อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤แจ้งขอรีไรท์นิยายค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤แจ้งขอรีไรท์นิยายค่ะ  (อ่าน 17073 ครั้ง)

ออฟไลน์ Alessa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
   EP.10 ตั้นเยี่ยมว่าที่แม่ยาย(รีไรท์)

           Part's เมธานนท์ ผมเตรียมตัวรอที่จะไปเยี่ยมแม่ปิ่น ถึงไม่ใช่แม่แท้ๆของผมก็ตามแต่เขาก็มีบุญคุณเลี้ยงดูผมมาแทนพ่อกับแม่ที่เสียไปตั้งแต่ผมอายุได้ห้าขวบ ผมเองก็ไม่รู้ว่าผมใจอ่อนไปแล้วหรือเปล่า ใจ่อนให้กับพี่ตั้นหรือว่านี้ผมกำลังมีใจให้เขากันแน่ และถ้าวันหนึ่งเขารู้ละว่าผมเคยเป็น ….

“กึก!” จู่ๆเสียงประตูก็ถูกเปิดเข้าโดยพี่ตั้น ผมหันไปมองเขาเสื้อสูทที่เขาสวมตอนไป เนกไทยังอยู่เหมือนเดิม

“เตรียมตัวแล้วเหรอเมย์” พี่ตั้นถามผม

“ครับ…. พี่ตั้น” ผมพูดผมบอกเขา ผมรีบหันไปช่วยปลดเนกไทออก พี่ตั้นมองหน้าผม

“นึกว่าจะเรียกพี่ว่า…คุณซะอีก “พี่ตั้นพูดพร้อมกับยิ้มให้ผม ผมเงยหน้าขึ้นมองหน้าพี่ตั้น พี่เขาแตะที่หัวผมเหมือนเด็กๆเลยก่อนจะหันไปถอดเสื้อสูทออกและเริ่มปลดกระดุมเสื้อผ้าพร้อมกับเดินตรงเข้าไปในน้องนอน อันที่จริงผมเตรียมเอาไว้แล้วแหละไม่รู้ว่าถูกใจไหม เสื้อยืดกับกางเกงยีน สักพักพี่เขาก็ออกมาด้วยเสื้อผ้าที่ผมเตรียมไว้ให้นั่นแหละ ผมยืนอมยิ้มอยู่แต่ก็ไม่กล้าแสดงออกมาเดี๋ยวจะรู่ว่าผมดีใจ

“เตรียมเอาไว้ให้พี่เหรอ อย่างนี้พี่ควรจะให้”

“แนะ!” ผมหันมาทำหน้าดุใส่คนที่ตั้งท่าจะมาหอมผมท่าเดียวเลย

“นิดหน่อยก็ไม่ได้เหรอ แฟนเขาทำกัน”

“รอให้ผมยอมเป็นแฟนจริงๆ ก่อนไม่ใช่แฟนที่พี่จ้าง” ผมพูดก่อนจะทำปากยู่เดินออกไปยืนรอพี่ตั้นที่ด้านหน้า พี่ตั้นเดินตามผมออกมาและลงไปยังชั้นล่างสุด เขาพาผมไปที่จอดรถ รถกระบะChevrolet Silverado รุ่นใหม่ล่าสุด คันนี้ผมรู้สึกคุ้นเคยเหมือนเคยนั่งมาก่อน

“ขึ้นรถซิครับ” พี่ตั้นหันมาบอกผมพร้อมกับเปิดประตูให้ผมเข้าไปนั่ง ก่อนที่พี่ตั้นจะขึ้นมาทำหน้าที่คนขับ ผมนั่งเงียบไปตลอดทาง ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงได้ตื่นเต้นและกลัวไปพร้อมๆ กันที่จะได้เจอแม่บุญธรรม

“เดี๋ยวพี่แวะซื้อกระเช้าเยี่ยมคนไข้ก่อนนะครับ เมย์”

“ไม่ต้องหรอกมั้งพี่ตั้น พี่ก็ให้”

“ไปมือเปล่าน่าเกลียดและพี่ก็ว่าจะหาอะไรทานกันก่อนด้วยครับ พี่หิว “พี่ตั้นพูดก่อนจะนำรถเข้าไปจอด เป็นศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง เป็นแบบวิลล่ามีซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านอาหาร ผมหันไปมองพี่ตั้น นี่ผมต้องไปนั่งทานข้าวก่อนด้วยเหรอ

“ถ้าพี่หิวจนทนไม่ไหว พี่อาจจะกินคนข้างๆ พี่แทนนะครับ เพราะว่าเขาอร่อยกว่าอาหารในร้านหรูๆ ซะอีก” พี่ตั้นพูดพร้อมกับหันมาทำท่ากัดปาก มันหื่นและเซ็กซี่ แต่ว่าผมก็ยังไม่อยากโดนกินในนี้ ผมจึงรีบเปิดประตูพรวดออกไปยืนด้านนอกอย่างเร็ว คนที่ออกมาที่หลังสุดหัวเราะชอบใจผมใหญ่เลย พี่เขาก็พาผมไปนั่งทานอาหารที่ร้านหรู เป็นร้านสเต๊ก ผมก็ทานได้นิดหน่อย ไม่ได้ชอบสไตล์นี้เลยและพี่เขาก็พาผมไปหาซื้อกระเช้าเยี่ยมแม่ปิ่น พี่เขาเลือกกระเช้าเยี่ยม รังนกราคาแพง

“แพงแบบนี้แม่ผมจะรับเหรอพี่ตั้น” ผมถามคนที่หิ้วกระเช้าเดินตามผมออกมาจนถึงรถ

“รับซิครับและนี่พี่เต็มใจ…” พี่ตั้นพูด

“มอบให้คุณแม่ยายที่เคารพ” อันนี้แหละที่ทำให้ผมชะงักเท้าที่ก่อนขึ้นรถและหันมากอดอกมองพี่ตั้น คิดอีกทีขึ้นรถจะดีกว่าเหนื่อยเถียงด้วยแล้ว

พี่เขาก็ขับรถออกไปทันที ผมก็โชว์โลเคชั่นที่วิวน้องสาวผม ส่งมาให้ผมให้พี่ตั้นดู พี่เขาขับรถไปไม่นานก็ถึงโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ผมพากันเดินขึ้นไปยังชั้นผู้ป่วยโรคหัวใจและตรงไปยังหมายเลขห้องที่วิวบอกผมเอาไว้

   ก๊อก ก๊อก ก๊อก ผมเคาะประตูห้องพักก่อน คนที่เดินมาเปิดคือวิว น้องสาวผมเอง วิวก็โผเข้ากอดผมทันที ผมนะรักวิวเหมือนน้องสาวแท้ๆ ของผม

“พี่เมย์ วิวคิดถึงพี่เมย์” วิวพูด

“แม่ละวิว” ผมถามหาแม่ปิ่นทันที

“แม่เพิ่งจะหลับไปน่ะ” วิวบอกผมก่อนจะหันมามองคนที่ถือกระเช้าของเยี่ยม เขายิ้มรอการแนะนำตัวจากผม

“วิวนี้พี่ตั้น” ผมหันไปแนะนำพี่ตั้น

“แฟนพี่เมย์เหรอ หล่อจังเลยค่ะ” วิวพูด ดูคนตัวโตของผมมันเขินบ้างซิ ผมหันไปมองเขินเป็นกับเขาด้วยหรือไง

“พี่เข้าไปหาแม่น่ะ “ผมพูดและเดินตามวิวเข้าไปด้านใน เห็นน้องชายคู่แฝดที่อายุห่างจากวิว สามปี ชื่อขิมกับขิง

“ไอ้ขิม ไอ้ขิง” วิวเรียกสองหนุ่มเงยหน้าจากหนังสือการ์ตูนมองผมกับอีกคน

“พี่เมย์” ขิงกับขิงเรียกชื่อผมออกมาพร้อมกัน

“หวัดดีพี่ตั้นด้วยดิ “วิวหันไปบอกน้องชาย

“หวัดดีครับพี่” ขิมกับขิงยกมือไหว้พร้อมกันเขามองผมกับพี่ตั้นสลับกันไปมาด้วยความงง

"พี่ตั้นนี้ขิมกับขิงครับน้องชายฝาแฝดของผมกับวิว"ผมแนะน้องชายฝาแฝดกับพี่ตั้น พี่คั้นพยักหน้าทักทาย

“นี่ครับวิว” พี่ตั้นส่งกระเช้าของเยี่ยมให้วิวรับไปวางไว้ ผมเดินมามองแม่ปิ่นที่กำลังหลับอยู่ ด้วยสายตาที่เป็นห่วง แม่ปิ่นดูผอมลงไปอีกแล้ว

“แม่ไม่ค่อยทานอะไรเลยพี่เมย์ ทานได้น้อย” วิวพูดผมนั่งลงข้างๆ พร้อมกับกุมมือแม่ปิ่นเอาไว้

“แม่ปิ่น “ผมเรียกชื่อเบาๆ

“เมย์เหรอ มาทำไมละลูก” แม่ปิ่นลืมตาขึ้นมองผม

“แม่ไม่สบาย เมย์ต้องมาซิครับ เมย์ขอโทษ เมย์ดูแลแม่ปิ่นไม่ดีเลย” ผมพูด

“ไม่เอาน่ะเมย์ ไม่กี่วันแม่ก็ออกจากโรงพยาบาลแล้วนะ” แม่ปิ่นบอกผม

“นั้นใครละที่มากับเรานะ ใช่คุณ….” แม่ปิ่นเอ่ยถามผม คงคิดว่าเป็นคนที่เคยช่วยเรื่องค่ารักษาพยาบาลแม่เมื่อสองปีทีแล้วหรือเปล่า แต่จริงๆแล้วไม่ใช่คนเดียวกัน

“ไม่ใช่ครับแม่ นี่พี่ตั้นครับ พี่คนนี้คือคนที่โอนเงินให้วิวครับแม่” ผมแนะนำพี่ตั้นยกมือไหว้แม่ของผม

“คนนี้เหรอเมย์ “แม่พูดพร้อมกับพยายามจะลุกเพื่อจะขอบคุณพี่ตั้น

“คุณแม่ครับ ไม่เป็นไรครับคุณแม่ “พี่ตั้นยกมือแตะแขนแม่ผมเพื่อไม่ให้แม่ผมฝืนลุกขึ้นมานั่ง

“พี่เขาเป็นแฟนพี่เมย์ค่ะแม่” วิวบอกแม่ปิ่น

“แม่เมย์ขอโทษนะ “ผมพูดและกอดแม่ปิ่น ขอโทษที่ผมต้องเป็นแบบนี้

“เมย์เป็นอะไรแม่ก็รักลูก “แม่ปิ่นบอกผม พร้อมกับเอามือลูบหัวผมเบาๆ น้ำตาของผมล้นเอ่ออยู่ที่ขอบตาของผมแต่ผมต้องฝืนไม่ให้มันไหล่ออกมา ผมฝืนยิ้มให้แม่ปิ่น ผมหันไปมองมีกระเช้าใบใหญ่และมีป้ายบอกว่าใครส่งมาให้ “คุณปฐวีย์ “เขารู้ด้วยเหรอว่าแม่ผมป่วย ผมหันไปมองหน้าวิวและขยิบตาถึงกระเช้านั้น วิวพยักหน้าว่าใช่

“พี่ตั้น ผมขอพาวิวลงไปซื้อของด้านล่างได้ไหมครับ เอาไว้ให้แม่และน้องๆนะครับ “ผมบอกพี่ตั้น พี่เขาก็พยักหน้า

“พี่เมย์ ผมขอเงินเติมเกมหน่อยดิ “ขิมอ้อนผมจะเล่นเกมในมือถือแต่ผมก็ใจอ่อนให้น้องทุกที ถึงแม่ปิ่นจะหันไปทำหน้าดุใส่ไอ้ขิมก็ตาม ผมเข้าใจเด็กวัยรุ่น

“เล่นเกมอะไรล่ะเรา” พี่ตั้นถามขิง

“เกมspiritwish ครับพี่” ขิงตอบพี่ตั้น ก่อนจะรีบหันไปโชว์เกมส์ในมือถือ ไอโฟนรุ่นเมื่อสองปีที่แล้ว ผมยอมรับว่าผมไม่ได้ซื้อใช้แต่ซื้อให้น้องแทน แม่ปิ่นบ่นผมตอนนั้นเพราะว่าผมต้องทำงานเก็บเงินซื้อตั้งสองเครื่อง

“เฮ้ย! พี่ก็เคยเล่นว่ะ สะสมไอเทมไว้โคตรเยอะเลย เติมเงินไว้ก็เยอะ แต่ตอนนี้พี่ไม่มีเวลาเล่นแล้ว เดี๋ยวพี่ยกให้หมดเลย” พี่ตั้นพูดผมหันไปมอง น้องชายฝาแฝดมันรีบขยับไปเอาใจพี่ตั้นทันทีนะ เห็นแก่เกมจริง ๆ

“แล้วพี่จะไม่เล่นแล้วเหรอ” ขิมมันถามพี่ตั้น

“พี่เลิกแล้วแหละเพราะว่าพี่ มีอย่างอื่นให้ทำสนุกกว่าเกมอีก” พี่ต้นพูดพร้อมกับเหลือบตาขึ้นมองผม เขาหยักคิ้วแบบนี้ ผมต้องรีบหันมาค้อน น้องชายผมยังไม่สิบแปดปีเลย ทะลึ่งจริงๆพี่ตั้นนิ ผมก็ก็หันไปพยักพยักหน้าชวนน้องวิวออกไปซื้อของดีกว่าแต่ใจจริงอยากจะคุยเรื่องกระเช้าผลไม้นั้นด้วย

“พี่เมย์ “วิวเรียกชื่อผม หลังจากที่ปิดประตูลง

“พี่ปฐวีย์เขามาที่นี่เหรอ” ผมถามวิว

“ใช่พี่เมย์ เขารู้จากป้าข้างบ้านเราน่ะ ว่าแม่ปิ่นเข้าโรงพยาบาลและเขาก็ตรงมาที่นี่มาสอบถามว่าแม่อยู่ห้องไหน เขามาถามหาพี่ด้วยนะพี่เมย์ เขาบอกว่าจู่ๆ พี่ก็หายไปไม่ไปทำงานที่โรงแรมของพ่อเขา” วิวบอกผม ผมหันมามองหน้าวิวด้วยความกังวลใจ

“เขาไม่ได้ถามต่อหน้าแม่หรอกพี่เมย์และวิวบอกเขาไปว่าพี่ได้งานใหม่ แต่พี่เกรงใจไม่กล้าบอกเขาน่ะ “วิวโกหกให้ผม “ฟู่!” ผมต้องพ่นลมหายใจออกมา

“นี่เขาก็ถามว่าเราต้องการความช่วยเหลือไหม เรื่องค่ารักษาพยาบาล แต่วิวบอกว่าพี่เมย์มีแล้วแต่ไม่ได้บอกนะว่าแฟนพี่ให้มา” วิวพูดผมก็พยักหน้า

“พี่ไม่อยากรบกวนเขาแล้ววิว” ผมหันมาบอกวิว

“พี่เจอคนที่พี่รักแล้วใช่ไหมพี่เมย์” วิวหยุดถามผมก่อนจะหันมามองหน้าผม

“เออ” ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าเขารักผมหรือว่าเขารุ้สึกผิดกับผมกันแน่

“พี่คนนี้ใช่ไหมพี่เมย์”

“คือว่า วิว ถ้าวันหนึ่งเขารู้ว่าพี่” ผมพูดกับวิว

“ทำไมละ เขาจะรังเกียจพี่เหรอ วิวขอโทษนะเพราะวิวเอง” วิวรีบจับมือผมขึ้นมากุมเอาไว้

“ไม่ใช่ความผิดของวิวหรอก “ผมพูดและเอามือลูบหัววิวเบาๆ

“วิวดูออกน่ะว่าเขารักพี่อ่ะพี่เมย์” ผมหันมามองวิว จังหวะนั้นผมก็เดินผ่านตู้เอทีเอ็ม ผมหันมามองวิว ผมก็เดินตรงเข้าไป ผมหยิบบัตรเอทีเอ็มขึ้นมา อันที่จริงก่อนล่าสุดผมให้แม่ไปแล้วไปจ่ายค่าเทอมน้องๆ ตอนนั้นเหลือไว้แค่พันกว่าบาทให้พอผมใช้จนถึงสิ้นเดือน ผมสอดบัตรเข้าไปในเครื่องและกดรหัส ผลปราฏกว่ามีเงินจำนวนห้าหมื่นบาทโอนเข้ามา สามหมื่นบาทเข้ามาก่อนและอีกสองหมื่นเข้ามาเมื่อเช้านี้ ผมยืนอึ้งตกใจอยู่พักหนึ่งก่อนจะหันมามองหน้าวิว
มีอะไรหรือเปล่าพี่เมย์" วิวถามผม  ผมหันมามองวิวก่อนจะกดออกมาหนึ่งหมื่นห้าพันบาทเพื่อว่าวิวจะต้องใช้อะไร ผมก็หันไปส่งเงินนั้นให้วิว วิวก้มลงมองเงินจำนวนนั้น

  "พี่เมย์เก็บเอาไว้เถอะพี่ตั้นเพิ่งจะโอนมามันยังเหลืออยู่เลยน่ะ" วิวบอกผม ผมก็จับมือวิวและส่งเงินนั้นให้วิวถือเอาไว้ 

"เพื่อว่าน้องๆอยากได้อะไรที่จำเป็น โดยเฉพาะวิวและถ้าเป็นไปได้ ไม่ต้องทำงานพิเศษแล้วน่ะ ตั้งใจเรียนนะวิว พี่จะช่วยงานพี่ตั้นและส่งน้องพี่เรียนให้จบเอง"ผมพูด วิวหันมากอดคอผม ผมรู้สึกเปียดชื้นที่ตรงบ่าของผม วิวร้องไห้ ผมก็ลูบหัวน้องสาวที่ไม่ใช่น้องแท้ๆเบาๆด้วยความรัก เราผ่านเรื่องแย่มาด้วยกันและมันก็ทำให้เรารักกันมากขึ้น

ผมเข้าไปเลือกซื้อของให้แม่ก่อนพากันเดินกลับขึ้นห้องพักคนไข้ ผมเข้าไปก็เห็นสามหนุ่มเขาสุมหัวแถบจะชนกัน พี่ตั้นกำลังช่วยน้องแฝดผมเล่นเกมส์นี่เอง

“พี่โคตรเก่งเลยอ่ะพี่ตั้น ผมนะงมอยู่ตั้งนานไม่ผ่านซะที “ขิงมันพูดชมพี่ตั้น พี่ตั้นเงยหน้ามามองผม ผมเอาของที่ซื้อมาให้แม่วางเอาไว้

“ว่างๆ ไปหาพี่ดิ พี่สอน เทคนิคพี่เยอะและพี่มีเพื่อนๆ มันเก่งกันทุกคนเรื่องพวกนี้น่ะ เซียนเลยดีกว่า” พี่ตั้นพูด ชมตัวเองก็เป็น ผมแอบคิดในใจ

“เมย์ไม่น่าจะต้องซื้อมาเลยลูก” แม่ปิ่นมองสิ่งที่ผมซื้อมาฝาก เป็นของพี่แม่ปิ่นชอบทั้งนั้นแต่แม่เลือกที่จะเก็บเงินไว้ให้พวกผมเรียนก่อนจะซื้อของที่ตัวเองขอบทาน

“แม่ปิ่นจะได้เอาไว้ทาน แม่ดูผอมไปนะ เมย์อยากให้แม่ทานเยอะๆ “ผมพูดและกอดแม่ปิ่นเอาไว้ แม่ปิ่นเอามือลูบหัวผมเบาๆ

“เมย์กลับเถอะลูก เกรงใจพี่เขา ดูพี่เขาเหนื่อยๆ ให้พี่เขาไปพักเถอะนะเมย์ “แม่ปิ่นพูดพร้อมกับผมหันไปมองพี่ตั้น

“เมย์มาหาแม่อีกได้ไหมครับ”

“เอาไว้ให้แม่ออกจากโรงพยาบาลก่อนดีกว่าเมย์ “แม่ปิ่นบอกผม

“คุณแม่จะออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่เหรอครับ” พี่ตั้นถาม

“น่าจะอีกสองสามวันค่ะพี่ตั้น”

“ให้พี่พามาอีกก็ได้นี่ครับ เมย์”

“อย่าเลยค่ะคุณตั้น”

“เมย์ แม่รักเมย์นะ ทำอย่างที่เมย์พูด “น้ำตาผมซึมออกมาทันที แอบปาดมันทิ้ง แม่ปิ่นอยากให้เมย์ออกไปและไม่อยากให้ผมกลับไปอีก แต่ผมทิ้งแม่บุญธรรมคนที่ดูแลผมคนนี้ไม่ได้

“แม่กับน้อง ๆ อยู่กันได้ นะเมย์”

“แม่!!” พี่ตั้นหันมามองผม ผมรู้ว่าเขาไม่เข้าใจหรอกว่าเกิดอะไรขึ้นและผมเองก็ไม่กล้าที่จะบอกเขา

“คุณตั้นพาเมย์กลับไปเถอะค่ะ “แม่หันไปบอกพี่ตั้นทันที

“พาเมย์กลับไปเถอะค่ะ แม่อยากพักผ่อนนะคะ” แม่หันไปบอกพี่ตั้น วิวก็ยืนมองผม วิวพยักหน้าให้ผมกลับไปก่อน เพราะว่าถ้าแม่ปิ่นพูดมาแบบนี้คงทำอะไรไม่ได้ พี่ตั้นลุกมาจับแขนผมและพยักหน้ากับ ผมก็ต้องลุกขึ้นและจำใจเดินออกไปจากห้องผู้ป่วย ผมเดินเงียบๆ โดยไม่พูดอะไร พี่ตั้นก็ไม่ได้ถามอะไรผมเลยจนกระทั่งกลับมาถึงคอนโด

“เมย์”

“เมย์”

“หมับ” ผมรู้สึกตัวอีกที ก็มีคนจับแขนผมเอาไว้ ผมหันไปมองว่ามีอะไร

“เป็นอะไรทำไมเดินเหม่อๆ”

“ผม.เออ… มะ….ไม่มีอะไรครับ” ผมพูดกับพี่ตั้น พี่ตั้นพยักหน้าเบาๆ

“เมย์พี่จะเข้าไปเช็กงานก่อนนะ”

“ได้ครับพี่ตั้น ผมขึ้นไปทำอาหารรอแล้วกันนะครับ” ผมพูดแค่นั้น พี่ตั้นหันมามองผมแต่ก็ไม่ได้ถามอะไร จนกระทั่งลิฟต์เปิดออกพี่เขาก็เดินออกไป ระหว่างที่ผมกำลังยืนรอให้ลิฟต์ขึ้นไป น้ำตาผมไหลผมก็คอยๆ ปาดมันทิ้งก่อนที่ลิฟต์เปิดไปที่ชั้นที่สิบสอง ผมก็รีบเดินออกเข้าห้องเตรียมทำอาหารเย็น ผมก็ทำไม่เป็นหรอกแต่ผมก็ต้ังใจทำเหมือนที่แม่ผมเคยบอก แม่จริงๆ อันนี้คือคำพูดที่ผมจำได้ติดหู ถ้าเราตั้งใจทำให้ไม่ต้องดีที่สุดคนที่รับเขาก็มีความสุขแล้ว วันเกิดพ่อผม ผมอยากช่วยแม่ทำเค้กและนั้นคือครั้งสุดท้าย

TBC...


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-07-2021 17:44:48 โดย Alessa »

ออฟไลน์ Nattie69

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 777
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0

ออฟไลน์ Pe_no

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 375
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ติดตามนะคะ  :mew2:

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
เมย์กับวิวมีลับลมคมในอะไรกัน แล้วไอ้รงค์อีก ท่าจะอีรุงตุงนังนะเห้ย 5555 พี่ตั้นเข้าทางน้องทางแม่เลยนะ แบบนี้ผ่านฉลุย 55 แต่ละคนปมเยอะจริง จะเป็นกันยังไงบ้างละเนี้ย สนุกกกกกก อ่านเพลินดี ขยันอัพด้วย 555 ขอบคุณนะคะ รอตอนต่อไปเลย

ออฟไลน์ Alessa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
EP.10 ปมในใจของพี่ตั้น(รีไรท์)

   Part's รชานนท์ วันนี้ผมรู้สึกใจลอยผิดปกติ มีเรื่องให้ผมคิดมากมาย เรื่องแรกก็คือเรื่องของคุณปฐวีร์ที่ดูดีดูแพงคนนั้น เป็นถึงท่านประธานทั้งที่อายุยังน้อย เป็นทายาทเศรษฐีอันดับต้นๆ และเขายังดูเป็นผู้ชายที่อบอุ่น แถมผมยังรู้สึกว่าเขามีบุญคุณอะไรกับเมย์อยู่ ผมเองก็ไม่กล้าถามเมย์ตรง ๆ และเขาก็น่าจะรักเมย์ ไม่อย่างนั้นคงไม่ไปดูแลครอบครัวของเมย์ขนาดนี้ ก็ตอนที่เมย์ลงไปซื้อของ ผมขอน้องชายเมย์ออกมานั่งคุยด้านนอก น้องชายเมย์เขาบอกว่าคุณปฐวีร์ คอยมารับมาส่งเมย์และยังยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือครอบครัวของเขาและเมย์ตลอด เมื่อสองปีที่แล้วแม่ของเมย์ของเข้าโรงพยาบาลกระทันหันและเขาก็ยื่นมือเข้ามาช่วยเรื่องค่ารักษาให้เมย์จนแม่ปิ่นหายเป็นปกติกลับไปทำงานได้

   ผมควรจะปล่อยให้เมย์ไปเจอคนที่ดีใช่ไหม แต่พี่เขาจะแต่งงานกับพี่ปริมถ้าปล่อยเมย์ไป เจอเขา พี่ปริมก็คงไม่ยอม แต่ถ้าผมกักขังเขาไว้ แล้วเขาไม่ได้รักผม มันจะเหมือนตายทั้งเป็นหรือเปล่า แถมพี่ปริม ไม่ยอมปล่อยผมอีก และนี้ยังไม่รวมถึงปัญหาที่บ้านผมอีก …ผมคิดถูกไหมที่ดึงรั้งเขาเอาไว้แบบนี้ และถ้าวันหนึ่ง เขาเกิดเลือกคนที่มีบุญคุณขึ้นมาล่ะ .

“พี่ตั้น “เสียงเล็กๆ เรียกชื่อผม ผมหันมามองหน้าเมย์ว่าเรียกผมทำไม

“วันนี้เมย์ทำอาหารไม่อร่อยเหรอครับ ผมเห็นพี่เขี่ยข้าวไปมาอยู่พักหนึ่งแล้วนะครับ”

“พี่เหรอ?” ผมถามเมย์กลับหน้าตาเฉย

“ใช่ครับ พี่ตั้นพี่ไม่สบายหรือเปล่าครับ ผมเห็นพี่เงียบมากเลยวันนี้” เมย์ถามผม

“เออพี่…. สงสัยพี่จะเพลียๆ นะครับวันนี้ “ผมพูดตัดบทและรวบช้อนและส้อมเอาไว้ด้วยกัน เมย์มองลงที่จานของผม อาหารแทบจะ ไม่ได้ร่อยหรอลงไปเลย

“พี่เลยไม่ค่อยหิวนะเมย์”

“งั้นผมเก็บล้างเลยนะครับ ส่วนพี่จะไปเข้านอนก่อนก็ได้นะ ผมว่าจะอ่านหนังสือต่อ อีกสักหน่อยครับ” เมย์พูด ผมพยักหน้าก่อนจะลุกขึ้น ผมหันหลังกลับไปมองเมย์แว้ปหนึ่ง เมย์เขาเป็นแม่บ้าน ที่ดีทีเดียว ผมอดที่อมยิ้มให้เขาไม่ได้ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอน ที่จริงผมก็ยังไม่ง่วงนอนเลย

   ผมนั่งๆ นอนๆ ดูหนังบ้าง ดูทีวีบ้าง เวลาผ่านไปเกือบห้าทุ่ม ก็ยังนอนไม่หลับ จู่ ๆ ประตูห้องนอน ก็ถูกเปิดเข้ามา ผมรีบทิ้งตัวลงนอนแกล้งทำเป็นหลับ ผมกับเมย์เรานอนเตียงเดียวกันทุกวัน ถามว่าผม จะไม่มีอารมณ์เลยเป็นไปไม่ได้แต่ผมต้องข่มความรู้สึกตัวเอง ถ้าไม่ได้ก็ต้องช่วยตัวเองในห้องน้ำ ผมไม่ใช่ประอิฐพระปูนครับ

   ผมรับรู้ได้ว่าที่นอนด้านหลังผมมันยุบตัวลง ผมนอนนิ่งรอสักพัก จนทุกอย่างเงียบนั้นแปลว่า คนข้างๆ ผมหลับแล้วซิน่ะ ผมค่อยๆ ดันตัวเองขึ้นและลุกออกไปช้าๆ ผมนอนไม่หลับ ถ้าเป็นเมื่อก่อน ผมจะเข้าไปนอนกอดแม่ลลิลภัทร์ของผมแล้ว แต่พอไม่มีแม่ผม บุหรีคือทางเลือกที่ผมจำใจต้องใช้

   ผมเดินไปเปิดตู้แขวนในครัว  ที่ผมแอบซ่อนซองบุหรี่ อาไว้ในนั้นหนึ่งห่อและไฟแช็ก ผมจะสูบก็ต่อเมื่อผมรู้สึกเครียดจริงๆหรือไม่สบายใจ (แต่ถ้าอยู่ตามสถานบันเทิงผมสูบอยู่กับเพื่อนๆ แต่ไม่ถึงกับติดน่ะแต่พอเห็นเพื่อนสูบแล้วมันก็อยากสูบ และอย่างมากก็แค่หนึ่งมวนหรือสองมวนแค่นั้น)

   ผมเดินออกไปที่ตรงระเบียงของคอนโด ผมเปิดไฟดวงเล็กๆเอาไว้  ก่อนจะจุดบุหรี่ขึ้นมาหนึ่งมวน ผมยืนสูบบุหรี่ พร้อมกับหันไปเหลียวมามองต้นกระบองเพชรที่ผมปลูกเอาไว้ ช่วงนี้มีคนช่วยผมดูแล ต้นไม้เหล่านี้เลยไม่แห้งเหี่ยวเฉาตาย

“ฟู่!!!” เสียงพ่นควันออกมายาวๆ ขึ้นไปบนอากาศ ผมหลับตาพริ้ม นิ้วก็คีบบุหรี่อยู่

“หมับ” จู่ๆ ก็มีคนมาดึงบุหรี่ออกจากนิ้วมือผมไป ผมหันไปมอง คนนั้นคือตัวเล็กนั้นเองที่มาแย่งบุหรี่ไปจากมือของผม

“เมย์!”

