นในชั่วระยะเวลาไม่กี่เดือน

                ชื่อเสียงเงินทองข้าวของทุกอย่างที่เคยฝันไว้ ตอนนี้มันเป็นจริงทั้งหมดแล้ว เขาเคยคิดว่ามันคงทำให้มีความสุข และจะได้เจอความรักที่อบอุ่นอย่างที่ใฝ่ฝัน หามาตลอด เพราะตั้งแต่เด็กเขาแทบไม่เคยได้รับความรักจากบุพการีทั้งสองคนที่เลี้ยงมา ทุกวันนอกจากเสียงก่นด่าแล้วยังโดนทำร้ายร่างกายแถมมาด้วยเสมอ ๆ จนบางครั้งทำให้คิดว่าทั้งสองไม่ใช่พ่อกับแม่ที่แท้จริงของตน พออายุครบ 18 ปี เขาจึงตัดสินใจหนีออกจากบ้านเพื่อหาทางเดินให้กับตัวเอง แล้วก็มาพบกับแมวมองที่พาเข้ามาปลุกปั้นจนมีชื่อเสียงพร้อมกับย้ายมาอยู่กับ สังกัดยักษ์ใหญ่อย่างตอนนี้

               ประวัติส่วนตัวของปลายฟ้าถูกปกปิดพร้อมกับสร้างขึ้นมาใหม่อย่างสวยหรู เพื่อให้เหมาะสมกับที่มาของซุปเปอร์สตาร์ชื่อดัง ถ้าใครที่เคยรู้ประวัติของเขาจะถูกปิดปากด้วยเงินก้อนโต รวมถึงพ่อกับแม่ของปลายฟ้าด้วยเช่นกัน ยิ่งทำให้ยากที่ใครจะรู้ความเป็นมาเป็นไปที่แท้จริงได้ และตัวเขาเองก็ถูกสั่งให้เลี่ยงการตอบคำถามที่เกี่ยวกับครอบครัวหรือความเป็นมาทั้งหมด จึงทำให้ ปลายฟ้า นวกมล กลายเป็นบุคคลที่สมบูรณ์แบบที่สุดในสายตาของคนอื่น

                “แล้วรู้สึกยังไงกับการที่ต้องแสดงกับนักแสดงดาวรุ่งอย่าง อเล็กซ์ คะ”
นักข่าวสาวคนเดิมถาม
                “ก็ไม่รู้สึกยังไงนี่ครับ เรายังไม่เคยร่วมงานกันเลยสักครั้ง ก็ได้แต่หวังว่าคงร่วมงานกันได้ดีก็เท่า นั้นแหละครับ”
คำตอบง่าย ๆ ที่หลุดออกจากริมฝีปากหนาได้รูปของดาราหนุ่ม
                “แต่มีข่าวลือว่าอเล็กซ์กำลังพยายามทำตัวเทียบเคียงกับคุณอยู่ตอนนี้ คุณรู้สึกยังไงคะ”
นักข่าวสาวคนเดิมตั้งคำถามต่อ ราวกับอยากได้คำตอบอะไรที่มีค่ามากพอจะไปใส่สีใส่ไข่เขียนข่าวขายเพื่อให้ ได้เงินเพิ่มขึ้น
                “เรื่องนี้ผมไม่ทราบครับ พวกคุณคงต้องไปถามเจ้าตัวเอาเองนะครับ ส่วนผมไม่มีปัญหาหรอกครับ ใครจะดังใครจะดับมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับผมอยู่แล้ว”
คำถามของนักข่าวสาวเริ่มทำให้รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาบ้างในตอนนี้
                “ขอตัวปลายฟ้าก่อนนะครับ ยังมีงานที่อื่นที่เราต้องไปต่อขอโทษด้วยนะครับ ไว้งานเปิดกล้องหนังเราจะให้สัมภาษณ์อีกครั้งครับ”
สายลมผู้จัดการส่วนตัวรีบแทรกทันทีเมื่อรู้ว่าปลายฟ้าเริ่มอารมณ์ไม่ดี
    “ขอถามอีกคำถามเดียวค่ะ ข่าวลือที่ว่าคุณแอบคบกับดารารุ่นพี่อย่างคุณก้องเกียรติ เป็นความจริงหรือเปล่าคะ”
คำถามนี้ยิ่งทำให้ปลายฟ้าต้องรีบแยกตัวจากนักข่าว มาขึ้นรถตู้สีบรอนซ์ที่ เตรียมไว้ด้านหน้าอย่างรวดเร็ว
                “นักข่าวคนนั้นมันเป็นใคร มาจากไหน ทำไมถึงกล้ามาถามผมแบบนี้ คราวหน้าพี่สายลมช่วยกันออกไปด้วยนะครับ ผมไม่อยากตอบคำถามเขาอีก”
ปลายฟ้าบอกอย่างหัวเสียเมื่อเข้ามานั่งในรถตู้ โดยมีสายลมนั่งอยู่ด้านหน้า
                “ได้เดี๋ยวพี่จัดการให้ครับ พี่จะแจ้งไปยังต้นสังกัดของเขาให้เปลี่ยนคนอื่นเวลามาสัมภาษณ์ครั้งต่อไปนะครับ”
                “อ้อ พี่ช่วยหาประวัติของไอ้คนที่ชื่ออเล็กซ์อะไรนั่นให้ผมด้วยนะครับ”
                “ได้สิ แต่ว่าทำไมเราเกิดสนใจเขาขึ้นมาหรือยังไงกัน”
                “ไม่ใช่หรอกครับ ผมแค่อยากรู้ไว้เท่านั้นเอง เพราะยังไงก็ต้องร่วมงานด้วยกันอยู่แล้ว รู้เขารู้เราไว้ไม่ดีกว่าหรือครับ"
ปลายฟ้าบอกก่อนเอนตัวพิงเบาะนอนหลับตาสงบสติอารมณ์

คอนโดหรูใจกลางกรุง

ที่อยู่ของปลายฟ้าซึ่งทางบริษัทจัดไว้ให้ ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน จนแทบจะไม่ต้องหาอะไรมาเพิ่มเติม มีห้องนอนสองห้องนอนอยู่ตรงข้ามกัน ชุดโซฟาหรูสั่งจากนอกบุด้วยหนังอย่างดีสีฟ้าอ่อนตั้งอยู่กลางห้อง กับโทรทัศน์ LCD 50 นิ้ว พร้อมด้วยชุดโฮมเธียร์เตอร์เต็มรูปแบบราวกับโรงหนังขนาดเล็ก อีกฝั่งของห้องติดกระจกใสแผ่นใหญ่ ที่เปิดออกรับลมพร้อมกับมองบรรยากาศของมหานครได้ตลอดเวลายามต้องการ มีโซฟาตัวเล็กสีชมพูอ่อน พร้อมโต๊ะกระจกใสตัวเล็กตั้งอยู่ ปลายฟ้าชอบนั่งที่มุมนี้เพื่อมองท้องฟ้าทุกครั้งเวลาว่าง ห้องนอนมีเตียงขนาดใหญ่ปูด้วยผ้าปูที่นอนสีฟ้า อ่อนตรงหัวนอนมีตุ๊กตาหมีตัว ใหญ่ที่ได้มาจากแฟนคลับวางเรียงรายอยู่เต็มไปหมด แตกต่างจากอีกห้องที่มีเพียงเตียงเล็ก ๆ สำหรับนอนคนเดียว และแทบไม่มีเฟอร์นิเจอร์อะไรเลยนอกจากคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะเพียงเครื่องเดียวเท่านั้น ที่มุมห้องครัวมีโต๊ะกินข้าวขนาดเล็กนั่งได้สี่คนวางอยู่

                “โครม”
                ปลายฟ้าโยนบทภาพยนตร์ที่เพิ่งไปรับมาทิ้งลงบนโต๊ะกลางห้องก่อนทิ้งตัวลงนอนบนโซฟานุ่มสีฟ้าอ่อน
                “ตกลงเขาจะให้ผมเป็นพระเอกจริง ๆ หรือเปล่าแบบนี้ พี่สายลมคิดดูสิบทของไอ้อเล็กซ์อะไรนั่น มันเด่นเกือบเท่ากับบทของผมเลยนะ”
ปลายฟ้าหัวเสียเมื่ออ่านบทไปได้บางส่วน
                “ใจเย็นๆ ก่อนสิครับ ยังไงเขาก็สู้ปลายฟ้าดาราเจ้าบทบาทไม่ได้หรอก พี่ว่ามันอาจจะเป็นผลดีก็ได้นะครับ เพราะถ้าเกิดเขาแสดงได้ไม่ดีพี่ว่าเขาคงดับอนาคตทางการแสดงของตัวเองก็คราวนี้แหละ”
สายลมพยายามยกเหตุผลต่าง ๆ มาพูดให้ปลายฟ้าสบายใจขึ้นถึงจะไม่มากทำได้สักเล็กน้อยก็ยังดี
                ปลายฟ้าทิ้งตัวลงนอนบนโซฟา หลับตาสงบสติอารมณ์ตามที่สายลมบอก
                “ฟ้าทานอะไรก่อนไหมครับ เดี๋ยวพี่ทำให้ทาน เรายังไม่ได้ทานอะไรตั้งแต่เที่ยงแล้วนี่นา”
สายลมพูดเปลี่ยนเรื่องเมื่อทิ้งเวลาผ่านไปซักระยะหนึ่ง
                “จะว่าไปก็เริ่มหิวแล้วเหมือนกัน ยิ่งโมโหก็ยิ่งหิวมากขึ้นไปอีก”
                “งั้นรอแปบนะครับ”

                ปลายฟ้าลุกขึ้นไปนั่งโซฟาตัวเล็ก หน้าบานกระจกมุมห้องเหมือนทุก ๆ วัน เขาชอบนั่งมองท้องฟ้ายามค่ำคืน ที่แม้จะมองไม่เคยเห็นดวงดาวเลยสักครั้ง เพราะแสงนีออนจากตึกสูงระฟ้าสว่างไสว จนกลบแสงดาวที่ประดับบนท้องฟ้าไปจนหมดสิ้น มองเห็นเพียงท้องฟ้าเป็นสีน้ำเงินเข้มจนเกือบดำสนิท

เขาปล่อยอารมณ์ผ่านท้องฟ้าสีน้ำเงินหม่น ความคิดเดิม ๆ วนกลับมาทุกครั้ง เพราะตั้งแต่โด่งดังมีชื่อเสียง เขายังไม่เจอคนที่จริงใจกับเขาเลยแม้แต่คนเดียว ส่วนมากที่มาคบก็เพียงเพราะความมีชื่อเสียงที่มีอยู่ หรือไม่ก็หวังพึ่งเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ  แล้วสิ่งเลวร้ายที่สุดก็คือ พวกที่ต้องการเพียงร่างกาย โดยที่ไม่สนใจในความ รัก หรือความรู้สึกของเขาเลย มันเลยทำให้เขารู้สึกเหงา และเหน็บหนาวที่หัวใจมากเหลือเกิน

ปลายฟ้าอยากได้รับความอบอุ่นจากคนที่จริงใจบ้าง แม้เพียงสักครั้งก็ยังดี  ไม่ใช่คนที่หวังแต่ผลประโยชน์จากตัวเขาอย่างทุกวันนี้ แบบนี้ใช่ไหมที่คนเขาพูดกันว่ายิ่งสูงยิ่งหนาว ปลายฟ้าคงเป็นคนที่เข้าใจในความรู้สึกนี้อย่างดีที่สุดคนหนึ่ง

                แต่ตอนนี้มีพี่ก้องหรือก้องเกียรติดารารุ่นพี่ที่คบกับเขา ซึ่งตัวเขาเองก็ยังไม่แน่ใจว่าดารารุ่นพี่คนนี้ต้องการสิ่งใดกันแน่ แต่มันก็ยังดีกว่าที่ต้องรู้สึกโดดเดี่ยวเหมือนเมื่อก่อน อย่างน้อยก่อนนอนก็มีคนโทรหาบอกฝันดี ระหว่างวันมีคนคอยห่วงใยถามไถ่ว่าทำอะไรอยู่ เหนื่อยไหม ถึงมันจะดูเหมือนเล็กน้อย แต่มันก็ทำให้รู้ว่ายังมีคนต้องการเขาอยู่



                สายลมเตรียมอาหารเสร็จเดินออกมาเพื่อเรียกปลายฟ้า สิ่งที่เห็นคือภาพดาราหนุ่มนั่งเงยหน้ามองท้องฟ้า พร้อมกับแววตาที่บ่งบอก ถึงความเหงาจนถึงก้นบึ้งของหัวใจ สายตามองทอดยาวไปบนท้องฟ้ามืดมิดที่ไร้แสงดาว ถึงจะเป็นภาพที่เห็นจนชินตา แต่มันกลับทำให้ความรู้สึกสงสารปลายฟ้ามากขึ้นทุกครั้ง

เขาเป็นคนหนึ่งที่อยากเข้าไปปลอบประโลม ให้คนที่อยู่ตรงหน้ารู้สึกดีขึ้นมา แต่ก็ไม่สามารถทำได้ทั้งภาระหน้าที่ รวมทั้งไม่รู้ว่าปลายฟ้าจะต้องการการ ปลอบโยนจากคนอย่างเขาหรือไม่

                สายลมเดิมทีเป็นเลขาส่วนตัว พร้อมกับควบตำแหน่งบอดี้การ์ดให้กับเจ้าของบริษัทที่ปลายฟ้าสังกัดอยู่ แต่พอปลายฟ้าย้ายเข้ามาเลยขอมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้ เพราะรู้สึกตั้งแต่แรกเห็นว่าอยากดูแล และปกป้องเด็กคนนี้ เขาเลยอ้างเหตุผลว่าจะได้ตามกลบข่าวลือเรื่องต่าง ๆ ให้กับนักแสดงคนนี้ได้โดยง่าย และด้วยความไว้ใจของเจ้าของบริษัทเลยยอมให้มาดูแลปลายฟ้า พร้อมกับให้ทั้งสองคนอยู่ที่คอนโดเดียวกันเพื่อสะดวกต่อการดูแล

                “อาหารเสร็จแล้ว รีบมาทานได้แล้ว ฟ้าบ่นหิวไม่ใช่หรือไง”
ฟ้า เป็นชื่อเรียกที่สายลมใช้เรียกปลายฟ้าเวลาอยู่ด้วยกันตามลำพัง และมีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่เรียกปลายฟ้าด้วยชื่อนี้ได้

                เสียงของสายลมเรียกสติของปลายฟ้ากลับคืนมาจากห้วงแห่งความเหงาคะนึง ปลายฟ้าหันมามองต้นเสียงที่เรียก แล้วยิ้มให้ก่อนจะลุกเดินไปที่โต๊ะอาหาร
โต๊ะที่ทำจากกระจกหนาใสทรงกลม มีลายกุหลาบดอกใหญ่จาง ๆ อยู่ตรงกลาง แต่ตอนนี้ถูกบดบังด้วยจานผัดผักรวมมิตร ที่บรรจงคัดสรรแต่ผักที่มีคุณค่าทางอาหารสูง และถูกผัดด้วยการใช้ไฟอย่างบรรจง เพื่อไม่ให้สูญเสียสารอาหารเหล่านั้นไป จานไข่เจียวหมูสับสีเหลืองฟูกรอบตัดกับขอบจานสีขาวส่งกลิ่นหอมของไข่ออกมา จาง ๆ พอแค่ชวนน้ำลายสอ และชามต้มจืดเต้าหู้ไข่หมูสับ ที่มีควันลอยออกมาบ่งบอกว่าเพิ่งทำเสร็จ

                “พี่ยังไม่ได้ไปจ่ายตลาด ทำได้แต่อาหารง่าย ๆ แบบนี้ฟ้าคงทานได้นะครับ”
สายลมบอกเมื่อปลายฟ้านั่งลงเรียบร้อย พร้อมกับยกจานข้าวสวยที่หุงจนเรียงเม็ดขาวมาวางให้ตรงหน้า
                “อะไรผมก็ทานได้ครับ เพราะพี่สายลมทำอะไรก็อร่อยอยู่แล้วล่ะครับ”
คำชมทำเอาสายลมดีใจจนต้องแอบอมยิ้ม ถึงแม้เขาจะได้ยินบ่อย ๆ แต่ก็ยังไม่ชินซักที เมื่อมันออกมาจากปากคนที่แอบห่วงใย
                “พี่สายลมทานพร้อมกันเลยสิครับ พี่ก็ยังไม่ได้ทานอะไรเหมือนกันนี่นา”
ปลายฟ้าเงยหน้าขึ้นมาชวนคนที่ยืนมองอยู่จากด้านข้าง
                “ฟ้าทานไปก่อนเลย เดี๋ยวพี่ขอตัวไปทำอะไรนิดหน่อยก่อน เดี๋ยวค่อยมาทาน”
                “ครับ”
ปลายฟ้าก้มหน้าทานอาหารต่อไป
                “เออ!! ผมเกือบลืมไปเลย แล้วนักข่าวเขารู้เรื่องผมกับพี่ก้องได้ยังไงกัน พี่ช่วยลองสืบหน่อยนะครับ ว่ามันรั่วมาจากใคร”
คำขอถูกบอกออกมาโดยที่คนขอไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองเลยแม้แต่น้อย

                สายลมเดินเข้าในห้องของตนเองที่อยู่ตรงข้ามกับห้องสายฟ้า เปิดคอมพิวเตอร์ค้นหาข้อมูลของอเล็กซ์ผ่านทางอินเตอร์เน็ต แต่ข้อมูลที่ได้มามันช่างดูผิวเผินเสียเหลือเกิน เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเพื่อนที่อยู่ฝ่ายข่าวบันเทิง เพื่อนคนนี้ชอบล้วงข้อมูลลับของดาราหน้าใหม่มาตีแผ่ ถ้าไม่ยอมจ่ายเงินค่าปิดปากอย่างสมน้ำสมเนื้อ

                “เอ ผมอยากรู้ประวัติคนๆ หนึ่งช่วยหาให้หน่อยได้ไหม”
สายลมพูดทันทีที่ปลายสายรับ
                “แหม นี่จะไม่ทักทายเพื่อนก่อนหรือไงยะ แล้วกรุณาเรียกฉันใหม่ด้วยนะบอกแล้วไม่จำว่าให้เรียกว่า เอมมี่ เรียกใหม่เดี่ยวนี้เลย”
เสียงเพื่อนชายที่ใจเป็นหญิงดัดแหลมสูงตอบกลับมาอย่างไม่พอใจ
                “เอมมี่ ก็ เอมมี่”
สายลมตอบอย่างขอไปที เพราะไม่อย่างนั้นเขาอาจไม่ได้ข้อมูลที่ต้องการก็ได้
                “อืมโอเค แต่ว่าอยากให้ฉันหาใครอะไรรีบ ๆ บอกมาฉันกำลังยุ่ง”
                “ดาราดาวรุ่งที่ชื่อ อเล็กซ์ เอกวิน นรลักษณ์ เอมมี่หาให้ผมได้ไหม”
                “แหม อะไรมันจะช่างประจวบเหมาะกระท้อนร่อนขนาดนี้ยะ ฉันเพิ่งจะไปสืบเจอความลับของนายคนนี้มาได้พอดี แต่ว่าฉันจะได้อะไรตอบแทนล่ะงานนี้”
เธอไม่ลืมสัญชาตญาณของนักต่อรอง
                “ต้องให้ผมดูข้อมูลก่อน ถ้าข้อมูลมันสำคัญอย่างที่เอมมี่บอก ผมตอบแทนสมน้ำสมเนื้อแน่นอน”
                “โอเค นี่เห็นว่าเป็นเพื่อนหรอกนะถึงยอมให้ข้อมูลก่อน ถ้าเป็นคนอื่นอย่าหวังเลยว่าจะได้เห็น”
                “ยังไงก็ขอบใจเอมมี่มากนะ ผมรอข้อมูลอยู่นะส่งให้ผมที่เมลเดิมได้เลย”
                “จ๊ะๆ แล้วยังไงเดี๋ยวจะยื่นค่าเหนื่อยไปตอนท้ายด้วยเลยแล้วกันนะ”
                สายลมนั่งรอรับเมลอยู่ในห้องพักใหญ่ ถึงได้รับข้อมูลที่เอมมี่ส่งมาให้ เมื่อเปิดอ่านก็ถึงกับยิ้มออกมาราวกับได้ของขวัญชิ้นสำคัญ เขารีบปรินต์ข้อมูลทั้งหมดออกมาเพื่อเอาไปให้ปลายฟ้าอ่าน แล้วคิดว่าปลายฟ้าคงดีใจกับข้อมูลเหล่านี้แน่ ๆ

                เมื่อออกมาข้างนอกโทรทัศน์กลางห้องเปิดหนังเรื่องโปรดที่ปลายฟ้าชอบดูทิ้งไว้ เขาเริ่มมองหาไปทั่วห้องก็เห็นปลายฟ้านั่งอยู่ที่โซฟาริมหน้าต่างเหมือนเดิม แต่ต่างจากเดิมตรงที่ปลายฟ้าไม่ได้เงยหน้ามองท้องฟ้า แต่กลับนั่งหลับ เหยียดขาทิ้งมือทั้งสองข้างที่ข้างโซฟาอย่างสบายอยู่แทน สายลมวางเอกสารไว้ที่โต๊ะกลางห้องแล้วเดินเข้าไปห้องของปลายฟ้า ก่อนกลับออกมาพร้อมผ้าห่มสีฟ้าอ่อนผื่นใหญ่จนต้องโอบไว้ทั้งสองมือเพื่อถือออกมา

                สายลมค่อย ๆ ห่มผ้าให้อย่างแผ่วเบา เพราะกลัวจะทำให้คนที่กำลังหลับตื่นขึ้นมา แล้วเอาเก้าอี้สตูลแต่งหน้าตัวเล็กมาพร้อมกับค่อย ๆ ยกขาปลายฟ้าไปวางไว้ เพื่อให้คนที่นอนหลับรู้สึกสบายยิ่งขึ้น  ปลายฟ้าขยับตัวเล็กน้อยพร้อมดึงผ้าห่มให้กระชับตัวยิ่งขึ้นทั้งที่ยังหลับอยู่ สายลมถอยออกมาดูท่าทางของดาราหนุ่มที่นอนอยู่ตรงหน้าอย่างพึงพอใจ

                ใบหน้ายามหลับของปลายฟ้าดูบริสุทธิ์ และไร้เดียงสากว่าสิ่งใดที่คิดได้ ขนตางอนดำแนบชิดติดกันรับกับจมูกโด่งเป็นสันสวยเข้ากับโครงหน้าโดยไม่ต้องตกแต่งเพิ่มเติม  ริมฝีปากหนาได้รูปสีชมพูเรื่อปิดสนิท สีหน้าที่ผ่อนคลายลงมากกว่าตอนตื่น นี่สินะเป็นใบหน้าที่แท้จริงของ ปลายฟ้า นวกมล และคงมีแค่สายลมคนเดียวเท่านั้นที่ได้เห็นมัน

                “หลับฝันดีนะครับปลายฟ้า” สายลมกระซิบที่ข้างหูเบาๆ

=======> โปรดติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจ
เริ่มหัวข้อโดย: Mileson ที่ 16-05-2011 02:02:50
จองก่อนครับเด่วอ่าน 55

ปลายฟ้ามีเบื้องหลังที่ต้องปกปิด..อเล็กซ์ ก็มีเบื้องหลังที่กำลังโดนค้นหา

เลยงงๆว่าวงการดารานี่เขาจะขุดคุ้ยเบื้องหลังเพื่อมาเข่นฆ่าชื่อเสียงกันให้ได้เลยใช่ไหมครับ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 1 [16-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 16-05-2011 02:04:36

^
^
^
^
 :z13: :z13: ข้อหาปาดหน้า  :laugh:

กว่าจะได้ลงตอนแรกได้ นั่งปาดเหงื่อหลายรอบ

ยังไงก็ต้องขออภัยที่ต้องทำให้รอนะครับ  :L2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจ
เริ่มหัวข้อโดย: Mileson ที่ 16-05-2011 02:14:52
^
^
^
ขอโต๊ทที่แอบมาปาดหน้าคร้าบ ให้ดอกไม้เป็นกำลังใจแล้วกัน :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 1 [16-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 16-05-2011 02:20:24
เจิมเฉยๆยังไม่ว่างอ่านเนะ อิๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่1 [16/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 16-05-2011 02:22:19
เจิม ยังไม่ว่างอ่านเนะ อิๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่1 [16/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: nco1236 ที่ 16-05-2011 02:24:59
 :เฮ้อ: เด็กมัธยม ผมอยู่ ม.6 ยังเล่นซ่อนแอบกันอยู่เลย  :laugh:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" ประกาศด่วน แจ้งเพื่อทราบ ตั้งใหม่อี
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 16-05-2011 02:25:49
เจิม รออ่านตอน 10 อิๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 1 [16-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: nco1236 ที่ 16-05-2011 02:34:28
 :z13:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่1 [16/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 16-05-2011 02:38:52
เข้ามาอ่านรวบรวมข้อมูลก่อน

แต่ ท่าทางจะร้ายจริงๆ  :z1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz ขออนุญาติตั้งเอาไว้ก่อนนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 16-05-2011 02:40:54
 :z2: :z2: :z2:

เข้ามาเต้นต้อนรับสีเขียวครับ

ถึงจะมาแบบกระทันหันแต่มาเต็ม

ขอบคุณแทนคนอ่านเลยครับ  :L2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" ประกาศด่วน แจ้งเพื่อทราบ ตั้งใหม่อีกที
เริ่มหัวข้อโดย: nataxiah ที่ 16-05-2011 02:42:24
 :z13: :z13:

แวะมาจิ้มเฉย เพราะอ่านแล้ว  :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา"
เริ่มหัวข้อโดย: nataxiah ที่ 16-05-2011 02:43:17
 :z13: :z13: :z13:

หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 1 [16-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: nataxiah ที่ 16-05-2011 02:44:31
น้องฟ้า คนจริงใจอยู่ทางนี้ครับ

มาอยู่กับพี่ก็ได่้นะครับ  :z1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz ขออนุญาติตั้งเอาไว้ก่อนนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: nataxiah ที่ 16-05-2011 02:45:29
 :z2: :z2:

เต้นด้วยคน เห็นคุณลมเต้นแล้วคึก

ตอนรับสีเขียวครับ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่1 [16/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: nataxiah ที่ 16-05-2011 02:46:51
เด็กแบบนี้ อยากเจอมั่งจัง  :laugh:

คุณเหลือง ยกให้ผมอบรมไหมครับ  :laugh:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 1 [16-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: onjazz26 ที่ 16-05-2011 03:02:44
อือม์....เรื่องนี้เกี่ยวโยงกะเรื่องของเรนเจอร์สีม่วงด้วยหรอ....   :confuse:
...น่าสนใจมากมาย...
พ่อพระเอกยังไม่ออกใช่เป่า...หรือว่า...คือ...พ่อสายลม :m12:
สายลมห่มฟ้าช่ายยยยป่ะ หุ หุ o8

สู้ต่อไปนะ....เรนเจอร์สีน้ำเงิน :a9:
(รอบนี้ไม่ลบกาทู้แล้วช่ายมั๊ย :m16:)
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 1 [16-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 16-05-2011 03:31:21
ไม่ลบแล้วครับ ผิดพลาดทางเทคนิคนิดหน่อย  :o8:


พระเอกผมคาดเดาไม่ยากเลยใช่ไหมอะ  :laugh:
หัวข้อ: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 10 PG. 6 The End
เริ่มหัวข้อโดย: MonarcH ที่ 16-05-2011 03:42:39
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน

ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 1 [16-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 16-05-2011 03:46:49
มาต้อนรับน้องฟ้า กะ พี่ลม :3123:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 1 [16/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 16-05-2011 03:52:25
 :mc4: :mc4: :mc4:

ตอนรับสีแสดดดดดดดด  
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 1 [16/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: MonarcH ที่ 16-05-2011 03:55:51
Butterfly 1

...ตั้งแต่หัวค่ำจนตีสอง ผมต้องถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่รู้ว่าตัวเองคิดถูกหรือผิดที่ต้องจำใจรับข้อเสนอของป้าธเนศเพราะมันเป็นทางเดียวที่ผมจะตอบแทนบุญคุณที่ป้าแกส่งเสียผมจนเรียนจบจากมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง รวมทั้งคอนโดริมถนนสุขุมวิทห้องนี้ และรถยนต์ญี่ปุ่นคันหรูที่ป้าแกเบื่อก็เลยยกให้ผมใช้ตั้งแต่สมัยเรียน...
“ฉันจะไปดูร้านนวดที่จะเปิดใหม่ที่ออสเตรเลียประมาณ 6 เดือน ระหว่างนี้แกยังไม่ได้ทำงานก็ไปช่วยดูบาร์แทนฉันหน่อยนะ”  ผมยังจำคำพี่ป้าบอกผมเมื่อเย็นนี้ได้แม่น
“ให้กริชไปดูแลกิจการบาร์เกย์เนี่ยนะ”  ผมขยับแว่นแล้วถามเสียงหลง
“ใช่ ทำไม มีปัญหาอะไรเหรอ”  ป้าธเนศถามเสียงต่ำ
“ก็...ก็...ไม่มีอะไรหรอกครับ แค่กริชไม่แน่ใจว่าจะทำได้หรือเปล่า”  ผมตอบเสียงอ่อย
“ทำได้สิ ฉันจบ ม. 3 ยังทำได้เลย แล้วแกเรียนจนจบมหาลัยดังค่าหน่วยกิตปีละเป็นแสนทำไมจะบริหารไม่ได้”
“...เอ่อ...”
“พรุ่งนี้ฉันจะให้ธัญญ่าพาไปแปลงร่าง สภาพแบบนี้เด็กมันคงปีนเกลียวเอาแน่ ๆ และระหว่างฉันไม่อยู่มีอะไรก็ให้ธัญญ่าช่วยละกัน”  ป้าธเนศพยักพเยิดไปทางเกย์สาวใหญ่คนสนิทที่นั่งข้าง ๆ
“รูปร่างหน้าตาแบบน้องกริชนี่ ถ้าเข้าไปบริหารหนูกลัวว่าแขกจะมาติดมากกว่าเด็กที่ร้านนะเจ๊”  พี่ธัญญ่าพูดยิ้ม ๆ
“จริง ๆ แล้วกริชมันน่ารักนะ แต่ชอบทำตัวซื่อ ๆ เซ่อ ๆ ไม่แต่งเนื้อแต่งตัว มิน่าถึงไม่มีแฟน” 
“..........................”  ผมพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ยิ้มแหย ๆ ให้ผู้สูงวัยทั้งสอง
*
*
...ครอบครัวของผมเป็นครอบครัวชนชั้นกลาง พ่อแม่ก็ทำงานปกติ แต่ค่าใช้จ่ายก็ชักหน้าไม่ถึงหลังทุกเดือน ทั้งผ่อนรถผ่อนบ้าน และยังต้องส่งเสียลูกอีกสามคน ผมโทษว่าเป็นความผิดของตัวเองที่ตอนมัธยมปลาย ผมเกเรมาก ติดเพื่อน ติดแฟนคนแรก และเพราะความรักครั้งแรกที่ต้องจบลงในช่วงก่อนเอ็นทรานซ์ทำให้ผมสติแตก ไม่มีกำลังใจในการอ่านหนังสือ ไม่ไปติว ไม่ตั้งใจเรียน ไม่อยากไปโรงเรียน ไม่อยากไปเจอหน้าคนนั้น...

...สุดท้ายแล้วผมก็เอ็นไม่ติด ความเสียใจเรื่องความรักของผม ไม่เท่ากับความเสียใจที่ทำให้พ่อกับแม่ผิดหวัง เพราะผลการเรียนของผมอยู่ในเกณฑ์ดีมาตลอด เกรดเฉลี่ยไม่ต้องลุ้น ตั้งแต่เรียนมาไม่เคยต่ำกว่า 3.6...ครอบครัวของผมตั้งความหวังไว้มาก เพราะถ้าให้ผมเรียนมหาวิทยาลัยเอกชนพ่อกับแม่คงต้องลำบากกว่าเดิมแน่นอน...

...ป้าธเนศเป็นพี่ชายของแม่ แกมีศักดิ์เป็นลุง แต่แกให้ผมเรียกป้ามาตั้งแต่เด็ก...ผมจำได้ว่าป้าธเนศใจดี มักจะมีขนมหรือของเล่นแปลก ๆ จากเมืองนอกมาฝากบ่อย ๆ แม่บอกว่าป้าแกรวยเพราะได้สามีเป็นฝรั่งและทำธุรกิจหลายอย่างที่เมืองนอก แต่พออายุเยอะขึ้นแกก็ย้ายกลับมาอยู่เมืองไทยได้สิบปีแล้ว ที่นี่แกก็มีธุรกิจหลายอย่างซึ่งส่วนมากจะเป็นอสังหาริมทรัพย์ให้แกนั่งกินนอนกินอย่างสบาย...

...แต่...ธุรกิจที่ป้าธเนศรักและผูกพันที่สุดคือ The Butterfly Boy บาร์เกย์ชื่อดังย่านสีลม ดังถึงขนาดที่ว่าเพื่อนเกย์ของผมในคณะชวนไปดูโชว์ที่เลื่องลือว่าดุเด็ดเผ็ดมันส์สะเทือนวงการ ท้าทายอำนาจรัฐแบบที่ร้านอื่นไม่กล้าทำ...ผมไม่รู้หรอกว่ามันคืออะไรและก็ไม่เคยไปแถวนั้นด้วย มันเป็นอโคจรสถานที่ผมสัญญากับตัวเองว่าจะตั้งใจเรียน ไม่ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขทุกชนิด ต้องรีบเรียน รีบจบ รีบทำงานหาเงินช่วยพ่อแม่ และที่สำคัญคือ ผมไม่อยากรบกวนป้าธเนศนานเกินไป...

...ป้าธเนศไม่มีลูกจึงอยากช่วยดูแลรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเรื่องการศึกษาให้หลาน ๆ โดยเฉพาะค่าเทอมของผมซึ่งป้าแกจัดแจงพาผมไปสมัครเรียนมหาวิทยาลัยเอกชนที่เรียนเป็นภาษาอังกฤษ ค่าหน่วยกิตแพงมาก ถ้าไม่ได้ป้าธเนศผมคงไม่มีปัญญาเรียนแน่ ๆ เท่านั้นยังไม่พอ แกยังโอนรถคันเก่าของแกให้ผมไว้ขับไปเรียนเพราะมหาวิทยาลัยอยู่ไกลมาก รถคันเก่าของแก หมายถึงรถที่เพิ่งเปลี่ยนจากป้ายแดงเป็นป้ายขาวได้ไม่ถึงปี เพราะแกดันอยากได้รถยุโรปค่ายดาวสามแฉกคันใหญ่เท่าบ้านมานั่งเชิด ๆ รถญี่ปุ่นคันละเกือบสองล้านจึงตกมาเป็นของผมแบบไม่ทันตั้งตัว...
*
*
...ในที่สุดบ่ายนี้ผมก็ต้องมาช็อปปิ้งกับพี่ธัญญ่าที่ห้างหรูกลางกรุงเทพ ดูพี่แกตื่นเต้นมากที่ได้รับหน้าที่ดูแลการเมคโอเวอร์ให้ผม เริ่มจากแกให้ผมใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นไปช็อปปิ้งเพราะรับไม่ได้กับเสื้อผ้าชุดอื่นของผมในตู้ แกจูงมือผมตรงดิ่งเข้าห้องเสื้อชื่อดังซึ่งผมมารู้หลังจากเข้ามาแล้วว่าเจ้าของร้านเป็นแขกประจำของ The Butterfly Boy และเป็นเพื่อนกับป้าธเนศทำให้ได้ส่วนลด และสิทธิพิเศษมากมาย แค่ร้านนี้ร้านเดียว ผมได้เสื้อและกางเกงมา 5 ชุด และผมใส่ชุดใหม่ออกมาจากร้านเป็นเสื้อเชิ้ตลายสวยกับกางเกงยีนส์ขาเดฟผ้านิ่มซึ่งผมไม่คิดว่าชีวิตนี้จะยัดขาลงกางเกงแบบนี้ได้...

...จากนั้นพี่ธัญญาก็พาผมไปตัดผมทรงใหม่กระชากลุคแถมยังทำสีตามแฟชั่น ตามมาด้วยการบังคับให้ผมใส่คอนแทคเลนส์สีเทาที่ผมไม่เคยคิดจะใส่เพราะมันดูหลอกตา แต่พอทั้งหมดได้มาอยู่กับเสื้อผ้าและทรงผมแบบนี้ตาสีเทามันช่วยทำให้ดูเฉี่ยวเปลี่ยนบุคลิกเป็นคนที่มั่นใจและดูแรงขึ้นมาก...
“คนพวกนั้นต้องคิดว่าพี่เลี้ยงต้อยแน่ ๆ เลย”  พี่ธัญญ่าพูดขำ ๆ ขณะที่ผมขับรถไปส่งพี่เค้าที่สีลมหลังจากเราช็อปปิ้งกันเสร็จ
“เป็นกริชก็คิดแหละพี่ ดูสิ ของเต็มหลังรถเลย กริชยืนเฉย ๆ พี่ธัญญ่าจัดการให้เองหมด คนขายคงคิดว่าพาเด็กมาซื้อของ”
“สะใจมาก เกิดมาไม่เคยได้ใช้เงินแบบนี้มาก่อนเลย เจ๊ธเนศแกบอกว่าใช้ให้หมด ถ้าไม่หมดไม่ต้องกลับมา พี่ก็เลยจัดให้เต็มวงเงินแสนนึงเลย”
“เสียดายเงินอ่ะ”  ผมพูดเบา ๆ
“มันเป็นการลงทุนแปลงร่างให้ผู้บริหารใหม่ของบาร์ เจ๊ธเนศแกไม่เสียดายหรอก อีกอย่างกริชก็เป็นหลานแท้ ๆ เงินแค่นี้แกไม่ระคายเคืองหรอก”
“ทำไมต้องให้กริชเปลี่ยนลุคแบบนี้ด้วยอ่ะพี่”  ผมสงสัย
“ในบาร์น่ะเสือสิงห์กระทิงแรดทั้งนั้น ถ้ากริชเด๋อ ๆ ด๋า ๆ เข้าไปไม่มีใครฟังและเชื่อถือกริชหรอก”
“เราเป็นนายจ้างเค้านะ ไม่ฟังเราได้ยังไง”
“เข้าไปทำงานจริง ๆ จะรู้ว่ามันไม่ง่ายเลย”
“อ้าว ถ้ามันไม่ง่ายแล้วทำไมป้าเค้าให้กริชมาทำอ่ะ จ้างคนเก่ง ๆ มีประสบการณ์ซะก็จบ”
“คนเก่งหาที่ไหนก็ได้ แต่คนดีและคนที่ไว้ใจได้มันหายาก ธุรกิจนี้ไม่ใช่ว่ามีเงินอย่างเดียวแล้วจะทำได้นะ มันต้องมีองค์ประกอบอื่นด้วย”
“ถึงสีลมแล้ว พี่จะให้กริชจอดตรงไหนก็บอกนะ”
“เดี๋ยวพี่จะพาไปจอดที่โรงแรม เจ๊แกเช่าที่ไว้ ต่อไปเวลามาทำงานก็มาจอดที่นี่นะ”
“ครับ”
*
*
...ผมมีนัดกับป้าธเนศในอีกสามวันต่อมา ก่อนแกจะเดินทางไปดูแลร้านนวดที่จะเปิดใหม่ในประเทศออสเตรเลีย ระหว่างนี้พี่ธัญญ่าก็คุยรายละเอียดเรื่องงานอย่างคร่าว ๆ ทุกวัน แกงัดวิธีปราบเด็กบาร์มาสอนผมแบบหมดไส้หมดพุง แต่ก็ยังอดห่วงไม่ได้ว่าผมจะรับมือผู้ชายในร้านกว่าครึ่งร้อยได้หรือไม่...

...ผมตื่นเต้นมากที่ต้องแต่งตัวหล่อและเดินเก๊กเข้าไปในซอยประตูชัยแหล่งรวมบาร์เกย์ย่านสุรวงศ์ เกิดมาไม่เคยย่างก้าวเข้ามาในสถานที่อโคจรอย่างนี้ แม้ว่าตอนนี้สองข้างทางยังไม่มีคนพลุกพล่าน แต่ผมกลับเดินหน้าร้อนวาบไม่สนใจคนที่มองว่าไอ้นี่มาทำอะไรตอนเย็นแบบนี้ จนมีคนเดินมาถามว่าเข้ามาสมัครงานร้านไหน และชวนให้ผมเป็นเด็กบาร์ร้านของตัวเอง ผมได้แต่มองหน้านิ่ง ๆ เชิด ๆ ตามที่พี่ธัญญ่าสอนไว้...

...ทันทีที่ผมก้าวเข้าไปในร้าน The Butterfly Boy ตามป้ายหน้าประตู กลิ่นอับน้อย ๆ ปะทะจมูก มันเป็นกลิ่นที่กระตุ้นความรู้สึกบางอย่าง ผมใจเต้นแรงขึ้นเมื่อทุกสายตาหันมามองผมเป็นตาเดียว พี่ธัญญาปรี่เข้ามาจูงมือผมขึ้นชั้นสองที่เป็นห้องทำงานของผมในระหว่างที่รักษาการเจ้าของร้านแทนป้าธเนศ...
“พร้อมแล้วนะ”  ป้าธเนศถามเป็นคำถามปิด ไม่ให้ผมปฏิเสธได้เลย
“พร้อมครับ”  ผมตอบเสียงเบา
“อะไรนะ”  ป้าตะคอกถาม ผมสะดุ้ง ป้าไม่เคยทำเสียงอย่างนี้กับผม
“พูดดัง ๆ อย่าประหม่า”  พี่ธัญญ่าเตือน
“โอเค พร้อมครับ ไม่เห็นมีอะไรยากเลย”  ผมยักไหล่แล้วมองรอบ ๆ ตามที่พี่ธัญญ่าสอนมา
“ดีมาก แกห้ามทำตัวนุ่มนิ่มอ่อนแอให้เด็กที่ร้านเห็นเด็ดขาด อยู่บ้านแกจะนั่งพับเพียบร้อยมาลัยยังไงก็ได้ แต่ถ้าออกจากบ้าน แกต้องหล่อ เริ่ด เชิด รวย นี่บัตรเครดิตไม่จำกัดวงเงิน”  ป้าธเนศยื่นบัตรเครดิตแพลตินั่มให้ผม
“ต้องขนาดนั้นเลยเหรอครับ”
“ออกจากบ้าน แกต้องดูดีตลอดเวลา เราไม่รู้หรอกว่าเด็กในร้าน แขกที่มาเที่ยว หรือคนในวงการนี้จะไปเจอแกข้างนอกเมื่อไหร่ ดังนั้นห้ามโทรม ห้ามเยิน และห้ามทำตัวกระจอก แกต้องสืบทอดภาพพจน์ของฉันตามสโลแกนประจำตัวเสียเงินไม่ว่าแต่ห้ามเสียหน้า”
“พรุ่งนี้พี่จะพาไปเปิดบัญชีกระแสรายวัน จะได้มีเช็คไว้เคลียร์ค่าใช่จ่ายในร้าน”  พี่ธัญญ่าเสริม
“เงินในบัตรนั้นรวมเงินเดือนแกด้วย อยากใช้เท่าไหร่ใช้ไปเลย ฉันไว้ใจแก”  ป้าธเนศยิ้มให้ผมแบบที่ผมเคยเห็นสมัยเด็ก ๆ
“พนักงานเริ่มมากันเยอะแล้ว พากริชไปแนะนำตัวเลยมั้ยคะเจ๊”   
“อืม ดีเหมือนกัน ฉันจะได้ไปเตรียมตัวเดินทางต่อ” 
“ไป เคยสอนปากเปล่า กริชอาจจะยังไม่เข้าใจ เดี๋ยวพี่จะพาไปดูให้เห็นกับตาเลย”
“อย่าลืมกฎเหล็กของร้านนะ”  ป้าธเนศท้วง
“ห้ามมีความสัมพันธ์กับเด็กในร้านเด็ดขาด”  ผมตอบด้วยความมั่นใจ เพราะผมจะไม่ทำอย่างนั้นแน่นอน
“ใช่ อย่าทำตัวเป็นสมภารกินไก่วัด ไม่งั้นจะเสียการปกครอง และเกิดการแตกแยกในร้านได้ ถ้าอยากกินให้ไปเสียเงินกินนอกร้าน ร้านนวดแถวนี้เยอะแยะ บาร์โฮสก็ปิดดึก คันนักก็ขับรถไปอ็อฟที่โน่น อย่ามีอะไรกับเด็กบาร์แถวนี้ จำไว้นะ”  ป้าธเนศสำทับอีกครั้ง
“ไม่มีทางหรอกป้า กริชอยู่คนเดียวมาได้ตั้งยี่สิบกว่าปี ตบะไม่แตกง่าย ๆ หรอก”  ผมพูดยิ้ม ๆ
“แล้วฉันจะคอยดู” 
*
*
...เสียงพูดคุยอื้ออึงกลายเป็นเงียบกริบเมื่อป้าธเนศพี่ธัญญ่าและผมเดินลงบันไดมา และขึ้นไปบนเวทีต่อ ถึงแม้ว่าจะพยายามทำตัวเชิดให้ดูเหมือนมั่นใจในตัวเองแล้ว แต่ผมก็อดตื่นเต้นไม่ได้เวลายืนอยู่ท่ามกลางสายตาของพนักงานที่มองอย่างสงสัยว่าผมเป็นใคร...ไฟสปอร์ตไล้ท์ส่องมาที่เราทั้งสามตามสัญญาณที่พี่ธัญญ่าส่งให้คนดูแลไฟ พอมันสว่าง ผมถึงได้เห็นว่าบนเวทีมีเสาสแตนเลสสีเงินเงาวับ 8 เสา มีเชือกระโยงระยางด้านบน มีตู้กระจกใสพร้อมฝักบัวแบบ Rain Shower ข้างใน...
“ที่ฉันนัดประชุมวันนี้ เพราะมีเรื่องจะแจ้งให้ทุกคนรู้ ต่อไปคุณกริชคนนี้จะมาดูแลร้านแทนฉันในระหว่างที่ฉันไปต่างประเทศ เค้ามีอำนาจในการตัดสินใจเท่าฉันทุกประการ สามารถจะรับเด็กใหม่ หรือจะเฉดหัวใครออกก็ได้ สำหรับพวกจัดซื้อ การเงินให้มาเคลียร์กับคุณกริช เพราะเค้าจะเป็นคนเซ็นเช็คให้...มีอะไรจะพูดกับพนักงานมั้ย”  อยู่ดี ๆ ป้าธเนศก็โยนมาให้ผมพูด
“ถ้าใครมีปัญหาอะไรให้พูดกับผมได้ทุกเรื่อง แต่ถ้าผมตัดสินใจไปแล้ว ถือว่าเป็นอันสิ้นสุด ผมไม่ชอบคนเซ้าซี้ หวังว่าเราจะได้ร่วมงานกันได้อย่างราบรื่นนะครับ”
“โอเค แยกย้ายไปเตรียมตัวทำงานกันได้แล้ว”  ป้าธเนศเดินนำลงจากเวทีไปหน้าร้าน
“เจ๊จะกลับเลยเหรอคะ”
“ใช่ ฝากดูแลกริชกับร้านด้วยนะธัญญ่า มีอะไรก็โทรบอกฉันได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ต้องเกรงใจ” 
“หนูจะดูแลให้ดีที่สุดเลยค่ะ”  พี่ธัญญ่ารับปากเสียงหนักแน่น
“ฉันเชื่อว่าแกทำได้นะกริช อย่าทำให้ฉันผิดหวัง”  ป้าดึงตัวผมมากอดแล้วกระซิบเบา ๆ
“ครับ ผมรู้ว่าป้ารักร้านนี้มาก ผมจะไม่ทำให้ป้าผิดหวังแน่นอนครับ” ผมตอบกลับ และกอดป้าแน่น
“ฉันจะเดินทางพรุ่งนี้ ไม่ต้องไปส่งนะ เข้าไปทำงานกันได้แล้ว วันนี้วันศุกร์แขกมาเร็ว”

...ป้าธเนศพูดจบก็เดินหันหลังกลับไป ทิ้งให้ผมยืนนิ่ง สูดลมหายใจเข้าปอดเรียกความมั่นใจ เอาวะ มาถึงขนาดนี้แล้ว ผมต้องทำให้ได้ เพื่อนผมบอกว่ามันเป็นงานที่เกย์หลายคนอาจจะยอมตายเพื่อให้ได้งานนี้ ได้ดูโชว์ฟรี ได้อยู่ท่ามกลางชายหนุ่มในสภาพกึ่งเปลือยทุกวัน คิดซะว่าเราโชคดีที่ได้งานนี้ละกัน ผมยิ้มให้กับตัวเอง และตบบัตรเครดิตไม่จำกัดวงเงินที่อยู่ในกระเป๋ากางเกง...

***************************************************************************************************

เริ่มต้นสีแสดแบบเบาๆ แค่นี้ก่อนนะครับ ตอนต่อไปบาร์ The Butterfly Boy จะมีอะไรมาให้คนอ่านได้เพลิดเพลินกับชีวิตกลางคืนบ้างต้องรอลุ้นกันเร็ว ๆ นี้

MonarcH
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 1 [16/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 16-05-2011 04:49:20
ตอนแรกก็งงว่าทำไมป้าชื่อแมนจัง มิน่า :laugh:
กริชเป็นพระเอกหรือนายเอกละเนี่ย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz ขออนุญาติตั้งเอาไว้ก่อนนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 16-05-2011 04:51:25
มารอเรื่องใหม่ :mc4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่1 [16/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 16-05-2011 05:01:14
ต๊าย ต๊าย เด็กบ้า เล่นอะไรไม่รู้ :z1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา"
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 16-05-2011 05:06:33
รอด้วยคน :mc4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" ประกาศด่วน แจ้งเพื่อทราบ ตั้งใหม่อีกที
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 16-05-2011 05:10:30
 :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนอวสาน ๖ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้าสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: แรงเทียน ที่ 16-05-2011 05:49:05
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน

ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (R E D) "เพลิงกุหลาบ" ขอแปะไว้ก่อนนะคร้าบ
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 16-05-2011 06:08:13
ปักหมุด
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา"
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 16-05-2011 06:12:28
เจิม แอบมาส่อง
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz ขออนุญาติตั้งเอาไว้ก่อนนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 16-05-2011 06:15:07
ปักหมุด
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 1 [16/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 16-05-2011 06:25:39
ตอนแรกก็มันเสียแล้ว
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 1 [16/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: aehJTS ที่ 16-05-2011 10:43:30
โอ้แก้ไขก่อนมันมากกว่าที่เห็นอะ ขอรายงานตัวที่ละเรื่องแล้วกัน

 :pig4: คะ +
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 1 [16/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 16-05-2011 10:57:57
 :กอด1:รอลุ้นตอนต่อไป










หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 1 [16-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 16-05-2011 11:26:26
ตื่นมางัวเงียต้อนรับคนอ่านเหมือนกันครับ  :man1:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 1 [16/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: onjazz26 ที่ 16-05-2011 11:28:53
หุ หุ เรื่องของเรนเจอร์สีแสดก้อน่าติดตาม o13

จงสู้ต่อไป....เรนเจอร์แสดดดด :a9:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 1 [16-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 16-05-2011 11:32:30
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 1 [16-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 16-05-2011 11:40:56
 :z2: แรกมาแล้ววววว รอตอนต่อไปค้าบบบบคุณสีน้ำเงิน
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 1 [16/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 16-05-2011 12:09:52
 :mc4: มาตอนรับตอนแรกของสีแสดครับ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz ขออนุญาติตั้งเอาไว้ก่อนนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 16-05-2011 12:11:40
 :mc4: ต้อนรับสีเขียวด้วยคนครับ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา"
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 16-05-2011 12:12:43
 :mc4: ต้อนรับสีครามด้วยคนครับ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (R E D) "เพลิงกุหลาบ" ขอแปะไว้ก่อนนะคร้าบ
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 16-05-2011 12:13:52
 :mc4: ต้อนรับสีแดงครับผม
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" ประกาศด่วน แจ้งเพื่อทราบ ตั้งใหม่อีกที
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 16-05-2011 12:14:51
 :mc4: อ่านแล้วแต่ก็อ่านอีก สีม่วงสู้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่1 [16/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 16-05-2011 12:16:05
 :mc4: ตอนรับตอนแรกของสีเหลืองครับ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่1 [16/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: MonarcH ที่ 16-05-2011 12:40:19
สีเหลืองออกตัวแรงมาก  :pighaun:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 1 [16-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: MonarcH ที่ 16-05-2011 12:46:57
ไม่ได้อวยกันเองนะ แต่เริ่มตอนแรกก็สนุกแล้ว  :กอด1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" ประกาศด่วน แจ้งเพื่อทราบ ตั้งใหม่อีกที
เริ่มหัวข้อโดย: MonarcH ที่ 16-05-2011 12:53:03
อ่านอีกครั้งก็ยังสนุก หรั่ง อ๊อบ หม่อมเอียด เดี๋ยวเจอกันในสีแสดเร็ว ๆ นี้
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz ขออนุญาติตั้งเอาไว้ก่อนนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 16-05-2011 13:02:34

เล่นอะไรกัน?
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอน แรกพบ 16/25/2011
เริ่มหัวข้อโดย: ภาพฝัน ที่ 16-05-2011 13:06:11
   ภายในสตูดิโอถ่ายภาพ มีแต่เสียงเฟลช เสียงพูดคุย เสียงตะโกนและความเคลื่อนไหว ของ2นายแบบที่ต่างกันสุดขั้ว วริศรินทร์ นายแบบที่มีชื่อเสียงพอสมควรกับภาพลักษณ์ที่ดูมืดมน เขาผู้ที่ไม่เคยยิ้มให้ใครได้เห็นบ่อยนัก รอยยิ้มของเขาเรียกได้ว่าหายาก กับปลายฟ้านายแบบผู้มีภาพลักษณ์ร่าเริงสดใด วริศรินทร์เปรียบเหมือนเทพบุตรที่อยู่ท่ามกลางเงามืด ส่วนปลายฟ้าคือเทพบุตรที่อยู่ท่ามกลางแสงสว่างสดใส  ภาพที่สองคนยืนคู่กันทำให้คนอื่นๆ ไม่สามารถละสายตาออกไปได้

   “ไนท์ เข้าไปใกล้ปลายฟ้าหน่อยครับ แล้วยกมือขึ้นเสยผม ปลายฟ้าหันหลังมาชนหลังไนท์  ไนท์ตามองกล้อง ดีมาก ดูมีพลังมาก” ตากล้องบอกวริศรินทร์ให้เคลื่อนไหวไปตามคอนเซป แม้วริศรินทร์จะไม่ยิ้มแต่ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยเสน่ห์

   “เป็นไงบ้างสำหรับที่นี่ ตาเต” เสียงพูดคุยแผ่วเบาจากมุมหนึ่งในห้องที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย เตชวัฒน์มองใบหน้าที่กำลังเติมเครื่องสำอางค์และเซตฉากใหม่

   “หมายถึงใคร” เขาถามถึงนานยแบบทั้งสองคนที่กำลังทำงาน

   “ทั้งคู่” วุฒิพลผู้บริหารของบริษัท เนไรว่า โปรดักชั่น ถามผู้เป็นหลานที่เขาหมายมั่นปั้นมือจะให้มาแทนที่ตน

   “สำหรับผม ปลายฟ้าดูธรรมดาเห็นได้ดาษดื่น ไม่มีอะไรน่าสนใจ แต่สำหรับอีกคน ภาพลักษณ์แบบนั้นก็ทำให้มีชื่อเสียงได้อีกนะ” เขาหมายถึงวริศรินทร์ที่มีใบหน้าเฉยเมยจนเรียกได้ว่าไร้ความรู้สึกแต่คงเพราะดวงตาที่เพียงแค่ได้เห็นก็รู้สึกว่าโดนดึงดูด

   “นั่น วริศรินทร์หรือไนท์ เป็นนายแบบที่แปลกแต่ก็ถือว่าขายได้ค่อนข้างดีทีเดียว หลายคนชอบภาพลักษณ์ดาคๆ นั่น พูดว่าน้อยคนนักที่จะเห็นไนท์ยิ้ม แต่ก็มีปัญหาเรื่องมนุษยสัมพันธ์ที่ค่อนข้างแย่ ตอนนี้กำลังหาผู้จัดการส่วนตัวให้อยู่”  วุฒิพลอธิบายถึงนายแบบเจ้าปัญหา ที่จริงก็ไม่ถึงกับเรียกว่าเจ้าปัญหาก็แค่มีปัญหาเรื่องมนุษยสัมพันธ์เล็กน้อยเพราะไม่ได้มีนิสัยชอบเหวี่ง ชอบวีน แต่ติดที่จะเฉยเมยมากเกินไปเท่านั้น

   “บอกผมทำไมครับ” เตชวัฒน์ถามผู้เป็นอา

   “ฉันบอกอยู่ว่าจะให้แกดูงานต่อจากฉัน ตาเตแกนี่น้า” วุฒิพลส่ายหน้าอย่างเอือมระอาที่หลายชายตัวดียังคงทำท่าทีเล่นทีจริงอยู่แบบนั้น

   “อาก็จับผมยัดใส่ตำแหน่งไหนสักตำแหน่งให้ผมทำสิครับ” วุฒิพลยิ้มอย่างประจบ ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่าผู้เป็นอาต้องการให้เขาเริ่มต้นที่จุดปกติเพื่อที่จะได้เรียนรู้ทุกอย่างไม่ใช่ไปเริ่มยืนที่จุดสูงสุดทันที

   “ปลายฟ้าละครับ เห็นพูดถึงแต่วริศรินทร์” เขาถามนายแบบอีกคนที่อยูคู่กัน

   “ก็นายแบบปกติหาได้ทั่วไป ปัญหาไม่มีนิสัยดี ก้แค่นั้น อาจจะเรียกว่าดังกว่าไนท์มั้ง” เขาพยักหน้าเข้าใจ พอเห็นสองคนยืนคู่กันแบบนี้แล้วเขาก็พอรู้ว่าทำไมคนที่ดูมืดมนแบบนั้นถึงมีชื่อติดอยู่ในวงการนี้ได้ เพราะเห็นแล้วติดตา สำหรับเขาวริศรินทร์ดูติดตามากกว่าปลายฟ้าที่ดูธรรมดาเหมือนนายแบบทั่วไปที่หาได้ดาษดื่น พวกเขาคุยกันจนการถ่ายแบบจบลง วุฒิพลอาของเขาพาเขาไปแนะนำตัวกับเหล่าสตาร์ฟ และให้ดูแนะนำสถานที่ต่างๆคร่าวๆให้พอจำได้

   “เต ไปรออาที่ห้องที่ห้องเดี๋ยวเรามาคุยกันว่าต่อไปจะให้แกทำอะไร” เขาพยักหน้ารับและเดินจากออกมาเมื่ออาของเขามีคนเรียกให้หยุดคุยด้วย

   เตชวัฒน์ก้าวยาวๆไปตามทางเดินอย่างคุ้นเคยไปห้องทำงานของผู้เป็นอา เขาคุ้นเคยกับที่นี่เพราะอาบอกกับเขาเสมอว่าอยากให้เขามาดูแลแทนอา ทันทีที่ก้าวเข้าไปในห้องเสียงเพลงแผ่วเบาที่คลอมาเบาๆทำใหเขาหันไปหาที่มาของเสียง

   “อยากให้สายลม ช่วยกล่อมให้ฉันตายตาหลับ  ให้ฉันลืมให้หมดทุก ทุกสิ่ง อยากจะฝันดีให้ตื่นมาพบความจริง”

   เมื่อเห็นต้นเสียงเขาต้องตาค้าง เมื่อวริศรินทร์ยืนอยู่บนราวระเบียง เสื้อเชิ้ตสีขาวปลิวสไวด้วยแรงลม กับปลายเท้าที่เดินอยู่บนนั้น

   “อยากจะฝันดี ไม่ตื่น มาพบความจริง”

   เสียงเพลงยังคงดังอยู่ที่ท่อนเดิม กับแขนเรียวยาวที่ยกขึ้นเหมือนจะบินถ้าพลาดเท่ากับว่าของวริศรินทร์จะร่วงลงไปทันที ลงยิ่งพัดแรงขึ้น กับร่างที่เริ่มโงนเงน เขาตัดสินใจก้าวเข้าไปทันที

   “ อยากให้สายลม ช่วยกล่อมให้ฉันตายตาหลับ  ให้ฉันลืมให้หมดทุก ทุกสิ่ง”

   เตชวัฒน์รู้สึกเหมือนร่างของอีกฝ่ายจะร่วงลงไป เขายื่นเขาเข้าไปโอบรัดร่างของอีกฝ่ายเอาไว้จนวริศรินทร์ตกลงมาในอ้อมกอดของเขา

   “คุณ” ดวงตาสีดำใสมองตรงมาที่เขากับใบหน้าที่เฉยเมยเช่นเดิม เขารู้สึกเหมือนถูกดึงดูดเข้าไปในตาคู่นั้น

   “ทำบ้าอะไร” เขาดุอีกฝ่ายหนึ่งอย่างไม่ตั้งใจ เขายังคงรู้สึกใจหายเมื่อคิดว่าร่างในอ้อมแขนนี้จะร่วงลงไปสู้เบื้องล่าง

   “ร้องเพลงไง ไม่ได้ยินเหรอ” เตชวัฒน์ชะงัก เมื่ออีกฝ่ายทำเหมือนไม่รู้เรื่อง เขาจ้องมองอีกฝ่ายอย่างไม่เชื่อ

   “อย่าสนใจอะไรมากนักเลย” เสียงที่ดังติดจะแหบแห้งมากกว่าหวานดังขึ้นมา

   “เกิดคุณตกลงไป” ยังไม่ทันที่จะพูดจบฝ่ามือของอีกฝ่ายแตะเบาที่ข้างแก้ม ตาของทั้งคู่ประสานกันและเขาไม่สามารถถอนสายตาออกจากอีกฝ่ายได้

   “ขอบคุณ” ริมฝีปากนิ่มจนเย็นสัมผัสลงมาแผ่วเบาที่ริมฝีปากของเขาแล้วผละออกไป

   “ปล่อยผมได้หรือยัง” รอยยิ้มบางๆ ที่เห็นทำให้เตชวัฒน์ชะงัก แต่อีกฝ่ายกลับยิ้มปนหัวเราะ แม้จะไม่มากแต่ก็ทำให้เห็นว่าใบหน้าของอีกฝ่ายมีอารมณ์ความรู้สึกไม่ใช่เฉยเมย

   แปะ  

   ฝ่ามือของวริศรินทร์ตบเข้าเบาๆ ที่ใบหน้าเหมือนเตือนให้รู้สึกตัว เขาปล่อยวริศรินทร์ลง อีกฝ่ายไม่พูดอะไรอีก เดินลงไปหยิบเสื้อสูทที่กองอยู่ที่พื้น เสียงเปิดประตูดังขึ้นมาทำให้เขาหันกลับไป

   “รู้จักกันแล้วใช่ไหม” คนที่เขามาคือวุฒิพลอาของเขานั่นเอง

   “ได้คุยกันแล้วนิดหน่อย” คำตอบของเขาทำให้วุฒิพลชะงัก

   “คุยกันแล้วนิดหน่อย” เขายักคิ้วทวนคำตอบของหลานชาย

   “ครับ นิดหน่อย” เขาไม่ได้พูดถึงเหตุการณ์เมื่อสักครู่แค่เพียงส่วนเดียว ความเย็นเฉียบยังติดอยู่ที่ริมฝีปาก พอหันไปก็เห็นวริศรินทร์นั่งอยู่ที่โซฟามุมห้องแล้ว สายตาของอีกฝ่ายเหม่อมองออกไปทางอื่น

   “ไนท์” เขามองดูอาของเขาที่เรียกชื่ออีกฝ่าย แต่ไร้การตอบกลับ กลายเป็นว่าวุฒิพลต้องเดินเข้าไปใกล้แล้วเรียกชื่ออีกครั้ง อีกฝ่ายเหมือนหลุดออกมาจากภวัง วริศรินทร์หันมามองหน้าชายสูงวัยแล้วถึงจะเอ่ยตอบ

   “ครับ” เขาตอบเพียงแค่นั้นเท่านั้น

   “นี่ตาเต หลานชายฉัน จะมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้เธอ” คำเฉลยของวุฒิพลทำให้อีกฝ่ายเอียงคอเพียงเล็กน้อยแต่ใบหน้าไม่แสดงถึงสิ่งใด เขาหันมามองชายหนุ่มอีกคนที่ยืนอยู่ที่มุมห้อง

   “เหรอครับ” คำพูดที่น้อยนิดจนแทบเรียกได้ว่าไม่พูดก็ได้นี่แหละที่ทำให้เตชวัฒน์รู้สึกว่าน่าหนักใจ แล้วอาของเขาทำไมอยู่ๆ ถึงจะให้เขาเป็นผู้จัดการส่วนตัวของอีกฝ่าย ระหว่างที่กำลังคิด ร่างสูงโปร่งของวริศรินทร์ก็จากไปแล้ว

   “คุณอา ทำไม” เขาถามคำถามคาใจทันทีปกติอาของเขามีอะไรจะคุยกับเขาก่อนไม่ใช่มัดมือชกกันแบบนี้

   “ไนท์คุยกับแกใช่ไหมตาเต” เขาพยักหน้ารับ

   “นั่นแหละ คืดคำตอบว่าทำไม ไนท์ไม่พูดกับใคร ขนาดฉันก็พูดเท่าที่เห็น ฉันถึงบอกไงว่ามนุษยสัมพันธ์ไนท์นะแย่ แต่ปัญหาไม่ใช่แค่นั้น ไนท์ยังขายได้อีกมาก แล้วไนท์ก็เป็นเด็กดี” คำพูดของชายสูงวัยกว่าทำให้เขาชะงัก

   “ทำไมคุณอาดูเป็นห่วงเขาจริง”

   “ไนท์เป็นลูกชายเพื่อนของอา และปัญหาใหญ่ของไนท์ที่อาอยากให้แกดูแลนอกจากเป็นผู้จัดการส่วนตัวแล้ว คือห้ามให้ไนท์ตาย” เขาเข้าใจทุกคำพูดแต่ประโยคสุดท้ายนี่สิที่ทำให้เขาชะงัก

   “ห้ามไม่ให้ตาย หมายความว่ายังไง”  เขาไม่เข้าใจทีอาของเขาพูด เข้าใจว่าเป็นผู้จัดการส่วนตัวเกี่ยวอะไรกับห้ามตาย

   “ไนท์พยายามจะตายมาหลายครั้งแล้ว รู้ไหมทำไมไนท์ถึงดังมาได้ ทั้งที่ละครนะไม่ค่อยได้เล่น เล่นแค่ไม่กี่เรื่อง แต่เรื่องที่เล่นก็ทำให้ผู้ชมชอบและติดตามไนท์ เพราะไนท์เล่นแต่หนังบู๊และจะรับแต่งานที่เสี่ยงเท่านั้น ไม้งั้นก็รับแค่งานถ่ายแบบ” เขาพยักหน้าเข้าใจ

   “แต่ปัญหาใหญ่ คือไนท์มักจะพยายามฆ่าตัวตายแบบไม่รู้ตัว” เขาเข้าใจในทันทีภาพเมื่อกี้ที่อีกฝ่ายยืนอยู่บนราวระเบียง พร้อมกับร้องเพลงไปเรื่อยๆ แวบหนึ่งเขารู้สึกเหมือนอีกฝ่ายจะกระโดดลงไป

   “ดูแลไนท์ให้ดี นี่เแป็นงานของแก่ตาเต ถ้าผ่านงานนี้ไปไม่ได้แกก็จะขึ้นเป็นผู้บริหารของ เนไรว่า โปรดักชั่นไม่ได้” นี่คือคำสั่งไม่ใช่การขอร้อง เขาพยักหน้าเข้าใจ แม้ตัวเขาเองจะไม่รู้ว่าคสรจะทำเช่นไรกับวริศรินทร์หรือไนท์กันแน่


...

หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่1 [16/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 16-05-2011 13:24:08
คุณหนูแรงไม่ใช่เล่นนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอน แรกพบ 16/25/2011
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 16-05-2011 13:28:47
จะดราม่าไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอน แรกพบ 16/25/2011
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 16-05-2011 13:29:09
มาอีกคู่แล้ว น่าสนุก น่าติดตาม :L2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" ประกาศด่วน แจ้งเพื่อทราบ ตั้งใหม่อีกที
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 16-05-2011 13:29:57
รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" ประกาศด่วน แจ้งเพื่อทราบ ตั้งใหม่อีกที
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 16-05-2011 13:38:57
รับทราบค่ะ รออ่านตอนต่อไป อย่างใจจดจ่อ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" ประกาศด่วน แจ้งเพื่อทราบ ตั้งใหม่อีกที
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 16-05-2011 13:59:58
อยากอ่านตอน 10 จัง
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่1 [16/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Donald~duck ที่ 16-05-2011 14:00:20
ชอบๆรออ่านตอนต่อไปนะเคอะ

เคะราชินี หนูช๊อบชอบ >\\\<
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอน แรกพบ 16/25/2011
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 16-05-2011 14:07:25
อ่านแล้วให้ความรู้สึกวูบ ๆ วาบ ๆ เหมือนนั่งเครื่องแล้วตกหลุมอากาศแบบนั้น
หายใจไม่ทั่วท้อง  เหมือนได้กลิ่นมาม่าเล็ก ๆ  จากตอนแรกที่นึกว่าจะได้กินแต่ขนมหวาน
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอน แรกพบ 16/25/2011
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 16-05-2011 14:14:20
ตอนแรกนึกว่า 2นายแบบจะได้กันเหอะๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่1 [16/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 16-05-2011 14:27:49
อ่ะจ๊ากกกก  แน่ใจนะว่าสีเหลือง  ไม่ใช่สีแดง
อูยยย  แค่ตอนแรกเลือดก็พุ่งซะแล้ววววว
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 1 [16-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 16-05-2011 14:31:46
สายลมสายนี้อบอุ่นจริงๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 1 [16-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 16-05-2011 14:35:09
ยังสงสารอเล็กซ์ไม่หายอยู่เลย  เฮ้อ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz ขออนุญาติตั้งเอาไว้ก่อนนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: onjazz26 ที่ 16-05-2011 14:35:09
:z2: :z2: :z2:

เข้ามาเต้นต้อนรับสีเขียวครับ

ถึงจะมาแบบกระทันหันแต่มาเต็ม

ขอบคุณแทนคนอ่านเลยครับ  :L2:


และแล้วเหล่าเรนเจอร์ก็เชียร์กันเอง :a1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz ขออนุญาติตั้งเอาไว้ก่อนนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 16-05-2011 14:35:51
เข้ามารอ  อิ อิ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 1 [16/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 16-05-2011 14:42:19
พระเอกหรือว่านายเอกหว่า
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 1 [16-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: อนันตกาล ที่ 16-05-2011 14:42:49
เอะ ได้ข่าวว่า เป้นนายแบบที่หาได้ทั่วไปดาษดื่นจากเรื่องอื่น ทำไมมาเป็นนายแบบดังได้ล่ะ ปลายฟ้า

หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (R E D) "เพลิงกุหลาบ" ขอแปะไว้ก่อนนะคร้าบ
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 16-05-2011 14:44:24
ได้จิ้มไข่นักโพสต์ของเรนโบว์เรนเจอร์อีกคนแล้ววว อิ อิ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอน แรกพบ 16/25/2011
เริ่มหัวข้อโดย: papa ที่ 16-05-2011 14:47:42
น่าติดตามากก แต่กลัวมาม่าจริง ๆ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 1 [16/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: papa ที่ 16-05-2011 14:57:40
รอลุ้น จะเป็นพระเอกหรือนายเอก   :m3:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอน แรกพบ 16/25/2011
เริ่มหัวข้อโดย: k_sleepless ที่ 16-05-2011 14:57:59
ภารกิจยิ่งใหญ่ห้ามคนอยากตายไม่ให้ตาย...แล้วจะทำไงหว่า????? ลุ้นๆๆๆๆๆๆๆ >.<
เป็นกำลังใจให้นะฮับ >.<
ปอลอลิง เจอกันครั้งแรกก็จุ๊บๆกันแล้ว  :-[
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 1 [16-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 16-05-2011 15:53:21
อ่านะ อนันตกาล เอาซะเม้นตอบไม่ถูกเลย  :serius2:

iforgive --- ปลายฟ้าผมไม่เกี่ยวกับคดีอเล็กซ์นะครับ  :sad4:

iamnan --- สายลมที่แสนอบอุ่นกำลังพัดผ่านทุกคนครับ

MonarcH --- ขอบคุณคร้าบ  :-[

Cha Ris Ma --- เร็วๆนี้ครับ

roseen ---  :กอด1: :กอด1: :กอด1: (กอดนานกว่า หุหุ)

ติดตามตอนที่สองได้เร็วๆนี้ครับ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอน แรกพบ 16/25/2011
เริ่มหัวข้อโดย: Giniz ที่ 16-05-2011 16:04:49
เรื่องนี้น่าสนใจมาก
ภารกิจรักษาชีวิตไนท์ดูน่าตื่นเต้นดีเนอะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 1 [16-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 16-05-2011 16:08:50
มีปมทั้งคู่เลย แต่ว่า อเล็กซ์ กับ ฟ้า จะใช่คู่พระนางเรื่องนี้หรือเปล่าอ่ะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่1 [16/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Mookkun ที่ 16-05-2011 16:10:22
อร๊างงงงงงง !!~~
ทามมายช่วงนี้มีแต่คนตัดฉับนะ  :monkeysad:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 1 [16/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: Giniz ที่ 16-05-2011 16:16:01
เข้ามานั่งรอติดขอบเวทีบาร์เกย์
ถ้ามีภาพประกอบด้วยจะดีมาก กร๊ากกกก!!!  :haun4:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 1 [16/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 16-05-2011 16:29:58
นั่นสิ ผมก็อยากรู้ว่าเป็นพระเอกหรือนายเอกกันแน่

เริ่มเรื่องก็เริ่มสนุกเลยครับ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 1 [16/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 16-05-2011 16:33:49
เย้ ๆ ได้เที่ยวบาร์เกย์แล้ว  :z1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอน แรกพบ 16/25/2011
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 16-05-2011 16:34:23
ปลายฟ้าผม กลายเป็นหาได้ตามตลาดไปเลย

ภาพฝัน ทำร้ายน้องฟ้าผม  :o12:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 1 [16-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: Giniz ที่ 16-05-2011 16:43:55
อ่านเรื่องนี้เจอพี่สายลมเข้าไป บรรยากาศมันดูอุ่นๆ ละมุนดีเนอะ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 1 [16/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 16-05-2011 16:44:39
จะกินเด็กในร้านหรือจะโดนกินเอง;)
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอน แรกพบ 16/25/2011
เริ่มหัวข้อโดย: k_sleepless ที่ 16-05-2011 16:54:12
^
^
^
กั๊กๆๆๆๆๆๆๆๆ มีเข้ามาตัดพ้อต่อว่ากันด้วย หุหุหุหุ....แล้วเรื่องนู้นอิมเมจไนท์จะเป็นยังไงน๊าาาาาาาาา...แอบย่องไปดูดีกว่าาาาาาา กิกิ
ปอลอลิง อ่านพร้อมกันสองเรื่องก็จะได้เห็นมุมมองสองด้าน
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่1 [16/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Giniz ที่ 16-05-2011 16:54:22
เอาไปสั้นๆ คำเดียว "ค้าง!!!"  :z3:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่1 [16/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: papa ที่ 16-05-2011 16:58:04
น่าติดตามมากก  มาต่อเร็วๆ น้า   
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 1 [16-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 16-05-2011 17:45:40
เข้ามาเจิมครับ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอน แรกพบ 16/25/2011
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 16-05-2011 17:55:14
จะดราม่าไหมเนี่ย ไนท์เป็นไงอ่าทำไมถึงคิดที่จะตายง่ามีความหลังอะไรหรอ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 1 [16-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 16-05-2011 18:03:51
เอะ ได้ข่าวว่า เป้นนายแบบที่หาได้ทั่วไปดาษดื่นจากเรื่องอื่น ทำไมมาเป็นนายแบบดังได้ล่ะ ปลายฟ้า



อืมเราเห็นด้วยไปอ่านเรื่องอื่นมา ปลายฟ้าเนี่ยไหนว่ามีอยู่เยอะ เอ่อ มาอ่านอันนี้กับเป็นนายแบบดังเฉยอ่ะ

เรื่องนี้เราเชียร์พี่สายลมค่า

ปล.ไรเตอรเก่งจริงๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่1 [16/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 16-05-2011 18:06:17
เธอแรงค่ะ  ราชินีจริงๆ ชอบ อิอิ :z1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่1 [16/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 16-05-2011 18:23:16
น่าติดตามครับ

คงจะแรงไม่ใช่น้อย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอน แรกพบ 16/25/2011
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 16-05-2011 18:34:06



 :mc4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz ขออนุญาติตั้งเอาไว้ก่อนนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 16-05-2011 18:36:35
เจิมสีเขียว อิอิ :mc4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่1 [16/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: how to ที่ 16-05-2011 18:37:07
เล็กพริกขี้หนูจริงๆ  :z1:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (R E D) "เพลิงกุหลาบ" ขอแปะไว้ก่อนนะคร้าบ
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 16-05-2011 18:38:29
สีแดงร้องแรงดั่งเพลิงพรหม เจิมๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่1 [16/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 16-05-2011 18:47:35




 :L2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่1 [16/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 16-05-2011 20:08:17
โอ้พระเจ้า....เด็กอะไรแรงได้ใจจริงๆ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (R E D) "เพลิงกุหลาบ" ขอแปะไว้ก่อนนะคร้าบ
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 16-05-2011 20:11:58
เรนเจอร์สีแดงมาแล้ว
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz ขออนุญาติตั้งเอาไว้ก่อนนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 16-05-2011 20:21:26
เรนเจอร์สีเขียวมาแล้วด้วย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอน แรกพบ 16/25/2011
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 16-05-2011 20:25:36
เรนเจอร์สีครามมาเปิดตัวแล้ว
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 1 [16/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 16-05-2011 20:28:31
เรนเจอร์สีแสดสู้ๆ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (R E D) "เพลิงกุหลาบ" ขอแปะไว้ก่อนนะคร้าบ
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 16-05-2011 21:08:37
ออกตัวมาพร้อมกันหลายคนกับขบวนการสีรุ้ง
รอตอนแรกอยู่นะค่ะ
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 1 [16/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 16-05-2011 21:21:11
นั่งรอติดขอบ เรนเจอร์สีแสด...
เปิดเรื่องได้สุโค่ยมากกกกก
รอตอนต่อไปค่ะ
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 16-05-2011 21:23:00
 
(http://img28.mediafire.com/b6f242d94a346b9095740bdfdd1f8ac23fc115dbd2c7ec5da35aca98f1eb05c75g.jpg)
 
ตอนที่สอง "เพื่อนรัก"
 
แสงแฟลชจากกล้องถ่ายรูปวูบวาบเป็นระยะ ๆ เมื่อนักข่าวบันเทิงจากทุกสื่อต่างเข้ามาแย่งถ่ายรูปในวันสำคัญวันนี้ ด้วยเป็นวันเปิดกล้องพร้อมแถลงข่าวการถ่ายทำภาพยนตร์ เรื่องใหม่ยิ่งใหญ่แห่งปี ที่ทุมทุนสร้างมหาศาล อำนวยการสร้างโดย บริษัทภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่ของวงการ ภายใต้การกำกับและดูแลโดยหม่อมเอียด นักแสดงนำและนักแสดงสมทบจึงมารวมกันคับคั่งครบทุกตัวคน นักข่าวต่างพากันแย่งสัมภาษณ์นักแสดงจนดูวุ่นวาย แต่เมื่อพิธีกรกล่าวเชิญผู้สื่อข่าวให้เข้ามานั่งยังเก้าอี้ที่ได้จัดเตรียม เอาไว้ ความโกลาหลจึงสงบลง
หลังจากช่วงเวลาของพิธีการผ่านพ้นไปความวุ่นวายก็กลับมาเยือนอีกครั้ง แต่ก็กินเวลาไม่มากนัก ด้วยเป็นเพราะนักข่าวต่างรุมสัมภาษณ์ด้วยการยิงคำถามกับนักแสดงเป็นราย ๆ ไปอย่างพร้อมเพรียงในคราวเดียวกัน จนในที่สุดก็ถึงเวลาพักรับประทานอาหารว่างที่ทางทีมงานได้จัดเตรียมรอไว้  อเล็กซ์ ที่เหน็ดเหนื่อยจากการถูกกลุ้มรุมปลีกตัวแยกออกมาหาเครื่องดื่มที่มุมกาแฟ เขาเดินเข้าไปยืนข้างชายหนุ่มร่างเล็กคนหนึ่ง โดยที่อีกคนยังมิได้สังเกตเห็นถึงการมาของเขา มือหนาเอื้อมไปคว้าหยิบถ้วยกาแฟที่คว่ำรออยู่ แต่ก็พลาดไปฉวยเอามือของคนด้านข้างที่กำลังเอื้อมมาจับถ้วยกาแฟใบเดียวกัน ไว้ได้เสียก่อน
“ขอโทษครับเชิญคุณก่อน” อเล็กซ์ทำได้แต่เพียงกล่าวขอโทษเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงนุ่มหูแบบสุภาพ พลางหันไปมองหน้าของเจ้าของมือนุ่มนั้นเต็มตาก่อนจะร้องเรียกด้วยความยินดี และเอามือออกจากมือของอีกคน
“หน่อง! หน่องใช่ไหม! เป็นหน่องจริง ๆ ใช่ไหม?” อเล็กซ์ร้องถามละล่ำละลัก
คนตรงหน้าได้แต่ทำหน้ายุ่งมองมาแบบสงสัย ว่าดาราหนุ่มรู้จักตนเองได้อย่างไร แต่เมื่อมองไปได้สักครู่ ความทรงจำเก่า ๆ ที่แสนเลือนรางก็กลับเด่นชัดขึ้นมาแทบจะทันที ภาพวงหน้าของเด็กชายเพื่อนสนิทในวัยเยาว์ซ้อนทับกันได้พอดิบพอดีกับดาราหนุ่มตรงหน้า ก่อนจะเปล่งเสียงร้องเรียกออกมาอย่างตื่นเต้นระคนดีใจ
“หรั่ง! หรั่งจริง ๆ ด้วย หน่องจำแทบไม่ได้เลย... ไม่คิดว่าหน่องจะได้มาเจอกับหรั่งอีกนะนี่” 
 
 
หลังจากที่ได้ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันพอประมาณ ทั้งสองก็พากันปลีกตัวไปพูดคุยอย่างออกรสอยู่ในบริเวณสวนนอกห้องจัดเลี้ยง โดยเลือกม้านั่งซึ่งถูกจัดวางไว้ริมบ่อปลาข้างสถานที่จัดงานเป็นมุมส่วนตัว เพื่อระลึกความหลังและรับรู้ความเป็นไป ของกันและกัน ภายใต้บรรยากาศของละอองน้ำฉ่ำเย็นจากน้ำพุในบ่อ และความร่มรื่นเขียวขจีของแมกไม้ในสวนซึ่งสร้างความอิ่มเอมแก่ทั้งคู่ จนเวลาผ่านมาได้ครู่ใหญ่ อ๊อบที่เดินตามหาอเล็กซ์มาซะทั่วงานก็เข้ามาถึงยังบริเวณที่เพื่อนทั้งสองคน นั่งคุยอยู่ก่อนแล้ว
“อเล็กซ์ มาอยู่นี่เอง แล้วทำไมมานั่งอยู่นี่ได้ล่ะ” อ๊อบก้าวพรวดเข้ามาพร้อมกับยิงคำถามใส่ตามวิสัยใจร้อนของเจ้าตัวแล้วก็ต้อง ชะงัก เมื่อเห็นอีกคนที่นั่งอยู่ด้วยกันกับอเล็กซ์พลางขมวดคิ้วส่งแทนคำถามไปยัง เด็กในสังกัด
“พี่อ๊อบ... นี่หน่องเพื่อนผมเอง ไม่ได้เจอกันมานานหลายปีแล้ว หน่อง... นี่พี่อ๊อบผู้จัดการเราเอง” อเล็กซ์กล่าวแนะนำทั้งสองฝ่ายให้รู้จักกัน
“สวัสดีครับพี่อ๊อบ... ผมเป็นเพื่อนสมัยเด็ก ๆ ของหรั่งครับ” คนตัวเล็กได้แต่กล่าวทักทายพลางกระพุ่มมือไหว้คนตรงหน้า ก่อนจะหยิบนามบัตรในกระเป๋าส่งไปให้คนอายุมากกว่า
“สวัสดีจ้ะ” อ๊อบที่ได้แต่ทักทายกลับตามมารยาท กลับต้องตาโตเมื่อเห็นว่า กระดาษใบเล็กในมือนอกจากจะระบุชื่อ  นิวัฒน์ แก่นกำภู  และเบอร์โทรศัพท์ ยังระบุตำแหน่งของคนตรงหน้าว่าเป็นผู้สื่อข่าวบันเทิงของนิตยสารชั้นดีใน เครือสื่อสิ่งพิมพ์ยักษ์ใหญ่อันดับต้น ๆ ของประเทศอีกด้วย
“แหมอเล็กซ์ มีเพื่อนเป็นนักข่าวสายบันเทิงก็ไม่เคยบอกพี่สักนิดเลยนะเรา” อ๊อบทำทีแสร้งเป็นต่อว่าไปให้อเล็กซ์แบบเสียไม่ได้ แต่กลับส่งยิ้มประดิษฐ์หวานไปให้กับหน่องแบบเต็มใจ และหน่องเองก็จับสังเกตในกิริยานั้นได้
“ถ้างั้นพี่ฝากหนูเขียนเชียร์อเล็กซ์ให้พี่หน่อยได้ไหมคะ คนกันเองนะคะ ถือว่าช่วย ๆ กันทำมาหากิน แล้วนี่ได้สัมภาษณ์กันไปบ้างรึยังคะ เดี๋ยวพี่จะได้นัดสัมภาษณ์แบบส่วนตัวให้นะคะ เอาเป็นสักวันศุกร์นี้ก็ได้นะคะ อเล็กซ์เค้าว่างพอดี ส่วนเวลากับสถานที่เดี๋ยวพี่ให้อเล็กซ์เค้าโทรไปบอกตามเบอร์ในนามบัตรนะคะ” อ๊อบจีบปากจีบคอบอกระรัวตามแบบของตัวเอง
“ได้ครับพี่ เดี๋ยวผมจะไปตามนัดนะครับ แต่วันนี้ผมขอถ่ายรูปหรั่งเอาไว้ก่อนนะครับพี่ วิวแถวนี้สวยดีด้วย” หน่องบอกพลางคว้ากล่องถ่ายรูปคู่มือจากกระเป๋าที่วางเอาไว้บนเก้าอี้ข้างตัว ขึ้นมาปรับโฟกัส แล้วกดชัตเตอร์เก็บภาพเพื่อนเก่าบันทึกลงในเมมโมรี่การ์ดของกล้อง
“มา ๆ เพื่อนสองคนไม่ได้เจอกันนาน มา... พี่จัดให้นะคะ น้องยืนข้าง ๆ อเล็กซ์นะ... เดี๋ยวพี่ถ่ายให้” อ๊อบบอกพลางเจ้ากี้เจ้าการจัดท่าทางให้ทั้งสอง ก่อนจะแบมือขออุปกรณ์ถ่ายภาพจากมือของหน่องมากดบันทึกภาพของทั้งสองคนไปเสีย หลายรูป แล้วจึงส่งกล้องคืนกลับมาให้ผู้เป็นเจ้าของ
“เอาไว้วันศุกร์เราเจอกันใหม่นะคะ พี่ขอบคุณมากเลยค่ะ” อ๊อบบอกพลางกระพุ่มมือไหว้ด้วยความเคยชินจนคนถูกไหว้รับไหว้แทบไม่ทันจึง ต้องร้องบอก
“พี่ครับ...ไม่ต้องไหว้ก็ได้ครับ ผมขอบคุณมากนะครับ แล้วเราเจอกันวันศุกร์นะครับ... สวัสดีครับพี่” หน่องละล่ำละลักบอกพลางกระพุ่มมือไหว้คนอาวุโสกว่า
“จ้า... วันนี้อเล็กซ์ไม่มีคิวงานที่ไหนแล้วนะคะ เชิญตามสบายเลยค่ะคุณน้อง”  อ๊อบบอกพลางหันหลังเดินจากไปช้า ๆ
เพื่อนทั้งสองใช้เวลาพูดคุยกันต่ออีกสักพักก็แยกย้ายจากกันโดยไม่ลืมที่จะแลกเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวของกันและกันเอาไว้เรียบร้อย
 
 
"แม่ครับ ทายสิว่าวันนี้หน่องไปเจอใครมา" หน่องโผกอดแม่ที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวยาวในห้องนั่งเล่นแทบจะทันทีที่เห็นหน้า ก่อนจะเอ่ยถาม พลางเอาศีรษะถูบริเวณต้นแขนของผู้เป็นมารดาอย่างออดอ้อน
"แม่จะรู้ได้ยังไงล่ะ ไอ้ลูกคนนี้... แม่ไม่ได้ไปด้วยเสียหน่อย" คนเป็นแม่ไม่เพียงแต่เลี่ยงตอบคำถามกลับกอดรัดฟัดหอมสองแก้มของหน่องไปเสีย หลายฟอด
"หน่องถึงให้แม่ทายไงครับ" หน่องบอกพลางหัวเราะร่า
"บอกแม่มาเถอะ... แม่ไม่อยากทายแล้วจ้ะ" สุมาลีบอกพลางเอามือลูบเรือนผมนุ่มบนศีรษะของลูกชายอย่างแผ่วเบา
"แม่จำวันที่ไปรับหน่องมาอยู่ด้วยได้ไหม... ที่เพื่อนหน่องวิ่งร้องไห้ตามมาส่งหน่องจนรถของแม่กับพ่อพ้นประตูรั้วน่ะครับ" หน่องบอกพลางเอนตัวลงเอาหัวไปหนุนตักและนอนจ้องไปที่แม่ด้วยดวงตาเป็นประกาย
"เพื่อนหน่องที่ชื่อ... หรั่งใช่ไหม แหมผ่านมาเป็นสิบปี ยังได้มาเจอกันอีกนะลูก ถือเป็นโชคดีของทั้งสองคนเลยนะที่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง... แล้วเจอกันได้ยังไงล่ะ" สุมาลีบอกพลางยิ้มหวานส่งให้ก่อนซักถามที่มาที่ไป
"วันนี้หน่องไปทำข่าวข้างนอก เป็นงานเปิดตัวเปิดกองถ่ายหนังใหม่ของหม่อมเอียดครับ แล้วหน่องก็ไปเจอกับหรั่งที่นั่น แต่แม่รู้ไหม... ตอนนี้หรั่งเค้าเป็นดาราแล้วนะแม่ ถึงจะเป็นแค่พระรอง... แต่อีกหน่อยหน่องว่าหรั่งต้องได้เป็นพระเอกเต็มตัวแน่ ๆ เลยแม่" ชายหนุ่มเล่าพลางยิ้มตอบมารดาของตน
"ดีจัง... แม่ดีใจด้วยนะ แล้วแม่จะไปดูนะครับ แต่ตอนนี้ แม่ต้องไปทำกับข้าวก่อนแล้ว... เดี๋ยวพ่อเราเขากลับมาจะมาว่าแม่ว่าไม่ทำอาหารเย็นเอาไว้ให้ แล้วลูกหิวรึยังล่ะหน่อง" สุมาลีบอกพลางเอาหมอนอิงซุกไปใต้ศีรษะลูกชายก่อนจะกระถดตัวลุกขึ้นยืนขณะที่ ถามด้วยความเป็นห่วง
"ยังไม่หิวครับแม่ หน่องรอกินพร้อมพ่อดีกว่า" 
ลูกชายตอบพร้อมกับสำทับว่ารอผู้เป็นบิดา ด้วยรู้ดีว่าอีกไม่นานก็คงจะกลับมาถึง เพราะพ่อของเขาไม่เคยกลับถึงบ้านค่ำมากนัก หากไม่ได้โทรมาบอกล่วงหน้ามักจะกลับมากินข้าวพร้อมกันทุกวันอยู่เสมอ เมื่อลูกชายบอกมาแบบนั้นคุณสุมาลีจึงลุกไปเตรียมอาหารมื้อเย็นไว้รอท่า ในเมื่อตอนนี้ก็ใกล้จะได้เวลากลับของหัวหน้าครอบครัวด้วยเช่นกัน
 
 
"เป็นไงเรา... ทำงานมาได้จะครึ่งเดือนแล้ว ได้เขียนข่าวจริง ๆ กับเขามั่งหรือยัง" ผู้เป็นพ่อถามลูกชายระหว่างมื้อค่ำบนโต๊ะอาหาร
"หน่องเขียนแล้วนะครับพ่อ เดี๋ยวพรุ่งนี้หน่องเอาไปส่งให้ บก.ดูก่อน... แต่ข่าวนี้รับประกันว่าต้องได้ลงพิมพ์กรอบบ่ายพรุ่งนี้แน่ ๆ" เจ้าตัวตอบบิดาพร้อมสำทับด้วยความแน่ใจว่าข่าวที่เขาเขียนจะต้องได้พิมพ์ลง หนังสือ เพราะเป็นข่าวใหญ่ข่าวหนึ่ง
"มั่นใจจริงนะเรา ไปทำข่าวอะไรมาล่ะ" คนเป็นพ่อถามกระเซ้า พร้อมกับหัวเราะถูกใจ
"ก็ข่าวเปิดกล้องหนังของหม่อมเอียดไงครับ ข่าวใหญ่ขนาดนั้น... ยังไงเค้าก็ต้องเอาของหน่องลงอยู่ดีแหละครับ" ชายหนุ่มตอบเฉลยพร้อมหัวเราะร่าให้กับบิดา ก่อนจะเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
"วันนี้นะ... พ่อรู้ไหมว่าหน่องไปเจอใครมาด้วยล่ะพ่อ"
"ก็ไปเจอหม่อมเอียดกับดาราน่ะสิ... ไอ้ลูกคนนี้นี่ถามแปลก ๆ" บิดาตอบกลั้วหัวเราะพลางยกยิ้มยั่วกลับไปให้ลูกชาย
"โหพ่อ... ตอบแบบนี้แล้วหน่องจะไปต่อถูกไหมนั่น  คืออย่างนี้พ่อ... พ่อจำวันที่ไปรับหน่องมาอยู่ด้วยได้ไหมครับ เพื่อนหน่องคนที่วิ่งร้องไห้ตามหลังรถพ่อมาส่งหน่องไงครับ"
"เอ... เพื่อนหน่องคนนั้น... แต่ผ่านมาหลายปีแล้วนะหน่อง พ่อจำชื่อไม่ได้แล้วนะ" ผู้เป็นบิดาตอบจริงจังพลางหยุดยิ้มและหันไปมองหน้าของบุตรชายช้า ๆ อย่างตั้งใจฟังความต่อ
"หรั่งไงครับพ่อ ตอนนี้หรั่งเค้าเป็นดาราแล้ว... เป็นพระรองด้วย เล่นประกบพระเอกดังในหนังของหม่อมเอียดด้วยนะพ่อ... หน่องมีเพื่อนเป็นดารานะพ่อ" เจ้าตัวตอบพลางหัวเราะร่าและรอยยิ้มเต็มหน้าไปให้บิดา
"อ้าว... อย่างนี้ก็ขอสัมภาษณ์ตัวต่อตัวลงสกู๊ปพิเศษเลยสิ ในฐานะดาราเพื่อนของนักข่าว" อธิปกล่าวกระเซ้าเย้ายั่ว
"หน่องนัดไว้แล้วครับ... วันมะรืนนี้แหละ ยังไงพรุ่งนี้เช้าหน่องก็ต้องไปบอก บก.ที่ออฟฟิศก่อนอยู่ดี" หน่องคลี่ยิ้มบอกอย่างภาคภูมิใจที่ตัวเองได้โอกาสนำเสนองานสำคัญ
 
 
อเล็กซ์กำลังนอนแช่ในอ่างน้ำอุ่นที่มีฟองครีมขาวละเอียดของครีมบาธหอม ฟุ้งไปทั่วทั้งห้องปกคลุมตัวอยู่ ชายหนุ่มนอนหลับตาพริ้มอย่างเป็นสุข เพราะสายน้ำและกลิ่นหอมช่วยผ่อนคลายความเมื่อล้าของร่างกายได้เป็นอย่างดี ประกอบกับในวันนี้ เขาดีใจที่ได้เจอเพื่อนรักซึ่งห่างหายจากกันไปเป็นสิบปี ด้วยนับจากวันที่เพื่อนรักจากไปเขาทั้งสองก็ไม่ได้พบเจอกันอีกเลย และไม่เคยได้ข่าวของกันและกันแม้แต่น้อย วันนี้เขามีความสุข หัวใจพองฟูจนคับอก และเป็นหนึ่งในเรื่องน่ายินดีเรื่องหนึ่งของเขา จนอดไม่ได้ที่จะเผลอยิ้มออกมาคนเดียว
ในวันนี้เขาเหมือนได้วันเวลาเก่า ๆ ที่เลือนหายไปกลับคืนมาอีกครั้ง พรุ่งนี้เขาจะโทรไปชวนหน่องให้มาที่บ้านของเขา คอนโดที่เขาอยู่ เพื่อจะได้นัดสัมภาษณ์ให้เรียบร้อย แต่ที่จริงแล้ว มันเป็นข้ออ้างที่จะได้ทำให้เขากับเพื่อนได้เจอกันอีกครั้งเท่านั้นเอง 'แบบนี้ต้องฉลอง' เมื่อคิดได้ เขาก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกับกดระบายน้ำในอ่างออกก่อนเปิดฝักบัวให้สายน้ำเย็นจัด ไหลรดลงบนร่างเพื่อชะล้างฟองครีมนุ่มจนหมดจดจึงปิดน้ำแล้วคว้าเอาผ้าเช็ดตัวมาซับตัวจนแห้ง ก่อนจะแต่งตัวแล้วผลุนผลันออกไปหาความสำราญยามค่ำคืน
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" ประกาศด่วน แจ้งเพื่อทราบ ตั้งใหม่อีกที
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 16-05-2011 21:38:01
ได้อ่านไปถึงตอนล่าสุดแล้ว  แต่ก็ยังเข้ามาอ่านอีก  ก็ยังรู้สึกเหมือนเดิมเลย  :m15:
ลืมบอกไป  ภาพดอกบัวสีม่วง สวย ลึกลับ ยะเยือก เข้ากับเนื้อเรื่องสุด ๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 2 เพื่อนรัก
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 16-05-2011 22:01:48
เจอกันแล้ว
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (R E D) "เพลิงกุหลาบ" ขอแปะไว้ก่อนนะคร้าบ
เริ่มหัวข้อโดย: แรงเทียน ที่ 16-05-2011 22:11:03
ตอนที่ ๑
กุหลาบหนึ่งสีแดงดุจเปลวเพลิงกลีบดอกแย้มงามต้องตากลิ่นหอมยั่วยวนวาบหวามใจ ครั้นหากแม้นผู้ใดเพิ่งพิศพิจารณาประหนึ่งดังต้องมนต์กุพชกะไม่อาจถ่ายถอน แลหากใครได้ครอบครองลุ่มหลงสิเน่หามิรู้ลืม กุหลาบอีกหนึ่งสีแดงอมม่วง ยั่วยวนด้วยกลิ่นหอมพิศดารไม่พานพบ กลิ่นหอมประหลาดดังกลิ่นของราตรีกาลในคืนที่ดาราฉายแสงระยับพราว กลีบดอกสีเข้มดูลึกลับแต่กลับดึงดูดผู้ได้พบเห็น แข็งแกร่งดังภูผาแต่อ่อนนุ่มตาเหมือนเช่นแพรไหมหุ้มห่อศิลาอาสน์ อันกุหลาบงามสองดอกย่อมไม่พึงใจแบ่งปันแจกันทอง อันดอกไม้งามเลอค่าจะอยู่ในที่เดียวกันนั้นย่อมแข่งขันชูช่อผลิบานไม่มีดอกไหนยอมน้อยหน้าซึ่งกันและกัน แม้นภมรผู้ปีกเงินระยับบินถวิลหาหวังจะเชยชมความงามของกุหลาบนั้นยังชั่งใจ ทางซ้ายก็งามระยับจับตา ขวาก็งามบาดจิต ยิ่งเพ่งยิ่งพิศตัดใจเลือกดอกไหนไม่ได้เลย ภู่ภมรยังหนักใจแลไปทางใดก็ใจต้องปรารถนา กุหลาบนั้นแม้จะงามน่าพิศวาสเพียงใดรู้หรือไม่ว่าความงามนั้นแฝงไปด้วยมนต์มายา ภาพหลอนลวงหลอกตายยอมรบราเพียงเพื่อได้ของรักดังดวงใจปอง พิษกุหลาบร้ายกว่าความงามที่ฉาบไว้ภายนอกนัก หนามแหลมคมก็ไม่ได้มีไว้เพียงเพื่อป้องกันศัตรูที่คอยมารุกรานแต่พร้อมทุกเมื่อที่จะทำลายคนที่เป็นเหมือนขวากหนามให้ยอมหลบหลีกไป พิษกุหลาบแม้นหากใครต้องพิษความทุกข์ทรมานไม่อาจหายภายในช่วงเวลาแค่ข้ามรุ่ง แต่ความเจ็บปวดรวดร้าวนั้นแผ่ซ่านไปทั่วทุกผู้ ทุกคนที่หมายปองฝังลึกตราตรึงไปตราบนานแสนนาน
ทำไมมนุษย์เราต้องมีความรักเคยสงสัยไหม ความรักที่ใครต่อใครมองว่ามันสวยงาม มันงดงามไม่มีใครแย้ง แต่เคยมองความรักในอีกแง่มุม มุมที่เราต่างมองข้ามมันไป มุมอับที่มืดสนิทไม่มีแม้แสงใดส่องเข้าถึง มุมๆนั้นมีกิเลสเป็นผู้ยึดครอง ความรักเคลื่อนได้แม้หินผา หากมีรักแล้วไม่ว่าเรื่องใหญ่แค่ไหนก็ไม่เคยหวั่นไหวยอมต่อสู้ฟันฝ่าเพื่อให้ได้ซึ่งรักนั้นมา ให้ครองไว้ซึ่งรักนั้นนิรันดร เพียงเพื่อให้ได้ครอบครองอย่างที่ใจปรารถนา ไม่ว่าการได้มานั้นจะทำให้ใครอื่นรายล้อมบอบช้ำสักเท่าใด เมื่อรักพลางตา มนต์รักบังใจพร้อมจะทำแม้เรื่องที่ร้ายแรงหรือเลวร้ายที่สุดเพียงเพื่อให้ได้มาซึ่งเขา เขาผู้ซึ่งเป็นที่หมายปองของใครหลายคน และการที่จะได้ครอบครองเขานั้น สงครามกุหลาบจึงบังเกิด
“ทาน ลงเครื่องกี่โมงเหรอคะเมื่อคืน”
สาวสังคมแสนสวยปราดเปรียวทุกย่างก้าวของเธอคือความมั่นใจ ทุกอิริยาบถคือการจับจ้องมองดูของผู้ที่ได้พบเห็น ความงามที่ลงตัวหาที่ติได้ยาก มณีอารียา คือชื่อของเธอ
“อ้อ เมย์ เมื่อคืนถึงคอนโดฯก็ตีสามแล้วล่ะ เลยไม่ได้โทรฯหา คิดถึงเมย์จังเลย”
“ทาน”
อีกเสียงหนึ่งดังขึ้นด้านหลัง เขาเพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ สถานที่นัดพบคือล็อบบี้ของโรงแรมที่เรียกตัวเองว่าห้าดาวใจกลางเมืองย่านแยกราชประสงค์ เสียงนั้นคลางแคลงใจยิ่งนัก เขาก้าวออกมายืนเคียงข้างชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งดูกำยำ ใบหน้าดุจเทวดาเสกสรรปั้นแต่ง ผิวของเขาละเอียดขาวนวลตา
“ใครคะทาน, ใครทาน”
ทั้งสองเสียงเอ่ยขึ้นพร้อมกัน ชายหนุ่มรูปงามอึกอักทันที มองหญิงสาวทีหนึ่งแล้วหันมามองชายหนุ่มที่งามไม่แพ้กันอีกทีหนึ่ง
“เอ่อ นี่เทียน พะ เพื่อนทานเอง นี่เมย์ คู่หมั้นของเรา”
“คู่หมั้น”
เทียนบุญร้องขึ้นเสียงสูง หน้าตาซีดเผือดลง สายตาตำหนิติเตียนธรรมทานอย่างรุนแรง
“เรามีเรื่องต้องคุยกันนะทาน”
เสียงเข้มจิกสายตา
“เดี๋ยวก็จะไปทานข้าวด้วยกันนี่คะ ค่อยคุยกันก็ได้นี่ หรือว่ามีความลับอะไร”
หญิงสาวไม่ใช่คนสวยแต่รูปไร้สมองแต่อย่างใด เธอสังเกตดูพฤติกรรมและปฏิกิริยาของทั้งคู่อยู่ไม่วางตา
“เรื่องส่วนตัวน่ะ”
เทียนบุญจิกสายตามาทางมณีอารียา
“อ้อ เหรอคะ ได้ค่ะ ถ้างั้นเมย์ไปรอตรงโน้นนะคะทาน”
หญิงสาวแสยะยิ้มออกมา แต่ภายในใจเต้นระรัว นี่มันเกิดอะไรขึ้น พยายามสะบัดความคิดในสิ่งที่เธอคิดคาดเดาไปเองออกไปให้พ้นจาหัว มันไม่มีทางเป็นเช่นนั้น ไม่มีทาง
“ทำไมทาน ทำไมทานไม่เคยบอกเทียนเลย”
พอลากแขนของธรรมทานเข้าไปในห้องน้ำ เทียนบุญก็ผลักหน้าอกของธรรมทานเซไปชนผนังห้องน้ำทันที
“เอ่อ เรา เราว่าจะบอกเทียนอยู่เหมือนกัน”
“จะรอถึงเมื่อไหร่ อีชะนีนั่นมันเป็นคู่หมั้นของทานเหรอ ทำไมทาน แล้วเทียนล่ะ เทียนเป็นใคร”
“ใจเย็นก่อนสิเทียน เรามีเหตุผลนะ”
“เหตุผลอะไรทาน ที่ผ่านมามันหมายความว่ายังไง เทียนเป็นใครในสายตาของทานเหรอ”
“เทียน ทานไม่มีทางเลือกนะ แม่เขาจัดการให้ มันเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ”
ท่อนปลายประโยคแผ่วเบาลงเหมือนกระซิบ ถ้าหากว่าหญิงสาวร่างงามเมื่อครู่มาได้ยิน เธอคงจะเสียดใจอยู่มิใช่น้อย
“อ้อ”
สายตาดูอ่อนลง แววตาเหมือนกำลังใช้ความคิดไตร่ตรองอยู่
“จะอีกนานไหม”
“ก็ไม่รู้ แต่เราคงต้องแต่งงานกับเมย์”
เทียนบุญกัดฟันแน่น สายตามองธรรมทานเหมือนจะกินเลือดฉีกเนื้อ
“ไม่ว่าจะยังไง เทียนไม่ยอมหรอกนะ ถ้าหากว่าทานทิ้งเทียน เราจะได้เห็นดีกัน อย่าลืมสิ ว่าอยู่ที่โน่นเรารักกันมากแค่ไหน ยังจำได้อยู่ไหมทาน”
เน้นย้ำเตือนความทรงจำที่เพิ่งข้ามคืนมาให้เขาได้ระลึกถึงอีกครั้ง
“จำได้ จำได้สิเทียน”
ธรรมทานคือหนุ่มนักเรียนนอกเพิ่งกลับถึงเมืองไทยเมื่อคืนตอนตีหนึ่งกว่าๆ เช่นกันเทียนบุญก็จบมาจากที่เดียวกัน เคหะสถานที่พำนักอยู่ในกรุงลอนดอนก็ที่เดียวกัน เตียงนอนเดียวกัน ซึ่งเทียนบุญเรียกสิ่งนี้ว่าความรัก เขาสู้รบกับใครหลายคนเพื่อได้ครอบครองธรรมทานและเขาก็ได้ครอบครองเขาสมใจ แล้วเมื่อครู่มีอิสตรีนางหนึ่งมาแจ้งให้ช้ำใจว่าเป็นคู่หมั้นคู่หมาย ก็อย่าได้หวังเลย
“แหม นานจังคะทาน คุยกันในห้องน้ำเนี่ยนะ”
หญิงสาวยกคางเชิดสูงแสยะยิ้มออกมา
“อ้อ โทษทีนะเมย์ ไปกันหรือยัง เมย์อยากกินอะไรดีจ๊ะ”
“กินอาหารไทยดีไหมคะทาน”
เธอมองข้าวหัวของเทียนบุญไปเหมือนเขาเป็นอากาศธาตุ
“ทาน เราอยู่ที่โน่นก็กินบ่อยแล้วนะอาหารไทย เบื่อ”
เน้นคำว่าเบื่อแล้วหันมาทางมณีอารียา
“กินอาหารญี่ปุ่นดีกว่าไหม”
ธรรมทานเริ่มอึกอัก เพราะท่าทางของทั้งสองคนเหมือนกำลังก่อสงครามกันด้วยคำพูดและสายตา
“ก็เมย์เห็นว่าห่างเมืองไทยไปนาน อาหารไทยที่โนอร่อยสู้ต้นตำรับไม่ได้หรอกนะคะ จริงไหมคุณเทียน ต้นตำรับน่ะค่ะ”
เทียนบุญเม้มปากแน่นสายตากราดเกรี้ยว แต่หญิงสาวกลับยิ้มอย่างพอใจ เธอเดินเข้ามาฉวยเอาข้อแขนของธรรมทาน
“ไปเถอะค่ะ อยู่นานเริ่มเซ็ง”
เทียนบุญยืนนิ่งปล่อยให้เธอลากแขนเขาไป
“อีชะนี ระวังไว้เถอะ”
เขากัดฟันสายตาเคียดแค้น
“เดี๋ยวทานไปห้องน้ำแป๊บนะเมย์”
พอถึงร้านอาหารไทยในซอยร่วมฤดีธรรมทานก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ หล่อยให้กุหลาบงามสองดอกต่างชูคอระหงษ์เชิดหน้าใส่กัน
“เธออยากรู้ไหมว่าฉันกับทานเป็นอะไรกัน”
เทียนบุญเปิดฉากจิกสายตา
“ไม่อยากทราบค่ะ ท่าคิดไม่ผิดน่าจะเป็นเพื่อน”
มณีอารียาเน้นคำว่าเพื่อนสายตาก็ไม่ได้ยี่หระแม้แต่น้อย
“เราเป้ฯมากกว่าเพื่อน เอรู้ไว้ซะ”
“อ้อเหรอคะ แล้วยังไง แล้วคุณอยากรู้ไหมว่าฉันกับทานเราเป็นอะไรกัน”
คางเชิดสูงปรายหางตามองอย่างเหยียดหยาม
“แค่คู่หมั้น เพื่อธุรกิจไม่ใช่เหรอเท่าที่ทานบอกน่ะ”
มณีอารียาลดคางลงกัดกรามแน่น
“ทานคงเข้าใจผิดน่ะค่ะ คุณเทียน ค่ะฉันเป็นคู่หมั้นของทานและเราจะแต่งงานกันเร็วๆนี้ จะเพื่อธุรกิจหรือสิเน่หาแต่อย่าลืมสิคะ ว่าฉันจะได้เป็นผู้ครอบครองเขาโดยชอบธรรมไม่ได้ลักกินขโมยกิน”
“นี่ ใครกันแน่ลักกินขโมยกิน หึหึ ก็เอาสิ อยากใช้ผู้ชายร่วมกันกับเกย์น่ะ ไม่รังเกียจเหรอ เธอไม่รู้เหรอว่าเวลาร่วมรักกันน่ะ เขาทำกันยังไง ทางไหน”
แสยะยิ้มทำท่าเหมือนผู้กำลังกำชัย
“ทางทวราหนักไงคะ แต่ไม่รังเกียจหรอกค่ะ ของมันเช็ดล้างกันได้ เพราะหลังจากแต่งงานก่อนมีอะไรกับฉัน ฉันก็คงพาทานไปให้พระท่านรดน้ำมนต์ให้ ล้างเสนียดจัญไรออกให้หมดน่ะค่ะ”
“อีชะนี”
“อีกะเทย”
ทั้งสองถลึงตาใส่กัน แม้คำพูดทุกคำจะเป็นการจิกกัดกันแต่เสียงมันเบา เบาจนไม่มีใครได้ยิน การศึกษาชั้นสูงช่วยทำให้พวกเขาดูแปลกตาไปอีกแบบแม้จะกำลังฟาดฟันกันอย่างหนักหน่วงก็ตามที เทียนบุญกัดฟันแน่น ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ธรรมดาเสียแล้ว เขาคิดในใจ สายตามองพิจารณาตั้งแต่ปลายหัวจรดปลายเท้า เฉกเช่นเดียวกับมณีอารียาเธอเองก็หวั่นในใจอยู่ไม่ใช่น้อย ธรรมทานคือคนที่เธอหมายปองตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม จะว่าหมายปองก็ไม่ใช่เสียทีเดียว เพราะเขาคือคนที่เธอคบเรื่อยมา เสียดใจไม่น้อยเมื่อได้รู้ว่ารสนิยมของเขาเปลี่ยนไป เกลือกกลั้วคนเช่นนี้ แต่จากที่รอเขามานานไม่มีทางที่เธอจะปล่อยให้ชายที่นั่งมองจิกเธอด้วยหางตานี้จะคว้าตัวเขาไปครอบครอง ไม่มีทาง
“ว่าไงครับ สั่งอาหารกันหรือยัง”
ธรรมทานเดินกลับมา ทั้งสองเปลี่ยนสายตาทันที
“ยังเลยค่ะทาน ทานอยากสั่งอะไรคะ เดี๋ยวเมย์แนะนำให้”
มณีอารียาเอียงกายไปใกล้ๆเขา กลิ่นกายของเธอหากแม้นเดินผ่านชายหรือแม้แต่หญิงใด ไม่มีใครจะไม่หันมองตาม เธอมั่นใจ
“อืม เทียนกินไรดี”
“อะไรก็ได้”
กระแทกเสียงไม่พอใจ เทียนบุญเองเก็บอาการไม่ค่อยอยู่นัก แม้นจะมีจริตมารยาของหญิงอยู่ในร่าง กระนั้นจริตมารยามปลอมๆมีหรือจะสู้ต้นตำรับอย่างเธอได้
“สั่งเลยค่ะคุณเทียน แต่ไม่มีนะคะปลาสลิดน่ะ”
แสยะยิ้มออกมาแล้วมองก้มไปที่เมนูอาหารไม่สนใจ
“อะไรปลาสลิด”
“อ้อ เปล่าค่ะ นึกว่าอยากทาน อิอิ อุ๊ย ลองกินแกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากรายไหมคะทาน ที่นี่รสชาติดีมากเลยนะ”
เสียงหัวเราะที่แจ่มใสมันน่าฟัง แต่มันกลับทำให้ชายที่นั่งอยู่อีกฝั่งหมั่นไส้
“ทานคะ เมย์อยากไปไหว้คุณแม่น่ะคะ พาไปหน่อยสิ ไม่ได้แวะไปหาอาทิตย์นึงแล้ว”
พอทานอาหารเสร็จมณีอารียาก็เกาะแขนไม่ยอมวาง ไม่ปล่อยโอกาสให้เทียนบุญได้เข้าใกล้
“อืม เอาสิ เทียนไปด้วยกันไหม”
หันไปทางเทียนบุญที่เดินตามมาหน้าตาไม่สบอารมณ์อย่างมาก
“ไปสิทาน เทียนก็อยากจะกราบคุณแม่ฝากเนื้อฝากตัวอยู่เหมือนกัน”
“งั้นรอตรงนี้นะ เดี๋ยวทานไปเอารถก่อน”
ธรรมทานอาสาขับรถให้มณีอารียา เพราะรถของเขายังจอดอยู่ที่บ้าน
“เก่งนะเธอ หึหึ แบบนี้ค่อยน่าสนุกหน่อย”
เทียนบุญเอ่ยขึ้น
“เรื่องอะไรคะ เรื่องตอแหลน่ะเหรอ”
“อีชะนี”
“อุ๊ยตาย เรียนตั้งเมืองนอกเมืองนา เขาสอนแต่คำต่ำๆพวกนี้หรือคะ ว้ายไม่ดีนะคะคุณเทียน เดี๋ยวทานเขาจะต่ำไปด้วย อย่าพูดบ่อยนักสิคะ”
“หึ เราจะได้เห็นดีกัน ให้มันรู้ไปว่าคนอย่างฉันกับชะนีดีแต่ปากอย่างเธอใครมันจะมัดใจเขาได้”
มณีอารียาเองก็เม้มปากแน่น พยายามควบคุมสติอารมณ์
“เธออย่าลืมสิ ว่าเกย์อย่างฉันทำอะไรได้ตั้งหลายอย่าง อย่างเรื่องบนเตียง หึหึ จะสู้ฉันได้เหรอเธอ”
เท่าที่ทำงานเกี่ยวกับนิตายาสารความงามมาหลังจากเรียนจบ เพราะเทียนบุญจบก่อนธรรมทานเป็นปี เขาพอรู้ว่าสิ่งที่อิสตรีเพศไม่ชอบฟังคือเรื่องบนเตียง ยิ่งต่อหน้าเพศตรงข้าม แต่
“ค่ะ เรื่องนั้นฉันคงสู้คุณไม่ได้หรอกค่ะคุณเทียน เพราะท่าทางของคุณดูเจนจัดมากค่ะอันนั้นทราบดี แต่ลืมอะไรไปหรือเปล่าคะ ถึงคุณจะขนดาวขนเดือนมาให้เขาได้ แต่สิ่งหนึ่งที่คุณจะไม่มีปัญญาหามาให้เขาได้น่ะ”
“อะไร”
เทียนบุญแหวเสียงขึ้น สายตาถลึงออกมาจากเบ้า
“มดลูกไงคะ มีปัญญาไหม”
“อี”
มณีอารียาเดินสะบัดผมแล้วเดินตรงไปยังรถที่กำลังเลียบถนนเพื่อจอด เทียนบุญกำหมัดเม้มปากแน่น นี่ศึกสงครามแห่งดอกกุหลาบมันเพิ่งจะเปิดฉากสินะ หึหึ เราจะได้เห็นกัน

******
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (R E D) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๑. ๑๖ พ.ค. ๒๕๕๔
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 16-05-2011 22:17:40
 :z13: :z13: :z13:

ไม่ทันตั้งตัว ตอนแรกก็มาแล้ว

เดี๋ยวแวบมาอ่านนะคร้าบ

********************

อ่านจบแล้วครับ จะเชียร์เมย์อีกคนจะผิดไหมครับ  :serius2:

ร้องแรงสมกับสีแดงจริงๆ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (R E D) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๑. ๑๖ พ.ค. ๒๕๕๔
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 16-05-2011 22:26:24
แรง ออกตัวล้อฟรีกันทีเดียว 555
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (R E D) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๑. ๑๖ พ.ค. ๒๕๕๔
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 16-05-2011 22:28:32
โว๊ะ..... ออกตัวแรงงงงงง
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (R E D) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๑. ๑๖ พ.ค. ๒๕๕๔
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 16-05-2011 22:30:18
อู้ววววว  เปิดตัวมาตอนแรกก็ร้อนแรงมั่ก ๆ ๆ ๆ
ให้ตายเป็นเรื่องแรกที่เชียร์ชะนี  เอ๊ยยย  ผู้หญิงนะเนี่ยะ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (R E D) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๑. ๑๖ พ.ค. ๒๕๕๔
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 16-05-2011 22:33:53
ฟาดฟันกันตั้งแต่ต้นเรื่องเลย   o13
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (R E D) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๑. ๑๖ พ.ค. ๒๕๕๔
เริ่มหัวข้อโดย: MonarcH ที่ 16-05-2011 23:54:06
เอามือทาบอก อ้าปากค้าง แรงได้ใจมาก   :a5:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 1 [16-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 16-05-2011 23:59:43
hahn --- เอิม อเล็กซ์เขาตายไปแล้วนะครับ คงมาเป็นคู่ปลายฟ้าผมไม่ได้หรอกครับ

Giniz --- ก็สีน้ำเงินอบอุ่นปกป้องนี่ครับ คุณอายอุ่นใจมากกว่านี้ก็ได้ตอนต่อๆไป

ordkrub ---  :กอด1: ต้อนรับเสียเลย

sang som --- ปลายฟ้าผมดังกว่า ไนท์ของภาพฝันแล้วกันครับ  :angry2:


เรามาเอาใจช่วยสายลมให้ชนะใจปลายฟ้ากันดีกว่าครับ  :L1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอน แรกพบ 16/25/2011
เริ่มหัวข้อโดย: k_sleepless ที่ 17-05-2011 00:45:50
มานั่งรอซุปตาไนท์...จะมาเมื่อไหร่น๊อออออออ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (R E D) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๑. ๑๖ พ.ค. ๒๕๕๔
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 17-05-2011 01:45:49
แร๊ง ทั้งคุณเทียน คุณเมย์
แล้วคุณทานจะรับมือไหวเหรอคะ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (R E D) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๑. ๑๖ พ.ค. ๒๕๕๔
เริ่มหัวข้อโดย: zeen11 ที่ 17-05-2011 03:50:21
อู้ววววว  เปิดตัวมาตอนแรกก็ร้อนแรงมั่ก ๆ ๆ ๆ
ให้ตายเป็นเรื่องแรกที่เชียร์ชะนี  เอ๊ยยย  ผู้หญิงนะเนี่ยะ


จะผิดไหมถ้าจะบอกว่าคิดเหมือนกันเลย แบบว่าชอบคนดีที่ไม่แย่งของใครค่ะ  :beat:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (R E D) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๑. ๑๖ พ.ค. ๒๕๕๔
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 17-05-2011 05:40:58
จะเชียร์ใครดี
ระหว่าง ขิงกับข่า
ในเมื่อแรงพอกันแบบนี้
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอน แรกพบ 16/25/2011
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 17-05-2011 05:47:08
อึ้งกิมกี่ คนเราจะเพียรพยายามอะไรกันมากมายเพื่อจะหยุดลมหายใจของตัวเอง
รอดูกันต่อไป
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 1 [16-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 17-05-2011 05:51:56
มึนดีแท้
สีน้ำเงินสู้ๆ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 1 [16/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 17-05-2011 05:54:37
แอบเข้ามาดูกิจการของครอบครัว
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz ขออนุญาติตั้งเอาไว้ก่อนนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 17-05-2011 05:57:45
ได้ข่าวว่าสีเขียวตอนแรกจะมาลงวันนี้นะคะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่1 [16/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 17-05-2011 06:00:59
เด็กอะไรเกินตัวดีจัง รออ่านต่อไป
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 2 เพื่อนรัก
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 17-05-2011 06:08:00
ดอกบัวสิม่วง
ก็เหมือนเจ้เหละคะ
สวย มีเสน่ห์ แต่ลึกลับ หุๆ
 
รออีกนิดก็ได้อ่านตอน 10 ละ นะคะ
ไม่นานหรอกค่ะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 3 ความต่าง
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 17-05-2011 10:29:59
(http://img28.mediafire.com/b6f242d94a346b9095740bdfdd1f8ac23fc115dbd2c7ec5da35aca98f1eb05c75g.jpg)
 
ตอนที่สาม "ความต่าง"
แม้จะเป็นยามค่ำคืน แต่ถนนสายนี้ไม่เคยเงียบเหงา แสงนีออนหลากสีจากร้านรวงที่เรียงรายไปตลอดเส้นทางส่องสว่างไปทั่วทั้งสอง ฝั่งฟากของถนนซึ่งมีผู้คนสัญจรขวักไขว่ บรรดาผีเสื้อราตรีออกกรีดกรายเริงระบำอย่างสนุกสนานไปตามจังหวะเสียงเพลงที่แต่ละร้านขยันเปิดเพื่อดึงดูดใจให้เข้า ไปเยี่ยมเยือน แต่ที่ดูโดดเด่นจนแทบจะเป็นตำนานของถนนสายนี้ คือร้านที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงปากซอยยอดนิยมของบรรดาผู้ฝักใฝ่ในเพศรสของพวก เดียวกัน "เดอะ บัตเตอร์ฟลาย บอย" อาโกโก้บาร์ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องราตรี เพราะโชว์สนุกตระการตา พนักงานหน้าตาดี บริการได้ถึงอกถึงใจจนเป็นที่ประทับใจของลูกค้า
ชายหนุ่มเดินเข้าไปทางประตูด้านหลังของร้านจนไปหยุดอยู่หน้ามาม่าซังผู้ ซึ่งเคยดูแลช่วยเหลือเขามาตลอด นับจากวันแรกที่เขาเข้ามาทำงานจนไต่เต้าขึ้นสู่ความเป็นดาวเด่นของบาร์แห่ง นี้
"แหม... หรั่ง เจ๊กำลังคิดถึงอยู่พอดีเลย ไปไงมาไงถึงได้มาจนถึงนี่ได้ล่ะจ๊ะ" มาม่าซังในชุดกี่เพ้าไหมซาตินสีดำประดับขนเฟอร์สีแสดพวงยาวรอบบริเวณลำคออัน เป็นยูนิฟอร์มของร้าน ทักทายก่อนถามไถ่สารทุกข์สุกดิบคร่าว ๆ พลางเลื่อนมือขึ้นคล้องแขนชายหนุ่มให้ก้าวตามไปยังห้องรับรองพิเศษ
"ก็คิดถึงเจ๊ไงครับ ผมเลยมาหา... ว่าจะแวะมาใช้บริการในฐานะลูกค้าบ้างไงครับ" อเล็กช์คลี่ยิ้มหยอดหวานทีเล่นทีจริง
"ต๊าย! ปากหวานไม่เปลี่ยนเลยนะจ๊ะ ดีล่ะ... เจ๊จะได้มอมแล้วรูดทรัพย์ให้หมดตัวเลยดีไหม" มาม่าซังสัพยอกกลับไปอย่างเอ็นดู
"กลัวที่ไหนครับเจ๊ จัดมาเลยดีกว่า" อเล็กซ์รับมุขตามน้ำ แถมย้ำความต้องการของตน
"งั้นเดี๋ยวเจ๊สั่งเด็กให้ยกเอาเครื่องดื่มมาเสิร์ฟก่อนแล้วกัน อยากดื่มอะไรดีจ๊ะรูปหล่อ" มาม่าซังถามด้วยกิริยาจริตจะก้านหูตาแพรวพราวตามอาชีพของหล่อน
"ขอเป็นบรั่นดีแล้วกันครับเจ๊" 
"โอเช... เดี๋ยวเจ๊จัดเต็มให้เลยแล้วกัน บรั่นดีพร้อมเพื่อนนั่งดื่มระดับดาวเด่นของร้านเลยนะจ๊ะ" หล่อนบอกพลางยกยิ้มอย่างรู้กันก่อนจะเปิดประตูออกไปจัดเตรียมทุกอย่างเพื่อ สนองความต้องการของลูกค้าวีไอพี ไม่ถึงอึดใจประตูห้องรับรองพิเศษก็เปิดออกอีกครั้งโดยมาม่าซังคนเดิม พร้อมกับเด็กหนุ่มผิวขาวหน้าตาดี ตามมาด้วยบริกรที่ยกเอาบรั่นดีในขวดทรงกลมคอเรียวสวยและแก้วกระเปาะกลมก้านเตี้ยในถาดมาวางบนโต๊ะกลาง ก่อนที่เด็กหนุ่มจะรินเสิร์ฟให้อย่างรู้หน้าที่ทันทีที่มาม่าซังขยิบตาให้ พลางนั่งลงประกบแขกคนสำคัญ
"หรั่งจ๊ะ นี่น้องยุทธ เพิ่งมาอยู่ได้ไม่นานแต่ก็ขึ้นหม้อเป็นดาวดังของที่นี่ตอนนี้เลยนะ
 ยุทธจ๊ะ นี่พี่หรั่งจ้ะ ลูกค้าคนสำคัญของพี่เชียวนะ" มาม่าซังเอ่ยแนะนำให้ทั้งสองคนรู้จักกันอย่างเป็นทางการขึ้นมาอีกหน่อย 
"สวัสดีครับพี่" ยุทธหันมายิ้มให้ก่อนจะยกมือไหว้และเอ่ยทักทาย
"ตามสบายเลยนะคะ เดี๋ยวเจ๊ไปดูแขกข้างนอกก่อนนะคะ ยุทธดูแลพี่เค้าดี ๆ ด้วยนะ" มาม่าซังเอ่ยขอตัวพร้อมสั่งกำชับให้ยุทธดูแลแขกเป็นอย่างดี ก่อนจะปล่อยให้ทั้งสองอยู่ด้วยกันเป็นการส่วนตัวโดยไม่ลืมที่จะกดล็อคลูกบิดประตูเมื่อออกจากห้อง
"ครับ" ยุทธรับคำ พร้อมกับเอื้อมไปคว้าเอาแก้วเครื่องดื่มสีอำพันบนโต๊ะมาป้อนส่งให้ถึงปาก
"มาทำที่นี่นานหรือยังครับ" อเล็กซ์ถามก่อนจะอ้าปากรับและดื่มบรั่นดีที่ยุทธป้อนให้
"ก็ไม่นานนะครับยังไม่ทันจะครบเดือนเลย" ยุทธบอกตามตรง
"แล้วบริการดีกับทุกคนแบบนี้รึเปล่า" อเล็กซ์กระเซ้ายั่วยิ้ม
"ผมก็ต้องบริการแขกทุกคนเป็นอย่างดีอยู่แล้วล่ะครับ" ยุทธตอบกลับพลางส่งสายตายั่วยวน
"บริการดี แล้วอย่างอื่นจะดีด้วยไหม" อเล็กซ์เอ่ยถามเสียงแหบพร่า
"ก็คงต้องลองดูเองล่ะครับ จะได้รู้ว่าดีไหม" ยุทธเอ่ยตอบก่อนจะยื่นหน้าของตนให้เข้าไปใกล้กับคนตรงหน้าพร้อมกับเผยอริมฝีปากแตะเพียงแผ่วเบากับกลีบปากหนาได้รูป สวยนั้น อเล็กซ์กลับตอบรับจูบด้วยความพึงใจ ผิวหน้าขาว ๆ อมชมพูของเขา กลับเริ่มแดงจัดขึ้นเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ และความยั่วยวนของยุทธ เขาเอื้อมมือข้างหนึ่งขึ้นประคองท้ายทอยพร้อมกับสนองตอบจูบทักทายของยุทธ กลับด้วยความเร่าร้อนที่มากกว่าของอีกฝ่าย ทั้งสองแทบจะพากันลืมหายใจ ยุทธเองก็ใช้สองมือของตนโอบกระชับคล้องรอบลำคอของอเล็กซ์เอาไว้ ก่อนที่อเล็กซ์ จะผลักให้ยุทธ เอนหลังราบลงไปกับโซฟาที่นั่งอยู่ และยุทธเองก็รู้ดีว่าจะตนเองต้องตอบสนองคนตรงหน้าอย่างไร ความเงียบเข้ามาครอบคลุมทั้งสองเอาไว้ มีเพียงเสียงเพลงที่เปิดแผ่ว ๆ คลอเบา ๆ จากลำโพงเล็ก ๆ ของเครื่องเสียงชั้นดีหวานแว่วกังวานอย่างอ้อยอิ่ง ก่อนที่พายุอารมณ์ของทั้งสองคนจะพัดโหมกระพือ ให้ไฟสวาทลุกโชนต่อเนื่องเนิ่นนานกว่าจะดับมอดลงได้ ทิ้งไว้แต่เพียงหยาดเหงื่อบนผิวเปลือยเปล่า และอาการหอบหายใจอย่างอ่อนแรงเท่านั้น
 
 
ในบ้านเล็ก ๆ หลังหนึ่งแถบชานเมืองกรุงเทพ ท่ามกลางความมืดของราตรี สายลมพัดโชยกลิ่นหอมของดอกราตรีที่ปลูกอยู่เป็นซุ้มข้างตัวบ้าน เข้าไปยังหน้าต่างห้องนอนของหน่อง ถึงแม้นจะปิดไฟในห้องเสียจนมืดเมื่อเจ้าตัวเริ่มจะเข้าสู่ห้วงนิทรา แสงจันทร์ที่ลอดส่องจากหน้าต่างสาดกระทบเข้ากับวงหน้าหวานที่กำลังพริ้มตา หลับ แพขนตาหนา และคิ้วเข้ม ๆ ประดับบนเรียวหน้า พร้อมริมฝีปากบางที่อมยิ้มอย่างมีความสุขในค่ำคืนนี้ ถึงแม้นว่าหน่องจะต้องนอนเดียวดายอยู่บนที่นอนหนานุ่มอุ่นสบาย แต่หน่องก็มีความสุข ในอ้อมกอดของหน่องตอนนี้ มีเพียงตุ๊กตาหมีโพลาร์ยัดใยสังเคราะห์นุ่มนิ่มขนาดไม่ใหญ่นักอยู่เพียงตัว เดียวเท่านั้น แต่ตุ๊กตาตัวนี้ คุณสุมาลีมารดาเลี้ยงที่รับหน่องมาอยู่ด้วย ขอให้คุณอธิปผู้สามีซื้อให้หน่องในคืนแรกที่หน่องจะต้องนอนในห้องส่วนตัว ห้องนี้เพียงลำพังในคืนแรก หลังจากที่นอนกับพ่อและแม่ได้เพียงหนึ่งสัปดาห์นับแต่วันที่มาอาศัยอยู่ใน บ้านหลังนี้ แม้นว่ากาลเวลาจะผ่านไปหลายปี แต่ตุ๊กตาตัวนี้ เป็นของเล่นส่วนตัวชิ้นแรกที่หน่องเคยมี จากที่หนานุ่มกอดแน่น กลับกลายเป็นแบนแฟบลงไปกว่าเดิมมากแต่เขาก็ยังคงรักและนอนกอดด้วยทุกคืนตลอด มา โดยไม่เคยคิดจะทิ้งขว้าง ถึงต่อมาเขาจะมีของชิ้นอื่น ๆ เพิ่มเติมขึ้นมาอีกหลายชิ้นก็ตาม
 
"หน่อง... ตื่นรึยังลูก เดี๋ยวจะสายเอานะจ๊ะ" คุณสุมาลีร้องเรียกที่หน้าประตูก่อนจะลองหมุนบิดลูกบิดประตูและพบว่าประตู ไม่ได้ล็อค จึงเปิดออกแล้วเข้าไปร้องเรียกหน่องจนถึงเตียง
"หน่อง... เช้าแล้วนะลูก อย่ามัวแต่ขี้เซาซิจ๊ะ เดี๋ยวก็ไปทำงานสายหรอก" คุณสุมาลีร้องเรียกพร้อมเขย่าตัวปลุกลูกชาย
"ครับ ตื่นแล้วครับแม่" หน่องตอบรับก่อนจะปรือตามองแม่ของตน ก่อนจะตาโต ตกใจเมื่อเหลือบไปเห็นนาฬิกาที่ฝาผนังห้อง พร้อมตะโกนเสียงดัง
"จะเจ็ดโมงแล้ว" พร้อมกับเด้งตัวกระโดลงจากเตียงวิ่งเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว
"แม่เตรียมอาหารเช้าไว้ให้แล้ว อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วลงไปกินด้วยนะลูก" คุณสุมาลีบอกพลางเดินออกจากห้องไปนั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหารของบ้าน
 
 
"สายแล้ว!" หน่องส่งเสียงดังพลางวิ่งไปตามทางเดินก่อนจะเอาบัตรประจำตัวพนักงานแนบเข้า กับเครื่องสแกนบัตร เมื่อเครื่องส่งเสียงบี๊บสั้น ๆ พร้อมกับที่เขามองดูตัวเลขดิจิตอลบนหน้าจอ ที่บอกเวลา แปดโมงยี่สิบเก้าก่อนจะเปลี่ยนเป็นแปดโมสามสิบหลังจากเสียงบี๊บนั้น พลางถอนหายใจอย่างโล่งอก
"เฮ้อ… ฉิวเฉียดเส้นยาแดงผ่าแปดพอดี"
"ผมเข้าใจนะว่าเส้นยาแดงพอดี แต่งานเมื่อวานล่ะ เรียบร้อยดีไหม" เสียง บก. เอ่ยแซวด้วยสีหน้านิ่งเรียบแต่ดวงตาเต้นระยิบ ด้วยเสียงดุ ๆ ส่งมาให้ จากทางด้านหลัง
"อุ้ย บก. ผมตกใจหมดเลย" หน่องพูดก่อนจะหมุนตัวกลับมาส่งยิ้มปุเลี่ยนให้คนตรงหน้า
"เรียบร้อยดีครับ เดี๋ยวผมเอาของไปเก็บที่โต๊ะแล้วจะรีบเอางานไปส่งที่ห้องนะครับ" หน่องตอบก่อนจะทำหน้าจ๋อยเมื่อสบตาดุ ๆ คู่นั้น พร้อมกับวิ่งเอาของไปเก็บที่โต๊ะ ก่อนจะค้นหางานส่วนของเจ้าตัวจากในกระเป๋าออกมาถือไว้ แล้ววิ่งกลับไปหา บก. ที่ห้องทันที
 
 
"ดี เดี๋ยวผมจะเอาลงข่าวกรอบบ่ายนี้เลยนะ แต่... ทีหลังไม่ต้องเขียนเยอะขนาดนี้นะ แค่ข่าวบันเทิงนิดหน่อย ถึงจะข่าวดังมากก็ตาม เอาแค่พอรู้เรื่องก็ได้" บก.ยังคงแกล้งทำเป็นเสียงเข้ม ก่อนจะเว้นวรรคและทำเสียงดุใส่อีกครั้ง
"ก็ข่าวแรกของผมนี่ครับ บก. งั้นผมไปแก้มาส่งให้ใหม่ก็ได้ ขอเวลาอีกสักสิบนาทีนะครับ" หน่องตอบร้อนรน
"เอางี้ อีกสิบนาทีเอามาให้ผมแล้วเรามาดูพร้อมกันอีกที" บก.ตอบพร้อมกับส่งยิ้มไปให้อีกครั้ง
"ครับ ขอบคุณครับ บก." หน่องรีบบอกพลางวิ่งตื๋อออกจากห้องไปที่โต๊ะทำงาน และวิ่งกลับมาที่ห้อง บก.อีกครั้ง
"อืม... ดีขึ้นนะ แต่ยังใช้ไม่ได้ ดูตรงนี้สิ" บก.ชมพอหอมปากหอมคอก่อนชี้แนะข้อผิดพลาดให้หน่องเข้าใจว่าจะต้องแก้ไขอย่างไร
"ทีนี้เข้าใจรึยัง" บก.เอ่ยถามพร้อมยกยิ้มบางอย่างใจดี
"เข้าใจแล้วครับ ขอบคุณครับ บก.ต่อไปผมจะพยายามปรับปรุงให้ดีขึ้นครับ" หน่องตอบกลับพร้อมรอยยิ้มเช่นกัน
"แล้วคนนี้ใคร ดาราใหม่ของหม่อมเหรอ" บก.เอ่ยถามอย่างสงสัยเมื่อเหลือบไปเห็นภาพประกอบข่าวที่หน่องถ่ายมาได้
"ใช่ครับ" หน่องบอกตามตรง
"หน้าตาดีทีเดียว ไม่ขอสัมภาษณ์ไปเลยล่ะ" บก.เอ่ยถาม
"ผมนัดไว้แล้วครับ พรุ่งนี้แหละครับบก." หน่องตอบ
"งั้นดีเลย ผมยกคอลัมน์สัมภาษณ์พิเศษกรอบบ่ายเสาร์นี้ให้คุณไปเลยแล้วกัน ตั้งใจทำงานนะ"  บก.เห็นดีพร้อมกับสั่งกำชับงานมาอีกที
"ขอบคุณครับ  ผมจะตั้งใจทำเต็มที่เลยครับบก." หน่องตอบพร้อมรอยยิ้ม และหัวใจพองโตคับอกด้วยความดีใจ
 
 
บรรยากาศในการถ่ายทำภาพยนตร์ เป็นไปด้วยความเคร่งเครียด เนื่องด้วยเป็นซีนที่พระเอกกำลังปะทะอารมณ์ขั้นรุนแรงกับดาราหนุ่มรูปหล่อ อยู่อย่างดุเด็ดเผ็ดมัน ทั้งสองทำการรับส่งบทในส่วนของตนและถ่ายทอดออกมาได้ดีจนน่าตกใจ ทั้งกองพากันเงียบกริบรอชมและลุ้นไปด้วยใจจดจ่อ ขณะที่กล้องสามตัวทำงานของมันไปอย่างต่อเนื่องพลันพระเอกหนุ่มที่กำลังอิน กับบทบาทการแสดงของตน ก็ส่งหมัดลุ่น ๆ เข้าไปที่โหนกแก้มของพระรองหน้าใหม่ ส่งผลให้คนโดนสอยเลือดขึ้นหน้าขึ้นมาจริง ๆ กลายเป็นว่าพระเอกกับพระรองซัดกันนัวอยู่กลางกองถ่าย ต่างฝ่ายก็ไม่มีใครยอมใคร
"คัต"
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 3 ความต่าง
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 17-05-2011 10:34:23
 :z13: :z13:เจ๊พี่จง  คิดถึ้งคิดถึง :กอด1: :กอด1: :กอด1:จำน้องไม่ได้ล่ะซิ :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 3 ความต่าง
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 17-05-2011 11:12:45
ดอกบัวสิม่วง
ก็เหมือนเจ้เหละคะ
สวย มีเสน่ห์ แต่ลึกลับ หุๆ
 
รออีกนิดก็ได้อ่านตอน 10 ละ นะคะ
ไม่นานหรอกค่ะ


นึกว่าเหมือนตรงยะเยือก  ฮี่ ฮี่ ฮี่
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 3 ความต่าง
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 17-05-2011 11:23:23
พี่ครับในสีรุ้งทั้ง 7 จะมีพี่อิ๊กกี้ด้วยใช่เปล่าครับ  แต่ทำไมไม่เห็นชื่อพี่อิ๊กกี้เลยครับ  หรือว่าให้นักเขียนไปเปลี่ยนชื่อแล้วใช้ชื่อใหม่มาลงหรือครับแล้วให้ทายกัน
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 3 ความต่าง
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 17-05-2011 11:38:52
ทุกคนใช้ชื่อใหม่สมัครกันใหม่หมดเลยค่ะ
เพราะฉะนั้นลองเดากันดูนะคะว่าใครแปลงร่างเป็นใครกันบ้าง 555
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 3 ความต่าง
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 17-05-2011 11:53:05
iforgive:
Quote from: จงกลนี on 17 May, 2011, 06:08:00 AM

ดอกบัวสิม่วง
ก็เหมือนเจ้เหละคะ
สวย มีเสน่ห์ แต่ลึกลับ หุๆ
 
รออีกนิดก็ได้อ่านตอน 10 ละ นะคะ
ไม่นานหรอกค่ะ



นึกว่าเหมือนตรงยะเยือก  ฮี่ ฮี่ ฮี่
 
 
ระวังไว้ให้ดีเหอะ
ถ้ารู้ว่าตัวจริงเป็นใคร จะหนาวเย็นยะเยือก จนขนตั้ง หรือ ยะเยือกไปถึงขั้วหัวใจกันบ้างแหละ
หึๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 1 [16-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: how to ที่ 17-05-2011 11:59:16
ออกจะแสนดีขนาดนี้ ทำไมปลายฟ้าไม่หวั่นไหวบ้างน้าา  :กอด1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz เอาทีเซอร์มาส่งก่อนนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Nassiiz ที่ 17-05-2011 12:24:56
http://www.youtube.com/embed/-pHN12sebRQ
มาแปะให้พอดูแนวเรื่องออก ส่วนตอนแรกของเป็นวันศุกร์นะคะ เพราะช่วงนี้ภาระมันเยอะ = ='
ปล. ถ้าเฟลชไม่ขึ้นรบกวนตามลิงค์นะคะ มือยังใหม่ค่ะ ยังไม่คุ้น
http://youtu.be/-pHN12sebRQ
ปล. 2 ขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้นักเขียนนิรนามคนนี้นะคะ ^^
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่1 [16/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Muzik ที่ 17-05-2011 12:57:23
ร้ายจริงๆด้วย   :z1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอน แรกพบ 16/25/2011
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 17-05-2011 13:02:47
555 อย่าว่าแต่ชื่อตัวละครเลยค่ะแนวเรื่องก็คนละแนวด้วยเหมือนกันนะคะ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (R E D) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๑. ๑๖ พ.ค. ๒๕๕๔
เริ่มหัวข้อโดย: Muzik ที่ 17-05-2011 13:04:39
สุดๆ สมกับเป็นสีแดงแรงฤทธิ์  :pig4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 3 ความต่าง
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 17-05-2011 13:09:14
เปล่าแค่อัพไปหนนึงแล้วจนถึงตอนที่ 9 แล้วต้องมาอัพใหม่อีกครั้ง ยอดคนอ่าน 3 พันกว่า แต่ตอนนี้
3 ร้อยยังไม่ถึงเลยค่ะ so said มากมาย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 3 ความต่าง
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 17-05-2011 13:18:44
มาตามต่อกระทู้นี้ :pig4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 3 ความต่าง
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 17-05-2011 13:23:34
ยินดีต้อนรับค่ะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 1 [16-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 17-05-2011 13:25:45
ไม่กลัวผีหลอกเหคะ 5555
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 3 ความต่าง
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 17-05-2011 13:42:13
ไหน ๆ ก็วันหยุด เอาไปอีกตอนแล้วกันเนอะ 555

(http://img28.mediafire.com/b6f242d94a346b9095740bdfdd1f8ac23fc115dbd2c7ec5da35aca98f1eb05c75g.jpg)
ตอนที่สี่ "ตัวแปร"
 
 
(http://image.free.in.th/z/iy/u6ftm.jpg)
 
พาดหัวตัวไม้หน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ฉบับเช้าวันรุ่งขึ้น ทำเอาหนังสือพิมพ์ทุกฉบับที่ลงข่าวดังกล่าวขายดีเกลี้ยงแผงด้วยเวลาอันรวด เร็ว ข่าวที่ลงทำให้เกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์ไปอย่างแพร่หลาย สื่อทุกสื่อต่างพุ่งเป้าไปที่ทั้งสองคน และพยายามติดต่อเพื่อขอสัมภาษณ์เป็นกรณีพิเศษทั้งทางโทรศัพท์แบบรายงานสดออก อากาศ หรือสื่อสิ่งพิมพ์อื่น ๆ ก็ตามที แต่ก็ไม่มีใครสามารถติดต่อได้เลย ทั้งสองยังคงเก็บตัวเงียบและงดกิจกรรมทั้งหมด รวมไปถึงกองถ่ายต้องหยุดถ่ายทำไปด้วยเป็นระยะเวลาถึงเจ็ดวัน แต่ทั้งนี้มีเพียง หนังสือพิมพ์เพียงฉบับเดียวที่ได้สัมภาษณ์พิเศษ ด้วยพระรองหน้าใหม่ตามข่าวได้โทรไปนัดแนะให้มาหาถึงห้องพักบนอาคารสูงย่านใจ กลางเมืองด้วยตนเองแถมสำทับอีกด้วยว่า จะให้ข่าวใหญ่นี้เป็นพิเศษหากนักข่าวที่มาทำข่าวคือ นายนิวัตน์ แก่นกำภู หรือที่เขาเองเรียกว่า "หน่อง" ผู้เป็นเพื่อนรักตั้งแต่วัยเยาว์ของตน
"หายากมากไหมหน่อง" อเล็กซ์ถามขณะที่เปิดประตูออกกว้างเพื่อรับหน่องเข้ามาในห้องพัก
"ไม่ยากหรอก... เอ๊ะ! หรั่งหน้าหมดหล่อเลยนะ เขียว ๆ ม่วง ๆ ด้วย" หน่องที่ก้มหน้าถอดรองเท้า ร้องทักด้วยตกใจเมื่อเงยหน้ามาเห็นใบหน้าของเพื่อน ทั้งที่รู้ข่าวมาบ้างแล้ว แต่ก็อดกระเซ้าไม่ได้ ด้วยนิสัยขี้เล่นแบบเด็ก ๆ
"เจอหน้ากันก็เล่นทักอย่างนี้เลยเหรอคนเรา" อเล็กซ์ ตอบกลับพร้อมรอยยิ้มเต็มตา
"เออ ลืมไป... ขอโทษทีนะหรั่ง หน่องไม่ได้ตั้งใจ แต่มันอดไม่ได้ ไม่นึกว่าจะเป็นเยอะขนาดนี้" หน่องบอกพลางส่งยิ้มปลอบใจไปให้
"ดีว่าหน่องถ่ายรูปหรั่งไปตั้งแต่วันก่อนแล้วนะ ขืนเอารูปวันนี้ไปลง... คงดูไม่จืดแน่ ๆ" หน่องบอกพลางระบายลมหายใจอย่างโล่งอก
"แล้วหน่องกินอะไรมารึยัง จะกินอะไรก่อนไหม... หรือจะทำงานเลย" อเล็กซ์ถามพลางรินน้ำใส่แก้วมาให้อีกฝ่ายที่นั่งรออยู่ในส่วนรับรองแขก
"ทำงานก่อนเลยดีกว่า... เดี๋ยวค่อยกินก็ได้" หน่องบอกพลางหยิบอุปกรณ์บันทึกเสียงออกมาจากในกระเป๋าสะพายข้างของตนมาวางบน โต๊ะกลางพร้อมกับกดปุ่มบันทึกและเริ่มยิงคำถามทำงานในทันที
 
 
หลังจากที่สัมภาษณ์และรับประทานอาหารร่วมกันหน่องก็ลากลับเพื่อรีบเอา ไฟล์เสียงกลับไปทำการเขียนข่าว และบทสัมภาษณ์ส่งให้ บก.ที่สำนักงานในทันที บก.พึงพอใจผลงานและกล่าวชมหน่อง ก่อนจะเอาข่าวและบทสัมภาษณ์ส่งไปจัดหน้าลงพิมพ์ เพื่อจะให้ทันกับการวางแผง และด้วยผลงานชิ้นนี้ของหน่องทำให้เขาได้รับคำชมจากเพื่อนร่วมงานทุกคน จนคาดว่าเจ้าตัวคงจะยิ้มหน้าบานไปได้อีกหลายวัน
 
 
ส่วนเพื่อนอีกคนที่หลังจากรอให้ร่องรอยฟกช้ำบนใบหน้าจางลงไปบ้างแล้ว ก็ออกมาปรากฏตัวและทำงานออกงานตามปรกติแม้ว่าจะมีนักข่าวจากสื่อต่าง ๆ คอยไล่ล่าตัวเขาอยู่บ้างประปรายก็ตาม ส่วนคู่กรณียังคงเก็บตัวเงียบและงดให้ข่าวต่อไป อาจจะมีบ้างที่ทั้งสองต้องมาพบเจอกัน หรือจะต้องทำงานร่วมกันเพราะภาพยนตร์ยังถ่ายทำไปไม่ถึงครึ่งเรื่อง แต่ก็ต่างคนต่างอยู่ ไม่พูดคุยสุงสิงกันมากเหมือนที่ผ่านมา แล้วก็ไม่มีใครสักคนจะเอ่ยถึงเรื่องที่ล่วงมาแล้วอีกเลย
 
 
"อเล็กซ์... วันนี้มีงานเลี้ยงวันเกิดของผู้ใหญ่ท่านนึง เจ๊ขัดไม่ได้... ถึงใจจะไม่ค่อยอยากให้เราไปเท่าไหร่" อ๊อบบอกหลังจากที่อเล็กซ์ เดินออกจากฉากที่กำลังถ่ายทำอยู่ด้วยหมดซีนของวันนี้แล้ว และกำลังจะเดินไปห้องพักเพื่อผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า
"ทำไมล่ะครับพี่อ๊อบ... วันเกิดของใครเหรอพี่?" อเล็กซ์ถามพลางทำหน้านิ่วคิ้วขมวด
"ก็ท่านนะสิ คนนะยังไม่เท่าไหร่... แต่สถานที่จัดงานนี่สิ บอกตามตรงนะ... ใจพี่ล่ะไม่อยากจะให้เธอไปเลยอเล็กซ์" อ๊อบบอกกระซิบด้วยความหนักใจ
"แล้วเค้าจัดกันที่ไหนเหรอพี่อ๊อบ" อเล็กซ์ถามอย่างสงสัย
"ก็เดอะบัตเตอร์ฟลายบอยน่ะสิ" อ๊อบบอกชื่อด้วยเสียงที่กระซิบเบากว่าเดิม
"อ้อ...ไม่เห็นเป็นไรเลยพี่ ว่าแต่เราต้องไปถึงกันกี่โมงล่ะพี่อ๊อบ" อเล็กซ์บอกพลางยักไหล่ก่อนถามไถ่เวลา
"ไม่ใช่เรา... แต่เป็นเธอคนเดียวต่างหากล่ะอเล็กซ์" อ๊อบบอกตามตรงพลางตีหน้ามุ่ยอย่างขัดในอารมณ์
"ไปคนเดียวเหรอพี่... แล้วพี่ไม่ไปด้วยกันหรอกเหรอ" อเล็กซ์ถามด้วยความสงสัย
"ก็เค้าเชิญเธอคนเดียวย้ำว่าแค่เธอคนเดียวนะอเล็กซ์" อ๊อบบอกพร้อมส่งสายตาสื่อความในไปให้
"หมายความว่าผมต้องไปงานท่านคนนี้คนเดียวว่างั้นเถอะ" อเล็กซ์ตอบและย้ำทำความเข้าใจกับอ๊อบอีกครั้งพร้อมถอนหายใจ
"เยส... แต่ไม่ต้องห่วงนะ ท่านปิดร้านเลี้ยงแบบลับเฉพาะท็อปซีเคร็ทกับเพื่อน ๆ ของท่านเท่านั้น ไม่มีนักข่าวหรือคนอื่นที่ไม่ได้รับเชิญปะปนเข้าไปหรอก ท่านเองก็คงไม่อยากเป็นข่าวหรือเปิดเผยเท่าไหร่ สบายใจได้อเล็กซ์" อ๊อบบอกพร้อมส่งยิ้มประจบประแจง
"จริง ๆ พี่ก็ปฏิเสธไปแล้วนะ... ตอนที่เค้าติดต่อมา แต่พอมารู้ว่าเป็นท่านพี่ก็เลยจำใจต้องรับปากท่านไป ก็ใครจะไปกล้าขัดใจใหญ่คับฟ้าขนาดนั้น... ขืนไปทำให้โมโหเรื่องคงจะยาวไม่จบง่าย ๆ" อ๊อบร่ายยาวเป็นฉาก ๆ
"ก็ได้พี่แล้วคืนนี้ผมจะไปก็แล้วกัน" อเล็กซ์บอกด้วยท่าทางไม่ยินดียินร้ายสักเท่าไหร่
 
 
บรรยากาศรอบ ๆ ถนนสายนี้เป็นเหมือนเช่นที่เคยเป็นมา แสงไฟหลากสียามค่ำคืนสว่างไสวราวกับว่าถนนสายนี้ไม่เคยหลับใหล "เดอะ บัตเตอร์ฟลาย บอย" ก็เช่นกัน แต่ถึงแม้ว่าป้ายไฟหน้าร้านจะเปิดเอาไว้ แสงสีตระการตาเต็มที่ แต่มีเพียงประตูหน้าเท่านั้นที่ไม่ได้เปิดเพื่อรอรับแขกภายนอก มีเพียงประตูด้านข้างเท่านั้นที่เปิดเพื่อรับแขกแบบเฉพาะการ โดยมีการ์ดร่างยักษ์สองนายยืนคุมเชิงอยู่ที่หน้าประตูเพื่อคอยตรวจตราและ ตรวจบัตรเชิญของแขกแต่ละคนที่ต่างพากันจอดรถไว้บริเวณลานจอด และเดินนวยนาดมาทางประตูทางเข้าด้วยเสื้อผ้าหน้าผมหลากแบบหลายแนวตามข้อ กำหนดการแต่งกายที่ระบุไว้ในบัตรเชิญ เครื่องแต่งกายแฟนซีตามแต่ใจของผู้สวมใส่จะรังสรรค์แต่งมาเพื่อประชันกัน
"คุณอเล็กซ์ใช่ไหมครับ" หนึ่งในการ์ดทักถามขณะที่อเล็กซ์ เดินเข้ามาหยุดอยู่หน้าการ์ดร่างยักษ์ 
"ใช่ครับ" 
"ท่านสั่งไว้ว่าพอคุณมาถึงให้เข้าไปแต่งตัวด้านใน... มีช่างรอคุณอยู่แล้วครับ" หนึ่งในการ์ดชุดดำบอกพลางเปิดประตูให้ชายหนุ่มเข้าไป โดยมีพนักงานของบาร์ที่สวมชุดผิดแปลกไปจากเครื่องแบบตามปกติของร้านซึ่งเป็น ผ้านุ่งไหมพื้นสีแดงตาดเงินหยักรั้งเพียง ชิ้นเดียวที่ห่อหุ้มท่อนล่างเอาไว้ได้อย่างหมิ่นเหม่ ขณะที่เครื่องแต่งกายท่อนบนกลับเป็นผ้าโปร่งสีเงินแลทะลุไปเห็นเนื้อหนุ่ม ได้โดยไม่ต้องอาศัยจินตนาการแต่อย่างใด ก่อนที่หนึ่งในพนักงานบริการจะพาอเล็กซ์ไปยังห้องที่มีช่างคอยบริการเสื้อผ้า หน้า ผม รออยู่ก่อนแล้ว
เสื้อผ้าที่ช่างแต่งตัวเตรียมไว้สำหรับอเล็กซ์เป็นเสื้อสีขาวแขนสั้นคอปาดกว้างตัวยาวคลุมลงมาถึงบั้นท้ายเกลียวเชือก ไหมสีทองพันผูกเอาไว้ที่ช่วงเอว ชายผ้าสีแดงขลิบลายทองทั้งผืนเหน็บเอวจากด้านหน้าอ้อมไปทางด้านหลังรอบลำตัว ปล่อยชายยาวอีกข้างมาคล้องเอาไว้ที่แขน รองเท้าสไตล์แกลดิเอเตอร์ซึ่งเป็นหนังโปร่งเส้นสายระโยงไปถึงหน้าแข้ง อเล็กซ์ถูกจับปรุงโฉมแต่งตัวละม้ายชาวโรมันโบราณก่อนจะถูกพาเข้าไปหาเจ้าของงาน
 
 
ห้องจัดเลี้ยงด้านในถูกตกแต่งด้วยดอกไม้สดประหนึ่งจำลองสวนดอกไม้หลากสีสันที่กำลังแข่งกันเบ่งบานส่งกลิ่นหอมไปทั่ว ใต้ซุ้มโค้งหนุ่มใหญ่ท่าทางภูมิฐานซึ่งมีเครื่องแต่งกายละม้ายคล้ายคลึงกัน กับอเล็กซ์ แต่ที่บนศีรษะเรือนผมสีอ่อนประดับด้วยพวงมาลาช่อมะกอกสีเงินยืนสง่าคอยต้อน รับแขกที่มาร่วมงานพร้อมกับรอยยิ้มมี เสน่ห์ ด้วยวิทยาการทางการแพทย์สมัยใหม่ ทำให้รูปลักษณ์ภายนอกดูดีและอ่อนกว่าอายุจริงไปเป็นสิบปี นักธุรกิจชั้นนำแนวหน้าของประเทศ ผู้มีส่วนผลักดันกระแสธุรกิจให้เป็นไปตามใจตนผู้ทรงอิทธิพลทางธุรกิจ อำนาจในมือมีอยู่อย่างมากมายจนใคร ๆ ต่างต้องยำเกรงไม่กล้าขัดอกขัดใจ เพราะหากต่อกรด้วยมีแต่จะเพลี่ยงพล้ำเสียสิ้นทุกสิ่งอย่างภายใต้เงื้อมมือของคน ๆ นี้ และเรื่องที่เจ้าตัวจะไม่มีคู่ชีวิต ครองตัวเป็นโสดมาจนถึงปัจจุบันจะเป็นข้อครหา แต่ก็ไม่มีใครกล้าเอ่ยออกมาให้ระคายหู รวมถึงเรื่องรสนิยมทางเพศที่ผิดแปลกจากที่ควรจะเป็น ด้วยเจ้าตัวนิยมชมชอบหนุ่ม ๆ หน้าตาดี จึงมักมีข่าวออกมาในทำนองที่ว่าเจ้าตัวมักให้รางวัล หรือจัดเลี้ยงเป็นกรณีพิเศษแก่บรรดานักกีฬาหนุ่ม ๆ ประเภทหมัด ๆ มวย ๆ ที่สร้างชื่อเสียงมาให้แก่ประเทศในฐานะแชมเปี้ยนอยู่เสมอ ๆ อย่างไรก็ตาม ข้างกายของท่านผู้นี้ก็ยังคงแวดล้อมไปด้วยบรรดาชายหนุ่มประเภทดาราดัง ๆ และดาวรุ่งหน้าใหม่อยู่มิได้ขาด และพวกเขาเหล่านั้นก็ยินยอมพร้อมใจทำทุกอย่างเพื่อท่านผู้นี้ ผู้ที่ทะนงตนว่าอยู่เหนือคนอื่น ๆ และไม่เคยเกรงกลัวใครหน้าไหน
"สวัสดีครับ สุขสันต์วันเกิดครับ" อเล็กซ์ยกมือไหว้ทักทายพร้อมอวยพรชายสูงวัยกว่าตรงหน้าด้วยสีหน้านิ่งเฉย
"สวัสดีอเล็กซ์ ตัวจริงหล่อกว่าที่เห็นในรูปเยอะนี่เรา" ท่านเพียงแต่พยักหน้ารับและเอ่ยทักเสียงนุ่ม
"ขอบคุณครับ" อเล็กซ์จำต้องตอบกลับตามมารยาท
"ไม่ต้องเกร็งหรอกอเล็กซ์ ฉันไม่ใช่เสือใช่สางที่ไหนทำตัวตามสบายเถอะ แค่เธอมาคอยอยู่ข้าง ๆ ฉันก็พอ" ท่านเอ่ยบอกพลางยกมือกระดิกนิ้วเรียกบริกรที่ผ่านมาใกล้ ก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าแก้วไวน์แดงจากถาดโลหะสีเงินท่านหยิบแก้วที่มีเครื่อง ดื่มสีแดงส่งไปให้อเล็กซ์ และยกแก้วในมือของตนขึ้นกระทบจนเกิดเสียงดังกังวานเบา ๆ
บรรยากาศของงานเป็นไปด้วยความรื่นรมย์ แขกที่ได้รับเชิญซึ่งแม้จะดูบางตาแต่ก็ล้วนเป็นผู้อยู่ในแวดวงและเพศรสชนิด เดียวกัน การสังสรรค์จึงเป็นไปอย่างกันเองแต่ละคนกินดื่มอย่างสนุกสนานบางคนถึงขั้น เมามายจนครองสติตัวเองไม่อยู่แต่ก็มีคน คอยให้การดูแลปรนนิบัติกันแบบถึงตัวกระทั่งล่วงเข้าสู่วันใหม่ ช่วงเวลาหฤหรรษ์ของการสังสรรค์จึงสิ้นสุดลงพร้อมกับของชำร่วยที่บรรดาแขก พิเศษแต่ละคนได้รับกลับไปอย่างทั่วถึง     ก็คือบรรดาหนุ่ม ๆ ของร้านที่หิ้วปีกกลับไปให้บริการต่อกันเป็นพิเศษ ไม่เว้นแม้แต่เจ้าของงานวันเกิดซึ่งก็ได้รับพระรองหน้าใหม่ไปเป็นของขวัญพิเศษสำรับค่ำคืนนี้ด้วยเช่นกัน
 
"ติ๊ด ๆ "
"ติ๊ด ๆ "
"ติ๊ด ๆ "
เสียงสัญญาณเตือนข้อความเข้าดังมาจากโทรศัพท์มือถือของหน่องซึ่งวางอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงดังติดต่อกันโดยไม่ได้รับการเปิดอ่านในทันที ด้วยเหตุที่ผู้เป็นเจ้าของโทรศัพท์กำลังนอนหลับอย่างเป็นสุขบนที่นอนหนานุ่มแสนสบายภายในห้องนอนของเจ้าตัว
 
 
'งานเลี้ยงเพิ่งเลิก กำลังจะกลับ'  ข้อความสุดท้ายจากอเล็กซ์ถึงผู้จัดการส่วนตัวก่อนเจ้าตัวจะปิดเครื่องไป
 
"โอ๊ย! ทำไมติดต่อไม่ได้นะ... กดปุ่มจนนิ้วจะหงิกแล้วนี่" อ๊อบบ่นออกมา เมื่อทนพยายามติดต่ออเล็กซ์หลายครั้งแต่ทุกครั้งระบบตอบรับอัตโนมัติก็เพียง แต่ตอบกลับมา
"เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้"
เจ้าตัวยังคงเพียรพยายามติดต่อด้วยความง่วนงุนจนกระทั่งเผลอหลับไปในที่สุด
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่2 เริ่มงานวันแรก 17/25/2011
เริ่มหัวข้อโดย: ภาพฝัน ที่ 17-05-2011 14:09:01

   ในห้องนอนที่ตกแต่งอย่างเรียบง่าย เตชวัฒน์กำลังนั่งอ่านข้อมูลของวริศรินทร์หรือไนท์อย่างละเอียด จริงอย่างที่อาของเขาว่า ไนท์ไม่ใช่นายแบบขี้เหวี่ยง ขี้วีน ไม่เคยมีเรื่องกับใคร แต่ก็ไม่เคยพูดกับใคร น้อยนักที่จะมีข่าวสัมภาษณ์ให้นักข่าว จนนักข่าวเรียกไนท์ว่าเจ้าชายน้ำแข็ง ส่วนเรื่องงานไม่ค่อยมีปัญหา แต่จะมีปัญหาก็ตรงนิสัยเหมือนที่อาของเขาบอก

   เตชวัฒน์ถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนเมื่อนึกถึงปัยหาที่ได้ฟังว่า ไนท์นั้นในบางครั้งเหมือนกับล่องลอยไปไกล และมีการกระทำที่เหมือนจะฆ่าตัวตายในทุกเมื่อ

   “อยากให้สายลม ช่วยกล่อมให้ฉันตายตาหลับ ให้ฉันลืม หมดทุก ทุกสิ่ง”

   เสียงเพลงที่ได้ยิน กับร่างสูงโปร่งที่ยืนอยู่บนราวระเบียง เขายอมรับว่าร่างนั้นดูเหมือนจะแหลกสลาย ภาพที่แขนเรียวยกขึ้นเหมือนจะโบยบิน เขายกมือขึ้นสัมผัสริมฝีปากตัวเอง ยังจำได้ถึงความเย็นที่สัมผัสมาอย่างแผ่วเบา ชายหนุ่มสลัดหัวไล่ความคิดฟุ่งซ่านออกไป มีเรื่องอีกเยอะที่เขาต้องทำความเข้าใจในฐานะผู้จัดการส่วนตัว แล้วเขารู้เรื่องดารานักร้องที่ไหน เท่าที่รู้มาคร่าวๆ จากผู้จัดการคนก่อนของไนท์ ไนท์มีคนไม่ชอบหน้าเยอะพอสมควร และเคยโดนกลั่นแกล้งอยู่เ็นประจำ แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้สนใจหรือว่ามีปฏิกิริยาอะไร นอกจากความเมินเฉย และสิ่งที่เหล่าผู้จัดการส่วนใหญ่ทนไม่ได้คือความเงียบ และ ความหวาดผวะที่ต้องคอยดูแลไนท์

   “ผมเคยเปิดเข้าไปในห้องไนท์นอนนิ่งเย็นเฉียบอยู่กับพื้น ผมตกใจรีบพาให้หาหมอที่โรงพยาบาล แต่ที่ไหนได้กลับกินยานอนหลังมากไปทำให้หลับยาว ตอนนั้นผมหัวใจแทบวาย แล้วต่อมาไปงานที่ริมทะเล เกิดความผิดพลาดฉากจะล้มลงมาใส่ แต่ไนท์กลับไม่เดินหนีทั้งๆที่แค่ขยับตัวก็หนีได้ แต่ไม่ทำ แล้วยังมีอีกวันที่ผมเข้าไปหาในห้องไม่เจอจนผมเปิดประตูห้องน้ำเข้าไป ไนทืกลับนอนตัวซีดอยู่ในอ่าง ผมนึกว่าไนท์ตายไปแล้ว ผมทนไม่ไหวกับการทำงานที่เครียดตลอดเวลา ต้องคอยระแวงว่าวันนี้เปิดประตูเข้าไปไนท์จะนอนตายหรือเปล่า” อดีตผู้จัดการหลายคนเล่าการกระทำของไนท์ออกมาคล้ายๆกัน ในเรื่องของความเครียดในการทำงาน

   เตชวัฒน์ยกมืดขึ้นดึงสันจมูกของตนเอง เขายอมรับว่าหนีกใจเมื่อฟังการกระทำที่ผ่านมา และเขาเองก็เห็นมากับตา กับการที่ไนท์ขึ้นไยืนร้องเพลงอยู่บนราวระเบียงของตึกชั้น13 ซึ่งถ้ากลาดเจ้าตัวร่วงตกลงไป เขาแน่ใจว่าไนท์คงไม่รอด เตชวัฒน์ครุ่นคิดถึงอาการของไนท์ตามที่ฟังมาแล้วลองเสิร์ชหาข้องมูลใน Google เขาได้ข้อมูงมาคร่าวๆว่ามันเป็นการป่วยทางจิตชนิดหนึ่ง อาการป่วยที่เรียกว่าโรคซึมเซา เขาอ่านรายละเอียดคร่าวๆมีหลายข้อที่ตรงกับไนท์ แต่แนวทางการรักษาก็คือตจ้องทำให้เจ้าตัวอยากจะมีชีวิตอยู่ ส่วนใหญ่รักษาด้วยการใช้จิตบำบัด หรือทานยา และเขาก็ไม่รู้ว่าไนท์ได้กินยาอะไรอยู่หรือเปล่า  ถึงจะหาข้อมูลยังไงสุดท้ายเขาก็รู้ว่าเขาทำอะไรไม่ได้อยู่ดี เตชวัฒน์ถอนหายใจอีกครั้ง ทุกอย่างมันดูยุ่งยากตั้งแต่ยังไม่เริ่ม อาวุฒของเขาก็เข้าใจหางานมาให้เริ่มทำ    ในที่สุดเตชวัฒน์ก็ตัดสินใจโทรหาวุฒิพล

   “อะไรกันตาเตดึกป่านนี้แล้วยังไม่นอนอีก” คำทักของผู้เป็นอาทำให้เขาเหลือบมองเวลา นี่มันใกล้จะเที่ยงคืนแล้ว

   “ขอโทษครับอา ผมกำลังดูข้อมูลของไนท์อยู่ แล้วสงสัยอะไรบ่างอย่าง” เขาบอกจุดประสงค์ของเขาออกไป แล้วก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะดังมาจากปลายสาย

   “ตาเต ข้อมูลบางทีมันก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอกนะ นี่มันโลกมายา จะใส่สีตีไข่ เติมโน่นเติมยี่ยังไงก็ได้ ไอ้คนที่หน้าฉากเป็นเด็กดีหลังฉากแย่ๆมีเยอะไป เราไม่อาจรู้ได้ว่าใครเป็นยังไง ยกเว้นจนกว่าจะสัมผัสเข้าไปในส่วนลึก เพราะฉะนั้นแกเลิกคิดมากไปนอนได้แล้ว และพรุ่งนี้ก็เริ่มงานโดยการไปรับไนท์ที่คอนโด กุญแจห้องห้องในไปเอาที่ล๊อบบี้อาจัดการให้แล้ว ไปนอนซะ” เขาเองก็ลืมคิดไป ดีที่อาของเขาเตือนสติ ข้อมูลที่หาอ่านได้ตามอินเตอร์เนตส่วนใหญ่ได้รับการใส่สีตีไข่มาเรียบร้อยแล้ว เตชวัฒน์ได้แต่บอกลาผู้เป็นอาแล้ววางสาย

   เขาปิดเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วเตรียมตัวจะเข้านอน ภาพของไนท์ยังคงอยู่ในหัว กับเสียงเพลงแผ่วๆ เสียงของไนท์ที่ไม่ได้หวานแต่ติดที่จะแหบมากกว่าด้วยซ้ำ

   “อยากจะฝันดี ไม่ตื่น มาพบความจริง”

   เสียงของไนท์ยังคงก้องอยู่ในหู ภาพรอยยิ้มจางๆกับริมฝีปากที่ประทับลงมา อะไรบางอย่างในตัวไนท์ กำลังดึงดูดให้เขาเข้าไปใกล้




.......................................



   ตอนเช้าชายหนุ่มแต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อน กับกาเกงยีนส์เข้ารูป เขาฉีกน้ำหอมจางๆ ปกติความประทับใจแรกพบนั้นสำคัญที่สุด แต่เขากับไนท์เจอกันแล้วเมื่อวานนี้ เขาสำรวจความเรียบร้อยของตนเอง ก่อนจะหยิบกุญแจรถเดินออกไป วันนี้เป็นแรกในการเริ่มงานใหม่ พอมานึกถึงตรงนี้แล้วเขาย้อนนึกกลับไปถึงวันแรกที่เรียนจบแล้วออกไปหางานทำ วันแรกๆ เขาเองก็ตื่นเต้นแบบนี้ แม้เวลาจะผ่านมานายพอสมควรแล้วก็เถอะ เตชวัฒน์เดินไปที่รถแล้วสตาร์ทรถออก หยิบจีพีอาร์เอสมาตั้งสถานที่ๆ เขาจะไป นั่นก็คือคอนโดของวริศรินทร์ นั่นเอง

   เขาไปรับคีการ์ดที่ลีอบบี้แล้วเดินตรงเข้าไปขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้นบนสุด การตกแต่งของคอนโดแห่งนี้ ตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่ดูหรูหราอยู่ในตัวเอง เขาเดินไปถึงเลขห้องของไนท์ ชายหนุ่มยกมือขึ้นกดกริ่งที่หน้าประตู แต่ก็มีแต่ความเงียบ กดอีกหลายครั้งก็ไม่มีการตอบรับ หรือไนท์จะไม่อยู่ที่ห้องแต่ก็ไม่น่าใช่ เขาตัดสินใจไขกุญแจห้องเข้าไป

   “วริศรินทร์” ชายหนุ่มมองไปรอบๆห้อง รอบห้องมีแต่ความเงียบ เขาเปิดประตูห้องที่อยู่ใกล้มือเป็นประตูห้องน้ำ จนในที่สุดเขาก็เปิดมาถึงประตูที่คาดว่าเป็นห้องนอน

   “วริศรินทร์” เขาเรียกอีกครั้ง ก็มีแต่ความเงียบ เตชวัฒน์เปิดประตูห้องน้ำที่อยู่ใกล้ๆ เขาพบว่าไนท์ว่านอนหมดสติอยู่ที่พื้น

   “วริศรินทร์” เขาประคองศรีษะของไนทร์ขึ้นมาแล้วอุ้มไปวางไว้บนเตียง

   “ไนท์” เขาเรียกซ้ำอีกครั้งเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังคงไม่รู้สึกตัว เขาตบแก้มในแผ่วเบา จนดวงตาสีดำคู่สวยค่อยๆ ปรือขึ้นมา

   “ไนท์” ชายหนุ่มร้องอย่างดีใจปนโล่งอกที่อีกฝ่ายรู้สึกตัว แต่ใบหน้าของอีกฝ่ายยังคงเรียบเฉย ดวงตาของไนท์มองเตชวัฒน์อย่างเหนื่อยอ่อน

   “พี่เต เป็นผู้จัดการของไนท์ไง เตชวัฒน์หลานชายของ วุฒิพล เมื่อวานอาวัฒบอกแล้วนี่ว่าพี่จะมาเป็นผู้จัดการให้เรา” เขาแนะนำตัวเองอีกครั้ง

   “ไหวไหมไนท์” ชายหนุ่มเป็นห่วงร่างตรงหน้าที่ยังคงสะลึมสะลืออยู่เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

   “พี่เต” เสียงแหบแห้งที่เอ่ยชื่อของเขาออกมากับสายตาเหนื่อยอ่อนที่แลดูอ่อนเพลีย

   “ไนท์จะเอาอะไรหรือเปล่า ไม่สบาย เจ็บตรงไหนไหมตอนล้ม” เขาสำรวจใบหน้าอีกฝ่ายลูบหลังอย่างปลอบประโลมด้วยความลืมตัว แต่ร่างที่อ่อนแรงกลับมองเขานิ่งเฉย มองเขาอยู่นานจนชายหนุ่มรู้สึกตัวเขาเลยถอยห่างออกมา ก่อนที่อีกฝ่ายจะเข้าใจผิด

   “ต้องการอะไรไหม เดี๋ยวพี่ไปเอาให้” เขาถามย้ำอีกครั้ง ไนท์มองไปรอบๆห้องแล้วเงียบก่อนจะหันมามองเตชวัฒน์อีกครั้ง

   “หิว” เสียงแหบแห้งจนเหมือนจะเลือนหาย คำพูดสั้นๆที่กลาวออกมาแล้วเงียบหายไป เหลือเพียงดวงตาที่ยังคงจ้องมองมายังเขา

.............................................


เรื่องนี้ไม่ดราม่าค่า ไม่ต้องกลัววว
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่2 เริ่มงานวันแรก 17/25/2011
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 17-05-2011 14:22:35
วิธีการดูแลคนอยากตายตลอดเวลาอย่างนี้ไม่ยาก
เตก็เก็บผ้าเก็บผ่อนย้ายมาอยู่ดูแลไนท์แบบใกล้ชิดซะ
ไปไหนไปด้วย  ก็ผู้จัดการส่วนตัวอยู่แล้วนี่นา
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่2 เริ่มงานวันแรก 17/25/2011
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 17-05-2011 14:42:18
พี่เตงานหนักเลย
คงต้องดูแลน้องไนท์ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง
ปล่อยไว้หลุดไปโลกหน้าแน่ :monkeysad:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอน แรกพบ 16/25/2011
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 17-05-2011 14:44:15
พออ่านถึงเรื่องนี้แล้ว รู้สึกว่านักเขียนพยายามจะเชื่อมโยงกัน
ก็รู้ว่าคงไม่วุ่นวายหรอก แต่แค่คิดๆดูว่า ชื่อตัวละครมันออกไปทางแตกต่างกันหน่อยนะครับ เหมือนมาคนละโทนไป
เช่น หน่อง-หรั่ง ปลายฟ้า-สายลม วริศรินทร์-เตชวัฒน์ อะไรอย่างเนี๊ยอ่ะฮะ เหมือนมัน Born to be มากไป
คือถ้าพี่ๆ จะเชื่อยมโยงกันจริงๆ น่าจะกำหนดชื่อตัวละครให้มันไปในโทนเดียวกันแต่แรก แล้วค่อยมาแตกย่อยซอยกันไป

หวังว่าคอมเม้นผมคงไม่ได้ทำให้ก่อดราม่านะครับ ถือว่าเป็นคำติเพื่อปรับปรุงละกันเนอะ
เพราะยังไงได้หลงกลเข้ามาอ่านเรนเจอร์ทั้ง 7 แล้ว งานนี้มีได้ตาลายกันไปข้างหนึ่งเลย 5555

ตอนหลังคุณจะรู้ว่าทุกเรื่องมันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง คนละแนวกันเลยนะครับ เพราะมัน เกิดมาเพื่อบทนี้จริงๆ แล้วคุณจะรู้วาสีรุ้งแต่ละสีมันเป็นยังไง เม้นไม่ก่อมาม่าหรอกครับ อิ่มแล้ว  :laugh:

ขอบคุณสำหรับข้อเสนอแนะนะครับ  :pig4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz ขออนุญาติตั้งเอาไว้ก่อนนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 17-05-2011 14:44:22
เรนเจอร์สีเขียว ออกแนว ซอมบี้นี่เอง..
อยากอ่านแล้วอ่ะค่ะ
จะรอตอนแรกนะค่ะ :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่1 [16/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 17-05-2011 14:53:23
ชะอุ้ยยยยยย
เปิดเรื่องมาก็ร้ายสมชื่อเรื่องเลยนะค่ะ o18 o18
จะรออ่านตอนต่อไป :L2:
ปล.โปรเจคนี้ รุนแรงทุกเรื่อง o18
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 1 [16-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 17-05-2011 15:06:13
(http://upic.me/i/y7/qsky3.jpg) (http://upic.me/show/24228533)


ตอนที่ 2 คู่ปรับ
   

เนไรว่า โปรดักชั่น
   ตัวอักษรขนาดใหญ่หน้าตึกสูงใหญ่ระฟ้า เพื่อบอกชื่อของบริษัทผู้เป็นเจ้าของมัน เนไรว่า โปรดักชั่น เป็นบริษัทนายวุฒิพลเจ้าพ่อแห่งวงการบันเทิง ไม่มีเรื่องใดในวงการจะลอดพ้นสายตาเขาไปได้ ทำให้ค่ายเล็ก ๆ ต่างไม่อยากมีเรื่องด้วย เพราะกิจการที่มีอยู่ทั้งหมดอาจถูกทำลายลงได้เพียงชั่วข้ามคืน ด้วยอำนาจและอิทธิพลของนายวุฒิพล
   
    ปลายฟ้าถูกสั่งให้เขามาที่บริษัทแต่เช้า เพื่อถ่ายแบบคู่กับนักแสดงหนุ่มอีกคน เพราะปลายฟ้าติดงานแถลงข่าวของหม่อมเอียดในช่วงบ่าย ทำให้ต้องเสริมตารางงานเพิ่มขึ้นมา ส่วนคนที่ถ่ายแบบคู่เขาก็ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร ทางบริษัทไม่ได้บอกมา ความสงสัยถึงจะมีอยู่แต่ก็ไม่เป็นผลต่อเขา เพราะงานก็คืองานถึงจะถ่ายคู่กับใคร เขาก็ต้องทำผลงานออกมาให้ดีที่สุดอยู่แล้ว
   ห้องสตูดิโอขนาดใหญ่ที่ชั้น 10 ถูกจัดตกแต่งไว้เรียบร้อยหมดแล้ว ขาดเพียงนายแบบที่ยังเดินทางมาไม่ถึงเท่านั้น
“สวัสดีครับพี่เพชร พี่โอ ลำบากต้องตื่นแต่เช้าเพราะผมเลยนะครับ”
ปลายฟ้ายกมือไหว้ทักทายช่างภาพกับฝ่ายกราฟฟิคที่มาเซ็ตสถานที่รออยู่แล้ว
“ไม่เป็นไรหรอกครับปลายฟ้า ปลายฟ้าต่างหากที่ลำบากต้องตื่นมาทำงานตั้งแต่เช้า”
“ไม่เป็นไรครับ ยังไงผมก็ไม่เหนื่อยเท่าพวกพี่หรอกมั้ง ผมซื้อขนมกับกาแฟมาฝาก เดี๋ยวพี่สายลมคงตามเอามาให้นะครับ ผมขอตัวไปแต่งหน้าก่อนดีกว่าจะได้ไม่เสียเวลาพวกพี่ ๆ” ปลายฟ้ายิ้มอย่างสดใสให้ทั้งสองคน
ระหว่างทางปลายฟ้าเดินทักทีมงานเกือบทุกคน เพราะส่วนมากเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่แล้ว จากการร่วมงานกันบ่อย ๆ
สายลมตามหลังเข้ามาพร้อมกับหิ้วตะกร้าที่มีแก้วกาแฟร้อนอัดอยู่จนเต็ม ขนมปังหลากหลายชนิดถูกหิ้วใส่ถุงอยู่อีกข้าง
“พี่เพชรพี่โอกาแฟกับขนมครับ”
สายลมหยิบกาแฟกับขนมส่งให้ทั้งสองคนที่กำลังคุยเรื่องงานอยู่ ก่อนที่จะเรียกทีมงานคนอื่น ๆ มากิน
“สายลมพี่ว่าเอ็งโชคดีว่ะที่ได้ดูแลปลายฟ้า เด็กอะไรหน้าตาดีไม่พอนิสัยยังดีมากอีกด้วย ขนาดดังแบบนี้ยังไม่จุกจิกเรื่องมากให้เห็นเลย” เพชรตากล้องมืออันดับต้น ๆ ของบริษัทเอยชมปลายฟ้าอย่างพอใจ
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกพี่เพชร” สายลมยิ้มอย่างภูมิใจกับภาพลักษณ์ของปลายฟ้าในสายตาคนอื่น
“แต่ว่าวันนี้ปลายฟ้าต้องถ่ายแบบกับใครครับพี่ ไม่มีใครบอกผมเลยตอนโทรมาสั่งเมื่อวานนี้”
“อ๋อ!! ก็ถ่ายกับไนท์ วริศรินทร์ สายลมก็พอจะรู้จักไม่ใช่เหรอ”
“ครับ ครับ รู้จักครับ”
คำบอกของเพชรทำเอาสายลมถึงกับแปลกใจ ไนท์เป็นนักแสดงคิวบู๊ที่มีชื่อเสียงพอสมควร แต่ด้วยบุคลิกที่ดูไม่เป็นมิตรเท่าไหร่ทำให้งานของเขาน้อยตามไปด้วย ถึงหน้าตาจะดูหล่อเหลาพอใช้ได้ แต่ถ้าเทียบกับปลายฟ้าก็ถือว่ายังห่างชั้น แถมการทำให้เขายิ้มให้ได้นั้นยากยิ่งกว่าสิ่งใด
ขณะที่กำลังคิดเรื่องไนท์อยู่ชายหนุ่มร่างสูงใบหน้าเย็นเฉียบราวกับน้ำแข็งเดินเข้ามา สายลมหันไปมองชายหนุ่มผู้มีใบหน้าราบเรียบนั้น แต่เขาก็ยังสังเกตเห็นบางอย่างในแววตาของเด็กคนนี้ มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกแตกต่างจากปลายฟ้า
“ไนท์มาทางนี้เลยค่ะ” ช่างแต่งหน้าตะโกนเรียกเมื่อมองเห็นนายแบบมาถึงแล้ว
ไนท์เดินผ่านทุกคนเข้าไปด้านในโดยแค่หันมองหน้าเท่านั้น
“นิสัยไม่เปลี่ยนเลย ไม่รู้ท่านประธานนึกยังไงให้มาถ่ายแบบคู่กับปลายฟ้า” โอฝ่ายกราฟฟิคกระซิบคุยกับเพชร
“คงต้องการให้ความสดใสของปลายฟ้าช่วยดึงไนท์ขึ้นมาล่ะมั้ง” เพชรตอบก่อนเดินไปตรวจอุปกรณ์ให้พร้อมสำหรับถ่ายรูป

“อ่าวไนท์นายเองเหรอ ผมก็นึกว่าให่มาถ่ายแบบคู่กับใครเสียอีก” ปลายฟ้ายิ้มอย่างสดใสให้เพื่อนนายแบบ
..........
ไนท์ไม่ตอบ ทำเพียงหันมามองหน้าคนที่ทักตัวเองก่อนเดินไปนั่งเก้าอี้ตัวที่ว่างเพื่อแต่งหน้า
ปลายฟ้ากับไนท์ถือว่าเป็นนักแสดงที่อยู่ในรุ่นราวคราวเดียวกัน และเข้ามาอยู่ที่บริษัทนี้ใกล้ ๆ กัน และเคยร่วมงานกันมาบ้างประปราย ทั้งสองคนเหมือนเป็นขั้วต่างกันของบริษัท คนหนึ่งสดใสร่างเริ่งเป็นที่รู้จักของทุกคน กับอีกคนเก็บตัวเงียบขรึมแทบจะไม่คุยกับใครเลย
“นายนี่ยังเหมือนเดิมเลยนะไนท์ ไม่คุยกับคนอื่นถ้าไม่จำเป็น” ปลายฟ้ายิ้มให้ฝ่ายตรงข้ามแม่จะไม่ได้รับการตอบรับกลับมาก็ตาม
“น้องปลายฟ้านี่ดีนะค่ะกล้าทักกับน้องไนท์ด้วย เป็นพี่ไม่กล้าหรอกกลัวเขาไม่ทักตอบหน้าแตกแย่เลย” ช่างแต่งหน้าสาวประเภทสองจีบปากพูดเบา ๆ
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ก็ผมรู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นคนยังไง แต่พี่เจอเขาบ่อย ๆ ก็ชวนเขาคุยเยอะสิครับ ไนท์เขาก็คงอยากมีเพื่อนคุยเหมือนกัน แต่เขาคงทำตัวไม่ถูกไงครับ” ปลายฟ้ายิ้มให้คนที่พูดด้วยอย่างสดใส จนฝ่ายที่เห็นอดเขินขึ้นมาไม่ได้
“น้องปลายฟ้านี่ช่างใจดีเหลือเกินนะค่ะ อ่ะ เสร็จแล้วค่ะเดี๋ยวไปเปลี่ยนชุดนะค่ะจะได้เริ่มถ่ายได้เลย ช่วงบ่ายมีงานแถลงข่าวต่อนี่นา”
“ครับ ขอบคุณมากครับ” รอยยิ้มไม่เคยเลือนหายไปจากใบหน้าของปลายฟ้าเลยแม้แต่น้อย

การถ่ายแบบเป็นไปอย่างราบรื่น ไนท์ก็ไม่ได้ทำให้การทำงานของปลายฟ้าล่าช้าแต่อย่างใด
“ไนท์ถ่ายแบบออกมาดูดีมากเลยนะ” ปลายฟ้าชมขณะกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังจากงานเสร็จ
แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับกลับมาเหมือนเดิม ไนท์เพียงหันมามองหน้านิดหน่อยก่อนเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวกลับคืน
ปลายฟ้าออกมาก่อนเพราะว่ามีงานแถลงข่าวรออยู่ ปลายฟ้าทักทายพูดคุยกับประธานบริษัทเล็กน้อย เหมือนท่านจะแนะนำใครบางคนให้รู้จัก แต่เขาก็ไม่มีเวลามากพอจึงขอตัวออกมาก่อน

ปึ้ง!!
“แม่ง หยิ่งฉิบหายเลย พูดด้วยไม่คิดจะตอบสักคำ มันคิดว่าบ้านมันรวยมาจากไหนกัน”
ปลายฟ้าเตะเบาะรถด้านหน้าอย่างไม่พอใจเมื่อขึ้นมาอยู่บนรถตู้ส่วนตัว
“ใจเย็น ๆ สิฟ้า ฟ้าก็รู้นี่ว่าไนท์มันเป็นเด็กมีปัญหา อย่าไปถือสาเลย” สายลมรู้อยู่แล้วว่าต้องมีเหตุแบบนี้
“แต่พี่สายลมคิดดูสิครับ ผมพูดด้วยตั้งเยอะ จะตอบผมสักครั้งยังไม่มีเลย คนอื่นไม่มองผมเป็นตัวตลกแย่แล้วเหรอป่านนี้” น้ำเสียงบ่งบอกถึงความไม่พอใจอยู่มาก
“ไม่หรอกครับ ดีแล้วแบบนี้คนอื่นเขาคิดว่าฟ้าใจกว้างเข้าใจคนแบบไนท์ได้ไงครับ”
“ผมนะหรอเข้าใจ ตอนนี้แค่นึกถึงหน้ามันผมก็โมโหแล้ว”
“เอาน่าฟ้า ฟ้าต้องทำใจให้ได้นะครับ เพราะอีกหน่อยต้องร่วมงานกันอีกเยอะ”
คำพูดของสายลมทำเอาปลายฟ้าแปลกใจ แต่เขาก็ไม่ได้ถามต่อเพราะว่ายังไม่อยากรู้รายละเอียดตอนนี้
ตรืดดดดดดด ตรืดดดดดด
โทรศัพท์มือถือส่วนตัวของปลายฟ้าสั่นขณะกำลังนั่งหลับตาสงบสติอารมณ์อยู่ ปลายฟ้าหยิบขึ้นมาดูก่อนยิ้มออกมาพร้อมกดรับสาย
“ฮัลโหล พี่ก้องมีอะไรหรือเปล่าครับ โทรมาแต่เช้าเลย” ปลายฟ้าปรับเสียงปรับอารมณ์ทันที
“เช้าที่ไหนใกล้เที่ยงแล้ว ถ่ายแบบเช้าเป็นยังไงบ้างครับเหนื่อยไหม” เสียงถามไถ่ด้วยความห่วงใยทำให้ปลายฟ้าอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง
“ก็เรียบร้อยดีครับ ว่าแต่พี่เถอะ ที่กองถ่ายเป็นยังไงบ้างครับ”
“ก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ พี่ห่วงแต่ปลายฟ้านั่นแหละ เดี๋ยวมีแถลงข่าวหนังหม่อมเอียดอีกไม่ใช่หรือครับ”
“ครับ กำลังเดินทางไปสักพักคงถึงแล้วครับ”
“งั้นตั้งใจให้เต็มที่นะครับ พี่เอาใจช่วย”
“ขอบคุณครับ พี่ก็ตั้งใจทำงานนะครับ”
“ครับ แค่นี้ก่อนนะพี่ต้องไปถ่ายต่อแล้ว เดี๋ยวพี่โทรหาใหม่”
“ครับ” ปลายฟ้าเริ่มมีรอยยิ้มกลับมาอีกครั้ง
การสนทนาของทั้งสองคนไม่พ้นการรับรู้ของสายลม ถึงเขาจะไม่เห็นด้วยกับการที่ทั้งสองคนคบกัน แต่มันก็ทำให้ปลายฟ้าพอจะมีความสุขขึ้นมาได้บ้างเขาก็เลยจำใจยอม แม่ว่าจะรู้สึกเจ็บในใจทุกครั้งที่ต้องอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้


========> โปรดติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่2 เริ่มงานวันแรก 17/25/2011
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 17-05-2011 15:07:26
เอิ่มมม  เรื่องนี้ไม่ดราม่า
แต่เรนเจอร์ทุกสี เรื่องก็สุดแสนจะไม่ธรรมดาสักเรื่อง
55555
จะรออ่านตอนต่อไปปปป
ว่าแต่ เตจะดูแลไนท์อย่างไรล่ะ สงสัยคงต้องส่งเข้าเรือนหออย่างเดียวซะละมั้ง
 o18 o18
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 4 ตัวแปร 17/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 17-05-2011 15:08:41
ทุกคนใช้ชื่อใหม่สมัครกันใหม่หมดเลยค่ะ
เพราะฉะนั้นลองเดากันดูนะคะว่าใครแปลงร่างเป็นใครกันบ้าง 555
ขอบคุณครับป้านัทที่แนะนำ  555 
ใครน้อชอบเขียนเรื่องวิญญาน  น่ากลัวๆ  55
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่2 เริ่มงานวันแรก 17/25/2011
เริ่มหัวข้อโดย: Giniz ที่ 17-05-2011 15:08:45
อ้าว ตกลงเตเป็นพี่???
รู้สึกวันแรกที่เริ่มทำงานน้องไนท์ก็หางานให้พี่เตซะและ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 4 ตัวแปร 17/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 17-05-2011 15:13:59
 :m15: ยังไม่ได้อ่านตอนที่สิบ อยู่ดีๆ เรื่องเพลิงพราย หายไปซะังั้น
แต่ดีใจมั่กมาก พี่จงกลนีมาลงใหม่แล้ว (นึกว่าจะอดอ่านซะแล้วว :monkeysad:)
เข้ามาอ่านอีกรอบ ก็ยังคงนึกถึงภาพสยอดสยองอยู่แล้ว :freeze:
ปล. เป็นกำลังใจให้นะค่ะ มาลงต่อไวไว :กอด1: :กอด1: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 2 UP!!! [17-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 17-05-2011 15:30:07
ยะฮู้...รู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆๆ
ปลายฟ้านี่ท่าจะ แรงงงงงงงงงงงงง
ขบวนการเรนเจอร์สีน้ำเงิน ปะทะกับ สีม่วงแห่งเพริงพลาย
สนุกดีแท้  o18 o18
เอ...จะว่าไป หรั่งจะมาหักคอปลายฟ้าด้วยปะเนี้ยะ :confuse: :confuse:
 :laugh: :laugh: ล้อเล่นน่า..(คงไม่หรอกมั้ง...อิอิ)
จะรอตอนต่อไปค่ะ
 :กอด1: :กอด1: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจ
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 17-05-2011 15:36:06
"ไนท์เป็นนักแสดงคิวบู๊ที่มีชื่อเสียงพอสมควร แต่ด้วยบุคลิกที่ดูไม่เป็นมิตรเท่าไหร่ทำให้งานของเขาน้อยตามไปด้วย ถึงหน้าตาจะดูหล่อเหลาพอใช้ได้ แต่ถ้าเทียบกับปลายฟ้าก็ถือว่ายังห่างชั้น"
ยังอ่านไม่ทันจบ  เจอประโยคนี้เข้าไปขอเมนท์ก่อน  เกทับกันจ๊างงงงงงง
แหม แหม  ไนท์ที่ว่าแน่จากอีกเรื่องกลายเป็นห่างชั้นจากปลายฟ้าในเรื่องนี้ไปเลย  กร๊ากกกกก

อ่านจบแล้วกลับมาเมนท์ต่ออีกหน่อย
คนแต่งทำให้เรารู้สึกได้เลยว่าปลายฟ้านี่แหละนักแสดงจริง ๆ
ต่อหน้าคนอื่นไม่แสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมา
จริง ๆ อยากบอกว่าต่อหน้าอย่าง  ลับหลังอย่างก็ดูจะแรงไป
สงสารก็แต่สายลม  คอยดูแลไว้ให้คนอื่นได้เชยชมหรือเปล่าเนี่ยะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 3 ความต่าง
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 17-05-2011 15:37:14
เปล่าแค่อัพไปหนนึงแล้วจนถึงตอนที่ 9 แล้วต้องมาอัพใหม่อีกครั้ง ยอดคนอ่าน 3 พันกว่า แต่ตอนนี้
3 ร้อยยังไม่ถึงเลยค่ะ so said มากมาย
โทะ..โถ..คุณนีขา อิ อิ อิ คนอื่นเค้าเรียกเจ๊จง แต่อิฉันจะเรียกคุณนี ก็ตอนที่มาอัพใหม่นี่พึ่งอัพได้ไม่กี่วันนี่คะ
อีกประเดี๋ยวเดี๊ยนรับรองว่า ยอดคนอ่านพุ่งปรี๊ดเจ้าค่ะ ก็โปรเจคนี้ของเค้าดีจริงๆนี่นา ดูนักเขียนแต่ละคนที่ร่วมโปรเจคดิ
มือทองทั้งนั้น เดี๊ยนรออ่านต่อตอนที่ค้างไว้อยู่นะคะ
 :o12:ไปนั่งทางในดูดีกว่า ว่าใครเป็นใครในรุ้งเจ็ดสีนี่ อยากได้ของรางวัลอ้ะ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (R E D) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๑. ๑๖ พ.ค. ๒๕๕๔
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 17-05-2011 15:45:03
เป็นเรื่องแรกที่จับเอา ชะนี กับ กวาง
มาแข่งกัน
โอ้ววววววววววววววว :laugh: :laugh: สุดยอดมากกกกกกก
ขอยกนิ้วให้กับความแรงงงงงงงงงงงงง o13 o13 o13
เรนเจอร์สีแดง แร๊งงงงงงงงงงงได้ใจไปเลยยย
SHE's THE ONE
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (R E D) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๑. ๑๖ พ.ค. ๒๕๕๔
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 17-05-2011 16:00:40
มาแล้วเรนเจอร์สีแดง  มาพร้อมกับความมันเลยนะครับพี่     
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 2 UP!!! [17-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 17-05-2011 16:08:40
หวังว่าตอนนี้นิยายโปรเจคใหญ่ของเราคงเข้าที่เข้าทางดีแล้วนะคะ

อ้าว..ปลายฟ้าที่ดูfriendlyนี่ จริงๆแล้วคือการสร้างภาพเหรอคะ อืม..ช่างสมกับคำว่าวงการมายาจริงๆเลย
อยากรู้ต่ออีกจังเลยจ้าว่า ปลายฟ้า สายลม ไนท์ ก้อง สี่คนนี้จะเกี่ยวพันกันอย่างไรต่อไป
แล้วแต่ละคนมีที่มาที่ไปอย่างไร แล้วจริงๆใครจะได้หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า จะรออ่านค่ะ


ป.ล."สายลมห่มฟ้า" ชื่อย้าวยาว อยากเรียกสั้นๆจ้ะ จะให้เรียกว่า "ลม" หรือ "ฟ้า" ก็ไปซ้ำกับชื่อตัวละครในเรื่อง
เอางั้นก็เรียกยาวๆว่า "สายลมห่มฟ้า" นี่แหละเนอะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 4 ตัวแปร 17/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: คนริมคลอง ที่ 17-05-2011 16:37:24
หลงอยู่ในกอบัวหลายวัน หาทางออกมาให้กำลังใจได้แล้วครับ

หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (R E D) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๑. ๑๖ พ.ค. ๒๕๕๔
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 17-05-2011 17:07:27
ว้าว..ว้าว..มาแล้วสีแดงร้อนแรงดั่งเปลวเพลิง 
สงครามครั้งนี้คงรุนแรงยิ่งกว่าสงครามใดๆ
ใครใคร่เชียร์เมย์ หรือ ใคร่เชียร์เทียน ก็เชียร์ไป
ดิฉันไม่เชียร์ใคร รอให้สองคนนั่นฟาดฟันกันไปจนอ่อนแรง
อิ อิ อิ จะขอแซงหน้าไปโฉบคุณทานซะเอง (ถ้าไม่โดนคุณทาน ถ...บ ออกมาซะก่อน 555)
มันตั้งกะเริ่มต้นแบบนี้ ก็นั่งรอ นอนรออ่านด้วยอารมณ์มันๆจ้ะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่2 เริ่มงานวันแรก 17/25/2011
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 17-05-2011 17:50:11
สีคราม สีที่ใกล้เคียงกับสีม่วง เลยดูน่าค้นหาเหมือนกันรึ

เรื่องนี้ไม่มาม่า แต่ผูกเงื่อนไว้หลายเงื่อนให้ผู้อ่านคาใจ ใช่ปะคะ สงสัยดิฉันคงต้องแก้เงื่อนกันเล็บหักแน่
ไม่เคยเรียนลูกเสือซะด้วยซี เรียนยุวกาชาดก็ไม่เน้นเรื่องเงื่อน
เอาล่ะค่ะ จะค่อยๆตามไป รอให้เรื่องเค้าค่อยๆคลายเงื่อนเองดีกว่าเนาะ

 Quote from: 7~คิวปรี๊ด on 17 May, 2011, 12:40:31 PM
พออ่านถึงเรื่องนี้แล้ว รู้สึกว่านักเขียนพยายามจะเชื่อมโยงกัน
ก็รู้ว่าคงไม่วุ่นวายหรอก แต่แค่คิดๆดูว่า ชื่อตัวละครมันออกไปทางแตกต่างกันหน่อยนะครับ เหมือนมาคนละโทนไป
เช่น หน่อง-หรั่ง ปลายฟ้า-สายลม วริศรินทร์-เตชวัฒน์ อะไรอย่างเนี๊ยอ่ะฮะ เหมือนมัน Born to be มากไป
คือถ้าพี่ๆ จะเชื่อยมโยงกันจริงๆ น่าจะกำหนดชื่อตัวละครให้มันไปในโทนเดียวกันแต่แรก แล้วค่อยมาแตกย่อยซอยกันไป

หวังว่าคอมเม้นผมคงไม่ได้ทำให้ก่อดราม่านะครับ ถือว่าเป็นคำติเพื่อปรับปรุงละกันเนอะ
เพราะยังไงได้หลงกลเข้ามาอ่านเรนเจอร์ทั้ง 7 แล้ว งานนี้มีได้ตาลายกันไปข้างหนึ่งเลย 5555

อืม..ดิฉันกลับมองแบบนี้ค่ะ มองว่าสายรุ้งตัวเดียว แต่มี เจ็ดสี 
นั่นคือความแตกต่างที่อยู่ในรุ้งตัวเดียวได้อย่างสวยงามและลงตัว
หึ หึ หึ แต่จะอย่างไรก็ตามเราต่างก็หลงกล เดินตามสายรุ้งอันสวยงามเข้ามาเหมือนกันแล้ว
เราก็คงต้องมาร่วมอกร่วมใจกันตาลายโดยไม่ได้นัดหมายแน่ๆเลยเนาะ 555 (สงสัยคงต้องเปลี่ยนแว่นใหม่ด้วยแล้วมั้งดิฉันน่ะ)
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (R E D) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๑. ๑๖ พ.ค. ๒๕๕๔
เริ่มหัวข้อโดย: คนริมคลอง ที่ 17-05-2011 18:14:24
ตาอินกับตานาแย่งปลากัน จะมีตาอยู่มาคว้าไปอีกทีไม๊เนี่ย

ร้อนแรงสมกับเป็นสีพระเพลิงเผาผลาญทุกอย่างให้มอดไหม้
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่2 เริ่มงานวันแรก 17/25/2011
เริ่มหัวข้อโดย: k_sleepless ที่ 17-05-2011 18:15:58
" หิวจนเป็นลม " ???? ... กรรมจริงๆ หวังว่านี่คงไม่ใช่หนึ่งในวิธีฆ่าตัวตายของนายไนท์นะนี่...ทรมานตายชัก 555555

การเป็นผู้จัดการส่วนตัวของพ่อหนุ่มคนนี้นอกจากจะคอยระแวงว่าจะต้องรับมือกับการหาวิธีตายของเจ้าตัวแล้ว ยังต้องคอยกลัวว่าวันดีคืนดีจะตกเป็นผู้ต้องสงสัยรึเปล่า...งานหนักจริงๆเนอะ 5555

ปอลอลิง แล้วทำไมไนท์ถึงได้เป็นโรคซึมเซาได้น๊าาาาาาาาาาาาาาาาา ???????????

เป็นกำลังให้นักสู้สีครามค่าาาาาาา   o13
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz ขออนุญาติตั้งเอาไว้ก่อนนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 17-05-2011 18:19:31
เข้ามาเจิมสีเขียวด้วยคนจ้ะ
วึ๋ย..เป็นตาย่าน      อุ๊ย..น่ากลัว (ขอโต๊ด..ที่ตอนแรกอุทานเป็นภาษาเสียงในฟิล์ม)
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 1 [16/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: how to ที่ 17-05-2011 18:31:22
ระวังตบะแตก  :z1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่1 [16/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: vascular ที่ 17-05-2011 18:39:00
เด็กน้อย แรงจริงอะไรจริง
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 1 [16/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: vascular ที่ 17-05-2011 18:46:53
คิดว่าจะติดตามโปรเจ็คนี้ให้ครบทุกเรื่องเลยครับ  o13
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (R E D) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๑. ๑๖ พ.ค. ๒๕๕๔
เริ่มหัวข้อโดย: how to ที่ 17-05-2011 18:51:12
สมกับเป็นเพลิง  o13
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่2 เริ่มงานวันแรก 17/25/2011
เริ่มหัวข้อโดย: vascular ที่ 17-05-2011 18:51:54
ตามมาอ่านอีกหนึ่งสี
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (R E D) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๑. ๑๖ พ.ค. ๒๕๕๔
เริ่มหัวข้อโดย: vascular ที่ 17-05-2011 18:58:49
หนึ่งเก้ง หนึ่งชะนี ออกตัวกันล้อฟรีเลยทีเดียว
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 1 [16/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 17-05-2011 19:00:04
ตอนนี้บาร์เกย์ The Butterfly Boy ยังหัวค่ำอยู่ เลยมีเพียงสถานที่ที่ตกแต่งได้อย่างน่าดู ชวนเร้าใจ และแสงสีสวยงามเท่านั้น ที่ดึงดูดความสวนใจของเราๆ
รอให้ดึกๆจึงจะเริ่มคึกคักเร้าใจยิ่งขึ้นๆ ใช่ไหมคะ คราวนี้แหละดิฉันจะได้เที่ยวบาร์เกย์ครั้งแรกในชีวิต อิ อิ อิ แค่คิดก็ชักสนุกแล้ว
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 1 [16/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 17-05-2011 19:19:27
สตรีสูงวัย เขาติดป้ายห้ามเข้าสถานที่แบบนี้เพียงลำพังนะคะ
 
เพราะมันไม่ดีต่อสุขภาพนะคะ กร๊าาาาาาาาาาาากๆ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (R E D) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๑. ๑๖ พ.ค. ๒๕๕๔
เริ่มหัวข้อโดย: IZE ที่ 17-05-2011 19:29:22
ตอนแรกมาแล้ว ออกตัวกันแรงทีเดียว

สงครามครั้งนี้ท่าจะมันส์อยู่ไม่น้อย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่2 เริ่มงานวันแรก 17/25/2011
เริ่มหัวข้อโดย: IZE ที่ 17-05-2011 19:41:08
เรื่องนี้ดูมี ปม ชีวิตซับซ้อนๆ

แล้วอย่างนี้เต จะทำยังไงต่อไปหว่า
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่1 [16/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: IZE ที่ 17-05-2011 19:48:07
โหยยยยยยยยยยยยยยคุณหนูบ้านนี้ แรงจิงๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 4 ตัวแปร 17/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 17-05-2011 19:48:58
อุ้ย! มาจากในน้ำจริงๆรึคะ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 1 [16/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: IZE ที่ 17-05-2011 19:56:11
ต๊ายๆๆตายๆๆๆ   แล้วจะทำใจไม่ให้ตบะแตกได้ป่าวเนี่ย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 4 ตัวแปร 17/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 17-05-2011 19:57:09
ถ้าลงอีกตอนจะมีใครบ่นอะไรไหมคะ  :-[

(http://img28.mediafire.com/b6f242d94a346b9095740bdfdd1f8ac23fc115dbd2c7ec5da35aca98f1eb05c75g.jpg)
 
ตอนที่ห้า "สิ้นแสงดาว"
ดอกบัวสีสวยแย้มกลีบบานอวดโฉมงามอยู่เหนือผืนน้ำกว้าง ผิวน้ำพลิ้วไหวเป็นระลอกตามกระแสลมที่พัดผ่านส่งกลิ่นหอมเย็นรวยระรื่นชื่น ใจ  ดวงอาทิตย์คล้อยต่ำเตรียมจะลาลับ แสงสีส้มเหลือบม่วงอาบย้อมปุยเมฆที่ประดับท้องฟ้าสีน้ำเงินซึ่งเข้มจัดขึ้น ทุกที ฝูงนกตัวน้อยทยอยบินกลับรังนอนของมัน นกกาน้ำขนดำเป็นมันเลื่อมที่เกาะคาคบไม้ใหญ่ใบโกร๋นส่งเสียงร้องดัง "กา... กา... กา..." ทำลายความเงียบและบรรยากาศที่น่าอภิรมย์เสียสิ้น กระทั่งชายหนุ่มรุ่นกระทงที่เหวี่ยงแหจับปลาอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลซึ่งกำลังเก็บ กู้เครื่องมือของเขาขึ้นจากน้ำอดรนทนไม่ไหว จึงยิบฉวยสิ่งที่หาได้จากใต้น้ำปาขึ้นไปบนยอดไม้เหนือหัว ทำให้นกที่คนรังเกียจตกใจและบินหนีหายไป
"กูตกใจหมดไอ้นกบ้า!” เขาสบถด่าเสียงขรม
"ขวัญอ่อนจริงนะไอ้มิ่ง แล้ววันนี้มึงได้ปลาเยอะไหมวะ" เพื่อนคู่หูวัยไล่เลี่ยกันกล่าวเยาะก่อนจะเอ่ยถามจำนวนผลผลิตที่ได้ของวันนี้
"หลายตัวอยู่ ดีกว่าไม่ได้แหละน่า เก็บชุดนี้เสร็จกูก็ว่าจะพอแล้วว่ะวันนี้" มิ่งบอกพร้อมกับใช้มือสาวแหที่มีปลาขนาดเขื่องติดอยู่กับตาข่ายหลายตัวนั้น อย่างช้า ๆ
"แล้วมึงล่ะไอ้ก้อน... ได้ปลาเยอะไหม" มิ่งถามคู่หูที่มาด้วยกัน
"เออ... กูกะว่าเหวี่ยงรอบนี้เสร็จกูก็จะขึ้นเหมือนกัน จวนจะมืดแล้วว่ะ" ก้อนบอกก่อนจะเหวี่ยงแหในมือลงสู่ผืนน้ำอีกครั้ง
มิ่งที่ค่อย ๆ เดินขึ้นจากน้ำไปยืนที่บนตลิ่งริมบึง เขาค่อย ๆ  แกะปลาแน่นิ่งด้วยถึงฆาตรออกจากด้ายเหนียว ๆ ของตาข่ายก่อนจะเอามันใส่ลงไปในถังพลาสติกแห้งๆ ที่ข้างในมีเพื่อน ๆ ของมันนอนไม่ไหวติงรอท่าอยู่ก่อนแล้ว  ปลาบางตัวที่ยังไม่ถึงฆาตดิ้นกระแด่ว ๆ สะบัดโบกครีบหางอย่างเอาเป็นเอาตายพยายามกระเสือกกระสนให้ลำตัวหลุดออกจาก เส้นใยเพชฌฆาตที่พรากเอามันขึ้นมาจากแหล่ง พำนักพักพิง มิ่งทำเช่นเดียวกันกับตัวที่แน่นิ่ง แต่เขาต้องใช้ความพยายามที่มากกว่าเพื่อจะเอามันออกจากสิ่งที่พันธนาการ  ก่อนจะค่อย ๆ หย่อนลงถังอีกใบที่มีน้ำและปลาที่ยังหายใจใส่เอาไว้บางส่วน
"มิ่ง แหกูติดอะไรไม่รู้ว่ะ ดึงไม่ขึ้นเลย มึงลงมาช่วยกูก่อนสิ" ก้อนร้องเรียกเพื่อนมาจากในบึงน้ำ
"รอแป๊บนึง...เหลืออีกสองตัว... เดี๋ยวกูลงไปช่วย" มิ่งตะโกนกลับไป
เมื่อปลาตัวสุดท้ายที่พยายามดิ้นอย่างเหนื่อยเปล่า แต่ก็หนีอุ้งมือของมัจจุราชไปไม่พ้น ถูกหย่อนลงในถังน้ำเพื่อให้ไปอยู่กับบรรดาเพื่อน ๆ ของมัน ที่ว่ายวนแตกตื่นชนกับด้านข้างของถังกึงกัง มิ่งก็เดินลงไปในบึงอีกครั้งตรงไปทางก้อนที่กำลังพยายามดึงเก็บกู้แหของตน แต่ก็ไร้ผล ความลึกของระดับน้ำแค่คอของทั้งสองที่ยืนอยู่คู่กันไม่ได้เป็นอุปสรรคมาก นัก ด้วยการประกอบสัมมาอาชีพที่ทำอยู่ทำให้พวกเขาช่ำชองทุกที่ทางของบึงน้ำกว้าง แห่งนี้เป็นอย่างดี แต่สิ่งที่ลดทอนคุณสมบัติข้อนั้นลงคือความมืดดำของท้องฟ้า
"ไอ้มิ่ง มึงลองพยายามดึงขึ้นมานะ เดี๋ยวกูจะงมลงไปแกะดู" ก้อนบอกก่อนจะมุดไปใต้ผืนน้ำด้วยการคลำไปตามความยาวของเครื่องมือจับปลา ทั้งสองช่วยกันดึงช่วยกันลาก จนตาข่ายและสิ่งที่ติดอยู่เคลื่อนมาสู่ตรงส่วนที่ใกล้ริมตลิ่งเข้ามาทุกที ทั้งสองถึงกับตกตะลึงยืนแข็งทื่อนัยน์ตาเบิกกว้าง ก่อนจะเป็นมิ่งที่ได้สติตะโกนออกมาเสียงดัง
"ไอ้ก้อน! ผะ... ผะ... ผีหลอก" พร้อมกับปล่อยมือออกจากปลายเชือกเครื่องมือทำมาหากินแล้ววิ่งตะเกียกตะกายหนีขึ้นไปบนฝั่ง
"หะ.. ไอ้มิ่งมึงรอกูด้วย" กว่าก้อนจะแกะมือของตัวเองออกจากตาข่ายได้ สิ่งที่ติดอยู่กับตาขายก็โผล่พ้นน้ำออกมาให้เห็นจนติดตาเสียแล้ว
"หมวดพชร... เข้าเวรที่นี่วันแรกมีคดีใหญ่ให้ทำรึยังล่ะ" ผกก.สน. ... ที่กำลังเปิดประตูออกจากห้องเดินเข้ามาถามสัพยอก ร.ต.ท.พชร พงษ์ภิญโญที่โต๊ะร้อยเวร
"ยังครับท่าน วันนี้มีแต่คดีจราจร กับคดีวิวาทเล็กน้อย ยังไม่มีเรื่องใหญ่ครับ" หมวดหนุ่มรีบลุกขึ้นยืนพร้อมรายงานผู้บังคับบัญชาของตน
"ตามสบายเถอะหมวด นี่ก็ใกล้เวลาเลิกงานแล้ว เดี๋ยวแวะไปหาอะไรกินกันสักหน่อยไหมหมวด" ผู้เป็นนายเอ่ยชวนแต่ยังไม่ทันไร เสียงวิทยุสื่อสารประจำสถานีก็ส่งเสียงเรียกมาเสียก่อน
'มีผู้แจ้งเหตุ พบศพคนตาย ในบึงท้ายหมู่บ้าน... ท้องที่... ขอร้อยเวร ตรวจสอบด้วย ทราบแล้วเปลี่ยน' ร.ต.ท.พชร เอื้อมคว้าหยิบไมโครโฟนมาถือไว้ในมือก่อนจะกดปุ่มที่ด้านขางแล้วกรอกเสียงลง ไป
"ทราบแล้ว เปลี่ยน"
"ไม่ทราบว่าใครรับเรื่องครับ เปลี่ยน"
"ผม... ร้อยตำรวจโทพชร พงษ์ภิญโญ ร้อยเวร สน... เดี๋ยวผมจะไปดูที่เกิดเหตุเอง...ทราบแล้วเปลี่ยน"
"รับทราบ เลิกกัน"
"ผมขอตัวไปดูที่เกิดเหตุนะครับ" ผู้หมวดหนุ่มคว้าหมวกมาสวมพร้อมกับทำความเคารพผู้เป็นนาย
"ไปเหอะ โชคดีนะหมวด" ผกก.สน. ... เอ่ยรับทราบสถานการณ์สำคัญตรงหน้า
 
"ทำไมยังไม่เปิดเครื่องสักทีนะอเล็กซ์ หายหัวไปทั้งวันทั้งคืนแล้วฉันจะไปตามตัวที่ไหนได้เนี่ย เค้าเลื่อนคิวมาถ่ายเป็นเช้าพรุ่งนี้แล้วด้วย ตายละฉัน ต๊าย ตาย ๆ ๆ" อ๊อบบ่นออกมาพลางเอามือทาบอก พร้อมกับพยายามจิ้มโทรศัพท์ติดต่อหาอเล็กซ์จนมือเป็นระวิง ก่อนจะเดินออกมาจากห้องพักบนคอนโดสูงที่ปราศจากร่อยรอยการมีตัวตนของดารา หนุ่มที่อยู่ภายใต้การดูแลของตัวเอง อ๊อบเดินไปตามทางเดินก่อนจะไปกดยืนรอลิฟต์ ระหว่างนั้นก็ยังคงเพียรพยายามโทรหาดาราหนุ่มในสังกัดแต่ก็ไร้วี่แวว เมื่อลิฟต์โดยสารที่ว่างเปล่ามาถึงเขาจึงเดินเข้าไปกดปุ่มชั้นล่างด้วยนิ้ว มือข้างที่ว่างจากการกดปุ่มบนโทรศัพท์  'หวังว่าคงไม่มีเรื่องอะไรร้ายแรงอีกนะ ปีที่แล้วฉันก็เสียดาราดังอย่างนิว นวดล นรลักษณ์ไปคนนึงแล้ว ปีนี้คงไม่ต้อง... อเล็กซ์ เอกวิน นรลักษณ์...' ความคิดชั่ววูบของอ๊อบสะดุดหยุดลงทันทีก่อนที่บานระตูลิฟต์จะปิดลง
 
 
รถกระบะสีดำคาดขาวกลางลำตัวรถด้านข้างพิมพ์ตราสัญลักษณ์ของสำนักงานตำรวจ แห่งชาติ กำกับด้วยข้อความระบุพื้นที่ปฏิบัติการวิ่งเรียบไปตามถนน ก่อนจะหักหัวเลี้ยวเข้าถนนลูกรังแคบ ๆ ที่ไม่ค่อยมีผู้สัญจรผ่านไปมา เพราะถนนเล็ก ๆ สายนี้ไปสิ้นสุดที่บึงน้ำกว้างหลังหมู่บ้านจัดสรรขนาดใหญ่ ผู้หมวดหนุ่มจอดรถหยุดนิ่งใต้ต้นตะขบสูงแผ่กิ่งใบกว้าง ลำแสงจากดวงไฟหน้ารถส่องยาวไปจนถึงร่างของสองหนุ่มที่ยืนหน้าซีดปากสั่น เพราะความอกสั่นขวัญหาย ประกอบกับสภาพเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ก็ยังคงเปียกชื้น ความเย็นเยือกของสายลมยามค่ำยิ่งส่งผลให้ความเหน็บหนาวเกาะกินเข้าไปถึง หัวใจ ร.ต.ท.พชร บิดกุญแจดับเครื่อง พร้อมกับเปิดประตูแล้วก้าวเดินเข้าไปทางที่มีคนยืนรออยู่แล้วหลายคน
"ผมร้อยตำรวจโทพชร พงษ์ภิญโญร้อยเวรสน... ตามที่มีคนแจ้งพบศพครับ" ร.ต.ท.พชร ร้องถามก่อนจะเดินไปหยุดยืนอยู่เบื้องหน้าก้อนและมิ่ง ที่ด้านหลังหน่วยกู้ภัยกำลังขะมักเขม้นตามไฟเสียจนสว่างโร่เห็นชัดราวกับ กลางวัน
"สวัสดีครับคุณตำรวจ ผมเป็นคนโทรแจ้งเองครับคุณตำรวจ ผมชื่อก้อน ส่วนนี่ไอ้มิ่งเพื่อนผมครับ"  ก้อนที่ยังคุมสติตัวเองได้ดีกว่าชิงเป็นผู้บอกเสียเองก่อนจะเล่าเรื่องราว ที่เกิดขึ้นให้กับผู้หมวดหนุ่มได้ฟังทั้งหมด
"แล้วตอนนี้ศพอยู่ไหน" ร.ต.ท.พชร ซักถามถึงหลักฐานสำคัญ
"ข้างหน้านี่เองครับ" ก้อนบอกพร้อมกับยกมือชี้นิ้วไปทางชายน้ำ
"ทางนี้ครับคุณตำรวจ..." เสียงหนึ่งในทีมกู้ภัยร้องบอกออกมาจากทางชายน้ำ
กระสอบป่านใบใหญ่หนาคือพันธนาการซึ่งห่อหุ้มร่างไร้วิญญาณเอาไว้เสีย เกือบจะมิดชิดถูกลากมาวางเอาไว้ที่ชายน้ำ ส่วนของข้อมือที่นิ้วมือหงิกงอแข็งค้างโผล่พ้นปากกระสอบซึ่งใช้เชือกเส้น เล็ก ๆ มัดไว้แบบลวก ๆ จวนเจียนจะหลุดมิหลุดแหล่ นายตำรวจหนุ่มเดินเข้าไปหาหลักฐานชิ้นสำคัญก่อนจะบรรจงแกะปลายเชือกที่มัด ปากกระสอบออกอย่างช้า ๆ ก่อนจะเลื่อนปากกระสอบลงไป จนเผยให้เห็นใบหน้าที่ซีดขาวยิ่งกว่าแผ่นกระดาษ เขาค่อย ๆ เลื่อนกระสอบป่านลงไปอีกจนถึงบริเวณหน้าอกขาวซีด ผู้หมวดนุ่มหน้านิ่วคิ้วขมวดเมื่อมองเห็นรอยพาดผ่านสีม่วงอมแดง ที่รอบลำคอ ดวงตาไร้แววสีซีดเบิกโพลงแทบถลนออกมานอกเบ้าปรากฏอยู่บนใบหน้าที่ขาวปราศจาก สีเลือด ลำตัวเปลือยเปล่ามีรอยฟกช้ำจ้ำแดงเล็ก ๆ ให้เห็นแค่ประปรายบนหน้าอก ลำคอ และแผ่นหลัง แต่ไม่มีร่องรอยจากการโดนทำร้ายด้วยของมีคมอันจะก่อให้เกิดบาดแผลฉกรรจ์จนทำ ให้ถึงขั้นต้องเสียชีวิต ผู้หมวดหนุ่มเดินผละออกมาจากหลักฐานชิ้นสำคัญของเขาก่อนจะเอาโทรศัพท์มือถือ ออกมากดโทรออก
 
หน่องอมยิ้มแก้มแทบปริขึ้นมาอีกครั้งเมื่อได้อ่านข้อความที่อเล็กซ์ส่งมา ให้ตั้งแต่เมื่อคืน ถึงแม้ว่าหน่องจะกดโทรศัพท์อ่านมันมาแล้วเป็นสิบรอบตลอดทั้งวัน หน่องเองก็พยายามกดโทรศัพท์ติดต่อหาเจ้าของข้อความที่ถูกแบ่งเป็นข้อความ ย่อย ๆ หลายอันส่งมาถึงเขา ข้อความที่ทำให้หน่องอารมณ์ดียิ้มได้ทั้งวัน และทุกครั้งที่อ่าน ข้อความที่ว่า
'ตอนที่หรั่งส่งข้อความนี้...หน่องคงนอนหลับอุตุไปแล้ว... แต่หรั่งก็อยากส่งความคิดถึงไปหาหน่องอยู่ดีหน่องคงกำลังหลับฝันดี... หรั่งขอแค่ในฝันของหน่องมีหรั่งอยู่ในฝันด้วยสักนิด... หรั่งก็พอใจแล้ว'
'จริงใจหรั่งอยากไปหาอยากอยู่ใกล้ ๆ กับหน่องเสมอ... แต่ตอนนี้คงทำไม่ได้... งานยุ่งมาก... หน่องนอนเผื่อหรั่งด้วยนะ อิจฉาคนได้นอนจัง'
'ไว้ว่างเมื่อไหร่ จะรีบไปหาให้ถึงที่เลย... จะไปอยู่ใกล้ ๆ จะไปเฝ้าดูแลไม่ให้คลาดสายตาเลยดีไหม อย่าเพิ่งเบื่อหรั่งก่อนก็แล้วกันนะ'
'หน่องอย่าลืมสัญญานะ หรั่งเองก็จะไม่ลืมสัญญาของเราเหมือนกัน สัญญานะหน่องว่าเราจะไม่มีวันลืมกัน... รักหน่องเสมอแม้จะหมดลมหายใจ... หรั่ง'
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 2 คู่ปรับ [17-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 17-05-2011 19:57:30
runynam --- ปลายฟ้าไม่ได้ทำอะไรหรั่งนะครับ สาธุอย่ามาหลอกมาหลอนกันเลย

iforgive --- ผมไม่ได้ทำอะไรซะหน่อย นักแสดงบางครั้งหน้าฉากกับหลังฉากก็ไม่เหมือนกันนะครับ

yayee2 --- อืมจะว่าสร้างภาพก็ได้นะครับ แต่ถึงจะวีนข้างหลังแต่เขาก็ไม่เคยคิดร้ายกับใครนะครับ

มาเอาใจช่วยสายลมกับปลายฟ้ากันเยอะนะครับ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่1 [16/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 17-05-2011 20:04:46
แรง!

อ่านดูแล้วเหมือนจะรู้ว่าใครคือคนเขียน ภาษา ลีลา สำนวนมันบอก  :laugh:

อุบเงียบไว้ดีกว่า  :laugh:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่2 เริ่มงานวันแรก 17/25/2011
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 17-05-2011 20:42:26
เรื่องนี้คุณ....น่าจะเป็นคนแต่งนะ :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 2 คู่ปรับ [17-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: how to ที่ 17-05-2011 20:51:27
สรุปปลายฟ้า กับ ไนท์ ใครหล่อกว่ากันเนี่ย อิอิ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 2 คู่ปรับ [17-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 17-05-2011 21:07:16
ใกล้เกลือกินด่างแท้ๆเลยฟ้าเอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยย




พี่สายลมถ้าปลายฟ้าไม่สนใจเค้ายังว่างนะ :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:




ปล.เรื่องหน้าตานี่เอ่อ......งขอหมดเลยได้ไหม  ไหนๆก้อหล่อทุกคนเลยนี่ :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 5 สิ้นแสงดาว 17/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 17-05-2011 21:13:38
 :m15:  มาแล้ว  มันมาแล้ว  สงสารหรั่งเป็นที่สุด
ลงอีกเยอะ ๆ ก็ได้นะคนสวย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่1 [16/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: huimei ที่ 17-05-2011 21:35:08
 :a5: เธอแรง เธอเอาแต่ใจจริงๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่2 เริ่มงานวันแรก 17/25/2011
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 17-05-2011 21:50:04
โปรเจ็คสีรุ้ง น่าสนใจมากๆ
ลองกดอ่านสีคราม(สีโปรด)เป็นเรื่องแรก ไม่ผิดหวังเลย ถูกใจอย่างจัง
บุคลิคนายเอก(รึเปล่า)ดูหม่นๆดี
ถึงจะไม่สดใส ฉูดฉาดอย่างสีอื่นๆ แต่ก็ดูลึกลับน่าค้นหา
ชอบๆ 


+1 โลดค่ะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่1 [16/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 17-05-2011 22:05:06
โอ๊ะ  สีเหลืองเหรอเนี่ย
สีเหลือง: ความสดใส เจ้าเล่ห์ และอ่อนวัยแต่ไม่ไร้เดียงสา   :laugh:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 2 คู่ปรับ [17-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 17-05-2011 22:26:08
น่าสนใจอีกแล้ว
ปลายฟ้าเรื่องนู้น  กับปลายฟ้าเรื่องนี้ต่างกันจัง
ลุ้นทั้งคู่ไนท์ ลุ้นทั้งคู่ปลายฟ้าเลย
ว่าแต่สายลมจะสมหวังรึเปล่า ปลายฟ้าดูจะไม่ได้สนใจอะไรเลย :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz (เอาทีเซอร์มาให้ชมก่อนนะคะ ^0^)
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 17-05-2011 22:27:57
เจิมๆ

หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 1 [16/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 17-05-2011 22:36:22
เริ่มมากก็สนุกซะแล้ว
ลุ้นๆ ตอนต่อไป
ตกลงกริชเป็นพระเอก รึนายเอกกันแน่เนี่ย
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (R E D) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๑. ๑๖ พ.ค. ๒๕๕๔
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 17-05-2011 22:43:18
สีแดงแรงฤทธิ์กันเลยทีเดียว

ปล.สีแดง ต้องโพสต์ด้วยสีแดงจริงๆเหรอ มันปวดตาอ่ะ :serius2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่1 [16/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 17-05-2011 22:43:45
เด็กแก่แดด!!!


ว่าแต่ค้างจริงๆ ด้วยเน้ออออ   :laugh:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 2 คู่ปรับ [17-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 17-05-2011 22:53:39
หือออออออ ไหงปลายฟ้าแรงจังง่ะ สงสายสายลม
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่1 [16/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 17-05-2011 22:56:46
ท่าทางจะเข้มข้น  :z1:  :pig4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 5 สิ้นแสงดาว 17/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 17-05-2011 23:02:32
เฮ้ย..อะไรเนี่ย   เกิดอะไรขึ้น
อย่าบอกนะว่า.....ม้ายยยยยย  :serius2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz (เอาทีเซอร์มาให้ชมก่อนนะคะ ^0^)
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 17-05-2011 23:08:55
จองที่ไว้ก่อนนะ  จุ๊บๆๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 2 คู่ปรับ [17-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 17-05-2011 23:15:55
อ่าว ปลายฟ้าสร้างภาพ
น่าติดตาม  :pig4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz (เอาทีเซอร์มาให้ชมก่อนนะคะ ^0^)
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 17-05-2011 23:18:57
รอติดตาม :z2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz (เอาทีเซอร์มาให้ชมก่อนนะคะ ^0^)
เริ่มหัวข้อโดย: Muzik ที่ 17-05-2011 23:20:02
โว้ว เห็นทีเซอร์แล้วอยากอ่านทันทีเลยค่ะ  :a9:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz (เอาทีเซอร์มาให้ชมก่อนนะคะ ^0^)
เริ่มหัวข้อโดย: ณยฎา ที่ 17-05-2011 23:24:44
รอออออด้วยยยยคนนนนนน
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (R E D) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๑. ๑๖ พ.ค. ๒๕๕๔
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 17-05-2011 23:31:14
ตอนแรกก็แรงแล้ว  :pig4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่1 [16/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 17-05-2011 23:33:49
เด็กคนนี้แรงอ่ะ   พี่แตะเค้าอยากได้วิธวิน :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 1 [16/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: ณยฎา ที่ 17-05-2011 23:34:15
ป้าเริ่ดมาก "เสียเงินไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้!!!"

แล้วอย่างงี้กริชจะไหวไหมเนี่ย มันข้ามลุคเกินไปป่าวววว
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 1 [16/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 17-05-2011 23:40:36
 :mc4:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 1 [16/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: iiดาวพระสุขლii ที่ 17-05-2011 23:44:52
เริ่มเรื่องได้สนุกเหมือนเดิมเลยนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 1 [16/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 17-05-2011 23:46:14
ว้ายต้ายตาย
ดาวพระฉึก
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 1 [16/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 17-05-2011 23:54:08
อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยอยากไป บัทเทอ่ร์ฟลาย บอย  พี่โมนาร์ช(ชื่อยาวไป  ขออนุญาตเรียกพี่นาร์ชนะครับ  เรียกโมเดี๋ยวผมงงกะพี่ๆโมดุ :laugh:)



 :-[ :-[ :-[สงสัยจะพบรักกะเด็กในร้านซะละมั้ง  ไม่ก้อลูกค้าประจำที่รวยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก :z2: :z2: :z2:



เดาเอาน่ะครับ :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่2 เริ่มงานวันแรก 17/25/2011
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 17-05-2011 23:58:12
ท่าทางพี่เตจะเหนื่อย :pig4:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (R E D) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๑. ๑๖ พ.ค. ๒๕๕๔
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 18-05-2011 00:06:48
โอ้วววววววววแรงพอฟัดพอเหวี่ยงกันเลย  แบบนี้หนุกๆๆน่าติดตาม



ปล.เทียนบุญเรื่องนี้นิสัยคล้ายๆกะนายพลเลย :laugh: :laugh: :laugh:




เค้าคิดไปเองนะ  มั่วเอาเอง :m20:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 2 คู่ปรับ [17-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 18-05-2011 00:09:18
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่1 [16/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: nataxiah ที่ 18-05-2011 00:36:44
เด็กแก่แดด!!!


ว่าแต่ค้างจริงๆ ด้วยเน้ออออ   :laugh:

แอบมาจ๊ะเอ๋ น้องสาว  :z2: เต้นโชว์พร้อม  :laugh:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (R E D) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๑. ๑๖ พ.ค. ๒๕๕๔
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 18-05-2011 01:09:03
โอ้วววววววววแรงพอฟัดพอเหวี่ยงกันเลย  แบบนี้หนุกๆๆน่าติดตาม
ปล.เทียนบุญเรื่องนี้นิสัยคล้ายๆกะนายพลเลย :laugh: :laugh: :laugh:
เค้าคิดไปเองนะ  มั่วเอาเอง :m20:

จ๊วบๆ FC ผมนี่หว่า อิอิ ปอร์เจกต์นี้เค้าก็เขียนน้า ลองเดาๆดูน้า จุ๊บๆ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (R E D) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๑. ๑๖ พ.ค. ๒๕๕๔
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 18-05-2011 01:20:15
โอ้วววววววววแรงพอฟัดพอเหวี่ยงกันเลย  แบบนี้หนุกๆๆน่าติดตาม
ปล.เทียนบุญเรื่องนี้นิสัยคล้ายๆกะนายพลเลย :laugh: :laugh: :laugh:
เค้าคิดไปเองนะ  มั่วเอาเอง :m20:

จ๊วบๆ FC ผมนี่หว่า อิอิ ปอร์เจกต์นี้เค้าก็เขียนน้า ลองเดาๆดูน้า จุ๊บๆ


 :กอด1: :กอด1: :กอด1:เป็นมาตั้งนานแล้วพี่แต่ไม่เคยแสดงตัว :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 1 [16/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: MonarcH ที่ 18-05-2011 01:25:27
Butterfly 2

...เมื่อก้าวเข้าไปในร้านอีกครั้งผมต้องตะลึงกับภาพที่เห็น พนักงานทุกคนอยู่ในชุดฟอร์มของบาร์ นั่นคือกางเกงชั้นในสีขาวตัวจิ๋วแทบปกปิดส่วนกลางลำตัวไม่มิด ที่ข้อมือมีสายรัดแสดงเลขประจำตัวเพื่อความสะดวกของแขกเวลาบอกกัปตันให้เรียกเด็กเบอร์ที่ถูกใจมานั่งดริ้ง หรืออ็อฟออกไปข้างนอก พี่ธัญญาเห็นผมกำลังยืนอึ้งจึงสะกิดเตือนให้ผมกลับสู่โหมดผู้บริหารบาร์เกย์คนใหม่ไฟแรง หล่อ เริ่ด เชิด รวย...
“ไม่เคยเห็นผู้ชายแก้ผ้าเหรอ”  พี่ธัญญ่าถามยิ้ม ๆ เมื่อเราอยู่ด้วยกันในห้องทำงานของผม
“ไม่เคยเห็นใกล้ ๆ แบบนี้อ่ะ”  ผมตอบเขิน ๆ
“เคยดูหนังโป๊มั้ย”
“เคยดูแต่คลิปที่ดัง ๆ เพื่อนส่งให้ดู...โห...พี่จะถามอะไรเยอะแยะ กริชเรียนอย่างเดียวไม่มีเวลาไปดูอะไรแบบนั้นหรอก”  ผมทำเสียงเข้มกลบเกลื่นอความเขิน
“ตายแล้ว เด็กใสซื่อบริสุทธิ์อย่างเธอจะไปทันเด็กบาร์พวกนี้มั้ยเนี่ย”
“เราต่างทำหน้าที่ของตัวเองไป ไม่เห็นมีอะไรต้องเกี่ยวข้องกันเลย”
“เดี๋ยวก็รู้” พี่ธัญญ่าทำหน้าเจ้าเล่ห์
*
*
...สี่ทุ่มแขกเริ่มทยอยเข้าร้านจนที่นั่งเกือบเต็ม ค่าเข้าของที่นี่ราคา 300 บาท ลูกค้าจะเลือกสั่งเครื่องดื่มอะไรก็ได้ฟรี 1 แก้วเป็นพวกเหล้า เบียร์ ค็อกเทล น้ำส้ม หรือน้ำเปล่าก็ไม่มีใครว่า ถ้าลูกค้าเดินเข้ามาเองที่ร้านก็จะได้เงินเต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่ถ้ามีพวกเชียร์แขกตามถนนสีลมพาเข้าร้าน เราต้องจ่ายค่าน้ำให้คนพามา 50 บาท...มิน่าล่ะ ตอนที่ผมมาซื้อของแถวนี้เมื่อสมัยเรียนถึงได้มีคนล้อมหน้าล้อมหลังชวนไปดูโชว์ในบาร์โดยคนพวกนี้แทบจะอุ้มผมเข้าร้าน...
“ไปดูโชว์กัน วันนี้เราเริ่มโชว์แบบใหม่ให้เข้ากับเทศกาลฟุตบอลยูโร”
“อะโกโก้โชว์เนี่ยนะ ทำให้เข้ากับฟุตบอลยูโร”  ผมถามขำ ๆ
“เราต้องจัดโชว์เรียกแขกให้แปลกเพื่อดึงดูดความสนใจ และนี่ก็เป็นหนึ่งในงานของกริชนะ ไปดูซะ เผื่อจะได้ไอเดียอะไรมานำเสนอในโชว์ครั้งต่อไป” พี่ธัญญ่าพูดเสียงจริงจังก่อนจะพาผมเดินลงไปที่นั่งพิเศษของร้าน
“แขกเยอะจัง”  ผมพึมพำกับตัวเอง
“ร้านเราเด็กหน้าตาดีที่สุด โชว์เริ่ดที่สุด ถึงค่าเข้าจะแพงกว่าบาร์ละแวกเดียวกัน แต่คุณภาพของเรามันคุ้มค่า”
“ให้เด็กมาเต้นอย่างนี้ถึงกี่โมงอ่ะพี่”  ผมเปลี่ยนเรื่องทำเป็นสนใจกับงานทั้งที่อายกับสายตาเด็กที่มองลงมาจากเวที
“เราจะให้เด็กทุกคนเวียนกันขึ้นเวทีเพื่อให้แขกเห็น ส่วนมากพวกดาวของร้านจะโดนจองไว้ตั้งแต่โชว์แรกนี่แหละ เต้นโยกเบา ๆ ไปถึงสี่ทุ่มครึ่งแล้วเราจะเริ่มโชว์แรก”
“คนไหนคือดาวของร้านล่ะพี่”
“คนเด่น ๆ เราจะให้ตัวเลขตัวเดียวหรือเลขเบิ้ล คนจะได้จำง่ายนี่ไง พวกดาวขึ้นมาโชว์ตัวแล้ว”  พี่ธัญญ่าชี้ไปบนเวทีผมพยายามทำสีหน้าให้เรียบเฉย ทั้งที่ใจเต้นแรง หน้าร้อนผ่าว เมื่อเห็นชายหนุ่มหน้าตาดีสิบกว่าคนยืนเบียดกันโชว์สรีระอยู่บนเวทีที่ดูแคบไปถนัดตา
“ไม่เห็นเบอร์ 1 เลย โดนอ็อฟไปแล้วเหรอพี่”  ผมถามด้วยความสงสัย
“อุ๊ย รมเสีย ตอนนี้เบอร์ 1 ว่างอยู่ ไอ้หรั่งมันโดนช้อนไปได้ดิบได้ดี จากดาวเบอร์หนึ่งในบาร์อะโกโก้ กลายเป็นดาวรุ่งในวงการบันเทิงไปแล้ว”  พี่ธัญญ่าจีบปากจีบคอพูด
“ไม่เห็นเป็นไรเลย ในวงการบาร์เกย์แบบนี้ก็มีการเปลี่ยนแปลงตลอดนี่นา”
“พี่กับเจ๊เสียดายไอ้หรั่งมันอ่ะ มันเป็นตัวเงินตัวทองของที่นี่เลยนะ หล่อ ยาว ใหญ่ อึด ลีลาเด็ด ท่ายากแค่ไหนมันทำได้หมด ลูกค้าจองคิวกันข้ามวันข้ามคืน ถึงขนาดที่ต้องประมูลกันเลยทีเดียว ใครให้เยอะกว่าได้ไปกก”
“ใครอ่ะ หรั่ง ไม่เห็นเคยได้ยินเลย”
“เคยดูทีวีด้วยเหรอเราน่ะ”  พี่ธัญญ่าแอบกัดขำ ๆ
“นั่นสิ กริชดูละครเรื่องสุดท้ายก่อนเอ็นทรานซ์ซะอีก”  ผมพูดตามความจริง
*
*
...สี่ทุ่มครึ่ง ไฟบนเวทีเริ่มหรี่ลง พนักงานทุกคนเดินกลับเข้าหลังเวทีโดยมีเด็กหลายคนโดนแขกเรียกไปนั่งดริ้งที่โต๊ะ ผมหันมาสนใจบนเวทีอีกครั้งเมื่อมีพนักงาน 6 คนขึ้นมาบนเวทีในสภาพเปลือยเปล่า มีเพียงสายรัดข้อมือที่มีเบอร์ติดอยู่เท่านั้น ทุกคนเดินโชว์ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อส่วนกลางลำตัวที่ผงาดชี้หน้าแขกในร้าน เป็นการเต้นที่แตกต่างจากเมื่อครู่โดยสิ้นเชิง เพราะตอนนี้พวกเขาเริ่มโยกเสา ร่อนเอวไปพร้อมกับการเอามือสาวท่อนเนื้อของตัวเองพลางทำหน้าเสียวสยิวหลับตาพริ้ม และบางคนก็ส่งสายตาให้แขกที่ร้านเป็นการยั่วยวนให้เกิดอารมณ์กำหนัดในเพศเดียวกันเป็นอย่างมาก...แสงไฟในร้านสีส้มเข้มอาบผิวเห็นเห็นเงาของกล้ามเนื้อเด่นชัดขึ้นยามที่ชายหนุ่มบนเวทีเกร็งหน้าท้องและขยับมือเร็วขึ้น...เท่านั้นยังไม่พอ ผมต้องอ้าปากค้างเมื่อ 6 คนนั้น ทยอยเดินลงจากเวทีมาโชว์เรือนร่างตามโต๊ะลูกค้าเรียกทิปได้มากมาย…
“ต้องทำขนาดนี้เลยเหรอ”  ผมกัดฟันกระซิบถามพี่ธัญญ่า
“นี่เป็นแค่ชุดแรกเบา ๆ เรียกว่าโชว์ค็อก ให้ดูอุ่นเครื่อง ไม่มีฟิน ไม่มีแตก เก็บน้ำไว้โชว์รอบสอง”  พี่ธัญญ่าชะเง้อมองไปทางพนักงานที่กำลังยกโกล์ฟุตบอลเล็ก ๆ มาวางไว้บนเวทีที่ตอนนี้ไม่มีใครสนใจแล้ว เพราะมัวแต่มองพนักงานที่เดินไปโชว์ใกล้ ๆ ตามโต๊ะ
“แล้วนี่เค้าจะโชว์อะไรต่ออ่ะพี่”
“โชว์ใหม่ล่าสุดให้เข้ากับเทศกาลฟุตบอลยูโร”

...พี่ธัญญ่าพูดยังไม่ทันขาดคำชายหนุ่มอีกหกคนก็วิ่งขึ้นมาบนเวทีในชุดนักฟุตบอลทีมดังสองทีมแบ่งฝ่ายกันชัดเจนโดยมีกรรมการเป็นพนักงานเกย์ออกสาวนิดหน่อย พี่ธัญญ่าบอกว่าทุกร้านต้องมีแบบนี้ เพราะฝรั่งชอบ...

“เวทีเล็กนิดเดียวจะเตะบอลกันได้ยังไง”  ผมทำเสียงเบื่อ ๆ ทั้งที่ใจเต้นโครมคราม
“เค้าเตะกันเป็นพิธี” 
...ใช่แล้ว...เค้าเตะบอลกันได้ไม่กี่นาที ชายหนุ่มทุกคนก็เริ่มถอดเสื้อออก เรียกเสียงฮือฮาจากกลุ่มผู้ชม ผมเองยังต้องแอบกลืนน้ำลายเมื่อเห็นผู้ชายใส่เพียงกางเกงบอลตัวเดียวและแสงไฟที่ส่องไปนั้นทำให้เห็นว่าทุกคนไม่ได้สวมกางเกงชั้นใน พวกเค้าเตะบอลกันต่ออีกไม่นาน ผมใจเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อสังเกตเห็นสิ่งที่อยู่ภายใต้กางเกงบาง ๆ นั้นแกว่งไปตามจังหวะการวิ่งเหยาะ ๆ บนเวที...การแข่งขันย่อมมีแพ้ชนะ...ทีมที่แพ้ก็ต้องโดนทำโทษ และการทำโทษของโชว์นี้ พี่ธัญญ่าเรียกโชว์นี้ว่า “ฟักกี้งโชว์” ผมนั่งไขว่ห้างกอดอกหลังพิงโซฟาเกร็งไปทั้งตัว เกิดมาไม่เคยเห็นการร่วมเพศแบบใกล้ชิดแบบนี้มาก่อน และมันไม่ใช่การร่วมเพศแบบกลุ่มที่เหมือนจะอิรุงตุงนังแต่กลับไม่น่ารำคาญ เสียงเนื้อกระทบเนื้อ เสียงครวญคราง เสียงหอบกระเส่าดังก้องไปทั่วร้าน...
*
*
...เมื่อโชว์นี้จบ เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ก็ดังจากกลุ่มผู้ชม รวมทั้งผมด้วย เมื่อพนักงานทำความสะอาดขึ้นมาเช็ดน้ำรักที่กระจายเรี่ยราดบนพื้นเวทีเสร็จ ไฟสีส้มในตู้กระจกที่ผมสงสัยว่ามันมาตั้งทำไมบนเวทีก็เปิดสว่างพร้อมกับชายหนุ่มในชุดนักกีฬา เดินเอาเสื้อพาดบ่าเนื้อตัวมันปลาบมองดูคล้ายเหงื่อ เหมือนเค้าเพิ่งกลับเข้ามาหลังจากออกกำลังกาย เค้าเดินตรงดิ่งเข้าไปในตู้ และเช่นเคยแบบไม่ต้องเดา เค้าถอดกางเกงกีฬาและกางเกงชั้นในโยนออกมานอกตู้แล้วเปิดฝักบัวให้น้ำไหลผ่านเรือนร่างแกร่งที่ไม่มีไขมันแม้แต่นิด เค้าดูผ่อนคลายอาบน้ำไปอย่างเพลินเพลินเหมือนกำลังอาบน้ำที่บ้านของตัวเองพลางร้องเพลงวัยรุ่นที่กำลังฮิต...อาบไปไม่นาน เค้าก็ฟอกสบู่ไปทั่วร่าง และเมื่อถึงกลางลำตัว อวัยวะส่วนนั้นก็ขยายตัวอย่างรวดเร็วผมต้องจิบน้ำอัดลมที่วางอยู่บนโต๊ะเพื่อกลบเสียงกลืนน้ำลายไม่ให้คนข้าง ๆ ได้ยิน...

“อันนี้เค้าเรียกว่าชาวเวอร์โชว์ แต่ร้านเราไม่ใช่แค่อาบน้ำหรอก ดูต่อไปนะ”  พี่ธัญญ่าหันมากระซิบบอก
“แค่นี้ก็โป๊จะแย่แล้วนะพี่”
“ที่นี่บาร์โชว์นะกริช ไม่ใช่วัด”  พี่ธัญญ่ากัดเบา ๆ

...ขณะที่คนนั้นกำลังอาบน้ำอย่างสบายอารมณ์เอนหลังพิงกระจกแอ่นเอวมาทางผู้ชมรูดท่อนเนื้อที่มีฟองสบู่ติดอยู่ดูเร้าใจ ทันใดนั้นก็มีพนักงานอีกคนเดินขึ้นมาในชุดนักศึกษาพี่ธัญญ่าบอกว่านี่คือตัวนาง ไม่พูดพร่ำทำเพลง คนมาใหม่ถอดเสื้อผ้าออก และเดินเข้าไปอาบน้ำพร้อมกับคนแรก เมื่อผู้ชายสองคนอาบน้ำด้วยกันภายใต้ฝักบัว เนื้อตัวเสียดสีกันโดยมีฟองจากสบู่ทำให้ดูลื่นไหลเป็นธรรมชาติ มือของคนทั้งคู่ลูบไล้ไปทั่วทุกส่วนสัด เสียงน้ำจากฝักบัวเริ่มเบากว่าเสียงครางกระเส่าของคนในตู้ แต่หลังจากที่ทั้งสองช่วยกันล้างฟองสบู่หมดจดก็ออกมาหยิบผ้าขนหนูสีขาวผืนใหญ่ที่ทีมงานพับวางรอไว้ข้างตู้ และช่วยกันเช็ดตัวให้กันและกันอยู่ด้านหนึ่งของเวทีโดยที่อวัยวะส่วนนั้นยังผงกหัวโชว์ความแข็งแกร่งอยู่ ผมถอนหายใจเบา ๆ แล้วจิบน้ำอีกครั้ง ขณะที่ทีมงานช่วยกันยกโซฟาเบดออกมาตั้งกลางเวที...
“อีกแล้วเหรอ”
“นี่แหละจุดเด่นของร้านเรา โชว์อลังการงานสร้าง”  พี่ธัญญ่าพูดด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ
“กริชขอตัวไปห้องทำงานก่อนได้มั้ย ขอเวลาทำใจหน่อย”
“ยังเหลืออีกตั้งสองโชว์”
“พรุ่งนี้ค่อยดูละกันพี่ วันนี้ขอทำงานเอกสารดีกว่า”
“โอเคไปเถอะ หน้าแดง หูแดงเลยหนู จะรอดมั้ยเนี่ยกริช”  พี่ธัญญ่าพูดขำ ๆ
“รอดสิ แต่ขอตั้งตัวหน่อย” ผมเข้าสู่โหมดผู้บริหารร้าน กวาดสายตาไปทั่ว พนักงานที่มองผมอยู่หลบตากันวูบ
*
*
...ผมยังไม่ทันหย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ พี่ธัญญ่าก็ตามขึ้นมา และเปิดผ้าม่านในห้องออก ผมมองตามไปถึงได้เห็นว่าห้องนี้สามารถมองลงไปชั้นล่างได้ทั่วโดยเฉพาะบนเวที...
“ถ้าอายก็ดูจากบนนี้ไปก่อนนะ คืนนึงเราจะมีโชว์สองรอบ สี่ทุ่มครึ่ง กับเที่ยงคืน แต่ละรอบจะมีสี่โชว์ พนักงานจะเปลี่ยนไปตามความเหมาะสม พี่เข้าใจว่าใหม่ ๆ ก็เขินบ้างเป็นธรรมดา”
“ที่เราทำอยู่มันผิดกฎหมายนะพี่”
“........................”  พี่ธัญญ่าเงียบ
“กริชว่าแค่โชว์อะโกโก้แบบไม่เปลือยก็พอมั้ง”
“ทำอย่างนั้นใครจะเข้ามาดูล่ะจ๊ะ”
“แต่ถ้าโชว์แบบนี้ระวังเจ้าหน้าที่จะเข้ามาดูนะ”  ผมย้อนเสียงเบา
“ถ้ากลัวเจ้าหน้าที่เจ๊ธเนศเค้าคงเจ๊งไปนานแล้ว”
“แต่ตอนนี้กริชรับผิดชอบอยู่นะพี่”
“ไม่ต้องกลัว เรามีวิธี”
“วิธีอะไร”
“พี่บอกไม่ได้ เอาเป็นว่า ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้น บริหารงานต่อไปใด้ดีก็พอ”  พี่ธัญญ่าพูดจบก็หันหลังเดินออกไป
*
*
...ผมเดินไปปิดผ้าม่านตามเดิมและฟุบหน้าลงบนโต๊ะทำงาน ในใจกลัวว่าจะบริหารงานไม่รอด แต่พอคิดถึงบุญคุณของป้าธเนศทำให้ผมต้องฮึดขึ้นมาอีกครั้ง โดยเริ่มจากศึกษางานจากเอกสารกองใหญ่ ผมดูเรื่องบัญชี จัดซื้อ รายได้ ค่าใช้จ่าย ใบลงเวลาของพนักงาน และเอกสารประวัติพนักงานในร้านทุกคน...
“แขกกลับหมดแล้ว กริชมีอะไรจะคุยกับเด็กมั้ย ถ้าไม่มีจะปล่อยกลับแล้วนะ วันนี้เด็กโดนอ็อฟออกไปครึ่งค่อนร้าน คุ้มค่าที่ลงทุนโชว์อลังการ”
“ให้พวกเค้ากลับไปก่อนก็ได้ กริชยังไม่มีอะไรจะคุย“  ผมเงยหน้าตอบพี่ธัญญ่า
“แล้วกริชจะกลับกี่โมงล่ะ”
“คิดว่าอีกซักพักครับ”
“ดีมาก เราเป็นผู้บริหารต้องมาก่อน กลับทีหลัง”  พี่ธัญญ่าพูดยิ้ม ๆ
*
*
...รายได้หลักของร้านคือค่าเข้าจากลูกค้าและค่าอ็อฟพนักงาน เมื่อแขกถูกใจเด็กบาร์และต้องการจะพาออกไปนอกร้าน จะต้องจ่ายเงินให้ทางร้าน 300 บาท ส่วนค่าตัวให้ไปตกลงกันเอง รายได้อีกอย่างก็คือค่าเครื่องดื่มที่เราเรียกว่าค่าดริ้ง เมื่อแขกเรียกพนักงานไปนั่งด้วย จะต้องสั่งเครื่องดื่มให้เด็กในราคาแก้วละ 200 บาท กัปตันจะเป็นคนบันทึกไว้ว่าในหนึ่งคืนเด็กคนไหนได้กี่ดริ้ง ทางร้านจะแบ่งค่าดริ้งและค่าอ็อฟให้อย่างละ 100 บาท โดยเก็บไว้จ่ายทุกวันที่ 15 ของเดือน...

...ค่าใช้จ่ายหลัก ๆ ของร้านก็มีค่าเบี้ยเลี้ยงพนักงานนี่แหละ ถ้าเป็นระดับดาวของร้านจะมีเงินเดือนให้ไม่มากนัก ส่วนเด็กบาร์คนอื่นจะได้น้อยลงตามลำดับ แต่ทุกคนจะได้ค่าเดินทางกับค่ากินเท่านั้น สำหรับคนที่ขึ้นโชว์พิเศษ ก็จะมีเงินค่าโชว์ให้ต่างหาก เด็กบาร์มีรายได้จากค่าอ็อฟ และค่าดริ้ง แต่รายได้หลักของเค้าคือ “ค่าตัว”

...ที่นี่มีกฎโหดเพื่อบังคับเด็กพวกนี้ คือ ภายในหนึ่งสัปดาห์จะต้องมาทำงานอย่างน้อย 5 วัน ห้ามหยุดในคืนวันศุกร์และเสาร์ ถ้าหยุดเกินหรือหยุดในคืนวันศุกร์และเสาร์จะต้องโดนหักเงินคืนละ 500 บาท หยุดติดต่อกันเกิน 3 วันโดยไม่มีเหตุผลบทลงโทษคือให้ออกสถานเดียว...

******************************************************************************************************

...สองตอนแรกจะเป็นการปูเรื่อง ตอนต่อไปจะเข้าสู่เนื้อเรื่องอย่างจริงจังแล้วนะครับ แล้วเจอกันเร็ว ๆ นี้...

MonarcH



หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 2 [18/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 18-05-2011 01:28:36
 :z13:ก่อน :laugh: :laugh: :laugh:



สงสัยจะได้นายเอกผู้แสนซื่อ เรียบร้อย กิริยางดงามแล้วล่ะ




ปล.เค้าบวกให้พี่นาร์ชด้วยนะ  จุ๊บๆๆ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 2 [18/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 18-05-2011 01:40:10
ล่อแหลมดีแท้
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (R E D) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๑. ๑๖ พ.ค. ๒๕๕๔
เริ่มหัวข้อโดย: Mountain ที่ 18-05-2011 01:41:55
ในตอนแรกนี้ผมว่าจะเชียร์ คุณ เมย์ ครับ รู้สึกเกลียดผู้ชายตอแหaขึ้นมาทันทีเลยอ่านตอนนี้เข้าไป
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 2 [18/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: Mountain ที่ 18-05-2011 02:09:06
 :haun4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่1 [16/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Mountain ที่ 18-05-2011 02:47:05
อ่านตอนนี้แล้วเขินเลยอ่ะเพราะเคยโดนสั่งแนวๆนี้มาตอนเล่นไพ่พระราชากะหมู่เพื่อน
 :m25:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 2 [18/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 18-05-2011 04:40:30
น้องกริชจะไหวมั๊ยเนี่ย
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (R E D) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๑. ๑๖ พ.ค. ๒๕๕๔
เริ่มหัวข้อโดย: แรงเทียน ที่ 18-05-2011 06:58:17
ตอน ๒
“พิม มีเบอร์ของป่านไหม เราขอหน่อย”
มณีอารียาบึ่งรถออกจากบ้านมารดาของธรรมทานตรงไปยังร้านนั่งดื่มประจำตรงทองหล่อ ซอย ๑๐ พอเห็นหน้าเพื่อนสาวก็เหวี่ยงกระเป๋าลงกับเก้าอี้นั่งทันที
“อะไรกันเมย์ ไปอารมณ์เสียมาจากไหนยะ จะเอาเบอร์ไปทำไมยัยป่านน่ะ”
พิมระตีถามสังเกตอาการของเพื่อนสาวที่ดูท่าทางผิดแปลกไป เพราะปกติมณีอารียาจะเป็นคนใจเย็นและสุขุมมากคนหนึ่ง
“จะให้มันไปตบกะเทยน่ะสิ”
“ว้าย ใครยะ ถึงขั้นตบตีกันเชียวหรือ มีอะไรแก”
“คนอื่นน่ะคงไม่ถึงขนาดนี้หรอกนะ แต่กับอีนี่ต้องให้ยัยป่านมันจัดการ”
“ทำไมแก ใครกันปกติแกไม่เคยคิดกับใครแบบนี้นี่เมย์ แสดงว่าคนๆนี้ต้องร้ายกาจมากๆแน่เลยใช่ไหม”
“ไม่ร้ายธรรมดานะ แต่มันจะแย่งทานไปจากฉันน่ะสิ”
“หา ทานคู่หมั้นแกน่ะเหรอ”
“เอาเบอร์ป่านมา อย่าเพิ่งถามมาก”
“จะทำอะไรก็คิดก่อนนะแก เดี๋ยวมันจะเข้าหาตัว”
“แหมพิม ฉันไม่ทำอะไรรุนแรงหรอกน่า แค่เผื่อๆไว้ท่าทางเรื่องจะไม่จบแค่นี้”
คนที่มณีอารียาอยากได้เบอร์คือสาวประเภทสอง เคยเรียนมัธยมมาด้วยกัน ตอนนี้ปานระวี หรือธนพลได้ผ่าตัดแปลงเพศเรียบร้อยแล้ว ไม่เคยติดต่อนับจากเรียนจบ ได้ยินข่าวคราวบ้างบางครั้งจากพิมระตี สายตาของมณีอารียาไม่ได้ย่อท้อหรือหวาดกลัวแต่อย่างใด แต่มันเป็นสายตาที่ฉายแววของนักรบทหารกล้า ที่ไม่ยอมให้ใครมาหมิ่นศักดิ์ศรีของลูกผู้หญิง
“เทียน นี่เทียนเหรอ”
จวนจะเที่ยงคืนอยู่แล้วแต่ถนนสีลมยังคงครึกครื้น เสียงแตรรถบีบดังไล่หลังกันอยู่เป็นระยะ แสงไฟจากร้านรวงข้างทางมันระคนเข้ากันเป็นอย่างดีกับผู้คนที่เดินขวักไข่ส่งเสียงจอแจ เทียนบุญยังไม่กลับบ้านของตัวเองแม้ว่าจะมีบิดาคอยท่าอยู่ที่บ้านก็ตาม แต่เป้าหมายของเขาคือร้านของเพื่อนรักสมัยเรียนมหาวิทยาลัย เจ้าของร้านวัยเดียวกับเขาถ้าจะมองไปแล้วยังเด็กอยู่มากกับธุรกิจประเภทนี้ ธุรกิจค้าเนื้อสดในยามราตรี ธุรกิจที่แลกความหนุ่มให้กับหมู่ภมรปีกม่วง ร้าน Butterfly Boy ที่นี่คือเป้าหมายของเทียนบุญ
“กริช สบายดีไหม คิดถึงจังเลย”
พอเดินตามพนักงานหนุ่มที่ยืนหลอกล่อคอยดึกลูกค้าเข้าร้านไปก็เจอหน้ากับเพื่อนเก่า ทันทีที่เขาก้าวเข้าไปในตรอกนั้นสายตาของผู้คนทั้งเป็นผู้ให้บริการและผู้รับบริการต่างมองมาเป็นตาเดียว บุรุษรูปร่างหน้าตาท่าทางสะโอดสะองคอตั้งตรงไม่วอกแวกหันไปมองผู้ใด ผิวพรรณที่สะท้อนแสงสีให้ผุดผาดขึ้นเป็นเท่าตัวมันชวนให้มองยิ่งกว่าใคร
“เทียนกลับมาเมื่อไหร่ ไม่เห็นส่งข่าวกันบ้างเลย คิดถึงมากนะเทียนรู้ไหม มานั่งก่อนๆ”
“พี่ญ่าไม่อยู่เหรอ”
“อยู่สิ เดี๋ยวก็คงมาออกไปซื้อของ”
“นายดูดีขึ้นนะเนี่ย เฮ้อนะ เวลามันผ่านไปเร็วจังนะกริช ไม่น่าเชื่อว่าจากที่นายเคยพาเรามาร้านนี้ตอนเราเรียน นายกับเรายังตื่นๆอยู่เลย แต่มาตอนนี้นายดูเป็นเจ้าของกิจการเต็มตัวแล้วนะ”
“ว่าไปนะ ก็ทำทุกวันเจอทุกวันมันก็เริ่มชินล่ะเทียน เป็นยังไงบ้าง เทียนน่ะ”
“ก็ดี เราจบตั้งแต่ปีที่แล้วล่ะ แต่ทำงานอยู่ที่โน่น”
เทียนบุญบอกชื่อนิตยาสารที่เขาทำอยู่ให้กริชฟัง
“หา จริงดิ โห ดังมากนะในเมืองไทยน่ะ แล้วนี่กลับมาก็ทำให้นิตยาสารนี่เหรอ”
เทียนบุญพยักหน้า การได้พบกับเพื่อนเก่าเป็นความสุขอีกอย่างหนึ่ง
“ว้ายตาย น้องเทียน มาเมื่อไหร่จ๊ะ”
“สวัสดีครับพี่ญ่า มาถึงเมื่อวานครับ คิดถึงพี่ญ่ามากนะเนี่ยเลยมาหา ยังไม่ได้กลับบ้านเลย”
“ปากหวานตลอดนะเรา ดูดีมากเลยเทียนพี่นึกว่าใคร มองอยู่ตั้งนาน”
“เหมือนเดิมล่ะครับพี่ญ่า พี่ญ่าก็ยังสวยไม่สร่างเหมือนเดิมนะครับ”
“แหมเข้าใจขมนะเรา ว่าไงวันนี้สนใจน้องคนไหนไหมจ๊ะ พี่จะคัดพิเศษให้”
เขาหันไปดีดนิ้วเรียกเด็กที่ยืนอยู่บนเวที ชายฉกรรจ์เหล่านั้นจ้องมองเขาอยู่ก่อนหน้าแล้ว กางเกงชั้นในตัวจิ๋วสีขาวบางที่พวกเขาสวมใส่มันเหมือนทำให้สิ่งที่ชุดชั้นในนั้นหุ้มห่ออยู่อึดอัดและสิ่งนั้นมันก็แย้งกับสิ่งที่หุ้มห่อมันอยู่โดยการนูนโปนออกมาอย่างชัดเจน
“อย่าเพิ่งเลยครับพี่ญ่า ผมมาเจอกริช คิดถึง อยากคุยกับเพื่อนก่อน”
“นั่นสิพี่ญ่า เดี๋ยวก่อนสิครับ เราเข้าไปคุยกันด้านในดีกว่าไหมเทียน”
กริชชวนเพราะเสียงเพลงด้านนอกมันอึกทึกครึกโครมเกินไปที่จะสนทนากัน
“อืมก็ดีเหมือนกัน เดี๋ยวมาเลือกนะครับพี่ญ่า ขอคนที่พิเศษที่สุดในแคตตาล็อกของพี่ญ่าเลยนะครับ”
เด็กหนุ่มเหล่านั้นกรูกันเข้ามายืนเรียงหน้า เทียนบุญไม่เขินไม่อาย ชินสายตา เขาเมินหน้าไปหาเพื่อนรักแล้วเดินตามเข้าไปในห้อง
“เพื่อนคุณกริชเค้าเป็นไงพวกแก น่าหม่ำมะ”
“โหแจ่มมากเจ๊ ท่าทางจะเด็ด”
“นี่อย่ามาปากดี เขานักเรียนนอกนะยะ ไอ้พงศ์ไปเตรียมตัว เผื่อเทียนเขาจะเลือก แดกยามาหรือเปล่าวันนี้น่ะ ไม่สู้มึงตายนะ”
ชายในคราบหญิงชี้ไปที่คนชื่อพงศ์ชายหนุ่มรูปงามผิวสีเข้ม มีแผงขนที่หน้าอกที่เลื้อยหายเข้าไปในกางเกงชั้นใน
“โหเจ๊ แบบนี้ไม่ต้องเพิ่งหรอกยาน่ะ แข็งสู้แล้วเนี่ยตั้งแต่เห็น ขาวมากจะยกซดให้ดู”
“เอาให้ได้อย่างปากล่ะยะ อย่าให้เพื่อนคุณกริชเขาต้องผิดหวัง”
นี่คือการเตรียมการ แต่เทียนบุญเองจะสนใจเลือกหรือไม่นั้นยังไม่มีใครล่วงรู้ พอเข้าห้องด้านหลังที่ทำเป็นเหมือนสำนักงานเล็กๆเทียนบุญก็นั่งลงบนเก้าอี้
“เดี๋ยวกินอะไรไหมเทียน เราให้เด็กเอามาให้”
“เอาอะไรก็ได้แรงๆ”
“โห ไปคึกมาจากไหนเนี่ย”
“เราหงุดหงิดนิดหน่อยน่ะกริช อยากจะตบคน”
“หือ อะไรเทียน เพิ่งมาถึงเมืองไทยนะ ไปหงุดหงิดใครมา”
“ก็ทานไง กับอีคู่หมั้น”
“หา”
เทียนบุญเล่าเรื่องราวที่ตนเองก็รู้เพียงหยาบๆให้เพื่อนรักฟังคร่าวๆ
“อะไรกัน เราไม่คิดเลยนะว่าทานเขาจะมีคู่หมั้นอยู่แล้ว”
“นั่นสิ เราก็ไม่คิด มันไม่เคยบอกเลยนะ ตอนอยู่โน่นไม่มีอะไรให้จับพิรุจเลย ตกใจมาก”
ปากบอกว่าตกใจแต่สายตาที่ฉายแววออกมามันคือความเคียดแค้น
“งั้นเราว่าเทียนอย่าไปยุ่งกับทานเลยดีกว่า”
“กริช ไม่ได้หรอกนะ เราไม่ผิด นังนั่นเผลอๆมาทีหลังเราเสียอีกนะ”
“แต่เขาก็ไม่น่าจะรู้เรื่องเหมือนกันนะเทียน”
“เราไม่สนใจหรอกกริช เรากับทานคบกันมาห้าหกปีนะ ไม่ใช่วันสองวัน เรารักทาน และเราเชื่อว่านทานก็รักเรา”
สายตาที่เหลือบไปมองเพื่อนทำให้เขาชะงักไม่พูดอะไรออกมาอีกแม้จะง้างปากแล้วก็ตาม
“แล้วเทียนจะทำยังไงต่อไป”
“นี่ไม่ใช่การแย่งผู้ชายนะกริช แต่เราแค่จะปกป้องคนที่เรารัก ได้ไม่ได้ไม่รู้ แต่เราไม่ยอมแพ้อีชะนีนี่หรอกนะ”
กริชแอบถอนหายใจออกมา ไม่ว่าจะนานแค่ไหนเพื่อนคนนี้ก็ไม่เคยเปลี่ยน เขาไม่เคยยอมแพ้ให้กับผู้ใด อยากได้สิ่งใดต้องได้ ชอบพอใครต้องได้ควงแขน เขาไม่เคยแพ้ใครไม่ว่าด้วยอะไรที่สังคมเป็นตัวกำหนดกฎเกณฑ์ หน้าตา ฐานะ การศึกษา เขามีเพรียบพร้อม และเขาก็ไม่เคยจะพลาดหวังแม้แต่ครั้งเดียว
“แล้วใครเหรอคู่หมั้นของทานน่ะ”
“ไม่รู้เห็นชื่อเมย์ๆนี่ล่ะ”
เทียนบุญเบาเสียงลงเมื่อมีเด็กเข้ามาเสริ์ฟบรั่นดีที่เขาชอบ เด็กหนุ่มส่งยิ้มหวานให้เทียนเขาเองก็เล่นหูเล่นตาให้เป็นเรื่องปกติ
“เอ๊ะ นี่กริชอ่านหนังสือพวกนี้ด้วยเหรอ”
สายตาของเทียนบุญเหลือบไปเห็นกองนิตยาสารที่วางอยู่บนโต๊ะ เขาหยิบขึ้นมาดู นิตยาสารของแวดวงสังคมไฮโซที่ธัญญ่าชอบติดตามเป็นชีวิตจิตใจประหนึ่งว่าเป็นคนในแวดวงสังคมเดียวกัน
“ของพี่ญ่าน่ะ แกชอบซื้อมาอ่าน ชอบตามข่าวดารา พวกไฮโซประมาณนั้น เราไม่ค่อยสนใจดูหรอก”
กริชเองก็ยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ ปกติเวลาทำงานไม่ค่อยได้แตะสักเท่าใดนักแต่วันนี้พิเศษ เพราะเพื่อนรักอุตส่าห์มาหาถึงที่ เทียนบุญยกแก้วเหล้าขึ้นจิบเหมือนกัน มือหนึ่งก็พลิกหนังสือไปเรื่อยๆ
“นี่มันนี่ กริช อีนี่ล่ะคู่หมั้นของทานน่ะ”
กางหนังสือออกเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นภาพของสาวสังคมในหน้าแรกๆของหนังสือ
“ไหน”
กริชลุกจากเก้าอี้แล้วชะเง้อคอมาดูตามที่เทียนบุญชี้นิ้วไปที่รูปแรงๆจิ้มอยู่อย่างนั้น
“นี่มันเมย์ มณีอารียานี่”
“กริชรู้จักมันเหรอ”
เสียงสูงขึ้นสายตามองต้องการคำตอบ
“ก็เธอไฮโซจะตาย ทำร้านเพชรอยู่นะตอนนี้ ที่หมั้นกับทานเราพอจะรู้แล้วล่ะ แต่เอ๊ะครอบครัวของทานทำธุระกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ใช่เหรอเทียน ไม่ใช่เหมืองเพชร พลอยซะหน่อย”
“เราไม่แน่ใจเหมือนกันกริช แต่มันเป็นธุรกิจนี่ ถึงว่าทานเคยเปรยๆว่าอยากทำธุรกิจเกี่ยวกับเพชรกับพลอย อ้อ แบบนี้นี่เอง ถึงว่าทานบอกว่ามันเป็นธุระกิจ ตอนแรกนึกว่าทานจะหลอกเราเสียอีก”
“ดังนะเทียน ในวงสังคมไฮโซน่ะ แต่เอ๊ะ เรานึกว่าคนชื่อโป้งที่ตามต้อยๆนั่นจะเป็นแฟนซะอีก ไม่น่าเชื่อ”
“หือ ใครนะ”
สายตาฉายแววบางอย่างออกมา
“ก็ คนชื่อโป้ง กนิฐ หลัวตระกูลน่ะ เจ้าของเหมืองเพชร เขาตามตัวติดกันจะตาย เราก็นึกว่าเป็นแฟนกัน เริ่มงงแล้ว”
“แฟนไม่แฟนเราไม่รู้ แต่ที่เรารู้คืออีนี่มันไม่ใช่เล่น ตอนมันด่าตอกหน้าเรานะแหมอยากจะโผเข้าไปจิกหัวตบให้สาแก่ใจ เออ กริช มันกัดเราเรื่องปลาสลิดล่ะ มันหมายถึงอะไรเหรอ”
ยังจำคำที่โดนกระทบกระเทียบเมื่อตอนกลางวันได้ดี
“เป็นคำด่านะเทียน ก็ปกติปลาสลิดน่ะเขาจะตัดหัวมันออกไง เปรียบกับพวกหน้าตาไม่ดีน่ะ แต่เขาไม่น่าจะว่าเทียนนะเพราะเทียนไม่ได้ขี้เหร่”
“หนอยอีนี่ แอบด่าฉันเหรอ”
เทียนบุญกัดฟันหน้าตาบึ้งตึงขึ้นทันที กริชเองพอเห็นเพื่อนหน้าตาไม่สบอารมณ์ก็รู้สึกประหม่าเหมือนกัน เพราะรู้จักนิสัยใจคอของเทียนบุญเป็นอย่างดี
“ออกไปข้างนอกเถอะเทียน ไปนั่งดูเด็กๆกัน ไปคุยกับพี่ญ่าด้วย”
เทียนบุญพยักหน้าแล้วเดินตามกริชออกมาด้านนอกที่เสียงเพลงอึกทึกครึกโครมเป็นจังหวะให้ชายหนุ่มรูปร่างกำยำบนเวทีออกลีลาส่ายเอวเพื่ออวดสายตาลูกค้าทั้งหนุ่ม ทั้งแก่ ที่นั่งรายเรียงล้อมรอบเวทีนั้นอยู่
“กริช ที่นี่มีผู้หญิงด้วยเหรอ”
เทียนบุญทำท่าตกใจเมื่อเหลือบไปเห็นมุมของร้านที่มีกลุ่มลูกค้านั่งอยู่สามคนหนึ่งในนั้นเป็นผู้หญิง
“ไม่ใช่หรอกเทียน น่าจะผ่าแล้ว”
กริชบอกเพราะเห็นธัญญ่านินทาลูกค้ารายนี้ให้ฟังก่อนจะออกไปซื้อของ
“อ้อ แล้วไปตกใจหมด ไหนมีคนไหนน่าสนใจบ้าง”
“จะเอาจริงเหรอเทียน แล้วทานล่ะ”
“ผัวเขามีไว้ให้เฝ้าบ้าน ผู้ชายเขามีไว้แก้คันไม่เคยได้ยินเหรอกริช”
กริชทำหน้าตกใจจนเทียนบุญหัวเราะออกมา
“บ้าเหรอ เราล้อเล่น แหมเห็นเราแบบนี้เราก็ไม่ร่านนะกริช เรามาที่นี่เพราะกริชนะ”
ถอนหายใจออกมาแล้วหัวเราะไปกับเทียนบุญด้วย
“ทุกคนๆสนใจทางนี้หน่อย พี่จะแนะนำให้รู้จักกับเทียน เทียนจะมาเป็นผู้ช่วยพี่นับจากวันนี้เป็นต้นไป”
สำนักงานของนิตยาสารที่เทียนบุญทำอยู่บนถนนสุขุมวิทซอยยี่สิบกว่าๆ ภายในสำนักงานมีพนักงานเกือบ ๒๐ คนแบ่งไปตามแผนกหน้าที่นั่งแยกกันอยู่ ส่วนสำนักพิมพ์อยู่อีกที่ พอสิ้นเสียงประกาศจากวิภาวี สาวใหญ่ผู้คร่ำหวอดในวงการนิตยาสารชั้นแนวหน้าของเมืองไทย พนักงานทุกคนก็เดินมาล้อมวงจ้องมองเทียนบุญกันเป็นตาเดียว
“สวัสดีครับ ผมเทียนบุญครับ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ”
เทียนบุญแนะนำตัว ยิ้มบางๆ ตั้งคอตรงไม่มองใครเป็นพิเศษ เพราะคนในนี้ไม่มีใครพิเศษพอที่จะเป็นจุดตกของสายตา
“เทียนจบมาจากอังกฤษนะทุกคน จบแล้วร่วมงานกับบริษัทแม่ที่โน่น เรานับว่าโชคดีมากทีได้เทียนมาร่วมงาน”
คุณวิภาวีเสริม พนักงานทุกคนก็พยักหน้ารับรู้ บ้างก็ส่งเสียงอื้ออึงในคอเหมือนเป็นการชื่นชม
“เทียนมาทันเวลาพอดีเลย เนี่ยพี่มีโปรเจกต์จะเปิดตัวคอลั่มใหม่ พี่ดึงตัวนักเขียนชื่อดังมาร่วมงานได้ ดังมากนะเทียน เราช่วยพี่คิดแคมเปญจ์หน่อยสิ จะเปิดตัวยังไงให้มันดังติดตลาด”
พอแนะนำตัวเทียนบุญให้กับพนักงานทุกคนรู้จักแล้วก็พาเทียนบุญเข้ามาในห้องทำงานส่วนตัวที่จัดเตรียมไว้ให้เทียนบุญโดยเฉพาะ
“แล้วเขาเขียนคอลั่มอะไรให้เราล่ะครับพี่ภา”
“เดี่ยวกับซุบซิบคนในวงการน่ะจ๊ะ แล้วก็เขียนตอนท้ายเกี่ยวกับเทคโนโลยีความงาม”
“อ้อ หมายถึงสองคอลั่มเลยเหรอครับ”
“จ๊ะ คอลั่มซุบซิบอยู่หน้าแรกๆ ส่วนคอลั่มความงามอยู่เกือบท้ายๆเล่ม”
“อืม เราหาดารานางแบบนายแบบมาร่วมงานสักคนดีไหมครับ เปิดตัวก็ให้เขามาเล่าเรื่องการดูแลสุขภาพผิว แล้วก็ถามเรื่องส่วนตัวประมาณนี้”
“อืม มันคนทำเยอะแล้วน่ะสิเทียน”
แย้งขึ้นตามประสาของคนที่มีความคิดต่าง
“แต่มันก็ไม่เชยนี่ครับ ที่เราจะเปิดตัวคอลั่ม พี่ภาคิดว่าคอลั่มนี้จะทำให้ยอดขายหนังสือดีขึ้นหรือเปล่าล่ะครับ ถ้าใช่ผมว่าไม่น่าจะผิดไปจากนี้ คอลั่มซุบซิบดาราก็ควรจะให้ดาราหรือคนที่กำลังอยู่ในความสนใจมากๆมาร่วมงาน ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่ว่าคนเขาทำเยอะแล้วหรือยัง แต่มันขึ้นอยู่กับว่ารูปแบบของเรามันล้ำแค่ไหน หรือสิ่งที่เราจะถามเขา มันเรียกเรตติ้งได้มากแค่ไหนมากกว่าไหมครับพี่ภา”
เอ่ยขึ้นน้ำเสียงเรียบแต่คนฟังเริ่มเม้มปาก คร่ำหวอดในวงการนี้มานานไม่เคยมีใครหน้าไหนมาลูบคม ทุกคำพูดหรือความคิดที่เอ่ยออกไปทุกคนต้องทำตาม เช่นกัน อีกฝ่ายก็ไม่ได้คิดแค่นี้ สิ่งที่เทียนบุญคิดคือถึงเวลาที่หญิงชราคนนี้จะลงจากเก้าอี้ได้แล้ว ของเก่าบางอย่างมันก็มีคุณค่า แต่บางอย่างมันก็คร่ำครึล้าสมัยเกินไป
“งั้นพี่จะลองคิดดูก่อนนะ จะเอาเข้าที่ประชุมก่อนว่าจะเอายังไง”
“ครับ ผมต้องตรวจต้นฉบับด้วยไหมครับพี่ภา”
“ค๊ะ”
เธอทำเสียงสูงไม่มั่นใจในคำถาม
“หมายถึงก่อนอนุมัติให้พิมพ์น่ะครับ”
“เรามีแผนกตรวจอยู่แล้วจะเทียน”
“แต่ผมอยากจะดูได้ไหมครับ คอลั่มที่เป็นภาษาอังกฤษก็ได้ เผื่อผิดพลาดไป จะได้ไม่อายคนเขา”
เธอกัดฟันแน่น ได้ยินกิตติศัพท์มาบ้างแล้วว่าเด็กคนนี้ไฟแรง แต่ไม่คิดว่าจะเริ่มรู้สึกร้อนที่ตัวเธอก่อนใคร จะไม่พอใจแสดงอาการออกมาก็ไม่ดี เพราะสำนักงานใหญ่เป็นคนให้ตำแหน่งนี้กับเขา ไม่ใช่เธอ
“เปิดตัวร้านเพชรครั้งนี้เอาไงดีพิม เราอยากให้งานมันยิ่งใหญ่ที่สุด”
มณีอารียาเป็นทั้งเพื่อนและเจ้านายของพิมระตี ทั้งสองทำงานด้วยกันด้วยการว่าจ้างของมณีอารียาเอง แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมามณีอารียาปฎบัติกับพิมระตีเฉกเช่นเพื่อนมากกว่าเจ้านายกับลูกน้อง ทำให้พิมระตีรักและเทิดทูนมณีอารียามากกว่าใคร
“ใช่ งานเปิดตัวครั้งนี้ต้องเอาให้ดังพลุแตกไปเลยนะ เทียบเชิญเราทำไว้แล้ว ทยอยส่งไปเชิญแล้ว เหลือแค่ตีมของงานรอเธอตัดสินใจอยู่เนี่ย”
“อืม เราว่าให้นางแบบมาเดินดีไหม”
“ก็ดีนะ เดินแบบว่าไม่เป็นทางการ เดินรอบๆงานอะไรแบบนี้”
“งั้นเธอเอาตีมมาให้เราดู เราจะเลือกนางแบบเอง”
“เอาแต่นางแบบเหรอเมย์ นายแบบล่ะ”
“เอาสิ ความจริงนะเราอยากจะได้ปลายฟ้านะ กำลังดังเชียว”
“เออเราเห็นด้วย เอาแบบนี้ไหม ให้ปลายฟ้ามาเป็นตัวหลัก แล้วให้นางแบบมาเป็นตัวรอง”
“ชุดนาฬิกายุสุลต่านนั่นไงพิม”
มณีอารียาเดินตรงไปยังตู้กระจกนิรภัยก้มลงมองนาฬิกาฝังเพชรที่เธอสั่งทำเป็นพิเศษจากตุรกี ราคาไม่เท่าไหร่สำหรับคนในแวดวงสังคมอย่างเธอ แค่ ๓๕ ล้านหน่อยๆนี่คือความภาคภูมิใจของมณีอารียาในการจะฉลองเปิดร้านเพชรร้านใหม่ในห้างดังย่านสุขุมวิท เพราะสิ่งที่กำลังจะทำมันจะต้องดังและประสบผลสำเร็จเท่านั้น เพียงเท่านั้น
“คุณน้ำหวาน ไม่ทราบว่าตอนนี้นายแบบใครดังที่สุดนะครับในเมืองไทย”
เทียนบุญเป็นคนรับผิดชอบงานนี้โดยตรงแผนงานที่ผ่านการประชุมนั้นไม่มีใครคัดค้านแต่อย่างใด ทุกคนเห็นชอบ ซึ่งความเห็นชอบของทุกคนนี้ทำให้วิภาวีเคืองใจในตัวเทียนบุญอยู่ไม่น้อย
“ต้องปลายฟ้าเลยค่ะคุณเทียน ดังมาก โฆษณาเกือบทุกตัว เอ็มวี นิตยาสารเอย มีภาพยนต์อีกต่างหากแต่คิวแน่นหน่อยนะคะ”
“เหรอครับ คนอื่นล่ะ มีดังรองๆลงมาหน่อยไหมครับ”
“อืม น่าจะเป็นไนท์ วศรินทร์นะคะคุณเทียน แต่คนหลังนี่เย็นๆหน่อย”
“หมายถึงยังไงครับเย็นๆ”
เทียนบุญขมวดคิ้วเข้าหากัน
“ก็ไนท์เขาจะไม่ค่อยสุงสิงหรือคุยกับใครเท่าไหร่น่ะคะ ไม่เหมือนปลายฟ้า ปลายฟ้าเขางานเยอะเพราะอัธยาศัยดี”
“เหรอครับ แต่ผมไม่ต้องการคนอัธยาศัยดีหรือคนเย็นชา แต่ผมต้องการคนที่เวลาทำงานแล้วไม่มีปัญหา ต่อให้ดังคับฟ้าหรือเย็นเป็นเจ้าชายน้ำแข็งแต่ว่าทำงานไม่ได้เรื่องผมก็คงไม่เอา พวกดาราเขาจะรู้ไหมว่าสื่อนี่ล่ะครับที่จะสอยเขาร่วงลงกับพื้น”
“แรงค่ะคุณเทียน”
“เรื่องจริงครับ ตกลงผมสนใจปลายฟ้า รบกวนคุณน้ำหวานติดต่อคิวให้ด้วยนะครับ วันและเวลาก็ตามที่มินิทเมื่อกี๊ อ้อ คุณน้ำหวาน แผนสองผมอยากได้คุณไนท์ที่เป็นเจ้าชายน้ำแข็งนั่นด้วยนะครับ”
“แผนสองเหรอคะ”
“ผมทำอะไรมีสองแผนเสมอล่ะครับ กันพลาด อย่าบอกใครล่ะ”
เทียนบุญเดินเข้าตรงไปยังหน้าห้องของวิภาวี
“นี่น้องเทียนคะ ตกลงเราจะเอานายแบบเหรอคะที่จะลงคอลั่ม ทำไมไม่ใช่นางแบบ”
วิภาวีแหวเสียงขึ้นหน้าตาไม่สบอารมณ์อย่างมาก
“ก็ได้ข้อสรุปแล้ววนี่ครับพี่ภา ทำไมเหรอครับ”
“พี่คิดว่ามันจะดูเกย์ไปหน่อยไหม”
“อ้อถ้าเรื่องนี้คงไม่หรอกครับพี่ภา นิตยาสารเกี่ยวกับความงามกลุ่มลุกค้าหลักคือผู้หญิง ร้อยทั้งร้อยลูกค้าผู้หญิงก็ต้องชอบที่จะดูเนื้อหนังของผู้ชาย ผมว่ามันเป็นการตลาดนะครับ เราเอานายแบบดังมาลงคอลั่มเพื่อเป็นการสร้างกระแสในการเปิดตัว เพราะถึงแม้ว่านายแบบเองจะเป็นเกย์ แต่จากพอร์ทโฟลิโอที่ผมได้เห็น เขาดูไม่ออกครับ และผมเชื่อว่าไม่มีใครดูออก สรุปว่าเขายังขายได้ ผมจะมาคุยกับพี่เรื่องวันและเวลาที่จะดำเนินงานน่ะครับ”
ผ่อนเสียงราบเรียบลงตรงท้ายประโยคแววตาของเทียนบุญไม่ได้ยี่หระให้วิภาวีเลยแม้แต่น้อย วิภาวีเองกัดฟันจนเส้นขึ้นข้างๆขมับ
“อะไรนะคะคุณสายลม วันที่ ๒๕ มีคิวแล้วเหรอคะ แน่ใจเหรอคะงานเรามีตอน ๖ โมงเย็นนะคะไม่ได้จริงๆเหรอ”
พิมระตีร้องเสียงหลงเมื่อโทรศัพท์ไปติดต่อกับผู้จัดการส่วนตัวของปลายฟ้า มณีอารียาที่กำลังง่วนอยู่กับการกำกับช่างภาพที่กำลังถ่ายภาพเครื่องเพชรเพื่อลงในโปรชัวร์แจกในงานหันขวับมามองทันที
“ต้องขอโทษด้วยนะครับ พอดีเรารับงานเปิดตัวคอลั่มของนิตยาสารไปแล้วน่ะครับ”
“ตายจริง เราทุ่มไม่อั้นนะคะคุณสายลม ไม่ได้จริงๆเหรอคะ”
“ไม่ได้จริงๆครับ ผมต้องขอโทษแทนน้องด้วยจริงๆ”
“ค่ะๆ ได้ค่ะ เดี๋ยวจะลองถามนายดูก่อนนะคะ ยังไงถ้ามีการเปลี่ยนแปลงรบกวนติดต่อกลับหน่อยนะคะ อ้อ คุณสายลมคะ ว่าแต่นิตยาสารอะไรเหรอคะ”
สายลมอึกอักแต่ก็ยอมบอกออกมา
“ว่าไงพิม”
“ไม่ได้เมย์ มีนิตยาสารมาปาดหน้าไปแล้วอ่ะแก ทำไงดี”
“มีคนเดียวเหรอนายแบบน่ะ หาคนอื่นสิยะ ทำไมต้องไปง้อ”
“อืมๆ ได้ งั้นเดี๋ยวลองติดต่อไนท์ดู”
“นิตยาสารอะไรยะ เขาจะเปิดตัวเหมือนกันเหรอ”
“อืม เห็นผู้จัดการส่วนตัวบอกจะเปิดตัวคอลั่มใหม่น่ะ”
พิมระตีเอ่ยชื่อนิตยาสารออกมา มณีอารียาฟังแต่ไม่ได้สนใจ ไม่มีอะไรเบนความสนใจของเธอไปได้ในขณะนี้นอกจากงานเปิดตัวร้านเพชรที่ต้องหรูอลังการเพียงเท่านั้น พิมระตียกโทรศัพท์ติดต่อวศรินทร์ทันที รายนี้ไม่มีงานในวันนั้นเขาตกปากรับคำด้วยค่าจ้างที่ได้มากกว่าการถ่ายแบบให้นิตยาสารเกือบเท่าตัว เขาทำให้พิมระตีไม่ต้องวิ่งวุ่นกับการหาตัวนายแบบคนใหม่อีกทั้งไม่ต้องโดนทั้งเพื่อนและเจ้านายในร่างเดียวกันตำหนิเอา

****
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๒. ๑๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 18-05-2011 07:18:43
เริ่มจะมันส์แล้ว 555
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่1 [16/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 18-05-2011 07:56:38
(http://upic.me/i/55/fkph7.jpg) (http://upic.me/show/23408682)


เล่ห์ร้าย
ตอนที่ 2.

