ตอนที่ 1 ยิ่งสูงยิ่งหนาว
“คุณปลายฟ้าคะ คุณรู้สึกยังไงที่ได้รับบทเป็นพระเอกของหนังเรื่องใหม่ของหม่อมเอียดคะ แล้วนี่เป็นเรื่องแรกที่ได้ร่วมงานกันใช่ไหมคะ”
นักข่าวสาวร่างเล็กจีบปากจีบคอถามอย่างใคร่รู้
“ผมก็รู้สึกดีใจครับที่ได้ร่วมงานกับท่าน เพราะว่าผลงานที่ผ่านมาของท่านยังเป็นที่จดจำของใครหลาย ๆ คนจนทุกวันนี้ ผมก็จะพยายามทำให้ดีที่สุดครับให้สมกับที่ท่านไว้ใจยกบทพระเอกให้ผมเล่น”
เสียงนุ่มตอบคำถามอย่างราบเรียบราวกับเตรียมตัวไว้อย่างดี
ปลายฟ้าเด็กหนุ่มผิวขาว หน้าตาหล่อสูง 180 กว่า กับรูปร่างที่สมส่วนเพราะการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ด้วยความที่รูปร่างหน้าตาดี ทำให้มีแมวมองติดต่อเข้าวงการบันเทิง โดยเริ่มจากการถ่ายแบบ จนมีงานโฆษณาตามมาอีกหลายชิ้น หลังจากนั้นค่าย เนไรว่า โปรดักชั่น ค่ายที่มีนักแสดงชื่อดังมากมาย ชักชวนให้เซ็นต์สัญญาเข้าสังกัด เพื่อเล่นละครอีกหลายเรื่อง จนชื่อเสียงของ ปลายฟ้า นวกมล โด่งดังมากขึ้นในชั่วระยะเวลาไม่กี่เดือน
ชื่อเสียงเงินทองข้าวของทุกอย่างที่เคยฝันไว้ ตอนนี้มันเป็นจริงทั้งหมดแล้ว เขาเคยคิดว่ามันคงทำให้มีความสุข และจะได้เจอความรักที่อบอุ่นอย่างที่ใฝ่ฝัน หามาตลอด เพราะตั้งแต่เด็กเขาแทบไม่เคยได้รับความรักจากบุพการีทั้งสองคนที่เลี้ยงมา ทุกวันนอกจากเสียงก่นด่าแล้วยังโดนทำร้ายร่างกายแถมมาด้วยเสมอ ๆ จนบางครั้งทำให้คิดว่าทั้งสองไม่ใช่พ่อกับแม่ที่แท้จริงของตน พออายุครบ 18 ปี เขาจึงตัดสินใจหนีออกจากบ้านเพื่อหาทางเดินให้กับตัวเอง แล้วก็มาพบกับแมวมองที่พาเข้ามาปลุกปั้นจนมีชื่อเสียงพร้อมกับย้ายมาอยู่กับ สังกัดยักษ์ใหญ่อย่างตอนนี้
ประวัติส่วนตัวของปลายฟ้าถูกปกปิดพร้อมกับสร้างขึ้นมาใหม่อย่างสวยหรู เพื่อให้เหมาะสมกับที่มาของซุปเปอร์สตาร์ชื่อดัง ถ้าใครที่เคยรู้ประวัติของเขาจะถูกปิดปากด้วยเงินก้อนโต รวมถึงพ่อกับแม่ของปลายฟ้าด้วยเช่นกัน ยิ่งทำให้ยากที่ใครจะรู้ความเป็นมาเป็นไปที่แท้จริงได้ และตัวเขาเองก็ถูกสั่งให้เลี่ยงการตอบคำถามที่เกี่ยวกับครอบครัวหรือความเป็นมาทั้งหมด จึงทำให้ ปลายฟ้า นวกมล กลายเป็นบุคคลที่สมบูรณ์แบบที่สุดในสายตาของคนอื่น
“แล้วรู้สึกยังไงกับการที่ต้องแสดงกับนักแสดงดาวรุ่งอย่าง อเล็กซ์ คะ”
นักข่าวสาวคนเดิมถาม