“นอนไม่หลับแต่ดันมาสูบบุหรี่ มันช่วยหรือจะยิ่งทำให้แย่ลง” เมย์ถามผม

“พี่มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าพี่ตั้น” เมย์ถามผม

“หมับ!” ผมใช้ฝ่ามือแตะที่หัวเมย์เบาๆ “ไม่มีครับ พี่แค่นอนไม่หลับ “ผมพูดและหลุบตาลง มองพื้นไม่กล้าสบตาเมย์โดยตรง ผมรู้สึกผิด

“นมอุ่นๆ ไหมครับ ตอนที่ผมนอนไม่หลับ ผมคิดถึงพ่อกับแม่ แม่ปิ่นก็จะทำนมอุ่นให้ผมดื่ม หลับสบายดีน่ะ” เมย์พูดก่อนจะเดินกลับเข้าไป เขาเอาบุหรี่ผมติดมือเข้าไปด้วยอีก แต่ผมต้องยืนเกาที่ท้ายถอยด้วยอาการเขินๆ ผมนี่หวนคิดไปถึงแม่ของผม เพราะสิ่งที่เขาห้ามนั้นมันไม่ดีกับตัวผมเหมือนที่เมย์ทำอยู่ตอนนี้

“อ่ะ” ผมรู้สึกถึงความอุ่นที่มาแตะที่แก้มผม ผมหันไปรับแก้วเซรามิกมาถือเอาไว้ ผมก้มลงมอง นมอุ่นที่เมย์ทำมาให้ผมดื่ม ผมสูดความหอมที่โชยขึ้นมาตามควัน

“ผมเห็นมีน้ำผึ้งอยู่ด้วยเลยใส่ไปนิดนึงครับ” เมย์พูดบอกผม ก่อนจะมายืนเคียงข้างๆ ผม เหมอมองออกไปด้านนอก

“คืนนี้ดาวสวยจัง “เมย์พูดพร้อมกันหลับตาพริ้มก่อนจะหันมายิ้มอ่อนๆให้ผม ผมก็ดื่มน้ำนมอุ่นในแก้ว ปกติดื่มแต่เหล้าไม่ผสมก็เพียวๆแต่นี้นมอุ่นๆ จะว่าไปรสชาติก็ดีเหมือนกันน่ะ ผมก้มลงมองแก้ว เมย์ยิ้มให้ผมอีกครั้ง ยิ้มแบบลืมตัวปกติจะยิ้มบ้างไม่ยิ้มบ้างแต่รอยยิ้มมันออกมาจากภายในลึกๆของเมย์จริงๆ จริงๆเขาเป็นแค่เด็กที่ใสซื่อน่ารักไม่ได้ร้ายกาจเหมือนที่พี่ปริมพูดเลยสักนิด

“วิวบอกพี่ว่าพ่อแม่ของเมย์เสียไปตั้งแต่เมย์เพิ่งจะห้าขวบเหรอครับ” ผมถามเมย์

“ใช่ครับ ผมเองก็ไม่รู้หรอกในตอนนั้น ผมยังเด็กมาก รู้แค่ว่าพ่อกับแม่ไม่กลับมาอีก ผมเฝ้าถาม แม่ปิ่น แม่ปิ่นก็บอกว่าพ่อกับแม่ไปอยู่บนท้องฟ้า” เมย์พูดก่อนจะแหงนหน้าขึ้นมองดาวบนฟ้า

“ผมจำได้ว่ามีผู้หญิงสวมเครื่องแบบ เขาจะมาพาผมไปอยู่ด้วย วันนั้นผมร้องไห้หนักมากผม ไม่ยอมไปกับเขา ผมจะอยู่กับแม่ปิ่น ผมเชื่อว่าพ่อกับแม่ของผมจะกลับมา ผมร้องจนเขาไม่กล้า ที่จะเข้ามาแตะตัวผมและแม่ปิ่นก็ขอร้องเอาผมไว้ “ผมหันมามองคนตัวเล็ก

“พอผมโตขึ้นมาผมถึงได้รู้ความจริงว่า พ่อแม่ผมน่ะ ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนเลย มีกันสองคน และพอเกิดเรื่องผมเลยไม่มีใครรับดูแลต่อ มีแค่แม่ปิ่นที่เข้ามารับจ้างดูแลผม และนั้นกรมประชาสงเคราะห์ เขากำลังจะมารับผมไปด้วยซ้ำแต่แม่ปิ่นยืนยันไม่ให้ผมไป “เมย์พูด

“ผมจึงรักแม่ปิ่น แม่บุญธรรมของผมมากเหมือนพ่อแม่แท้ๆ ของผมเลยครับ” ผมใช้ฝ่ามือ ของผมลูบหัวเมย์เบาๆ

“พี่ตั้นผมถามอะไรพี่สักอย่างได้หรือเปล่าครับ”

“ได้ซิครับ”

“ทำไมพี่ชอบปลูกต้นกระบองเพชรจิ๋วแบบนี้ละครับ “เมย์ถามถึงต้นกระบองเพชร ผมก็กระดกนมอุ่นๆ จนหมดแก้ว ผมหันมามองเมย์

“ยอมรับน่ะว่า มันไม่ค่อยเข้ากับหน้าโหดๆ ของพี่เท่าไหร่ “เมย์พูดผมสะบัดหน้าหันไปมองหน้าเมย์ ว่าพูดตรงไปไหม หน้าโหดแต่อยู่ในโหมดคิกขุก็เป็นน่ะ แอบคิดในใจ

“เรานั่งลงคุยกันไหมครับเพราะว่าเรื่องมันยาว” ผมถามเมย์ ผมหันไปมองด้านหลัง และพยักพเยิดให้ไปนั่งตรงนั้นกันดีกว่า เมย์ชี้นิ้วห้ามผม ก่อนที่เขาจะหายเข้าไปและออกมาพร้อมกับ ผ้าหนึ่งผื่น

“พื้นมันเย็นนะครับ” เมย์พูด และเขาก็ปูผ้าลง ผมกับเมย์ก็นั่งลงหลังพิงประตูบานเลื่อน เมย์หันมามองหน้าผมแววตาที่แสดงว่าเขาพร้อมจะรับฟังเรื่องของผม ผมเองไม่เคยเล่าให้ใครฟังเลย แม้กระทั่งเพื่อนสนิทของผม

“ที่พี่ชอบปลูกเพราะว่าพี่คิดถึงแม่พี่ แม่พี่ชอบปลูกต้นกระบองเพชร หรือแคคตัสมาก แม่พี่ปลูกและตกแต่งใส่กระถางเป็นชุดๆเลยนะ แม่พี่นะจัดสวยมาก และพอเวลาเพื่อนๆ ของแม่พี่ขึ้นบ้านใหม่แม่พี่ก็เอาไปเป็นของฝาก เป็นของขวัญ ไม่ใช่แค่ขึ้นบ้านใหม่ ในทุกโอกาสจนเพื่อนแม่พี่เขารักแม่พี่มากเช่นกัน”

“พี่อยู่กับแม่พี่ที่อเมริกา พี่ย้ายไปอยู่นั้นตั้งแต่พี่ยังเด็กมากไม่รู้ว่าอายุเท่าไหร่แต่พี่จำเรื่องตอนเด็กๆ แทบจะไม่ได้เลย ไม่ได้เลยจริง “ผมพูด เมย์ถึงกับขมวดคิ้วมองหน้าผมว่าทำไม

“ดังนั้นพี่เลยเข้าใจไปว่าพี่น่ะน่าจะโตที่อเมริกาเลย แต่แม่นมพี่ ที่อยู่ที่เขาใหญ่เขาบอกว่าเขาเคยเลี้ยงพี่จนอายุห้าขวบพี่ถึงได้ไปอยู่ที่อเมริกา “ผมพูด มันเหมือนผมเสียความทรงจำไปช่วงหนึ่ง

“ไม่อยากเชื่อใช่ไหม” ผมหันไปถามเมย์ เขาก็ส่ายหัวเบาๆ “พี่ก็ไม่อยากจะเชื่อนะเมย์ แต่ว่าพี่พยายามนึกเท่าไหร่ พี่ก็นึกมันไม่ออกอ่ะเมย์” ผมพูด

“อืม…. เพราะว่าขนาดเมย์อายุห้าขวบยังพอจำได้บ้างเลยพี่ตั้น เมย์จำภาพบ้านของเมย์ได้ มีบ่อปลาคาร์ฟ พ่อทำไว้ให้เมย์ และเวลาพ่อกับแม่อยู่บ้าน พ่อของเมย์ก็มักจะชวนมาส่องกล้องดูดาวอยู่เป็นประจำ “เมย์หันมาพูดกับผม แววตาเขามีความสุข แต่ภาพวัยเด็กของผมนี่มันไม่มีเลย

“ดังนั้นพี่ก็เรียนที่อเมริกาตั้งแต่เด็กเลยเหรอพี่ตั้น” เมย์ถามผม

“ใช่ครับ ทำไมเหรอครับ” ผมถามเมย์ ที่ทำหน้า “ไม่อยากจะเชื่อเหรอว่าพี่โตเมืองนอกนะ” ผมถามเมย์ขำๆ

“นิดนึงน่ะ ก็พี่ดูเกรียนๆ เหมือนพวกพี่เปรมดิ์อ่ะ ผมเลยคิดว่าพี่เกิดและโตที่นี่”

“ก็ส่วนใหญ่ที่ผมเห็นเด็กฝรั่งเขาจะลุยๆ มากกว่า” เมย์พูด

“พี่ก็ไม่เป็นหรอก มาเป็นตอนคบพวกมันนี้แหละ “ผมพูดและขำตัวเองไปด้วย

“แหมโทษเพื่อนเลยน่ะ เป็นเองหรือเปล่า” เมย์หันมาพูดแกล้มหยอกกับผม ผมต้องหันไปเอานิ้วบี้จมูกเล็กๆ จะว่าไปมันดูน่ารักดีที่เมย์เป็นแบบนี้

“อย่าบี๋ดิมีน้อยๆ อยู่” เมย์พูดและจับมือผมออก “เล่าเรื่องของแม่พี่ต่อดิผมอยากฟัง” เมย์บอกผม

“ตอนนั้นพี่ก็เหมือนวัยรุ่นทั่วไปพี่ไม่ได้มานั่งสนใจต้นไม้อะไรแบบนี้หรอกนะเมย์เพราะว่าพอวันหยุดพี่ก็อะไรทำกับเพื่อนๆ ไปเล่นสเก็ตบอร์ด บาสเกตบอล อะไรแบบนี้”

“จนกระทั่ง แม่พี่เริ่มป่วยและพี่ถึงได้รู้ว่าแม่พี่เป็นลูคีเมียหรือมะเร็งในเม็ดเลือด ระยะที่4นั่นแหละ พี่ถึงได้เริ่มช่วยแม่พี่ปลูกดูแลพวกต้นกระบองเพชรที่คุณนายลลิลภัทร์เขาชอบ” ผมหันไปมองเมย์ เขาเลิกคิ้วสูงเพราะผมบอกเขาว่าผมชอบเรียกแม่ผมว่าคุณนายลลิลภัทร์

“พี่ชอบเรียกแม่พี่ว่าคุณนายลลิลภัทร์ แต่จะเฉพาะตอนที่แม่ใช้พี่ทำโน้นทำนี้น่ะ เช่น ครับคุณนายลลิลภัทร์ หึ หึ” ผมพูดและขำตัวเอง ส่วนคนตัวเล็กผมตั้งใจฟังเหมือนผมกำลังเล่านิทานเลย

“พี่ต้องคอยไปหาสายพันธุ์ที่คุณนายลลิลภัทร์เขายังไม่มี ถ้าหามาได้น่ะ แม่พี่ดีใจมากแต่พี่ก็มีความสุขนะที่เห็นแม่มีรอยยิ้มและยิ่งพอวันหยุดพี่ก็ต้องคอยขับรถพาแม่พี่ตระเวนหาซื้อด้วยกัน”

“ตอนนั้นพี่เพิ่งจะอายุ15ย่างสิบหก พี่เพิ่งจะสอบlearner’ s permit มันเป็น ใบขับขี่ตัว L และแม่พี่ก็ต้องนั่งข้างๆ พี่ไปด้วยนะ เขายังไม่อนุญาตให้พี่ขับเองคนเดียว เพราะว่าแม่ของพี่น่ะ มีใบขับขี่ตลอดชีพแล้ว”

“และช่วงนั้นพี่ก็เริ่มห่างจากเพื่อนๆ ช่วงที่ร่างกายแม่พี่เริ่มทรุดหนักลงพี่ต้องการใช้เวลาอยู่กับแม่ให้มากๆ และให้นานที่สุด” ผมรู้สึกว่าเมย์เขากุมมือผมไว้ แม้จะไม่พูดอะไรเลยแต่ว่ามันให้ความรู้สึกที่ดีมากสำหรับผม

“พี่ขับรถพาแม่ไปทุกทีที่คุณนายลลิลภัทร์ของพี่อยากจะไป ที่ไหนที่เป็นความสุขของแม่ พี่ก็ขับพาไปทุกทีแหละ “ผมเล่าให้คนตัวเล็กฟัง คนตัวเล็กเริ่มเอาหัวมาพิงที่หัวไหล่ของผม เงยหน้าขึ้นมามองผมตาแป๋ว

“พี่ยังดีกว่าผมน่ะ ผมเองยังเด็ก ผมไม่เคยรู้เลยว่าพ่อแม่ผมชอบอะไรและอ้อมกอดสุดท้าย ผมเองก็ยังไม่รู้เลยมันเกิดขึ้นตอนไหน” คนตัวเล็กพูดเสียงสั่นๆ ผมเอามือลูบหัวเขาเบาๆ

“จนแม่พี่เริ่มแย่ลง ทั้งที่แม่พี่ก็ได้รับยาอย่างดีที่ค่อนข้างแพง แพงมาก แต่มันก็ไม่สามารถ ที่จะยื้อชีวิตแม่พี่ได้ พี่จำได้วันนั้น แม่เพิ่งจะกลับมาจากโรงพยาบาล แม่ขอออกมาเอง หมอบอกพี่แล้วแหละ ว่าแม่พี่อยู่ในช่วง Dieing นั้นคือภาวะใกล้จะเสียชีวิต หมอให้พี่ทำใจแต่พี่ยอมรับว่าพี่ทำใจไม่ได้”

“หลังจากกลับมาอยู่บ้านได้สองสามวัน วันนั้นแม่พี่ขอไปนั่งอยู่ในมุมที่แม่พี่ชอบและแม่พี่ก็หลับ ตอนแรกพี่ก็คิดว่าแม่พี่ คงแค่หลับไปแต่พอพี่กลับมาดูอีกทีแม่พี่ก็เสียแล้ว”

“วันนั้นเป็นวันที่น้ำตาลูกผู้ชายของพี่ไหลเยอะ.... ที่สุด”

“แล้วพ่อของพี่ละพี่ตั้น” เมย์ถามผม ผมต้องกลืนน้ำลายลงคอเอื้อกใหญ่

“พ่อพี่เขาอยู่ที่ไทย เขาไม่แม้แต่จะไปเยี่ยมแม่พี่เลยตั้งแต่แม่พี่ป่วย ทั้งที่พี่โทรบอกเขานะว่าแม่พี่กำลังจะเสีย หมอให้กลับไปอยู่บ้านพ่อพี่ก็ยังไม่บินไปดูเลย” ผมเผลอกำหมัดแต่ก็มีคนแตะให้ผมคลายมันออก นั้นคือเมย์ ผมหันมามองหน้าเขา มันเย็นขึ้นมาหน่อยนะอารมณ์ผมน่ะ

“พี่คิดว่าเขาแค่ทำหน้าที่ส่งเงินให้แม่กับพี่ใช้แค่นั้น ขนาดงานฝังศพแม่พี่เขาก็ไม่ไป มีแค่พี่และเพื่อนสนิทของแม่พี่ ผู้หญิงที่ที่แต่งงานและมีครอบครัวที่นั่น แม่พี่นะเขาอยู่ในสมาคมช่วยเหลือผู้หญิงที่ถูกทำร้ายร่างกายด้วยน่ะก่อนที่แม่พี่จะป่วยน่ะ”

“เงินที่พ่อพี่เขาส่งให้มากมายแค่ไหนมันก็ไม่สำคัญอะไรกับพี่ เพราะมันช่วยให้แม่พี่อยู่ต่อไม่ได้ และนี่ถึงทำให้พี่ ไม่อยากไปเจอหน้าเขา แม้กระทั่งทุกวันนี้ถ้าไม่มีเหตุจำเป็นจริงๆ พี่ก็ไม่ไปหาเขา”

“ตอนแรกพี่ก็ตั้งใจจะไม่กลับมาไทย จะอยู่ที่นั่นแต่พ่อพี่ส่งคนไปรับพี่กลับมา พี่ก็ยังไม่ไป หาเขานะอยู่พักหนึ่ง พ่อพี่อยู่ที่เขาใหญ่เขามีฟาร์ม มีรีสอร์ต อสังหาริมทรัพย์มากมายที่นั่น แต่พี่ไม่แคร์”

“พี่มาใช้ชีวิตที่กรุงเทพและเรียนต่อที่นี่ พ่อพี่ส่งผู้ชายคนหนึ่งมา ดูแลพี่ คนนั้น ชื่อพี่อิศเรศ พี่รู้แค่ว่าเขาคือเลขาฯ และคนสนิทของพ่อพี่”

“เขามาดูแลพี่ทุกอย่าง พี่รู้ว่าเขาเป็นเด็กที่พ่อพี่รับมาอุปการะและส่งเสียให้เขาเรียนจบและกลับมาช่วยดูแลพ่อพี่ และพี่คนนี้แหละที่ดูแลฟื้นฟูจิตใจพี่หลังจากพี่เสียแม่พี่ไป”

“จนพี่เริ่มรู้ใจตัวเองว่าพี่มีความรู้สึกกับเพศเดียวกันและเขา…” ตอนนี้ผมรู้สึกหนักๆ ที่หัวไหล่ของผม ผมก้มลงมองคนตัวเล็ก เขาหลับซะแล้ว

“ตกลงมากล่อมพี่นอนหรือให้พี่กล่อมนายนอนกันแน่ ตัวเล็กเอ๊ย! “ผมพูดกับคนที่ หลับสนิท ผมก็ต้องค่อยๆ ใช้แขนประคองคนตัวเล็ก และใช้อีกแขนช้อนร่างนั้นเพื่อผมอุ้ม คนตัวเล็กกลับ เข้าไปด้านในตอนนี้เป็นเวลาตีหนึ่งกว่าแล้ว

“ขอบคุณนะครับที่นั่งฟังพี่ พี่ไม่เคยเล่าให้ฟังมาก่อนเลยน่ะ “ผมพูดกับ คนที่นอนหลับสนิท

“นายทำให้พี่คิดถึงแม่ รู้ไหมเวลาที่พี่นอนไม่หลับ พี่จะไปกอดแม่พี่ มันอบอุ่นที่สุด และนี่ ก็เลยทำให้พี่ โหยหาแต่ผู้หญิงที่แก่กว่าพี่มาตลอด แต่ทำไมพี่รู้สึกว่ามันยังไม่เติมเต็มให้พี่ เหมือนผู้ชาย คนนั้น “ผมพูดเหมือนบ่นอยู่คนเดียวก็คนที่ผมบ่นให้ฟังหลับอยู่ และนี่ผมก็ยังไม่ง่วง ผมว่าจะเดินไปเปิด ดูงาน ในคอมพิวเตอร์ที่ห้องทำงานผมดีกว่า

“หมับ” ผมรู้ว่ามีมือมาคว้าแขนของผมเอาไว้ ผมหันมามอง คนตัวเล็กนั้นเองตาก็หลับอยู่น่ะ

“กอดผมก็ได้นะ ตอนที่ผมนอนไม่หลับ แม่ปิ่นก็กอดผม มันทำให้ผมรู้สึกปลอดภัย” ผมอดอมยิ้มไม่ได้ และผมก็ถอยหลังมาลงนอนข้างๆ ตัวเล็กของผม ผมสอดแขนเข้าไปโอบร่างคนตัวเล็ก

“ให้กอดได้อย่างเดียวน่ะ ห้ามทำอย่างอื่น” เสียงคนตัวเล็กพูดทั้งที่ตายังหลับอยู่

“หอมได้ไหม” ผมกระซิบที่ข้างใบหูของเมย์ ผมรู้สึกว่าเมย์พยักหน้าเบาๆ

“ฟ้อด!” ผมก็ฝังจมูกลงที่ลำคองามระหงนั้น

“จูบได้ป่ะ” ผมกระซิบถามเบาๆ

“ได้คืบก็จะเอาศอกเดี๋ยวให้ไปนอนในห้องทำงานเลยนิ”

“หึ หึ” ผมต้องหัวเราะในลำคอ พร้อมกระชับอ้อมกอดในแน่นกระชับขึ้น ปลายจมูกโด่งรั้นของผมมันซุกอยู่ที่ซอกคอขาวๆ กลิ่นสบู่ที่ผมซื้อมาไว้ใช้ในห้องน้ำ ยังคงติดตัวคนตัวเล็กอยู่ ผมยิ่งโอบกอดร่างบางๆ ให้กระชับเข้าหาตัวผมเหมือนกลัวว่าเขาจะหายไป เหมือนคนที่ผมรักมากพอกัน เขาเลือกที่จะไปจากผม เพียงเพราะคำว่า” เขาเป็นผู้มีพระคุณ มีบุญคุณกับพี่ ดังนั้นพี่ต้องเลือกเขาครับคุณตั้น” นั้นคือเขาเลือกทิ้งผมไป

TBC...

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-07-2021 17:49:53 โดย Alessa »

ออฟไลน์ Nattie69

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 777
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
อ๋อพี่ตั้นก็เลยกลัวว่าเมย์จะเลือกความมีบุญคุณก่อนความรักนั่นคือกลัวว่าเมย์จะเลือกคุณวีย์ใช่ไหมเพราะเคยประสบมาแล้ว ตอนนี้ก็เข้าใจพี่ตั้นนะว่ามันเพิ่งเริ่มถ้าไม่คิดว่าจะชนะได้ใจมาก็อยากถอย แต่ว่านะเมย์เขาโอเคที่จะอยู่ตรงนี้พี่ก็ลุยหน้าไปเล้ยยย 555 ต่างคนต่างแคร์กันมากขึ้นแล้ว  :katai2-1:  :-[ รอตอนต่อไปจะเป็นไงอีก  :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 831
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1

ออฟไลน์ Alessa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0

EP.11 ผมสับสน (รีไรท์)

   Part's ภาคิน ผมขับรถกลับมาที่ออฟฟิศ ผมไม่ได้เข้ามาสองสามวันแล้ว บอกตรงๆ ว่าผมทนเห็นแบบนั้นไม่ได้และผมคิดว่าถึงเวลาที่ผมควรจะถอนตัวเองออกจากกลุ่มซะที ไอ้ตั้นมันเจอคนที่มันรักแล้ว แล้วผมจะทนอยู่ให้มันเจ็บทำไม ผมเป็นเพื่อนคนแรกของมัน แต่ดันไม่ใช่คนที่ได้ใจมัน ผมได้แต่แอบรักมัน แถมผมยังเคยมีอะไรกับมันอีก มันสารภาพว่าวันนั้นมันเมาและมันก็เสียใจที่มันเสียคนที่มันรักไปให้พ่อมัน ผมเลยต้องหนีไปเรียนต่อเมืองนอกหลังจากจบปริญญาตรีพร้อมพวกเพื่อนๆ คณะวิศวคอมพิวเตอร์ผมยังตามไปเรียนกลับมันเลย  พอกลับมาผมก็หนีมันไม่พ้น มาตกลงเปิดบริษัทด้วยกัน เป็นเพื่อนรักกัน แต่ในความจริงผมก็ยังรักมันมาเหมือนเดิม แต่มันก็ไม่เคยมองผมเกินไปจากเพื่อน ถึงมันจะบอกว่าคือเพื่อนที่มันรักมากแต่มันไม่ใช่รักที่ผมต้องการ และมันอาจจะจริงอย่างที่ไอ้ธีมมันเคยร้องเพลงหนึ่งให้ผมฟัง "ถ้าเขาจะรักยืนเฉยๆเขาก็รัก"

“สวัสดีครับพี่ภาคิน”

“สวัสดีค่ะพี่ภาคิน”

“สวัสดีว่ะ “ผมทักทายน้องๆ ที่มหาลัยที่นั่งทำงานกันอีกวันนี้ มีหลายเจ้าเลยที่ว่าจ้างพวกผมทำเว็บไซต์ให้ ดังนั้นเจ็ดคนน่ะไม่พอแน่นอนในจะงานนอกบริษัทใหญ่ๆ อีก

“ดีว่ะ” ผมหันไปมองไอ้กอล์ฟและเด็กที่ยืนข้างหลังมัน หน้าตี๋ๆ ขาวๆ “หวัดดีครับพี่ภาคิน” ผมยกมือรับไหว้

“พวกไอ้ตั้นละวะ” ผมถามไอ้กอล์ฟ

“มันไปแก้ระบบคอมให้คุณหมอบัวชมพู ที่คลินิกสัตวแพทย์ ระบบเขามีปัญหาไอ้ตั้นมันไปกับไอ้ธีม “ไอ้กอล์ฟพูด หมอบัวชมพูก็เด็กเก่าไอ้ธีมมันอีกคนแต่เห็นว่ามีเภสัชกรหนุ่มใหญ่มาขอแต่งงานไปแล้ว

“ส่วนไอ้เปรมด์ไอ้ทีนและไอ้อาร์ม มันไปลงโปรแกรมให้เพื่อนของอาจารย์นิรุจน์” ไอ้กอล์ฟบอกผม ผมพยักหน้า ผมรีบมาเลยไม่ได้โทรถามใคร ผมเพิ่งจะกลับมาจากไปดูโรงงานกับพ่อผม ผมเหลือบไปเห็นอิเมลที่วางอยู่ที่โต๊ะทำงานไอ้เปรมด์

“เออ เลขาฯ คุณปฐวีย์ส่งอิเมลมาให้ เขาไม่ได้ต้องการให้ลงประวัติอะไรของเขาในเว๊ปไซต์โรงแรมเขา ที่เขาให้ดูวันนั้นน่ะ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะมึงไปแขวะเขาเอาไว้หรือเปล่า” ไอ้กอล์ฟพูด ผมแค่ยักไหล่จะได้ไหมล่ะ

“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวกูมาว่ะคิน กูจะไปส่งน้องมันเข้าเรียนก่อน” ไอ้กอล์ฟพูด

“ไม่เห็นพวกไอ้ปอมมาเลย มันไปไหนกัน งานการไม่มาทำ “ผมหันไปถามไอ้เฟย์

“มันมีเรื่องกับโรงเรียนxxxx นะพี่ มันเลยโดนภาคทัณฑ์ครับพี่คิน” ผมพยักหน้า จะจบอยู่แล้วมาหาเรื่องอะไรตอนนี้

“งั้นผมไปก่อนนะครับพี่ สวัสดีครับพี่ภาคิน” เด็กคนนั้นมันยกมือไหว้ผม ผมก็หยิบมาดู ผมว่ามันเป็นอย่างที่ผมคิดแหละ ผมหยิบมือถือของผมมาและกดโทรไปที่ห้องทำงานของพี่ปฐวีร์ทันที

//สวัสดีค่ะ //เลขาฯ พี่ปฐวีร์รับสาย
//ขอเรียนสายคุณปฐวีร์หน่อยครับ บอกเขาว่าผมภาคินจะพูดสายด้วยครับ มีเรื่องด่วน”
//ได้ค่ะ กรุณารอสายสักครูนะคะ// ผมถือสายรออยู่สัก10 นาที
//ขอโทษที่ให้ถือสายรอนะคะคุณภาคิน คุณปฐวีร์ติดประชุมอยู่นะคะ แต่คุณปฐวีร์บอกว่า ถ้าคุณภาคินจะคุยเรื่องงานรบกวนมาคุยที่ออฟฟิศนะคะ อีกสามสิบนาทีก็ประชุมเสร็จแล้วค่ะ คุณปฐวีร์ไม่ชอบคุยงานผ่านทางโทรศัพท์นะคะ// ผมต้องพ่นลมหายใจ เบื่อจริงๆเลย พวกอีโก้สูงเนี่ย แต่ผมอยากคุยก็เลย
//ได้ครับ ผมจะเข้าไปเลยครับ เดี๋ยวนี้!// ผมพูดและกดวางสาย ผมหันมามองน้องๆ ที่นั่งทำงานอยู่

“ถ้าเฮียตั้นมันกลับมาก่อน ฝากบอกด้วยว่าพี่ไปคุยธุระกับคุณปฐวีย์น่ะ” ผมบอกรุ่นน้องที่นั่งทำงานกันอยู่ หันมาแร๊พโยะกันเป็นแถว

“และนี่อยู่กันได้น่ะ ถ้าหิวโทรสั่งอะไรมากินกันละ จะเคเอฟซีหรือพิซซ่าเลือกเอา” ผมพูดและเอาเงินวางไว้สองพันบาท

“ขอบคุณครับพี่ภาคิน ใจดีโคตรๆ” ผมเดินออกมาจากห้องทำงานทันที นี้เขาต้องการอะไรของเขาว่ะ คุณปฐวีร์ ผมเดินลงมาและรีบเข้าไปในรถคันหรูของผม ขับออกไปอย่างรวดเร็ว ผมตรงดิ่งไปที่โรงแรมหรูระดับห้าดาว ที่เป็นของพ่อพี่ปฐวีร์ ทันทีที่ผมเดินเข้าไปในโรงแรมหรู

“สวัสดีค่ะคุณภาคิน” ผู้หญิงที่เป็นเลขาฯ พี่ปฐวีร์ยืนรอผมอยู่แล้ว

“คุณปฐวีร์รอคุณภาคินอยู่ด้านในแล้วค่ะ ที่ห้องรับรองด้านนี้ค่ะ” เธอบอกผมว่ารออยู่แล้ว ก่อนจะผายมือให้ผมนำเธอไป เธอก็เดินตามผม จนไปหยุดที่ห้อง รับรองสำหรับแขก VIP

“เชิญค่ะ” เธอเปิดประตูให้ผมและผายมือให้ผมเข้าไปด้านใน

“ขอบคุณครับ” ผมหันไปบอกเธอก่อนที่ประตูจะปิดลง สายตาผมมองไปเห็นผู้ชายที่นั่งรอผมอยู่เขาใช้นิ้วเรียวๆเคาะโต๊ะเป็นจังหวะ ผมเดินเข้าไปหยุดมอง หนุ่มใหญ่วัยกลัดมันก็ช้อนสายตาขึ้นมามองผม ผมยืนเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงที่เข้ารูป ฟิตหน่อยๆ ผมยืนมองคนตรงหน้านิ่งโดยยังไม่เอ่ยปากพูดอะไร

“แสดงว่าเรื่องด่วนใช่ไหมครับ น้องภาคิน “ผมเหลือบมองเวลาที่ข้อมือผมมาก่อนเวลาพี่แกยังอุตส่าห์มานั่งรอผมก่อนได้อีก

“พี่มารอก่อนเวลาสิบนาที” ปฐวีร์พูดก่อนจะช้อนตาขึ้นมามองผม ผมเดาว่าเขากำลังอ่านความคิดผมออยู่และมันก็ถูกซะด้วย เพราะว่าผมแปลกใจ มาก่อนเวลาแต่กลับมาเจอเขานั่งรอผมอยู่

“ผมแค่จะมาถามพี่ว่า ทำไมพี่เปลี่ยนใจไม่ลงประวัติที่พี่อุตส่าห์ให้เลขาฯ คนสวยของพี่ไปเรียบเรียงมาซะยาวเหยียด เพื่อลงในเว็บไซต์ของพี่ซะล่ะครับ” ผมเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าพี่เขาอีก

“พี่คิดเอาไว้แล้วเชียวว่าน้องภาคินต้องมาด้วยเรื่องนี้ นั่งก่อนซิครับ ตอนนี้มันเป็นชั่วโมงพักเบรกของพี่น่ะครับ “ผมก็มอง แล้วจะให้ผมรีบมาทำไมว "แล้วทำไมพี่ไม่บอกผมตั้งแต่แรกล่ะครับ ผมจะได้เผื่อเวลาให้นั่งทานอะไรก่อน เพราะว่าถ้าผมพูดไปแล้วพี่อาจจะทานอะไรไม่ลงก็ได้น่ะครับ "ผมพูด

“จะให้ดีทานกาแฟเป็นเพื่อนพี่หน่อยซิ” พี่ปฐวีร์พูด

“ผมไม่ได้รีบขับรถมาเพื่อนั่งทานกาแฟแต่ผมรีบมาเพื่อต้องการคำคอบที่แท้จริง” ผมบอกคนตรงหน้า

“ผมแค่จะมาถามว่าพี่ทำแบบนี้ทำไม พี่ต้องการอะไร ผู้หญิงไร้สมองก็ได้ไปแล้วหรืออยากจะได้เมย์ ก็บอกมาเลยไอ้ตั้นมันลูกผู้ชายพอ เพราะว่าพี่เองก็มีดีขนาดนี้ ไม่ต้องสรรหากระดิกนิ้วใครก็มาแต่อาจจะไม่ทุกคน” ผมพูด คนนั่งเอามือประสานกันช้อนตาขึ้นมามองผม มุมปากกระตุกขึ้นเป็นรอยยิ้ม

