เล่ห์ร้าย
ตอนจบ
ลลิตรู้สึกว่าตนเองใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนานมาก ทั้งอาบน้ำ สระผม เป่าผมจนแห้ง จัดขวดครีมอาบน้ำที่ชั้นวาง จนไม่รู้จะทำอะไรต่อดีแล้ว จึงค่อยๆ เดินย่องมาเปิดประตูเบาๆ แง้มออกดูความเคลื่อนไหวภายนอก ก็พบแต่ความเงียบสนิทเลยเปิดประตูให้กว้างขึ้น แล้วเดินออกมาช้าๆ มองไปที่เตียงก็เห็นวิธวินท์นอนสงบนิ่ง เสียงหายใจเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ก็พ่นลมหายใจออกมาเบาๆ เมื่อเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ชายหนุ่มก็ยังนอนนิ่ง
เด็กชายจึงตัดสินใจหยิบลูกกุญแจมือจากโต๊ะหัวเตียงมาไขปลดล็อคให้กับวิธวินท์ เพื่อชายหนุ่มจะได้นอนในท่าที่สบายยิ่งขึ้น
แต่เมื่อได้เป็นอิสระ ชายหนุ่มที่นอนนิ่งก็ลืมตาโพลง มือทั้งสองรวบข้อมือเล็กเอาไว้ แล้วดันร่างเล็กให้นอนลงอย่างรวดเร็ว
“อ๊ะ!!!” ลลิตอุทานออกมาอย่างตกใจที่อยู่ๆ ก็ถูกรวบร่างเข้าไปกดแน่นกับเตียง เด็กชายดิ้นด้วยสัญชาตญาณ ชายหนุ่มรวบข้อมือเล็กทั้งสองข้างด้วยมือข้างเดียว แล้วใช้มืออีกข้างดึงเอวบางเข้ามากอดแนบลำตัวเปล่าเปลือยของตน
“ปล่อย ปล่อยฉัน” ร่างเล็กร้องออกมาพยายามดิ้นขลุกขลักอยู่ในวงแขนแกร่งที่รัดอยู่รอบเอว ขาเรียวที่ดิ้นไปมาอยู่บนเตียงถูกชายหนุ่มใช้ท่อนขากดเอาไว้จนขยับไม่ได้
“คุณหนูอยู่เฉยๆ นะครับ” วิธวินท์กัดฟันพูดอย่างพยายามอดกลั้น ใบหน้าของชายหนุ่มซบอยู่กับกลุ่มผมหอมข้างขมับของเด็กชาย
“ผมขอแค่กอดอย่างเดียว” ชายหนุ่มกัดฟันพูดต่อด้วยเสียงปนหอบ ร่างเล็กจึงหยุดดิ้น แต่ก็ยังควบคุมร่างกายให้หยุดสั่นไม่ได้เพราะยังตกใจอยู่ เมื่อวิธวินท์รู้สึกว่าลลิตหยุดดิ้นแล้วจึงปล่อยมือเล็กออก เปลี่ยนเป็นใช้มือมาโอบช่วงไหล่ให้แนบกับอกเขามากขึ้น แม้แขนของเด็กชายจะได้รับอิสระแล้ว แต่ก็ไม่สามารถขยับไปไหนได้ ทำได้แค่ยกแขนโอบกอดศีรษะได้รูปของชายหนุ่มเอาไว้ พลางลูบที่ผมชื้นเหงื่อเบาๆ
“กอดแน่นจัง ฉันหายใจไม่ออก” เด็กชายพูดเบาๆ เมื่อแรงรัดจากชายหนุ่มเริ่มมากขึ้น วิธวินท์ถึงได้รู้สึกตัว คลายอ้อมกอดออกนิดหน่อย แต่หน้ายังซุกไซ้ลงมาที่ซอกคอหอมๆ อย่างหยุดไม่ได้