เวลาผ่านไปนานเท่าไรไม่อาจรู้ได้ ภายในห้องเงียบกริบ มีเพียงเสียงลมหายใจถี่กระชั้นที่ลอดออกมาแผ่วเบาจากชายหนุ่มที่ยืนอยู่กลางห้องเท่านั้น ใบหน้าแดงก่ำ หลับตาแน่น หน้าท้องที่เกร็งจนเห็นเป็นลอนกล้ามเนื้อขึ้นมาอย่างชัดเจน
ลลิตทำตาโตเมื่อก้มลงมองผลของคำสั่งที่ตนเองได้กล่าวออกไป แก้มขาวร้อนฉ่าเริ่มแต้มด้วยจุดแดงแสดงถึงความเขินอาย ริมฝีปากอิ่มถูกขบไว้เบาๆ เพื่อระงับความตื่นเต้น แอบเหลือบตามองชายหนุ่มดูว่ายังหลับตาอยู่หรือไม่ แล้วมองความแข็งขืนตรงหน้าอีกครั้ง มือที่กำชายเสื้อไว้แน่นสั่นน้อยๆ ต้องใช้ความกล้ามากมายที่จะปล่อยมือออกแล้วเอื้อมมาด้านหน้าช้าๆ เด็กชายกลั้นหายใจเอาไว้เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกตัว

แกร๊ก!!
เสียงการเคลื่อนไหวแผ่วเบาจากภายนอก ทำให้เด็กชายสะดุ้งลนลานถอยห่างออกมาอย่างรวดเร็ว
“พอได้แล้ว” เมื่อพาร่างกลับมานั่งลงที่โซฟาเดิมเรียบร้อย ลลิตก็เรียกสติวิธวินท์ที่กำลังปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายอย่างเคร่งครัด
ชายหนุ่มหยุดมือ หอบหายใจเบาๆ ใบหน้าแดงก่ำ
“ไปจัดการตัวเองในห้องน้ำนั่นก็แล้วกัน” เด็กชายเมินหน้า มือเล็กสะบัดไปทางห้องน้ำ
คำสั่งครั้งนี้วิธวินท์แทบไม่เสียเวลาคิดสักวินาที รีบเก็บเสื้อผ้าแล้วก้าวยาวๆ ไปตามทิศทางนั้นทันที
เมื่อลับหลังชายหนุ่มแล้ว ลลิตจึงถอนหายใจยาวยืดออกมา

ก๊อกๆ
“คุณหนูครับ ของที่สั่งไปได้แล้วครับ” เสียงของบอดี้การ์ดร่างใหญ่ ชื่อว่าสมบูรณ์ เป็นคนสนิทที่ดูแลลลิตมาหลายปีแล้ว
เด็กชายเดินไปรับของที่ประตู โดยไม่ให้คนสนิทเข้ามาด้วย ลลิตเปิดดูของที่ได้รับมา ริมฝีปากอิ่มเหยียดยิ้มออกเล็กน้อย เห็นรอยบุ๋มที่ข้างแก้มซ้ายจางๆ แล้วจึงกลับมานั่งรอวิธวินท์อยู่ที่เดิม แต่ความคิดกลับล่องลอยไปถึงสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าเมื่อครู่
“ไม่เห็นเหมือนที่ดูในการ์ตูนเลย” เด็กชายพึมพำกับตัวเองเบาๆ มือก็สะกิดกล่องหนังสีดำที่ได้รับมาเล็กน้อยแก้เขิน
ในใจก็นึกเอาสิ่งที่เห็นด้วยตาไปเปรียบเทียบกับหนังสือและหนังการ์ตูนที่เด็กชายเคยผ่านตามาบ้าง
“เกือบได้แตะแล้วด้วย” ลลิตหลับตาปี๋ เอามือทั้งสองมาแนบแก้มร้อนๆ ของตัวเองแล้วออกแรงกดเบาๆ นัยน์ตากรอกไปมองยังทิศทางของห้องน้ำที่ชายหนุ่มหายเข้าไปเมื่อครู่ แล้วพยายามสงบสติตัวเองกลับมาเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู
ชายหนุ่มเดินก้มหน้าแล้วมาหยุดที่ตรงหน้าเด็กชายอีกครั้ง
“นั่งลงสิ ไม่ต้องกลัวฉันกัดหรอกน่า” เด็กชายเอ่ยเสียงขึ้นจมูกแสดงอาการไม่พอใจเล็กน้อย
“ครับ” วิธวินท์นั่งลงแต่ก็ยังคงก้มหน้าอยู่เหมือนเดิม
“จะอายอะไรนักหนา ไม่เคยช่วยตัวเองหรือไง” ลลิตขยับตัวเข้าไปใกล้โซฟาเดี่ยวที่ชายหนุ่มนั่งมากขึ้น
“เอ่อ..คือ..ก็เคยครับ แต่..”
“แล้วเคยทำอย่างว่ามั้ย” เด็กชายไม่รอช้ายิงคำถามมากมายที่วิ่งวนอยู่ในหัวออกไปทันที ตากลมใสมองจ้องวิธวินท์ที่นั่งก้มหน้า ตัวตรงหัวเข่าชิดแทบจะหลอมรวมกัน มือสองข้างผสานกันอยู่ที่หน้าตัก นิ้วโป้งเขี่ยกันไปมา
“ก็..เอ่อ คือ แบบว่า” วิธวินท์อึกๆ อักๆ
“ว่าไงล่ะเคยหรือไม่เคย” เด็กชายตวัดเสียงเล็กน้อยแสดงออกถึงความไม่พอใจที่กรุ่นอยู่ภายใน
“เคยครับ” วิธวินท์โพล่งโกหกคำโตออกไป จะให้บอกความจริงได้อย่างไร มันออกจะน่าอายสักหน่อยที่ชายหนุ่มวัยขนาดเขาจะไม่มีประสบการณ์เซ็กส์แบบเต็มรูปแบบเลยสักครั้ง แม้จะมีสาวน้อยสาวใหญ่เข้ามาส่งไมตรีอยู่เรื่อยๆ แต่แค่ตั้งใจเรียนเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐให้ได้กับทำงานอย่างหนักเพื่อช่วยพยุงครอบครัววิธวินท์ก็แทบจะหมดเวลาหายใจแล้ว
“นายมีแฟนหรือเปล่า” ยิ่งถามเสียงเด็กชายยิ่งต่ำลง แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้สังเกตแม้แต่น้อย
“ม่ะ ไม่มีครับ”
“ดี ระหว่างสัญญาห้ามมีแฟน ห้ามไปทำเรื่องอย่างว่ากับใคร”
“ครับ” ชายหนุ่มรับปากอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่เพราะกลัวหรือเพราะติดที่พันธะสัญญาแต่อย่างใด เป็นเพราะว่ายี่สิบปีที่ผ่านมาชายหนุ่มก็ทำมาได้ แล้วทำไมจะทำต่อไปอีกไม่ได้ล่ะ
“ดีมาก อืม...บรูโน่ เข้ามาใกล้ๆ ฉันสิ” ลลิตเปล่งเสียงเรียกออกมา วิธวินท์เหลือบตามองซ้ายขวา แต่ก็ไม่เห็นใคร จนเงยหน้ามองไปยังคุณหนูที่นั่งพิงโซฟามองตรงมาที่เขา ชายหนุ่มจึงเอานิ้วชี้ที่ตัวเอง
“ผมชื่อวิธวินท์ครับ หรือจะเรียกวินก็ได้”
“ไม่ ตั้งแต่นี้ไปนายชื่อบรูโน่ มานี่ซิ” เด็กชายยืดตัวขึ้นนั่งหลังตรง เปิดกล่องที่อยู่ข้างตัวแล้วหยิบบางสิ่งออกมา
“มาสิ” ลลิตเรียกอีกครั้งพร้อมกับพยักหน้าแรงๆ ชายหนุ่มจึงลุกขึ้นตามคำสั่ง
“นั่งลงกับพื้นสิ ข้างหน้าฉันเนี่ย” เมื่อชายหนุ่มจะหย่อนตัวลงนั่งบนโซฟาข้างกาย เด็กชายกลับเอ่ยบอกเสียก่อน
วิธวินท์จึงต้องย่อตัวลงนั่งคุกเข่ากับพื้น ความสูงของเขาตอนนี้เท่ากับลลิตที่นั่งอยู่บนโซฟาพอดิบพอดี เด็กชายเอื้อมมือไปจะสวมสายสร้อยที่คอของชายหนุ่ม ความเย็นของสร้อยทำให้ชายหนุ่มผงะออกเล็กน้อยตามสัญชาติญาณ
“อยู่นิ่งๆ” เด็กชายก้มลงไป ด้วยวงแขนที่เล็กทำให้ใกล้ชิดกันมาก จนชายหนุ่มต้องเกร็งตัวกลั้นลมหายใจ แต่ไม่ทันเสียแล้วกลิ่นหอมอ่อนๆ ของผมสีดำตัดแต่งเป็นทรงสั้นๆ รับกับศีรษะได้รูปเพียงแค่เห็นด้วยหางตาก็รู้สึกได้เลยว่ามันน่าจะละมุนมือมาก จนวิธวินท์เอียงคอหลบออกไปอีกทาง จมูกของชายหนุ่มก็ไปปะทะกับต้นแขนเล็กๆ ขาวเนียนที่พ้นออกมาจากแขนเสื้อ สัมผัสนุ่มจนวิธวินท์ลืมตัวสูดลมหายใจเข้าปอดช้าๆ หอมจัง คำนี้ผ่านเข้ามาในห้วงความคิดของชายหนุ่ม แต่เมื่อลลิตขยับตัวออกไปสติของชายหนุ่มก็กลับมา จึงก้มลงมองสร้อยที่ถูกใส่ให้ที่คอ เป็นสายสร้อยทองคำขาวยาวลงมาถึงลิ้นปี่ร้อยจี้เป็นลูกกระดิ่งแต่ไม่มีเสียงขนาดเท่าปลายนิ้วก้อย
“นายเป็นของฉัน” ลลิตพูดพร้อมทั้งลูบเบาๆ ที่ผมตรงขมับของวิธวินท์
“บรูโน่ อ่ะ ฉันให้ ฉันโทรไปเมื่อไหร่ต้องรีบรับ ห้ามปิดเครื่อง ห้ามแบตหมด เด็ดขาด” เด็กชายส่งกล่องบรรจุโทรศัพท์รุ่นใหม่ที่ราคาของมันคงพอๆ กับเงินเดือนของชายหนุ่มสองสามเดือนรวมกัน
“ถ้าผมเรียนหรือทำงานอยู่ล่ะครับ”
“ฉันไม่โง่หรอกน่า ตอนนายเรียนฉันก็เรียนอยู่เหมือนกัน ตารางงานของนายฉันก็มี ฉันรู้หรอกน่าว่าควรโทรไปตอนไหน”
เมื่อพูดจบเด็กชายก็ลุกขึ้น
“ไปสอนการบ้านฉันได้แล้ว”
“ครับๆ” วิธวินท์รับคำแล้วรีบลุกเดินตามลลิตไป
ความจริงแล้วลลิตมีครูพิเศษที่คุณท่านจ้างไว้เพื่อมาสอนที่บ้านอยู่แล้ว แต่เด็กชายก็ได้ปฏิเสธไป เพื่อให้ชายหนุ่มเป็นคนสอนแทนที่เรือนคุณปู่

ในทุกวันที่วิธวินท์มาพบคุณหนูริช พอพลบค่ำชายหนุ่มจะนั่งรถคันใหญ่ออกจากคฤหาสน์ตรงไปที่โรงพยาบาลที่แม่ของเขาพักรักษาตัวอยู่
“ขอโทษครับคุณสมบูรณ์ รบกวนแวะร้านดอกไม้ได้ไหมครับ” วิธวินท์หันไปบอกบอดี้การ์ดคนสนิทของคุณหนู ซึ่งเป็นผู้ขับรถออกมาส่งเขาด้วยตัวเองด้วยน้ำเสียงแสดงความเกรงใจที่วันนี้ต้องแวะกลางทาง เพราะร้านดอกไม้ในโรงพยาบาลมีราคาสูงจนชายหนุ่มไม่สามารถซื้อได้บ่อยนัก
“จะซื้อดอกไม้เพื่อไปเยี่ยมคุณวิสาหรือครับ”
ชายหนุ่มพยักหน้าพร้อมกับรับคำเบาๆ
“คุณหนูริชสั่งดอกกุหลาบขาวไว้ให้คุณแล้วครับ” แล้วบอดี้การ์ดหนุ่มก็ขับรถต่อไป

ชายหนุ่มเดินไปตามทางเดินของโรงพยาบาลไปยังห้องพิเศษที่แม่ของเขาพักรักษาตัวอยู่ ในมือถือดอกกุหลาบขาวช่อใหญ่ดอกไม้ที่แม่ของชายหนุ่มโปรดปรานเป็นที่สุด ชายหนุ่มยกช่อดอกไม้ขึ้นดมเบาๆ พาลคิดถึงคนที่สั่งดอกไม้ช่อใหญ่นั้นให้รอยยิ้มเล็กๆ จุดขึ้นที่มุมปาก ส่ายศีรษะน้อยๆ นึกไปถึงคำสั่งที่เอาแต่ใจต่างๆ นานาที่สรรหามาทำให้ชายหนุ่มลำบากใจ แต่ในที่สุดก็ต้องยอมจำนนแก่แววตาดื้อดึงคู่นั้นอยู่ดี คืนนั้นวิธวินท์ทานอาหารค่ำและนอนค้างกับแม่ของเขาโดยที่ไม่ได้กลับบ้าน

‘♫ ♬ ♪ ♩ ♭ ♪ … ♫ ♬ ♪ ♩ ♭ ♪ …’ เสียงดนตรีจากโทรศัพท์เครื่องหรูที่วางไว้ตรงหัวนอนของชายหนุ่มดังขึ้น ชายหนุ่มเอื้อมมือหยิบขึ้นมาดูชื่อที่โชว์อยู่หน้าจอเครื่อง -คุณหนูริช- ชื่อนี้ทำให้วิธวินท์เด้งตัวลุกขึ้นมานั่งตัวตรง
“ครับ” ชายหนุ่มรีบกดรับ แล้วกรอกเสียงลงไปทันที
“บรูโน่ ทำไมรับช้า” เสียงเด็กชายดังต่อว่ามาจากในสาย
“เอ่อ..”
“ช่างมัน ออกมาหาฉันที่...เดี๋ยวนี้ ฉันให้เวลา 20นาทีต้องมาถึง ..ตื้ดๆๆๆๆ” ก่อนที่วิธวินท์จะบอกเหตุผลคุณหนูก็สั่งเสียงรัวมาเสียก่อน แล้วตัดสายไม่รอคำตอบรับหรือปฏิเสธทั้งสิ้น ชายหนุ่มมองหน้าจอโทรศัพท์บอกเวลาห้าทุ่มสิบห้านาที
วิธวินท์มองไปที่เตียงคนไข้ก็เห็นผู้เป็นแม่นอนหลับสนิท ก้มมองตัวเองที่อยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงวอร์มขายาว ขากางเกงขาดนิดๆ บ่งบอกว่าเจ้าของสวมใส่มานานปี คงพอออกไปข้างนอกได้ ชายหนุ่มคิดในใจ จึงรีบหยิบข้าวของสำคัญ แล้วย่องออกจากห้องอย่างเงียบๆ

สถานที่ที่คุณหนูริชให้ชายหนุ่มไปพบคือหน้าโรงแรมหรูใจกลางเมือง ซึ่งถึงจะดึกป่านนี้แล้วแต่การจราจรคงยังติดขัดอยู่ไม่น้อย ชายหนุ่มตัดสินใจใช้บริการมอเตอร์ไซค์รับจ้างจากหน้าโรงพยาบาลซอกแซกไปตามท้องถนน เพื่อให้ไปถึงจุดนัดพบในเวลาที่กำหนด

เมื่อใกล้ถึงโรงแรมที่คุณหนูบอกแต่ต้องกลับรถอีกไกล วิธวินท์จึงตัดสินใจลงจากพาหนะแล้วสาวเท้าวิ่งตัดข้ามถนนที่รถติดจนแออัด แล้วก้าวเท้ายาวๆ ไปยังลานจอดรถของโรงแรมอย่างรวดเร็ว
ชายหนุ่มหายใจหอบนิดๆ เมื่อมาหยุดอยู่ที่ข้างรถคันใหญ่พาหนะประจำตัวของคุณหนูริช พอสูดหายใจเข้าเต็มปอดก็รีบเปิดประตูก้าวขึ้นรถทันที
“ช้าไป 2นาที 35วินาที” เด็กชายเอ่ยทักเมื่อชายหนุ่มเปิดประตูรถแล้วย่อตัวลงนั่ง
“ขอโทษครับ ผมรีบเต็มที่แล้ว” วิธวินท์พูดปนหอบออกมาเบาๆ
“เปลี่ยนชุดซะ ใส่ออกมาได้ยังไง” ลลิตเบะปากน้อยๆ เมื่อมองชุดที่ชายหนุ่มสวมใส่ เสื้อยืดสีขาวที่ใส่จนเนื้อผ้ามันบางลายที่พิมพ์อยู่กลางอกมองไม่ออกแล้วว่าเป็นลายอะไรชื้นเหงื่อนิดๆ กับกางเกงวอร์มย้วยๆ ชายขาลุ่ย และรองเท้าแตะแบนๆ แล้วหยิบถุงกระดาษสามสี่ใบส่งให้ชายหนุ่ม
วิธวินท์รับมาเปิดดูเป็นเสื้อกางเกง และรองเท้าผู้ชายแบบทันสมัย ราคาก็คงไม่ใช่น้อย
“ครับ” ชายหนุ่มทำท่าจะเปิดประตู ลลิตเอื้อมมือมาจับหน้าขาของเขาบีบเบาๆ
“จะไปไหนบรูโน่ เปลี่ยนในนี้แหละเสียเวลา” เด็กชายพูดออกมาเสียงเรียบ
“จะดีเหรอครับ”
“ดีสิ ฉันรอนายมานานพอแล้ว”
วิธวินท์ก็จนคำพูดที่จะทัดทาน จึงเริ่มถอดเสื้อออกเปลี่ยน เป็นเสื้อเชิ้ตสีอ่อนโชว์ไหล่กว้าง แล้วหยิบกางเกงขายาวทรงกระบอกพอดีตัวตัดเย็บจากผ้าเนื้อดี ชายหนุ่มเริ่มช้าลงอีกครั้ง ไม่ใช่ว่าอายที่จะต้องเปลี่ยนชุด แต่ปัญหามันอยู่ที่ใต้กางเกงวอร์มของเขาหาได้มีปราการด่านสุดท้ายของท่านชายไม่

“คุณสมบรูณ์ออกรถได้แล้ว” เสียงคุณหนูดังขึ้น วิธวินท์หันขวับไปมอง แต่คุณหนูกลับไม่ได้สนใจที่เขา นั่งก้มหน้ากดของเล่นอิเล็กทรอนิกส์เครื่องใหม่ที่พึ่งจับจ่ายมาพร้อมกับเสื้อผ้าของชายหนุ่ม วิธวินท์แอบเหล่มองไปที่คุณสมบูรณ์ผู้ขับรถ ที่ขับไปเงียบๆ ไม่ได้สนใจสิ่งอื่น ชายหนุ่มจึงตัดสินใจ ถอดกางเกงวอร์มแล้วดึงกางเกงขากระบอกสวมแทนอย่างรวดเร็ว แต่เพราะความสูงของชายหนุ่ม ขากางเกงไม่ได้ขึ้นมาได้โดยง่าย วิธวินท์ยืดตัวขึ้นจนศีรษะชนกับหลังคารถเสียงดัง จนเด็กชายที่นั่งอยู่ข้างๆ หันมามอง ระดับสายตาของลลิตก็ไปพบเข้ากับ ชายเสื้อที่ปิดอยู่ที่ท้องน้อย ขอบกางเกงหมิ่นเหม่อยู่ที่ขาอ่อน เด็กชายตาโตตกใจยกมือปิดปากตกใจกับสิ่งที่ได้เห็นแม้ภายในรถจะสลัวแต่เด็กชายก็มองเห็นได้อย่างชัดเจน กรอกตามองขึ้นสูงแล้วหันหน้าช้าๆ ออกนอกกระจกรถ
ได้แต่คิดในใจวนไปวนมาไอ้บ้าบรูโน่ กางเกงในก็ไม่ใส่ เห็นหมดเลย ในสมองก็ฉายภาพติดตานั้นซ้ำๆ จนนั่งเงียบอยู่ท่านั้นเป็นครู่ แม้จะเอาแต่ใจสั่งให้ทำแบบที่พบกันครั้งแรกอยู่หลายครั้งแต่ก็ยังไม่ชินเสียที


=========> โปรดติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๒. ๑๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 18-05-2011 08:00:03
 :m4: สีแดงแรงดีไม่มีตก
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 2 [18/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 18-05-2011 08:22:30
 :z1: กริชขายผักหรอเนี่ย มีโชว์ฟัก โชว์บวบกันด้วย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 2 คู่ปรับ [17-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 18-05-2011 08:24:55
 :undecided: นี่หรือคือวงการมายา
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่2 เริ่มงานวันแรก 17/25/2011
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 18-05-2011 08:28:10
จะรอดมั้ยเนี่ย ทำงานวันแรกก็นอนสลบแล้ว
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่2 [18/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 18-05-2011 08:31:01
เอิ่มมม  แอบแรงนะคุณหนู  ตัวแค่เนี๊ยะทำเป็นสั่งสมประสบกาม เอ๊ยย ประสบการณ์  ร้ายเดียงสาจริง ๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 5 สิ้นแสงดาว 17/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 18-05-2011 08:34:02
 :o12: อ่านอีกก็เศร้าอีก
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 2 คู่ปรับ [17-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: onjazz26 ที่ 18-05-2011 08:41:47
 :z13:
จิ้มๆ เรนเจอร์สีเหลือง ข้ามทู้กันจัง ดันกันเหลือเกิ้นนน
จ๋งจ๋าน....แต่ปี้สายลม...ฮือๆๆ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๒. ๑๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 18-05-2011 08:42:54
แรงทั้งคู่  ท่าทางทานจะน่วม  ดูเหมือนเรื่องนี้จะรวมดาราเลยเนาะ  มาเกือบครบทุกเรื่อง
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 5 สิ้นแสงดาว 17/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: onjazz26 ที่ 18-05-2011 08:51:23
 :z13: :z13: :z13:
ต้องจิ้ม ต้องดัน เด๋วคนแต่งน้อยจัย
รอตอนสิบอยู่นะคับบบ
อ่านตอนแรกๆลุ้นมากมาย อ่านตอนหลังหรั่งตายน้อยใจเหลือหลาย
มัน...มัน...ไม่ยุติธรรมกะหรั่งเล้ยยยยย :o12:

สู้ต่อไป....เรนเจอร์สีม่วง :a2:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 2 [18/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 18-05-2011 08:52:19
คนแต่งรู้ลึก  รู้จริงแฮะ 
 
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๒. ๑๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 18-05-2011 08:53:22
ถ้ารู้ว่า นิตยสารเล่มนั้นใครเป็นคนทำ มณีอารียาจะยอมไหมหนา...
สงครามบางครั้งไม่ต้องประกาศ แต่ก็อาจทำให้มีคนเจ็บเจียนตาย หรือไม่ก็ตายทั้งสองฝ่าย  :z2:
+1  ให้กับเพลิงพลายสีแดง จัดจ้านครับ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๒. ๑๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 18-05-2011 08:53:44
สู้ไม่ถอยกันทั้งคู่เลยนะ +1
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 2 [18/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 18-05-2011 09:01:28
โชว์อลังมาก  :pighaun:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่2 [18/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Eternal luv ที่ 18-05-2011 09:16:19
 :z13: ทะลุรีบน
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่2 [18/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Muzik ที่ 18-05-2011 09:26:21
คุณหนูน่าตีจริงๆ อิอิ
ดูเหมือนเรื่องนี้จะน่ารักนะ  :z1:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๒. ๑๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: Muzik ที่ 18-05-2011 09:27:55
คงฟาดฟันกันอีกนานเลยนะคะเนี่ย ลุ้นพระเอก
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 2 [18/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 18-05-2011 09:28:59
อ่านแล้วกลืนน้ำลายดังเอื้อก :jul1:
พี่โมนาชศึกษาละเอียดดีเชียว เหมือนเป็นเจ้าของเราเอง :laugh:
สนุกดีแท้ อดใจรอตอนต่อไปไหวแล้วนะเนี้ยะ o13
มาต่อไวไวนะค่ะ
 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่2 [18/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 18-05-2011 09:58:11
 :m25:
ทำไมน้องลิตร้ายอย่างนี้ละค่ะ (ร้ายแบบน่ารักซะด้วย)
จะเอาอะไรกับการ์ตูน มันเทียบกับของจรองไม่ได้หรอก.. :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 2 [18/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: KM ที่ 18-05-2011 10:01:59
โหววววว
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่2 [18/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 18-05-2011 10:10:56
คุณหนูเอาแต่ใจนะเนี่ย +1
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๒. ๑๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 18-05-2011 10:22:03
สะสะ...สุดยอดดดด แห่งการเชือดเชือน
ลุ้นตัวโก่งมากกกเลย
สีแดง แรงฤทธิ์จริงๆๆ
 o13
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 5 สิ้นแสงดาว 17/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 18-05-2011 10:24:46
หรั่งตายเหรอนี่ +1
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 2 คู่ปรับ [17-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 18-05-2011 10:28:30
ตกลงฟ้าจะคู่กะใครเนี่ย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 5 สิ้นแสงดาว 17/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 18-05-2011 10:34:55
เข้ามาอ่านใหม่ก็สะเทือนใจอีกละ :m15:
รอตอนต่อไปค่ะพี่จง :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่2 [18/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Donald~duck ที่ 18-05-2011 11:03:01
คุณหนูริชน่ารักกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 2 คู่ปรับ [17-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: RemySexyCool ที่ 18-05-2011 11:10:47
ถ้าตามอ่านกันครบทุกสีจะแซ่บมาก แต่ละสีมีอารมณ์ที่ต่างกันไป ขนาดรู้พล็อตล่วงหน้าแล้วยังอยากอ่านของทุกคนแบบเวอร์ชั่นเต็ม ๆ เลย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่2 [18/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: RemySexyCool ที่ 18-05-2011 11:11:54
น่ารักแสนซน
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 2 [18/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 18-05-2011 11:14:07
 :jul1: ลึกซึ้งราวกับติดอยู่ขอบเวทีเลยทีเดียว  :jul1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 5 สิ้นแสงดาว 17/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: RemySexyCool ที่ 18-05-2011 11:19:58
ตามอ่านอีกครั้ง ลงคราวที่แล้วน้องยังอ่านไม่จบเลย 555++
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่2 [18/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 18-05-2011 11:21:43
มามาเดี่ยวพาไปหาประสบการณ์ให้คุณหนู  :z1:


 :laugh:  :laugh:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่2 เริ่มงานวันแรก 17/25/2011
เริ่มหัวข้อโดย: RemySexyCool ที่ 18-05-2011 11:24:31
อัพตอนสองแล้ว คนเขียนทั้งสวยทั้งขยันเลยนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๒. ๑๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: RemySexyCool ที่ 18-05-2011 11:29:47
แรงดีไม่มีตกจริง ๆ สีนี้
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz (เอาทีเซอร์มาให้ชมก่อนนะคะ ^0^)
เริ่มหัวข้อโดย: RemySexyCool ที่ 18-05-2011 11:31:39
รออ่านอยู่นะครับ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่2 [18/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: nco1236 ที่ 18-05-2011 11:34:47
 :a5:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๒. ๑๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 18-05-2011 11:35:39
 :fire: แดงเดือดจริงๆครับ ศึกใครจะชนะกันแน่
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 2 [18/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: RemySexyCool ที่ 18-05-2011 11:36:01
อโคจรสถานแบบนี้ เพิ่งรู้ว่ามันมีอยู่จริงนะเนี่ย 555++
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่2 [18/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 18-05-2011 11:38:23
ลุ้นแทนบรูโน่จนตัวโก่งเลย 555
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 2 [18/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 18-05-2011 11:39:59
เรียกว่าทำการบ้านมาดีนะคะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่2 [18/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: huimei ที่ 18-05-2011 11:50:35
แอร๊ยยย ค้างอยุที่ฉากโชว์ตลอด  :z2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 5 สิ้นแสงดาว 17/5
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 18-05-2011 11:50:37
รอตอน10ด้วยใจจดจ่อ
กระชิกๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่2 เริ่มงานวันแรก 17/25/2011
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 18-05-2011 12:17:56
"ชอบ"
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่2 เริ่มงานวันแรก 17/25/2011
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 18-05-2011 12:21:48
ทำไมไนท์ถึงเป็นโรคซึมเศร้า ต้องมีปมให้ค้นหาอีกเยอะ เตเหนื่อยแน่ๆงานนี้
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 5 สิ้นแสงดาว 17/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 18-05-2011 12:23:19
 :z10: รอตอน10ด้วยคน
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่2 [18/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 18-05-2011 12:40:04
อร๊ายยยยยยยยยยจะพากันไปไหน :z1: :z1: :z1:



คุณหนูแรงๆแบบนี้เห็นหลงพระเอกหัวปักหัวปำมาหลายรายแล้ว :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 2 คู่ปรับ [17-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 18-05-2011 12:51:58
เข้ามาอ่านแล้วเน้อพี่ห่ม คุๆๆๆๆๆ
น่าสนใจดี ว่าแต่น้องฟ้านี่ชื่อเดิมใช่เรยารึเปล่าอ่ะ??
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่2 [18/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 18-05-2011 12:52:40
คุณหนูน่ารักน่าหยิก
 :z1: แตบรูโน่นี่อยากได้ไว้เลี้ยงซักคน
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 2 คู่ปรับ [17-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 18-05-2011 13:05:33
เริ่มหนักใจแทนสายลมแระ  o22
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 2 [18/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 18-05-2011 13:07:27
 :o8: เข้ามาหาความรู้เล็กๆน้อยๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz (เอาทีเซอร์มาให้ชมก่อนนะคะ ^0^)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 18-05-2011 13:27:27
รอด้วยคนค่า
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 2 [18/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 18-05-2011 13:37:23
เอาซะเห็นภาพเลย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่2 [18/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 18-05-2011 13:54:43
โอ๊ย คุณหนูน่ารักเนอะ
ไปดูการ์ตูนแบบไหนมา เนี่ย อร๊าย
คนที่ช่วยไว้ตอนตกน้ำนี่ใช่คุณหนูเปล่าหว่า
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz (เอาทีเซอร์มาให้ชมก่อนนะคะ ^0^)
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 18-05-2011 13:56:19
รอจ้า
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz (เอาทีเซอร์มาให้ชมก่อนนะคะ ^0^)
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 18-05-2011 13:59:14
สีเขียวมาแล้วววววววว^^
********
ตามไปดูทีเซอร์มา เหมือนหนังมาก ยิ่งอยากอ่านเข้าไปใหญ่ รออ่านจ้า :pig4:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๒. ๑๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 18-05-2011 14:18:55
แรงส์!!!
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 2 [18/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 18-05-2011 14:21:54
โอ้ย ใจแตกหมดเลย
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๒. ๑๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 18-05-2011 14:25:57
ปลายฟ้าคิวทองหน่อยนะคร้าบ คุณแรงเทียน

คราวหน้าต้องบอกล่วงหน้าจะเคลียคิวให้ ^^

เรื่องยังแรงไม่มีตกเลยเรื่องนี้  o13
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่2 [18/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 18-05-2011 14:32:44
คุณหนูนี่น่าจับมาตีก้นจริงๆ >//<
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 2 คู่ปรับ [17-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 18-05-2011 14:54:29
ปลายฟ้าแรงอยู่นะ แต่สายลมนี่ดูอบอุ่นจัง ><
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๒. ๑๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 18-05-2011 14:57:57
เทียนแรง!!
ว่าแต่ชื่อธรรมทาน-เทียนบุญนี่จะธรรมะธรรมโมไปไหนค้า
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่2 เริ่มงานวันแรก 17/25/2011
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 18-05-2011 15:06:06
ตอนแรกนึกว่าจะมาม่า แต่พอบอกว่าไม่มีแน่นอน ค่อยโล่ง 55+
ติดตามจ้า^^
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๒. ๑๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 18-05-2011 15:15:00
เทียนบุญกะนายพล เจ้าความคิด จอมวางแผนเหมือนกันแป๊ะๆเลย  บอกมาตามตรงนะพี่แรงเทียนคือพี่อิ๊กกี้ใช่ไหม :laugh: :laugh: :laugh:



เมย์ก้อเก่ง  เทียนก้อเก่ง  แบบนี้เค้าจะเชียร์ใครล่ะเนี่ย :sad4: :sad4: :sad4:




ถ้าสองคนนี้เป็นเพื่อนกันคงจะดีไม่น้อยเนอะ  แต่ว่าพระเอกเรื่องนี้ยังไม่โผล่ใช่ไหม 




ความคิดส่วนตัว ไม่น่าจะใช่นายธรรมทานอะไรนี่หรอก :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่2 [18/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 18-05-2011 15:23:37
โอยยยยยย เด็กสมัยนี้จะรีบแก่แดดไปไหน
แต่ก็น่ารัก น่าหยิก น่า...อิอิ :z1:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๒. ๑๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 18-05-2011 15:39:21
โอ้ มาครบองค์ประชุมเลยใช่มั๊ยเนี่ย
แรง ๆ กันทั้งน้าน
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 2 คู่ปรับ [17-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 18-05-2011 15:50:04
เฉือดเฉือนกันน่าดู

หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๒. ๑๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 18-05-2011 15:51:20
หมูทำไมถึงคิดว่าเป็นอิกกี้กันเล่าคะ
ชิ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๒. ๑๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: vascular ที่ 18-05-2011 16:07:05
โยงกันทุกเรื่องจริงๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 5 สิ้นแสงดาว 17/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 18-05-2011 16:21:00
อ๊า เค้าเพิ่งได้อ่าน
พระเอกซี้แหงแล้วเหรอ
ทำไมมันเศร้ายังงี้  :sad11:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 5 สิ้นแสงดาว 17/5
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 18-05-2011 16:35:37
ไหนๆๆ ใครเศร้า
จะเศร้าไปใย
ความสนุกมันเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้นเองค่ะ รออ่านตอน10
กันได้ แต่เค้าก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าวันไหนดี หุๆ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๒. ๑๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 18-05-2011 16:38:44
ศึกวันแดงเดือด
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 5 สิ้นแสงดาว 17/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: Saint De Jupiter ที่ 18-05-2011 16:40:34
เพิ่งเห็นโปรเจ็คนี้ครับ ขอติดตามด้วยคนนะ  ^^
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 2 คู่ปรับ [17-05-54
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 18-05-2011 16:41:37
ดาราเจ้าบทบาท
ต่อหน้ามะพลับลับหลังตะโก นะคะคุณปลายฟ้า
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 5 สิ้นแสงดาว 17/5
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 18-05-2011 16:42:58
ยินดีต้อนรับ จ๊วบๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่2 เริ่มงานวันแรก 17/25/2011
เริ่มหัวข้อโดย: Saint De Jupiter ที่ 18-05-2011 16:48:13
มาตามสายรุ้งสีที่สองครับ  ^__^
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 2 [18/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 18-05-2011 16:53:53
แหล่มๆๆ เลย
อ่านไปน้ำลายไหมไป ซู้ตน้ำลายก่อน
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz (เอาทีเซอร์มาให้ชมก่อนนะคะ ^0
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 18-05-2011 16:55:45
แรงดีเหมือนกันนะเพื่อนสาว 55
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 2 คู่ปรับ [17-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: Saint De Jupiter ที่ 18-05-2011 16:56:24
จิ้มสีที่สามครับ  ^^
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz (เอาทีเซอร์มาให้ชมก่อนนะคะ ^0^)
เริ่มหัวข้อโดย: Saint De Jupiter ที่ 18-05-2011 17:01:16
ดูไฉไล&ไซไฟดีครับ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่2 [18/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Saint De Jupiter ที่ 18-05-2011 17:07:37
ว้าว... แร๊งส์
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 2 [18/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: Saint De Jupiter ที่ 18-05-2011 17:13:35
สงสัยจังว่าใช่นักเขียนคนที่เราคิดรึเปล่าเอ่ย ???
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๒. ๑๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: Saint De Jupiter ที่ 18-05-2011 17:20:14
พี่อิ๊กแต่งเรื่องนี้ใช่ป่ะ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๒. ๑๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 18-05-2011 18:51:14
หมูทำไมถึงคิดว่าเป็นอิกกี้กันเล่าคะ
ชิ
ป้านัทครับ  ผมก็คิดเหมือนกับพี่เค้านะครับ
แล้วป้านัทละครับจะหลอนอะไรอีกเปล่าครับวันนี้ 
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 5 สิ้นแสงดาว 17/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 18-05-2011 18:56:01
กำลังจะเข้าช่วงหลอนแล้วดิครับ  ไม่กล้าอ่านตอนดึกๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 5 สิ้นแสงดาว 17/5
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 18-05-2011 19:29:08
คนน่ากลัวกว่าผีอีกนะคะ ยิ่งประเภทรู้หน้าไม่รู้ใจ ยิ่งน่ากลัวกว่าหลายเท่า
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๒. ๑๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 18-05-2011 19:30:30
แอร๊ยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 5 สิ้นแสงดาว 17/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 18-05-2011 19:31:24
^^^  อ่ะแฮ่ม ๆ ขอตอนต่อไปด้วยยยย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 5 สิ้นแสงดาว 17/5
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 18-05-2011 19:33:06
ดึกๆ ก่อน ยังไม่ถึงบ้านเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๒. ๑๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: IZE ที่ 18-05-2011 19:48:35
เชียร์สุดใจขาดดิ้น อย่าได้ยอมมันนะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่2 [18/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Mookkun ที่ 18-05-2011 19:49:20
สีเหลืองงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง 
ฮิ้ววววว *ยกป้ายไฟเชียร์*
 :pig4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่2 [18/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: IZE ที่ 18-05-2011 19:59:51
5555555555555  เหมือนคุณหนูจะแรง  แต่ก็ยังเด็กอะนะ แอบมาเขินอาย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่2 [18/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 18-05-2011 20:10:07
 :o8:คุณหนูริช   แต่ทำเป็นเข้มนะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่2 [18/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 18-05-2011 20:10:17
คุณหนูแอบแรงแต่ก็ยังมีความน่ารักอยู่ :o8:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๒. ๑๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 18-05-2011 20:39:49
ท่าทางจะแรงกันขึ้นเรื่อยๆ o18
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 2 [18/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 18-05-2011 21:30:39
เข้ามาวิ่งเล่นในบาร์ :oni1:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๒. ๑๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 18-05-2011 21:44:24
เมย์vsเทียน คู่ชกที่สมน้ำสมเนื้อ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 6 ของขวัญ 18/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 18-05-2011 22:02:53

(http://img28.mediafire.com/b6f242d94a346b9095740bdfdd1f8ac23fc115dbd2c7ec5da35aca98f1eb05c75g.jpg)

ตอนที่ 6 "ของขวัญ"
เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ที่อยู่ในมือดังขึ้น อ๊อบขมวดคิ้วด้วยไม่คุ้นกับเลขหมายที่แสดงอยู่บนหน้าจอก่อนจะตัดสินใจกดรับสาย
"สวัสดีครับ ผม ร.ต.ท.พชร พงษ์ภิญโญ ขอเรียนสายกับคุณอำนาจครับ"
"สวัสดีจ้า อำนาจกำลังพูดอยู่จ้ะ ไม่ทราบว่าคุณตำรวจมีอะไรเหรอจ๊ะ" อ๊อบตอบรับพร้อมกับถามอย่างสงสัย
"ถ้าไม่เป็นการรบกวนจนเกินไป ผมขอคุยเรื่องสำคัญสักครู่ครับ คุณเป็นผู้จัดการของคุณเอกวิน นรลักษณ์ ใช่ไหมครับ" ผู้หมวดหนุ่มพยายามบอกกล่าวความเป็นไปอย่างช้า ๆ
"ใช่ครับ อ๊อบเป็นผู้จัดการของอเล็กซ์ ว่าแต่อเล็กซ์เป็นอะไรไปเหรอคะ" อ๊อบตอบรับพลางเอามือทาบอกนึกสงสัยเกี่ยวกับเรื่องที่ตำรวจโทรมาหาตน
"คุณอ๊อบใจเย็น ๆ นะครับ ตอนนี้คุณเอกวิน นรลักษณ์เสียชีวิตแล้ว" ร.ต.ท.พชร บอกประเด็นสำคัญในที่สุด
"พระเจ้า! อเล็กซ์ตายแล้ว...เมื่อไหร่คะคุณตำรวจ แล้วตายได้ยังไง? ตอนนี้..." อ๊อบเข้าอ่อนทรุดกายลงนั่งบนเก้าอี้นวมบุหนังหนานุ่มนึกใจหายพร้อมกับหวนคิด ไปถึง นิว พระเอกดังในสังกัดของตนเมื่อปีก่อนที่เสียชีวิตลงด้วยอุบัติเหตุ และคนที่นั่งไปด้วยก็ยังคงเป็นเจ้าหญิงนิทรามาจนถึงวันนี้
"เวลาที่เสียชีวิตกับสาเหตุการตาย ผมยังคงระบุชัดเจนไม่ได้ แต่ผมอยากให้คุณอ๊อบมายืนยันศพที่นิติเวชก่อนครับ แล้วคุณอ๊อบติดต่อครอบครัวคุณเอกวินได้รึเปล่าครับ" ผู้หมวดหนุ่มเอ่ยขอให้อ๊อบไปพบที่นิติเวช
"อเล็กซ์เป็นเด็กกำพร้า แต่ว่าเค้ามีเพื่อนสนิทอยู่คนนึง เดี๋ยวอ๊อบจะโทรตามให้เค้าไปหาแล้วกันคุณตำรวจ  อีกสักไม่เกินสองชั่วโมงอ๊อบน่าจะไปถึง" อ๊อบบอกพลางนัดแนะเวลา
"ครับ ผมจะรอที่นิติเวชครับ แล้วพบกันครับ" หมวดพชร บอกก่อนจะตัดสายไป
 
 
โทรศัพท์ในกระเป๋าเสื้อส่งเสียงดังเมื่อมีสายเรียกเข้าทำลายความเงียบ เมื่อหน่องกำลังคุยงานอยู่กับ บ.ก. หน่องหยิบออกมาพลางส่งยิ้มแหย ๆ ไปให้คนตรงหน้า ก่อนจะเอ่ยปาก
"ขอโทษนะครับ หน่องขอรับโทรศัพท์สักครู่นะครับ บ.ก." หน่องบอกขอ ก่อนที่คนตรงหน้าจะผงกหัวเชิงอนุญาตกลับมา
"สวัสดีครับ หน่องพูดสายครับ" หน่องกดรับก่อนจะเอาโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหูพร้อมกับเอ่ยทักคนปลายสาย
"สวัสดีจ้าน้องหน่อง นี่พี่อ๊อบนะ พี่เป็นผู้จัดการของอเล็กซ์ น้องหน่องจำได้ไหมจ๊ะ" อ๊อบกล่าวทักพร้อมแนะนำตัว
"จำได้ครับพี่อ๊อบ พี่อ๊อบมีอะไรให้หน่องทำเหรอครับ" หน่องตอบพร้อมกับถามถึงเรื่องที่อีกฝ่ายโทรมาหา
"น้องหน่องใจเย็น ๆ นะคะ... คือ... คือว่า... ตอนนี้... อเล็กซ์เค้า..."  อ๊อบบอกตะกุกตะกัก
"หรั่งเป็นอะไรเหรอครับ หน่องพยายามโทรหาตั้งแต่เมื่อวานตอนเช้า เค้าก็ไม่เปิดเครื่อง... หน่องติดต่อไม่ได้เลยครับ" หน่องบอกร้อนรน
"คือน้องหน่องคะ น้องหน่องใจเย็น ๆ นะคะ คือว่า... ตอนนี้อเล็กซ์เค้าเสียแล้วค่ะ" อ๊อบพยายามบอก
"น้องหน่องมาเจอพี่ที่นิติเวชนะคะ เป็นเรื่องด่วนมากเลย ฮัลโหล น้องหน่องได้ยินพี่พูดไหมคะ"
"หรั่งตายแล้ว!" หน่องเผลอปล่อยโทรศัพท์หลุดจากมือตกมาอยู่ที่โต๊ะหน้า บ.ก. ใบหนาของหน่องขาวซีดด้วยความตกใจ บ.ก. จึงเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มาคุยต่อเสียเองจนจบแล้วจึงวางสายไป
 
 
ประตูสวิงบานใหญ่ดูเหมือนว่าจะหนาและหนักในความรู้สึกของหน่อง ฝามือขาวที่มีนิ้วเรียวยาวผลักมันเข้าไปอย่างช้า ๆ ด้วยความพยายาม จนอ๊อบที่รั้งอยู่ข้างหลังต้องยกมือขึ้นมาแตะหัวไหล่ของหน่องอย่างให้กำลัง ใจ
ทั้งสองเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงกลางห้องขนาดไม่ใหญ่นัก ที่กลางห้องมีเจ้าหน้าที่พร้อมกับร่างที่ถูกคลุมเอาไว้ด้วยผ้าสีขาวผืนใหญ่ เสียจนมิดชิด
"พร้อมนะครับ.. ผมอยากให้คุณสองคนช่วยยืนยันว่านี่คือร่างของคุณเอกวิน นรลักษณ์จริง ๆ ไม่ผิดตัวนะครับ" เสียงของนายตำรวจหนุ่มเอ่ยทำลายความเงียบในห้อง
"พร้อมครับ" อ๊อบบอกก่อนจะหันไปมองหน่องที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ที่ได้แต่เพียงผงกหัวโดยไม่พูดอะไรออกมาสักคำ
"เชิญครับ" นายตำรวจหนุ่มบอกพร้อมกับพยักหน้าให้กับเจ้าหน้าที่ข้างเตียงเข็น
เมื่อเจ้าหน้าที่ตลบผ้าขาวที่คลุมเอาไว้ออกแค่อกเผยให้เห็นร่างที่ นอนหมดลมหายใจอย่างชัดเจน เรือนร่างที่ขาวซีดปราศจากสีเลือด ละอองไอเย็นเกาะพราวตามร่าง หน่องเดินเข้าไปจนชิดพร้อมกับเอามือปิดปาก หยาดน้ำตาไหลรินออกมาราวกับไม่สามารถจะหยุดได้ ริมฝีปากขบเม้มเหมือนกับไม่อยากให้เสียงสะอื้นเล็ดรอดออกมา หน่วยตาแดงก่ำ หน่องค่อย ๆ เอื้อมมือของเขาส่งไปสัมผัสกับมือเย็นเยียบของร่างที่มีผ้าขาวคลุมเอาไว้แค่ อก ก่อนจะโผเข้ากอดร่างแน่นิ่งของผู้ที่เป็นเพื่อนรักเอาไว้พร้อมหลุดส่งเสียง ที่พยายามเก็บกลั้นเอาไว้ออกมาในที่สุด เสียงสะอื้นร่ำไห้พร้อมหยาดน้ำตาพร่างพราว อ๊อบที่เดินตามเข้าไปได้แต่เพียงพยามยามลูบหลังลูบไหล่เพื่อปลอบโยนให้หน่อง คลายโศกเศร้าก่อนจะเอ่ยออกมา
 
 
"นี่คือเอกวิน นรลักษณ์จริง ๆ ไม่ผิดตัวแน่" อ๊อบบอกด้วยเสียงเบาหวิวก่อนจะนิ่งค้างไป
นายตำรวจหนุ่มได้แต่เดินไปหาคนตัวเล็กที่กอดศพเพื่อนพร้อมกับ พยายามดึงมือออก แต่คนตัวเล็กก็ไม่ยอมปล่อยมือยังคงร้องไห้และสะบัดมือออกจากการเกาะกุมของ นายตำรวจหนุ่ม ความพยายามของนายตำรวจจบลงที่คนร่างเล็กซุกหน้าร้องไห้เสียงดังอยู่ในอ้อมอก ของผู้หมวดหนุ่มก่อนจะหมดสติไปในที่สุด
 
"แล้วอ๊อบจะรับศพออกไปได้เมื่อไหร่... คุณตำรวจ" อ๊อบถามเมื่อเดินตามผู้หมวดที่อุ้มหน่องออกมาจากในห้อง
"อย่างเร็วก็คงเป็นพรุ่งนี้เช้าครับ ตอนนี้คงต้องปล่อยให้นิติเวชทำงานในส่วนของเขานะครับ" นายตำรวจบอกพร้อมกับนำร่างของคนในวงแขนค่อย ๆ วางลงบนเก้าอี้หน้าห้อง พร้อมกับเอาสมุดเล่มเล็กในมือส่งให้อ๊อบคอยโบกพัดให้ ส่วนตัวเองก็พยายามแกะกระดุมและเข็มขัดของหน่องออกพอหลวมและพยายามบีบนวดจน หน่องได้สติ
"แล้วนี่อ๊อบต้องจัดงานแถลงข่าวก่อนไหมนี่" อ๊อบพูดพร้อมกับขมวดคิ้วเข้าหากัน
"ผมขอดูผลชันสูตรพรุ่งนี้ก่อนแล้วกันครับคุณอ๊อบ ผมว่ามันแปลก ๆ " ผู้หมวดหนุ่มเอ่ยขอออกมา
"แปลกยังไงเหรอครับคุณตำรวจ" หน่องถามด้วยความสงสัย พลางส่งสายตาจ้องมองไปทางหมวดหนุ่มอย่างงุนงง
"ก็ตามร่างกายไม่มีบาดแผลใหญ่ ๆ เลยไม่รู้ว่าเขาตายยังไงนะสิ ตอนนี้พวกคุณอย่าเพิ่งแจ้งนักข่าวเลยครับ" ผู้หมวดหนุ่มบอก ก่อนจะขอร้องให้ปิดข่าว
"เอาไว้พรุ่งนี้เราค่อยมาว่ากันอีกทีแล้วกันนะ" อ๊อบบอกก่อนจะหันไปสบตากับหน่อง
"วันนี้เชิญพวกคุณกลับไปพักผ่อนก่อนดีกว่านะครับ นี่นามบัตรของผมครับ" นายตำรวจหนุ่มบอกพลางยื่นส่งนามบัตรไปให้กับทั้งสองคนคนละใบ
อ๊อบกับหน่องตอบขอบคุณแล้วจึงยื่นส่งนามบัตรของตนกลับไปให้อีกฝ่ายเช่น กัน ก่อนที่อ๊อบกับหน่องจะขอตัวลากลับไป ร.ต.ท.พชร มองไปที่นามบัตรทั้งสองในมือ นิวัตร แก่นกำภู ผู้สื่อข่าว หนังสือพิมพ์... "นักข่าวเหรอนี่"
 
 
ระหว่างที่ทั้งอ๊อบกับหน่องเดินออกไปที่จอดรถ
"หน่องกลับยังไง เดี๋ยวให้พี่ไปส่งไหม บ้านอยู่ไหนล่ะหน่อง" อ๊อบถามพลางหันมาหยุดมองคนที่เดินตามหลังมาอย่างช้า ๆ
"ไม่เป็นไรพี่ บ้านหน่องอยู่นนนะพี่ เดี๋ยวหน่องนั่งแท็กซี่กลับเองได้ ขอบคุณครับ" หน่องบอกอย่างเกรงใจอีกฝ่าย
"ไม่เป็นไรหน่อง พี่ไปส่งได้ทางผ่านบ้านพี่อยู่แล้ว เออ... พี่มีของจะให้เราด้วยอยู่ในรถน่ะ" อ๊อบบอกพร้อมกับเดินนำไปที่รถ
 
"ขึ้นรถเลยหน่อง" อ๊อบบอกพร้อมกับเอี้ยวตัวไปหยิบกล่องของขวัญเล็ก ๆ ที่ถูกห่อด้วยกระดาษสีม่วงเหลือบลายสวยมีการ์ดใบน้อยใส่ซองสีโทนเดียวกัน จ่าหน้าซองถึงหน่องแปะติดเอาไว้ตรงเบาะด้านหลังกลับมาส่งให้อีกฝ่าย
"อะไรเหรอพี่" หน่องรับมาถือไว้พร้อมกับถามอย่างงงๆ
"พี่เองก็ไม่รู้เหมือนกัน พี่เจอมันในคอนโดของอเล็กซ์ เห็นจ่าหน้าซองถึงหน่อง พี่ก็เลยเอามาให้ด้วย" อ๊อบบอกพร้อมกับหันมายิ้มให้คนข้าง ๆ ก่อนจะขับพาหนะออกจากที่ลานจอด
"หน่องอยากรู้ก็แกะดูเลยซิ พี่ก็อยากรู้เหมือนกัน"
หน่องแกะริบบิ้นสีสวยออกมาก่อนจะแกะกระดาษห่อของขวัญออกอย่างบรรจง กล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินใบเล็กเป็นปราการกางกั้นสิ่งที่อยู่ภายในเอาไว้อีกชั้น หน่องขมวดคิ้วงุนงงก่อนจะค่อย ๆ เปิดฝาออกมา สร้อยคอเส้นเล็ก ๆ สะท้อนแสงสีเงินเป็นประกาย ตรงกลางห้อยจี้เพชรเม็ดเล็ก ๆ สีชมพูสดในตัวเรือนวัสดุเดียวกันกับสร้อยคอ
หน่องหยิบมันออกมาด้วยมือที่สั่นเทา เขาวางมันลงไปไว้ในกล่องอีกครั้งก่อนจะไปให้ความสนใจกับข้อความในการ์ดใบ เล็กที่ถูกเขียนด้วยลายมือขยุกขยิก อ่านใจความได้ว่า
 
 
ของขวัญชิ้นแรกหลังจากที่เราได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง
                        รักหน่องเสมอ
                             หรั่ง
 
เสียงเฮฮาพูดคุยหยอกเย้าเสียงดังท่ามกลางบรรยากาศของวงเหล้าที่ครื้นเครง ชายหนุ่มรูปร่างกำยำกว่าห้าคนนั่งล้อมวงดื่มกินอย่างสนุกสนานบนสนามหญ้าหลัง บ้านขนาดใหญ่ สายลมพัดไอเย็นเข้ามาแผ่ว ๆ อากาศเย็นสบายด้วยฝนซึ่งหยุดตกไปได้ไม่นาน โต๊ะไม้ใต้ชายคามีอาหารเลิศรสที่พร่องไปมากหลายจาน พร้อมสุราฉลากดำตัวหนังสือสีทองในขวดแก้วหูหิ้วที่เจ้าของบ้านใจดีอภินันทนาการ สำหรับลูกน้องคนสนิทใกล้ชิด เป็นสินน้ำใจตอบแทนพร้อมกับที่ได้วันหยุดพักเพิ่มในวันพรุ่งนี้ เสียงสรวลเสเฮฮาชักจะดังหนาหูขึ้นทุกที
"เฮ้ย! เบา ๆ หน่อยพวกมึง ชักจะดังกันเกินไปแล้ว เดี๋ยวนายท่านก็ลงมาว้ากเอาหรอก" ชายที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าของทุกคนเปิดประตูหลังบ้านออกมานั่งร่วง วงพร้อมกับบ่น
"นายไม่ได้ยินหรอกพี่เสก ป่านนี้ถึงไหนต่อไหนไปแล้ว เห็นนายแบบคนนั้นมาหาตั้งแต่เย็น พอกินข้าวเสร็จก็พากันหายเข้าห้องไปเลยนี่พี่" ลูกไล่ร้องบอกพลางหัวเราะร่า
"เออ อย่าเสือกปากมาก แดก ๆ เข้าไปเลยมึงไอ้ว่าน ไหนเอามากินสักแก้วสิพวกมึง" เสกบอกปรามพร้อมร่ำร้องหาเครื่องดื่ม ก่อนที่ชายอีกคนจะยกแก้วที่มีเหล้าพร้อมโซดาน้ำแข็งมาวางให้ตรงหน้า
"ข่าวดีพี่... แก้วสุดท้ายพอดีเลยพี่เสก" เขาบอกลูกพี่
"อะไรของพวกมึงวะ... กูเพิ่งจะหย่อนตูดยังไม่ทันได้กินเลย... หมดแล้วเหรอวะ ไอ้ว่านมึงขี่รถออกไปซื้อมาเลยนะมึง" เสกบ่นพร้อมกับหันไปไล่ว่านให้ออกไปซื้อมาเพิ่มอีก
"โฮ พี่เสก อะไรก็ไอ้ว่าน อะไรก็ว่าน ตลอดอ่ะ" ว่านบ่นกระปอดกระแปด
"แล้วมึงจะไปซื้อให้กูไหม ไอ้ว่าน" เสกถามพร้อมกับยกเท้าขึ้นมาหมายจะยันไอ้คนข้าง ๆ
"ไปสิพี่ ไปแล้ว" ว่านที่กระโดดหนีร้องบอกพลางวิ่งไปทางมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่ด้านข้าง
 
 
ว่านขึ้นขี่แล้วขับออกไปจากบ้านหลังงามบนเนื้อทีกว่าห้าไร่ มุ่งตรงออกทางท้ายหมู่บ้านไปตามถนนก่อนจะตัดเลี้ยวเลาะออกไปยังทางเล็ก ๆ ที่มีต้นไม้ใหญ่ใบดกหนาแผ่กิ่งก้านตระหง่านมืดดำทั้งสองข้างของถนนลูกรังสาย เล็ก ๆ ที่ทอดยาวจะไปตัดออกถนนใหญ่ข้างหน้าที่มองเห็นอยู่ลิบ ๆ ฟากหนึ่งของถนนเป็นบึงน้ำกว้างใหญ่ ผิวน้ำดำมืด ดอกบัวกลีบซ้อนบานแข่งเงาสะท้อนของพระจันทร์ดวงโตกลม กลิ่นหอมของดอกบัวล่องลอยไปตามกระแสลมที่พัดผ่าน ผิวน้ำไหวระลริ้วเงาสะท้อนจากโพยมเพ็ญไหววูบวิบวับ ว่านขับรถมาด้วยความเร็วแสงไฟหน้ารถสาดตรงไปตามทางมืดเพราะความร่มครึ้มของ ต้นไม้สองข้างทาง ทันใดนั้นเงาดำขนาดใหญ่ก็วูบผ่านหน้ารถอย่างกระชั้นชิด เขาเบรกรถจนตัวโก่งก่อนจะหักหลบเงาดำแล้วเสียหลักล้มกลิ้งลงข้างทาง ตัวเขากระเด็นตกลงไปที่ริมบึง ส่วนรถที่ขี่มาก็กลิ้งล้มอยู่บนถนนนั่นเอง เขาร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด ขาขวาที่บิดเบี้ยวผิดรูปกระดูกสีขาวที่หักทิ่มทะลุเนื้อบริเวณหน้าแข้งทำให้ เขาขยับตัวหรือลุกขึ้นไปไหนไม่ได้ ทำได้แต่นอนร้องโอดโอยอยู่อย่างนั้น
ก่อนที่เสียงอันน่าเวทนาจะหยุดลง ขนบริเวณท้ายทอยของเขาก็ลุกตั้งชัน ซึ่งตัวเขาเองก็ไม่ทราบสาเหตุ เขาพยายามสอดส่ายสายตาเพ่งฝ่าความมืดดำของผิวน้ำในบึง ท่ามกลางดอกบัวกลีบซ้อนและระลอกพลิ้วเต้นของเงาสะท้อนของดวงจันทร์ เงาดำที่มืดยิ่งกว่าผิวน้ำค่อย ๆ โผล่ขึ้นมาอย่างช้า ๆ มุ่งตรงมาทางที่เขานอนแผ่อยู่ ภาพที่เห็นแทบทำให้เขาหยุดหายใจไปชั่วขณะ  เงาดำมืดที่เริ่มก่อเป็นรูปเป็นร่างคล้ายกับคนขึ้นทุกที ๆ ใบหน้าที่โผล่พ้นน้ำขาวซีดเสียยิ่งกว่าอะไรที่พบเจอ ขาวจนเห็นเส้นเลือดสีดำบนใบหน้าได้ชัดเจน ดวงตาสีขาวขุ่นฝ้ามัวไร้เงาสะท้อน ริมฝีปากดำที่ยกยิ้มกว้างจนเห็นซี่ฟันขาวได้ถนัดแม้จะมืดมิด เงาร่างในอาภรณ์สีดำนั้นค่อย ๆ คืบคลานมาคร่อมทับร่างของว่านที่นอนนิ่งอยู่ ใบหน้าชวนสยองก้มลงมองในระยะประชิด เส้นผมสีอ่อนแนบลู่ไปกับหนังศีรษะ หยดน้ำจากใบหน้าชวนสยองหยดติ๋ง ๆ ลงบนแก้มของว่านความเย็นเยียบของหยดน้ำที่ตกกระทบส่งความหนาวเหน็บซึมผ่าน ผิวหน้าเข้าไปสะท้านเยือกแทบจะทำให้โลหิตในกายแข็งเป็นน้ำแข็งตามไปด้วย ความกลัวเข้าไปกัดกินในหัวใจ
ว่านที่พอจะมีสติหลงเหลืออยู่เล็กน้อยได้แต่เพียรพยายามกระเสือกกระสน ดิ้นรนกระถดถอยหนี เขาพยายามพลิกตัวนอนคว่ำลงแล้วเริ่มใช้สองมือตะกุยดินข้างตัวเพื่อพาร่างของ เขาไปให้พ้นจากสิ่งสยองขวัญที่กำลังสั่นประสาทอยู่ตรงหน้า เศษดินและเศษหญ้าฝังเข้าไปในเล็บมือทั้งสองข้างแต่ความพยายามของเขาก็ไร้ผล เมื่ออมนุษย์ที่หยุดนิ่งมองดูความทุรนทุรายของเหยื่อพร้อมกับแสยะยิ้มชวน สะอิดสะเอียนเพียงครู่ ก่อนจะคลานตามมาช้า ๆ  ติด ๆ  ว่านที่กำลังหาทางรอดเหลียวหันมามองพร้อมกับร้องตะโกนขอความช่วยเหลือสุด เสียง "ช่วยด้วย!!!!!" พร้อมกับสองมือที่ตะกุยดินพยายามจะให้เร็วยิ่งกว่าเดิมส่งผลให้เล็บจากนิ้ว มือฉีกขาด โลหิตสีเข้มไหลซึมออกมาจากบาดแผลที่ขาและที่ปลายนิ้ว เลือดไหลนองเป็นทางยาวตามที่เขาดิ้นรน
อมนุษย์ที่ตามมาจนทันใช้อุ้งมือขาวซีดและเย็นจัดจับเข้าที่ข้อเท้าขาข้างที่หักของว่าน ก่อนจะออกแรงลากเพื่อมุ่งย้อนกลับไปตามทางเก่า
"อ้า!!!!!!!!!!" เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของว่าน และการพยายามขัดขืนโดยการเพียรจิกนิ้วมือของตนลงไปในดินเพื่อชะลอแรง ของอมนุษย์จนสุดกำลังแต่ก็ไร้ผล ทิ้งเพียงรอยครูดและรอยเลือดเป็นทางยาว เมื่อร่างของว่านถูกลากย้อนกลับตามทางที่มุ่งลงไปในบึงอย่างช้า ๆ  ลึกลงไป ๆ ทุกที
"ช่วยด้วย... ช่วยด้วย... ช่วย..." ผิวน้ำดำมืดกลืนร่างของว่านพร้อมกับเก็บกักเสียงสุดท้ายก่อนที่สติสัมปชัญญะ และวิญญาณจะหลุดลอยออกจากร่าง
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 1 [16/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 18-05-2011 22:10:13
สตรีสูงวัย เขาติดป้ายห้ามเข้าสถานที่แบบนี้เพียงลำพังนะคะ
 
เพราะมันไม่ดีต่อสุขภาพนะคะ กร๊าาาาาาาาาาาากๆ
ว้าย..ในนี้มีสตรีสูงวัยด้วยเหรอคะคุณนี...ชิส์
 :o8: มันขนาดนี้เลยเหรอ
ขอบคุณ MonarcH ที่ทำให้โลกทัศน์ดิฉันกว้างขึ้น
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 6 ของขวัญ 18/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 18-05-2011 22:12:35
โอ๋ยยย  ตรู  อ่านตอนกลางวันกับกลางคืนนี่  อารมณ์ต่างกันเลยแฮะ 
 :pig4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 6 ของขวัญ 18/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 18-05-2011 22:23:44
อ๊า นิยายสยองขวัญ
หนูกลัว อยู่บ้านคนเดียวด้วย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 6 ของขวัญ 18/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 18-05-2011 22:34:25
เง้อ เศร้าปนสยองอ่ะ
ตกลงหรั่งกลาบเป็นอมนุษย์เหรอเนี่ย  :serius2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 6 ของขวัญ 18/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 18-05-2011 22:35:26
เข้ามารอตอนที่10ด้วยคนจ้ะ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 2 [18/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 18-05-2011 22:43:06
กริชจะรอดมั้ยละเนี่ย  :z1:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๒. ๑๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: แรงเทียน ที่ 18-05-2011 22:50:25
เข้ามาบอกว่า นี่ไม่แรงนะ อิอิ เบาที่สุด มันมียิ่งกว่านี้อีก แอ๊กกก
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๒. ๑๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 18-05-2011 22:57:15
จริงอ่ะ รอดูต่อไป
ก็ของเค้าแรงจริงๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่2 [18/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: how to ที่ 18-05-2011 23:13:09
ชอบจังเด็กคนนี้  :impress2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่2 [18/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 18-05-2011 23:22:46
คุณหนู ไม่ร้ายอย่างที่คิด
แต่ก็น่ารักๆๆๆ  :o8:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่3 เสน่ห์หน้ากล้อง 18/25/2011
เริ่มหัวข้อโดย: ภาพฝัน ที่ 18-05-2011 23:27:46
   เตชวัฒน์รู้เลยว่าการเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้วริศรินทร์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ขนาดนี่เป็นวันแรกที่เริ่มงานอีกฝ่ายก็ต้อนรับเขาด้วยการนอนอยู่บนพื้นห้องน้ำซะแล้ว

   ร่างสูงของอีกฝ่ายเดินเข้าไปสำรวจในส่วนของครัว ทุกอย่างถูกจัดไว้อย่างเรียบร้อย สวยงามแสดงให้เห็นว่าไม่ได้รับการใช้ราวกับว่านี่เป็นครัวที่เห็นได้ตามหนังสือนิตยสารทั่วไป เขาเดินไปเปิดตู้เย็นเพื่อสำรวจดูภายใน ตู้เย็นเต็มไปด้วยอาหารสดและของแช่แข็ง แต่พอเขาหยบออกมา หลายอย่างที่หมดอายุและเสียไปแล้ว ทำให้ไม่สามารถน้ำมาใช้ทานได้ เตชวัฒน์ขมวดคิ้วแล้วเดินไปหยิบถุงออกมาหยิบอาหารที่ใช้ไม่ได้ทิ้ง พอเขาทิ้งทุกอย่างที่หมดอายุออกไปแล้ว ภายในตู้เย็น เหลือเพียงไข่ไก่สด และนมที่ยังไม่หมดอายุอยู่ เขาหันไปอุ่นข้าวด้วยไมโครเวพ เวลาแบบนี้สิ่งที่ทำได้ง่ายที่สุดก็คงเป็นข้าวไข่เจียวที่สะดวกและรวดเร็ว

   “ยังดีนะที่เจียวไข่เป็น” เขาหัวเราะกับตัวเองที่พอทำอาหารเป็นบ้าง

   เตชวัฒน์จัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย แล้วจัดการยกอาหารออกไปวางไว้ที่โต๊ะ เขาเทนมสดใส่แก้วและน้ำเปล่าไปวางไว้คู่กัน

   “ไนท์” เตชวัศน์เรียกวริศรินทร์เมื่อไม่มีเสียงขานตอนเขาจึงเดินเข้าไปข้างใน วริศรินทร์กำลังเดินออกมาจากห้องน้ำใสชุดคลุมอาบน้ำ พอมาเห็นรูปร่างหน้าตาชัดๆ เขาพบว่าอีกฝ่ายมีใบหน้าที่ซีดเซียว ผิวพรรณคล้ายจะเปล่งปลั่งแต่ถ้าเทียบกับดารารุ่นราวคราวเดียวกันถือว่าค่อนข้างซีดเลยทีเดียว

   เตชวัฒน์ชะงักเมื่อได้สบตากับวริศรินทร์ ใบหน้าของเขายังคงเรียบเฉยมีเพียงดวงตาที่แสดงออกว่ารับรู้

   “พี่ทำอะไรง่ายๆ ให้กินแล้ว ไนท์ไปกินก่อนเถอะ หิวไม่ใช่เหรอ” เตชวัฒน์พยายามผูกสัมพันธ์กับเด็กหนุมรุ่นน้องที่เริ่มต้นทำงานด้วยกัน ไม่มีคำพูดตอบรับ แต่ร่างสูงโปร่งก็ยอมเดินออกไปจากห้องนอนไปที่โต๊ะ วริศรินทร์ไม่มีปฏิกิริยายกับอาหาร เพียงแต่เดินไปหยิบนมจืดที่วางไว้ในแก้วแล้วเดินไปที่โต๊ะใกล้เคียง เขาหยิบขวดยาต่างๆ ออกมา เปิดมันแล้วกลืนลงไป แล้วเดินกลับเข้าห้องไปโดยไม่พูดอะไร เตชวัฒน์มองอาการคนตรงหน้าแล้วได้แต่ถอนหายใจ เขาไม่รู้ว่าเขาทำอะไรผิดพลาดไปหรือเปล่า หรือว่าสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังแสดงออกคืออาการต่อต้านเขา เขาเดินไปหยิบดูขวดยาที่ไนท์วางทิ้งไว้ ทั้งหมดคือวิตตามินและอาหารเสริมที่ช่วยบำรุงร่างกาย แต่จำนวนมันมากเกินไปหรือเปล่าเขาได้แต่ครุ่นคิด

   “ไนท์” เตชวัฒน์ตัดสินใจเดินตามเข้าไปในห้องนอน เขารู้ว่าเป็นการเสียมารยาท แต่เขาไม่รู้ว่าควรจำทำยังไงกับอีกฝ่าย ภาพที่เห็นทำให้เขาชะงัก วริศรินทร์กำลังสวมกางเกงยีนส์ขายาว แม้ว่าเจ้าตัวติดจะค่อนข้างผอมแต่ไม่ได้มีรูปร่างบอบบาง รูปร่างของอีกฝ่ายยังคงพอมีกล้ามเนื้อซึ่งแสดงถึงเสน่ห์ของเพศชายและเพราะช่วงขาที่เรียวยาวทำให้ดูดีเมื่อได้ส่วมใส่ยีนส์ อีกฝ่ายติดกระดุมกางเกงยีนส์แล้วหันมามองหน้าเขา

   “มีอะไรให้พี่ช่วยไหม” เตชวัฒน์ถามแก้เก้อ ไม่มีคำตอบจากวริศรินทร์ มีเพียงสายตาที่มองเข้าไปในตู้เสื้อผ้าแต่ดูไม่ออกว่าเหม่อลอยหรือครุ่นคิด

   “เสื้อ” เสียงแหบแห้งที่พูดมาเพียวแผ่วเบากับร่างที่เดินผละออกมาไปนอนแผ่อยู่บนเตียง นี่เขาจะตีความหมายว่าไนท์ต้องการให้เขาเลือกเสื้อให้หรือเปล่า เตชวัฒน์มองเสื้อผ้าที่แขวนอยู่ในตู้เป็นจำนวนมาก เขาไม่รู้ว่าไนท์ต้องการเสื้อผ้าแบบไหน และเขาเองก็ไม่ได้มีเซ้นท์เรื่องการแต่งตัวมากนัก เขามองเสื้อผ้าที่จัดไว้ในตู้เรียงกันอย่างเป็นระเบียบ แยกกันแม้กระทั่งสี

   “ไนท์อยากใส่สีอะไร” เขาลองเกริ่นถามอีกฝ่ายแต่ก็มีเพียงแต่ความเงียบที่ตอบกลับมา เตชวัฒน์ถอนหายใจอีกครั้งอย่างหนักใจสุดท้ายเขาก็เลือกเสื้อยืดสีดำเรียบๆส่งให้ไนท์ เขาคิดว่าคงไม่เป็นอะไรถ้าไนท์จะแต่งตัวธรรมดาสักวัน แต่มันไม่ได้ดูธรรมดาอย่างที่คิด เขาเห็นแล้วยอมรับเลยว่า คนหล่อใส่อะไรก็ดูดีแม้จะอยู่ใส่สภาพแค่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ก็ยังคงมีออร่าให้ดูโดดเด่น

   วริศรินทร์เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของอีกฝ่าย แล้วเอื้อมมือรับเสื้อไปสวมใส่อย่างว่าง่าย ร่างโปร่งเดินไปหยิบไอแพดขึ้นมายื่นให้เขา

   เตชวัฒน์รับไอแพดมาจากนายแบบหนุ่ม สิ่งที่ไนท์ส่งให้คือตารางงานในแต่ละวันซึ่งเขาเห็นแล้ว อีกประมานสามชั่วโมงไนท์จะมีถ่ายแบบแต่ก่อนหน้านั้นไนท์ต้องไปเข้าสปาร์ก่อนตามตาราง

   วริศรินทร์รู้เวลาของตนเองดีทันทีที่ยืนตารางงานให้ผู้จัดการคนใหม่ ร่างโปร่งก็เดินตรงออกไปสวมรองเท้าทันที ฝ่ายเตชวัฒน์ยังไม่ทันคิดเรื่องการเดินทางเมื่อเห็นการเคลื่อนไหวของนายแบบหนุ่มก็นึกขึ้นมาได้ เขารีบก้าวตามออกไป

   เตชวัฒน์ทำหน้าที่ขับรถให้วริศรินทร์ อีกฝ่ายนั่งอยู่บนรถเคียงคู่กับเขาแต่ก็มีเพียงความเงียบเท่านั้น เขาเหลือบมองอีกฝ่ายจึงเห็นว่าสายตาของไนท์เหม่อมองออกไปที่นอกหน้าต่าง

   “ไนท์ เลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวา” เตชวัฒน์ลองเลียบเคียงดูเขาอยากรู้ว่าอีกฝ่ายยังคงมีสติไหม ไม่มีคำพูดจากไนท์ มีเพียงนิ้วเรียวยาวที่ชี้ไปทางแยกด้านซ้ายมือ เมื่อเห็นดังนั้นเขาก็พอรู้ว่าไนท์ยังรับรู้ทุกอย่างเพียงแค่ไม่พูดหรือแสดงออกมาเท่านั้น

   ทันทีที่เดินลงมาจากรถพนักงานภายในร้านรีบกุลีกุจรออกมาต้อนรับไนท์ทันทีด้วยความเกรงอกเกรงใจ

   “สวัสดีค่ะ น้องไนท์วันนี้นวดเหมือนเดิมนะค่ะ แล้วคุณ” พนักงานต้อนรับมองมาที่เขา

   “เตชวัฒน์ครับ ผู้จัดการส่วนตัวคุณใหม่” ทันทีที่พูดจบท่าทีของผู้หญิงคนนั้นก็เปลี่ยนไปทันที

   “สวัสดีค่ะ คุณเตชวัฒน์ ฉันขวัญฤดีค่ะ เป็นเจ้าของทีนี่ยินดีต้อนรับนะค่ะ เชิญเข้ามาด้านในเลยค่ะ วันนี้มาที่นี่งานสินะค่ะ นวดเต็มคอร์สเหมือนเดิมใช่ไหมค่ะ มีเวลาอีกกี่นาที หรือกี่ชมค่ะที่จะเริ่มงาน แล้วคุณเตชวัฒน์จะนวดด้วยไหม” เขาถูกพอไปต้อนรับนั่งรอในส่วนของVIP ที่เป็นส่วนตัวและมิดชิด

   “ไม่ครับ มีเวลาประมาน ชัวโมงหนึ่งครับ” เขายิ้มให้กับเจ้าของ เธอยิ้มแย้มต้อนรับ

   “ค่ะ งั้นพักผ่อนตามสบายนะค่ะ เดี๋ยวจะพาน้องไนท์ไปขัดตัว รับรองออกมาผิวเนียนเด้งเลยค่ะ” เธอยิ้มรับรอบสักพักหนึ่งแล้วหายเข้าไปด้านใน ทิ้งให้เตชวัฒน์อยู่ในห้องที่มีกลิ่นน้ำมันหอมละเอยลอยคลุ้ง

   “อา” เขาตัดสินใจโทรหาผู้เป็นอาทันที

   “อะไรอีกตาเต โทรหาฉันบ่อยจริงๆ” วุฒิพลพูดขำๆ เมื่อหลานชายตัวดีโทรหาเขาติดๆกันในรอบสองวัน

   “ผมงงครับ นี่ผมต้องทำอะไรบ้างเนี่ย มีมาสปาร์ก่อนไปทำงานอีก แล้วผมต้องเลือกเสื้อผ้าให้ไนท์ด้วยเหรอครับ แล้วยังอาหารเสริมเป็นกำๆอีก ตกลงไนท์กินข้าวกินปลาไหม ดารานายแบบเป็นแบบนี้ทุกคน” เขาถามทั้งหมดจากผู้เป็นอาเพราะคิดว่าไปถามไนทืก็คงช่วยอะไรไม่ได้ แต่คำตอบที่ได้คือเสียงหัวเราะ

   “ตาเต แกคิดว่านายแบบถ้าไม่ดูแลตัวเองมันจะดูดีไหม อยู่เฉยๆ ไม่ทำให้มันหล่อขึ้นมาได้หรอก มันต้องประโคมดูแล ถ้าแกว่างก้ไปดุแลเรื่องอาหารให้ไนท์ด้วยก็ได้ ถ้ามีปัญหานัก ส่วยเรื่องเสื้อผ้าก็เป็นหน้าทีของผู้จัดการกับคอสตูม เอออย่าให้ไนท์แต่งตัวแย่ๆ หลุดออกมานะเสียชื่อหมด ตารางงานไนท์ก็มีแล้วไม่ใช่เหรอ มีปัยหาอะไรอีกไหมตาเต” วุฒิพลขำหลานชายของตนเองที่โทรหาเขาอย่างตื่นตระหนก เตชวัฒน์ยังใหม่อยู่สำหรับวงการบันเทิง จึงไม่แปลกที่จะงุนงงตกใจบ้าง

   “อ้อ ตาเต เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นอย่าทำตัวเป็นกระต่ายตื่นตูมแบบนี้นะ เสียมาดหมด จงสวมวิญญาณของมืออาชีพ” เตชวัฒน์รู้สึกเขินเมื่อเจอคำต่อว่าของผู้เป็นอา

   “วงการมายามีอีกเยอะ แค่เรื่องดูแลตัวเองนะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เออมีเบอร์ผู้จัดการคนเก่าแล้วนี่ มีปัญหาอะไรก็โทรไปถามเขาดู” เตชวัฒน์ถอนหายใจเล้กน้อยด้วยความโล่ง ถ้าเขาไม่มีวุฒืพลคอยช่วยเขาคงทำอะไรไม่ถูกแน่ๆกับคนแบบไนท์ วุฒิพลแนะนำอะไรอีกเล้กน้อยแล้ววางสายไป เขาหยิบไอแพทที่ไนท์ยื่นมาให้ไล่ดูตารางงาน เใมื่อไม่มีอะไรอีกก็เลยเสริชดูพวกแฟชั่นนายแบบ เขานึกถึงตู้เสื้อผ้าที่เต็มไปด้วยเสื้อผ้าและอุปกรณ์แต่งตัวของไนท์แล้วชักรู้สึกเครียดขึ้นมาที่ต้องเป็นคนจัดการเรื่องเหล่านั้น

   “แก่ป่านนี้แล้ว เพิ่งคิดจะมาตามแฟชั้น” เขาพูดกับตนเองขำๆ เมื่อต้องมาอัพเดทเสื้อผ้าแฟชั่นไวรุ่น

   “เสร็จแล้วค่ะ” เวลาผ่านไปนาน ขวัญฤดีพาไนท์ออกมา เตชวัฒน์ชะงัก เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงต้องพาไนท์มาสปาก่อนการถ่ายแบบ ผิวที่ค่อนขาวซีดในตอนแรก ดูมีเลือดฝาด สีหน้าก็ดูสว่างสดใส ผิวพรรณก็เปล่งปลั่ง ยิ่งทำให้ไนท์ดูดียิ่งขึ้นไปอีกในเวลานี้ และโดยเฉพาะดวงตาสีดำที่ตอนนี้ดูมีพลังไม่เหนื่อยอ่อนเหมือนในทีแรก ไนท์เดินอกมาสบตาเขาแล้วเลยไปทานผลไม้ที่อยู่มนจานกับชากลิ่นมะลิที่วางไว้ที่โต๊ะรับแขก เตชวัฒน์เริ่มรู้สึกว่าตัวเองทำตัวไม่ถูกเมื่ออีกฝ่ายเงียบอยู่แบบนี้ ขวัญฤดีออกไปแล้วเหลือเพียงเขาสองคนที่ยังอยู่ในห้อง

   เตชวัฒน์ยืนมองไนท์ที่จิ้มแอปเปิลเคี้ยงตุ้ยๆโดยไม่พูดไม่จา มือหยอบไอแพทที่วางไว้ข้างๆมากดเล่นเกมส์

   “ไนท์” เขาลองส่งเสียงเรียกอีกฝ่าย เหมือนเช่นเคยไม่มีเสียงตอบมีเพียงใบหน้าที่เงยขึ้นมามอง

   “ชอบผลไม้เหรอ” เขาถามแก้เก้อ

   “กินได้” แบบนี้ถือว่าเป็นการพัฒนาไหมนะ เตชวัฒน์ไม่ได้พูดอะไรอีกเขานั่งลงที่ฝั่งตรงข้าม นั่งมองใบหน้าที่ติดจะหล่อเหลานั่งเล่นเกมส์อยู่เงียบๆ คงามเงียบมันชวนอึดอัดในทีแรก อาจเพราะบรรยากาศของอีกฝ่ายที่เรียบเฉยไม่มีการคุกคามทำให้เขาไม่รู้สึกอึดอัดเหมือนตอนแรกที่เจอ เวลาผ่านไปเมื่อไนท์ทานทุกอย่างจนหมด ร่างสูงโปร่งก็ลุกขึ้นยืนพร้อมส่งไอแพดคืนมา

   เมื่อเขามองทีไ่อแพดเขาพบว่าอีกฝ่ายเปิดไว้ที่หน้าตารางงาน ทำให้เขาเข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องการจะบอกอะไร เขาไม่ทันเอ่ย ขายาวๆของไนท์ก็ก้าวนำออกไป

   คราวนี้ไนท์นอนอยู่ที่เบาะหลังไม่ได้มานั่งคู่กันเหมือนเขาในทีแรก ถ่ายแบบคราวนี้ต้องถ่ายที่ริมหน้าผา เตชวัฒน์ขับรถกว่าสองชัวโมงถึงได้ถึงสถานที่ถ่ายทำ

   “สวัสดีครับคุณเต” วรุณ ผู้จัดการคนเก่าของไนท์ออกมาต้อนรับเพื่อพาเขาไปแนะนำให้คนอื่นๆรู้จัก

   “น้องไนท์ค่ะ มาทางนี้ค่า” สาวประเภทสองคนหนึ่งจีบปากจีบคอพูดกับนายแบบหนุ่ม หลายคนที่ทักทายเขาแต่ล้วนแต่ได้รับความเฉยเมย ตอบกลับไป

   “แบบนี้ยังมีงานทำนะครับ” เตชวัฒน์อดไม่ได้ที่จะเปรยกับวรุณผู้จัดการคนก่อนของไนท์

   “ถ้ามนุษยสัมพันธ์ดีกว่านี้ ก็คงดังกว่านี้นะครับ แต่เขาเป็นคนมีเสน่ห์นะครับ” วรุณยิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตร

   “น้องไนท์นี่ผิวสวยจริงๆนะค่ะ ดูสิผิวเนี๊ยนเนียน หน้าตาก็หล่๊อหล่อ แต่ทำไมใจร้ายกับพี่มดดำจังเลย” เสียงสัพยอกหยอกเย้าจากช่างเเต่งหน้าดังขึ้นมา คนอื่นได้แต่ยิ้มเมื่อเห็นว่าสาวใหญ่หยิกแก้มไนท์อย่างเอ็นดู แต่ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับจากอีกฝ่าย

   “เป็นแบบนี้เสมอเหรอครับ” เตชวัฒน์อดจะถามไม่ได้

   “ก็ไม่เคยเป็นแบบอื่นนี่ครับ” วรุณยิ้มให้เขาอย่างเห็นใจ เตชวัฒน์ได้รู้เรื่องการจัดเสื้อผ้า และรายละเอียดงานหลายๆอย่าง เท่าที่ฟังมาก็เหมือนเดิมไนท์ไม่มีปัญหาอะไรเลยเรื่องงานทำได้ทุกอย่าง จะมีก้แค่นิสัยกับการกระทำบางอย่างเท่านั้นที่จะเป็นปัยหา เตชวัฒน์เข้าใจกับคำว่าการกระทำบางอย่างที่วรุณพูดถึง

   “หล่อมากกกกกก” เสียงลากเสียงยาวจากบรรดาช่างแต่งหน้าและคอสตูมดังขึ้นมา เมื่อการถ่ายแบบเริ่มต้นขึ้น

   ไนท์ในกางเกงยีนส์สีศีดกับเสื้อลายสก๊อตตามแบบฉบับของคาวบอย ทั่วไปยีนอยู่ริมหน้าผาสูง ช่างภาพสั่งให้ไนท์เคลื่อนไหวไปเรื่อยๆ เพื่อเทสแสง ร่างสูงเคลื่นไหวช้าๆ ในทีเเรกก่อนจะค่อยๆ เปลี่ยนอิริยาบทไปเรื่อยๆ

   “ไนท์ครับ มองกล้องครับ” ช่างภาพเตือนให้ไนทืมองกล้อง เขารู้แล้วว่าทำไมไนท์ถึงยังมีงานทำ ทันทีที่อยู่หน้ากล้อง ความเลื่อนลอยในดวงตาของเขาหายไป มันถูกแปรเกลี่ยนเป็นแรงดึงดูด

   “ไนท์ ยิ้มหน่อยครับ ลองยิ้มหน่อย” ตากล้องตะโกนบอก ไม่มีรอยยิ้มออกมาจากใบหน้าของไนท์

   “กรี๊ด” เสียงกรี๊ดร้องดังลั่นของบรรดาสาวประเภทสองดังกระหึ่ม เมื่อเสื้อเชิ้ต ลายสก๊อตถูกกระชากออกจนกระดุมหลุดไปทั้งแถบ เช่นเดียวกับช่างภาพที่กดชัดเตอร์ระรัว เสื้อโดนเหวี่ยงไปกองลงกับพื้น ร่างกายท่อนบนที่เปลือยเปล่าที่มีกล้ามเนื้อสวยสมส่วน แม้มันจะไม่มากแต่ก็ทำให้ดูดี โดยเฉพาะกางเกงยีนส์ยีนเอวต่ำที่ต่ำจนเห็นขอบกางเกงชั้นในอยู่เลือนลาง แสงแดดที่ส่องเข้ามาด้านหลัง กับจังหวะที่ไนท์เสยผมขึ้นมาแสดงความดิบเถื่อนแห่งเพศชาย

   “โอ๊ย ไม่ไหวแล้ว กระเทยจะเป็นลม” เสียงกรีดร้องของเหล่าสาวแท้ สาวเทียมดังขึ้นมาไม่ขาดสาย แต่ละนางล้วนแล้วแต่บอกเล่าถึงความรู้สึกที่อยากจะครอบครองอีกฝ่ายอย่างชัดเจน

   “เสียดายอะแก โอ๊ย อยากเข้าเข้าไปลูบไล้จริงๆ อยากคุยด้วยเยอะ อยากได้ไปเลี้ยงดู แต่น้องไนท์นะน้องไนท์ทำไมถึงได้เย็นชาเป็นเจ้าชายน้ำแข็งแบบนี้” เตชวัฒน์รู้สึกขนลุกเมื่อได้ยินคำพูดของเหล่าบรรดาสาวเทียม

   “หูย คิดดูสิ หล่อออกขนาดนี้  ลิซซ่านะอยากคุยด้วยใจจะขาด แต่ก็ไม่กล้าอะ อยากรู้จริงๆเลยว่าถ้าเวลายิ้มออกมานะ จะหล่อขนาดไหน อยากจะลองลูบไล้จริงๆเลย ผิวก็เนียนสวย พอมีกล้ามเนื้อนิดหน่อย ติดจะผอมไปนิด แต่โดยรวมก็น่าหม่ำ” เสียงพูดคุยอย่างออกรสดังขึ้นมา เตชวัฒน์แยกออกมาเมื่อวรุณสะกิดเขา เมื่อไนท์เดินออกมาจากฉากแล้ว

   “ดูดีมากครับ น้องไนท์งานออกมาดีมาก” ช่างภาพชมเปาะอย่างถูกอกถูกใจ แต่เจ้าตัวกลับเมินหน้าหนีเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยไม่สนใจ

   “ดังแล้วหยิ่ง” เขาได้ยินเสียงพูดอย่างไม่สบอารมณ์ดังมาไม่ไกลแต่พอหันหลังกลับไปก็ไม่พบว่าเป็นเสียงใคร

   วรุณกลับไปแล้ว เหลือเขาที่รอไนท์เปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ภาพในรถที่ถูกเตรียมไว้ มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาด้วยท่าทางหงุดหงิด

   “เสื้อที่ขาดจะทำยังไงค่ะ เราต้องชดใช้ค่าเสียหายนะค่ะเนี่ย” แม้เธอจะถามอย่างสุภาพแต่ชายหนุ่มก็สัมผัสได้ถึงความไม่พอใจในน้ำเสียง เธอยื่นเสื้อเชิ้ตลายสก๊อตที่ขาดหวิ่นมาให้เขา เตชวัฒน์ยังไม่ทันจะพูดอะไร ประตูรถก็ถูกเปิดออกมาพร้อมกับขาเรียวยาวที่ก้าวออกมายืนเียงข้าง

   “น้องไนท์ค่ะเรื่องเสื้อตกลงจะเอายังไง ไม่งั้นพี่ก็ต้องรับผิดชอบเสื้อที่น้องทำขาด” เธอกระชากเสียงถาม ในทีแรกไนท์ยังคงทำเฉยมองเสื้องในมือของเธอ

   “น้องไนท์ค่ะ” เธอเริ่มถามอย่างร้อนใจ

   “ผมซื้อ” ไนท์พูดแค่นั้นแล้วเงียบมองเธอ ผู้หญิงคนนั้นมีท่าทีโล่งใจ แล้วเรียกให้เตชวัฒน์ไปจัดการเรื่องค่าเสียหายที่ไนท์ทำ ส่วนไนท์เมื่อทุกอย่างจบแล้วก็เดินไปรอเขาที่รถอย่างเงียบๆ


.................................


เหนื่อย ชอบกันไหม >.< ไม่เคยเขียนแนวนี้มาก่อนเลย ไม่ถนัด อะไรเกี่ยวกับพวกดาราเลยอ่ะ แสดงความคิดเห็นกันหน่อยน้าา
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๒. ๑๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 18-05-2011 23:37:19
ลุ้นๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่3 การถ่ายแบบ 18/25/2011
เริ่มหัวข้อโดย: k_sleepless ที่ 18-05-2011 23:52:09
กีสสสสสสสสสสสสสไนท์อ่ะ ...เท่ อร๊ายยยยยยยยยยยย ไนท์ก็ดูเป็นคนนิสัยดีนะคะ ไม่ทำอะไรให้ใครเดือดร้อน แค่ไม่มีมนุษยสัมพันธ์เท่านั้น ...แต่กับอาชีพดาราที่ต้องพบปะกับผู้คนนี่ก็ลำบากเหมือนกันน๊าาาาาาา

ปอลอลิง ถ้ากินวิตามินกับเข้าสปา แล้วก็หม่ำๆผลไม้ ผิวเค้าจะน่าลูบไล้เหมือนไนท์มั้ยน๊าาาาาาาาาา :-[
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่3 การถ่ายแบบ 18/25/2011
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 18-05-2011 23:57:57
เหนื่อยด้วยคน  กลั้นหายใจจนเหนื่อย  ไนท์เล่นไม่พูดอะไรเลยแบบนี้มันอึดอัดแฮะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่3 การถ่ายแบบ 18/25/2011
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 19-05-2011 00:43:11
น้องไนท์ก็ออกจะนิสัยดี แค่ไม่ชอบพูด
แต่พี่เตก็ต้องเหนื่อยหน่อยละนะ กว่าจะจูนกันได้
แล้วเ่อ่อ สองคนนี้เป็นคู่กันรึเปล่าคะ อยากรู้
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่3 การถ่ายแบบ 18/25/2011
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 19-05-2011 00:50:39
เพิ่งอ่านไปได้ 3 สี แต่คิดว่าต้องสนุกแน่นอน เวลาอ่านรวบพร้อมกันทีเดียว 3 เรื่อง เหมือนได้เล่นกระดานโต้คลื่นเลย ปรับอารมณ์ไม่ทัน 55  o13
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 2 คู่ปรับ [17-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 19-05-2011 00:56:47
นิดหน่อยเองครับ ดาราเชาก็ต้องมีการสร้างภาพกันบ้าง

ติดตามต่อนต่อไปได้แล้วครับ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 3 เปิดกล้อง [19-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 19-05-2011 01:02:20
(http://upic.me/i/y7/qsky3.jpg) (http://upic.me/show/24228533)   


ตอนที่ 3 เปิดกล้อง

                     เสียงกดชัตเตอร์เสียงสัมภาษณ์ดังอึงอลไปทั่วบริเวณหน้าบริษัทหนังยักษ์ใหญ่ เพราะวันนี้เป็นวันเปิดกล้องหนังเรื่องใหม่ของหม่อมเอียดที่ลงทุนหลักสิบล้าน และยังมีนักแสดงชื่อดังอย่าง ปลายฟ้า นวกมล รับบทพระเอกมีนักแสดงดาวรุ่งที่กำลังมาแรงอย่าง อเล็กซ์ นรลักษณ์ มารับบทรอง ทำให้มีการจับตาดูมากยิ่งขึ้นถึงการประชันฝีมือการแสดงของทั้งสองคนนี้
              “คุณปลายฟ้าครับ ขอสัมภาษณ์หน่อยครับ”
“คุณปลายฟ้าค่ะ”
เสียงเรียกชื่อปลายฟ้าดังขึ้นไม่ขาดระยะพร้อมกับกลุ่มนักข่าวที่รุมล้อมเข้ามาจำนวนมาก จนสายลมต้องเข้าไปกันกลุ่มนักข่าวให้
                “ขอโทษนะครับ ผมว่ารอสัมภาษณ์พร้อมกับทางทีมงานดีกว่านะครับ อีกสักพักก็คงได้เวลาแล้ว” สายลมพูดพร้อมแยกนักข่าวกลุ่มนั้นออกมา
                หลังจากที่สายลมกันนักข่าวออกจากปลายฟ้า ทางผู้จัดงานก็ประกาศให้นักข่าวไปนั่งยังที่ที่จัดไว้ให้ ก่อนมีคนมาเชิญปลายฟ้าให้ไปนั่งสัมภาษณ์รวมกับนักแสดงคนอื่น ๆ มีหม่อมเอียดนั่งอยู่ตรงกลาง ปลายฟ้านั่งทางขวามือ อเล็กซ์นั่งทางซ้ายมือ ตามด้วยนักแสดงรุ่นใหญ่คนอื่น ๆ ตามลำดับอีกสามสี่คน หม่อมเอียดพูดให้ข้อมูลเกี่ยวกับหนังว่ามีความเป็นมาเป็นไปก่อนจะหันมาพูด ถึงนักแสดงที่ตนเลือกมาแบบรายบุคคล
   หลังจากที่มีการแถลงข่าวโดยรวมเสร็จแล้ว ก็ได้มีการเปิดให้สัมภาษณ์ดารานักแสดงแบบรายบุคคลได้ ปลายฟ้าโดนนักข่าวเกือบทุกสำนักพิมพ์กรูเข้ามาแย่งตัว
“ปลายฟ้าค่ะขอสัมภาษณ์หน่อยได้ไหมค่ะ” เสียงนักข่าวรุมเร้าเรียกชื่อถามเจ้าละหวั่น
“ครับพี่ ๆ นักข่าวใจเย็น ๆ นะครับ ผมจะตอบทุกคำถามแน่นอนครับวันนี้” รอยยิ้มที่ชวนให้ชื่นใจถูกแจกออกจากใบหน้าที่หล่อเหลาของปลายฟ้าให้กับนักข่าวทุกคน
“ผมว่าเราหลบไปนั่งแถวนั้นดีกว่านะครับ จะได้ไม่รบกวนพี่ ๆ นักแสดงคนอื่นเขาด้วย”
ปลายฟ้าเดินพานักข่าวไปนั่งสัมภาษณ์ที่มุมห้องด้านหนึ่ง ทำให้บริเวณกลางห้องดูสงบลงไปบ้าง การสัมภาษณ์ผ่านไปได้ด้วยดี นักข่าวต่างพอใจกับคำตอบและท่าทีที่อ่อนน้อมถ่อมตนของปลายฟ้า
“ฉันว่างานนี้ปลายฟ้าคงดังขึ้นไปอีกแน่ ๆ ฉันจะเขียนเชียร์ให้เต็มที่เลย” นักข่าวสาวดูปราดเปรียวคุยกับเพื่อนนักข่าวด้วยกันตอนพักทานของว่าง
“ฉันก็เหมือนกันคนอะไรหล่อแล้วยังจะนิสัยดีอีก ไม่เคยบ่นเลยเวลาโดนสัมภาษณ์ แถมยังอ่อนโยนกับพวกเราเสมอ ๆ เลยนะ โดยเฉพาะรอยยิ้มนั้นนะ ฉันเห็นใกล้ทีไรแล้วแทบละลายทุกครั้งเลยนะเธอ” เพื่อนสาวตอบกลับพร้อมกับทำหน้าชวนฝัน
“ฝันต่อไปเถอะยะ คนอย่างปลายฟ้าเขาจะมามองทำไมพวกเรา ไปเตรียมสัมภาษณ์อเล็กซ์ต่อกันเถอะ” ทั้งสองยกกาแฟที่ถืออยู่ในดื่มจนหมดก่อนไปสัมภาษณ์หาข่าวต่อไป

ปลายฟ้าถือโอกาสตอนว่างจากการสัมภาษณ์ทักทายนักแสดงรุ่นพี่คนอื่น ๆ โดยมีสายลมพาไปแนะนำเพราะสายลมรู้จักดาราเกือบทุกคน
“พี่ขวัญสวัสดีครับ ผมพาปลายฟ้ามาฝากดูแลด้วยนะครับ นี่เป็นหนังใหญ่เรื่องแรกของเขาอาจยังไม่รู้อะไรมากนัก” สายลมฝากปลายฟ้ากลับนักแสดงสาวใหญ่ที่ใคร ๆ ก็เกรงใจเธอ
ปลายฟ้าไหว้อย่างนอบน้อมพร้อมกับร้อยยิ้มที่ทำให้หลายคนใจละลาย แม้แต่ดาราสาวใหญ่อย่างขวัญชนกยังรู้สึกหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาได้
“ชื่อเสียงระดับปลายฟ้ายังต้องให้พี่แนะนำอีกเหรือจ๊ะ” ขวัญชนกยิ้มตอบ
“ไม่หรอกครับ ผมยังต้องเรียนรู้อีกมาก อยากทำให้คุณขวัญลำบากก็ได้นะครับ” สายลมทำท่าทางขวยเขินเล็กน้อย เพราะตัวเองยังอ่อนประสบการณ์ทางด้านภาพยนตร์จริง ๆ
“เรียกพี่ก็ได้จ๊ะจะได้คุ้นเคยกันดี”
“ครับพี่ขวัญ” ปลายฟ้าเปลี่ยนคำเรียกตามที่ดาราสาวใหญ่เรียกร้อง
ขวัญชนกยิ้มแก้มแทบปริเมื่อได้ยินปลายฟ้าเรียกตัวเองว่าพี่ ทั้งสองคนคุยกันต่ออย่างสนิทสนมโดยมีสายลมเป็นตัวเชื่อม ภาพของดารารุ่นใหญ่อย่างขวัญชนกคุยสนิทสนมกับดารารุ่นน้องแบบนี้หายากนัก เพราะขวัญชนกของข้างถือตัวเลยทำให้คนรอบข้างแปลกใจนิดหน่อย
“คุณปลายฟ้าค่ะหม่อมให้มาเชิญตัวสักครู่คะ” ทีมงานเดินมาตามตัวปลายฟ้า
“ครับ ผมขอตัวก่อนนะครับพี่ขวัญ ไว้คราวหน้าพี่ขวัญเล่าเรื่องสนุก ๆ ให้ผมฟังอีกนะครับ” ปลายฟ้ายิ้มแย้มให้พร้อมกับก้มหัวขอตัวออกไป
“เป็นเด็กที่น่ารักมากเลยนะปลายฟ้าเนี่ย” ขวัญชนกบอกกับสายลมหลังจากปลายฟ้าเดินห่างไปแล้ว
“ครับ ปลายฟ้าเป็นเด็กดีตั้งใจทำงาน หวังว่าพี่ขวัญจะช่วยดันแกด้วยนะครับ” สายลมรีบฝากปลายฟ้ากับขวัญชนก
“แหม ไม่พลาดโอกาสเลยนะ พ่อผู้จัดการคนเก่ง สายลมออกปากขนาดนี้พี่จะช่วยอีกแรงก็ได้” ขวัญชนกยิ้มอย่างถูกใจ
“ขอบคุณครับ ผมขอตัวไปดูปลายฟ้าก่อนนะครับ”

ปลายฟ้าเดินมาหาหม่อมเอียดที่นั่งรออยู่ เขามาถึงอเล็กซ์ก็เดินมาถึงเหมือนกัน
“เอาทั้งสองคนนั่งลงก่อน” หม่อมออกคำสั่ง
“ที่ผมตามทั้งสองคนมาก็มีเรื่องจะคุยนิดหน่อย ผมอยากให้ทั้งสองคนทำความรู้จักกันไว้เยอะ เพราะว่าเราต้องถ่ายทำกันอีกหลายเดือน ปลายฟ้าก็ช่วยแนะนำอเล็กซ์บ้างนะ เพราะอเล็กซ์ถือว่าใหม่มากกับงานแบบนี้ ส่วนคุณเองผ่านงานละครมาเยอะพอสมควรแล้ว” หม่อมเอียดพักจิบน้ำชาในถ้วยทรงฝรั่งเคลือบอย่างดี
“ผมคงแนะนำอะไรมากไม่ได้หรอกครับหม่อม ผมเองก็ไม่ได้เก่งอะไรมากครับ” ปลายฟ้าตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้
“อย่าถ่อมตัวไปเลย ใคร ๆ ก็รู้ถึงฝีมือของปลายฟ้าเป็นอย่างดี ยังไงก็ฝากให้ช่วยสอนอเล็กซ์ด้วยแล้วกัน” หม่อมเอียดตบไหล่ปลายฟ้าเบา ๆ
“ถ้าเป็นความประสงค์ของหม่อม ผมก็ยินดีครับ” ปลายฟ้ายิ้มรับคำ
“งั้นผมก็สบายใจแล้ว คุณไปให้สัมภาษณ์ต่อเถอะ แต่อเล็กซ์อยู่คุยต่อก่อน” หม่อมเอียดพูดเสร็จหันกลับมาคุยกับอเล็กซ์โดยไม่สนใจปลายฟ้า
 

               “พี่สายลมผมไม่ให้สัมภาษณ์ต่อแล้วนะครับ ฝากบอกนักข่าวกับทีมงานด้วยว่าผมปวดหัวขอตัวกลับก่อน” ปลายฟ้าเดินมาบอกสายลมหลังจากที่กลับออกมาจากการพูดคุยกับหม่อมเอียด
                สายลมรับรู้ได้ว่าปลายฟ้าต้องไม่พอใจอะไรบางสิ่ง แต่ก็ยังไม่มีเวลาสอบถามเพราะต้องรีบไปบอกทีมงานกับขอโทษนักข่าวที่นักแสดง ในการดูแลของเขาให้สัมภาษณ์ต่อไม่ได้ หลังจากบอกทุกฝ่ายเสร็จแล้วเขารีบตามขึ้นมาบนรถตู้ที่ติดเครื่องรออยู่ เมื่อขึ้นมาปลายฟ้าพิงตัวนอนใช้หนังสือปิดหน้าอยู่ที่ด้านหลังมุมประจำ และด้วยท่านี้ยิ่งทำให้มั่นใจว่าคนตรงหน้าต้องกำลังไม่พอใจบางอย่างอย่างแน่นอน
 
                “โครม”
                “อเล็กซ์ อเล็กซ์ อะไร ๆ ก็พูดถึงไอ้อเล็กซ์ก่อนไปหมด นี่ตกลงหม่อมเอียดจะให้ใครเป็นพระเอกกันแน่เนี่ย” ปลายฟ้าระเบิดอารมณ์ออกมาเมื่อกลับเข้ามาที่ห้อง เก้าอี้นั่งกินข้าวโดนผลักจนล้มกลิ้งไปกลางห้อง
                “ใจเย็นๆ ก่อนสิฟ้า หม่อมเขาอาจจะมีเหตุผลของเขาก็ได้นะครับ พี่ว่าฟ้านั่งสงบสติก่อนดีไหมครับ” สายลมจับไหล่ปลายฟ้าจากด้านหลังพร้อมพาเดินให้ไปนั่งที่โซฟากลางห้อง
                “จะใจเย็นได้ยังไงล่ะครับ ทำไมผมจะไม่รู้ความหมายเขาต้องการเอามาหักหน้าผมแน่ ๆ หวังว่าพี่คงยังไม่ลืมเรื่องที่เขาเคยมาติดต่อผมได้ใช่ไหม ผมว่าไอ้ตัวนั่นมันคงยอมเอาตัวเข้าแลกไปแล้วแน่ ๆ เขาถึงได้ทำแบบนี้”
                “ฟ้าอย่าพูดแบบนั้นให้ใครได้ยินนะครับ มันจะไม่เป็นผลดีต่อเรา พี่ว่าถ้าฟ้าแสดงดีเสียอย่างก็ไม่ต้องกลัวอะไรแล้วล่ะ”
                “ทำไมผมจะพูดไม่ได้ล่ะครับ พี่ก็รู้ว่าไอ้อเล็กซ์นั่นมันทำอะไรมาก่อน เรื่องเอาตัวเข้าแลกมันคงทำได้ง่าย ๆ อยู่แล้วผมว่า”
                “พี่รู้ครับแต่เราจะพูดแบบนั้นไม่ได้นะครับ เดี๋ยวทางต้นสังกัดนั่นเขาจะฟ้องทางเราเอาได้นะ”
                “ฟ้อง ก็มันเรื่องจริง มันจะกล้าฟ้องเราได้ไง”
                “ป่านนี้ทางนั้นเขาก็คงกลบข้อมูลเรียบร้อยหมดแล้วล่ะครับ เรื่องแค่นี้ทางนั้นเขาทำได้อยู่แล้ว ฟ้าอย่าลืมสิว่าฟ้าเองก็...” สายลมหยุดพูดทันที เพราะรู้ว่าเรื่องนี้มันกระทบกระเทือนจิตใจของปลายฟ้าอย่างมากถ้าเขาพูดออกไป
                “ฟ้าเองก็อะไรพี่สายลมพูดออกมาเลยสิครับ พี่จะหยุดไว้ทำไม ใช่สิผมมันก็แค่เด็กที่ไม่มีใครรักครอบครัวยังไม่ต้องการจนต้องหนีออกจากบ้าน เป็นคนที่แย่มาก ๆ เลยใช่ไหมครับ” หยดน้ำใสไหลรินจากสองตาผู้พูด
                “พี่ไม่ได้หมายความแบบนั้นนะฟ้า พี่แค่อธิบายให้ฟัง” สายลมรีบนั่งลงข้าง ๆ ร่างที่กำลังใช้มือปิดหน้าร้องไห้จนตัวสั่นเทา พร้อมกับใช้มือโอบไหล่ทั้งสองข้างไว้เพื่อปลอบใจ
                “พี่อย่ามายุ่งกับผมเลย ผมรู้พี่ก็ดูถูกผมใช่ไหมจริง ๆ แล้ว ผมมันก็แค่คนที่ไม่มีใครต้องการ” ปลายฟ้าแกะมือที่ปลอบใจเขาออก เพราะมันไม่ได้ทำให้รู้สึกดีขึ้นมาแม้แต่น้อย เขาลุกเดินเข้าห้องพร้อมล็อคประตู
                “ฟ้าครับ ออกมาคุยกับพี่ก่อน พี่ไม่ได้หมายความแบบนั้นจริง ๆ ฟ้า ฟ้า” สายลมพยายามเรียกเท่าไหร่ก็ไม่มีการตอบรับกลับมา เขาเลยมานั่งรออยู่ที่โซฟากลางห้อง
                ตอนนี้เขาอยากจะต่อยปากตัวเองเสียกว่าสิ่งอื่นใด เพราะมันทำให้คนที่ห่วงใยต้องเสียใจจนหลั่งน้ำตาออกมาต่อหน้า ตอนที่เห็นหยดน้ำตาไหลลงอาบสองแก้มจากคนตรงหน้า หัวใจเขาแทบสลายลงไปพร้อม ๆ กับหยดน้ำตานั่นเลยทีเดียว เขาอยากจะเข้าในห้องไปกอดปลอบใจ และบอกความในใจให้รู้ไปเลยว่า ปลายฟ้าเป็นคนที่เขาห่วงใยและรักมากขนาดไหน แต่ก็ทำได้แค่คิดด้วยกลัวว่าถ้าบอกไปแล้วอาจจะไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกันอีก เหมือนอย่างตอนนี้
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่3 เปิดกล้อง P:2[19-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 19-05-2011 01:06:31
^
จริ้ม จิ้มๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่3 เปิดกล้อง P:2[19-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: แรงเทียน ที่ 19-05-2011 01:12:50
^
จริ้ม จิ้มๆ

อ่า โดนปาดหน้าเค้ก...............ไปฟ้องเทียนบุญดีกว่า อิอิ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่3 เปิดกล้อง P:2[19-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 19-05-2011 01:24:05
 
^
จริ้ม จิ้มๆ

อ่า โดนปาดหน้าเค้ก...............ไปฟ้องเทียนบุญดีกว่า อิอิ
:sad4: :sad4:
อย่านะคะ หนูผิดไปเเล้ว
หนูขอโต๊ดดดด(ตัวสั่นงันงก)
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่3 เปิดกล้อง P:2[19-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: Mountain ที่ 19-05-2011 01:26:13
 :3125:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่3 การถ่ายแบบ 18/25/2011
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 19-05-2011 01:45:54
โห คือยอมกระชากเสื้อแต่ไม่ยอมยิ้มเหรอ
แนวได้อีก เอาใจไปเลยเพ่(+1)
ปล. ในเจ็ดสีตัวเองมีคำผิดเยอะสุด กร๊ากกก
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่3 เปิดกล้อง P:2[19-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: onjazz26 ที่ 19-05-2011 02:05:00
ปี๊สายลมโดนอีกแล้ว.... o9
นังสายฟ้าขาวีน...เอ้ย....ปลายฟ้า... :13223:
ปลายฟ้า...สีฟ้า...สีเดียวกะคนแต่งเลยยยย.... :m28:

อิ อิ สู้ตอไปนะ บูลเรนเจอร์ :a1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่3 เปิดกล้อง P:2[19-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: อนันตกาล ที่ 19-05-2011 02:24:27
อยากให้เรื่องนี้ ตอนจบสายลมตายเพราะปกป้องปลายฟ้าเอาไว้
จะได้ได้รับบทพระเอกที่แสนดี

จบแบบเพอเฟ็คสุดๆ

โฮะๆๆๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่3 เปิดกล้อง P:2[19-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 19-05-2011 03:46:59
ให้พระเอกตาย นายเอกก็เป็นหม้ายดิเพ่ ไม่อาว ๆ
น้องฟ้าขี้วีนจริง ๆ เลยนะ
รู้สึกว่านายเอกขบวนการสีรุ้งนี่ ชีวิตมีปุ่มมีปมกันเยอะจริง ๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่3 เปิดกล้อง P:2[19-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 19-05-2011 07:24:22
ตามแสงสีฟ้า เข้ามากับเรื่องนี้
โลกแห่งมายา ..... แม้นจะดูน่ากลัวถ้าได้สัมผัส แต่ก็ยังมีคนอีกมากที่อยากจะเข้า :z2:
+1 ให้กับสายรุ้งสีแห่งความสดใส แม้นแอบแฝงด้วยสีหม่น ๆ ปนมาบ้าง
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่3 เปิดกล้อง P:2[19-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 19-05-2011 08:06:03
ริษยากับอ่อนไหว  สำหรับปลายฟ้าแล้วมันใกล้กันนิดเดียว
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่3 การถ่ายแบบ 18/25/2011
เริ่มหัวข้อโดย: Muzik ที่ 19-05-2011 09:10:14
เจ้าชายน้ำแข็งของแท้ อยากรู้จังทำไมไนท์ถึงกลายมาเป็นคนแบบนี้ หรือเป็นมาตั้งแต่เกิด
ชอบจังค่ะสีคราม  :pig4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่3 การถ่ายแบบ 18/25/2011
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 19-05-2011 09:29:07
หุ้ยยยยย
ยกนิ้วให้กับความเย็นชาเป็นเจ้าชายน้ำแข็งจริงๆๆๆ
สงสารเตจริงๆ จะพังกำแพงน้ำแข็งได้ไหมน้า....
รอตอนต่อไปค่ะ
 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่3 เปิดกล้อง P:2[19-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 19-05-2011 09:56:53
เฮ้ยยย :เฮ้อ:
นี่หรือคือปลายฟ้า.....
สงสารสายลมจัง ไอนั้นก็ไม่ดี ไอนี่ก็ไม่ได้ เฮ้ย โดนทั้งขึ้นทั้งร่อง
จะรอตอนต่อไปค่ะ
 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz (เอาทีเซอร์มาให้ชมก่อนนะคะ ^0^)
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 19-05-2011 10:01:52
 :call: :call:
เข้ามารออ่านค่ะ...
เมื่อไหร่จะมาลง :z2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz (เอาทีเซอร์มาให้ชมก่อนนะคะ ^0
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 19-05-2011 10:02:59
พรุ่งนี้ไงคะ 555
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๒. ๑๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: Chinnosuke ที่ 19-05-2011 10:49:06
 :mc4: :mc4: :mc4:
ดีใจสุดๆๆหาเจอแล้วพี่อิ๊ก
ชอบสุดๆๆๆๆๆแนวนี้
รักพี่อิ๊กที่สุดๆๆๆ :จุ๊บๆ: :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 6 ของขวัญ 18/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 19-05-2011 11:12:03
เฮือก o22
อ่านอีกรอบตอนกินข้าว อร่อยน่าดูชม.. :try2:
รอตอนต่อไปค่ะ
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่3 การถ่ายแบบ 18/25/2011
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 19-05-2011 11:25:07
เรื่องในวงการปกติก็ซับซ้อน แบบนี้ยิ่งวุ่นวายไปกันใหญ่สินะ
คนรักก็มาก คนเกลียดก็มากตาม

ชอบบุคลิกของไนท์ มันแปลกดี อ่านแล้วลุ้นว่าต่อไปจะมีปฏิกริยาให้เห็นยังไงบ้าง
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่3 เปิดกล้อง P:2[19-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 19-05-2011 12:02:12
ริษยากับอ่อนไหว  สำหรับปลายฟ้าแล้วมันใกล้กันนิดเดียว

คุณ iforgive เป็นคนที่เข้าใจปล้ายฟ้ามากที่สุดเลยครับ  :กอด1:

แต่ว่ามีการข่มขู่กันด้วยอะ  :laugh:

ถ้าโดนแรงเทียนเล่นงานท่าจะแย่

โลกมายายังไงก็คือมายาหาใช่จริงไม่นะครับ ดังนั้นจึงมีอะไรให้เราค้นหาอีกเยอะเลย

มาเอาใจช่วยสายลมกันเถอะครับ ว่าจะเข้าไปอยู่ในใจปลายฟ้าได้อย่างไร  :L2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 6 ของขวัญ 18/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 19-05-2011 12:20:49
อุทานไม่ถูก
สงสารหรั่งใจจะขาด  กลัวก็กลัว
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 6 ของขวัญ 18/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 19-05-2011 13:11:56
เข้ามาส่องว่าถึงไหนแล้ว หุๆๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 6 ของขวัญ 18/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 19-05-2011 13:35:46
สงสารหน่อง เพิ่งเจอกันได้ไม่นาน ก็ต้องจากกันอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๒. ๑๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: rellachulla ที่ 19-05-2011 16:04:12
โอ๊ะ เอามือทาบอก
คนแบบทาน สมควรแล้วหรือที่จะมาฟาดฟันแย่งกัน
แลดูเป็นคนเหลาะแหละ ไม่มั่นคง
แต่ก้อนะ ทำให้เกิดเป็นเรื่องราวต่างๆ ตามมา
เค้าเดาเอานะ ว่าสุดท้าย ก้อไม่มีใครได้กับใคร ฮาๆๆๆ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๒. ๑๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: MonarcH ที่ 19-05-2011 16:39:22
เข้ามาบอกว่า นี่ไม่แรงนะ อิอิ เบาที่สุด มันมียิ่งกว่านี้อีก แอ๊กกก

เดี๋ยวตอนต่อไป บาร์เค้าจะแรงมั่ง  :laugh:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๒. ๑๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 19-05-2011 17:13:13
เรื่องนี้เหมือนลงขันตกลงกันแล้วนะว่าใครเขียน

แต่ระวังนักเขียนเขาช่วยกันแปลงสำนวนนะครับ

แต่ไม่แปลงเพศแปลงสีแน่นอน  :laugh:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่2 [18/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: rellachulla ที่ 19-05-2011 17:30:25
คุณหนู อยากรู้ อยากเห็นชิมิ
เค้ารู้น๊าา เด็กน้อย คิคิ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่3 เปิดกล้อง P:2[19-05-54]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 19-05-2011 18:26:38
(http://upic.me/i/y7/qsky3.jpg) (http://upic.me/show/24228533)


ตอนที่ 4 ท้องฟ้าสีน้ำเงิน



                “พี่สายลม พี่สายลมครับ”
                เสียงนุ่มๆ ปลุกเขาตื่นขึ้นมาพร้อมกับแสงแดดยามเช้าที่สดใส สายลมขยี้ตาเล็กน้อยมองใบหน้าที่ยิ้มละมุนมาให้
                “ฟ้าตื่นแล้วหรือครับ แล้วนี่กี่โมงแล้ว”
                “จะแปดโมงแล้วครับ พี่รีบไปแต่งตัวเถอะเดี๋ยวสาย แต่ทำไมพี่มานอนอยู่ตรงนี้ล่ะครับ”
                “ก็พี่รอฟ้าออกมานะสิ พี่อยากจะขอโทษเรื่องเมื่อคืน”
                “เรื่องนั้นผมต่างหากที่ต้องขอโทษพี่ ผมใช้แต่อารมณ์มากไปหน่อยพี่สายลมคงไม่โกรธผมนะครับ” ปลายฟ้าทำหน้าสำนึกผิด พร้อมกับนั่งลงข้าง ๆ
                “พี่ไม่โกรธหรอกครับ แค่ฟ้าเข้าใจว่าพี่หวังดีกับฟ้าแค่นี้ก็พอแล้ว แต่ว่าให้พี่รีบแต่งตัวจะไปไหนหรือครับ วันนี้คิวฟ้าว่างทั้งวันนี่นา” สายลมคลายความกังวลลงเมื่อรู้ว่าปลายฟ้ากลับเป็นปกติแล้ว
   “ไปทะเลไงครับ พี่สายลมพาฟ้าไปหน่อยนะครับ ไม่ได้ไปนานแล้ว” ปลายฟ้าจับมือสายลมเพื่อขอร้อง
“ไม่ได้นะครับ ฟ้าต้องเก็บตัวก่อนช่วงนี้ เดี๋ยวพรุ่งนี้เข้าฉากวันแรกจะดูไม่ดีนะครับ”
“นะครับพี่สายลม ไปทะเลใกล้ ๆ ก็ได้ตอนเย็นเราก็กลับนะครับ” ปลายฟ้าบีบมือสายลมเบา ๆ เป็นการขอร้อง
สายลมรู้สึกร้อนวูบจากมือที่ได้รับการสัมผัสจากคนที่แอบรัก เขารู้ว่าปลายฟ้าชอบไปทะเลมากที่สุด ปลายฟ้าชอบนั่งมองท้องฟ้าสีน้ำเงินใส กับท้องทะเลสีน้ำเงินเข้มหลังจากกลับมาจากทะเลปลายฟ้าจะดูมีความสุขทุกครั้ง
“แต่ว่า.....” นิ้วชี้กับนิ้วกลางอันนุ่มนิ่มของปลายฟ้าแต่เข้าที่ปากของสายลมจนเขาไม่อาจพูดต่อได้
“ไม่แต่นะครับพี่สายลม พาผมไปนะครับแล้วผมสัญญาว่าจะตั้งใจทำงานมากกว่านี้” ใบหน้าคนขอร้องยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อคิดว่าตัวเองกำลังจะได้อย่างที่ขอ
สายลมรู้สึกหน้าเริ่มร้อนผ่าวขึ้นมาทีละน้อย หน้าของสายลมที่อยู่ใกล้เขาเพียงไม่กี่นิ้ว นิ้วมือที่สัมผัสอยู่ที่ริมฝีปาก และรอยยิ้มที่ยิ้มออกมาอย่างจริงใจ ถ้าเขาปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ปลายฟ้าอาจสังเกตออกก็ได้ว่าเขาคิดยังไงกับปลายฟ้า
“ครับ ครับ ไปก็ได้ แต่ว่ารีบไปรีบกลับนะครับ” สายลมจับมือปลายฟ้าออก แล้วรับครับก่อนที่จะควบคุมตัวเองต่อไปไม่ได้
“เย่!! พี่สายลมใจดีที่สุดเลยครับ”
ปลายฟ้าสวมกอดสายลมไว้ด้วยความดีใจ สายลมยกมือขึ้นอย่างช้า ๆ หมายจะกอดตอบ
‘ไม่สิทำแบบนี้ไม่ได้’
เสียงในใจของสายลมร้องเตือนตัวเอง เขารีบเปลี่ยนท่าทีจากที่จะกอดเป็นจับตัวปลายฟ้าออก
“พี่ไปแต่งตัวก่อนนะครับ เราจะได้รีบไปกันเลย” สายลงรีบลุกเดินเข้าห้องไปอย่างรวดเร็ว เพื่อหลบใบหน้าที่กำลังร้อนผ่าวจนเป็นสีแดงระเรื่อไว้ไม่ให้ปลายฟ้าเห็น


สายลมขับรถพาปลายฟ้ามาทะเลอย่างที่สัญญาไว้ ทะเลจังหวัดระยองเป็นเป้าหมายที่ใกล้ที่สุด และหาที่เงียบ ๆ ผู้คนไม่พลุกพล่านได้ง่ายที่สุด สายลมจอดรถแถว ๆ บริเวณหาดสวนสนที่ร่มรื่น วันนี้เป็นวันธรรมดาทำให้บริเวณที่จอดรถไม่มีคนอยู่เลย
ปลายฟ้าถอดรองเท้าไว้ในรถ ก่อนที่จะเดินเท้าเปล่าย่ำทรายเม็ดละเอียดลงไปชายทะเล วันนี้ท้องฟ้าสดใสมองไปเห็นท้องฟ้าเป็นสีน้ำเงินกว้าง แต้มลายด้วยก้อนเมฆสีขาวราวกับปุยฝ้ายลอยอยู่ แสงอาทิตย์สาดส่องกระทบผืนน้ำทะเลสีน้ำเงินเข้ม สะท้อนแสงวิบวับสวยงามอย่างลงตัว สายลมเย็นพัดขึ้นมาจากชายทะเลพร้อมกับกลิ่นไอของเกลือจาง ๆ ทำให้คลายความร้อนลงไปมาก
สายลมยืนมองภาพเด็กหนุ่มวัยยี่สิบปี ที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ที่ชายทะเลอย่างมีความสุข เด็กหนุ่มผิวขาวหน้าตาดี สวมเสื้อกล้ามสีขาว คลุมด้วยเสื้อเชิ้ตแขนสั้นลายตารางสีฟ้าจาง ๆ เนื้อผ้าบางเบา กับกางเกงขาสั้นสีดำ ใบหน้าตอนนี้มีความสุขอย่างที่ไร้มารยาแอบแฝง
เด็กหนุ่มด้วยวัยเพียงเท่านี้กลับเจอเรื่องราวร้าย ๆ มามากมาย พอผ่านพ้นเรื่องราวเหล่านั้นมาได้ก็ต้องทำงานเพื่อเลี้ยงตัวเอง ชีวิตในวัยรุ่นแทบจะไม่ได้ใช้ออกมาเลยเมื่อเข้าวงการ ปลายฟ้าเกือบจะไม่เคยได้เดินเที่ยวเหมือนที่วัยรุ่นคนอื่น ๆ ได้เดิน เขาไม่เคยได้ดูหนังในโรงเหมือนที่คนอื่น ๆ ได้ดู ทำอะไรทุกอย่างต้องคอยระวังตัวไม่ให้เกิดข่าวไม่ดีขึ้น ทุกอย่างต้องทำตามที่บริษัทสั่งมา
คงมีแต่ตอนที่มาทะเลนี่เท่านั้น ที่เขาสามารถปลดปล่อยความเป็นตัวของตัวเองออกมาได้อย่างเต็มที่ ใบหน้าที่แสดงออกถึงความสนุกสนาน ความสุข ในแบบที่จริงใจไม่เหมือนทุกครั้งมักจะได้เห็นทุกครั้งที่เขาอยู่ทะเล
“พี่สายลมครับ มานี่หน่อยสิครับ” ปลายฟ้าตะโกนเรียกสายลม ทำให้เขาหลุดจากห้วงความคิด
“ครับ ฟ้าเป็นอะไรหรือเปล่า” สายลมรีบวิ่งมาหาที่ชายทะเล
“นี่แหนะ!!!” น้ำทะเลถูกสองมือเรียวยาววักสาดเข้าใส่คนที่วิ่งมาอย่างรวดเร็ว
“ฟ้าครับ อย่าเล่นแบบนี้สิครับ” สายลมพยายามหลบน้ำที่สาดเข้ามา
“มาทะเลก็ต้องเล่นสิครับ ไปยืนอยู่แบบนั้นทำไม นี่แหนะ!!” ปลายฟ้าไม่หยุดวักนักเข้าใส่สายลม
“พอแล้วฟ้า พี่เปียกหมดแล้ว” สายลมหลบไปบอกไป แต่ตามตัวก็เริ่มเปียกมากขึ้น
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” มีแต่เสียงหัวเราะอย่างชอบใจกลับมาเท่านั้น แต่มือยังคงไม่หยุด
“ถ้าไม่หยุดพี่ไม่ยอมแล้วนะฟ้า” สายลมเลิกหลบกลับก้มตัวใช้สองมือวักน้ำใส่ปลายฟ้ากลับคืน
“พี่สายลมเล่นแบนี้หรือครับ” ปลายฟ้าเปียกเพราะโดนน้ำสาดคืนหยุดแล้วยิ้มอย่างมีแผน
“ก็ฟ้าไม่หยุดก่อนนะครับ นี่เอาไปอีกที” สายลมวักน้ำใส่ปลายฟ้าจนเปียกทั้งตัวแล้วคราวนี้
“ได้เลยครับ เล่นแบบนี้ใช่ไหม” ปลายฟ้าวิ่งเข้าหาสายลม ก่อนอ้อมกระโดดขึ้นไปขี่หลังสายลมไว้
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า พี่สายลมเป็นม้าให้ผมแล้ว วิ่งไปเลยครับ” ปลายฟ้าออกคำสั่ง
สายลมวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ปลายฟ้าโน้มตัวกอดคอไว้จนแน่น สายลมวิ่งวนไปมาในน้ำอยู่หลายรอบ
ตูม!!
เขาทิ้งตัวลงผืนน้ำทะเล ทั้งสองคนจมลงไปในน้ำก่อนลุกขึ้นมานั่งมองหน้ากัน ปลายฟ้าผมเปียกน้ำลู่ติดหัวจนมาปิดตาทั้งสองข้างไว้ สายลมเองก็แทบไม่ต่างกันเพียงแต่เพราะผมสั้นกว่า
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ทั้งสองคนหัวเราะออกมาพร้อมกัน เมื่อต่างคนต่างมองหน้ากันเอง

หลังจากที่เล่นกันต่อสักพักใหญ่ ทั้งสองคนก็ขึ้นมานั่งพักใต้ต้นสนขนาดใหญ่ ร่มเงาของต้นสนให้บรรยากาศร่มรื่นขึ้นไปอีก
“เดี๋ยวพี่ไปซื่อน้ำกับของกินมาให้นะครับ” สายลมพูดหลังจากที่ตัวเริ่มแห้งจากการนั่งตากลมมาครู่ใหญ่
“ครับ ผมขอไอติมด้วยนะ” ปลายฟ้ายิ้มให้ก่อนหันกลับไปนั่งมองท้องฟ้าและน้ำทะเลอีกครั้ง


สายลมเลือกซื้อน้ำและขนม เขาเลือกเอาเฉพาะอย่างที่ปลายฟ้าชอบกินเท่านั้น
“ไอติม ไอติม” สายลมมองหาตู้ไอศกรีม
“ป้าครับ ไม่มีไอติมขายเหรอครับ” สายลมถามเมื่อมองจนทั่วแล้วยังไม่เจอสิ่งที่ต้องการ
“ร้านป้าไม่มีหรอกจ๊ะ คนมาน้อยแถวนี้ลงไว้ก็ขายไม่ค่อยออก ป้าเลยคืนตู่เขาไปแล้วจ๊ะ” เจ้าของร้านบอก
“แล้วแถวนี้ร้านไหนมีไหมครับป้า”
“ก็ต้องเลยไปหน่อยนะพ่อหนุ่ม แต่เดินไปคงไม่ไหวหรอกมั้งป้าว่า”
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมจะลองเดินดู มันไปทางไหนครับป้า”
“เดินขึ้นไปทางนั้นเลยจ๊ะ แต่มันไกลอยู่นะ ป้าว่าเอาจักรยานป้าปั่นไปดีกว่านะ”
“ป้าไม่กลัวผมขโมยจักรยานหรือครับ”
“จะเอาก็เอาไปเถอะ มันจะขายได้กี่ตังค์กันเชียว แล้วหน้าตาอย่างพ่อหนุ่มบ่งบอกว่าใช่โจรที่ไหนกัน” ป้ายิ้มให้อย่าเป็นมิตรและมั่นใจในสายตาตัวเองที่มองสายลมแบบนั้น
“ขอบคุณครับ งั้นผมรบกวนฝากของไว้ก่อนนะครับ”
สายลมเดินออกมานอกร้านเห็นจักรยานคันเก่า สีลอกสนิมเกาะตามซี่ลาดล้อทั้งสองข้าง เบาะขาดจนเห็นเนื้อข้างในว่าทำจากวัสดุอะไร แต่ถึงจะเก่าก็ยังดีกว่าต้องเดินเอาแล้วกัน สายลมปั่นจักรยานไปตามทางที่ป้าเจ้าของร้านบอก


สายลมหายไปพักใหญ่ก็กลับมาด้วยสภาพเหงื่อโทรมกาย เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวบางชุ่มไปตัวเหงื่อ เพราะร้านที่ขายไอศกรีมอยู่ห่างไปหลายกิโลได้ จนเขาแอบคิดในใจว่าทำไมไม่เอารถยนต์ออกมาตั้งแต่แรก พอถึงร้านก็รีบเข้าไปเอาของพร้อมกับขอบคุณป้าเจ้าของร้าน ก่อนจะรีบวิ่งกลับมายังที่ปลายฟ้ารออยู่
สายลมถือไอศกรีมมาอย่างดีใจ เพราะมันคงทำให้ปลายฟ้ายิ้มออกมาได้อีกครั้ง แต่พอกลับมาถึงที่ปลายฟ้าไม่ได้นั่งรออยู่ตรงนั้นแล้ว หรือว่าจะลงไปเล่นน้ำอีกรอบ สายลมรีบมองหาไปตามชายทะเล ก็ว่างเปล่าไร้ร่างชองเด็กหนุ่มร่างสูงหน้าตาดีอยู่ในบริเวณนั้น หรือว่าเกิดเรื่องขึ้นกับปลายฟ้า คงเพราะเขาปล่อยให้ปลายฟ้าอยู่คนเดียวนานเกินไป
ความร้อนใจพุ่งพล่านขึ้นมาทันที เขารีบเดินหาบริเวณรอบ ๆ อย่างรวดเร็ว เดินหาจนทั่วริมชายหาดแล้วก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะเจอปลายฟ้า หรืออาจเห็นว่านานแล้วไปรอที่รถก็ได้ เมื่อคิดได้ก็รีบกลับไปที่รถด้วยความร้อนใจ

เมื่อเดินมาถึงมองเห็นเงาคนลาง ๆ นั่งอยู่ในรถ สายลมเริ่มคลายความร้อนใจลงไปบ้าง แต่เมื่อเดินเข้าไปใกล้ก็ทำให้เขาแปลกใจ เพราะเขาเห็นเงาอีกคนอยู่ในรถด้วย เงาอีกร่างกำลังเคลื่อนที่เข้าหาอีกร่างช้า ๆ สายลมกำมือจนแน่นกับภาพที่เห็นจนไอศกรีมในมือเละ สองกำมือบีบกำแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา
ความรู้สึกเจ็บแปรบเกิดขึ้นที่บริเวณหน้าอกด้านซ้ายอย่างกะทันหัน ความรู้สึกเหมือนโดนเข็มเล่มเล็ก ๆ นับหมื่นนับพันทิ่มแทงมันอยู่ ก่อนที่เข็มเหล่านั้นจะเคลื่อนที่ไปตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ความเจ็บปวดจากภาพที่ได้เห็มมันยากเกินกว่าที่จะบรรยายได้ ภาพของคนที่ตัวเองแอบรักกำลังถูกคนอื่นจูบอยู่ตรงหน้า
“ปลายฟ้ามาอยู่นี่เองหรือครับ” สายลมสงบสติอารมณ์แล้วเปร่งเสียงที่สั่นเล็กน้อยออกมาทัก เพื่อหยุดการกระทำของคนทั้งสอง
ทั้งสองคนรีบขยับตัวออกจากันอย่างรวดเร็ว
“พี่สายลม ตอนไหนครับผมนั่งรอตั้งนานได้อะไรมาบ้าง” ปลายฟ้าหันมาทักตอบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
สายลมหันไปมองหน้าอีกคนให้แน่ใจว่าเป็นใคร ก่อนหันกลับมาตอบคำถาม
“เพิ่งมาถึงก็เรียกปลายฟ้าเลยนี่แหละ แล้วคุณก้องมาได้ยังไงครับ” สายลมทักเมื่อรู้ว่าเป็นใคร
“สวัสดีครับคุณสายลม พอดีปลายฟ้าเขาโทรมาบอกตั้งแต่เช้า ผมเพิ่งว่างก็เลยเพิ่งตามมาครับ” ก้องเกียรติ ดารารุ่นพี่ที่กำลังตกเป็นข่าวยิ้มให้
“อ๋อ ครับ แต่ว่าอีกสักพักพวกเราก็คงกลับแล้ว เพราะพรุ่งนี้ปลายฟ้าต้องไปถ่ายหนังแต่เช้า” สายลมพยายามทำตัวให้เป็นปกติ ทั้งที่ยังรู้สึกเจ็บแปลก ๆ ที่หน้าอกข้างซ้ายอยู่ตลอดเวลา
“ครับไม่เป็นไรครับ ผมได้เจอปลายฟ้าแค่นี้ก็หายคิดถึงไปเยอะแล้ว” ก้องเกียรติไม่ลืมหยอดคำหวานให้คนที่นั่งข้าง ๆ
“พี่ก้องก็ไม่ต้องมาหวานให้ผมเลย คนอย่างพี่มีคนอื่นให้คิดถึงเยอะแยะไป” ถึงปากต่อทำเหมือนต่อว่าแต่ปลายฟ้าก็หน้าแดงระเรื่อเพราะความอาย
“เอาเถอะครับ ผมให้เวลาอีก 20 นาที แล้วผมจะกลับมาใหม่” สายลมกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่กว่าจะพูดประโยคนี้ออกมาได้
“นี่ขนมที่พี่ไปซื้อมา ปลายฟ้าเอาไปกินกับคุณก้องแล้วกันนะ” สายลมส่งเพียงถุงขนมให้ โดยซ่อนมือที่กำไอศกรีมจนเละไว้ข้างหลัง
“ขอบคุณครับ” ปลายฟ้ายิ้มให้


สายลมเดินกลับออกมาที่ชายทะเลด้วยอาการชาด้านไปทั้งตัว ภาพที่เขาเห็นมันยากเกินกว่าที่จะตั้งรับได้ในตอนนี้ มือยังกำไอศกรีมที่ตั้งใจหาซื้อไว้แน่น หลังจากคิดว่าปลายฟ้าไม่มีทางเห็นแล้วแน่นอน สายลมวิ่งลงทะเลไปอย่างคนบ้าคลั่ง
‘ว๊ากกกกกกกกกกก ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก’
สายลมก้มหน้าดำน้ำลงไปพร้อมกับตะโกนออกมาสุดเสียง นี่เป็นทางเดียวที่เขาจะระบายความอึดอัดที่มีอยู่ทั้งหมดตอนนี้ออกมาได้ สองมือต่อยลงผืนทรายใต้น้ำจนสุดแรงที่มี ภาพที่เห็นไม่ต่างจากคนสติไม่ดีที่กำลังทะเลาะกับท้องทะเลสีน้ำเงินอันกว้างใหญ่ สายลมเงยหน้าขึ้นมาหายใจเพียงเล็กน้อยก่อนจะทำแบบเดิมอีกครั้ง
เวลาผ่านไปเพียงชั่วครู่ แต่กับสายลมเหมือนเวลาผ่านมาหลายชั่วโมง เขากลับขึ้นมานั่งมองท้องฟ้ายามเย็น ที่พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบผืนน้ำทะเลสีน้ำเงินไป แสงสีแดงเรื่อสาดกลืนกินน้ำทะเลสีน้ำเงินตรงปลายฟ้าเป็นวงกว้าง ถึงภาพที่เห็นตรงหน้าจะดูสวยงามแค่ไหน แต่ความรู้สึกเขากลับไม่ดีขึ้นมาเลย
“ปลายฟ้า พี่อยากเป็นดั่งดวงอาทิตย์จริง ๆ เพราะอย่างน้อยมันก็ยังได้สัมผัสกับปลายฟ้า แม้จะเพียงแค่ช่วงเวลาเดียวก็ตาม” สายลมพูดกับตัวเองกับภาพที่เห็นตรงหน้า ความคิดนี้ทำให้เขาสงบสติอารมณ์ทั้งหมดลงได้ ก่อนที่จะเดินกลับไปหาปลายฟ้าที่รถ

สายลมขับรถพาปลายฟ้ากลับที่พัก ปลายฟ้านั่งหลับอย่างสบายใจอยู่ด้านข้าง ใบหน้ายามหลับยังคงดูไร้เดียงสาเหมือนเดิม แต่ตอนนี้เจือนไว้ด้วยรอยยิ้มเล็ก ๆ
“วันนี้คงมีความสุขมากสินะฟ้า พี่อยากให้ฟ้ามีความสุขแบบนี้ทุกวันจริง ๆ” สายลมใช้มือเสยผมที่ตกปิดหน้าปลายฟ้าออกอย่างแผ่วเบา


========> โปรดติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่4 ท้องฟ้าสีน้ำเงิน P:
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 19-05-2011 18:48:20
ความเหงากับความเดียวดายถูกสายลมโอบเอาไว้เพียงลำพัง เฮ้อ!
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่2 [18/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 19-05-2011 19:14:51
 :-[ คุณหนูเป็นเด็กที่ชอบศึกษาเรียนรู้
พบข้อสงสัยมาก็ต้องเอามาตั้งสมมุติฐาน รวมข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูลโดยเอามาเปรียบเทียบ
แล้วก็สรุปผลการปฏิบัติ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๒. ๑๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๒
เริ่มหัวข้อโดย: แรงเทียน ที่ 19-05-2011 19:40:54
                       (http://upic.me/i/p7/rfred.jpg) (http://upic.me/show/24397222)

ตอนที่ ๓

“ทาน เย็นนี้กินข้าวกับเทียนไหม”
เทียนบุญยกโทรศัพท์หาธรรมทานตอนบ่ายแก่ๆ นับจากที่ปะหน้ากับมณีอารียาในวันนั้นแล้วไม่ได้เจอเขาอีกเลย
“ได้เทียน ที่ไหนล่ะ”
เทียนบุญบอกสถานที่ไปแล้ววางสาย
“กลับมาจากโน่นแทนที่จะช่วยพ่อทำงานนะ ไอ้นิตยาสารนั่นมันจ้างแกเท่าไหร่เทียนพ่อจะให้สามเท่าเลย”
คุณเทียนทิพย์เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าบุตรชายวางสายจากโทรศัพท์
“แหมพ่อ เทียนขอทำตามที่เรียนมาก่อนสิ ไม่นานหรอก ธุรกิจของพ่อสักวันมันก็ต้องเป็นของเทียนอยู่แล้วนี่ ไม่ว่าจะยังไง”
ปากพูดแต่สายตาเหลือบไปมองหญิงวัยกลางคนที่ใบหน้าผุดผาดสะสวย ถ้าให้เดาอายุของเธอคงเป็นไปได้ลำบากแต่ใบหน้างามนั้นกลับก้มมองลงที่พื้นหลบสายตาวาวที่จับจ้องอยู่
“เออน่า แต่ตอนนี้พ่อก็เหนื่อยนะ อย่าให้รอนานล่ะ เดี๋ยวพ่อยกให้น้องมันหมดเลยนะ”
“น้องไหน พ่อลืมไปแล้วเหรอว่าพ่อมีเทียนเป็นลูกคนเดียวนะ เทียนไม่มีน้อง”
“เทียน เอาอีกแล้วนะ”
เสียงของคุณเทียนทิพย์ปรามเพราะน้ำเสียงของเทียนบุญกระแทกกระทั้นสายตายังจิกจ้องมองผู้หญิงคนนั้นอยู่ไม่วางตา
“ตามนั้นล่ะพ่อ เทียนไปอาบน้ำนะ มีนัดกับทาน”
“อย่าลืมนะเรื่องที่จะมาทำงานกับพ่อน่ะ”
เทียนบุญไม่ตอบสะบัดหน้าแล้วเดินจะขึ้นห้องของตน คุณเทียนทิพย์บิดาของเทียนบุญทำธุรกิจส่งออกขนาดใหญ่ หญิงวัยกลางคนที่นั่งก้มหน้าอยู่นั้นคือปาริฉัตร ภรรยาคนที่สองของคุณเทียนทิพย์ เธอตบแต่งกับเขาตอนที่เทียนบุญกำลังเรียนอยู่ปีสองที่อังกฤษเป็นละครเรื่องเดิมที่ฉายวนซ้ำแล้วซ้ำอีกเรื่องเกี่ยวกับแม่เลี้ยงลูกเลี้ยง ไม่มีวันจบ เช่นเดียวกันเทียนบุญไม่เคยมองว่าหญิงคนนี้เป็นมารดา เธอไม่ได้รับเกียรตินั้น ปาริฉัตรมีบุตรติดมาด้วยคนหนึ่ง ทินกร ชายวันรุ่นที่กำลังเรียนอยู่แค่ชั้นมัธยมปลาย แต่ทว่าเทียนบุญไม่เคยพบหน้าคร่าตาของเขาแต่อย่างใด หลายครั้งหลายคราที่บิดาส่งรูปที่ไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆไปให้ แค่เปิดเมล์มาก็ลบทิ้งจนสิ้น เกลียดเข้าไส้
“มาหาใคร”
เทียนบุญเดินอ้อมไปหลังบ้านเพื่อคุยโทรศัพท์กับกริชเพื่อนรัก คุยไปเดินไปจนถึงหน้าบ้าน พอวางสายก็เดินดูต้นไม้หน้าบ้านอย่างสบายใจ เขาเอ่ยถามเด็กนักเรียนที่กำลังเดินเข้าประตูบ้านมา ท่าทางของเขาคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้เป็นอย่างดี
“นี่บ้านผม พี่ล่ะมาหาใคร”
“หึ ฉันควรจะถามเธอมากกว่านะ เข้าบ้านผิดหรือเปล่าน้อง เราเป็นใคร”
“นี่บ้านผม พี่นั่นล่ะเป็นใคร”
เทียนบุญนิ่งมองตั้งแต่หัวจรดเท้า หน้าตาของเขาดูหล่อเหลาสมวัย ตัวสูงเกือบเท่าๆกันกับเทียนบุญ
“อ้อ เข้าใจแล้ว เป็นลูกปาริฉัตรเหรอ”
เทียนบุญแสยะยิ้มถามออกไปสายตายังไม่วางตาจากใบหน้าของเขา
“ใช่ นั่นแม่ผม”
“เหรอ แล้วเคยได้ยินคนชื่อเทียนไหม เทียนบุญน่ะ”
เขาอ้าปากค้างหน้าซีดลงทันที
“นี่พี่คือ”
“ใช่ ฉันนี่ล่ะเทียนบุญ หึหึ ท่าทางเรียนแพงนี่เรา เก่งเนอะแม่เราน่ะ”
“อย่ามาว่าแม่ผมนะ”
“ฉันจะไปมีสิทธิ์ว่าอะไรแม่เธอ กำลังขึ้นหม้อนี่ แล้วเจอผู้ใหญ่ไม่กราบทักทายเหรอ”
เลือกใช้คำว่ากราบเพราะเขาตั้งใจให้ทินกรทำเช่นนั้นจริงๆ ทินกรอึกอัก
“หวัดดีพี่”
“ฮึ คงได้แค่นี้สินะ”
“อะไรครับพี่”
“มารยาทน่ะ คงจะเต็มที่แล้วสินะ อย่าวุ่นวายนะถ้าอยากอยู่อย่างเป็นสุข ฉันจะทำให้รู้เองว่าต้นไม้ใหญ่บางทีมันก็ไม่ต้องการกาฝาก”
แสยะยิ้มให้แล้วเดินหนีไป ทินกรกัดฟันแน่น ปาริฉัตรเคยบอกเขาแล้วว่าเทียนบุญไม่ชอบเลยกับการเข้ามาในครอบครัวของคุณเทียนทิพย์ของคนทั้งสอง บอกเขาตลอดให้ระวังการเผชิญหน้า เพราะปาริฉัตรเองเคยเจอฤทธิ์เดชมาแล้ว ไม่อยากให้บุตรชายต้องเจออะไรที่ตนเองเคยเผชิญมา
“ทานคะเย็นนี้ว่างไหม ทานข้าวกับเมย์นะคะ เมย์มีเรื่องอยากจะปรึกษาหน่อย”
มณีอารียาเองก็ยกหูขึ้นโทรศัพท์หาชายที่เป็นที่ต้องการของใครๆ
“เอ่อ เมย์คือทานนัดกับเทียนเอาไว้แล้วน่ะ ขอโทษด้วยนะ”
ธรรมทานบอกออกมาตามความจริง ข้อดีของเขาก็คือเกรงใจคน แต่ข้อดีอันนี้มันดีจริงหรือ
“ค่ะ แล้วยังไงคะ เมย์ไปกินข้าวด้วยไม่ได้เหรอ ไหนบอกว่าเป็นแค่เพื่อนกันไงคะทาน”
มณีอารียานิ่งกัดฟันอยู่พักใหญ่จึงเอ่ยขึ้น สายตาจิกมองไปยังตู้เครื่องเพชรเหมือนว่าตู้นั้นได้ทำความขัดเคืองใจให้เธอ
“เอ่อ จะดีเหรอเมย์”
“ถ้างั้นเมย์ไม่ไปก็ได้ค่ะทาน ถ้าทานรังเกียจเมย์น่ะ”
“ไม่ใช่แบบนั้นจ๊ะเมย์ ได้ครับได้ แล้วเจอกันนะ”
ธรรมทานบอกสถานที่และเวลามา มณีอารียาพอวางสายก็กำโทรศัพท์แน่น
“ตกลงนี่จะเอาให้ได้ใช่ไหมอีกะเทย ได้ เราจะได้เห็นดีกัน”
มณีอารียากัดฟันแน่น พอจวนถึงเวลาก็บึ่งออกจากร้านไปยังที่นัดหมายทันที เธอไปถึงก่อนเวลานัดเลือกที่นั่งที่ลับตาคน สักพักเทียนบุญก็มาถึง มณีอารียาลุกขึ้นจากที่
“อ๊ะนี่แก อย่าบอกนะว่า”
เทียนบุญทำหน้าตาตกใจแต่ก็เก็บอาการเอาไว้ในทันท่วงที
“ตายจริง โลกมันกลมเสียจริงนะเธอ ไม่คิดว่าจะเจอที่นี่”
“นั่นสินะ มีที่อื่นให้ไปตั้งเยอะแยะ ทำไมไม่ไป”
“ก็เหมือนผู้ชายมีล้นโลกทำไมไม่ไปหาคนอื่น มายุ่งกับของที่เขามีเจ้าของแล้วทำไมเนอะ คนเรา หน้าหนาหน้าทนที่สุด”
“ฮึ ก็เพราะมันอร่อยไงเธอ เธอเองก็อยากกินจะแย่อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ อยากกินน่ะขอให้บอกนะ จะแบ่งให้ ของเหลือน่ะคงจะชอบ”
มณีอารียาถลึงตากัดฟันแน่น แววตามาดหมายให้ถึงกับความมลายหายสิ้นไปจากโลกนี้เลยทีเดียว
“อ้าว มากันแล้วเหรอ”
เสียงร้องทักมาแต่ไกลเพราะเห็นท่าทีของทั้งสองคนที่ยืนประจันหน้ากันอยู่ ธรรมทานรีบเดินเข้ามา
“ค่ะทาน เมย์เพิ่งถึงเมื่อครู่นี่เองจ๊ะ”
มณีอารียาทำเสียงหวานยิ้มให้แล้วเดินเข้าไปกอดแขนของธรรมทาน อีกคนยืนกำหมัดกัดฟันจนกรามปูนนูนออกมา
“ทาน นี่อะไร”
แผดเสียงขึ้นสูงสายตาก็เป็นไปในทำนองเดียวกัน
“เอ่อ”
“เมย์ขอทานมากินข้าวด้วยเองล่ะค่ะคุณเทียน รังเกียจไหมคะ คงไม่นะคะ”
มณีอารียายิ้มหวานให้เทียนบุญแต่ในแววตานั้นแฝงไปด้วยความสาแก่ใจ เธอถามเองตอบเองเทียนบุญจึงได้แต่กัดฟัน
“ไม่เลยครับคุณเมย์ ไม่รังเกียจเลย”
เน้นคำว่ารังเกียจ สายตาเย้ยหยันแต่ก็ฉาบไปด้วยรอยยิ้ม
“ไปสั่งอาหารกันเถอะ ทานหิวแล้วเมย์”
ธรรมทานดูเอาใจใส่มณีอารียาเป็นพิเศษ ซึ่งการแสดงออกเช่นนี้ทำให้ในใจของเทียนบุญเหมือนดังกำลังสุมไปด้วยเปลวเพลิง
“งานเป็นไงบ้างทาน”
เทียนบุญเอ่ยขึ้นยิ้มให้ มันหวานฉ่ำเป็นพิเศษ
“ก็ดีเทียน เคลียร์เอกสารอยู่ ที่บ้านทำไว้วุ่นวายไปหมด รับช่วงต่อนี่เหนื่อยเหมือนกันนะ
“แล้วน้องลลิตล่ะเป็นไงบ้าง ไปวันนั้นไม่ยักเจอ”
“ก็เหมือนเดิมมันนั่นล่ะ มันมีโลกส่วนตัวเราเองก็ไม่ได้คุยเท่าไหร่หรอก”
“ใช่ค่ะน้องริชดื้อเงียบนะคะทาน เหมือนทานเลยนะเมย์ว่า”
สายตามองไปที่เทียนบุญแล้วแสยะยิ้ม เทียนบุญตำหนิมณีอารียาออกมาทางสายตา
“แล้วงานของเทียนล่ะโอเคไหม”
“ก็ดี เนี่ยเทียนต้องเปิดตัวคอลั่มใหม่ เหนื่อยเหมือนกันเพราะเป็นงานแรก”
“ดีๆเทียน คอลั่มใหม่เหรอ เกี่ยวกับอะไร”
“ก็เกี่ยวกับซุบซิบคนในวงการน่ะทาน เราได้ปลายฟ้าดารานักแสดงที่เขาบอกว่าดังที่สุดในเมืองไทยในตอนนี้มาเปิดตัวคอลั่มใหม่ให้ด้วยนะ”
เอ่ยออกมาอย่างภาคภูมิใจ แต่คำพูดนี้ทำให้มณีอารียานิ่งสายตาครุ่นคิด ไม่นานก็ฉายยิ้มออกมา หลังจากนั้นเธอไม่กล่าวอะไรอีก
“วันนี้เลยไม่ได้ไปส่งเลย ขับรถมาเองกันทุกคน”
ธรรมทานเอ่ยขึ้นหลังจากเดินมาที่จอดรถ
“ไม่เป็นไรหรอกทาน เทียนว่าจะแวะไปหาเพื่อนน่ะ ยังไม่กลับ”
“ใช่ค่ะทานเมย์เองก็จะแวะกลับไปที่ร้านดูความเรียบร้อยหน่อย ทานกลับก่อนเถอะค่ะ วันนี้ขอบคุณนะคะทาน”
มณีอารียาเอยขึ้น ธรรมทานเดินขึ้นรถไปก่อนใครเพราะสองคนยังรอท่าทีกันอยู่
“หน้าหนานะคนบางคน เขาไม่ได้เชิญก็มา”
เทียนบุญเปิดฉากแล้วแสยะยิ้มออกมา
“ค่ะ ก็หนาพอๆกันล่ะค่ะ เพราะถ้าไม่หนาก็คงไม่มาวอแวคนที่เขามีเจ้าของอยู่แล้ว จริงไหมคะ”
“ใครแย่งใคร เลิกใช้ซะทีคำว่าแย่ง เพราะฉันมาก่อนเธออีกนะ”
“มาก่อนมาหลังไม่สำคัญหรอกค่ะหล่อน สำคัญที่ใครจะได้ไม่ใช่เหรอ”
เทียนบุญกัดฟันแน่น ถลึงตาใส่อย่างไม่ต้องมาแสร้งแกล้งทำเหมือนตอนอยู่ในร้าน
“ได้ อยากได้ก็มาแย่งเอา เราจะได้เห็นดีกัน”
“ค่ะ ก็ระวังตัวไว้หน่อยก็ดีนะคะ เคยผิดหวังอะไรมากๆไหมคะ คงจะไม่เคยสินะ เพราะคนที่มัวแต่เงยหน้ามองไปบนฟ้าน่ะคงไม่มองดูพื้นดิน เขาบอกว่าเวลาล้มเพราะสะดุดนี่เจ็บนะคะ”
“เธอเองก็เหมือนกันนั่นล่ะ เคยแห้วไหมล่ะ คนที่คิดว่าจะเป็นของตัวแต่ก็พลาดหวังไปน่ะ คิดๆเผื่อไว้ก็ดีนะ เวลาผิดหวังขึ้นมามันจะได้ไม่เจ็บมาก ไม่อยากซุบซิบในคอลั่มว่าสาวไฮโซอกเดาะคิดสั้นอะไรแบบนี้”
“หึหึ คงไม่ใช่คนอย่างมณีอารียาหรอกค่ะ แล้วจะได้รู้กัน”
มณีอารียาเดินสะบัดหน้าขึ้นรถไป เทียนบุญเองก็เม้มปากโกรธขึ้นมา ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ ไม่เคยเจอ
“เหนื่อยไหมเมย์ ทำงานคนเดียวท่าทางจะเหนื่อย มานั่งนี่ก่อนลูก”
คุณมณีภัสสรเอ่ยขึ้น หญิงผู้เป็นประมุขใหญ่ของบ้าน แต่ตอนนี้เธอกำลังป่วยกระเสาะกระแสะด้วยโรคหัวใจที่รุมเร้า บ้านมีสองหลังที่นี่และที่โรงพยาบาลนั่นเอง
“นิดหน่อยค่ะม้า ม้าทานยาแล้วเหรอคะ”
“จ๊ะ ดูเครียดไปนะเมย์มีอะไรหรือเปล่าลูก”
สายตาของมารดาไม่มีผิด แต่การตอบของบุตรีไม่ควรจะตอบโดยตรงเพราะรู้ดีอยู่แก่ใจว่าคำตอบนี้มันจะเสียดใจมารดาเพียงใด
“ก็เรื่องงานเปิดตัวร้านใหม่นั่นล่ะค่ะม้า แต่ไม่มีอะไร เมย์แค่อยากให้มันออกมาดูดีที่สุดเท่านั้นเองเลยเครียดไปหน่อย”
มณีอารียายิ้มแห้งๆไม่อยากหมารดาของตนหนักใจในเรื่องที่สุมอยู่ในอก
“อย่าหักโหมมากนะลูก เหนื่อยก็พัก นี่ถ้าตาเจเรียนจบม้าจะให้ช่วยงานเราเต็มที่เลยนะ”
“แหมม้าคะ เจมันเพิ่งจะเรียนปีหนึ่งเองนะคะ กว่าเจจะจบร้านเมย์ก็อยู่ตัวพอดี”
“นั่น พูดถึงก็มาโน่นแล้ว ว่าไงพ่อตัวดี”
มกุฏโกเมน คือบุตรชายคนเล็กของคุณมณีภัสสร มกุฏโกเมนกำลังศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยชื่อดังย่านรังสิตชั้นปีที่สอง
“อ้าวพี่เมย์ หวัดดีครับม้า เหนื่อยอ่ะวันนี้ วาดรูปทั้งวันเลย”
“บ่นนะเรา นี่ดูพี่สาวเราซิ ทำงานอยู่คนเดียวไม่บ่นสักคำ นี่ไปเรียนนั่งเรียนนะไม่ได้ยืน รีบเรียนให้จบแล้วออกมาช่วยพี่แกทำงาน”
“โหม้า ผมเรียนถาปัตย์นะ ไม่ได้เรียนขายเพชร”
มกุฏโกเมนทำเสียงล้อเลียนแล้วหัวเราะเข้าไปหยอกล้อมารดา
“นั่นไงดูสิเมย์น้องชายเราน่ะมันหาทางไปจนได้ คุยกันเองก็แล้วกัน แม่ไม่อยากจะยุ่งแล้ว สร้างไว้ให้เยอะแล้วสานต่อเอง ไม่สานต่อก็เอาไปบริจาคเขาให้หมด”
“โหยม้าอ่ะ ใครจะกล้าเนอะพี่เมย์เนอะ”
“นี่เจ อาทิตย์หน้าน่ะ วันศุกร์ว่างไหมพี่อยากหเรามาช่วยงานเปิดตัวร้าน”
“ต้องดูก่อนนะพี่ กี่โมงล่ะ”
“เจก็ไปตั้งแต่บ่ายๆนั่นล่ะ มีเพื่อนอยากรับงานพิเศษไหม พี่จะจ้าง”
“งั้นโอเคเลย ฮ่าๆ”
มกุฏโกเมนคือความคาดหวังของคุณมณีภัสสรตามความคิดของครอบครัวคนจีนที่ลูกชายต้องเป็นใหญ่ในบ้าน เขาเองก็ทำตัวดีมาโดยตลอดไม่เคยนอกลู่นอกทาง เด็กหนุ่มอายุ ๑๙ ปีกับภาระหน้าที่ที่ตั้งตระหง่านรออยู่เบื้องหน้า
“นะคะทาน ช่วยเมย์หน่อยได้ไหม เมย์ขอร้องล่ะ”
มณีอารียาแสยะยิ้มออกมาเมื่อโทรศัพท์ไปหาคู่หมั้น ปลายสายอึกอักอยู่แสดงความลำบากใจออกมาทางเสียงหายใจ
“เอ่อ แต่เทียนเขานัดไว้แล้วนี่เมย์มันจะดีเหรอ”
“ทานคะ ก็นี่ไงคะอยากให้ทานวานไปขอร้องเทียนให้หน่อย เมย์อยากได้ตัวของปลายฟ้าจริงๆนะคะ งานก็เลื่อนไม่ได้ด้วยเพราะแจกบัตรเชิญออกไปหมดแล้ว ถ้าได้ปลายฟ้ามาต้องดังแน่ๆเลยค่ะทาน นะคะช่วยเมย์หน่อยได้ไหม”
“แล้วจะให้ทานไปบอกเทียนว่ายังไงล่ะเมย์”
ธรรมทานเอ่ยออกมาน้ำเสียงทำให้มณีอารียากัดริมฝีปากแน่น โง่ เธอพูดออกมาทางสายตาซึ่งชายหนุ่มคู่หมั้นไม่มีทางได้เห็น
“ก็แบบนี้สิคะทาน ทานก็บอกเทียนไปว่าจะใช้ปลายฟ้าทำงานให้เกี่ยวกับโฆษณาตัวใหม่ของบริษัทของทานน่ะค่ะ เมย์เชื่อว่าถ้าทานขอ เทียนเขาจะยอม”
ความไว้วางใจที่มีให้ธรรมทานมันมากมายจนเทียนบุญเองไม่คิดว่าเขาจะปิดเรื่องคู่หมั้น แต่เรื่องนี้ก็กำลังสะสางหาทางออกอยู่ แต่เรื่องวันนี้ยิ่งเพิ่มความเคียดแค้นในใจให้เทียนบุญเป็นอย่างมาก
“เทียน ทำไรอยู่ครับ”
กำลังคิดถึงอยู่พอดี
“ทาน ดึกป่านนี้ยังไม่นอนเหรอ”
พยายามกดเสียงไว้ไม่ให้แสดงอาการโมโหออกมา
“ก็คิดถึงเทียนไง อยากเจอเทียนจัง”
“อย่ามาโกหก วันนี้อะไรทาน อธิบายได้ไหม ทานทำแบบนี้กับเทียนได้ยังไง ที่เทียนอยากกินข้าวด้วยน่ะทานนะ ไม่ใช่คู่หมั้นของทาน”
หวีดเสียงขึ้นสูงสายตาจ้องจิกไปยังหน้าต่างห้อง
“แหมเทียน ก็เมย์เขาขอร้อง ทานเองก็ไม่ได้อยากให้เขาไปด้วยหรอกนะ”
นี่คือผู้ชายที่กุหลาบสองดอกนี้แย่งกันครอบครอง ลมปากที่เปลี่ยนไปตามทิศของลม
“เทียน ทานมีเรื่องอยากจะขอเทียนหน่อยน่ะ”
“อะไรเหรอทาน”
“เรื่องตัวนายแบบน่ะ พอดีทานต้องยิงโฆษณาตัวใหม่ อยากได้ปลายฟ้ามาก และวันก็ตรงกับวันของเทียน เอ่อ เทียนเลื่อนวันของเทียนไปก่อนได้ไหมอ่ะ”
“อะไรกันทาน ทำไมเพิ่งจะมาบอก เทียนนัดนักข่าว นัดสถานที่ทกุอย่างไว้หมดแล้วนะ จะมาบอกกระทันหันแบบนี้ไมได้หรอกนะทาน”
“โธ่นะเทียน นะขอร้องล่ะ ทานจำเป็นจริงๆ เดี๋ยวเราค่อยคุยกันดีกว่า เดี๋ยวทานไปหาเทียนตอนนี้เลยนะ”
“อ๊ะ ทาน”
เขาวางสายไปแล้ว เทียนบุญยืนนิ่งกัดฟันอยู่ ตอนนี้ภายในใจคิดไปไกลแสนไกล เพื่อคนที่เขารักควรจะทำไหม ทำอะไรได้อีกไหมนอกจากทำแบบนี้
“ฮึ ดึกดื่นป่านนี้ยังไม่นอน จะผลาญไปถึงไหน นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว”
เทียนบุญเดินลงมาชั้นล่างเห็นทินกรกำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่คนเดียว หาที่ระบายอารมณ์ เป็นคราวเคราะห์ของทินกร เขาหันหน้ามาทำหน้างงๆ
“ใคร ผมเหรอ”
“ผีมั้ง ตอนนี้มีแกกับฉันอยู่สองคน จะใครล่ะ อาศัยเขาอยู่น่ะ หัดเกรงใจเสียบ้างนะ”
“เอ่อ”
“แล้วจะนั่งอีกนานไหม ที่พูดคืออยากให้ไป ไปสิ ต้องให้ไล่ออกมาเหรอถึงจะเข้าใจ”
จิกเสียงถลึงตาใส่ทินกร เขาเองเม้มปากแน่น แต่ก็ยอมเดินหนีไป ใจจริงอยากจะเข้าไปต่อยปากสักที แต่ก็สำเหนียกตัวเอง มันจริงอย่างที่เขาพูด ทินกรเองไม่ได้อยากมาเป็นลูกเมียน้อย ไม่เคยคิด
“รอนานไหมครับที่รัก”
“ไม่นาน มีอะไรเหรอทาน”
พอเจอหน้าก็ปรี่เข้ากอดหอมเหมือนคนไม่เจอกันนานเป็นชาติ
“ก็คิดถึงไงครับที่รัก คิดถึงมากนะรู้ไหม ตั้งแต่กลับมาจากอังกฤษเราไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกันเลยนะ”
“ถ้าจะมาเพราะเรื่องนั้น ลืมมันไปได้เลยนะทาน”
“โธ่เทียนอ่ะ นะนะ ต้องให้ทานทำยังไงเทียนถึงจะยอม ทานจำเป็นจริงๆนะ”
ธรรมทานกอดหอมมือไม้ก็ป่ายไปทั่วร่าง
“ไม่เอาทาน ไม่เอาตรงนี้ ขึ้นไปบนห้องดีกว่า”
เทียนบุญลากแขนของธรรมทานขึ้นไปชั้นบนในทันที เขาเองก็เดินตามขึ้นไปสายตากระหยิ่มยิ้มย่องออกมา
“เทียนสุดยอดไปเลยครับที่รักของทาน”
ลีลารักที่ร้อนแรง ธรรมทานไม่ต้องออกแรงอะไรมากเลย แค่ครางออกมา ตอบสนองบ้างในบางลีลา นอกนั้นเทียนบุญเป็นคนจัดการเองทั้งหมด
“อ่า เทียน ทานไม่ไหวแล้วนะ”
“อย่าเพิ่งหยุด ทาน อย่าเพิ่ง”
เสียงครางกระเส่าที่ดังไม่เกรงกลัวใครดังลั่นไปทั้งห้อง โชคดีที่บ้านหลังนี้ใหญ่โตเพราะไม่เช่นนั้นเสียงคงเล็ดลอดออกไปปลุกคนทั้งบ้าน
“เทียนยอมทานคนเดียวนะรู้ไหม”
“ครับที่รัก น่ารักที่สุดเลย”
“ฮึ น่ารักแต่มีคู่หมั้นไม่บอกเทียนสักคำน่ะเหรอทาน”
“โอ๋ๆ อย่างอนสิครับที่รัก ก็บอกเทียนไปแล้วไง ว่ามันเป็นแค่ธุรกิจ”
“แต่อีนั่นมันฤทธิ์แรงมากนะทานมันด่าเทียนนะ”
“หือ เมย์น่ะเหรอเทียน”
“เอาเถอะ ทานไม่จำเป็นต้องรู้หรอก แค่ยังเหมือนเดิมแค่นี้ก็พอ เทียนจะจัดการเอง”
สายตาของเทียนบุญฉายแววเกลียดชังออกมา เขาซุกหน้าอยู่บนแผงอกของธรรมทานที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ มันไม่วันได้ทั้งตัวทั้งหัวใจของเขาไปครอง ไม่มีวัน


โดย แรงเทียน
หัวข้อ: text
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 19-05-2011 19:43:29
รอ nc นะคะ  5555

หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่2 [18/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 19-05-2011 19:51:14
รอ nc นะคะ  5555

:o8: คนแต่งไม่ค่อยไม่ประสบการณ์นะครับ ไม่รู้จะมีฉากนั้นหรือป่าว
อีกอย่างคุณหนูก็ยังเด็ก
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๓. ๑๙ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 19-05-2011 20:12:23
ยังแรงเหมือนเดิม แล้วปลายฟ้าผมจะโดนอะไรด้วยไหมนี่  :o12:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่4 ท้องฟ้าสีน้ำเงิน P:3UP!
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 19-05-2011 20:15:48
อืมมม  รักเขาข้างเดียวเหมือนข้าวเหนียวนึ่ง  น้ำท่วมไม่ถึงก็แห้งแหงแก๋  เฮ้อออ
หัวข้อ: Re: The rainbow project[Blue]"หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า"ตอนที่4ท้องฟ้าสีน้ำเงินP:3/19/5/11
เริ่มหัวข้อโดย: อนันตกาล ที่ 19-05-2011 20:18:42
ถ้ากาลเขียนนะ รับรองว่าสายลมนะ ตายชัว แล้วให้ปลายฟ้าช้ำใจกอดศพ แบบนั้นคงแฮปปี้สุดๆ   :laugh:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๓. ๑๙ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 19-05-2011 20:28:43
ตัวละครเยอะ  ค่อย ๆ ออกมาเรื่อย ๆ จนตอนนี้เดาไม่ถูกแล้วว่าใครคือพระเอก
คนนั้นก็น่าใช่  คนนี้ก็น่าจะใช่  แต่เทียนนี่ตัวเอกแน่นอน  แร๊งงงงง
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๓. ๑๙ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 19-05-2011 20:52:24
ไฟกิเลสในใจคน
เผาไหม้เร่าร้อนรุนแรง หากใครยิ่งเติมเชื้อโหมแรงเข้าอีก
 
กว่าจะมีใครมาดับให้มอดลงได้
ไฟคงลามลุกไหม้จนเกรียมก่อนกระมัง เฮ้อ!
หัวข้อ: Re: The rainbow project[Blue]"หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า"ตอนที่4ท้องฟ้าสีน้ำเงินP:3/19/
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 19-05-2011 20:54:12
โหดร้ายจริงๆ
ผู้หญิงคนนี้
กระซิกๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่2 [18/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 19-05-2011 20:55:34
จะพยายามเชื่อแล้วกันค่ะ หุๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project[Blue]"หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า"ตอนที่4ท้องฟ้าสีน้ำเงินP:3/19/5/11
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 19-05-2011 21:02:46
มากอะ เอะอะก็จะให้ตายอย่างเดียวเลย :o12:
หัวข้อ: Re: The rainbow project[Blue]"หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า"ตอนที่4ท้องฟ้าสีน้ำเงินP:3/19/5/11
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 19-05-2011 21:08:36
ทำไงได้ ตัวเองยังไม่กล้าบอกออกไป ก็ได้แต่มองดูเค้ากับชายอื่นเท่านั้นแหละ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๓. ๑๙ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 19-05-2011 21:12:08
ตอนนี้ยังหาคนที่จะสงสารไม่ถูกเลยครับ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่2 [18/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Goodfellas ที่ 19-05-2011 21:42:32
แวะมาดูโปรเจคใหม่คร้าบ  o13
หัวข้อ: Re: The rainbow project[Blue]"หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า"ตอนที่4ท้องฟ้าสีน้ำเงินP:3/19/5/11
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 19-05-2011 21:43:26
พี่สายลมจะต้องแอบรักอีกนานเท่าไหร่ :z3:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่4 สาเหตุที่ไม่ยอมกินข้าว(30)19/11
เริ่มหัวข้อโดย: ภาพฝัน ที่ 19-05-2011 21:58:23
   เตชวัฒน์ยืนอยู่หน้าห้องของวริศรินทร์นี่เป็นวันที่สองที่เขาจะได้ร่วมงานกับนายแบบหนุ่มผู้ไร้มนุษยสัมพันธ์ เขาเหลือบมองเวลา นี่เพิ่งจะ7โมงเช้า แต่วริศรินทร์มีงานถ่ายแบบเช้าในสตูดิโอตอน10โมง เขาเลยต้องมาก่อนเวลามากอยู่เพราะตอนเช้าๆ แบบนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าในกรุงเทพรถมันติดขนาดไหน เขากดกริ่งหน้าประตูตามปกติ ไม่มีเสียงตอบรับอีกเหมือนเดิม เขาตัดสินใจไขกุญแจห้องเข้าไป เมือมองไปรอบๆ สายตาเขาไปปะทะกับร่างของไนท์ที่นั่งอยู่ที่ราวระเบียง แสงแดดยามเช้า

   วริศรินทร์สวมกางเกงยีนส์ตัวเดียวนั่งกอดพิงกำแพงอย่างหมิ่นเหม่ แสงแดดที่ส่องมาจางๆ ยิ่งทำให้คนตรงหน้าขาวซีดมากกว่าเก่า ดวงตาปิดสนิทเหมือนคนนอนหลับ เตชวัฒน์เดินเข้าไปอยู่ใกล้ๆ เขาไม่แน่ใจว่าคนตรงหน้านอนหลับหรือเพียงนั่งหลับตา

   “ไนท์” เสียงเรียกที่ไม่ดังนักแต่กลับทำให้คนตรงหน้าสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ ท่านั่งที่หมิ่นเหม่ทำให้ไนท์เสียหลังเหมือนจะตกลงไป เพียงเสี้ยงวินาที เตชวัฒน์คว้าตัวร่างโปร่งเข้าสู้อ้อมกอดได้ทันท่วงทีก่อนที่จะร่วงลงไป ร่างของเตชวัฒน์กอดวริศรินทร์แน่น เสียงหัวใจของเขาเต้นถี่ระรั่ว

   “พี่เต” เสียงแหบแห้งของวริศรินทร์ดังขึ้นมา เมื่อเขาได้ยินเสียงหัวใจของอีกฝ่าย อ้อมแขนแข็งแรงยึดร่างของเขาอาไว้จนไม่สามารถขยับได้


.......................................




เดี๋ยวมาต่อ ติดงานแป๊บ อิ ใครอ่านแล้วไม่เม้น ขอให้ลงพุง 

ส่วนที่บอกว่าเค้าพิมพ์ผิดเยอะที่สุด ขอโทษนะค้า ไม่มีเวลาเช็ค ยุ่งมากค่า เขียนนิยาย3เรื่องต่อวัน กับกำลังจัดหน้านิยายที่กำลังรวมเล่มอยู่ เหนื่อยมากกก

เดี๋ยวอีก70เปอเซ็นที่เหลือมาดึกๆ 
>><  ฝากหนูไนท์กับเหล่าบรรดานักอ่านด้วยนะค่ะ  เอ็นดุไนท์กันหน่อย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่4 สาเหตุที่ไม่ยอมกินข้าว(30)19/11
เริ่มหัวข้อโดย: k_sleepless ที่ 19-05-2011 22:03:29
กิสๆๆๆๆๆๆ...เริ่มหวานปะแล่มๆๆๆๆๆ...พี่เตนี่น๊าาาาาเหมือนเป็นผู้พิทักษ์ (ชีวิต)ประจำตัวไนท์เลย ช่วยชีวิตไว้ได้ตลอดดดดดดดดดด  :impress2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่4 สาเหตุที่ไม่ยอมกินข้าว(30)19
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 19-05-2011 22:07:12
เล่นแบบนี้เลยเหรอคะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่4 สาเหตุที่ไม่ยอมกินข้าว(30)19/11
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 19-05-2011 22:33:28
เอ่อ  มารอๆ  :pig4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่4 สาเหตุที่ไม่ยอมกินข้าว(30)19/11
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 19-05-2011 22:40:23
โอ๊ะโอ๋ รอๆ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๓. ๑๙ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 19-05-2011 22:51:50
เทียนเหวี่ยงเก่งเหมือนใครเนี่ย o18
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่4 สาเหตุที่ไม่ยอมกินข้าว(30)19/11
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 19-05-2011 22:53:11
ใจเต้นรัวๆๆๆๆ ตามเตไปอีกคน
หลงรักผู้ชายมืดมนซะแล้ว
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๓. ๑๙ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Goodfellas ที่ 19-05-2011 22:54:56
ขยันจริงอะไรจริงน๊อ อิอิ  o13
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่4 สาเหตุที่ไม่ยอมกินข้าว(30)19/11
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 19-05-2011 23:17:43
ค้างงงงง
หัวข้อ: Re: The rainbow project[Blue]"หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า"ตอนที่4ท้องฟ้าสีน้ำเงินP:3/19/5/11
เริ่มหัวข้อโดย: onjazz26 ที่ 19-05-2011 23:38:12
เอาอีกแย้วววนะ....ตาบูลเรนเจอร์ :m16:
ทำกับปี๋สายยมอีกแย้วววววววว :serius2:

ทำไมเหล่าเรนโบว์เรนเจอร์....ออกงานกันบ่อยจัง o16
อ่านไม่ทันแล้ว...
แต่ว่าดีนะ.....ชอบๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่4 สาเหตุที่ไม่ยอมกินข้าว100
เริ่มหัวข้อโดย: ภาพฝัน ที่ 20-05-2011 00:07:50
   “พี่เต” เสียงแหบแห้งของวริศรินทร์ดังขึ้นมา เมื่อเขาได้ยินเสียงหัวใจของอีกฝ่าย อ้อมแขนแข็งแรงยึดร่างของเขาเอาไว้จนไม่สามารถขยับได้

   “ไนท์ทำอะไร” เตชวัฒน์ดึงร่างของนายแบบหนุ่มให้ลงมาจากราวระเบียง วริศรินทร์ลงมายืนทรงตัวอยู่กับพื้นด้วยใบหน้าเรียบเฉย เตชวัฒน์สัมผัสได้ถึงผิวกายที่เย็นเฉียบ เขาดึงร่างโปร่งให้เข้ามาในห้อง

   “ไนท์” เตชวัฒน์ส่งเสียงเรียกอีกฝ่ายที่ยังคงทำหน้าเรียบเฉย เตชวัฒน์เดินเข้าไปใกล้และจับไหล่อีกฝ่ายให้หันหน้ามาประจันกัน

   “เราต้องคุยกันนะไนท์ ทำไมไนท์ไปนั่งอยู่แบบนั้นมันอันตรายรู้ไหม” เตชวัฒน์จำความรู้เมื่อครู่ได้เป็นอย่างดี วินาทีที่ร่างของวริศรินทร์เสียหลักเหมือนจะร่วงลงไปถ้าเขาคว้าไว้ไม่ทัน แค่คิดเขาก็รู้สึกเย็นเฉียบไปทั้งตัว

   “ทำงาน” สิ่งทีไนท์พูดไม่ใช่การตอบคำถามแต่เป็นการเปลี่ยนเรื่อง เตชวัฒน์รู้ดีแต่เมื่อมองเวลาแล้วเขาก็พบว่าสมควรจะออกไปได้แล้ว วริศรินทร์เดินไปหยิบเสื้อในตู้เสื้อผ้าแล้วก้าวนำออกไป ปฏิกิริยาของอีกฝ่ายทำให้เขารู้ว่าไนท์คงไม่พูดอะไรกับเขามากไปว่านี้

   การที่วริศรินทร์เดินนั่งที่เบาะหลังแล้วใช้ผ้าห่มที่หยิบมาจากบนห้องล้มตัวลงนอนโดยไม่พูดกับเขาแบบนี้ แสดงให้เห็นถึงความต้องการที่จะตัดการสื่อสารของเขาออกแต่เตชวัฒน์ก้ไม่ได้ละความพยายาม

   “ไนท์พี่ซื้อแซนวิชมาให้ ทานรองท้องซะ เจ้านี้อร่อย ทุกอย่างเป็นโฮมเมดแล้วก็น้ำส้มคั้นทานรองท้องซะ” เตชวัฒน์ยื่นถุงแซนวิชที่อยู่ข้างๆให้กับไนท์  ไนท์ลุกขึ้นนั่งรับทั้งสองอย่าง ภาบในเป็นแซนวิชไข่ดาว และเนื้อหมูซ้อนกันเป็นชั้นๆสลับกับผักสด ซึ่งเต็มไปด้วยสารอาหาร สายตาเตชวัฒน์มองผ่านกระจกแล้วพบว่าไนท์มองแซนวิชในมือนิ่ง สักพักหนึ่งถึงวางลงแล้วหยิบน้ำส้มคั้นขึ้นมาดื่มจนหมดแล้วล้มตัวนอน

   ตลอดเวลาสางชัวโมงกว่าบนท้องถนนในรถมีแต่ความเงียบ เขาขับรถไปเรื่อยๆ รู้สึกหงุดหงิดกับการเดินทางที่แสนติดขัด กับวริศรินทร์ที่เอาแต่เงียบไม่ยอมพูดอะไร เขาตัดสินใจเปิดเพลงเบาๆ เพื่อหวังจะคลายความเครียด

   “อยากให้สายลมช่วยกล่อมให้ฉันนอนตาหลับ ให้ฉันลืมหมดทุกๆ สิ่ง อยากจะฝันดี ไม่ตื่นมาพบความเป็นจริง ชีวิตที่ไม่มีเธอไม่มีหัวใจ” เสียงเพลงที่ดังมาจากวิทยุ เพลงที่วริศรินทร์เคยร้องที่ระเบียงที่พวกเขาพบกันครั้งแรก

   “อยากให้สายลมช่วยกล่อม ให้ฉันนอนตาหลับ ให้ฉันลืมหมดทุกๆ สิ่ง” เสียงไนท์พึมพำในท่อนถัดมา เตชวัฒน์หันกลังกลับไปมอง วริศรินทร์ไม่ได้หลับเขาเพียงแค่นอนลงแต่ไม่ได้หลับตา

   “ชอบเพลงนี้เหรอ” เขาลองเลียบๆเคียงๆดู

   “อื้อ” เสียงตอบในลำคอ แม้จะไม่ได้พูดแต่อีกฝ่ายก็รับรู้ เสียงเพลงที่ดังขึ้นมาเบาๆ จากเพลงที่ได้ยิน เพลงนี้หมายถึงคนที่อยากตาย ถ้าไนท์ชอบเพลงนี้แสดงว่าไนท์อยากตายงั้นเหรอ

   “เลี้ยวซ้าย” เตชวัฒน์ที่กำลังเหม่อหลุดออกมาจากภวังค์เมื่อเขาพบว่าเขากำลังจะขับเลย ดีที่วริศรินทร์เตือนทันไม่งั้นเขาต้องอ้อมรถไปอีกไกลซึ่งมันทำให้เสียเวลาเป็นอย่างมาก

   “ขอบคุณครับ” เขายิ้มให้กับนายแบบหนุ่ม แต่ก็เหมือนเดิมไร้การตอบสนอง เพียงแต่อีกฝ่ายลุกขึ้นมานั่งแล้วหยิบแว่นกันแดดขึ้นมาสวมแทน พวกเขามาก่อนเวลานัดประมานครึ่งชัวโมงแต่นั่นไม่ใช่ปัญหา    

   วริศรินทร์เดินนำเตชวัฒน์เข้าไปภยใน ทันทีที่เปิดประตูทุกสายตาก็จ้องมายังพวกเขา แต่วริศรินทร์ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ยังคงมีใบหน้าเรียบเฉย

   “สวัสดีครับ” เตชวัฒน์ก้าวไปข้างหน้าแล้วกล่าวทักทาย

   “สวัสดีค่ะ คุณเต น้องไนท์มาไวจังเลยค่ะ มานั่งพักก่อนนะค่ะ เดี๋ยวทานอะไรรองท้องก่อนยังมีเวลาเหลือ เดี๋ยวให้วิกกี้มาแต่งหน้าให้นะค่ะ” สาวนางหนึ่งเข้ามาต้อนรับ ซึ่งเตชวัฒย์เองจำได้ว่าทำงานอยู่เบื้องหลังในวันที่วุฒิพลอาของเขามาแนะนำตัวแต่เขาจำไม่ได้ว่าอีกฝ่ายทำหน้าที่อะไร

   วริศรินทร์ไม่พูดอะไรเช่นปกติสายตาของเขามองผ่านเลยไป แล้วไปนั่งที่โต๊ะที่จัดไว้ให้ มีคนเอาน้ำกับอาหารมาให้

   “อันนี้  ทานนะค่ะ คัสตาร์สเค้กอร่อยมาก แล้วก็น้ำหวานค่ะ นี่ของคุณเตนะค่ะ เดี๋ยวอีก10นาทีจะให้ช่างแต่งหน้ามาแต่งหน้าให้ค่ะ” เธอแย้มยิ้มซึ่งเตชวัฒน์ก็ยิ้มตอบ วริศรินทร์อาหารตรงหน้าแล้วหยิบน้ำหวานขึ้นมาดื่มโดยไม่พูดอะไรอีกเช่นเคย สายตาของวริศรินทร์มองไปเรื่อยๆ

   “ไม่ทานเหรอไนท์” เขาถามทั้งที่รู้ว่าอีกฝ่ายคงไม่ตอบ เขาทานของว่างในส่วนของเขาจนหมด สักพักหนึ่งมีช่างแต่งหน้ามาจัดการแต่งหน้าให้กับไนท์

   “น้องไนท์นี่ผิวสวยนะค่ะ ไม่ค่อยโทรมเลย แบบนี้พวกพี่แต่งหน้าไม่ค่อยเหนื่อย” ช่างแต่งหน้าเหมือนพยายามจะชวนคุยด้วยแต่ก็มีแต่ความเงียบ

   “คุณเตเพิ่งมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้น้องไนท์เป็นไงค่ะ งานสนุกไหม” ช่างแต่งหน้าสาวเทียวจีบปากจีบคอคุยกับเตชวัฒน์อย่างสนิทสนม

   “ก็สนุกดีครับ เพิ่งเคยเห็นเบื้องหลังใกล้ชิด” เขายิ้มแล้วคุยกับคนอื่นๆแทนไนท์ที่ยังคงนั่งเงียบ

   “รู้หรือยังค่ะคุณเต ว่าวันนี้น้องไนท์ต้องเข้าฉากกับใคร แต่แหม๋น้องไนท์มาออกไว ส่วนอีกคนนะยังไมามาเลย ไม่รู้จะเลทไปไหน แบบนี้แหละค่ะพวกไฮโซชอบทำให้คนอื่นรอ ทั้งที่น่าจะมาได้แล้ว” สาวเทียมคนเก่ายังคงเม้ากับเพื่อนๆไม่หยุด เขาพอจับใจKามได้ว่าไนท์ต้องถ่ายแบบคู่กับระพีพัฒน์นายแบบหนุ่มไฮโซที่กำลังเป็นที่รู้จักของบรรดาสาวๆ ด้วยความที่มีรูปร่างหน้าตาดี ฐานะทางบ้านก็ดี เนื่องจากเป็นลูกชายคนเล็กของเจ้าของธุรกิจส่งออกเฟอนิเจอร์รายใหญ่ของประเทศ เตชวัฒน์เหลือมองเวลานี่มันกินเวลามา10นาทีแล้วยังไม่มีการมาของอีกฝ่าย

   “น้องพีมาแล้ว จ้า” เสียงตะโกนอย่างสนุกสนานของสาวเทียมในกองถ่ายดังขึ้นมา เตชวัฒน์เห็นร่างสูงของระพีพัฒน์ ใบหน้าหล่อเหล่าที่เดินเข้ามาติดดูจะหยิ่งทะนงอยู่ในที

   “ขอโทษครับ บังเอิญรถติด” คำแก้ตัวพื้นๆ ที่ใครๆก็ใช้พูดกันถูกเอ่ยออกมาจากปากของนายแบบหนุ่ม

   “ไม่เป้นไรค่ะน้องพี มาค่ะ รีบมาแต่งหน้าไวๆ” เสียงเรียกจากช่างแต่งหน้าเรียกทำให้ระพีพัฒน์เดินไปนั่งข้างๆวริศรินทร์

   “สวัสดีครับไน์ เรียกแบบนี้คงได้” ระพีพัฒน์ขออนุญาติเจ้าตัวที่เพิ่งแต่งหน้าเสร็จ ข่างแต่งตัวกำลังจัดเสื้อผ้าให้ ไม่มีคำตอบมีเพียงสายตาที่มองมาอย่างนิ่งเฉยที่รับรู้ว่าเจ้าตัวฟังอยู่

   “ไนท์ครับ มาเทสแสงหน่อยครับ” เสียงเรียกจากช่างภาพทำให้ร่างโปร่งก้าวออกไป

   การถ่ายแบบเริ่มต้นขึ้น ไนท์ยังคงไม่มีรอยยิ้ม แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเพราะเจ้าตัวล่วงรู้ว่าตัวเองควรเคลื่อนไหวเช่นไร

   “น้องไนท์สายตาแบบนั้นแหละครับเซ็กซี่มาก น้องพีครับ เงยหน้าขึ้นอึกนิดแล้วมองตรงมาครับ แบบนั้นแหละครับดีมาก” ช่างภาพบอกอย่างพออกพอใจ

   “ต่อไปถ่ายน้องพีอีกเซตครับนะครับ” ช่างภาพยิ้ม วริศรินทร์ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อถ่ายเซตใหม่ ส่วนระพีพัฒน์ยังคงถ่ายต่ออีกสักพัก

   ระพีพัฒน์ถ่ายเสร็จก่อนวริศรินทร์ เขามองอีกฝ่ายที่เคลื่อนไหวตัวไปเรื่อยอย่างคล่องแคล่ว เขายอมรับความมีเสน่ห์ในตัวของอีกฝ่าย แต่เขาก็รู้สึกไม่พอใจเช่นกันกับการที่โดนเมินทุกครั้งที่ทักทาย

   การถ่ายแบบจบลงแล้ววริศรินทร์เดินกลับมาเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าพร้อมเตชวัฒน์ เขาเห็นแล้วว่าระพีพัฒน์ยืนอยู่ที่มุมที่เขากำลังจะเดินผ่าน ทันทีที่สบตาระพีพัฒน์ยิ้มให้เขา เตชวัฒน์ยิ้มตอบ แต่ไนท์เดินผ่าน น้ำในมือของระพีพัฒน์ก็สาดลงไปที่หน้าของไนท์เต็มๆ

   “ตายแล้ว” เสียงร้องอย่างตกอกตกใจของคอร์สตูมที่เดินตามมากับผ้าที่รีบมาเช้ดหน้าเช้ดตาให้กับไนท์

   “ขอโทษครับ พอดีเสียหลัง” ระพีพัฒน์ขอโทษทัยทีแต่น้ำเสียงไม่ได้แสดงออกถึงความเสียใจติดจะสนุกเสียด้วยซ้ำ สายตาของเตชวัฒน์มองตรงไปที่เขา

   “เปียกหมดเลยไนท์ ผมขอโทษนะ” ไม่มีคำตอบจากร่างโปร่ง สายตาของไนท์ไม่ได้มองที่ระพีพัฒน ไนท์ยื่นมือมาแตะๆที่ใบหน้าตัวเอง รับผ้าขนหนูมาซับหน้าแล้วมองเลยผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่นั่นก็สร้างความหงุดหงิดและไม่พอใจให้กับระพีพัฒน์มากกว่าเดิม

   “เปียกหมดเลย” เตชวัฒน์เอื้อมมือไปหยิบผ้าในมือมาเช็ดให้บนเส้นผมที่ยังชื้นอยู่

   เมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อย เตชวัฒน์เป็นคนกล่าวลาทีมงาน ส่วนวริศรินทร์ยังคงเดินตามมาอย่างเงียบๆเช่นเดิม แม้จะได้เจอกับระพีพัฒน์อีกครั้งก็ไม่มีปฏกิริยาใดไกับร่างโปร่ง เหมือนเป็นจังหวะที่ไม่ดี เมื่อออกมาถึงปรากฏว่าลิฟท์ใช้งานได้เพียงตัวเดียว

   “เดินไหม” เตชวัฒน์ลองแหย่ดูเล่นๆ แทนคำตอบร่างของวริศรินทร์เดินตรงไปเพื่อลงบันไดทันที เเหลือเพียงชั้นเดียวเท่านั้น ร่างสูงโปรงก็ซวนเซเหมือนจะล้มลงไป เตชวัฒน์รวบตัวเอาไว้ก่อนที่ไนท์จะตกบันได

   “เป็นอะไรไหม” เขาถามด้วยความเป็นห่วง

   “หิว” เสียงไนท์ตอบกลับมา

   “เดินไหวไหม” เตชวัฒน์ถามอย่างอ่อนโยน เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายหมดแรงเพราะตั้งแต่ตื่นมาเขายังไม่เห็นวริศรินทร์ทานอะไรเลย แล้วตอนนี้ก็บ่ายกว่าแล้ว เตชวัฒน์ประคองวริศรินทร์ให้เดินลงมาบันไดช้า เขาเลื่อนรถมารับวริศรินทร์ที่หน้าตึก

   “ไปหาอะไรทานก่อนเนอะ” เขาชวนคุย ไนท์พยักหน้ารับ เขาเลือกเข้าโรงแรมไปทานอาหารในโรงแรมใกล้ๆ ไนท์เปิดดูเมนูอาหารไปเรื่อย เตชวัฒน์สั่งสปาเกตตี้ทะเล ส่วนไนท์ยังคงดูเมนูอาหารอยู่เงียบๆ

   “จะทานอะไรครับ” เตชวัฒน์ยิ้มให้ ซึ่งบริการเองก็ยิ้มตอบรับรออย่างใจเย็น ไม่มีคำตอบมีเพียงนิ้วที่ชี้ไปที่เมนู

   “ไนท์ทำไมปล่อยให้ตัวเองหิวจนเป็นลม” เตชวัฒน์ถามอีกฝ่ายที่ใบหน้าค่อนข้างซีดเซียวและเหนื่อยอ่อน

   “เมื่อเช้าพี่ให้กินแซนวิชก็ไม่กิน ที่กองเอาเค้กมาให้ทานรองท้องก็ไม่ทาน ทำแบบนี้เกิดล้มไปแบบเมื่อกี้จะทำยังไงครับ” เขาถามอีกฝ่ายอย่างใจเย็น แต่ก็ไม่มีคำตอบอีกเช่นเคย

   “ไนท์พี่กับไนท์ต้องทำงานร่วมกัน มีอะไรบอกพี่สิครับพี่จะได้ช่วยได้ ถ้าไนท์เงียบพี่ก็ไม่รู้ พี่อยากให้เราทำงานร่วมกันอย่างสบายใจ พี่ไม่อยากให้ไนท์อึดอัด พี่ทำอะไรให้เราไม่พอใจหรือเปล่า” เขาชงัดเมื่ออาหารถูกยกมาเสริฟ แต่ไนท์คงเงียบ

   “เราเจอกันแค่สองวัน จะให้ไนท์พูดอะไรมากก็คงไม่ได้ แต่พี่จะพยายามเข้าใจไนท์นะ มีอะไรพี่อยากให้เราบอก แล้วพี่จะช่วยไนท์ทุกอย่าง” น้ำเสียงของเตชวัฒน์หนักแน่น สายตาของวริศรินทร์กึ่งนั่งกึ่งนองบนโซฟาแต่ตลอดเวลาที่ชายหนุ่มพูด นายแบบหนุ่มก็ไม่ได้ละสายตาออกจากใบหน้าของเขา

   “สเต็กเนื้อมาแล้วครับ”  บริกรนำอาหารมาเสิร์ฟสต็กหอมฉุยกับน้ำสลัดครีมที่ราดออกมาจนนองฟัก แต่ทันทีที่เห็นไนกลับเบือนหน้าหนีเลื่อนจานอาหารออกไปทันที บริกรหน้าซีดเมื่อเห็นปฏิกิริยาของไนท์ เตชวัฒน์บอกให้บริกรไปก่อน

   “เป็นอะไรไนท์” เขามองสายตาของวริศรินทร์ที่มองอาหารในจาน

   “เป็นอะไร” เขาไม่เข้าใจอีกฝ่ายทั้งๆ ที่หิวจนเป็นลมแต่ก็ยังไม่ยอมกินอาหารที่ตัวเองสั่ง

   “ไนท์ครับเป็นอะไร บอกพี่เตสิ” เขาถามอย่างใจเย็นแม้จะยังไม่เข้าใจ

   “ผมแพ้ไข่” คำตอบของวริศรินทร์ทำให้เตชวัฒน์เข้าใจทุกอย่างทันที

   “ไนท์กินไข่ไม่ได้” แทนคำตอบคือการพยักหน้ารับ เตชวัฒน์เรียกบริการมาทันที ถึงได้รู้ว่าในน้ำสลัดครี่มใช้ไข่เป็นส่วนประกอบ และน้ำสลัดที่ถูกราดมาจนนองมันไหลเลยไปถึงเนื้อสเต้ก

   “ไนท์จะสั่งใหม่ไหม หรือจะทานของพี่ก่อนถ้ารอไม่ไหว ไนท์ทานอาหารทะเลได้หรือเปล่า” วริศรินทร์ไม่ตอบแต่เลื่อนจานสปาเกตตี้ไปใกล้ตัวแล้วค่อยๆ ใช้ช้อนส้อมม้วนเส้นแล้วค่อยทานช้าๆ

   เตชวัฒน์ลอบถอนหายใจอย่างน้อยเขาก็รู้แล้วว่าทำไมอีกฝ่ายถึงไม่กินอาหารที่เขานำมาให้ เพราะเมื่อวานเขาทำข้าวไข่เจียวให้อีกฝ่ายกิน และเมื่อเช้าเขาก็เอาแซนวิชไข่ให้ และของว่งที่กองถ่ายก็เป็นคัสตาร์สเค้ก ทุกอย่างล้วนมีส่วนผสมเกี่ยวกับไข่ เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกินไม่ได้ เขามองอีกฝ่ายที่กินสปาเกตตี้อย่างเอร็ดอร่อย

   “ไนท์ทานข้าวเย็นหรือเปล่าเมื่อวาน” เขาลองเลียบเคียงๆ ถามดู  อีกฝ่ายส่ายหน้าช้าๆ

   “หรือทานแค่ผลไม้ที่สปา” ไม่มีคำตอบแต่เขาถือว่านั่นคือการตอบว่าใช่เพราะอีกฝ่ายไม่ได้ส่ายหน้า

   “ทำไมล่ะครับ ทานแต่วิตตามินใช่ว่าจะดีนะ” เขาเตือนเพราะเดาว่าอีกฝ่ายคงกินแต่วิตตามินและอาหารเสริมแน่ๆ ถึงแม้เขาจะรู้ว่าไนท์แพ้ไข่ก็ใช่ว่าจะทานอะไรไม่ได้ เขายอมรับว่าถ้าแพ้ไข่แบบไนท์เท่ากับว่าการใช้ชีวิตในเรื่องของการกิน จะค่อนข้างยุ่งยากทีเดียวเพราะไข่ถือเป็นวัตถุดิบขั้นพื้นฐานของการใช้ชีวิตเลยทีเดียว  

   “ยุ่งยาก” ไนท์ตอบเขาแค่นั้นแล้วไม่พูดอะไรอีก เตชวัฒน์ได้แต่ลอบถอนหายใจ ท่าทางงานผู้จัดการของเขาคงหนักกว่าที่คิดไว้มากทีเดียว
 


......................

ครบร้อยแล้ว ติชมกันได้น้าาา
อยากบอกว่าไนท์นี่เขียนยากที่สุดเท่าที่เคนเขียนมาเลยทีเดียว รู้สกึยังไงบอกกันได้นะค่ะ จะได้นำไปแก้ไขปรับปรุง
หัวข้อ: Re: The rainbow project[Blue]"หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า"ตอนที่4ท้องฟ้าสีน้ำเงินP:3/19/5/11
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 20-05-2011 00:16:19
 o22 ผมไม่ได้ทำอะไรสายลมสักหน่อย

ในเมื่อเขาตัดสินในแบบนี้เอง เขาก็ต้องรับสภาพสิครับ  :o12:

งั้นต้องมาคอยเอาใจช่วยสายลมกันเยอะๆนะครับ

ว่าจะกล้าบอกปลายฟ้าเมื่อไหร่
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่4 สาเหตุที่ไม่ยอมกินข้าว100
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 20-05-2011 00:25:42
มาดึกเราก็รอ
>__< รักไนท์กะพี่เตจังแฮะ

แพ้ไข่ แปลว่ากินอาหารทั่วไปไม่ได้
ขนมแทบทุกชนิดมีไข่เป็นส่วนผสม
โฮกกกกกกกกกกกกกกก โคตรซวยเลย
หัวข้อ: Re: The rainbow project[Blue]"หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า"ตอนที่4ท้องฟ้าสีน้ำเงินP:3/19/5/11
เริ่มหัวข้อโดย: nataxiah ที่ 20-05-2011 01:08:34
 :เฮ้อ: น่าสงสารสายลมจริง ๆ

ปลายฟ้าไม่สนใจ มาทางนี้ก็ได้นะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่4 สาเหตุที่ไม่ยอมกินข้าว100
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 20-05-2011 01:09:06
รู้สึกดีค่า^o^
ชอบอารมณ์ของเรื่อง
ชอบน้องไนท์ด้วย น่ารักเนอะ แพ้ไข่ หุๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project[Blue]"หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า"ตอนที่4ท้องฟ้าสีน้ำเงินP:3/19/5/11
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 20-05-2011 01:34:55
เจ็บแปล๊บๆ
สะเทือนใจอ่ะ
ไม่รู้จะโทษใคร คนนึงก็ไม่รู้ อีกคนก็ไม่บอก
โทษคนแต่งละกัน
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่2 [18/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: onjazz26 ที่ 20-05-2011 01:59:00
แป๊ะไว้หลายวันแล้วพึ่งได้อ่าน หุ หุ  :o8:

บรูโน่จับกดก็หมดเรื่อง :z1:
กลิ่นเด็กมันหอมน้า :laugh:

เรนเจอร์สีเหลือง เท่ากับ เจ้าชายรองเท้าแตะ
เจ้าชายรองเท้าแตะ เท่ากับ "สก๊อย" อิ อิ
ความรู้นี้ป๋มเอามาจากเรื่อง สุดเขตฯนะคับ :m26:
(ลบไปแย้ว ก้อดันใหม่ได้) :m4:

เรนเจอร์สีเหลือง....จงสู้ต่อไป :a9:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๓. ๑๙ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 20-05-2011 02:01:13
ชิ!
ยังไม่เห็นออร่าพระเอกจากทานเลยนับวันยิ่งตกต่ำลง
ขอเชียร์น้องกาฝากละกัน ฮุๆ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๓. ๑๙ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 20-05-2011 02:38:02
 :laugh:มีแต่คนคิดว่านายธรมมทานอะไรนี่ไม่ใช่พระเอก  คิดเหมือนกันเลย



ส่วนตัวตอนนี้เชียร์เจ น้องชายเมย์  เพราะเมย์อาจจะให้น้องชายแกล้งมาจีบเทียน สุดท้ายนายเจกลายเป็นรักเทียนบุญจริงๆ :laugh: :laugh:


เป็นไง  ความคิดเค้าดูดี  มีเหตุผลป่ะ???? :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project[Blue]"หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า"ตอนที่4ท้องฟ้าสีน้ำเงินP:3/19/5/11
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 20-05-2011 02:48:11
ถ้ากาลเขียนนะ รับรองว่าสายลมนะ ตายชัว แล้วให้ปลายฟ้าช้ำใจกอดศพ แบบนั้นคงแฮปปี้สุดๆ   :laugh:

อยากจะบอกว่าอยากได้แบบนี้เหมือนกัน  เกลียดนักแหละพวกใกล้เกลือกินด่างนี่อ่ะ :angry2: :angry2:




เมื่อไหรพี่สายลมของเค้าจะมีความสุขซะทีล่ะ :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่4 สาเหตุที่ไม่ยอมกินข้าว100
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 20-05-2011 03:07:54
ชอบครับ :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 7 ฝัน 20/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 20-05-2011 05:46:52
(http://img28.mediafire.com/b6f242d94a346b9095740bdfdd1f8ac23fc115dbd2c7ec5da35aca98f1eb05c75g.jpg)
 
บทที่ 7 "ฝัน"
แสงอาทิตย์แผดแรงทะลุม่านโปร่งเบาที่ปลิวไหวเพยิบตามแรงลม คนที่นอนหลับไม่ยอมตื่นต้องกระเถิบถอยหนีความร้อนที่รุกไล่พลางตวัดผ้าห่มมา คลุมหัวหูเสียจนมิดทั้งที่อากาศร้อนอบ อ้าวจนเหงื่อเริ่มซึมออกมาบนผิวหน้า แต่เจ้าตัวก็ยังอยากจะนอนต่ออีกสักหน่อยด้วยรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่ต้องรีบลุก ตื่นแต่เช้าเพื่อไปทำงานเพราะเป็นวันหยุดพักผ่อนของเขา ประกอบกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานเย็นเล่นเอาหน่องกว่าจะได้หลับก็ค่อนคืนไปนานโข
"ก็อก ๆ" เสียงเคาะประตูหน้าห้องนอนดังขึ้นและหยุดไปก่อนที่เสียงสัญญาณสายเรียกเข้าจะดังขึ้นตามมาไล่เลี่ย
"ตรื๊ด ๆ  ตรื๊ด ๆ ตรื๊ด ๆ"
"ตื่นแล้วครับแม่ ประตูไม่ได้ล็อคครับ" หน่องตอบด้วยรู้ดีว่าจะคนที่มาเคาะเรียกคือมารดาของตน ก่อนจะหันไปหยิบเครื่องมือสื่อสารมากดรับแล้วยกขึ้นข้างหู
"สวัสดีครับ หน่องครับ" หน่องกรอกเสียงลงไปตามสาย
ประตูห้องนอนเปิดขึ้นพร้อมกับร่างของแม่ที่เดิมมาหยุดนั่งลงริมที่นอนหนา พร้อมกับสายตาสงสัยใคร่รู้เมื่อสบดวงตาของลูกชายที่แดงก่ำช้ำบวม หล่อนเอานิ้วมือกรีดไล่คราบชื้นของน้ำบนหางตาทั้งสองข้างของลูกชายก่อนจะเอามือไปลูบเรือนผมนิ่มที่กระเซอะกระเซิงจับลูบให้เข้าที่เข้าทาง
"พี่จะชวนหน่องไปเป็นเพื่อนพี่หน่อย หมวดเค้าอยากจะถามอะไรเพิ่มด้วย... อีกอย่างหมวดเค้าบอกว่าผลนิติเวชออกแล้ว..." อ๊อบแจ้งความประสงค์มาตามสาย
"ได้ครับพี่อ๊อบ วันนี้หน่องหยุดไม่ต้องไปทำงาน เดี๋ยวหน่องไปหา จะให้หน่องไปเจอพี่อ๊อบที่ไหนครับ" หน่องบอกรัวเร็ว
"ไม่ต้องเดี๋ยวพี่ไปรับเอง หน่องแต่งตัวรอเถอะ พี่จวนจะถึงแล้ว ไม่น่าจะเกินครึ่งชั่วโมง เดี๋ยวเจอกันนะหน่อง" อ๊อบบอกก่อนวางสาย
 
"หน่องเป็นอะไรไปลูก เมื่อคืนก็กลับมาเสียดึกเลยนี่ แล้วร้องไห้จนตาบวมเลยนะครับ" คุณสุมาลีถามพลางลูบศีรษะของหน่องอย่างแผ่วเบา
"หรั่งตายแล้วครับแม่ เดี๋ยวพี่อ๊อบจะมารับหน่องไปข้างนอกนะครับ" หน่องบอกพลางซุกหน้าลงบนอกแม่
"ตายเมื่อไหร่ แล้วตายได้ยังไง" คุณสุมาลีถามอย่างตกใจ พลางกอดหน่องเข้ามาแนบอกขึ้นอีก
"รายละเอียดยังไม่ทราบครับ หน่องไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนนะครับ" หน่องผละออกจากอ้อมอกพร้อมกับเงยหน้าขึ้นไปหอมแก้มมารดา ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำเพื่อจัดการกับภารกิจส่วนตัวแล้วลงไปรออ๊อบ ที่หน้าบ้าน
 
 
รถเลี้ยวเข้าจอดที่ลานจอดรถหน้าสถานีตำรวจท้องที่ที่เกิดเหตุ หลังจากจอดรถก็พากันเดินขึ้นไปบนสถานี แต่ทั้งสองก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของนายตำรวจหนุ่มที่นัดกันไว้ อ๊อบถามไถ่จากตำรวจนายอื่นแถวนั้นก่อนจะพาหน่องไปนั่งรอที่หน้าโต๊ะทำงานของ หมวดพชร
"อีกเดี๋ยวหมวดคงจะมา นั่งรอสักครู่นะครับ วันนี้แกไปทำคดีตั้งแต่เช้าแล้วครับ" นายดาบสูงวัยเอ่ยบอกกับทั้งสอง
"ขอบคุณมากครับ" หน่องตอบพลางผงกหัว
"อ้อ.. มาพอดีเลยครับ" ดาบบอกพลางหันไปทางประตูทางเข้า ทำให้หน่องต้องชำเลืองตามองตามไปด้วย
"ขอโทษที่มาช้านะครับ" ร.ต.ท.พชร เดินส่งยิ้มมาให้แต่ไกลก่อนจะเอ่ยปากบอก
"ไม่เป็นไรหมวด อ๊อบกับหน่องก็เพิ่งจะมาถึงได้สักครู่นี่เอง" อ๊อบบอกแทนเพื่ออีกคนพร้อมรอยยิ้มเซียว ๆ
"ผมเพิ่งได้รายงานชันสูตรก่อนจะโทรหาคุณอำนาจ คือจริง ๆ แล้ว..." ผู้หมวดพชร เอ่ยบอกรายละเอียดคร่าว ๆ ก่อนจะถามคำถามที่สงสัยบางข้อกับทั้งสอง
"หมวดหมายความว่า อเล็กซ์ตายเพราะโดนถ่วงน้ำ..." อ๊อบหลุดพูดเสียงสูงพร้อมยกมือขึ้นทาบอกก่อนจะแผ่วเสียงเบาลงในตอนท้าย
"ใครทำ?" หน่องหลุดถามออกมา
"คำตอบนั้นผมก็อยากรู้เหมือนกัน เค้าเคยมีศัตรูหรือขัดแย้งกับใครรึเปล่า?" หมวดหนุ่มตอบพลางหันไปสบตากับหน่อง ก่อนจะเอ่ยถาม
"ไม่มีนะหมวด อเล็กซ์เพิ่งจะเข้าวงการได้ไม่นาน งานก็กำลังไปได้สวย แล้วหมวดเจออย่างอื่นอีกไหมในรายงานของหมวด" อ๊อบบอกพร้อมกับความงุนงงสงสัย
"ก็เจอยาหลายเม็ดที่ในกระเพาะอาหารกับหลอดลม เป็นพวกมีฤทธิ์กล่อมประสาท กับ..." หมวดพชร บอกก่อนจะกลืนประโยคท้ายเอาไว้
"หรั่งเล่นยาด้วยเหรอ แล้วอะไรอีกละหมวด" หน่องถามพลางหันไปมองทางอ๊อบ ก่อนจะหันกลับมาสบตานิ่งของนายตำรวจหนุ่ม
"ร่องรอยฉีกขาดของเนื้อเยื่อทางทวารหนัก กับสารคัดหลั่งจำนวนมากคาดว่าน่าจะมีเกินสองคน" หมวดหนุ่มเอ่ยบอกเสียงเรียบพร้อมใบหน้านิ่ง
"ฮะ! หมวดจะบอกว่าอเล็กซ์โดนข่มขืนเหรอ... พระเจ้า... โอ้..." อ๊อบตกใจแทบจะลุกเต้นผาง ดีที่หน่องหันไปคว้าแขนให้นั่งลงได้เสียก่อน
"ไม่น่าจะใช่ เพราะหากโดนข่มขืนบาดแผลคงจะฉีกขาดมากกว่านี้อีกหลายเท่า แล้วตามตัวไม่มีร่องรอยการโดนทำร้ายสักแห่ง มีแค่รอยฟันกับรอยเม้มเท่านั้นเอง" หมวดหนุ่มยังคงตีสีหน้านิ่งในขณะที่พูด
"แล้วต้องทำยังไงต่อล่ะนี่ทีนี้ เฮ้อ..." อ๊อบบอกพลางถอนหายใจยาว
"ผมขอให้คุณปิดข่าวเอาไว้ก่อนนะครับ แล้วผมจะรีบสืบต่อ ยังไงถ้าพวกคุณเจอหรือนึกอะไรขึ้นได้ก็โทรหาผมได้ตลอดเวลานะครับ ผมจะรีบหาตัวคนผิดให้ได้เร็ว ๆ" หมวดหนุ่มบอกย้ำอีกครั้ง ทั้งสามใช้เวลาพูดคุยกันอีกเล็กน้อยก่อนที่หน่องและอ๊อบจะขอตัวแยกกลับไป
"หมวดครับท่านผู้กำกับขอเชิญที่ห้องครับ" นายดาบเดินมาบอกหลังจากที่อ๊อบกับหน่องคล้อยหลังจากไปแล้ว
"ขอบคุณครับดาบ ผมจะไปเดี๋ยวนี้" หมวดพชรบอกขอบคุณ
 
"ก๊อก ๆ ขออนุญาตครับท่าน" หมวดพชร ยกมือขึ้นเคาะประตูก่อนเอ่ยขออนุญาตกับคนในห้อง
"เชิญเข้ามาเลยหมวด" เสียคนในห้องเอ่ยเชิญ
"พอดีผมเพิ่งจะวางสายจากผู้ใหญ่เมื่อกี้นี่เอง ท่านขอให้ผมช่วยพูดกับคุณให้หน่อย จริง ๆ แล้วผมก็อึดอัดใจนะ แต่คนที่โทรมาน่ะ ระดับ รองผบ.เชียวนะ เฮ้อ..." ท่านผู้กำกับเอ่ยบอกด้วยสีหน้าไม่สู้จะดีนัก
"เรื่องอะไรครับท่าน" หมวดหนุ่มถามอย่างสงสัย
"ก็คดีที่คุณทำอยู่นะสิ ดาราที่มีคนพบศพในบึงนั่นแหละ เค้าบอกว่าให้คุณรีบ ๆ ปิดคดีสรุปสำนวนง่าย ๆ เร็ว ๆ ไม่ต้องสืบให้ลึกไปกว่านี้แล้ว ผมเข้าใจดีว่าคุณเป็นคนรับผิดชอบต่อหน้าที่ แต่ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน" ผู้กำกับบอกพร้อมสีหน้ากระอักกระอ่วน
"ครับ ผมเข้าใจท่านดี ถ้างั้นผมจะรีบทำคดีให้เสร็จเร็ว ๆ แล้วกันครับท่าน ผมขอตัวก่อนครับ" ผู้หมวดหนุ่มกล่าวเสียงเรียบพลางเดินออกมาจากห้อง ทั้ง ๆ ที่ภายในใจกลับร้อนรุ่ม 'ทำไมถึงได้ยุ่งขนาดนี้... ถึงกับต้องให้รองผบ.โทรมา... แล้วไอ้ความถูกต้องกับความเป็นธรรม... คนตายจะไปเรียกร้องหาเอาจากที่ไหนได้ กฎหมายจะมีเอาไว้เพื่ออะไร'
 
 
ท้องฟ้าตอนบ่ายที่มืดสลัวราวกับเย็นค่ำ เมฆดำที่ลอยคล้อยต่ำ ลมกรรโชกพัดแรงกิ่งไม้ไหวเอนใบร่วงเกลื่อนกล่น บางส่วนปลิวตามลมเข้าไปในตัวบ้านทางประตูที่เปิดอ้าค้างเอาไว้ เสียงฟ้าคำรามลั่นมาเป็นระยะ  ๆ  ก่อนน้ำจากฟ้าจะกระหน่ำซัดสาดลงมาอย่างมากมาย
"ปัง!" เสียงประตูไม้ที่เปิดทิ้งเอาไว้กระแทกปิดเสียงดังสนั่น ทำลายความเงียบในอาณาเขตของบ้านหลังใหญ่
"เปรี้ยง! โครม!" อสนีบาตฟาดผ่าลงบนกิ่งของต้นมะม่วงใหญ่ที่ปลูกมานานลำต้นใหญ่หนาที่ยืนต้นตระหง่านสูงกว่าต้นไม้อื่นในสวนหลังบ้าน เปลวเพลิงไหวเต้นระริกวูบวาบอยู่บนส่วนแขนงที่ฉีกขาดของกิ่งที่มีขนาดใหญ่ ตามอายุของต้นก่อนจะจนร่วงหล่นลงมา เปลวไฟลุกโชนลามเลียตามกิ่งและใบด้วยเชื้อปะทุชั้นดีตามธรรมชาติยางไม้แห้ง สีน้ำตาลแข็งที่เกาะอยู่รอบ ๆ กิ่งที่ร่วงลงมาพาดคาอยู่ระหว่างพื้นและรถจักรยานยนต์ซึ่งล้มคว่ำตะแคง พื้นที่ใต้ต้นด้วยน้ำหนักของกิ่ง น้ำมันจากในถังเชื้อเพลิงไหลนองกระจายวงไปรอบ ๆ ไฟจากกิ่งมะม่วงค่อย ๆ ลามเลียไปยังส่วนเบาะที่ทำจากหนังเทียมหุ้มฟองน้ำ ความร้อนจากเปลวเพลิงทำให้เกิดควันสีดำส่งกลิ่นเหม็นไหม้ลอยคลุ้งขึ้นสูง
"ฉิบหาย!" เสียงสบถหลุดร้องออกมาจากปากซึ่งประดับด้วยเรียวหนวดเมื่อร่างกำยำที่อุดมด้วยมัดกล้ามหนาเปิดประตูหลังบ้านแล้ววิ่ง ออกมาด้วยผ้าเช็ดตัวเพียงผืนเดียวพันเอวเอาไว้อย่างหมิ่นเหม่ เขาวิ่งไปที่รถพลางกระชากเอากิ่งที่เป็นเชื้อไฟนั้นออก ก่อนจะหันไปฉวยหยิบเอากิ่งไม้ใบหนาใกล้ ๆ เอามาฟาดลงไปยังรถที่เปลวไฟกำลังเริ่มลุกโชนขึ้น ด้วยหวังเพียงแต่จะดับไฟให้มอดลงโดยที่ไม่รู้ว่ากิ่งไม้ในมือนั้นถูกอาบเอา ไว้ด้วยน้ำมันเบนซินเสียจนชุ่ม ตอนที่เขาเงื้อขึ้นสูงละอองน้ำมันไหลหยดกระเด็นเปรอะเปื้อนเนื้อตัวและหัวหู
"เฮ้อ..." เสียงถอนหายใจ พร้อมกับเปลวเพลิงที่รถจักรยานยนต์มอดดับลง เขาพยายามยกรถที่ล้มตะแคงอยู่นั้นขึ้นมา
"โอ๊ย!" เสียงร้องด้วยความเจ็บปวด เมื่อมือของเขาคว้าจับไปโดนส่วนที่ไฟเพิ่งจะมอดดับลง ก่อนจะปล่อยมือสะบัดเร่า ๆ
"ร้อนฉิบหาย" เขาสบถบ่นอย่างหัวเสีย ก่อนจะกลับไปใช้ความพยายามก้มลงไปยกรถขึ้นมาอีกครั้งอย่างระมัดระวัง
ทันใดนั้นสายฝนก็กระหน่ำหนาหนักราวกับฟ้าถล่ม ก่อนสายฟ้าจะฟาดผ่าขึ้นอีกครั้งตรงกิ่งไม้ที่ใหญ่กว่าเดิม เปลวเพลิงลุกไหม้โชนก่อนจะร่วงหล่นลงมาใส่ศีรษะของคนข้างล่าง
"โอ๊ย! อ้า..." เปลวเพลิงลามเลียลุกไหม้ตั้งแต่ผมบนศีรษะและเนื้อตัวบริเวณที่เปรอะเปื้อน น้ำมันเชื้อเพลิง ส่งกลิ่นเนื้อเหม็นไหม้คละคลุ้ง สองมือพยายามตะเกียกตะกายเอาตัวรอดแต่น้ำหนักของกิ่งไม้ใหญ่กดทับให้ร่างหนา นอนก้มหน้าจนไม่สามารถขยับเขยื้อนเคลื่อนย้ายหนีไปไหนได้ ร่างกำยำทำได้เพียงส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด สองแขนที่เปลวเพลิงกำลังลุกไหม้ยื่นยกสูงออกไปสองมือพยายามไขว่คว้าจับได้ เพียงอากาศธาตุ
"โอ๊ย.. ช่วยด้วย... ช่วยด้วย..." เสียงโหยหวนสั่นประสาทกรีดร้องดังก้อง แต่ก็ไม่มีใครสักคนสามารถที่จะได้ยินเพราะเสียงฝนที่กระหน่ำเทลงมาดังกลบ เสียงร้องของเขาเอาไว้ ทั้ง ๆ ที่รอบ ๆ บ้านมีเวรยามคอยตรวจตราอยู่หลายคนในยามปรกติ แต่วันนี้บางส่วนไปอยู่เสียที่วัดเพราะเป็นงานตั้งสวดพระอภิธรรมศพของว่าน เป็นคืนแรก และบางส่วนก็พากันหลบไปหาที่กำบังจากสายฝน บรรยากาศโดยรอบจึงแทบจะปราศจากผู้คน เสียงโอดโอยยังคงดังอยู่อย่างต่อเนื่องพร้อมกลิ่นของเนื้อคนไหม้ไฟ และเปลวเพลิงที่ลุกโหมแรงขึ้น
"ช่วยด้วย... โอ๊ย... อ้า........................"  เสียงคร่ำครวญน่าเวทนาหยุดลงพร้อมกับร่างที่นอนแน่นิ่งและเปลวเพลิงที่ กำลังลุกท่วมร่าง เสียงปริแตกของกิ่งไม้ปะทุด้วยความร้อนแรงจากเปลวไฟที่ลุกโชน
ร่างโปร่งแลทะลุผ่านในอาภรณ์สีดำที่ห้อยหัวลงมาจากต้นมะม่วงสูงใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านใบดกหนาจนบดบังแรงฝนใต้ต้นเอาไว้ เสียมิด ทั้งที่รอบข้างพ้นใต้ร่มครึ้มดกหนาสายฝนกำลังกระหน่ำจนชุ่มโชกเจิ่งนอง  ใบหน้าสยองขาวซีด มีเพียงแสงไฟวูบวาบและร่างลุกไหม้สะท้อนออกมาจากหน่วยตาขาวขุ่นฝ้ามัว ที่แสยะยิ้มส่งให้อย่างพึงใจก่อนจะค่อย ๆ เลือนหายไป
 
 
สายลมพัดกรูเกลียว ละอองน้ำเย็นของสายฝนที่กระหน่ำปลิวกระเด็นผ่านเข้ามาทางหน้าต่างห้องนอน
อุณหภูมิที่ลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว จากที่เคยร้อนอ้าวกลับเย็นยะเยือกราวกับอากาศในฤดูหนาว หน่องที่นอนกอดตุ๊กตาหมีโพลาสีขาวเอาไว้แนบอกเสียแน่น เสื้อยืดย้วย ๆ มอซอที่เจ้าตัวสวมใส่ คอกว้างไหลตกจากลาดไหล่ของร่างบางเผยให้เห็นลำคอที่สวมสายสร้อยเอาไว้ แสงสะท้อนแวมวาวของจี้เพชรสีชมพู ท่ามกลางความมืดมิดของค่ำคืนที่แสนเหน็บหนาว หน่องคว้ามือป่ายปะก่อนจะตวัดผ้าห่มนวมที่เจ้าตัวเผลอถีบพ้นออกจากร่างเมื่อ หัวค่ำขึ้นมาห่อหัวหูจนมิดโพล่พ้นเพียงแค่ส่วนของวงหน้าขาวแสนหวานราวกับหนอนผีเสื้อตัวน้อยที่กำลังกลายเป็นดักแด้รอตื่นขึ้นมาโบยบินด้วยปีกกว้างใหญ่ที่สวยงามของตน
 
มือที่ใหญ่กว่ากางสายสร้อยที่ห้อยจี้เพชรสีชมพูเอาไว้ตรงหน้าก่อนจะยกลงแนบลำคอขาวของตนแล้วจึงติดตะขอสวมให้ที่ด้านหลัง ก่อนจะเอามือสองข้างนั้นโอบเอวกอดไว้พร้อมกับเอาคางมาเกยเอาไว้ที่ไหล่ของเขา
"หน่องชอบไหม หรั่งเลือกเองกับมือเลยนะ" เสียงจากคนที่อยู่ด้านหลังพูดกระซิบลงข้างหูของตน
"ชอบสิ แต่มันไม่แพงไปเหรอ...หน่องเกรงใจ..." เสียงยินดีที่ตอบกลับพร้อมรอยยิ้มสวยก่อนจะแผ่วลงในตอนท้ายของประโยค
"ตอนนี้หรั่งมีทุกอย่างที่อยากจะมีแล้ว ทั้งชื่อเสียงเงินทองที่กำลังไหลมาเทมา ไม่มีอะไรแพงเกินไปสำหรับของขวัญที่หรั่งอยากจะให้หน่องหรอก" เสียงนุ่มแผ่วเบาอีกครั้งที่ข้างหูซึ่งกำลังแดงระเรื่อ ก่อนจะจับคนตัวเล็กกว่าหมุนกลับมาสบตาหวานฉ่ำของตน
"หรั่งก็... ถ้ามีแล้วก็เก็บ ๆ เอาไว้สิจะได้มีเยอะ ๆ ไง" หน่องตอบพลางหลุบตาลงต่ำ ไม่กล้าจ้องมองสบตากับคนตรงหน้าเท่าไหร่
"หรั่งก็เก็บเอาไว้ให้หน่องแหละดีไหม" หรั่งพูดพร้อมยกยิ้มกว้างอย่างพึงใจเมื่อเห็นใบหน้าขาวของคนตรงหน้าขึ้นซับ สีระเรื่อ ก่อนจะสวมกอดเอาไว้อีกครั้งในอ้อมอกหนาของตน
"หรั่งก็มีหน่องคนเดียว หรั่งจะคอยเป็นกำลังใจ และจะคอยดูแลหน่องอยู่ข้าง ๆ ไม่หนีไปไหนดีไหม" เสียงนุ่มดังฟังชัดทุกคำ ทำเอาคนที่ซุกอยู่กับอกแทบจะมุดแทรกหน้าที่แดงกว่าเดิมพร้อมรอยยิ้มจนตามิด มุดเข้าไปซ่อนไว้ภายในอกแกร่งแน่นนั้น วงแขนยกขึ้นไปโอบเอวสวมกอดตอบแทนอ้อมกอดจากไออกอุ่นที่ได้รับ
"ก็ตามใจสิ ถ้าหรั่งไม่เบื่อไปเสียก่อนนะ.." เสียงกระซิบจากคนในอ้อมอกหนาแผ่วเบาแต่ได้ยินแจ่มชัด
"ก็หรั่งรักหน่องนี่นา จะให้รีบเบื่อเร็ว ๆ ไปได้ยังไง" หรั่งตอบพร้อมกับเอามือผลักหน่องให้ออกห่างจากอกก่อนจะใช้มือเชยคางของหน่อง ขึ้นมาพร้อมกับยื่นปลายจมูกโด่งสัมผัสผิวแก้มใสของหน่องแล้วสูดดมความหอมจากแก้มขาวนวล ก่อนจะรวบตัวไปกอดเอาไว้เสียแน่นอีกครั้ง
"หรั่งสัญญาว่าจะอยู่กับหน่องและจะไม่ทิ้งหน่องไปไหน จนกว่าหน่องจะไม่ต้องการหรั่งอีกแล้ว หรั่งสัญญา" เสียงนุ่มทุ้มที่แฝงความหนักแน่นอยู่ในที กระซิบลงที่ข้างหูของหน่องอีกครั้งพร้อมปลายจมูกที่ยื่นมาสูดดมความหอมจาก แก้มนวลอย่างพึงพอใจ
 
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๓. ๑๙ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 20-05-2011 09:26:23
อ่านแล้วใจหายแว้บบบบบบบบ
อะไรจะร้อนแรงขนาดนี้ๆๆๆๆ :เฮ้อ:
เมย์ว่าแรง เทียนมาแรงกว่า
โอ้ยยยยยย ลุ้นตัวโก่งมากกกกกกก
เห็นด้วยกับพี่ๆที่ว่า ตา ธรรมทานอะไรนี่ไม่มีออร่าพระเอกสักนิด :m16:
เป็นตัวละครที่ตอนสุดท้าย ไม่มีใครเอา :laugh:(หรือเปล่า)
กำลังลุ้นว่าระหว่าง ทินกร กับ เจ ออกมาใหม่ ใครจะเป็นพระเอก
 :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project[Blue]"หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า"ตอนที่4ท้องฟ้าสีน้ำเงินP:3/19/5/11
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 20-05-2011 09:48:26
สงสารสายลมจัง... :z3:
เฮ้ยยยย  อ่านแล้วปวดใจแปล๊บๆๆเลยย
ขอให้ปลายฟ้าไม่ได้คู่สายลม  :angry2:
เพราะหมั่นไส้ :beat:
รอตอนต่อไปคู่สู้ๆๆ :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project[Blue]"หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า"ตอนที่4ท้องฟ้าสีน้ำเงินP:3/19/5/11
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 20-05-2011 09:57:11
สายลมน่าสงสารอ่ะ 
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่4 สาเหตุที่ไม่ยอมกินข้าว100
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 20-05-2011 10:02:17
อุ้ยยยย ดอกพิกุลร่วงแล้วววว :mc4:
ลุ้นตั้งนานว่าจะพูดอะไรออกมาบ้างไหม
มิน่าละถึงไม่ค่อยกินอะไร เพราะแพ้ไข่นี่เอง
น่าสงสาร :m15: แต่ไม่เป็นไร
เดี๋ยวดูแลเอง :laugh: (เดี๋ยวพี่เตก็ดูแลนะ)
 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 7 ฝัน 20/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 20-05-2011 10:10:03
 :m15: :m15: :m15:
อึกๆๆ อ่านอีกรอบก็ยังปวดใจ
หรั่งไม่น่ารีบตายเลยยย
 :เฮ้อ:สงสารหน่อง
จะรอตอนต่อไปค่ะ
ปล. :freeze:ฉากถูกฆ่าก็ยังความทรมารใจมาให้ทุ้กกกกที
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๓. ๑๙ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 20-05-2011 10:11:59
เมย์ก็ร้ายเทียนก็แรง ปะทะกันทีไม่มีใครยอมใครเลยนะ

ปล.เหมือนดูเรยากะเด่นจันทร์แต่เป็นวาย 555+
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่4 สาเหตุที่ไม่ยอมกินข้าว100
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 20-05-2011 10:22:52
ไนท์เย็นชาจังเลย แต่พี่เตก็พร้อมจะดูแลใช่ป่ะ +1
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 7 ฝัน 20/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 20-05-2011 10:28:51
สงสารหรั่งกับหน่องจัง
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๓. ๑๙ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: คนริมคลอง ที่ 20-05-2011 10:54:02
ตัวละครใหม่ออกมาแล้ว

คิดเหมือนหลายๆรีเลยครับ อีตาทานเนี่ยโดนกลบรัศมีหมดเลย

หัวข้อ: Re: The rainbow project[Blue]"หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า"ตอนที่4ท้องฟ้าสีน้ำเงินP:3/19/5/11
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 20-05-2011 11:07:14
สงสารสายลม!!!
เฮ้อออออ   รักซ้อน  ซ่อนรัก
หัวข้อ: Re: The rainbow project[Blue]"หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า"ตอนที่4ท้องฟ้าสีน้ำเงินP:3/19/5/11
เริ่มหัวข้อโดย: RemySexyCool ที่ 20-05-2011 11:49:10
เหมือนตกจากสวรรค์ กำลังมีความสุขอยู่ดี ๆ ก็มีเรื่องอย่างนี้เข้ามา น่าสงสารจัง
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่4 สาเหตุที่ไม่ยอมกินข้าว100
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 20-05-2011 12:41:37
น้องไนท์ออกจะน่ารัก
คนอื่นไม่ดีคอยแกล้งน้องอยู่เรื่อย
พี่เตความอดทนเป็นเลิศ เหมาะสมกันที่ซู้ด :กอด1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project[Blue]"หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า"ตอนที่4ท้องฟ้าสีน้ำเงินP:3/19/5/11
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 20-05-2011 13:03:10
สงสารพี่สายลม
หลงรักคนมีเจ้าของ ได้แต่นองน้ำตา  :m15:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่4 สาเหตุที่ไม่ยอมกินข้าว100
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 20-05-2011 13:06:53
ไนท์น่ารักนะเราว่า ชอบอ่ะ><
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่4 สาเหตุที่ไม่ยอมกินข้าว100
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 20-05-2011 13:11:21
เห็นใจคุณเตมากกกกกกกกกกกกกกกก
ขนาดเราแค่คนอ่านยังเหนื่อยกับไนท์ขนาดนี้
หัวข้อ: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz /Chapter.1 -Minimart-
เริ่มหัวข้อโดย: Nassiiz ที่ 20-05-2011 13:19:13
(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page1.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page2.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page3.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page4.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page5.jpg)

-----------------------------------------------------------------------------------

-Ps.- อย่าเพิ่งสังสัยว่าเอ... คนเขียนเล่นอะไร แสกนหนังสือมาลงให้อ่าน? ก็ขอชี้แจงนะคะ ที่จริงตัวผู้เขียนมีความคิดว่าอยากให้ผู้อ่านได้อรรถรสเหมือนกับว่าได้เปิดอ่านจากหน้าหนังสือ เลยใช้วิธีโพสแบบนี้ ก็ขอให้สนุกกับการอ่านนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 7 ฝัน 20/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 20-05-2011 13:29:03
ปวดหัวใจ
ทำได้เพียงรักกันในฝันเท่านั้นล่ะหรือ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz (ตอนแรกมาแล้วค่ะ ตามสัญญา ^0^)
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 20-05-2011 13:46:21
 :mc4: :mc4: :mc4: ......อันนี้อารมณ์ก่อนอ่าน



   :a5: :a5: ........อันนี้หลังจากอ่านจบ   เด็กคนนั้นเป็นผีดิบใช่ไหมครับ :z2:



แต่ยังไงก้อแล้วแต่  ดีใจนะครับที่ในที่สุดพี่ก้อมาลงเรื่องจนได้ :mc4: :mc4: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz (ตอนแรกมาแล้วค่ะ ตามสัญญา ^0^)
เริ่มหัวข้อโดย: RemySexyCool ที่ 20-05-2011 13:49:32
สีเขียวมาพร้อมความแปลกใหม่ โปรเจคนี้มีครบทุกแบบจริง ๆ รอตอนต่อไปนะครับ
หัวข้อ: Re: The rainbow project[Blue]"หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า"ตอนที่4ท้องฟ้าสีน้ำเงินP:3/19/5/11
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 20-05-2011 13:49:41
เข้าใจ เห็นใจ สงสารลมนะ ก็ลมเองไม่กล้าบอกฟ้า ไม่กล้าแม้เผยความรู้สึก ดังนั้น....
ลมคงต้องพยายามทำแบบนี้แล้วล่ะ จะได้ไม่เจ็บมากเกินไป
"เพียงแอบรักไม่ขอจับจอง เพียงแค่ขอมองเธออย่างนี้ก็สุขใจ ก็สุขใจ ช่างสุขใจ"
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่4 สาเหตุที่ไม่ยอมกินข้าว100
เริ่มหัวข้อโดย: RemySexyCool ที่ 20-05-2011 13:53:10
ไนท์กับเรานี่คนละขั้วเลย เพราะเราขาดไข่ไม่ได้ 555++

หมายถึงต้องกินไข่ทุกวัน มันเป็นอาหารที่ทำง่ายที่สุด และดัดแปลงได้หลายเมนู
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๓. ๑๙ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: RemySexyCool ที่ 20-05-2011 13:55:09
"มาก่อนมาหลังไม่สำคัญหรอกค่ะหล่อน สำคัญที่ใครจะได้ไม่ใช่เหรอ"

ชอบอ่ะ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๓. ๑๙ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 20-05-2011 13:55:31
ท่าทางยัยเมย์จะแรงกว่าเทียนบุญอีกแหนะ
นายทานก็โลเลเหลือเกิน ไม่ได้เป็นพระเอกชัวร์
ทีนี้ก็ลุ้นว่าใครจะเป็นตัวแปรระหว่างนายเจกะนายทินกร
เครียด บีบคั้น อินจัด
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 2 [18/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: RemySexyCool ที่ 20-05-2011 13:58:47
คืนวันศุกร์นี้ บาร์คงคึกคัก หวังว่าคนเขียนไม่ไปลั้นลาที่ไหน แล้วรีบมาโพสตอนต่อไปนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 7 ฝัน 20/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: RemySexyCool ที่ 20-05-2011 14:01:09
เจ๊จงลงถี่เหลือเกิน น้องอ่านไม่ทัน  :laugh:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz (ตอนแรกมาแล้วค่ะ ตามสัญญา ^0^)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 20-05-2011 14:02:21
ตอนแรกก็เลือดสาดแล้ว
ออกแนวบู๊ ล้างผลาญรึเปล่าเนี่ย o22
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz (ตอนแรกมาแล้วค่ะ ตามสัญญา ^0^)
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 20-05-2011 14:04:48
 :jul1: :jul1: :jul1: นี่แหละนิยายเรียกเลือดที่สุดในโปรเจค
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่4 สาเหตุที่ไม่ยอมกินข้าว100
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 20-05-2011 14:08:46
ป้าก็แพ้ไข่นะคะ
 
เพราะเห็นแล้วระทวย น้ำลายสอ อยากจะกินทุกทีไป กับเมนูสารพัดไข่
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz (ตอนแรกมาแล้วค่ะ ตามสัญญา ^0^)
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 20-05-2011 14:12:48
นอกจากแนวเรื่องที่แหวกแนวแล้ว วิธีการลงเรื่องยังแปลกใหม่อีกด้วย

 o13 เรนเจอร์เขียวสู้ๆ (เรียกตามคนอ่านบ้าง)
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 7 ฝัน 20/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 20-05-2011 14:15:28
เจ๊จงลงถี่เหลือเกิน น้องอ่านไม่ทัน  :laugh:

ผมก็ลงถี่ ๆ นะครับ ตามอ่านให้ทันแล้วกัน อิอิ

ตอน 10 ใกล้ถึงแล้ว  o13
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่4 สาเหตุที่ไม่ยอมกินข้าว100
เริ่มหัวข้อโดย: nataxiah ที่ 20-05-2011 14:29:10
อ่านแล้วนึกถึงตัวเองตอนโดนหมอบอกว่าแพ้ไข่เลยอะ

แบบว่าจะกินอะไรก็ไม่ได้ มีแต่ของเคยกินของอร่อยๆทั้งนั้น

ต้องไปทำแอนตี้เทสตั้งสามครั้ง ถึงจะรู้ว่าไม่ได้แพ้ไข่แต่แพ้อาหารอย่างอื่น

แต่ก็ไม่ได้กินไข่ไปสามสี่เดือน ชีวิตเศร้ามากตอนนั้น

นั่งมองเค้กของโปรดตาละห้อย  :sad4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz (ตอนแรกมาแล้วค่ะ ตามสัญญา ^0^)
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 20-05-2011 14:37:24
แหวกแนวมาเลย
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๓. ๑๙ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Chinnosuke ที่ 20-05-2011 14:49:49
ของมันแรรงงงงเทียนจริงๆ
มันสุดๆ
สีแดงแรงสุดๆๆ
อีตาทานนิไม่ใช่พระเอกแน่
น่าจะเป็นทินกรนะผมว่า :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz (ตอนแรกมาแล้วค่ะ ตามสัญญา ^0^)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 20-05-2011 15:05:43
มันได้อารมณ์เหมือนอ่านหนังสือจริง ๆ แหละ  แต่พี่ว่ามันอ่านยากไปนิดนะ
ขนาด monitor พี่ตอนนี้ 21"  ยังต้องเพ่ง  ถ้ากลับบ้านไปเจอ 13" พี่ต้องตาลายแน่เลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๓. ๑๙ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 20-05-2011 15:06:44
อ่านๆไปตั้งกะต้นจนมาถึงตอนล่าสุดเนี่ย  อิฉันรู้สึกไม่ชอบทานมากขึ้นๆ จนอาจจะเริ่มเกลียดแล้วมั้ง
คนอะไรโลเลไม่เด็ดขาด เห็นแก่ตัวและเห็นแก่ธุรกิจของตัวเองมากไปรึเปล่า
แล้วก็ค่อนข้างฉลาดน้อย ไม่ทันมารยาหญิงนะ ยิ่งมาตอนนี้ดูเหมือนจะร่วมมือกับยัยเมย์
เพื่อตัดหน้าเชิงธุรกิจเทียนอีกด้วย เทียนก็กำลังหน้ามืดเนอะ เลยมองไม่เห็นตรงนี้ของทาน
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๓. ๑๙ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: LimousinX9 ที่ 20-05-2011 15:16:01
เมื่อไหร่ตัวพระจะออกเนี่ย- - :m28:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz (ตอนแรกมาแล้วค่ะ ตามสัญญา ^0^)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 20-05-2011 15:22:58
มันได้อารมณ์เหมือนอ่านหนังสือจริง ๆ แหละ  แต่พี่ว่ามันอ่านยากไปนิดนะ
ขนาด monitor พี่ตอนนี้ 21"  ยังต้องเพ่ง  ถ้ากลับบ้านไปเจอ 13" พี่ต้องตาลายแน่เลยอ่ะ
ใช่คะ เรื่องราวชวนตื่นเต้นตั้งกะเริ่มต้น วิธีการลงเรื่องก็แปลกตา
แต่ว่า อ่านยากไปจ้ะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz (ตอนแรกมาแล้วค่ะ ตามสัญญา ^0^)
เริ่มหัวข้อโดย: Eternal luv ที่ 20-05-2011 16:18:27
 :z13: กรีนมาแล้ว
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 7 ฝัน 20/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 20-05-2011 16:46:46
โอเค กลัวคนอ่านๆไม่ทัน ตอน 8 อัพวันเสาร์ ตอน
9 อัพวันอาทิตย์
ตอน 10 เดือนหน้าเลยแล้วกัน 555
 
ดีไหม คิๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่5 เสียงกระซิบขอบคุณ 20/5/2011
เริ่มหัวข้อโดย: ภาพฝัน ที่ 20-05-2011 17:12:14

   เช้านี้เตชวัฒน์หอบอาหารสดพร้อมตำราทำอาหารมาแต่เช้าก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไปในทีแรกเขาลังเลว่าจะเจอวริศรินทร์ในสภาพไหน แต่กลับผิดคาด เมื่อวันนี้เขาเห็นวริศรินทร์นอนหลับอยู่บนเตียงอย่างสงบ ใบหน้ายามหลับของวริศรินทร์ไม่ต่างจากตอนปกตินักแต่ดูผ่อนคลายลงมาก เขาไม่อยากรบกวนเวลานอนของอีกฝ่าย จึงเดินไปที่ส่วนของห้องครัวเพื่อลองประกอบอาหาร

   วริศรินทร์แพ้ไข่ดังนั้นอาหารที่กินได้จึงมีไม่มากนัก พวกขนมหวานทานไม่ได้เลยเพราะทุกอย่างล้วนมีไข่เป็นส่วนประกอบด้วยกันทั้งนั้น สำหรับเขาเช้านี้คงลองทำข้าวต้มดูเพราะดูเป็นอะไรที่ทำง่ายที่สุด เขารื้อหาหม้อหุงข้าว แล้วจัดการหุงข้าวสวยไว้รอ แล้วต้มน้ำซุบเพื่อราดข้าว เตชวัฒน์ตั้งใจจะทำข้าวต้มหมู หลังจากเพ่งเมนูอาหารอยู่นานแม้ว่าจะทำตามขั้นตอนเขาก้ไม่มั่นใจว่าจะทำออกมาอร่อยจนอีกฝ่ายยอมกินไหม กว่าจะทำเสร็จเตชวัฒน์ต้องปาดเหงื่อหลายครั้ง เขาไม่ชินกับการทำอาหารแต่เขาก็ยอมรับว่ารู้สึกไม่สบายใจที่สองวันที่่ผ่านมาเขาเอาแต่อาหารที่ไนท์ทานไม่ได้มาวางไว้ให้ทั้งที่เขาก็รู้ว่าไนท์หิว

   เสียงเปิดประตูดังมาจากด้านหลัง เขาหันหลังกลับไปเจอไนท์ยืนอยู่ที่หน้าประตูเหมือนกำลังมึนงง เตชวัฒน์นึกได้ว่าลืมเปิดพัดลมดูดอากาศทำให้ภายในห้องมีกลิ่นข้าวต้มลอยคละคลุ้งไปหมด เขารีบเดินไปเปิดหน้าต่างระบายอากาศทันที พอหันมาเขาเห็นไท์ที่อยู่ในสภาพเสื้อยืดคอย้วยกับกางเกงขาสั้นสำหรับใส่นอนยืนอยู่

   “พี่ทำข้าวต้มเสร็จพอดีไนท์จะทานเลยไหม หรือจะอาบน้ำก่อน” ไม่มีคำตอบมีเพียงร่างโปร่งที่เดินตรงไปนั่งแล้งฟุ๊บหน้าลงกับโต๊ะ เตชวัฒน์ลอบยิ้มกับการกระทำของอีกฝ่าย เขาตักข้าวต้มใส่ชามแล้วนำไปวางไว้บนโต๊ะ แล้วนั่งลงตรงข้ามกับอีกฝ่าย วริศรินทร์เงยหน้าขึ้นมามองข้าวต้มที่ส่งกลิ่นหอมฉุย

   “ทานเลยสิ” พอได้คำอนุญาติจากเตชวัฒน์ เขาหยิบบช้อนขึ้นมาตักข้าวต้มขึ้นมาปล่อย เมื่อเห็นท่าทางของอีกฝ่ายเขารู้สึกว่าในบางครั้งไนท์ก็เหมือนเด็กที่ต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่ ภาพที่ไนท์นั่งเท้าคางเป่าข้าวต้ม มันทั้งดูเหมือนคนเกลียดค้านและน่าขัน

   “อร่อยไหม” เตชวัฒน์อดถามไม่ได้เมื่อเห็นวริศรินทร์นั่งเคี้ยวข้าวต้มไปเรื่อยๆ ไม่มีคำตอบอีกเช่นเคย แต่เขาตั้งใจไว้แล้วว่าจะทำความคุ้นเคยกับอีกฝ่าย

   “พี่ไม่เคยทำอาหาร แต่ไนท์แพ้ไข่คงกินอะไรได้ยาก พี่จะลองหัดทำให้ไนท์ทานถ้าพี่ทำไม่อร่อยหรือไนทืไม่ชอบอะไรก็บอกพี่น่ะ” วริศรินทร์ไม่พูดอีกเช่นเคย เขาทานอาหารไปเงียบๆ เตชวัฒน์ได้แต่ถอนใจ คิดในดีว่าอย่างน้อยวริศรินทร์ก็ยอมทานอาหารที่เขาทำ

   “อย่าเพิ่งไปไหนไนท์ ดื่มน้ำผลไม้ก่อน” เตชวัฒน์เดินไปหยิบน้ำผลไม้คั้นสดที่เขาแวะซื้อก่อนเข้ามา เขารู้ว่าดาราผิวพรรณจำเป็น และวริศรินทร์จำเป็นต้องปรับปรุงเรื่องการกินอาหารอีกมาก วริศรินทร์รับแก้วน้ำผลไม้ เขามองแก้วน้ำสีเขียวในมือเหมือนสงสัยว่ามันคืออะไร

   “น้ำกีวีสดนะ พี่อ่านเจอมาว่ามันมีวิตตามินสูงช่วยบำรุงผิว” เตชวัฒน์ตอบในสิ่งที่เขาคิดว่าวริศรินทร์ต้องการจะรู้ ดวงตาสีดำเงยหน้าขึ้นมาสบตาเขา

   “ถ้าไนท์ไม่ชอบก็บอกพี่ได้ คราวหน้าพี่จะได้ซื้ออย่างอื่น” เตชวัฒน์ตอบอย่างใจเย็น เมื่อเขาเห็นอีกฝ่ายนิ่งไป เขาสองคนได้แต่ยืนสบตากัน และเป็นฝ่ายวริศรินทร์ที่ละสายตาออก แต่ยังไม่ทันที่เขาจะตั้งตัว ริมฝีปากนุ่มก็ระทับลงมาที่ข้างแก้มอย่างแผ่วเบา

   “ขอบคุณ” เสียงทุ้มนุ่มที่ฟังดูสดใสไม่แหบแห้งเหมือนทุกครั้งที่ได้ยิน ไนท์หัวกลังกลับเข้าห้องทันทีที่กล่าวจบ ทิ้งให้เตชวัฒน์ยื่นนิ่งอยู่กับที่

   “ก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด” เขายิ้มให้กับตัวเองพลางยกมือลูบข้างแก้มตัวเองอย่างแผ่วเบา ความรู้สึกถึงรอยสัมผัสบางเบายังคงอยู่ที่ผิวกาย

..............................................


 o18
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 7 ฝัน 20/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 20-05-2011 17:22:09
นี่ไงนี่ๆงของจริงเริ่มมาแล้ว 
เรื่องแบบนี้ผมอ่านได้เฉพาะกลางวันละครับป้า
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่5 ขอบคุณ 20/5/2011
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 20-05-2011 17:26:20
อ๊ายยยยยยยยยยย
น้องไนท์ ทานผลไม้อย่างอื่นมั้ยค่ะ พี่แนะนำน้ำฝรั่งมีวิตามินซีสูง
แถมน้องทานไข่ไม่ได้ ระวังขาดวิตามินกลุ่ม ADEK
ทานอโวคาโด เสริมนะคะ จะได้โอเมก้า 6 บำรุงผิวเพิ่ม
*เผื่อได้คิสจากน้องบ้างไรบ้าง


ว่าแต่ใครจะ...ใครกันแน่ เปลี่ยนมาลุ้นเรื่องนี้ดีกว่า
หัวข้อ: Re: The rainbow project[Blue]"หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า"ตอนที่4ท้องฟ้าสีน้ำเงินP:3/19/5/11
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 20-05-2011 17:53:12
เอิมคุณ ChCh13 ไหงมาโทษผมละครับ  :o12: หนีไปแต่งเรื่องต่อซะเลย

ไป ๆ มา ๆ มีแต่คนไม่อยากให้พระเอกนายเอกของผมได้กันเสียแล้ว

หรือว่าจะไม่ทำให้ได้กันดี สายลมตายอย่างที่หลาย ๆ คนคิด

เอ๊ะ เอาไงดีหว่า  :serius2:

ปล. ล้อเล่นนะครับ เรื่องของผมมันมีทางจบอยู่แล้วแต่จะแบบไหนก็รอลุ้นกันนะครับ

ปล2. ปลายฟ้าเขาก็น่าสงสารนะครับ (หรือว่าไม่อะ  :laugh: )
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่5 เสียงกระซิบขอบคุณ 20/5/2011
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 20-05-2011 18:00:54
น่ารักไปไหนเนี่ย^___^
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่5 เสียงกระซิบขอบคุณ 20/5/2011
เริ่มหัวข้อโดย: CHOKUN ที่ 20-05-2011 18:32:56
เอาใจช่วยให้คุณเต เข้าใจไนท์ไว ๆ ๆ น้องจะได้ยิ้มบ้าง   :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่5 เสียงกระซิบขอบคุณ 20/5/2011
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 20-05-2011 19:16:51
 :o8:  น้องไนท์ทำน่ารักเป็นด้วย
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๓. ๑๙ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 20-05-2011 20:30:21
มกุฏโกเมน อ่าฮะ ชื่อเหรอเนี่ย น่าเอาไปตั้งให้ลูกจัง อิอิ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz (ตอนแรกมาแล้วค่ะ ตามสัญญา ^0^)
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 20-05-2011 20:59:20
มันได้อารมณ์เหมือนอ่านหนังสือจริง ๆ แหละ  แต่พี่ว่ามันอ่านยากไปนิดนะ
ขนาด monitor พี่ตอนนี้ 21"  ยังต้องเพ่ง  ถ้ากลับบ้านไปเจอ 13" พี่ต้องตาลายแน่เลยอ่ะ

กลับไปบ้าน น่ากลัวว่าจะใหญ่คับจอเลยล่ะค่ะ

ถ้าเกิดขนาดหน้าจอของใครเกิน 1,024 ppi ก็กดปุ่ม Ctrl กับ ปุ่ม + ตรง แถบ Num Lock ดูสิคะ
อยากขยายให้ใหญ่ ก็กด + โลด แต่แนะนำให้ จำเอาไว้ด้วยว่ากดไปกี่ครั้ง ไม่งั้น พอจะกลับคืนค่าเดิม
จะจำไม่ได้

เวลาคืนค่าตามเดิม ก็กด - แทน + เอานะคะ ลองดูสิคะ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 2 [18/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: MonarcH ที่ 20-05-2011 20:59:27
Butterfly 3

...คืนแรกที่ผมทำงานก็ต้องเจอกับอะไรหลายอย่างที่ทำให้ตัวเองสับสน การที่นิสัยส่วนตัวเป็นคนไม่สุงสิงกับอบายมุข แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมเป็นพระอิฐพระปูน สิ่งกระตุ้นสมัยเรียนมันทำอะไรไม่ได้ก็เพราะผมรู้หน้าที่ของตัวเองคือต้องตั้งใจเรียนให้ดีที่สุดเพื่อไม่ให้เป็นภาระ และทำให้ป้าธเนศภูมิใจในตัวผม...

...ผมไม่ใช่คนดีเด่อะไรมากมาย ความต้องการอยากรู้อยากเห็นตามประสาวัยรุ่นก็ยังมีอยู่ เพียงแต่มันถูกปิดเอาไว้อย่างมิดชิด คืนนี้เป็นคืนแรกที่ผมมาทำงานที่ The Butterfly Boy แต่ไม่มีใครรู้หรอกครับว่ามันไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมมาเยือน...เมื่อตอนที่ผมเป็นนักเรียน ผมแอบมากับ “เทียนบุญ” เพื่อนสนิทที่ปัจจุบันนี้ผมติดต่อผ่านอีเมล์เท่านั้น เพราะเค้าไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ เทียนบุญไม่เหมือนผม เพราะเค้าสามารถทำอะไรได้ทุกอย่างที่อยากทำตามประสาคนมีเงิน เทียนติดใจบาร์แห่งนี้มาก เค้าไปบ่อยจนกลายเป็นลูกค้าประจำ แต่ไม่เคยบอกใครว่าเป็นเพื่อนกับผมซึ่งเป็นหลานเจ้าของบาร์...

...ทันทีที่ผมกลับถึงบ้าน ผมก็ส่งข้อความไปหาเทียนบุญโดยบอกเล่าเรื่องราวทุกอย่างที่ไปเจอมา โดยไม่ลืมบอกว่าพี่ธัญญ่าตอนนี้เลื่อนตำแหน่งมาเป็นมาม่าซังคุมร้าน ไม่ใช่กัปตันสาวเชียร์แขกแบบเดิม แต่ลีลาการเชียร์แขกก็ยังดีอยู่ เด็กโดนอ็อฟไปครึ่งค่อนร้าน พูดถึงเด็ก ผมก็คิดถึงบรรยากาศในร้านตอนที่โชว์ค็อก โชว์ฟัก โชว์อาบน้ำ แค่คิดผมก็หน้าร้อนผ่าว ต้องรีบพิมพ์บอกเล่าสิ่งที่ไปพบเจอที่ร้าน และระบายความกดดันที่ต้องแบกความคาดหวังของป้าธเนศไว้...
*
*
...เมื่อได้นอนหลับพักผ่อนเต็มอิ่ม ผมต้องใช้สติในการแก้ปัญหา ไม่ใช่ต่อต้านฟูมฟายกับภาระหน้าที่ที่บังเอิญได้รับ...เราได้รับมาแล้ว และต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด แม้ว่าจะต้องไม่เป็นตัวของตัวเอง ถือซะว่าเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ที่เพื่อนผมเคยบอกว่า “เกย์หลายนางยอมตายเพื่อให้ได้งานนี้” เราควรจะใช้ช่วงเวลานี้ให้คุ้มค่าที่สุดถึงจะถูก เพราะเมื่อใดก็ตามที่ป้าธเนศกลับมา ผมก็ต้องกลับไปเป็นกริชคนเดิม ใส่แว่น ใส่เจลหวีผมเรียบ เป็นพนักงานออฟฟิศในอาคารสำนักงาซักแห่งบนถนนสุขุมวิท...
“อุ๊ย กริช ผีเจ๊ธเนศเข้าสิงเหรอ”  พี่ธัญญ่าทักผมทันทีที่เห็นหน้าในเวลาห้าโมงเย็น
“อะไรพี่ธัญญ่า”  ผมปรายตามองแล้วยื่นถุงขนมที่แวะซื้อในห้างย่านนั้นให้พี่ธัญญ่าไปแบ่งเด็กบาร์คนอื่น
“ก็วันนี้หนูเดินได้เชิดเริ่ดรัศมีไฮโซเปล่งประกาย”
“ต่อไปกริชจะเป็นคนที่ป้าอยากให้เป็น โน มอร์ แอ๊บ โอเค๊”  ผมพูดพลางเชิดหน้ายิ้มมุมปากแบบที่เคยเห็นป้าตัวเองทำบ่อย ๆ
“จ้า ที่ซิดนี่ย์กี่โมงแล้วเนี่ย อยากจะโทรไปเม้าท์กับเจ๊จัง”  พี่ธัญญ่ายิ้มกว้างอย่างตื่นเต้น
“เด็กจะเข้ากันกี่โมงพี่” ผมมองกวาดไปทั่วร้าน เห็นแค่เด็กบาร์ที่พักอยู่ชั้นสี่ไม่กี่คนใส่บ็อกเซอร์นั่งคุยกันที่มุมหนึ่ง
“ตอกบัตรไม่เกิน 1 ทุ่ม ถ้ามาสายโดยไม่แจ้งล่วงหน้า หรือไม่มีเหตุอันควรโดนตัดค่าเบี้ยงเลี้ยงสิบห้านาทีละหนึ่งร้อย” 
“โหดเหมือนกันนะเนี่ย...แต่ทำงานเย็นขนาดนี้ ไม่ควรมาสาย การเดินทางก็มีหลายวิธี หักเงินแบบนั้นแหละดีแล้ว”
“นอกจากจะถอดความอลังการของเจ๊มา ยังเอาความเขี้ยวมาด้วยนะเนี่ย เริ่ดมากน้องกริช”  พี่ธัญญ่าหัวเราะคิกคัก
*
*
...ผมนั่งอมยิ้มอยู่คนเดียวในห้องทำงาน การเปลี่ยนบุคลิกให้สมกับการเป็นผู้รักษาการณ์เจ้าของบาร์ The Butterfly Boy ผมเดินดูทั่วร้านเป็นครั้งแรก เข้าไปดูตั้งแต่ในล็อกเกอร์ที่พนักงานทุกคนต้องเอาของใช้ส่วนตัวมาเก็บแล้วเปลี่ยนเป็นชุดฟอร์มตัวจิ๋วของร้าน ห้องน้ำ ห้องเก็บเครื่องดื่ม และห้องพักของพนักงานที่มาจากต่างจังหวัดแล้วต้องพักที่ร้านชั่วคราว...ผมใช้ความรู้ที่เรียนมาคิดวางแผนปรับปรุงหลายอย่างในบาร์นี้ แต่สิ่งที่ยากที่สุดคิด “บริหารคน” ท่ามกลางสายตาของพนักงานส่วนใหญ่ที่มองผมอย่างเกรงใจ ก็มีอยู่กลุ่มหนึ่งที่มองผมด้วยสายตาไม่เป็นมิตร อาจจะเพราะเราอายุใกล้เคียงกัน แล้วผมต้องมาอยู่ในสถานะเจ้านายที่ควบคุมอาชีพที่ไม่มีใครภูมิใจหรือกล้าบอกใคร ๆ ว่ามีอาชีพ “ขายบริการ”...
“เข้ามาได้ครับ”  ผมอนุญาตโดยไม่ได้เงยหน้ามอง
“คุณกริช มีคนมาสมัครงานใหม่สองคนค่ะ”   พี่ธัญญ่าพูดกับผมอย่างเป็นทางการ
“สองคน”  ผมถามย้ำ เพราะเห็นชายหนุ่มคนเดียวที่ยืนด้านหลังพี่ธัญญ่า
“ค่ะ สองคน แต่ขึ้นมาสัมภาษณ์ทีละคน ส่วนอีกคนให้รออยู่ข้างล่าง”
“อืม ตามสบายครับ”  ผมทำท่าจะลุกให้พี่ธัญญ่าจัดการ
“เราช่วยกันสัมภาษณ์ดีกว่านะคะ”  พี่ธัญญ่าส่งซิก
“โอเค เชิญนั่งครับ” 
*
*
...พี่ธัญญ่าถามประวัติเด็กคนนั้นเหมือนคนมาสมัครงานปกติ ชื่อ ชื่อเล่น ส่วนสูง น้ำหนัก ผมก็นั่งอ่านใบสมัครของเค้าไปพลาง ๆ...
“คุณกริชมีอะไรจะถามเค้ามั้ยคะ”
“เรียนจบ ม. 3 ไปทำงานโรงงานก็ได้นะ”  ผมพูดด้วยความหวังดี พี่ธัญญ่ากระแอมเตือน
“ผมมีภาระทางบ้านเยอะครับ ทำงานโรงงานคงไม่พอใช้”  เด็กนั่นตอบ
“พูดภาษาอังกฤษได้มั้ย”  ผมถามต่อ
“คุณกริชหมายถึง ถ้ามีลูกค้าต่างชาติมาใช้บริการ เธอจะพูดคุยสื่อสารได้มั้ย” 
“ก็พอได้ครับ เยส โน โอเค ไอฟักยู ออ ยูฟักมี ไอแอมบิ๊กนะ” เค้าทำท่านึกประโยคจะพูดต่อ
“คุณมองอาชีพนี้ยังไง วางแผนอนาคตไว้แบบไหน จุดด้อยจุดเด่นของคุณคืออะไร” ผมถามแทรก เพราะไม่อยากได้ยินศัพท์พวกนั้นอีก
“คุณกริชคะ น้องเค้ามาขายน้ำนะคะ ไม่ใช่มาเป็นผู้จัดการธนาคาร คำถามยากไปค่ะ”  พี่ธัญญ่าเบรก
“กริชไม่รู้จะถามอะไรนี่นา”  ผมกระซิบเบา ๆ
*
*
...พี่ธัญญ่าแสดงตัวอย่างคำถามให้ผมดู ถึงจะทำใจไว้แล้วแต่ก็ต้องอึ้งกับคำถามหลาย ๆ คำถาม เช่น น้องชายใหญ่แค่ไหน มีออฟชั่นเสริมพวกมุก แคปซูล เจาะ หรือผ่าหัวเบ็นซ์มั้ย มีรอยสักตรงไหนบ้าง เคยเข้าคุกหรือเปล่า เคยมีประสบการณ์ทางเพศกับเกย์หรือผู้ชายด้วยกันมั้ย ลีลาบนเตียงเป็นยังไง มีน้ำอดน้ำทนแค่ไหน คืนนึงสามารถฟินได้กี่ครั้ง รุก รับ ดูด อม เลีย ไซร้เก่งมั้ย มีอะไรที่ไม่ยอมทำบ้าง สุดท้ายให้ผู้สมัครงานแก้ผ้าเปลือยกายล่อนจ้อน และปั่นของตัวเองให้แข็งตัวเต็มที่โดยไม่มีสิ่งกระตุ้น และจับเวลาดูว่าจะแข็งได้นานกี่นาที และต้องสำเร็จความใคร่ให้เสร็จโดยจะจับเวลาไว้เช่นกัน...ก่อนจะจบการสัมภาษณ์พี่ธัญญ่าบอกให้เริ่มงานได้ในคืนพรุ่งนี้ โดยต้องไปตรวจเลือดที่โรงพยาบาลและนำเอกสารมาแสดงเพื่อให้มั่นใจว่าปลอดภัยจากโรคติดต่อร้ายแรง ส่วนเรื่องรายได้และเงื่อนไขอื่น ๆ ทางกัปตันจะเป็นคนอธิบาย...
“ทำไมพี่ถึงรับคนนั้นเข้าทำงานล่ะ”  ผมปรับสีหน้าให้เป็นปกติก่อนจะหันไปถามพี่ธัญญ่าหลังจากเด็กคนนั้นไหว้ลา และถือเอกสารลงไปให้กัปตัน
“เซนส์มั้ง เห็นแล้วอยากมีอะไรด้วย ถึงหน้าตาเค้าจะธรรมดา แต่บอดี้เริ่ดมาก แบบนี้ฝรั่งชอบ เราต้องหาเด็กหลายแบบไว้ให้ลูกค้าเลือก”
“งั้นอีกคนที่รออยู่พี่ก็จัดการเองเลยก็ได้นะ”
“ไม่เอา คนนี้พี่เก็บไว้ให้กริชลองสัมภาษณ์ ไม่น่าจะยาก พี่ไปดูงานอื่นก่อน รู้สึกว่าเด็กจะเริ่มมากันเยอะแล้ว...พร้อมหรือยัง พี่ไปตามเขามาเลยนะ”  พี่ธัญญ่าจะถามว่าผมพร้อมหรือยังทำไม เพราะแกไม่ฟังคำตอบ กลับรีบเดินจ้ำออกจากห้องไป
*
*
...ผมลุกขึ้นส่องกระจกจัดผมจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ หายใจเข้าออกลึก ๆ เพื่อข่มความตื่นเต้น นึกทบทวนว่าต้องถามอะไรคนสมัครงานบ้าง รู้สึกกระดากปากไม่น้อยที่ต้องพูดอะไรตรง ๆ เกี่ยวกับเพศ ถึงจะคุยเล่นกับเพื่อนบ้าง แต่คนที่มาสมัครงานเค้าเป็นคนแปลกหน้า การที่จะพูดในเรื่องใต้ร่มผ้ามันดูแปลก ๆ ยังไงชอบกล...ผมกำลังคิดอะไรเพลิน ๆ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น...
“เชิญครับ”
“ทำยังไงก็ได้ให้คุณกริชรับเธอเข้าทำงานนะ”  เสียงพี่ธัญญ่าดังลอดประตู ก่อนที่จะดันร่างชายหนุ่มคนหนึ่งเข้ามาในห้อง

...เค้าก้มหัวนิด ๆ เพื่อให้พันวงกบประตูที่สูงไม่มาก ผมเองก็ต้องก้มเพราะกลัวหัวจะโขกกับประตู ท่าทางจะสูงกว่าผมซึ่งก็ประมาณ 180 กว่า ทันทีที่เข้าเงยหน้าขึ้น ตาเราประสานกันอย่างจัง ดวงตายาวรีคล้ายเมล็ดอัลมอนด์ประดับด้วยขนตาหนา รับกับคิ้วดกดำได้รูป มองไล่มาสะดุดกับจมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากอิ่มสีชมพูเข้ม ประกอบกับไรหนวดอ่อน ๆ ทำให้หน้าหล่อนั้นคมเข้มมากขึ้น ผิวขาวเหลืองเนียนเรียบ เสื้อยืดราคาถูกผ้าทิ้งตัวทำให้เห็นกล้ามเนื้อบริเวณหน้าอกดันขึ้นมาเป็นลูก ต้นแขนที่พ้นเสื้อดูกำยำสมชาย หน้าท้องแบนราบ ผมต้องสะดุดตาอีกครั้งที่บริเวณกลางลำตัวที่แม้ใส่กางเกงยีนส์สีซีดอยู่ แต่สัดส่วนความเป็นชายของเขามันนูนเด่นจนแทบจะกลายเป็นจุดที่น่าสนใจที่สุดไปแล้ว ณ เวลานี้...

“สวัสดีครับ”  ชายหนุ่มตรงหน้ายกมือไหว้ผมด้วยสีหน้าตื่น ๆ
“สวัสดี เชิญนั่งครับ”  ผมรับไหว้ แล้วปรับสีหน้าให้ดูเคร่งขรึม
“ใบสมัครงานครับ”  เขายื่นเอกสารให้ผม
“แนะนำตัวด้วยครับ”  ผมพูดพลางพลิกดูเอกสารในมือ
“ผมชื่อยุทธกร เรียกสั้น ๆ ว่ายุทธก็ได้ครับ อายุ 23 ปี สูง 180 หนัก 68”  เค้าพูดเหมือนท่องมา บอกเล่าว่าเพิ่งมาจากจังหวัดเล็ก ๆ ทางภาคเหนือตอนล่าง เป็นการมากรุงเทพฯเป็นครั้งแรก ตอนนี้พักกับเพื่อนที่แถวถนนเพชรบุรี แต่กำลังจะย้ายออกเร็ว ๆ นี้เพราะไม่มีงานทำ ไม่อยากรบกวนเพื่อน
“ทำไมถึงมาสมัครงานที่นี่ครับ”
“ผมไม่มีความรู้ จบแค่ประถมหก มีคนแนะนำว่าอาชีพนี้รายได้ดี ผมอยากทำงานที่ได้เงินเยอะ ๆ แล้วส่งไปให้ทางบ้านน่ะครับ”  ยุทธตอบซื่อ ๆ
“รูปร่างหน้าตาอย่างคุณไปเป็นดารานายแบบได้สบายเลยนะ”
“พวกดาราเค้าต้องมีพื้นฐานดี มีความรู้ ผมคงเป็นไม่ได้หรอกครับ”
“รู้หรือเปล่าว่างานนี้เป็นยังไง”
“เพื่อนผมบอกหมดแล้วครับ”
“คุณเคยมีอะไรกับผู้ชายด้วยกันมาก่อนมั้ย”  ผมถามด้วยเสียงเข้มขรึมกลบความอาย
“ไม่เคยครับ”  เขาตอบทันที
“แล้วจะทำเป็นเหรอ”
“ผมเป็นคนเรียนรู้ไวครับ”
“น่าจะใช้ข้อดีของการเรียนรู้ไวไปทำอะไรที่ดีกว่านี้นะ”  ผมเผลอหลุดปากออกไป
“.....................................”  เค้าหน้าเจื่อน
“งานนี้ก็ต้องอาศัยไหวพริบ และการเรียนรู้ไวเหมือนกัน”  ผมรีบแก้
“เพื่อนผมเคยบอกว่าเอากับเกย์มันส์กว่า ผมก็เลยอยากลองบ้าง”  ยุทธพูดด้วยสีหน้าเขิน ๆ แต่ผมเขินกว่า
“เอ่อ...ไอ้นั่นของคุณ...เอ่อ...ใหญ่มั้ย”  ผมกลั้นใจถาม หน้าร้อนเหมือนคนเป็นไข้
“ผมว่าคุณกริชลองดูเองดีกว่า”  พูดจบเค้าก็ลุกขึ้นยืนแล้วปลดเข็มขัดออก
“เดี๋ยวก่อน...เรื่องบนเตียงของคุณเป็นยังไงมั่ง รุก หรือ รับ ทำอะไรได้บ้าง ใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะหลั่ง คืนนึงทำได้กี่ครั้ง”  ผมรีบถามลิ้นแทบพันกัน
“เรื่องบนเตียงกับผู้ชายไม่เคยครับ ก็เลยไม่รู้ คิดว่าผมเป็นรุกอย่างเดียว ทำอะไรได้บ้าง ผมทำได้ทุกอย่างครับ ใช้เวลานานแค่ไหนถึงเสร็จ ต้องแล้วแต่คนที่ผมมีอะไรด้วย คืนนึงทำได้กี่ครั้งเหรอ ก็จนกว่าน้ำจะหมดตัวนั่นแหละครับ”  ยุทธตอบพลางจับชายเสื้อยืดย้วย ๆ ถอดออกทำให้เห็นไรขนใต้วงแขนที่ดูเซ็กซี่ที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา กล้ามอก กล้ามท้องไม่มากไม่น้อย ดูรู้ว่าไม่ใช่คนที่จงใจกินโปรตีนเสริมแล้วเข้าฟิตเนสผลิตกล้ามออกมา แต่เป็นกล้ามเนื้อลีน ๆ ของชายหนุ่มวัยเจริญพันธุ์ที่ใช้แรงกายในชีวิตประจำวัน รวมทั้งการกินอาหารแบบพื้นบ้านของภาคเหนือที่มีผักเป็นส่วนประกอบหลัก
“เดี๋ยว คุณจะทำอะไรอ่ะ”  ผมถามเสียงดัง เมื่อยุทธถอดเข็มขัด และปลดกระดุมกางเกงยีนส์ซีดตัวนั้น
“ก็ทดลองงานไงครับ พี่ที่พาขึ้นมาเค้าบอกผมว่าต้องทำอะไรบ้าง”  เขาพูดยิ้ม ๆ โชว์ฟันขาวสะอาดเรียงตัวเป็นระเบียบ แต่ตอนนี้ไรขนที่เลื้อยจากสะดือไปที่ขอบกางเกงชั้นในมันน่ามองกว่า
“ไม่ต้องทำขนาดนั้น” ผมลุกขึ้นยืนหันหลังพยายามข่มใจตัวเอง
“ถ้าผมไม่ทำ แล้วคุณกริชจะรับผมทำงานมั้ยครับ”  เสียงทุ้มนุ่มของยุทธดังข้างหู ผมถึงกับขนลุกซู่เมื่อเขาหายใจรดต้นคอเหมือนจงใจยั่วยุปลุกอารมณ์
“ออกไปยืนห่าง ๆ ผมหน่อย”  ผมพูดเสียงแข็งพลางเบี่ยงตัวหลบ
“พี่เค้าบอกว่าคุณกริชต้องการพิสูจน์ทดลองงานผมด้วยมือของคุณกริชเอง ตอนนี้ผมพร้อมแล้ว เชิญตามสบายเลยครับ”  ยุทธไม่พูดเปล่า เค้าก้าวมาเบียดผมจากด้านหลัง ผมเอามือดันออกทันที ทำให้รู้ว่าตอนนี้เค้าเปลือยล่อนจ้อนแล้ว
“ผมไม่รับคุณเข้าทำงานที่นี่ ไปแต่งตัวแล้วกลับไปซะ”  ผมกลั้นใจพูดเสียงดัง
“นึกแล้วว่าคุณต้องพูดอย่างนี้”  ยุทธหัวเราะในลำคอ ก่อนจะกอดผมแน่นแล้วซุกหน้าลงมาที่คอของผม
“ปล่อย พี่ธัญญ่าช่วยกริชด้วย”  ผมพยายามส่งเสียงร้อง แต่เพราะตอนนี้ผมตัวอ่อนปวกเปียก เสียงที่ร้องไปคงไม่ดังไปถึงข้างนอกแน่นอน
“คุณกริช คุณน่ารักมากเลยรู้มั้ย ไม่ต้องกลัวครับ ผมไม่ทำให้คุณเจ็บหรอก” ยุทธใช้ปลายจมูกโด่ง ๆ ไล้ไปซอกคอพลางกระซิบเสียงกระเส่า ก่อนจะใช้จากชื้น ๆ เม้มเบา ๆ ที่ใบหู ผมถึงกับตัวสั่นยืนแทบไม่อยู่
“พอ หยุด ผมไม่ได้ต้องการแบบนี้ ปล่อย” ผมรวมรวมกำลังครั้งสุดท้ายสะบัดตัวหลุดจากอ้อมแขนแกร่ง
“คุณร้องไห้ทำไมครับ”  ยุทธถามหน้าตาตื่น
“ไม่มีอะไร คุณรีบแต่งตัวเถอะ” ผมปาดน้ำตา แล้วทรุดนั่งลงที่เก้าอี้ทำงาน ก่อนจะก้มอ่านเอกสารทั้งที่น้ำตายังคลอเบ้า
“เสร็จแล้วครับ” 
“ลงไปแล้วเรียกพี่ธัญญ่าขึ้นมาหาผมด้วย”  ผมพูดเสียงเข้ม
*
*
...ผมดึงกระดาษทิชชู่มาซับหน้าและส่องกระจกดูความเรียบร้อยของตัวเอง ไม่อยากให้ใครเห็นความอ่อนแอของตัวเองเลย น้ำตาที่ไหล มันเป็นเพราะการที่ต้องหักห้ามใจตัวเองไม่ให้ทำอะไรเกินเลยกับคนแปลกหน้าทั้งที่ใจอ่อนยวบ และถึงแม้ผมจะไม่มีเยื่อพรหมจรรย์ แต่ผมก็สัญญากับตัวเองไว้แล้วว่าจะไม่มีความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนกับคนที่เพิ่งรู้จักเด็ดขาด คนที่ผมจะมีอะไรด้วยต้องเป็นคนที่ผมรัก และแน่นอน เค้าต้องรักผมด้วย...เหตุการทีเพิ่งเจอมันไม่ควรถึงขนาดที่ทำให้ต้องเสียน้ำตาหรอก แต่ผมต้องยอมรับว่าผมหวั่นไหวกับยุทธมาก อาจจะเพราะรูปร่างหน้าตาที่โดดเด่น เสียงทุ้มนุ่ม แววตาเจ้าชู้ ฟันขาวเรียงตัวสวยยามยิ้ม...ความขัดแย้งในตัวเองกดดันผม...ผมคิดอะไรกับยุทธไม่ได้ เพราะ หนึ่ง เค้าเป็นผู้ชายที่กำลังเข้ามาทำงานขายบริการ และสอง เค้าไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายด้วยกัน ดังนั้น เค้าไม่ใช่เกย์...คืนนี้ผมจะไม่รับเค้าเข้าทำงานเด็ดขาด แม้ว่าเค้าอาจจะกลายเป็นดาวเบอร์หนึ่งของที่นี่ เหตุผลเพียงเพราะผมกลัวใจตัวเองยามที่อยู่ใกล้เค้า และอีกอย่างผมไม่อยากเห็นเค้าต้องมาทำงานแบบนี้ ถ้าเค้าอยากขายตัวจริง ๆ ให้ไปทำบาร์อื่น...