“นั่งก่อนซิครับ มาถึงก็มาใส่พี่เป็นชุดแบบนี้ นั่งทานอะไรให้ใจเย็นๆ ก่อนดีกว่าไหม พี่ว่าภาคินมีหลายเรื่องที่อยากจะถามพี่” พี่ปฐวีร์พูด ผมหันไปมองทางอื่น และเลขาฯ ของพี่ปฐวีร์ก็เข้ามาพร้อมกับคนที่ถือถาด มีกาแฟ ขนมเข้ามาวางลงบนโต๊ะ

“ถ้าคุณปริมมา บอกให้เธอไปรอผมบนห้องทำงานนะครับ บอกเขาว่าผมมีแขกคนสำคัญ “พี่ปฐวีร์พูดก่อนจะปรายตามามองผมแว๊ปหนึ่ง

“ถ้าเธอถามว่าคุณวีร์จะให้เธอรอนานแค่ไหนละคะ” เลขาฯ ของพี่ปฐวีย์

“บอกไม่ทราบ ถ้าเธอรอได้ก็รอ ถ้าเธอรอไม่ได้ก็ให้เธอกลับไปก่อนและไม่ต้องมาหาผมตอนเย็นด้วยผมมีนัดแล้ว” พี่ปฐวีร์บอกเลขาฯ เธอแค่พยักหน้ารับคำสั่ง ก่อนที่ทุกคนจะออกไปเหลือไว้แค่ผมกับพี่ปฐวีร์

“นั่งก่อนซิครับ ภาคิน ทานกาแฟกับพี่ก่อน “ผมนั่งลงตรงข้ามพี่ปฐวีร์ พี่เขาก็หยิบถ้วยกาแฟ ขึ้นมาจิ๊บ ก่อนจะช้อนตาขึ้นมามองผมแอบอมยิ้มเล็กน้อย

“นี่ภาคินโมโหแทนตั้นเขาขนาดนี้เลยเหรอครับ” คนตรงหน้าผมถามผม

“พี่ทำแบบนั้นทำไม...ปึก!! " ผมถามพี่ปฐวีย์ก่อนจะก่อนจะใช้ฝ่ามือกระแทกลงที่บนโต๊ะ

“พี่ทำอะไรเหรอครับ ภาคิน” ผมนี้ต้องสูดลมหายใจเข้ายาวๆ พยายามระงับอารมณ์ตัวเอง ก็คนตรงหน้าผมแกล้งทำเป็นไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรอยู่

“พี่แค่อยากให้ตั้นมันรู้ว่าพี่เหนือกว่ามันไง!!” ผมพูด

“ไม่น่าเชื่อเลยน่ะ ตั้นเขามีเพื่อนที่เก่งดูเกมออกสมกับเป็นนักการตลาดที่พี่อยากได้” ผมหันไปมองเกี่ยวกันไหม

“ว่าแต่ เมย์เขาสบายดีไหมครับ” พี่ปฐวีร์เงยหน้าถามผม ผมก็ต้องหัวเราะในลำคอและหันไปมองทางอื่น

“สบายดีเพราะว่าตั้นมันดูแลอย่างดี “ผมพูด

“ดีจนปริมเขาหัวเสียและสั่นเป็นเจ้าเข้าเลยเพราะว่าเขาไม่เคยได้ที่ตั้นทำกับเมย์” พี่ปฐวีย์พูด เขารู้ทุกอย่าง

“แต่พี่ได้ยินแบบนี้ พี่ก็สบายใจได้ว่าเขาอยู่ในที่ปลอดภัย” พี่ปฐวีร์พูด

“พี่รู้ว่าเมย์อยู่ไหน ทำไมพี่ไม่ไปหาเมย์และพาเขาออกล่ะ หรือว่าพี่ไม่กล้า” ผมถามพี่ปฐวีร์

“พี่ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นหรอกภาคิน " มุมปากกระตุกขึ้นเป็นรอยยิ้มพร้อมกับคำพูดนิ่งๆ

“พี่จะรอให้เมย์เขากลับมาหาพี่เองเพราะว่าพี่ก็พร้อมสำหรับเขาเสมอ ถ้าเขาต้องการ “พี่ปฐวีร์พูดโดยไม่ได้สนใจสายตาของผมเลยสักนิด มีแค่ช้อนตาขึ้นมามองแค่นั้น

“ถ้าเป็นแบบนั้นจริง เขาก็เหมือนที่ปริมทำกับตั้น!” ผมได้ฟังก็ถึงกับกำหมัดแน่น

“พี่แม่งโคตรเลวเลยว่ะ” ผมพูดและลุกขึ้น

“รักเขามากขนาดนั้นเลยเหรอครับ ภาคิน “พี่ปฐวีร์ถามผมน้ำเสียงที่นิ่งมาก ผมหันหลังกลับไปมองหน้าพี่เขาทันที

“ถึงได้โกรธแทนเขามากขนาดนี้ ขนาดที่ว่าจะต่อยหน้าพี่เลยก็ได้ “พี่ปฐวีย์พูด พร้อมกับวางแก้วกาแฟลงและเอามือมาประสานกันเอนหลังพิงพนักเก้าอี้

“เมย์เขาเป็นเด็กน่ารัก เป็นเด็กดี พี่ถึงได้ช่วยเขาหลายเรื่อง เมย์เขาเป็นเด็กที่กตัญญู ใครมีบุญคุณกับเขา เขาก็จะตอบแทน โดยที่พี่ไม่จำเป็นต้องทวงถาม ดังนั้น ภาคินคงรู้คำตอบนะว่า เมย์จะทำกับคนที่มีบุญคุณกับเขาอย่างพี่ได้ลงคอเชียวหรือ”

   ผมได้ยินแบบนั้นแล้วก็เดินออกทันทีเช่นกัน ผมเดินออกมาก็เห็นผู้หญิงร่านสวาทอย่างปริมที่เดินมากับการ์ดสองสามคน เธอไม่ได้หันมามองผมแต่ว่าเลขาฯ พี่ปฐวีร์เดินไปคุยกับเธอ แค่นั้นเธอก็สะบัดก้นออกอย่างหัวเสีย ผมจะแคร์เธอทำไม วันนี้ไม่อยากจะมานั่งทะเลาะกับชะนีไร้สมอง ผมเลยเลือกเดินไปอีกทาง นับว่าโชคดีที่ผมเลือกจอดรถขึ้นไปอีกชั้นหนึ่งจะได้ไม่ต้องพากันไปโรงพักต่อ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
   Part's เมธานินท์ ผมออกมากับแฟนพี่เปรมดิ์ มากับสาวๆ เขาชวนผมมาเดินห้างใกล้ๆ พี่ตั้นก็ยอมให้ผมมา ใช่ผมคงไม่อยากหนีเขาไปอีกแล้ว หรือว่านี้ผมมีใจให้เขาแล้วจริงๆ ผมก็คอยโทรหาวิวน้องสาวผม วิวบอกว่ารอหมอว่าจะให้แม่กลับไปพักฟื้นที่บ้านได้หรือยัง ผมก็ว่าจะส่งเงินให้เพิ่มแต่วิวบอกว่าคราวก่อนพี่ตั้นโอนไปเผื่อจากค่าผ่าตัดหลายหมื่นบาทเลย และผมเองก็ไม่ได้เอาเงินในบัญชีที่พี่ตั้นใส่เอาไว้สามหมื่นมาใช้ เพื่อวันหนึ่งที่เขารู้ความจริง ผมจะได้คืนเงินทั้งหมดให้เขา

“พี่เมย์ พี่น่ะโชคดีมากเลยน่ะที่ได้พี่ตั้นเป็นแฟน นางพวกนี้แอบชอบแอบมองมาตั้งนานยังไม่ได้แอ้มเลยอ่ะ “โบว์แฟนพี่เปรมดิ์พูด ผมหันมามองเพื่อนๆ โบว์ที่ทำหน้าสลดเป็นแถว มีมะนาว และก้อย

“เออ ว่าแต่ช่วงนี้ไม่เห็นพี่ปริมมาเลยน่ะ พี่ปริมเขารู้เรื่องพี่เมย์แล้วหรือเปล่าวะ” เพื่อนโบว์ที่ชื่อก้อยถามผม ผมหันไปมองพร้อมกับส่ายหัวเบาๆ

“พี่เจอยังอ่ะ เจ้ปริมอะไรนี่น่ะ โคตรน่ากลัวเลย แต่โบว์เชื่อว่าพี่ตั้นเขาปกป้องพี่เต็มที่แน่ๆ”

“พี่ปริมนี้เขาเป็นอะไรกับพี่ตั้นเหรอ พี่ไม่รู้อ่ะ” ผมพูด

“พี่ปริมเขาเป็น คู่อย่างว่าอ่ะ พี่เปรมดิ์บอกโบว์มาน่ะ และพี่ปริมเขาเป็นคนเที่ยวและเป็นลูกคนมีอิทธิพล เมื่อก่อนพี่ตั้น ชอบเที่ยวกันทุกอาทิตย์ มีเรื่องราวกันมาก็บ่อย และก็ทำให้เจอพี่ปริม ตอนแรกพี่ตั้นเขาก็คงชอบ พี่ปริมมั้ง”

“ส่วนพี่ปริมนี่ก็มีคนที่เขาต้องแต่งงานด้วยและพี่ปริมก็เลือกเขาคนนั้น แต่ก็แวะมาหาความสุขกับพี่ตั้นบ่อยๆ ก่อนหน้านี้น่ะ แต่มาหลังๆ ไม่ค่อยเห็นแล้วน่ะ หรือว่าพี่ตั้น บอกเลิกไปแล้วซะก็ไม่รู้”

“พี่แกชอบแสดงท่าทีเหมือน…หมาหวงก้าง”

“เมื่อก่อนตอนพี่ตั้นอยู่มหาวิทยาลัย ไม่ธรรมดาน่ะ มีสาวๆ มาให้แกมากมายแต่แปลกน่ะ มีแต่อายุเยอะกว่าพี่แกทั้งนั้น พวกเราเด็กเกินเลยหมดสิทธิ์”

“แต่พอมาเจอพี่ปริม หายไปหมด”

“ก็แน่ละ พี่ปริมแกลูกใคร แกจัดการหมดไม่เหลือ เพราะว่าพ่อแกใหญ่ไง” ก้อยพูด

“ตกลงพี่ปริมนี้เป็นแฟนพี่ตั้นหรือเปล่าอ่ะ” ผมถาม

“ไม่ใช่หรอก มีคนหนึ่งในแก๊งที่ไม่ยอมให้พี่ตั้นเป็นแฟนกับพี่ปริม “โบว์พูดขึ้น ผมหันไปมองว่าใครเหรอ

“พี่ภาคิน!” ทั้งสามคนพูดออกมาพร้อมกัน ผมพยักหน้าว่าทำไมเขาไม่ค่อยชอบหน้าผมเอาซะเลย

“ถ้าไม่ได้พี่ภาคินน่ะ พี่ตั้นคงเสร็จยายเจ้ปริมไปนานแล้วแหละ” โบว์พูด

“พี่ภาคินน่ะชอบพี่ตั้นมาตั้งแต่สมัยมัธยมปลายแล้ว พี่ภาคินกับพี่ธีม เป็นเพื่อนพี่ตั้น ตั้งแต่พี่เขาย้ายมาจากอเมริกา ส่วนพวกพี่เปรมดิ์นี้มาเจอกันตอนเรียนมหาวิทยาลัย”

“พี่ตั้นน่ะดีมากกกกก เป็นเพื่อนที่พวกพี่ๆเขารักมากจริงๆ พี่ทีนนะเกือบเรียนมหาวิทยาลัยไม่จบเพราะว่าที่บ้านมีปัญหา พี่ตั้นก็ช่วยมาจนจบมาพร้อมกัน และเขาก็สัญญากันว่า เรียนจบต่างไปหาประสบการณ์และกลับมาเปิดบริษัทด้วยกัน และเขาก็ทำกันจริงๆ”

“แล้วแบบนี้พี่ปริมเขาไม่….”

“ไม่กล้ามาอาละวาดที่นี่แน่นอนเพราะว่า นางกลัวพี่ภาคิน นางเคยโดนพี่ภาคินตบแล้วน่ะ เลือดกบปากเลยอ่ะ ดันด่าพี่ภาคิน ด่าแรงมาก จนพี่ภาคินหมดความอดทน และดีที่พี่ตั้นมาห้ามและอุ้มนางออกไป”

“แต่ตอนนี้ โบว์ว่าพี่ตั้นเขารักพี่น่ะพี่เมย์ เท่าที่พี่เปรมดิ์เล่าให้ฟัง หลายอย่างน่ะ ห้องนอนพี่ตั้นไม่เคยมีสาวคนไหนได้ขึ้นไป แม้กระทั่งพี่ปริมเองก็เถอะ”

“ชั้นออฟฟิศ เป็นชั้นที่มีห้องพักให้คนที่อยู่ทำงานดึกๆ และกลับไปไม่ได้ และพวกเพื่อนๆ พี่ภาคินแต่จะมีห้องพิเศษอยู่ห้องหนึ่ง พี่ตั้นเอาไว้นอนกับสาวๆ เวลาพามา แต่ไม่มีใครได้สิทธิ์ขึ้นห้องนอนของพี่ตั้นสักคนแม้กระทั่ง…พี่ปริม!”

“มีพี่คนเดียวคนเดียวเลยน่ะพี่เมย์ และนอกนั้นก็เพื่อนๆ ของพี่แต่ส่วนใหญ่ก็แทบจะไม่ขึ้นไปถ้าไม่มีเรื่องด่วนกับพี่ตั้น”

“ส่วนโบว์ ก็มีวันนั้นแหละวันเดียว ครั้งแรกเลยที่โบว์เอาของขึ้นไปให้พี่น่ะ เป็นบุญตาว่ะ ห้องหรูมากอ่ะ” โบว์พูด

“พี่รู้ไหมว่าพี่ตั้นเป็นห่วงพี่มาก ไปไหนทำอะไรจะฝากเพื่อนๆดูแลพี่ วันก่อนจะยังให้โบว์มานั่งเป็นเพื่อนพี่เลยที่พี่เขาไปคุยเรื่องงานน่ะ”

“พี่เขาทำอะไรคิดถึงพี่ก่อนเลยอ่ะ อิจฉาเลย” โบว์พูด จู่ๆมุมปากผมก็กระตุกเป็นรอยยิ้มซะอย่างนั้นแหละ จนน้องๆหันมามองและยิ้มให้ผมอีก

“คือพี่ “ผมเองก็กระอักกระอ่วนใจไม่รู้จะพูดยังไง

“พี่เมย์พวกเราต้องกลับแล้วอ่ะ เอาไว้มาเม้ามอยส์กันใหม่น่ะ ชอบ อยากเม้าพวกพี่เขาๆ มันน่ารักดี “เพื่อนของโบว์พูด นี้เขาคุยกับผมจนผมนี้เป็นเพื่อนสาวไปแล้วเหรอ ผมเองก็เหลือบมองข้อความในแอปพลิเคชัน

เฮียตั้น// (อันนี้เขาตั้งให้ในมือถือผม) เมย์ วันนี้ไม่ต้องทำอาหารนะครับ เฮียจะพาไปทานที่ร้านหมูกระทะรุ่นพี่ของพี่กัน จะพาไปเปิดตัวมีแฟนน่ารัก //พี่ตั้นส่งข้อความ ส่งมาแบบนี้ไม่เขินให้มันรู้ไปซิเมย์ เวลาพิมพ์พี่แกใช่คำว่าเฮีย
เมย์ // พี่จะเลิกกี่โมงครับ//
เฮียตั้น// ก็น่าจะประมาณ ห้าโมงครับ //
เมย์//ได้ครับ ถ้าอย่างนั้นผมเตรียมตัวรอแล้วกัน//
เฮียตั้น// รอเฮียก็ได้น่ะ เฮียไปแต่งตัวให้ ///
เมย์ //หื่นนนนน//
เฮียตั้น//งั้นรออาบน้ำพร้อมเฮียเลยนะ อาบเองไม่ค่อยสะอาด //
เมย์//ผมจะรีบกลับแล้วและสิ่งแรกที่ผมจะทำคือ อาบน้ำก่อนเลย ผมกลัวพี่นี่แหละ! //ผมส่งข้อความตอบไป แต่ก็แอบหัวเราะชอบใจ จนสาวๆ มองและพากันมุบมิบๆ

   ผมเดินออกมาและพากันนั่งรถที่เพื่อนของโบว์เขาขับมารับและพาผมไปส่งที่คอนโด ผมว่าจะเข้าไปที่ออฟฟิศ ผมซื้อขนมไปฝากน้องๆ ที่ทำงานให้กับพี่ตั้น ก็ตอนนี้ผมได้ตำแหน่งอาซ้อไปโดยปริยายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

“อาซ้อหวัดดีครับ” เด็กของพี่ตั้นที่มานั่งทำงานหันมายกมือไหว้ผม ตอนนี้ก็บ่ายสองเข้าไปแล้ว

“พี่ซื้อขนมมาฝาก” ผมบอกก่อนจะวางถุงขนมเอาไว้

“ขอบคุณครับอาซ้อ เฮียก็ใจดีอาซ้อก็ใจดี”

“จะดีอีกนิดเลิกเรียกพี่ว่าอาซ้อได้ไหม พี่ไม่ใช่ผู้หญิงซะหน่อย” ผมพูด

“แฟนเฮียก็ต้องเรียกอาซ้อ” ทุกคนตอบพร้อมกัน ผมคงเลี่ยงไม่ได้จริงๆคงต้องปล่อยให้เรียกไปก่อนแล้วกัน

“ใครก็อยากเป็นน่ะพี่เมย์ พี่นะโชคดี” คนนี้ชื่อเฟิร์น แต่ออกทอมๆ

“แล้วทำไมอยู่กันตามลำพังล่ะ พี่ภาคินล่ะ” ผมถาม

“พี่เขาออกไปคุยธุระกับใครน่ะ ชื่อคุณปฐวีย์น่ะครับพี่เมย์”

“ปึก” ผมตกใจทำของหล่นทันที พี่ภาคินไปคุยกับพี่ปฐวีร์เหรอ จะคุยเรื่องอะไรล่ะ ขออย่าให้เป็นเรื่องของผมเลยน่ะ วันแรกๆ ผมนี่อยากให้พี่ปฐวีย์รู้ว่าผมอยู่ที่ไหน แต่ทำมันวันนี้ผมถึงไม่อยากไปจากที่นี้เลย น้องๆหันมามองหน้าผมก่อนจะลุกมาช่วยกันเก็บขนมที่ร่วงหล่นลงไป

“พี่เป็นอะไรหรือเปล่าพี่เมย์” เฟิร์นถามผม

“ไม่เป็นไรครับ งั้นพี่ขึ้นห้องก่อนน่ะ มีอะไรโทรหาพี่แล้วกันน่ะครับ” ผมพูดและเดินออกจากออฟฟิศ

“กูแม่งไม่อยากจะเชื่อเลยว่ะไอ้ธีม กูว่าแล้วเชียว ว่ามันแปลกๆ แล้วมึงก็ซั่มเลขาฯ แทนที่จะถามข่าวอะไรมาไม่ได้เรื่องเลยมึงน่ะ แค่นี้น่ะ กูลืมของไงเลยเข้ามาเอา วันนี้กูไปไม่ได้ว่ะ ใจก็อยากไป แค่นี้แหละ ไม่ได้หลบใครไอ้สัส!” ผมก็ต้องสะดุ้งเพราะว่าเจอพี่ภาคิน เขาเดินคุยโทรศัพท์มา พอเขาเห็นผมก็หยุดชะงัก

“แค่นี้น่ะ” พี่ภาคินกดวางสาย เขามองหน้าผม

“พี่ภาคินสวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้ พี่เขารับไหว้ผมและเหมือนจะมีบางอย่างอยากจะพูดกับผม แต่ผมคิดว่าเดินเลี่ยงไปจะดีกว่า

“เมย์กำลังเล่นอะไรอยู่” จู่ๆ พี่เขาก็ถามผม

“พี่ถามว่าเมย์กำลังเล่นอะไรอยู่! กับไอ้ตั้นมัน!!” อันนี้ผมสะดุ้ง

“ผมไม่ได้…เล่นอะไรนี่ครับพี่ภาคิน” ผมพูด

“พี่ไปหาพี่ปฐวีร์มา เขาบอกว่าเขามีบุญคุณอะไรกับเมย์ แต่พี่ไม่สนใจน่ะ พี่สนแค่ ถ้าเมย์ไม่ได้จะอยู่กับมัน และคิดว่าจะกลับไปทดแทนบุญคุณอะไรของเมย์กับเขาก็เชิญ แต่เมย์ควรจะปล่อยตั้นมันไป อย่าทำให้มันรักเมย์จนมันโงหัวไม่ขึ้นแบบนี้!” ผมเงยหน้ามองพี่ภาคิน

“ผม....”

“ออกไปไม่ได้เหรอ? ไม่น่าจะใช่ ก็แค่เปิดประตูเดินออกไปมันก็จบ!! "  เพราะว่าไอ้ผู้ชายคนนั้นมันก็นั่งรอเราอยู่แล้ว แค่รอให้เรากลับไปหามัน มันบอกพี่มาแบบนี้! “พี่ภาคินพูด น้ำเสียงเขาโมโหมาก จนผมเองก็ไม่กล้าที่จะปริปากพูดอะไรตอนนี้

“ปึก!!” และพี่ภาคินก็เปิดประตูเข้าไปในออฟฟิศ ผมได้แต่ยืนน้ำตาซึมจนกระทั่งมันไหล่ออกมา ผมรีบปาดมันทิ้งและเดินกลับขึ้นไปบนห้องพักของพี่ตั้นทันที

ตื้ด!!! เสียงโทรศัพท์ผมสั่น ข้อความเข้ามาในแอปพลิเคชัน ที่ผมใช้คุยกับพี่ตั้น

   เฮียตั้น// ตัวเล็ก…เฮียไปช้าหน่อยน่ะ… แต่ไม่ต้องห่วง เฮียไปแล้วจะรีบทำเวลา…อาบน้ำประแป้งรอเฮียบนเตียงเลยน่ะ// ผมถึงกับหัวเราะมาทั้งน้ำตา “เฮียหื่น” ผมสบถออกมาเบาๆ กับตัวเอง

   ผมหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมา ผมดึงรูปถ่ายครอบครัวผมถ่ายที่บ้านหลังนั้น มันเป็นสมบัติชิ้นเดียวที่ผมเหลืออยู่ เพราะไอ้เฮียรงค์คนเดียวแต่ว่ามันก็เข้าไปชดใช้ในคุกอยู่ ถ้ามันออกมามันคงได้ฆ่าผมแน่ๆ

   “ถ้าเมย์อยากได้คืน ก็รับข้อเสนอพี่ซิ พี่พร้อมจะดูแลเมย์ แต่พี่ไม่ใช่คนที่ชอบบังคับจิตใจ อยากได้แบบเต็มใจ” พี่ปฐวีร์เคยบอกผมเอาไว้ ตอนนี้ผมสับสน ผมควรทำอย่างไรดี

   "อย่าทิ้งพี่ไปเหมือนผู้ชายคนนั้นได้ไหมเมย์ พี่รักเมย์ พี่รักเมย์แล้วจริงๆ"
“ผมก็ว่าผมรักพี่แล้วเหมือนกันพี่ตั้น!!” ผมพลิกรูปด้านหลังดูมันมีลายมือที่เขียนเอาไว้ โดยแม่ปิ่น
   [ถ้าเมย์พร้อมก็ไปหาเขาได้น่ะเมย์ ถึงยังไง พ่อแม่ของเมย์เขาไม่ได้อยู่ไกลจากเมย์ อยู่ในหัวใจเมย์ตลอดไป เชื่อแม่น่ะลูก]
   
   ผมเลือกที่จะเดินลงมาจากห้องของพี่ตั้น ผมคิดว่าผมพร้อมแล้วที่จะไป พบพวกเขาที่นั่น ผมเดินลงไปที่ชั้นล่างสุด เดินออกไปจากคอนโด ผมก็เจอรถแท็กซี่คันหนี่ง คนขับอายุก็เยอะหน่อยๆ มีคนลงมาจากรถเขายิ้มให้ผม ก่อนจะรีบเดินขึ้นไป

“ครับพี่กอล์ฟ ผมมาถึงแล้ว ไม่เอาอ่ะ จริงดิพี่อยู่ในห้อง ผมรีบขึ้นไปน่ะ ก็เพิ่งจะมาถึง เลิกปุ๊ปก็วิ่งลงมาเลย ไอ้ปอมมันก็ถามแล้วเนี่ยะ! “ผมหันไปมองคงไม่ใช่คนเดียวกันหรอกมั้ง

“ไปไหมคุณ” ผมสะดุ้งก่อนจะหันไป

“ไป ครับ “ผมพูดก่อนจะเข้าไปนั่ง ในรถคันนั้น

“ไปไหนละไอ้หนุ่ม”

“ไป ... ไปตามที่อยู่นี้ครับ” ผมพูดและส่งรูปถ่ายพลิกด้านหลังให้เขาดู

“ไกลน่ะไอ้หนุ่ม แบบนี้ต้องราคาเหมาแล้วล่ะไอ้หนุ่ม”

“เท่าไหร่ผมก็จ่ายครับลุง ช่วยพาผมไปที ผมขอร้องนะครับ” ผมพูด

“เออๆ โชคดีนะที่มีลูกค้าที่พัทยาโทรมาบอกให้ไปรับหน่อย เอางั้นขึ้นมาเลยไอ้หนุ่ม”

“ขอบคุณครับลุง”

“ราคาเหมาน่ะ จะได้ไปกัน” และลุงเขาก็ออกรถทันที ผมหันไปมองคอนโดของพี่ตั้น ก่อนจะลับตาหายไป ผมสับสนครับพี่ตั้น ผมสับสน คงมีแค่เขาเท่านั้นที่ช่วยผมได้ ผมไม่เคยไปหาเขาเลย ผมกลัวจะร้องไห้ ผมกลัวว่าเขาทั้งคู่จะรู้ว่าผมอ่อนแอ ที่ต้องอยู่บนโลกนี่โดยลำพังไม่มีพ่อแม่เหมือนคนอื่นเขา

TBC...


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-07-2021 11:26:51 โดย Alessa »

ออฟไลน์ Nattie69

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 777
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก EP.12 สับสน
«ตอบ #39 เมื่อ19-11-2020 07:40:19 »

 :m31: :fire:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก EP.12 สับสน
« ตอบ #39 เมื่อ: 19-11-2020 07:40:19 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก EP.12 สับสน
«ตอบ #40 เมื่อ19-11-2020 15:11:10 »

เออ สับสนงวยงงและสงสัยหลายอย่างเลย รอเมย์ไปคลี่ปม 55 น้องๆช่วยอวยเฮียกันใหญ่ เฮียดีบริวารก็ดีอะนะ 55 ก็ชอบภาคินนะที่เป็นห่วงเพื่อนดี แต่ก็อย่าให้มากไปละกัน หมั่นไส้ไอ้คุณวีย์ว่ะ อยากให้หลงใครสักคนแล้วเขาไม่เล่นด้วยง่ายๆ จะได้เข้าใจสักที 555 รอตอนต่อไปเลยค่ะ  :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Alessa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
EP.12 ภาคิน (ผมใจร้ายไม่ลงจริงๆ)(รีไรท์)

                    Part's รชานนท์ พอผมเสร็จงานก็รีบขับรถกลับมาพร้อมกับไอ้ธีมทันที ก็จะรีบไปดูซิว่าเมย์อาบน้ำรอหรือยัง ช่วงนี้ก็เริ่มจะมีหยอดกันบ้าง มันทำให้ผมมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง และช่วงนี้พี่ปริมก็เงียบๆไปหรือเจ๊แกจะคิดได้ก็ไม่รู้ซิน่ะแอบเข้าข้างตัวเอง ผมเองก็ยิ่งไม่อยากไปทำให้นางกลับมาหาผมมาทำลายความเชื่อมั่นที่่น้องเมย์เริ่มมีให้ผมถึงแม้จะยังไม่ทั้งหมดก็เถอะ และตอนนี้ผมว่าผมเจอคนที่ผมว่าใช่แล้ว ผมอยากมีแค่เมย์คนเดียว ผมยอมรับว่าผมรักเขา รักเขาแล้วจริงๆ ทำไมก็ไม่รู้มันบอกไม่ถูกแต่มันทำให้ผมยิ่มได้ทุกครั้งที่อยู่ใกล้

“ไอ้ตั้นครับ มึงกลัวเมียมึงหนีเหรอครับ” ไอ้ธีมพูด

“ทำไมวะ” ผมหันมาถามไอ้ธีม และเห็นมันยื่นมือขึ้นไปจับที่ตรงเหนือศีรษะมันขนาดนั้น ผมยอมรับว่าผมขับเร็วครับ ก็จะรีบไปดูซิว่าตัวเล็กอาบน้ำประแป้งรอเฮียตั้นหรือยัง

“รู้อย่างนี้กูเอารถกูไปดีกว่า” ไอ้ธีมพูด

“หึ หึ” ผมหัวเราะมันในลำคอ ก่อนจะค่อยๆผ่อนความเร็วลง

“ไอ้ภาคินละว่ะ “ผมหันไปถามไอ้ธีม

“นี่กูไม่เห็นมันเข้าบริษัทมาสองสามวันแล้วมันไปไหนของมัน มึงรู้ไหม” ผมถามไอ้ธีม

“ไอ้ตั้น ไอ้คินมันจะออกไปทำธุรกิจกับพ่อมันเต็มตัวแล้วว่ะ” ไอ้ธีมพูด ผมหันมามองหน้ามัน ไอ้ภาคินไม่เคยบอกผมเลยน่ะ

“มึงให้มันไปเถอะ มันเจ็บ มันทำใจไม่รักมึงไม่ได้หรอกว่ะไอ้ตั้น “ไอ้ธีมพูด ผมถึงกับต้องผ่อนความเร็วลง

“ทำไมมันต้องรักกูแบบคนรักด้วยว่ะ” ผมพูดโดยไม่ได้มองคนข้างๆ

“เรื่องบางเรื่องแม่งบังคับได้เหรอวะและมันก็เจ็บมาตั้งแต่พี่อิศเรศแล้วมึง” ผมหันมามองไอ้ธีม ผมเลี้ยงรถเข้ามายังที่สำหรับจอดพวกผมโดยเฉพาะ มันจะแยกกันกับคนที่มาพักที่คอนโดของผม

“มึงไปไหนกันหรือเปล่ววะวันนี้ ถ้าไม่ไปก็ไปร้านเฮียตั้มด้วยกันดิ เฮียตั้มแกบอกแกอยากเจอพวกเราแบบครบๆว่ะ ” ผมพูดหันไปถามไอ้ธีมผม

“กูมีนัดว่ะ กูอุตส่าห์ไปหยอดไว้ตอนไปดริ้งกับไอ้คินมัน ขอไปเปิดซิงก่อน” ไอ้ธีมพูด ผมปรายตาไปมองไอ้ธีม

“มึงนี้แม่งก็ขยันเปิดจริงๆ เปิดทิ้งเปิดขว้างด้วย” ผมหันมาบ่นไอ้ธีมมัน

“แต่กูก็ยังมีมารยาทนะครับไอ้ตั้นครับ จีบเขาก่อน เล่นด้วยแล้วค่อยเอา แต่มึงแม่งเอาเขาก่อนแล้วค่อยมาจีบทีหลังแบบนี้ มันเสียมารยาท “ไอ้ธีมพูด ผมหันไปคว้ากล่องกระดาษทิชชูปาใส่มันเลยก่อนจะเปิดประตูรถออกมาและตามมาด้วยไอ้ธีม

“ว่าแต่อีเจ้มึงนะเงียบไปน่ะ อีเจ้ปริมมึงนะ “ไอ้ธีมมันพูดก่อนจะปิดประตูรถกระบะผม ผมสะบัดหน้าไปมองคนที่เดินอ้อมมายืนรอผม

“เขาเงียบก็ดีแล้ว ช่วงนี้กูกับเมย์กำลัง” ผมพูดก่อนจะเดินเข้าคอนโด เดินไปพร้อมกับไอ้ธีม

“ปลูกต้นรัก แต่ระวังอิเจ้มันมาหักต้นรักมึงซะล่ะ” ผมหันไปมองหน้าไอ้ปากดี มาแช่งความรักของผมกับน้องเมย์ นิ้วกลางเถอะครับเป็นรางวัล