“ขอแค่กอดนะครับ ไม่ต้องกลัวผมนะครับ” ชายหนุ่มพูดปลอบเสียงหอบๆ ให้เด็กชายสบายใจ พยายามอดทนกับความต้องการของอารมณ์ดิบที่ถูกกระตุ้นจากฤทธิ์ยาอีกละรอกแม้จะเบากว่าเมื่อสักครู่แต่ก็ทำให้เขาปวดที่กลางกายอยู่ดี
ลลิตพยักหน้าตอบรับ เอียงคอหนีการซุกไซ้ของชายหนุ่มแต่ก็ไม่สามารถหลบได้มากมายนักเพราะติดอยู่ที่วงแขนที่ยังกอดเอาไว้ เด็กชายขยับตัวให้อยู่ในท่าทางที่สบายยิ่งขึ้นในอ้อมกอดของวิธวินท์ที่มือก็ยังอยู่ไม่ค่อยสุขลูบวนๆ ไปจนทั่วแผ่นหลัง ขาก็ก่ายแทรกเข้ามาระหว่างขาของร่างเล็ก จนทำให้ลลิตรู้สึกถึงความแข็งและร้อนที่กดแนบอยู่กับหน้าขาทะลุผ่านกางเกงนอนเนื้อนิ่มเข้ามา
“บะ บรูโน่ ตรงนั้น” เด็กชายพูดตะกุกตะกักรู้สึกเขินอายกับสัมผัสร้อนที่ได้รับ
“อย่าสนใจมันครับคุณหนู อืออ” ชายหนุ่มตอบมาเสียงแหบพร่า จมูกกดอยู่ที่แอ่งชีพจรที่เต้นถี่รัวของเด็กชาย
“ตะ แต่ว่า มัน เอ่อ... มัน” เด็กชายนอนตัวแข็งไม่กล้าขยับ พูดเสียงสั่น
“อย่ากลัวนะครับ อืออ” ชายหนุ่มกัดฟันอดทนพยายามเอ่ยปลอบเด็กชายเบาๆ แต่ส่วนนั้นของเขาก็ไม่ได้ลดความร้อนรุ่มลงเลย
“ฉันช่วยเอามั้ย” เด็กชายกลั้นใจถามออกไปเสียงสั่น ชายหนุ่มตกใจสะดุดหยุดการเคลื่อนไหวไปชั่ววินาที แล้วสวมกอดร่างเล็กแน่นขึ้น
“ไม่ครับ” วิธวินท์ตอบออกไปเสียงเบา แม้ในใจนั้นอยากจะปลดปล่อย แต่เขาไม่อาจจะล่วงเกินคุณหนูไปมากกว่านี้อีกแล้ว เขาต้องอดทนให้มันผ่านไปให้ได้
“ทำไมล่ะ เมื่อกี้ฉันก็ยัง...” เสียงเด็กชายหายเข้าไปในลำคอเพราะความขัดเขินเกินกว่าที่จะพูดออกมาได้
“ไม่แล้วครับ ผมจะอดทนให้ได้”
“เพราะอะไรล่ะ เพราะฉันเป็นผู้ชายใช่มั้ย” เด็กชายถามขึ้น แต่กลับได้รับความเงียบเป็นคำตอบ
“เพราะฉันไม่สวย ไม่มีหน้าอกเหมือนผู้หญิงคนนั้นใช่มั้ย” เด็กชายร้องถามต่อด้วยเสียงรัว มือเล็กพยายามดันไหล่ชายหนุ่มให้ออกไปพ้นๆ
“ไม่ใช่นะครับ อืออ” ชายหนุ่มพยายามตอบ แต่ร่างเล็กที่ดิ้นไปมาเสียดสีกับร่างกายที่ไวต่อความรู้สึกเป็นเท่าตัวของเขาทำให้เปล่งเสียงได้ลำบากเหลือเกิน จึงต้องเพิ่มแรงกดร่างเล็กเอาไว้ให้หยุดดิ้น
“แล้วทำไมล่ะ ทำไมๆๆๆ” ลลิตยังไม่หยุดดิ้น ปากก็ร้องถามเสียงดังแสดงความไม่พอใจ
“ผม ไม่ อืออ”