“ก็ไม่รู้สึกยังไงนี่ครับ เรายังไม่เคยร่วมงานกันเลยสักครั้ง ก็ได้แต่หวังว่าคงร่วมงานกันได้ดีก็เท่า นั้นแหละครับ”
คำตอบง่าย ๆ ที่หลุดออกจากริมฝีปากหนาได้รูปของดาราหนุ่ม
“แต่มีข่าวลือว่าอเล็กซ์กำลังพยายามทำตัวเทียบเคียงกับคุณอยู่ตอนนี้ คุณรู้สึกยังไงคะ”
นักข่าวสาวคนเดิมตั้งคำถามต่อ ราวกับอยากได้คำตอบอะไรที่มีค่ามากพอจะไปใส่สีใส่ไข่เขียนข่าวขายเพื่อให้ ได้เงินเพิ่มขึ้น
“เรื่องนี้ผมไม่ทราบครับ พวกคุณคงต้องไปถามเจ้าตัวเอาเองนะครับ ส่วนผมไม่มีปัญหาหรอกครับ ใครจะดังใครจะดับมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับผมอยู่แล้ว”
คำถามของนักข่าวสาวเริ่มทำให้รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาบ้างในตอนนี้
“ขอตัวปลายฟ้าก่อนนะครับ ยังมีงานที่อื่นที่เราต้องไปต่อขอโทษด้วยนะครับ ไว้งานเปิดกล้องหนังเราจะให้สัมภาษณ์อีกครั้งครับ”
สายลมผู้จัดการส่วนตัวรีบแทรกทันทีเมื่อรู้ว่าปลายฟ้าเริ่มอารมณ์ไม่ดี
“ขอถามอีกคำถามเดียวค่ะ ข่าวลือที่ว่าคุณแอบคบกับดารารุ่นพี่อย่างคุณก้องเกียรติ เป็นความจริงหรือเปล่าคะ”
คำถามนี้ยิ่งทำให้ปลายฟ้าต้องรีบแยกตัวจากนักข่าว มาขึ้นรถตู้สีบรอนซ์ที่ เตรียมไว้ด้านหน้าอย่างรวดเร็ว
“นักข่าวคนนั้นมันเป็นใคร มาจากไหน ทำไมถึงกล้ามาถามผมแบบนี้ คราวหน้าพี่สายลมช่วยกันออกไปด้วยนะครับ ผมไม่อยากตอบคำถามเขาอีก”
ปลายฟ้าบอกอย่างหัวเสียเมื่อเข้ามานั่งในรถตู้ โดยมีสายลมนั่งอยู่ด้านหน้า
“ได้เดี๋ยวพี่จัดการให้ครับ พี่จะแจ้งไปยังต้นสังกัดของเขาให้เปลี่ยนคนอื่นเวลามาสัมภาษณ์ครั้งต่อไปนะครับ”
“อ้อ พี่ช่วยหาประวัติของไอ้คนที่ชื่ออเล็กซ์อะไรนั่นให้ผมด้วยนะครับ”
“ได้สิ แต่ว่าทำไมเราเกิดสนใจเขาขึ้นมาหรือยังไงกัน”
“ไม่ใช่หรอกครับ ผมแค่อยากรู้ไว้เท่านั้นเอง เพราะยังไงก็ต้องร่วมงานด้วยกันอยู่แล้ว รู้เขารู้เราไว้ไม่ดีกว่าหรือครับ"
ปลายฟ้าบอกก่อนเอนตัวพิงเบาะนอนหลับตาสงบสติอารมณ์
คอนโดหรูใจกลางกรุง
ที่อยู่ของปลายฟ้าซึ่งทางบริษัทจัดไว้ให้ ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน จนแทบจะไม่ต้องหาอะไรมาเพิ่มเติม มีห้องนอนสองห้องนอนอยู่ตรงข้ามกัน ชุดโซฟาหรูสั่งจากนอกบุด้วยหนังอย่างดีสีฟ้าอ่อนตั้งอยู่กลางห้อง กับโทรทัศน์ LCD 50 นิ้ว พร้อมด้วยชุดโฮมเธียร์เตอร์เต็มรูปแบบราวกับโรงหนังขนาดเล็ก