“ยิ่งเงียบๆ อยู่ด้วยไม่รู้ไปแอบซุ่มทำเซอร์ไพรส์ให้มึงหรือเปล่า” ไอ้ธีมพูด และนี่ก็ทำให้ผมคิดเลยจริงด้วยซิ มันผิดวิสัยคนแรงอย่างเจ้ปริม แต่ผมก็ไม่อยากให้เขามายุ่งกับเมย์เหมือนที่เขาทำกับคนอื่น เพราะว่าผมอยากหยุดที่เมย์แล้วไง

“แล้วไอ้คินล่ะมันไปไหนไหม” ผมหันไปถามหาไอ้ภาคินกับไอ้ธีม

“มันบอกว่าพ่อมันจะบวงสรวงบริษัทและฉลองยอดส่งออกทะลุเป้า ป๊าและม๊าเลยสั่งให้มันไปชลบุรีด่วน” ไอ้ธีมบอกผม ระหว่างที่ผมกำลังยืนรอลิฟต์อยู่และว่าจะตรงไปยังออฟฟิศก่อนเพื่อว่าเมย์อยู่ที่นั่น เพราะว่าผมก็โทรเข้ามือถือเมย์ไม่รับสาย

Rrrrrrr โทรศัพท์ผมดังขึ้นเบอร์ไอ้อาร์ม เพื่อนผม วันนี้มีสองที่เลยแยกกันไป

//ว่าไงว่ะอาร์ม//

//มึงนัดเฮียตั้มแกไว้กี่โมง//

//เฮียตั้มบอกว่าตามใจว่ะ วันนี้เฮียว่างว่ะและเฮียมีข่าวดีจะบอกด้วย เฮียบอกให้ไปให้ครบๆ หน่อย// ผมบอกไอ้อาร์ม

// พวกกูว่าจะไปอาบน้ำที่คอนโดเลยว่ะ//

// เสร็จหรือยังว่ะมึง//

// กำลังจะกลับแล้ว เจอกันว่ะ // ผมกดวางสายจากไอ้อาร์ม ก็มาหยุดที่หน้าห้องทำงานพวกผมพอดี

ผมเปิดประตูเข้าไปก็เห็นพวกน้องมันนั่งทำงานกันอยู่บางคนก็กำลังจะกลับแล้ว ผมไม่อยากจะชวนพวกน้องๆ ไปในวันธรรมดาแต่ถ้าวันหยุดก็ได้อยู่ แต่ว่าดูแล้วเมย์ไม่ได้อยู่ในห้องด้วย

“พี่เมย์ล่ะ” ผมถามเด็กๆที่นั่งทำงานให้พวกผมอยู่

“อาซ้อเขากลับขึ้นบนห้องตั้งนานแล้วครับเฮีย ตั้งแต่บ่ายสองแล้วครับ”เด็กที่มาทำงานกับผมบอกผม ผมพยักหน้า

“พี่กอล์ฟล่ะ” ผมหาไอ้กอล์ฟทันที

“เห็นไอ้เฟย์มันมาหาน่ะพี่กอล์ฟน่ะและพี่กอล์ฟก็ออกไปกับเฟย์ยังไม่เข้ามาเลยพี่” ผมพยักหน้าอีกครั้ง

“แล้วมันออกไปไหนกันวะ” ไอ้ธีมถามกลับทันที

“ไปที่ห้องพี่เขานะคงมีเรื่องปรึกษาปัญหา…ระบบโปรแกรมนะพี่” หนึ่งในนั้นบอกผม ผมก็หันมามองไอ้ธีมที่ยืนขมวดคิ้วอยู่ เป็นพวกชอบคิดเล็กคิดน้อยเหมือนไอ้เปรมดิ์อีกคนแล้ว

“กูว่าไอ้คู่นี้แม่งมีอะไรแล้วมึง โปรแกรมเชี่ยอะไรวะ ต้องไปปรึกษากันสองต่อสองมึงครับ” ไอ้ธีมพูด ผมส่ายหัวว่าไม่หรอก

“มึงไปเลยไหมวะ” ผมถามไอ้ธีม

“กูนั่งรอแป๊บหนึ่งว่ะ มึงจะขึ้นไปดูเมย์ใช่ไหม”ธีมบอกผม

“เออว่ะ “ผมพูดและรีบเดินขึ้นไปบนห้อง หรือว่าแอบหลับน่ะ ไม่รับสายเฮียเลย ขึ้นไปจะทำโทษหอมซะหลายฟ้อดเลยคอยดู ตอนนี้เมย์ให้ผมหอมได้บ้างแล้ว จะว่าไปเหมือนตอนนี้ผมกับเมย์กำลังเริ่มจีบกันใหม่

“ตื้ด ตื้ด ตื้ด” ผมกดรหัสล๊อกห้องผมเมย์ไม่ได้ล๊อกประตูด้านใน พอผมเข้ามาก็มองไปรอบ เห็นมือถือวางอยู่บนโต๊ะหรือว่าอยู่ในห้องนอน ผมรีบเข้าไปก็ไม่เจอตัวเล็ก เดินไปที่มุมอ่านหนังสือก็ไม่มี ออกมานอกระเบียงก็ไม่มีอีก เริ่มใจคอไม่ค่อยจะดีแล้วผมน่ะ น้องๆ บอกผมว่าเมย์นะกลับเข้าตั้งแต่บ่ายสองแล้วนี่มันเกือบจะห้าโมงครึ่งแล้ว แต่ว่าเมย์ไปไหน ผมรีบเดินกลับลงที่ออฟฟิศอีกครั้ง ผมเจอไอ้กอล์ฟมันยืนอยู่กับไอ้ธีมที่หน้าห้องทำงานและเฟย์เด็กที่มาคลุกคลีอยู่กับไอ้กอล์ฟอีกคน

“มีอะไรกันหรือเปล่า ทำไมหน้าตามึงสองคนเหมือนแบกโลกไว้ทั้งใบแบบนี้” ผมถามทันที

“เฟย์บอกว่าตอนมันลงจากแท็กซี่ มันส่วนกับเมย์ว่ะ แต่มันไม่แน่ใจพอมันหันมาอีกทีรถคันนั้นก็ออกไปแล้วว่ะ” ไอ้ธีมพูด

“ใช่เมย์แน่เหรอวะ” ผมถามย้ำอีกที

“เออว่ะ สงสัยเขาไปจากมึงแล้วว่ะ” ไอ้ธีมพูดผมแทบจะทรุดลงกับพื้นเลย แต่ว่าผมกับนึกถึงวิวขึ้นมาได้ ผมรีบหยิบมือถือมากดโทรหาวิว น้องสาวของเมย์ก่อนเลยเพื่อว่าเมย์จะไปหาเขา

//ค่ะพี่ตั้น//

// วิว เมย์ไปหาวิวหรือเปล่าครับ//

//ไม่ได้มานี่ค่ะพี่ตั้นและแม่สั่งพี่เมย์เอาไว้ว่าไม่จำเป็นอย่าเข้ามาด้วยนี่ค่ะพี่ตั้น ” ผมก็ต้องขมวดคิ้วเป็นโบว์อีกรอบ  ทำไมล่ะ?

// และนี่วิวเพิ่งจะพาแม่กลับมาจากโรงพยาบาลค่ะพี่ตั้น วิวว่าจะโทรบอกอยู่พอดีเลย//

//เมย์เขาขึ้นรถแท็กซี่ออกไปนะครับวิว พี่ไม่รู้ว่าเมย์ไปไหน//

//เฮ้ย!! พี่เมย์ ไม่อยู่กับพี่ตั้นแล้วเหรอ ทำไมล่ะพี่ตั้น //

//พี่ไม่รู้วิว ถ้าเมย์อยากจะไปจากพี่ทำไมเมย์ไม่บอกพี่ละ พี่จะไม่รั้งถ้าเขาไม่อยากอยู่แต่พี่อยากให้แน่ใจว่าเมย์เขา ปลอดภัย//

//วิวว่าพี่เมย์ไม่น่าจะทำแบบนั้นน่ะพี่ตั้น พี่เขารักพี่ตั้นน่ะ แต่.. วิวขอโทษน่ะวิวบอกพี่ไม่ได้จริงๆ แต่พี่เมย์รักพี่ตั้น วิวเชื่ออย่างนั้น //

//แล้วนี่เมย์เขาไปไหนล่ะ วิวรู้ไหม บอกพี่หน่อยพี่จะไปตามหาเมย์//

//ที่วิวคิดน่ะพี่ตั้น มีสองที่ที่พี่เมย์จะไป คือหนึ่งบ้านพ่อแม่ของพี่เมย์เขา แต่ตอนนี้มีคนซื้อไปแล้ว พี่เมย์เขาพยายามจะเอามันคืน ถ้าไม่ใช่ที่นั่นก็…//

//ก็อะไรวิว//

//คุณปฐวีย์ แต่พี่เมย์เขาไม่อยากกลับไปแล้วน่ะพี่ตั้น อย่างที่วิวบอก พี่เมย์เขารักพี่ แต่พี่ปฐวีร์ก็ มีบุญคุณ///ผมต้องพ่นลมหายใจออกมายาวๆ

//เยอะเหรอ บุญคุณระหว่างพี่ปฐวีย์กับเมย์น่ะวิว //ผมถามวิว

//มากพอสมควรค่ะพี่ตั้น วิวพูดได้แค่นี้ ฮึก ๆ “วิวก็ร้องไห้ ผมนิ่งอึ้งไปทันที //ส่วนหนึ่งมาจากวิว ฮืกๆ //วิวพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออีก

// โอเควิว ส่งที่อยู่บ้านของเมย์มาให้พี่ พี่จะไปที่นั่นก่อน ถ้าไม่เจอ พี่จะไปหาคุณปฐวีร์//

// วิวเชื่อว่าพี่เมย์ไม่ไปหาคุณปฐวีร์แน่นอน พี่เมย์เขา เลือกพี่ตั้น วิวเชื่ออย่างนั้นพี่ตั้น// ผมกดวางสายพวกไอ้เปรมด์ มันเดินเข้ามาก็มองหน้าผมกันหมด

“เกิดอะไรขึ้นวะ ทำหน้ายังกับเมียหาย” ไอ้เปรมดิ์ ผมสะบัดหน้าไปมองมัน

“ไอ้เชี่ย! มาถึงก็ปล่อยหมัดฮุกเข้าหน้ามันเต็มๆ เลยครับไอ้เปรมดิ์ครับ” ไอ้ธีมพูด

“อ้าวฉิบหายแล้วกู!!” ไอ้เปรมดิ์มันก็ตกใจไม่แพ้กัน

“เมียมึงหายจริงๆ อ่ะ” ไอ้ทีนถามผม

“กูจะไปหาเมย์” ผมพูด

“ที่ไหนวะ!!” พวกเพื่อนผมถามผมพร้อมๆ กันโดยมิได้นัดหมาย

“ที่บ้าน วิวกำลังส่งที่อยู่มาให้ “ผมพูดและกดดูข้อความที่วิวส่งมาให้ผม เป็นที่อยู่บ้านของเมย์ ที่เมืองทองธานี มันค่อนข้างไกลแต่จะให้ไปหาพี่ปฐวีร์ก่อนอย่างนั้นเหรอ ผมเชื่อที่วิวพูดกับผม แล้วทำไมเมย์ไม่บอกผมตรงๆล่ะ เรื่องบ้านที่วิวบอกว่าอยากได้คืน ถ้าบอกกับผม ผมจะได้ช่วย ตัวเล็กน่ะตัวเล็ก

*******

Part'sภาคิน ผมยอมรับว่าผมพูดกับเมย์เพราะความโมโหและอิจฉา ที่เมย์ได้ความรักจากคนที่ผมรอมาตั้งแต่หลายปี แถมผมกับมันก็มีอะไรกับมันไปแล้ว แต่มันกลับรักผมไปไม่ได้แต่กับเมย์ มันเลือกรับผิดชอบเมย์ ผมดูมันออกแต่ผมก็เหมือนหลอกตัวเอง นั้นคือมันรักเมย์ไปแล้ว ตอนนี้ผมกำลังขับรถมุ่งหน้าไปยังชลบุรี ครอบครัวผมมีโรงงานขนาดใหญ่อยู่ที่นั่นด้วย ฝนก็ตกพรำๆ ตลอดทาง

Rrrr ผมเหลือบไปมองมือถือที่แปะห้อยเอาไว้ก่อนจะกดรับสายผ่านบลูทูธ เห็นเป็นชื่อไอ้ธีม

//ว่าไง” ผมถามคนปลายสาย//

//มึงอยู่ไหนแล้ว//

//กำลังจะไปชลบุรีไงว่ะ กูบอกมึงแล้วไงว่าพ่อกูให้ไป//

//นี้ไอ้ตั้นมันขับรถตามหาเมย์เหมือนคนบ้าเลยว่ะ//

//เกิดอะไรขึ้นว่ะไอ้ธีม// ผมถามไอ้ธีม

//เมย์หายออกไป// ผมตกใจจน //F**k!! // ผมสบุถออกมา อย่าบอกน่ะว่าเป็นเพราะที่ผมพูดวันนี้น่ะ เมย์เลยออกไป แต่ว่าไปไหนล่ะหรือว่าเขาไปหาพี่ปฐวีร์ ถ้าเป็นแบบนั้นผมคงวนรถกลับทันทีเพื่อไปดูไอ้ตั้นมัน

//มึงให้ไอ้ตั้นไปตามหาที่พี่ปฐวีร์หรือยัง//

//เลขาฯ คุณปฐวีย์บอกว่า คุณปฐวีย์มีงานพบปะสังสรรค์เพื่อนที่เรียนมหาวิทยาลัยว่ะ มหา'ลัยที่พี่เขาจบปริญญาเอกมา กูคิดว่าเมย์ไม่น่าจะไปนั่งกินเลี้ยงกับเขาหรอกมึง! // อ้าว! ไอ้เวรเอ๊ย!

//คนละสถาบันเดี๋ยวตีกัน// ไอ้ธีม มันใช่เวลาเล่นไหมไอ้เชี่ยธีม!! อยู่ใกล้นี่จะตบกระบาลมันสักที

//มึงอยู่ไหนแล้วเนี่ยะ//

//ตอนนี้ก็จะเข้าบางปะกงแล้วว่ะ//

//งั้นไปต่อเถอะมึงพวกกูดูไอ้ตั้นเอง ถึงแล้วโทรบอกด้วยนะมึง พวกกูเป็นห่วงมึงเหมือนกันว่ะไอ้คิน//

//เออ …ใจว่ะ //ผมกดวางสายจากไอ้ธีม

ใจหนึ่งผมก็เป็นห่วงไอ้ตั้นมัน ผมขับรถไปแบบสองจิตสองใจว่าจะกลับรถกลับกรุงเทพดีไหม ผมเลยเปลี่ยนเลนถนนขับแบบชิดเลนซ้ายสุด กลับ หรือ ไม่กลับ ผมก็หยิบมือถือมากดโทรไปที่เบอร์พี่ปฐวีร์ ผมมีเบอร์เขาเพราะว่าเขาโทรมาเข้าเครื่องผมวันก่อนถามเรื่องการตลาดอะไรนี่แหละระหว่างที่ผมรอสาย สายตาผมเหลือบไปมองที่พักผู้โดยสารที่รอรถประจำทาง ผมเห็นผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ แสงไฟในนั้นมันทำให้ผมเห็นได้ชัดเจน เมย์!!

//สวัสดีครับภาคิน// เสียงปลายสายกดรับสายผม แต่ผมไม่จำเป็นต้องคุยกับเขาตอนนี้แล้ว ผมเลือกที่จะกดวางสายขณะที่ผมจอดห่างออกไป เกือบห้าร้อยเมตร ผมเลือกที่จะไม่ถอยหลังกลับก็ได้น่ะ และคงไม่มีใครรู้ว่าเมย์อยู่นี้ แต่เขามาทำไมผมไม่รู้ ไกลขนาดนี้และมันมืดขนาดนี้เลยน่ะ

“ปื้ด!!!!” ผมใส่เกียร์ถอยหลังยาวมาจอดที่ตรงป้ายรถเมย์ ผมเลื่อนกระจกลง มองคนที่นั่งหนาวสั่นอยู่ ผมถึงกับต้องพรูลมหายใจออกมายาวๆ ถ้าเขาไปจากตั้น ผมก็แค่หมดคู่แข่ง แต่ผมก็ต้องเลือกปลดเข็มขัดและ

“เมย์!!” ผมเรียกชื่อเขา เขาเงยหน้าขึ้นมาด้วยความตกใจ

“เมย์! มาขึ้นรถ”

“เมย์!! พี่บอกให้มาขึ้นรถ!!” ผมตะคอกเสียงดัง เมย์ลุกขึ้นและเดินมาที่รถของผม สภาพเปียกโชกไปทั้งตัว

“ผมตัวเปียกน่ะครับพี่ภาคิน” เมย์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ ด้วยความเกรงใจพร้อมกับมองมาในรถคันหรูของผม

“ขึ้นมาเถอะนะเมย์!” ผมทำหน้าดุ เมย์ถึงได้เปิดประตูก่อนจะก้าวเท้าขึ้นมานั่งข้างๆ ผม ผมเหลือบมองกระจกเห็นว่ามีรถตามมาน่าจะเข้าจอดผมก็รีบเปิดไฟเลี้ยวออกรถทันทีเช่นกัน

“เฮ้อ!!” ผมพ่นลมหายใจออกมาอีกครั้ง

“พี่ลำบากใจขนาดนั้นเลยเหรอครับ “เมย์ถามผมก่อนจะหันมามองหน้าผม สายตาที่มองตรงไปยังถนนใหญ่

“พี่เกลียดผมขนาดนั้นเลยเหรอครับพี่ภาคิน” เมย์ถามผม ผมหันมามองคนที่ก้มหน้าลง น้ำใสๆ มันหยดลงที่ตรงหลังมือซี้ดๆ นั้น ร่างกายที่สั่นสะท้านเพราะเขาคงนั่งอยู่ตรงนี้ตั้งแต่ฝนตกหนักแน่ๆ

“เมย์ พี่ไม่ได้เกลียดเมย์แต่พี่โคตรอิจฉาว่ะ ที่ตั้นมันรักเมย์มาก พี่ไม่เคยรู้สึกอะไรเท่านี้เลย แม้ว่าพี่เห็นมันเอาใครต่อใคร พี่ก็ยังเฉยๆ ว่ะ แต่กับเมย์ มันไม่ใช่ไง “ผมพูดโดยไม่ได้หันไปมองหน้าเมย์

“ผมไม่เข้าใจว่าทำไม ทั้งที่ชีวิตผมไม่มีอะไรเลยให้ใครอิจฉา ผมขาดไปหมดเลย แม้กระทั่งพ่อแม่ ญาติพี่น้อง ก็ไม่มี “ผมหันมามองเมย์

“ไปไหนมาเนี่ยะ!” ผมถามเมย์ ก่อนจะหันไปมองเมย์แว๊ปหนึ่ง

“ผมจะไปหาพ่อกับแม่ผม” เมย์บอกผม

“ที่ไหน” ผมถามเมย์

“แม่เราเพิ่งจะผ่าตัดบายพาสหัวใจไม่ใช่เหรอเมย์”

“คนนั้นคือแม่บุญธรรมผมครับ พ่อแม่จริงๆ ของผมเสียไปนานแล้วครับตั้งแต่ผมอายุได้ ห้าขวบ” น้ำเสียงของเขาบ่งบอกว่าเขาเหมือนตัวคนเดียวบนโลกนี่ ผมก็เลยต้องเอามือกุมขมับตัวเองและมองไปมองรถ ผมไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย

“พ่อแม่ผมน่ะเขาอยู่ที่สุสานวัดพระคริสต์ ผมอยากไปหาเขา ตอนนี้ผม รู้สึกไม่เหลือใคร “เมย์พูด

“ตั้นละ ทำไมยังพูดว่าไม่เหลือใครอีกล่ะ “ผมถามโดยไม่ได้มองหน้าคนข้างๆ

“พี่อาจจะพูดถูก ผมเองยังไม่รู้เลยว่าผมดีพอสำหรับพี่เขาไม่ ดีพอที่ผมจะอยู่กับเขาไหม”

“เมย์ พี่ขอโทษว่ะที่พี่พูดเมื่อตอนบ่าย พี่แค่ไม่อยากให้ตั้นมันผิดหวังว่ะ แต่พี่..พี่พูดแรงไปว่ะเมย์” ผมพูดเมย์หันมามองหน้าผม และพยักหน้าเบาๆ

“พี่คิดว่าเราจะไปหาพี่ปฐวีร์ซะอีก”

“ผม….”

“นายไม่อยากไปหาเขา เพราะนายรักตั้นเหรอ “ผมพูด เมย์ก้มหน้าลงเขาบีบมือตัวเองไว้ ร่างกายที่สั่นเหมือนลูกนกตกน้ำนั้น

“ตั้นมันรักเราว่ะ พี่ดูออก เพราะครั้งนี้มันไม่เหมือนทุกครั้ง พี่คิดว่าเราคงมาแทนคนที่ตั้นมันรักมากพอกัน แต่เขาก็ไปจากไอ้ตั้นมัน และนั้นพี่ก็เคยคิดว่าพี่น่าจะแทนเขาได้เหมือนกันตั้งแต่วันที่เขาทิ้งตั้นไป แต่ที่ไหนได้ พี่ไม่เคยที่จะแทนเขาได้เลย ไม่ได้เลยว่ะเมย์ พี่เลย… ช่างมันเถอะ!” ผมพูดกับเมย์ ผมเหลือบไปเห็นปั๊มน้ำมัน ก็หักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าไปในทันที เมย์หันมามองหน้าผมทันที เขาคงคิดซิน่ะว่าผมคงจะส่งเขาแค่นี้

TBC...

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-07-2021 11:42:40 โดย Alessa »

ออฟไลน์ Nattie69

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 777
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
ยังดีที่มาเจอ  ได้ปรับความเข้าใจกันอีก ก็ดีแล้ว  o13

ออฟไลน์ Alessa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
 
EP.12.1 ผมขอโทษ(รีไรท์)
[/font][/size][/color]

         Part'sภาคิน  ผมขับรถเลี้ยวเข้าไปที่ปั๊มน้ำมัน ผมขับรถไปจอดที่ตรงห้องน้ำ เมย์มองหน้าผม ผมก็ปลดเข็มขัดก่อนจะเดินลงไป เปิดท้ายรถของผมและเปิดเอาเสื้อผ้าในกระเป๋าเดินทาง ผมเลือกเขาเสื้อยืดที่ตัวเล็กที่สุด แต่ก็ยังหลวมสำหรับเมย์อยู่ดีและกางเกงขาสั้นออกมา ผมเดินมาเปิดประตูฝังที่เมย์นั่ง

“พี่จะส่งผมตรงนี้เหรอครับ” เมย์เงยหน้าขึ้นถามผม ผมแววตาเด็กน้อย

“ถ้าส่งตรงนี้กลับถูกไหมล่ะ”

“ไม่รู้ครับ “เมย์พูด

“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ  หนาวขนาดนี้ กว่าพี่จะขับไปส่งที่คอนโด ปอดบวมพอดี” ผมบอกเมย์และส่งเสื้อผ้าให้เมย์ ผมยักไหล่ ให้เขาไปเปลี่ยนในห้องน้ำ เมย์เขาพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะรับเสื้อผ้าใบถือไว้ ผมหยิบมือถือมากดโทรหาไอ้ธีม

// ไอ้ตั้นละว่ะ///

// แย่ว่ะ มันเฮิร์ทน่าดู กูไม่เคยเห็นมันเป็นแบบนี้เลยว่ะ เออ มีตอนที่พี่อิศเรศทิ้งมันไปแค่นั้นแต่นี่ กูไม่อยากพูดว่ะ “ไอ้ธีมพูด ผมก็ต้องเอาหน้าซบลงที่แขนผม เจ็บว่ะ บอกตรงๆ เลย

//แค่นี้ก่อนว่ะมึง// ไอ้ธีมมันพูดและวางสายไปผมเลยยังไม่ทันไ้ด้บอกเลยว่าเมย์อยู่กับผม  ผมหันไปมองเมย์ เปลี่ยนชุดออกมาแล้ว เมย์มองผม พร้อมกับเสื้อผ้าที่เปียกฝนนั้น

“ถือกลับมาทำไมน่ะ ไม่ทิ้งไปละ “ผมถาม

“ผมไม่อยากทิ้งอ่ะครับ เสื้อผ้าพวกนี้พี่ตั้นซื้อมาไว้ให้ผมใส่” ผมพยักหน้าก่อนจะเดินไปหาดูถุงใส่ของ และผมก็เอามาให้เมย์ใส่มันลงไป จะว่าไปก็ทำให้ผมยิ้มบางๆ ออกมาไม่ได้

ตื้ดๆ // ภาคิน ครับ มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ พี่เป็นห่วง// ผมอ่านข้อความก็ถึงกับต้อง “หึ?” ข้อความจากพี่ปฐวีย์ และจู่ๆ พี่เขาก็โทรมาหาผม

//ภาคิน มีอะไรให้พี่ช่วยหรือเปล่า บอกพี่ได้น่ะครับ// พี่ปฐวีย์ถามผม

//ไม่มีอะไรครับพี่ ผมโทรผิด//

// แม้พี่ก็หลงดีใจ รีบหลบออกมาโทรหา แต่ถ้ามี พี่ยินดีนะครับ ที่จะเป็นผู้ฟังที่ดี//

// ขอบคุณครับแต่เพื่อนผมเยอะ มีคนฟังเยอะแล้วด้วย ผมคงไม่รบกวนพี่ เพราะว่าผมเองก็ไม่อยากไปสร้างสงครามประสาทกับชะนีของพี่ โอเคน่ะครับ ตรู้ด! // ผมรีบชิ้งกดวางสายซะก่อน และยักไหล่ให้เมย์ขึ้นรถ ผมขับไปที่ช่อง Drive thru ผมก็สั่งซื้อฮอทช๊อกโกแลต และกาแฟร้อน ผมเองก็ต้องชับรถกลับไปทั้งที่ออกมาไกลแล้วก็ตาม ผมส่งแก้วฮอทช๊อกโกแลตให้เมย์ และขับรถมุ่งตรงกลับเข้ากรุงเทพ

//แม่ ผมมีธุระด่วนอ่ะแม่ ผมไปพรุ่งนี้น่ะ” ผมโทรอ้อนแม่ผมก่อนเลย

// แล้วจะมาทันไหมล่ะเรานะ และนี่พ่อก็จะบ่นเอาอีก เรานี้จริงๆ เลย // คุณหญิงแม่ของผม

//นะแม่นะ ช่วยผมหน่อย //

// เอาๆ น่าเบื่อจริงๆ เรื่องอ้อนนี้ละที่หนึ่งเชียว พรุ่งนี้ก็มาให้ทันน่ะ แค่นี้น่ะ แม่จะขึ้นไปคุยกับพ่อเขาก่อน //

//รักแม่ที่สุดครับ บายครับ/// ผมกดวางสายก่อนจะหันมามองเมย์ที่นั่งมองผม

“ขอบคุณนะครับพี่ภาคิน” เมย์พูด ผมหันมามองเมย์แว๊ปหนึ่ง

“พี่ก็ไม่ใช่คนโลกสวยน่ะเมย์แต่แบบนี้ พี่ก็”

“แต่พี่ใจดี ผมรู้แค่นั้น “เมย์ชิ้งพูดซะก่อน

“พี่รักพี่ตั้นมากเหรอครับ “จู่ๆ คนที่นั่งข้างๆ ผมก็ถามผม ผมหันไปมองเขาแว๊ปหนึ่งก่อนจะหันมามองถนนต่อ

“พี่รักตั้นมาก แอบรักมันตั้งแต่ที่ได้เป็นเพื่อนกับมันแล้ว ตั้นมันย้ายมาเรียนม.5 ที่โรงเรียนเดียวกับพี่”

“ตอนนั้นมันเข้ากับเพื่อนแทบจะไม่ได้เลย และมาเจอการเรียนระบบที่ต่างกันและยิ่งภาษาด้วย ตั้นมันพูดภาษาไทยได้ก็จริงแต่ว่า การอ่านมันแย่มาก แย่แบบว่าไม่น่าจะรอด และมันเกือบจะยอมแพ้และคิดจะหนีกลับไปอยู่อเมริกาเหมือนเดิม”

“คือมันเปิดหนังสือเรียนมานี่  มันนั่งร้องไห้เลยเพราะว่ามันอยู่เมืองนอกตั้งแต่เด็ก พี่กับไอ้ธีมนี่ก็ช่วยมัน แต่สุดท้ายมีพี่คนหนึ่งที่พ่อมันส่งมาดูแลมัน เขามาช่วยมันติวช่วยมันสอน และอีกอย่างหนึ่ง พี่เขาเข้ามาฟื้นฟูจิตใจมัน และเขาทำให้มันดีขึ้น “เมย์หันมามองผม

“พี่อิศเรศเหรอครับ”

“อืมม พี่คนนี้แหละคือคนที่ ได้หัวใจมันไป มันรักพี่อิศเรศมาก “คนข้างๆ ผมพยักหน้าเบาๆ ผมแค่หันไปปรายตามองแค่นั้น

“ตั้นมันเล่าเรื่องพี่อิสเรศให้ฟังแล้วเหรอ” ผมถามเมย์

“เปล่าครับ แต่ผมได้ยินเมื่อสองวันก่อน เขาคงไม่คิดว่าผมจะได้ยินเพราะเขาคิดว่าผมหลับ แต่จริงผมได้ยินทั้งหมดที่เขาพูด “เมย์พูดกับผม

“พี่อิศเรศมาดูแลมันและมาทำให้มันรักแต่สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะกลับไปอยู่เคียงข้างพ่อของตั้น ในฐานะคนรัก”

“พี่ก็รู้แค่นี้แหละ และตอนนั้นสภาพไอ้ตั้นมันแย่มาก ตอนนั้นเรียนมหา'ลัยแล้ว ปีสองแล้วด้วย พวกพี่ช่วยกันจนสภาพจิตใจมันดีขึ้น หลังจากนั้น มันก็เอาผู้หญิงไม่ซ้ำกันเลย”

“พี่ก็ทนดูแบบนั้นมาตลอดเหรอ”

“ใช่ ทำยังไงได้ “ผมพูดก่อนจะหันไปมองเมย์ ตอนนี้ผมเข้ามาที่เขตกรุงเทพแล้วด้วย

“แต่พี่รู้นิว่ามันแค่เอาเพื่อทดแทนความเหงา และมันก็ไม่ได้ทิ้งพวกพี่ไปไหนต้อให้มีผู้หญิงมาหามันพอเสร็จอย่างว่ามันก็กลับมาหาพวกพี่เหมือนเดิม "  " แต่ว่าพอเมย์เข้ามาพี่รู้สึกเต็มๆ เลยว่า เมย์เป็นมากกว่าพวกผู้หญิงพวกนั้นว่ะ”

“พี่อิจฉาเมย์มากบอกตรงๆ แต่พี่ก็ไม่อยากเห็นตั้นมันเสียใจอีก เมย์เข้าใจพี่ไหม”

“ผมเข้าใจครับ”

“ถ้าเมย์รักมันจริงๆ พี่ขอละ อย่าทำให้ตั้นมันเสียใจ”

“เห็นมันแบบนี้ เวลามันเจอเรื่องสะเทือนใจ มันโคตรอ่อนแอเลย รู้ไหมเมย์”

“สัญญากับพี่น่ะ “ผมพูด กับเมย์

“ทำไมพี่พูดแบบนั้นละ”

“พี่ว่า จะถอนตัวจากบริษัทเร็วๆ นี้ พี่ยอมรับว่าพี่ทนอยู่ตรงนี้ไม่ได้ เมย์ “ผมพูดเมย์หันมามองหน้าผม

“ผมยังไม่อยากให้พี่ไปเลยอ่ะพี่ภาคิน “เมย์พูดผมหันมามอง พร้อมกับคิ้งที่ยกสูงขึ้น จนเป็นรูปคันธนู

“ถ้าพี่อยู่ตรงนี้ ผมรู้สึกว่าผมปลอดภัยจากพี่ปริม”

“พี่เชื่อว่าตั้นมันปกป้องเราได้เมย์”