“ปล่อยฉันๆๆๆๆ” เด็กชายตะโกนออกมาซ้ำๆ ด้วยความขัดใจ ในสมองประมวลผลไปเรียบร้อยแล้วว่าชายหนุ่มไม่ได้ต้องการตนเอง ขนาดร่างกายบังคับให้เป็นแบบนี้แล้วแต่ก็ยังปฏิเสธ ความรู้สึกเสียใจและน้อยใจทำให้ร่างเล็กทั้งดิ้นทั้งถีบขาให้หลุดจากการกอดรัดของวิธวินท์
“คุณหนูครับ อืออ ไม่ใช่นะครับ ผม...” ชายหนุ่มพลิกร่างขึ้นคร่อมเด็กชายเอาไว้ แต่ร่างเล็กไม่สนใจรัวมือทั้งทุบทั้งดันร่างใหญ่กว่าให้พ้นทาง
“ปล่อยๆๆๆ ปล่อยเดี๋ยวนี้” ลลิตหลับหูหลับตาร้องไม่หยุด วิธวินท์จึงใช้มือทั้งสองประคองหน้าเล็กเอาไว้ แล้วกดปากลงจูบแนบแน่น ลิ้นร้อนสอดเข้าไปในกลีบปากนุ่มสีชมพูอิ่ม ร่างเล็กชะงักหยุดดิ้นแต่ชายหนุ่มก็ยังไม่หยุดตักตวงความหอมหวานจากเด็กชาย จนกระทั่งร่างเล็กอ่อนระทวยนอนให้ชายหนุ่มกอดนิ่งๆ
“ไม่ใช่เพราะคุณหนูนะครับ แต่ผมทำไม่ได้ครับ” วิธวินท์เอ่ยเสียงกระซิบที่ริมหูของเด็กชาย ร่างเล็กไม่ตอบแต่เอียงหน้าหนีไปอีกทาง ตามองนิ่งไปทิศทางที่ไม่มีหน้าของชายหนุ่มอยู่
“ผมไม่อยากเห็นแก่ตัว คุณหนูยังเด็ก ยังมีทางเลือกอีกเยอะ ผม...” ชายหนุ่มพยายามอธิบายเหตุผล
“ถ้าฉันไม่อยากเลือกใครล่ะ” เด็กชายหันกลับมาแล้วเอ่ยแทรกทันทีทั้งที่วิธวินท์ยังพูดไม่จบ
“ถ้าฉันจะเลือกแค่บรูโน่ล่ะ” ลลิตไต่มือที่ดันอกชายหนุ่มขึ้นไปคล้องคอไว้ แล้วยื่นหน้าเข้าไปแตะริมฝีปากกับริมฝีปากชายหนุ่มเบาๆ ลิ้นเล็กๆ พยายามสอดเข้าไปในปากของชายหนุ่มเหมือนอย่างที่ชายหนุ่มเคยทำ ร่างเล็กเบียดเข้าหาเพิ่มความแนบชิดยิ่งขึ้น
“กล้าขัดคำสั่งฉันเหรอ”
“อืออ” วิธวินท์ยังงงงันกับคำพูดของเด็กชาย จนลิ้นเล็กๆ ซุกซนผ่านเข้าไปแตะกับลิ้นร้อนๆ ของเขา ชายหนุ่มจึงตอบสนองสัมผัสหวามหวานนั้น แล้วพลิกให้ร่างเล็กขึ้นมานอนอยู่บนร่างของเขาแทนเพราะกลัวเด็กชายจะหนัก มือใหญ่ลูบเข้าไปในเสื้อนอนไล้แผ่นหลังเล็กๆ แล้วดึงให้เสื้อเลิกสูงขึ้น เด็กชายจึงยกลำตัวขึ้น ดึงชายเสื้อนอนแล้วถอดออกทางศีรษะโดยไม่เสียเวลาปลดกระดุม แล้วโยนส่งๆ ไปข้างเตียง
วิธวินท์อยากจะต่อต้านความต้องการให้ได้มากกว่านี้ แต่เพราะเด็กชายช่างเย้ายวนจนเลือดหนุ่มในกายร้อนระอุ ร่างเล็กขาวผ่องอยู่ท่ามกลางแสงนีออนสว่างไสวที่นั่งอยู่บนหน้าท้องของชายหนุ่ม จนเขาต้องรั้งลลิตลงมาคลุกเคล้านัวเนียไม่ห่าง ไม่รู้ว่ากางเกงนอนของร่างเล็กหลุดจากตัวเมื่อไหร่ แต่ตอนนี้ชายหนุ่มไม่สนใจที่จะหยุดทั้งร่างกายแล้วก็หัวใจของตนเองอีกต่อไปแล้ว ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้ไปตามผิวขาวเนียนละเอียด ริมฝีปากสัมผัสไปจนทั่วทุกบริเวณ