****************************************************************************************************

คืนวันศุกร์ ทุกที่คึกคัก ผู้เขียนนำตอนใหม่มาโพสก่อนแล้วค่อยไปลั้นลา ต้องทำหน้าที่ของตัวเองก่อน แล้วค่อย แRด 555++

MonarcH
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 8 บุญบาป 20/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 20-05-2011 21:12:08
(http://img28.mediafire.com/b6f242d94a346b9095740bdfdd1f8ac23fc115dbd2c7ec5da35aca98f1eb05c75g.jpg)
 
ตอนที่ 8 "บุญบาป"
หน่องลุกขึ้นมาแต่เช้าฟ้ายังไม่ทันจะสางดี เรียกได้ว่าตื่นก่อนไก่โห่เสียด้วยซ้ำ หน่องลงไปในครัวทำกับข้าวอย่างง่ายๆ แต่ด้วยความตั้งใจ หมูทอดกระเทียมพริกไทกับผัดผักรวมใส่กุ้ง ถูกตักใส่ถุงพลาสติกมัดเอาไว้ด้วยหนังยางอย่างเรียบร้อยในถาดอลูมิเนียมใบ ใหญ่บนโต๊ะกินข้าวกลางครัวเล็กๆ กับข้าวถูกจัดเอาไว้อย่างละห้าถุง หน่องหันกลับไปคดข้าวที่ไอน้ำร้อนพลุ่งออกจากหม้อทันทีที่เปิดฝาออก ข้าวเมล็ดสวยยาวเรียวส่งกลิ่นของข้าวสุกกระจายไปทั่ว
"หน่องตื่นมาทำกับข้าวแต่เช้าเลยหรือลูก กลิ่นหอมยั่วน้ำลายดีจัง" คุณสุมาลีที่เดินลงมาจากชั้นบนเอ่ยถามก่อนจะกล่าวชม
"หน่องจะใส่บาตรให้หรั่งครับแม่" หน่องตอบพร้อมรอยยิ้มเศร้าๆ
"ดีแล้วลูก เดี๋ยวแม่ไปใส่บาตรกับหน่องด้วยนะจ๊ะ เอ๊ะยังขาดของหวานนี่หน่อง" คุณสุมาลีบอกก่อนจะทักถามด้วยสังเกตเห็นในสิ่งที่ขาดหายไป
"ไม่เป็นไรมั้งครับแม่แค่นี้ก็คงพอแล้วละครับ" หน่องตอบ
"พอดีเลยป้านีข้างบ้านเอาเค้กกล้วยหอมก้อนใหญ่มาให้เมื่อว่านตอนบ่าย ยังไม่มีใครได้กิน เราเอามาหั่นใส่ถุงเอาก็ได้" คุณสุมาลีบอกพลางหันเดินไปเปิดตู้กับข้าวก่อนจะหยิบขนมออกมาจัดการตามที่ว่า
 
 
โต๊ะพับเล็ก ๆ ที่หน่องยกไปกางปูผ้าลายดอกไม้สีสวยเอาไว้อย่างเรียบร้อยบริเวณหน้ารั้วบ้าน บนโต๊ะมีถาดที่บรรจุถุงอาหารคาวหวานวางเอาไว้เคียงคู่กับขันอลูมิเนียมลายไทยที่บรรจุข้าวสวยพร้อมทัพพีตักข้าวลายเข้าคู่กันอย่างสวยงาม พระภิกษุสามรูปเดินแถวมาช้าๆ  อย่างเป็นระเบียบและสำรวม ชายจีวรสีเหลืองไหวน้อยๆ ขณะย่างก้าว มองเห็นได้ชัดมาแต่ไกล ด้วยเป็นเวลาเช้าและถนนในซอยตัดเป็นเส้นตรง บางคราท่านก็แวะรับภัตตาหารคาวหวานที่มีบางบ้านนิมนต์ให้รับบาตรตามรายทาง ก่อนพระสงฆ์ทั้งสามรูปจะเดินมาจนถึงหน้าบ้านที่หน่องและคุณสุมาลีคอยท่าอยู่
"นิมนต์รับบาตรด้วยเจ้าค่ะหลวงพ่อ" คุณสุมาลีเอ่ยเชื้อเชิญ พร้อมยกมือพนมไหว้  
พระสงฆ์ทั้งสามรูปเปิดฝาบาตรออกเพื่อรับข้าวที่หน่องตักถวาย ก่อนที่คุณสุมาลีจะหยิบกับข้าวในถุงใส่ลงไปในบาตรแล้วจึงตามด้วยขนมที่จัดไว้เป็นอันดับสุดท้าย  พระสงฆ์ปิดฝาบาตรก่อนจะเอ่ยให้พร แล้วจึงเดินจากไปด้วยกิริยาสำรวม
"แม่ครับ พระมาบิณฑบาตแค่สามรูปเองเหรอครับ" หน่องถามอย่างสงสัย
"ปรกติแม่ใส่บาตรเฉพาะวันพระ แม่ก็เห็นท่านเข้ามาบิณฑบาตในซอยบ้านเราแค่สามรูปนี้เท่านั้นแหละจ้ะ เอ๊ะ!" คุณสุมาลีบอกก่อนสายตาจะสังเกตเห็น จีวรสีกลักที่โผล่พ้นจากหัวมุมของซอยย่อยเบื้องหน้า
"หน่อง พระมาอีกสองรูปแน่ะ" คุณสุมาลีบอกพลางระบายยิ้มบาง หน่องจึงหันกลับไปมองตามสายตาของผู้เป็นแม่
"ครบห้าองค์...ดีจังเลยนะครับ" หน่องบอกอย่างพึงใจ
"นมัสการพระคุณเจ้า นิมนต์รับบาตรด้วยครับท่าน" หน่องเอ่ยอย่างสุภาพ ด้วยสังเกตเห็นภิกษุสูงวัยที่เดินนำอีกองค์ที่ยังดูหนุ่มกว่าหลายปี ด้วยท่าทางที่น่าเลื่อมใสศรัทธา ผิดแผกแตกต่างไปกว่าพระรูปอื่นที่พานพบมา
ทั้งสองหยุดยืนอยู่เบื้องหน้าหน่องและคุณสุมาลี ก่อนจะเปลื้องฝาบาตรเพื่อรับภัตตาหารที่ค่อยๆ ลำเลียงใส่ลงไปด้วยมือของหน่องและคุณสุมาลี ทั้งสองรูปปิดฝา กล่าวให้พร ในขณะที่หน่องและคุณสุมาลีย่อตัวลงก้มหน้ายกมือพนมไหว้
"เกิดแก่เจ็บตายไม่มีใครหลีกหนีได้พ้นหรอกนะโยม ใดๆ ในโลกล้วนอนิจจัง การจากเป็นทุกก็จริง แต่ไม่มีใครหลีกหนีกรรมที่ตัวเองก่อเอาไว้ได้พ้นแม้สักคน บุญกับบาปไม่อาจสามารถหักล้างกันหรือทำแทนกันได้ กรรมย่อมตามทันผู้ประพฤติกรรมเสมอ แม้วันนี้อาจไม่เห็น แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้เห็น สิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วเราไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขได้ แต่คนที่ยังอยู่พึงมีสตินะโยม" เสียงกังวานฟังชัดแม้นจะแหบพร่าไปบ้างตามวัยเอ่ยบอกพร้อมกับมองตรงมาที่หน่องด้วยความเมตตา
"อะไรที่เป็นห่วงคอยผูกมัดก็ควรปล่อยวาง อย่ายึดมั่นถือมั่นกันอีกเลย" น้ำเสียงรื่นหูจากภิกษุหนุ่มเอ่ยเพียงเบา ๆ
"อาตมาทั้งสองเพียงผ่านทางมา เลยมาขอบิณฑบาต อย่าจองเวรต่อกันไปอีกเลย ในเมื่ออยู่กันคนละภพภูมิเสียแล้ว" ภิกษุชราเอ่ยบอกอย่างเมตตา พลางหันมองผ่านไปยังริมกำแพงรั้วเบื้องหลังของหน่อง
"โชคดีมีสุข บุญรักษานะโยม" ประโยคอวยพรเพียงสั้น ๆ ประโยคเดียวที่หน่องและคุณสุมาลีได้ยินและสัมผัสความเมตตาได้จากน้ำเสียงของภิกษุชรา รอยยิ้มอิ่มเอมอย่างเป็นสุขถูกจุดขึ้นที่มุมปาก ก่อนจะเอ่ยออกมาพร้อมกัน "สาธุ"  เมื่อหน่องและคุณสุมาลีเงยหน้าขึ้นมากลับพบเพียงแค่ความว่างเปล่าภิกษุทั้งสองที่เคยอยู่ตรงหน้ากลับหายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่าเท่านั้น
 
 
"หน่องเดี๋ยวอย่าลืมกรวดน้ำด้วยนะลูก" คุณสุมาลีเอ่ยบอกขณะที่ช่วยหน่องถือภาชนะเข้ามาเก็บในบ้าน
"ครับแม่" หน่องตอบรับก่อนจะวางโต๊ะพับแอบไว้ที่มุมหนึ่งในห้องครัว
 
 
"หลวงลุงครับ ดูท่าว่าเรื่องคงยังไม่จบลงง่าย ๆ เพียงเท่านี้นะครับ" ฐานวโรเอ่ยกับภิกษุผู้สูงวัยกว่า
"เราทำได้เพียงแค่นี้แหละฐานวโร อันที่จริงมันก็ไม่ใช่กิจของสงฆ์แต่แรกแล้ว กรรมของใคร ไม่มีใครไปตัดกรรมนั้นแทนได้ เราคงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกรรมของแต่ละคนเถิด" ภิกษุชราเอ่ยตอบ
 
 
น้ำในแก้วใสไหลรินรดยังโคนต้นไม้ใหญ่ด้วยมือของหน่อง ก่อนจะซึมหายลงไปในดินจนหมด
"หน่องทำบุญใส่บาตรไปให้แล้วนะหรั่ง ขอให้บุญที่หน่องทำไปถึงหรั่งด้วยนะ  หน่องจะหาตัวคนที่ทำกับหรั่งให้ได้ เขาจะต้องชดใช้ความผิดที่ทำกับหรั่ง กฎหมายจะลงโทษพวกมันเอง" หน่องบอกพร้อมกับเอาแก้วน้ำไปเก็บ แล้วจึงรีบออกจากบ้านเพื่อไปทำงานโดยที่หน่องไม่ได้ยินเสียงขอบใจเบา ๆ ของเพื่อนผู้จากไป เสียงแผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบฝากผ่านสายลมที่โชยพัดมาเอื่อยๆ
 
 
 
(http://img694.imageshack.us/img694/1599/88605701.jpg)
 
 
 
"เฮ้ย!" พาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์ตัวใหญ่หรา ทำให้ร้อยตำรวจโทพชร เผลอร้องเสียงดังและกระเด้งตัวลุกขึ้นยืนจนสุดความสูง จากที่เขาเพิ่งจะเดินเข้ามาคลี่หนังสือพิมพ์กรอบบ่ายซึ่งเพิ่งจะฝากเด็กร้านข้าวข้างล่างซื้อเข้ามาให้อ่าน  จนเพื่อนตำรวจนายอื่นหันกลับมามองที่เขาเป็นตาเดียวกัน
"ขอโทษครับ ไม่มีอะไรครับ"  ผู้หมวดหนุ่มแก้ตัวพร้อมส่งยิ้มเก้อเขินไปทั่ว   ก่อนจะลงนั่งที่เก้าอี้ตรงโต๊ะทำงานอีกครั้งพลางครุ่นคิด 'ก็บอกให้ช่วยกันปิดข่าวไว้ก่อน ไหงเล่นออกสื่อขนาดนี้... ฝีมือนายตัวเล็กแน่ ๆ เลย เห็นเงียบ ๆ ติ๋ม ๆ ดื้อเอาเรื่องเหมือนกันแฮะ' แล้วอ่านข่าวด้านในโดยละเอียด
 
 
"สวัสดีครับ" หน่องยกหูโทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะทำงานของเขาขึ้นรับสาย หลังจากที่ปล่อยให้มันส่งเสียงเรียกอยู่นาน
"สวัสดีครับ ขอสายคุณนิวัฒน์  แก่นกำภูครับ"
"กำลังพูดครับ ไม่ทราบว่าใครกำลังพูดสายอยู่ครับ" หน่องตอบรับเสียงคนปลายสาย ก่อนจะเอ่ยถามอย่างสงสัย
"ผมร้อยตำรวจโทพชร พงษ์ภิญโญครับ จะโทรมาถามเรื่องข่าววันนี้..." ผู้หมวดหนุ่มยังพูดไม่ทันจบ
"อ๋อ ข่าวขอหรั่ง ผมเขียนเองแหละครับหมวด" หน่องพูดสวนกลับไป
"ผมว่าแล้วว่าต้องเป็นฝีมือคุณ ก็ไหนผมบอกว่าให้ช่วยปิดข่าวไว้ก่อน ทำไมคุณถึงทำให้เรื่องมันใหญ่ขึ้นมาขนาดนี้" ผู้หมวดหนุ่มเอ่ยเสียงเข้มกลับมา
"ผมก็ทำตามหน้าที่ของผม เหมือนกับที่หมวดก็ต้องทำตามหน้าที่ของหมวด ประชาชนมีสิทธิ์ที่จะรับรู้ คุณจะมาห้ามไม่ให้ผมนำเสนอข่าวไม่ได้เสียด้วย" หน่องตอบยียวนใส่
"ผมไม่ได้ห้ามคุณเขียนข่าว แต่ผมขอความร่วมมือปิดเรื่องสาเหตุการตายเอาไว้ก่อน แต่คุณเองเขียนข่าวจนคนเค้ารู้ไปทั่วแล้วว่าดาราถูกฆ่าถ่วงน้ำ" หมวดหนุ่มยังคงต่อว่าเสียงแข็ง
"ก็มันจริงนี่ แต่ผมก็ยังไม่ได้เขียนในส่วนที่อยู่ในรายงานของคุณเลยนะหมวด หมวดว่างให้ผมสัมภาษณ์ไหมล่ะ ผมจะได้เขียนข่าวฉบับพรุ่งนี้เสียเลย" หน่องเถียงกลับพร้อมกับยิ้มสะใจที่ได้กวนคนขี้โมโหที่อยู่ปลายสาย
"ผมไม่บอกอะไรกับคุณแล้ว... คุณนี่มัน... ดื้อจริง ๆ ดื้อเสียจน...  ถ้าอยู่ใกล้ๆ ผมจะเอาไม้เรียวไปฟาดให้ก้นลายเลยเชียว" ผู้หมวดหนุ่มเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันบอกก่อนจะวางสายไป
 
 
เสียงเพลงบรรเลงจากเครื่องสายสี่ชิ้นแว่วกังวานขับกล่อมแขกผู้มีเกียรติ ที่ได้รับเชิญมาร่วมงานมงคลสมรสสุดหรูบนดาดฟ้าเรือลำใหญ่ที่ตกแต่งด้วยดวงไฟขนาดเล็กกระพริบแข่งกับแสงของดวงดาวบนฟ้ากว้าง
ลิลลี่และกุหลาบสีขาวแซมด้วยริบบิ้นผ้าสีเงินยวงประดับเอาไว้ทั่วส่งกลิ่นหอมกรุ่น สายลมตามธรรมชาติจากลำน้ำเจ้าพระยาพัดนำความเย็นสบายมาให้โดยไม่ต้องอาศัยเครื่องปรับอากาศ เจ้าบ่าวในทักซิโด้สีขาวและเจ้าสาวยืนคล้องแขนคอยทักทายแขกเหรื่อด้วยรอยยิ้ม  ชุดยาวเกาะอกสีงาช้างช่วยขับผิวสีน้ำผึ้งของเจ้าสาวให้นวลเนียน แหวนเพชรเจ็ดกะรัตที่นิ้วนางข้างซ้ายส่องประกายพราวล้อแสงไฟ เรือลำหรูแล่นออกจากท่าเมื่อแขกสองร้อยคนที่เชิญไว้ทยอยขึ้นเรือจนครบตามรายชื่อ ขวดแก้วคริสตัลเนื้อดีเจียระไนเหลี่ยมสะท้อนแสงไฟระยิบบรรจุน้ำหอมกลิ่นหวานนุ่มในถุงผ้าไหมสีกลีบบัวซึ่งปักชื่อคู่บ่าวสาวเอาไว้ด้วยไหมสีทองรับกับเกลียวไหมที่ปากถุง คือของชำร่วยที่ผู้มาร่วมงานได้รับหลังจากลงนามอวยพรบ่าวสาวในสมุดประสาทพร
 
 
พิธีกรกล่าวเชิญให้แขกนั่งประจำที่ซึ่งมีป้ายชื่อกำกับเอาไว้เด่นชัด ก่อนจะกล่าวเชิญบ่าวสาวขึ้นไปบนเวที ขั้นตอนของพิธีการดำเนินไปอย่างเรียบร้อยก่อนที่บ่าวสาวจะกล่าวขอบคุณผู้มาร่วมงาน บริกรนำอาหารเข้ามาเสิร์ฟตามลำดับจนจบด้วยเมนคอร์ส บ่าวสาวจึงขึ้นมาทำการตัดเค้กฉลองสมรสเจ็ดชั้นที่ตกแต่งเอาไว้อย่างสวยงาม วงดนตรีเริ่มเล่นเพลงที่เร็วขึ้นจังหวะสนุกสนาน บางคนออกมาเต้นรำบนฟลอร์ด้านหน้า ไวน์แดงชั้นดีราคาแพงถูกบริกรนำเสิร์ฟอยู่ตลอดราวกับว่าเป็นน้ำเปล่าเพื่อ ตอกย้ำสถานภาพทางการเงินของบ่าวสาว
"ผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ ดื่มเข้าไปเยอะเกิน" เจ้าบ่าวกระซิบบอกที่ข้างหูของเจ้าสาว
"เดี๋ยวชั้นรออยู่ตรงนี้แล้วกัน ไหวไหมล่ะคะคุณ เมารึเปล่า" สาวเจ้าตอบเพียงให้ได้ยินกันสองคน
"เมา แต่ผมไหวน่า ไม่ต้องห่วง คุณรอตรงนี้เดี๋ยวเดียว เดี๋ยวผมมา" เจ้าบ่าวบอกพร้อมดวงตาหวานเยิ้มก่อนจะเดินหนีไปทำธุระส่วนตัว
ร่างของเจ้าบ่าวในชุดสูทสากลสีขาวเดินมุ่งไปทางท้ายเรือตามความยาวของลำเรือใหญ่ เสียงรองเท้ากระทบกับพื้นเพียงเบา ก่อนจะดังขึ้นเมื่อเขาก้าวลงไปตามขั้นบันใดที่ทำจากเหล็ก เพื่อเดินไปจักการกับธุระส่วนตัวของเขา ฝ่ามือหนาผลักบานสวิงไม้ของประตูห้องน้ำออกก่อนจะก้าวเข้าไปด้านในที่ตกแต่งเอาไว้อย่างสวยงาม พื้นกระเบื้องดินเผาเคลือบด้านสีน้ำตาลแดง อัจกลับแบบโบราณลวดลายอ่อนช้อยแต่แทนที่จะจุดด้วยเปลวไฟแบบสมัยเก่ากลับใช้ หลอดไฟสีส้มนวลใส่เอาไว้แทนที่ แสงสลัวเย็นตาส่องกระทบกระจกเงาบานใหญ่ในกรอบไม้สลักเสลาลายเครือวัลย์ปิดทองประดับกระจกสีแวววาม เงาดำพาดผ่านไปทั่วขณะที่เขาเคลื่อนไหว
ชายหนุ่มเดินตรงไปหยุดอยู่หน้าโถปัสสาวะกระเบื้องเคลือบสีนวลริมในสุดของห้องสุขาแล้วรูดซิบจัดการปลดเปลื้องความอัด แน่นเจ็บหน่วงในกระเพาะปัสสาวะของตน อันเป็นผลมาจากเครื่องดื่มที่กินเข้าไปมาก จนเมื่อรู้สึกโล่งสบายจึงเก็บเข้าที่แล้วหันกายเดินไปที่อ่างล้างหน้าซึ่งทำจากไม้มะค่าโมงลวดลายสวยงามตามธรรมชาติหน้ากระจกเงาบานใหญ่ เขาเปิดก๊อกเอาอุ้งมือรองน้ำไว้แล้วจึงก้มลงไปล้างหน้าเพียงหวังจะใช้น้ำเย็นขับไล่ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ในร่างให้เบาบางลง เขาเอื้อมมือไปหยิบกระดาษเช็ดหน้าด้านข้างขึ้นมาซับน้ำบนใบหน้า  เหลือบแลไปเห็นสิ่งผิดแปลกออกไปผ่านทางหางตา ด้วยความสงสัยใคร่รู้เขาหมุนตัวหันกลับไปมอง พลันพบกับความว่างเปล่า
'เมาจนตาลายเลยกู' เขาเดินออกไปอย่างช้าๆ  มือหนาจับยึดราวบันใดเหล็กเอาไว้มั่นเพื่อช่วยพยุงส่งตัวเองให้เดินขึ้นไปยังดาดฟ้าเรืออีกครั้ง เสียงรองเท้าหนังดังกุกกัก เมื่อกระทบกับขั้นบันใดที่เดินผ่าน ลมเย็นกรรโชกแรงพัดร่างของเขาจนเซนิดๆ ก่อนที่สายเปลือยสื่อนำไฟฟ้าที่ขาดร่วงหล่นลงมาเฉียดร่างตกไปอยู่บนพื้นตรงที่ร่างของเขาเซออกมาจากจุดเดิม เขาเผลอระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก
"ปัง... ฟิ้ว... พึบ...พึบ..." เสียงพลุดังขึ้นฟ้าก่อนจะไปแตกกระจายบนม่านดำของรัตติกาล ก่อให้เกิดประกายแสงสว่างไสวไปทั่วดาดฟ้าของเรือสำราญลำใหญ่ที่แล่นเอื่อยไปตามลำน้ำเจ้าพระยา ทุกคนต่างหันไปให้ความสนใจต่อสิ่งสวยงามบนฟากฟ้า จนไม่มีใครพอที่จะให้ความสนใจกับเจ้าบ่าวที่กำลังเดินโซเซ ขึ้นบันใดที่ทางท้ายเรือ ท่ามกลางความมืด ไฟที่ส่องให้แสงสว่างบริเวณท้ายเรือกับดับลง  สายของดวงไฟกระพริบที่ประดับตกแต่งเอาไว้ กลับขาดร่วงลงมาใส่เจ้าบ่าวที่ยืนโงนเงนสั่นไหว เพราะสายเปลือยของสื่อนำไฟฟ้าชั้นดีตกมาค้างคาอยู่ที่ลำคอก่อนสายเส้นอื่นๆ ที่เจ้าตัวกระเสือกกระสนหมุนร่างพานม้วนเอาไว้ด้วยลำคอขอตนจนแน่นขึ้นแน่นขึ้น เขากระเสือกกระสนพยายามดิ้นรนให้ร่างหลุดรอดจากพันธนาการ แต่ยิ่งดิ้นกลับยิ่งถูกรัดแน่นขึ้น นัยน์ตาเบิกโพลงลิ้นจุกออกมานอกริมฝีปากที่ค่อยๆ เขียวคล้ำ ร่างสั่นเทิ้มเริ่มกระตุกน้อยลงพร้อมๆ กับลมหายใจ ที่ค่อยๆ แผ่วลง  ก่อนที่ร่างของเขาจะหมุนเป็นครั้งสุดท้ายปะทะเข้ากับราวกั้นตรงกราบเรือ แล้วร่วงหล่นลงจากเรือสำราญหรู สู่ผืนน้ำดำมืด ด้วยแรงดูดมหาศาลจากใต้ท้องเรือที่กำลังแล่นดูดกลืนร่างของเขาลงไป สายน้ำพัดร่างของเขาไปยังส่วนท้ายเรือ ซึ่งมีใบจักรที่กำลังหมุนตัดสายน้ำเต็มกำลัง ใบจักรเหล็กขนาดใหญ่หมุนฟาดเข้าใส่ร่างเจ้าบ่าวหมาดๆ จนชุดสากลสีขาวที่สวมใส่ถูกย้อมอาบไปด้วยสีแดงฉาน ส่วนของลำคอหลุดออกจากร่างพร้อมกับลมหายใจ ร่างไร้หัวที่ถูกสายไฟพันม้วนลากลอยผลุบโผล่อยู่ในน้ำตามหลังเรือลำหรูไปติดๆ ทิ้งไว้เพียงใบหน้าสยองขาวซีดที่กำลังแสยะยิ้มน่ากลัวอย่างพึงใจราวกับเด็กที่ได้ของเล่น โดยมีส่วนศีรษะของเจ้าบ่าวหนุ่มรูปหล่อซึ่งอยู่ในอุ้งมือของอมนุษย์ที่ยืนอยู่บนผืนน้ำท่ามกลางความมืดมิดของรัตติกาล
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 8 บุญบาป 20/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: onjazz26 ที่ 20-05-2011 21:41:22
 :sad3:
อ่านอีกรอบก้อยังน่ากลัวมากมาย...บรื้ออออออออ

กุ๊ก กุ๊ก กู๋....ผีมาแย้ววววว......

เจ๊จง...จงรีบลงตอน 9 ตอน 10 น้า....ห้ามเลยนะ...ไอ้เรื่องลงเดือนหน้าอ่ะ :m12:

เรนเจอร์สีม่วง....สู้ต่อไป :a9:

ปอหล๊อ....หลังจากตอน 10 แล้วก็ต้องลงถี่ๆ แบบนี้อีกนะ :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 8 บุญบาป 20/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 20-05-2011 21:48:01
รอตอนต่อๆ ไปเน้อ^^
หัวข้อ: Re: The rainbow project[Blue]"หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า"ตอนที่4ท้องฟ้าสีน้ำเงินP:3/19/5/11
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 20-05-2011 21:49:19
ผมคงต้องรอภาพฟันลงตอนหน้าก่อนถึงจะลงได้นะครับ

เพราะงั้นอยากอ่านเร็ว ๆ ต้องไปเร่ง ภาพฝันนะครับ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 8 บุญบาป 20/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 20-05-2011 21:50:06
อ่านกี่ครั้งก็น่ากลัว :o
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 8 บุญบาป 20/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 20-05-2011 21:55:15
เป็นการเอาคืนอย่างสาแก่ใจเป็นที่สุด
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 3 PG. 2 [20/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 20-05-2011 22:12:48
ใครแต่งไม่รู้  แต่ที่รู้ ๆ คือคนแต่งต้องเป็นกูรูบาร์เกย์แน่ ๆ
ให้ตาย  รู้กระทั่งว่าเขาจะสัมภาษณ์งานกันแบบไหน
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 3 PG. 2 [20/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 20-05-2011 22:22:39
แต่ละคำถาม :m25:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz (ตอนแรกมาแล้วค่ะ ตามสัญญา ^0^)
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 20-05-2011 22:34:46
ตอนแรกก็เลือดสาดแล้ว o18
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่5 เสียงกระซิบขอบคุณ 20/5/2011
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 20-05-2011 22:40:29
ขนาดน้องไนท์ไม่ค่อยพูดยังน่ารักได้ขนาดนี้  :o8:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 8 บุญบาป 20/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 20-05-2011 22:42:12
เสร็จไปอีกราย เหลืออีกกี่รายเนี่ย
หรั่งมาแก้แค้นเหรอ แล้วใครทำ เพราะอะไร

หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่5 เสียงกระซิบขอบคุณ 20/5/2011
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 20-05-2011 22:51:21
ฮูเร่ ฮูเร่ น้องไนท์น่ารัก
พี่เตก็แสนดี หวานวันละนิดจิตแจ่มใส :-[
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 3 PG. 2 [20/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 20-05-2011 22:53:08
โถ อิหนูร้องไห้ซะแล้ว
(แต่ดันร้องเพราะอยากแต่ทำไรไม่ได้555)
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 3 PG. 2 [20/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 20-05-2011 23:11:55
 :impress: สีแสดเปิดโลกการเรียนรู้ให้พวกเราอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 3 PG. 2 [20/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 20-05-2011 23:21:47
 :z1: รับพนักงานเสริฟ หรือ เมด บ้างหรือเปล่าอยากไปทำงานที่บาร์นี้จัง  :m25:
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่5 เสียงกระซิบขอบคุณ 20/5/2011
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 20-05-2011 23:26:11
อร๊ายยยย บอกแล้วว่าน้องน่ารว๊ากอ่ะ
อยู่ใกล้ๆ จะกัดแก้มซักที ชอบๆๆๆ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 3 PG. 2 [20/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 20-05-2011 23:28:19
น้องกริชของเราหวั่นไหวซะแล้ว
รับเลยค่ะรับเลย เอาไปรับใช้ส่วนตัวที่บ้านก็ได้ อิอิ :z1:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 3 PG. 2 [20/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 20-05-2011 23:47:20
น่าติดตามมากๆค่ะ จะรอดมั้ยนี่ตากริช ยุทธนี่มีลับลมคมในอะไรรึเปล่าเนี่ย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่5 เสียงกระซิบขอบคุณ 20/5/2011
เริ่มหัวข้อโดย: Mountain ที่ 21-05-2011 00:39:54
น่ารักมาก อ้ากกก
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่2 [18/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 21-05-2011 00:40:02
คุณหนูเคะราชินีมากเลยค่ะ ชอบ อิอิ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่2 [18/05/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Mountain ที่ 21-05-2011 00:50:18
 :-[
หัวข้อ: Re: The rainbow project[Blue]"หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า"ตอนที่4ท้องฟ้าสีน้ำเงินP:3/19/5/11
เริ่มหัวข้อโดย: ภาพฝัน ที่ 21-05-2011 00:57:39
ผมคงต้องรอภาพฟันลงตอนหน้าก่อนถึงจะลงได้นะครับ

เพราะงั้นอยากอ่านเร็ว ๆ ต้องไปเร่ง ภาพฝันนะครับ



เรานะเสร็จนานแล้ว คุณนะหายไปไหน รอคุณมาเช็คนิยายเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: The rainbow project[Blue]"หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า"ตอนที่4ท้องฟ้าสีน้ำเงินP:3/19/5/11
เริ่มหัวข้อโดย: Mountain ที่ 21-05-2011 01:31:20
 :sad4:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 3 PG. 2 [20/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 21-05-2011 02:22:44
โถ อิหนูร้องไห้ซะแล้ว
(แต่ดันร้องเพราะอยากแต่ทำไรไม่ได้555)


เห็นด้วยกับรีนี้ :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่5 เสียงกระซิบขอบคุณ 20/5/2011
เริ่มหัวข้อโดย: iiดาวพระสุขლii ที่ 21-05-2011 02:43:47
แวะมาเจิมคุณน้อง....  อิอิ
หัวข้อ: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz /Chapter.2 -Police Station-
เริ่มหัวข้อโดย: Nassiiz ที่ 21-05-2011 03:08:42
(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page6.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page7.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page8.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page9.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page10.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page11.jpg)

-------------------------------------------------------------------------------------


Ps. เห็นคอมเม้นต์มาว่าอ่านลำบาก ผู้เขียนเลยขยายไฟล์ภาพขึ้นมาอีกหน่อย
หวังว่าจะช่วยอำนวยความสะดวกได้นะคะ ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่6 รอยยิ้ม 21/5/2011
เริ่มหัวข้อโดย: ภาพฝัน ที่ 21-05-2011 03:08:58
   เตชวัฒน์กำลังยืนหลบมุมดูวริศรินทร์ที่กำลังก้าวขึ้นไปเดินแฟชั่นโชว์อยู่หลังเวที คราวนี้เป็นเสื้อสูทคอเลคชั่นใหม่ของแบรน AmaD แบรนใหม่ที่กำลังเข้ามาตีตลาดในเมืองไทย จากการสำรวจตารางงานของไนท์ส่วนใหญ่จะเป็นการเดินแฟชั่นเสียส่วนมาก หรือไม่ก็ถ่ายแบบขึ้นปกนิตยสาร แต่ก็ถือว่าไน์มีงานค่อนข้างชุดเลยจริงๆ วริศรินทร์เดินกลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อเตรียมจะขึ้นเดินในชุดใหม่

   “ไงครับ” เสียงเรียกจากด้านหลังเขาพบกับระพีพัฒน์ที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้ว เตชวัฒน์จำได้ว่าเมื่อวานระพีพัฒน์ได้สาดน้ำใส่หน้าของไนท์ ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ จากไนท์ยังคงมีแค่เพียงความเงียบเท่านั้น

   วริศรินทร์ไม่ได้สนใจ ไม่ได้มองหน้าระพีพัฒน์เลยสักนิด เขารับการเช็คความเรียบร้อยจากช่างแหน่งหน้าแล้วเดินออกไปนอกเวทีทันที ร่างสูงโปร่งที่เดินอยู่บนเวทีเดินอย่างมั่นคง แต่ในจังหวะที่หมุนตัวกลับไหล่ของระพีพัฒน์ที่เดินตามมากระแทกอย่างแรงอย่างจงใจใจ จนร่างของวริศรินเสียหลักล้มลงและเพราะเวทีที่แคบ ทำให้ร่างสูงโปร่งตกลงไปที่เวทีด้านล่างแต่วริศรินทร์ตั้งหลังทันทำให้ลงไปนั่งตั้งหลังอยู่ที่พื้น ทุกอย่างนิ่งสงบ สีหน้าของวริศรินทร์ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลยแม้สักนิดใบหน้ายังคงเรียบเฉย เขาขยับตัวลุกขึ้นอย่างมันคง ร่างโปร่งโค้งคำนับช้าๆ ก่อนก้าวตรงไปหาหม่อมหลวง รัชฎาภรณ์ หญิงสาวสูงวัยซึ่งถือเป็นประธานในงานครั้งนี้ ร่างโปร่งคำนับแล้วชันเขา ฝ่ามือสัมผัสที่หน้าอก ดอกไม้ช่อเล็กที่ประดับอยู่ที่อกเสื้อถูกดึงออกมามอบให้กับท่าน เมื่อหม่อมหลวง รัชฎาภรณ์ รับช่อดอกไม้จากมือ วริศรินทร์ลุกขึ้นยืนถวายคำนับอีกครั้ง แล้วหันหลังกลับไปที่เวที แขนเรียวจับที่ขอบเวที แล้วดึงตัวเองขึ้นสู่ด้านบน เมื่อกลับขึ้นมาบน วริศรินทร์ยืนอยู่บนเวทีอีกครั้ง เขาคำนับแล้วแขกทุกท่านแล้วหันหลังกลับเดินเข้าเวทีไป

   “น้องค่ะ พี่วิมลหัวใจจะวาย โชคดีนะค่ะเนี่ยที่แก้สถานะกาลทัน” วิมลหนึ่งในผู้รับผิดชอบแฟชั่นโชว์ครั้งนี้เข้ามาตบหลังตบไหล่ แต่ไม่ได้รับคำตอบจากร่างสูงโปร่ง เขาตรงไปหาช่างเเต่งหน้าเพื่อเปลี่ยนชุดสำหรับการเดินรอบสุดท้ายปิดงาน หลายคนซุบซิบถึงความไร้มนุษยสัมพันธ์ของเขา

   “สมแล้วเนอะที่ได้ฉายาเจ้าชายน้ำเเข็ง” เสียงซุบซิบดังขึ้นมาแผ่วเบาเพียงชั่วเวลาหนึ่งก็ต้องกลับไปทำงานในหน้าที่ของตน

   ระพีพัฒน์รู้สึกหงุดหงิดที่ไม่ว่าจะทำอะไรอีกฝ่ายก็ยังคงเมินเฉยไม่เห็นหัวกัน แถมการกระทำของเขากลับไปสร้างชื่อเสียงให้ฝั่งตรงข้ามซะอีก เขาได้แต่เข้นเขี้ยวเคี้ยวฟันก่อนจะปั้นหน้าเดินเข้าไปขอโทษเมื่อทุกอย่างจบลง

   “ไนท์ครับ” เขาเดินตรงเข้าไปหาร่างสองร่างที่ยืนอยู่คู่กันเพื่อเตรียมเก็บของกลับ วริศรินทร์ที่กำลังเก็บของใส่กระเป๋าเพื่อเตรียมจะกลับพร้อมเตชวัฒน์หันมามองระพีพัฒน์ด้วยหางตา

   “ผมขอโทษที่ชนเมื่อกี้ ไนท์เก่งมากเลยที่แก้สถานะการณ์ได” เขาทำขสีหน้าสำนึกผิดและกล่าวขอโทษอย่างจริงใจ หลายๆ คนแอบลอบสังเกตว่าจะมีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทระหว่างนายแบบหนุ่มทั้งสองหรือไม่

   เตชวัฒน์หันกลับมามองระพีพัฒน์ทันที เขาระวังยืนระวังอยู่ข้างๆ ไนท์ที่ยังคงเมินเฉย ไม่แม้แต่มองหน้า ร่างโปร่งก้มหน้าก้มตาเก็บของอยู่เงียบๆ เขาทำเหมือนระพีพัฒน์เป็นเพียงอากาศธาตุ

   “ไม่เป็นไรหรอกครับมันเป็นเพียงอุบัตติเหตุ” จนสุดท้ายเขาต้องเป้นฝ่ายออกปากเเทนเมื่อสัมฟัสถงบรรยากาศที่เริ่มอึดอัด

   “ไม่ได้หรอกครับ มันเป้นความผิดของผมที่ไม่ระวัง ถ้าไม่ใช่เพราะไนท์หัวไวงานนี้คงพังไปแล้ว” แม้ระพีพัฒน์แสดงเป็นฝ่ายเข้ามาขอโทษ แต่ในใจเขากลับรู้สึกหงุดหงิดที่วริศรินทร์ทำเหมือนเขาไม่มีตัวตน ยิ่งโดยเมินเฉยเขายิ่งรู้สึกว่าอีกฝ่ายทำตัวหยิ่งยโสมองคนอื่นต่ำกว่าตัวเองตลอดเวลา

   “เรื่องมันผ่านมาแล้ว ไม่เป็นไรหรอกครับ ขอโทษด้วยนะครับพวกผมคงต้องขอตัวก่อน ไนท์มีถ่ายละครช่วงเย็น” เตชวัฒน์เป็นคนทำลายบรรยากาศที่ชวนอึดอัดเขาเอื้อมมือไปรับประเป๋าเมื่อเห็นว่าวริศรินทร์เก็บของเสร็จแล้วๆ ก้าวนำออกไป

   “แหม๋นึกว่าจะได้เห็นนายแบบทะเลาะกันซะแล้ว แอบเสียดายนะเนี่ย” เหล่าสตาร์ฟเริ่มจับกลุ่มซุบซิบนินทาถึงเรื่องที่เกิดขึ้น

   “นั่นสิ เป็นเดี๊ยนนะ เอาแล้วดูก็รู้ว่าน้องพีนะจงใจ”

   “แหม คิดดูสิโดนชนจนตกเวที ต้องโดนชนแรงมากแน่ๆ น้องไนท์ก็นะ เย็นจริงๆ นั่นแหละ โดนทำขนาดนี้ยังเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้” เสียงวิพากวิจารณ์ยังคงดังต่อไป หลายคนว่าวริศรินทณืใจเย็น หลายคนว่าวริศรินทร์มองว่าระพีพัฒน์นะมันคนละชั้น เสียงวิพากวิจารณ์ยังคงดังต่อเนื่องอย่างสนุกปาก





   ช่วงเย็นไนท์มีคิวถ่ายละครทีมีคิวบู๊ งานนี้ไนท์แสดงเป็นเพื่อนพระรอง หลงรักนางเอกแต่เพราะพระเอกเป็นเจ้าของไร่ทำให้มีศัตรูมากมาย จนถูกทำร้านจนสลบจับไปขังไว้ในกระท่อม แล้วไนท์ต้องเข้าไปช่วย แต่เพราะไฟที่ลุกลามเร็วเกินไปทำให้พระรองหนีไม่ทันตายในกองเพลิ และพระเอกกับนางเอกก็ครองรักกัน

   เตชวัฒน์อ่านบทแล้วรู้สึกเลยว่าวงการบันเทิงไทยคิดได้แค่นี้เหรอ มีมากกว่านี้ไม่ได้เหรอ แต่พอเห็นจำนวนเงินค่าตัวไนท์แล้วเขาก็พบว่ามันเป็นจำนวนเงินที่สูงมากอาจเพราะฉากนี้เป็นฉากที่อันตราย ไนท์มีเข้าฉาก2 วันคือเย็นวันนี้ กับพรุ่งนี้ที่จะเป็นฉากลุยเข้าไปในกองไฟ

   “คัท ไนท์ครับช่วยแสดงอารมณ์ออกมาหน่อยสิครับ ฉากนี้ต้องปะทะอารมณ์กับปลายฟ้า ไนท์ทำหน้าเฉยแบบนี้ ไม่ได้นะครับ เพราะไนท์ต้องเสียใจ” ผู้กำกับสั่งคัทแล้วเตือนวริศรินทร์ วริศรินทร์ยังคงนิ่งเฉย

   “แอคชั่น” เริ่มต้นดำเนินเรื่องอีกครั้ง

   “นายไม่รู้เหรอว่าผมรักเธอ” เสียงปลายดังขึ้นมาไนท์ที่ยังคงนั่งนิ่งอยู่กับปลายฟ้าที่ตะดกนออกมา

   “ผมรักทอฝัน แล้วผมจะดูแลทอฝันให้ดี  ก้องถ้านายคิดว่าผมดุแลทอฝันได้ไม่ดีพอ” ปลายฟ้าขยับเข้ามาใกล้กับวริศรินทร์

   “ดีพอ” เสียงเย็นๆ ของวริศรินทร์ดังขึ้นมา ใบหน้าที่เฉยเมยจ้องตรงมายังปลายฟ้าที่กำลังสวมบทบาท

   “ความรัก” เสียงไนท์ดังขึ้นมาแล้วขาดหายไป

   “ไม่มีอะไรดีพอ” เสียงของไนท์ดังมาแผ่วเบาแล้วขาดหายไป

   “คัท” เสียงผู้กับกำสั่งคัทอีกครั้ง

   “พอใช้ได้นะไนท์ แต่มันยังดูไม่ค่อยมีความรู้สึกเจ็บปวด ไนท์ลองแสดงอารมณ์มากกว่านี้สิครับ” ผู้กับกับเตือนอีกครั้ง ต้องผ่านอีก3เทค ถึงจะผ่านฉากนั้นมาได้

   “ขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้ทกคนต้องเหนื่อย” เตชวัฒน์เข้าไปทำหน้าที่พูดขอบคุณแทนวริศรินทร์ที่ยังคงเงียบ

   “ไม่เป็นไรหรอก ครับ ธรรมดาครับมันก็ต้องมีคัทบ้าง ผมยังเคยถ่ายซ่อมอยู่บ่อยๆ” ปลายฟ้าตอบรับอย่างสดใสตามลักษณะของดารานิสัยดี เตชวัฒน์ยิ้มให้กับใบหน้ายิ้มแย้มที่ดูสดชื่นร่าเริง แล้วหันกลับไปมองวีิศรินทร์ที่ยังคงดูเหนื่อยอ่อน

   “เดี๋ยวมีสัมภาษณ์นักข่าวด้วยกันนี่นา ไนท์เราเดินไปด้วยกันเลยดีกว่า” ลายฟ้าชวนอย่างเป็นกันเอง เตชวัฒน์เห็นก็รู้สึกโล่งใจที่ปลายฟ้าไม่มีปฏิกิริยาที่ไม่ดีกับไนท์

   วริศรินทร์ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธแต่ปลายฟ้าเดินมาโอบไหล่วริษรินทร์อย่างสนิทสนมเป็นกันเองทันทีทั้งสองเดินไปหานักข่าวที่รอสัมภาษณ์ด้วยกัน   

   “สวัสดีครับ พี่พี่นักข่าว” ปลายฟ้าทักทายเหล่านักข่าว ส่วนไนท์ทำเพียงมองเท่านั้น

   “อุ้ยวันนี้น้องไนท์กับปลายฟ้ามายืนคู่กันแบบนี้ทำให้พวกพี่จะสลยด้วยออร่าของความหล่อ โอ๊ยถ้าพี่เป็นลมขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ” นักข่าวหยอกล้ออย่างเป็นกันเองเรียกเสียงหัสเราะออกมาจากรอบข้าง

   “ผมก็จะพาพี่ไปโรงพยาบาลด้วยตัวเองไงครับ” ปลายฟ้ายิ้มหวานโปรยเสน่ห์

   “งั้นขอเป็นลมตอนนี้เลยได้ไหม” นักข่าวสาวสัพยอกอย่างสนุกสนาน

   “ฮ่าฮ่า ได้ครับ ว่าแต่พี่นักข่าวมาวัยนนี้มีอะไรจะคุยกับผมครับ” ปลายฟ้าเปลี่ยนเรื่องชวนเข้าเรื่องงานขึ้นมาทันที

   “สัมภาษค่ะรู้สึกยังไงค่ะที่ได้มาร่วมงานกับหม่อมเอียดแล้วเป็นงานแรกเลยใช่ไหมที่ได้ร่วมงานกับน้องไนท์ เจอน้องไนท์แบบนี้แสดงว่างานนนี้ต้องมีคิวบู๊อะไรเสี่ยงๆแน่ๆเลย” นักข่าวป้อนคำถามแล้วยื่นไมค์ไปทางวริศรินทร์ที่ยืนเงียบอยู่นาน ใบหน้าที่หล่อเหล่าแต่นิงสนิทย์ดางตาสีดำใสที่เชื่อว่าถ้าใครได้สบตาจะต้องหลงเสนห์ รวมทักบุคลิกที่ดูเยียบเย็นและเมินเฉย ทำให้ไนท์หรือวริศรินทร์เป็นเจ้าชายน้ำแข็ง เจ้าชายน้ำแข็งที่ใครๆก็อยากค้นหา

   “ก็ไม่ขนาดนั้นครับ” เสียงตอบสั้นๆ กับความเงียบ เสียงพูดที่ได้ยินนานๆครั้ง แต่เทียบไม่ได้กับรอยยิ้ม หลายคนถึงขนาดบอกว่ารอยยิ้มของวริศรินทร์มีค่าดั่งทองคำ เพราะน้อยคนนักที่จะได้เห็นเจ้าชายน้ำแข็งผู้เย็นชามีรอยยิ้ม

   “น้องไนท์ทำถ่อมตัวไป จริงไหมค่ะปลายฟ้า” นักข่าวหันไปสัมภาษณ์ปลายฟ้าต่อ

   “จริงครับ มีฉากเสี่ยงขนาดที่เห็นแล้วต้องผวา ผมรู้สึกดีใจจริงๆที่ได้ร่วมงานกับไนท์” นักข่าวไปลี่ยนเป้าหมายไปสัมภาษณ์ปลายฟ้าที่ยังคงตอบคำถามอย่างสนุกสนาน พอนักข่าวหันมาถามอีกครั้งไนท์ก็ตอบด้วยประโยคสั้นๆแล้วเงียบ จนปลายฟ้าต้องพูดแซวขึ้นมาเพื่อบรรเทาบรรยากาศที่อึดอัก แต่นักข่าวหลายคนก็พยายามจะสัมภาษณ์ชวริศรินทร์ให้ได้

   “ขอตัวนะครับ เหนื่อย” วริศรินทร์ปลีกตัวออกจากดงนักข่าวทิ้งปลายฟ้าที่ยังคงตอบคำถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เตชวัฒน์ยื่นน้ำให้ไนท์เมื่อเห็นอีกฝ่ายทำสีหน้าเหนื่อนเมื่อเจอเหล่านักข่าวยิ่งคำถามให้หลายชุด

   “เหนื่อยหน่อยนะครับ” เตชวัฒน์ยิ้มให้อบอุ่น เขาเดินไปหยิบของเพื่อืี่จะพาไนท์กลับไปส่ง เขาดูดวงตาที่อ่อนล้าเหมือนกำลังง่วงนอนแล้วอดลูบหัวอีกฝ่ายไม่ได้ วริศรินทร์เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าที่ยิ้มให้อย่างอ่อนโยนแต่ก็ยังคงมีแต่ความเงียบ

   “ตายแล้ว น้องไนท์ระวังค่ะ มันสกปรก” ลุกหมาสีขมุกขมัววิ่งเข้ามาตะกายวริศรินทร์ เหล่าบรรดาสตาร์ฟในกองถ่ายรีบตะโกนบอก เมื่อกางเกงยีนส์ขายาวราคาแพงถูกลุกหมาขมุกขมัวตะกายจนสกปรกหลายคนกลัวว่าไนท์จะโมโห หรือไม่พอใจจจนโวยวายกลับชะงัก เมื่อวริศรินทร์ก้มลงนั่งยองๆแล้วเกาหูลุกหมาตัวนั้นแผ่วเบา แต่ที่ทำให้เกิดเสียงฮือฮาก็คือรอยยิ้มบางๆที่ริมฝีปาก เมื่อลุกหมาตัวน้อยแลบลิ้นเลียฝ่ามือของวริศทร์อย่างน่าเอ็มดู

   เสียงฮือฮาของเหล่าสตาร์ฟที่บอกว่าวริศรินทร์ยิ้มทำให้นักข่างที่ยืนสัมภาษณ์ปล่ยฟ้าชะงักหันไปถ่ายรูปวริศรินทร์ในทันที ช่างภาพกดชัตเตอร์อย่างถี่ระรัวเมื่อจับภาพ เมื่อไนท์รู้สึกว่าตัวเองโดนถ่ายรูปอย่างไม่ทันตั้งตัวจังยกมือขึ้นปิดหน้าทันทีด้วยความตกใจ เตชวัฒน์เห็นดังนั้นจึงประคองไนท์ลุกขึ้นยืนแล้วจูงเดินออกมาเมื่อเห็นว่านักข่าวตั้งท่าจะกรูเข้ามา

   เสียงฮือฮายังคงดังอยู่เหล่านักข่าวรีบถามช่างภาพว่าจับภาพเมื่อครู่นี้ได้ไหม เสียงวิพากวิจารย์ยังคงเซ็งแซ่เรื่องรอยยิ้มที่ไม่คาดหมาย

   “น้องไนท์เวลายิ้มนี่ดูดีมากเลยเนอะ ไม่น่าเชื่อเป้นบุญตาที่ได้เห็นขนาดยิ้มน้อยๆ ยังดูดีขนาดนี้ ถ้ายิ้มกว้างๆนะ ต้องหล่อมากๆ แน่ๆ เลย ยิ้มบางๆยังรู้สึกเลยว่าน้ำแข็งละลาย” หลายคนยังคงพูดถึงรอยยิ้มที่ได้เห็น

   “พรุงนี้ต้องพาดข่าวหน้าหนึ่งแน่ๆ น้องไนท์ยิ้มนี่ ฉันเชื่อเลยว่าไม่มีใครเห็น ต้องขอบคุณไอ้,ุกหมานะเนี่ย” ช่างแต่งหน้าสาวเทียมพูด

   “แต่น้องไนท์ก็ใจดีเหมือนกันนะเนี่ย ไม่คิดเลยว่าจะมีมุมแบบนี้ ปกติเห็นเย็นชาอย่างกับน้ำแข็ง” เสียงวิพาพวิจารย์อย่างสนุกสนานและตื่นเต้น เช่นเดียวกับนักข่าวที่ดูจะดีใจที่ได้เห็นรอยยิ้มของวริศรินทร์แม้เพียงแวบเดียว และกล้องที่สามารถจับภาพไว้ได้ จนลืมใครบางคนที่พวกเขาทิ้งไว้ขณะที่สัมภาษณ์อยู่





   เตชวัฒน์มองวริศรินทร์ที่หลับอยู่ในรถแม้รถจะจอดอยู่ใต้คอนโดแล้วก็ตาม หลายอย่างในตัวของวริศนทร์ทำให้เขารู้สึกว่า ไนท์มีความเป็นเด็กผสมอยู่ในตัวเอง เขาอยากรู้ว่าจริงๆแล้วไนท์เป็นอย่างไรกันแน่ บางครั้งเหมือนจะเย็นชา แต่เมื่อกี้กลับยิ้มเมื่อลูกหมาตัวน้อยเข้ามาเล่นด้วย

   “ไนท์ตื่น ครับตื่น” เตชวัฒน์เปิดประตูรถด้านหลังแล้วเขย่าตัววริศรินทร์เบาๆ วริศรินทร์รู้สึกตัวลืมตาตื่นขึ้นมามองเมื่อเห็นว่าเป็นเตชวัฒน์เขาทำท่าจะหลับต่อ

   “ไนท์ถาไนท์ไม่ลุกพี่จะอุ้นนะ” เตชวัฒนืแกล้งขู่อีกฝ่าย แต่แทนที่วริศรินทร์จะโวยวาย กลับยกแขนตัวแองขึ้นมาเหมือนกับบอกว่าจะอุ้มก็ตามใจ

   “พี่เตอุ้มจริงๆ นะ” เขาย้ำอีกครั้ง ไม่มีคำตอบจากวริศรินทร์ เตชวัฒน์อุ้มวริศน์ออกมาจากรถอย่างทุลักทุเล

   “ไนท์ยืนแป๊บครับ ขี่หลังพี่” วริศรินทร์ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เตชวัฒน์รู้สึกถึงร่างที่ค่อนข้างเบาของนายแบบหนุ่ม เสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอชวนจั๊กจี้อยู่ที่ข้างๆ หู กับการกอดรัดจากด้านหลัง

   เตชวัฒน์วางวริศรินทร์ลงบนเตียง ถอดรองเท้าแล้วห่มผ้าให้จนเรียบร้อย

   “พี่เตกลับก่อนนะครับ” เขากระซิบ วริศรินทร์พยักหน้ารับแล้วหลับต่อ

   “เด็กหนอเด็ก” เขารู้สึเหมือนวริศรินทร์เด็กเกินกว่าอายุจริง ทั้งที่วริศรินทร์ก็อายุ 21 จะ 22แล้ว แต่เขากลับรู้สึกว่าอีกฝ่ายเด็กกว่านั้น เตชวัฒน์มองใบหน้ายามหลับของนายแบบหนุ่มแล้วหลุดยิ้มออกมา เขาส่ายหน้าอย่างเอ็มนดูแล้วจัดการล๊อกห้องเพื่อกลับบ้านตนเอง


....................................................
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz (ตอน
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 21-05-2011 03:28:03
 :z13: :laugh: :laugh:



เรื่องนี้น่ากลัว  ผีดิบทั้งเรื่องหรือเปล่าน้อออออออ

แล้วสุดท้ายไม่พระเอกก้อนายเอกต้องตายเพราะเอาระเบิดเข้าไปวางกลางฝูงซอมบี้  หรือโดนซอมบี้ฆ่าตาย 55555

ปล.เค้าจิ้นเอาเองนะ  อย่าได้ถือโทษโกรธน้องเลย


ปลล.บวกพี่กรีนหนึ่งด้วย รู้สึกมีแต่สีนี้แหละ  ที่ยังไม่ได้บวก  555555
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา"
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 21-05-2011 03:29:22
 :z13:คนนี้ด้วย :laugh:



อร๊ายน้องไนท์น่ารัก  พี่เตก้อนะ อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย




เกลียดอิพีอ่ะ  คนอะไรก้อไม่รู้  น่าตบ
หัวข้อ: Re: The rainbow project[Blue]"หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า"ตอนที่4ท้องฟ้าสีน้ำเงินP:3/19/5/11
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 21-05-2011 04:31:11
(http://upic.me/i/y7/qsky3.jpg) (http://upic.me/show/24228533)


ตอนที่ 5 กองถ่าย

                ปลายฟ้าต้องเคลียร์งานทุกอย่างที่รับไว้ก่อนให้ได้มากที่สุด ก่อนที่จะถึงคิวแสดงให้กับหนังของหม่อมเอียด เขาต้องการทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับหนังเรื่องนี้ เพราะมันอาจทำให้ได้รับรางวัลเกี่ยวกับการแสดงเลยก็ได้กับบทบาทนี้ และก็ไม่อยากถูกอเล็กซ์แสดงได้ดีกว่า เพราะบทบาทของทั้งสองมันโดดเด่นใกล้กันมาก
“ฟ้า ฟ้ารู้หรือยังครับว่าวันนี้ช่วงเย็นต้องเขาฉากกับไนท์” สายลมบอกคิดเมื่อขึ้นมานั่งบนรถตู้
“ไนท์!! เขาแสดงเรื่องนี้ด้วยเหรอครับ ทำไมผมไม่เห็นรู้มาก่อน” ปลายฟ้าทำหน้าแปลกใจ
“เข้าเพิ่งแจ้งมาทางเมลพี่เมื่อคืนนี้เอง พี่เห็นฟ้าหลับแล้วเลยรอบอกตอนเช้านี่เลยไง เขามาเป็นนักแสดงรับเชิญเข้าสองฉากก็ตายแล้ว” สายลมอธิบายพร้อมกับหยิบบทที่เพิ่มขึ้นมาส่งให้
“แล้วทำไมมันกะทันหันแบบนี้ละพี่ เขาไม่คิดบ้างหรือว่าผมจะเตรียมตัวไม่ทัน”
“คงเป็นฝีมือคุณเตกับท่านประธานน่ะ เพราะพี่เห็นคุณเตเขามาเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้ไนท์อยู่ เขาคงต้องการดันไนท์ให้ดังกว่าเดิมแน่ ๆ”
“คุณเต ที่บอกว่าเป็นหลานท่านประธานใช่ไหมครับ” ปลายฟ้าพูดไปก้มหน้าอ่านบทที่ได้มาใหม่อย่างตั้งใจ
“ใช่ คนนั้นแหละ แต่เขาคิดยังไงถึงจะดันไนท์นะ คนที่เงียบขนาดนั้น”
“ก็คนบ้าเหมือนกันไงครับ เขาถึงเข้าใจกัน”
“ฟ้าอย่าไปพูดให้ใครได้ยินนะครับ มันไม่ดี” สายลมเตือน
“ครับ ผมจะกล้าไปพูดกับใครเล่าถ้าไม่ใช่พี่” ถึงจะสนทนาตอบโต้แต่สายตาเขาก็ยังไม่ละไปจากบทหนังในมือ


“คัท ไนท์ครับช่วยแสดงอารมณ์ออกมาหน่อยสิครับ ฉากนี้ต้องปะทะอารมณ์กับปลายฟ้า ไนท์ทำหน้าเฉยแบบนี้ ไม่ได้นะครับ เพราะไนท์ต้องเสียใจ” เสียงตะโกนบอกวิธีการแสดงดังขึ้นหลังเดินกล้องได้ไม่นาน
“แอคชั่น” คำสั่งเดินกล้องเกิดขึ้นอีกครั้งโดยไม่ต้องรอให้นักแสดงตั้งตัวก่อน
“นายไม่รู้เหรอว่าผมรักเธอ ผมรักทอฝัน แล้วผมจะดูแลทอฝันให้ดี ก้องถ้านายคิดว่าผมดูแลทอฝันได้ไม่ดีพอ” ปลายฟ้าแสดงสื่ออารมณ์ออกมาได้ดีมาก ทั้งทางสีหน้าและแววตา
“ดีพอ ความรัก ไม่มีอะไรดีพอ” เสียงของไนท์ดังมาแผ่วเบาแล้วขาดหายไป
“คัท” เสียงผู้กำกับสั่งหยุดการแสดงอีกครั้ง
“พอใช้ได้นะไนท์ แต่มันยังดูไม่ค่อยแสดงความรู้สึกเจ็บปวดออกมาเท่าไหร่ ไนท์ลองแสดงอารมณ์มากกว่านี้สิครับ”
“ขอโทษด้วยนะครับ ที่ทำให้ทุกคนต้องเหนื่อย” เตชวัฒน์พูดเมื่อการถ่ายทำของวันนี้เสร็จสิ้น
 “ไม่เป็นไรหรอกครับ เรื่องธรรมดามันก็ต้องมีคัทกันบ้าง ผมยังเคยต้องกลับมาถ่ายซ่อมอยู่บ่อย ๆ” ปลายฟ้ายิ้มรับเมื่อเตชวัฒน์ ผู้จัดการส่วนตัวของไนท์เขามาพูด
“เดี๋ยวมีสัมภาษณ์นักข่าวด้วยกันนี่นา ไนท์เราเดินไปด้วยกันเลยดีกว่า”
ไนท์ยังคงนิ่งเงียบจนปลายฟ้าเดินมาโอบไหล่พาไปสัมภาษณ์นักข่าวด้วยกัน

กว่าจะจบการให้สัมภาษณ์ก็พระอาทิตย์ตกดินไปนานแล้ว ปลายฟ้ากำลังเดินกลับขึ้นรถตู้ที่ขับมาจอดรอข้างกองถ่าย
“คุณปลายฟ้าคะ มีคนฝากของพวกพวกนี้ไว้ให้ค่ะ” ทีมงานวิ่งหอบกล่องของขวัญห่อด้วยกระดาษอย่างดี ผูกโบว์ใหญ่สีน้ำเงินเข้มพร้อมการ์ดโทนสีเดียวกัน
“ใครฝากมาพอจะรู้ไหมครับ” ปลายฟ้ายิ้มให้คนที่วิ่งเอาของมาส่งอย่างขอบคุณ
“ไม่ทราบเหมือนกันคะ รู้เพียงแต่ว่ามีคนเอามาฝากไว้ให้แต่เช้าแล้ว” ทีมงานแทบหายเหนื่อยเมื่อเห็นรอยยิ้มของปลายฟ้า
“ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมากนะครับที่เป็นธุระให้ ผมไปก่อนนะครับ” ก่อนปิดประตูรถปลายฟ้ายังไม่ลืมส่งยิ้มพิมพ์ใจให้อีกครั้ง ทำเอาทีมงานถึงกับยืนฝันกันที่ตรงนั้นเลยทีเดียว
ปลายฟ้าโยนกล่องของขวัญทั้งไปเบาะหลังอย่างไม่สนใจ ก่อนทิ้งตัวลงนั่งที่ประจำปรับเบาะแอนตัวลงนอน
“คนอะไรวะ เล่นแข็งอย่างกับท่อนไม้ ทำให้คนอื่นเขาช้าไปกันหมดเลย” ปลายฟ้าเริ่มบ่นออกมาให้สายลมฟัง
“ฟ้าหมายถึงไนท์หรือเปล่าครับ”
“แล้วพี่จะให้ผมพูดถึงใครล่ะ ไอ้อเล็กซ์มันเล่นดีกว่าเป็นไหน ๆ ฉายาเจ้าชายน้ำแข็ง ผมว่ามันแกล้งทำมากกว่า เรียกร้องหาจุดขายให้กับตัวเอง เพราะไม่งั้นก็คงไม่มีอะไรน่าสนใจอีกแล้ว”
“ไนท์เขาอาจเป็นแบบนั้นจริง ๆ ก็ได้นะฟ้า”
“ไม่จริงหรอกเชื่อผมสิ มันนะทำตีสองหน้า ระหว่างสัมภาษณ์มันยังหาทางแย่งซีนผมไปจนได้เลย หลานท่านประธานอะไรนั่นอีกคน คอยตามช่วยกันจนออกนอกหน้า สงสัยคงมีอะไรมาเกินกว่าผู้จัดการส่วนตัวแน่ ๆ”
คำพูดนี้ทำเอาสายลมถึงกับอึดอัดได้เหมือนกัน เพราะว่าเขาเองเข้ามาขอเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้ปลายฟ้าก็เพราะว่าชอบในตัวปลายฟ้าเหมือนกัน
“อย่าไปพาลถึงคุณเตสิฟ้า ยังไงเขาก็เป็นหลานท่านประธานนะครับ” สายลมเตือน
“ครับ ขอให้พรุ่งนี้ไอ้เจ้าชายท่อนไม้มันจะเล่นได้ดีกว่านี้นะครับ ตอนเย็นเราติดงานเปิดตัวสินค้าตัวใหม่ด้วยใช่ไหม” ปลายฟ้าทำหน้าเบื่อเมื่อคิดถึงวันพรุ่งนี้
“ใช่แล้ว เพราะงั้นคืนนี้ฟ้าต้องกลับไปพักผ่อนเยอะ ๆ นะครับ”
“เขาเห็นผมเป็นเครื่องจักรหรือยังไงกัน ตารางงานแน่นจนแทบไม่มีเวลาจะหายใจอยู่แล้ว” ปลายฟ้าถอนหายใจเบา ๆ
สายลมก็ได้แต่มองอย่างช่วยอะไรมากไม่ได้ นอกจากเพียงการให้กำลังใจ และดูแลปลายฟ้าให้ดีที่สุดที่เขาจะทำได้


ปลายฟ้ามาถึงกองถ่ายแต่เช้าเหมือนเดิม วันนี้เป็นคิวบู๊ที่เขาต้องโดนจับตัวไว้ แล้วมีไนท์ที่เป็นเพื่อนมาช่วยไว้ แต่ฉากนี้มีอันตรายจนสามารถใช้ตัวแสดงแทนได้ แต่ปลายฟ้าไม่ยอมให้เพราะเขารู้ว่าไนท์เองก็ไม่ใช้เหมือนกัน
“น้องปลายฟ้า พี่ว่าใช้สแตนด์อินดีกว่านะคะ ฉากแบบนี้มันเสี่ยงไปนาพี่ว่า” ช่างแต่งหน้าสาวประเภทสองแสดงความคิดเห็นอย่างเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรครับพี่ ผมจะระวังตัวเองให้มาก ๆ ผมอยากให้คนดูคุมค่ากับที่เสียเงินเข้ามาดูหนังที่ผมแสดงด้วยไงครับ” ปลายฟ้ายิ้มให้แทนคำขอบคุณที่เป็นห่วง
“เพราะแบบนี้ไง แฟนคลับปลายฟ้าถึงมากขึ้นทุกวัน ๆ” ช่างแต่งหน้าชมกลับก่อนจะสนทนากันเรื่องอื่นจนแต่งหน้าเสร็จ

กระท่อมหลังใหญ่ถูกเซ็ตไว้ที่ชายป่า ปลายฟ้าถูกจับมัดไว้กับเก้าอี้ด้วยเชือกหลวม ๆ เผื่อมีเหตุฉุกเฉินจะได้แก้เชือกหนีออกมาด้วยตัวเองได้ รอบ ๆ กระท่อมถูกสาดไว้ด้วยนำมันเบนซินจนกลิ่นฉุนจมูก เขาตื่นเต้นเมื่อเห็นทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว เพราะถ้าพลาดเขาอาจบาดเจ็บพักงานไปหลายวันแน่ ๆ
“ตั้งใจนะครับ ถ่ายครั้งเดียวขอให้ผ่านนะครับ ทำตามที่ซ้อมเมื่อกี้ให้ดี” ผู้กำกับพูดผ่านโทรโข่งเพื่อให้ทุกคนได้ยิน
“แอคชั่น!!”
สิ้นเสียงคำสั่งประตูกระท่อมก็ถูกพังเข้ามา ไนท์วิ่งเข้ามาหาปลายฟ้าที่กำลังดิ้นรนให้ตนเองพ้นจากพันธนาการ กระท่อมถูกเผาทันที
“แคก แคก หนีไป รีบหนีไปก่อนไม่ต้องห่วงผม” ปลายฟ้าแสดงตามบทได้อย่างราบรื่น แม้เปลวไฟจะโหมลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว
“เราต้องไปด้วยกัน” ไนท์สนทนาตอบตามบท พร้อมกับแก้เชือกให้ปลายฟ้า เขาเข้าไปพยุงปลายฟ้าไว้เพื่อจะพาหนีออกมาทางประตูตามบทที่ได้รับ
“แย่แล้วไฟลามเร็วเกินไป” เสียงทีมงานตะโกนบอกกันจ้าละหวั่น
สองนักแสดงยังติดอยู่ข้างใน ทางออกที่จะใช้หลบหนีถูกไฟล้อมไว้หมดแล้ว
“กรี๊ดดดด” เสียงร้องของทีมงาน ทั้งสาวแท้สาวเทียมดังระงมไปทั่วกองถ่าย
เปลวเพลิงโหมลุกลามอย่างรวดเร็วจนถึงหลังคา แบบนี้กระท่อมคงทานไว้ไม่ได้นาน คงต้องถล่มลงมาแน่นอน
“ทำยังไงดีล่ะทีนี้ ไนท์ช่วยกันคิดหน่อย” ปลายฟ้ามันไปถามความเห็นของคนที่ติดอยู่ด้วยกัน
ความร้อนของพระเพลิงทำให้ทั้งสองคนชุ่มไปด้วยเหงื่อ
โครม!!
ผนังด้านหนึ่งพังลงมาพร้อมกับร่างคนฝ่าเข้ามาด้านใน
“ฟ้าไนท์มาทางนี้เร็ว” สายลมจับมือทั้งสองคนไว้ ก่อนดึงให้มาอยู่ตรงทางที่เขาเข้ามา
“พี่นับถึงสามพุ่งออกไปพร้อมกันเลยนะ” สายลมหันไปบอกปลายฟ้ากับไนท์ เขาใช้ตัวเองโอบปลายฟ้าไว้เพื่อกันความร้อนจากเปลวไฟ
“หนึ่ง สอง สาม” สิ้นคำสายลมพุ่งตัวพาปลายฟ้าออกไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากผ่าเปลวเพลิงออกมาได้เขามองหน้าไนท์ทันที
“ไนท์ไม่ยอมออกมา รีบดับไปเร็วเข้ากระท่อมใกล้จะพังแล้ว” สายลมรีบตะโกนบอกทีมงานเมื่อมองไม่เห็นนักแสดงอีกคน
สิ้นเสียงตะโกนเขาเห็นร่างบางคนพุ่งเข้าไปในกระท่อมอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่มีเวลาสนใจมากนัก เพราะเหมือนปลายฟ้าจะสำลักควันไฟเข้าไปเยอะพอสมควร เขารีบพาปลายฟ้ามาที่บนรถพยาบาล ที่ทางทีมงานติดต่อไว้อย่างรวดเร็ว

“ช่วยดูปลายฟ้าหน่อยครับ” สายลมโอบจนแทบจะอุ้มปลายฟ้ามานอนบนรถพยาบาล
พยาบาลรีบเข้ามาดูแลปลายฟ้าอย่างเร่งด่วน ตอนนี้มีรถพยาบาลตามาเสริมอีกคันเพื่อรับสถานการณ์ ปลายฟ้าไม่ได้เป็นอะไรมานอกเสียจากรอยขีดข่วนเล็กน้อยพร้อมกับอาการสำลักควัน เพียงครู่เดียวก็เป็นปกติ
ปลายฟ้าลุกขึ้นมามองสถานการณ์ข้างในที่ยังวุ่นวายกันอยู่ เขาเดินมาหาสายลมที่ยืนไม่เป็นสุขรอดูอาการเขาอยู่ที่ข้างรถพยาบาล
“ผมไม่เป็นอะไรแล้วครับ พี่สายลมสบายใจได้แล้วครับ” ปลายฟ้าเดินเข้ามาบอกพร้อมรอยยิ้มเพื่อให้คนที่เป็นห่วงสบายใจ
“ฟ้าพี่เป็นห่วงฟ้ามากเลยรู้ไหมครับ คราวหน้าพี่ไม่ให้ฟ้าเล่นเองแล้วฉากพวกนี้” สายลมพูดอย่างหัวเสีย กับการตัดสินใจของตัวเองที่ยอมให้ปลายฟ้าเล่นฉากเสี่ยงแบบนี้
“ไม่เกี่ยวกับพี่เลย พี่สายลมอย่าโทษตัวเองสิครับ” ปลายฟ้าเดินไปจับต้นแขนข้างขวาเบา ๆ
“โอ๊ยยย!!”
สายลมร้องออกมาอย่างเจ็บปวดเมื่อปลายฟ้าสัมผัสโดนขาเขา
“พี่สายลมเป็นอะไรไปครับ” ปลายฟ้าตกใจ
สายลมจับแขนตัวเองค่อย ๆ ดู เห็นลิ่มไม้ขนาดใหญ่ปักอยู่ที่ท้องแขนด้านหลัง คงเพราะความเป็นห่วงปลายฟ้าเขาเลยไม่รู้สึกเจ็บก่อนหน้านี้ หลังจากที่ปลายฟ้าปลอดภัยมันถึงแสดงอาการออกมา ปลายฟ้าเองก็เห็นลิ่มไม้ขนาดไหญ๋นั่นพร้อมกัน
“พยาบาลครับ คุณพยาบาล ช่วยทางนี้ด้วยครับ” ปลายฟ้ารีบตะโกนเรียกพยาบาลที่ยืนรอดูเหตุการณ์อยู่แถวนั้น
หลังจากที่ขยับเมื่อครู่ทำให้เลือดไหลออกจากแผลของสายลมอย่างมาก พยาบาลรีบเข้ามาห้ามเลือดก่อนพาไปนั่งบนรถ คีมคีบถูกใช้ดึงเอาลิ่มไม้ขนาดใหญ่ออกจากต้นแขนของสายลม เลือดสีแดงไหลออกมาอย่างรวดเร็ว ปลายฟ้ายืนมองอย่างหวาดหวั่น เขารู้สึกกลัวถ้าสายลมต้องมาเป็นอะไรเพราะเขา
“แผลใหญ่มาก แต่โชคดีไม่โดนเส้นเลือด คงต้องเย็บสดทนเจ็บหน่อยนะคะ” พยาบาลสาวร่างเล็กพูดพร้อมหยิบอุปกรณ์มาไว้ในมือ
เข็มรูปตะขออันเล็กถูกร้อยด้วยด้ายสำหรับเย็บแผลถูกคีบขึ้นมา
“ทนเจ็บนิดเดียวนะคะ” พูดจบเธอฝังเข็มลงไปในเนื้อตรงปากแผลอย่างชำนาญ
“อึก อึก” สายลมกัดฟันตัวเองไว้แน่นจนเกิดเสียงเบา ๆ ออกมา
ปลายฟ้าเองก็ลุ้นสองมือบีบกำจนแน่นทั้งสองข้าง เขากลั้นใจไปกับสายลมทุกครั้งที่เข็มแทงผ่านเนื้อ
“เสร็จแล้วคะ อย่าลืมไปตรวจซ้ำอีกทีนะคะ แล้วอีกเจ็ดวันค่อยไปดูแผลตัดไหมที่โรงพยาบาล” พยาบาลบอกหลังจากเย็บและพันแผลเสร็จแล้ว
“ขอบคุณครับ ถ้าไม่มีพวกคุณป่านนี้ผมคงทำอะไรไม่ถูกแล้ว” ปลายฟ้ายกมือไหว้ขอบคุณพยาบาล พยาบาลเองรับไหว้พร้อมกับอาการขัดเขินเล็กน้อย

สายลมพยุงตัวลุกขึ้นนั่ง ต้นแขนขวาถูกพันไว้ด้วยผ้าก็อตสีขาวอย่างเป็นระเบียบ เห็นปลายฟ้ายืนทำหน้าเศร้ามองอยู่ข้างรถ เขาลุกเดินเข้าไปหา พอเดินเข้าไปใกล้ปลายฟ้ากโผกอดเขาไว้อย่างรวดเร็ว
“ผมนึกว่าพี่จะเป็นอะไรไปเสียแล้ว” ปลายฟ้าพูดพร้อมกับร้องไห้ออกมา
“พี่ไม่เป็นอะไรแล้วครับ แผลแค่นี้เองไกลหัวใจ” สายลมพูดปลอบโยนพร้อมลูบศีรษะคนที่กอดอยู่เบา ๆ
“ครับ ผมรู้แล้วแต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ขอบคุณนะครับพี่ชาย” ปลายฟ้ากล่าวขอบคุณอย่างจริงใจ
‘พี่ชาย’
คำลงท้ายที่ปลายฟ้าบอกกับเขาตอนนี้ มันเหมือนเป็นคำที่แสนดีแต่เขากลับรู้สึกแย่ลง ผลสุดท้ายเขาก็คงเป็นได้แค่พี่ชายเท่านั้นเองใช่ไหม สายลมค่อยจับตัวปลายฟ้าออกจากตัวเขา นี่เป็นครั้งแรกที่ปลายฟ้าแสดงความห่วงใหญ่เขามากขนาดนี้
“ไม่เป็นไรหรอกครับน้องชาย” สายลมกัดฟันฝืนตอบออกไป


หลังเหตุการณ์สงบไนท์ถูกพาไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจอาการทันที ปลายฟ้าอยู่คอยดูทีมงานอีกพักใหญ่ อเล็กซ์ก็เดินทางมาถึงพร้อมกับหม่อมเอียดแล้วกนักข่าว
“คุณปลายฟ้าเป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ” อเล็กซ์รีบเข้ามาถาม พร้อมกับนักข่าวกลุ้มรุมเข้ามา
แสงแฟรตสว่างวูบวาบรัวถี่เมื่อทั้งสองคนเจอหน้ากัน
“ไม่เป็นไรมากหรอกครับ ขอบคุณที่เป็นห่วงครับ”
หลังจากที่ทั้งสองคนทักทายกันเสร็จนักข่าวก็เริ่มถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถึงจะเพิ่งผ่านเหตุการณ์หน้าตื่นเต้นมา แต่ปลายฟ้าก็ยังยิ้มแย้มทำให้ทุกคนสบายใจมากขึ้น


“ยกเลิกงานเปิดตัวสินค้าไหมครับ เดี๋ยวพี่จัดการให้” สายลมถามเมื่อทั้งสองกลับขึ้นมาบนรถตู้ของตัวเอง
“ไม่ต้องหรอกครับผมยังไหว ว่าแต่พี่เถอะไหวหรือเปล่า”
“พี่ไหวสิครับ พี่นั่นแหละไหวหรือเปล่า ยกเลิกก็ได้นะจะได้กลับห้องเลย” ปลายฟ้าแสดงความห่วงใย
“พี่ไม่ได้ทำอะไรเสียหน่อยทำไมจะไม่ไหวละครับ งั้นฟ้าพักผ่อนไปก่อนนะเดี๋ยวถึงแล้วพี่เรียกเอง”
“ครับ” ปลายฟ้าเอนเบาะนอนพักผ่อน เขาเหลือบไปเห็นกล่องของขวัญผูกโบว์สีน้ำเงินพร้อมการ์ดสีโทนเดียวกันวางไว้เบาะข้าง ๆ
“พี่สายลมครับ นี่ของเมื่อวานไม่ใช่หรือครับ” ปลายฟ้าถาม เพราะปกติสายลมน่าจะเก็บขึ้นห้องไปให้แล้ว
“ไม่ใช่นะครับ ทีมงานเขาฝากมาให้ตั้งแต่เช้าแล้วพี่ลืมบอก”
ปลายฟ้าหยิบของขึ้นมาดู ก่อนโยนลงไปเบาะหลังเหมือนแบบเมื่อวาน



=======> โปรดติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 9 อ้อมกอด 21/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 21-05-2011 07:24:33
แอบเอาฉากวาบหวามระหว่างผีกับคนมาฝาก 555 ลองไปอ่านกันดูเอาเองนะคะ
ขอให้สนุกกับการอ่านค่ะ
 
(http://img28.mediafire.com/b6f242d94a346b9095740bdfdd1f8ac23fc115dbd2c7ec5da35aca98f1eb05c75g.jpg)
 
ตอนที่ 9  "อ้อมกอด"
"หมวดมาพอดีเลย มีคนมานั่งรอพบหมวดอยู่ที่โต๊ะนะครับ" จ่ามืดบอกเมื่อสวนกับหมวดพชรที่บันใดทางขึ้นชั้นสองของสถานีตำรวจ
""ขอบคุณนะครับจ่ามืด" 'ใคร!' ร้อยตำรวจโทพชร กล่าวขอบคุณ ก่อนจะสงสัยว่าใครมานั่งรอเขาอยู่
"ไอ้ตัวแสบ มาทำไมวะเนี่ย" เสียงบ่นอุบอิบออกมาแทบจะทันทีที่เห็นว่าร่างเล็กนั่งรอเขาอยู่ที่เก้าอี้หน้าโต๊ะทำงาน เมื่อเดินผ่านเข้าไปพ้น partitionซึ่งกั้นโต๊ะทำงานแต่ละโต๊ะออกเป็นสัดส่วนของตำรวจแต่ละคน
"ตำรวจที่นี่เค้าทักทายประชาชนที่มาพบกันแบบนี้เหรอครับหมวด" หน่องสวนกลับทันทีที่ร่างสูงผ่านเข้ามาและได้ยินเสียงบ่นแผ่ว ๆ นั้นอย่างชัดเจน
"เอ่อ... สวัสดียามเช้าคุณนักข่าว" หมวดพชร กัดฟันทักทายคนตรงหน้า พร้อมกับทำหน้าบึ้ง ๆ ส่งไปให้ 'กวนใช้ได้เลยคนเรา...'
"สวัสดีครับหมวด ดูท่าทางหมวดไม่ค่อยจะยินดีให้ผมมาหาสักเท่าไหร่นะครับ" หน่องตอบพลางหันมายิ้มยั่วใส่
"จริง ๆ ผมไม่ค่อยอยากจะเจอคุณสักเท่าไหร่หรอกคุณนักข่าว" หมวดหนุ่มบอกตามตรงด้วยน้ำเสียงเรียบ ใบหน้านิ่งเกือบจะบึ้งตึง พลางแอบคิดอยู่ในใจ 'จริง ๆ เวลายิ้มก็ดูน่ารักดีนี่'
"แต่ผมอยากเจอหมวดนี่ มีเรื่องอยากจะถามหมวดสักหน่อย" หน่องบอกพร้อมส่งรอยยิ้มประจบชัดเจน ก่อนจะกลับมานั่งลงที่เก้าอี้หน้าโต๊ะอีกครั้ง เมื่อเจ้าของโต๊ะเดินเข้าไปนั่งประจำที่ของตน
"จะมาหาข่าวอีกหรือคุณ ผมไม่มีข่าวให้คุณแล้วล่ะ" ผู้หมวดหนุ่มหันมาแยกเขี้ยวเข้าใส่อย่างไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่นัก
"ไม่ใช่ ผมแค่จะมาถามเรื่องเพื่อนของผมเท่านั้นครับหมวด" หน่องตอบก่อนจะพ่นลมหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเอนหลังพิงพนักเก้าอี้
"อยากจะรู้อะไรอีกล่ะคุณ ผมก็บอกเท่าที่จะบอกได้ไปหมดแล้วนี่" ร้อยตำรวจโทพชรถามพร้อมกับชะโงกหน้าเข้าใส่หน่องที่นั่งตรงข้าม
"ผมอยากรู้ว่าเพื่อนผมตายได้ยังไง กับใครเป็นคนฆ่าเพื่อนผม" หน่องสบตานิ่งก่อนจะเอ่ยบอกคนตรงหน้า
"ผมเองก็อยากรู้เหมือนกันกับคุณนั่นแหละ ผมกำลังสืบอยู่ ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวก่อนแล้วกัน" ผู้หมวดหนุ่มบอกก่อนจะขยับกายลุกขึ้นจากที่นั่ง
"เดี๋ยวหมวด ถ้าผมจะบอกว่าผมจะช่วยหมวดสืบเรื่องนี้ล่ะ" หน่องบอละล่ำละลักพลางคว้าจับเข้าที่ข้อมือหนาของคนตรงหน้าเพื่อรั้งเอาไว้
"อะไรนะ! คุณจะช่วยผมให้ยุ่งนะสิ อย่าเลยผมยังไม่อยากหัวหงอกก่อนวัย" หมวดพชรบอกก่อนจะเหลือบสายตาขุ่นขวางไปที่มือของหน่องซึ่งกำลังจับข้อมือของเขาอยู่ก่อนจะใช้มือของเขาจับออก แล้วผละเดินหนีจากไปช้า ๆ
"น่านะหมวด ให้ผมช่วยเถอะ ผมอยากช่วยจริง ๆ นะ โธ่โว้ย!" หน่องตะโกนไล่หลังไปอย่างหัวเสีย ก่อนจะออกวิ่งตามหลังหมวดพชรไป
"อยู่เฉย ๆ น่ะดีแล้ว มีอะไรผมจะบอกคุณเองดีไหม" ร้อยตำรวจโทพชรพูดเสียงดังเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้ากระชั้นตามมาข้างหลังขณะที่ตัวเองกำลังก้าวเดินลงบันไดต่อไปอย่างช้า ๆ
"เดี๋ยวหมวด หยุดคุยกันก่อนสิ" หน่องหยุดยืนพูดอยู่ตรงขั้นบนสุด ก่อนจะซอยเท้าตามลงไปอีกครั้ง
"อุ๊บ... โอ๊ย!" ร่างของหน่องปะทะเข้ากับอกของหมวดเพชรที่หยุดหันหลังกลับมาอย่างกะทันหัน ผู้หมวดหนุ่มคว้าเอาหน่องเข้ามากอดไว้แนบกับอกของตนก่อนที่ทั้งสองจะกลิ้งหลุน ๆ จากชานพักบันไดลงมานอนกอดเกยกันอยู่บนเชิงบันไดขั้นสุดท้ายโดยมีหน่องขึ้นไปนอนคว่ำหลับตาปี๋ซุกแนบอกของหมวดพชรพร้อมกอดเอาไว้เสียแน่น
เสียงหัวใจเต้นราวกับตีกลองประชันดังก้องและได้ยินชัดเจนกันทั้งสองคน หน่องคลายวงแขนที่โอบรอบคอของหมวดพชรออกแล้วมาจับเข้าที่แผ่นอกหนาแทนเพื่อ หวังจะพยุงตัวลุกขึ้น ก่อนจะหลุบตามองไปที่อกของนายตำรวจพร้อมกับใบหน้าที่แดงเรื่อลามไปถึงใบหูด้วยความอาย แต่ก็ต้องฟุบกลับลงไปซุกที่อกอีกครั้งเมื่อคนข้างล่างออกแรงรัดรั้งกลับไปอีกครั้ง
"เป็นอะไรมากหรือเปล่า" ร้อยตำรวจโทพชร ถามเสียงอ่อนโยนด้วยเป็นห่วงคนในอ้อมอก ก่อนจะแอบสูดหายใจเอาจากเรือนผมของหน่อง  'ผมนิ่ม หอมจัง'
"ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณหมวดมาก" หน่องตอบอุบอิบสะเทิ้นอาย 'จะกอดไว้ทำไมเล่า ปล่อยได้แล้วมั้ง แค่นี้ก็อายจะแย่อยู่แล้ว'
"เป็นอะไรกันมากไหมครับหมวด ผมเห็นตอนกำลังกลิ้งลงมาพอดี" จ่ามืดที่เดินกลับมาจะขึ้นไปชั้นบนเอ่ยทักถาม
"ไม่เป็นไรครับ ไม่ได้บาดเจ็บตรงไหน" เสียงตอบพร้อมเพรียง ก่อนที่หน่องจะรีบผละออกจากอกอุ่นและรีบลุกขึ้นมายืนพร้อมอีกคนก่อนจะต่างคนต่างปัดเศษฝุ่นเศษดินออกจากเสื้อผ้าของตัวเองอย่างเร็วรี่แก้เก้อเขิน
"แต่ผมว่าหมวดกลับไปเปลี่ยนกางเกงก่อนดีกว่า เป้ากางเกงแตกครับหมวด" จ่ามืดกระซิบบอกเบา ๆ กะจะให้รู้แค่สองคน แต่ก็ดังพอที่จะทำให้คนข้าง ๆ ได้ยินไปด้วย ผู้หมวดหนุ่มหันหลังกะจะชะโงกดูให้ชัด ๆ แต่กลับเป็นการหันส่วนที่ขาดเข้าหาอีกคนแทน ซึ่งอีกคนก็ได้แต่รีบก้มหน้ามองส่วนเท้าของตัวเองด้วยความเขินอายแทนคนตัวใหญ่ข้าง ๆ ที่ไม่รู้สึกรู้สมกับเรื่องน่าอายเช่นนี้สักเท่าไหร่
"ขอบคุณครับจ่า เดี๋ยวผมไปเปลี่ยนกางเกงที่บ้านพักก่อนนะครับ" ร้อยตำรวจโทพชร บอกก่อนจะคว้าข้อมือของหน่องให้เดินตามไปขึ้นรถด้วยกัน
"คุณก็ต้องไปด้วยกันกับผม ดูสิเลือดไหลออกขนาดนี้ ไปทำแผลที่บ้านพักผมก่อนก็แล้วกัน" ผู้หมวดหนุ่มบอกพลางหมุนแขนให้หน่องดูแผลที่ข้อศอกก่อนจะเปิดประตูยัดร่างของหน่องเข้าไปไว้ในรถแล้วตัวเองก็วิ่งกลับไปขึ้นด้านฝั่งคนขับ ก่อนพารถกระบะตราโล่เคลื่อนออกไป
 
 
แสงไฟกระพริบไหววูบวาบสอดคล้องตามกับจังหวะท่วงทำนองกระชั้นถี่ เสียงเบสหนัก ๆ จากเครื่องขยายเสียงกำลังขับสูง ร่างแน่นของหนุ่มหล่อหน้าคมยักย้ายอยู่บนฟลอร์ท่ามกลางเพศเดียวกันที่เต้นสีเบียดเสียดร่างกายเข้าใกล้เพื่อพยายาม แนบชิด เรือนร่างในเสื้อเชิ้ตสีม่วงอ่อนผ้ามันเงาที่ปลดกระดุมโชว์กล้ามอกแน่นน่ากัดเอาไว้เสียสามเม็ด และกางเกงเดฟสีดำรัด ๆ อวดเรือนร่างล่อตาล่อใจ เม็ดเหงื่อผุดพรายบนผิวหน้าและผิวเนื้อที่หน้าอกขาว ๆ ยั่วตะเข้ตะโขงอย่างจงใจ สักครู่เสียงดนตรีเปลี่ยนจังหวะกลับมาเนิบช้า คนที่เต้นอยู่รอบ ๆ บางตาลงไปกว่าเดิม แต่เขาก็ยังคงเต้นอยู่ต่อไปราวกับไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และดูโดดเด่นท่ามกลางแสงสลัวรอบกาย
ชายวัยกลางคนบนโซฟาหนานุ่ม ที่นั่งหลบมุมแอบมองดูอยู่นาน หันไปพยักพเยิดให้กับลูกน้องในชุดสากลสีดำที่ยืนอยู่ข้างกาย พลางชี้นิ้วไปทางชายหนุ่มหน้าคมตรงหน้า ก่อนที่ลูกน้องจะค้อมกายจากไป
แก้วไวน์ทรงสูงถูกวางลงบนโต๊ะตรงหน้าชายหนุ่มหน้าคม ซึ่งเจ้าตัวถึงกับขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ก่อนจะเหลือบตาตามแขนขึ้นไปมองคนตรงหน้าตรง ๆ
"เจ้านายพี่สนใจน้อง ไปดื่มกับท่านที่โต๊ะหน่อยสิ" ชายในชุดดำเอ่ยดัง ๆ ที่ข้างหูของเขาเพื่อแข่งกับเสียงเพลง
"แล้วเจ้านายพี่อยู่ไหนล่ะ" เขาถามกลับที่ข้างหู เขาหันไปมองตามมือที่ชายชุดดำชี้บอก พร้อมกับยกแก้วไวน์ส่งไปข้างหน้า แล้วยกขึ้นดื่มจนหมดในคราวเดียว ก่อนจะออกเดินตามหลังชายชุดดำไป
 
 
เสียงหัวร่อต่อกระซิก ดังแว่วออกมาจากหลังประตูไม้หนา ที่มีชายในชุดดำยืนเฝ้าอยู่ด้านหน้าถึงสองคน
อากาศภายในห้องเย็นเยียบจนหนาว แต่สองร่างที่กำลังโรมรันกลับชุ่มโชกไปด้วยหยดเหงื่อ แรงพิศวาสกลับทำให้ทั้งสองร้อนระอุ  กล้ามเนื้อบนร่างหดเกร็งเขม็งเมื่อไปถึงขีดสุดตามครรลองแห่งอารมณ์ปรารถนา หยาดหยดร้อนวาบฉีดพ่นเข้าไปภายในพร้อมกับเสียงครางประหนึ่งใจจะขาดของชายที่สูงวัยกว่า  ก่อนเจ้าตัวจะหยุดหอบหายใจแล้วฟุบลงไปบนแผ่นหลังเปลือยเปล่าที่มีรอยขบกัด ฟอนเฟ้นแดงเป็นจ้ำ ๆ กระจายไปทั่ว เขานอนพักเพียงครู่ก่อนจะโดนจับผลิกกลับคร่อมทับด้วยเด็กหนุ่มหน้าคม เด็กหนุ่มตามลงไปประกบปากด้วยปาก แล้วจึงใช้ลิ้นชื้น ๆ ตวัดเลื่อนไปซอกไซ้บนร่างของชายสูงวัยกว่า จูบกัดขบเม้มบนร่างอวบหนาอุดมไปด้วยไขมัน ก่อนจะพูดว่า
"ทีนี้ตาผมบ้างนะป๋า เดี๋ยวผมขอทำอะไรที่มันกว่านี้อีกนิดนึงนะครับ" เขาบอกพร้อมกับควานมือไปหยิบผ้าแพรยาวโปร่งเบาจากใต้หมอนออกมามัดมือของร่าง เจ้าเนื้อทั้งสองข้างเอาไว้กับหัวเตียง ก่อนจะเอาชายผ้าที่เหลือพันรอบลำคอหนาแล้วรั้งให้หงายปล่อยชายยาวรั้งโยงเอา ไว้กับหัวเตียงอีกครั้ง คนที่โดนพันธนาการเบิ่งตากว้างก่อนจะส่งยิ้มกลับมาให้อย่างพึงใจ พร้อมกับส่วนกลางลำตัวที่กลับมาตื่นตัวชูชันขึ้นมาอีกครั้งในทันที
ชายหนุ่มหน้าคมยกขาของคนข้างล่างข้างหนึ่งขึ้นมาพาดบนบ่าปล่อยอีกข้างให้ เหยียดยาว เขาค่อย ๆ ชำแรกเบิกช่องทางด้วยปลายนิ้วก่อนขยับหมุนวนคว้านไปรอบ ๆ ร่างหนาได้แต่ส่งเสียงครางอย่างพึงใจพร้อมกับบิดกายอย่างสุขสม ส่วนที่ใหญ่กว่านิ้วถูกส่งเข้าไปแทนที่ในทันทีเติมเต็มคับแน่นร่องหลืบจนปริแยกโลหิตสีเข้มไหลซึม ด้วยขนาดที่เกินพอดีไปมาก  แต่คนที่รองรับอยู่กลับยกยิ้มด้วยถูกใจ และเผลอร้องคราง
"แรง ๆ เลย ป๋าชอบ"
"ป๋าโด๊ปหน่อยไหมจะได้นาน ๆ ทน ๆ" เด็กหนุ่มควานไปใต้หมอนอีกครั้งก่อนจะหยิบซองซิปพลาสติกสีขุ่นมาเปิดออกแล้วหยิบยาออกมาใส่ปากตัวเองก่อนจะบีบปากคนข้างใต้ร่างให้อ้าออก แล้วเทกรอกยาลงไปเสียหลายเม็ด
"โอ๊ย ๆ ๆ เอาอีก ป๋าใกล้แล้ว" เสียงกระเส่าแหบพร่าสั่งการ ก่อนจะเกรงขาจิกทั้งผ้าปูที่นอนแล้วปลดปล่อยไอรักของตัวเองพวยพุ่งออกมามากมายเนืองนองบนหน้าท้องโดยไม่ถูกสัมผัสหรือแตะต้องแต่อย่างใด อาการหอบหายใจเหน็ดเหนื่อย พยายามสูดโกยอากาศเข้าปอดเพื่อบรรเทา แต่ก็ติดขัดด้วยแพรบางที่พันเอาไว้รอบ ๆ ลำคอ  เด็กหนุ่มกลับตระโบมฟอนเฟ้นกระแทกกระทั้นสุดตัวด้วยความแรงที่เพิ่มมากขึ้น มากขึ้น เขม็งเกร็งร่างกระตุกฝังกายแนบแน่นและปลดปล่อยของเหลวอุ่นร้อนเอาไว้ภายใน ของร่างเจ้าเนื้อ ที่ยังคงนอนหลับตาหอบหายใจรวยริน ก่อนที่เขาจะลืมตาขึ้นมาพบกับความน่าสะพรึงตรงหน้า จากเด็กหนุ่มหน้าคมที่เพิ่งจะนำพาความกระสันอิ่มเอมมาให้ กลับแปรเปลี่ยนไปจากที่เห็นแต่เดิม ท่ามกลางความสลัวเลือนรางของแสงไฟสีส้มที่ข้างหัวเตียง ใบหน้าสยองขาวซีดจนเห็นเส้นเลือดสีดำยุบยับ ดวงตาขุ่นขาวมัวเบิกโพลงถลน ริมฝีปากดำคล้ำเผยอยกยิ้มแสยะแยกเขี้ยวขาว มือขาวเย็นยะเยือกคว้ากุมเข้าที่รอบลำคอก่อนจะผละออกบีบกรามให้อ้าปากออก แล้วเทยาเม็ดในซองพลาสติกใส่ลงไปเสียทั้งหมด แล้วใช้มือปิดปากของเหยื่อเอาไว้จนแน่น ร่างเปลือยเปล่าเจ้าเนื้อพยายามบิดกายขืนสู้ แต่ติดที่ถูกพันธนาการเอาไว้ แพรแดงไหลรูดบีบรัดลำคอหนาแน่นเข้าไปอีก
ใบหน้ากลมใหญ่แดงก่ำ พยายามหอบหายใจเอาอากาศเข้าปอด ดวงตาเบิกโพลงหวาดกลัวต่อสิ่งที่ปรากฏ
อมนุษย์ตรงหน้าในอาภรณ์สีดำยาวรุ่ยร่ายเปียกชื้นเคลื่อนกายคร่อมทับ ใบหน้าสยองผมสีซีดแนบลู่ติดกับหนังหัวห่างจากหน้าแดง ๆ ของเหยื่อเพียงแค่นิ้วมือกั้น หยดน้ำเย็นจัดหล่นกระทบใส่ร่างอวบอ้วนข้างใต้จนเปียกปอน ความหนาวเย็นแล่นลู่ เส้นผมบริเวณท้ายทอยลุกชัน ร่างอวบหนาวสะท้านสุดขั้วหัวใจ แรงพยายามดิ้นหนีเฮือกสุดท้าย ทำได้เพียงสะบัดหน้าหนี ก่อนที่ผ้าแพรจะรัดแน่นจนสุดแรงลิ้นปลิ้นจุกปากหนาอูมดวงตาเบิกกว้างและลมหายใจที่ขาดหายไป ทิ้งไว้เพียงร่างอวบหนาเปล่าเปลือยซึ่งถูกพันธนาการมัดโยงด้วยแถบแพรสีแดงสดเอาไว้ รอยยิ้มสยองจากริมฝีปากดำคล้ำที่ประดับบนใบหน้าขาวซีดของอมนุษย์ที่คร่อมทับร่างก่อนจะเงยหน้าหัวเราะเปล่งเสียงสั่นประสาทดังก้อง ก่อนจะค่อย ๆ จางเลือนหายไปพร้อมกับหลอดไฟฟ้าที่แตกกระจายทีละหลอด จนห้องชุดทั้งห้องมืดมิด และร่างของการ์ดหน้าประตูที่วูบหมดสติล้มคว่ำลงกับพื้นพรมหนา
.............................................................................
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๓. ๑๙ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: แรงเทียน ที่ 21-05-2011 08:15:16
                                    (http://upic.me/i/p7/rfred.jpg) (http://upic.me/show/24397222)

ตอนที่ ๔

“ไม่ได้นะเทียน จะเลื่อนงานไปไม่ได้พี่ไม่ยอม ทุกอย่างเราเตรียมไว้หมดแล้วนะจะมาบอกเลื่อนกะทันหันแบบนี้ได้ยังไง”
วิภาวีหวีดเสียงขึ้นดังกลางที่ประชุม เทียนบุญสูดลมหายใจเข้าปอด คิดไว้แล้วว่ามันต้องออกมาในรูปแบบนี้
“เทียนทราบครับพี่ภา แต่เทียนคิดว่าเทียนอยากจะให้ชื่อเสียงของเทียนเป็นที่รู้จักของนักข่าวหรือวงสังคมก่อนครับ”
“แล้วจะต้องใช้เวลานานแค่ไหนล่ะเทียน ชื่อของเธอถึงจะเป็นที่รู้จักของคนในสังคมหรือนักข่าวน่ะ จะอีกกี่เดือน กี่ปี”
เป็นประโยคที่ทำให้ไฟในใจมันโหมกระหน่ำขึ้น สายตาปราดมองดูเจ้าของคำพูดอย่างเหยียดหยัน
“งานนี้เทียนรับผิดชอบเองนี่ครับ ไม่ว่าจะอีกกี่เดือน กี่ปี เทียนจะต้องทำให้ได้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเทียนจะเป็นคนรับผิดชอบเอง อีกอย่าง การมีชื่อเสียงในวงการนี้ เทียนว่ามันไม่ได้ใช้เวลานานขนาดนั้นหรอกครับพี่ภา”
“หึ เสียเวลา แล้วนี่จะยังไง ทำงานแบบนี้ไม่โปรเลยนะเทียน”
เทียนบุญเม้มปากแน่น
“โปรไม่โปรผลงานมันยังไม่ออกมา เลื่อนไปแค่อาทิตย์เดียวนี่คงไม่เป็นไรมากหรอกมั้งครับพี่ภา”
“ใครบอกไม่เป็นไร ถ้าคอลั่มออกไม่ทันหนังสือล่ะ เธอจะรับผิดชอบยังไง”
“ทันแน่นอนครับ พี่ภาไม่ต้องห่วง เทียนเคยทำกับสำนักงานแม่มาแล้ว เรื่องแค่นี้ทำไมเทียนจะไม่มีปัญญา อย่างที่เทียนบอกไป เทียนจะเป็นคนรับผิดชอบเรื่องนี้เอง ไม่ว่าจะยังไง และเทียนจะขอพูดเป็นครั้งสุดท้าย งานนี้เทียนเป็นคนรับผิดชอบเอง และอยากจะทำทุกอย่างด้วยตัวเอง กรุณาเชื่อใจเทียนด้วยครับ”
เทียนบุญจ้องหน้าวิภาวีเขม็ง ภายในห้องประชุมเงียบสนิทไม่มีเสียงจากปากของใครเล็ดลอดออกมา มีเพียงสายตาที่มองดูคนทั้งสองห้ำหั่นกันด้วยแววตาและคำพูด
“ทานคะ เมย์อยากให้ทานเชิญเทียนมางานด้วยน่ะค่ะ”
มณีอารียาเองก็เตรียมงานตัวเป็นเกลียว งานที่จะเกิดขึ้นจะต้องสมบูรณ์แบบที่สุด และงานนี้จะถือเป็นการตบหน้าใครบางคน ใครคนนั้นอาจจะหงายหลังหน้าชาไปเลยก็ได้ คนที่เป็นเพศแม่ไม่ใช่จะยอมใครง่ายๆ จะทำให้เขารู้ว่าเพศแม่นี่เองที่มีค่าคู่ควรกว่าคนสองเพศอย่างเขา
“จะดีเหรอเมย์ แล้วเรื่องนายแบบนั่นล่ะ”
“ดีสิคะ ไม่เป็นไรหรอกค่ะทาน เทียนเขาเคยทำงานเมืองนอกมาก่อนไม่ใช่เหรอคะ เมย์ว่าเขาน่าจะยอมรับได้”
“แต่ทานว่ามันจะเป็นการหักหน้าเขาเกินไปไหมเมย์”
“ไม่หรอกค่ะทาน ทำไมคะ ห่วงเขามากขนาดนั้นเลยเหรอ นี่มันเป็นธุรกิจนะทาน ใครดีใครได้สิ ในเมื่อเขาบอกยกเลิกนายแบบแล้ว มันก็สิทธิ์ของใครก็ได้ที่จะจ้างไม่ใช่เหรอคะ”
“แต่เทียนยกเลิกเพราะทานไปขอร้องเขานะเมย์”
“ทานคะ”
เสียงของมณีอารียาเริ่มแข็ง
“ทานก็บอกเทียนไปสิคะว่าพอดีคุณพ่อท่านเปลี่ยนใจเลือกนายแบบคนอื่น ไนท์ไงคะดังเหมือนกัน”
“เอ่อ เมย์ ”
“เปิดตัวคอลลั่มเล็กๆ ทำไมต้องใช้นายแบบดังๆด้วย มีนายแบบขึ้นใหม่อีกเป็นร้อยไม่เอาล่ะคะ แค่นี้นะคะทาน หวังว่าวันศุกร์นี้เมย์จะได้เห็นทานมางานเมย์กับเทียนนะคะ”
มณีอารียาวางสายไปแล้ว เธอแสยะยิ้มออกมาอย่างสะใจ ช่วยไมได้นะอยากมาลองดีกับคนอย่างมณีอารียาก่อน นี่มันแค่บทเรียนแรกกับการที่จะแย่งคู่หมั้น แค่บทเรียนแรก
“พิม ไนท์น่ะเราก็จะเอานะ เอาสองคนเลย”
“อ้าวแล้วปลายฟ้าล่ะเมย์”
“เราเปลี่ยนตีม เราอยากได้สองคน ทำตามที่เราบอก”
มณีอารียาเดินไปดูความเรียบร้อยตามตู้โชว์เครื่องเพชร ไปหยุดลงตรงหน้าตู้โชว์นาฬิกาชิ้นพิเศษที่เธอภาคภูมิใจ นาฬิกาฝังเพชรทั้งเรือน เรือนเดียวในโลกที่เธอสั่งทำเป็นพิเศษ งานครั้งนี้ชื่อเสียงของเธอจะต้องโด่งดังเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว
“งานเปิดร้านเพชรเหรอทาน”
ธรรมทานเองก็ยอมโทรศัพท์ไปชวนเทียนบุญตามที่มณีอารียาต้องการ
“ใช่เทียน อยากให้เทียนไปกับทานน่ะ”
“งานของมันน่ะเหรอ”
“ใช่ ไปไหมครับที่รัก”
ธรรมทานรู้ดีว่าการออดอ้อนของเขาได้ผลเสมอ ไม่ว่าจะเวลาใด
“ได้สิ อยากให้ไปก็จะไป”
แสยะยิ้มออกมาแววตาฉายเล่ห์บางอย่าง
“ครับเดี๋ยวทานจะไปรับเองนะเทียนไม่ต้องขับรถมา”
“แล้วเขามีอะไรพิเศษเหรอทาน มีไหม หรือว่าแค่เปิดร้านเพชร เล็กๆ”
“เห็นบอกว่ามีนาฬิกาสั่งทำพิเศษนะ เพชรทั้งเรือน นาฬิกาสุลต่านน่ะ”
“อ้อ แค่นี้เองเหรอ”
ธรรมทานวางสายไปแล้ว เทียนบุญรีบออกจากที่ทำงานตรงไปยังห้างชื่อดังนั้นทันที
“ทาน วันนี้ไม่ชวนเมย์เขาออกไปกินข้าวเหรอ”
พอถึงชั้นที่ร้านเพชรของมณีอารียาอยู่เทียนบุญก็กดโทรศัพท์ไปหาธรรมทาน เดินวนดูว่าตรงไหนที่จะพอนั่งมองความเคลื่อนไหวของคนภายในร้านได้บ้าง ร้านกาแฟอีกชั้นคือที่เหมาะสมที่สุด
“ทำไมเหรอเทียน ทานทำงานอยู่เลย”
“ก็ข้าวเที่ยงไงทาน ถึงเทียนจะเป็นคนรักของทาน แต่เทียนก็รู้นะว่าอะไรคืออะไร น่าสงสารเมย์เขาออกนะที่มีคู่หมั้นแต่ใจของเขามีให้คนอื่นน่ะ เทียนให้ทานไปกินข้าวกับเมย์ได้นะ ให้เวลาเธอบ้างเธอจะได้ไม่สงสัยไงทาน”
“เทียน นี่ความคิดเทียนเหรอ น่ารักจริงๆเลย ทานหนักใจมาตลอดนะว่าเทียนจะไม่ยอม”
“แหมทาน ทานยังไม่รู้จักเทียนอีกเหรอ เทียนไม่ใช่คนใจดำแบบนั้นสักหน่อยนะ”
ร้านเพชรของมณีอารียาแม้จะยังมีการตกแต่งเตรียมรับวันงานแต่กระนั้นร้านก็ยังเปิดให้บริการอยู่เช่นเคย เทียนบุญนั่งลงร้านกาแฟบนชั้นลอยเลือกที่นั่งที่สามารถมองเห็นทางเข้าออกได้อย่างชัดเจนอยู่บนชั้นสูงขึ้นไปอีกหนึ่งชั้น
“หึหึ แรงนักเหรออีชะนี หน้าชาก็คราวนี้ล่ะมึง”
เทียนบุญเอ่ยขึ้นแล้วรีบลุกจากที่นั่งเมื่อเห็นมณีอารียาถือกระเป๋าออกจากร้านไป
“เปิดอยู่ไหมครับ”
เทียนบุญเดินตรงเข้าไปในร้าน
“สวัสดีค่ะ เปิดค่ะ สนใจเครื่องเพชรเหรอคะ”
“ครับ ผมอยากดูนาฬิกาน่ะครับ ฝังเพชรเยอะๆมีไหม”
เทียนบุญไม่ได้สนใจมองพนักงานที่มาต้อนรับแต่อย่างใด แต่สายตามองหาสิ่งที่เขาอยากจะเห็น
“อ้อ สนใจนาฬิกาฝังเพชรเหรอคะ คืออาทิตย์หน้าร้านเราจะมีงานเปิดตัวน่ะคะ ถ้าว่างเรียนเชิญนะคะ”
“ที่ร้านมีนาฬิกาฝังเพชรไหมครับ ผมอยากจะขอดูหน่อย”
“มีค่ะ มีอยู่ชิ้นนึงที่เราภาคภูมิใจมาก มีชิ้นเดียวในโลกเลยนะคะ เพราะคุณเมย์เจ้าของร้านสั่งทำพิเศษจากสวิสต์”
“อืม ครับ ขอดูเรือนนั้นครับ”
“เอ่อ คือเรายังไม่ขายนะคะ แต่จองไว้ก่อนได้”
“ครับ ผมก็แค่อยากจะดู เพราะมีงบอยู่ ยี่สิบล้าน ถ้าแพงไปก็คงไม่ไหว”
พนักงานสาวทำตาโต
“แต่ตอนนี้นาฬิกามันอยู่ที่เซฟของธนาคารน่ะคะคุณผู้ชาย”
“มีบัวร์ชัวร์ไหมล่ะครับ ผมจะได้เอาไปประกอบการตัดสินใจ แล้วราคาอยู่ที่เท่าไหร่ครับ”
“มีค่ะ ราคาเปิดตัวเราขายอยู่ที่ สิบสามล้านแปดแสนค่ะ”
“อ้อ สบายมาก น่าจะสวยนะ ถ้าถูกใจผมขอโทรฯมาจองเลยได้ไหมครับ”
“ยินดีค่ะ ว่าแต่คุณผู้ชายชื่ออะไรนะคะ ไม่ทราบมีนามบัตรไหม”
“อ้อ พอดีผมยังไม่ได้พิมพ์น่ะครับ เพิ่งกลับมาจากเมืองนอก”
เทียนบุญไม่สนใจเออีกต่อไปพอได้บัวร์ชัวร์เกี่ยวกับนาฬิกาเรือนพิเศษก็สาวเท้าออกจากร้านทันที
“เรือนเดียวในโลก หึหึ”
ความคิดของเทียนบุญแตกแขนงไปอย่างรวดเร็ว สายตาที่ฉายแววออกมามันสะท้อนความเคียดแค้นในใจ
“พ่อ เทียนมีเรื่องอยากจะให้ช่วย”
เทียนบุญเอ่ยขึ้นตอนก่อนทานข้าวเย็น โต๊ะถูกตั้งสำรับไว้สำหรับสี่คน แต่มีเพียงคุณเทียนทิพย์และเทียนบุญเท่านั้นที่นั่งอยู่
“มีอะไรเทียน”
เทียนบุญบอกความต้องการออกไป คุณเทียนทิพย์กำลังจะอ้าปากพูดออกมา แต่ปาริฉัตรก็เดินลงมาจากชั้นบนพอดี   
“หึ ดีจังนะ ให้เจ้าของบ้านมานั่งรอกินข้าวเนี่ย”
“เทียน”
บิดาเอ่ยเสียงคำรามปรามเอาไว้
“ขอโทษด้วยนะคะคุณเทียน พอดีกำลังจัดของให้ตาแม็คอยู่น่ะจ๊ะ”
“แล้วไม่รู้เวลาเหรอ อยู่ที่นี่มาก็นานแล้วนะ อะไร”
“พอทีๆ มาๆฉัตรมานั่ง แล้วตาแม็คล่ะ”
เทียนบุญกัดฟันแน่น
“ตาแม็คกำลังลงมาค่ะ ลูกจะไปเข้าค่าย รด ต้องจัดของให้หน่อย”
“งั้นเทียนขอเบอร์ติดต่อด้วยนะพ่อ ไม่กงไม่กินมันแล้ว เสียอารมณ์ รอนานเซ็ง”
“เทียน ทำไมทำตัวแบบนี้”
เสียงตวาดดังลั่นของเจ้าของบ้านดังขึ้น
“หรือพ่อจะให้เทียนทำมากกว่านี้ ทำเยอะกว่านี้ก็ได้นะ พ่อก็รู้ว่าเทียนรู้สึกยังไง แล้วยังมาทำตัวแบบนี้อีก ไม่ใช่เทียนไม่ประนีประนอมนะ แต่ทำแบบนี้เทียนไม่ชอบ เทียนเป็นคนยังไงพ่อก็น่าจะรู้ดี อย่าให้ไม่ชอบไปมากกว่านี้ มันจะอยู่กันลำบาก”
เทียนบุญลุกออกจากโต๊ะทันทีไม่สนใจฟังเสียงของบิดา
“เฮ้อ โทษทีนะฉัตร นิสัยเริ่มเสียลงทุกวันๆ ตั้งแต่แม่มัน เอ่อ”
หลุดปากออกมาแล้วมองไปที่ผู้หญิงอีกคนที่ตนก็เรียกเขาว่าแม่ของลูกเหมือนกัน
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณ ฉัตรเข้าใจลูก ผิดที่ฉัตรเองล่ะค่ะ ที่ลงมาช้า ทั้งๆที่รู้อยู่ว่าลูกเทียนแกไม่ชอบ”
“เอาน่า มาๆกินข้าว ช่างหัวมัน”
“อ๊ะ”
พอเดินขึ้นชั้นบนก็ปะหน้ากับทินกรที่กำลังเดินออกจากห้อง เขาหน้าเจื่อนลงทันที
“เอ่อ”
“หลบ”
เพราะความตื่นกลัวที่มีอยู่ทำให้ทินกรยืนนิ่งขวางทางของเทียนบุญอยู่
“พี่ไม่กินข้าวเหรอครับ”
เขาเอ่ยเสียงออกมาตะกุกตะกัก คุณปาริฉัตรเรียกทินกรเข้าไปคุย ไม่อยากให้เกิดความบาดหมางมากไปกว่านี้ในครอบครัว
“กินไม่ลง ไม่อยากร่วมโต๊ะกับคนอื่นน่ะ”
เทียนบุญมองทินกรด้วยหางตาเน้นยำคำที่แทงใจเขา แล้วแสยะยิ้มออกมา
“เอ่อ”
“เสวยสุขกันให้พอ ก่อนที่จะไม่ได้ทำ ระวังไว้ให้ดีเถอะแก”
เทียนบุญสะบัดหน้าเดินผ่านไป
“อีตุ๊ดเอ๊ย สัด”
ทินกรเอ่ยออกมาเบาๆ
“ว่าอะไรนะ เมื่อกี๊แกว่าอะไร หา”
หันกลับมาถลึงตาแหวเสียงขึ้น ทินกรหน้าซีดลงทันที
“แกกล้าดียังไง หา เป็นแค่ผู้อาศัย นี่แกด่าชั้นเหรอ”
“อะไรกันลูก มีอะไรกัน เทียนว่าอะไรน้อง”
“เทียนจะไปว่าอะไรมัน มันน่ะสิมาว่าเทียน สอนลูกยังไง ไร้มารยาท รู้อะไรบ้างถึงได้พูดออกมา รู้เหรอว่ามันเป็นยังไง”
“อย่ามาว่าแม่ผมนะ”
“ทำไมจะว่าไม่ได้ สอนลูกแบบนี้สิมันถึงไม่รู้สักสัมมาคารวะ ต่ำ ชาติพรรณเป็นกาแต่กระแดะอยากจะมาสิงฝูงหงส์ ไม่เจียม”
“อีห่า มึงจะหยุดไม่หยุด มึงดีนักเหรอ ดีแต่ปากหมาไปวันๆ”
“ไอ้”
“พอแล้วๆ เทียนเข้าห้องไป”
“แม็ค ทำไมไปพูดกับพี่เขาแบบนั้นลูกไม่ดีนะ”
ทั้งสองหน้าซีดเผือด ทินกรเองอดทนกับอารมณ์ร้ายของเทียนบุญมานานไม่ชอบ ไม่เคยชอบ แต่ก็ด้วยมารดาของตนขอเอาไว้ เทียนบุญเม้มปากแน่น
“กริยามารยาทแบบนี้ เทียนไม่นับเป็นน้อง ต่ำช้าที่สุด”
“พ่อบอกให้หยุดเทียน”
“ผมก็ไม่ได้อยากมีพี่นิสัยเลวๆแบบนี้หรอก”
“ไอ้”
เทียนบุญปรี่เข้าหา ผลักไปที่หน้าผากของทินกรอย่างแรง จนเขาเซไปอีกทาง
“เทียน พ่อบอกให้หยุด”
คุณเทียนทิพย์แทรกตัวเข้าไปขวาง เทียนบุญง้างหมัดกัดฟันแน่น จ้องหน้าของทินกรที่หลบอยู่เบื้องหลังของบิดาอย่างเกลียดชัง
“อย่าหาว่าเทียนร้ายนะพ่อ แต่ถ้าไม่เคารพเทียน เทียนจะทำให้เจ็บ มึงจำเอาไว้”
เทียนสะบัดหน้าเข้าห้องไปแล้ว คุณเทียนทิพย์พยายามจะรั้งแขนเอาไว้แต่ไม่ทัน
“ทำไมไม่เชื่อแม่เลยแม็ค ทำไมไปว่าพี่เขา ทำไมเราไม่อดทน เราเป็นแค่ผู้อาศัย เรามาทีหลังนะ”
คุณปาริฉัตรร่ำไห้ออกมาจับแขนบุตรชายเอาไว้
“ฉัตร ไม่เอาอย่าพูดแบบนี้ เทียนมันนิสัยไม่ดีเอง ลูกแม็คไม่ผิดหรอก”
“แม่ แม็คไม่ได้เริ่มนะ”
“อย่ามาเถียง เราเป็นใคร แม่บอกกี่ครั้งแล้ว จะต้องให้แม่ทำยังไงเราถึงจะยอม หา แม็ค จะให้แม่ทำยังไง”
“ฉัตรไม่เอาๆ ไม่เป็นไรลูกแม็ค พี่เขาอารมณ์ร้ายแบบนี้ล่ะเดี๋ยวพ่อจัดการให้ ไม่ต้องคิดมาก”
“อย่าไปโอ๋ลูกแบบนั้นสิคะคุณ ลูกเด็กกว่าลูกเทียนเยอะ แม่ไม่อยากให้เราไปอะไรกับพี่เขานะแม็ค เข้าใจแม่ใช่ไหม”
“ใช่แม่ แม็คเข้าใจ ลูกเมียน้อยอย่างผม จะมีสิทธิ์อะไรล่ะ”
“แม็ค”
บริเวณชั้นแรกสองของห้างดังย่านสุขุมวิท มีผู้คนมากหน้าหลายตาที่ล้วนแล้วแต่งกายในชุดที่ไม่มีใครยอมน้อยหน้าใครออกันแน่นอยู่บริเวณหน้าร้านเพชร แสงแฟลชวูบวาบที่นักข่าวจากแวดวงสังคมไฮโซกดชัตเตอร์กันมือเป็นระวิง หนุ่มสาวที่เป็นคนในแวดวงสังคมนี้ต่างยืนโพสต์ท่าให้ช่างภาพถ่ายภาพกันอย่างสนุกสนาน หน้ากากที่สวมใส่มาจากบ้านตอนนี้ถอดไม่ได้ ไม่มีใครยอมถอด ปั้นหน้า ยิ้มสวย หัวเราะร่าเริง นี่คือความจริง?
“ขอบคุณนะคะที่มาในงาน”
เสียงของเจ้าของร้านที่แต่งตัวสวยสะพรั่งยืนรอรับผู้ที่มาในงานอยู่หน้าร้าน  เธอสวยเด่นกว่าใครจนตากล้องไม่ยอมออกห่างจากเธอจับภาพในทุกอิริยาบถก็ว่าได้ มณีอารียาสวมเดรสสีแดงเพลิง งามระยับด้วยเครื่องประดับเพชรที่เข้าชุดกัน
“เหมาะสมกันมากครับ คุณโป้ง ชิดหน่อยครับ ชิดหน่อย”
เสียงช่างภาพร้องบอกให้ชายหนุ่มรูปงามอีกคนที่ยืนเคียงข้างมณีอารียา กนิฐ หลัวตระกูล ชายหนุ่มที่ติดสอยห้อยตามมณีอารียาไปทุกๆงาน เขายืนเด่นเคียงข้างอยู่กับมณีอารียาไม่ยอมห่าง เคียงข้างกันจนคนอื่นเขาคิดว่านี่ล่ะคือคู่หมั้น คู่หมายของเธอ
“เดี๋ยวก็มีคนเอาผมกับเมย์ไปแซวว่าเป็นแฟนกันหรอกครับพี่ๆ”
เขาหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี
“อ้าว ทำไมล่ะครับ ไม่ใช่แฟนกันหรอกเหรอ แหมแรกๆก็เพื่อนกันนี่ล่ะครับคุณโป้ง คอยดูเถอะ เดี๋ยวก็มีข่าวดี”
“ไม่จริงหรอกครับพี่ เมย์เขามี”
“โป้ง ไม่ต้องพูด”
มณีอารียาดังคอไว้แล้วจับต้นแขนแนบตัวชิดกับเขาเข้าไปอีก
“อ้าว ทำไมล่ะเมย์ เรามีสิทธิ์เป็นแค่เพื่อนของเมย์นี่”
“นั่นล่ะไม่ต้องพูด”
มณีอารียายิ้มให้แล้วหันไปชักสีหน้าเพื่อให้ช่างภาพถ่ายรูป มือยังเกาะแขนของเขาอยู่ไม่ยอมปล่อย แขกที่มาในงานคัดคนที่เชิญมาทั้งนั้น มีหน้ามีตาทางสังคมไม่วงการใดก็วงการหนึ่ง และไม่ใช่แค่เพียงคนที่เพิ่งเข้าวงการมาเท่านั้น คนที่มาในงานล้วนแล้วแต่มีชื่อเสียงในวงการมาแล้วนานพอสมควรจึงได้รับเกียรติเชิญมาในงาน ภายในร้านจัดเป็นที่นั่งแล้วมีเวทียาวเกือบถึงทางเข้าหน้าร้าน ดอกไม้ลูกปัดคริสตัลถูกร้อยระโยงรยางค์เต็มไปหมด ยิ่งเวลามันสะท้อนแสงไฟเหมือนร้านนี้เต็มไปด้วยเพชรสมดังใจของเจ้าของร้านเอง
“ทำไมใส่สีดำทั้งตัวแบบนี้ล่ะเทียน”
ธรรมทานเอ่ยขึ้นตอนเจอหน้าเทียนบุญที่หน้าบ้าน รถยุโรปคันงามมันดูงามยิ่งกว่าเมื่อคนขับก้าวขาลงมาจากรถ อาภรณ์ประดับคนมันเป็นเช่นนั้นจริงๆ เขาทำให้รถคันนี้มันดูมีราคามากขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว ผมที่ลงน้ำมันหวีจัดทรงเข้ากับสมัยนิยม รองเท้าหนังสีน้ำตาลแต่มันวับ เสื้อเชิ้ตตัวในสีเทาควันบุหรี่ทับด้วยแจ็กเก็ตสีเทาเข้มๆ กางเกงสีกรมท่าเข้มๆ
“อะไรทาน เรามาจากเมืองแฟชั่นนะ ใครเขาถือกัน ไม่ถือพวงหรีดไปด้วยก็บุญหัวแค่ไหนแล้ว”
ช่วงท้ายประโยคลดเสียงลง เทียนบุญไม่ได้สนใจอะไรกับคำท้วงติง เขาเดินก้าวขึ้นรถไปทันที
“ต้องมีของอะไรให้ไหมเนี่ย”
“ไม่ต้องหรอก เขาสิควรจะมีของให้เรา เพราะเราไปงานเขา”
เทียนบุญไม่ตอบแต่หันมองออกไปหน้ากระจก ฉายรอยยิ้มออกมาอย่างที่ไม่มีใครสามารถจะอ่านมันออก
“ทานเข้างานไปก่อนนะ เดี๋ยวเทียนไปเข้าห้องน้ำก่อน”
พอถึงห้างทั้งคู่ก็เดินตรงไปยังบริเวณงาน สายตาทุกคู่ที่ทั้งสองเดินผ่านต่างจ้องมองมาเป็นตาเดียว ชายหนุ่มในชุดสีอ่อนก็งามราวเทพบุตร อีกคนก็ไม่ต่างกัน เทียนบุญแต่กายด้วยชุดสีดำตั้งแต่หัวจรดเท้า เสื้อเชิ้ตด้านในเป็นเสื้อผ้าซาดินปักดิ้นด้วยหินสีดำระยับคล้ายนิล กางเกงสแล็คอย่างดีขาทรงลีบตามแฟชั่น รองเท้าหนังปลายแหลม เข็มขัดเป็นคริสตัลที่สั่งทำพิเศษของร้านเสื้อยี่ห้อดังของอังกฤษ
“เดี๋ยวทานรอก็ได้”
“ไม่จำเป็นหรอกทาน เทียนเข้าห้องน้ำนะ รู้ว่างานอยู่ที่ไหน”
เทียนบุญเดินปลีกตัวไป ส่วนธรรมทานก็เดินเข้างานไป
“ทาน ทางนี้ค่ะทางนี้”
มณีอารียาพอเห็นหน้าก็ปรี่เข้าไปหาธรรมทาน ส่วนชายคนที่ยืนเคียงคู่อยู่ก่อนหน้าเขาถูกปล่อยให้เป็นอิสระแล้ว
“อ้าวแล้วคุณเทียนล่ะคะทาน ไม่มาด้วยเหรอ”
เป้าหมายของเธอคืออีกคนไม่ใช่ธรรมทาน สายตามองหาตามหลัง แต่ก็ไม่มีแม้เงา
“อ้อ เทียนไปห้องน้ำน่ะ เดี๋ยวคงมา งานเริ่มหรือยังเมย์”
“หึหึ คงไปเตรียมใจช็อก อีกสิบนาทีค่ะทาน เข้าไปด้านในกันเถอะ”
แสยะยิ้มออกมาแล้วเกาะแขนของชายหนุ่มไปยืนให้นักข่าวถ่ายภาพ
“คู่หมั้นเมย์เองค่ะ ธรรมทาน”
มณีอารียาประกาศยิ้มให้ช่างกล้อง พลันแสงวูบวาบก็สว่างไสวไปทั่วบริเวณ เสียงร้องถามเกี่ยวกับตัวธรรมทานดังระงมไปหมด สายตาคู่หนึ่งมองอยู่ด้วยความผิดหวัง คนที่เขารักมานานเฝ้าตามทุกฝีก้าว เวลานี้เธอไม่ได้หันมาแม้จะชายตามองเลย เรามันเป็นแค่คนที่มีค่าเวลาที่เขาเหงา เท่านั้นเองหรือ
“ของล่ะ”
เทียนบุญไม่ได้ไปเข้าห้องน้ำแต่อย่างใด เขาเดินผ่านออกไปทางลานจอดรถนัดพบกับชายรูปร่างสันทัดหน้าตาดูท่าทางฉ้อฉลเพราะแววตาดูกลิ้งกรอกไปมาพิกล
“นี่ครับคุณเทียน”
เขาเปิดกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินเข้มนั้นออก เทียนบุญหยิบของในนั้นขึ้นมาพิจารณาดูทันที
“สวยมาก นี่ของนาย ขอบใจมาก”
เสียงประกาศบนเวทีดังขึ้นแล้วว่างานเปิดตัวร้านเพชรที่เจ้าของร้านประกาศกร้าวว่าร้านของตนหรูที่สุดในกรุงเทพฯตอนนี้ สิ้นเสียงของพิธีกรเสียงเพลงก็กระหึ่มดังขึ้น
“เดี๋ยวๆ ผมยังไม่ได้เข้างานเลย”
เทียนบุญรอจังหวะที่เสียงพิธีกรประกาศ เห็นนักข่าวกำลังทยอยเดินกันเข้าไปในร้าน เขาร้องเรียกไว้ด้วยเสียงอันดัง
“ผมมาทันไหมเนี่ย”
เทียนบุญยกข้อมือขึ้นทำท่าปาดเหงื่อ สายตาของนักข่าวทุกคนหันมามองที่เขาเป็นตาเดียว แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น มีเพียงตากล้องของสำนักข่าวในแวดวงไฮโซเท่านั้นที่ถ่ายภาพเขาได้ภาพหนึ่ง
“หนอย คอยดูเถอะ”
เสียงเพลงดังเร่งจังหวะขึ้น นางแบบเดินรายเรียงออกมาอย่างแช่มช้อยโชว์เครื่องเพชรที่ประดับระยิบระยับอยู่บนกาย แต่นางแบบเป็นแค่ตัวประกอบเวที เพราะจุดสนใจของงานอยู่ที่ตัวของนายแบบ ปลายฟ้า และไนท์ ทั้งสองเดินออกมาทีละคน โดยไนท์เดินออกมาก่อน เขาเปลือยท่อนบน มีเพียงนาฬิกาบนข้อมือที่ฝังเพชรวาวระยับเนื้อตัวทาฉาบไปด้วยสีทอง ไนท์ยืนนิ่งอยู่กลางเวที ถึงเวลาปรากฏตัวของปลายฟ้านายแบบ ดาราดังแห่งยุค เขาเดินออกมาเสียงฮือฮาดังขึ้นทันที ปลายฟ้าแต่งตัวเหมือนๆกับไนท์แต่เสียงฮือฮามันดังมาจากการนาฬิกาบนข้อมือของเขา เพชรที่ฝังอยู่รายรอบไปทั้งตัวเรือนของนาฬิกามันทำให้ข้อมือของเขาดูระยับแพรวพราวเด่นกว่าหน้าตาของเขาเสียอีก
“ผลงานชิ้นมาสเตอร์พีชของทางร้านเราครับ นาฬิกาสุลต่าน ออกแบบโดยคุณมณีอารียา มีเพียงเรือนเดียวในโลก เท่านั้น”
เทียนบุญเข้าไปยืนอยู่ในบริเวณงานพอดี เขาตัวสูงพอที่จะมองเห็นตัวนายแบบได้อย่างชัดเจน พอเห็นก็เซไปด้านหลัง
“แก ร้ายกาจมากนะ”
กัดฟันกำหมัดแน่น ไม่คิดว่าธรรมทานจะรู้เห็นกับมณีอารียาด้วย โกรธจนหน้าแดงมือสั่น ความแค้นมันดันดีดขึ้นจนหน้าแดงฉานไปด้วยเลือดของความเกลียดชัง
“แกจะได้รู้นังเมย์ ใครมันจะแน่กว่าใคร”
พอพูดจบเทียนบุญก็แกล้งสะดุดขาตัวเองล้มลง
“โอ๊ย ล้ม”
เสียงร้องที่ดังกลบเสียงของพิธีกร หรือแม้แต่เสียงเพลงดังขึ้น ทุกคนหันไปมองตามต้นเสียง เทียนบุญที่กำลังพยายามดันตัวลุกขึ้นมา มีการ์ดยื่นมือไปฉุดเขาขึ้นมา วินาทีนั้นเอง
“อ๊ะ นั่น”
เสียงฮือฮาดังขึ้นกว่าเดิมอีกเป็นเท่าตัว ทุกสายตาต่างก็มองข้อมือของเทียนบุญเป็นตาเดียว
“ทำไมมัน”
“คุณเอ่อ”
นักข่าวท่านหนึ่งเอ่ยขึ้นแต่ด้วยที่ไม่เคยเห็นหน้าคร่าตาของเทียนบุญมาก่อน
“ผมชื่อเทียนครับ เทียนบุญ”
ยิ้มออกมายืนเชิดหน้าขึ้น ทำหน้าอกให้ผึ่งผาย
“ใช่คุณเทียน ลูกคุณเทียนทิพย์ที่เพิ่งกลับจากอังกฤษหรือเปล่าคะ”
“ครับ พ่อผมเอง”
“ตายจริง ที่ทำงานให้กับนิตยาสาร”
นักข่าวสาวสังคมเอ่ยชื่อนิตยาสารขึ้นแล้วเสียงฮือฮาก็ดังขึ้น ตอนนี้บนเวทีมีนายแบบและนางแบบยืนอยู่ แต่นักข่าวเกือบทั้งหมดพุ่งความสนใจมาที่ตัวเทียนบุญ มากกว่าเครื่องเพชรบนกายนายแบบและนางแบบบนเวทีเสียอีก
“แล้วนี่นาฬิกา”
“อ้อ พอดีซื้อตอนไปเที่ยวสวิสต์น่ะครับ เห็นมันเวอร์ๆดีเลยซื้อมาเผื่อมีโอกาสใส่ มีจริงๆด้วย”
พอรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นมณีอารียาก็ลุกขึ้นมอง พอเห็นว่าใคร พอแลเห็นว่าอะไรบนข้อมือเธอถึงกลับทรุดนั่งลงอย่างไร้เรี่ยวแรง หน้าซีดหายใจไม่ถนัด
“พี่เมย์ ไหวมั้ย”
มกุฏโกเมนที่เกณฑ์เพื่อนฝูงที่มหาวิทยาลัยมาช่วยเสริ์ฟแชมเปญในงานเข้ามาประคองร่างพี่สาวเอาไว้ มีธรรมทานอีกคน
“ไม่เป็นไร เจไปดูแลหลังเวทีให้พี่หน่อย เผื่อเขาต้องการอะไรเพิ่ม
มณีอารียาเอ่ยออกไปเสียงขาดๆหายๆ ไม่อยากให้น้องชายเห็นในสิ่งที่ตัวเองจะทำในต่อไปนี้
“ตายจริง เหมือนกับบนเวทีเลยค่ะ”
เสียงฮือฮาดังเพิ่มขึ้นไปอีก
“ของปลอมหรือเปล่า”
มณีอารียาสุดที่จะทนดูอยู่ได้ นี่มันงานเปิดตัวร้านเพชรของเธอไม่ใช่หรือ ไม่ใช่งานเปิดตัวคนอื่น เสียงกระแทกฝ่าวงของนักข่าวไป สายตาของเธอแค้นจัด เม้มปากแน่น
“อุ๊ย พอดีสั่งทำนะครับ ต้นตระกูลผมไม่เคยใช้ของปลอม เศษเพชรแค่นี้เอง ราคาไม่เท่าไหร่ เรื่องอะไรจะไปใช้ของปลอมให้ข้อมือระคายเคือง”
เทียนบุญพูดแล้วหัวเราะเหมือนไม่ถือสา แต่ในใจมันดีดร้องสาแก่ใจอยู่
“ไม่มีทาง นาฬิกาเรือนนี้สั่งทำพิเศษแค่เรือนเดียว ฉันเป็นคนออกแบบเอง ไม่มีทางที่จะไปเหมือนใคร”
“เอ่อ แต่ตอนไปสวิสต์เขาบอกว่าทำออกมาหลายเรือนนะครับ ขอโทษจริงๆ ผมไม่ยักรู้ว่า มันจะซ้ำกับฟีนาเล่ของคุณ”
แสร้งทำเสียงรู้สึกผิด นักข่าวก็ถ่ายภาพวูบวาบไม่ยอมให้แสงแฟลชมันจางหายไปเลย สีหน้าของมณีอารียาเกินจะปั้น
“ไปก่อนๆ เมย์ ออกไปทางโน้นก่อน”
คนที่มาดึงตัวมณีอารียาออกไปคือกนิฐส่วนธรรมทานยืนอึ้งอยู่ที่เดิมไม่ไหวติง ไม่คิดว่าเทียนบุญจะมีนาฬิกาเพชรที่เหมือนกับเรือนที่อยู่บนข้อมือของปลายฟ้านายแบบดังบนเวที เหมือนจนคิดว่าทำออกมาพร้อมกัน ธรรมทานหน้าซีดเพราะช่วงหนึ่งเทียนบุญปรายตามาทางเขา สายตาแบบนั้นเขาเข็ดไปจนวันตาย
“ขอตัวนะครับพี่นักข่าว อ้อ ผมทำงานเป็นผู้ช่วยให้นิตยาสาร”
ถือโอกาสเปิดตัว และมันก็เป็นการเปิดตัวที่ไม่ได้ลงทุนอะไรเลยสักแดงเดียว
“อาทิตย์หน้าวันศุกร์นะครับ ผมขอเชิญพี่ๆสื่อมวลชนไปร่วมงานเปิดตัวคอลั่มใหม่ของนิตยาสารของเรา รับรองครับ ไม่มีซ้ำแบบใครแบบนี้ แน่นอน”
แสยะยิ้มออกมาแล้วเดินตามมณีอารียาเข้าไป แววตาฉายความโกรธแค้นออกมาอย่างเห็นได้ชัด
“เลว เป็นไงล่ะ อยากลองดีนัก เป็นยังไง”
พอเข้าไปในห้องชั้นในที่เป็นที่พักของมณีอารียา แต่วันนี้ใช้ทำเป็นห้องแต่งตัวชั่วคราว ในนั้นมีคนอยู่ไม่น้อย แต่เทียนบุญไม่ได้เกรงกลังผู้ใด
“แก สาระเลว แกไปจ้างใครทำมา แกต้องการจะหักหน้าฉันใช่มั้ย”
มณีอารียาแผดเสียงขึ้น ช่างแต่งหน้าที่นั่งอยู่หลบกันเป็นแถบๆ
“อ้อ นาฬิกานี่น่ะเหรอ ฮึฮึ ปัญญามีแค่นี้ริอ่านจะทำเรื่องใหญ่ แกเองก็เหมือนกัน แกใช่ไหมที่ให้ทานไปขอเรื่องนายแบบจากฉัน หนอยเลวที่สุด”
“หึหึ โง่ก็เป็นนี่ เป็นไง ได้ข่าวโดนประณามนี่ เก่งนักไม่ใช่เหรอ”
“หนอยแก”
“หยุดนะคุณ ไม่งั้นผมเรียกตำรวจจริงๆนะ”
กนิฐเข้ามาขวางไว้เพราะเทียนบุญโผเข้าไปตั้งใจจะตบให้หนำใจ เขากัดปากแน่น
“ออกไปจากงานของฉัน อีตัวเสนียด”
“ไปแน่ ขายถูกเนอะเครื่องเพชรน่ะ หรือว่าของมันคุณภาพต่ำเหมือนเจ้าของร้าน”
“อีกะเทย”
มณีอารียาสุดจะทนหยิบเอาแก้วแชมเปญในถาดที่เพื่อนๆของมกุฏโกเมนถืออยู่ตั้งใจจะสาดใส่ตัวของเทียนบุญแต่มีนักข่าวเข้ามาเสียก่อน
“ว้าย สะดุด”
เธอไม่ยอมง่ายๆ แกล้งเซไปด้านหน้าแล้วสาดแชมเปญในมือใส่หน้าของเทียนบุญจนเปียกชุ่ม
“อ๊ะ ตกใจ”
เทียนบุญเองก็ใช่ว่าจะยอม เขารีบฉวยเอาแก้วในถาดที่เด็กคนนั้นยืนอึ้งอยู่รีบสาดใส่ตัวของมณีอารียาเหมือนกัน ไม่มีคำพูดจากปากใคร มีแต่อ้าปากค้าง กับสายตาสองคู่ที่ฟาดฟันกันอย่างเห็นได้ชัด
“มีอะไรกันหรือเปล่าครับ คุณเมย์”
นักข่าวถามขึ้น
“อ้อ ไม่มีอะไรครับ เมื่อกี๊เมย์เขาสะดุด คุณ เอ่อ เขาก็คงตกใจ พี่ๆเชิญด้านนอกก่อนนะครับ ถ่ายรูปเครื่องเพชรของเราหน่อย”
กนิฐดันให้นักข่าวออกจากห้องไป
“แกระวังตัวไว้ให้ดี อีกะเทย แกเจอฉันแน่”
“มาเถอะ มาเสียที อย่าดีแต่เห่า เท่าที่เห็น ทำได้แค่นี้เองเหรอ เธอ มณีอารียา หรือว่ามีสมองแค่นี้”
เทียนบุญเน้นชื่อของมณีอารียาแล้วเดินออกไป บ่ายังตั้งตรง หน้าตายิ้มแย้ม เขาเดินออกไปทักทายนักข่าว ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ขอยืมงานเปิดตัวร้านเพชร เปิดตัวเองให้ดังกว่าเจ้าของงานหน่อยเถอะ

แรงเทียน
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่3 [21/05/54] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 21-05-2011 09:06:15
 
(http://upic.me/i/gl/ubkr8.jpg) (http://upic.me/show/24452151)


เล่ห์ร้าย
ตอนที่ 3.
ลลิตนั่งอยู่ที่โต๊ะรับประทานอาหารตัวยาวเพียงลำพัง ในห้องรับประทานอาหารที่ตกแต่งไว้อย่างสวยหรู แต่กลับไม่ค่อยมีใครในครอบครัวกลับมาใช้
“คุณพ่อคุณแม่ล่ะ” เด็กชายเอ่ยถามหัวหน้าแม่บ้านที่คอยมาดูแลอาหารค่ำให้ด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“คุณท่านติดประชุม คุณผู้หญิงไปงานเลี้ยงค่ะ”
“อืม” เด็กชายตอบรับเบาๆ พยักหน้ารับรู้ แล้วเริ่มทานอาหารไปเงียบๆ

“น่าสงสารคุณหนูริชเนอะป้าเนอะ กินข้าวคนเดียวทุกวัน” เสียงซุบซิบจากสาวใช้ที่คอยมาบริการอาหารเอ่ยขึ้นเบาๆ
“จริงด้วย อายุแค่นี้ปล่อยให้อยู่บ้านหลังใหญ่คนเดียวแทบทุกวัน” อีกเสียงกระซิบตอบแสดงความเห็นบ้าง
“นังพวกนี้นี่ เรื่องของเจ้านายอย่าพูดมาก” เสียงเอ็ดเบาๆ จากหัวหน้าแม่บ้านทำให้สาวใช้เงียบลง
แต่คำพูดพวกนี้เด็กชายได้ยินบ่อยจนแทบจะไม่รู้สึกอะไรแล้ว มันชินชาไปหมด  คำพูดแก้ตัวที่หัวหน้าแม่บ้านใช้บอกให้สบายใจ ก็ไม่รู้จะจริงหรือไม่ ลลิตไม่สนใจอีกแล้วว่าพ่อจะไปทำงาน ไปประชุม หรือไปกับผู้หญิงอื่นที่ไหน แม่จะไปงานเลี้ยงงานการกุศลอะไร ปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นไป เด็กชายเพียงถอยออกมาอยู่ในมุมของตัวเองจะดีกว่า
“คุณแม่บ้าน ถ้าคุณสมบูรณ์ทานอาหารเรียบร้อยแล้ว ให้เตรียมรถให้ฉันด้วย ฉันจะออกไปข้างนอก” เด็กชายรวบช้อนแล้วเอ่ยขึ้น ก่อนจะลุกไปจากห้องอาหารเงียบๆ

ภายในรถคันใหญ่ที่แล่นเรื่อยไปตามถนน มีเด็กชายนั่งพิงเบาะหันหน้าออกมองไปนอกหน้าต่างตลอดเวลา ดวงตาเหม่อมองแสงไฟที่ไหววูบตามข้างทางอย่างไร้จุดหมาย
“ไปไหนดีครับคุณหนู”
“ไปเดินเล่นที่เดิมก็ได้” สถานที่ๆ เด็กชายเอ่ยตอบหมายถึงห้างสรรพสินค้าชื่อดังที่ชอบไปเดินเรื่อยเปื่อยบ่อยครั้ง เวลาที่ลลิตไม่อยากอยู่ที่บ้านหลังใหญ่เพียงลำพัง

พอเด็กชายได้เดินเตร็ดเตร่มองดูนั่นดูนี่ เห็นสินค้ามากมายที่เรียงรายอยู่ตามร้านก็รู้สึกดีขึ้น เด็กชายเลือกซื้อของเล่นอิเล็กทรอนิกส์รุ่นใหม่ แวะซื้อของเล่นฝากให้ลูกสาววัยอนุบาลของบอดี้การ์ดคนสนิท และอีกหลายสิ่งหลายอย่าง จนกระทั่งเดินผ่านร้านขายเสื้อผ้าผู้ชาย ลลิตสะดุดตาเข้ากับหุ่นโชว์เสื้อผ้าชุดหนึ่ง เสื้อเชิ้ตสีอ่อน กับกางเกงขายาวพอดีตัวสีเทา และรองเท้าหนังแบบผูกเชือกสีขาวทรงทันสมัยที่โชว์ไว้ด้วยกันก็ดูเข้าชุดกันดี ลลิตจัดการซื้อชุดนั้นทั้งชุด แล้วเด็กชายก็รับถุงพวกนั้นมาถือไว้เอง ไม่ได้ให้สมบูรณ์ถือให้เหมือนของที่ซื้อมาก่อนหน้านี้
ของที่ซื้อทุกอย่างถูกเก็บไว้หลังรถยกเว้นถุงเสื้อผ้าและของเล่นชิ้นใหม่ของคุณหนูที่เอามานั่งเล่นระหว่างกลับบ้าน แต่เด็กชายนั่งคิดอะไรไปสักพักก็คิดว่าอยากเห็นบรูโน่ใส่ชุดนี้ซะตอนนี้เลย เมื่อคิดได้ดังนั้น จึงให้สมบูรณ์จอดรถแถวนั้น และยกโทรศัพท์ขึ้นมาโทรและสั่งให้มาหาในทันที

.......

ลลิตยังคงนั่งอยู่ในท่าเดิมจนอารมณ์เริ่มกลับมาเป็นปกติ จึงเหลือบตามองชายหนุ่มที่นั่งข้างๆ ช้าๆ ก็เห็นวิธวินท์แต่งตัวจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ดูดีเหมาะสมกับชุดที่เด็กชายซื้อมาให้ คิดไปคิดมาก็อยากพาบรูโน่ลงไปเดินอวดคนอื่นบ้าง
“คุณสมบูรณ์จอดตรงนี้แหละ ฉันจะลงเดิน”
“ถ้าอย่างนั้นผมจะตามดูแลคุณหนูอยู่ห่างๆ นะครับ”
“ตามใจ” ลลิตรับคำไปลอยๆ เพราะรู้ดีว่าถึงปฏิเสธไป บอดี้การ์ดร่างใหญ่ก็จะขัดคำสั่งอยู่ดี

พอก้าวลงจากรถ ลลิตก็มองที่ชายหนุ่มที่ลงมายืนข้างกัน
“ฉันให้นายมาเที่ยวกับฉัน ไม่ได้จะพามาสมัครงาน” เด็กชายเอ่ยขึ้นแล้วมองวิธวินท์ตาขวาง ก็เพราะชายหนุ่มแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่เตรียมไว้ให้อย่างเรียบร้อยจนเกินไป ชายเสื้อทับในอีกต่างหาก ลลิตหันไปหาชายหนุ่มแล้วจัดการดึงชายเสื้อออกจากกางเกงให้
“เชื่อเค้าเลย ติดกระดุมแขนด้วยเหรอเนี่ย” เด็กชายบ่นพึมพำๆ ออกมาระหว่างแกะกระดุมแขนเสื้อแล้วดึงให้มันไปพับอยู่ที่ข้อศอก
“ดีนะที่ไม่ติดกระดุมคอด้วย” ลลิตบ่นกับตัวเองเบาๆ ไปเรื่อยเปื่อย พร้อมกับปลดกระดุมเสื้อของวิธวินท์ลงมาสามเม็ด
ชายหนุ่มยืนนิ่งมองร่างเล็กที่กำลังจัดโน่น ดึงนี่ให้เขา ปากก็บ่นงุ๊งงิ๊งไปเรื่อย
"เอาล่ะดีขึ้นแล้ว ไปกันได้"

ลลิตเดินนำชายหนุ่มดูนั่นดูนี่ตามข้างทางไปเรื่อยๆ จนถึงทางเข้าถนนเส้นหนึ่ง มองเข้าไปเห็นป้ายไฟหลากหลายสีสันดึงดูดใจให้เด็กชายเดินเข้าไปดู ผู้คนหนาตาแม้เวลาจะใกล้เที่ยงคืนแล้ว
วิธวินท์รีบเดินประชิดลลิตมากขึ้นเพราะผู้คนมากมาย คงจะไว้ใจใครไม่ได้และใช้ลำตัวของตนบังเด็กชายเอาไว้ ช่วงที่ผู้คนเบียดเสียดชายหนุ่มก็ยกแขนขึ้นคอยกันไม่ให้ใครเข้าใกล้ลลิต เด็กชายเดินกินขนมที่ซื้อมาจากร้านข้างทาง ตาก็สอดส่ายมองร้านค้ามากมายไปด้วย แล้วหันเอี้ยวตัวกลับไปเพื่อจะส่งขนมเข้าปากวิธวินท์ ชายหนุ่มทำท่าจะใช้มือรับ
“ไม่ต้องจับ กินเข้าไป” ชายหนุ่มจึงอ้าปากออกรับขนมเข้าปากแล้วเคี้ยวกิน ลลิตใส่ขนมเข้าปากตัวเองบ้าง ใส่ปากวิธวินท์บ้างจนหมด ชายหนุ่มรีบรับถุงขนมเปล่ามาถือไว้เสียเองเพื่อรอการทิ้ง
“เช็ดมือให้หน่อย” เด็กชายยื่นมือมาที่วิธวินท์ ชายหนุ่มดึงกระดาษทิชชู่ที่ได้มาพร้อมขนมเช็ดมือให้คุณหนูอย่างเบามือ
ระหว่างที่วิธวินท์ง่วนกับการเช็ดมือให้เด็กชาย ลลิตซึ่งหันมองรอบๆ ก็เกิดไปต้องตาเข้ากับร้านขนาดใหญ่ มีไฟสีส้มสดใส ป้ายหน้าร้านโดดเด่น The Butterfly Boy
“บรูโน่ ฉันอยากเข้าร้านนี้” ลลิตชี้ให้วิธวินท์ดูร้านที่หมายตา ชายหนุ่มอ่านป้ายหน้าร้านและมองดูการตกแต่งก็พอจะรู้ว่าร้านที่เด็กชายต้องการจะเข้าไปเป็นสถานที่เช่นไร
“แต่คุณหนูครับ นี่มันบาร์โชว์นะครับ” ชายหนุ่มทำหน้าปุเลี่ยน ในชีวิตเขาไม่เคยเข้าสถานที่แบบนี้มาก่อนเลย
“ก็เพราะมีโชว์สิถึงอยากเข้า” เด็กชายยิ่งสนุกขึ้นไปอีกเมื่อเห็นวิธวินท์ทำหน้าจ๋อย
“แต่คุณหนูอายุไม่ถึง”
“ขัดคำสั่งฉันเหรอ มาเร็วบรูโน่” ลลิตดึงข้อมือชายหนุ่มให้เดินตามมา

“ขอดูบัตรด้วยครับ” เสียงการ์ดหน้าร้านเอ่ยขึ้นเมื่อทั้งสองเดินเข้าไปในร้าน
วิธวินท์ดึงกระเป๋าเงินจะหยิบบัตรออกให้ตรวจ แต่ลลิตพูดขึ้นมาเสียก่อน
“ไม่ได้เอามา”
“งั้นขอโทษนะครับ เข้าไม่ได้” การ์ดเอ่ยบอกแล้วทำท่าผายมือเชิญให้ออกไป
ลลิตล้วงกระเป๋าหยิบธนบัตรใบละพันยัดใส่มือการ์ด การ์ดทำท่าจะไม่รับแต่สุดท้ายก็รับไว้
“แต่ผมขอถามผู้จัดการก่อน” การ์ดหนุ่มลังเลเพราะเห็นท่าทางการแต่งตัวของทั้งสองคงไม่ใช่นักเที่ยวธรรมดา ทางร้านอาจจะได้ลูกค้ารายใหญ่
“เอานี่ไปด้วย ” ลลิตส่งนามบัตรของบริษัทแนบไปด้วย
ทั้งสองถูกกันให้ไปรอที่ทางเข้าด้านใน แสงไฟวูบวาบและเสียงดนตรีที่ดังเล็ดลอดออกมาจากภายใน ดึงความสนใจของเด็กชายได้มาก ลิลิตเขย่งเท้ามองชะเง้อเข้าไปภายในแต่ประตูกระจกทึบแสงทำให้ไม่สามารถมองเห็นอะไรได้ชัดเจนนัก

รอสักครู่การ์ดคนเดิมก็เดินกลับมาพร้อมกับผู้จัดการร้าน ที่เป็นชายหนุ่มร่างโปร่งบางกว่าวิธวินท์ และยังดูหนุ่มกว่าที่จะมีตำแหน่งเป็นผู้ดูแลสถานที่แห่งนี้ แต่งตัวเนี้ยบตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า และยังมีเกย์สาวแต่งกายด้วยชุดสวยตามมาด้วยอีกคน
“ยินดีต้อนรับครับคุณหนู” ผู้จัดการหนุ่มเอ่ยต้อนรับ
“มากันกี่ท่านคะ” เกย์สาวคนนั้นเอ่ยถาม พร้อมกับเชื้อเชิญให้ทั้งสองเข้าไปภายใน
“ฉันมากับผู้ติดตามแค่สองคน”
“พี่ชื่อธัญญ่านะคะ นี่พี่กริชเป็นผู้จัดการ พี่ญ่าจะจัดโต๊ะที่ดีที่สุดให้คุณหนูเลยค่ะ”
“ไม่เป็นไร เราต้องการแค่โต๊ะมุมๆ เห็นเวทีชัดๆก็พอ” ลลิตโต้ตอบกลับไป
“เชิญทางนี้เลยครับ” ผู้จัดการร้านนำทางไปยังโต๊ะที่เด็กชายต้องการ
เวลาเกือบเที่ยงคืนบรรยากาศภายในร้านหนาแน่นไปด้วยหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ บางกลุ่มดูเป็นหญิงสาวประเภทสองส่งเสียงกันอื้ออึง แล้วยังมีเสียงเพลงจังหวะเร้าใจ พนักงานภายในร้านแต่งกายด้วยชั้นในสีขาวตัวจิ๋วเดินถือถาดเครื่องดื่มสวนกันไปมา ลลิตเดินคอตรงไปจนถึงโต๊ะที่ทางผู้จัดการแนะนำ วิธวินท์ก็ได้แต่เดินก้มหน้าก้มตา ตามทุกคนไป
“ต้องการเด็กของเราไว้ดูแลเครื่องดื่มไหมคะคุณหนู”
“ไม่ดีกว่า เราแค่อยากดูโชว์ ที่นี่เสียค่าใช้จ่ายยังไง ฉันพึ่งมาครั้งแรก” ลลิตถามในสิ่งที่สงสัย
“ก็เสียค่าเข้าคนละ300 และค่าดริ้งให้เด็กที่มานั่งแก้วล่ะ 200ค่ะ”
“งั้นเราไม่เอาเด็กนั่ง แต่จะซื้อดริ้งให้กับเด็กทุกคน”
แล้วผู้ดูแลร้านทั้งสองก็ปล่อยให้ลลิตและวิธวินท์อยู่ตามลำพังหลังจากตกลงเรื่องค่าใช้จ่ายและให้เด็กในร้านจัดอาหารทานเล่นและเครื่องดื่มให้กับทั้งคู่
เมื่ออยู่ตามลำพังเด็กชายขยับตัวขึ้นไปกระซิบที่ข้างหูวิธวินท์ เพราะเสียงในร้านดังมาก
“ดูไว้นะบรูโน่ จะได้เอาไปทำให้ฉันดู”
แล้วเด็กชายก็กลับไปนั่งละเลียดคอกเทลสีฟ้าใสในแก้วทรงสวยที่เจ้าตัวไม่รู้จักชื่อแต่เลือกจากสีที่เห็นในเมนู และหยิบขนมขบเคี้ยวเข้าปาก ปล่อยให้วิธวินท์นั่งมองแก้วน้ำอัดลมด้วยความตกใจกับคำสั่งเอาแต่ใจที่ได้รับมา
เด็กชายมองนั่นมองนี่ไปเรื่อยๆ แต่กลับไม่รู้สึกเขินอายเหมือนเช่นที่เคยสั่งให้ชายหนุ่มทำให้ดูแม้แต่น้อย ทั้งที่บนเวทีมีชายหนุ่มรูปงามมากหน้าหลายตา โยกย้ายอยู่ในท่วงท่าลีลาที่เย้ายวน

สายตาของเด็กชายก็ไปหยุดที่ชายหนุ่มร่างโปร่งที่เดินเข้าไปทักผู้จัดการหนุ่มของร้าน ลลิตมองนิ่งๆ ทบทวนความทรงจำ ชายคนนั้นก็คือ เทียนบุญ เพื่อนสนิทที่เรียนอยู่เมืองนอกกับธรรมทานพี่ชายของลลิตนั่นเอง ในเมื่อเพื่อนกลับมาแล้ว พี่ชายของเขาก็คงกลับมาด้วย แต่ไม่ยักจะพบกันที่บ้าน เด็กชายนั่งคิดถึงพี่ชายที่อายุห่างกันหลายปีจึงทำให้ไม่สนิทสนมกันนัก
ลลิตเลิกคิดเรื่องของพี่ชายและเพื่อน แล้วกลับมาสนใจค็อกเทลแก้วใหม่ที่มาส่งให้ถึงโต๊ะ เครื่องดื่มสีสวยรสออกหวานผสมแอลกอฮอล์เล็กน้อย ทำให้เด็กชายติดใจเรียกเด็กในร้านสั่งให้มาส่งแก้วต่อแก้ว ปล่อยให้วิธวินท์นั่งกลืนน้ำลายลงคอดูโชว์ที่แสนจะดุเดือดบนเวทีต่อไป

จนกระทั่งบนโต๊ะมีแก้วเปล่าต่างขนาดวางอยู่เกือบเต็มโต๊ะ ผิดกับแก้วทรงสูงที่ใส่น้ำอัดลมที่ตอนนี้น้ำแข็งละลายจนน้ำในแก้วสีจืดจาง ลลิตเริ่มตัวอ่อนมาพิงวิธวินท์ที่นั่งตัวแข็งเป็นหลักให้เด็กชาย ลลิตไถผมนุ่มนิ่มกับไหล่ของชายหนุ่ม ในมือยังถือแก้วมีก้านที่บรรจุน้ำสีเขียวอ่อน ที่ปากแก้วโรยด้วยเกลือมีมะนาวฝานเสียบตกแต่งไว้ เด็กชายยกแก้วขึ้นดื่มจนหมด แล้วทำท่าจะเรียกเด็กมาสั่งแก้วใหม่ แต่วิธวินท์ดึงข้อมือเด็กชายเอาไว้เสียก่อน ลลิตหันมาเอียงคอมองตาปรือ
“พอเถอะครับคุณหนู ดื่มเยอะแล้วนะครับ” ชายหนุ่มก้มลงไปพูดใกล้ๆ
“อีกแก้วนะบรูโน่ นะๆ” เสียงเด็กชายอ้อแอ้โยเยไม่ได้มีอาการออกคำสั่งเหมือนครั้งก่อนๆ แถมยังซุกหน้าถูแก้มนิ่มๆ กับต้นแขนของชายหนุ่มเป็นการออดอ้อนอีกด้วย
“อีกแก้วเดียวนะครับ หมดแก้วนี้เรากลับกันนะ”
“อืออ” ลลิตส่งเสียงครางตอบรับในลำคอ เกาะแขนวิธวินท์ยกตัวขึ้นจูบเบาๆ ที่ข้างแก้ม
“บรูโน่ใจดีจัง” เสียงแผ่วเบา กับลมหายใจอุ่นๆ เป่าอยู่ริมหู จนชายหนุ่มต้องเอียงหูหลบเพราะความรู้สึกจั๊กกะจี้
เด็กชายกลับลงมานั่งที่เดิมแล้วเรียกเด็กในร้านมาสั่งเครื่องดื่มด้วยร่างเอนๆ เอียงๆ วิธวินท์จึงยกแขนขึ้นโอบไหล่เล็กเอาไว้แล้วดึงเข้ามาพิงกับลำตัวของเขา หน้าขาวแก้มแดงระเรื่อแนบอยู่ที่อกของชายหนุ่ม
“นี่บรูโน่ กลับไปแล้วฉันจะซื้อกางเกงแบบนี้ให้ใส่น๊า” เด็กชายพูดอ้อแอ้อยู่ที่อกวิธวินท์เมื่อเด็กในร้านเอาเครื่องดื่มที่สั่งไปมาส่ง
ชายหนุ่มมองตามกางเกงตัวจิ๋ว ที่เมื่อคิดว่าต้องใส่ก็เกิดอาการหนาวสันหลังวูบ
เมื่อลลิตดื่มแก้วสุดท้ายจนหมด จึงเรียกเก็บค่าใช้จ่ายซึ่งผู้ดูแลที่เป็นเกย์สาวก็ออกมาดูแลทั้งสองด้วยตัวเองอีกครั้ง และสอบถามความพอใจ เด็กชายกระซิบกระซาบตอบกลับไป เพราะเวลานี้ร้านยังไม่ปิดบริการ เสียงดนตรีและโชว์ก็ยังมีอยู่ ไม่รู้ว่าลลิตพูดอะไรแต่เกย์สาวก็ยิ้มแก้มปริ ยกมือขึ้นมาบีบแก้มคุณหนูอย่างเอ็นดู วิธวินท์ได้แต่มองทั้งสองเฉยๆ เพราะไม่ได้ยินบทสนทนานั้น คิดในใจว่าในเวลาปกติคุณหนูคงไม่ให้ใครมาแตะเนื้อต้องตัวง่ายๆ แน่
“ขอบคุณที่มาใช้บริการนะคะ นี่ค่ะคุณหนู” ธัญญ่ายื่นบัตรเครดิตการ์ดสีทองพร้อมใบเสร็จส่งให้เด็กชาย เด็กชายส่งต่อให้วิธวินท์ดู
“และสิ่งนี้เป็นอภินันทนาการจาก The Butterfly Boy แวะมาหาพี่ญ่าอีกนะคะคุณหนู” ธัญญ่าส่งถุงกระดาษที่ปิดผนึกอย่างดีให้กับเด็กชายแล้วเดินมาส่งจนถึงหน้าร้านและโบกมือลาเมื่อทั้งสองเดินออกไป
วิธวินท์ประคองลลิตที่หันหน้าไปโบกมือตอบธัญญ่าพาเดินออกมาจากร้าน พบกับสมบูรณ์ที่รออยู่ด้านหน้าร้าน วิธวินท์อุ้มเด็กชายขึ้นไปนั่งบนรถจัดท่าให้นั่งอย่างเรียบร้อย
“เดี๋ยวผมกลับเองก็ได้ครับคุณสมบูรณ์”
“ไม่เอา บรูโน่ต้องไปด้วย น๊า ไปด้วยกันนะ” เสียงเด็กชายสวนขึ้นมาทันที มือยังแปะป่ายดึงแขนเสื้อของชายหนุ่มไว้
“ครับผม ไปด้วยครับ” เมื่อวิธวินท์รับคำเ ด็กชายจึงเอนตัวนอนหนุนที่ตัก
“คุณสมบูรณ์ ไปเรือนคุณปู่ บรูโน่จะนอนด้วย”
“เอ่อ คือผม” ชายหนุ่มทำท่าจะปฏิเสธ
“เดี๋ยวพอคุณหนูหลับ ผมค่อยออกมาส่งคุณวินก็ได้ครับ” สมบูรณ์กระซิบกระซาบให้ชายหนุ่มได้ยิน วิธวินท์จึงพยักหน้าตอบรับปล่อยให้เด็กชายนอนหลับไปบนตัก มือหนึ่งเกาะแขนของชายหนุ่มไว้ อีกมือก็กอดถุงกระดาษไม่ยอมปล่อย

วิธวินท์อุ้มเด็กชายลงเมื่อรถจอดสนิทที่หน้าเรือนคุณปู่ สมบูรณ์รีบวิ่งมาเปิดประตูรถให้เพื่ออำนวยความสะดวก และยืนรอที่รถเพื่อจะไปส่งชายหนุ่มต่อ แต่พอเงยหน้ามองไปก็เห็นใบหน้าของเด็กชายที่พาดอยู่บนไหล่วิธวินท์ ปรือตาขึ้นมาแล้วโบกมือไล่ และทำปากขมุบขมิบบอกสมบูรณ์ให้กลับไปซะ สมบูรณ์ยืนรีๆ รอๆ จนชายหนุ่มอุ้มเด็กชายเข้าเรือนไปพักใหญ่แต่ก็ยังไม่กลับออกมา จึงขับรถไปเก็บและไปพักผ่อนบ้าง


=========> โปรดติดตามตอนต่อไป

จะเป็นสก๊อยก็ต้องเริ่มจากหาแฟนเป็นเด็กแว๊นซ์ก่อน  :3130:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๔. ๒๑ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 21-05-2011 09:09:28
แรง ตลอด
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่3 [21/05/54] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 21-05-2011 09:21:13
ว้าววววว กางเกงตัวเล็ก จะเป็นเหตุรึเปล่าหว่า อคิๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่3 [21/05/54] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 21-05-2011 09:30:09
ขอเตรียมกล้องก่อนนะ  ตอนหน้าจะปลดเปลื้องแล้วใช่ป่ะ
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่6 รอยยิ้ม 21/5/2011
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 21-05-2011 09:43:11
น่าฮักเหลือหลาย
ชั้นแพ้ผู้ชายรักสัตว์

หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๔. ๒๑ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 21-05-2011 10:05:48
^
^
จิ้มๆๆๆ :z13:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่3 [21/05/54] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 21-05-2011 10:09:33
ใครแต่งอ่ะ ยังเดาไม่ออก
แต่หลงรักเรื่องนี้ซะแล้ว
สึเหลืองน่ารัก คึกคักเวลาลงเล่น (เชียร์ออกหน้่าออกตา)
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่6 รอยยิ้ม 21/5/2011
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 21-05-2011 10:11:43
555 หมาน้อยไม่ธรรมดาจริง ๆ ทำให้น้ำแข็งละลายได้ แม้จะเล็กน้อยก็ยังดี
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 9 อ้อมกอด 21/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 21-05-2011 10:21:28
ตอน 10 จะมาแล้ววววววววววววววว
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 9 อ้อมกอด 21/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 21-05-2011 10:31:53
^^^  เนียนนะ  ทำมาเป็นรอ  อิ อิ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 3 PG. 2 [20/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 21-05-2011 10:33:41
เมื่อกี้เพิ่งเชียร์สีเหลืองไป
ขอหลายใจมาเชียร์สีส้มด้วยได้มั้ย
งานผู้บริหารบาร์นี่โดนใจจริงๆ
นายยุทธดูท่าน่าสงสัย ไม่ซื่อเท่าที่ควร
ตกลงเรื่องใน Project นี่ Link กันหมด ต้องตามไปอ่านทุกเรื่องซะแล้ว
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๔. ๒๑ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 21-05-2011 10:48:38
ธรรมทาน  ตัวประกอบไร้ค่า
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่6 รอยยิ้ม 21/5/2011
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 21-05-2011 11:01:11
เจ้าชายน้ำแข็งเริ่มละลายแล้ว พี่เตล่ะจะเห็นความน่ารักของน้องบ้างไหม +1
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๔. ๒๑ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 21-05-2011 11:05:57
ตกลงไม่ได้แย่งธรรมทานกัน เทียนกับเมย์เค้าเกลียดกันมาแต่ชาติปางก่อน
 :z2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่6 รอยยิ้ม 21/5/2011
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 21-05-2011 11:09:58
เจ้าชายข้ำแข็งละลายได้เพราะน้องหมา
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่3 [21/05/54] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: onjazz26 ที่ 21-05-2011 11:13:23
ตอนหน้า... :oo1:ใช่เป่า
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 3 PG. 2 [20/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 21-05-2011 11:21:22
พี่ธัญญ่าจัดมาตอนรับกริชหรือป่านเนี่ย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่3 [21/05/54] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 21-05-2011 11:23:21
 :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่5 กองถ่าย P:3 [21/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: onjazz26 ที่ 21-05-2011 11:26:07
 :z13:
ปี๋สายลมอย่าคิดมาก...
พี่น้องท้องชนกันก็ได้ อิ อิ :z1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่3 [21/05/54] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 21-05-2011 11:39:27
คุณหนูตัวร้าย จะให้บรูโน่ทำเหมือนในบาร์แน่ ๆ เลย  :z1:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๔. ๒๑ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: IZE ที่ 21-05-2011 11:43:08
แรงงงงงงงงงงงงงงงง ฉันชอบ คุณเทียน

แต่เกลียดคุณทาน

ชักจะอินไปใหญ่ 5555
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่3 [21/05/54] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 21-05-2011 11:47:31
ร้ายจริงๆ มีไล่คนคนอื่นด้วย บรูโน่เสร็จแน่
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 9 อ้อมกอด 21/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 21-05-2011 11:49:05
เพิ่งตื่นรอบสอง หาวววววววววววว

แวะมาแจก + แทนตอบเมนท์นะคะ ย้อนไปยัง หน้าแรกเลยแล้วกัน
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่3 [21/05/54] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 21-05-2011 11:53:04
อร๊ายยยยยยยยอะไรกันเด็กคนนี้  น่ารักดีเนอะ :laugh: :laugh: :laugh:  บรูโน่ไม่น่ารอด  ใช่ไหม???ครับพี่แตะ  อิอิ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่3 [21/05/54] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 21-05-2011 11:53:17
รู้ว่าเป็นนิยาย  แต่ก็อยากจับคุณหนูลลิตมาถลกกางเกง แล้วจับตัวพาดตักฟาดก้นให้ซักหลายๆที นี่แหละเพราะคุณหนูถูกทุกคนในบ้านspoilซะ
ดูซิอยากรู้อยากเห็นอยากลองไปซะทุกเรื่อง (ต้องโทษพ่อแม่ใช่ไหม ทำให้เค้าเกิดแล้วไม่ใส่ใจเลี้ยงดู)
รู้ว่าเป็นนิยาย  แต่ก็อยากแปลงร่างเป็นเจ้าหน้าที่จับปรับ เจ้าของกับผู้ดูแลThe Butterfly Boyด้วยนะคุณกริช ญาญ่า
รู้ว่าเป็นนิยาย เลยต้องเลิกความคิดในสองความคิดข้างบน มาจิ้นต่อดีกว่าว่าบรูโน่
จะจัดการอย่างไรกับคุณหนูลลิตา เอ๊ย..คุณหนูลลิต

หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่3 [21/05/54] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 21-05-2011 11:55:03
โอ้....ของเด็กคนนี้เขาแรงจริง ๆ  o18
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่5 กองถ่าย P:3 [21/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 21-05-2011 12:03:07
จัดมา ระเบิดภูเขา เผากระท่อม
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 9 อ้อมกอด 21/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 21-05-2011 12:07:12
อยากรู้นะว่าตนที่ 10 จะเป็นยังไงต่อ
แล้วก็อยากรู้ว่าเหตุการที่หรั่งต้องตายเกิดจากสาเหตุอะไร
รอตอน 10 และตอนต่อๆไปครับผม
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่6 รอยยิ้ม 21/5/2011
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 21-05-2011 12:14:46
ไนท์น่ารักกกกกกกกกกก
เขาต้องมีปมอะไรสักอย่าง ฉะนั้นพี่เตทำลายน้ำแข็ง(ไส)นั่นซะ อยากเห็นไนท์ยิ้ม ><
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๔. ๒๑ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 21-05-2011 12:15:29
ฮีแรว๊งส์ :laugh: :laugh: :laugh:สะใจ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 9 อ้อมกอด 21/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 21-05-2011 12:15:34
ผมชอบ ตำรวจพชร อิอิ ขอนะคร้าบ แว้กกก
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 9 อ้อมกอด 21/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 21-05-2011 12:24:30
รีบเสนอหน้ามารับบวก 555
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่3 [21/05/54] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 21-05-2011 12:24:49
อร๊ายยยยยยยยยย ในถุงนั้นคืออะไร

เอ๊ะ หรือพี่ญ่าจะเอาอมยิ้มมาให้หนูริชมานอนอมเล่น   :z1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจ
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 21-05-2011 12:28:46
อะไรอยู่ในกล่องอ่ะ  คลิปพี่ก้องกะคนอื่นเหรอ :z1: :z1:



อยากให้เป็นอะไรก้อได้ที่ทำให้ปลายฟ้าเสียใจ o18 o18



ปล.อยากไปทำแผลให้พี่สายลม :-[ :-[
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 7 ฝัน 20/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 21-05-2011 12:40:59
โอเค กลัวคนอ่านๆไม่ทัน ตอน 8 อัพวันเสาร์ ตอน
9 อัพวันอาทิตย์
ตอน 10 เดือนหน้าเลยแล้วกัน 555
 
ดีไหม คิๆ
ม้ายดีค่ะคุณนาย
คุณนายลงแบบถี่ๆนี่แหละดีแล้วค่ะ ดิฉันชอบแบบถี่ๆค่ะ อยากอ่านตอนที่สิบไวๆค่ะ
ก็ดิฉันกำลังลุ้นให้คุณตำรวจกับหน่อง แตกกิ่งก้านสาขาผลิดอกออกช่ออย่างสวยงามอยู่นี่คะ
แล้วก็กำลังสะใจ และมีความสุขไปกับการแก้แค้นของหรั่งอยู่ (ดิฉันซาดิสม์ไปรึเปล่าเนี่ย)
:กอด1:ปะเหลาะเอาใจคุณนาย
จิ้มทะลุน้องเป้...น้องเป้ต้องวิ่งแล้วล่ะค่ะจะได้ตามแม่ดอกบัวแสนสวยดอกนี้ได้ทัน
 :กอด1:เพิ่มพลังให้น้องเป้วิ่งไวๆให้ทันแม่ดอกบัวแสนสวย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz (อัพตอนทีสองแล้วค่ะ ^0^) 21/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 21-05-2011 12:52:33
นี้มันเป็นรักระหว่างรบ (กับซอมบี้)
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 9 อ้อมกอด 21/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 21-05-2011 13:36:16
มาลงตอนสิบด้วยคนนะครับ  :z2: รอ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่6 รอยยิ้ม 21/5/2011
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 21-05-2011 13:39:46
แบบนี้ต้องให้เตซื้อหมามาเลี้ยงซะแล้วว
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 9 อ้อมกอด 21/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 21-05-2011 13:42:41
แอบมาส่องว่าตอนสิบมาหรือยัง :laugh: :laugh:



เจ๊จงที่รัก  สุดสวย สวยที่สุดในโลกหล้าน้องรอตอนที่สิบอยู่นะ  จุ๊บุจุ๊บุ :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่5 กองถ่าย P:3 [21/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 21-05-2011 13:44:58
พี่น้องท้องชนกัน  :z1:

คุณหมู จะแค้นปลายฟ้าอะไรขนาดนั้นครับ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่5 กองถ่าย P:3 [21/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 21-05-2011 13:52:15
ไม่ได้แค้นปลายฟ้านะ แค่สงสารสายลมเฉยๆ  แต่มีที่ไหนดูก้อรู้ว่าสายลมรักตัวเองแค่ไหนยังจะทำตัว หึมันน่า :beat:ให้เลือดกลบปาก


อยากจะบอกพี่ลมว่าตั้งแต่อ่านหนังสือออกแล้วอ่านนิยายมา ตัวเอกเรื่องนี้ทำให้หมูหมั่นไส้จนอยากจะ :beat:มันจริงๆ




อร๊ายยยยยยยยยพูดอะไรออกไป



ปล.พี่ลมแต่งดี๊ดีน้องอินไปหน่อยนะ  อย่าถือสา :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๔. ๒๑ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 21-05-2011 13:59:00
ยัยเมย์ก็มีคุณกนิฐรออยู่แล้ว
เทียนล่ะจะเป็นเจ หรือแม็คน้าาาาาาาาา

ส่วนนายทานพอ 2 คน เลิกรบกันน่าจะไม่มีใครเอา  555
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 9 อ้อมกอด 21/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 21-05-2011 14:26:19
มารอตอนใหม่  ตามมาจากกระทู้เดิม
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๔. ๒๑ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Piaanie ที่ 21-05-2011 14:33:54
รำคาญนายทานชะมัด มันอ่อนแอจนน่าเบื่อ คาดว่าอีกหน่อยโดนเขี่ยทิ้งแหง๋ๆ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๔. ๒๑ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 21-05-2011 16:01:54
แรงเทียนขา ตอนนี้ทั้งแรงเทียนคนเขียน ทั้งเทียนบุญในเรื่อง ได้ใจดิฉันมากค่ะ

ธรรมทาน  ตัวประกอบไร้ค่า
ใช่ค่ะเห็นด้วยค่ะ น่าจะถึงเวลาที่เทียนบุญสมควร"เขี่ย"ออกจากชีวิตได้แล้ว
เป็นแฟนที่หาความภาคภูมิใจไม่ได้เลย
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๔. ๒๑ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 21-05-2011 16:06:27
แรงสูสีกันจริงๆ  o13
นายทานดูไร้ประโยชน์มากไม่น่าเสียแรงมาแย่งกัน  :z2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 9 อ้อมกอด 21/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 21-05-2011 16:09:02
รอตอนสิบ  :L2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่3 [21/05/54] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 21-05-2011 16:14:00
ยังคิดอยู่ว่าเรื่องนี้จะโยงกับเรนเจอร์อื่นๆยังไง
แล้วก็โป๊ะ คุณหนูเป็นน้องของนายธรรมทานนี่เอง

อะไรที่เจ๊ธัญญ่าให้มาน้าาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่3 [21/05/54] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 21-05-2011 16:23:53
คุณหนูอายุเท่าไหร่เนี่ย แรงตั้งแต่เด็ก
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่5 กองถ่าย P:3 [21/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 21-05-2011 16:24:21
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz (อัพตอนทีสองแล้วค่ะ ^0^) 21/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 21-05-2011 16:35:10
ซอมบี้เต็มโรงพัก o22
อ่านสบายตาขึ้น  :pig4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz (อัพตอนทีสองแล้วค่ะ ^0^) 21/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: nataxiah ที่ 21-05-2011 17:17:20
ย่ิองมาตอนไหนเนีย

มาเงียบมาก หนีซอมบี้มาลงใช่ไหม  :laugh:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่5 กองถ่าย P:3 [21/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: nataxiah ที่ 21-05-2011 17:20:56
แต่ทำไมพี่รู้สึกสงสารปลายฟ้านะ

เพราะเขามีคนดี ๆ ใกล้ตัวกลับไม่รู้อะ  :o12:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 3 PG. 2 [20/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 21-05-2011 17:21:47

แอร๊ยยย ชอบบบบบ 5555
ตายล่ะกริช ดีแล้วละที่คิดงี้อะ
ไม่งั้นนะขืนอยู่ใกล้ๆตัวได้เสียการปกครองหมด
+1 จ้าาาาา
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่3 [21/05/54] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 21-05-2011 17:48:11
จุ๊บจั๊บๆๆๆๆๆ

น่าจะมีตีมชุดหนังกับแส้เนอะ อิอิ มันส์
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 3 PG. 2 [20/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: แรงเทียน ที่ 21-05-2011 17:58:44
“ก็พอได้ครับ เยส โน โอเค ไอฟักยู ออ ยูฟักมี ไอแอมบิ๊กนะ” เค้าทำท่านึกประโยคจะพูดต่อ


แว้กกกกก รับเข้าทำงานเลย กริช เดี่ยวเราไปออฟเอง ชอบๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา"
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 21-05-2011 18:00:20

อ่าา แล้วพี่เตจะฝ่าด่านน้ำแข็งไปได้ไหมเนี่ยะ
อย่างน้อยไนท์ก็ยังมีท่าทีที่ดีกับพี่เตเนอะ
รอวันที่ไนท์น้ำแข็งละลายนะจ๊ะ ชอบจังเลยคะ
แบบว่า ดูแล้วเหมือนไนท์จะดีขึ้นทีละนิดๆ
อยากเห็นความเปลี่ยนแปลงของไนท์บ้าง ^^

รออ่านตอนต่อไปจ้าาา +1 จุ๊บๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่5 กองถ่าย P:3 [21/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 21-05-2011 18:04:20
เฮ้อ แล้วเมื่อไหร่น้องฟ้าจะรู้ใจพี่ลมล่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๔. ๒๑ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Chinnosuke ที่ 21-05-2011 18:10:36
กรี้ดดด
เทียนบุญไอดอลของผม
ใส่เสื้อสีดำ
เทียนบุญ
เหมือนภูมิบุญไงไม่รู้เนอะพี่อิ๊กช๊อบชอบบอะ
รักแรงเทียน :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่6 รอยยิ้ม 21/5/2011
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 21-05-2011 18:16:17
ชอบให้ไนท์อ้อนพี่เตเยอะ ๆ น่าร้าก :o8:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๔. ๒๑ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 21-05-2011 18:59:57
แรงทั้งเรื่อง
พี่เทียนของเราจะรับมือไหวมั๊ยเนี่ย ทั้งในบ้าน นอกบ้าน
ยังมองไม่เห็นตัวช่วยเลย อย่าให้พี่เทียนสู้คนเดียวเลยนะ เครียด :sad4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่3 [21/05/54] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 21-05-2011 19:16:06
เด็กยุคใหม่ใฝ่การศึกษา
เรียนรู้และนำไปปฏิบัติ
 :z1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz (อัพตอนทีสองแล้วค่ะ ^0^) 21/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 21-05-2011 19:39:14
อ๊ากกกกกกกก
ทำไมมันสยองขวัญสั่นประสาทขนาดนั้น
แล้วจะมีฉากสวีท วี้ด วิ้ว รึเปล่าเนี่ย
พี่ตำรวจกะน้องยูโดสายดำ จับคู่กันหนีผีดิบกินคน
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 9 อ้อมกอด 21/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 21-05-2011 19:43:28
คืนพรุ่งนี้แล้วกันนะคะสำหรับตอนที่ 10 อิๆ กำลังลบรื้อเขียนใหม่ก่อน
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz (อัพตอนทีสองแล้วค่ะ ^0^) 21/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 21-05-2011 19:50:36
แสดงว่าเด็กนั่น เอาเชื้อผีดิบไปแพร่บนสถานีตำรวจเหรอ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 9 อ้อมกอด 21/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 21-05-2011 19:55:35
ผู้ร้ายตายไปอีกหนึ่ง
หรั่งมัวแต่แก้แค้น หน่องไปกอดกับหมวดพชรแล้ว
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๔. ๒๑ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: tutu ที่ 21-05-2011 20:48:00
มันส์ o13 o13
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๔. ๒๑ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: MonarcH ที่ 21-05-2011 21:02:19
เหวี่ยงกันมันส์มาก  :m20:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่3 [21/05/54] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ณยฎา ที่ 21-05-2011 21:05:45
เดาว่าของในถุงคือลิงที่จะให้บรูโน่ใส่ หุหุ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่3 [21/05/54] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: MonarcH ที่ 21-05-2011 21:13:40
บาร์ของเรากลายเป็นแหล่งนัดพบ โชว์เค้าดี เจ้าของน่ารัก คนเขียนก็หล่อ อุ๊ย เกี่ยวกันมั้ยเนี่ย 555++

เป็นกำลังใจให้เจ้าชายเกิบเหลือง แล้วเดี๋ยวเราไปเจอกันในสีแสดนะ 555++
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz (อัพ
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 21-05-2011 22:17:56
อ่านง่ายขึ้นเยอะเลยค่ะ  thanks
แต่แอบสงสัยว่ามันจะมีฉากหวานๆ  กับเขามั๊ยเนี่ยะ 
โหะ โหะ โหะ  ก็ชีวิตขาดน้ำตาลไม่ได้น่ะ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๔. ๒๑ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: nataxiah ที่ 21-05-2011 22:38:20
แรงดีไม่มีตกจริงๆเรื่องนี้ ชอบทั้งคู่เลย เมย์ เทียน :serius2:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๔. ๒๑ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 21-05-2011 22:43:35
 :o7: น่าสงสารพี่ทานจริงถูกใช้เป็นเครื่องมือ ให้เค้าเหวี่ยงกันไปมา
บอกแล้วให้มาหาของเล่นสนุกๆแบบบรูโน่
 
:z2:
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่6 รอยยิ้ม 21/5/2011
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 21-05-2011 22:44:17
จริงๆ น้องขี้อ้อนเนอะ^^
น่ารักชะมัด
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 9 อ้อมกอด 21/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 21-05-2011 22:44:45
 :z2: ตอน10จ๋ามาหรือยัง
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่6 รอยยิ้ม 21/5/2011
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 21-05-2011 22:47:49
 :-[ น้องไนท์น่ารักนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz (อัพตอนทีสองแล้วค่ะ ^0^) 21/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 21-05-2011 22:51:27
 :jul1: ฉากเรียกเลือดมาอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่5 กองถ่าย P:3 [21/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 21-05-2011 22:55:03
 :m17: ปลายฟ้าก็ไม่ผิดนะที่ไม่ชอบพี่ลม
ก็อยู่ใกล้แค่นั้นไม่จีบน้องมันเองสมหน้า
  :z2:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 3 PG. 2 [20/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 21-05-2011 22:56:51
 :z1: เค้ารับคนกันแบบนี้นี่เองถึงว่าคุณหนูถึงพาบรูโน่ไปศึกษา
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่4 สาเหตุที่ไม่ยอมกินข้าว100
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 21-05-2011 22:57:38
ป้าก็แพ้ไข่นะคะ
 
เพราะเห็นแล้วระทวย น้ำลายสอ อยากจะกินทุกทีไป กับเมนูสารพัดไข่
งั้นไปกับน้องไนท์ได้ 555 คุณนายได้กินคนเดียวเลย ไม่ต้องกลัวน้องไนท์แย่ง
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่6 รอยยิ้ม 21/5/2011
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 21-05-2011 23:02:22
น้องไนท์น่ารัก :impress2:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 3 PG. 2 [20/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: nataxiah ที่ 21-05-2011 23:03:56
 :z1: :z1: :z1:

เขียนไรไม่ถูกเลย ซับเลือดอย่างเดียว  :pighaun:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่5 กองถ่าย P:3 [21/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 21-05-2011 23:10:27
น้องไนท์!! อย่าเป็นอะไรนะ
ส่วนนังส์ฟ้าช่างหัวมันชอบทำพี่ลมเสียใจ ชิ!
ในกล่องมีอะไรน้า อยากรู้ๆๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่5 กองถ่าย P:3 [21/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 21-05-2011 23:15:36
ทำไมทุกคนห่วงแต่ปลายฟ้า ทีน้องไนท์ ไม่เห็นมีใครพูดถึงเลย แล้วน้องเค้าเป็นไรมากปะเนี่ย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่5 กองถ่าย P:3 [21/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 21-05-2011 23:21:48
คุณ yayee2 ปลายฟ้าผมต้องมาก่อนดาราเบอร์สองสิครับ

คอยไปดูเรื่องนั้นสิ ไนท์ ก็มีแต่คนห่วงนะครับ  o18
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่5 กองถ่าย P:3 [21/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 21-05-2011 23:22:19
ปลื้มพี่สายลม  หมั่นไส้ปลายฟ้า   เป็นห่วงน้องไนท์  :pig4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่5 กองถ่าย P:3 [21/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 21-05-2011 23:27:10
ไนท์ อยู่สีครามไม่ใช่รึ ทำไมมีแต่คนบ่นเป็นห่วงหว่า

รึว่า เม้นท์ผิดเรื่องหว่า  แต่หัวเรื่องก็สีน้ำเงินนี่นา 555
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่3 [21/05/54] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: nco1236 ที่ 21-05-2011 23:33:06
 o22
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 9 อ้อมกอด 21/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 21-05-2011 23:34:33
 :oni3:  ตอน 10 จงมา จงมา จงมา
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่5 กองถ่าย P:3 [21/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 21-05-2011 23:37:32
หึ หึ คุณสายลมครับ  คุณนายคะ อิฉันสงสารสายยลมไง
ไม่เม้นท์ผิดหรอก หมั่นไส้อิน้องปลายฟ้ามันแค่นั้นเอ๊ง
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๔. ๒๑ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 21-05-2011 23:38:16
จะว่าไปนะคะ
หากใครเคยเจอเรื่องแบบนี้กับตัวเองสักครั้ง
ก็คงจะพูดว่าไม่แรงเท่าไหร่หรอก

ของที่เป็นของเรา หากอีชะนีหน้าไหนแหยมเข้ามา
มันก็ต้องมีบ้างที่จะจัดการเขี่ย ๆ มันไปซะ
ถึงเราจะมั่นอกมั่นใจ กับของ ๆ เราขนาดไหน
แต่หากเข้ามาใกล้ รัศมีทำการยิงขีปนาวุธ
เราเองก็อดไม่ได้ที่จะเผลอกดปุ่มออกไปทันทีเหมือนกัน

รักมากมันก็หวงมากเป็นธรรมดา
แต่ก็พยายามทำความเข้าใจกันเข้าไว้กับคนของเรา
เพราะว่า อิฉันมันเป้นแบบประเภทที่จำประโยคนี้จนขึ้นใจ





รวมกันเราอยู่ ทิ้งกูมึงตาย หึ ๆ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๔. ๒๑ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 21-05-2011 23:46:43
ทึ่ง อึ้ง แรง!
ขอทายว่ากนิฐเป็นพระเอก อิอิ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่5 กองถ่าย P:3 [21/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 21-05-2011 23:51:11
เป็นแบบนี้นี่เอง  o18
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 9 อ้อมกอด 21/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: nataxiah ที่ 22-05-2011 00:04:45
แวะมาถามด้วยความสงสัย หลังจากอ่านรอบสองจนรอตอนใหม่

พระเอกตกลงชื่ออ่านว่าอะไรคร้าบ

พชร - พะ - ชะ - ระ

พชร - พะ - ชอน

พชร - พด - ชะ - ระ

หรือ พชร - พรืด (อันนี้ล้อเล่นนะคร้าบบ  :laugh: )
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 3 PG. 2 [20/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 22-05-2011 00:05:52
ลองนึกภาพตาม

เวที ไฟสีส้ม ผู้ชาย และเสา!!

อร๊ายยยยยยยย 
  :m25:
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่6 รอยยิ้ม 21/5/2011
เริ่มหัวข้อโดย: kittyfun ที่ 22-05-2011 00:06:40
ตามมาให้กำลังใจคนเขียน

ว่าแต่เมื่อไหร่ไนท์จะหายซึมเศร้าล่ะ

หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่3 [21/05/54] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 22-05-2011 00:07:09
คุณหนูน่ารักอ่ะ หมั่นเขี้ยวๆๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 9 อ้อมกอด 21/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 22-05-2011 00:22:29
พชร อ่านว่า พะ - ชะ - ระ = (น.) เพชร

หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่3 [21/05/54] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Natavishi ที่ 22-05-2011 00:57:20
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

เด็ก หนอ เด็ก
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่3 [21/05/54] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 22-05-2011 00:59:43
คุณหนูแร๊งงงงงง


ร้ายใช่เล่นน่ะเนี่ย


รออ่านตอนหน้าครับ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่6 เสียงเรียกในกองเพลิง(50%)
เริ่มหัวข้อโดย: ภาพฝัน ที่ 22-05-2011 01:24:41

   เสียงโทรศัพท์ดังในตอนเช้าปลุกร่างสูงใหญ่ที่กำลังนอนหลับสบายอยู่เตียงให้ตื่นขึ้นมา เขาความหาโทรศัพท์มือถือที่ดังสนั่นอยู่หัวเตียง

   “ครับ” เตชวัฒน์กรอกเสียงลงไปตามสายด้วยความง่วง

   “ตาเตทำดีมากๆ” เสียงหัวเราะอย่างชอบอกชอบใจของวุฒิพลผู้เป็นอาดังมาตามสาย เตชวัฒน์อ้าปากหาวด้วยความง่วง เขาเหลือบมองเวลา นี่เพิ่ง 7 โมงเช้าเท่านั้น

   “อะไรครับอา” เขาขยี้ตาขับไล่ความง่วงงุน ยังมีเวลาถ้าเขารีบเขาจะไปถึงคอนโดไนท์ประมาน 8 โมงกว่า ไนท์มีถ่ายละครตอน11โมง น่าจะมีเวลาทำอะไรให้ไนท์กิน

   “เปิดดูข่าวสิ ไนท์ดังเป็นพลุแตกเลย ฮ่าฮ่า” เตชวัฒน์ขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ เขาหยิบไอแพดขึ้นมาเชื่อมต่ออินเตอร์เนต

   เจ้าชายน้ำแข็งยอมยิ้มแล้ว ใครจะเชื่อว่าไนท์จะยอมยิ้มให้กับลูกหมาตัวน้อย เจ้าชายน้ำแข็งอาจไม่เย็นชาอย่างที่คิด

   รอยยิ้มแรกของไนท์ เชื่อว่าคงไม่มีใครเห็น ภาพสดจากกองถ่าย

   พาดหัวข่าวต่างๆมากมายที่เกี่ยวกับไนท์ทำให้เขาชะงัก ไม่น่าเชื่อว่าแค่ไนท์ยิ้มจะทำให้สื่อมวลชนสนใจมากขนาดนี้

   “เห็นหรือยัง ทำได้ดีมากตาเต” วุฒิพลชื่นชมผู้เป็นหลานที่สามารถทำให้วริศรินทร์มีรอยยิ้มขึ้นมาได้ แม้จะเบาบางก็ตาม ทั้งสองคุยกันอีกชั่วครู่แล้ว   เตชวัฒน์ต้องขอตัวไปอาบน้ำ

   “อ้อ อาครับ อารู้หรือเปล่าว่าไนท์แพ้ไข่” เขาถามผู้เป็นอาถึงเรื่องการแพ้ไข่ของวริศรินทร์

   “จำได้ว่าเป็นคนกินยากนะเรื่องแพ้ไข่ไม่รู้ อาไม่ค่อยได้เจอไนท์หรอกตอนเด็กๆ อามาดูแลไนท์ก็ตอนที่วรากรพ่อของไนท์ตายน่ะ” วุฒิพลตอบอย่างคร่าวๆ เพราะเขาเองไม่ได้สนิทสนมกับลูกเพื่อนคนนี้เท่าไหร่นัก แม้จะเอ็นดูอยู่บ้างก็ตามที

   “ครับ อา งั้นผมไปอาบน้ำก่อนนะครับ” เตชวัฒน์ตัดสายโทรศัพท์จากผู้เป็นอาเมื่อเห็นว่าเสียเวลามามากแล้ว

   เตชวัฒน์อาบน้ำแต่งตัวแล้วขับรถออกจากบ้าน เช้านี้เขานึกว่าถ้าไปถึงแล้วควรจะทำอะไรให้วริศรินทร์ทานดี เช้าๆ แบบนี้ควรทานอาหารเบามากกว่า

   เตชวัฒน์ชะงักเมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้องเศษแก้วกองอยู่ที่พื้น ที่สำคัญเขาเห็นกองเลือด ที่ลากยาวไปเป็นทาง เขารู้สึกตกใจรีบมองหาร่างสูงโปร่งในทันที

   วริศรินทร์ในชุดคลุมอาบน้ำนอนอยู่บนโซฟาตัวยาวด้วยใบหน้าซีดเซียว ที่เท้าข่างขวา มีเลือดไหลออกมา เขารีบเข้าไปดูร่างที่เหมือนกำลังนอนหลับ

   “ไนท์ ตื่นครับเป็นอะไร” พอเขาสัมผัสก็พบว่าไนท์ตัวเย็นเฉียบ ดวงตาสีดำสนิทปรือปรอยเมื่อโดนเขย่าตัวเขา นิ้วเรียวยกขึ้นขยี้ตาช้าๆ  เมื่อเห็นอาการ
ของคนตรงหน้าเขาต้องรู้สึกโล่งอก แต่เลือดที่ยังไหลซึมอยู่ก็ทำให้เขาใจหาย

   วริศรินทร์ผวาเกาะเตชวัฒน์เมื่ออยู่ก็ถูกอุ้มขึ้นพาดบ่า ศรีษะของเขาร่วงลงมาทำให้เขาต้องดันตัวเองขึ้นมา

   “อยู่เฉยๆ” เตชวัฒน์ส่งเสียงในลำคอเมื่อร่างที่โปร่งกำลังดิ้น เขาก้าวเข้าไปในห้องน้ำ วางร่างโปร่งให้นั่งลงที่ชักโครก

   “เจ็บไหม” น้เสียงอ่อนโยนกับสัมผัสที่แผ่วเบาทำให้วริศรินทร์พยักหน้าช้าๆ  เตชวัฒน์จับปลายเท้าของอีกฝ่ายขึ้นมาล้างน้ำอุ่นอย่างแผ่วเบา

   “อย่าดิ้นนะครับ พี่อะอุ้มดีๆ” น้ำเสียงอ่อนโยนกับรอยยิ้มที่ปลอบประโลม เตชวัฒน์อุ้มวริศรินทร์ไปนั่งที่เก้าอี้ เขารื้อหายาใส่แผลเจอจนได้ เขาทำแผลให้อย่างแผ่วเบาแผลไม่ลึกมากนักเพราะอีกฝ่ายแค่เหยียบเศษแก้ว แต่เพราะมีเศษแก้วฝังอยู่ข้างใน เขาค่อยๆคีบออกอย่างเบามือ ตลอดเวลาสายตาของ         วริศรินทร์ไม่ได้ละออกจากใบหน้าคมเข้มที่แลดูอ่อนโยน จังหวะที่สายตาของทั้งคู่ประสานกันเตชวัฒน์ยิ้มให้เพื่อหวังจะปลอบประโลม

   เตชวัฒน์ลอบถอนหายใจอย่างโล่งใจที่คราวนี้เป็นเพราะอีกฝ่ายเหยีบเศษแก้ว ในครั้งแรกที่เขาเห็นกองเลือดเขารู้สึกตกใจจนหัวใจแทบจะหยุดเต้น ยิ่งเห็นว่าอีกฝ่ายนอนหน้าซีดอยู่บนโซฟาเขาคิดว่าจะต้องสูญเสียอีกฝ่ายไป

   “เสร็จแล้ว” เขาพันแผลที่เท้าให้อย่างแผ่วเบาแล้วยิ้มให้

   “แล้ววันนี้ไนท์จะถ่ายละครไหวไหม” เพราะวันนี้ไนท์มีคิวถ่ายละครแถมเป็นฉากที่ค่อนข้างเสี่ยงอันตราย การที่ไนท์ขาเจ็บอาจทำให้เกิดอุบัตติเหตุได้

   “ไหว” เสียงกระซิบแผ่วเบาดังมาอีกครั้ง

   “เช้านี้อยากกินอะไร พี่เตจะได้ไปซื้อให้ ว่ายังไงคนเก่ง” เตชวัฒน์ถามเมื่อเห็นว่าสายตาคู่นั้นยังคงจับจ้องมายังตน

   “หมูทอด” คำตอบนั้นทำให้เตชวัฒน์ยิ้มรับ

   “เมื่อวานพี่ซื้อมาพอดี ไนท์ไปอาบน้ำครับ แล้วแต่งตัวซะออกมาจะได้ทานอาหารกัน โอเคไหม” เตชวัฒน์เลือกที่จะทำกับไนท์เหมือนผู้ใหญ่กับเด้ก เขสรู้สึกว่าวริศรินทร์เหมือนเด็กที่ต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่

   “แล้วหมูทอดมันทำยังไงให้อร่อย” ถึงจะบอกว่าจะทำให้ไนท์ทานแต่เตชวัฒน์ก็ใช่ว่าจะทำอาหารเป็น เขาหยิบไอแพดขึ้นมาเสริชหาวิธีทำหมูทอดจากอินเตอร์เนท จนพบแล้วก็คิดว่ามันทำได้ไม่ยากนัก แต่การทอดหมูมันไม่ได้ง่ายกว่าที่คิด หมูทอดของเตชวัฒน์ในบางชิ้นก็สุกจนเกือบไหม้ บางชิ้นก้เปลี่ยนเป็นสีดำ เตชวัฒน์มองผลงานตัวเองด้วยความหนักใจ เสียงเลื่อนเก้าอี้ทำให้เขาชะงัก

   “คือว่าพี่เตทอดไหม้ไปหน่อย เราไปหาอะไรกินข้างนอกก็ได้” เตชวัฒน์ยิ้มอายๆ เมื่อตัวเองเป็นคนรับปากว่าจะทำให้แต่ผลงานที่ทำออกมามันเรียกได้ว่าใช้ไม่ได้ วริศรินทร์มองหมูทอดในจาน แล้วมองรอยยิ้มเก้อๆขอเตชวัฒน์ เขาหยิบเลื่อนจานข้าวเข้ามาใกล้แล้วตักหมูทอดที่ถุกทอดจนเกรียมขึ้นมากิน

   “ไนท์ไม่ต้องกินก็ได้” เตชวัฒนืรีบห้าม แต่ก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไรจากร่างสูงโปร่ง วริศรินทร์กินข้าวไปเงียบๆ เมื่อเห็นดังนั้นเตชวัฒน์ก็นั่งลงทานบ้าง เขาพบว่าหมูมีรสชาติค่อนข้างไปทางเค็มและบางชิ้นก็ขมเพราะเขาทอดจนไหม้ แต่ตลอดเวลาที่ทานวริศรินทรืไม่ได้เปลี่ยนสีหน้าสักนิด ไม่มีคำบ่นว่าไม่อร่อย ไม่มีคำบ่นว่ามันไหม้ วริศรินทร์ทำเพียงทานไปเรื่อยๆ สักพักแล้วก็หยุด    เตชวัฒน์มองข้าวในจานที่พร่องลงไปไม่มากนัก แค่เพียงเห็นอีกฝ่ายยอมทานหมูทอดไหม้ๆ ที่เขาทำเขาก็รู้สึกดีใจแล้ว

.........................
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๔. ๒๑ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: なおみ™ ที่ 22-05-2011 01:57:16
แหมคนเขียนชื่อแรงเทียน แต่นิยายนี่แรงพลังงานแสงอาทิตย์เลยนะคะ
แรงไม่มีตก แลดูจะแรงกว่าเรื่องก่อนๆ เสียอีก

ไม่ค่อยปลื้มตาธรรมทานเลยค่ะ แต่ "ทินกร" น่าสนใจอยู่นะคะ

:จุ๊บๆ: +1 ให้คุณแรงเทียนค่ะ

รอตอนต่อไปค่ะ

หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่6 เสียงเรียกในกองเพลิง(50%)
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 22-05-2011 02:17:04
 :-[ :-[ :-[น่ารักเกินไปแล้วนะ  ช้อบชอบ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 3 PG. 2 [20/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: MonarcH ที่ 22-05-2011 02:39:45
Butterfly 4

...ไม่นานนักพี่ธัญญ่าก็ขึ้นมาพบผมที่ห้องด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ผมเองก็นั่งหน้าบึ้งรอเช่นกัน...
“ทำไมถึงไม่รับยุทธคะกริช” พี่ธัญญ่าถามผมด้วยน้ำเสียงเป็นทางการ
“ไม่ถูกชะตา” ผมโกหก
“แต่ยุทธจะกลายเป็นดาวของร้านนี้ รูปร่างหน้าตาของเค้าแทนหรั่งได้เลยนะ”
“แต่...”
“พี่ขอร้อง” พี่ธัญญ่าพูดสวนมาทันที
“เฮ้อ งั้นก็ตามใจ แต่อย่าให้เค้าเข้ามาใกล้กริชนะ” 
“พี่ไม่เชื่อว่ากริชไม่ถูกชะตากับยุทธหรอก แค่พูดถึงเค้ากริชก็หน้าแดงเป็นลูกตำลึงแล้ว”  พี่ธัญญ่าพูดยิ้ม ๆ แล้วเดินออกจากห้องไป
*
*
...ผมแง้มผ้าม่านในห้องเพื่อดูโชว์ด้านล่าง แต่ต้องตกใจเมื่อเห็นยุทธอยู่ในชุดพนักงานเสิร์ฟและกำลังโดนแขกของร้านล้อมหน้าล้อมหลังไม่ยอมให้ไปบริการโต๊ะอื่น แค่ยุทธยิ้มให้แขกนิดเดียวเกย์สาวร่างใหญ่ก็ควักแบงค์พันยัดใส่กระเป๋าให้แล้ว เสน่ห์แรงจริงนะ ผมคิดในใจก่อนจะสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู...
“เชิญครับ” ผมกลับไปนั่งที่โต๊ะ ทำเป็นยุ่งกับกองเอกสาร
“กริช ลงมาดูสิ ยุทธยังไม่ได้ขึ้นโชว์แขกก็ติดแล้ว” พี่ธัญญ่ายิ้มระรื่น
“.......................................”  ผมเงียบ ทำเป็นไม่สนใจ
“ยุทธฝากมาขอบคุณกริชด้วยที่ให้โอกาส”
“เค้าต้องขอบคุณพี่ธัญญ่ามากกว่า” 
“ยุทธเค้าว่าวันนี้ได้ทิปเยอะทั้ง ๆ ที่เพิ่งเสิร์ฟได้แค่แป๊บเดียว นี่ก็ได้เงินพอที่จะมัดจำห้องเช่าใหม่แล้ว คืนนี้เค้าขอกลับก่อน อาทิตย์หน้าถึงจะทำธุระย้ายห้องเสร็จ พี่ให้เค้าเริ่มงานศุกร์หน้าเลยนะ”
“เชื่อเค้าเหรอ เค้าอาจจะไปสมัครงานที่อื่นก็ได้ แล้วอีกอย่าง ทำไมเค้าถึงมีอภิสิทธิ์กลับก่อนคนอื่นได้ ทำไมไม่กลับตอนบาร์ปิดล่ะ”
“วันแรก แถมแค่เสิร์ฟก็ได้ทิปขนาดนี้แล้วไม่มีเหตุผลที่เค้าไปที่อื่นหรอก บาร์เราลูกค้าแน่นร้านทุกคืน และที่พี่ให้กลับก่อนเพราะเค้ายังไม่ได้มาเป็นพนักงานของเรา เมื่อกี้เด็กมันเสิร์ฟไม่ทัน ยุทธมันมีน้ำใจก็เลยมาช่วยเฉย ๆ พี่เองก็ไม่คิดว่ามันจะได้ทิปเยอะขนาดนี้ด้วยซ้ำ ก็หล่อเกินหน้าเด็กโชว์คนอื่นขนาดนั้น”  พี่ธัญญ่าอธิบาย
“เอาไงก็เอาเหอะ กริชขอทำเอกสารอย่างเดียวดีกว่า”
“วันนี้พร้อมจะดูโชว์หรือยังล่ะ จะได้เข้าใจว่าทำไมพี่ถึงต้องพยายามดึงแขกด้วยโชว์และพนักงาน” 
“ขอเคลียร์งานตรงนี้ก่อนนะพี่ อีกซักพักค่อยลงไป”
*
*
...ผ่านไปหลายวัน ผมเริ่มชินกับบรรยากาศในบาร์ “The Butterfly Boy” เริ่มไม่ค่อยอายเมื่อต้องมองผู้ชายเปลือยกายและมีเพศสัมพันธ์กันแบบโลดโผน ทุกมุมบนเวทีถูกใช้ให้เป็นประโยชน์ แต่บาร์ของเราไม่ได้โชว์แค่บนเวทีเท่านั้น บางคืนที่ตัวพระมีแรงเหลือ เค้าจะอุ้มตัวนางในท่าที่เรียกว่า “ลิงอุ้มแตง” เดินโชว์รอบร้านโดยที่ตัวนางขย่มโขยกไปตามจังหวะการเดินของตัวพระ และโชว์บิ๊กค็อกของเราก็ลงมาเดินให้ลูกค้าดูใกล้ ๆ ชนิดที่เรียกว่าใกล้จนเฉียดปากลูกค้าที่กำลังอ้าปากค้างตะลึงในความมหึมาของพนักงาน Size พิเศษ...
“กริช มีเคสแปลก ๆ อีกแล้ว ไปดูวิธีจัดการสิ”  พี่ธัญญ่าเดินเข้ามาเรียกขณะที่ผมกำลังดูบาร์เครื่องดื่มอยู่
“อะไรเหรอพี่”
“มีลูกคุณหนูพยายามจะเข้าร้านให้ได้ เค้าทิปการ์ด แล้วก็ให้นามบัตรมา”  พี่ธัญญ่ายื่นนามบัตรใบนั้นให้ผมดู
“ตระกูลดังนะเนี่ย...แต่เราให้เข้าไม่ได้หรอก ผิดกฎหมาย เดี๋ยวก็เป็นเรื่องเป็นราว” ผมพูดพลางส่งนามบัตรคืน
“เคสนี้พี่แนะนำว่าให้เข้ามาได้”
“ทำไมล่ะ”
“นามสกุลดังขนาดนี้ ไม่มีทางเป็นเรื่องหรอก รู้จักมั้ย อำนาจเงินน่ะ”
“อาจจะมีคนแกล้งโทรไปแจ้งเจ้าหน้าที่ได้นะพี่”
“หึ หึ เชื่อพี่ ออกไปต้อนรับเค้าให้เหมือนแขกวีไอพีเลย คืนนี้เรากำไรแน่นอน” พี่ธัญญ่าหัวเราะในคอ ไม่สนใจคำเตือนของผม
“แต่เราอาจจะได้ไม่คุ้มเสียนะ” ผมแย้งอีกครั้ง
“งานนี้มีแต่ได้กับได้ พี่เจอพวกลูกคุณหนูแบบนี้มาเยอะแล้ว พวกนี้ใช้เงินยังกับพิมพ์แบงค์ได้เอง เดี๋ยวเราพาเค้าไปโต๊ะวีไอพีให้เค้าอยู่ในมุมลับตาแขกคนอื่นหน่อยจะได้ไม่มีคนเอาไปพูดเยอะว่าเราปล่อยให้เด็กเข้ามาดูโชว์”
*
*
...ในที่สุดคืนนั้นก็ผ่านไปได้ด้วยดี และร้านก็มีรายได้ที่ดีไปด้วย พี่ธัญญ่าตอบแทนลูกค้ารายนี้ด้วยอะไรซักอย่าง ผมเห็นเค้ากระซิบกระซาบกันก่อนน้องเค้าจะเคลียร์ค่าใช้จ่าย แล้วพี่ธัญญ่ายื่นของให้ตอนคืนบัตรเครดิตพร้อมบิล...เด็กลูกคุณหนูที่พาผู้ชายรุ่นพี่มา ตอนยังไม่เมาก็ดูข่มพี่ แต่พอเมาก็กลายเป็นเด็กน้อยน่ารัก คืนนี้เค้าใช้เงินไปเยอะ เลี้ยงแขกคนอื่นทั้งบาร์...นึกมองย้อนมาที่ตัวเอง ตอนเราอายุเท่าน้องเค้า เงินร้อยนึงก็มีค่ามากมาย ซื้อข้าวกินได้สามมื้อ ถึงแม้ป้าธเนศจะส่งเสียให้เดือนละเป็นหมื่น แต่ผมก็ใช้เท่าที่จำเป็น ทำให้ตัวเลขในบัญชีเงินฝากของผมดูดีมาก ตอนเรียนจบ ผมบอกว่าจะโอนเงินจำนวนนี้คืนป้าธเนศ แต่แกไม่ยอมรับแถมยังโอนเงินมาให้อีกก้อนใหญ่ แกบอกว่านั่นคือเงินขวัญถุงสำหรับเริ่มต้นชีวิตใหม่หลังเรียบจบ…
*
*
...คืนนั้นมีเหตุการณ์ที่ทำให้ผมต้องประหลาดใจเมื่อมีแขกคนสำคัญมาเยือนที่ร้านขณะที่ผมต้อนรับน้องลลิตลูกคุณหนูอยู่นั้น เทียนบุญเพื่อนของผมที่โผล่มาเซอร์ไพร้สถึงร้าน เค้ากลับจากต่างประเทศตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เมื่อหัวค่ำผมเพิ่งจะเม้าท์กับพี่ธัญญ่าเรื่องแขกวีไอพีซึ่งผมก็คายความลับว่าเทียนบุญที่เป็นแขกประจำของร้านคือเพื่อนผมเอง เค้ามาบ่อยแต่ก็หายไปนานเนื่องจากไปเรียนต่อและทำงานที่ต่างประเทศ...เรานั่งคุยถามสารทุกข์สุกดิบกันซักพักเทียนบุญก็เรียกเด็กมานั่งด้วย ผมจึงขอตัวไปดูงานในร้านต่อ...
*
*
…วันรุ่งขึ้น ผมต้องตื่นเพราะโทรศัพท์ทางไกลจากออสเตรเลีย ป้าของผมโทรมาสั่งให้ทำงานสำคัญแทนตัวเอง เมื่อวางสายผมถึงกับนอนต่อไม่ได้เลยทีเดียว...
“กริช รู้แล้วใช่มั้ยว่าต้องไปงานเปิดตัวนาฬิกาฝังเพชรของสุลต่านอะไรนั่นอ่ะ ได้ข่าวว่าหรูหราไฮโซมีเรือนเดียวในโลกเลยนะ”  พี่ธัญญ่าพูดกับผมทันทีที่ผมก้าวเข้าร้าน
“รู้แล้วครับ ป้าโทรมาสั่งเมื่อตอนสาย ๆ เค้าว่าต้องไปงานนี้ แต่ไม่เข้าใจว่าป้าจะให้กริชไปทำไม ไม่เห็นจะมีอะไรเกี่ยวกับบาร์ของเราเลยนี่”
“เจ๊แกฝากพี่มาอธิบาย เค้ารู้ว่ากริชจะต้องสงสัย จำไว้ว่าพอไปถึงงาน กริชต้องถามหาออร์แกไนซ์ที่ชื่อคุณตรีเป็นคนแรก ไปแนะนำว่าตอนนี้กริชรักษาการณ์แทนเจ๊ธเนศ แค่นี้เค้าก็เข้าใจแล้ว คุณตรีแกสามารถแนะนำให้แขกในงานมาเป็นลูกค้าวีไอพีของเราได้ พอกริชแนะนำตัวกับคุณตรีเสร็จแล้วพยายามนั่งห่าง ๆ เวทีไว้ ซักพักจะมีไฮโซไฮซ้อเข้ามาคุยด้วย แลกนามบัตรกันพี่เตรียมไว้ให้แล้ว ใช้งานอีเว้นท์พวกนี้ให้เป็นประโยชน์ ให้ส่วนลดเค้า พวกไฮโซทิปดีทำให้ร้านเรามีเกรดขึ้นมาด้วย พอทิปดี จ่ายค่าตัวหนัก เด็กเราก็จะมีคุณภาพเห็นมั้ยล่ะมีแต่คนอยากมาทำงานที่นี่ หล่อเทพขนาดหรั่งหรืออย่างยุทธยังเลือกมาทำบาร์เราเลย”  พี่ธัญญ่าอธิบายยาวเหยียด
“กริชไม่อยากใส่หน้ากากทำตัวเป็นไฮโซเลยอ่ะ”
“มันเป็นเรื่องธุรกิจ ไม่มีใครพรากตัวตนที่แท้จริงของกริชได้หรอก แต่กริชกำลังสวมบทบาทเจ้าของบาร์ที่ดังที่สุดในกรุงเทพฯอยู่นะ อย่าทำให้ป้าของกริชผิดหวังสิ ไปให้อลังการที่สุด งานนี้เราจะมีสินค้าตัวอย่างไปด้วยหนึ่งคน พี่โทรนัดยุทธแล้ว พรุ่งนี้เค้าจะไปรอกริชที่หน้าคอนโดตอนสี่โมงเย็น กริชต้องพาเค้าไปเมคโอเวอร์ ซื้อเสื้อผ้าใหม่ ตัดผมใหม่ ทำให้ยุทธดูดีกว่าเดิมให้ได้ แล้วถึงวันงานเราค่อยนัดกันอีกที”
“แต่กริชบอกพี่ธัญญ่าแล้วนี่ว่าอย่าให้ยุทธมาอยู่ใกล้กริช”
“เค้าน่ารังเกียจขนาดนั้นเลยเหรอ”
“....ก็....ก็....ไม่หรอก แต่กริชไม่รู้เรื่องแฟชั่น พี่ธัญญ่าไปเองเหอะ”  ผมหาเรื่องปฏิเสธอีก
“กริช หนูไม่ใช่คนโง่นะ ฉลาดมากด้วย เพียงแต่หนูปิดตัวเอง กั้นทุกอย่างที่หนูพร่ำบอกว่าไม่ชอบ ไม่ถูกชะตา รับไม่ได้ ไม่เคยเห็น ไม่เคยทำ...ชีวิตนี้หนูจะไม่มีความสุขเลยนะถ้าปิดกั้นตัวเองอย่างนี้ พี่รู้ว่าหนูทำได้ หนูชอบเดินช็อปปิ้ง หนูชอบลุคใหม่แบบที่พี่จัดให้ หนูไม่ได้รังเกียจยุทธ แต่หนูปากแข็ง และหนูก็ประเมินค่าตัวเองต่ำไป เจ๊ธเนศพยายามจะดันหนูให้ขึ้นมาทัดเทียมคนอื่นไม่ให้หนูมีปมด้อยเรื่องฐานะ แต่หนูก็ไม่รับความปรารถนาดีของเจ๊แกเลย มันดีนะที่หนูรู้จักประหยัด แต่นาทีนี้ หนูกำลังเป็นเจ้าของ The Butterfly Boy หนูต้องสร้างภาพลักษณ์ให้คนเชื่อถือ พรุ่งนี้ถ้าไม่รู้เรื่องแฟชั่นจริง ๆ ให้พายุทธไปห้องเสื้อที่พี่เคยพาไป ส่วนเรื่องผมก็ไปตัดร้านเดิมที่พี่พาไปเช่นกัน...โอเคตามนั้นนะ”  พี่ธัญญ่าสรุปแล้วเดินหนีไปไม่ให้ผมพูดอะไรต่อ
*
*
...ผมคิดเรื่องที่พี่ธัญญ่าพูดตลอดทางขับรถกลับคอนโด มันกระแทกใจผมอย่างแรงจนทำให้เกราะที่ผมสร้างขึ้นเองตั้งแต่จบมัธยมปลายเกิดรอยร้าว...ชีวิตวัยรุ่นของผมต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ ไม่กล้าแสดงออกมากนัก ด้วยสำนึกว่าเงินทุกบาททุกสตางค์มันไม่ใช่เงินที่ผมจะเอามาซื้อเสื้อผ้าตามแฟชั่น หรือเอาไปเที่ยวในแบบที่คนวัยอย่างผมส่วนใหญ่ไปกัน...ตอนนั้นเสื้อผ้าที่ผมมีอยู่ก็เป็นแบบบ้าน ๆ ราคาถูก ถ้าจะไปเที่ยวกลางคืนเนื่องในวันเกิดเพื่อนผมก็แค่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ธรรมดา...ตอนเรียนป้าธเนศเคยบ่นว่าผมเชย แกให้เงินเดือนผมเพิ่มเพื่อให้ผมไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ แต่ผมก็เก็บเงินนั้นไว้ ปล่อยให้แกบ่นไปเรื่อย ๆ จนแกเลิกบ่น แต่แกกลับปล่อยหมัดเด็ดที่มามัดมือชกให้ผมรับช่วงดูแลกิจการบาร์ดัง และต้องสร้างภาพลักษณ์ใหม่ทั้งตัว...

...มันก็ดีนะ ทุกครั้งที่ผมมองกระจก ผมต้องยิ้มให้กับตัวเอง คอนแท็คเลนส์สีเทาขับให้หน้าสว่างขึ้น ทรงผมที่เข้ากับหน้าทำให้ดูดีขึ้นเยอะ เสื้อผ้า เครื่องประดับราคาสูงกว่าเงินเดือนพนักงานออฟฟิศทั้งเดือนบ่งบอกรสนิยมและฐานะของผู้สวมใส่...ไม่มีใครไม่อยากได้ของพวกนั้นหรอก ถึงแม้ผมจะคิดว่ามันไร้สาระ เพราะเสื้อผ้ามีไว้แค่ทำให้ร่างกายอบอุ่น และปกปิดร่างกายไม่ให้คนอื่นเห็นภาพอุจาด เราไม่จำเป็นต้องใช้ของแพงเลย แต่พอได้ใส่เสื้อผ้าหรูและถือกระเป๋าใบละหกหลักมันก็ทำให้ผมรู้ว่า “เปลือก” ของเราสามารถทำให้คนสนใจ และสร้างภาพลักษณ์ใหม่ได้...
*
*
...พี่ธัญญ่าเจาะเกราะที่ผมสร้างขึ้นมาได้บางส่วน บ่ายวันรุ่งขึ้นผมลุกขึ้นมาเตรียมตัวไปช็อปปิ้งกับยุทธ ในใจก็คิดว่าไม่ได้อยากไปหรอก แต่ทำไมต้องตื่นเต้นเลือกเสื้อผ้าชุดที่ดูดีที่สุดด้วยนะ แค่พาเด็กบาร์คนนึงไปแปลงโฉมตามหน้าที่ ไม่ได้ไปเดทกันซักหน่อย เสื้อผ้าหน้าผมไม่ต้องเป๊ะก็ได้ อืม แต่ป้าธเนศสั่งให้เริ่ดตลอดเวลาที่ออกไปข้างนอกนี่นา ว่าแล้วก็จัดเต็มทั้งเสื้อผ้าหน้าผม...
“รอนานมั้ย”  ผมถามยุทธด้วยสีหน้าเรียบเฉย ทั้งที่ใจเต้นแรงเมื่อเห็นเค้ายืนรอที่ล็อบบี้ด้วยชุดแบบเดิมคือเสื้อยืดกางเกงยีนส์ธรรมดา แต่ดูดีมากเมื่ออยู่บนร่างสูงสมส่วนของเค้า
“ไม่นานครับ ผมเพิ่งเดินมาไม่ถึงห้านาทีนี่เอง”  ยุทธตอบ
“เดินมา”  ผมทวน
“ครับ ห้องใหม่ของผมอยู่ในซอยข้างคอนโดคุณกริช เดินมาแป๊บเดียวก็ถึง”
“อืม...โอเค...งั้นไปกันเลยละกัน”  ผมพยักหน้าก่อนจะเดินนำไปที่ลานจอดรถ
“เราจะไปไหนกันเหรอครับ” ยุทธถามทันทีที่คาดเข็มขัดนิรภัย
“ไปโรงแรมมั้ง”  ผมพูดเล่น
“ให้มันจริงเถอะ”  ยุทธพึมพำ
“พี่ธัญญ่าไม่ได้บอกเหรอ ว่าเราจะไปไหนกัน”  ผมหันไปทำเสียงดุ
“เค้าบอกให้ผมมาพบคุณกริชที่คอนโด แล้วหลังจากนั้นคุณกริชจะทำอะไรก็ให้ผมยอมทำตามทุกอย่าง”  ยุทธตอบซื่อ ๆ
“แล้วคิดว่าผมจะพาไปทำอะไรอ่ะ”  ผมแหย่
“ไม่ทราบครับ แต่ผมยอมทำตามคำสั่งคุณกริชทุกอย่างเลยนะ”  พูดจบยุทธก็เอามือมาวางที่ต้นขาของผม
“เอามือออกไปเดี๋ยวนี้”  ผมลืมตัวตวาดเสียงดัง
“ขอโทษครับ”  ยุทธชักมือกลับทันที
*
*
...หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้พูดกันอีกจนถึงห้างดังใจกลางกรุงเทพฯ ขณะที่เราสองคนกำลังเดินเข้าห้างจากลานจอดรถกันมาเงียบ ๆ ผมมองประตูกระจกตรงหน้า ภาพเงาสะท้อนทำให้ผมเห็นความแตกต่างทางด้านรูปลักษณ์ ผมสวมเสื้อผ้าเครื่องประดับแบรนด์เนมทั้งชุด ส่วนยุทธที่เดินตามหลังอยู่สองก้าวใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์สีซีดและรองเท้าผ้าใบเก่า ๆ...
“เดี๋ยวยุทธต้องเปลี่ยนชุดหน่อยนะ ชอบชุดไหนไปเลือกเอา”  ผมพูดกับยุทธเป็นครั้งแรกในร้านที่เคยมากับพี่ธัญญ่า
“ไม่รบกวนดีกว่าครับ พี่ธัญญ่าบอกว่าคุณกริชจะซื้อชุดออกงานให้ชุดนึง”  ยุทธปฏิเสธ
“พี่ธัญญ่าบอกว่าผมให้ทำอะไรก็ต้องยอมทำตามไม่ใช่เหรอ”  ผมย้อนถาม
“.............................” ยุทธไม่พูดอะไร ได้แต่ยิ้มและเกาท้ายทอยเบา ๆ
“แถมให้ชุดนึง อยากได้ตัวไหนก็ไปลองดู ผมรับไม่ได้ที่คุณแต่งตัวซอมซ่อแบบนี้”  ผมเข้าโหมดเจ้านายปรายหางตามองเค้าก่อนจะเดินไปดูเสื้อผ้าที่แขวนโชว์อีกมุมนึงของร้าน
“ช่วยผมเลือกหน่อยสิครับ” เสียงยุทธดังขึ้นด้านหลัง
“...............................”  ผมอึ้งเมื่อหันไปมองยุทธยืนยิ้มท่อนบนเปลือยเปล่า ในมือถือเสื้อสองตัวเพื่อให้ผมช่วยเลือก
“สองตัวนี้ คุณว่าตัวไหนใส่กับเดฟแล้วดูดีกว่ากัน”
“เอ่อ...ตัวขวามือโอเคกว่านะ”  ผมปรับสีหน้าให้เป็นปกติก่อนจะตอบไป
“อืม งั้นผมเอาตัวนี้ครับ”  ยุทธยื่นเสื้อตัวที่ไม่ได้เลือกคืนพนักงานขาย แล้วสวมเสื้อเชิ้ตตัวที่ผมเลือกทันที
“น้องเค้าตาถึงจัง เลือกชุดได้ Match กันมาก นี่เป็น Collection ใหม่ของทางร้านเราเลยนะคะ ถ้าไม่รู้ว่าน้องมาร้านนี้เป็นครั้งแรก พี่ต้องคิดว่าเค้าเคยมาดูแฟชั่นโชว์เปิดตัว Collection ใหม่ของเราเมื่อสัปดาห์ที่แล้วซะอีก” พนักงานพูดชมยุทธพลางยื่นบัตรเครดิตและสลิปคืนผม ในขณะที่เจ้าตัวเดินไปส่องกระจกอีกด้าน
“เสื้อผ้าที่นี่สวยทุกชุดอยู่แล้ว หยิบมั่ว ๆ มาใส่ก็ดูดี”  ผมชมจากใจจริง
“น้องเค้าล้อหล่อนะคะ คนหล่อใส่อะไรก็หล่อ ขอโทษนะคะ แฟนเหรอคะ”  พนักงานสาวทำหน้าอยากรู้อยากเห็น
“ครับ เราเป็นแฟนกัน”  ยุทธเดินกลับมาได้ยินพอดี เค้าไม่ตอบปากเปล่ากลับโอบบ่าผมไว้แน่น
“จะบ้าเหรอ”  ผมปฏิเสธ แต่รู้ตัวว่าตอนนี้หน้าคงแดงก่ำ
“ไม่ต้องอายหรอกค่ะ ร้านเรามีลูกค้าแบบน้องเยอะ เค้าก็มากันเป็นคู่ ๆ ทั้งนั้นแหละ เดี๋ยวจะไปช็อปปิ้งกันต่อใช่มั้ยคะ งั้นฝากชุดเก่าไว้ที่นี่ก็ได้ค่ะพอจะกลับค่อยแวะมาเอา แหม น้องนี่ใส่เซอร์ก็เซอร์ได้ใจ แต่เวลาแต่งหรูก็หล่อเนี้ยบเลยนะคะ”  พนักงานหันไปชมยุทธอีกครั้งพร้อมส่งยิ้มหวานให้
“ขอบคุณครับ เราไปกันเถอะ รบกวนฝากของไว้ก่อนนะครับพี่คนสวย”  ยุทธพูดกับผมและพนักงานคนนั้นสลับกันไปมา
*
*
...ยุทธก็แค่แหย่เราเล่น เค้าไม่ได้เป็นเกย์ เค้ายังหยอดคำหวานให้พนักงานผู้หญิงสวย ๆ ตามสันดานผู้ชาย แล้วที่จับมือเราเดินอยู่กลางห้างอย่างนี้ คงเพราะแค่จะเอาใจเราในฐานะนายจ้างและคนที่ต้องซื้อของให้เค้าทุกอย่างในวันนี้...
“ปล่อยมือได้แล้ว”
“ทำไมล่ะ อายเหรอ ผมว่าคนเค้ามองคู่เราด้วยสายตาชื่นชมนะ”  ยุทธพูดยิ้ม ๆ
“อายสิ ก็เราไม่ได้เป็นแฟนกันจริง ๆ นี่”  ผมพยายามดึงมือออก
“อืม ลืมไป คุณเป็นเจ้านายนี่นา”  ยุทธปล่อยมือผมทันที
“คุณก็ไม่ใช่เกย์ อย่าฝืนตัวเองเพื่อเอาใจผมอย่างนี้เลย”  ผมย้อน
“.......................................”  ยุทธไม่พูดอะไร แต่ยิ้มหวานละลายใจจนอ่อนยวบก่อนจะจับมือผมอีกครั้ง
“เอ๊ะ”  ผมทำเสียงดุทั้งที่หน้าร้อนผ่าว
“ผมไม่ได้ฝืนตัวเองนะครับ ผมเต็มใจและดีใจที่ได้เดินคู่กับคุณ...รู้มั้ยว่าผมโคตรภูมิใจเลยที่คนอื่นคิดว่าคุณเป็นแฟนผม”
“ปากหวานอย่างนี้แขกติดเยอะแน่ ๆ”
“อืม ในสายตาคุณคงมองว่าผมเป็นผู้ชายขายน้ำเหมือนพนักงานของคุณทุกคนล่ะสิ”  ยุทธชะงัก ปล่อยมือผมแล้วพูดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ
“เอ่อ ผมขอโทษ ผมไม่ได้คิดอย่างนั้น เอาเป็นว่า วันนี้เรามาเดินซื้อของด้วยกันในฐานะเพื่อน ถ้าเข้าบาร์เมื่อไหร่เราค่อยเป็นเจ้านายกับลูกน้อง โอเคมั้ย”  ผมพยายามประนีประนอม
“โอเค ก็ยังดีที่คุณนับผู้ชายขายน้ำอย่างผมเป็นเพื่อน” ยุทธยังตัดพ้อไม่เลิก
“เลิกพูดว่าตัวเองเป็นผู้ชายขายน้ำเถอะ ถ้าคุณพูดอีก เราจะกลายเป็นเจ้านายลูกน้องกันทันทีเลยนะ...ผมเป็นเจ้าของบาร์ อย่าทำให้ผมรู้สึกว่ากำลังเดินกับเด็กในร้าน ถ้าคุณทำตัวเหมือนเพื่อน ผมก็จะเป็นเพื่อนคุณ” ผมพูดเสียงแข็ง
“แล้วถ้าผมทำตัวเหมือนแฟน คุณจะเป็นแฟนผมมั้ยล่ะ”  ยุทธยิ้ม แล้วมองหน้าผมอย่างมีความหมาย

******************************************************************************************************

ขอบคุณสำหรับทุกคำติชมนะครับ สีอื่นเค้ามาลงตอนใหม่ เราก็ต้องตามให้ทัน ได้เขียนนิยายแบบใหม่ที่ต้องดึงคนหรือเหตุการณ์ของเรื่องอื่นมามันท้าทายดี ผู้เขียนชอบเขียนนิยายสด ๆ แต่ถ้ากิจกรรมอย่างอื่นสดไม่ได้นะครับ 555++
MonarcH
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่5 กองถ่าย P:3 [21/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 22-05-2011 02:42:43
:m17: ปลายฟ้าก็ไม่ผิดนะที่ไม่ชอบพี่ลม
ก็อยู่ใกล้แค่นั้นไม่จีบน้องมันเองสมหน้า
  :z2:


พี่แตะใจร้าย  มาว่าพี่สายลมได้ไง  สายลมเค้าก้อต้องกลัวสิว่าพูดออกไปแล้วปลายฟ้าจะเหมมือนเดิมหรือเปล่า



ปล.พี่นัทพูดดูดีมีเหตุผล  หมูลืมมองมุมนี้ไป  โทษทีนะพี่ลม  จุ๊บๆๆ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 4 PG. 3 [22/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 22-05-2011 02:47:58
แรว๊งส์...............




แต่ช้อบชอบ :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 4 PG. 3 [22/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 22-05-2011 07:18:04
 :impress2: ทำตัวเหมือนแฟน ฮิ้วววว
ชอบๆๆ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 4 PG. 3 [22/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: แรงเทียน ที่ 22-05-2011 07:29:49
กริช คนนี้ถ้าเทียนจะเอา กริชจะยอมมะ อิอิ อุอิอุอิ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 4 PG. 3 [22/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 22-05-2011 08:26:53
ชอบยุทธ  น่ารัก
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่6 เสียงเรียกในกองเพลิง(50%)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 22-05-2011 09:13:15
น้องไนท์น่ารักพี่เตไปไหนไม่รอดชัวร์
ไม่รู้ทำไมอยากช่วยพี่เตดูแลจังแฮะ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 4 PG. 3 [22/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: mutoo ที่ 22-05-2011 10:02:07
ยุทธมันลามปาม
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 4 PG. 3 [22/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 22-05-2011 11:00:50
ส่งยุทธมาทางนี้ก็ได้นะครับ  :z1:

ยินดีต้อนรับเสมอเลย  :-[
หัวข้อ: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/ Chapter.3 Cell (fact) 22/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: Nassiiz ที่ 22-05-2011 11:24:44
(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page12.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page13.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page14.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page15.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page16.jpg)

----------------------------------------------------------------------------------------

-Ps-
ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ และขอบคุณที่ติดตามนะคะ ^^

-หมายเหตุ* แก้ไขข้อผิดพลาดค่ะ
หน้า 15  บรรทัดที่ 2 ของย่อหน้าแรก (หลังบทสนทนาที่ยองอุลกับจุนซูหันมาทักพร้อมกัน "นี่เขา!")
จะรั้งข้อมือข้อมือแข็งเกร็งหมวดหนุ่ม... เป็น จะรั้งข้อมือที่แข็งเกร็งของหมวดหนุ่ม)
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 4 PG. 3 [22/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 22-05-2011 11:59:32
แย่งกันเข้าไป อะไรกันนักหนาจ๊ะ

แต่คืนนี้ อีตายุทธ โดนเจ้ ออฟ มาแล้ว เฮอะ  :pigha2:
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่6 เสียงเรียกในกองเพลิง(50%)
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 22-05-2011 12:07:21
น่ารักอ่า
ไนท์น่ารักจังเลย ><
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz (ตอนที3 เลือดสาดพอเบาะ ๆ) 22/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 22-05-2011 12:18:13
เรื่องนี้น่าจะเสียเลือดเยอะที่สุดนะ  ผีดิบมาทีนี่เลือดสาดกระจาย :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 4 PG. 3 [22/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 22-05-2011 13:32:07
โอ๊ะ  ดูท่ากริชจะแย่ซะแล้ว
ยุทธเนี่ยดูจะไม่ใช่ธรรมดานะเนี่ย :laugh:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 4 PG. 3 [22/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 22-05-2011 13:51:05
“แล้วถ้าผมทำตัวเหมือนแฟน คุณจะเป็นแฟนผมมั้ยล่ะ”


เป็นค่ะ   :-[
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่5 กองถ่าย P:3 [21/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 22-05-2011 13:57:05
กล่องของขวัญปริศนา???????
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่5 กองถ่าย P:3 [21/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 22-05-2011 14:01:13
อึดอัดแบบนี้ ต้องข่มขู่คนแต่งซะหน่อย

แฮร่~~~~ (แยกเขี้ยวประกอบด้วยเพื่อความน่ากลัว)
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่5 กองถ่าย P:3 [21/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: Muzik ที่ 22-05-2011 14:15:41
น้องหวานหวาน เอ๊ย..น้องปลายฟ้าจะรู้บ้างรึเปล่าว่าพี่ลมหลงรักอยู่  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 4 PG. 3 [22/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 22-05-2011 14:28:10
ยุทธหยอดกริชตลอดเลย :laugh:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่6 เสียงเรียกในกองเพลิง(50%)
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 22-05-2011 14:45:50
น่ารัก :-[
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่3 [21/05/54] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 22-05-2011 14:47:50
 :give2: มาโฆษาณาบ้าง ว่าเย็นนี้จะพาคุณหนูมาส่งครับ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่3 [21/05/54] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 22-05-2011 14:53:11
มารอคุณหนู o18
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่3 [21/05/54] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 22-05-2011 14:59:51
จะเกาะขอบเตียงรอเลยค่ะ หุหุ   
:z1:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 4 PG. 3 [22/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 22-05-2011 15:05:09
ยุทธเป็นใครนะ  แล้วที่มาสมัครงานที่นี่เพราะเหตุใด
จะเป็นคนของป้าธเนศหรือเปล่า แล้วสังเกตเวลาที่ญาญ่าคุยกับยุทธ
เหมือนรู้ๆกันนะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่6 เสียงเรียกในกองเพลิง(50%)
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 22-05-2011 15:18:52
น้องไนท์  พี่เต น่ารักๆๆๆๆ :o8:
ชื่อตอนแอบน่ากลัวอ่ะ อีก 50% จะเกิดอะไรขึ้นบ้างเนี่ย :serius2:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๔. ๒๑ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 22-05-2011 15:22:41
เมื่อไหร่จะตบกันอ่ะ อิอิ ตบเลยๆๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่3 [21/05/54] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 22-05-2011 15:23:37
กริ๊ดดด อย่าบอกนะว่าในถุงกระดาษนั้นมีกุงเกงในตัวจิ๋วที่จะให้บรูโน่ใส่ :haun4: อยากเห็น ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 4 PG. 3 [22/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 22-05-2011 15:29:40
ยุทธมีเบื้องหลังอะไรหรือเปล่า  ป้าส่งมาลองใจแหงๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่3 [21/05/54] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 22-05-2011 15:55:39
คุณหนูเวลาอ้อนๆเนี่ย น่ารักจังเลย
ว่าแต่ตัวละครในโปรเจ็คสายรุ้งมันเกี่ยวพันกันแบบนี้
อยากรู้จังว่าคนแต่งแต่ละคน คุยเรื่องพล็อตกันยังไง
ให้ตัวละครเรื่องนู้นไปโผล่เรื่องนี้อ่ะ แต่ก็น่าสนุกดี ชอบๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่3 [21/05/54] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 22-05-2011 15:57:14
บรูโน่เสร็จแน่เลย คืนนี้!!!!!
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 4 PG. 3 [22/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 22-05-2011 15:59:48
เชียร์ให้กริชใจอ่อนกะยุทธไวๆ :impress2:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 4 PG. 3 [22/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 22-05-2011 16:08:10
ร้ายนะยุทธ
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่6 เสียงเรียกในกองเพลิง(50%)
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 22-05-2011 16:11:46
อยากอ่านที่เหลือ ว่าจะน่ารักกว่านี้อีกไหม
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่3 [21/05/54] P.3
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 22-05-2011 16:17:44
 
(http://upic.me/i/0u/445-1.jpg) (http://upic.me/show/24504768)


เล่ห์ร้าย
ตอนที่ 4.

วิธวินท์อุ้มเด็กชายขึ้น โดยให้ศีรษะของคุณหนูพาดอยู่บนบ่า แขนอ่อนแรงที่ตกอยู่ข้างลำตัวชายหนุ่มก็จับให้คล้องคอเขาไว้ แล้วดึงถุงกระดาษในมือของเด็กชายมาถือไว้เอง เรียกเสียงครางอือเบาๆ แสดงอาการขัดใจจากเด็กชายเล็กน้อย แขนแกร่งกอดอยู่ที่หลังพาดมาประคองที่บ่าเพื่อไม่ให้คุณหนูตก แขนอีกข้างกอดอยู่ที่ใต้สะโพก แล้วจึงเดินเข้าเรือนคุณปู่ไป

ชายหนุ่มวางร่างเด็กชายลงบนเตียงนุ่ม จัดการห่มผ้าให้เรียบร้อย แล้วหยิบถุงกระดาษที่วางอยู่ตรงหัวนอนเพื่อจะเอาไปวางไว้ที่อื่น แต่ด้วยความสงสัยวิธวินท์จึงยกถุงนั้นขึ้นมาเขย่าเบาๆ ที่ข้างหู เสียงสิ่งของข้างในกระทบกัน แต่ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร ชายหนุ่มจึงเลิกสนใจแล้ววางมันไว้ที่โต๊ะข้างหัวเตียง
เมื่อวิธวินท์ตรวจดูความเรียบร้อยทุกอย่างแล้ว ชายหนุ่มจึงจะลุกขึ้นจากเตียง แต่มือเล็กๆ ก็ดึงข้อมือของเขาไว้เสียก่อน
“บรูโน่ อาบน้ำให้หน่อย” ลลิตพูดออกมาเบาๆ แต่ความเงียบภายในห้องทำให้วิธวินท์ได้ยินอย่างชัดเจนเลยทีเดียว แล้วจากมือที่ดึงอยู่เพียงข้างเดียว ร่างเล็กก็เปลี่ยนมาเป็นขยับลุกจากเตียงมาเกาะแขนชายหนุ่มไว้แน่น
“เหนียวตัว จะอาบน้ำ” ลลิตบอกย้ำ มือก็แปะป่ายไปตามเนื้อตัวของชายหนุ่ม
“ครับๆๆ อาบน้ำกันนะ” วิธวินท์จึงอุ้มเด็กชายลงจากเตียงอีกครั้ง แล้ววางลงให้ยืนแต่ก็ยังใช้แขนประคองไว้ที่หน้าตู้เสื้อผ้า ชายหนุ่มเปิดตู้เพื่อหาเสื้อผ้าและผ้าขนหนู ลลิตก็อยู่ไม่สุข ดิ้นจะดึงเสื้อตัวเองออก ปากก็บ่น ร้อนๆ จนชายหนุ่มไม่สามารถหยิบเสื้อผ้าได้จึงได้แต่ดึงแค่ผ้าขนหนูผืนใหญ่พาดบ่าแล้วกึ่งอุ้มกึ่งยกร่างเล็กไปที่ห้องน้ำ เมื่อลองปล่อยร่างเล็กให้ยืนด้วยตัวเอง ก็ทำท่ายืนเอียงๆ เซๆ วิธวินท์จึงเข้าไปยืนซ้อนหลังเพื่อให้เด็กชายพิง แล้วจับชายเสื้อขึ้นดึงออกทางศีรษะ แต่ก็ทุลักทุเลเพราะร่างเล็กไม่ยอมอยู่นิ่ง ปากก็งึมงำอะไรไปด้วย จนเสื้อยืดเนื้อนิ่มหลุดจากตัวได้ วิธวินท์ก็กอดเอวลลิตไว้เพื่อจะปลดกางเกง เด็กชายก็ดิ้นเอามือปาดปัดไปทั่วจนไปโดนวาล์วเปิดฝักบัว สายน้ำจากฝักบัวที่ฝังอยู่บนเพดานก็ไหลลงมาจนเปียกไปทั้งสองคน ชายหนุ่มจะเอื้อมมือไปปิด แต่ลลิตก็หมุนตัวกลับมาหา วิธวินท์กลัวว่าจะล้มจึงต้องปล่อยสายน้ำให้ไหลต่อไปแล้วหันกลับมากอดร่างกึ่งเปลือยของเด็กชายไว้แทน
“บรูโน่ก็ถอดด้วยสิ เปียกหมดแล้ว” ลลิตพยายามดึงเสื้อของชายหนุ่มขึ้น แต่ด้วยความที่ไม่มีแรงมากนักก็เลยหันมาทึ้งกางเกงแทน จนตะขอกางเกงหลุดออก ชายหนุ่มรีบดึงมือเด็กชายไว้ด้วยความตกใจ
“เดี๋ยวผมอาบน้ำให้คุณหนูก่อนนะครับ แล้วผมค่อยมาอาบเอง”
“เสียเวลาน่า ง่วงแล้ว” เสียงเด็กชายเริ่มขึ้นจมูกแสดงถึงความไม่พอใจ
“ครับๆ อาบครับ” เสียเวลาที่จะเถียงกับคนเมา วิธวินท์จึงขยับให้เด็กชายเอาหลังพิงผนังห้องน้ำไว้ แล้วเอาตัวเองกันไว้ไม่ให้ล้มลง จัดการถอดเสื้อตัวเองโยนไปส่งๆ แล้วหันกลับมาจัดการกางเกงของเด็กชาย มือเล็กๆ ก็ยังคงอยู่ไม่สุขเช่นเคยฝ่ามือลูบไล้แปะป่ายไปมาเบาๆ ทั้งที่ตายังปิดอยู่ จนทั้งสองร่างเปลือยเปล่าอยู่กลางสายน้ำ

วิธวินท์ลูบไล้ฟองสบู่นุ่มๆ ไปตามผิวขาวเนียน ร่างเล็กที่เริ่มสงบลงเพราะสบายตัวขึ้นก็เอนตัวพิงชายหนุ่มไว้ทั้งตัวซบหน้าลงกลางอกแขนพาดขึ้นไปเกี่ยวที่ลำคอของวิธวินท์ สองร่างแนบชิดกันจนชายหนุ่มรู้สึกหายใจติดขัดหัวใจเต้นแรง เลือดสูบฉีดไปที่กลางลำตัวจนปั่นป่วน วิธวินท์จึงรีบล้างตัวให้สะอาดแล้วปิดน้ำ พาเด็กชายไปห่อตัวด้วยผ้าขนหนูผืนใหญ่ แล้วใช้ผ้าผืนเล็กอีกผืนคลุมที่ศีรษะแล้วอุ้มมาวางไว้ที่เตียง จากนั้นก็รีบไปหาเสื้อผ้าให้ทั้งตัวเองและคุณหนู ชายหนุ่มมีเสื้อผ้ามาทิ้งไว้ที่นี่สองสามชุด จึงรีบเอาเสื้อผ้าใส่ให้ตัวเองลวกๆ แล้วหยิบชุดนอนเนื้อนิ่ม มาจัดการสวมให้เด็กชาย แล้วจัดท่าให้นอนหนุนที่ตักของเขาแล้วเช็ดผมชื้นๆ นั้นให้แห้งสนิท แขนเล็กยกขึ้นโอบกอดเอวของวิธวินท์ไว้ ใบหน้าขาวซุกลงกับตักอุ่นหลับตาพริ้มดูมีความสุข

ชายหนุ่มมองนาฬิกาที่บอกเวลาตีสองกว่า แล้วชะเง้อมองออกไปที่หน้าต่างห้องก็ไม่เห็นมีรถที่คุณสมบูรณ์ขับมาจอดอยู่ที่เดิมเสียแล้ว วันนี้เขาคงต้องค้างที่เรือนคุณปู่ วิธวินท์ขยับตัวอุ้มให้เด็กชายลงไปนอนหนุนที่หมอน ตัวเขาเองจะออกไปอาศัยโซฟาหลังใหญ่ที่ห้องด้านนอกเพื่อหลับนอนในคืนนี้ ชายหนุ่มขยับตัวอย่างแผ่วเบาเพราะกลัวร่างเล็กที่หลับสนิทอยู่บนเตียงจะรู้สึกตัว แต่เด็กชายก็ปัดแขนไปมาที่ข้างลำตัวเหมือนต้องการหาอะไรสักอย่าง จนมาแปะเข้ากับมือของวิธวินท์ที่กำลังยันตัวจะลุกจากที่นอน ร่างเล็กขยับเข้าไปหาสิ่งอบอุ่นที่ค้นหาเจอเหมือนมีแรงแม่เหล็กดึงดูด ลลิตดึงแขนชายหนุ่มมากอดไว้

“คุณปู่ ริชหนาวจัง” ปากอิ่มพึมพำบางอย่างออกมาเบาๆ ฟังไม่ได้ศัพท์ ชายหนุ่มที่กำลังพยายามแกะมือของเด็กชายออกจึงก้มลงไปใกล้ๆ ก็ได้ยินอีกประโยคที่ทำให้จิตใจอ่อนยวบ
“คุณปู่ อย่าทิ้งริช ฮืออ” เสียงแผ่วเบาปนสะอึกหลุดออกมาจากปากเด็กชาย มีน้ำตาซึมออกมาจากดวงตาที่ปิดสนิท  วิธวินท์เกลี่ยปลายนิ้วเช็ดน้ำตาให้อย่างเบามือ แล้วตัดสินใจสอดตัวลงไปนอนเคียงข้างโอบกอดร่างเล็กในเอาไว้
“ไม่ทิ้งครับ นอนนะครับเด็กดี” วิธวินท์กระซิบแผ่วเบาปลอบประโลมเด็กชายที่อยู่ในอ้อมกอด ลูบที่ผมนุ่มแผ่วเบา
ลลิตสอดแขนเข้าไปกอดร่างใหญ่ไว้แน่น เรียวขาเล็กก่ายพาดเกี่ยวไว้อีกทาง เพราะกลัวว่าร่างอบอุ่นที่กกกอดอยู่จะหายไป
ชายหนุ่มซบหน้าแนบกับผมนิ่มใช้ปลายนิ้วขมวดเล่นไปเรื่อยๆ


สองร่างกอดกระหวัดกันแนบแน่นอยู่บนเตียงหนานุ่ม เสื้อผ้าที่มีอยู่ติดกายมลายหายไปจนสิ้น ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้ไปตามผิวละเอียดนวลเนียน พลิกพลิ้วไปมาจนผ้าห่มนวมผืนสวยลงไปกองอยู่ข้างเตียง ชายหนุ่มพลิกร่างเล็กให้ขึ้นมาอยู่บนร่างตนเอง ฝ่ามือสอดเข้าไปกระชับท้ายทอยให้แลกจูบกันอย่างดูดดื่ม มือร้อนรุ่มอีกข้างก็ลูบโลมไปตามแผ่นหลัง ก่อนเลื่อนลงไปบีบเคล้นที่สะโพกเล็กเบาๆ แล้วพลิกให้เด็กชายลงไปอยู่ใต้ร่างของเขาโดยที่ริมฝีปากมิได้ห่างกันแม้แต่วินาทีเดียว สองมือน้อยลูบไล้ขึ้นมาตามบ่าตามไหล่แล้วกอดคอชายหนุ่มไว้แน่น สองร่างบดเบียดเสียดสีจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน
 ......
....
..
.
.
“บรูโน่! จะนอนไปถึงเมื่อไหร่ ฉันหิวแล้วนะ” ลลิตใช้เสียงดังกว่าปกติเรียกวิธวินท์ที่กำลังนอนหลับเอาหน้าซุกกับหมอนหนุนใบใหญ่ ที่กลิ่นหอมอ่อนๆ ของแชมพูที่เขาสระให้เด็กชายเมื่อคืน ติดอยู่จนอบอวล ชายหนุ่มตกใจเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง แต่มือยังกอดหมอนติดมาด้วย
“โตแล้วยังติดหมอนอีก อยากกินหมูทอด ฉันรออยู่ข้างนอกนะ อย่าช้าล่ะ” ลลิตเดินส่ายศีรษะออกไปเบาๆ ชายหนุ่มปล่อยหมอนหลุดมือมองตามร่างเล็กที่เดินพ้นประตูออกไป ทบทวนความฝันที่เสมือนจริงเมื่อครู่แล้วรู้สึกไหววูบไปทั้งตัว ก้มลงมองที่กลางลำตัวก็พบความเปลี่ยนแปลงของตัวเองที่นูนเด่นขึ้นมา จึงรีบกระโดดลงจากเตียงไปชำระล้างร่างกายในห้องน้ำทันที

เขาคิดบ้าๆ แบบนั้นกับคุณหนูได้อย่างไร คุณหนูยังเด็กอยู่เลย แถมเป็นเด็กผู้ชายอีก ชายหนุ่มคิดด่าทอตนเองซ้ำไปซ้ำมา แต่ร่องรอยการสัมผัสในฝันนั้นช่างเหมือนจริงเหลือเกิน ทั้งฝ่ามือ ทั้งความนุ่มนวลหอมหวานของริมฝีปากก็ยังรู้สึกได้อยู่ วิธวินท์สะบัดศีรษะแรงๆ ไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไปจากสมอง รีบจัดการกับตัวเองแล้วออกมาทำเมนูที่คุณหนูต้องการ

น้อยครั้งนักที่คุณหนูเล็กของคฤหาสน์หลังงามแห่งนี้จะร้องขอเรื่องอาหารการกิน เมื่อแม่บ้านทำอะไรให้รับประทานก็ทาน จานไหนที่ไม่โปรดปรานก็จะไม่แตะต้องแต่ก็ไม่ได้มีคำบ่นออกมาจากปากคุณหนู
แต่วันนี้กลับสั่งให้วิธวินท์ทำเมนูง่ายๆ ทำให้สาวใช้ที่ตามมาบริการที่เรือนคุณปู่ถึงกลับแปลกใจ และต้องเก็บอาหารที่เตรียมมากลับไปเนื่องจากคุณหนูไม่ต้องการ
ชายหนุ่มนั่งร่วมโต๊ะอาหารเช้ากับลลิตที่ศาลาริมน้ำหน้าเรือนคุณปู่ แดดอ่อนๆ ที่ส่องลอดผ่านต้นไม้ใหญ่ลงมาทำให้บรรยากาศช่างรื่นรม เด็กชายตักหมูทอดชิ้นพอดีคำที่วิธวินท์ทำเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย จนซอสสีแดงสดติดอยู่ที่มุมปากชายหนุ่มจึงชี้ให้คุณหนูเช็ดออก แต่เด็กชายก็เช็ดออกไม่หมด ชายหนุ่มก็ชี้อีกว่าติดอยู่ที่ตรงไหนบ้าง จนเด็กชายเริ่มรำคาญเลยยื่นหน้าเข้าไปใกล้ให้วิธวินท์เป็นผู้เช็ดออกให้
ใบหน้าขาว ตากลมโตสีน้ำตาลเข้ม จมูกเล็ก ริมฝีปากอิ่มสีชมพูสดเผยออกเล็กน้อยที่อยู่ในระยะประชิด ทำให้ชายหนุ่มคิดถึงความฝันเมื่อรุ่งเช้าขึ้นมาอีกครั้ง มือใหญ่หยิบกระดาษทิชชู่เช็ดคราบซอสให้อย่างแผ่วเบา แล้วต้องรีบถอยห่าง ชายหนุ่มรับรู้ถึงความรู้สึกแปลกประหลาดที่เข้ามาจู่โจมหัวใจตัวเอง จนใจเต้นคร่อมจังหวะ

พอตอนสายลลิตก็ให้สาวใช้ไปขนอุปกรณ์ศิลปะเอามากองที่ชั้นลอยของเรือนคุณปู่ หลังคาแบบเปิดโล่งทำให้ลมพัดผ่านเย็นสบาย บนชั้นนี้เป็นสวนหย่อมปลูกไม้ดอกแบบกระถาง มีเสียงน้ำไหลจากน้ำพุเล็กเป็นรูปคันโยกจำลอง ปูพื้นด้วยไม้ปาเก้ มุมหนึ่งมีชิงช้าไม้ขนาดสองคนนั่ง ผูกโยงด้วยเชือกเส้นใหญ่

สาวใช้นำเสื่อผืนใหญ่มาปู มีหมอน และอาหารว่างเตรียมไว้ให้พร้อมเพรียง แล้วปล่อยให้ชายหนุ่มกับเด็กชายผสมสีเพื่อ ทำงานศิลปะส่งเป็นการบ้านในวันจันทร์ที่จะถึง
วิธวินท์จัดการนำน้ำใส่กระป๋องมาไว้สำหรับล้างพู่กันและผสมสีให้เด็กชาย ที่ตอนนี้กำลังสนุกกับการเอาสีลงใส่จานสี ชายหนุ่มวางกระป๋องน้ำไว้ใกล้มือเพื่อให้เด็กชายใช้ได้อย่างสะดวก แล้วหันมาเตรียมกระดาษที่จะใช้วาดรูปให้ ลลิตรับกระดานวาดรูปมาวางกับพื้น แล้วลากดินสอวาดรูปวงกลมลงไป เพื่อทำวงจรสี แล้วจัดการนำสีที่ผสมรอไว้แตะแต้มลงไปในวงกลมทีละสีๆ อย่างเบามือ

ชายหนุ่มนั่งมองเด็กชายที่นั่งก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างตั้งใจนัยน์ตาสดใสเปล่งประกาย ยิ้มนิดๆ จนเห็นรอยบุ๋มของลักยิ้มเมื่อลงสีได้ถูกใจ ไม่ได้สนใจว่าปลายนิ้วจะเลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปขนาดไหน จนเมื่อเสร็จเด็กชายชูกระดานขึ้นอวดชายหนุ่ม เขาก็ยิ้มให้แล้วเอ่ยชม และจึงส่งผลงานให้วิธวินท์เอาไปวางตากไว้ แล้วหันมาทำงานอีกชิ้นที่เป็นการผสมเพื่อไล่สีรุ้งให้เต็มหน้ากระดาษ ชายหนุ่มเดินกลับเข้ามาแล้วก้มมองผลงานการลงสีของเด็กชายอยู่ใกล้ๆ ลลิตเงยหน้าขึ้นมา เห็นวิธวินท์กำลังก้มหน้าก้มตาดูที่ผลงานบนพื้น จึงยกพู่กันที่มีสีเหลืองติดอยู่ที่ปลายแปะเข้าที่ปลายจมูกของชายหนุ่ม เขาตกใจแล้วผงะถอยหลัง เด็กชายส่งเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วก็ยันตัวยื่นแขนไปเพื่อจะเอาพู่กันปาดที่แก้มชายหนุ่มอีกครั้ง คราวนี้วิธวินท์ถอยหนีได้ทัน ลลิตจึงคลานกับพื้นตามติดไป ดึงชายเสื้อของชายหนุ่มไว้แล้วกระโดดขึ้นไปนั่งคร่อมบนหน้าท้อง ริมฝีปากอิ่มหัวเราะร่วนไม่หยุด ชายหนุ่มยกแขนขึ้นมากันมือของเด็กชายไว้ หลับตาปี๋ ปากก็ร้องบอกเด็กชายว่าอย่าแกล้งตนเอง
ลลิตรู้สึกว่าพู่กันอันเดียวมันไม่ทันใจจึงทิ้งมันลงแล้วใช้นิ้วมือทั้งห้าจิ้มลงไปที่จานสีแล้วมาแกล้งชายหนุ่มต่อ วิธวินท์จึงยกมือขึ้นมาจับข้อมือทั้งสองข้างของเด็กชายไว้ ลลิตดิ้น สะบัดมือไปมาหัวเราะคิกคักไม่หยุด จนเสียหลักจะเอียงข้างล้มลง ชายหนุ่มตกใจรีบปล่อยมือจากข้อมือเล็ก แล้วมารองที่ศีรษะของเด็กชายไว้
“โอ๊ะ!!” เสียงเด็กชายร้องออกมาอย่างตกใจ หลับตาแน่น แต่กลับไม่เจ็บอย่างที่คิด จึงลืมตาขึ้นมาช้าๆ ก็พบเข้ากับดวงตาคมที่มองอยู่ก่อน ในระยะใกล้ปลายจมูกแทบจะชนกัน ดวงตาใสกลมโตอยากจะหลบแต่กลับไม่สามารถทำได้ เหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่างให้มองสบตากันนิ่งในท่านั้น
ใบหน้าคมเคลื่อนเข้าหาช้าๆ จนรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆ ลลิตหลับตาปรือตาลง จนริมฝีปากเกือบจะสัมผัสกัน
“บะๆ บรูโน่ ฉันหนัก” เด็กชายหลับตาปี๋พูดออกมาอย่างตะกุกตะกัก ชายหนุ่มก็หยุดชะงักทันที แล้วรีบถอยตัวลุกขึ้น เพราะร่างของเขานอนทับขาของคุณหนูไว้ข้างหนึ่ง ทั้งสองผละห่างออกจากกัน ลลิตรีบไปล้างมือแล้วหยิบพู่กันอันใหม่มาก้มหน้าระบายสีต่อเงียบๆ ชายหนุ่มก็ยังคงนั่งอยู่ในท่าเดิมแต่แอบชำเรืองมองเด็กชายเป็นระยะ

วิธวินท์นั่งอยู่ที่โต๊ะหน้าคณะเพื่อรอเข้าเรียน เพื่อนๆ ของเขาต่างส่งเสียงหยอกล้อพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน แต่ชายหนุ่มกลับนั่งเงียบใช้ความคิดอยู่เพียงลำพัง ไม่ได้สนใจใคร
หลายต่อหลายครั้งที่วิธวินท์แอบเอาเด็กชายมาจินตนาการ ดวงหน้าเล็ก ขาวเนียนตากลมใสที่ปกปิดแววตาดื้อดึงไว้ไม่มิด จมูกเล็กๆ น่าบีบเล่นเวลาที่สั่งคำสั่งเอาแต่ใจกับเขา ริมฝีปากอิ่มที่ขบเข้าหากันเวลาที่ถูกขัดใจ ภาพของคุณหนูอยู่ในห้วงของความคิดของชายหนุ่มแทบจะตลอดเวลา จนบางครั้งถึงขั้นเก็บมาฝัน แต่ไม่มีครั้งไหนที่ลึกซึ้งดังเช่นเมื่อคืนวันก่อน ที่ถึงขั้นคลอเคล้ากันโดยปราศจากเสื้อผ้าอาภรณ์
“เชี่ยวิน มึงจะเข้าฌานรึไงวะ” เสียงจ๊อดเพื่อนในกลุ่มที่สังเกตชายหนุ่มมาได้สักพักเอ่ยถามเสียงดัง
“มึงกะจะนั่งทางในไปดูข้อสอบอาจารย์เป็ดคนเดียวใช่มั้ย” เสียงของชาย เพื่อนอีกคนถามมาบ้าง แถมเอ่ยชื่อเล่นของอาจารย์ประจำวิชาอย่างสนิทสนม
“แต่แม่งหน้าแดง กูว่าไม่ใช่ว่ะ แม่งคิดเรื่องอย่างว่าแหงๆ”
“เฮ้ย กูเปล่า” วิธวินท์รีบปฏิเสธออกมาเสียงระรัว ทั้งที่ใจเต้นตึกตักเพราะเขากำลังคิดถึงความฝันที่สนิทแนบแน่นกับเด็กชายอยู่จริงๆ
“แต่กูว่าใช่แน่ๆ เลยว่ะ นั่งเหม่อตาเยิ้มแบบนี้ ถามจริงๆ น้องน้ำฝนเด็ดมั้ยวะ” เพื่อนๆ ทำเสียงเฮฮาเข้ามารุมล้อมชายหนุ่มแล้วถามกันเสียงขรม เดาส่งไปเรื่อยถึงสาวสวยคณะเภสัชนามว่าน้ำฝนที่มาส่งไมตรีให้กับวิธวินท์เป็นรายล่าสุด
“เฮ้ยไม่ใช่ ไม่เกี่ยวกับน้ำฝน”
“มึงมีคนใหม่แล้วไม่มาอัพเดทให้พวกกูฟังเหรอวะ”
“กูไม่มี เชี่ยนี่ เรียนโว้ยๆ” ชายหนุ่มรีบตัดบทหยิบตำราเรียนลุกจากโต๊ะ

“อ่ะๆ” ปอ เพื่อนที่นั่งใกล้ชายหนุ่มที่สุดส่งกระดาษแผ่นเล็กมาให้ ข้างในมีเนื้อความว่า
‘มึงเป็นอะไรวะ พวกกูเป็นห่วง เห็นเงียบผิดปกติ’
ชายหนุ่มจึงเขียนตอบกลับไป
‘ไม่มี’
‘พวกกูไม่เชื่อ เดี๋ยวนี้มึงหายๆ ติดต่อไม่ได้บ่อยๆ เรื่องแม่มึงหรอ’
‘ไม่ใช่ แม่กูดีขึ้นแล้ว’
‘มึงไม่ไว้ใจพวกกูเหรอ’ ชายหนุ่มได้รับกระดาษมา พออ่านเนื้อความแล้วมองไปที่เพื่อนๆ ที่คบสนิทสนมช่วยเหลือกันมาตั้งแต่ปีหนึ่ง ทุกคนมองมาด้วยความเป็นห่วงอย่างจริงใจ ชายหนุ่มจึงตัดสินใจเขียนตอบ และพับกระดาษแผ่นนั้นส่งกลับ เพื่อนทุกคนก็สุมหัวกันดูกระดาษแผ่นเล็กแล้วก็พร้อมใจกันส่งเสียง

“เชี่ยแล้วไง!!!!!!”