“แต่ผมก็”

“ถ้าพี่เป็นนาย พี่คงดีใจมากกว่าไหมจะได้ไม่ต้องมีคนมาแขวะนายไง”

“ก็พี่เป็นเพื่อนรักของพี่ตั้น ผมดูออกว่าพี่ตั้นรักพี่มากพอกันและผมเชื่อว่ามิตรภาพของพี่สองมันจะยังคงอยู่ไม่มีวันเลิกรา เหมือนคนรัก พอเลิกรักกันก็ต่างคนต่างไป “เมย์พูด

“ผมไม่เคยมีเพื่อนแท้เลยน่ะ เพื่อนที่มี พอเขารู้ว่าผมเป็นอะไรก็หายไปหมด คำว่าเพื่อนแท้ที่คบโดยไม่สนใจว่าเราเป็นอะไรน่ะ มันมีเหรอ มีจริงหรือเปล่า”

“แค่คำว่าเพื่อนแท้ผมยังไม่ค่อยแน่ใจเลย จนมาเจอพี่ตั้นนี้แหละ ที่รักพวกพี่ พี่จะทิ้งพี่ตั้นไปได้ลงคอเลยเหรอพี่ภาคิน” เมย์พูด ผมหันมามองหน้าเมย์ ผมชะงักไปหลายนาที ก่อนจะหันมามองถนนต่อ ผมขับรถมาเรื่อยๆ จนใกล้จะถึงคอนโดของตั้นมันแล้วด้วย

“ผมว่าพี่ภาคินทิ้งพี่ตั้นไม่ลงหรอกจริงไหมครับ “เมย์ถามผมขณะที่ผมกำลังนำรถเข้ามาจอด ผมเห็นรถเพื่อนๆ ผมจอดอยู่ ดูแล้วน่าจะเพิ่งกลับเข้ามากันด้วย

“รู้ไหมว่า ไอ้ตั้นมันขับรถหาเราอย่างกับคนบ้าเลยนะ นั้นแปลว่ามันรักเรามากเมย์”

“ผม ผม “เมย์เงยหน้ามองผม

“พี่ยอมแล้วว่ะ เมย์ “ผมพูดแค่นั้น ผมปลดล๊อคประตูให้เมย์เดินออกไป

******
          เมธานินท์ ผมก้าวเท้าลงจากรถพี่ภาคิน ผมเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าพี่เขาจะจอดรับผมจากข้างทาง ผมเองก็ไม่ได้ปหาพ่อแม่ผมหรอก ก็ลุงคนชับรถแกมัวแต่คุยโทรศัพท์เพลินเลยลืมเลี้ยวและไปยิงยาวที่ไหนก็ไม่รู้ แกบอกว่าจะรีบไปรับแขก ที่เป็นผู้หญิงไทยที่แกรู้จักและเขามาพักกับแฟนต่างชาติ เขาให้เงินดีกว่าผม ลุงแกเลยขอร้องให้ผมลงไปหารถคันอื่น ฝนก็กระหน่ำตกลงมาอีก เล่นเอาผมเปียกเป็นลูกหมาไปเลย ดีที่ได้พี่ภาคินแถมเอาเสื้อให้ผมเปลี่ยนอีกต่างหาก

“เมย์!!!” เสียงคนเรียกชื่อผมอยู่ด้านหลัง ผมหันไปมองพี่ตั้น เขามองผมและวิ่งตรงลงมากอดผมจนผมแทบจะหายใจไม่ออก

“พี่ตั้น เมย์ขอโทษ” ผมพูดเสียงผมสั่นๆ ผมรู้สึกผิดที่ตอนนั้นผม ไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดีกว่านี้

“ไปไหนมาเมย์ พี่ไปตามหาเราทั่วเลย พี่ไปทุกทีที่วิวบอกพี่ว่าเมย์อาจจะไป”

“เมย์แค่จะไปหาพ่อกับแม่ เมย์คิดถึงพ่อกับแม่ ฮือๆ” ผมพูดน้ำตาผมไหล เพื่อนๆ พี่ตั้นเดินลงมา ดูแต่ละคนก็คงวุ่นวายช่วยพี่ตั้นหาผมแน่ๆ เลย และคนที่ลงจากรถมาก็คือพี่ภาคิน

“ไอ้คิน มึงพาเมย์ไปไหนมา” พี่ตั้นหันไปขึ้นเสียงถามพี่ภาคิน และเหมือนจะตรงไปหาพี่ภาคินอีก ทำท่าจะต่อยพี่ภาคินด้วย ผมรีบตรงไปกอดรั้งพี่ตั้นเอาไว้ พี่ภาคินก็ไม่ยอมพูดอะไรหรืออธิบายอะไรเลย ผมรู้ว่าเขาเสียใจ

“อย่าพี่ตั้น พี่ภาคินเขารับผมมา เพราะว่าผมนั่งอยู่ที่ศาลา ผมกลับไม่ถูก ผมโดนลุงคนขับรถแทกซี่ทิ้งไว้ที่นั่น “ผมพูดพี่ตั้นหันมามองผม

“พี่ตั้นอย่าโกรธพี่ภาคินเลยน่ะ “ผมพูด พี่ภาคินไม่ได้พูดอะไรนอกจากเดินกลับขึ้นรถไปและขับออกไปทันที พี่ธีมมองผมก่อนจะพยักหน้ากับพี่ตั้น นั้นแปลว่าเขาจะตามไปดูพี่ภาคินเอง

“เอาละ พวกกูขออนุญาตพาร่างโทรมๆ ราวกับซอมบี้ไปนอนนะครับ คุณคู่รักครับ เหล้าก็ไม่ได้กิน หญิงก็ไม่ได้ไปแล “พี่เปรมดิ์พูด

“แต่ก็ยังดีที่พาพวกกูไปขับรถรับลมเล่นมารอบกรุงเทพเลย  ศรีวิไลที่แท้ทรู” พี่เปรมดิ์พูดผมมองพี่ตั้น พี่ตั้นพยักหน้าว่าใช่ ผมหันไปยกมือไหว้ขอโทษพวกพี่ๆ เขาก่อนที่พวกพี่ๆ เขาจะหันหลังพากันเดินกลับขึ้นไป คงนอนที่นี้กันหมดน่ะผมว่า

“เมย์ อย่าทำแบบนี้อีกน่ะ พี่ใจหาย พี่กลัว”

“ผมขอโทษนะพี่ตั้น ผมเองก็ใจหาย ผมกลัวจะไม่ได้กลับมาหาพี่อีกเหมือนกัน “ผมพูดและกอดคนตรงหน้า

“ขึ้นห้องเถอะ ทำไมตัวเย็นแบบนี้ละ”

“ผมนั่งตากฝนอยู่ เพราะว่าฝนตกหนักและไม่มีรถคันไหนแวะรับผมเลย ผมนั่งอยู่แบบนั้นจนกระทั่ง พี่ภาคินผ่านไปนี้แหละ “ผมพูด

“ขึ้นห้องเลย น่าทำโทษไหม และนี่จะไปไหนทำไมไม่บอกพี่ละเมย์ พี่จะได้พาไป รู้ไหมว่าพี่เป็นห่วงเรามากแค่ไหน”

“ผมบังเอิญไปเห็นรูปที่ถ่ายพ่อกับแม่ จู่ๆ ผมก็นึกอยากไปอ่ะพี่ตั้น”

“พี่แวะไปดู เราที่บ้าน บ้านที่เป็นของพ่อแม่เมย์มา” พี่ตั้นพูดผมหันไปมองพี่ตั้น

“วิวบอกพี่แล้วแหละว่าบ้านหลังนั้นถูกคนซื้อต่อไปแล้ว และเราอยากได้คืน ทำไมไม่บอกพี่ละ พี่จะได้ช่วย” ผมมองพี่ตั้น

“ไม่เอาอ่ะ เมย์ไม่อยากได้หรอกน่ะพี่ตั้น “ผมรีบปฏิเสธเสียงสั่น ถ้าผมจะได้บ้านหลังนั้นและผมอาจจะเสียพี่ตั้นไปล่ะ ผมไม่เอาดีกว่า

“มีอะไร บ้านหลังนั้นดูสวยดีน่ะ พี่เห็นพี่ก็ชอบน่ะ เมย์อยากได้คืนพี่จะลองถามคนที่เขาซื้อดูว่าเขาจะขายเท่าไหร่ ดูแล้วยังไม่มีใครเขาไปอยู่เลย”

“ไม่เอา ผมไม่เอาพี่ นะพี่ตั้น ผมไม่อยากได้แล้ว มัน เออ มันเก่าแล้ว” ผมรีบพูด พี่ตั้นมองหน้าผมเหมือนกับว่าเขามีคำถาม

“เอาไว้ดูบ้านหลังใหม่จะดีกว่า ถ้าพี่อยากมีบ้านสักหลังกับผม นะครับ “ผมบอกพี่ตั้น พี่ตั้นหรี่ตามองผม ผมก็รีบหลุบตาลง แอบช้อนตาขึ้นมอง พี่ตั้นเขาก็พยักหน้าเบาๆ แค่นั้นโดยไม่ได้ถามอะไรต่ออีก

   ลิฟต์มาถึงพอดีผมกับพี่ตั้นพากันเข้าไปในลิฟต์ มีสายตาที่แปลกใจของพี่ตั้นเหลือบตามองผมเป็นระยะ ก่อนจะใช้ฝ่ามือนั้น ลูบผมเส้นเล็กๆ ของผมเบาๆ ผมโผเข้ากอดพี่ตั้น มันเป็นครั้งแรกที่ผมทำแบบนี้กับเขา ในเวลาที่ผมอ่อนแอแบบนี้

“ถ้าพี่รู้ความจริงของผมพี่จะรักผมอีกไหมพี่ตั้น” ผมถามคนที่กอดผมอยู่ในลิฟต์ ตอนนี้คงดึกมากแล้วไม่ค่อยจะมีคนเข้ามาใช้ลิฟต์

“พี่ว่าพี่รักเราไปแล้วถอนตัวยังไงดีละ ต่อให้ร้ายแรงแค่ไหนก็คง เลิกรักไม่ลงแล้ว” พี่ตั้นพูดและมองหน้าผม ฝ่ามือพี่ตั้นดันประคองใบหน้าผมเอาไว้

“ให้พี่ได้หรือยังละครับ…คืนนี้ “พี่ตั้นถามผม ผมว่าผมเข้าใจความหมายของมันดี

“ฮะ ฮัดเช้ย!!” ผมจามออกมาเสียงดัง สงสัยว่างานผมจะเข้านั้นคือผมคงเป็นหวัดแน่ๆ เลย

“ดูท่าจะไม่ได้แน่น่ะคืนนี้” พี่ตั้นพูดพร้อมกับส่ายหน้าไปมา ก่อนจะล้วงมือลงไปหยิบผ้าเช็ดหน้าส่งมาให้ผม

“สงสัยผมจะเป็นหวัดอ่ะพี่ตั้น….ฮะ..ฮัดเช้ย!”

“ชัดเลยเนี๊ยะ! ขึ้นไปถึงกินยาเลยน่ะ ถ้าดื้อน่ะจะจับตีก้นให้ “พี่ตั้นพูดแต่มันทำให้ผมต้องยิ้มตาหยีให้พี่ตั้น นี่ผมแอบรักเฮียแกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้น่ะ พี่ตั้นเขาโอบเอวผม ผมเงยขึ้นไปมองพี่ตั้น

“งั้นขอจูบมัดจำไว้ก่อนได้ไหมครับ ….อื้มมมมมม “พี่ตั้นถามผมพร้อมกับประกบริมฝีปากทาบทับลงมาโดยไม่ทันให้ผมได้ตั้งตัว ผมเบิ่งตากว้างด้วยอาการตกใจ แต่ก็ค่อยๆผ่อนลง มือของผมค่อยๆเลื่อนขึ้นไปจากเอวที่ผมกอดเอาไว้เมื่อสักครู่ จนไปหยุดที่รอบคอของพี่ตั้น  ผมเองก็ ไม่รู้ว่าเนิ่นนานแค่ไหนที่เราสองคนจูบกันในลิฟต์นั้น ทันทีที่พี่ตั้นถอนริมฝีปากออก ผมหันมาก็เห็นมือถือพี่ตั้นเขาจ่อ นั่นแปลว่าเขาถ่ายรูปผมกับเขาด้วยเช่นกัน และเหมือนกับว่าพี่แกพิมพ์หยุกหยิกๆอะไรสักอย่าง ก่อนจะส่งมาให้ผมดู

“จะดีเหรอ เดี๋ยวสาวๆ พี่ พี่ก็มาเล่นงานผมเอาหรอก”

“สาวๆ ไม่มีแล้ว เพราะว่าแต่ละคน พี่ทำข้อตกลงก่อนพามาหาความสุข ว่าถ้าพี่เจอคนที่พี่รัก นั้นคือทุกอย่างที่ผ่านก็ต้องจบ พี่เลือกแล้ว ตัวเล็กของเฮีย” ผมยิ้มดีใจ เฮียเขาโพสต์รูปที่จูบผมลงอินสตาแกรม

เฮีย ❤ ตัวเล็ก (นั้นคือผม)

   RRR โทรศัพท์ของพี่ตั้นดังขึ้นขณะที่ผมสองกำลังเดินเข้าไปในห้องพัก พี่ตั้นก้กดรับสาย แถมยังทำนิ้วให้ผมรอก่อน ผมว่าจะรีบเข้าไปอาบน้ำซะหน่อย รู้สึกหนาวๆ
“ครับเฮียตั้ม เจอแล้วเฮีย แน่ละเฮียก็เมียของผมน่ารัก หายไปนี้ร้องไห้ตายเลย” ผมหันมามองและทำปากรูปตัวโอ ไปบอกเขาแบบนั่นผมเขิน

“อาบน้ำกัน” เฮียพูดให้ผมอ่านปาก ผมสะบัดหน้าไปมองเอาจริงๆ เหรอ

“ครับเฮียตั้ม ยังไงผมจะรีบพาไปแนะนำตัว แค่นี้ก่อนนะเฮียเมียเรียกอาบน้ำ โอเคๆ ยินดีด้วยเฮีย ได้ได้เดี๋ยวจะตามไปติดๆ ครับเฮีย สวัสดีครับ” พี่ตั้น รีบตามผมเข้าห้องน้ำไปแบบติด

“เฮียบอกแล้วไงว่า อาบน้ำให้ “ผมสองคนอาบน้ำด้วยกัน เหมือนจะเขินแรกๆ แต่ก็แค่อาบน้ำจริงๆ เพราะผมเหมือนจะเป็นไข้  พี่ตั้นก็หายาให้ผมทาน และยังโทรไปบอกวิวว่าผมไม่ได้ไปไหนแค่อยากไปหาพ่อแม่ผมที่สุสานแต่ก็ไม่ได้ไป ก็ลุงดันมัวแต่คุยโทรศัพท์และลืมเลี้ยวออก จนวิ่งเลยไปไกลเลยแถมแกบอกว่าคนที่ให้ไปรับลูกค้าประจำ ผมเลยต้องยอมลงมานั่งรอและนั้นก็ทำให้ผมรู้ว่าพี่ภาคินเขาไม่ได้เกลียดผม
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
มาอีกตอน เพราะไม่อยากค้างคาตอนหน้าคุ่พี่ภาคินใครกันน่ะ คิดว่าพอจะเดาได้แล้วแหละ 

*** blove ปมเริ่มเผยออกมาบ้างแล้วค่ะ มาลุ้นกันว่าเมย์จะตัดสินใจยังไง เพราะบ้านของเมย์อาจจะทำให้เมย์เสียตั้นไปก็ได้  :3123:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-07-2021 12:08:36 โดย Alessa »

ออฟไลน์ Nattie69

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 777
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 831
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1

ออฟไลน์ Alessa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
       ภาคิน ผมรีบขับรถออกมาอย่างรวดเร็ว ยิ่งเห็นไอ้ตั้นมันรักมันหวงกันมากแค่ไหนก็ยิ่งเจ็บมากเท่านั้น แล้วผมจะทนยืนทำไมว่ะ ผมขับมาที่ผับที่มาประจำเป็นผับไฮโซ มีพรมแดงรอรับแถมยังมีแต่คนหน้าตาดีมาเที่ยว แต่ผมน่ะไม่ได้ไปหาใครในค่ำคืนนี้แน่ๆ

“หมับ “มีคนเดินตามหลังมาและจับแขนผม ไม่ต้องเดามากหรอกว่าเขาคนนั้นคือใคร

“แม้ทีอย่างนี้ไม่ชวน แรดคนเดียวได้ยังไงวะ” ไอ้ธีม ผมหันไปมองหน้ามัน

“แต่สุดท้ายกูก็กลับคนเดียวอยู่ดี” ผมหันหลังมามองหน้ามัน “พอมึงเจอหลุมที่มึงจะปักเสาหลักสั้นของมึง มึงก็ทิ้งกู “ผมพูด

“ถ้าของสั้นก็ไม่มีใครยาวแล้วมึง” ไอ้ธีมมันพูด

“และมันจะต่างอะไรถ้ากูจะมาคนเดียวว่ะ” ผมพูดก่อนจะสะบัดแขนให้มันหยุด แต่ก็แอบยิ้มเพราะว่าไอ้ธีมเป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยทิ้งผม แต่มันเสียอย่างเดียวเอาหญิงมานับไม่ถ้วนและมันก็หายหัวก่อนเพื่อน

“สวัสดีครับคุณภาคิน คุณธีม โต๊ะเดิมไหมครับ” พี่ชายไอ้ธีมมันเปิดผับหรูนี้ เมื่อก่อนไม่นานมานี้เอง นั้นคือก่อนที่เมย์จะมา  ไอ้ตั้นมันยังมากับผมอยู่   แต่ว่าจะมีพี่ปริมมาด้วยทุกครั้ง ผมเข้ามาถึงเพลงก็กำลังขึ้นเลย เพลงที่ผมฟังประจำเจ็บทุกครั้งที่ได้ยิน “ความเงียบที่ดังที่สุด” ผมนั่งลงส่วนไอ้ธีมมันสั่งเหล้ามาลงที่โต๊ะที่ผมนั่งกัน ผับนี้ค่อนข้างหรูอยู่สูงสุดจนมองเห็นวิวทั่วกรุงเทพ

“เต็มที่ว่ะ “ไอ้ธีมบอกผม

“ผสมไหมครับ” พนักงานที่นำจอนนี่วอคเกอร์บลูเรเบลก็มาเสิร์ฟที่โต๊ะผม

“ไม่ผสมครับ” ผมบอกไอ้ธีมหันมามองผม

“แรง!”

“ครับผม” ถ้าเขาเอาแบบไม่ผสมเขาจะเทน้ำเย็นไว้ให้ผมด้วย

“ของพี่ผสมครับ พี่ไม่รีบเหมือนไอ้เชี้ยนี้มัน เพราะว่าพี่ยังต้องส่องสาวๆ ครับผม” ไอ้ธีมพูด และโยกไปตามเพลงที่มาเบาๆ คลอๆ

“ไอ้คิน เพลงนี้เลยกูให้มึงว่ะ” ผมหันไปมองเพลงห่าอะไรของมันไม่เคยฟัง “จังหวะขึ้นก็ไม่รู้จักแล้ว”

“ไม่รู้จัก” ผมบอกพร้อมกับกระดกใส่ไปหมดแก้ว

“เห้ย! อย่ารีบดิว่ะ เดี๋ยวก็เหมาคอพับ กูอดได้เด็กกลับบ้าน” ไอ้ธีมพูดจะห้ามผม ผมก็สะบัดและหันไปรินเหล้าใส่แก้วเองไม่รอเด็กมาทำให้
https://youtu.be/x8CeZ0GEUa4  ถ้าเขาจะรัก(ยืนเฉยๆเขาก็รัก)
ถ้าเขาจะรักยืนเฉยเฉยเขาก็รัก
ถ้าเขาจะรักไม่ต้องทักเขาก็ทัก
เจ็บพอแล้วก็พักดีกว่า
อย่าไปเสียน้ำตาอีกเลย
ถ้าเขาจะรักยืนเฉยเฉยเขาก็รัก
ถ้าเขาจะรักไม่ต้องทักเขาก็ทัก
เหนื่อยพอแล้วก็พักดีกว่า
อย่าไปวิ่งตามคนที่เขา
ไม่เคยรักเรา

   ผมหันไปมองคนที่ยืนร้องเพลงให้ผมฟัง ไอ้ธีม และมันก็ทำให้ผมต้องหันหน้าหนีไปมองทางอื่นแทน ไอ้เวรเอ๊ย! มันยิ่งทำให้ผมเจ็บไอ้สัสธีม แอบด่าแต่ก็หันมาเห็นมันเต้น น่ารักตายเลยไอ้บ้าเอ๊ย! ไอ้ธีมมันเป็นเพื่อนกับผมมาตั้งแต่ม.4 ก่อนเจอไอ้ตั้นที่เพิ่งจะย้ายมาทีหลัง

“พี่ธีม” มีเด็กมาทักมัน เป็นสาวสวยสามคน หน้าตาน่ารัก แน่ละไอ้ธีมดูหล่อแบบที่สาวๆ ชอบ มันหล่อแบบกะล่อน แต่สาวก็ยังชอบมองมันอยู่ดี

“น้องแวนด้า มากับเพื่อนเหรอครับ”

“ค่ะ ว่าแต่พี่เถอะมากับใครคะ” น้องคนสวยชี้มาทางผม

“เพื่อนพี่ครับ มันกำลังเฮิร์ธ”

“อกหักเหรอ” ผมหันมามองหน้าน้องแบบเต็มๆ ก่อนจะวางแก้วเหล้าลง “ปึก!”

“ตรงไปจร๊า!!” ไอ้ธีมรีบสะกิดน้องเขา

“พี่แกไม่ธรรมดา อย่าไปสะกิดพี่เขา พี่เขามีองค์ และถ้าองค์ลงนี้ ฝ่ามืออรหันต์สะบัดเลยนะหนูน่ะ” ผมพยักพเยิดว่าพาออกไปก่อนเลย ไอ้ธีมมันรีบลากน้องนางทั้งสามออกไปทันที ผมนั่งดื่มกระดกเพียวๆ ไม่รู้กี่แก้ว ผมก็มองมือถือ หน้าจอที่ตั้งค่าไว้กลุ่มเพื่อนๆ ที่ถ่ายรูปด้วยกัน ผมอยู่ตรงกลางกับไอ้ตั้น กอดคอกันในวันที่เรียนจบ ผมก็ยิ่งกระดกดื่ม


********

               ผมกำลังอยู่ในรถลีมูซีนคันหรู วันนี้ผมไปงานเลี้ยงก็ผมเพิ่งจะจบปริญญาเอกมาหมาดๆ วันก่อน ภาคินเขามาหาผม เขามาถามว่าทำไมผมถึงได้แสดงตัวเองว่าผมมีอะไร ผมยอมรับว่าต้องการให้ตั้นรู้  แต่ว่ามันจะมีประโยชน์อะไรถ้าเมย์เขาเลือกที่จะไม่กลับมาหาผม  ผมยอมรับว่าผมชอบเด็กคนนี้มาก ตั้งแต่ผมได้เข้าเป็นอาจารย์สอนมหาวิทยาลัยของเมย์ และผมก็พยายามช่วยเหลือเขามาตลอด เมย์เป็นเด็กน่ารัก เรียนเก่ง จนได้เกียรตินิยมอันดับที่สองแต่ เรื่องฉาวของผมกับเขาก็เกิดขึ้น และนั้นก็ทำให้ผมยอมลาออกเพื่อให้เมย์ได้เรียนจนจบ

           แต่มันไม่หยุดแค่นั้น ผมก็ยังให้การช่วยเหลือเขาหลังจากเรียนจบ  แต่นี้จู่ๆเขาก็หายไป ผมรู้ว่าเขาไปอยู่ทีไหน ตั้นคือคนที่ปริมคู่หมั้นที่ผมจำเป็นต้องหมั้นกับเธอ คั่วอยู่ ผมอยากรู้ว่าเขาเป็นคนยังไงผมเลยติดต่อให้เขามาดูแลระบบคอมพิวเตอร์ให้โรงแรมผมซะเลย แต่ว่ามันกลับทำให้ผม
Rrrrr สายเข้าในมือถือของผม ผมก็รีบกดรับสาย ทำไมผมถึงสนใจคนนี้ ที่ไม่เหมือนทุกคนที่ผมพบเจอและแตกต่างจากเมย์โดยสิ้นเชิง ทันทีที่ผมกดรับสาย เสียงดังของเพลงและผู้คนทำให้ผมต้องยกมือถือออกห่าง เดาได้ทันทีที่ว่าคนโทรหาผมอยู่ในผับที่ใดสักแห่ง

“ภาคิน” ผมกรอกเสียงเรียกชื่อไปในมือถือของผม

“เอามาอีกขวดดิว่ะ” เสียงพูดคุยแทรกเข้ามาหรือไม่เขาก็แค่กดผิดแต่ว่า ผมก็ยังรอฟัง

“พี่ภาคินครับ ผมว่าพี่พอเถอะพี่เมาแล้วแหละนี้ผมเห็นพี่อยู่คนเดียวด้วยเนี๊ยะ พี่ธีมไปไหนเนี๊ยะ”

“เรื่องของกู แม่งทิ้งกูไปหมด ไม่รู้แม่งจะสัญญาหาเหี้ยอะไรวะว่าจะอยู่ด้วยกัน ไอ้สัส!” เสียงด่าทอดังมาในมือถือผม ผมก็กดดูแต่ว่ามันไม่สามารถบอกได้ว่าเขาอยู่ที่ไหน

“ภาคิน ภาคิน” ผมเรียกคนปลายสายด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง ผมหันไปส่งสัญญาณให้เขาหาที่จอดให้ผมหน่อย

“สวัสดีครับ” เสียงเด็กผู้ชายรับสาย

“น้องครับ เจ้าของเครื่องละครับ เขาอยู่ที่ไหน พี่เป็นแฟนเขา พี่จะไปรับเขาเดี๋ยวนี้” จริงๆ แล้วไม่ใช่ถ้าไม่บอกอย่างนั้นน้องเขาคงไม่บอกผมว่าภาคินอยู่ที่ไหน

“อยู่ที่ผับXXXX ตรง ทองหล่อครับ”

“ได้ครับแค่นี้น่ะครับ เออ พี่รบกวนเฝ้าน้องเขาให้พี่ที นะ พี่มีค่าตอบแทน” ผมพูดสายก่อนจะหันมาบอกคนขับรถและว่าให้ขับไปที่ไหน ทันทีที่รถเก๋งคันหรูผมขับมาถึง ผมก็ก้าวเท้าลงจากรถ คนสนิทผมสองคนก็เดินลงมาจากรถอีกคัน

“ไปตามหาคุณภาคินให้ผมหน่อยครับ” ผมหันไปบอกเขาวสองคนก่อนจะเดินตามขึ้นไป สองคนนั้นจะไปหาข้อมูลให้ผมว่าภาคินอยู่ที่ไหน เพราะว่าที่นี่เป็นตึกสูงตระหง่านฟ้าขนาดนี้

“อยู่ชั้นบนครับคุณปฐวีย์และผับนี้เป็นผับของพี่ชายคุณธีมเพื่อนของคุณภาคินครับ” ผมพยักหน้าและเดินตามคนสนิทของผมขึ้นไปยังชั้นที่บอกว่าเป็นสถานบันเทิง ผมยอมรับว่าไม่เคยมาสถานที่แบบนี้เลย

“คุณปฐวีย์รอด้านนอกไหมครับผมสองคนไปตามหาคุณภาคินเองครับ”

“ฉันเข้าไปดีกว่า เขาคงไม่ยอมมากับนายสองคนง่ายๆ หรอก” ผมพูดและอมยิ้มเล็ก ๆ ก่อนจะเดินแทรกผู้คนเข้าไป จนถึงโต๊ะที่มีคนยืนดูแลเขาอยู่สองสามคน และคนของผมก็เข้าไป ผมยืนมองหนุ่มที่กำลังฟุบคาโต๊ะ และมองขวดเหล้าที่หมดเกลี้ยงอย่าบอกน่ะดื่มคนเดียวเลยนะ

“พี่เขาเล่นไปแบบเพียวๆ เลยครับ “ผมพยักหน้าและเขาไปสะกิดภาคิน

“ภาคินพี่พากลับบ้านนะครับ”

“ไม่กูจะกลับเอง อย่ามายุ่ง “ผมหันไปพยักหน้ากับคนสนิทว่าให้พาคุณภาคินออก

“เขามากับใครเหรอครับ” ผมถามคนที่ยืนดูแลอยู่

“มากับคุณธีมครับ แต่ดูท่าคงได้สาวไปแล้วนะครับ”

“ถ้าเขากลับมาก็บอกว่ามีคนพาคุณภาคินกลับแล้วนะครับ” ผมบอกและหันไปพยักหน้าให้คนสนิทของผมจ่ายค่าตอบแทนที่อยู่เฝ้าภาคินให้ผม คนสนิทผมก็พยุงร่างของภาคินแบบทุลักทุเล เพราะว่าเมาไม่ยอมให้พากลับ จนลงมาถึงชั้นล่างสุดและจะพาขึ้นรถกลับแต่

“กู จา ปาย รถ กู!  กูมายปายรถคนอื่นนน” เขาไม่ยอมขึ้นรถของผม ไม่ยอมท่าเดียวเลยจนผมหันไปมองพนักงานที่ดูแล ดูแล้วเขาคงรู้จักกัน

“เอารถคุณภาคินมาผมจะขับไปเอง “ผมหันไปบอกคนที่ดูแลรถของผับ

“ผมเป็นประธานกรุ๊ปของเครือโรงแรมชื่อดัง ผมคงไม่เอารถและคนไปทำมิดีมิร้ายหรอกครับและผมก็รู้จักคุณภาคินดี “ผมพูด และคนที่ทำหน้าที่ดูแลก็หันไปพยักหน้ากับลูกน้องเขา ไม่นานรถคันหรูของภาคินก็ถูกนำออกมา ผมหันไปรับกุญแจจากคนดูแลรถของแขกที่มาใช้บริการ

“คุณปฐวีย์จะขับเองเลยเหรอครับ”

“ครับผมขับได้ รถรุ่นนี้ผมขับที่อังกฤษบ่อย “ผมหันไปบอกและร่างของภาคินก็ถูกนำเข้าไปในรถ ด้านข้างคนขับส่วนผมก็ทำหน้าที่คนขับให้หนุ่มเมรีขี้เมา ดูท่าจะดื่มไปหนักพอสมควร ระหว่างที่ผมกำลังสนใจกับถนน จู่ๆภาคินก็ลุกขึ้นมานั่งมองซ้ายมองขวา ผมก็ส่งยิ้มให้เขา

“อึก! “เสียงเหมือนกำลังขย้อนบางสิ่ง และทำท่าเหมือนจะ

“ภาคิน!” ผมเรียกชื่อเขาแต่ไม่ทันแล้ว  “อ๊วก!!” มันพุงมาทางผมเต็มๆ 

“เยี่ยม! “ผมแตะเศษอาหารที่ภาคินมอบให้ผม มันอยู่ที่เสื้อสูทราคาแพง ผมว่ากลิ่นแบบนี้ คนที่ทำหน้าที่ซักให้ผมคงต้องกลั่นใจกันหน่อยละ

“อ๊วก!!”