ลลิตที่ถึงแม้จะทำใจกล้าแต่ด้วยความที่อ่อนประสบการณ์ก็ยังทำให้ร่างเล็กสั่นเทาอย่างไม่อาจที่จะหยุดได้ เด็กชายนอนเกร็งหลับตานิ่ง ริมฝีปากขบเข้าหากันและมือกำผ้าปูที่นอนจนแน่น
“คุณหนูครับ แน่ใจนะครับ” เสียงทุ้มพร่าหอบเบาๆ ที่พยายามไม่ให้สั่นถามขึ้นอีกครั้ง ทั้งๆ ที่วิธวินท์เองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าถ้าหากคุณหนูปฏิเสธออกมา แล้วเขาจะสามารถหยุดตัวเองได้ไหม
เด็กชายพยักหน้าตอบแรงๆ ทั้งที่ยังหลับตา ชายหนุ่มจึงก้มตัวลงแล้วประกบปากจูบ จากเบาๆ ไปจนถึงแนบแน่น ดึงมือเล็กให้กอดคอตัวเองไว้ แล้วกดตัวเองลงไปช้าๆ
วิธวินท์หรี่ตาขึ้นนิดๆ เพราะแสงสว่างภายในห้อง ทั้งเสียงนกร้องที่ดังอยู่ด้านนอก ชายหนุ่มขยับยันตัวลุกขึ้น แต่รู้สึกถึงร่างเล็กที่นอนอยู่ข้างๆ ที่พลิกตัวไปอีกทางเพราะการเคลื่อนไหวของเขารบกวนการนอน ชายหนุ่มมองตามแผ่นหลังขาวผ่องที่มีรอยจ้ำแดงๆ อยู่หลายรอย ไล่ลงมาถึงเอวบางและสะโพกเล็กที่มีผ้าห่มปิดอยู่หมิ่นเหม่ แค่เห็นเนินเนื้อขาวเนียนนั้น ภายในช่องท้องของชายหนุ่มก็เกิดปั่นป่วนขึ้นมาอีก แม้เมื่อคืนจะปลดปล่อยไปแล้วหลายครั้งแล้วก็ตาม
“เฮ้ย ไอ้ยานี่ยังไม่หมดฤทธิ์อีกเหรอวะเนี่ย” ชายหนุ่มอุทานกับตัวเองเบาๆ เมื่อเห็นความเปลี่ยนแปลงในร่างกาย วิธวินท์จึงดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดไว้
“อืออ” เด็กชายข้างๆ จึงขยับตัวขึ้นมาบ้าง
“อูยยย” เสียงซูดปากเบาๆ ด้วยความเจ็บปวด ชายหนุ่มจึงรีบเข้าไปประคอง
“เป็นยังไงบ้างครับคุณหนู”
“เจ็บจัง” เด็กชายตอบเสียงเบา ก้มหน้าไม่กล้าสบตาชายหนุ่ม
“เดี๋ยวผมหายาให้ทานนะครับ” วิธวินท์ทำท่าจะรีบลงจากเตียงแต่มือเล็กดึงไว้ซะก่อน
“อยู่กับฉันก่อนนะ” ใบหน้าเล็กๆ ซุกอยู่กับแขนของชายหนุ่ม
“ฉันไม่รู้หรอกว่าบรูโน่ชอบหรือเปล่า แต่ฉันไม่ปล่อยให้นายไปไหนแน่ๆ” ลลิตเอ่ยออกมาเบาๆ แต่ชายหนุ่มได้ยินอย่างชัดเจน
“บรูโน่ จำตอนที่นายบอกว่าเคยช่วยเด็กที่ตกน้ำได้มั้ย เด็กคนนั้นน่ะคือฉันเอง”