เพราะประโยคสั้นๆ ที่วิธวินท์ตอบกลับไปมีความว่า




‘กูว่า กูชอบเด็กผู้ชายเข้าแล้วว่ะ’


=========> โปรดติดตามตอนต่อไป
 :m14: อิอิ คงมีหลายคนค้าง อย่างน้อยก็บรูโน่คนนึง 555
คุณหนูอายุ 12-13 ปีครับ ออกจะแก่แดดเกินวัย ขรึมและดื้อเงียบครับ
ในถุงใบนั้นมีอะไรก็ยังไม่รู้ครับ พี่ญ่ากับคุณหนูเค้ารู้กันสองคน  :z1:
เรื่องพล็อตเนี่ยก็ต้องคุยกันครับ ทุกคนจะเอาแนวเรื่องหลักๆ มาแชร์กันก่อน
แล้วแนวทางของเรื่องใหนที่ไปกันได้ก็ตกลงกันไปครับ ว่าตัวละครตัวไหนจะออกตรงไหนยังไง
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่4 [22/05/54] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 22-05-2011 16:47:04
อ่า
เริ่มจะหลงรักตาหนูนี่ซะแล้วสิ 55+
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่4 [22/05/54] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 22-05-2011 17:12:16
คุณหนูเริ่มทำตัวน่ารักขึ้นทุกวันแล้ววววว
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่4 [22/05/54] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 22-05-2011 17:36:34
วินกลายเป็นโชตะค่อนไปแล้วล่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๔. ๒๑ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๓
เริ่มหัวข้อโดย: แรงเทียน ที่ 22-05-2011 18:08:42
 (http://upic.me/i/p7/rfred.jpg) (http://upic.me/show/24397222)


ตอนที่ ๕

“ทำไมทำแบบนี้ทาน หา ทำแบบนี้ทำไม ทานเห็นความไว้เนื้อเชื่อใจของเทียนเป็นอะไร ทานเห็นเทียนเป็นควายเหรอ ตอบมา ทำแบบนี้ทำไม”
พอเดินออกจากบริเวณงานเทียนบุญก็ลากแขนของธรรมทานให้เดินตามไปที่รถ พอปลอดคนก็ระเบิดอารมณ์ออกมา ธรรมทานหน้าซีด คิดย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่อังกฤษ เทียนบุญเคยอาละวาดจนคู่กรณีอีกคนต้องย้ายที่อยู่ไปเลย
“เอ่อ เทียนฟังทานก่อน สิ นะครับที่รัก”
“เพียะ”
ยังเอ่ยไม่ทันจบคำเทียนบุญก็ฟาดมือลงไปบนหน้าของธรรมทานจนหน้าหันไปอีกด้านตามแรงตบ
“ยังไม่เข็ดใช่ไหมทาน เห็นเทียนเป็นควายหรือไง หา”
“มะ ไม่นะเทียน”
เสียงของเขาสั่นเทาไปด้วยความกลัว
“จำไว้ ถ้าเห็นเทียนเป็นควาย ควายตัวนี้ล่ะจะทำให้ทานย่อยยับ จะพูดอะไรพุดมาอย่ามาอ้ำอึ้ง”
ตวาดกลับคืนจ้องหน้าตาเขม็ง
“เอ่อ เมย์เขาหลอกทานน่ะเทียน เขาบอกว่าอยากให้ทาน”
“ตอแหล มันจะมาหลอกทานได้ยังไง ทานก็รู้ว่าเทียนเป็นคนบอกเรื่องนายแบบ คิดว่าเทียนโง่เหรอ หา”
“เทียน ไม่ใช่แบบนั้นนะ เมย์เขาหลอกทานจริงๆ เขาบอกว่าจำเป็นจริงๆ ทานก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนี้”
“แล้วคิดว่ามันจะเป็นยังไง คิดว่าเทียนจะต้องหน้าชาร้องไห้เสียใจน่ะเหรอ รู้จักเทียนน้อยไปใช่ไหม หรือว่ารู้จักไม่พอ”
“เทียน”
“เอากุญแจรถมา”
“เทียนจะไปไหน”
“ทาน ทานรู้ใช่ไหม ถ้าเทียนจะไม่เอาก็คือจะไม่เอา ตอนนี้เทียนกำลังเบื่อทาน ทำแบบนี้กับเทียนแล้วจะให้เทียนคิดยังไง ความไว้ใจที่ให้กันมันหายไปไหน หา หรือว่าอยากให้เทียนเบื่อทานมากกว่านี้ จะเอายังไง”
“เทียน”
“อย่า อย่ามาอ้างว่าทำไปเพื่อธุรกิจ พอเถอะไปหลอกอีโง่นั่นเถอะ ไม่ใช่เทียน อย่าทำให้เทียนต้องระแวงแคลงใจในตัวทานอีก แล้วจะหาว่าเทียนไม่เตือน เอากุญแจมา”
“แล้วทานล่ะ”
“ฮึ มีปัญญามาเองก็หาทางกลับเองสิ”
ทั้งที่เป็นรถของธรรมทาน เทียนบุญคว้ากุญแจรถจากมือของธรรมทานแล้วก้าวขึ้นรถไป เขาบึ่งรถออกไปทันที
“เมย์โอเคไหม ไม่น่าเชิญมาเลยนะคนแบบนั้น เขาเป็นใครเหรอเมย์เพื่อนคุณทานเหรอ”
กนิฐนั่งปลอบมณีอารียาอยู่ไม่ยอมห่าง
“มันเป็นมากกว่านั้นโป้ง”
“หา หมายความว่ายังไงเมย์”
“อย่าเพิ่งอยากรู้เลยโป้ง เมย์เองก็ไม่คิดว่ามันจะร้ายได้ขนาดนี้ ฮึ อีกะเทย เดี๋ยวแกจะได้เห็นดีกัน”
“เมย์ อย่าไปแลกกับเขาเลยนะ ถ้าจะให้คนจัดการโป้งจัดการให้”
“อย่าโป้ง เราไม่อยากให้โป้งมายุ่งกับเรื่องสกปรกโสมมแบบนี้”
“เขาเป็นมากกว่าเพื่อน เป็นอะไรหา อย่าบอกนะว่าทาน”
“โป้ง พอเถอะ เมย์เหนื่อย ขอบคุณมากนะที่มาช่วยงาน”
มณีอารียาถอนหายใจออกมา มองออกไปด้านนอกที่ยังมีแขกกับนักข่าวแน่นขนัดอยู่
“เมย์ก็รู้ ว่าโป้งยินดีทำทุกอย่างเพื่อเมย์นะ”
มือของชายหนุ่มกุมไปที่มือของหญิงสาว มณีอารียายิ้มให้เขาอย่างอบอุ่นใจ สายตาของเธอมองเขามากกว่าเพื่อน แต่เพราะอะไร
“กริช เดี๋ยวเทียนเข้าไปหานะ”
เทียนบุญต้องหาที่ระบายออก อย่างน้อยก็ได้ปรับทุกข์กับเพื่อนรักอย่างกริช สายตาที่ฟาดฟันรายทางระหว่างขับรถตรงไปยังร้านของกริชนั้นมันเหมือนจะทำให้ผู้คนหรือสิ่งของรายทางมลายลงในทันตา
“มีอะไรหรือเปล่าเทียน ตอนนี้เรามางานเปิดตัวร้านเพชร”
“หา ที่ไหนกริช”
“ก็ที่”
กริชบอกชื่องานออกมา
“โลกกลมเหลือเกินเราเพิ่งออกจากงานเมื่อกี๊”
“เราเห็นเทียนล่ะ แต่ไมได้เข้าไปทัก เดี๋ยวเราก็จะรีบออกจากงานเหมือนกัน มีเรื่องกันใช่ไหม เทียนไปรอที่ร้านนะพี่ญ่าอยู่”
“เร็วนะกริช”
เทียนบุญวางสายไปแล้วตรงไปยังที่นัดหมาย ไฟแสงสีที่ฉูดฉาดมันยั่วยวนใจ แสงไฟสีงามเหล่านั้นมันทาบลงบนเรือนร่างของชายหนุ่มรูปร่างกำยำที่ยืนรายเรียงเรียกลูกค้าอยู่หน้าร้านบ้าง เดินขวักไขว่ไปมาบ้าง เหล่าผีเสื้อราตรีที่ยังคงบินวนเวียนหากลีบดอกไม้หอมหวาน
“พี่ญ่า ขอคนที่ดีที่สุดในสต็อกพี่นะครับ เอาแบบใหญ่อึดทน”
เทียนบุญเดินตรงเข้าไปในร้านไม่สนใจผู้ใด ทันทีที่นังลงหลังจากทักทายกับธัญญ่าเขาก็เอ่ยความประสงค์ออกไป
“ตายแล้วน้องเทียน มีอะไรหรือเปล่าคะวันนี้ท่าทางใจร้อนจัง”
“คันครับ”
“ว้ายตรงประเด็น งั้นพี่จะเรียกคนมาให้ดู”
เธอเดินไปกวักมือเรียกพนักงานที่โยกย้ายส่ายสะโพกอยู่บนเวที เลือกเฉพาะคนที่คิดว่าคู่ควรกับเทียนบุญ เด็กหนุ่มสี่คนมายืนเรียงรายกันหน้าโต๊ะของเทียนบุญ ความสูงของชายหนุ่มไล่เลี่ยกันเหมือนคัดมาแล้ว เนื้อตัวที่เปล่าเปลือยถูกทาด้วยน้ำมันให้ดูวาววับต้องแสงสี สายตาของชายหนุ่มทั้งสี่คนกำลังยั่วยวนให้เทียนบุญเลือกตนเอง
“คนนี้พงษ์ หรือม้าค่ะ ส่วนนี่ดอม อึดเรียกพ่อ ส่วนนี่”
“เอาคนนี้ ไหนของเท่าไหร่”
เทียนบุญชี้ไปที่ชายหนุ่มอีกคนที่ยืนอยู่ริมสุด รูปร่างของเขาสูงใหญ่ ผิวเข้มมีไรหนวด มีไรขนลามเลียลงมาจากแผงหน้าอกเลยลงไปในกางเกงชั้นในตัวจิ๋วชวนให้คิดจินตนาการตาม
“ได้จ้าน้องเทียน คนนี้แปดนิ้ว พี่คอมเฟิร์ม อ้าว ไอ้ศักดิ์นั่งกับคุณเทียนสิ มายืนเอ๋ออยู่ได้ ดีๆนะแก เพื่อนคุณกริชนะ”
สายตาของเทียนไม่ได้ประหวั่นพรั่นพรึง ไม่มีท่าทีของความเขินอายเลยแม้แต่น้อย จะอายทำไมในเมื่อไม่ได้ไปลักใครขโมยใครกิน ถึงจะซื้อกินก็เถอะ ในเมื่อของที่มีให้กินมันเริ่มด้อย เริ่มเสื่อมคุณภาพ ช่วยไม่ได้ต้องมาชี้เอาเลือกเอาแบบนี้ล่ะ
“ใครเหรอพี่เมย์ที่มาก่อกวนในงาน เพื่อนพี่เหรอ”
มกุฏโกเมนเอ่ยถามพี่สาวขณะที่เธอกำลังต้อนรับแขกเหรื่ออยู่ด้านนอก ทำใจยอมรับได้แล้ว งานจะล่มเพราะตัวเสนียดจัญไรเพียงตัวเดียวไม่ได้ ลงทุนลงแรงไปเยอะ ต้องออกไปพูดกับนักข่าว แก้ข่าวให้ชื่อเสียงของตนที่ป่านนี้คงว่อนอยู่ที่สำนักพิมพ์เรียบร้อยแล้ว
“อย่าไปใส่ใจเลย คนบ้า ขอบใจนะเจ เหนื่อยไหม”
“สบายมากพี่ พี่ล่ะไหวไหม”
“ไหวไม่ไหวก็ต้องไหว เรื่องแค่นี้เอง”
“ถ้าไม่ไหวบอกนะพี่ ผมจัดการได้ เรื่องต่อยตีน่ะผมถนัด”
“เยอะไปเรา คนบางจำพวกคนดีๆก็ไม่ควรเข้าไปยุ่งนะเจ เพื่อนเหมือนกัน เรามีสิทธิ์ที่จะเลือกคบได้ คนดีเราถึงจะคบ คนไม่ดีพลอยแต่จะพาเราไปในทางที่เสื่อม”
“คร้าบ พี่ โหมมาเป็นชุด”
มณีอารียายิ้มให้น้องชายแล้วเดินไปพูดคุยกับแขกโดยมีกนิฐเดินประกบเคียงคู่ตลอดเวลา
“หา จริงเหรอเทียน ทานทำเกินไปนะ”
กริชร้องขึ้นเสียงสูงเมื่อมาถึงร้าน เทียนบุญเล่ารายละเอียดคร่าวๆให้เพื่อนรักฟัง
“ช่างมันเถอะกริช โดนตบไปทีคงจะเข็ดไปนาน เราจัดการได้ แต่ตอนนี้คัน”
“อ้อ ศักดิ์ดูแลเพื่อนพี่ดีๆนะ”
“เอ๊ะ น้องคนนั้นน่ะกริช ออฟไหม”
เทียนบุญหันไปเห็นเด็กเสิร์ฟที่กำลังโดนล้อมหน้าล้อมหลังจากบรรดาเสือสิงห์กระทิงเปลี่ยวอยู่ตรงกลางร้าน
“เอ่อ”
“ฮ่าๆ อ้อนะ โอเคๆ ตาถึงนะเพื่อนเรา นี่แล้วมาปล่อยให้เสิร์ฟอยู่ให้พวกหนังเหี่ยวนี่ลวนลามได้ไงกริช”
“บ้าเทียน เขาเป็นเด็กในร้านนั่นล่ะ เทียนจะเอาไหมล่ะเราจะไปบอกให้”
“โอ้ยไม่ดีกว่า กลัวว่าเพื่อนรักเราจะปวดใจ”
“บ้านะเทียน”
เทียนบุญหันไปสนใจกับชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ มือไม้ของเทียนบุญไม่ได้อยู่นิ่ง ไม่อายสายตาเพื่อนหรือใครๆ ทำกันได้นะคนที่รัก ถ้ารักแล้วทำร้ายกันแบบนี้ ที่ทำแค่นี้ก็คงไม่เป็นไรสินะ แบบนี้มันแค่เบาๆไม่เทียบเท่ากับสิ่งที่เขาทำและเคยทำ ตอนนั้นที่อังกฤษก็แอบคบกับเกย์สิงคโปร์ แอบคบกันทั้งที่นอนเคียงข้างอยู่กับเทียนบุญทุกคืน บอกว่าจะไปมหาฯลัยแต่ไปนอนกกกัน แล้วเป็นยังไง เกย์คนนั้นโดนราวีจนต้องย้ายที่อยู่เพราะเทียนบุญไม่ยอม เขาดั้งหัก กระจุกผมตรงกลางหัวหลุดไปเป็นกำ เรื่องจบลงที่สถานีตำรวจ ตอนนั้นคุณเทียนทิพย์ก็รู้เรื่อง เงินประกันตัวของที่โน่นไม่น้อย แต่เทียนบุญก็ไม่ได้ใส่ใจ ทำขนาดนั้นแล้วธรรมทานยังกล้าทำซ้ำรอยเดิมอยู่อีก คงจะยังไม่เข็ดสินะ ได้ เราจะได้เห็นดีกัน
“เชิญครับพี่ๆ ด้านในเลยครับ ขอบพระคุณมากที่มาในงาน”
เสียงของเทียนบุญที่ออกมาต้อนรับบรรดานักข่าวที่เชิญมานับร้อย เกือบทุกสำนักพิมพ์ แขกในงานมีไม่เยอะเพราะจุดประสงค์คือการกระจายข่าว ด้านนอกห้องแกรนด์บอลรูมของโรงแรมดังย่านราชประสงค์มีเจ้าของคอลั่มชื่อดังและเทียนบุญยืนเคียงข้างกันให้นักข่าวถ่ายภาพอยู่
“คุณเทียนนี่เก่งนะครับ เพียงไม่นานชื่อเสียงก็โด่งดังทั่วประเทศแล้ว ในวงการหนังสือตอนนี้ไม่มีใครไม่รู้จักคุณเทียน”
“แหมพี่ครับ พูดเกินไป เทียนยังใหม่ ยังไงต้องฝากเนื้อฝากตัวกับพี่ๆสื่อมวลชนช่วยแนะนำอยู่ดีล่ะครับ”
จะไม่ให้ชื่อเสียงโด่งดังเพียงข้ามคืนได้เช่นไร พอรุ่งเช้าหลังจากที่ขับรถออกมาจากโรงแรมแล้วปล่อยเด็กหนุ่มลงข้างทาง เทียนบุญก็แวะเข้าซุปเปอร์ฯหาอะไรกิน หนังสือพิมพ์เกี่ยวกับดาราและคนในวงการโดยเฉพาะพาดหัวหรา เกือบทุกสำนักพิมพ์
“ไฮโซโดนหักหน้า อันไหนเพชรจริง อันไหนปลอม”
“ไฮโซหน้าแหก เพชรโฆษณาชิ้นเดียวในโลก โผล่ฝาแฝด”
“หนุ่มนักเรียนนอก ผู้ช่วยบรรณาธิการนิตยาสารดัง อ้างซื้อตอนไปเที่ยวสวิสต์”
และอีกหลายอย่าง รายละเอียดด้านในทำให้เทียนบุญยิ้มออกมาอย่างพึงใจ แต่มันทำให้อีกฝ่ายกรีดร้องด้วยความเจ็บใจ
ก่อนหน้านั้นสองวัน
“ป่าน นี่เมย์นะ จำเราได้ไหม”
มณีอารียาหลังจากเห็นข่าวที่พาดหัวเกือบทุกฉบับของนิตายาสารและหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับคนในวงการดาราและไฮโซ เธอก็เกือบลมจับชื่อเสียงย่อยยับป่นปี้เพียงแค่ข้ามคืน เพราะมันคนเดียว ความแค้นเคืองใจมันมากเกินกว่าจะสาธยายออกมาหมด แค้นจัดจนหยิบจับอะไรไม่ถูก
“ต๊าย ว่าไงยะเมย์ ไม่คิดว่าจะติดต่อเราอีกแล้วนะชาตินี้”
“ติดต่อสิ เรามีเรื่องจะให้เธอช่วย”
มณีอารียาไม่อ้อมค้อมยิงตรงเข้าประเด็น
“แหม นานทีปีหนจะคุยกันทีไม่ถามสารทุกข์สุกดิบก่อนเหรอเธอ หรือว่าคนไฮโซเขาเข้าเรื่องธุรกิจกันแบบนี้เลยเหรอเวลาคุยกับเพื่อนเก่าน่ะ”
ปานระวีเหน็บแต่มณีอารียาไม่ได้สนใจ
“เรามีเรื่องจะให้ช่วยจริงๆ ไม่ได้ลำบาก เรารู้ว่าเธอทำได้”
“แล้วเราจะได้อะไรล่ะ จากการช่วยเหลือเธอครั้งนี้น่ะ”
“หึ นาฬิกาฝังเพชรสักเรือนไหมล่ะ”
อีกฝ่ายเงียบเสียงไป มณีอารียาฉายแววตาปนรอยยิ้มเย้ยหยันออกมา
“ราคาเท่าไหร่”
“เธอเข้ามาหาเราที่ร้านสิ มาเลือกเอา เราให้งบ ห้าล้านลงมาน่ะ มาเลือกเอาตามพอใจ”
ไม่มีเสียงตอบรับ แต่ร่างของสาวประเภทสองมายืนเด่นปรากฏอยู่หน้าร้านในเวลาไม่ถึงชั่วโมง
“งานจะเริ่มแล้วเชิญพี่ๆด้านในเลยครับ”
เทียนบุญยิ้มให้บรรดานักข่าวแล้วผายมือเชิญนักข่าวที่เหลืออยู่ด้านนอกห้องบอลรูมให้เดินเข้าไปในงาน ภายในห้องถูกยกเป็นเวทีเตี้ยๆมีโต๊ะกระจกเล็กๆอยู่อันหนึ่ง มีเก้าอี้บุนวมอย่างดีที่ทางโรงแรมจัดเตรียมไว้สำหรับสามที่ ที่ของเทียนบุญ ที่ของเจ้าของคอลั่ม และที่ของปลายฟ้า ทั้งสองนั่งรออยู่บนเวทีพร้อมแล้ว เหลือเพียงเทียนบุญที่กำลังเดินไปอยู่ในจุดรอที่จะขึ้นเวที พิธีกรกล่าวเปิดงาน
“วันนี้ขอขอบคุณพี่ๆนักข่าวมากนะครับที่มาร่วมงานเปิดตัวคอลั่มใหม่ของนิตายาสารของเรา วันนี้เป็นเกียติของเรามากเช่นกันที่ได้คิวของดารานายแบบคิวทองอย่างปลายฟ้ามาเปิดตัวคอลั่มให้เรา”
พิธีกรเอ่ยไปตามสคริปต์แล้วก็เชิญเทียนบุญขึ้นไปแนะนำเนื่องในเขาเป็นแม่งานในครั้งนี้
“ว้าย กรี๊ดๆๆๆๆ ตายแล้วนังเทียน เริ่ดนะยะหล่อน”
เสียงหวีดหวิวดังมาจากประตูทางเข้า สายตาทุกคู่หันไปพร้อมกัน
“เปิดงานกิ๊บเก๋ยูเรก้าแบบนี้ เปิดตงเปิดตัวก็ไม่เชิญเพื่อนสาวเลยนะเธอ ว้าย เริ่ดจริงๆ อุ๊ยนั่นปลายฟ้า กรี๊ด”
สาวประเภทสองสามนางแต่งตัวเหมือนนางโชว์ด้วยเสื้อผ้าสีสันฉูดฉาดบาดตาตัดกันไปคนละทิศละทาง หน้าตาแต่งจัดจ้าน ท่าทางดัดจริตเกินหญิง ปานระวีเองมองดูอาจจะไม่คิดว่าเธอเคยเป็นชายมาก่อน เพราะศัลยกรรมช่วยเธอไว้ได้เยอะ แต่อีกสองนาง บ่าไหล่กว้างกว่าชายแท้ๆเสียอีก ลูกกระเดือกก็ปูดโปน หน้าแข้งเป็นมัดกล้ามชัดเจน แต่เธอเลือกที่จะใส่ส้นเข็มห้านิ้ว
“ว้าย เทียน ทำไมยะเธอไม่ชวนเราสักคำ ลืมเพื่อนสนิทคนนี้แล้วเหรอจ๊ะ”
ปานระวีเดินตรงฝ่าบรรดานักข่าวเข้าไปยืนหน้าเวที เทียนบุญอ้าปากค้าง ทำอะไรไม่ถูก เหงื่อกาฬผุดขึ้นเต็มหน้า
“คุณเป็นใครครับ”
นักข่าวเอ่ยถามขึ้นให้ความสนใจเป็นพิเศษ
“ชั้นคือเพื่อนรักมากก เพื่อนสนิ๊ทสนิทของเทียนค่ะ เนี่ยน้อยใจจังที่เทียนไม่เชิญมางาน อายเหรอจ๊ะเทียนที่มีเพื่อนเป็นกะเทย เทียนเองก็เป็นเกย์นี่ อายทำไมกัน น้อยใจค่ะพี่ขา”
เธอจิกหน้าประดิษฐ์ประดอยคำพูด สายตามองเทียนเหมือนราชสีห์มองลูกกระต่ายที่ไปไหนไม่รอด หนีเงื้อมมือไม่พ้น
“หา เพื่อนคุณเทียน”
นักข่าวหันมาทางเทียนบุญซึ่งหน้าซีดเป็นไก่ต้มอยู่ ฮึ นังเมย์แกเล่นแบบนี้ใช่ไหม ได้
“อ้าว สมชายหรือเปล่า นี่สมชายจริงเหรอเนี่ย ตายจริง ไม่คิดเลยว่าจะเป็นไปได้ขนาดนี้ ผ่าแล้วเหรอนาย แต่ก่อนเล่นเตะบอลอยู่ด้วยกัน โทษทีๆ เราจำไม่ได้ ไม่เคยคิดเลยนะว่าสมชายจะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ นี่งานเลิกแล้วไปกินเหล้ากันเราอยากจะรู้เรื่องของสมชายอยู่พอดี ไหนบอกว่าไล่จีบหญิงไง ตายแล้ว เราไม่อยากจะเชื่อ ปรึกษาใครหรือเปล่าเนี่ยนาย”
เทียนบุญเดินลงจากเวทีเดินตรงดิ่งไปหาสาวทั้งสามคน ประชิดตัว สายตาที่ประหวั่นเมื่อครู่มันหายไปหมดสิ้น เหลือเพียงสายตาแห่งโลกมายาที่กะเทยสามนางนี้สู้ไม่ได้เลยสักกระผีก
“รู้จักกันเหรอครับคุณเทียน”
“รู้ค่ะ ชั้นไม่ใช่สมชายนะยะ อย่ามาโมเม”
ปานระวีเริ่มอึกอักเพราะไม่คิดว่าเทียนบุญจะตีหน้าได้เนียนสนิทขนาดนี้
“รู้สิครับพี่นักข่าว ตอนสมัยเรียนประถมโน่นแน่ะครับ อ้าว ตายจริง นี่สมชายเปลี่ยนชื่อเหรอ อ้อ ท่าจะเปลี่ยนเนอะ เพราะชื่อสมชายคงจะไม่เหมาะ กับชายในร่างหญิงแบบนี้”
“อ๊ะนี่แก”
“ตายๆ ไม่อยากจะเชื่อ สมัยนั้นนายยังจีบผู้หญิงอยู่เลยเนอะ พี่ๆครับดูไว้นะครับ ของในโลกนี้ไม่มีจีรัง ขนาดเพื่อนผมคนนี้เคยเตะบอลด้วยกัน แข่งกันจีบหญิงแต่ดูวันนี้สิครับ หึหึ”
“ถ้าไม่อยากจะตาย รีบออกไปจากงาน ถ้ามึงออกไปตอนนี้กูจะไม่เอาเรื่องมึง อีเชี่ย”
เทียนบุญก้มลงไปกระซิบข้างหูของปานระวี เธอหน้าตื่นไม่มั่นใจเหมือนตอนเดินเข้ามา ไม่คิดว่าเขาจะมาในรูปแบบนี้ หน้าหนาหน้าทนที่สุดไม่เคยเจอ เทียนบุญบีบแขนของเธอแน่น แต่สายตายิ้มให้ไม่จางลง
“เอ่อ”
“อ้าว ไปไหนแล้วครับ คุณๆ”
นักข่าววิ่งกรูตามหลังของปานระวีและเพื่อนสาวไป ส่วนเทียนบุญยืนอยู่ที่เดิม
“พี่ๆครับ อยากรู้เรื่องไหมครับ”
เทียนบุญเปล่งเสียงขึ้น ดังพอที่จะทำให้นักข่าวชะงักเท้าไว้ พอได้สติก็กรูกันกลับมาทุกคน วันนี้เป็นวันเปิดตัวคอลั่มใหม่ ดาราดังคับฟ้าอย่างปลายฟ้ายังเรียกเรตติ้งสู้เทียนบุญไม่ได้เลย นักข่าวห้อมล้อมตัวของเทียนบุญเอาไว้ เสียงคำถามดังขึ้นไม่ขาดระยะ จอแจอยู่
“ตอนเรียนมัธยม เขาไม่มีคนคบครับ เทียนเลยสงสาร ไม่อยากเห็นเพื่อนในห้องมีปมด้อย เพราะที่บ้านเขาจนครับ แต่เทียนไม่ได้คบเขาเพราะอยากจะได้หน้าหรืออะไรนะครับ มีอะไรแบ่งปันกัน ตอนนั้นเขาไม่มีวี่แววของ เอ่อ แบบนี้เลยนะครับ จนเทียนไปเรียนต่อเมืองนอก เพิ่งมารู้จากเพื่อนอีกทีว่าตลอดเวลาเขาอิจฉาเทียนมาตลอด ไม่ว่าเทียนจะพยายามทำดีกับเขาแค่ไหน เขาคงไม่ชอบที่เทียนรวยแล้วเหมือนเข้าไปสงสารเขา แต่เทียนไม่เคยคิดแบบนั้นเลยนะครับ พี่ๆก็เห็น”
แสร้งทำเป็นน้ำตาคลอ เรื่องจริตมารยาแค่นี้มันยังน้อยไป รู้จักกันแค่นี้อย่ามาทำเหมือนรู้จักดี มันยังไม่พอ ตอแหลมันยังให้คำจำกัดความไม่เพียงพอเลยด้วยซ้ำ
“อ้อ ที่เขาเข้ามาในงานหวังจะให้คุณเทียนอับอายเหรอครับ”
“น่าจะอย่างนั้นครับพี่ ไม่คิดเลยว่าตลอดเวลาที่ทำดีกับเขา เขาไม่เคยเห็นค่าของมันเลย เทียนไม่เคยอายหรอกนะครับ เพื่อนจะเป็นยังไงก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่วันยังค่ำ”
เทียนบุญเอานิ้วขึ้นปาดน้ำตาออก เสียงนักข่าวปลอบใจ ชื่นชมยกย่องสารพัด งานยังคงดำเนินต่อไป แต่ทางนักข่าวส่งไฟล์ให้ทางสำนักพิมพ์เรียบร้อยแล้ว ข่าวใหญ่ประจำวัน บ้างก็เห็นใจเทียน บ้างก็ว่าเทียนในทางลบ แต่เจ้าของเรื่องสนใจหรือ ไม่เลย ไม่ว่าจะยังไง งานต้องดำเนินต่อไป
“เล่นกันแบบนี้เลยเหรอ นังเมย์ ได้ เราจะได้เห็นดีกัน”
เทียนบุญกัดฟันแน่น ยืนยิ้มส่งนักข่าวหลังงานจบลง
“จะเอายังไงดีคะคุณเทียน ท่าทางเป็นข่าวแน่ๆ”
“เป็นก็เป็น มันเป็นจุดประสงค์ของเราอยู่แล้วนี่คุณน้ำหวาน จะกลัวอะไร เทียนเอาชื่อเสียงของเทียนแลกมานะ กับอีการแค่เปิดตัวคอลั่มเล็กๆแค่นี้”
น้ำหวานหน้าชาไป ท่าทางของเทียนบุญไม่ได้ยี่หระให้ใครเลยแม้แต่น้อย สายตายังคงมุ่งมั่นไม่เคยอ่อนลงเลย
“คุณน้ำหวานจัดการที่เหลือด้วยนะครับ ฝากขอบคุณปลายฟ้าด้วย เดี๋ยวเทียนไปทำธุระก่อน เจอกันพรุ่งนี้ อ้อ ฝากบอกพี่ภาด้วยนะครับ ว่าไม่ต้องห่วง อยากดัง ก็ดังสมใจแล้วนี่ หึหึ”
เทียนบุญเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบแล้วเดินออกไปจากบริเวณงาน น้ำหวานยืนสั่นอยู่ไม่เคยเจอแบบนี้ คนอย่างเทียนบุญ
“คุณประวิทย์ครับ ว่างไหมมาพบผมหน่อย ที่”
เทียนบุญกดโทรศัพท์ไปหาทนายประจำตระกูล แล้วเขาก็บึ่งรถไปรอตามสถานที่ที่บอก
“อะไรกัน มันไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอป่าน”
มณีอารียาร้องเสียงหลงเมื่อเพื่อนสาวประเภทสองกลับมารายงานผลที่ร้าน
“ชั้นก็ไม่เคยเจอหล่อน หน้าหนาหน้าทนมาก มันพลิกลิ้น ตอแหลที่สุด”
“ฮึ ร้ายกาจมาก”
“ไหนล่ะของที่สัญญาไว้น่ะ”
“เธอทำงานไม่สำเร็จนะป่าน”
“อ้าวเมย์ หล่อนจะเบี้ยวชั้นเหรอยะ”
“ไม่ได้เบี้ยว อ่ะนี่”
มณีอารียายื่นกล่องกำมะหยี่สีแดงให้ปานระวี พอได้กล่องก็รีบเปิดออกดู
“อะไรยะ นาฬิกากะโหลกกะลาแบบนี้เนี่ยนะ ไหนบอกห้าล้าน”
แหวเสียงขึ้นเมื่อเห็นของในกล่อง นาฬิกาจากชั้นบนที่เพิ่งให้เด็กในร้านไปซื้อมา ไม่ใช่ของในร้านแต่อย่างใด
“ห้าล้านลงมาไงป่าน เธอเข้าใจอะไรไปเองหรือเปล่า นี่ก็หลายพันอยู่นะเธอ”
“ยัยเมย์ นี่เธอ”
“ไม่เอาก็ไม่เป็นไรนะ เราจะได้ให้คนอื่น”
“ฮึ จำไว้ น้ำตาจะตกใน เธอเจอคู่ปรับที่เหนือชั้นกว่าเธอแล้วล่ะเมย์ อย่าคิดว่าหล่อนน่ะเริ่ดเฉิดฉายอยู่คนเดียว ระวังไว้ให้ดี”
“พูดจบหรือยังป่าน ขอบใจนะที่ช่วยเรา แม้จะไม่สำเร็จก็ตาม ของไม่เอาวางไว้นะ”
มณีอารียาเดินหนีไปทันที ปานระวีกัดฟันแน่น อายไหมที่ไปทำตัวแบบนั้นในวันนี้ ไม่อายแต่มันเจ็บใจ เจ็บใจที่ทำไม่สำเร็จหนึ่ง และเจ็บใจที่โดนเพื่อนเก่าแก่หักหลังแบบนี้
“คุณประวิทย์มีนักสืบใช่ไหมครับ”
พอเทียนบุญเจอหน้าของทนายก็เอ่ยถามทันทีโดยที่เขายังไม่ทันได้นั่ง
“ครับ มีครับ คุณเทียนจะใช้เหรอครับ”
“ครับ สืบให้ผมหน่อยว่าคนในรูปมีความเคลื่อนไหวยังไง ผมอยากได้คำตอบเย็นนี้”
เทียนบุญเอามือถือที่มีรูปให้เขาดู เทียนบุญเพิ่งขอให้นักข่าวคนหนึ่งส่งให้ทางมือถือ
“ใครควรจะระวังตัว ฉันก็ไม่ยอมเหมือนกันล่ะ”
มณีอารียาเอ่ยขึ้นหน้าตาบูดบึ้ง ในห้องรับแขกของที่ร้านมีพิมระตีกับกนิฐนั่งอยู่
“เมย์ อย่าไปยุ่งกับเขาเลย ท่าทางมันจะไม่จบแค่นี้นะ”
พิมระตีปรามขึ้นกนิฐเองก็กำลังจะเอ่ยปาก
“อย่ามาห้ามเราพิม พิมก็รู้ว่าเราไม่ยอมหรอก มันเป็นใคร ทานเป็นคู่หมั้นเรามันยังมาแย่ง หน้าด้านที่สุด แล้วที่มันทำกับเรา จะให้เราให้อภัยมันง่ายๆน่ะเหรอ ไม่มีทาง คนอย่างมณีอารียาไม่ยอมใครง่ายๆ”
“เมย์”
สองเสียงครางขึ้นพร้อมกัน
“ให้มันรู้ไปว่าผู้หญิงอย่างเราจะสู้กะเทยอย่างมันไม่ได้”
“ให้มันรู้กันไปว่าของใครจะแรงกว่าใครนังเมย์ หึหึ อยากลองดีเองนะ คอยดู แกจะได้น้ำตาตกแบบไม่รู้ตัว”
เทียนบุญเองแสยะยิ้มออกมาเมื่อได้ทราบข่าวจากนักสืบที่คุณประวิทย์แนะนำ เขาแจ้งความคืบหน้าให้รู้ในตอนเย็น
“ไปหาผู้ชายที่นี่เองเหรอมึงอีกะเทย เตรียมตัวไว้เลย ทำกูแสบนัก”
เทียนบุญเดินขึ้นชั้นบนแต่เพียงแค่สองก้าวก็ชะงัก
“ทำไมแม็ค เรียนธรรมดาไม่ได้เหรอลูก ทำไมต้องไปเรียนอินเตอร์ รู้ไหมว่ามันแพง ทุกวันนี้เราอาศัยบุญบารมีของคุณเขาอยู่นะ ยิ่งคุณเทียนไม่ชอบเราอยู่ด้วย เจียมตัวไว้หน่อยสิลูก”
“แต่แม่ แม็คอยากเรียน เขามีเปิดรับสมัครล่วงหน้าแล้วอ่ะ”
เสียงนั้นดังมาจากในครัว เทียนบุญนิ่งเดินย้อนกลับลงไปยืนหน้าประตู
“อยากเรียนทำงานแล้วค่อยหาลู่ทางเรียนได้ไหมลูก นะแม่ขอร้อง อย่าสร้างความลำบากใจให้พ่อไปมากกว่านี้เลย”
“แม่”
เสียงของเด็กชายสะอื้นไห้ เทียนบุญสะบัดหน้าเดินขึ้นชั้นบนไป ไม่ใส่ใจ เขารีบอาบน้ำแต่งตัว เสื้อเชิ้ตลายทางสีสดตัดกันกับกางเกงยีนส์สีเข้ม รองเท้าผ้าใบกึ่งหนังยี่ห้อดัง ผมเผ้าเปลี่ยนทรงจากปกติ น้ำหอมกลิ่นโปรดที่มีส่วนผสมของฟีโรโมนเพศหญิง เขาขับรถตรงดิ่งไปยังทองหล่อ ซอย ๑๐
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๕. ๒๒ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: Chinnosuke ที่ 22-05-2011 18:46:52
ชนะเลิศคับ
ชอบบทเทียนมาก แรงได้ใจ
เป็นกำลังใจให้แรงเทียนนะคับรวมเล่มเมื่อไหร่คงได้อุดหนุนแน่ :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๕. ๒๒ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 22-05-2011 18:48:55
 :fire: แรงดีไม่มีตกแถมยังแรงขึ้นเรื่อยๆ  :fire:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๕. ๒๒ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 22-05-2011 18:55:08
แรงเทียน เทียนแรงดีจัง
ยัยเมย์นี่ก็เนาะ  ตัวเองไปแหย่รังแตนก่อนแท้ๆ
พอแตนต่อยกลับไปโกรธแค้นแตนซะนี่ เดี๋ยวเหอะได้เจอโดนต่อยน่วมแน่
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่4 [22/05/54] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 22-05-2011 19:14:09
 :really2: :really2: :really2: :really2: :really2: เด็กยุคIT
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๕. ๒๒ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 22-05-2011 19:41:18
 :a5: :a5: :a5:
 :a5: :a5: :a5:
สะ...สะ...สุดยอดดดดดดดดดด
อุ้ยยยย อ่านไป จี๊ดดดดดไป...
แรงเทียน...แรงดีไม่มีตก
ยกนิ้วได้เลยเรื่องนี้ สู้ดดดดดดดดดดดดยอดดดดดดดดดดดดด o13
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่4 [22/05/54] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Muzik ที่ 22-05-2011 19:45:47
บรูโน่ระวังคุกเด้อ  :-[
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่6 เสียงเรียกในกองเพลิง(50%)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 22-05-2011 19:50:59
น้องไนท์น่ารักอ้ะ ไม่เรื่องมากเลย ขนาดหมูทอดแอฟริกาก็ยังกินเฉยเลย
พี่เตแน่แล้ว ที่จะไปเติมเต็มในส่วนขาดให้น้องไนท์
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz (ตอนที3 เลือดสาดพอเบาะ ๆ) 22/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 22-05-2011 19:54:14
เรื่องนี้น่าจะเสียเลือดเยอะที่สุดนะ  ผีดิบมาทีนี่เลือดสาดกระจาย :laugh: :laugh:
เห็นด้วยครับ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่4 [22/05/54] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 22-05-2011 19:56:19
นานๆ ที ที่คุณหนูจะใสสมวัย   :laugh:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่4 [22/05/54] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 22-05-2011 20:00:01
คุณหนูเด็กมาก o22
+1
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่4 [22/05/54] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 22-05-2011 20:10:35
วี้ดวิ้วววววววววววววววววววว
บรูโน่ เอ้ยยยยยยย เด็กเลี้ยง......
ความพยายามเห็นของจริงของน้องลิตของเราก็กำลังบังเกิดผล
5555....พรากผู้เยาว์เลยนะนั่น :laugh: :laugh:

หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่4 [22/05/54] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: onjazz26 ที่ 22-05-2011 20:32:32
ตาวิน แกระวังนะ เด๋วจะโดน "พรากผู้เฒ่า" ก๊ากกกกกกกกก :laugh:
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่6 เสียงเรียกในกองเพลิง(50%)
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 22-05-2011 20:38:04
ละลายน้ำแข็งนี้มันยากจริงหนอ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่5 กองถ่าย P:3 [21/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 22-05-2011 20:40:42
น้องหวานหวาน คืออะไรอะครับ แอบงงนะนี่  :really2:

ตอนต่อไปมาลงแล้วนะครับ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่6/1 ของขวัญ P:4 [22/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 22-05-2011 20:47:27
(http://upic.me/i/y7/qsky3.jpg) (http://upic.me/show/24228533)


ตอนที่ 6 ของขวัญ


“นี่มันอะไรกันครับพี่สายลม งานเปิดตัวอะไรทำไมมันแย่ขนาดนี้ แบบนี้ชื่อผมก็เสียไปด้วยนะครับ” ปลายฟ้าโมโหใส่สายลมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในงานเปิดตัวนาฬิกาหรูของไฮโซคนหนึ่ง
“พี่ก็ไม่คิดว่ามันจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นนะครับ พี่ว่ามันคงไม่มีผลต่อเราหรอกนะฟ้า”
“แต่ผมว่ามี พรุ่งนี้พี่คอยดูข่าวซุบซิบไฮโซนะต้องมีชื่อผมด้วยแน่ ๆ ไหนบอกว่ามีเรือนเดียวในโลกไง ที่แท้ก็แค่ราคาคุย” ปลายฟ้ายังไม่เลิกหงุดหงิด
“ไม่หรอกน่าพี่ว่าพรุ่งนี้ข่าวที่กองถ่ายคงกลบข่าวนี้จนหมดเองนั่นแหละ” สายลมยกเรื่องกองถ่ายมาช่วย
“ขอให้เป็นอย่างที่พี่พูดแล้วกัน” ปลายฟ้าพิงตัวนอนหลับตาสงบสติอารมณ์
“แต่ไนท์ก็เก่งนะ ยังมางานเปิดตัวได้อีก”
“ถ้าพี่ว่ามันดีก็ย้ายไปดูแลมันก็ได้นะ” ปลายฟ้าพูดออกมาทั้งที่ยังนอนพิงหลังหลับตาอยู่
“พี่ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นนะครับ” ถึงสายลมจะพูดยังไงตอนนี้ปลายฟ้าก็ไม่สนใจ เขาเลยปล่อยให้ปลายฟ้าอยู่เงียบ ๆ จะดีกว่า


รุ่งเช้าหนังสือพิมพ์เกือบทุกฉบับลงข่าวอุบัติเหตุในกองถ่ายภาพยนตร์ของหม่อมเอียด
‘หวิดสิ้นชื่อสองนักแสดงชื่อดัง....’
ปลายฟ้าพลิกอ่านรายละเอียดข้างใน เนื้อข่าวก็เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นธรรมดาไม่น่าสนใจ เขาเลยพลิกหาอ่านเนื้อหาข่าวซุบซิบของพวกสังคมไฮโซ เพื่อดูว่ามีข่าวงานเกิดตัวเมื่อคืนหรือไม่
‘งานเปิดตัวนาฬิกาสุดหรูหน้าแตกยับเยิน จากการโปรโมทว่ามีเรือนเดียวในโลก แต่ที่ไหนได้เจอไฮโซหนุ่มหน้าใหม่กลับใส่นาฬิกาแบบเดียวกันมาเดินโชว์ในงาน ดีที่ได้สองนักแสดงชื่อดังมาเดินแบบทำให้งานมีสีสันขึ้นมาบ้าง แต่ต้องขอชื่นชมนักแสดงทั้งสองคนที่มีสปิริตแรงกล้า ทั้งที่เพิ่งผ่านอุบัติเหตุจากกองถ่ายมามาด ๆ”
ปลายฟ้าโยนหนังสือพิมพ์ทิ้งไปด้านข้างเมื่ออ่านจบ
“ดีนะที่ว่ามีข่าวกองถ่ายมาช่วย คราวหน้าพี่สายลมช่วยตรวจสอบงานให้มันดีกว่านี้ด้วยนะครับ” ปลายฟ้ายังติดใจเรื่องงานเมื่อคืน
“มันเหตุสุดวิสัยจริงฟ้า พี่ก็ไม่คิดว่ามันจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แต่เย็นนี้มีถ่ายต่อฟ้าไหวไหมครับ ถ้าไม่ไหวพี่โทรไปเลื่อนกองให้เอาไหม”
“ไม่ต้องครับ วันนี้เข้าฉากกับอเล็กซ์วันแรกด้วย เดี๋ยวมันจะหาว่าผมเรื่องมาก แล้วอีกอย่างผมอยากรู้ว่ามันแสดงได้ดีถึงได้รับเลือกหรือว่าเอาตัวเข้าแลกมา” ปลายฟ้าลุกขึ้นไปแต่งตัวหลังจากตัดสินใจแล้ว


ปลายฟ้ามาถึงกองถ่ายเร็วกว่าปกติ เขาเข้าไปพูดคุยกับทีมงานถามข่าวเรื่องเมื่อวานอย่างเป็นห่วงเป็นใย พร้อมกับซื้อขนมหลากชนิดมาฝากที่กองถ่ายด้วย
“แหม! น้องปลายฟ้า ไม่ต้องซื้อของมาฝากพวกเราทุกวันก็ได้พี่เกรงใจ เมื่อวานยังทำให้น้องฟ้าเกือบแย่แล้ว วันนี้เลื่อนกองก็ได้นะคะ” สาวร่างเล็กฝ่ายจัดคิวบอกอย่างเกรงใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน
“ไม่เป็นไรหรอกครับ มันเป็นอุบัติเหตุผมเข้าใจ ยังไงก็คงไม่วุ่นเท่าพวกพี่ ๆ หรอกครับ”
“น้องปลายฟ้าพูดอย่างนี้ยิ่งทำให้พวกพี่เกรงใจจัง ไป ๆ พี่พาไปแต่งหน้าก่อนจะได้เริ่มถ่ายกันเร็ว ๆ น้องปลายฟ้าจะได้กลับไปพักผ่อน”
“แล้วอเล็กซ์มาแล้วเหรอครับพี่” ปลายฟ้าถามถึงดาราที่จะต้องเล่นด้วยวันนี้
“มาแล้วค่ะ เห็นบอกว่าตื่นเต้นที่จะได้เล่นกับน้องปลายฟ้า เลยขอตัวออกไปทำสมาธิสักหน่อย กลัวตอนถ่ายแล้วเทคบ่อยทำให้น้องปลายฟ้าเสียเวลาน่ะค่ะ”
“อ๋อ ครับ แต่นี่ผมดูน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรือครับ”
“ใครว่าแบบนั้นล่ะคะ น้องปลายฟ้าก็คิดไปได้ เพียงแต่อเล็กซ์เขาเกรงใจต่างหาก กลัวทำให้น้องปลายฟ้าเสียเวลาต่างหากล่ะคะ”


ปลายฟ้าเดินเขามาที่เต็นท์ที่มีผ้าสีขาวล้อมไว้ทั้งสี่ด้าน ด้านในจัดไว้สำหรับเป็นที่แต่งหน้าแต่งตัวของนักแสดง เมื่อเข้ามานั่งที่ที่เขาจัดไว้ให้ ปลายฟ้าสังเกตเห็นกล่องของขวัญที่ผูกไว้ด้วยโบว์สีน้ำเงินเข้ม แนบกับการ์ดสีโทนเดียวกันวางอยู่
“พี่ครับนี่ของใครครับ”
“อ๋อ ก็ของน้องปลายฟ้านั่นแหละค่ะ เห็นทีมงานเขาบอกว่ามีคนฝากมาให้ตั้งแต่เช้าแล้ว” ช่างแต่งหน้าตอบไปแต่งหน้าให้ปลายฟ้าไป
“แล้วพี่พอจะรู้ไหมครับว่าใครให้มา”
“อันนี้ไม่แน่ใจนะคะ เดี๋ยวพี่ถามให้อีกที”
“ขอบคุณครับ รบกวนพี่ด้วยนะครับ” ปลายฟ้ายิ้มพร้อมคำขอบคุณ


“ผมดีใจมาก ๆ เลยนะครับที่ได้แสดงร่วมกับคุณปลายฟ้า” อเล็กซ์นักแสดงรุ่นน้องพูดอย่างถ่อมตน
“ผมเองก็ดีใจนะที่ได้แสดงกับนักแสดงหน้าใหม่ที่มีฝีมือแบบคุณ เราคงร่วมงานกันได้ด้วยดีนะครับ”
“แหม! น้องปลายฟ้าคะ ยังไงก็ช่วยสอนอเล็กซ์เขาด้วยนะคะ เขายังใหม่อยู่อาจทำอะไรไม่ถูกก็ตักเตือนกันได้ค่ะ” ผู้จัดการส่วนตัวของอเล็กซ์เข้ามาช่วยพูด
“ผมไม่ได้เก่งขนาดนั้นหรอกครับ พี่ที่เขาเก่ง ๆ กว่าผมยังมีอีกเยอะเลยครับ”
“แหม! น้องปลายฟ้านี่ถล่มตัวจริง ๆ นะคะ ถึงว่าตอนนี้ทั้งนักข่าวทั้งนักวิจารณ์ถึงชื่นชมน้องปลายฟ้า อเล็กซ์เราต้องดูเป็นแบบอย่างไว้นะ” เขาหันไปกำชับเด็กในการดูแลของตนเอง
ทั้งสองคนพูดคุยกันอีกเล็กน้อยก่อนจะเข้าฉาก ฉากแรกเป็นฃฉากง่าย ๆ เพื่อให้ทั้งสองคนรู้หลักในการทำงานร่วมกันก่อน ทำให้การถ่ายทำผ่านไปอย่างรวดเร็ว
“ขอบคุณครับทุกคน ผมกลับก่อนนะครับ” ปลายฟ้ายกมือไหว้ทุกคนพร้อมรอยยิ้มพิมพ์ใจ


“นึกว่าจะเก่งสักแค่ไหนกันเชียว ผลสุดท้ายก็แค่ไอ้ตัวธรรมดา” ปลายฟ้าบ่นทันทีที่ขึ้นมาบนรถได้
“เอาน่าฟ้า เราก็ทำของเราให้ดีที่สุดก็พอ ที่เหลือมันเรื่องของเขาแล้ว”
“แล้วผมต้องทนทำงานกับไอ้ตัวนี่อีกนานเท่าไหร่กัน...”
ครืน!!
ประตูรถตู้เปิดออกอย่างกะทันหัน ปลายฟ้ารีบดีดตัวตั้งตรงที่เบาะนั่งของตัวเองอย่างตกใจ
“ขอโทษนะคะ คุณปลายฟ้าลืมของไว้ค่ะ” ทีมงานยื่นกล่องของขวัญให้ปลายฟ้า
“เออ ขอบคุณครับ แต่ว่าเมื่อกี้พี่ไม่ได้ยินอะไรใช่ไหมครับ” ปลายฟ้ารีบถามกลับ
“ได้ยินอะไรคะ หนูเปิดเข้ามาก็ไม่เห็นพวกคุณพูดอะไรกันนี่ค่ะ” เด็กสาวทำหน้างงกับคำถามที่ได้ยิน
“อ๋อ เปล่า ๆ ไม่มีอะไรครับ ขอบคุณที่อีกครั้งนะครับ รบกวนปิดประตูให้ผมด้วยพวกเราจะกลับพอดี” ปลายฟ้ารีบรับของไว้ในมือ

ปลายฟ้าโยนของไปไว้เบาหลังเหมือนเดิมโดยไม่ได้สนใจแกะดู
“ดีนะที่ไม่ได้ยินที่เราพูดกัน” ปลายฟ้าพูดออกมาอย่างโล่งใจ
“ต่อไปฟ้าก็เลิกว่าคนอื่นสิครับ จะได้ไม่ต้องกลัวอะไร”
“ผมไปว่าใครตอนไหน ถ้าพี่รับไม่ได้ก็ไม่ต้องอยู่กับผมก็ได้นะครับ ผมอยู่คนเดียวได้” เสียงแสดงความน้อยเนื้อต่ำใจเล็ดรอดออกมาทั้ง ๆ ที่ยังนอนหลับตาอยู่
“พี่ไม่ได้คิดอย่างนั้นเลยนะฟ้า ฟ้าอย่าตีความหวังดีของพี่ผิด ๆ สิครับ” สายลมรีบอธิบาย
“ช่างเถอะครับ สักวันพี่ก็คงทิ้งผมไปเหมือนคนอื่น ๆ อยู่ดี”
“พี่ไม่ทิ้งฟ้าไปไหนแน่นอนครับ ถ้าฟ้ารู้ว่าจริง ๆ แล้วพี่คิดยังไง” สายลมลอบพูดกับตัวเองเบา ๆ
“พี่ว่าอะไรนะครับ” ปลายฟ้าถามทวนเพราะเหมือนเขาได้ยินเสียงพูดแว่ว ๆ
“อ๋อ!! พี่ถามว่าฟ้าแกะของขวัญบ้างหรือยัง แล้วใครส่งมาให้ครับ” สายลมรีบหาเรื่องอื่นมากลบเกลื่อน
“ยังไม่มีอารมณ์หรอกครับ งานยุ่งตลอดไว้ว่าง ๆ ก่อนแล้วกัน พี่สายลมก็เอาไปเก็บไว้ในห้องผมเหมือนเดิมก่อนแล้วกันครับ ว่าง ๆ ผมค่อยแกะดูอีกที” ปลายฟ้าตอบอย่างไม่ใส่ใจ
                “ฟ้าตื่นเต้นไหมวันนี้ซีนแรกก็เป็นซีนปะทะอารมณ์กับอเล็กซ์เสียด้วย” สายลมถามอย่างห่วงใยขณะนั่งอยู่บนรถไปกองถ่าย
                “ไม่หรอกครับ วันนี้ไอ้อเล็กซ์มันจะได้รู้ว่าใครเป็นของจริง พี่คอยดูนะครับ” เสียงตอบกลับมาอย่างมั่นใจ
 
                ปลายฟ้ากำลังเข้าฉากสำคัญของวันนี้ เป็นฉากที่ต้องปะทะอารมณ์กับอเล็กซ์ที่เป็นพระรอง ทั้งสองคนกำลังอินกับบทที่ได้รับอย่างมาก จนสื่ออารมณ์ออกมาราวกับทั้งสองคนกำลังทะเลาะกันอยู่จริง คนทั้งกองถ่ายต่างเงียบกริบบางคนลุ้นถึงขนาดต้องกลั้นหายใจ เพราะกลัวเกิดเสียงรบกวนทั้งสองคน
                ‘ผลัก’
                ปลายฟ้าลืมตัวไปกับบทเงื้อมหมัดต่อยเข้าที่โหนกแก้มของอเล็กซ์เต็มแรง จนคนที่โดนต่อยล้มลงไปกับพื้นเพราะไม่ทันตั้งตัว ก่อนที่จะลุกขึ้นมาส่งหมัดคืนไปที่หน้าคนที่กระทำตน จากการแสดงกลายเป็นการซัดกันนัวเนียกลางกองถ่าย เพราะต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมใคร
                “คัต”
                สิ้นเสียงคัตสายลมวิ่งเข้าไปห้ามทันที จับมือของทั้งสองคนที่กำลังพุ่งหมัดเข้าหากันไว้จนแน่น ก่อนหันไปส่งสายตาดุดันให้อเล็กซ์ที่มีทีท่าว่าจะไม่ยอมหยุดง่ายๆ สายตาของเขาทำเอาคนโดนจ้องเสียวสันหลังวูบไปชั่วขณะก่อนที่จะลดหมัดลง แล้วปล่อยมือฝั่งตรงข้ามก่อนดึงมือปลายฟ้าแยกออกมา
                “ขอโทษนะครับ ขอผมพาปลายฟ้าไปดูแผลหน่อยนะครับแล้วเดี๋ยวผมกลับมา” เขาหันไปบอกผู้กำกับพร้อมกับทีมงาน ก่อนออกแรงลากคนที่จูงมืออยู่ให้ขึ้นรถ
 
                “มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไงกันฟ้า ฟ้าบอกพี่มาสิว่าฟ้าตั้งใจหรือเปล่า” นี่เป็นครั้งแรกที่สายลมใช้นำเสียงดังกับปลายฟ้า
                “เปล่านะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ตอนนั้นผมอินกับบทมากเกินไป พี่สายลมต้องเชื่อผมนะครับ” ปลายฟ้ายังมีสีหน้าตื่นตกใจจากเหตุการณ์เมื่อสักครู่ แถมยังโดนสายลมคนที่เขาคิดว่าจะไม่ต่อว่าเขาถ้าทำอะไรผิดเสียงดังใส่
                “ก็ได้พี่เชื่อฟ้าก็ได้ว่าฟ้าไม่ได้ตั้งใจ แต่คราวนี้ไม่รู้ว่าจะมีเรื่องอะไรตามมาอีกบ้าง” สายลมสีหน้าเคร่งเครียด หัวคิ้วขมวดจนแทบชิดติดกัน เขาจำใจต้องเชื่อเมื่อเจ้าตัวยืนยันมาแบบนี้แม้จะยังคลางแคลงใจอยู่ก็ตาม
                “ไหนเอาหน้ามาดูซิ” มือนุ่ม ๆ จับไปที่คางของคนที่อยู่ข้างหน้าก่อนเชยคางขึ้นเล็กน้อยเพื่อมองหาร่องรอยการโดนทำร้าย
                “โดนเยอะเหมือนกันนะนี่ อีกอาทิตย์ล่ะมั้งคงจะหาย ช่วงนี้ต้องใส่ยานะครับจะได้ไม่มีรอย” สายลมพูดบอกอย่างชำนาญราวกับผ่านเรื่องแบบนี้มาจนชิน
                ปลายฟ้าเองทำหน้าสำนึกผิดเพราะเขาเองไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นคงเพราะไม่ชอบอเล็กซ์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอถึงบทแบบนี้ทำให้ห้ามใจไว้ไม่อยู่ แถมฝีมือทางการแสดงของอเล็กซ์ก็พัฒนาดีมากกว่าเดิมอีกด้วย ตอนนี้ทำได้แต่มองหน้าคนที่นั่งนิ่งขมวดคิ้วเข้าหากันตรงหน้า เพราะว่าพูดอะไรออกไปก็คงจะไม่มีผลดีเป็นแน่
                สายลมพยายามคิดหาทางแก้ต่างให้กับปลายฟ้าก่อนเดินลงจากรถไปคุยกับทีมงาน สายลมพยายามอธิบายว่าปลายฟ้าอินกับบทบาทมากเกินไปหน่อย เลยทำให้ยั้งอารมณ์ไว้ไม่อยู่ เขาเข้าไปขอโทษอเล็กซ์ที่ทำให้เจ็บตัว ฝ่ายอเล็กซ์เองก็ขอโทษกลับ เพราะถ้าเขาไม่ฉุดโต้ตอบเรื่องก็คงไม่เป็นเช่นนี้
หลังจากพูดคุยทุกอย่างจนเข้าใจแล้วผู้กำกับเลยสั่งพักกองไว้ก่อน ให้มาถ่ายซ่อมกันอีกทีวันหลัง โดยให้นักแสดงทั้งสองกลับไปก่อน รอให้แผลหายดีแล้วจะโทรนัดถ่ายกันอีกครั้ง สายลมเข้าไปเก็บของให้ปลายฟ้า ก็เห็นกล่องของขวัญลักษณะเดิมอยู่ที่โต๊ะของปลายฟ้า

“นี่ฟ้า” สายลมส่งของขวัญให้ปลายฟ้าที่นั่งทำหน้าเศร้าอยู่บนรถ
“อะไรอีกพี่ จะว่าอะไรผมอีกหรือครับ” ปลายฟ้าถามทั้งที่ยังไม่ได้มองคนที่เรียกตน
“พี่ไม่ได้จะว่าอะไรฟ้านะ แค่ส่งของให้ของขวัญนี่ไง ตั้งแต่เปิดกล้องถ่ายหนังเรื่องนี้ได้ทุกวันเลยนะ” สายลมรู้สึกแปลกใจ
“อืม! นั่นสิผมก็ลืมไปแล้วว่าได้มันทุกวัน แต่พี่สายลมไม่โกรธผมจริง ๆ นะครับ” ปลายฟ้าหันมาส่งสายตาเศร้าน่าสงสารให้
“พี่ไม่ได้โกรธฟ้าสักหน่อย พี่ก็แค่ถามให้แน่ใจเท่านั้น แล้วยิ่งฟ้าไม่ได้ตั้งใจพี่จะว่าอะไรล่ะครับ” สายลมเอื้อมมือไปลูบหัวปลายฟ้าอย่างอ่อนโยน ทำให้คนโดนปลอบยิ้มออกมาได้แล้วตอนนี้
“พี่ว่าฟ้าน่าจะลองแกะดูสักหน่อยนะครับว่าข้างในมีอะไร แล้วใครเป็นคนส่งมาให้” สายลมกลับมาพูดเรื่องของขวัญอีกครั้ง
“ครับผมก็เริ่มสงสัยแล้วเหมือนกัน” ปลายฟ้ารับมาแล้วแกะกล่องของขวัญทันที

“พี่สายลม!!” ปลายฟ้าเรียกชื่อสายลมอย่างตื่นตกใจ
“ฟ้าเป็นอะไร ในนั้นมีอะไร” สายลมรับหันกลับมาหาต้นเสียงอย่างรวดเร็ว
“พี่ดูนี่สิครับ” ปลายฟ้ายื่นกล่องของขวัญที่แกะแล้วให้
ด้านในกล่องมีรูปภาพของปลายฟ้าในอิริยาบถต่าง ๆ ของเมื่อวาน ทั้งตอนที่กำลังถ่ายภาพยนตร์ หรือว่าตอนพักผ่อนส่วนตัวอยู่ในกองถ่าย แต่พอสายลมตรวจดูเรื่อย ๆ หลัง ๆ เป็นรูปของปลายฟ้าตอนที่กำลังเดินเข้าคอนโด สายลมถึงกับขมวดคิ้วอย่างเคร่งเครียด
“สโตรคเกอร์” สายลมเปรย
“แล้วเราจะทำยังไงดีล่ะครับพี่สายลม ผมไม่อยากโดนตามแบบนี้นะครับ” ปลายฟ้าเริ่มกังวลกับสิ่งที่เห็น
“ไม่เป็นไรหรอกครับ เดี๋ยวพี่จะระวังให้มากขึ้น ช่วงนี้ฟ้าก็ห้ามออกไปไหนโดยไม่มีพี่เด็ดขาดนะครับ” สายลมกำชับอย่างจริงจัง


============>โปรดติดตามตอนต่อไป

เรื่องลงไว้ก่อน 50% นะครับ เพราะว่าเขียนยาวเกินไปหน่อย  :o8:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่6 เสียงเรียกในกองเพลิง(50%)
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 22-05-2011 21:03:28
อุ้ยยยย..
น่ารักหน้าหยิกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
สุโค่ยค่ะน้องไนท์ พี่เตสู้ๆๆ o13 o13
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 4 PG. 3 [22/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 22-05-2011 21:19:41
กรี๊ดกราดดดดดดดดดดดดดด
ยูเรก้ามักมากกกกกค่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
น้องกริชต้องละลายในไม่ช้าแน่เลยยยยย :o8: :o8:
แต่ พี่จบได้อยากอ่านต่อมักมากกกกกกกกกกกกกก :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๕. ๒๒ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 22-05-2011 21:23:31
แรงขึ้นเรื่อยๆ  +1
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่6/1 ของขวัญ P:4 [22/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 22-05-2011 21:33:07
โรคจิตที่ไหนมาแอบตามปลายฟ้า :z1:
+1
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๕. ๒๒ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: Annetemis ที่ 22-05-2011 21:34:52
เทียนบุญ...แรงเกินรับจริง ๆ ค่ะ แรงกว่า...เรยา+เด่นจันทร์+น้ำหวาน...อีกค่ะ แคร์แต่ตัวเองคนเดียว จุดจบจะเหมือน เรยา มั๊ยเนี่ย รู้ตัวเมื่อสาย สุดท้ายก็ไม่เหลือใครสักคน o22
สงสารแม็คกับแม่ของแม็คมากเลยค่ะ ขนาดอยู่อย่างเจียมตัวแล้วเทียนบุญก็ยังไม่ยอมละเว้น :monkeysad:
อ่านเรื่องนี้แล้วชื่อ eiky ลอยเด่นเจิดจรัสมากเลยค่ะ :laugh:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่4 [22/05/54] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 22-05-2011 21:39:20
 :o8: ก็ไม่รู้ใครจะพรากใครนะครับ ระหว่างคุณหนูกับบรูโน่เนี่ย


พูดเรื่องอายุของคุณหนู ผมเองก็คิดว่าเด็กเกินที่จะทำแบบนี้นะครับ
แต่ถ้าเพิ่มอายุ ให้มากกว่านี้ มันจะดูเป็นเด็กก้าวร้าวมากกว่าที่ผมตั้งใจจะให้คุณหนูเป็นเด็กแก่แดดอ่ะครับ
 :z2: บรูโน่เลี้ยงต้อยอีกหลายปีเลย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่6/1 ของขวัญ P:4 [22/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 22-05-2011 21:48:40
 o22 สโตรคเกอร์
มีอะไรหลอนๆอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz (ตอนที3 เลือดสาดพอเบาะ ๆ) 22/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 22-05-2011 21:51:57
กรี๊ดกราดดดดดด
เรนเจอร์สีเขียวแหวกแนวขบวนการมักมากกกก
แถมเลือดสาดดดดดดดสุดยอดดดดด
อ่านแล้วผวาไปเลยยยยย
จะรอตอนต่อไปค้าๆๆๆๆ
ปล.อ่านได้อารมณ์มาก นึกว่าก็อปปี้หนังสือมาอ่านทั้งดุ้นเลยย ฮ่าๆๆๆ :laugh:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 4 PG. 3 [22/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: MonarcH ที่ 22-05-2011 21:59:03
Butterfly 5
...ผมยอมให้ยุทธจับมือเดินท่ามกลางสายตาชื่นชมปนอิจฉาของเก้งกวางในห้างที่มีชาวสีม่วงมาเดินเยอะที่สุดในกรุงเทพฯ ตอนแรกก็รู้สึกแปลก ๆ ที่ต้องโดนจับมือถือแขนในที่สาธารณะ แต่ผมก็ปฏิเสธตัวเองไม่ได้ว่ารู้สึกดีจังเลย และบ่อยครั้งที่ผมแอบมองยุทธตอนเค้าเผลอ ถ้าเค้าไปทำงานอาชีพอื่นผมคงไม่ต้องรู้สึกขัดแย้งและต้องหักห้ามใจตัวเองที่จะชอบเค้าอย่างนี้...
“ตัดผมกัน”  ผมเป็นฝ่ายดึงมือยุทธเข้าแฮร์สตูดิโอชื่อดัง
“เชิญค่ะ วันนี้ทำอะไรดีคะ” พนักงานออกมาตอนรับ
“พาเพื่อนมาซอยผมครับ”
“เอ่อ...ค่ะ...งั้นไปเลือกแบบผมกันด้านนี้เลยค่ะ”  พนักงานมองมือของเราทั้งคู่ที่ยังไม่ปล่อยจากกันแล้วยิ้มก่อนพาไปนั่งที่โซฟา
“ตัดทรงไหนดี” ผมละสายตาจากหนังสือแบบผมหันไปถามยุทธ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อรู้สึกว่าหน้าเราสองคนใกล้กันเกินไปเพราะกำลังดูแบบผมเล่มเดียวกันอยู่
“ตามใจคุณสิครับ ผมไม่ค่อยรู้เรื่องแฟชั่น”  ยุทธมองตาเยิ้ม
“งั้นให้ช่างเค้าแนะนำดีกว่า”  ผมพยักหน้าเรียกช่างมาจัดการ แล้วขยับตัวออกห่างเค้าก่อนจะหยิบนิตยสารอื่นมานั่งอ่านแก้เขิน
*
*
...ยุทธคงแค่บริหารเสน่ห์กับเกย์เพื่อให้คุ้นเคยกับอาชีพใหม่มั้งถึงได้ทำท่าทางแปลก ๆ กับเรา...เค้าเป็นผู้ชายแท้ที่ต้องมามีอะไรกับเกย์ คงทำใจยากถึงต้องมาลองคลุกคลีกับเรา แต่เค้ารู้มั้ยว่ากำลังทำไห้เราต้องหวั่นไหวไปกับสายตาเจ้าชู้ อบอุ่น ปลอดภัยเมื่อเค้ากุมมือเรา รู้สึกภูมิใจเวลามีคนมองด้วยสายตาชื่นชมในความเหมาะสมของเราทั้งคู่...แต่ความจริงแล้ว...มันเป็นแค่ภาพลวงตา จำไว้กริช สิ่งที่ยุทธทำมันเป็นแค่งานของเค้า อย่าไปหลงใหลได้ปลื้มกับเปลือกหรือสีสวย ๆ ที่ฉาบอยู่ภายนอก...
“มองอะไร”  ผมขยับปากแบบไม่มีเสียง หลังจากที่ลดนิตยสารลงแล้วเห็นเค้ามองผมผ่านกระจกขณะตัดผมอยู่
“น่ารัก” ยุทธขยับปากตอบ
“บ้า” ผมพูดแล้วรีบยกหนังสือขึ้นบังหน้าเพื่อไม่ให้เค้าเห็นผมอมยิ้มด้วยความเขิน
*
*
...ถ้าผมอยู่ในร้านทำผมต่อ ผมต้องนั่งอย่างไม่เป็นสุขเพราะสายตาคมกริบหวานเยิ้มของยุทธมองมาที่ผมตลอดเวลา ดังนั้นผมจึงวางนิตยสารแล้วเดินออกไปซื้อของบางอย่างในห้าง...เมื่อเสร็จจากตัดผม ยุทธก็จะเสร็จสิ้นการแปลงโฉมจากหนุ่มต่างจังหวัดเป็นหนุ่มกรุงอย่างเต็มตัว เค้าพร้อมที่จะเป็นสินค้าตัวอย่างที่ผมต้องพาไปนำเสนอแก่บรรดาเกย์ไฮโซในงานเปิดตัวนาฬิกาเพชรของคุณมณีอารยาที่ผมเพิ่งจะเห็นข่าวในนิตยสารที่อ่านระหว่างรอยุทธตัดผม...
...ผมยังจำวันแรกที่เจอยุทธได้ ยังจำความรู้สึกที่ปั่นป่วนตอนเค้ากอดด้วยร่างเปลือยเปล่า ถึงแม้วันนั้นเค้ายังไม่ผ่านการเจียรนัยให้เป็นเพชรน้ำเอก แต่ความดิบนั้นก็ทำให้ผมหวั่นไหวได้มากถึงขนาดที่ต้องเสียน้ำตาให้กับความขัดแย้งอึดอัดในใจของตัวเอง ยุทธเป็นคนที่มีแรงดึงดูดทางเพศสูงมาก แต่ตอนนี้เค้ากำลังจะขึ้นเป็นดาวเบอร์หนึ่งของบาร์ที่ดังที่สุดในกรุงเทพฯแล้ว เค้าต้องครบเครื่องทั้งรูปรสกลิ่นเสียง...เค้ามีเกือบครบแล้ว รูปลักษณ์ที่ใครเห็นก็ต้องประทับใจ รสรักที่เพียงแค่เล้าโลมก็ทำให้แขนขาอ่อนแรง เสียงทุ้มนุ่มหูที่ปลุกเร้าอารมณ์คนที่ได้ฟังใกล้ ๆ เหลือเพียงแต่กลิ่นที่คืนนั้นเค้ากอดผม มีเพียงกลิ่นโรลออนจาง ๆ ราคาถูกที่ซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อซึ่งผมเองก็เคยใช้สมัยเรียน ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นแบรนด์เนมยี่ห้อดังให้เค้ากับน้ำหอมที่ใช้ในตอนนี้...แต่จริง ๆ แล้วกลิ่นที่ปลุกเร้าอารมณ์ได้มากที่สุดคือกลิ่นสบู่อ่อน ๆ หลังอาบน้ำ ซึ่งคืนนั้นผมก็ได้กลิ่นสะอาดแบบนั้นจากร่างกายร้อนผ่าวของยุทธ...
“คุณไปไหนมาอ่ะ”  ยุทธถามทันทีที่ผมเดินกลับเข้าร้านตัดผม
“ตัดเสร็จนานหรือยัง” ผมไม่ตอบ แต่ถามกลับ
“ไม่นาน แต่ถ้าคุณหายไปผมแย่เลยนะ ผมไม่มีเงินจ่ายค่าตัดผมแพงขนาดนี้หรอก” ยุทธกระซิบบอก
“หล่อขนาดนี้ใครจะทิ้งได้ลงคอ”  ผมพูดขำ ๆ
“.......................” ยุทธอมยิ้มและเป็นฝ่ายหน้าแดงบ้าง
“ไปกันเถอะ”  ผมรับบัตรเครดิตคืนแล้วเดินนำออกจากร้าน
“กลับเลยเหรอ”
“เดี๋ยวซื้อของอีกอย่างก็เสร็จแล้ว”  ผมตอบและพาเดินไปซื้อของที่ตั้งใจไว้
...ผมพายุทธไปที่แผนกเครื่องสำอาง ยุทธทำหน้างง ๆ เมื่อผมบอกให้เลือกกลิ่นน้ำหอมยี่ห้อหนึ่งซึ่งผมเคยได้ยินมาว่าเหมาะสำหรับผู้ชาย...
“ผมมีกลิ่นตัวเหรอ”  ยุทธถามพลางเปิดคอเสื้อดมสำรวจตัวเอง
“ไม่หรอก แต่คุณต้องมีไว้ใส่บ้างในโอกาสสำคัญ”
“ผมไม่รู้ว่าจะใช้กลิ่นไหนอ่ะครับ”
“ลองดมดูหลาย ๆ กลิ่นสิ”  พูดจบผมก็ขอกระดาษเทสกลิ่นจากพนักงานให้ยุทธลองดม
“เวียนหัว”  ยุทธบ่นเบา ๆ เมื่อต้องดมน้ำหอมหลายกลิ่นวนกันอยู่เพื่อเลือกกลิ่นที่ถูกใจ
“เลือกมากลิ่นนึงละกัน”
“คุณเลือกให้ผมดีกว่า ผมยังไงก็ได้ ถ้าคุณชอบ ผมก็ชอบด้วย”  ขนาดบ่นเวียนหัว ยังแอบหยอดผมได้อีก
“ขอสองกลิ่นนี้ลองฉีดที่ข้อมือละกัน”  ผมจับมือของยุทธสองข้างให้พนักงานลองฉีดที่ผิวหนัง
“ไม่ได้ฉีดที่เสื้อผ้าเหรอ”
“ลองน้ำหอมต้องลองกับผิวด้วย เราไปเดินเล่นซักพัก ให้น้ำหอมมีปฏิกิริยากับเหงื่อเรา แล้วเราจะรู้ว่าน้ำหอมกลิ่นไหนเหมาะกับเราที่สุด เดี๋ยวมาใหม่นะครับ”  ผมอธิบายให้ยุทธฟังแล้วหันไปพูดกับพนักงานขาย
“คร้าบบบ ตามสบายเลยครับ ถ้ามีแฟนอย่างนี้ผมรักตายเลย”  พนักงานเกย์สาวพูดยิ้ม ๆ
*
*
...ตอนนี้ผมเลิกเกร็งเวลายุทธทั้งจับมือ ทั้งโอบเอว เค้าดูแลเทคแคร์เป็นอย่างดี คนภายนอกไม่มีทางรู้ว่าความสัมพันธ์ของผมกับยุทธจริง ๆ แล้วเป็นเพียงนายจ้างกับลูกจ้างที่ต้องมาเดินซื้อของด้วยกันเพื่อไปงานสำคัญเท่านั้น...ตัวผมเองบางช่วงเวลายังรู้สึกราวกับว่า ผมกับยุทธเป็นแฟนกันจริง ๆ เลย เฮ้อ ทุกครั้งที่รู้สึกแบบนั้น ผมจะรีบดึงตัวเองกลับสู่โลกแห่งความจริง สายตา รอยยิ้ม คำพูดหวานหูเป็นเพียงแค่หน้าที่ที่เค้าต้องทำ ไม่ใช่มาจากใจ ถ้าผมไม่ใช่เจ้าของบาร์ ไม่มีบัตรเครดิตแบบรูดได้ไม่จำกัดวงเงิน ไม่มีรถหรู ไม่มีคอนโดริมถนนสุขุมวิท...ยุทธคงไม่ทำดีกับผมอย่างนี้หรอก...
“หิวมั้ยกริช”  คำถามของยุทธทำให้ผมตื่นจากภวังค์
“ไม่มีคุณนำหน้าชื่อผมหน่อยเหรอ”  ผมถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“เอ่อ ขอโทษครับคุณกริช ผมลืมตัวไป”  ยุทธสลดลง
“คุณจะทานอะไรล่ะ ห้ามบอกว่าแล้วแต่ผมนะ เพราะวันนี้ผมเลือกให้คุณทุกอย่างแล้ว เรื่องอาหารผมขอให้คุณเป็นคนเลือกบ้าง”  ผมดักคอไว้
“เอ่อ ถ้าคุณกริชไม่หิว ผมก็ไม่หิวนะครับ”
“ท้องเดียวกันเหรอ ไม่ต้องกลัว คุณเลือก แต่ผมจ่าย” 
“งั้นเอาร้านนี้ก็ได้ครับ”  ยุทธชี้ไปที่ร้านสุกี้ชื่อดัง
*
*
...แปลกมาก ถ้าเป็นเด็กบาร์คนอื่น พี่ธัญญ่าเคยบอกว่าคงถล่มเราเต็มที่เมื่อมีโอกาสกินฟรี แต่ยุทธกลับเลือกร้านสุกี้ที่ราคาปานกลาง ซึ่งตอนเรียนผมเองก็ไม่ได้กินบ่อยนักเนื่องจากว่าราคาสูงสำหรับนักศึกษาที่ยังหาเงินเองไม่ได้ ถ้าจะกินก็เนื่องในโอกาสพิเศษ หรือไปกันหลาย ๆ คนแล้วหารกัน...เมื่อก่อน สุกี้ ถือว่าเป็นอาหารที่แพงมากจนผมไม่กล้าเข้ามากินกันสองคนแบบนี้...
“ยุทธ จะกินอะไรก็สั่งสิ”  ผมเห็นยุทธพลิกเมนูดูนานแล้วแต่ยังไม่สั่งซักที
“คุณกริชสั่งก่อนดีกว่า”
“ไม่...ยุทธกินอะไร ผมก็กินอย่างนั้น”  ผมพับเมนูแล้วส่งคืนพนักงาน
“เอ่อ เอาอันนี้ อันนี้ อันนี้ อันนี้ อันนี้ แล้วก็อันนี้ แค่นี้ครับ” ยุทธชี้ที่เมนู
“ทวนรายการอาหารนะคะ”  พนักงานทวนตามที่ยุทธสั่ง ผมต้องอมยิ้มเพราะมันธรรมดาเกินไป
“ขอสั่งเพิ่มครับ”  ผมหยิบเมนูแล้วสั่งตามที่ตัวเองอยากกิน และสั่งอย่างอื่นที่คิดว่ายุทธน่าจะชอบ
“ผมไม่เคยกินสุกี้แบบนี้อ่ะครับ”  ยุทธพูดหลังจากที่พนักงานเดินไปส่งออเดอร์
“อ้าว แล้วทำไมถึงเลือกร้านนี้ล่ะ”
“ก็ผมเห็นโฆษณาในทีวี น่ากินดี”  ยุทธพูดอาย ๆ พลางลูบต้นคอ
“อืม ไปล้างมือก่อนนะ”  ผมลุกขึ้นและเดินอมยิ้มไปล้างมือที่อ่างน้ำในร้าน ตกลงยุทธเป็นคนยังไงกันแน่เนี่ย บางครั้งก็ดูเจนจัด บางครั้งก็ซื่อจนอดขำไม่ได้
*
*
...ผู้ชายคนนี้มีเสน่ห์เหลือเกิน เค้าสามารถที่จะอ้อนเป็นเด็กและต้อนผมจนมุมได้ในนาทีต่อมา บางครั้งก็พูดจากวนประสาทแต่ประโยคถัดไปกลับหยอดให้ผมเขินซะงั้น ไม่บ่อยนักที่ผมจะมีความสุขแบบนี้ มีความสุขจนลืมไปว่าผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงหน้าเป็นคนที่ผมไม่สามารถจะรักได้ แค่คิดก็ผิดแล้ว...
“เป็นอะไรครับคุณกริช จุกเหรอ”  ยุทธถามเมื่อเห็นผมนิ่งไป
“เปล่า อิ่มแล้วใช่มั้ย จะได้กลับซักที”  ผมตอบเสียงเรียบ
“คุณเป็นอะไร บอกผมก่อน เมื่อกี้ยังคุยเล่นได้อยู่เลย ทำไมทำหน้าเครียดซะแล้วล่ะ ปวดท้องเหรอ ไปเข้าห้องน้ำก่อนก็ได้นะ”
“ผมต้องรีบไปทำงานต่อ”  ผมตอบพลางพยักหน้าเรียกพนักงานให้มาเคลียร์บิล
“อืม ครับ เราต่างก็มีหน้าที่ที่ต้องทำนี่”  ยุทธพูดเสียงเบา สายตามองออกไปนอกร้าน
“เดี๋ยวเราไปซื้อน้ำหอมแล้วก็แยกกันเลยนะ อย่าลืมไปเอาเสื้อผ้าชุดเก่าที่ร้านล่ะ”
“ครับ” ยุทธรับคำสั้น ๆ ด้วยน้ำเสียงเหินห่าง
*
*
...เมื่อออกจากร้านสุกี้ ผมก็ขอแวะเข้าห้องน้ำสำรวจความเรียบร้อย เผื่อจะมีน้ำจิ้มสุกี้กระเด็นเลอะเสื้อ ยุทธก็ตามมาล้างมือข้าง ๆ สายตาของเราทั้งคู่มองกันผ่านกระจก แต่ไม่มีคำพูดอะไรออกจากปาก มันอึดอัดจนผมทนไม่ได้...
“ตกลงเลือกกลิ่นไหน”  ผมทำลายความเงียบในห้องน้ำที่ไม่มีบุคคลที่สาม
“ไม่รู้ครับ”
“ลองดมที่ข้อมืออีกครั้งสิ” ผมบอก ยุทธยกมือขึ้นมาดมทั้งสองข้าง
“ผมไม่รู้จะเลือกกลิ่นไหนครับ”
“ไหน ขอดมหน่อย”  ผมจับมือยุทธขึ้นมาดมเพื่อจะตัดสินใจให้ แต่พอดมเสร็จเงยหน้าก็เจอกับสายคู่เดิมที่เคยทำให้ผมอ่อนยวบได้ทุกครั้ง
“จริง ๆ แล้วผมชอบกลิ่นอื่นมากกว่า”  ยุทธพูดเสียงทุ้มเล่นเอาผมใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
“เหรอ กลิ่นไหนอ่ะ ยี่ห้ออะไรรู้มั้ย”  ผมถามพลางหลบตาแล้วจะปล่อยมือยุทธ แต่เค้าไวกว่า
“ชอบกลิ่นนี้อ่ะครับ” พูดจบยุทธก็รวบตัวผมไว้ในวงแขนแล้วจู่โจมเข้าที่ซอกคอของผม คางสาก ๆ ริมฝีปากชื้น ๆ ของเค้าทำให้ผมเข่าอ่อนยืนไม่อยู่
“ปล่อย ผมไม่ใช่แขกของคุณนะ”  ผมกลั้นใจพูดแล้วดันตัวยุทธออกเบา ๆ แต่สิ้นเสียงนั้น ยุทธผละออกมาแล้วถอยหลังไปยืนห่างจากผมถึงสามก้าว
“ขอโทษครับ” ยุทธมองหน้าผมนิ่งก่อนจะเอ่ยปากขอโทษแล้วเดินออกไปจากห้องน้ำทิ้งให้ผมยืนอึ้งอยู่คนเดียว
*
*
...ในที่สุดยุทธก็ได้น้ำหอมพร้อมโลชั่นโรลออนเจลอาบน้ำกลิ่นเดียวกันไปหนึ่งชุด ซึ่งมันก็เป็นการเลือกกลิ่นที่ผมชอบเองอีกตามเคย ตอนอยู่หน้าเค้าเตอร์พนักงานขายคงรู้สึกถึงบรรยากาศมาคุจึงไม่มีการแซวหรือพูดเล่นเหมือนตอนลองน้ำหอม...เมื่อถึงทางออกลานจอดรถที่เราต้องแยกกัน ผมก็ดึงแขนเสื้อยุทธไว้แล้วแบมือตรงหน้าเค้า...
“อะไรครับ”
“ขอเงินด้วย ห้าบาท สิบบาทก็ยังดี”
“....................................” ยุทธทำหน้างง
“ผมเคยได้ยินว่าห้ามซื้อน้ำหอมให้กัน เพราะมันจะทำให้ความสัมพันธ์จางหายไปเหมือนน้ำหอมที่กลิ่นจะจางได้ ต้องแก้เคล็ดด้วยการให้เงิน เหมือนยุทธซื้อน้ำหอมจากผมน่ะ”
“คุณจะสนใจทำไม ก็ในเมื่อความสัมพันธ์ของเรามันต้องจางหายไปอยู่แล้ว ไม่ว่าผมจะให้เงินคุณหรือไม่ก็ตาม”  ยุทธพูดเสียงเรียบก่อนจะวางแบงค์ร้อยลงบนมือผม แล้วหันหลังเดินจากไป

******************************************************************************************************
มาแถมแบบเบา ๆ ให้ในวันเดียวกัน

MonacH
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz (ตอนที3 เลือดสาดพอเบาะ ๆ) 22/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 22-05-2011 22:03:42
 :serius2: จะออกกันไปได้ยังไงเนี่ยยยย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่6/1 ของขวัญ P:4 [22/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: MonarcH ที่ 22-05-2011 22:06:30
สีน้ำเงินเค้าขยันจริง ๆ สีแสดตามไม่ทันแล้ว  :m20:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่4 [22/05/54] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: MonarcH ที่ 22-05-2011 22:08:34
 o13 น้ำหมากป้ากระจายเลย  :haun4:
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 9 อ้อมกอด 21/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 22-05-2011 22:09:12
เพิ่งได้้เข้ามาอ่านครับ
หลอนสุดๆ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๕. ๒๒ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: MonarcH ที่ 22-05-2011 22:13:33
อุ๊ย  o13 แรงดีจริง ๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 9 อ้อมกอด 21/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: MonarcH ที่ 22-05-2011 22:16:32
 :z1: เปลี่ยนฟีลไม่ทันเลย สยิว และสยองในตอนเดียวกัน  o13
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz (ตอนที3 เลือดสาดพอเบาะ ๆ) 22/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 22-05-2011 22:17:06
 :a5:ซอมบี้เต็มไปหมด +1
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่4 [22/05/54] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 22-05-2011 22:17:46
เลี้ยงต้อยสิ เพลินดี รอเก็บเกี่ยวผลผลิตอย่างใจเย็น  :o8:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 5 PG. 3 [22/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 22-05-2011 22:23:03
แรกๆก็รู้สึกเขินๆ อ่านๆไปมันก้มีปมของมันอยู่
 :เฮ้อ: ไม่รู้ว่ายุทธจะเชื่อใจได้แค่ไหน
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 5 PG. 3 [22/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 22-05-2011 22:30:54
มีงอน ๆ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 5 PG. 3 [22/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 22-05-2011 22:32:08
ยุทธท่าทางจะไม่ธรรมดา  o18 +1
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่4 [22/05/54] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 22-05-2011 22:35:21
เอาแล้วไง แรก ๆ ก็ดูขัดเขิน ทำไปทำมา ตกหลุมรักเข้าแล้ว  :m20:
+1 ให้เป็นกำลังใจ มาเป็นใจให้บรูโน่ หลอกเด็ก ( แก่แดด )
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่6/1 ของขวัญ P:4 [22/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: onjazz26 ที่ 22-05-2011 22:36:15
เป็นคนเดียวกะที่ฆ่า หรั่งอ่ะเป่า :m12:
โอ๊ะ...โอ...ถามผิดทู้ อิ อิ :sad3:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๕. ๒๒ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: vascular ที่ 22-05-2011 22:36:30
เทียนนี่ก็แรงได้ใจทุกตอนนะครับ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่4 [22/05/54] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 22-05-2011 22:42:07
คุณหนูทำน่าัรักเป็นด้วย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 9 อ้อมกอด 21/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: onjazz26 ที่ 22-05-2011 22:43:42
เจ๊จง....มา ม๊า รีบมาลงทู้ของตัวเองเถอะ :oni3:
เมื่อกี้เห็นไปอยู่ทู้ของเรนเจอร์สีไหนก็ม่ายรุ๊ :3129:

โอ้....ตอนที่ 10 ที่ฝันหา...จามาแย้วววว :yeb:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๕. ๒๒ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: なおみ™ ที่ 22-05-2011 22:44:47
ฟาดฟันกันเลือดซิบๆ เลยทีเดียว
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 5 PG. 3 [22/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 22-05-2011 22:45:39
กลิ่นกายหนุ่มหล่อส่วมมากมักเจือจางยากกว่าน้ำหอมนะคะ
ยกเว้นแต่ตอนที่... (ไม่เอาไม่พูดดีกว่า) 555
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๕. ๒๒ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: คนริมคลอง ที่ 22-05-2011 23:07:39
ขิงก็ราข่าก็แรง 

ขอแนะนำให้เอาอีตาธรรมทานจับยัดใส่ถังเหลือง ทำบุญถวายวัดไปเลย

หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 5 PG. 3 [22/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: Mountain ที่ 22-05-2011 23:44:30
กลิ่นกายหนุ่มหล่อส่วมมากมักเจือจางยากกว่าน้ำหอมนะคะ
ยกเว้นแต่ตอนที่... (ไม่เอาไม่พูดดีกว่า) 555
อันนี้เข้าใจดีเลยครับ แต่เซนชอบกลิ่นของเด็กมัธยมมากกว่า อ่ะ หอมน่ากินมากมาย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 9 อ้อมกอด 21/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: Mountain ที่ 22-05-2011 23:49:04
มาปูเสื่อรอเจ้จง
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 5 PG. 3 [22/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: mutoo ที่ 22-05-2011 23:49:04
หมั่นไส้อิยุทธอ่ะ :z6:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 9 อ้อมกอด 21/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 22-05-2011 23:56:21
ยังเขียนไม่เสร็จเลย ได้แค่ 50% จะเอาก่อนไหมล่ะ
แต่.....












เค้าว่ารอเอาไปแบบเต็ม ๆ เหอะนะพลีส รอกันอีกนิดนึงนะจ๊ะ :-[
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่6 เสียงเรียกในกองเพลิง(100)
เริ่มหัวข้อโดย: ภาพฝัน ที่ 23-05-2011 00:00:54
   “ไนท์เดินไหวไหม” เตชวัฒน์ถามร่างโปร่งที่กำลังยืนทรงตัวอยู่ วันนี้วริศรินทร์ใส่เพียงเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์เท่านั้น นับวันวริศรินทร์ยิ่งแต่งตัวธรรมดาเมื่ออยู่กับเขา วริศรินทร์มองตัวเองในกระจก แล้วเดินไปที่ลิ้นชักเลือกแว่นกันแดดทรงนักบินขึ้นมาสวม เพียงเท่านี้ก็ดูดีแล้วสำหรับเตชวัฒน์

   “อย่าทิ้งน้ำนักไปที่เท้าขวา ถ้าเดินไม่ไหวก็เกาะไหล่พี่ได้ เดี๋ยววันนี้มีคิวถ่ายละครมีฉากเสี่ยงจะเลื่อนไหม แล้วแน่ใจเหรอครับว่าไหว” เขาถามอย่างเป็นห่วง เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายพยักหน้าตอบรับเขาก็รู้สึกโล่งใจ

   มาถึงกองถ่ายวริศรินทร์เดินไปเตรียมตัวที่จะถ่ายทำการแสดง นี่เป็นฉากสั้นๆที่วริศนทร์ต้องติดอยู่ในกองไฟ โดยเช้าฉากร่วมกับผลายฟ้า มีการซักซ้อมคิวกันหลายครั้งเพราะเป็นฉากที่เสี่ยงอันตราย กว่าจะเริ่มงานก็บ่าย

   “พักทานข้าวก่อนครับ เดี๋ยวมาถ่ายกันต่อ” ผู้กำกับสั่งพักกองให้ทานข้าว เตชวัฒน์เดินเข้าไปหาวริศรินทร์ที่ดูท่าทางเหนื่อยๆ เขาน้ำเย็นให้ดื่ม วริศรินทร์รับไปดื่มอย่างหิวกระหาย แต่พอดูอาหารที่ถูกเตรียมไว้เขาก็ชะงัก ฟักทองผัดไข่ ไข่เจียวยัดไส้ ปูจ๋า อาหารที่ทางกองเตรียมไว้ล้วนเป็นอาหารที่มีไข่เป็นส่วนผสม

   “หิวไหมไนท์” เตชวัฒน์กระซิบถามวริศรินทร์ วริศรินทร์ส่ายหน้าแทนคำตอบ แต่เขาคิดว่าอีกฝ่ายคงจะหิวพอสมควรเพราะนี่ก็เกือบจะบ่ายโมงแล้ว

   “เดี๋ยวพี่ไปหาอะไรให้ทาน ไนท์รออยู่นี่แป๊บนะ นั่งอยู่นี่อย่าไปไหน” ด้วยความเป็นห่วงว่าอีกฝ่ายจะฝืนจนเป็นลม เตชวัฒน์ให้วริศรินทร์นั่งพักรอเขาก่อน

   วริศรินทร์นั่งที่จุดเดิมมองร่างสูงของอีกฝ่ายที่ก้าวเดินออกไปอย่างรวดเร็ว สายตาของเขามองไปรอบๆ กับบบรยากาศของกองถ่าย

   “ไนท์ ทำอะไรอยู่เหรอ” ปลายฟ้าเดินถือจายข้าวเข้ามาใกล้ทักทายอย่างเป็นมิตร แต่ก็ไร้ซึ่งคำตอบมีเพียงใบหน้าเรียบเฉยที่หันมามอง

   “ไม่กินอะไรล่ะ หิวเหรอ เดี๋ยวเราไปหยิบให้ไหม” ปลายฟ้าพยายามจะผูกมิตรกับเขา วริศรินทร์ไม่ตอบเขาเพียงแค่ใช้สายตามองเลยผ่านออกไปอย่างไร้
จุดหมาย

   ปลายฟ้าพยายามจะชวนวริศรินทร์คุยอะไรอีกหลายอย่างแต่ก็ไร้การตอบสนอง จนสุดท้ายก็ต้องยอมแพ้เลิกลาไปเอง จนร่างสูงใหญ่ของเตชวัฒน์ก้าวเข้ามา

   “อ้าว ปลายฟ้า” เตชวัฒน์ทักทายปลายฟ้าเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายมานั่งอยู่ข้างๆวริศรินทร์ ปลายผ้ายิ้มให้แล้วขอตัวออกไป ส่วนเขาหยิบข้าวกล่องออกมา

   “กระเพราไก่ ไม่มีไข่ ไนท์กินได้ รีบกินซะสิเดี๋ยวหมดเวลาพัก” เขาหยิบกล่องข้าวออกมาเปิดกล่องและหยิบช้อนให้อีกฝ่าย

   “น้องไนท์อาหารไม่อร่อยหรือค่ะ ถึงต้องออกไปซื้อถึงข้างนอก” ริสาผู้ดูแลงานจิปาถะเข้ามาถามด้วยความสงสัย อาหารมีอยู่มากมายแต่วริศรินทร์ไม่แตะเลยสักคำ จนถึงขนาดเตชวัฒน์ต้องออกไปซื้ออย่างอื่นมาให้ทาน สายตาของริสามองวริศรินทร์อย่างรู้สึกไม่พอใจ เธอรู้สึกว่าสริศรินทร์ค่อนข้างทำตัวเรื่องมาก หยิ่ง และดูถูกคน

   “ไม่ใช่ครับ อาหารส่วนใหญ่เป็นไข่ แล้วไนท์แพ้ไข่ครับ ไนท์ทานไข่ไม่ได้” ตเตชวัฒน์รีบแก้ไขความเข้าใจผิด เขาดูจากสายตาของหญิงสาวเขาก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกในแง่ลบ

   “ตายจริง น้องไนท์แพ้ไข่ ขอโทษนะค่ะพี่ไม่รู้เลย” เธอร้องอย่างตกใจ เธอเป็นผู้รีับผิดชอบเกี่ยวกับอาหารการที่เธอไม่รู้ว่าวริศรินทร์ทานไข่ไม่ได้แล้วยังเตรียมอาหารที่ส่วนใหญ่มีไข่ เท่ากับว่าเธอได้ทำงานพลาด

   “ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมไปซื้ออย่างอื่นมาให้ไนท์ทานแล้ว” เตชวัฒน์ยิ้มให้หญิงสาวอย่างใจดี ริสาขอโทษขอโพยที่ทำให้ทั้งคู่ต้องยุ่งยากหลายครั้ง

   การถ่ายทำเริ่มต้นขึ้น วริศรินทร์มองรอบๆ ตามบทบาทเขาต้องแก้เชือกให้ปลายฟ้าแล้วพยุงออกไป กลิ่นน้ำมันแล้วควันไฟทำให้เขารู้สึกตื่นตัว วริศรินทร์แกะเชือกให้ปลายฟ้าอย่างใจเย็น ร่างโปร่งประคองนักแสดงรุ่นพี่เพื่อที่จะก้าวออกไปตามบท แต่ทันไดนั้นเปลวไฟกลับโหมกระหน่ำจนควันไฟลอยเข้ามาปิดทางออก ทั้งสองคนสำลักควันไฟจนแสบคอ วริศรินทร์มองไปรอบๆ แม้ควันไฟจะบังสายตาเอาไว้แต่เขามองเห็นทางออก เขาพยุงปลายฟ้าให้หลบเหลวไปที่กำลังลามเลียไปทั่ว ปลายฟ้าเริ่มมีอาการตื่นตระหนก ส่วนตัวเขายังคงรู้สึกสงบ เขาจูงอีกฝ่ายเดินหลบกลุ่มควันไฟที่กำลังเผาไหม้มุ่งสู่ทางออกที่ถูกปิดสนิท

   โครม

   ประตูทางเข้าออกโดนถีบออกอย่างแรง สายลมผู้จัดการส่วนตัวของปลายฟ้าฝ่าเข้ามา เขาบอกให้วริศรินทร์ตามออกไปก่อนจะโอบกอดร่างของปลายฟ้าเอาไว้ วริศรินทร์มองดูรอบๆ กับมองร่างสูงใหญ่ที่โอบกอดนักแสดงหนุ่มอย่างปกป้อง จนบางทีเขาก้รู้สึกว่าก็แค่ไฟไหม้ไม่เห็นจำเป็นต้องตื่นเต้นขนาดนั้น เขาเดินตามร่างสูงใหญ่ไปเรื่อยๆ แม้จะเห็นว่าอีกฝ่ายรีบฝ่ากองไฟไปอย่างรวดเร็ว

   “ไนท์” เสียงกระซิบทำให้เขาชะงักเช่นเดียวกับความเจ็บแปล๊บที่เท้าขวา ทันทีที่เขาชะงักแล้วหันไป คานไม้ของกระท่อมก็ร่วงลงมา ขาของวริศรินทร์ติดอยู่ใต้ท่อนไหม้ เปลวไฟกำลังลามเลียไปทั่ว วริศรินทร์ลองดันท่อนไม้ออก ท่อนไม้ใหญ่จนเขาเลื่อนมันออกไปไม่ได้ สายลมเดินออกไปแล้วเหลือเขาที่อยู่คนเดียวท่ามกลางกองเพลิง ขาเขาเจ็บและตอนนี้เขาก็ถูกท่อนไม้ทับไว้

   เสียงแผ่วหวานยังคงเรียกเขาอยู่ วริศรินทร์ทิ้งตัวลงนอนอยู่กับพื้น เขามองเปลวไฟรอบๆ ปล่อยให้มันค่อยๆ ลามเลีย เขาไม่ดิ้นรนและไม่คิดที่จะหนี ใบหน้าของไนท์ไม่ได้ตื่นตะหนกมันยังคงสงบนิ่งกับดวงตาที่ปิดลงช้าๆ ความทรงจำบางอย่างหลั่งไหลเข้ามาในห้วงความคิด วริศรินทร์ยิ้มจางๆ ท่ามกลางความร้อนที่กำลังคืบคลานเข้ามา เขากำลังจะหลับ

........................................................
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่6 เสียงเรียกในกองเพลิง(100)
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 23-05-2011 00:24:11
อ๊ากกกก เกิดอะไรขึ้น  :serius2:
เสียงเรียกในกองเพลิง
เสียงอะไร? เสียงใคร?
 :serius2:
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่6 เสียงเรียกในกองเพลิง(100)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 23-05-2011 00:53:42
ใครเรียกฟระ!
อย่าบอกนะว่าผีสีม่วงข้ามเรื่องมาอ่ะ น้องไนท์~~~~
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่6/2 ของขวัญ P:4 [23/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 23-05-2011 01:34:12
‘กริ๊งงงงงงงงงง’
เสียงโทรศัพท์มือถือของสายลมดังขึ้นตั้งแต่เช้าตรู่ สายลมหยิบขึ้นมาดูชื่อก่อนต้องรีบตั้งสติกับชื่อที่ขึ้นอยู่ตอนนี้
“ครับท่านประธาน”
“เมื่อวานเกิดเรื่องอะไรขึ้น ทำไมคุณไม่โทรรายงานผมห๊ะ” เสียงดังกราดออกมาจากปลายสาย
“ขอโทษด้วยครับ พอดีมันฉุกละหุกผมก็กะจะเข้าไปรายงานท่านวันนี้อยู่เหมือนกันครับ” สายลมรีบคิดหาทางแก้ต่าง
“ไม่ต้องแล้วหรอกมั้งผมว่า คุณอ่านหนังสือพิมพ์หรือยังพาดหัวหน้าหนึ่งขนาดนั้น” สายลมรีบเดินออกไปหยิบหนังสือพิมพ์ที่กล่องรับหน้าห้องทันที
(http://image.free.in.th/z/iy/u6ftm.jpg)

หนังสือพิมพ์เกือบทุกหัวสีหยิบข่าวนี้ขึ้นมา จนหนังสือพิมพ์ทุกฉบับขายหมดเกลี้ยงในเวลาไม่นาน
“ว่าไงเห็นแล้วใช่ไหม ลองบอกมาสิว่ามันเกิดอะไรขึ้น” เสียงขรึมจากคนถามแสดงอาการไม่พอใจ
สายลมออกตัวปกป้องปลายฟ้าอย่างสุดความสามารถ เพราะไม่เช่นนั้นปลายฟ้าอาจโดนสั่งพักงานหลังจากถ่ายหนังเรื่องนี้จบก็ได้ เขายอมให้เป็นอย่างนั้นไม่ได้ เพราะยามที่ปลายฟ้าว่างงานก็มักจะจมอยู่ในห้วงความคิดที่ดูซึมเศร้าและหม่นหมองตลอดเวลา นั่นเป็นสิ่งที่ทนเห็นไม่ได้สำหรับเขา
ประธานบริษัทไม่ได้ว่ากล่าวอะไรปลายฟ้ามากเพราะการช่วยเหลือของสายลม แต่ก็ได้สั่งให้พักงานช่วงนี้ไปก่อนจนกว่าทางกองถ่ายจะจัดการข่าวเรื่องนี้เสร็จ แต่ก็คงต้องหาทางกู้ชื่อเสียงกลับคืนมาด้วย
 
ปลายฟ้าตื่นขึ้นมาหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่าน อย่างแรกที่เขาเห็นคือภาพหัวข่าวถึงเขากับเหตุการณ์เมื่อวาน สายลมนั่งนิ่งคิดอะไรบางอย่างอยู่ที่โซฟากลางห้อง ปลายฟ้ารีบเดินเข้ามาหา
“พี่สายลมทำไมข่าวถึงได้ลงเร็วแบบนี้ละครับ แล้วแบบนี้ที่บริษัทเขาว่ายังไงบ้างครับ” ปลายฟ้ารีบถามเพราะรู้ว่าต้องมีอะไรเกิดขึ้นแล้วแน่ ๆ
“ท่านประธานโทรมาแล้ว แต่พี่แก้ต่างให้ฟ้าไปแล้วนะ ไม่มีอะไรมากหรอก เพียงแต่ช่วงนี้ให้เก็บตัวอยู่เงียบ ๆ สักพักก่อนห้ามออกไปไหน งดรับงานสักสามสี่วันจนกว่าเรื่องจะซาลง” สายลมบอกข้อตกลงที่คุยกับท่านประธานให้ปลายฟ้าฟัง
“แล้วแบบนี้ผมไม่ต้องอยู่แต่ในบ้านหรือพี่สายลม”
“จะให้พี่ทำยังไงได้ล่ะฟ้า นี่ก็ถือว่าเบาสุดแล้วนะ แต่พี่กำลังคิดว่าทำไมข่าวถึงหลุดออกมาจากกองถ่ายได้ เพราะเมื่อวานพี่กับผู้กำกับเราตกลงกันไว้ว่าจะปิดเป็นความลับแล้วนี่นา” สายลมยังทำหน้าครุ่นคิดอยู่
 “ผมว่าต้องเป็นพวกมันแน่เลยที่ปล่อยข่าว มันต้องการทำลายชื่อเสียงผมแน่ ๆ”                
 “เรายังไม่มีหลักฐานพูดแบบนั้นไม่ได้นะฟ้า”
 “ทำไมจะไม่ได้ล่ะครับ มันก็รู้ ๆ กันอยู่ว่าเรื่องนี้มีคนรู้ไม่กี่คน แถมทางเรายังปิดข่าวแล้วด้วยแล้วข่าวมันจะรั่วมาจากไหนล่ะครับ ถ้าไม่ใช่จากไอ้อเล็กซ์นั่น” ปลายฟ้าเริ่มหัวเสีย เพราะการที่เขาโดนกักบริเวณเป็นเรื่องที่เลวร้ายสำหรับมาก
“พี่ก็คิดแบบนั้นแต่เราอย่าเพิ่งพูดออกไปตอนนี้ เพราะว่ามันอาจไม่เป็นผลดีกับเรา ตอนนี้เราอยู่เฉย ๆ ไว้ก่อนดีกว่าฟ้าเข้าใจที่พี่พูดใช่ไหมครับ เพราะฉะนั้นช่วงนี้ฟ้าต้องงดออกไปไหนสักสองสามวันอยู่แต่ในห้องหลบนักข่าว ก่อน ส่วนเรื่องอื่น ๆ เดี๋ยวพี่จัดการให้เอง”
 “ครับ ผมอยู่แต่ในห้องก็ได้” ปลายฟ้าตอบรับแบบจำยอม

ช่วงเวลาสามสี่วันที่ปลายฟ้าไม่ได้ออกไปไหน โทรศัพท์ก็ไม่ได้ติดต่อใครทั้งสิ้น เพราะเป็นคำสั่งจากประธานบริษัท เขาได้แต่นั่งมองท้องฟ้าสีน้ำเงินผ่านทางหน้าต่างมุมเดิมทั้งวัน แววตาที่บอกถึงความเหงา ความเดียวดายถูกถ่ายทอดออกมาตลอดเวลา สายลมก็ได้แต่เฝ้ามองอยู่ห่าง ๆ ภาพที่เห็นก็ทำให้เขาเองรู้สึกไม่ดีเหมือนกัน สายลมเองทำได้อย่างมากแค่เพียงชวนปลายฟ้าคุย หรือเล่นเกมบางอย่างเท่านั้น แต่ปลายฟ้าก็มักกลับไปนั่งมุมเดิมเสมอ
หลังจากทางบริษัทจัดการเรื่องทั้งหมด ปลายฟ้าถึงเริ่มได้ออกมาข้างนอกบ้าง แต่ก็ยังมีให้งดสัมภาษณ์ทุกกรณี แต่เพียงเท่านี้ปลายฟ้าก็รู้สึกดีขึ้นกว่าอยู่ห้องเป็นไหน ๆ มีบางงานที่ต้องไปเจออเล็กซ์ แต่ทางฝ่ายนั้นก็มักหลบฉากออกไปมากว่า การถ่ายหนังเริ่มกลับมาเปิดกองอีกครั้ง แต่บรรยากาศกลับไม่เหมือนในตอนแรก ปลายฟ้ากับอเล็กซ์มักจะคุยกันเฉพาะตอนเข้าฉากเท่านั้น
สิ่งเดียวที่ไม่เปลี่ยนไปจากเดิมคือ กล่องของขวัญผูกโบว์สีน้ำเงินเข้มกับการ์ดสีโทนเดียวกัน สายลมพยายามสืบถามจากคนในกองถ่ายก็ไม่มีใครรู้ถึงที่มาของมัน รู้เพียงว่ามันจะมาวางอยู่ทุกเช้า พวกเขาทำเพียงแค่เก็บไว้ให้เท่านั้นเอง เมื่อรับมาปลายฟ้าก็มักจะให้สายลมเอาไปทิ้งทุกครั้ง

ปึ้ง!!
“ผมเริ่มจะไม่ไหวกับไอ้ของขวัญบ้านี่แล้วนะพี่สายลม มันต้องมีใครมาเล่นตลกกับผมแน่ ๆ” ปลายฟ้าขว้างกล่องของขวัญเข้าใส่ข้างฝาห้องอย่างโกรธแค้น
“ฟ้าใจเย็น ๆ สิครับ ถ้าฟ้าเป็นแบบนี้เดี๋ยวก็เข้าทางพวกมันพอดี” สายลมเดินไปหยิบกล่องของขวัญที่ยับย่นเพราะแรงกระแทกกับผนังมาแกะดู ข้างในยังคงเป็นรูปของปลายฟ้าที่ถ่ายเมื่อวานเหมือนทุกครั้ง
“แต่มันจะทำให้ผมประสาทเสียก่อนนะสิครับ พี่สายลมช่วยตามตัวให้เจอเร็ว ๆ หน่อยได้ไหมครับ ก่อนที่ผมจะทนไม่ไหวเสียก่อน” ปลายฟ้าเดินเข้าห้องทันทีที่พูดจบ ปล่อยให้สายลมคิดอะไรอยู่คนเดียว

“เอ๊ะ!! พี่สายลมแล้วนี่อะไรครับ” ปลายฟ้าหยิบซองจดหมายสีน้ำเงินเข้มที่แทรกมากับกองหนังสือพิมพ์ ที่กำลังนั่งอ่านอยู่ในตอนเช้า
“จ่าหน้าถึงผมด้วยสิครับ” เขาพลิกพร้อมกับแกะมันออกทันที
“เดี๋ยวก่อนฟ้า” สายลมรีบแย่งจดหมายมาถือไว้เอง
“ทำไมครับพี่สายลม หรือว่าพี่สงสัยว่าจะเป็นจดหมายของคนที่ส่งของขวัญมา” ปลายฟ้าสงสัยกับท่าทางระมัดระวังของสายลม
“ฟ้าอย่าลืมสิครับ ว่าเราไม่เคยเปิดเผยที่อยู่ที่นี่ ถ้าเป็นแฟนคลับก็ต้องส่งไปที่บริษัท แล้วเขาจะเอามาส่งให้เราเอง แต่นี่มันมาอยู่ปนกับหนังสือพิมพ์ได้ยังไงกัน” คำพูดเตือนทำให้เจ้าของชื่อฉุกคิดขึ้นมาได้
สายลมเป็นตัวแทนเปิดจดหมายออกมาอ่าน
                ถึง  ปลายฟ้าที่รัก
            ผมเป็นหนึ่งในคนที่ติดตามคุณตั้งแต่คุณเริ่มเข้าวงการ โดยเฉพาะการถ่ายแบบครั้งแรกของคุณดวงตาของคุณมันสะกดเข้าไปในจิตใจของผม อย่างบอกไม่ถูก  ผมรู้สึกหลงรักในแววตาของคุณตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา แววตาของคุณมันช่างงดงามจนทำให้ผมยากเกินจะถอนตัวจากคุณได้ ผมเพียรพยายามตามหาที่อยู่ของคุณมานานแสนนาน ผลสุดท้ายผมก็เจอมันจนได้ ผมอยากใกล้ชิดคุณ ผมอยากเห็นแววตาของคุณใกล้ ๆ ผมอยากอยู่ในแววตาของคุณตลอดเวลา ผมดีใจที่ผมได้บอกความรู้สึกกับคุณแล้ว และหวังว่าคุณคงรับรู้ถึงความรู้สึกทั้งหมดของผมได้
 
                                                                                    จากคนที่รักคุณสุดหัวใจ
                                                                                                หม่อน
ปล. ผมเฝ้าดูคุณอยู่ตลอดเวลา ผมจะไม่ให้ใครมาทำลายชื่อเสียงของคุณและแย่งคุณไปจากผมได้
 
              
สายลมอ่านจบต้องขมวดคิ้วอีกครั้ง เพราะถ้านี่เป็นการล้อเล่นมันก็ออกจะเกินเหตุไปหน่อย แต่จากสัญชาตญาณของเขา บอกว่าเรื่องนี้มีบางอย่างไม่ชอบมาพากลแน่นอน ปลายฟ้าเองก็มีสีหน้าเคร่งเครียดเพิ่มมากขึ้นไม่ต่างกัน เพราะเขารู้สึกเหมือนโดนข่มขู่ทางอ้อม
“พี่ว่าช่วงนี้ฟ้าต้องระวังตัวเป็นพิเศษแล้วนะครับ ท่าทางเรื่องจะรุนแรงกว่าที่เราคิดเสียแล้ว” สายลมเริ่มปรากฏความเครียดบนใบหน้า
“ครับผมจะระวังตัวให้มากกว่านี้ แต่ถึงยังไงผมก็มีพี่สายลมอยู่ทั้งคน สบายใจได้อยู่แล้ว” ปลายฟ้าพูดเชิงให้กำลังใจสายลมที่มีท่าทางเคร่งเครียด
“พี่ว่าเรื่องนี้พี่ไปปรึกษาท่านประธานก่อนดีกว่า ว่าจะทำยังไงได้บ้าง วันนี้ไม่มีคิวถ่ายหนังฟ้าอยู่ห้องอย่าออกไปไหนนะครับ” สายลมสั่งกำชับเพราะกลัวเกิดเรื่องร้ายขึ้น
“ครับ ผมรออยู่ที่ห้องก็ได้ แต่ว่าวันนี้พี่ก้องบอกว่าจะมาหา พี่สายลมไม่อยู่แบบนี้จะให้พี่ก้องมาได้ไหมครับ” ปลายฟ้าหันมาถาม แต่แววตาเหมือนอ้อนวอนให้อนุญาต
“ก็ได้ครับ ช่วงนี้ดีกว่าปล่อยให้ฟ้าอยู่ห้องคนเดียว” ถึงสายลมจะรู้สึกไม่ดี ที่ต้องปล่อยปลายฟ้าให้อยู่กับก้องเกียรติตามลำพัง แต่มันก็ดีกว่าที่จะปล่อยให้ปลายฟ้าอยู่คนเดียว เขาทำได้เพียงอดกลั้นความรู้สึกไว้เท่านั้น
“แต่พี่ก็ยังไม่ไว้ใจอยู่ดี ฟ้าล็อคห้องให้ดีๆ นะครับ ถ้าไม่ใช่พี่หรือคุณก้องฟ้าห้ามเปิดประตูให้ใครเด็ดขาด” สายลมยังคงเป็นกังวลจึงกำชับปลายฟ้าอยู่หลายครั้ง
“ครับพี่ไปได้แล้วไม่ต้องห่วงผมหรอก ระบบรักษาความปลอดภัยที่นี่เขาก็มีนะครับ”
 
 
นี่เป็นครั้งแรกในรอบปีที่ปลายฟ้าได้อยู่ที่พักคนเดียว ปกติสายลมจะอยู่เคียงข้างตลอดเวลาจนเคยชิน เขาเดินไปนั่งที่ประจำริมหน้าต่างสายตามองท้องฟ้าสีน้ำเงินใสยามกลางวัน ถึงบรรยากาศมันจะแตกต่างจากยามค่ำแต่ความรู้สึกมันไม่ได้แตกต่างกันแม้แต่ น้อย เพียงแต่สีน้ำเงินใสนี้มันทำให้เขาผ่อนคลายลงมากขึ้นกว่าสีน้ำเงินเข้ม แต่คราวนี้เขาคิดถึงเรื่องของสายลมเขาอยากได้คนที่ดีเพียงครึ่งของสายลมก็ยังดีมารักเขา แค่นั้นก็คงทำให้เขามีความสุขอิ่มเอมหัวใจมากกว่าทุกวันนี้
“กริ๊งงงงงงงงงงง”
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นทำให้ต้องรีบลุกขึ้นไปรับ
“ฟ้าครับพี่ใกล้จะถึงแล้วนะครับ ฟ้าอยากทานอะไรหรือเปล่า เดี๋ยวพี่แวะซื้อเข้าไปให้” ก้องเกียรติโทรถามขณะขับรถมาที่คอนโดปลายฟ้า
“แล้วแต่พี่ก้องแล้วกันครับ” ปลายฟ้าตอบเสียงใน
“แล้วคุณสายลมล่ะ เขาอยากทานอะไรหรือเปล่า”
“พี่สายลมไม่อยู่ครับ เข้าบริษัทคงกลับค่ำ ๆ พี่ก้องอยากทานอะไรก็ซื้อมาเถอะครับ ผมกินได้ทุกอย่างอยู่แล้ว”
“เด็กคนนี้นี่ ท่าทางจะเจริญอาหารนะ งั้นเดี๋ยวพี่แวะซื้อของโปรดเราเข้าไปแล้วกัน คิดว่าอีกครึ่งชั่วโมงน่าจะถึงครับ”
“ครับ พี่ก้องขับรถดี ๆ นะครับ แล้วเจอกันครับ บาย”

 ปลายฟ้ารีบเก็บข้าวของในห้องที่กระจัดกระจาย ถ้าพี่ก้องมาเห็นห้องสภาพแบบนี้คงอายมากแน่ๆ หนังสือพิมพ์ที่กระจัดกะจายเต็มห้องในตอนแรกถูกเรียงเก็บไว้ที่มุมหนังสือ อย่างเป็นระเบียบ ของใช้ส่วนตัวบางอย่างถูกซ่อนไว้อย่างมิดชิด กว่าจะจัดการทั้งหมดทำเอาเจ้าของห้องเหงื่อซึมได้เหมือนกัน
“อาบน้ำก่อนดีกว่าน่าจะทันก่อนพี่ก้องมาถึง” คิดได้เขาก็รีบไปชำระล้างร่างกายทันที

“กริ๊งงงงงงงง”
เสียงโทรศัพท์ภายในดังขึ้น ทำให้เขารีบออกมารับ
“พี่สายลมลืมอะไรหรือไงครับ” เสียงทักตอบด้วยความเคยชิน เพราะมีเพียงสายลมคนเดียวเท่านั้นที่จะโทรมาเบอร์นี้
“สายลม ใครคือสายลมครับ นี่ปลายฟ้าไม่ได้อยู่คนเดียวใช่ไหม” เสียงที่ไม่คุ้นเคยตอบกลับอย่างไม่เป็นมิตร
“เออ คุณเป็นใครครับ สงสัยจะต่อผิดแล้วครับห้องนี้ไม่มีคนชื่อปลายฟ้า” หูโทรศัพท์ถูกวางสายทิ้งทันที
“กริ๊งงงงงง”
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทันทีที่วางสาย ปลายฟ้ายืนนิ่งตัดสินใจอยู่สักพักถึงรับสาย
“วางสายผมทำไม ผมรู้นะว่าเป็นคุณปลายฟ้า ห้ามวางสายผมอีกนะ” เสียงพูดแสดงความไม่พอใจแกมข่มขู่เมื่อรับสา
“คุณต่อผิดแล้วละครับ ผมไม่ได้ชื่อปลายฟ้า”
“อย่ามาหลอกผมเลยดีกว่า แต่สายลมเป็นใครผู้จัดการส่วนตัวคุณใช่ไหม แล้วทำไมเขาอยู่กับคุณเท่ากับว่าคุณใช้แววตาที่งดงามของผมจ้องมันตลอดเวลา ใช่ไหม แล้วยังไอ้ก้องเกียรตินั่นอีกคน ผมไม่ยอม......” ปลายฟ้ารีบวางสายเมื่อรู้สึกว่าเขาจะคุมสถานการณ์ไม่ได้แล้ว
“กริ๊งงงงงงงงงง”
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาอีกครั้ง เขารู้สึกกลัวกับการที่จะต้องรับโทรศัพท์อีกครั้ง ถ้าเกิดเป็นคนเดิมอีกจะทำยังไง เมื่อมองไม่เห็นทางอื่นเขาจึงตัดสินใจดึงสายโทรศัพท์ภายในออกทันที พี่ก้องเมื่อไหร่จะมาถึงสักทีนะ เขารีบเข้าห้องแต่งตัวแล้วต่อสายหาคนรักที่กำลังเดินทางมาหาอยู่ในตอนนี้
“พี่ก้องถึงไหนแล้วครับ”
“ปลายฟ้าเป็นอะไรครับ เกิดอะไรขึ้นทำไมเสียงดูตื่นเต้นแบบนั้นล่ะ”
“พี่มาเร็วๆ เถอะครับแล้วผมจะเล่าให้ฟังอีกที”
“ครับ อีกห้านาทีพี่คงถึงรอพี่ก่อนนะครับ”
 
ปลายฟ้าเดินกระวนกระวายอยู่ภายในห้อง ราวกับลูกหนูตัวเล็กที่หลงเข้ามาติดอยู่ในกับดัก นาฬิกาติดผนังตกเป็นเป้าสายตาทุกสองถึงสามวินาที ความกลัวเข้ามาเกาะกุมหัวใจเขา เวลานี้ตอนนี้อยากให้ใครสักคนมาอยู่เป็นเพื่อนเพื่อความอุ่นใจ
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก”
“พี่ก้องมาถึงแล้วหรือครับ” ปลายฟ้ารีบวิ่งไปเปิดประตูอย่างดีใจ
“คุณเป็นใครครับ แล้วมาหา.... อื้อ  อื้อ........” เขายังไม่ทันจะถามจบผ้าสีขาวในมือบุคคลตรงหน้าก็ปิดเข้าที่กึ่งปากกึ่งจมูก และสติทั้งหมดก็ค่อยๆ เลื่อนลอยหายไป


==============> โปรดติดตามตอนต่อไป


ตอนนี้ครบ 100% แล้วนะครับ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 5 PG. 3 [22/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 23-05-2011 01:39:34
ไม่สนแล้วให้เค้าทำไมตั้งร้อยนึงอ่ะ แหมๆๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่6 เสียงเรียกในกองเพลิง(100)
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 23-05-2011 01:54:51
สงสารไนท์ ไหนจะโดนแกล้ง โดนนินทา ไหนจะแพ้ไข่ โดนแก้วบาด แล้วเนี่ย จะโดนไฟคอกด้วย ถ้าเปลี่ยนจากนิยาย ไปเป็นละคร ต้องจ่ายค่าตัวให้ไนท์เยอะๆเลย ฮือๆๆๆ สงสารไนท์ ที่สุด  :o12:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่6/2 ของขวัญ P:4 [23/5
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 23-05-2011 02:00:45
สะดุดคำนี้ค่ะ
หน้าจะถึง
ต้องใช้น่าจะถึงนะคะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่6/2 ของขวัญ P:4 [23/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 23-05-2011 02:08:09
เฮ้อ แปลว่าไนท์ไม่เป็นไร
เอ๊ะ! หรือว่าไอ้โรคจิตนี่ฆ่าหรั่งหว่า อะไร ยังไง?
(สังเกตว่าไม่ได้ห่วงนายเอกเรื่องนี้เล้ย555)
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 9 อ้อมกอด 21/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 23-05-2011 02:22:26
 o22  หลวมตัวนั่งอ่าน ตอนตี 2 หลอนได้ใจมั่กๆ

ทั้งๆ ที่ไม่ใช่การข่มขืน แล้วทำไมต้องฆ่ากันด้วยอ่ะ แล้วมันจะโยงเกี่ยวกับการตายของดาราในสังกัดหรือเปล่า น่าสงสัยไปหมด แต่ก็สนุกน่าติดตามมากค่ะ ขอบคุณค่ะ  



หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๕. ๒๒ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 23-05-2011 02:30:12
ไปหาเอาใหม่เหอะ ผู้ชายน่ะ
คนนี้ไม่ผ่านจริงๆ นะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่4 [22/05/54] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 23-05-2011 02:50:22
กำลังคิดอยู่เลยว่าคุณหนูอายุเท่าไหร่
จำได้ว่าทำวงจรสีตอนอยู่ประถม = =
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่6/2 ของขวัญ P:4 [23/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 23-05-2011 02:52:32
  :really2:สงสัย โรคจิตคนนั้น เป็นใคร ทำไมมาไวจัง ซับซ้อนซ่อนเงื่อนจริงๆ

ปลายฟ้าเนี่ย ต้องเจอดัดนิสัยเล็กๆ แล้ว นิสัยจะได้น่ารักขึ้น

แล้วมีคนดีใกล้ตัวก็ไม่กล้ารักซะอย่างงั้น คงไม่เคยฟังเพลงเจ๊คิ้มแน่ๆ เลย
 
ความรักก็เหมือนสายลมถึงมองไม่เห็น แต่สัมผัสถึงได้ แล้วแบบนี้จะมองไปให้ไกลสุดปลายฟ้าทำไม
 :pig4:
หัวข้อ: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/ Chapter 4. -Loophole- (23/5/54)
เริ่มหัวข้อโดย: Nassiiz ที่ 23-05-2011 03:22:40
(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page17.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page18.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page19.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page20.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page21.jpg)

-------------------------------------------------------------------------------------
-Ps.- เห็นถามหาของหวาน เลยเอาหวานแบบเบา ๆ มาเสิร์ฟ ไว้คืนนี้จะมาเติมน้ำตาลเพิ่มให้ค่ะ
ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ และขอบคุณที่ติดตามนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่6/2 ของขวัญ P:4 [23/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 23-05-2011 03:25:46
อร๊ายยยยยยยยยยถึงจะไม่ชอบปลายฟ้ายังไงแต่อ่านตอนนี้แล้วก้ออดเป็นห่วงไม่ได้ :เฮ้อ: :เฮ้อ:




พี่สายลม(ของเค้า)ต้องเป็นกังวลมากอีกแน่ๆเลย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่4 [22/05/54] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 23-05-2011 03:37:02
 :-[ :-[คุณหนูริชน่ารักขึ้นทุกตอนเลย o13 o13
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๕. ๒๒ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 23-05-2011 03:52:29
 :a5: :a5:โอ้ววววววววววแรงดีไม่มีตก  สงสัยเทียนบุญจะได้เพื่อนใหม่ชื่อปานระวีไหมน้ออออออ???? :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz (ย่องมาอัพตอนที 4 ค่ะ ^^) 23/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 23-05-2011 03:54:41
ย่องมานึกว่าไม่มีคนเห็นหรือครับ :laugh: :laugh: :laugh:



 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่6 เสียงเรียกในกองเพลิง(100)
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 23-05-2011 04:02:16
ใครเรียกไนท์  พี่เตมาช่วยน้องเร็วๆเลยนะ



นี่นี่ถ้าไนท์ตาย  เค้าจะ.... o18 o18


แต่ไนท์คงไม่เป็นไรหรอก  ใช่ไหม :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 5 PG. 3 [22/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 23-05-2011 04:16:47
ยุทธคงจะไม่ใช่แค่เด็กบาร์ธรรมดาแล้วล่ะมั้ง อิอิ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 5 PG. 3 [22/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 23-05-2011 04:51:14
ที่มาที่ไปของยุทธยังน่าสงสัยอยู่นา
อย่างที่กริชคิดแหละ บางครั้งดูเจนจัด บางครั้งดูซื่อ ๆ
ไม่อยากให้กริชถูกหลอก เพราะกริชเป็นเด็กดี
ชอบที่นิยายโปรเจคนี้มีความเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงเหตุการณ์และตัวละคร
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่6 เสียงเรียกในกองเพลิง(100)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 23-05-2011 05:03:33
หึ้ย เรื่องนี้มีผีด้วยเหรอ
พี่เตกะน้องไนท์เหมาะสมกันจริง ๆ
ชอบตอนกินข้าวหมูทอด หมูไหม้ยังหวานเล้ย
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๕. ๒๒ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 23-05-2011 05:26:33
พี่เทียนสู้ ๆ
นายทานตกกระป๋องไป ไม่ซื่อสัตย์
นายโป้ง ไม่เอา เพราะฝักใฝ่ยัยเมย์
นายแม็ค ไม่ผ่าน เด็กน้อยเกิน
เหลือนายเจ เข้ารอบพระเอกคนเดียว (แต่ยังไม่มีบท)
แต่อาจจะมีโผล่มาใหม่
(แอบขำปลายฟ้า โผล่กี่เรื่อง ๆ โดนกลบหมด ยกเว้นเรื่องของตัวเอง)
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 9 อ้อมกอด 21/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 23-05-2011 05:46:06
เจ๊จงที่รัก  มามะ มาต่อเหอะน้องอยากแล้วอ่ะ  ตอนที่เก้ามันยังหลอนค้างอยู่เลย


ตอนหน้าขอหวานมดขึ้นนะตะเอง  จุ๊บๆ

หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่4 [22/05/54] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 23-05-2011 05:47:02
บรูโน่ โดนเด็กยั่วจนหัวใจเต้นคร่อมจังหวะเลยเหรอ
อ่า จะอดทนเลี้ยงต้อยไหวมั๊ยเนี่ย ท่าจะอีกหลายปี
จะใจเร็วก็คงจะโดนข้อหาพรากผู้เยาว์ คุก คุก คุก คริ คริ คริ

หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่6/2 ของขวัญ P:4 [23/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: Mountain ที่ 23-05-2011 05:57:30
ไม่ชอบปลายฟ้าเลย เสแสร้งเกินไป เห็นแก่ตัว เอาแต่ใจ อ้ากกกกก
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่6/2 ของขวัญ P:4 [23/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 23-05-2011 06:06:44
อย่าน้าาาาาาาาาา อย่าทำอะไรปลายฟ้านะ
ถึงจะเหวี่ยง จะวีน แค่ไหน ก็ยังรักน้าาาาาา
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 9 อ้อมกอด 21/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 23-05-2011 07:15:51
โหย แรงอาฆาตของหรั่งน่ากลัวอ่ะ  :serius2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่6/2 ของขวัญ P:4 [23/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 23-05-2011 07:50:50
เกิดอะไรขึ้น  :serius2:
ถึงปลายฟ้านิสัยจะไม่น่ารักเท่าไหร่
แต่ก็ไม่อยากให้เกิดอะไรร้ายๆกับปลายฟ้า
ไม่งั้นพี่สายลมคงเสียใจแน่ๆ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๕. ๒๒ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 23-05-2011 08:22:32
เทียนบุญแรงได้ใจจริงๆ
ถึงจะไม่ชอบนิสัยบางส่วนของเทียนบุญ
แต่ทั้งเมย์ มั้งทาน มันก็น่าให้เทียนบุญแรงกลับไปจริงๆ
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่6 เสียงเรียกในกองเพลิง(100)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 23-05-2011 08:34:10
อย่าพึ่งเป็นอะไรนะ รอพี่เตมาช่วยก่อน
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่6 เสียงเรียกในกองเพลิง(100)
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 23-05-2011 08:57:18
 :serius2: พี่เตไปช่วยไนท์เร็ว ๆ เลยนะ  +1
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 5 PG. 3 [22/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 23-05-2011 10:02:41
ยุทธมีลับลมคมในรึเปล่าไม่รู้  รู้แต่ว่าคุณกริชชอบยุทธเข้าเต็มๆแล้วล่ะ ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 5 PG. 3 [22/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 23-05-2011 10:40:48
กริช ก็น่ารัก ยุทธก็น่าชัง

เลือกไม่ถูกเลย

แบบนี้น้องขอสองได้ไหมครับ  :laugh:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๕. ๒๒ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 23-05-2011 10:43:23
พี่เทียนสู้ ๆ
นายทานตกกระป๋องไป ไม่ซื่อสัตย์
นายโป้ง ไม่เอา เพราะฝักใฝ่ยัยเมย์
นายแม็ค ไม่ผ่าน เด็กน้อยเกิน
เหลือนายเจ เข้ารอบพระเอกคนเดียว (แต่ยังไม่มีบท)
แต่อาจจะมีโผล่มาใหม่
(แอบขำปลายฟ้า โผล่กี่เรื่อง ๆ โดนกลบหมด ยกเว้นเรื่องของตัวเอง)


ตลอดเลย ปลายฟ้าผมโดนรังแกตลอด  :o12:

แต่ทำไงได้คงเพราะอิจฉาความดังแหละเลยหาทางรังแก  o18
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 9 อ้อมกอด 21/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 23-05-2011 10:44:27
ตอน 10 ตอน 10 แอบมาเร่งเจ๊จง   :laugh:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่4 [22/05/54] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 23-05-2011 10:51:34
ทำไมทุกเรื่องเขามีฉากหวานกันหมดแล้วอะ  :sad4:

เรื่องผมจะมีบ้างไหมเนี่ย  :o12:

ปล. ฝากทางนี้เลี้ยงก็ได้นะ หนูลลิตอะ  :z1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่4 [22/05/54] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 23-05-2011 10:54:04
 :z13: เขียนก็เขียนเองแซกเข้าไปซักฉากสองฉากสนองนีสตัวเองสิครับคุณสีน้ำเงิน


ปล.คุณหนูเค้าเลี้ยงตัวเองได้ แถมเลี้ยงผู้ชายไว้อีกคนด้วย  :z2:
ปลล. แอบหาข้อมูลมา วงจรสีนี่ม.1นะครับ อิอิ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz (ย่องมาอัพตอนที 4 ค่ะ ^^) 23/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 23-05-2011 10:54:05
ชอบแอบย่องมาเสียจริง ๆ เข้ามาทีไรมีตอนใหม่ทุกที

เรนเจอร์เขียวเป็นนินจาแน่ ๆ  :m20:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่6/2 ของขวัญ P:4 [23/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 23-05-2011 10:59:02
แก้แล้วครับพี่พีนัท

ไป ๆ มา ๆ ผมล่ะสงสารปลายฟ้าที่สุดแล้วตอนนี้

มีแต่คนอ่านหมั่นใส้  o18

แต่ถ้ารักพี่สายลมก็ต้องเอาใจช่วยปลายฟ้านะครับ

ไม่งั้นพี่สายลมลำบากอีกเยอะแน่ ๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่6 เสียงเรียกในกองเพลิง(100)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 23-05-2011 11:00:35
พี่เตช่วยไนท์ด้วย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz (ย่องมาอัพตอนที 4 ค่ะ ^^) 23/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 23-05-2011 11:18:23
ตื่นเต้น ๆ เหมือนดูหนังเลย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่6/2 ของขวัญ P:4 [23/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 23-05-2011 11:45:56
ตาแมวมีไม่ดูอีกแล้ว

ไอ้พวกโรคจิตนี่น่ากลัวแท้ๆ
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 9 อ้อมกอด 21/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 23-05-2011 11:46:02
ผีอิตาหรั่งนี่โหดเหมือนกันนะเนี่ย +1
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่6 เสียงเรียกในกองเพลิง(100)
เริ่มหัวข้อโดย: kittyfun ที่ 23-05-2011 11:53:52
หมูนี้พี่ทอดเพื่อน้อง ถึงจะไหม้ไปหน่อยแต่ก็อร่อยใช่ไหม

ป.ล. ผลายฟ้า มาจากไหนจ๊ะ ปลายฟ้า ไม่ใช่เหรอ คิกๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่4 [22/05/54] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 23-05-2011 12:47:53
จิ้มๆๆ  ทันไหมหว่า
คุณหนูเด็กมากๆ  แล้วบรูโน่จะอดใจไหวไหมเนี่ย
แค่นี้ก็เ้พ้อซะแล้ว
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 5 PG. 3 [22/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 23-05-2011 13:22:23
ยุทธดูมีเล่ห์เหลี่ยม
กริชจะตามทันไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่6 เสียงเรียกในกองเพลิง(100)
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 23-05-2011 15:07:04
พี่เตอยู่ไหน มาช่วยน้องไนท์ด่วนจ้า!!!!!
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่4 [22/05/54] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: huimei ที่ 23-05-2011 15:57:49
 :a5: เด็กมว๊ากกกกก คุกๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่6 เสียงเรียกในกองเพลิง(100)
เริ่มหัวข้อโดย: jackoo ที่ 23-05-2011 17:27:17
โอย....ลุ้นจน.........หัวใจจะวาย
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่6 เสียงเรียกในกองเพลิง(100)
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 23-05-2011 18:16:53
ไม่น้า T^T
หนูไนท์!!
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่6 เสียงเรียกในกองเพลิง(100)
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 23-05-2011 18:38:28
พี่เตมาช่วยน้องไนท์เร็วๆ :call:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 5 PG. 3 [22/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 23-05-2011 19:07:41
กริช เก็บใจไว้ดีๆนะ ระวังจะโดนขโมย   o18
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 5 PG. 3 [22/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 23-05-2011 20:01:14

มันต้องมีอะไรแน่ๆเลย ยุทธชอบกริชจริงๆหรอ
หรือว่าแค่ล้อเล่นกันละเนี่ยะ - -**
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่4 [22/05/54] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 23-05-2011 20:01:20
อ่านตอนแรกแบ้วแอบบหมั่นไส้คุณหนูเล็กๆ
แต่หลังๆนี่ น่าจับกด เอ้ย น่ารักมาก :-[
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 5 PG. 3 [22/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 23-05-2011 20:04:19
ยุทธ์เหมือนจะงอน...นะ เอ๊ะ!หรือว่าจะมีแผน รุกมากๆเข้าเดี๋ยวกริชก็อดใจไม่ไหวกันพอดี 555555
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่6/2 ของขวัญ P:4 [23/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 23-05-2011 20:20:40
ปลายฟ้าแย่แล้ว :serius2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz (ย่องมาอัพตอนที 4 ค่ะ ^^) 23/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 23-05-2011 20:42:49
จะหนีรอดกันหรือป่าว
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่5 กองถ่าย P:3 [21/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: Muzik ที่ 23-05-2011 20:47:16
น้องหวานหวาน คืออะไรอะครับ แอบงงนะนี่  :really2:


น้องน้ำหวานจากละครระบำดวงดาวน่ะค่ะ
แต่น้องปลายฟ้าดีกว่าเยอะนะ ถึงแม้ช่วงนี้จะน่าหมั่นไส้หน่อยๆ  :pig4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz (ย่องมาอัพตอนที 4 ค่ะ ^^) 23/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: Muzik ที่ 23-05-2011 20:57:20
เหมือนกำลังเล่นเกมส์ไม่ก็ดูหนังอยู่ แบบว่าลุ้นมาก
หัวข้อ: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 10 บ่วงกรรม 24/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 23-05-2011 21:19:13
(http://img28.mediafire.com/b6f242d94a346b9095740bdfdd1f8ac23fc115dbd2c7ec5da35aca98f1eb05c75g.jpg)

ตอนที่ 10  บ่วงกรรม
   ภายในห้องนอนขนาดใหญ่บนชั้นสองของคฤหาสน์ลังงามท่ามกลางความมืดมิด อากาศเย็นเยือกจากการทำงานของเครื่องปรับอากาศประสิทธิภาพสูง ร่างของชายสูงวัยที่ใคร ๆ ต่างเรียกขานแทนชื่อว่าท่าน กำลังนอนหลับข้างกายมีชายหนุ่มดาราวัยรุ่นชื่อดังที่กำลังมีผลงานเผยแพร่ ร่วมเรียงเคียงหมอนบนที่นอนขนาดใหญ่ เรือนร่างของทั้งสองคนเปลือยเปล่าแนบชิดภายใต้ผ้าห่มนวมหนานุ่ม ไออุ่นของร่างกายช่วยคลายความหนาวเย็นจากเครื่องปรับอากาศได้เป็นอย่างดี ตัวเลขเรืองแสงสีแดงจากนาฬิกาดิจิตอลที่โต๊ะข้างเตียงบ่งบอกว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะรุ่งเช้าแล้ว ร่างหนานอนกระสับกระส่ายพลิกกายไปมาเหงื่อเม็ดเป้งผุดพรายขึ้นเต็มหน้า ไหลย้อยไปตามลำคอ เสียงหายใจดังฟืดฟาด
   ท่ามกลางความมืดที่มองไม่เห็นรอบกาย เขาเดินโดดเดี่ยวเพียงลำพัง เสียงหัวเราะของใครสักคนที่เขาเองก็ไม่รู้คอยตามหลอกหลอนเป็นระยะ ๆ เขาเดินต่อไปเรื่อย ๆ พยายามหันเดินไปตามที่มาของเสียงหัวเราะเยียบเย็นนั้น แต่ดูเหมือนว่าเสียงนั้น ผลันหายไปทันทีที่เขาเดินเข้าไปจนใกล้ แล้วกลับไปโผล่อีกที่หนึ่ง ถึงแม้ใครคนนั้นจะไม่เข้ามาลงมือทำร้ายแก่ตัวเขา แต่เสียงหัวเราะสั่นประสาทก็ยังคงดำเนินอยู่แบบเดิมเรื่อย ๆ ท่ามกลางความมืดที่เพียงแค่ยกฝ่ามือของตนเองขึ้นมามองดู ก็ไม่สามารถจะมองเห็นได้ ไม่เห็นแม้เพียงเงาสลัวเลือนราง แต่เสียงนั้นก็คอยตามติดชวนให้ขวัญผวาดังชัดเจนอยู่ร่ำไป เขาหยุดยืนและพยายามกวาดสายตาฝ่าความมืดไปรอบ ๆ แล้วตะโกนถามกลับไป
   "นั่นใคร?"  แต่เสียงที่ได้ยินตอบกลับมายังคงเป็นเพียงเสียงหัวเราะซึ่งเจาะจงยั่วประสาทดังขึ้นมาจากทางด้านหลังใกล้ ๆ จนเขาต้องหันตัวกลับไปทางที่ได้ยินและพยายามไขว่คว้าแต่ก็สัมผัสได้เพียงอากาศรอบ ๆ ตัวเท่านั้น
   "ใคร?" เขาเปล่งเสียงถามออกไปอย่างแผ่วเบา ความกลัวเขาเกาะกินหัวใจของเขาเสียแล้ว เขาหวาดผวากับสิ่งที่มองไม่เห็น ก่อนจะหันไปทางด้านซ้ายมือ ตามความรู้สึกว่ามีบางอย่างกำลังใกล้เขามาหาเขาอย่างช้า ๆ เขารับรู้ได้จากการเคลื่อนที่ของอากาศวูบวาบผ่านตัวของเขาไป แต่ก็ไม่สามารถมองเห็นหรือจับต้องได้ด้วยการสัมผัส เขาหมุนตัวกลับไปทางด้านหลังอีกครั้ง เมื่อเสียงหัวเราะแหลมเล็กที่ได้ยินดังขึ้น พร้อมกับลมที่พัดผ่านต้นคอของเขาแผ่ว ๆ ราวกับว่ามีใครกำลังหายใจรดใส่ต้นคอด้านหลังอยู่ สองมือที่เพียรพยายามคว้าจับ สัมผัสได้เพียงความว่างเปล่า และเสียงหัวเราที่ดังก้องขึ้นมาอีกครั้งจากที่ไกลออกไป
   "มึงเป็นใคร? มึงต้องการอะไร? บอกมาสิ มึงจะเอาอะไรจากกูวะ" เขาตะโกนกลับไปอีกครั้ง แต่คำตอบที่ได้ก็ยังเป็นเพียงเสียงหัวเราะอยู่เช่นเดิม
   "เฮ้ย!" เขาตะโกนเสียงดังก้อง พร้อมกับผุดลุกขึ้นนั่งหายใจเหนื่อยหอบ เหงื่อไหลโซมร่างเปลือยเปล่าจนชุ่ม
   "ท่าน เป็นอะไร ฝันร้ายเหรอ" เด็กหนุ่มคราวลูกที่นอนอยู่ข้าง ๆ ผุดลุกขึ้นมานั่งพลางเขย่าตัวเพื่อปลุกให้ตื่นก่อนถามไถ่
   "ไม่มีอะไรหรอก นอนต่อเถอะ" เขาบอกก่อนจะลุกเดินหายลับเข้าประตูห้องน้ำไป

   "หวัดดีครับหมวด ผัดกะเพรารวมมิตรน่ากินจัง" หน่องที่เดินไปหยุดยืนตรงหน้าเอ่ยทักทายพร้อมยิ้มทะเล้นใส่ ทำเอาอีกคนที่นั่งอยู่และกำลังยกช้อนตักข้าวจะส่งเข้าปากต้องอ้าปากค้างเมื่อมองขึ้นไปเห็นหน้าคนตัวเล็กก่อนจะลดมือลงวางช้อนไว้ในจานข้าวของตัวเอง
   "นี่คุณจะมาป่วนอะไรแต่เช้าอีกล่ะนี่วันนี้ ไม่มีการมีงานทำเหรอ" ผู้หมวดหนุ่มบ่นกลับพร้อมกับหัวคิ้วที่ขมวดแทบจะชนกัน
   "ก็มาทำงานไงครับหมวด" หน่องบอกก่อนจะลงนั่งที่เก้าอี้ว่างฝั่งตรงข้าม
   "แล้วหมวดไม่คิดจะชวนผมกินด้วยเหรอครับ" หน่องถามพร้อมยักคิ้วข้างเดียวส่งไปให้
   "งั้นกินก่อนเรื่องงานเอาไว้ทีหลัง ผมกลัวอาหารจะหมดอร่อยและพาลจะไม่ย่อยเอา" หมวดพชรบอกพลางหันไปกวักมือเรียกจ้อยลูกแม่ค้าอาหารตามสั่งที่กำลังปรุงอาหารอยู่หน้าเตาให้เดิมมาหา
   "คุณนักข่าวจะกินอะไรก็สั่งเอาเลยนะ เจ้จงเค้าทำกับข้าวอร่อยทุกอย่าง ผมเอาหัวเป็นประกันเลย" ร้อยตำรวจโทพชรบอกก่อนจะก้มลงตักอาหารของตนเองใส่ปากเคี้ยวตุ้ยๆ
   "พี่เอาเหมือนของหมวดจานนึงนะน้อง แต่ขอมะนาวสักซีกด้วยนะ แล้วก็...โอเลี้ยงแก้วนึง" หน่องสั่งอาหารแบบเดียวกับคนตรงหน้าพร้อมเครื่องดื่ม
   "มะนาวเอามาทำไม" หมวดหนุ่มนึกแปลกใจกับของที่หน่องสั่งมาจนอดถามขึ้นมาตรง ๆ ไม่ได้
   "เดี๋ยวหมวดก็รู้ รอไม่นานหรอก" หน่องบอกด้วยท่าทียียวน รอเพียงไม่นานนักอาหารและเครื่องดื่มที่สั่งก็มาส่งถึงโต๊ะ
   "ทำแบบนี้ไงหมวด อร่อยขึ้นอีกนะ ลองชิมดูสิ" หน่องบอกพร้อมกับบีบมะนาวซีกเล็ก ๆ โรยน้ำมะนาวเล็กน้อยลงไปบนผัดกระเพราที่ราดหน้าข้าวบนจาน ก่อนจะตักเข้าปากแล้วยิ้มพร้อมกับเคี้ยวจนแก้มตุ่ย
   "อร่อยจริงเหรอ" หมวดพชร ถามแบบสงสัยขึ้นมาอีกครั้ง จนหน่องเองต้องตักข้าวในจานของตนไปวางไว้ในจานที่เกือบจะว่างเปล่าของคนตรงหน้า พลางพยักพเยิดให้ลองกินดู
   "ก็อร่อย แปลกดีนี่" หมวดหนุ่มบอกหลังจากตักเข้าปากชิมตามคำเชิญชวน
   "ก็มันหอมกลิ่นมะนาวดีออกใช่ไหมล่ะ" หน่องบอกพร้อมส่งยิ้มหวานไปให้
   "อืม..." หมวดหนุ่มขานรับพลางส่งยิ้มกลับและมองสบตาคนตรงหน้านิ่ง ๆ
   
   "หมวด! หมวด! หมวด! นี่หมวดไม่ได้ฟังที่ผมพูดเลยเหรอ" หน่องบอกด้วยสีหน้าที่แปรเปลี่ยนจากยิ้มแย้มเป็นแก้มพอง ๆ ด้วยลมในปาก ก่อนจะเอาสันมือเคาะโต๊ะเบา ๆ เพื่อเรียกร้องความสนใจจากคนตรงหน้า
   "ฮา ๆ ๆ " หมวดหนุ่มเผลอหลุดเสียงหัวเราะ เมื่อได้เห็นหน้าของคนตรงข้าม
   "แล้วคุณว่าอะไรละครับ ผมไม่ทันได้ฟังจริง ๆ"
   "หมวดนี่นะ ชอบกวนให้อารมณ์เสียเรื่อยเลย" หน่องบ่นออกมาเบา ๆ อีกครั้งก่อนจะบอกอีกครั้ง
   "ผมจะชวนหมวดให้ไปกับผมหน่อยเย็นนี้ ผมไม่กล้าไปคนเดียวเสียด้วยสิ" หน่องบอกชวนเชิญ
   "ไปไหนเหรอคุณ ถึงไม่กล้าไปคนเดียว" หมวดพชรเอ่ยถาม
   "บาร์เดอะบัตเตอร์ฟลายบอยนะสิหมวด" หน่องบอกพลางระบายลมหายใจออกมาเสียยาวเหยียด
   "เดอะบัตเตอร์ฟลายบอย" ร้อยตำรวจโทพชรเอ่ยทวนชื่อนั้นซ้ำอีกครั้ง

   หนุ่มใหญ่หน้าตาดีในชุดสูทสีเทาตัดเย็บประณีตเดิมนำแขกต่างชาติชมผลิตภัณฑ์ในโชว์รูมกระจกใสติดเครื่องปรับอากาศ เขาหยิบม้วนแผ่นหนังขนาดใหญ่ที่มีลายสวยงามตามธรรมชาติของสัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่ออกมาสะบัดคลี่ให้กางออก หนังของมันผ่านการฟอกย้อมจนนุ่มน่าสัมผัส ปราศจากเกล็ดแข็งปราการกั้นภัยตามธรรมชาติของมัน คุณภาพของแผ่นหนังชั้นเลิศที่หลายคนอยากจับจองเป็นเจ้าของสำหรับผู้นิยม
   "หนังจระเข้จากฟาร์มของผม พวกคุณลองสัมผัสดูสิ" เขาเอ่ยบอกเป็นภาษาอังกฤษภาษาสื่อกลางในการเจรจาครั้งนี้ก่อนจะส่งชิ้นส่วนแผ่นหนังในมือไปให้
   "สวยมาก แล้วทางคุณสามารถฟอกย้อมให้เป็นสีที่เราต้องการได้รึเปล่า" หนึ่งเสียงของชายหนุ่มคู่เจรจาทางการค้าเอ่ยถาม
   "เรามีโรงฟอกย้อมของเราเอง เราย้อมได้ทุกสีตามที่คุณออเดอร์มาแน่นอน" เขาตอบพลางส่งยิ้มการค้าไปให้
   "แล้วคุณรับประกันว่าจะส่งของให้เราได้ทันตามกำหนด" สาวผมทองสวมแว่นเอ่ยถามพลางขยับแว่นสายตาออกจ้องมองแผ่นหนังจระเข้ในมือพร้อมลูบคลำ
   "ไม่มีปัญหาครับ หนังจระเข้สีชมพูอมม่วงขนาดใหญ่พิเศษ ล็อตแรกวันที่ 15 ในอีกสองเดือนข้างหน้าจำนวนสามร้อยชิ้น และอีกสี่ร้อยชิ้น วันที่ 15 ในเดือนถัดไปไม่พลาดครับ แล้วนี่คือตัวอย่างที่ทางคุณขอมาเมื่ออาทิตย์ก่อน"  เขาบอกก่อนจะหันไปรับม้วนหนังสีม่วงอมชมพู จากมือของพนักงานด้านหลัง ออกมากางแผ่ออก
มันเป็นรูปทรงที่ได้จากการชำแหละออกจากสัตว์เลื้อยคลานทั้งตัวฟอกย้อมเป็นสีชมพูอมม่วงสวยงามมันเงา แต่สัมผัสได้ถึงความนุ่นลื่นในชิ้นหนังได้เป็นอย่างดี ถึงแม้มูลค่าราคาของมันจะสูงมากแล้วก็ตามที แต่หากถูกนำไปแปรรูปเป็นกระเป๋าใบสวยติดโลโก้ยี่ห้อหรู ๆ ราคาของมันจะถีบตัวสูงขึ้นอีกตามแบรนด์นั้น
   "ไม่ทราบว่าสีนี้เป็นที่ถูกใจของพวกคุณไหม" เขาถามความคิดเห็นจากลูกค้าต่างชาติอีกครั้ง
   "มันสวยมาก สีชมพูตรงตามที่ทางเราต้องการเลย" แหม่มผมทองใส่แว่นบอกแก่เขา
   "ขอบคุณที่พวกคุณชื่นชอบมัน นี่ก็ได้เวลาอาหารเย็นแล้ว ผมขอเชิญพวกคุณที่ห้องอาหาร เชิญตามผมมาทางนี้" เขาบอก ก่อนจะหันไปชักชวนให้แขกต่างชาติเดินตามไปร่วมรับประทานมื้อค่ำด้วยกัน

   ความงามของแสงสุดท้ายของวันสิ้นสุดลง ความมืดเริ่มครอบคลุม แสงดาวเริ่มส่องระยิบวิววับในม่านดำของรัตติกาล มองเห็นได้ผ่านหน้าต่างกระจกใสขนาดใหญ่ โต๊ะอาหารค่ำถูกปูด้วยผ้าสีขาวสะอาดตาด้านบนมีเชิงเทียนที่มีเทียนสีม่วงอ่อนจุดเอาไว้ ส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ  ดอกไม้หลากสีในโทนม่วงชมพูอ่อนแก่ไล่สีสอดสลับ ประดับเอาไว้รายรอบเชิงเทียนอย่างสวยงาม บรรยากาศโดยรอบชวนให้น่าอภิรมย์เสียยิ่งนัก   แสงสีส้มแดงที่อาบย้อมผืนฟ้าสีน้ำเงินเข้มจนบางส่วนที่แสงส่องกระทบกลายเป็นสีม่วงแดง ผู้ร่วมรับประทานอาหารต่างพากันนั่งลงบนเก้าอี้ที่ติดป้ายชื่อของตนเอาไว้ พนักงานเริ่มเสิร์ฟไวน์แดงในแก้วทรงสูงอย่างทั่วถึง
   "ผมขอดื่มให้กับความสำเร็จของข้อตกลงที่ได้ทำร่วมกันของเรา" ชายในชุดสูทสีเทาทำหน้าที่เจ้าภาพลุกขึ้นยืนก่อนเอ่ยเชิญทุกคนร่วมดื่มด้วยการชูแก้วไวน์ขึ้นสูงไปเบื้องหน้าก่อนจะค้อมศีรษะลงเล็กน้อยแล้วยกแก้วไวน์แดงในมือของตนขึ้นดื่ม
   "ขอให้ทุกคนอร่อยกับอาหารเมนูพิเศษในค่ำคืนนี้" เขาเอ่ยออกมาอีกครั้งหลังจากนั่งลงกับที่ พนักงานเสิร์ฟเริ่มลำเลียงทยอยออเดิร์ฟเริ่มจากคอกเทลกุ้งในผลอะโวคาโดลูกโต แล้วตามด้วยสลัดผักแนมกับหมูทอดชิ้นใหญ่ ซุปปูน้ำข้นหอมมันเคียงกับดินเนอร์โรลเนื้อนิ่ม ก่อนจะตามด้วยเมนคอร์สสเต็กเนื้อจระเข้ที่ย่างมาจนส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลายให้สอ

   ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศทำให้ไม่มีใครรู้สึกถึงความอบอ้าวของอากาศภายนอก เมฆดำเริ่มตั้งเค้ามาแต่ไกลจนในที่สุดก็บดบังแสงระยิบระยับบนฟ้าของดาวดวงน้อยเอาไว้ทั้งหมด อากาศภายนอกเริ่มเย็นลงอย่างรวดเร็ว สายลมพัดกรูเกรียวกรรโชกแรงกิ่งไม้ไหวเอนโอนไปตามลม ก่อนที่หยาดพิรุนจากฟากฟ้าจะเริ่มหล่นตกกระทบกระจกดังเปาะแปะเบา ๆ ลำแสงสว่างวาบเพียงครู่ก่อนจะตามมาด้วยเสียงดังสนั่นลั่นเปรี้ยงของสายฟ้าผ่าลงตรงกิ่งไม้ใหญ่หน้ากระจกจนเนื้อไม้ปริขาดร่วงหล่นลงมากระแทกกระจกใสจนแตกเสียงกระจกแตกดังเพล้งก่อนเศษเล็กเศษน้อยชิ้นส่วนของกระจกใสจะกระจายเกลื่อนกล่นเต็มพื้น สายลมพัดผ่านเข้ามาให้ห้องอาหาร เปลวเทียนเล่มน้อยเต้นไหวก่อนจะดับวูบลม ลมแรงพัดเอาข้าวของเครื่องใช้ในห้องปลิวกระจัดกระจายไปทุกทิศทาง
   "เรากลับเข้าไปรอให้ฝนหยุดที่ออฟฟิศด้านในของฟาร์มกันเถอะ" หนุ่มใหญ่ในชุดสูทสีเทาเอ่ยชวนก่อนจะก้าวนำคู่ค้าออกไปจากห้องอาหาร เขาพาชาวต่างชาดลัดเลาะไปตามทางเดินที่มุงหลังคาผ่านจุดที่ให้คนนั่งชมการแสดงจากคนและสัตว์เลื้อยคลานสี่ขาขนาดใหญ่ เขาหยุดยืนรอแขกเพียงครู่ก่อนจะนำออกวิ่งฝ่าสายฝนที่ซัดกระหน่ำถึงแม้จะมีหลังคาคุ้มอยู่ แต่ที่พื้นไม้ของทางเดินยกสูงจากพื้นที่ทอดยาวกลับเจิ่งนองไปด้วยน้ำ
ผมเผ้าและเสื้อผ้าของทุกคนเปียกปอนจากน้ำฝนที่กระเซ็นมาโดน
   "พระเจ้า" แหม่มผมทองหลุดร้องตกใจ ก่อนจะพ่นลมหายใจเสียยาว ด้วยเพราะชายชุดสูสีเทาหันกลับเอามือมารั้งแขนของเธอเอาไว้ได้ทันไม่เสียหลักลื่นล้มลงไปได้เสียก่อน
   "ไม่เป็นไรนะคุณ" เขาเอ่ยถามพลางหันไปมองคนอื่นรอบ ๆ ทีมาหยุดยืนออรอดูอยู่
   "ฉันไม่เป็นไร ขอบคุณมาก เรารีบไปต่อกันเถอะ" หล่อนตอบก่อนจะเอ่ยชักชวนให้ไปต่อ
เขาออกวิ่งนำอีกครั้ง ระดับน้ำในบ่อพักจระเข้เริ่มสูงขึ้น สายฝนที่กระหน่ำหนักลงมาอีกโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
ด้วยความเร่งรีบเขาเองไม่ทันสังเกตน้ำที่เจิ่งนองทำให้เขาเสียหลักกลิ้งไปจนสุดทางเดินแต่ก่อนที่เขาจะพลัดตกลงไป ฝ่ามือหนาก็คว้าจับเหนี่ยวยึดแผ่นไม้ใกล้มือเอาไว้ได้เสียก่อน ร่างของเขาจึงห้อยโตงเตงมีเพียงสองมือที่พยายามเหนี่ยวรั้งร่างของตัวเองเอาไว้อย่าเหนียวแน่น สองมือออกแรงจับยึดและพยายามดึงร่างของตัวเองขึ้นไป ส่วนอกเกือบจะโพล่พ้นพื้นไม้ขึ้นมาแล้ว ชาวต่างชาติทั้งกลุ่มพยายามวิ่งเข้ามาหวังจะช่วยเอาตัวเขาขึ้นมา
ทันได้นั้นแสงสว่างวาบเจิดจ้าก็เกิดขึ้นก่อนจะตามมาด้วยเสียงดังสนั่นหวั่นไหวจะพื้นชานกว้างที่พวกเข้ายืนอยู่สั่นจนรู้สึกได้ สายฟ้าที่ฟาดเข้ากับกิ่งไม้ที่ระชายคาอยู่ส่งผลให้เกิดเปลวเพลิงขนาดย่อมสว่างไสวจนเห็นอะไรได้ชัดเจน ในขณะที่เขาพยายามหาทางช่วยเหลือตัวเองอยู่นั้น ที่เบื้องล่างในน้ำ จระเข้ขนาดใหญ่ไม่ต่ำกว่า 6 เมตร กำลังว่ายน้ำใกล้เข้ามาช้า ๆ ด้วยจุดที่มีคนพยายามกระเสือกกระสนดิ้นรนอยู่นั้น เป็นที่จัดแสดงวิธีการให้อาหารจระเข้ สัญชาติญาณนของมัน จึงรู้เพียงว่ามีคนกำลังจะให้อาหารมันอยู่  ร่างของคนที่พยายามกระเสือกกระสนสั่นไหวล่อตาล่อใจสัตว์เลื้อยคลานให้รีบเร่งว่ายเร็วขึ้นอีกก่อนจะกระโจนขึ้นไปในอากาศคาบงับเอาขาส่วนขาของร่างนั้นให้ร่วงลงมาด้วยแรงมหาศาลจนน้ำในบ่อแตกกระจายเป็นวงกว้างก่อนจะสะบัดงับเข้ากลางลำตัวอีกครั้ง แล้วหมุนตัวฉีกร่างเหยื่อออกเป็นชิ้น ๆ กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่วเสียงกรีดร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวดดังก้องเป็นระยะก่อนจะเงียบหายไป ที่ด้านบนเสียงกรีดร้องเสียขวัญและเสียงเอะอะอึกกะทึกดังก้องเสียงร้องขอความช่วยเหลือดูวุ่นวายสับสนท่ามกลางเสียงฝนฟ้าคะนอง ทุกคนมัวแต่ตกในกับเหตุการณ์ตรงหน้าจนไม่มีใครสังเกตเห็น ส่วนหนึ่งของใบหน้าชวนสยองขาวซีดซึ่งส่งยิ้มสยองแสยะอย่างพึงใจที่โผล่พ้นน้ำมาแค่ส่วนหัวเท่านั้นราวกับว่าความตายของคนตรงหน้าเป็นเรื่องน่าอภิรมย์ ก่อนจะจางหายไปราวกับอากาศธาตุ
...

อ่านกันไปพลาง ๆ ก่อนนะคะ ตอนหน้า 2 คนเค้าจะไปเที่ยวบาร์กันแล้ว ฮิ้วววววววววววววววว...

ปล. คำผิดแปะเอาไว้ก่อน คนเขียนตาจะมิดแล้วค่ะ ใครเจอก็บอกกันด้วยนะเจ้าคะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่4 [22/05/54] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 23-05-2011 21:24:28
เอาแล้วไง 555+ แต่ริชก็น่ารักซะขนาดนั้น จะตกหลุมรักก็ไม่ใช่เรื่องแปลกนี่น้า เอิ๊กๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่6 เสียงเรียกในกองเพลิง(100)
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 23-05-2011 22:28:54
 :a5: :a5:
เฮ้ยยยย...น้องไนท์...
อย่าเป็นอะไรน้า :serius2: :serius2:
พี่เตอยูาไหน น้องไนท์แย่แล้วววว :z3:
หัวข้อ: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/ Chapter.5 -Alley- 23/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: Nassiiz ที่ 23-05-2011 22:36:04
(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page22.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page23.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page24.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page25.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page26.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page27.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page28.jpg)
-----------------------------------------------------------------------------------

-Ps.- มาเสิร์ฟของหวานตามสัญญาค่ะ ช่างเป็นอะไรที่ขัดกับอารมณ์ของเรื่องมาก
แต่ด้วยความที่คนแต่งอยากให้มันออกมาเหมือนหนังเกรดบี
ก็ต้องประมาณนี้แหละค่ะ เนื้อหาไม่เท่าไหร่ ขอมันสะใจไว้ก่อน >//<
ขอบคุณทุกคอมเม้นต์และขอบคุณที่ติดตามนะคะ >3<//
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่6/2 ของขวัญ P:4 [23/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 23-05-2011 23:13:00
เอ่อออ....อยากจะบอกว่าสมน้ำหน้า แต่พูดได้ไม่เต็มปาก
เพราะเขาสงสารสายลม  :o12:
นี่ถ้าไม่ได้สายลม เขาไม่เห็นใจปลายฟ้านะ :laugh:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/ตอนที 5 ของหวานตามสัญญา 23/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 23-05-2011 23:19:39
หวานปนสยอง o18
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/ตอนที 5 ของหวานตามสัญญา 23/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 23-05-2011 23:30:25
สะสะสุดยอดดดด
ความรักทามกลางซอมบี้ โอ้วววว
จะมีใครคิดได้อีกไหม  :laugh: :laugh:
แต่ก็น่า จุ๊ฟ ไม่ได้ดูสถานะการณ์เลยย... o18
ยกนิ้ว o13
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 9 อ้อมกอด 21/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 23-05-2011 23:33:35
แก้แค้นรายคนเลยอะ น่ากลัว....... แล้วผู้หมวดยังจะทำท่าเหมือนปิ๊งหน่องอีก งานนี้ผีคุณเพื่อน(หรือเปล่า)จะว่ายังไงหนอ.....
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/ตอนที 5 ของหวานตามสัญญา 23/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 23-05-2011 23:35:00
บ๊ะ นี่มันรักระหว่างรบรึเนี่ย (ก็กำลังรบกับพวกผีดิบอยู่นี่เนอะ)
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่6/2 ของขวัญ P:4 [23/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 24-05-2011 00:10:34
อ่านๆแล้วเกิดอาการหมั้นไส้ปลายฟ้าเล็กน้อยถึงปลายกลาง คนอะไรมันจะนิสัยเสียได้ขนาดนี้น้อ แต่ก็น้า..ดันเป็นนายเอกซะนี่ ภาวนาให้สายลมปราบพยศแล้วเปลี่ยนความคิดฟ้าได้เร็วๆ  ที่ถูกใครจับตัวไปเนี่ยไม่ได้สงสารปลายฟ้านะ สงสารสายลมมากกว่าอะ โถ่ๆๆ พ่อคนดีไม่มีที่อยู่ เอิ๊กๆๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/ตอนที 5 ของหวานตามสัญญา 23/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 24-05-2011 00:17:45
ก็อยากอ่านนะคะ แต่...มันไม่ขึ้นซักกะรูป T^T สงสัยเน็ตจะไม่แรงพอแฮะเรา งืมๆๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 10 บ่วงกรรม 24/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: onjazz26 ที่ 24-05-2011 01:31:54
เรื่องอื่นไม่รู้...รู้แต่ว่า...
เจ๊จงรับงานนอกไปขายข้าวตามสั่งด้วยอ่ะ...ก๊ากกกกกก :laugh: :m20: :m20:

ตกลงคืนนั้น...หรั่งเสร็จไปกี่คนเนี่ย....ตามล้างแค้นเยอะจัง :sad3:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 10 บ่วงกรรม 24/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 24-05-2011 01:38:10
นั่นสิ เจ๊จงแอบรับจ็อบนอกไปขายอาหารตามสั่ง  ผัดกระเพราบีบน้ำมะนาวใส่ เค้าจะไปลองดูนะ :impress2: :impress2:



คุณตำรวจจะไม่ช็อกเหรอถ้าเข้าบาร์ไป :z1: :z1:




การแก้แค้นนี่มัน เอ่อ...ช่างน่ากลัวแต่ก้อแอบสะใจนะเจ๊ :laugh: :laugh:แล้วยังไม่ถึงเวลาบอกใช่ไหมว่าทำไมหรั่งต้องตาย :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 10 บ่วงกรรม 24/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 24-05-2011 02:20:16
มีตายทุกตอนเลยอ่ะ ทำไมผู้ร้ายมันเยอะนัก
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 10 บ่วงกรรม 24/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 24-05-2011 11:01:15
หรั่งยังมีวิธีการแก้แค้นได้น่ากลัวเหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 10 บ่วงกรรม 24/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 24-05-2011 11:43:28
โหดจัง สงสัยหรั่งโดนรุมเหรอ ถึงไปแก้แค้นรายตัวเลย น่าสงสาร
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 10 บ่วงกรรม 24/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 24-05-2011 11:46:57
แหม..ตัดฉับตรงที่กำลังตื่นเต้นพอดีเลยนะคนสวย
เอ้า..รอก็ได้  รอดูหน่องกับหวดพชร(สงสัยเกิดวันจันทร์)ไปเที่ยวบาร์เกย์กัน
แต่ละคนจะรู้สึกอย่างไร มีปฏิกิริยาตอบสนองบรรยากาศกันอย่างไร อิ อิ
เจ๊จง ๆ กะเพราเนื้อจระเข้ที่นึง(อึ๋ยๆ) หา..ไม่มีเหรอ อิ อิ ล้อเล่ง
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๕. ๒๒ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 24-05-2011 12:27:51
แรงดีไม่มีตกเลยนะเทียน
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่6/2 ของขวัญ P:4 [23/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: nataxiah ที่ 24-05-2011 14:30:02
ปลายฟ้าเมื่อไหร่จะมาคร้าบบบ

ลุ้นเหนื่อยแล้วนะ  o18
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 10 บ่วงกรรม 24/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 24-05-2011 14:56:06
อ่านตอนนนี้แล้วแบบว่า โอ้ย หรั่งสุดสยองมากเลยยอ่ะ :serius2:
จระเข้งับตัวขาดสองท่อน  :serius2: แม่เจ้า โหดมากกกกกค่ะ
ตอนหน้า หน่องกับผู้หมวดจะเข้าไปทัศนาจร the butterfly boy
จะศึกษา เอ้ยย จะสืบหาคนร้ายได้ไหมหนอ
ปล.
เอ่อ......หนูไม่เข้าใจเลยย :z3:
เวลาอ่านเรื่องของพี่จง ชอบนั่งกินข้าวแล้วอ่านไปด้วย
พอถึงฉากสยอง ก็จะกระหน่ำซัดข้าวเข้าปากแบบ non-stop
สงสัยหนูจะโรคจิตเข้าเส้น :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 5 PG. 3 [22/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: phung ที่ 24-05-2011 15:17:55
ยุทธต้องไม่ใช่แค่เด็กบาร์ซื่อๆธรรมดาแน่เลยยยยย
คุณป้าธเนศส่งมาให้เป็นคู่ครองคุณหลานรึป่าวน้า
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่6/2 ของขวัญ P:4 [23/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 24-05-2011 15:49:06
อยากรู้ต่อไวๆจังปลายฟ้าจะเป็นไรหรือเปล่า ถึงยังไงๆก็ไม่อยากให้เกิดเหตุร้ายกับปลายฟ้าแระ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/ตอนที 5 ของหวานตามสัญญา 23/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: RemySexyCool ที่ 24-05-2011 16:15:10
 o13 น่ารักแสนซน ปกติไม่ค่อยได้ตามนิยายแบบนี้ พออ่านแล้วก็สนุกดี ชอบจ้า
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่6/2 ของขวัญ P:4 [23/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 24-05-2011 16:25:00
(http://upic.me/i/y7/qsky3.jpg) (http://upic.me/show/24228533)


ตอนที่ 7 หวาดกลัว




                “อือ   อือ            อืม....”
                เสียงครางต่ำๆ ออกมาจากลำคอที่แห้งผากเป็นผลข้างเคียงจากการโดนยาสลบ เปลือกตาหนักราวกับมีใครนำก้อนหินมาผูกถ่วงไว้ แต่เจ้าของก็พยายามฝืนลืมมันขึ้นอย่างยากลำบาก เมื่อเปลือกตาเผยอขึ้นเล็กน้อยก็ต้องปิดกลับเพราะยังไม่ชินกับแสงสีเหลืองนวลจากหลอดไฟแบบร้อยแรงเทียนที่แขวนไว้อยู่บนเพดาน หลังจากปิดตาลงได้สักพักก็พยายามลืมตาขึ้นใหม่แต่คราวนี้กลับเป็นหรี่ตาให้เล็กเพื่อไม่ให้รับแสงมากจนเกินไป
                “ช่วยด้วย          ช่วยด้วย....” เสียงแหบพร่าที่เบาราวกับเสียงกระซิบพยายามร้องขอความช่วยเหลือ
                “ตื่นแล้วหรือครับปลายฟ้าของผม” เสียงที่ไม่คุ้นหูดังขึ้นข้าง ๆ จนคนที่โดนทักต้องรีบหันไปมอง
                ปลายฟ้าหรี่ตามองหน้าคนที่ทักให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ชายหนุ่มวัยประมาณยี่สิบกลาง ๆ ร่างกายกำยำเต็มไปด้วยมัดกล้าม สวมเสื้อสีฟ้าไซด์เล็กจนรัดเห็นกล้ามเนื้อทุกสัดส่วน ใบหน้าเหลี่ยมเล็กน้อยสวมแว่นทรงสี่เหลี่ยมขอบสีดำหนา นั่งเก้าอี้มองอยู่
                “คุณ   ปะ เป็น    ใคร!!” ปลายฟ้าพยายามเค้นเสียงที่มีอยู่ออกมา
                ชายคนนั้นกลับไม่ตอบนั่งจ้องมองเขาพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปาก ปลายฟ้าคิดจะลุกขึ้นนั่ง
                ‘กึก กึก’
                ทำไมขยับร่างกายไม่ได้อย่างที่ต้องการเสียเลย ปลายฟ้าหันไปมองมือตัวเองที่ขยับไม่ได้ มือทั้งสองข้างถูกล็อคไว้ด้วยกุญแจมือสีเงินยวงสะท้อนกับแสงไฟภายในห้อง ยึดไว้กับหัวเตียง ส่วนขาทั้งสองข้างถูกรัดไว้ด้วยผ้าผืนยาวสีน้ำเงินเข้มยึดไว้กับหมุดปลายเตียง
                “นี่คุณจะทำอะไร ปล่อยผมเดี๋ยวนี้นะ” ร่างสูงพยายามดิ้นรนให้พ้นจากพันธนาการ
                “อย่าพยายามยามเลย เดี๋ยวผิวเนียน ๆ จะเป็นรอยหมดเสียก่อน”
มือหนาใหญ่เอื้อมมาจับที่ใบหน้ารูปไข่ของคนถูกพันธนาการให้หันมามองหน้า เขาแบบชัดๆ รอยยิ้มถูกยกแย้มขึ้นที่มุมปาก แต่คนที่ถูกบังคับให้มองกลับมองว่ามันเหมือนการแสยะยิ้มที่แสนจะน่ารังเกียจจนต้องหลับตาลง มือหนาอีกข้างค่อยลูบไล้ไปตามใบหน้าที่โดนจับไว้
“ช่างงดงามจริง ๆ ยิ่งเห็นใกล้ ๆ ยิ่งรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก” เสียงพูดสั่นเล็กน้อยด้วยความตื่นเต้นดีใจ
“ผมอยากจะฆ่าคนที่ทำให้หน้าคุณต้องเป็นรอยเสียตอนนี้เลย” เสียงพูดอย่างโกรธแค้นเมื่อสายตามองเห็นร่องรอยการโดนทำร้ายจากอเล็กซ์ที่ยังมีให้เห็นอยู่เล็กน้อย
คนถูกพูดถึงพยายามหลับตาให้สนิทมากที่สุดพร้อมกับหันหน้าหนี แต่ก็ไม่อาจสู้แรงที่จับยึดไว้ได้ต้องยอมทนปล่อยให้โดนลูบไล้อย่างกล้ำกลืนฝืนทน ในใจก็ได้แต่หวังให้การกระทำนี้หยุดลงเสียที หยาดน้ำตาจากความกลัวปริ่มไหลออกจากหางตาทั้งสองข้าง ริมฝีปากล่างโดนกัดไว้จนแน่นเพื่อกลืนเสียงสะอื้นไห้เอาไว้ในลำคอ เพราะถึงจะอยู่ในสภาพแบบไหนเขาก็ไม่ต้องการแสดงความอ่อนแอออกมาให้ใครได้เห็น
“อย่าร้องสิครับ ผมไม่ได้ตั้งใจทำอะไรปลายฟ้านะครับ” เจ้าของมือตกใจเมื่อเห็นน้ำตาหยดใสไหลออกมา จนรีบปล่อยมือออกอย่างรวดเร็ว
“คุณต้องการอะไร จับผมมาทำไมเราไม่เคยรู้จักกันสักหน่อย หรือว่าต้องการเงินบอกผมมาก็ได้ว่าจะเอาเท่าไหร่ เดี๋ยวผมจัดการให้เอง ปล่อยผมกลับไปเถอะ” ปลายฟ้าพยายามกลั้นอารมณ์กลัวไว้แล้วยื่นข้อเสนอกับการปล่อยตัว
“ทำไมปลายฟ้าจะไม่รู้จักผม ลองนึกดูดี ๆ สิครับ เมื่อเช้าผมก็ยังส่งจดหมายให้ปลายฟ้าอยู่เลย แล้วของขวัญของผมก็ได้รับทุกวันไม่ใช่เหรอครับ”
หลังจากได้ยินประโยคนี้ภาพจดหมายในซองสีน้ำเงินเข้ม พร้อมกล่องของขวัญผุดฉายขึ้นในหัวเขาราวกับการย้อนดูหนังจากแผ่นดีวีดี
“หม่อน หรือว่าคุณคือคนชื่อหม่อน” เสียงพูดรัวเร็วด้วยความตื่นกลัว
“ผมดีใจมากเลยนะที่ปลายฟ้าจำผมได้ ผมนึกว่าจะลืมผมไปแล้วเสียอีก” คนที่ถูกเรียกชื่อแย้มยิ้มอย่างมีความสุขออกมาราวกับเพิ่งได้ของขวัญชิ้นโปรดมาหมาด ๆ
“ปลายฟ้าเพิ่งตื่นคงหิวน้ำใช่ไหม เดี๋ยวผมเอาให้นะครับ” ร่างสูงใหญ่รีบลุกเดินออกไปข้างนอกห้องอย่างรวดเร็ว
ปลายฟ้าพยายามขยับตัวดูอีกครั้ง แต่ผลก็ยังเหมือนเดิมเขาไม่สามารถหลุดพ้นจากสิ่งที่ผูกมัดเอาไว้ได้ เขาเลยหันมองสำรวจรอบๆ ห้องแทน ห้องที่บุผนังด้วยไม้เก่าทั้งสี่ด้านทาสีเขียวอ่อนไว้อย่างสบายตา ภายในห้องไม่มีเฟอร์นิเจอร์อย่างอื่นอีกเลยนอกจากเตียงที่ปูด้วยผ้าปูที่นอน สีขาวสะอาดกับเก้าอี้ตัวที่วางอยู่ข้างเตียง รอบด้านทั้งสี่มีหน้าต่างอยู่ด้านเดียวแถมตำแหน่งยังอยู่ตรงปลายเตียงที่นอน ทำให้ถ้าขยับตัวสักนิดก็มองเห็นท้องฟ้าข้างนอกได้อย่างชัดเจน
“ช่วยด้วยครับ มีใครอยู่ข้างนอกไหมช่วยด้วยครับ” ปลายฟ้าตัดสินใจตะโกนสุดเสียง เพราะนี่คงเป็นทางเดียวที่จะช่วยเขาได้
“ช่วยด้วยครับ ช่ว.....”
เสียงร้องตะโกนขอความช่วยเหลือหยุดลงกะทันหัน เพราะหม่อนเปิดประตูห้องเข้ามาพร้อมกับถาดอาหารในมือ แต่เขากลับไม่มีท่าทีตื่นตกใจกับการร้องขอความช่วยเหลือของปลายฟ้า ทำเพียงเดินยิ้มอย่างมีความสุขเข้ามาหาร่างที่นอนกลัวอยู่บนที่เตียงสีขาวสะอาดที่เตรียมไว้อย่างดี
“ทำไมไม่ร้องต่อล่ะครับ ผมจะได้ยินเสียงเพราะ ๆ ของคุณชัด ๆ แต่ผมบอกไว้ก่อนนะ ต่อให้ร้องยังไงก็ไม่มีคนได้ยินหรอกครับ เพราะว่าบ้านหลังนี้ตั้งอยู่ไกลหมู่บ้านมาก คงไม่มีคนได้ยินเสียงร้องของคุณแน่ ๆ” ร่างใหญ่นั่งลงที่เก้าอี้ตัวเดิมพร้อมกับวางถาดอาหารลงด้านล่างข้างตัว
“ปล่อยผมไปเถอะ คุณอยากได้อะไรบอกมาเลย ผมจะทำให้คุณทุกอย่าง เพียงแค่ปล่อยผมไปก็พอ”
“แล้วถ้าผมบอกว่าอยากได้ทุกอย่างที่เป็นคุณล่ะ คุณจะยอมให้ผมได้หรือไม่”
..........
ทั้งสองคนเงียบมองหน้ากันโดยไร้ซึ่งคำตอบ เพราะปลายฟ้าเองก็ไม่รู้จะให้สิ่งที่ต้องการได้อย่างไร
“นั่นไง ผมคิดไว้แล้วว่าคุณต้องให้อย่างที่ผมขอไม่ได้ ถ้าอย่างงั้นคุณก็เลิกบอกให้ผมปล่อยตัวคุณได้แล้ว ผมว่ากินข้าวก่อนดีกว่านะครับ ไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เมื่อวานคงหิวแล้วล่ะป่านนี้” หม่อนหยิบจานข้าวมานั่งข้างที่นอน
“กินข้าวหน่อยนะครับ” ข้าวผัดถูกตักใส่จนเต็มช้อน พร้อมยื่นมาจ่อให้ที่ริมฝีปากที่แห้งผาก จากการไม่ได้ดื่มน้ำมานาน
เจ้าของริมฝีปากเม้มมันไว้จนแน่นเพราะไม่แน่ในสิ่งที่ยื่นให้มานั้นเจือปนสิ่งอื่นด้วยหรือไม่ ปลายช้อนดุนดันอยู่ที่ริมฝีปากจนต้องหันหน้าหนี แต่ช้อนก็เคลื่อนที่ตามปากมาอย่างไม่ลดละ
“ไม่ ผมไม่กิน อย่ามายุ่งกับผม” หน้าถูกสะบัดอย่างรวดเร็วและแรง จนช้อนหลุดจากมือคนป้อน
รอยยิ้มที่มุมปากจางหายไปจากหน้าอย่างรวดเร็วคิ้วบนหน้าถูกขมวดเข้าหากัน แววตาที่ยิ้มแย้มแปรเปลี่ยนเป็นดุดันจ้องมองกลับมา ก่อนเอื้อมตัวไปหยิบช้อนกลับมาไว้ในมือ
“ต้องกินอะไรบ้างนะครับ เดี๋ยวจะไม่สบายเอา”
คำพูดที่ดูเหมือนห่วงใยแตกต่างจากน้ำเสียงกับการกระทำของเจ้าของ มือข้างหนึ่งจับไว้ที่ใต้คางพร้อมกับออกแรงบีบเล็กน้อยจนคนที่โดนกระทำต้องเผยอปากออกมา อีกมือตักข้าวที่เหลือจากจานป้อนเข้าปากบาง ๆ นั้น
“เก่งจังเลยครับ กินเยอะ ๆ นะครับคนดีของผม”
คำพูดชื่นชมพร่ำออกจากปากอย่างไม่หยุด โดยไม่ได้สนใจคนที่โดนกระทำว่ารู้สึกอย่างไรแม้แต่น้อย น้ำตาไหลอาบหน้าอีกครั้งเพียงแต่ครั้งนี้อยากเปล่งเสียงก็ไม่อาจทำได้ เพราะอาหารที่อัดเข้ามาอยู่ตลอดเวลา
“แค่ก แค่ก แค่ก” ปลายฟ้าสำลักอาหารที่ถูกป้อนให้ออกมาจนหมด
 
หม่อนรีบกุลีกุจอหันไปหยิบน้ำมาป้อนให้ปลายฟ้า แววตาจากดุดันเปลี่ยนกลับมาเป็นห่วงใยอีกครั้ง เขาค่อย ๆ ประคองหัวปลายฟ้าไว้ให้ดื่มน้ำได้สะดวกมากขึ้น
“ผมขอโทษนะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจทำร้ายคุณจริง ๆ นะ คุณคงอยากพักผ่อนแล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ผมกลับมาหาใหม่นะครับ” หม่อนเช็ดหน้าทำความสะอาดให้ก่อนจะเก็บของเดินออกไปจากห้อง
“พี่ก้อง พี่สายลม ช่วยผมด้วย มาช่วยผมด้วยครับ” เสียงพูดปนสะอื้นดังอย่างแผ่วเบาก่อนจะหมดแรงหลับไป


==============> โปรดติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 5 PG. 3 [22/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 24-05-2011 16:48:03
ยุทธนี่เด็กส่งของป้าธเนศเอามาคุม กริชหรือเปล่าเนี้ยะ...
แบบว่าทดสอบกฏเหล็กของร้านว่าห้ามมี something กับเด็กในร้าน
แต่ว่านะ...กริชก็ตกหลุมพรางไปเรียบร้อยโรงเรียนยุทธอะนะ..555

แต่เอ๊ะ....งอนหรอ ขอสิบให้ตั้งร้อยแหน่ะ..
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 10 บ่วงกรรม 24/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 24-05-2011 16:49:26
มันกี่คนนะเนี้ยที่ยำ่ยีหรั่ง
กวาดมันไปให้หมดเลย  ไอ้พวกชั่ว!!!!!!
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่7 หวาดกลัว P:5 [24/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 24-05-2011 16:53:12
อ๊ากกก :serius2:
พี่สายลมไปไหนเนี่ย จะมาช่วยปลายฟ้าทันรึเปล่า
ขนาดในสถานการณ์อย่างนี้ ปลายฟ้ายังนึกถึงก้องเป็นคนแรก  :angry2:
สายลมเป็นแค่คนไม่มีสิทธิ์จริงๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่7 หวาดกลัว P:5 [24/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 24-05-2011 16:59:11
เอ่อ...อ่านตอนนี้แล้ว ก็บังเกิดความสงสาร
สงสารว่าสายลมจะเสียใจที่ไม่สามารถช่วยปลายฟ้าได้
สายลม...มาช่วยปลายฟ้าเร็วๆๆน้า เขาไม่อย่างเห็นนายเสียใจ
แต่..ก็สงสารปลายฟ้า(นิดหน่อย)
ปล.หวังว่าไอพี่ก้องอะไรนั้นคงจะไม่มาช่วยตัดหน้านะ  :serius2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่7 หวาดกลัว P:5 [24/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 24-05-2011 17:01:09
น่ากลัวจริงๆพวกโรคจิตเนี่ย
แต่ไหงตอนนี้มันสั้นจัง
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 10 บ่วงกรรม 24/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 24-05-2011 17:02:18
ตกลงคนที่ทำให้หรั่งตาย มีคนกันแน่
มันไม่ใช่ธรรมดาซะแล้ว
เป็นขบวนการขนาดนี้
หรือว่าหรั่งไปรู้ไปเห็นอะไรที่ไม่สมควรเข้า :serius2:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 5 PG. 3 [22/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 24-05-2011 17:03:39
ชักจะหลงรักแฮะ...แต่ลำบากใจแทน
ทำไมตายุทธต้องมาทำงานแบบนี้ด้วยน้า~
ไม่ได้ดูถูกนะ...แต่ใครจะอยากได้แฟนที่ต้องแบ่งใช้กับคนอื่นอ่ะ :serius2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่7 หวาดกลัว P:5 [24/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: ทะเลหัวใจ ที่ 24-05-2011 17:08:57
ขณะนี้เพิ่งเริ่มอ่านตอนแรก แต่อยากเม้นก่อน มีไรมะ :laugh:

ความรู้สึกที่อยากบอก อยากให้พี่สายลมเป็นนายเอกจัง :-[

แบบว่าเป็นผู้จัดการส่วนตัวที่น่ารัก ตัวน้อยๆ พออิคุฯอเล็กซ์มาเจอก็เกิดปิ๊ง

แล้วทีนี้คนเย็นชาอย่างปลายฟ้าก็จะหึง แล้วก็รู้ใจตัวเองว่าที่แท้รักแท้ก็คือพี่สายลม

(มึงไปแต่งอ่านเองเถอะไป๊ กร๊ากกกกกก) :m20: :m20:

งั้นขอไปอ่านต่อนะจ๊ะ

บวกหนึ่งสวยๆก่อนไป จุ๊ฟฟฟฟฟ
หัวข้อ: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/Chapter.6 -Lair- 24/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: Nassiiz ที่ 24-05-2011 17:18:20
(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page29.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page30.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page31.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page32.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page33.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page34.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page35.jpg)

-----------------------------------------------------------------------------------------

-Ps.- แอบมาหย่อนน้ำตาลไว้ล่อมดค่ะ เดี๋ยวคืนนี้จะมากวนน้ำเชื่อมให้  :o8:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๕. ๒๒ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 24-05-2011 18:26:57
เทียนบุญ...แรงเกินรับจริง ๆ ค่ะ แรงกว่า...เรยา+เด่นจันทร์+น้ำหวาน...อีกค่ะ แคร์แต่ตัวเองคนเดียว จุดจบจะเหมือน เรยา มั๊ยเนี่ย รู้ตัวเมื่อสาย สุดท้ายก็ไม่เหลือใครสักคน o22
สงสารแม็คกับแม่ของแม็คมากเลยค่ะ ขนาดอยู่อย่างเจียมตัวแล้วเทียนบุญก็ยังไม่ยอมละเว้น :monkeysad:
อ่านเรื่องนี้แล้วชื่อ eiky ลอยเด่นเจิดจรัสมากเลยค่ะ :laugh:
+1ครับ  ชักจะเป๋แล้วแฮะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่7 หวาดกลัว P:5 [24/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: onjazz26 ที่ 24-05-2011 18:40:05
บูลเรนเจอร์เล่นแรงไปอ่ะเป่า...
ม่ายอาวให้ตายไปอีกคน ตามเรนเจอร์สีม่วงล่ะ....
คนอ่านชอบนะ...หึ หึ o18 (อีมีด อีดาบ อีโต้ ซ่อนอยู่ข้างหลังมากมาย)

แล้วอ้ายบักห่าหม่อนนี้ช่ายม่ายที่ฆ่า หรั่งอ่ะ.... :angry2:
(เหมือนๆ จาถามผิดกาทู้ หุ หุ :try2:)

 :serius2:มาต่อให้ไว มาต่อให้ไว
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่7 หวาดกลัว P:5 [24/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 24-05-2011 19:51:39
ไปเปิดประตูซี้ซั้วได้ไงฮะ!!!!!!

แล้วใครจะมาช่วยละนี่
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่7 หวาดกลัว P:5 [24/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 24-05-2011 19:57:37
เริ่มสงสารปลายฟ้าแล้ว
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่7 หวาดกลัว P:5 [24/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 24-05-2011 20:08:20
โรคจิตปะทะเด็กเอาแต่ใจ งานนี้จะออกมาหมู่หรือจ่าก็ต้องฝากความหวังไว้ที่สายลม เฮ้อ......
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่4 [22/05/54] P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 24-05-2011 20:12:07
ถ้ายังยั่วบ่อยๆ คุณหนูโดนกดแน่ๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 10 บ่วงกรรม 24/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 24-05-2011 20:56:14
เหอๆ ตายกันเยอะจริงๆ  o18 +1
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่7 หวาดกลัว P:5 [24/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: lucifel ที่ 24-05-2011 21:11:57
หม่อน คือ ใครอ่ะ
แน่สุดๆ
ปลายฝ้าสงบอยู่แทบเท้า
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่7 คำสัญญา 24/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: ภาพฝัน ที่ 24-05-2011 21:18:27
   เสียงตะโกนโหวกเหวกอย่างวุ่นวายสับสรเมื่อเปลวเพลิงเริ่มโอบล้อมกระท่อมหลังใหญ่ ร่างของสายลมและปลายฟ้าโผล่ออกมาจากกองเพลิงแล้ว แต่ไม่มีร่างของวริศรินทร์ตามออกมา เตชวัฒน์ถามสายลมแต่ไม่ได้รับคำตอบ เขามองรอบๆที่กำลังโกลาหล ไม่มีเงาของร่างสูงโปร่งที่คุ้นเคยแล้วร่างกายก็เคลื่อนไหวไปก่อนความคิด เตชวัฒน์ก้าวเข้าสู่กองเพลง ควันไฟทำให้เขาสำลักและความร้อนทำให้เขาอึดอัด เมื่อเข้ามาแล้วเขาก็ต้องหาวริศรินทร์เขามองไปรอบๆพร้อมทั้งตะโกนเรียกแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ เปลวไฟลุกลามเข้ามาทุกที ควันำฟทำให้ตาเขาพร่าพราย

   “ไนท์” เตชวัฒน์ตะโกนเรียกสุดเสียงแต่ไม่มีเสียงตอบรับ เขาสะดุ้งเมื่อท่อนไม้หล่นมากระแทกเข้ากับหัวไหล่และจังหวะที่เขาเงยหน้าขึ้นมา

   “ไนท์” เตชวัศฒน์รู้สึกเหมือนหัวใจหยุดเต้นเมื่อเขาเห็นวริศรินทร์นอนอยู่บนพื้น รอยยิ้มน้อยๆ เหมือนกำลังนอนหลับ เขาเข้าประคองร่างตรงหน้า ไฟยิ่งใหล้เข้ามาเตชวัฒน์ยกท่อนไม้ที่ทับอยู่ที่ข้อเท้า เลือดสีแดงไหลซึมออกมา

   “พี่เต” เสียงเรียกแผ่วเบากับดวงตามที่ปรือขึ้นมามอง

   “มาทำไม” เสียงแหบแห้งที่เอ่อยออกมาาขอร้องให้ทิ้งตน เชวัฒน์รวบรวมแรงทีมี อุ้มร่างที่อ่อนล้าฝ่าเปลวเพลิงออกมา

   ร่างของวริศรินทร์ถูกนำส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน ตามตัวมีแผลไฟไหม้และรอยถลอดที่บาดเจ็บหนักก็คือข้อเท้าแต่เพราะสำลักควันไฟทำให้วริศรินทร์ต้องนอนดูอาการอยู่ที่โรงพยาบาล

   เตชวัฒน์มีบาดแผลไฟไหม้อยู่หลายแห่งแต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่หน้ากังวล เขารู้สึกว่าวริศรินทร์ไม่ได้ตั้งใจที่จะออกมา

   “มาทำไม” เสียงที่เขาได้ยินมันคือคำตัดพ้อที่เขาเข้าไปช่วยอีกฝ่ายออกมา เขานั่งมองใบหน้าซีดเซียวที่นอนอยู่บนเตียงนอน เขาไม่เข้าใจว่าทำไมไนท์ดูอยากจะตายอยู่ตลอดเวลา เขารู้สึกว่าไนท์พร้อมจะจากไปได้ทุกเมื่อ

   เตชวัฒน์เผลอหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย เขาสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง วริศรินทร์ไม่อยู่บนเตียงแล้ว เขามองไปรอบๆ สายตาปะทะกับร่างที่ยืนอยู่บนระเบียง ขาเรียวยาวค่อยๆ ก้าวขึ้นไปยืนอยู่บนนั้น

   “ไนท์” เตชวัฒน์กระโจนเรียกสุดเสียง วริศรินทร์ขยับใบหน้าหันกลับมามองเขา เขาเห็นน้ำตาและรอยยิ้ม เตชวัฒน์พุ่งตัวเข้าไปหาเขาถึงตัวในจังหวะที่วิร์ศรินทร์ทิ้งน้ำหนักตัวลงสู่เบื้องล่าง อ้อมแขนแข็งแรงคว้าร่างของอีกฝ่ายเอาไว้จนสุดแรงทำให้เสียหลักล้มลง

   เตชวัฒน์นั่งกอดวริศรินทร์แน่น ไหล่ของเตชวัฒน์ครูดกับกำแพงจนแสบ เขารู้สึกถึงรอยถลอกบริเวณหัวไหล่ถึงข้อซอก แต่ตอนนี้เขาได้ยินเสียงหัวใจเต้น

   “ปล่อยผมไป” เสียงอ้อนล้าเหมือนคนหมอแรง เมื่อเตชวัฒน์ผละออกมาเขาเห็น้ำตาในดวงตาคู่สวย

   “อยู่กับพี่” เตชวัฒน์ยกมือขึ้นปาดน้ำตาช้าๆ

   “ไม่” วริศรินทร์ในตอนนี้พูดมากกว่าทุกครั้งแต่น้ำเสียงแสดงถึงความไม่สงบ สีหน้าแสดงออกถึงความสับสน เขาผละออกจากอ้อมกอดแข็งแรงและถอยห่างออกมา

   “ไปให้พ้น” น้ำเสียงเกรี้ยวกราดที่แสดงออกถึงความไม่พอใจ

   “ไนท์ ใจเย็นๆ อยู่กับพี่มีอะไรคุยกัน” เขาพยายามเอื้อมมือเข้าไปปลอบประโลม แต่ได้รับเพียงการสะบัดออก วริศรินทร์ถอยออกห่างจากเตชวัฒน์ไปเรื่อยๆ มือเรียวยาวยกขึ้นปิดหูตัวเองแน่น

   “แม่” เสียงร้องเรียกอย่างตื่นตระหนก ร่างของอีกฝ่ายถอยห่างจากเข้าไปที่มุมระเบียงอีกข้าง เตชวัฒน์ก้าวเข้าไปประชิดตัวอย่างรวดเร็ว การกระทำของเขาสร้างความตื่นตระหนกให้กับวริศรินทร์เป็นอย่างมาก แรงดิ้นและและเสียงกรี๊ดร้องอย่างทรมานกับการดิ้นรนที่เขาไม่เคยเห็น เตชวัฒน์เริ่อมผ่อนแรงกอดรัดออกโดยไม่รู้ตัว ในจังหวะที่อีกง่ายจะผละออกไปจากเขา เขาดึงร่างสูงโปร่งเข่้ามาประชิดตัว ริมฝีปากนุ่มร้อนกดลงไปอย่างแรง สัมผัสที่รุนแรงในตอนแรก จากที่ต้องการหยุดการโวยวายของอีกฝ่ายกลายเป็นจูบที่นุ่มนวลและปลอบประโลม เตชวัฒน์กอดรัดร่างของวริศรินทร์ไว้แน่น แน่นจนอีกฝ่ายได้ยินเสียงหัวใจของเขา

   “อยู่กับพี่นะไนท์ ขอร้องอยู่กับพี่ พี่สัญญา พี่จะไม่ทิ้งไนท์ไปไหน อยู่กับพี่ ขอร้อง” เสียงทุ่มนุ้นหนักแน่นและอ่อนโยนกับอ้อมแขนที่กอดรักไว้แนบแน่น

   “พี่จะอยู่กับไนท์ พี่สัญญา” คำสัญญาที่หนักแน่นมันคง กับอ้อมแขนที่กอดรัดจนวริศรินทร์รู้สึกเจ็บ

   เตชวัฒน์ไม่กล้าคลายอ้อมกอดของตัวเองออกจากร่างของไนท์ เขากลัวว่าถ้าปล่อยมือหรือคาดสายตาไป อีกฝ่ายจะหายไปเกินกว่าที่เขาจะคว้าไว้ทัน เขากอดอีกฝ่ายแน่นเท่าที่เขาจะทำได้ แรงดิ้นขัดขืนหายไปแล้ว กับน้ำหนักตัวที่ทิ้งลงมา ไนท์หลับไปแล้วเตชวัฒน์อุ้มวริศรินทร์ไปวางไว้บนเตียงช้าๆ กลัวว่าอีกฝ่ายจะตื่น เขาเรียกพยาบาลให้เขามาดู เขาเล่าอาการคร่าวๆ ให้พยาบาลฟังเขาไม่ได้เอ่ยเรื่องการฆ่าตัวตายของไนท์เขาบอกเพียงว่าไนท์มีอาการเพ้อ ไนท์ได้รับยาคลายเครียดและยานอนหลับอย่างน้อยเขาก็มั่นใจว่าคืนนี้ไนท์จะหลับสนิทไม่ลุกขึ้นมาทำอะไรที่เสียงต่อชีวิตโดยเขาไม่เห็น เตชวัฒน์หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาวุฒิพลในทันที


........................................


ไนท์รอดแหละ เสียดายไหม  o18
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่7 คำสัญญา 24/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 24-05-2011 21:24:01
ง่า....ปมในใจของไนท์ดูจะไม่ธรรมดา
ไนท์ไม่ตายอ่ะ ดีแล้ว

แต่ว่า................จะสั้นไปไหนคร้าบบบบบบบบบ
อยากอ่านๆๆๆๆๆ :serius2:
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่7 คำสัญญา 24/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 24-05-2011 21:30:46
สงสัยปมที่ไนท์มีท่าทางจะไม่ธรรมดานะ พี่เตจะช่วยได้หรือเปล่าเนี่ย +1
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่7 คำสัญญา 24/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 24-05-2011 22:17:44
น้องไนท์คงมีอดีตฝังใจ
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่7 คำสัญญา 24/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: lucifel ที่ 24-05-2011 22:31:10
สั้นได้อีก
หัวข้อ: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/ Chapter.7 -Shelter- (24/5/54)
เริ่มหัวข้อโดย: Nassiiz ที่ 24-05-2011 23:16:06
(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page36.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page37.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page38.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page39.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page40.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page41.jpg)

---------------------------------------------------------------------------------------------

mini nc ที่ไม่มีอะไรมากมาย ตัวเอกเขาสปาร์คกันไวค่ะ ตามประสาเรื่องแนวนี้ ^^

Ps. ขออนุญาตโพสแยกมาอีกอันนะคะ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 5 PG. 3 [22/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: MonarcH ที่ 25-05-2011 00:25:05
Butterfly 6

...ผมกลับเข้ามาทำงานที่ The Butterfly Boy ด้วยความรู้สึกสับสนในใจ ท่ามกลางไฟสีส้มเข้ม สะท้อนเงาของเสาอะโกโก้สีเงินเงาวับ ชายหนุ่มหลากหลายแบบทั้งหุ่นเพรียวทั้งล่ำบึ้กในสภาพกึ่งเปลือยเต็มร้านไม่ได้ทำให้ผมตื่นตาตื่นใจเหมือนเมื่อตอนมาวันแรก ๆ เลย...

...รู้สึกสงสารเห็นใจคนเหล่านี้ด้วยซ้ำ ถ้าเค้ามีความรู้ มีคนสนับสนุน มีพื้นฐานทางบ้านที่ดีคงไม่ต้องมาทำอาชีพที่ไม่มีใครยอมรับ...แต่อีกใจก็รู้สึกแย่ที่พวกเค้าเลือกอาชีพที่สบายได้เงินง่ายแทนที่จะยอมเหนื่อยใช้แรงงานแลกเงิน...เฮ้อ...เราไม่ได้อยู่ในสถานะแบบพวกเค้า เราก็ไม่รู้ถึงความจำเป็นที่ต้องมาทำอาชีพนี้หรอก บางคนเค้าอาจจะมีพ่อแม่แก่เฒ่า มีน้องหลายคนต้องส่งเรียน ที่นาทำกินกำลังจะโดนยึด ไม่มีอาชีพไหนที่ได้เงินง่ายแบบนี้แล้ว ดูอย่างยุทธสิ แค่เดินเสิร์ฟไม่กี่ชั่วโมงก็ได้ทิปหลักหมื่นแล้ว...ไม่อยากจะคิดว่าอีกหน่อย ก็จะถึงเวลาที่ยุทธต้องเดินเปลือยกายขึ้นบนเวที ต้องมีโชว์ร่วมเพศกับตัวนาง ต้องโดนแขกออฟไปบำบัดความใคร่ชั่วคราว แต่ถ้าได้ดีกว่านั้น เค้าอาจจะเจอไฮโซซักคนรับเลี้ยงอย่างจริงจังและไม่ต้องกลับมาบาร์นี้อีก...
*
*
...เย็นวันพรุ่งนี้ผมก็ต้องเจอยุทธอีกครั้งเพื่อจะไปงานเปิดตัวนาฬิกาของไฮโซสาวที่ชื่อมณีอารยา ถ้าเจอหน้ายุทธจริง ๆ ผมก็ไม่รู้จะทำตัวยังไง ตอนที่แยกจากกันยุทธมองผมด้วยแววตาที่เฉยเมย ไม่มีท่าทางเจ้าชู้หรือล้อเล่นเหมือนไม่กี่นาทีก่อนหน้านั้น ทั้งที่ใจแป้วแต่ก็ต้องเชิดไว้ทำเป็นไม่สนใจ ผมจะไม่ยอมให้ผู้สมัครงานบาร์ออฟคนนึงจะทำให้ไหวหวั่นได้...

...แต่ตอนผมขับรถกำลังจะเลี้ยวเข้าคอนโดหลังเลิกงาน หางตาผมก็เห็นผู้ชายร่างสูงผิวขาวในชุดเสื้อกล้ามกางเกงบอลยืนข้างตู้ยามหน้าคอนโด ความหล่อของยุทธทะลุกระจกรถฟิล์ม 60 เปอร์เซ็นต์ แต่ผมก็ทำเป็นไม่เห็นว่าเค้ายืนอยู่ตรงนั้นทั้งที่ใจเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น...ยังไม่ทันที่รถของผมจะจอดเข้าที่ดี เสียงเตือนข้อความเข้าจากมือถือก็ดังขึ้น ผมขยับรถอีกนิดแล้วดับเครื่องก่อนจะเปิดอ่านข้อความ "ฝันดีนะครับ” ข้อความสั้น ๆ จากเบอร์ที่ผมไม่รู้จัก...
“ฮัลโหล ไม่ทราบว่าเมื่อสักครู่ส่งข้อความมาที่เบอร์นี้หรือเปล่าครับ”  ผมโทรกลับไปทันที
“อ๋อ ใช่ครับ”  ปลายสายเงียบไปนิดนึงก่อนจะตอบรับ
“ขอโทษนะครับ คุณเป็นใครอ่ะครับ”  ผมถามทั้ง ๆ ที่จำเสียงได้
“............................................”
“สงสัยจะส่งผิดเบอร์นะครับ”
“ไม่ผิดครับ ผมตั้งใจส่ง”
“แล้วคุณเป็นใครล่ะ ถ้าไม่บอกจะวางแล้วนะ”
“ผมส่งหาคุณกริชน่ะครับ”
“ผมถามว่าคุณเป็นใคร ไม่ได้ถามว่าส่งหาใคร”  ผมพูดเสียงเรียบให้เหมือนกำลังข่มอารมณ์โกรธอยู่
“ถ้าคุณรำคาญผมก็ขอโทษด้วยนะครับ คิดซะว่าผมส่งผิดเบอร์ละกัน”
“โอเคครับ”  ผมตอบแล้ววางสายทันที
*
*
...ยุทธยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ผมเห็นเค้าตั้งแต่เลี้ยวรถเข้ามาแล้ว เห็นแม้กระทั่งตอนเค้าคุยโทรศัพท์กับผมด้วยท่าทางกระวนกระวายแล้วก็สลดลงตอนที่ผมตัดสายเค้าทิ้ง...อย่าเพิ่งคิดว่าเค้าอยากจะคุยกับเราสิ ดึกดื่นขนาดนี้เค้าอาจจะมาพึ่งพาเราเรื่องเงินก็ได้...
“รู้เบอร์ผมได้ยังไง” 
“คุณกริช”  ยุทธหันมามองตามเสียงทักของผม
“ใครบอกเบอร์ผม และคุณมาทำอะไรที่นี่”
“เอ่อ...พี่ธัญญ่าให้เบอร์คุณกริชมาเรื่องนัดวันพรุ่งนี้”
“เจอกันตอนสี่โมงเย็นละกัน...อ้อ...แล้วคุณยังไม่บอกเลยนะว่ามาทำอะไรที่นี่”
“ผมออกมาหาอะไรกิน ห้องผมอยู่ในซอยนี่เอง”  ยุทธตอบพลางหลบตาผม
“หาอะไรกินตอนเกือบจะตีสามเนี่ยนะ”
“ทำไมล่ะครับ ผิดกฎหมายเหรอ”  ยุทธเริ่มกวน
“เอาเหอะ คุณจะทำอะไรก็เรื่องของคุณ เจอกันพรุ่งนี้นะ”  ผมหันหลังเข้าคอนโด
“คุณกริชทานข้าวหรือยังครับ”  ยุทธเดินตามมา
“เรียบร้อยแล้ว”
“...เอ่อ...” ยุทธอ้ำอึ้ง
“แต่ยังไม่อิ่ม“  ผมพูดเสียงเรียบ
“ไปทานบะหมี่เกี๊ยวซอยโน้นกันมั้ยครับ ผมเลี้ยงเอง”  ร้านประจำของผมเลยอ่ะ แต่ป้าธเนศบอกว่าให้อลังการ ห้ามกินของข้างทาง
“ผมอยากทานแฮมเบอร์เกอร์ สาขาตรงนี้เค้าเปิด 24 ชั่วโมง ผมเลี้ยงเองดีกว่า”
“ถ้าคุณกริชอยากทานผมก็เลี้ยงได้ครับ”
“แฮมเบอร์เกอร์ชิ้นนึงเท่ากับบะหมี่เกี๊ยว 4 ชามเลยนะ”
“ผมยังมีเงินพอครับ” ยุทธล้วงกระเป๋าโชว์แบงค์ห้าร้อยเก่า ๆ ให้ผมดู
*
*
...จะว่าผมเห็นผู้ชายหน้าตาดีสำคัญกว่าคำสั่งผู้มีพระคุณก็ได้ นาทีนี้ผมขอเลือกที่จะมีความสุขหลังเลิกงานบ้าง ตลอด 7-8 ชั่วโมงของการทำงานในแต่ละวัน ผมต้องปั้นหน้าเชิดจนคอตั้งอยู่ในบาร์เพื่อไม่ให้เด็กปีนเกลียว เพราะส่วนมาก็มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับผมทั้งนั้น...ผมฝ่าฝืนคำสั่งป้าธเนศตั้งแต่ยอมทำตัวสนิทสนมกับเด็กบาร์และกินอาหารข้างทางในชุดแบรนด์เนมหรูซึ่งต่างกับยุทธที่อยู่ในชุดอยู่บ้านสบาย ๆ แต่เร้าใจผมมาก...
“อุ๊ย น้องกริช หายหน้าหายตาไปนานเลย ได้งานทำแล้วเหรอ แต่งตัวซะหล่อเชียว”
“จ้ะ”
“เอาเกี๊ยวน้ำใส่ผักเยอะ ๆ เหมือนเดิมใช่มั้ย แล้วแฟนล่ะกินอะไร”
“เค้าไม่ใช่แฟนกริชอ่ะ”  ผมรีบแก้ตัว
“ขอบะหมี่แห้งครับ”  ยุทธตอบพลางยิ้มกว้าง
“แหม อย่ามาแหล มองกันตาเยิ้มแบบนี้ยังกล้าปฏิเสธอีกนะยะ แกไม่ต้องอายหรอก พี่เข้าใจ”
“ไปนั่งรอที่โต๊ะดีกว่า”  ผมหันหลังจะเดินไปนั่ง แต่ยุทธยังยืนอยู่ ทำให้ผมต้องจับมือดึงให้เค้าตามมา 
“เป็นลูกค้าประจำก็ไม่บอก”  ยุทธพูดยิ้ม ๆ เมื่อมาถึงโต๊ะ
“ก็กริชอยู่แถวนี้มาตั้งนานแล้วนี่”
“....................................”
“ยิ้มทำไม”  ผมตวัดเสียงถาม
“คุณพูดแทนตัวเองว่ากริช น่ารักดี”
“ผมลืมตัวไป”  ผมพูดเสียงแข็งเชิดหน้าคอตั้ง
“ตอนนี้คุณไม่ได้อยู่ที่บาร์นะ ทำตัวตามสบายเถอะ”
“นี่แหละ ตามสบายของผม ถึงตอนนี้เราจะไม่ได้อยู่ที่บาร์ แต่ผมก็เป็นนายจ้างคุณนะ”
“ผมยังไม่ได้รับเงินเดือนจากคุณ ดังนั้น คุณก็ยังไม่ได้เป็นนายจ้างผม”  ยุทธย้อน
“คุณมาสมัครงานที่บาร์ และผมก็รับคุณแล้ว ไม่ใช่นายจ้างได้ไง”  ผมถามเสียงแข็ง
“คุณรับผม แต่ผมอาจจะเบี้ยวไม่ยอมไปทำงานที่บาร์คุณ ทีนี้คุณก็ไม่มีทางได้เป็นนายของผม โอเคป่ะ”  ยุทธพูดพลางยักคิ้วกวนประสาทก่อนจะมองผมด้วยสายตาหวานเยิ้ม
“จะมาหรือไม่มาก็เรื่องของคุณ มีคนมาสมัครงานใหม่ทุกวัน” ผมตอบเหวี่ยง ๆ แล้วหันหน้าไปทางอื่น เพราะทนมองสายตาคู่นั้นไม่ไหว
“เถียงอะไรกัน กินก๋วยเตี๋ยวซะจะได้ใจเย็น ๆ โมโหหิวล่ะสิ...เอาน้ำอะไรไปหยิบเองเลยนะกริช” 
“โห พี่ ไม่บริการลูกค้าเลยอ่ะ”  ผมแกล้งโวย
“น้องคะ บริการแฟนหน่อย กริชเค้าชอบกินน้ำแดง พี่ขอไปทำก๋วยเตี๋ยวให้แขกอีกโต๊ะก่อนนะ”  พี่เค้าแกล้งผมด้วยการหันไปพูดกับยุทธ
“ไม่ต้อง เดี๋ยวจัดการเอง”  ผมห้ามยุทธที่ทำท่าจะลุกขึ้น
*
*
...เมื่อไม่มีลูกค้า พี่คนขายก๋วยเตี๋ยวก็เดินมาแหย่ให้ผมค่อย ๆ หลุดตัวตนที่แท้จริงออกมาต่อหน้ายุทธ ภาพลักษณ์ไฮโซเจ้าของบาร์ที่ดังที่สุดในกรุงเทพฯไม่เหลือแล้ว รู้อย่างนี้ไปกินแมคดีกว่า...แต่จะว่าไปมันก็เพลินดีนะครับ นั่งกินคนละชามใช้เวลาไม่นาน แต่ที่อยู่นานเพราะนั่งคุยกันมากกว่า...
“คุณกริชง่วงหรือยังครับ”  ยุทธถามระหว่างทางเดินกลับคอนโด
“นิดหน่อยอ่ะ”
“งั้นก็พักผ่อนเถอะครับ“
“มีอะไรหรือเปล่า”  ผมมองหน้ายุทธเพราะรู้สึกว่าเสียงเค้าจะไม่สดใสเหมือนเมื่อกี้
“ผมมีเรื่องจะคุยด้วย แต่มันดึกเกินไป ไม่รบกวนดีกว่า”
“เรื่องอะไรล่ะ”
“เรื่องของผม”  ยุทธตอบ ผมหันขวับไปมองหน้า
“กวนหรือเปล่าเนี่ย”
“เปล่าครับ เรื่องของผมจริง ๆ ไปที่ห้องผมได้มั้ย”
“อย่าเลย”  ผมปฏิเสธทันที
“กลัวเหรอ”
“ไม่กลัว แต่ไม่ควร”
“...........................”
“ยิ้มอะไร” ผมถามแก้เชินเมื่อยุทธเอาแต่เดินยิ้มไม่พูดไม่จา
“เอาไว้วันหลังก็ได้ เราต้องเจอกันอีกนาน”
“ไม่ กริช เอ้ย ผม ไม่ชอบให้ค้างคา จะพูดอะไรก็พูดให้จบคืนนี้เลยนะ”
“ไปห้องผมสิ”
“.........................” ผมเงียบ
“ล้อเล่น ผมแค่อยากได้ที่เงียบ ๆ นั่งคุยกันน่ะครับ”
“งั้นโต๊ะหินใต้ถุนคอนโดของผมละกัน”
“มืดมั้ย”  ยุทธถามเสียงหื่น
“ทำไม จะทำอะไรผม”  ผมชะงัก
“ถ้ามืดเกินไปเดี๋ยวยุงกัด”  ยุทธแถ
“ผมมีสเปรย์ตะไคร้ในรถไม่ต้องกลัว”
“แวะซื้ออะไรไปดื่มด้วยดีกว่า”
“ตอนนี้เหล้าเบียร์เค้าไม่ขายแล้วนะ”  ผมเบรก
“ผมเลิกกินเหล้ามาได้ซักพักแล้วครับ เก็บเงินไว้กินข้าวดีกว่า”
*
*
...เราเดินถือขวดน้ำชาเขียวไปนั่งคุยกันที่โต๊ะม้าหินใต้ถุนคอนโดของผม โชคดีที่มันไม่มืดจนเกินไป แต่เพราะไม่มืดนี่แหละ ทำให้ผมรู้สึกวูบวาบตอนที่เผลอมองตายุทธที่นั่งเงียบ ไม่เปิดประเด็นสนทนาซักที...
“ตกลงคุณจะคุยเรื่องอะไร ผมเริ่มง่วงแล้วนะ”
“ปกติคุณนอนกี่โมงอ่ะ”
“เลิกงานมากว่าจะทำอะไรเสร็จก็เกือบเช้าอ่ะ แล้วคุณล่ะ ว่างงานอยู่นอนกี่โมง”
“ผมก็นอนเช้าเหมือนกัน” 
“หืม”  ผมทำหน้าสงสัย
“ตั้งแต่เข้ากรุงเทพฯผมนอนเช้าเกือบทุกวัน” 
“..........................................”  ผมมองหน้าเป็นเชิงให้เค้าพูดต่อ
“ผม...ผมเที่ยวกลางคืนบ่อยครับ”
“เงินเหลือกินเหลือใช้อ่ะดิ”  ผมกวน
“ไม่หรอกครับ มีแค่พอใช้ แต่ผมเพิ่งเคยมากรุงเทพฯเป็นครั้งแรก ก็เลยใจแตก เงินหมด”  ยุทธพูดแล้วหัวเราะเบา ๆ
“มิน่าล่ะ ถึงต้องไปสมัครงานเป็นผู้ชายขายน้ำ”  ผมตอกย้ำความไร้สาระของเค้า
“ตอนนั้นผมคิดว่ามันเป็นงานที่ง่ายที่สุดแล้ว เพราะเวลาผมไปเที่ยว ผมก็มีคนกลับมานอนด้วยทุกคืน ถ้าผมมีเซ็กส์แล้วได้เงิน ผมคงรวยไปแล้ว”
“อืม เป็นความคิดที่ดี”  ผมประชด
“มันเป็นความคิดชั่ววูบอ่ะครับ”
“คุณคงไม่ชอบงานนี้หรอก เพราะคนที่คุณจะมีเซ็กส์ด้วยเป็นผู้ชายเหมือนกัน นาน ๆ จะมีผู้หญิงเข้ามาออฟ”  ผมอธิบาย
“ผมเป็นเกย์ครับ” ยุทธพูดสวนขึ้นมา
“อะไรนะ”
“ผมเป็นเกย์ ผมโกหกคุณตอนสัมภาษณ์”
“อย่ามาอำเลย คุณต้องการอะไรถึงมาหลอกผม” 
“ผมเป็นเกย์จริง ๆ ผมรู้ตัวตั้งแต่เรียน ม. ปลายแล้ว พอจบป. ตรี ผมก็มีความจำเป็นต้องเข้ากรุงเทพฯ พอมาถึงผมก็ตระเวนเที่ยวทุกที่ สีลม อตก หลังสวน รัชดา ลำสาลี เงินที่เอามาจากบ้านนอกก็เลยหมด”
“ตกลงคุณจะเอายังไง วันนั้นคุณบอกว่าไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายด้วยกัน และเรียนจบแค่ชั้นประถม”
“ถ้าผมบอกความจริง คุณจะรับผมเข้าทำงานเหรอ เพื่อนผมบอกว่าให้ทำตัวน่าสงสารไว้ และผู้ชายแท้จะทำเงินได้มากกว่า”
“นี่ขนาดเป็นความคิดชั่ววูบนะ เตรียมตัวเป็นเรื่องเป็นราว” ผมประชดอีกครั้ง
“วันนี้ผมไม่จำเป็นต้องบอกความจริงกับคุณเลยก็ได้นะ แต่ผมต้องการรู้เรื่องจริงเกี่ยวกับตัวผม”
“.......................” ผมจ้องหน้า
“ผมไม่เคยเจอคนอย่างคุณ ผมหาคนแบบนี้มานานแล้ว”
“ทำไม เพราะผมมีเงินล่ะสิ”  ผมกวน
“ผมไม่เคยคิดอย่างนั้นเลยนะ”
“แล้วคุณจะหาคนแบบผมไปทำไม”
“คุณรู้มั้ยว่าการที่มีเซ็กส์กับคนแปลกหน้าบ่อยเท่าไหร่ มันก็ยิ่งเหงามากขึ้นเท่านั้น ผมชอบคุณตั้งแต่วันแรกที่เจอกันแล้ว ผมชอบที่คุณปฏิเสธผม มันทำให้ผมเห็นว่าคนที่ไม่ได้มองคนแค่รูปร่างหน้าตาภายนอก และเกย์ที่ไม่หวังเรื่องเซ็กส์ยังมีอยู่ในปัจจุบัน”
“มีคนแบบผมอยู่เยอะ เพียงแต่คุณยังไม่เจอเท่านั้นแหละ”
“แต่วันนั้นคุณมีสิทธิในตัวผมเต็มที่เลยนะ”
“คุณรู้มั้ยว่าข้อห้ามของการเป็นเจ้าของบาร์นี้คืออะไร ห้ามสุงสิงหรือสนิทสนมกับเด็กบาร์ ผมไม่ใช่คนแบบที่คุณอยากเจอหรอก เซ็กส์มันเป็นความต้องการทางธรรมชาติของมนุษย์ ผมเองก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูนเพียงแต่มันมีข้อห้ามตรงนั้นอยู่”
“ไม่รู้แหละ เอาเป็นว่าผมชอบคุณ ผมเชื่อในความรู้สึกของผม ผมไม่รู้จะพูดยังไงให้คุณเชื่อ เวลาเท่านั้นที่จะพิสูจน์”
“ขอบคุณที่ชอบผม มีคนชอบดีกว่ามีคนเกลียดอ่ะนะ” ผมเลี่ยงไป
“คุณลองมองข้ามอาชีพของผมไปได้มั้ย ผมตัดสินใจทำงานนี้เพราะผมพลาดไปแล้ว ผมต้องการเงินซักก้อนมาจ่ายค่าเช่าห้อง ผมยังต้องซื้อข้าวกินอยู่นะครับ ผมคิดว่าจะทำงานนี้ไปซักพัก เมื่อได้เงินพอที่จะเริ่มชีวิตใหม่ ผมก็หยุด แล้วหางานอื่นทำ”
“แต่คุณจะโดนตราหน้าว่าเป็นผู้ชายขายน้ำไปตลอดชีวิตเลยนะ”
“..................................”  ยุทธอึ้ง
“เอาล่ะ ผมเห็นแก่อนาคตของคุณ ผมจะช่วย”
“ผมไม่รบกวนเงินของคุณนะครับ ความสัมพันธ์ที่มีเงินมาเกี่ยวข้องมักจะไปไม่รอด”
“แล้วความสัมพันธ์ที่โกหกตั้งแต่แรกมันจะรอดมั้ยล่ะ”
“ผมขอโทษ”
“เช้าแล้ว แยกย้ายไปนอนกันเถอะ”  ผมตัดบท
“ครับ ฝันดีนะครับ”
“ฝันดีครับ เจอกันสี่โมงนะ”  ผมยิ้มให้ยุทธเป็นครั้งแรกแล้วเดินขึ้นห้องไป
*
*
...ระหว่างอาบน้ำ ผมก็คิดหาวิธีช่วยยุทธ เพื่อจะได้ไม่ต้องหวั่นไหวไปกับคำพูดของเค้า พูดว่าชอบใครก็พูดได้ แต่สายตาที่มองมาผมรู้สึกได้ถึงความจริงใจ แต่ประวัติของเค้ามันไม่เคลียร์ อนาคตของเค้าก็เลือนราง ส่วนผมหน้าที่และคำสั่งของผู้มีพระคุณก็ค้ำคออยู่...เรื่องราวระหว่างเราสองคนแทบเป็นไปไม่ได้เลย...อาบน้ำแต่งตัวเสร็จผมก็เดินไปสูดอากาศยามเช้าที่ระเบียง วันนี้ถือว่าผมเข้านอนช้าที่สุด ฟ้าเริ่มสว่างแล้ว ผมมองลงไปด้านล่างก็เห็นภาพที่ต้องทำให้อมยิ้มและคงฝันดีอย่างแน่นอน ภาพที่ผู้ชายใส่เสื้อกล้ามโชว์แขนขาวล่ำกำลังนั่งคุกเข่าฟังพระให้พรหลังจากใส่บาตรอยู่ข้างถนน...

******************************************************************************************************
...กริชจะช่วยยุทธได้หรือไม่ และยุทธชอบกริชเพราะเงินหรือเปล่า มาลุ้นกันในตอนต่อไปเร็ว ๆ นี้นะครับ...
MonarcH
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 6 PG. 4 [25/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 25-05-2011 01:12:20
อย่ามาเล่นเล่ห์ใส่กันเลยนะ...ขอให้ยุทธจริงใจ
แต่กริชจะช่วยยังไงนี่สิ... :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 6 PG. 4 [25/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 25-05-2011 01:27:52
ช่าย ทิ้งท้ายได้อย่างน่าเป็นห่วงจริงๆอะ มันเลยอดคิดไม่ได้เลยอะ... เหอๆ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 6 PG. 4 [25/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 25-05-2011 05:26:38
ยุทธรุกแล้ว
แต่กริชผู้แสนดีของเราจะทันเล่ห์เหลี่ยมมั๊ยเนี่ย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่7 คำสัญญา 24/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 25-05-2011 05:52:49
ใครทำให้ไนท์ต้องเป็นยังงี้
มันต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังแน่ ๆ
พี่เตเฝ้าอย่าให้คลาดสายตาเลยนะ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 6 PG. 4 [25/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 25-05-2011 06:41:48
ยุทธนี่ยังไงซะแล้ว
มันดูคลุมเครือๆยังไงก็ไม่รู้
ถ้าคำพูดที่บอกกริชเป็นเรื่องจริง ก็นะ ยุทธกลายเป็นดูไม่ดีไปเลย
ถึงจะบอกว่าหมดหนทางแล้วจริงๆก็เถอะ
แต่จบถึงปริญญาตรี น่าจะมีทางไปได้มากกว่านี้นะ
ยุทธดูเป็นผู้ชายเหลาะแหล่ะไปเลยอ่ะ :angry2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 5 [25/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 25-05-2011 08:37:01
 
(http://upic.me/i/iv/vuaz9.jpg) (http://upic.me/show/24591066)


เล่ห์ร้าย
ตอนที่ 5.

“เป็นยังไงล่ะ ดาราดาวรุ่งที่คุณเลือกดันต้องมาพัวพันกับคดีฆ่าคนตาย แล้วก่อนหน้านี้ก็มีข่าวฉาวไม่เว้นแต่ละวัน ผมบอกแล้วว่าให้ใช้พระเอกเก่า ไม่ต้องไปแย่งกับใครไม่ต้องเสียค่าตัวมากขนาดนี้ด้วย” ธรรมโรจน์ประมุขใหญ่แห่งคฤหาสน์เอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่พอใจกับลัลนาผู้เป็นภรรยาที่นั่งจิบกาแฟหอมกรุ่นอยู่บนโต๊ะอาหารทางด้านซ้ายมือ พร้อมกับเลื่อนหนังสือพิมพ์ที่พาดหัวข่าวตัวใหญ่เรื่องคดีฆาตกรรมดาราหน้าใหม่ โดยมีดาราดาวรุ่งที่เป็นพรีเซ็นเตอร์รายล่าสุดของบริษัทตกเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัย
“มันก็แค่ข่าว แล้วก็เป็นแค่ผู้ต้องสงสัย ยังไม่มีหลักฐานสักหน่อยว่าปลายฟ้าเป็นคนลงมือ”  ลัลนาตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แล้วก็เลื่อนหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นออกไปเหมือนไม่ได้สนใจ
“ถ้าภาพลักษณ์ของสินค้าตัวใหม่ของเราต้องเสียหาย ผมจะถือว่าอยู่ในความรับผิดชอบของคุณ”
“มันก็เป็นความรับผิดชอบของฉันมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว หรือถ้าคุณอยากจะเปลี่ยนพรีเซ็นเตอร์ก็ได้นะ แต่ถ้ายอดขายไม่ดีขึ้น คุณจะถือว่าเป็นความรับผิดชอบของคุณไหมคะ คุณโรจน์”

บทสนทนายังดำเนินต่อไปเรื่อยๆ เด็กชายที่แต่งกายในชุดนักเรียนเรียบร้อย นั่งรับประทานอาหารเช้าไปเงียบๆ เพราะบรรยากาศบนโต๊ะอาหารเช้ามักจะเป็นเช่นนี้เสมอ มีแค่การพูดคุยในเรื่องของธุรกิจ เรื่องงานสังคมต่างๆ หรือต่างคนต่างรับประทานกันไปเงียบๆ
เมื่อเด็กชายอิ่มอาหารจึงวางช้อน แล้วยกมือไหว้ทั้งสอง ซึ่งคุณท่านและคุณหญิงของบ้านก็เพียงแค่พยักหน้ารับรู้เท่านั้น ก่อนหยิบกระเป๋าหนังสือเดินออกมา แล้วก็พบกับชายหนุ่มร่างสูง ซึ่งก็คือ ธรรมทาน พี่ชายที่อายุห่างกันหลายปี พึ่งเรียนจบกลับมาจากเมืองนอก ที่เดินสวนเข้ามาจากด้านนอกพอดี ลลิตยกมือไหว้และเดินเลี่ยงออกไป เป็นเช่นนี้เสมอ เพราะวัยที่ห่างกันมาก และธรรมทานไปใช้ชีวิตร่ำเรียนอยู่ต่างบ้านต่างเมืองมานานหลายปี ทั้งสองจึงจะพูดคุยกันเพียงแค่เรื่องที่จำเป็น ไม่มีการหยอกล้อ เล่นสนิทสนมกันเหมือนพี่น้องอื่นๆ
“ทาน แกจะไปนอนค้างที่ไหนฉันไม่เคยว่า แต่ให้อย่าเสียงานเสียการ และอย่าให้มีเรื่องเสื่อมเสียมาถึงวงศ์ตระกูลก็แล้วกัน” เสียงประมุขของบ้านเอ่ยกับผู้มาใหม่เสียงเรียบ
“ครับ คุณพ่อ”
“อย่าลืมสรุปเรื่องสินค้าตัวใหม่ที่ฉันให้แกไปดูมาด้วยล่ะ”
“ได้ครับ”
“รับอาหารเช้าไหมคะคุณทาน” หัวหน้าแม่บ้านเอ่ยถามขึ้นตามหน้าที่
 “ไม่ล่ะ ขอตัวนะครับ คุณพ่อคุณแม่” ร่างสูงของธรรมทานก็ผละออกไป

ความสัมพันธ์ในแบบครอบครัวที่มีเพียงเปลือกนอกที่สวยหรู แต่ภายในกลับกลวงและว่างเปล่าเหลือเกินในจิตใจของเด็กชาย ก่อนหน้าที่ลลิตจะรู้ความจริงว่าตนเองไม่ได้เกิดมาจากความรักเหมือนดังเด็กคนอื่นๆ เด็กชายเองก็เคยทำตัวสร้างปัญหา เกเร เรียกร้องความสนใจ โดยหวังให้พ่อและแม่กลับมาเอาใจใส่ จนกระทั่งได้รับรู้ความจริง ว่าการมีอยู่ของครอบครัวคือละครโรงใหญ่ที่เอาไว้แสดงหลอกผู้คนที่อยู่ในสังคมชั้นสูง

ในวันนั้น...
วันที่พ่อและแม่มีปากเสียงกันครั้งใหญ่ ลลิตในวัยเพียง 7 ปี จับใจความได้ว่าที่พ่อและแม่แต่งงานกันไม่ใช่เพราะความรัก แต่เป็นเรื่องของธุรกิจ แล้วก็มีธรรมทานออกมาแต่พอเวลาผ่านไป ก็คิดได้ว่าธุรกิจของตัวเองใหญ่โตมาก เกินกว่าที่ลูกชายคนเดียวจะดูแลได้ เลยตัดสินใจที่จะมีลูกอีกคนเพื่อเอามาช่วยดูแลกิจการ เหตุผลของการเกิดมาของเด็กชายก็เพื่อธุรกิจมีหน้าที่เป็นทายาทเพื่อสืบทอดธุรกิจแห่งตระกูลใหญ่นี้เท่านั้น ทั้งที่ความจริงแล้วในใจของเด็กชายไม่ได้หวังจะต้องการบ้านหลังใหญ่ที่พ่อแม่ไม่เคยอยู่ ของเล่นราคาแพงมายมากที่ซื้อมาเพื่อหลอกเด็กให้หยุดร้องไห้งอแง ลลิตต้องการเพียงอ้อมกอดที่อบอุ่นของพ่อและแม่เพียงเท่านั้น  ด้วยความเสียใจ เด็กชายวิ่งร้องไห้ออกไปโดยมุ่งหน้าตรงไปที่เรือนคุณปู่ ที่สร้างเป็นเรือนเล็กแยกออกไปทางด้านหลังของคฤหาสน์ เพื่อให้คุณปู่ที่แสนใจดีได้ปลอบประโลมจิตใจดวงน้อยที่กำลังแตกสลายบอบช้ำ

คุณปู่ผู้อบอุ่นอ่อนโยนและเข้าใจ คอยปลอบประโลมใจของเด็กชายเรื่อยมาในยามที่เด็กชายถูกพ่อแม่ทิ้งเอาไว้เพียงลำพังกับพี่เลี้ยง เด็กชายใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับคุณปู่ที่คอยเล่านิทาน สอนเรื่องสนุกสานให้ลลิตยิ้มได้

แต่เนื่องด้วยพื้นที่บริเวณนั้นยังอยู่ในช่วงของการตกแต่งที่ยังไม่เรียบร้อย เด็กชายจึงสะดุดเข้ากับกองไม้แล้วพลัดตกลงไปในบ่อน้ำที่ขุดไว้เพื่อทำสระจำลอง แม้ไม่ใช่บ่อที่ลึกแต่ด้วยความตกใจและยังว่ายน้ำไม่เป็น เด็กชายตะเกียกตะกายเพื่อจะขึ้นจากน้ำ ปากก็ส่งเสียงร้อง แต่สองแขนเล็กยิ่งตีน้ำเพื่อพยุงตัวก็ยิ่งเหนื่อยล้า เหมือนจะจมลงไปทุกทีๆ
แต่ในวินาทีสุดท้ายที่คิดว่าตัวเองไม่ไหวแล้ว คงจะต้องจมน้ำแน่ๆ ก็กลับมีวงแขนของใครคนหนึ่งเข้ามาคว้าร่างของเด็กชายเอาไว้ แล้วพากลับขึ้นไปจนพ้นน้ำ ร่างเล็กหอบอ่อนแรง น้ำตาไหลร้องไห้ออกมาด้วยความตกใจ เด็กหนุ่มที่มาช่วยชีวิตเอาไว้ก็กอดร่างเล็กให้คลายอาการตระหนก มือลูบที่หลังไหล่เบาๆ ปากก็พูดปลอบโยนไปเรื่อยๆ จนลลิตลดอาการสั่นเทาลง เด็กหนุ่มจึงปล่อยเด็กชายให้เป็นอิสระ แล้วจับหันซ้ายหันขวาดูว่าเด็กชายได้รับบาดเจ็บตรงไหนบ้างหรือไม่
“ฮืออ เลือดๆ เลือดออกด้วย” ลลิตร้องออกมา เมื่อยกมือขึ้นดูแล้วเห็นของเหลวสีแดงจางๆ ติดปลายนิ้วขึ้นมา เริ่มเบะหน้าร้องไห้อีกครั้งแต่เมื่อลองนึกดู ก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเจ็บตรงไหน แล้วสายตาก็พลันไปเห็นเสื้อสีอ่อนที่เปียกน้ำจนโชกของคน   ตรงหน้า มีจุดเลือดสีแดงไหลซึมออกมาจากที่เอว จึงชี้ให้เด็กหนุ่มดู
“เจ็บไหม เลือดออกใหญ่เลย ฮือๆ” ร่างเล็กร้องไห้ไป ถามคนตรงหน้าไป เด็กหนุ่มเปิดเสื้อขึ้นเหลียวหน้าหันกลับไปดู เริ่มรู้สึกแสบๆ ที่บริเวณเหนือสะโพกเป็นรอยถากยาวเลือดไหลซึมออกมาตลอด
“ไม่เป็นไรหรอกนะ แผลนิดเดียวเดี๋ยวก็หาย” เด็กหนุ่มปลอบใจเจ้าตัวเล็กที่นั่งมองแผลของเขาน้ำตาหยดเผาะๆ ฝ่ามือก็ลูบ ผมที่เปียกลู่ติดกับใบหน้าขาวๆ ที่ตอนนี้จะออกไปทางซีดๆ เสียมากกว่า  แต่แล้วเด็กชายก็ผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วกดไหล่ของเด็กหนุ่มไว้
“รออยู่นี่ก่อนนะ จะไปเอายาก่อน” แล้วร่างเล็กก็วิ่งตรงไปทางเรือนพักคนรับใช้ที่อยู่ใกล้ที่สุด เด็กหนุ่มได้แต่มองตามหลังเล็กๆ ไปจนสุดสายตา จะเรียกไว้ก็เรียกไม่ทัน เด็กหนุ่มจึงเลือกที่จะลุกขึ้นโดยไม่รอเจ้าตัวเล็ก และใช้ชายเสื้อกดๆ แผลเอาไว้เพื่อให้เลือดหยุดไหล

ลลิตวิ่งกลับมาพร้อมกับหอบอุปกรณ์ที่ใช้ทำแผลมาด้วย ร่างเล็กมาหยุดตรงจุดที่วิ่งออกไปเมื่อครู่แต่กลับไม่พบใครเสียแล้ว จึงคิดว่าจะกลับไปอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่ก็ได้ยินเสียงคนคุยกันดังมาจากอีกทางเสียก่อน

“ตาวินไปทำอะไรมาน่ะ เปียกเป็นลูกหมาตกน้ำเชียว” เสียงหญิงสาววัยกลางคนพูดกับเด็กหนุ่มที่ช่วยลลิตไว้อย่างเอ็นดู
“ลูกแม่ต่างหาก” เด็กชายตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ
“ลงไปเล่นน้ำมาล่ะสิ อยากเล่นทำไมไม่บอกแม่ สระดีๆ ก็มี” คนเป็นแม่ยังเอ่ยด้วยน้ำเสียงล้อเล่นเช่นเคย
“เปล่าคร้าบบบ ลงไปช่วยเด็กตกน้ำมา สงสัยเป็นลูกคนงานเนื้อตัวมอมเชียวคงมาเล่นแถวนั้นแล้วพลัดตกลงไปน่ะครับ       แต่พอช่วยขึ้นมาก็เห็นวิ่งได้แล้วเลยไม่ได้ตามคนอื่นมาช่วยอีก”
“เป็นอย่างนั้นก็ดีแล้ว งั้นเรารีบกลับกันดีกว่าลูก แม่ลาคุณท่านแล้ว” หญิงคนนั้นโอบเด็กหนุ่มพาไปขึ้นรถที่จอดรออยู่

เด็กชายมองสองแม่ลูกที่พูดคุยหยอกล้อ โอบกอดกันเดินขึ้นรถไป แล้วรู้สึกอยากได้รับการโอบกอดแบบนั้นบ้าง แต่เมื่อหวนกลับไปคิดถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ลลิตก็ได้รับอ้อมกอดที่อบอุ่นเช่นนั้นนี่นา ความรู้สึกอุ่นๆ จากวงแขนของเด็กหนุ่มไม่ได้จางหายไปเลย แม้ร่างเล็กจะยังอยู่ในชุดที่เปียกน้ำก็ตาม
หลังจากนั้นเด็กชายก็เฝ้ามองแขกของคุณปู่อยู่บ่อยครั้ง จนรู้เรื่องราวหลายๆ อย่างของครอบครัวนี้ คนแม่ที่อบอุ่นอ่อนโยน แต่ก็เข้มแข็ง คนลูกก็ถอดแบบแม่แทบจะไม่ผิดเพี้ยน รอยยิ้มสดใส แววตามองโลกด้วยความสุข ทั้งที่เหตุการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่นั้นไม่ได้ใกล้เคียงกับคำว่าความสุขเลยแม้แต่น้อย


ลลิตนั่งคิดถึงเหตุการณ์เก่าๆ ที่พบกับวิธวินท์เป็นครั้งแรกที่ติดอยู่ในหัวใจจนไม่อาจลืมอ้อมกอดนั้นลงได้ เด็กชายกำลังนั่งรถออกจากโรงเรียนแต่ในวันนี้กลับยังรู้สึกว่าไม่อยากตรงกลับบ้าน เพราะชายหนุ่มมีเรียนเพิ่มตอนเย็น ไม่ได้มาสอนการบ้านให้เหมือนเดิม เด็กชายจึงตัดสินใจแวะร้านดอกไม้เพื่อซื้อดอกกุหลาบช่อใหญ่ และแวะซื้อกระเช้าผลไม้เพื่อไปเยี่ยมวิสา มารดาของวิธวินท์นั่นเอง
ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เด็กชายเข้าไปเยี่ยมวิสา ลลิตเคยเข้าไปใช้เวลาพูดคุยกับวิสาอยู่หลายครั้ง แม่ของชายหนุ่มใช้คุณปู่เป็นต้นแบบในการดำเนินชีวิตจึงมีหลายๆ อย่างที่ทำให้เด็กชายสบายใจเวลาที่ได้อยู่ใกล้

ลลิตเดินถือช่อดอกไม้ โดยมีสมบูรณ์หิ้วกระเช้าผลไม้เดินตาม เด็กชายเคาะประตูห้องผู้ป่วยเบาๆ แต่ได้ยินเสียงคุยเฮฮาออกมาจากด้านใน วิธวินท์เป็นคนเดินมาเปิดประตู
“อ๊ะ คุณหนู” ชายหนุ่มอุทานออกมาอย่างตกใจที่เห็นเด็กชายมาอยู่ตรงนี้
“หลบไปสิ” ลลิตพูดออกมาเบาๆ รู้สึกแปลกใจเช่นกันที่เห็นวิธวินท์ที่นี่ เมื่อเด็กชายก้าวเข้าไปในห้องพักผู้ป่วย เสียงพูดคุยเฮฮาก็เงียบลงโดยอัตโนมัติ ทุกคนต่างหันมาให้ความสนใจกับผู้มาใหม่ แต่เด็กชายไม่สนใจมองใคร เดินตรงไปที่มารดาของวิธวินท์ที่นอนอยู่บนเตียง
“คุณหนูริชมาได้ยังไงคะเนี่ย” วิสาขยับตัวลุกขึ้นมาทักทาย เด็กชายก็ส่งช่อดอกไม้ให้แล้วยกมือขึ้นไหว้
“ก็มาเยี่ยมคุณน้าแหละครับ มีผลไม้มาด้วย” สมบูรณ์วางกระเช้าผลไม้ไว้ที่โต๊ะวางมุมห้อง
“เอามาให้ลำบากทำไมกันคะ แค่คุณหนูมา น้าก็ดีใจแล้ว” วิสาพูดไปมือก็ลูบที่มือของเด็กชายที่เกาะอยู่ข้างเตียงไป
“วันนี้คุณน้ามีแขก คงไม่ค่อยสะดวก ริชขอตัวกลับก่อนดีกว่าครับ”
“เพื่อนๆ ตาวินทั้งนั้นแหละค่ะ เห็นว่าอาจารย์ยกเลิกชั้นเรียนเลยเฮกันมาอยู่นี่ คนกันเองทั้งนั้นเลยค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ ไว้ริชมาใหม่คราวหน้าดีกว่า” ลลิตเอ่ยย้ำอีกครั้งก่อนกล่าวลาแล้วเดินนำสมบูรณ์ออกไป

เพื่อนๆ ของชายหนุ่มต่างมองหน้ากันอย่างมีเลศนัยแต่ทุกคนต่างก็เงียบไว้ หยิบยกเอาเรื่องเฮฮามาเล่าให้มารดาของเพื่อนฟังจนค่ำทุกคนลากลับกันหมด วิธวินท์จึงเดินออกไปส่งแล้วก็ถูกเพื่อนๆ ดึงตัวออกไป
“เฮ้ย คนนี้ใช่มั้ยวะ”
“เด็กคนนี้รึเปล่าที่มึงบอก”
“น่ารักนี่หว่า”
“คุณหนูนี่ตัวโคตรเล็กเลย”
ทุกคนต่างรัวคำถามใส่ชายหนุ่มกันเซ็งแซ่เหมือนนกแตกรัง
“ไอ้วิน มึงจะเงียบทำไมวะ คนนี้แน่ๆ เลย น่ารักว่ะ”
สุดท้ายชายหนุ่มก็ถูกเพื่อนรุมล้อมต้อนจนหลังติดกำแพง จนหมดทางที่จะหนีจึงพยักหน้าแล้วตอบเบาๆ
“ใช่...”
“กูว่าแล้ว” แล้วทุกคนก็เลิกสนใจชายหนุ่ม หันมาจับกลุ่มคุยกันเอง หัวข้อก็ไม่พ้นเรื่องของเด็กชายที่พึ่งพบเมื่อเย็นนั่นเอง

เมื่อชายหนุ่มถูกปล่อยตัวออกมาจึงกลับมาที่ห้องพักของมารดาอีกครั้งแต่ยังไม่ได้เข้าไป เขายืนพิงกำแพงที่หน้าห้องแล้วคิดถึงคำพูดของคุณสมบูรณ์ที่คุยกับเขาตอนช่วงที่คุณหนูคุยอยู่กับแม่
“วันนี้เป็นวันเกิดของคุณหนูครับ ปกติก็จะไม่ได้จัดงานเลี้ยงอะไรอยู่แล้ว ที่พิเศษหน่อยก็จะมีแค่เป่าเทียนบนเค้กก้อนเล็กๆ กับคุณปู่เพียงสองคน แต่พอคุณท่านเสีย คุณหนูก็เก็บตัวเงียบทุกปี แต่วันนี้เกิดอยากมาเยี่ยมคุณวิสา อาจเพราะคุณสองคนคงจะทำให้คุณหนูคิดถึงคุณปู่”


=========> โปรดติดตามตอนต่อไป

 :o8: คุณหนูโตขึ้นอีกปีแล้ว บรูโน่เริ่มห่าง คุกๆๆๆ มาอีกนิดนึง
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่7 คำสัญญา 24/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 25-05-2011 08:41:47
ไนท์แปลกมาก เป็นตัวละครที่มีอดีตน่าสนใจ
คือ อยากตายแต่ก็ยังดูแลตัวเองแบบแกนๆ แต่ถ้ามีจังหวะก็จะฆ่าตัวตายแบบเนียนๆ
บอกไม่ถูกว่ายังไงแฮะ

ส่วนเต เป็นพี่ชายที่แสนดี เป็นคนดีมากอ่ะ

คู่นี้ไม่ต้องลุ้นให้รักแต่มาแนวจะรักกันได้ยังไงก่อนจะเข้าใจไนท์มากกว่า

ไนท์น่าถนอมออกนะ เหมือนต้นไม้ที่ยากต่อการดูแลแล้วทำให้คนเลี้ยงต้องลุ้นว่าจะทำยังไงให้ออกดอกบานสวยงามได้
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 5 [25/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 25-05-2011 09:06:16
อยากรู้จังบรูโน่จะให้อะไรเป็นของขวัญวันเกิดคุณหนูตัวร้ายแต่น่ารัก
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 5 [25/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: RemySexyCool ที่ 25-05-2011 09:11:57
หนูริชน่ารักจัง 
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 6 PG. 4 [25/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 25-05-2011 09:12:02
ยุทธจะจริงหรือหลอกกันแน่เนี่ย หนักใจแทนกริช :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่7 คำสัญญา 24/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: RemySexyCool ที่ 25-05-2011 09:17:09
นึกว่าจะโดนเจ๊สั่งตายไปซะแล้ว
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่7 หวาดกลัว P:5 [24/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: RemySexyCool ที่ 25-05-2011 09:20:08
ตามลุ้นกันต่อไป
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 6 PG. 4 [25/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 25-05-2011 09:27:45
กริชโดนหลอกหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 5 [25/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 25-05-2011 11:01:25
บรูโน่ของหนูริชจะให้อะไรเจ้าของวันเกิดหนอ ลุ้นๆๆๆ ^_^
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่7 หวาดกลัว P:5 [24/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 25-05-2011 11:21:40
ตามมาอ่านอีกสี...ส่วนตัวชอบสีฟ้าค่ะก็เลยมาลุ้นกันนิยายหน่อยว่าจะถูกใจรึเปล่า
ถ้าเดาไม่ผิดสายลมเป็นพระเอกใช่มั้ยคะ?...แล้วไหงบทอย่างกับพระรองเลยล่ะ
หวังว่าปลายฟ้าจะไม่เป็นอะไรนะ...นายหม่อนนี่มันโรคจิตจริง ๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 5 [25/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: nco1236 ที่ 25-05-2011 11:38:56
ชอบคุณหนู่แล้วอะสิ :man1:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 6 PG. 4 [25/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: tarkung ที่ 25-05-2011 12:23:53
ชอบเรื่องนี้จังเลยครับ จะติดตามต่อไปนะครับ

ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่7 หวาดกลัว P:5 [24/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: tarkung ที่ 25-05-2011 12:24:49
ยังไม่แน่ใจว่าใครจะเป็นพระเอก ...... แต่ชอบเรื่องนี้นะครับ

ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ สู้ๆ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๕. ๒๒ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: tarkung ที่ 25-05-2011 12:29:11
พี่เทียนสู้ ๆ
นายทานตกกระป๋องไป ไม่ซื่อสัตย์
นายโป้ง ไม่เอา เพราะฝักใฝ่ยัยเมย์
นายแม็ค ไม่ผ่าน เด็กน้อยเกิน
เหลือนายเจ เข้ารอบพระเอกคนเดียว (แต่ยังไม่มีบท)
แต่อาจจะมีโผล่มาใหม่
(แอบขำปลายฟ้า โผล่กี่เรื่อง ๆ โดนกลบหมด ยกเว้นเรื่องของตัวเอง)


เห็นด้วยๆ

จะติดตามต่อไปนะครับ สู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 5 [25/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: tarkung ที่ 25-05-2011 12:32:27
ที่แท้คุณหนูมีความหลังแบบนี้นี้เอง

จะติดตามต่อไปนะครับ ขอเป็นกำลังใจให้นะคร้าบ สู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่7 คำสัญญา 24/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: tarkung ที่ 25-05-2011 12:34:34
ไนท์มีอดีตอะไรกันนะ สงสัยจัง

จะติดตามต่อไปนะครับผม!!!
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 5 [25/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 25-05-2011 12:34:53
มีความหลังกันแบบนี้เอง แต่คุณหนูก็ยังดูเด็กๆอยู่น้า วินท่าจะต้องรออีกหลายปี เหอๆ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 6 PG. 4 [25/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 25-05-2011 13:13:28
ยุทธจะโกหกอะไรอีกรึเปล่า  ไม่ใช่กลายเป็นตำรวจปลอมตัวมานะ เหอๆ ไปทำงานอย่างอื่นได้นิ ไม่น่าไว้ใจจริงๆ
 แต่ถ้าเราเป็นกริชล่ะก็ ถึงจะหลอกก็เต็มใจให้หลอกนะคะ เอร้ยยย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 5 [25/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 25-05-2011 13:37:31
บรูโน่~~~ รีบไปซื้อริปบิ้นมาผูกตัวเองให้เป็นของขวัญวันเกิดคุณหนูซะ
 :laugh:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 6 PG. 4 [25/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 25-05-2011 14:34:03
เด็กป้าธเนศหรือเปล่าหว่า สับสนเว้ยยย :serius2:
อย่าเพิ่งไปหลงคารมเขานะกริช เดี๋ยวเสียใจทีหลังจะแย่ :m15:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่7 คำสัญญา 24/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 25-05-2011 14:39:57
อดีตอันมืดมนของไนท์ คืออะไรว้า....
เฮ้ย ดีนะที่เตจับตัวได้ทัน ไม่งั้น น้องไนท์ ซีแหง๋แก๋
รอตอนต่อไปนะค่ะ :L2:
ปล. พี่ค่ะ สั้นมากกกค่ัะ :m17:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 5 [25/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 25-05-2011 15:56:50
คุณหนูริชน่ารักน่าเอ็นดู
พี่วินอดทนไปก่อนนะ
อยากให้น้องใส ๆ ไปอีกนาน ๆ
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่7 คำสัญญา 24/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 25-05-2011 16:00:15
เฮ้อ! ไนท์แสดงอารมณ์มาเยอะแฮะตอนนี้ พี่เตช่วยดูแลไนท์ด้วย ><
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 5 [25/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: onjazz26 ที่ 25-05-2011 16:07:50
โอ๊...โอ... :110011:โอ๊...โอ...  :z7:
เป็นเช่นนี้...นี้เอง
คุณหนูริช...หลงรักเค้าตั้งแต่แรก...หุ หุ o16
น่าสงสารคุณหนูจัง....
ตาวินของขวัญนะจัดเต็มเลยน้า....  :oo1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่7 หวาดกลัว P:5 [24/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 25-05-2011 16:27:56

พี่สายลมไปตามหมวดพชรจากเพลิงพรายมาช่วยอีกแรง
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 5 [25/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 25-05-2011 16:28:15
รู้ที่มาของรอยแผลเป็นของวินแล้ว  :z1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 5 [25/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 25-05-2011 16:40:06
รักแรกสินะ  :o8:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 6 PG. 4 [25/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 25-05-2011 16:42:34
ที่ยุทธพูดมาเชื่อได้หรือป่าว ไม่ค่อยน่าไว้ใจ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 5 [25/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 25-05-2011 16:52:57
หนูริชน่าสงสารจังเลย....
วิทก็ดูแลหนูริชดีๆนะ..
วันนี้วันเกิด ก็ส่งตัวเองไปปลอบใจละกัน น้องริชจะได้อารมณ์ดี  :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/ตอนที 7 mini... (24/5/54)
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 25-05-2011 16:55:42
ตอนนี้มีแต่ความหวานไม่มีซอมบี้  :z1:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๕. ๒๒ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 25-05-2011 18:43:55
 :laugh:

เทียนร้ายมากกกกกกก

แต่เรื่องนี้ถ้ามีNC สักหน่อยจะเริ่ดมากกกก

ป.ล จะผิดไหมถ้าเชียร์แม็คอ่ะ  อยากเห็นแม็คเป็นพระเอก
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 6 PG. 4 [25/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 25-05-2011 19:08:41
ห่วงกริชจัง  กลัวใจสลาย!!!!!
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 5 [25/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 25-05-2011 19:16:36
เพราะความประทับใจในอดีตนี่เอง  เอาใจช่วยให้สมหวังทั้งคู่
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/ตอนที 7 mini... (24/5/54)
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 25-05-2011 19:45:00
อ่านแล้วลุ้นสุดตัวจริงๆ
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่7 คำสัญญา 24/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 25-05-2011 20:00:19
อ่านแล้วมันนัวร์ไปหมด  เศร้า!!!!!!
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/ตอนที 7 mini... (24/5/54)
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 25-05-2011 20:12:06
ไม่น่าเชื่อ.....
ไวไฟจังเลยน้า น้องวูยอง....โดนพี่ยุงกี้หม่ำซะแล้ววว
ถ้าเกิดมีซอมบี้เข้ามาตอนเข้าได้เข้าเข็ม คงลุ้นตัวโก่ง :laugh:(ดูจะโรคจิตไปไหม ห้าๆ)
รอตอนที่ซอมบี้จะออกมานะค่ะ
ปล.พี่เรนเจอร์สีเขียว พี่แฟนคลับเกาหลีรึ
แต่ละชื่อนี่ คือคือทั้งนั้น (เพิ่งสังเกตุดูนะเนี้ยะ)
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 5 [25/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Muzik ที่ 25-05-2011 20:15:38
หนูริชน่ารัก ถึงจะโตขึ้นอีกปี แต่พี่วินยังเสี่ยงคุกอยู่เด้อ
โตไวไวนะคุณหนู  :oo1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่7 คำสัญญา 24/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: Muzik ที่ 25-05-2011 20:20:41
อ่านเรื่องนี้ไปนั่งฟังเพลงพี่ตูนไป(เกี่ยวมั้ย) ยิ่งอ่านยิ่งเหมือนไนท์กำลังจมน้ำลึกลงไปเรื่อยๆ
อยากรู้จังเพราะอะไรทำไมถึงได้กลายเป็นคนแบบนี้ไปได้ บอกพี่เตมาสิคนดี (เพราะคุณพี่ก็อยากรู้)  :z3:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 6 PG. 4 [25/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: Muzik ที่ 25-05-2011 20:29:20
ยุทธจะมาแนวไหนน้อ จะเป็น bad guy รึเปล่า ?
ชอบกริชตอนแทนตัวเองด้วยชื่อดูน่ารักดีนะ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 6 PG. 4 [25/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 25-05-2011 21:02:50
การโกหก ทำให้เราเชื่อในในเรื่องอื่นๆยากขึ้นจริงๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 5 [25/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 25-05-2011 21:21:53
วันนี้วันเกิด พี่วินรีบทำแต้มเร็วๆเข้า
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 5 [25/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 25-05-2011 21:58:57
หนูริชน่ารักจัง 



แหมๆๆๆแต่งเองชมเองเลยนะพี่ :laugh: :laugh: :laugh:


บรูโน่ก้อเอาตัวเองผูกโบว์ให้หนูริชสิ  หนูริชต้องชอบมากๆแน่ๆ :o8:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 5 [25/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 26-05-2011 06:02:18
มันมีที่มาอย่างนี้นี่เอง
เรื่องของคุณหนูกับบรูโน่ :o8:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่7 หวาดกลัว P:5 [24/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 26-05-2011 08:44:42
เอ๋  :m28: :m28:

ทำไมเหมือนแต่ละคนแอบสมน้ำหน้าปลายฟ้ายังไงก็ไม่รู้นะครับ  :m16:

เมื่อวานไม่อยู่เดี๋ยววันนี้มาลงตอน 8 ให้นะครับ

คงช่วงเย็น ๆ คงไม่ว่ากันนะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 5 [25/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 26-05-2011 08:48:31
ให้ของขวัญอะไรกับคุณหูนริชดีนะครับ o3



บรูโน่ผูกโบว์นี่นาสนใจจัง
 :z1:  :z1:  :z1:

แต่ว่าจะให้จัดเต็มคุณหนูยังเด็กนะครับ  :laugh:





หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 5 [25/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 26-05-2011 09:03:17
 :กอด1: หนูริชน่าสงสารจัง



คุณเกิบแตะให้บรูโน่ปลอบใจหนูริชแบบแนบแน่นเลยนะครับ :impress2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่7 หวาดกลัว P:5 [24/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 26-05-2011 09:03:58
ไม่เป็นไรครับพี่ลม แต่ว่าผมรอ
 :laugh:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 6 PG. 4 [25/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 26-05-2011 09:08:11
ยุทธหลอกกริชเหรอเนี่ย แล้วต่อไปจะเชื่อใจได้มั้ย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่7 คำสัญญา 24/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 26-05-2011 09:14:09
 :serius2: พี่เตดึงน้องไนท์ออกจากความมืดมนซะที
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/ตอนที 7 mini... (24/5/54)
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 26-05-2011 09:21:24
 :z1: โอ๊วววว นี่มันเป็นรักระหว่างรบของแท้


อย่างว่ามีเวลาต้องรีบทำ จะโดนซอมบี้ขบหัวเหมือนไหร่ก็ไม่รู้  :laugh:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๕. ๒๒ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 26-05-2011 09:35:59
 :fire: ตอนหน้าเพลิงคงจะท่วมสีแดง
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 10 บ่วงกรรม 24/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 26-05-2011 09:40:40
 o22 จระเข้งับ


เป็นนิยายเรียกเลือดอีกเรื่องในโปรเจค
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่7 คำสัญญา 24/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 26-05-2011 13:00:37
สงสารพี่เต จริงๆ เจอน้องไนท์ที่เป็นแบบนี้   :z10:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่7 หวาดกลัว P:5 [24/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 26-05-2011 16:41:44
(http://upic.me/i/y7/qsky3.jpg) (http://upic.me/show/24228533)

ตอนที่ 8 ออกตามหา

                ‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’
                “ปลายฟ้าพี่เองครับ เปิดประตูให้หน่อยครับ” ก้องเกียรติยืนรออยู่หน้าห้อง
                ‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’
                “ปลายฟ้าครับ นี่พี่ก้องเองเปิดประตูให้พี่ด้วยครับ” ก้องเกียรติเริ่มกังวลเล็กน้อยเพราะเขากลัวจะมีคนเห็นเข้าเสียก่อน
                หลังจากรออยู่พักใหญ่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าเจ้าของห้องจะเปิดประตูออกมาหา ก้องเกียรติตัดสินใจบิดลูกบิดประตูห้องดู
                ‘แกร็ก’
                ประตูห้องถูกเปิดออกได้โดยไม่มีการป้องกันไว้แต่อย่างใด ก้องเกียรติเข้ามาภายในด้วยความแปลกใจ
                “ปลายฟ้า ปลายฟ้าอยู่ไหนครับ” เขาตะโกนเรียกเจ้าของห้อง แต่กลับไม่มีเสียงตอบรับแม้แต่น้อย
                ก้องเกียรติตัดสินใจเดินเข้ามาด้านในเดินสำรวจหาทีละห้อง แต่ก็ไม่เห็นเจ้าของห้องแม้แต่เงาเขาจึงหยิบโทรศัพท์มาต่อสายหาคนที่กำลัง ตามหา
                “ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก...”
                เสียงตอบรับที่บอกว่าปลายสายปิดเครื่องหรืออยู่ในจุดอับสัญญาณทำให้ติดต่อไม่ได้ เขาพยายามลองอีกหลายต่อหลายครั้งแต่ผลที่ได้ยังคงเป็นเหมือนเดิม ตอนนี้คนตามหาเริ่มร้อนใจเสียแล้ว แต่ก็พยายามคิดในแง่ดีว่าสงสัยมีงานเรียกตัวด่วนเลยรีบออกไป เดี๋ยวก็คงจะกลับมาก้องเกียรตินั่งรอที่โซฟากลางห้อง
 
                “ฟ้าพี่โทรมาทำไมไม่ติดเลย เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า” สายลมกระหืดกระหอบจากการรีบร้อนเดินทางกลับมา
                “อ่าวคุณสายลม ปลายฟ้าไม่ได้ไปกับคุณหรือครับ” ก้องเกียรติหันมาถามอย่างแปลกใจที่เห็นสายลมกลับมาคนเดียวหลังจากที่นั่งรอ อยู่ได้พักใหญ่
                “คุณก้องปลายฟ้าไม่ได้ไปกับผมครับ แล้วคุณไม่เจอปลายฟ้าหรือครับ”
                “ไม่ครับผมก็นั่งรออยู่สักพักแล้ว”
                สายลมรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร แต่ก็ไม่มีสัญญาณเหมือนเดิม
                “ผมก็โทรแล้วครับแต่ติดต่อไม่ได้เหมือนกัน ถ้าเขาไม่ได้ไปกับคุณแล้วเขาจะไปไหนกันนะ” ก้องเกียรติเริ่มสงสัย
                การสงสัยของก้องเกียรติไม่ได้ถึงครึ่งหนึ่งของสายลม ที่ตอนนี้ยืนขมวดคิ้วคิดทบทวนว่าปลายฟ้าจะไปที่ไหนได้อีก แต่ยิ่งคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกเพราะว่าตั้งแต่เขามาดูแลปลายฟ้า ปลายฟ้าก็ไม่เคยไปไหนโดยที่ไม่บอกเขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว สายลมเดินสำรวจรอบ ๆ ห้องทันทีว่ามีสิ่งผิดปกติอะไรบ้างหรือเปล่า สิ่งที่เขาสังเกตได้คือสายโทรศัพท์ภายในถูกถอดออกมันคงเป็นสาเหตุ ที่เขาโทรเข้าห้องไม่ติด
                สายลมตัดสินใจโทรถามประชาสัมพันธ์ด้านล่างคอนโด
                “ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าเห็นปลายฟ้าออกไปจากคอนโดบ้างหรือเปล่าครับ”
                “คุณปลายฟ้า ไม่เห็นนะคะแต่ว่าวันนี้มีคนมาขอขึ้นไปพบสองคนค่ะ” พนักงานตรวจสอบข้อมูลก่อนบอกกลับไป
                “สองคน!! ขอรายชื่อหน่อยได้ไหมครับ” สายลมรู้สึกสังหรณ์ใจไม่สู้ดีแล้วตอนนี้
                “สักครู่นะคะ” พนักงานรีบคีย์ข้อมูลหารายชื่อทันที
 
                “เจอแล้วค่ะ คนแรกคุณวินิตกร ไกรจอนค่ะ อีกคนก็คุณก้องเกียรติค่ะ”
                “วินิตกร คนนี้มีรายละเอียดเพิ่มอีกไหมครับ” สายลมเจอรายชื่อที่ไม่เคยรู้จัก
                “เห็นลงชื่อเล่นไว้ว่าหม่อนนะคะ ที่เหลือก็ไม่ได้แจ้งไว้ค่ะ”
                “แล้วคุณปล่อยให้เขาขึ้นมาได้ยังไงกัน ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นผมไม่ปล่อยพวกคุณไว้แน่ๆ” สายลมร้อนใจอย่างมากเมื่อได้ยินชื่อหม่อน เขายังนึกถึงเนื้อความในจดหมายเมื่อเช้านี้ได้อยู่ตลอด
                “คุณก้องคุณกลับไปก่อนได้ไหมครับ ท่าทางปลายฟ้าจะเกิดเรื่องนิดหน่อยครับ แล้วยังไงผมจะติดต่อกลับไปครับ” สายลมบอกให้ก้องเกียรติกลับไปก่อน ก่อนที่เขารีบติดต่อประธานบริษัทเพื่อบอกเรื่องราวที่เกิดขึ้นทันที
                หลังจากที่ชี้แจงรายละเอียดจนหมดแล้วประธานบริษัทบอกว่าให้รอดูสถานการณ์ไป ก่อน มันอาจไม่เป็นอย่างที่คิดก็ได้ปลายฟ้าอาจแค่หลบออกไปทำอะไรแก้เซ็งก็ได้ ถ้าคืนนี้ไม่กลับมาสายลมจะทำอะไรก็สามารถทำได้เต็มที่โดยไม่ต้องกลับมา ปรึกษาอีก
 
                สายลมได้แต่กังวลใจกับการหายตัวไปของปลายฟ้า ถ้าไม่เพราะเป็นคำสั่งให้รอถึงพรุ่งนี้ป่านนี้เขาคงออกตามหาปลายฟ้าแล้ว ตอนนี้ทำได้เพียงแต่นั่งรออย่างร้อนใจเท่านั้น เขานั่งลงที่โซฟาตัวเล็กริมหน้าต่างที่ที่ปลายฟ้าชอบนั่งมองออกไปข้างนอก ท้องฟ้าสีน้ำเงินหม่นไม่ได้ช่วยผ่อนคลายความกังวลให้แม้แต่น้อย แต่กลับเพิ่มความกลัดกลุ้มกังวลใจมากยิ่งขึ้น ความคิดร้าย ๆ ต่าง ๆ นานา เกี่ยวกับปลายฟ้าผ่านเข้ามาในจินตนาการเป็นระยะ ๆ จนทนนั่งเฉย ๆ ต่อไปไม่ได้แล้ว
                “ไอ้นิกกูมีเรื่องอยากให้มึงช่วยหน่อย มึงพอจะมีเวลาไหมวะ” สายลมต่อสายหาเพื่อนที่เป็นนายตำรวจแผนกสืบสวนสอบสวน
                “พอมีเวลาแต่เรื่องอะไรของมึงวะไอ้สาย ร้อยวันพันปีไม่เคยคิดถึงกูแต่ตอนนี้กลับโทรหากูเองซะงั้น”
                “กูอยากให้มึงช่วยสืบประวัติคน ๆ หนึ่งให้หน่อย จะได้ไหมวะ”
                “ก็พอได้แต่มึงต้องบอกก่อนว่าจะเอาไปทำไม กูไม่ทำเรื่องผิดกฎหมายนะมึงก็รู้”
                “มันไม่ใช่อย่างที่มึงคิดแน่ๆ ....” สายลมเริ่มเล่ารายละเอียดให้ฟัง
               
               
                “มึงสงสัยขนาดนี้แล้วทำไมไม่แจ้งความวะ เดี๋ยวกูรับเรื่องให้ก็ได้”
                “ไม่ได้ เรื่องนี้ยังให้ใครรู้ไม่ได้เด็ดขาด เพราะมันอาจมีผลกระทบต่อชื่อเสียงของปลายฟ้าได้ ยังไงมึงก็ช่วยกูหน่อยแล้วกัน แล้วช่วยปิดเป็นความลับด้วยได้ไหม”
                “เออ ได้ ๆ แล้วยังไงกูจะรีบติดต่อกลับไป”
                “ขอบใจมาก ยังไงก็รีบ ๆ ให้กูหน่อยนะ กูเป็นห่วงปลายฟ้ามากจริงๆ”
                สายลมกลับมานั่งที่เดิมก่อนจะเผลอหลับไปเพราะความเครียด
               
                “กริ๊งงงงงงงง กริ๊งงงงงงงงงง”
                สายลมสะดุ้งตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์เขารีบคว้ามากดรับอย่างรีบร้อน ด้วยหวังว่าจะให้เป็นนิกโทรมาบอกเรื่องที่ได้ขอร้องเอาไว้
                “ว่าไงปลายฟ้ากลับมาหรือยัง” เสียงประธานบริษัทถามทันทีเมื่อรับสาย
                “ยังเลยครับ”
                “งั้นคุณรีบจัดการหาตัวปลายฟ้ากลับมาให้เร็วที่สุด แล้วอย่าให้เรื่องนี้รู้ถึงหูนักข่าวเด็ดขาดส่วนทางหม่อมเอียดเดี๋ยวผมจัดการเอง ผมให้เวลาคุณหนึ่งอาทิตย์ถ้าหาตัวกลับมาไม่ได้ชื่อปลายฟ้าคงจบลงแค่นี้” พูดจบสายก็ถูกวางโดยไม่รอคำตอบรับแต่อย่างใด
                สายลมรีบลุกขึ้นเก็บของแล้วลงไปขึ้นรถเพื่อออกตามหาปลายฟ้าอย่างรวดเร็ว
                “ไอ้นิกมึงได้เรื่องอะไรบ้างหรือยัง นี่กูจะบ้าตายอยู่แล้วนะ” สายโทรศัพท์ถูกต่อเข้าหาเพื่อนที่เป็นนายตำรวจ
                “กูก็กำลังจะโทรหามึงพอดี ดันเสือกโทรมาก่อนทำไมวะ แล้วว่าไงมึงจะเอาไหมเรื่องที่ให้กูหา”
                “เอาสิวะ มึงรีบบอกมาเลย”
                “คนที่มึงให้กูตามหาพอดีมีประวัติในแฟ้มคดีเลยหาง่ายหน่อยว่ะ”
                “คดี คดีอะไรวะ” พอได้ยินคำว่ามีคดีสายลมยิ่งเป็นห่วงปลายฟ้ามากยิ่งขึ้นไปอีก
                “ก็คดีแอบขึ้นบ้านมาวินนักร้องชื่อดังตอนนี้ไง มึงไม่เคยได้ยินข่าวหรือไงวะ”
                “ก็พอเคยได้ยินมาบ้าง แต่ไม่รู้ว่าเป็นใครแล้วมึงมีที่อยู่ของมันหรือเปล่าส่งมาให้กูหน่อยสิ”
                “เดี๋ยวกูส่งไปให้ แต่ว่ามันเกี่ยวอะไรกับที่เด็กมึงหายไปวะ”
                “ก็มันมาหาปลายฟ้าแล้วปลายฟ้าก็หายตัวไปนะสิ มึงจะให้กูคิดยังไง”
                “เฮ้ย แบบนี้ทำไมมึงไม่แจ้งความวะ”
                “ที่บริษัทเขาไม่อยากให้เป็นข่าว มึงช่วยกูตามหาด้วยแล้วกันแต่อย่าให้ข่าวรั่วไหลนะไม่งั้นปลายฟ้าโดนข่าว เล่นงานไม่เลิกแน่ แค่เรื่องเก่ายังไม่รู้จะแก้ยังไงเลย”
                “เออ เดี๋ยวกูใช้เพื่อนกูช่วยตามอีกแรง แค่นี้ก่อนนะกูมีประชุมต่อต้องรีบไปแล้ว”
                “ขอบใจมากว่ะเพื่อน”
 
 
                สายลมขับรถไปตามที่อยู่ที่ได้รับ SMS เขามุ่งหน้าตรงไปยังจังหวัดระยองอย่างรวดเร็ว ขับรถโดยที่ไม่กลัวว่าตัวเองจะเกิดอันตรายเองก็ได้ จากกรุงเทพฯถึงระยอง ด้วยความเร็วที่ขับมาทำให้ถึงจุดหมายภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง
เขามาหยุดรถที่หน้าบ้านไม้สองชั้นริมทะเลบ้านเพ บ้านหลังใหญ่สีขาวถูกล้อมรั้วด้วยไม้ระแนงอย่างแน่นหนา บริเวณหน้าบ้านปลูกต้นไม้ใหญ่บังไว้จนหนาตาจนยากที่จะมองสำรวจเข้าไปข้างใน ได้ สายลมหยิบปืนสั้นคู่ใจเหน็บติดตัวไปด้วยก่อนลงรถไปที่หน้าประตูรั้ว
‘กิ๊งก่อง กิ๊งก่อง’
สายลมกดกริ่งหน้าบ้านอยู่นานสองนานก็ไม่มีใครออกมาเปิดประตู หลังจากมองสังเกตไปรอบๆ บริเวณแล้วบ้านหลังนี้อยู่ห่างจากบ้านคนอื่นพอสมควร เขาจึงตัดสินใจว่าจะปีนเข้าไปสำรวจข้างใน เผื่อจะได้เบาะแสอะไรเพิ่มเติมขึ้นมาบ้างก็ได้


========> โปรดติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๕. ๒๒ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๔
เริ่มหัวข้อโดย: แรงเทียน ที่ 26-05-2011 16:57:51
                 (http://upic.me/i/p7/rfred.jpg) (http://upic.me/show/24397222)            

ตอนที่ ๖

ร้านเที่ยวแบบสหะไม่เจาะจงระบุกลุ่มแยกประเภทมักมีคนจำพวกที่ชื่นชอบฝักใฝ่ในเพศเดียวกันแอบแผงอยู่เสมอ หมายหมั้นปั้นมือจะได้ชายแท้ๆไว้ครอบครอง แต่มีหรือชายแท้ๆจะมาแลตาดูเกย์หรือกะเทย ส่งสายตาจิกกันเต็มที่พอจะได้กันก็ได้กันเอง เทียนบุญก้าวเท้าลงจากรถหลังจากที่หาที่จอดอยู่ไม่นาน สายตาของเขาไม่มองวอกแวกสอดส่องรายทาง เดินไหล่ตรงคอตั้งตรงไปยังที่นัดหมาย
“เจอตัวใช่ไหม”
เทียนบุญเอ่ยถามชายในชุดเสื้อยืดสีดำหน้าตาไม่บอกไม่รู้ว่าเป็นนักสืบ เขาเหมือนคนเที่ยวกลางคืนธรรมดานี่เอง
“แล้วโต๊ะล่ะ”
“ทางนี้ครับ โต๊ะเกือบติดกัน”
“ดี เตรียมกล้องพร้อมแล้วใช่ไหม”
ถามเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เขาจะพยักหน้าและเทียนบุญแสยะยิ้มออกมา
“อย่าหาว่าร้าย แกก้าวเข้ามาพัวพันเองนะ หน้าตาที่เสียไปในวันนี้แกต้องชดใช้”
เขาคำรามออกมาแล้วเดินแยกกับชายหนุ่มนิรนามคนนั้น เทียนบุญเดินฝ่าผู้คนที่แออัดจอแจกันแน่นขนัดจนไม่มีที่แม้จะเดิน แต่พยายามควบคุมสติอารมณ์เอาไว้ เพราะถ้าหากมาอารมณ์เสียก่อนถึงที่แผนจะแตกเอาเปล่าประโยชน์
“พิม ติดต่อกับนิตยาสาร”
มณีอารียาเองครุ่นคิดอยู่ทั้งคืนจนนอนไม่หลับ เธอเรียกหาทนายประจำตัวเช่นกัน ปรึกษากันอยู่ทั้งวัน จนตกค่ำจึงยกโทรศัพท์ไปหาพิมระตี
“หือ ทำไมล่ะเมย์จะเอาเพชรเราลงคอลั่มเหรอ”
“อืม แต่เราอยากคุยกับบรรณาธิการณ์ใหญ่เลยนะ ไม่ใช่ใครก็ได้”
“อ้อ ได้ๆ งั้นพรุ่งนี้เราจัดการให้”
“ขอบใจนะพิม”
มณีอารียาวางสายแล้วแสยะยิ้มออกมา
“แกบีบชั้นเองนะ ดูซิว่าแกจะมีจริตจะก้านเยอะมาจากไหน แกมันหน้าหนาหน้าทน ทำแค่นี้คงไม่รู้สึกสำนึกสินะ”
มณีอารียาเดินเข้าไปหามารดาที่นอนพักฟื้นอยู่ในห้อง เธอหลับไปแล้ว มณีอารียายืนมองมารดาแล้วน้ำตาไหลออกมา
“เมย์ไม่ได้อยากทำแบบนี้นะคะม้า เมย์แค่ไม่อยากให้ใครมาดูถูกศักดิ์ศรีของลูกผู้หญิงอย่างเรา อย่างที่ป๊าทำกับม้า”
เสียงของเธอครางออกมาน้ำตาปริ่มล้นตา
“อ้าวพี่เมย์ ยังไม่นอนเหรอ”
มกุฏโกเมนเดินออกมาจากห้องพอดี มณีอารียากระพริบตาถี่ๆไล่ม่านน้ำตาไป
“ยัง เราจะไปไหนล่ะเจ”
“ก็ว่าจะมาดูม้าอ่ะ หลับแล้วเหรอ”
“มีอะไรหรือเปล่า”
“ก็ไม่มีไร แต่อาทิตย์หน้าวันเกิดเพื่อนอ่ะพี่เมย์ ว่าจะมาขอม้า”
“เหรอ ที่ไหนล่ะ”
“ยังไม่รู้อ่ะ ไปกันทั้งกลุ่ม”
“อืม ไปสิ ม้าไม่ว่าหรอกเดี๋ยวพี่พูดให้”
“โห ขอบคุณคร้าบพี่สาวแสนสวย ใจดีอีกตะหาก”
“อย่ามาเวอร์ เรารีบตั้งใจเรียนให้จบเถอะ มาช่วยพี่ทำงานเสียที พี่เริ่มเหนื่อยแล้ว”
สองพี่น้องนั่งคุยกันอยู่พักใหญ่จึงแยกย้ายกันเข้านอน
“อุ๊ย ขอโทษครับ อ๊ะ”
เทียนบุญมองเห็นเป้าหมายอยู่แต่ไกล สาวประเภทสองนางที่ทำให้เขาอับอาย แต่ตอนนี้เธอไม่ได้มากับกลุ่มเดิม เธอมากับกลุ่มที่สวยกว่าเดิม เหมือนผู้หญิงเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ทั้งโต๊ะมีอยู่สามคน แต่งตัวชนิดที่หญิงแท้ไม่มีทางสวมใส่เสื้อผ้าอาภรณืเช่นนี้ หน้าอกที่ยัดถุงอะไรเข้าในใต้ชั้นเนื้อมันอวบอูมเกินจริง แต่นั่นมันก็หลอกล่อให้ชายหนุ่มกลัดมันที่อยู่ใกล้สนใจได้ไม่น้อย พวกเขาสนใจอะไร ก็คงจะเป็นเม็ดเงินที่สาวๆพวกนี้หว่านลงไปในแก้วเหล้า เพราะชายหนุ่มที่เข้ามาในวงกินเหล้าได้ฟรี แลกกับการนัวเนียสามสาวเพียงเท่านี้
“อ๊ะ นี่แก อี”
“ตายจริงโลกกลมจังเลยนะสมชาย”
เทียนบุญแสยะยิ้มให้กับปานระวี เธอเองถึงกับผงะเมื่อรู้ว่าเป็นใคร
“อีเชี่ย ใครสมชาย อย่ามาโมเมนะ ชั้นไม่เคยรู้จักแก ไปให้พ้น เสนียด กะเทยหัวโปกฤทธิ์แรง”
“อ้าว ทำไมลืมเพื่อนอย่างนี้ล่ะสมชาย มาๆกินเหล้ากัน เรามาคนเดียว”
“อีด.ก อย่ามาตีสนิทนะ ใครเพื่อนแก อีโง่”
เทียนบุญยิ้มออกมาก่อนจะลงมือ
“กรี๊ด มึง เหยียบตีนกู”
ต้องมั่นใจว่าสิ่งที่ทำอยู่ไม่มีใครเห็น หรือสิ่งที่เขตั้งใจไว้มันไม่ติดเข้าไปในกล้องของนักสืบ
“เก่งนะมึง วันนี้ล่ะ มึงเตรียมตัวไว้เลย อีกะเทยมีนม”
เทียนบุญถอยออกมาเพราะปานระวีปรี่เข้าจะตบ ผู้คนแตกฮือกันออก เหล่าชายหนุ่มที่มาร่วมวงแตกฮือออกห่างกันทุกคน นี่น่ะหรือค่าของเงิน
“อีเชี่ย กูจะตบมึงนี่ล่ะ”
ปานระวีก้มลงจะถอดรองเท้าส้นสูงเพื่อทำร้ายเทียนบุญจังหวะนั้น เทียนบุญใช้ฝ่ามือกดหัวเธอลง เพื่อนสาวอีกสองคนก็ปรี่เข้ามารุมตบ ทั้งที่ตัวเองเคยเป็นชายมาก่อน แต่เพลานี้จะยังมาแสดงจริตหญิงอยู่อีก ตบเพื่อ? เทียนบุญผลักสองสาวออกไปทีละคน
“หนอย”
“กรี๊ด อีเชี่ยๆ อีสัด”
เสียงของปานระวีกรีดร้องประสานเสียงกับเพื่อนสาว ที่แทนที่จะช่วยกัน แต่พากันแหกปากประสานเสียงที่ดัดจริตจะทำให้แหลมเล็กเหมือนหญิง แต่มันไม่ได้เป็นเสียงของอิสตรีแต่อย่างใด เสียงมันแตกพร่าใหญ่โต
“ตีหัวมันสิ อีเชี่ยอร ตีหัวมัน”
ปานระวีร้องสั่งเพื่อนสาวเพราะมือของเทียนบุญยังกดหัวเธอลงต่ำจวนจะถึงพื้น การ์ดพยายามฝ่าวงเข้ามา แต่ช่วงเวลาชุลมุนนั้นเอง
“ว้าย ดึงผมชั้น อีเชี่ย”
เทียนบุญดึงผมของสาวนางหนึ่งที่เกล้ามวยผมมา จุดประสงของเขาคือปิ่นที่ปักอยู่บนหัวของเธอ
“กรี๊ดดดดด กรี๊ดดดด”
“ไม่ตายหรอกมึง”
“กรี๊ดดดด”
“หยุด บอกให้หยุด ลากออกไปด้านนอก”
“กรี๊ด นมชั้น นมชั้น กรี๊ดดด”
เสียงของปานระวีร้องดังลั่นไปทั้งบริเวณผู้คนต่างอยากรู้อยากเห็น เทียนบุญเดินตามการ์ดออกไปแล้ว
“เรียบร้อยแล้วนะครับคุณเทียน ผมไม่ให้ตำรวจเขาทำประวัติ หลักฐานที่มีพลเมืองดีถ่ายคลิปไว้เป็นตัวช่วยอย่างดี”
ทนายประจำตระกูลเอ่ยขึ้น เทียนบุญนั่งอยู่ในสถานีตำรวจทองหล่อ ให้บุญบารมีของคุณเทียนทิพย์ให้พ้นข้อกล่าวหา “พยายามฆ่า” เพราะมีพลเมืองดีถ่ายคลิปไว้เกือบทุกขั้นตอน ในคลิปนั้นเทียนบุญเหมือนเป็นผู้ถูกกระทำ เพราะเขารู้มุมกล้องเป็นอย่างดี จะไม่ให้รู้ได้อย่างไรในเมื่อคนถ่ายคือคนที่เป็นนักสืบ ส่วนคู่กรณีอยู่โรงพยาบาล เธอเสียนมไปหนึ่งข้างเพราะถุงน้ำเกลือมันแตกต้องผ่าตัดอย่างเร่งด่วน อำนาจเงินทำให้เรื่องจบลงอย่างเงียบสงบ เงียบเสียจนเหมือนคนทะเลาะกันธรรมดาตามสถานที่เที่ยวยามราตรี เทียนบุญเดินออกจากสถานีตำรวจด้วยหน้าตาที่เป็นปกติ
“อะไรอีหน้าเชี่ย นี่มันผัวกู กูมาก่อน อีเชี่ยหน้าด้าน”
“มึงนั่นละหน้าด้าน นี่มันผัวกู มึงคิดจะมาแย่งเหรอ อีไม่เจียมตัวไม่สวยแล้วยังกล้ามาแย่งผัวคนอื่นอีก”
ระหว่างขับรถกลับบ้าน ไฟแดงตรงแยกเอกมัยทำให้เทียนบุญจอดรถรอสัญญาณไฟ แต่ระหว่างนั้นมีกลุ่มเด็กวัยรุ่นที่แต่งตัวจัดจ้าน ย้อมสีให้หัวเหมือนนกแก้ว สีของเส้นผมมันตัดกับสีผิวได้อย่างน่าดูชม เสียงสองสาวที่นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ด่าทอกันดังเล็ดลอดเข้ามาในรถ เทียนบุญหันไปมอง ตอนแรกไม่ได้สนใจแต่พอได้ยินบางประโยคทำให้เขาลดกระจกรถลง
“เมื่อวานมันยังนอนกับกูอยู่เลย อีเชี่ย มึงนั่นล่ะมาแย่ง มันบอกของกูดีกว่าของมึง จำไว้ด้วย”
สาวนางหนึ่งที่สวมกางเกงยีนส์ตัดขาสั้นจนไปถึงต้นขา ผมเผ้ากระเซอะกระเซิงร้องขึ้น เธอก้าวลงจากรถปรี่เข้าจิกหัวอีกนางที่นั่งซ้อนท้ายรถอีกคัน
“กรี๊ด อีเชี่ย”
“อีหน้าด้าน ผู้ชายมีเยอะแยะทำไมมึงไม่ไปยุ่ง มายุ่งกับผัวกูทำไม นี่แน่ะ กรี๊ด”
รถที่จอดรอไปแดงต่างหันไปดูเกือบทุกคัน สองสาวตบตีกันตรงนั้นไม่ได้สนใจใคร ส่วนชายสองคนที่อยู่บนรถไม่ได้สนใจ เหมือนเขาพยายามจะร้องห้ามแต่พอรู้ว่ามันไม่เป็นผลก็หยุด จวนจะถึงเวลาไฟเขียวแล้ว แต่สองนางยังจิกหัวทึ้งผมกันอยู่
“มองเชี่ยไร ไม่เคยเห็นคนรึไง”
สาวนางหนึ่งตวาดมาเทียนบุญผงะ เพราะเขาลดกระจกลงมองอย่างตั้งใจ ไฟเขียวแล้ว เท้าแตะคันเร่งออกรถไป ปล่อยให้ภาพที่อยู่ข้างๆตอนนี้กลายเป็นอดีตไป เราแตกต่างกันยังไงหรือกับผู้หญิงสองคนนี้ เรียนจบเมืองนอก ทำงานอย่างดี มีหน้ามีตาทางสังคม แต่ก็ยังทำเหมือนๆกัน กับคนที่อาจจะด้อยการศึกษา ไร้การอบรมซึ่งมารยาท เราแตกต่างกันตรงไหนหรือ?
“สร้างแต่เรื่องนะเทียน ทำไมไม่รู้จักหยุด”
พอก้าวขาเข้าไปในบ้าน คุณเทียนทิพย์ยังไม่นอน มีปาริฉัตรและทินกรนั่งอยู่ข้างๆ เทียนบุญหันไปมองแล้วไม่พูดอะไร
“เมื่อไหร่จะพอ นี่ถ้านักข่าวเอาข่าวไปตีพิมพ์ หรือถ้าพ่อให้คุณประวิทย์จัดการไม่ทัน ชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลเราจะย่อยยับแค่ไหน คิดบ้างไหม ทำไมทำอะไรไม่เคยคิด หือเทียน ทำไม”
“เทียนเหนื่อยพ่อ”
“เหนื่อยสิ ก็สร้างแต่ปัญหา ตั้งแต่กลับมาเคยทำอะไรที่มันมีประโยชน์บ้างไหม ดีแต่ตะลอนเที่ยวไปวันๆ สร้างเรื่องได้ไม่เว้นแต่ละวัน”
“คุณคะ พอเถอะคะ ลูกคงเหนื่อย”
“ใช่เทียนสร้างแต่เรื่อง แล้วยังไง ทีพ่อเอาใครมาแทนที่แม่ เทียนยังไม่ได้อะไรด้วยเลย แค่นี้อย่ามาว่าเทียน”
“แก นี่แกกำเริบนะเทียน”
“มีอะไรจะว่าอีกไหมพ่อ เทียนเหนื่อย”
เทียนบุญจ้องมองหน้าบิดาแล้วกวาดสายตาไปยังคนอีกสองคนที่นั่งหน้าซีดอยู่ สะบัดหน้าเดินขึ้นชั้นบนไป
“ไม่ไหวจริงๆ เฮ้อ นี่มันกรรมมันเวรอะไรของผมนะ เงินทองก็ให้ใช้ไม่เคยขาด นี่น่ะหรือที่เขาบอกเลี้ยงลูกอย่าเลี้ยงด้วยเงิน ดูสิ มันจะมานั่งอยู่บนหัวผมอยู่แล้ว”
คุณเทียนทิพย์เอ่ยขึ้นถอนหายใจออกมาอย่างระอา
“เมย์ก็ไม่ได้อะไรหรอกนะคะคุณภา แต่เมย์ว่าตามความเห็นของเมยื ถ้านิตยาสารชื่อดังมีผู้ช่วยที่มีข่าวเสียๆหายๆในเรื่องอัปปรีย์แบบนี้ ไม่ใช่เขานะคะที่จะเสีย ชื่อเสียงของนิตยาสารต่างหากที่เมย์ว่ามันจะเสื่อมลง คนเพียงคนเดียวนะคะคุณภา”
มณีอารียานั่งคุยอยู่กับวิภาวีในร้านอาหารชื่อดังย่านสุขุมวิท จุดประสงค์ของมณีอารียาแจ่มชัดไม่มีปิดบัง ความต้องการของเธอมันสอดคล้องกับความต้องการของวิภาวีเช่นกัน มันไม่ใช่เรื่องยาก
“เทียน พี่คิดว่าเทียนน่าจะหยุดสักพักนะ”
พอไปทำงานคุณวิภาวีก็เรียกตัวเข้าพบ ไม่รีรอที่จะอ้อมค้อมหรือให้เทียนบุญได้นั่งลงให้สบายใจก่อน เธอเอ่ยสิ่งที่ต้องการออกมาทันที
“หมายความว่ายังไงครับพี่ภา”
“ตอนนี้ชื่อเสียงของเทียนมันติดลบมากกว่าบวกนะจ๊ะ ไม่รู้เลยเหรอ หนังสือพิมพ์เกี่ยวกับคนในวงการ นิตยาสารชั้นสูง เขาซุบซิบนินทาเทียนกันทั้งนั้น พี่ว่ามันจะทำให้ภาพลักษณ์ของนิตายาสารเราถูกบั่นทอนไปด้วย”
“นี่พี่ภาไล่ผมออกเหรอ”
“อุ๊ย ไม่ใช่ไล่ออกนะเทียน แค่พักงาน พี่ว่าเทียนคงเครียดเกินไป หรือไม่ก็ยังอาจจะปรับตัวไม่ทัน เพราะเพิ่งกลับมาจากเมืองนอก หรือไม่ก็อาจจะลืมวัฒนธรรมของบ้านเมืองเรา ที่ต้องเคารพยำเกรงผู้ใหญ่หรือรุ่นพี่น่ะ”
สายตาของวิภาวีทั้งสะใจและเหยียดหยาม
“ครับ ที่จริงไม่ต้องพักงานก็ได้นะครับ เทียนยินดีจะไปถ้าอยากให้มันเป็นแบบนั้น”
น้ำเสียงที่ราบเรียบ สายตาที่เหนื่อยหน่ายทำให้วิภาวีถึงกับประหลาดใจ
“นี่เทียนไม่ได้รู้สึกอะไรเลยเหรอ”
“จะให้เทียนรู้สึกอะไรล่ะครับ ให้ระเบิดอารมณ์ออกมาน่ะเหรอ เทียนไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่เทียนได้ทำมันอาจจะดูไม่ดี ผิดศีลธรรมอันดีงามหรือผิดบรรทัดฐานของใครบางคน เทียนเสียใจครับ แต่นั่นมันก็เป็นเพราะเทียนคนเดียว เทียนไม่ว่าอะไรพี่ภาหรอกครับ พี่ภาทำถูกแล้วล่ะ แต่ที่เทียนคิดว่าพี่ภาด่วนคิดไป ก็น่าจะพี่ภายังไมได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเทียนเท่าไหร่เลย แต่เอาเถอะครับ งั้นวันนี้เทียนขอทำงานเป็นวันสุดท้ายนะครับ ตอนนี้ด้วย เงินเดือนไม่ขอรับ รบกวนพี่ภาอีกเรื่อง ขอเอกสารคืนจากฝ่ายบุคคลด้วยครับ”
เทียนบุญยกมือขึ้นไหว้วิภาวีแล้วลุกเดินออกมา เธอหน้าชาไปอ้าปากค้าง ตอนแรกคิดว่าจะได้ลับฝีปากกับเทียนบุญ แต่ผิดคาด ไม่คิดว่าเขาจะนิ่งได้ขนาดนี้
“ทำแบบนี้เลยเหรอนังเมย์ ได้ แต่นี่ไม่ใช่การแย่งทาน แต่มันเป็นการสอนให้แกได้รู้ว่าอย่ามาลองดีกับคนอย่างเทียนบุญ”
เขาขับรถบึ่งออกจากที่ทำงานที่กลายเป็นอดีตตรงไปยังห้างดัง ที่เดิมร้านกาแฟที่ที่เขาสามารถมองเห็นความเคลื่อนไหวของร้านเพชรได้เป็นอย่างดี
“ทาน เมย์เขามีน้องด้วยเหรอ”
หลังจากที่นั่งอยู่นานเทียนบุญเห็นชายหนุ่มที่ใส่ชุดนักศึกษาเดินเข้ารานไป ท่าทางของเขาสนิทกับมณีอารียาเป็นอย่างมาก
“อ้อ เจน่ะเหรอ น่าจะเป็นเจ ทำไมเหรอเทียน”
“ไม่มีอะไร เทียนแค่สงสัย แค่นี้นะทาน”
“อ้าว เดี๋ยวสิเทียนเย็นนี้เจอกันหน่อยไหม ทานอยาก”
“ไม่ เทียนไม่อยาก เทียนเบื่อ”
วางสายไปแล้ว แล้วยกโทรศัพท์ขึ้นกดไปหานักสืบคนเดิม
“คุณเทียนครับ เขาชื่อ มกุฏโกเมน หรือ เจ เป็นลูกชายคนเดียวของคุณมณีภัสสร ตอนนี้เรียนอยู่ปีสอง เป็นคนร่าเริงครับ เพื่อนเยอะ ปกติไม่ค่อยเที่ยวไหน ไปเรียนแล้วก็กลับบ้าน รู้สึกว่าจะคบอยู่กับคนชื่อ สายรุ้งครับ ลูกสาวของคุณพัลลพ เจ้าของธุรกิจน้ำผลไม้”
หลังจากนั้นสามวันนักสืบก็มาพบกับเทียนบุญ เขาเล่าทุกอย่างที่เขาหาข้อมูลมาได้ให้เทียนบุญฟัง เทียนบุญเองก็นิ่งฟังอยู่
“ตระกูลนี้เป็นคนจีนเหรอ”
“ครับ รุ่นคุณปู่คุณย่า คุณมณีภัสสรเองก็ยังเคร่งอยู่มาก”
“อืม แสดงว่า ลูกชายของเขามีความสำคัญมากเลยสิ”
“ครับ ตามธรรมเนียมของคนจีน”
เทียนบุญนั่งครุ่นคิดอยู่ ถ้าหากว่าจะทำเรื่องต่อไปนี้ มันจะเกินไปไหม เป้าหมายของเขาคือ มกุฏโกเมน
“วันอาทิตย์นี้รู้สึกว่าเขาจะไปงานเลี้ยงวันเกิดเพื่อนนะครับคุณเทียน”
“ที่ไหน”
ประกายตาฉายแววขึ้นทันที
“เอกมัยครับ ร้าน”
เขาบอกชื่อร้านออกมา เทียนบุญฉายยิ้มออกมา
“ฮึ แกทำให้ฉันตกงาน ถ้างั้นน้องชายแก ฉันขอก็แล้วกันนะนังเมย์”
เทียนบุญแต่งตัวเตรียมออกไปเที่ยวตั้งแต่ตอนหัวค่ำ เสื้อยืดสีฟ้าอมเขียวทำให้เขาแลดูเด็กลงมากกว่าการใส่เสื้อเชิ้ต กางเกงยีนส์ขาลีบตามสมัยนิยม ทรงผมทำให้มันปรกหน้าเหมือนวัยรุ่นทั่วๆไปเขาทำกัน เทียนบุญยืนหมุนตัวเองอยู่หน้ากระจก แล้วแสยะยิ้มออกมา
“เราจะได้เห็นดีกัน มณีอารียา”
“เมย์ เรื่องของเขาน่ะ เมย์ เอ่อ แน่ใจแล้วเหรอ”
เสียงของกนิฐที่เอ่ยออกมามันลีบเล็ก ไม่มั่นใจในสิ่งที่จะถาม แต่ในใจมันก็บีบบังคับให้ถามออกไป
“ทำไมเหรอโป้ง หึงเราเหรอ”
มณีอารียายังอารมณ์ดีอยู่
“เมย์ก็รู้นี่ว่าเราคิดยังไง”
“โป้ง เมย์เข้าใจนะ แต่เข้าใจเมย์นะ เมย์ไม่ได้อยากให้มันเป็นอย่างนี้”
“เราให้คนไปสืบมานะเมย์ เขาเป็นเกย์ ตอนอยู่ที่โน่นคบกันกับคนชื่อเทียนบุญออกหน้าออกตา เมย์ยังจะ”
มณีอารียาปราดตามองกนิฐ
“เมย์รู้มานานแล้วโป้ง”
“แล้วเมย์ยังจะ”
“ไม่หรอกโป้ง เกย์ก็เกย์วันยังค่ำ เกย์จะมาแต่งงานกับผู้หญิงได้ยังไง”
“หือ เราไม่เข้าใจเมย์”
“หึ ก็เขาบอกว่าแต่งงานเพื่อธุรกิจไม่ใช่เหรอ เมย์ก็แค่ทำอย่างที่เขาบอก”
“เมย์”
สายตาของมณีอารียามันเหยียดหยามเมื่อเอ่ยถึงบุคคลที่สาม สายตาที่ไม่เคยจะมีวันยอมแพ้ให้ใคร คิดว่าเพศหญิงต้องทนรับความรู้สึกอย่างนี้เพียงฝ่ายเดียวน่ะหรือ ไม่มีทาง บิดาของเธอเคยทำไว้กับมารดามามากพอแล้ว หลายเมีย ใช้กำลัง มันหมดยุคนั้นไปแล้ว สมัยนี้ผู้หญิงก็มีปัญญาเลี้ยงตัวเองไม่จำเป็นต้องพึ่งบุญบารมีของฝ่ายชายเพียงฝ่ายเดียว สำหรับมณีอารียาคนนี้ ผู้หญิงที่ถือเป็นเพศแม่เองมีศักยภาพมากพอที่จะหาเลี้ยงตัวเองและครอบครัว และจะไม่มีทางทนให้ผู้ชายหน้าไหนมาดูถูกเหยียดหยามศักดิ์ศรีของอิสตรีเพศ ผู้ชายถ้าหาดีไม่ได้ก็อย่าได้มี


“เอ้า ชนหน่อยๆ เมาไปเลยวันนี้”
เสียงของกลุ่มเด็กวัยรุ่นที่ส่งเสียงเกรียวกราวอยู่ร้านนั่งดื่ม ทางเจ้าของวันเกิดได้ขออนุญาตทางร้านไว้แล้วว่าอาจจะส่งเสียงรบกวนลูกค้าท่านอื่นบ้าง ซึ่งทางเจ้าของร้านก็ไดแจ้งกับทางลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการทุกๆคน รวมถึงเทียนบุญที่นั่งเฝ้ามองพฤติกรรมอยู่ไม่วางตา
“ไอ้เจ แม่งคออ่อนว่ะ เมาแล้วเหรอมึงหน้าแดงเชียว”
“อ๊ะ เจ นี่เจน้องของเมย์หรือเปล่าครับ”
เห็นจังหวะเทียนบุญเดินตรงเข้าหาทันที เด็กทั้งหกลุ่มมองมาที่เขาเป็นตาเดียว
“พี่เป็นคราย”
“อ้อ พี่ชื่อเทียนนะครับ เป็นเพื่อนของเมย์ พี่เพิ่งจะกลับจากอังกฤษ ตายจริงไม่คิดว่าโลกมันจะกลมขนาดนี้ พี่ยังไม่มีโอกาสไปเยี่ยมเมย์เลย เมย์เป็นยังไงบ้างครับน้องเจ”
ถือวิสาสะเดินไปประชิดตัว เพื่อนของเขาก็เลื่อนเก้าอี้ให้นั่ง
“ม่ายรู้ พี่ต้องไปถามพี่เมย์เอง”
เขาพูดอ้อแอ้ หน้าแดงก่ำ
“อย่าถือสามันเลยนะพี่ มันเมาแล้ว”
“อ้อ ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่วันนี้วันเกิดใครเหรอครับ”
เทียนบุญเปลี่ยนประเด็นยิ้มให้น้องๆ
“วันเกิดผมพี่”
ชายหนุ่มเสนอตัว
“เหรอครับ แฮปปี้เบริ์ทเดย์นะครับน้อง พี่เป็นเจ้ามือให้เอาไหม”
“เอ่อ ไม่ดีหรอกครับพี่ เกรงใจ”
“เกรงใจอะไรครับ เนี่ยพี่มาคนเดียว ถ้าไม่รังเกียจพี่อาศัยแค่ดื่มเหล้านิดหน่อยร่วมโต๊ะได้ไหม พี่เป็นเจ้ามือให้เอง เต็มที่ไปเลยครับ”
ชายหนุ่มจะเอ่ยปากแย้งแต่เทียนบุญยกมือเรียกพนักงานให้เขามาหา เขาสั่งเหล้าและของกินไปอีกเพียบ ใครบอกว่าหนามกุหลาบมันไร้พิษ ไม่ว่าจะเป็นกุหลาบเผ่าพันธุ์ไหนวงศ์ใด ถ้าขึ้นชื่อว่ากุหลาบพรรณแล้วไม่เพียงแต่ดอกที่สวยงามมีเสน่ห์แต่หนามที่ซ่อนอยู่ในก้านชูดอกนั้นพร้อมจะทิ่มตำให้คนที่ลุ่มหลงเจ็บปวดได้ตลอดเวลา
“โหย ไอ้เจเมาเป็นหมาเลยว่ะ ทำไงดี”
พอร้านจวนจะปิดเพื่อนของมกุฏโกเมนก็ก็ช่วยกันหามปีกคนละข้าง เขายังพอมีสติแต่เมาเดินเซแล้ว
“กูหวาย กูยังหวาย”
“ไหวห่าไรล่ะ นี่ล่ะมึง คออ่อนนัก เดี๋ยวกูไปส่งมันก่อนก็แล้วกันพวกมึง เดี๋ยวกูตามไป”
“อ้าวไปไหนกันต่อเหรอครับน้อง”
เทียนบุญเอ่ยถามขึ้น
“อ้อ มันยังไม่สุดน่ะพี่ ต้องไปต่อ แต่ต้องไปส่งไอ้นี่ก่อน”
“อ้าวเหรอครับ งั้นพี่ไปส่งเจให้ก็ได้ครับ บ้านพี่ต้องผ่านทางนั้นอยู่แล้ว เผื่อว่าเมย์ยังไม่นอนจะได้แวะทักด้วย”
“เอ่อ จะดีเหรอครับเกรงใจจัง”
“ไม่ต้องเหรงใจหรอกครับ พี่ตั้งใจจะไปทางนั้นอยู่แล้ว”
“แล้วรถมันล่ะมึง”
ชายหนุ่มอีกคนถามขึ้น
“จอดไว้นี่ก็ได้ครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยให้คนมาเอา”
ก็คนมันจะเอา จะห้ามยังไง จะรั้งไว้ท่าไหนล่ะถึงจะฟัง ตั้งใจไว้แล้วว่าจะทำแบบนี้ มันก็ต้องออกมาในรูปแบบนี้ ร่างกายของชายหนุ่มที่เมาอ้อแอ้แม้จะพอมีสติแต่พอพาขึ้นรถไปเปิดเครื่องปรับอากาศให้เย็นฉ่ำเขากลับแน่นิ่งไป
“น่ากินอยู่นี่เราน่ะ กินเด็กสักครั้ง ดูซิมันจะหวานอย่างที่เขาว่าไหม”
เทียนบุญแสยะยิ้มออกมาแล้วขับรถตรงไปยังคอนโดฯที่ซื้อไว้แต่ไม่มีใครมาอยู่ ตั้งใจว่าจะให้เขาเช่ารายเดือนแต่ยังหาคนที่ยอมรับราคาเช่าที่ตั้งไว้ไม่ได้ ที่บ้านจึงปล่อยไว้แบบนี้ เก็บไว้ต้อนรับแขกของบริษัท แต่คืนนี้มันจะเป็นรังรักของเทียนบุญกับเหยื่อรายใหม่ มกุฏโกเมน
“อ่า เวียนหัว เวียนหัว”
ร่างของชายหนุ่มนอนดิ้นอยู่บนเตียง เทียนบุญยืนมองอยู่ด้วยสายตาของคนที่กำลังคิดว่าตนมีชัยเหนือใครในโลกนี้ เขานั่งลงปลายเตียงแล้วดึงรองเท้าของมกุฏโกเมนออกทีละข้าง เขาเองก็ดิ้นสะบัดเท้าช่วยให้รองเท้ามันหลุดออกง่ายขึ้น เทียนบุญปีนขึ้นไปบนเตียง ไล่นิ้วตามหน้าขาของเขาแล้วแกะเข็มขัดออก
“ยังไม่ตื่น ฮึฮึ”
ปลายลิ้นฉกตวัดทันทีที่ร่างกายช่วงล่างของเขาปราศจากอาภรณ์ห่อหุ้ม ชายหนุ่มนอนบิดตัว แม้จะเมาเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ แต่ปฏิกิริยาของร่างกายมันยังคงตอบสนอง ปลายลิ้นตวัดจากเหนือเข่าขึ้นไปถึงแค่สะดือ ไม่เลยขึ้นไปมากกว่านั้น พอแก่นกายของเขาพร้อม เทียนบุญก็ยัดเยียดตัวของเขาเองให้กับเขาทันที
“อา อา”
เสียงของเขาครางออกมา มือไม้พยายามป่ายจับต้นตอที่ทำให้เขารู้สึกแปลกๆที่หน้าขา พอมือมาโดนตัวเทียนบุญเขาก็ลืมตาขึ้นหน้าตากึ่งตกใจและประหลาดใจ แต่เทียนบุญก้มลงประกบริมฝีปากทันทีไม่ปล่อยโอกาสให้สมองของเขาประมวลผล
“อือ อ่า”
เสียงครางออกมาจากลำคอของมกุฏโกเมน ลีลารักที่เทียนบุญมอบให้ทำให้อารมณ์ที่หลับใหลของเขาถูกปลุกให้ตื่นและมันกำลังกระเจิดกระเจิง
“มีความสุขไหมครับ เจ”
ครั้งที่สอง เสียงของเทียนบุญเอ่ยขึ้นเขาพรมจูบทั่วร่าง ไปทั้งตัว ทำเต็มที่กับทุกลีลาอย่างที่เกิดมาจะไม่มีใครทำแบบนี้กับเขามาก่อน แม้แต่แฟนสาวแสนสวยอย่างสายรุ้งที่คบหากันเธอก็ไม่เคยทำให้เขาเช่นนี้มาก่อน  ชิวหาพาเพลินที่เทียนบุญมอบให้มันชอนไชตั้งแต่ปลายเท้าจรดหน้าผาก เขาเริ่มมีสติ
“ไหวไหมครับเจ พี่มีความสุขที่สุดเลยครับ อา”
ครั้งที่สาม เทียนบุญเปลี่ยนให้เขาเป็นคนรุกไล่บ้าง แต่คนที่โดนไล่ล่าอย่างเขาทำให้พรานหนุ่มอารมณ์เปลี่ยวเต็มเปี่ยมกับรู้สึกตื่นเต้นแปลกใหม่ที่จะไล่ล่า แต่ละท่าที่เทียนบุญคัดสรรมาเขาไม่เคยทำกับใครที่ไหนมาก่อน แปลก ประหลาด ตื่นเต้น รู้สึกดี เสียวจัดจ้านเผ็ดร้อน
“อาบน้ำหน่อยไหมครับเจ จะได้ดีขึ้น”
ครั้งที่สี่ เขามีสติกลับคืนมาเกือบเต็มร้อย ตกใจ ไม่คิดว่าเขาจะทำเรื่องแบบนี้ลงไปได้ รังเกียจที่มีชายแปลกหน้าที่เขาบอกว่าเป็นเพื่อนของพี่สาวมานอนเคียงข้าง ร่วมรักไปสามครั้ง แต่ทำไมมันรู้สึกดีอย่างประหลาด ความแปลกใหม่ที่เขาได้ลองมันน่ารังเกียจแต่มันก็น่าสนใจอยู่ในทีมากทีเดียว ลิ้นที่อุ่นจนร้อนมันวนเวียนไปตามร่างกายของเขา ทุกซอกทุกมุม แม้แต่นิ้วเท้า แม้แต่ฝ่าเท้า เทียนบุญไม่ได้รังเกียจเพราะนี่มันคือกลที่จะทำให้เขารู้สึกต่างจากการที่ได้ร่วมรักกับใครอื่น
“เดี๋ยวพี่สระผมให้ครับเจ”
เทียนบุญลากเขาเข้าห้องน้ำไปในขณะที่อวัยวะที่แสดงความเป็นชายของเขายังสอดใส่อยู่ในร่างของเทียนบุญเอง ไม่ยอมปล่อย ไม่มีวัน ไม่มีทางให้มันหลุดออก ขาเดินนำสะโพกบดบี้ไปหน้าขาของเขามือสองข้างเอื้อมมาเกี่ยวเอวของเขาไว้
“พี่ทำแบบนี้ทำไม”
พอน้ำไหลลงรดตัวมกุฏโกเมนก็เอ่ยขึ้น น้ำเสียงของเขาขุ่นมัวไม่มองสบตา
“พี่ขอโทษนะครับเจ พี่ขอโทษ พี่แค่แอบมองเจมาตั้งนานแล้ว ถ้าเจไม่ชอบ พี่จะไม่ทำอีก”
มือของเทียนบุญจับปลายคางของเขาหันมาเพื่อจะให้สบตา น้ำตาของเทียนบุญมันไหลออกมาได้ตามสั่ง
“เอ่อ ผม ผมแค่ เอ่อ”
“พี่รู้ครับเจ เราคงไม่ได้เป็นอย่างพี่ แต่พี่ผิดเองที่มาทำให้เรามีรอยแปดเปื้อน พี่นี่เลวจริงๆ”
ร่ำไห้ออกมา เขาเองยืนนิ่งไม่ไหวติง ไม่รู้จะปลอบหรือด่าสำทับดี อารมณ์มันกระเจิดกระเจิงไม่มีจุดหมายปลายทาง
“แต่พี่ขออาบน้ำให้เราได้ไหม แล้วพี่จะไม่แตะตัวเราอีก พี่ขอโทษจริงๆ”
เทียนบุญเงยหน้ามองสบตาเขาอย่างจริงจัง แววตาของชายหนุ่มมันฉายแววประหลาดออกมา ตกใจ แปลกใจระคนปนเปกันอยู่ในนั้น ไม่มีเสียงตอบจากชายหนุ่ม จะบอกว่าไม่ตอนนี้ก็คงไม่ทัน สี่ครั้งที่ร่วมบรรเลงเพลงรักกัน
“ชอบฟังเพลงไหมครับเจ”
ระหว่างที่ลูบไล้ฟองสบู่ไปทั่วทั้งร่างของชายหนุ่มเทียนบุญก็เอ่ยถามขึ้น แต่ไม่ต้องการคำตอบ เทียนบุญฮัมเพลงขึ้นเบาๆเป็นเพลงภาษาอังกฤษที่เบาสบาย เขาตั้งใจไว้แล้ว มันจะต้องเป็นแบบนี้เท่านั้น มกุฏโกเมนหลับตาลงเคลิบเคลิ้มไปกับเสียงร้องเพลงนั้น มือของเทียนบุญทั้งลูบทั้งบีบคลึงเบาๆให้เขาผ่อนคลาย
“นั่งตรงนี้ครับคนดี พี่จะเป่าผมให้”
ไม่ว่ากลใด มนตราบทไหนตอนนี้เทียนบุญยอมร่ายทุกบทเพื่อครอบงำเขา เช็ดเนื้อตัวให้ แม้แต่ก้มลงไปเช็ดเท้า ปากอุ่นๆก็ก้มลงไปจุมพิตหลังเท้านั้น เขาจะชักเท้ากลับแต่เทียนบุญไม่ยอม จุดประสงค์ในการทำเช่นนี้ ไม่ได้ทำไปเพื่อความรักหรืออะไรทั้งนั้น แต่เพื่อทำให้ใครอีกคนหน้าชา ชาอย่างที่จะไม่เคยรู้สึกมาก่อน ทำให้เขาออกจากงาน ไม่ได้แค้นใจมากเท่าใดนัก แต่ที่เธอเหยียดหยามประเมินความสามารถของเทียนบุญต่ำไปนั้น ยอมไม่ได้ แต่กระนั้นกับชายหนุ่มคนนี้เทียนบุญเองก็รู้สึกดีอย่างประหลาด ความรู้สึกที่ใจมันเต้นตูมตามโดยไม่เคยเป็นแม้กับธรรมทานเอง แววตาของชายหนุ่มมันเหมือนแสงจันทร์ต้องมณีนิลเป็นประกายระยับชวนให้ลุ่มหลง ไม่ว่าจะยังไง ก็จะเอา

หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๖. ๒๖ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 26-05-2011 17:18:25
แรงดีไม่มีตกเลยทั้งคู่
ไม่รู้เกลียดกันมาแต่ชาติปางไหน
ยังไงก็รักและอยู่ข้างพี่เทียนนะ สู้สู้
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๖. ๒๖ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 26-05-2011 18:18:24
การฟาดฟันระหว่างเทียนกับเมย์สูสีกันจริงๆ มีน้องเจมาเกี่ยวข้องอีก :m25:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่8 ออกตามหา P:5 [26/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 26-05-2011 18:21:03
พี่สายลมมาช่วยปลายฟ้าแล้ว :z2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่8 ออกตามหา P:5 [26/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 26-05-2011 18:29:05
สายลมสู้ๆๆๆ อย่าให้ก้องเกียรติตัดหน้าน้า...
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๖. ๒๖ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: LimousinX9 ที่ 26-05-2011 18:35:17
ในที่สุดตัวพระตัวนางก็ออกมาครบและชิมิ วู๊ๆๆๆ  แลดูอนาคตตัวพระน่าสงสารT-T   :sad4:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๖. ๒๖ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 26-05-2011 18:38:29
และแล้ว.......เทียนก็เสร็จ เจ หรือ เจเสร็จเทียนนี่ :laugh: :laugh:
เฮ้ยยยย ความแรงของเมย์ กับ เทียนก็ยังคงมันหยด ... :fire:
สุดท้าย ใครกันนะที่จะเสียใจที่สุด..เฮ้ยยย :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๖. ๒๖ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 26-05-2011 18:53:16
แรงดีไม่มีตกจริงๆเรื่องนี้ ว่าแต่...ตกลงใครกดใคร หรือแฟร์ๆทั้งคู่หนิ กร๊ากกกก
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 5 [25/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 26-05-2011 19:26:28
(http://upic.me/i/w6/3rain.gif) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23990.0)
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่8 ออกตามหา P:5 [26/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 26-05-2011 19:28:27
(http://upic.me/i/w6/3rain.gif) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23990.0)
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 10 บ่วงกรรม 24/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: I_ARMS ที่ 26-05-2011 19:53:36
โอ่ยยยยยยยยยย น่ากลัวมาก
แต่แอบสะใจยังไงไม่รู้ ซาดิสม์ดีจังแหะๆ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๖. ๒๖ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: なおみ™ ที่ 26-05-2011 20:40:24
ทำไมรีบตัดจบซะล่ะคะ กำลังอ่านเพลินๆ เลย

เทียนบุญจะไปเปิดตัวกับเมย์ในฐานะน้องสะใภ้วันไหนคะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่8 ออกตามหา P:5 [26/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: onjazz26 ที่ 26-05-2011 20:54:31
 :z13:
ขอจิ้มบูลเรนเจอร์ก่อนค่อยไปอ่าน

แล้วงัยต่ออ่ะ :m28:

มาต่อไวไวนะจ๊ะ....บูลเรนเจอร์ :yeb:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๖. ๒๖ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 26-05-2011 21:05:14
อร๊ายยยยยยยยชิวหาพาเพลิน :z1: :z1: :z1:


ฮียังคงแรงสม่ำเสมอ :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๖. ๒๖ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: Chinnosuke ที่ 26-05-2011 23:00:04
ของเค้าแรงดีจริงๆ
เทียนบุญแรงได้สมใจอยากจริงๆคับ นับถือนับถือ
เป็นกำลังใจให้แรงเทียนนะคับ :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๖. ๒๖ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: คนริมคลอง ที่ 26-05-2011 23:18:24
บ้านจะแตกไหมเนี่ย ถ้าเจชอบเทียน แล้ว เทียนดันชอบเจขึ้นมาจริงๆ

แล้วน้องแม๊คจะคู่กับใครหล่ะเนี่ย พี่โป้ง พี่ทาน(ตัวประกอบโลกลืม) หรือได้น้องเจ(ประมาณแก้แค้นเทียน)

จิ้นได้หลายทางแหะ รออ่านนะครับ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๖. ๒๖ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: onjazz26 ที่ 26-05-2011 23:36:56
เรดเรนเจอร์ เรื่องแรงได้จัยเจงๆ o13

ตาปลายฟ้าของใครไม่รู้....ตกกาป๋องไปแล้ว...หุ...หุ :m14:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๖. ๒๖ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: Cha Ris Ma ที่ 26-05-2011 23:41:38
 :laugh:  เมย์รู้เข้าคงอกแตกตาย
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๖. ๒๖ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: Piaanie ที่ 26-05-2011 23:56:21
ทานหมดบทบาทลงโดยสิ้นเชิง ลืมไปเลยนะนี่ สงสารน้องเจนี่แหละ ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลย ต้องมาเป็นหมากซะงั้น ไฟแค้นที่สุมในใจมันอาจเผาไหม้ตัวเองได้นะนี่เทียน
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๖. ๒๖ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 27-05-2011 00:28:07
แรงจริงๆเลย เทียนบุญ
แต่เมย์ก็ตองล้างจองผลาญใช่เล่น พอกันทั้งคู่อ่ะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่8 ออกตามหา P:5 [26/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 27-05-2011 00:32:02
ลุ้นๆๆๆ
หวังว่ามันคงไม่สายเกินไป  :serius2:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๖. ๒๖ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: vascular ที่ 27-05-2011 01:33:25
เจอตัวพระเอกซะที
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่7 คำสัญญา 24/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 27-05-2011 01:34:24
พี่เต เท่ห์มาก เหมือนเจ้าชายขี่ม้าขาวในนิยายเลย ^_^
สงสารไนท์จัง คงจะผ่านเรื่องเลวร้าย ไม่แน่ที่เป็นแบบนี้ ตัวเองเป็นสาเหตุหรือเปล่า :กอด1:
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 6 PG. 4 [25/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 27-05-2011 02:04:23
ชอบลักษณะนิสัย ของกริชในเรื่องนี้มากเลย  ถึงจะมีมากแค่ไหน แต่ก็ยัง ไม่ลืมตัวตนของตัวเอง
ส่วนยุทธ ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดา อาจจะปลอมตัวมาก็ได้ ดูจากบุคลิก แล้วเป็นคนฉลาดและเจ้าเล่ห์สุด ๆ   
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๖. ๒๖ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 27-05-2011 04:14:23
เพิ่งได้อ่านตอนกินเจ อิอิ
พี่เทียนจะตกหลุมที่ตัวเองขุดไว้หรือเปล่า
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่8 ออกตามหา P:5 [26/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 27-05-2011 04:26:39
พี่สายลมมาช่วยแล้วน้องฟ้า
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 10 บ่วงกรรม 24/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: onjazz26 ที่ 27-05-2011 08:17:20
เจ๊จง....อย่าขายแต่ข้าวสิคับ :m20:
มาลงเรื่องต่อเร็วๆ....เนี่ยกระเด็นมาอยู่หน้าอื่นหลายวันแล้ว :m26:
วันนี้เข้ามาดันทู้รอ หุ หุ :m32: :m7:
ลงให้ถี่ๆไง :laugh3:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่8 ออกตามหา P:5 [26/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 27-05-2011 08:25:42
ทุ่มเทสุดตัวแบบนี้ น้องฟ้า จะไม่สงสารพี่สายบ้างหรือ
+1 พร้อมกำลังใจให้พี่สายช่วยน้องฟ้าออกมาอย่างปลอดภัย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่8 ออกตามหา P:5 [26/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 27-05-2011 08:53:19
ตามเจอจนได้...ถึงจะยังไม่แน่ใจเท่าไหร่ก็เถอะ
ท่านประธานก็ใจร้ายอ่ะ...ให้รอตั้งหนึ่งคืนทั้ง ๆ ที่มันผิดปกติขนาดนี้ ใจเย็นอยู่ได้ยังไง(แถมบอกจะตัดหางปล่อยวัดถ้าหาตัวไม่เจออีก)
สายลมสู้ ๆ ช่วยน้องให้ได้นะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๖. ๒๖ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 27-05-2011 09:51:26
จุดจบจะเป็นยังไงเนี่ย มีแต่ความแค้น สงสารน้องเจต้องตกเป็นเหยื่อแค้น
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๖. ๒๖ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: LimousinX9 ที่ 27-05-2011 12:12:25
แอบมานั่งรออย่างใจจดใจจ่อจริงๆ   o13
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๖. ๒๖ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: I_ARMS ที่ 27-05-2011 12:21:56
อ่านตอนนี้แล้วลืมธรรมทานไปเลย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่7 อยากดูแล(50%) 28/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: ภาพฝัน ที่ 27-05-2011 13:10:24
      เตชวัฒน์ประคองร่างของวรินทร์ที่เดินกระเพลก เข้าไปในงานเปิดตัวนาฬิกาจากสวิสของไฮโซสาว

   “ไหวไหมไนท์” เขากระซิบถามแผ่วเบาเมื่อเห็นร่างสูงโปร่งเซ” วริศรินทร์พยักหน้ารับว่าไหม เขาค่อยๆ ประคองอีกฝ่ายเดินไปที่หลังเวทีช้าๆ

   เตชวัฒน์นึกถึงเรื่องเมื่อคืนแล้วรู้สึกเหมือนกับมันคือความฝัน ในตอนเช้าที่เขาตื่นมาเขาไม่ได้เห็นไนท์มีท่าทีนอนหมดอาลัยตายอยาก แต่ที่เขาเห็นคือวริศรินทร์ที่นั่งทานอาหารของโรงพยาบาลช้าๆ ไม่เหมือนคนที่คิดจะตายเมื่อวาน ถ้าไม่ใช่ความเจ็บปวดที่หัวไหล่เขาคงคิดว่าเขาเพียงแค่ฝันไป

   ถึงแม้ว่าจะบาดเจ็บแต่วริศรินทร์ก็ยังคงมาทำงานตามตาราง การเดินแบบแฟชั่นโชว์นาฬิกาเริ่มต้นขึ้นด้วยเสียงฮือฮาของเหล่าผู้ที่มาร่าวมงานและยิ่งฮือฮามากขึ้นไปอีกเมื่อนาฬิกาฝังเพชรที่โฆษณาไว้ว่ามีแค่เรือนเดียวกลับมีอีกเรือนโผล่ขึ้นมา สิ่งเหล่านี้เรียกความสนใจออกไปจากเวทีเช่นเดียวกับร่างสูงโปร่งที่ทรุดลงไป ข้อเท้าขาวมีเลือดซึมออกมา ช่างเเต่งหน้าและช่างแต่งตัวต่างหน้าซีด เมื่อเห็นเลือดจำนวนมาก

   “น้องไนท์ไหวไหมค่ะ เรียกรถพยาบาลไหม” ผู้ควบคุมเวทีเข้ามาถามอย่างเป็นห่วง เมื่อเห็นว่าวริศรินทร์น่าซีดเผือดกับเลือดที่ไหลออกมาจนเห็นได้ชัด

   “ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง” เตชวัฒน์ยิ้มให้อย่างอ่อนโยนรอยยิ้มของเขาช่วยควบคุมความตื่นตระหนกได้ เตชวัฒน์จัดการห้ามเลือดอย่างคร่าวๆ แล้วอุ้มวริศรินทร์ออกจากงาน และเพราะความโชีดีที่นักข่าวมัวแต่ไปสนใจสองไฮโซที่มีเรื่องกันอยู่ในงานทำให้ไม่มีใครสนใจเขาที่อุ้มร่างโปร่งออกมาอย่างเงียบเชียบ

   “เป็นยังไงบ้างไนท์” เตชวัฒน์ถามร่างทีนอนลงบนเตียงอย่างอ่อนเพลีย ความอ่อนล้าจากเหตุการเพลิงไหม้เมื่อวานทำให้ใบหน้าที่ธรรมดาดุซีดเวียวอยู่แล้วซีดหนักเข้าไปอีก รวมทั้งความเจ็บปวดจากการฝืนเดินแฟชั่นโชว์จนบาดแผลฉีกขาด หมอสั่งให้วริศรินทร์งดการเคลื่อนไหวหรือการเดินที่ต้องทิ้งน้ำหนักลงไปที่ข้อเท้าข้างที่เจ็บ

   “หิวหรือยังครับ เจ็บไหม” เตชวัฒน์ยังคงถามอย่างใจเย็นแต่ก็มีเสียงลมหายใจและสายตาของไนท์เท่านั่นที่แสดงว่ายังรับรู้อยู่ เขาได้แต่ถอดถอนใจกับความเฉยเมยของอีกฝ่ายแม้จะพยายามทำตัวเคยชินแล้วก็ตาม

   เตชวัฒน์ปล่อยให้วริศรินทร์นอนอยู่บนเตียงส่วนเขาต้องโทรไปจัดการเรื่องขอพักงานของไนท์ เพราะการบาดเจ็บที่ข้อเท้าซึ่งเป็นจุดที่ต้องรับน้ำหนักของทั้งร่างนั้นถ้ายิ่งฝีนก็จะยิ่งหายช้าเหมือนในครั้งนี้ที่วริศรินทร์ฝีนเข้าร่วมการเดินแฟชั่นโชว์

   เมื่อเขากลับมาอีกทีเขาก็พบกับใบหน้าซีดเซียวที่หลับไปอย่างอ่อนเพลีย เตชวัฒน์ลูบแก้มที่ปกติจะเย็นชืดที่ตอนนี้เริ่มมีอุณภูมิร้อนขึ้นด้วยพิษไข้ เขาเคลื่อนตัวอย่างแผ่วเบานำผ้าชุดน้ำมาเช็ดให้ที่ใบหน้า หวังให้อีกฝ่ายรู้สึกดีขึ้น ทันทีที่ผ่าชุบน้ำเย็นเฉียบวัมผัสที่ข้าแก้มแล้วซับไปทั่วใบหน้า ดวงตาสีดำปรือตาขึ้นมอง ฝ่ามือเรียวยกขึ้นจับมือเขาเอาไว้ เตชวัฒน์ชะงักเมืออีกฝ่ายไม่ได้ปัดออกแต่ไนท์กุมมือของเขา วริศรินทร์พลิกตัวนอนตะแคงแล้วใช้ใบหน้าซบกับฝ่ามือของเตชวัฒน์

   เตชวัฒน์มองใบหน้าที่หลับสนิท ไออุ่นยังคงอยู่ที่ เขามองภาพของร่างสูงโปร่งที่หลับอยู่แล้ว ในใจของเขาเต็มไปด้วยความสงสัยเกี่ยวกับอดีตของไนท์ บางครั้งเขารู้สึกว่าวริศรินทร์พร้มจะตาย ทั้งในกองเพลิงและที่โรงพยาบาลเมื่อคืน แต่พอในตอนเช้าอีกฝ่ายกลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกอย่างที่เขาเห็นเป็นเพียงความฝันเท่านั้น บางครั้งวริศรินทน์ทำให้เขารู้สึกว่า ตัวเองเป็นแค่ไนท์ที่เป็นเพียงด็กหนุ่มทั่วไปที่ดูไร้มนุษยสัมพันธ์เท่านั้น

   เขาเหลือบมองเวลาที่ใกล้จะถึงเวลาเย็นแล้ว เขาดึงมือออกอย่างแผ่วเบาแล้วเคลื่อนตัวช้าๆ ออกจากห้องเพื่อไม่รบกวนการพักผ่อนของอีกฝ่าย เขาเปิดตู้เย็นดูว่ามีอะไรที่เขาพอจะทำเป็นมือเย็นได้แต่ก็ส่ายหน้า เขาคงต้องออกไปซื้ออะไรเข้ามาเพิ่มเติม เตชวัฒน์ไปเดินดูซุปเปอร์มาเก็ตที่อยู่ไม่ไกล ซื้ออาหารสำเร็จรูปและอาหารสดหลายอย่าง รวมทั้งขนมหวานเล็กน้อย ทุกอย่างเขาต้องดูส่วนผสมอย่างละเอียด เขาไม่รู้ว่าไนท์แพ้ไข่ถึงขั้นไหนและเขาไม่อยากเสี่ยงกว่าจะกลับมาถึงที่พักเขาก็พบว่าไฟในห้องยังคงปิดเงียบ เขานำข้าวของที่ซื้อมาไปวางไว้ เขาคิดว่าไนท์คงจะตื่นแล้วเพราะไฟห้องนอนเปิดอยู่ เตชวัฒน์ตั้งใจจะเข้าไปถามว่ามื้อเย็นไนท์อยากจะทานอะไรแต่เขาก็ต้องชะงักเมื่อเห็นร่างสูงโปร่งล้มลงอยู่ที่หน้าประตูห้องนอน เหมือนร่างสูงโปร่งสะดุดล้ม เขาเห็นไนท์นอนอยู่บนพื้นลืมตามองเพดานอย่างเลื่อนลอย

   “ไนท์ เป็นอะไร” เขาถลาเข้าไปดูความเรียบร้อย บาดแผลที่ข้อเท้าไม่มีรอยเลือด วริศรินทร์มองใบหน้าคมที่เลื่อเข้ามาดูอาการของเขา

   “หิว” เสียงแหบพร่าที่ถูกเค้นออก เมื่อเข้าประคองเขาสัมผัสได้ถึงความร้อนที่แผ่กระจายออกมา เตชวัฒน์อุ้มร่างโปร่งขึ้นไปวางไว้บนเตียงอย่างแผ่วเบาด้วยความเป็นห่วง ไม่มีคำพุดใดๆออกมาจากอีกฝ่ายอีกเลย

   “เดี๋ยวพี่ไปทำข้าวต้มให้กิน รอแป๊บนะครับ” เสียงของเขายังคงอ่อนโยนอยู่เช่นเดิม

   เตชวัฒน์เข้าครัวทำข้าวต้มและเปิดผักกาดกระป๋องเพื่อให้อีกฝ่ายทานง่ายๆ ระว่างรอข้าวต้มสุขเขาตัดสินใจโทรหาวุฒิพลผู้เป็นอาอีกครั้ง เขาทนไม่ไหวกับความเป็นห่วงที่มีให้กับวริศรินทร์ เขายอมรับว่ากลัว กลัวว่าถ้าคลาดสายตาไปอีกฝ่ายจะจากไปในทีที่เขาเอื้อมไม่ถึง

   “ถ้าแกห่วงไนท์นักก็ย้ายไปอยู่ด้วยกันเลยสิ ยังไงแกก็เป็นผู้จัดการส่วนตัวของน้องเขานี่ ไม่แปลกหรอกที่พี่อยากจะดูแลน้อง อาฝากไนท์ด้วยแล้วกัน”

..................