“ภาคิน” ผมหันไปเอามือลูบหลังเขา ตอนนี้ภาคินอาเจียนไปรอบๆที่นั่งตัวเอง ก่อนจะยกมือตอบผมว่าเขาโอเค โชคดีที่บ้านพักของผมไม่ไกลมากจากผับที่ผมไปรับตัวภาคินมา  แม่บ้านทำความสะอาดคงจะงานหนักหน่อยล่ะ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

   ภาคิน หนังตาที่หนักอึ้ง ปวดหัวมาก ผมจำไม่ได้ภาพมันเบลอๆ ไปหมด ภาพสุดท้ายมีแต่แสงสี ก็ผมอยู่ในผับที่ผมไปประจำ และครั้งนี้ผมก็เมาเละไม่เป็นท่า แต่หลังจากนั้นล่ะ นั้นซิผมอยู่ไหน ผมค่อยพาร่างกายที่ย่ำแย่ของผมให้ลุกขึ้น ผมนั่งปรือตาอยู่บนที่นอน ห้องนอนที่ไม่คุ้นเคย ไม่ใช่บ้านผม ผมมีบ้านเป็นของตัวเองพ่อผมซื้อให้ ผมชอบความเป็นส่วนตัวสูงแต่ห้องนี้ไม่ใช่แน่นอนมันตกแต่งคนละสไตล์กันเลย ดูคลาสสิคมากกว่าแต่ดูแพง  และยิ่งไม่ใข่ห้องไอ้ธีมแน่นอน

Rrrrr เสียงมือถือผมดังขึ้น ผมหันไปมองหาอยู่สักพัก จนเสียงเรียกเข้าเงียบไป และRrrrr ดังขึ้นมาอีกครั้งผมหันไปเจอพอดี มันเสียบอยู่บนกล่องนาฬิกา บอกเวลาว่าตอนนี้ เก้าโมงเช้าแล้ว ฉิบหายแล้วภาคิน เพราะว่าวันนี้บวงสรวงบริษัทพ่อผม ผมรีบกระโดดไปคว้ามือถือผมและกดรับสายทันที

“ไอ้ภาคิน!! “ไอ้ธีม

“ไอ้สัสธีม มึงหายหัวไปไหน”

“มึงนั่นแหละครับ กูบอกว่าไปหาของวางแป๊บหนึ่ง พอกูกลับมามึงหาย แต่เด็กที่นั่นบอกว่ามีคนมาพามึงไป ใครวะ”

“กูไม่รู้ว่ะ แต่ว่ากูอยู่ไหนวะ”

“อ้าว!! ถ้าอย่างนั้นแชร์โลเคชั่นมา” ไอ้ธีมบอกผม

“เออ “ไอ้ธีมมันบอกผม ผมก็เข้าไปกดแชร์โลเคชั่น จะว่าไปห้องนี้ก็ตกแต่งแบบดูหรู ดูแพง ยังกับโรมที่ราคาแพงๆ ในลาสเวกัสเลย ใครกันน่ะ เป็นคนพาผมมา

“ไอ้เชี้ย!!!” ไอ้ธีมมันตะโกนดังลอดมือถือผมออกมา

“เชี่ยอะไร กูอยู่ไหน” ผมถามไอ้คนปลายสาย

“อีเจ้เอามึงตายแน่งานนี้”

“อีเจ้ไหน”

“อีเจ้ปริมไงมึง  มึงไปด่าอีเจ้มันและยังตบมันอีกด้วย แถมตอนนี้มึงยังจะ….”

“อย่าน้ำเยอะได้ไหมบอกูมาว่ากูอยู่ไหน”

“มึงอยู่บ้านพี่….”

“คุณปฐวีย์ค่ะโต๊ะอาหารพร้อมแล้วค่ะ ได้ค่ะ “ผมได้ยินชื่อนี้คุ้นๆมากและประตูห้องผมก็ถูกเปิดเข้ามา พร้อมกับ ผู้ชายที่สวมเสื้อเชิ้ตหรูดูมีสไตล์ เนกไทที่ถูกผูกไว้อย่างเรียบร้อย เขาเดินเข้ามาในห้องนอนที่ผมนั่งอยู่บนเตียง ภาพเบลอๆ เมื่อคืนมันย้อนกลับมาผู้ชายคนนี้แหละที่เขาไปเรียกผมและบอกว่าจะพาผมกลับ

“ไม่ต้องบอกกูแล้ว ไอ้เชี้ย มึงช้าว่ะ “ผมพูดและกดวางสาย ผมมองพี่ปฐวีย์ แบบว่ามีคำถาม

“พอดีเมื่อคืนมีคนเมาโทรหาพี่นะครับ กินเยอะขนาดนี้ควรจะหาคนไปด้วยนะครับ”

“หรือถ้าอยากให้พี่ไปก็บอกพี่ดีดี ไม่ต้องมาทำเสียงอ้อดอ่อนพี่แบบนี้ มันน่ารัก” ผมก็ต้อง “ห๊ะ!” ผมชี้ตัวเอง ผมนี่น่ะทำแบบนั้น

“พี่โทรบอกพ่อแม่ของภาคินแล้วน่ะว่า เราค้างบ้านพี่เมื่อคืนหนักไปหน่อยแต่ลูกชายเขาปลอดภัยดี” พี่ปฐวีย์

“พี่มาถือวิสาสะอะไรโทรไปที่บ้านผม”

“ในฐานะ ที่พี่มีวัยวุฒิมากกว่าไงครับ”

“เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว และพี่ว่าจะไปส่งเราที่บ้านที่ชลบุรีด้วย พี่ต้องไปทำธุระที่นั่นด้วย โรงแรมใหม่ของพี่กำลังจะสร้างที่นั่นด้วย” พี่ปฐวีย์พูด ผมก็เบ้ปากและมองบน แล้วไง

“รถของภาคิน พี่ก็ให้คนล้างทำความสะอาดให้หมดแล้วครับ “ผมหันไปมอง

“ล้างทำไม บ้านผมมีคนล้างอยู่แล้ว”

“หึ หึ” คนที่ได้ยินหัวเราะในลำคอ

“ไม่ล้างไม่ได้หรอกครับ ภาคิน เราอาเจียนใส่รถไว้ขนาดนั้น “พี่ปฐวีย์พูด ผมก็ต้องเอามือกุมขมับ รถหรูลูกรักของผมและหวงแหนมากแค่ไหน คือแบบว่าใครเมามากห้ามขึ้นรถผมแต่นี่ผมทำซะเอง

“ไม่ใช่แค่รถนะครับ “พี่ปฐวีย์ยังเดินมานั่งลงข้างๆ ผม

“อาเจียนใส่พี่อีกต่างหาก ครั้งแรกเลยนะ ไม่เคยมีใครทำแบบนี้กับพี่มาก่อนเลย เราคือคนแรก “พี่ปฐวีย์พูดแต่เขากับยิ้มที่มุมปาก ผมทำท่าจะลุกจากเตียง

“ผมต้องไปแล้วครับ ขอบคุณเรื่องเมื่อคืน” ผมพูด

“ชุดนอนก็ของพี่น่ะ “ผมก้มลงมอง

“ไม่ต้องห่วงหรอก ผมถอดคืนให้แน่นอน” ผมพูดและทำท่าจะหันหลังออกแต่ก็ต้องหันหลังกลับมาใหม่

“แต่…ใครเปลี่ยนชุดให้ผม” ผมถามพี่ปฐวีย์

“พี่ครับ” พี่เขาเปลี่ยนชุดให้ผม

“ดูซิ นี่ยังทำรอยกุหลาบไว้ที่รอบคอพี่ไปหมด ตอนแรกวันนี้ว่าจะสวมชุดลำลองเสื้อยืดสวมทับเสื้อสูทแต่มันปิดไม่มิดนะครับ มีหวังโดนแซว “พี่ปฐวีย์พูดแถมยังเปิดให้ผมดูด้วย เป็นรอยจูบแบบดูดดื่มเลยจะดีกว่า ผมหันไปหยิบเสื้อผ้าที่คนใช้ของพี่เขามาวางเอาไว้ให้แล้ว และวิ่งเข้าห้องน้ำไปเลย “เชี้ยเอ๊ย! ไอ้ธีมมึงตัวเดียวเลย”

ผมลงมานั่งที่ห้องอาหารหรูมีโต๊ะตัวยาวแต่มีคนนั่งที่ตรงหัวโต๊ะแค่คนเดียว อาหารบนโต๊ะมีมากมาย ส่วนใหญ่เป็นแนวอาหารฝรั่งซะมากกว่า ผมนั่งลงข้างๆ กับพี่ปฐวีย์ เขาแค่ปรายตามองผม

“พี่ว่าภาคินควรจะทานอะไรที่เบาๆ ท้องไว้หน่อยนะ พี่สั่งแม่บ้านทำข้าวต้มเอาไว้ให้” พี่ปฐวีย์พูด แม่บ้านก็ยกชามข้าวต้มมาให้ผม ข้าวต้มทรงเครื่อง

“รักเขามากมันก็ดีอยู่น่ะ แต่รักจนทำร้ายตัวเอง พี่ว่ามันไม่ใช่น่ะภาคิน” พี่ปฐวีย์พูด ผมก็ก้มหน้าก้มตาทานข้าวต้มไปเงียบๆ

“พี่เคยรักใครสักคนไหม แบบว่ารักมากแต่มันก็ยังไม่พอให้เขารักเราตอบนะพี่” จู่ๆ ผมก็ถามขึ้น

“พี่ก็รักใครสักคน ไม่ได้ถึงกับรักมากจนลืมมองตัวเอง แต่ก็รักและพร้อมจะมอบสิ่งดีดีให้เขา แม้เขาจะไม่ได้รักพี่ตอบ พี่ทำให้เขาขนาดที่ว่ายอมลงทุนเอาชีวิตพี่ไปเพื่อให้เขาได้สิ่งที่เขาต้องการ แต่”

“ถ้าเขาเจอคนที่เขารัก พี่ก็พร้อมจะให้เขาไปนะ”

“ครอบครองแค่กายจะได้ประโยชน์อะไร ถ้าใจเขาให้คนอื่น” ผมหันมามองพี่ปฐวีย์

“คุณปฐวีย์ค่ะ คุณภาสกร ขอเรียนสายด้วยค่ะ” ผมหันไปมอง นันพ่อผมน่ะนั้น พี่ปฐวีย์หันมายิ้มมุมปากให้ผมก่อนจะหันไปรับสาย ผมก้มลงมองมือถือ ทำไมพ่อไม่โทรเข้ามือถือผม

“สวัสดีครับ ภาคินอยู่กับผมครับ น้องโอเคแล้วครับ ไม่เป็นไรครับ ไม่รบกวน ผมจะออกกันไปแล้วครับ น่าจะทันครับ ไม่นี้ครับ ไม่ดื้อนี้ครับ ครับผม ได้ครับ ผมจะดูแลแล้วกัน ไม่ต้องเกรงใจครับ สวัสดีครับ” พี่ภาคิน ผมแอบเบ้ปากและมองบ่น

“นินทาพี่เหรอครับ นี่พี่อุตส่าห์โกหกคุณพ่อน้องให้น่ะครับ ว่าเราไม่ดื้อกับพี่ แต่จริงๆ ดื้อมาก” พี่เขาพูด ผมก็พ่นลมหายใจออกมายาวๆ และก้มลงทานต่อจนเสร็จ และจะได้ไปหาพ่อแม่ผม ไปถึงนี้คงโดนบ่นหูชา พี่ชายอีกสี่คนก็คงไม่ได้ช่วยอะไรเหมือนเดิม พ่ออยากให้ผมถอนตัวจากเพื่อนๆ ผมและมาทำกิจการเต็มตัว ผมคิวว่าอาจจะถึงเวลาแล้วก็ได้
*****


ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ
ขอบคุณคุณ Nattie69 มาเป็นกำลังใจตลอดเลย  :pig4:
ตอนหน้า เจ้ปริมจะมาแล้วน่ะ มีเซอไพรส์ให้พี่ตั้นด้วย วันอาทิตย์ดึกๆหน่อยนะมาลงให้นะคะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-11-2020 20:15:11 โดย Alessa »

ออฟไลน์ Nattie69

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 777
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
โอ๊ยยยต่อไปภาคินจะเป็นฝ่ายถูกล่ารักจากเมื่อก่อนที่วิ่งตามรัก คุณวีย์เอาจริงแน่อ่ะ  :-[ 55555 เมย์กลับมามีอะไรก็คุยกันซะนะ ว่าแต่อะไรอ่าาาคู่คุณพ่อ+อิศเรศนี่ อาร๊ายย ขอเป็นตอนพิเศษ4,5ตอนจบได้ไหม ชอบรุ่นใหญ่ กรี๊ด 55555555 สนุกมาก รอตอนต่อไปเลยค่ะ  :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Tanthai23

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
เชียร์คู่พี่ปฐวีย์กับภาคิน  ภาคินแรงได้อีก  :mc4:

ออฟไลน์ Alessa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
      รชานนท์ ตอนนี้เป็นเวลาเกือบเก้าโมงครึ้งผมมีนัดกับเพื่อนๆ ไปลงโปรแกรมที่โรงแรมใหม่ของพี่ปฐวีย์ วันนี้ผมต้องไปก่อน พวกไอ้เปรมดิ์ ไอ้ทีน ไอ้อาร์มและไอ้กอล์ฟมันจะตามผมไปทีหลัง ผมส่งพวกนั้นไปช่วยกันแก้ โปรแกรมของโรงพยาบาลก่อน เป็นโรงพยาบาลเล็ก ๆ พวกผมรับงานกันไม่เยอะเพราะว่าต้องมีบริการหลังจากนั้นด้วยถ้ารับเยอะมีปัญหามาจะแก้กันไม่ทัน

“เฮีย” ผมอมยิ้มเพราะว่าตัวเล็กเปลี่ยนมาเรียกผมว่าเฮียตามเด็ก ๆ ที่มาทำงานกับผมแล้ว ผมหันมามองเมย์

“ว่าไงครับเมียครับ” ผมหันไปถาม ถึงแม้ว่าผมกับเมย์ยังไม่ได้มีอะไรกันอีก (วันก่อนเมย์ไม่สบายเป็นหวัดผมเลยไม่กล้าทำร้ายเมีย) กะว่าคืนนี้เอาแน่ๆ

“ทำอะไรของเฮียเนี๊ยะ!   ทำไมผูกเป็นปมแบบนี้ละเนกไทน่ะ” เมย์เดินมาถึงก็บ่นผมทันทีและทำการแก้ให้ผมด้วย (วันนี้ไม่สวมสูทแต่ใส่เสื้อเชิ้ตผูกเนกไทซะหน่อยเพื่อว่าพี่ปฐวีย์เข้า จะได้ดูดีหน่อยและพวกเพื่อนผมก็ผูกกันด้วยวันนี้)

“ตัวเล็ก ไปเขาใหญ่กับเฮียน่ะ เฮียจะไปทำบุญครบรอบให้แม่” ผมบอกตัวเล็ก

“อืมม” ตัวเล็กพยักหน้าเบาๆ ผมอยากพาเมย์ไปเปิดตัวอย่างเป็นทางการ และที่ผมต้องไปเพราะว่าครบรอบวันเสียชีวิตแม่ของผม และที่สำคัญผมไม่ได้เข้าไปที่นั่นมาสองสามปีแล้วด้วย ตั้งแต่เปิดบริษัทกับเพื่อนๆ

“วันนี้จะกลับมาทานอาหารเที่ยงกับผมหรือเปล่าอ่ะ” คนตัวเล็กทำหน้าตาอ้อนผม

“อยากให้มาหรือเปล่า แต่ว่าถ้าเฮียมาแล้ว ต้องมีของหวานน่ะ” ผมยืนแอ่นอกให้ตัวเล็กจัดการเนกไทผมแอบชำเลืองตามองตัวเล็กจะว่าไงล่ะของหวานเฮียน่ะ

“เฮ้ย เอาจริงดิ “คนตัวเล็ก เงยหน้าขึ้นมาผม ก่อนจะก้มลงทำแก้มป่องน่ารักเชียว

“ก่อนนอนไม่ได้เหรอ? “คนตัวเล็กทำทีต่อรองกับผม ทำเอาผมอมยิ้มในความน่ารัก

“ก็ได้ งั้นตอนเที่ยงเฮียมาทานข้าวด้วย จะแอบหนีไอ้พวกนั้นมาหาเมียแล้วกัน” ผมพูดเมย์ยิ้มตาหยี ให้ผม ก่อนจะหันไปหยิบผ้าเช็ดหน้าในลิ้นชักที่ถูกพับเอาไว้เรียบร้อยมาส่งให้ผม เอาไว้ซับเหงื่อ ผมต้องรีบไปจัดการลงให้เสร็จเรียบร้อยซะก่อน พี่ปฐวีย์บอกว่าจะเปิดโรงแรมหรูอย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้ และจะมีดารามาเปิดงานด้วยหลายคน ทุกอย่างต้องพร้อมก่อน

Rrrrr
//ไอ้อาเหี้ยครับ//ผมกดรับสายจากไอ้เปรมดิ์ เพื่อนของผม

//แม้ไอ้เหี้ย! เรียกกูซะ กูอาเฮียครับ ไม่ใช่อาเหี้ย// (ไม่ต้องตกใจเพื่อนกันสนิทกันเกินไปก็จะเป็นเช่นนี้ นี่ขนาดผมนี้บอสพวกมันนะครับ) (ตั้งแต่ผมได้คบพวกมันมา ภาษาไทยพวกนี้ผมแข็งแรงขึ้นเยอะ ด่าชัดขึ้นเยอะ ฮาๆ)

//ไอ้อาเฮียครับ! มึงจะออกไปกี่โมง พวกกูใกล้จะเสร็จแล้ว จะได้ไปหามึงเลย เมียก็ง่องแง่งร้องจะกินชาบู!!” ไอ้เปรมดิพูด
//จะได้รีบไปทำและรีบกลับ ให้พวกกูกลับไปเอาใจเมียมั้งเถอะ ก่อนที่เมียกูจะมีผัวใหม่ครับไอ้บอส!! //

//เออ… งั้นกูไปรอที่โรงแรมพี่ปฐวีย์เลยนะ กูจะได้ลงไปบ้างก่อนพวกมึงจะไปถึง และจะไม่ต้องทำอะไรเยอะ “ผมบอกไอ้พวกนั้น (ผมลืมบอกไปว่าเมย์รู้แล้วว่าผมดูแลระบบโปรแกรมให้พี่ปฐวียกแต่เมย์ก็ไม่ได้พูดอะไร เมย์บอกว่าเขากับคุณปฐวีย์แค่คนเคยมีพระคุณแค่นั้น ผมว่าวันที่เขาพร้อมเขาจะบอกผมเอง)

“ฟ๊อด! เฮียไปน่ะ อยู่ห้องดีดีน่ะ เจอกันตอนเที่ยง เฮียรักตัวเล็กน่ะ” ผมพูดกับคนที่เตี้ยกว่าผม ผมสูง 177 เซนติเมตร ส่วนคนตัวเล็กนี้สูง 160 เซนติเมตร

ผมรีบเดินลงไปชั้นข้างล่าง ผมขับรถออกไป ตรงไปที่โรงแรมใหม่จองพี่ปฐวีย์ ผมจะไปลงโปรแกรมที่ผมเขียนให้พี่เขา จะมีพนักงานคอมพิวเตอร์ของพี่ปฐวีย์มาดูงานกับผมด้วย แต่ถ้าโปรแกรมมีปัญหาผมต้องไปแก้ไขให้เขาเอง เพราะว่าโปรแกรมนี่พวกผมเขียนกันขึ้นมาดังนั้นจะรู้วิธีแก้มากกว่า

ผมโทรหาภาคิน ช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นหน้ามันเลย ใจหายยังไงก็ไม่รู้ แต่ผมก็รู้ว่าวันหนึ่งทุกคนต้องออกไปมีชีวิตของตัวเอง ผมเองก็เช่นกัน (และตอนนี้ผมคิดว่าผมเจอแล้วเมย์นี่แหละที่ผมอยากออกไปใช้ชีวิตด้วย)

//อยู่ไหนวะภาคิน//
//กำลังจะกลับ กูอยู่กับไอ้ธีม มันไปช่วยกูแก้ระบบคอมพิวเตอร์บริษัทพ่อกูไง //
// เออ เข้ามาหากูด้วยนะ กูไม่ได้เห็นหน้ามึงมาหลายวันแล้ว//
//เหรอ!!!! //
//ไอ้คินอย่าทำแบบนี้ดิว่ะ กู///
//กูรู้แล้ว ว่ามึงรักกูแค่เพื่อน ย้ำทำเหี้ยอะไรวะ เดี๋ยวเจอกันที่ออฟฟิศ แค่นี้น่ะมึง บาย!// ผมนั่งอมยิ้มอยู่หลังพวงมาลัย ได้ยินมันด่าแบบนี้แสดงว่ามันโอเคแล้ว

ผมกดวางสายไอ้ภาคินก็รีบนำรถเข้าจอดที่จอดรถ โรงแรมเรียกว่าทุกอย่างพร้อมเปิดแล้วภายในอีกสามอาทิตย์ โปรแกรมที่ผมเขียนให้พี่เขามันก็โอเคแล้ว ผมหยิบเอากระเป๋าเอกสารที่มีโน๊ตบุ๊ค ไอแพต ของผมเดินขึ้นไปยังชั้น ที่มีห้องควบคุมระบบคอมพิวเตอร์ก่อน วันก่อนเข้ามาก็ยังไม่สวยเท่านี้ จะว่าไปพี่เขาก็เก่งน่ะ ผมเป็นแขกก็อยากจะเข้าพัก พี่แต่งแบบธรรมชาติมากในใจกลางกรุงเทพแบบนี้

Rrrr เฮียครับรับสายผมหน่อย!! (เสียงเรียกเข้าตั้งเอง) รีบกดรับทันที ถ้าเมียโทรรับไวภายในสามวินาที ถ้าเพื่อนก็สามนาทีขึ้นไปค่อยรับ
//ครับตัวเล็ก//
//เฮีย ผมจะออกไปซื้อของเพิ่มนะครับ//
//ไปยังไงตัวเล็ก //
//เฟย์เขาอยู่นี้นะครับ เฟย์ขับรถพี่กอล์ฟพาผมไปได้ครับ//
//โอเคครับเมีย//
//ยังไม่เป็นเมียซะหน่อย ขี้ตู่//
//คืนนี้เฮียจัดให้เลย//
// โห่! ทำกับข้าวก็เหนื่อยแล้วนะเฮีย//
//ไม่ได้ อันนี้งานหลักที่ต้องปรนนิบัติสามี //
//ใจร้ายอ่ะ! //
//ยอมใจร้าย! //
//ไม่คุยด้วยแล้วจะไปแล้ว อย่าลืมมาทานข้าวกับผมนะ ผมรอ//
//ได้ครับ เมียสั่งขนาดนี้ไม่ลืมครับ ว่าแต่ตัวเล็กถึงแล้วส่งข้อความหาเฮียด้วยนะ เฮียเป็นห่วง//
// เฮีย…//
//หึ? //
//เฮีย ผมรักเฮียน่ะ//
//พูดแบบนี้เฮียว่าเฮียไม่ทำแล้วงาน//
//อ้าว? //
//หันหลังกลับบ้านดีกว่า //
//เฮ้ย!! รู้อย่างนี้ไม่บอกก็ดีอ่ะ ไปทำงานเลย!! //
//เฮียรักตัวเล็กน่ะ รักมากแล้วด้วย เจอกันตอนเที่ยงนะครับ //
//บายครับ//

ผมรีบเข้าไปในห้องควบคุมระบบคอมพิวเตอร์ ผมเห็นมีคอมพิวเตอร์วางอยู่ มีชั้นเอกสารเรียบร้อยและด้านในกั้นห้องกระจกเอาไว้ มีคอมพิวเตอร์เมนหลักที่ผมต้องลงโปรแกรมอยู่ในห้องนั้น ผมเดินเข้าไปทันที พี่ทำงานในห้องกระจกสองคนหันมามองผม ที่เปิดประตูเข้าไป

“สวัสดีครับพี่”

“สวัสดีครับ ไม่ต้องเรียกพี่ก็ได้ครับ อายุน่าจะเท่าๆ กัน ผมชื่อเต้ครับ นี้น้องเอ็มครับน้องคนนี้เป็นน้องจบใหม่ครับ “คนที่ชื่อเต้แนะนำตัวและอีกคน

“เดี๋ยวผมลงโปรแกรมให้ก่อนเลยนะครับ ส่วนเพื่อนผมกำลังจะมาครับ”

“ได้เลยครับ เมื่อวานผมกับเอ็มและมีน้อง ๆ ที่ทำงานอีกสาขามาช่วยกันติดตั้งคอมพิวเตอร์ไว้หมดแล้วครับ เช็กการทำงานไวไฟแล้วด้วยครับ” พี่เขาพูดผมก็จัดการ เอาโน๊ตบุ๊คผมออกมาและทำการลงโปรแกรม

ทีน// ไอ้ตั้นอีกสามสิบนาทีพวกกูไปว่ะ แก้ไวรัสแป๊บว่ะ // ไอ้ทีนเพื่อนผมมันส่งข้อความมาบอกผม
ไทตั้น// (ชื่อเล่นเต็มๆ ของผม) เออๆ แต่อย่าช้าน่ะ เมียนัดทานข้าวเที่ยง//
ทีน//ไอ้คนรักเมีย!!! //
ไทตั้น// ไม่ได้เมียกูยืนหนึ่ง//
ทีน//กิ๊กมึงละครับ//
ไทตั้น //ไม่มี!!!! //
ไทตั้น// แค่นี้น่ะ รีบมาด้วย งานนี้เสร็จ จะพาไปเลี้ยงที่ร้านหมูกระทะเฮียตั้ม//
ทีน//เฮียตั้มแกจะเลี้ยงพวกกูไม่ใช่เหรอ ไอ้เนียน!! ///
ไทตั้น // กูเลี้ยงเหล้าไง เฮียแกไม่เลี้ยงเหล้า//
ทีน//ค่อยดูดีขึ้นมาหน่อย พวกไอ้เปรมดิ์เซย์เยส//

ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูกระจก พร้อมกับขวดน้ำมาวางไว้ ให้ ผมหันไปมองน้องที่ชื่อเอ็มนั้นเอง

“พี่เขาให้เอาน้ำมาให้ครับ เดี๋ยวผมกับพี่เต้ ไปเช็กคอมพิวเตอร์ที่ออฟฟิศใหญ่ก่อนนะครับ เห็นพี่เขาบอกว่ามีปัญหานะครับพี่

“ได้ครับ “ผมพยักหน้าและทำงานผมต่อจะว่าไปคุยเยอะคอแห้งเหมือนกัน ผมก็หันไปเปิดขวดน้ำและกระดกดื่มทันทีอย่างกระหาย และหันไปจัดการทำงานต่อ เวลาผ่านไปได้สักเกือบยี่สิบนาที จู่ๆ ผมก็รู้สึกร้อน  เริ่มรู้สึกคอแห้ง หันมาเจอน้ำที่เหลือก็เลยก็กระดกเข้าไปเกือบหมด คราวนี้เหงื่อเริ่มไหลซึมออกมาตามหน้าผาก ในกายผมก็เริ่มร้อนรุ่มขึ้นมากะทันหัน จนผมนั่งอยู่นิ่งๆ ไม่ได้ ผมลุกขึ้น ปลดเนกไทออก ผมหันไปมองขวดน้ำ อาการแบบนี้มันแปลกๆ ผมก้มลงมองที่เป้าตัวเอง มันเริ่มตุงขึ้นมา เริ่มปวดหนึบ อาการเหมือนผมต้องการมีเพศสัมพันธ์ ใช่แล้วผมโดนยาปลุกเซ็กส์

“ปึก” เสียงประตูที่ถูกเปิดเข้ามา พี่ปริม เธอสวมชุดแซกสั้นลายดอกกุหลาบแดง เสื้อที่โชว์ให้เห็นเนินอกขาวๆ กำลังสาวเท้าเข้ามาหาผม ผมก็หันหน้าหันหลัง และก้าวถอยหลังไปทีละก้าว กายผมก็ร้อนเหลือเกินร้อนจนอยากจะกระชากเสื้อผ้าตัวเองออกไปให้หมด

“พี่ปริม”

“เป็นไงตั้น ร้อนไหม ยาเริ่มออกฤทธิ์แล้วซิน่ะ” พี่ปริมเป็นคนวางยาอย่างนั้นเหรอ

“พี่ทำแบบนี้ทำไมพี่ปริม ผมบอกพี่ปริมแล้วว่า เรื่องของผมกับพี่มันจบแล้ว”

“พี่ไม่ยอมเสียตั้นให้ใคร ตั้นต้องเป็นของพี่คนเดียว”

“แต่พี่จะแต่งงาน”

“ก็แค่แต่ง แต่เรื่องบนเตียง ต้องเป็นตั้น กับพี่เท่านั้น” พี่ปริมพูดพร้อมกับเดินมาหาผม กายผมก็ร้อนรุ่มจนเกือบจะควบคุมตัวเองไม่ได้ เหงื่อแตกผลักๆ จนต้องปลดกระดุมเม็ดบนออกและตามมาอีกสองสามเม็ด

“ปกติตั้นจะกระโจนเข้าหาพี่เลยไม่ใช่เหรอ “พี่ปริมถามผม ทำท่ายั่วยวนผมโดยการลูบไล้ไปตามลำตัวของเขาเอง ผมก็ยิ่งถอยหลังหนี

“ไม่ได้พี่ปริม ผมมีคนที่ผมรักแล้ว”

“นี่ตั้นจะบอกพี่ว่าตั้นรักไอ้เด็กนั้นอย่างนั้นเหรอ”

“ใช่ผมรักเขาแล้วพี่ปริม ผมขอละ พี่ปริม ผมไม่เคยคิดจะชอบพี่ผมแค่”

“ไม่ได้ ตั้นต้องมีแค่พี่!!”