“เอ๊ะ แต่เด็กคนนั้นมอมแมมมากเลยนะครับ ผมเลยคิดว่าน่าจะเป็นลูกคนงาน”
วิธวินท์พยายามนึกถึงเหตุการณ์ที่เขาช่วยเด็กผู้ชายตัวเล็กจากการจมน้ำ แต่เมื่อปลอดภัยแล้ว เจ้าตัวเล็กก็วิ่งหนีเขาไป
“ฉันเองแหละ แล้วหลังจากนั้นฉันก็แอบมองบรูโน่มาตลอด” ลลิตก้มหน้า ใช้ปลายนิ้วเขี่ยต้นแขนชายหนุ่มเบาๆ
“จนถึงวันนั้นที่บรูโน่มาหาพ่อ ฉันก็อยากจะช่วยแต่ก็อยากจะแกล้งด้วย” เด็กอ้อมแอ้มบอกต่อ
“ในเมื่อมาอยู่กับฉันแล้ว ฉันจะไม่ปล่อยไปไหนอีกแล้วนะ”
“ตอนนี้คุณหนูยังเด็กอยู่ อาจยังไม่เจอผู้คนมากนัก ต่อไปภายหน้า คุณหนูอาจจะมีคนดีๆ ที่พร้อมจะเข้ามาให้คุณหนูเลือกมากมาย แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็จะไม่ไปไหนและผมก็จะพยายามทำตัวให้ดีขึ้นเรื่อยๆ แม้อาจจะไม่ดีเท่าใครๆ แต่ผมก็จะทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อให้คุณหนูภูมิใจ ผมจะอยู่กับคุณหนูตลอดไปครับ” วิธวินท์ลูบผมนุ่มอย่างเอ็นดู เขี่ยปลายผมให้ทัดหูเล็กๆ แล้วก้มลงไปจนชิด
“ผมชอบที่จะถูกคุณหนูแกล้ง และอยากเป็นผู้ชายที่ได้ดูแลคุณหนู” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยแผ่วๆ แต่หนักแน่น มือที่ว่างดึงร่างเล็กขึ้นมานั่งบนตัก
“ผมรักคุณหนูครับ” แล้วจูบเบาๆ ที่ใบหูเล็กที่แดงระเรื่อ
“แล้วคุณหนูล่ะครับ” ริมฝีปากยังคลอเคลียอยู่ที่ข้างแก้ม
“บอก บอกแล้วนี่นาว่าไม่ปล่อยให้ไปไหน” ลลิตก้มหน้าต่ำลงไปอีก พยายามจะบิดตัวออกจากวงแขนของชายหนุ่ม
“ยังไม่มีคำว่ารักเลย บอกผมหน่อยสิครับ นะครับ” ชายหนุ่มแลบลิ้นเลียเบาๆ ที่ข้างแก้มเหมือนลูกหมาช่างประจบ
ลลิตยกมือปิดที่แก้มอย่างรวดเร็ว ทะลึ่งตัวถอยห่างจนหลุดจากกอดหลวมๆ ของวิธวินท์
“ไม่บอก!!!” แล้วรีบก้าวลงจากเตียง
ตุ๊บ!! แต่ด้วยขาเรียวที่ไร้เรี่ยวแรงทำให้ร่างเล็กลงไปนั่งแหมะอยู่ข้างเตียง วิธวินท์ตกใจรีบลุกจากเตียงลงมาประคองร่างเล็ก แล้วอุ้มขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน
วิธวินท์ยิ้มออกมากับความน่ารักของเด็กชายที่ตอนนี้หน้าแดงเถือกไม่ยอมมองหน้าเขาเลย ไม่เป็นไรถึงวันนี้จะยังไม่ยอมบอก แต่ชายหนุ่มตั้งปณิธานไว้แล้วว่ายังไงเขาก็จะต้องทำให้คุณหนูยอมบอกเขาให้จงได้ เขายอมทุ่มเทเวลาทั้งชีวิตเพื่อคุณหนูลลิตคนนี้
===จบ===