อยากให้เตใจเต้นแรงๆเนอะ หาอะไรมาบริหารหัวใจเตดีกว่า

หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่7 อยากดูแล(50%) 28/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 27-05-2011 13:21:23
กระเพรกๆ >> กระเผลก (ไม่ต้องมีไม้ยมก)

โฒษรา >> โฆษณา
ถึงแม้ว่าจะบาดเจ็บแต่วริศรินทร์ก้ยังคงมาทำงานตามตาราง การเดินแบบแฟชั่นโชว์นาฬิกาเริ่มต้นขึ้นด้วยเสียงฮือฮาของเหล่าผู้ที่มาร่าวมงานและยิ่งฮือฮามากขึ้นไปอีกเมื่อนาฬิกาฝังเพชรที่โฒษราไว้ว่ามีแค่เรือนเดียวกลับมีอีกเรือนโผล่ขึ้นมา สิ่งเหล้า เหล่านี้เรียกความสนใจออกไปจากเวทีเช่นเดียวกับร่างสูงโปร่งที่ทรุดลงไป  ข้อเท้าขาวมีเลือดซึมออกมา ช่างเเต่งหน้าและช่างแต่งตัวต่างหน้าซีด เมื่อ(เห็น)เลือดจำนวนมาก

ลอยยิ้ม >> รอยยิ้ม

และคำผิดอีกมาก =__+ ตะเองไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่7 อยากดูแล(50%) 28/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 27-05-2011 13:24:07
พี่เตใจดีที่สุดเลย ดีแบบนี้ไนท์จะรักหรือเปล่า +1
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่8 ออกตามหา P:5 [26/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 27-05-2011 14:27:49
แวะเอาเพลงมาฝากครับ แอบบอกนิด ๆ มันเหมือนธีมในตอนจบของเรื่องเลยเพลงนี้

เมื่อใดที่สายลมพัด ดั่งมีความรักมาช่วยปลอบความเหงาใจ
ไม่ว่าตัวเธออยู่ไหน ลมจะเป็นเหมือนใจที่ห่วงใยกัน
เพราะรักแท้ก็เป็นเหมือนลมที่โอบกอดฉัน
แม้มองไม่เห็นแต่ฉันรู้สึกถึงเธอ

http://www.youtube.com/v/WYUsOzsrjUY?
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๖. ๒๖ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: tarkung ที่ 27-05-2011 14:30:11
บ้านจะแตกไหมเนี่ย ถ้าเจชอบเทียน แล้ว เทียนดันชอบเจขึ้นมาจริงๆ

แล้วน้องแม๊คจะคู่กับใครหล่ะเนี่ย พี่โป้ง พี่ทาน(ตัวประกอบโลกลืม) หรือได้น้องเจ(ประมาณแก้แค้นเทียน)

จิ้นได้หลายทางแหะ รออ่านนะครับ

555+ ถ้าน้องแม็คแก้แค้นเทียนด้วยการXเจก็คงสนุกไปอีกแบบ

แต่ยังไงก็ต้องให้เจเป็นพระเอกนะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่8 ออกตามหา P:5 [26/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 27-05-2011 14:45:40
มันจะช้าไปมั้ย ลุ้นๆๆๆ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๖. ๒๖ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 27-05-2011 15:11:37
โอ้ว...มันส์สุดๆ  มารยาชายหลอกเด็ก ตอนจบมันจะมีใครตายไหมเนี้ย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่8 ออกตามหา P:5 [26/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 27-05-2011 15:21:42
อย่าบอกว่ามาตามผิดบ้านนะ!!!!!
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่7 อยากดูแล(50%) 28/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 27-05-2011 15:42:54
ในที่สุด ก็จะได้มานอน(ห้องเดียว)กันแล้ว!!!!!
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่8 ออกตามหา P:5 [26/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: LUCKY STAR ที่ 27-05-2011 15:47:29


กรุงเทพฯ---ระยอง

ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง   :sad3:



ไม่รู้ว่าสายลมขับรถยี่ห้ออะไร   :m28: :m28:


สงสัยจะเป็นรถฟอร์มูล่าวันแน่ๆเลย   :laugh5: :laugh5: :laugh5:

หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 6 PG. 4 [25/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: clubza ที่ 27-05-2011 15:49:04
เรื่องนี้น่าสนใจมากๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่7 อยากดูแล(50%) 28/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 27-05-2011 16:01:29
อิอิ จะอยู่ด้วยกันแล้ว :mc4:
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่7 อยากดูแล(50%) 28/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 27-05-2011 16:49:04
ย้ายมาอยู่ด้วยกันเลย ><
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่7 อยากดูแล(50%) 28/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 27-05-2011 17:13:31
มารอตอนพี่เตใจเต้นแรง :laugh:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่7 อยากดูแล(50%) 28/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 27-05-2011 17:41:46
อยากอ่านต่อ อยากรู้พี่เตจะจัดการกับปมในอดีตของไนท์ยังไง :serius2:
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่7 อยากดูแล(50%) 28/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 27-05-2011 17:45:22
พี่เตสู้ๆ พี่เตสู้ตาย ไนท์เริ่มอ่อนลงแล้ว ^^
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๖. ๒๖ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: clubza ที่ 27-05-2011 17:47:59
ไม่ชอบทาน  ไม่ชอบเทียนบุญ ไม่ชอบเมย์  แต่ชอบ แม็คกับเจย์ ขอจบเเบบหักมุมได้ไหม แม็คกับเจย์ ซั่มกัน เทียนบุญติดเอดส์ เมย์เป็นบ้า ทานเป็นคนล้มเหลวในการใช้ชีวิต :laugh:

จะมีคนว่าเราบ้าไหมชอบไม่เหมือนคนอื่น
หัวข้อ: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/ตอนที 8 -Cabinet- (27/5/54)
เริ่มหัวข้อโดย: Nassiiz ที่ 27-05-2011 18:15:03
(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page42.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page43.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page44.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page45.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page46.jpg)
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่7 อยากดูแล(100%) 28/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: ภาพฝัน ที่ 27-05-2011 18:26:26
   เตชวัฒน์กำลังรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในรายการสำรวจชีวิตสัตว์โลก เขามาอยู่ที่คอนโดของวริศรินทร์ได้สี่วันแล้ว วริศรินทร์ไม่ได้เรื่องมากแต่มักจะอยู่เฉยๆ มากกว่าจะขยับเขยื้อนและมักจะทิ้งตัวเองนอนในทีที่อยากนอน เช้าวันแรกที่เขามาอยู่ด้วยเขาพบไนท์นั่งหลับอยู่ในห้องครัว ทั้งที่ตอนกลางคืนก่อนนอนเขาเห็นว่าไนท์หลับไปแล้ว เช้าวันต่อมาเขาเจอไนท์นอนอยู่ที่ระเบียงจนชวนใจหาย วันต่อมาระหว่างที่เขาทำกับข้าวแล้วไนท์อาบน้ำ พอเขาเข้าไปเรียกปรากฏว่าไนท์นอนหลับอยู่ ดีที่ไม่จมตายตาย เตชวัฒน์รู้สึกว่าตัวเองคิดไม่ผิดที่ย้ายเข้ามาอยู่ด้วยเพราะถ้าเขาไม่เจ้ากี้เจ้าการไนท์ก็คงไม่สนใจตัวเองสักเท่าไหร่ เหมือนตอนนี้ เขากำลังมองดูร่างสูงโปร่งที่เดินเข้าไปเปิดตู้เย็นเป็นรอบที่5 ในระยะเวลาไม่ห่างกันนัก แต่เขาทำเป็นอ่านหนังสือนิยายในมืออย่างไม่สนใจเขาเดาว่าอีกฝ่ายคงหิว ไนท์เดินกลับเข้าไปนอนในห้องอีกสักพักก้เดินออกมาเปิดตู้เย็นอีกแล้ว เขาวางหนังสือลงมองดูร่างสูงโปร่งที่จ้องมองตู้เย็นที่มีแต่อาหารสด เตชวัฒน์ก้าวเข้าไปหลังเคาเตอร์สำหรับทำอาหาร เขาเข้าไปใกล้วริศรินทร์ที่กำลังมองดูของในตู้เย็นอยู่ ฝ่ามืออุ่นแตะลงที่ไหล่ของร่างโปร่ง

   “หิวเหรอครับ” สุดท้ายเขาก็เป็นฝ่ายถามออกไป วริศรินทร์พยักหน้ารับ

   “ไปนั่งรอครับเดี๋ยวพี่ทำอะไรให้ทาน” เขากระซิบลงที่ข้างหูแผ่วเบาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เขามองร่างสูงโปร่งที่เดินไปนั่งบนโต๊ะกินข้าวอย่างรวดเร็ว เตชวัฒน์เลือกทำผัดผักง่ายๆ สายตาของเขามองร่างที่ฟุ๊บหมอบลงกับโต๊ะเหมือนคนหมดแรง หลายวันที่อยู่ด้วยกันสีหน้าของวริศรินทร์ดูดุขึ้นมากไม่ซีดเซียวเหมือนแต่ก่อน เขาคิดเพราะอีกฝ่ายได้กินอาหารที่มีประโยชน์มากกว่าทานวิตามินเป็นอาหารหลัก เตชวัฒน์สะดุ้งเมื่อดวงตาสีดำจ้องมองตรงมาเหมือนรู้ตัวว่ากำลังโดนสังเกต สายตาของทั้งสองประสานกัน

   “ไนท์ทำไมไม่ใช้ไม้ค้ำครับ ถึงแผลจะดีขึ้นแล้วก็เถอะแต่ก็ควรระวังบ้าง” เขาเตือนเมื่อนึกได้ว่าวริศรินทร์เดินด้วยตัวเองแม้บาดแผลที่ข้อเท้าจะดีขึ้นมาแล้วแต่ก้ไม่ควรใช้ขามาก แต่ถึงเขาจะบ่นไปอย่างไรก็ไม่มีทีท่าว่าอีกฝ่ายจะสนใจ วริศรินทร์ก้มหน้าก้มตาทานข้าวที่เตชวัฒน์ยกมาให้

   สำหรับเตชวัฒน์เขาเริ่มชินกับนิสัยของอีกฝ่ายแล้ว แม้การไม่ตอบไม่พูด ทำเหมือนไม่สนใจและมองผ่านมันจะน่าโมโหและน่าหงุดหงิดมนช่วงแรกๆ แต่พอใช้เวลาอยู่ร่วมกันเขาก็พอเข้าใจว่าทุกการกระทำ ทุกคำพูดล้วนอยู่ในการรับรู้ของอีกฝ่าย

   เมื่อทานเสร็จแล้วก็เหมือนเดิมที่วริศรินทร์จะปลีกตัวออกไปทันที เตชวัฒน์คว้าแขนของอีกฝ่ายเอาไว้

   “กินเสร็จก็ล้างสิครับ พี่ทำให้ไนท์ทานแล้วนะ” เข้ายิ้มเมื่ออีกฝ่ายหันมามอง ไนท์ยืนเงียบไม่พูดอะไรอีกเช่นเคย

   “ล้างเองเป็นไหม อยู่ด้วยกันก็ต้องช่วยกัน” เขาถามอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู ไม่ใช่เรื่องยากกับการล้างจาน แต่เขาไม่ใช่คนรับใช้ที่จะคอยทำทุกอย่างให้แล้งวเขาก็ศึกษามาแล้วว่าอาการซึมเซาไม่ควรปล่อยให้อยู่คนเดียวและควรมีกิจกรรมให้ทำ ที่เขาสังเกตไนท์มักจะใช้เวลานอนอยู่เฉยๆ บนเตียงบางครั้งก็ไปนั่งอยู่ที่ระเบียงอาจจะนอนดูทีวีบ้างอะไรบ้างแต่ก็เรียกได้ว่าแทบไม่ได้ทำอะไรเลย ไนท์ทำเหมือนปล่อยให้เวลาผ่านไปเรื่อยๆ เท่านั้น

   “ล้างเป็นไหม” เขาถามยิ้มๆ วริศรินทร์ไม่ตอบเพียงแต่ลุกขึ้นถือจานไปล้างช้าๆ
เตชวัฒน์มองการเคลื่อนไหวของวริศรินทร์ที่ทุกการเคลื่อนไหวยามอยู่ภายในห้องล้วนเป็นไปอย่างเชื่องช้า เหมือนคนเกียจคร้าน แต่พอออกไปข้างนอกเขาก็พอพบว่าไนท์ทำตัวเหมือนคนปกติ

   วริศรินทร์กลับเข้าไปในห้องนอนแล้ว เตชวัฒน์รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังนอนเหมื่อมองเพดาน ถ้าอารมณืดีอาจจะฮัมเพลงเบาๆ อยู่ริมระเบียง ถ้าคึกจัดก็ปีนขึ้นไปยืนร้องเพลงอยู่ที่ราวระเบียงชวนให้เขาใจหาย เตชวัฒน์หาข้อมูลของอาการซึมเซาที่เขาคิดว่าวริศรินทร์เป็นอยู่ในอินเตอเนทแล้วต้องสะดุ้งตกใจเมื่อได้ยินเสียงโครมครามในห้องนอนทำให้เขาต้องถลาเข้าไปมองในห้องนอนไม่มีใคร เขามองไปที่ระเบียงไม่มีก็ต้องเป็นห้องน้ำ วริศรินทร์นั่งอยู่ที่พื้นห้องน้ำมือกุมศีรษะตัวเองด้วท่าทางเจ็บปวดขารีบเช็คแผลที่จข้อเท้าทันที ดีที่ไม่เป็นอะไรมากเพียงแค่หัวโนเล้กน้อย

   “ล้มได้ยังไง” เขาถามอีกฝ่ายอย่างดุๆ  แต่ก็ไม่มีคำตอบอีกเช่นเคย จนบางครั้งเขาก็รู้สึกหงุดหงิด แต่เขาก็ทำเพียงยิ้มแล้วให้อีกฝ่ายเปลี่ยนเสื้อผ้า บางครั้งเขารู้สึกเหมือนอยู่กับเด็กเล็กๆ ที่ต้องการคนดู

   วริศรินทร์เดินออกมาจากห้องน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว เตชวัฒน์ยอมรับว่าการมองอีกฝ่ายไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อ เพราะไนท์เป็นผู้ชายที่จัดว่าดูดีเขาขำกับความคิดของตัวเองถ้าไม่เรียกว่าหล่อและดูดีจะเป็นนายแบบได้ยังไง แม้จะทำหน้าเฉยชาอยู่ตลอดเวลาก็เถอะ

   “พรุ่งนี้ไปเดินเล่นในสวนกันไหม” เขาถามไนท์ที่เดินออกมาดื่มน้ำในตู้เย็นแล้วกำลังจะเดินกลับโดยใช้ผ้าเช็ดผมเช้าๆ

   “ไปเถอะนะ พี่เตชวน” เขายังคงยิ้มอย่างอ่อนโยน เขาอยากให้อีกฝ่ายทำอะไรอย่างอื่นบ้างนอกจากอยู่ในห้องและจาการศึกษาอาการของไนท์เขาพบว่าการพาออกไปเปลี่ยนบรรยากาศและสัมผัสธรรมชาติจะช่วยให้สภาพจิตใจดีขึ้น วริศนทร์ส่ายหน้าแล้วทำท่าจะเมินหนี แต่เตชวัฒน์จับมือของอีกฝ่ายเอาไว้

   “เปลี่ยนบรรยากาศบ้างเถอะ เอาแต่อุดอู้อยู่ในห้อง ได้วันหยุดมาทั้งทีไม่เบื่อเหรอ พี่อยากให้ไนท์ออกไปข้างนอกบ้างอยู่แต่ในห้องดูสิ ทั้งขาว ทั้งซีดเหมือนผีตายซากเลย นี่ถ้าไม่หล่อนะไม่มีสาวที่ไหนมาแลหรอก” เตชวัฒน์เลือกใช้คำพูดที่ค่อนข้างรุนแรงเขาอยากรู้ว่าถ้าอีกฝ่ายโมโหจะเป็นเช่นไร

   “แล้วดูสิเอาแต่นอนอืดอยู่บนที่นอน พี่เบื่อนะอยู่แต่ในห้อง แล้วก็ซุ่มซ่ามด้วยเดินอยู่ดีๆก็ล้มได้ ดีนะที่ไม่เจ็บ พูดอะไรก็ไม่พูดเอาแต่เงียบพี่ไม่ได้มีพลังจิตนะครับ แล้ว....” เตชวัฒน์ถือโอกาสบ่นความหงุดหงิดที่อยู่ในใจเสียยืดยาวแต่ยังพูดไม่ทันจบริมฝีปากนุ่มก็ประทับยลงมาแผ่วเบาอีกครั้ง

   “ตาแก่ ขี้บ่น” นี่เป็นประโยคที่ไนท์พูดยาวที่สุดตั้งแต่รู้จักกันมาแต่เตชวัฒน์กลับรู้สึกฉุนกับคำพูดของอีกฝ่าย ทั้งที่เขาพูดทั้งที่เขาทำนะเพราะเป็นห่วงแต่ไนท์กลับทำเหมือนกับว่าสิ่งที่เขาทำมันไร้ประโยชน์ก็แค่คนขี้บ่น

   พูดจบแล้ววริศรินทร์ทำท่าจะกลับเข้าไปในห้องแต่กลับถูกเตชวัฒน์กระชากกลับเข้าไป แรงกระชากทำให้เขาเสียหลักเข้าไปปะทะกับอีกฝ่าย ริมฝีปากร้อนประกบลงมา ไม่ใช่จูบเพียงแผ่วเบาเหมือนที่วริศรินทร์ทำจูบครั้งนี้เร่าร้อนและปลุกเร้าปลายลิ้นอุ่นร้อนสอดแทรกเข้ามาในโพรงปากเช่นเดียวกับฝ่ามือที่ลูบไล้ไปตามแผ่นหลัง เตชวัฒน์เปลี่ยนจากจูบที่หงุดหงิดในตอนแรกเป็นปลอบประโลมเขาไล้ริมฝีปากลงบนริมฝีปากนุ่มแล้วผละออก

   “อย่าล้อเล่นกับผู้ใหญ่” เขาอยากเตือนว่าอีกฝ่ายไม่ควรทำเป็นเล่นกับการจูบไปเรื่อยๆแล้วมาพูดจาใส่หน้ากันแบบนี้แต่เขาก็ต้องชะงักเมื่อเห็นใบหน้าที่เคยขาวซีดและเฉยเมยเปลี่ยนเป็นสีชมพุ วริศรินทร์ไม่พูดอะไรแต่หันกลังวิ่งกลับเข้าห้องอย่างรวดเร็ว ทิ้งเตชวัฒน์ที่มองตามตาค้างเอาไว้

   นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นสีหน้าอื่นนอกจากเฉยเมย เขาไม่คิดว่าจะได้เห็นภาพแบบนี้ ภาพที่อีกฝ่ายหน้าแดงแล้ววิ่งหนีเขา เตชวัฒน์ยกมือสัมผัสริมฝีปากแผ่วเบารสสัมผัสและกลิ่นน้ำหอมเจือจางของไนท์ยังคงอยู่

   หรือเจ้าชายน้ำแข็งอาจไม่ได้เย็นชาอย่างที่คิด


......................................
หัวข้อ: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/ตอนที 9 -Parking- (27/5/54)
เริ่มหัวข้อโดย: Nassiiz ที่ 27-05-2011 18:31:54
(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page47.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page48.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page49.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page50.jpg)

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------

-Ps.- กลับมาลงให้อ่านต่อกันแล้วนะคะ หลังจากที่คนเขียนหายหน้าไป 2 วัน
เลยโพสให้คนอ่านไปสองตอนติด เพื่อความต่อเนื่องของเนื้อหา ^^
(เรื่องนี้จะโพสถี่หน่อยนะคะเพราะมีทั้งหมด 17 ตอน แต่ต้องเร่งให้จบทันกำหนดการของโปรเจ็คที่วางไว้)
ส่วนที่ถามมาว่าคนเขียนเป็นคอเกาหลีรึเปล่า ขอตอบเลยว่าใช่และอยู่สายเค-ป๊อบค่ะ
แต่ที่เห็นว่าใช้ชื่อตัวละครเป็นชื่อเกาหลี นั่นก็เพราะสถานที่เกิดเหตุมันอยู่ที่โซลค่ะ
เพราะฉะนั้นตัวละครจะชื่อ มาร์คัส ฟ้าใส หรือ มิกะ ก็คงไม่ได้
เพื่อความเหมาะสมของเนื้อหาก็เลยต้องออกมาตามนี้ (ขออภัยที่ชื่อจำยากไปหน่อย)
แต่สำหรับคอซีรีส์เกาหลีคงจะพอถูไถกล้อมแกล้มกันไปได้
ส่วนคนที่ไม่ใช่คอเกาหลีก็ตามที่เนื้อเรื่องแล้วกันนะคะ >///<
ขอบคุณที่ติดตามและขอบคุณสำหรับทุกความเห็นค่ะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 10 บ่วงกรรม 24/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 27-05-2011 19:46:10
(http://upic.me/i/w6/3rain.gif)[/url][/center]
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/ตอนที 8&9 ค่ะ 2 ตอนรวด (27/5/54)
เริ่มหัวข้อโดย: Nassiiz ที่ 27-05-2011 19:48:52
(http://upic.me/i/w6/3rain.gif)
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๖. ๒๖ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 27-05-2011 20:04:19
 :haun4:

ในที่สุดนายเจก็โดนกิน

แต่อยากได้NC เต็มสตรีมอ่ะ 5555
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/ตอนที 8&9 ค่ะ 2 ตอนรวด (27/5/54)
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 27-05-2011 20:12:55
มาให้ลุ้นสองตอนเลย  :mc4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/ตอนที 8&9 ค่ะ 2 ตอนรวด (27/5/54)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 27-05-2011 20:32:05
อยากอ่านสีเขียวจะตายอยู่แล้ว
แต่อ่านในมือถือมันมองไม่เห็นอ่า โฮกกก กระซิกๆๆ
รอให้พบเจอคอมก่อนนะคะ แล้วเราจะกลับมาใหม่ โฮ~~
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่7 อยากดูแล(100%) 28/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: blanchard ที่ 27-05-2011 20:53:29
สุโค่ยมั่กมากเลยฮะพี่เต! ทำให้เจ้าชายน้ำแข็งของเรา กลายเป็น Shave Ice สีชมพูได้  :m3:

รุกต่อเลยนะเฮีย!   :a1:
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่7 อยากดูแล(100%) 28/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 27-05-2011 21:33:58
เชียร์พี่เตสุดใจเลย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่7 อยากดูแล(100%) 28/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 27-05-2011 22:09:03
 เจ้าชายน้ำแข็งเริ่มละลายแล้ว :o8:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 5 [25/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 27-05-2011 22:29:07
ทำไมยิ่งอ่านไปก็รู้สึกว่า คุณหนูไร้เดียงสามากๆเลย แค่อยากรู้อยากเห็นเกินไวเท่านั้นเอง

คงจะเริ่มรู้ว่าตัวเองชอบผู้ชาย แล้วไม่มคใครให้ปรึกษา เลยหาเอาเองจากเน็ต แล้วก็เจอนู่นนี่นั่นแบบไม่มีใครมาเซ็นเซอร์ให้เหมาะสมกับอายุ  เลยกลายเป็น อะไรๆก็รู้ แต่ไม่เข้าใจ... นี่มันปัญหาสังคมสมัยนี้สินะ
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่7 อยากดูแล(100%) 28/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 27-05-2011 22:30:36
พี่เตสุโค่ยย อิอิ ทำเจ้าชายเยือกแข็งเขินได้ ชอบอะชอบ^_^
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 6 PG. 4 [25/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: MonarcH ที่ 28-05-2011 01:25:49
Butterfly 7
...“ก่อนจะนอนอยากเจอเธอเป็นคนสุดท้าย คนแรกของเช้าถัดไปฉันก็คิดถึงเธอ” อาการนี้คือสิ่งที่บ่งบอกว่าผมชอบยุทธทั้ง ๆ ที่พยายามปฏิเสธ และห้ามใจตัวเองมาตลอดตั้งแต่เจอกันครั้งแรก...สำหรับคนที่กำลังจะกลายเป็นผู้ชายขายบริการ อนาคตเลื่อนลอย มีดีแค่รูปร่างหน้าตา ผมไม่ควรจะไปวาดฝันให้เค้าจริงจังด้วย...

...เรื่องราวที่ยุทธสารภาพเมื่อคืนเกือบจะทำให้ผมใจอ่อน มันก็มีเหตุผลพอที่ยุทธจะบิดเบือนประวัติตัวเองเพื่อให้ได้งาน ผมเคยรู้จักบางคนที่จบปริญญาโท แต่ในเวลาที่จวนตัวเขาต้องใช้วุฒิปริญญาตรีสมัครงานเพื่อให้ได้งานเร็วที่สุด...งานในบาร์มันไม่จำเป็นต้องใช้ความรู้ เพราะใช้แค่รูปร่างหน้าตาในการทำงาน และชายแท้ในวงการบาร์เกย์มักจะเป็นที่ต้องการของลูกค้า...

...ยุทธไม่มีความจำเป็นต้องบอกเรื่องราวของเค้าเลย ถ้าเข้าข้างตัวเอง เค้าเหมือนจะเคลียร์ตัวเองเพื่อให้ผมเห็นว่าเค้าไม่อยากจะโกหกผม แต่ถ้ามันเป็นกับดักล่ะ เค้ากำลังทำให้ผมไว้ใจเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองในอนาคตหรือเปล่า...มันคงไม่ดีกับสุขภาพจิตนัก ถ้าต้องอยู่แบบระแวงกัน เอาเป็นว่าต่อไปนี้ผมจะเป็นตัวของตัวเองเวลาอยู่กับยุทธ ทำให้เค้าเห็นว่าผมไม่ได้รวยเริดเชิดหยิ่งแบบที่ป้าธเนศอยากให้เป็น เค้าจะได้ไม่ต้องหวังเรื่องเงินทองของนอกกายที่ไม่ใช่ของผมจริง ๆ เลยซักอย่าง แม้ว่าผมจะเป็นผู้ครอบครองโดยกฏหมาย...
“รอนานมั้ยยุทธ” ผมยิ้มทักยุทธทันทีที่เห็นเค้านั่งรอบริเวณล็อบบี้
“ผมก็เพิ่งมาถึงเหมือนกันครับ” ยุทธทำหน้างง ๆ ก่อนจะตอบ
“ไปกันเลยละกัน เดี๋ยวรถติด” ผมจับมือเค้าเดินไปที่ลานจอดรถ
“วันนี้คุณกริชแปลก ๆ นะครับ” 
“แปลกตรงไหน”
“คุณดูร่าเริงผิดปกติอ่ะ”
“ก็คนมันมีความสุขนี่”  ใช่ครับ ผมมีความสุขที่ไม่ต้องเก๊ก ไม่ต้องเชิด และตั้งใจทำให้ยุทธเห็นว่าผมใจอ่อน เผื่อว่าเค้าจะออกลายเร็วขึ้น
“ความสุข”  ยุทธทวน
“ใช่ วันนี้ไม่ต้องเข้าบาร์ พรุ่งนี้ก็หยุด วันสำคัญทางศาสนา สถานบันเทิงทุกประเภทต้องปิดหมด”  ผมอธิบาย
“อ๋อ นึกว่ามีความสุขที่มากับผม”  ยุทธหยอด
“....................................”  ขนาดเตรียมใจไว้แล้ว แต่เมื่อโดนสายตาคู่นั้นจ้อง พร้อมรอยยิ้มกระชากใจ ผมถึงกับต่อปากต่อคำไม่ถูกเลยทีเดียว
*
*
...”หยุด หยุดชีวิต หยุดกับคนนี้ แม้ว่าใครจะดีซักแค่ไหน หยุด หยุดความรักทั้งหัวใจ จะหยุดกับเธอคนเดียว”...เสียงเพลงในรถของผมถูกกลบด้วยเสียงร้องเพี้ยน ๆ ของยุทธ เมื่อผมผ่อนคลาย ยุทธก็ดูสดใสไปด้วย ถนนสุขุมวิทยามเย็นที่รถติดเป็นปกติ แต่ผมกลับรู้สึกว่าวันนี้ระยะทางสั้นและรถไม่ติดอย่างเคยทั้งที่เราก็ใช้เวลาอยู่บนรถเกือบชั่วโมง...หรือที่มีคนพูดอยู่บ่อย ๆ ว่า เวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปเร็วเสมอ...
“ทำไมพี่ธัญญ่าต้องให้ผมมากับคุณกริชด้วยอ่ะครับ ผมไม่เห็นว่ามันจะเกี่ยวกับบาร์เราตรงไหนเลย”  ยุทธถามเมื่อรถจอดเข้าที่
“...เอ่อ...เค้าให้เรามาดูงานเฉย ๆ แหละ เผื่อจะมีไอเดียไปใช้ในโชว์”  ผมตัดสินใจโกหก ไม่มีใครอยากรู้สึกว่าตัวเองกำลังเป็นสินค้าหรอก
“งานแสดงเครื่องเพชรคงมีแต่คนรวย ผมกลัวว่าจะทำอะไรเปิ่น ๆ จัง”
“ไม่ต้องกลัว ทำตัวปกตินั่นแหละ ไม่มีอะไรหรอก แค่ไปนั่งดูแฟชั่นโชว์เฉย ๆ”
“ครับ” ยุทธรับคำ พลางมองมือของผมที่ตบต้นขาของเค้าเบา ๆ เป็นการให้กำลังใจ
“กินข้าวมาหรือยัง”  ผมรู้สึกตัวจึงชักมือออก แล้วถามเค้าแก้เขิน
“ตื่นเต้นกินอะไรไม่ลง” 
“หาอะไรกินก่อนมั้ย”
“ไม่ดีกว่าครับ ตอนนี้ก็สายมากแล้ว”
*
*
…ภาพชายร่างสูงสองคนเดินเข้าห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านสุขุมวิทสะดุดตาผู้คนแถวนั้น คงไม่มีใครมองเราสองคนว่าเป็นแค่เพื่อนกันแน่นอนเพราะเราเล่นเดินไหล่ชิดกันโดยมีเสื้อสูทราคาแพงกั้นไว้ไม่งั้นคงสีกันไฟลุก...เมื่อมีคนมองเราสองคนมากเข้า ผมยิ่งรู้สึกดีที่ไม่บอกความจริงกับยุทธว่าวันนี้เค้าเป็นเพียงสินค้าตัวอย่างให้เหล่าไฮโซดูตัว ความภาคภูมิใจในตัวเองจะหายไปเมื่อต้องขายศักดิ์ศรี...หลังจากวันหยุดนี้เค้าจะได้ขึ้นเวทีเป็นครั้งแรก เค้าจะต้องกลายเป็นผู้ชายป้ายเหลืองเต็มตัว คิดแล้วก็ใจหาย ผมอยากให้เค้าได้เดินในที่สาธารณะได้เหมือนคนปกติไม่ต้องระแวงว่าจะมีแขกที่เคยออฟเค้าเดินอยู่ในกลุ่มคนที่เดินผ่านเหล่านี้หรือไม่...
“ยุทธ ผมขอเข้างานคนเดียวดีกว่า คุณรอผมในร้านนี้ก่อนละกัน สั่งอะไรมากินซะ อีกครึ่งชั่วโมงผมจะกลับมา”
“ทำไมล่ะครับ อายเหรอที่ผมจะเข้าไปด้วย”
“ทำไมต้องอายอ่ะ”
“ก็ผมเป็นผู้ชายขายน้ำไง”  ยุทธพูดอย่างน้อยใจ
“คุณยังไม่ได้รับออฟใคร คุณยังไม่ได้เงินจากการขายตัว อย่าดูถูกตัวเองอย่างนี้”  ผมพูดเสียงจริงจัง
“โอเค ผมรอที่นี่ก็ได้ รีบไปรีบมานะครับ” ยุทธเดินคอตกนำหน้าผมเข้าร้านอาหารใกล้ ๆ
“ไม่ต้องรีบกินนะ เดี๋ยวผมกลับมากินด้วย”  ผมบอกยุทธทันทีที่ถึงโต๊ะ
“คุณทำอย่างนี้พี่ธัญญ่าไม่ว่าอะไรเหรอ”  ยุทธถามด้วยสีหน้ากังวล
“ถ้าพี่ธัญญ่าโทรมาคุณบอกว่าคุณป่วยละกัน”
“จะดีเหรอ ก็คุณซื้อเสื้อผ้าข้าวของให้ผมทั้งตัวเพื่อมางานนี้ หมดไปหลายบาทเลยนะ”
“ไม่เป็นไรหรอก คุณเก็บไว้ใช้ตอนไปสมัครงานใหม่ก็ได้” 
“ขอบคุณครับ...อ้อ...พี่ธัญญ่าเค้าให้ค่าเสียเวลาที่มางานนี้ด้วยนะครับ”  ยุทธอ้ำอึ้งก่อนจะพูดเหมือนเกรงใจ
“เค้าให้เท่าไหร่ ผมให้เป็นสองเท่า”  ผมตวัดเสียงตอบ
“ผมจะบอกว่า ถ้าผมไม่ได้ทำหน้าที่ตามที่เค้าจ้าง ผมก็ไม่รับเงินครับ ผมแค่บอกคุณกริชไว้ก่อนว่าพี่เค้าจ้างผมมา ถ้าคืนนี้เค้ารู้ว่าผมไม่ได้ไปงาน เค้าต้องฟ้องคุณแน่ ๆ ว่าเค้าจ้างผมแล้วผมเบี้ยว”
“งั้นผมจ้างให้คุณป่วย โอเคมั้ย” 
“วันนี้ผมเต็มใจมากับคุณนะ ผมไม่ได้อยากได้เงินของคุณ” ยุทธพูดเสียงแข็งพลางจ้องหน้าผม
“มันคือค่าเสียเวลาของคุณ”
“ผมรับปากพี่ธัญญ่าก่อนที่ผมจะได้รู้จักคุณ วันนี้เราเหมือนมาเที่ยวไม่ใช่มาทำงาน ถ้าคุณไม่สบายใจ คุณเลี้ยงข้าวผมมื้อนึงก็พอ”
“ยังไงคุณก็ต้องรับเงินผม เพราะคุณต้องกินต้องใช้เหมือนกัน พี่ธัญญ่าจ้างคุณให้มาร่วมงาน ผมจ้างคุณไม่ให้มาด้วย มันเป็นรายได้ที่คุณพึงจะได้รับ ตอนนื้ถือว่าเป็นเวลางานของคุณ เมื่อผมออกจากงานร้านเพชรแล้ว นั่นคือเวลาเที่ยวของเรา” 
“แต่”
“ถ้าคุณถียงผมอีกคำเดียว คุณรับค่าจ้างป่วยของคุณไป แล้วเราแยกกัน”  ผมใช้ไม้ตายสุดท้าย
“โอเคครับ”  ยุทธรับคำอย่างเสียไม่ได้
*
*
...นอกจากจะขัดคำสั่งผู้มีพระคุณแล้วผมยังทำลายแผนการโปรโมทร้านด้วยการเดินเข้างานเปิดตัวนาฬิกาเพชรของคุณมณีอารยาเพียงคนเดียวด้วยความเร่งรีบ ผมไม่อยากให้ใครเห็นยุทธ จะว่าหวงก็ได้ ผมจะไม่ให้ยุทธกลายเป็นสินค้าด้วยฝีมือผม ถ้าเค้าจะเป็นสินค้า เค้าต้องไปแสดงตัวเองไม่ใช่ผมเป็นคนพาไปแนะนำอย่างนี้...ทันทีที่ถึงหน้างาน ผมถามหาคุณตรีเพื่อไปรายงานตัวว่าผู้ดูแล The Butterfly Boy คนใหม่มาถึงแล้ว...
“สวัสดีครับคุณตรี”
“ค่ะ สวัสดีค่ะ ธัญญ่าส่งเธอมาเหรอ น่ารักจัง คืนนี้พี่ไปหาที่บาร์นะ พี่ให้เธอเกินสองเท่าของเรทปกติเลย อย่ารับออฟใครไปก่อนละกัน พี่ชอบของใหม่ ๆ”
“เอ่อ ผม”
“ตอนนี้พี่ยุ่งอยู่ ไฮโซทะเลาะกัน งานแทบแตก เธอนั่งรอข้างในก่อนนะ เดี๋ยวพี่หาลูกค้าอื่นมาคุยด้วย แต่ห้ามรับออฟใครตัดหน้าพี่นะฮะ”  คุณตรีพูดจบก็เดินบินสะโพกเข้างานไปอย่างเร่งรีบ
“เอ่อ”  ผมยืนอึ้งอยู่กับที่ เค้าสื่อสารกันภาษาอะไรถึงคิดว่าผมเป็นเด็กขายตัวที่บาร์ส่งมาให้ดูตัว
“ฮัลโหล”  เสียงพี่ธัญญ่ารับสาย
“พี่ คุยกับคุณตรีเค้ายังไงอ่ะ”  ผมถามเสียงเข้ม
“ทำไมเหรอ ไม่เจอกัน หรือเค้าไม่ให้เข้างาน”  ปลายสายตกใจ
“เจอกันแล้ว เค้าให้นั่งรอ แต่เค้าคิดว่ากริชเป็นเด็กขายน้ำ”  ผมกัดฟันพูดไม่ให้เสียงดัง
“อ้าว ยุทธล่ะ”
“ยุทธไม่สบาย กริชมาคนเดียว” ผมตอบ
“ว๊ายยยยยยย ตายแล้ว พี่บอกแค่ว่าจะมีคนจากบาร์ไปแนะนำสินค้าใหม่ หนูไปคนเดียวก็โดนมองว่าเป็นอย่างนั้นสิ”
“พี่ธัญญ่า เสื้อผ้าเครื่องประดับทั้งตัวกริชเนี่ยซื้อบ้านได้หลังนึงเลยนะ ฝากไปบอกเค้าด้วยว่ากริชไม่ใช่เด็กขายน้ำ” ผมพูดด้วยอารมณ์โมโห
“ใจเย็น ๆ สิกริช เค้าคงไม่ได้สังเกต แล้วทางเราก็ดันบอกว่าจะมีสินค้าใหม่ไปเสนอ เค้าเห็นกริชหน้าอ่อน ๆ มาคนเดียวก็เลยคิดไป...”
“เค้าบอกว่าคืนนี้จะเข้าไปออฟกริชที่บาร์ พี่ธัญญ่าโทรไปบอกเค้าตอนนี้เลยนะว่ากริชเป็นใคร”  ผมพูดสวน
“ค่ะ เดี๋ยวพี่จะบอกให้ อย่าเพิ่งโมโห กริชเข้าไปโปรโมทร้านเราในงานต่อเถอะ”
“พี่ ป่านนี้คุณตรีเค้าคงไปป่าวประกาศว่ากริชเป็นไอ้ตัวทั่วงานแล้วมั้ง ยังจะให้กริชเข้าไปอีกเหรอ”
“เข้าไปเถอะ เดี๋ยวพี่รีบโทรเคลียร์ให้เลย”
“เอาไว้งานต่อไปดีกว่านะพี่ วันนี้กริชไม่มีอารมณ์จะฉีกยิ้มปั้นหน้าไฮโซแล้ว ดูสิ ทั้งตัวเจ็ดหลักแต่ไม่มีคนเห็น” 
“ตามใจละกัน เดือนนึงมีงานแบบนี้ตั้งหลายงาน แต่นี่พี่เห็นว่างานมันไฮโซ ลูกค้ากระเป๋าหนักเยอะก็เลยอยากให้กริชไป” พี่ธัญญ่าพูดเสียงเบา
“โอเค งั้นกริชเข้าไปแป๊บนึง ถ้ามีโอกาสกริชจะบอกความจริงแล้วก็ประชาสัมพันธ์ร้านให้ อ้อ พี่จ้างยุทธให้มางานกับกริชกี่บาทเหรอ”  ผมถามส่งท้าย
*
*
...ผมก้าวเข้าไปในงานที่ตอนนี้กำลังชุลมุน แขกในงานส่งเสียงฮือฮา ได้ยินแว่ว ๆ ว่านาฬิกาเพชรที่บอกว่ามีหนึ่งเรือนในโลก โดนไฮโซหน้าใหม่สวมใส่แบบเดียวกันมาในงานทำให้เจ้าของงานอายแทบเอาหน้าแทรกแผ่นดิน ผมกวาดสายตามองตามที่ไฮโซไฮซ้อกำลังชี้ไปที่ต้นเหตุ...คุณพระช่วย นั่นมันเทียนบุญเพื่อนผมนี่ สงสัยจะก่อวีรกรรมแสบอีกแล้ว ผมอมยิ้มแล้วมองขึ้นไปบนเวทีเห็นนายแบบหนุ่มชื่อดังไนท์กับปลายฟ้าที่ยืนเด่นอยู่ทำให้นึกไปถึงยุทธ ถ้าเค้าใช้รูปร่างหน้าตาที่ถือว่าเป็นต้นทุนไปใช้ให้ได้กำไรด้วยวิธีอื่นผมคงไม่ตะขิดตะขวงใจที่จะคบและชอบเค้าได้โดยที่ไม่ต้องระแวงว่าเค้าชอบผมเพราะทรัพย์สินเงินทองหรือเปล่า...
“อ้าว ทำไมมาเร็วจัง” ยุทธถามเมื่อผมก้าวเข้ามาในร้านอาหารที่เค้านั่งรออยู่
“งานล่มอ่ะ มีเรื่องกันนิดหน่อย แต่พรุ่งนี้คงลงหน้าหนึ่งอ่ะ” ผมพูดยิ้ม ๆ
“กินอะไรดี”
“อ้าว ทำไมยังไม่สั่งอะไรมากินก่อนล่ะ ถ้าผมมาช้าคุณก็หิวตายพอดีสิ”  ผมเพิ่งสังเกตว่าบนโต๊ะมีแต่น้ำเปล่าแก้วเดียว
“ไม่เป็นไร ผมรอได้”
“โอเค งั้นสั่งเลยนะ แต่เอาแบบคุณสั่งให้ผม แล้วผมสั่งให้คุณ ดูสิว่าใจตรงกันหรือเปล่า อ่ะ เมนูหน้านี้มีอาหารหนึ่งอย่างที่ผมอยากกิน เราเขียนคำตอบไว้ในกระดาษคอมเม้นท์นี้ พอกินเสร็จค่อยมาเฉลยกัน แต่มีข้อแม้ว่า เราต้องกินอาหารที่อีกฝ่ายสั่งให้หมดนะ โอเคป่ะ”  ผมหาอะไรสนุก ๆ เล่น
“ได้สิ หน้านี้ก็มีของที่ผมอยากลองกิน คุณกริชทายไม่ถูกหรอก” ยุทธยื่นเมนูให้ผมแล้วมองหน้าพลางยักคิ้วกวน ๆ
“ลองกิน หมายความว่ายังไม่เคยกิน”  ผมพึมพำ
“อยากกิน แสดงว่าไม่ได้กินบ่อย ๆ” ยุทธพึมพำบ้าง ต่างคนต่างคิดว่าอีกฝ่ายอยากจะสั่งอะไร
*
*
…ยุทธชี้อาหารที่คิดว่าผมอยากกินในเมนู ผมก็ชี้บ้าง เราไม่สั่งด้วยคำพูดเพราะต้องการจะให้อีกฝ่ายประหลาดใจ และเมื่ออาหารมาถึงพร้อมกัน ผมต้องทำหน้าพะอืดพะอมกับทูน่ายำสลัดตรงหน้า ส่วนยุทธตาโตกับ Lobster thermidor ที่ผมสั่งให้...
“ทำไมถึงสั่งแบบนี้ให้ผมอ่ะ” ผมถามเสียงไม่พอใจ ยุทธถึงกับหน้าเสีย
“ก็เมื่อคืนผมเห็นว่าคุณชอบกินผัก ชอบกินของธรรมดา ๆ ไม่เวอร์ แล้วก็ชอบกินรสจัดก็เลยสั่งแบบนี้มาให้”
“อืม”  ผมรับคำในลำคอ
“แล้วทำไมคุณถึงสั่งกุ้งตัวใหญ่ขนาดนี้ให้ผมล่ะ”  ยุทธถามกลับบ้าง
“อยู่ภาคเหนือคงไม่ค่อยได้กินอาหารทะเล และถ้าจะลองกิน ก็น่าจะเป็นอาหารทะเลที่ไม่ธรรมดาเกินไป"
“..........................” ยุทธพยักหน้าแล้วยิ้มให้ก่อนจะใช้ช้อนตักเนื้อล็อบสเตอร์วางที่จานผม
“ขอบคุณ ลองที่คุณสั่งมั่งนะ” ผมตักสลัดให้บ้างโดยแอบตักพริกติดไปเยอะ ๆ
“พริกแค่นี้ทำอะไรผมไม่ได้หรอกครับ” ยุทธทำปากดี
*
*
...เราสั่งอะไรมาเพิ่มอีก 2-3 อย่าง เมื่ออิ่มแล้วก็ถึงเวลาเฉลยคำตอบ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความช่างสังเกตหรือเพราะรู้ใจ อาหารที่สั่งจึงตรงตามที่เราสองคนต้องการกินในค่ำนั้น...
“คุณกริชเล่นซะผมใจแป้วเลย นึกว่าสั่งอาหารที่ไม่ถูกใจมาให้”  ยุทธพูดยิ้ม ๆ
“ชอบล็อบสเตอร์มั้ย”
“ก็อร่อยดี แต่ถ้าเทียบกับราคา ผมว่ากินอย่างอื่นคุ้มกว่า”
“อืม เดี๋ยวเราแยกกันเลยนะ ผมต้องไปเคลียร์งานที่บาร์อ่ะ” ผมเปลี่ยนเรื่อง เพราะไม่อยากให้ตัวเองรู้สึกชอบยุทธมากไปกว่านี้
“ผมขอไปด้วยได้มั้ย ผมอยากอยู่กับคุณนาน ๆ อ่ะ”
“ไปให้พี่ธัญญ่าด่าเอาเหรอ อย่าลืมสิว่าคุณไม่สบายอ่ะ”
“ไม่สบายเมื่อเย็น แต่ตอนนี้ผมหายแล้วนี่”
“ไปบาร์ในชุดสูทอย่างนี้เหรอ” ผมหาทางเลี่ยง
“งั้นผมกลับไปเปลี่ยนชุดก่อน แล้วตามไปนะ จะได้ไม่มีคนสงสัยด้วย”
“จะรับแขกคืนนี้เลยมั้ย”  ผมกลั้นใจถาม
“..........................................”  ยุทธอึ้ง
“ขอโทษ” ผมรีบพูดเมื่อเห็นเค้าเงียบไป
“ผมขอไปเสิร์ฟละกัน ทิปคืนนึงผมก็อยู่ได้หลายวันแล้ว”
“คุณคิดว่าจะได้ทิปเยอะทุกคืนเหรอ คืนนั้นคุณเป็นเด็กใหม่ ใคร ๆ ก็อยากได้ แต่ซักพัก คุณก็จะกลายเป็นของเก่า อย่าลืมนะว่าวงการนี้มันมีเด็กหน้าใหม่มาเรื่อย ๆ และลูกค้าส่วนมากก็ขี้เบื่อ”
“ผมต้องการแค่เงินก้อนเดียวไปตั้งตัวเพื่อรองานอื่น ไม่มีใครอยากจะขายตัวหรอกครับ ตอนนี้ผมไม่พร้อมจะหางานอื่น ผมมาจากบ้านนอกตัวเปล่า ไม่ได้เอาวุฒิ ไม่ได้เอาทะเบียนบ้านมาด้วยซ้ำ ผมทะเลาะกับพ่อถึงได้หนีมากรุงเทพฯ”  ยุทธพูดเสียงเบาในประโยคสุดท้าย
“..............................”  ผมเงียบ
“ผมมันไม่มีอนาคตเลยใช่มั้ย”
“อย่าคิดอย่างนั้นสิ คนเราเริ่มต้นใหม่ได้ตลอดแหละ คุณนั่งรถไฟฟ้ากลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนละกัน อ่ะ ค่าเสียเวลาของคุณ” ผมปลอบพลางนับเงินสดให้ยุทธสองเท่าตามที่ได้ข้อมูลราคามาจากพี่ธัญญ่า
“.....................................”  ยุทธมองหน้าผมกับเงินในมือสลับกัน
“รับไปซะ มันคือรายได้ที่สุจริตของคุณ”

******************************************************************************************************
…เอามาต่อให้นิดนึงก่อน ตอนต่อไปจะตามมาเร็ว ๆ นี้ครับ...
MonarcH
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่7 อยากดูแล(100%) 28/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 28-05-2011 01:43:32
อยากกรี๊ด ดีใจดังๆ เจ้าชายน้ำแข็ง สงสัยถูกจุมพิต พี่เตเข้าไป คงจะใกล้ละลายแล้ว

แบบนี้ต้องเชียร์ให้พี่เต ทำมากกว่าจูบ :z1:

ขอบคุณนะค่ะ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 7 PG. 4 [28/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 28-05-2011 01:56:38
ดีใจที่ยุทธเปลี่ยนใจมาเสริฟอย่างเดียว ไม่งั้นสงสารกริชอ่ะ 
ขอบคุณค่ะ ตอนต่อไปจะมาเร็วๆ นี้งั้นขอปูเสื่อ จองแถวหน้าละกันค่ะ ^_^
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 10 บ่วงกรรม 24/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 28-05-2011 02:06:19
แต่ละศพที่ตายสภาพ ดูไม่ได้เลย รู้สึกว่านับวันยิ่งตามแบบสยองขวัญมากขึ้นนะค่ะ

บรึ๊ย หลอนมากเลย

ขอบคุณค่ะ ^_^
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่8 ออกตามหา P:5 [26/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 28-05-2011 02:27:06
เหตุการ์ณนี้คงพอจะทำให้ปลายฟ้ารู้ตัวซะทีว่าควรจะรักใครอะ


ปล. เอาเพลงสายลมมาแปะ แล้วบอกเหมือนในเรื่องอีก  อย่าบอกนะค่ะว่า พี่สายลมจะเหมือนพระเอกใน MV อ่ะ
ไม่เอาอ่ะ เค้า.... แค่คิดก็  :o12:   ขอให้ไม่เป็นอย่างที่คิดเลย  :call:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/ตอนที 8&9 ค่ะ 2 ตอนรวด (27/5/54)
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 28-05-2011 02:56:07
จะรอดมั้ยอ่ะ ลุ้นมากเลย  ถึงแม้ว่าจะสับสนกับการจาชื่อนิดหน่อย แต่ก็เหมือนได้ดูคอนเสริต K-pop เลย
 :pig4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 5 [25/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 28-05-2011 03:20:30
ตอนแรกนึกว่าคุณหนู จะดูร้าย เอาแต่ใจ ขี้เหวี่ยงซะอีก แต่พอเห็นแบบนี้ แล้วสงสารมากเลย คงจะเหงามากๆ ยังไงพี่วินก็อย่าทำให้น้องเสียใจน่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 7 PG. 4 [28/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 28-05-2011 09:16:03
ถ้าไงจ้างยุทธเป็นบอดี้การ์ดน่าจะดีนะ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 7 PG. 4 [28/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 28-05-2011 10:04:08
ตอนจ่ายเงินตอนสุดท้ายนี่เหมือนจ่ายเงินให้เด็กเท่ียวกับป๋ากริชเลยนะยุมธน้อยใจแย่เลย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่8 ออกตามหา P:5 [26/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 28-05-2011 10:40:19
(http://upic.me/i/y7/qsky3.jpg) (http://upic.me/show/24228533)

ตอนที่ 9 Butterfly


   สายลมแอบเข้าภายมาในบริเวณบ้าน เขาแอบตามต้นไม้ใหญ่เข้ามาจนถึงตัวบ้าน บ้านหลังใหญ่สีขาวสองชั้นประตูหน้าเป็นกระจกใสบานใหญ่ เดินสำรวจโดยรอบมีประตูเล็กอยู่ด้านหลัง สายลมค่อย ๆ ไขประตูเพื่อเข้าไปข้างใน
   เมื่อเข้ามาภายในเป็นบริเวณห้องครัว ที่มีอุปกรณ์อยู่อย่างครบครัน แต่จากที่สังเกตแล้วเหมือนว่าไม่มีใครอยู่มาหลายวัน ฝุ่นบางๆ เริ่มเกาะอยู่ตามเครื่องใช้แสดงให้เห็นว่าไม่ได้มีการใช้งาน สายลมเริ่มลงมือหาเบาะแสทันทีเพราะยิ่งช้าเท่าไหร่ปลายฟ้าจะยิ่งมีอันตรายมากขึ้นเท่านั้น
   ชั้นล่างไม่มีสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด เขาเลยขึ้นมาที่ชั้นสองของบ้าน บนชั้นสองเมื่อขึ้นมามีที่โล่งอยู่ตรงกลาง มีประตูห้องอยู่ด้านข้างฝั่งละสองห้อง
   สายลมเริ่มสำรวจห้องแรกจากฝั่งซ้ายมือ เมื่อเปิดเข้ามาถึงกับต้องตะลึงกับภาพที่เห็นภายในห้อง เพราะทั้งห้องเป็นรูปของปลายฟ้าติดอยู่เต็มไปหมด ทั้งขนาดเล็กขนาดใหญ่ที่ตัดออกมาจากนิตยสารต่าง ๆ รวมถึงรูปภาพที่ถ่ายไว้เอง บนฝ้าหลังคายังมีติดจนเต็มไปหมด ยิ่งเห็นแบบนี้สายลมยิ่งร้อนใจอยากตามหาปลายฟ้าให้เจอให้เร็วที่สุด ที่ตรงกลางผนังฝั่งหนึ่งมีกระดาษขาวเขียนข้อความอะไรบางอย่างไว้

ปลายฟ้า สักวันหนึ่งคุณจะต้องเป็นของผมคนเดียวเท่านั้น
โลกนี้ไม่มีใครคู่ควรกับคุณเท่ากับผมอีกแล้ว

   สายลมรีบเก็บกระดาษไว้เป็นหลักฐานก่อนออกมาจากห้อง

   ห้องที่สองเป็นห้องว่างไม่มีอะไรอยู่ภายใน ทำให้เลยมาสำรวจห้องที่สามทางขวามือได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเปิดเข้ามาภายในมีเตียงใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลางห้อง มีโต๊ะลิ้นชักขนาดใหญ่ตั้งอยู่ริมผนังขวามือตู้เสื้อผ้าตั้งอยู่ตรงกับปลายเตียง ของในห้องถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบ สายลมสังเกตเห็นบางอย่างวางอยู่บนโต๊ะริมผนังเมื่อเข้าไปดูเป็นกระดาษอีกแผ่นที่ถูกทับไว้ด้วยที่ทับกระดาษรูปปลายฟ้า ข้อความข้างในเป็นชื่อและที่อยู่ของปลายฟ้าที่คอนโด
   เมื่อมองสำรวจก็เห็นรูปของปลายฟ้าโผล่ออกมาจากลิ้นชักตัวล่าง แสดงให้เห็นว่าตอนเก็บต้องรีบร้อนเป็นอย่างมาก สายลมเปิดลิ้นชักออกมาเผื่อว่าจะเจอเบาะแสให้ตามหาตัวปลายฟ้าได้มากขึ้น
   ภายในลิ้นชักมีภาพถ่ายปลายฟ้าตอนออกงานโชว์ตัวตามสถานที่ต่าง ๆ มีประวัติส่วนตัวที่ลงไว้ตามนิตยสาร เมื่อค้นดูภาพไปเรื่อย ๆ ก็จะเป็นภาพของปลายฟ้าตอนเดินเข้าออกคอนโด แสดงให้เห็นว่าได้มีการติดตามมานานแล้ว สายลมค้นลิ้นชักถัดไปเพื่อหาหลักฐานตามหาตัวปลายฟ้าได้ง่ายยิ่งขึ้น
“GOLDMEMBER THE BUTTERFLY BOY”
   สายลมหยิบบัตรแข็งสีทองขึ้นมาอ่านก่อนเก็บเข้ากระเป๋าเสื่อไว่ ขณะที่กำลังก้มหน้าก้มตาหาหลักฐานเพื่อตามหาปลายฟ้าอยู่ หางตาสายลมมองเห็นเงาคนในกระจกอยู่ด้านหลังเขา
   ‘ปึก’
   ไม้หน้าสามถูกหวดลงมาที่หัวไหล่ข้างขวาเต็มแรง แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงเป็นที่กลางหัว ถ้าสายลมไม่บังเอิญเห็นเงาสะท้อนที่กระจกหน้าต่างเสียก่อนป่านนี้คงนอนหมดสติหรือเสียชีวิตไปแล้วก็เป็นได้
   เมื่อเห็นว่าทำร้ายเป้าหมายไม่ได้อย่างที่หวังเจ้าของไม้หน้าสามก็รีบวิ่งหนีออกจากห้องอย่างรวดเร็ว
   “หยุดนะ!!” สายลมข่มความเจ็บปวดที่หัวไหล่ไว้พร้อมกับลุกขึ้นวิ่งไล่ตามออกมา
   ‘ปึ้ง’
   เสียงประตูหลังถูกปิดอย่างรีบร้อนจนเสียงดังสนั่น สายลมรีบตามต้นเสียงมาถึงประตูหลังบ้าน
   ‘แกร็ก แกร็ก’
   ประตูถูกล็อคจากด้านนอก แม้จะพยายามลองขยับสักเท่าไหร่ก็ไม่สามารถเปิดออกได้
   ‘เพล้ง’
   สายลมกัดฟันฝืนความเจ็บยกเก้าอี้นั่งที่วางไว้ข้างผนังทุ่มประตูกระจกหน้าบ้านเพื่อออกมาข้างนอก เขาเห็นรถเก๋งสีดำขับหนีออกไป สายลมรีบวิ่งปีนกำแพงกลับมาที่รถตัวเองอย่างรวดเร็ว โดยไม่สนใจความเจ็บปวดที่หัวไหล่ด้านขวาแม้แต่น้อย
ตึ้ง!!
เมื่อรถออกตัวก็ด้านหน้าซ้ายก็ยุบลงกระแทกกับพื้นอย่างแรง สายลมรีบลงรถมาดู ล้อหน้าด้านซ้ายถูกถอดน็อตออกจนหมด เมื่อวิ่งจึงทำให้ล้อหลุดออกมา
“โธ่โว้ย!!”
สายลมตะโกนออกมาอย่างหัวเสีย เพราะว่ากำลังพลาดที่จะติดตามตัวคนที่จับปลายฟ้าไป เขายืนสงบสติอารมณ์ชั่วครู่ ก่อนหันมาซ่อมรถเพื่อให้ใช้งานได้ก่อนในเวลานี้

‘กริ้งงงงง กริ้งงงงง’
“ฮัลโหล ว่าไงมีข่าวอะไรคืบหน้าบ้างหรือเปล่าวะ” สายลมยิงคำถามทันทีที่รับสายเพื่อนที่เป็นนายตำรวจ
“ท่าทางจะแย่กว่าที่คิดแล้ววะ” เสียงปลายสายเจือด้วยความกังวลใจ
“ทำไม มึงได้ข่าวอะไรมา”
“เพื่อนกูบอกว่าดาราที่แสดงร่วมกับเด็กมึง เพิ่งโดนฆ่าตายเมื่อไม่วานนี้เหมือนกัน”
“ใครวะ แล้วคนไหนที่ตาย” สายลมร้อนใจเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ
“อเล็กซ์ คนที่เพิ่งมีเรื่องกับเด็กมึงนั่นแหละ”
ชื่อของอเล็กซ์ทำเอาสายลมอึ้งไปชั่วขณะ ทำไมเวลามันช่างประจวบเหมาะได้ขนาดนี้ อเล็กซ์โดนฆ่า ปลายฟ้ามาโดนจับตัวไป หรือว่าคดีทั้งสองจะเกี่ยวข้องกัน คำถามนับร้อยผุดขึ้นมาในหัวอย่างมากมาย แต่ละคำถามยากที่จะหาคำตอบได้ในตอนนี้เสียด้วย
“แล้วมีข่าวปลายฟ้าเพิ่มบ้างไหมวะ”
“ยังเลยตอนนี้คนที่มึงให้ตามก็เก็บตัวเงียบ ตามหาตัวไม่เจอเสียด้วย แต่กูว่ามึงโทรหาเพื่อนกูหน่อยแล้วกัน มันทำคดีอเล็กซ์อยู่ เผื่อว่าอาจเกี่ยวพันกันก็ได้”
“กูก็กำลังจะขออยู่พอดีเลย มึงเอาชื่อกับเบอร์เขามาเลยเดี๋ยวกูโทรไปหาเอง”
“เออ มันชื่อหมวดเพชร ส่วนเบอร์ก็ 08x-xxx-xxxx”
“เออ ขอบใจมากงั้นแค่นี้ก่อนนะ เดี๋ยวถ้ามีอะไรกูจะรีบติดต่อมึงอีกที”
สายลมวางสายจากเพื่อนแล้วต่อสายหาหมวดเพชรต่อทันที
“สวัสดีครับ ขอสายหมวดเพชรครับ”
“ผมเพชรพูดครับ”
“ผมสายลมนะครับเพื่อนเจ้านิกมัน มันคงเคยพูดถึงผมให้คุณฟังบ้างแล้วใช่ไหมครับ”
“ครับ ผมก็กำลังรอสายคุณอยู่พอดี”
ทั้งสองคนคุยปรึกษากันถึงรูปคดีทั้งสอง หมวดเพชรเองยังลอบแปลกใจที่สายลมทำไมประมวลรูปคดีได้ตรงมากขนาดนี้ ทำให้การปรึกษาของทั้งสองคนได้ความคืบหน้าไปอย่างมาก ทั้งสองคนสรุปที่ต้องไปตามสืบเรื่องที่ บาร์ บัตเตอร์ฟาย บอย

สายลมมุ่งหน้าสู่บาร์ที่มีชื่อมากที่สุดในขณะนี้ เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าวางมาดแมวมองเข้าไปที่บาร์เพื่อสะดวกต่อการพูดคุย เมื่อมาถึงด้านหน้าสายลมยื่นนามบัตรพร้อมธนบัตรใบละพันให้
“ขอมุมเงียบหน่อยแล้วช่วยตามผู้ดูแลให้ผมด้วยได้ไหม” สายลมพูดนิ่ง ๆ
การ์ดคนหนึ่งพาสายลมไปนั่งที่มุมด้านในของร้าน พร้อมบอกให้รอสักครู่ บรรยากาศภายในร้านดูปลุกเร้าอารมณ์ แสงสีส้มสาดส่องสร้างความสว่างทั่วทั้งร้าน เวทีขนาดใหญ่ถูกไฟสปอร์ตไลท์สาดส่องเป็นระยะ ๆ เสียงเพลงเร้าใจดังขึ้น ก่อนชายหนุ่มหน้าตาดีใสเพียงกางเกงในตัวจิ๋วเดินขึ้นมาจนเต็มเวที
“สวัสดีค่ะคุณสายลม” เกย์สาวใหญ่เดินเข้ามาทักทายอย่างเป็นมิตร
“สวัสดีครับ เออ... คุณ..”
“ธัญญ่าค่ะ เรียกสั้น ๆ ว่า ญ่า ก็ได้นะคะ” เจ๊ธัญญ่ายิ้มอย่างภูมิใจ
“แต่ว่ามาที่บาร์เรา คิดจะดึงใครไปอีกหรือเปล่าค่ะ คราวก่อนก็มีอีกค่ายมาดึงดาวของเราไปคนแล้ว” เจ๊ธัญญาพูดดักทาง
“เปล่าครับ คุณญ่านั่งก่อนสิครับ ผมมีเรื่องจะสอบถามเล็กน้อย”
“มีอะไรสงสัยหรือว่า สนใจใครเป็นพิเศษหรือเปล่าคะแบบนี้”
สายลมยื่นบัตรสีทองให้ธัญญ่าหลังจากที่นั่งลงแล้ว ธัญญ่ารับมามองพร้อมพลิกอ่านด้านหลัง
“คุณรู้จักคน ๆ นี้ไหมครับ” สายลมเริ่มหาข้อมูลทันที
“พอจะจำได้นะคะ แต่ว่าคุณตามหาเขาไปทำไม” ธัญญ่าทำหน้าที่ปกป้องข้อมูลของสมาชิกทันที
“ถ้าผมเล่าให้ฟัง คุณจะช่วยผมใช่ไหมครับ” สายลมถามกลับ
ธัญญ่าคิดเล็กน้อยก่อนตอบตกลง เพราะว่าการเป็นมิตรกับแมวมองค่ายยักษ์ใหญ่น่าจะเป็นผลดีมากกว่า สายลมเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ธัญญ่าฟัง โดยให้เหตุผลว่าจะตามตัวมาคุยเพื่อความปลอดภัยของปลายฟ้า ยกเว้นเรื่องที่ว่าปลายฟ้าถูกจับตัวไป เพราะเขาไม่อยากให้ชื่อปลายฟ้ามัวหมอง ธัญญ่าเองก็ยินดีช่วยแต่เขาไม่รู้ข้อมูลมากนัก
“งั้นเดี๋ยวคุณคุยกับเด็กคนที่เขาชอบเลือกประจำแล้วกันนะคะ เดี๋ยวฉันไปตามให้”
สักพักเด็กหนุ่มหน้าตาดีผิวขาวเนียนใส่เพียงกางเกงในตัวจิ๋วเดินเข้ามาหา
“สวัสดีครับ พี่ธัญญ่าบอกคุณต้องการพบผมหรือครับ”
“นั่งลงก่อนสิ”
“คุณรู้เรื่องของหม่อนมากแค่ไหน” สายลมหันไปมองหน้าเด็กหนุ่มอย่างจริงจัง
“ก็พอสมควรครับ แต่ว่าคุณมาถามผมทำไมครับ”
สายลมเลยแต่งเรื่องเพื่อเล่าให้ฟัง พร้อมถามข้อมูลกลับ ข้อมูลที่ได้จากเด็กหนุ่มคนนี้มีประโยชน์มากที่เดียว เพราะทำให้เขารู้ว่าหม่อนมีบ้านอยู่ที่เกาะเล็ก ๆ ห่างจากเกาะเสม็ดไปไม่เท่าไหร่ แต่ว่าเขาจำชื่อไม่ได้ว่าเกาะอะไร เพราะเขาเคยไปด้วยแค่ครั้งเดียว แต่สิ่งหนึ่งที่เด็กคนนั้นบอกมาคือ หม่อนเหมือนจะมีปัญหาทางจิตเล็กน้อย เพราะบางครั้งก็ใจดีบ้างครั้งก็ดูโมโหร้าย
หลังจากได้ข้อมูลแล้วสายลมก็รีบกลับทันที เขาไม่ลืมที่จะทิปเด็กด้วยแบงค์พันหลายใบ ก่อนให้นามบัตรว่าถ้ามีเรื่องเดือดร้อนอะไรก็ติดต่อเขาได้ สายลมย้อนกลับมาที่บ้านเพระยองอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะเหมาเรือออกตามหาเกาะที่พักของหม่อน เขาโทรบอกนิกให้ส่งคนช่วยอีกทาง


โปรดติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่8 ออกตามหา P:5 [26/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: onjazz26 ที่ 28-05-2011 10:48:30
 :z13:
จิ้มก่อน

 “หยุดนะ!!” สายลมข่มความเจ็บปวดที่หัวไหล่ไว้พร้อมกับลุกขึ้นวิ่งไหล่ตามออกมา - วิ่งไล่อ่ะเป่า


ตาปลายฟ้านี้ไม่ค่อยมีบทบาทเลยอ่ะแม้แต่เรื่องของตัวเอง

เนื้อเรื่องกำลังมัน มาต่อไวไว :bye2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่9 Butterfly P:6 [28/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 28-05-2011 11:11:25
เรื่องเริ่มเข้มข้นขึ้นมาละ
ลุ้นๆๆๆๆ  :serius2:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 7 PG. 4 [28/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 28-05-2011 11:18:45
กริชหลงรักยุทธไปเต็มๆแล้วสิ
เหลือแต่ยุทธนี่แหล่ะ จะยังไงกับกริชแน่
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่7 อยากดูแล(100%) 28/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 28-05-2011 11:24:06
ไนท์น่ารักมากกกกกกกกก  :o8:
พี่เตละลายน้ำแข็งได้แล้ว   :-[
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 7 PG. 4 [28/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 28-05-2011 12:30:52
ชอบกริชจัง
แต่หยุดนี่ไว้ใจได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ = =
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 7 PG. 4 [28/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 28-05-2011 12:36:54
ถ้ายุทธมาหลอกกริชก็เนียนมากเลยนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/ตอนที 8&9 ค่ะ 2 ตอนรวด (27/5/54)
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 28-05-2011 12:54:42
 :serius2: จารอดกันมั้ยเนี่ยยยยย ลุ้นๆๆ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 7 PG. 4 [28/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 28-05-2011 13:40:51
เหมือนจะไปกันด้วยดี ก็เหมือนยังมีปมปัญหาอยู่

อยากให้กริชสมหวัง
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่8 พาเที่ยว 29/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: ภาพฝัน ที่ 28-05-2011 14:08:08
   เตชวัฒน์กำลังยืนนิ่งอยู่หน้าห้องของวริศรินทร์เช้านี้เขาต้องเข้าไปปลุกอีกฝ่ายเช่นปกติ เพราะได้เวลาทานอาหารเช้าแล้ว เขาลังเลที่จะเข้าไป จูบเมื่อคืนยังคงชัดเจน เขาฉุนที่อีกฝ่ายทำกับเขาเหมือนเขาเป็นของเล่น หลายครั้งที่เขาพยายามอดทนใจเย็นกับอีกฝ่ายแม้ว่าตั้งแต่เจอกันไนท์จะทำเหมือนเขาไม่มีตัวตน แต่เขาก็พยายามใจเย็นเข้าไว้ เตชวัฒน์ตัดสินใจเปิดประตูเข้าไป ไนท์ยังคงนอนหลับอยู่บนเตียง เขาเตรียมรับปฏิกิริยายที่จะแปลกไปของอีกฝ่ายไว้แล้ว แต่เมื่อเขาปลุกวริศรินทร์ลืมตาขึ้นมามองเขาอย่างมึนงง

   “ไนท์ไปกินข้าวครับเช้าแล้ว” เขาย้ำอีกครั้ง วริศรินทร์มองใบหน้าของอีกฝ่ายแล้วทำท่าจะล้มตัวนอนโดยไม่สนใจเพราะไนท์รู้ดีว่าวันนี้ไม่มีงานอะไรที่ต้องทำ เตชวัฒน์ตัดสินใจดึงร่างโปร่งที่ดูงัวเงียขึ้นมา

   “ไปทานข้าวครับ” เขาย้ำเสียงเข้ม วริศรินทร์ยกมือปิดปากหาวกว้าง แล้วเดินซวยเซออกไปที่โต๊ะกินข้าว เตชวัฒน์ลอบถอนหายใจที่อีกฝ่ายไม่มีทีท่าแปลกไป แต่พอเดินตามกลับไปเขากลับเห็นวริศรินทร์นอนหมอบอยู่ที่นั่นแทน

   “ไนท์ครับ” เตชวัฒน์เรียกอีกครั้ง วริศรินทร์ลืมตาขึ้นมาด้วยท่าทีเกียจคร้าน เตชวัฒน์เทน้ำเย็นให้ดื่ม เขามองผิวพรรณที่ดูมีน้ำมีนวลขึ้นไม่ขาวซีดเหมือนแต่ก่อน เขารู้สึกว่าตัวเองคิดถูกที่คอยบังคับให้อีกฝ่ายกินอาหารทุกมื้อ วริศรินทร์ทานไปเรื่อยๆ โดยไม่มีคำพูดเหมือนเดิม เขาคอยสังเกตว่าอีกฝ่ายชอบอะไรหนือไม่ชอบอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า

   “ไนท์ไม่ชอบแตงกว่าเหรอ” เขาเห็นว่าไนท์เขี่ยแตงกว่าในผัดเปรี้ยวหวานออกทานแต่มะเขือเทศ ไก่และหัวหอม วริศรินทร์ไม่พูดใช้การพยักหน้าแทน เตชวัฒน์ไม่ว่าอะไรเพียงแต่หยิบกระดาษทิชชู่เช็ดให้ที่มุมปาก

   “เลอะแล้วครับ” ขายังคงยิ้มให้อย่างอ่อนโยน ร่างของวริศรินทร์ผงะเล้กน้อยแล้วกินข้าวต่อไปเรื่อยๆ

   “ไนท์มีอะไรที่ไม่ชอบไหม” เขาลองเลียบๆเคียงๆ ถามเผื่อว่าอีกฝ่ายจะยอมบอกความต้องการของตนเองมา วริศรินทร์เงยหน้าขึ้นมองหน้าเตชวัฒน์อยู่พักใหญ่ๆ

   “แตงกว่า ผักชี” เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นมาแผ่วเบาอีกเช่นเคยแต่ก็สร้างรอยยิ้มให้กับเตชวัฒน์ได้ เขาคิดว่าไนท์คงจะเริ่มเปิดรับเขาบ้างแล้ว เมื่อทานเสร็จล้างสูงโปร่งก็ขยับตัวอย่างเชื่องช้าเก็บจานไปล้าง

   “ไนท์ ไปอาบน้ำแต่งตัวกัน เราจะไปเที่ยวบ้านพี่” เตชวัฒน์แตะไหล่ของวริศรินทร์แผ่วเบา นั่นทำให้ร่างสูงโปร่งหันกลับมามองด้วยความงุนงง

   “พี่พาไปเที่ยวไปอาบน้ำครับ” เขาย้ำอีกครั้ง เมื่ออีกฝ่ายยังคงเฉย เขาเปิดน้ำแล้วจับมือของวริศรินทร์ล้างน้ำสะอาดช้าๆ แล้วจูงมือเข้าห้องนอนไปส่งที่หน้าห้องน้ำ

   “อาบน้ำครับ” เขายิ้มให้อีกครั้ง ซึ่งวริศรินทร์ก็เดินเข้าห้องน้ำไปแต่โดยดี เตชวัฒน์เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อเลือกชุดให้อีกฝ่ายใส่ เขาหยิบกางเกงยีนส์สีซีดกับเสื้อยืดสีฟ้าอ่อนออกมาวางไว้ แล้วออกไปล้างจานที่คาไว้

   ร่างสูงโปร่งเดินออกมา เสื้อสีฟ้าขับให้ผิวดูขาวยิ่งขึ้น ถึงแม้จะแต่งตัวให้ดูธรรมดายังไงเตชวัฒน์ก็รู้สึกถึงความโดดเด่นที่อยู่ภายในตัววริศรินทร์ ไม่แปลกเลยที่อีกฝ่ายจะอยู่ในวงการนายแบบได้ทั้งที่มีปัญหาในด้านมนุษยสัมพันธ์

   “ไปครับ พี่พร้อมแล้ว” เขายิ้มแล้วขยับเข้าไปโอบไหล่ของไนท์เอาไว้ เขาอ่านเจอมาว่าคนเราต้องสัมผัสตัวคนอื่นอย่างน้อยวันละครั้งไม่งั้นจะทำให้สุขภาพจิตเสีย

   วริศรินทร์เงยหน้ามองร่างสูงของเตชวัฒน์เขาไม่ได้ขัดขีนเมื่อเห็นรอยยิ้มอ่อนโยนที่มีให้ตลอดมาที่เจอกัน ไนท์ขยับตัวออกเดินเข้าไปหยิบแว่นกันแดดพอเดินออกมาก้ชะงักเมื่อเตชวัฒน์หยิบรองเท้าผ้าใบคู่เก่าออกมาเตรียมไว้ให้

   “เที่ยวสบายๆ ไม่ต้องแฟชั่น” เตชวัฒน์ยิ้มให้วริศรินทร์เมื่อเห็นสายตาที่จ้อมมองมา เขาพอเดาได้ว่าอีกฝ่ายสงสัยอะไร แต่ก็ไม่มีคำถามวริศรินทร์ใส่รองเท้าอย่างเงียบๆ

   “พี่รู้ว่าไนท์จะชอบ”


............................................


อ่านแล้วเม้นเย็นนี้จะมาต่อ อ่านแล้วไม่เม้นหนูงอนนะค่ะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 6 [28/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 28-05-2011 14:15:33
(http://upic.me/i/ec/hmt10.jpg) (http://upic.me/show/24678455)


เล่ห์ร้าย
ตอนที่ 6.

บ้านหลังใหญ่ยังคงเงียบเหงาเช่นเคย หลังจากนั่งรับประทานอาหารค่ำเพียงคนเดียวแล้ว  ลลิตก็สั่งสาวใช้ว่าจะไปนอนที่เรือนคุณปู่ ทุกคนรีบเร่งทำงานให้เป็นอย่างดี เพราะรู้ว่าวันนี้เป็นวันอะไร หัวหน้าแม่บ้านสั่งแม่ครัวให้ทำแต่อาหารและของหวานที่คุณหนูชอบ แต่เด็กชายก็รับประทานอาหารได้ไม่มากนัก
ลลิตนอนซุกตัวอยู่ในผ้าห่มกอดกองหมอนนุ่มหลากหลายขนาดมากกว่าสิบใบที่ให้สาวใช้ขนมาจากห้องของตนเอง เพื่อมานอนที่เรือนของคุณปู่ในวันสำคัญของตนที่ไม่มีใครในครอบครัวสนใจ

วิธวินท์คิดทบทวนถึงคำพูดของสมบูรณ์จึงตัดสินใจลาผู้เป็นแม่ แล้วรีบเดินทางไปที่คฤหาสน์หลังงาม โดยโทรหาสมบูรณ์ก่อนว่าตนเองกำลังเดินทางไป ชายหนุ่มนั่งมองถุงพลาสติกที่ภายในบรรจุของที่คิดว่าจะให้คุณหนูริชดีหรือไม่ เพราะมันเป็นของราคาถูก ถ้าคุณหนูปฏิเสธที่จะรับมัน ตัวเขาก็คงจะเสียใจแน่ๆ แต่อีกใจหนึ่งก็คิดว่าช่างมันเถอะอย่างน้อยก็ยังได้ให้ คนที่ได้จะเอาไปทิ้งเอาไปขว้างยังไงก็ตามใจ

“ขอโทษนะครับที่ต้องรบกวนดึกๆ” ชายหนุ่มเอ่ยกับสมบูรณ์ที่เป็นคนมาเปิดประตูให้
“ไม่เป็นไรครับ คุณหนูอยู่ที่เรือนคุณปู่ครับ” สมบูรณ์พูดกับชายหนุ่มแล้วทำท่าจะเดินนำไป
“เอ่อ... ผมฝากคุณสมบูรณ์เอาไปให้คุณหนูได้มั้ยครับ” วิธวินท์พูดด้วยสีหน้ากังวลใจ ชายหนุ่มกลัวว่าถ้าเขาเป็นคนให้เองกับมือ แล้วถ้าคุณหนูเกิดแสดงท่าทีว่าไม่ชอบหรือไม่อยากได้ ถึงจะทำใจมาแล้วแต่เขาก็คงอดที่จะเสียใจไม่ได้อยู่ดี
“ไม่ดีหรอกครับ ในเมื่อมาแล้วทั้งที คุณวินเอาเข้าไปให้คุณหนูเองดีกว่าครับ” สมบรูณ์พูดพร้อมกับเดินนำหน้าออกไปเลย แต่ก็แอบหันกลับมามองชายหนุ่มแล้วก็ต้องอมยิ้มกับท่าทางลังเลแต่ก็เดินตามมาโดยดี

ชายหนุ่มทำท่ารีๆ รอๆ อยู่ที่หน้าประตู ด้วยไม่แน่ใจว่าควรจะปลุกเด็กชายดีหรือไม่ สมบูรณ์ก็ขอตัวกลับไปพักผ่อนแล้ว หลังจากยืนลังเลอยู่สักครู่ วิธวินท์จึงนำขนมเค้กก้อนเล็กที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อปักเทียนเล่มเล็กลงไปตรงกลาง ตัดสินใจปิดไฟในห้องโถงให้เหลือแต่แสงรำไรจากโคมไฟหน้าเรือน แล้วเดินถือเค้กและไฟแช็ก ไปเคาะที่ประตูห้องนอนเบาๆ
“คุณหนูครับ” ชายหนุ่มส่งเสียงเรียก แล้วเอาหูแนบที่ประตูฟังความเคลื่อนไหวจากภายใน เมื่อได้ยินเสียงดังกุกกักๆ ชายหนุ่มก็รีบถอยออกมาจุดเทียน แล้วรออยู่ที่หน้าประตู
ลลิตเปิดประตูออกมาช้าๆ ยกมือขึ้นขยี้ตาเพราะยังไม่ชินกับแสง
ชายหนุ่มร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยูออกมาเบาๆ ให้ได้ยินกันสองคน เด็กชายทำสีหน้าแปลกใจ มองเค้กและหน้าของชายหนุ่มสลับกันไปมา พอวิธวินท์ร้องเพลงจบก็ยื่นเค้กไปตรงหน้าลลิต
“เป่าเทียนสิครับคุณหนู” เด็กชายกระพริบตาถี่ๆ จนรู้แล้วว่านี่เป็นเรื่องจริงไม่ใช่ความฝันจึงหลับตาลงแล้วเป่าเทียนเพียงเล่มเดียวนั้นจนดับ
“สุขสันต์วันเกิดครับคุณหนูริช” วิธวินท์พูดเมื่อเด็กชายลืมตาขึ้นมา แล้วชายหนุ่มก็วางเค้กไว้บนโต๊ะ แล้วเดินไปเปิดไฟกลางห้องโถงให้สว่างไสวเช่นเดิม เขาจึงเห็นเด็กชายชัดเต็มตา ร่างเล็กในชุดนอนขายาวสีเหลืองอ่อน คอเสื้อเอียงๆ จนเกือบหลุดจากหัวไหล่ กางเกงขายาวสีเดียวกันตัวหลวมชายกางเกงยาวลากพื้น ดวงหน้าขาวปากอิ่มเป็นสีชมพูจนเห็นได้ชัด ตายังหรี่ลงเพราะยังไม่ชินกับแสงไฟ ผมสีดำสนิทยุ่งเหยิง ชายหนุ่มมองร่างเล็กจนเพลิน จนเด็กชายเริ่มรู้สึกได้จึงก้มลงมองตัวเองแล้วจัดนั่นจับนี่มือเป็นระวิง
“ห้ามมองนะ” ปากอิ่มๆ เอ่ยเรียกร้องความสนใจจากสายตาชายหนุ่มให้ไปจับจ้อง กลีบปากสีชมพูคู่นั้นขยับไปมาช่างดูเย้ายวนอย่างบอกไม่ถูก วิธวินท์ต้องรีบกระพริบตาสองสามครั้งเพื่อไม่ให้คิดฟุ้งซ่านมากไปกว่านี้
ชายหนุ่มรีบเดินเลี่ยงไปหยิบจานกับส้อมเพื่อให้ลลิตใช้รับประทานขนมเค้ก แล้วจึงหยิบน้ำส้มคั้นที่อยู่ในตู้เย็นออกมาเตรียมเอาไว้ให้ด้วย แต่เมื่อชายหนุ่มเดินออกมาก็เห็นเด็กชายใช้นิ้วชี้จิ้มลงไปที่แยมสีเหลืองที่วาดเป็นรูปหมีแล้วยกกลับขึ้นมาชิม ภาพนั้นทำให้ชายหนุ่มยิ้มออกมาได้ โถ่เอ๋ย เด็กหนอเด็ก วิธวินท์คิดในใจ
เมื่อเด็กชายเหลือบไปเห็นว่าชายหนุ่มออกมาแล้ว จึงชักมือกลับมาวางที่ข้างตัวอย่างรวดเร็วแล้วทำเมินมองไปทางอื่น
“ทานขนมเค้กเลยมั้ยครับ ซื้อมาจากร้านธรรมดาแต่รสชาติคงพอกินได้” วิธวินท์เอ่ยถามเมื่อกลับมาถึง
“เอาไปข้างบนดีกว่า ฉันอยากดูดาว” เด็กชายพูดแล้วก็หยิบเค้กเดินนำขึ้นไป

ลลิตนั่งอยู่บนชิงช้าแล้วโยกเบาๆ แหงนหน้ามองดวงดาวบนฟ้า วิธวินท์เดินตามเข้าไปเอาของวางไว้บนโต๊ะใกล้ๆ แล้วลงไปนั่งที่ชิงช้าข้างๆ เด็กชาย
“ไม่ค่อยเห็นดาวเลยเนอะ บรูโน่” ลลิตเอ่ยขึ้นมาลอยๆ ชายหนุ่มหันไปมองเด็กชายที่ยังเงยหน้ามองท้องฟ้าอยู่
“ในเมืองแสงมันเยอะครับคุณหนู เลยมองไม่ค่อยเห็น”
“งั้นก็ไม่เห็นคุณปู่สิ คุณปู่บอกว่าจะไปอยู่บนฟ้าเป็นดาวคอยมองดูฉันตลอด”
“แต่คุณปู่ก็ยังเห็นคุณหนูอยู่นะครับ ถึงเราจะไม่เห็นดาว” ชายหนุ่มอยากจะยกมือขึ้นลูบผมเด็กชายเพื่อปลอบใจแต่เขาก็ไม่กล้า ได้แต่เพียงพูดออกไปด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มเท่านั้น
“จริงนะ” เด็กชายถามขึ้นเบาๆ วิธวินท์รู้สึกได้เลยว่าวันนี้ลลิตดูต่างออกไป ดูเปราะบางเหลือเกินจนเขาอยากจะรวบมากอดไว้เหมือนเช่นคืนนั้น แต่ตอนนี้สิ่งที่พอจะทำได้ดีที่สุดก็คงเป็นแค่เพียงการพูดจาปลอบโยน
“จริงสิครับ ทานเค้กกันดีกว่านะครับคุณหนู” ชายหนุ่มเอี้ยวตัวไปหยิบเค้กมาถือไว้เอง แล้วส่งส้อมให้เด็กชาย
“ป้อนด้วยสิ” ลลิตไม่ยอมรับส้อม แต่ยื่นหน้าแล้วอ้าปากรอแทน ชายหนุ่มจึงใช้ส้อมตักตรงแยมแล้วป้อนใส่ปากเด็กชาย
“อร่อยมั้ยครับ”
“อืออ” ลลิตพยักหน้าเบาๆ ชายหนุ่มจึงตักขึ้นป้อนอีกคำแต่คราวนี้ตักที่ขอบครีมด้านนอก
“เอาแยมด้วย” เสียงเด็กชายร้องบอกเบาๆ วิธวินท์จึงตามใจเอาปลายตักตรงที่มีแยมเพิ่มให้อีก
“บรูโน่กินด้วยสิ”
ชายหนุ่มจึงตักเค้กตรงที่เป็นครีมเข้าปากตัวเองบ้าง
“กินตรงแยมสิ อร่อยนะ” ลลิตหันมาแย่งส้อมเพื่อจะมาตักตรงแยมให้ชายหนุ่มบ้าง โดยหมุนตัวหันหน้าเข้าหาชายหนุ่ม แล้วเอาเข่าข้างนึงมาวางไว้บนชิงช้า การเปลี่ยนแปลงท่าทางอย่างรวดเร็วของเด็กชายทำให้เกิดการสะเทือน ชิงช้าที่วิธวินท์ใช้ขายึดไว้ก็เกิดโยกน้อยๆ ทำให้เด็กชายเสียหลักปล่อยส้อมหลุดจากมือ ผวาเข้าหาหลักยึดเกาะ ชายหนุ่มใช้มือที่ว่างเข้าพยุงร่างเล็กไว้ มือเด็กชายก็ปัดไปโดนเค้ก จนครีมเลอะติดนิ้ว
“ไม่เป็นไรนะครับ เจ็บตรงไหนมั้ยครับคุณหนู” ชายหนุ่มถามอย่างรวดเร็ว
“ไม่เป็นไร แต่ส้อมหล่นเลย” เด็กชายก้มมองส้อมที่ตกลงไปนอนอยู่ใต้ชิงช้าเรียบร้อยแล้ว
“เดี๋ยวผมลงไปเอาอันใหม่ก็ได้ครับ” วิธวินท์ทำท่าจะลุกขึ้นแต่เด็กชายดึงเขาไว้เสียก่อน
“กินแบบนี้ก็ได้” เด็กชายเอามือที่เลอะปาดเค้กแล้วป้ายไปที่ปากของชายหนุ่ม แล้วยิ้มออกมาอย่างนึกสนุก
วิธวินท์คว้ามือของลลิตเอาไว้ อ้าปากงับที่นิ้วเล็กๆ กินครีมเค้กที่ติดอยู่ช้าๆ ความจักจี้ที่ปลายนิ้วทำให้เด็กชายดึงมือออกแต่ชายหนุ่มก็ขืนเอาไว้ บรรยากาศที่เงียบ มีเพียงเสียงหรีดหริ่งเรไรแว่วมาเบาๆ และความน่ารักของเด็กชายที่นั่งอยู่แค่เอื้อมทำให้ความรู้สึกที่ถูกกักเก็บเอาไว้ของชายหนุ่มได้ถูกปล่อยออกมา
ลลิตรู้สึกแปลกๆ เหมือนมีกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ ที่ผ่านจากปากของชายหนุ่มแล่นมาตามท่อนแขน จู่โจมหัวใจดวงน้อยให้เต้นเร็วขึ้น จนเลือดสูบฉีดขึ้นไปบนหน้าใสให้แดงและร้อนจนเหมือนจะเป็นไข้ มือเล็กเริ่มสั่นจนรู้สึกได้ ชายหนุ่มจึงเหลือบตาขึ้นมองทั้งที่ริมฝีปากยังแตะอยู่กับปลายนิ้ว เด็กชายรู้สึกตกใจจึงใช้มืออีกข้างขยำที่เค้กแล้วปัดไปที่ชายหนุ่มโดยไม่ได้มอง ร่างเล็กที่โถมเข้ามาทำให้ชิงช้าเกิดแรงสะเทือนอีกครั้ง วิธวินท์ต้องใช้ทั้งสองมือเข้ามารับตัวคุณหนู เค้กเลยกระเด็นออกจากมือ กระจายไปทั่วเพราะแรงขยำของลลิตทำให้เค้กก้อนเล็กแตกออกจากกัน
จนทุกอย่างสงบนิ่งร่างเล็กพิงอยู่ที่อกของชายหนุ่ม ที่เลอะเทอะไปด้วยเค้กหลายจุด มือข้างหนึ่งถูกวิธวินท์กุมเอาไว้ อีกข้างกำเสื้อตรงเหนืออกของชายหนุ่มไว้ ใบหน้าของเด็กชายยิ่งแดงขึ้นกว่าเดิม เมื่อรู้สึกได้ว่า ใบหน้าคมเริ่มก้มลงมาใกล้จนต้องหันหน้าหนีมองไปทางอื่น
“มีเค้กอยู่ตรงนี้ด้วย” วิธวินท์กระซิบเบาๆ ที่ข้างแก้มของเด็กชายก่อนจะแตะริมปากลงไปชิมเศษเค้กที่ติดอยู่บนใบหน้า ร่างเล็กนั่งนิ่งเหมือนถูกตรึงไว้ ริมฝีปากร้อนๆ ยังไล้ละเรื่อยลงมาอยู่ที่มุมปากอิ่ม
“ตรงนี้มีแยมด้วยครับ” ชายหนุ่มใช้ริมฝีปากขบเบาๆ ที่ริมปากสีชมพูสด จนปากของเด็กชายเผยอออก วิธวินท์แตะปลายลิ้นชิมแยมที่ติดอยู่ที่ริมฝีปากก่อนจะสอดลิ้นเข้าไปชิมรสหวานฉ่ำในกลีบปากคู่นั้น เพราะความอ่อนประสบการณ์เด็กชายจึงปล่อยให้อีกฝ่ายรุกรานโดยไม่ได้ต่อต้านขัดขืน แล้วยังโอนอ่อนผ่อนตาม เปลือกตารู้สึกหนักจนค่อยๆ หรี่ปรือลงช้าๆ มือที่กำเสื้อของชายหนุ่มก็ยิ่งกำแน่นขึ้น มืออีกข้างสอดประสานกุมไว้กับมือใหญ่แนบแน่น ฝ่ามือร้อนลูบไล้อยู่ที่แผ่นหลัง
“แยมอร่อยจริงๆ ด้วยครับ” วิธวินท์ถอนริมฝีปากออกแต่ยังคลอเคลียอยู่กับริมฝีปากอิ่มรสหวานที่ได้ชิมไปเมื่อครู่ไม่ห่าง
จนเด็กชายเริ่มได้สติ จึงสะบัดแล้วรีบผุดลุกขึ้นจากชิงช้า
“บ้า!!” ลลิตร้องออกมาด้วยใบหน้าแดงก่ำ แล้ววิ่งออกไปจากตรงนั้น ชนต้นไม้ เกี่ยวสิ่งของนั่นนี่ล้มลง จนชายหนุ่มได้ยินเสียงดังไปเป็นระยะ และสุดท้ายก็ได้ยินเสียงปิดประตูห้องนอนอย่างแรง
วิธวินท์ยิ้มกับอาการเขินน่ารักที่เห็น เขาเริ่มเก็บกวาดเศษเค้กที่เลอะอยู่ตรงนั้นจนสะอาด แล้วก็ยกถาดของต่างๆ ตามลงมา ชายหนุ่มล้างจานและส้อมจนหมด เช็ดเศษเค้กที่ติดตามตัวจนสะอาดแต่เด็กชายยังปิดตัวเงียบอยู่ในห้องนอน วิธวินท์จึงเอาของขวัญที่เตรียมมาวางไว้ที่โต๊ะกระจกกลางห้อง หยิบกระดาษเล็กๆ มาเขียนอวยพร แล้วเดินไปเคาะประตูบอกเด็กชายเบาๆ ว่าจะกลับแล้ว แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับจากภายในห้อง วิธวินท์จึงเดินออกมา

ลลิตลุกจากท่านั่งพิงประตูที่นั่งอยู่ตั้งแต่ผลุบเข้ามาจนถึงตอนที่ชายหนุ่มมาเคาะประตูบอกลา ไปเกาะที่หน้าต่างมองร่างของชายหนุ่มที่เดินลัดเลาะไปตามทางเดินและหายออกไปจากสายตา ใบหน้ายังแดงและร้อนฉ่า ริมฝีปากอิ่มยังสั่นจนรู้สึกได้ เด็กชายยกมือขึ้นแตะที่ปาก เหมือนว่าความร้อนจากปลายลิ้นที่สอดเข้ามายังคงอยู่จนรู้สึกได้

วิธวินท์ใช้บริการรถแท็กซี่ที่ผ่านมาพอดีเพื่อเดินทางกลับไปที่บ้านของตนเอง เขานอนอยู่บนฟูกแล้วคิดถึงสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป ใจหนึ่งก็มีความสุขกับรสสัมผัสหวานวาบหวามที่ได้รับ แต่อีกใจก็รู้สึกกังวลกับท่าทีของเด็กชายที่เงียบไป ในสมองของชายหนุ่มกำลังประมวลผลสิ่งต่างๆ อย่างหนัก ทั้งฐานะที่ต่างกัน ไหนจะสัญญาที่มีต่อกัน ไม่รู้ว่าคุณหนูจะเบื่อแกล้งคนแบบเขาไปเมื่อไหร่ เพราะตอนนี้คุณหนูยังเด็กมากคงแค่อยากรู้อยากลองอยากเล่นสนุกกับเขา แต่ถ้าคุณหนูโตขึ้นแล้วไปชอบคนวัยเดียวกัน แล้วเบื่อตัวเขาที่เป็นของเล่นชิ้นเก่า ชายหนุ่มจะทำเช่นไรในเมื่อไม่สามารถทำอะไรได้เลย
วิธวินท์ได้แต่นอนเอาแขนก่ายหน้าผากปล่อยความคิดให้ฟุ้งซ่าน เกิดคำถามขึ้นมามากมายแต่ตัวเองไม่อาจจะหาคำตอบมาเติมเต็มได้ ทำได้เพียงปลอบใจตัวเองไปว่าอย่าให้เวลานั้นมาถึงเร็วนักเลย

“เอาอีกแล้วนะมึง ไอ้วิน นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดอีกแล้ว” เสียงของปอดังขึ้นมาก่อนตัว ก่อนที่จะวางมือตบบนบ่าของชายหนุ่มเป็นการทักทาย
“เฮ้ย คนมันกำลังมีความรัก แม่งก็คิดหนักเป็นธรรมดาแหละว้า” จ๊อดเอ่ยแซวพร้อมกับนั่งลงข้างๆ
“อ่ะ พวกกูมีของดีมาให้ กว่าจะหาได้ มึงต้องเลี้ยงน้ำเป็นการขอบคุณพวกกูซะดีๆ” ชายเปิดหนังสือแล้วหยิบซองกระดาษสีเหลี่ยมจัตุรัสส่งให้วิธวินท์
“หนังใหม่เหรอวะ” ชายหนุ่มรับมาเปิดดูเห็นเป็นแผ่นดีวีดีก็มองหน้าเพื่อนๆ ด้วยความสงสัย
“เออ พวกกูรู้ว่ามึงยังต้องศึกษาอีกเยอะ เวลาก็ไม่ค่อยจะมี พวกกูเลยหามาประเคน” จ๊อดดันมือให้ชายหนุ่มเก็บดีวีดีแผ่นนั้นเอาไว้
“เออๆ ขอบใจว่ะ” แม้จะยังงงๆ กับเพื่อนแต่ชายหนุ่มก็เก็บแผ่นดีวีดีสอดไว้ในหนังสือเรียน แล้วก็ขอบอกขอบใจเพื่อนไป

จนเลิกเรียนในเย็นวันนั้น วิธวินท์ทำธุระส่วนตัวจนเสร็จ ทำความสะอาดบ้านจนเรียบร้อย จนมาเก็บหนังสือเข้าที่จึงนึกถึงแผ่นดีวีดีที่เพื่อนไรท์มาให้ ชายหนุ่มจึงหยิบขึ้นมาเปิดดูระหว่างที่นั่งทำรายงานที่อาจารย์สั่งไปด้วย
“แม่งให้แผ่นอะไรมาวะ เปลี่ยนภาษาก็ไม่ได้” ชายหนุ่มบ่นเบาๆ แต่ก็ปล่อยให้แผ่นเล่นไปเรื่อยๆ ไม่ได้สนใจมองหน้าจอทีวีเท่าใดนัก มือก็รื้อค้นหาหนังสือ มากางเพื่อดูข้อมูลต่อไป จนกระทั่ง
‘อ๊าาาาาาา~~~~~♥’ วิธวินท์รีบเงยหน้าขึ้นมองต้นเสียง บนจอภาพปรากฏร่างเด็กชายญี่ปุ่นตัวขาว นอนเปลือยกาย ให้ชายหนุ่มร่างใหญ่กำยำเล้าโลม ชายหนุ่มรีบคว้ารีโมทกดปุ่มปิดเสียงอย่างรวดเร็ว หันซ้ายหันขวาทั้งที่ภายในห้องมีเพียงเขาแค่คนเดียว แล้วสายตาก็กลับมามองที่จอภาพที่ฉายต่อไปว่าชายคนนั้นทำเช่นไรกับเด็กชายบ้าง

ชายหนุ่มดูไปแต่ในใจกลับนึกถึงแต่เด็กชายอีกคน แค่คิดว่าจะลองทำอย่างเช่นในภาพที่เห็น ใจวิธวินท์ก็เต้นตุ๊บๆ ส่วนกลางลำตัวมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างรวดเร็ว
“คุณหนูน่ารักกว่าตั้งเยอะ”



=========> โปรดติดตามตอนต่อไป

 :impress2: บรูโน่เริ่มศึกษาเรียนรู้มั่งแระ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 6 [28/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 28-05-2011 14:25:21
ระหว่างการ์ตูนกับดีวีดี ดูซิ๊อะไรจะแน่กว่ากัน   :laugh:

ชอบจัง ตอนคุณหนูพูดว่า "บ้า!!"   :-[
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 6 [28/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 28-05-2011 14:27:15
ดีมากบรูโน่ เร่งศึกษาไว้นะ  จะได้ทำให้คุณหนูพอใจ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 6 [28/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: tatum1234 ที่ 28-05-2011 14:56:28
 :z1:หลังจากศึกษาแล้วก็นำไปปฎิบัตกับคุณหนูด้วยนะอิอิ
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่8 พาเที่ยว 29/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 28-05-2011 15:04:09
พี่เต ไวไฟไปหรือเปล่านะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่8 พาเที่ยว 29/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 28-05-2011 15:13:39
ตามน้องไนท์ไปเที่ยวบ้านพี่เต
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 7 PG. 4 [28/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 28-05-2011 15:14:25
ว่าแต่กริชเถอะ  วันที่ยุทธขาย จะทำใจได้หรือ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 6 [28/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 28-05-2011 15:24:44
 :-[
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่8 พาเที่ยว 29/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 28-05-2011 15:31:53
รู้ทันพี่เตนะ ทำเป็นบอกว่า “เที่ยวสบายๆ ไม่ต้องแฟชั่น”  หวงใช่มั้ยละ ไม่อยากให้ใครมองมาก แต่รู้สึกพี่เตเริ่มจะรุกมากขึ้น แต่เยอะกว่านี้ก็ได้นะ ชอบๆ
ขอบคุณค่ะ   :L2:


ปล.
วริศรินทร์ยกมือปิดปากหาวกว้าง แล้วเดินซวยเซออกไปที่โต๊ะกินข้าว
  น่าจะเป็นซวนเซ หรือเปล่าค่ะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 6 [28/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Soukita ที่ 28-05-2011 15:32:32
คู่นี้เค้าหวานกันตลอด :-[
น่ารักอ่ะ :o8:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 7 PG. 4 [28/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 28-05-2011 15:39:26
กริชคงไม่ยอมให้ยุทธรับแขกแน่ๆ :z1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่9 Butterfly P:6 [28/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 28-05-2011 15:42:46
 สายลม พาพวกไปเยอะๆ นะ อย่าไปคนเดียว เป็นห่วงอ่ะ

หม่อนเป็นสมาชิกร้าน BUTTERFLY BOY แบบนี้ก็ต้องรู้จักหรั่งอะดิ

อยากอ่านตอนต่อไปแล้วอ่ะ   :pig4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่9 Butterfly P:6 [28/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 28-05-2011 15:50:41
ป่านนี้ปลายฟ้าจะเป็นยังงัยบ้างก็ไม่รู้
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 6 [28/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 28-05-2011 15:56:21
ชื่อเรื่องว่าเล่ห์ร้าย ตอนแรกคิดว่าเป็นคุณหนูซะอีก แต่ดูท่าแล้ว คุณวิธวินท์ จะเจ้าเล่ห์มากกว่านะ อิอิ :pig4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่9 Butterfly P:6 [28/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 28-05-2011 16:08:04
อ้ากซ์ๆๆๆๆๆๆๆ  ปลายฟ้าจะรอดไหมเนี้ย!!!!!!
ลุ้นๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๖. ๒๖ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: LimousinX9 ที่ 28-05-2011 16:12:02
- -'' แวะมาดูสักนิด.....     :z3:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 6 [28/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 28-05-2011 16:28:10
เค้าเริ่มศึกษาการ"เข้าหา"ซึ่งกันและกัน แต่คนอ่านเลือดพุ่ง
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 7 PG. 4 [28/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: tatum1234 ที่ 28-05-2011 17:28:41
 :o8:หวังยุทธผู้แสนดี(ในตอนนี้)คงไม่ทำร้ายกริชหรอกนะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่8 พาเที่ยว 29/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 28-05-2011 17:49:34
เพิ่งมาอ่าน ไนท์โคตรน่าเลี้ยงดูเลยอ่ะ อ่านแล้วสัญชาตญาณความเป็นแม่พุ่งปรี๊ดเลย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 6 [28/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: onjazz26 ที่ 28-05-2011 17:56:03
"บ้า"  :-[
"คุณหนูน่ารักกว่าตั้งเยอะ"  :impress2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 6 [28/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Muzik ที่ 28-05-2011 17:57:27
น่ารักที่สุดเลยอ่ะ  :oo1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 6 [28/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 28-05-2011 18:17:28
บรูโน่มันร้ายยยยยยย  :laugh:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่8 พาเที่ยว 29/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 28-05-2011 18:21:45
ไนท์น่ารักมากๆๆๆ :o8:
พี่เต เอะอะก็อ้างว่าอ่านนู่นนี่นั่นมา  แหมๆหาเรื่องแตะตัวไนท์ก็บอกเหอะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่8 พาเที่ยว 29/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 28-05-2011 18:30:28
พี่เตเหมือนเป็นพี่เลี้ยงเด็กไปแล้ว
ไนท์เวลาไม่หลุดก็ออกจะน่ารักเนอะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 10 บ่วงกรรม 24/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 28-05-2011 18:53:57
อาทิตย์นี้ 1 ตอน อาทิตย์หน้า อีก 1 ตอน

คาดว่าจบเรื่องแล้วค่ะ

แต่อะไรก็ไม่ใช่ปัญหา ปัญหามีแค่ว่า ยังไม่ได้เขียนสักกะตัว  :laugh:

ว่าแล้ว ก็  :5779:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 6 [28/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 28-05-2011 19:19:45
 o13บรูโน่ ทำคุณหนูเขินซะ อิอิ มีเพื่อนดีนะเนี่ยช่วยหาหนังตัวอย่างให้ด้วย :laugh:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๖. ๒๖ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: Chinnosuke ที่ 28-05-2011 19:27:43
วันนี้เทียนบุญไม่มาเหรอคับ
เข้ามาร้อรอ :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 6 [28/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 28-05-2011 19:40:00
ศึกษาแล้วเมื่อไหร่จะปฎิบัติคะ :z1:
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่8 พาเที่ยว 29/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 28-05-2011 20:00:49
น่ารักทั้งคู่เลยอะ รอไปเที่ยวๆๆ ^^
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 6 [28/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: nco1236 ที่ 28-05-2011 21:41:06
 :m20:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่8 พาเที่ยว 29/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: blanchard ที่ 28-05-2011 22:01:22
อยากตามไปแอ่วเฮือนพี่เตจัง    :m3:

...จะตามไปเป็น ก.ข.ค.   :kikkik:   (กองขี้ควาย)

หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 7 PG. 4 [28/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: blanchard ที่ 28-05-2011 22:12:33

อยากให้ยุทธเปลี่ยนใจไม่รับแขก แล้วมาเป็นเลขาส่วนตัวให้น้องกริช
คอยบำรุงบำเรอ เอ้ย.. คอยดูแลแต่น้องกริชคนเดียวได้ป่ะฮะคุณ MonarcH ?!?  :impress:


หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 10 บ่วงกรรม 24/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 28-05-2011 22:47:04
ยิ่งจำนวนคนตายมากขึ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งสงสารหรั่ง ไม่รู้ก่อนตายโดนอะไรไปบ้างถึงได้แค้นขนาดนี้
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 6 [28/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Mookkun ที่ 28-05-2011 22:50:50
น่ารักจังค่ะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 6 [28/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 28-05-2011 23:05:30
ในที่สุด คุก คุก ก็อยู่ไม่ไกลจากบรูโน่.. :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 10 บ่วงกรรม 24/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: blanchard ที่ 28-05-2011 23:18:28
หรั่งโหดได้สาแก่ใจกูนักอีช้อยเอ๊ยยยยย....   :interest:

สงสารน้องหรั่งมากมาย แต่ก็อยากให้หรั่งอโหสิกรรมให้กับคนพวกนั้น น้องหรั่งจะได้ไปสู่สุคติ    :m2:

ชอบเรื่องนี้มากมาย ขอบคุณคุณจงกลนีมาก ๆ ๆ ๆ ครับ   o1
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๖. ๒๖ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: แรงเทียน ที่ 28-05-2011 23:50:35
ตอนที่ ๗

“ทำไมเพิ่งกลับเจ ไปไหนมา”
มกุฏโกเมนกลับถึงบ้านตอนสี่โมงเย็นของวันรุ่งขึ้น เขาดูซีดเซียวไม่มีเรี่ยวแรง
“ค้างบ้านเพื่อนน่ะพี่”
“อะไรกันทำไมไม่โทรฯมาบอก ม้าเป็นห่วงนะรู้ไหม”
“โทษทีพี่ ผมลืม”
“เจ ทำไมเหลวไหลแบบนี้ คราวหน้าพี่ไม่ให้ไปอีกนะ”
“ครับพี่ ผมไปนอนก่อนนะเพลีย”
“เจ”
มณีอารียาร้องตามหลังของชายหนุ่มแต่เขาไม่สนใจที่จะฟังเดินขึ้นชั้นบนเข้าห้องไป มณีอารียาครุ่นคิดมากกว่าเดิม
“ทาน เรื่องงานแต่งน่ะค่ะ ตกลงว่าจะเอายังไง นี่เราสองคนยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะคะ”
มณีอารียานัดเจอกับธรรมทานในวันต่อมาเพราะมารดาของเธอเร่งเร้า
“เอ่อ เดี๋ยวทานต้องปรึกษากับพ่อก่อนนะเมย์ เมย์รีบเหรอ”
“รีบ ทานทำไมถามแบบนี้ล่ะคะ เมย์เนี่ยเหรอจะรีบ ที่นัดทานมาคุยเพราะหมั้นไว้นานแล้วนะคะ ฝ่ายม้าของเมย์เองไม่สบายใจ”
“อ้อครับเมย์ บอกคุณแม่ได้เลยนะว่าอย่าห่วง ผมแต่งแน่ๆ”
“หึ ค่ะ”
หัวเราะออกมาจากลำคอ นี่น่ะหรือผู้ชายคนที่จะใช้ชีวิตด้วย เป็นแบบนี้หรอกหรือ
“เจ ขอบคุณนะครับที่มา พี่ดีใจมากเลยนะที่เจยอมมาเจอพี่”
เทียนบุญพยายามติดต่อกับมกุฏโกเมนทุกช่องทาง ตอนแรกเขาไม่ยอมรับโทรศัพท์ แต่คนอย่างเทียนบุญไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เข่าส่งข้อความไปนับครั้งไม่ถ้วน จนชายหนุ่มใจอ่อน
“มีไรพี่”
“พี่คิดถึงเจน่ะ อยากเจอ”
“อย่าเจอกันอีกเลยดีกว่าพี่ เรื่องวันนั้นถือว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็แล้วกัน”
เขาพูดออกมาไม่สบตา เทียนบุญรู้สึกแปลบปลาบในใจอย่างประหลาด
“ครับพี่เข้าใจ ถ้านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้เจอกัน ก็ไม่เป็นไรครับ”
เสียงที่เปล่งออกไปมันละห้อยเสียจนอีกฝ่ายหันกลับมามอง
“เอ่อ คือผม”
“ไม่เป็นไรครับ พี่เข้าใจดี เรามีโลกของเรา พี่ก็มีโลกของพี่ แค่อยากเจอและบอกว่าพี่ชอบเรานะเจ”
“มันเป็นไปไม่ได้หรอกพี่ ผมเป็นผู้ชาย ผมมีแฟนแล้ว มันไม่มีทางที่จะเป็นไปได้”
“ครับ”
เทียนบุญเม้มปากแน่น มกุฏโกเมนเองก็เหมือนกำลังคิด
“คืนนั้นพี่มีความสุขมากที่สุด อยากให้เจรู้ไว้นะครับ”
น้ำตาไหลออกมา คราวนี้เหมือนว่าเขาไมได้แกล้งทำ มันรู้สึกสะเทือนใจจริงๆ เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ไม่เคยสัมผัสหรือรับรู้กับคำว่าอกหัก ใจ้ร้าว ไม่เคย เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาจะเป็นคนไปเองตลอด
“พี่”
มกุฏโมเนเองก็ทำอะไรไม่ถูกเมื่อเห็นน้ำตา ถามว่าชอบไหม ไม่เลย ผู้ชายทั้งแท่งมีแฟนสาวสวยสะพรั่งอย่างเขาไม่มีทางจะมาชอบเพศเดียวกัน แต่ถามว่าเรื่องบนเตียงล่ะชอบไหม ตอบได้เลยว่ามาก มันเป็นประสบการณ์ใหม่ที่เขาไม่เคยลอง
“พี่ขอโทษนะครับเจ ที่ทำให้เราแปดเปื้อน พี่มันไม่ดีเอง พี่ขอโทษ”
ร่ำไห้ออกมาร่างทรุดลงนั่งกับพื้นห้อง มกุฏโกเมนต้องนั่งลงประคองร่างของเทียนบุญไว้
“ผมไม่รู้”
เขาตอบออกมาเสียงสั่นๆ เทียนบุญกอดเขาไว้แน่น
“ให้พี่เจอบ้างได้ไหมเจ เจอกันบ้าง ไม่ต้องบ่อย แค่อยากเจอ ถ้าไม่เจอพี่คงเสียใจมาก”
คร่ำครวญเหมือนคนปวดใจ มันเป็นเช่นนั้นจริงแต่ท่าทางที่แสดงออกมามันเจ็บปวดแค่เพียงกึ่งหนึ่ง ที่เหลือคือจริตมารยา ก็จะเอาบอกแล้ว จะเอาต้องได้ไม่ว่าด้วยวิธีใดๆ
“เอ่อ ไม่”
“เจ”
เทียนบุญโน้มคอของเขาลงหาประกบปากสอดลิ้นเข้าไปทันที เขาเองขัดขืนในตอนแรกแต่ไม่มีเพียงแต่ลิ้นที่ทำงาน เทียนบุญใช้มือทั้งสองข้างของเขาถลกเสื้อเชิ้ตของเขาขึ้น ปากเปลี่ยนเป้าหมายลงมาที่ยอดอก
“อ่า พี่ไม่”
“เจ พี่คิดถึงเจเหลือเกิน”
ลีลาระรัวละเลงลิ้นของเทียนบุญไม่ได้น้อยหน้าใคร จากยอดอกซ้ายไปขวา ตวัดปลายลิ้นใช้ฟันขบเบาๆที่ปลายของส่วนยอด
“อะพี่”
เทียนบุญจับแขนของเขายกขึ้นทั้งที่เสื้อยังติดอยู่ที่คอ เขาซุกหน้าเข้าไปในรักแน้ของชายหนุ่มตวัดปลายลิ้นเช่นกัน ไม่ได้รังเกียจ ร่างของมกุฏโกเมนอ่อนระทวย นอนราบลงกับพื้นในทันที ก่อนที่เขาจะได้สติหรือมีส่วนดีของมโนจิตมาฉุดรั้งเทียนบุญเลื้อยลงต่ำแกะกระดุมกางเกงยีนส์ออกโดยเร็ว ฉกลิ้นซอกซอนตามขอบกางเกงชั้นใน แก่นกายนั้นตื่นตัวแล้ว ลิ้นที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำลายอุ่นๆทำให้ชายหนุ่มเกร็งตัว ทันทีที่กางเกงชั้นในถูกร่นลงมาที่หน้าขาปากของเทียนบุญก็ครอบลำนั้นไว้จนมิดแล้ว ไม่มีทางอื่นแล้ว นอกจากปล่อยให้มันเลยตามเลย จิตวิญญาณของชายหนุ่มถึงดึงขึ้นสูงละลิ่ว เหมือนปุยนุ่นต้องลมแรงปลิวขึ้นสูงสู่ชั้นฟ้าหิมาลัย
“อ่า มะ ไม่ไหวแล้ว พี่”
ร่างของมกุฏโกเมนเกร็งเขาเอามือจะดึงหัวของเทียนบุญออกจากหว่างขา ปากของเทียนบุญยังรูดครอบอยู่กับแก่นกายของเขา
“ไม่เป็นไร พี่รักเจนะ พี่รักเจ ปล่อยมาเลย ปล่อยเลย”
ดึงปากออกมาจากท่อนลำแล้วจ่อไว้ตรงปลายร้องบอกออกมาก่อนจะครอบลงไปอีกครั้งร่างของชายหนุ่มเกร็งกระตุก
“โป้ง เมย์คิดว่าเมย์ยอมแพ้กะเทยคนนั้นแล้วล่ะ เมย์ไม่อยากจะสู้แล้ว”
มณีอารียาเอ่ยขึ้นเสียงนิ่งราบเรียบ
“หา หมายความว่ายังไงเมย์ นี่เมย์”
“เมย์ยอมแพ้แล้ว ถ้าเขาอยากได้ทานมากนักเมย์ก็จะยอม”
“เมย์ เราดีใจที่สุดเลยนะที่เมย์คิดแบบนี้ รู้ไหมเราดีใจที่สุด”
“แหมนะโป้ง ทำไมดีใจออกหน้าออกตาขนาดนั้น แทนที่จะเห็นใจเมย์นะที่เป็นฝ่ายแพ้”
“เมย์ ใครบอกเมย์แพ้ เราว่าเมย์ทำถูกแล้วนะที่ปล่อยเขาไป เขาไม่เหมาะกับเมย์หรอกน่า”
“แหมแล้วใครจะเหมาะล่ะโป้ง”
“เมย์ ไม่เคยมองเราบ้างเลยเหรอ”
ชายหนุ่มเอ่ยออกมาเสียงหวานสายตาที่ส่งมอบให้มันเต็มไปด้วยความหวัง
“โป้ง มองสิ ก็นี่ไงเมย์มองอยู่นี่ไง”
“ไม่ใช่ เคยมองเราบ้างไหม นอกจากคำว่าเพื่อน”
“โป้ง รอก่อนนะ ให้เมย์จัดการทุกอย่างให้สำเร็จก่อน”
มณีอารียายิ้มหวานให้เขา รอยยิ้มที่ไม่มีอะเคลือบแฝง
“เจ พี่รักเจนะ”
ร่างเปล่าเปลือยของทั้งคู่นอนก่ายกอดกันอยู่บนเตียงนอนของคอนโดฯของเทียนบุญ สองรอบแล้ว มกุฏโกเมนเองไม่ได้ขัดขืน เขาเต็มใจให้เทียนบุญทำในอย่างที่เขาอยากจะทำ
“อย่าพูดเลยพี่”
“ครับ พี่แค่อยากให้รู้ไว้”
“เราเพิ่งจะเจอกันเองนะ”
“รักแรกพบ นึกว่ามันจะมีแต่ในนิยาย”
“หึหึ”
มกุฏโกเมนหัวเราะออกมาจากลำคอ เขาคิดไม่ออกว่าต่อจากนี้จะทำอะไรต่อ หรือมันจะเป็นไปในรูปแบบไหน แต่ตอนนี้มือของเทียนบุญกำลังลูบตามเนื้อตัวของเขาอยู่
“อยากหยุดเวลาไว้แค่นี้จังนะ”
เทียนบุญครางออกมาแล้วไซร้ตามสีข้างของชายหนุ่ม ร่างกายที่เบียดกันแน่นไม่ยอมห่างทำให้อารมณ์ที่เพิ่งจะมอดดับคุกรุ่นขึ้นมาอีกครั้ง เทียนบุญเองมีผิวพรรณที่ไม่ได้เลวร้ายอะไร ขาวสะอาดผิวละเอียดเสมอกัน เวลาสัมผัสไปแล้วก็นุ่มมือเหมือนสัมผัสผ้าไหมงามก็ไม่ปาน จึงไม่แปลกที่มกุฏโกเมนจะยอมให้เขาทำอะไรก็ได้ตามใจ ปากพรมจูบไปทั่วเรือนร่างจากหน้าอกเลื้อยลงผ่านหน้าท้อง วนลิ้นรอบสะดือ ชายหนุ่มดิ้นครางออกมา ชิวหานั้นช่างซุกซนนัก มันตวัดวนเบาบ้างหนักบ้างไล่ลงมา ข้ามตรงจุดสำคัญไป เลื่อนลงมาตามหน้าขา หัวเข่า เทียนบุญเอาลิ้นดุนหัวเข่าของเขาขบกัดเบาๆ พรมจูบลงมาเรื่อยๆจนถึงปลายเท้า
“พี่อย่า มันสกปรก”
เขาร้องปรามขึ้นผงกหัวขึ้นมาจะชักเท้ากลับ
“พี่รักของพี่ ต่อให้สกปรกกว่านี้ก็จะทำ นะครับเจ”
เทียนบุญอ้อนวอนด้วยสายตา ยิ้มหวานให้เขา ชายหนุ่มถอนหายใจ ตัวเริ่มเกร็งเพราะตอนนั้นที่เขาทำ น้ำเมามันยึดครองสติจึงไม่ค่อยรู้สึกอะไรมากนัก แต่ตอนนี้สติมันอยู่เต็มร้อย ขัดเขินขึ้นมา แต่เทียนบุญไม่หยุด ปลายลิ้นยังตวัดตามหัวนิ้วแม่เท้าขบกัดอยู่อย่างไม่รังเกียจเลยแม้แต่น้อย
“อา พี่”
เขาดิ้นอีกครั้ง เทียนบุญขัยบตัวขึ้นไปก้มหน้าลงตรงหว่างขาของเขา ปลายลิ้นตวัดพวงสวรรค์นั้นบางเบาให้สัมผัสมันอ่อนละมุนมากที่สุด ชายหนุ่มเกร็งตัวขึ้นมามือกดหัวของเทียนบุญไว้แน่น เทียนบุญรุกไล่เร็วขึ้น ปากและลิ้นสัมพันธ์สอดคล้องกัน
“ลองท่านี้ไหมเจ”
เทียนบุญเห็นว่ามันปริ่มเต้มที่แล้วเขาจึงเอ่ยขึ้น มกุฏโกเมนมองท่าทางของเทียนบุญแล้วเม้มปาก เทียนบุญทำท่าคลานเข่า มกุฏโกเมนก็ลุกขึ้นนั่ง เทียนบุญไม่รอให้เขาจัดแจงท่าทางอันใดทั้งนั้น ใจร้อน ไม่ไหวจะทน เขาแหวกขาออกให้กว้างแล้วดันบั้นท้ายให้ประชิดติดกับแก่นกายของเขา
“อ่า”
เขาและเทียนบุญครางออกมาพร้อมๆกัน
“พี่รักเจนะครับ อ่า”
เทียนบุญเห็นเขาขยับเชื่องช้าจึงเป็นคนดำเนินการเอง ซึ่งนั่นมันก็สร้างความพึงพอใจให้กับเขาเป็นอย่างมาก มากเสียจนมันปริ่มมันล้นออกมา
“เทียนทำไมเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยว่างเลย งานก็ไม่ได้ทำแล้วำม่ใช่เหรอ มาเจอทานหน่อยสิ ทานเหงา”
ธรรมทานเองก็มัวแต่จัดการเรื่องงานของตน เกือบเดือนแล้วที่เขาไมได้เจอหน้าเทียนบุญ และเกือบเดือนแล้วที่ความสัมพันธ์ของเทียนบุญกับมกุฏโกเมนเป็นไปอย่างรวดเร็วไม่มีใครรู้ เทียนบุญมีความสุขขึ้นมาก เรียนรู้อะไรหลายอย่างจากเขา มองมุมต่างแล้วทำให้บางอย่างในใจเปลี่ยนไป ความรักที่เขาคิดว่าเขามีให้กับธรรมทานตอนนี้เขาให้คำตอบกับตัวเองแล้วว่า มันเป็นเพียงความต้องการ ความใคร่อยาก หวงไว้ แต่รักไหม น่าจะมีบ้างแต่ไม่เหมือนกับความรู้สึกที่มีกับมกุฏโกเมน จากที่เจอกันบ้างบางวัน แต่เดี่ยวนี้เจอกันทุกวัน วันละครั้งสองครั้ง เติมรักให้กันจนเปี่ยมจนล้น
“เทียนไม่ว่างนี่ทาน มีอะไรเหรอ”
“ทำไมทำเสียงห่างเหินแบบนั้นล่ะเทียน ทานคิดถึงเทียนนะ”
“ทาน แล้วแม่คู่หมั้นของทานล่ะ ไม่นัดเจอล่ะ เทียนคิดแล้วนะว่าเทียนคงไม่ทำบาปแล้วล่ะ”
“เทียน ทานบอกเทียนไปแล้วนะว่ามันเป็นแค่ธุรกิจ”
“นี่ทาน ผู้ชายน่ะเขาไม่พูดแบบนี้หรอกนะ ธุรกิจของทานแต่มันหลอกผู้หญิงคนหนึ่งเลยนะ ไม่หลัวบาปเหรอ”
ไม่อยากจะเชื่อว่านี่เป็นคำพูดของเทียนบุญ ชายคนที่เขารู้จักมาหลายปี ไม่อยากจะเชื่อ ธรรมทานอึ้งเงียบไป
“เทียน นี่เทียนอย่าบอกนะ”
“ไม่หรอกทาน แค่ได้อยู่กับตัวเองเยอะขึ้น มันก็มีเวลาคิดมากขึ้นน่ะ ทานอยากเจอเทียนเหรอ”
“ใช่ ทานอยากเจอเทียนมาก ให้ทานไปหานะ”
“ไม่ต้องหรอกทาน เดี๋ยวเทียนไปหาทานเอง ที่ไหนล่ะ”
ธรรมทานบอกสถานที่ออกมา
“ไม่อยากไปเจอที่โรงแรม เจอกันที่ร้านอาหารนะ ที่เดิม”
เทียนบุญวางสายไปแล้ว สายตามองจ้องอยู่ทีโทรศัพท์
“ผู้ชายอย่างทานน่ะ ให้อีนั่นไปเถอะ ไม่เหมาะกับเทียนหรอกนะ”
แสยะยิ้มออกมาแล้วเดินลงไปร่วมโต๊ะทานข้าวเย็นกับที่บ้าน คุณเทียนทิพย์นั่งอยู่หัวโต๊ะ มีปาริฉัตรนั่งอยู่ข้างๆ และทินกรที่พอเห็นว่าใครเดินลงมาจากชั้นบนก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นนิ่งเฉยทันที
“รอนานแล้วนะเทียน”
คุณเทียนทิพย์เอ่ยขึ้น ปาริฉัตรเอามือแตะที่แขนของเขา เพราะรู้ว่าเทียนบุญคงจะไม่พอใจ
“โทษทีพ่อ เทียนคุยโทรศัพท์กับเพื่อนอยู่น่ะ ไม่กินกันก่อนเลยล่ะ เทียนกินเมื่อไหร่ก็ได้”
คำพูดของเทียนบุญทำให้คุณเทียนทิพย์ตาโตมองหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา
“เรื่องเรียนน่ะ พ่ออนุญาตนะแม็ค”
“คุณคะ อย่าไปตามใจลูกแบบนั้นสิคะ เรียนอินเตอร์มันแพงนะ”
พอทานข้าวไปสักพัก สองสามีภรรยาก็เอ่ยขึ้น ทินกรก้มหน้าเงียบร้อนๆหนาวๆว่าใครอีกคนจะแว้ดเสียงขึ้น
“เอาน่า ผมอยากให้ลูกได้เรียนอินเตอร์”
“อะไรพ่อ เรียนอะไรนะ”
เสียงสูงขึ้นอย่างที่คิด ปาริฉัตรหน้าซีดลง คุณเทียนทิพย์หันมาทางเทียนบุญ
“น้องเขาอยากเรียนอินเตอร์น่ะ พ่อโอเค”
“อะไรกันพ่อ ไม่ได้นะ จะเรียนทำไมอินเตอร์ ไร้สาระ”
เทียนบุญจ้องไปที่ทินกรซึ่งก้มหน้าจนมองเห็นแต่หัว
“เทียน นี่มันเงินพ่อนะ พ่อมีสิทธิ์ ไม่ใช่เรื่องของเทียน”
“ไม่ใช่เรื่องของเทียนแล้วมาเล่าบนโต๊ะอารทำไมล่ะพ่อ เทียนมีสมองนะ ไม่ใช่ปูนปั้นที่จะฟังแล้วไม่คิดตาม”
“เอ๊ะ แกนี่ยังไง ทีแกพ่อยังส่งไปเรียนได้ แล้วน้องอยากเรียนอินเตอร์แค่นี้ทำไมจะไม่ได้”
“พ่อ จะเรียนทำไมล่ะอินเตอร์เปลืองเงินเปล่าๆ ถ้าจะเสียเงินแล้ว ทำไมไม่ให้มันไปเรียนอังกฤษหรือไม่ก็แคนาดาล่ะพ่อ เรียนอะไรอินเตอร์จะอินเตอร์เหมือนเขาจริงหรือเปล่าล่ะ”
“เทียน”
ทั้งสามคนอ้าปากค้าง คุณเทียนทิพย์เองตาโตมองลุกชายของตนไม่อยากจะเชื่อ ส่วนปาริฉัตรและทินกรเหมือนได้ยินไม่ชัด จ้องมองเทียนบุญอ้าปากค้าง
“อะไร มองเทียนแบบนั้นทำไม”
“นี่แกโอเคไหมเทียน พ่องงไปหมดแล้ว”
“งงอะไรพ่อ ไม่เอาแล้วไม่กินแล้ว เดี๋ยวเทียนจะออกไปข้างนอกนะ”
เทียนบุญลุกจากโต๊ะไปแล้ว ทิ้งไว้เพียงความสับสนงุนงงให้กับคนทั้งสาม
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๗. ๒๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: onjazz26 ที่ 29-05-2011 00:29:54
 :z13:
ความรักทำให้คนเปลี่ยน
แต่ก้อไม่ค่อยชอบตาเทียนอ่ะ....สะตอฟ่ะ
ชอบเรื่องเดียว...เรื่องหื่นอ่ะ... :oo1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่8 พาเที่ยว 29/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 29-05-2011 00:30:43
เพิ่งจะได้เข้ามาอ่าน ชอบพี่เต-น้องไนท์จังค่ะ น่ารักมาก ๆ
อ่านแล้วอบอุ่นหัวใจ น่าติดตามว่าน้องไนท์จะเปิดใจรับพี่เตเมื่อไรหนอ?
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๗. ๒๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: LimousinX9 ที่ 29-05-2011 00:43:10
เอ..จะว่าไงดีอะ  คือความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นเนี่ยจัดว่าแปลกอยู่เหมือนกันแต่ดูท่าทางแล้วจิตสำนึกของเทียนไม่ได้เลวร้ายไปซะทั้งหมด  รวมทั้งความที่เป็นคนซื่อและตรงไปตรงมาในแบบของเจซึ่งไม่เคยโกหกเทียนเลย     

อ่านตอนนี้ได้อะไรหลายอย่างเลยนะทำให้รู้ว่าเทียนเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นเพราะเจ  แต่อนาคตเทียนก็ยังน่าเป็นห่วงถ้าหากวันนึงเจได้รู้  เจจะเป็นยังไง เทียนจะเป็นยังไง     เป็นสิ่งที่คาดเดาลำบากจริงว่าท่านไรเตอร์จะจบเรื่องนี้ด้วยความรู้สึกแบบไหน  แต่ชอบนะแปลกดี เป็นความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นอย่างแปลกๆ  แต่กลับทำให้คนอ่านเกิดอารมณ์หลากหลายดี
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่8 พาเที่ยว 29/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: Muzik ที่ 29-05-2011 00:51:56
น่ารักสุดๆ  o13
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๗. ๒๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: なおみ™ ที่ 29-05-2011 00:53:43

“ให้พี่เจอบ้างได้ไหมเจ เจอกันบ้าง ไม่ต้องบ่อย แค่อยากเจอ ถ้าไม่เจอพี่คงเสียใจมาก”


อ่านตรงนี้แล้วนึกถึงเรยา
(http://image.ohozaa.com/i/7e4/2yb1w.gif) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=92906ac561da1dc7564f3a27c73f74ed)

ตอนนี้วาบหวามในหัวใจมากค่ะ อ่านไปก็ :haun4: ไป

มาต่อไวๆ นะคะคุณเทียน
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๗. ๒๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 29-05-2011 01:05:49
สรุปว่า แต่ละคน ถ้าไม่มีทานแล้วชีวิตจะดีขึ้นใช่ป่ะ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๗. ๒๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 29-05-2011 03:43:02
อะไรทำให้เทียนเปลี่ยนไปมากและเร็วขนาดนั้น
นายเจมีอะไรดี แน่ใจได้อย่างไรว่าครั้งนี้เป็นรักไม่ใช่หลง
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๗. ๒๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 29-05-2011 04:05:35
งงกับชะนีนางนั้นที่สุด
ตกลงนางคิดอะไรอยู่กันแน่
ไม่เข้าใจ
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่8 พาเที่ยว 29/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 29-05-2011 04:17:33
โฮะๆ ไปเที่ยวบ้าน
ไปกราบพ่อแม่ หาฤกษ์แต่งกันเลยมั้ย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 6 [28/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 29-05-2011 04:39:33
คุกค่ะพี่ คุก!
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 6 [28/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: nco1236 ที่ 29-05-2011 05:26:33
จิ่มเลยอย่าไปกลัวคุก :z13:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่8 พาเที่ยว 29/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 29-05-2011 07:03:17
ดูแลกันดีมากอ่ะ น่ารักกกก :o8:
หัวข้อ: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/Chapter.10 -Street- (29/5/54)
เริ่มหัวข้อโดย: Nassiiz ที่ 29-05-2011 08:01:42
(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page51.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page52.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page53.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page54.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page55.jpg)
หัวข้อ: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/Ch.11 -Sports Center- (27/5/54)
เริ่มหัวข้อโดย: Nassiiz ที่ 29-05-2011 08:24:48
(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page56.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page57.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page58.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page59.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page60.jpg)

----------------------------------------------------------------------------------------------------

-Ps.- มาลงเพิ่มให้อีก 2 ตอนค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๗. ๒๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 29-05-2011 11:48:40
 :laugh:

ความรักเปลี่ยนคนได้

จิงๆเทียนไม่ได้เลวร้ายไปซะหมด แค่เด็กมีปัญหาที่ถูกสปอยตั้งแต่เด็ก

อยากให้รักกับเจหวานๆจัง

แต่สะใจมากที่ไอทานไม่มีใครสนใจ  555
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๗. ๒๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 29-05-2011 11:59:29
เทียนเปลี่ยนไป เพราะตกหลุมรักน้องเจจริง ๆ แล้วหรือเปล่า แต่ถ้าเทียนต้องผิดหวังจากเจล่ะ

จะเป็นยังไง แล้วน้องเจล่ะ มีใจให้เีทียนบ้างหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 6 [28/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 29-05-2011 12:27:23
น่ารักจัง
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 6 [28/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 29-05-2011 13:15:11
 :impress2:

น่ารักกกกเป็นบ้าเลย


อยากได้ NC อ่ะ  อิอิ   ชั้นหื่นนนน

หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 7 PG. 4 [28/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 29-05-2011 14:18:39
 o18

เรื่องจะเป็นยังไงต่อนะ

ยุทธดูเจ้าเล่ห์อ่ะ  ดูท่าทางแล้วไม่น่าจะเป็นคนจนๆอ่ะ

สงสารกริชจังถ้าโดนยุทธหลอก

พี่ญ่าชื่อเดียวกับญ่าเรยยย 5555
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 6 [28/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: eiky ที่ 29-05-2011 14:40:50
Bruno!!!!!!

ขอบคุณน้า อิอิ หางสวยๆอ่า :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 10 บ่วงกรรม 24/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 29-05-2011 15:07:30
 o18

ตามอ่านจบทัน

เรื่องนี้สนุกคับ

หลอนๆดี

แต่สงสารหรั่งอะ  รีบตายจังงง  แต่ก็แก้แค้นรายตัวเลย(สะใจ)

หน่องกับหมวดพชรปิ๊งกัน เพื่อนหรั่งจะว่าไรป่าวนะ

หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๗. ๒๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: Chinnosuke ที่ 29-05-2011 16:45:17
เอาแล้วไง เจ้เทียนความรักทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลง :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่8 พาเที่ยว 29/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 29-05-2011 17:13:36
 o18

เหมือนจะหวานนะครับ

555

แต่ใครรุกใครรับอ่ะ

อยากให้ไนท์รุกพี่เต
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๗. ๒๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 29-05-2011 17:40:41
ตอนนี้ทานก็ตกกระป๋อง ไม่มีใครอยากได้แล้ว ดีแล้วละ ไม่ชอบนิสัยทานเลย นิสัยเหมือนจะเห็นแก่ตัว แต่สำหรับเทียนและเมย์ ถึงจะดูร้าย แต่เพราะมีปม และสาเหตุอ่ะ แต่ดูเหมือนจะเริ่มคิดได้ แต่ทานเนี่ยสิ คิดได้หรือยัง :pig4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 6 [28/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 29-05-2011 17:54:14
เรียนทฤษฎีแล้วต้องปฏิบัติด้วยนะ  :-[
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 7 PG. 4 [28/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 29-05-2011 18:06:42
หลอกลวง / จริงใจ

ยังตัดสินใจไม่ได้เลย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่9 Butterfly P:6 [28/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 29-05-2011 18:11:53
 :laugh:

ไม่ชอบบนิสัยปลายฟ้า  ดูน้ำหวานๆ

แต่อ่านปลายฟ้าจากเรื่องอื่นดูเปงเด็กดีเนอะ  มายาๆ

ที่เอล็กตายกับไอนายหม่อนนี่ต้องเกี่ยวข้องกันแน่เลย

เท่าที่อ่านโปรเจคนี่มาเรื่องนี้มาม่าป่าวหว่า
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่9 Butterfly P:6 [28/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 29-05-2011 18:24:02
เข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ
พี่ลมสู้สู้
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 7 PG. 4 [28/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: nataxiah ที่ 29-05-2011 19:57:43
อ่านทันแล้วไม่อยู่วันเดียว อีกกี่คนเนี่ย  o22 เหลืออีกตั้ง 6
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่9 Butterfly P:6 [28/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: nataxiah ที่ 29-05-2011 20:02:24
ปลายฟ้ามาสั้นอีกแล้ว แต่ลุ้น
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 6 [28/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: nataxiah ที่ 29-05-2011 20:05:01
 :z1: อ่านเรื่องนี้ทีไร  :z1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่8 พาเที่ยว 29/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: nataxiah ที่ 29-05-2011 20:17:43
อยากรู้เหมือนกัน ใครรุกใครรับ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๗. ๒๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: nataxiah ที่ 29-05-2011 20:20:22
แวะมาแปะไว้ก่อน เพิ่งกลับมาตามอ่านไม่ไหวแล้วลงกันเร็วจริง ๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/Ch.10-11 ค่ะ 2 ตอนติด (29/5/54)
เริ่มหัวข้อโดย: nataxiah ที่ 29-05-2011 20:22:02
หลังจากตามอ่านหลายเรื่อง ขอพักตาแปบนะครับ

เดี๋ยวกลับมาอ่านต่อนะ กำลังหนุกเลย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 10 บ่วงกรรม 24/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: nataxiah ที่ 29-05-2011 20:23:10
เมื่อไหร่ตอนต่อไปจะมาคร้าบ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/Ch.10-11 ค่ะ 2 ตอนติด (29/5/54)
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 29-05-2011 21:42:12
สยอง :a5:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 10 บ่วงกรรม 24/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 29-05-2011 21:47:40
กำลังปั่นอยู่เลยค่ะ  o18
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๗. ๒๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: คนริมคลอง ที่ 29-05-2011 21:49:51
เอ้า พอบทจะไม่เอาตาทานก็ใจตรงกันซะงั้น

เทียนกับเมย์ก็ทำตัวดีขึ้น อย่าบอกนะ ตาทานจะมาอัพสกิลร้ายสุดขั้ว

หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๗. ๒๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 29-05-2011 21:55:54
เหอๆไม่มีใครอยากได้ทานแล้ว :laugh:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่8 พาเที่ยว 29/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 29-05-2011 22:10:09
การพัฒนาความสัมพันธ์ กันระหว่างพี่เตกับน้องไนท์ อาจจะช้า แต่ดูเหมือนจะมั่นคง
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ
ปล..... ก็รอส่วนที่เหลืออ่ะ
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่8 พาเที่ยว 29/05/2588
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 29-05-2011 22:28:04
พี่เตดีที่สุดในสามโลกแล้วมั๊งเนี่ย ไนท์ถ้าไม่เอาเราขอนะ 555 +1
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 7 PG. 4 [28/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 29-05-2011 22:35:02
อ๊ะ ๆ มีหวงด้วยนะนู๋กริช
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 6 [28/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: nco1236 ที่ 29-05-2011 22:50:19
ยังไม่มา :z10:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/Ch.10-11 ค่ะ 2 ตอนติด (29/5/54)
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 29-05-2011 22:58:55
ไม่ชินกับชื่อเกาหลีเลยจริงๆเลยได้แอบฮาเล็กๆกับ"ยุงโดนกัด"  เพราะปกติมีแต่เราโดนยุงกัดแล้วตบเพี๊ยะ! ตายสนิท
อ่านแล้วได้อารมณ์หนังเกรดบีจริงๆ หน้าสิ่วหน้าขวานแค่ไหนก็มีเลิฟซีน o13
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/Ch.10-11 ค่ะ 2 ตอนติด (29/5/54)
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 29-05-2011 23:23:43
เมื่อไร่ จะหลุดไปได้อ่ะ คนอ่านลุ้นจะแย่แล้ว กลัวจะมีใครเป็นอะไรจังเลย   :pig4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 10 บ่วงกรรม 24/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 29-05-2011 23:28:11
กำลังปั่นอยู่เลยค่ะ  o18

แล้วอีโมนี้หมายความว่าไง อะ  จะมีอะไรเซอร์ไพร์สคนอ่านหรอค่ะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่9 รอยยิ้ม 29/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: ภาพฝัน ที่ 29-05-2011 23:54:33
   บ้านเดี่ยวหลังไม่ใหญ่มากนักมีสนามหญ้าหน้าบ้านกว้างพอสมควร สนามหน้าบ้านถูกจัดเป็นสวนเล็กๆ ให้ร่มเงา เตชวัฒน์เลี้ยวรถเข้าไปจอดภายในบ้าน เขาเดินออกมาเปิดประตูให้วริศรินทร์ที่มองรอบๆ อย่างมึนงง

   “บ้านพี่ครับ” เตชวัฒน์ยิ้มให้เขายื่นมือให้ไนท์ที่กำลังมองรอบๆ วริศรินทร์ไม่ได้ส่งมือให้แต่เขาก้าวลงมาจากรถแล้วเดินผ่านเตชวัฒน์

   “ไปไหนครับ” เตชวัฒน์ยังคงใจเย็นเมื่อวริศรินทร์เดินผ่านไป เขาคว้ามือของอีกฝ่ายเดินจูงเข้าไปภายในบ้าน

   “นี่เป็นบ้านที่พี่อยู่ พ่อกับแม่พี่ไปทำงานที่เมืองนอก มีแม่บ้านอยู่ชื่อป้ามาลัย แกจะเป็นคนดูแลบ้านหลังนี้ แล้วก็มีลุงช้าง แฟนป้ามาลัยดูแลสวน” เตชวัฒน์อธบายไปเรื่อยๆ เขาจูงวริศรินทร์เข้ามานั่งในห้องรับแขก บ้านหลังนี้ถูกแต่งอย่างเรียบง่าย

   “ป้าครับนี่ไนท์ เป็นนายแบบที่อยู่ในการดุแลของผม” เตชวัฒน์แนะนำวริศรินทร์ให้ป้ามาลัยรู้จัก หญิงสูงวัยยิ้มให้อย่างอบอุ่น แต่ก็ได้รับสีหน้าเมินเฉย น้ำเย็นถูกนำมาเสิร์ฟ วริศรินทร์ถูกทิ้งไว้ในห้องรับแขกเขามองไปรอบๆ แล้วทิ้งตัวลงนอนบนโซฟา เมื่อไม่มีอะไรทำสักพักเขาก็หลับ

   “ไนท์ครับ” เสียงเรียกขอเตชวัฒน์ทำให้เขาลืมตาและเขาก็เห็นรอยยิ้มอันอ่อนโยนอยู่เช่นเดิม วริศรินทร์ถูกจูงออกมาที่สนามหญ้าที่คราวนี้มีเสื่อปูอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ลูกหมาสีขาว สีดำ และสีน้ำตาล กลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนพื้นหญ้า เตชวํมฯ์จูงวริศรินทร์ที่เดินกระเพลกๆ เพราะข้อเท้าเจ็บไปนั่งบนเสื่อ

   “ลูกหมาแถวนี้นะ แม่มันออกลูก ป้ามาลัยแกเก็บมาเลี้ยง ไนท์ชอบหมานี่” เตชวัฒน์ยื่นลูกหมาตัวกลมสีดำมาให้ก่อน เขาเห็นไนท์ยังคงมองเฉย เขาเลยเอื้อมมือจับมือของอีกฝ่ายวางลงบนตัวลูกหมาที่มีขนนุ่ม

   “ค่อยๆลูบครับไม่ต้องกลัว” เขาเห็นแววตาที่สดใสของวริศรินทร์ ทันทีที่ลิ้นสากของหมาน้องเลียลงบนฝามือวริศรินทร์สะดุ้งเล้กน้อยก่อนจะค่อยๆแย้มยิ้มที่บางเบา

   “ชอบละซี่” เขายกมือขึ้นขยี้หัวของไนท์ด้วยความเอ็มดู ลูกหมาตัวอื่นๆพอเห็นว่ามีคนเล่นด้วยก็เริ่มวิ่งเข้ามาคลอเคลียอย่าน่ารักน่าเอ็นดู เตชวัฒน์หัวเราะเบาๆเมื่อลูกหมาตัวสีน้ำตาลตะกายขึ้นมานั่งบนตักของตนแล้วเหยียบพลาดกลิ้งลงไปนอนกับพื้น เมื่อยืนขึ้นมาเจ้าหมาน้อยมองซ้ายมองขวาและปีนขึ้นมาใหม่ เขานั่งมองเหล่าลูกหมาเล่นกับไนท์ซึ่งตอนนี้เผยรอยยิ้มบางๆ ออกมา เขามองใบหน้าที่ดูอ่อนเยา รอยยิ้มที่มีไม่มากนักแต่ก็ทำให้ใบหน้านั้นสดใส

   “คิก คิก” เสียงหัวเราะดังขึ้นมาทำให้เขาหลุดออกจากภวังค์ภาพที่เห็นทำให้เขาอดยิ้มไม่ได้ เมื่อลุกหมาสีดำมุดเข้าไปในเสื้อยืดสีฟ้าสดของไนท์ ไนท์ล้มลงดิ้นลงกับพื้นหญ้าพยายามดังลูกหมาออก แต่เมื่อตัวหนึ่งเริ่มเล่นตัวอื่นก็กรูกันเข้าไป ตัวหนึ่งเลียที่ข้างแก้ม ตัวหนึ่งมัดเข้าไปในเสื้อ อีกตัวก้ยืนอยู่บนหน้าอกเลียคาง ภาพที่เขาเห็นทำให้อดยิ้มออกมาไม่ได้ จากที่ยิ้มเพียงบางเบามันกลายเป็นรอยยิ้มที่สดใส

   “พอได้แล้วครับ” เตชวัฒน์ส่งเสียงเรียกและใช้เท้าเขี่ยเหล่าหมาน้อยที่กำลังรุมวริศรินทร์อย่างคึกคะนองออกห่าง เขาเห็นอีกฝ่ายหันมามองเขาอย่างฉงน

   “พักกินข้าวก่อน ข้าวเหนี่ยวไก่ย่าง” เตชวัฒน์ยิ้ม เขาเดินไปซื้อเมื่อครู่เมื่อมีรถเข็นไก่ย่างขับผ่าน เขาชูถุงข้าวเหนี่ยวไก่ย่างให้ไนท์ดู

   “กินไหม” ไนท์พยักหน้าช้าๆแล้วจะเอื้อมมือมารับ

   “ยังไม่ได้ล้างมือเลย” เขาดึงถุงไก่กลับมา เตชวัฒน์ใชมือดึงเนื้ออกจากน่องไก่ที่มีควันฉุย

   “ร้อนนะเนี่ย พี่ล้างมือแล้ว” เขายกเนื้อไก่เข้าไปจ่อริมฝีปากของไนท์ช้าๆ กลิ่นหอมของไก่ย่างลอยเข้าจมูกของไนท์ และเหล่าลูกหมาที่มองน้ำลายหยกตึ๋งๆ วริศรินทร์อ้าปากรับไก่เข้าปากแล้วเคียวช้าๆ สายตาของนายแบบหนุ่มมองไปยั่งเหล่าหมาน้อยที่กำลังร้ำลายไกล เตชวัฒน์ส่งน่องไก่ให้เขาซึางเขาก็รับไว้

   “นั่นป้อนหมา แต่ไนท์กินกับพี่เพราะมือสกปรกเข้าใจไหม” เขาพูดเสียงจริงจัง ซึ่งไนทืก็พยักหน้าเข้าใจ เตชวัฒนืมองภาพที่ไนท์ฉีกเนื้อไก่ป้อนเหล่าลุกหมาที่เข้ามารุมล้อมอย่างขำๆ ไนท์หันมามองเขาตาขวางเมื่อเขาเอาข้าวเหนียวกับเนื้อไก่ไปจ่อปากแล้วชักออกเมื่ออีกฝ่ายทำท่าจะงับ

   “ล้อเล่นครับ กินต่อไม่แกล้งแล้ว” เขาพูดเพียงเท่านั้น เขารู้สึกมีความสุขที่เห็นไนท์มีชีวิตชีวา แม้จะไม่ได้ยิ้มมากมาย หรือหัวเราะเสียงดังแต่ภาพที่เขาเห็นไนท์อยู่ภายใต้แสงอาทิตยืและเล่นกับลูกหมาอย่างสดใส มันก็ทำให้เขารู้สึกว่าไนท์น่ารัก

   เตชวัฒน์เดินกลับเข้าไปล้างมือแล้วหยิบน้ำมาให้วริศรินทร์ดื่ม แต่เขาก็อดยิ้มกับภาพที่วริศรืนทร์หลับพร้อมกับเหล่าหมาน้อยได้

   “เหนื่อยทั้งคนทั้งหมาสินะ” เขาพึมพำกับตัวเอง เตชวัฒน์ประคองศรีษะของวริศริทร์ที่นอนอยู่กับพื้นขึ้นมาหนุนที่ตัวของตัวเอง ฝ่ามืออบอุ่นลูบไล้แผ่วเบาไปตามเส้นผมนุ่ม ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะที่เขาสนใจคนตรงหน้า อาจจะเป็นเสียงเพลงเศร้าสร้อย หรือครั้งแรกที่สบตา กับภาพที่อีกฝ่ายทำท่าจะตกลงไปจากราวระเบียง เตชวัฒน์อดขำกับตัวเองไม่ได้ ตั้งแต่เจอวริศรินทร์เขารู้สึกว่าชีวิตของเขาต้องพบกับความตื่นเต้นทุกวัน ตื่นเต้นเกินไปเสียด้วยซ้ำ เตชวัฒน์สะดุ้งเมื่อไนท์พลิกตัวเข้ามาหาเขาได้สบตากับดวงตาสีดำสนิท

   “ร้องเพลงเป็นไหม” เขาถามอีกฝ่ายยิ้มๆ

   “ช้าง ช้าง ช้าง ช้าง ช้าง” เสียงฮัมแผ่วเบาและเงียบไป ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกว่าไนท์กวน เตชวัฒน์ดีดหน้าผากเด้กดื้อเบาๆ ซึ่งวริศรินทร์ก็ลุกขึ้นนั่งทันที

   “จะเย็นแล้วไปเล่นเรือกัน” เตชวัฒน์ยื่นมือให้อีกครั้ง ซึ่งไนท์ก็มองมือของเขาแล้วนิ่งไม่ขยับ

   “พี่จะพาไปพายเรือครับ” เขาตอบอย่างอ่อนโยน ไนท์ถึงได้ยอมยื่นมือมาให้ เตชวัฒน์จูงมือไนท์เดินเลาะไปตามฟุตบาทในหมู่บ้าน ประมาน10นาทีก็ถึงทะเลสาบ เตชวัฒน์เห็นวริศรินทร์ชะงักเมื่อเขาจูงมาใกล้ๆ เรือ

   “ไม่ลงเหรอครับ” เขาถามอย่างสงสัย วริศรินทร์ส่ายหน้าอย่างเดียว

   “ว่ายน้ำไม่เป็น กลัวน้ำ” เขาถามซึ่งก้ได้รับการพยักหน้า เตชวัฒน์ยื่นมือให้อีกครั้ง

   “เชื่อพี่ครับ มาเถอะ” เขายื่นมือให้อีกฝ่าย ซึ่งไนทืก็ยังคงทำเฉย

   “พี่จะดูแลไนท์เอง พี่เคยทำไนท์เจ็บเหรอ” ยิ้มอันอ่อนโยนของเตชวัฒน์ทำให้วริศรินทร์ส่งมือให้ช้าๆ เตชวัฒน์สัมผัสได้ถึงมือที่สั่นน้อยๆ

   “พายเลาะอยู่ริมฝั่งเนอะ ตรงโน้นมีดอกบัวอยู่” เขาค่อยพายเรือเลาะไปริมฝั่งพยายามไม่ทำให้เรือโงนเงน วริศรินทร์เริ่มผ่อนคลายลงเมื่อเวลาผ่านไป
เขาชี้ให้อีกฝ่ายดูดอกกล้วยไม้ที่ถูกปลูกไว้ริมกำแพงของบ้านที่อยู่ริมทะเลสาบ ชี้ให้ดูผีเสื้อที่กำลังตอมเหล่าดอกไม้ บรรยากาศกำลังไปได้ด้วยดี แต่ฝนก็ดันตกลงมาทำให้ทั้งคู่ต้องรีบพายเรือเข้าฝั่ง

   “ระวังล้มนะไนท์” เขาจะจูงมือของไนท์และวิ่งกลับแตชะงักเนื่องจากนึกได้ว่าข้อมือของไนท์ยังเจ็บอยู่

   “ขี่หลังพี่” แค่ฝนตกแผลก็เปียกแล้ว แลัวยังต้องวิ่งอีก เตชวัฒน์แบกวริศริทร์ขึ้นหลังและกึ่งเดินกึ่งวิ่งกลับตัวบ้านให้เร็วที่สุด หลายครั้งที่เกือบล้ม เมื่อกลับถึงบ้านเขารีบดูบาดแผลขอกอีกฝ่ายและทำความสะอาดให้อย่างเร่งด่วน

   “อาบน้ำระวังนะครับอย่าให้โดนน้ำ” เตชวัฒน์พาวริศรินทร์ไปส่งที่หน้าห้องน้ำ แล้วเขาก็ออกมาหาเสื้อผ้าให้อีกฝ่ายใส่ วริศรินทร์ค่อนข้างผอมแต่ไม่ถึงขนาดเรียกว่าบอบบาง แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่ามีน้ำมีนวลมากยิ่งขึ้น เตชวัฒน์เลือกชุดที่คิดว่าไนท์จะใส่ได้ เสียงเปิดประตูทำให้เขาชะงัก เมื่อเห็นว่าไนท์นุ่งผ้าเช็ดตัวออกมา

   “เสื้อผ้าครับ ใส่แล้วเดี๋ยวออกไปกินข้าว พี่ขออาบน้ำแป๊บ” อะไรบางอย่างในตัวเขากำลังเปลี่ยนไป จากความรู้สึกเอ็นดูอยากดูแลไม่ให้อีกฝ่ายคิดตาย มันกลายเป็นความรู้สึกอยากอยู่ใกล้เมื่อไหร่ เมื่อกี้นี้ แว่บแรกที่เขาเห็นวริศรินทร์ยืนอยู่เขาอยากดึงอีกฝ่ายเข้ามากอดให้แน่น

   เตชวัฒน์อาบน้ำสระผมไล่ความคิดฟุ่งซ่านออกไป เมื่อเดินออกมาเขาเห็นวริศรินทร์นั่งอยู่บนเตียงในชุดนอนขายาว

   “ไปทานข้าวกันดีกว่า ถ้าฝนไม่หยุดตกคืนนี้เราคงต้องนอนที่นี่” เขายังคงยิ้มให้ไนท์เหมือนเดิม เช่นเดียวกับไนท์ที่ยังคงนั่งเฉยเหมือนเดิม อาหารถุกจัดไว้รอบนโต๊ะแล้ว มีฟักทองผัดไข่ ยำถัวพลู ผัดผักและแดงจืด

   “ป้ามาลัย ยกฟักทองผัดไข่ออกไปครับ” เตชวัฒน์เห็นเมนูอาหารที่วริศรินทร์ทานไม่ได้เลยสั่งให้ยกออก

   “ทำไมละค่ะ ของโปรดคุณเตนี่” ป้ามาลัยถามด้วยความสงสัย เธอตั้งใจทำของโปรดให้กับชายหนุ่ม

   “ไนท์แพ้ไข่ครับ ทานไม่ได้” เตชวัฒน์ตอบป้ามาลัยยิ้ม

   “คุณไนท์แพ้แล้วคุณเตทำไมไม่ทาน” ป้ามาลัยยังไม่ทันพูดอะไรเตชวัฒน์ก็ชิงตัดบทสะก่อน เขาก้มลงไปกระซิบว่า

   “ทานไม่ได้แล้วต้องมานั่งดู น่าสงสารแย่เลย เก็บไปเถอะครับ” คำพูดที่ไม่คิดจะให้อีกฝ่ายได้ยินแม้ไม่ดังมากแต่เพราะความเงียบของบ้านทำให้วริศรินทร์มองเตชวัฒน์ทันที เตชวัฒน์หันกลับมายิ้มให้กับไนท์อย่างอ่อนโยนเหมือนเช่นเคย

   “กินข้าวกันเถอะพี่หิวแล้ว” เตชวัฒน์ยังคงยิ้มอย่างอ่อนโยนแล้วเชื้อเชิญให้ไนท์ทานข้าวเย็นอย่างเจ้าบ้านที่ดี

   ฝนที่ตกอย่างหนักทำให้คืนนั้นทั้งคู่ต้องค้างอยู่ที่บ้านของเตชวัฒน์ ชายหนุ่มเเปิดห้องรับแขกให้วริศรินทร์พักผ่อน พอดึกสักหน่อยเขาก็พาไนท์ไปนอนที่ห้อง เตชวัฒน์นอนอ่านหนังสือสักพักและเข้านอน

   ฝนที่ตกอย่างไม่มีทีท่าที่จะหยุด และเสียงลมที่พัดเอากิ่งไม้และละอองฝนมากระทบหน้าต่าง รวมทั้งเสียงฟ้าร้องและฟ้าผ่า เตชวัมน์สะดุ้งตื่นเมื่อเสียงฟ้าผ่าดังสนั่นจนน่ากลัว เตชวัฒน์สะดุ้งเมื่อตื่นขึ้นมาเจอเงาคนยืนอยู่ที่ข้างเตียง แต่เมื่อตั้งสติมองดีๆ เขาก็เห็นว่านั่นคือ

   “ไนท์” เขาส่งเสียงเรียกวริศรินทร์ที่ยืนจ้องเขานิ่งอยู่ข้างเตียง

        “นอนไม่หลับเหรอ” คำถามของเขายังคงทำให้ไนท์เงียบ เสียงฟ้าผ่าลงมาอีกครั้งทำให้ทั้งคู่สะดุ้ง

   “นอนกับพี่ไหม” เขาถามดวยความเป็นห่วง ถลกผ้าห่มออกกว้างเพื่อให้อีกฝ่ายเข้ามาหา ไนท์มีท่าทีลังเลแต่สุดท้ายก็ขยับเข้ามานอนใกล้ๆ เชวัฒน์ลฃูบหัวของอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา

   “หลับนะครับ คนดี” เสียงที่ยังคงอบอุ่นและอ่อนโยน เตชวัฒน์ทิ้งตัวลงนอนเคียงข้างวริศรินทร์ เขารู้สึกถึงไออุ่นของอีกคนที่นอนเคียงข้างกาย 

...........................
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่9 รอยยิ้ม+ต่ออีกนิด29/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: blanchard ที่ 30-05-2011 00:45:13
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยส์...... น๊ารักอ่ะ....     :impress3:

พี่เตดูแลเทคแคร์สุด ๆ อบอุ่นมากมาย  (อ่านไปด้วย กรี๊ดไปด้วย...   :m3:  )

น้องไนท์ก็น่ารักน่าทะนุถนอม

โอ๊ย ระดับน้ำตาลในตัวพุ่งสูงปรี๊ด...  :m25:

ขอบพระคุณคนเขียนมาก ๆ ครับ
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่9 รอยยิ้ม+ต่ออีกนิด29/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 30-05-2011 01:05:25
น่ารักอ่า กรี๊ดเบาๆ ^_^ อ่านแล้วยิ้มไม่หุบ ช่วงนี้ไนท์เข้าโหมดน่าทะนุถนอม อิอิ
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่9 รอยยิ้ม+ต่ออีกนิด29/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 30-05-2011 01:32:38
กรี๊ดด้วยคน น่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่9 รอยยิ้ม+ต่ออีกนิด29/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 30-05-2011 07:56:25
การเอาใจใส่ ดูแล ปกป้อง ทำให้ไนท์ เริ่มเข้าหา :z1:
ส่วนเต เริ่มหวั่นไหว ไปกับคนร่างบางแล้ว หึ หึ หึ ....
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่9 รอยยิ้ม+ต่ออีกนิด29/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 30-05-2011 10:50:19
พี่เตจะดีไปถึงไหนเนี่ย

ปล.อยากรู้ว่าไนท์รู้สึกอย่างไร
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่9 รอยยิ้ม+ต่ออีกนิด29/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: Muzik ที่ 30-05-2011 11:16:51
ไนท์เหมือนเด็กเล็กๆเลย น่าเลี้ยงดูที่สุด  :กอด1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่9 รอยยิ้ม+ต่ออีกนิด29/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 30-05-2011 12:10:00
เย๊ น้องเงียบยอมเข้าหาแล้ว ดีมากๆพี่เตเอาอาหารล่อเร็วเข้า
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่9 รอยยิ้ม+ต่ออีกนิด29/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 30-05-2011 12:18:34
อีกไม่นานไนท์ต้องเปิดใจให้พี่เตแน่ๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่9 รอยยิ้ม+ต่ออีกนิด29/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: Giniz ที่ 30-05-2011 15:34:31
ไนท์ ผู้ชายดีๆแบบพี่เตไม่ได้มีเกลื่อนเมืองนะ
ถ้าไนท์ไม่เอา เราขอ!!! :impress2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่9 Butterfly P:6 [28/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 30-05-2011 16:47:28
(http://upic.me/i/y7/qsky3.jpg) (http://upic.me/show/24228533)

ตอนที่ 10 หนี

ปลายฟ้าตื่นมารุ่งเช้าของอีกวัน วันนี้เขามีสติกับสถานการณ์ได้มากกว่าเมื่อวาน การที่คนที่จับเขายังไม่กลับมาทำให้ความคิดบางอย่างปรากฏขึ้นในหัว และถ้าสำเร็จเขาอาจหนีออกไปจากที่นี่ด้วยตัวเองก็เป็นได้
“ปลายฟ้าตื่นหรือยังครับ” เสียงหม่อนถามตั้งแต่ยังไม่ได้เปิดประตูเข้ามา
พอได้ยินเสียงปลายฟ้าพยายามรวบรวมความกล้าทั้งหมด ทำตามแผนที่ตัวเองคิดไว้ เขาปั้นรอยยิ้มที่แสนหวานขึ้นบนใบหน้ารอต้อนรับคนที่กำลังจะเข้ามา
“หิวหรือยังครับ ผมเอาข้าวมาให้กินครับ” หม่อนเดินยิ้มอย่างมีความสุขเข้ามาหาปลายฟ้า
“ผมหิวน้ำมากกว่าครับ คุณหม่อนช่วยป้อนผมทีได้ไหม” ปลายฟ้าฝืนปั้นยิ้มให้
“จริงเหรอครับ ปลายฟ้าอยากให้ผมป้อนน้ำให้จริงหรือครับ” หม่อนทั้งดีใจทั้งตื่นเต้นมากตอนนี้
“ครับ ก็คุณมัดผมไว้แบบนี้ ถ้าไม่ให้คุณป้อนแล้วผมจะดื่มน้ำยังไงล่ะครับ”
“นั่นสิ ผมก็ลืมไปเลย เดี๋ยวผมป้อนน้ำให้นะครับ” หม่อนรีบกุลีกุจอหยิบขวดน้ำพร้อมหลอดมาให้ปลายฟ้าดื่ม
ปลายฟ้าทำพูดดีเอาทำทุกอย่างอย่างที่หม่อนอยากให้ทำ รอยยิ้มที่ดูสดใสถูกปั้นแต่งขึ้นเป็นระยะ ๆ ทั้ง ๆ ที่ในใจปลายฟ้าออกจะหวาดกลัวและรังเกียจคนตรงหน้าก็ตาม หม่อนรู้สึกปลื้มและดีใจที่ปลายฟ้ายอมพูดดีกับเขา ยอมคุยกับเขาดี ๆ ต่างจากเมื่อวานโดยสิ้นเชิง
“หม่อนครับ ปล่อยผมก่อนไม่ได้หรือครับ ผมอยากเข้าห้องน้ำ” ปลายฟ้าเริ่มทำตามแผนที่คิดไว้
“ไม่ได้หรอกครับ เดี๋ยวปลายฟ้าก็หนีผมไป เดี๋ยวผมเอากระโถนมาให้นะครับ” หม่อนปฏิเสธ
“ไม่เอานะครับ ถ้าแบบนั้นผมจะกล้าได้ยังไง อีกอย่างผมกับหม่อนยังไม่คุ้นชินกันมากขนาดนั้น เอาไว้เราคุ้นเคยกันมากกว่านี้ ผมจะทำทุกอย่างให้หม่อนดูยังได้เลย” ปลายฟ้าพยายามเพิ่มความเห็นใจมากขึ้น
“แต่ว่า..”
“ไม่ต้องแต่หรอกครับ อีกอย่างผมจะหนีไปไหนได้บ้านก็บ้านของหม่อน นะครับเชื่อใจผมบ้างไม่ได้หรือ ไหนบอกว่ารักและจะเชื่อผมคนเดียวเท่านั้นไง” ปลายฟ้าทำหน้าเศร้า แววตาเจอหยาดน้ำตาเล็กน้อย
“ไม่เอานะครับ ปลายฟ้าอย่าร้องไห้นะครับ ผมเชื่อแล้วผมปล่อยคุณเดี๋ยวนี้แหละ” หม่อนรีบลุกขึ้นไขกุญแจมือปลายฟ้าออกทั้งสองข้าง ก่อนแกะเชือกที่ผูกข้อเท้าออกให้
“ขอบคุณครับ แบบนี้ผมเชื่อแล้วว่าหม่อนรักผมจริง” ปลายฟ้ายิ้มให้พร้อมจับมือหม่อนไว้
หม่อนถึงกับหน้าแดงเมื่อโดนปลายฟ้าจับมือไว้ เขารู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูกที่ได้รับการกระทำแบบนี้ แต่ปลายฟ้ากลับรู้สึกขยะแขยงที่มือเป็นอย่างมาก เขาไม่เคยคิดอยากจะสัมผัสตัวคนที่จับเขามากักขังไว้แบบนี้แม้แต่น้อย
“ห้องน้ำไปทางไหนครับ” ปลายฟ้าถามเพราะกลัวว่าหม่อนจะจับได้ว่า เขาแค่หรอกให้หม่อนปล่อยตัวเขาเท่านั้น
“ผมเกือบลืมเลย เดี๋ยวผมพาไปนะครับ” หม่อนลุกเดินนำหน้าปลายฟ้า พามาเข้าห้องน้ำที่อยู่ด้านนอกบ้าน
ระหว่างเดินปลายฟ้าก็พยายามมองสำรวจรอบ ๆ ตัว และมองสำรวจไปไกล ๆ เผื่อว่าอาจจะหาทางหนีได้ ที่ที่เขาโดนจับมาเป็นบ้านยกสูง สร้างอยู่ห่างจากชายทะเลไม่มากเท่าไหร่ ปลายฟ้าจดจำทุกรายละเอียดตลอดทางที่เดินผ่านมา เขาเข้าห้องน้ำปฏิบัติภารกิจส่วนตัว ถ่วงเวลาให้นานที่สุด เพราะยังไม่อยากกลับขึ้นไปที่ห้อง เขาล้างมือล้างตัวล้างปากล้างทุกส่วนที่สัมผัสโดนหม่อน เขาอยากเอาความรู้สึกที่น่ารังเกียจนี้ออกไป

“ปลายฟ้าครับ เป็นอะไรหรือเปล่าทำไมนานจัง” หม่อนตะโกนถามเมื่อปลายฟ้าเข้าห้องน้ำนานผิดปติ
“เสร็จแล้วครับ” ปลายฟ้ารีบออกมา
“ทำไมเข้านานจังครับ”
“ผมคงยังไม่ชินสถานที่ และเข้าช้าไปหน่อยหม่อนไม่โกรธผมนะ” ปลายฟ้ารีบพูดเอาใจ
“ไม่หรอกครับ แค่ปลายฟ้ายอมพูดกับผมอยู่กับผมที่นี่ก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้วครับ”

ปลายฟ้าพยายามพูดดีทำดีกับหม่อนทั้งวันจนพระอาทิตย์ตก หม่อนขอตัวกลับพร้อมกับล็อคห้องที่ปลายฟ้าอยู่ ปลายฟ้าแกล้งทำเป็นหลับ เพราะเขารู้ว่าหม่อนแอบมองอยู่ข้างนอก เขาแกล้งอยู่นานจนแน่ใจว่าหม่อนกลับไปแล้ว
ผ้าปูที่นอนถูกผูกติดกับขาเตียง แล้วต่อด้วยกับปลอกหมอนแล้วก็เศษผ้าที่มีอยู่ทั้งหมด ปลายฟ้าโยนฟ้าออกไปทางหน้าต่าง เขายืนกล้า ๆ กลัว ๆ อยู่ที่หน้าต่าง ถึงฉากแบบนี้จะเคยเล่นมาบ้างในหนังในละคร แต่ว่ากับชีวิตจริงเขายังไม่เคยทำ แต่ถ้าเทียบกับต้องเจอคนโรคจิตแบบหม่อน การเสียงแบบนี้น่าจะเป็นทางออกที่ดีมากกว่า
ตุ๊บ!!
ปลายฟ้าร่วงลงมานอนอยู่ที่พื้น เขารีบลุกขึ้นแล้ววิ่งไปตามทางที่จำได้เมื่อตอนกลางวันอย่างรวดเร็ว เขาตัดสินใจวิ่งไปยังชายทะเล เพราะว่ามันคงโล่งและไปถึงบ้านคนอื่นได้ง่ายกว่า เพราะเขาจำได้ว่าเห็นบ้านหลังเล็ก ๆ ตั้งอยู่ใกล้ชายทะเล เผื่อจะได้เข้าไปขอความช่วยเหลือได้บ้าง
ร่างบาง ๆ พยายามวิ่งหลบตามพุ่มไม้ หรือตามมุมมืดต่าง ๆ เพื่อให้ยากต่อการพอเห็น บ้านหลังเล็กที่ชายทะเลมีแสงไฟเล็ดลอดออกมา แสดงว่ามีคนอยู่ ปลายฟ้าเริ่มมองเห็นความหวังที่จะออกจากที่นี่ได้แล้ว
เมื่อวิ่งมาถึงบ้านเขากลับได้ยินเสียงดังจากข้างใน ปลายฟ้ารีบแอบอยู่ข้างหน้าต่าง เขาค่อยแอบมองลอดผ้าม่านหน้าต่างเข้าไป แต่สิ่งที่เห็นกลับเป็นหม่อนที่ยืนเหมือนกำลังทะเลาะกับใครอยู่ ปลายฟ้ามองไม่ถนัดเพราะเขานั่งหันหลังอยู่บนเก้าอี้พนักทรงสูง
“พ่อรู้ไหมครับพ่อทำอะไรไว้กับผมมั่ง พ่อทำให้ไม่มีใครเข้าใจผม พ่อจับผมมาขังไว้ที่นี่ทำไม” หม่อนตะโกนใส่คนที่ตนเองเรียกว่าพ่อ แต่กลับไม่มีเสียงตอบโต้ออกมาแม้แต่น้อย
“พ่อเป็นคนทำลายชีวิตผม พ่อทำให้ผมต้องเป็นคนแบบนี้ แต่ผมก็รักพ่อนะครับ” หม่อนทรุดตัวนั่งลงซบหน้าที่ตักคนที่นั่งอยู่พร้อมกับร้องไห้ ปลายฟ้าจ้องมองอย่างสนใจ เพราะเขาคิดว่าคนเป็นพ่ออาจจะบอกหม่อนให้ปล่อยเขาก็ได้
หม่อนซุกหน้าร้องไห้อยู่นานก่อนจะลุกขึ้นเดินออกจากบ้านไป ปลายฟ้ารีบหลบไปอีกทางหนึ่ง หม่อนเดินกลับไปที่บ้านที่เขาขังปลายฟ้าไว้ หลังจากเห็นหม่อนเดินหายลับตาไปกับความมืด ปลายฟ้าก็รีบหาทางเข้าไปในบ้านทันที
หลังจากที่เข้ามาข้างในได้แล้ว ปลายฟ้ารีบตรงเข้าไปห้องที่แอบมองเมื่อกี้ เก้าอี้พนักสูงหันหลังให้ ภายในห้องเหม็นกลิ่นเหมือนซากอะไรซักอย่าง แต่คงเพราะห้องอากาศไม่ได้ถ่ายเทเสียมากกว่า
“ช่วยผมด้วยครับ ลูกคุณจับผมมาขังไว้ คุณช่วยพูดกับเขาให้ที่ได้ไหมครับ” ปลายฟ้าขอความช่วยเหลือ แต่กลับไรซึ่งคำตอบรับ
“คุณครับ ไม่ได้ยินที่ผมพูดหรือไงครับ ลูกชายคุณจับตัวผมมานะครับ” ปลายฟ้าใช้เสียงที่ดังขึ้นเล็กน้อยแต่ก็ได้ผลเหมือนเดิม
เมื่อเป็นแบบนี้ปลายฟ้าเลยเดินเข้าไปหาใกล้ ๆ กลิ่นเหม็นก็เพิ่มมากขึ้นตามด้วย ปลายฟ้าเดินมาหยุดที่หลังเก้าอี้
“นี่คุณไม่คิดจะช่วยผมหน่อยหรือ ลูกคุณจับตัวผมมานะ” ผลเหมือนเดิมไม่มีการตอบรับกลับมา ทำให้ปลายฟ้าเริ่มโมโหขึ้นมา เขาจับเก้าอี้ให้หมุนหันหน้ามาหาเขา เพื่อจะได้คุยกันให้รู้เรื่อง
“เหวออออ”
ปลายฟ้าตกใจร้องเสียงหลงกับภาพที่เห็น สิ่งที่เห็นทำให้ต้องก้าวถอยหลังหนีออกมา ภาพที่เห็นตรงหน้าเป็นซากศพของชายแก่ แต่งกายด้วยชุดลำลอง เนื้อหนังแห้งเหี่ยวติดกระดูก ดวงตาลึกบุ๋มลงไปแก้มสองข้างแห้งติดกับโหนกแก้ม เส้นผมสีขาวเหลือติดอยู่บนหัวเป็นหย่อม ๆ
ปึก!!
ปลายฟ้าถอยหลังมาชนอะไรบางอย่างที่ผนัง ปลายฟ้าค่อย ๆ ใช้มือเอื้อมไปคลำสิ่งที่ชนอย่างช้า ๆ มันมีขนยาวและสากมือ
เฮ้ย!!
สิ่งที่เห็นทำให้ปลายฟ้ากลัวเป็นซากของสุนัขพันธ์โกลเด้นรีซีฟเวอร์ ถูกแขวนแห้งไว้กับผนังพร้อมกับข้อความว่า
‘ไซเฟอร์สุนัขตัวโปรด’
ปลายฟ้าเริ่มกลัวจนลนลานทำอะไรไม่ถูกแล้ว เพราะภาพที่เห็นทั้งหมดมันมากเกินกว่าที่จะรับได้ เขารีบวิ่งออกจากบ้านเพื่อจะหนีหม่อนให้ได้
ควับ!!
ข้อมือของปลายฟ้าถูกคว้าไว้พร้อมบีบอย่างแรง ทำให้ปลายฟ้าวิ่งหนีออกไปต่อไม่ได้
“ปลายฟ้าจะไปไหน คิดจะทิ้งผมไปอีกคนใช่ไหม ผมไม่ยอมให้คุณหนีไปไหนหรอก” เสียงพูดอย่างโมโหร้าย
“ปล่อย ปล่อยนะ” ปลายฟ้าพยายามสะบัดข้อมือให้พ้นจากการดึงรั้งไว้
แต่แรงของหม่อนมากกว่าที่เขาคิดไว้มาก มือที่จับข้อมือจับแน่นราวกับคีมล็อคไว้ ถ้าเป็นเช่นนี้เขาคงต้องเป็นเหมือนอย่างในบ้านแน่นอน แล้วเขาสังเกตเห็นมีดเล่มยาวอยู่ในมือของหม่อนแล้ว
“ย๊ากกก...”
ปลายฟ้าออกแรงถีบเข้าไปที่ชายโครงของหม่อนที่อยู่ตรงหน้า คนโดนถีบไม่ทันตั้งตัวปล่อยมือเซถลาล้มลงไป ปลายฟ้ารีบหันหลังวิ่งออกไปทันที เมื่อวิ่งออกมาสักพักก็ถึงบริเวณชายทะเล ที่ตอนนี้มืดสนิทท้องน้ำสีน้ำเงินสดกลายเป็นสีดำเช่นเดียวกับตอนกลางคืน
“ปลายฟ้าคุณหนีผมไม่พ้นหรอก เลิกดิ้นรนเสียทีเถอะ” เสียงหม่อนตะโกนดังไล่หลังมา
ปลายฟ้าวิ่งไปตามชายหาดอย่างสุดกำลังที่มี เขาวิ่งโดยไม่สนใจว่าเบื้องหน้าจะเจอสิ่งใดบ้าง เพราะสิ่งที่ตามเขามานั่นมันน่ากลัวเสียยิ่งกว่า หลังจากวิ่งมาได้พักใหญ่ ปลายฟ้าไม่ได้ยินเสียงวิ่งตามมาสักพักแล้วด้วย เขาเลยหยุดพักหายใจสักหน่อย แต่ก็ยังไม่ลดความระวังพยายามมองไปรอบ ๆ ตัวบ่อย ๆ
ควับ!
สัมผัสเย็นเฉียบพัดผ่านแขนไปอย่างรวดเร็ว ปลายฟ้าหันไปมองเป็นหม่อนที่มาดักหน้าอยู่ก่อนแล้ว พร้อมมีดปอกผลไม้เล่มยาว เขารีบถอยหลังหนีอย่างรวดเร็ว พร้อมกับรู้สึกได้ถึงสัมผัสของเหลวไหลออกจากต้นแขน มืออีกข้างถูกใช้เพื่อพิสูจน์ทันที ว่ามันจะเป็นอย่างที่เขาคิดหรือไม่
เลือดสีแดงข้นไหลออกจากบาดแผลขนาดใหญ่ ที่เกิดจากมีดปอกผลไม้ เลือดไหลหยดลงบนผืนทรายเป็นทางตามที่ปลายฟ้าถอยหลังหนีไป ร่างสูงใหญ่เดินตามเข้ามาอย่างช้า ราวกับมั่นใจว่าคนข้างหน้าไม่สามารถหนีไปไหนได้อีกแล้ว
“ปลายฟ้า คุณต้องอยู่กับผมตลอดไป” หม่อนพูดด้วยน้ำเสียงที่มีความสุข
“ปล่อยผมไปเถอะนะ หม่อนคงไม่คิดจะฆ่าผมจริง ๆ ใช่ไหม” ปลายฟ้าพยายามพูดดีด้วย พร้อมกับถอยหลับหนี
“ใครบอกว่าผมจะฆ่าปลายฟ้าล่ะ ผมแค่จะทำให้คุณเป็นเหมือนพ่อผมเท่านั้นเอง” หม่อนยิ้มอย่างภูมิใจ
“ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต เลือกยุ่งกับกูสักทีได้ไหม” ปลายฟ้าไม่คิดจะสะกดอารมณ์อีกต่อไป
“ทำไมปลายฟ้าพูดกับผมแบบนี้ล่ะครับ ไม่อยากอยู่กับผมแล้วเหรอ”
“ไม่!! ใครจะอยากอยู่กับคนบ้าอย่างแก ไปตายซะไป” สีหน้าคงคนตรงหน้าเปลี่ยนไปทันทีเมื่อสิ้นคำนี้
“ปลายฟ้าต้องเป็นของผมคนเดียว” หม่อนวิ่งเข้าหาพร้อมเงื้อมมีดในมือ
ปลายฟ้ารีบหันหลังกลับแล้ววิ่งหนีทันที แต่ปลายมีดก็ยังสัมผัสผ่านหลังเขาไป เลือดซึมออกมาแต่ไม่เยอะมาก ปลายฟ้าวิ่งสุดแรงเท่าที่มีในตอนนี้
ตูม!!
ด้วยความมืดเขาวิ่งสะดุดกิ่งไม้จนล้มกลิ้งตกลงน้ำทะเล เขารีบทรงตัวลุกขึ้นมา
“ตายเสียเถอะ..” หม่อนตามมาทันพร้อมกับแทงมีดเข้าใส่ปลายฟ้าที่กำลังจะลุกขึ้นจากน้ำ
ปลายฟ้าหมุนตัวหลบในน้ำก่อนจะหันมาถีบคนที่จะทำร้ายตน คนโดนถีบถลาหน้าทิ่มลงไปในน้ำ แต่ก็ลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
“นี่แหนะ” ปลายฟ้าปาทรายใส่หน้าทันทีที่หม่อนหันกลับมาจะเล่นงานเขา
“โอ๊ย!!” หม่อนร้องออกมาเพราะแสบตา ปลายฟ้าตัดสินใจเอาตัวพุ่งชนจนร่างของหม่อนกระเด็นออกไป มีดที่ถืออยู่หลุดจากมือ ปลายฟ้าตั้งหลักได้หันหลังกับเตรียมตัวหนี
“ซูม!!”
เขาถูกดึงขาจนจมลงไปในน้ำ ก่อนที่ร่างใหญ่จะลากเข้าไปหา ปลายฟ้าพยายามดิ้นรนเอาตัวรอดแต่ก็ยังไม่หลุดพ้น
“ปล่อย.. ปล่อยนะ..” ปลายฟ้าพูดไปสำลักน้ำไป แขนทั้งสองข้างก็พยายามดิ้นรนให้รุดพ้นจากมือหน้าใหญ่
“ปลายฟ้าต้องอยู่กับผมคนเดียว เราจะไม่พรากจากกันอีกนะครับ” หม่อนพูดเมื่อดึงปลายฟ้ามาได้
หม่อนจับคอปลายฟ้าไว้สุดแรง ก่อนกดลงไปในน้ำทะเลที่เย็นเฉียบ
“ชะ ช่วย.. อึก อึก ช่วยด้วย..” ปลายฟ้าสำลักน้ำเข้าไปอย่างมาก เขาพยายามดันตัวเองให้พ้นจากผืนน้ำทะเล
“เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป เราจะไม่พรากจากกันอีก” หม่อนพร่ำแต่พูดสองประโยคนี้ มือยังไม่เลิกจับปลายฟ้ากดลงไปในน้ำทะเล
‘พี่ก้อง พี่สายลม ช่วยผมด้วยครับ’
ปลายฟ้าได้แต่ภาวนาภายในใจ เพราะตอนนี้สติเขาเริ่มจะเลือนรางลงไปทุกขณะ เขาดิ้นทุรนทุรายจากการขาดอากาศหายใจ มือเกร่งของหม่อนกดคอเขาให้ทั้งตัวจมอยู่ใต้ท้องทะเลสีน้ำเงิน

============> โปรดติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่9 รอยยิ้ม+ต่ออีกนิด29/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 30-05-2011 16:54:54
อ่านจนจบตอน ไนท์ไม่พูดสักคำเลยเหรอ
แต่ยังดี หัวเราะกะร้องเพลงด้วย
เฮ้อ เหนื่อยแทนพี่เต
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 10 หนี P:6 [30/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 30-05-2011 17:03:29
สายลม  มาเร็วๆหน่อยดี้
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 10 หนี P:6 [30/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 30-05-2011 17:05:04
ช่วยด้วย ใครก็ได้มาช่วยน้องฟ้าที
พี่สายลมจะมาทันมั๊ย
โอย ลุ้นระทึก
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่9 รอยยิ้ม+ต่ออีกนิด29/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 30-05-2011 17:16:59
เต  หวานซะ
แล้วเมื่อไหร่ไนท์ถึงจะมีอารมณ์(หมายถึงความรู้สึกนะ  อย่าคิดมาก)ซักที
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่9 รอยยิ้ม+ต่ออีกนิด29/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 30-05-2011 18:29:52
ไนท์น่ารักที่สุดเลย ><
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 6 [28/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: huimei ที่ 30-05-2011 18:50:00
 :impress2: น่าร๊ากกกกอ่ะ
บรูโน่ ตอนแรกเหมือนจะซื่อๆ ดูไปดูมานี่เหมือนจะไม่ใช่ซะแล้ว :z2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่9 รอยยิ้ม+ต่ออีกนิด29/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 30-05-2011 18:54:58
ชอบซีนป้อนข้าวเหนียวไก่ย่างท่ามกลางเหล่าลูกหมาตัวน้อยจังเลย น่ารัก น่าเอ็นดู~ :L1:
พี่เต ช่างเป็นพระเอกแสนดีที่หนึ่ง อบอุ่น อ่อนโยน ใจเย็น ความอดทนสูง พึ่งพาได้
คนอ่านยังหวั่นไหว แล้วน้องไนท์จะไม่รู้สึกอะไรกับพี่เตเลยเชียวหรือ ???
รอวันที่เค้าจะหวานใส่กันนะค่ะ...
 
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 10 หนี P:6 [30/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 30-05-2011 18:56:06
เหอะๆ นึกแล้วว่าพ่อมันต้องเป็นศพ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 10 หนี P:6 [30/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 30-05-2011 20:13:32
ไอ้นี่มันโรคจิตของจริงเลยนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/Ch.10-11 ค่ะ 2 ตอนติด (29/5/54)
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 30-05-2011 20:26:33
โอ้วววว  อ่านสี่ตอนรวด....
นอกจากจะเลือดสาดเพราะซอมบี้แล้ว
ยังเลือดอาบ เพราะความหวานไม่รู้เวล่ำเวลา
เครียดดด :serius2: :serius2:


หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่9 รอยยิ้ม+ต่ออีกนิด29/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 30-05-2011 20:41:18
กรี๊ดดดดด :-[ :-[ :-[
พี่เต ผู้ชายที่ดีที่สุดในสามโลก :m1:....น้องไนท์ก็พยายามแสดงอารมณ์ออกมาหน่อยนะจ๊ะ
พี่เตจะได้ดีใจ ชอบฉากสุดท้ายยย  ฟ้าร้องแล้วนอนด้วยกัน
อุ้ยยยย หวานหยดดดดติ๋งๆๆๆ อิจฉาจังเว้ยยย :m3:
รอตอนต่อไปนะค่ะ เป็นกำลังจให้
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่9 รอยยิ้ม+ต่ออีกนิด29/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 30-05-2011 21:29:39
เต..ลองเป็นพี่เลี้ยงเด็กดูซักตั้งนะครับ แล้วงานนี้มันท้าทายความสามารถดีออกนะเต
ไม่ว่าเตหรอกนะที่เริ่มรู้สึกแบบนั้นกับไนท์ ก็เพราะงานนี้เตทุ่มทั้งตัวและหัวใจนี่นา
และอาการของไนท์ ดิฉันคิดว่า ต้องใช้ใจรักและใจที่เข้าใจเท่านั้น ในการเยียวยา
คิดว่าเตมาถูกทางแล้วล่ะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่9 รอยยิ้ม+ต่ออีกนิด29/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 30-05-2011 21:53:47
พี่เต พระเอกสุดๆ :impress2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 10 หนี P:6 [30/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 30-05-2011 22:37:09
ปลายฟ้าอย่าเป็นอะไรนะ :serius2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่9 รอยยิ้ม+ต่ออีกนิด29/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 30-05-2011 22:48:05
พี่เตหวานมากกกกกกกกกกกกกก  :o8:
ไนท์ก็น่ารัก  เริ่มเปิดใจให้พี่เตแล้วสินะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่9 รอยยิ้ม+ต่ออีกนิด29/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 30-05-2011 23:09:58
บรรยากาศเป็นใจ.... ให้เสียตัว อิอิ  :-[


+ :L2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 10 หนี P:6 [30/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 30-05-2011 23:18:05
 :serius2:     ใครจะมาช่วยปลายฟ้าได้เนี่ย 
หม่อน น่ากลัวกว่าที่คิดอีก ตอนแรกนึกว่าจะโรคจิตธรรมดา ซะอีก  
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 10 หนี P:6 [30/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 30-05-2011 23:21:56
หูย..หม่อนอ่ะ เป็นคนโรคจิตที่น่ากลัวมาก สงสัยเป็นอาชญากรฆ่าพ่อด้วยรึเปล่าเนี่ย
ถึงจะค่อนข้างหมั่นไส้ปลายฟ้า แต่ก็ภาวนาว่าอย่าให้เป็นอะไรมากกว่านี้เลย ให้คนตามไปช่วยทันทีเถอะ
สงสารพี่สายลม ไม่อยากให้สายลมเศร้าจ้ะ
 
ป.ล.คุณสายลมฯ..ขา "...แต่งกายด้วยชุดรำรอง..." ชุดลำลองค่ะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่10 อ้อนเงียบ 30/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: ภาพฝัน ที่ 30-05-2011 23:30:47



   เตชวัฒน์ลืมตาตื่นขึ้นมาเมื่อแสงแดดกระทบเข้ากับดวงตา เขาชะงักเมื่อสัมผัสถึงน้ำหนักที่อยู่ข้างตัว วริศรินทร์นอนกอดเตชวัฒน์แน่น เขาอดยิ้มกับภาพที่เห็นไม่ได้ ภาพที่วริศรินทร์นอนหลับตาเส้นผมสีน้ำตาลเข้มปกคลุมใบหน้าขาวซีด พอเขาขยับไนท์ก็ขยับเข้ามากอดขึ้นไปอีก ใบหน้าอ่อนวัยขยับเข้าถูไถกับหน้าอกของเขาเหมือนลูกแมวขี้เซา เตชวัฒน์ยิ้มกับภาพที่เห็นฝ่ามืออบอุ่นลูบไล้แผ่วเบาที่ข้างแก้มอย่างอ่อนโยน

   “อรุณสวัสดิ์ครับ” เตชวัฒน์กล่าวทักทายเมื่อวริศรินทร์ตื่นขึ้นมาด้วยใบหน้ามึนงง วริศรินทร์มองรบๆอย่างมึนงงเหมือนยังไม่ตื่นดี

   “เมื่อคืนฝนตกไนทืมาหาพี่ที่ห้องพี่จำได้ไหม” เตชวัฒน์ชี้แจงก่อนที่อีกฝ่ายจะเข้าใจผิดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลอ่อนโยนและรอยยิ้มที่สดใส เขามองไนท์ที่นั่งมองเขานิ่งอยู่เช่นเดิม วริศรินทร์แค่เอียงคอมองและพยักหน้าเข้าใจ นายแบบหนุ่มยกมือขึ้นป้องปากหาวแล้วลุกขึ้นยืนอย่างซวนเซเตชวัฒน์รวบแขนรับเข้ามากอด

   “ใจคอจะไม่พูดกับพี่เลยเหรอ” เตชวัฒน์กระซิบถามคนในอ้อมกอดกลายเป็นว่าตอนนี้ไนท์นั่งอยู่บนตักเขา เขาเห็นไนท์มองหน้าเขานิ่งและเงียบ ในใจเขารู้ว่าควรปล่อยและทำกับอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน แต่ร่างกายของเขากลับไม่ยอมทำตามเหตุผล เตชวัฒน์กอดเอวไนท์แน่นขึ้นมาอีก จมูกของเขาสัมผัสที่แก้มขาวๆ ของไนท์อย่างช้าๆ

   “ถ้าไม่พูดอะไรพี่ไม่ปล่อยนะครับเด็กน้อย” เตชวัฒน์ตกใจในการกระทำของตนและกลัวว่าอีกฝ่ายจะตกใจ เขาเลยแสร้งทำเหมือนอีกฝ่ายเป็นเด็กเล็กๆ วริศรินทร์ไม่ตอบแต่ใช้การดิ้นและลุกหนี สีหน้าของอีกฝ่ายยังคงไม่เปลี่ยนแปลงซึ่งนั่นทำให้เตชวัฒน์โล่งใจ เขากอดรัดร่างของอีกฝ่ายแน่นเข้าไปอีก เสียงทุ่มนุ่มกระซิบอยู่ที่ข้างหู

   “ไม่พูดพี่ไม่ปล่อยจริงๆนะ” เตชวํมน์กระซิบ เขารู้สึกสนุกที่เห็นไนท์หันมามองเขาตาขวางๆ

   “ปล่อย หิว” คำพูดยังคงสั้นและห้วนอยู่เหมือนเดิม แต่เตชวัฒน์ต้องตกใจเมื่อริมฝีปากนุ่มประทับลงมาที่ข้างแก้ม พร้อมกับร่างสูงโปร่งที่ผละออกไปจากตัวเขา รู้ตัวอีกทีเขาก็เห็นแผ่นหลังที่เดินออกจากประตูไปอย่างว่องไว

   “ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เตชวัฒน์อดหัวเราะออกมาไม่ได้ฝ่ามือลูบไล้ไปที่ข้างแก้มแบบนี้ตจะเรียกได้ว่าไนท์ยอมเปิดใจให้เขาได้ไหม เตชวัฒน์ลุกขึ้นบิดกายแล้วเดินฮัมเพลงเข้าไปล้างหน้าแปรงฟันเดี๋ยวเขาต้องไปหาอะไรให้วริศรินทร์ทาน

   “อ้าวคุณเตลงมาแล้วเหรอค่ะ” ป้ามาลัยทักในมือถือโจ้กหมูหอมกรุ่นเดินออกมาที่ห้องรับแขก เตชวัฒน์มองชามโจ้กในมือของป้ามาลัย

   “ของคุณไนท์นะค่ะ แกก็แปลกนะค่ะ เข้าไปนั่งมองป้าทำโจ้กในครัวไม่พูดไม่จา จนป้าต้องถามว่าหิวหรือเปล่าแกถึงพยักหน้า นั่นแกเล่นกับลูกหมาอยู่หน้าบ้านนะค่ะ” ป้ามาลัยตอบยิ้มๆ เตชวํมฯืมองตามสายตาเห็นวริศรินทร์ในชุดนอนยืนกัดแอปเปิลอยู่และใช้ปลายเท้าเขี่ยลูกหมาที่พันแข้งพันขาอยุ่หน้าประตู

   “ป้าครับ ผมขอโจ้กด้วยเหมือนกันไม่ใส่ไข่นะครับ” เตชวัฒน์รับถ้วยโจ้กในมือของป้ามาลัยมาถือเอง วริศรินทร์เหลือบมองเตชวัฒน์ที่วางถ้วยโจ้กแล้วเดินเข้ามาใกล้ พร้อมย่อตัวลงลูบศรีษะลูกสุนัขที่ยังคงคลอเคลียไม่ห่าง

   “มากินโจ้กครับแต่อย่าเอาหมาเข้าบ้าน” เตชวัฒน์ยิ้มเมื่อเห็นไนท์อุ้มลุกหมาสีน้ำตาลขึ้นมา เขาเห็นไนท์ชะงักมองหน้าเขาทันทีแต่ก็ยอมเดินตามเข้ามา ป้ามาลัยหยิบโจีกมาให้อีกชาม เขานั่งทานกันเงียบๆ อยู่บนโซฟารับแขก เตวัฒน์เลยเปิดโทรทัศร์เพื่อทำลายความเงียบช่องที่เปิดเป็นจังหวะที่รายการโทรทัศน์นำการ์ตูนมาฉายพอดี

   “ดูไหม” เขาหันไปถามไนท์ที่นั่งอยู่ข้างๆ แทนคำตอบคือการพยักหน้า พวกเขานั่งดูไปเรื่อยๆ จนโจ้กหมดชาม ไนท์นั่งกอดเข่าดูการ์ตูนอย่างเพลิดเพลิน ในบางครั้งหลุดยิ้มน้อยๆ ออกมา ซึ่งนั่นก็ทำให้เขาอดยิ้มตามไม่ได้ ป้ามาลัยหยิบขนมต้มมาให้ทานกัน เตชวัฒน์หยิบจานขนมต้มยื่นให้แต่ทันทีที่ไนท์ยื่นมือออกมาเขาชักจานหลับ

   “ไปล้างมือครับ เมื่อกี้จับลุกหมามาพี่เห็นน่ะ” เขาจุ๊ปากเมื่ออีกฝ่ายทำท่าจะทานขนมโดยไม่ล้างมือ เขาหยิบขนมต้มขึ้นมาใส่ปากตัวเองแล้วยิ้มยั่วอีกฝ่าย เขายิ้มเมื่อเห็นไนท์มองเขานิ่งๆ เลยคิดจะแกล้งกินโดยการหยิบขนมต้มไปจ่อปากแล้วชักกลับแต่ก็ต้องตกใจเมื่อวริศรินทร์ทิ้งตัวลงนอนบนตัก มือเรียวจับมือเขาที่ถือขนมเลื่อนไปเข้าปากตนเอง เตชวัฒน์มองใบหน้าที่เคี้ยวขนมและจ้องหน้าเขานิ่งเหมือนจะบอกว่าชนะแล้วแล้วยิ้ม

   “จะให้พี่ป้อนเหรอ” เขากระซิบถาม หยิบขนมในจานจ่อปากของอีฝ่ายช้าๆ ไนท์ไม่ตอบแต่อ้าปากรับ เตชวัฒน์อดดึงจมูกของอีกฝ่ายด้วยความมันเขี้ยวไม่ได้ สำหรับเขาในตอนนี้เขารู้สึกว่านับวันไนท์ยิ่งน่ารักขึ้นทุกที แม้ว่าการที่จะทำให้อีกฝ่ายพุดแต่ละคำนั้นมันยากซะเหลือเกินก็ตามที 
   

...........................

ภาพน้องไนท์ตอนไม่ลงสี

(http://www.picza.net/uppic/pic/2011_05_31/ba4/ba4a2fe27036fcf271d7b01c242de065.jpg) (http://www.picza.net/show.php?id=ba4a2fe27036fcf271d7b01c242de065)
Thanks: Ro (http://ro.xn--n3cg3dvb4bwc.net/)  ฝากรูป (http://www.picza.net)


ลงสีแล้ว

(http://www.picza.net/uppic/pic/2011_05_31/1d6/1d66ec3fac6930783ce91fcfe69eb83c.jpg) (http://www.picza.net/show.php?id=1d66ec3fac6930783ce91fcfe69eb83c)
Thanks: Ro (http://ro.xn--n3cg3dvb4bwc.net/)  ฝากรูป (http://www.picza.net)
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 10 หนี P:6 [30/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: b27072010 ที่ 30-05-2011 23:33:32
ลุ้นมาก  ๆ  หม่อนนี้จิตเข้าขั้นเลยว่ามะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่10 อ้อนเงียบ 30/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: Muzik ที่ 30-05-2011 23:35:57
เด็กอะไรน่าเอ็นดู ถึงแม้บางครั้งจะแอบหลอนไปบ้าง
พี่เตกำไรตลอดๆ o13
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่10 อ้อนเงียบ 30/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: blanchard ที่ 30-05-2011 23:50:41
ภาพวาดน้องไนท์น่าฮักมากมาย   :m18:
เป็นไงล่ะพี่เต หยอดน้องเค้าไว้เยอะ น้องเค้าเริ่มเล่นด้วย แล้วเป็นไงล่ะ?   :a14:      

... หวานจนคนอ่านแทบลมจับ    :give2:  
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่10 อ้อนเงียบ 30/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 30-05-2011 23:58:05
ง่า รู้สึกอยากสิงร่างเตเอามากๆ
อยากป้อนขนมน้องไนท์อ่ะ

//ลงไปนอนดิ้นกับพื้น
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่10 อ้อนเงียบ 30/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 31-05-2011 00:12:43
น้องไนท์น่ารักอ่ะ เงียบๆเอาใจยากแต่บางทีก็มาอ้อน อย่างกะกระต่ายผสมแมวเลย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่10 อ้อนเงียบ 30/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 31-05-2011 00:18:27
หวานเหลือเกิน ช่างออดอ้อน แม้ไม่พูด แต่การกระทำก็ชัดเจน :-[
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่10 อ้อนเงียบ 30/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 31-05-2011 00:28:30
ความหวานโอบอุ้มบรรยากาศ ให้ความรู้สึกเหมือนดอกไม้ที่กำลังจะผลิบานเลยค่ะ
เงียบ ๆ ก็หวานได้เนอะ ไม่ต้องพูดพรรณนาอะไรมากมาย ต้องเอาใจสื่อใจ
น้องไนท์หวานเีงียบ ๆ อ้อนเงียบ ๆ น่ารักเงียบ ๆ พี่เตสัมผัสความรู้สึกนั้นได้อยู่แล้ว ~ :กอด1:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๗. ๒๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 31-05-2011 00:35:43
(http://upic.me/i/w6/3rain.gif) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23990.0)

แวะมาโฆษณาหน่อย ทายกันน้อยจัง
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่10 อ้อนเงียบ 30/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 31-05-2011 00:38:39
โอ้ยยย อยากจะลักไนท์กลับมากอดที่บ้านจริงๆ คนอะไร๊น่าฮักขนาด อ้อนเงียบๆ น่ารักแบบเงียบๆ อิอิ อิจฉาอิพี่เตที่ซู้ดดดด ได้กำไรตล๊อด ตลอด ^_^
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่10 อ้อนเงียบ 30/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 31-05-2011 00:40:40
(http://upic.me/i/w6/3rain.gif) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23990.0)

แวะมาโฆษณา ร่วมสนุกกันนะครับ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 6 [28/05/54] P.5
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 31-05-2011 00:40:46
คุณหนูน่ารักและน่าสงสารมาก วินเอ๊ย..โถ..น้องยังเด็กนัก เด็กทั้งอายุ ความคิด ประสบการณ์
แล้วชีวิตน้องน่าสงสารมากเกินกว่าที่วินจะไปคิดทำอะไรๆแบบนั้นน้า น้องยังเป็นเด็กชายอยู่นะ
อย่างน้อย รอน้องซักม.ปลายก่อนเทอะ อิฉันทำใจรับเรื่องแบบนั้นที่จะเกิดกับน้องไม่ได้ค่ะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 10 หนี P:6 [30/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 31-05-2011 00:58:19
รอดหรือไม่รอด โอ้ยยย สายลมมาเร็วๆเลย ที่รักแกกำลังแย่เพราะคนโรคจิตขั้นเทพ!!!
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๗. ๒๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 31-05-2011 01:09:46
เทียนร้ายมาก แล้วเทียนก็ไม่เหมาะกับทานสักนิดเดียม แล้วดิฉันก็...ส.น.น.ทาน
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 7 [31/05/54] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 31-05-2011 01:15:23
 
(http://upic.me/i/zt/x6811.jpg) (http://upic.me/show/24771987)


เล่ห์ร้าย
ตอนที่ 7.

“ไอ้เพื่อนชั่ว พวกมึงให้อะไรกูมาวะ” วิธวินท์โวยวายทันทีที่ถึงโต๊ะนั่งประจำกลุ่มที่พวกเพื่อนๆ รวมตัวกันอยู่ก่อนหน้า เนื่องจากชายหนุ่มลงเรียนวิชาเลือกที่ไม่เหมือนเพื่อนในกลุ่ม กว่าจะได้มาเอาเรื่องเพื่อนตัวดีก็เป็นเวลาเย็นของอีกวัน
“เป็นไง เด็ดใช่มั้ยล่ะ กว่ากูจะได้มา ไอ้ป๋องแทบเสียตัวให้อีมิ้น” จ๊อดพูดถึงวิธีที่ทำให้ได้แผ่นดีวีดีมาอย่างติดตลก เพราะต้องส่งเพื่อนชายหน้าตาดีไปขอมาจากเกย์สาวที่อาศัยอยู่ข้างห้องที่มาติดพันป๋องอยู่
“เชี่ยเอ๊ย กูเลยซวยเพราะอีมิ้นนึกว่ากูเริ่มหันเห ที่นี้แม่งมายั่วกูใหญ่เลย” ป๋องผู้เคราะห์ร้ายร้องบอกออกมาบ้าง
“แต่ถ้าหนักกว่านี้ สงสัยกูต้องย้ายหอหนีแล้วว่ะ” ประโยคสุดท้าย เจ้าตัวพูดด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ
“หายากนะเว้ยเชี่ยวิน กว่าจะเจอแบบเด็กๆ พวกกูไปเดินหากันตั้งหลายที่” ปอเพื่อนอีกคนออกความเห็นบ้าง ถึงความลำบากในการเสาะหาสื่อการเรียนรู้มาให้วิธวินท์
ชายหนุ่มก็แอบยอมรับในใจว่าเนื้อหาในดีวีดีนั้นทำให้เค้าเกิดความรู้สึกปั่นป่วนมากกว่าตอนที่เข้าไปดูในบาร์โชว์ อาจจะเป็นเพราะว่าคราวนี้เขาได้ดูอยู่ในห้องหับมิดชิด ไม่ใช่ที่โล่งแบบในร้าน หรือจะเป็นเพราะเด็กชายในหนังทำให้เขาคิดไปถึงเด็กชายตัวเล็กหน้าขาวปากอิ่มอีกคนหนึ่ง
“แต่คุณหนูยังเด็กอยู่เลยนะไอ้พวกเลว” ชายหนุ่มอ้อมแอ้มตอบเพื่อนๆ ออกไป
“งั้นมึงเอาคืนมาเลย กูเอาไว้ดูกันเองก็ได้”
“กูไม่คืน”
เพื่อนๆ ต่างเฮฮาในคำตอบที่ได้จากชายหนุ่ม

“เอ่อ...วินคะ...” เสียงหวานเอ่ยเรียกชื่อชายหนุ่มจากทางด้านหลัง
“ครับ ว่าไงครับน้ำฝน” ชายหนุ่มหันไปมอง ก็พบกับหญิงสาวร่างโปร่งบางเพื่อนต่างคณะนั่นเอง
“คือเรื่องที่น้ำฝนขอไว้ ไม่รู้ว่าวินสะดวกไหมคะ” หญิงสาวเอ่ยด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ติดจะเอียงอายเล็กน้อย พวกเพื่อนๆ ของชายหนุ่มต่างก็ทำเป็นไม่สนใจแต่ก็แอบเก็บทุกรายละเอียด
“ขอโทษจริงๆ ครับ ผมไม่ว่างเลย คงไม่สะดวก” ชายหนุ่มยิ้มรับ แต่ก็ตอบปฏิเสธกลับไป
หญิงสาวยิ้มเจื่อนลง แต่ก็ยังชวนชายหนุ่มพูดคุยอยู่นาน

ร่างสูงโปร่งสมส่วนของชายหนุ่มใบหน้าคมกับสาวสวยร่างบางแต่ก็มีส่วนเว้าส่วนโค้งสมเป็นหญิงสาวเต็มตัวที่ยืนคุยกันอย่างออกรส ทั้งคู่ต่างยิ้มแย้มให้กัน ภาพของทั้งสองไม่ได้คลาดไปจากดวงตากลมใสเลยแม้แต่น้อย ลลิตนั่งอยู่บนเบาะหลังของรถยนต์คันใหญ่ ที่ตั้งใจว่าจะแวะเข้ามารับวิธวินท์เพื่อกลับไปพร้อมกัน
“ไปจอดรถข้างนอกเถอะ” เด็กชายเอ่ยบอกกับสมบูรณ์ซึ่งทำหน้าที่ขับรถ รถคันใหญ่เลื่อนออกจากจุดเดิมช้าๆ เด็กชายละสายตาจากภาพหญิงชายที่ยืนคุยกัน หยิบโทรศัพท์มือถือแล้วกดข้อความส่งไปทันที

 ‘ฉันรออยู่หน้าม. ออกมาเดี๋ยวนี้’

ข้อความสั้นที่โชว์อยู่ในโทรศัพท์มือถือของวิธวินท์ ทำให้ชายหนุ่มต้องเอ่ยลาเพื่อนๆ แล้วรีบออกมาทันที
หญิงสาวคนสวยก็ได้แต่แปลกใจที่ชายหนุ่มที่เคยให้ความสนใจในตัวเธออยู่บ้าง ตอนนี้กลับดูเฉยเมย มีแค่คำลาสั้นๆ ก่อนจะเดินจากไปอย่างเร่งร้อนเพียงเพราะได้รับข้อความบางอย่าง
“จ๊อด วินเขารีบไปไหนของเขาเหรอ” สาวสวยหันไปถามเพื่อนในกลุ่มของชายหนุ่ม
“รู้แล้วเหยียบไว้เลยนะน้ำฝน ไอ้วินมันติดเด็ก” เสียงจ๊อดตอบกลับมา เพื่อนหลายคนก็สะกิดให้จ๊อดรู้ตัวว่าไม่ควรพูด
“คุณหนูไฮโซซะด้วย โอ๊ยย อะไรวะเชี่ยปอ” จนปอทนไม่ไหวกระทืบเท้าเพื่อนไปอย่างแรง
“ไม่มีอะไรหรอกครับน้ำฝน ไอ้จ๊อดมันเพ้อเจ้อ” ปอกล่าวแก้ให้
หญิงสาวจึงเก็บความสงสัยไว้ในใจแล้วขอตัวไป
พอลับหลังหญิงสาว จ๊อดถูกเพื่อนต่อว่ากันยกใหญ่ที่ไม่ควรเอาเรื่องของเพื่อนมาพูด จ๊อดก็ขอโทษขอโพยสำนึกผิดว่าลืมตัวพลั้งปากออกไป

วิธวินท์นั่งรถมาอย่างเงียบๆ แต่ก็รู้สึกแปลกใจที่วันนี้เด็กชายไม่ถามอะไรเลยเหมือนดังเช่นทุกครั้งที่เคยมารับเค้า ชายหนุ่มแอบเหลือบมองร่างเล็กอยู่หลายครั้ง แต่เด็กชายก็ไม่ได้สนใจเขาเลยแม้แต่น้อย ทำให้วิธวินท์ใจเสียเพราะหลังจากวันเกิดของเด็กชายที่ผ่านมาสองสามวัน เขาก็โดนเมินมาตลอด ความกังวลใจของชายหนุ่มเริ่มกลับมาอีกครั้ง
ลลิตนั่งพิงเบาะมองที่นอกหน้าต่างรถเงียบๆ มือหนึ่งวางไว้บนตัก มืออีกข้างวางไว้ข้างตัว ลูบที่ห้อยโทรศัพท์ตุ๊กตารูปหมาขนปุยสีน้ำตาลตรงท้องสีขาว ของขวัญวันเกิดที่ได้จากชายหนุ่มข้างๆ ในสมองของเด็กชายกำลังคิดเปรียบเทียบถึงสาวสวยที่ดูเหมาะสมกับวิธวินท์ และท่าทางจะชอบชายหนุ่มอยู่มากทีเดียว ทางฝั่งชายหนุ่มแม้ลลิตจะดูไม่ออกว่าคิดยังกับหญิงสาวแต่ที่แน่ๆ ก็คงไม่ได้รังเกียจอะไร แต่ถึงยังไงในสัญญาระหว่างเรา ชายหนุ่มก็ตกลงไว้แล้วว่าจะไม่มีแฟน
‘บรูโน่ นายเป็นของฉัน ถึงจะไม่พอใจแต่นายก็ไม่มีสิทธิ์เลือก’ เด็กชายคิดในใจอย่างเอาแต่ใจ แล้วก็อมยิ้มออกมาได้ แต่ก็หันหน้าซ่อนยิ้มไปทางนอกหน้าต่าง

“อ่ะ ของบรูโน่” ลลิตส่งถุงกระดาษ ที่วิธวินท์จำได้ว่าเป็นถุงที่ได้มาจากบาร์โชว์ที่ไปด้วยกันเมื่อหลายคืนก่อน  เด็กชายนั่งอยู่บนเตียงเท้าแขนทั้งสองข้างไปด้านหลัง ขาทั้งสองห้อยลงมาที่ข้างเตียง
เมื่อชายหนุ่มเปิดดูในถุงก็ต้องตาโตด้วยความตกใจ มือไม้เหมือนไม่มีแรงจนถุงกระดาษนั่นเกือบร่วงลงบนพื้น แต่ในเมื่อเป็นคำสั่งของคุณหนู เขาจะทำอะไรได้ แล้วตัวเขาเองในตอนนี้ก็อยากจะเอาใจร่างเล็กที่อยู่ตรงหน้าเสียด้วย เป็นการไถ่โทษที่เผลอปล่อยใจทำตัวรุ่มร่ามในวันก่อน
“ไปอาบน้ำ แล้วเปลี่ยนมาเดี๋ยวนี้” ร่างเล็กล้มตัวลงนอน หยิบหนังสือการ์ตูน ขึ้นมานอนอ่านรอ ทำทีเป็นไม่สนใจชายหนุ่มที่เดินคอตกหายเข้าไปในห้องน้ำ แต่ดวงตากลมใสก็แอบเหล่มองตลอดเวลา
วิธวินท์วางถุงกระดาษลงบนเคาน์เตอร์หินอ่อนในห้องน้ำ ถอนหายใจเบาๆ แม้รู้ว่าเป็นคำสั่งเพื่อแกล้งเขา แต่ชายหนุ่มก็เต็มใจ สิ่งที่หนักใจก็คือชุดที่อยู่ในถุงนี่น่ะสิ ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาแรงๆ แล้วลงมือถอดเสื้อผ้า เพื่อชำระล้างร่างกายก่อนที่จะเปลี่ยนชุดใหม่ตามที่คุณหนูต้องการ

............

“เป็นไงบ้างคะคุณหนู บริการของเราถูกใจไหมคะ” ธัญญ่าเอ่ยขึ้นใกล้ๆ กับเด็กชายที่นั่งพิงอยู่กับชายหนุ่ม ลลิตจึงยันตัวขึ้นมาแล้วขยับเข้าไปใกล้กระซิบตอบกลับไป
“ดีมากเลย น้ำหวานๆ นี่อร่อยจริงๆ” เด็กชายตอบกลับไปเสียงอ้อแอ้
“งั้นมาบ่อยๆ นะคะพี่ญ่าจะให้เด็กๆ ของพี่ดูแลอย่างดีเลย”
“ได้เลย พี่ญ่าคนสวย อืมมม ชุดของเด็กร้านพี่เซ็กซี่จัง ริชขอซื้อไปให้พี่ชายคนนั้นใส่ได้มั้ย” เด็กชายบุ้ยปากไปทางชายหนุ่มที่นั่งนิ่งอยู่
“ได้สิคะ พี่ญ่าจะให้แบบพิเศษเลย แล้วก็ไม่ต้องซื้อหรอกนะคะ ถือว่าเป็นของสมนาคุณจากทางร้าน ไซส์มาตรฐานแบบนี้มีอยู่แล้วค่ะ” เกย์สาวบีบแก้มเด็กชายด้วยความเอ็นดูเบาๆ
“ขอบคุณครับ”

............

ลลิตนอนมองประตูห้องน้ำอย่างใจจดใจจ่อ ในมือก็ยังถือหนังสือเอาไว้เผื่อชายหนุ่มออกมาจะได้เอามาบังหน้ากลบเกลื่อน เสียงประตูเปิดออกเบาๆ ชายหนุ่มโผล่หน้าออกมามองโดยที่ตัวยังซ่อนอยู่หลังประตูบานใหญ่
“คลานออกมา” เด็กชายพูดเสียงเรียบทำเป็นอ่านหนังสือการ์ตูนไปเรื่อยๆ
ชายหนุ่มคุกเข่าลงบนพื้นพรมแล้วคลานจากหน้าประตูห้องน้ำ มานั่งที่ข้างเตียง เครื่องปรับอากาศทำให้ในห้องเย็นฉ่ำแต่ร่างของชายหนุ่มที่พึ่งอาบน้ำมาหมาดๆ กับเสื้อผ้าที่ปกปิดร่างกายได้เพียงเล็กน้อยกลับทำให้รู้สึกหนาวสะท้าน
วิธวินท์อยู่ในชุดที่ไม่น่าจะเรียกว่าชุด เพราะความที่มันแทบไม่สามารถห่อหุ้มร่างกายได้เลย บนศีรษะมีที่คาดผมสีดำที่มีผ้าตัดเป็นรูปหูหมาขนปุยสีดำตรงกลางแซมด้วยสีขาวเล็กน้อย มีถุงมือที่ไม่มีนิ้วขนปุยสีดำเลียนแบบเท้าหมา ที่คอมีเฟอร์ขนสัตว์เทียมสีดำแซมสีขาวตรงกลางยาวลงมาถึงแผงอกแน่น ไล่เรื่อยลงมาที่หน้าท้องแบนราบมีกล้ามเนื้อให้เห็นพอสวยงาม กางเกงในตัวจิ๋วสีดำทำจากผ้าเนื้อบางจนมองเห็นภายในรางๆ ด้านหลังติดพวงหางสีเดียวกับตัวกางเกงเอาไว้ ที่ข้อเท้าสวมปลอกเป็นผ้าขนปุยสีดำใส่อยู่ทั้งสองข้าง

“บรูโน่มานี่สิ” เด็กชายเรียกพร้อมกับเขย่าของบางอย่างในมือเบาๆ จนเกิดเสียง
ชายหนุ่มคลานเข้าไปหาลลิต เด็กชายเชยคางวิธวินท์ขึ้นมอง แล้วติดล็อกสายจูงเข้ากับสร้อยคอของชายหนุ่ม ที่สายจูงนั้นติดกระพรวนลูกใหญ่เสียงดังกรุ้งกริ้งเอาไว้ ลลิตใช้มือสอดเข้าไปในกลุ่มผมดำข้างหูชายหนุ่มลูบเบาๆ ชายหนุ่มจึงเอียงศีรษะเข้ารับมือเล็กๆ ของเด็กชาย ส่ายศีรษะน้อยๆ เป็นการออดอ้อนให้เข้ากับบทที่คุณหนูมอบให้ พร้อมทำเสียงในอืออาลำคอ ถึงแม้ตอนนี้ใบหน้าของวิธวินท์จะแดงก่ำด้วยความขัดเขิน จนลามไปถึงใบหู ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นเลียเบาๆ ที่มือของเด็กชาย และใช้มือที่ใส่ถุงมือสะกิดเบาๆ ที่เข่าของลลิตที่พ้นออกมาจากกางเกงนักเรียนเหมือนลูกหมาที่ต้องการเล่นกับเจ้านาย เพื่อเอาใจคุณหนู

ลลิตรู้สึกสนุกที่ได้แกล้งชายหนุ่มให้ได้อายเล่น ก็อยากคุยแล้วก็ยิ้มให้กับคนอื่นเองนี่นา ก็ต้องรับการลงโทษไปตามระเบียบ เด็กชายสรรหาเกมมาเล่นกับชายหนุ่ม ทั้งโยนของให้ไปเก็บกลับมา จูงเดินไปรอบๆ ห้อง ขึ้นไปนั่งขี่บนหลัง จนพอใจเด็กชายจึงปล่อยชายหนุ่มกลับบ้านไป พร้อมกับใบหน้าที่ยังไม่หายแดง

สมบูรณ์มาส่งชายหนุ่มที่หน้าตึกห้องพักแล้วกลับออกไปเลย วิธวินท์เดินขึ้นบันไดไปช้าๆ เพื่อตรงไปที่ห้องเช่าที่เขาพักอยู่กับแม่ แต่ตอนนี้เขาอาศัยอยู่ลำพังบนชั้นสองของตึก ขณะที่ชายหนุ่มกำลังไขกุญแจเพื่อเข้าห้องก็มีชายฉกรรจ์ห้าคนเข้ามาล้อมรอบตัวเขา ชายหนุ่มหันไปมองทั้งหมดด้วยความสงสัย แต่ก่อนที่ชายหนุ่มจะได้พูดอะไร ชายที่ยืนอยู่ซ้ายมือสุดก็ใช้ผ้าโป๊ะลงมาที่กึ่งปากกึ่งจมูกของชายหนุ่ม วิธวินท์พยายามดิ้นรน แต่ด้วยแรงคนเดียวจึงไม่สามารถสู้แรงชายทั้งห้าได้ จนทุกอย่างมืดสนิทลง



=========> โปรดติดตามตอนต่อไป
จริงๆ บรูโน่ก็วัยรุ่นชายคนนึงนะครับ ถึงไม่เคยมีประสบการณ์
แต่ความเป็นผู้ชาย ก็จะสอนเรื่องแบบนี้ให้เป็นไปเองแหละครับ
 :o8: แต่จะว่าไปบรูโน่ก็ซื่อกว่าผู้ชายวัยเดียวกันเยอะนะครับ

ถ้าเป็นพี่นุ่งลมห่มฟ้าคุณหนูเสร็จไปตั้งแต่ตอนแรกแล้วครับ  :m20: (แอบพาดพิงล้อเล่นนะครับ)
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 7 [31/05/54] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: onjazz26 ที่ 31-05-2011 01:16:31
 :z13: จิ้มๆๆๆ

โอ้ยยยย....เรื่องของเหล่าเรนเจอร์มีแต่ลักพาตัว....
ทำให้ใจเต้นต่ำอยู่เรื่อยเลย....
มาต่อให้ไวๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 10 บ่วงกรรม 24/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 31-05-2011 01:17:40
กำลังปั่นอยู่เลยค่ะ  o18
กำลังรอเหมือนกันค่ะ
รอว่ายังมีคนที่หรั่งจะตามคิดบัญชีอยู่อีกไหม แล้วอะไรทำให้หรั่งแค้นขนาดนั้น
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 7 [31/05/54] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 31-05-2011 01:18:41
 :z13:


ย่องมาลงดึกๆ ยังมีคนมาตามจิ้มผมได้อีก เร็วมากๆๆๆๆ
o13

หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 7 [31/05/54] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: onjazz26 ที่ 31-05-2011 01:30:20
 :z13:
กร๊ากกกก...จิ้มอีกรอบ :z13:
วันนี้ได้สองรอบ....ดีใจจัง :m11:

ตอนแรกเห็นหัวข้อเปลี่ยนแต่ยังไม่มีเนื้อหา....ผมนึกว่าผีหลอกแล้ววว.... :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 10 หนี P:6 [30/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 31-05-2011 02:04:50
แกคำผิดแล้วนะครับ ปลายฟ้ากับสายลมใกล้จะจบแล้ว

มาคอยเอาใจชวยนะครับ ว่าทั้งสองคนจะได้ลงเอยกันหรือเปล่า

 :o12:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่ 10 หนี P:6 [30/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 31-05-2011 02:07:18
(http://upic.me/i/y7/qsky3.jpg) (http://upic.me/show/24228533)
http://www.youtube.com/v/WYUsOzsrjUY?
ตอนที่ 11 เสียสละ


สติของปลายฟ้าเริ่มเลือนหายไปทุกขณะ น้ำทะเลสำลักเขาปากของเขาอย่างต่อเนื่อง การดิ้นรนสุดแรงที่มีของเขาไม่มีผลต่อคนที่กระทำเขาอยู่แม้แต่น้อย สองมือพยายามไขว่คว้าหาสิ่งยึดเหนี่ยวเพื่อดึงตัวเองขึ้นจากน้ำ แต่กลับสัมผัสได้แต่แขนของคนที่กระทำตนอยู่ แถมยังผุดรอยยิ้มที่แสนจะเย็นชาขึ้นบนใบหน้านั้นอย่างคนไร้สติ
“ต่อไปปลายฟ้าจะอยู่กับผมตลอดไป เราจะไม่พรากจากกันอีกแล้ว” หม่อนพูดไปยิ้มไปกับภาพปลายฟ้าที่เขากำลังจับกดน้ำอยู่ตรงหน้า
“หยุดนะ!!”
เสียงตะโกนบอกดังขึ้นแต่ไกล พร้อมร่างที่กำลังวิ่งฝ่าความมืดมาอย่างรวดเร็ว ถึงจะจะโกนให้หยุดยังไงคนตรงหน้าท็ทำเหมือนไม่ใส่ใจ กลับใช้สองมือกดร่างสูงบางลงไปในน้ำให้ลึกขึ้นไปอีก
ตูม!!!
ร่างของหม่อนกระเด็นจมน้ำไปเพราะแรงถีบของคนที่วิ่งเข้ามา ก่อนที่จะรีบดึงร่างที่ไร้สติของคนที่จมอยู่ในท้องทะเลขึ้นมา
“ปลายฟ้า!! ปลายฟ้า!! ปลายฟ้าฟื้นสิ ฟื้นขึ้นมาสิครับ” สายลมเขย่าร่างไร้สติที่อยู่ในอ้อมกอดของตน
แต่กลับไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองแต่อย่างใด สายลมร้อนใจรีบอุ้มปลายฟ้าไปยังชายหาด ร่างขาวเริ่มซีดเพราะการแช่ในน้ำเย็นนาน ระบบหายใจก็แผ่วเบาลงมากจนน่าเป็นห่วง สายลงรีบปฐมพยาบาลจนปลายฟ้าสำลักน้ำที่กลืนลงไปออกมาส่วนหนึ่ง แต่ก็ยังไม่ได้สติการหายใจยังแผ่วเบาอยู่เหมือนเดิม
ฮึบ!! ฟู่!!
สายลมสูดหายใจเข้าไปจนเต็มปอด ก่อนที่จะประกบริมฝีปากไปที่ปากขาวซีดของปลายฟ้า เขาทำซ้ำอยู่หลายรอบเพื่อช่วยชีวิตปลายฟ้า โดยไม่ได้สนใจต่อคนที่กำลังเดินเข้ามาหาเขาอย่างแผ่วเบา
อ๊อกกก!!
ลำคอของสายลมถูกรัดรั้งยกขึ้นจากด้านหลังจนตัวลอยขึ้นจากพื้น สายลมใช้สองมือรั้งสิ่งที่รัดคอเขาไว้ เพื่อที่จะยังพอหายใจได้อยู่บ้าง ตัวเขาลอยอยู่บนหลังของหม่อนที่ใช้เสื้อทำเป็นเชือก รัดคอจากด้านหลังแล้วรั้งขึ้นไว้บนบ่ากับร่างที่สูงใหญ่ของหม่อน
สายลมปล่อยมือขวาออกจากผ้า พร้อมกับใช้ศอกขวากระแทกเข้าชายโครงของคนที่กำลังทำร้ายตน
ปึก!! ปึก!!
แรงที่กระแทกลงไปเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนคนที่โดนเริ่มคลายมือจากเสื้อที่ใช้รัดคออยู่ สายลมเห็นโอกาสเขารีบออกแรงโน้มตัวลงจนหม่อนเสียหลักล้มลง
ฟืดดด!! ฟืดดด!!
เสียงสูดอากาศเข้าของสายลมดังขึ้นทันทีที่หลุดจากการโดนรัดคอ แต่ตอนนี้เขาไม่ประมาทรีบหันไปมองร่างสูงใหญ่ ที่กำลังลุกขึ้นตรงมาที่ไปหาร่างปลายฟ้าที่ยังหมดสติอยู่ สายลมรีบลุกขึ้นวิ่งพุ่งชนร่างใหญ่นั้นให้ไปอีกทาง
หม่อนเมื่อถูกชนก็ล้มลงไปกับผืนทราย สายลมขึ้นคร่อมร่างหม่อนไว้ ก่อนระดมหมัดเข้าไปที่หน้าอย่างไม่ยั้ง
“แกทำอะไรปลายฟ้า ถ้าปลายฟ้าเป็นอะไรไปแกก็ไม่รอดเหมือนกัน” สายลมระเบิดอารมณ์ออกมา
คนที่ถูกต่อยกลับไม่แสดงความรู้สึกใด ๆ กลับจ้องหน้าตอบอย่างไม่ได้กลัวแม้แต่นิดเดียว หมัดถูกต่อยเข้าจนหน้าตาเริ่มปูดผิดรูปผิดร่าง มีรอยแผลแตกเกิดขึ้นที่โหนกแก้มข้างขวา ถึงจะโดนอีกกี่ครั้งก็ไม่มีเสียงร้องแสดงถึงความเจ็บปวดออกมา
สายลมต่อยจนตัวเองหมดแรง นั่งหอบอยู่บนร่างของหม่อน หลังจากที่คิดว่าหม่อนคงหมดสติไปแล้ว เขาลุกขึ้นกลับไปอุ้มปลายฟ้าไว้อีกครั้ง ต้องรีบพาปลายฟ้าไปหาหมอให้เร็วที่สุด ไม่งั้นอาจไม่ทันการก็ได้ สายลมอุ้มร่างขาวซีดวิ่งไปยังเรือที่ตนจอดไว้ทันที
ฉึก!!
เพียงเริ่มออกวิ่งเขาก็รู้สึกเย็นวาบเข้าที่กลางหลัง สัมผัสที่แข็งและเย็นแทรกผ่านร่างกาย แม้ยังไม่สร้างความเจ็บปวดให้ แต่ก็ทำให้เขาทรุดร่างลงได้ ถึงแม้จะเกิดอะไรขึ้นเขาก็ยังไม่ยอมปล่อยมือจากร่างของปลายฟ้า
“พี่จะไม่ยอมให้ฟ้าเป็นอะไรแน่นอน” สายลมพูดกับร่างที่ไร้สติ ที่หลังเขารู้สึกถึงของเหลวไหลออกมาจนชุมเสื้อที่ใส่
“อย่าคิดจะแย่งปลายฟ้าไปจากกู” เสียงขู่อาฆาตดังจากด้านหลัง
อ๊ากกก!!
สายลมร้องอย่างเจ็บปวดเมื่อหม่อนดึงบางอย่างออกจากหลังเขา ร่างของปลายฟ้าหล่นลงกับพื้น สายลมกัดฟันทนความเจ็บปวด หันหลังกลับถีบเข้าท้องหม่อนที่กำลังจะแทงเหล็กแหลมเข้ามาอีกครั้ง หม่อนที่หน้าตาปูดบวมจนดูไม่ได้ ล้มกลิ้งลงไปกับพื้นแต่ก็ลุกขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว
“มึงตาย อยากมาแย่งของกูดีนัก” หม่อนวิ่งเข้ามาพร้อมเหล็กแหลมแท่งยาวอีกครั้ง
สายลมไม่มีทางให้เลือกมากนัก เพราะว่าด้านหลังเขาตอนนี้เป็นร่างของปลายฟ้าที่นอนอยู่ ถ้าเขาหลบไปหม่อนอาจพลาดทำร้ายปลายฟ้าก็เป็นได้ เขาตัดสินใจยืนรับการพุ่งเข้ามาของหม่อนอย่างเต็มที่
ฮึบ!!
สองมือสายลมจับข้อมือที่กุมเหล็กของหม่อนไว้ ปลายเหล็กแหลมห่างจากหน้าอกเพียงเล็กน้อย แต่ไม่รู้ว่าหม่อนเอาเรียวแรงมาจากไหน ทำให้สายลมต้องถอยหลังเพื่อลดแรงต้าน และลดการเจ็บแผลที่หลังไปด้วย
ตึก!!
สายลมถอยจนไปชนกับร่างของปลายฟ้า ถ้าเขายังถอยต่อคงต้องลมลงไป แล้วปลายฟ้าจะเป็นอันตรายมากขึ้นแน่ ๆ เขารีบออกแรงต้านอย่างลืมความเจ็บปวดทั้งหมด บาดแผลที่หลังเจ็บขึ้นมาอย่างมาก ความรู้สึกถึงความชุ่มแฉะจากเลือดเพิ่มมากขึ้น
ปลายแหลมถึงดันจนสัมผัสกับหน้าอกข้างซ้าย เลือดเริ่มไหลซึมจากบาดแผล ถอยก็ไม่ได้อีกแล้วแรงที่มีอยู่ก็เริ่มถดถอยลงเรื่อย ๆ ถ้าเป็นแบบนี้คงยื้อออกไปได้อีกไม่นานแน่นอน ปลายฟ้าก็ไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร นี่เป็นครั้งแรกที่สายลมคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี

“ไอ้ลม มึงอยู่ไหนวะ” เสียงเรียกชื่อสายลมดังมาจากชายป่าใกล้
ความหวังกลับมาที่สายลมอีกครั้ง ก่อนขึ้นมาบนเกาะนี้เขาได้โทรบอกนิกเพื่อนที่เป็นตรวจให้ตามมาช่วย นิกช่างมาได้เวลาพอดีเสียจริง
“ไอ้นิกทางนี้.. อึก....” สายลมตะโกนเรียก แต่ก็ทำให้เหล็กแหลมในมือแทงเข้าไปที่หน้าอกจนมิดด้าม
ปัง!! ปัง!!
เสียงปืนดังขึ้นพร้อมกับร่างที่ทรุดลงพื้นทั้งสองคน นิกรีบวิ่งเข้ามาดูเพื่อนอย่างร้อนรน เขามาช่วยเพื่อนของเขาไม่ทันหรือนี่ นิกรีบวิทยุเรียกกำลังเสริมและหน่วยพยาบาลอย่างรวดเร็ว ร่างของสายลมถูกร่างที่ไร้วิญญาณของหม่อนทับไว้ เมื่อเอาศพของหม่อนออก สายลมนอนหมดสติหายใจรวยริน เหล็กแหลมฝังลงไปในหน้าอกข้างซ้ายเขาจนมิด
“ไอ้ลม!! ไอ้ลมมึงอย่าเป็นอะไรนะมึง” นิกเขย่าตัวสายลมเพื่อให้มีสติขึ้นมา
“ปลา..ย ฟ้า.... ชะ... ช่วย... ปลายฟ้า” สายลมพูดประโยคสุดท้ายพร้อมกับหมดสติไป


****************

ลงให้ก่อน 50% นะครับ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ50% P:6[31/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 31-05-2011 06:53:22
โอ้ยๆ สายลม  อย่าเป็นอะไรไปนะ :serius2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 7 [31/05/54] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 31-05-2011 06:59:05
เกิดอะไรขึ้นอีกละเนี่ย  :serius2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 7 [31/05/54] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 31-05-2011 08:30:11
ความทรงจำในอดีต การขาดความอบอุ่น เมื่อมาเจอสิ่งที่ใช่ ก็เลยไม่อยากให้ใครคนอื่นมาแย่งไป
แต่ในความเป็นจริงสิ่งที่ทำลงไป อาจสงผลไม่ค่อยจะดีกับทั้งสองคนก็ได้
ส่วนใครจะเป็นคน ๆ นั้น ที่ส่งคนมาจับ บรูโน่ ไป ......
+1 ให้เป็นกำลังใจ
ปล.เกาะติดสถานการณ์ ว่า วิธ จะรอดพ้นจากเงื้อมือนี้อย่างไร  :z2:
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่10 อ้อนเงียบ 30/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 31-05-2011 09:34:28
ไนท์แกเลียบสมชื่อตอนจริงๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ50% P:6[31/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: tarkung ที่ 31-05-2011 09:57:04
แวะมาอ่าน และจะรอติดตามต่อไปนะครับ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ50% P:6[31/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 31-05-2011 10:00:51
ถ้าจบแบบ ลมตาย แล้วฟ้าคู่กับก้องโดยไม่ใยดีลม  เราคงเกลียดฟ้าไปเลย
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่10 อ้อนเงียบ 30/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: tarkung ที่ 31-05-2011 10:19:05
น่ารักจังเลยเรื่องนี้

จะติดตามความน่ารักๆต่อไปนะครับ

ขอเป็นกำลังใจให้นะคร้าบบบ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 7 [31/05/54] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 31-05-2011 10:30:41
ชุดหมาเหรอ...ปกติ เจอแต่ให้เด็กใส่ แต่ไม่เป็นไร คราวหน้าคุณหนูใส่ชุดแมวคู่กับบรูโน่เลยนะ แต่ยังไงก็ช่าง ไปเอาบรูโน่คืนมาก่อน!!!
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 7 [31/05/54] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 31-05-2011 10:32:41
อ้าว ลักพาบรูโน่ไปทำอะไรล่ะนั่น
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 7 PG. 4 [28/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: tarkung ที่ 31-05-2011 10:36:58
จะติดตามตอนต่อไปนะครับ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ50% P:6[31/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 31-05-2011 10:39:13
 :serius2: :serius2:
ม่ายยยยยยยยยยยยย   สายลมต้องไม่เป็นอะไรน้า....
เรื่องนี้ทั้งเรื่องชอบสายลมอย่างเดียว
อย่าตายน้า  แล้วจะรอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๗. ๒๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: LimousinX9 ที่ 31-05-2011 10:39:42
ว่าแต่rainbow projectนี้เป็นเรื่องสั้นทั้งหมดเลยหรอ เห็นบอกลงตอนจบวันที่5มิถุนา = ='   :monkeysad:   นึกว่าจะเป็นเรื่องยาวๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 7 [31/05/54] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: tarkung ที่ 31-05-2011 10:49:40
ขอบคุณสำหรับตอนใหม่นะครับ

จะติดตามต่อไปนะครับ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 7 [31/05/54] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 31-05-2011 10:52:37
 :m25:ชอบบรูโน่ตอนเป็นลูกหมาน้อยจัง
น่ารักน่ากิน!!! เอ้ยย น่ารักน่าหยิก
แล้วนี่อะไร อ่านยังหวานไม่ทันใจ
โดนฉุดซะแล้ว เอ้ยย ลักพาตัวซะละ
ขบวนการเรนเจอร์นี่ ถ้าไม่โดนฆ่า ก็ต้องโดนฉุด ไม่ก็โดนหลอก
ตลอดเลยย
รอตอนต่อไปนะค่ะ :bye2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่10 อ้อนเงียบ 30/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 31-05-2011 11:08:58
 :-[ :-[ โอ้ววว น้องไนท์ น่ารักน่าหยิกมากเจ้าค่ะ
ขี้อ้อนนิดๆๆแบบนี้ พี่เตหลงหัวปักหัวปำเลยนะนั่น o18
รอตอนต่อไปค่ะ  o13
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 10 บ่วงกรรม 24/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 31-05-2011 11:11:54
เข้ามารอพี่จง :monkeysad:
คิดถึงน้องหน่อง หมวดเพชร แล้วก็หรั่ง
สู้ๆๆๆนะพี่จง :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 7 [31/05/54] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 31-05-2011 13:25:27
ใครกล้ามาจับบรูโน่ของหนูริชไปเนี่ย  :fire:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 7 [31/05/54] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: huimei ที่ 31-05-2011 13:29:37
 :a5: ใครทำไรบรูโน่

มาต่อไวๆนะค๊าาาา  :man1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 7 [31/05/54] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 31-05-2011 13:47:07
กริ๊ดชายฉกรรจ์จะทำอะไรบรูโน่  คุณหนูรีบมาช่วยอย่างด่วยนะคะ ชอบที่บรูโน่โดนแกล้ง หุหุ :z1:
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่10 อ้อนเงียบ 30/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 31-05-2011 13:55:52
เห็นชื่อตอนแล้วรีบวิ่งมาดูเลย
กรี๊ดดด  อ้อนเงียบ >///<
************edit************
อ่านจบแล้วสงสัย
ตกลงน้องมันอ้อนเงียบหรือแรดเงียบหว่า :m20:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ50% P:6[31/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 31-05-2011 14:44:55
ฮือออออออ น้ำตาไหลเลย ไอ้บ้าาาาาาาาาา(อันนี้ด่าคนเขียน ทำเค้าร้องไห้ทำม้ายยย)
เพิ่งเห็นว่ามีเพลงประกอบด้วย เพลงมันเศร้ามากนะแปลว่า พี่สายลมจะตายเหรอ โฮ~~~~~~~
แม้มองไม่เห็นแต่ฉันรู้สึกถึงเธอ โฮ~~~~~~~~~~~~~~
ปลายฟ้าตาบอดใช่มั้ยเลยมองไม่เห็น พี่ลมไม่ตายหรอกเนอะ นะคะ อย่าทำแบบนี้เลย นะคะ นะๆๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 7 [31/05/54] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: shockoBB ที่ 31-05-2011 14:48:33
 o13 o13
มาต่อเร็วๆนะ
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่10 อ้อนเงียบ 30/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 31-05-2011 14:53:28
พี่เต ใจเย็นอย่าเพิ่งกดน้อง
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 7 [31/05/54] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 31-05-2011 14:56:57
^^
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 7 [31/05/54] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 31-05-2011 15:00:55
อาห์...อยากได้หมาบ้าง.. :haun5:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ50% P:6[31/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: nataxiah ที่ 31-05-2011 15:36:46
 :m20: :m20:

มีการว่าคนเขียนด้วย น้องช่อสุดยอด  o13

แต่ว่านั่นสิตกลงใครจะเป็นยังไงกันบ้าง  :serius2: ไม่อยากลุ้นแล้ว เมื่อไหร่จะมาลง
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ50% P:6[31/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 31-05-2011 16:08:48
อากซ์ๆๆๆๆๆๆๆ  ไม่เอามาม่า!!!!!!!
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ50% P:6[31/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 31-05-2011 16:17:06
อยากว่าเค้าดีนัก โดยเฉพาะช่อ เอาเพลงแปะที่หัวตอนนี้ซะเลย

เอาให้น้ำตาท่วมจอกันไปอีก
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่10 อ้อนเงียบ 30/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: vascular ที่ 31-05-2011 16:37:29
ไนท์นี่ช่างเป็นตัวเอกที่บทพูดน้อยมากกกก
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 7 [31/05/54] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 31-05-2011 16:59:45
ใครมาเอาบรูโน่ไป!!!!!

ไม่ยอมนะ  ครั้งแรกต้องของคุณหนูเ่ท่านั้น!!!!!!!
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ50% P:6[31/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 31-05-2011 17:00:50
แล้วพี่ลมจะรอดไหมเนี่ย โดนแทงมิดขนาดนี้
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ50% P:6[31/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 31-05-2011 17:04:06
อ๊ากกกกกก พ่อคนดีของช้านนนนนนนน ทิ้งปลายฟ้าไว้ก่อน เอาสายลมไปโรงหมอด่วน เอ้ย!ไม่ใช่โว้ยยย หามไปทั้งคู่เลย T^T
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่10 อ้อนเงียบ 30/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: shockoBB ที่ 31-05-2011 17:29:31
อ๊ายยยย >< น่ารักมากเลย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ50% P:6[31/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 31-05-2011 17:34:18
สายลมเคยเป็นบอร์ดี้การ์ดจริง ๆ หรอ?
ทำไมกระจอกอย่างนี้อ่ะ...ปืนก็ไม่พกทั้งที่ออกมาตาหาตัวคนร้ายอย่างนี้ อ่านไปถึงกับส่ายหัวไปเลยอ่ะ
ถ้าเกิดสายลมตายแล้วได้เป็นแค่พระรองที่ไม่ค่อยมีบทจะไม่แปลกใจเลย :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่10 อ้อนเงียบ 30/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 31-05-2011 17:35:13
น่ารักขึ้นทุกวัน!!!! o22
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ50% P:6[31/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: Mountain ที่ 31-05-2011 18:00:34
อยากให้ปลายฟ้าโดนแทงว่ะ
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่10 อ้อนเงียบ 30/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 31-05-2011 18:44:44
ไนท์น่ารักอีกแล้ว ชอบไนท์จริงๆเลย  :-[
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่10 อ้อนเงียบ 30/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 31-05-2011 20:20:15
น้องไนท์น่ารักอะ แต่พูดเยอะกว่านี้หน่อยก็ดีนะ  :-[
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่10 อ้อนเงียบ 30/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: kittyfun ที่ 31-05-2011 21:18:06
หายไปแป็บเดียว คู่นี้เขาสวีทหวานกันแล้ว
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ50% P:6[31/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 31-05-2011 21:34:35
พี่สายลมอย่าเป็นอะไรนะ  :o12:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่10 อ้อนเงียบ 30/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 31-05-2011 21:38:07
ตอนยังไม่พูดไม่จา นิ่งเฉยเหมือนหุ่น ยังหวั่นไหว
มาคราวนี้เจอทั้งนอนกอด อีกอ้อนเล็ก ๆ    พี่เต.... จะไหวไหมเนี่ย
+1 เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 7 [31/05/54] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 31-05-2011 21:44:34
เกิดอะไรขึ้น :a5:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่11 คืนฝนตก 31/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: ภาพฝัน ที่ 31-05-2011 21:45:40
   เตชวัฒน์นั่งมองวริศรินทร์ที่นั่งกินทุเรียนทอดอย่างเอร็ดอร่อยอยู่ที่โซฟา แผลที่ขาดีขึ้นตามลำดับคาดว่าอาทิตย์หน้าน่าจะได้รับงานได้ตามปกติ

   “ไนท์ อีก 3 วันก็จะวันเกิดเราแล้ว อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม” เขาลองถามดูเท่าที่เห็นไนท์ไม่ใช่พวกทานยากแต่ถ้าให้หาทานเองมักจะไม่ค่อยทานอะไร แต่ถ้าเขาทำอะไรให้ทานก็เห็นทานหมดทุกอย่างเรียกได้ว่ากินค่อนข้างง่ายเลยล่ะ เช่นเดียวกับทุเรียนทอดที่เขาแวะซื้อข้างทางตอนขับรถกลัมาจากบ้านเมื่อวันก่อน

   “หรืออยากได้อะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า อายุ22แล้วนี่” เจตชวัฒน์ยังคงถามอย่างอ่อนโยน เขาเห็นไนท์หันกลับมามอง ใบหน้าที่เฉยเมยกับดวงตาที่เหม่อลอยทำให้เขารู้ว่าอีกฝ่ายกำลังครุ่นคิด

   “อยากกินอะไร อยากได้อะไรเดี๋ยวพี่หาให้” เตชวัฒน์อยากให้อีกฝ่ายได้ทุกอย่างเขารู้รู้สึกมีความสุขกับการที่เห็นไนท์มีชีวิตชีวามากขึ้น แม้จะยังคงไม่ค่อยพูดอยู่เช่นเดิม  ไนท์มองหน้าเขาซึ่งเขาก็ยิ้ม

   “อยากกินเค้ก” คำตอบขอไนท์ทำให้เตชวัฒน์ขมวดคิ้ว แต่ดวงตาที่มองตรงมาทำให้เขารู้ว่าไนท์พูดจริง เค้กเป็นอาหารที่ไนท์ควรจะหลีกเลี่ยงมากที่สุดเพราะเจ้าตัวแพ้ไข่ สายตาที่มองตรงมายังเขามันเหมือนกับมีคำถามว่าจะหาได้ไหม

   “ได้ พี่จะหามาให้ไนท์ทาน” เตชวัฒน์ตอบรับทันทีโดยไม่ลังเล แทนคำตอบร่างสูงโปร่งทิ้งตัวลงมานอนที่ตักของเขานั่นทำให้เขารู้ว่าไนท์ชอบใจ ฝ่ามืออบอุ่นลูบไล้เส้นผมแผ่วเบา หลายวันที่อยู่ด้วยกันตั้งแต่กลับมาจากบ้านไนท์เข้าใกล้เขามากขึ้นแม้จะมีอาการเหม่อลอยบ้าง กับชอบไปยืนอยู่ที่ริมระเบียงทำให้เขาต้องคอยระวัง อยู่เสมอ

   “วริศรินทร์ ชื่อนี้หมายถึงอะไร” เตชวัฒน์ลองหาหัวข้อสนทนาดู ไนท์หยิบตุ๊กตาสุนัขขึ้นมากอดเอาไว้ในอ้อมแขนแล้วยกขึ้นแกว่งไปแกว่งมาเหมือนไม่สนใจ

   “ว่าไงครับ วริศรินทร์หมายถึงอะไร” เตชวัฒน์เรียนรู้ที่จะถามคำถามกับไนท์ ถ้าในครั้งแรกเขาถามอะไรแล้วเฉย เขาจะถามอีกครั้งแล้วสักพักไนท์ถึงจะยอมตอบ ฝ่ามืออบอุ่นลูบไล้เส้นผมนุ่มไปช้าๆ มองดูตุ๊กตาที่ถูกยกแขนเหมือนเต้นไปเต้นมาสักพักไนท์ก็กอดตุ๊กตาเอาไว้

   “ผู้ยิ่งใหญ่แห่งสายน้ำ” ไนท์ตอบเขาเสียงราบเรียบ เตชวัฒน์ยังคงยิ้มเขาอดไม่ได้ที่จะก้มหน้าลงไปจุมพิตที่หน้าผากอย่างแผ่วเบา ไนท์ไม่ได้ปฏิเสธแต่ก็ไม่มีปฏิกิริยาใด จนบางครั้งเขาแอบรู้สึกหงุดหงิด เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นมาทำให้เขาต้องผงะ เมื่อรับสายกลายเป็นว่าไนท์มีงานด่วนเข้ามา อยากจะรบกวนให้ไปถายแบบ พอเตชวัฒน์หันไปถามไนท์ก็พยักหน้าตกลงทันที

   “น้องไนท์สวัสดีค่ะ โชีดีจริงๆที่น้องไนท์มาได้ ขาเป็นยังไงบ้างค่ะ” ช่างแต่งหน้าสาวประเภทสองทักทายในทันที ที่เห็นหน้าไนท์เดินเข้ามา ไนท์ยังคงนิ่งเงียบอยู่เช่นเดิม

   “น้องไนท์ไปทำอะไรมาค่ะเนี่ย ผิวเต่งตึงมากๆ หน้าตาสดใสสุดๆ ดูดีขึ้นเยะเลยค่ะ” ช่างแต่งหน้าให้ข้อสังเกตุ แต่ก็มีเพียงความเงียบเท่านั้น

   “วันนี้น้องไนท์ต้องถ่ายโฆษณา คู่กับน้องเอมมี่นะค่ะ” เตชวัฒน์เหลือบไปมองนางแบบสาวลูกครึ่งที่กำลังถูกกล่าวถึง การถ่ายแบบเซตนี้เป็นฉากที่ไนท์ต้องใส่กางเกงยีนศ์ตัวเดียวถ่ายเดี่ยวในตอนแรกก่อนที่นางแบบสาวจะเดินเข้ามาร่วม การถ่ายแบบเริ่มต้นอย่างรวดเร็ว ช่างภาพเข้าใจว่าไนท์ยังขาเจ็บถึงหลีกเลี่ยงการถ่ายที่ไนท์ต้องทิ้งน้ำหนักไปที่เท้าข้างที่เจ็บเจ็บอยู่

   “สวัสดีครับคุณเต” เตชวัฒน์หันไปถามเสียงเรียก เขาพบกับระพีพัฒน์นายแบบหนุ่มไฮโซที่เคยมีเรื่องกับไนท์ ครั้งนี้อีกฝ่ายมาด้วยรอยยิ้มทำให้เขาต้องยิ้มตอบอย่างเสียไม่ได้

   “บังเอิญจังนะครับที่ผมได้ถ่ายแบบแล้วเจอกับไนท์และคุณเตบ่อยๆ ไนท์เป้นยังไงบ้างครับได้ข่าวว่าขายังเจ็บอยู่นี่” ระพีพัฒน์สอบถามอาการบาดเจ็บของไนท์ แต่เตชวัฒน์สัมผัสไม่ได้ถึงความเป็นห่วงในน้ำเสียงเขาสัมผัสถึงแววเยาะเย้ยที่เจือมามากกว่า

   “ก็ดีขึ้นเยอะแล้วครับ อาทิตย์หน้าก็ทำงานได้ปกติแล้ว” เตชวัฒน์ตอบอย่างเรียบง่าย

   “โชคดีนะครับเนี่ยที่ไม่เป็นอะไรมาก ถ้าเป็นผมคงตกใจแย่ อ่ะนั่นไนท์เสร็จแล้วนี่ครับ สวัสดีครับไนท์” ระพีพัฒน์ยิ้มแย้มทักทายไนท์ที่กำลังเดินกลับเข้ามาแต่ก็ทำให้เจ้าตัวรู้สึกหงุดหงิดที่เห็นใบหน้าหล่อเหลายังคงเมินเฉยไม่มองตนและยิ่งรู้สึกหน้าชาเมื่อไนท์เดินผ่านไปโดยไม่เหลือบแล ไนท์ทำเหมือนกับว่าเขาเป็นเพียงอากาศธาตุ ระพีพัฒน์กัดปากตัวเองด้วยความไม่พอใจ เขาพยายามปั้นหน้ายิ้มแย้ม

   “ผมคงต้องขอตัวก่อนนะครับ” เตชวัฒน์ก้มหัวลงเล็กน้อยตามมารยาทแล้วเดินตามวริศรินทร์ที่เลี่ยงออกไปเปลี่ยนเสื้อผ้า

   “หยิ่งนักนะ” ระพีพัฒน์พึมพัมอย่างอาฆาตมาดร้าย

.........................................