อีกฝั่งของห้องติดกระจกใสแผ่นใหญ่ ที่เปิดออกรับลมพร้อมกับมองบรรยากาศของมหานครได้ตลอดเวลายามต้องการ มีโซฟาตัวเล็กสีชมพูอ่อน พร้อมโต๊ะกระจกใสตัวเล็กตั้งอยู่ ปลายฟ้าชอบนั่งที่มุมนี้เพื่อมองท้องฟ้าทุกครั้งเวลาว่าง ห้องนอนมีเตียงขนาดใหญ่ปูด้วยผ้าปูที่นอนสีฟ้า อ่อนตรงหัวนอนมีตุ๊กตาหมีตัว ใหญ่ที่ได้มาจากแฟนคลับวางเรียงรายอยู่เต็มไปหมด แตกต่างจากอีกห้องที่มีเพียงเตียงเล็ก ๆ สำหรับนอนคนเดียว และแทบไม่มีเฟอร์นิเจอร์อะไรเลยนอกจากคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะเพียงเครื่องเดียวเท่านั้น ที่มุมห้องครัวมีโต๊ะกินข้าวขนาดเล็กนั่งได้สี่คนวางอยู่
“โครม”
ปลายฟ้าโยนบทภาพยนตร์ที่เพิ่งไปรับมาทิ้งลงบนโต๊ะกลางห้องก่อนทิ้งตัวลงนอนบนโซฟานุ่มสีฟ้าอ่อน
“ตกลงเขาจะให้ผมเป็นพระเอกจริง ๆ หรือเปล่าแบบนี้ พี่สายลมคิดดูสิบทของไอ้อเล็กซ์อะไรนั่น มันเด่นเกือบเท่ากับบทของผมเลยนะ”
ปลายฟ้าหัวเสียเมื่ออ่านบทไปได้บางส่วน
“ใจเย็นๆ ก่อนสิครับ ยังไงเขาก็สู้ปลายฟ้าดาราเจ้าบทบาทไม่ได้หรอก พี่ว่ามันอาจจะเป็นผลดีก็ได้นะครับ เพราะถ้าเกิดเขาแสดงได้ไม่ดีพี่ว่าเขาคงดับอนาคตทางการแสดงของตัวเองก็คราวนี้แหละ”
สายลมพยายามยกเหตุผลต่าง ๆ มาพูดให้ปลายฟ้าสบายใจขึ้นถึงจะไม่มากทำได้สักเล็กน้อยก็ยังดี
ปลายฟ้าทิ้งตัวลงนอนบนโซฟา หลับตาสงบสติอารมณ์ตามที่สายลมบอก
“ฟ้าทานอะไรก่อนไหมครับ เดี๋ยวพี่ทำให้ทาน เรายังไม่ได้ทานอะไรตั้งแต่เที่ยงแล้วนี่นา”
สายลมพูดเปลี่ยนเรื่องเมื่อทิ้งเวลาผ่านไปซักระยะหนึ่ง
“จะว่าไปก็เริ่มหิวแล้วเหมือนกัน ยิ่งโมโหก็ยิ่งหิวมากขึ้นไปอีก”
“งั้นรอแปบนะครับ”
ปลายฟ้าลุกขึ้นไปนั่งโซฟาตัวเล็ก หน้าบานกระจกมุมห้องเหมือนทุก ๆ วัน เขาชอบนั่งมองท้องฟ้ายามค่ำคืน ที่แม้จะมองไม่เคยเห็นดวงดาวเลยสักครั้ง เพราะแสงนีออนจากตึกสูงระฟ้าสว่างไสว จนกลบแสงดาวที่ประดับบนท้องฟ้าไปจนหมดสิ้น มองเห็นเพียงท้องฟ้าเป็นสีน้ำเงินเข้มจนเกือบดำสนิท
เขาปล่อยอารมณ์ผ่านท้องฟ้าสีน้ำเงินหม่น ความคิดเดิม ๆ วนกลับมาทุกครั้ง เพราะตั้งแต่โด่งดังมีชื่อเสียง เขายังไม่เจอคนที่จริงใจกับเขาเลยแม้แต่คนเดียว ส่วนมากที่มาคบก็เพียงเพราะความมีชื่อเสียงที่มีอยู่ หรือไม่ก็หวังพึ่งเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ แล้วสิ่งเลวร้ายที่สุดก็คือ พวกที่ต้องการเพียงร่างกาย โดยที่ไม่สนใจในความ รัก หรือความรู้สึกของเขาเลย มันเลยทำให้เขารู้สึกเหงา และเหน็บหนาวที่หัวใจมากเหลือเกิน
ปลายฟ้าอยากได้รับความอบอุ่นจากคนที่จริงใจบ้าง แม้เพียงสักครั้งก็ยังดี ไม่ใช่คนที่หวังแต่ผลประโยชน์จากตัวเขาอย่างทุกวันนี้ แบบนี้ใช่ไหมที่คนเขาพูดกันว่ายิ่งสูงยิ่งหนาว ปลายฟ้าคงเป็นคนที่เข้าใจในความรู้สึกนี้อย่างดีที่สุดคนหนึ่ง
แต่ตอนนี้มีพี่ก้องหรือก้องเกียรติดารารุ่นพี่ที่คบกับเขา ซึ่งตัวเขาเองก็ยังไม่แน่ใจว่าดารารุ่นพี่คนนี้ต้องการสิ่งใดกันแน่ แต่มันก็ยังดีกว่าที่ต้องรู้สึกโดดเดี่ยวเหมือนเมื่อก่อน อย่างน้อยก่อนนอนก็มีคนโทรหาบอกฝันดี ระหว่างวันมีคนคอยห่วงใยถามไถ่ว่าทำอะไรอยู่ เหนื่อยไหม ถึงมันจะดูเหมือนเล็กน้อย แต่มันก็ทำให้รู้ว่ายังมีคนต้องการเขาอยู่
สายลมเตรียมอาหารเสร็จเดินออกมาเพื่อเรียกปลายฟ้า สิ่งที่เห็นคือภาพดาราหนุ่มนั่งเงยหน้ามองท้องฟ้า พร้อมกับแววตาที่บ่งบอก ถึงความเหงาจนถึงก้นบึ้งของหัวใจ สายตามองทอดยาวไปบนท้องฟ้ามืดมิดที่ไร้แสงดาว ถึงจะเป็นภาพที่เห็นจนชินตา แต่มันกลับทำให้ความรู้สึกสงสารปลายฟ้ามากขึ้นทุกครั้ง
เขาเป็นคนหนึ่งที่อยากเข้าไปปลอบประโลม ให้คนที่อยู่ตรงหน้ารู้สึกดีขึ้นมา แต่ก็ไม่สามารถทำได้ทั้งภาระหน้าที่ รวมทั้งไม่รู้ว่าปลายฟ้าจะต้องการการ ปลอบโยนจากคนอย่างเขาหรือไม่
สายลมเดิมทีเป็นเลขาส่วนตัว พร้อมกับควบตำแหน่งบอดี้การ์ดให้กับเจ้าของบริษัทที่ปลายฟ้าสังกัดอยู่ แต่พอปลายฟ้าย้ายเข้ามาเลยขอมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้ เพราะรู้สึกตั้งแต่แรกเห็นว่าอยากดูแล และปกป้องเด็กคนนี้ เขาเลยอ้างเหตุผลว่าจะได้ตามกลบข่าวลือเรื่องต่าง ๆ ให้กับนักแสดงคนนี้ได้โดยง่าย และด้วยความไว้ใจของเจ้าของบริษัทเลยยอมให้มาดูแลปลายฟ้า พร้อมกับให้ทั้งสองคนอยู่ที่คอนโดเดียวกันเพื่อสะดวกต่อการดูแล
“อาหารเสร็จแล้ว รีบมาทานได้แล้ว ฟ้าบ่นหิวไม่ใช่หรือไง”
ฟ้า เป็นชื่อเรียกที่สายลมใช้เรียกปลายฟ้าเวลาอยู่ด้วยกันตามลำพัง และมีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่เรียกปลายฟ้าด้วยชื่อนี้ได้
เสียงของสายลมเรียกสติของปลายฟ้ากลับคืนมาจากห้วงแห่งความเหงาคะนึง ปลายฟ้าหันมามองต้นเสียงที่เรียก แล้วยิ้มให้ก่อนจะลุกเดินไปที่โต๊ะอาหาร
โต๊ะที่ทำจากกระจกหนาใสทรงกลม มีลายกุหลาบดอกใหญ่จาง ๆ อยู่ตรงกลาง แต่ตอนนี้ถูกบดบังด้วยจานผัดผักรวมมิตร ที่บรรจงคัดสรรแต่ผักที่มีคุณค่าทางอาหารสูง และถูกผัดด้วยการใช้ไฟอย่างบรรจง เพื่อไม่ให้สูญเสียสารอาหารเหล่านั้นไป จานไข่เจียวหมูสับสีเหลืองฟูกรอบตัดกับขอบจานสีขาวส่งกลิ่นหอมของไข่ออกมา จาง ๆ พอแค่ชวนน้ำลายสอ และชามต้มจืดเต้าหู้ไข่หมูสับ ที่มีควันลอยออกมาบ่งบอกว่าเพิ่งทำเสร็จ
“พี่ยังไม่ได้ไปจ่ายตลาด ทำได้แต่อาหารง่าย ๆ แบบนี้ฟ้าคงทานได้นะครับ”
สายลมบอกเมื่อปลายฟ้านั่งลงเรียบร้อย พร้อมกับยกจานข้าวสวยที่หุงจนเรียงเม็ดขาวมาวางให้ตรงหน้า
“อะไรผมก็ทานได้ครับ เพราะพี่สายลมทำอะไรก็อร่อยอยู่แล้วล่ะครับ”
คำชมทำเอาสายลมดีใจจนต้องแอบอมยิ้ม ถึงแม้เขาจะได้ยินบ่อย ๆ แต่ก็ยังไม่ชินซักที เมื่อมันออกมาจากปากคนที่แอบห่วงใย
“พี่สายลมทานพร้อมกันเลยสิครับ พี่ก็ยังไม่ได้ทานอะไรเหมือนกันนี่นา”
ปลายฟ้าเงยหน้าขึ้นมาชวนคนที่ยืนมองอยู่จากด้านข้าง
“ฟ้าทานไปก่อนเลย เดี๋ยวพี่ขอตัวไปทำอะไรนิดหน่อยก่อน เดี๋ยวค่อยมาทาน”
“ครับ”
ปลายฟ้าก้มหน้าทานอาหารต่อไป
“เออ!! ผมเกือบลืมไปเลย แล้วนักข่าวเขารู้เรื่องผมกับพี่ก้องได้ยังไงกัน พี่ช่วยลองสืบหน่อยนะครับ ว่ามันรั่วมาจากใคร”
คำขอถูกบอกออกมาโดยที่คนขอไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองเลยแม้แต่น้อย
สายลมเดินเข้าในห้องของตนเองที่อยู่ตรงข้ามกับห้องสายฟ้า เปิดคอมพิวเตอร์ค้นหาข้อมูลของอเล็กซ์ผ่านทางอินเตอร์เน็ต แต่ข้อมูลที่ได้มามันช่างดูผิวเผินเสียเหลือเกิน เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเพื่อนที่อยู่ฝ่ายข่าวบันเทิง เพื่อนคนนี้ชอบล้วงข้อมูลลับของดาราหน้าใหม่มาตีแผ่ ถ้าไม่ยอมจ่ายเงินค่าปิดปากอย่างสมน้ำสมเนื้อ
“เอ ผมอยากรู้ประวัติคนๆ หนึ่งช่วยหาให้หน่อยได้ไหม”
สายลมพูดทันทีที่ปลายสายรับ
“แหม นี่จะไม่ทักทายเพื่อนก่อนหรือไงยะ แล้วกรุณาเรียกฉันใหม่ด้วยนะบอกแล้วไม่จำว่าให้เรียกว่า เอมมี่ เรียกใหม่เดี่ยวนี้เลย”
เสียงเพื่อนชายที่ใจเป็นหญิงดัดแหลมสูงตอบกลับมาอย่างไม่พอใจ
“เอมมี่ ก็ เอมมี่”
สายลมตอบอย่างขอไปที เพราะไม่อย่างนั้นเขาอาจไม่ได้ข้อมูลที่ต้องการก็ได้
“อืมโอเค แต่ว่าอยากให้ฉันหาใครอะไรรีบ ๆ บอกมาฉันกำลังยุ่ง”
“ดาราดาวรุ่งที่ชื่อ อเล็กซ์ เอกวิน นรลักษณ์ เอมมี่หาให้ผมได้ไหม”
“แหม อะไรมันจะช่างประจวบเหมาะกระท้อนร่อนขนาดนี้ยะ ฉันเพิ่งจะไปสืบเจอความลับของนายคนนี้มาได้พอดี แต่ว่าฉันจะได้อะไรตอบแทนล่ะงานนี้”
เธอไม่ลืมสัญชาตญาณของนักต่อรอง
“ต้องให้ผมดูข้อมูลก่อน ถ้าข้อมูลมันสำคัญอย่างที่เอมมี่บอก ผมตอบแทนสมน้ำสมเนื้อแน่นอน”
“โอเค นี่เห็นว่าเป็นเพื่อนหรอกนะถึงยอมให้ข้อมูลก่อน ถ้าเป็นคนอื่นอย่าหวังเลยว่าจะได้เห็น”
“ยังไงก็ขอบใจเอมมี่มากนะ ผมรอข้อมูลอยู่นะส่งให้ผมที่เมลเดิมได้เลย”
“จ๊ะๆ แล้วยังไงเดี๋ยวจะยื่นค่าเหนื่อยไปตอนท้ายด้วยเลยแล้วกันนะ”
สายลมนั่งรอรับเมลอยู่ในห้องพักใหญ่ ถึงได้รับข้อมูลที่เอมมี่ส่งมาให้ เมื่อเปิดอ่านก็ถึงกับยิ้มออกมาราวกับได้ของขวัญชิ้นสำคัญ เขารีบปรินต์ข้อมูลทั้งหมดออกมาเพื่อเอาไปให้ปลายฟ้าอ่าน แล้วคิดว่าปลายฟ้าคงดีใจกับข้อมูลเหล่านี้แน่ ๆ
เมื่อออกมาข้างนอกโทรทัศน์กลางห้องเปิดหนังเรื่องโปรดที่ปลายฟ้าชอบดูทิ้งไว้ เขาเริ่มมองหาไปทั่วห้องก็เห็นปลายฟ้านั่งอยู่ที่โซฟาริมหน้าต่างเหมือนเดิม แต่ต่างจากเดิมตรงที่ปลายฟ้าไม่ได้เงยหน้ามองท้องฟ้า แต่กลับนั่งหลับ เหยียดขาทิ้งมือทั้งสองข้างที่ข้างโซฟาอย่างสบายอยู่แทน สายลมวางเอกสารไว้ที่โต๊ะกลางห้องแล้วเดินเข้าไปห้องของปลายฟ้า ก่อนกลับออกมาพร้อมผ้าห่มสีฟ้าอ่อนผื่นใหญ่จนต้องโอบไว้ทั้งสองมือเพื่อถือออกมา
สายลมค่อย ๆ ห่มผ้าให้อย่างแผ่วเบา เพราะกลัวจะทำให้คนที่กำลังหลับตื่นขึ้นมา แล้วเอาเก้าอี้สตูลแต่งหน้าตัวเล็กมาพร้อมกับค่อย ๆ ยกขาปลายฟ้าไปวางไว้ เพื่อให้คนที่นอนหลับรู้สึกสบายยิ่งขึ้น ปลายฟ้าขยับตัวเล็กน้อยพร้อมดึงผ้าห่มให้กระชับตัวยิ่งขึ้นทั้งที่ยังหลับอยู่ สายลมถอยออกมาดูท่าทางของดาราหนุ่มที่นอนอยู่ตรงหน้าอย่างพึงพอใจ
ใบหน้ายามหลับของปลายฟ้าดูบริสุทธิ์ และไร้เดียงสากว่าสิ่งใดที่คิดได้ ขนตางอนดำแนบชิดติดกันรับกับจมูกโด่งเป็นสันสวยเข้ากับโครงหน้าโดยไม่ต้องตกแต่งเพิ่มเติม ริมฝีปากหนาได้รูปสีชมพูเรื่อปิดสนิท สีหน้าที่ผ่อนคลายลงมากกว่าตอนตื่น นี่สินะเป็นใบหน้าที่แท้จริงของ ปลายฟ้า นวกมล และคงมีแค่สายลมคนเดียวเท่านั้นที่ได้เห็นมัน
“หลับฝันดีนะครับปลายฟ้า” สายลมกระซิบที่ข้างหูเบาๆ
=======> โปรดติดตามตอนต่อไป