“ปีก “พี่ปริมดันอกผมอย่างแรง จนร่างของผมล่วงลงไปนั่งที่เก้าอี้ด้านหลัง และพี่ปริมก็ไม่รอช้าขึ้นมานั่งคร่อมผมทันที หน้าอกอวบๆ นั้น อยู่ตรงหน้าผม แกนกายในกางเกงก็แข็งจนรู้สึกปวด มือผมต้องกำพนักเก้าอี้ตรงที่วางแขนแน่นเพื่อฝืนตัวเอง ผมจะไม่ทำแบบนั้นอีก ผมมีตัวเล็กแล้ว

“เอื้อก” ผมกลืนน้ำลายลงคอเสียงดัง

“อยากใช่ไหมล่ะตั้น จัดเลย พี่อยากได้แบบเร่าร้อนเหมือนที่ต้นเคยให้พี่ “พี่ปริมพูดพร้อมกับ แหวกคอเสื้อที่แหวกลึกอยู่แล้วให้เห็นหน้าอกนั้นชัดๆ

“ไม่! ไม่! ผมไม่ทำ!” ผมส่ายหน้าไปมา พยายามหนี “ฟู่”

“หมับ” พี่ปริมใช้ฝ่ามือจับใบหน้าของผมให้อยู่นิ่งๆ ริมฝีปากแดงฉานนั้นมันน่ากลัวมากกว่าน่าจูบสำหรับผมตอนนี้

“อืมม” พี่ปริมประกบริมฝีปากของผมและบดขยี่อย่างเมามัน ผมเองก็ขืนแต่ก็ขืนได้ไม่นานต้องเผลอจูบพี่ปริมตอบกลับ ใจของผมอยากจะขัดแต่ร่างกายและความต้องการมันก็ไม่ยอมฟังคำสั่ง ปากผมสองคนที่ทำหน้าที่ดูดดื่ม ลิ้นที่ถูกสอดเข้ามามันพัลวันอยู่ในปากผม แถมมือผมกับจับเข้าที่สะโพกของพี่ปริมโดยไม่รู้ตัว และกดมันลง พี่ปริมก็โยกเบาๆ คลึงส่วนที่แข็งปังของผม

“ไม่! ไม่!  พี่ปริม ผมทำไม่ได้ พี่พอเถอะ อ้าห์ “ผมพยายามห้ามพี่ปริมทันทีที่ปากผมเป็นอิสระแต่ก็ต้องครางออกมาอีกครั้งเมื่อพี่ปริมกำลังไซ้ลงที่ตามแผ่นอกผม

“พี่ปริมจับมือผมไปเคล้าคลึงที่หน้าอกเธอ มือผมสั่นไปหมดด้วยฤทธิ์ของยา พี่ปริมเริ่มปลดเข็มขัดผม ผมก็เริ่มซุกไซ้ที่หน้าอกขาวๆ นั้น อย่างหื่นกระหาย ผมเริ่มควบคุมตัวไม่ได้ความอยากต้องมันมากจนสติผมเริ่มหลุด แกนกายผมเริ่มโผ่พ้นออกมาจากกางเกงสแลกนั้น พี่ปริมกำลังกำมันอย่างพอดีมือและรูดเบาๆ เธอลุกขึ้นและดึงรูดกางเกงตัวจิ๋วที่ซ้อนอยู่ภายในลงมาและขึ้นมาคร่อมตัวผมอีกครั้ง ในหัวผมก็ตีกันไปหมด “มีทั้งภาพตัวเล็กของผม “ “และภาพพี่ปริมตรงหน้า แค่ผมกระหน่ำทำแบบนั้น มันก็จบ! และผมก็ไม่ต้องมาทนทรมารแบบนี้ “พี่ปริมก็กำลังพยายามที่จะให้ผมสอดสิ่งนั้นเข้าไปในกายของเธอให้ได้ ใช่ผมก็เคยๆ กันมาก่อน
*******
มาลงก่อนครึ้งแรกนะคะ จะตามมาอีกทีคืนนี้ ขอบคุณกำลังใจด้วยค่ะ
ปล.คุณblove ของพ่อกับพี่อิศเรศมาแน่ๆค่ะ คิดว่าคงจะมาตอนพิเศษเหมือนกันค่ะ  :3123:

ออฟไลน์ Nattie69

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 777
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
55555555 เออถ้างั้นก็อย่ามีเมียเลยนะเฮียตั้น มันก็คือๆกันนะว่าไหม 555555

ออฟไลน์ Alessa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
   
              //เฮีย รับสายผมด้วย// เสียงเรียกเข้าที่ผมตั้งเอาไว้ ดังขึ้น เมย์!! ผมเริ่มได้สติ พี่ปริมมองหน้าผมไม่รู้เธอตกใจหรือว่าเธอกำลังโมโห พี่ปริมหันไปมองมือถือผมและทำท่าจะคว้า แต่ว่าผมรีบผลักดันตัวพี่ปริมกระเด็นออกไปซะก่อน “ตุ๊บ!! ” ร่างพี่ปริมลงไปกองกับพื้น จังหวะนันผมก็รีบคว้ามือถือของผม ผมไม่รอช้าวิ่งออกไปพร้อมกับปิดประตู ผมต้องหยุดเธอไว้ก่อนที่ผมจะกระเจิงไปกว่านี้ ยาที่อยู่ในกายผมก็เริ่มออกฤทธิ์ ผมหันไปดันโต๊ะที่อยู่ด้านนอกมากั้นประตูเอาไว้อีกที

“ฟู่!!” ลมหายใจที่พรูออกมาถี่ๆ

“ปึกๆๆ” พี่ปริมพยายามดันเปิดประตูแต่เธอก็เปิดไม่ออก เธอโมโหผมมากพร้อมกับใช้แขนทุบกระจกให้ผมเปิด ผมส่ายหัวไปมา เธอกำลังใช้โทรศัพท์ของเธอคงโทรหาคนของเธอ และผมก็รีบแต่งตัวแบบลวกๆ ก่อนจะรีบเพ่นออกจากห้องนั้น มองหาทางหนีไฟ และผมเองก็ปล่อยให้พี่ปริมเขาโวยวายอยู่ในห้องกระจกนั้นตามลำพัง

              ผมรีบวิ่งออกไปทันที ผมต้องออกจากที่นี่ให้ได้ซะก่อนตอนนี้ ตอนนี้ภายในกายผม กำลังร้อนรุ่มดังมีกองเพลิงมาสุมอยู่รอบกายผม แต่ผมก็ต้องวิ่งลงไปทางบันไดหนีไฟ วิ่งลงไปให้เร็วที่สุด

“เหี้ยเอ๊ย!” แต่ว่ารถผมมันจอดอยู่ด้านหน้านะซิ ผมคิดในใจไม่เอาแล้วรถช่างแม่งก่อน ไปก่อน ผมเห็นมีรถแทกซี่เข้ามาส่งคนและผมก็วิ่งแทรกเข้าไปในรถแทกซี่นั้นทันที

“พี่ ออกรถให้ผมหน่อย” ผมพูดด้วยอาการหอบเหนื่อย ตอนนี้การทำงานของหัวใจเริ่มหนักขึ้น พร้อมกับพ่นลมหายใจเพื่อผ่อนอารมณ์ในกายผม ที่ตอนนี้มันกำลังพุ้งพร่านรอเวลาระเบิด แต่ผมก็ต้องข่มเอาไว้ตลอด

“พี่ผมขอละ ออกรถ จากตรงนี้ก่อนพี่ เอาเท่าไหร่ผมให้พี่” ผมบอก พี่เขามองหน้าผม ผมเห็นสมุนพี่ปริมวิ่งลงมาถึงและกำลังมองหาผมอยู่

“พี่ผมขอร้องละ!!”

“โอเค” พี่เขาตอบผม พี่คงเห็นพวกที่สวมสูทสีดำกำลังมองไปทั่วแต่นั้นคงเดาได้ว่ากำลังหาผม

“บรึ้น!!!!!” เสียงเร่งเครื่องยนต์และพุ้งทยานออกไป ผมก็นั่งแผ่อยู่ที่เบาะหลัง พร้อมกับลมหายใจที่พรูออกมาติดๆ กัน พอรถแทกซี่ขับออกมาจนพ้นเขตโรงแรม ออกไปยังถนนใหญ่ ผมยกมือขึ้นปาดเหงื่อที่แตกผลักออกมาตามหน้าผาก ผมเป็นคนผมหนาตอนนี้ก็เปียกโซกไปด้วยเหงื่อ ร้อนในอกจนอยากจะกระชากเสื้อเชิ้ตออกแต่ก็ทำไม่ได้เพราะว่าพี่คนขับแทกซี่คงได้แจ้งข้อหาอนาจารผมแน่ๆ ทำได้ปลดกระดุมเพิ่มอีกสักเม็ด

“น้องจะไปไหนครับ ดูท่าน้อง จะแย่ ไปโดนอะไรมาน่ะ” พี่คนขับถามผมพร้อมกับมองผมผ่านกระจกมองหลังเป็นระยะๆ

“ไปคอนโด ให้ผมหน่อยพี่ ซี้ดส์” ผมพูดและยื่นมือไปส่งนามบัตรผมให้พี่เขา พี่เขาหันมารับไปก่อนร้องตกใจกับอาการของผม

“เฮ้ย!!”

“ไปโดนอะไรมาน้อง!”

“ผมโดนยามาพี่”

“โด่ไม่รู้ล้มเหรอน้อง ตุงน่ากลัวเชียวเป้ามึงน่ะ” ผมก้มลงมอง ก่อนจะค่อยๆ เอื้อมไปหยิบนิตยสารที่พี่เขามีไว้บริการผู้โดยสารมาปกปิดไว้หน่อย มันอุจาดตาไป

“ไม่รู้อ่ะพี่ แต่พี่รีบขับหน่อย ผมจะไม่ไหวแล้ว “ผมพูดพร้อมกับกัดปากตัวเอง ผมหันไปหยิบมือถือที่วางอยู่ข้างๆ ลำตัวผม มือผมก็สั่น

“ดูท่าจะแย่ว่ะ และคอนโดน้องนี้ก็ยี่สิบนาทีเลยนะ งั้นรอพี่แป๊บ” พี่เขาบอกผมพร้อมกับขับรถไปแวะหน้าร้านขายของชำ ผมก็หยิบมือถือมากดหาตัวเล็กผมก่อน

//เฮีย// เสียงน่ารักกดรับสายผมทันที

//เมย์….อยู่ไหน// ผมพยายามทำน้ำเสียงให้ปกติแต่มันก็ยาก

//เฮียเป็นอะไรหรือเปล่าทำไมน้ำเสียงเฮียเป็นแบบนั้นล่ะ//

//เมย์อยู่ไหนครับ //

//อยู่คอนโดแล้วครับ//

//พี่กำลังจะกลับ เมย์ลงมาพาพี่ขึ้นห้องทีน่ะ//

//พี่เป็นอะไรอ่ะ พี่ไม่สบายเหรอ พี่ตั้น!//น้ำเสียงที่บ่งบอกว่าเมย์ตกใจมากและกังวล มันทำให้ผมยิ้มดีใจ ที่เมย์เป็นห่วงผมมาก

//พี่ไม่เป็นอะไรครับ พี่แค่โดน เออ" ผมคิดว่าไม่ควรจะบอกตอนนี้จะดีกว่ากลัวเมย์จะตกใจกันไปไหญ่ " เดี๋ยวค่อยคุยกันครับที่รัก แค่นี้ก่อนนะครับ อีกราวๆ ยี่สิบนาทีนะครับตัวเล็ก ลงมาหาพี่น่ะ ซี้ดส์!! // ผมกดวางสายและพี่คนขับแทกซี่ก็เข้ามาพร้อมกับ น้ำเปล่าสองขวด ดูแล้วน่าจะเย็นจัดเลย และถุงน้ำแข็ง

“ดื่มน้ำไปเลยไอ้น้อง และน้ำแข็งนี้โป๊ะไปตามหน้าตาเลยไอ้น้อง พอช่วยได้ พี่เคยเจอผู้หญิงโดนยามาแบบน้อง พี่ก็ให้เขาทำแบบนี้ก็พอจะช่วยได้บ้างว่ะ  และพี่เป็นสุภาพบุรุษ ไม่ทำคนโดนยา" แต่ถ้าน้องคนไหนให้ท่าพี่มาพี่ก็จัดให้ครับ ถ้าน้องเขาเต็มใจ” ผมก็ต้องสะดุ้งตรงนี้แหละแต่ก็ต้องขอบคุณพี่เขา ผมก็รับน้ำมาเปิดกระดกดื่ม ค่อยดีขึ้นมาหน่อยและถุงน้ำแข็งโป๊ะตามหน้าตามตาไปด้วย ค่อยมีสติขึ้นมาหน่อยผม

“รัดเข็มขัดให้แน่นๆ เลยน้อง”

“พี่จะซิ้งไปส่งผมเลยเหรอ” ผมถามพี่เขา

“จะซิ้งได้ไง ลูกเมียรออยู่ ซิ้งไป โดนใบสั่งซิน้องเอ๊ย!”

“แต่ที่ให้มึงรัดแน่นๆ น่ะ กูกลัวมึงไม่ไหว กระโดดมาหูกูนี่แหละครับ กูช่วยมึงไม่ได้ แต่ไปส่งมึงได้ อย่างเดียว” ผมเลยโบกมือไปเถอะพี่

“รีบไปเถอะพี่ ผมอยาก…”

“อยาก…?”

“อยากกลับบ้านพี่เร็วดิพี่ ได้โปรดไปแบบไม่ต้องกดมิเตอร์เลยพี่ ผมให้สองพันเลยจริงๆ ไม่ต้องคิดมาก”

“งั้นพี่จัดให้!”

“บรื้น!!”

“มีเมียไหมมึง ถ้ามี ไม่รู้จะสนุกหรือว่านั่งร้องไห้แทนล่ะงานนี้”

“และใครเขาเอายาปลุกไอ้นั่นมึงกินว่ะ หรือลองเอง”

“ผู้หญิงนะพี่”

“อ้าว แล้วมึงหนีเขามาทำไมละครับ ก็จัดไปให้เขาสักดอกก็จบแล้วไอ้น้อง”

“เขาไม่ใช่เมียผมพี่!”

“เคยแต่ผมเลิกแล้ว ผมรักเมียจริงๆ ที่อยู่ที่บ้านพี่! ผมเลยไม่ยอมทำ” ผมพูด พี่เขายกนิ้วโป้งให้ผม

// กอล์ฟ บอกพวกนั้นด้วยว่าให้ไปลงโปรแกรมต่อให้กูทีว่ะ กูกลับบ้าน กูงานเข้า แล้วค่อยคุยกันว่ะ ขอโทษจริงๆ ว่ะ // ผมส่งข้อความบอกเพื่อนผม นั่งแผ่หลาหมดสภาพ น้องในกางเกงก็ตุงจนจะแตก พี่แกเห็นก็รีบขับเข้าซอกซอยเพื่อไปทางลัดจนกระทั่งมาถึง ผมเห็นเมย์ยืนรอผมแบบกระวนกระวายใจอยู่ด้านหน้าคอนโด เดินวนไปมา ผมหยิบเงินให้พี่เขาไปสองพันห้าร้อยบาท

“ขอบคุณนะพี่ที่ช่วยผม ไม่อย่างนั้นผมเสียใจไปตลอดชีวิตแน่ๆ  และที่สำคัญเมียผมคงเสียใจมากด้วยเหมือนกัน “ผมพูดแค่นั้นก็ลงจากรถไปเดินไปหาเมย์ในสภาพที่แย่พอสมควร เมย์ตรงเข้ามารับร่างผมแบบทุลักทุเล เมย์กอดผมแน่น ผมสัมผัสได้ว่าเสื้อผมเปียกชื้นไปด้วยน้ำตาของคนที่กอดผมไว้แน่น ผมก็กอดเมย์ตอบ

“พี่เป็นอะไร ไปโรงพยาบาลไหม ฮึก” เมย์ถามผม เขาเงยนห้าขึ้นใช้มือปาดเหลือที่แตกผลักๆ ตามใบหน้าของผม

“ไม่เป็นไรเมย์แค่พาพี่ขึ้นห้องก่อนนะ พี่โอเค” ผมพูดกับเมย์และเมย์ก็พยุงร่างผมเข้าไปในลิฟต์ ผมก็พยายามระงับความต้องการตัวเองไปด้วย ผมหันมามองหน้าเมย์ ไม่ได้น่ะผมจะทำแบบนั้นไม่ได้ แค่เพราะฤทธิ์ของยากับเมย์ไม่ได้

“พี่เป็นอะไรบอกเมย์ซิ “ช่วงนี้เขาน่ารักกับผมมาก ใช้แทนตัวเองว่าเมย์

“พี่โดนยามา พี่ปริมเขาวางยาพี่ พี่ก็เกือบจะมีอะไรกับเขาแล้วเมย์แต่ เมย์โทรหาพี่พอดี ทำให้พี่พอมีสติขึ้นมาบ้าง …ซี้ดส์” ผมพูดกับเมย์ เมย์มีสีหน้าตกใจ

" พี่แค่เกือบเมย์ แต่พี่ไม่ได้มีอะไรกับเขา เพราะว่า พี่จะไม่ทำแบบนั้นแล้ว พี่จะมีแค่เมย์คนเดียว พี่ต้้งใจเอาไว้แล้ว ว่าพี่จะหยุดแค่ที่เมย์ " ผมพูด เมย์มองหน้าผมพร้อมรอยยิ้มที่เปื้อนขึ้นบนใบหน้า เขาปาดน้ำตาที่ไหลซึม

ทันทีที่ลิฟต์ถึงชั้นของผม ผมก็รีบออกไปและตรงเข้าไปในห้อง ไปยังห้องน้ำทันที กายผมร้อนเหมือนไฟมาซุ่ม ผมตรงไปที่ห้องน้ำก่อนเลย เปิดก๊อกน้ำเฉพาะน้ำเย็น ถอดเสื้อผ้าออกจนหมด และเข้าไปยืนแช่อยู่ในนั้น เมย์ยืนมองผมจากด้านนอก สีหน้าเขาดูกังวลและเป็นห่วงผมมาก

“เมย์ “ผมเรียกเมย์ โดยไม่ได้หันหลังไปมองไม่กล้ากลัวอดใจตัวเองไม่ได้

“พี่ไหวไหม ให้เมย์ช่วยไหม”

“ไม่ดีกว่า พี่ไม่อยากทำแบบนั้นเพราะว่าพี่โดน…เออ…ยานะครับเมย์ …”

“แต่ว่า”

“พี่โอเคเมย์ ขอพี่อยู่แบบนี้สักพักน่ะเมย์” ผมพูด เมย์เดินออกไปจากห้องน้ำปล่อยให้ผมยืนอยู่ใต้ฝักบัวแบบนั้น ผมเองก็ไม่รู้ว่าผมโดนตัวไหนไปแต่นี้จะหนึ่งชั่วโมงแล้วมันก็ยังไม่ลงเลย แกนกายผมก็พองจนจะระเบิด ผมพยายามใช้มือทำไปด้วย

“ปึก” ประตูตู้อาบน้ำผมเปิดออกโดยเมย์ เมย์เดินเข้ามาหาผม เขาเข้ามากอดผมจากด้านหลัง ผมเลยต้องพลิกตัวกลับและกอดเมย์ตอบเช่นกัน ผมมองใบหน้าที่มีสายน้ำไหลรินลงมาอยากจะกระโจนเข้าหาเขา แต่เมย์ค่อยๆ เลื่อนตัวเองลงช้าๆ และไปหยุดที่ตรงความเป็นชายของผม

“เมย์ช่วยน่ะ ไม่อย่างนั้นพี่แย่แน่ๆ “เมย์พูดและครอบปากลงตรงนั้นของผม ผมต้องยืนหลังพิงกำแพงและปลดปล่อยอารมณ์ที่พุ้งพร่าน ปล่อยไปตามแรงที่เมย์กำลังปรนเปรอผมด้วยลิ้นเล็กๆ นั้น ผมก้มลงมองเป็นระยะๆ เมย์ทำแบบเคาะๆ เขินๆ แต่เขาก็พยายามจะช่วยผม สะโพกผมก็โยกไปมา

“อ้าห์ เมย์ พี่ เสียว อืมม อ้าห์ “ผมก็ปล่อยให้เมย์จัดการจนน้ำสีขาวขุ่นพุ้งกระชูดออกมาเมย์จัดการเลียจนหมดนั่นแหละผมถึงค่อยเบาขึ้นมาหน่อยผม ผมก้มลงไปดึงเมย์ขึ้นมากอดไว้ กอดไว้แบบนั้น เราสองคนกอดกันภายใต้สายน้ำที่ราดรดลงมาจากฝักบัว

“ขอบคุณนะครับที่พี่ยังครองสติตัวเองกลับมาหาเมย์” เมย์พูดกับผม ผมซบหน้าลงที่บ่าคนตรงหน้า

“พวกพี่ๆ เขาโทรมากันใหญ่เลย เมย์บอกพี่ๆ เขาไป ว่าพี่โดนพี่ปริมวางยา “เมย์ดันตัวเองออกและบอกผม ว่าเพื่อนๆ ผมรู้เรื่องแล้ว ผมพยักหน้า

“ไหวป่ะเนี๊ยะ” เมย์ถามผม น้ำเสียงปนขำผมเล็กน้อย

“เด็กน้อยเอ๊ย” ผมเอามือลูบหัวเมย์ที่เปียกโซก

“พี่โอเคเมย์ ขอบคุณนะครับ ที่ช่วยพี่ไม่งั้นพี่คง ตายคาที่ “ผมพูดปนหัวเราะ

“งั้นเมย์เตรียมทำกับข้าวน่ะ วันนี้กะว่าจะทำหลายอย่างเลย อยากลองทำให้พี่ทาน” เมย์บอกผม ผมพยักหน้า เมย์ เดินออกไปหยิบผ้าเช็ดตัวส่งมาให้ผม เขาก็ถอดเสื้อผ้าออกในห้องน้ำก่อนจะเดินออกไป ผมออกมาจากห้องน้ำแม้จะยังไม่ค่อยสงบเท่าไหร่แต่ก็ดีขึ้นมากกว่าตอนแรก เมย์เตรียมเสื้อผ้าเอาไว้ให้ผม หลังจากสวมเสื้อผ้าเสร็จผมก็ล้มตัวลงนอน ตอนนี้เพิ่งจะสิบเอ็ดโมงเอง ผมนอนหนุนหมอน เคลิ้มๆ เหมือนจะหลับ

“เสร็จแล้วผมมาปลุกนะครับ เฮีย ผมรักเฮียนะครับ” ผมพยักหน้าตอบกึ่งหลับกึ่งตื่น”

ผมเผลอนอนหลับไปนานแค่ไหนไม่รู้ จู่ๆ ก็มีมือเล็กๆ มาสะกิดผมเบาๆ ผมค่อยลืมตาขึ้นมามองไปรอบๆ ห้อง มีผู้คนมายืนอยู่ล้อมรอบเตียงนอนของผม นั้นก็คือเพื่อนๆ ผม ไอ้เปรมดิ์ ไอ้ทีน ไอ้อาร์มและไอ้กอล์ฟ มันก้มมองผมกันหมด

“ไหนน้องเมย์เขาบอกว่ามึงโดนยาปลุกเซ็กส์มาไหงว่ะ ทำไมนอนสลบราวกับโดนยานอนหลับเยี่ยงนี้” ไอ้เปรมดิ์มันถามผม

“หรือว่ายาปลุกก็ช่วยมึงไม่ได้ว่ะ ไอ้ตั้น” ไอ้ทีน มันก้มลงมามองผมแบบติดมาก ผมเลยเอามือดันหน้ามันออก

“คิก คิก คิก “คนที่ปิดปากขำผมคือคนตัวเล็ก ก่อนจะเดินออกไป ผมค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งแบบงัวเงีย

“งานเป็นไงบ้างว่ะมึง” ผมถามพวกมัน

“เรียบร้อยแล้ว ลงเสร็จแล้วว่ะ พวกกูไปลุยไม่ถึงสองชั่วโมง”

“และนี่มึงไปทำอีท่าไหนให้เจ้แกวางยามึงว่ะ”

“กูไม่รู้ กูดื่มน้ำที่คนที่ทำงานที่นั่น เขาเอามาให้กูในห้องควบคุม ที่ต้องลงโปรแกรม”

“อาการเป็นไงว่ะมึง” ไอ้อาร์มมันถามผม

“ก็ร้อนวูบวาบ และกูก็ เกือบจะควบคุมตัวเองไม่ได้ คืออยู่ๆ ก็อยากมีเซ็กส์โดยไม่มีเหตุผล และเจ้มันก็เข้ามา กูเองก็เกือบจะ….อืมมม” ผมพูดและโมโหตัวเองไปด้วย

“แล้วทำไมมึงไม่จัดให้เจ้มันไปสักดอกละมึง สนองแกสักหน่อย แกคงหาที่ลงไม่ได้ “ไอ้ทีน ผมหันไปยกนิ้วกลางส่งให้มัน

“กูไม่อยากทำ “ผมพูด พวกมันถึงกับ “ห๊ะ!” พร้อมกันหมดทุกคน

“กูเคยอยากทำแต่ตอนนี้ กูไม่อยากทำ กู… “ผมพูดและชี้ไปข้างนอกห้อง “อ้อ!!” พวกมันร้องออกมาพร้อมกัน

“สำนึกรักเมียคนเดียวขึ้นมาทันที ที่เมื่อก่อนละฟันไม่ยั้ง” ไอ้เปรมดิ์

“อีเจ้นี้ก็หื่นไม่เกรงใจสถานที่เขาเลย " ไอ้ทีน

“อย่าว่าแต่ความเกรงใจเลยมึงครับ ยางอายก็ไม่มี เล่นชวนไอ้ตั้นไปเล่นโป้ง โป้งฉึ้งในห้องกระจกแบบนั้น มันสามร้อยหกสิบองศาไปไหมครับ “ไอ้เปรมดิ์

“แถมโรงแรมเขายังไม่ทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเลยนะครับมึงครับ และมึงก็เกือบได้เป็นข่าวฉาวในโรงแรมร้อยล้านแล้วมึงครับ ไอ้ตั้น”

“คราวนี้แหละมึง คนได้รู้จักบริษัท Friendgroupกันไปทั่ว” ไอ้ทีนพูด ผมหันไปยกนิ้วกลางให้เรียงตัว

“แต่กูว่าที่อีเจ้มันวางยามึงนะ เจ้มันอยากจจะบอกอะไรมึงหรือเปล่าไอ้ตั้น แบบว่าเจ้มันบอกมึงตรงๆ ไม่ได้อ่ะ” ไอ้อาร์มพูด

“ก็อีเจกับมึงมีอะไรกันมาตั้งหลายหนแล้ว จะมีเหตุผลอะไรว่ะที่ต้องวางยาปลุกน้องมึงขึ้นมาแบบนั้น ถ้า….”

“?????” ไม่ใช่แค่ผม ทุกคนหันไปมองไอ้อาร์มกันหมด

“เจ้ปริมแกอาจจะบอกมึงว่า ที่ผ่านมาน่ะ น้องมึงไม่ค่อยสู้” ผมสะบัดหน้าไปมองไอ้เพื่อนเวร

“เชี้ย! ใช่เลย!” ไอ้สามตัวมันก็สมทบทันที

“ไอ้อาร์ม พวกกูคิดไม่ได้ว่ะแบบนี้” ไอ้เปรมดิ์มันหันไปชี่ไอ้อาร์ม “แป๊ะ” แปะมือกันด้วย ผมนี้กุมขมับตัวเอง (ผมเพิ่งจะรู้ว่าที่ผ่านมาผมก็คบเพื่อนผิดมาตลอด ฮาๆ)

“ไม่อย่างนั่นอีเจมันจะลงทุนไปหาของดีมาให้มึงเหรอว่ะ” ไอ้อาร์ม ยังอีก ยังไม่หยุดอีก!!

“ปึก! ปึก! ปึก! และปึก! ” ผมปาหมอนใส่พวกมัน

“ตัวเล็ก) )) )) )) )”

“ครับเฮีย” เมย์ขานพร้อมกับเดินเข้ามาหาผมในห้องทันที ก่อนจะหันไปมองไอ้สี่ตัวที่ยืนรวมกันอยู่

“ส่งแขก!!” ผมบอกเมย์

“ทำไมละครับเฮีย” เมย์หันมาถาม และหันไปมองไอ้สี่คนอีกคร้้ง

“มันไม่ได้มาเยี่ยมเฮีย มันมาซ้ำเฮีย” ผมชี้ตัวผู้ต้องหา ฟ้องเมีย

“กูเพิ่งได้รับคำเชิญจากน้องเมย์ว่า ให้อยู่ทานข้าวเที่ยง น้องเขาชวนพวกกูแล้วไม่อยู่ไม่ได้ พวกกูเป็นคนมีมารยาท ไปครับเมย์พี่ช่วยจัดโต๊ะ” ไอ้เปรมดิ์ ผมหันมามองเมย์จริงเหรอ เมย์พยักหน้าว่าจริง และพวกมันก็พากันเดินออกจากห้องอีก

“เมย์จร๊าเมย์ทำอะไรกิน น่ากินทั้งนั้นเลย” ผมค่อยๆ พาร่างตัวเองลุกขึ้นเดินออกไปนอกห้องนอน สิ่งที่ผมเห็นพวกไอ้เปรมดิ์ ไอ้อาร์ม ไอ้ทีนและไอ้กอล์ฟ มันกำลังช่วยเมย์จัดโต๊ะ อาหารเยอะแย่ไปหมด เมย์หันมามองหน้าผม เมย์ทำเปาะเปี๊ยะทอด ผัดเปรี้ยวหวาน ผัดพริกขิงหมู ต้มจืดฟักกระดูกหมูอ่อน (ผมไม่เคยรู้จักฟักแฟงมาก่อน ตั้งแต่ที่อยู่เมืองนอกแล้ว พอย้ายมาอยู่ไทย ผมเคยไปถามแม่ค้าที่โรงอาหาร พอเขาบอกผมนี่โกรธมากผมเดินหน้าบูดกลับมาบอกพวกมันว่าแม่ค้าด่าผมครับ   ผมก็นึกว่าเขาด่าผมว่า F**k แต่เพื่อนมันอธิบายให้ผมฟังอีกทีโล่งอกไป)
“ทำเยอะไปไหมเนี๊ยะ” ผมถามเมย์

“เฟิร์นเขาขึ้นมาช่วยผมทำอยู่พักหนึ่งนะครับตอนที่พี่ตั้นหลับอยู่ “เมย์บอกผม ผมพยักหน้า เฟิร์น์คือเด็กที่เรียนสายวิศวคอมพิวเตอร์และมาทำงานกับผมด้วย ขยัน

“นี่ผมก็แบ่งให้น้องๆ เขาทานกันบ้างแล้วนะครับเฮีย” เมย์บอกผม ส่วนพวกแขก (ไม่รับเชิญ) ก็จัดการนั่งและทานไม่เกรงใจเจ้าภาพอย่างผมเลย เมย์นั่งข้างๆ ผม ตักกับข้าวใส่จานให้ผม ผัดเปรี้ยวหวาน ผมมองหน้าเมย์
“ผมเห็นพี่เหน็บกระดาษไว้ที่หนังสือทำอาหาร หน้าผัดเปรี้ยวหวาน พี่คงชอบ” เมย์พูด

“แม่พี่ชอบทำให้พี่ทานครับ แม่พี่ทำอร่อยมากแต่พี่ เคยลองทำน่ะ แต่ไม่ได้เรื่อง” ผมพูดก่อนจะตักอาหารขึ้น

“อืมม อร่อยอ่ะ ทำให้พี่กินอีกน่ะ” ผมพูดบอกเมย์ เมย์พยักหน้า โดยมีสายตาพวกอิจฉามองมาและพากันซุบซิบๆ
-------------------------------------------------------------
แชทกลุ่ม Friendgroup
ธีม// เหี้ยแล้วองลง!!!!
เปรมดิ์// องใครจะลงว่ะ?
ธีม//องไอ้เพื่อนรักหักดั้งชะนีมึงนี่ไง มันไปจะขวิดชะนีแทนไอ้ตั้น
เปรมดิ์// แม่มันโกรธที่ลูกตั้นมันโดนชะนีรังแก//
กอล์ฟ// แล้วนี้จะไปขวิดกันที่ไหนวะเนี๊ยะ///
ธีม//โรงแรมหรู วิวร้อยล้าน คู่อริไอ้ตั้นมันไง
ธีม// แล้วนี่พวกมึงอยู่ไหนกันว่ะ
กอล์ฟ // อยู่ห้องไอ้ตั้นมัน กูมาดูใจ เอ๊ย! ดูสภาพมัน และตอนนี้กำลังกินข้าวฝีมือน้องเมย์
ธีม// เลิกกินแล้วมาช่วยกูก่อน
ทีน// ไม่ละครับกินก่อนแล้วค่อยไป อาหารน่ากินขนาดนี้ ทิ้งไม่ลงครับมึงครับ
ธีม//ถ้ารอให้กินเสร็จก็ไม่ต้องมาหรอกมึง อีเจ้ตายก่อน กูเองก็ไม่กล้าห้ามกลัวลูกหลง หน้ากูแพงสัส!
อาร์ม// พวกกูกะว่า ไปถึงก็ยืนไว้อาลัยอีเจ้เลยไงมึง
เปรมดิ์// อาหารดีขนาดนี้ มึงให้กูทิ้งเหรอครับ ไม่มีทางครับมึงครับ //
(ส่งรูปถ่ายพี่ตั้นกำลังสวีทกับน้องเมย์ตักอาหารให้กันและกัน)
ธีม//คู่นี้เขาโดยยาเสน่ห์ หรือยาปลุกเซ็กส์กันแน่ว่ะ//
ทีน //เออ มึงไปถึง เจออีเจ้ ตั้นฝากบอกขอบคุณสำหรับยา แต่รอบหน้าตั้นขอม้ากระทืบโลงครับผม//
เปรมดิ์//ท่าจะให้ดีควรจะเป็นอึดทน ยาวและนานเถอะว่ะ //
ไทตั้น// Fu** you กูไม่เอาอะไรทั้งนั้น//
ธีม// กูละเชื่อเลยอีกเจ้มันวางยาปลุกไอ้จ้อนมึง อันที่จริงเจ้แกขอมึงดีดี มึงก็น่าจะให้เขาอยู่นะ เพราะที่ผ่านมาก็เอาเขานับไม่ถ้วน//
ไทตั้น// ไอ้สัสธีม!!”
เปรมดิ์// อีเจ้มั้นอยากบอกให้ไอ้ตั้นมันรู้ตัวว่า น้องมันไม่แข็งและไม่มีแรงไงมึง//
ธีม// อ้าวเหี้ยแล้ว! ไอ้โปรไฟล์เอวดีของมันล่ะว่ะ
อาร์ม// พับเก็บไปเถอะครับมึงครับ น้องไม่สู้เอวดีก็เท่านั้น
ไทตั้น//กูจะไม่จ่ายโบนัสปีนี้ ยกเลิก!!! และเงินเดือนพวกมึงอีกสามเดือนกูค่อยทำ!
ธีม//แค่นี้ก่อนนะ ถึงที่หมายไอ้ภาคินมันแล้ว กูว่าเละงานนี้
เปรมดิ์// เจ้แกแอทมิทที่โรงพยาบาลอะไรบอกด้วยนะมึง
ทีน// ทำไมว่ะ ไอ้ตั้นมันจะส่งกระเช้าไปเยี่ยมเจ้แกเหรอว่ะ
ไทตั้น// จ้างให้กูก็ไม่ไป!!
ภาคิน// ไม่ต้องไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล รอไปสวดเลยพวกมึง!!
Off line!!! (หายหมดทุกคน)

----------------------------------------------------------------------------------------------------
 :pig4: :pig4:
ตอนหน้า เจ้ปริมจะปะทะภาคิน คู่ต่อสู่ที่ดูสูสีกว่าน้องเมย์ที่น่ารักน่าถนอม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-11-2020 18:09:47 โดย Alessa »

ออฟไลน์ Nattie69

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 777
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0

ออฟไลน์ blove

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-0
เห้อ นึกว่าจะไม่รอด 555555 ต่อไปต้องระวังตัวมากกว่า เธอทำได้ทุกอย่าง  :z6: รอตอนต่อปาย  :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ PFlove

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 831
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
 :hao6: :hao6:
รอคู่พี่ปฐวีย์กับภาคินน่ะ  :katai2-1:

ออฟไลน์ Alessa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
ภาคิน ผมกำลังขับรถไปออฟฟิศ แต่ได้รับข้อความจากเพื่อนๆ ว่าไอ้ตั้นงานเข้า ผมก็พยายามโทรหาตั้นมัน เมย์เป็นคนรับสายแทนเมย์บอกผมว่าต้นโดนวางยา ผมถามว่ายาอะไร เมย์บอกยาปลุกเซ็กส์ และคนที่วางก็คือ นางชะนีปริม มันได้เห็นดีกับผมแน่ ให้ ไอ้ธีมจอดรถทันที และโทรไปหาพี่ปฐวีย์ พี่เขาบอกว่ารอปริมมาทานอาหารอยู่ ผมเลยบอกไปว่าได้เดี๋ยวเจอกัน และเปลี่ยนมาเป็นผมขับเอง แน่นอนเหยียบมาแบบไม่สนใบสั่งเลย จนกระทั่งมาถึงโรงแรมหรู ผมจอดทันทีโดยไม่สนว่ารถผมขวางอะไรอยู่



“คุณครับจอดตรงนี้ไม่ได้ครับ”



“ผมจะจอด แต่ถ้าใครแตะรถผม มีเรื่อง!!!”