   หลังจากถ่ายแบบเสร็จเตชวัฒน์พาวริศรินทร์ไปที่สวนสาธารณะใกล้เคียงที่อนุญาติให้พาสุนัขเข้ามาเดินเได้ เขารู้ว่าไนท์ชองสุนัข ทันทีที่ลงจากรถและเดินลงมาที่สนามหญ้าใบหน้าของไนท์ดูสดใสขึ้นเมื่อเห็นเหล่าเจ้าของจูงหมาเดินเล่นกันอย่างมีความสุข

   “ถอดรองเท้าสิครับ” เตชวัฒน์ย่อตัวลงช่วยวริศรินทร์ถอดรองเท้าผ้าใบที่สวมอยู่ การที่ฝ่าเท้าคนเราได้สัมผัสพื้นดินเป็นการเพิ่มพลังธาตุดินให้กับตัวเอง เขาเห็นไนท์หลุดยิ้มชั่วแว่บที่ฝ่าเท้าสัมผัสถึงพื้นหญ้า เตชวัฒน์ใช้แขนโอบไนท์เข้ามาใกล้เมื่อเห็นว่ามีคนเริ่มเมี่ยงๆ มองๆ เขาพาไนท์เดินไปในมุมที่คนไม่พลุกพล่าน เขาลืมไปว่าไนท์เป็นนายแบบทำให้เป็นที่รู้จักของใครหลายๆ คน

   เตชวัฒน์พาวริศรินทร์เดินเข้ามาหลบมุม บรรยกาศยามเย็นที่แดดไม่แรงนักกับสายลมที่พัดผ่านใบหน้าเบาๆ เมื่อเขาหันกลับไปมองอีกที ไนท์ก็หลับอยู่บนพื้นหญ้าแล้ว เตชวัฒน์มองใบหน้ายามหลับที่เห็นหลายครั้งหลายหนตั้งแต่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน เขารู้สึกได้ว่าไนทืใช้เวสลานอนน้อยลงถ้าเขามีกิจกรรมอะไรให้อีกฝ่ายทำไม่อยู่เฉย แต่ถ้าเขาปล่อยให้อยู่เฉยๆ ในเวลาไม่นานไนทืก็จะนอนหลับสนิท และเรียกได้ว่าหลับไม่เป็นที่เป็นทางเลยทีเดียว

   เตชวัฒน์ปล่อยให้เวลาผ่านไปเรื่อยและเขาต้องเริ่มรู้สึกว่ามีคนเดินมาแถวนี้และคนเหล่านั้นกำลังมองมายังไนท์

   “ไนท์กลับเถอะครับ” เขาปลุกไนท์ที่หลับสนิท์ใบหน้ายามตื่นของไนท์ยังคงเหม่อลอยเหมือนเช่นทุกครั้ง เขาดึงให้ลุกขึ้นและกำลังจะพาออกไป

   “พี่ไนท์นี่นา” เด็กสาวคนหนึ่งรีบพุ่งเข้ามาหาเมื่อไนท์ลุกขึ้นยืนและก้าวตามเขา พอมีคนหนึ่งเข้ามาคนอื่นๆก็เริ่อมตามมา แต่ไม่มีคำพูดอะไรออกมากจากปากไนทื ไม่มีแม่แต่คำทักทาย

   “น้องๆครับ ไนท์มีงานต้องไปทำต่อ ขอตัวนะครับพี่พาไนท์มาพักนะครับ น้องเขาไม่ค่อยสบาย” เตชวัฒน์หาทางหลีกเลี่ยงคนเหล่านั้นทันที เมื่อเห็นว่าไนท์เงียบไม่มีปฏิกิริยาอะไร เขาขอตัวลาออกมาอย่างสุภาพแล้วพาไนท์กลับมาที่รถ พอขึ้นรถในทีแรกเขาคิดว่าจะคุยกับไนท์เรื่องการทำตัวกับแฟนๆ แต่ปรากฏว่าพอขึ้นรถมาไนท์ก็หลับต่อเขาเลยได้แต่ถอดถอนใจ

   เตชวัฒน์กำลังหาร้านที่ทำเค้กโดยไม่ผสมไข่ เขาหาอยู่หลายมากก็ยังหาไม่ได้ ร้านเค้กจำนวนมากไม่รับทำเพราะไข่ถือเป็นตัวชูโรงของขนมหวานประเภทนี้เลยก็ว่าได้ เขากดโทรศัพท์ไปไม่รู้อีกกี่เบอร์ต่อกี่เบอร์แต่เตชวัฒน์ก็ต้องถอนใจออกมาด้วยความหนักใจ

   เขานั่งอ่านข่าวและเสริชหาเกี่ยวกับอาการของไนท์ไปเรื่อยๆ จนดึกแล้วเขาก็สะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงฟ้าผ่าลงมา ฝนตกลงมาอีกแล้ว เตชวัฒน์ปิดคอมพิวเตอร์แล้วคิดว่าจะเข้านอน แต่เขากลับเกิดรู้สึกสังหรณ์ใจอย่างประหลาด จนต้องแวะไปดุที่ห้องนอนวริศรินทร์ที่อยู่ข้างๆ เมื่อเปิดประตูเข้าไปเขาไม่พบใครนอนอยู่บนเตียง เรียกก็ไม่มีใครตอบจนเขาตัดสินใจเปิดประตูห้องน้ำออกดู เขารู้สึกเหมือนหัวใจจะหยุดเต้นอีกครั้ง เมื่อเห็นใบหน้าซีดเซียวไร้สีเลือดนอนนิ่งอยู่ในอ่องน้ำ เตชวัฒน์หยิบเสื้อคลุมอาบน้ำมาสวมให้อย่างลวกๆแล้วพาไปนอนบนเตียง ร่างกายของวริศรินทร์เย็นเฉียบเพราะแช่น้ำเป็นเวลานาน

   “ไนท์ครับ” เตชวัฒน์กุมมือเย็นแล้วจับขึ้นมาแนบแก้ม เขาพยายามจะปลุกอีกฝ่ายขึ้นมา ถ้าไม่ตื่นคงต้องพาไปโรงพยาบาลแต่ฝนกำลังตกหนัก

   “ไนท์” เตชวัฒน์เรียกไนทซ้ำไปซ้ำมา ในจังหวะที่ฟ้าผ่าดังสนั่นวริศรินทร์ลืมตาขึ้นมากอดเขาด้วยความหวาดกลัว เตชวัฒน์โอบกอดร่างของอีกฝ่ายเอาไว้ด้วยความโล่งใจที่อีกฝ่ายรู้สึกตัวสักที

   “ไม่ต้องกลัวนะครับ ไม่ต้องกลัว” เตชวัฒน์จูบปลอบที่หน้าผากและข้างแก้ม เขาโอบกอดร่างที่สั่นเทายึดเขาเป็นที่พึ่งเอาไว้

   “กลัวฟ้าผ่าเหรอ” เตชวัฒน์จำได้ว่าคืนก่อนที่ฝนตกที่บ้านของเขาไนท์ก็เข้ามาหาเขาในห้องนอน เตชวัฒน์โอบกอดอีกฝ่ายเอาไว้แน่นแล้วทิ้งตัวลงนอนบนเตียงด้วยกัน ตลอดเวลาเขาลูบศีรษะของอีกฝ่ายพร้อมกระซิบปลอบโยน ฝนที่ตกอย่างหนักกับเสียงฟ้าผ่าที่รุนแรงหลายครั้งที่ทำให้เตชวัฒน์สะดุ้ง

   “ทำไมถึงกลัวฟ้าผ่าครับ” เขากระซิบถามไนท์ที่สงบลงแล้ว อาจตัวสั่นเป็นช่วงๆ เมื่อเสียงฟ้าผ่าดังลงมา เตชวัฒน์ลูบไล้ลูบไล้แก้มไนท์อย่างแผ่วเบา

   “.......” เสียงพึมพำแผ่วเบาที่เขาแทบจะไม่ได้ยิน ไนท์กำลังบอกอะไรบางอย่างกับเขา

   “พูดอีกครั้งสิครับ” เขาถามย้ำ

   “พ่อ แม่... ตาย..ฝนตก แบบนี้” เสียงของไนท์แหบพร่าและสั่นเครือเตชวัฒน์กระชับอ้อมกอดเข้ามาให้แน่นกว่าเดิม เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายมีท่าทางที่
สะเทือนใจ เตชวัฒน์ไม่ถามอะไรอีกเขาเพียงกอดอีกฝ่ายเอาไว้ในอ้อมแขนท่ามกลางเสียงฝนและความมืด

.....................


มาแล้วอยากให้ไนท์กดเต หรือเตกอดไนท์ดี  o18

หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 7 [31/05/54] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 31-05-2011 21:53:37
 :serius2: เกิดอะไรขึ้น ใครมาจับบรูโน่ปายยยยย
แล้วใครจะไปช่วยเนี่ยยยย
 :z3:




หุหุ สร้างกระแส :z2:






หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่11 คืนฝนตก 31/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 31-05-2011 21:59:15
ไนท์น่าสงสารอ่ะ T^T
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 7 [31/05/54] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: onjazz26 ที่ 31-05-2011 22:01:56
 :z13:
อยู่ๆก้อมาให้จิ้ม
มาดันทู้ตัวเองละซิ ตกไปหน้า 2 แล้วนิ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ50% P:6[31/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 31-05-2011 22:05:12
คุ้มค่าไหมน้า กับการเสียสละครั้งนี้
อย่างน้อยก็คงพอมีลุ้นบ้างล่ะ ถ้าสายลมไม่ตายเสียก่อน  :เฮ้อ:
+1 ให้กับตอนนี้แบบฝืด ๆ  :monkeysad:
ปล. หวังว่าบนฟ้าคงเมตตา ไม่ปล่อยให้สายลมตายน่ะครับ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่11 คืนฝนตก 31/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 31-05-2011 22:25:32
พี่เตปลอบน้องไนท์หน่อย
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่11 คืนฝนตก 31/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 31-05-2011 22:29:03
ไนท์น่าสงสาร
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่11 คืนฝนตก 31/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 31-05-2011 22:38:06
อดีตของไนท์เริ่มมาละ สงสารอ่า T^T มันต้องพี่เตกดไนท์สิ ไนท์กดเตไม่ด้ายยยยยยยยยยย หุหุหุ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 7 [31/05/54] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 31-05-2011 22:40:15
 :angry2:

ใครมาทำไรอีกเนี่ย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่11 คืนฝนตก 31/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: blanchard ที่ 31-05-2011 22:48:57
สงสารนุ้งไนท์อ่ะ  :sad4:
แต่ไม่เป็นไรดอก มีพี่เตเป็นทั้งพ่อและแม่ แล้วก็ ผั... เอ่อ.. คนรักด้วย    :o8:

คุณภาพฝันกะให้พี่เตแสดงฝีมือทำเค้กให้น้องไนท์เลยรึเปล่าฮะ? ถ้าเป็นเมืองนอกก็มี Egg Replacer (แต่ก็ต้องระวัง บางยี่ห้อทำจากไข่ขาว)  ถ้าอยู่บ้านเราก็ใช้เป็น แป้งข้าวโพด หรือ เมล็ดแฟล็กซ์ หรือว่าจะทำเค้กแป้งข้าวเจ้าดี? 
...ฉันพล่ามอะไรของฉันเนี่ยะ   :serius2:

รักคนเขียน    :3123:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 7 PG. 4 [28/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: MonarcH ที่ 31-05-2011 22:49:58
Butterfly 8

...ผมต้องกลับไปแสดงตัวที่บาร์เพื่อไม่ให้คุณตรีเข้าใจผิดคิดว่าผมเป็นผู้ชายขายน้ำ แค่โดนมองว่าเป็นอย่างนั้น ผมยังรู้สึกอายจนหน้าชา ถ้ายุทธไปก็คงรู้สึกอย่างเดียวกันเพราะเค้ามาทำงานที่บาร์ด้วยความหลงผิด ไม่ใช่ฟุ้งเฟ้ออยากได้อยากมี เค้ายังสำนึกได้ว่าอาชีพนี้ไม่ใช่อาชีพที่ได้รับการยอมรับจากสังคม คืนนี้เมื่อยุทธมาผมจะให้เค้าเสิร์ฟอย่างเดียว ให้เค้าได้มีเงินใช้อย่างสุจริต เผื่อว่าเค้าจะเลือกเป็นพนักงานเสิร์ฟอย่างเดียวไม่รับออฟ...

...เหตุผลอีกอย่างที่ต้องรีบกลับบาร์เพราะเทียนบุญเพื่อนของผมโทรมาบอกว่ารออยู่ที่บาร์ เมื่อไปถึงเราก็คุยกันเฮฮาจนยุทธมาถึง ผมก็ทำเป็นไม่สนใจจนเค้าเปลี่ยนชุดเป็นเด็กเสิร์ฟออกมาทำงาน เทียนบุญรู้สึกถึงความผิดปกติระหว่างผมกับยุทธและแกล้งจะขอออฟ ถึงจะพูดเล่น แต่ผมก็ใจแป้ว ถ้าอีกหน่อยเค้ารับออฟจริง ๆ ผมคงเสียใจจนบอกไม่ถูกเลย...
“ยุทธนี่มันเหลี่ยมจัดจริง ๆ” พี่ธัญญ่าเดินเข้ามาหาผมในห้องทำงานหลังจากเทียนบุญกลับไปแล้ว
“อะไรเหรอ”
“เมื่อเย็นป่วย พอกลางคืนมาทำงานเอาทิป”
“เค้าบอกกริชแล้วพี่ วันนี้เค้าขาดรายได้จากพี่ก็เลยขอมาทำงานตอนกลางคืนแทน”
“ถ้ามันโทรมาพี่จะไม่ให้มันมานะ ให้มันอดตายอยู่บ้านนั่นแหละ เล่นยาเพลินจนลุกมาทำงานตอนเย็นไม่ไหวมั้ง” 
“ไม่หรอกพี่”
“กริชยังอ่อนต่อโลกเกินไป คนที่มาทำงานอย่างนี้น่ะ เป็นพวกรักสบายทั้งนั้นแหละ ถ้าไม่ติดหญิงก็ติดยา ไม่งั้นมันจะอยากได้เงินเยอะ ๆ ง่าย ๆ ไปทำไม งานอื่นมีให้ทำเยอะแยะ”
“ตอนแรกพี่ธัญญ่าบอกว่า คนที่มาทำงานนี้อาจจะมีพวกที่จำเป็น มีรายจ่ายที่ต้องรับผิดชอบ มีลูกมีเมีย มีพ่อมีแม่แก่ ๆ อยู่ต่างจังหวัดนี่”  ผมเบรก
“มีอะไรกับยุทธหรือเปล่า ทำไมปกป้องมันจัง”  พี่ธัญญ่าจ้องหน้าผมเพื่อจับผิด
“ไม่มีอะไร ก็แค่มองต่างมุม”
“เออ พี่อาจจะมองโลกในแง่ร้ายไปหน่อย แต่พี่ก็ไม่ชอบคนไม่มีความรับผิดชอบอ่ะ มันทำให้เราเสียโอกาสโปรโมทร้าน แถมกริชยังต้องโดนมองว่าเป็นไอ้ตัวอีก”
“พี่ธัญญ่าไม่ได้บอกยุทธใช่มั้ยว่าให้ไปงานอีเว้นท์นั่นในฐานะอะไร”
“ไม่ได้บอก”
“ถ้าเค้าคิดว่าไปในฐานะเพื่อนกริช หรือไปเป็นบอดี้การ์ด แล้วอยู่ดี ๆ มีคนมาถามราคาเค้า พี่คิดว่าคนที่ไม่เคยขายตัวจะรับได้มั้ยอ่ะ”  ผมถามเสียงเรียบ
“ยุทธมาสมัครงานนี้แล้ว เค้าต้องรู้หน้าที่ของเค้า งานของเค้าคือขายบริการ ถ้ามีลูกค้ามาถามราคา แสดงว่าเค้าขายได้ ในฐานะที่เราเป็นเจ้าของกิจการ เราต้องดีใจสิที่มีคนสนใจสินค้าของเรา”
“วันนี้กริชเหนื่อยจังเลยอ่ะพี่ ขอกลับบ้านก่อนนะ ฝากดูกิจการด้วย”  ผมพูดเสียงเรียบเพราะไม่อยากให้พี่เค้าคิดว่าประชด
“อ้าว แล้วคุณตรีล่ะ รอเค้าอีกเดี๋ยวสิ”
“รอให้เค้ามาออฟกริชน่ะเหรอ”  ผมพูดพลางเก็บของเข้าลิ้นชัก โดยไม่มองหน้าพี่ธัญญ่าเลย
*
*
...ก่อนจะกลับผมสบตากับยุทธนิดนึง เค้าขมวดคิ้วสงสัยว่าผมถือกระเป๋าเดินเชิดคอตั้งไปไหน ยิ่งดึกถนนนี้ยิ่งคึกคัก เด็กบาร์ทั้งชายหญิงเดินแทบจะชนกันตาย แต่ละคนดูไม่ออกจริง ๆ ว่ามาทำงานแบบนี้เพราะความจำเป็น หรือเพราะอาชีพนี้มันได้เงินง่าย...
“ฮัลโหล” ผมรับสาย
“คุณกริชไปไหนอ่ะครับ”  เสียงยุทธก้องเหมือนกำลังป้องปากพูด
“กลับบ้าน”
“รอผมด้วย”
“รอทำไม คุณก็ทำงานไปสิ”
“ผมมาที่นี่เพราะผมอยากอยู่ใกล้ ๆ คุณ ไม่ใช่อยากมาทำงาน”
“....................................”
“เอาอย่างนี้ คุณกลับไปรอที่ห้องก่อนก็ได้ครับ อีกซักพักผมจะตามไป แค่นี้นะครับ พี่ธัญญ่าเดินมาแล้ว”
“เดี๋ยว ยุทธ” ผมร้องเรียก แต่เค้าวางสายไปแล้ว
*
*
...ผมไม่คิดว่ายุทธจะมาจริง ๆ หรอก ป่านนี้เค้าคงรับทิปแลกกับการโดนลูบโดนคลำเพลินไปแล้ว รูปร่างหน้าตามันทำเงินให้เค้าได้จริง ๆ แค่ยิ้มอย่างเดียวเกย์หนุ่มเกย์เฒ่าก็ระทวยแล้ว...
“ฮัลโหล คุณกริช ได้ยินผมมั้ย” ยุทธถามย้ำเมื่อผมรับสายแล้วเงียบไป
“อืม”
“ผมอยู่ข้างล่างคอนโดคุณแล้ว ลงมาหาหน่อยสิครับ”
“ขอโทษนะยุทธ วันนี้ผมเพลีย จะนอนแล้ว”  ผมพูดเสียงเบา
“งั้นผมไม่รบกวนครับ พักผ่อนเยอะ ๆ นะครับ” 
*
*
…ผมดูนาฬิกาบนผนัง ยุทธคงออกจากบาร์ตามหลังผมมาไม่นาน ตอนนี้ผมอยู่ในชุดนอนเสื้อยืดย้วย ๆ กางเกงขาสั้น ผมที่สระเป่าแห้งฟูไม่เป็นทรง ใส่แว่นสายตาคู่ใจ หน้าวอกด้วยแป้งเด็กกลิ่นหอมอ่อน ๆ จะให้ผมลงไปเจอยุทธในสภาพแบบนี้น่ะเหรอ เป็นการฝ่าฝืนคำสั่งที่ร้ายแรงที่สุดของป้าธเนศเลยมั้ง...
“ปลอมตัวแบบนี้ผมแทบจะจำไม่ได้เลยนะ”  ผมหันขวับไปตามเสียงทัก
“ปลอมตัวอะไรล่ะ นี่แหละน้องกริชตัวจริงเสียงจริง”  พี่แม่ค้าขายบะหมี่เกี๊ยวพูดแทนให้
“ทำไมยังไม่นอนอีก”
“ผมหิวอ่ะ และผมก็คิดว่าคุณกริชก็ต้องหิวด้วย เพราะเราทานมื้อเย็นเวลาเดียวกัน”  ยุทธพูดยิ้ม ๆ
“อืม ผมทานเสร็จพอดี ขอตัวก่อนนะ”
“เดี๋ยวสิครับ นั่งเป็นเพื่อนผมหน่อยนะ อ้อ แล้วคุณกริชหายเพลียแล้วเหรอ”  ยุทธดึงข้อมือผมไว้
“.....................................”
“โกหกผมใช่มั้ยล่ะ วันนี้คุณแปลกไปนะ ไม่พอใจอะไรผมหรือเปล่า”
“ไม่มีอะไรหรอก อากาศร้อน รถติด งานยุ่ง”
“อืม ผมเองก็คิดถึงบ้านนอก แรก ๆ กรุงเทพฯก็น่าตื่นตาตื่นใจ แต่พออยู่ไปซักพัก ที่นี่วุ่นวายมาก ผมอยากกลับไปพักผ่อนต่างจังหวัดจังเลย”
“อยากไปทะเล”  ผมพูดลอย ๆ
“เกิดมาผมยังไม่เคยเห็นทะเลเลยคุณกริชเชื่อป่าว”  ยุทธพูดพลางคีบเส้นบะหมี่กินไปด้วย
“อยากเห็นมั้ยล่ะ”
“อยากเห็นสิครับ” 
“งั้นเราไปกันคืนนี้เลย”
“จริงเหรอครับ”  ยุทธถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“เดี๋ยวเราไปเก็บกระเป๋ากัน ไปคืนนี้กลับเย็นวันมะรืนเลย โอเคป่ะ”
“โอเคครับ”  ยุทธพยักหน้ารับแล้วรีบกินก๋วยเตี๋ยวในชามจนหมดภายในสามคำ
*
*
...นี่ผมกำลังทำอะไรอยู่ เป็นครั้งแรกที่ผมฝ่าฝืนคำสั่งของป้าธเนศทุกอย่าง แต่งตัวโทรม ๆ ออกไปกินข้าวข้างถนน คบกับเด็กบาร์ เกเรเรื่องงาน...ผมเริ่มที่จะปีกกล้าขาแข็งเพียงเพราะไม่ชอบการตอบแทนบุญคุณในลักษณะนี้ ผมสูญเสียความเป็นตัวเอง ผมโดนตราหน้าว่าเป็นผู้ชายขายตัว...ซึ่งถ้ามองกันในแง่ร้ายผมก็เหมือนขายตัวให้ป้าธเนศแหละ เพียงแต่ผมไม่ต้องใช้เซ็กส์แลกทรัพย์สินพวกนี้มา...
“คุณขับรถไหวแน่นะ”  ยุทธถามด้วยความเป็นห่วงขณะยัดกระเป่าเสื้อผ้าที่เบาะหลัง
“ไหวสิ ถ้าไม่ไหวก็นอนข้างทาง”
“ผมขับให้ก็ได้นะ”
“..............................”  ผมมองหน้ายุทธด้วยความสงสัย
“ผมมีใบขับขี่นะครับ ตอนอยู่บ้านนอกผมก็ขับรถไปเรียน”  ยุทธพูดพลางเปิดกระเป๋าสตางค์หยิบใบขับขี่ให้ผมดู
“ตอนนี้ผมยังไหวอยู่ ไปถึงโน่นก็เช้ามืดพอดี”
“เราจะไปไหนกันเหรอครับ”
“ระยอง”
*
*
...ออกเดินทางตอนกลางคืนถึงจะดูอันตรายไปซักหน่อย แต่ผมกลับรู้สึกปลอดภัยเมื่อมียุทธอยู่ใกล้ ๆ เค้าจะคอยดูป้าย ดูเส้นทางข้างหน้าให้ เมื่อมีรถสิบล้อขับตาม เค้าก็ให้ผมชะลอเพื่อหลีกทางให้รถใหญ่ไปก่อน  เวลาผ่านศาลข้างทางเค้าก็จะยกมือไหว้ตลอด...
“ทำไมคลื่นลูกเล็กจัง ไม่เห็นเหมือนในทีวีเลย”  ยุทธเดินลุยน้ำทะเลตอนเช้า
“เดี๋ยวตอนบ่ายออกมาดูอีกทีสิ”
“ถ้าผมเล่นน้ำตอนนี้จะมีใครว่าผมบ้าหรือเปล่าครับ”  ยุทธพูดพลางถอดเสื้อยืดออกเผยให้เห็นกล้ามเนื้อเป็นมัด
“ส่วนมากเค้าก็เล่นตอนเช้าหรือไม่ก็เย็นเลย กลางวันแดดร้อน”
“คุณกริชเล่นน้ำด้วยกันสิครับ”
“ไม่อ่ะ ขอพักก่อน ขับรถนานเมื่อยตัว”
“งั้นฝากเสื้อหน่อยนะครับ”  ยุทธยื่นเสื้อให้ผม
...เราเข้าพักในรีสอร์ทส่วนตัวแห่งหนึ่งในจังหวัดระยองเมื่อช่วงเช้ามืด หลังจากเก็บของเข้าที่ พระอาทิตย์ของฤดูร้อนที่ขึ้นเร็วกว่าปกติก็ส่องแสงสว่างยุทธวิ่งออกมาที่ชายหาดเหมือนเด็ก ๆ ร้องโวยวายเรียกให้ผมดูปูดูปลาที่ว่ายมาบริเวณน้ำตื้น...ผมรู้สึกเมื่อยขาก็เลยขอนั่งที่เก้าอี้ผ้าใบชายหาดในมือมีเสื้อยืดสีซีดของยุทธที่ฝากไว้ ส่วนเจ้าของเสื้อกำลังดำผุดดำว่ายอยู่ในทะเล พอเหนื่อยก็ขึ้นมาคุยกับผมที ภาพผู้ชายร่างสูงผิวขาวตัวเปียกน้ำมายืนหอบใกล้ ๆ ในระดับสายตาของผมที่นั่งอยู่บนเตียงผ้าใบมองขึ้นมา หน้าท้องแบนราบมีกล้ามหกลูกเรียงกันเป็นระเบียบเหมือนจับวางทำให้ผมหายใจติดขัด...
“ถ้าคุณกริชง่วงก็ไปนอนก่อนนะครับ ผมเล่นน้ำอีกแป๊บนึงก็จะขึ้นแล้ว”
“อืม พอแดดออกก็เริ่มแสบตาอ่ะ”  ผมตอบกลับพลางลุกขึ้น
“อ่ะ”  ยุทธยื่นมือมาให้ผมจับเพื่อโหนตัวขึ้นจากเก้าอี้
“ขอบคุณ”  ผมจับมือยุทธ แต่เค้าดึงผมแรงไปหน่อยไม่รู้ว่าตั้งใจหรือบังเอิญทำให้ผมต้องเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดเค้า
“หอมจัง”  ยุทธพูดยิ้ม ๆ หลังจากฉวยโอกาสหอมแก้มผมฟอดใหญ่
“ปล่อย”  ผมดันตัวออก
“..........................”  ยุทธคลายอ้อมแขนออกแล้วมองผมด้วยสีหน้าสลด
“ตัวเปียกอ่ะ”  ผมรีบบอก กลัวเค้าเข้าใจผิดคิดว่าผมรังเกียจ
*
*
...ผมแยกกับยุทธมานอนในห้อง ซึ่งรีสอร์ตที่ผมพักเป็นห้องสูทสองห้องนอน ดังนั้นผมไม่ต้องกังวลว่ายุทธจะทำอะไร จริง ๆ แล้วผมป้องกันไม่ให้ตัวเองเผลอตัวเผลอใจมากกว่า...ตื่นมาอีกครั้งในตอนบ่าย เราสองคนก็ตะลอนหาของกินในตัวเมืองระยองซึ่งผมคุ้นเคยจากการมาร่วมกิจกรรมรับน้องสมัยเรียน 4 ปีซ้อน ยุทธเองก็ดูสนุกสนานไปกับทริปนี้ที่ผมพาทัวร์ซะทั่วจังหวัดนี้ซึ่งจะหนักไปทางอาหารทะเล...มันเป็นการพักผ่อนที่ผมเองก็สนุกมากทั้ง ๆ ที่มากันแค่สองคน อาจจะเพราะตอนนี้เราสนิทกันมากกว่าเดิม ระหว่างทางเราได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน เราสองคนชอบและไม่ชอบอะไรที่คล้ายกัน เพียงแต่ชีวิตบ้างช่วงของเราต่างกันราวฟ้ากับเหว...
“บอกตรง ๆ นะ กริชเห็นยุทธครั้งแรกไม่อยากเชื่อเลยว่ารูปร่างหน้าตาแบบนี้จะมา เอ่อ ทำงานบาร์” ผมพูดเสียงเบาท้ายประโยคหลังจากรู้ฐานะที่แท้จริงของครอบครัวเค้า
“ผมเองก็ไม่คิดว่าจะต้องมาสมัครงานแบบนี้หรอกครับ พ่อผมเค้าหวังให้ผมสืบทอดกิจการร้านขายวัสดุก่อสร้าง ผมเองก็เรียนจนจบเพื่อได้ดูแลธุรกิจของครอบครัว แต่ถ้าคุณเป็นคนต่างจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดเล็ก ๆ ที่คนรู้จักกันไปหมดแบบจังหวัดที่ผมอยู่ หน้าตาทางสังคมสำคัญกว่าลูกชายที่เป็นเกย์อย่างผม เค้าจับได้ว่าผมเป็นเกย์ในคืนวันฉลองรับปริญญาของผม คนที่ผมเคยมีอะไรด้วยหลายคนสมัยเรียนมาเจอกันโดยบังเอิญ และก็เกิดเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทในงาน โต๊ะจีนพังไปหลายตัวเลยแหละ”  ยุทธพูดขำ ๆ แต่แววตาเค้าดูเศร้ามาก
“รถไฟชนกันอย่างแรง”  ผมเสริม
“ครับ รถไฟหลายขบวนด้วย แต่ละคนสุดยอดทั้งนั้น เดินเข้างานมาดูแมนมาก พอเจอโจทก์เท่านั้นแหละ สาวสนั่นด่ากันดังลั่นงานเลยครับ”
“แล้วพ่อกับแม่ยุทธอ่ะ เค้าว่ายังไงมั่ง”
“โห เค้าก็เป็นลมคาโต๊ะเลยสิครับ ใครจะไปคิดว่าลูกชายจะมีอะไรกับผู้ชายด้วยกันได้ คนแก่ต่างจังหวัดก็อย่างนี้แหละครับ”
“คุณก็เลยหนีมากรุงเทพฯคนเดียว”
“ผมโดนไล่ต่างหาก เค้าด่าเหมือนผมไม่ใช่ลูก ด่าเช่าด่าเย็น จนผมทนไม่ไหวก็เลยทะเลาะกัน แล้วเค้าก็ไล่ผมออกจากบ้าน”
“คุณไม่เคยมากรุงเทพฯแล้วทำไมถึงมาที่นี่ได้ล่ะ”
“มีคนบอกว่ากรุงเทพฯมันมีโอกาสในการทำงานเยอะ และผมก็อยากมาที่นี่ตั้งแต่เด็กแล้ว แต่พ่อแม่ผมเค้าไม่เคยพามา เค้ากลัวผมใจแตก ผมเองก็ไม่มีปัญญามาเองด้วยเพราะต้องช่วยที่บ้านทำงานตลอด”
“อืม แต่ละคนก็มีปัญหาต่างกันเนอะ”
“คุณเองก็มีปัญหา ผมเห็นคุณครั้งแรกผมก็รู้แล้วว่าคุณไม่ชอบทำงานที่นั่นทั้ง ๆ ที่มันเป็นงานที่เกย์เยอะแยะอยากจะทำ”
“คุณรู้ได้ยังไง”
“ตั้งแต่ผมเดินเข้าไปในซอยประตูชัย ทุกสายตามองผมด้วยความหื่นกระหาย แต่คุณเป็นคนแรกและคนเดียวที่มองผมแบบสงสารและเห็นใจ คุณมีโอกาสที่จะมีเซ็กส์กับผมในห้องทำงานโดยชอบธรรม แต่คุณก็ปฏิเสธ”
“กริชไม่ชอบมีอะไรกับคนแปลกหน้า”
“คุณไม่เคยมีอะไรกับใครเลยต่างหาก”  ยุทธค้าน
“รู้ได้ยังไง”  ผมอายจนหน้าชา
“อย่าลืมสิว่าผมมีประสบการณ์ด้านนี้เยอะ”
“อืม ก็เลยใช้ประสบการณ์ด้านนี้มาหางานที่เหมาะสมกับความเชี่ยวชาญ”  ผมกัด
“วันที่คุณบอกว่าผมจะโดนตราหน้าว่าเป็นผู้ชายขายน้ำไปตลอดชีวิต มันทำให้ผมคิดได้ว่าไม่ควรเอาอนาคตของตัวเองไปทำลายแบบนั้น”
“หมายความว่าคุณจะไม่ทำงานที่บาร์แล้วใช่มั้ย”  ผมถามด้วยความดีใจ
“ผมขอทำหน้าที่เสิร์ฟอย่างเดียวดีกว่าครับ ได้เงินน้อยหน่อยแต่ก็น่าจะพอเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้”
“ถ้าคุณต้องการวุฒิ คุณไปขอคัดลอกเอาก็ได้”
“ผมคิดว่าจะให้น้องชายไปซีร็อกซ์แล้วส่งเป็นอีเอ็มเอสมาให้ แต่ผมไม่อยากให้พ่อแม่รู้ที่อยู่ของผมที่นี่อ่ะครับ”
“ส่งมาที่คอนโดผมก็ได้”
“นั่นแหละครับที่ผมกำลังจะขออนุญาต”
“ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกละกัน”
“ช่วยรับรักผมได้มั้ยล่ะ”  ยุทธหยอดทีเผลอ
*
*
...ผมทำเป็นไม่ได้ยิน ลุกขึ้นพายุทธเดินไปที่เรือตังเกที่ผมจ้างไว้ไปตกปลาหมึกซึ่งเป็นกิจกรรมที่ยุทธน่าจะชอบ ซึ่งเค้าดูจะตื่นเต้นมาก ๆ กับการเดินทางโดยเรือแบบนี้...
“มันไม่อันตรายแน่นะคุณกริช ออกเรือกลางคืนแบบนี้อ่ะ”  ยุทธกระซิบถามเมื่อเรือแล่นออกมาได้ซักพัก
“ตกปลาหมึกเค้าก็ต้องมาตอนกลางคืนสิ”
“ไปไกลมั้ยครับ”
“ก็ไกลอยู่นะ ต้องไปที่น้ำลึก ๆ อ่ะ”
“ผมเวียนหัวจังเลย”   ยุทธพูดเสียงเบา
“สงสัยจะเมาเรือ นอนพักก่อนก็ได้ เดี๋ยวถึงแล้วปลุก”
“ครับ” ยุทธรับคำก่อนจะล้มตัวลงนอนเอาหัวหนุนตักผม
“เอ่อ”  ผมอึ้ง พูดอะไรไม่ออก
“ถ้ากริชเมื่อยก็บอกนะครับ”  ยุทธพูดแล้วยิ้มให้
“อืม”
“คุณกริชตอนเป็นธรรมชาติอย่างนี้น่ารักกว่าตอนอยู่ที่บาร์อีก”
“ผมโดนบังคับ”
*
*
...ยุทธนอนฟังผมเล่าเรื่องของผมไปเรื่อย ๆ มีออกความเห็นบ้าง อาการเมาเรือของเค้าดูเหมือนจะหายไปจนถึงบริเวณที่เราจะตกปลาหมึกกันแล้ว เมื่อเรือจอดอยู่กับที่ ผมกับยุทธก็ออกมายืนดูเค้าเปิดไปส่องลงไปที่ทะเล แล้วเจ้าของเรือก็เอาเบ็ดมาให้เราคนละอันเพื่อหย่อนลงไปในทะเล...
“ผมเคยแต่ตกปลาที่คลองแถวบ้าน ไม่คิดว่าจะได้มาตกปลาหมึกอย่างนี้นะ”
“เดี๋ยวพอตกเสร็จทางเรือเค้าก็จะทำอาหารให้เรากินเลย”
“โห มีอย่างนี้ด้วย”
“ใช่ ตอนกริชมารับน้องที่นี่ก็มาตกปลาหมึกทุกครั้ง ยุทธลองกินแล้วจะรู้ว่าของสด ๆ มันอร่อยกว่าที่ขายในตลาดเยอะ”
“ครับ”
*
*
...เวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปรวดเร็วเสมอ...ในที่สุดเรือก็กลับเข้าฝั่ง เราสองคนเดินกลับมาขึ้นรถท่ามกลางเสียงคุยโม้ของยุทธที่คุยแต่เรื่องบนเรือไม่หยุด ส่วนผมก็ได้แต่หัวเราะไปกับมุขตลกของเค้า ตั้งแต่เรียนจบมาก็เพิ่งจะมีวันนี้ที่ผมสามารถหัวเราะได้อย่างมีความสุขจริง ๆ...

**************************************************************************************************

ขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะครับ โปรเจคใกล้จะปิดแล้ว เหลืออีก 2 ตอนก็จะจบตามวงจรชีวิตที่แสนสั้นของผีเสื้อ ตอนต่อไปจะเป็นยังไง เร็ว ๆ นี้เจอกันนะครับ

MonarcH
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 10 บ่วงกรรม 24/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: Saint De Jupiter ที่ 31-05-2011 22:51:58
มาช่วยดันๆๆ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 8 PG. 5 [31/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 31-05-2011 23:06:36
 กริชทำตามใจตัวเองบ้างก็ดีเหมือนกัน :pig4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่11 คืนฝนตก 31/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 31-05-2011 23:08:44
ดีใจที่ไนท์เริ่มพูดมาขึ้นแล้ว เพิ่งรู้สาเหตุ ว่าทำไมต้องกลัวฟ้าร้อง ฟ้าผ่า พอรู้แล้วสงสารไนท์มากๆเลย

ปล.แอบฮานะ ไนท์ลองใจพี่เตหรือเปล่า อยากจะกินเค้ก แล้วเค้กที่ไหนไม่ใส่ไข่ละ เนี่ย  สู้ๆ นะพี่เต

ความรักเอาชนะ ทุกอย่างนะค่ะ   :pig4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ50% P:6[31/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 31-05-2011 23:15:29
 :impress3:  คนเขียนขาได้โปรด อย่าให้พี่สายลมเป็นไรไปนะ ได้โปรด พลีสสสสสสสส   
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่11 คืนฝนตก 31/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: MonarcH ที่ 31-05-2011 23:15:41
 :L1: ชอบจัง ไม่ได้อวยกันเองนะ แต่ชอบจริง ๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ50% P:6[31/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: MonarcH ที่ 31-05-2011 23:16:50
นักเขียนเรื่องนี้สุดยอด แบ่งเวลาได้เก่งมาก นับถือ  o13
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 10 บ่วงกรรม 24/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: MonarcH ที่ 31-05-2011 23:18:20
คิดถึงเจ๊จงจังเลย ไม่ค่อยได้เม้าท์  :a5:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 7 [31/05/54] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: MonarcH ที่ 31-05-2011 23:19:33
เข้ามาลุ้นด้วยคน  :L2:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๗. ๒๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: MonarcH ที่ 31-05-2011 23:21:37
 o13 เข้ามาดันเพื่อนของกริช
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่11 คืนฝนตก 31/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 31-05-2011 23:31:16
รักพี่เต
ตรงที่ถนอมไนท์มากๆเนี่ยล่ะ ตอนนี้ยังไม่ใช่คนรัก แต่เป็นคนที่ใส่ใจมากที่สุด
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 8 PG. 5 [31/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 31-05-2011 23:40:03
เหมือนกริชไม่ค่อยจะเป็นคนที่ง่ายกับใคร แต่ทำไมกับยุทธ เหมือนจะ ยอมในหลายๆ เรื่อง แค่ถูกใจ หรือ ว่า รัก เข้าไปแล้ว
กลัวกริชจะเสียใจ นะ ยังไม่ค่อยรู้เรื่องของยุทธ มากเท่าไหร่เลย  :pig4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่11 คืนฝนตก 31/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 31-05-2011 23:43:13
พี่เตกอดปลอบขวัญน้องไนท์หน่อย
ไนท์น่าสงสาร
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่11 คืนฝนตก 31/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 31-05-2011 23:43:28
โถ ความฝันของเด็กน้อยอยากกินเค้ก :sad4:ทั้งที่ตัวเองแพ้ :o12: น่าสงสาร.  
มามะ กอดปลอบ :กอด1:
แต่ว่าเค้าเลือกไม่ถูกเลยว่าอยาดให้ใครกดใคร
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่11 คืนฝนตก 31/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 31-05-2011 23:44:14
เตกดไนท์สิคะ
ถ้าไนท์รุกนี่เราช็อกอ่ะ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 8 PG. 5 [31/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: blanchard ที่ 31-05-2011 23:45:42
ทั้งคู่ดูมีความสุขดี... คนอ่านก็พลอยชื่นใจไปด้วย    :m1:

ถ้าเรากดพอสเวลาแห่งความสุขไว้ได้ตลอดไปก็คงจะดี    :give2:

ขอบคุณมาก  ๆ ๆ ๆ ฮะคุณ MonarcH
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 8 PG. 5 [31/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 31-05-2011 23:47:56
กริชดึงตัวเองไว้บ้างน้า กลัวจะเสียใจ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 8 PG. 5 [31/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 01-06-2011 00:02:29
อยากให้กริชมีความสุข มีคนรักที่เข้าใจถึงตัวตนที่แท้จริง
ยุทธเหมือนจะเป็นคำตอบนั้น แต่ก็ไม่มั่นใจ
เหมือนอะไร ๆ ที่มันเกิดขึ้นเร็ว มันก็จะจบเร็ว
ไม่อยากให้จบลงแบบเศร้า ๆ เลย

หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่11 คืนฝนตก 31/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: Saint De Jupiter ที่ 01-06-2011 00:12:56
เข้ามาส่องหาตัวคนเขียน แล้วก็ยังงงต่อไป แหะๆๆ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 8 PG. 5 [31/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 01-06-2011 00:21:58
อืมบ...  ตอนแรกแอบคิดว่า กริชเป็นคนของร้านคู่แข่งแอบเข้ามาล้วงความลับนะ ไม่ใช่แฮะ
แต่อีก2ตอนก็จบนี่...  เหงาจัง :sad11:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 7 [31/05/54] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: b27072010 ที่ 01-06-2011 00:28:58
 :m31: :m31: :m31:

อ๊าคคคคค  ......... ค้างมากมาย

แล้วแบบนี้จะนอนหลับหรือเปล่านะคืนนี้

มือลึกลับเป็นใครกันนะ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 8 PG. 5 [31/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: vascular ที่ 01-06-2011 00:29:55
กริชนี่ดูมีชีวิตที่น่าสงสาร
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ50% P:6[31/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: Saint De Jupiter ที่ 01-06-2011 00:30:16
แอ่กกกกกกกกกก

ตายไปเลยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 7 [31/05/54] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: nco1236 ที่ 01-06-2011 00:37:58
 :m16:  บังอาจ เตรียมเครื่องประหารหัวสุนัข  :angry2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ50% P:6[31/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 01-06-2011 00:39:22
อ๊าาาาาาาาาา อย่าเป็นอะไรนะพี่สายลม
คนดีพระคุ้มครอง รอด รอด รอด
คนเขียนอย่าใจร้ายนักนะ ขอร้อง :z3:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 7 [31/05/54] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 01-06-2011 00:48:59
ใครกล้ามาดักฉุดหมาน้อยแสนน่ารักของคุณหนูได้
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/Ch.10-11 ค่ะ 2 ตอนติด (29/5/54)
เริ่มหัวข้อโดย: Saint De Jupiter ที่ 01-06-2011 00:50:29
เลือดสาดดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 7 [31/05/54] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 01-06-2011 00:52:50
พี่วินไปเหยียบตาปลาเจ้าพ่อที่ไหนรึเปล่า
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 7 [31/05/54] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Saint De Jupiter ที่ 01-06-2011 00:58:39
แอ่กกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 8 PG. 5 [31/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 01-06-2011 01:00:12
ถ้าป้าธเนศกลับมาแล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 8 PG. 5 [31/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: Saint De Jupiter ที่ 01-06-2011 01:16:17
ดราม่ามั้ยอ่ะ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๗. ๒๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: Saint De Jupiter ที่ 01-06-2011 01:23:27
ดันๆๆ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 8 PG. 5 [31/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 01-06-2011 01:24:14
ไม่อยากคิดถึงผลที่จะตามมาเล้ย ถ้าป้าธเนศรู้ว่ากริชแหกและแหวกคำสั่งออกมาแบบนี้ 2 ตอนที่เหลือหวังว่าจะจบลงด้วยดีนะคะ T^T
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่11 คืนฝนตก 31/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 01-06-2011 03:55:36
เสร็จไปหนึ่ง  เค้าต้องตามเก็บอีกตั้งหกสีแน่ะ :laugh: :laugh: :laugh:


บวกหนึ่งให้ครับ :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 8 PG. 5 [31/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 01-06-2011 04:32:53
ตามอ่านทันแล้ว  อยากให้แต่งยาวๆอ่ะพี่แบบนี้มันน้อยไปหน่อย o13 o13


บวกหนึ่งครับ :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๗. ๒๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 01-06-2011 04:49:51
ยังไงคนเป็นพี่ก้อยังหวังดีกะน้องทุกคนแหละว่าม่ะ :laugh: :laugh:


หรือจะเป็นอย่างที่เค้าบอกกันว่าความรักทำให้คนเราเปลี่ยนไป :z2: :z2:

บวกหนึ่งครับ :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 7 [31/05/54] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 01-06-2011 05:13:45
หนูริชตามเหวี่ยงเหมือนพี่เทียนบุญเลยลูกเดี๋ยวพี่ช่วยเป็นทัพเสริมให้เอง :laugh: :laugh: :laugh:



บวกหนึ่งให้ครับ :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 8 PG. 5 [31/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 01-06-2011 10:23:21
จะจบแล้วเหรอ..ว้า เร็วจัง
หวังว่าคงไม่เศร้านะคะ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 8 PG. 5 [31/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 01-06-2011 10:38:58
จะจบแล้วหรอ..ทำไมมันสั้นนักล่ะ :monkeysad: สัก 10 ตอนมะได้หรอค่ะ :call:
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกอะไรอะไรมันจะราบรื่นไปไหน...
ตอนหน้ามีพลิกล็อกหรือเปล่า ยังไม่ไว้ใจยุทธเลย
แต่ก็อยากเห็นกริชมีความสุข
รอตอนต่อไปนะค่ะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่11 คืนฝนตก 31/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 01-06-2011 11:09:31
สงสารน้องไนท์จัง น่ารักด้วย
ที่สำคัญ เตก็ต้องกดไนท์สิ...ไนท์ออกจะน่ารักขนาดนั้น กดเตไม่ลงหรอก
มีแต่จะยั่วพี่เตมากกว่า :laugh:
รอตอนต่อไปเน้อ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ50% P:6[31/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 01-06-2011 11:35:28
http://www.youtube.com/v/Wkw69DqqO5o?

แอบเอาเพลงมาแปะเพิ่มก่อนลงตอนที่เหลือ

มีคนว่าสายลมเค้า  :o12:

ก็จริงเนอะปืนก็ไม่เอาไป แต่ว่าว่าเราไปช่วยคนรักความร้อนรนมันมากว่าปกตินะครับ ลืมกันได้ ไม่ใช่งานอย่างที่ำ แบบมีเวลาเตรียมตัวอะครับ(มาแก้ตัวให้สายลมก่อน)

ปล. ตอนหน้าอย่าด่าผมนะ  :o12:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 7 [31/05/54] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 01-06-2011 11:37:33
คุณหนูไปโรงเรียนอยู่นะครับ
ตอนเย็นจะเอาคุณหนูมาส่ง หุหุ

 แอบมาโฆษาณา
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 7 [31/05/54] P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Eternal luv ที่ 01-06-2011 11:52:03
 :z13:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ50% P:6[31/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 01-06-2011 11:58:13
ปล. ตอนหน้าอย่าด่าผมนะ 
 
อาจจะนะ ถ้าสายลมเป็นอะไรไปมากกว่านี้
ไม่อยากโดน จงอย่าให้สายลมเป็นอะไรดิ(ขณะนี้กำลังเคืองคนแต่งอย่างแรง)

หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ50% P:6[31/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 01-06-2011 12:44:39
นี่นี่ พี่สายลมจะไม่เป็นไรใช่ไหมครับ :monkeysad: :monkeysad:



อ่านตอนนี้แล้วน้ำตาซึมเลย :sad4: :sad4:



ถึงจะไม่ชอบปลายฟ้ายังไงเค้าก้อไม่อยากให้สายลมตายนะ   



ให้สายลมมีชีวิตอยู่ต่อไปเหอะนะครับ



แค่สายลมได้รักปลายฟ้า   ถึงปลายฟ้าจะไม่ได้รักตอบ สายลมอาจจะเจ็บปวดไปบ้างแต่ก็ยังคงรู้สึกดีที่ได้รัก ว่าม่ะ????



ปล.สาบลมต้องไม่เป็นไรๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ



ปลล.บวกหนึ่งครับ :กอด1:




หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๗. ๒๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 01-06-2011 12:49:51
ความรักใช่ไหม ที่ทำให้ เทียนเปลี่ยนไป
สะใจ.... ในที่สุดผู้ชายที่ไม่มีสมองคิดแบบธรรมทาน ก็ไม่มีใครอย่างได้  :m20:
+1 ให้กับความเปลี่ยนแปลงของกุหลาบทั้งสองดอก  :z2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 10 บ่วงกรรม 24/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 01-06-2011 12:50:21
แวะมาบวกให้เจ๊  พร้อมกับรอตอนต่อไป :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ50% P:6[31/5/11]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 01-06-2011 13:19:26
“น้ำ... น้ำ... ขอน้ำหน่อยครับ พี่สายลม” ปลายฟ้ารู้สึกคอแห้งผากหลังจากรู้สึกตัว
“ปลายฟ้าฟื้นแล้วหรือครับ” เสียงที่คุ้นทักอย่างดีใจ แต่ว่ามันไม่ใช่เสียงคนที่เขาเรียกหานี่นา
ปลาฟ้าพยายามลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆ เพดานสีขาวสะอาดไม่คุ้นตา ทำให้ต้องมองดูรอบ ๆ ตัว สายบางอย่างห้อยระโยงอยู่ด้านข้างตัว ก่อนจะเห็นคนที่เรียกเขาเมื่อครู่ เมื่อมองดี ๆ กลับไม่ใช่สายลมคนที่อยู่ข้างเขาเสมอ กลับเป็นก้องเกียรติที่ยิ้มอย่างดีใจอยู่ข้างเตียง
“ที่นี่ที่ไหนครับพี่ก้อง แล้วผมมาอยู่นี่ได้ยังไง”
“ตอนนี้ฟ้าอยู่ที่โรงพยาบาลนะครับ ฟ้าสลบไปตั้งสองวันรู้ตัวหรือเปล่า” ก้องลูบศีรษะปลายฟ้าอย่างอ่อนโยน
ภาพตอนเกิดเหตุย้อนกลับมาอยู่ในหัวของปลายฟ้าทันที ภาพที่ตัวเองกำลังโดนทำร้ายจากหม่อนทำให้เริ่มกลัวขึ้นมาอีกครั้ง แต่ว่าเขารอดกลับมาได้อย่างไร แล้วใครเป็นคนช่วยเขาให้รอดพ้นจากความตายครั้งนี้
“แล้วใครช่วยผมออกมาครับพี่ก้อง แล้วพี่สายลมไปไหนครับ” ปลายฟ้าถามหลังจากดื่มน้ำที่ก้องเอามาป้อน
“เออ... พี่ว่าปลายฟ้าพักผ่อนก่อนดีกว่านะ เพิ่งฟื้นขึ้นมาเดี๋ยวพี่ไปตามหมอมาดูอาการให้” ก้องเกียรติเลี่ยงที่จะตอบ
ปลายฟ้าก็ไม่ได้คาดคั้นอะไร เพราะเขายังรู้สึกไม่ค่อยดีเหมือนกัน ส่วนสายลมคงไปจัดการเรื่องต่าง ๆ ให้เขาอยู่แน่นอน เดี๋ยวตอนเย็น ๆ ก็คงได้เจอกันแล้ว เพียงแต่เขามีความรู้สึกแปลก ๆ เวลาคิดถึงสายลมตอนนี้

หลังจากนอนตื่นมาในช่วงเย็น คนที่เขาเห็นคนแรกยังเป็นก้องเกียรติเหมือนเดิม
“พี่ก้อง พี่สายลมยังไม่กลับหรือครับ” ปลายฟ้าถามเมื่อมองสำรวจรอบห้องจนแน่ใจแล้ว
“ตื่นแล้วหรือครับ เดี๋ยวทานอะไรสักหน่อยก่อนนะครับ จะได้ทานยาด้วย” ก้องเกียรติไม่สนใจที่จะตอบกลับพาทำอย่างอื่นแทน
“พี่ก้องเล่าให้ผมฟังหน่อยสิครับ ว่าใครช่วยผมออกมา แล้วมันเกิดอะไรขึ้นตอนที่ผมสลบอยู่” ปลายฟ้าถามเรื่องที่เกิดขึ้นอีกครั้ง
“ฟ้าพักก่อนไม่ดีกว่าหรือครับ” ก้องเกียรติเลี่ยงอีกเหมือนเดิม
“ไม่เอาครับพี่ก้องต้องเล่าให้ผมฟังก่อน ไม่งั้นผมจะไม่ยอมทำตามที่พี่บอก” ปลายฟ้าดึงดันในคราวนี้
ก้องเกียรติยืนนิ่งไปครู่ใหญ่ ในใจเขาคิดสับสนไปหมดว่าจะเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างไรดี แต่ถ้าไม่เล่าก็จะยิ่งเพิ่มความคลางแคลงใจให้กับปลายฟ้ามากยิ่งขึ้น
“คือว่าพี่ไม่รู้ว่าจะเริ่มเล่าจากตรงไหนดีน่ะครับ”
“งั้นก็เริ่มจากตรงที่ใครช่วบผมออกมา แล้วตอนนี้คนที่ทำร้ายผมเป็นยังไงบ้าง” ปลายฟ้าจ้องหน้าก้องเกียรติอย่างตั้งใจ
ก้องเกียรติเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ปลายฟ้าฟัง ว่าสายลมเป็นคนออกตามหาเขาแล้วไปช่วยเขาออกมา ส่วนหม่อนนั้นถูกวิสามัญฯ ไปแล้วในตอนที่ตำรวจเข้าไปช่วย
“แล้วเรื่องศพพ่อเขาล่ะครับ ทางตำรวจว่ายังไงบ้าง”
“ทางตำรวจเขาบอกมาว่า ศพนั่นเป็นพ่อเลี้ยงขอหม่อน ด้วยความที่รักหม่อนมาก เลยพาไปขังไว้ที่เกาะนั่นและคงข่มขื่นหม่อนด้วย พอหม่อนโตขึ้นเลยฆ่าพ่อเลี้ยงของตัวเอง แล้วออกมาจากเกาะคงบังเอิญคงมาถูกชะตากับปลายฟ้าเข้าให้ เขาเลยคิดจะทำกับปลายฟ้าเหมือนที่พ่อเลี้ยงทำกับเขา คิด ๆ ไป หม่อนก็น่าสงสารอยู่เหมือนกันนะ เพราะเขาโดนทารุณมาตั้งแต่เด็กแบบนี้” ก้องเกียรติเล่าเท่าที่รู้มาทั้งหมด
“ก็น่าสงสารอยู่นะครับ แต่ก็ไม่น่าจะต้องทำถึงขนาดนี้” ปลายฟ้าทำเสียงเศร้าลงเล็กน้อย
“แล้วพี่สายลมล่ะครับ เป็นยังไงบ้าง พี่ก้องไม่เห็นพูดถึงเลย หรือว่าเขาบาดเจ็บนอนอยู่ห้องไหน” ปลายฟ้าเริ่มเป็นห่วง
“คือ... คือว่า.. เรื่องนี้พี่จะบอกปลายฟ้ายังไงดีล่ะ” ก้องเกียรติทำท่าลำบากใจเมื่อพูดเรื่องสายลม
“บอกมาเถอะครับ พี่สายลมเป็นอะไร เป็นหนักหรือครับ” ปลายฟ้าเป็นห่วงสายลมมาก เพราะเขารู้สึกไม่ดีตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาแล้ว แต่ก้องเกียรติก็ยังอ่ำอึ้งไม่ยอมพูดออกมา
“พี่ก้อง ตกลงพี่สายลมเป็นยังไงบ้างครับ” ปลายฟ้าเริ่มเสียงดัง
“คือว่า.. คุณสายลมเขา.. คุณสายลมเขาเสียแล้วครับ” ก้องเกียรติพูดออกมาอย่างแผ่วเบา เหมือนไม่ต้องการให้คนตรงหน้าได้ยิน
“พี่ก้องว่ายังไงนะครับ พี่สายลม พี่สายลมทำไมนะ” ปลายฟ้ายังไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน เขาดึงมือก้องเกียรติมีบไว้จนแน่น
“พี่บอกว่าคุณสายลมเขาตายแล้วไงครับ” ก้องเกียรติเพิ่มเสียงขึ้น แต่ก็ฟังดูหดหู่
“ไม่... ไม่จริงใช่ไหมครับพี่ก้อง พี่ล้อผมเล่นใช่ไหมครับ” ปลายฟ้าไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
น้ำตาเออไหลออกจากดวงตาทั้งสองข้าง หน้าอกข้างซ้ายเหมือนมีฆ้อนปอนด์มาทุบจนยุบเข้าไป ความรู้สึกชาค่อย ๆ ลามขยายอย่างรวดเร็วไปทั้งตัว เรียวแรงที่มีอยู่กลับหดหายไปอย่ากะทันหัน เรื่องที่ได้ยินมันหนักเกินไปที่เขาจะรับได้ในตอนนี้
“ฮึก...  ฮึก... พี่ก้องไม่ได้แกล้งผมเล่นใช่ไหมครับ พี่สายลมจะตายได้ยังไงกัน...”
คำถามซ้ำเดิมถูกถามขึ้นอีกเพื่อความแน่ใจ เขาอยากให้คนตรงหน้าบอกเขาว่าพี่ล้อเล่นให้ได้ในตอนนี้ แต่คำตอบที่ได้กลับเป็นการพยักหน้า มันเหมือนยิ่งตอกย้ำความรู้สึกเพิ่มมากเข้าไปอีก ภาพของสายลมที่เคยยิ้มอยู่ตรงหน้า เคยหัวเราะกับเขา คนที่คอยดูแลเขาทุกอย่างขอแค่บอกเท่านั้น ความรู้สึกทั้งหมดจะไม่ได้รับอีกแล้ว เรื่องนี้สำหรับปลายฟ้าแล้วมันยากเกินกว่าที่เขาจะรับไว้ทันในตอนนี้
“ฮึก... ฮึก... ฮึก....”
เสียงร้องไห้หายไปในลำคอ เหลือเพียงภาพเด็กหนุ่มหน้าตาดีหลั่งน้ำตาออกมาอย่างไม่หยุด สองมือบีบเกร็งไว้แบบควบคุมตัวเองไม่ได้ ความอึดอัดเกิดขึ้นภายในตัวอย่างสุดจะบรรยาย อยากร้องไห้ให้เสียงดัง ๆ ออกมาแต่มันกลับทำไม่ได้ ความกดดันทับทมเข้าจิตใจเข้ามากขึ้นทุกขณะ คนที่อยู่กับเขาตลอดมาตอนนี้ได้จากเขาไปเสียแล้ว แล้วต่อไปนี้เขาจะทำอย่างไรต่อไป
“ปลายฟ้า ปลายฟ้าเป็นอะไรไปครับ” ก้องเกียรติสังเกตุเห็นอาการผิดปกติของปลายฟ้าได้
“หมอครับ รีบมาด่วนเลยครับ” ก้องเกียรติรีบออกไปเรียกหมอหน้าประตู

“พี่สายลมครับ พี่สายลมอย่าทิ้งผมไปนะครับ” ปลายฟ้าละเมอคำนี้ออกมาตลอดเวลาที่หลับอยู่
ก้องเกียรติเป็นคนที่ได้ยินอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้เขากลับเป็นฝ่ายรู้สึกแย่เหมือนกัน เพราะคนที่เขารักกลับเพ้อถึงคนอีกคนตลอดเวลา ถึงแม้ว่าคนที่พูดถึงจะเสียชีวิตไปแล้วก็ตาม ถึงจะพยายามทำใจไว้แล้วตั้งแต่ที่รู้เรื่องนี้ เขานอนมองปลายฟ้าจนหลับไป

งานศพสายลมจัดอย่างเรียบง่ายตามที่สั่งเสียไว้ ปลายฟ้าขอออกจากโรงพยาบาลในวันสุดท้ายเพื่อมาร่วมงาน ปลายฟ้าที่เคยสดใสตอนนี้กลับเงียบลง ร้อยยิ้มที่แสนสดใสตอนนี้เลือนหายไปจากใบหน้า เหลือเพียงใบหน้าที่มีคราบน้ำตาอยู่เกือบตลอดเวลา ปลายฟ้าเองไม่เคยรู้สึกเสียใจเท่านี้มาก่อน ก่อนมางานทางบริษทเสนอเรื่องย้ายที่อยู่กับผู้จัดการส่วนตัวคนใหม่ให้ แต่ปลายฟ้าก็ปฏิเสธทั้งหมด เขาต้องการกลับไปอยู่ที่เดิม และไม่ต้องการให้ใครมาแทนที่สายลม
“ปลายฟ้าพักก่อนนะครับ เหนื่อยที่งานทั้งวัน” ก้องเกียรติพาปลายฟ้ากลับมาที่คอนโด
“ครับผมจะพักผ่อน พี่ก้องช่วยกลับไปก่อนได้ไหมครับ” ปลายฟ้าบอกเมื่อยืนอยู่ที่หน้าห้อง
“แต่ว่าอยู่คนเดียวได้หรือครับ เพิ่งออกจากโรงพยาบาลมา”
“ได้ครับ พี่ก้องกลับไปก่อนเถอะนะครับ” ปลายฟ้ายืนยันหนักแน่นจนก้องเกียรติต้องกลับไปก่อน
ปลายฟ้ายืนนิ่งอยู่หน้าห้องตัวเองพักใหญ่ ใจจริงเขาไม่อยากที่จะกลับมาที่นี่มากเท่าไหร่ แต่มันเป็นที่เดียวที่เขามีความทรงจำกับสายลม คนที่ช่วยชีวิตเขาเอาไว้และคนที่ดีกับเขาจนวินาทีสุดท้าย
ความรู้สึกแรกเมื่อก้าวเท้าเข้ามาให้ห้อง ปลายฟ้ายังรู้สึกถึงความอบอุ่นและห่วงใยของสายลม ของทุกอย่างยังเป็นระเบียบเหมือนเดิม โซฟาสีฟ้าอ่อนตั้งอยู่กลางห้อง โต๊ะกินข้าวถูกจัดวางไว้อย่างเรียบร้อย ช่างเหมือนเดิมทุกอย่างจริง ๆ ยกเว้นอย่างเดียว คือ ไม่มีสายลมอีกต่อไปแล้ว
ปลายฟ้าทรุดตัวลงใช้สองมือปิดหน้าเพื่อปิดบังความอ่อนแอของตัวเอง น้ำตาเออไหลออกจากดวงตาทั้งสองอย่างสุดจะห้ามได้ เรียวแรงที่เคยมีทั้งหมดหายไปอีกครั้ง เขาทิ้งตัวลงนอนกับฟื้นห้อง ทำราวกับตัวเองเป็นสิ่งของที่วางไว้ตรงไหนก็ได้ น้ำตายังคงเออล้นจากสองตาตลอดเวลา ใบหน้านอนซบอยู่กับพื้นที่แสนจะเย็นเฉียบ เขาไม่สามารถมีแรงทำอะไรได้แล้วตอนนี้

http://www.youtube.com/v/wBJG584Pyic?

“พี่สายลม ทำไมพี่ทิ้งผมไปแบบนี้ แล้วต่อไปผมจะอยู่กับใคร” ร่างที่ไร้เรียวแรงพร่ำพูดแต่ประโยคซ้ำเดิม
ปลายฟ้านอนอยู่นานเท่าไหร่เขาไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย เขาไม่อยากขยับตัวในตอนนี้ ถ้าเขาเป็นอะไรตามสายลมไปอีกคนก็คงดี เพราะคนที่หวังดีกับเขาจริงคงไม่มีอีกแล้ว
‘ฟ้าต้องเข้มแข็งนะ ถึงจะไม่มีพี่อยู่ฟ้าก็ต้องเข้มแข็งไว้นะ’
คำของสายลมลอยเข้ามาในหัวปลายฟ้า สายลมมักบอกประโยคนี้กับปลายฟ้าเสมอเวลาที่เกิดปัญหาขึ้น
“ครับพี่สายลม ผมจะเข้มแข็งให้พี่ดู พี่คอยดูนะครับ” ปลายฟ้าพูดกับตัวเองเบา ๆ
หลังจากตัดสินใจแล้วปลายฟ้าพยุงตัวเองให้ลุกขึ้น เขาตั้งใจไว้ว่าจะไม่ทำตัวแบบที่ผ่าน ๆ มา เขาไม่อยากให้สายลมเป็นห่วงเขาอีก เขาต้องทำให้สายลมที่อยู่บนท้องฟ้าเห็นให้ได้ว่า เขาไม่ได้อ่อนแออีกต่อไป สิ่งแรกที่ปลายฟ้าทำคือเดินเข้าไปในห้องของสายลม อย่างน้อยขอจดจำทุกอย่างไว้ก่อนที่เขาจะปิดห้องนี้ไว้อย่างถาวร
ห้องเรียบง่ายที่แทบไม่มีอะไรอยู่ภายใน ชั่งต่างจากห้องของเขาอย่าง ปลายฟ้าเดินใช้มือลากสัมผัสทุกอย่างในห้องอย่างแผ่วเบา ก่อนที่จะมาหยุดที่หัวเตียงสีขาวสะอาด รูปถ่ายสายลมตั้งอยู่ที่หัวเตียง ปลายฟ้าหยิบขึ้นมาดูพร้อมกับน้ำตาไหลอีกครั้ง เขาหยิบรูปเข้ามากอดไว้ที่หน้าอกอย่างน้อยเขาก็ยังได้รับความอบอุ่นขึ้นมาบ้าง
ตุ๊บ!!
รูปภาพแผ่นเล็กหล่นลงมาจากหลังรูป ปลายฟ้าหยิบขึ้นมามันเป็นภาพที่เขาถ่ายคู่กับสายลม และแทบเป็นภาพเดียวเลยก็ได้ที่ได้ถ่ายคู่กัน เมื่อพลิกด้านหลังก็เห็นข้อความที่เขียนไว้ด้วยลายมือของสายลม อยู่ด้านหลังรูป

รูปถ่ายคู่กับคนที่รักที่สุด ถึงแม้เขาจะไม่รู้ตัวก็ตาม
ปลายฟ้าพี่รักปลายฟ้านะ

เมื่ออ่านข้อความจบปลายฟ้าทิ้งตัวนั่งลงบนที่นอน กอดรูปสายลมไว้จนแน่นกว่าเดิม
“ทำไมพี่ไม่บอกกับผมล่ะครับ แล้วผมมารู้ตอนนี้มันจะได้ประโยชน์อะไร” ปลายฟ้าร้องไห้พร้อมพร่ำบ่นกับรูปสายลมตรงหน้า


=======> โปรดติดตามตอนต่อไป

คนเขียนขอซ่อนตัวก่อน แอบลงเพลงระหว่างเรื่อง ฟังไปอ่านไปนะครับ  :o12:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๗. ๒๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: tarkung ที่ 01-06-2011 13:23:12
ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ >>>>>>> จะติดตามต่อไปนะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 10 บ่วงกรรม 24/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 01-06-2011 13:29:40
ทีละศพ ๆ แล้วใครจะเป็นศพต่อไป
+1 ให้เจ๊จง ( เห็นเค้าเรียกกันว่างี้ )
ปล. รอตอนหน้า สองคนจะเที่ยวบาร์ ฮิ้วววววว....
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจ
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 01-06-2011 13:51:54
อร๊ายยยยยยยยยยไม่เอาแบบนี้นะ  ใจร้ายที่สุด  เอาพี่ลมของเค้าคืนมา :serius2: :serius2:




ถึงจะอยากให้ปลายฟ้าเสียใจมั่งแต่ไม่ใช่แบบนี้นะ



แต่งใหม่เลยเอาแบบสายลมยอมแพ้แล้วไปรักคนอื่นได้ม่ะ???แบบนี้มันปวดใจ :o12: :o12: :o12:  กรีดร้องงงงง :sad4:



ใจจริงอยากให้ปลายฟ้าแค่ฝันไปนะ  แค่นี้ปลายฟ้าเค้าก้อได้บทเรียนแล้วล่ะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ100% P:7[1/6/11]
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 01-06-2011 13:55:35
^^
^^
ไม่ตบหลอก ก็แค่  :a14: รู้ตัวเปล่าว่า ใจร้ายยยยย........
ฟ้าต้องเข้มแข็ง เพื่อพี่สายลม เพราะท้องฟ้ากับสายลม มันคู่กันเสมอ
มีเพียงแต่ในเรื่องนี้แหละ ที่สายลมต้องพรากจากปลายฟ้า  :z2:
+1 ให้ด้วยความ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่11 คืนฝนตก 31/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 01-06-2011 14:10:28
อยากให้พี่เต กอดปลอบ ไนท์ที
จะหาเค้กได้ไหมน้าาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่11 คืนฝนตก 31/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: Giniz ที่ 01-06-2011 14:32:23
ทำไมพี่เตไม่ทำกิจกรรมเข้าจังหวะกะไนท์ไปเลยละคะ :oo1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ100% P:7[1/6/11]
เริ่มหัวข้อโดย: bellity ที่ 01-06-2011 14:51:36
สีน้ำเงินแห่งความหม่นหมองสินะ

กระซิกๆ สายลม  :monkeysad: :m15:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ100% P:7[1/6/11]
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 01-06-2011 15:20:23
รู้ค่าเมื่อเสียไป...ไม่เห็นมีบทสายลมตอนสั่งเสียอะไรมั่งเลยอ่ะ
จากไปเงียบ ๆ สมกับชื่อสายลมจริง ๆ  :m15:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ100% P:7[1/6/11]
เริ่มหัวข้อโดย: LimousinX9 ที่ 01-06-2011 15:32:19
อืม...คิดถึงสายลม
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ100% P:7[1/6/11]
เริ่มหัวข้อโดย: onjazz26 ที่ 01-06-2011 15:36:56
ฮือ ๆๆๆๆๆ :m15: :monkeysad: :sad11:
โหดร้าย โหดร้ายที่สุด :angry2:
ทำไมให้พี่สายลมตายอ่ะ :m8:
เรื่องของเจ๊จงพระเอกก็ตาย
บูลเรนเจอร์พระเอกก้อตาย
โอ้ยยยย........ไม่มี nc เลย ... เซ็ง :impress2:
(ไม่รู้เศร้า....เพราะอารัยกันแน่..อิ อิ) :laugh3: :impress2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ100% P:7[1/6/11]
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 01-06-2011 15:42:53
อ้าว ตายจริงซะงั้น...เฮ้ย!!! พระเอกตาย OoO
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 8 PG. 5 [31/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 01-06-2011 16:01:33
กริชจะโดนหลอกหรือเปล่าก็ไม่รู้ ไม่อยากกินมาม่า T^T
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่12 กินเค้กกันเถอะ 30%1/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: ภาพฝัน ที่ 01-06-2011 16:15:27
   เมื่อเตชวัฒน์ตื่นมาพบว่าวริศรินทร์ที่นอนซบอยู่บนแผ่นอกกว้าง ใบหน้าที่หลับพริ้มอย่างสบายทำใจทำให้เตชวัฒน์อมยิ้มไม่ได้ แต่ภาพที่เห็นทำให้เขาชะงักชุดคลุมอาบน้ำที่หลุดหลุ่ย เผยให้เห็นท่อนขายาวที่ปลายผ้าเลิกขึ้นไปถึงสะโพก และส่วนบนที่หลุดลุ่ยทำให้ร่างกายของไนท์เกือบเปลือยเปล่า ยิ่งเมื่อใบหน้าของไนท์ซูกไซร้เข้ามาใกล้จากแผ่นอกขยับมาใกล้กับลำคอลมหายใจอุ่นๆ ที่เป่ารดทำให้ร่างกายของเขาร้อนวูบวาบ

   “ไนท์ครับ” เตชวัฒน์ผละออกจากร่างของอีกฝ่ายแต่เขารู้สึกว่าแขนขาของเขาอ่อนแรงลง กลายเป็นลูบไล้แผ่วเบาที่หัวไหล่เปลือยเปล่า

   “ตื่นเถอะครับ” เตชวัฒน์รู้สึกมันชา นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเห็นอีกฝ่ายกึ่งเปลืองแบบนี้ แต่ในคราวนี้เขารู้สึกถึงอุณภูมืและความใกล้ชิด สัมผัสได้แม้แต่จังหวะการหายใจ เป็นฝ่ายเขาที่ต้อวงตวัดผ้าห่มคลุมท่อนขาที่โผล่พ้นออกมา เขากลั้นใจเขย่าร่างที่ซบอู่อย่างสบายให้ตื่นขึ้นมา

   สายตาที่ปรือปรอย กับใบหน้าที่ง่วงงุ่น วริศรินทร์ลืมตาขึ้นมามองรอบๆ ห้องด้วยความมึนงง แสงแดดอ่อนที่ส่องกระทบไปตามใบหน้า ลำคอ แผ่นอก และหน้าท้อง ส่วนสำคัญถูกเสื้อคลุมอาบน้ำปกคลุมอย่างหมิ่นเหม่ ยิ่งทำให้ร่างกายของไนท์ดูเป็นประกายน่าสัมผัส เตชวัฒน์เริ่มรู้สึกกระหายน้ำขึ้นมากระทันหัน ลำคอของเขาแห้งผาก

....................
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่11 คืนฝนตก 31/05/2554
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 01-06-2011 16:21:52
ไนท์น่ารักอีกแล้ววววววว
ทำตัวแบบนี้น่ารักที่สุด เตก็แสนดีเหลือเกิน ><
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 8 [01/06/54] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 01-06-2011 16:33:44
(http://upic.me/i/e1/ls4-1.jpg) (http://upic.me/show/24809322)


เล่ห์ร้าย
ตอนที่ 8.

เมื่อเริ่มรู้สึกตัววิธวินท์จึงหรี่ตาขึ้น แต่แสงไฟที่สาดเข้ามาทำให้ชายหนุ่มต้องหลับตาลงแน่น แล้วอาการปวดหัวที่เข้ามาเป็นระลอกทำให้เขาต้องเอนศีรษะไปมาเบาๆ จนเริ่มชินกับแสงชายหนุ่มจึงลืมตาขึ้น
“ฟื้นแล้วครับคุณผู้หญิง” เสียงผู้ชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้นไม่ห่างจากตัวของชายหนุ่มนัก เขาหันไปมองจึงนึกขึ้นมาได้ว่าโดนกลุ่มชายห้าคนจับตัวมา วิธวินท์พยายามขยับตัวแต่แขนกลับติดล็อคอยู่ในท่าไพล่หลังเอาไว้ ชายหนุ่มก้มมองดูตัวเอง เขายังอยู่ในชุดนักศึกษา นั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องโล่งๆ มีชายร่างใหญ่ยืนอยู่ตามมุมต่างๆ
“น้องวินบังคับให้พี่ทำแบบนี้เองนะคะ พี่ไม่ได้อยากทำเลยจริงๆ” เสียงของผู้หญิงเอ่ยขึ้นใกล้ๆ พร้อมกับมืออวบที่ลูบไล้อยู่ที่แก้มของชายหนุ่ม วิธวินท์เอียงใบหน้าหลบแล้วเงยหน้าขึ้นมอง ก็พบกับสินี สาวใหญ่ที่เป็นเจ้าหนี้นอกระบบที่เคยติดต่อกันมานาน
“พี่บอกน้องวินแล้วไงคะ ถ้าเดือดร้อนเรื่องเงินให้มาหาพี่ก่อนคนแรก พี่ยินดีช่วย” สาวใหญ่จีบปากจีบคอออดอ้อนชายหนุ่ม
วิธวินท์เองก็พอรู้ว่าสาวใหญ่พึงพอใจในตนเอง ฝ่ายนั้นก็คอยตามเสนอเงินให้ชายหนุ่มไม่น้อยเพื่อจะส่งเสียเลี้ยงดู ชายหนุ่มก็พยายามเลี่ยงมาตลอด แล้วก็มีอยู่ครั้งหนึ่งที่จวนตัวเป็นอย่างมากไม่สามารถหยิบยืมใครได้ จึงต้องทำสัญญาเงินกู้กับสินี แต่ชายหนุ่มก็ทยอยชดใช้ดอกเบี้ยได้ตรงตามกำหนดเรื่อยมา สาวใหญ่ก็ได้แต่ขัดใจที่ยังไม่สามารถบีบวิธวินท์ให้ยอมจำนนแก่ตนได้
“ไม่ยักจะรู้ว่ายัยลัลนาก็ชอบเลี้ยงเด็กเหมือนกัน ชิส์ มาตัดหน้าซะได้ แต่ไม่เป็นไรนะคะ พี่ไม่ถือ” สินีบ่นอยู่คนเดียว มืออวบก็ยังตามมาบีบที่คางของชายหนุ่มเอาไว้ แล้วก้มลงมาพูดใกล้ๆ หน้าชายหนุ่ม
วิธวินท์แปลกใจกับคำพูดของสาวใหญ่อยู่บ้าง ทำไมสินีต้องพูดถึงคุณผู้หญิง แต่ก็ไม่มีเวลาให้คิดมากเพราะสินีที่นั่งอยู่บนที่วางแขนของเก้าอี้ที่ชายหนุ่มนั่งอยู่ลุกขึ้นแล้วกระดิกนิ้วให้ชายสามคนดึงเขาให้ลุกขึ้น พอชายหนุ่มตั้งตัวได้ ก็พยายามสะบัดตัว ดิ้นรนเพื่อจะหนีให้เป็นอิสระ เขาก้มตัวกระแทกกับร่างของชายคนแรก แล้วยกขาขึ้นถีบเข้าที่ท้องของชายอีกคน ชายคนที่สามจึงเข้ามารวบตัววิธวินท์ไว้จนล้มลง ชายคนนั้นใช้มือกดคอของเขาเอาไว้แน่น มืออีกข้างยกขึ้นเตรียมจะเหวี่ยงลงมา
“หยุดนะไอ้ยศ ห้ามทำหน้าน้องวินเป็นรอย” เสียงสาวใหญ่ร้องบอก ชายคนนั้นเลยหยุด ชายคนอื่นที่ลุกขึ้นมาได้แล้วจึงช่วยกันคุมตัววิธวินท์เอาไว้ ชายหนุ่มก็พยายามสะบัดตัวให้หลุด
“ปาร์ตี้คืนนี้พี่จัดเพื่อต้อนรับน้องวินเลยนะคะ พาไปแต่งตัวให้หล่อๆ ไป” สาวใหญ่พูดกับชายหนุ่ม ก่อนจะหันไปสั่งลูกน้อง แล้วเดินเข้ามาใกล้ ลูบไล้มือที่หน้าอกของชายหนุ่มเบาๆ แทนที่จะทำให้รู้สึกวาบหวาม วิธวินท์กลับรู้สึกสะอิดสะเอียน
“พยศแบบนี้พี่ล่ะชอบนัก คืนนี้จะปราบให้อยู่หมัดเลย”

“เอ้า! ใส่ซะ อย่าเรื่องมากนัก ตอนนี้คุณผู้หญิงไม่อยู่แล้ว กูจะทำปืนลั่นใส่มึงตอนไหนก็ได้” ยศชายร่างใหญ่ไขกุญแจมือให้ชายหนุ่ม โยนเสื้อผ้าให้ แล้วเอามือตบปืนที่เหน็บอยู่ที่ขอบกางเกงเพื่อขู่วิธวินท์
ชายหนุ่มก็คิดว่าถึงขัดขืนก็คงจะหนีไปไหนไม่ได้ จึงรับเสื้อผ้ามา ลูกน้องของสาวใหญ่จึงปิดประตูแล้วเฝ้าอยู่ด้านนอก ชายหนุ่มได้โอกาสจึงเดินสำรวจรอบห้อง มีเพียงประตูทางเข้าบานเดียวไม่มีหน้าต่าง มีแค่พัดลมระบายอากาศเล็กๆ ที่ดูยังไงเขาก็ไม่สามารถผ่านออกไปได้อย่างแน่นอน ภายในห้องโล่งๆ นั้นมีเพียงกระจกบานใหญ่ และราวที่มีเสื้อผ้าผู้ชายแขวนอยู่หลายชุด ชายหนุ่มมองชุดหนังสีดำที่ได้รับมาและเอาออกมาคลี่ดู แทบคิดไม่ออกว่าจะใส่เข้าไปได้อย่างไร จนกระทั่งมีกะเทยสาวสองนางเปิดประตูเข้ามา
“คุณน้องขายังไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าอีกเหรอคะ”
“มาค่ะ พี่จะแต่งให้หล่อกว่านี้อีกร้อยเท่า”
สองสาวเข้ามาปลดนู่นติดนี่ให้ชายหนุ่มวุ่นวายไปหมด มือก็อยู่ไม่สุขพอเผลอก็แอบลูบตามร่างกายของชายหนุ่มอย่างสนุกมือ วิธวินท์ก็ปัดป้องขยับหลบมือของทั้งสองนาง

สินีสาวใหญ่อายุผ่านเลขสี่มาหลายปี เศรษฐีนีหม้ายของนายทหารใหญ่  มีรสนิยมทางเพศกระเดียดไปทางรักความรุนแรง ชอบเห็นรอยฟกช้ำ ทำรอยกัด และจะยิ่งสุขสมเมื่อเห็นเลือดสีแดงสด ตัดกับผิวของอีกฝ่ายยิ่งทำให้ถึงขีดสุดของอารมณ์ สาวใหญ่ถูกใจวิธวินท์ตั้งแต่สมัยที่ชายหนุ่มเรียนจบมัธยมปลายใหม่ๆ แต่วิสามารดาของวิธวินท์ก็ใจแข็งไม่เคยยอมให้สินีที่เคยติดต่อธุรกิจกับสามีของนางเข้ามาช่วยเรื่องการเงินแม้แต่น้อย จนสินีต้องใช้เล่ห์กลจนทำให้ครอบครัวของชายหนุ่มต้องใช้เงินอย่างเร่งด่วนขึ้นมาจนได้ ถึงแม้จะเข้าทางของสินีแล้วแต่สองแม่ลูกก็ยังหาทางเอาเงินมาส่งดอกเบี้ยได้ทุกงวดไม่มีเกินกำหนด
ครั้งนี้สินีทนไม่ได้จริงๆ ที่ลูกน้องของเธอมารายงานว่าพักหลังวิธวินท์เข้าออกคฤหาสน์ของนักธุรกิจใหญ่เจ้าของกิจการนำเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่ในวงสังคมไฮโซพอจะรู้เบื้องหลังกันอยู่ว่าสามีภรรยาคู่นั้นแยกห้องกันอยู่ในบ้านหลังเดียวกันมาเนิ่นนานแค่ไหน ความรู้สึกเจ็บใจที่ลัลนามาตัดหน้าชายหนุ่มที่เธอต้องการครอบครองมานาน เธอจึงส่งคนไปจับตัววิธวินท์มาซะ ไม่ได้กลัวเกรงถึงอำนาจเงินของอีกฝ่าย แต่หากจะต้องงัดกันจริงๆ เธอก็ไม่มั่นใจว่าจะชนะ แต่อย่างน้อยระหว่างนี้เธอจะตักตวงให้ได้มากที่สุด

วิธวินท์ถูกคุมตัวออกมาจากห้อง เดินผ่านทางเดินยาวจนได้ยินเสียงเพลงลอดเข้ามาเบาๆ จนทะลุผ่านทางเดินออกมาถึงบริเวณงานที่เป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ประดับประดาด้วยเทียน ให้เห็นบรรยากาศสลัว ควันสีขาวพากลิ่นยาสูบผสมรสผลไม้ที่เหล่าไฮโซใช้มอมเมาตัวเองลอยมาตามลม เสียงพูดคุยกับเสียงชนแก้วเบาๆ ของกลุ่มสาวใหญ่ไฮโซที่มีรสนิยมชอบเด็กหนุ่มที่อายุคราวลูกคราวหลานที่มารวมตัวกันในปาร์ตี้
ในสระว่ายน้ำก็มีชายหนุ่มที่อยู่ในกางเกงว่ายน้ำตัวเล็กสีขาว ว่ายน้ำวนเวียนอยู่ในสระเหมือนเงือกหนุ่มไม่ต่ำกว่าห้าคน มีบริกรสวมกางเกงชั้นในสีดำที่คอผูกหูกระต่ายคอยเติมไวน์ เสิร์ฟอาหารให้กับแขกที่เข้ามาร่วมงาน รอบๆ งานมีชายร่างใหญ่คอยคุมเชิงอยู่เป็นจุดๆ ไปทั่วบริเวณ แสดงว่าชายหนุ่มที่เห็นในงานปาร์ตี้นี้หลายคนคงถูกบังคับมาเช่นเดียวกับวิธวินท์

เมื่อเห็นชายหนุ่มเดินเข้ามา สินีรีบลุกขึ้นมาต้อนรับแล้วดึงเข้าไปโชว์ตัวให้เพื่อนสาวในกลุ่มอย่างพึงพอใจ
“นี่ไงจ๊ะ คุณๆ ทั้งหลาย น้องวินของเดี๊ยน” สินีพูดด้วยหน้าตายิ้มแย้ม
“น่ารักดีนี่คุณนี แบ่งให้เดี๊ยนลองบ้างได้มั้ยล่ะเท่าไหร่เท่ากัน” สาวใหญ่ร่างเล็กเอื้อมมือมาจะลูบที่กล้ามพองามของชายหนุ่ม สินีตีมือเพื่อนสาวเบาๆ
“ไม่นะคะคุณจิน คนนี้เดี๊ยนหวง” สินีหันไปพูดกับเพื่อนๆ แล้วหันไปพยักหน้ากับกลุ่มชายที่คุมตัวชายหนุ่มอยู่ เพื่อให้พาชายหนุ่มไปไว้ในที่ที่จัดเตรียมไว้
“แต่ถ้าทุ่มไม่อั้นจริงๆ เดี๊ยนอาจจะคิดใหม่ก็ได้นะคะ” สาวใหญ่ยกมือขึ้นปิดปากหัวเราะอย่างมีจริต

วิธวินท์ถูกจับเข้ามาไว้ในกรงเหล็กรูปทรงสี่เหลี่ยมไม่ใหญ่มาก ถูกตรึงมือทั้งสองให้ชูไว้เหนือศีรษะ แล้วก่อนที่คนของสินีจะออกไปก็เอายาบางอย่างกรอกใส่ปากชายหนุ่มแล้วใช้ที่รัดปากที่ทำจากผ้าสีดำปิดเอาไว้กันเขาคายออกมา แล้วปิดประตูกรงแล้วเดินออกไปประจำที่
หลังจากชายหนุ่มกลืนยาไปสักครู่ เขาก็มีอาการคันยุบยิบตามผิวหนัง ขนตามร่างกายลุกซู่ไปทั้งตัว รู้สึกร้อนวูบวาบไปตามเนื้อตัว จนต้องหอบระบายลมหายใจออกมาเบาๆ ความรู้สึกปั่นป่วนเกิดขึ้นในร่างกายเลือดสูบฉีดไปยังส่วนที่ไวต่อความรู้สึก จนตอนนี้ส่วนนั้นของชายหนุ่มตื่นตัวจนคับชั้นในที่ตัดเย็บจากหนังสีดำออกมา วิธวินท์รู้สึกอยากจะปลดปล่อยจนต้องกัดผ้ารัดปากไว้อย่างแรง มือที่ถูกตรึงไว้ก็กำเข้าหากันแน่น ชายหนุ่มดิ้นเป็นระยะจนเสียงของโซ่ที่ใช้ตรึงแขนเขาไว้ กระทบกันดัง กึกๆ
“แข็งแรงอย่างที่พี่คิดไว้เลยค่ะน้องวิน” สินีถือแก้วไวน์เดินมาชื่นชม นกน้อยในกรงที่เธอจับมาขังเอาไว้ แล้วยื่นมือเข้าไปใช้เล็บครูดเบาๆ ที่ท้องน้อยยาวลงมาเรื่อยๆ วิธวินท์พยายามถอยห่างไม่ให้มืออวบนั้นแตะส่วนสงวนของร่างกาย แต่ขยับไปได้นิดเดียวก็ติดกรงอีกด้าน สินีดึงมือกลับไป
“ไม่เป็นไรค่ะ ยังไงคืนนี้น้องวินก็ต้องอยู่กับพี่ทั้งคืน” สินีกระดกไวน์เข้าปากจนหมดแก้ว แล้วใช้ลิ้นเลียริมฝีปากที่เคลือบสีแดงเอาไว้ ชายหนุ่มเย็นสันหลังวาบด้วยความสยอง

.............................
“คุณสมบูรณ์ขึ้นมาหาฉันหน่อย” ลลิตวางโทรศัพท์ลงอย่างขัดใจ เวลาห้าทุ่มเป็นเวลานอนของเด็กชาย แต่กิจวัตรประจำวันก่อนจะเข้านอนก็คือการเปิดคอมพิวเตอร์เข้าโปรแกรมดูสัญญาณเครื่องติดตามตัวที่ฝังอยู่ในจี้รูปกระดิ่งที่ห้อยคอวิธวินท์ว่าเวลานี้ชายหนุ่มอยู่ที่ไหน ปกติเด็กชายจะเห็นจุดสัญญาณอยู่ที่โรงพยาบาลหรือไม่ก็ห้องเช่าของวิธวินท์ แต่วันนี้ต่างออกไป จุดสัญญาณอยู่ห่างจากที่อยู่ปกติของชายหนุ่มมาก แล้วหยุดนิ่งอยู่นาน เมื่อลองโทรเข้าหามือถือที่ให้ติดตัวไว้ก็ปิดเครื่อง
“หัดหนีเที่ยวเหรอ โดนลงโทษวันนี้คงยังไม่รู้สึกสินะ” ลลิตขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่กับตัวเอง

ก๊อกๆ
“คุณหนูครับ” เสียงสมบูรณ์ดังขึ้นที่หน้าห้อง
เด็กชายเดินไปเปิดประตู แล้วส่งเครื่องรับสัญญาณเครื่องเล็กให้สมบูรณ์
“ตามไปดูให้ฉันหน่อยสิ ว่าบรูโน่ไปทำอะไร ถ้าไม่มีเหตุผลสมควรก็เอาตัวมาหาฉันทันที” เด็กชายสั่งเสียงเด็ดขาด
“ครับ”

เด็กชายเดินไปเดินมาอย่างร้อนรน ไปไหนนะ ไปทำไม ฉันไม่มีความหมายเลยหรืออย่างไร ทำไมไปไหนไม่บอกสักคำทั้งๆ ที่สั่งเอาไว้แล้ว ลลิตหยิบโทรศัพท์มือถือมาดูเป็นครั้งที่ร้อย ทำไมสมบูรณ์ยังไม่โทรมาอีกนะ บ้างก็เดินไปดูที่หน้าต่างเผื่อจะเห็นรถของสมบูรณ์
‘♫ ♬ ♪ ♩ ♭♫ ♬ ♪ ♩ ♭‘ ลลิตรีบกดรับทันทีที่เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ดังขึ้น

วิธวินท์สลึมสลือมองไปรอบๆ ชายหนุ่มรับรู้ในทุกการเคลื่อนไหวรอบๆ ตัว แต่กลับไม่สามารถขยับร่างกายได้อย่างใจ ไฮโซสาวใหญ่กลุ่มนี้สั่งให้ชายหนุ่มที่เข้ามาร่วมงานแสดงโชว์ต่างๆ ไม่ต่างจากในบาร์โชว์เลยทีเดียว แต่ต่างกันเพียงหนุ่มๆ เหล่านี้ไม่ได้เต็มใจในการโชว์ครั้งนี้ จนท้ายสุดชายหนุ่มทุกคนก็ถูกจับเปลือยกายโชว์สัดส่วนแล้วให้กลุ่มสาวใหญ่ประมูลกันอย่างสนุกสนานเพื่อไปบำเรอกามารมณ์ในค่ำคืนนี้
เมื่อการประมูลจบลงชายหนุ่มถูกคุมตัวพาเข้าไปให้บ้าน ตรงขึ้นไปบนห้องนอนใหญ่ถูกใช้กุญแจมือโยงแขนสองข้างไว้กับหัวเตียง วิธวินท์ดิ้นไปมาบนเตียงเพราะความครั่นเนื้อครั่นตัวจากฤทธิ์ยาที่ยิ่งดึกยิ่งออกอาการ ส่วนกลางลำตัวที่ตอนนี้แข็งจนแทบจะทะลุชั้นในหนังออกมา
“เป็นยังไงบ้างคะน้องวินของพี่” สินีเดินตามเข้ามาในห้อง ถอดเสื้อคลุมผ้าแพรสีแดงสดออก ภายในเป็นชุดหนังรัดรึงร่างอวบอัดไปทั้งตัว สวมรองเท้าบูธส้นเข็มและใช้แส้ฟาดม้าที่ถือติดมือมาหวดไปในอากาศเบาๆ
“อื้อหือ สมกับที่พี่รอคอยจริงๆ ค่ะ” สินีนั่งลงข้างๆ ร่างวิธวินท์ที่นอนกระสับกระส่ายอยู่ เล็บเคลือบสีแดงลากวนที่อกของชายหนุ่มไล่ลงมาตามหน้าท้อง ใช้นิ้วลูบเบาๆ ที่ท้องน้อย ก่อนจะเกี่ยวกางเกงชั้นในหนังตัวจิ๋วลงช้าๆ แต่ติดที่ความแข็งของวัตถุภายใน สินีจึงต้องใช้มืออีกข้างเข้ามาช่วย ตาก็จ้องที่ความนูนเด่นอย่างไม่กระพริบ

ผลั่วววว!!!!
เสียงประตูบานใหญ่ถูกเปิดเข้ามาอย่างแรง สินีหันไปมองอย่างตกใจ ลูกน้องของเธอถูกถีบให้นอนกลิ้งกองอยู่กับพื้นร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด
“กรี๊ดดดด” สาวใหญ่ร้องขึ้นมาเสียงดังเพราะแสงแฟลชที่รัวถ่ายภาพเธอในชุดที่ไม่เคยเปิดเผยต่อสังคมโดยทั่วไป จนเธอต้องวิ่งเข้าไปหลบในห้องน้ำ
“คุณสินี ถ้าคุณยังไม่หยุดยุ่งกับคนของนายเรา รูปพวกนี้จะถูกส่งให้กับสื่อทั่วประเทศแน่” เสียงชายลึกลับที่ทุบประตูห้องน้ำอย่างหนัก ก่อนจะพูดออกมาเสียงเหี้ยม

“คุณหนูครับ คุณวินถูกจับมาที่บ้านคุณสินีครับ แต่พวกผมช่วยออกมาได้แล้ว” สมบูรณ์รายงานผลให้กับคุณหนูที่รอฟังข่าวอยู่ที่คฤหาสน์
‘งั้นพากลับมาหาฉันที่เรือนคุณปู่’
“ครับ” สมบูรณ์รับคำ แล้วสัญญาณโทรศัพท์ก็ตัดไป
“พวกนายก็ช่วยเก็บกวาดต่อให้ด้วย” สมบูรณ์หันกลับไปบอกเหล่าบอดี้การ์ดที่ถูกเรียกมารวมตัวกันช่วยชายหนุ่ม
“ยา นายนั่งประกบคุณวินไว้ จอมกับสนขับรถตามฉันมา” สมบรูณ์บอกบอดี้การ์ดรุ่นน้องให้คอยคุมเชิงให้กันการผิดพลาด แล้วรีบบึ่งรถกลับคฤหาสน์ทันที


=========> โปรดติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 8 [01/06/54] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: huimei ที่ 01-06-2011 16:35:09
จิ้มมมมม   o18

 :impress2: คุณหนูต้องช่วยบรูโน่ซะแล้วละมั้งเนี่ย โดนจับกินยาอะไรเข้าไป  :z1:
มาต่อเรวๆนะคร๊าาาาาา

v
v
v
 :z2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 8 [01/06/54] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 01-06-2011 16:38:31
 :z13: จับมาแซนวิสซะเลยไล่จิ้มดีนัก 555



 :o8: สปอยตอนหน้านิดๆ
คุณหนูจะช่วยบรูโน่จากยาที่โดยกรอกยังไงดีน๊าาาา :z1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 8 [01/06/54] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Eternal luv ที่ 01-06-2011 16:40:52
 :z3: จิ้มไม่ทัน
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ100% P:7[1/6/11]
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 01-06-2011 16:49:27
 :z2: สายลมอารายเนี่ย สู้คุณสมบูรณ์ก็ไม่ได้


โดยแทงนิดเดียวใจเสาะตายซะแระ  :z3:



 :o12: พี่นุ่งลมห่มฟ้าจวยร้ายยยยยยย
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 8 PG. 5 [31/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 01-06-2011 16:56:11
 :o8: พากันไปซะไกลน่าจะนอนห้องเดียวซะเลย โรงแรมเต็มเหลือห้องเดียว 555
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 8 [01/06/54] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 01-06-2011 16:57:21
เอาอีก ๆ ๆ ๆ ๆ

มาต่ออีก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

อยากรู้ ๆ ๆ ๆ ๆ

555+++
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่12 กินเค้กกันเถอะ30% 1/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 01-06-2011 16:59:20
เอิ่มมมมม

นี่มันแกล้งกันชัด ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

มาต่อเดี๋ยวนี้น๊า......
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่12 กินเค้กกันเถอะ30% 1/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 01-06-2011 17:05:44
ยั่วกันเห็นๆอะ มาต่อเดี๋ยวนี้น้าาาาาา
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 8 [01/06/54] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 01-06-2011 17:11:02
โอ้ หนูริช มาดนายน้อยมาเฟียเลยแฮะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่12 กินเค้กกันเถอะ30% 1/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 01-06-2011 17:11:22
 :-[ อยากกินเค้กๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/Ch.10-11 ค่ะ 2 ตอนติด (29/5/54)
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 01-06-2011 17:16:49
 o13 ยังคงเส้นคงวา



 :jul1: :jul1: :jul1: เลือดสาดไม่หยุด
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ100% P:7[1/6/11]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 01-06-2011 17:28:03
คนเขียนใจร้ายที่สุดดดดดดดดด :serius2:
พี่สายลมน่าสงสาร แต่ก็ได้ทำเพื่อคนที่ตัวเองรักจนวาระสุดท้าย
ปลายฟ้าก็น่าสงสาร ต้องมาสูญเสียคนที่รักและหวังดีกับตัวเอง
แต่ปลายฟ้าก็เข้มแข็งนะ เรื่องร้าย ๆ มันจบไปแล้ว
เก็บความรู้สึกดี ๆ ให้เป็นความทรงจำ ชีวิตต้องเดินหน้าต่อไป

หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 8 [01/06/54] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 01-06-2011 17:31:36
แอร๊ยยยยยย คุณหนูจะช่วยบรูโน่ยังไงน้า อิอิ >//<
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่12 กินเค้กกันเถอะ30% 1/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 01-06-2011 17:34:08
ชื่อตอนหมายความว่าไงคะ
พี่เตทำเค้กให้น้องไนท์กิน
หรือพี่เตเห็นน้องไนท์เป็นเค้ก แล้วกินเอง :laugh:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่12 กินเค้กกันเถอะ30% 1/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 01-06-2011 17:50:54
อยากกินเค้กๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 8 [01/06/54] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 01-06-2011 18:04:01
 :beat: :z6: ยัยชะนีแก่ตัณหากลับ แต่ยังดีที่บอดี้การ์ดมาช่วยไว้ทัน คุณหนูช่วยวินด้วยนะคะ :z1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 8 [01/06/54] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Mookkun ที่ 01-06-2011 18:37:49
บรูโน่ !!!!!!!!!!~
 :pig4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 8 [01/06/54] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 01-06-2011 18:47:35
 :oo1:

รอตอนหน้า  ขอNC น่ะๆๆๆๆ


หื่นจิงกู
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่12 กินเค้กกันเถอะ30% 1/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 01-06-2011 18:53:05
พี่เตชวนกินเค้ก หรือ จะกินไนท์
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 8 [01/06/54] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 01-06-2011 19:02:11
คุณหนู พี่บรูโน่เขาโดนยาคุณหนูจะจัดการยังไงอ่ะ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 8 PG. 5 [31/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 01-06-2011 19:08:44
 o18

เหมือนจะหวาน

แตไม่ไว้ใจยุทธเลยจริงๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่12 กินเค้กกันเถอะ30% 1/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 01-06-2011 19:21:06
น้องไนท์ยั่วแบบไม่ตั้งใจ พี่เตจะทนได้ไหมเนี่ย???
ไม่ใช่แค่ขนมเค้กไม่ใส่ไข่หรอกนะ ถ้าตอนนี้น้องไนท์จะเอาดาว เอาเดือน พี่เตคงหามาให้แหละ ~ :-[
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 8 [01/06/54] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: onjazz26 ที่ 01-06-2011 19:25:09
สงสัยเรื่องนี้จะมีเอ็นซีอ่ะดิ
ของบูลเรนเจอร์กะเจ๊จงไม่มีอ่ะ....พระเอกก็ตาย...เฮ้อ :sad3:
มาไวไวน้า.....
Nc นะน่ะ....มันชอบ.... :impress2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 8 [01/06/54] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 01-06-2011 19:29:00
 :z1: เอาไงดีน๊า คุณหนูก็ยังเด็ก บรูโน่ก็โดนยา


กด 1 :haun4: Ncจัดหนัก หรือ กด 2  :o12: บรูโน่แพ้ยาตายไปอีกคนดี





มาสร้างกระแส :z2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ100% P:7[1/6/11]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 01-06-2011 19:32:58
แอบเอาเพลงมาแปะ ฟังกันซึ้ง ๆ เนอะ  :o12:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ100% P:7[1/6/11]
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 01-06-2011 19:40:41
แง๊!!! :o12: สายลมที่รักไปซะแล้วอ่า หวังว่าปลายฟ้าจะคิดได้แล้วปรับปรุงตัวและความคิดซะใหม่นะ ไม่งั้นรับไม่ได้จริงๆ T^T สายลมมมมม
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ100% P:7[1/6/11]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 01-06-2011 19:47:16
อ่านไปฟังเพลงไป ซึ้งมากค่ะคุณสายลม
สังหรณ์ใจอยู่เหมือนกันจากชื่อเรื่อง "สายลม" รู้ว่ามี สัมผัสได้ ก็แค่นั้น แค่นั้นจริงๆ ฮึ ใจร้ายมากเลยนะคุณสายลม
ทั้งๆที่ทำใจไว้ตั้งกะถูกแทงแหละ "เหล็กแหลม จมมิดที่อกด้านซ้าย" ซะขนาดนั้น แต่ก็แอบหวัง เผื่อปาฏิหาริย์.....
(ไม่ร้อง คนแก่ร้องมันน่าอายอ่ะ)
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ100% P:7[1/6/11]
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 01-06-2011 19:48:09
ตายซะงั้น :a5:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 8 [01/06/54] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 01-06-2011 19:55:56
จิ้มให้ถึงทรวงงงงงงง

แบบไหนก็ด่ะ แต่ขอมาต่อวันนี้ได้ป่ะ

อิอิ รอฉากกำเดาไหล ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่12 กินเค้กกันเถอะ100 1/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: ภาพฝัน ที่ 01-06-2011 20:01:02
   “ไนท์ ไปอาบน้ำครับ” ตชวัฒน์รู้สึกว่าเสียงของเขาแหบพร่าอย่างน่าแปลกใจ เขารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะขาดสติ เขาอยากโอบกอดร่างของอีกฝ่ายเอาไว้แนบอก อยากสัมผัสเส้นผม ฝ่ามือและริมฝีปาก

   “ไปอาบน้ำครับ” เขาเร่งอีกครั้งเมื่อเห็นว่าไนท์ยังคงนิ่งเฉย เมื่อโดนเร่งใบหน้าหล่อเหลาอ้าปากหาวกว้าง ก่อนจะลุกขึ้นยืนอย่างเกียจคร้าน เมื่อเห็นร่างสูงโปร่งเดินเข้าห้องน้ำไปแล้ว เขาลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก นับวันเขายิ่งรู้สึกว่าเสน่ห์ของวริศรินทร์นั้นมีมากมายเหลือเกิน ถ้าเจ้าตัวยิ้ม หังเราะ หรือว่าช่างพูด คงจะก้าวเข้าสู่การเป็นซุปเปอร์สตาร์ได้อย่างไม่ยากเย็น

   เมื่อตั้งสติได้แล้วเตชวัฒน์ลุกขึ้นยืดบิดกายขับไล่ความเมื่อยขบออกจากตนเอง เขายังมีหน้าทีที่ต้องทำอีกหลายอย่าง

   “ไนท์ เช้านี้อยากกินอะไรครับ” เขาตะโกนถามวริศรินทร์ที่หายเข้าไปด้านใน เตชวัฒน์เดินเข้าใกล้ประตูและตะโกนถามอีกครั้ง เงียบอีกเช่นเคย

   “ถ้าไนท์ไม่ตอบหรือออกมา พี่จะเปิดประตูเข้าไปแล้วนะครับ นับหนึ่งถึงสาม”  เตชวัฒน์นับจนครบก็มีแต่ความเงียบเขารู้สึกกังวลจนเป็นห่วง เขาเรียกอีกครั้งไม่มีเสียงตอบรับ เตชวัฒน์ตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปด้วยหัวใจที่เต้นระทึก

   วริศรินทร์นั่งอยู่ที่พื้นใช่แขนหนุนต่างหมอนใบหน้าซบอยู่บนชักโครก ภาพนั้นทำให้เขาอมยิ้ม

   “จะให้พี่หัวใจวายตายหรือไงครับ” เตชวัฒน์พูดลอยๆ ปลายนิ้วสัมผัสที่แก้มใสแผ่วเบา ไนท์นอนหลับสนิทไม่ได้สนใจว่ารอบตัวของเขาเกิดอะไรขึ้นบ้าง เมื่อรู้สึกถึงปลายนิ้วที่ไล้อยู่ข้างแก้ม ใบหน้าขาวเนียนซุกหน้าลงกับท่อนแขนของตนเอง เตชวัฒน์ยิ้มในตอนแรกเขาจะปล่อยให้อีกฝ่ายนอนอยู่ตรงนี้แต่พอมานึกดูอีกทีตื่นมาอาจจะทำให้ปวดหลัว เตชวัฒน์ตัดสินใจอุ้มวริศรินทร์ขึ้นไปนอนบนเตียง เขาสัมผัสถึงน้ำหนักที่มากขึ้นจากครั้งแรกๆที่เขาสามารถอุ้มได้สบายๆ ตอนนี้น้ำหนักของไนท์ค่อนข้างมากจนเขารู้สึกหนัก

   “แสดงว่าที่ให้กินเข้าไปนี่แสดงผลแล้ว” เขาคิดอย่างขำๆ เขาวางไนท์ลงบนเตียงไนท์พลิกตัวนอนตะแคงและะขยับขสขึ้นกอดผ้าห่ม ชุดคลุมอาบน้ำตอนนี้หลุดลุ่ยจนแทบจะบดบังอะไรไม่ไดทำให้ดูราวกับว่าคนตรงหน้าเป็นเทวดาตกสวรรค์ เตชวัฒน์หักห้ามใจที่จะสัมผัสผิวกายที่ดูเป็นประกายเมื่อต้องแสงแดด เขาตวัดผ้าห่มขึ้นคลุมร่างที่หลับสนิทแล้วเดินกลับห้องของตนเอง

   เตชวัฒน์อาบน้ำสระผมและแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว เขาฉุกคิดถึงเรื่องเมื่อคืน เรื่องที่วริศรินทร์บอกไปว่า พ่อกับแม่ของตนเอง ตายในวันที่ฝนตก เตชวัฒน์ตัดสินใจโทรหาคนที่รู้ข้อมูลของไนท์ดีที่สุดในเวลานี้

   “ว่าไงตาเต โทรมาแต่เช้าเชียว” วุฒิพลรับสายหลานชายอย่างอารมณ์ดี

   “ผมมีเรื่องจะถามครับ เรื่องของไนท์” เตชวัฒน์เข้าเรื่องโดยทันที

   “ตาเต แกนี่น้านึกว่าจะโทรหาอาก็เพราะคิดถึงซะอีก” ชายสูงวัยหยอกล้อหลานชายด้วยความเอ็มดู

   “ก็คิดถึงแหละครับ แต่ผมอยากรู้เรื่องของน้อง เมื่อคืนฝนตกน้องบอกว่าพ่อ แม่ตายในวันฝนตก” วุฒิพลชะงักกับคำถามเขาได้แต่ถอดถอนใจเมื่อนึกถึงอดีต

   “ไนท์บอกแกเหรอ”

   “ครับ ไนท์บอกผมเมื่อคืน” ชายสูงวัยกำลังชั่งน้ำหนักอยู่ในใจ เขาควรเล่าอดีตของคนที่เขาคิดว่าเป็นหลายชายให้หลายชายของตนฟังหรือเปล่า แต่เมื่อไนท์ยอมเปิดปากบอกเตก็แสดงว่าเจ้าตัวเริ่มเปิดใจแล้ว

   “ตอนพ่อแม่ ไนท์ตาย ตอนนั้นไนท์อายุ12” วุฒิพลหลับตาลำลึกความหลัง เขาจำได้ว่าในวันนั้น วันที่เขาเดินทางกลับมาจากไปท่องเที่ยวที่ต่างประเทศ เขาตั้งใจไปเยียมเพื่อนสนิทกับหลานๆ วรกานต์พ่อของไนท์มีลูกอยู่3 คน และไนท์เป็นลูกคนสุดท้อง วันนั้นเป็นวันเกิดของน้ำหนึ่ง ลูกสาวคนโตเขาตั้งใจจะเข้าไปแฮปปี้เบิร์ดเดย์หลายสาววัย 15 ที่กำลังเป็นสาวแรกรุ่น ในมือเขาถือกระเป๋าใบสวยที่ซื้อมาเป็นของขวัญ เขาจอดรถและเดินเข้าไปตัวบ้านที่เงียบเชียบจนผิดปกติ วุฒิพลผงะเมื่อสายตาเขาเหลือบมองไปที่สระน้ำที่แดงฉาน ในนั้นมีศพของนำ้หนึ่งเปลือยกายลอยอยู่ วุฒิพลอาเจียนทุกอย่างที่อยู่ในห้องออกมากจนหมด รู้สึกเหมือนกำลังจะเป็นลม เขาตั้งสติได้รีบโทรศัพท์หาตำรวจทันที วุฒิพลมองเบือนหน้าหนีจากศพของหลายสาว เขาเดินออกไปรอที่หน้าบ้าน เมื่อตำรวจมาพวกเขาเข้าไปในบ้าน พบร่องรอบการต่อสู้อย่างหนัก และศพของเพื่อนและ ภรรยา ไนท์นั่งจับมือแม่ของตนอยู่เงียบๆ เด็กชายดูซีดเซียวและมีแววตาที่เลื่อนลอยเนื้อตัวเปื้อนไปด้วยคราบเลือด เด็กชายจับมือของมารดาแน่นไม่ยอมปล่อย ไม่ร้องไห้ ไม่พูด ไม่ทำอะไร เด้กชายนั่งอย่างนิ่งเฉย เขารับไนท์เข้ามาดูแล ไนท์ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ พูดบ้างนานๆ ครั้ง ไม่ได้อาละวาดหรือเอาแต่ใจ เด็กชายทำเพียงอยู่เฉยๆ ในบางครั้งเด้กชายจะพยายามทำร้ายตัวเองเพื่อให้ถึงแก่ชีวิต แต่ก็โชคดีที่รอดมาได้ตลอด เมื่อโตขึ้นมาจนเป็นเด้กหนุ่มวุฒิพลก็พยายามพลักดันให้ไนท์เข้าสู่วงการบันเทิงเพื่อนที่จะให้พบอะไรแปลกใหม่กับชีวิตบ้าง แต่ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ไนท์ยังคงนิ่งเฉยจนหน้าหนักใจ จนวันที่เขาตัดสินใจให้เตชวัฒน์ดูแลไนท์ก็เพราะไนท์ยอมพูดกับเตชวัฒน์ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ

   เตชวัฒน์ฟังสิ่งที่วุฒิพลเล่าแล้วรู้สึกหดหู่ใจ ไนท์ได้รับการกระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรง ถ้าเป็นเขา ขนาดตัวเขาเองยังไม่รู้ว่าจะทนได้ไหม

   “เต อาฝากน้องด้วยนะ ดูแลน้องให้ดี” วุฒิพลฝากเด้กหนุ่มกับหลานชายของตนอีกครั้ง ซึ่งเตชวัฒน์ก็รับปากด้วยความเต็มใจ

   หลังจากวางสายจากผู้เป็นอา เตชวัฒน์รู้สึกถึงความหนักอึ้งในจิตใจ เขาเดินเดินเข้าไปในห้องนอนของวริศรินทร์ที่กำลังหลับสนิท คนตรงหน้ามีอดีตที่เจ็บช้ำกว่าที่เขาคิด เขาอยากทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ไนท์มีความสุข

   เตชวัฒน์ผละออกมาจากวริศรินทร์ เขาเปิดคอมพิวเตอร์เสิร์ขหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำเค้ก ไนท์อยากกินเค้ก และเค้กที่ไม่ใส่ไข่หายากมากๆ เขาเลยตัดสินใจที่จะทำเอง สุดท้ายเขาก็เจอจนได้ Vegan Blueberry Cake  เป็นสูตรเค้กสำหรับคนแพ้ไข่และทานเจ เตชวัฒน์ออกไปซื้ออุปกรณ์ที่ซุปเปอร์มาเก็ตใกล้เคียง เมื่อกลับมาไนท์ยังคงหลับอยู่ เตชวัฒน์นำของเข้าไปเก็บเข้าที่ เขาปริ้นวิธีทำออกมานั่งอ่านเงียบๆ และเตรียมอุปกรณ์และเตรียมอาหารง่ายๆ เสร็จแล้วเขาก็ออกมานั่งอ่านหนังสือระหว่างที่รอไนท์ตื่น

   “ตื่นแล้วเหรอครับ” เตชวัฒน์ยิ้มให้กับร่างสูงโปร่งที่เดินออกในเวลาเกือบเที่ยงวันมาในเสื้อยืดกับกางเกงผ้าขาสามส่วน ทันทีที่เดินออกมา วริศรินทร์ก็มองหาอาหาร เตชวัฒน์ลอบยิ้มเมื่อเห็นอีกฝ่ายเดินไปที่โต๊ะกินข้าวทันที

   “ทานเสร็จแล้วมาทำเค้กกัน” เตชวัฒนืบอกกับไนท์ที่เงยหน้าขึ้นมามองเขาทันที

   “อยากกินไม่ใช่เหรอครับ ไนทืแพ้ไข่ เค้กที่ไหนๆ ก้ใส่ไข่ ดังนั้นเราต้องทำเอง พี่เองก้ไม่เคยทำด้วยสิ เราคงต้องมาช่วยกัน” เตชวัฒน์พูดจบ ไม่รอคำปฏิเสธเขาโอบไหลาไนทืเดินไปที่เคาเตอร์ทำอาหารทันที

   “อื้อ อันดับแรกต้องล่อนแป้งกับเบกกิ้งโซดา” เตวัฒน์อ่านใบรายการที่ปริ้นออกมา เขามอบหน้าที่ร่อยแป้งให้กับวริศรินทร์

   ทันทีที่ได้รับมอบหมายหน้าที่วริศรินทร์เทแป้งลงในตะแกรงและลงมือเขย่าทันที เพราะแรงเขย่าที่มากเกินไปทำให้แป้งลอยฟุ้งไปหมดทั่วทั้งท้อง

   “เบาๆ  ไนท์ฟุ้งไปหมดแล้ว”  เตชวัฒน์ปัดแป้งที่ฟุ้งกระจายไปทั่วทั้งห้องแล้วไออกมาเพราะสำลักควัย วริศรินทร์เองตามเนื้อตามตัวก็เลอะแป้งเต็มไปหมด

   “แค่กๆ”  ไนทืไอเสียงดังเมื่อยกมือที่เลอะแป้งขึ้นปัดแป้งแล้วทำให้แป้งฟุ้งเข้าจมุก เตชวัฒน์เข้าไปลูบหลังและปัดออกให้ ไนท์ไอจนน้ำตาไหล เตชวัฒน์ยดมือขึ้นซับน้ำตาให้ช้าๆ ทันทีที่สบตากับสัมผัสอ่อนนุ่มที่ปลายนิ้ว

    ทันทีที่สบตากับดางตาคู่สวยที่มีน้ำตาคลออยู่แผ่วเบา เขารู้สึกสึกเหมือนตกลงไปในแรงดึงดูด ปลายนิ้วของเขาไล้จากข้างแก้มเลื่อนลงมาที่ริมฝีปากนุ่มและก้เป็นเขาที่ทนไม่ได้จนต้องประทับริมฝีปากของตนเองลงไป เตชวัฒน์ใหญ่ดึงไนท์เข้ามาสู่อ้อมกอด จูบแผ่วเบาในตอนแรกถูกแปรเปลี่ยนให้ร้อนแรงขึ้นตามอารมณ์ ฝ่ามือหนาลูบไล้ไปตามแผ่นหลังและเลื้อนลงมาที่สะดพก ก่อนที่จะลูบไล้เข้าไปใต้ชายเสื้อ

   “อื้อ” เสียงครางทีแผ่วเบาจากคนที่เงียบมาตลอดทำให้เขาได้สติ เตชวัฒน์ไม่ได้ผละออก เขาไล้ริมฝีปากของตัวไปตามริมมฝีปากนุ่มและเลื่อนขึ้นมาจูบที่หน้าปาก ใบหน้าของวริศรินทร์ในตอนนี้แดงซ่านด้วยแรงอารมณ์ที่เขาเป็นผู้ก่อ

   “จะทำเค้กต่อไหม” เขากระซิบถามเสียงแหบพร่า เขารู้ถึงความต้องการของตนเองแต่ก็ไม่คิดจะฝีนใจ วริศรินทร์พยักหน้ารับในทันที เตชวัฒน์ขยับหอมแก้มร่างสูงโปร่งอีกครั้ง

   “ไม่อยากปล่อยเลย” เขาประซิบที่ข้างหู ริมฝีนุ่มจูบแผ่วเบา เตชวัฒน์สะดุ้งเมื่อถูกทุบเข้าที่หน้าอก วริศรินทร์ยืนหน้าแดงอยู่ตรงนั้น

   “ทำเค้ก” เสียงแหบแห้งเอ่ยออกมากับร่างสูงโปร่งที่หันหลังให้เขาในทันทีเพื่อร่อนแป้งต่อ เตชวัฒน์ยิ้มกับปฏิกริยายของคนตรงหน้า ไนท์ไม่พูดอะไรต่ออีกสักพักสีหน้าก้เปลี่ยนเป็นปกติ เตชวัฒน์ไม่ได้ทำรุ่มร่ามกับไนท์อีก เขาใช้เวลาตลอดช่วงบ่ายทำเค้กกับไนท์อย่างมีความสุข แม้ผลกาลที่ออกมาในคราวนี้จะทานไม่ได้ก็ตามที

   “ยังเหลือเวลาอีก2วัน วันเกิดไนท์พี่เชื่อว่ามันต้องกินได้” เขาลูบศรีษะของไนท์อย่างปลอบโยนเมื่อเห็นสายตาที่จ้องมองเค้กที่ทานไม่ได้

   “ขอบคุณ” เตชวัฒน์สะดุ้งเมื่อเสียงกระซิบดังขึ้นมาพร้อมกับจูบแผ่วเบาที่ริมหูของเขา ไนท์ยิ้มบางเบาและเดินออกไปนั่งดูโทรทัศน์ที่โซฟา ทิ้งเขาไว้กับกองอุปกรณ์ที่ยังไม่ได้เก็บล้าง

   “โดนจนได้เรา” เขารู้สึกเหมือนโดนเอาคืน เมื่อตัวเองกลับรู้สึกหวั่นไหวกับการกระทำของอีกฝ่าย

   “เวลายังมีเยอะ” เขาพึมพำแผ่วเบาพลางเหลือบมองไนท์ที่นั่งดูทีวีอยู่เงียบๆโดยไม่สนใจอะไรเหมือนเช่นปกติ เขาเก็บอุปกรณ์ทำขนมล้างอย่างเงียบเชียบ ถึงการทำขนมครั้งนี้มันจะเหนื่อยแต่เขาก็คิดว่ามันคุ้ม

........................................


หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ100% P:7[1/6/11]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 01-06-2011 20:03:09
ไม่เม้นท์แล้ว!
โป้ง!
ไม่รู้จะทำยังไงกับคนเขียนให้สาสมกับน้ำตาที่เสียไป
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา&
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 01-06-2011 20:06:10
^
^
เม้นท์ก่อนอ่านเลยนะเนี่ย ขอแค่ชุดเล็กก็พอ แค่สีฟ้าสีเดียวก็จะตายห่_แล้วค่า
********edit**********
อิิอิ ถึงอดีตจะเจ็บปวดเเต่ปัจจุบันน่ารักมากมายนะคะ
(แอบกลัวตรง "เวลายังมีเยอะ" นี่แหละ ไม่รู้ทำไมพวกที่พูดคำนี้มักไม่เหลือเวลาทุกที)
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 8 [01/06/54] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: b27072010 ที่ 01-06-2011 20:10:26
ตั้งหน้าตั้งตารอกันไม่หวาดไม่ไหวเลยอะ

บรูโน่ ....  
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่12 กินเค้กกันเถอะ100 1/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: eaey ที่ 01-06-2011 20:25:25
กรี๊ดดด แค่เรื่องครอบครัวในอดีตก๊อแย่แล้ว อย่าดราม่าเลยคร้าาาา
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าũ
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 01-06-2011 20:29:59
อะฮุๆๆ
กด 1 ย้ำๆๆๆๆ
รอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่12 กินเค้กกันเถอะ100 1/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 01-06-2011 20:44:01
โอ้ยยยย จะเป็นลม :jul1:
น้ำตาลในเลือดพุ่งสูง :o8: น่ารักเกินไปแล้ววววว
ถึงน้องไนท์จะมีอดีตที่น่าเศร้าแค่ไหน แต่ตอนนี้ก็มีพี่เต
ช่วยปลอบใจแล้วนะ :impress2:
ปล.อย่าจัดดราม่าเลยย สงสารคนอ่าน อิอิ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 8 [01/06/54] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 01-06-2011 20:55:47
บรูโน่กำลังอยู่ในอารมณ์ไม่ปรกติ
น้องลิตโดนจับกดแน่เลยยย :laugh:
ปล.  :z6: ยัยแก่ตัณหากลับ บังอาจมาทำบรูโน่ เดี๋ยวโดนสอย :beat:
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่12 กินเค้กกันเถอะ100 1/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 01-06-2011 21:06:40
เม้นต์ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ

ไม่เอาดราม่านะ พรีสสสสสส
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ100% P:7[1/6/11]
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 01-06-2011 21:10:16
 :a5:
ม้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย :serius2:  :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:
คนเขียนใจร้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยที่สุดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
แค่นี่สายลมก็น่าสงสารพอแล้ว ยังมาตายอีก :o12: :o12: โหดร้ายมากเลยยยยยยยยยยยยย
ในเรื่องนี้ชอบสายลมที่สุด.....ไม่ชอบปลายฟ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เพราะแก็สโซฮอล์อย่างเดียวเลย
สายลมเลยตาย
ปล. ฟังเพลงไปอ่านไป โอ้ย น้ำหูน้ำตาไหลเป็นทาง
ปปล. งอนคนแต่ง  :z3:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่12 กินเค้กกันเถอะ100 1/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: Giniz ที่ 01-06-2011 21:17:45
ทำไมบรรยากาศมันเริ่มจะอุ่นขึ้นทุกตอนๆฟะ!?
ปล.แต่ถ้าเม้นท์จะจัดNCหนักๆให้ใช่มั้ย??? :z1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 8 [01/06/54] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 01-06-2011 21:21:57
เจ้าหญิงอยู่บ้านออกมาช่วยไม่ได้เพราะเปลี่ยนชุดนอนลายหมีน้อยแล้ว เลยส่งเจ้าชายขี่ม้าขาวมาช่วยคู่หมั้นหมาน้อยแทน...อืม
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่12 กินเค้กกันเถอะ100 1/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 01-06-2011 21:29:40
หวานกันจังอ่า อิจฉ๊า อิจฉา ^^ แต่ว่า...อดีตของไนท์มันทำเอาเราน้ำตาซึม สงสาร...
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 10 บ่วงกรรม 24/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 01-06-2011 21:33:16
แวะมาบอกว่ากำลังพยายามปั่นอยู่ และกำลังลบรื้อเขียนใหม่อยู่
ไม่น่าเลยเรา แอบเข้าไปชิมมาม่าชามโตจนเสียรมย์ แต่ตอนนี้ พยายามไม่เข้าไปอ่านแล้วค่ะ
เพราะนอกจากประเด็นจะเปลี่ยนไปแล้ว
แถมจำเลยก็จากลาไกล คิดว่าน่าจะเป็นแบบถาวรด้วย
แต่ก่อนไป เล่นเอาแทบฟ้าถล่มดินสะเทือน ปฐพีเลื่อนลั่น
ระเบิดที่ชีวางเอาไว้ กระทบแตกระเบิดกระจุยกระจาย
อะไร ๆ ไม่เหลือเป็นชิ้นดี และจำเพาะเจาะจงให้ เหล่าบรรดาแอดมินฯ โมฯ และทีมงาน
กระจายกระเจิงด้วยเสียขวัญและกำลังใจกันไปถ้วนหน้า
อ่านไปแล้วเราก็ทุกข์ไปกับบรรดาเขาเหล่านั้น จนหมดอารมณ์เขียนไปเลย สองวันเต็ม ๆ

จะว่าไปการจากลากันด้วยดี น่าจะทิ้งเหลือไว้แต่ความอาลัย
แต่แบบนี้ นอกจากศพไม่สวยแล้ว มีแต่ชนเค้าแช่งชักหักกระดูกกันเนาะ

เออ... ช่างมันเถอะ อะไรจะเกิดก็ปล่อยมันไป ฉันไม่ได้อิจฉาใคร ไม่ได้เป็นนักเขียนใหญ่แต่ตัว
ซีรีบรั่มไร้รอยหยัก พฤติกรรมไร้ยางและขาดสามัญสำนึกแบบใคร ๆ บางคน

พอเหอะ บ่นมากมายได้น่ารำคาญมาก
ว่าแล้วไปแต่งต่อดีกว่า เดี๋ยวสักพักจะมาเสิร์ฟของหวานให้มิตรรักนักอ่านทุกท่านได้เสพกันต่อไป   :กอด1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่12 กินเค้กกันเถอะ100 1/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 01-06-2011 21:36:35
น่ารักๆ  :-[
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 10 บ่วงกรรม 24/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 01-06-2011 21:38:23
มารอของหวาน  :z1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 8 [01/06/54] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 01-06-2011 21:39:52
ธุค่ะพี่สมบูรณ์

พี่สมบูรณ์เป็นพระเอก กี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 8 PG. 5 [31/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 01-06-2011 21:42:36
บรรยากาศกำลังจะเจือด้วยความหวาน......รึเปล่า
ไม่อยากคาดเดา รอดูผีเสื้อแสนสวย(หล่อ) โบยบินหลอกล่อให้เราหลงใหลต่อไปดีกว่า
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 8 [01/06/54] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 01-06-2011 21:47:57
เข้ามากด 1  :laugh:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ100% P:7[1/6/11]
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 01-06-2011 21:58:00
 :a5:ทำไมทำกับพี่สายลมแบบนี้ :o12:
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่12 กินเค้กกันเถอะ100 1/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 01-06-2011 21:58:55
แบบนี้ก็ทำเค้กไม่ต้องใส่น้ำตาลก็ได้นะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 10 บ่วงกรรม 24/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 01-06-2011 22:03:36
มาได้แล้วน้อ 
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่12 กินเค้กกันเถอะ100 1/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 01-06-2011 22:08:47
ไอ้เราก็นึกว่าจะไปซื้อเค้กน้ำตาลทรายแดงที่เป็นขนมของจีนมานั่งกินกัน
แต่แบบนี้โรแมนติกกว่าเยอะเลย

ปล.สีึนำ้เงินเหมือนกับทำไมจุดสุดท้ายมันต่างกันโคตรเลยอ่ะ :a5:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๗. ๒๘ พ.ค. ๒๕๕๔ หน้า ๕
เริ่มหัวข้อโดย: แรงเทียน ที่ 01-06-2011 22:16:50
ตอนที่ ๘

“ทานคะ เจอกันหน่อยไหมคะ เมย์เรื่องจะคุย”
มณีอารียาเองก็กดโทรศัพท์หาธรรมทานในเวลาที่ไล่เลี่ยกัน
“เอ่อ เมย์ คือว่า”
“ไม่ว่างเหรอคะ เมย์ขอเวลาไม่นานหรอกค่ะทาน”
“คือว่าทานนัดทานข้าวกับเทียนน่ะเมย์”
มณีอารียานิ่งเงียบไป ขบกรามแน่น
“ดีค่ะ แบบนั้นล่ะยิ่งจะดี เพราะเรื่องที่เมย์จะคุยก็เรื่องนี้ล่ะ”
“หา มีอะไรเหรอเมย์”
“เจอกันที่ไหนนะคะทาน เดี๋ยวเมย์จะไปหา”
“เอ่อ”
ธรรมทานยอมบอกออกมา มณีอารียาเองวางสายไปแล้วแต่สายตาครุ่นคิดอยู่
“โป้ง ไปกับเมย์หน่อยได้ไหม”
กนิฐคือคนที่เธออยากให้ไปร่วมรับรู้ด้วย สิ่งที่เธอตัดสินใจที่กำลังจะทำ
“จะเอาแบบนี้เลยเหรอเมย์”
“ค่ะโป้ง แต่โป้งไม่ต้องเข้าไปกับเมย์หรอกนะ รออยู่โต๊ะอื่นก็ได้ เมย์คุยไม่นานหรอก”
“ทำไมไม่ให้เราเข้าไปด้วยล่ะเมย์”
“โป้ง เรื่องนี้มันโสมมเกินไป เมย์ไม่อยากให้โป้งเข้าไปรับฟัง ทำอย่างที่เมย์บอกนั่นล่ะ นะคะโป้ง”
เธอออดอ้อนแล้วเดินเข้าไปยังจุดนัดพบ ที่ธรรมทานกับเทียนบุญนั่งอยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว สายตาของเทียนบุญปราดมองอย่างตำหนิ แล้วหันไปมองธรรมทานด้วยสายตาที่ฉายแววออกมาในแนวเดียวกัน
“หึ นี่จะตามมาตลอดทุกที่เลยเหรอเนี่ย อะไรกันทาน”
เทียนบุญมองหน้าธรรมทานอย่างไม่พอใจ
“เอ่อ เมย์เขาบอกมีเรื่องอยากจะคุยน่ะเทียน”
“อยากจะคุยกับใคร กับทานหรือเทียน ถ้าอยากจะคุยกับทานทำไมไม่นัดกันไปคุยสองคน มันเกี่ยวอะไรกับเทียน เทียนไม่ได้อยากจะเจอมัน”
เทียนบุญจิกสายตากัดฟันพูดออกมา
“มีเรื่องจะคุยกับคุณทั้งสองคนนั่นล่ะค่ะ คุณเทียนด้วย”
“เกี่ยวอะไรกัน ฉันไม่มีเรื่องอะไรจะตกลงคุยกับเธอ”
“แต่ฉันมี”
มณีอารียาเองจ้องหน้าเทียนบุญเขม็งก่อนจะนั่งลงตรงข้าม
“เอ่อ มีเรื่องอะไรเหรอเมย์”
“หึ ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้หรอกค่ะทาน เมย์คุยไม่นานหรอก หลังจากนั้นจะทำอะไรก็ตามสบาย”
“อย่ามาสำบัดสำนวนสิหล่อน มีอะไรพูดๆมาเถอะ เสียเวลานะ ใช่ว่าคนอื่นเขาอยากจะฟังเรื่องของเธอหรอกนะ”
“ไม่อยากก็ต้องฟังค่ะ”
เทียนบุญกับมณีอารียาจ้องหน้ากันเหมือนศัตรูที่หมางใจกันมาแต่ชาติปางไหน สายตาจิกกัดกันไม่มีใครยอมใคร
“เอ่อ ว่ามาสิเมย์”
ธรรมทานเห็นท่าไม่ดีจึงเอ่ยออกมาน้ำเสียงแหบแห้ง เพราะรู้ดีว่าเทียนบุญเองก็แรงไม่น้อยหน้าใคร ส่วนมณีอารียาเองก็ใช่ว่าจะยอมใครง่ายๆ อึดอัดใจ แต่ทำอะไรได้นอกจากนั่งเป็นตัวประกอบฉากอยู่เช่นนี้
“เรื่องของคุณสองคนน่ะค่ะ”
มณีอารียาลดน้ำเสียงลงเป็นนิ่งราบเรียบ มองหน้าเทียนบุญปราดตาหนึ่งแล้วปรายตาไปมองหน้าธรรมทาน
“เรื่องของเรา”
ธรรมทานร้องเสียงหลงหน้าซีด สายตาค้างอยู่ที่ดวงหน้าของมณีอารียา
“ค่ะ เมย์รู้เรื่องทุกอย่าง”
“ฉลาดนี่นะ นึกว่าจะโง่”
เทียนบุญดอดขึ้น มณีอารียาจิกสายตามาแล้วสูดลมหายใจเข้าปอด ไม่อยากให้อารมณ์เสียไปมากกว่านี้
“ไม่โง่หรอกค่ะคุณเทียน อย่าคิดว่าใครคนอื่นเขาจะโง่ไปเสียทุกคนสิคะ รู้มานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งรู้”
“แต่ก็หน้าทนนี่ ไม่เห็นเธอทำอะไรสักอย่างฉันบอกแล้ว ว่าเขาเป็นของฉัน”
“เอาเถอะค่ะคุณเทียน อย่ามาสำแดงอิทธิฤทธิ์อะไรมากมายนักเลยค่ะ เบื่อจะฟัง น่ารำคาญ”
มณีอารียาเอ่ยออกมาสายตาแสดงความรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ เทียนบุญอ้าปากค้าง
“เอ่อ เมย์”
“เรื่องของเราน่ะทาน เมย์อยากให้ทานถอนหมั้น”
“เมย์”
ธรรมทานร้องเสียงหลงออกมา อ้าปาก หน้าตาซีดเผือดลงยิ่งกว่าเดิม เหงื่อกาฬผุดขึ้นกลางหน้าผาก
“ค่ะ ตามนั้น เพราะทานเป็นคนผิดสัญญา คนที่เป็นเกย์หรือไบ จะอะไรก็ตามแต่ แต่คนเหล่านั้นไม่เหมาะที่จะมาเป็นสามีของเมย์ เพราะคนที่จะเป็นสามีของเมย์หรือพ่อของลูกในอนาคตจะต้องเป็นผู้ชายแท้ๆเท่านั้นค่ะ เขาจะต้องมีรสนิยมทางเพศหรือความชอบต่อเพศแม่เท่านั้น ไม่ใช่กับใคร เพศไหน ก็ได้”
ประโยคนี้มณีอารียาหันมามองเทียนบุญเน้นคำ
“เมย์ แต่ทานกับเทียนเราไม่ได้เป็นอะไรกันนะ เราเป็นแค่เพื่อนกัน”
โพล่งออกมา แต่คำพูดของเขาทำให้เทียนบุญแสยะยิ้ม
“ทาน”
“เอ่อ”
“อย่าหลอกเมย์เลยค่ะ อย่างที่บอกเมย์ไม่ใช่ผู้หญิงยุคโบราณที่ผู้ใหญ่จะจับคลุมถุงชนเพียงเพราะความก้าวหน้าทางธุรกิจ ทานมองเมย์ดีๆสิคะ เมย์ด้อยกว่าผู้หญิงคนอื่นตรงไหน ฮึๆ ถ้าทานคิดว่านี่เป็นทางเลือกของเมย์ เมย์ขอเลือกที่จะหลีกทางให้คุณทั้งสองคนค่ะ พอกันที”
เอนหลังพิงพนักเต็มหลังถอนหายใจออกมา สีหน้ายังคงราบเรียบนิ่งยิ่งนัก
“ทำไมเธอไม่ถอนหมั้นเองล่ะ ทำไมต้องให้ทานเขาถอนหมั้น”
“ก็ฉันไม่โง่สิคะคุณเทียน ตลอดเวลาที่ผ่านมาเมย์เฝ้าคอยทานมาตลอดนะคะ คอยตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว แต่พอได้รู้ ถามว่าเจ็บใจไหม เจ็บค่ะ แต่ก็ถือว่าค่าสินสอดทองหมั้นยกให้เมย์เป็นค่าทำขวัญก็แล้วกัน”
“ร้ายกาจ”
เทียนบุญเอ่ยออกมาสายตามองมณีอารียาอย่างเหยียดหยาม
“ค่ะ แต่มันยังน้อยกว่าคุณนะคะคุณเทียน ก็ทานพูดเองไม่ใช่เหรอคะว่านี่มันเป็นการแต่งงานเพื่อธุรกิจ เมย์ทำตามคำขอค่ะ ของหมั้น ยี่สิบล้าน เมย์จะเอา”
“เมย์”
“แค่นี้ล่ะค่ะ ที่อยากจะบอก”
“ไม่มีทาง เธอจะสบายไปไหม ตั้งยี่สิบล้านนะทาน ทานอย่าไปยอมมันนะ”
“ไม่ยอมก็ส่งเรื่องไปที่ศาลค่ะ ขี้เกียจจะคุย อย่าลืมนะคะว่าหลักฐานที่ว่าทานเป็นเกย์และเป็นคู่รักวิปริตกับหล่อนน่ะ ฉันมีพร้อม ถ้าคิดว่าแน่ก็เอาเลยค่ะ”
มณีอารียาเดินสะบัดหน้าออกไปแล้ว ธรรมทานนั่งเหมือนคนหมดหนทาง ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงแม้แต่จะอ้าปากรั้งมณีอารียาเอาไว้
“เมย์ เดี๋ยวก่อน เมย์ แล้วพ่อของทานจะว่ายังไง”
“พอเถอะทาน จะไปง้อมันทำไม กะอีแค่เงินยี่สิบล้าน”
เทียนบุญเอ่ยขึ้น มองธรรมทานเหมือนมองของชั้นต่ำ
“เทียน ทาน เอ่อ”
น้ำตาจะไหลออกมาแล้ว
“เทียนเองก็มีเรื่องจะบอกทานนะ”
เทียนบุญเอ่ยออกมา
“มีอะไรเหรอเทียน ขอเป็นเรื่องเบาๆนะ ทานไม่ไหวจะรับฟังเรื่องร้ายๆแล้ว”
“หึหึ เบาแน่”
เทียนบุญยกแก้วน้ำขึ้นจิบแล้วมองหน้าธรรมทาน
“เราจบกันแค่นี้เถอะทาน”
“เทียน”
ร้องออกมาเสียงดังลั่นร้าน คนที่อยู่ในร้านหันมามองกันเป็นตาเดียว
“นี่เทียนหมายความว่ายังไง”
“ทาน พอเถอะ ถึงนังนั่นไม่มาบอกถอนหมั้นทานวันนี้เทียนก็จะพูดอยู่ดี ทานเปลี่ยนไปเยอะมากนะหลังจากกลับมาจากอังกฤษ ทำไมโลเลหลายใจแบบนี้ล่ะทาน เทียนนึกว่าทานจะหนักแน่น เทียนยอมโง่คิดว่านี่มันเป็นไปเพื่อธุรกิจอย่างที่ทานบอก แต่เวลาที่ทานพูดถึงเทียนแบบนี้ทีไร เทียนมันก็ควายดีๆนี่เอง ทานมองหน้าเทียนสิ ว่าทานด้อยกว่าใครตรงไหน อย่างที่นังเมย์มันบอก เทียนเองไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร ถ้าจะให้หาใหม่ให้ดีกว่าทาน เทียนทำได้สบายมาก คนโลเลไม่หนักแน่นอย่างทาน เทียนว่ามันก็สมควรแล้วที่เมย์มันไม่เอา แล้วขนาดนังเมย์ไม่เอาเทียนจะเอาเหรอ พอแค่นี้ล่ะนะทานระหว่างเรา”
“เทียน อย่านะ ไม่ได้นะ ทานจะทำยังไง เทียนจำไม่ได้เหรอว่าเรารักกันมากแค่ไหน”
“รักกันมากจนต้องแอบไปเอาอีปลาจวดสิงคโปร์นั่นน่ะเหรอ อ้อ เพิ่งรู้ว่าคนที่รักกันเขาทำกันแบบนี้ จำไม่ได้เหรอ หรือว่ากลับรังเกิดแล้วสมองฝ่อทาน พอเถอะ เรื่องเมื่อวานก็คือเรื่องเมื่อวาน แต่วันนี้เรื่องของวันนี้ คือ เราเลิกกัน เข้าใจนะ”
“เทียน ได้โปรด เทียนอย่าทิ้งทานแบบนี้ ทานจะทำยังไง เทียน อย่าไป ขอร้อง”
ชายหนุ่มร่ำไห้ออกมากอดขาของเทียนบุญไว้ ไม่อายใครไม่มียางอะไรจะมาให้อาย
“อายคนเขาหน่อยสิทาน ทานไม่อายแต่เทียนอายนะ พอเถอะ”
เทียนบุญสะบัดขาออกแล้วเดินออกจากร้าน ปล่อยให้ธรรมทานนอนเกลือกกลิ้งอยู่กับพื้น กุหลาบงามสองดอกพนพิษรักใส่เขา พิษร้ายที่หายาที่ไหนทาไม่หาย
“จะไปไหนเจ”
มณีอารียาเอ่ยถามมกุฏโกเมนเมื่อตอนเย็น เขาแต่งตัวเก่งขึ้น จนผิดสังเกต
“ไปกับเพื่อน”
“ไปอีกแล้ว เดี๋ยวนี้อยู่ไม่ติดบ้านเลยนะเจ เพื่อนคนไหน”
“ก็มีบ้างพี่เมย์”
“ถามว่าเพื่อนคนไหน พี่ติดต่อกับเพื่อนเราเกือบทุกคนไม่เห็นมีใครเที่ยวเลยนะเจช่วงนี้”
“นี่พี่เมย์”
“ใช่ พี่ขอโทษที่ต้องทำแบบนี้แต่พักนี้เราผิดปกติไปจริงๆนะเจ มีอะไร ไปกับใคร”
“เอ่อ ไปเที่ยวกับเพื่อนพี่ไง”
“เพื่อนพี่ ใครกัน”
“ก็เพื่อนพี่ที่กลับมาจากอังกฤษไง เขาบอกว่ารู้จักกับพี่สนิทกับพี่ก่อนไปอังกฤษซะอีก”
ใจสั่นหน้าซีดหัวใจเต้นแรงจนพยุงร่างไว้แทบจะไม่อยู่ ปากสั่นแต่ก็อ้าปากเปล่งเสียงออกมา
“ใคร”
ตวาดแผดเสียงออกมา
“ก็คนชื่อเทียนไงพี่เมย์”
“เจ”
กรีดร้องออกมาสายตาเหมือนคนโดนทำลายชีวิตทั้งชีวิต มณีอารียาทรุดตัวลงกับพื้น
“เจ เจจะทำยังไงกับเรื่องของเราครับ”
ก่อนหน้านั้น บนเตียงหลังเดินในคอนโดฯสุดหรูของเทียนบุญ ร่างเปลือยเปล่าสองร่างที่เกี่ยวกระหวัดกันอยู่นั้นแสงความรักนับครั้งไม่ถ้วน หนุ่มน้อยหลงกลติดจริตมนตรา ส่วนคนที่ร่ายมนต์กุหลาบงามสีม่วงกลิ่นหอมพิสดารนี้เองก็ลุ่มหลงภมรตัวนี้ไปไม่น้อยไปกว่ากันเลย
“ไม่รู้ เจว่าเจจะขอที่บ้านไปเรียนต่อ”
“ดีครับเจ ไปเรียนต่ออังกฤษนะ พี่จะได้ตามไปอยู่ที่โน่น”
“หือ พี่จะตามไปเหรอ”
“ครับ ไม่ว่าที่ไหน ถ้าที่นั่นมีเจ ก็จะมีพี่ มันจะเป็นโลกของเราสองคน สองคนเพียงเท่านั้น”
หนุ่มน้อยระบายลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายกับความคิดหรือสิ่งที่รออยู่เบื้องหน้า แค่เพียงคิดก็จนหนทางไปแล้ว
“แต่ม้าคงไม่ยอม”
“คนรักกันน่ะเจ ไม่ว่าจะยังไง มันต้องมีทางออกเสมอ พี่เชื่อแบบนั้น และพี่ก็รักเจนะ รักมากด้วย”
เทียนบุญเงยหน้าขึ้นเอาปากประกบปากของเขา กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่เขากลืนกินความรักนี้ลงไป มันไม่มีเบื่อ มันหวานละมุนจนทำให้เขาแทบจะสำลักมันออกมา
“พี่เมย์ เป็นอะไร”
มกุฏโมเมนปรี่เข้าไปพยุงร่างของพี่สาวขึ้น
“ทำอะไรกันแล้ว ถึงไหนกันแล้วเจ ทำไม หา ทำไม”
ร่ำไห้ออกมา มณีอารียากรีดร้องเหมือนคนเสียจริต น้ำตาเอยไหลหลั่งโดยไม่ต้องสั่ง ไม่ได้ออกมาจากการแสดง แต่มันออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ
“พี่เอ่อ”
“ทำอะไรกันบ้างแล้ว มันทำอะไรเราเจ บอกพี่มา มันทำอะไร”
“เอ่อ”
“ทำไม ทำไม กรี๊ด ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้ ฉันยอมแกแล้ว ฉันยอมแล้ว อีปีศาจ”
มณีอารียาร่ำไห้เสียงดัง จนคนในบ้านแตกตื่นวิ่งออกมาดู
“มีอะไรกันเมยื มีอะไรลูก”
คุณมณีภัสสรเองก็ให้เด็กรับใช้พยุงออกมาจากห้องพัก พอเห็นหน้ามารดา มณีอารียาก็สกัดกั้นความอาดูรในใจไว้ กลืนความเจ็บช้ำหนำใจลงไปในทันที
“อ้อ ม้า ไม่มีอะไรค่ะ คือเจเขาสอบตกเล่มหนึ่งน่ะค่ะม้า”
เธอเสแสร้งไป ปาดน้ำตาออกจากพวงแก้ม
“อะไรกันยัยเมย์ ทำเหมือนใครเป็นอะไร แล้วไปทำอีท่าไหนล่ะตาเจถึงได้สอบตก เห็นไหมว่าพี่แกน่ะแทบจะบ้า”
“เอ่อ”
ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน คิดว่าเพียงเท่านั้น แต่ความรักที่ได้มาโดยการแย่งชิงฟาดฟันกันนั้น เขาเรียกว่ารักหรือสิ่งใด เหมือนดังกุหลาบงามสองดอกนี้ที่แย่งยิงความรักในนิยามของตน อยากได้จะเอา พออยากได้จะเอาก็ส่งกริ่นหอมเบ่งบานกลีบแย้มออกล่อแมลง แต่คงลืมไปว่าอันชาติพันธ์กุหลาบนั้นย่อมมีหนามที่อาบไปด้วยพิษ ใครโดนเข้าก็คงเจ็บปวดไปไม่น้อยกว่าใคร
“แกจะเอายังไง อีเทียน”
มณีอารียาบุกถึงที่ หน้าตาเธอแสดงความร้านรานทางใจออกมาอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
“อะไร จะเอาอะไรยังไง ทานฉันก็ไม่เอา ถ้าแกอยากจะเอาก็เชิญ ของเหลือของฉันน่ะ ไหนบอกจะไปรดน้ำมนต์ก็จะหายไม่ใช่เหรอ”
“อย่ามาตอแหล แกไปยุ่งกับเจทำไม แกทำทำไม”
มณีอารียาแผดเสียงขึ้น โชคดีที่ไม่มีใครอยู่บ้าน พอเทียนบุญได้ยินชื่อก็หน้าซีดลง ตอนแรกตั้งใจว่าจะทำให้เจ็บแสบ ผู้หญิงคนนี้ถ้าไม่ได้รับการสั่งสอนบ้างก็คงจะไม่รู้จักเข็ดหลาบ หรือคิดว่าตัวเองเด่นดีกว่าใคร ต้องให้เจอเรื่องแบบนี้ซะบ้าง แต่พอเห็นเธอมาบอกเลิกกับธรรมทาน วินาทีนั้นเทียนบุญเองก็รู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำ แต่พอรู้สึกผิด แต่ใจมันกลับผูกโยงใยกับมกุฏโกเมนเกินกว่าจะแก้ไขได้แล้ว
“แกมันระยำ ชาติชั่ว นี่มันเป็นเรื่องระหว่างฉันกับแกสองคน แล้วแกไปยุ่งกับน้องชายฉันทำไม ทำไม”
มณีอารียาร่ำไห้ออกมา สายตาเกรี้ยวกราดอย่างที่ไม่เคยเป็น
“ฉัน ฉันไมได้ตั้งใจ”
“ออกห่างจากเจ ไม่งั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือน ไม่สิ ไม่ใช่การเตือน นี่เป็นคำขู่ อย่าหาว่าฉันใจร้าย”
“นี่หล่อน ความรักน่ะหล่อนห้ามกันได้ด้วยเหรอ ฉันรักเจ เจก็รักฉันเธอจะมาขัดขวางยังไง”
“ตอแหล รักเหรอ พูดออกมาได้ยังไง เกย์มักมากตอแหลไปวันๆเหมือนหล่อนน่ะ รักใครเป็นด้วยเหรอ ทำตามที่บอก ไม่งั้นฉันเอาแกตายแน่”
มณีอารียาเดินขึ้นรถขับออกจากบ้านของเทียนบุญไปแล้ว ส่วนเทียนบุญนั่งทรุดกายลงกับพื้น ไม่เคยคิดว่าตนจะตนหนทาง ไม่เคยคิดว่าเขาจะหาทางสู้ไม่ได้
“ฉันจะเอา ใครจะทำไม”
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่12 กินเค้กกันเถอะ100 1/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 01-06-2011 22:27:21
ช่วงนี้ บรรยากาศระหว่างพี่เตกับน้องไนท์ เล่นเอาดิฉันต้องงดของหวานโดยปริยาย ไม่งั้นน้ำตาลในเลือดจะสูงมากเกินไป
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ100% P:7[1/6/11]
เริ่มหัวข้อโดย: Mountain ที่ 01-06-2011 22:35:27
อ้าก เศร้าว่ะ สายลม  :sad4: ปลายฟ้า ตายไปซะเอาสายลมคืนมา
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 8 [01/06/54] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: Muzik ที่ 01-06-2011 22:37:53
ไฮโซ
คุณหนูจะทำยังไงกับบรูโน่ต่อนะ ยิ่งแบบนะ :oo1:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๘. ๑ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 01-06-2011 22:40:46
ไม่อยากคิดเลยว่า สุดท้ายทุกคนจะโดนเพลิงกุหลาบเผาผลาญจนวอดวาย ใช่ไหมคะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่12 กินเค้กกันเถอะ100 1/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: Muzik ที่ 01-06-2011 22:49:50
ไนท์น่าสงสารมาก
ไม่อยากให้เศร้ากว่านี้เลย
ตอนนี้น่ารัก :กอด1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่12 กินเค้กกันเถอะ100 1/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 01-06-2011 23:06:25
หวานละมุนละไม อบอุ่นจังเลย
ขอจบแบบแฮปปี้นะคะ พลีสสสสสสสสสสสส
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ100% P:7[1/6/11]
เริ่มหัวข้อโดย: lucifel ที่ 01-06-2011 23:21:40
เศร้าอ่ะ

สายลมทำไมตายเร็วอย่างนี้
ทำใจยาก......
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๘. ๑ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: mutoo ที่ 01-06-2011 23:24:52
เราเกลียดเทียนบุญ
นิสัยไม่ดีแล้วเห็นแก่ตัวคอดๆเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 8 [01/06/54] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: nco1236 ที่ 01-06-2011 23:26:32
 :m24: ประจานไปเลย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่12 กินเค้กกันเถอะ100 1/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 01-06-2011 23:55:19
แค่ พี่เต-น้องไนท์ ช่วยกันทำเค้ก โลกนี้ก็เป็นสีชมพูแล้ว น่ารักจัง  :-[
แต่บรรยากาศเรียบลื่นเกินไป ประหนึ่งคลื่นลมสงบ ก่อนพายุเข้าเลย
ทำให้เรารู้สึกว่ากำลังจะมีดราม่าจัดหนัก (มาก )
ยิ่งเจอความหลังอันมืดมน ปนไม่เคลียร์ของคดีฆาตกรรมบ้านน้องไนท์เข้าไป
ต้องมีเบื้องหน้าเบื้องหลังอะไรแน่ ๆ  :serius2:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๘. ๑ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 02-06-2011 00:13:52
ใกล้ถึงบทสรุปแล้ว
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่12 กินเค้กกันเถอะ100 1/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 02-06-2011 00:44:53
 :o8: พี่เตบ้า ไหนบอกจะให้ทำเค้กไง แล้ว ทำไม่ ออกมาเป็น ฉากเลิฟซีนได้เนี่ย อิอิ
 อุตส่าห์ทนได้ตั้งนาน พอเจอไนท์ชุบแป้งเข้าหน่อย ตบะแตกเลย  

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ100% P:7[1/6/11]
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 02-06-2011 00:54:43
ยังไม่ได้ร่ำลาเลยอ่ะ อย่างน้อยก็น่าจะให้ปลายฟ้าได้บอกอะไรกับสายลมบ้าง จากไปทั้งแบบนี้ มันค้างคา และ ทรมานกับคนที่อยู่มากๆ เลย แต่อย่างว่าและ ชีวิตจริงๆ ก็ไม่มีใครรู้ว่าพรุ่งจะเป็นเช่น ไม่มีใครรู้ว่ารัก  ว้าย ไม่ใช่ แหละ แหะ ๆ

โทษคนเขียนเลย ทำเค้าเสียใจจนจิตหลุดไปแล้ว  :o12:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๘. ๑ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 02-06-2011 00:57:15
สุดท้ายแล้วจะเหลือใครมความสุขอยู่อีกล่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๘. ๑ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 02-06-2011 01:06:58
เรื่องแค่นี้ ทำไมขู่ถึงตายด้วย คนสมัยเนี่ยไม่พอใจก็จะสั่งเก็บกันท่าเดียว  :m16:

ส่วนเทียน ไม่ต้องไปชนกับเค้าตรงๆ หรอก ใช่เล่ห์เหลี่ยม เอา ยอมงอไปก่อน ดีกว่าหักนะ
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่12 กินเค้กกันเถอะ100 1/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 02-06-2011 01:12:43
สมองระเบิดเป็นโกโก้ครันช์ตอนที่ทำเค้กเลยอ่ะ

อ๊ากกกกกกกกกกกกกเขิล
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 8 [01/06/54] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 02-06-2011 01:16:44
เกือบไปแล้วบรูโน่เอ้ย ว่าแต่ จะตอบแทนบุญคุณ เจ้านายยังงัยเนี่ย   :z1:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 8 [01/06/54] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 02-06-2011 02:39:34
หรือพวกเค้าจะสามพีกันในรถ :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๘. ๑ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 02-06-2011 03:05:16
เอ่อ.....ไม่รู้จะพูดต่อยังไงดี  หมูว่าเทียนบุญนี่ทั้งดื้อ ทั้งรั้น ทั้งทะนงตนแถมความมั่นใจในตัวเองสูงปรี๊ดดดดดดด  มันไม่ค่อยดีกะตัวเองเท่าไหร่มั้งแบบนี้


“ฉันจะเอา ใครจะทำไม” 

อร๊ายยยยยยยยยยยแต่เค้าก้อชอบประโยคนี้อ่ะ :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 10 บ่วงกรรม 24/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 02-06-2011 03:12:44
ใครมาทำอะไรเจ๊ของน้องอ่ะ  เจ๊อย่าเครียดนะเดี๋ยวไม่สวย


เอ้า  ยิ้มหน่อยเร็ว :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๘. ๑ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 02-06-2011 03:33:27
สุดท้ายก็คือน้ำตา
เหลืออะไร นอกจากตัวเอง และความเจ็บ
กรรมคือผลของการกระทำ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๘. ๑ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: คนริมคลอง ที่ 02-06-2011 10:00:52
นึกว่าเรื่องยาว เป็นโปรเจคสั้นๆ นี่เอง

บทสรุป เจ็บด้วยกันทุกคน  :เฮ้อ:

หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๘. ๑ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 02-06-2011 10:26:10
ขอจบแบบ happy นะ สงสาร เจ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๘. ๑ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 02-06-2011 10:48:07
คิดแล้วไม่มีผิด....ทานก็กลายเป็นหมาหัวเน่าไปเลย
สงสารก็แต่ เจที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย  หวังว่าคงไม่มีใครเจ็บปวดตอนสุดท้ายนะ
แต่ก็นะ ใครทำอะไรไว้ก็คงจะได้แบบนั้น
รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 10 บ่วงกรรม 24/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 02-06-2011 12:34:42
รู้นะว่าเจ๊จงรมณ์เสียเรื่องอะไร  เมื่อวานไปอ่านมาแล้ว ได้แต่ปลงตาม
หลังจากฟอกอารมณ์แล้วก็มาต่อไวๆนะจ๊ะ เตรียมชามใบโตๆ มาใส่ของหวานแระ
ชามจริงๆนะ ไม่ใช่ถ้วยของหวานนะ  จะกินโดยไม่ห่วงว่าน้ำตาลหรือน้าหนักจะขึ้นล่ะ รออ่านอยู่จ้ะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 10 บ่วงกรรม 24/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: nubuggy ที่ 02-06-2011 13:28:39
อย่าคิดมานะครับ   เป็นกำลังใจให้ทุกคน  ผมอ่านนิยายคุณแล้วผมเชื่อตาม แบบในนิยายคุณนะครับ   ใครทำอะไรไว้ก็ ต้องรอรับผลจากการกระทำของเค้าเองแหละครับ   กรรมสมัยนี้ ขึ้นทางด่วย ขึ้น มอเตอร์เวย์ ครับ รอไม่นานหรอก อย่าพึ่งท้อใจจนอดดูฉากเด็ดละ


 มารอติดตาม นะครับ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๘. ๑ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 02-06-2011 13:30:25
เรื่องนี้ก็คงไม่มีแฮปปี้เอ็นดิ้งสินะ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๘. ๑ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 02-06-2011 15:01:30
รอบทสรุปว่าใครต้องรับกรรมอะไรบ้าง
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 8 [01/06/54] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 02-06-2011 16:27:03
ริช  ต้องช่วยบรูโน่นะ  ฤทธิ์ยามันแรง!!!!!
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่12 กินเค้กกันเถอะ100 1/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 02-06-2011 16:34:16
หวานเชียว >//<
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ100% P:7[1/6/11]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 02-06-2011 16:36:29
รักสายลมก็ต้องหันมารักปลายฟ้ากันให้มาก ๆ นะครับ  :monkeysad:

ปลายฟ้าจะได้ปรับปรุงตัว เป็นอย่างที่สายลมต้องการได้ มาเอาใจช่วยปลายฟ้ากันดีกว่าเนอะ

โปรเจ็คก็ใกล้จะจบแล้วด้วย วันอาทิตย์นี้แล้วนะครับ

อย่าลืมทายชิงรางวัลกันนะครับ

ปล. ที่แรกผมกะจบที่ตอน 12 แต่ขอยืดอีกตอนเป็น 13 ตอนนะครับ จะว่ากันไหมน้อ

ปลล.  :กอด1: ผมไม่ได้อยากทำให้เสียน้ำตานะครับ ตอนเขียนผมก็น้ำตาซึมเหมือนกันน้า  :sad11:
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่12 กินเค้กกันเถอะ100 1/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 02-06-2011 16:48:30
รอกินเค้กด้วยคน
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ100% P:7[1/6/11]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 02-06-2011 16:54:49
เศร้ามากมาย!!!!!!!
ทำไมๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 8 PG. 5 [31/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 02-06-2011 17:29:27
ไม่อยากนึกเลยว่า  ผีเสื้อหมายถึงกริช  ต้องเป็นดักแด้ที่ลอกคราบก่อนถึงจะกลายเป็นผีเสื้อได้
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๘. ๑ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: Chinnosuke ที่ 02-06-2011 18:45:21
ท้ายสุดแล้วไฟแค้นก็เผาผลาญทุกอย่างมลายสิ้น
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 10 บ่วงกรรม 24/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: Chubby ที่ 02-06-2011 19:28:57
อารมณ์เหมือนดูหนังสยองขวัญเลยจ๊ะ กลัวก็กลัว แต่มันอยากรู้อ่ะ
*****************************************
เอามือปิดตา แล้วแอบกางนิ้วให้เห็นแว๊ปๆต่อ อิอิ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ100% P:7[1/6/11]
เริ่มหัวข้อโดย: Na_RimKLonG ที่ 02-06-2011 19:37:57
คนเขียนใจร้ายอ่า

ร้องไห้เลย  T^T 
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๘. ๑ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 02-06-2011 21:27:13
 :m16:

สุดท้ายเพลิงกุหลาบก็หมอดไหม้ตัวเอง
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 10 บ่วงกรรม 24/5/54
เริ่มหัวข้อโดย: onjazz26 ที่ 02-06-2011 21:44:27
แวะมาบอกว่ากำลังพยายามปั่นอยู่ และกำลังลบรื้อเขียนใหม่อยู่
ไม่น่าเลยเรา แอบเข้าไปชิมมาม่าชามโตจนเสียรมย์ แต่ตอนนี้ พยายามไม่เข้าไปอ่านแล้วค่ะ
เพราะนอกจากประเด็นจะเปลี่ยนไปแล้ว
แถมจำเลยก็จากลาไกล คิดว่าน่าจะเป็นแบบถาวรด้วย
แต่ก่อนไป เล่นเอาแทบฟ้าถล่มดินสะเทือน ปฐพีเลื่อนลั่น
ระเบิดที่ชีวางเอาไว้ กระทบแตกระเบิดกระจุยกระจาย
อะไร ๆ ไม่เหลือเป็นชิ้นดี และจำเพาะเจาะจงให้ เหล่าบรรดาแอดมินฯ โมฯ และทีมงาน
กระจายกระเจิงด้วยเสียขวัญและกำลังใจกันไปถ้วนหน้า
อ่านไปแล้วเราก็ทุกข์ไปกับบรรดาเขาเหล่านั้น จนหมดอารมณ์เขียนไปเลย สองวันเต็ม ๆ

จะว่าไปการจากลากันด้วยดี น่าจะทิ้งเหลือไว้แต่ความอาลัย
แต่แบบนี้ นอกจากศพไม่สวยแล้ว มีแต่ชนเค้าแช่งชักหักกระดูกกันเนาะ

เออ... ช่างมันเถอะ อะไรจะเกิดก็ปล่อยมันไป ฉันไม่ได้อิจฉาใคร ไม่ได้เป็นนักเขียนใหญ่แต่ตัว
ซีรีบรั่มไร้รอยหยัก พฤติกรรมไร้ยางและขาดสามัญสำนึกแบบใคร ๆ บางคน

พอเหอะ บ่นมากมายได้น่ารำคาญมาก
ว่าแล้วไปแต่งต่อดีกว่า เดี๋ยวสักพักจะมาเสิร์ฟของหวานให้มิตรรักนักอ่านทุกท่านได้เสพกันต่อไป   :กอด1:
หุ หุ ม่ายอยากจะบอกว่าเรื่องนั้น มันกว่าออกนิยายทั้งเล้ารวมกันเสียอีก :a5: o22 :angry2:
น่าเสียดายไม่มีตอนต่อไป :bye2:

เจ๊จงบอกว่ารีบปั่นนะ...ปั่นพริกแกงหรอ.... :m26:
ว่าแล้ว....วิ่งหนีเร็วไว :oni1: ... ย้ากกก
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่12 กินเค้กกันเถอะ100 1/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 02-06-2011 21:46:16
หวานนนนนนน :-[   
ชอบไนท์ กะพี่เต จังเลย

พี่เต ช่างเอาใจที่สุด อิจฉามากๆ   :o8:





 :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๘. ๑ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: なおみ™ ที่ 02-06-2011 22:16:17
สนุกมากค่ะ แต่แลดูหลายๆ คนจะเครียดกับนิยายเรื่องนี้มาก

นิยายเรื่องนี้ยาวไหมคะ อีกกี่ตอนจบคะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 8 [01/06/54] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 02-06-2011 22:24:36
ฮืมมมมม หายไปนะ

มาต่อไว ๆ นะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่12 กินเค้กกันเถอะ100 1/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 02-06-2011 22:25:16
หายไปไหนน๊าาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 8 [01/06/54] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 02-06-2011 23:19:43
กด 3 บรูโน่แพ้ยาตาย คุณสมบูรณ์กลายเป็นพระเอกแทน
 :m20:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 8 [01/06/54] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: kkmm ที่ 03-06-2011 00:21:57
1111111111111111111111111111111111111111111
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 8 [01/06/54] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 03-06-2011 00:23:38
“คุณหนูครับ คุณหนูริช อืออ” เสียงแหบพร่าที่ชายหนุ่มครางออกมาเบาๆ ชิดใบหูเล็กๆ ของเด็กชายและลมหายใจอุ่นๆ ที่เป่ารดจนร่างเล็กขนลุกเกรียว
“บรูโน่ อืออ อย่า” ลลิตระล่ำระลักบอกส่ายหน้าไปมาเพื่อหนีปากจมูกซุกซนของชายหนุ่ม




 :z1: มาสปอยสร้างกระแส
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 8 [01/06/54] P.7
เริ่มหัวข้อโดย: huimei ที่ 03-06-2011 00:24:58
 o18 สปอยแบบนี้

รีบๆมาลงเลยยยยยย   :z1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 พบจิตแพทย์ 2/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: ภาพฝัน ที่ 03-06-2011 00:42:20
เตชวัฒน์กำลังใช้เวลาสังเกตวริศรินทร์นอนดูทีวีอยู่บนเตียงอย่างอารมณ์  เขากำลังคิดว่าจะทำยังไงให้อีกฝ่ายยอมคุยกับ ธรรศกฤตจิตแพทย์ที่เขาติดต่อมา เตชวัฒน์ได้ติดต่อไป ธรรศกฤตเป็นเพื่อนสนิทในวัยเด็กที่เตชวัฒน์ยังคงติดต่ออยู่เรื่อยๆ ในวันนี้เขาลองนัดให้อีกฝ่ายมาดูอาการของไนท์

   “ไนท์ครับ เดี๋ยวเพื่อนพี่จะมานะครับ พี่นัทคุยธุระนิดหน่อย ไนท์มีปัญหาไหม” เขาเลือกที่จะเปิดบทสนทนาขึ้นมา วริศรินทร์หันมาส่ายหน้าแล้วหันกลับไปดูซีรี่หนังฝรั่งอย่างเพลิดเพลินโดยไม่สนใจเขา เตชวัฒน์หยิบถุงขนมที่ซื้อมายื่นไปให้ใกล้ๆ เขาหัวเราะเมื่อเห็นมือเรียวเลื่อนเข้ามาจะจับ

   “อยากกินขนมเหรอครับ” เตชวัฒน์ยิ้มเมื่อเห็นไนท์หันมามองห่อขนมในมือเขาเลื่อนตัวไปนั่งเคียงข้าง อ้อมแขนอบอุ่นโอบเอวของวริศรินทร์ไว้หลวมๆ

   “หอมแก้มพี่ก่อนสิครับ” เตชวัฒน์หยอกล้อร่างในอ้อมกอด เขาชู่ห่อผลไม้อบแห้งให้วริศรินทร์ดู เขามองใบหน้าที่นิ่งเฉยไม่แสดงที่สายตามองห่อขนมในมือเขา เท่าที่อาศัยอยู่ด้วยกันมา ไนท์เป็นประเภทไม่สนใจในการหาอะไรทานถ้าหิว แต่ถ้ามีก้กินหมดจัดว่าเป็นประเภทกินง่ายเลยทีเดียวระหว่างที่เขาครุ่นคิดอยู่นั้น แขนเรียวก็แย่งห่อขนมในมือของเขาไป

   “ขี้โกงนี่ครับ เตชวัฒน์หยอกล้อเสียงสดใส เขาอยากให้วริศรินทร์พูดอะไรมากกว่านี้ เพราะการพูดคนเดียวในคราแรกก็ทำให้เขาคิดว่าตัวเองเป็นคนบ้า เขามองใบหน้าที่เคียวผลไม้แห้งในถุงโดยไม่สนใจเขา เขาถือโอกาสหอมแก้มไนท์อีกครั้ง

   “ก็ไนท์ไม่หอมพี่นี่ พี่ก็หอมไนท์แทน” เขายิ้มเมื่อเห็นสายตาที่มองมา ใจก็อยากรู้ว่าไนท์จะโวยวายไหม แต่สิ่งที่ได้รับก้คือความเฉยเมย ขณะที่เขาคิดว่าอีกฝ่ายคงไม่เห็นเขาอย่ในสายตา ศีรษะอุ่นก็พิงลงมาที่หัวไหล่ของเขา เตชวัฒน์รู้สึกดีขึ้นเมื่อสัมผัสว่าอีกฝ่ายยอมเข้าใกล้ตนไม่ใช่เขาที่มีไนท์อยู่ในใจเพียงฝ่ายเดียวเขารู้สึกว่าไนท์เริ่มจะเปิดใจรับเขามากขึ้น สังเกตจากความใกล้ชิดที่ไนท์มอบให้

   เสียงกดออดที่ดังขึ้นมาทำให้เขาต้องผละออกจากร่างกายที่อบอุ่น เตชวัฒน์เดินไปเปิดประตูให้ ธรรศกฤต เข้ามา นายแพทหนุ่มทักทายเพื่อนด้วยรอยยิ้ม

   “เป็นไงบ้าง คนนั้นเหรอที่แกหมายถึง” เขาพยักเพยิสไปทางวริศรินทร์ที่นั่งดูโทรทัศน์อยู่ที่โซฟา

   “ใช่ นี่แหละที่บอก” ธรรศกฤตตบไหล่เพื่อนเบาๆ อย่างให้กำลังใจเขาพอรู้อาการของวริศรินทร์จากคำบอกเล่าของเตชวัฒน์ นายแพทย์หนุ่มยิ้มให้อย่างเป็นมิตรเมื่อได้สบตากับดวงตาคู่สวย

   “สวัสดีครับ ธรรศกฤต เรียก พี่ทอยก็ได้” ธรรศกฤตแนะนำตัวอย่างเป็นมิตร เขาเห็นใบหน้าหล่อเหลามองเขานิ่งๆ สายตาไม่ได้เหม่อลอยแสดงออกถึงการรับรู้ แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ วริศรินทร์หันหน้าหนีไปดูรายซีรี่หนังฝรั่งโดยไม่สนใจ ธรรศกฤตยังคงมีรอยยิ้มแม้จะได้รับการเมินเฉยของอีกฝ่าย

   “ใช่สิเต ฉันเอาของมาให้แก” เขาหยิบหนังสืออ่านเล่นออกมา ตลอดเวลาเขาเหลือบมองการกระทำของวริศรินทร์ก็พบว่าสายตาของอีกฝ่ายเหลือบมองเป็นระยะ ทั้งคู่คุยกันเรื่อยเปื่อยสักพักธรรศกฤตก็ขอตัว เตชวัฒน์อาสาเดินไปส่งที่รถเขาในทันที

   “เดี๋ยวพี่ไปส่งทอยก่อนนะไนท์” เตชวัฒน์ลูบหัวอย่างแผ่วเบาและเดินออกมาส่งเพื่อนสนิทที่เดินคู่กันออกมา

   “เป็นไงบ้าง อาการ” ทันทีที่ออกมาพ้นจากห้องเตชวัฒน์ก็รีบถามเพื่อนทันที ร่างสูงใหญ่ของจิตแพทย์หนุ่มสั่นด้วยเสียงกลั้นหัวเราะ

   “แค่คุยด้วยไม่กี่ประโยคจะรู้ได้ยังไง มันต้องใช้เวลาเว้ย” จิตแพทย์หนุ่มขำเพื่อนตัวเองที่ดูร้อนรนเสียเหลือเกิน

   “ก็ เป็นห่วงนี่หว่า” เตชวัฒน์เสียงอ่อยๆ

   “เป็นห่วงหรือว่าอะไรกันแน่” ธรรศกฤตขำอาการของเพื่อนที่ดูกระวนกระวายเกินเหตุ

   “เท่าที่ดูก็ไม่มีอะไรต้องใช้เวลาอะ แต่โดยทั่วไปก็ดูปกติ มีแค่อาการไม่ยอมพูดกับอยากตายเท่านั้นใช่ไหมล่ะ” ธรรศกฤตสอบถามอาการของนายแบบหนุ่มอย่างคร่าวๆ

   “ก็แค่นั้น นอนนั้นก็ดีว่าง่าย แค่พูดด้วยไม่พูด กับเผลอไม่ได้ ถ้าเผลอกลัวว่าจะพยายามฆ่าตัวตาย” เตชวัฒน์นึกทบทวนอาการของวริศรินทร์ที่ผ่านมา

   “ก็ให้เขาทำอะไรที่เขาชอบ คอยสังเกตุ แล้วก็หากิจกรรมให้ทำอย่าปล่อยให้นอนแห้งเหี่ยวอยู่เฉยๆ โดยส่วนใหญ่โรคซึมเซาจะเป็นแบบนี้นะ ถ้าไม่ดีขึ้นก็ต้องใช้ยารักษาแต่ไม่อยากให้
ใช้ ก็ลองค่อยๆ ศึกษาดู ตอนนี้แนะนำแค่ว่าให้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากๆหน่อย เท่าที่ฟังไนท์แทบไม่มีคนเข้าใกล้นี่ หรือไม่ก็กอดซะ อาจจะหาย” ประโยคสุดท้ายจิตแพทย์หนุ่มหยอกล้อเพื่อนของตน

   “ไนท์ยังเด็ก” เตชวัฒน์รีบบอกเพื่อนของตนเสียงแข็ง ซึ่งเขาก็ไม่แน่ใจว่าที่เขาพูดนั้นเพื่อบอกเพื่อนของตนหรือว่าเตือนตัวเองกันแน่

   “เออ 22 นี่เด็กเหรอ จะทำอะไรก็ตามใจมีปัญหาอะไรก็โทรมาเท่าที่ดูวันนี้ก็ไม่มีอะไร” ธรรศกฤตขำเพื่อนของตนที่ปกติเป็นคนที่จัดว่าใจเย็นพอมาเจอนายแบบหนุ่มเจ้าปัญหาเข้าไปถึงกับอยู่นิ่งไม่ได้ต้องโทรมาเรียกเขาให้มาสังเกตอาการคร่าวๆ

   “อ่อ 22นะไม่เด้กแล้วนะเว้ย ถ้าอยากกอดแล้วเจ้าตัวยอมก็ทำได้” ร่างสูงหัวเราะร่าด้วยความชอบอกชอบใจ เมื่อเห็นเพื่อนของตนเองยิ้มเฟื่อนๆ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเพื่อนของเขาตอนนี้สนใจนายแบบเจ้าปัญหาขนาดไหน

   เตชวัฒน์อยากจะถีบเพื่อนตัวเองสักทีที่เอาแต่ทำเป็นเล่นกับเพื่อนของเขา แต่เขาก็โล่งใจเมื่อได้รับการยืนยันจากจิตแพทย์ว่าไนท์ต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่และโดยรวมเจ้าตัวก็ปกติดี

   เตชวัฒน์กลับเข้าห้องอีกครั้งเขายิ้มให้ไนท์อย่างสดใสเมื่อทันทีที่เปิดประตูก็เห็นสายตาที่มองมา

   “ไปข้างนอกกันเถอะ” เขาปิดทีวีและดึงไนท์ให้เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เตชวัฒน์พาไนทืกลับไปที่บ้านของตัวเองอีกครั้ง เขารู้สีกพอใจเมื่อเห็นร่างสูงโปร่งเล่นกับลูกสุนัขอย่างสนุกสนาน

   “ไนท์ตั้งชื่อให้มันสิ ไอ้สามตัวนี้ยังไม่มีชื่อเลย” เตชวัฒน์ตะโกนบอกไนท์ที่กลิ้งอยู่ที่สนามหญ้าใต้ต้นไม้ เขารู้สึกดีใจที่สวนบ้านเขามีต้นไม้ต้นใหญ่สามารถให้ร่มเงาได้ เตชวัฒน์เดินไปนั่งเคียงข้าง

   “ว่าไงครับ ชื่ออะไรดี” เตชวัฒน์ถามย้ำ เมื่อเห็นท่าทางครุ่นคิดของไนท์ทำให้เขาอดยิ้มไม่ได้

   “ไวท์ แบล็ค บราว” เตชวัฒน์ขำเมื่อไนท์ตั้งชื่อออกมาง่ายกว่าที่คิด

   “โอเคก็น่ารักดี” เขาหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นอีกฝ่ายจ้องหน้าเขานิ่ง ชวัฒน์เอื้อมมือไปขยี้ศีรษะไนท์ด้วยความหมั่นเขี้ยว สำหรับเขาไอ้ที่น่ารักนะไม่ใช่หมาหรอกแต่เป็นไนท์ต่างหาก

   “เหวอ” เตชวัฒน์ผงะทันทีเมื่อไนท์เหวี่ยงลูกหมาในอ้อมกอดเฉี่ยวหน้าของเขา ยังไม่ทันที่เขาจะพูดอะไรนายแบบหนุ่มก็ลุกขึ้นวิ่งเข้าไปบ้านไปกินขนมหน้าตาเฉย เขาได้แต่สายหน้า
อย่างระอาใจแล้วตามเข้าไปดุเรื่องที่กินขนมไม่ยอมล้างมือ

   เตชวัฒน์พาวริศรินทร์กลับมาที่คอนโดค่อยข้างเย็นเพราะไนท์ติดลูกสุนัขค่อนข้างมาก ถ้าเขาไม่ชวนกลับก็ไม่รู้ว่าเจ้าตัวจะปริปากบอกเมื่อไหร่

   “ไนท์จะกินอะไรอีกไหม” เขาส่งเสียงกระซิบเพราะไม่รู้ว่าไนทืหลับหรือว่าแค่หลับตา วริศรินทร์ลืมตาขึ้นมามองรอบๆรถตอนนี้เขาขับรถอยู่บนถนนกำลังจะกลับไปที่คอนโด เมื่อรู้ว่าอยู่ที่ไหนแล้ววริศรินทร์ก็ส่ายหน้าในทันทีและล้มตัวลงนอนต่อ

   กลับมาถึงห้องเขาย้ำเตือนตารางของวันพรุ้งนี้ที่ไนท์ต้องเริ่มทำงานบ้างแล้ว ซึ่งเจ้าตัวก็พยักหน้าเข้าใจเป็นอย่างดีแบบนี้ก็ไม่ถือว่าเป็นปัญหา เตชวัฒน์ปล่อยให้อีกฝ่ายเข้านอนไปส่วนตัวเขาเข้าไปจัดการโทรคอนเฟิร์มตารางงานเมื่อเรียบร้อยแล้วเขาก็เข้าไปจัดการธุระส่วนตัวของตน

   หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้วเตชวัฒน์เดินไปเช็คความเรียบร้อยที่ห้องนอนของวริศรนทร์เขาเห็นร่างโปร่งที่นอนหลับสบายอยู่บนเตียงแล้วอมยิ้ม

   “ฝันดีนะเด็กน้อย” เขาก้มลงจุมพิตแผ่วเบาที่หน้าผากแล้วห่มผ้าให้เรียบร้อยก่อนจะปิดไฟหัวเตียงแล้วกลับเข้าห้องนอนเพื่อพักผ่อน

   เตชวัฒนืหลับไปแล้วแต่เขาต้องสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงก๊อกแกีกและมีอะไรบางอย่างขยับอยู่บนเตียงนอนเขา เขารีบเอื้อมมือไปเปิดโคมไฟหัวเตียง

   “ไนท์” ทันทีที่เปิดไฟเขาเห็นไนท์ในชุดนอนที่ซุกอยู่ใต้ผ่าห่มผีนเดียวกับเขา

   “มาอยู่นี่ได้ยังไง นอนไม่หลับหรือครับ” เขารู้สึกงุนงงที่อยู่ๆ ไนท์ก็มาโผล่ที่เตียงเขาตอนตีหนึ่ง วริศรินทร์ยังคงนิ่ง

   “ไนท์จะนอนห้องพี่เหรอ” เขาลองเลียบๆเคียงๆถามดู ซึ่งคำตอบที่ได้ก็คือความความเงียบ

   “จะให้พี่ไปนอนห้องไนท์” เตชวัฒน์ถามย้ำอีกครั้ง เขาเริ่มรู้สึกไม่แน่ใจกับการกระทำของอีกฝ่าย แต่แทนคำตอบวริศรินทร์ผลักร่างของเขาล้มลงบนเตียงแล้วทิ้งตวลงมานอนคู่กัน

   “นอนด้วย” คำตอบที่สั้นและห้วนเหมือนเช่นปกติ แต่เตชวัฒน์ก็อดยิ้มอย่างมีความสุขไม่ได้ เขารวมตัวอีกฝ่ายเข้าสู่อ้อมกอดอย่างรวดเร็วซึ่งนั่นก็ทำให้วริศรินทร์ตัวแข็ง

   “นอนด้วยกันก็ต้องกอดกันสิ เดี๋ยวตกเตียงนะ” เขาหยอกล้ออีกฝ่ายอย่างมีความสุข เขารู้สึกดีใจที่ไนท์เปิดใจรับเขามากขึ้นทุกวันทุกวัน

   “ฝันดีนะครับ เด็กน้อย” เขาจุมพิตที่หน้าผากอีกครั้ง ก่อนจะเปลี่ยนมากอดเอวของไนท์อย่างหลวมๆ อย่างมีความสุข


...
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 พบจิตแพทย์ 2/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: Giniz ที่ 03-06-2011 01:10:31
 :z13:เสียบตูดภาพฝัน 555+
ทีหลังก็นอนด้วยกันทุกวันไปเลยดิ จะได้ไม่ต้องแอบย่องเข้าห้องพี่เตตอนดึกอีก
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 พบจิตแพทย์ 2/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 03-06-2011 01:12:45
อ๊ากกกกกกกกกก
อยากให้ไนท์มาอ้อนมั่ง
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 พบจิตแพทย์ 2/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 03-06-2011 01:21:06
แค่กอดก็ตัวแข็งแล้ว แต่ถ้ามากกว่านั้นละ  :z1:

เชียร์พี่เตรุกไนท์เยอะๆ ไม่ต้องปรึกษาจิตแพทย์แล้ว กินยาไม่หาย ต้องจับฉีดยาอย่างเดียว อิอิ

 :L2:
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 พบจิตแพทย์ 2/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 03-06-2011 01:40:04
พี่เตก็หาเศษหาเลยตล๊อด ตลอด ไนท์ตัวแข็งเลย 5555+
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 8 [01/06/54] P.7 สปอยตอนดึกๆ P.8
เริ่มหัวข้อโดย: onjazz26 ที่ 03-06-2011 01:59:18
กด 1 ล้วนๆ :oo1: :oo1: :oo1:
ยังไม่มี Nc ให้พระเอกตายได้ไงอ่ะ :m16:

ถ้าแน่จริงให้พระเอก..."เสียวตาย"....ได้อ่ะป่ะ.....ก๊ากกก :m20: :laugh3:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 พบจิตแพทย์ 2/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 03-06-2011 02:33:14
นี่นี่ ไม่ใช่ว่าไนท์ได้กะพี่ทอยนะ  เพราะที่จริงแล้วพี่เตเป็นบ้าอ่ะ :laugh: :laugh:



อร๊ายยยยยยยยยยยยชั้นคิดอะไรอยู่ :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 8 [01/06/54] P.7 สปอยตอนดึกๆ P.8
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 03-06-2011 03:26:36
OMG!!  สปอยแล้วหายไปแบบนี้
เอาส้อมมาแทงกันเลยดีกว่ามั้ยคะ   :z3:
หัวข้อ: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/Ch.12 -Car- (02/06/54)
เริ่มหัวข้อโดย: Nassiiz ที่ 03-06-2011 06:17:59
(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page61.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page62.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page63.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page64.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page65.jpg)
หัวข้อ: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/Ch.13 -Enroute-(02/06/54)
เริ่มหัวข้อโดย: Nassiiz ที่ 03-06-2011 06:28:06
(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page66.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page67.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page68.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page69.jpg)
หัวข้อ: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/Ch.14 -Skyscraper-(02/06/54)
เริ่มหัวข้อโดย: Nassiiz ที่ 03-06-2011 06:29:47
(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page70.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page71.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page72.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page73.jpg)

-------------------------------------------------------------------------------------------------

3 ตอนเบา ๆ ค่ะ เรียกเลือดพอเบาะ ๆ
ให้พอได้พักหายใจกันบ้าง
3 ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรมากค่ะ แค่กลับมารวมตัวกัน
วันมะรืนจะมาลงที่เหลือให้นะคะ
ขอบคุณที่ติดตามและขอบคุณทุกความเห็นค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 8 [01/06/54] P.7 สปอยตอนดึกๆ P.8
เริ่มหัวข้อโดย: tarkung ที่ 03-06-2011 10:41:50
ขอให้กำลังผู้เขียนนะครับ สู้ๆนะคร้าบบบ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 8 [01/06/54] P.7 สปอยตอนดึกๆ P.8
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 03-06-2011 11:00:47
จะให้บรูโน่ตายจริงๆเหรอตัว. จะใจร้ายลงเหรอ :impress:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๘. ๑ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: tarkung ที่ 03-06-2011 11:52:21
อยากให้จบแบบ Happy Happy นะคร้าบบบ

จะรอคอยอ่านตอนต่อไปนะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 พบจิตแพทย์ 2/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 03-06-2011 12:19:29
เอาใจช่วยให้เตเปลี่ยน"ตุ๊กตาไนท์" ให้เป็นไนท์ที่มีชีวิตชีวาไวๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 พบจิตแพทย์ 2/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 03-06-2011 12:28:58
ไนท์น่ารักอ่ะ เค้าอยากได้มาเลี้ยงอ่ะ น่ารักโคตร. อ้อนเงียบ
ถึงไม่กล้ายุ่งกีบคนอื่น ก็แอบอยากรู้อยากเห็นว่าเขาทำอะไรกันน. น่่ารัก :m11:
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 พบจิตแพทย์ 2/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 03-06-2011 12:35:50
22 นี่ไม่เด็กแล้วนา โตแล้ว!
ตอนหน้าก็กอดซะ โฮะๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 พบจิตแพทย์ 2/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 03-06-2011 12:59:37
พี่เตจับกดเลยจะได้หายซะที
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 พบจิตแพทย์ 2/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 03-06-2011 13:04:35
กรี๊ดดดดดด น้องไนท์น่ารักมากกกกกกกก :-[
รอฉากจับกดเลยนะเนี้ยะ :impress2: o18
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 8 [01/06/54] P.7 สปอยตอนดึกๆ P.8
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 03-06-2011 13:50:46
 :m25: มาทำให้อยากแล้วพี่ก็จากไป :z3:
ลงสปอยแล้ว รีบมารับผิดชอบด้วยนะค่ะ o18
รออ่านอยากแรงงงง :laugh:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 8 [01/06/54] P.7 สปอยตอนดึกๆ P.8
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 03-06-2011 13:59:37
สปอยร์กันแบบนี้ไม่ดีเลยนา เพราะมันยิ่งทำให้อยากอ่านตอนต่อไปเร็วๆ อย่ามาทำให้อยากแล้วจากไปสิค้า T^T
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/Ch.10-11 ค่ะ 2 ตอนติด (29/5/54)
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 03-06-2011 14:25:30
ไม่น่าเชื่อ น้องมิยองเสร็จแทแล้ว 5555
เรื่องนี้นี่ มาเร็ว เครมเร็วจริงๆ  o18
แต่ก็ยังคงเส้นคงวา กับความหวานและเลือดสาดไปพร้อมๆกัน
รอตอนต่อไปนะค่ะ o13

หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 พบจิตแพทย์ 2/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 03-06-2011 14:34:37
ว้าว ๆ ๆ ๆ ๆ

นอนด้วยกันล่ะ

ต่อไปก็.......กัน อิอิ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๘. ๑ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: nubuggy ที่ 03-06-2011 14:42:50
จับคู่เมย์ กับ เทียนก็ดีเหมือนกันนะ แรงทั้งคู้ ทันกันตลอด
....................  .........................
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 พบจิตแพทย์ 2/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 03-06-2011 14:46:23
เมื่อไหร่หนา...พี่เตจะสมหวัง
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ100% P:7[1/6/11]
เริ่มหัวข้อโดย: nataxiah ที่ 03-06-2011 14:48:08
ทำสายลมตาย คนอ่านเลยงอนกันหมดเลย  :m15:

น่าสงสารตาสายลมห่มฟ้าเนอะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 8 [01/06/54] P.7 สปอยตอนดึกๆ P.8
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 03-06-2011 14:56:11
สปอยซะอยากอ่านต่อเลย มาต่อเลยนะ โทษฐานทำให้คนอ่านเพ้อ ="=
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 พบจิตแพทย์ 2/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: tarkung ที่ 03-06-2011 15:19:55
อยากให้ Happy Happy กว่านี้จัง

จะติดตามต่อไปนะครับ
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 พบจิตแพทย์ 2/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 03-06-2011 15:59:16
หวานมาอีกแล้ว กลัวจะมาม่าตอนขบนี่สิ T^T
คงไม่มีมาม่าเนอะ ไนท์น่ารักน่าชังจัง ><
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 8 [01/06/54] P.7 สปอยตอนดึกๆ P.8
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 03-06-2011 16:03:22
บรูโน่พรากผู้เยาว์ หุหุ ให้ไวเลยนะ
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 พบจิตแพทย์ 2/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 03-06-2011 16:24:18
รอกินเค้ก
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 พบจิตแพทย์ 2/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 03-06-2011 17:04:59
น้องไนท์เริ่มขาดพี่เตไม่ได้แล้ว :z1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 8 [01/06/54] P.7 สปอยตอนดึกๆ P.8
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 03-06-2011 17:09:42
รอตอนเต็ม o18
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 9 [03/06/54] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 03-06-2011 17:29:02
(http://upic.me/i/yo/pp7g6.jpg) (http://upic.me/show/23320865)


เล่ห์ร้าย
ตอนที่ 9.

ลลิตที่อยู่ในชุดนอนขายาวสีฟ้าอ่อนลายทาง เดินวนไปวนมาอยู่หน้าเรือนคุณปู่ บางครั้งก็ชะเง้อคอเขย่งเท้าดูตามแสงไฟที่สาดเข้ามา แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะไม่ใช่คนที่เด็กชายเฝ้ารอ จนกระทั่งเสียงรถที่คุ้นเคยดังมาแต่ไกล เด็กชายยืนกระสับกระส่ายมองตามแสงไฟหน้ารถ เมื่อรถจอดสนิทร่างเล็กรีบวิ่งเข้าไปทันที เด็กชายเปิดประตูรถออกเองด้วยความใจร้อน เห็นบอดี้การ์ดช่วยพยุงร่างของวิธวินท์ที่ห่อด้วยผ้าห่มผืนใหญ่ออกมาอย่างทุลักทุเล เด็กชายจึงถอยออกมาเพื่อไม่ให้กีดขวาง
รถอีกคันตามมาจอดเทียบ บอดี้การ์ดอีกสองนายเข้ามาช่วยกันหิ้วปีกชายหนุ่มเข้าไปในตัวบ้าน ลลิตเดินตามเข้าไปอย่างรวดเร็ว และสั่งให้พาชายหนุ่มขึ้นไปนอนบนเตียงเสียก่อน แล้วจึงหันมาพูดคุยกับสมบูรณ์
ลลิตต้องการให้สมบูรณ์นำเงินจำนวนที่ชายหนุ่มเป็นหนี้ของสาวใหญ่นั้นไปคืน แล้วให้เซ็นสัญญาว่าเธอจะไม่เข้ามายุ่มย่ามกับชายหนุ่มอีก แล้วก็ให้รูปถ่ายคลอเลคชั่นลับเฉพาะของเธอเองไปดูต่างหน้าหนึ่งชุด สมบูรณ์รับคำ แล้วนำทีมบอดี้การ์ดออกไปจัดการ

เด็กชายเดินกลับเข้ามาดูชายหนุ่มที่นอนกระสับกระส่ายอยู่บนเตียง ลลิตดึงผ้าที่ห่อตัวชายหนุ่มออกอย่างรังเกียจ จึงได้เห็นร่างของชายหนุ่มอย่างถนัด ยิ่งเห็นชุดที่ร่างที่นอนอยู่บนเตียงนั่นสวมใส่แล้ว อารมณ์โมโหยิ่งพุ่งสูงขึ้น ชุดหนังสีดำที่เปิดเผยเนื้อแน่นๆ ด้วยกล้ามเนื้อพองาม ที่ข้อมือยังติดกุญแจมืออยู่ข้างหนึ่ง อีกข้างถูกไขออกตอนที่ช่วยชายหนุ่มมาจากสาวแก่ซาดิสม์คนนั้น เด็กชายจึงขึ้นไปนั่งบนเตียงข้างๆ ชายหนุ่ม หมายจะปลดชุดหนังสีดำนั้นออกแต่ก็ไม่รู้จะปลดอย่างไร จึงเดินออกไปหากรรไกรมาตัดชุดนั้นออกจนหมดแล้วโยนลงไปกองรวมกับผ้าห่ม แล้วลากทั้งหมดออกไปโยนทิ้งไว้หน้าห้อง

“อืออ ร้อนน” เสียงครางเบาๆ จากชายหนุ่มที่อยู่บนเตียงเรียกให้ร่างเล็กที่กำลังกระทืบกองผ้าห่มอยู่ให้กลับไปสนใจ เด็กชายรีบวิ่งกลับไปดู
“ร้อนเหรอ” ลลิตเกาะที่ข้างเตียงถามด้วยความร้อนรน หยิบรีโมตคอนโทรลเครื่องปรับอากาศมาลดอุณหภูมิในห้องลง ทั้งที่ไม่ได้ห่มผ้าและไม่มีเสื้อผ้าติดกายชายหนุ่มอยู่เลย แล้วทำไมถึงยังบอกว่าร้อนอีกนะ
“บรูโน่ไม่สบายเหรอ” เด็กชายเอื้อมมือไปจับที่ตัววิธวินท์แต่ก็ไม่รู้สึกถึงความร้อนอะไร ทั้งที่ร่างกายของชายหนุ่มเต็มไปด้วยเหงื่อจนชื้นไปทั้งตัว
“อืออ” ชายหนุ่มยังดิ้นยุกยิกไม่หยุด ร่างเล็กจึงตัดสินใจนำอ่างใส่น้ำกับผ้าขนหนูผืนเล็กมาเช็ดตัวให้ชายหนุ่ม ลลิตนั่งลงข้างๆ บิดผ้าหมาดๆ แตะผ้าเริ่มซับไปที่ใบหน้าของชายหนุ่ม ลูบลงไปที่ซอกคอเช็ดเบาๆ ไล้ผ้าชุบน้ำเย็นชื่นใจมาที่บ่าไล่ตามแขนลงไปเรื่อยๆ จนลงมาถึงมือของชายหนุ่ม เด็กชายพยายามดึงมือที่กำแน่นกับผ้าปูที่นอนให้คลายออกแต่ไม่สำเร็จ ขณะที่ร่างเล็กกำลังพยายามแกะมือ วิธวินท์ก็ใช้มืออีกข้างมารั้งร่างเล็กเข้าไปกอดแนบแน่น เด็กชายตกใจผ้าขนหนูผืนเล็กหลุดจากมือดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนแข็งแกร่ง

วิธวินท์พยายามอดทนกำมือกับผ้าปูที่นอนแน่น กัดริมฝีปากล่างให้เจ็บเพื่อเรียกสติตัวเองจากฤทธิ์ยาเพิ่มความกำหนัดในกามารมณ์ แต่เส้นความอดกลั้นของเขาก็ขาดผึงเมื่อร่างเล็กหอมกรุ่นด้วยแป้งเด็กเข้ามาสัมผัสใกล้ๆ ใบหน้าของชายหนุ่มซุกไซ้อยู่ที่ซอกคอขาว มือลูบโลมไปตามร่างเล็กเปะปะอย่างควบคุมไม่อยู่
“บรูโน่ๆ อืออ” เด็กชายเสียงสั่นด้วยความตกใจที่ถูกจู่โจมอย่างกะทันหัน แขนเล็กดันอกและหน้าของวิธวินท์เอาไว้ เอียงคอถอยหนีอย่างลำบากเพราะชายหนุ่มโถมน้ำหนักทั้งตัวเข้าหา
“คุณหนูครับ คุณหนูริช อืออ” เสียงแหบพร่าที่ชายหนุ่มครางออกมาเบาๆ ชิดใบหูเล็กๆ ของเด็กชายและลมหายใจอุ่นๆ ที่เป่ารดจนร่างเล็กขนลุกเกรียว
“บรูโน่ อืออ อย่า” ลลิตระล่ำระลักบอกส่ายหน้าไปมาเพื่อหนีปากจมูกซุกซนของชายหนุ่ม แต่วิธวินท์ที่ตอนนี้ไม่สามารถหยุดตัวเองได้แล้ว ชายหนุ่มดึงเสื้อนอนของเด็กชายจนกระดุมหลุดออกจากรังดุมแล้วซุกจมูกลงมาตามผิวเปลือยเปล่าที่ถูกเผยอออกมาจากเสื้อนอนเนื้อนุ่ม มือใหญ่ยังทำหน้าที่ต่อไปด้วยการพยายามดึงทึ้งชุดนอนของเด็กชายให้หลุดออกไปให้พ้นทาง ก่อนลูบขึ้นสูงไปตามเรียวแขนเพื่อดึงให้แขนเล็กหยุดการต่อต้าน ปากและจมูกก็ยังซุกไซ้อยู่ที่ซอกคอขาวขบเม้มไปตามอารมณ์รัญจวน

กิ๊ก!!!

เสียงล็อคดังเบาๆ จากหัวเตียง เด็กชายรีบถดตัวหนีออกมาจากร่างของชายหนุ่มมายืนหอบหายใจอยู่ข้างเตียง มือเล็กที่ยังสั่นดึงสาบเสื้อให้ปิดเข้าหากัน ใบหน้าขาวแดงก่ำลงมาถึงคอ ลลิตรู้สึกโล่งใจที่ยังไม่ได้ไขกุญแจมือออกให้ชายหนุ่มทั้งที่สมบูรณ์ได้ให้ลูกกุญแจมาแล้ว
ชายหนุ่มพลิกตัวขึ้น ข้อมือสองข้างติดล็อคกุญแจมือที่คล้องไว้กับหัวเตียง ขยับตัวบิดไปมาอย่างทรมาน
“อืออ คุณหนูครับ ปล่อยผมนะครับ” วิธวินท์เอ่ยเสียงหอบอ้อนวอนเด็กชาย
“ไม่ปล่อย นายทำอะไรน่ะ”
“คุณหนูครับ ผมทนไม่ไหวแล้ว” เสียงชายหนุ่มยิ่งหอบกระเส่ากว่าเดิม
“เป็นไร ป่วยหรอ” เด็กชายพูดตอบเสียงเบาด้วยความเป็นห่วง แต่ก็ยังไม่กล้าเข้าไปใกล้เพราะยังตกใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่
“อืออ คุณหนูครับได้โปรด” เสียงแหบพร่ายังอ้อนวอนโดยไม่ได้ฟังว่าเด็กชายถามอะไรไปบ้าง
ลลิตมองสำรวจร่างที่นอนบิดไปมาอย่างทรมานของชายหนุ่ม แล้วก็ต้องยกขึ้นปิดปากด้วยความขัดเขินเพราะความแข็งแกร่งที่ชูชันโดดเด่นอยู่กลางลำตัว
“คุณหนูครับ ผมทนไม่ไหวแล้วครับ ช่วยผมด้วย”
“แล้วๆ ฉันต้องทำยังไงบ้าง”
“ช่วยผมด้วยครับ คุณหนู อืออ” เด็กชายจึงเอื้อมมือไปแตะที่ตัวชายหนุ่มเบาๆ
“อ่ะ อืออ” เสียบพ่นลมหายใจออกอย่างพอใจ ลลิตจึงลูบไล้จากหน้าอกของชายหนุ่มลงมาที่หน้าท้อง นิ้วเล็กๆ ไล้ลงมาช้าๆ กล้ามเนื้อแน่นเกร็งรับการสัมผัสแผ่วเบา
“ฉันต้องทำยังไงบรูโน่” ลลิตถามเสียงสั่น แต่ชายหนุ่มเหมือนไม่รับรู้ในคำถามนั้น หลับตาพริ้มบิดร่างกายไปมา ครางออกมาแผ่วๆ
“บรูโน่ให้ฉันช่วยยังไง” มือเล็กๆ เริ่มลูบไล้ช้าลงเมื่อใกล้จุดไวต่อความรู้สึกของชายหนุ่ม
“ช่วยผมด้วยครับ ปล่อยผมนะครับ คุณหนู อืออ” วิธวินท์แอ่นสะโพกขึ้นให้ส่วนกลางลำตัวลอยเด่น ฤทธิ์ของยาทำให้เขาปวดหนึบอยากจะปลดปล่อย
เด็กชายเห็นปฏิกิริยาของชายหนุ่มก็เริ่มเข้าใจ จึงทำใจกล้าไล้มือต่อไปแล้วแตะกับส่วนตื่นตัวนั้นเบาๆ แต่ก็ต้องรีบชักมือกลับเหมือนแตะของร้อน เพราะความตกใจกับสัมผัสที่ไม่คุ้นเคย ลลิตก้าวถอยหลังออกมาจากเตียงอีกก้าวหนึ่ง มองวิธวินท์ที่กระสับกระส่ายด้วยความทรมานอย่างสับสนไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องปฏิบัติอย่างไรบ้างที่จะช่วยให้ชายหนุ่มสงบลงได้

ลลิตรีบวิ่งออกจากห้องเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ เด็กชายวิ่งตรงไปที่ตึกใหญ่ เข้าไปในห้องส่วนตัว รีบเปิดลิ้นชักลับใต้เตียงแล้วหยิบของสำคัญที่คิดว่าพอจะช่วยให้ชายหนุ่มหายจากอาการกระสับกระส่ายลงได้ พอได้ของที่ต้องการเด็กชายก็รีบวิ่งกลับมาที่เรือนคุณปู่อย่างรวดเร็ว

ร่างเล็กเปิดประตูห้องนอนแล้วปิดล็อคอย่างแน่นหนา พิงประตูหอบหายใจอย่างแรงเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นตามใบหน้า จนทำให้รู้สึกเย็นวูบเมื่อสัมผัสอากาศภายในห้อง ลลิตเอื้อมมือไปเปิดไฟกลางห้องให้สว่างไปทั่วทั้งห้อง เพราะเมื่อสักครู่ต้องการให้ชายหนุ่มได้นอนพักจึงเปิดแค่เพียงไฟหัวเตียงให้แสงเพียงสลัวๆ
เด็กชายวางหนังสือการ์ตูนหอบใหญ่ไว้บนเตียง ลลิตขึ้นไปนั่งคุกเข่าข้างๆ ร่างของชายหนุ่มที่ยังหอบและบิดร่างไปมาไม่หยุดนิ่ง หยิบหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมากางในฉากที่ตัวเอกทั้งสองกำลังแนบเนื้อเล้าโลมกัน มือซ้ายกางหนังสือ ส่วนมือขวาก็ต้องพยายามบังคับไม่ให้สั่นกอบกุมส่วนนั้นที่ชูชันและเต้นตุบๆ เหมือนภายในมีหัวใจอยู่อีกดวง ลลิตทำตามที่เห็นจากหนังสือ รูดมือขึ้นลงช้าๆ เรียกเสียงครางและการตอบรับจากชายหนุ่มได้เป็นอย่างดี
“อืออ คุณหนูครับ”
เมื่อเด็กชายเห็นว่าวิธวินท์พอใจจึงทำต่อไปให้เร็วยิ่งขึ้น ร่างใหญ่แอ่นสะโพกขึ้นรับสัมผัสเต็มที่ ปล่อยเสียงครางอย่างมีความสุขออกมาเป็นระยะ ลลิตรับรู้ถึงความชื้นที่มือที่ชายหนุ่มได้ปลดปล่อยออกมา เด็กชายจึงทำตามในหนังสือต่อ

วิธวินท์ขยับสะโพกตามจังหวะมือของเด็กชาย มือเล็กร้อนๆ ที่แตะต้องส่วนนั้นอย่างกล้าๆ กลัวๆ ถึงจะไร้การควบคุมแต่ชายหนุ่มก็รู้สึกดีที่คนที่กำลังคลุกเคล้าอยู่ด้วยตอนนี้คือร่างเล็ก ที่นั่งเกร็งตัวตามองจ้อง กางหนังสือ เหมือนกำลังทำการทดลองงานวิทยาศาสตร์ชิ้นสำคัญ
“อ่ะ อ่าาา” ชายหนุ่มนอนเปล่งเสียงครางออกมาไม่หยุด มือเล็กยังปรนนิบัติส่วนนั้นของเขาอย่างต่อเนื่อง และถี่กระชันยิ่งขึ้น
“อืออ อ๊ะ คุณหนูริช” วิธวินท์หลุดเสียงครางหอบออกมา เพราะลิ้นนุ่มๆ เปียกชื้นที่ปัดผ่านส่วนยอดอย่างแผ่วเบา ก่อนที่จะละลิ้นร้อนๆ ลงไปตามส่วนไวต่อความรู้สึกของเขาไปเรื่อยๆ
“อืออ” ชายหนุ่มแอ่นกายขึ้นอีกครั้งที่รับรู้ถึงริมฝีปากเล็กๆ ที่กำลังครอบลงมาที่ส่วนนั้นแล้วรูดขึ้นลงช้าๆ ชายหนุ่มหลับตาพริ้มนอนเกร็งรับความสุขที่ได้จากเด็กชาย มือที่ติดอยู่กับกุญแจถูกดึงจนเกิดเสียง กึกๆ ตลอดเวลาเพราะอยากจะควบคุมให้เด็กชายกลืนกินเขาให้มากกว่านี้ แต่ทำได้เพียงแอ่นกายขึ้นเพื่อเสนอเท่านั้น
ลลิตรับส่วนนั้นเข้ามาในริมฝีปากอย่างช้าๆ รูดริมฝีปากขึ้นลง มือน้อยก็ยังช่วยขยับไม่หยุด จนรู้สึกถึงอาการเต้นอย่างรุนแรงที่ส่วนนั้น เด็กชายเหลือบตาขึ้นมองชายหนุ่มที่นอนหลับตาแน่นหายใจถี่กระชั้น ปล่อยเสียงครางขาดเป็นห้วงๆ สะโพกก็แอ่นรับสัมผัสไม่หยุด แสดงถึงความความสุขที่ได้รับ เด็กชายจึงปฏิบัติต่อไปไม่หยุดพักและเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ
“อืออ อ่าาาาา” จนได้ยินเสียงแหยพร่าครางยาวของวิธวินท์ เด็กชายเหลือบตาขึ้นไปมองด้วยความแปลกใจ แต่จู่ๆ ก็รู้สึกถึงกระแสธารบางอย่างที่กรุ่นอยู่ในปากจนต้องผงะหน้าขึ้น แต่กระแสนั้นก็ยังไม่หยุด น้ำข้นๆ ถูกปลดปล่อยออกจากตัวชายหนุ่มอย่างแรง จนกระเด็นไปติดที่ริมฝีปากสีชมพูอิ่มด้วย
รสชาติแปลกๆ ภายในโพรงปากและความตกใจที่ชายหนุ่มปลดปล่อยออกมาลลิตจึงโดดลงจากเตียงแล้วก้าวถอยหลังเร็วๆ เข้าไปนั่งกองอยู่ในห้องน้ำ ปลายนิ้วเล็กๆ แตะที่ริมฝีปากของตัวเอง แล้วยกขึ้นมาดูสิ่งที่ติดอยู่ เด็กชายหน้าแดงก่ำและร้อนฉ่า ตากลมใสมองหยาดรักที่ติดอยู่ที่ปลายนิ้ว
“ไอ้บรูโน่บ้า ทำเลอะหมดเลย”

(http://upic.me/i/nn/2a428460.gif)

=========> โปรดติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 9 [03/06/54] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 03-06-2011 17:59:23
อ๊ายยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 9 [03/06/54] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Soukita ที่ 03-06-2011 18:12:28
น่ารักมาก โฮก :haun4:
ชอบเรื่องนี้มากมาย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 พบจิตแพทย์ 2/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 03-06-2011 18:15:03
น้องไนท์มาอ้อน(แบบเงียบ ๆ) ถึงเตียงอย่างนี้ เรียกว่ามี พัฒนาการ นะเนี่ย
แต่จะเลิศกว่านี้ ถ้าพี่เตจัดการ "กอดซะ" ตามคำสั่งแพทย์ ~ :m13:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 9 [03/06/54] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: nanzy ที่ 03-06-2011 18:27:44
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม
5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน
ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 9 [03/06/54] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 03-06-2011 18:36:41
อั๊ยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 9 [03/06/54] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 03-06-2011 18:48:46
อั๊ยยะ เกือบแล้วๆ ดูท่าบรูโน่ต้องนอนทรมานอีกนาน 5555+
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 9 [03/06/54] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 03-06-2011 18:54:30
บรูโน่ทำให้คุณหนูริชเสียเด็ก อร๊ายยยยย :haun4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 พบจิตแพทย์ 2/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: Mookkun ที่ 03-06-2011 19:24:13
น้องไนท์น่ารัก  :กอด1:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 9 [03/06/54] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 03-06-2011 19:50:52
สะสะ สุดยอดดดดดดดดดดดดดด
น้องลิตมีคู่มือด้วยอ่ะ.... :laugh:
สงสารบรูโน่จัง ไม่ได้กินน้องลิต :laugh:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 9 [03/06/54] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 03-06-2011 20:33:43
 :laugh:

ทำไมไม่ได้กัน๊าาา


อีายยย  ชั้นหื่นนน
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 9 [03/06/54] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 03-06-2011 21:00:50
ท่าทางคุณหนูต้องช่วยบรูโน่ทั้งคืน :m25:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 9 [03/06/54] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 03-06-2011 21:10:00
คุณหนูของช้านนนนนนนนนนนนนนนทำอะไรลงไปล่ะนั่น
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 9 [03/06/54] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 03-06-2011 21:41:20
 :-[ คุณหนูน่ารักมาก
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 9 [03/06/54] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 03-06-2011 21:45:50
แอร๊ยยย บรูโน่บ้า ทำเลอะหมดเล้ย อร๊ายๆๆๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 9 [03/06/54] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: Muzik ที่ 03-06-2011 22:07:29
ตายก่อนนะ :m25:
ไอ้บรูโน่บ้า น้องริชน่ารักเว้ยเฮ้ย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 9 [03/06/54] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: huimei ที่ 03-06-2011 22:31:25
(http://upic.me/i/nn/2a428460.gif) แอร๊ยยยยยยย !! เอาอีกกกกกกก 

:z1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 9 [03/06/54] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 03-06-2011 22:45:29
 สงสัย พี่วินจะต้องโดนรุกอย่างแน่นอน รอ น้องลลิต โตก่อน เหอะ อิอิ  :z1:

ขอบคุณค่ะ  
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 9 [03/06/54] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: nco1236 ที่ 03-06-2011 22:52:24
 :laugh: เลอะหมดเลย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/Ch.10-11 ค่ะ 2 ตอนติด (29/5/54)
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 03-06-2011 23:11:22
อ่านไป. มึนชื่อไป เราไม่ถนัดภาษาเกาหลีเลยจริง. อ่านไม่รู้เรื่อง
แบบว่าเป็นรุ่นเก่ายุคเจร็อคอ่ะพอมาk popแล้วไม่กระดิกเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 9 [03/06/54] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 03-06-2011 23:55:28
คุณหนูน่ารักอ่ะ มีกางคู่มือด้วย ยังกะแม่ครัวมือใหม่หัดทำกับข้าวเลยหลงคุณหนูมากขึ้นเรื่อยๆแล้วเนี่ย :กอด1:

ถ้าเรามาคุณดิทให้เป็นแบบนี้ล่ะ ถ้าคุณคนแต่งไม่ชอบใจบอกให้เราเอาออกก็ได้นะ


ร่างเล็กเปิดประตูห้องนอนแล้วปิดล็อคอย่างแน่นหนา พิงประตูหอบหายใจอย่างแรงเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นตามใบหน้า จนทำให้รู้สึกเย็นวูบเมื่อสัมผัสอากาศภายในห้อง ลลิตเอื้อมมือไปเปิดไฟกลางห้องให้สว่างไปทั่วทั้งห้อง เพราะเมื่อสักครู่ต้องการให้ชายหนุ่มได้นอนพักจึงเปิดแค่เพียงไฟหัวเตียงให้แสงเพียงสลัวๆ
เด็กชายวางหนังสือการ์ตูนหอบใหญ่พร้อมด้วยกระเป๋าหนังทรงแข็งสีดำไว้บนเตียง ลลิตขึ้นไปนั่งคุกเข่าข้างๆ ชายหนุ่มเหลือบตามองทั้งที่ยังไม่คลายจากอาการหอบ ริมฝีปากสีชมพูอ่ิมคลี่ยิ้มบาง ดวงตากลมโตหลี่ลงฉายแววเจ้าเล่ห์เล็กน้อย มือเล็กเริ่มเปิดกางหนังสือการ์ตูนสุดหวงของ
ตัวแล้วเสไปค้นกุกกักในกระเป๋าข้างตัว ร่างสูงเบิกตากว้างขึ้นเมื่อเห็นสิ่งที่เทวดาตัวน้อยของเขาหยิบออกมา เขาไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง
" บรูโน่ ฉันออกลองเล่นมานานแล้วล่ะ" มือบางเอื้อมคว้าส่วนร้อนรนของเขาแล้วเริ่มรัดตรึงด้วยเส้นหนังสีดำปักหมุดเป็นระยะ แม้ร่างกายจะโดนฤทธิ์ยากระตุ้นจนแทบไม่เป็นตัวของตัวเอง แต่จิตสำนึกก็ดิ้นรนต่อต้านคล้ายอยากจะปกป้องภาพลักษณ์อันอ่อนเยาว์ไร้เดียงสาของเจ้านายตัวน้อยไว้ สองตาหรี่ปรือมองหาทางดิ้นรน แล้วต้องผงะเมื่อเห็นของมากมายในกระเป๋าใบนั้น แส้หนังยาว เทียนไข และอุปกรณ์เลียนบางส่วนของร่างกายมนุษย์.....


ถ้าเป็นอย่างงี้เราคงขำตายเลย :m20:

หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 พบจิตแพทย์ 2/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: m_pop91 ที่ 04-06-2011 00:16:35
เพิ่งเข้ามาอ่านครับ
เรื่องน่ารักดีครับ นักเขียนคนเก่งของเรา
ทำให้เตดูเป็นผู้ชายที่อบอุ่นที่สุด
เป็นกำลังใจให้นะครับ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 9 [03/06/54] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 04-06-2011 00:22:42
จิ้มๆๆ ชอบๆๆ 555
 แต่ถ้ามีของขนาดนั้นคุณหนูคงไม่ต้องกางหนังสือแล้วมั้งครับ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 9 [03/06/54] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 04-06-2011 00:31:50
^
^
^
^
อา..........

ดื่มด่ำกับการจิ้มพรวด
:m13:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 9 [03/06/54] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 04-06-2011 06:37:57
ต๊าย คุณหนูริช ช่างน่าเอ็นดูเหลือหลาย
เข้าใจคิด เข้าใจทำ
ถ้าคุณหนูโตมากกว่านี้ มีหวังเป็นฝ่ายจับพี่วินกดแน่ เหอ เหอ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 พบจิตแพทย์ 2/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 04-06-2011 07:04:37
พี่เต น้องไนท์มาป้อนเอ๊ยอ้อนถึงเตียงแล้ว ยังจะอดใจไหวอีกเหรอ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 เซอไพร์ท 4/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: ภาพฝัน ที่ 04-06-2011 10:05:34
   เตชวัฒน์พาวริศรินทร์ออกไปพบเอเจนซี่ที่ว่าจ้างให้นายแบบหนุ่มถ่าย banner ads ของเสื้อผ้าแบรนดังจากเมืองนอก วริศรินทร์กำลังถอดเสื้อผ้าให้ช่างเสื้อวัดไซด์ซึ่งเหล่าบรรดาช่างเสื้อก็ทั้งวัดทั้งลูบซึ่งภาพนั้นสร้างความรำคาญใจให้ชายหนุ่มพอสมควร

   “น้องไนท์ผิวเนี๊ยน เนียว ผิวก็ลื่นด้วย ปูเป้ละอิจฉ๊า อิจฉา อยากมีผิวแบบน้องไนท์จังเลย” ปู้เป้ลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของนายแบบหนุ่ม วริศรินทร์เอียงตัวลบเล็กน้อยและมองด้วยสายตาว่างเปล่า

   “เอาละค่ะ เดี๋ยวขอวัดต้นขาหน่อยนะค่ะ” ปูเป้เปลี่ยนท่าทีเป็นการเป็นงานเมื่อสัมผัสได้ถึงบรรยากาศของที่นิ่งเฉยเกินไปของวริศรินทร์ ช่างเสื้อสาวรีบกุลีกุจรวัดขนาดร่างกายอย่างเป็นการเป็นงาน ซึ่งนั่นเป็นครั้งแรกทำให้เตชวัฒน์รู้สึกพอใจกับความนิ่งเฉยของวริศรินทร์

   “ไนท์ เดี๋ยวเราต้องไปทำสีผมใหม่นะ มีปัญหาใหม่” เตชวัฒน์เดินเข้าไปถามหลังจากที่วริศรินทร์ใส่เสื้อผ้ากลับเข้าไปเรียบร้อยแล้ว วริศรินทร์ส่ายหน้าช้าๆ

   “โอเคงั้นเราไปทำสีผมกัน” ร่างสูงใหญ่โอบไหล่อีกฝ่ายเดินออกมาทันที เตชวัฒน์พาวริศรินทร์ไปที่ร้านทำผมชื่อดังที่ได้รับการแนะนำมาจากเอเจนซี่เจ้าของแบรน เตชวัฒน์ต้องเป้นคนจัดการคุยเรื่องสีและรายละเอียดต่างๆ ของทรงผมเพราะตัววริศรินทร์นั้นไม่พูดไม่จา เอาแต่นั่งเงียบให้เขาจัดการทุกการโดยไม่ปริปากบ่น

   “ค่ะคงต้องกัดสีก่อนแล้วค่อยโกรกทับ แต่เสียดายผมแทนนะค่ะเนี่ย ผมทั้งนุ่มทั้งสวย ทำสีแบบนี้ผมคงเสีย” คำพูดของช่างทำผมทำให้เตชวัฒน์รู้สึกเสียดายเขายังจำความรู้สึกยามสัมผัสผมนุ่มลื่นนั้นได้

   “อีกประมาน2-3 ชั่วโมงถึงจะเรียบร้อยค่ะ” ช่างทำผมให้คำตอบและให้เขาไปนั่งรออยู่ที่โซฟาพร้อมเสิร์พชาร้อนมาให้

   แรกเริ่มเตชวัฒน์นั่งเปิดนิตยสารไปเรื่อยฆ่าเวลา จนฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าพรุ่งนี้ก็จะเป็นวันเกิดของวริศรินทร์แล้ว แต่เขายังไม่มีของขวัญให้อีกฝ่ายเลย

   “ไนท์ เดี๋ยวพี่ไปทำธุระแป๊บนะ เราอยู่คนเดียวได้ไหม” เขาเดินเข้าไปถามวริศรินทร์ที่เพิ่งสระผมเสร็จและกำลังจะเริ่มต้นตัดผม วรินทร์พยักหน้าตอบรับ

   “เดี๋ยวพี่มาครับ” เตชวัฒน์ยิ้มให้อย่างอ่อนโยน ก่อนจะเดินจากมา

   เตชวัฒน์มาที่ห้างสรรพสินค้าใจกลางกรุงเทพที่รวบรวมสินค้าแบรนเนมและของมีชื่อมาจากทั่วโลก เตชวัฒน์ลังเลว่าควรจะซื้ออะไรให้กับไนท์ดี เพราะเท่าที่ดูไนท์ก้ไม่มีอะไรชอบมากเป็นพิเศษ เขาเดินไล่ดูไปเรื่อยๆ ก็ไม่พบอะไรน่าซื้อจนไปสะดุดตากับแผนกของเล่น ตุ๊กตาลูกสุนัขตัวใหญ่ ชายหนุ่มรู้ว่าอีกฝ่ายชอบสุนัขแต่กฏของที่พักไม่อนุญาติให้เลี้ยงสัตว์

   “ต้องการซื้อ ตุ๊กตาให้ลูกชายเหรอค่ะ” พนักงานสาวเดินเข้ามาตอนรับ ทำให้เตชวัฒน์รู้สึกขัดเขิน เขาไม่คิดว่าวริศรินทร์จะเป็นลุกชายของเขาได้ แต่เขาก็ทำเพียงยิ้มและพยักหน้ารับ

   “ต้องการตุ๊กตาแบบไหนค่ะ” เขาตอบไปว่าอยากได้ตุีกตาสุนัข พนักงานขายคนนั้นพาเขาไปเลือกในโซนตุ๊กตาที่มีหลายหลายจนเขาเองก็เลือกไม่ค่อยถูก เตชวัฒน์เดินพิจรณาตุ๊กตาไปเรื่อย จนเขามาหยุดชะงักกับตุ๊กตาสุนัขสีน้ำตาลตัวใหญ่ที่เขาเห็นแล้วรู้สึกกับว่าคล้ายบราว ลุกสุนัขที่บ้านที่เขาให้ไนท์ตั้งชื่อ

   “ตัวนี้ครับ ผูกโบว์เป็นของขวัญให้ด้วยนะครับ” เขายิ้มส่งตุ๊กตาให้พนักงานขายแล้วไปชำระเงิน เตชวัฒน์อุ้มตุ๊กตาตัวใหญ่กลับไปที่รถ เขาดูเวลาที่นาฬิกาข้อมมือแล้วคิดว่ายังมีเวลาเหลือกับการนำตุ๊กตาไปเก็บ เขาหาที่เก็บอยู่นานในตอนแรกเขาคิดจะซ่อนไว้ในห้องนอนของตนแต่เขาก็ไม่รู้ว่าไนท์จะเข้ามาตอนไหน  เขาจึงเลือกเก็บในตู้เสื้อผ้าใบวใหญ่แต่ก็ต้องนำเสื้อผ้าบางส่วนออกมา กว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยก็กินเวลานาน

   เขามองเวลาอีกทีก็พบว่ามันเกินกำหนดที่จะไปรับไนท์แล้ว ร่างสูงใหญ่รีบกุลีกุจรออกไปจากห้องทันที เขาต้องไปรับไนท์หลังทำผมเสร็จซึ่งนี่มันกินเลยเวลา3ชัวโมงมาแล้ว

   “คุณไนท์เหรอค่ะ เมื่อสักครู่นี้เห็นอยู่แถวๆนี้นี่ค่ะ” พนักงานสาวตอบคำถามอย่างงุนงง เมื่อเตชวัฒน์เข้าไปแล้วไม่พบวริศรินทร์ เมื่อถามหลายๆ คนในร้านก็ไม่มีใครเห็นนายแบบหนุ่มมาพักใหญ่ๆ แล้ว

         “เมื่อสักครู่นี่มีคนมาบอกว่าคุณเตรอคุณไนท์อยู่ที่ร้านจอดรถค่ะ” พนักงานสาวคนหนึ่งตอบกลับมา  ซึ่งนั่นทำให้เตชวัฒน์รู้สึกเป็นห่วงและร้อนใจมากขึ้นไปอีก ในเมื่อเขาเพิ่งกลับมาจากการไปซื้อของแล้วจะเป็นได้ยังไงที่เขาจะบอกให้วริศรินทร์ออกไปหาที่ลานจอดรถ เตชวัฒน์ขอดูกล้องวงจรปิดของทางร้านในทันทีเมื่อฟังจบ และเมื่อย้อนเวลาไปดูตามกล้องวงจรปิด เขาเห็นไนท์เดินออกไปด้านนอกและมีคนโปะอะไรบางอย่างที่ใบหน้านายแบบหนุ่มจนหมดสติและโดนอุ้มขึ้นรถไป


........................................................
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 เซอไพร์ท 4/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 04-06-2011 10:08:50
^
จิ้ม
****************
คนนั้นแหงๆ ชื่ออะไรน้า จำไม่ได้ :laugh:
แต่มาจับตัวไนท์ไปแบบนี้มันน่านัก :m31:
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 เซอไพร์ท 4/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 04-06-2011 10:11:49
เครียดดดดดดดด
รู้สึกสั้นจัง
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 เซอไพร์ท 4/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 04-06-2011 10:40:47
กำ ดราม่าซะงั้น

หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 เซอไพร์ท 4/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: Mookkun ที่ 04-06-2011 11:13:41
เอ้ยยยยย!!!!!!!
ใครมาอุ้มไนท์ไปอ้ะ????!!!!!  :angry2:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 เซอไพร์ท 4/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 04-06-2011 11:31:01
เอาแล้ว ไอ้นายแบบตัวโกงนั่นแน่เลย
ฮึ่ยยย ไอ้ขี้อิจฉา เรียกร้องความสนใจ
พรุ่งนี้วันเกิดเค้านะยะ จับไม่ดูกาลเทศะ!
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 9 [03/06/54] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: คนของเธอ ที่ 04-06-2011 11:33:46
มันติดอยู่ที่ต้องกางหนังสือด้วยนี่แหละ  :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 เซอไพร์ท 4/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 04-06-2011 12:10:48
นั่นสิช่อ  ไอ้นั่นมันทำไรไม่ดูกาลเทศะเลย  แบนี้มันน่าตบให้เลือดกลบปาก :beat: :beat: :beat:




ตอนนี้สั้นจัง  แล้วไนท์จะเป็นไรไหม?????



คราวนี้ไม่ใช่ดราม่าหนักกว่าตอนที่เล่าถึงครอบครัวไนท์นะพี่ :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 เซอไพร์ท 4/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 04-06-2011 12:26:52
เลือกของขวัญจนลืมแบบนี้ไม่รู้จะโมโหดีมั้ย -*-
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 เซอไพร์ท 4/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 04-06-2011 13:11:28
สั้นจัง ใครกันนะมาจับตัวไนท์ไป
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 เซอไพร์ท 4/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 04-06-2011 13:37:55
ไอหยา!!!! ไนท์โดนอุ้ม!!! พี่เตนี่ก็น้า จะโกรธดีมั้ยเนี่ย ชิ!
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 เซอไพร์ท 4/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: คนของเธอ ที่ 04-06-2011 13:45:59
 :กอด1: 10 หน้ายาวๆ ลุ้นไปด้วยทุกตอน ขอให้ไนท์ปลอดภัย เพิ่งได้อ่านแค่ 2 สี รู้สึกว่าโดนจับตัวทั้ง 2 เรื่องเลย
โอยยย บีบตับ  :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 8 PG. 5 [31/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: คนของเธอ ที่ 04-06-2011 14:33:34
ขออย่าให้กริชโดนหลอกเลย  ถ้าป้าธเนศกลับมาจะเกิดอะไรขึ้นบ้างค่ะเนี่ย  :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 เซอไพร์ท 4/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 04-06-2011 15:10:26
ใครมาจับน้องไนท์ไป :a5:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 เซอไพร์ท 4/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 04-06-2011 15:14:25
เฮ้ย!!!!
นายแบบคนนั้นรึเปล่า
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/Ch.10-11 ค่ะ 2 ตอนติด (29/5/54)
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 04-06-2011 15:33:01
หวานกันได้ทุกสถานะการณ์จริงๆ o18
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 เซอไพร์ท 4/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 04-06-2011 16:03:01
เอ้า..พอใกล้วันประกาศจบแล้วลงสั้นจังค่ะ ให้ตื่นเต้นต่อหน่อยนึงก็ยังดีว่า พี่เตจะทำอย่างไรต่อไป
(surprise=เซอร์ไพรส์ ค่ะ)
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 เซอไพร์ท 4/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: epoch ที่ 04-06-2011 17:12:25
เย้ย...ยังงี้ไม่เอา.. อย่าทำอะไรน้องไนท์นะ ไม่งั้นแม่ยกมีเคือง
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 เซอไพร์ท 4/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 04-06-2011 18:51:22
ไม่ค่อยปลื้ม surprise แบบนี้ เพราะ ต้องลุ้นจนปวดตับ
โอม...จงอย่าดราม่า จงอย่าดราม่า ~ :call:
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 เซอไพร์ท 4/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: m_pop91 ที่ 04-06-2011 20:35:40
ไม่เอาเซอร์ไพร์ทแบบนี้ ฮืออออออออออออออออ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 8 PG. 5 [31/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 04-06-2011 21:19:56
ยุทธไม่น่าไว้วางใจเลย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 เซอไพร์ท 4/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 04-06-2011 21:21:01
เซอร์............... :a5:
ไพรส์ตรงไหมไม่ทราบบบบบบบบบบบบบบบบบบค้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :z3:
อีตาบ้า รพีพัฒน์แน่เลยยยยยยยยยยยยย   
รอตอนต่อไปค่ะ
ปล. เซอร์ไพรส์มากค่ะ พี่ๆเรนเจอร์จับนายเอกแต่ละเรื่องโดนลักพาตัวอีกแล้ว :เฮ้อ:
ปปล. สั้นมากกกกกกกกกกกกค่ะ  :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 เซอไพร์ท 4/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 04-06-2011 21:29:31
กะจะเซอร์ไพร์ท ด้วยของขวัญวันเกิด
กับต้องมาเจอเซอร์ไพร์ท กับการลูกลักพาตัว จะมีใคร ถ้าไม่ใช่ ไฮโซ ขี้อิจฉา
ตามตัวให้เจอเร็ว ๆ พี่เต แล้วก็จัดการสั่งสอนให้เข็ดหลาบ กับพวกไฮโซแต่ชาติตระกูล แต่นิสัยกุ้ย  :m16:
+1 เป็นกำลังใจให้ อย่ามาม่านะครับ 
ปล. เป็นพวกวิตกจริตเมื่อไหร่ไม่รู้  :z1:
หัวข้อ: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 11 เบาะแส 4/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 04-06-2011 22:43:31
(http://img28.mediafire.com/b6f242d94a346b9095740bdfdd1f8ac23fc115dbd2c7ec5da35aca98f1eb05c75g.jpg)

ตอนที่ 11 เบาะแส

   รถกระบะตราโล่เลี้ยวเข้ามาในถนนสายเล็กที่คลาคล่ำไปด้วยร้านรวงผับบาร์อาจจะเรียกได้ว่าเป็นถนนสายเริงรมย์สำหรับชนชาวสีม่วงโดยแท้ ที่หน้าด้านหน้าแต่ละร้านมีชายหนุ่มคอยยืนดักต้อนให้คนที่เดินผ่านไปมาให้เข้าไปใช้บริการในร้านของตน บรรดาคนเหล่านี้อาจจะมีผิดแผกแตกต่างกันไปบ้างตามรูปลักษณ์ภายนอกที่มองเห็นแต่งสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือมธุรสวาจาที่เอื้อนเอ่ยออกมาเชิญชวนชักจูงให้เข้าไปใช้บริการ
   นายตำรวจหนุ่มในเครื่องแต่งกายที่แปลกออกไปจากปกติเพียงเล็กน้อยเขาถอดเสื้อเครื่องแบบออกแขวนเอาไว้ด้านหลังที่นั่งคนขับ มีเพียงเสื้อยืดคอกลมขลิบรอบคอสีแดงเลือดหมูสวมทับด้วยแจ็คเก็ตสีดำพอดีตัวแต่กางเกงยังคงเป็นสีกากีและรองเท้าหนังเฉกเช่นที่เคยเป็นมา เขาเลี้ยวรถเข้ามาจอบในซอยใกล้ ๆ กับ      เดอะบัตเตอร์ฟลายบอย เล็กน้อย ส่วนคนที่นั่งอยู่ด้านข้าง สวมใส่เสื้อโปโลสีม่วงแดงกับกางเกงขาเดฟสีขาวและรองเท้าหนังปลายเรียวสีน้ำตาลอ่อน ใบหน้าใส ๆ แก้มนวล ๆ ชวนให้น่าสัมผัสและลูบไล้ เล่นเอาคนที่ทำหน้าที่สารถีอยู่ไม่สุขเผลอแอบชำเลืองมองเอาอยู่บ่อย ๆ   เมื่อรถกระบะตราโล่พาหนะคู่ใจของยอดสารถีเข้าจอดสนิทและดับเครื่องยนต์จนเรียบร้อย หน่องที่ตั้งท่าเตรียมจะเปิดประตูลงจากรถ กลับต้องตกใจเมื่ออยู่ดี ๆ มือหนาใหญ่ของผู้หมวดหนุ่มกลับมาคว้าจับต้นแขนของเขาเอาไว้เสียก่อน หน่องเองถึงแม้จะไม่ค่อยพอใจเท่าใดนักทำได้เพียงแต่ส่งเสียงจิเบา ๆ ออกจากปาก ก่อนจะหันไปถลึงตาใส่ตัวต้นเหตุ
   "นี่คุณเรามาตกลงกันก่อนสักนิดดีไหม อย่างเพิ่งดุผมสิคุณ" หมวดพชรเอ่ยบอกก่อนจะคลายมือออกจากท่อนแขวนของคนข้าง
   "มีอะไรก็ว่ามาสิหมวด" หน่องเอ่ยถามเสียงเขียว
   "ก็แถวนี้มันเป็นยังไงคุณไม่รู้เหรอ เดินเทิ่ง ๆ ไปเรื่อย ๆ คนเดียวเดี๋ยวก็โดนคนหิ้วไปหรอก" หมวดหนุ่มบอกยียวนก่อนจะยิ้มยั่วใส่
   "ไม่มีใครเค้ามาสนใจผมหรอก อีกอย่างผมว่าผมเอาตัวรอดได้หรอกน่า" หน่องบอกเสียงดังฟังชัดแบบเต็มสองหูคนช่างยั่วเต็ม ๆ
   "นี่คุณไม่รู้ตัวเองมั่งเลยเหรอ ช่างเหอะ เอาเป็นว่า ถ้าผมจะจูงมือ โอบเอว หรือกอดคอคุณบ้างก็อย่าว่าอะไรผมแล้วกัน ถือซะว่าผมเป็นไม้กันหมาให้คุณฟรี ๆ " หมวดหนุ่มเปลี่ยนโหมดกะทันหันเล่นเอาหน่องนิ่งอึ้งด้วยความงงอยู่เพียงครู่ ปล่อยให้สารถีเปิดประตูลงจากรถแล้วอ้อมมาเปิดประตูให้ตัวเองพร้อมกับเอามือมาจับจูงมือให้ลงจากรถแล้วเดินตามต้อย ๆ ไปติด ๆ
   "นี่แล้วคุณแน่ใจได้ยังไงว่าเอกวิน นรลักษณ์ เค้ามาที่นี่ก่อนที่เค้าจะตาย" หมวดพชรเอ่ยถามก่อนจะหยุดเดินหันกลับมามองจ้องตาคนที่จับมือจูงอยู่
   "ก็พี่อ๊อบนะสิ เค้าเป็นคนบอกกับผมเอง" หน่องเอ่ยตอบพร้อมกับหลุบตามองเพียงแต่มือใหญ่ที่จับข้อมือของเค้าจูงอยู่
   "แล้วหมวดก็ปล่อยมือเถอะผมไม่ใช่เด็กเล็ก ๆ นะ ผมเดินตามหมวดไปเองได้" หน่องร้องท้วงก่อนจะพยายามเอามือที่ว่างมาแกะมือหนาใหญ่ที่เกาะกุมข้อมือของตนไว้ออก
   "ไม่เป็นไรผมไม่ถือ" หมวดหนุ่มบอกก่อนจะปล่อยข้อมือเล็กออกแล้วเอามือไปสอดประสานกับมือที่เล็กกว่าเอาไว้แล้วเริ่มออกเดินอีกครั้ง

   แสงไฟกระพริบไหววูบวาบ เสียเพลงดังกระแทกกระทบเข้าโสตประสาททันทีที่ประตูด้านหน้าเปิดรับทั้งคู่เข้าไป  ทั้งสองเข้ามาหยุดยืนรออยู่ที่หน้าประตูชั้นในซึ่งเป็นกระจกฝ้าหนาจนไม่สามารถที่จะแลทะลุเข้าไปให้เห็นถึงด้านในได้ชัดเจนนัก มีเพียงเงาวูบวาบจากแสงกระพริบที่สาดผ่านร่างของบรรดานักเที่ยวที่กำลังลุกขึ้นโลดแล่นไปกับเสียงเพลงอันสุดแสนจะเร้าใจและลีลาชวนสยิวของนักเต้นบนเวทีพร้อมกับเสียงตะโกนเชียร์สลับกับผิวปากแหลมสูงและเสียงปรบมือ
   ผู้หมวดพชรทำทีเอามือโอบบ่าคนข้าง ๆ ที่มาด้วยกันเอาไว้ ก่อนจะเอามืออีกข้างที่ว่างยื่นส่งกระดาษใบเล็กสีขาวไปให้กับพนักงานต้อนรับพร้อมกับเอ่ยปาก
   "ผมมาขอพบผู้จัดการร้านเดอะบัตเตอร์ฟลายบอยครับ ผมมีเรื่องอยากสอบถามเสียหน่อย" หมวดหนุ่มกล่าวก่อนจะส่งยิ้มหวานไปให้ชะนีแปลงด้านหน้า
   "ได้ค่ะ เดี๋ยวรบกวนหมวดรอสักครู่ ดิฉันจะไปเรียนผู้จัดการให้คะ" หล่อนรับนามบัตรจากมือนายตำรวจหนุ่มพลางชำเลืองมองดูเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยพร้อมกับแยกตัวไป

   "สวัสดีครับหมวด ผมชื่อกริช ทำหน้าที่รักษาการแทนผู้จัดการของเดอะบัตเตอร์ฟลายบอยครับ ไม่ทราบว่าหมวดมีเรื่องอะไรจะสอบถามหรือครับ" กริชกล่าวทักทายเมื่อพนักงานของร้านนำหมวดตำรวจและเด็กหนุ่มขึ้นมาพบเขาที่ห้องทำงาน
   "ครับ สวัสดีครับ ผมร้อยตำรวจโทพชร  และนี่คุณนิวัฒน์ แก่นกำภู เป็นเพื่อนกับคุณเอกวิน นรลักษณ์และเป็นนักข่าวด้วย" ร้อยตำรวจโทพชร เอ่ยแนะนำหน่องด้วยอีกคน
   "สวัสดีครับคุณกริช" หน่องเอ่ยทักทายอย่างเป็นกางการ
   "เอกวิน นรลักษณ์ คุณหมายถึงอเล็กซ์เหรอครับ" กริชถามออกมาด้วยสีหน้าแสดงความสงสัยเอาไว้ไม่มิด
   "ใช่ครับก่อนเค้าจะตาย เค้ามางานเลี้ยงฉลองวันเกิดใครสักคนที่นี่" หน่องถามร้อนรนตรงประเด็น
   "ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน ผมเพิ่งจะเข้ามารับตำแหน่งได้ไม่นาน ผมเองไม่รู้จักกับเอกวินเป็นการส่วนตัวเสียด้วยสิครับ   แต่..."  กริชบอกก่อนจะหยุดชะงักไปเพราะเสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขัดจังหวะขึ้นมาเสียก่อนพร้อมกับร่างของบริกรในชุดนุ่งน้อยห่มน้อยเสียจนไม่มิดชิดอวดสรีระรูปร่างยั่วตายั่วใจดันประตูเปิดเข้ามา
   "ก๊อก! ก๊อก! คุณกริชครับ เจ้ญ่าให้ผมเอาเครื่องดื่มมาให้ครับ" หนุ่มน้อยในชุดอวดเนื้อหนังเดิมเข้ามาพร้อมกับยกแก้วค็อกเทลสีสวยมาวางลงตรงหน้าของแขกทั้งสองก่อนจะหันหลังกลับออกไป
   "พี่ธัญญ่า น่าจะรู้เรื่องนี้ดีกว่าผมนะครับ เดี๋ยวผมให้คนไปตามมาให้แล้วกัน" กริชพูดก่อนจะเดินออกไปจากห้องปล่อยให้แขกสองคนนั่งอยู่บนโซฟาในห้องทำงานของเขา

   "คุณว่าคืนนั้นอเล็กซ์มาที่นี่จริง ๆ ใช่ไหม" นายตำรวจถามอย่างงสงสัยใคร่รู้พลางหันหน้าไปสบตากับคนข้าง ๆ ที่กำลังยกแก้วเครื่องดื่มสีสวยขึ้นมาจิบ
   "ก็พี่อ๊อบบอกว่ามาก็ต้องมาสิ แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าขากลับ กลับไปตอนไหน กับใครนะสิ" หน่องตอบพลางละเลียดจิบชิมเครื่องดื่มไปเรื่อย ๆ
   "คุณ... ดูทำเข้าสิ กินเข้าไปเยอะเดี๋ยวก็เมาหรอก คุณเป็นคนชวนผมมาสืบคดีไม่ใช่เหรอ" หมวดหนุ่มบอกพลางเอามือแตะเข้าที่แขนของหน่องเพื่อปราม
   "ไม่เมาหรอกน่า น้ำผลไม้นี่อร่อยดีออก" หน่องบอกพลางหันมายิ้มให้จนตาหยีก่อนจะกระดกยกดื่มเสียจนหมดแก้วในคราเดียว แล้วแอบไปคว้าอีกแก้วตรงหน้าหมวดพชรมาดื่มไปหลายอึก
   "เฮ้ย! บอกอะไรทำไมไม่ฟังกันบ้างนะ ดื้อจริง ๆ เชียว คุณนี่" หมวดหนุ่มเอ่ยพร้อมกันสั่นศีรษะเล็กน้อยไปให้อย่างระอา
   "ก็มันอร่อยดีนี่ หวาน ๆ หอม ๆ หมวดไม่ชิมหน่อยเหรอ" หน่องบอกพลางยกแก้วในมือไปจ่อที่ริมฝีปากของนายตำรวจก่อนจะยิ้มหวานไปให้ ทั้งที่ใบหน้าเริ่มแดงเพราะฤิทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไป

   กริชกลับเข้ามาในห้องอีกครั้งพร้อมกับธัญญ่า ทั้งสองหันไปมองสบตากันเพียงครู่ก่อนที่กริชจะกระแอมออกมาเบา ๆ เพื่อให้ทั้งสองคนที่โซฟาได้รู้สึกตัวว่าไม่ได้อยู่กันเองเพียงลำพัง หน่องหันกลับมาส่งตาเชื่อมหวานให้กับผู้มาใหม่ ก่อนจะโดนหมวดหนุ่มคว้าแก้วในมือของหน่องมาไว้แล้วกระดกยกดื่มจนหมด

   "นี่พี่ธัญญ่า เป็นผู้ช่วยของผมครับ และพี่เค้าก็รู้จักกับอเล็กซ์ดีกว่าผมแน่ ๆ" กริชแนะนำธัญญ่าให้ทั้งสองรู้จักก่อนจะพากันไปนั่งที่โซฟาฝั่งตรงข้าม
   "สวัสดีค่ะ หมวดอยากจะทราบเรื่องอะไรบ้างคะ ถ้าตอบได้ดิฉันจะตอบให้ทั้งหมด" ธัญญ่ากล่าวทักก่อนจะเอ่ยถามออกไป ซึ่งหมวดเองก็เริ่มเปิดประเด็นซักถามพูดคุยกันจนเวลาล่วงผ่านไป หมวดหนุ่มจึงอำลาพร้อมกับพานักข่าวคอแป๊บกลับออกไป

   "กลับไปแล้วครับท่าน เห็นคุยกันนานพอดู ผมเองก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกันว่าข้างในเค้าคุยอะไรกันบ้าง"
   'ลงมือจัดการตามที่สั่งรึยัง อย่าให้มีพิรุธทำให้เหมือนกับว่าเป็นอุบัติเหตุแล้วกัน คนอื่นจะได้ไม่สงสัย'
   "เรียบร้อยแล้วครับท่าน ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ตอนนี้ฝนกำลังตกพอดี ถนนกำลังลื่น หากว่าขับรถเร็วแล้วต้องเบรกกะทันหัน คงมีอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นอีกรายในคืนนี้ครับ"
   'ดี จัดการให้เรียบร้อย แล้วโทรกลับมารายงานด้วย'
   
   ร้อยตำรวจโทพชร โอบประคองหน่องที่กำลังมึนเมาอันเป็นผลมาจากเครื่องดื่มสีสวยรสหวานลิ้นแต่เปี่ยมด้วยแอลกอฮอล์ ความหวานของน้ำผลไม้ที่กลบกลิ่นและรสขมของมันเอาไว้กลับช่วยผลักดันฤิทธิ์ให้แรงยิ่งขึ้นตอนนี้เองที่หน่องคนเก่งถึงกับเดินโซเซใกล้จะหมดแรงไปเสียเฉย ๆ ใบหน้าแดงซ่าน เปลือกตาก็หรี่ปรือไปเสียแล้วหมวดหนุ่มเปิดประตูรถออกกว้างก่อนจะจับคนเมายัดเข้าไปที่เบาะหน้าจนเรียบร้อย เขาปิดประตูรถแล้วอ้อมไปยังที่นั่งฝั่งตรงข้ามเพื่อทำหน้าที่สารถีนำพาหนะคู่ใจออกจากที่จอดมุ่งหน้ากลับไปยังทางเก่าตอนขามา

_____________________________________________________________

มาเร็วไปไหมคะ

ความน่ากลัวคือสิ่งที่หนูชอบรึเจ้าคะ  :กอด1:

v
v
v

หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 8 PG. 5 [31/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 04-06-2011 22:48:51
ยังอ่านไปได้แค่สองตอนค่ะ
แต่ขอเม้นท์ก่อนว่า
ในชีวิตอยากไปเที่ยวบาร์เกย์สักครั้ง
ยิ่งเห็น butterfly แล้ว ตรูต้องไปให้ได้ :laugh:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 10 เบาะแส 4/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 04-06-2011 22:52:16
ไม่ทันมันเลยครับตอนนี้  แล้วก็ไม่มีตอนน่ากลัวด้วย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/Ch.12-14 ค่ะ 3 ตอนติด (3/6/54)
เริ่มหัวข้อโดย: Nassiiz ที่ 04-06-2011 22:56:26
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 10 เบาะแส 4/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 04-06-2011 23:06:21
มาลุ้น หน่องกับหมวดพชรจะรอดหรือป่าว :z2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราũ
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 04-06-2011 23:10:02
ไหนของหวานหว่า เกือบเหมือนตอนหน้าจะมีถ้าไม่มีไอ้เสียงปริศนานี่ซะก่อน
ฮึ่มมม ของหวานชั้นอยู่หนายยยย
ปล. ไอ้คนบงการยังอยู่อีกเหรอ ตายไปตั้งเยอะยังเหลืออีกเรอะ!!!
ปลล. มันต้องเป็นตอนที่ 11 แล้วนะคะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 เซอไพร์ท 4/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: Muzik ที่ 04-06-2011 23:10:14
คราดสายตาไม่ได้เลย :z3:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 10 เบาะแส 4/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 04-06-2011 23:26:46
หวังว่าผีคุณเพื่อนจะช่วยหน่องกับหมวดได้นะ หวังมากไปมั้ยวะเรา T^T
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ100% P:7[1/6/11]
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 04-06-2011 23:41:52
ปลายฟ้าเค้าก็รักนะ แต่เค้ารักสายลมมากกว่า อะดิ 

ยืดอีกตอนก็ไม่เป็นไร ค่ะ ยิ่งเยอะยิ่งชอบ อิอิ ถ้ายืดไปถึงตอนพี่สายลมกลับชาติมาเกิดแล้วก็ระลึกชาติได้
กลับมารักปลายฟ้าใหม่ ซึ่ง ตอนนั้น ปลายฟ้าก็แค่ วัยรุ่นตอนปลาย เอง

 :impress3: คิดถึงพี่สายลม อ่ะ  
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 10 เบาะแส 4/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 04-06-2011 23:52:36
ง่า จะปิดเรื่องทันกำหนดไหมหนอเรื่องนี้

หวังว่าอเล็กจะโผล่มาลาหน่องเฉยๆนะ อย่าไปหักคอหมวดเลย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/Ch.12-14 ค่ะ 3 ตอนติด (3/6/54)
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 05-06-2011 00:02:57
โล่งอกได้ไม่นาน งานก็เข้าแล้ว ดีนะที่อยู่รวมกันได้แล้ว
แล้วจะทำไง ถึงจะปราบพวกนี้ได้หมดละเนี่ย ลุ้นๆ 
........ :3123:.............
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 10 เบาะแส 4/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 05-06-2011 00:15:45
   "กลับไปแล้วครับท่าน เห็นคุยกันนานพอดู ผมเองก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกันว่าข้างในเค้าคุยอะไรกันบ้าง"
   'ลงมือจัดการตามที่สั่งรึยัง อย่าให้มีพิรุธทำให้เหมือนกับว่าเป็นอุบัติเหตุแล้วกัน คนอื่นจะได้ไม่สงสัย'
   "เรียบร้อยแล้วครับท่าน ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ตอนนี้ฝนกำลังตกพอดี ถนนกำลังลื่น หากว่าขับรถเร็วแล้วต้องเบรกกะทันหัน คงมีอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นอีกรายในคืนนี้ครับ"
   'ดี จัดการให้เรียบร้อย แล้วโทรกลับมารายงานด้วย'
   
  ท่าน คนนี้เป็นใคร อย่าบอกว่า เป็น หม่อม นะ    ยิ่งคิดก็ยิ่งสงสัย แต่ว่า ทำไมใจร้ายจัง แค่นี้ ก็ถึงกับต้องวางแผนฆ่าด้วยนะ 
 :call: สาธุ ขอให้อเล็กซ์ ช่วย หน่องด้วยนะ  
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 ความอดทน 4/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: ภาพฝัน ที่ 05-06-2011 00:20:14
   ทันทีที่เขาเห็นภาพในกล้องวงจรปิด เตชวัฒน์เกิดความรู้สึกว้าวุ่นขึ้นมาทันที ไนท์โดนลักพาตัวเขาใช้เวลาชั่วครู่ในการรวบรวมสติ

   “ผมขอบันทึกกล้องวงจรปิดนี้ไว้ก่อน จัดเตรียมไว้ให้ผมด้วยเป็นหลักฐาน” เตชวัฒน์จัดการเรื่องปัญหาเฉพาะหน้า แล้วจัดการโทรหาวุฒิพลทันที

   “ไนท์โดนลักพาตัว” ทันทีที่ชายสูงวัยรับรู้ข่าวคาราวเขาร้องออกมาอย่างตกใจ

   “เตอย่าเพิ่งแจ้งตำรวจนะ” คำสั่งนี้ทำให้เขาชะงัก ไนท์ถูกจับตัวไปแต่กลับไม่ให้แจ้งตำรวจ

   “อาครับ ไนท์โดนลักพาตัวนะครับ ไม่แจ้งตำรวจแล้วผมจะหาตัวไนท์ได้ยังไง” เตชวัฒน์เริ่มหงุดหงิดเมื่อผู้เป็นอาไม่ยอมให้ความร่วมมือในการค้นหาไนท์ ซึ่งตอนนี้ไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดียังไง

   “แจ้งตำรวจไปก็เท่านั้น ไนท์จะยิ่งเสียชื่อ สู้เอาเวลามาหาที่อยู่ไนท์ดีกว่า” เสียงของวุฒิพลดูสงบ

   “อาครับ แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าไนท์อยู่ไหน ถ้าตำรวจไม่ช่วยเราจะหาไนท์เจอไหม” ตอนนี้เตชวัฒนืเริ่มโมโหผู้เป็นอาที่ยังคงนิงเฉยอยู่

   “ตาเตใจเย็นๆ แล้วบอกอามาสิ เมื่อช้าไนท์ใส่นาฬิกาหรือเปล่า” วุฒิพลถามอย่างใจเย็น เตชวัฒน์นึกย้อนกลับไปตอนเตรียมเสื้อผ้าให้กับวริศรินทร์แล้ว

   “ใส่ครับ”

   “นั่นแหละ มีจีพีเอสอยู่ เดี๋ยวมาเอาเครื่องติดตามและเอาบอดี้การ์ดไป” นั่นทำให้เตชวัฒนืถอนใจด้วยความโล่งอก เขารีบกลับไปที่บริษัททันที

   “ทอย เจอกันที่บริษัทฉัน มาไวๆ ไนท์โดนลักพสกตัวแกต้องไปด้วย” เตชวัฒน์ชวนธรรศกฤตไปด้วย เพื่อที่ว่าเกิดต้องเจรจาต่อรองอะไร ธรรศกฤตจะช่วยให้ง่ายขึ้น เขามาถึงบริษัทก็เดินขึ้นลิฟทืไปในทันที วุฒิพลจัดการทุกอย่างไว้หมดแล้ว เตรียมแม้กระทั่งบอดี้การ์ดประมาน5คนไว้ให้เขา

   “ช่วยน้องมาให้ได้นะ” วุฒิพลฝากฝังกับเตชวัฒน์ เมื่อจัดการธุระกับผู้เป็นอาเรียบร้อยแล้ว เตชวัฒน์ลงมาเจอกับธรรศกฤตที่ต้านล่าง ทั้งคู่เดินทางไปตามสัญญาณเพื่อไปหาที่อยู่ของวริศรินทร์

   จีพีเอสนำมาสู่หมู่บ้านชานเมืองที่เงียบสงบ ที่นี่เป็นหมู่บ้านโครงการเล็กๆ ที่มีเป็นบ้านเดี่ยวและมีบริเวณพอสมควรสัญญาณนำพวกเขามาหยุดที่บ้านหลังหนึ่ง บริเวณรอบๆเงียบสงบไม่มีการเคลื่อนไหว ทั้งหมดจอดรถห่างออกไปแล้วค่อยๆ ย่องเข้าไปในบริเวณบ้าน เตชวัฒน์ ธรรศกฤต และเหล่าบอดี้การ์ดร่างใหญ่กำลังลอบเข้าไปในตัวบ้านเสียงพูดคุยให้ได้ยินอยู่ไกลๆ พวกเขาซ่อนตัวเมื่อมีเสียงเปิดประตูออกมา ระพีพัฒน์นายแบบหนุ่มรูปหล่อเป็นคนเดินออกมาจากห้องโดยมีชายฉกรรย์ร่างสูงใหญ่ดึงออกมา นายแบบหนุ่มมีท่าทีหงุดหงิดจนทั้งคู่เหมือนมีปากเสียงกันจนชายฉกรรย์ทำท่าจะทำร้ายนายแบบหนุ่ม  ระพีพัฒนืพูดอะไรบางอย่างทำให้อีกฝ่ายเงื้อมือจะทำร้าย แต่ก่อนที่จะเกิดอะไรขึ้นธรรสกฤตก็พุ่งเข้าไปหาทันที สักพักเดียวร่างของชายฉกรรย์ก็ล้มลง เข็มฉีดยาขนาดเล้กอยู่ในมือจิตย์แพทย์หนุ่ม

   “ยานอนหลับอ่อนๆ นะ” ธรรศกฤตพูดด้วยน้ำเสียงง่ายๆสบายๆ แต่ทำให้บุคคลในบริเวณนั้นตกอยู่ในความเงียบ  

   “พวกนาย” ระพีพัฒน์ร้องเสียงดังเมื่อได้สติกลับมาแล้วพบร่างสูงใหญ่ของผุ้บุกรุกก่อนที่นายแบบหนุ่มไฮโซจะร้องขึ้นมาธรรศกฤตพุ่งเข้าไปปิดปากทันที

   “จุ๊ๆ อย่าร้องครับ ถ้าไม่อยากเจ็บตัว” จิตแพทย์หนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ และรอยยิ้มแต่ดวงตาของเขาจ้องมองนายแบบหนุ่มไฮโซนิ่ง

   “เต ทางนี้ฉันจัดการ  เจรจา เอง” รอยยิ้มเยียบเย็นที่จิตแพทย์หนุ่มเผยขึ้นมา ทำให้เตชวัฒน์พยักหน้ารับในทันที

   “รู้สึกเรามีเรื่องต้องคุยกันนะ” เสียงกระซิบที่อ่อนหวานแต่นั่นทำให้ระพีพัฒน์รู้สึกเย็นวาปไปถึงกระดูกสันหลัง เขาได้แต่ใช้สายตามอง คนเหล่านั้นเดินตรงไปที่ประตูที่ระพีพัฒน์ออกมาทันที

   เตชวัฒน์แง้มประตูมองลอดเข้าไปที่ประตูที่ระพีพัฒน์เดินออกมา ภาพที่เห็นทำให้เขาโมโหจนเลือดขึ้นหน้า วริศรินทร์อยู่ในสภาพโดนมัดแขนอยู่บนเตียงนอน เสื้อถูกกระชากออกจนเห็นผิวกายที่ขาวเป็นประกาย

   “ไอ้นี่ ถามอะไรก็ไม่ตอบถือว่าเป็นนายแบบแล้วทำหยิ่งหรือไงว่ะ” ชายฉกรรย์ร่างสูงใหญ่สบถด่า ก่อนที่ฝ่ามือหนาจะตบเข้าไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของวริศรินทร์  ซึ่งนั่นทำให้ความอดทนของเขาขาดพึง เตชวัฒน์พุ่งเข้าไปกระชากร่างของชายที่มทำร้ายร่างกายของนายแบบหนุ่ม เหล่าบอดี้การ์เข้าไปชาจชายฉกรรย์อีก3คนที่เหลือที่ทำท่าจะพุ่งเข้ามา ทำให้เกิดความชุลมุนภายในห้อง ใช้เวลาไม่นานนักทุกอย่างก็เรียบร้อย เตชวัฒนืได้แผลที่มุมปากกับแผลฟกช้ำตามร่างกายบางส่วน ส่วนคนที่เหลือเหล่าบอดี้การ์ดจับมากองรวมกันไว้

   “ไนท์เป็นอะไรหรือเปล่า” เตชวัฒน์ลูบไล้ใบหน้าซีดเซียวอย่างแผ่วเบา เขาแปะผมผ้าที่มัดเอาไว้ ผิวขาวเนียนละเอียดเป็นรอยช้ำที่ข้อมือ เช่นเดียวกับใบหน้า ซึ่งนั่นทำให้เขารู้สึกเจ็บแปล๊บในอก เตชวัฒน์พยุงให้นายแบบหนุ่มลุกขึ้นนั่งแล้วใช้อ้อมแขนอบอุ่นและแข็งแรงกอดรักเอาไว้แนบอก

   “พี่ขอโทษที่ทำให้ไนท์เจอเรื่องแย่ๆ” เสียงของเขาสั่นเครือด้วยความสะเทือนใจที่ปล่อยให้วริศรินทร์ถูกทำร้ายจนบอบช้ำ ทันทีที่ได้ฟังเสียงทุ้มนุ่มที่แลดูเจ็บปวดแขนเรียวยกขึ้นโอบกอดชายหนุ่มช้าๆ ซึ่งนั้นทำให้อ้อมกอดของชายหนุ่มรัดเขาแน่นขึ้นกว่าเดิม

   “ไม่เป็นไรนะครับ” เขาถามย้ำ กอดรัดร่างของไนท์ไว้แน่นราวกับว่าจะหลุดลอยไป

   “กลับบ้านเรานะครับ” เขากระซิบอย่างอ่อนโยน เตชวัฒน์อุ้มวริศรินทร์ขึ้นแล้วเดินออกไปนอกห้องธรรศกฤตรออยู่ตรงนั้นพร้อมระพีพัฒน์ที่ถูกจับมัดไว้แน่น แล้วพยายามดิ้นไปดิ้นมา

   “เอาไปไว้ที่รถชั้น ดิ้นแรงชิบ” จิตแพทย์หนุ่มพูดอย่างร่าเริง แต่เตชวัฒน์ทำหน้าไม่พอใจเมื่อเห็นใบหน้าของอีกฝ่าย

   “ไม่มีอะไรหรอกเต เดี๋ยวฉันจัดการเอง นายอุ้มไปไว้ที่รถฉัน” ธรรศกฤศออกคำสั่งเพราะตอนนี้ระพีพัฒน์ถูกมัดมือไว้แน่น และเจ้าตัวพยายามจะดิ้น  

   “ระพีพัฒน์ครับ ผมแนะนำว่าให้อยู่นิ่งๆดีกว่าถ้าไม่อยาก” จิตแพทยืหนุ่มหยิบเข็มฉีดยาเล่มเล็กขึ้นมา ซึ่งทุกคนก็ได้รับรู้แล้วว่าภายในใส่อะไรเอาไว้

   “ดีมากครับ ว่าง่ายๆ” ระพีพัฒนืถูกพาตัวไปแล้วและก่อนที่เตชวัฒน์จะก้าวขึ้นรถเขาโดนรั้งตัวเอาไว้

   “ขอดูอาการหน่อย” ธรรศกฤศบอกเพื่อนของตนแล้วเข้ามาดูอาการของวริศรินทร์คร่าวๆ จิตย์แพทหนุ่มหยิบเข็มฉีดยาขึ้นมา

   “อะไร” เตชวัฒน์ส่งเสียงถามในทันที

   “ยาคลายเครียดนะ ไม่อันตรายจะทำให้หลับสบาย” ธรรศกฤศตอบคำถามแล้วมองหน้าเตชวัฒนืประมานว่าจะให้ฉีดไหม

   “ไนท์ฉีดยาได้ไหม” เขาถามนายแบบหนุ่มรุ่นน้องที่ยังนิ่งเฉย ซึ่งก็ได้รับการตอบตกลงโดยการพยักหน้า  

   “โอเคเรียบร้อยแล้ว พักผ่อนให้ดีๆ ส่วนแผลที่หน้าไม่น่ามีปัยหาอะไรแต่เอาผ้าเย็นประคบหน่อยน่าจะดี ไม่มีอะไรแล้ว ส่วนนายแบบคนนั้นฉันจัดการเอง” รอยยิ้มของจิตย์แพทย์หนุ่มในตอนท้ายเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์จนเตชวัฒน์รู้สึกเสียวสันหลัง

   ระหว่างขับรถกลับมาที่คอนโดวริศรินทร์เงียบตลอดทาง เตชวัฒนืไม่ได้ถามคำถามแต่เขาลอยสังเกตุร่างที่อยู่เคียงข้าง ดูเหมือนไนท์จะมีอาการตกใจอยู่แต่ไม่ได้แสดงออก พวกเขาสะดุ้งเมื่ออยู่ๆ ฟ้าก็ผ่าลงมาแล้วฝนก็ลงมาหนัก เตชวัฒน์เอื้อมมือไปกุมมือของวริศรินทร์เอาไว้

   “ไม่เป็นไรพี่อยู่นี่” เตชวัฒน์กระซิบอย่างอ่อนโยน

   ไม่นานนักก็มาถึงที่พัก ดูเหมือนยาที่จิตแพทย์หนุ่มเริ่มจะออกฤทธิ์ เพราะวริศรินทร์ซะลึมสะลืดเหมือนจะหลับจนเตชวัฒน์ต้องให้อีกฝ่ายขี่หลังขึ้นห้องไป เขาค่อยซับใบหน้าที่ช้ำอย่างแผ่วเบา และเปลี่ยนเปป็นชุดนอนให้เรียบร้อย ส่วนตัวเขากลับห้องไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ามาใหม่ ในตอนแรกเตชวัฒนืตั้งใจจะมาสำรวจความเรียบร้อยในห้องและดูอาการของวริศรินทร์แล้วจะไปพักผ่อน

   “พี่เต” เสียงเรียกแผ่วเบาซึ่งเตชวํฒน์เห็นไนท์นอนอยู่บนเตียงในสภาพสะลึมสลือ แขนเรียวยาวกวัวกมือเรียกเขให้เดินเข้าไป เมื่อเตชวัฒน์เดินเข้าไปแล้ว วริศรินทร์เอื้อมมือมาจับมือเขาเอาไว้แน่น เช่นเดียวกับเสียงฟ้าผ่าที่ทำให้สะดุ้งจนตัวสั่น เตชวัฒน์ลูบศีรษะไนท์อย่างปลอบโยน เขารู้ว่าอีกฝ่ายกลัวฝนตก เขาที่นั่งอยู่ที่ขอบเตียงเปลี่ยนเป็นเลื่อตัวไปนอนอยู่เคียงข้างเมื่อวริศรินทร์ขยับตัวเข้ามานอนหนุนอย่างคนไม่ได้สติเหมือนกำลังละเมอ

   เตชวัฒน์ตัวแข็งท่ือเมื่อเขานอนลงแล้ว แล้วสัมผัสได้ถึงอุรภูมิทีอบอุ่น วริศรินทร์ขยับตัวเข้ามานอนกอดเขาเอาไว้  อาจเป็นเพราะฤทธิ์ยาที่ธรรศกฤตฉีดให้ เจ้าตัวในตอนนี้นอนเหมือนคนละเมอ เตชวัฒนืพยายามควบคุมสติเมื่อลมหายใจอุ่นๆ เป่ารถต้นคอ เขาระชับอ้อมกอดให้ไนท์นอนได้สบายขึ้น

   “หลับให้สบายนะครับ” เสียงกระซิบนั้นเตชวัฒน์ไม่รู้ว่าบอกกับใครกันแน่ เขาอยากให้วริศรินทร์นอนหลับให้สบาย เช่นเดียวกับที่เขาอยากนอนให้หลับ และคืนนั้นเตชวัฒน์ก็เรียนรู้ที่จะใช้ความอดทนของตัวเองให้เป็นประโยชน์ เขาทำได้เพียงนอนกอดไนท์เอาไว้แนบอก กว่าเตชวัฒนืจะหลับตาลงก็เลยเวลาเที่ยงคืนไปแล้ว

..................
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา&
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 05-06-2011 00:23:49
^
เขี่ยเบาๆ ดึกแล้ว^^
*************************
หมอโรคจิตนี่น่ากลัวเนอะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 ความอดทน 4/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 05-06-2011 00:32:15
โชคดีนะ ที่มี GPRS  ไม่งั้น คงหาไนท์ไม่เจอ เพราะ ไนท์ ก็คงไม่หนี ไม่ร้องให้ใครช่วยแน่  ว่าแต่พี่หมอเนี่ย ร้ายไม่เบา เอะอ่ะ  ก็จับฉีดยา สงสัย จะจับนายระพีพัฒน์ ไปฉีดยา ต่อที่บ้านแน่เลย  :z1:
 ปล. ว่าแต่ทำไม ไนท์ ต้องมีเครื่องติดตามตัวด้วย หรือว่าหายตัวไปบ่อยๆ อะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 ความอดทน 4/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: blanchard ที่ 05-06-2011 00:38:12
โอ้พระเจ้า! ทำไมมันเปิ๊ดสะก๊าดขนาดนี้ฮะ... มีจีพีเอสอยู่ในนาฬิกาด้วย    :a5:

เอ่อ... หมอทอยฮะ ผมเชื่อแล้วว่าพี่หมอเป็น 'จิตแพทย์' คือ พี่หมอ   o22   'จิต  มั่กมากฮะ 

:z6:  ไอ้พวกชั่วช้า บังอาจรังแกนุ้งไนท์

 
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 8 PG. 5 [31/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: m_pop91 ที่ 05-06-2011 00:52:14
เพิ่งอ่านครับ  จะจบแล้วเหรอ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 10 เบาะแส 4/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 05-06-2011 01:28:26
อเล็กซ์จะมาช่วยหน่องไหม
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 ความอดทน 4/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 05-06-2011 01:34:33
เฮ้อ โล่งอก
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราũ
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 05-06-2011 02:59:10
ไหนของหวานหว่า เกือบเหมือนตอนหน้าจะมีถ้าไม่มีไอ้เสียงปริศนานี่ซะก่อน
ฮึ่มมม ของหวานชั้นอยู่หนายยยย
ปล. ไอ้คนบงการยังอยู่อีกเหรอ ตายไปตั้งเยอะยังเหลืออีกเรอะ!!!
ปลล. มันต้องเป็นตอนที่ 11 แล้วนะคะ


ช่อจ๊ะ ของหวานที่เจ๊เค้าบอก  พี่ว่าน่าจะหมายถึง สิ่งที่หน่องกินเข้าไปนะ :z2: :z2: :z2: :z2:



รอลุ้นว่าจะตายกันทั้งเรืองหรือเปล่า :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 11 เบาะแส 4/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 05-06-2011 03:42:48
 :เฮ้อ: ขอหวานๆสักตอนได้ไหม

ปล.ไม่น่ามาอ่านตอนตี3 เลย  :a5:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 ความอดทน 4/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 05-06-2011 03:42:53
ใจหายใจคว่ำ นึกว่าจะเป็นโศกนาฏกรรมอีกเรื่องซะแล้ว

นิดนึง พี่หมอโรคจิต น่ากลัวจริง ๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 ความอดทน 4/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 05-06-2011 03:49:51
เรื่องนี้พี่หมอจะได้กะนายพีหรือเปล่าครับ :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 11 เบาะแส 4/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 05-06-2011 03:49:55
ขอให้รอดทีเถอะ ก็มันตายเยอะแล้ว
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 11 เบาะแส 4/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 05-06-2011 07:37:58
 :เฮ้อ: ต้องมาลุ้นกันต่อว่า ใครจะเป็นรายต่อไป  :z2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 9 [03/06/54] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: m_pop91 ที่ 05-06-2011 08:11:27
เปิดคู่มือควบคู่กันไป ฮ่าาาาาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 11 เบาะแส 4/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: MadamLilac ที่ 05-06-2011 08:19:54
ถ้าโดนรุมแล้วฆ่านะคะ
หรั่งจ๊ะ ลากมันลงไปฝังโคลนต่อไป

โหด แบบนี้ชอบจริงอะไรจริง
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 ความอดทน 4/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 05-06-2011 09:06:31
คนบ้าโรคจิตสมัยนี้มันเยอะจริงๆ
แอบอยากรู้ว่าคุณหมอจะจัดการยังไง


หึหึ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 ความอดทน 4/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: Muzik ที่ 05-06-2011 09:13:55
โชคดีไป :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 ความอดทน 4/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 05-06-2011 09:30:32
เหตุการณ์ซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ
และดูเหมือนว่าจะมีคู่กัดเพิ่มขึ้นอีกหนึ่ง
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ100% P:7[1/6/11]
เริ่มหัวข้อโดย: m_pop91 ที่ 05-06-2011 09:31:40
ไม่เอา ไม่เอา สายลมต้องไม่ตาย
ตื่นซิครับปลายฟ้า ตื่นสักที
ปลายฟ้าแค่ฝันไปใช่มั๊ยครับ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 ความอดทน 4/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 05-06-2011 10:48:21
ทำไมมันดูซับซ้อนขึ้นล่ะ จะจบแล้วนะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 9 [03/06/54] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 05-06-2011 11:33:41
หายไปไหนว้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 ความอดทน 4/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 05-06-2011 11:39:20
สงสัยจะมีอีกคู่นะเนี่ย อิอิ *-*
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 ความอดทน 4/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: nubuggy ที่ 05-06-2011 12:02:56
โอว ..............  เหมือนนิยายรักปน ปนเรื่องสืบสวนเลยอะ แต่ก็สนุกดี   

อยากตามไปดู นายแบบหนุ่มของเราแล้วสิ จะโดนคุณหมอ ชำเราอะไรบ้างน้า........


โชคดีนะ ที่มี GPRS ไม่งั้น คงหาไนท์ไม่เจอ เพราะ ไนท์ ก็คงไม่หนี ไม่ร้องให้ใครช่วยแน่ 

GPS เฉยๆหรือเปล่าครับ

ถ้า GPRS มันใช้ต่อเน็ตมือถือนิ

จีพีเอส (GPS) เป็นระบบหาพิกัดบนพื้นโลกโดยการอ้างอิงจากดาวเทียมที่มีความแม่นยำสูงสามารถใช้หาพิกัดใดๆ บนพื้นโลก ได้ ทุกเวลา ทุกสภาพอากาศ ซึ่งในปัจจุบันเทคโนโลยีที่เริ่มเข้ามาบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น มีการนำไปใช้ในกิจกรรมต่างๆ มากมาย เช่น การช่วยวางแผนเดินทางด้วยแผนที่(โดยรถยนต์) ระบบติดตามตำแหน่งบนพื้นผิวโลก

GPRS หรือ General Packet Radio Service ซึ่งเป็นตัวสร้าง Direct Link ระหว่างโทรศัพท์มือถือ และ Internet เข้าด้วยกัน ซึ่ง GPRS นี้ จะทำให้สามารถ มีอัตราในการส่งถ่ายข้อมูลได้มากที่สุดถึง 100 kbps เลยทีเดียว GPRS นั้น จะสร้าง IP ให้อย่างต่อเนื่อง และมี Bandwidth กว้าง ทำให้สามารถนำเอา Application ต่างๆ มาใช้ได้อย่างหลากหลาย
เช่น Multimedia Messaging, Wireless Corporate Intranet, Remote Control และ อื่นอีกมากมาย โดยผู้ใช้ จะเสียค่าใช้จ่าย เพียงแค่ในส่วนของจำนวนข้อมูลที่มีการส่งถ่ายเท่านั้น


กลัวเข้าใจคลาดเคลื่อนกัน ครับ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ100% P:7[1/6/11]
เริ่มหัวข้อโดย: nubuggy ที่ 05-06-2011 12:12:48
ทำไม เป็นแบบนี้อะ         :z3:

 แล้วปลายฟ้าจะอยู่ยังไง   

อยู่กับตาก้อง  งั้นเหรอ 


แล้วสายลม ไปอยู่กับ อเล็กซ์ ด้วยปะ
 :z1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 11 เบาะแส 4/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: nubuggy ที่ 05-06-2011 12:19:24
รอลุ้นต่อไปว่าใครคือท่านคนนั้น   อยากรู้ซะแล้ว สิท่านไหนเนี้ย
แล้วท่านจะโดนอะไร บ้างหว่า :laugh: :laugh:



หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๘. ๑ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: m_pop91 ที่ 05-06-2011 12:20:54
สุดท้ายทุกคนก็คงไม่มีความสุขใช่มั๊ยครับ เศร้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 ความอดทน 4/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 05-06-2011 12:21:26
อ่านตอนนี้แล้วชอบพี่หมอจัง...ดูโรคจิตสมชื่อหมอ จิตแพทย์เลยย :-[
แกเสร็จแน่ รพีพัฒน์ :interest: บังอาจมาทำไนท์ โดนดีแน่
สงสารพี่เตจัง น้องไนท์น่ารักเกือบอดใจไม่ไหวแน่ะ o18
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 ความอดทน 4/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: m_pop91 ที่ 05-06-2011 12:38:49
พี่เตคงใช้ความอดทนมาก  ฮ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 11 เบาะแส 4/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 05-06-2011 12:42:10
ไอพวกนั้นไม่เข็ด....เดี๋ยวหรั่งออกโรงแล้วจะหนาว  :m31:
แต่ว่า อยากให้หน่องกับหรั่งคู่กันจัง สงสัยต้องให้หมวดเพชรดูแลแทนละ
ปล. หนูติดใจคนกับผีอ่ะ :laugh:
รอตอนต่อไปนะค่ะ  :กอด1: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ100% P:7[1/6/11]
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 05-06-2011 12:47:01

แล้วสายลม ไปอยู่กับ อเล็กซ์ ด้วยปะ
 :z1:
:laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
เข้ามารอตอนต่อไปค่ะ และก็งอนคนแต่งด้วย :a14:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 ความอดทน 4/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 05-06-2011 13:18:06
น้องไนท์ปลอดภัยแล้ว
พี่หมอสั่งสอนพีให้หนักไปเลย  :laugh:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 ความอดทน 4/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 05-06-2011 13:52:20
โชคดีนะ ที่มี GPRS ไม่งั้น คงหาไนท์ไม่เจอ เพราะ ไนท์ ก็คงไม่หนี ไม่ร้องให้ใครช่วยแน่ 

GPS เฉยๆหรือเปล่าครับ

ถ้า GPRS มันใช้ต่อเน็ตมือถือนิ

กลัวเข้าใจคลาดเคลื่อนกัน ครับ



ขอบคุณค่ะ  พอดีพี่รีบพิมพ์ แล้ว ก็ใช้ มือถือต่อเน็ตอยู่จริงๆ ด้วย ค่ะ 55+ เขินส์เลย  :-[
แต่ได้ความรู้เยอะเลย จะได้ไม่ใช้สับสน เน๊อะ   :กอด1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 ความอดทน 4/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: คนของเธอ ที่ 05-06-2011 14:03:57
พี่หมอทอย น่ากลัวกว่าระพีพัฒน์อีก หึหึ  :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 11 เบาะแส 4/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: m_pop91 ที่ 05-06-2011 14:33:14
ใครอยู่เบื้องหลังกันแน่
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 11 เบาะแส 4/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 05-06-2011 14:50:38
คุณเจ๊จงขา ชอบจังนะคะแบบสั้นๆน่ะค่ะ  ดิฉันยังไม่จุใจเลย หมดแระ
งานนี้สงสัยหมวดพชรกับหน่องอาจมีเจ็บตัวบ้าง แต่คาดว่าคงไม่มาก(ปลอบใจตัวเอง)
คาดว่าหรั่งต้องมาช่วยทัน (คาดหวังเข้าข้างตัวเองอี๊ก)
และคาดวว่า(คาดอีกแล้ว)เป็นคราวที่หน้ากากของไอ้ตัวบงการบิ๊กๆ
จะถูกกระชาก แล้วเผยโฉมหน้าที่แท้จริง ซะที
แหะ แหะ คุณเจ๊จง โปรดทำให้ความคาดหวังของดิฉันเป็นจริงด้วย
จะจบคืนนี้เหรอคะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 11 เบาะแส 4/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 05-06-2011 14:53:04
ลุ้นมากมายว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง แต่ว่า หน่องกับผู้หมวดจะรอดปลอดภัยใช่มั๊ยหวังว่าหรั่งจะมาช่วยเพื่อนนะ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 8 PG. 5 [31/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: MonarcH ที่ 05-06-2011 15:05:43
Butterfly 9
…ผมยังรักษาซิงไว้ได้อย่างเหนียวแน่น แม้ว่าจะเกือบเผลอตัวเผลอใจไปกับยุทธหลายครั้ง เพราะผมยังไม่แน่ใจว่ายุทธจะคิดจริงจังกับผมเหมือนที่เค้าพูดแค่ไหน บ่อยครั้งที่ผมยังเห็นเค้ามักจะยิ้มตอบคนที่เดินผ่านแล้วยิ้มให้เค้า เรายังไม่ได้ตกลงเป็นอะไรกัน ผมจึงไม่มีสิทธิ์ที่จะวีนหรือแสดงอาการไม่พอใจ...
“สวัสดีค่ะ มาได้แล้วเหรอพ่อดาวบัตเตอร์ฟลายคนใหม่” พี่ธัญญ่ารับไหว้ยุทธแล้วทักด้วยน้ำเสียงประชดประชัน
“ยุทธเค้ามาเป็นเด็กเสิร์ฟนะพี่ ไม่โชว์ ไม่รับออฟ”  ผมบอกพี่ธัญญ่าด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“อะไรนะ”
“ผมคุยกับคุณกริชแล้วว่าขอมาทำเสิร์ฟอย่างเดียว ผมขอโทษครับพี่”  ยุทธอธิบายซ้ำ
“ฉันบอกลูกค้าไปแล้วว่าวันนี้จะมีดาวคนใหม่มาโชว์ ลูกค้าก็รับปากมากันเยอะแยะ ทำไมเบี้ยวกันอย่างนี้ล่ะ แล้วฉันจะเอาหน้าไปไว้ไหนเนี่ย”  พี่ธัญญ่าโวยวาย
“บาร์เราควรจะให้เด็กทำงานด้วยความสมัครใจ เราไม่ใช่พวกค้ามนุษย์นะพี่” ผมเบรก
“โอเค ไม่รับออฟก็ได้ แต่พี่ขอให้โชว์เรียกแขกซักคืนนึงนะ”  พี่ธัญญ่าทำอะไรผมไม่ได้จึงหันไปกดดันยุทธแทน
“.................................” ยุทธมองหน้าผมกับพี่ธัญญ่าสลับกัน
“ว่าไงล่ะ”
“คุณกริชคิดว่ายังไงครับ”  ยุทธถาม พี่ธัญญ่าหันขวับมามองด้วยความสงสัย
“คุณกล้าโชว์มั้ยล่ะ”
“ถ้าคุณให้โชว์ ผมก็โชว์” 
“เอางี้ ยุทธเต้นอะโกโก้โชว์ก็พอ ไม่ต้องถอดหมด ถ้าแขกจะออฟ พี่จะบอกว่ามีจองแล้วละกัน”  พี่ธัญญ่ารีบสรุป
“ขอบคุณครับ”  ยุทธยิ้มให้
“ไปเตรียมตัวได้แล้ว”  ผมไล่ยุทธเพราะพี่ธัญญ่าเริ่มมองเราสองคนแปลก ๆ
“เดี๋ยว”  พี่ธัญญ่าเรียกไว้
“อะไรครับ” 
“ไปตรวจเลือดมาหรือยัง”
“ผมไม่ได้มารับงานออฟ ต้องตรวจด้วยเหรอครับ”
“พนักงานที่เกี่ยวข้องพบเจอกับแขกต้องตรวจเลือดทุกเดือน เพื่อความปลอดภัยและชื่อเสียงของบัตเตอร์ฟลายบอย”
“ขอเป็นพรุ่งนี้ได้มั้ยครับ”
“อืม พรุ่งนี้จะมีคนถึงคิวต้องไปเหมือนกัน มาถึงนี่ซัก 6 โมง แล้วเดี๋ยวจะมีคนพาไป ผลตรวจจะส่งมาที่บาร์เราเลย ส่วนค่าใช้จ่ายพี่จะหักจาเบี้ยเลี้ยงนะ”
“ได้ครับ ไม่มีปัญหา”
*
*
...ในที่สุดยุทธก็ต้องขึ้นโชว์เรียกลูกค้า เป็นครั้งแรกที่ผมเปิดม่านจากห้องดูยุทธใส่กางเกงชั้นในสีขาวตัวจิ๋วโยกตัวเบา ๆ ตามจังหวะเพลง แสงไฟสีส้มขับให้ผิวของเค้าดูเด่นขึ้น ผมมองกวาดไปที่บรรดาแขกในร้าน ทุกสายตาจ้องไปที่ยุทธเป็นตาเดียว...
“ทำไมถึงลงมาดูโชว์ได้ล่ะ”  พี่ธัญญ่าทักเมื่อเห็นผมลงมานั่งกับพี่เค้าที่ข้างเวที
“เคลียร์งานข้างบนเสร็จแล้วครับ”
“พี่คิดว่ากริชกำลังมีอะไรปิดบังพี่อยู่นะ” 
“ไม่มี”  ผมปฏิเสธทันที
“ยุทธน่ะ มันหล่ออย่างเดียว แต่ไม่มีอนาคต ถ้าคิดอะไรเกินเลยกับมันพี่ขอให้หยุดแค่นี้เถอะ พี่เห็นคนที่หลงเด็กบาร์มาเยอะแล้ว”
“พี่ธัญญ่ารู้จักยุทธดีแล้วเหรอ”
“ไม่มีผู้ชายดี ๆ ที่ไหนมาทำงานอย่างนี้หรอกค่ะ”
“เค้าตัดสินใจเป็นเด็กเสิร์ฟแล้วนะพี่”
“ทำไมไม่ไปเสิร์ฟตามร้านอาหาร ตามผับ ตามเธคล่ะ พี่รู้ว่าที่มันมาเสิร์ฟในบาร์เกย์เพราะเกย์มันโง่ไง หลงผู้ชาย จ่ายไม่อั้น ยุทธมันฉลาดนะ กริชไม่ทันยุทธมันหรอก ถ้าเป็นเด็กขายน้ำมันโก่งค่าตัวไม่ได้เจอแขกใจดีก็ได้เยอะ แต่ถ้าเป็นเด็กเสิร์ฟไม่รับออฟ ปฏิเสธแขกได้ ถ้าเกย์อยากได้จริง ๆ มันก็อัพค่าตัวเวอร์ ๆ ตกลงค่าตัวได้ก็นัดเจอกันหลังเลิกงานข้างนอก ไม่ต้องเสียค่าออฟให้ทางร้าน มันได้เต็ม ๆ สันดานเกย์มันชอบอะไรที่ท้าทาย พี่เห็นมาเยอะแล้ว เด็กเสิร์ฟร้านนี้ทุกคนรับงานออฟทั้งนั้นแหละ พวกนี้ไม่อยากถูกเรียกว่าเป็นเด็กขายน้ำถึงได้แอบ ๆ ซ่อน ๆ บางคนไม่ขายในบาร์ แต่ออกไปยืนขายหน้าโรบินสัน ถ้ากริชไม่เชื่อพี่ บาร์เลิกแล้วไปเดินดูเองก็ได้นะ”
“ขอบคุณพี่ธัญญ่าที่หวังดีเตือนกริชนะครับ”
*
*
...ผมเดินคิดถึงคำพูดของพี่ธัญญ่าจนมาถึงห้องทำงานและแง้มผ้าม่านแอบมองยุทธบนเวทีต่อ กางเกงชั้นในสีขาวตัวนั้นมันดูคับแน่นเมื่อเค้าโดนเด็กบาร์ที่เป็นเกย์หลายคนเต้นเอาสะโพกสีเฉียดไปเฉียดมา บางคนก็เต้นราวกับว่ายุทธเป็นเสาหินถึงได้โน้มตัวเด้งหน้าเด้งหลังใส่ยั่วยุอารมณ์จนส่วนนั้นดันกางเกงชั้นในตัวจิ๋วจนสิ่งที่อยู่ข้างในเกือบจะโผล่ออกมาทิ่มหน้าคนดูแล้ว...
*
*
...ยุทธดูมีความสุขกับการได้โชว์เป็นตัวเด่นท่ามกลางแสงไฟและมีเกย์หนุ่มเกย์สาวหลายคนที่สมัครใจเดินขึ้นเวทีมาเต้นถูไถจนบ่อยครั้งที่ยุทธเป็นฝ่ายลูบไล้เด้งเอวสวนผู้ที่มายั่ว...ป้าธเนศเคยบอกว่าที่เลือกเอาผีเสื้อเป็นชื่อบาร์ก็เพราะว่า ผีเสื้อมันมีลวดลายสีสันที่สวยงาม ใคร ๆ ก็ชอบและอยากได้เป็นเจ้าของ และวงการบาร์เกย์ เด็กขายน้ำทุกคนมีวงจรชีวิตที่สั้นเหมือนผีเสื้อ อยู่ข้างนอกเป็นดักแด้ พอเข้าสู่วงการนี้ก็เป็นผีเสื้อ แต่ไม่นานนักก็ต้องตายจากวงการนี้ ไม่ว่าจะตายจริงด้วยโรคร้าย หรือหายไปจากวงการเพราะมีคนเลี้ยง หลายคนที่ต้องผันอาชีพไปทำสิ่งผิดกฎหมายจนต้องติดคุกติดตาราง แต่บาร์นี้ก็จะมีดักแด้ตัวใหม่ ๆ ที่จะกลายเป็นผีเสื้อสีสวยอยู่ตลอดไม่เคยขาด...
*
*
...คืนนั้น ยุทธทำหน้าที่เด็กเสิร์ฟและเด็กเต้นได้คุ้มค่ามาก เค้าใส่กางเกงชั้นในตัวเดียวเดินเสิร์ฟตลอดคืนให้แขกในร้านลูบคลำรับทิปจนแทบไม่มีที่จะเก็บเงิน ยิ่งดึกเค้าก็ยิ่งเดินไม่ตรงทางเพราะเมื่อลูกค้าซื้อดริ้งให้เค้าก็ต้องรับมาดื่ม...
“ยุทธ พอเถอะ แต่งตัวแล้วกลับบ้านได้แล้ว”  ผมแอบเดินมาหายุทธที่ล็อกเกอร์หลังบาร์ปิด
“ทามมายอ่ะ โผมยางซาหนุกอยู่เลย” ยุทธพูดเสียงยานคาง ตาเยิ้ม กลิ่นเหล้าหึ่ง
“ยุทธเมามากแล้วนะ”  ผมเตือนเพราะเห็นเด็กบาร์คนอื่นกำลังตั้งวงดื่มกันในมุมนึงของร้าน
“ม่ายต้องห่วงคร๊าบบบบ โผมมาวม่ายขาบ เพราะโผมม่ายมีรถ”  ยุทธพูดพลางหัวเราะชอบใจตามประสาคนเมา
“งั้นก็ตามใจ”
“เดี๋ยวคร๊าบ คูณกริช โผมร๊ากคูณนะ”  ยุทธโผเข้ามากอดผมแน่น
“ปล่อย”
“คูณม่ายร๊ากโผมม่างเลยเหรอ”
“ถ้าอยากให้รักก็กลับบ้านสิ” ผมพยายามพูดให้คนเมารีบกลับบ้าน
“อืม คูณกลับปายก่อนน้า เดี๋ยวโผมตามปาย”
*
*
...คงจะเป็นอย่างที่พี่ธัญญ่าเตือนจริง ๆ เพราะก่อนนอนตอนตีห้าผมโทรเข้าร้าน เด็กที่รับสายบอกว่ายังมีคนกินเหล้ากันอยู่ และหนึ่งในนั้นก็คือยุทธ ผมถอนหายใจแล้วล้มตัวลงนอน แต่ตามองเพดานคิดถึงคำเตือนของพี่ธัญญ่าสลับกับคิดถึงตอนที่ผมกับยุทธมีความสุขกันที่ทะเล แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่คนที่ไม่มีความรักเข้ามาเกือบห้าปีอย่างผม รู้สึกมีความสุขจนล้นใจ น้ำตาที่มันเหือดแห้งมานานกลับไหลออกมาอย่างง่ายดาย มัวแต่หลงรูป หลงคารม หลงเชื่อว่ารักแท้จะมีจริงในหมู่เกย์...
“ฮัลโหล คุณกริช ผมจะไปตรวจเลือดแล้วนะ”  ยุทธโทรมาหาผมในเย็นวันต่อมา
“อืม”
“ตื่นเต้นอ่ะ ผมกลัวเข็มด้วย ตรวจเลือดครั้งสุดท้ายตอนเข้ามหาลัย ผมกลัวจนแทบเป็นลม”
“อืม”
“คุณเป็นอะไรหรือเปล่า”
“เปล่า กำลังขับรถอยู่ มีอะไรอีกมั้ย”
“ผมขอโทษ เมื่อคืนเพื่อน ๆ ในร้านเค้าเห็นผมได้ทิปเยอะก็เลยขอให้ผมเลี้ยงเหล้า”
“..............................................”  ผมเงียบ
“ผมดีใจอ่ะ เมื่อคืนได้ทิปเยอะ ก็เลยฉลองหนักไปหน่อย”  ยุทธรีบอธิบายต่อ
“แล้วเหลือเงินกลับบ้านเท่าไหร่อ่ะ”
“ก็ พอกินได้หลายวันอ่ะครับ”
“เมื่อคืนคุณทำรายได้คืนเดียวเท่ากับค่าแรงขั้นต่ำในโรงงานทั้งเดือนเลยนะ”
“เดี๋ยวคืนนี้ค่อยหาใหม่” ยุทธพูดพลางหัวเราะเบา ๆ
“อืม มีตำรวจอยู่ข้างหน้า แค่นี้นะ”  ผมวางสายทันทีที่พูดจบ
*
*
...ผมมาถึงบาร์หลังยุทธเพราะเย็นนี้เค้าต้องมาตรวจเลือดที่สถานพยาบาลแถวนั้น เราสบตากันนิดนึงก่อนที่ผมจะเมินและเดินเชิดขึ้นห้องทำงานไป ยุทธอึ้ง แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะความสัมพันธ์ของเรายังคลุมเครือ และผมอยู่ในฐานะนายจ้างของเค้าอย่างเต็มตัวตั้งแต่เมื่อคืนแล้วด้วย...
“อ่ะ ผลตรวจเลือดมาแล้ว”  พี่ธัญญ่าวางซองเอกสารที่โต๊ะผม
“รบกวนเก็บใส่แฟ้มเลยครับ”
“พี่ยังไม่ได้ดูเลย ข้างล่างแขกกำลังเยอะ พี่ขอลงไปช่วยกัปตันก่อนดีกว่า เอกสารนี่เอาไว้จบโชว์รอบแรกแล้วพี่จะมาเก็บให้”
“งั้นไม่เป็นไรพี่ เดี๋ยวกริชจัดการเอง”
“ขอบใจจ้า”
*
*
...เมื่อจัดการบิลบนโต๊ะเสร็จ ผมก็หันมาสนใจกับผลตรวจเลือดที่คลินิกมีบริการนำส่งถึงบาร์เพราะเราคือลูกค้ารายใหญ่ที่ส่งเด็กทุกคนไปตรวจเลือดเป็นประจำทุกเดือน...เมื่อเปิดออกดูเห็นกระดาษ 2-3 แผ่นพออ่านเสร็จผมก็เก็บผลตรวจเข้าแฟ้มประวัติพนักงานจนถึงแผ่นสุดท้าย นายยุทธกร ผมต้องอ่านทวนเป็นครั้งที่สองเผื่อว่าครั้งแรกที่ผมเพิ่งอ่านผ่านไปจะเป็นเพราะผมตาฝาดที่เห็นผลตรวจเลือดของยุทธเป็นผลบวก...หลังจากอ่านซ้ำครั้งที่สาม ผมต้องยอมรับความจริงที่ว่ายุทธเป็นผู้ป่วยติดเชื้อ HIV…
*
*
...ผมวางเอกสารในมืออย่างอ่อนแรง เดินไปแง้มผ้าม่านดูด้านล่างเห็นยุทธเดินถือถาดเครื่องดื่มยิ้มหวานให้แขกซึ่งมีการพูดคุยกันอยู่นาน คาดว่าจะเป็นอย่างที่พี่ธัญญ่าบอกว่าอาจจะมีการตกลงค่าตัวกัน เพราะเด็กเสิร์ฟไม่จำเป็นต้องพูดคุยกับลูกค้ามากนัก แค่สั่ง-รับเครื่องดื่มก็พอ บาร์นี้มีกัปตันไว้คอยเชียร์แขกหรือเรียกเด็กให้แขกอยู่หลายคน...ผมจะทำยังไง จะบอกยุทธเรื่องนี้เมื่อไหร่ และถ้าพี่ธัญญ่ารู้ว่ายุทธมีเลือดบวกเค้าก็ต้องให้ยุทธออกจากงาน...ผมไม่รู้จะรับมือกับเรื่องที่คาดไม่ถึงนี้ยังไงเลย...

****************************************************************************************************
คืนนี้จะปิดโปรเจคแล้วนะครับ ดังนั้นตอนจบก็จะพยายามมาให้ทันภายในคืนนี้เช่นกัน รออีกไม่นานครับ

MonarcH
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 ความอดทน 4/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 05-06-2011 15:06:17
ดีใจที่ไนท์ปลอดภัยนะ

หมอ  จัดไปหนักๆเลยนะ  เอาให้ครางเลย
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 8 PG. 5 [31/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 05-06-2011 15:14:22
แล้วมันก็จะผ่านไปนะกริช
ประสพการณ์จะสอนให้เราแกร่งขึ้น
เหล็ก  ถ้าไม่ถูกเผาถูกทุบ  มันก็กลายเป็นมีดไม่ได้หรอก
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 ความอดทน 4/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 05-06-2011 15:22:20
หมอจับตัวการไปฉีดยาแน่ๆ +1
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 11 เบาะแส 4/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 05-06-2011 15:25:16
คลุมเครือ คลุมเครือ
ตกลงหรั่งไปรู้เห็นอะไรมา
คนใหญ่คนโตคนนั้นเป็นใครกันแน่ โอ้ยๆ ลุ้นๆ :serius2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 ความอดทน 4/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 05-06-2011 15:41:27
ระพีพัฒน์อยู่เบื้องหลังเองเหรอเนี่ย
หมอทอยจัดการให้อยู่หมัดเลยนะ  :angry2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 ความอดทน 4/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: Giniz ที่ 05-06-2011 15:44:09
คุณหมอจิตแพทย์แอบโรคจิตเองป่ะเนี่ย
เอะอะไรก็จับฉีดยา น่ากลัวอ่ะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 11 เบาะแส 4/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 05-06-2011 16:00:21
มาสั้นจัง!!!!
อยากรู้ว่าไอ้คนบงการจะตายอย่างไร  จัดไปหนักๆนะครับ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 9 [03/06/54] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 05-06-2011 16:27:39
โถ  คุณหนู  น่ารักอะไรขนาดนั้น

ว่าแล้ว  ยกสอง เริ่ม!!!!!
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 8 PG. 5 [31/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: nubuggy ที่ 05-06-2011 16:47:32
เป็นเช่นนั้นไป  :sad11:

สงสารเค้าอะ

นี่เราสงสัย วิธีการใช้คำนี่มาก
 
ประสพการณ์ จะสอนให้เราแกร่งขึ้น

ตกลงต้องใช้ ประสพ  หรือ ประสบ

เพราะ บางทีก็อ่านออกเสียง ว่า ปะ-สบ-พะ-การ

ลูกเป็ดท่าน เชี่ยวชาญ ด้านภาษา น่าจะลอง ช่วยๆกันพยายาม รวบรวมคำ ที่เรามัก เขียนผิด ไว้ด้วยนะครับ
เพราะ บางที ทั้งคนเขียน คนอ่าน ยังไม่แน่ใจ ว่า ตกลงที่ ใช้ กันเนี้ย บางคำเราใช้ถูกหรือเปล่าหว่า
ช่วยๆ กัน เพื่อภาษาของ เรา 5+++
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 8 PG. 5 [31/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: bleach_pa ที่ 05-06-2011 17:59:29
ตอนอ่านมาถึงด้านล่างแล้วทำหน้านี้เลยจริงๆ  :a5:
หนูกริชจะทำยังไงกับต่อไป แล้วยุทธจะตายมั้ยเนี้ย
รู้สึกเหมือนจะต้องต้มน้ำร้อนรอเลย  :o12:
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่13 ความอดทน 4/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 05-06-2011 19:36:57
ดีนะที่มี GPS ไม่งั้นไม่อยากจะคิดเลย T^T ว่าแต่...ระพีพัฒน์เอ่ย...ไม่รอดแน่ๆ หึหึหึ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่14 คำสัญญา ตอนจบ 5/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: ภาพฝัน ที่ 05-06-2011 20:12:56
   เตชวัฒน์ลืมตาตื่นขึ้นมาในตอนเช้า เขาควานหาร่างของวริศรินทร์ที่ควรนอนอยู่เคียงข้างแต่ก็พบกับความว่างเปล่า เขารู้สึกแปลก เตชวัฒน์ผวาลุกขึ้นมองไปรอบๆห้อง ทุกอย่างเงียบสะงัด ไม่มีเสียงของความเคลื่อนไหวใดๆ

   “ไนท์” เตชวัฒน์ส่งเสียงเรียกไปตามสัญชาตญาณแต่ก็มีเพียงความเงียบ เขาเดินออกไปนอกห้องในทันที สายตาของเขาเหลือบมองไปที่ระเบียงโดยอัตโนมัติ

   วริศรินนั่งชันขาอยู่ที่ราวระเบียง ใบหน้าของนายแบบหนุ่มมองออกลงไปที่ด้านล่างของตึก เขาทำเหมือนกำลังนั่งอยู่ริมลำธารมิใช่อยู่บนตึกสูง10ชั้น เตชวัฒนืไม่กล้าส่งเสียงเสียงเรียกเขากลัวว่าถ้าพลาดพลังไปอีกฝ่ายจะร่วงลงจากตึกสูง

   ร่างสูงค่อยๆก้าวเข้าไปอย่างเงียบเชียบ ตลอดเวลาเขาได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองเต้นแรงด้วยความหวาดกลัว เมื่อเข้าใกล้ร่างของนายแบบหนุ่มแล้ว วงแขนแข็งแรงโอบรัดอีกฝ่ายเข้าสู้อ้อมกอด

   “อย่าทิ้งพี่ไปได้ไหม” เขากระซิบเสียงสั่นพลางโอบกอดร่างของวริศรินทร์เอาไว้แนบอก

   “พี่กลัวรู้ไหม ที่เห็นไนท์ทำอะไรเสี่ยงๆ แบบนี้” เตชวัฒน์เค้นเสียงพูดอย่างแผ่วเบา เขาไม่กล้าแม้จะปล่อยมือ

   “ภาพลวงตา” เสียงกระซิบที่พร่าเลือนฟังดูเบาหวิวเหมือนจะขาดหายไป

   “หมายความว่ายังไงไนท์” เตชวัฒน์ถามด้วยความสงสัย เขาจับวริศรินทร์ให้นั่งหันกลับเข้ามาด้านใน

   “ทุกอย่างมันเป็นแค่ภาพลวงตา อีกไม่นานมันก็จะหายไป” วริศรินทร์ไม่ได้พูดอย่างเลื่อนลอย เตชวัฒนืเห็นแววตาที่เศร้าสร้อย ฝ่ามือเลื่อนเข้าไปลูบไล้แผ่วเบาที่ข้างแก้ม

   “ทำไมคิดอย่างนั้นไนท์” เตชวัฒน์สงสันในคำพูดของอีกฝ่าย

   “เพราะอีกไม่นานทุกอย่างจะหายไป ความสุข เสียงเพลง โลก จะกลายเป็นเพียงภาพลวงตาที่หลอกลวง โลกนี้มันไม่มีอะไรที่เป็นจริง” คำพุดของวริศรินทร์สร้างความรู้สึกหน่วงๆ ที่หน้าอก คำพูดเหล่านั้นบ่งบอกถึงความสิ้นหวัง

   “พี่ไงที่เป็นจริง พี่จะอยู่กับไนท์” เตชวัฒน์กอดอีกฝ่ายเอาไว้อีกครั้ง ริมฝีปากหนาขยับลงจุมพิตแผ่วเบาที่หน้าผาก

   “พี่จะอยู่ดูแลเรา จะไม่ทิ้งเราไปไหน จะไม่เป็นแค่ภาพลวงตาของอดีต” น้ำเสียงที่หนักแน่นมั่นคงของเตชวัฒน์ทำให้นายแบบหนุ่มจ้องไปในดวงตาที่เต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว

   “รักของพี่มันเป็นความจริง ไม่ใช่ลวงตา พี่สัญญาว่าพี่จะไม่มีวันทิ้งเราไปไหน พี่จะเป็นพี่เตของไนท์ตลอดไป จะเป็นพี่เตของไนท์คนเดียว” คำพูดที่เต็มไปด้วยความจริงใจ หนักแน่น
และมั่นคง ดุจคำสัญญาที่เขามีให้ วริศรินทร์หลับตาลงช้าๆ เหมือจะซึมซับความหมายที่เขาเอ่ยออกไป

   เตชวัฒน์ย่อตัวลงคุกเข่ากับพื้น ฝ่ามือหนาประคองปลายเท้าของไนท์ขึ้นมา ไนท์มองอย่างไม่เข้าใจ ริมฝีปากอุ่นค่อยๆ ประทับลงไปที่ผลายเท้าอย่างแผ่วเบา วริศรินทร์เงียบโดยไม่มีคำตอบ เตชวัฒน์ไม่ได้ส่งเสียงใดๆ เพื่อทำลายความเงียบ เขาเพียงรอ รอคำตอบของคำสารภาพรักของเขา

   “พี่รักที่ไนท์เป็นแบบนี้ ไม่ต้องเปลี่ยนแค่เป็นตัวเองอยู่กับพี่ก็พอแล้ว” เตชวัฒน์ยังคงยิ้มอยู่เช่นเดิม ประโยคนี้ของเขาทำให้วริศรินทร์ที่เงียบมาตลอดโถมตัวลงมาหาทำให้ร่างสูงเสียหลักล้มไปที่พื้น

   วริศรินทร์กอดแตชวัฒนืแน่นเหมือนจะใช้เป็นหลักยึด ทุกคำพูด ทุกการกระทำของเตชวัฒน์สื่อผ่านความรู้สึก

   “สัญญานะ” เสียงกระซิบแผ่วเบาที่ชัดเจน

   พี่สัญญา” เขาขานรับคำสัญญาอย่างไม่ลังเล เตชวัฒน์รู้ตัวดีว่าเขารักคนตรงหน้ามากแค่ไหน คนที่พูดน้อย แพ้ไข่ ไม่ยอมดุแลตัวเอง ในครั้งแรกเขาก็หงุดหงิดแต่ก็ไม่รู้เมื่อไหร่ที่ไม่อาจละสายตาจากไปได้ จนเมื่อไนท์หายไปเขาถึงรู้ว่าไนท์คือทุกอย่างในชีวิตของเขา

   “ไปทานข้าวกันเถอะครับ” เตชวัฒน์ประคองร่างของวริศรินทร์ให้ลุกขึ้นยืน เขาจูงร่างโปร่งให้เดินเข้าไปภายในครัว

   “อยากกินอะไรครับ” เมื่อเขาถามคำตอบก็คือความเงียบ มีเพียงสายตาเท่านั้นที่ยังคงมองการเคลื่อนไหวของเขาอยู เตชวัฒน์ยิ้มอย่างอ่อนโยนให้กับอีกฝ่าย

   “ผัดผักแล้วกัน แล้วเดี๋ยวอาบน้ำทำอะไรเสร็จ มาทำเค้กกินกันต่อโอเคไหม” เตชวัฒน์ไม่ได้หวังปฏิกิริยานตอบรับจากอีกฝ่าย แต่ไนท์ก็พยักหน้ายอมรับนั่นทำให้เขายิ้ม

   ไนท์ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเป็นคนช่างพูดคุยอยู่เช่นเดิม ใช้เพียงสายตามองการเคลื่อนไหวของเขาตลอดเวลา แต่สำหรับเขาแค่นี้ก็พอแล้ว เขาชอบที่อีกฝ่ายเป็นแบบนี้ ไม่ได้ชอบไนท์ที่ช่างพูดช่างคุย เตชวัฒน์ยกอาหารเช้ามาเสิรืพบนโต๊ะกินข้าว แล้วก้มหน้าลงหอมแก้มนุ่มแผ่วเบา

   “สุขสันต์วันเกิดนะครับ” เตชวัฒน์กระซิบอย่างอ่อนโยนพร้อมยิ้มบางๆ วริศรินทร์ไม่ได้ตอบแต่ขยับตัวเข้าไปหอมแก้มอีกฝ่ายแผ่วเบา

   “ขอบคุณ” เพียงคำพูดสั้นๆ ของวริศรินทร์ก็ทำให้เตชวัฒน์รู้สึกมีความสุขแล้ว เตชวัฒน์รู้แล้วว่าเขามีหน้าที่สำคัญอะไรต่อจากนี้ เขาต้องพิสูจน์ให้ไนท์เห็นว่าความรักของเขา ตัวตน
ของเขา ไม่ใช่เป็นเพียงภาพลวงตาที่สักวันหนึ่งมันจะสูญสลายกลายเป็นอดีต แต่ความรักของเขาจะเป็นปัจจุบันและอนาคตของเขาทั้งคู่ 


............................................................The End..................................


หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่14 คำสัญญา ตอนจบ 5/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: bellity ที่ 05-06-2011 20:25:58
จอง;-)


จบแล้ว โอ้ยถึงจะเงียบๆ แต่แอบหวาน แฮะ ><
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่14 คำสัญญา ตอนจบ 5/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: arun do d ที่ 05-06-2011 20:33:21

อ่าาาาาาาาาาาา จบแล้วเหรอ พี่เตยังไม่ได้ให้ของขวัญไนท์เลยอ่ะ
รอจิ้นฉากนี้เลยน่ะเนี้ยะ  :z1:
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา&
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 05-06-2011 20:37:06
อ้อ อย่างนี้นี่เอง ไนท์มันหลอน555
พี่เตก็กล้าสัญญาเนอะ เกิดพรุ่งนี้โดนรถชนตายไนท์จะกลายเป็นอะไรไปเลยล่ะทีนี้
ขอบคุณค่ะสำหรับนิยายดีๆ เรายังยืนยันเหมือนวันแรกที่อ่าน "ชอบ" ^^
ปล. +1 ถ้าอยากให้ไปบวกที่ตัวจริงก็ pm มาบอกนะคะว่าเป็นใคร ไม่บอกใครหรอกสัญญา อิอิ
ปลล. ขอตอนพิเศษด้วยค่าาาา
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่14 คำสัญญา ตอนจบ 5/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 05-06-2011 20:39:53
จบแบบนี้จริงๆหรือครับ

มันค้างๆชอบกล
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่14 คำสัญญา ตอนจบ 5/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 05-06-2011 20:53:03
No NC แต่ได้ใจเต็มๆ
ไนท์ไม่เปลี่ยนไปเลย แต่พี่เตอยู่ในสายตาของไนท์ตลอด อ๊าย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่14 คำสัญญา ตอนจบ 5/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 05-06-2011 20:59:03
ตอนพิเศษจงมา จงมา จงมา  :m5: :m5: :m5: :m5: :m5: :m5:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่14 คำสัญญา ตอนจบ 5/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 05-06-2011 20:59:32
อ๊ะ..จบแค่นี้จริงๆน่ะ ไม่มีอะไรที่หวานกว่านี้ ลึกซึ้งกว่านี้จริงๆอ่ะ
แต่ก็ นะ สำหรับไนท์ แค่นี้ก็สุดๆแล้วใช่ไหมคะ และพี่เตเองก็ไม่เรียกร้องไปมากกว่านี้ ลงตัวพอดี๊พอดี
งั้นก็ขอมอบ :L2:เพื่อขอบคุณภาพฝันค่ะ
 :pig4:มากค่ะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนที่ 9 [03/06/54] P.8
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 05-06-2011 21:00:42
(http://upic.me/i/w6/3rain.gif) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23990.0)
(http://a1.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/189166_1613381299027_1371123300_31303532_3135310_n.jpg)
ประกาศ
ขอเพิ่มของรางวัลอีกชิ้น เพื่อสมน้ำหน้าคุณ เอ๊ย!! สมนาคุณที่ทุกคนร่วมสนุก
โดยรางวัลใหญ่ยังเป็นเช่นเดิม กระเป๋าหลุยส์ และเพิ่มรางวัลเข้าไปอีก คือ หนังสือ มนต์รักบ้านทุ่ง อีก 1 รางวัล

กดเบาๆ ส่งคำตอบชิงรางวัลและพูดคุยนอกเรื่องกับนักเขียนทั้งเจ็ด (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23990.0)

The rainbow project
สีม่วง "เพลิงพราย" โดย จงกลนี (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25519.0)
สีคราม "รักลวงตา" โดย ภาพฝัน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25535.0)
สีน้ำเงิน "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" โดย สายลมห่มฟ้า (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25536.0)
สีเขียว "DOOM" โดย Nassiiz (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25540.0)
สีเหลือง "เล่ห์ร้าย" โดย เจ้าชายรองเท้าแตะ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25542.0)
สีแสด "Butterfly" โดย Monarch (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25548.0)
สีแดง "เพลิงกุหลาบ" โดย แรงเทียน
(http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25550.0)
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่14 คำสัญญา ตอนจบ 5/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 05-06-2011 21:01:03
(http://upic.me/i/w6/3rain.gif) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23990.0)
(http://a1.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/189166_1613381299027_1371123300_31303532_3135310_n.jpg)
ประกาศ
ขอเพิ่มของรางวัลอีกชิ้น เพื่อสมน้ำหน้าคุณ เอ๊ย!! สมนาคุณที่ทุกคนร่วมสนุก
โดยรางวัลใหญ่ยังเป็นเช่นเดิม กระเป๋าหลุยส์ และเพิ่มรางวัลเข้าไปอีก คือ หนังสือ มนต์รักบ้านทุ่ง อีก 1 รางวัล

กดเบาๆ ส่งคำตอบชิงรางวัลและพูดคุยนอกเรื่องกับนักเขียนทั้งเจ็ด (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23990.0)

The rainbow project
สีม่วง "เพลิงพราย" โดย จงกลนี (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25519.0)
สีคราม "รักลวงตา" โดย ภาพฝัน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25535.0)
สีน้ำเงิน "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" โดย สายลมห่มฟ้า (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25536.0)
สีเขียว "DOOM" โดย Nassiiz (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25540.0)
สีเหลือง "เล่ห์ร้าย" โดย เจ้าชายรองเท้าแตะ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25542.0)
สีแสด "Butterfly" โดย Monarch (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25548.0)
สีแดง "เพลิงกุหลาบ" โดย แรงเทียน
(http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25550.0)
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 8 PG. 5 [31/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 05-06-2011 21:02:05
(http://upic.me/i/w6/3rain.gif) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23990.0)
(http://a1.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/189166_1613381299027_1371123300_31303532_3135310_n.jpg)
ประกาศ
ขอเพิ่มของรางวัลอีกชิ้น เพื่อสมน้ำหน้าคุณ เอ๊ย!! สมนาคุณที่ทุกคนร่วมสนุก
โดยรางวัลใหญ่ยังเป็นเช่นเดิม กระเป๋าหลุยส์ และเพิ่มรางวัลเข้าไปอีก คือ หนังสือ มนต์รักบ้านทุ่ง อีก 1 รางวัล

กดเบาๆ ส่งคำตอบชิงรางวัลและพูดคุยนอกเรื่องกับนักเขียนทั้งเจ็ด (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23990.0)

The rainbow project
สีม่วง "เพลิงพราย" โดย จงกลนี (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25519.0)
สีคราม "รักลวงตา" โดย ภาพฝัน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25535.0)
สีน้ำเงิน "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" โดย สายลมห่มฟ้า (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25536.0)
สีเขียว "DOOM" โดย Nassiiz (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25540.0)
สีเหลือง "เล่ห์ร้าย" โดย เจ้าชายรองเท้าแตะ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25542.0)
สีแสด "Butterfly" โดย Monarch (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25548.0)
สีแดง "เพลิงกุหลาบ" โดย แรงเทียน
(http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25550.0)
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 11 เบาะแส 4/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 05-06-2011 21:03:15
(http://upic.me/i/w6/3rain.gif) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23990.0)
(http://a1.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/189166_1613381299027_1371123300_31303532_3135310_n.jpg)
ประกาศ
ขอเพิ่มของรางวัลอีกชิ้น เพื่อสมน้ำหน้าคุณ เอ๊ย!! สมนาคุณที่ทุกคนร่วมสนุก
โดยรางวัลใหญ่ยังเป็นเช่นเดิม กระเป๋าหลุยส์ และเพิ่มรางวัลเข้าไปอีก คือ หนังสือ มนต์รักบ้านทุ่ง อีก 1 รางวัล

กดเบาๆ ส่งคำตอบชิงรางวัลและพูดคุยนอกเรื่องกับนักเขียนทั้งเจ็ด (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23990.0)

The rainbow project
สีม่วง "เพลิงพราย" โดย จงกลนี (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25519.0)
สีคราม "รักลวงตา" โดย ภาพฝัน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25535.0)
สีน้ำเงิน "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" โดย สายลมห่มฟ้า (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25536.0)
สีเขียว "DOOM" โดย Nassiiz (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25540.0)
สีเหลือง "เล่ห์ร้าย" โดย เจ้าชายรองเท้าแตะ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25542.0)
สีแสด "Butterfly" โดย Monarch (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25548.0)
สีแดง "เพลิงกุหลาบ" โดย แรงเทียน
(http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25550.0)
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่14 คำสัญญา ตอนจบ 5/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 05-06-2011 21:04:06
อุ้ยจบแล้วง่ะ.....อะไรจะไวปานนั้น
อยากได้ตอนพิเศษจังเลยยย นะนะ :m13:
เป็นการจบที่ลงตัวดี ไนท์ก็ยังน่ารักเหมือนเดิม แต่ดีหน่อยที่แสดงความรู้สึกออกมาบ้าง
ขอปรมมือให้พี่เต สุดท้ายก็ยังไม่ได้กินน้องไนท์ :laugh:
แต่ก็น่ารักมากค่ะ  :m1: :m1: :m1: จบประทับใจดี
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ100% P:7[1/6/11]
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 05-06-2011 21:08:29
(http://upic.me/i/w6/3rain.gif) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23990.0)
(http://a1.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/189166_1613381299027_1371123300_31303532_3135310_n.jpg)
ประกาศ
ขอเพิ่มของรางวัลอีกชิ้น เพื่อสมน้ำหน้าคุณ เอ๊ย!! สมนาคุณที่ทุกคนร่วมสนุก
โดยรางวัลใหญ่ยังเป็นเช่นเดิม กระเป๋าหลุยส์ และเพิ่มรางวัลเข้าไปอีก คือ หนังสือ มนต์รักบ้านทุ่ง อีก 1 รางวัล

กดเบาๆ ส่งคำตอบชิงรางวัลและพูดคุยนอกเรื่องกับนักเขียนทั้งเจ็ด (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23990.0)

The rainbow project
สีม่วง "เพลิงพราย" โดย จงกลนี (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25519.0)
สีคราม "รักลวงตา" โดย ภาพฝัน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25535.0)
สีน้ำเงิน "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" โดย สายลมห่มฟ้า (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25536.0)
สีเขียว "DOOM" โดย Nassiiz (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25540.0)
สีเหลือง "เล่ห์ร้าย" โดย เจ้าชายรองเท้าแตะ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25542.0)
สีแสด "Butterfly" โดย Monarch (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25548.0)
สีแดง "เพลิงกุหลาบ" โดย แรงเทียน
(http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25550.0)
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๘. ๑ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 05-06-2011 21:09:06
(http://upic.me/i/w6/3rain.gif) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23990.0)
(http://a1.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/189166_1613381299027_1371123300_31303532_3135310_n.jpg)
ประกาศ
ขอเพิ่มของรางวัลอีกชิ้น เพื่อสมน้ำหน้าคุณ เอ๊ย!! สมนาคุณที่ทุกคนร่วมสนุก
โดยรางวัลใหญ่ยังเป็นเช่นเดิม กระเป๋าหลุยส์ และเพิ่มรางวัลเข้าไปอีก คือ หนังสือ มนต์รักบ้านทุ่ง อีก 1 รางวัล

กดเบาๆ ส่งคำตอบชิงรางวัลและพูดคุยนอกเรื่องกับนักเขียนทั้งเจ็ด (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23990.0)

The rainbow project
สีม่วง "เพลิงพราย" โดย จงกลนี (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25519.0)
สีคราม "รักลวงตา" โดย ภาพฝัน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25535.0)
สีน้ำเงิน "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" โดย สายลมห่มฟ้า (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25536.0)
สีเขียว "DOOM" โดย Nassiiz (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25540.0)
สีเหลือง "เล่ห์ร้าย" โดย เจ้าชายรองเท้าแตะ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25542.0)
สีแสด "Butterfly" โดย Monarch (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25548.0)
สีแดง "เพลิงกุหลาบ" โดย แรงเทียน
(http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25550.0)
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/Ch.12-14 ค่ะ 3 ตอนติด (3/6/54)
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 05-06-2011 21:10:35
(http://upic.me/i/w6/3rain.gif) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23990.0)
(http://a1.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/189166_1613381299027_1371123300_31303532_3135310_n.jpg)
ประกาศ
ขอเพิ่มของรางวัลอีกชิ้น เพื่อสมน้ำหน้าคุณ เอ๊ย!! สมนาคุณที่ทุกคนร่วมสนุก
โดยรางวัลใหญ่ยังเป็นเช่นเดิม กระเป๋าหลุยส์ และเพิ่มรางวัลเข้าไปอีก คือ หนังสือ มนต์รักบ้านทุ่ง อีก 1 รางวัล

กดเบาๆ ส่งคำตอบชิงรางวัลและพูดคุยนอกเรื่องกับนักเขียนทั้งเจ็ด (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23990.0)

The rainbow project
สีม่วง "เพลิงพราย" โดย จงกลนี (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25519.0)
สีคราม "รักลวงตา" โดย ภาพฝัน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25535.0)
สีน้ำเงิน "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" โดย สายลมห่มฟ้า (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25536.0)
สีเขียว "DOOM" โดย Nassiiz (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25540.0)
สีเหลือง "เล่ห์ร้าย" โดย เจ้าชายรองเท้าแตะ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25542.0)
สีแสด "Butterfly" โดย Monarch (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25548.0)
สีแดง "เพลิงกุหลาบ" โดย แรงเทียน
(http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25550.0)
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนที่ ๘. ๑ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้า ๖
เริ่มหัวข้อโดย: แรงเทียน ที่ 05-06-2011 21:11:12
                                      ตอน อวสาน

เพลิงใดจะเผาผลาญมอดไหม้ไม่เหลือซากเท่าเพลิงที่อยู่ในใจ เพลิงไฟสีเนื้อที่โหมกระหน่ำโชนแสงอยู่ในอก จะเอาสิ่งใดดับเพลิงนั้นถึงจะมอดหาย เพลิงรักเผาใจ เพลิงไฟเผาเรือนเช่นนั้นแล กุหลาบงามสองดอกต่อสู้ฟาดฟันกันเพื่อให้ได้มาซึ่งภมรที่รัก แม้นว่าภมรนั้นจะไม่คู่ควร แต่ก็ทำ ทำไปด้วยสิ่งที่ยึดถือครองอยู่คือเกียรติและศักดิ์ศรีที่จะให้ใครหน้าไหนมาดูหมิ่นไม่ได้ ครั้นพอมีสติหวนกลับมองมา รอบกายมีแต่เถ้าทุลีของเปลวเพลิงนั้น จะทำเช่นใด แม้นชาติพรรณกุหลาบงามจะเลอค่าเพียงใด แต่มันเหี่ยวแห้งลง ภมรใดจะตอม?
“พี่จะไปรอที่อังกฤษนะเจ เจไปเรียนต่อที่โน่นให้ได้นะ ไม่ว่าจะยังไงพี่ก็จะรอ”
เทียนบุญนัดเจอกับมกุฏโกเมนอีกครั้งเพื่อบอกความประสงค์
“พี่ ผมกลัว ถ้าม้ารู้มันจะไม่เป็นแบบนี้นะ”
“ม้าไม่รู้หรอกเจ ม้าจะไม่มีทางรู้”
“มันไม่ดีเลยนะพี่ ระหว่างเรา จบกันแค่นี้ได้ไหม”
“เจ ไม่ได้นะ พี่รักเจมากนะ เจก็รู้ จะทิ้งพี่ไม่ได้นะ การล่ำลากันมันไม่ใช่ทางออกของปัญหานะเจ เชื่อพี่ใจเย็นๆ”
ร่ำไห้ออกมาปิ่มใจจะขาดไม่เคยมีครั้งใดรวดร้าวใจได้เท่านี้ อุปสรรคใดหรือจะกั้นขวางได้ในครั้งก่อน แต่ครั้งนี้อุปสรรคมันดูยิ่งใหญ่มหึมาเกินกว่าจะปีนป่าย แต่ถามว่าท้อไหม ไม่เคยคิด แต่แค่มองเห็นอนาคตไม่ออกเท่านั้นเอง
“เลิกติดต่อกับมัน เด็ดขาดนะเจ อย่าหาว่าพี่ไม่เตือน”
มณีอารียาเองก็บีบคั้นน้องชาย ห้ามเด็ดขาดไม่ให้ออกไปไหนลำพังเว้นแต่จะไปเรียน ซึ่งไปเรียนเธอก็ให้คนตามตลอดเวลา
“เกินไปนะพี่ เจเลิกติดต่อกับเขาได้ แต่พี่อย่าให้คนตามเจได้ไหม เจอึดอัด”
“พี่ไม่ไว้ใจมัน ทำไมล่ะเจ แค่นี้พี่ก็ไม่รู้จะทำยังไงต่อแล้ว ทำไมเราทำอะไรเราไม่คิดถึงพี่ ถึงม้าบ้าง ทำไมปล่อยให้มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น”
“ผมไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้นะพี่”
เขาเองก็ขึ้นเสียงเอ่ยออกมาทั้งน้ำตา บีบคั้นใจเกินไป
“เจไม่ผิดหรอก เพราะมัน มันใช้มารยา มันหลอกเราพี่รู้”
“เอาเถอะครับพี่เมย์ เจจะเลิกกับเขา พอใจใช่ไหมครับ”
“ไม่ มันยังไม่พอ ต้องเลิกเด็ดขาด”
“พี่เมย์”
ครางออกมา เสียงของมกุฏโกเมนไม่ได้แสดงความเจ็บปวดเพียงคนเดียว มณีอารียาเองก็ร้าวลึกลงไปในใจ ไม่เคยคาดคิดว่าเรื่องมันจะลุกลามใหญ่โตมากขนาดนี้ การที่จะสูญเสียน้องชายที่เป็นเหมือนประมุขของบ้านในอนาคตให้กับเกย์ หรือสมาคมแบบนี้เธอเหมือนโดนฆ่าทั้งเป็น ครั้นจะไม่ง้อบุรุษชาติด้วยเชื่อมั่นในตัวเองมาโดยตลอดแต่ก็ยอมไม่ได้ ทำใจรับไมได้ที่คนใกล้ตัวที่สุดจะหลงติดบ่วงของปีศาจร้ายที่ตนเกลียดชัง
“ผมอยากไปเรียนที่อังกฤษพี่เมย์”
มกุฏโกเมนเอ่ยออกมาเมื่อบรรยากาศรอบๆตัวมันตึงเครียดเกินไป เขาอึดอัดที่จะต้องทนอยู่ในสภาวะแบบนี้ สายตาหลุบลงต่ำไม่ได้มองหน้าพี่สาว
“ไม่ได้ พี่จะไม่ปล่อยให้เราไปนอกหูนอกตา”
“พี่เมย์ ผมไปโน่นแล้วผมก็ไม่ต้องมาคิดเรื่องนี้ไง ไม่ดีเหรอ”
มณีอารียานิ่งคิดอยู่
“เรื่องนี้เราค่อยคุยกัน มันต้องมีทางออกที่ดีกว่านี้ แต่ห้ามให้ม้ารู้เรื่องนี้เด็ดขาดเข้าใจไหมเจ”
“ครับพี่”
ถ้าหากว่าคิดทบทวนย้อนกลับไป เรื่องราวมากมายเหล่านี้มันเกิดขึ้นได้เช่นใด ตรงไหนมันคือจุดเริ่มต้นของความอัปยศอดสูนี้หรือ มณีอารียาเม้มปากแน่น เพราะชายที่หมายปองไม่มั่นคง โลเลเหมือนไม้หลักปักเลน ใกล้ใครก็เอนไปทางนั้น เช่นนั้นหรือ หรือว่าคนที่เขาเข้าไปเกี่ยวพันด้วยมันมีพิษสงร้ายกาจ จะว่าด้วยอะไรก็ตาม แต่เรื่องมันบานปลายมาถึงขั้นนี้แล้ว จะทำเช่นไรดี คิดหาหนทางไปยิ่งมืดแปดด้าน
“เจ พี่คิดถึงเจนะ คิดถึงมาก”
ทางเดียวที่จะติดต่อกับมกุฏโกเมนคือการส่งข้อความ เพราะโทรศัพท์ไปหาเขาเองก็ไม่รับสาย ร้อนใจอย่างที่ไม่เคยเป็น ร้อนใจเหมือนไฟที่สุมทรวง ไม่เคยต้องตามใครมากมายเท่านี้มาก่อน  แต่ข้อความเหล่านั้นที่ส่งออกไปมันเหมือนส่งผิดเบอร์ หรือส่งผิดคน ไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับ ไม่ว่าจะรอนานแค่ไหน ยิ่งรอยิ่งร้อนรน ไฟในอกมันโหมกระพือกระหน่ำขึ้นลุกลามมอดไหม้ นั่งก็ไม่ได้ ยืนก็ไม่มีความสุข
“พี่อยากเจอเจ เจอกันหน่อยได้ไหมที่เดิมของเรา”
เทียนบุญส่งข้อความออกไปก่อนที่จะรีบแต่งตัวขับรถออกจากบ้านไป จุดหมายปลายทางคือรังรักของเขากับมกุฏโกเมน
“จะไปไหนเจ”
“ออกไปหาเพื่อน”
“ไม่ได้ นี่เราไม่ฟังพี่เลยเหรอเจ จะออกไปทำไม”
“พี่เมย์ เจก็มีชีวิตของเจนะ เจก็มีเพื่อน จะเจอเพื่อนบ้างไมได้เหรอ เจไม่ใช่นักโทษนะ”
เขาโพล่งออกมาอย่างเหลืออด
“อยากเจอก็ให้เพื่อนมาที่บ้าน ไม่ได้นะเจ พี่ไม่ไว้ใจ นี่เราจะออกไปเจอมันใช่ไหม”
“พี่เมย์ เจจะไปหาเพื่อน เจไมได้ติดต่อกับเขาแล้วนะ”
“โกหก แล้วนี่อะไรเจ นี่อะไร”
“พี่เมย์”
มณีอารียายกมือขึ้นกำโทรศัพท์มือถือไว้แน่น มกุฏโกเมนหน้าซีดลง ในแววตานั้นแสดงอะไรออกมาหลายอย่าง ทั้งผิดหวังทั้งเสียใจ
“ทำไม”
“พี่ขอโทษที่พี่ต้องทำแบบนี้ แต่เห็นไหมว่าเจไม่เคยฟังพี่เลย นี่หรือที่ไม่ได้ติดต่อ แบบนี้มันหมายความว่ายังไงเจ เจทำอะไรอยู่ นี่เจกลายเป็นเกย์ไปแล้วเหรอ ทำไมเจ ทำไม”
“พี่เมย์ เจไม่ได้เป็นเกย์นะ”
ทั้งสองตะเบ็งเสียงใส่กันอย่างไม่มีใครจะยอมลดราวาศอกให้กันเลย ถลึงตาใส่กัน มกุฏโกเมนวิ่งออกจากบ้านไป อิสรเสรีภาพที่เขาเคยมีตอนนี้มันถูกกักกัน นี่คือสิ่งที่เขาคิด
“เจ กลับมานะ จะไปไหนเจ”
ไม่ฟังเสียงของใครทั้งสิ้น มกุฏโกเมนวิ่งออกไปแล้ว แต่จุดหมายปลายทางของเขาไม่ใช่จุดนัดพบ เขาขับรถไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีจุดหมายปลายทาง ภายในใจที่มีความหมองมนแผ่ปกคลุมเข้ามาในใจ คิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไร มองไม่เห็นหนทาง เขาจอดรถข้างทางก่อนที่จะสะอื้นไห้ออกมา คับแค้นใจ ปวดร้าวอย่างที่มองไม่เห็นสาเหตุว่าทำไม ไม่ได้รักเขามากขนาดนั้น แต่นี่คืออะไร มันไม่ใช่ความรักเขาพยายามบอกกับตัวเอง แต่ภาพเหล่านั้นที่เขาทำ มันฉายวนซ้ำแล้วซ้ำอีกในหัว
“โว้ยยยย”   
อีกฝ่ายที่รออยู่ที่รังรัก รออยู่อย่างนั้นด้วยหัวใจที่เปี่ยมหวัง จากหวังมากกลายเป็นริบหรี่ แสงแห่งหวังนั้นเริ่มมอดลงเรื่อยๆ นอนรอก็แล้ว เดินก็แล้ว ใจมันไม่มีทีท่าว่าจะยอมนิ่งลงเลย มิหนำซ้ำมันยิ่งโหมกระหน่ำทำให้ร้อนรนยิ่งกว่าเดิม
“เจ จะมาหาพี่ไหมครับ”
“พี่รออยู่นะครับเจ ไม่ว่ายังไงก็จะรอ”
“เลิกรอเสียที อีกะเทยวิปริต อีโรคจิต”
มณีอารียาที่กุมมือถือของน้องชายไว้ อ่านซ้ำแล้วซ้ำอีก อดทนไม่ได้อีกต่อไป เธอไม่รู้ว่ามกุฏโกเมนจะไปที่แห่งใด แต่รู้ตอนนี้แล้วว่าเขาไม่ได้ไปหาเทียนบุญแน่นอน พอเทียนบุญได้รับข้อความถึงกับสะอึกน้ำตาไหลรินออกมาในทันที
“เจ ทำไมเจว่าพี่แบบนี้ เจ”
พยายามโทรฯกลับมาแต่มณีอารียาปิดเครื่องแล้ว เทียนบุญร่ำไห้ออกมาอย่างเจ็บปวดทรมาน ในใจคิดไปต่างๆนานา มกุฏโกเมนเองไม่เคยมีทีว่าจะเอ่ยคำพูดแบบนี้ออกมาได้เลย นับจากคบกัน เขาไม่เคยพูดแบบนี้ เป็นไปไม่ได้
“อย่าบังคับให้ต้องทำแบบนี้นะ”
เทียนบุญลุกจากเตียงไปทั้งน้ำตา จุดหมายปลายทางคือบ้านของมณีอารียา เขารู้จักดีเพราะเคยมาส่งมกุฏโกเมนบ่อยครั้งแม้จะจอดรถไกลจากหน้าบ้านมากก็ตามที
“คุณเมย์คะ มีคนมาพบคุณเจค่ะ”
เด็กรับใช้ในบ้านวิ่งเข้ามาบอกมณีอารียาที่กำลังนั่งกุมขมับใช้ความคิดอยู่ที่โถงด้านล่าง
“ใคร”
“ไม่ทราบค่ะ เห็นบอกเป็นเพื่อนคุณเจ”
“อืมๆ เจไม่อยู่ไปบอกเขาที”
“ค่ะ”
“ไม่เชื่อ ชั้นไม่เชื่อ เจต้องอยู่ที่นี่ ทำไมถึงเข้าไปไม่ได้ ชั้นจะเจอเจ”
พอสาวใช้เดินกลับไปบอกว่ามกุฏโกเมนไม่อยู่บ้าน เทียนบุญก็แว้ดเสียงขึ้นทันที
“เอ่อ คุณเจไม่อยู่จริงๆค่ะคุณ”
“เปิดประตูให้ชั้นเดี๋ยวนี้ แล้วตอนนี้ใครอยู่”
“เอะอะอะไรกัน อ๊ะ นี่แก”
มณีอารียาเดินออกมาเพราะเสียงของเทียนบุญก้องดังเข้าไปในบ้าน พอรู้ว่าใครก็หน้าซีดตกใจ ความรู้สึกมากมายหลายอย่างวิ่งวนอยู่ทั่วใจ
“นี่แกมาทำไม อีหน้าด้าน กลับไปนะ ไม่งั้นชั้นจะแจ้งตำรวจ”
มณีอารียาก้าวตรงไปยืนประจันหน้า สายตาจ้องกันไม่ยอมวางตา
“แกซ่อนเจไว้ใช่ไหม”
“นี่แกยังไม่ยอมหยุดเหรอ แกอยากจะลองดีกับชั้นใช่ไหม”
“ชั้นแค่อยากจะบอกบางอย่างกับเจ แค่นี้เอง ไม่ได้เหรอ”
“ไม่ได้ โลกของแกกับเจมันคนละโลกกัน อย่ามายุ่งกับน้องชายของชั้นอีก กลับไป อย่ามาเหยียบที่นี่อีก เสนียดจัญไรจะติดบ้านชั้น”
“ชั้นก็ไม่ได้อยากจะมาเหยียบที่นี่หรอกนังเมย์ ชั้นมาหาเจ”
“นั่นล่ะ ห้ามมายุ่งกับน้องชายของชั้นอีก แกต้องให้ทำยังไงแกถึงจะยอม หา อีหน้าด้าน”
“ชั้นรักเจ แล้วเจก็รักชั้น แกจะกีดกันทำไม หา แกจะ”
“พี่เมย์”
เสียงมกุฏโกเมนดังมาจากด้านหลังของเทียนบุญเขากลับมาแล้ว จอดรถพอเห็นว่าใครมาก็หน้าซีดตกใจแต่ก็เดินเข้ามาหา
“เจ เจ พี่มาหาเจ”
“หยุดนะ อย่าไปแตะต้องตัวน้องชายของชั้น อีกะเทย”   
โผเข้าไปหมายจะกอดให้สาแก่ใจแต่ก็ชะงักเท้าไว้ มณีอารียาเดินออกมาจากบ้านแล้ว
“เพียะ เลว สารเลว”
“พี่เมย์”
ไม่ทันที่เทียนบุญจะตั้งตัว ฝ่ามือของมณีอารียาก็ฟาดลงที่แก้มแล้ว หน้าหันไปอีกทาง มกุฏโกเมนเองก็ตกใจเอาตัวบังพี่สาวของตนไว้เพราะท่าทางมณีอารียาจะไม่ตบแค่ทีเดียว
“นี่แกปกป้องมันเหรอเจ นี่แกเป็นอะไรไปแล้ว ถอยไป”
ตวาดเสียงดังลั่น เทียนบุญเม้มปากแน่นไม่อยากจะโต้ตอบต่อหน้าคนที่เขารัก ยืนหลบอยู่ด้านหลังของมกุฏโกเมน
“พี่กลับไปก่อนได้ไหม เราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะ”
เขาหันไปพูดกับเทียนบุญ สายตายากเกินจะอ่าน สายตาที่ทำให้เทียนบุญผงะออกไป
“พี่คิดถึงเจ แค่อยากเจอหน้า”
“ตอแหล ไปให้พ้นหน้าซะที เข้าบ้านได้แล้วเจ ไม่ต้องเจอมันอีก ไม่ว่าจะยังไง”
เสียงที่เกรี้ยวกราดของมณีอารียาทำให้มกุฏโกเมนนิ่งจนสั่น ร่างของเขาถูกพี่สาวกระชากให้กลับเข้าบ้าน
“เจ อย่าลืมนะเจ ที่เราคุยกันไว้ เจพี่จะรอ”
เทียนบุญร่ำไห้ออกมาเกาะแขนของเขาไว้แน่น ไม่เคยทำขนาดนี้ไม่ว่าจะกับใคร ไม่อายที่จะร่ำไห้คร่ำครวญ ความเจ็บปวดในใจที่มันแสดงฉายออกมามันเกินกว่าที่ใครจะเข้าใจและรับรู้ได้ ไม่เคยเกรงกลัวมณีอารียาหรือว่าใครหน้าไหน แต่ยอมเพราะเขาคนเดียว
“ปล่อยเดี๋ยวนี้อีกะเทย ปล่อย”
มณีอารียาเองก็ฉุดกระชากลากถูน้องชายของตัวเองหมายจะให้หลุดจากมือของเทียนบุญเหมือนเนื้อตัวของเขาเป็นสิ่งปฏิกูลเหม็นเน่า
“แกแยกพวกเราได้แต่ตัวเท่านั้นล่ะ แต่แกไม่มีวันจะแยกใจเราจากกันได้ ชั้นรักเจ และเจก็รักชั้น เรารักกัน แกได้ยินไหม”
ตะโกนออกมาเสียงดัง
“ว้ายคุณผู้หญิง คุณผู้หญิง”
เสียงของสาวใช้ร้องดังขึ้น คุณมณีภัสสรมายืนอยู่ตรงเสาหน้าบ้านนานแล้วเพราะเสียงเอะอะโวยวาย บนแขนยังมีสายน้ำเกลือระโยงระยางอยู่ ยืนฟังอยู่นานจนได้ยินประโยคนั้นจากเทียนบุญ
“ม้า”
“ม้า!!!!!”
ทั้งมณีอารียาและมกุฏโกเมนร้องเสียงหลงขึ้นพร้อมกัน ดวงตาเบิกกว้างพอเห็นว่ามารดาทรุดตัวลงกับพื้น แม้สาวใช้จะพยุงร่างเอาไว้แต่ด้วยน้ำหนักของคนที่ทิ้งตัวลงกะทันหันเธอคนนั้นก็ฉุดไว้ไม่อยู่
“ไปเอาเครื่องช่วยหายใจมา ไป จะมองอะไรอยู่”
มณีอารียาร้องสั่งสาวใช้ออกไป
“ม้า ม้าอย่าเป็นไรนะ ม้า ฟื้นสิ ม้า”
มกุฏโกเมนปรี่เข้าไปประคองร่างมารดาไว้ ร่างกายที่อ่อนปวกเปียกไม่ไหวติงนั้นกระชากใจของคนทั้งสองไปโดยสิ้นเชิง
“ม้า ม้า ฟื้นสิม้า ม้า กรี๊ดดดด”
มณีอารียาร่ำไห้กรีดร้องออกมา ใบหน้าเลาะไปด้วยน้ำที่ไหลออกจากตา จากหัวใจ ความเจ็บปวดร้าวรานมันแผ่ซ่านไปทั่วทุกขุมขน เทียนบุญเองพอเห็นว่าคนทั้งสามทำอะไรกันอยู่ก็ถึงกับอึ้ง ก้าวขาไม่ออก พลันน้ำตาก็ไหลออกมา
“ม้าขา ม้า ม้าอย่าทิ้งเมย์ไป ม้า ม้า กรี๊ดดดด ม้า”
เสียงร้องโหยหวนของมณีอารียาดังก้องบ้าน มกุฏโกเมนเองก็ตะโกนเรียกมารดาไม่น้อยหน้ากัน มือที่อุ้มร่างนั้นอยู่ทั้งเขย่าตัวให้มารดาฟื้นคืน แต่ทว่าลมหายใจได้สิ้นไปแล้ว เทียนบุญทรุดกายลงกับพื้น อ้าปากค้าง น้ำตาไหลอาบสองแก้ม นี่มันอะไรกัน นี่มันเกิดอะไรขึ้น
“เพราะมันคนเดียว เพราะมัน”
มณีอารียาลุกจากที่วิ่งไปที่รถของตัวเอง ส่วนมกุฏโกเมนยังคงกอดมารดาร่ำไห้อยู่
“เพราะแก อีชาติชั่ว เพราะแก แกทำให้ม้าชั้นตาย เพราะแก”
เปิดเก๊หน้ารถแล้วหยิบวัตถุสีเงินมะเมื่อมพราวระยับออกมา วิ่งตรงไปยังเทียนบุญที่นั่งตกใจอยู่
“อ๊ะ”
เห็นนะไม่ใช่ไม่เห็นว่าในมือของมณีอารียาคืออะไร ปืนสั้นขนาดพกพา แต่จะให้วิ่งหนีไปไหนได้ ตัวแข็งทื่อยังคงช็อกกับเหตุการณ์ที่อยู่เบื้องหน้า
“แก”
“ปัง!”
“อ๊ะ”
“พี่เมย์”
ความมืดภายในใจที่ถูกแผ่ปกคลุมไปด้วยไฟแห่งกิเลสตัณหาจะมีแสงใดที่พอจะสาดส่องเข้าไปชี้นำทาง คนเหล่านี้มัวแต่ก้มหน้ามองหาในสิ่งที่ตนไขว่คว้าหามาเพื่อสนองความต้องการแห่งจิตใจ ไม่เคยจะแหงนหน้าขึ้นมองแสงสว่างอันใด อำนาจที่มีอยู่ในมือก็ใช้มันตามแต่ที่ใจปรารถนา ไม่มีใครผิด แต่ก็ใช่ว่าจะทำถูก การสนองความต้องการของตนเป็นสิ่งที่ปุถุชนทุกผู้ทุกคนทำกัน แต่การได้มาซึ่งสิ่งนั้นมันกระทบกระเทือนถึงใครบ้างเขาอาจจะไม่คิด การแย่งชิงของที่อวดอ้างว่าเป็นของตน ไม่สนใจแม้จะทำลายใครรายรอบตัว สมควรแล้วหรือ
“พ่อไม่ยอมนะเทียน พ่อจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด”
เสียงของคุณเทียนทิพย์ดังก้องห้องพักฟื้นในโรงพยาบาล มีทินกรและปาริฉัตรยืนอยู่ไม่ไกลนักจากเตียงผู้ป่วย กระสุนที่มณีอารียาเหนี่ยวไกมาโดนที่หัวไหล่ขวา โชคยังดีที่เขายังมีลมหายใจ แต่ทว่ากระดูกบริเวณนั้นแตกสลายไม่มีชิ้นดี แขนข้างนั้นใช้การไม่ได้ในตอนนี้
“อย่าเลยพ่อ อย่า”
ครางออกมาสายตามองออกไปยังหน้าต่าง น้ำตาเอ่อนองหน้า ความเจ็บปวดรวดร้าวที่มันเกิดขึ้นเพียงแค่ชั่วไม่กี่อึดใจมันกัดกินและทำลายหัวใจเกือบทั้งดวง เคยคิดเสมอมาว่าตนไม่เคยด้อยกว่าใคร ไม่เคยคิดว่าตนจะยอมแพ้ให้ใคร แต่มาถึงตอนนี้เขาคิดผิด เขาได้พ่ายแพ้ให้แก่ความเป็นจริง ความจริงที่ไม่มีใครหน้าไหนจะหนีพ้นนั่นคือความตาย วินาทีนั้นที่โดนกระสุนปืนกระแทกเข้าที่หัวไหล่ ความเจ็บปวดมันยังไม่ได้แผ่เข้าสู่ร่างกายนักเพราะมันชา แต่พอดิ้นอยู่สักพัก ใจจะขาด เพิ่งจะรู้ตอนนี้เองว่าท้ายที่สุดแล้ว พอคนเราสิ้นลมหายใจหรือกำลังจะตาย มีอะไรหรือที่เราหยิบคว้าเอาไปได้ ชายคนที่เรารักเขาก็กำลังอาดูรสูญเสียมารดาผู้เป็นที่รัก สายตาที่เหลือบมามอง แล้วยังไงก็แค่นั้น ร่างกายของเขายังคงนิ่งอยู่ ส่วนเรา เรามีใครข้างกายไหม
“อย่าห่วงไปเลยนะเมย์ เดี๋ยวเราจะจัดการทุกอย่างให้เอง เราว่าเมย์จัดการเรื่องงานศพคุณแม่ก่อนดีกว่า”
กนิฐนั่งโอบกอดมณีอารียาอยู่ที่สถานีตำรวจ มีเขาที่คอยเคียงข้าง ด้วยอำนาจเงินและคู่กรณีไม่ติดใจเอาความ มณีอารียาจึงรอดพ้นตารางไปอย่างไม่มีข้อกังขา “งานศพ” พอได้ยินคำนี้ก็สะอื้นเค้นเอาความรู้สึกที่อยู่ภายในออกมา ร่างกายทรุดลงต่ำหาพื้น กนิฐต้องดึงตัวขึ้นมากอดไว้
“ม้า ทำไม ทำไม”
“เมย์ อย่าเสียใจไปเลยนะ ม้าเขาไปดีแล้ว”
ส่ายหน้าไม่รับฟัง มันเร็วเกินไป มารดาของเธอมีอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแม้จะมีสายน้ำเกลือเจาะอยู่ตามร่างมากมายก็ตามที แต่ที่เป็นอย่างนี้เพราะอะไร ยิ่งคิดยิ่งปวดใจ นี่เรื่องราวมากมายเหล่านี้มันเกิดขึ้นเพราะอะไรกันนะ แย่งชิงชายเพียงคนเดียว แต่สูญเสียใครไปตั้งหลายคน ใครที่เรารักสุดหัวใจ เพราะอะไร
“เจริญพรเถอะโยม”
ผ่านมาสามอาทิตย์ร่างกายของเทียนบุญเริ่มดีขึ้นแม้กระดูกจะแตกละเอียด แต่ก็สามารถเดินเหินได้เป็นปกติ เขาพนมมือไหว้พระรูปงามที่นั่งนิ่งอยู่บนศาลาในวัดด้วยมือซ้ายเพียงมือเดียว สายตาของพระหลุบลงต่ำไม่มองใครแม้แต่พี่สาวของตนที่นั่งอยู่ไม่ไกล ตอนแรกมณีอารียาไม่ชอบใจที่เห็นหน้าเทียนบุญ แต่ก็ระงับอาการเอาไว้ เพราะสภาพของเทียนบุญเองก็คงบอบช้ำไม่แตกต่างอะไรไปจากเธอมากนัก
“ผม เอ่อ ผม มาขอคะมาพระ”
พูดแต่ละคำมันช่างยากเย็น สายตาของเทียนบุญเองก็ไม่กล้าเงยหน้าไปมองพระ ละอายแก่ใจ
“ที่ผมเคยทำผิดไว้ ผมอยากมาขออโหสิกรรม จากพระ ได้....โปรด อโหสิกรรม”
“อาตมาไม่คิดติดใจอะไรหรอกโยม อาตมาอโหสิกรรมให้ ไม่ว่าจะเป็นกรรมอันใด”
พระเอ่ยออกมา แล้วเหมือนกลืนก้อนอะไรสักอย่างลงไปในคอ
“เมย์”
เทียนบุญหันไปทางมณีอารียาที่เมินหน้าหนีไปทางอื่น เทียนบุญเม้มปากแน่นน้ำตาเริ่มหยดลงจากตา
“เราขอโทษนะที่เป็นต้นเหตุ ทำให้ทุกอย่างมันเลวร้ายลง เราเสียใจ”
สะอื้นออกมา มณีอารียาเองก็กำหมัดแน่นเม้มปากพยายามน้ำตาออกไปให้พ้นจากตา กนิฐเองบีบบ่าของมณีอารียาเบาๆให้เธอได้ผ่อนคลาย
“เราเสียใจนะเมย์”
“เสียใจ แล้วเอาชีวิตของม้าชั้นคืนมาได้ไหม”
หันมามองด้วยสายตาที่เกรี้ยวกราด เทียนบุญพอได้เห็นก็สะอื้นหนักกว่าเดิม
“โยมพี่ อโหสิกรรมให้เขาเถอะนะ สิ่งที่ผ่านมาแล้ว เป็นอดีตไปแล้ว ไม่มีใครแก้ไขได้ แม้แต่พระพุทธองค์ เพราะพระองค์ตรัสสั่งสอนไว้ตลอดเวลาว่า แม้นหากว่าเราไม่อยากมานั่งเสียใจกับวินาทีที่กำลังจะกลับกลายเป็นอดีตไปนั้น เราควรจะทำวินาทีปัจจุบันของเราให้ดีที่สุด แม้นหากว่าเราตรองแล้วว่าสิ่งนั้นเราทำดีแล้ว วันข้างหน้าเราก็จะไม่เป็นทุกข์กับสิ่งที่เราได้กระทำลงไป อันสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วจะคิดแค้นเคืองบาดหมางกันไป มันไม่มีประโยชน์หรอกนะโยม ไม่ว่าจะผู้ใด ไฟในอกของโยมเองนั่นล่ะที่จะเผาผลาญหัวใจโยมให้มอดไหม้ หาสุขไม่ได้เลยในชีวิตนี้ ปล่อยวางเสียเถิด”
เป็นวินาทีที่พระเงยหน้าขึ้นมามองพี่สาวของตนและปรายตาไปมองเทียนบุญ สายตาที่นิ่งเนิ่นนานมองอยู่ ในแววตานั้นไม่มีอะไรเคลือบแฝงแม้แต่น้อย พอมารดาของตนเสียไปแล้ว หลังงานศพก็ออกบวช ตั้งใจว่าอย่างนั้น ทรมานปวดใจไปไม่น้อยกว่าใคร แต่การที่ได้ฟังพระผู้ใหญ่ท่านเทศน์อบรม จิตใจก็ดีขึ้น ไม่เศร้าโศกเสียใจ เพราะตระหนักดีว่า ทุกสิ่งในโลกล้วนอนิจจัง ไม่มีใครยึดมั่นถือมั่นสิ่งใดได้ตลอดไป ไม่มีเลย
เทียนบุญก้มลงกราบพระอย่างศัทราด้วยความทุกลักทุเลตลอดเวลาที่ผ่านมาทำผิดไปก็มาก เกือบทั้งหมดเลยก็ว่าได้ พอก้มลงก็สะอื้นไห้ไม่สามารถลุกขึ้นมาได้ จนทินกรที่ติดตามมาด้วยไปพยุงร่างให้ลุกขึ้น ใบหน้าที่เผยออกมามันคือความทรมานทางใจ ความปวดร้าวที่บ่มจนสุก มณีอารียาเองก็เช่นกัน เธอเองก็ไม่ได้เป็นสุขจากการกระทำที่ผ่านมา
อันผู้ใดรู้ว่าตนมีทรัพย์ทางกายและทรัพย์สินภายนอกนั้นมากหลายเกินประมาณนั้น ย่อมจะคิดว่าตนเหนือกว่าผู้ใด เฉกเช่นกุหลาบงามสองดอกนี้ การหว่านทรัพย์ทางรูปโฉมกับเงินทองลงไปนั้น ล้วนแล้วหวังผลกลับมาเพียงเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตนปรารถนา ไม่คิดว่าคมของหนามที่อาบพิษของตนมันจะไปทิ่มแทงผู้ใด ทำทุกทางเพื่อให้กุหลาบนั้นเบ่งบานได้ยาวนาวส่งกลิ่นหอมหลอกล่อหมู่ภมร แต่กุหลาบงามสองดอกนี้คงลืมความสัตย์จริงที่ว่า ไม่มีสิ่งใดในโลกเป็นอมตะนิรันดร์ กาลเวลามันนำพาทุกอย่างไปและอย่างที่ไม่มีทางหวนคืนมา แม้ว่าทรัพย์สินศฤงคารจะหนาแน่เพียงใด ท่านเอาสิ่งใดคืนมาได้หรือ ไม่มี.....

                                  อวสาน[/size]
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่14 คำสัญญา ตอนจบ 5/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: sam3sam ที่ 05-06-2011 21:11:16
   “เพราะอีกไม่นานทุกอย่างจะหายไป ความสุข เสียงเพลง โลก จะกลายเป็นเพียงภาพลวงตาที่หลอกลวง โลกนี้มันไม่มีอะไรที่เป็นจริง”
ฟังแล้วรู้สึกหดหู่จัง เหมือนมันหน่วงๆในอก

 :pig4:
  o13
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่14 คำสัญญา ตอนจบ 5/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 05-06-2011 21:12:02
อย่างน้อยตอนจบของเรื่องนี้ ก็ไม่เป็นเพียงภาพลวงตา ให้เหล่าแฟน ๆ ต้อง  :monkeysad:
ถึงจะไม่มี อะจิ๋ง...... แต่ก็จิ้นกันเองได้ 555.....
พี่เตจะอยู่ดูแลเคียงข้างน้องไนท์ ตลอดไป  :กอด1:
+1 ให้กับความสุขเล็ก ๆ ของสีคราม
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ100% P:7[1/6/11]
เริ่มหัวข้อโดย: nataxiah ที่ 05-06-2011 21:16:59
รอตอนจบอยู่นะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนที่11เสียสละ100% P:7[1/6/11]
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมห่มฟ้า ที่ 05-06-2011 21:21:54
(http://upic.me/i/y7/qsky3.jpg) (http://upic.me/show/24228533)


ตอนที่ 12 สายลมที่หวังดี



หกเดือนผ่านไป
หนังของหม่อมเอียดมีการระงับการถ่ายทำไว้ก่อน เพราะว่าเกิดปัญหาขึ้นหลายอย่าง ปลายฟ้าเองก็ขอดูแลตัวเองไม่ขอมีผู้จัดการส่วนตัวใหม่ เพราะเขาไม่อยากให้มีคนอื่นเข้ามาอยู่ในที่ของสายลม หลังจากเรื่องครั้งนั้นปลายฟ้าเปลี่ยนตัวเองเป็นคนละคน เขาไม่เคยโมโหร้ายใส่ใคร มีความอดทนอดกลั้นมากขึ้น หันไปทำงานเพื่อสังคมมากยิ่งข้น จนเป็นที่รักของแฟนคลับรวมทั้งสื่อมวลชนต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้นทุกขณะ
วันนี้ปลายฟ้าออกช่วยหาเงินบริจาคเพื่อช่วยประสบภัยน้ำท่วมทางภาคใต้ เขาเดินขอรับบริจาคอยู่หน้าห้างชื่อดังใจกลางกรุง ผู้คนมากหน้าหลายตาเข้ามาขอถ่ายรูปพร้อมพูดคุย ปลายฟ้ายิ้มแย้มแจ่มใสตลอดเวลาที่ได้พูดคุยกับคนอื่น รอยยิ้มที่คราวนี้ยิ้มออกจากใจจริงถูกส่งให้คนแล้วคนเล่า กล่องบริจาคอัดแน่นไปด้วยธนบัตรสีต่าง ๆ จนแน่นขนัด
“พี่สายลมครับ พี่เห็นไหมครับว่าผมก็ทำงานแบบนี้ได้” ปลายฟ้าเงยหน้ามองแล้วพูดกับท้องฟ้าขณะที่มีสายลมพัดผ่านเขาเอื่อย ๆ
ปลายฟ้าไม่เคยลืมสายลมได้ แม้จะผ่านมานามแล้วก็ตาม เพราะทุกครั้งที่มีลมพัดผ่านตัว เขารู้สึกว่านั่นคือการสื่อสารของสายลมที่อยู่บนฟ้าไกล สายลมมักพัดผ่านยามเขารู้สึกท้อ รู้สึกเหงา รู้สึกเสียใจ แต่เมื่อผ่านมาทุกครั้งจะพัดความรู้สึกเหล่านี้ของปลายฟ้าหายไปด้วย เพราะปลายฟ้าคิดเสมอว่าจะไม่ทำให้สายลมต้องเป็นห่วงอีกแล้ว
ถึงจะบอกว่าทำใจได้แต่ปลายฟ้ากลับรับงานเยอะขึ้น เพื่อที่จะได้กลับเข้าห้องช้าและนอนเลย เพราะมันทำให้เขานึกถึงสายลมอยู่ตลอดเวลา ปลายฟ้าเลิกกับก้องเกียรติโดยให้เหตุผลว่าไม่อาจทำใจได้ในตอนนี้

“พี่สายลมผมกลับมาแล้วนะครับ” ปลายฟ้าพูดเมื่อเดินเข้ามาในห้อง
ปลายฟ้ามักจะทักแบบนี้ทุกครั้งที่กลับเข้ามาในห้อง ถึงแม้เขารู้ว่าจะไม่มีเสียงตอบรับก็ตาม แต่มันก็ทำให้เขารู้สึกเหมือนว่าสายลมอยู่ข้าง ๆ เขาเสมอ ปลายฟ้าจะเดินเข้าไปนอนที่ห้องของสายลมก่อนทำอย่างอื่นเสมอ วันนี้ก็เหมือนเช่นทุก ๆ วัน เขาเข้าไปนอนหลับอยู่บนเตียงปลายฟ้า
“พี่สายลมครับ ผมคิดถึงพี่ครับ” ปลายฟ้านอนละเมอพร้อมกับน้ำตาไหลออกมาเสมอ ๆ
ปลายฟ้าสะดุ้งตื่นเมื่อรู้สึกเหมือนมีคนมาเช็ดน้ำตาที่แก้มเบา ๆ แต่เมื่อมองไปรอบ ๆ ก็พบเพียงแต่ความว่างเปล่า ปลายฟ้าสัมผัสที่แก้มตัวเองเบา ๆ เขายังรู้สึกถึงความอบอุ่นที่สัมผัสหน้าได้อยู่ หรือว่าวิญญาณสายลมต้องการจะมาปลอบใจ ปลายฟ้าจึงทิ้งตัวลงนอนอีกครั้ง เผื่อเขาอาจจะรับรู้ถึงการเป็นอยู่ของสายลมได้อีกครั้ง
“อืม!! บรรยากาศยามเช้าช่างสดชื่นอะไรเช่นนี้” ปลายฟ้าขึ้นมาสูดอากาศบริสุทธิ์ยามเช้าบนดาดฟ้าคอนโด
สายลมเย็นสดชื่นยามเช้า พัดบนยอดตึกตลอดเวลา นี่อาจเป็นสิ่งเสพติดอย่างหนึ่งของปลายฟ้าก็ได้ เพราะมันทำให้รู้สึกเหมือนได้อยู่ใกล้สายลมคนที่แสนดีสำหรับเขามากไปอีกนิด
“พี่สายลมครับ ผมพยายามเข้มแข็งอย่างที่พี่เคยบอกไว้แล้วนะครับ แต่ไม่รู้พี่จะเห็นหรือเปล่านะสิ” ปลายฟ้าเงยฟน้าพูดกับท้องฟ้าสีน้ำเงินใสยามเช้า แม้ว่าจะดูสดใสแต่ก็ยังแฝงความว้าเหว่อยู่ไม่น้อย
“ผมไปทำงานก่อนนะครับ พี่สายลมเอาใจช่วยผมจากบนนั้นด้วยนะครับ” ปลายฟ้าพูดหลังจากมองท้องฟ้าอยู่นาน

“ปลายฟ้าคะ รู้สึกยังไงกับการได้เสนอชื่อเข้าชิงรางวัลตุ๊กตาทองนักแสดงนำยอดเยี่ยมปีนี้คะ” นักข่าวสายบันเทิงรุมล้อมปลายฟ้าเมื่อเดินออกจากบริษัทหลังจากทำงานเสร็จ
“ผมรู้สึกตื่นเต้นและดีใจมากครับ แสดงว่าความตั้งใจทั้งหมดของผมที่ผ่านมา มีคนมองเห็นมันแล้ว” ปลายฟ้ายิ้มตอบอย่างยินดีกับข่าวที่ได้รับมา
“แล้วเรื่องที่มีคนสงสัยว่าทำไมอยู่ปลายฟ้าถึงได้แสดงดีขึ้นมากกว่าแต่ก่อน เพราะว่าทำเพื่อคนคนหนึ่งจริงไหมคะ”
“ก็คงจะจริงนะครับ ที่ผมเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ก็เพราะคน ๆ หนึ่งจริง ๆ” ปลายฟ้าตอบอย่างภูมิใจ
“ใช่คุณสายลมผู้จัดการส่วนตัวคนเก่าที่เสียไปแล้วหรือเปล่าคะ”
“ผมขอตัวก่อนนะครับ ผมต้องรีบไปต่อแล้ว” ปลายฟ้าไม่ตอบคำถามพร้อมกับขอตัวออกมา
ถึงแม้ปลายฟ้าจะรับรู้ว่าสายลมได้ตายไปแล้ว แต่ก็ไม่อยากตอบคำถามนี้กับคนอื่น เพราะเขาไม่อยากรู้สึกว่าสายลมได้ตายไปจากเขาจริง ๆ เขามักเรียงตอบคำถามที่พูดถึงสายลมเสมอ ๆ
“ฉันเตือนเธอแล้วใช่ไหมล่ะว่าอย่าพูดถึงเรื่องนี้ แค่นี้ก็สงสารปลายฟ้าจะแย่แล้ว นี่เธอยังไปพูดให้เขาคิดถึงเรื่องเก่าอีก” เพื่อนนักข่าวด้วยกันว่ากล่าวนักข่าวคนที่ถาม ไม่มีนักข่าวคนไหนว่าปลายฟ้าในเรื่องนี้ เพราะทุกคนเข้าใจในความรู้สึกของปลายฟ้าเป็นอย่างดี
ปึก!!
ปลายฟ้าเดินชนคนอื่นจนล้มลงไปที่พื้น เป็นเพราะรีบเดินไม่อยากให้คนอื่นเห็นความอ่อนแอของเขา เพราะเมื่อมีคนพูดถึงสายลมเขามักจะอดคิดถึงเรื่องเก่า ๆ และร้องไห้ออกมาไม่ได้
“ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจครับ” ปลายฟ้ารีบก้มหน้าเข้าไปช่วย กลัวคนที่ชนเห็นน้ำตาของเขา
เขาเพิ่งรู้ว่าคนที่ชนเป็นคนพิการเพราะว่าต้องใช้ไม้เท้าช่วยเดิน ยิ่งทำให้รู้สึกผิดมากขึ้นไปอีก เขารีบเข้าไปช่วยพยุงคนที่ล้มอยู่ที่พื้นอย่างรวดเร็ว
วูบ!!
ความรู้สึกบางอย่างพัดผ่านเขาไปอย่างคุ้นเคยเมื่อสัมผัสคนที่ล้มอยู่
“ไม่เป็นไรครับ ผมลุกเองได้ คุณรีบไปไม่ใช่หรอครับ ไปเถอะครับ” ชายที่โดนชนรีบบอกพร้อมกับหลบหน้าลงต่ำ
“ไม่ได้หรอกครับผมชนคุณจนล้ม แล้วจะเลยไปเลยโดยไม่ช่วยได้ยังไงล่ะครับ” ปลายฟ้าพยุงชายคนนั้นยืนขึ้นก่อนหันไปหยิบไม้เท้าช่วยเดินมาให้
“นี่ครับ” “ขอบคุณครับ” ชายคนนั้นรีบรับไม้เท้าพร้อมกับเดินออกไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่หันหลังกลับมามองปลายฟ้าแม้แต่น้อย
วูบ!!
สายลมพัดผ่านมาจากด้านหลังของปลายฟ้า แต่สายลมคราวนี้สร้างความรู้สึกคุ้นเคยและอบอุ่นให้อย่างมาก มันช่างเหมือนความรู้สึกยามที่สายลมอยู่เคียงข้างเอามาก ๆ
ปลายฟ้าหันกลับไปมองด้านหลังเพื่อมอง คนที่เขาเดินชนตอนนี้หายไป ปลายฟ้ารู้สึกสงสัยในตัวชายคนนั้นมากเป็นพิเศษ แต่คงคิดมากไปเองเขาตัดใจเรื่องที่คิดแล้วขึ้นรถไปทำงานต่อ

“กลับมาแล้วครับพี่สายลม” ปลายฟ้าทักเหมือนเดิมทุกครั้งที่กลับเข้าห้อง
“พี่สายลมวันนี้ผมได้รูปที่ไปออกงานมา มาดูด้วยกันนะครับ” ปลายฟ้าบอกเมื่อเข้าไปนอนอยู่ในห้องสายลม
ปลายฟ้านอนดูรูปที่ทีมงานส่งมาให้ ระหว่างที่ดูเขารู้สึกสังเกตุบางอย่างได้ เพราะในหลาย ๆ งานมีรูปที่คล้าย ๆ ชายพิการในวันนี้ติดอยู่ด้วย แต่ทำไมเขากลับรู้สึกคุ้นและผูกพันกับชายคนนี้นักนะ ปลายฟ้าเลือกรูปที่มีชายคนนั้นอยู่ออกมารวมกันไว้ เขาพยายามสังเกตุรายละเอียดให้มากที่สุด แต่ก็ไม่รู้อะไรมากเพราะชายคนนั้นค่อนข้างแต่งตัวมิดชิด ปลายฟ้ารอบตัดสินใจว่าเจอกันครั้งหน้าต้องเห็นหน้าและพูดคุยให้ได้

วันแถลงข่าวผู้เข้าชิงรางวัลตุ๊กตาทอง
“ปลายฟ้ารู้สึกยังไงบ้างคะ ที่เป็นตัวเกร็งสำหรับรางวัลในครั้งนี้”
“ตื่นเต้นและก็ลุ้นสิครับ เพราะนี่ถือว่าเป็นรางวัลสำคัญมากสำหรับผมเลยทีเดียว และผมหวังว่าแฟน ๆ จะส่งแรงใจช่วยผมกับรางวัลนี้เหมือนกันครับ”
ขณะที่ให้สัมภาษณ์ปลายฟ้าเหลือบไปเห็นคนที่คุ้นตา คนที่กำลังตามหา ชายพิการคนนั้นนั่นเอง
“ขอตัวสักครู่นะครับ” ปลายฟ้ารีบขอตัวเมื่อเห็นว่า คน ๆ นั้นกำลังเดินจากไป
“คุณครับเดี๋ยวก่อนครับ” ปลายฟ้าเรียก ชายพิการกลับไม่สนใจเดินต่อไป
“คุณครับหยุดก่อนครับ” ปลายฟ้ารีบวิ่งตาม ชายพิการกลับรีบเดินเร็วขึ้น
“นี่คุณ หยุดก่อนได้ไหมครับ” ปลายฟ้าพยายามเรียกให้หยุด
ชายพิการนอกจากไม่หยุดยังเดินเร็วขึ้นไปอีก ปลายฟ้าพยายามแทรกผู้คนที่มางานแถลงข่าว ชายพิการเดินหลบเข้าซอกตึกไปอย่างรวดเร็ว
“หยุดก่อนครับ” ปลายฟ้าตามมาจนทันพร้อมกับจับไหล่ชายพิการไว้ไม่ให้เดินหนีไปไหน
“เออ คุณมีอะไรกับผมหรือครับ” เสียงแหบแห้งถามกลับมา เหมือนกับไม่ใช่เสียงที่แท้จริง
“วันนั้นผมยังไม่ได้ขอโทษคุณจริง ๆ จัง ๆ เลย วันนี้เลยอยากคุยและขอโทษด้วยเลย” ปลายฟ้าหาข้ออ้างที่จะคุยด้วย
“ไม่เป็นไรหรอกครับ เรื่องแค่นั้นเองผมขอตัวก่อนนะครับ” ชายพิการไม่ยอมหันกลับมามอง แต่พยายามจะเดินจากไป
“เดี๋ยวสิครับ ไม่คิดจะหันมาคุยกันสักหน่อยหรือครับ”
“ไม่ดีกว่าครับ หน้าตาผมไม่ได้หน้าดูขนาดนั้น” ชายพิการแกะมือปลายฟ้าออก
“หันมาคุยกันก่อนสิครับ” ปลายฟ้าเดินอ้อมไปด้านหน้าทันที
“ฮึก... ฮึก... ฮึก...”
ปลายฟ้าน้ำตารินไหลอาบสองแก้มทันทีที่เห็นหน้าคนตรงหน้าชัดเจน เขาโผเข้ากอดจนคนที่โดนกอดเซไปชิดติดกำแพง
“ทำไม ทำไมต้องโกหกผมด้วย” เสียงสะอึกสะอื้นถามคนที่โดนกอดไว้แน่น เหมือนกลัวว่าจะหนีไปไหนอีก
“ทำไมครับ ทำไมพี่สายลม”
ร่างสั่นเทาของคนที่กอดทำให้คนที่โดนกอดใจสั่นตามไปด้วย แต่ก็ไม่ได้ตอบคำถามที่ได้ยิน เขาพยายามจะไม่สนใจกับคนตรงหน้า แต่หัวใจเขากลับไม่ยอมให้ทำเช่นนั้น สองมือกลับประคองกอดเพื่อปลอบใจ น้ำตาไหลรินออกจากดวงตาทั้งสองข้างอย่างไม่รู้ตัว
“ทำไมครับ ทำไมพี่ต้องทำแบบนี้กับผมด้วย พี่รู้ไหมครับว่าผมคิดถึงพี่มากขนาดไหน” ปลายฟ้าตัดพ้อออกมา
ถึงจะถามยังไงก็ไม่ได้คำตอบจากคนในอ้อมกอดอยู่ดี ได้รับเพียงอ้อมกอดที่แสนจะอบอุ่นกลับมาอีกครั้ง ทั้งสองคนกอดกันอยู่นานในมุมตึก
“ตกลงพี่จะบอกผมได้หรือยังว่าทำไมต้องโกหกผมว่าตายแล้วด้วย” ปลายฟ้าคาดคั้นอีกครั้งหลังจากความคุมอารมณ์ได้
“พี่ไม่อยากเป็นภาระให้ฟ้าไงครับ พี่ไม่อยากให้ฟ้ามาดูแลคนพิการอย่างพี่ พี่เลยคิดว่าถ้าพี่บอกว่าตายไปเสียฟ้าคงจะทำใจและลืมพี่ได้ง่ายกว่า” สายลมยอมพูดออกมาแล้วตอนนี้
“ทำไมพี่คิดแบบนั้นล่ะครับ พี่เห็นผมเป็นคนแบบนั้นเลยหรือครับ” ปลายฟ้ามีน้ำเสียงเง้างอน
“ไม่ใช่แบบนั้นนะครับ พี่รู้ว่าฟ้าของพี่เป็นคนยังไง แต่พี่ไม่อยากให้ฟ้าลำบากเพราะพี่อีกต่างหาก” สายลมรีบอธิบาย
“ตอนนี้ผมโกรธพี่สายลมแล้วจริง ๆ ด้วยกับเรื่องนี้”
“พี่หวังดีนะครับ ฟ้าอย่าโกรธพี่เลยนะ”
“ไม่ครับ ถ้าจะให้หายพี่สายลมต้องสัญญากับผมเรื่องหนึ่งก่อน”
“เรื่องอะไรครับ ฟ้าลองบอกมาก่อนสิ”
“ก็ต่อไปพี่สายลมจะไม่จากผมไปไหนอีก ให้ผมดูแลพี่บ้างนะครับ”
“ครับ พี่ก็ไม่คิดจะหนีฟ้าไปไหนอีกแล้ว พี่จะหยุดหัวใจไว้ที่ปลายฟ้าครับ”

จบบริบูรณ์
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนอวสาน ๖ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้าสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: คนริมคลอง ที่ 05-06-2011 21:26:58
สาธุ _/l\_
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนอวสาน ๖ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้าสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: ipookza ที่ 05-06-2011 21:29:37
จบได้เศร้ามากๆ เลยอะ :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่14 คำสัญญา ตอนจบ 5/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: คนของเธอ ที่ 05-06-2011 21:30:52
จบแล้วค่ะ มาติดตามตอนใกล้จะจบจริงๆ นะเรา  :o8: :o8: :o8: :o8:
ลุ้นกับไนท์ได้ทุกฉาก แล้วก็นับประโยคได้เลย
รักของพี่เต ไม่ได้เป็นภาพลวงตา
แต่หลังจากนี้พี่เตต้องพยายามดูแลไนท์มากขึ้นอ่ะป่าว
แล้วจะได้กินไนท์เมื่อไหร่อะพี่เต  :impress2: :impress2:

ปล. อยากรู้ตอนจบของพี่หมอทอยกับระพีพัฒน์อะค่ะ เค้าเป็นไงบ้างอ่ะคู่นี้   :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่14 คำสัญญา ตอนจบ 5/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 05-06-2011 21:35:00
จบแล้วเหรอ... พี่เตยังไม่ได้ให้ของขวัญน้องไนท์เลย เดี๋ยวน้องหมาเป็นหมันนา 55555+

แต่ก็จบแบบประทับใจดี..... ^_^
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนอวสาน ๖ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้าสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 05-06-2011 21:36:10
 :เฮ้อ:สุดท้ายทุกคนที่มีแต่ความลุ่มหลง ก็ถูกเพลิงกุหลาบ(กิเลส)เผาซะจนไม่เหลืออะไร
ดังนั้นเราจึงไม่ต้องยึดติดว่าตัวกู ของกู ใช่ไหมคะคุณแรงเทียน อันไหนพอปล่อยวางก็ต้องปล่อยไป
จะได้ไม่เกิดผลร้ายแรงตามมา
 :pig4:มากค่ะคุณแรงเทียน ที่ฝากข้อคิด
ส่งท้ายรีพลาย ขอมอบ :L2:เป็นการขอบคุณอีกครั้งค่ะ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนอวสาน ๖ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้าสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 05-06-2011 21:38:01
จบได้กินใจมากๆๆ ค่ะ   :monkeysad: o13


 :pig2: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนจบ สายลมที่หวังดี P:8 5/6/11
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 05-06-2011 21:38:41
ปาฏิหาริย์มีจริงพี่สายลมกลับมาแล้ว  :mc4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนจบ สายลมที่หวังดี P:8 5/6/11
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 05-06-2011 21:40:57
 :m1: :m1: :m1: :m1: :m1:
จบแล้วววววววว
ดีใจมากกกเลยยยยยยยย   สายลมไม่ตายยย ฮู่เล่ :mc4:
ชอบปลายฟ้าก็ตอนจบนี่ละ
สุดท้าย สายลมก็กลับมาถึงจะพิการ แต่ไม่เป็นไร รักสายลมที่สุดอ่ะ
ปล.  หนูอยากได้ตอนพิเศษจังเลย :m13:
ปปล. แล้วหนูจะทายถูกไหมเนี้ยะว่าใครแต่ง  :m29: :กอด1: :กอด1: :L2: :L2:

หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่14 คำสัญญา ตอนจบ 5/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: Giniz ที่ 05-06-2011 21:41:43
จบแล้วเหรอ ยังไม่ได้อ่านNCเลยยยยยยยยยยยยยย
อยากรู้ว่าคนนิ่งๆ ไม่พูดแบบไนท์เจอพี่เตจับฉีดยาไปจะเป็นยังไงอ่ะ :z1:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนอวสาน ๖ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้าสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 05-06-2011 21:47:43
โดนปาดหน้า แต่ไม่เป็นไร ไงก็ตามมาอ่านตอนจบแบบติด ๆ  :z1:
เมื่อไฟราคะ ไฟโทสะ ไฟโมหะ เผาพลาญทุกสิ่งให้มอดไหม้ จนไม่เหลืออะไรแล้ว
คงเหลือแต่ความเจ็บปวด ของทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
+1 ให้กับเจ๊เทียน กับเพลิงสีแดง ที่เผาทุกอย่างให้มอดเป็นจุล :z2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่14 คำสัญญา ตอนจบ 5/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 05-06-2011 21:50:32
 :impress2: :man1:  น่ารักๆจริงงง
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนอวสาน ๖ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้าสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 05-06-2011 21:54:05
จบได้สมกับชื่อเรื่อง 'เพลิงกุหลาบ' จริงๆ สาธู๊!!!!!!!!!
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนอวสาน ๖ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้าสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 05-06-2011 21:58:08
ในที่สุดเทียนบุญก็คิดได้  :pig4:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนอวสาน ๖ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้าสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 05-06-2011 22:01:04
จบได้ซึ้ง กินใจ ได้คติและความคิดมากๆๆค่ะ
สุดท้าย ทุกฝ่ายก็สูญเสีย เพียงเพราะความต้องการส่วนตัว
โลกนี้ไม่อนิจังจริงๆๆ  o13
ปรมมือให้ พี่แรงเทียนแรงๆๆเลยค่ะ
ขอบคุณสำหรับเรื่องสั้นข้อคิดดีเรื่องนี้ :กอด1: :L2:
  
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนจบ สายลมที่หวังดี P:8 5/6/11
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 05-06-2011 22:03:19
ขอจิ้มสักหนเถอะ คุณ runynam นี่ เป็นแฟนคลับ เรนเจอร์เหมือนกัน ตามก้นกันไปติด ๆ ก็หลายสี หลายเรื่อง
อย่างน้อยสีฟ้านี้ก็เป็นอีกเรื่อง ที่ไม่เศร้าจนจิตตก แม้จะมีสีฟ้าหม่น ๆ บ้าง
แต่สุดท้ายลมก็พัด เอาความหม่นออกไปจากชีวิตของทั้งสอง ให้กลับมาเป็นสีฟ้าสดใสดังเดิม
+1 ให้กับความสุขในตอนจบที่ได้รับ  :L1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่14 คำสัญญา ตอนจบ 5/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 05-06-2011 22:06:25
พี่เตกับน้องไนท์น่ารักจริงๆ  :pig4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนจบ สายลมที่หวังดี P:8 5/6/11
เริ่มหัวข้อโดย: ณยฎา ที่ 05-06-2011 22:09:18
คำผิด

ตัวเกร็ง => ตัวเก็ง
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่14 คำสัญญา ตอนจบ 5/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: kittyfun ที่ 05-06-2011 22:13:53
เผลอแป็บเดียวก็จบเสียแล้ว

แต่เรื่องทุกอย่างจบลงด้วยดีแบบนี้ คนอ่านก็แฮปปี้จ้า

ป.ล. หมอทอย ช่างเป็นหมอที่น่ากลัวมาก ห้ามไปทำอะไรให้พี่แกโกรธเด็ดขาด สยองเลย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่14 คำสัญญา ตอนจบ 5/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 05-06-2011 22:16:35
ค่อยยังชั่ว จบแบบแฮปปี้
พี่เตก็ใจดี น้องไนท์ก็น่ารัก รักกันนาน ๆ นะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนอวสาน ๖ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้าสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 05-06-2011 22:28:49
สงสารพี่เทียน
เป็นเพราะนายทานกะยัยเมย์ทีเดียวเชียว
อ้าว เขาอโหสิกรรมกันแล้วเหรอ ก็ได้ ก็ได้ เลิกอินก็ได้
ขอบคุณคนเขียนเรื่องนะคะ สนุกมาก ๆ
บีบหัวใจทุกตอนเลยเชียว
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่14 คำสัญญา ตอนจบ 5/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 05-06-2011 22:30:38
ตั้งตัวไม่ทันจบแล้วเหรอค่ะ

อยากให้มีต่ออีกหน่อยจัง
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนจบ สายลมที่หวังดี P:8 5/6/11
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 05-06-2011 22:32:23
ขอบคุณปาติหาริย์(คนเขียน)ค่ะ ที่พี่สายลมยังไม่ตาย  จบแบบนี้ดีแล้วค่า ขอบคุณมาก
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนจบ สายลมที่หวังดี P:8 5/6/11
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 05-06-2011 22:34:57
อร๊ายยยยยยยยยยยย พี่ลมยังไม่ตาย :mc4:
โดนคนเขียนหลอกให้เสียน้ำตาสองรอบ
ตอนตายก็เสียใจแล้ว
ตอนกลับมาใหม่นี้ยิ่งสะเทือนใจ ซึ้งใจ
แต่ก็ขอบคุณนะคะ ที่คืนพี่ลมมาให้น้องฟ้า
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนอวสาน ๖ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้าสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: Annetemis ที่ 05-06-2011 22:37:48
แรด แรงงงงงงส์ & แฝงธรรมมะแบบนี้ นึกออกแค่ eiky คนเดียวอ่ะค่ะ แบบ...หน้าโบ๊ะลอยเด่นมาแต่ไกล :jul3:
ได้มากับเสียไป คุ้มมั๊ยเนี่ย :sad11:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่14 คำสัญญา ตอนจบ 5/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 05-06-2011 22:44:28
จบแล้วหรอค่ะ กำลังเพลิน เลย  ยังอยากรู้ อีกตั้งหลายเรื่อง

ชื่อเรื่อง รักลวงตา แต่ ก็คงไม่ลวงใจ ไนท์ แน่นอน เพราะ พี่เตให้คำมั่นขนาดนี้

ว่าแต่คุณหมอ เอานายพี ไปรักษาถึงไหนแล้วค่ะ อิอิ

ขอบคุณค่ะ  :3123:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนอวสาน ๖ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้าสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: なおみ™ ที่ 05-06-2011 22:44:43
จบเร็วจัง เศร้านะคะ  :เฮ้อ:

 :จุ๊บๆ:+1 ให้คุณเทียนค่ะ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนอวสาน ๖ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้าสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: nubuggy ที่ 05-06-2011 22:45:34
สงสัย เมย์ ยังไม่หมดกรรม นะนั้น ดูสิ ขนาดนี้ ยังตามแค้น ไม่เลิก ....
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนอวสาน ๖ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้าสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 05-06-2011 22:46:33
สาธุ

สุดท้าย การแย่งชิงก็ไม่ทำให้ได้อะไรไปนอกจากความเสียหายเลย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนจบ สายลมที่หวังดี P:8 5/6/11
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 05-06-2011 22:55:51
 :pig4:ขอบคุณ คนเขียน มากๆ ค่ะ ดีใจที่สุดๆเลยที่พี่สายลม ไม่ตาย
ดีแล้วค่ะ ที่พี่สายลม ทำแบบนี้ ปลายฟ้าก็ปรับตัวดี น่ารักขึ้นกว่าเดิม ด้วย
ผลของความเป็นคนจริงใจ ทำให้ปลายฟ้า ได้เจอกับเรื่องดี
สงสัย คงจะต้องปรับนิสัยให้ดีขึ้นเหมือนปลายฟ้าซะแล้ว อิอิ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนจบ สายลมที่หวังดี P:8 5/6/11
เริ่มหัวข้อโดย: nubuggy ที่ 05-06-2011 23:01:55
อ่านแล้วแอบยิ้ม.....................


ขอบคุณ นักเขียนนะครับ


 :o12: งะ นึกว่า น้องอเล็กซื จะมีแพื่อน....

หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 8 PG. 5 [31/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 05-06-2011 23:05:34
เพิ่งจะเข้าใจว่าทำไมชื่อเรื่อง butterfly  ถ้ามีทางเลือกอื่น ที่ดีกว่า ก็ควรไปทางนั้นเนอะ เฮ้อ

ถ้ายุทธมีเชื้อบวกจริง กริชก็โชคดีมากๆ เลย แต่ว่าที่ยุทธเล่ามาเนี่ย เริ่มไม่มั่นใจแหละ ว่าเรื่องจริง หรือ โกหก :pig4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนจบ [03/06/54] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: PrinceTae ที่ 05-06-2011 23:13:24
(http://upic.me/i/ns/2s3-1.jpg) (http://upic.me/show/24229901)

เล่ห์ร้าย
ตอนจบ

ลลิตรู้สึกว่าตนเองใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนานมาก ทั้งอาบน้ำ สระผม เป่าผมจนแห้ง จัดขวดครีมอาบน้ำที่ชั้นวาง จนไม่รู้จะทำอะไรต่อดีแล้ว จึงค่อยๆ เดินย่องมาเปิดประตูเบาๆ แง้มออกดูความเคลื่อนไหวภายนอก ก็พบแต่ความเงียบสนิทเลยเปิดประตูให้กว้างขึ้น แล้วเดินออกมาช้าๆ มองไปที่เตียงก็เห็นวิธวินท์นอนสงบนิ่ง เสียงหายใจเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ก็พ่นลมหายใจออกมาเบาๆ เมื่อเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ชายหนุ่มก็ยังนอนนิ่ง
เด็กชายจึงตัดสินใจหยิบลูกกุญแจมือจากโต๊ะหัวเตียงมาไขปลดล็อคให้กับวิธวินท์ เพื่อชายหนุ่มจะได้นอนในท่าที่สบายยิ่งขึ้น
แต่เมื่อได้เป็นอิสระ ชายหนุ่มที่นอนนิ่งก็ลืมตาโพลง มือทั้งสองรวบข้อมือเล็กเอาไว้ แล้วดันร่างเล็กให้นอนลงอย่างรวดเร็ว
“อ๊ะ!!!” ลลิตอุทานออกมาอย่างตกใจที่อยู่ๆ ก็ถูกรวบร่างเข้าไปกดแน่นกับเตียง เด็กชายดิ้นด้วยสัญชาตญาณ ชายหนุ่มรวบข้อมือเล็กทั้งสองข้างด้วยมือข้างเดียว แล้วใช้มืออีกข้างดึงเอวบางเข้ามากอดแนบลำตัวเปล่าเปลือยของตน
“ปล่อย ปล่อยฉัน” ร่างเล็กร้องออกมาพยายามดิ้นขลุกขลักอยู่ในวงแขนแกร่งที่รัดอยู่รอบเอว ขาเรียวที่ดิ้นไปมาอยู่บนเตียงถูกชายหนุ่มใช้ท่อนขากดเอาไว้จนขยับไม่ได้
“คุณหนูอยู่เฉยๆ นะครับ” วิธวินท์กัดฟันพูดอย่างพยายามอดกลั้น ใบหน้าของชายหนุ่มซบอยู่กับกลุ่มผมหอมข้างขมับของเด็กชาย
“ผมขอแค่กอดอย่างเดียว” ชายหนุ่มกัดฟันพูดต่อด้วยเสียงปนหอบ ร่างเล็กจึงหยุดดิ้น แต่ก็ยังควบคุมร่างกายให้หยุดสั่นไม่ได้เพราะยังตกใจอยู่ เมื่อวิธวินท์รู้สึกว่าลลิตหยุดดิ้นแล้วจึงปล่อยมือเล็กออก เปลี่ยนเป็นใช้มือมาโอบช่วงไหล่ให้แนบกับอกเขามากขึ้น แม้แขนของเด็กชายจะได้รับอิสระแล้ว แต่ก็ไม่สามารถขยับไปไหนได้ ทำได้แค่ยกแขนโอบกอดศีรษะได้รูปของชายหนุ่มเอาไว้ พลางลูบที่ผมชื้นเหงื่อเบาๆ
“กอดแน่นจัง ฉันหายใจไม่ออก” เด็กชายพูดเบาๆ เมื่อแรงรัดจากชายหนุ่มเริ่มมากขึ้น วิธวินท์ถึงได้รู้สึกตัว คลายอ้อมกอดออกนิดหน่อย แต่หน้ายังซุกไซ้ลงมาที่ซอกคอหอมๆ อย่างหยุดไม่ได้
“ขอแค่กอดนะครับ ไม่ต้องกลัวผมนะครับ” ชายหนุ่มพูดปลอบเสียงหอบๆ ให้เด็กชายสบายใจ พยายามอดทนกับความต้องการของอารมณ์ดิบที่ถูกกระตุ้นจากฤทธิ์ยาอีกละรอกแม้จะเบากว่าเมื่อสักครู่แต่ก็ทำให้เขาปวดที่กลางกายอยู่ดี
ลลิตพยักหน้าตอบรับ เอียงคอหนีการซุกไซ้ของชายหนุ่มแต่ก็ไม่สามารถหลบได้มากมายนักเพราะติดอยู่ที่วงแขนที่ยังกอดเอาไว้ เด็กชายขยับตัวให้อยู่ในท่าทางที่สบายยิ่งขึ้นในอ้อมกอดของวิธวินท์ที่มือก็ยังอยู่ไม่ค่อยสุขลูบวนๆ ไปจนทั่วแผ่นหลัง ขาก็ก่ายแทรกเข้ามาระหว่างขาของร่างเล็ก จนทำให้ลลิตรู้สึกถึงความแข็งและร้อนที่กดแนบอยู่กับหน้าขาทะลุผ่านกางเกงนอนเนื้อนิ่มเข้ามา
“บะ บรูโน่ ตรงนั้น” เด็กชายพูดตะกุกตะกักรู้สึกเขินอายกับสัมผัสร้อนที่ได้รับ
“อย่าสนใจมันครับคุณหนู อืออ” ชายหนุ่มตอบมาเสียงแหบพร่า จมูกกดอยู่ที่แอ่งชีพจรที่เต้นถี่รัวของเด็กชาย
“ตะ แต่ว่า มัน เอ่อ... มัน” เด็กชายนอนตัวแข็งไม่กล้าขยับ พูดเสียงสั่น
“อย่ากลัวนะครับ อืออ” ชายหนุ่มกัดฟันอดทนพยายามเอ่ยปลอบเด็กชายเบาๆ แต่ส่วนนั้นของเขาก็ไม่ได้ลดความร้อนรุ่มลงเลย
“ฉันช่วยเอามั้ย” เด็กชายกลั้นใจถามออกไปเสียงสั่น ชายหนุ่มตกใจสะดุดหยุดการเคลื่อนไหวไปชั่ววินาที แล้วสวมกอดร่างเล็กแน่นขึ้น
“ไม่ครับ” วิธวินท์ตอบออกไปเสียงเบา แม้ในใจนั้นอยากจะปลดปล่อย แต่เขาไม่อาจจะล่วงเกินคุณหนูไปมากกว่านี้อีกแล้ว เขาต้องอดทนให้มันผ่านไปให้ได้
“ทำไมล่ะ เมื่อกี้ฉันก็ยัง...” เสียงเด็กชายหายเข้าไปในลำคอเพราะความขัดเขินเกินกว่าที่จะพูดออกมาได้
“ไม่แล้วครับ ผมจะอดทนให้ได้”
“เพราะอะไรล่ะ เพราะฉันเป็นผู้ชายใช่มั้ย” เด็กชายถามขึ้น แต่กลับได้รับความเงียบเป็นคำตอบ
“เพราะฉันไม่สวย ไม่มีหน้าอกเหมือนผู้หญิงคนนั้นใช่มั้ย” เด็กชายร้องถามต่อด้วยเสียงรัว มือเล็กพยายามดันไหล่ชายหนุ่มให้ออกไปพ้นๆ
“ไม่ใช่นะครับ อืออ” ชายหนุ่มพยายามตอบ แต่ร่างเล็กที่ดิ้นไปมาเสียดสีกับร่างกายที่ไวต่อความรู้สึกเป็นเท่าตัวของเขาทำให้เปล่งเสียงได้ลำบากเหลือเกิน จึงต้องเพิ่มแรงกดร่างเล็กเอาไว้ให้หยุดดิ้น
“แล้วทำไมล่ะ ทำไมๆๆๆ” ลลิตยังไม่หยุดดิ้น ปากก็ร้องถามเสียงดังแสดงความไม่พอใจ
“ผม ไม่ อืออ”
“ปล่อยฉันๆๆๆๆ” เด็กชายตะโกนออกมาซ้ำๆ ด้วยความขัดใจ ในสมองประมวลผลไปเรียบร้อยแล้วว่าชายหนุ่มไม่ได้ต้องการตนเอง ขนาดร่างกายบังคับให้เป็นแบบนี้แล้วแต่ก็ยังปฏิเสธ ความรู้สึกเสียใจและน้อยใจทำให้ร่างเล็กทั้งดิ้นทั้งถีบขาให้หลุดจากการกอดรัดของวิธวินท์
“คุณหนูครับ อืออ ไม่ใช่นะครับ ผม...” ชายหนุ่มพลิกร่างขึ้นคร่อมเด็กชายเอาไว้ แต่ร่างเล็กไม่สนใจรัวมือทั้งทุบทั้งดันร่างใหญ่กว่าให้พ้นทาง
“ปล่อยๆๆๆ ปล่อยเดี๋ยวนี้” ลลิตหลับหูหลับตาร้องไม่หยุด วิธวินท์จึงใช้มือทั้งสองประคองหน้าเล็กเอาไว้ แล้วกดปากลงจูบแนบแน่น ลิ้นร้อนสอดเข้าไปในกลีบปากนุ่มสีชมพูอิ่ม ร่างเล็กชะงักหยุดดิ้นแต่ชายหนุ่มก็ยังไม่หยุดตักตวงความหอมหวานจากเด็กชาย จนกระทั่งร่างเล็กอ่อนระทวยนอนให้ชายหนุ่มกอดนิ่งๆ
“ไม่ใช่เพราะคุณหนูนะครับ แต่ผมทำไม่ได้ครับ” วิธวินท์เอ่ยเสียงกระซิบที่ริมหูของเด็กชาย ร่างเล็กไม่ตอบแต่เอียงหน้าหนีไปอีกทาง ตามองนิ่งไปทิศทางที่ไม่มีหน้าของชายหนุ่มอยู่
“ผมไม่อยากเห็นแก่ตัว คุณหนูยังเด็ก ยังมีทางเลือกอีกเยอะ ผม...” ชายหนุ่มพยายามอธิบายเหตุผล
“ถ้าฉันไม่อยากเลือกใครล่ะ” เด็กชายหันกลับมาแล้วเอ่ยแทรกทันทีทั้งที่วิธวินท์ยังพูดไม่จบ
“ถ้าฉันจะเลือกแค่บรูโน่ล่ะ” ลลิตไต่มือที่ดันอกชายหนุ่มขึ้นไปคล้องคอไว้ แล้วยื่นหน้าเข้าไปแตะริมฝีปากกับริมฝีปากชายหนุ่มเบาๆ ลิ้นเล็กๆ พยายามสอดเข้าไปในปากของชายหนุ่มเหมือนอย่างที่ชายหนุ่มเคยทำ ร่างเล็กเบียดเข้าหาเพิ่มความแนบชิดยิ่งขึ้น
“กล้าขัดคำสั่งฉันเหรอ”
“อืออ” วิธวินท์ยังงงงันกับคำพูดของเด็กชาย จนลิ้นเล็กๆ ซุกซนผ่านเข้าไปแตะกับลิ้นร้อนๆ ของเขา ชายหนุ่มจึงตอบสนองสัมผัสหวามหวานนั้น แล้วพลิกให้ร่างเล็กขึ้นมานอนอยู่บนร่างของเขาแทนเพราะกลัวเด็กชายจะหนัก มือใหญ่ลูบเข้าไปในเสื้อนอนไล้แผ่นหลังเล็กๆ แล้วดึงให้เสื้อเลิกสูงขึ้น เด็กชายจึงยกลำตัวขึ้น ดึงชายเสื้อนอนแล้วถอดออกทางศีรษะโดยไม่เสียเวลาปลดกระดุม แล้วโยนส่งๆ ไปข้างเตียง
วิธวินท์อยากจะต่อต้านความต้องการให้ได้มากกว่านี้ แต่เพราะเด็กชายช่างเย้ายวนจนเลือดหนุ่มในกายร้อนระอุ ร่างเล็กขาวผ่องอยู่ท่ามกลางแสงนีออนสว่างไสวที่นั่งอยู่บนหน้าท้องของชายหนุ่ม จนเขาต้องรั้งลลิตลงมาคลุกเคล้านัวเนียไม่ห่าง ไม่รู้ว่ากางเกงนอนของร่างเล็กหลุดจากตัวเมื่อไหร่ แต่ตอนนี้ชายหนุ่มไม่สนใจที่จะหยุดทั้งร่างกายแล้วก็หัวใจของตนเองอีกต่อไปแล้ว ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้ไปตามผิวขาวเนียนละเอียด ริมฝีปากสัมผัสไปจนทั่วทุกบริเวณ
ลลิตที่ถึงแม้จะทำใจกล้าแต่ด้วยความที่อ่อนประสบการณ์ก็ยังทำให้ร่างเล็กสั่นเทาอย่างไม่อาจที่จะหยุดได้ เด็กชายนอนเกร็งหลับตานิ่ง ริมฝีปากขบเข้าหากันและมือกำผ้าปูที่นอนจนแน่น
“คุณหนูครับ แน่ใจนะครับ” เสียงทุ้มพร่าหอบเบาๆ ที่พยายามไม่ให้สั่นถามขึ้นอีกครั้ง ทั้งๆ ที่วิธวินท์เองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าถ้าหากคุณหนูปฏิเสธออกมา แล้วเขาจะสามารถหยุดตัวเองได้ไหม
เด็กชายพยักหน้าตอบแรงๆ ทั้งที่ยังหลับตา ชายหนุ่มจึงก้มตัวลงแล้วประกบปากจูบ จากเบาๆ ไปจนถึงแนบแน่น ดึงมือเล็กให้กอดคอตัวเองไว้ แล้วกดตัวเองลงไปช้าๆ


วิธวินท์หรี่ตาขึ้นนิดๆ เพราะแสงสว่างภายในห้อง ทั้งเสียงนกร้องที่ดังอยู่ด้านนอก ชายหนุ่มขยับยันตัวลุกขึ้น แต่รู้สึกถึงร่างเล็กที่นอนอยู่ข้างๆ ที่พลิกตัวไปอีกทางเพราะการเคลื่อนไหวของเขารบกวนการนอน ชายหนุ่มมองตามแผ่นหลังขาวผ่องที่มีรอยจ้ำแดงๆ อยู่หลายรอย ไล่ลงมาถึงเอวบางและสะโพกเล็กที่มีผ้าห่มปิดอยู่หมิ่นเหม่ แค่เห็นเนินเนื้อขาวเนียนนั้น ภายในช่องท้องของชายหนุ่มก็เกิดปั่นป่วนขึ้นมาอีก แม้เมื่อคืนจะปลดปล่อยไปแล้วหลายครั้งแล้วก็ตาม
“เฮ้ย ไอ้ยานี่ยังไม่หมดฤทธิ์อีกเหรอวะเนี่ย” ชายหนุ่มอุทานกับตัวเองเบาๆ เมื่อเห็นความเปลี่ยนแปลงในร่างกาย วิธวินท์จึงดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดไว้
“อืออ” เด็กชายข้างๆ จึงขยับตัวขึ้นมาบ้าง
“อูยยย” เสียงซูดปากเบาๆ ด้วยความเจ็บปวด ชายหนุ่มจึงรีบเข้าไปประคอง
“เป็นยังไงบ้างครับคุณหนู”
“เจ็บจัง” เด็กชายตอบเสียงเบา ก้มหน้าไม่กล้าสบตาชายหนุ่ม
“เดี๋ยวผมหายาให้ทานนะครับ” วิธวินท์ทำท่าจะรีบลงจากเตียงแต่มือเล็กดึงไว้ซะก่อน
“อยู่กับฉันก่อนนะ” ใบหน้าเล็กๆ ซุกอยู่กับแขนของชายหนุ่ม
“ฉันไม่รู้หรอกว่าบรูโน่ชอบหรือเปล่า แต่ฉันไม่ปล่อยให้นายไปไหนแน่ๆ” ลลิตเอ่ยออกมาเบาๆ แต่ชายหนุ่มได้ยินอย่างชัดเจน
“บรูโน่ จำตอนที่นายบอกว่าเคยช่วยเด็กที่ตกน้ำได้มั้ย เด็กคนนั้นน่ะคือฉันเอง”
“เอ๊ะ แต่เด็กคนนั้นมอมแมมมากเลยนะครับ ผมเลยคิดว่าน่าจะเป็นลูกคนงาน”
วิธวินท์พยายามนึกถึงเหตุการณ์ที่เขาช่วยเด็กผู้ชายตัวเล็กจากการจมน้ำ แต่เมื่อปลอดภัยแล้ว เจ้าตัวเล็กก็วิ่งหนีเขาไป
“ฉันเองแหละ แล้วหลังจากนั้นฉันก็แอบมองบรูโน่มาตลอด” ลลิตก้มหน้า ใช้ปลายนิ้วเขี่ยต้นแขนชายหนุ่มเบาๆ
“จนถึงวันนั้นที่บรูโน่มาหาพ่อ ฉันก็อยากจะช่วยแต่ก็อยากจะแกล้งด้วย” เด็กอ้อมแอ้มบอกต่อ
“ในเมื่อมาอยู่กับฉันแล้ว ฉันจะไม่ปล่อยไปไหนอีกแล้วนะ”
“ตอนนี้คุณหนูยังเด็กอยู่ อาจยังไม่เจอผู้คนมากนัก ต่อไปภายหน้า คุณหนูอาจจะมีคนดีๆ ที่พร้อมจะเข้ามาให้คุณหนูเลือกมากมาย แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็จะไม่ไปไหนและผมก็จะพยายามทำตัวให้ดีขึ้นเรื่อยๆ แม้อาจจะไม่ดีเท่าใครๆ แต่ผมก็จะทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อให้คุณหนูภูมิใจ ผมจะอยู่กับคุณหนูตลอดไปครับ” วิธวินท์ลูบผมนุ่มอย่างเอ็นดู เขี่ยปลายผมให้ทัดหูเล็กๆ แล้วก้มลงไปจนชิด
“ผมชอบที่จะถูกคุณหนูแกล้ง และอยากเป็นผู้ชายที่ได้ดูแลคุณหนู” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยแผ่วๆ แต่หนักแน่น มือที่ว่างดึงร่างเล็กขึ้นมานั่งบนตัก
“ผมรักคุณหนูครับ” แล้วจูบเบาๆ ที่ใบหูเล็กที่แดงระเรื่อ
“แล้วคุณหนูล่ะครับ” ริมฝีปากยังคลอเคลียอยู่ที่ข้างแก้ม
“บอก บอกแล้วนี่นาว่าไม่ปล่อยให้ไปไหน” ลลิตก้มหน้าต่ำลงไปอีก พยายามจะบิดตัวออกจากวงแขนของชายหนุ่ม
“ยังไม่มีคำว่ารักเลย บอกผมหน่อยสิครับ นะครับ” ชายหนุ่มแลบลิ้นเลียเบาๆ ที่ข้างแก้มเหมือนลูกหมาช่างประจบ
ลลิตยกมือปิดที่แก้มอย่างรวดเร็ว ทะลึ่งตัวถอยห่างจนหลุดจากกอดหลวมๆ ของวิธวินท์
“ไม่บอก!!!” แล้วรีบก้าวลงจากเตียง

ตุ๊บ!! แต่ด้วยขาเรียวที่ไร้เรี่ยวแรงทำให้ร่างเล็กลงไปนั่งแหมะอยู่ข้างเตียง วิธวินท์ตกใจรีบลุกจากเตียงลงมาประคองร่างเล็ก แล้วอุ้มขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน

วิธวินท์ยิ้มออกมากับความน่ารักของเด็กชายที่ตอนนี้หน้าแดงเถือกไม่ยอมมองหน้าเขาเลย ไม่เป็นไรถึงวันนี้จะยังไม่ยอมบอก แต่ชายหนุ่มตั้งปณิธานไว้แล้วว่ายังไงเขาก็จะต้องทำให้คุณหนูยอมบอกเขาให้จงได้ เขายอมทุ่มเทเวลาทั้งชีวิตเพื่อคุณหนูลลิตคนนี้



===จบ===
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนอวสาน ๖ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้าสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 05-06-2011 23:17:42
ชอบบทสรุปของเรื่องนี้มากๆเลย เชื่อว่าคงโดนใจใครหลายๆ คน
ขอบคุณมากๆค่ะ :3123:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนจบ สายลมที่หวังดี P:8 5/6/11
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 05-06-2011 23:18:21
หืม..คุณสายลมขา..มีหักมุมซะ แบบหักข้อศอกเลยนะคะ
ทำเอาคนอ่านเกือบตกข้างทางเลยทีเดียว
ขอบคุณปาฏิหาริย์ อืม..ความจริงต้องขอบคุณคุณสายลมนั่นแหละค่ะ
ที่ไม่ทำให้ผู้อ่านเศร้าในตอนจบ
ดังนั้นต้องขอ :กอด1:แน่นๆเพื่อขอบคุณแล้วล่ะค่ะ   :pig4:อีกครั้งนะคะคุณสายลม

หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนจบ [05/06/54] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 05-06-2011 23:18:57
 o22
ฉับ!!!   
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนจบ [05/06/54] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 05-06-2011 23:26:06
 จบได้น่ารัก มากๆ ค่ะ ว่าแต่   :-[ คุณหนูยังเด็กอยู่เลยนะ  อิอิ   บรูโน่ ระวังเจอคุณปวีณา เรียกสอบลุ 55
ปล. บรูโน่ พูดซะคนอ่านเคลิ้มตามเลย
ขอบคุณค่ะ  
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 8 PG. 5 [31/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 05-06-2011 23:31:54
ทุกคนเป็นผู้ต้องสงสัยหมด
พี่ธัญญ่าปลอมผลเลือด (รึเปล่า) เพื่อให้กริชตัดใจ
ยุทธอาจจะหลอกกริช เพื่อความสบายของตัวเองในวันข้างหน้า
อร๊ายยยยยยย จะให้เชื่อใครล่ะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนจบ [05/06/54] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 05-06-2011 23:36:49
คุก คุก คุก
พี่ิวินกินคุณหนูริชเข้าไปแล้ววววววววววววววว
โอ๊ย อกอีป้าจะวายยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 8 PG. 5 [31/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: vascular ที่ 05-06-2011 23:36:59
โว๊ะ ยุทธผลบวก
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนจบ [05/06/54] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 05-06-2011 23:44:03
คุณหนูโดนกิน  :m25:  :pig4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนจบ [05/06/54] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 05-06-2011 23:55:33
บรูโน่เป็นตาแก่กินเด็กแต๊จริง

แถม...
........ยังเป็นตาแก่น้ำเน่าอีกตะหาก กร๊ากกกกกกกกกกกก
บร้าๆๆๆ น้ำเน้าาาาาาาาาน้ำเน่า
หัวข้อ: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/Ch.15 -Dead-zone- (5/6/54)
เริ่มหัวข้อโดย: Nassiiz ที่ 06-06-2011 00:02:52
(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page74.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page75.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page76.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page77.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page78.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page79.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page80.jpg)
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 8 PG. 5 [31/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 06-06-2011 00:06:25
เป็นเช่นนั้นไป  :sad11:

สงสารเค้าอะ

นี่เราสงสัย วิธีการใช้คำนี่มาก
 
ประสพการณ์ จะสอนให้เราแกร่งขึ้น

ตกลงต้องใช้ ประสพ  หรือ ประสบ

เพราะ บางทีก็อ่านออกเสียง ว่า ปะ-สบ-พะ-การ

ลูกเป็ดท่าน เชี่ยวชาญ ด้านภาษา น่าจะลอง ช่วยๆกันพยายาม รวบรวมคำ ที่เรามัก เขียนผิด ไว้ด้วยนะครับ
เพราะ บางที ทั้งคนเขียน คนอ่าน ยังไม่แน่ใจ ว่า ตกลงที่ ใช้ กันเนี้ย บางคำเราใช้ถูกหรือเปล่าหว่า
ช่วยๆ กัน เพื่อภาษาของ เรา 5+++
เห็นรีพลายนี้ อดเข้ามาตอบไม่ได้ค่ะ(ดีใจกับการได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้)
ต้องใช้ว่า "ประสบการณ์" ค่ะ
ประสบ  แปลว่า  พบ พบปะ พบเห็น
ประสบการณ์  แปลว่า  การได้รู้ ได้เห็น ได้ทำมามาก    ส่วน
ประสพ  แปลว่า  การเกิดผล
คนมักเขียนผิด เพราะ สองคำนี้เป็นคำพ้องเสียง และคงไม่รู้ความหมายของคำ ประสบ กับ ประสพ ค่ะ









หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนจบ [05/06/54] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 06-06-2011 00:07:51
จบแบบแฮปปี้มีความสุข อิอิ คุณหนูก็ไม่รอดจนได้ 55555+

ขอบคุณนะคะ^^
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนจบ [05/06/54] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 06-06-2011 00:08:32
น่ารักที่สุดในโลก

เค้าชอบคู่นี้ ตะลอมเด็กนะบรูโน่นะ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 8 PG. 5 [31/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: indices ที่ 06-06-2011 00:10:10
ลุ้นระทึกมาก ๆ  ......

ใครพูดจริง/ใครโกหกกันแน่เนี่ย .....

หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 8 PG. 5 [31/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 06-06-2011 00:13:18
กลิ่นมาม่าโชยมา  :a5:
หัวข้อ: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/Ch.16 -Laboratory- (5/6/54)
เริ่มหัวข้อโดย: Nassiiz ที่ 06-06-2011 00:14:48
(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page81.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page82.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page83.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page84.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page85.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page86.jpg)
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 8 PG. 5 [31/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 06-06-2011 00:15:24
โถ กริช ดอกรักพึ่งจะผลิดอกตูมๆเล็กๆขึ้นในหัวใจ ยังไม่ทันได้เบ่งบานเลย
จะเกิดดอกโศกเบ่งบานเบ้อเร่อซ้อนขึ้นมาทันทีทันใดเลยรึ
แล้วยุทธล่ะ ถ้าฟังตามที่เค้าวางแผนไว้นี่ เค้าก็ใฝ่ดีพอสมควรนะ แล้วอนาคตจะมิวูบไปเลยเหรอ
สงสารทั้งสองคนเลย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนจบ สายลมที่หวังดี P:8 5/6/11
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 06-06-2011 00:18:25
เย้ๆๆ ดีใจที่สายลมพระเอกแสนดียังไม่ตาย ดีใจกับปลายฟ้าด้วยที่ปรับปรุงตัวเองได้

ในที่สุดก็จบลงด้วยดี ขอบคุณนะค้า ^_^
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนจบ [05/06/54] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: m_pop91 ที่ 06-06-2011 00:19:53
พรากผู้เยาว์ ฮ่าาาาาาาาาาา
หัวข้อ: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/Ch.17 -Bridge- (5/6/54)
เริ่มหัวข้อโดย: Nassiiz ที่ 06-06-2011 00:20:02
(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page87.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page88.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page89.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page90.jpg)
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนจบ สายลมที่หวังดี P:8 5/6/11
เริ่มหัวข้อโดย: m_pop91 ที่ 06-06-2011 00:26:45
ขอบคุณนะครับที่ทำให้สายลมอยู่กับปลายฟ้าอีกครั้ง
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนจบ สายลมที่หวังดี P:8 5/6/11
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 06-06-2011 00:33:51
พี่สายลมยังอยู่จริงๆ ด้วย  :laugh:



 :pig4:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนอวสาน ๖ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้าสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: m_pop91 ที่ 06-06-2011 00:38:57
"มกุฏโกเมน" ผมชอบชื่อนี้จังครับ
จบได้ดีครับ ให้ข้อคิดกับนักอ่าน
ทั้งที่รู้ว่าคือความจริงที่มนุษย์อย่างเราๆต้องเจอ
แต่ก็แอบเศร้าครับ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 8 PG. 5 [31/05/2011]
เริ่มหัวข้อโดย: MonarcH ที่ 06-06-2011 00:39:24
Butterfly 10
...ไม่ช้าก็เร็วพี่ธัญญ่าต้องรู้เรื่องที่ยุทธเป็นโรคร้าย ผมจึงตัดสินใจเรียกให้พี่ธัญญ่าเข้ามาคุยที่ห้อง...
“คืนนี้บาร์เลิกแล้วจ่ายเบี้ยเลี้ยงมันไปก็จบ”  พี่ธัญญ่าพูดเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่
“แล้วเราจะบอกเค้ายังไงอ่ะพี่”
“ก็บอกไปว่าเด็กเสิร์ฟเยอะแล้ว ถ้าไม่ทำโชว์ก็ออกไป”
“ถ้ายุทธยอมโชว์ล่ะ”
“พรุ่งนี้พี่จะให้คนพามันไปตรวจอีกทีเผื่อมีการผิดพลาด พี่ไม่เอาชื่อเสียงร้านไปเสี่ยงหรอก ถ้าอีกหน่อยอาการมันออกเราจะซวย ของพวกนี้คนในวงการดูด้วยตาเปล่าก็เห็น”
“แล้วเราไม่ต้องบอกให้เค้ารู้ว่าเค้ามีโรคเหรอ”
“มันเป็นหน้าที่ของแพทย์ ให้มันไปตรวจเองอีกทีดีกว่า”  พี่ธัญญ่าบอกปัด
“แล้วเค้าจะทำมาหากินอะไรล่ะ ป่วยแถมยังตกงาน”  ผมพูดเสียงเบา
“เราไม่เกี่ยว เค้าติดเชื้อก่อนที่จะมาทำงานที่นี่นะ”
*
*
...ผมเดินใจลอยลงไปหายุทธข้างล่าง ตาเค้าเริ่มเยิ้มด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ลูกค้ายื่นให้อีกแล้ว เมื่อปลอดคน ผมกระซิบบอกยุทธให้ดื่มเหล้าน้อย ๆ แค่จิบแบบไม่ให้ลูกค้าเสียน้ำใจ และเก็บทิปคืนนี้ไว้ดี ๆ เลิกงานแล้วให้ไปเจอผมที่คอนโด...
“ตกลงจะบอกยุทธเองเหรอ เห็นกระซิบกระซาบกันข้างล่าง”  พี่ธัญญ่าเดินเข้ามาถามเมื่อผมกลับห้องทำงาน
“กริชจำเป็นต้องบอกให้เค้าดูแลตัวเอง และไปตรวจเลือดใหม่”
“หวังว่ากริชคงไม่ต้องไปรับเลี้ยงเค้านะ” 
“กริชคงจะช่วยเค้าได้ในฐานะเพื่อนมนุษย์”
“ส่วนมากพวกนี้เค้าก็กลับไปพักฟื้นรอวันตายที่บ้านเกิดนั่นแหละ”
“ถ้าดูแลตัวเองดี ๆ อยู่ได้เป็นสิบปีนะพี่”
“แต่ยังไงก็ต้องตายอยู่ดี”
“แล้วมีใครที่เกิดมาแล้วไม่ตายมั่งล่ะพี่ เค้าอาจจะไม่ได้ตายเพราะโรคก็ได้ ถ้าคนมันจะตาย เดินออกไปข้ามถนนอาจจะโดนรถชนตาย”  ผมแอบประชด
“งั้นก็ตามใจกริชเถอะค่ะ อยากทำอะไรก็ทำ พี่ไม่กล้าแตะต้องเด็กของกริชหรอก”
“ไหน ๆ คืนนี้ยุทธก็จะทำงานที่นี่เป็นคืนสุดท้าย กริชจะบอกความจริงก็ได้...ยุทธเป็นเกย์ และเรียนจบปริญญาตรี ที่บ้านมีฐานะ เป็นเจ้าของกิจการร้านวัสดุก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอ ทั้งหมดนี้กริชเช็คแล้วว่าที่เค้าพูดเป็นความจริง ถ้าพี่ธัญญ่าไม่เชื่อลองเอาชื่อนามสกุลเขาไปเช็คในอินเตอร์เนต หรือโทรไปสอบถามที่บ้านเค้าก็ได้...ที่ยุทธต้องมาทำงานนี้เพราะเค้าหลงผิดชั่ววูบจากการมีเพื่อนในสังคมแย่ ๆ ซึ่งตอนนี้เค้าย้ายอพาร์ทเม้นท์มาพักในโซนที่ดีกว่าแล้ว”
“อืม กริชก็เลยชอบเค้าใช่มั้ย”
“กริชแค่รู้สึกสบายใจที่ได้คุยกับเค้า”
“พี่เห็นพวกเธอสองคนมองกัน พี่ก็รู้แล้วว่าพวกเธอคิดอะไรเกินเลยจากนายจ้างลูกจ้าง”
“โอเค เรากำลังเริ่มจะศึกษากันอยู่”  ผมสารภาพ
“แล้วพอรู้ว่าเค้าเป็นเอดส์ กริชยังจะศึกษาเค้าต่ออีกมั้ยล่ะ”
*
*
...โรคเอดส์ไม่ได้ติดต่อกันง่าย ๆ ดังนั้นผมไม่ควรเลิกคบกับยุทธด้วยเหตุผลนี้ เราแค่เป็นเพื่อน เป็นกำลังใจ ดูแลช่วยเหลือเค้าเท่าที่ทำได้...
“มีอะไรเหรอครับ ก่อนกลับก็เห็นพี่ธัญญ่าบอกให้มาคุยเรื่องงานกับคุณกริชเหมือนกัน”  ยุทธถามทันทีที่ผมเดินมานั่งที่โซฟาชั้นล่างของคอนโด
“อ่ะ” ผมยื่นซองเงินเบี้ยเลี้ยงสองวันให้
“ค่าอะไรครับ” ยุทธแกะซองแล้วทำหน้างงเมื่อเห็นว่าเป็นเงินจำนวนนึง
“ตั้งแต่พรุ่งนี้ยุทธไม่ต้องไปที่บาร์แล้วนะ”
“อ้าว ผมทำอะไรผิดเหรอ” ยุทธถามเสียงเข้ม
“......................................”
“ผลเลือด”  ยุทธครางเมื่อเห็นผมเงียบ
“ลองไปตรวจใหม่วันพรุ่งนี้นะ”  ผมพยาพยายามทำเสียงปกติแล้วยื่นซองเอกสารผลตรวจเลือดให้
“ผมป้องกันตัวเองตลอดนะครับ เป็นไปไม่ได้”  ยุทธเปิดอ่านและหน้าซีดลงอย่างเห็นได้ชัด
“ก็ไปตรวจอีกทีสิ”
“ผมขอเวลาทำใจหน่อยนะครับ”  ยุทธลุกขึ้นหันหลังเดินกลับทันที
“ยุทธ ไม่เป็นไรนะ ดูแลตัวเองดี ๆ มีอะไรให้ผมช่วยก็บอกได้ตลอด ไม่ต้องเกรงใจนะ”  ผมก้าวยาว ๆ เดินตามไปพูด ซึ่งยุทธไม่หยุดหันมามองเลย
“ขอบคุณครับ ผมไม่เป็นไรหรอก ชีวิตผมมันไม่มีอะไรให้เสียแล้วนี่” ยุทธยังเดินต่อ
“เฮ้ย ยุทธยังมีกริชนะ”
“เมื่อก่อนผมรู้ตัวว่าไม่คู่ควรกับคุณ ผมก็กำลังพยายามปรับตัวเอง แต่ตอนนี้ไม่ว่าผมจะพยายามยังไง ผมก็ยิ่งไม่คู่ควรกับคุณ” ยุทธหันมาพูดเสียงเครือ ตาแดงก่ำ
*
*
...ผมกลับขึ้นมาบนห้อง พยายามข่มตานอน พลิกตัวไปมาทำยังไงก็ไม่หลับ ดูเวลาในโทรศัพท์ขณะนี้ก็เกือบตีห้าแล้ว เป็นห่วงยุทธเหลือเกิน กลัวว่าเค้าจะคิดสั้นเพราะรับเรื่องนั้นไม่ได้...ผมตัดสินใจเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเรียกวินมอเตอร์ไซค์หน้าปากซอยที่รู้จักอพาร์ทเม้นท์ของยุทธจากการที่ผมเอารูปให้เค้าดู โชคดีที่เช้ามืดอย่างนี้เริ่มมีวินออกมารับผู้โดยสารหลายคัน และมีคนจำยุทธได้...ไปถึงหน้าอพาร์ทเม้นท์ ผมก็ต้องยืนอึ้งเพราะไม่รู้ว่าเค้าอยู่ห้องเบอร์อะไร ต้องลองถามแม้ค้าที่กำลังจัดของเข้าตู้เอารูปให้ดูอีกซึ่งก็ต้องใช้วิธีเดิมจนได้เบอร์ห้อง...แต่ยามไม่ให้เข้าซะงั้น ผมต้องใช้ไม้ตายสุดท้ายคือ “เงิน” ยามลังเลกับแบงค์พันตรงหน้า ผมต้องบอกว่า ไม่ต้องกลัวผมว่าผมจะขึ้นไปทำสิ่งผิดกฎหมาย เพราะผมมาตัวเปล่า และขอให้พี่ยามขึ้นไปเป็นเพื่อนผมก็ได้ เมื่อเจ้าของห้องเปิดรับ พี่ยามก็ลงมาทำงานปกติ...
“เคาะตั้งนานแล้วทำไมไม่เปิดประตู เค้าเป็นอะไรหรือเปล่าเนี่ย”  ยามพูดให้ผมใจแป้ว
“เดี๋ยวลองโทรเข้าไปหาดีกว่า”
“อ้าวน้อง มีเบอร์แล้วทำไมไม่โทรตั้งแต่แรก”  อีตายามพูดกวน ๆ
“ก็กลัวเค้าไม่รับโทรศัพท์อ่ะ”
“ทะเลาะกันมาเหรอ”  ยามถามเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังจากในห้อง แต่ไม่มีคนรับสาย และไม่มีคนเปิดประตู
“เปล่า พี่ขอกุญแจสำรองเปิดห้องได้มั้ย เผื่อเค้าคิดสั้นขึ้นมาเรายังพอช่วยทันนะ”  ผมเคาะประตูดังขึ้น
“รุนแรงขนาดนั้นเลยเหรอ เดี๋ยวพี่ไปบอกเจ้าของอพาร์ทเม้นท์ก่อนนะ” ยามเห็นว่าผมเริ่มสติแตกจึงลุกลี้ลุกลนไปหากุญแจมาให้
*
*
...ระหว่างรอกุญแจผมก็โทรเข้ามือถือของยุทธอีก แต่ก็ไม่มีคนรับสายเช่นเคย ผมลงไปนั่งกับพื้นหน้าห้องของยุทธ เอาหน้าซบเข่าเพราะไม่มีแรงแม้แต่จะเงยหน้ามองคนที่กำลังเดินเข้ามาใกล้...
“คุณกริช มาได้ไงครับ”  ยุทธก้มหน้ามาถาม
“ไปไหนมา ทำไมไม่เอาโทรศัพท์ไปด้วย ผมเป็นห่วงรู้มั้ย”
“ผมไปใส่บาตรมา เวลาอย่างนี้ผมไม่คิดว่าจะมีใครโทรมาก็เลยไม่ได้เอาโทรศัพท์ไปด้วย”  ยุทธยิ้มแต่แววตายังเศร้าอยู่
“โอเค ถ้ายุทธไม่ได้เป็นอะไรผมก็ขอตัวกลับเลยละกัน ง่วงแล้ว”
“คิดว่าผมจะฆ่าตัวตายเหรอ”
“.........................................”
“ยังไงผมก็ต้องตาย โรคนี้มันรักษาไม่หายนี่”  ยุทธพูดเสียงเบา
“ดูแลตัวเองดี ๆ ก็อยู่ได้อีกนาน”
“ใครจะมาดูแลผม ถ้ามีคนรู้ว่าผมเป็นเอดส์คงจะมีแต่คนรังเกียจ”  เค้าหยุดพูดเมื่อรู้สึกว่าเสียงเริ่มสั่น
“ผมไง ไม่ต้องกังวลนะ ผมจะหางานใหม่ให้”
“อย่าลำบากเพราะผมเลย”
“แล้วคุณจะทำยังไงกับชีวิต กลับไปนอนรอความตายที่บ้านเหรอ”
“ผมกลับบ้านไม่ได้คุณก็รู้นี่ แค่เป็นเกย์พ่อผมยังรับไม่ได้ แล้วถ้าต้องซมซานเป็นเอดส์กลับไป เค้า เค้า....”  ยุทธพูดไม่ออกเพราะเค้าปล่อยโฮออกมาอย่างสุดกลั้น
“อ้าว เจอเจ้าของห้องแล้วนี่ มีอะไรกันหรือเปล่า”  พี่ยามมาพร้อมกุญแจ
“ไม่มีอะไรพี่ ขอบคุณนะครับ”  ผมเอากุญแจจากมือยุทธไขเปิดประตู แล้วพยุงเค้าเข้าห้อง
*
*
...ผมปล่อยให้ยุทธร้องไห้สะอึกสะอื้นจนหลับไปด้วยความอ่อนเพลียบนตักของผม ภาพผู้ชายรูปหล่อสูงขาวกล้ามเป็นมัดที่เคยมั่นใจในรูปลักษณ์ของตัวเองกลายเป็นผู้ชายที่นอนร้องไห้หมดสภาพด้วยความกังวลกับอนาคตที่นับถอยหลังสู่ความตายด้วยโรคร้าย...
*
*
...ผมหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่พอลืมตาตื่นขึ้นมาก็เห็นยุทธนอนมองหน้าผมอยู่เงียบ ๆ ตาของเราทั้งคู่ประสานกันยุทธยิ้มบาง ๆ ทั้งที่น้ำตาเริ่มจะเอ่ออีกครั้ง...
“กี่โมงแล้ว”
“บ่ายสองกว่าแล้วครับ”
“ยุทธตื่นนานหรือยัง”  ผมลุกขึ้นจากเตียง
“ก่อนคุณกริชแป๊บนึงเองครับ”
“เรียกกริชเฉย ๆ เถอะ ผมไม่ได้เป็นเจ้านายคุณแล้ว”
“คุณรู้ว่าผมเป็นเอดส์ทำไมถึงกล้านอนกับผมล่ะ”
“เรานอนด้วยกันเฉย ๆ ไม่ได้มีอะไรกันนี่”
“เมื่อคืนผมลองโทรไปถามเพื่อน ๆ ที่เคยเที่ยวด้วยกันว่าถ้าแฟนมึงเป็นเอดส์ มึงจะทำยังไง ทุกคนบอกว่าเลิกกันหมดเลย แต่กริชทำให้ผมยิ่งรู้สึกว่าตัวเองแย่ที่ไม่รู้จักรักเดียวใจเดียว ถึงตอนนี้ผมเริ่มอยากจะรักอย่างจริงจังกับใครซักคน มันก็สายเกินไป ผมรู้จักกริชช้าไป”
“ผมขอกลับไปห้องก่อนนะ เดี๋ยวซื้ออะไรมาให้กิน”
*
*
...จากวันนั้นเป็นเวลาสามเดือน เราทั้งสองคนต่างได้เรียนรู้กันมากขึ้น ยุทธได้งานใหม่เป็นพนักงานออฟฟิศบริษัทเล็ก ๆ แห่งหนึ่งที่ไม่ต้องตรวจเลือดก่อนเข้างาน แรก ๆ เหมือนเค้าจะทำใจได้แล้ว แต่ไม่นานเค้าก็จิตตกเหมือนเดิม หน้าตาหมองคล้ำจากการเคร่งเครียดทำงานหนัก น้ำหนักลดเพราะเค้าหดหู่กับชีวิตจนกินข้าวได้น้อยลง เวลาเราสวนทางกัน เค้าถึงบ้าน ผมออกไปทำงาน มีแค่วันหยุดเท่านั้นที่เราจะได้อยู่ด้วยกัน...เราเหมือนคู่รักกันทั่วไป เพียงแต่เราไม่มีเพศสัมพันธ์กันเท่านั้น ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนจะดี แต่มีสิ่งเดียวที่ผมขอร้องเท่าไหร่ยุทธก็ไม่ยอมทำ...
“ยุทธจะกินแต่อาหารเสริมพวกนี้ไม่ได้นะ ไปหาหมอเถอะ”  ผมพูดเมื่อเห็นขวดอาหารเสริมชนิดใหม่ที่วางบนโต๊ะ
“ไม่เอาอ่ะ ผมอายหมอ”
“แต่ยุทธต้องกินยาต้านเชื้ออะไรพวกนั้นด้วยนะ ไปตรวจดูว่ามีเชื้อเพิ่มขึ้นด้วยหรือเปล่าก็ยังดี”
“ผมไม่เห็นมีอาการอะไรผิดปกติเลยนี่”
“ยุทธไม่รู้ตัวหรอก ลองไปส่องกระจกดูสิ น้ำหนักลดไปกี่โล หนวดก็ไม่โกนหน้าตาก็ยิ่งหมองไปกันใหญ่”
“....................................”
“กริชขี้บ่นไปหน่อย ขอโทษนะ”
“ไม่ต้องขอโทษหรอก ผมต่างหากที่ต้องขอโทษกริชที่ทำให้เป็นห่วง”
“ถ้ายุทธรู้ว่ากริชเป็นห่วง ทำไมยุทธไม่เป็นห่วงตัวเองบ้างล่ะ ไหนบอกว่าจะอยู่ด้วยกันนาน ๆ ไง กริชให้ยุทธไปหาหมอหลายครั้งแล้วยุทธก็ไม่ไปซักที”
“......................................”
“ไปเถอะนะ กริชขอร้อง ไปโรงพยาบาลที่ดีที่สุด ให้เค้าจัดยาให้ดีที่สุดแค่ครั้งเดียว แล้วหลังจากนั้นถ้ายาหมดกริชจะไปรับยาให้เอง ยุทธจะได้ไม่ต้องอาย”
“ถ้าทำแบบนั้นคนก็เข้าใจว่ากริชเป็นเอดส์สิ”
“แล้วไงอ่ะ ใครจะคิดก็คิดไป ไม่เห็นต้องแคร์เลย”
“ผมมันแย่ ผมมันเลว ผมมันน่ารังเกียจ”  ยุทธก้มหน้าไม่ให้ผมเห็นน้ำตาที่หยดลงขากางเกง
“สามเดือนที่ผ่านมากริชเคยทำให้ยุทธรู้สึกว่ากริชรังเกียจยุทธหรือเปล่า”
“ซักวันนึงกริชก็ต้องได้เจอคนที่คู่ควรกว่าผม”
“อย่าเปลี่ยนเรื่อง ถ้ากริชจะไปกริชไปตั้งแต่วันแรกที่รู้ว่ายุทธเป็นเอดส์แล้ว”
*
*
...ในที่สุดยุทธก็ยอมไปโรงพยาบาลเอกชนในซอยลึกแห่งหนึ่งบนถนนสุขุมวิท ผมบอกให้เค้าตรวจเลือดและตรวจทุกอย่างในร่างกายอย่างละเอียดไม่ต้องรีบ เมื่อได้ผลแล้วให้โทรแจ้งและผมกับยุทธจะกลับมาหาหมออีกที...ระหว่างที่รอผล ยุทธกระสับกระส่าย สีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด...
*
*
...เรากลับมาโรงพยาบาลเพื่อรับผลเลือดและพบหมออีกครั้ง ยุทธมือสั่นจนผมต้องกุมมือเค้าไว้ตลอดระหว่างรอคุณหมอเข้ามาที่ห้องตรวจพร้อมผลเลือด...
“คุณยุทธกรครับ”
“ครับ”  ยุทธสะดุ้งเมื่อคุณหมอเรียกชื่อ
“คุณไม่ได้ติดเชื้อ HIV นะครับ ยินดีด้วย”
“อะไรนะครับ”
“ผลการตรวจเลือดของคุณเป็นปกติดีทุกอย่าง ยกเว้นร่างกายอ่อนเพลียจากการพักผ่อนน้อยเฉย ๆ”
“อ้าว เมื่อสามเดือนก่อนผมตรวจเลือดแล้วมีเชื้อนี่ครับ”
“เราตรวจดูอย่างละเอียด ผมรับรองได้ว่าคุณไม่มีเชื้อ HIV และไม่เคยเป็นมาก่อนแน่นอนครับ ผลเดิมอาจจะมีการผิดพลาดอะไรหรือเปล่า ลองไปตรวจทีเดิมอีกครั้งก็ได้นะครับ เพื่อความสบายใจ แต่ นั่นหมายความว่า คุณต้องไม่มีการเสี่ยงเร็ว ๆ นี้นะครับ”
“พอผมรู้ว่าเป็นเอดส์ ผมก็หยุดพฤติกรรมเสี่ยงทุกอย่าง ผมไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กับใครมาเกือบสี่เดือนแล้วครับ”
“เอดส์ไม่ได้ติดต่อกันทางเพศสัมพันธ์อย่างเดียว มันมีเรื่องของเลือด สารคัดหลั่งอื่น คุณมีการใช้เข็มร่วมกับใครหรือเปล่าล่ะ”
“ผมกลัวเข็มครับ และผมไม่ยุ่งกับยาเสพติด”
“ดีแล้วครับ เพราะผลเลือด ผลตรวจปัสสาวะ อุจาระ และเอ็กซ์เรย์ปรากฏว่าสุขภาพคุณดีมากเลยนะครับ”
“แต่ทำไมน้ำหนักเค้าลดแล้วก็หน้าตาหมองคล้ำล่ะครับคุณหมอ”  ผมถามแทรก
“คุณพักผ่อนน้อย และทานอาหารน้อยลงด้วยใช่มั้ย”  คุณหมอหันไปถามยุทธ
*
*
...เพื่อความมั่นใจ ผมกลับไปที่สถานพยาบาลเดิมที่เคยตรวจเลือดยุทธในครั้งแรก ทุกอย่างก็เหมือนการตรวจเลือดปกติ ยกเว้นบุรุษพยาบาลคนนึงที่เจอยุทธแล้วถึงกับชะงักหน้าถอดสี แต่เค้าก็ต้องมาดูแลยุทธตามหน้าที่...
“ครั้งนี้เราจ่ายเงินเองนะครับ ไม่ใช่มาจากบัตเตอร์ฟลายบอย”  ผมพูดพลางจ้องหน้าเค้าขณะเค้าเดินออกมานอกห้องตรวจ
“ครับ”
“จำคนนี้ได้มั้ย เมื่อสามเดือนก่อนเค้ามาตรวจแล้วครั้งนึง”
“ครับ”
“เค้ามีเลือดบวก”
“ครับ”
“วันนี้ตรวจให้ละเอียดนะ เราจะรับเค้ากลับไปทำงานที่บัตเตอร์ฟลายบอยใหม่”  ผมพูดพลางยื่นนามบัตรที่ระบุตำแหน่งของผมให้เค้าพร้อมแบงค์พันที่พับไว้ด้านล่าง
“การตรวจแบบเร่งด่วน อาจจะมีผิดพลาดได้บ้าง ครั้งนี้จะตรวจให้ละเอียดเลย”
“ผิดพลาดโดยตั้งใจหรือเปล่า”  ผมดักคอ
“เอ่อ”
“ใครสั่งให้คุณทำ”  ผมยัดแบงค์พันใส่มือเค้าอีกสองใบ
“มาม่าซังครับ”
“พี่ธัญญ่าใช่มั้ย”
*
*
...เดือนต่อมา ผมก็ได้เป็นอิสระจาก The Butterfly Boy เมื่อป้าธเนศบินด่วนกลับมาดูแลร้านต่อด้วยตัวเองเพราะผมยื่นคำขาดจะออกไปทำงานประจำตามที่ได้เรียนมา ผมรับไม่ได้กับธุรกิจประเภทนี้และเบื่อการการต้องสร้างภาพลักษณ์จนไม่เป็นตัวของตัวเอง บุญคุณผมขอทดแทนด้วยวิธีอื่น ให้ผมดูแลยามแก่เฒ่าก็ได้ แต่ผมขอร้องว่าให้ผมออกมาใช้ชีวิตของผมในแบบที่ผมต้องการเถอะ...
*
*
...ชีวิตที่ผมต้องการไม่มีอะไรมากหรอก แค่มีใครซักคนที่ตื่นนอนพร้อมกัน ออกไปทำงานพร้อมกัน กลับบ้านมากินข้าวเย็นด้วยกัน นอนกอดกันใต้ผ้าห่มอุ่นอย่างที่ผมกำลังนอนกอดยุทธอยู่อย่างนี้...
“พอสบายใจก็กินใหญ่เลย ระวังอ้วนนะ”  ผมพูดพลางลูบหน้าท้องยุทธ
“ผมออกกำลังกายทุกวันไม่อ้วนง่าย ๆ หรอก”
“มีเวลาออกกำลังกายด้วยเหรอ”
“แบบเมื่อกี้ก็คือการออกกำลังกายอย่างหนึ่งนะ เผาผลาญแครอลี่ได้เยอะเลย แถมบางท่ายังต้องเกร็งหน้าท้องด้วย”
“ทะลึ่งว่ะ”
“ใครทะลึ่งกันแน่ ถ้าไม่หยุดลูบเดี๋ยวก็จัดให้อีกรอบนึงนะ”  ยุทธพูดเสียงหื่น ผมต้องชักมือกลับทันที
“พอเถอะ วันนี้เหนื่อยแล้ว”
“แต่พรุ่งนี้เป็นวันหยุดนะ”
“ไม่เบื่อเหรอ”  ผมถามพลางมองตายุทธฝ่าความมืด
“ไม่มีทางเบื่อ เพราะเรา Make love ไม่ใช่ Have sex ความรู้สึกมันต่างกัน เมื่อก่อนผมเคยมีอะไรกับใครมาเยอะ แต่ผมไม่เคยรู้สึกมีความสุขเหมือนตอนมีอะไรกับกริชเลยนะ”
“ทำไมอ่ะ”
“ก็ผมรักคุณ คุณคือคนเดียวที่อยู่ข้างผมตอนที่ผมตกต่ำที่สุดในชีวิต หรือขณะที่ผมกำลังจะตาย คุณก็ไม่หนีไปไหน”
“เวลาที่เรารักใครซักคน เราต้องอยู่กับเค้าทั้งในยามสุขและทุกข์”
“ผมรักคนไม่ผิดเลยจริง ๆ” ยุทธพูดพลางจูบหน้าผากผมเบา ๆ

               *********************************The End***************************************

จบแล้วจ้า เรื่องสั้นที่ถือว่าสั้นที่สุดตั้งแต่เขียนนิยายมา เป็นความท้าทายมาก เพราะปกติจะถนัดเรื่องยาว ถ้าผิดพลาดประการใด ผู้เขียนขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ

MonarcH

หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่14 คำสัญญา ตอนจบ 5/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 06-06-2011 00:45:30
ถึงจะรู้สึกว่ารวบรัดตัดจบไปนิด แต่ก็ดีใจมาก ๆ ที่ไม่จบแบบดราม่า ( หวาดหวั่นกลัวจะจบดราม่ามากมาย ขอบอก )
แค่พี่เตยังอยู่กับไนท์ ไนท์ยังไม่จากพี่เตไปไหนเท่านั้น คนอ่านก็ปลื้มจะแย่แล้ว
จบแบบหวานเงียบ ๆ ตาม concept น้องไนท์ ที่เงียบได้จนจบสุดท้าย  :กอด1:
อยากรู้เรื่องหมอทอยกับระพีพัฒน์จัง อาการอิจฉาตาร้อนจนถึงขั้นลักพาตัวคนอื่นอย่างอิน้องระพี
จะเรียกว่าเป็นอาการทางจิตได้ม่ะ? ก็เหมาะที่จะรักษาแบบเฉพาะทาง(และเฉพาะตัว?) กับพี่หมอทอยที่สุดแล้ว
หวังว่าพี่หมอทอยจะรักษาจนหายขาด ไม่มาตามราวีชาวบ้านอีกนะค่ะ...
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/Ch.15-17 ค่ะ (5-6/6/54)
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 06-06-2011 00:45:58
ปลอดภัยกันแล้ว o13
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่14 คำสัญญา ตอนจบ 5/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: m_pop91 ที่ 06-06-2011 00:47:05
โดยส่วนตัวชอบสีนี้ที่สุด
อ่านแล้วไม่ปวดใจเท่าไหร่
ชอบเต อบอุ่นและเป็นผู้นำที่ดีให้ไนท์ได้
ชอบไนท์ที่เป็นตัวของตัวเอง
ต่างคนต่างเติมในส่วนที่ขาดให้กัน
ดีแล้วที่จบแบบนี้ ชอบครับ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนอวสาน ๖ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้าสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: Saint De Jupiter ที่ 06-06-2011 00:48:29
จบแล้วๆๆๆ

บวกให้ครับ :3123:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 8 PG. 6 The End
เริ่มหัวข้อโดย: Saint De Jupiter ที่ 06-06-2011 00:52:51
^
^
^

 :z13:จิ้มๆๆ คนแต่ง

อ่านตอนจบคนแรกอ่ะ

กดบวกๆๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนจบ [05/06/54] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Saint De Jupiter ที่ 06-06-2011 00:57:38
กดบวกๆๆ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 10 PG. 6 The End
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 06-06-2011 01:01:52
 กริชเป็นคนดีจริงๆ :pig4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/Ch.15-17 ค่ะ (5-6/6/54)
เริ่มหัวข้อโดย: Saint De Jupiter ที่ 06-06-2011 01:02:43
อ๊ะ... ยังไม่จบ ลุ้นๆๆๆๆ  ^^
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนจบ สายลมที่หวังดี P:8 5/6/11
เริ่มหัวข้อโดย: Saint De Jupiter ที่ 06-06-2011 01:08:31
เฮ้ออออออออออ จบแบบมีฟามสุข

กดบวกๆๆๆ  ^^
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนอวสาน ๖ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้าสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: indices ที่ 06-06-2011 01:16:55
ชอบเทียนบุญมาก ๆ ยังไงมีตอนพิเศษไหมเอ่ย  .......

หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่14 คำสัญญา ตอนจบ 5/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: Saint De Jupiter ที่ 06-06-2011 01:19:47
โฮกกกกกกกกกก  จิตหลอนนนนนนนนนนนน

กดบวกๆๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 11 เบาะแส 4/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: Saint De Jupiter ที่ 06-06-2011 01:26:06
^
^
^

นี่แน่ะๆๆๆๆ  จิ้มๆๆๆๆๆๆ เอาให้พรุนเลย

แม่นางดอกบัวบึงสีม่วง  ไหนว่าจะจบวันนี้ไง

ชิ..งอน  ค้างอ่ะ



ป.ล. กดบวกให้แต่หัวค่ำแล้วเน้อ จุ๊บๆๆ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 10 PG. 6 The End
เริ่มหัวข้อโดย: m_pop91 ที่ 06-06-2011 01:36:00
จบอย่างนี้นักอ่านอย่างผมรักตายเลย ฮ่าาาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่14 คำสัญญา ตอนจบ 5/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: pupuzaa ที่ 06-06-2011 02:23:08
อยากได้คนแบบไนท์มาอยู่ด้วยสักวันจัง

ไนท์น่ารักอ่ะ^^
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 11 เบาะแส 4/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 06-06-2011 02:31:41
มาต่ออีกกระติ๊ด ที่รีพลายเดิมนะคะ
สัญญาว่ามันกำลังจะจบแล้วแหละ แต่คนเขียนตาจะมิดแล้วค่ะ
ค่อยมาอัพต่อพรุ่งนี้เน้อ....

ใครแช่งชักหักกระดูก จะให้อีหรั่งมันไปเยี่ยมไปเยือนถึงที่่แทนนะเจ้าคะ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนอวสาน ๖ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้าสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: LimousinX9 ที่ 06-06-2011 02:32:53
เรื่องนี้คงจบแบบจบจริงๆ  เนอะ  ถึงจะสั้นแต่รู้สึกได้หลากหลายอารมณ์ดี

เทียนบุญเองก็คงได้เรียนรู้ทั้งความรักและสิ่งดีๆจากตัวเจเองด้วยเนอะ


(แอบจิ้น)ถ้าเทียนยังคงรักพระไม่เปลี่ยนคงหนีตามไปบวชละมั่ง อย่างน้อยก็ยังคงได้อยู่ใกล้ๆในอีกมุมของความรักซึ่ง แม้ว่าตัวเทียนจะไม่สามารถมีความรักแบบปกติได้ก็ตัวเขาก็น่าที่จะเลือกแสดงความรัก ในแบบของพระธรรมตามคนที่ตนรักไปแม้ว่าจะไม่อาจอยู่ร่วมกันได้ก็ตาม
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนจบ [05/06/54] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: pupuzaa ที่ 06-06-2011 02:35:39
บรูโน่พรากผู้เยาว์อ่ะ

แต่คุณหนูก็น่าพรากผู้เยาว์จริงๆแหล่ะ^^
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่14 คำสัญญา ตอนจบ 5/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: vascular ที่ 06-06-2011 02:37:07
ขอบคุณครับ ตามอ่านเรื่องนี้มาจนถึงตอนจบ  o13
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 10 PG. 6 The End
เริ่มหัวข้อโดย: vascular ที่ 06-06-2011 02:46:00
แฮปปี้เอนดิ้ง ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 10 PG. 6 The End
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 06-06-2011 03:08:51
 :pig4:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 10 PG. 6 The End
เริ่มหัวข้อโดย: pupuzaa ที่ 06-06-2011 03:15:15
 :sad11: :sad11: :sad11: :sad11:

กริชเป็นคนดีมากๆอ่ะ

ขนาดยุทธเป็นโรคยังรักได้

น่านับถือกริชมากๆอ่ะ^^
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนอวสาน ๖ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้าสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 06-06-2011 03:15:40
จบได้วอดวายจริงๆ เฮ้อ~~
ขอบคุณพี่แรง(เทียน)สำหรับนิยายดีๆ ค่ะ(+1)
ได้ข้อคิดดีๆ จากเรื่องนี้มากมาย
ต่อไปนี้กุหลาบสวยๆ เริ่ดๆ อย่างเราคงต้องระวังอารมณ์ตัวเองให้มาก กร๊ากกกก กล้าพูดค่ะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนจบ สายลมที่หวังดี P:8 5/6/11
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 06-06-2011 03:16:38
อิอิ เรามาคืนดีกันนะคะพี่ห่ม^o^
ดีจังเลยที่ไม่ตาย (แอบสงสัยว่าพี่สายลมพิการยังไงอ่ะ)
ตอนแรกนึกว่าปลายฟ้าจะหลอนตามน้องไนท์(สีคราม)ไปอีกคน อิอิ
ขอบคุณจากใจค่ะ เอาบวกไป
ปล. ตอนนี้ก็ทำเราเสียน้ำตาไปหนึ่งแหมะ
ถามจริงพี่มีปัญหาไรกะหนูป่ะ ทำให้เสียน้ำตาตลอด หลายทีแล้วนะ ฮึ่มมม
อย่าให้รู้ตัวจริงนะ จะตามไปเคลียร์ ตบจูบตบจูบ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 10 PG. 6 The End
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 06-06-2011 03:32:26
อย่างน้อยความจริงใจของกริชก็ไม่สูญเปล่า
ได้คนรักดี ๆ มาเคียงข้าง
ขอบคุณคนเขียนใจดีนะคะ ให้จบแบบมีความสุข :L2:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 10 PG. 6 The End
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 06-06-2011 03:55:20
ฟู่~~~~~~~~~~~
โล่งอกนึกว่าจะเป็นซะแล้ว เจ๊ธัญญ่าก็ทำกันด๊าย
แต่ก็ดีแล้วล่ะที่มีเรื่องนี้ขึ้นมา ไม่งั้นป่านนี้ยุทธคงกำลังหลงแสงสี รับอ๊อฟไปหลายคนแล้ว
พอตกต่ำถึงคิดได้นะยะ
ยินดีกับกริชด้วยที่ได้กลับมาใช้ชีวิตของตัวเองซะทีแถมสามีกลับมาด้วย อิอิ
ขอบคุณมากนะคะ บวกๆ ^^
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 11 เบาะแส 4/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 06-06-2011 03:59:59
5555555555+
เจอคนเบี้ยวแล้ว
ว๊ายยยย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนจบ [05/06/54] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 06-06-2011 04:34:40
ก็เด็กมันยั่ว หึๆ
ขอบคุณนะคะ(+1)
ไม่ค่อยได้อ่านแนวโชตะเท่าไหร่ เหอๆ ขออีกซักเรื่องได้มั้ย
เค้ารักเด็กอ่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/Ch.15-17 ค่ะ (5-6/6/54)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 06-06-2011 05:14:54
อ่านรวดเดียว ตามทันแล้ว
สถานการณ์คลี่คลายแล้วใช่มั๊ยเนี่ย
ตกลงทั้งหมดทั้งมวลเป็นเพราะฝีมือมนุษย์ล้วน ๆ
เกิดรักระหว่างรบหลายคู่เลย
หัวข้อ: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/ -Epilogue- (6/6/54)
เริ่มหัวข้อโดย: Nassiiz ที่ 06-06-2011 06:27:54
(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page91.jpg)

(http://i1090.photobucket.com/albums/i374/Thanravee/Rainbow%20Project_DooM/page92.jpg)

------------------------------------------------------------------------------------

-Ps-

จบแล้วจ้า สำหรับเรื่องสั้นสไตล์หนังเกรดบี
อาจจะดูงง แต่จริง ๆ คำตอบมันก็อยู่ในเนื้อหาของเรื่องนั่นแหละค่ะ
เพียงแต่ว่าคนแต่งไม่ได้อธิบายรายละเอียดแบบแจ่มแจ้ง
เอาเป็นว่าถ้าคนอ่านสงสัยอะไรก็ฝากคำถามเอาไว้นะคะ
แล้วจะตมมาตอบให้เป็นข้อ ๆ ไป

สุดท้ายนี้...
ขอบคุณที่ติดตามกันมาจนจบโปรเจคค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 10 PG. 6 The End
เริ่มหัวข้อโดย: blanchard ที่ 06-06-2011 07:50:10
จบแบบนี้... สุขใจดีแท้หนอ    :give2:

ขอบคุณมาก ๆ ๆ ๆ ครับคุณ MonarcH    o14
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่14 คำสัญญา ตอนจบ 5/06/2554
เริ่มหัวข้อโดย: blanchard ที่ 06-06-2011 07:59:15
เรียบ ๆ ง่าย ๆ แต่อบอวลไปด้วยความสุข    :give2:


ว่าแต่น้องหมาล่ะฮะ (ของขวัญเบริธเดย์ :a13: )   แล้วก็เค้กอ่ะ    :HBD4:  !?!
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 11 เบาะแส 4/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 06-06-2011 09:02:51
เสียดายที่เรื่องนี้ปิดไปม่ทันกำหนด  แต่คนเขียนคงเสียดายมากกว่าเรา
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 10 PG. 6 The End
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 06-06-2011 09:09:40
ดีใจจัง จบแบบแฮปปี้
แล้วโล่งใจกับกริชที่ไม่ต้องฝืนทำงานที่ขัดกับความรู้สึกของตัวเอง
ชอบที่ยุทธเป็นเด็กใฝ่ดีจริง และเข้มแข็งจริง
ชื่นชมกริช  ที่จริงใจกับยุทธ อยู่เคียงข้างและคอยให้กำลังใจยุทธ
เจ๊ญ่า แกทำแบบนั้นทำไม รึไม่อยากให้กริชมีอะไรกับเด็กในร้าน(เดาเพี่อคลายปม)
 :L2:ขอบคุณ คุณMonarcH ค่ะ สำหรับเรื่องราวดีๆที่มีให้กัน
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 11 เบาะแส 4/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 06-06-2011 09:27:07
แอบๆมาเปิดอ่านเผื่อจะจบแล้ว
รอได้จ้า รู้นะว่างานเยอะ ปิเรื่องไม่ทันกำหนดก็ไม่เป็นไรจ้ะ
 :กอด1:กันไว้ก่อน เผื่อจะหายเหนื่อยหายเพลีย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/ จบแล้วจ้าาา!! (5-6/6/54)
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 06-06-2011 09:47:28
จบตามสไตล์หนังเกรดบีจริงๆด้วย ประมาณว่า"เอางี้เลยเรอะ"

แต่ก็โอเคนะ เพราะตอนแรกเราหวาดๆว่าจะจบแบบ หนีออกมาได้ แล้วยุงค่อยมาแสดงอาการทีหลังอะไรแบบนี้ เราคงเซ็งๆอ่ะ

จะเป็นไรไม๊ถ้าจะบอกว่า สงสารจรเข้อ่ะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 11 เบาะแส 4/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: blanchard ที่ 06-06-2011 10:00:01
"ใครแช่งชักหักกระดูก จะให้อีหรั่งมันไปเยี่ยมไปเยือนถึงที่่แทนนะเจ้าคะ"
งั้นคงต้องรบกวนขอแช่งอีกซักคนละกันนะฮะ ถ้าคุณจงเล่นจะส่งน้องหรั่งมาเยี่ยม...

หนูจะจับน้องหรั่งทำผัว  หนูอยากเป็นชู้กับผี  (ว้าย! พูดไปก็อายผีบ้านผีเฮือน :o8:)
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่14 คำสัญญา ตอนจบ+ตอนพิเศษ6/06
เริ่มหัวข้อโดย: ภาพฝัน ที่ 06-06-2011 10:32:53
      “ไนท์ ทำดีๆ สิครับ” เตชวัฒน์เตือนเมื่อไนท์กำลังคนน้ำตาล นมสด น้ำมันพืชเข้าด้วยกันในโถขนาดใหญ่ที่ไว้ใช้ผสมแป้งเค้ก วริศรินทร์ยังคงเงียบอยู่เช่นเดิม หลังจากเหตุการณ์เมื่อเช้าทุกอย่างก็ยังคงดูเป็นปกติเหมือนวันที่ผ่านๆ มา

   “ใช้ได้หรือยัง” เตชวัฒน์สัมผัสถึงอาการสะดุ้งยามที่เขาโอบเข้าไปที่รอบเอวจนตอนนี้กลายเป็นว่าเขากำลังกอดวริศรินทร์จากด้านหลัง แต่แล้วเตชวัฒน์ก็ตีมือเรียวเบาๆ เมื่อไนท์ใช้นิ้วจุ่มลงไปในส่วมผสมแล้วใส่เข้าปากเพื่อชิมรสชาติ

   “สกปรกครับ” เสียงทุ้มต่ำกระซิบเข้าที่ข้างหู

   “ทำไมผมต้องทำเอง” น้ำเสียงราบเรียบ แต่รูปประโยคบ่งบอกถึงความไม่พอใจ

   “โอเค งั้นเดี๋ยวพี่ช่วย เราทำด้วยกันดีไหมครับ” แทนคำตอบเตชวัฒน์จับลงไปที่ด้ามพายที่กำลังคนส่วนผสมอยู่ แต่ครั้งนี้เขาจับลงไปที่มือเรียว ฝ่ามืออบอุ่นกุมมือของอีกฝ่ายเอาไว้ แล้วประคองคนเนื้อเค้กช้าๆ ริมฝีปากอุ่นร้อนจุมพิตเบาที่กกหู ก่อนที่ฝ่ามืออีกข้างจะลูบไล้บริเวณหน้าท้องต่ำลงไปเรื่อยๆ

   เตชวัฒน์สะดุ้งสุดตัว เมื่อข้อศอกของนายแบบหนุ่มกระแทกลงไปที่ท้องน้อย มันไม่ได้แรงนักแต่ก็พอทำให้เขาสะดุ้งได้ ร่างโปร่งเดินลอดออกจากอ้อมกอดเขาออกนอกครัวทันที

   “ไนท์ไม่ทำเค้กวันเกิดต่อเหรอ” เตชวัฒน์ส่งเสียงถามทั้งที่ยังตัวงออยู่เล็กน้อย เขาเห็นวริศรินทร์เหลือบมองและเดินหนีออกไปจากครัว เตชวัฒน์อมยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อเห็นนายแบบหนุ่มเดินหนีไปเปิดโทรทัศน์ดูเงียบๆ ปฏิกิริยาเมื่อกี้ก็ถือว่าเป็นพัฒนาการระหว่างพวกเขาก็คงได้

   เตชวัฒน์เหลือบมองเวลาก็พบว่าใกล้เวลาอาหารเย็นแล้ว เขาเร่งมือทำเค้กให้เสร็จ ในใจก็ภาวนาให้เค้กที่ทำในวันนี้ประสบผลสำเร็จ ไม่ใช่ทานไม่ได้เหมือนครั้งก่อน

   เตชวัฒน์ปาดเหงื่ออกด้วยความเหนื่อยเมื่อเขาส่งเค้กเข้าเตาอบไปแล้ว แต่ที่ทำให้เขาเหนื่อยกว่าเดิมก็คือการที่หันหลังกลับมาเห็นบรรดาข้าวของที่กองเอาไว้รอล้าง  

   เค้กอบเสร็จแล้ว จานล้างเสร็จแล้ว เตชวัฒน์เก็บเคาเตอร์ครัวจนเสร็จ พอเดินออกมาก็เห็นไนท์นอนอยู่บนโซฟา ตามตัวเลอะไปด้วยคราบแป้ง เขาปลุกให้ไนท์ลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว

   “เดี๋ยวพี่จะออกไปซื้อกับข้าวมากินไปด้วยไหม” วริศรินทร์พยักหน้ารับและเดินกลับเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง

   พอออกมาซื้อกับข้าวด้วยกันทำให้เขาพอรู้ว่าไนท์ชอบทานอะไรจากของที่สั่ง หลายครั้งที่เขาเห็นอีกฝ่ายสั่งพวกกุ้งมาทาน

   “ชอบอาหารทะเลเหรอ” เตชวัฒน์ได้แต่ขยี้หัวอีกฝ่ายอย่างหมั่นเขี้ยวที่ไนท์เงียบแทนคำตอบ สลัดกุ้งทอดจานใหญ่ ปูผัดผงกะหรี่(ไม่ใส่ไข่) และปลาหมึกยัดไส้ทอดกระเทียม  สิ่งที่วริศรินทร์สั่งล้วนเป็นอาหารทะเลทั้งนั้น

   “ใจคอจะไม่ช่วยพี่เทหน่อยเหรอครับ” เตชวัฒน์ลองถามเมื่อเห็นว่าไนท์ยังคงนั่งเฉยรอเขาเท เขาไม่ได้มีปัญหากับการที่อีกฝ่ายจะอยู่เฉยๆ ให้เขาทำให้ แต่เขาอยากให้ไนท์ทำอะไรเองบ้าง ในการใช้ชีวิตประจำวัน

   วริศรินทร์หยิบของในกล่องออกมาช่วยเทโอยไม่ปริปากบ่น กลิ่นหอมอ่อนที่โชยออกมาช่วยเรียกน้ำย่อยที่อยู่ในท้องได้เป็นอย่างดี

   เตชวัฒน์มองวริศรินทร์ที่ท่านอาหารอย่างเอร็ดอร่่อย แม้อีกฝ่ายจะทำหน้าเฉยเมยแต่เขาก็สัมผัสได้ถึงความสุข เมื่ออาหารหมดแล้ว เขาจัดการยกเค้กก้อนใหญ่ออก ถึงแม้ว่า Vegan Blueberry Cake จะเป็นเค้กแต่มีลักษณะเป็นมัฟฟิน เพราะเป็นเค้กที่ไม่มีครีมโปะหน้าเพราะหน้าเค้กส่วนใหญ่ล้วนมีส่วนผสมของไข่ เตชวัฒน์ปักเทียนลงไป 23 เล่ม แล้วนำมาวางไว้ พร้อมกับร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ ให้กับวริศรินทร์ ตลอดเวลาเขาเห็นดวงตาของอีกฝ่ายจ้องมองมาที่เขา

   “อธิษฐานสิ” เตชวัฒน์เตือนเมื่อเห็นไนท์ยังคงนิ่งๆ เขาสังเกตเห็นรอยยิ้มน้อยๆที่มุมปาก วริศรินทร์เป่าเทียนจบดับ แล้วใช้ส้อมตัดลงไปที่ตัวเค้กเลย

   “อะไรกันไนท์ ไม่ตัดเค้กกะ อุ๊บ.” พูดยังไม่ทันจบ เค้กในมือไนท์ก็ถูกยัดเข้ามาในปากเขา ไนท์ตักเค้กกินต่อโดยไม่สนใจอะไร แต่นั่นทำให้เขารู้สึกว่าอีกฝ่ายเริ่มให้ความสนใจเขาแล้ว ส่วนเค้กแม้ไม่นุ่มฟูแต่ก็ถือว่าประสบผลสำเร็จ สังเกตจากการเคี้ยวตุ้ยๆ ของคนตรงหน้า แม้ตัวเขาเองจะไม่แน่ใจว่าเค้กของเขาอร่อยหรือว่าไนท์เป็นคนกินง่ายกันแน่

   “มานี่ครับ เลิกกินได้แล้วเดี๋ยวอ้วน”​ เขาดึงไนท์ออกมาจากก้อนที่มีขนาดเกือบสองปอนด์ เตชวัฒน์ใช้มือปิดตาของไนท์เอาไว้

   “เดินตรงไปครับไม่ต้องกลัว” น้ำเสียงที่นุ่มนวลของเขาทำให้วริศรินทร์เดินตามอย่างว่าง่าย เตชวัฒน์จูงและดันไนท์ให้เข้าไปที่ห้องนอนของตน เขาค่อยๆ ปล่อยมือออกช้าๆ  บนเตียงนอนของเขามีตุ๊กตาสุนัขสีน้ำตาลขนาดใหญ่ที่ผูกโบว์สีฟ้าแกมเขียวเอาไว้

   “สุขสันต์วันเกิดนะครับ” วริศรินทร์เดินเข้าไปหาตุ๊กตาสุนัขตัวใหญ่ ฝ่ามือลูบไล้ไปตามขนเนียนนุ่มก่อนจะดึงเข้ามากอดแนบแน่น ทันทีที่แก้มใสขยับเข้าถูไถกับขนนุ่มๆของมัน รอยยิ้มได้เกิดขึ้นบนใบหน้าของนายแบบหนุ่มทันที ไนท์ล้มตัวลงนอนทับตุ๊กตาสุนัขและกอดเอาไว้แนบแน่น

   “อะไรกัน กอดแต่หมาไม่กอดคนซื้อเหรอ” เขาตัดพ้อต่อว่า แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจ เตชวัฒน์เลยทิ้งตัวลงไปนอนเคียงข้าง เขาชอบรอยยิ้มบางๆ ที่ได้เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของไนท์ในตอนนี้ อะไรที่ทำให้ไนท์มีความสุขได้เขาก็จะทำ

   แต่นั่นไม่รวมความทรมานของเขาในตอนนี้ เตชวัฒน์นอนกอดร่างกายอบอุ่นที่นอนเคียงข้างเขาอยู่บนเตียง

   ‘ไนท์ยังเด็ก เต อดทนไว้’ เตชวัฒน์ได้แต่ย้ำเตือนกับตัวเองตลอดเวลาที่อีกฝ่ายนอนอยู่ด้วย และนี่ก็เป็นอีกวันที่กว่าเขาจะข่มตาหลับได้ก็กินเวลาไปครึ่งค่อนคืน  

..................................................................................................


ใครอยากรู้เรื่องของพี่ทอยกับน้องพี รออ่านได้จ้าเร็วๆนี้ กับ Doctor's Secret  หลังเฉลยคนแต่งโปรเจ็คนี้นะจ๊ะ



หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่14 คำสัญญา ตอนจบ+ตอนพิเศษ6/06
เริ่มหัวข้อโดย: blanchard ที่ 06-06-2011 10:41:28
ขอบคุณมาก ๆ ครับคุณภาพฝันที่มาเติมเต็มความฝันของผู้อ่าน

 :L1:   รักคนเขียนจัง

หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา&
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 06-06-2011 10:51:19
โฮะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
555555555555555555555555555
ดีใจจนเป็นบ้าไปแล้ว ตื่นมาก็มีของขวัญพิเศษเลย
ขอบคุณหลายๆ ค่า
*******************************
ตอนนี้น่ารักมากมาย อ่านไปยิ้มไปแก้มจะแตก อิอิ
ตอนกอดน้องหมาเธอช่างน่าร๊ากกกก
ตอนนี้เป็นครั้งแรกเลยที่เรารู้สึกอยากให้ไนท์กดพี่เต5555
มันมัวแต่'อดทนไว้ ไนท์ยังเด็ก' ถ้าวันนึงไนท์จับกดมันมันคงช็อค ต้องฮาแน่ๆ555
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่14 คำสัญญา ตอนจบ+ตอนพิเศษ6/06
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 06-06-2011 11:07:22
มันยังจะมีต่ออีกไหมอ่ะ
อยากอ่านต่ออีก ชอบๆๆไนท์กะพี่เต
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่14 คำสัญญา ตอนจบ+ตอนพิเศษ6/06
เริ่มหัวข้อโดย: ภาพฝัน ที่ 06-06-2011 11:19:28
^
&
ตื่นมาพิมพ์เลยมีอาการเมาขี้ตาไปบ้าง โฮะๆๆๆ

............


ขอบคุณนะค่ะ แก้คำผิดแล้วค่ะ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 10 PG. 6 The End
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 06-06-2011 12:20:20
้happy ending
อ่านตอนจบด้วยใจระทึกตลอดเวลา
เจ๊ธัญญ่าจัดการเด็ดขาดมาก  มากจนไม่นึกถึงว่าคนที่ต้องรับผลนี้ จะเป็นจะตายจะทุกข์แค่ไหน  แต่ยุทธก็โชคดีมากที่เจอกริช  ทำให้กลับตัวได้ทัน และมีความสุขในเวลาต่อมา ดีจัง
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนจบ [05/06/54] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 06-06-2011 13:06:16
เด็กมันยั่วเยาะพี่วิน
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่14 คำสัญญา ตอนจบ+ตอนพิเศษ6/06
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 06-06-2011 13:30:12
เห็นด้วยกับคุณChCh13
อยากให้ไนท์กดเต เพราะยังไงทุกวันนี้เตก็เหมือนคุณภรรยาอยู่แล้วล่ะ

ตอนแรกนึกว่าจะไม่ได้กินเค้กซะแล้ว ในที่สุดก็ได้กิน ดีจังนะไนท์

ชอบตอนกอดน้องหมาอ่ะ น่ารัก
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่14 คำสัญญา ตอนจบ+ตอนพิเศษ6/06
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 06-06-2011 13:45:54
น่ารัก อ่านแล้วอมยิ้ม อิอิ น้องไนท์กอดน้องหมา น่าเอ็นดู๊ น่าเอ็นดู

รออ่านพี่ทอย&น้องพี คู่นี้น่าจะมันส์พะย่ะค่ะ 5555+
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่14 คำสัญญา ตอนจบ+ตอนพิเศษ6/06
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 06-06-2011 13:57:39
จบซะแล้ว พี่เตยังไม่ได้กดไนท์เลย รออ่านคู่หมอนะตบจูบหรือเปล่าเอ่ย
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนอวสาน ๖ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้าสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 06-06-2011 14:22:01
จบได้ดีมากๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่14 คำสัญญา ตอนจบ+ตอนพิเศษ6/06
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 06-06-2011 14:25:10
พี่เตจะรอไปถึงเมื่อไหร่ละหนอ
อยากอ่านเรื่องหมอโรคจิต เอ๊ยหมอรักษาโรคจิต
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/ จบแล้วจ้าาา!! (5-6/6/54)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 06-06-2011 14:52:02
จบก็จบ
เป็นอีกเรื่องที่ไม่เครียด และจบแบบแฮปปี้
ขอบคุณคนเขียนนะคะ ที่พาไปผจญภัยถึงเกาหลี
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนอวสาน ๖ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้าสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 06-06-2011 14:53:20
สาธุกับพระเจ จบแบบไร้ข้อกังขาจริง ๆ
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่14 คำสัญญา ตอนจบ+ตอนพิเศษ6/06
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 06-06-2011 15:00:22
ไชโย มีตอนต่อ
ขอบคุณมากๆค่า
อยากอ่านพี่หมอจิตๆ ต่อด้วยเหมือนกัน (-__-)/

พี่เตกะน้องไนท์ ตามไปรับเชิญด้วยนะ เค้าคงคิดถึงมากๆ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 10 PG. 6 The End
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 06-06-2011 15:03:51
happy แต่ว่าไม่เข้าใจทำมั๊ย ธัญญ่าต้องทำให้เข้าใจผิดว่ายุทธเป็นเอดส์ด้วยอ่ะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/ จบแล้วจ้าาา!! (5-6/6/54)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 06-06-2011 15:24:32
ดีค่ะ จบแบบแฮปปี้
ขอบคุณผู้เขียนมากค่ะ ที่ได้นำความตื่นเต้น(แอบหวนด้วย)มามอบให้
รับไปเลยค่ะ :L2:แทนคำขอบคุณอีกที
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 10 PG. 6 The End
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 06-06-2011 15:33:51
ตอนแรกสงสารยุทธโคตรๆ แต่นับถือกริชมากๆถึงแม้ว่ายุทธจะจั่วก็ยังดูแล  แต่เหมือนจะสั้นไปหน่อยอ่ะค่ะ
อีเจ้ธัญญ่า ทำไมไม่คิดว่ายุทธจะฆ่าตัวตายบ้างอ่ะทำไมทำแบบนี้
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนจบ [05/06/54] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 06-06-2011 16:26:47
แฮปปี้เอนดิ้ง หนูริทสงสัยร้องเพลงตอนทำกับข้าวเลยได้สามีแก่ อิอิ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนอวสาน ๖ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้าสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: Chinnosuke ที่ 06-06-2011 16:38:02
ในท้ายที่สุดแล้วผลแห่งการกระทำก็ตามสนองทุกคนตามแต่กรรมใครทำมานั่นเอง
ผมว่าพี่ิอิ๊กแต่งแน่ๆเลย :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนอวสาน ๖ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้าสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 06-06-2011 17:07:27
อาฆาตกันไปมา  ในที่สุดก็ถูกเพลิงแ้ค้นเผาผลาญเอง
สาธุ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 11 เบาะแส 4/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 06-06-2011 17:12:25
มารอ :z2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/ จบแล้วจ้าาา!! (5-6/6/54)
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 06-06-2011 17:15:37
เหอๆ มาอยู่ด้วยกันด้วย  :pig4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่14 คำสัญญา ตอนจบ+ตอนพิเศษ6/06
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 06-06-2011 17:20:02
พี่เตก็ต้องอดทนต่อไป :z1:
ว๊าวๆ จะได้อ่านเรื่องพี่หมอด้วย o13
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 10 PG. 6 The End
เริ่มหัวข้อโดย: DraCo_SLa13 ที่ 06-06-2011 17:49:37
รักแท้ชนะทุกอุปสรรคเลยค่ะ  +1ค่ะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 11 เบาะแส 4/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: nubuggy ที่ 06-06-2011 17:52:10
อารายยยยยยยย  อะ
ใครแช่งชักหักกระดูก จะให้อีหรั่งมันไปเยี่ยมไปเยือนถึงที่่แทนนะเจ้าคะ


มีการใช้ อำนาจมืดข่มขูด้วย ดูสิท่านผู้ชม   o22
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 10 PG. 6 The End
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 06-06-2011 18:10:10
น้องกริชน่ารักมาก รักจริงหวังดูแลกันแบบนี้
ขอให้รักกันไปนานๆนะ :L2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนจบ [05/06/54] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 06-06-2011 18:15:50
ดีใจที่Happy Ending
อ่านกี่เรื่องๆมีแต่ใจสลาย
ขอบคุณมากครับ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนจบ [05/06/54] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 06-06-2011 18:21:17
น่ารักมากๆๆๆ
ชอบเด็กขี้อ้อน :กอด1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนจบ สายลมที่หวังดี P:8 5/6/11
เริ่มหัวข้อโดย: Chubby ที่ 06-06-2011 18:28:50
ตอนเหมือนมีใครมาเช็ดน้ำตาให้ปลายฟ้า
ตกใจ!  นึกว่ามีผีโผล่มาเหมือนสีม่วงด้วย อิอิ
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่14 คำสัญญา ตอนจบ+ตอนพิเศษ6/06
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 06-06-2011 18:38:29
จบน่ารักกกมาก
หนูไนท์น่ารักที่สุด 555+
พี่เตน่าสงสาร อดใจไว้นะ หนูไนท์ยังเด็กอยู่ ><
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 10 PG. 6 The End
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 06-06-2011 18:49:42
แล้วพี่ธัญญ่าเป็นไงต่ออ่ะ
แต่กริชจริงใจแบบนี้ จบแฮปปี้แบบนี้ คนอ่านปลื้ม ><
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนจบ สายลมที่หวังดี P:8 5/6/11
เริ่มหัวข้อโดย: onjazz26 ที่ 06-06-2011 18:49:59
ตอนแรกงอนนนน บวก โป้ง คนแต่ง :m19:
ว่าจะไม่เม้นท์แล้ว  :m12:
แต่ตอนนี้หาย..... :o8:
เฮ้อ....ค่อยยังชั่วหน่อยจบแบบนี้ :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนจบ [05/06/54] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 06-06-2011 18:58:37
ในที่สุด หึหึหึ
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่14 คำสัญญา ตอนจบ+ตอนพิเศษ6/06
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 06-06-2011 19:10:37
ขอบคุณที่มาต่อครับ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 10 PG. 6 The End
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 06-06-2011 19:18:05
ดีใจครับ
จบแบบนี้ คนอ่านค่อยมีกำลังใจหน่อย
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 10 PG. 6 The End
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 06-06-2011 19:18:47
 o13


กริชเป็นคนที่สุโค่ยยยมากกกกก

อิจฉายุทธที่เจอคนดีดีแบบนี้

ยุทธอย่าทำให้กริชเสียใจนะ  

มีตอนพิเศษบ้างก็ดีนะครับ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนจบ [05/06/54] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 06-06-2011 19:33:43
 :impress2:


แม้ตัดฉับไปนิดแต่ก็น่ารักดีครับ


อิอิ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนจบ สายลมที่หวังดี P:8 5/6/11
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 06-06-2011 19:34:12
ดีใจครับที่จบแบบนี้
แต่ว่าโดนแทงทำไมถึงพิการที่ขาได้ครับ  แฮะๆๆๆ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนอวสาน ๖ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้าสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 06-06-2011 19:40:59
 o18


จบได้โอเคเลยครับ

แม้ว่าเทียนจะไม่สมหวังก็ตาม

สาธุ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนจบ สายลมที่หวังดี P:8 5/6/11
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 06-06-2011 19:44:51
 :impress3:

ดีจังที่ไม่มีใครตาย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนจบ [05/06/54] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Ryojung ที่ 06-06-2011 19:44:57
 :m15: ตัดฉับเฉยเลย!!!!
แต่ให้อภัย บรูโน่พูดซะเคลิ้ม
คุณหนูโดนกินแล้ววววววว  :กอด1:
ตามอ่านเรื่องอื่นต่อค่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 11 เบาะแส 4/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 06-06-2011 19:58:42
เอาใจช่วยนะครับ  ไม่ต้องแช่งน้า  5555+
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนอวสาน ๖ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้าสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 06-06-2011 20:04:23
 :o12:
พระเจ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 11 เบาะแส 4/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: m_pop91 ที่ 06-06-2011 20:33:27
มารอตอนต่อไปครับ
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่14 คำสัญญา ตอนจบ+ตอนพิเศษ6/06
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 06-06-2011 21:09:12
ม่ายอาว จะเอา NC เต กับ ไนท์ จะเอา ๆ ๆ ๆ ๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนจบ [05/06/54] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 06-06-2011 21:15:17
ฉากพรากผู้เยาว์ถูกเซ็นเซอร์
แต่สุดท้าย หนูลิตก็เสร็จบรูโน่
โอ้ววววววววว น่ารักจริงๆๆ
ปล.ไม่อยากให้จบเลยอะ หนูลิตน่ารัก :-[
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนจบ [05/06/54] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 06-06-2011 21:15:46
ว้าว ๆ  ๆ ๆ ๆ ๆ สุข สม อารมณ์ หมาย อิอิ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนจบ [05/06/54] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: huimei ที่ 06-06-2011 21:20:37
“อยู่กับฉันก่อนนะ”  :impress2: ชอบประโยคนี้อ่ะ

อยากให้แต่งเป็นเรื่องยาวจังเลยอ่ะ
อยากอ่านคุณหนูกับบรูโน่ต่อ

 :man1: กอดพี่แตะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่14 ตอนจบ+ตอนพิเศษ+แปะกาตูน6/06
เริ่มหัวข้อโดย: ภาพฝัน ที่ 06-06-2011 21:22:07
(http://image.free.in.th/z/ik/6picture1.png) (http://image.free.in.th/show.php?id=4eb5cdcf39ef0ef1276df572c586f03f)
Thanks: ฝากรูป (http://www.uppicweb.com) ประกันรถยนต์ (http://www.dinsurebroker.com)


เอามาให้ดูกันเล่นๆ ลองสเก็ตดู
 :o8: อย่าถือสาฝีมือที่แอบเละของเราเลยน้า 

 :bye2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่14 ตอนจบ+ตอนพิเศษ+แปะกาตูน6/06
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 06-06-2011 21:25:02
ม่ายอาว จะเอา NC เต กับ ไนท์ จะเอา ๆ ๆ ๆ ๆ
หนูเห็นด้วยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย :laugh: :laugh:
รออ่านของพี่หมอทอย อยากอ่านมักมากกก o18
หัวข้อ: Re: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนที่14 คำสัญญา ตอนจบ+ตอนพิเศษ6/06
เริ่มหัวข้อโดย: m_pop91 ที่ 06-06-2011 21:28:22
ขอบคุณนะครับที่เอาตอนพิเศษหวานๆมาให้เราอ่านกัน
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 10 PG. 6 The End
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 06-06-2011 21:48:02
ดีใจด้วยนะยุทธ ที่ไม่ได้เป็น
เฮ้ยยยย ลงเอยกันสักที
น้องกริชน่ารักมากก มีแฟนอย่างนี้สักคน
รักตายเลยยย
ปล. อยากได้ตอนพิเศษจังเลยยย พี่ๆเรนเจอร์ให้ได้ปะ อิอิ o18
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนจบ+ตอนพิเศษ+แปะกาตูนP.12,13 6/06
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 06-06-2011 21:52:59
อุตส่าห์เอาตอนพิเศษมาตอกย้ำความหวานของพี่เต-น้องไนท์ ให้ชื่นอกชื่นใจ
แต่จะให้ดี ขอแบบที่พี่เตไม่ต้อง "อดเปรี้ยว ไว้กินหวาน" ได้ไหม?
พี่เตช่างมีความอดทน อดกลั้นสูง จนน่าเห็นใจ ( อดกลั้นเกินไป ระวังจะเสียสุขภาพนะ  :fox2: )
จะรออ่าน Doctor's Secret ค่ะ หมอโรคจิต กับ เด็กร้ายกาจ น่าจะมันส์...
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนจบ+ตอนพิเศษ+แปะกาตูนP.12,13 6/06
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 06-06-2011 22:52:06
อ่านต่อไม่ไหว ตาจะปิดแแล้ว พรุ่งนี้จะอ่านให้จบและเม้นท์ให้นะค่ะ
หัวข้อ: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(50%) 6/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 06-06-2011 22:56:00
(http://img28.mediafire.com/b6f242d94a346b9095740bdfdd1f8ac23fc115dbd2c7ec5da35aca98f1eb05c75g.jpg)

ตอนที่ 12 ความจริง (50%)
   นายตำรวจหนุ่มนำพาหนะคู่ใจแล่นเอื่อยมาตามถนนในขณะที่สายฝนกระหน่ำหนักขึ้น เขาพยายามขับอย่าง ช้า ๆ และระมัดระวัง จนเริ่มจะพ้นเขตเมืองเขาเริ่มจะเร่งความเร็วขึ้นอีก ทันใดนั้นเขาสังเกตเห็นความผิดปรกติจากกระจกส่องหลัง รถจักรยานยนต์ที่ขับตามมาห่าง ๆ ทางด้านหลัง กลับเร่งความเร็วขึ้นตามมา และเพียงไม่นานก็ตีคู่ขึ้นมาขนาบทางด้านข้างฝั่งที่เขานั่งอยู่ นายตำรวจพยายามเร่งเครื่องขึ้นไปอีกเพื่อหวังจะให้พ้นจากการถูกติดตาม แม้จะพยายามเร่งหนีเท่าไหร่ แต่ดูเหมือนคนขับรถจักรยานยนต์ก็พยายามเร่งตามขึ้นมาติด ๆ เหมือนกัน  
สายฝนที่โปรยปรายจากแผ่นฟ้ากลับตกกระหน่ำราวกับฟ้ารั่ว คนขับรถจักรยานยนต์ที่ด้านข้างคว้าหยิบมัจจุราชสีดำที่เหน็บอยู่ข้างสะเอวออกมาก่อนจะส่องเล็งตรงมาที่เขา ด้วยสัญชาตญาณเขาเร่งความเร็วจนสูงสุดและหักพวงมาลัยเอาด้านข้างของรถปาดส่ายเข้าหาผู้มุ่งประสงค์ร้าย ชายในชุดดำก็หักหัวรถจักรยานยนต์หลบฉากก่อนจะยิ่งปืนออกไป แสงสว่างวาบออกจากลำกล้องปากกระบอกปืนก่อนเสียงคำรามของอาวุธสังหารจะแผดก้องแข่งกับเสียงฟ้าผ่าและฟ้าร้อง อสนีบาตฟาดเข้าใส่ที่ต้นไม้ใหญ่ข้างทางต้นไม้ทังต้นหักขาดร่วงลงมาขวางทางแสงเพลิงลุกโชนสว่างวาบ ร้อยตำรวจโทพชรจำต้องหักพวงมาลัยเลี้ยวหลบ หน่องเองที่ตอนนี้ตกใจตื่นจากการที่รถวิ่งส่ายไปมาจนหัวของเขาชนเข้ากับกระจกที่เอาศีรษะพิงอยู่ดังกุกกัก เมื่อเปิดเปลือกตาขึ้นมามองจึงเห็นเพียงเปลวเพลิงที่ลุกไหม้ผ่านกระจกรถฝั่งที่ตนนั่งอย่าชัดเจน
   "เฮ้ย! เกิดอะไรขึ้นเหรอหมวด" หน่องละล่ำละลักถามอย่างสับสน
   "เราถูกตาม มันมีปืนด้วย" หมวดบอกทั้งที่ใบหน้ากำลังจ้องไปตามทางของถนน
   "แกร๊ง! " เสียงลูกเหล็กแดงร้องจากปืนที่ถูกยิงมาจากคนขับจักรยานยนต์ทางด้านหลังกระทบเข้ากับหลังคาของรถกระบะก่อนจะแฉลบขึ้นฟ้าทำเอาคนขับต้องย่นคอตามด้วยเกรงอานุภาพทำลายล้างของมัน
   การหนีและการไล่ล่าดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง แต่เพียงไม่นานคนขับรถจักรยานยนต์ก็ขับขี่ตีคู่ขึ้นมาอีกครั้ง
ปลายปากกระบอกปืนในมือถูกยกเล็งเอาไว้และพร้อมที่จะเหนี่ยวไก หมวดหนุ่มผู้ควบคุมรถกระบะที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงสุดก็พลันตกใจออกอาการหน้าซีดด้วยเพียงเพราะเขาพยายามที่จะเหยียบคันห้ามล้อจนเต็มแรงแต่พบกับความว่างเปล่าไร้แรงต้านความเร็วของรถยังไม่ลดลง เขาตัดสินใจหักพวงมาลัยรถเพื่อให้รถเข้ากระแทกผู้มุ่งร้าย
รถจักรยายนต์หักหลบไปได้อีกครั้ง แต่รถกระบะกลับพุ่งเข้าใส่เกาะกลางถนนรถทั้งคันไหวเยือกเหินขึ้นไปบนเกาะกลางก่อนส่วนหน้ารถจะกระแทกเข้ากับเสาไฟฟ้าและหยุดค้างอยู่บนนั้นนิ่งสนิท
   ด้วยความรุนแรงของการปะทะส่วนหน้าของรถยุบเข้าไอน้ำร้อนพวยพุ่งออกมาหนาตา ราวกับหมอกหนาขึ้นครอบคลุมรถเอาไว้ทั้งคันจนไม่สามารถมองเห็นผู้โดยสารทั้งสองที่ด้านในตัวรถ หมวดพชรสิ้นสติไม่สมประดีฟุบหมอบไปกับพวงมาลัย โลหิตอุ่นสีสดไหลเป็นทางยาวจากขมับขวาลงมา เสื้อแขนสั้นสีขาวที่เจ้าตัวสวมใส่โชกอาบไปด้วยเลือด ส่วนคนที่มาด้วยกันกลับนอนนิ่งอิงเบาะรถดูราวกับกำลังดำดิ่งเข้าสู่ห้วงนิทรารมย์เป็นสุขและแสนสบาย แพขนตางอนบนเปลือกตาไหวริกก่อนจะลืมตาเบิกโพลง หน่วยตาฉายแววอาฆาตมาดร้าย ก่อนจะเอื้อมมือเปิดประตูรถแล้วลงไปหยุดยืนมองตรงไปทางผู้ประสงค์ร้ายที่หยุดรถและกำลังเดินตรงเข้ามาช้า ๆ พร้อมกับอาวุธในมือที่กำลังเล็งจุดตายกลางแสกหน้าของหน่อง เพียงพริบตานิ้วก็กระดิกลั่นไกส่งลูกเหล็กร้อนจากลำกล้องออกมา
   ลูกกระสุนวิ่งพุ่งตรงเข้าหาเป้าหมายอย่างรวดเร็ว แต่ก่อนที่มันจะเจาะเข้าดื่มเลือดจากกายของหน่องมันกลับหยุดนิ่งอยู่กันที่ห่างจากกึ่งกลางแสกหน้าและร่วงลงกระทบพื้นผิวถนนแล้วกลิ้งหลุนๆ กระดอนหายไป มือปืนถึงกับออกอาการงงงวยได้เพียงไม่นานต้องแปรเปลี่ยนเป็นหวาดกลัวผวากับเหยื่อตรงหน้าที่เปลี่ยนแปลงไป จากร่างของเด็กหนุ่มร่างเล็กที่สวมใส่เสื้อยืดมีปกสีม่วงอ่อนไร้พิษสง กลับกลายเป็นร่างสูงใหญ่ใบหน้าขาวซีดริมฝีปากดำคล้ำในอาภรณ์ยาวสีดำสนิท ผมเปียกลู่แนบกับหนังศีรษะ  หน่วยตาไร้แววที่จ้องมองกลับมาอย่างมุ่งร้ายหมายชีวิตของตน เขาลั่นไกซ้ำออกไปอีกหลายครั้ง แต่ลูกกระสุนทั้งหมดไม่สามารถแม้แต่แค่เพียงระคายเคืองผิวหนังอสุรกายได้เลย เขก้าวถอยหลังออกไปก่อนจะหันตัวเพื่อจะวิ่งกลับไปที่รถจักรยานยนต์ที่จอดติดเครื่องรออยู่ แต่เมื่อเขาหมุนกากลับไปเขาก็ผงะก้าวถอยหนีเมื่อปะทะเข้ากับอสุภที่มาโผล่ต่อหน้าในระยะประชิด ฝ่ามือของอสุรกายเอื้อเข้ามาคว้าลำคอของเขาเอาไว้เขาพยายามออกแรงสะบัดกายถอยหนีพร้อมกับเอามือสองข้างของตนเอือมคว้าจับแขนซีดขาวกรงเล็บบนมือดำคล้ำที่โผล่พ้นออกมาจากชุดคลุมสีดำยาว เขาออกแรงกระชากเพื่อให้มือข้างนั้นของมันหลุดออกจากลำคอ และถึงแม้จะพยายามดิ้นรนออกแรงมากขึ้นเท่าไหร่ อุ้งมือข้างนั้นกระกลับกระชับแน่นเข้ามาอีก กรงเล็บสีดำกดลึกบาดเข้าไปในผิวเนื้อจนลิ่มเลือดไหลทะลักหยดย้อยและเพียงไม่นานร่างที่พยายามกระเสือกกระสนเพื่อความมีชีวิตรอดกลับหมดแรงกำลังลงด้วยขาดอากาศที่จะหายใจ ร่างกระตุกไหวเยือกแล้วสิ้นใจลงพร้อมกับเสียง "กร๊อบ" ของกระดูกข้อต่อลำคอที่แตกจากแรงมหาศาล ก่อนที่อุ้งมือนั้นจะคลายออกร่างของชายในชุดหนังสีดำก็ร่วงลงกระแทกกับพื้นโลหิตสีแดงฉานไหลนองออกจากบาดแผลที่ลำคอกระจายเป็นวงกว้างส่งกลิ่นคาวคละคลุ้งเจิ่งปนไปกับสายฝนที่กำลังกระหน่ำหนาเม็ดไม่ขาดสาย ร่างของอสุรกายพลันค่อย ๆ เลือนจางลงกลายเป็นเพียงกลุ่มควันดำมืดที่หมุนวนเข้าหาจุดศูนย์กลางก่อนจะค่อย ๆ เล็กลง เล็กลง จบหายวับไป
   ภายในห้องนอนใหญ่บนชั้นสองของคฤหาสน์ลังงาม ชายสูงวัยกำลังหยอกล้อโอบกระชับรัดเหวี่ยงนักมวยหนุ่มรูปงามเรือนร่างเปลือยเปล่าที่อุดมไปด้วยมัดกล้ามเยี่ยงนักกีฬาอยู่บนเตียงเสาสูงที่มีผ้าลูกไม้โปร่งเบากรุไว้โดยรอบ สายตาของเจ้าของบ้านที่ทอดมองด้วยความสิเน่หา ริมฝีปากหยอกล้อเลาะเล็มชิมริมฝีปากของนักมวยหน้ามนอยู่เพียงครู่ก่อนจะส่งเรียวลิ้นเข้าไปทักทายเกี่ยวกระหวัดรัดลิ้นเอาไว้เสียด้วยลิ้นความวาบหวามที่พุ่งทะยานไปด้วยความอยากทำเอาทั้งคู่เผลอหยุดลืมหายใจไปชั่วขณะ และเป็นไปด้วยสังขารของเจ้าบ้านเองที่จำต้องผละปากออกมาเสียก่อนเพื่อโกยอากาศเข้าปอด แรงปรารถนาทะยานอยากที่ยังคุกรุ่นอยู่ทำให้ต่างฝ่ายต่างตระโบมโลมไล้เรือนร่างของอีกฝ่าย ฝ่ามือหนาใหญ่สาก ๆ เยี่ยงนักกีฬา ลูบไล้ฟอนเฟ้นเนื้อตัวของชายสูงวัยกว่าไปทั่วก่อนจะไปหยุดอยู่ที่ปากทางด้านหลังแล้วพยายามรุกล้ำเข้าไปด้วยดัชนีข้อใหญ่ เขาชำแรกล่วงล้ำเข้าไปเพียงอุคงลีกลับพบความอัศจรรย์ช่องทางด้านหลังที่กล้ามเนื้อหูรูดน่าจะหย่อนยานกลับบีบรัดนิ้วของเขาเอาไว้แน่นพร้อมกับความอุ่นเปียกชื้นที่เขาเองสัมผัสได้ เขาค่อย ๆ ชำแรกเปิดทางเข้าจนสุดปลายก่อนจะหมุนวนคว้านไปรอบ ๆ ผนังภายในส่งผลให้ผู้สูงวัยกว่ากระถดก้นจะยกถอยหนี เขาตามเข้าประกบก่อนจะผลิกร่างขึ้นคล่อมทับเอาไว้เพื่อกันไม่ให้อีกคนนั้นดิ้นรนขัดขืนเขาส่งนิ้วเข้าไปทักทายเพิ่มมากขึ้น  ร่างของชายสูงวัยที่อยู่ใต้ร่างหนาของเขา กลับส่งเสียงสูดปากราวกับกำลังกินของที่ทั้งเผ็ดทั้งร้อน เมื่อไม่สามารถสะกดกลั้นอารมณ์ความอยากเอาไว้ได้อีกแล้ว ชายสูงวัยกว่ากลับออกแรงดิ้นหนีและพลิกตัวกลับขึ้นไปคร่อมอยู่บนกึ่งกลางลำตัวของนักมวยหนุ่มเขาก้าวคร่อมอยู่เหนือองคาพยพที่แข็งขืนอยู่เพียงครู่ก่อนจะทิ้งน้ำหนักตัวลงมาครอบครองส่วนแข็งขืนเอาไว้ภายในร่างกายของตนแล้วออกแรงควบโขยกขย่มอย่างเมามัน นักมวยหนุ่มที่นอนรอท่าต่ออีกไม่ไหวจนเจ้าตัวต้องเด้งสวนกระแทกแก่นกายกลับไปด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี ก่อนจะถึงปลายทางแห่งความปรารถนา เขาจึงปลดปล่อยของเหลวอุ่นร้อนเข้าไปในร่างที่ยังคงครอบครองส่วนนั้นของเขาเอาไว้และตัวเขาเองก็ผวากอดยึดสะโพกเอาไว้เสียแน่น เขาจับจ้องมองใบหน้าของคนที่อยู่ด้านบนด้วยสายตาอ่อนล้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุข ฉับพลันกลับแปรเปลี่ยนเป็นสงสัยใครรู้เมื่อสบเข้ากับแววตาหื่นกระหายที่ปิดบังความคุกคามเอาไว้ไม่มิด และตัวเขาเองกลับต้องขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำที่เอ่ยออกมา
   "ทีนี้ถึงตาของฉันบ้างแล้วนะนาย"
   "เพี๊ยะ" ฝ่ามือแข็งกระทบเข้าที่แก้มซึกซ้ายของเขา ใบหน้าสะบัดหันไปตามแรงตบ ก่อนเจ้าของฝ่ามือจะยกตัวถอนร่างออกมาจากส่วนที่เคยแข็งขืน พร้อมกลับหันไปกระชากจิกผมของนักมวยคู่ขาจนใบหน้าหงายรั้งเชิดขึ้นสูง พร้อมกับออกแรงบิดแขนล่ำข้างหนึ่งของนักมวยหนุ่มเอาไปโผล่ไว้ที่ด้านหลังแล้วออกแรงกดร่างหนาเอาไว้จนไม่สามารถดิ้นหนีได้ เขาปล่อยมืออกจากตีนผมบนหน้าผากไปควานล้วงหยิบแถบแพรสีแดงกว้างเพียงคืบออกมาจากใต้หมอนหนุนเพื่อเอามาพันธนาการร่างหนาที่อุดมไปด้วยมัดกล้ามเอาไว้และผูกรั้งโยงไว้กับเสาที่หัวเตียงจนร่างของนักมวยหนุ่มหมดหนทางที่จะต่อสู้และขัดขืน

เอาไปก่อนครึ่งนึงอีกครึ่งแปะไว้พรุ่งนี้ค่ะ  :o8:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(50%) 6/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: m_pop91 ที่ 06-06-2011 23:01:53
จิ้มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(50%) 6/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 06-06-2011 23:14:49
ใกล้จะคลี่คลายแล้ว ตามลุ้นต่อ :pig4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(50%) 6/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 06-06-2011 23:37:14
โห ค้างกันสุดๆ

ตกลงต้นเหตุเป็นเรื่องเซ็กวิปริตสินะ นึกว่าหรั่งไปรู้ความลับอะไรเข้าซะอีก
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(50%) 6/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 06-06-2011 23:45:28
ใกล้กระจ่างแล้ว  ติดตามต่อไป
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนจบ [05/06/54] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: nco1236 ที่ 07-06-2011 05:01:21
บรูโน่ไม่ได้กินหญ้าอ่อนนะ.........แต่บรูโน่กินแต่ยอดหญ้าอะ o13
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(50%) 6/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: MadamLilac ที่ 07-06-2011 06:09:45
หรั่งจัดการหักคอมันเลย
อีท่านซาดิสต์
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 10 PG. 6 The End
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 07-06-2011 06:37:53
สนุกมากครับ ลุ้นตลอดเลย
ตอนจบดูจะรวบรัดไปหน่อย
แต่จบ Happy แบบนี้คนอ่านก็มีความสุขไปด้วย
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 10 PG. 6 The End
เริ่มหัวข้อโดย: MadamLilac ที่ 07-06-2011 06:49:08
ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ยุทธเอ้ย กลับตัวกลับใจรักเดียวใจเดียวตั้งใจทำงานนะ
กริชก็ดูและกันและกันดีๆต่อไป
เจอคนที่ใช่ในยามลำบากนี่แหละของแท้
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(50%) 6/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 07-06-2011 10:10:45
ค้างอ่ะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนจบ [05/06/54] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: hahn ที่ 07-06-2011 10:17:35
  :m25: แจ้งตำรวจดีไหมเนี่ย ข้อหาพรากผู้เยาว์
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(50%) 6/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 07-06-2011 11:14:29
ว่าแล้วเชียว อิคุณท่านวิปริต... รอๆๆๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(50%) 6/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 07-06-2011 13:36:10
ท่านคะ แก่แล้วยังเฟี้ยวได้อีก
มาต่อได้แล้วค่าาาา
ปล. ตกลงน้องหน่องโดนสิงหรือมันเป็นอสูรกายแปลงร่างมาแต่แรกอ่ะ กลัวๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(50%) 6/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: fOnfOn :D ที่ 07-06-2011 13:48:41
ว่าแล้วเชียว อิคุณท่านวิปริต... รอๆๆๆ
o13 o13 o13

หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนจบ+ตอนพิเศษ+แปะกาตูนP.12,13 6/06
เริ่มหัวข้อโดย: fOnfOn :D ที่ 07-06-2011 16:48:01
ผู้ชายแบบพี่เต นี้จะไปหาได้จากที่ไหนคะเนี๊ย   :o8: :o8: :o8:


ปล.จะรออ่านตอนของคุณหมอนะค่ะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนจบ+ตอนพิเศษ+แปะกาตูนP.12,13 6/06
เริ่มหัวข้อโดย: ovam ที่ 07-06-2011 20:52:14
ขอบคุรครับบ ,,


 :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(50%) 6/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 07-06-2011 20:59:29
อยากรู้ว่าหนุ่มใหญ่นี่ ใครฟระ :m16:
แรงดีไม่มีตกจริงๆๆๆ
ความจริงใกล้กระจ่างแล้ว
รอครึ่งหลังนะคะ :o8:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(50%) 6/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 07-06-2011 21:16:48
มารอครึ่งหลังอยู่นะครับ เจ๊จง  :z2:
+1 ให้เป็นกำลังใจก่อน เลย 555...
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนจบ+ตอนพิเศษ+แปะกาตูนP.12,13 6/06
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 07-06-2011 21:29:28
ไอ้ที่กอดทั้งคืน ก็น่าจะเพียงพอนะ พี่เต
ถ้ามากกว่านั้น พี่เตอาจจะต้อง ไอ ออกมาเป็นเสียง คุก คุก คุก  :m20:
+1 ให้กับตอนนี้ และ รอตอนพิเศษ
ปล. ส่วนเรื่อง ของหมอกับเด็กแสบ จะอดทนรอครับ  :z2:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 10 PG. 6 The End
เริ่มหัวข้อโดย: indices ที่ 07-06-2011 21:41:36
ดีใจด้วยนะ จบแบบ happy

อยากให้ตอนพิเศษบ้างนะคะ





หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(50%) 6/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: indices ที่ 07-06-2011 21:42:32
ลุ้น ๆ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 10 PG. 6 The End
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 07-06-2011 23:24:36
สุดท้ายก็ได้โบยบินเป็นอิสระ พูดถึงถ้ามีชีวิตอยุ่บนความร่ำรวย หรูหรา แต่หาความสุข ไม่ได้เลย ไม่มีคนที่จริงใจ ขอเลือกเป็นคนธรรมดา แต่มีคนจริงใจข้างกาย แบบกริช ดีกว่า ขอบคุณนะค่ะ ที่จบได้หักมุม แฮปปี้ สุขๆ   :3123:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(50%) 6/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 07-06-2011 23:36:05
ใกล้จะรู้ความจริงแล้ว ไม่อยากให้หรั่งแก้แค้น แต่ก็อยากให้คนผิด โดนโทษทีสาสมกัน  
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนจบ [05/06/54] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: puchi ที่ 07-06-2011 23:47:59
คุณหนูน่าีรักมากๆๆๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/ จบแล้วจ้าาา!! (5-6/6/54)
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 08-06-2011 00:04:15
สนุกดี อารมณ์เหมือนอ่านฟิค
ด้วยชื่อด้วยบุคลิกตัวละครบางตัว ทำให้นึกถึง 2PM ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 10 PG. 6 The End
เริ่มหัวข้อโดย: A. marco ที่ 08-06-2011 06:08:43
ตอนที่รู้ว่าพระเอกเป็นเอดส์ตกใจมาก  คิดว่า "กรูไม่น่าหลงมาอ่านเรื่องนี้เลย" กลัวตอนจบที่ไม่สมหวังที่สุด

แต่พอเป็นอย่างนี้ก็ปลึ้มคนแต่งเลยนะซิครับ  ทำให้คนอ่านตรหนักได้ถึงโรคเอดส์  อ่านแล้วได้อะไรเยอะมากครับ
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 10 PG. 6 The End
เริ่มหัวข้อโดย: kitty ที่ 08-06-2011 10:55:09
 :monkeysad: o13 o13
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 10 PG. 6 The End
เริ่มหัวข้อโดย: lunar ที่ 08-06-2011 13:29:25
 :pig4:

ปล  สงสัยว่าธัญญ่าทำแบบนั้นไปทำไม หวังดีกับกริชแต่ทำลายชีวิตคนๆนึง
ให้ตายทั้งเป็นนี่นะ ทำไปได้
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 10 PG. 6 The End
เริ่มหัวข้อโดย: crosa ที่ 08-06-2011 14:45:45
เหอๆ ตอนแรกนึกว่าจะแย่ซะแล้ว
น่าจะมีต่ออีกซักนิด
ขอบคุณคะ
^^
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(50%) 6/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: s.mosis ที่ 08-06-2011 15:29:26
แล้วไม่มีต่อแล้วหรือค่ะ

รออยู่นะค่ะ

มาไวๆ ซิค่ะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(50%) 6/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 08-06-2011 17:00:15
วันนี้กลับเร็วจะไปเขียนต่อนะเจ้าคะ  :laugh:

(แม่จ๋าหนูเพลี้ยเพลีย)
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(50%) 6/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: Chubby ที่ 08-06-2011 17:25:42
สีม่วงสู้ๆ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนอวสาน ๖ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้าสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 08-06-2011 19:14:23
จบดีจัง
ขอสาธุด้วยคน _/l\_
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนจบ สายลมที่หวังดี P:8 5/6/11
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 08-06-2011 19:19:38
หักมุมเข้าไป ตอนแรกนึกว่าตายแล้ว เล่นเอาแซดไปเลย
แต่ตอนจบเหมือนจะตัดฉับไปหน่อยเนอะ แต่ก็ยังหวานอยู่ดี ^^
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 10 PG. 6 The End
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 08-06-2011 21:43:12
อ่านจบแล้ว ปลื้มคุณกริชมาก ๆ เพราะ ใช้สติและปัญญาในการดำรงชีวิตจริง ๆ
ไม่หลงระเริงไปกับความรัก อารมณ์เบื้องต่ำ ความปรารถนา และสิ่งฉาบฉวยที่รายล้อม
นอกจากจะรู้จักพอ และยังรู้ใจตัวเองด้วย แม้จะสับสนไปบ้าง (แต่ก็ไม่แปลก รอบตัวมีแต่สิ่งยั่วยุขนาดนั้น)
อ่านแล้วต้องลุ้นทุกโมเมนท์ เพราะ ยุทธ เหมือนจะเชื่ออะไรไม่ได้ แต่สุดท้ายจบ Happy ดีใจจริง ๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(50%) 6/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 08-06-2011 22:23:08
รอพี่จงคนดี o18
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 10 PG. 6 The End
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 09-06-2011 00:42:11
เป็นบุญของยุทธจริงๆ ที่ได้มาเจอกริช ได้เมียดีก็อย่างนี้แหละนะ กริชน่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 10 PG. 6 The End
เริ่มหัวข้อโดย: nco1236 ที่ 09-06-2011 02:56:36
 :n1: เข้าใจถึงรักแท้เลยอะ o13
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนจบ สายลมที่หวังดี P:8 5/6/11
เริ่มหัวข้อโดย: nco1236 ที่ 09-06-2011 03:56:27
น้ำตาเล็ดเลยบ่าวเอ้อ....
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/ จบแล้วจ้าาา!! (5-6/6/54)
เริ่มหัวข้อโดย: Saint De Jupiter ที่ 09-06-2011 04:42:44
จบแล้วๆๆ  ^^
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(50%) 6/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: Saint De Jupiter ที่ 09-06-2011 04:49:59
ห๊ะ !!  คนแต่งชอบ S&M  o22
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 10 PG. 6 The End
เริ่มหัวข้อโดย: kitty ที่ 09-06-2011 11:10:50
 :impress2: o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 10 PG. 6 The End
เริ่มหัวข้อโดย: MonarcH ที่ 09-06-2011 11:40:06
ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ รู้หรือยังว่าใครแต่งเรื่องนี้  :o8: เข้าไปร่วมสนุกทายชื่อคนแต่งทั้ง 7 ได้ที่ห้องพูดคุยทั่วไปจ้า

ถ้ามีเวลาจะเอาตอนพิเศษมาฝาก ขอเข้าที่ประชุมโปรเจคก่อนนะครับ  :laugh:

หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/ จบแล้วจ้าาา!! (5-6/6/54)
เริ่มหัวข้อโดย: luckyimna ที่ 09-06-2011 16:03:46
 :z2:  มีความรู้สึกเหมือนได้อ่านเรื่องผีชีวะ แหะ เกี่ยวไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 10 PG. 6 The End
เริ่มหัวข้อโดย: ladymoon_yy ที่ 09-06-2011 19:04:21
อ่านจบแล้ว....
กริชดีมากๆเลย :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(50%) 6/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: acorntan ที่ 09-06-2011 19:21:10
จับแม่ได้แล้ว อิอิ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนจบ [05/06/54] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 09-06-2011 21:55:20
ตอนพิเศษ ตอนพิเศษ ตอนพิเศษ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนจบ+ตอนพิเศษ+แปะกาตูนP.12,13 6/06
เริ่มหัวข้อโดย: kitty ที่ 09-06-2011 22:12:09
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนจบ [05/06/54] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: ru_ka ที่ 09-06-2011 23:27:39
 :-[ คุณหนู!!! ในที่สุดก็

อ๋าาาาาาาาา น่ารักมากเลยคร่า
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(50%) 6/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: onjazz26 ที่ 09-06-2011 23:32:54
เฮ้อ.... :เฮ้อ:คนอ่านทุกท่าน
เรื่องของเหล่าเรนโบว์เรนเจอร์จาจบทุกเรื่องพร้อมกันวันที่ 5 เดือน มิ.ย.นี้ (54)
ขอเชิญทายคนแต่ง...บราๆๆๆ

แต่ของเจ๊จงยังม่ายจบอ่ะ วันนี้ก้อวันที่ 10 แล้ว
เรื่องนี้ลงก่อนเพื่อนเลย....แถมลบแล้วก้อลงซ้ำอีกต่างหาก....
มัวแต่ไปขายอาหารตามสั่งอยู่อ่ะดิ.... :m12:

ว่าแล้ว....กระเพราไก่ไข่ดาว...จานหนึ่งเจ๊... :laugh:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนจบ สายลมที่หวังดี P:8 5/6/11
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 10-06-2011 00:15:49
ดีใจจังที่จบแบบ Happy Ending
เหมือนเป็นปาฏิหารย์ให้ปลายฟ้าเลย ที่ได้พี่สายลมที่แสนดีกลับมา  :กอด1:


หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนจบ [05/06/54] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 10-06-2011 08:26:45
พระเอกของเรา คงรอดคุก แน่นอน เพราะคุณหนูคงไม่ยอม :z2:
+1 ให้กับตอนจบอันแสน  :haun4: :m1:
ปล. รอวันเฉลย ว่า Who are you ? :pig4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(50%) 6/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 10-06-2011 10:07:31

ป่านนี้หรั่งไปเกิดแล้วมั้ง
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนจบ [05/06/54] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: kitty ที่ 10-06-2011 16:53:09
 :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(50%) 6/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 10-06-2011 17:28:28
ยายช่อคะ อิฉันจะบอกว่า หรั่งไปเกิด แต่อิฉันจะตายแทนแล้วค่ะ เอาเป็นว่าจะรีบกลีับบ้านไปปรุงมาให้ชิมแล้วกัน ไปล่ะ กลับบ้านดีกว่า
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(50%) 6/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 10-06-2011 18:46:13
^
^
^
เหรอครับป้า งั้นไข่เจียวหมูสับจานนึงด้วยนะครับ  หิวๆๆๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(50%) 6/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 10-06-2011 21:50:54
วันนี้นี่สุดท้าย
พี่จงไปหนายยยยยยยย :m7:
รออยู่นะจ๊ะ :L2:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนอวสาน ๖ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้าสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: PlenG ที่ 10-06-2011 21:58:32
จบดีค่ะ สมกับเป็นสีแดง
อ่านไปลุ้นไป อินสุดๆ
แรงใส่กันก็ไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้นมีแต่จะพังทั้งคู่
สุดท้ายก็เหลือแต่ความเสียใจ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนอวสาน ๖ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้าสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: ladymoon_yy ที่ 10-06-2011 22:01:20
ไม่คิดว่าจะจบแบบนี้...สุดยอดคะ  :3123: :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนจบ [05/06/54] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Bejae ที่ 11-06-2011 01:32:38
อ๊าาาาาาาาา คุณหนูน่าพรากผู้เยาว์เป็นที่สุดดด :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(50%) 6/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: KaorPaor ที่ 11-06-2011 07:48:45
เข้ามารอฉากจบของ เจ๊จงค่ะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Green] "Doom" โดย Nassiiz/ จบแล้วจ้าาา!! (5-6/6/54)
เริ่มหัวข้อโดย: jojobuffy ที่ 11-06-2011 16:07:46
อยากกินกิมจิง่ะ :a9:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนอวสาน ๖ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้าสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: jojobuffy ที่ 11-06-2011 16:22:57
แดงเพลิงได้ดี :L2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนจบ [05/06/54] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: jojobuffy ที่ 11-06-2011 16:33:54
จบแฮปปี้ คนอ่านดีใจ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 10 PG. 6 The End
เริ่มหัวข้อโดย: jojobuffy ที่ 11-06-2011 16:41:54
เรื่องจบแอปปี้ คนอ่านก็ดีใจ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(50%) 6/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: Chubby ที่ 11-06-2011 22:21:38
รอจ้า
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนจบ+ตอนพิเศษ+แปะกาตูนP.12,13 6/06
เริ่มหัวข้อโดย: ladymoon_yy ที่ 11-06-2011 22:46:34
ถึงแม้ไนท์จะเย็นชา แต่เราก็ชอบบุคลิกของไนท์มาก   :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 10 PG. 6 The End
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 11-06-2011 23:39:13
เจ๊ธัญญ่าใจร้ายไปหน่อยนะเนี่ย

เกิดยุทธฆ่าตัวตายขึ้นมาทำไง บาปหนักเข้าไปใหญ่

ดีนะที่กริชรักยุทธจริงๆ แล้วก็มีสติ ไม่ตื่นตูม

ดูแลและกล่อมจนยุทธยอมไปหาหมอ

ดีใจที่ทุกอย่างลงเอยได้ด้วยดี
หัวข้อ: Re: The Rainbow Projects (RED) "เพลิงกุหลาบ" ตอนอวสาน ๖ มิ.ย ๒๕๕๔ หน้าสุดท้าย
เริ่มหัวข้อโดย: ♥Täsinä→l3€LL♥ ที่ 11-06-2011 23:49:12
จบได้ประทับใจมากเลยค่ะ :L1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(50%) 6/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 12-06-2011 01:55:31
(http://img28.mediafire.com/b6f242d94a346b9095740bdfdd1f8ac23fc115dbd2c7ec5da35aca98f1eb05c75g.jpg)


ตอนที่ 12 ความจริง 50%+50% = 100%

ฝ่ามือแข็งบีบกรามของนักมวยหนุ่มจนต้องเผยอเปิดปากออก รอรับยาเม็ดเล็กที่ฤิทธิ์ของมันไม่ได้อ่อนด้อยไปตามขนาดที่เห็น บางส่วนหล่นลงบนที่นอนหนาเพียงเพราะนักมวยหนุ่มพยายามดิ้นรนขัดขืนอย่างสุดกำลัง และมีเพียงรอยยิ้มเหี้ยมเกรียมของคนกรอกที่ส่งมาให้นักมวยหนุ่มได้เห็นเท่านั้น  แค่เพียงไม่นานเมื่ออานุภาพของยาทำให้นักมวยหนุ่มหยุดดิ้นรนขัดขืนกลับเปลี่ยนเป็นแรงปรารถนาที่ค่อย ๆ เพิ่มมากขึ้น
นักธุรกิจสูงวัยที่หน้าฉากเป็นเพียงพ่อค้าใจบุญแต่เบื้องหลังกลับเหี้ยมกรียมดุดันและพิสมัยในการเสพสังวาสกับบรรดาบุรุษหนุ่มหน้าตาดีในแบบที่อาจเรียกได้ว่ามากกว่าวิตถารเลยเถิดค่อนไปทางซาดิสม์ชมชอบการได้
ทรมารคู่ขาอยู่เนือง ๆ บางรายถึงขนาดต้องหามส่งโรงพยาบาลแบบเร่งด่วนเป็นการลับ ด้วยเพราะอำนาจเงินและอิธิพลที่พอมีอยู่คับฟ้า จึงทำให้เหยื่อหลายรายปิดปากสงบคำไม่ออกมาโพทะนาให้มากความด้วยอับอายและเกรงกลัวต่อการมุ่งร้ายหมายเอาชีวิต
   ร่างสูงวัยตักตวงขบเม้มกัดไซร้ไปทั่วร่างของนักมวยหนุ่มพร้อมกับออกแรงลงกำลังบ้างหยิกบ้างทุบตีเป็นที่สาแก่ใจตนเองยิ่งนัก จนบางแห่งมองเห็นถึงรอยมือและเลือดซิบ ๆ ได้ชัดเจน แต่กระนั้นเขาก็ยงไม่ผ่อนแรงกำลังลงแต่อย่างใด กลับโหมกระพือตักตวงความพึงใจจากร่างแกร่งที่อุดมด้วยมัดกล้ามที่กำลงอ่อนแรงและเคลิ้บเคลิ้มล่องลอยไปกับฤิทธ์ของยาที่โดนจับกรอก ในขณะที่คนสูงวัยจวนเจียนจะถึงฝั่งเขากลับต้องผงะหงายและรีบร้อยถอดถอนส่วนแข่งแกร่งที่ค้างคาในร่างของนักมวยหนุ่มออกมา ด้วยความตกตะลึงพรึงเพลิดเขามองเห็นร่างขาวซีดในตาขาวขุ่นผมสีซีดเปียกลู่แนบติดหนังหัว เขี้ยวขาวแววแสยะยิ้มออกมาจากริมฝีปากดำสนิท
เขาก้าวออกมายืนอยู่ที่ริมปลายเตียงก่อนจะแข็งค้างยืนนิ่งอยู่กับที่ สีหน้ามีแววหวาดหวั่นเกรงกลัว ผมบริเวณท้ายทอยแข่งกันตั้งชี้ แววตาหวาดวิตกกลอกกลิ้งพยายามหาทางหนีทีรอดให้กับตัวเอง อสุรกายค่อย ๆ คืบคลานมาหยุดยืนมองจ้องตากับเขาอยู่เบื้องหน้า แพรแดงที่เคยใช้พันธนาการคนอื่น บัดนี้กลับไหลลื่นเคลื่อนขึ้นมาพันรอบลำคอของเขาเอาไว้ราวกับว่ามันมีชีวิต ก่อนที่จะมีแรงดึงรั้งจากปลายผ้าแพรทั้งสองข้างแน่นเข้า เขาเองทำได้เพียงแค่ยืนนิ่งรอรับการผูกรัดด้วยแรงจากมือที่มองไม่เห็นจนแถบแพรแน่นเข้าเรื่อย ๆ ลมหายใจเริ่มติดขัด
   "พอเถอะหรั่ง อย่าทำเขาเลย" เสียงของหน่องร้องห้ามออกมา
   "ไม่ ถ้าหน่องรู้ว่ามันกับพวกของมัน ทำอะไรเอาไว้กับหรั่ง หน่องจะไม่พูดแบบนี้" เสียงสะท้อนก้องตอบกลับให้ได้ยิน พร้อมกับใบหน้าถมึงทึงที่หันกลับมามองด้วยแววตาวาวโรจน์
   "ก็แล้วเขาไปทำอะไรให้คุณเหรอคุณเอกวิน"  ร้อยตำรวจโทพชร ร้องถามกลับไป
   "ถามมันดูสิ ว่ามันทำอะไรไว้บ้าง" เสียงตวาดดังก้องก่อนที่หรั่งจะหันกลับไปมองจ้องสบดวงตาหวาดวิตกหน้าด้วยความโกรธแค้น ซึ่งร่างตรงหน้ายังคงไม่ไหวติงหยุดนิ่งยืนอยู่กับที่ได้แค่กลอกนัยน์ตาไปมาเท่านั้น
ทันใดนั้นจอสีฟ้าสว่างของเครื่องรับโทรทัศขนาดใหญ่บนฝาผนังห้องด้านหนึ่งก็ส่องแสงสว่างก่อนจะฉายภาพที่ชวนตะลึงจากเครื่องเล่นดีวีดีที่ต่อเอาไว้ ภาพที่เห็นเอกวิน นรลักษณ์ ที่นอนแผ่เหยียดยาวโดยปราศจากอาภรณ์ ที่กลางลำตัวมีนักธุรกิจสูงวัยกำลังควบขี่ส่วนแข็งขืนของเขา ก่อนที่จะมีชายแปลกหน้าสี่คนเปิดประตูกรูกันเข้ามาโดยที่ปราศจากสิ่งใดปกปิดร่างกายสิ่งหวงแหนตระหง่านชี้ตรง ทั้งหมดเข้าไปรุมล้อมสองคนที่กลางเตียง
คนหนึ่งในเรือนร่างกำยำตามแบบฉบับผู้ใช้แรงงานด้วยเป็นคนสนิทติดสอยห้อยตามรับใช้ท่านของมันมานานนมเป็นเสมือนหนึ่งวัวเคยขาม้าเคยขี่มาแต่เก่าก่อนตรงเข้าไปเอาแถบแพรยาวมัดรั้งมือของหรั่งเอาไว้กับเสาที่หัวเตียง และอีกคนที่เรือนร่างกำยำสูงล่ำตัดผมสั้นเกรียนที่อายุอานามไม่น่าจะห่างกับหรั่งมากนักตรงเข้าไปเอาแถบแพรผูกรั้งมัดขาโยงไว้กับขื่อด้านบนจนขายกลอยสูงช่องทางด้านหลังเปิดกว้างอ้าออก เมื่อชายอีกคนกระทำเช่นเดียวกันกับขาอีกข้างหนึ่ง ชายหนุ่มอีกคนก็กรุ้มรุมเข้าประชิดหนทางเปิดกว้างที่รออยู่พร้อมกับจู่โจมด้วยปลายลิ้มไล่สัมผัสก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นส่วนแข็งขืนของตนแบบไม่ยั้งแรงแทงพรวดเข้าไปในทันที จนหรั่งต้องร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว
"ขอผมก่อนแล้วกันถือว่าเป็นของขวัญวันสละโสด"  เขาพูดก่อนจะส่งเสียงครางแผ่วออกจากลำคออย่างพึงใจ
"ใจเย็นๆ สิครับคุณ พวกเรายังสนุกกันได้อีกนาน" ชายอีกคนที่สูงวัยพอกันกับเจ้าของบ้านเอ่ยปากก่อนจะยิ้มกริ่มแววตาเจ้าชู้ เขากำลังใช้มือออกแรงบีบกรามของหรั่งจนต้องเปิดปากออก แล้วเทยาเม็ดเล็ก ๆ กรอกลงไป
"ตามสบายเลย ผมขอดูอย่างเดียวแล้วกันตอนนี้ จะได้พักเหนื่อยสักหน่อย" ชายสูงวัยสุดพูดก่อนจะยกบั้นท้ายออกจากส่วนที่เคยครอบครองผละออกมายืนมองอยู่ห่าง ๆ  ส่วนคนสนิทของตนกำลังลูบไล้น้ำมันหอมระเหยชโลมไล้ไปบนเรือนร่างของหรั่งด้วยสองมือที่ตระโบมฟอนเฟ้นไปทั่วร่าง ก่อนจะหันไปจุดเทียนจนเทียนหลอมละลายเป็นน้ำตาเทียนเอามาหยดไปบนเรือนร่างกำยำขาวผ่องของหรั่งจนเอาเองต้องดิ้นส่ายหนีด้วยความร้อน  คนที่กำลังออกแรงอยู่ด้านหลังเอาแถบผ้าอีกชิ้นพันเข้ากับลำคอของหรั่งก่อนจะออกแรงดึงรั้งชายผ้าเอาไว้จนหรั่งหายใจติดขัด คนที่เหลือต่างกลุ้มรุมทำร้ายและตักตวงความหฤหรรษ์เอาจากร่างกายของหรั่งอย่าไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าร่างของหรั่งบอบช้ำอ่อนแรง แต่บางส่วนของร่างกายกลับชูชัน
ผู้สูงวัยกลับเข้ามาร่วมวงอีกครั้งเขาจับจองยกสะโพกกดลงไปบนส่วนกลางลำตัวก่อนจะออกแรงราวกับกระบอกสูบโดยที่ช่องทางด้านหลังของหรั่งก็โดนชายคนอื่นผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้าจับจองจ้วงแทงกระหน่ำไม่ยั้งแรงเช่นกันจนเวลาย่างจวนเจียนใกล้จะรุ่งสาง ร่างของหรั่งก็นอนแน่นิ่งไม่ไหวติงเขาหมดสติสัมปชัญญะ
ชายทั้งหกคนที่กอบโกยตักตวงความสุขจากเรือนกายจนอ่อนเปลี้ยต่างพากันก่ายเกยนอนกองกันอยู่บนเตียงใหญ่ หาได้รู้สึกถึงความผิดปรกติไม่ แต่อยู่ ๆ เมื่อมีคนหนึ่งชายหนุ่มสุดที่กำลังจะกลายเป็นเจ้าบ่าวในเร็ววันพลิกฟื้นคืนกำลังแล้วหันมากะจะลงมืออีกครั้ง ระหว่างที่เขากำลังจะประชิดด้านหลังเขากลับพบว่าร่างที่ถูกพันธนาการเอาไว้เสียค่อนคืน ไม่มีลมหายใจอีกแล้ว ความโกลาหนจึงบังเกิด เขาพยายามปลุกเพื่อนร่วมกรรมให้ตื่นขึ้นมาพบความจริงตรงหน้า

   "แล้วเราจะทำยังไงดีครับท่าน" เสกลูกน้องคนสนิดเอ่ยถามร้อนรน
   "เราคงหนักมือกันไปหน่อยนะคราวนี้" เสียงเปรยจากชายสูงวัยไล่เลี่ยกับเจ้าของบ้านเอ่ยเบา ๆ
   "ไอ้เสกรีบไปจักการเรื่องศพก่อนเร็ว ๆ อย่าช้า" เสียงเจ้าของบ้านสั่งการเฉียบขาด 
   "น่าจะเอาไปเป็นอาหารให้พวกลูก ๆ ของผม เสียดายที่จวนจะเช้าแล้ว" หนุ่มใหญ่นักธุรกิจเจ้าของฟาร์มจระเข้เพื่อการส่งออกเอ่ยออกมาลอย ๆ
   "ไม่น่าเลย เสียดายจัง น่าจะอยู่ให้เชยชมอีกสักหน่อย" เสียงชายหนุ่มที่กำลังจะเป็นเจ้าบ่าวบ่นเบา ๆ
   "วันหน้ายังมี เดี๋ยวจัดให้ อยากได้แบบไหนบอกมาเลย" ชายวัยใกล้กับเจ้าของบ้านบอกอย่างไม่ยี่หระก่อนจะเอามือไปตบไหล่หนุ่มรุ่นหลานเบา ๆ
ภาพบนจอพลันดับวูบลงทิ้งไว้เพียงหน้าจอสีฟ้าสว่างเท่านั้น

   "หมวดพชร ตอนนี้คุณกลับไปได้แล้ว" เสียงกังวานดังก้องของหรั่งดังขึ้นก่อนที่แรงลมมหาศาลจะพัดพาเขาเข้าสู่อุโมงค์ลมที่มองไม่เห็นอีกฝั่งของปลายอุโมงค์ทั้งที่หน่องพายามออกแรงดึงรั้งไว้ก็ไม่เป็นผล เขาหายเข้าไปในอุโมงค์ลึกยาวพร้อมเสียงตะโกนเรียก "หน่อง" จนสุดเสียง
   
   เสกที่แต่งตัวเรียบร้อยกลับเข้ามาในห้องที่มีเพียงหรั่งนอนเปลือยแผ่ตาเบิกโพลงอยู่เพียงลำพัง พร้อมกับว่านและกระสอบป่านในมือ ว่านคลี่กางออกก่อนที่จะช่วยกันอุ้มยกร่างเปลือยเปล่าใส่เข้าไปแล้วมัดปากด้วยเชือกเสียแน่นหนา
   "เล่นกันหนักเลยเหรอพี่งวดนี้" ว่านอดถามออกมาไม่ได้
   "อย่าเสือกปากมาก เร็ว ๆ เข้าเถอะมึง" เสกร้องปรามก่อนจะพากันนำกระสอบป่านใบใหญ่ที่บรรจุร่างของหรั่งออกไปขึ้นรถแล้วขับออกไปจากบริเวณบ้าน ทั้งสองไปหยุดรถบริเวณบึงน้ำกว้างใหญ่ท้ายหมู่บ้าน ผืนน้ำดำมืด ดอกบัวสีม่วงอมชมพูส่งกลิ่มหอมลอยมากับสายลม ระรอกน้ำพลิ้วไหวสะท้อนแสงจันทร์ระยิบ
ทั้งสองช่วยกันออกแรงยกกระสอบป่านลงไปจากรถมุ่งตรงไปในบึงบัวจนระดับน้ำแค่คอแล้วค่อย ๆ  ปล่อยให้กระสอบจมลงโดยมีตุ้มเหล็กผูกเชือกมัดรั้งเอาไว้ ทั้งสองกลับขึ้นมาบนฝั่งก่อนจะขึ้นรถขับออกไป โดยหารู้ไม่ว่า ร่างของคนในกระสอบที่ตอนนี้พลิกฟื้นคืนสติกำลังพยายามตะเกียงตะกายเอาชีวิตรอดออกจากเครื่องพันธนาการที่ห่อหุ้มเขาเอาไว้จนหมดแรงกำลังและสิ้นใจไปในที่สุด

แวะมาส่งส่วนที่เหลือ ก่อนจะไปปั่นตอนสุดท้ายมาให้
เพราะอิฉันเห็นว่า เรื่องสยอง หลอน ๆ ควรมี 13 ตอนจบ จึงจะดี  :laugh:
ปล. โดนปาดแก้ไม่ทันเด้อค่ะเด้อ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(50%) 6/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: acorntan ที่ 12-06-2011 01:56:13
แม่...จบตอนแล้วหรอ?
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(50%) 6/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: acorntan ที่ 12-06-2011 01:56:30
หรือว่าเรามาแทรก มีต่อหว่า
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(50%) 6/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 12-06-2011 02:06:32
โหดร้าย  แบบนี้มันฆ่ากันทั้งเป็นชัดๆเลยเจ๊  ตอนแรกกะจะเชียร์ให้หน่องเตือนสติหรั่งให้อโหสิกรรม  แต่พออ่านตอนนี้แล้วมันสมควรตายกันทุกคนเลยจริงๆแหละ





อร๊ายยยยยยยยมือสั่นเลยตอนที่อ่านว่าหรั่งตายยังไง :a5: :a5:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Indigo] "รักลวงตา" ตอนจบ+ตอนพิเศษ+แปะกาตูนP.12,13 6/06
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 12-06-2011 02:49:45
อ่า สนุกจังเลย
ไนท์น่ารักและน่าสงสารมากๆ
เหตุการณ์ในอดีตช่างโหดร้ายเกินไปสำหรับเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ
ดีนะที่มีพี่เตที่เข้าใจและคอยดูแลเอาใจใส่แบบนี้
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(100%) 12/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 12-06-2011 04:08:30
สงสารหรั่งจริงๆ ทำกรรมอะไรถึงต้องมาเจอกับไอ่พวกเลวนั่น กำลังจะมีความสุขแล้วแท้ๆ
เลวระยำที่สุดเลย สมควรแล้ว ที่โดนหรั่งตามเอาคืน แต่คิดอีกทีก็ไม่อยากให้หรั่งทำบาปอีกนะ
รอตอนจบอยู่นะเจ๊คนเขียน เชียร์คุณตำรวจกับน้องหน่อง ส่วนหรั่งถ้ามีวาสนาต่อกัน ชาติหน้าคงจะได้เจอหน่องอีก
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(100%) 12/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: KaorPaor ที่ 12-06-2011 07:03:40
เลวกันมาก สมควรตายให้หมด
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(100%) 12/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: lucifel ที่ 12-06-2011 08:42:13
เลววะ

อยู่ไปก็รกโลก

ไม่มีสำนึกกันซักตัวชั่วบัดซบ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(100%) 12/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 12-06-2011 08:47:00
สงสารหรั่งอ่ะ (TT _ TT)
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Yellow] "เล่ห์ร้าย" ตอนจบ [05/06/54] P.9
เริ่มหัวข้อโดย: yaoigirl ที่ 12-06-2011 09:49:01
พรากผู้เยาว์  แต่คนอ่านก็ชอบ เอิ๊กกกก :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 10 PG. 6 The End
เริ่มหัวข้อโดย: nomo9 ที่ 12-06-2011 10:41:02
หุหุ ให้คำแนะนำได้สมจริงมั่กๆ เหมือนพวกหมอแนะนำจริงๆ เลย
แต่งานนี้โทษเจ๊ธัญญ่าก็ไม่ได้นะ ถ้ามีเด็กที่เรารักและเอ็นดูกำลังจะมีอะไรกับคนที่เข้ามาขายตัว ก็คงไม่อยากให้เป็นแบบนั้นใช่ม้า ^^
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(100%) 12/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: Chubby ที่ 12-06-2011 12:05:51
น่ากลัวๆ
มารอตอนที่ 13 จ้า
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(100%) 12/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 12-06-2011 13:07:30
สมควรกันจริงๆสมควรกันทุกคนแต่ไม่อยากให้มันตายกันง่ายๆกันอย่างนี้เลย
สงสารหรั่งจังเลย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(100%) 12/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: nubuggy ที่ 12-06-2011 14:24:57
คุณจงจ๋า   รอคุณท่าน นานขนาดนี้ ถ้าตายง่ายๆก็ไม่ สนุกสิ   :angry2:

ขอ แบบทรมาณก่อนตาย  แบบ 8 หน้า A4 เรยนะ เอา
สะใจกันไปข้างหนึ่งเลย  :haun4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(100%) 12/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 12-06-2011 14:39:51
จะรอตอนที่13 ตอนจบจ้า
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนจบ สายลมที่หวังดี P:8 5/6/11
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 12-06-2011 15:07:37
โหย หักมุมอย่างแรงเลย
เล่นเอาเราเสียน้ำตาไปหลายปี๊บ
ดีแล้วที่พี่สายลมยังไม่ตาย
สงสารปลายฟ้าออก
ทีนี้ก็ได้อยู่ด้วยกันแล้วสินะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(100%) 12/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 12-06-2011 18:02:50
เข้ามารอตอนจบ
คนหนอคน ทำไมถึงได้โหดร้ายกันเพียงนี้ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(100%) 12/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 12-06-2011 18:05:39
โหดร้ายมาก :fire:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Blue] "หยุดหัวใจที่ปลายฟ้า" ตอนจบ สายลมที่หวังดี P:8 5/6/11
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 12-06-2011 18:08:27
อยากอ่านตอนพิเศษจัง

เขียนดีจังเลยค่ะ รู้สึกดีที่ปลายฟ้าเปลี่ยนนิสัยตัวเองได้

ปล.แอบสงสารเอล็กซ์ซวยไม่รู้ตัวT^T
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(100%) 12/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 12-06-2011 21:41:48
สงสารหรั่งอ่ะ ไม่น่าเลยยย :m15:
สมน้ำหน้าที่โดนฆ่าอย่างโหดเหี้ยม :fire:
รอตอนจบนะค่ะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(100%) 12/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 12-06-2011 21:45:55
อ้าว ..นึกว่าคุณเจ๊จงมาต่อตอนจบแล้ว ยังอีกเหรอ
ไม่ได้มาทวง ไม่ได้มากดดันนะคะ แค่มาส่องดู รู้ว่าเจ๊แกเหนื่อยจ้ะ
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 10 PG. 6 The End
เริ่มหัวข้อโดย: entirom ที่ 12-06-2011 23:16:49
ตอนพิเศษ ขอเหตุผลที่ชัดเจนหน่อยน้า
ว่าเจ้ธัญญา ทำทำไม

อยากมีเพื่อนแบบกริชอ่ะ
มีสุขร่วมเสพ  มีทุกข์ช่วยกัน(คลี่)คลาย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(100%) 12/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 12-06-2011 23:32:58
สงสารตอนที่ไม่ตายอ่ะ
ซวยจริงๆ ลูกเอ๊ย
ทำไมชีวิตมันบัดซบอย่างนี้
หัวข้อ: Re: The Rainbow Project [Vermilion] "Butterfly" by MonarcH Part 10 PG. 6 The End
เริ่มหัวข้อโดย: chaoyui ที่ 13-06-2011 00:58:07
จบแล้ว แอบปวดใจตอนที่รู้ว่ายุทธเป็นเอดส์
เจ๊ญ่าทำไมทำแบบนี้ล่ะ :beat:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(100%) 12/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: Saint De Jupiter ที่ 13-06-2011 03:58:42
โฮๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

กระชากวิญญาณกันสุดๆเลลยพี่นัท

ป.ล. แต่ยังไม่จบเนะ    :angry2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 12 ความจริง(100%) 12/6/54
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 13-06-2011 21:56:21
เอาเพลงเพราะ ๆ มาฝากนะคะทุกคน

http://www.youtube.com/v/dLUnWjmpDe4?version=3&amp;hl=th_TH
หัวข้อ: The rainbow project [Purple] "เพลิงพราย" โดย จงกลนี ตอนที่ 13 คำสัญญาสุดท้าย 13-6-11
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 13-06-2011 23:50:58
(http://img28.mediafire.com/b6f242d94a346b9095740bdfdd1f8ac23fc115dbd2c7ec5da35aca98f1eb05c75g.jpg)

ตอนที่ 13 คำสัญญาสุดท้าย

   ชายสูงวัยที่ได้ยืนนิ่งดวงตาเบิกกว้างแทบถลนออกจากเบ้า แววตาตื่นตระหนกหัวเต้นระรัวด้วยหวาดกลัวกับสิ่งที่ยืนให้เห็นตรงหน้า มือขาวซีดเล็บเขียวคล้ำจนดำที่กำลังออกแรงดึงปลายแถบแพรลื่นมันเงาด้วยมือเพียงข้างเดียวและกำลังค่อย ๆ ยกมือชูสองขึ้นไปเรื่อย ๆ ร่างของเขาลอยตามแรงสูงขึ้น แม้นร่างที่เคยแข็งค้างจะสามารถกระดิกตัวได้แล้วในตอนนี้ แต่ก็ไม่สามารถดิ้นรนหลีกหนีให้พ้นจากพันธนาการโดยเงื้อมมือของอสุภ เขาทำได้แต่เพียงใช้สองมือของตนพยายามเหนี่ยวรั้งมือและแถบแพรพยายามที่จะแกะมันออกจากลำคอ สองขาสะบัดส่ายไปมาราวกับหุ่นกระบอกที่ถูกชักเชิดให้เริงระบำอยู่ในอากาศ อสุรกายตรงหน้าแสยะยิ้มสยองก่อนจะหัวเราะดังก้องด้วยแหลมสูงเสียดประสาท ด้วยพึงพอใจกับเหยื่อของตนตรงหน้า ก่อนจะปล่อยมือออก ทำให้เหยื่อสูงวัยหล่นตุบลงบนพื้นพรม
   "ความตายมันยังไม่สาสมกับสิ่งที่แกทำกับฉัน" เสียงที่เปล่งออกมาด้วยความโกรธแค้นของหรั่งสะท้อนก้อง ก่อนที่กรงเล็บสีดำจะตะหวัดออกไปในอากาศ ถึงแม้จะไปไม่ถึงร่างที่นอนหอบหายใจรวยรินแต่แค่เพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้โลหิตไหลซึมออกมาจากปากแผลที่ปรากฏรอยเล็บยาวเป็นแนวบริเวณหน้าอกของร่างสูงวัย เสียงร้องโอยดังระงม และต่อเนื่องเมื่อ หรั่งออกแรงตะปบกรงเล็บตะกุยไปในอากาศอีกหลายครั้ง แต่ละครั้งเกิดรอยกรีดลึกลงไปในเนื้อลิ่มเลือดไหลทะลักล้นจนนองเนือง กลิ่นความเลือดคละคลุ้งชวนคลื่นเหียน
   "พอเถอะหรั่ง อย่าทำเขาอีกเลย อย่าทำบาปไปมากกว่านี้อีกเลย" หน่องที่ยืนดูเหตุการณ์มาโดยตลอดออกปากปราม
   "แล้วทีพวกมันทำกับหรั่งล่ะ มันเคยคิดจะหยุดบ้างไหม" เสียงตัดพ้อสั่นเครือที่ส่งมาให้เพียงแค่หน่องเท่านั้นที่ได้ยิน ก่อนจะหันมามองทางหน่องด้วยดวงตาสีแดงสด
   "มันยังไม่สาสมหรอกหน่อง" เสียงดุดันด้วยแรงโทสะสะท้อนก้อง ก่อนจะหันกลับมุ่งไปยังร่างที่นอนร้องโอดโอยด้วยพิษของบาดแผลทั่วร่าง ก่อนจะคว้าจับที่ขอเท้าทั้งสองข้างพร้อมกับออกแรงบีบจนได้เกิดเสียงดัง
   "กร๊อบ"   ก่อนเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดจะดังตามมาไล่เลี่ยกัน "โอ๊ย!"
   "พอเถอะ... หรั่ง... หยุดเถอะ... หน่องขอร้องเพื่อตัวของหรั่งเองนะ อย่าสร้างบาปกรรมติดตัวต่อไปอีกเลย" หน่องวิงวอนร้องขอพร้อมกับพยายามเข้าไปใกล้ ด้วยน้ำตาที่อาบลงบนสองแก้ม
   "ได้ในเมื่อหน่องขอ... หรั่งจะให้... ให้ชีวิตของมันยังมีลมหายใจต่อไปก็แล้วกัน" หรั่งบอกพลางหันกลับมุ่งมาทางหน่อง ทิ้งไว้เพียงร่างอาบเลือดที่กำลังออกแรงคลนกระเสือกกระสนถอยหนีไปจนชิดมุมห้องพร้อมกับเสียงร้องโอดโอยและพยายามเอาลำแขนยกขึ้นป้องหน้าซ่อนไว้ ดวงตาตื่นตระหนกหวาดกลัว และคำพร่ำเพ้อร้องแค่คำว่า "อย่า! อย่า! กลัวแล้ว! อย่า! อย่าทำฉัน! อย่า" ให้ได้ยินเท่านั้น
   
   ร่างสยองชวนขนลุกค่อย ๆ แปรเปลี่ยนกลับไปเป็นเฉกเช่นก่อนเก่าที่เคยเห็น หน่วยตาสีอ่อนสะท้อนแววอาลัยแฝงความอบอุ่นอ่อนโยน จ้องมองนิ่งตรงไปที่หน่อง  ก่อนจะเข้าใกล้เกือบประชิด หน่องโผโถมทั้งตัวเข้าซุกกับอกกว้างหนานั้นพร้อมกับสวมกอดเสียเต็มรัก ความอบอุ่นแผ่ซ่านเติมเต็มหัวใจของหน่องอีกครั้ง หลังจากที่ขาดหายไปนาน
   "นิ่งเสียคนดี อย่าร้องเลย ทุกอย่างจบลงแล้ว" เสียงทุ้มนุ่มกังวานเอ่ยปลอบแล้วเอามือทั้งสองสัมผัสผิวแก้มใสจับหน้าของหน่องให้เงยขึ้น ดวงตาใสสะท้อนวงหน้าของหน่องอยู่ข้างใน ความอาทรห่วงหาส่งผ่านออกมาจากหน้าต่างแห่งหัวใจ ก่อนหรั่งจะประทับริมฝีปากอิ่มลงบนหน้าผากนวลขาวแล้ววกกลับมาจูบซับไล่คราบน้ำตาที่ยังคงทิ้งร่องรอยเปียกชื้นเอาไว้ให้เห็น
   "ใช่ทุกอย่างจบลงแล้ว หน่องเองก็คงจะไม่ได้เจอกับหรั่งอีกแล้ว" หน่องบอกพลางทอดถอนใจ
   "ไม่หรอก หรั่งจะอยู่ด้วยกันกับหน่องเสมอ อยู่ด้วยกันที่ตรงนี้ไงคนดี" หรั่งตอบพลางใช้นิ้วชี้จี้แตะไปที่บริเวณทรวงอกด้านซ้ายของหน่อง
   "หรั่งจะอยู่กับหน่องที่ตรงนี้จะไม่หนีหายไปไหนตราบเท่าที่เราจะไม่ลืมกัน หรั่งสัญญา" หรั่งบอกก่อนจะโอบกระชับวงแขนรอบลำตัวของหน่องเอาไว้ก่อนจะก้มลงประทับจูบที่กลางหระหม่อมของคนในอ้อมแขน
   "เดี๋ยวหรั่งจะพาหน่องไปส่ง ได้เวลาที่หน่องจะต้องกลับไปแล้ว" สิ้นคำหรั่งก็พาหน่องมาหยุดยืนอยู่หน้าประตูไม้สีขาวบานใหญ่ แสงสว่างจ้าส่องลอดช่องกระจกใสบนบานประตูนั้นออกมา แต่เมื่อทั้งสองปรับสายตาจนชินจนสามารถมองเห็นภาพจากด้านในได้ชัดเจน

   ภาพของนายตำรวจร่างใหญ่ ที่ศีรษะมีผ้าพันแผลสีขาวพันเอาไว้ เสื้อยืดที่สวมใส่อยู่ถูกย้อมไว้ด้วยเลือดแห้งเกรอะกรังขะมุกขะมอมแต่ก็พอมองออกว่ามันเคยเป็นสีขาวมาก่อน เขากำลังนั่งกอบกุมมือที่เล็กกว่าเอาไว้และจ้องมองด้วยสายตาอาทรแฝงแววเศร้าอยู่ข้างใน  กับร่างของเจ้าของมือที่กำลังนอนหลับตาพริ้มนิ่งสนิทอยู่บนเตียงนอนที่ปูทับไว้ด้วยเครื่องนอนสีขาวสะอาดตา ผ้าห่มถูกคลี่คลุมจนถึงช่วงอก  ความเหนื่อยล้าสะท้อนออกมาจากสีหน้าที่อิดโรย ด้วยเขานั่งเฝ้าอยู่ข้าง ๆ คนตัวเล็กว่า แทบจะในทันทีที่เขารู้สึกตัวหลังจากหมดสติ เขาเองได้รับบาดแผลที่ถือว่าใหญ่พอดูเพราะถึงกับต้องเย็บเสียเกือบสิบเข็ม แต่คนที่นอนอยู่ตรงหน้าไม่มีบาดแผลร้ายแรงให้เห็นแม้เพียงนิด แต่กลับนอนนิ่งไม่ไหวติงเนิ่นนานเสียจนแสงเงินแสงทองเริ่มจะจับขอบฟ้าในอีกไม่นานนี้แล้ว
   "เช้าแล้วนะ ตื่นขึ้นมาคุยกับผมหน่อยสิ" เขาพูดออกมาเบา ๆ ราวกับเกรงว่าจะไปรบกวนการนอนของคนตรงหน้าพร้อมกับยกมือที่เกาะกุมเอาไว้ขึ้นมาแนบแก้มของตน เขาค่อย ๆ วางมือเล็กนั้นลงไว้ข้างลำตัวของผู้เป็นเจ้าของ เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วก้มลงไปใช้ริมฝีปากประทับสัมผัสแผ่วเบาที่ข้างแก้มของคนที่นอนอยู่ตรงหน้า ก่อนจะผละออกอย่างอ้อยอิ่งกลับมานั่งเฝ้ากุมมือที่ข้างเตียงอีกครั้ง
   
   "หรั่งคงหมดห่วงได้เสียที มีคนที่เขาพร้อมจะดูแลหน่องแทนหรั่งแล้ว เก็บหรั่งไว้แค่ความทรงจำของเรา เก็บไว้ในหัวใจของหน่อง แต่หน่องอย่าปิดกั้นใจ หากจะมีคนดี ๆ สักคนเข้ามาในชีวิต หมดเวลาของหรั่งแล้ว หรั่งต้องไปตามทางของหรั่ง หน่องก็กลับไปได้แล้ว ลาก่อน..." เสียงสุดท้ายที่หน่องได้ยินสะท้อนก้องในหัว ก่อนหรั่งจะเปิดประตูบานนั้นออกกว้าง หน่องถึงกับต้องหยีตาเมื่อพบแสงสว่างจ้าสะท้อนออกมาจากหลังประตูบานนั้น

   นิ้วมือของร่างที่นอนอยู่บนเตียงกระดิกส่งสัมผัสให้คนที่ฟุบอยู่ข้างเตียงทั้งที่ยังจับมือเอาไว้หลวม ๆ รู้สึกตัวตื่น เขากระพริบตาไล่ความง่วงงุน ก่อนจะหันมองไปที่ร่างของหน่องที่นอนอยู่ วงหน้าใสที่ดูเหมือนจะนอนหลับมาเต็มอิ่ม เปลือกตาเต้นสั่นไหวก่อนจะกระพริบลืมตาตื่น แววตาฉงนที่ส่งมาให้นายตำรวจหนุ่มราวกับมีคำถามมากมายที่ต้องการคำตอบ แต่ผู้หมวดหนุ่มก็หาได้สนใจด้วยความดีใจเขาโผกระโดดขึ้นไปนั่งด้วยบนเตียงก่อนจะช้อนร่างเล็กกว่าขึ้นมาสวมกอดพร้อมกับหอมแก้มไปเสียหลายฟอดก่อนจะมอบสัมผัสหวามหวานด้วยริมฝีปากของตนกับเรียวปากของคนร่างเล็กในอ้อมกอด หน่องเองจากที่แต่เริ่มก็พยายามดิ้นหนี ถึงกับนิ่งอึ้งไปทันทีกับรสสัมผัสที่ได้รับก่อนจะหันผละออกพร้อมกับซุกซ่อนหน้าเข้าไว้กับอกแกร่งของนายตำรวจ ด้วยรู้ตัวดีว่าตอนนี้ผิวหน้าของตนเห่อร้อนและคงระเรื่อเสียจนแดงไปหมดทั้งหัวหู อับอายเสียจนแทบแทรกแผ่นดินหนีก็ไม่ปาน

   ควันสีดำลอยจากปล่องไฟทรงสูง หลังจากที่หน่องกับหมวดพชรเสร็จจากการวางดอกไม้จันทน์ที่บนเมรุก็พากันมายืนหยุดมองอยู่ไกลห่างจากผู้คน ทั้งสองแหงนมองตามควันไฟที่ถูกสายลมพัดพาแตกกระจัดกระจายไปบนท้องฟ้า บริเวณโดยรอบเหรื่อในวงการบันเทิง แวดวงข่าวมากหน้าหลายตารวมไปถึงประชาชนที่ชื่นชอบเอกวิน นรลักษณ์อยู่อย่างหนาแน่น แม้บางส่วนเริ่มจะพาทยอยกันกลับบ้างแล้ว
   สายตาของหน่องจ้องมองนิ่งไปบนท้องฟ้าก่อนจะเอ่ยออกมาเบา ๆ
   "หลับให้สบายนะหรั่งเพื่อนรัก ไม่ต้องเป็นห่วง หน่องสัญญาว่าจะจดจำหรั่งเอาไว้ในใจของหน่องเสมอ เราจะไม่มีวันลืมกัน หน่องสัญญา"
   รอยตำรวจโทพชร เขามายืนซ้อนที่ด้านหลังของหน่องพร้อมกับเอามือทั้งสองข้างของตนยกขึ้นมาจับที่ไหล่ของคนตรงหน้าเอาไว้ก่อนจะเอ่ยเบา ๆ "ผมก็สัญญา สัญญาว่าจะรักและดูแลเพื่อนคนสำคัญของคุณตลอดไป ผมสัญญา" 

- จบบริบูรณ์-

นอนหลับฝันดีราตรีสวัสดิ์ ขอบคุณที่ร่วมติดตามและรับชมด้วยกันมาตลอดทั้ง 7 เรื่อง
โอกาสหน้าฟ้าใหม่ บรรดาคนเขียนทั้ง 7 คน อาจจะได้มีเรื่องใหม่ ๆ มานำเสนอ(หน้า) ให้กับคนอ่านทุกคนอีกครั้ง
สุดท้ายนี้อีป้าแก่ ๆ คนนี้ คนเดิม จะย้อนกลับไปทะลายไหที่ดองเอาไว้คาดว่าน่าจะเค็มได้ที่
ทั้ง 2 เรื่องกลับมาเคาะสนิมสร้อยร้อยเรียงเรื่องให้ทุกคนอ่านเหมือนเดิม
ขอบคุณที่ช่วยให้แรงใจและอยู่ด้วยกันมาตลอดจนจบ  (ได้ข่าวว่า อีป้าแก่ ๆ เกินลิมิด ไป 10 วัน เอง มั้งคะ)
ปล. ห้ามทวงตอนพิเศษ เพราะเหนื่อยโฮกกว่าจะเข็นเรื่องนี้ออกมาจนจบได้  :เฮ้อ:
     และขอแสดงความยินดีกับคนที่ตอบปัญหาถูกทั้ง 7 คนด้วยนะคะ
     ติดตามเรื่องรางวัลอีกครั้งที่ห้องพูดคุย รอให้ได้รางวัลมาครบเจ็ดชิ้นก่อนจะจับฉลากอีกครั้งค่ะ
     

ด้วยรัก
จากอีป้าแก่ ๆ ค่ะ

 :กอด1:


หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple]"เพลิงพราย"โดยจงกลนี ตอนที่ 13 คำสัญญาสุดท้าย ตอนจบ 13-6-1
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 14-06-2011 00:15:16
ขอบคุณมากๆ ค่ะ  สงสารแต่หรั่ง ต้องมาทำกรรมเพิ่ม  แต่คงไปแบบหมดห่วงที่  หน่อง มีคนดูแลแล้ว
โปรเจคนี้สนุกมากค่ะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple]"เพลิงพราย"โดยจงกลนี ตอนที่ 13 คำสัญญาสุดท้าย ตอนจบ 13-6-1
เริ่มหัวข้อโดย: shibao ที่ 14-06-2011 00:18:12
o18 

:m15:

 :กอด1:

หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple]"เพลิงพราย"โดยจงกลนี ตอนที่ 13 คำสัญญาสุดท้าย ตอนจบ 13-6-1
เริ่มหัวข้อโดย: stormphoenix ที่ 14-06-2011 00:23:14
จบได้สมบูรณ์แบบ :pig4: :pig4:


สงสารก้อแต่หรั่งแหละ  แต่ก้อขอให้หรั่งไปสู่สุขตินะ :call: :call:


ปล.ไอ้ชั่วนั่นมันคงจิตหลอนเป็นบ้าใช่ไหมครับ :laugh: :laugh:สมน้ำหน้ามัน
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple]"เพลิงพราย"โดยจงกลนี ตอนที่ 13 คำสัญญาสุดท้าย ตอนจบ 13-6-1
เริ่มหัวข้อโดย: Saint De Jupiter ที่ 14-06-2011 00:52:12
 :3123:

จุ๊บๆๆ ขอบคุณฮะป้านัท

^___^
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple]"เพลิงพราย"โดยจงกลนี ตอนที่ 13 คำสัญญาสุดท้าย ตอนจบ 13-6-1
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 14-06-2011 10:05:40
 :o12:  เศร้าอ่ะ  สงสารหรั่ง
แต่ถ้าไม่มีหรั่งคุณตำรวจกับหน่องคงไม่ได้เจอกันนะเนี่ย

หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple]"เพลิงพราย"โดยจงกลนี ตอนที่ 13 คำสัญญาสุดท้าย ตอนจบ 13-6-1
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 14-06-2011 18:16:44
จบได้ประทับใจมากครับ  ความรักของเพื่อนแท้
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple]"เพลิงพราย"โดยจงกลนี ตอนที่ 13 คำสัญญาสุดท้าย ตอนจบ 13-6-1
เริ่มหัวข้อโดย: KaorPaor ที่ 14-06-2011 23:11:41
ขอบคุณนักเขียนทุกคนมากค่ะสำหรับเรื่องราวที่สนุกทั้ง 7 สี
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple]"เพลิงพราย"โดยจงกลนี ตอนที่ 13 คำสัญญาสุดท้าย ตอนจบ 13-6-1
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 14-06-2011 23:37:44
จบได้น้ำตาไหลนองหน้ามากมาย แบบว่า
สงสารหรั่ง...มากอ่ะ :monkeysad:
ชอบประโยคประทับใจ

"ไม่หรอก หรั่งจะอยู่ด้วยกันกับหน่องเสมอ อยู่ด้วยกันที่ตรงนี้ไงคนดี"
"หรั่งจะอยู่กับหน่องที่ตรงนี้จะไม่หนีหายไปไหนตราบเท่าที่เราจะไม่ลืมกัน หรั่งสัญญา"


กรี๊ดดดดดดดดดดดดด สุภาพบุรุษมากอ่ะ หมวดเพขรเลยได้หน่องไปแนบอก
สมน้ำหน้า หนุ่มใหญ่ที่เป็นใครก็ไม่รู้ ขอให้มันหลอนอยู่อย่างนั้นล่ะ สม

 :mc4: จบโปรเจคได้สมบูรณ์ และ ตราตรึงใจมากค่ะ
หว้งว่าจะมีแบบนี้ เรื่อยๆนะค่ะ  :L2: :L1:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple]"เพลิงพราย"โดยจงกลนี ตอนที่ 13 คำสัญญาสุดท้าย ตอนจบ 13-6-1
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 15-06-2011 00:14:55
จบสมบูรณ์ :pig4:
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple]"เพลิงพราย"โดยจงกลนี ตอนที่ 13 คำสัญญาสุดท้าย ตอนจบ 13-6-1
เริ่มหัวข้อโดย: jiki ที่ 15-06-2011 10:09:02
เพิ่งเห็นว่าย้ายมาที่นี่แล้ว

สนุกมากมาย ขอบคุณค่ะ

ปล สงสารหรั่วเป็นที่สุดเลย
หัวข้อ: Re: The rainbow project [Purple]"เพลิงพราย"โดยจงกลนี ตอนที่ 13 คำสัญญาสุดท้าย ตอนจบ 13-6-1
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 15-06-2011 10:33:10
น้ำตาไหล ซึ้งมากมาย
ถ้าชาติหน้ามีจริง ขอให้เราได้พบกันอีกครั้งนะ(อินจัดประหนึ่งว่าเป็นเมียหรั่ง)
สุดท้ายขอบคุณป้าจากใจค่ะสำหรับนิยายดีๆ ผีเฮี้ยน อิอิ
ทั้งๆ ที่ทำงานก็เหนื่อยแล้ว ยังอุตส่าห์เข็นนิยายออกมาเพื่อพวกเราอีก นางงามจริงๆ
ขอบคุณนะคะ^^
หัวข้อ: Re: The rainbow project เรื่องสั้น 7 สี 7 อารมณ์ 7 คนเขียน (แล้วจะมาทำลิ้งค์รวมแต่ละเรื่องให้นะคะ)
เริ่มหัวข้อโดย: Chubby ที่ 15-06-2011 18:21:19
 :mc4:เย้...จบแล้ว
 :pig4:ขอบคุณจ๊ะ
 :L2:
หัวข้อ: Re: The rainbow project เรื่องสั้น 7 สี 7 อารมณ์ 7 คนเขียน (แล้วจะมาทำลิ้งค์รวมแต่ละเรื่องให้นะคะ)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 15-06-2011 22:32:32
เพิ่งได้เข้ามาอ่านตอนจบวันนี้เอง สงสารหรั่งเนอะคุณนาย ชีวิตอาภัพนัก
ขอมอบ :L2: ขอบคุณสำหรับความสนุกจากเรื่องนี้ และขอ :กอด1:คุณนายเพื่อให้หายเหนื่อยจ้ะ
จะรอกินของดองทั้งหลายจากคุณนายนะเจ้าคะ ได้ข่าวว่าจะทุบไหดองทั้งหลายแล้ว อิ อิ
หัวข้อ: Re: The rainbow project เรื่องสั้น 7 สี 7 อารมณ์ 7 คนเขียน (แล้วจะมาทำลิ้งค์รวมแ
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 16-06-2011 01:47:51
รู้สึกว่าจะมีเรื่องนึงนะคะที่จะครบรอบ1ปีด้วยนะคะ ถ้าจำไม่ผิด 555
ใครเจอก็ช่วยงัดๆ
ขึ้นมาด้วยนะคะ
เพราะตอนนี้ไม่รู้ว่าอยู่หน้าไหนแล้วค่ะ 555
หัวข้อ: Re: The rainbow project เรื่องสั้น 7 สี 7 อารมณ์ 7 คนเขียน (แล้วจะมาทำลิ้งค์รวมแต่ละเรื่องให้นะคะ)
เริ่มหัวข้อโดย: MadamLilac ที่ 17-06-2011 05:30:54
กว่าจะหาเรื่องนี้เจอ งุิงิ
ยังคงสงสารหรั่งจนวินาทีนี้ ปล่อยให้ท่านโรคจิตมันหลอนไปอย่างนั้นแหละ สะใจดี

ขอบคุณสำหรับเรื่องหลอนๆ สนุกๆ แบบนี้นะคะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project เรื่องสั้น 7 สี 7 อารมณ์ 7 คนเขียน (แล้วจะมาทำลิ้งค์รวมแต่ละเรื่องให้นะคะ)
เริ่มหัวข้อโดย: butterfly_bee ที่ 17-06-2011 17:42:41
เพิ่งได้ตามเข้ามาอ่านโปรเจคเรื่องสั้นเจ็ดสี
อ่านแล้วทั้งสนุก สุข ซึ้ง หลอน เปรี้ยว หวาน มัน เผ็ด
ชอบมากมาย 
ขอบคุณนักเขียนทั้งเจ็ดท่านที่เขียนนิยายทั้งเจ็ดเรื่องนี้ให้ได้อ่านกันนะคะ  o13
หัวข้อ: Re: The rainbow project เรื่องสั้น 7 สี 7 อารมณ์ 7 คนเขียน (แล้วจะมาทำลิ้งค์รวมแต่ละเรื่องให้นะคะ)
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 18-06-2011 13:37:56
ป้านัทครับ
ขอบคุณครับจบแบบบีบหัวใจมาก  สงสารหรั่งมากเลยครับ
ที่สงสารมากๆคือ หรั่งไม่เคยได้รับความสุขตั้งแต่เด็ก  แต่พอกำลังจะมีความสุขกลับมีคนมาพรากเอาชีวิตอีก  เฮ้อ
ขอบคุณครับป้านัท
หัวข้อ: Re: The rainbow project เรื่องสั้น 7 สี 7 อารมณ์ 7 คนเขียน (แล้วจะมาทำลิ้งค์รวมแต่ละเรื่องให้นะคะ)
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 18-06-2011 22:28:07
อ่านแล้วแอบงงเรื่องDoomแฮะ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเรื่องที่เหลือไหมอ่ะคะ หรือใครกำลังนั่งดูทีวี? โอ๊ยยย งงง่ะ

ส่วนหรั่ง...น่าสงสารแฮะ โดนถ่วงน้ำทั้งที่ยังไม่ตาย... พออ่านช่วงเอามารวมแล้วแอบขาดตอน รู้สึกไม่ค่อยปะติดปะต่อเท่าไหร่

แต่แนวคิดดีมากเลยค่ะ ที่ทุกอันเชื่อมกัน สนุกมาก ชอบๆ^^
หัวข้อ: Re: The rainbow project เรื่องสั้น 7 สี 7 อารมณ์ 7 คนเขียน (แล้วจะมาทำลิ้งค์รวมแต่ละเรื่องให้นะคะ)
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 18-06-2011 22:38:34
ก็จระเข้จากเพลิงพรายไงคะ ไปโปล่ที่ DOOM 555
หัวข้อ: The rainbow project เพลิงพลาย อัพใหม่หน้า 57 1/12/54
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 01-12-2011 21:07:55
(http://img28.mediafire.com/b6f242d94a346b9095740bdfdd1f8ac23fc115dbd2c7ec5da35aca98f1eb05c75g.jpg)

ตอนแรก "คำสัญญา"
เด็กชายหน้าตาน่าเอ็นดูด้วยเหตุที่มีลักษณะถอดแบบชาวตะวันตกทั้งที่แม่เป็นคนไทย
อาจเพราะพ่อของเด็กคนนี้เป็นชาวต่างชาติ แต่กระนั้นเจ้าตัวก็ไม่เคยเห็นหน้าทั้งพ่อ
และแม่ นับตั้งแต่วันที่ได้ลืมตาขึ้นมาบนโลกใบนี้
เขาวิ่งไล่ตามท้ายรถญี่ปุ่นกลางเก่ากลางใหม่ที่กำลังแล่นออกไปอย่างช้าๆ เพราะเพื่อน
ตัวน้อยของเขาได้ผู้อุปการะพาไปอยู่ด้วยในฐานะสมาชิกใหม่ของครอบครัว
เด็กทั้งสองคนเติบโตมาด้วยกันในบ้านหลังนี้ บ้านที่เป็นที่อุปถัมภ์ค้ำชูพวกเขา และ
บรรดาเด็กน้อยอีกหลายชีวิต บ้านที่มีคนเอาใจใส่ดูแลด้วยความรักจนพวกเขาเรียกได้
อย่างเต็มปากเต็มคำว่าแม่ บ้านที่คนภายนอกรับรู้กันด้วยคำว่า "บ้านเด็กกำพร้า"
นัยน์ตาสีอ่อนซึ่งเปรอะไปด้วยม่านน้ำตา เช่นเดียวกับเพื่อนรักซึ่งหันกลับมามองเขา
อยู่ในที่นั่งตอนหลังผ่านกระจกบานหนาของรถพร้อมกับมือน้อยที่โบกส่ายให้อยู่ไหว ๆ
หน่วยตาก็ฉ่ำน้ำไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลยสักนิด ถึงแม้ว่าเมื่อคืนที่ล่วงมาทั้งสอง
จะผ่านการร่ำไห้และนอนกอดกันจนหลับสนิทไปทั้งคู่เมื่อช่วงรุ่งสางของวันนี้เอง
"หน่อง! สัญญานะว่าจะไม่ลืมหรั่ง... หน่อง!!" เสียงตะโกนของเด็กน้อยที่วิ่งตามมา
ด้วยสองขายาวเก้งก้างซึ่งโบกมือใหญ่ตามส่วนผสมแห่งชาติพันธุ์ของเจ้าตัวส่งให้เพื่อน
ร้องบอกมาจากด้านหลังรถคันนั้นทั้งที่ยังร่ำไห้ จนสองสามีภรรยาที่อยู่ในที่นั่งตอนหน้า
ของรถ ต้องชะลอความเร็วลงก่อนที่ฝ่ายสามีซึ่งเป็นคนขับ จะกดปุ่มเลื่อนกระจกข้าง
ในตอนท้ายให้กับลูกชายคนใหม่ของเขาเพื่อให้ได้ยินคำสั่งลานั้นอย่างชัดเจน
เด็กชายตัวน้อยได้เพียงแต่ชะโงกหน้าออกไปนอกตัวรถพลางตะโกนตอบกลับไป
ให้กับเพื่อนรักของเขาเหมือนเป็นคำมั่นสัญญา
“หน่องไม่ลืมหรั่งหรอก! หรั่งก็อย่าลืมหน่องนะ!”  มือน้อยที่เกาะอยู่บนขอบประตู
เพื่อใช้พยุงตัวเองข้างหนึ่ง ถูกส่งออกไปโบกลาเพื่อนรักของตนเองส่งท้ายจนรถ
เคลื่อนออกไปพ้นอาณาเขตรั้วของสถานที่ ซึ่งนับจากนี้จะเป็นเพียงความทรงจำ
ก่อนที่เจ้าตัวจะหดศีรษะกลับเข้าไปในตัวรถ แต่ก็ยังคงหันมาทอดสายตาอาลัยให้เพื่อน
ที่เห็นอยู่ไกล ๆ กระทั่งลับสายตาไป

ในบ้านหลังน้อยที่อบอุ่น คุณสุมาลี และคุณอธิป สองสามีภรรยา ที่แต่งงานมาด้วยกัน
หลายปีแต่เป็นที่ตัวคุณอธิปเองไม่สามารถมีลูกได้ สามี ภรรยาคู่นี้จึงไปขออุปการะเด็ก
มาเป็นลูกบุญธรรม พวกเขาฟูมฟักเลี้ยงดูหนูน้อยด้วยความรักจนบัดนี้เด็กคนนั้นเติบใหญ่
เป็นคนร่าเริงแจ่มใส ช่างเจรจา และไม่ได้คับแค้นใจในเรื่องที่ตนเองไม่ใช่ลูกแท้ๆ
แต่กลับเรียกทั้งสองว่า พ่อ กับ แม่ ด้วยความสนิทใจ   
“หน่อง… หนูไปสมัครงานไว้ที่ไหนบ้างล่ะลูก” ผู้เป็นแม่ถามขึ้นระหว่างมื้อเช้า
บนโต๊ะอาหาร ก่อนจะหันไปสบตากับลูกชายที่ฝั่งตรงข้าม
“หน่องก็ร่อนจดหมายสมัครไปเรื่อยแหละแม่ ที่ไหนเรียก ที่ไหนรับ หน่องก็ทำที่นั่น
แหละครับ” หน่องตอบกลั้วหัวเราะเบาๆ   
“ถ้าไม่ไหวจริงๆ เดี๋ยวพ่อจะฝากงานให้แล้วกันนะ” คุณอธิปพูดขึ้นมาลอย ๆ
ทั้งที่กางหนังสือพิมพ์บังตัวเองเอาไว้เสียมิด หน่องได้แต่หันไปมองทางมารดาพลาง
ทำหน้าเจื่อนพร้อมกับส่งยิ้มปุเลี่ยน ๆ ให้
"ไม่ต้องมาทำเป็นสลดใส่แม่เลยนะหน่อง ดีแล้ว... จะได้ไม่ต้องหาให้เหนื่อย ให้พ่อฝาก
ให้ก็ดี เราน่ะรับปริญญามาได้ก็หลายเดือนแล้วนะ อีกอย่าง...งานสมัยนี้มันหายาก
นะลูก ถ้าไม่มีเส้นมีสายกับใครเค้าไม่ต้องตระเวนหาไปเป็นปีหรอกรึไง” คนเป็นแม่
ได้แต่บ่นด้วยไม่อยากให้ลูกต้องเหนื่อยกับการตระเวนหางานแบบนี้ไปเรื่อย ๆ พอฝ่ายสามี
ออกปากจึงออกเสียงสนับสนุนให้ในทันที                                               
 “ครับพ่อ ครับแม่ เอาไว้อีกสักเดือน ถ้าไม่มีใครเขาเรียก หน่องจะทำตามที่พ่อว่าก็ได้ครับ”
หน่องจำใจต้องยอมตกปากรับคำออกไป แต่ก็ขอเติมข้อแม้ให้ผู้เป็นพ่ออีกสักหน่อย                                                 
“ตกลงว่าหน่องสัญญากับพ่อแล้วนะ” คุณอธิปได้ทียึดถือคำพูดลูกชายเป็นสัญญา
พลางยกยิ้มบางก่อนพับหนังสือพิมพ์ลงวางไว้ข้างตัว แล้วลุกจากโต๊ะอาหารเพื่อเตรียมตัว
ออกไปทำงาน

ภายใต้แสงไฟสีสวยเย้ายวนตาซึ่งมีแสงวูบวาบจากแฟลชกระพริบประกอบตามจังหวะ
ที่ถูกกำหนดไว้อยู่เป็นระยะ เรือนร่างกำยำที่แทบจะปราศจากอาภรณ์ของเหล่าชายหนุ่ม
ซึ่งพากันยักย้ายส่ายเอวออกลีลาอย่างยั่วตายั่วใจตามจังหวะเสียงดนตรีที่เร่งเร้าอยู่บนเวที
ขนาดพอประมาณที่ประดับไว้ด้วยเสาสแตนเลสสีเงินวาววับ เสียงเบสหนัก ๆ ราวกับว่า
จะปลุกเร้าจังหวะการเต้นของหัวใจผู้ที่ได้รับฟังให้แทบจะกระดอนออกมาเต้นอยู่นอกช่องอก
ม่านควันที่ถูกฉีดพ่นออกมาจากเครื่องกำเนิดควันพาให้บรรยากาศรายรอบแลดูสลัว
เลือนลางราวกับม่านแห่งความฝัน
ภายในร้านที่เต็มไปด้วยชายหนุ่มหลายวัยและหลากชาติพันธุ์ ต่างพากันเป่าปากส่งเสียง
เล็กแหลม ปรบมือและหัวเราะร่าอยู่ในส่วนของโซฟาหนังหนานุ่มสีส้มสดที่หันหน้าไปยังเวที
เสียงตะโกนยั่วยุพวกหนุ่ม ๆ ที่อยู่บนเวที ให้ถอดปราการสุดท้ายบนเรือนร่างที่สมบูรณ์ไปด้วย
กล้ามเนื้อของวัยหนุ่มให้หลุดออกจากส่วนสงวน โดยที่ที่นั่งริมขอบเวทีมีสารพัดเพศพันธุ์
ทั้ง เก้ง กวาง หรือแม้แต่ ชะนี นั่งรายล้อมอยู่เต็มไปหมด เสมือนว่าเป็นทำเลทองแห่งการ
โลมเลียด้วยสายตาและวาจา รวมไปถึงการจาบจ้วงด้วยสัมผัสตามแต่ใจจะปรารถนา
เหล่าผู้ชมต่างพากันโบกธนบัตรมูลค่าหลักร้อยไปจนหลักพันให้สะบัดไปตามแรงมือ
แต่ก็มีบางคนที่ทำเป็นใจดี ทั้งที่จริง ๆ ใจกล้าถึงขั้นจงใจเอาธนบัตรสอดใส่ลงไปในขอบ
ของปราการด่านสุดท้าย เพียงเพื่อต้องการจะได้สัมผัสกับส่วนแข็งขันที่ซุกซ่อนอยู่ด้านใน
แบบเต็มไม้เต็มมือ
มีเพียงกะเทยสาวแอ็คชงค์หนึ่งเดียวซึ่งไม่เพียงแต่จะเอาธนบัตรห้าร้อยบาทในมือของตน
สอดเข้าไปเท่านั้น แต่เขากลับแนบนามบัตรที่ระบุชื่อและเบอร์โทรใส่ไปในเครื่องนุ่งห่ม
ที่แสนจะเล็กและรัดรูปอวดสรีระ ร่างกายของชายหนุ่มที่ดูโดดเด่นกว่าคนอื่นด้วยกัน
บนเวทีแห่งนั้น ชายหนุ่มซึ่งเพื่อนร่วมอาชีพกล่าวขานเรียกนามของเขาแบบง่าย ๆ
 ตามลักษณะที่ปรากฏให้เห็นเด่นชัดอย่างภาพลักษณ์ของเขาว่า "หรั่ง"

ในห้องชุดพักอาศัยของคอนโดมิเนียมหรูกลางใจเมือง ร่างล่ำสันบนที่นอนหนานุ่ม
ซึ่งเปลือยเปล่าอวดกล้ามเนื้อแน่นตามแบบฉบับของคนที่ออกกำลังกายอยู่เสมอ
แต่แท้ที่จริงแล้วความสมบูรณ์ของเรือนร่างและมัดกล้ามนั้นได้มาจากการรับจ้าง
ทำงานหนักเมื่อครั้งอดีตแต่เยาว์วัย ผิวขาวอมชมพูตามชาติพันธุ์ ส่วนผสมที่กลมกลืน
กันระหว่างตะวันออกและตะวันตก ริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูสด ประดับรอยบุ๋มบนสอง
ข้างแก้มให้ชวนมอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อยามที่เจ้าตัวแย้มยิ้มหรือหัวเราะ
เสียงเพลงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงนอนหนานุ่ม
ทำให้เจ้าตัวหลุดออกจากนิทรารมย์พร้อมกับเอื้อมมือออกไปคว้ามากดรับก่อนจะแนบ
ที่ข้างหู
"อเล็กซ์" ตื่นรึยัง วันนี้พี่ไม่ได้ไปรับเองนะ พี่ให้รถตู้ของหนังสือแฟชั่นที่เธอจะไปถ่ายแบบ
ให้เขาเข้าไปรับแทน เธอไปถ่ายแฟชั่นชุดว่ายน้ำให้เสร็จก่อน แล้วพี่จะพาไปแคสต์หนัง
พี่ติดต่อทีมงานไว้ให้แล้ว เร็ว ๆ นะ เดี๋ยวเจอกันเราค่อยคุยรายละเอียดกันอีกที"
อ๊อบที่เข้ามาเป็นผู้จัดการและชักนำให้เขาเข้ามาสู่วงการบันเทิง โทรมาปลุกเขาแต่เช้า
แถมร่ายยาวจนคนรับแทบลืมหายใจไปชั่วครู่ก่อนจะวางสายไป
ชายหนุ่มกระเด้งตัวขึ้นจากที่นอนก่อนผลุนผลันพาร่างเปลือยเปล่าของเขาเข้าห้องน้ำ
โดยไม่ลืมที่จะเร่งรีบทำเวลาด้วยรู้ดีว่า ที่พี่อ๊อบโทรมาปลุกนั้น แสดงว่าในเวลาอีกไม่เกิน
30 นาที เขาจะต้องพร้อมและลงไปรอรถที่จะมารับเขาไปทำงานก่อนเวลานัดหมาย
เล็กน้อย และนี่ก็จวนได้เวลาแล้วจริง ๆ

"เป็นไง... เมื่อคืนหนีไปเที่ยวไหนมา เช้านี้ถึงมานั่งทำเป็นเซื่อง" อ๊อบหันไปต่อว่าอเล็กซ์
พลางส่งสายตาดุ ๆ ไปให้ชายหนุ่มรุ่นน้องที่ตนเองกำลังปลุกปั้นเพื่อเป็นดาราในสังกัด
ของตนด้วยเห็นว่าปลอดสายตาของผู้สอดรู้สอดเห็น หลังจากชายหนุ่มแต่งหน้าจนเสร็จ
และรอเวลาเซตฉากในสตูดิโอ
"ผมไปหาเพื่อนที่บาร์มาน่ะพี่ ไม่ได้แอบไปเที่ยว สามทุ่มผมก็กลับมานอนที่ห้องแล้ว"
อเล็กซ์ตอบตามตรง
"ทีหลังอย่าไปอีกเลยนะ พี่ขอ เรากำลังจะมีชื่อเสียง พี่ไม่อยากให้ใครมาระแคะระคาย
เรื่องอดีตของเรา" อ๊อบสั่งห้ามพร้อมกับแจกแจงเหตุผล
"ครับ" อเล็กซ์เองทำได้เพียงแค่ตอบรับไปเท่านั้น ลึก ๆ ในใจแล้ว เขาเองก็เหงา แค่อยาก
ออกไปเจอะเจอกับคนรู้จักในบ้างครั้งก็เท่านั้น
"เดี๋ยวถ่ายแบบชุดนี้เสร็จพี่จะพาเราไปหาหม่อมเอียด ผู้กำกับชื่อดังเลยนะ พี่เอารูปและ
พอร์ตโฟลิโอของเราไปให้ท่านดู ท่านสนใจ... เลยให้เรียกไปคุยด้วย เห็นว่าท่านกำลัง
หานักแสดงประกบพระเอกดังเลยนะ... น่าจะเป็นโอกาสดีของเราล่ะ" อ๊อบบอกยืดยาว
ตามนิสัย
"เสร็จจากนี่ก็คงบ่ายแก่ ๆ กว่าจะไปถึงไม่ค่ำเลยเหรอพี่" อเล็กซ์ท้วงเสียงอ่อย
"ไม่เป็นไร... ท่านนัดที่วังตอนค่ำ ๆ ท่านบอกไม่ได้ไปไหน... ท่านจะรอ" อ๊อบแย้ง
"แหม! แหม! แหม! คุณป้ากับคุณน้องสองคนนัดจะไปไหนกันเหรอคะ" ช่างแต่งหน้า
สาวประเภทสองฝีมือดีแซวทักเสียงดังขณะก้าวเข้ามาในห้องแต่งตัว
"คืนนี้ไม่ไปปาร์ตี้กับพวกหนูรึคะคุณป้า" หล่อนกรีดกรายพลางร้องถามด้วยโทนเสียงสูง
ที่ดัดจนเล็กแหลม
"ฉันกับอเล็กซ์คงไปด้วยไม่ได้หรอก นัดหม่อมเอียดเอาไว้น่ะ เสร็จจากนี่ก็ต้องรีบไปกันเลย"
อ๊อบปฏิเสธกะเทยรุ่นน้องไปตามตรง
"เสียดายจังป้า นาน ๆ จะได้เจอกันสักที ปาร์ตี้นี่ก็เหมือนเป็นเลี้ยงขอบคุณป้ากับน้อง
อเล็กซ์นะคะ" คุณน้องช่างแต่งหน้าพยายามชักชวน
"พี่หมี... เจ๊ภาให้มาตามนายแบบแล้วครับ" เสียงทีมงานที่มาชะโงกหน้าประตูร้องบอก
"ไอ้หมาวัด ทีหลังเรียกชื่อชั้นเต็ม ๆ นะแก ไม่ต้องย่อ รัศมีย่ะรัศมี" กะเทยสาวช่างแต่งหน้า
แทบจะกรีดร้องด้วยเคืองที่ถูกเรียกชื่อตัวเองย่างย่อ ๆ จากชายหนุ่มรุ่นน้องที่เพิ่งจะหัวเราะ
ใส่ซะเสียงดังก่อนจะเดินจากไป
"อเล็กซ์ไปเถอะ เดี๋ยวพี่จะตามไปก็แล้วกัน พี่ขี้เกียจแสบตาถ้าต้องไปดูเค้าถ่ายแบบนาน ๆ
ขอนั่งเล่นอยู่นี่ก่อนดีกว่า" อ๊อบบอกพลางรุนหลังของอเล็กซ์ให้เดินตามช่างแต่งหน้าสาว
ประเภทสองออกไป
................................................................................................^o^

"อ๊อบ... ฉันถูกใจพ่อคนนี้ของเธอจัง รูปร่างหน้าตาเป็นอย่างที่ใจฉันคิดเอาไว้เลย"
หม่อมราชวงศ์รังสรรค์ เทวฤิทธิ์ หรือที่คนในวงการมักเรียกว่า 'หม่อมเอียด' เอ่ยปาก
หลังจากที่อ๊อบพาอเล็กซ์เข้าไปนั่งบนเก้าอี้หลุยพร้อมกับยกมือไหว้อย่างนอบน้อม
ในห้องรับแขกที่หรูหรา ซึ่งอยู่ภายในตำหนักไม้เก่าสไตล์วิคตอเรีย มรดกตกทอด
จากท่านพ่อของหม่อมเอียด ซึ่งได้สืบทอดจากท่านปู่ของหม่อมเอียดมาอีกต่อหนึ่ง
เช่นกัน
"อ๊อบดีใจที่หม่อมชอบค่ะ พ่อคนนี้น่ะ... อ๊อบเห็นแววก็เลยชวนมาเข้าวงการ ถ้าหาก
ว่าหม่อมจะให้อเล็กซ์ทำอะไร... หม่อมก็บอกได้เลยนะคะ"  อ๊อบตอบพลางส่งยิ้ม
ประจบประแจง
"เขาเหมาะมากที่จะให้เล่นหนังของฉันนะอ๊อบ แต่..." หม่อมเอียดพูดยังไม่ทันจะจบดี
"แต่..อะไรคะหม่อม ถ้าเรื่องเรียนการแสดง อ๊อบก็กะจะให้อเล็กซ์เข้ามาเรียนกับหม่อม
ที่วังอยู่แล้วน่ะค่ะ" อ๊อบจีบปากจีบคอตอบ
"เธอนี่รู้ใจฉันดีจังนะ แล้วพ่อคนนี้เขาจะว่างมาได้วันไหนบ้างล่ะ" หม่อมเอียดถามพลาง
ส่งยิ้มไปทางอเล็กซ์
"หม่อมสะดวกวันไหนบอกมาได้เลยนะคะ อ๊อบจะกันคิวเอาไว้ให้ ช่วงนี้ก็มีแค่งานพวก
ถ่ายแบบนิตยสาร กับเดินแบบนิดหน่อย อเล็กซ์เองก็เพิ่งจะเข้าวงการใหม่ ๆ ถ้ายังไงอ๊อบ
รบกวนฝากหม่อมให้ช่วยอบรมสั่งสอนอเล็กซ์ด้วยนะคะ พ่อคนนี้เค้าตัวคนเดียว...
หาเงินส่งเสียตัวเอง เพราะไม่มีพ่อมีแม่เหมือนคนอื่นเขาน่ะค่ะ" อ๊อบร่ายสรรพคุณ
ของอเล็กซ์เสียยืดยาวพร้อมกับเรียกคะแนนความสงสารจากหม่อมเอียดเต็มที่
................................................................................................^o^

ตอนที่สอง "เพื่อนรัก"
 
   แสงแฟลชจากกล้องถ่ายรูปวูบวาบเป็นระยะ ๆ เมื่อนักข่าวบันเทิงจากทุกสื่อต่างเข้ามาแย่งถ่ายรูปในวันสำคัญวันนี้ ด้วยเป็นวันเปิดกล้องพร้อมแถลงข่าวการถ่ายทำภาพยนตร์ เรื่องใหม่ยิ่งใหญ่แห่งปี ที่ทุมทุนสร้างมหาศาล อำนวยการสร้างโดย บริษัทภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่ของวงการ ภายใต้การกำกับและดูแลโดยหม่อมเอียด นักแสดงนำและนักแสดงสมทบจึงมารวมกันคับคั่งครบทุกตัวคน นักข่าวต่างพากันแย่งสัมภาษณ์นักแสดงจนดูวุ่นวาย แต่เมื่อพิธีกรกล่าวเชิญผู้สื่อข่าวให้เข้ามานั่งยังเก้าอี้ที่ได้จัดเตรียมเอาไว้ ความโกลาหลจึงสงบลง
   หลังจากช่วงเวลาของพิธีการผ่านพ้นไปความวุ่นวายก็กลับมาเยือนอีกครั้ง แต่ก็กินเวลาไม่มากนัก ด้วยเป็นเพราะนักข่าวต่างรุมสัมภาษณ์ด้วยการยิงคำถามกับนักแสดงเป็นราย ๆ ไปอย่างพร้อมเพรียงในคราวเดียวกัน จนในที่สุดก็ถึงเวลาพักรับประทานอาหารว่างที่ทางทีมงานได้จัดเตรียมรอไว้  อเล็กซ์ ที่เหน็ดเหนื่อยจากการถูกกรุ้มรุมปลีกตัวแยกออกมาหาเครื่องดื่มที่มุมกาแฟ เขาเดินเข้าไปยืนข้างชายหนุ่นร่างเล็กคนหนึ่ง โดยที่อีกคนยังมิได้สังเกตเห็นถึงการมาของเขา มือหนาเอื้อมไปคว้าหยิบถ้วยกาแฟที่คว่ำรออยู่ แต่ก็พลาดไปฉวยเอามือของคนด้านข้างที่กำลังเอื้อมมาจับถ้วยกาแฟใบเดียวกันไว้ได้เสียก่อน
   “ขอโทษครับเชิญคุณก่อน” อเล็กซ์ทำได้แต่เพียงกล่าวขอโทษเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงนุ่มหูแบบสุภาพ พลางหันไปมองหน้าของเจ้าของมือนุ่มนั้นเต็มตาก่อนจะร้องเรียกด้วยความยินดีและเอามือออกจากมือของอีกคน
   “หน่อง! หน่องใช่ไหม! เป็นหน่องจริง ๆ ใช่ไหม?” อเล็กซ์ร้องถามระล่ำระลัก
   คนตรงหน้าได้แต่ทำหน้ายุ่งมองมาแบบสงสัย ว่าดาราหนุ่มรู้จักตนเองได้อย่างไร แต่เมื่อมองไปได้สักครู่ ความทรงจำเก่า ๆ ที่แสนเลือนรางก็กลับเด่นชัดขึ้นมาแทบจะทันที ภาพวงหน้าของเด็กชายเพื่อนสนิทในวัยเยาว์ซ้อนทับกันได้พอดิบพอดีกับดาราหนุ่มตรงหน้า ก่อนจะเปล่งเสียงร้องเรียกออกมาอย่างตื่นเต้นระคนดีใจ
   “หรั่ง! หรั่งจริง ๆ ด้วย หน่องจำแทบไม่ได้เลย... ไม่คิดว่าหน่องจะได้มาเจอกับหรั่งอีกนะนี่” 

   หลังจากที่ได้ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันพอประมาณ ทั้งสองก็พากันปลีกตัวไปพูดคุยอย่างออกรสอยู่ในบริเวณสวนนอกห้องจัดเลี้ยง โดยเลือกม้านั่งซึ่งถูกจัดวางไว้ริมบ่อปลาข้างสถานที่จัดงานเป็นมุมส่วนตัวเพื่อระลึกความหลังและรับรู้ความเป็นไปของกันและกัน ภายใต้บรรยากาศของละอองน้ำฉ่ำเย็นจากน้ำพุในบ่อ และความร่มรื่นเขียวขจีของแมกไม้ในสวนซึ่งสร้างความอิ่มเอมแก่ทั้งคู่ จนเวลาผ่านมาได้ครู่ใหญ่ อ๊อบที่เดินตามหาอเล็กซ์มาซะทั่วงานก็เข้ามาถึงยังบริเวณที่เพื่อนทั้งสองคนนั่งคุยอยู่ก่อนแล้ว
   “อเล็กซ์ มาอยู่นี่เอง แล้วทำไมมานั่งอยู่นี่ได้หละ” อ๊อบก้าวพรวดเข้ามาพร้อมกับยิงคำถามใส่ตามวิสัยใจร้อนของเจ้าตัวแล้วก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นอีกคนที่นั่งอยู่ด้วยกันกับอเล็กซ์พลางขมวดคิ้วส่งแทนคำถามไปยังเด็กในสังกัด
   “พี่อ๊อบ... นี่หน่องเพื่อนผมเอง ไม่ได้เจอกันมานานหลายปีแล้ว หน่อง... นี่พี่อ๊อบผู้จัดการเราเอง” อเล็กซ์กล่าวแนะนำทั้งสองฝ่ายให้รู้จักกัน
   “สวัสดีครับพี่อ๊อบ... ผมเป็นเพื่อนสมัยเด็ก ๆ ของหรั่งครับ” คนตัวเล็กได้แต่กล่าวทักทายพลางกระพุ่มมือไหว้คนตรงหน้า ก่อนจะหยิบนามบัตรในกระเป๋าส่งไปให้คนอายุมากกว่า
   “สวัสดีจ๊ะ” อ๊อบที่ได้แต่ทักทายกลับตามมารยาท กลับต้องตาโตเมื่อเห็นว่า กระดาษใบเล็กในมือนอกจากจะระบุชื่อ  นิวัฒน์ แก่นกำภู  และเบอร์โทรศัพท์ ยังระบุตำแหน่งของคนตรงหน้าว่าเป็นผู้สื่อข่าวบันเทิงของนิตยสารชั้นดีในเครือสื่อสิ่งพิมพ์ยักษ์ใหญ่อันดับต้น ๆ ของประเทศอีกด้วย
   “แหมอเล็กซ์ มีเพื่อนเป็นนักข่าวสายบันเทิงก็ไม่เคยบอกพี่สักนิดเลยนะเรา” อ๊อบทำทีแสร้งเป็นต่อว่าไปให้อเล็กซ์แบบเสียไม่ได้ แต่กลับส่งยิ้มประดิษฐ์หวานไปให้กับหน่องแบบเต็มใจ และหน่องเองก็จับสังเกตในกิริยานั้นได้
   “ถ้างั้นพี่ฝากหนูเขียนเชียร์อเล็กซ์ให้พี่หน่อยได้ไหมคะ คนกันเองนะคะ ถือว่าช่วย ๆ กันทำมาหากิน แล้วนี่ได้สัมภาษณ์กันไปบ้างรึยังคะ เดี๋ยวพี่จะได้นัดสัมภาษณ์แบบส่วนตัวให้นะคะ เอาเป็นสักวันศุกร์นี้ก็ได้นะคะ อเล็กซ์เค้าว่างพอดี ส่วนเวลากับสถานที่เดี๋ยวพี่ให้อเล็กซ์เค้าโทรไปบอกตามเบอร์ในนามบัตรนะคะ” อ๊อบจีบปากจีบคอบอกระรัวตามแบบของตัวเอง
   “ได้ครับพี่ เดี๋ยวผมจะไปตามนัดนะครับ แต่วันนี้ผมขอถ่ายรูปหรั่งเอาไว้ก่อนนะครับพี่ วิวแถวนี้สวยดีด้วย” หน่องบอกพลางคว้ากล่องถ่ายรูปคู่มือจากกระเป๋าที่วางเอาไว้บนเก้าอี้ข้างตัวขึ้นมาปรับโฟกัส แล้วกดชัตเตอร์เก็บภาพเพื่อนเก่าบันทึกลงในเมมโมรี่การ์ดของกล้อง
   “มา ๆ เพื่อนสองคนไม่ได้เจอกันนาน มา... พี่จัดให้นะคะ น้องยืนข้าง ๆ อเล็กซ์นะ... เดี๋ยวพี่ถ่ายให้” อ๊อบบอกพลางเจ้ากี้เจ้าการจัดท่าทางให้ทั้งสอง ก่อนจะแบมือขออุปกรณ์ถ่ายภาพจากมือของหน่องมากดบันทึกภาพของทั้งสองคนไปเสียหลายรูป แล้วจึงส่งกล้องคืนกลับมาให้ผู้เป็นเจ้าของ
   “เอาไว้วันศุกร์เราเจอกันใหม่นะคะ พี่ขอบคุณมากเลยค่ะ” อ๊อบบอกพลางกระพุ่มมือไหว้ด้วยความเคยชินจนคนถูกไหว้รับไหว้แทบไม่ทันจึงต้องร้องบอก
   “พี่ครับ...ไม่ต้องไหว้ก็ได้ครับ ผมขอบคุณมากนะครับ แล้วเราเจอกันวันศุกร์นะครับ... สวัสดีครับพี่” หน่องระร่ำระลักบอกพลางกระพุ่มมือไหว้คนอาวุโสกว่า
   “จ้า... วันนี้อเล็กซ์ไม่มีคิวงานที่ไหนแล้วนะคะ เชิญตามสบายเลยค่ะคุณน้อง”  อ๊อบบอกพลางหันหลังเดินจากไปช้า ๆ
   เพื่อนทั้งสองใช้เวลาพูดคุยกันต่ออีกสักพักก็แยกย้ายจากกันโดยไม่ลืมที่จะแลกเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวของกันและกันเอาไว้เรียบร้อย

    "แม่ครับ ทายสิว่าวันนี้หน่องไปเจอใครมา" หน่องโผกอดแม่ที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวยาวในห้องนั่งเล่นแทบจะทันทีที่เห็นหน้าก่อนจะเอ่ยถาม พลางเอาศีรษะถูบริเวณต้นแขนของผู้เป็นมารดาอย่างออดอ้อน
   "แม่จะรู้ด้ยังไงล่ะ ไอ้ลูกคนนี้... แม่ไม่ได้ไปด้วยเสียหน่อย" คนเป็นแม่ไม่เพียงแต่เลี่ยงตอบคำถามกลับกอดรัดฟัดหอมสองแก้มของหน่องไปเสียหลายฟอด
   "หน่องถึงให้แม่ทายไงครับ" หน่องบอกพลางหัวเราะร่า
   "บอกแม่มาเถอะ... แม่ไม่อยากทายแล้วจ๊ะ" สุมาลีบอกพลางเอามือลูบเรือนผมนุ่มบนศีรษะของลูกชายอย่างแผ่วเบา
   "แม่จำวันที่ไปรับหน่องมาอยู่ด้วยได้ไหม... ที่เพื่อนหน่องวิ่งร้องไห้ตามมาส่งหน่องจนรถของแม่กับพ่อพ้นประตูรั้วนะครับ" หน่องบอกพลางเอนตัวลงเอาหัวไปหนุนตักและนอนจ้องไปที่แม่ด้วยดวงตาเป็นประกาย
   "เพื่อนหน่องที่ชื่อ... หรั่งใช่ไหม แหมผ่านมาเป็นสิบปี ยังได้มาเจอกันอีกนะลูก ถือเป็นโชคดีของทั้งสองคนเลยนะที่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง... แล้วเจอกันได้ยังไงล่ะ" สุมาลีบอกพลางยิ้มหวานส่งให้ก่อนซักถามที่มาที่ไป
   "วันนี้หน่องไปทำข่าวข้างนอก เป็นงานเปิดตัวเปิดกองถ่ายหนังใหม่ของหม่อมเอียดครับ แล้วหน่องก็ไปเจอกับหรั่งที่นั่น แต่แม่รู้ไหม... ตอนนี้หรั่งเค้าเป็นดาราแล้วนะแม่ ถึงจะเป็นแค่พระรอง... แต่อีกหน่อยหน่องว่าหรั่งต้องได้เป็นพระเอกเต็มตัวแน่ ๆ เลยแม่" ชายหนุ่มเล่าพลางยิ้มตอบมารดาของตน
   "ดีจัง... แม่ดีใจด้วยนะ แล้วแม่จะไปดูนะครับ แต่ตอนนี้ แม่ต้องไปทำกับข้าวก่อนแล้ว... เดี๋ยวพ่อเราเขากลับมาจะมาว่าแม่ว่าไม่ทำอาหารเย็นเอาไว้ให้ แล้วลูกหิวรึยังล่ะหน่อง" สุมาลีบอกพลงเอาหมอนอิงซุกไปใต้ศีระษะลูกชายก่อนจะกระถดตัวลุกขึ้นยืนขณะที่ถามด้วยความเป็นห่วง
   "ยังไม่หิวครับแม่ หน่องรอกินพร้อมพ่อดีกว่า" 
   ลูกชายตอบพร้อมกับสำทับว่ารอผู้เป็นบิดา ด้วยรู้ดีว่าอีกไม่นานก็คงจะกลับมาถึง เพราะพ่อของเขาไม่เคยกลับถึงบ้านค่ำมากนัก หากไม่ได้โทรมาบอกล่วงหน้ามักจะกลับมากินข้าวพร้อมกันทุกวันอยู่เสมอ เมื่อลูกชายบอกมาแบบนั้นคุณสุมาลีจึงลุกไปเตรียมอาหารมื้อเย็นไว้รอท่า ในเมื่อตอนนี้ก็ใกล้จะได้เวลากลับของหัวหน้าครอบครัวด้วยเช่นกัน

   "เป็นไงเรา... ทำงานมาได้จะครึ่งเดือนแล้ว ได้เขียนข่าวจริง ๆ กับเขามั่งหรือยัง" ผู้เป็นพ่อถามลูกชายระหว่างมื้อค่ำบนโต๊ะอาหาร
   "หน่องเขียนแล้วนะครับพ่อ เดี๋ยวพรุ่งนี้หน่องเอาไปสงให้ บก.ดูก่อน... แต่ข่าวนี้รับประกันว่าต้องได้ลงพิมพ์กรอบบ่ายพรุ่งนี้แน่ ๆ" เจ้าตัวตอบบิดาพร้อมสำทับด้วยความแน่ใจว่าข่าวที่เขาเขียนจะต้องได้พิมพ์ลงหนังสือ เพราะเป็นข่าวใหญ่ข่าวหนึ่ง
   "มั่นใจจริงนะเรา ไปทำข่าวอะไรมาล่ะ" คนเป็นพ่อถามกระเซ้า พร้อมกับหัวเราะถูกใจ
   "ก็ข่าวเปิดกล้องหนังของหม่อมเอียดไงครับ ข่าวใหญ่ขนาดนั้น... ยังไงเค้าก็ต้องเอาของหน่องลงอยู่ดีแหละครับ" ชายหนุ่มตอบเฉลยพร้อมหัวเราะร่าให้กับบิดา ก่อนจะเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
   "วันนี้นะ... พ่อรู้ไหมว่าหน่องไปเจอใครมาด้วยล่ะพ่อ"
   "ก็ไปเจอหม่อมเอียดกับดาราน่ะสิ... ไอ้ลูกคนนี้นี่ถามแปลก ๆ" บิดาตอบกลั้วหัวเราะพลางยกยิ้มยั่วกลับไปให้ลูกชาย
   "โหพ่อ... ตอบแบบนี้แล้วหน่องจะไปต่อถูกไหมนั่น  คืออย่านี้พ่อ... พ่อจำวันที่ไปรับหน่องมาอยู่ด้วยได้ไหมครับ เพื่อนหน่องคนที่วิ่งร้องไห้ตามหลังรถพ่อมาส่งหน่องไงครับ"
   "เอ... เพื่อนหน่องคนนั้น... แต่ผ่านมาหลายปีแล้วนะหน่อง พ่อจำชื่อไม่ได้แล้วนะ" ผู้เป็นบิดาตอบจริงจังพลางหยุดยิ้มและหันไปมองหน้าของบุตรชายช้า ๆ อย่างตั้งใจฟังความต่อ
   "หรั่งไงครับพ่อ ตอนนี้หรั่งเค้าเป็นดาราแล้ว... เป็นพระรองด้วย เล่นประกบพระเอกดังในหนังของหม่อมเอียดด้วยนะพ่อ... หน่องมีเพื่อนเป็นดารานะพ่อ" เจ้าตัวตอบพลางหัวเราะร่าและรอยยิ้มเต็มหน้าไปให้บิดา
   "อ้าว... อย่างนี้ก็ขอสัมภาษณ์ตัวต่อตัวลงสกู๊ปพิเศษเลยสิ ในฐานะดาราเพื่อนของนักข่าว" อธิปกล่าวกระเซ้าเย้ายั่ว
   "หน่องนัดไว้แล้วครับ... วันมะรืนนี้แหละ ยังไงพรุ่งนี้เช้าหน่องก็ต้องไปบอก บก.ที่ออฟฟิชก่อนอยู่ดี" ลุกชายคลี่ยิ้มบอกอย่างภาคภูมิใจที่ตัวเองได้โอกาสนำเสนองานสำคัญ

   อเล็กซ์กำลังนอนแช่ในอ่างน้ำอุ่นที่มีฟองครีมขาวละเอียดของครีมบาธหอมฟุ้งไปทั่วทั้งห้องปกคลุมตัวอยู่ ชายหนุ่นอนหลับตาพริ้มอย่างเป็นสุข เพราะสายน้ำและกลิ่นหอมช่วยผ่อนคลายความเมื่อล้าของร่างกายได้เป็นอย่างดี ประกอบกับในวันนี้ เขาดีใจที่ได้เจอเพื่อนรักซึ่งห่างหายจากกันไปเป็นสิบปี ด้วยนับจากวันที่เพื่อนรักจากไปเขาทั้งสองก็ไม่ได้พบเจอกันอีกเลย และไม่เคยได้ข่าวของกันและกันแม้แต่น้อย วันนี้เขามีความสุข หัวใจพองฟูจนคับอก และเป็นหนึ่งในเรื่องน่ายินดีเรื่องหนึ่งของเขา จนอดไม่ได้ที่จะเผลอยิ้มออกมาคนเดียว
ในวันนี้เขาเหมือนได้วันเวลาเก่า ๆ ที่เลือนหายไปกลับคืนมาอีกครั้ง พรุ่งนี้เขาจะโทรไปชวนหน่องให้มาที่บ้านของเขา คอนโดที่เขาอยู่ เพื่อจะได้นัดสัมภาษณ์ให้เรียบร้อย แต่ที่จริงแล้ว มันเป็นข้ออ้างที่จะได้ทำให้เขากับเพื่อนได้เจอกันอีกครั้งเท่านั้นเอง 'แบบนี้ต้อฉลอง' เมื่อคิดได้ เขาก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกับกดระบายน้ำในอ่างออกก่อนเปิดฝักบัวให้สายน้ำเย็นจัดไหลรดลงบนร่างเพื่อชะล้างฟองครีมนุ่มจนหมดจดจึงปิดน้ำแล้วคว้าเอาผ้าเช็ดตัวมาซับตัวจนแห้ง ก่อนจะแต่งตัวแล้วผลุนผลันออกไปหาความสำราญยามค่ำคืน

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หัวข้อ: The rainbow project เพลิงพลาย อัพใหม่หน้า 57 1/12/54
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 01-12-2011 21:15:12
ตอนที่สาม "ความต่าง"
   แม้จะเป็นยามค่ำคืน แต่ถนนสายนี้ไม่เคยเงียบเหงา แสงนีออนหลากสีจากร้านรวงที่เรียงรายไปตลอดเส้นทางส่องสว่างไปทั่วทั้งสองฝั่งฟากของถนนซึ่งมีผู้คนสัญจรขวักไขว่ บรรดาผีเสื้อราตรีออกกรีดกรายเริงระบำอย่างสนุกสนานไปตามจังหวะเสียงเพลงที่แต่ละร้านขยันเปิดเพื่อดึงดูดใจให้เข้าไปเยี่ยมเยือน แต่ที่ดูโดดเด่นจนแทบจะเป็นตำนานของถนนสายนี้ คือร้านที่ตังตระหง่านอยู่ตรงปากซอยยอดนิยมของบรรดาผู้ฝักใฝ่ในเพศรสของพวกเดียวกัน "เดอะ บัตเตอร์ฟลาย บอย" อาโกโก้บาร์ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องราตรี เพราะโชว์สนุกตระการตา พนักงานหน้าตาดี บริการได้ถึงอกถึงใจจนเป็นที่ประทับใจของลูกค้า
   ชายหนุ่มเดินเข้าไปทางประตูด้านหลังของร้านจนไปหยุดอยู่หน้ามาม่าซังผู้ซึ่งเคยดูแลช่วยเหลือเขามาตลอด นับจากวันแรกที่เขาเข้ามาทำงานจนไต่เต้าขึ้นสู่ความเป็นดาวเด่นของบาร์แห่งนี้
   "แหม... หรั่ง เจ๊กำลังคิดถึงอยู่พอดีเลย ไปไงมาไงถึงได้มาจนถึงนี่ได้ล่ะจ๊ะ" มาม่าซังในชุดกี่เผ้าไหมซาตินสีดำประดับขนเฟอร์สีแสดพวงยาวรอบบริเวณลำคออันเป็นยูนิฟอร์ของร้าน ทักทายก่อนถามไถ่สารทุกข์สุกดิบคร่าว ๆ พลางเลื่อนมือขึ้นคล้องแขนชายหนุ่มให้ก้าวตามไปยังห้องรับรองพิเศษ
   "ก็คิดถึงเจ๊ไงครับ ผมเลยมาหา... ว่าจะแวะมาใช้บริการในฐานะลูกค้าบ้างไงครับ" อเล็กช์คลี่ยิ้มหยอดหวานทีเล่นทีจริง
   "ต๊าย! ปากหวานไม่เปลี่ยนเลยนะจ๊ะ ดีล่ะ... เจ๊จะได้มอมแล้วรูดทรัพย์ให้หมดตัวเลยดีไหม" มาม่าซังสัพยอกกลับไปอย่างเอ็นดู
   "กลัวที่ไหนครับเจ๊ จัดมาเลยดีกว่า" อเล็กซ์รับมุขตามน้ำ แถมย้ำความต้องการของตน
   "งั้นเดี๋ยวเจ๊สั่งเด็กให้ยกเอาเครื่องดื่มมาเสริฟร์ก่อนแล้วกัน อยากดื่มอะไรดีจ๊ะรูปหล่อ" มาม่าซังถามด้วยกิริยาจริตจะก้านหูตาแพรวพราวตามอาชีพของหล่อน
   "ขอเป็นบรั่นดีแล้วกันครับเจ๊" 
   "โอเช... เดี๋ยวเจ๊จัดเต็มให้เลยแล้วกัน บรั่นดีพร้อมเพื่อนนั่งดื่มระดับดาวเด่นของร้านเลยนะจ๊ะ" หล่อนบอกพลางยกยิ้มอย่างรู้กันก่อนจะเปิดประตูออกไปจัดเตรียมทุกอย่างเพื่อสนองความต้องการของลูกค้าวีไอพี ไม่ถึงอึดใจประตูห้องรับรองพิเศษก็เปิดออกอีกครั้งโดยมาม่าซังคนเดิม พร้อมกับเด็กหนุ่มผิวขาวหน้าตาดี ตามมาด้วยบริกรที่ยกเอาบรั่นดีในขวดทรงกลมคอเรียวสวยและแก้วกระเปาะกลมก้านเตี้ยในถาดมาวางบนโต๊ะกลาง ก่อนที่เด็กหนุ่มจะรินเสิร์ฟให้อย่างรู้หน้าที่ทันทีที่มาม่าซังขยิบตาให้พลางนั่งลงประกบแขกคนสำคัญ
   "หรั่งจ๊ะ นี่น้องยุทธ เพิ่งมาอยู่ได้ไม่นานแต่ก็ขึ้นหม้อเป็นดาวดังของที่นี่ตอนนี้เลยนะ
 ยุทธจ๊ะ นี่พี่หรั่งจ้ะ ลูกค้าคนสำคัญของพี่เชียวนะ" มาม่าซังเอ่ยแนะนำให้ทั้งสองคนรุ้จักกันอย่างเป็นทางการขึ้นมาอีกหน่อย 
   "สวัสดีครับพี่" ยุทธหันมายิ้มให้ก่อนจะยกมือไหว้และเอ่ยทักทาย
   "ตามสบายเลยนะคะ เดี๋ยวเจ๊ไปดูแขกข้างนอกก่อนนะคะ ยุทธดูแลพี่เค้าดี ๆ ด้วยนะ" มาม่าซังเอ่ยขอตัวพร้อมสั่งกำชับให้ยุทธดูแลแขกเป็นอย่างดี ก่อนจะปล่อยให้ทั้งสองอยู่ด้วยกันเป็นการส่วนตัวโดยไม่ลืมที่จะกดล็อคลูกปิดประตูเมือออกจากห้อง
   "ครับ" ยุทธรับคำ พร้อมกับเอื้อมไปคว้าเอาแก้วเครื่องดื่มสีอำพันบนโต๊ะมาป้อนส่งให้ถึงปาก
   "มาทำที่นี่นานหรือยังครับ" อเล็กซ์ถามก่อนจะอ้าปากรับและดื่มบรั่นดีที่ยุทธป้อมให้
   "ก็ไม่นานนะครับยังไม่ทันจะครบเดือนเลย" ยุทธบอกตามตรง
   "แล้วบริการดีกับทุกคนแบบนี้รึเปล่า" อเล็กซ์ กระเซ้ายั่วยิ้ม
   "ผมก็ต้องบริการแขกทุกคนเป็นอย่างดีอยู่แล้วล่ะครับ" ยุทธตอบกลับพลางส่งสายตายั่วยวน
   "บริการดี แล้วอย่างอื่นจะดีด้วยไหม" อเล็กซ์เอ่ยถามเสียงแหบพร่า
   "ก็คงต้องลองดูเองล่ะครับ จะได้รู้ว่าดีไหม" ยุทธเอ่ยตอบก่อนจะยื่นหน้าของตนให้เข้าไปใกล้กับคนตรงหน้าพร้อมกับเผยอริมฝีปากแตะเพียงแผ่วเบากับกลีบปากหนาได้รูปสวยนั้น อเล็กซ์กลับตอบรับจูบด้วยความพึงใจ ผิวหน้าขาว ๆ อมชมพูของเขา กลับเริ่มแดงจัดขึ้นเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ และความยั่วยวนของยุทธ เขาเอื้อมมือข้างหนึ่งขึ้นประคองท้ายทอยพร้อมกับสนองตอบจูบทักทายของยุทธกลับด้วยความเร่าร้อนที่มากกว่าของอีกฝ่าย ทั้งสองแทบจะพากันลืมหายใจ ยุทธเองก็ใช้สองมือของตนโอบกระชับคล้องรอบลำคอของอเล็กซ์เอาไว้ ก่อนที่อเล็กซ์ จะผลักให้ยุทธ เอนหลังราบลงไปกับโซฟาที่นั่งอยู่ และยุทธเองก็รู้ดีว่าจะตนเองต้องตอบสนองคนตรงหน้าอย่างไร ความเงียบเข้ามาครอบคลุมทั้งสองเอาไว้ มีเพียงเสียงเพลงที่เปิดแผ่ว ๆ คลอเบา ๆ จากลำโพงเล็ก ๆ ของเครื่องเสียงชั้นดีหวานแว่วกังวานอย่างอ้อยอิ่ง ก่อนที่พายุอารมณ์ของทั้งสองคนจะพัดโหมกระพือ ให้ไฟสวาทลุกโชนต่อเนื่องเนิ่นนานกว่าจะดับมอดลงได้ ทิ้งไว้แต่เพียงหยาดเหงื่อบนผิวเปลือยเปล่า และอาการหอบหายใจอย่างอ่อนแรงเท่านั้น

    ในบ้านเล็ก ๆ หลังหนึ่งแถบชานเมืองกรุงเทพ ท่ามกลางความมืดของราตรี สายลมพัดโชยกลิ่นหอมของดอกราตรีที่ปลูกอยู่เป็นซุ้มข้างตัวบ้าน เข้าไปยังหน้าต่างห้องนอนของหน่อง ถึงแม้นจะปิดไฟในห้องเสียจนมืดเมื่อเจ้าตัวเริ่มจะเข้าสู่ห้วงนิทรา แสงจันทร์ที่ลอดส่องจากหน้าต่างสาดกระทบเข้ากับวงหน้าหวานที่กำลังพริ้มตาหลับ แพขนตาหนา และคิ้วเข้ม ๆ ประดับบนเรียวหน้า พร้อมริมฝีปากบางที่อมยิ้มอย่างมีความสุขในค่ำคืนนี้ ถึงแม้นว่าหน่องจะต้องนอนเดียวดายอยู่บนที่นอนหนานุ่มอุ่นสบาย แต่หน่องก็มีความสุข ในอ้อมกอดของหน่องตอนนี้ มีเพียงตุ๊กตาหมีโพลาร์ยัดใยสังเคราะห์นุ่มนิ่มขนาดไม่ใหญ่นักอยู่เพียงตัวเดียวเท่านั้น แต่ตุ๊กตาตัวนี้ คุณสุมาลีมารดาเลี้ยงที่รับหน่องมาอยู่ด้วย ขอให้คุณอธิปผู้สามีซื้อให้หน่องในคืนแรกที่หน่องจะต้องนอนในห้องส่วนตัวห้องนี้เพียงลำพังในคืนแรก หลังจากที่นอนกับพ่อและแม่ได้เพียงหนึ่งสัปดาห์นับแต่วันที่มาอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ แม้นว่ากาลเวลาจะผ่านไปหลายปี แต่ตุ๊กตาตัวนี้ เป็นของเล่นส่วนตัวชิ้นแรกที่หน่องเคยมี จากที่หนานุ่มกอดแน่น กลับกลายเป็นแบนแฟบลงไปกว่าเดิมมากแต่เขาก็ยังคงรักและนอนกอดด้วยทุกคืนตลอดมา โดยไม่เคยคิดจะทิ้งขว้าง ถึงต่อมาเขาจะมีของชิ้นอื่น ๆ เพิ่มเติมขึ้นมาอีกหลายชิ้นก็ตาม
   
   "หน่อง... ตื่นรึยังลูก เดี๋ยวจะสายเอานะจ๊ะ" คุณสุมาลีร้องเรียกที่หน้าประตูก่อนจะลองหมุนบิดลูกบิดประตูและพบว่าประตูไม่ได้ล็อค จึงเปิดออกแล้วเข้าไปร้องเรียกหน่องจนถึงเตียง
   "หน่อง... เช้าแล้วนะลูก อย่ามัวแต่ขี้เซาซิจ๊ เดี๋ยวก็ไปทำงานสายหรอก" คุณสุมาลีร้องเรียกพร้อมเขย่าตัวปลุกลูกชาย
   "ครับ ตื่นแล้วครับแม่" หน่องตอบรับก่อนจะปรือตามองแม่ของตน ก่อนจะตาโต ตกใจเมื่อเหลือบไปเห็นนาฬิกาที่ฝาผนังห้อง พร้อมตะโกนเสียงดัง
   "จะเจ็ดโมงแล้ว" พร้อมกับเด้งตัวกระโดลงจากเตียงวิ่งเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว
   "แม่เตรียมอาหารเช้าไว้ให้แล้ว อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วลงไปกินด้วยนะลูก" คุณสุมาลีบอกพลางเดินออกจากห้องไปนั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหารของบ้าน

   "สายแล้ว!" หน่องส่งเสียงดังพลางวิ่งไปตามทางเดินก่อนจะเอาบัตรประจำตัวพนักงานแนบเข้ากับเครื่องสแกนบัตร เมื่อเครื่องส่งเสียงบี๊บสั้น ๆ พร้อมกับที่เขามองดูตัวเลขดิจิตอลบนหน้าจอ ที่บอกเวลา แปดโมงยี่สิบเก้าก่อนจะเปลี่ยนเป็นแปดโมงามสิบหลังจากเสียงบี๊บนั้น พลางถอนหายใจอย่างโล่งอก
   "เฮ้อ… ฉิวเฉียดเส้นยาแดงผ่าแปดพอดี"
   "ผมเข้าใจนะว่าเส้นยาแดงพอดี แต่งานเมื่อวานล่ะ เรียบร้อยดีไหม" เสียง บก. เอ่ยแซวด้วยสีหน้านิ่งเรียบแต่ดวงตาเต้นระยิบ ด้วยเสียงดุ ๆ ส่งมาให้ จากทางด้านหลัง
   "อุ้ย บก. ผมตกใจหมดเลย" หน่องพูดก่อนจะหมุนตัวกลับมาส่งยิ้มปุเลี่ยนให้คนตรงหน้า
   "เรียบร้อยดีครับ เดี๋ยวผมเอาของไปเก็บที่โต๊ะแล้วจะรีบเอางานไปส่งที่ห้องนะครับ" หน่องตอบก่อนจะทำหน้าจ๋อยเมื่อสบตาดุ ๆ คู่นั้น พร้อมกับวิ่งเอาของไปเก็บที่โต๊ะ ก่อนจะค้นหางานส่วนของเจ้าตัวจากในกระเป๋าออกมาถือไว้ แล้ววิ่งกลับไปหา บก. ที่ห้องทันที

   "ดี เดี๋ยวผมจะเอาลงข่าวกรอบบ่ายนี้เลยนะ แต่... ทีหลังไม่ต้องเขียนเยอะขนาดนี้นะ แค่ข่าวบันเทิงนิดหน่อย ถึงจะข่าวดังมากก็ตาม เอาแค่พอรู้เรื่องก็ได้" บก.ยังคงแกล้งทำเป็นเสียงเข้ม ก่อนจะเว้นวรรคและทำเสียงดุใส่อีกครั้ง
   "ก็ข่าวแรกของผมนี่ครับ บก. งั้นผมไปแก้มาส่งให้ใหม่ก็ได้ ขอเวลาอีกสักสิบนาทีนะครับ" หน่องตอบร้อนรน
   "เอางี้ อีกสิบนาทีเอามาให้ผมแล้วเรามาดูพร้อมกันอีกที" บก.ตอบพร้อมกับส่งยิ้มไปให้อีกครั้ง
   "ครับ ขอบคุณครับ บก." หน่องรีบบอกพลางวิ่งตื้อออกจากห้องไปที่โต๊ะทำงาน และวิ่งกลับมาที่ห้อง บก.อีกครั้ง
   "อืม... ดีขึ้นนะ แต่ยังใช้ไม่ได้ ดูตรงนี้สิ" บก.ชมพอหอมปากหอมคอก่อนชี้แนะข้อผิดพลาดให้หน่องเข้าใจว่าจะต้องแก้ไขย่างไร
   "ทีนี้เข้าใจรึยัง" บก.เอ่ยถามพร้อมยกยิ้มบางอย่างใจดี
   "เข้าใจแล้วครับ ขอบคุณครับ บก.ต่อไปผมจะพยายามปรับปรุงให้ดีขึ้นครับ" หน่องตอบกลับพร้อมรอยยิ้มเช่นกัน
   "แล้วคนนี้ใคร ดาราใหม่ของหม่อมเหรอ" บก.เอ่ยถามอย่างสงสัยเมื่อเหลือบไปเห็นภาพประกอบข่าวที่หน่องถ่ายมาได้
   "ใช่ครับ" หน่องบอกตามตรง
   "หน้าตาดีทีเดียว ไม่ขอสัมภาษณ์ไปเลยล่ะ" บก.เอ่ยถาม
   "ผมนัดไว้แล้วครับ พรุ่งนี้แหละครับบก." หน่องตอบ
   "งั้นดีเลย ผมยกคอลัมน์สัมภาษณ์พิเศษกรอบบ่ายเสาร์นี้ให้คุณไปเลยแล้วกัน ตั้งใจทำงานนะ"  บก.เห็นดีพร้อมกับสั่งกำชับงานมาอีกที
   "ขอบคุณครับ  ผมจะตั้งใจทำเต็มที่เลยครับบก." หน่องตอบพร้อมรอยยิ้ม และหัวใจพองโตคับอกด้วยความดีใจ

   บรรยากาศในการถ่ายทำภาพยนตร์ เป็นไปด้วยความเคร่งเครียด เนื่องด้วยเป็นซีนที่พระเอกกำลังประทะอารมณ์ขั้นรุนแรงกับดาราหนุ่มรูปหล่ออยู่อย่างดุเด็ดเผ็ดมัน ทั้งสองทำการรับส่งบทในส่วนของตนและถ่ายทอดออกมาได้ดีจนน่าตกใจ ทั้งกองพากันเงียบกริบรอชมและลุ้นไปด้วยใจจดจ่อ ขณะที่กล้องสามตัวทำงานของมันไปอย่างต่อเนื่องพลันพระเอกหนุ่มที่กำลังอินกับบทบาทการแสดงของตน ก็ส่งหมัดลุ่น ๆ เข้าไปที่โหนกแก้มของพระรองหน้าใหม่ ส่งผลให้คนโดนสอยเลือดขึ้นหน้าขึ้นมาจริง ๆ กลายเป็นว่าพระเอกกับพระรองซัดกันนัวอยู่กลางกองถ่าย ต่างฝ่ายก็ไม่มีใครยอมใคร
   "คัท"
   
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ตอนที่ 4 "ตัวแปร"
 
(http://image.free.in.th/z/iy/u6ftm.jpg)

   พาดหัวตัวไม้หน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ฉบับเช้าวันรุ่งขึ้น ทำเอาหนังสือพิมพ์ทุกฉบับที่ลงข่าวดังกล่าวขายดีเกลี้ยงแผงด้วยเวลาอันรวดเร็ว ข่าวที่ลงทำให้เกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์ไปอย่างแพร่หลาย สื่อทุกสื่อต่างพุ่งเป้าไปที่ทั้งสองคน และพยายามติดต่อเพื่อขอสัมภาษณ์เป็นกรณีพิเศษทั้งทางโทรศัพท์แบบรายงานสดออกอากาศ หรือสื่อสิ่งพิมพ์อื่น ๆ ก็ตามที แต่ก็ไม่มีใครสามารถติดต่อได้เลย ทั้งสองยังคงเก็บตัวเงียบและงดกิจกรรมทั้งหมด รวมไปถึงกองถ่ายต้องหยุดถ่ายทำไปด้วยเป็นระยะเวลาถึงเจ็ดวัน แต่ทั้งนี้มีเพียง หนังสือพิมพ์เพียงฉบับเดียวที่ได้สัมภาษณ์พิเศษ ด้วยพระรองหน้าใหม่ตามข่าวได้โทรไปนัดแนะให้มาหาถึงห้องพักบนอาคารสูงย่านใจกลางเมืองด้วยตนเองแถมสำทับอีกด้วยว่าจะให้ข่าวใหญ่นี้เป็นพิเศษหากนักข่าวที่มาทำข่าวคือ นายนิวัตน์ แก่นกำภู หรือที่เขาเองเรียกว่า "หน่อง" ผู้เป็นเพื่อนรักตั้งแต่วัยเยาว์ของตน
   "หายากมากไหมหน่อง" อเล็กซ์ถามขณะที่เปิดประตูออกกว้างเพื่อรับหน่องเข้ามาในห้องพัก
   "ไม่ยากหรอก... เอ๊ะ! หรั่งหน้าหมดหล่อเลยนะ เขียว ๆ ม่วง ๆ ด้วย" หน่อที่ก้มหน้าถอดรองเท้า ร้องทักด้วยตกใจเมื่อเงยหน้ามาเห็นใบหน้าของเพื่อน ทั้งที่รู้ข่าวมาบ้างแล้ว แต่ก็อดกระเซ้าไม่ได้ ด้วยนิสัยขี้เล่นแบบเด็ก ๆ
   "เจอหน้ากันก็เล่นทักอย่างนี้เลยเหรอคนเรา" อเล็กซ์ ตอบกลับพร้อมรอยยิ้มเต็มตา
   "เออ ลืมไป... ขอโทษทีนะหรั่ง หน่องไม่ได้ตั้งใจ แต่มันอดไม่ได้ ไม่นึกว่าจะเป็นเยอะขนาดนี้" หน่องบอกพลางส่งยิ้มปลอบใจไปให้
   "ดีว่าหน่องถ่ายรูปหรั่งไปตั้งแต่วนก่อนแล้วนะ ขืนเอารูปวันนี้ไปลง... คงดูไม่จืดแน่ ๆ" หน่องบอกพลางระบายลมหายใจอย่างโล่งอก
   "แล้วหน่องกินอะไรมารึยัง จะกินอะไรก่อนไหม... หรือจะทำงานเลย" อเล็กซ์ถามพลางรินน้ำใส่แก้วมาให้อีกฝ่ายที่นั่งรออยู่ในส่วนรับรองแขก
   "ทำงานก่อนเลยดีกว่า... เดี๋ยวค่อยกินก็ได้" หน่องบอกพลางหยิบอุปกรณ์บันทึกเสียงออกมาจากในกระเป๋าสะพายข้างของตนมาวางบนโต๊ะกลางพร้อมกับกดปุ่มบันทึกและเริ่มยิงคำถามทำงานในทันที

   หลังจากที่สัมภาษณ์และรับประทานอาหารร่วมกันหน่องก็ลากลับเพื่อรีบเอาไฟล์เสียงกลับไปทำการเขียนข่าว และบทสัมภาษณ์ส่งให้ บก.ที่สำนักงานในทันที บก.พึงพอใจผลงานและกล่าวชมหน่อง ก่อนจะเอาข่าวและบทสัมภาษณ์ส่งไปจัดหน้าลงพิมพ์ เพื่อจะให้ทันกับการวางแผง และด้วยผลงานชิ้นนี้ของหน่องทำให้เขาได้รับคำชมจากเพื่อร่วมงานทุกคน จนคาดว่าเจ้าตัวคงจะยิ้มหน้าบานไปได้อีกหลายวัน

   ส่วนเพื่อนอีกคนที่หลังจากรอให้ร่องรอยฟกช้ำบนใบหน้าจางลงไปบ้างแล้ว ก็ออกมาปรากฏตัวและทำงานออกงานตามปรกติแม้ว่าจะมีนักข่าวจากสื่อต่าง ๆ คอยไล่ล่าตัวเขาอยู่บ้างประปรายก็ตาม ส่วนคู่กรณียังคงเก็บตัวเงียบและงดให้ข่าวต่อไป อาจจะมีบ้างที่ทั้งสองต้องมาพบเจอกัน หรือจะต้องทำงานร่วมกันเพราะภาพยนตร์ยังถ่ายทำไปไม่ถึงครึ่งเรื่อง แต่ก็ต่างคนต่างอยู่ ไม่พูดคุยสุงสิงกันมากเหมือนที่ผ่านมา แล้วก็ไม่มีใครสักคนจะเอ่ยถึงเรื่องที่ล่วงมาแล้วอีกเลย

   "อเล็กซ์... วันนี้มีงานเลี้ยงวันเกิดของผู้ใหญ่ท่านนึง เจ๊ขัดไม่ได้... ถึงใจจะไม่ค่อยอยากให้เราไปเท่าไหร่" อ๊อบบอกหลังจากที่อเล็กซ์ เดินออกจากฉากที่กำลังถ่ายทำอยู่ด้วยหมดซีนของวันนี้แล้ว และกำลังจะเดินไปห้องพักเพื่อผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า
   "ทำไมล่ะครับพี่อ๊อบ... วันเกิดของใครเหรอพี่?" อเล็กซ์ถามพลางทำหน้านิ่วคิ้วขมวด
   "ก็ท่านนะสิ คนนะยังไม่เท่าไหร่... แต่สถานที่จัดงานนี่สิ บอกตามตรงนะ... ใจพี่ล่ะไม่อยากจะให้เธอไปเลยอเล็กซ์" อ๊อบบอกกระซิบด้วยความหนักใจ
   "แล้วเค้าจัดกันที่ไหนเหรอพี่อ๊อบ" อเล็กซ์ถามอย่างสงสัย
   "ก็เดอะบัตเตอร์ฟลายบอยน่ะสิ" อ๊อบบอกชื่อด้วยเสียงที่กระซิบเบากว่าเดิม
   "อ้อ...ไม่เห็นเป็นไรเลยพี่ ว่าแต่เราต้องไปถึงกันกี่โมงล่ะพี่อ๊อบ" อเล็กซ์บอกพลางยักไหล่ก่อนถามไถ่เวลา
   "ไม่ใช่เรา... แต่เป็นเธอคนเดียวต่างหากล่ะอเล็กซ์" อ๊อบบอกตามตรงพลางตีหน้ามุ่ยอย่างขัดในอารมณ์
   "ไปคนเดียวเหรอพี่... แล้วพี่ไม่ไปด้วยกันหรอกเหรอ" อเล็กซ์ถามด้วยความสงสัย
   "ก็เค้าเชิญเธอคนเดียวย้ำว่าแค่เธอคนเดียวนะอเล็กซ์" อ๊อบบอกพร้อมส่งสายตาสื่อความในไปให้
   "หมายความว่าผมต้องไปงานท่านคนนี้คนเดียวว่างั้นเถอะ" อเล็กซ์ตอบและย้ำทำความเข้าใจกับอ๊อบอีกครั้งพร้อมถอนหายใจ
   "เยส... แต่ไม่ต้องห่วงนะ ท่านปิดร้านเลี้ยงแบบลับเฉพาะท็อปซีเคร็ทกับเพื่อน ๆ ของท่านเท่านั้น ไม่มีนักข่าวหรือคนอื่นที่ไม่ได้รับเชิญปะปนเข้าไปหรอก ท่านเองก็คงไม่อยากเป็นข่าวหรือเปิดเผยเท่าไหร่ สบายใจได้อเล็กซ์" อ๊อบบอกพร้อมส่งยิ้มประจบประแจง
   "จริง ๆ พี่ก็ปฏิเสธไปแล้วนะ... ตอนที่เค้าติดต่อมา แต่พอมารู้ว่าเป็นท่านพี่ก็เลยจำใจต้องรับปากท่านไป ก็ใครจะไปกล้าขัดใจใหญ่คับฟ้าขนาดนั้น... ขืนไปทำให้โมโหเรื่องคงจะยาวไม่จบง่าย ๆ" อ๊อบร่ายยาวเป็นฉาก ๆ
   "ก็ได้พี่แล้วคืนนี้ผมจะไปก็แล้วกัน" อเล็กซ์บอกด้วยท่าทางไม่ยินดียินร้ายสักเท่าไหร่

   บรรยากาศรอบ ๆ ถนนสายนี้เป็นเหมือนเช่นที่เคยเป็นมา แสงไฟหลากสียามค่ำคืนสว่างไสวราวกับว่าถนนสายนี้ไม่เคยหลับใหล "เดอะ บัตเตอร์ฟลาย บอย" ก็เช่นกัน แต่ถึงแม้ว่าป้ายไฟหน้าร้านจะเปิดเอาไว้ แสงสีตระการตาเต็มที่ แต่มีเพียงประตูหน้าเท่านั้นที่ไม่ได้เปิดเพื่อรอรับแขกภายนอก มีเพียงประตูด้านข้างเท่านั้นที่เปิดเพื่อรับแขกแบบเฉพาะการ โดยมีการ์ดร่างยักษ์สองนายยืนคุมเชิงอยู่ที่หน้าประตูเพื่อคอยตรวจตราและตรวจบัตรเชิญของแขกแต่ละคนที่ต่างพากันจอดรถไว้บริเวณลานจอด และเดินนวยนารถมาทางประตูทางเข้าด้วยเสื้อผ้าหน้าผมหลากแบบหลายแนวตามข้อกำหนดการแต่งกายที่ระบุไว้ในบัตรเชิญ เครื่องแต่งกายแฟนซีตามแต่ใจของผู้สวมใส่จะรังสรรค์แต่งมาเพื่อประชันกัน
   "คุณอเล็กซ์ใช่ไหมครับ" หนึ่งในการ์ดทักถามขณะที่อเล็กซ์ เดินเข้ามาหยุดอยู่หน้าการ์ดร่างยักษ์ 
   "ใช่ครับ" 
   "ท่านสั่งไว้ว่าพอคุณมาถึงให้เข้าไปแต่งตัวด้านใน... มีช่างรอคุณอยู่แล้วครับ" หนึ่งในการ์ดชุดดำบอกพลางเปิดประตูให้ชายหนุ่มเข้าไป โดยมีพนักงานของบาร์ที่สวมชุดผิดแปลกไปจากเครื่องแบบตามปกติของร้านซึ่งเป็นผ้านุ่งไหมพื้นสีแดงตาดเงินหยักรั้งเพียงชิ้นเดียวที่ห่อหุ้มท่อนล่างเอาไว้ได้อย่างหมิ่นเหม่ ขณะที่เครื่องแต่งกายท่อนบนกลับเป็นผ้าโปร่งสีเงินแลทะลุไปเห็นเนื้อหนุ่มได้โดยไม่ต้องอาศัยจินตนาการแต่อย่างใด ก่อนที่หนึ่งในพนักงานบริการจะพาอเล็กซ์ไปยังห้องที่มีช่างคอยบริการเสื้อผ้า หน้า ผม รออยู่ก่อนแล้ว
   เสื้อผ้าที่ช่างแต่งตัวเตรียมไว้สำหรับอเล็กซ์เป็นเสื้อสีขาวแขนสั้นคอปาดกว้างตัวยาวคลุมลงมาถึงบั้นท้ายเกลียวเชือกไหมสีทองพันผูกเอาไว้ที่ช่วงเอว ชายผ้าสีแดงขลิบลายทองทั้งผืนเหน็บเอวจากด้านหน้าอ้อมไปทางด้านหลังรอบลำตัว ปล่อยชายยาวอีกข้างมาคล้องเอาไว้ที่แขน รองเท้าสไตล์แกลดิเอเตอร์ซึ่งเป็นหนังโปร่งเส้นสายระโยงไปถึงหน้าแข้ง อเล็กซ์ถูกจับปรุงโฉมแต่งตัวละม้ายชาวโรมันโบราณก่อนจะถูกพาเข้าไปหาเจ้าของงาน

   ห้องจัดเลี้ยงด้านในถูกตกแต่งด้วยดอกไม้สดประหนึ่งจำลองสวนดอกไม้หลากสีสันที่กำลังแข่งกันเบ่งบานส่งกลิ่นหอมไปทั่ว ใต้ซุ้มโค้งหนุ่มใหญ่ท่าทางภูมิฐานซึ่งมีเครื่องแต่งกายละม้ายคล้ายคลึงกันกับอเล็กซ์  แต่ที่บนศีรษะเรือนผมสีอ่อนประดับด้วยพวงมาลาช่อมะกอกสีเงินยืนสง่าคอยต้อนรับแขกที่มาร่วมงานพร้อมกับรอยยิ้มมีเสน่ห์ ด้วยวิทยาการทางการแพทย์สมัยใหม่ ทำให้รูปลักษณ์ภายนอกดูดีและอ่อนกว่าอายุจริงไปเป็นสิบปี บุรุษที่เคยดำรงตำแหน่งทางการเมืองสูงสุดของประเทศ ถึงแม้ว่าจะหมดวาระลงไปนานแล้ว แต่อิทธิพล อำนาจยังคงมีอยู่อย่างมากมายจนใคร ๆ ต่างต้องยำเกรงไม่กล้าขัดอกขัดใจ และเรื่องที่เจ้าตัวจะไม่มีคู่ชีวิต ครองตัวเป็นโสดมาจนถึงปัจจุบันจะเป็นข้อครหา แต่ก็ไม่มีใครกล้าเอ่ยออกมาให้ระคายหู รวมถึงเรื่องรสนิยมทางเพศที่ผิดแปลกจากที่ควรจะเป็น ด้วยเจ้าตัวนิยมชมชอบหนุ่ม ๆ หน้าตาดี จึงมักมีข่าวออกมาในทำนองที่ว่าเจ้าตัวมักให้รางวัล หรือจัดเลี้ยงเป็นกรณีพิเศษแก่บรรดานักกีฬาหนุ่ม ๆ ประเภทหมัด ๆ มวย ๆ ที่สร้างชื่อเสียงมาให้แก่ประเทศในฐานะแชมเปี้ยนอยู่เสมอ ๆ อย่างไรก็ตาม ข้างกายของท่านผู้นี้ก็ยังคงแวดล้อมไปด้วยบรรดาชายหนุ่มประเภทดาราดัง ๆ และดาวรุ่งหน้าใหม่อยู่มิได้ขาด และพวกเขาเหล่านั้นก็ยินยอมพร้อมใจทำทุกอย่างเพื่อท่านผู้นี้ ผู้ที่ทะนงตนว่าอยู่เหนือคนอื่น ๆ และไม่เคยเกรงกลัวใครหน้าไหน
   "สวัสดีครับ สุขสันต์วันเกิดครับท่าน" อเล็กซ์ยกมือไหว้ทักทายพร้อมอวยพรชายสูงวัยกว่าตรงหน้าด้วยสีหน้านิ่งเฉย
   "สวัสดีอเล็กซ์ ตัวจริงหล่อกว่าที่เห็นในรูปเยอะนี่เรา" ท่านเพียงแต่พยักหน้ารับและเอ่ยทักเสียงนุ่ม
   "ขอบคุณครับ" อเล็กซ์จำต้องตอบกลับตามมารยาท
   "ไม่ต้องเกร็งหรอกอเล็กซ์ ฉันไม่ใช่เสือใช่สางที่ไหนทำตัวตามสบายเถอะ แค่เธอมาคอยอยู่ข้าง ๆ ฉันก็พอ" ท่านเอ่ยบอกพลางยกมือกระดิกนิ้วเรียกบริกรที่ผ่านมาใกล้ ก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าแก้วไวน์แดงจากถาดโลหะสีเงินท่านหยิบแก้วที่มีเครื่องดื่มสีแดงส่งไปให้อเล็กซ์ และยกแก้วในมือของตนขึ้นกระทบจนเกิดเสียงดังกังวานเบา ๆ
   บรรยากาศของงานเป็นไปด้วยความรื่นรมย์ แขกที่ได้รับเชิญซึ่งแม้จะดูบางตาแต่ก็ล้วนเป็นผู้อยู่ในแวดวงและเพศรสชนิดเดียวกัน การสังสรรค์จึงเป็นไปอย่างกันเองแต่ละคนกินดื่มอย่างสนุกสนานบางคนถึงขั้นเมามายจนครองสติตัวเองไม่อยู่แต่ก็มีคนคอยให้การดูแลปรนนิบัติกันแบบถึงตัวกระทั่งล่วงเข้าสู่วันใหม่ ช่วงเวลาหฤหรรษ์ของการสังสรรค์จึงสิ้นสุดลงพร้อมกับของชำร่วยที่บรรดาแขกพิเศษแต่ละคนได้รับกลับไปอย่างทั่วถึง     ก็คือบรรดาหนุ่ม ๆ ของร้านที่หิ้วปีกกลับไปให้บริการต่อกันเป็นพิเศษ ไม่เว้นแม้แต่เจ้าของงานวันเกิดซึ่งก็ได้รับพระรองหน้าใหม่ไปเป็นของขวัญพิเศษสำรับค่ำคืนนี้ด้วยเช่นกัน
   
   "ติ๊ด ๆ "
   "ติ๊ด ๆ "
   "ติ๊ด ๆ "
   เสียงสัญญาณเตือนข้อความเข้าดังมาจากโทรศัพท์มือถือของหน่องซึ่งวางอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงดังติดต่อกันโดยไม่ได้รับการเปิดอ่านในทันที ด้วยเหตุที่ผู้เป็นเจ้าของโทรศัพท์กำลังนอนหลับอย่างเป็นสุขบนที่นอนหนานุ่มแสนสบายภายในห้องนอนของเจ้าตัว

    'งานเลี้ยงเพิ่งเลิก กำลังจะกลับ'  ข้อความสุดท้ายจากอเล็กซ์ถึงผู้จัดการส่วนตัวก่อนเจ้าตัวจะปิดเครื่องไป
   
   "โอ๊ย! ทำไมติดต่อไม่ได้นะ... กดปุ่มจนนิ้วจะหงิกแล้วนี่" อ๊อบบ่นออกมา เมื่อทนพยายามติดต่ออเล็กซ์หลายครั้งแต่ทุกครั้งระบบตอบรับอัตโนมัติก็เพียงแต่ตอบกลับมา
   "เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้"
   เจ้าตัวยังคงเพียรพยายามติดต่อด้วยความง่วนงุนจนกระทั้งเผลอหลับไปในที่สุด



หัวข้อ: The rainbow project เพลิงพลาย อัพใหม่หน้า 57 1/12/54
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 01-12-2011 21:19:07
ตอนที่ห้า "สิ้นแสงดาว"
   ดอกบัวสีสวยแย้มกลีบบานอวดโฉมงามอยู่เหนือผืนน้ำกว้าง ผิวน้ำพลิ้วไหวเป็นระรอกตามกระแสลมที่พัดผ่านส่งกลิ่นหอมเย็นรวยระรื่นชื่นใจ  ดวงอาทิตย์คล้อยต่ำเตรียมจะลาลับ แสงสีส้มเหลือบม่วงอาบย้อมปุยเมฆที่ประดับท้องฟ้าสีน้ำเงินซึ่งเข้มจัดขึ้นทุกที ฝูงนกตัวน้อยทยอยบินกลับรังนอนของมัน นกกาน้ำขนดำเป็นมันเลื่อมที่เกาะคาคบไม้ใหญ่ใบโกร๋นส่งเสียงร้องดัง "กา... กา... กา..." ทำลายความเงียบและบรรยากาศที่น่าอภิรมย์เสียสิ้น กระทั่งชายหนุ่มรุ่นกระทงที่เหวี่ยงแหจับปลาอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลซึ่งกำลังเก็บกู้เครื่องมือของเขาขึ้นจากน้ำอดรนทนไม่ไหว จึงยิบฉวยสิ่งที่หาได้จากใต้น้ำปาขึ้นไปบนยอดไม้เหนือหัว ทำให้นกที่คนรังเกียจตกใจและบินหนีหายไป
   "กูตกใจหมดไอ้นกบ้า!” เขาสบถด่าเสียงขรม
   "ขวัญอ่อนจริงนะไอ้มิ่ง แล้ววันนี้มึงได้ปลาเยอะไหมวะ" เพื่อนคู่หูวัยไล่เลี่ยกันกล่าวเยาะก่อนจะเอ่ยถามจำนวนผลผลิตที่ได้ของวันนี้
   "หลายตัวอยู่ ดีกว่าไม่ได้แหละน่า เก็บชุดนี้เสร็จกูก็ว่าจะพอแล้วว่ะวันนี้" มิ่งบอกพร้อมกับใช้มือสาวแหที่มีปลาขนาดเขื่องติดอยู่กับตาข่ายหลายตัวนั้นอย่างช้า ๆ
   "แล้วมึงล่ะไอ้ก้อน... ได้ปลาเยอะไหม" มิ่งถามคู่หูที่มาด้วยกัน
   "เออ... กูกะว่าเหวี่ยงรอบนี้เสร็จกูก็จะขึ้นเหมือนกัน จวนจะมืดแล้วว่ะ" ก้อนบอกก่อนจะเหวี่ยงแหในมือลงสู่ผืนน้ำอีกครั้ง
   มิ่งที่ค่อย ๆ เดินขึ้นจากน้ำไปยืนที่บนตลิ่งริมบึง เขาค่อย ๆ  แกะปลาแน่นิ่งด้วยถึงฆาตรออกจากด้ายเหนียว ๆ ของตาข่ายก่อนจะเอามันใส่ลงไปในถังพลาสติกแห้งๆ ที่ข้างในมีเพื่อน ๆ ของมันนอนไม่ไหวติงรอท่าอยู่ก่อนแล้ว  ปลาบางตัวที่ยังไม่ถึงฆาตดิ้นกระแด่ว ๆ สะบัดโบกครีบหางอย่างเอาเป็นเอาตายพยายามกระเสือกกระสนให้ลำตัวหลุดออกจากเส้นใยเพชฌฆาตที่พรากเอามันขึ้นมาจากแหล่งพำนักพักพิง มิ่งทำเช่นเดียวกันกับตัวที่แน่นิ่ง แต่เขาต้องใช้ความพยายามที่มากกว่าเพื่อจะเอามันออกสิ่งที่พันธนาการ  ก่อนจะค่อย ๆ หย่อนลงถังอีกใบที่มีน้ำและปลาที่ยังหายใจใส่เอาไว้บางส่วน
   "มิ่ง แหกูติดอะไรไม่รู้ว่ะ ดึงไม่ขึ้นเลย มึงลงมาช่วยกูก่อนสิ" ก้อนร้องเรียกเพื่อนมาจากในบึงน้ำ
   "รอแป๊บนึง...เหลืออีกสองตัว... เดี๋ยวกูลงไปช่วย" มิ่งตะโกนกลับไป
เมื่อปลาตัวสุดท้ายที่พยายามดิ้นอย่างเหนื่อยเปล่า แต่ก็หนีอุ้งมือของมัจจุราชไปไม่พ้น ถูกหย่อนลงในถังน้ำเพื่อให้ไปอยู่กับบรรดาเพื่อน ๆ ของมัน ที่ว่ายวนแตกตื่นชนกับด้านข้างของถังกึงกัง มิ่งก็เดินลงไปในบึงอีกครั้งตรงไปทางก้อนที่กำลังพยายามดึงเก็บกู้แหของตนแต่ก็ไร้ผล ความลึกของระดับน้ำแค่คอของทั้งสองที่ยืนอยู่คู่กันไม่ได้เป็นอุปสรรค์มากนัก ด้วยการประกอบสัมมาอาชีพที่ทำอยู่ทำให้พวกเขาช่ำชองทุกที่ทางของบึงน้ำกว้างแห่งนี้เป็นอย่างดี แต่สิ่งที่ลดทอนคุณสมบัติข้อนั้นลงคือความมืดดำของท้องฟ้า
   "ไอ้มิ่ง มึงลองพยายามดึงขึ้นมานะ เดี๋ยวกูจะงมลงไปแกะดู" ก้อนบอกก่อนจะมุดไปใต้ผืนน้ำด้วยการคลำไปตามความยาวของเครื่องมือจับปลา ทั้งสองช่วยกันดึงช่วยกันลาก จนตาข่ายและสิ่งที่ติดอยู่เคลื่อนมาสู่ตรงส่วนที่ใกล้ริมตลิ่งเข้ามาทุกที ทั้งสองถึงกับตกตะลึงยืนแข็งทื่อนัยน์ตาเบิกกว้าง ก่อนจะเป็นมิ่งที่ได้สติตะโกนออกมาเสียงดัง
   "ไอ้ก้อน! ผะ... ผะ... ผีหลอก" พร้อมกับปล่อยมือออกจากปลายเชือกเครื่องมือทำมาหากินแล้ววิ่งตะเกียกตะกายหนีขึ้นไปบนฝั่ง
   "หะ.. ไอ้มิ่งมึงรอกูด้วย" กว่าก้อนจะแกะมือของตัวเองออกจากตาข่ายได้ สิ่งที่ติดอยู่กับตาขายก็โผล่พ้นน้ำออกมาให้เห็นจนติดตาเสียแล้ว
   "หมวดพชร... เข้าเวรที่นี่วันแรกมีคดีใหญ่ให้ทำรึยังล่ะ" ผกก.สน. ... ที่กำลังเปิดประตูออกจากห้องเดินเข้ามาถามสัพยอก รต.ท.พชร พงษ์ภิญโญที่โต๊ะร้อยเวร
   "ยังครับท่าน วันนี้มีแต่คดีจราจร กับคดีวิวาทเล็กน้อย ยังไม่มีเรื่องใหญ่ครับ" หมวดหนุ่มรีบลุกขึ้นยืนพร้อมรายงานผู้บังคับบัญชาของตน
   "ตามสบายเถอะหมวด นี่ก็ใกล้เวลาเลิกงานแล้ว เดี๋ยวแวะไปหาอะไรกินกันสักหน่อยไหมหมวด" ผู้เป็นนายเอ่ยชวนแต่ยังไม่ทันไร เสียงวิทยุสื่อสารประจำสถานีก็ส่งเสียงเรียกมาเสียก่อน
    'มีผู้แจ้งเหตุ พบศพคนตาย ในบึงท้ายหมู่บ้าน... ท้องที่... ขอร้อยเวร ตรวจสอบด้วย ทราบแล้วเปลี่ยน' รต.ท. พชร เอื้อมคว้าหยิบไมโครโฟนมาถือไว้ในมือก่อนจะกดปุ่มที่ด้านขางแล้วกรอกเสียงลงไป
   "ทราบแล้ว เปลี่ยน"
   "ไม่ทราบว่าใครรับเรื่องครับ เปลี่ยน"
   "ผม... ร้อยตำรวจโทพชร พงษ์ภิญโญ ร้อยเวร สน... เดี๋ยวผมจะไปดูที่เกิดเหตุเอง...ทราบแล้วเปลี่ยน"
   "รับทราบ เลิกกัน"
   "ผมขอตัวไปดูที่เกิดเหตุนะครับ" ผู้หมวดหนุ่มคว้าหมวกมาสวมพร้อมกับทำความเคารพผู้เป็นนาย
   "ไปเหอะ โชคดีนะหมวด" ผกก.สน. ... เอ่ยรับทราบสถานการณ์สำคัญตรงหน้า
   
   "ทำไมยังไม่เปิดเครื่องสักทีนะอเล็กซ์ หายหัวไปทั้งวันทั้งคืนแล้วฉันจะไปตามตัวที่ไหนได้เนี่ย เค้าเลื่อนคิวมาถ่ายเป็นเช้าพรุ่งนี้แล้วด้วย ตายละฉัน ต๊าย ตาย ๆ ๆ" อ๊อบบ่นออกมาพลางเอามือทาบอก พร้อมกับพยายามจิ้มโทรศัพท์ติดต่อหาอเล็กซ์จนมือเป็นระวิง ก่อนจะเดินออกมาจากห้องพักบนคอนโดสูงที่ปราศจากร่อยรอยการมีตัวตนของดาราหนุ่มที่อยู่ภายใต้การดูแลของตัวเอง อ๊อบเดินไปตามทางเดินก่อนจะไปกดยืนรอลิฟต์ ระหว่างนั้นก็ยังคงเพียรพยายามโทรหาดาราหนุ่มในสังกัดแต่ก็ไร้วี่แวว เมื่อลิฟต์โดยสารที่ว่างเปล่ามาถึงเขาจึงเดินเข้าไปกดปุ่มชั้นล่างด้วยนิ้วมือข้างที่ว่างจากการกดปุ่มบนโทรศัพท์  'หวังว่าคงไม่มีเรื่องอะไรร้ายแรงอีกนะ ปีที่แล้วฉันก็เสียดาราดังอย่างนิว นวดล นรลักษณ์ไปคนนึงแล้ว ปีนี้คงไม่ต้อง... อเล็กซ์ เอกวิน นรลักษณ์...' ความคิดชั่ววูบของอ๊อบสะดุดหยุดลงทันทีก่อนที่บานระตูลิฟต์จะปิดลง

   รถกระบะสีดำคาดขาวกลางลำตัวรถด้านข้างพิมพ์ตราสัญลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำกับด้วยข้อความระบุพื้นที่ปฏิบัติการวิ่งเรียบไปตามถนน ก่อนจะหักหัวเลี้ยวเข้าถนนลูกรังแคบ ๆ ที่ไม่ค่อยมีผู้สัญจรผ่านไปมา เพราะถนนเล็ก ๆ สายนี้ไปสิ้นสุดที่บึงน้ำกว้างหลังหมู่บ้านจัดสรรขนาดใหญ่ ผู้หมวดหนุ่มจอดรถหยุดนิ่งใต้ต้นตะขบสูงแผ่กิ่งใบกว้าง ลำแสงจากดวงไฟหน้ารถส่องยาวไปจนถึงร่างของสองหนุ่มที่ยืนหน้าซีดปากสั่นเพราะความอกสั่นขวัญหาย ประกอบกับสภาพเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ก็ยังคงเปียกชื้น ความเย็นเยือกของสายลมยามค่ำยิ่งส่งผลให้ความเหน็บหนาวเกาะกินเข้าไปถึงหัวใจ รต.ท.พชร บิดกุญแจดับเครื่อง พร้อมกับเปิดประตูแล้วก้าวเดินเข้าไปทางที่มีคนยืนรออยู่แล้วหลายคน
   "ผมร้อยตำรวจโทพชร พงษ์ภิญโญร้อยเวรสน... ตามที่มีคนแจ้งพบศพครับ" รต.ท.พชร ร้องถามก่อนจะเดินไปหยุดยืนอยู่เบื้องหน้าก้อนและมิ่ง ที่ด้านหลังหน่วยกู้ภัยกำลังขะมักเขม้นตามไฟเสียจนสว่างโร่เห็นชัดราวกับกลางวัน
   "สวัสดีครับคุณตำรวจ ผมเป็นคนโทรแจ้งเองครับคุณตำรวจ ผมชื่อก้อน ส่วนนี่ไอ้มิ่งเพื่อนผมครับ"  ก้อนที่ยังคุมสติตัวเองได้ดีกว่าชิงเป็นผู้บอกเสียเองก่อนจะเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้กับผู้หมวดหนุ่มได้ฟังทั้งหมด
   "แล้วตอนนี้ศพอยู่ไหน" รต.ท.พชร ซักถามถึงหลักฐานสำคัญ
   "ข้างหน้านี่เองครับ" ก้อนบอกพร้อมกับยกมือชี้นิ้วไปทางชายน้ำ
   "ทางนี้ครับคุณตำรวจ..." เสียงหนึ่งในทีมกู้ภัยร้องบอกออกมาจากทางชายน้ำ
   กระสอบป่านใบใหญ่หนาคือพันธนาการซึ่งห่อหุ้มร่างไร้วิญญาณเอาไว้เสียเกือบจะมิดชิดถูกลากมาวางเอาไว้ที่ชายน้ำ ส่วนของข้อมือที่นิ้วมือหงิกงอแข็งค้างโผล่พ้นปากกระสอบซึ่งใช้เชือกเส้นเล็ก ๆ มัดไว้แบบลวก ๆ จวนเจียนจะหลุดมิหลุดแหล่ นายตำรวจหนุ่มเดินเข้าไปหาหลักฐานชิ้นสำคัญก่อนจะบรรจงแกะปลายเชือกที่มัดปากกระสอบออกอย่างช้า ๆ ก่อนจะเลื่อนปากกระสอบลงไป จนเผยให้เห็นใบหน้าที่ซีดขาวยิ่งกว่าแผ่นกระดาษ เขาค่อย ๆ เลื่อนกระสอบป่านลงไปอีกจนถึงบริเวณหน้าอกขาวซีด ผู้หมวดนุ่มหน้านิ่วคิ้วขมวดเมื่อมองเห็นรอยพาดผ่านสีม่วงอมแดง ที่รอบลำคอ ดวงตาไร้แววสีซีดเบิกโพลงแทบถลนออกมานอกเบ้าปรากฏอยู่บนใบหน้าที่ขาวปราศจากสีเลือด ลำตัวเปลือยเปล่ามีรอยฟกช้ำจ้ำแดงเล็ก ๆ ให้เห็นแค่ประปรายบนหน้าอก ลำคอ และแผ่นหลัง แต่ไม่มีร่องรอยจากการโดนทำร้ายด้วยของมีคมอันจะก่อให้เกิดบาดแผลฉกรรจ์จนทำให้ถึงขั้นต้องเสียชีวิต ผู้หมวดหนุ่มเดินผละออกมาจากหลักฐานชิ้นสำคัญของเขาก่อนจะเอาโทรศัพท์มือถือออกมากดโทรออก
   
   หน่องอมยิ้มแก้มแทบปริขึ้นมาอีกครั้งเมื่อได้อ่านข้อความที่อเล็กซ์ส่งมาให้ตั้งแต่เมื่อคืน ถึงแม้ว่าหน่องจะกดโทรศัพท์อ่านมันมาแล้วเป็นสิบรอบตลอดทั้งวัน หน่องเองก็พยายามกดโทรศัพท์ติดต่อหาเจ้าของข้อความที่ถูกแบ่งเป็นข้อความย่อย ๆ หลายอันส่งมาถึงเขา ข้อความที่ทำให้หน่องอารมณ์ดียิ้มได้ทั้งวัน และทุกครั้งที่อ่าน ข้อความที่ว่า
   'ตอนที่หรั่งส่งข้อความนี้...หน่องคงนอนหลับอุตุไปแล้ว... แต่หรั่งก็อยากส่งความคิดถึงไปหาหน่องอยู่ดีหน่องคงกำลังหลับฝันดี... หรั่งขอแค่ในฝันของหน่องมีหรั่งอยู่ในฝันด้วยสักนิด... หรั่งก็พอใจแล้ว'
   'จริงใจหรั่งอยากไปหาอยากอยู่ใกล้ ๆ กับหน่องเสมอ... แต่ตอนนี้คงทำไม่ได้... งานยุ่งมาก... หน่องนอนเผื่อหรั่งด้วยนะ อิจฉาคนได้นอนจัง'
   'ไว้ว่างเมื่อไหร่ จะรีบไปหาให้ถึงที่เลย... จะไปอยู่ใกล้ ๆ จะไปเฝ้าดูแลไม่ให้คลาดสายตาเลยดีไหม อย่าเพิ่งเบื่อหรั่งก่อนก็แล้วกันนะ'
   'หน่องอย่าลืมสัญญานะ หรั่งเองก็จะไม่ลืมสัญญาของเราเหมือนกัน สัญญานะหน่องว่าเราจะไม่มีวันลืมกัน... รักหน่องเสมอแม้จะหมดลมหายใจ... หรั่ง'


--------------------------------------------------------------------------------------------


ตอนที่ 6 "ของขวัญ"
   เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ที่อยู่ในมือดังขึ้น อ๊อบขมวดคิ้วด้วยไม่คุ้นกับเลขหมายที่แสดงอยู่บนหน้าจอก่อนจะตัดสินใจกดรับสาย
   "สวัสดีครับ ผม ร.ต.ท.พชร พงษ์ภิญโญ ขอเรียนสายกับคุณอำนาจครับ"
   "สวัสดีจ้า อำนาจกำลังพูดอยู่จ้ะ ไม่ทราบว่าคุณตำรวจมีอะไรเหรอจ๊ะ" อ๊อบตอบรับพร้อมกับถามอย่างสงสัย   
   "ถ้าไม่เป็นการรบกวนจนเกินไป ผมขอคุยเรื่องสำคัญสักครู่ครับ คุณเป็นผู้จัดการของคุณเอกวิน นรลักษณ์ ใช่ไหมครับ" ผู้หมวดหนุ่มพยายามบอกกล่าวความเป็นไปอย่างช้า ๆ
   "ใช่ครับ อ๊อบเป็นผู้จัดการของอเล็กซ์ ว่าแต่อเล็กซ์เป็นอะไรไปเหรอค่ะ" อ๊อบตอบรับพลางเอามือทาบอกนึกสงสัยเกี่ยวกับเรื่องที่ตำรวจโทรมาหาตน
   "คุณอ๊อบใจเย็น ๆ นะครับ ตอนนี้คุณเอกวิน นรลักษณ์เสียชีวิตแล้ว" ร.ต.ท.พชร บอกประเด็นสำคัญในที่สุด
   "พระเจ้า! อเล็กซ์ตายแล้ว...เมื่อไหร่คะคุณตำรวจ แล้วตายได้ยังไง? ตอนนี้..." อ๊อบเข้าอ่อนทรุดกายลงนั่งบนเก้าอี้นวมบุหนังหนานุ่มนึกใจหายพร้อมกับหวนคิดไปถึง นิว พระเอกดังในสังกัดของตนเมื่อปีก่อนที่เสียชีวิตลงด้วยอุบัติเหตุ และคนที่นั่งไปด้วยก็ยังคงเป็นเจ้าหญิงนิทรามาจนถึงวันนี้
   "เวลาที่เสียชีวิตกับสาเหตุการตาย ผมยังคงระบุชัดเจนไม่ได้ แต่ผมอยากให้คุณอ๊อบมายืนยันศพที่นิติเวชก่อนครับ แล้วคุณอ๊อบติดต่อครอบครัวคุณเอกวินได้รึเปล่าครับ" ผู้หมวดหนุ่มเอ่ยขอให้อ๊อบไปพบที่นิติเวช
   "อเล็กซ์เป็นเด็กกำพร้า แต่ว่าเค้ามีเพื่อนสนิทอยู่คนนึง เดี๋ยวอ๊อบจะโทรตามให้เค้าไปหาแล้วกันคุณตำรวจ  อีกสักไม่เกินสองชั่วโมงอ๊อบน่าจะไปถึง" อ๊อบบอกพลางนัดแนะเวลา
   "ครับ ผมจะรอที่นิติเวชครับ แล้วพบกันครับ" หมวดพชร บอกก่อนจะตัดสายไป

   โทรศัพท์ในกระเป๋าเสื้อส่งเสียงดังเมื่อมีสายเรียกเข้าทำลายความเงียบเมื่อหน่องกำลังคุยงานอยู่กับ บ.ก. หน่องหยิบออกมาพลางส่งยิ้มแหย ๆ ไปให้คนตรงหน้า ก่อนจะเอ่ยปาก
   "ขอโทษนะครับ หน่องขอรับโทรศัพท์สักครู่นะครับ บ.ก." หน่องบอกขอ ก่อนที่คนตรงหน้าจะผงกหัวเชิงอนุญาตกลับมา
   "สวัสดีครับ หน่องพูดสายครับ" หน่องกดรับก่อนจะเอาโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหูพร้อมกับเอ่ยทักคนปลายสาย
   "สวัสดีจ้าน้องหน่อง นี่พี่อ๊อบนะ พี่เป็นผู้จัดการของอเล็กซ์ น้องหน่องจำได้ไหมจ๊ะ" อ๊อบกล่าวทักพร้อมแนะนำตัว
   "จำได้ครับพี่อ๊อบ พี่อ๊อบมีอะไรให้หน่องทำเหรอครับ" หน่องตอบพร้อมกับถามถึงเรื่องที่อีกฝ่ายโทรมาหา
   "น้องหน่องใจเย็น ๆ นะคะ... คือ... คือว่า... ตอนนี้... อเล็กซ์เค้า..."  อ๊อบบอกตะกุกตะกัก
   "หรั่งเป็นอะไรเหรอครับ หน่องพยายามโทรหาตั้งแต่เมื่อวานตอนเช้า เค้าก็ไม่เปิดเครื่อง... หน่องติดต่อไม่ได้เลยครับ" หน่องบอกร้อนรน
   "คือน้องหน่องคะ น้องหน่องใจเย็น ๆ นะคะ คือว่า... ตอนนี้อเล็กซ์เค้าเสียแล้วค่ะ" อ๊อบพยายามบอก
   "น้องหน่องมาเจอพี่ที่นิติเวชนะคะ เป็นเรื่องด่วนมากเลย ฮัลโหล น้องหน่องได้ยินพี่พูดไหมคะ"
   "หรั่งตายแล้ว!" หน่องเผลอปล่อยโทรศัพท์หลุดจากมือตกมาอยู่ที่โต๊ะหน้า บ.ก. ใบหนาของหน่องขาวซีดด้วยความตกใจ บ.ก. จึงเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มาคุยต่อเสียเองจนจบแล้วจึงวางสายไป

   ประตูสวิงบานใหญ่ดูเหมือนว่าจะหนาและหนักในความรู้สึกของหน่อง ฝามือขาวที่มีนิ้วเรียวยาวผลักมันเข้าไปอย่างช้า ๆ ด้วยความพยายาม จนอ๊อบที่รั้งอยู่ข้างหลังต้องยกมือขึ้นมาแตะหัวไหล่ของหน่องอย่างให้กำลังใจ
ทั้งสองเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงกลางห้องขนาดไม่ใหญ่นัก ที่กลางห้องมีเจ้าหน้าที่พร้อมกับร่างที่ถูกคลุมเอาไว้ด้วยผ้าสีขาวผืนใหญ่เสียจนมิดชิด
   "พร้อมนะครับ.. ผมอยากให้คุณสองคนช่วยยืนยันว่านี่คือร่างของคุณเอกวิน นรลักษณ์จริง ๆ ไม่ผิดตัวนะครับ" เสียงของนายตำรวจหนุ่มเอ่ยทำลายความเงียบในห้อง
   "พร้อมครับ" อ๊อบบอกก่อนจะหันไปมองหน่องที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ที่ได้แต่เพียงผงกหัวโดยไม่พูดอะไรออกมาสักคำ
   "เชิญครับ" นายตำรวจหนุ่มบอกพร้อมกับพยักหน้าให้กับเจ้าหน้าที่ข้างเตียงเข็น
   เมื่อเจ้าหน้าที่ตลบผ้าขาวที่คลุมเอาไว้ออกแค่อกเผยให้เห็นร่างที่นอนหมดลมหายใจอย่างชัดเจน เรือนร่างที่ขาวซีดปราศจากสีเลือด ละอองไอเย็นเกาะพราวตามร่าง หน่องเดินเข้าไปจนชิดพร้อมกับเอามือปิดปาก หยาดน้ำตาไหลรินออกมาราวกับไม่สามารถจะหยุดได้ ริมฝีปากขบเม้นเหมือนกับไม่อยากให้เสียงสะอื้นเล็ดรอดออกมา หน่วยตาแดงก่ำ หน่องค่อย ๆ เอื้อมมือของเขาส่งไปสัมผัสกับมือเย็นเยียบของร่างที่มีผ้าขาวคลุมเอาไว้แค่อก ก่อนจะโผเข้ากอดร่างแน่นิ่งของผู้ที่เป็นเพื่อนรักเอาไว้พร้อมหลุดส่งเสียงที่พยายามเก็บกลั้นเอาไว้ออกมาในที่สุด เสียงสะอื้นร่ำไห้พร้อมหยาดน้ำตาพร่างพราว อ๊อบที่เดินตามเข้าไปได้แต่เพียงพยามยามลูบหลังลูบไหล่เพื่อปลอบโยนให้หน่องคลายโศกเศร้าก่อนจะเอ่ยออกมา

   "นี่คือเอกวิน นรลักษณ์จริง ๆ ไม่ผิดตัวแน่" อ๊อบบอกด้วยเสียงเบาหวิวก่อนจะนิ่งค้างไป
   นายตำรวจหนุ่มได้แต่เดินไปหาคนตัวเล็กที่กอดศพเพื่อนพร้อมกับพยายามดึงมือออก แต่คนตัวเล็กก็ไม่ยอมปล่อยมือยังคงร้องไห้และสะบัดมือออกจากการเกาะกุมของนายตำรวจหนุ่ม ความพยายามของนายตำรวจจบลงที่คนร่างเล็กซุกหน้าร้องไห้เสียงดังอยู่ในอ้อมอกของผู้หมวดหนุ่มก่อนจะหมดสติไปในที่สุด
   
   "แล้วอ๊อบจะรับศพออกไปได้เมื่อไหร่... คุณตำรวจ" อ๊อบถามเมื่อเดินตามผู้หมวดที่อุ้มหน่องออกมาจากในห้อง
   "อย่างเร็วก็คงเป็นพรุ่งนี้เช้าครับ ตอนนี้คงต้องปล่อยให้นิติเวชทำงานในส่วนของเขานะครับ" นายตำรวจบอกพร้อมกับนำร่างของคนในวงแขนค่อย ๆ วางลงบนเก้าอี้หน้าห้อง พร้อมกับเอาสมุดเล่มเล็กในมือส่งให้อ๊อบคอยโบกพัดให้ ส่วนตัวเอาพยายามแกะกระดุมและเข็มขัดของหน่องออกพอหลวมและพยายามบีบนวดจนหน่องได้สติ
   "แล้วนี่อ๊อบต้องจัดงานแถลงข่าวก่อนไหมนี่" อ๊อบพูดพร้อมกับขมวดคิ้วเข้าหากัน
   "ผมขอดูผลชันสูตรพรุ่งนี้ก่อนแล้วกันครับคุณอ๊อบ ผมว่ามันแปลก ๆ " ผู้หมวดหนุ่มเอ่ยขอออกมา
   "แปลกยังไงเหรอครับคุณตำรวจ" หน่องถามด้วยความสงสัย พลางส่งสายตาจ้องมองไปทางหมวดหนุ่มอย่างงุนงง
   "ก็ตามร่างกายไม่มีบาดแผลใหญ่ ๆ เลยไม่รู้ว่าเขาตายยังไงนะสิ ตอนนี้พวกคุณอย่าเพิ่งแจ้งนักข่าวเลยครับ" ผู้หมวดหนุ่มบอก ก่อนจะขอร้องให้ปิดข่าว
   "เอาไว้พรุ่งนี้เราค่อยมาว่ากันอีกทีแล้วกันนะ" อ๊อบบอกก่อนจะหันไปสบตากับหน่อง
   "วันนี้เชิญพวกคุณกลับไปพักผ่อนก่อนดีกว่านะครับ นี่นามบัตรของผมครับ" นายตำรวจหนุ่มบอกพลางยื่นส่งนามบัตรไปให้กับทั้งสองคนคนละใบ
   อ๊อบกับหน่องตอบขอบคุณแล้วจึงยื่นส่งนามบัตรของตนกลับไปให้อีกฝ่ายเช่นกัน ก่อนที่อ๊อบกับหน่องจะขอตัวลากลับไป ร.ต.ท.พชร มองไปที่นามบัตรทั้งสองในมือ นิวัตร แก่นกำภู ผู้สื่อข่าว หนังสือพิมพ์... "นักข่าวเหรอนี่"

   ระหว่างที่ทั้งอ๊อบกับหน่องเดินออกไปที่จอดรถ
   "หน่องกลับยังไง เดี๋ยวให้พี่ไปส่งไหม บ้านอยู่ไหนล่ะหน่อง" อ๊อบถามพลางหันมาหยุดมองคนที่เดินตามหลังมาอย่างช้า ๆ
   "ไม่เป็นไรพี่ บ้านหน่องอยู่นนนะพี่ เดี๋ยวหน่องนั่งแท็กซี่กลับเองได้ ขอบคุณครับ" หน่องบอกกกกกอย่างเกรงใจอีกฝ่าย
   "ไม่เป็นไรหน่อง พี่ไปส่งได้ทางผ่านบ้านพี่อยู่แล้ว เออ... พี่มีของจะให้เราด้วยอยู่ในรถน่ะ" อ๊อบบอกพร้อมกับเดินนำไปที่รถ
   
   "ขึ้นรถเลยหน่อง" อ๊อบบอกพร้อมกับเอี้ยวตัวไปหยิบกล่องของขวัญเล็ก ๆ ที่ถูกห่อด้วยกระดาษสีม่วงเหลือบลาสวยมีการ์ดใบน้อยใส่ซองสีโทนเดียวกันจ่าหน้าซองถึงหน่องแปะติดเอาไว้ตรงเบาะด้านหลังกลับมาส่งให้อีกฝ่าย
   "อะไรเหรอพี่" หน่องรับมาถือไว้พร้อมกับถามอย่างงงๆ
   "พี่เองก็ไม่รู้เหมือนกัน พี่เจอมันในคอนโดของอเล็กซ์ เห็นจ่าหน้าซองถึงหน่อง พี่ก็เลยเอามาให้ด้วย" อ๊อบบอกพร้อมกับหันมายิ้มให้คนข้าง ๆ ก่อนจะขับพาหนะออกจากที่ลานจอด
   "หน่องอยากรู้ก็แกะดูเลยซิ พี่ก้อยากรู้เหมือนกัน"
   หน่องแกะริบบิ้นสีสวยออกมาก่อนจะแกะกระดาษห่อของขวัญออกอย่างบรรจง กล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินใบเล็กเป็นปราการกางกั้นสิ่งที่อยู่ภายในเอาไว้อีกชั้น หน่องขมวดคิ้วงุนงงก่อนจะค่อย ๆ เปิดฝาออกมา สร้อยคอเส้นเล็ก ๆ สะท้อนแสงสีเงินเป็นประกาย ตรงกลางห้องเพชรเม็ดเล็ก ๆ สีชมพูสดในตัวเรือนวัสดุเดียวกันกับสร้อยคอ
หน่องหยิบมันออกมาด้วยมือที่สั่นเทา เขาวางมันลงไปไว้ในกล่องอีกครั้งก่อนจะไปให้ความสนใจกับข้อความในการ์ดใบเล็กที่ถูกเขียนด้วยลายมือขยุกขยิก อ่านใจความได้ว่า

   ของขวัญชิ้นแรกหลังจากที่เราได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง
                                     รักหน่องเสมอ
                                 หรั่ง
   
   เสียงเฮฮาพูดคุยหยอกเย้าเสียงดังท่ามกลางบรรยากาศของวงเหล้าที่ครื้นเครง ชายหนุ่มรูปร่างกำยำกว่าห้าคนนั่งล้อมวงดื่มกินอย่างสนุกสนานบนสนามหญ้าหลังบ้านขนาดใหญ่ สายลมพัดไอเย็นเข้ามาแผ่ว ๆ อากาศเย็นสบายด้วยฝนซึ่งหยุดตกไปได้ไม่นาน โต๊ะไม้ใต้ชายคามีอาหารเลิศรสที่พร่องไปมากหลายจาน พร้อมสุราฉลากดำตัวหนังสือสีทองในขวดแก้วหูหิ้วที่เจ้าของบ้านใจดีอภินันทาการ สำหรับลูกน้องคนสนิดใกล้ชิด เป็นสินน้ำใจตอบแทนพร้อมกับที่ได้วันหยุดพักเพิ่มในวันพรุ่งนี้ เสียงสรวลเสเฮฮาชักจะดังหนาหูขึ้นทุกที
   "เฮ้ย! เบา ๆ หน่อยพวกมึง ชักจะดังกันเกินไปแล้ว เดี๋ยวนายท่านก็ลงมาว๊ากเอาหรอก" ชายที่ดูเหมืนจะเป็นหัวหน้าของทุกคนเปิดประตูหลังบ้านออกมานั่งร่วงวงพร้อมกับบ่น
   "นายไม่ได้ยินหรอกพี่เสก ป่านนี้ถึงไหนต่อไหนไปแล้ว เห็นนายแบบคนนั้นมาหาตั้งแต่เย็น พอกินข้าวเสร็จก็พากันหายเข้าห้องไปเลยนี่พี่" ลูกไล่ร้องบอกพลางหัวเราะร่า
   "เออ อย่าเสือกปากมาก แดก ๆ เข้าไปเลยมึงไอ้ว่าน ไหนเอามากินสักแก้วสิพวกมึง" เสกบอกปรามพร้อมร่ำร้องหาเครื่องดื่ม ก่อนที่ชายอีกคนจะยกแก้วที่มีเหล้าพร้อมโซดาน้ำแข็งมาวางให้ตรงหน้า
   "ข่าวดีพี่... แก้วสุดท้ายพอดีเลยพี่เสก" เขาบอกลูกพี่
   "อะไรของพวกมึงว่ะ... กูเพิ่งจะหย่อนตูดยังไม่ทันได้กินเลย... หมดแล้วเหรอวะ ไอ้ว่านมึงขี่รถออกไปซื้อมาเลยนะมึง" เสกบ่อนพร้อมกับหันไปไล่ว่านให้ออกไปซื้อมาเพิ่มอีก
   "โฮ พี่เสก อะไรก็ไอ้ว่าน อะไรก็ว่าน ตลอดอ่ะ" ว่านบ่นกระปอดกระแปด
   "แล้วมึงจะไปซื้อให้กูไหม ไอ้ว่าน" เสกถามพร้อมกับยกเท้าขึ้นมาหมายจะยันไอ้คนข้าง ๆ
   "ไปสิพี่ ไปแล้ว" ว่านที่กระโดดหนีร้องบอกพลางวิ่งไปทางมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่ด้านข้าง

   ว่านขึ้นขี่แล้วขับออกไปจากบ้านหลังงามบนเนื้อทีกว่าห้าไร่ มุ่งตรงออกทางท้ายหมู่บ้านไปตามถนนก่อนจะตัดเลี้ยวเลาะออกไปยังทางเล็ก ๆ ที่มีต้นไม้ใหญ่ใบดกหนาแผ่กิ่งก้านตระหง่านมืดดำทั้งสองข้างของถนนลูกรังสายเล็ก ๆ ที่ทอดยาวจะไปตัดออกถนนใหญ่ข้างหน้าที่มองเห็นอยู่ลิบ ๆ ฟากหนึ่งของถนนเป็นบึงน้ำกว้างใหญ่ ผิวน้ำดำมืด ดอกบัวกลีบซ้อนบานแข่งเงาสะท้อนของพระจันทร์ดวงโตกลม กลิ่นหอมของดอกบัวล่องลอยไปตามกระแสลมที่พัดผ่าน ผิวน้ำไหวระรอกริ้วเงาสะท้อนจากโพยมเพ็ญไหววูบวิบวับ ว่านขับรถมาด้วยความเร็วแสงไฟหน้ารถสาดตรงไปตามทางมืดเพราะความร่มครึ้มของต้นไม้สองข้างทาง ทันใดนั้นเงาดำขนาดใหญ่ก็วูบผ่านหน้ารถอย่างกระชั้นชิด เขาเบรกรถจนตัวโก่งก่อนจะหักหลบเงาดำแล้วเสียหลักล้มกลิ้งลงข้างทางตัวเขากระเด็นตกลงไปที่ริมบึง ส่วนรถที่ขี่มาก็กลิ้งล้มอยู่บนถนนนั่นเอง เขาร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด ขาขวาที่บิดเบี้ยวผิดรูปกระดูกสีขาวที่หักทิ่มทะลุเนื้อบริเวณหน้าแข้งทำให้เขาขยับตัวหรือลุกขึ้นไปไหนไม่ได้ ทำได้แต่นอนร้องโอดโอยอยู่อย่างนั้น
   ก่อนที่เสียงอันน่าเวทนาจะหยุดลง ขนบริเวณท้ายทอยของเขาก็ลุกตั้งชัน ซึ่งตัวเขาเองก็ไม่ทราบสาเหตุ เขาพยายามสอดส่ายสายตาเพ่งฝ่าความมืดดำของผิวน้ำในบึง ท่ามกลางดอกบัวกลีบซ้อนและระลอกพลิ้วเต้นของเงาสะท้อนของดวงจันทร์ เงาดำที่มืดยิ่งกว่าผิวน้ำค่อย ๆ โผล่ขึ้นมาอย่างช้า ๆ มุ่งตรงมาทางที่เขานอนแผ่อยู่ ภาพที่เห็นแทบทำให้เขาหยุดหายใจไปชั่วขณะ  เงาดำมืดที่เริ่มก่อเป็นรูปเป็นร่างคล้ายกับคนขึ้นทุกที ๆ ใบหน้าที่โผล่พ้นน้ำขาวซีดเสียยิ่งกว่าอะไรที่พบเจอ ขาวจนเห็นเส้นเลือดสีดำบนใบหน้าได้ชัดเจน ดวงตาสีขาวขุ่นฟ้ามัวไร้เงาสะท้อน ริมฝีปากดำที่ยกยิ้มกว้างจนเห็นซี่ฟันขาวได้ถนัดแม้จะมืดมิด เงาร่างในอาภรณ์สีดำนั้นค่อย ๆ คืบคลานมาคล่อมทับร่างของว่านที่นอนนิ่งอยู่ ใบหน้าชวนสยองก้มลงมองในระยะประชิด เส้นผมสีอ่อนแนบลู่ไปกับหนังศีรษะ หยดน้ำจากใบหน้าชวนสยองหยดติ๋ง ๆ ลงบนแก้มของว่านความเย็นเยียบของหยดน้ำที่ตกกระทบส่งความหนาวเหน็บซึมผ่านผิวหน้าเข้าไปสะท้านเยือกแทบจะทำให้โลหิตในกายแข็งเป็นน้ำแข็งตามไปด้วย ความกลัวเข้าไปกัดกินในหัวใจ
   ว่านที่พอจะมีสติหลงเหลืออยู่เล็กน้อยได้แต่เพียรพยายามกระเสือกกระสนดิ้นรนกระถดถอยหนี เขาพยายามพลิกตัวนอนคว่ำลงแล้วเริ่มใช้สองมือตะกุยดินข้างตัวเพื่อพาร่างของเขาไปให้พ้นจากสิ่งสยองขวัญที่กำลังสั่นประสาทอยู่ตรงหน้า เศษดินและเศษหญ้าฝังเข้าไปในเล็บมือทั้งสองข้างแต่ความพยายามของเขาก็ไร้เปล่า เมื่ออมนุษย์ที่หยุดนิ่งมองดูความทุรนทุรายของเหยื่อพร้อมกับแสยะยิ้มชวนสะอิดสะเอียนเพียงครู่ ก่อนจะคลานตามมาช้า ๆ  ติด ๆ  ว่านที่กำลังหาทางรอดเหลียวหันมามองพร้อมกับร้องตะโกนขอความช่วยเหลือสุดเสียง "ช่วยด้วย!!!!!" พร้อมกับสองมือที่ตะกุยดินพยายามจะให้เร็วยิ่งกว่าเดิมส่งผลให้เล็บจากนิ้วมือฉีกขาด โลหิตสีเข้มไหลซึมออกมาจากบาดแผลที่ขาและที่ปลายนิ้ว เลือดไหลนองเป็นทางยาวตามที่เขาดิ้นรน
   อมนุษย์ที่ตามมาจนทันใช้อุ้งมือขาวซีดและเย็นจัดจับเข้าที่ข้อเท้าขาข้างที่หักของว่าน ก่อนจะออกแรงลากเพื่อมุ่งย้อนกลับไปตามทางเก่า    
   "อ้า!!!!!!!!!!" เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของว่าน และการพยายามขัดขืนโดยการเพียรจิกนิ้วมือของตนลงไปในดินเพื่อชะลอแรงของอมนุษย์จนสุดกำลังแต่ก็ไร้ผล ทิ้งเพียงรอยครูดและรอยเลือดเป็นทางยาว เมื่อร่างของว่านถูกลากย้อนกลับตามทางที่มุ่งลงไปในบึงอย่างช้า ๆ  ลึกลงไป ๆ ทุกที
   "ช่วยด้วย... ช่วยด้วย... ช่วย..."" ผิวน้ำดำมืดกลืนร่างของว่านพร้อมกับเก็บกักเสียงสุดท้ายก่อนที่สติสัมปชัญญะและวิญญาณจะหลุดลอยออกจากร่าง
หัวข้อ: The rainbow project เพลิงพลาย อัพใหม่หน้า 57 1/12/54
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 01-12-2011 21:21:52
บทที่ 7 "ฝัน"
   แสงอาทิตย์แผดแรงทะลุม่านโปร่งเบาที่ปลิ้วไหวเพยิบตามแรงลม คนที่นอนหลับไม่ยอมตื่นต้องกระเถิบถอยหนีความร้อนที่รุกไล่พลางตวัดผ้าห่มมาคลุมหัวหูเสียจนมิดทั้งที่อากาศร้อนอบอ้าวจนเหงื่อเริ่มซึมออกมาบนผิวหน้า แต่เจ้าตัวก็ยังอยากจะนอนต่ออีกสักหน่อยด้วยรู้ดีว่าวันนี้เขาไม่ต้องรีบลุกตื่นแต่เช้าเพื่อไปทำงานเพราะเป็นวันหยุดพักผ่อนของเขา ประกอบกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานเย็นเล่นเอาหน่องกว่าจะได้หลับก็ค่อนคืนไปนานโข   
   "ก็อก ๆ" เสียงเคาะประตูหน้าห้องนอนดังขึ้นและหยุดไปก่อนที่เสียงสัญญาณสายเรียกเข้าจะดังขึ้นตามมาไล่เลี่ย
   "ตรื๊ด ๆ  ตรื๊ด ๆ ตรื๊ด ๆ"
   "ตื่นแล้วครับแม่ ประตูไม่ได้ล็อคครับ" หน่องตอบด้วยรู้ดีว่าจะคนที่มาเคาะเรียกคือมารดาของตน ก่อนจะหันไปหยิบเครื่องมือสื่อสารมากดรับแล้วยกขึ้นข้างหู
   "สวัสดีครับ หน่องครับ" หน่องกรอกเสียงลงไปตามสาย
   ประตูห้องนอนเปิดขึ้นพร้อมกับร่างของแม่ที่เดิมมาหยุดนั่งลงริมที่นอนหนา พร้อมกับสายตาสงสัยใคร่รู้เมื่อสบดวงตาของลูกชายที่แดงก่ำช้ำบวม หล่อนเอานิ้วมือกรีดไล่คราบชื้นของน้ำบนหางตาทั้งสองข้างของลูกชายก่อนจะเอามือไปลูบเรือนผมนิ่มที่กระเซอะกระเซิงจับลูบให้เข้าที่เข้าทาง
   "พี่จะชวนหน่องไปเป็นเพื่อนพี่หน่อย หมวดเค้าอยากจะถามอะไรเพิ่มด้วย... อีกอย่างหมวดเค้าบอกว่าผลนิติเวชออกแล้ว..." อ๊อบแจ้งความประสงค์มาตามสาย
   "ได้ครับพี่อ๊อบ วันนี้หน่องหยุดไม่ต้องไปทำงาน เดี๋ยวหน่องไปหา จะให้หน่องไปเจอพี่อ๊อบที่ไหนครับ" หน่องบอกรัวเร็ว
   "ไม่ต้องเดี๋ยวพี่ไปรับเอง หน่องแต่งตัวรอเถอะ พี่จวนจะถึงแล้ว ไม่น่าจะเกินครึ่งชั่วโมง เดี๋ยวเจอกันนะหน่อง" อ๊อบบอกก่อนวางสาย
   
   "หน่องเป็นอะไรไปลูก เมื่อคืนก็กลับมาเสียดึกเลยนี่ แล้วร้องไห้จนตาบวมเลยนะครับ" คุณสุมาลีถามพลางลูบศีรษะของหน่องอย่างแผ่วเบา
   "หรั่งตายแล้วครับแม่ เดี๋ยวพี่อ๊อบจะมารับหน่องไปข้างนอกนะครับ" หน่องบอกพลางซุกหน้าลงบนอกแม่
   "ตายเมื่อไหร่ แล้วตายได้ยังไง" คุณสุมาลีถามอย่างตกใจ พลางกอดหน่องเข้ามาแนบอกขึ้นอีก
   "รายละเอียดยังไม่ทราบครับ หน่องไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนนะครับ" หน่องผละออกจากอ้อมอกพร้อมกับเงยหน้าขึ้นไปหอมแก้มมารดา ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำเพื่อจัดการกับภารกิจส่วนตัวแล้วลงไปรออ๊อบที่หน้าบ้าน

   รถเลี้ยวเข้าจอดที่ลานจอดรถหน้าสถานีตำรวจท้องที่ที่เกิดเหตุ หลังจากจอดรถก็พากันเดินขึ้นไปบนสถานี แต่ทั้งสองก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของนายตำรวจหนุ่มที่นัดกันไว้ อ๊อบถามไถ่จากตำรวจนายอื่นแถวนั้นก่อนจะพาหน่องไปนั่งรอที่หน้าโต๊ะทำงานของหมวดพชร
   "อีกเดี๋ยวหมวดคงจะมา นั่งรอสักครู่นะครับ วันนี้แกไปทำคดีตั้งแต่เช้าแล้วครับ" นายดาบสูงวัยเอ่ยบอกกับทั้งสอง
   "ขอบคุณมากครับ" หน่องตอบพลางผงกหัว
   "อ้อ.. มาพอดีเลยครับ" ดาบบอกพลางหันไปทางประตูทางเข้า ทำให้หน่องต้องชำเลืองตามองตามไปด้วย
   "ขอโทษที่มาช้านะครับ" ร.ต.ท.พชร เดินส่งยิ้มมาให้แต่ไกลก่อนจะเอ่ยปากบอก
   "ไม่เป็นไรหมวด อ๊อบกับหน่องก็เพิ่งจะมาถึงได้สักครู่นี่เอง" อ๊อบบอกแทนเพื่ออีกคนพร้อมรอยยิ้มเซียว ๆ
   "ผมเพิ่งได้รายงานชัณสูตรก่อนจะโทรหาคุณอำนาจ คือจริง ๆ แล้ว..." ผู้หมวดพชร เอ่ยบอกรายละเอียดคร่าว ๆ ก่อนจะถามคำถามที่สงสัยบางข้อกับทั้งสอง
   "หมวดหมายความว่า อเล็กซ์ตายเพราะโดนถ่วงน้ำ..." อ๊อบหลุดพูดเสียงสูงพร้อมยกมือขึ้นทาบอกก่อนจะแผ่วเสียงเบาลงในตอนท้าย
   "ใครทำ?" หน่องหลุดถามออกมา
   "คำตอบนั้นผมก็อยากรู้เหมือนกัน เค้าเคยมีศัตรูหรือขัดแย้งกับใครรึเปล่า?" หมวดหนุ่มตอบพลางหันไปสบตากับหน่อง ก่อนจะเอ่ยถาม
   "ไม่มีนะหมวด อเล็กซ์เพิ่งจะเข้าวงการได้ไม่นาน งานก็กำลังไปได้สวย แล้วหมวดเจออย่างอื่นอีกไหมในรายงานของหมวด" อ๊อบบอกพร้อมกับความงุนงงสงสัย
   "ก็เจอยาหลายเม็ดที่ในกระเพาะอาหารกับหลอดลม เป็นพวกมีฤทธิ์กล่อมประสาท กับ..." หมวดพชร บอกก่อนจะกลืนประโยคท้ายเอาไว้
   "หรั่งเล่นยาด้วยเหรอ แล้วอะไรอีกละหมวด" หน่องถามพลางหันไปมองทางอ๊อบ ก่อนจะหันกลับมาสบตานิ่งของนายตำรวจหนุ่ม
   "ร่องรอยฉีกขาดของเนื้อเยื่อทางทวารหนัก กับสารคัดหลั่งจำนวนมากคาดว่าน่าจะมีเกินสองคน" หมวดหนุ่มเอ่ยบอกเสียงเรียบพร้อมใบหน้านิ่ง
   "ฮะ! หมวดจะบอกว่าอเล็กซ์โดนข่มขืนเหรอ... พระเจ้า... โอ้..." อ๊อบตกใจแทบจะลุกเต้นผาง ดีที่หน่องหันไปคว้าแขนให้นั่งลงได้เสียก่อน
   "ไม่น่าจะใช่ เพราะหากโดนขมขืนบาดแผลคงจะฉีกขาดมากกว่านี้อีกหลายเท่า แล้วตามตัวไม่มีร่องรอยการโดนทำร้ายสักแห่ง มีแค่รอยฟันกับรอยเม้มเท่านั้นเอง" หมวดหนุ่มยังคงตีสีหน้านิ่งในขณะที่พูด
   "แล้วต้องทำยังไงต่อล่ะนี่ทีนี้ เฮ้อ..." อ๊อบบอกพลางถอนหายใจยาว
   "ผมขอให้คุณปิดข่าวเอาไว้ก่อนนะครับ แล้วผมจะรีบสืบต่อ ยังไงถ้าพวกคุณเจอหรือนึกอะไรขึ้นได้ก็โทรหาผมได้ตลอดเวลานะครับ ผมจะรีบหาตัวคนผิดให้ได้เร็ว ๆ" หมวดหนุ่มบอกย้ำอีกครั้ง ทั้งสามใช้เวลาพูดคุยกันอีกเล็กน้อยก่อนที่หน่องและอ๊อบจะขอตัวแยกกลับไป
   "หมวดครับท่านผู้กำกับขอเชิญที่ห้องครับ" นายดาบเดินมาบอกหลังจากที่อ๊อบกับหน่องคล้อยหลังจากไปแล้ว
   "ขอบคุณครับดาบ ผมจะไปเดี๋ยวนี้" หมวดพชรบอกขอบคุณ
   
   "ก๊อก ๆ ขออนุญาตครับท่าน" หมวดพชร ยกมือขึ้นเคาะประตูก่อนเอ่ยขออนุญาตกับคนในห้อง
   "เชิญเข้ามาเลยหมวด" เสียคนในห้องเอ่ยเชิญ
   "พอดีผมเพิ่งจะวางสายจากผู้ใหญ่เมื่อกี้นี่เอง ท่านขอให้ผมช่วยพูดกับคุณให้หน่อย จริง ๆ แล้วผมก็อึดอัดใจนะ แต่คนที่โทรมานะ ระดับ รองผอบอเชียวนะ เฮ้อ..." ท่านผู้กำกับเอ่ยบอกด้วยสีหน้าไม่สู้จะดีนัก
   "เรื่องอะไรครับท่าน" หมวดหนุ่มถามอย่างสงสัย
   "ก็คดีที่คุณทำอยู่นะสิ ดาราที่มีคนพบศพในบึงนั่นแหละ เค้าบอกว่าให้คุณรีบ ๆ ปิดคดีสรุปสำนวนง่าย ๆ เร็ว ๆ ไม่ต้องสืบให้ลึกไปกว่านี้แล้ว ผมเข้าใจดีว่าคุณเป็นคนรับผิดชอบต่อหน้าที่ แต่ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน" ผู้กำกับบอกพร้อมสีหน้ากระอักกระอ่วน
   "ครับ ผมเข้าใจท่านดี ถ้างั้นผมจะรีบทำคดีให้เสร็จเร็ว ๆ แล้วกันครับท่าน ผมขอตัวก่อนครับ" ผู้หมวดหนุ่มกล่าวเสียงเรียบพลางเดินออกมาจากห้อง ทั้ง ๆ ที่ภายในใจกลับร้อนรุ่ม 'ทำไมถึงได้ยุ่งขนาดนี้... ถึงกับต้องให้รองผอบอโทรมา... แล้วไอ้ความถูกต้องกับความเป็นธรรม... คนตายจะไปเรียกร้องหาเอาจากที่ไหนได้ กฎหมายจะมีเอาไว้เพื่ออะไร'

   ท้องฟ้าตอนบ่ายที่มืดสลัวราวกับเย็นค่ำ เมฆดำที่ลอยคล้อยต่ำ ลมกรรโชกพัดแรงกิ่งไม้ไหวเอนใบร่วงเกลื่อนกล่น บางส่วนปลิวตามลมเข้าไปในตัวบ้านทางประตูที่เปิดอ้าค้างเอาไว้ เสียงฟ้าคำรามลั่นมาเป็นระยะ  ๆ  ก่อนน้ำจากฟ้าจะกระหน่ำซัดสาดลงมาอย่างมากมาย
   "ปัง!" เสียงประตูไม้ที่เปิดทิ้งเอาไว้กระแทกปิดเสียงดังสนั่น ทำลายความเงียบในอณาเขตของบ้านหลังใหญ่
   "เปรี้ยง! โครม!" อสนีบาตฟาดผ่าลงบนกิ่งของต้นมะม่วงใหญ่ที่ปลูกมานานลำต้นใหญ่หนาที่ยืนต้นตระหง่านสูงกว่าต้นไม้อื่นในสวนหลังบ้าน เปลวเพลิงไหวเต้นระริกวูบวาบอยู่บนส่วนแขนงที่ฉีกขาดของกิ่งที่มีขนาดใหญ่ตามอายุของต้นก่อนจะจนร่วงหล่นลงมา เปลวไฟลุกโชนลามเลียตามกิ่งและใบด้วยเชื้อปะทุชั้นดีตามธรรมชาติยางไม้แห้งสีน้ำตาลแข็งที่เกาะอยู่รอบ ๆ กิ่งที่ร่วงลงมาพาดคาอยู่ระหว่างพื้นและรถจักรยานยนต์ซึ่งล้มคว่ำตะแคงพื้นที่ใต้ต้นด้วยน้ำหนักของกิ่ง น้ำมันจากในถังเชื้อเพลิงไหลนองกระจายวงไปรอบ ๆ ไฟจากกิ่งมะม่วงค่อย ๆ ลามเลียไปยังส่วนเบาะที่ทำจากหนังเทียมหุ้มฟองน้ำ ความร้อนจากเปลวเพลิงทำให้เกิดควันสีดำส่งกลิ่นเหม็นไหม้ลอยคลุ้งขึ้นสูง
   "ฉิบหาย!" เสียงสบถหลุดร้องออกมาจากปากซึ่งประดับด้วยเรียวหนวดเมื่อร่างกำยำที่อุดมด้วยมัดกล้ามหนาเปิดประตูหลังบ้านแล้ววิ่งออกมาด้วยผ้าเช็ดตัวเพียงผืนเดียวพันเอวเอาไว้อย่างหมิ่นเหม่ เขาวิ่งไปที่รถพลางกระชากเอากิ่งที่เป็นเชื้อไฟนั้นออก ก่อนจะหันไปฉวยหยิบเอากิ่งไม้ใบหนาใกล้ ๆ เอามาฟาดลงไปยังรถที่เปลวไฟกำลังเริ่มลุกโชนขึ้น ด้วยหวังเพียงแต่จะดับไฟให้มอดลงโดยที่ไม่รู้ว่ากิ่งไม้ในมือนั้นถูกอาบเอาไว้ด้วยน้ำมันเบนซินเสียจนชุ่ม ตอนที่เขาเงื้อขึ้นสูงละอองน้ำมันไหลหยดกระเด็นเปรอะเปื้อนเนื้อตัวและหัวหู
   "เฮ้อ..." เสียงถอนหายใจ พร้อมกับเปลวเพลิงที่รถจักรยานยนต์มอดดับลง เขาพยายามยกรถที่ล้มตะแคงอยู่นั้นขึ้นมา
   "โอ๊ย!" เสียงร้องด้วยความเจ็บปวด เมื่อมือของเขาคว้าจับไปโดนส่วนที่ไฟเพิ่งจะมอดดับลง ก่อนจะปล่อยมือสะบัดเร่า ๆ
   "ร้อนฉิบหาย" เขาสบถบ่นอย่างหัวเสีย ก่อนจะกลับไปใช้ความพยายามก้มลงไปยกรถขึ้นมาอีกครั้งอย่างระมัดระวัง
   ทันใดนั้นสายฝนก็กระหน่ำหนาหนักราวกับฟ้าถล่ม ก่อนสายฟ้าจะฟาดผ่าขึ้นอีกครั้งตรงกิ่งไม้ที่ใหญ่กว่าเดิม เปลวเพลิงลุกไหม้โชนก่อนจะร่วงหล่นลงมาใส่ศีรษะของคนข้างล่าง
   "โอ๊ย! อ้า..." เปลวเพลิงลามเลียลุกไหม้ตั้งแต่ผมบนศีรษะและเนื้อตัวบริเวณที่เปรอะเปื้อนน้ำมันเชื้อเพลิง ส่งกลิ่นเนื้อเหม็นไหม้คละคลุ้ง สองมือพยายามตะเกียกตะกายเอาตัวรอดแต่น้ำหนักของกิ่งไม้ใหญ่กดทับให้ร่างหนานอนก้มหน้าจนไม่สามารถขยับเขยื้อนเคลื่อนย้ายหนีไปไหนได้ ร่างกำยำทำได้เพียงส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด สองแขนที่เปลวเพลิงกำลังลุกไหม้ยื่นยกสูงออกไปสองมือพยายามไขว่คว้าจับได้เพียงอากาศธาตุ
   "โอ๊ย.. ช่วยด้วย... ช่วยด้วย..." เสียงโหยหวนสั่นประสาทกรีดร้องดังก้อง แต่ก็ไม่มีใครสักคนสามารถที่จะได้ยินเพราะเสียงฝนที่กระหน่ำเทลงมาดังกลบเสียงร้องของเขาเอาไว้ ทั้ง ๆ ที่รอบ ๆ บ้านมีเวรยามคอยตรวจตราอยู่หลายคนในยามปรกติ แต่วันนี้บางส่วนไปอยู่เสียที่วัดเพราะเป็นงานตั้งสวดพระอภิธรรมศพของว่านเป็นคืนแรก และบางส่วนก็พากันหลบไปหาที่กำบังจากสายฝน บรรยากาศโดยรอบจึงแทบจะปราศจากผู้คน เสียงโอดโอยยังคงดังอยู่อย่างต่อเนื่องพร้อมกลิ่นของเนื้อคนไหม้ไฟ และเปลวเพลิงที่ลุกโหมแรงขึ้น
   "ช่วยด้วย... โอ๊ย... อ้า........................"  เสียงคร่ำครวญน่าเวทนาหยุดลงพร้อมกับร่างที่นอนแน่นิ่งและเปลวเพลิงที่กำลังลุกท่วมร่าง เสียงปริแตกของกิ่งไม้ปะทุด้วยความร้อนแรงจากเปลวไฟที่ลุกโชน
   ร่างโปร่งแลทะลุผ่านในอาภรณ์สีดำที่ห้อยหัวลงมาจากต้นมะม่วงสูงใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านใบดกหนาจนบดบังแรงฝนใต้ต้นเอาไว้เสียมิด ทั้งที่รอบข้างพ้นใต้ร่มครึ้มดกหนาสายฝนกำลังกระหน่ำจนชุ่มโชกเจิ่งนอง  ใบหน้าสยองขาวซีด มีเพียงแสงไฟวูบวาบและร่างลุกไหม้สะท้อนออกมาจากหน่วยตาขาวขุ่นฝ้ามัว ที่แสยะยิ้มส่งให้อย่างพึงใจก่อนจะค่อย ๆ เลือนหายไป

   สายลมพัดกรูเกลียว ละอองน้ำเย็นของสายฝนที่กระหน่ำปลิวกระเด็นผ่านเข้ามาทางหน้าต่างห้องนอน
อุณหภูมิที่ลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว จากที่เคยร้อนอ้าวกลับเย็นยะเยือกราวกับอากาศในฤดูหนาว หน่องที่นอนกอดตุ๊กตาหมีโพลาสีขาวเอาไว้แนบอกเสียแน่น เสื้อยืดย้วย ๆ มอซอที่เจ้าตัวสวมใส่ คอกว้างไหลตกจากลาดไหล่ของร่างบางเผยให้เห็นลำคอที่สวมสายสร้อยเอาไว้ แสงสะท้อนแวมวาวของจี้เพชรสีชมพู ท่ามกลางความมืดมิดของค่ำคืนที่แสนเหน็บหนาว หน่องคว้ามือป่ายปะก่อนจะตวัดผ้าห่มนวมที่เจ้าตัวเผลอถีบพ้นออกจากร่างเมื่อหัวค่ำขึ้นมาห่อหัวหูจนมิดโพล่พ้นเพียงแค่ส่วนของวงหน้าขาวแสนหวานราวกับหนอนผีเสื้อตัวน้อยที่กำลังกลายเป็นดักแด้รอตื่นขึ้นมาโบยบินด้วยปีกกว้างใหญ่ที่สวยงามของตน
   
   มือที่ใหญ่กว่ากางสายสร้อยที่ห้อยจี้เพชรสีชมพูเอาไว้ตรงหน้าก่อนจะยกลงแนบลำคอขาวของตนแล้วจึงติดตะขอสวมให้ที่ด้านหลัง ก่อนจะเอามือสองข้างนั้นโอบเอวกอดไว้พร้อมกับเอาคางมาเกยเอาไว้ที่ไหล่ของเขา
   "หน่องชอบไหม หรั่งเลือกเองกับมือเลยนะ" เสียงจากคนที่อยู่ด้านหลังพูดกระซิบลงข้างหูของตน
   "ชอบสิ แต่มันไม่แพงไปเหรอ...หน่องเกรงใจ..." เสียงยินดีที่ตอบกลับพร้อมรอยยิ้มสวยก่อนจะแผ่วลงในตอนท้ายของประโยค
   "ตอนนี้หรั่งมีทุกอย่างที่อยากจะมีแล้ว ทั้งชื่อเสียงเงินทองที่กำลังไหลมาเทมา ไม่มีอะไรแพงเกินไปสำหรับของขวัญที่หรั่งอยากจะให้หน่องหรอก" เสียงนุ่มแผ่วเบาอีกครั้งที่ข้างหูซึ่งกำลังแดงระเรื่อ ก่อนจะจับคนตัวเล็กกว่าหมุนกลับมาสบตาหวานฉ่ำของตน
   "หรั่งก็... ถ้ามีแล้วก็เก็บ ๆ เอาไว้สิจะได้มีเยอะ ๆ ไง" หน่องตอบพลางเหลือบตาลงตำ ไม่กล้าจ้องมองสบตากับคนตรงหน้าเท่าไหร่
   "หรั่งก็เก็บเอาไว้ให้หน่องแหละดีไหม" หรั่งพูดพร้อมยกยิ้มกว้างอย่างพึงใจเมื่อเห็นใบหน้าขาวของคนตรงหน้าขึ้นซับสีระเรื่อ ก่อนจะสวมกอดเอาไว้อีกครั้งในอ้อมอกหนาของตน
   "หรั่งก็มีหน่องคนเดียว หรั่งจะคอยเป็นกำลังใจ และจะคอยดูแลหน่องอยู่ข้าง ๆ ไม่หนีไปไหนดีไหม" เสียงนุ่มดังฟังชัดทุกคำ ทำเอาคนที่ซุกอยู่กับอกแทบจะมุดแทรกหน้าที่แดงกว่าเดิมพร้อมรอยยิ้มจนตามิดมุดเข้าไปซ่อนไว้ภายในอกแกร่งแน่นนั้น วงแขนยกขึ้นไปโอบเอวสวมกอดตอบแทนอ้อมกอดจากไออกอุ่นที่ได้รับ
   "ก็ตามใจสิ ถ้าหรั่งไม่เบื่อไปเสียก่อนนะ.." เสียงกระซิบจากคนในอ้อมอกหนาแผ่วเบาแต่ได้ยินแจ่มชัด
   "ก็หรั่งรักหน่องนี่นา จะให้รีบเบื่อเร็ว ๆ ไปได้ยังไง" หรั่งตอบพร้อมกับเอามือผลักหน่องให้ออกห่างจากอกก่อนจะใช้มือเชยคางของหน่องขึ้นมาพร้อมกับยื่นปลายจมูกโด่งสัมผัสผิวแก้มใสของหน่องแล้วสูดดมความหอมจากแก้มขาวนวล ก่อนจะรวบตัวไปกอดเอาไว้เสียแน่นอีกครั้ง
   "หรั่งสัญญาว่าจะอยู่กับหน่องและจะไม่ทิ้งหน่องไปไหน จนกว่าหน่องจะไม่ต้องการหรั่งอีกแล้ว หรั่งสัญญา" เสียงนุ่มทุ้มที่แฝงความหนักแน่นอยู่ในที กระซิบลงที่ข้างหูของหน่องอีกครั้งพร้อมปลายจมูกที่ยื่นมาสูดดมความหอมจากแก้มนวลอย่างพึงพอใจ
===============================================================

หัวข้อ: The rainbow project เพลิงพลาย อัพใหม่หน้า 57 1/12/54
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 01-12-2011 21:25:59
ตอนที่ 8 "บุญบาป"
   หน่องลุกขึ้นมาแต่เช้าฟ้ายังไม่ทันจะสางดี เรียกได้ว่าตื่นก่อนไก่โห่เสียด้วยซ้ำ หน่องลงไปในครัวทำกับข้าวอย่างง่าย ๆ แต่ด้วยความตั้งใจ หมูทอดกระเทียมพริกไทกับผัดผักรวมใส่กุ้ง ถูกตักใส่ถุงพลาสติกมัดเอาไว้ด้วยหนังยางอย่างเรียบร้อยในถาดอลูมิเนียมใบใหญ่บนโต๊ะกินข้าวกลางครัวเล็ก ๆ กับข้าวถูกจัดเอาไว้อย่างละห้าถุง หน่องหันกลับไปคดข้าวที่ไอน้ำร้อนพลุ่งออกจากหม้อทันทีที่เปิดฝาออก ขาวเมล็ดสวยยาวเรียวส่งกลิ่นของข้าวสุกกระจายไปทั่ว
"หน่องตื่นมาทำกับข้าวแต่เช้าเลยหรือลูก กลิ่นหอมยั่วน้ำลายดีจัง" คุณสุมาลีที่เดินลงมาจากชั้นบนเอ่ยถามก่อนจะกล่าวชม
"หน่องจะใส่บาตรให้หรั่งครับแม่" หน่องตอบพร้อมรอยยิ้มเศร้า ๆ
"ดีแล้วลูก เดี๋ยวแม่ไปใส่บาตรกับหน่องด้วยนะจ๊ะ เอ๊ะยังขาดของหวานนี่หน่อง" คุณสุมาลีบอกก่อนจะทักถามด้วยสังเกตเห็นในสิ่งที่ขาดหายไป
"ไม่เป็นไรมั้งครับแม่แค่นี้ก็คงพอแล้วละครับ" หน่องตอบ
"พอดีเลยป้านีข้างบ้านเอาเค้กกล้วยหอมก้อนใหญ่มาให้เมื่อว่านตอนบ่าย ยังไม่มีใครได้กิน เราเอามาหั่นใส่ถุงเอาก็ได้" คุณสุมาลีบอกพลางหันเดินไปเปิดตู้กับข้าวก่อนจะหยิบขนมออกมาจัดการตามที่ว่า

   โต๊ะพับเล็ก ๆ ที่หน่องยกไปกางปูผ้าลายดอกไม้สีสวยเอาไว้อย่างเรียบร้อยบริเวณหน้ารั้วบ้าน บนโต๊ะมีถาดที่บรรจุถุงอาหารคาวหวานวางเอาไว้เคียงคู่กับขันอลูมิเนียมลายไทยที่บรรจุข้าวสวยพร้อมทัพพีตักข้าวลายเข้าคู่กันอย่างสวยงาม พระภิกษุสามรูปเดินแถวมาช้า ๆ  อย่างเป็นระเบียบและสำรวม ชายจีวรสีเหลืองไหวน้อย ๆ ขณะย่างก้าว มองเห็นได้ชัดมาแต่ไกล ด้วยเป็นเวลาเช้าและถนนในซอยตัดเป็นเส้นตรง บางคราท่านก็แวะรับภัตตาหารคาวหวานที่มีบางบ้านนิมนต์ให้รับบาตรตามรายทางก่อนพระสงฆ์ทั้งสามรูปจะเดินมาจนถึงหน้าบ้านที่หน่องและคุณสุมาลีคอยท่าอยู่
"นิมนต์รับบาตรด้วยเจ้าค่ะหลวงพ่อ" คุณสุมาลีเอ่ยเชื้อเชิญ พร้อมยกมือพนมไหว้ 
พระสงฆ์ทั้งสามรูปเปิดฝาบาตรออกเพื่อรับข้าวที่หน่องตักถวาย ก่อนที่คุณสุมาลีจะหยิบกับข้าวในถุงใส่ลงไปในบาตรแล้วจึงตามด้วยขนมที่จัดไว้เป็นอันดับสุดท้าย  พระสงฆ์ปิดฝาบาตรก่อนจะเอ่ยให้พร แล้วจึงเดินจากไปด้วยกิริยาสำรวม
"แม่ครับ พระมาบิณฑบาตแค่สามรูปเองเหรอครับ" หน่องถามอย่างสงสัย
"ปรกติแม่ใส่บาตรเฉพาะวันพระ แม่ก็เห็นท่านเข้ามาบิณฑบาตในซอยบ้านเราแค่สามรูปนี้เท่านั้นแหละจ้ะ เอ๊ะ!" คุณสุมาลีบอกก่อนสายตาจะสังเกตเห็น จีวรสีกลักที่โผล่พ้นจากหัวมุมของซอยย่อยเบื้องหน้า
"หน่อง พระมาอีกสองรูปแน่ะ" คุณสุมาลีบอกพลางระบายยิ้มบาง หน่องจึงหันกลับไปมองตามสายตาของผู้เป็นแม่
"ครบห้าองค์...ดีจังเลยนะครับ" หน่องบอกอย่างพึงใจ
"นมัสการพระคุณเจ้า นิมนต์รับบาตรด้วยครับท่าน" หน่องเอ่ยอย่างสุภาพ ด้วยสังเกตเห็นภิกษุสูงวัย ที่เดินนำอีกองค์ที่ยังดูหนุ่มกว่าหลายปี ด้วยท่าทางที่น่าเลื่อมใสศรัทธา ผิดแผกแตกต่างไปกว่า พระรูปอื่นที่พานพบมา
ทั้งสองหยุดยืนอยู่เบื้องหน้าหน่องและคุณสุมาลี ก่อนจะเปลื้องฝาบาตรเพื่อรับภัตตาหารที่ค่อย ๆ ลำเลียงใส่ลงไปด้วยมือของหน่องและคุณสุมาลี ทั้งสองรูปปิดฝา กล่าวให้พร ในขณะที่หน่องและคุณสุมาลีย่อตัวลงก้มหน้ายกมือพนมไหว้
"เกิดแก่เจ็บตายไม่มีใครหลีกหนีได้พ้นหรอกนะโยม ใด ๆ ในโลกล้วนอนิจจัง การจากเป็นทุกก็จริง แต่ไม่มีใครหลีกหนีกรรมที่ตัวเองก่อเอาไว้ได้พ้นแม้สักคน บุญกับบาปไม่อาจสามารถหักล้างกันหรือทำแทนกันได้ กรรมย่อมตามทันผู้ประพฤติกรรมเสมอ แม้วันนี้อาจไม่เห็น แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้เห็น สิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วเราไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขได้ แต่คนที่ยังอยู่พึงมีสตินะโยม" เสียงกังวาลฟังชัดแม้นจะแหบพร่าไปบ้างตามวัย เอ่ยบอกพร้อมกับมองตรงมาที่หน่องด้วยความเมตตา
"อะไรที่เป็นห่วงคอยผูกมัดก็ควรปล่อยวาง อย่ายึดมั่นถือมั่นกันอีกเลย" น้ำเสียงรื่นหูจากภิกษุหนุ่มเอ่ยเพียงเบา ๆ
"อาตมาทั้งสองเพียงผ่านทางมา เลยมาขอบิณฑบาต อย่าจองเวรต่อกันไปอีกเลย ในเมื่ออยู่กันคนละภพภูมิเสียแล้ว" ภิกษุชราเอ่ยบอกอย่างเมตตา พลางหันมองผ่านไปยังริมกำแพงรั้วเบื้องหลังของหน่อง
"โชคดีมีสุข บุญรักษานะโยม" ประโยคอวยพรเพียงสั้น ๆ ประโยคเดียวที่หน่องและคุณสุมาลีได้ยินและสัมผัสความเมตตาได้จากน้ำเสียงของภิกษุชรา รอยยิ้มอิ่มเอมอย่างเป็นสุขถูกจุดขึ้นที่มุมปาก ก่อนจะเอ่ยออกมาพร้อมกัน "สาธุ"  เมื่อหน่องและคุณสุมาลีเงยหน้าขึ้นมากลับพบเพียงแค่ความว่างเปล่าภิกษุทั้งสองที่เคยอยู่ตรงหน้ากลับหายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่าเท่านั้น

"หน่องเดี๋ยวอย่าลืมกรวดน้ำด้วยนะลูก" คุณสุมาลีเอ่ยบอกขณะที่ช่วยหน่องถือภาชนะเข้ามาเก็บในบ้าน
"ครับแม่" หน่องตอบรับก่อนจะวางโต๊ะพับแอบไว้ที่มุมหนึ่งในห้องครัว

"หลวงลุงครับ ดูท่าว่าเรื่องคงยังไม่จบลงง่าย ๆ เพียงเท่านี้นะครับ" ฐานวโรเอ่ยกับภิกษุผู้สูงวัยกว่า
"เราทำได้เพียงแค่นี้แหละฐานวโร อันที่จริงมันก็ไม่ใช่กิจของสงฆ์แต่แรกแล้ว กรรมของใคร ไม่มีใครไปตัดกรรมนั้นแทนได้ เราคงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกรรมของแต่ละคนเถิด" ภิกษุชราเอ่ยตอบ

น้ำในแก้วใสไหลรินรดยังโคนต้นไม้ใหญ่ด้วยมือของหน่อง ก่อนจะซึมหายลงไปในดินจนหมด
"หน่องทำบุญใส่บาตรไปให้แล้วนะหรั่ง ขอให้บุญที่หน่องทำไปถึงหรั่งด้วยนะ  หน่องจะหาตัวคนที่ทำกับหรั่งให้ได้ เขาจะต้องชดใช้ความผิดที่ทำกับหรั่ง กฎหมายจะลงโทษพวกมันเอง" หน่องบอกพร้อมกับเอาแก้วน้ำไปเก็บ แล้วจึงรีบออกจากบ้านเพื่อไปทำงานโดยที่หน่องไม่ได้ยินเสียงขอบใจเบา ๆ ของเพื่อนผู้จากไป เสียงแผ่นเบาราวกับเสียงกระซิบฝากผ่านสายลมที่โชยพัดมาเอื่อย ๆ

 
(http://img694.imageshack.us/img694/1599/88605701.jpg)


"เฮ้ย!" พาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์ตัวใหญ่หรา ทำให้ร้อยตำรวจโทพชร เผลอร้องเสียงดังและกระเด้งตัวลุกขึ้นยืนจนสุดความสูง จากที่เขาเพิ่งจะเดินเข้ามาคลี่หนังสือพิมพ์กรอบบ่ายซึ่งเพิ่งจะฝากเด็กร้านข้าวข้างล่างซื้อเข้ามาให้อ่าน  จนเพื่อนตำรวจนายอื่น หันกลับมามองที่เขาเป็นตาเดียวกัน
"ขอโทษครับ ไม่มีอะไรครับ"  ผู้หมวดหนุ่มแก้ตัวพร้อมส่งยิ้มเก้อเขินไปทั่ว ๆ  ก่อนจะลงนั่งที่เก้าอี้ตรงโต๊ะทำงานอีกครัง พลางครุ่นคิด 'ก็บอกให้ช่วยกันปิดข่าวไว้ก่อน ไหงเล่นออกสื่อขนาดนี้... ฝีมือนายตัวเล็กแน่ ๆ เลย เห็นเงียบ ๆ ติ๋ม ๆ ดื้อเอาเรื่องเหมือนกันแฮะ' แล้วอ่านข่าวด้านในโดยละเอียด

"สวัสดีครับ" หน่องยกหูโทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะทำงานของเขาขึ้นรับสาย หลังจากที่ปล่อยให้มันส่งเสียงเรียกอยู่นาน
"สวัสดีครับ ขอสายคุณนิวัฒน์  แก่นกำภูครับ"
"กำลังพูดครับ ไม่ทราบว่าใครกำลังพูดสายอยู่ครับ" หน่องตอบรับเสียงคนปลายสาย ก่อนจะเอ่ยถามอย่างสงสัย
"ผมร้อยตำรวจโท พชร พงษ์ภิญโญครับ จะโทรมาถามเรื่องข่าววันนี้..." ผู้หมวดหนุ่มยังพูดไม่ทันจบ
"อ๋อ ข่าวขอหรั่ง ผมเขียนเองแหละครับหมวด" หน่องพูดสวนกลับไป
"ผมว่าแล้วว่าต้องเป็นฝีมือคุณ ก็ไหนผมบอกว่าให้ช่วยปิดข่าวไว้ก่อน ทำไมคุณถึงทำให้เรื่องมันใหญ่ขึ้นมาขนาดนี้" ผู้หมวดหนุ่มเอ่ยเสียงเข้มกลับมา
"ผมก็ทำตามหน้าที่ของผม เหมือนกับที่หมวดก็ต้องทำตามหน้าที่ของหมวด ประชาชนมีสิทธิ์ที่จะรับรู้ คุณจะมาห้ามไม่ให้ผมนำเสนอข่าวไม่ได้เสียด้วย" หน่องตอบยียวนใส่
"ผมไม่ได้ห้ามคุณเขียนข่าว แต่ผมขอความร่วมมือปิดเรื่องสาเหตุการตายเอาไว้ก่อน แต่คุณเองเขียนข่าวจนคนเค้ารู้ไปทั่วแล้วว่าดาราถูกฆ่าถ่วงน้ำ" หมวดหนุ่มยังคงต่อว่าเสียงแข็ง
"ก็มันจริงนี่ แต่ผมก็ยังไม่ได้เขียนในส่วนที่อยู่ในรายงานของคุณเลยนะหมวด หมวดว่างให้ผมสัมภาษณ์ไหมล่ะ ผมจะได้เขียนข่าวฉบับพรุ่งนี้เสียเลย" หน่องเถียงกลับพร้อมกับยิ้มสะใจที่ได้กวนคนขี้โมโหที่อยู่ปลายสาย
"ผมไม่บอกอะไรกับคุณแล้ว... คุณนี่มัน... ดื้อจริง ๆ ดื้อเสียจน...  ถ้าอยู่ใกล้ ๆ ผมจะเอาไม้เรียวไปฟาดให้ก้นลายเลยเชียว" ผู้หมวดหนุ่มเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันบอกก่อนจะวางสายไป

   เสียงเพลงบรรเลงจากเครื่องสายสี่ชิ้นแว่วกังวานขับกล่อมแขกผู้มีเกียรติที่ได้รับเชิญมาร่วมงานมงคลสมรสสุดหรู บนดาดฟ้าเรือลำใหญ่ที่ตกแต่งด้วยดวงไฟขนาดเล็กกระพริบแข่งกับแสงของดวงดาวบนฟ้ากว้าง
ลิลลี่และกุหลาบสีขาว แซมด้วยริบบิ้นผ้าสีเงินยวง ประดับเอาไว้ทั่วส่งกลิ่นหอมกรุ่น สายลมตามธรรมชาติจากลำน้ำเจ้าพระยาพัดนำความเย็นสบายมาให้โดยไม่ต้องอาศัยเครื่องปรับอากาศ เจ้าบ่าวในทักซิโด้สีขาวและเจ้าสาวยืนคล้องแขนคอยทักทายแขกเหรื่อด้วยรอยยิ้ม  ชุดยาวเกาะอกสีงาช้างช่วยขัดผิวสีน้ำผึ้งของเจ้าสาวให้นวลเนียน แหวนเพชรเจ็ดกะรัตที่นิ้วนางข้างซ้ายส่องประกายพราวล้อแสงไฟ เรือลำหรูแล่นออกจากท่าเมื่อแขกสองร้อยคนที่เชิญไว้ทยอยขึ้นเรือจนครบตามรายชื่อ ขวดแก้วคริสตัลเนื้อดีเจียระไนเหลี่ยมสะท้อนแสงไฟระยิบบรรจุน้ำหอมกลิ่นหวานนุ่มในถุงผ้าไหมสีกลีบบัวซึ่งปักชื่อคู่บ่าวสาวเอาไว้ด้วยไหมสีทองรับกับเกลียวไหมที่ปากถุง คือของชำร่วยที่ผู้มาร่วมงานได้รับหลังจากลงนามอวยพรบ่าวสาวในสมุดประสาทพร

   พิธีกรกล่าวเชิญให้แขกนั่งประจำที่ซึ่งมีป้ายชื่อกำกับเอาไว้เด่นชัด ก่อนจะกล่าวเชิญบ่าวสาวขึ้นไปบนเวที ขั้นตอนของพิธีการดำเนินไปอย่างเรียบร้อยก่อนที่บ่าวสาวจะกล่าวขอบคุณผู้มาร่วมงาน บริกรนำอาหารเข้ามาเสิร์ฟตามลำดับจนจบด้วยเมนคอร์ส บ่าวสาวจึงขึ้นมาทำการตัดเค้กฉลองสมรสเจ็ดชั้นที่ตกแต่งเอาไว้อย่างสวยงาม วงดนตรีเริ่มเล่นเพลงที่เร็วขึ้นจังหวะสนุกสนาน บางคนออกมาเต้นรำบนฟอร์ลด้านหน้า ไวน์แดงชั้นดีราคาแพงถูกบริกรนำเสิร์ฟอยู่ตลอดราวกับว่าเป็นน้ำเปล่าเพื่อตอกย้ำสถาณภาพทางการเงินของบ่าวสาว
"ผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ ดื่มเข้าไปเยอะเกิน" เจ้าบ่าวกระซิบบอกที่ข้างหูของเจ้าสาว
"เดี๋ยวชั้นรออยู่ตรงนี้แล้วกัน ไหวไหมล่ะคะคุณ เมารึเปล่า" สาวเจ้าตอบเพียงให้ได้ยินกันสองคน
"เมา แต่ผมไหวน่า ไม่ต้องห่วง คุณรอตรงนี้เดี๋ยวเดียว เดี๋ยวผมมา" เจ้าบ่าวบอกพร้อมดวงตาหวานเยิ้มก่อนจะเดินหนีไปทำธุระส่วนตัว
   ร่างของเจ้าบ่าวในชุดสูทสากลสีขาวเดินมุ่งไปทางท้ายเรือตามความยาวของลำเรือใหญ่ เสียงรองเท้ากระทบกับพื้นเพียงเบา ก่อนจะดังขึ้นเมื่อเขาก้าวลงไปตามขั้นบันใดที่ทำจากเหล็ก เพื่อเดินไปจักการกับธุระส่วนตัวของเขา ฝ่ามือหนาผลักบานสวิงไม้ของประตูห้องน้ำออกก่อนจะก้าวเข้าไปด้านในที่ตกแต่งเอาไว้อย่างสวยงาม พื้นกระเบื้องดินเผาเคลือบด้านสีน้ำตาลแดง อัจกลับแบบโบราณลวดลายอ่อนช้อยแต่แทนที่จะจุดด้วยเปลวไฟแบบสมัยเก่ากลับใช้หลอดไฟสีส้มนวนใส่เอาไว้แทนที่ แสงสลัวเย็นตา ส่องกระทบกระจกเงาบานใหญ่ในกรอบไม้สลักเสลาลายเคลือวัลย์ปิดทองประดับกระจกสีแวววาม เงาดำพาดผ่านไปทั่วขณะที่เขาเคลื่อไหว ชายหนุ่มเดินตรงไปหยุดอยู่หน้าโถปัสสาวะกระเบื้องเคลือบสีนวนริมในสุดของห้องสุขาแล้วรูดซิบจัดการปลดเปลื้องความอัดแน่นเจ็บหน่วงในกระเพาะปัสสาวะของตน อันเป็นผลมาจากเครื่องดื่มที่กินเข้าไปมาก จนเมื่อรู้สึกโล่งสบาย จึงเก็บเข้าที่แล้วหันกายเดินไปที่อ่างล้างหน้าซึ่งทำจากไม้มะค่าโมงลวดลายสวยงามตามธรรมชาติหน้ากระจกเงาบานใหญ่ เขาเปิดก็อกเอาอุ้งมือรองน้ำไว้แล้วจึงก้มลงไปล้างหน้าเพียงหวังจะใช้น้ำเย็นขับไล่ฤิทธิ์ของแอลกอฮอล์ในร่างให้เบาบางลง เขาเอื้อมมือไปหยิบกระดาษเช็ดหน้าด้านข้างขึ้นมาซับน้ำบนใบหน้า  เหลือบแลไปเห็นสิ่งผิดแปลกออกไปผ่านทางหางตา ด้วยความสงสัยใคร่รู้เขาหมุนตัวหันกลับไปมอง พลันพบกับความว่างเปล่า
   'เมาจนตาลายเลยกู' เขาเดินออกไปอย่างช้า ๆ  มือหนาจับยึดราวบันใดเหล็กเอาไว้มั่นเพื่อช่วยพยุงส่งตัวเองให้เดินขึ้นไปยังดาดฟ้าเรืออีกครั้ง เสียงรองเท้าหนังดังกุกกัก เมื่อกระทบกับขั้นบันใดที่เดินผ่าน ลมเย็นกรรโชกแรงพัดร่างของเขาจนเซนิด ๆ ก่อนที่สายเปลือยสื่อนำไฟฟ้าที่ขาดร่วงหล่นลงมาเฉียดร่างตกไปอยู่บนพื้นตรงที่ร่างของเขาเซออกมาจากจุดเดิม เขาเผลอระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก
   "ปัง... ฟิ้ว... พึบ...พึบ..." เสียงพลุดังขึ้นฟ้าก่อนจะไปแตกกระจายบนม่านดำของรัตติกาล ก่อให้เกิดประกายแสงสว่างไสวไปทั่วดาดฟ้าของเรือสำราญลำใหญ่ที่แล่นเอื่อยไปตามลำน้ำเจ้าพระยา ทุกคนต่างหันไปให้ความสนใจต่อสิ่งสวยงามบนฟากฟ้า จนไม่มีใครพอที่จะให้ความสนใจกับเจ้าบ่าวที่กำลังเดินโซเซ ขึ้นบันใดที่ทางท้ายเรือ ท่ามกลางความมืด ไฟที่ส่องให้แสงสว่างบริเวณท้ายเรือกับดับลง  สายของดวงไฟกระพริบที่ประดับตกแต่งเอาไว้ กลับขาดร่วงลงมาใส่เจ้าบ่าวที่ยืนโงนเงนสั่นไหว เพราะสายเปลือยของสื่อนำไฟฟ้าชั้นดี ตกมาค้างคาอยู่ที่ลำคอก่อนสายเส้นอื่น ๆ ที่เจ้าตัวกระเสือกกระสนหมุนร่างพานม้วนเอาไว้ด้วยลำคอขอตนจนแน่นขึ้นแน่นขึ้น เขากระเสือกกระสนพยายามดิ้นรนให้ร่างหลุดรอดจากพันธนาการ แต่ยิ่งดิ้นกลับยิ่งรัดแน่นขึ้น นัยน์ตาเบิกโพลงลิ้นจุกออกมานอกริมฝีปากที่ค่อย ๆ เขียวคล้ำขึ้น ร่างสั่นเทิ้มเริ่มกระตุกน้อยลงพร้อม ๆ กับลมหายใจ ที่ค่อย ๆ แผ่วลง  ก่อนที่ร่างของเขาจะหมุนเป็นครั้งสุดท้ายปะทะเข้ากับราวกั้นตรงกราบเรือแล้วร่วงหล่นลงจากเรือสำราญหรู สู่ผืนน้ำดำมืด ด้วยแรงดูดมหาศาลจากใต้ท้องเรือที่กำลังแล่นดูดกลืนร่างของเขาลงไป สายน้ำพัดร่างของเขาไปยังส่วนท้ายเรือ ซึ่งมีใบจักรที่กำลังหมุนตัดสายน้ำเต็มกำลัง ใบจักรเหล็กขนาดใหญ่หมุนฟาดเข้าใส่ร่างเจ้าบ่าวหมาด ๆ จนชุดสากลสีขาวที่สวมใส่ถูกย้อมอาบไปด้วยสีแดงฉาน ส่วนของลำคอหลุดออกจากร่างพร้อมกับลมหายใจ ร่างไร้หัวที่ถูกสายไฟพันม้วนลากลอยผลุบโผล่อยู่ในน้ำตามหลังเรือลำหรูไปติด ๆ ทิ้งไว้เพียงใบหน้าสยองขาวซีดที่กำลังแสยะยิ้มน่ากลัวอย่างพึงใจราวกับเด็กที่ได้ของเล่น โดยมีส่วนศีรษะของเจ้าบ่าวหนุ่มรูปหล่อซึ่งอยู่ในอุ้งมือของอมนุษย์ที่ยืนอยู่บนผืนน้ำท่ามกลางความมืดมิดของรัตติกาล
หัวข้อ: The rainbow project เพลิงพลาย อัพใหม่หน้า 57 1/12/54
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 01-12-2011 21:28:55
ตอนที่ 9  "อ้อมกอด"
"หมวดมาพอดีเลย มีคนมานั่งรอพบหมวดอยู่ที่โต๊ะนะครับ" จ่ามืดบอกเมื่อสวนกับหมดพชรที่บันใดทางขึ้นชั้นสองของสถานีตำรวจ
""ขอบคุณนะครับจ่ามืด" 'ใคร!' ร้อยตำรวจโทพชร กล่าวขอบคุณ ก่อนจะสงสัยว่าใครมานั่งรอเขาอยู่
"ไอ้ตัวแสบ มาทำไมว่ะเนี่ย" เสียงบ่นอุบอิบออกมาแทบจะทันที่ที่เห็นว่าร่างเล็กนั่งรอเขาอยู่ที่เก้าอี้หน้าโต๊ะทำงาน เมื่อเดินผ่านเข้าไปพ้นปาติชั่น ซึ่งกั้นโต๊ะทำงานแต่ละโต๊ะออกเป็นสัดส่วนของตำรวจแต่ละคน
"ตำรวจที่นี่เค้าทักทายประชาชนที่มาพบกันแบบนี้เหรอครับหมวด" หน่องสวนกลับทันทีที่ร่างสูงผ่านเข้ามาและได้ยินเสียงบ่นแผ่ว ๆ นั้นอย่างชัดเจน
"เอ่อ... สวัสดียามเช้าคุณนักข่าว" หมวดพชร กัดฟันทักทายคนตรงหน้า พร้อมกับทำหน้าบึ้ง ๆ ส่งไปให้ 'กวนใช้ได้เลยคนเรา...'
"สวัสดีครับหมวด ดูท่าทางหมวดไม่ค่อยจะยินดีให้ผมมาหาสักเท่าไหร่นะครับ" หน่องตอบพลางหันมายิ้มยั่วใส่
"จริง ๆ ผมไม่ค่อยอยากจะเจอคุณสักเท่าไหร่หรอกคุณนักข่าว" หมวดหนุ่มบอกตามตรงด้วยน้ำเสียงเรียบ ใบหน้านิ่งเกือบจะบึ้งตึง พลางแอบคิดอยู่ในใจ 'จริง ๆ เวลายิ้มก็ดูน่ารักดีนี่'
"แต่ผมอยากเจอหมวดนี่ มีเรื่องอยากจะถามหมวดสักหน่อย" หน่องบอกพร้อมส่งรอยยิ้มประจบชัดเจน ก่อนจะกลบมานั่งลงที่เก้าอี้หน้าโต๊ะอีกครั้ง เมื่อเจ้าของโต๊ะเดินเข้าไปนั่งประจำที่ของตน
"จะมาหาข่าวอีกหรือคุณ ผมไม่มีข่าวให้คุณแล้วล่ะ" ผู้หมวดหนุ่มหันมาแยกเขี้ยวเข้าใส่อย่างไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่นัก
"ไม่ใช่ ผมแค่จะมาถามเรื่องเพื่อนของผมเท่านั้นครับหมวด" หน่องตอบก่อนจะพ่นลมหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเอนหลังพิงพนักเก้าอี้
"อยากจะรู้อะไรอีกละคุณ ผมก็บอกเท่าที่จะบอกได้ไปหมดแล้วนี่" ร้อยตำรวจโทพชร ถามพร้อมกับชะโงกหน้าเข้าใส่หน่องที่นั่งตรงข้าม
"ผมอยากรู้ว่าเพื่อผมตายได้ยังไง กับใครเป็นคนฆ่าเพื่อนผม" หน่องสบตานิ่งก่อนจะเอ่ยบอกคนตรงหน้า
"ผมเองก็อยากรู้เหมือนกันกับคุณนั่นแหละ ผมกำลังสืบอยู่ ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวก่อนแล้วกัน" ผู้หมวดหนุ่มบอกก่อนจะขยับกายลุกขึ้นจากที่นั่ง
"เดี๋ยวหมวด ถ้าผมจะบอกว่าผมจะช่วยหมวดสืบเรื่องนี้ล่ะ" หน่องบอกระล่ำระลักพลางคว้าจับเข้าที่ข้อมือหนาของคนตรงหน้าเพื่อรั้งเอาไว้
"อะไรนะ! คุณจะช่วยผมให้ยุ่งนะสิ อย่าเลยผมยังไม่อยากหัวหงอกก่อนวัย" หมวดพชรบอกก่อนจะเหลืบสายตาขุ่นขวางไปที่มือของหน่องซึ่งกำลังจับข้อมือของเขาอยู่ก่อนจะใช่มือของเขาจับออก แล้วผละเดินหนีจากไปช้า ๆ
"น่านะหมวด ให้ผมช่วยเถอะ ผมอยากช่วยจริง ๆ นะ โธ่โว้ย!" หน่องตะโกนไล่หลังไปอย่างหัวเสีย ก่อนจะออกวิ่งตามหลังหมวดพชรไป
"อยู่เฉย ๆ น่ะดีแล้ว มีอะไรผมจะบอกคุณเองดีไหม" ร้อยตำรวจโทพชร พูดเสียงดังเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้ากระชั้นตามมาข้างหลังขณะที่ตัวเองกำลังก้าวเดินลงบันใดต่อไปอย่างช้า ๆ
"เดี๋ยวหมวด หยุดคุยกันก่อนสิ" หน่องหยุดยืนพูดอยู่ตรงขั้นบนสุด ก่อนจะซอยเท้าตามลงไปอีกครั้ง
"อุ๊บ... โอ๊ย!" ร่างของหน่องปะทะเข้ากับอกของหมวดเพชรที่หยุดหันหลังกลับมาอย่างกะทันหัน ผู้หมวดหนุ่มคว้าเอาหน่องเข้ามากอดไว้แนบกับอกของตนก่อนที่ทั้งสองจะกลิ้งหลุน ๆ จากชานพักบันใดลงมานอนกอดเกยกันอยู่บนเชิงบันใดขั้นสุดท้ายโดยมีหน่องขึ้นไปนอนคว่ำหลับตาปี๊ซุกแนบอกของหมวดเพชรพร้อมกอดเอาไว้เสียแน่น
เสียงหัวใจเต้นราวกับตีกลองประชันดังก้องและได้ยินชัดเจนกันทั้งสองคน หน่องคลายวงแขนที่โอบรอบคอของหมวดพชรออกแล้วมาจับเข้าที่แผ่นอกหนาแทนเพื่อหวังจะพยุงตัวลุกขึ้น ก่อนจะหลุบตามองไปที่อกของนายตำรวจพร้อมกับใบหน้าที่แดงเรื่อลามไปถึงใบหูด้วยความอาย แต่ก็ต้องฟุบกลับลงไปซุกที่อกอีกครั้งเมื่อคนข้างล่างออกแรงรัดรั้งกลับไปอีกครั้ง
"เป็นอะไรมากหรือเปล่า" ร้อยตำรวจโทพชร ถามเสียงอ่อนโยนด้วยเป็นห่วงคนในอ้อมอก ก่อนจะแอบสูดหายใจเอาจากเรือนผมของหน่อง  'ผมนิ่ม หอมจัง'
"ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณหมวดมาก" หน่องตอบอุบอิบสะเทิ้นอาย 'จะกอดไว้ทำไมเล่า ปล่อยได้แล้วมั้ง แค่นี้ก็อายจะแย่อยู่แล้ว'
"เป็นอะไรกันมากไหมครับหมวด ผมเห็นตอนกำลังกลิ้งลงมาพอดี" จ่ามืดที่เดินกลับมาจะขึ้นไปชั้นบนเอ่ยทักถาม
"ไม่เป็นไรครับ ไม่ได้บาดเจ็บตรงไหน" เสียงตอบพร้อมเพรียง ก่อนที่หน่องจะรีบผละออกจากอกอุ่นและรีบลุกขึ้นมายืนพร้อมอีกคนก่อนจะต่างคนต่างปัดเศษฝุ่นเศษดินออกจากเสื้อผ้าของตัวเองอย่างเร็วรี่แก้เก้อเขิน
"แต่ผมว่าหมวดกลับไปเปลี่ยนกางเกงก่อนดีกว่า เป้ากางเกงแตกครับหมวด" จ่ามืดกระซิบบอกเบา ๆ กะจะให้รู้แค่สองคน แต่ก็ดังพอที่จะทำให้คนข้าง ๆ ได้ยินไปด้วย ผู้หมวดหนุ่มหันหลังกะจะชะโงกดูให้ชัด ๆ แต่กลับเป็นการหันส่วนที่ขาดเข้าหาอีกคนแทน ซึ่งอีกคนก็ได้แต่รีบก้มหน้ามองส่วนเท้าของตัวเองด้วยความเขิน อายแทนคนตัวใหญ่ข้าง ๆ ที่ไม่รู้สึกรู้สมกับเรื่องน่าอายเช่นนี้สักเท่าไหร่
"ขอบคุณครับจ่า เดี๋ยวผมไปเปลี่ยนกางเกงที่บ้านพักก่อนนะครับ" ร้อยตำรวจโทพชร บอกก่อนจะคว้าข้อมือของหน่องให้เดินตามไปขึ้นรถด้วยกัน
"คุณก็ต้องไปด้วยกันกับผม ดูสิเลือดไหลออกขนาดนี้ ไปทำแผลที่บ้านพักผมก่อนก็แล้วกัน" ผู้หมวดหนุ่มบอกพลางหมุนแขนให้หน่องดูแผลที่ข้อศอกก่อนจะเปิดประตูยัดร่างของหน่องเข้าไปไว้ในรถแล้วตัวเองก็วิ่งกลับไปขึ้นด้านฝั่งคนขับ ก่อนพารถกระบะตราโล่เคลื่อนออกไป

   แสงไฟกระพริบไหววูบวาบสอดคล้องตามกับจังหวะท่วงทำนองกระชั้นถี่ เสียงเบสหนัก ๆ จากเครื่องขยายเสียงกำลังขับสูง ร่างแน่นของหนุ่มหล่อหน้าคมยักย้ายอยู่บนฟลอร์ท่ามกลางเพศเดียวกันที่เต้นสีเบียดเสียดร่างกายเข้าใกล้เพื่อพยายามแนบชิด เรือนร่างในเสื้อเชิร์ตสีม่วงอ่อนผ้ามันเงาที่ปลดกระดุมโชว์กล้ามอกแน่นน่ากัดเอาไว้เสียสามเม็ด และกางเกงเดฟสีดำรัด ๆ อวดเรือนร่างล่อตาล่อใจ เม็ดเหงื่อผุดพรายบนผิวหน้าและผิวเนื้อที่หน้าอกขาว ๆ ยั่วตะเข้ตะโขงอย่างจงใจ สักครู่เสียงดนตรีเปลี่ยนจังหวะกลับมาเนินช้า คนที่เต้นอยู่รอบ ๆ บางตาลงไปกว่าเดิม แต่เขาก็ยังคงเต้นอยู่ต่อไปราวกับไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และดูโดเด่นท่ามกลางแสงสลัวรอบกาย
   ชายวัยกลางคนบนโซฟาหนานุ่ม ที่นั่งหลบมุมแอบมองดูอยู่นาน หันไปพยักพเยิดให้กับลูกน้องในชุดสากลสีดำที่ยืนอยู่ข้างกาย พลางชี้นิ้วไปทางชายหนุ่มหน้าคมตรงหน้า ก่อนที่ลูกน้องจะค้อมกายจากไป
   แก้วไวน์ทรงสูงถูกวางลงบนโต๊ะตรงหน้าชายหนุ่มหน้าคม ซึ่งเจ้าตัวถึงกับขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ก่อนจะเหลือบตามตามแขนขึ้นไปมองคนตรงหน้าตรง ๆ
"เจ้านายพี่สนใจน้อง ไปดื่มกับท่านที่โต๊ะหน่อยสิ" ชายในชุดดำเอ่ยดัง ๆ ที่ข้างหูของเขาเพื่อแข่งกับเสียงเพลง
"แล้วเจ้านายพี่อยู่ไหนล่ะ" เขาถามกลับที่ข้างหู เขาหันไปมองตามมือที่ชายชุดดำชี้บอก พร้อมกับยกแก้วไวน์ส่งไปข้างหน้า แล้วยกขึ้นดื่มจนหมดในคราวเดียว ก่อนจะออกเดินตามหลังชายชุดดำไป

   เสียงหัวร่อต่อกระซิก ดังแว่วออกมาจากหลังประตูไม้หนา ที่มีชายในชุดดำยืนเฝ้าอยู่ด้านหน้าถึงสองคน
อากาศภายในห้องเย็นเยียบจนหนาว แต่สองร่างที่กำลังโรมรันกลับชุ่มโชกไปด้วยหยดเหงื่อ แรงพิศวาสกลับทำให้ทั้งสองร้อนระอุ  กล้ามเนื้อบนร่างหดเกร็งเขม็งเมื่อไปถึงขีดสุดตามครรลองแห่งอารมปรารถนา หยาดหยดร้อนวาบฉีดพ่นเข้าไปภายในพร้อมกับเสียงครางประหนึ่งใจจะขาดของชายที่สูงวัยกว่า  ก่อนเจ้าตัวจะหยุดหอบหายใจแล้วฟุบลงไปบนแผ่นหลังเปลือยเปล่าที่มีรอยขบกัดฟอนเฟ้นแดงเป็นจ้ำ ๆ กระจายไปทั่ว เขานอนพักเพียงครู่ก่อนจะโดนจับผลิกกลับคล่อมทับด้วยเด็กหนุ่มหน้าคม เด็กหนุ่มตามลงไปประกบปากด้วยปาก แล้วจึงใช้ลิ้นชื้น ๆ ตวัดเลื่อนไปซอกไซ้บนร่างของชายสูงวัยกว่า จูบกัดขบเม้มบนร่างอวบหนาอุดมไปด้วยไขมัน ก่อนจะพูดว่า
"ทีนี้ตาผมบ้างนะป๋า เดี๋ยวผมขอทำอะไรที่มันกว่านี้อีกนิดนึงนะครับ" เขาบอกพร้อมกับควานมือไปหยิบผ้าแพรยาวโปร่งเบาจากใต้หมอนออกมามัดมือของร่างเจ้าเนื้อทั้งสองข้างเอาไว้กับหัวเตียง ก่อนจะเอาชายผ้าที่เหลือพันรอบลำคอหนาแล้วรั้งให้หงายปล่อยชายยาวรั้งโยงเอาไว้กับหัวเตียงอีกครั้ง คนที่โดนพันธนาการเบิ่งตากว้างก่อนจะส่งยิ้มกลับมาให้อย่างพึงใจ พร้อมกับส่วนกลางลำตัวที่กลับมาตื่นตัวชูชันขึ้นมาอีกครั้งในทันที
ชายหนุ่มหน้าคมยกขาของคนข้างล่างข้างหนึ่งขึ้นมาพาดบนบ่าปล่อยอีกข้างให้เหยียดยาว เขาค่อย ๆ ชำแรกเบิกช่องทางด้วยปลายนิ้วก่อนขยับหมุมวนคว้านไปรอบ ๆ ร่างหนาได้แต่ส่งเสียงครางอย่างพึงใจพร้อมกับบิดกายอย่างสุขสม ส่วนที่ใหญ่กว่านิ้วถูกส่งเข้าไปแทนที่ในทันทีเติมเต็มคับแน่นร่องหลืบจนปริแยกโลหิตสีเข้มไหลซึม ด้วยขนาดที่เกินพอดีไปมาก  แต่คนที่รองรับอยู่กลับยกยิ้มด้วยถูกใจ และเผลอร้องคราง
"แรง ๆ เลย ป๋าชอบ"
"ป๋าโด๊ปหน่อยไหมจะได้นาน ๆ ทน ๆ" เด็กหนุ่มควานไปใต้หมอนอีกครั้งก่อนจะหยิบซองซิปพลาสติกสีขุ่น มาเปิดออกแล้วหยิบยาออกมาใส่ปากตัวเองก่อนจะบีบปากคนข้างใต้ร่างให้อ้าออกแล้วเทกรอกยาลงไปเสียหลายเม็ด
"โอ๊ย ๆ ๆ เอาอีก ป๋าใกล้แล้ว" เสียงกระเส่าแหบพร่าสั่งการ ก่อนจะเกรงขาจิกทั้งผ้าปูที่นอนแล้วปลดปล่อยไอรักของตัวเองพวยพุ่งออกมามากมายเนืองนองบนหน้าท้องโดยไม่ถูกสัมผัสหรือแตะต้องแต่อย่างใด อาการหอบหายใจ เหน็ดเหนื่อย พยายามสูดโกยอากาศเข้าปอดเพื่อบรรเทา แต่ก็ติดขัดด้วยแพรบางที่พันเอาไว้รอบ ๆ ลำคอ  เด็กหนุมกลับตะโบมฟอนเฟ้นกระแทกกระทั้นสุดตัวด้วยความแรงที่เพิ่ม มากขึ้น มากขึ้น เขม็งเกร็งร่างกระตุกฝังกายแนบแน่นและปลดปล่อยของเหลวอุ่นร้อนเอาไว้ภายในของร่างเจ้าเนื้อ ที่ยังคงนอนหลับตาหอบหายใจรวยริน ก่อนที่เขาจะลืมตาขึ้นมาพบกับความน่าสะพรึงตรงหน้า จากเด็กหนุ่มหน้าคมที่เพิ่งจะนำพาความกระสันอิ่มเอมมาให้ กลับแปรเปลี่ยนไปจกที่เห็นแต่เดิม ท่ามกลางความสลัวเลือนรางของแสงไฟสีส้มที่ข้างหัวเตียง ใบหน้าสยองขาวซีดจนเห็นเส้นเลือดสีดำยุบยับ ดวงตาขุ่นขาวมัวเบิกโพลงถลน ริมฝีปากดำคล้ำเผยอยกยิ้มแสยะแยกเขี้ยวขาว มือขาวเย็นยะเยือกคว้ากุมเข้าที่รอบลำคอก่อนจะผละออกบีบกรามให้อ้าปากออก แล้วเทยาเม็ดในซองพลาสติกใส่ลงไปเสียทั้งหมด แล้วใช้มือปิดปากของเหยื่อเอาไว้จนแน่น ร่างเปลือยเปล่าเจ้าเนื้อพยายามบิดกายขืนสู้ แต่ติดที่ถูกพันธนาการเอาไว้ แพรแดงไหลรูดบีบรัดลำคอหนาแน่นเข้าไปอีก
ใบหน้ากลมใหญ่แดงก่ำ พยายามหอบหายใจเอาอากาศเข้าปอด ดวงตาเบิกโพลงหวาดกลัวต่อสิ่งที่ปรากฏ
อมนุษย์ตรงหน้าในอาภรณ์สีดำยาวรุ่ยร่ายเปียกชื้นเคลื่อนกายคร่อมทับ ใบหน้าสยองผมสีซีดแนบลู่ติดกับหนังหัวห่างจากหน้าแดง ๆ ของเหยื่อเพียงแค่นิ้วมือกั้น หยดน้ำเย็นจัดหล่นกระทบใส่ร่างอวบอ้วนข้างใต้จนเปียกปอน ความหนาวเย็นแล่นลู่ เส้นผมบริเวณท้ายทอยลุกชัน ร่างอวบหนาวสะท้านสุดขั้วหัวใจ แรงพยายามดิ้นหนีเฮือกสุดท้าย ทำได้เพียงสะบัดหน้าหนี ก่อนที่ผ้าแพรจะรัดแน่นจนสุดแรงลิ้นปลิ้นจุกปากหนาอูมดวงตาเบิกกว้างและลมหายใจที่ขาดหายไป ทิ้งไว้เพียงร่างอวบหนาเปล่าเปลือยซึ่งถูกพันธนาการมัดโยงด้วยแถบแพรสีแดงสดเอาไว้ รอยยิ้มสยองจากริมฝีปากดำคล้าที่ประดับบนใบหน้าขาวซีดของอมนุษย์ที่คร่อมทับร่างก่อนจะเงยหน้าหัวเราะเปล่งเสียงสั่นประสาทดังก้อง ก่อนจะค่อย ๆ จางเลือนหายไปพร้อมกับหลอดไฟฟ้าที่แตกกระจายทีละหลอด จนห้องชุดทั้งห้องมืดมิด และร่างของการ์ดหน้าประตูที่วูบหมดสติล้มคว่ำลงกับพื้นพรมหนา
หัวข้อ: The rainbow project เพลิงพลาย อัพใหม่หน้า 57 1/12/54
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 01-12-2011 21:33:14
ตอนที่ 10  บ่วงกรรม
   ภายในห้องนอนขนาดใหญ่บนชั้นสองของคฤหาสน์ลังงามท่ามกลางความมืดมิด อากาศเย็นเยือกจากการทำงานของเครื่องปรับอากาศประสิทธิภาพสูง ร่างของชายสูงวัยที่ใคร ๆ ต่างเรียกขานแทนชื่อว่าท่าน กำลังนอนหลับข้างกายมีชายหนุ่มดาราวัยรุ่นชื่อดังที่กำลังมีผลงานเผยแพร่ ร่วมเรียงเคียงหมอนบนที่นอนขนาดใหญ่ เรือนร่างของทั้งสองคนเปลือยเปล่าแนบชิดภายใต้ผ้าห่มนวมหนานุ่ม ไออุ่นของร่างกายช่วยคลายความหนาวเย็นจากเครื่องปรับอากาศได้เป็นอย่างดี ตัวเลขเรืองแสงสีแดงจากนาฬิกาดิจิตอลที่โต๊ะข้างเตียงบ่งบอกว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะรุ่งเช้าแล้ว ร่างหนานอนกระสับกระส่ายพลิกกายไปมาเหงื่อเม็ดเป้งผุดพรายขึ้นเต็มหน้า ไหลย้อยไปตามลำคอ เสียงหายใจดังฟืดฟาด
   ท่ามกลางความมืดที่มองไม่เห็นรอบกาย เขาเดินโดดเดี่ยวเพียงลำพัง เสียงหัวเราะของใครสักคนที่เขาเองก็ไม่รู้คอยตามหลอกหลอนเป็นระยะ ๆ เขาเดินต่อไปเรื่อย ๆ พยายามหันเดินไปตามที่มาของเสียงหัวเราะเยียบเย็นนั้น แต่ดูเหมือนว่าเสียงนั้น ผลันหายไปทันทีที่เขาเดินเข้าไปจนใกล้ แล้วกลับไปโผล่อีกที่หนึ่ง ถึงแม้ใครคนนั้นจะไม่เข้ามาลงมือทำร้ายแก่ตัวเขา แต่เสียงหัวเราะสั่นประสาทก็ยังคงดำเนินอยู่แบบเดิมเรื่อย ๆ ท่ามกลางความมืดที่เพียงแค่ยกฝ่ามือของตนเองขึ้นมามองดู ก็ไม่สามารถจะมองเห็นได้ ไม่เห็นแม้เพียงเงาสลัวเลือนราง แต่เสียงนั้นก็คอยตามติดชวนให้ขวัญผวาดังชัดเจนอยู่ร่ำไป เขาหยุดยืนและพยายามกวาดสายตาฝ่าความมืดไปรอบ ๆ แล้วตะโกนถามกลับไป
   "นั่นใคร?"  แต่เสียงที่ได้ยินตอบกลับมายังคงเป็นเพียงเสียงหัวเราะซึ่งเจาะจงยั่วประสาทดังขึ้นมาจากทางด้านหลังใกล้ ๆ จนเขาต้องหันตัวกลับไปทางที่ได้ยินและพยายามไขว่คว้าแต่ก็สัมผัสได้เพียงอากาศรอบ ๆ ตัวเท่านั้น
   "ใคร?" เขาเปล่งเสียงถามออกไปอย่างแผ่วเบา ความกลัวเขาเกาะกินหัวใจของเขาเสียแล้ว เขาหวาดผวากับสิ่งที่มองไม่เห็น ก่อนจะหันไปทางด้านซ้ายมือ ตามความรู้สึกว่ามีบางอย่างกำลังใกล้เขามาหาเขาอย่างช้า ๆ เขารับรู้ได้จากการเคลื่อนที่ของอากาศวูบวาบผ่านตัวของเขาไป แต่ก็ไม่สามารถมองเห็นหรือจับต้องได้ด้วยการสัมผัส เขาหมุนตัวกลับไปทางด้านหลังอีกครั้ง เมื่อเสียงหัวเราะแหลมเล็กที่ได้ยินดังขึ้น พร้อมกับลมที่พัดผ่านต้นคอของเขาแผ่ว ๆ ราวกับว่ามีใครกำลังหายใจรดใส่ต้นคอด้านหลังอยู่ สองมือที่เพียรพยายามคว้าจับ สัมผัสได้เพียงความว่างเปล่า และเสียงหัวเราที่ดังก้องขึ้นมาอีกครั้งจากที่ไกลออกไป
   "มึงเป็นใคร? มึงต้องการอะไร? บอกมาสิ มึงจะเอาอะไรจากกูวะ" เขาตะโกนกลับไปอีกครั้ง แต่คำตอบที่ได้ก็ยังเป็นเพียงเสียงหัวเราะอยู่เช่นเดิม
   "เฮ้ย!" เขาตะโกนเสียงดังก้อง พร้อมกับผุดลุกขึ้นนั่งหายใจเหนื่อยหอบ เหงื่อไหลโซมร่างเปลือยเปล่าจนชุ่ม
   "ท่าน เป็นอะไร ฝันร้ายเหรอ" เด็กหนุ่มคราวลูกที่นอนอยู่ข้าง ๆ ผุดลุกขึ้นมานั่งพลางเขย่าตัวเพื่อปลุกให้ตื่นก่อนถามไถ่
   "ไม่มีอะไรหรอก นอนต่อเถอะ" เขาบอกก่อนจะลุกเดินหายลับเข้าประตูห้องน้ำไป

   "หวัดดีครับหมวด ผัดกะเพรารวมมิตรน่ากินจัง" หน่องที่เดินไปหยุดยืนตรงหน้าเอ่ยทักทายพร้อมยิ้มทะเล้นใส่ ทำเอาอีกคนที่นั่งอยู่และกำลังยกช้อนตักข้าวจะส่งเข้าปากต้องอ้าปากค้างเมื่อมองขึ้นไปเห็นหน้าคนตัวเล็กก่อนจะลดมือลงวางช้อนไว้ในจานข้าวของตัวเอง
   "นี่คุณจะมาป่วนอะไรแต่เช้าอีกล่ะนี่วันนี้ ไม่มีการมีงานทำเหรอ" ผู้หมวดหนุ่มบ่นกลับพร้อมกับหัวคิ้วที่ขมวดแทบจะชนกัน
   "ก็มาทำงานไงครับหมวด" หน่องบอกก่อนจะลงนั่งที่เก้าอี้ว่างฝั่งตรงข้าม
   "แล้วหมวดไม่คิดจะชวนผมกินด้วยเหรอครับ" หน่องถามพร้อมยักคิ้วข้างเดียวส่งไปให้
   "งั้นกินก่อนเรื่องงานเอาไว้ทีหลัง ผมกลัวอาหารจะหมดอร่อยและพาลจะไม่ย่อยเอา" หมวดพชรบอกพลางหันไปกวักมือเรียกจ้อยลูกแม่ค้าอาหารตามสั่งที่กำลังปรุงอาหารอยู่หน้าเตาให้เดิมมาหา
   "คุณนักข่าวจะกินอะไรก็สั่งเอาเลยนะ เจ้จงเค้าทำกับข้าวอร่อยทุกอย่าง ผมเอาหัวเป็นประกันเลย" ร้อยตำรวจโทพชรบอกก่อนจะก้มลงตักอาหารของตนเองใส่ปากเคี้ยวตุ้ยๆ
   "พี่เอาเหมือนของหมวดจานนึงนะน้อง แต่ขอมะนาวสักซีกด้วยนะ แล้วก็...โอเลี้ยงแก้วนึง" หน่องสั่งอาหารแบบเดียวกับคนตรงหน้าพร้อมเครื่องดื่ม
   "มะนาวเอามาทำไม" หมวดหนุ่มนึกแปลกใจกับของที่หน่องสั่งมาจนอดถามขึ้นมาตรง ๆ ไม่ได้
   "เดี๋ยวหมวดก็รู้ รอไม่นานหรอก" หน่องบอกด้วยท่าทียียวน รอเพียงไม่นานนักอาหารและเครื่องดื่มที่สั่งก็มาส่งถึงโต๊ะ
   "ทำแบบนี้ไงหมวด อร่อยขึ้นอีกนะ ลองชิมดูสิ" หน่องบอกพร้อมกับบีบมะนาวซีกเล็ก ๆ โรยน้ำมะนาวเล็กน้อยลงไปบนผัดกระเพราที่ราดหน้าข้าวบนจาน ก่อนจะตักเข้าปากแล้วยิ้มพร้อมกับเคี้ยวจนแก้มตุ่ย
   "อร่อยจริงเหรอ" หมวดพชร ถามแบบสงสัยขึ้นมาอีกครั้ง จนหน่องเองต้องตักข้าวในจานของตนไปวางไว้ในจานที่เกือบจะว่างเปล่าของคนตรงหน้า พลางพยักพเยิดให้ลองกินดู
   "ก็อร่อย แปลกดีนี่" หมวดหนุ่มบอกหลังจากตักเข้าปากชิมตามคำเชิญชวน
   "ก็มันหอมกลิ่นมะนาวดีออกใช่ไหมล่ะ" หน่องบอกพร้อมส่งยิ้มหวานไปให้
   "อืม..." หมวดหนุ่มขานรับพลางส่งยิ้มกลับและมองสบตาคนตรงหน้านิ่ง ๆ
   
   "หมวด! หมวด! หมวด! นี่หมวดไม่ได้ฟังที่ผมพูดเลยเหรอ" หน่องบอกด้วยสีหน้าที่แปรเปลี่ยนจากยิ้มแย้มเป็นแก้มพอง ๆ ด้วยลมในปาก ก่อนจะเอาสันมือเคาะโต๊ะเบา ๆ เพื่อเรียกร้องความสนใจจากคนตรงหน้า
   "ฮา ๆ ๆ " หมวดหนุ่มเผลอหลุดเสียงหัวเราะ เมื่อได้เห็นหน้าของคนตรงข้าม
   "แล้วคุณว่าอะไรละครับ ผมไม่ทันได้ฟังจริง ๆ"
   "หมวดนี่นะ ชอบกวนให้อารมณ์เสียเรื่อยเลย" หน่องบ่นออกมาเบา ๆ อีกครั้งก่อนจะบอกอีกครั้ง
   "ผมจะชวนหมวดให้ไปกับผมหน่อยเย็นนี้ ผมไม่กล้าไปคนเดียวเสียด้วยสิ" หน่องบอกชวนเชิญ
   "ไปไหนเหรอคุณ ถึงไม่กล้าไปคนเดียว" หมวดพชรเอ่ยถาม
   "บาร์เดอะบัตเตอร์ฟลายบอยนะสิหมวด" หน่องบอกพลางระบายลมหายใจออกมาเสียยาวเหยียด
   "เดอะบัตเตอร์ฟลายบอย" ร้อยตำรวจโทพชรเอ่ยทวนชื่อนั้นซ้ำอีกครั้ง

   หนุ่มใหญ่หน้าตาดีในชุดสูทสีเทาตัดเย็บประณีตเดิมนำแขกต่างชาติชมผลิตภัณฑ์ในโชว์รูมกระจกใสติดเครื่องปรับอากาศ เขาหยิบม้วนแผ่นหนังขนาดใหญ่ที่มีลายสวยงามตามธรรมชาติของสัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่ออกมาสะบัดคลี่ให้กางออก หนังของมันผ่านการฟอกย้อมจนนุ่มน่าสัมผัส ปราศจากเกล็ดแข็งปราการกั้นภัยตามธรรมชาติของมัน คุณภาพของแผ่นหนังชั้นเลิศที่หลายคนอยากจับจองเป็นเจ้าของสำหรับผู้นิยม
   "หนังจระเข้จากฟาร์มของผม พวกคุณลองสัมผัสดูสิ" เขาเอ่ยบอกเป็นภาษาอังกฤษภาษาสื่อกลางในการเจรจาครั้งนี้ก่อนจะส่งชิ้นส่วนแผ่นหนังในมือไปให้
   "สวยมาก แล้วทางคุณสามารถฟอกย้อมให้เป็นสีที่เราต้องการได้รึเปล่า" หนึ่งเสียงของชายหนุ่มคู่เจรจาทางการค้าเอ่ยถาม
   "เรามีโรงฟอกย้อมของเราเอง เราย้อมได้ทุกสีตามที่คุณออเดอร์มาแน่นอน" เขาตอบพลางส่งยิ้มการค้าไปให้
   "แล้วคุณรับประกันว่าจะส่งของให้เราได้ทันตามกำหนด" สาวผมทองสวมแว่นเอ่ยถามพลางขยับแว่นสายตาออกจ้องมองแผ่นหนังจระเข้ในมือพร้อมลูบคลำ
   "ไม่มีปัญหาครับ หนังจระเข้สีชมพูอมม่วงขนาดใหญ่พิเศษ ล็อตแรกวันที่ 15 ในอีกสองเดือนข้างหน้าจำนวนสามร้อยชิ้น และอีกสี่ร้อยชิ้น วันที่ 15 ในเดือนถัดไปไม่พลาดครับ แล้วนี่คือตัวอย่างที่ทางคุณขอมาเมื่ออาทิตย์ก่อน"  เขาบอกก่อนจะหันไปรับม้วนหนังสีม่วงอมชมพู จากมือของพนักงานด้านหลัง ออกมากางแผ่ออก
มันเป็นรูปทรงที่ได้จากการชำแหละออกจากสัตว์เลื้อยคลานทั้งตัวฟอกย้อมเป็นสีชมพูอมม่วงสวยงามมันเงา แต่สัมผัสได้ถึงความนุ่นลื่นในชิ้นหนังได้เป็นอย่างดี ถึงแม้มูลค่าราคาของมันจะสูงมากแล้วก็ตามที แต่หากถูกนำไปแปรรูปเป็นกระเป๋าใบสวยติดโลโก้ยี่ห้อหรู ๆ ราคาของมันจะถีบตัวสูงขึ้นอีกตามแบรนด์นั้น
   "ไม่ทราบว่าสีนี้เป็นที่ถูกใจของพวกคุณไหม" เขาถามความคิดเห็นจากลูกค้าต่างชาติอีกครั้ง
   "มันสวยมาก สีชมพูตรงตามที่ทางเราต้องการเลย" แหม่มผมทองใส่แว่นบอกแก่เขา
   "ขอบคุณที่พวกคุณชื่นชอบมัน นี่ก็ได้เวลาอาหารเย็นแล้ว ผมขอเชิญพวกคุณที่ห้องอาหาร เชิญตามผมมาทางนี้" เขาบอก ก่อนจะหันไปชักชวนให้แขกต่างชาติเดินตามไปร่วมรับประทานมื้อค่ำด้วยกัน

   ความงามของแสงสุดท้ายของวันสิ้นสุดลง ความมืดเริ่มครอบคลุม แสงดาวเริ่มส่องระยิบวิววับในม่านดำของรัตติกาล มองเห็นได้ผ่านหน้าต่างกระจกใสขนาดใหญ่ โต๊ะอาหารค่ำถูกปูด้วยผ้าสีขาวสะอาดตาด้านบนมีเชิงเทียนที่มีเทียนสีม่วงอ่อนจุดเอาไว้ ส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ  ดอกไม้หลากสีในโทนม่วงชมพูอ่อนแก่ไล่สีสอดสลับ ประดับเอาไว้รายรอบเชิงเทียนอย่างสวยงาม บรรยากาศโดยรอบชวนให้น่าอภิรมย์เสียยิ่งนัก   แสงสีส้มแดงที่อาบย้อมผืนฟ้าสีน้ำเงินเข้มจนบางส่วนที่แสงส่องกระทบกลายเป็นสีม่วงแดง ผู้ร่วมรับประทานอาหารต่างพากันนั่งลงบนเก้าอี้ที่ติดป้ายชื่อของตนเอาไว้ พนักงานเริ่มเสิร์ฟไวน์แดงในแก้วทรงสูงอย่างทั่วถึง
   "ผมขอดื่มให้กับความสำเร็จของข้อตกลงที่ได้ทำร่วมกันของเรา" ชายในชุดสูทสีเทาทำหน้าที่เจ้าภาพลุกขึ้นยืนก่อนเอ่ยเชิญทุกคนร่วมดื่มด้วยการชูแก้วไวน์ขึ้นสูงไปเบื้องหน้าก่อนจะค้อมศีรษะลงเล็กน้อยแล้วยกแก้วไวน์แดงในมือของตนขึ้นดื่ม
   "ขอให้ทุกคนอร่อยกับอาหารเมนูพิเศษในค่ำคืนนี้" เขาเอ่ยออกมาอีกครั้งหลังจากนั่งลงกับที่ พนักงานเสิร์ฟเริ่มลำเลียงทยอยออเดิร์ฟเริ่มจากคอกเทลกุ้งในผลอะโวคาโดลูกโต แล้วตามด้วยสลัดผักแนมกับหมูทอดชิ้นใหญ่ ซุปปูน้ำข้นหอมมันเคียงกับดินเนอร์โรลเนื้อนิ่ม ก่อนจะตามด้วยเมนคอร์สสเต็กเนื้อจระเข้ที่ย่างมาจนส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลายให้สอ

   ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศทำให้ไม่มีใครรู้สึกถึงความอบอ้าวของอากาศภายนอก เมฆดำเริ่มตั้งเค้ามาแต่ไกลจนในที่สุดก็บดบังแสงระยิบระยับบนฟ้าของดาวดวงน้อยเอาไว้ทั้งหมด อากาศภายนอกเริ่มเย็นลงอย่างรวดเร็ว สายลมพัดกรูเกรียวกรรโชกแรงกิ่งไม้ไหวเอนโอนไปตามลม ก่อนที่หยาดพิรุนจากฟากฟ้าจะเริ่มหล่นตกกระทบกระจกดังเปาะแปะเบา ๆ ลำแสงสว่างวาบเพียงครู่ก่อนจะตามมาด้วยเสียงดังสนั่นลั่นเปรี้ยงของสายฟ้าผ่าลงตรงกิ่งไม้ใหญ่หน้ากระจกจนเนื้อไม้ปริขาดร่วงหล่นลงมากระแทกกระจกใสจนแตกเสียงกระจกแตกดังเพล้งก่อนเศษเล็กเศษน้อยชิ้นส่วนของกระจกใสจะกระจายเกลื่อนกล่นเต็มพื้น สายลมพัดผ่านเข้ามาให้ห้องอาหาร เปลวเทียนเล่มน้อยเต้นไหวก่อนจะดับวูบลม ลมแรงพัดเอาข้าวของเครื่องใช้ในห้องปลิวกระจัดกระจายไปทุกทิศทาง
   "เรากลับเข้าไปรอให้ฝนหยุดที่ออฟฟิศด้านในของฟาร์มกันเถอะ" หนุ่มใหญ่ในชุดสูทสีเทาเอ่ยชวนก่อนจะก้าวนำคู่ค้าออกไปจากห้องอาหาร เขาพาชาวต่างชาดลัดเลาะไปตามทางเดินที่มุงหลังคาผ่านจุดที่ให้คนนั่งชมการแสดงจากคนและสัตว์เลื้อยคลานสี่ขาขนาดใหญ่ เขาหยุดยืนรอแขกเพียงครู่ก่อนจะนำออกวิ่งฝ่าสายฝนที่ซัดกระหน่ำถึงแม้จะมีหลังคาคุ้มอยู่ แต่ที่พื้นไม้ของทางเดินยกสูงจากพื้นที่ทอดยาวกลับเจิ่งนองไปด้วยน้ำ
ผมเผ้าและเสื้อผ้าของทุกคนเปียกปอนจากน้ำฝนที่กระเซ็นมาโดน
   "พระเจ้า" แหม่มผมทองหลุดร้องตกใจ ก่อนจะพ่นลมหายใจเสียยาว ด้วยเพราะชายชุดสูสีเทาหันกลับเอามือมารั้งแขนของเธอเอาไว้ได้ทันไม่เสียหลักลื่นล้มลงไปได้เสียก่อน
   "ไม่เป็นไรนะคุณ" เขาเอ่ยถามพลางหันไปมองคนอื่นรอบ ๆ ทีมาหยุดยืนออรอดูอยู่
   "ฉันไม่เป็นไร ขอบคุณมาก เรารีบไปต่อกันเถอะ" หล่อนตอบก่อนจะเอ่ยชักชวนให้ไปต่อ
เขาออกวิ่งนำอีกครั้ง ระดับน้ำในบ่อพักจระเข้เริ่มสูงขึ้น สายฝนที่กระหน่ำหนักลงมาอีกโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
ด้วยความเร่งรีบเขาเองไม่ทันสังเกตน้ำที่เจิ่งนองทำให้เขาเสียหลักกลิ้งไปจนสุดทางเดินแต่ก่อนที่เขาจะพลัดตกลงไป ฝ่ามือหนาก็คว้าจับเหนี่ยวยึดแผ่นไม้ใกล้มือเอาไว้ได้เสียก่อน ร่างของเขาจึงห้อยโตงเตงมีเพียงสองมือที่พยายามเหนี่ยวรั้งร่างของตัวเองเอาไว้อย่าเหนียวแน่น สองมือออกแรงจับยึดและพยายามดึงร่างของตัวเองขึ้นไป ส่วนอกเกือบจะโพล่พ้นพื้นไม้ขึ้นมาแล้ว ชาวต่างชาติทั้งกลุ่มพยายามวิ่งเข้ามาหวังจะช่วยเอาตัวเขาขึ้นมา
ทันได้นั้นแสงสว่างวาบเจิดจ้าก็เกิดขึ้นก่อนจะตามมาด้วยเสียงดังสนั่นหวั่นไหวจะพื้นชานกว้างที่พวกเข้ายืนอยู่สั่นจนรู้สึกได้ สายฟ้าที่ฟาดเข้ากับกิ่งไม้ที่ระชายคาอยู่ส่งผลให้เกิดเปลวเพลิงขนาดย่อมสว่างไสวจนเห็นอะไรได้ชัดเจน ในขณะที่เขาพยายามหาทางช่วยเหลือตัวเองอยู่นั้น ที่เบื้องล่างในน้ำ จระเข้ขนาดใหญ่ไม่ต่ำกว่า 6 เมตร กำลังว่ายน้ำใกล้เข้ามาช้า ๆ ด้วยจุดที่มีคนพยายามกระเสือกกระสนดิ้นรนอยู่นั้น เป็นที่จัดแสดงวิธีการให้อาหารจระเข้ สัญชาติญาณนของมัน จึงรู้เพียงว่ามีคนกำลังจะให้อาหารมันอยู่  ร่างของคนที่พยายามกระเสือกกระสนสั่นไหวล่อตาล่อใจสัตว์เลื้อยคลานให้รีบเร่งว่ายเร็วขึ้นอีกก่อนจะกระโจนขึ้นไปในอากาศคาบงับเอาขาส่วนขาของร่างนั้นให้ร่วงลงมาด้วยแรงมหาศาลจนน้ำในบ่อแตกกระจายเป็นวงกว้างก่อนจะสะบัดงับเข้ากลางลำตัวอีกครั้ง แล้วหมุนตัวฉีกร่างเหยื่อออกเป็นชิ้น ๆ กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่วเสียงกรีดร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวดดังก้องเป็นระยะก่อนจะเงียบหายไป ที่ด้านบนเสียงกรีดร้องเสียขวัญและเสียงเอะอะอึกกะทึกดังก้องเสียงร้องขอความช่วยเหลือดูวุ่นวายสับสนท่ามกลางเสียงฝนฟ้าคะนอง ทุกคนมัวแต่ตกในกับเหตุการณ์ตรงหน้าจนไม่มีใครสังเกตเห็น ส่วนหนึ่งของใบหน้าชวนสยองขาวซีดซึ่งส่งยิ้มสยองแสยะอย่างพึงใจที่โผล่พ้นน้ำมาแค่ส่วนหัวเท่านั้นราวกับว่าความตายของคนตรงหน้าเป็นเรื่องน่าอภิรมย์ ก่อนจะจางหายไปราวกับอากาศธาตุ
...
หัวข้อ: The rainbow project เพลิงพลาย อัพใหม่หน้า 57 1/12/54
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 01-12-2011 21:34:59
ตอนที่ 11 เบาะแส

   รถกระบะตราโล่เลี้ยวเข้ามาในถนนสายเล็กที่คลาคล่ำไปด้วยร้านรวงผับบาร์อาจจะเรียกได้ว่าเป็นถนนสายเริงรมย์สำหรับชนชาวสีม่วงโดยแท้ ที่หน้าด้านหน้าแต่ละร้านมีชายหนุ่มคอยยืนดักต้อนให้คนที่เดินผ่านไปมาให้เข้าไปใช้บริการในร้านของตน บรรดาคนเหล่านี้อาจจะมีผิดแผกแตกต่างกันไปบ้างตามรูปลักษณ์ภายนอกที่มองเห็นแต่งสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือมธุรสวาจาที่เอื้อนเอ่ยออกมาเชิญชวนชักจูงให้เข้าไปใช้บริการ
   นายตำรวจหนุ่มในเครื่องแต่งกายที่แปลกออกไปจากปกติเพียงเล็กน้อยเขาถอดเสื้อเครื่องแบบออกแขวนเอาไว้ด้านหลังที่นั่งคนขับ มีเพียงเสื้อยืดคอกลมขลิบรอบคอสีแดงเลือดหมูสวมทับด้วยแจ็คเก็ตสีดำพอดีตัวแต่กางเกงยังคงเป็นสีกากีและรองเท้าหนังเฉกเช่นที่เคยเป็นมา เขาเลี้ยวรถเข้ามาจอบในซอยใกล้ ๆ กับ      เดอะบัตเตอร์ฟลายบอย เล็กน้อย ส่วนคนที่นั่งอยู่ด้านข้าง สวมใส่เสื้อโปโลสีม่วงแดงกับกางเกงขาเดฟสีขาวและรองเท้าหนังปลายเรียวสีน้ำตาลอ่อน ใบหน้าใส ๆ แก้มนวล ๆ ชวนให้น่าสัมผัสและลูบไล้ เล่นเอาคนที่ทำหน้าที่สารถีอยู่ไม่สุขเผลอแอบชำเลืองมองเอาอยู่บ่อย ๆ   เมื่อรถกระบะตราโล่พาหนะคู่ใจของยอดสารถีเข้าจอดสนิทและดับเครื่องยนต์จนเรียบร้อย หน่องที่ตั้งท่าเตรียมจะเปิดประตูลงจากรถ กลับต้องตกใจเมื่ออยู่ดี ๆ มือหนาใหญ่ของผู้หมวดหนุ่มกลับมาคว้าจับต้นแขนของเขาเอาไว้เสียก่อน หน่องเองถึงแม้จะไม่ค่อยพอใจเท่าใดนักทำได้เพียงแต่ส่งเสียงจิเบา ๆ ออกจากปาก ก่อนจะหันไปถลึงตาใส่ตัวต้นเหตุ
   "นี่คุณเรามาตกลงกันก่อนสักนิดดีไหม อย่างเพิ่งดุผมสิคุณ" หมวดพชรเอ่ยบอกก่อนจะคลายมือออกจากท่อนแขวนของคนข้าง
   "มีอะไรก็ว่ามาสิหมวด" หน่องเอ่ยถามเสียงเขียว
   "ก็แถวนี้มันเป็นยังไงคุณไม่รู้เหรอ เดินเทิ่ง ๆ ไปเรื่อย ๆ คนเดียวเดี๋ยวก็โดนคนหิ้วไปหรอก" หมวดหนุ่มบอกยียวนก่อนจะยิ้มยั่วใส่
   "ไม่มีใครเค้ามาสนใจผมหรอก อีกอย่างผมว่าผมเอาตัวรอดได้หรอกน่า" หน่องบอกเสียงดังฟังชัดแบบเต็มสองหูคนช่างยั่วเต็ม ๆ
   "นี่คุณไม่รู้ตัวเองมั่งเลยเหรอ ช่างเหอะ เอาเป็นว่า ถ้าผมจะจูงมือ โอบเอว หรือกอดคอคุณบ้างก็อย่าว่าอะไรผมแล้วกัน ถือซะว่าผมเป็นไม้กันหมาให้คุณฟรี ๆ " หมวดหนุ่มเปลี่ยนโหมดกะทันหันเล่นเอาหน่องนิ่งอึ้งด้วยความงงอยู่เพียงครู่ ปล่อยให้สารถีเปิดประตูลงจากรถแล้วอ้อมมาเปิดประตูให้ตัวเองพร้อมกับเอามือมาจับจูงมือให้ลงจากรถแล้วเดินตามต้อย ๆ ไปติด ๆ
   "นี่แล้วคุณแน่ใจได้ยังไงว่าเอกวิน นรลักษณ์ เค้ามาที่นี่ก่อนที่เค้าจะตาย" หมวดพชรเอ่ยถามก่อนจะหยุดเดินหันกลับมามองจ้องตาคนที่จับมือจูงอยู่
   "ก็พี่อ๊อบนะสิ เค้าเป็นคนบอกกับผมเอง" หน่องเอ่ยตอบพร้อมกับหลุบตามองเพียงแต่มือใหญ่ที่จับข้อมือของเค้าจูงอยู่
   "แล้วหมวดก็ปล่อยมือเถอะผมไม่ใช่เด็กเล็ก ๆ นะ ผมเดินตามหมวดไปเองได้" หน่องร้องท้วงก่อนจะพยายามเอามือที่ว่างมาแกะมือหนาใหญ่ที่เกาะกุมข้อมือของตนไว้ออก
   "ไม่เป็นไรผมไม่ถือ" หมวดหนุ่มบอกก่อนจะปล่อยข้อมือเล็กออกแล้วเอามือไปสอดประสานกับมือที่เล็กกว่าเอาไว้แล้วเริ่มออกเดินอีกครั้ง

   แสงไฟกระพริบไหววูบวาบ เสียเพลงดังกระแทกกระทบเข้าโสตประสาททันทีที่ประตูด้านหน้าเปิดรับทั้งคู่เข้าไป  ทั้งสองเข้ามาหยุดยืนรออยู่ที่หน้าประตูชั้นในซึ่งเป็นกระจกฝ้าหนาจนไม่สามารถที่จะแลทะลุเข้าไปให้เห็นถึงด้านในได้ชัดเจนนัก มีเพียงเงาวูบวาบจากแสงกระพริบที่สาดผ่านร่างของบรรดานักเที่ยวที่กำลังลุกขึ้นโลดแล่นไปกับเสียงเพลงอันสุดแสนจะเร้าใจและลีลาชวนสยิวของนักเต้นบนเวทีพร้อมกับเสียงตะโกนเชียร์สลับกับผิวปากแหลมสูงและเสียงปรบมือ
   ผู้หมวดพชรทำทีเอามือโอบบ่าคนข้าง ๆ ที่มาด้วยกันเอาไว้ ก่อนจะเอามืออีกข้างที่ว่างยื่นส่งกระดาษใบเล็กสีขาวไปให้กับพนักงานต้อนรับพร้อมกับเอ่ยปาก
   "ผมมาขอพบผู้จัดการร้านเดอะบัตเตอร์ฟลายบอยครับ ผมมีเรื่องอยากสอบถามเสียหน่อย" หมวดหนุ่มกล่าวก่อนจะส่งยิ้มหวานไปให้ชะนีแปลงด้านหน้า
   "ได้ค่ะ เดี๋ยวรบกวนหมวดรอสักครู่ ดิฉันจะไปเรียนผู้จัดการให้คะ" หล่อนรับนามบัตรจากมือนายตำรวจหนุ่มพลางชำเลืองมองดูเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยพร้อมกับแยกตัวไป

   "สวัสดีครับหมวด ผมชื่อกริช ทำหน้าที่รักษาการแทนผู้จัดการของเดอะบัตเตอร์ฟลายบอยครับ ไม่ทราบว่าหมวดมีเรื่องอะไรจะสอบถามหรือครับ" กริชกล่าวทักทายเมื่อพนักงานของร้านนำหมวดตำรวจและเด็กหนุ่มขึ้นมาพบเขาที่ห้องทำงาน
   "ครับ สวัสดีครับ ผมร้อยตำรวจโทพชร  และนี่คุณนิวัฒน์ แก่นกำภู เป็นเพื่อนกับคุณเอกวิน นรลักษณ์และเป็นนักข่าวด้วย" ร้อยตำรวจโทพชร เอ่ยแนะนำหน่องด้วยอีกคน
   "สวัสดีครับคุณกริช" หน่องเอ่ยทักทายอย่างเป็นกางการ
   "เอกวิน นรลักษณ์ คุณหมายถึงอเล็กซ์เหรอครับ" กริชถามออกมาด้วยสีหน้าแสดงความสงสัยเอาไว้ไม่มิด
   "ใช่ครับก่อนเค้าจะตาย เค้ามางานเลี้ยงฉลองวันเกิดใครสักคนที่นี่" หน่องถามร้อนรนตรงประเด็น
   "ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน ผมเพิ่งจะเข้ามารับตำแหน่งได้ไม่นาน ผมเองไม่รู้จักกับเอกวินเป็นการส่วนตัวเสียด้วยสิครับ   แต่..."  กริชบอกก่อนจะหยุดชะงักไปเพราะเสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขัดจังหวะขึ้นมาเสียก่อนพร้อมกับร่างของบริกรในชุดนุ่งน้อยห่มน้อยเสียจนไม่มิดชิดอวดสรีระรูปร่างยั่วตายั่วใจดันประตูเปิดเข้ามา
   "ก๊อก! ก๊อก! คุณกริชครับ เจ้ญ่าให้ผมเอาเครื่องดื่มมาให้ครับ" หนุ่มน้อยในชุดอวดเนื้อหนังเดิมเข้ามาพร้อมกับยกแก้วค็อกเทลสีสวยมาวางลงตรงหน้าของแขกทั้งสองก่อนจะหันหลังกลับออกไป
   "พี่ธัญญ่า น่าจะรู้เรื่องนี้ดีกว่าผมนะครับ เดี๋ยวผมให้คนไปตามมาให้แล้วกัน" กริชพูดก่อนจะเดินออกไปจากห้องปล่อยให้แขกสองคนนั่งอยู่บนโซฟาในห้องทำงานของเขา

   "คุณว่าคืนนั้นอเล็กซ์มาที่นี่จริง ๆ ใช่ไหม" นายตำรวจถามอย่างงสงสัยใคร่รู้พลางหันหน้าไปสบตากับคนข้าง ๆ ที่กำลังยกแก้วเครื่องดื่มสีสวยขึ้นมาจิบ
   "ก็พี่อ๊อบบอกว่ามาก็ต้องมาสิ แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าขากลับ กลับไปตอนไหน กับใครนะสิ" หน่องตอบพลางละเลียดจิบชิมเครื่องดื่มไปเรื่อย ๆ
   "คุณ... ดูทำเข้าสิ กินเข้าไปเยอะเดี๋ยวก็เมาหรอก คุณเป็นคนชวนผมมาสืบคดีไม่ใช่เหรอ" หมวดหนุ่มบอกพลางเอามือแตะเข้าที่แขนของหน่องเพื่อปราม
   "ไม่เมาหรอกน่า น้ำผลไม้นี่อร่อยดีออก" หน่องบอกพลางหันมายิ้มให้จนตาหยีก่อนจะกระดกยกดื่มเสียจนหมดแก้วในคราเดียว แล้วแอบไปคว้าอีกแก้วตรงหน้าหมวดพชรมาดื่มไปหลายอึก
   "เฮ้ย! บอกอะไรทำไมไม่ฟังกันบ้างนะ ดื้อจริง ๆ เชียว คุณนี่" หมวดหนุ่มเอ่ยพร้อมกันสั่นศีรษะเล็กน้อยไปให้อย่างระอา
   "ก็มันอร่อยดีนี่ หวาน ๆ หอม ๆ หมวดไม่ชิมหน่อยเหรอ" หน่องบอกพลางยกแก้วในมือไปจ่อที่ริมฝีปากของนายตำรวจก่อนจะยิ้มหวานไปให้ ทั้งที่ใบหน้าเริ่มแดงเพราะฤิทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไป

   กริชกลับเข้ามาในห้องอีกครั้งพร้อมกับธัญญ่า ทั้งสองหันไปมองสบตากันเพียงครู่ก่อนที่กริชจะกระแอมออกมาเบา ๆ เพื่อให้ทั้งสองคนที่โซฟาได้รู้สึกตัวว่าไม่ได้อยู่กันเองเพียงลำพัง หน่องหันกลับมาส่งตาเชื่อมหวานให้กับผู้มาใหม่ ก่อนจะโดนหมวดหนุ่มคว้าแก้วในมือของหน่องมาไว้แล้วกระดกยกดื่มจนหมด

   "นี่พี่ธัญญ่า เป็นผู้ช่วยของผมครับ และพี่เค้าก็รู้จักกับอเล็กซ์ดีกว่าผมแน่ ๆ" กริชแนะนำธัญญ่าให้ทั้งสองรู้จักก่อนจะพากันไปนั่งที่โซฟาฝั่งตรงข้าม
   "สวัสดีค่ะ หมวดอยากจะทราบเรื่องอะไรบ้างคะ ถ้าตอบได้ดิฉันจะตอบให้ทั้งหมด" ธัญญ่ากล่าวทักก่อนจะเอ่ยถามออกไป ซึ่งหมวดเองก็เริ่มเปิดประเด็นซักถามพูดคุยกันจนเวลาล่วงผ่านไป หมวดหนุ่มจึงอำลาพร้อมกับพานักข่าวคอแป๊บกลับออกไป

   "กลับไปแล้วครับท่าน เห็นคุยกันนานพอดู ผมเองก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกันว่าข้างในเค้าคุยอะไรกันบ้าง"
   'ลงมือจัดการตามที่สั่งรึยัง อย่าให้มีพิรุธทำให้เหมือนกับว่าเป็นอุบัติเหตุแล้วกัน คนอื่นจะได้ไม่สงสัย'
   "เรียบร้อยแล้วครับท่าน ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ตอนนี้ฝนกำลังตกพอดี ถนนกำลังลื่น หากว่าขับรถเร็วแล้วต้องเบรกกะทันหัน คงมีอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นอีกรายในคืนนี้ครับ"
   'ดี จัดการให้เรียบร้อย แล้วโทรกลับมารายงานด้วย'
   
   ร้อยตำรวจโทพชร โอบประคองหน่องที่กำลังมึนเมาอันเป็นผลมาจากเครื่องดื่มสีสวยรสหวานลิ้นแต่เปี่ยมด้วยแอลกอฮอล์ ความหวานของน้ำผลไม้ที่กลบกลิ่นและรสขมของมันเอาไว้กลับช่วยผลักดันฤิทธิ์ให้แรงยิ่งขึ้นตอนนี้เองที่หน่องคนเก่งถึงกับเดินโซเซใกล้จะหมดแรงไปเสียเฉย ๆ ใบหน้าแดงซ่าน เปลือกตาก็หรี่ปรือไปเสียแล้วหมวดหนุ่มเปิดประตูรถออกกว้างก่อนจะจับคนเมายัดเข้าไปที่เบาะหน้าจนเรียบร้อย เขาปิดประตูรถแล้วอ้อมไปยังที่นั่งฝั่งตรงข้ามเพื่อทำหน้าที่สารถีนำพาหนะคู่ใจออกจากที่จอดมุ่งหน้ากลับไปยังทางเก่าตอนขามา
หัวข้อ: The rainbow project เพลิงพลาย อัพใหม่หน้า 57 1/12/54
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 01-12-2011 21:38:02
ตอนที่ 12 ความจริง
   นายตำรวจหนุ่มนำพาหนะคู่ใจแล่นเอื่อยมาตามถนนในขณะที่สายฝนกระหน่ำหนักขึ้น เขาพยายามขับอย่าง ช้า ๆ และระมัดระวัง จนเริ่มจะพ้นเขตเมืองเขาเริ่มจะเร่งความเร็วขึ้นอีก ทันใดนั้นเขาสังเกตเห็นความผิดปรกติจากกระจกส่องหลัง รถจักรยานยนต์ที่ขับตามมาห่าง ๆ ทางด้านหลัง กลับเร่งความเร็วขึ้นตามมา และเพียงไม่นานก็ตีคู่ขึ้นมาขนาบทางด้านข้างฝั่งที่เขานั่งอยู่ นายตำรวจพยายามเร่งเครื่องขึ้นไปอีกเพื่อหวังจะให้พ้นจากการถูกติดตาม แม้จะพยายามเร่งหนีเท่าไหร่ แต่ดูเหมือนคนขับรถจักรยานยนต์ก็พยายามเร่งตามขึ้นมาติด ๆ เหมือนกัน 
สายฝนที่โปรยปรายจากแผ่นฟ้ากลับตกกระหน่ำราวกับฟ้ารั่ว คนขับรถจักรยานยนต์ที่ด้านข้างคว้าหยิบมัจจุราชสีดำที่เหน็บอยู่ข้างสะเอวออกมาก่อนจะส่องเล็งตรงมาที่เขา ด้วยสัญชาตญาณเขาเร่งความเร็วจนสูงสุดและหักพวงมาลัยเอาด้านข้างของรถปาดส่ายเข้าหาผู้มุ่งประสงค์ร้าย ชายในชุดดำก็หักหัวรถจักรยานยนต์หลบฉากก่อนจะยิ่งปืนออกไป แสงสว่างวาบออกจากลำกล้องปากกระบอกปืนก่อนเสียงคำรามของอาวุธสังหารจะแผดก้องแข่งกับเสียงฟ้าผ่าและฟ้าร้อง อสนีบาตฟาดเข้าใส่ที่ต้นไม้ใหญ่ข้างทางต้นไม้ทังต้นหักขาดร่วงลงมาขวางทางแสงเพลิงลุกโชนสว่างวาบ ร้อยตำรวจโทพชรจำต้องหักพวงมาลัยเลี้ยวหลบ หน่องเองที่ตอนนี้ตกใจตื่นจากการที่รถวิ่งส่ายไปมาจนหัวของเขาชนเข้ากับกระจกที่เอาศีรษะพิงอยู่ดังกุกกัก เมื่อเปิดเปลือกตาขึ้นมามองจึงเห็นเพียงเปลวเพลิงที่ลุกไหม้ผ่านกระจกรถฝั่งที่ตนนั่งอย่าชัดเจน
   "เฮ้ย! เกิดอะไรขึ้นเหรอหมวด" หน่องละล่ำละลักถามอย่างสับสน
   "เราถูกตาม มันมีปืนด้วย" หมวดบอกทั้งที่ใบหน้ากำลังจ้องไปตามทางของถนน
   "แกร๊ง! " เสียงลูกเหล็กแดงร้องจากปืนที่ถูกยิงมาจากคนขับจักรยานยนต์ทางด้านหลังกระทบเข้ากับหลังคาของรถกระบะก่อนจะแฉลบขึ้นฟ้าทำเอาคนขับต้องย่นคอตามด้วยเกรงอานุภาพทำลายล้างของมัน
   การหนีและการไล่ล่าดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง แต่เพียงไม่นานคนขับรถจักรยานยนต์ก็ขับขี่ตีคู่ขึ้นมาอีกครั้ง
ปลายปากกระบอกปืนในมือถูกยกเล็งเอาไว้และพร้อมที่จะเหนี่ยวไก หมวดหนุ่มผู้ควบคุมรถกระบะที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงสุดก็พลันตกใจออกอาการหน้าซีดด้วยเพียงเพราะเขาพยายามที่จะเหยียบคันห้ามล้อจนเต็มแรงแต่พบกับความว่างเปล่าไร้แรงต้านความเร็วของรถยังไม่ลดลง เขาตัดสินใจหักพวงมาลัยรถเพื่อให้รถเข้ากระแทกผู้มุ่งร้าย
รถจักรยายนต์หักหลบไปได้อีกครั้ง แต่รถกระบะกลับพุ่งเข้าใส่เกาะกลางถนนรถทั้งคันไหวเยือกเหินขึ้นไปบนเกาะกลางก่อนส่วนหน้ารถจะกระแทกเข้ากับเสาไฟฟ้าและหยุดค้างอยู่บนนั้นนิ่งสนิท
   ด้วยความรุนแรงของการปะทะส่วนหน้าของรถยุบเข้าไอน้ำร้อนพวยพุ่งออกมาหนาตา ราวกับหมอกหนาขึ้นครอบคลุมรถเอาไว้ทั้งคันจนไม่สามารถมองเห็นผู้โดยสารทั้งสองที่ด้านในตัวรถ หมวดพชรสิ้นสติไม่สมประดีฟุบหมอบไปกับพวงมาลัย โลหิตอุ่นสีสดไหลเป็นทางยาวจากขมับขวาลงมา เสื้อแขนสั้นสีขาวที่เจ้าตัวสวมใส่โชกอาบไปด้วยเลือด ส่วนคนที่มาด้วยกันกลับนอนนิ่งอิงเบาะรถดูราวกับกำลังดำดิ่งเข้าสู่ห้วงนิทรารมย์เป็นสุขและแสนสบาย แพขนตางอนบนเปลือกตาไหวริกก่อนจะลืมตาเบิกโพลง หน่วยตาฉายแววอาฆาตมาดร้าย ก่อนจะเอื้อมมือเปิดประตูรถแล้วลงไปหยุดยืนมองตรงไปทางผู้ประสงค์ร้ายที่หยุดรถและกำลังเดินตรงเข้ามาช้า ๆ พร้อมกับอาวุธในมือที่กำลังเล็งจุดตายกลางแสกหน้าของหน่อง เพียงพริบตานิ้วก็กระดิกลั่นไกส่งลูกเหล็กร้อนจากลำกล้องออกมา
   ลูกกระสุนวิ่งพุ่งตรงเข้าหาเป้าหมายอย่างรวดเร็ว แต่ก่อนที่มันจะเจาะเข้าดื่มเลือดจากกายของหน่องมันกลับหยุดนิ่งอยู่กันที่ห่างจากกึ่งกลางแสกหน้าและร่วงลงกระทบพื้นผิวถนนแล้วกลิ้งหลุนๆ กระดอนหายไป มือปืนถึงกับออกอาการงงงวยได้เพียงไม่นานต้องแปรเปลี่ยนเป็นหวาดกลัวผวากับเหยื่อตรงหน้าที่เปลี่ยนแปลงไป จากร่างของเด็กหนุ่มร่างเล็กที่สวมใส่เสื้อยืดมีปกสีม่วงอ่อนไร้พิษสง กลับกลายเป็นร่างสูงใหญ่ใบหน้าขาวซีดริมฝีปากดำคล้ำในอาภรณ์ยาวสีดำสนิท ผมเปียกลู่แนบกับหนังศีรษะ  หน่วยตาไร้แววที่จ้องมองกลับมาอย่างมุ่งร้ายหมายชีวิตของตน เขาลั่นไกซ้ำออกไปอีกหลายครั้ง แต่ลูกกระสุนทั้งหมดไม่สามารถแม้แต่แค่เพียงระคายเคืองผิวหนังอสุรกายได้เลย เขก้าวถอยหลังออกไปก่อนจะหันตัวเพื่อจะวิ่งกลับไปที่รถจักรยานยนต์ที่จอดติดเครื่องรออยู่ แต่เมื่อเขาหมุนกากลับไปเขาก็ผงะก้าวถอยหนีเมื่อปะทะเข้ากับอสุภที่มาโผล่ต่อหน้าในระยะประชิด ฝ่ามือของอสุรกายเอื้อเข้ามาคว้าลำคอของเขาเอาไว้เขาพยายามออกแรงสะบัดกายถอยหนีพร้อมกับเอามือสองข้างของตนเอือมคว้าจับแขนซีดขาวกรงเล็บบนมือดำคล้ำที่โผล่พ้นออกมาจากชุดคลุมสีดำยาว เขาออกแรงกระชากเพื่อให้มือข้างนั้นของมันหลุดออกจากลำคอ และถึงแม้จะพยายามดิ้นรนออกแรงมากขึ้นเท่าไหร่ อุ้งมือข้างนั้นกระกลับกระชับแน่นเข้ามาอีก กรงเล็บสีดำกดลึกบาดเข้าไปในผิวเนื้อจนลิ่มเลือดไหลทะลักหยดย้อยและเพียงไม่นานร่างที่พยายามกระเสือกกระสนเพื่อความมีชีวิตรอดกลับหมดแรงกำลังลงด้วยขาดอากาศที่จะหายใจ ร่างกระตุกไหวเยือกแล้วสิ้นใจลงพร้อมกับเสียง "กร๊อบ" ของกระดูกข้อต่อลำคอที่แตกจากแรงมหาศาล ก่อนที่อุ้งมือนั้นจะคลายออกร่างของชายในชุดหนังสีดำก็ร่วงลงกระแทกกับพื้นโลหิตสีแดงฉานไหลนองออกจากบาดแผลที่ลำคอกระจายเป็นวงกว้างส่งกลิ่นคาวคละคลุ้งเจิ่งปนไปกับสายฝนที่กำลังกระหน่ำหนาเม็ดไม่ขาดสาย ร่างของอสุรกายพลันค่อย ๆ เลือนจางลงกลายเป็นเพียงกลุ่มควันดำมืดที่หมุนวนเข้าหาจุดศูนย์กลางก่อนจะค่อย ๆ เล็กลง เล็กลง จบหายวับไป
   ภายในห้องนอนใหญ่บนชั้นสองของคฤหาสน์ลังงาม ชายสูงวัยกำลังหยอกล้อโอบกระชับรัดเหวี่ยงนักมวยหนุ่มรูปงามเรือนร่างเปลือยเปล่าที่อุดมไปด้วยมัดกล้ามเยี่ยงนักกีฬาอยู่บนเตียงเสาสูงที่มีผ้าลูกไม้โปร่งเบากรุไว้โดยรอบ สายตาของเจ้าของบ้านที่ทอดมองด้วยความสิเน่หา ริมฝีปากหยอกล้อเลาะเล็มชิมริมฝีปากของนักมวยหน้ามนอยู่เพียงครู่ก่อนจะส่งเรียวลิ้นเข้าไปทักทายเกี่ยวกระหวัดรัดลิ้นเอาไว้เสียด้วยลิ้นความวาบหวามที่พุ่งทะยานไปด้วยความอยากทำเอาทั้งคู่เผลอหยุดลืมหายใจไปชั่วขณะ และเป็นไปด้วยสังขารของเจ้าบ้านเองที่จำต้องผละปากออกมาเสียก่อนเพื่อโกยอากาศเข้าปอด แรงปรารถนาทะยานอยากที่ยังคุกรุ่นอยู่ทำให้ต่างฝ่ายต่างตระโบมโลมไล้เรือนร่างของอีกฝ่าย ฝ่ามือหนาใหญ่สาก ๆ เยี่ยงนักกีฬา ลูบไล้ฟอนเฟ้นเนื้อตัวของชายสูงวัยกว่าไปทั่วก่อนจะไปหยุดอยู่ที่ปากทางด้านหลังแล้วพยายามรุกล้ำเข้าไปด้วยดัชนีข้อใหญ่ เขาชำแรกล่วงล้ำเข้าไปเพียงอุคงลีกลับพบความอัศจรรย์ช่องทางด้านหลังที่กล้ามเนื้อหูรูดน่าจะหย่อนยานกลับบีบรัดนิ้วของเขาเอาไว้แน่นพร้อมกับความอุ่นเปียกชื้นที่เขาเองสัมผัสได้ เขาค่อย ๆ ชำแรกเปิดทางเข้าจนสุดปลายก่อนจะหมุนวนคว้านไปรอบ ๆ ผนังภายในส่งผลให้ผู้สูงวัยกว่ากระถดก้นจะยกถอยหนี เขาตามเข้าประกบก่อนจะผลิกร่างขึ้นคล่อมทับเอาไว้เพื่อกันไม่ให้อีกคนนั้นดิ้นรนขัดขืนเขาส่งนิ้วเข้าไปทักทายเพิ่มมากขึ้น  ร่างของชายสูงวัยที่อยู่ใต้ร่างหนาของเขา กลับส่งเสียงสูดปากราวกับกำลังกินของที่ทั้งเผ็ดทั้งร้อน เมื่อไม่สามารถสะกดกลั้นอารมณ์ความอยากเอาไว้ได้อีกแล้ว ชายสูงวัยกว่ากลับออกแรงดิ้นหนีและพลิกตัวกลับขึ้นไปคร่อมอยู่บนกึ่งกลางลำตัวของนักมวยหนุ่มเขาก้าวคร่อมอยู่เหนือองคาพยพที่แข็งขืนอยู่เพียงครู่ก่อนจะทิ้งน้ำหนักตัวลงมาครอบครองส่วนแข็งขืนเอาไว้ภายในร่างกายของตนแล้วออกแรงควบโขยกขย่มอย่างเมามัน นักมวยหนุ่มที่นอนรอท่าต่ออีกไม่ไหวจนเจ้าตัวต้องเด้งสวนกระแทกแก่นกายกลับไปด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี ก่อนจะถึงปลายทางแห่งความปรารถนา เขาจึงปลดปล่อยของเหลวอุ่นร้อนเข้าไปในร่างที่ยังคงครอบครองส่วนนั้นของเขาเอาไว้และตัวเขาเองก็ผวากอดยึดสะโพกเอาไว้เสียแน่น เขาจับจ้องมองใบหน้าของคนที่อยู่ด้านบนด้วยสายตาอ่อนล้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุข ฉับพลันกลับแปรเปลี่ยนเป็นสงสัยใครรู้เมื่อสบเข้ากับแววตาหื่นกระหายที่ปิดบังความคุกคามเอาไว้ไม่มิด และตัวเขาเองกลับต้องขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำที่เอ่ยออกมา
   "ทีนี้ถึงตาของฉันบ้างแล้วนะนาย"
   "เพี๊ยะ" ฝ่ามือแข็งกระทบเข้าที่แก้มซึกซ้ายของเขา ใบหน้าสะบัดหันไปตามแรงตบ ก่อนเจ้าของฝ่ามือจะยกตัวถอนร่างออกมาจากส่วนที่เคยแข็งขืน พร้อมกลับหันไปกระชากจิกผมของนักมวยคู่ขาจนใบหน้าหงายรั้งเชิดขึ้นสูง พร้อมกับออกแรงบิดแขนล่ำข้างหนึ่งของนักมวยหนุ่มเอาไปโผล่ไว้ที่ด้านหลังแล้วออกแรงกดร่างหนาเอาไว้จนไม่สามารถดิ้นหนีได้ เขาปล่อยมืออกจากตีนผมบนหน้าผากไปควานล้วงหยิบแถบแพรสีแดงกว้างเพียงคืบออกมาจากใต้หมอนหนุนเพื่อเอามาพันธนาการร่างหนาที่อุดมไปด้วยมัดกล้ามเอาไว้และผูกรั้งโยงไว้กับเสาที่หัวเตียงจนร่างของนักมวยหนุ่มหมดหนทางที่จะต่อสู้และขัดขืน
   ฝ่ามือแข็งบีบกรามของนักมวยหนุ่มจนต้องเผยอเปิดปากออก รอรับยาเม็ดเล็กที่ฤิทธิ์ของมันไม่ได้อ่อนด้อยไปตามขนาดที่เห็น บางส่วนหล่นลงบนที่นอนหนาเพียงเพราะนักมวยหนุ่มพยายามดิ้นรนขัดขืนอย่างสุดกำลัง และมีเพียงรอยยิ้มเหี้ยมเกรียมของคนกรอกที่ส่งมาให้นักมวยหนุ่มได้เห็นเท่านั้น  แค่เพียงไม่นานเมื่ออานุภาพของยาทำให้นักมวยหนุ่มหยุดดิ้นรนขัดขืนกลับเปลี่ยนเป็นแรงปรารถนาที่ค่อย ๆ เพิ่มมากขึ้น
นักธุรกิจสูงวัยที่หน้าฉากเป็นเพียงพ่อค้าใจบุญแต่เบื้องหลังกลับเหี้ยมกรียมดุดันและพิสมัยในการเสพสังวาสกับบรรดาบุรุษหนุ่มหน้าตาดีในแบบที่อาจเรียกได้ว่ามากกว่าวิตถารเลยเถิดค่อนไปทางซาดิสม์ชมชอบการได้
ทรมารคู่ขาอยู่เนือง ๆ บางรายถึงขนาดต้องหามส่งโรงพยาบาลแบบเร่งด่วนเป็นการลับ ด้วยเพราะอำนาจเงินและอิธิพลที่พอมีอยู่คับฟ้า จึงทำให้เหยื่อหลายรายปิดปากสงบคำไม่ออกมาโพทะนาให้มากความด้วยอับอายและเกรงกลัวต่อการมุ่งร้ายหมายเอาชีวิต
   ร่างสูงวัยตักตวงขบเม้มกัดไซร้ไปทั่วร่างของนักมวยหนุ่มพร้อมกับออกแรงลงกำลังบ้างหยิกบ้างทุบตีเป็นที่สาแก่ใจตนเองยิ่งนัก จนบางแห่งมองเห็นถึงรอยมือและเลือดซิบ ๆ ได้ชัดเจน แต่กระนั้นเขาก็ยงไม่ผ่อนแรงกำลังลงแต่อย่างใด กลับโหมกระพือตักตวงความพึงใจจากร่างแกร่งที่อุดมด้วยมัดกล้ามที่กำลงอ่อนแรงและเคลิ้บเคลิ้มล่องลอยไปกับฤิทธ์ของยาที่โดนจับกรอก ในขณะที่คนสูงวัยจวนเจียนจะถึงฝั่งเขากลับต้องผงะหงายและรีบร้อยถอดถอนส่วนแข่งแกร่งที่ค้างคาในร่างของนักมวยหนุ่มออกมา ด้วยความตกตะลึงพรึงเพลิดเขามองเห็นร่างขาวซีดในตาขาวขุ่นผมสีซีดเปียกลู่แนบติดหนังหัว เขี้ยวขาวแววแสยะยิ้มออกมาจากริมฝีปากดำสนิท
เขาก้าวออกมายืนอยู่ที่ริมปลายเตียงก่อนจะแข็งค้างยืนนิ่งอยู่กับที่ สีหน้ามีแววหวาดหวั่นเกรงกลัว ผมบริเวณท้ายทอยแข่งกันตั้งชี้ แววตาหวาดวิตกกลอกกลิ้งพยายามหาทางหนีทีรอดให้กับตัวเอง อสุรกายค่อย ๆ คืบคลานมาหยุดยืนมองจ้องตากับเขาอยู่เบื้องหน้า แพรแดงที่เคยใช้พันธนาการคนอื่น บัดนี้กลับไหลลื่นเคลื่อนขึ้นมาพันรอบลำคอของเขาเอาไว้ราวกับว่ามันมีชีวิต ก่อนที่จะมีแรงดึงรั้งจากปลายผ้าแพรทั้งสองข้างแน่นเข้า เขาเองทำได้เพียงแค่ยืนนิ่งรอรับการผูกรัดด้วยแรงจากมือที่มองไม่เห็นจนแถบแพรแน่นเข้าเรื่อย ๆ ลมหายใจเริ่มติดขัด
   "พอเถอะหรั่ง อย่าทำเขาเลย" เสียงของหน่องร้องห้ามออกมา
   "ไม่ ถ้าหน่องรู้ว่ามันกับพวกของมัน ทำอะไรเอาไว้กับหรั่ง หน่องจะไม่พูดแบบนี้" เสียงสะท้อนก้องตอบกลับให้ได้ยิน พร้อมกับใบหน้าถมึงทึงที่หันกลับมามองด้วยแววตาวาวโรจน์
   "ก็แล้วเขาไปทำอะไรให้คุณเหรอคุณเอกวิน"  ร้อยตำรวจโทพชร ร้องถามกลับไป
   "ถามมันดูสิ ว่ามันทำอะไรไว้บ้าง" เสียงตวาดดังก้องก่อนที่หรั่งจะหันกลับไปมองจ้องสบดวงตาหวาดวิตกหน้าด้วยความโกรธแค้น ซึ่งร่างตรงหน้ายังคงไม่ไหวติงหยุดนิ่งยืนอยู่กับที่ได้แค่กลอกนัยน์ตาไปมาเท่านั้น
ทันใดนั้นจอสีฟ้าสว่างของเครื่องรับโทรทัศขนาดใหญ่บนฝาผนังห้องด้านหนึ่งก็ส่องแสงสว่างก่อนจะฉายภาพที่ชวนตะลึงจากเครื่องเล่นดีวีดีที่ต่อเอาไว้ ภาพที่เห็นเอกวิน นรลักษณ์ ที่นอนแผ่เหยียดยาวโดยปราศจากอาภรณ์ ที่กลางลำตัวมีนักธุรกิจสูงวัยกำลังควบขี่ส่วนแข็งขืนของเขา ก่อนที่จะมีชายแปลกหน้าสี่คนเปิดประตูกรูกันเข้ามาโดยที่ปราศจากสิ่งใดปกปิดร่างกายสิ่งหวงแหนตระหง่านชี้ตรง ทั้งหมดเข้าไปรุมล้อมสองคนที่กลางเตียง
คนหนึ่งในเรือนร่างกำยำตามแบบฉบับผู้ใช้แรงงานด้วยเป็นคนสนิทติดสอยห้อยตามรับใช้ท่านของมันมานานนมเป็นเสมือนหนึ่งวัวเคยขาม้าเคยขี่มาแต่เก่าก่อนตรงเข้าไปเอาแถบแพรยาวมัดรั้งมือของหรั่งเอาไว้กับเสาที่หัวเตียง และอีกคนที่เรือนร่างกำยำสูงล่ำตัดผมสั้นเกรียนที่อายุอานามไม่น่าจะห่างกับหรั่งมากนักตรงเข้าไปเอาแถบแพรผูกรั้งมัดขาโยงไว้กับขื่อด้านบนจนขายกลอยสูงช่องทางด้านหลังเปิดกว้างอ้าออก เมื่อชายอีกคนกระทำเช่นเดียวกันกับขาอีกข้างหนึ่ง ชายหนุ่มอีกคนก็กรุ้มรุมเข้าประชิดหนทางเปิดกว้างที่รออยู่พร้อมกับจู่โจมด้วยปลายลิ้มไล่สัมผัสก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นส่วนแข็งขืนของตนแบบไม่ยั้งแรงแทงพรวดเข้าไปในทันที จนหรั่งต้องร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว
"ขอผมก่อนแล้วกันถือว่าเป็นของขวัญวันสละโสด"  เขาพูดก่อนจะส่งเสียงครางแผ่วออกจากลำคออย่างพึงใจ
"ใจเย็นๆ สิครับคุณ พวกเรายังสนุกกันได้อีกนาน" ชายอีกคนที่สูงวัยพอกันกับเจ้าของบ้านเอ่ยปากก่อนจะยิ้มกริ่มแววตาเจ้าชู้ เขากำลังใช้มือออกแรงบีบกรามของหรั่งจนต้องเปิดปากออก แล้วเทยาเม็ดเล็ก ๆ กรอกลงไป
"ตามสบายเลย ผมขอดูอย่างเดียวแล้วกันตอนนี้ จะได้พักเหนื่อยสักหน่อย" ชายสูงวัยสุดพูดก่อนจะยกบั้นท้ายออกจากส่วนที่เคยครอบครองผละออกมายืนมองอยู่ห่าง ๆ  ส่วนคนสนิทของตนกำลังลูบไล้น้ำมันหอมระเหยชโลมไล้ไปบนเรือนร่างของหรั่งด้วยสองมือที่ตระโบมฟอนเฟ้นไปทั่วร่าง ก่อนจะหันไปจุดเทียนจนเทียนหลอมละลายเป็นน้ำตาเทียนเอามาหยดไปบนเรือนร่างกำยำขาวผ่องของหรั่งจนเอาเองต้องดิ้นส่ายหนีด้วยความร้อน  คนที่กำลังออกแรงอยู่ด้านหลังเอาแถบผ้าอีกชิ้นพันเข้ากับลำคอของหรั่งก่อนจะออกแรงดึงรั้งชายผ้าเอาไว้จนหรั่งหายใจติดขัด คนที่เหลือต่างกลุ้มรุมทำร้ายและตักตวงความหฤหรรษ์เอาจากร่างกายของหรั่งอย่าไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าร่างของหรั่งบอบช้ำอ่อนแรง แต่บางส่วนของร่างกายกลับชูชัน
ผู้สูงวัยกลับเข้ามาร่วมวงอีกครั้งเขาจับจองยกสะโพกกดลงไปบนส่วนกลางลำตัวก่อนจะออกแรงราวกับกระบอกสูบโดยที่ช่องทางด้านหลังของหรั่งก็โดนชายคนอื่นผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้าจับจองจ้วงแทงกระหน่ำไม่ยั้งแรงเช่นกันจนเวลาย่างจวนเจียนใกล้จะรุ่งสาง ร่างของหรั่งก็นอนแน่นิ่งไม่ไหวติงเขาหมดสติสัมปชัญญะ
ชายทั้งหกคนที่กอบโกยตักตวงความสุขจากเรือนกายจนอ่อนเปลี้ยต่างพากันก่ายเกยนอนกองกันอยู่บนเตียงใหญ่ หาได้รู้สึกถึงความผิดปรกติไม่ แต่อยู่ ๆ เมื่อมีคนหนึ่งชายหนุ่มสุดที่กำลังจะกลายเป็นเจ้าบ่าวในเร็ววันพลิกฟื้นคืนกำลังแล้วหันมากะจะลงมืออีกครั้ง ระหว่างที่เขากำลังจะประชิดด้านหลังเขากลับพบว่าร่างที่ถูกพันธนาการเอาไว้เสียค่อนคืน ไม่มีลมหายใจอีกแล้ว ความโกลาหนจึงบังเกิด เขาพยายามปลุกเพื่อนร่วมกรรมให้ตื่นขึ้นมาพบความจริงตรงหน้า

   "แล้วเราจะทำยังไงดีครับท่าน" เสกลูกน้องคนสนิดเอ่ยถามร้อนรน
   "เราคงหนักมือกันไปหน่อยนะคราวนี้" เสียงเปรยจากชายสูงวัยไล่เลี่ยกับเจ้าของบ้านเอ่ยเบา ๆ
   "ไอ้เสกรีบไปจักการเรื่องศพก่อนเร็ว ๆ อย่าช้า" เสียงเจ้าของบ้านสั่งการเฉียบขาด 
   "น่าจะเอาไปเป็นอาหารให้พวกลูก ๆ ของผม เสียดายที่จวนจะเช้าแล้ว" หนุ่มใหญ่นักธุรกิจเจ้าของฟาร์มจระเข้เพื่อการส่งออกเอ่ยออกมาลอย ๆ
   "ไม่น่าเลย เสียดายจัง น่าจะอยู่ให้เชยชมอีกสักหน่อย" เสียงชายหนุ่มที่กำลังจะเป็นเจ้าบ่าวบ่นเบา ๆ
   "วันหน้ายังมี เดี๋ยวจัดให้ อยากได้แบบไหนบอกมาเลย" ชายวัยใกล้กับเจ้าของบ้านบอกอย่างไม่ยี่หระก่อนจะเอามือไปตบไหล่หนุ่มรุ่นหลานเบา ๆ
ภาพบนจอพลันดับวูบลงทิ้งไว้เพียงหน้าจอสีฟ้าสว่างเท่านั้น

   "หมวดพชร ตอนนี้คุณกลับไปได้แล้ว" เสียงกังวานดังก้องของหรั่งดังขึ้นก่อนที่แรงลมมหาศาลจะพัดพาเขาเข้าสู่อุโมงค์ลมที่มองไม่เห็นอีกฝั่งของปลายอุโมงค์ทั้งที่หน่องพายามออกแรงดึงรั้งไว้ก็ไม่เป็นผล เขาหายเข้าไปในอุโมงค์ลึกยาวพร้อมเสียงตะโกนเรียก "หน่อง" จนสุดเสียง
   
   เสกที่แต่งตัวเรียบร้อยกลับเข้ามาในห้องที่มีเพียงหรั่งนอนเปลือยแผ่ตาเบิกโพลงอยู่เพียงลำพัง พร้อมกับว่านและกระสอบป่านในมือ ว่านคลี่กางออกก่อนที่จะช่วยกันอุ้มยกร่างเปลือยเปล่าใส่เข้าไปแล้วมัดปากด้วยเชือกเสียแน่นหนา
   "เล่นกันหนักเลยเหรอพี่งวดนี้" ว่านอดถามออกมาไม่ได้
   "อย่าเสือกปากมาก เร็ว ๆ เข้าเถอะมึง" เสกร้องปรามก่อนจะพากันนำกระสอบป่านใบใหญ่ที่บรรจุร่างของหรั่งออกไปขึ้นรถแล้วขับออกไปจากบริเวณบ้าน ทั้งสองไปหยุดรถบริเวณบึงน้ำกว้างใหญ่ท้ายหมู่บ้าน ผืนน้ำดำมืด ดอกบัวสีม่วงอมชมพูส่งกลิ่มหอมลอยมากับสายลม ระรอกน้ำพลิ้วไหวสะท้อนแสงจันทร์ระยิบ
ทั้งสองช่วยกันออกแรงยกกระสอบป่านลงไปจากรถมุ่งตรงไปในบึงบัวจนระดับน้ำแค่คอแล้วค่อย ๆ  ปล่อยให้กระสอบจมลงโดยมีตุ้มเหล็กผูกเชือกมัดรั้งเอาไว้ ทั้งสองกลับขึ้นมาบนฝั่งก่อนจะขึ้นรถขับออกไป โดยหารู้ไม่ว่า ร่างของคนในกระสอบที่ตอนนี้พลิกฟื้นคืนสติกำลังพยายามตะเกียงตะกายเอาชีวิตรอดออกจากเครื่องพันธนาการที่ห่อหุ้มเขาเอาไว้จนหมดแรงกำลังและสิ้นใจไปในที่สุด


หัวข้อ: The rainbow project เพลิงพลาย อัพใหม่หน้า 57 1/12/54
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 01-12-2011 21:41:09
ตอนที่ 13 คำสัญญาสุดท้าย

   ชายสูงวัยที่ได้ยืนนิ่งดวงตาเบิกกว้างแทบถลนออกจากเบ้า แววตาตื่นตระหนกหัวเต้นระรัวด้วยหวาดกลัวกับสิ่งที่ยืนให้เห็นตรงหน้า มือขาวซีดเล็บเขียวคล้ำจนดำที่กำลังออกแรงดึงปลายแถบแพรลื่นมันเงาด้วยมือเพียงข้างเดียวและกำลังค่อย ๆ ยกมือชูสองขึ้นไปเรื่อย ๆ ร่างของเขาลอยตามแรงสูงขึ้น แม้นร่างที่เคยแข็งค้างจะสามารถกระดิกตัวได้แล้วในตอนนี้ แต่ก็ไม่สามารถดิ้นรนหลีกหนีให้พ้นจากพันธนาการโดยเงื้อมมือของอสุภ เขาทำได้แต่เพียงใช้สองมือของตนพยายามเหนี่ยวรั้งมือและแถบแพรพยายามที่จะแกะมันออกจากลำคอ สองขาสะบัดส่ายไปมาราวกับหุ่นกระบอกที่ถูกชักเชิดให้เริงระบำอยู่ในอากาศ อสุรกายตรงหน้าแสยะยิ้มสยองก่อนจะหัวเราะดังก้องด้วยแหลมสูงเสียดประสาท ด้วยพึงพอใจกับเหยื่อของตนตรงหน้า ก่อนจะปล่อยมือออก ทำให้เหยื่อสูงวัยหล่นตุบลงบนพื้นพรม
   "ความตายมันยังไม่สาสมกับสิ่งที่แกทำกับฉัน" เสียงที่เปล่งออกมาด้วยความโกรธแค้นของหรั่งสะท้อนก้อง ก่อนที่กรงเล็บสีดำจะตะหวัดออกไปในอากาศ ถึงแม้จะไปไม่ถึงร่างที่นอนหอบหายใจรวยรินแต่แค่เพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้โลหิตไหลซึมออกมาจากปากแผลที่ปรากฏรอยเล็บยาวเป็นแนวบริเวณหน้าอกของร่างสูงวัย เสียงร้องโอยดังระงม และต่อเนื่องเมื่อ หรั่งออกแรงตะปบกรงเล็บตะกุยไปในอากาศอีกหลายครั้ง แต่ละครั้งเกิดรอยกรีดลึกลงไปในเนื้อลิ่มเลือดไหลทะลักล้นจนนองเนือง กลิ่นความเลือดคละคลุ้งชวนคลื่นเหียน
   "พอเถอะหรั่ง อย่าทำเขาอีกเลย อย่าทำบาปไปมากกว่านี้อีกเลย" หน่องที่ยืนดูเหตุการณ์มาโดยตลอดออกปากปราม
   "แล้วทีพวกมันทำกับหรั่งล่ะ มันเคยคิดจะหยุดบ้างไหม" เสียงตัดพ้อสั่นเครือที่ส่งมาให้เพียงแค่หน่องเท่านั้นที่ได้ยิน ก่อนจะหันมามองทางหน่องด้วยดวงตาสีแดงสด
   "มันยังไม่สาสมหรอกหน่อง" เสียงดุดันด้วยแรงโทสะสะท้อนก้อง ก่อนจะหันกลับมุ่งไปยังร่างที่นอนร้องโอดโอยด้วยพิษของบาดแผลทั่วร่าง ก่อนจะคว้าจับที่ขอเท้าทั้งสองข้างพร้อมกับออกแรงบีบจนได้เกิดเสียงดัง
   "กร๊อบ"   ก่อนเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดจะดังตามมาไล่เลี่ยกัน "โอ๊ย!"
   "พอเถอะ... หรั่ง... หยุดเถอะ... หน่องขอร้องเพื่อตัวของหรั่งเองนะ อย่าสร้างบาปกรรมติดตัวต่อไปอีกเลย" หน่องวิงวอนร้องขอพร้อมกับพยายามเข้าไปใกล้ ด้วยน้ำตาที่อาบลงบนสองแก้ม
   "ได้ในเมื่อหน่องขอ... หรั่งจะให้... ให้ชีวิตของมันยังมีลมหายใจต่อไปก็แล้วกัน" หรั่งบอกพลางหันกลับมุ่งมาทางหน่อง ทิ้งไว้เพียงร่างอาบเลือดที่กำลังออกแรงคลนกระเสือกกระสนถอยหนีไปจนชิดมุมห้องพร้อมกับเสียงร้องโอดโอยและพยายามเอาลำแขนยกขึ้นป้องหน้าซ่อนไว้ ดวงตาตื่นตระหนกหวาดกลัว และคำพร่ำเพ้อร้องแค่คำว่า "อย่า! อย่า! กลัวแล้ว! อย่า! อย่าทำฉัน! อย่า" ให้ได้ยินเท่านั้น
   
   ร่างสยองชวนขนลุกค่อย ๆ แปรเปลี่ยนกลับไปเป็นเฉกเช่นก่อนเก่าที่เคยเห็น หน่วยตาสีอ่อนสะท้อนแววอาลัยแฝงความอบอุ่นอ่อนโยน จ้องมองนิ่งตรงไปที่หน่อง  ก่อนจะเข้าใกล้เกือบประชิด หน่องโผโถมทั้งตัวเข้าซุกกับอกกว้างหนานั้นพร้อมกับสวมกอดเสียเต็มรัก ความอบอุ่นแผ่ซ่านเติมเต็มหัวใจของหน่องอีกครั้ง หลังจากที่ขาดหายไปนาน
   "นิ่งเสียคนดี อย่าร้องเลย ทุกอย่างจบลงแล้ว" เสียงทุ้มนุ่มกังวานเอ่ยปลอบแล้วเอามือทั้งสองสัมผัสผิวแก้มใสจับหน้าของหน่องให้เงยขึ้น ดวงตาใสสะท้อนวงหน้าของหน่องอยู่ข้างใน ความอาทรห่วงหาส่งผ่านออกมาจากหน้าต่างแห่งหัวใจ ก่อนหรั่งจะประทับริมฝีปากอิ่มลงบนหน้าผากนวลขาวแล้ววกกลับมาจูบซับไล่คราบน้ำตาที่ยังคงทิ้งร่องรอยเปียกชื้นเอาไว้ให้เห็น
   "ใช่ทุกอย่างจบลงแล้ว หน่องเองก็คงจะไม่ได้เจอกับหรั่งอีกแล้ว" หน่องบอกพลางทอดถอนใจ
   "ไม่หรอก หรั่งจะอยู่ด้วยกันกับหน่องเสมอ อยู่ด้วยกันที่ตรงนี้ไงคนดี" หรั่งตอบพลางใช้นิ้วชี้จี้แตะไปที่บริเวณทรวงอกด้านซ้ายของหน่อง
   "หรั่งจะอยู่กับหน่องที่ตรงนี้จะไม่หนีหายไปไหนตราบเท่าที่เราจะไม่ลืมกัน หรั่งสัญญา" หรั่งบอกก่อนจะโอบกระชับวงแขนรอบลำตัวของหน่องเอาไว้ก่อนจะก้มลงประทับจูบที่กลางหระหม่อมของคนในอ้อมแขน
   "เดี๋ยวหรั่งจะพาหน่องไปส่ง ได้เวลาที่หน่องจะต้องกลับไปแล้ว" สิ้นคำหรั่งก็พาหน่องมาหยุดยืนอยู่หน้าประตูไม้สีขาวบานใหญ่ แสงสว่างจ้าส่องลอดช่องกระจกใสบนบานประตูนั้นออกมา แต่เมื่อทั้งสองปรับสายตาจนชินจนสามารถมองเห็นภาพจากด้านในได้ชัดเจน

   ภาพของนายตำรวจร่างใหญ่ ที่ศีรษะมีผ้าพันแผลสีขาวพันเอาไว้ เสื้อยืดที่สวมใส่อยู่ถูกย้อมไว้ด้วยเลือดแห้งเกรอะกรังขะมุกขะมอมแต่ก็พอมองออกว่ามันเคยเป็นสีขาวมาก่อน เขากำลังนั่งกอบกุมมือที่เล็กกว่าเอาไว้และจ้องมองด้วยสายตาอาทรแฝงแววเศร้าอยู่ข้างใน  กับร่างของเจ้าของมือที่กำลังนอนหลับตาพริ้มนิ่งสนิทอยู่บนเตียงนอนที่ปูทับไว้ด้วยเครื่องนอนสีขาวสะอาดตา ผ้าห่มถูกคลี่คลุมจนถึงช่วงอก  ความเหนื่อยล้าสะท้อนออกมาจากสีหน้าที่อิดโรย ด้วยเขานั่งเฝ้าอยู่ข้าง ๆ คนตัวเล็กว่า แทบจะในทันทีที่เขารู้สึกตัวหลังจากหมดสติ เขาเองได้รับบาดแผลที่ถือว่าใหญ่พอดูเพราะถึงกับต้องเย็บเสียเกือบสิบเข็ม แต่คนที่นอนอยู่ตรงหน้าไม่มีบาดแผลร้ายแรงให้เห็นแม้เพียงนิด แต่กลับนอนนิ่งไม่ไหวติงเนิ่นนานเสียจนแสงเงินแสงทองเริ่มจะจับขอบฟ้าในอีกไม่นานนี้แล้ว
   "เช้าแล้วนะ ตื่นขึ้นมาคุยกับผมหน่อยสิ" เขาพูดออกมาเบา ๆ ราวกับเกรงว่าจะไปรบกวนการนอนของคนตรงหน้าพร้อมกับยกมือที่เกาะกุมเอาไว้ขึ้นมาแนบแก้มของตน เขาค่อย ๆ วางมือเล็กนั้นลงไว้ข้างลำตัวของผู้เป็นเจ้าของ เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วก้มลงไปใช้ริมฝีปากประทับสัมผัสแผ่วเบาที่ข้างแก้มของคนที่นอนอยู่ตรงหน้า ก่อนจะผละออกอย่างอ้อยอิ่งกลับมานั่งเฝ้ากุมมือที่ข้างเตียงอีกครั้ง
   
   "หรั่งคงหมดห่วงได้เสียที มีคนที่เขาพร้อมจะดูแลหน่องแทนหรั่งแล้ว เก็บหรั่งไว้แค่ความทรงจำของเรา เก็บไว้ในหัวใจของหน่อง แต่หน่องอย่าปิดกั้นใจ หากจะมีคนดี ๆ สักคนเข้ามาในชีวิต หมดเวลาของหรั่งแล้ว หรั่งต้องไปตามทางของหรั่ง หน่องก็กลับไปได้แล้ว ลาก่อน..." เสียงสุดท้ายที่หน่องได้ยินสะท้อนก้องในหัว ก่อนหรั่งจะเปิดประตูบานนั้นออกกว้าง หน่องถึงกับต้องหยีตาเมื่อพบแสงสว่างจ้าสะท้อนออกมาจากหลังประตูบานนั้น

   นิ้วมือของร่างที่นอนอยู่บนเตียงกระดิกส่งสัมผัสให้คนที่ฟุบอยู่ข้างเตียงทั้งที่ยังจับมือเอาไว้หลวม ๆ รู้สึกตัวตื่น เขากระพริบตาไล่ความง่วงงุน ก่อนจะหันมองไปที่ร่างของหน่องที่นอนอยู่ วงหน้าใสที่ดูเหมือนจะนอนหลับมาเต็มอิ่ม เปลือกตาเต้นสั่นไหวก่อนจะกระพริบลืมตาตื่น แววตาฉงนที่ส่งมาให้นายตำรวจหนุ่มราวกับมีคำถามมากมายที่ต้องการคำตอบ แต่ผู้หมวดหนุ่มก็หาได้สนใจด้วยความดีใจเขาโผกระโดดขึ้นไปนั่งด้วยบนเตียงก่อนจะช้อนร่างเล็กกว่าขึ้นมาสวมกอดพร้อมกับหอมแก้มไปเสียหลายฟอดก่อนจะมอบสัมผัสหวามหวานด้วยริมฝีปากของตนกับเรียวปากของคนร่างเล็กในอ้อมกอด หน่องเองจากที่แต่เริ่มก็พยายามดิ้นหนี ถึงกับนิ่งอึ้งไปทันทีกับรสสัมผัสที่ได้รับก่อนจะหันผละออกพร้อมกับซุกซ่อนหน้าเข้าไว้กับอกแกร่งของนายตำรวจ ด้วยรู้ตัวดีว่าตอนนี้ผิวหน้าของตนเห่อร้อนและคงระเรื่อเสียจนแดงไปหมดทั้งหัวหู อับอายเสียจนแทบแทรกแผ่นดินหนีก็ไม่ปาน

   ควันสีดำลอยจากปล่องไฟทรงสูง หลังจากที่หน่องกับหมวดพชรเสร็จจากการวางดอกไม้จันทน์ที่บนเมรุก็พากันมายืนหยุดมองอยู่ไกลห่างจากผู้คน ทั้งสองแหงนมองตามควันไฟที่ถูกสายลมพัดพาแตกกระจัดกระจายไปบนท้องฟ้า บริเวณโดยรอบเหรื่อในวงการบันเทิง แวดวงข่าวมากหน้าหลายตารวมไปถึงประชาชนที่ชื่นชอบเอกวิน นรลักษณ์อยู่อย่างหนาแน่น แม้บางส่วนเริ่มจะพาทยอยกันกลับบ้างแล้ว
   สายตาของหน่องจ้องมองนิ่งไปบนท้องฟ้าก่อนจะเอ่ยออกมาเบา ๆ
   "หลับให้สบายนะหรั่งเพื่อนรัก ไม่ต้องเป็นห่วง หน่องสัญญาว่าจะจดจำหรั่งเอาไว้ในใจของหน่องเสมอ เราจะไม่มีวันลืมกัน หน่องสัญญา"
   รอยตำรวจโทพชร เขามายืนซ้อนที่ด้านหลังของหน่องพร้อมกับเอามือทั้งสองข้างของตนยกขึ้นมาจับที่ไหล่ของคนตรงหน้าเอาไว้ก่อนจะเอ่ยเบา ๆ "ผมก็สัญญา สัญญาว่าจะรักและดูแลเพื่อนคนสำคัญของคุณตลอดไป ผมสัญญา" 

- จบบริบูรณ์-

หัวข้อ: Re: The rainbow project เรื่องสั้น 7 เรื่อง 7 คนเขียน (อัพให้ใหม่ง่ายกว่าทำลิ้งค์)
เริ่มหัวข้อโดย: tippy ที่ 15-01-2012 03:59:17
เพลิงพราย - สงสารหรั่งชีวิตอาภัพจริงๆ อ่านตอนจบแล้วฟังเพลงไปด้วยแทบน้ำตาไหล จากกันทั้งที่ยังรัก แถมยังทรมาณก่อนตายยออีก สงสารหรั่งมากจริงๆ ได้ออกมาจากวังวนการเป็นเด็กขายแล้วแท้ๆ
หัวข้อ: Re: The rainbow project เรื่องสั้น 7 เรื่อง 7 คนเขียน (อัพให้ใหม่ง่ายกว่าทำลิ้งค์)
เริ่มหัวข้อโดย: จงกลนี ที่ 16-01-2012 18:50:05
ต่อไปจะให้นังเขียวมาอัพของมันต่อก็แล้วกันนะคะ อย่าหาว่าลัดคิวเลยค่ะ คือว่า ไฟล์มันอยู่ในเครื่องนี้พอดีเลยเชียว
ขอบคุณที่แวะมาอ่านและแสดงความคิดเห็นนะคะ

อ้างถึงการประมูลที่จัดโดยเล้าเป็ดนิดนึง

พอดีอีเจ๊จงไม่มีอะไรจะส่งไปประมูล ก็เลยแผลง ๆ จะทำเพลิงพรายนี่แหละค่ะ เป็นเล่มเดียวในโลกหล้า ไม่มีพิมพ์จำหน่ายที่ไหน
คนที่ประมูลได้จงมั่นใจว่า ไม่มีซ้ำแน่นอน ใครสนใจเชิญไปส่องดูนะคะ

หัวข้อ: Re: The rainbow project เรื่องสั้น 7 เรื่อง 7 คนเขียน (อัพให้ใหม่ง่ายกว่าทำลิ้งค์)
เริ่มหัวข้อโดย: ฝ ฝ้าย ที่ 27-08-2012 00:07:16
(http://24.media.tumblr.com/tumblr_m9binh1OdJ1rst984o1_500.png)


เห็นแล้วคิดถึง
หนูริช&บรูโน่
จากเรื่องเล่ห์ร้ายค๊าาาา
หัวข้อ: Re: The rainbow project เรื่องสั้น 7 เรื่อง 7 คนเขียน (อัพให้ใหม่ง่ายกว่าทำลิ้งค์)
เริ่มหัวข้อโดย: s.mosis ที่ 27-08-2012 13:28:18
รักลวงตาอ่านไม่ได้ค่ะ
หัวข้อ: Re: The rainbow project เรื่องสั้น 7 เรื่อง 7 คนเขียน (อัพให้ใหม่ง่ายกว่าทำลิ้งค์)
เริ่มหัวข้อโดย: nataxiah ที่ 30-08-2012 19:04:48
แล้วของผมจะได้ลงตอนไหนครับป้า แจ้งคิวด้วยนะครับ
หัวข้อ: Re: The rainbow project เรื่องสั้น 7 เรื่อง 7 คนเขียน (อัพให้ใหม่ง่ายกว่าทำลิ้งค์)
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 30-08-2012 19:44:26
ลงได้เลยค่ะ แล้วป้าจะมาทำสารบัญให้ค่ะ ไม่ต้องรอคนอื่นแล้ว เอาเลย ส่วนคนอื่น ๆ ค่อยส่งพีเอ็มให้มาอัพต่อ ๆ กันไป สงสารคนอ่านหายากอ่านลำบาก ๕๕๕
หัวข้อ: Re: The rainbow project เรื่องสั้น 7 เรื่อง 7 คนเขียน (อัพให้ใหม่ง่ายกว่าทำลิ้งค์)
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 30-08-2012 19:53:27
ถ้านัทลงจบแล้ว แจ้งพีเอ็มไปหามาร์คด้วยว่าให้มาลงเป็นรายต่อไปด้วยนะคะ ส่วนเจ๊เขียว เดี๋ยวป้าจะโทรไปบอกให้เองหลังจากมาร์คีลงจบนะจ๊ะ  ปล. รักลวงตา ถ้าอ่านไม่ได้ อาจเป็นเพราะคนเขียนลบไปแล้วมั้งคะ มันเป็นสิทธิส่วนบุคคลว่าอะไรไม่ได้ค่ะ
(ป้ายังไม่มีเวลาไล่เช็คของเดิมที่ลงไว้แต่ละเรื่องเลยค่ะ ขอสารภาพ จริงๆ ตั้งใจไว้ว่าจะทำสารบัญแต่ละเรื่องแต่ละตอน แต่ปรากฏว่า หาไม่ค่อยเจอ มันเลยไม่ได้ทำเสียที กระซิกๆ) ขอบคุณที่มาแจ้งข่าวให้นะคะหนู   s.mosis และก็สำหรับรูปภาพสวย ๆ น่ารัก ๆ นะจ๊ะ  gufafza


อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะทุกคน

จงกลนี
หัวข้อ: Re: The rainbow project เรื่องสั้น 7 เรื่อง 7 คนเขียน (อัพให้ใหม่ง่ายกว่าทำลิ้งค์)
เริ่มหัวข้อโดย: heaven13 ที่ 09-12-2012 17:30:53
ชอบเรื่อง Butterfly  ค่ะ

อยากอ่านต่ออีกนิดนึงอิอิ
หัวข้อ: Re: The rainbow project เรื่องสั้น 7 เรื่อง 7 คนเขียน (อัพให้ใหม่ง่ายกว่าทำลิ้งค์)
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 11-03-2024 12:44:14
ดีแทค ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 803บ./90วัน กด *104*591*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 1,284บ./180วัน กด *104*592*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 1,926บ./365วัน กด *104*593*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 1,069บ./90วัน กด *104*594*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 1,498บ./180วัน กด *104*595*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 2,675บ./365วัน กด *104*596*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 236บ./7วัน กด *104*388*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 696บ./30วัน กด *104*389*8488034#
เน็ตดีแทค 8 Mbps(เม็ก) 95บ./8วัน กด *104*897*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 1,711บ./90วัน กด *104*598*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 2,139บ./180วัน กด *104*578*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 3,745บ./365วัน กด *104*579*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 354บ./7วัน กด *104*398*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 1,188บ./30วัน กด *104*597*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 139บ./7วัน กด *104*77*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 535บ./30วัน กด *104*97*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 246บ./7วัน กด *104*78*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 696บ./30วัน กด *104*98*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 375บ./7วัน กด *104*79*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *104*798*8488034#
เน็ตดีแทค 2 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 380บ./30วัน กด *104*237*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 470บ./30วัน กด *104*236*8488034#
เน็ตดีแทค 12 Mbps(เม็ก) 193บ./7วัน กด *104*841*8488034#
เน็ตดีแทค 12 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *104*842*8488034#
ยกเลิกเน็ต  กด  *103*0# โทรออก
ดีแทค  เช็คเน็ต คงเหลือ กด *101*1# โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเอง กด *102# โทรออก
ยกเลิก SMS กินเงิน กด *137 โทรออก
เช็คเงิน คงเหลือ กด *101# โทรออก 
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ กด 1678 โทรออก
เน็ตไม่อั้น ไม่ลดสปีด  โปรรวม
สมัครง่ายๆ กดตามได้เลยค่ะ
#โปรเน็ตสุดฮิต  DTAC
โปรที่คุ้มที่สุดของการใช้เน็ต
#โปรเสริมเน็ตวันนี้ #โปรเน็ตสุดฮิต #เน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีด #โปรเน็ตดีแทค #เน็ตดีแทคเติมเงิน #โปรดีแทครายสัปดาห์ #โปรดีแทครายวัน #โปรแทครายเดือน #โปรเน็ตDTAC #เน็ตไม่จำกัด #เน็ตไม่ลดสปีด #โปรเน็ตไม่อั้นรายวัน #โปรเน็ตไม่อั้นรายสัปดาห์ #โปรเน็ตไม่อั้นรายเดือน #DTAC #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีดี #โปรเสริมDTAC #โปรเสริมดีแทค
https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.1735376596730368 (https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.1735376596730368)


เน็ต เปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่าย เบอร์เก่า ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=U8gZx3BTz_I (https://www.youtube.com/watch?v=U8gZx3BTz_I)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว  dtac  ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=xgJOI7_4_vg (https://www.youtube.com/watch?v=xgJOI7_4_vg)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว  dtac  ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.facebook.com/share/p/sTA3Vv6dxR4GnW6x/?mibextid=qi2Omg (https://www.facebook.com/share/p/sTA3Vv6dxR4GnW6x/?mibextid=qi2Omg)


ดีแทค ระบบเติมเงิน Dtac เน็ตไม่อั้น เร็ว 12 Mbps เม็ก หมดเขต 30 เมษายน 2567
https://www.youtube.com/watch?v=-u5Ua409XKc (https://www.youtube.com/watch?v=-u5Ua409XKc)


ดีแทค ระบบเติมเงิน เน็ตไม่อั้น เร็ว 30 Mbps(เม็ก) นาน 30 วัน ราคา 350 บาท แถมโทรฟรีทุกค่าย
https://www.youtube.com/watch?v=9ATbQS3gVwA (https://www.youtube.com/watch?v=9ATbQS3gVwA)
หัวข้อ: Re: The rainbow project เรื่องสั้น 7 เรื่อง 7 คนเขียน (อัพให้ใหม่ง่ายกว่าทำลิ้งค์)
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 27-03-2024 20:33:07
ดีแทค ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 803บ./90วัน กด *104*591*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 1,284บ./180วัน กด *104*592*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 1,926บ./365วัน กด *104*593*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 1,069บ./90วัน กด *104*594*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 1,498บ./180วัน กด *104*595*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 2,675บ./365วัน กด *104*596*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 236บ./7วัน กด *104*388*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 696บ./30วัน กด *104*389*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 1,711บ./90วัน กด *104*598*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 2,139บ./180วัน กด *104*578*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 3,745บ./365วัน กด *104*579*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 354บ./7วัน กด *104*398*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 1,188บ./30วัน กด *104*597*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 139บ./7วัน กด *104*77*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 535บ./30วัน กด *104*97*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 246บ./7วัน กด *104*78*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 696บ./30วัน กด *104*98*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 375บ./7วัน กด *104*79*8488034#
เน็ตดีแทค 8 Mbps(เม็ก) 95บ./8วัน กด *104*897*8488034#
เน็ตดีแทค 8 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 42บ./1วัน กด *104*68*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *104*798*8488034#
เน็ตดีแทค 2 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 380บ./30วัน กด *104*237*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 470บ./30วัน กด *104*236*8488034#
เน็ตดีแทค 12 Mbps(เม็ก) 193บ./7วัน กด *104*841*8488034#
เน็ตดีแทค 12 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *104*842*8488034#
ยกเลิกเน็ต  กด  *103*0# โทรออก
ดีแทค  เช็คเน็ต คงเหลือ กด *101*1# โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเอง กด *102# โทรออก
ยกเลิก SMS กินเงิน กด *137 โทรออก
เช็คเงิน คงเหลือ กด *101# โทรออก 
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ กด 1678 โทรออก
เน็ตไม่อั้น ไม่ลดสปีด  โปรรวม
สมัครง่ายๆ กดตามได้เลยค่ะ
#โปรเน็ตสุดฮิต  DTAC
โปรที่คุ้มที่สุดของการใช้เน็ต
#โปรเสริมเน็ตวันนี้ #โปรเน็ตสุดฮิต #เน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีด #โปรเน็ตดีแทค #เน็ตดีแทคเติมเงิน #โปรดีแทครายสัปดาห์ #โปรดีแทครายวัน #โปรแทครายเดือน #โปรเน็ตDTAC #เน็ตไม่จำกัด #เน็ตไม่ลดสปีด #โปรเน็ตไม่อั้นรายวัน #โปรเน็ตไม่อั้นรายสัปดาห์ #โปรเน็ตไม่อั้นรายเดือน #DTAC #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีดี #โปรเสริมDTAC #โปรเสริมดีแทค
https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.1735376596730368 (https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.1735376596730368)


เน็ต เปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่าย เบอร์เก่า ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=U8gZx3BTz_I (https://www.youtube.com/watch?v=U8gZx3BTz_I)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว  dtac  ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=xgJOI7_4_vg (https://www.youtube.com/watch?v=xgJOI7_4_vg)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว  dtac  ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.facebook.com/share/p/sTA3Vv6dxR4GnW6x/?mibextid=qi2Omg (https://www.facebook.com/share/p/sTA3Vv6dxR4GnW6x/?mibextid=qi2Omg)


ดีแทค ระบบเติมเงิน Dtac เน็ตไม่อั้น เร็ว 12 Mbps เม็ก หมดเขต 30 เมษายน 2567
https://www.youtube.com/watch?v=-u5Ua409XKc (https://www.youtube.com/watch?v=-u5Ua409XKc)


ดีแทค ระบบเติมเงิน เน็ตไม่อั้น เร็ว 30 Mbps(เม็ก) นาน 30 วัน ราคา 350 บาท แถมโทรฟรีทุกค่าย
https://www.youtube.com/watch?v=9ATbQS3gVwA (https://www.youtube.com/watch?v=9ATbQS3gVwA)
หัวข้อ: Re: The rainbow project เรื่องสั้น 7 เรื่อง 7 คนเขียน (อัพให้ใหม่ง่ายกว่าทำลิ้งค์)
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 04-04-2024 18:03:11
ทรู ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ตทรู 1 เม็ก 27บ./1วัน กด *900*3704*17907808#
เน็ตทรู 1 เม็ก 49บ./2วัน กด *900*3709*17907808#
เน็ตทรู 1 เม็ก 59บ./3วัน กด *900*3783*17907808#
เน็ตทรู 1 เม็ก+โทรทรู 65บ./3วัน กด *900*3765*17907808#
เน็ตทรู 1 เม็ก 129บ./7วัน กด *900*3714*17907808#
เน็ตทรู 1 เม็ก 129บ./7วัน กด *900*8880*17907808#
เน็ตทรู 1 เม็ก+โทรทรู 139บ./7วัน กด *900*3767*17907808#
เน็ตทรู 1 เม็ก+โทรทรู 268บ./15วัน กด *900*3769*17907808#
เน็ตทรู 1 เม็ก 375บ./30วัน กด *900*3720*17907808#
เน็ตทรู 1 เม็ก 375บ./30วัน กด *900*8886*17907808#
เน็ตทรู 1 เม็ก+โทรทรู 407บ./30วัน กด *900*3771*17907808#
เน็ตทรู 1 เม็ก 803บ./90วัน กด *900*1794*17907808#
เน็ตทรู 1 เม็ก 1,284บ./180วัน กด *900*9959*17907808#
เน็ตทรู 1 เม็ก 1,926บ./365วัน กด *900*9960*17907808#
เน็ตทรู 2 เม็ก 24บ./1วัน กด *900*1307*17907808#
เน็ตทรู 2 เม็ก 30บ./1วัน กด *900*3705*17907808#
เน็ตทรู 2 เม็ก 81บ./3วัน กด *900*3784*17907808#
เน็ตทรู 2 เม็ก 129บ./7วัน กด *900*1318*17907808#
เน็ตทรู 2 เม็ก 161บ./7วัน กด *900*8881*17907808#
เน็ตทรู 2 เม็ก 161บ./7วัน กด *900*3715*17907808#
เน็ตทรู 2 เม็ก+โทรทรู 139บ./7วัน กด *900*1323*17907808#
เน็ตทรู 2 เม็ก 482บ./30วัน กด *900*3721*17907808#
เน็ตทรู 2 เม็ก 482บ./30วัน กด *900*8887*17907808#
เน็ตทรู 2 เม็ก+โทรทรู 380บ./30วัน กด *900*8561*17907808#
เน็ตทรู 2 เม็ก 1,070บ./90วัน กด *900*8346*17907808#
เน็ตทรู 2 เม็ก 1,605บ./180วัน กด *900*9738*17907808#
เน็ตทรู 2 เม็ก 2,782บ./365วัน กด *900*9737*17907808#
เน็ตทรู 4 เม็ก 35บ./1วัน กด *900*3706*17907808#
เน็ตทรู 4 เม็ก 35บ./1วัน กด *900*3888*17907808#
เน็ตทรู 4 เม็ก 64บ./2วัน กด *900*3710*17907808#
เน็ตทรู 4 เม็ก 102บ./3วัน กด *900*3785*17907808#
เน็ตทรู 4 เม็ก+โทรทรู 107บ./3วัน กด *900*3766*17907808#
เน็ตทรู 4 เม็ก 236บ./7วัน กด *900*3716*17907808#
เน็ตทรู 4 เม็ก 193บ./7วัน กด *900*8882*17907808#
เน็ตทรู 4 เม็ก+โทรทรู 246บ./7วัน กด *900*3768*17907808#
เน็ตทรู 4 เม็ก 391บ./15วัน กด *900*3770*17907808#
เน็ตทรู 4 เม็ก 149บ./30วัน กด *900*9954*17907808#
เน็ตทรู 4 เม็ก 696บ./30วัน กด *900*3722*17907808#
เน็ตทรู 4 เม็ก 696บ./30วัน กด *900*8888*17907808#
เน็ตทรู 4 เม็ก+โทรทรู 470บ./30วัน กด *900*8562*17907808#
เน็ตทรู 4 เม็ก+โทรทุกค่าย 150บ./30วัน กด *900*9840*17907808#
เน็ตทรู 4 เม็ก+โทรทุกค่าย 165บ./30วัน กด *900*9836*17907808#
เน็ตทรู 4 เม็ก+โทรทรู 1,284บ./90วัน กด *900*1795*17907808#
เน็ตทรู 4 เม็ก+โทรทรู 2,247บ./180วัน กด *900*9961*17907808#
เน็ตทรู 4 เม็ก+โทรทรู 3,852บ./365วัน กด *900*9962*17907808#
เน็ตทรู 5 เม็ก 107บ./5วัน กด *900*1962*17907808#
เน็ตทรู 6 เม็ก 49บ./1วัน กด *900*3707*17907808#
เน็ตทรู 6 เม็ก 91บ./2วัน กด *900*3711*17907808#
เน็ตทรู 6 เม็ก 81บ./3วัน กด *900*1328*17907808#
เน็ตทรู 6 เม็ก 252บ./7วัน กด *900*1324*17907808#
เน็ตทรู 6 เม็ก 289บ./7วัน กด *900*3717*17907808#
เน็ตทรู 6 เม็ก 289บ./7วัน กด *900*8883*17907808#
เน็ตทรู 6 เม็ก 910บ./30วัน กด *900*3723*17907808#
เน็ตทรู 6 เม็ก 910บ./30วัน กด *900*8889*17907808#
เน็ตทรู 8 เม็ก 150บ./30วัน กด *900*1207*17907808#
เน็ตทรู 8 เม็ก+โทรทุกค่าย 175บ./30วัน กด *900*9750*17907808#
เน็ตทรู 10 เม็ก 59บ./1วัน กด *900*3708*17907808#
เน็ตทรู 10 เม็ก 107บ./2วัน กด *900*3712*17907808#
เน็ตทรู 10 เม็ก 300บ./7วัน กด *900*8884*17907808#
เน็ตทรู 10 เม็ก 354บ./7วัน กด *900*3718*17907808#
เน็ตทรู 10 เม็ก+โทรทุกค่าย 220บ./30วัน กด *900*9837*17907808#
เน็ตทรู 12 เม็ก 193บ./7วัน กด *900*8565*17907808#
เน็ตทรู 12 เม็ก 482บ./30วัน กด *900*8566*17907808#
เน็ตทรู 15 เม็ก+โทรทุกค่าย 200บ./30วัน กด *900*1243*17907808#
เน็ตทรู 20 เม็ก 161บ./3วัน กด *900*8118*17907808#
เน็ตทรู 20 เม็ก 354บ./7วัน กด *900*8119*17907808#
เน็ตทรู 20 เม็ก 200บ./30วัน กด *900*1005*17907808#
เน็ตทรู 30 เม็ก 240บ./30วัน กด *900*1338*17907808#
เน็ตทรู 30 เม็ก 300บ./30วัน กด *900*1103*17907808#
ยกเลิกเน็ต  กด  *190*1#  โทรออก
เช็คเน็ตทรูมูฟคงเหลือ  กด  *900#  โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเองทรูมูฟ  กด  *933#  โทรออก
ยกเลิกข้อความ SMS กินเงิน  กด  *137  โทรออก
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ ทรูมูฟ กด  1242  โทรออก
#โปรเน็ตทรูมูฟเอชทั้งเติมเน็ตและโทรถูกๆคุ้มสุดๆ #prothaiphonetrue #pronetkaideeโปรเน็ตทรูมูฟเอชทั้งเติมเน็ตและโทรถูกๆคุ้มสุดๆ #prothaiphonetrue #pronetkaidee #โปรเน็ตรายวัน #โปรเน็ตทรูมูฟเอช #เน็ตทรูไม่ลดสปีด #สมัครเน็ตทรู #โปรเน็ตทรูไม่ลดสปีด #เน็ตไม่อั้นทรูมูฟ #เน็ตไม่อั้นสำหรับซิมเก่าทรูมูฟ ​#เน็ต10mbpsไม่อั้นไม่จำกัดจำนวน #เน็ต4mbpsไม่อั้นไม่จำกัดจำนวน #เน็ตไม่อั้นทรูมูฟ #เน็ตถูก
https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.2343011569300198 (https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.2343011569300198)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว True ทรู ระบบเติมเงิน   เมษายน   2567
https://www.youtube.com/watch?v=2pK1LldEjmc (https://www.youtube.com/watch?v=2pK1LldEjmc)


ทรู ระบบเติมเงิน เน็ตไม่อั้น เร็ว 12 Mbps เม็ก หมดเขต 30 เมษายน 2567
https://www.youtube.com/watch?v=0YeTqGL-B4s (https://www.youtube.com/watch?v=0YeTqGL-B4s)


เน็ตไม่อั้น  ไม่ลดความเร็ว  true  ทรู  ระบบเติมเงิน  เมษายน  2567
https://www.facebook.com/100063871243003/posts/903736818432018/?mibextid=rS40aB7S9Ucbxw6v (https://www.facebook.com/100063871243003/posts/903736818432018/?mibextid=rS40aB7S9Ucbxw6v)
หัวข้อ: Re: The rainbow project เรื่องสั้น 7 เรื่อง 7 คนเขียน (อัพให้ใหม่ง่ายกว่าทำลิ้งค์)
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 06-04-2024 21:04:00
เอไอเอส  ระบบเติมเงิน  #ได้ทุกเบอร์
เน็ตไม่อั้น  #เน็ตไม่ลดความเร็ว  (เน็ตอย่างเดียว)
เร็ว  4 Mbps(เม็ก)  ราคา  43  บาท  นาน  1  วัน
*777*7721*117010#  แถมโทรฟรีทุกค่าย  10  นาที
เร็ว  4 Mbps(เม็ก)  ราคา  75  บาท  นาน  2  วัน
*777*7724*117010#
เร็ว  4 Mbps(เม็ก)  ราคา  113  บาท  นาน  3  วัน
*777*7719*117010#
เร็ว  6 Mbps(เม็ก)  ราคา  59  บาท  นาน  1  วัน
*777*7722*117010#
เร็ว  6 Mbps(เม็ก)  ราคา  97  บาท  นาน  2  วัน
*777*7725*117010#
เร็ว  6 Mbps(เม็ก)  ราคา  140  บาท  นาน  3  วัน
*777*7720*117010#
เร็ว  10 Mbps(เม็ก)  ราคา  70  บาท  นาน  1  วัน
*777*7723*117010#
ต่ออายุอัตโนมัติ
#ไม่ลดความเร็ว  #ห้ามใช้โหลดบิท
ร้านสราวุธคอมพิวเตอร์  สตูล
สาขามะนัง 0826499917
ไลน์  sarawutcomputer
เฟซบุ๊ก  sarawutcomputer
www.sarawutcomputer.lnwshop.com
เปิดทุกวัน  09.00 – 20.00  น.
ท่านเต็มใจมา  ร้านฯ  เต็มใจบริการ
#AIS5G #AISOne2Call5G #AISเติมเงิน #เน็ตไม่อั้น #โปรเน็ตส่งท้ายปี #เน็ตไม่ลดสปีด
http://sarawutcomputer.lnwshop.com/b/757 (http://sarawutcomputer.lnwshop.com/b/757)
.
https://web.facebook.com/photo/?fbid=902402371898796&set=a.496909265781444 (https://web.facebook.com/photo/?fbid=902402371898796&set=a.496909265781444)
หัวข้อ: Re: The rainbow project เรื่องสั้น 7 เรื่อง 7 คนเขียน (อัพให้ใหม่ง่ายกว่าทำลิ้งค์)
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 17-04-2024 20:50:33
เอไอเอส  ระบบเติมเงิน  #ได้ทุกเบอร์
เน็ตไม่อั้น  #เน็ตไม่ลดความเร็ว  (เน็ตอย่างเดียว)
เร็ว  4 Mbps(เม็ก)  ราคา  43  บาท  นาน  1  วัน
*777*7721*117010#  แถมโทรฟรีทุกค่าย  10  นาที
เร็ว  4 Mbps(เม็ก)  ราคา  75  บาท  นาน  2  วัน
*777*7724*117010#
เร็ว  4 Mbps(เม็ก)  ราคา  113  บาท  นาน  3  วัน
*777*7719*117010#
เร็ว  6 Mbps(เม็ก)  ราคา  59  บาท  นาน  1  วัน
*777*7722*117010#
เร็ว  6 Mbps(เม็ก)  ราคา  97  บาท  นาน  2  วัน
*777*7725*117010#
เร็ว  6 Mbps(เม็ก)  ราคา  140  บาท  นาน  3  วัน
*777*7720*117010#
เร็ว  10 Mbps(เม็ก)  ราคา  70  บาท  นาน  1  วัน
*777*7723*117010#
ต่ออายุอัตโนมัติ
#ไม่ลดความเร็ว  #ห้ามใช้โหลดบิท
ร้านสราวุธคอมพิวเตอร์  สตูล
สาขามะนัง 0826499917
ไลน์  sarawutcomputer
เฟซบุ๊ก  sarawutcomputer
www.sarawutcomputer.lnwshop.com
เปิดทุกวัน  09.00 – 20.00  น.
ท่านเต็มใจมา  ร้านฯ  เต็มใจบริการ
#AIS5G #AISOne2Call5G #AISเติมเงิน #เน็ตไม่อั้น #โปรเน็ตส่งท้ายปี #เน็ตไม่ลดสปีด
http://sarawutcomputer.lnwshop.com/b/757 (http://sarawutcomputer.lnwshop.com/b/757)
.
https://web.facebook.com/photo?fbid=909129034559463&set=a.496909265781444 (https://web.facebook.com/photo?fbid=909129034559463&set=a.496909265781444)