“คิน มึงจอดรถตรงนี้ไม่ได้!!! ไอ้เชี้ยคินเสือกเอากุญแจไปด้วยอีก!” เสียงตะโกนตามหลังผมมาแต่ผมไม่ฟังเดินสับเท้าเข้าไปอย่างเร็ว ไม่สนใครหน้าไหน ไอ้ธีมวิ่งตามผมเข้าไปติด



“ไม่ทราบว่าคุณปฐวีย์ นั่งทานอาหารที่ไหนครับ!” ผมถามผู้หญิงที่สวมชุดพนักงานต้อนรับอยู่ เธอยืนอยู่ให้บริการแขกที่มาพักอยู่ เธอหันมามองผมด้วยสีหน้าตกใจแต่ก็ชี้ออกไปตรงทางเดิน ผมรีบเดินตามไปทางที่เธอชี้นิ้วออกไป ผมเดินไปอย่างรวดเร็วและตรงดิ่งไปที่ห้องรับรองก่อนจะรีบผลักประตูเข้าไปทันที สิ่งที่ผมเห็นคือปริมเธอนั่งอยู่ ตรงข้ามกับพี่ปฐวีย์



“คุณวีย์ค่ะ” เลขาฯ พี่ปฐวีย์เรียกเขา พี่เขาก็เงยหน้าขึ้นมามองผม เลขาฯ ที่ยืนถือถาดที่มีแก้วไวน์รอเสิรฟพี่ปฐวีย์อยู่ ผมก็ตรงไปคว้าแก้วไวน์ทันทีและทำท่าจะสาดไปที่นางปริม “หมับ!” แต่ว่ามีคนมาคว้าเอาไว้ ผมคิดว่าน่าจะเป็นพี่ปฐวีย์แต่ไม่ใช้ ไอ้คนนั้นมันคือเพื่อนผมไอ้ธีม



“มึงจะทำอะไรไอ้คิน มึงจะเอาแก้วไวน์ไปสาดเขาไม่ได้!”



“ทำไมกูจะสาดไม่ได้!”



“มึงดูขวดไวน์ " มันชี้ให้ผมหันไปดูขวดที่ว่างอยู่ ผมหันกลับมาทำท่าจะแต่ว่ามันยังยึดเอาไว้ "ยี่ห้อนี้แพงเว้อ พ่อกูซื้อมา สองแสนกว่าบาท “ไอ้ธีมมันดึงแก้วผมไปคืนพี่ปฐวีย์



“น้ำเปล่าพอมึง” ไอ้ธีมชี้มาบอกผมโดยไม่มองหน้าผม "ได้" ผมพูด พร้อมกับคว้าอาหารตรงหน้าผมนี้แหละสาดเข้าไป เธอคงคิดไม่ถึงซิน่ะ



“กรี้ดดดด” เสียงกรีดร้องดังลั่นไปทั่วห้อง



“ฉิบหายแล้ว! กูบอกเอาน้ำเปล่าพอไง! “ไอ้ธีมมันร้อง ผมหันมามองพี่ปฐวีย์ เขาวางแก้วไวน์ลงและมองผมด้วยแววตาที่งวยงง ก่อนจะมองผมกับพี่ปริมสลับกันไปมา



“สตู!!” ไอ้ธีม



“ก็ใช่ไง มันนี่แหละศัตรูของกูตอนนี้” ผมพูด ปริมยืนมองชุดสวยๆ ที่มีแต่คราบอาหารที่ผมสาดใส่เธอไป เธอชี้หน้าผมทำท่าจะอ้าปากด่าผม ผมชี้หน้าเธอกลับ อย่าได้คิดลองด่าสวนกลับมา เธอรู้จักผมดี



“ไม่ใช่กูหมายถึงที่มึงสาดไปน่ะ สตูเนื้ออาหารเที่ยงของพี่ปฐวีย์เขา  มึงเอาสาดอีเจ้ไปทำไม?”



“นี่แกเป็นบ้าอะไรของแกไอ้ตุ๊ด นี่มึงมาสาดกูทำไม” พี่ปริมถามผม ก่อนจะหันไปมองพี่ปฐวีย์ว่าจะทำยังไงแต่เขาแค่มองผม



“ยังมีหน้ามาถามอีก ทำไม ร่านมากหรือไง ตุบ ๆ ๆ ” ตามด้วยขนมปังที่เตรียมเอาไว้ ใส่ตะกร้าสวยงามแต่ตอนนี้มันกระเด็นไปอยู่ที่อีเจ้ปริมหมดแล้ว ผมหันไปมองบนโต๊ะ ว่าถาดต่อไปจะเอาอะไรดี แต่มันไม่มีของที่ถูกใจผมเลย



“คราวหน้ารบกวนสั่งผัดสะตอไว้ให้ด้วยนะครับพี่ปฐวีย์” ผมหันมาบอกพี่ปฐวีย์ “ฮือส์” พี่ปฐวีย์เลิกคิ้วสูง



“คุณปฐวีย์ไม่ทานสะตอค่ะ กลิ่นแรง” เลขาฯ พี่ปฐวีย์ตอบ



“แล้วนางชะนีนี้ล่ะ มันก็สตอเหมือนกัน ทำไมกินได้ล่ะ” ผมชี้ไปที่พี่ปริม



“เฮ้ย!!” ไอ้ธีม “นี่แกว่าใครสตอ ไอ้ภาคิน! “พี่ปริมลุกพรวดพร้อมออกมาพร้อมกับทำท่าจะง้างมือขึ้นจะตบผม แต่ผมคว้าถาดที่วางอยู่ตรงหน้าขึ้นมาทันที ง้างรอเหมือนกัน อีเจ้มันมองมือตัวเองกับถาดที่ผมถืออยู่ ถึงกับต้องลดมือลง



“อยากโล๊ะหน้าใหม่ไหมล่ะ ค่าปรับห้าร้อยบาทกูจ่ายมาเยอะแล้ว และรอบนี้จะส่งไปให้หมอมันเลาะเอาทุกอย่างออก"



"เพราะดูแล้วคงยัดเอาไว้นานแล้วมันกำลังเสื่อมสภาพ แต่รอบนี้คงได้เอาอย่างอื่นใส่ไปแทน” ผมพูด เจ้ปริมมองซ้ายมองขวา ไม่มีใครหน้าไหนกล้าเข้ามาช่วยนางเลยไง



“โดยเฉพาะดั้งจมูกมึงนี้น่ะรอบหน้าคงต้องกระดูกหมาแทน” ผมพูด “ฮึกๆ” ผมหันไปมองคนที่ปิดปากขำและหันไปมองทางอื่น นี้ยังมีหน้ามาขำอีกเหรอ พี่ปฐวีย์



“กรี้ดดดด อีตุ๊ด แกกล้าดียังไง แกรู้ไหมว่าพ่อฉันเป็นใคร แกอยากลองดีกับฉันใช่ไหม” พี่ปริมเธอกำหมัด จนสั่นไปทั้งตัว



“กูสนเหรอ ถ้ากูสนนี้คงไม่ถ่อมาหามึงหรอก อีพี่ปริม และพ่อก็แค่พวกอิทธิพลมืด กลัวอะไรวะ” ผมพูด



“ได้กูจะเรียกพ่อกูมา “พี่ปริมกำลังจะหยิบมือถือขึ้นมากดเพื่อโทรออก



“ปริม” คราวนี้พี่ปฐวีย์เรียกพี่ปริมไว้ “หยุดก่อนปริม” พี่ปฐวีย์ที่นั่งนิ่งเพิ่งจะยกมือห้ามปราม



“เดี๋ยวน่ะ รบกวนอธิบายให้พี่เข้าใจก่อนได้ไหมครับภาคิน ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ภาคินถึงได้โมโหปริมเขาขนาดนี้” พี่ปฐวีย์ยกมือห้ามผมกับพี่ปริม



“มันเกิดอะไรขึ้นครับภาคิน ใจเย็นๆ ก่อน”



“พี่ครับ มันเล่นอาหารพี่ไปจะครึ้งโต๊ะแล้ว นี่พี่พึ่งจะมาบอกให้มันใจเย็นๆ เหรอครับ” ไอ้ธีม พูดผมหันไปมอง แทบจะไม่เหลืออะไรไว้ให้พี่เขาแล้ว และอันที่จริงผมก็กำลังจะหยิบอาหารจานต่อไป ก็ต้องตัดสินใจวางมันลง เหลือให้สักอย่างแล้วกัน



“ภาคิน” พี่ปฐวีย์เรียกผมอีกครั้ง ผมหันไปมองพี่ปฐวีย์ ก่อนจะกลั้นใจหันไปบอกพี่ปฐวีย์ว่า



“วันนี้ไอ้ตั้นมันไปลงโปรแกรมโรงแรมเปิดใหม่ของพี่ แต่นางชะนีนี้ มันเอายาใส่น้ำให้ตั้นมันดื่ม มันร่านมากไง”



“นิ!! แก่….” พี่ปริมทำท่าจะเถียงผม แต่พี่ปฐวีย์ ชี้ให้พี่ปริมหยุด



“พาคุณปริมออกไปก่อน”



“แต่ว่าปริม” พี่ปริม



“เชิญครับปริม ถ้าปริมไม่ออกไป พี่ก็จะออกไปเอง แล้วคราวนี้ก็เรื่องของปริมแล้วน่ะครับ พี่ช่วยปริมได้แค่นี้ ว่าไงครับ “พี่ปฐวีย์พูด เลขาฯ ของพี่ปฐวีย์เดินไปพาปริมที่เนื้อตัวเต็มไปด้วย อาหารที่ผมสาดใส่เธอไป ชุดสวยๆ ลายดอกกุหลาบแดงนั้น



“ลายดอกกุหลาบนี้มันไม่ได้เข้ากับพี่เท่าไหร่หรอกน่ะพี่ปริม “ผมพูด เธอหันขวับมามองผม



“แล้วดอกอะไรวะถึงจะเข้ากับเจ้มัน เอ๊ย! เจ้ปริมเขา” ไอ้ธีมมันถามผม ผมยืนกอดอกและหันมามองหน้าไอ้ธีมก่อนจะหันไปมองพี่ปริมที่ยืนรอฟังผมอยู่



“ดอกที่มันสีออกทองๆ ”



“อ้อ! ดอกทองไง…เฮ้ย! เจ้ผมไม่ตั้งใจน่ะเจ้น่ะ” ไอ้ธีมมันพูด ผมยืนยิ้ม กูไม่ได้ด่ามึง ไอ้ธีมมันด่ามึง และพี่พี่ปริมก็หันขวับไปมองไอ้ธีมทันที ไอ้นี่ก็ยกมือไหว้ขอโทษอีกเจ้มันอีก  (กูไม่น่าหลวมตัวไปชงมุขกับมึงเลยไอ้เชี้ย!) ไอ้ธีมกระซิบกับผม



“แร๊งส์!!! “เลขาฯ ของพี่ปฐวีย์พูด “อุ้ย!! ขอโทษค่ะคุณปฐวีย์”



“อ้ายยยย!!! มึงอยากลองดีกับกูหนักใช่ไหมไอ้ภาคิน!!”



“ออกไปเดี๋ยวนื้ ปริม!” อันนี้แหละที่ทำให้นางชะงักเหมือนโดนกดปุ่มสต๊อป และนางก็ต้องจำใจออกไปแต่โดยดี ผมหันมามองพี่ปฐวีย์ที่ยังคงนั่งอยู่ โดยไม่ได้ลุกออกมาเลย เขามองหน้าผมเหมือนไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น



“ผมไม่อยากรู้เหตุผลว่าพี่จะเอาผู้หญิงคนนี้ทำไมเพราะว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการ แต่พี่ควรจะหยุดความบ้าของนาง ใช่เมื่อก่อนไอ้ตั้นมันเคยกับปริม แต่มันหยุดแล้ว ดังนั้นพี่ควรจะหยุดคนของพี่ซะด้วย”



“อย่าให้ผมเห็นผู้หญิงคนนี้ทำกับเพื่อนผมอีก เจอหนักกว่านี้แน่และผมก็ไม่สนว่าเธอลูกใครด้วย”



“และผมก็ไม่สนว่านางจะเป็นอะไรกับพี่ ผมสนแค่ อย่ามายุ่งกับเพื่อนผม เข้าใจตรงกันนะพี่ปฐวีย์” ผมพูดก่อนหันไปพยักพเยิดให้ไอ้ธีมออกไปจากที่นี้ดีกว่า ผมเดินออกมายืนสงบสติอารมณ์ตัวเองที่หน้าห้องรับรองของพี่ปฐวีย์



“มึงแม่ง สุดยอดเลยว่ะคิน กูนับถือมึงเลยว่ะ” ไอ้ธีมมันยืนมองผม ผมเงยหน้ามองมัน



“หมับ!” มันกอดผมขณะที่ผมกำลังระงับอารมณ์ตัวเอง ว่าให้พอแค่นี้ ผมยืนเอามือล้วงกระเป๋าอยู่ ผมพยักหน้ากับไอ้ธีมว่าผมโอเคแล้ว



“กลับกันเถอะว่ะ” ผมบอกไอ้ธีม



“ไปไหนต่อว่ะที่นี่ ไปหาไอ้ตั้นไหมว่ะ” ไอ้ธีมมันถามผม ขณะที่ผมหมุนตัวเดินออก



“คงไม่ต้องมั้ง เมียมันอยู่และมันโดนไปขนาดนั้นมันคง ….” ผมพูด ต่อให้ผมจะยอมมันกับเมย์แต่ผมก็คงทนเห็นไม่ได้



“เออ กูถามอะไรอย่างดิว่ะ ตกลงพี่ปฐวีย์แกคือคู่หมั้นอีเจ้แน่เหรอว่ะ”



“ทำไมว่ะ” ผมหันไปมองไอ้คนที่ถามผม



“ก็ตอนที่มึงเข้าไปยำอีเจ้ พี่เขาไม่มีลุกขึ้นมาปกป้องอีเจ้เลย มีแต่นั่งมอง แลดูพี่แกใจเย็นยิ่งกว่าน้ำแข็ง และเกือบจะปล่อยให้อีเจ้มันตายอย่างสงบศพสีชมพูเพราะมึงนี่แหละครับ” ไอ้ธีมมันพูด ผมเองก็แค่ยักไหล่ ไม่ใช่เรื่องของผม



“แคร์เหรอว่ะ “ผมพูดและเดินมาที่ด้านหน้าโรงแรม รถของผมก็จอดเหมือนเดิม โดยมีพนักงานโบกให้รถที่เข้ามาเป็นฝ่ายหลบรถเก๋งคันหรูของผมเอง ทันทีที่ไอ้ธีมขึ้นรถผมก็ขับออกไปทันที เบิร์นซะจนกลิ่นยางไหม้คคละคลุ้งไปทั่ว จนเข้ามาภายในตัวอีกด้วย

-------------------------------

ผมนั่งสงบนิ่งดูปริมโดนภาคินเอาอาหารที่ถูกจัดไว้บนโต๊ะ สาดใส่เธออยู่พักหนึ่ง ผมยอมรับว่าผมดูใจร้ายที่ไม่เข้าไปห้ามปรามแต่นี่เธอทำตัวเธอเอง ส่วนภาคิน หนุ่มเลือดร้อนก็ร้อนซะจน เพื่อนเขาเองก็ห้ามไม่อยู่ แต่ว่ามันกลับทำให้ผมนั่ง ใช้นิ้วเรียวๆ เคาะโต๊ะเป็นจังหวะดูเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ทำไมเขาถึงได้ทำให้ผมสนใจเขาซะเหลือเกินน่ะ ตอนนี้ภาคินเดินออกไปแล้วแถมยังทิ้งไว้ได้น่ากลัว ไม่ใช่ผมแต่ควรจะเป็นปริมซะมากกว่าถ้าเธอยังดื้อรั้นที่จะไปยุ่งกับตั้นอีก นั้นแปลว่าเธอหาเรื่องใส่ตัวเอง



“ยิ้มแบบนี้ แสดงว่า” เลขาฯ คนสวยของผมพูด



“เขาน่าสนใจ อยู่นะ “ผมพูดก่อนดึงผ้ากันเปื้อนขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะอาหาร



“ดิฉันก็คิดว่าคุณปฐวีย์คงสนใจในตัวเขาแน่ๆ เพราะดูจากที่คุณปฐวีย์อมยิ้มออกมาขนาดนั้น” เลขาฯ ของผมพูด



“แล้วเรื่องคุณปริมล่ะคะจะเอายังไงดีคะ “เลขาฯ ผมถามขึ้น



“โทรบอกให้เขาเช็กกล้องวงจรปิดทุกตัว และเก็บภาพเอาไว้ให้ผม ผมจะเอามาเป็นหลักฐาน”



“แค่เธอเข้าไปที่นั่น ผมก็ว่าผิดแล้วน่ะ และยิ่งไปทำตัวน่าเกลียดแบบนี้ด้วย ก็ยิ่งผิดเข้าไปใหญ่”



“แต่มันไม่เพียงพอที่จะทำให้ผมฟ้องถอนหมั้นโดยที่ผมจะได้บ้านของเมย์ คืน ถ้าผมขอถอนหมั้นก่อน” ผมพูดก่อนจะลุกขึ้น ผมเดินไปตามที่เลขาฯ ของผมนำไป เพื่อไปดูปริม ผมเดินหยุดที่หน้าห้องพักแขกวีไอพี



“แต่มันก็เพียงพอที่คุณปฐวีย์จะถอนหมั้นเธอโดยไม่เสียอะไรเลยนะคะแต่ยกเว้นบ้านหลังนั้น”



“นั้นไงผมถึงต้องรอก่อน แต่สิ่งที่เธอทำมันเกือบจะทำให้ผมหมดความอดทนเข้าไปทุกวัน” ผมพูดก่อนจะให้คนของผมเปิดประตูเข้าไป ปริมยืนอยู่เธอคงเดือดโมโหน่าดู



“พี่ทำแบบนี้ได้ยังไง พี่ทนให้ไอ้บ้านั้นมันมาทำร้ายปริมแบบนี้” ปริมหันมาตะคอกเสียงดังใส่ผม



“เธอทำตัวเอง” ผมพูด เธอสะบัดหน้ามามองผม เธอกำหมัดแน่น ด้วยความโกรธ



“เธอกล้าดียังไงถึงได้ไปทำเรื่องน่าอับอายแบบนั้นที่โรงแรมของผมแบบนั้น ปริม”



“พี่คงไม่รู้ว่าปริมกับตั้นเขา”



“รู้ ผมรู้ทุกอย่าง แต่ผมไม่แคร์ว่าคุณจะไปนอนกับใครที่ไหน มันเรื่องของคุณ”



“แต่ผมจะเตือนคุณอีกอย่าง อย่าทำให้ผมหมดความอดทน ผมอาจจะถอนหมั้นคุณแบบฟ้าผ่าเลยก็ได้นะปริม”



“พี่ไม่กล้าหรอกพี่ปฐวีย์ เพราะบ้านอีเด็กนั้นมันคือเดิมพันอยู่ตอนนี้ พี่อยากได้มันคืนให้เด็กนั้นไม่ใช่เหรอคะ”



“แต่ถ้าถอนหมั้น ปริมก็จะได้บ้านและปริมก็จะไปเอาตั้นคืนมา จากเด็กบ้านั้น”



“แต่เด็กนั้นมันคง ไม่เอาพี่หรอกมั้งค่ะ เพราะว่ามันเสียบ้านที่มันรักหนักหนา “ผมถึงกับต้องยืนกำมือแน่น



“พี่รักมันมากไม่ใช่เหรอคะ รักมากขนาดมากต้องลาออกจากการเป็นอาจารย์เพราะว่ามัน” ผมยืนกำมัดแน่น ถ้าคนตรงหน้าไม่ใช่ผู้หญิงคนโดนไปแล้ว



“แล้วไงพอไปโดนของคนอื่นเขาติดใจจนไม่กลับมาหาพี่เลย หึ หึ” ผมหันมามองหน้าเธอ ผมอยากจะ



“อย่าค่ะคุณปฐวีย์ “เลขาฯ ของผมจับแขนผมเอาไว้เพื่อห้ามผม



“คุณปฐวีย์ค่ะ คุณพ่อของคุณปริมมาค่ะ “เลขาฯ ของผมบอกผม สักพักประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามา พ่อของปริมมองหน้าผมและมองหน้าปริมตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า



“ใครมันทำกับลูกสาวผมแบบนี้คุณปฐวีย์!!!”



“และนี้คุณดูลูกสาวผมยังไง มีคนมาทำร้ายเธอโดยไม่คิดจะปกป้อง”



“ถ้าลูกสาวของคุณทำตัวถูกต้องผมก็จะปกป้องอยู่นะครับแต่นี่เธอทำตัวได้น่าเกลียดที่สุด!!!”



“พฤติกรรมแบบนี้ มันเป็นเรื่องปกติของผู้หญิงเขาทำกันหรือครับ?” ผมถามพ่อของเธอกลับ



“ลูกสาวผมไปทำอะไร คุณปฐวีย์”



“เธอกล้าขนาดที่วางยาผู้ชายเพื่อจะ ทำอะไรที่น่าเกลียด ในโรงแรมใหม่ของผม คุณคิดว่าผมควรจะปกป้องเธอในฐานะอะไรดี คุณดิเรก!! “ผมหันไปมองหน้าพ่อของปริม



“คู่หมั้นรึ ผมก็กระดากปากที่จะพูดมันออกมา ผมไม่เคยเจอะเคยเจอผู้หญิงอะไรแบบนี้ คุณควรจะอบรมเรื่องพวกนี้กับเธอให้มากๆ ซะก่อนจะให้เธอไปมีครอบครัว เพราะว่านี้มันแสดงให้เห็นว่าเธอยังไม่พร้อม!!” ผมพูดพร้อมกับพยายามสูดลมหายใจเพื่อลดลั่นความโกรธลง ผมได้แต่ยืนกำมัดอยู่ในกระเป๋ากางเกง

คุณดิเรก เขาก็หันมามองหน้าลูกสาวที่ยืนหน้าถอดสี ผมรู้ว่าเธอกลัวพ่อที่สุด จะว่าไปเหมือนจะทำให้ผมเห็นใจถ้าเธอไม่ทำตัวเหมือนไม่เคยแคร์ความเดือดร้อนคนอื่นเขาแบบนี้



“ใคร มันเป็นใคร!!” พ่อของปริมหันไปถามลูกสาว เธอไม่กล้าตอบพ่อของเธอ ได้แต่ก้มหน้าลง



“ไอ้ ที่เปิดบริษัทเฮงซวยอะไรนั้นนะเหรอ ….เพี๊ยะ!” เสียงฝ่ามือกระทบที่ใบหน้าของปริม



“นังลูกไม่รักดี!!”



“เพี๊ยะ!”



“ผมว่าคุณพาลูกสาวคุณกลับไปก่อนเถอะครับ ผมมีประชุมต่อ”



“และช่วยดูแลลูกสาวคุณหน่อยนะครับ เพราะว่าเธอทำให้ผมเหลืออดขึ้นมา ผมมีสิทธิ์จะถอนหมั้นเธอได้ทุกเมื่อ และข้อตกลงทุกอย่างเป็นอันยุติ “ผมพูดก่อนจะเดินออกโดยไม่ได้หันไปมองหน้าเธอสักนิด



“อันที่จริงถ้าคุณปฐวีย์จะถอนหมั้นเธอก็ได้นะคะ เรื่องวุ่นวายพวกนี้มันจะได้จบและเธอ” เลขาฯ เดินตามผมมาติด ผมรู้ว่าเธอก็เห็นความวุ่นวายของผมตั้งแต่ผมได้ตกลงหมั้นกับเธอ



“รออีกสักหน่อยดีกว่า ว่าแต่ตอนนี้หลักฐานที่เธอทำตัวเหลวแหลกน่ะเยอะพอสมควรหรือยังละครับ”



“ได้มาพอสมควรแล้วค่ะ”



“ผมรอจะคุยกับเมย์ก่อน เพราะว่าผมยืนมือเข้าไปช่วยเขาแล้ว ผมก็ยังคงจะทำต่อ ถ้าเขาต้องการ “ผมพูดแค่นั้นและเดินกลับเข้าห้องทำงานผมทันที วันนี้พ่อแม่ผมจะบินมาจากต่างประเทศด้วย ผมจะไม่ทำสีหน้ากังวลใจไปให้พ่อแม่ผมถามแน่นอน

--------------------------

ปริม เธอนั่งอยู่ในรถคันหรู พ่อเธอคือนักการเมืองที่มีชื่อเสียง มีหน้ามีตา แต่จู่ๆ ก็มีใครก็ไม่รู้เอาบ้านมาจำนอง บ้านมันก็ไม่ได้น่าสนใจอะไรหนักหนา แต่มันดันมาเป็นบ้านที่พี่ฐวีย์พยายามมาขอซื้อต่อพ่อของเธอ แต่พ่อของเธอดันคิดแผนใหญ่กว่านั้นหลังจากที่ทราบว่าคุณปวีย์คือใคร ลูกชายคนเดียวของเจ้าของโรงแรมชื่อดัง หลักทรัพย์เป็นหมื่นล้านบาท และนี้คือสาเหตุที่บ้านถูกนำมาเป็นข้อต่อรองให้เขาหมั้นหมายกับเธอ



ปริม เป็นผู้หญิงที่สวย หนุ่มคนไหนก็ต้องหลงใหลเธอ แม้กระทั่งตั้น ที่หลงเธอในครั้งแรกที่เจอ เธอเองก็ไม่คิดถึงขั้นรักแค่สนุกเพราะว่าเรื่องบนเตียงตั้นไม่ธรรมดา เขาตอบสนองเธอได้ดี และพ่อเธอเองก็ได้จับผู้ชายที่หล่อรวยมาให้เธอพร้อมกัน เธอควรจะเลือกตามที่พ่อบอกแต่ เธอกับรู้สึกรักตั้นหวงตั้นขึ้นมา แต่เธอเองกลับเป็นคนขอร้องตั้นให้ช่วยกำจัดเมย์ให้ออกไปให้พ้นทางเธอซะก่อน และเธอก็ไม่คิดว่าตั้นจะเป็นคนทำซะเอง เธอไม่เคยคิดว่าตั้นจะทำแบบนั้นกับผู้ชายเอง เธอเสียใจโกรธตัวเอง ตอนนี้เธอไม่ต้องการเสียตั้น เธอไม่อยากเสียเขาไป เธอต้องทำให้ตั้นกลับมาหาเธอให้ได้



“อย่าให้ฉันเห็นแกทำตัวน่าเกลียดแบบนี้อีกน่ะ เข้าใจไหม” พ่อของเธอพูดและทำท่าจะง่างมือตบเธอแต่ ก็ชะงัก



“ทำไมค่ะพ่อ ถ้าคุณปฐวีย์เขาถอนหมั้น มันก็จบ ปริมจะไปเอาคนที่ปริมรักคืน ปริมรักตั้น ปริมไม่อยากแต่งกับคนซื่อบื่อ อย่างคุณปฐวีย์อะไรนี้แล้ว”



“ไอ้เวรนั้นอ่ะน่ะ มีอะไรดี”



“แล้วทำไมพ่ออยากให้ปริมแต่งกับคุณปฐวีย์ทั้งที่เขา”



“แต่เขามีอะไรดีกว่า ธูรกิจมากมาย ลูกคนเดียว มึงหาได้อีกไหมแบบนี้น่ะ อย่าทำให้กูต้องทำในสิ่งที่กูไม่อยากทำ มึงเป็นลูก ตอบแทนกูแค่นั้น” พ่อของปริมลงจากรถไป ปล่อยให้เธอลงมายืนร้องไห้ โดยมีแม่ที่ไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้เลย เข้ามาปลอบโยน เธอกำมัดแน่น เพราะแกคนเดียวไอ้เด็กบ้า คอยดูนะฉันจะจัดการกับแก เอาให้แกไม่มีที่ยืนเลย



“ส่งคนจับตาดูนังเมย์มัน ถ้าวันไหนมันออกมาคนเดียว จัดการมันให้ด้วย “ปริมโทรบอกคนที่เธอเคยให้เงินช่วยเหลือ มันเป็นเพื่อนกับไอ้รงค์ ไอ้คนที่เธอสั่งให้เอาเมย์ไปขายให้เสียคนหนึ่งแต่พี่ปฐวีย์ดันไปช่วยมันออกมาซะนี่



“ตอนนี้ต้องรอครับคุณปริม ไอ้รงค์มันเพิ่งติดคุกไป พวกผมยังทำอะไรไม่ได้ ถ้าทำขึ้นมาคงตามไอ้รงค์มันไปแน่ๆ”



“กลัวอะไร ในเมื่อพ่อฉันใหญ่”



“แต่คุกมันใหญ่กว่านี้คุณ”



“แต่ถ้าผมหาโอกาสได้ผมจะบอกคุณปริมอีกทีแล้วกัน ผมเองก็อยากได้เด็กนั้นอยู่น่ะ มันขาวน่าเอาดี”



“รีบๆ หน่อยน่ะ แค่นี้ละ” ปริมเธอกดวางสายก่อนจะเดินหันหลังเข้าบ้าน



“ปริม แม่ว่าพอเถอะลูก”



“หนูไม่หยุด ถ้าหนูไม่ได้ อีเด็กนั้นก็ไม่ได้และหนูจะเอามันให้เหมือนตกนรกทั้งเป็น” ปริมพูดกับแม่ของเธอ ที่ยืนฟังการสนทนากับคนในสาย เธอเดินหันหลังขึ้นบ้าน แถมผับพี่ชายไอ้ธีม มันก็ไม่ยอมให้เธอเข้าไปอีก เพราะว่าเธอไปตบหน้าแฟนพี่ชายไอ้ธีมมัน มันเลยสั่งห้ามเธอเข้า มันยิ่งทำให้เธอเดือดดาดยิ่งหนัก

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนหน้า พระเอกนายเอกเขาจะ จุด จุด จุด กัน 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-12-2020 19:19:48 โดย Alessa »

ออฟไลน์ Nattie69

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 777
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด