พิมพ์หน้านี้ - อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤แจ้งขอรีไรท์นิยายค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => ข้อความที่เริ่มโดย: Alessa ที่ 09-11-2020 14:19:53

หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤แจ้งขอรีไรท์นิยายค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 09-11-2020 14:19:53
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฎ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฎข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฎข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

Intro

(https://uppic.cc/d/yk8x) (https://uppic.cc/v/yk8x)

ตั้น รชานนท์ ศิริเมธานนท์ อายุ 28 ปี เรียนจบวิศวคอมพิวเตอร์ เปิดบริษัทเขียนโปรแกรมและวางระบบคอมพิวเตอร์กับเพื่อนซี้อีก 6 คน

(https://uppic.cc/d/yk8s) (https://uppic.cc/v/yk8s)
เมย์ เมธานินท์ จิระพัชรสกุล  อายุ 21 ปี เรียนจบมนุษยศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ เมย์ไม่มีพี่น้อง พ่อแม่เขาเสียชีวิตเมื่อเขาอายุได้ 5 ขวบ มีเพียงผู้หญิงที่เคยรับจ้างพ่อแม่เขาดูแล รับเขาไปเลี้ยงดูเป็นลูกบุญธรรม

(https://uppic.cc/d/ymKM) (https://uppic.cc/v/ymKM)
ปริม หรือ วนัสวรรณ เป็นคู่หมั้นของปฐวีย์ เป็นบุตรสาวคนเดียวของนักการเมืองชื่อดังเป็นผู้มีอิทธิพล


(https://www.mx7.com/i/0c5/mkVWZB.jpg) (https://www.mx7.com/view2/Cw3c5udh4NXg4OPI) ปฐวีย์ อธิภัทราคุณากร  คู่หมั้นปริม

     
เมย์เด็กหนุ่มที่โชคร้าย ดันต้องมามีตราบาป เพราะผู้หญิงที่เสแสร้งใส่ร้ายเธอว่าเขาจะเข้ามาเป็นคนทำลายความฝันที่จะเป็นภรรยาของทายาทหมื่นล้าน และนั้นก็ทำให้ชีวิตของหนุ่มน้อยเปลี่ยนไป ตั้นเองก็ทำไปเพราะอยากช่วยให้ปริมหลุดไปจากชีวิตเขาซะที ถึงแม้ว่าปริมจะเป็นผู้หญิงที่สวยแต่เขากับไม่ได้รู้สึกอยากหยุดหัวใจไว้ที่เธอ แต่สุดท้ายเขากับหลงรักผู้ชายที่เขาได้สร้างตราบาปเอาไว้ซะเอง

คนแต่งขอฝากไว้อีกเรื่องนะคะ ขอกำลังใจให้คนแต่งด้วยนะคะ แนะนำได้นะคะ มีเม้นมีกำลังใจค่ะ 
ปล.ถ้ามีคำผิดแจ้งคนแต่งได้เลยนะคะ จะรีบแก้ไขให้ทันทีค่ะ 

หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก สารบัญ
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 09-11-2020 14:35:47
สารบัญ

EP.1 ความโชคร้ายของเมย์ (รีไรท์) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=72383.msg4051075#msg4051075)
EP.2 ตราบาป (รีไรท์) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=72383.msg4051085#msg4051085)
EP.3 ผมทิ้งเขาไว้ไม่ได้ (รีไรท์) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=72383.msg4051131#msg4051131)
EP.4ในฐานะสามีผมเหรอ (รีไรท์) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=72383.msg4051168#msg4051168)
EP.5 ผมเลือกที่ไม่ปล่อยเขาไป(รีไรท์) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=72383.msg4051198#msg4051198)
EP.6 พี่คงแย่ๆจริงว่ะเมย์ (รีไรท์) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=72383.msg4051282#msg4051282)
EP.7 สองทางเลือกอยู่หรือไป(รีไรท์) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=72383.msg4051321#msg4051321)
EP.8 ผมกลายเป็นอาซอ(รีไรท์) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=72383.msg4051334#msg4051334))
EP.9 พี่คงสู้เขาไม่ได้(รีไรท์) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=72383.msg4051350#msg4051350)
EP.9.1 ตั้นเยี่ยมว่าที่แม่ยาย(รีไรท์) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=72383.msg4051400#msg4051400)
EP.10 ปมในใจของพี่ตั้น(รีไรท์) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=72383.msg4051419#msg4051419)
EP.11 ผมสับสน (รีไรท์) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=72383.msg4051487#msg4051487)
EP.12 ภาคิน (ผมใจร้ายไม่ลงจริงๆ)(รีไรท์) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=72383.msg4051534#msg4051534)
EP.12.1 ผมขอโทษ(รีไรท์) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=72383.msg4051558#msg4051558)
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก EP.1 ความโชคร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 09-11-2020 15:35:17
   
EP.1 ความโชคร้ายของเมย์

Part’s เมธานินท์

      ผมชื่อเมย์ หรือเมธานินท์ ผมเพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัย คณะมนุษยศาสตร์เอกภาษาอังกฤษ และผมก็ได้เข้าทำงานในโรงแรมชื่อดัง โดยการฝากฝังของพี่คนหนึ่งที่เขาแอบชอบผม พี่เขาเคยเจอผมตอนที่ผมไปทำงานเป็นพนักงานพาร์ทไทม์ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในโรงแรมอีกสาขาหนึ่งของพี่เขา ผมเป็นคนสูง165 เซนติเมตร น้ำหนัก 45 กิโลกรัม ค่อนข้างผอมบาง เป็นคนผิวขาวออกชมพู ผมได้ทางแม่ผม ส่วนคิ้วที่คมเข้มนี้ผมได้มาจากพ่อผม ทำให้บุคลิกภาพของผมโดยรวมดูเนี้ยบและดูดีไปโดยปริยาย
“เมย์” ผมหันมาเจอผู้ชายที่ทำให้ผมได้งานทำที่นี่และเขาก็ช่วยผมบ้างในเรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จนกระทั่งผมเรียนจบ แต่ว่าพี่เขามีคู่หมั้นที่จะแต่งงานด้วยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ คุณปฐวีร์หรือพี่วีร์ เป็นลูกชายของเจ้าของโรงแรมชื่อดังในย่านทำเลทอง ที่อยู่ใจกลางเมือง แถมพี่ปฐวีร์ยังเคยเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยและเคยสอนผมด้วยแต่มีเรื่องราวเกิดขึั้นทำให้พี่เขาต้องลาออกจากการเป็นอาจารย์และหันมาดูแลกิจการให้ครอบครัวแทนและเรื่องที่เกิดก็ผมคือต้นเหตุ ผมรู้สึกผิดแต่พี่เขาก็ยังให้การช่วยเหลือผมหลายเรื่องเรื่อยมาแม้กระทั้งเรื่องที่ไม่น่าจะช่วยจนตัวเองต้องเดือดร้อนและถูกพันธนาการโดยการหมั้นหมายกับผู้หญิงที่พี่เขาไมไ่ด้รัก พี่ปฐวีร์เป็นผู้ชายที่อบอุ่นและดูสุภาพแต่ผมเองคงไม่อาจเอื้อม ถึงแม้พี่เขาจะมีใจให้ผมก็ตาม
“สวัสดีครับ พี่วีร์”
“สวัสดีครับ เป็นไง ทำงานที่นี่ดีไหมครับ เหนื่อยไหมครับเมย์” พี่วีร์ถามผม
“ไม่เหนื่อยครับพี่วีร์”
“ถ้าเหนื่อยหรือหนักไปบอกพี่นะ”
“พี่วีร์ ถ้างานผมหนักก็ไม่ต้องไปทำอะไรแล้วครับ และผมโชคดีแค่ไหนที่จบมาแล้วได้งานทำเลยนะครับและนี่ก็เพราะพี่วีร์ช่วยผม เพื่อนผมบางคนยังตกงานอยู่เลย” ผมพูด ผมมีเพื่อนสามคนเพื่อนที่สนิทกันจริงๆ แม้กระทั้งมีเรื่องเกิดขึ้นเขายังไม่ทิ้งผมเหมือนคนอื่น นั้นคือบรีส แต่บรีสมันเองก็มีเรื่องราวมากมายในชีวิตมันและตอนนี้ก็บินไปอยู่ออสเตรเลียกับแม่ของบรีส อีกคนคือมีนตอนนี้ช่วยกิจการร้านสเต็กโคขุนที่บ้านเปิดสามสาขาแล้ว ผมว่ามันดีกว่าตรงที่เป็นนายตัวเอง
“พี่เต็มใจน่ะเมย์ มีอะไรให้พี่ช่วยบอกพี่นะ เมย์ พี่อยากช่วย”
“ขอบคุณครับ”
“พี่ไปก่อนนะ พี่ต้อง.” พี่วีร์พูดด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วนใจไม่อยากจะไปแต่ก็ต้องไปตามคำเชิญของพ่อว่าที่คู่หมั้นให้ไปทานข้าวที่บ้าน
“ไปเถอะพี่ ไม่ต้องเป็นห่วงผมหรอกครับ “ผมพูดบอกพี่วีร์ ผมก็กำลังจะหันหลังไปทำงานต่อ ผมไม่เคยเห็นคู่หมั้นของพี่วีร์เลยสักครั้ง ผมทราบว่าเธอเป็นลูกสาวคนเดียวของนักการเมืองที่มีอิทธิพลมากและนางก็เอาแต่ใจที่สุด นางชื่อพี่ปริม แต่คนที่นี้เขารู้จักนางดี มีสมุนที่นางมาฝากทำงานหลายคนแต่ว่าวันนี้เขาไม่ได้อยู่กะเดียวกับผมเลยรอดตัวไป แต่ถ้าอยู่นี้น่ะพยายามพูดเหน็บแหนมผมตลอด ผมยืนทำงานรอเวลาจะกลับบ้าน ผมพักที่อพาร์ทเม้นแห่งหนึ่ง
“เมย์วันนี้อยู่ต่อให้พี่ฟ้าถึงสองทุ่มได้ไหมคะเพราะว่าพี่ต้องรีบกลับ พี่ฟ้าโทรมาบอกว่าฝนตกหนักมากอ่ะเมย์ นี่แฟนพี่ก็กำลังจะมารอรับแล้ว ถ้าอยู่ต่อม้นบ่นพี่แน่ๆเลย น่ะน้องเมย์ “ผมหันไปมองอันที่จริงผมควรจะลงเวรหนึ่งทุ่ม ส่วนพี่พรเทพเขาไปพักคงจะกลับมาอีกครึ่งชั่วโมง
“ได้ซิครับพี่โอ ผมอยู่แทนให้ได้ครับ”
“ขอบใจนะ”
“เออ พี่ฝากเรื่องของลูกค้าไว้หน่อยซิเมย์ เขาจะให้คนมาเอากล่องนี้น่ะ เป็นของที่ลูกค้าที่มาพักแล้วลืมเอาไว้นะ แต่จะให้คนมาเอาที่ด้านข้างน่ะตรงประตูทางออกนะเมย์ เมย์ก็เดินลงไปให้เขาหน่อย เขาจะมารับคืนตอนที่เขาโทรมานะคะ พี่ฝากด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ” พี่โอพูดผมพยักหน้า ก่อนจะหันไปทำรายละเอียด ลูกค้าต่อ
(เมย์สบายดีไหมลูก วันหยุดกลับมาทานอาหารกับแม่น่ะ) ข้อความที่ทำให้ผมยิ้มได้ในวันนี้
 แม่ปิ่นเป็นแม่บุญธรรมที่ดูแลผม แทนพ่อแม่ที่เสียชีวิตไป ด้วยอุบัติเหตุ แม่ปิ่นมีลูกสามคน เป็นผู้หญิงหนึ่งคนและผู้ชายสองคน ดังนั้น ผมเลยต้องทำงานและเรียนไปด้วย ส่งตัวเองเรียน ไม่อยากรบกวนแม่บุญธรรมผมมาก และที่ผมหางานพิเศษทำตลอดก็เพื่อช่วยแม่ปิ่นส่งน้องๆเรียน ต่อให้เขาสามคนไม่ใช่น้องสาวน้องชายแท้ๆของผมก็ตามแต่ผมก็รักและผุกพันกันเหมือนพี่น้องแท้ๆ ผมคิดถึงแม่ปิ่นมากแต่แม่ไม่ให้ผมไปอยู่ที่บ้านแม่ เพราะว่ามีเรื่องที่ทำให้คนทั้งซอยมองว่าผมกลายเป็นเด็กขายน้ำไปแล้ว แม่ปิ่นเลยให้ผมหาอพาร์ทเม้นอยู่แทนและนัดกันไปทานอาหาร ร้านอาหารใกล้ๆแทนเพื่อพูดคุยกัน
(ครับแม่ปิ่น ผมจะกลับไปนะครับ) ผมรีบตอบไปทันที
(แม่จะทำของโปรดไว้รอนะ มาทานที่บ้านน่ะเมย์) ผมก็ต้องยิ้มกว้างๆอีกครั้งแม่ชวนผมไปทานข้าวที่บ้านด้วย ผมอยากทานฝีมือแม่ปิ่นที่สุด
(ครับแม่ปิ่น ผมรักแม่ปิ่นนะครับ)
ผมนั่งทำงานในตำแหน่งรีเซฟชั่นของโรงแรมระดับห้าดาว แน่นอนต้องมีลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นต่างชาติ ผมยืนนิ่งคิดจนกระทั่ง พี่ฟ้ามาถึงที่หน้าเคาน์เตอร์พอดี ผมหันไปมองพี่ฟ้าและยกมือไหว้
“ขอบใจนะเมย์ที่อยู่ต่อให้พี่ค่ะ อ่ะนี้ค่าขนม” พี่ฟ้าพูดและพี่ฟ้าคงเกรงใจผมที่อยู่เกินเวลาไปตั้งหนึ่งชั่วโมง พี่ฟ้าเลยควักแบงก์ร้อยให้กับผม
“ไม่เป็นไรครับพี่ฟ้าถึงยังไงผมก็ไม่รีบกลับอยู่แล้ว” ผมตอบพี่ฟ้า
“โอเค ถ้าอย่างนั้น วันไหนอยู่เวรตอนเช้าด้วยกันพี่ซื้อกาแฟเลี้ยงเรานะเมย์”
“ได้ครับพี่ ถ้าอย่างนั้นผมกลับก่อนนะครับเพราะว่าฝนตกรถเข้าซอยที่อพาร์ทเม้นของผมมันน้อยนะครับ” ผมหันมาบอกพี่ฟ้า
“เดินทางปลอดภัยน่ะ เจอกันเมย์” พี่ฟ้าพูดผมก็รีบหันเข้าไปหยิบกระเป๋าสะพายเดินจะออก
“ได้ค่ะ ด้านข้างนี้เหรอคะ ได้ค่ะ ค่ะ “ผมออกมาก็เห็นพี่ฟ้าทำหน้าขมวดคิ้วมองกล่องของที่พี่เขาบอกว่าลูกค้าจะมาเอา
“เมย์มีคนโทรมาบอกว่าให้เมย์เอากล่องนี้ออกไปส่งให้เขาทีนะคะ ที่ด้านข้างของโรงแรมนะคะ เมย์ออกทางนั้นพอดีใช่ไหมคะ”
“ใช่ครับ งั้นเมย์เอาไปให้แล้วกันนะครับพี่ฟ้า” ผมพูดและหยิบกล่องที่วางอยู่ ไม่หนัก ผมเดินออกมา ตอนแรกว่าจะโทรหาแม่ปิ่นเดินคุยไปสนถึงสถานีรถไฟก็ยังดี ระหว่างที่ผมเดินออกมาก็เห็นมีรถคันสีดำจอดอยู่ ผมคิวว่าน่าจะใช่แน่ๆ
“ขอโทษนะครับ คุณมารอรับพัสดุหรือเปล่าครับ”
“ใช่เมย์ป่ะ” น้ำเสียงที่ถามผมแบบห้วน ๆ คนที่มารับก็สวมหมวกแก๊ป ทำให้ไม่เห็นใบหน้าที่ชัดเจน
“ใช่ครับ นี่ครับพัสดุ” ผมส่งกล่องให้เขาก็รับกล่องไปถือและ
“กูไม่เอาพัสดุ”
“แล้วคุณจะเอาอะไรละครับ”
“กูเอามึง”
“หมับ!” ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจากทางด้านหลัง มีคนเข้ามาจู่โจมผมโดยไม่ทันตั้งตัว โดยเอาผ้ามาปิดปากปิดจมูกผม ผมก็ดิ้นแต่จู่ ๆ ผมก็เริ่มอ่อนแรงลง และทุกอย่างก็มืดสนิท แต่ผมยังพอได้ยินเสียงรอบ ๆ
“เอาขึ้นรถไปเลย แม่งจะให้ไปเอาที่ไหนวะ มึงโทรหาไอ้ตั้นยัง ว่าจะเอาไอ้นี่ที่ไหน”
“ก็โกดังไง ไม่ต้องหรูหรอก เขาบอกเอาๆ แล้วก็ ปล่อยแม่งทิ้ง แค่นี้” ผมได้ยินเสียงการสนทนาแต่ว่าหนังตาผมหนังมากจนลืมไม่ขึ้น
“หน้าตามันก็ดีนะมึงแต่ดันเสือกไปยุ่งกับคนที่มีเจ้าของแล้ว เป็นผัวให้สาวๆเขาก็ดีอยู่แล้วไปเป็นเมียน้อยผู้ชายเขาทำไมและนี้กูก็ไม่เคยขมขื่นผู้ชายมาก่อนด้วยเวรจริงๆ กู”
“งั้นกูโทรบอกไอ้ตั้นไปเจอกันที่โกดังเลยนะมึง” ผมได้ยินแค่นั้น ก่อนสติสัมปชัญญะจองผมจะดับวูบไป และความฝันของผม คือผมกำลังนั่งเล่นอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง
 “น้องเมย์ค่ะ คุณพ่อคุณแม่กำลังจะบินกลับมาแล้วนะคะ มาทานอาหารก่อนไหมคะ” แววตาเด็กน้อยวัยห้าขวบที่กำลังรอพ่อแม่บินกลับมาจากไปดูงานต่างประเทศ ฐานะที่มั่นคง กับอาชีพการงานที่มั่นคงพ่อแม่เขา ผู้หญิงที่รับจ้างดูเขาในช่วงที่พ่อแม่เขาไปต่างประเทศนั้นคือน้าปิ่น ที่มาทำงานแลกเงินไปจุนเจือครอบครัว อีกสามชีวิตที่รออยู่
RRR เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ก่อนที่น้าปิ่นจะไปรับสาย และนั้นทุกอย่างในชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไปในชั่วข้ามคืน เมื่อข่าวร้ายพ่อและแม่ของเขาประสบอุบัติเหตุรถยนต์เสียหลักตกเหวที่ต่างประเทศ
“ฮือ ๆ พ่อ ฮือ ๆ แม่ ผมคิดถึงพ่อกับแม่”

หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก EP.2 ตราบาป NC18+ (รีไรท์)
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 09-11-2020 20:11:26
   EP.2 ตราบาป NC18+


   Part's เมธานินท์ ผมค่อยๆขยับตัวแต่ทว่ามันขยับไม่ได้ ผมคิดว่าผมถูกขึงพืดเอาไว้อยู่แต่อยู่ที่ไหนผมเองก็ไม่รู้ทุกอย่างมืดสนิท พวกนั้นเอาไอ้โม่งมาคุมหัวผมเอาไว้แต่ยังดีที่มีช่องให้ผมได้หายใจและปากไว้พูดได้บ้าง และผมเองก็ไม่รู้ว่าที่ไหน มีบางสิ่งคาดปิดตาผมไว้ด้วย ผมรู้สึกได้ว่าร่างกายผมไม่มีเสื้อผ้าอาภรณ์ใดๆติดตัวเลย ผมสัมผัสได้จากการเสียดสีของผิวหนังบนที่นอนหยาบๆ ใครกันทำไมทำกับผมแบบนี้ทั้งที่ผมเองไม่เคยไปมีเรื่องกับใครเลย
“ขอโทษนะครับ คุณ คุณ” ผมพยายามเรียกหาใครสักคน แต่ทว่ามันกลับเงียบสนิมไร้ซึ่งเสียงตอบรับแต่ผมได้ยินแต่เสียงคนคุยกันดังอยู่ห่างจากผมไปแต่ไม่ไกลมากหนัก แปลกที่พวกเขาไม่ขานรับเสียงเล็ก ๆ ของผมเลยสักคนฟังจากการสนทนา น่าจะเด็กเกรียนซะมากกว่า นี้ผมไปมีเรื่องกับคนพวกนี้ตอนไหน
“อยู่ไหนวะ” เสียงทุ่มๆนี้ทำให้ผมขนลุกขึั้นมาทันที ไม่อยากนึกถึงหน้าตาคงจะโหดผิดมนุษย์
“อยู่ในห้อง ขึงพืดแล้ว ใครจะเอาก็เอาว่ะ น้องกูไม่สู้”
“ก็นั้นมันผู้ชาย”
“และนี่ พี่ปริมเขาให้มึงทำกับเขาแบบนี้จริงๆ เหรอว่ะ” พี่ปริม ชื่อนี้ทำให้ผมนึกขึ้นมาได้ ทั้งที่ผมเองก็ไมเ่คยไประรานอะไรเขาเลยน่ะ
“เออ อะดิ ก็ไอ้นี่มันดันไปเกาะแกะแฟนพี่เขานี้หว่า”
“ทำไมไม่เป็นผู้หญิงวะ กูจะอาสาคนแรกเลยและนี้ผู้ชายทั้งแท่ง แก้ผ้าออกมาก็เจอหนอนแล้วสัส!” เสียงพวกนั้นเขาคุยกัน มันทำให้ผมเริ่มจะรู้ชะตากรรมของผม ผมพยายามดิ้นรนแต่ก็ไม่เป็นผล ร่างกายถูกมัดขึงเอาไว้จนตึง ยิ่งดิ้นก็เหมือนร่างผมจะฉีกออกจากกัน น้ำตาแห่งความกลัวเริ่มไหล่ออกจากหางตา
“ปล่อยผมไปเถอะ ฮือๆ ผมไม่ได้ทำอะไรพวกคุณ ฮือๆ” ผมพูดเชิงข้อร้องอ้อนวอน
“กึก” ผมรับรู้ได้ว่ามีคนเข้ามาหยุดยืนอยู่ด้านข้างของผม
“นี่เหรอวะ ที่บอกว่าชื่อเมย์อ่ะ “น้ำเสียงที่ดุดัน ผมไม่อยากจะคิดเลยว่าหน้าจะประมาณไหน คงมีหนวดเคลารกรุงรังไปหมด หน้าตาคงดิบเถือนน่าดูแต่ว่า พยายาามใช้น้ำเย็นเข้าไว้ก่อน
“เออ ก็ตอนที่ไปเอาตัวกูถามแล้ว มันบอกชื่อเมย์”
“ผิวขาวดีนะ สองจุดนั้นก็อมชมพูดซะด้วยแต่….”
“มีเจ้าโลก กูขอผ่านว่ะ ตั้น”
“สัสเอ๊ย! แล้วใครละที่จะทำ” ไอ้คนที่เพื่อนมันเรียกว่าตั้น มันชื่อตั้น
“มึงไง ไอ้ตั้น มึงรับมาและมึงกับเจ้ก็น่ะเคยซั่มซิ่งรองกันมาก่อน… มึงก็จัดการให้เจ้เขาหน่อยแล้วกัน”
“แต่ว่าพวกกูขอนั่งดูบอลรอด้านนอกน่ะเพื่อน”
“หิวว่ะ กูสั่งข้าวมากินกันเลยนะมึง”
“เออๆ สั่งเผื่อกูด้วย”
“ปึก” เสียงประตูห้องถูกปิดลง
“คุณ คุณ ปล่อยผมไปเถอะนะ คุณอย่าทำแบบนี้กับผมเลย ผมเป็นผู้ชายนะคุณ”
“ปึก” ผมรับรู้ได้ว่ามีคนนั่งข้างๆ ผม เพราะว่าที่นอนด้านข้างผมมันยุบตัวลง ผมต้องกลืนน้ำลายลง
“ก็ไม่อยากทำนะแต่ นายเล่นไปเป็นชู้เขานี่หว่า “คนที่นั่งลงพูดไม่ดังมากอยู่ข้างๆ ผม
“ผมไม่ได้ทำ คุณปล่อยผมไปเถอะและใครกันที่ใช้คุณทำแบบนี้กับผม มันผิดกฎหมายนะคุณ” ผมพูดด้วยเสียงสั่นๆ ใจก็กลัวแต่ผมคิดว่าเอากฎหมายมาขู่มันอาจจะคิดได้บ้าง
“แล้วนายคิดว่า กฎหมายจะทำอะไรพวกผมได้ แต่ถ้าคลิปที่คุณโดนข่มขืนนี้อาจจะทำให้คุณ ไม่มีโอกาสในหน้าที่การงาน เอาไหมล่ะ” ผมก็ต้องกำมือแน่น
“พวกคุณมันชั่ว ชั่วยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน ทำได้แม้แต่คนที่ไม่เคยทำอะไรพวกคุณ คุณมันเลว คุณมัน” สุดท้ายน้ำเย็นก็ไม่ได้ผลกับคนพวกนี้ผมว่าน่ะ
“อย่า!!” ผมร้องลั่นออกมาทันที ที่ผมรู้สึกว่ามีบางสิ่งที่ถูกละเลงลงที่ช่องทางรักของผม ผมรู้ว่ามันคือเจลหล่อลื่น นั้นแปลว่าเขากำลังจะข่มขืนผม
“หมับ “ฝ่ามือที่จับที่โคนขาของผมและจับมันตั้งขึ้น ผมพยายามขืนแต่ก็สู้แรงคนนั้นไม่ได้ เขาบีบโคนขาผมแน่นจนผมรู้สึกเจ็บ
“อย่า ผมขอร้องอย่าทำผมม ฮือๆ”
“โทษตัวเองแล้วกันนะ ที่ไม่รู้จักดูให้ดีว่า คนที่ตัวเองไปยุ่งด้วยนะเขามีเจ้าของแล้ว”
“ไม่ต้องร้องไห้เพราะหลังจากนี้จะเสียวอย่างเดียว”
“ไม่!!! อย่า”
“อ๊าก!! เจ็บ!! ไม่เอา!! ฮึกๆ เอาออกไป!!” ผมรับรู้ได้ถึงความคับแน่นและเจ็บจนจุก ตรงช่องทางรักของผม มันเหมือนกำลังอยู่ในนรกชัดๆ ไม่ใช่สวรรค์ สิ่งนั้นผมรู้ได้เลยว่ามันคือแกนกายที่ไม่ใช่เล็กๆ มันกำลังสวนเข้าไปในร่างกายผม มันเจ็บมากชนิดที่ผมต้องกำมือจับเชือกที่มัดผมไว้แน่นๆ กัดริมฝีปากตัวเอง
“โอ๊ย!!!!” ผมร้องออกมาดังลั่น ร่างกายเกร็งเหมือนจะพยายามต่อต้าน
“อย่าเกร็งซิวะ ดันไม่เข้า ทำๆ จะได้เสร็จๆ และเดี๋ยวจะได้เอาไปส่ง!”
“พอเถอะผมเจ็บ!!”
“อดทนหน่อย จะได้มีผัวสมกับที่อยากไปยุ่งกับแฟนคนอื่น”
“อย่า ฮือๆ โอ๊ย!!!” ผมก็ต้องร้องออกมาดังลั่นอีกครั้ง
“พล้วด!!” เหมือนร่างจะแยกออกจากกัน ร้องไม่ออกทีนี้ มันจุกแน่นจน รู้สึกผอืดผอม
“ปักๆๆๆ” เสียงเด้งสวนที่ตรงสะโพกของผม พร้อมกับ “โอ๊ย!! “โอดครวญของผมร้องดังไปพร้อมๆ กัน แต่คนที่กระทำกับผมไม่มีทีท่าว่าจะเห็นใจกับยิ่งเด้งสวนเหมือนพวกอดอยากปากแห้งมาจากไหน
“คับแน่นดีชิบว่ะ ซี้ดส์!!”
“อ่ะ…อ้าห์” ผมกลับเริ่มรู้สึกเสียวทั้งที่ผมก็รู้สึกเจ็บที่ตรงบั้นท้ายขอวผมเหลือเกิน ผมพยายามจะไม่ร้องคราวแต่มันก็ห้ามไม่ได้ ก็คนที่เด้งบั้นท้ายสวนผมไม่ยั้ง เขาใช้นิ้วมาบี้สองจุดบนหน้าอกแบนๆ ของผม
“เสียวล่ะซิ” เสียงพูดบอกผม
“ปึก! ปึก! ปึก! “เสียงกระแทกแบบออกเกือบสุดและเข้าเกือบสุด จนทำให้ผม งอตัวด้วยความจุก และมันก็ยาวนานแต่ผมก็ไม่รู้ว่านานแค่ไหน เพราะว่าสติสัมปชัญญะผมหลุดไปอีกครั้ง มันเจ็บปวดจนเกินกว่าที่ร่างกายผมจะทนได้ และผลสุดท้ายผมก็สลบคาไอ้คนที่มันสร้างตราบาปไว้กับผม

   Part's รชานนท์

             ผมชื่อตั้นหรือรชานนท์ ภัทรนิธโภคิน ผมเองก็ไม่อยากทำแบบนี้ แต่พี่ปริมเขาขอร้องผม เขากับผมเคยคั่วๆ กันอยู่ และพี่ปริมเขาก็เป็นสาวสวยไฮโซ ผมรู้จักพี่ปริมตอนไปผับเพื่อนผม ผับระดับไฮโซ โปรไฟล์ผมก็ไม่ธรรมดา แต่ว่าผมเองไม่ชอบอวด พ่อผมเป็นเจ้าของรีสอร์ตและอสังหาริมทรัพย์ที่เขาใหญ่เป็นพ่อเลี้ยงที่มีคนแถวนั้นรู้จักเป็นอย่างดี ที่ดินจำนวนมากที่ปู่ผมสร้างเอาไว้ให้พ่อผมดูแล พ่อผมเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของท่านแต่ที่ผมรู้มาอีกอย่างปู่ผมมีเด็กมามายเรียกได้ว่าเมียน้อยเยอะ ส่วนตัวผมเองชอบใช้ชีวิตอิสระ เลยมาเปิดบริษัทของตัวเองที่มีเพื่อนๆ ผมอีกหกคน และมีน้องๆ ที่จบมาจากที่เดียวกันมาทำงานด้วยรวมแล้วก็สิบห้าชีวิต
“เสร็จแล้วเหรอว่ะ มึง เป็นไงวะ เหมือนเอาหญิงป่ะวะ” ไอ้เปรมด์หันมาถามผมทันทีขณะที่ผมเดินออกมาจากห้อง ที่นี่เป็นโกดังสำหรับเก็บพวกอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ผมสั่งเข้ามา มันก็จ้ะห้องพักมี วำหรับเวลาต้องมาเช็กสินค้ากัน
“อยากรู้ทำไมไม่ทำเองวะ” ผมถามไอ้เปรมดิ์กลับ ไอ้เปรมดิ์คือคนที่ไปจับตัวน้องเขามา ส่วนไอ้กอล์ฟ คือคนขับรถ ก่อนจะนั่งลงและหยิบกระป๋องเบียร์มากระดกย้อมใจ ก็เพิ่งจะขืนใจผู้ชายไปยกๆ
“ถ้าเป็นผู้หญิงกูไม่รอมึงหรอกครับ ตั้น” เปรมดิ์พูด ผมหันมามองหน้า แน่ละ ถ้าเป็นผู้หญิงผมไม่รับปากช่วยพี่ปริมแน่ๆ
“อาหารมาแล้วว่ะ” ไอ้ทีน คนที่ไปสั่งอาหาร เป็นร้านอาหารไม่ไกลจากนี้ ผมพยักหน้า
“สั่งมากี่กล่อง เอาเข้าไปให้เขากินกล่องหนึ่งนะ” ผมบอกไอ้ทีน
“มึงให้โม่งที่กูครอบหัวน้องเขาเอาไว้ออกหรือยังวะ” ไอ้เปรมด์มันถามผม
“ทำไมวะ “ผมก้มลงมองหน้าไอ้เปรมดิ์
“น้องเขาจะได้ไม่เห็นหน้า เชี่ย! พวกกูไม่อยากติดร่างแห แต่มึงนะ พ่อเส้นใหญ่ ยังไงก็รอด” ไอ้เปรมดิ์พูด
“ไอ้ทีนเลือกไปหนึ่งกล่องและมึงไปป้อนเขาด้วย กูยังไม่ได้แก้หมัด อย่าพึงเปิดผ้าปิดตาออกนะมึง “ผมพูดบอกไอ้ทีน มันก็ยักไหล่ ผมก็รับกล่องข้าวมาเปิดทานกัน พวกผมติดดินกันมาตั้งแต่ตอนเรียนแล้วถึงครอบครัวจะมีอันจะกินก็เถอะ
“อาร์มละวะ มันไปไหน” ผมถามถึงเพื่อนอีกคน
“มันบอกว่าแฟนมันมาหาว่ะมันเลยกลับไปก่อน” ผมพยักหน้า อันที่จริงพวกนี้มันมีแฟนกันหมดแล้วเหลือแต่ผม ผมนะไม่อยากมีพันธ แค่แม่เลี้ยงกับลูกเลี้ยงก็ปวดหัวจะแย่อยู่แล้ว แม่ผมเสียชีวิตไปตั้งแต่ผมไปเรียนที่อเมริกา และกลับมาเรียนมัธยมปลายที่ไทย ดังนั้นตอนนี้ผมเป็นลูกชายคนเดียวของพ่อที่มีสิทธิ์ได้มรดก แต่ผมเป็นคนชอบยั่วโมโหพ่อผมเลยหนีมาเปิดบริษัทแทน
“กอล์ฟ กินข้าวดิวะและจะได้พาน้องเขาไปส่งและกลับไปแก้งานกันอีก พรุ่งนี้ต้องเสร็จแล้วนะมึง” ผมหันไปบ่นไอ้กอล์ฟ
“สั่งจังไอ้บอส!!”
“ก็มันเป็นบอสนี่หว่า” ไอ้เปรมดิ์พูด
“ปึก” ไอ้กอล์ฟมันโยนอะไรสักอย่างมาให้ผม ผมหันไปหยิบขึ้นมาดู เป็นกระเป๋าสตางค์ ผมหยิบมาเปิดดู มีบัตรประชาชน และรูปคนที่ผมเอามา เขาชื่อนายเมธานินท์ ธาดาวรวงศ์ อายุ 21 ปี
“ตอนแรกกูว่าจะเอาไปส่งคืนแล้ว กูนึกว่ายังไม่สิบแปดแต่พอเห็นบัตรประชาชน ค่อยโล่งหน่อย แม่งไม่งั้นไอคุกๆ “ไอ้กอล์ฟมันพูด ผมก็นั่งทานผัดขี้เมาทะเลที่พวกมันสั่งมาให้ผม ของโปรด
“ใครเอาข้าวผัดต้มยำทะเลกูไปว่ะ” ไอ้กอล์ฟ มันบ่น
“สงสัยไอ้ทีนมันหยิบไปให้ป้อนเมียไอ้ตั้นว่ะ”
“แคร๊กๆ “ไอ้เปรมดิ์มันทำให้ผมสำลักทันที
“ไอ้เชี่ย!” ผมด่าและหาอะไรปาใส่มัน ผมเห็นเหมือนบัตรประจำตัวสถานพยาบาลมันมีโน้ตอยู่ ผมก็หยิบมาอ่าน คนไข้แพ้ อาหารทะเล ผมก็ต้องเพ้งดูอีกที
“มึงบอกว่าไอ้ทีนมันเอาอะไรไปป้อนน้องเขาว่ะ”
“ข้าวผัดต้มยำทะเลกูไง สัสเอ้ย! นี่เหลือข้าวผัดไข่ไว้ให้กู ไอ้เชี่ยทีน!” ผมก็ต้องลุกพรวด
“อะไรไอ้ตั้น “ไอ้เปรมดิ์
“เชี่ย! เขาแพ้อาหารทะเล “ผมพูดและวิ่งเข้าไปในห้อง ภาพที่ผมเห็นคือน้องเขานั่งมีผ้าปิดตาให้ไอ้ทีนมันป้อนอยู่
“กินๆ เถอะ “ไอ้ทีนมันบ่น
“แต่ผมว่ามันเหมือน อาหารทะเลนะผมว่า”
“ไอ้ทีนหยุด!!” ผมรีบร้องห้ามและวิ่งมาดูคนที่เคี้ยวข้าวอยู่ปาก
“ทำไมว่ะ ก็กูป้อนตามที่มึงบอกนี้ไง”
“เขาแพ้อาหารทะเล” ผมพูดแต่มันก็ดังพอสมควร
“นี่คุณเอาอะไรให้ผมทาน” น้องเขาถามขึ้น
“ข้าวผัดต้มยำทะเล แพงมากเลยนะ กุ้งตัวโตๆ เลยน้อง” ไอ้ทีนมันพูด
“ผมแพ้อาหารทะเล “น้องเขาพูดพร้อมกับส่ายพยายามหันซ้ายหันขวา
“แพ้มากไหม” ผมถาม
“มาก ล่าสุดผมหายใจไม่ออกอ่ะ น้ำ ขอน้ำผมหน่อย” ผมมองไอ้ทีนอยากจะเตะมันจริงๆ ผมหันไปหยิบขวดน้ำข้างมาเปิดฝาและโน้มลงไปเอาขวดจ่อปากที่ปากเรียวๆ นั้น
“อึกๆ” เสียงดื่มน้ำอย่างรวดเร็ว
Rrrr โทรศัพท์ผมดังขึ้น เป็นเบอร์ของพี่ปริม ผมยกมือบอกทีนก่อนจะเดินเลี่ยงออกไป และกดรับสาย
“ว่าไงครับปริม”
“จัดการให้ปริมแล้วใช่ไหมคะตั้น” พี่ปริมถามผม
“ครับ” ผมตอบแค่นั้น
“ให้ปริมเอารางวัลไปให้ไหมคะคืนนี้” ปริมถามผม
“ไม่ดีกว่าครับ ผมว่าเราสองคนไม่ควรจะเจอกันแบบเดิมๆ ไหน ไหน คุณปริมก็จะมีสามี เป็นทายาทโรงแรมดังแล้วก็ควรทำตัวดีๆ ดีกว่าไหมครับ”
“ทำไมละตั้น ปริมนะ ติดใจตั้นที่สุดน่ะ”
“พอเถอะครับคุณและนี้ผมก็จัดการคนที่คุณบอกว่าเป็นศัตรูให้คุณแล้วและคุณกับผมก็ไม่มีอะไรติดค้างกันอีกนะครับ”
“ปริมจะคอยดูค่ะว่าตั้นจะตัดใจจากปริมได้จริงๆ หรือเปล่า” เสียงกระเซ้านั้นมันกลับยิ่งทำให้ผมรำคาญ
“ว่าแต่ใครเป็นคนทำคะ ไม่ใช่ตั้นใช่ไหมคะ แหละนี่ได้ถ่ายคลิปเอาไว้ไหมคะ เพราะว่าถ้ามันยังไม่ยอมเลิกยุ่งกับพี่วีร์ ปริมจะเอาไปประจานที่มหาวิทยาลัยมันค่ะ จากคราวนี้มันคงไม่มีหน้าโผ่ไปรับปริญญาบัตรแน่นอน” ผมยืนเอามือเท้าเอว ทำไมแรงเกลียดชังผู้หญิงนี่มันน่ากลัวขนาดนี้
“พอเถอะคุณ แค่นี้ผมก็ว่าสภาพจิตใจเขาก็แย่พอแล้ว และผมเองก็ไม่ชอบทำอะไรแบบนั้น ประเภทเอามาแบล็กเมย์เขาทีหลัง”
“ก็…” พี่ปริมทำท่าจะค้าน
“ผมดูแล้วเขาก็ไม่มีอะไรอย่างที่คุณบอกผมเลย ว่าเด็กคนนี้ร้ายกาจ เด็กน้อยดีดีนี่เองปริม “ผมพูดอย่างหัวเสีย ที่โดนผู้หญิงคนนี้หรอกให้ผมลากเอาเด็กคนนี้มากระทำ
“ทำไมละตั้น แค่นี้ช่วยปริมไม่ได้เหรอ”
“งั้นแค่นี้นะปริม ผมมีธุระ “ผมหันไปเจอ ไอ้ทีนมันส่งสัญญาณเรียกผมอยู่ ผมรีบกดวางสายและเดินตรงเข้าไป และสิ่งที่ผมเห็นคือ น้องเขากำลังหายใจไม่ออก หายใจติดๆ ขัดๆ นี่มันอาการคนแพ้อาหารทะเลแพ้แบบชนิดรุนแรงซะด้วย
“ทำไงดีว่ะ”
“บอกไอ้เปรมดิ์สตาร์ทรถ” ผมตะโกนออกไป
“เกิดอะไรขึ้น!!” ไอ้เปรมดิ์มันวิ่งเข้ามา
“น้องเขาแพ้อาหารทะเลว่ะ”
“ไปสตาร์ทรถดิว่ะไอ้เปรมดิ์!!” ผมหันไปตะคอกและเข้าไปแก้มัด ไอ้ทีนก็ช่วยผมอีกคน
“สตาร์ทรถรอนี่คือ จะหนีกันเหรอว่ะ” ไอ้เปรมดิ์มันถามผม
“พาน้องไปโรงพยาบาล!!” ผมพูด ถึงยังไงผมก็ไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำขนาดนั้น ผมรีบอุ้ม คนตัวเล็ก ที่หายใจรวยริน ผมวิ่งออกไปด้านหน้าโกดังของผม อยู่ติดถนนแต่ว่ามันอยู่สุดซอยเลย ผมมองรถไอ้เปรมดิ์ที่มันสตาร์ทรถรอแต่ว่า รถมันอยู่ในสุด ผมลืมไปว่ากุญแจรถของผมห้อยอยู่ที่หูเข็มขัดกางเกงยีน ผมก็วิ่งไปที่รถกระบะโตโยต้ารุ่นใหม่ล่าสุด ตัวท๊อปเลย และผมก็ปรับเบาะให้เขานอนแต่ไม่นอนราบ ผมไม่รู้ว่าน้องแน่นหน้าอกไหม ผมปิดประตูและวิ่งไปที่นั่งคนขับ สตาร์ทรถและขับถอยหลังออกมาอย่างเร็ว
“F**k!!!!! “ผมสบถออกมาดังๆ แต่พอเหลือบไปมองคนที่นอนด้วยอาการทรมารอยู่ข้างแล้ว ผมก็อดตกใจไม่ได้ มันทำให้ผมเห็นภาพสุนัขที่ผมรักมากที่สุด มันถูกรถชนตายและมันกำลังจะสิ้นใจในอ้อมกอดผม และนั้นผมเองก็ไม่เคยมีสัตว์เลี้ยงอีกเลย ผมกลัว เหมือนเช่นเขาคนนี้เหมือนกัน ไม่รู้ตอนนี้เหยียบไปเท่าไหร่ รู้แต่ว่าผมเร็วทะลุไมล์ไปแล้ว เพื่อไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด
TBC..

หัวข้อ: Re: ไม่ตั้งใจแต่ผมดันได้รัก(ชื่อเรื่องชั่วคราว) EP.2 ตราบาป NC18+
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 09-11-2020 20:53:00
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ไม่ตั้งใจแต่ผมดันได้รัก(ชื่อเรื่องชั่วคราว) EP.2 ตราบาป NC18+
เริ่มหัวข้อโดย: กฤตย ที่ 09-11-2020 22:52:01
 :m15: :m15: :monkeysad: :sad11:
หัวข้อ: Re: ไม่ตั้งใจแต่ผมดันได้รัก(ชื่อเรื่องชั่วคราว) EP.2 ตราบาป NC18+
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 10-11-2020 04:56:01
 :sad4: :hao5:
หัวข้อ: Re: ไม่ตั้งใจแต่ผมดันได้รัก EP.2 ตราบาป NC18+
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 10-11-2020 11:38:05
 :3123:
 :กอด1:
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก EP.3 ผมทิ้งเขาไว้ไม่ได้
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 10-11-2020 18:34:43
   EP.3 ผมทิ้งเขาไว้ไม่ได้

   Part's เมธานินท์ ผมรู้สึกอึดอัดหายใจไม่ออก มันเกิดขึ้นกับผมตอนผมอายุ 8 ขวบ ตอนนั้นผมไปเที่ยวทะเลกับครอบครัวแม่ปิ่นและวันนั้นเขาก็ทำอาหารทะเลมาทานกัน และนั้นถึงทำให้ผมรู้ว่า ผมแพ้อาหารทะเลขั้นรุนแรงมากต้องได้รับยาฉีดทันทีที่ผมทานเข้าไป

แต่ว่าตอนนี้สิ่งที่รุนแรงที่สุดของผมกลับไม่ใช่อาการของการแพ้อาหารทะเล แต่มันคือสภาพจิตใจของผม ที่เพิ่งถูกผู้ชายคนหนึ่งย้ำยี ถึงแม้ว่าผมจะเป็นผู้ชายก็ตาม มันเจ็บทั้งทางกายและจิตใจ หน้ามันผมก็ไม่ได้เห็น ได้ยินแต่ชื่อของมัน ไอ้ตั้น กับน้ำเสียงทุ้มๆ
“น้องค่ะ นี่ยากลับบ้านคนไข้นะคะ “ผมค่อยๆลุกขึ้นนั่ง ด้วยอาการโงนเงนไปมา ผมอยู่ในห้องสังเกตอาการมาเกือบสองชั่วโมงได้แล้ว

“แล้วค่ายาละครับ” ผมถามพี่พยาบาล

“เพื่อนเราจ่ายให้แล้วนี่ค่ะและเห็นรออยู่ด้านนอกเต็มเลยค่ะแหมมีเพื่อนแต่ล่ะคน คนหล่อๆทั้งนั้นคะ “คุณพยาบาลพูดผมก็ต้องขมวดคิ้วจริงเหรอเขารอผมจริงๆ เหรอ อย่าบอกน่ะไอ้คนที่มันย้ำยีผมนะ ผมว่าไม่น่าจะใช้คนหล่อแน่ๆ

“ให้พี่ไปเรียกให้ไหมคะเพราะดูท่าน้อง…เดินไม่ไหว ยาที่คุณหมอฉีดให้นี้ทำให้ง่วงมากนะคะ” คุณพยาบาลบอกผม ผมส่ายหัวว่าไม่เป็นไร ผมก็ลุกขึ้นยืนแบบฝืนสุดๆ ก่อนจะรีบเดินออกจากห้องดูอาการ จะว่าไป มันก็เบลอๆ อยู่นะ ผมเดินอ่านป้ายบอกทางที่จะออกไป เพื่อจะไปเรียกรถแท็กซี่ ผมเปิดถุงยาดูในนั้นมีกระเป๋าสตางค์ของผมอยู่และมือถือที่หน้าจอดำสนิท จะไปเดินหาตู้โทรหาแม่ปิ่นก็คิดว่าไม่จะดีกว่า ถึงไม่ใช่แม่แท้ๆ แต่แม่ปิ่นก็รักผมเหมือนลูก ดังนั้นผมจะทำให้แม่ปิ่นเป็นห่วงผมไม่ได้

   Part's รชานนท์ ผมขับรถออกมาโดยมีไอ้ทีน ที่นั่งมากับผมด้วยส่วนไอ้พวกนั้นมันไปรถอีกคันกันหมดเรียกว่าเพ่นออกมาก่อนผมซะด้วยซ้ำ ก็ผมเริ่มลังเล ไม่อยากทิ้งน้องเขาไว้ที่นั่น  พวกเพื่อนผมบอกว่าน้องเขาน่าจะโทรหาเพื่อนหรือพ่อแม่พี่น้องมารับได้  ก็จะใครล่ะ ก็น้องคนที่ผมพามาและทำแบบนั้นกับผู้ชาย ก็เพราะว่าพี่ปริม ผู้หญิงที่ผมเรียกว่าคู่ขา ไม่ได้มากกว่าการมีเซ็กส์ ถึงแม้ว่าพี่ปริมจะเคยช่วยผมหลายครั้งแล้วก็ตาม และตอนนี้เธอบอกว่าเธอเจอผู้ชายที่ดูดีและเธอก็ต้องการเขา ผมเองก็ไม่อยากจะเจอรักที่จริงจังสักทีผมเลยต้องรีบปิดความสัมพันธ์ระหว่างผมกับพี่ปริมทันที ถ้าพี่เขายังอยู่ก็รังควานคนที่ผมพยายามจะคบจนกระเจิงหายไปหมด แต่พี่เขาบอกว่าคนที่เขาจะแต่งงานด้วยดันมีผู้ชายมาติดพันกับแฟนพี่ปริม นางมาร้องห่มร้องไห้ให้ผมช่วย และนี่ผมก็ เสือกช่วยเขาอีก ไอ้ตั้นเอ้ย!!

“ปึก” ตอนนี้รถกำลังติดไฟแดง แต่สภาพที่ผมเห็นเขาตอนที่แพ้อาหาร มันยังติดตาผมอยู่เลย ผมจะทิ้งเขาไว้แบบนั้นอย่างนั้นเหรอ ไม่ได้

“บรื้น!!!” ผมหักพวงมาลัยกลับรถก่อนไฟแดง ดีที่ไม่มีรถอีกเลนส่วนมา

“ไอ้ตั้นนนนนน” เพื่อนที่นั่งมาข้างๆ ก็คงถึงกับฉี่เกือบจะราดกันบ้าง ผมขับรถกลับไปที่โรงพยาบาลทันที

“ทำอะไรของมึง นี้ไม่ใช่ทางกลับคอนโด” ไอ้ทีนมันถามผม

“กูจะกลับไปที่โรงพยาบาล”

“ไปทำไมกูไม่ป่วย!!” ไอ้ทีน

“มึงให้กูทิ้งเขาเหรอวะ กูไม่เลวไม่เลวขนาดนั้น”

“แต่มึงก็พังประตูหลังเขานะโว้ย! ยังไม่เลวพออีกเหรอ?"  "และมึงน่ะ เข้าข้างหลังโดนใบแดง มึงยังมีหน้ากลับไปหาเขาอีก กูละเชื่อเลย” ไอ้ทีนมันพูด และผมก็ต้องส่ายหัวให้ไอ้ทีน ผมขับรถกลับเข้าไปอย่างรวดเร็วและไปจอดด้านหน้าทางเข้าห้องฉุกเฉิน ผมรีบวิ่งลงจากรถ

“ไอ้ตั้น มึงจอดตรงนี้ไม่ได้!!”

“มึงขับวนไป กูจะไปดูเขาและกูจะโทรบอกมึงอีกที” ผมหันมาบอกไอ้ทีน ผมรีบวิ่งเข้าไปด้านใน ตอนนี้เป็นเวลา เกือบสี่ทุ่มกว่าแล้ว โรงพยาบาลนี้ ค่อนข้างเล็ก คนไข้ไม่เยอะและส่วนใหญ่ไม่ค้างคืนกัน ผมวิ่งไปที่ห้องฉุกเฉิน

“พี่ครับ เพื่อนผมที่แพ้อาหารนะครับ” ผมเรียกพยาบาลคนที่ผมฝากกระเป๋าสตางค์ใส่ไว้ในถุงยาไว้ให้เขา

“อ้าว! พี่นึกว่าเรารออยู่ด้านนอกและน้องเขาก็เดินออกมาเองนะคะ ยังมึนๆ งงๆ อยู่เลยนะเพราะยาฉีดนะคะ “พี่พยาบาลบอกผม ผมคิดว่าน่าจะเดินออกไปเพื่อเรียกรถแท็กซี่แน่ๆ ผมวิ่งตามออกไป ผมก็เห็นคนที่เดิน และหยุด สภาพก็บ่งบอกได้ว่าไม่ถึงจุดเรียกรถแท็กซี่หรอก

“น้อง!!” ผมวิ่งมาถึงก็จับแขน เขาหันมามองผม

“หมับ” ร่างนั้นเซถลามาที่อ้อมกอดผม ผมรีบหยิบมือถือขึ้นมาและ

“ซิรี โทรหา ทีน “ผมออกคำสั่งด้วยเสียงที่ไอโฟนรุ่นใหม่ ทันทีที่โทรออก คนปลายสายก็กดรับสายผมทันที

 //ว่าไงว่ะตั้น //
//มารับกูตรงที่ข้างโรงพยาบาลด้านหลังว่ะ // ผมบอกไอ้ทีน

   ผมก็อุ้มร่างที่หมดสตินั้นเอาไว้ น้องเขาตัวเล็กเบามาก ผู้หญิงบางคนผมยังอุ้มไม่ขึ้นเลย  ผมเหลือบมองไปรอบๆ จนเห็นรถกระบะวิ่งมาพร้อมกับส่องไฟสูงมาตรงที่ผมยืนอยู่ พอรถคันนั้นจอด

“ปึก” ผมเปิดประตูรถและวางร่างนั้นลงที่แค็ปหลังรถกระบะของผมทันที ก่อนจะวิ่งอ้อมไปนั่งผู้โดยสารอีกฝั่ง ผมขึ้นรถไปนั่งกับน้องเขาทันที

“เออ มึงจะให้กูนั่งเป็นคนขับเหรอว่ะ”

“เออ! รีบออกรถ “ผมบอกไอ้ทีน มันก็หันมาผมจากกระจกมองหลัง

“ออกรถซิไอ้ทีน!! หรือว่ามึงจะรอตีนกูก่อน ไอ้สนทีน! “ผมรีบด่าเพื่อนผมพร้อมกับเปลี่ยนชื่อให้เสร็จสรรพ นั่นแหละรถที่ผมนั่งถึงได้แล่นออกไปอย่างรวดเร็ว ผมค่อยๆยกศีรษะนั้นขึ้นมาวางพาดไว้ที่ตักของผม เด็กน้อยค่อยพลิกตัวเองมานอนตะแคงขดตัวงอ เหมือนจะหนาว ผมรีบถอดเสื้อยีนมาคลุมให้ทันที ท่ามกลางสายตาไอ้ทีน

“มึงอย่าบอกนะว่าติดใจน้องเขานะ” ไอ้ทีนพูดมันเหลือบมองผมผ่านกระจกมองหลัง ผมรีบชูนิ้วกลางให้มันทันที บังอาจมาแซวบอสอย่างผม

“หุบปาก!” ผมพูดและมันก็หันไปทำหน้าที่คนขับ

“พ่อครับ แม่ครับ ผมอยากไปหาพ่อกับแม่ “เสียงที่สั่นเครือนั้น

   ทำให้ผมต้องกุมขมับ นี้ผมทำอะไรลงไปว่ะเนี่ยะ!  ผมกอดอกมองคนที่ผมให้หนุนตักอยู่ จนถึงคอนโดหรูที่พ่อผมเป็นเจ้าของ ผมมีห้องพักและมีชั้นที่เป็นออฟฟิศสำหรับทำงาน มีห้องพักที่พวกเพื่อนๆผมจะมานอนพักได้หากต้องเลิกดึกมาก ส่วนใหญ่เกือบสว่างคาตาซะมากกว่า

“นั้นไงมาแล้ว” ทันทีที่รถของผมเข้ามาจอด ผมก็รีบลงมาจากรถ พวกไอ้เปรมดิ์มันน่าจะมาถึงกันได้สักพักหนึ่งแล้ว มันก็เดินตรงมาหาผมทันที

“ไปไหนมามึง”

“กูกลับไปรับเขา กูทิ้งเขาไม่ได้” ผมพูด ไอ้เปรมดิ์มันยกมือขึ้นเหนือหัว

“ไอ้เชี่ย คุกด้วยไหมมึง ที่จะตามมาติดๆ” ไอ้เปรมดิ์พูด

“เอาไว้ก่อนเรื่องนั้น…. ค่อยคิดกัน” ผมพูดและอุ้มร่างนั้นออกมา

“แล้วนี่จะเอาไปไว้ไหนวะ” ไอ้กอล์ฟมันถามผม

“ไปบนห้องกู” ผมพูดและเดินแทรกพวกมันออก อย่างที่ผมบอกไม่เคยมีใครได้สิทธิ์นั้น พวกมันก็ยืนอ้าปากค้างกันเป็นแถว

   ผมรีบเดินเข้าไปในลิฟต์กดไปยังชั้นที่ผมพักอยู่ ชั้นที่ สิบสอง ส่วนออฟฟิศจะอยู่ชั้นที่แปด ชั้นนั้นจะเป็นออฟฟิศและห้องพักของผมทั้งชั้นของผมทั้งชั้น มีห้องทำงานสองห้องใหญ่เชื่องต่อกันและห้องพักอื่นสำหรับพวกเพื่อนผมพักกัน งานผมบางที่ก็ต้องทำกันตอนกลางคืน ต้องแก้โปรแกรมกัน ยันสว่างคาตาก็มี แต่ว่าห้องพักของผมไม่มีใครได้สิทธิ์ขึ้นไปนอน แม้กระทั่งปริม ถ้าเธอมาผมเพื่อบำเรอความสุขผมก็จะจัดห้องที่อยู่ชั้นเดียวกับเพื่อนผมนี้แหละ เธอไม่ใช่คนที่ผมสำคัญสำหรับผม

“ตื้ด ตื้ด ตื้ด ตื้ด “ห้องพักผมใส่รหัสล็อก มีแค่เพื่อนผมเท่านั้นที่รู้ ผมก็ค่อยๆ ว่างร่างนั้นลงบนเตียงนอน ห้องนี้มีห้องนอนแค่ห้องเดียว มีโซนสำหรับยิมเล็กๆ ห้องครัวที่ไม่เคยทำอาหารเลยสักครั้ง เพราะว่าส่วนใหญ่ทานกับเพื่อนๆ ผมที่ชั้นล่าง และมีสาวๆ แฟนพวกเพื่อนผมมาทำให้ทานกัน

“ฟุ๊บ” ผมวางร่างนั้นลงที่เตียงนอนอย่างเบามือที่สุด สังเกตจากลำคอที่ตอนแรกมันแดงจนน่ากลัวตอนนี้กลับมาเป็นสีขาวอมชมพูเหมือนเดิม
“จะว่าไปนายนี้น่ารักดีน่ะ ไม่แปลกใจถ้าคุณปฐวีร์จะชอบนาย ต่อให้เป็นผู้ชายก็เถอะ “ผมพูดกับคนที่หลับสนิทด้วยฤทธิ์ของยาฉีดที่เขาได้รับเพราะว่าแพ้อาหาร

Rrrr โทรศัพท์ผมดังขึ้น เบอร์ของปริม ผมกดวางสายทันที

Rrrr เธอยังคงพยายามโทรหาผมอีกครั้ง ผมก็กดตัดสายและปิดเครื่อง

   ผมเดินไปปรับแอร์คอนดิชั่นเนอร์ไม่ให้เย็นจนเกินไป ผมเดินออกจากห้องเพื่อจะลงไปดูว่าพวกนั้นเริ่มแก้งานให้ผมหรือยัง ผมไม่ลืมใส่รหัสล๊อกประตู ยังไงก็ยังไม่ไว้ใจที่จะปล่อยให้เขาออกไป ผมเองก็โดนคาดหัวเอาไว้แล้วว่า ถ้าทำผิดอีกผมก็โดนโทษหนักเหมือนกัน แต่ที่แย่ไปกว่านั้น ปริมคงไม่เอานายนี้ไว้แน่ๆ ดูท่าปริมจะไม่ยอมเลิกด้วยซ้ำ ผมรู้จักผู้หญิงคนนี้ดี
“เป็นไงว่ะมึง” ไอ้เปรมดิ์ ถามผมทันทีที่ผมเดินกลับเข้ามาในออฟฟิศ

“เฮีย หวัดดีครับ” ไอ้ปอม เป็นรุ่นน้องมหาวิทยาลัยเดียวกันกับพวกผมที่จะจบปีหน้า มันก็จะมาช่วยงานผมเพื่อหาประสบการณ์แต่ถ้าจบแล้วมันอยากทำกับผม ผมก็ยินดี รุ่นน้องแต่ละคนก็จะเรียกผมเฮียกันทั้งนั้น ถึงแม้ว่าพวกผมจะจบกันมาหลายปีแล้วก็ตาม แต่ที่รุ่นน้องตามติดพวกผมก็เพราะว่าผมคือพี่ว๊าก และเพื่อนๆ ผมก็ทีมพี่ว๊าก เมื่อก่อนยังใช้ระบบโซตัสกันอยู่

“เฮีย ผมพาเพื่อนผมมาลองงานด้วย ที่ผมบอกเฮียไปวันก่อนนะ มันชื่อไอ้เฟย์” ไอ้ปอมมันบอกผม ผมหันไปมอง หนุ่มหน้าตาออกขาวตี๋ ยกมือไหว้ผม ผมพยักหน้า

“แก้ถึงไหนแล้ววะ” ผมถามทุกคน

“แม้ถามว่าแก้ถึงไหน ใกล้เสร็จแล้วแหละครับ ไอ้บอสครับ” ไอ้เปรมดิ์มันพูดและยักคิ้วให้ผมไอ้กอล์ฟอีกคน

“และนี่หายไปนานอย่าบอกนะว่าไปจัดน้องเขามาอีกนะครับ “ไอ้กอล์ฟ มันถามผม ผมหันไปยกนิ้วกลางให้

“น้องเขายังหลับอยู่ไอ้เชี่ย!” ผมพูดและเดินตรงเข้าไปในห้องทำงานของผม ผมเป็นบอสพวกมันอีกที

“เฮีย พี่ปริมโทรเข้าออฟฟิศอ่ะ เขาบอกให้เฮียโทรกลับหาเขาด่วนไม่อย่างนั้นเขาจะมาหาเฮียที่นี้น่ะ” ผมก็ต้องยกมือขึ้นกุมขมับ จะอะไรหนักหนาว่ะ

“เออ เดี๋ยวกูโทรเอง” ผมพูดและนั่งเปิดเช็กอิเมล ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ในห้องมากดโทรออกหาปริมเพราะผมไม่อยากให้เธอมาวุ่นวายกับผมที่นี่เท่าไหร่ และนี่ถ้ารู้ว่าผมพาเด็กคนนั้นมาอยู่ที่นี้ผมว่าคงได้ปรี้ดแตกตามประสาผู้หญิงที่ไม่สนโลกอย่างปริมแน่นอน ปริมนะแก่กว่าผมสองปี

//ว่าไงครับพี่ปริม//
//ทำไมตั้นไม่รับสายปริมคะ//
//ผมว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะ พี่ปริม //
//แล้วนี่เอาไอ้เด็กบ้านั้นไปไว้ที่ไหนตั้น ตกลงใครเป็นคนทำ!!//
//ถามผมทำไมครับพี่ปริม แค่ผมทำกับเขาขนาดนี่พี่ยังไม่พออีกเหรอ พี่ปริม //
// ก็ดันมายุ่งกับของ ของปริมนี่ค่ะ แต่อย่าให้ปริมรู้นะว่ามันมายุ่งกับตั้นอีกคน ปริมเล่นหนักแน่//
//นี่คุณปริม ผมว่าเราคุยกันตั้งแต่ก่อนที่ผมกับคุณจะมีอะไรกันแล้วนะ ว่าเราจะไม่มีพันธะต่อกัน ดังนั้น คุณเลิกมาทำตัวแบบนี้กับผม อย่าให้ผมต้องเหลืออด ต่อให้พ่อคุณเป็นผู้มีอิทธิพลแค่ไหน แต่ถ้าคุณทำให้ผมเดือดขึ้นมาเมื่อไหร่ คุณรู้เห็นมุมมืดของผมแน่นอน ดังนั้นอย่าลองของ//

   ผมพูดจบก็รีบกดวางสายไปทันที ผมเงยหน้าขึ้นมาก็เจอไอ้เปรมดิ์ มันยืนพิงประตูอยู่มันคงได้ยินการสนทนาของผมกับพี่ปริม พวกผมเรียกพี่ปริมว่าเจ้กันหมด แม้กระทั่งผมเอง

"ฟู่!" ผมพ่นลมหายใจออกมายาวพร้อมกับเอามือจับขอบโต๊ะทำงานในออฟฟิศของผม

“เจ้แกไม่ยอมปล่อยมึงใช่ไหมว่ะ ไอ้ตั้น”

“กูแม่งไม่น่าไปเล่นกับคนอย่างพี่ปริมเลยว่ะ น่าเบื่อฉิบหาย” ผมพูด

“กูจะกลับแล้ว พรุ่งนี้ม๊ากับอาม๊าจะชวนกูไปไหว้อากงว่ะ “ไอ้เปรมดิ์มันพูด ผมยักไหล่

“กูออกไปดูเอง ใครอยู่ต่อมั้งว่ะ”

“ไอ้ทีนมันกลับไปแล้วแฟนมันมารออยู่ห้องพักมันโน้น ไอ้ปอมมันก็รีบกลับแล้วเพราะว่ามันมีสอบพรุ่งนี้”

“ตอนนี้เหลือไอ้กอล์ฟกับไอ้เฟย์ ไอ้เด็กใหม่ที่ช่วยทำงานวันนี้ว่ะ “ไอ้เปรมดิ์พูดผมพยักหน้าเบาๆ ก่อนละจะลุกขึ้นไป ผมเดินออกมาเห็นไอ้กอล์ฟมันกำลังเข้าไปแก้ไข ข้อมูลในระบบอยู่

“ถ้าอย่างนั้นมึงก็กลับเถอะว่ะ ขับรถดีดีนะมึง ถึงแล้วส่งข้อความหรือโทรบอกกูด้วยว่ะ เป็นห่วง” ผมบอกไอ้เปรมดิ์ มันก็เอามือแตะที่ไหล่ผมเบาๆ ก่อนจะเดินออกไป

“แก้ข้อมูลเสร็จมึงก็ไปนอนกันเถอะว่ะไอ้กอล์ฟ แล้วไอ้น้องคนนี้มันนอนที่ไหนวะ มันดึกแล้ว” ผมออกมายืนมองไอ้กอล์ฟที่กำลังแก้ไขและสอนงานน้องมันไปด้วย

“ให้มันนอนห้องพักกูก็ได้ว่ะเพราะว่าไอ้นี่บ้านมันอยู่ไกล” ไอ้กอล์ฟมันพูดผมพยักหน้า

“ถ้าอย่างนั้นกูขึ้นไปทำธุระก่อนนะโว้ย เดี๋ยวลงมา” ผมบอกพวกมันก่อนจะรีบเดินขึ้นไปที่ห้องพักของผม ผมเดินเข้าไปก็ยังเห็นคนตัวเล็กนอนขด สงสัยจะหนาว แต่พอผมคล้ำตัว ตัวร้อนเหมือนกันมีไข้ ผมหันไปปิดแอร์ก่อนเพื่อจะได้เช็ดตัวลดไข้ให้ เกิดมาก็ไม่เคยทำให้ใคร ผมก็ต้องเอามือถือมา ก็คงต้องพึ่งอากู๋ กูเกิลแล้วแหละครับ

   ผมจัดการทำตามที่อากู๋บอกทุกอย่างว่าเตรียมอะไรบ้าง มีผ้าขนหนูผืนเล็ก มีกะละมังใส่น้ำอุณหภูมิห้องไม่ร้อนหรือเย็นจนเกินไป แอร์ก็ปิดไปแล้ว และจัดการถอนเสื้อผ้าน้องเขาออก ผมเปิดไฟในห้องนอน มันทำให้เห็นผิวสวยๆ ของเด็กที่นอนอยู่บนที่นอน ผมยอมรับว่าตอนที่ทำที่โกดังไฟมันไม่สว่างเท่านี้ แต่ตอนนี้ยิ่งเห็นยิ่ง….ตุงขึ้นมาทันที ผมก็จัดการเช็ดตัวทุกซอกทุกมุม ดูตามยูทูปไปด้วย และหยิบเอาชุดนอนแบบสบายๆ มาให้ใส่ไปก่อน มันหลวมหน่อยๆ

TBC..

หัวข้อ: Re: ไม่ตั้งใจแต่ผมดันได้รัก EP.3 ผมทิ้งเขาไว้ไม่ได้
เริ่มหัวข้อโดย: กฤตย ที่ 10-11-2020 20:28:01
 :-[ :o8: :o8: :o8:
1. อุบัติ (เหตุ) จนได้รัก
หัวข้อ: Re: ไม่ตั้งใจแต่ผมดันได้รัก EP.3 ผมทิ้งเขาไว้ไม่ได้
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 10-11-2020 21:20:20
:-[ :o8: :o8: :o8:
1. อุบัติ (เหตุ) จนได้รัก

ที่จริงอันนี้เป็นชื่อแรกเลยที่เราคิด แอบชอบตรงลูกเล่นมีวงเล็บ(เหตุ)  เข้ามาด้วย ขอบคุณน่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก EP.3 ผมทิ้งเขาไว้ไม่ได้ (แจ้งชื่อใหม่)
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 11-11-2020 07:19:40
เฮียตั้น ดูแลน้องเมย์ด้วยน่ะ
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก EP.4 ในฐานะสามีผมเหรอ
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 11-11-2020 11:55:25
   EP.4 ในฐานะสามีผมเหรอ (รีไรท์)

   Part's เมธานินท์ ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นอีกครั้ง ภาพสุดท้ายผมเห็นผู้ชายคนหนึ่งเดินกิ่งวิ่งมาหาผมและนั้นก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย จนกระทั่งตอนนี้ ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้น ผมหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ตอนไหน และตอนนี้ผมอยู่ที่ไหนกัน ผมรู้แค่ว่าห้องสี่เหลี่ยมๆ ผมค่อยๆ ดันตัวเองขึ้นนั่งและมองไปรอบๆ ห้อง ผมก้มลงมองเสื้อผ้าที่ผมสวมใส่ มันดูหลวมๆ แต่ไม่ได้หลวมโคล้งซะทีเดียว ผมพยายามควานหาโทรศัพท์ผมแต่ก็หาไม่เจอ ผมค่อยๆ ลุกขึ้นแต่ว่าความรู้สึกมันยังโคลงเคลงอยู่เลย

“หมับ” มีคนมารับผมไว้จากด้านหลัง

“ตื่นแล้วเหรอ” เสียงทุ้มๆ นั่นผมจำได้ดี แต่ว่าใบหน้ามันไม่ใช่อย่างที่ผมคิด เขาเรียกได้ว่าหล่อแต่ว่าเขาข่มขืนผมเมื่อวานซืน
 
“ผลัก!” ผมหันไปผลักเขาออกไปไม่ให้แตะต้องตัวผม

“อะไรกัน อุตส่าห์วิ่งเข้ามารับเลยน่ะ ไม่อย่างนั้น ล้มหัวฟาดพื้นไปแล้ว “คนที่โดนผมผลักออก ยืนมองผม เขาสวมแค่เสื้อยืดและกางเกงขาสั้น

“พากูมาที่นี่ทำไม” ผมถามคนตรงหน้า

“ก็เมื่อวาน แพ้อาหารทะเลและพาไปโรงพยาบาลมาหมอฉีดยาให้ ดูท่าจะง่วงมากเลยไม่ได้ถามว่าบ้านอยู่ไหน แล้วพี่ก็พามา…ที่นี่….” คนตรงหน้าตอบผม ผมกวาดสายตามองไปรอบๆ

“เรือนหอ” ยังมีหน้ามาบอกผมว่านี้คือเรือนหอเหรอ คนตรงหน้าผมไม่พูดเปล่าเขาค่อยๆ ก้าวเท้าเข้ามาใกล้ผมแต่ผมถอย ผมหันไปมองซ้ายมองขวา หาตัวช่วยก็เห็นแต่หมอน ผมก็หยิบขึ้นมา ถ้าเข้ามาจะฟาดด้วยหมอน

“เฮ้อ!!”

“นี้เรียนวิชาป้องกันตัวมาจากไหน หมอนมันจะช่วยได้เหรอ “คนตรงหน้าถามผม

“หมับ” คนตรงหน้าคว้าข้อมือผมและหยิบเอาหมอนที่มือผมออกไป

“ออกไปหาอะไรกินก่อนจะได้กินยา ที่หมอเขาให้มาเมื่อวานน่ะ ยังต้องทานต่อน่ะ” เขาหันมาคว้าข้อมือผม แต่ผมขืนตัวไม่ยอมไป

“ถ้าดื้อน่ะ พี่จะอุ้มออกไปเลยหรือจะให้อุ้ม” คนตัวโตหันมากอดอกมองผม ผมก็หันหลังหนี คือทำไมต้องยอม

“หมับ” คนตรงหน้าผมก็ช้อนตัวผมขึ้นลอยละลิ่วไปตามแรงคนอุ้ม

“ปล่อย! ปล่อย! ปล่อย! ไม่ไป! วางลงเดี๋ยวนี้!” ผมพูดและพยายามขืนตัวเอง แต่ว่าตัวผมบอบบางเกินไป คนร่างใหญ่อุ้มผมออกมาด้านนอกและวางผมลงบนเก้าอี้

“ทานซะข้าวต้มหมู” เขาดันชามข้าวต้มส่งมาให้ผม

“อ้าว! หรือจะให้ป้อนด้วยละครับ คุณ…”

“หึ?”

“เมีย!” ผมก็ต้องรีบคว้าชามดึงกลับมาและหยิบช้อนมาเขี่ยๆ

“กินซะจะได้กินยา ยังมีไข้อยู่ไหมเนี่ยะ” จู่ๆ เขาก็เอาหลังมือมาอังที่หน้าผากผม ผมก็ต้องคว้าเอาไว้แต่ว่ามันช้าไป หลังมือเขาถึงหน้าผากผมแล้ว

“เมื่อคืนตัวร้อน พี่เลยเช็ดตัวให้” คนตรงหน้าบอกผม ว่าเขาเช็ดตัวให้ผม

“เช็ดยังไงอ่ะ” ผมถาม

“ต้องบอกละเอียดไหม…" พี่เขาพูดและหรี่ตาลงข้างหนึ่งทำท่าคิด " เริ่มจากจับแก้ผ้าก่อน” ผมสะบัดหน้าไปมอง กัดปากตัวเองด้วยความโมโห

“และ…. ใช้ผ้าชุบน้ำ บิดหมาดๆ “

“และค่อยๆ เช็ด ไล่จากลำคอลงมา จนถึง….” ผมดูจากการบรรยายจนแทบจะเห็นภาพ แถมสายตาที่บ่งบอกว่าเขาลูบคล้ำผมไปถึงไหน ไหน…

“พอแล้ว!” ผมรีบร้องห้ามและก้มหน้าก้มตาทานข้าวต้มต่อ

“อยู่แต่ในห้องนี่น่ะ อย่าไปไหน”

“ทำไมผมจะกลับ….”

“ไม่ให้กลับอยู่นี่”

“ผมไม่อยู่!”

“อยากออกไปให้ ชะนีคู่หมั้น ผู้ชายที่เราไปยุ่งด้วยมันเล่นเอาหรือไง และคงจะยิ่งกว่าที่พี่ทำ ดังนั้นจงอยู่แต่ในนี้ นี้คือคำสั่ง “หน้าตาที่ดูจริงจังของเขา

“แต่ผมต้องทำงาน”

“ก็ไม่ต้องทำ พี่เลี้ยงได้ พี่โทรไปลากออกให้แล้ว บอกฝ่ายบุคคลไปแล้วว่าลาออกมาอยู่กับแฟน” พี่เขาบอกผม

“เห้ย!! “ผมหันมากำหมัดแต่ว่าจะต่อยหรือจะทุบมันดีละผม ตัวมันโตกว่าผมอีก ทำไปมันก็ไม่เจ็บ ผมซิจะเจ็บมือเปล่าๆ

“หึ หึ” คนที่ยืนตรงหน้าหัวเราะชอบใจอยู่ในลำคอ

“แล้วเป็นอะไรกันละถึงจะต้องมาเลี้ยงดู”

“เป็นผัว พอใจยัง” หน้าผมรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมากะทันหัน ที่ได้ยินว่าเขาเป็นอะไรกับผม

“ทำตามที่พี่บอกและอย่าดื้อ …. กินข้าวและกินยาซะ ถ้าไม่ง่วง ก็ดูหนังดูทีวีไปแล้วกัน อินเทอร์เน็ตใช้ได้ตามสบาย แต่อย่าได้คิดหนีเพราะว่าถ้านายหนีออกไป พี่คงจะช่วยนายไม่ได้ พี่ปริมเขาไม่ปล่อยนายไว้ พี่รู้จักพี่ปริมดี” ผมก็ต้องผงะ คนที่ชื่อปริม คู่หมั้นพี่ปฐวีย์อย่างนั้นหรือ

“ตอนเที่ยงจะขึ้นมาทานข้าวด้วย จะอาบน้ำก็ได้น่ะ เสื้อผ้าในตู้มีตัวใหม่ๆ เอามาใส่ได้ “พี่เขาพูดและเดินออกไปผมได้ยินเสียงเหมือนกดรหัสอะไรสักอย่างที่ประตู จะว่าไป ห้องพักพี่เขานี้หรูมาก เรียกได้ว่าสมาร์ตรูมก็ว่าได้ ผมเห็นมีรูปที่แขวนเอาไว้เป็นรูปเขาสวมเสื้อครุยรับปริญญาด้วยกับเพื่อนๆ แต่ไม่มีกับครอบครัว ในห้องนี้มีแต่รูปพี่เขากับเพื่อนๆ แต่ไม่มีรูปคู่กับแฟน แล้วผมจะไปสอดส่องเรื่องของเขาทำไม ไอ้คนที่พรากความบริสุทธิ์ของผมไป ทั้งที่ยังไม่ได้บอกว่าจะให้เป็นแฟน แต่มันบอกอยู่นะว่ามันเป็นผัวอ่ะ ผมส่ายหัวตัวเองไล่สะบัด

   Part's รชานนท์ ผมเดินลงมาที่ออฟฟิศ วันนี้เป็นครั้งแรกที่ผมทำข้าวต้มหมูสับให้คนอื่นทาน แต่ก็ไม่ได้ถามนะว่าอร่อยไหม สูตรก็ถามอากู๋มาอีกทีเช่นกัน เมื่อผมแก้งานจนเกือบสว่างคาตา มีแอบงีบไปสองชั่วโมง ผมแอบนอนที่โซฟา ไม่กล้าเข้าไปนอนในห้องนอนกับน้อง แต่ก็เข้าไปเช็กดูว่ามีไข้อีกไหมแค่นั้น จะว่าไป ตัวก็นุ่มนิ่มดีจังตอนที่ผมอุ้มเขา

“สวัสดีครับเฮีย” เด็กที่มาทำงานให้ผมกัน ทยอยเข้ามานั่งแล้ว ผมยกมือรับไหว้ ผมเห็นพวกเพื่อนผมมากันพร้อมหน้า แต่งตัวเสื้อเชิ้ตผูกเนกไทกัน วันนี้จะเอาระบบที่ผมแก้ไขให้ไปลงให้ลูกค้ากัน ปกติผมไปเองแต่วันนี้ให้พวกมันไปแทน

“พร้อมกันยังพวกมึง” ผมถามพวกเพื่อนๆ ผมยกเว้นไอ้เปรมดิ์วันนี้มันขอเบี้ยว ผมเห็นพวกมันหันมามองหน้าพวกผมเหมือนมีเรื่องกันเลย
“มีอะไรวะ” ผมถาม

“ไอ้อาร์มบอกว่าไอ้ภาคิน มันกลับมาและมันก็พยายามโทรหามึงแต่มึงไม่รับสายมัน มันอยู่ใกล้ไอ้อาร์มที่สุดมันเลยไปหาไอ้อาร์มก่อน “ไอ้กอล์ฟพูดผมก็มองหน้าและพยักหน้าว่าแล้วไง

“ไอ้อาร์มเสือกบอกว่ามึงไปเอาผู้ชายที่พี่ปริมเขาบอกว่าจะแย่งสามีแห่งชาติเขานะ มาทำเมีย!! “ผมก็หันมามองไอ้อาร์ม มันก็พยักหน้า

“กูขอโทษว่ะ กูหลุดปากไปแต่กูคิดว่ามึงเอาๆและจบเลย แต่ไม่คิดว่าพวกมึงจะมีเรื่องกันยาวขนาดพาน้องเขามาด้วยว่ะ” ไอ้อาร์มพูด

“แล้วมันเป็นไง” ผมถามไอ้อาร์ม

“ไม่รู้แม่งไม่พูดสักคำ ขึ้นรถได้ มันก็เบิร์นซะถนนหน้าอพาร์ทเม้นต์กูเหม็นคุ้งไปด้วยกลิ่นยางไหม้”

“และมึงคิดว่ายังไงละว่ะไอ้ตั้น!” ไอ้อาร์มพูด ผมก็ต้องเอามือกุมขมับ ผมเจอพี่ปริมก็แย่แล้ว นี้ยังต้องมาเจอไอ้ภาคินเพื่อนซี้ผมอีกเหรอว่ะ ไอ้ภาคินมันชอบผมแต่ผมไม่ได้ชอบมันและตอนนั้น ผมยังสนุกกับการเอาผู้หญิงอยู่ แต่มันก็ไม่เคยว่าอะไรผมเลยนะแม้กระทั่งพี่ปริมเองที่มานอนกับผมที่นี่แต่นี่มันกลับหัวเสียใส่ผมเพราะว่าผมไปเอาเด็กที่ปริมให้ผมช่วย

“เออๆ กูจัดการเองว่ะ พวกมึงไปกันได้แล้วและ ตรวจเช็กระบบให้ชัวร์เลยนะมึง เขาจะเปิดทำการพรุ่งนี้วันแรก ทุกอย่างต้องพร้อมนะโว้ย!”

“และถ้าเสร็จจะพาไปเลี้ยงเหล้า” ผมพูดแม้พอเลี้ยงเหล้านี้หันมาทำนิ้วแร๊ฟโยะกันเป็นแถว

“เฮีย พวกผมด้วยไหมอ่ะ” ไอ้พวกเด็กของพวกผม

“เออ!!”

“รักเฮีย!!” ไอ้พวกนี้

ห้องทำงานของพวกผมแน่นอนก็ต้องมีคอมพิวเตอร์ ยี่ห้อแบรนด์เนมที่มีความเร็วสูง ราคาแพงแต่ได้ผลงานที่คุ้มค่าผมก็เลือกที่จะลงทุน ผมเดินหันหลังเข้าไปด้านในออฟฟิศ เพื่อจัดการคีย์ข้อมูลวางบิลให้เรียบร้อย ผมก็ต้องทำเงินเดือนโดยเฉพาะไอ้หกคนนี้มันได้เงินเดือนประจำและเด็กๆ คนอื่นจะได้เป็นชั่วโมงพาร์ทไทม์ ผมเหลือบมองเวลาเกือบจะสิบเอ็ดโมงเช้าแล้ว ตอนนี้ก็เริ่มจะเบลอๆแล้ว สงสัยว่าผมจะง่วง

“เออ เฮียขอขึ้นไปนอนก่อนว่ะ ไม่ไหวแล้วว่ะ เบลอไปหมดแล้ว” ผมพูด

“แม้ๆ เฮีย มีเด็กนอนอยู่บนห้อง ง่วงทันทีเลยนะเฮีย”

“เฮ้ย! พวกมึงรู้ได้ไงว่ะ” ผมหันมาถาม

“ก็พวกพี่กอล์ฟเขาพูดกันว่าเฮียมีเมียเป็นตัวตนแล้ว” ผมกำลังจะเดินออก พอได้ยินแบบนี้ หันไปหยิบเอาผลไม้ที่ซื้อมาวางไว้ไปปาใส่พวกที่แซวผมทันที ไม่ได้โกรธแต่เขิน

ภาคิน//กูเข้าออฟฟิศบ่าย อย่าไปไหนนะ กูมีเรื่องจะคุยด้วย// ข้อความเข้ามือถือผม คุสาดมาทันที ผมก็รีบสาวเท้าเดินเข้าไปในลิฟต์ และตรงไปที่ห้องพักของผม ผมขยับประตู ประตูยังล๊อกอยู่แน่ละผมใช้รหัสล๊อก

“ตื้ด ตื้ด ตื้ด ตื้ด “ผมเปิดประตูเข้าไป ผมเหลือบไปมองที่โต๊ะทานข้าว ถูกเก็บเรียบร้อย ทุกอย่างที่อยู่บนเตาก็ถูกเก็บล้างคว่ำเอาไว้อย่างเป็นระเบียบ ผมเดินตรงเข้าไปในห้องนอนทันที ที่นอนถูกเก็บไว้อย่างเรียบร้อยและมันก็ว่างเปล่า

“ไปไหนแล้ววะ หรือว่า เขา ตัดสินใจ ปืนลงไปว่ะ ปืนจากหน้าต่างหนีเหรอว่ะ เฮ้ย! นี่มันชั้นที่ยี่สิบสองเลยนะ “ผมเองก็วิ่งไป ที่ตรงมุมรับแขก ก็ไม่มี รีบเปิดหน้าต่างกระจกออกไปก็ไม่มี ผมคิดว่าลองเดินไปที่ห้องฟิตเน็ต สภาพแบบนั้นเขาจะมีอารมณ์ไปฟิตหุ่นเหรอว่ะไอ้ตั้น ผมเถียงกับตัวเอง ระหว่างที่ผมกำลังจะเดินไปที่เครื่องออกกำลังกายผมก็ต้องผ่านมุม ที่มีตู้หนังสือ มีโซฟา เห็นผมแบบนี้ผมชอบอ่านหนังสือ ผมต้องศึกษาทุกอย่าง แม้กระทั่งกฎหมาย และสิ่งที่ทำให้ผมต้องอมยิ้ม คนตัวเล็กมานอนอ่านหนังสือจนหลับไป เขาเอาหมอนผ้าห่มมาปูนอนกับพื้น

“ตกใจหมดเลยนึกว่าหายไปไหน “ผมพูดกับตัวเอง ก่อนจะเดินไป นั่งข้างๆ นี่แสดงว่าอาบน้ำแล้วแน่ๆ เขาสวมเสื้อกล้ามทีมบาสเกตบอลของผม ผมเป็นตัวแทนนักบาสเกตบอลของคณะวิศวคอมพิวเตอร์ตอนเรียนปีหนึ่งดังนั้นคงมีแค่ชุดนี่แหละที่ตัวเล็กที่สุด ผมอยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน จะว่าไปก็ง่วงเหมือนกันแต่ไม่อยากเข้าไปนอนในห้อง ขอนอนกอดตัวเล็กมันตรงนี้แหละ ผมค่อยสอดแขนเข้าไปโอบคนที่หลับสนิทมาหนุนที่หัวไหล่ผม กลิ่นยาสระผมมันโชยมาแตะจมูก เส้นผมเล็กและนุ่ม

TBC…

หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก EP.4 เหมือนงานจะเข้า
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 11-11-2020 13:26:21
 :-[ :impress2:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก EP.4 เหมือนงานจะเข้า
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 11-11-2020 15:59:28
ใครคือภาคิน!!! :hao7:
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก EP.5 ผมเลือกที่ไม่ปล่อยเขาไป (รีไรท์)
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 11-11-2020 21:50:24
EP.5 ผมเลือกที่ไม่ปล่อยเขาไป(รีไรท์)


   Part's เมธานินท์ ตอนแรกก็ว่าจะหนีแต่ประตูมันเปิดไม่ออก ใส่กุญแจเอาไว้หรือไงก็ไม่รู้ ไหนไหนผมก็ออกไปไหนไม่ได้และผมเองก็ขยะแขยงตัวเองตั้งแต่เมื่อวานก็เลยอาบน้ำและเอาเสื้อผ้าไอ้คนนั้นมาใส่ ลืมไปมันชื่อไอ้ตั้น และพอผมเดินสำรวจไปรอบๆ ก็ไปเจอมุมที่มีแต่หนังสือเอาไว้อ่าน ไม่อยากจะเชื่อว่านายนั้น ชอบอ่านหนังสือแบบนี้ด้วย หนังสือทุกเล่มเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดมันเก่งภาษาอังกฤษด้วยเหรอและดีที่ผมเอกภาษาอังกฤษตอนเด็กๆ พ่อแม่ผมจะพูดภาษาอังกฤษกันเฉพาะตอนอยู่บ้านแต่พอออกนอกบ้านก็ใช้ภาษาไทยปกติ ตอนแรกคิดว่าน่าจะเป็นพวกการ์ตูนหรือไม่ก็พวกหนังสือโป้ซะมากกว่า แต่เปล่า มันมีหนังสือกฎหมาย หนังสือเกี่ยวกับธุรกิจ บัญชีขั้นต้น ขั้นปลายเยอะแยะมากมาย ผมก็เอามาอ่าน อ่านไปอ่านมาหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ แต่ว่าตอนนี้รู้สึกอึดอัด เหมือนจะหายใจไม่ออก หรือว่าผม แพ้อาหารทะเลอีกแล้ว แต่ไม่ได้ทานจะแพ้ได้ไง

“อึม” ผมลืมตาโพลงขึ้น ผมถึงได้รู้ว่าที่ผมอึดอัดนะไม่ใช่ว่าผมแพ้อะไร ก็ดันมีคนมากอดรัดผมเอาไว้

“เอ้ย!! “ผมก็พยายามดันให้ออก แต่ไอ้คนตัวโตมันตัวหนักมาก ดันเท่าไหร่ก็ไม่ออก และยังกอดกระชับตัวผมเข้าไปอีกจนผมต้องยกแขนขึ้นตั้งฉากกั้นเอาไว้ ไม่แค่นั้นไอ้คนตัวโตยังทำท่าจะไซ้ซอกคอผมด้วย ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือละเมอกันแน่ คงต้องเป็นวิธีเดียว

“ปึ้ด!” ผมบิดเนื้อตรงหน้าอกแบนๆ ที่มีแต่กล้ามเนื้อ

“โอ๊ยย!!” คนที่ถูกบิดร้องลั่น พร้อมกับง้อตัวขึ้นนั่ง

“บิดทำไม!! เจ็บน่ะ! “ที่อย่างนี้ลุกขึ้นนั่งได้ ผมก็ถอยหลังหนี

“จะทำอะไรนะ” ผมถามสายตาก็มอง มือผมสั่น

“ก็…นอนเป็นเพื่อน”

“อย่าน่ะ อย่าเข้ามาน่ะ “ผมพูดถอยหลังหนี แต่พี่เขาก็คืบคลานเข้ามาหาผม ผมก็ยิ่งถอยหลังหนี

“อย่าถอยหลังไปเมย์!!!”

“ปึก!” ผมไม่รู้ว่าด้านหลังผมเป็นชั้นสูง แต่แผ่นหลังของผมไปชนเข้าเรียบร้อยแล้วและสิ่งที่อยู่ชั้นบนสุด กำลังจะหล่นลงมาผมไม่รู้ว่ามันคืออะไรเพราะว่าผมหลับตาปี๋

“หมับ” มีคนเข้ามากอดผม

“ปึก ปึก ปัก” เสียงของหล่นลงมากระแทกคนที่เข้ามากอดผมเอาไว้ ผมเงยหน้าขึ้นมอง พร้อมกลืนน้ำลายลงคอไป ลมหายใจคนตรงหน้ามันราดรดอยู่ที่ริมฝีปากของผมและมือผมก็กำเสื้อคนเบื่องบนเอาไว้แน่นด้วยความกลัว มีสิ่งที่ทำให้ผมหยุดชะงักจนไม่กล้าจะเอ่ยปากด่าหรือผลักเขาออกไม่ใช่แค่แววตาคู่นั้นแต่เป็นเลือดที่ไหลซึมออกมาที่ขมับของเขา เนื่องจากของแข็งที่หล่นลงมากระแทกเขาแทนผม

“ไอ้ตั้น กูมีเรื่อง…..” เสียงของใครสักคนที่เข้ามายืนอยู่ทางด้านหลัง เขายืนมองผมกับไอ้คนตัวโต

“นี่มึงทำอะไรกันนะ!!!”

“ไอ้ภาคิน มึงขึ้นมาทำไม!” ไอ้พี่ตั้นหันไปถามคนที่ยืนเอามือเท้าเอวอยู่ มองผมและพี่ตั้น แต่สายตาที่เขามองผมมันแตกต่างจากที่เขามองพี่ตั้น มันเหมือนพร้อมจะเข้ามาขย้ำผมตลอดเวลา

“เจ็บหรือเปล่าเมย์” พี่เขาถามผม ผมส่ายหัวและชี้ไปที่หัวพี่เขา มือผมก็สั่นจนพี่เขาต้องจับมันเอาไว้ ผมเองเป็นคนกลัวเลือดมากที่สุดเหมือนกัน

“ก็แค่เลือดไหลเอง” พี่ตั้นพูด แต่ไม่พูดเปล่าใช้มือแตะเลือดสีแดงสดมาชู้ให้ผมดูแบบใกล้ชิดแบบนี้ เท่านั้นแหละผมเริ่มหายใจติดขัดและทุกอย่างก็มืดไปหมด

“เมย์!!!!!!” เสียงที่ผมได้ยินก่อนจะรู้สึกหวิวๆ ร่างกายมันเบาๆ และแสงสว่างเริ่มหายไปจนมืดมิด ผมไม่รู้ว่าผมสลบไปนานแค่ไหน ผมรู้มีกลิ่นยาดมที่ตรงปลายจมูกของผมเป็นระยะ ผมค่อยลืมตาก็เห็นผู้ชายสองคน อีกคนกำลังทำแผลให้ คนที่หันหลังอยู่ คนนั้นคือพี่ตั้น

“ทำไมมึงต้องเป็นคนทำเอง”

“ทำไมว่ะ ก็พวกนั้นมันไม่ทำและกูก็รับปากพี่ปริมแล้ว”

“อีชะนีงูพิษนั้นอ่ะน่ะและมึงแน่ใจแล้วเหรอว่าจะไปจากมึงซะที”

“ก็ถ้าเขาได้แต่งงานกับหนุ่มหล่อลูกชายทายาทโรงแรมดัง”

“แล้วไม่เอาเขาไปส่งวะ เอามาทำไม”

“ทำไมวะ มันเรื่องของกูป่ะว่ะ ไอ้คิน”

“มึงอย่าบอกกูนะว่า มึงชอบเด็กนี้น่ะ”


“ถ้ากูบอกว่าใช่ละ”


“มึงลงไปดูงานข้างล่างกับพวกน้องๆ เดี๋ยวกูตามลงไป” คนที่นั่งอยู่ลุกขึ้นก่อนจะหันมาผมก็ต้องรีบหลับตา แกล้งว่ายังไม่ฟื้น ผมรู้สึกว่าเขาเดินมาใกล้ๆ กับผม

“ลงไปดิว่ะ ไอ้คิน!”

“และถ้าไม่มีเรื่องจำเป็น ไม่ต้องขึ้นมานี่มันห้องส่วนตัวของกู กูขอว่ะ”

“เด็กคนนี้สำคัญกับมึงเหรอวะ”

“ตอนนี้เขาคือคนของกูและมึงก็อย่ายุ่ง กูไม่อยากเสียเพื่อนอย่างมึง ภาคิน”

“ปึก” เสียงประตูปิดลง ผมค่อยๆ หรี่ตาขึ้นมองแต่ก็ต้องหลับตาพลึบลงอีกครั้ง เพราะว่ามีคนนั่งย่องๆ จ้องมองผมอยู่แบบประชิด

“แกล้งหลับแบบนี้ เดี๋ยวอุ้มขึ้นเตียงเลย” ผมลืมตาโพลงขึ้นและลุกพรวดขึ้นนั่งทันทีเช่นกัน

“นอกจะแพ้อาหารทะเลแล้ว นี่ยังกลัวเลือดจนเป็นลมเลยหรือไง” พี่เขาเอามือลูบหัวผมแต่ผมปัดออก

“กินอะไรหรือยัง พี่ทำให้กินไหม”

“ไม่…” ผมรีบปฏิเสธแต่ว่าท้องผมซิไม่ยอมปฏิเสธตามแถมส่งเสียงดังตอบรับทันทีว่าผมหิวข้าวแล้ว “ครื้ด!!!” เสียงท้องมันร้องดังออกมาจนน่าอายจริงๆ

“หึ หึ” พี่เขาก็ลุกขึ้น ผมก็นั่งอยู่ที่โซฟา ดูคนตัวโต ทำอะไรให้ผมทาน เขาหยิบมาจากตู้แช่ช่องฟิต เอาใส่ไมโครเวฟ ผมก็นั่งมองไปรอบๆ

“อาหารโฟรเซ่นได้นะเพราะว่าพี่ไม่ได้ซื้ออะไรใส่ตู้เย็นเอาไว้เลย มีแต่ของแช่แข็งของซีพี” พี่เขาเดินมานั่งยองๆ มองจ้องผมตอนไหนผมก็ไม่รู้ ผมหันมาก็ต้องสะดุ้งและถอยหลังออก

“กลัวพี่ขนาดนั้นเลยเหรอ” ผมหันไปปรายตามองยังมีนห้ามาถามอีกเหรอ

“คุณคิดว่าผมจะกลัวคุณไหมล่ะ สิ่งที่คุณทำกับผม” ผมถามเขากลับโดยไม่มองหน้าคนที่ถูกผมถามแต่ผมรู้ว่าเขาชะงักไปสักพักหนึ่ง

“ทานอะไรก่อนแล้วกัน” พี่พูดด้วยน้ำเสียงนิ่งและจับต้นแขนผมให้ลุกไปนั่ง ผมนั่งลงตรงข้ามกับพี่เขา พี่เขาก็ก้มหน้าก้มตาทานโดยไม่พูดอะไร ผมคิดว่าเป็นเพราะว่าที่ผมพูดไป แต่

“ทำไมคุณทำแบบนั้นกับผมล่ะ” จู่ๆ ผมก็ถามขึ้น พี่เขาเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผม แค่ผมคิดน้ำใสๆ มันไหลออกมา

“ถ้าพี่ไม่ทำ พี่ปริมเขาก็หาคนอื่นทำกับนายและคนอื่นนี้มันอาจจะไม่ใจดีเหมือนพี่กับเพื่อนๆ พี่นะ เพื่อนพี่มันทำไม่ลงแต่ถ้าพี่…. “เขาพูด

“ถึงยังไงพี่ปริมก็ไม่ปล่อยนาย” พี่เขาพูด ผมเงยหน้าขึ้นมาพี่เขา

“พี่ไม่ได้พูดให้นายมองว่าพี่คือฮีโร พี่รู้ว่ามันเลวที่พี่ทำ “พี่เขาพูดและลุกขึ้นไปหยิบขวดน้ำในตู้เย็นพร้อมกับแก้วน้ำมาวางเอาไว้ให้ ก่อนจะรินน้ำใส่แก้วเอาไว้ให้ผม พี่เขายังยืนมองผม พี่เขาเอื้อมมือมมาจะปาดน้ำตาแต่ผมเบือนหน้าหนี

“วันนี้พี่จะสั่งอาหารขึ้นมาให้นะ และวันนี้พี่ยุ่งมากเพราะว่ามีเขียนโปรแกรมคงเลิกดึกหรือไม่ก็เช้าเลย”

“นี่เบอร์ที่ห้องทำงานพี่ จะเอาอะไรโทรลงไปนะ พี่ให้เด็กซื้อมาให้” พี่เขาพูดก่อนจะเดินออกไป ผมได้แต่นั่งทานไปเงียบๆ

********

Part's รชานนท์ ผมเดินลงมาที่ห้องทำงานผมไม่อยากให้เมย์ได้ยินและจะกังวล เรื่องไอ้ภาคิน ผมยอมรับว่ามันแอบชอบผมจนกระทั่งตามไปเรียนมหาลัยเดียวกันกับผม คณะเดียวกัน เป็นพี่ว๊ากด้วยกัน ทำกิจกรรมด้วยกันจนกระทั่งเรียนจบและวันที่พวกผมเรียนจบวันนั้น เราไปเที่ยวกันเพราะว่าชีวิตหลังจากทำงานอาจจะไม่ได้เที่ยวกันบ่อยแล้ว และคืนนั้น ผมเองก็ไม่ตั้งใจ

คืนนั้นผมกับไอ้ภาคิน ทุกคนเมากันหมดแม้กระทั่งผมเอง เรียกได้ว่าเมาเหมือนหมากันเลย นอนเกลื่อนไปหมด ส่วนแฟนพวกนี้ขึ้นนอนกันหมดแล้ว ผมไม่รู้ว่าไอ้ภาคินมันเมาหรือเปล่าก็ไม่รู้ ผมนะนอนอยู่บนโซฟา มันก็มาคร่อมร่างของผม เล้าโลมผม ยิ่งผมมีแอลกอฮอล์ในร่างกายที่เกินลิมิตมันก็ยิ่งพลุ่งพล่าน ผมเลยเผลอไปมีอะไรกับภาคิน ระยะเวลามันผ่านมา 7 ปีแล้ว ไอ้ภาคินมันไปเรียนต่อเมืองนอกสองปี และหลังจากเหตุการณ์วันนั้น ผมบอกมันว่าผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับมันเกินกว่าเพื่อนจริงๆ และพอมันกลับมา ผมก็เรียนปริญญาโทNBAจบพอดี และผมเลยเปิดบริษัทกับเพื่อนๆ ทันที พวกเพื่อนผมมันก็มีประสบการณ์จากบริษัทมาแล้วด้วย มันก็ยิ่งง่ายขึ้น

“เฮียสวัสดีค่ะ” ผมหันมาเจอน้องโบว์ แฟนไอ้เปรมดิ์และเพื่อนๆ ที่มหาวิทยาลัยมานั่งอยู่ในห้อง

“สวัสดีครับ มารอเปรมดิ์เหรอครับ”

“ค่ะพี่เปรมดิ์บอกว่าจะเข้าออฟฟิศค่ะ”

“อืม” ผมพยักหน้า สาวๆ ก็ส่งยิ้มให้ผม แต่ผมเดินตรงไปที่ออฟฟิศทันที ผมรู้ว่าภาคินมันอยู่ในนั้น ผมปิดประตูห้องทันที

“มึงทำแบบนี้ได้ยังไงวะ ไอ้ตั้น”

“ถ้ามึงจะรื้อเรื่องเมื่อเจ็ดปี กูขอโทษ และวันนั้น กูไม่ได้ตั้งใจ กูเมา” ผมพูดกับมันไม่รู้ว่ารอบที่เท่าไหร่แล้ว

“แต่กูตั้งใจ” ไอ้ภาคินพูดมันมองหน้าผม “ฟู่” ผมพรั่งพรูลมหายใจออกมาจากปลายจมูดโด่งของผม

“มึงไม่คบกู กูไม่ว่าและจะไปเอาหญิงที่ไหนกูก็ไม่ว่า ทำไมนี้มึงเอาผู้ชาย เด็กคนนั้นที่ อีพี่ปริมมันบอกว่าจะแย่งผัวเขาด้วย”

“น้องเขาไม่ใช่!” ผมหันมา

“ออกรับแทนเลยเหรอ” ไอ้ภาคินมันหันมาพูดกับผม

“คิน กูไม่เคยรักมึงเกินกว่าเพื่อน!!”

“มึงเพื่อนกู เพื่อนคนแรกของกูเพื่อนคนแรกตั้งแต่กูย้ายมาจากอเมริกา แต่กูให้ได้แค่นี้จริงๆ ว่ะคิน! เพื่อนตาย! มึงเข้าใจกูไหมว่ะ”

“เด็กนั้นมีอะไรดี” ภาคินถามผม มันจ้องเข้ามาในแววตาอันคมกริบของผมเพื่อต้องการคำตอบ แต่ผมนิ่งเงียบเพราะคำตอบมันจะยิ่งเพิ่มไฟในอกมันเปล่าๆ

“ได้กูจะไปถามเด็กนั้น” มันเปลี่ยนเป็นจะขึ้นไปหาเมย์ก็ยิ่งแย่เข้าไปอีกซิทีนี่

“อย่า!!” ผมห้ามภาคิน “หมับ” ผมคว้าแขนมันและกำแน่นมาก สายตาผมจ้องมองภาคิน

“มึงจะต่อยกูใช่ไหมถ้ากูยุ่งกับเด็กนั้น”

“กูก็ไม่อยากแต่อย่ายุ่งกับเขา กูก็ต้องทำคิน เขาคือของกู!”

“ปึก” ผมดันมันไว้กับกำแพง

“ปึก” เสียงประตูเปิดเข้ามา เพื่อนผมอีกคนคือไอ้ธีม มันไปต่างประเทศกับพ่อแม่มันมา พ่อแม่เป็นเจ้าสั่ว เป็นเจ้าของร้านทองหลายสาขาและยังมีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มากมาย ตึก อาคารพาณิชย์ไม่รู้กี่ที ธีมมีพี่น้องสีคนมันเป็นคนที่สี่ แถมยังเพิ่งจะเปิดผับโคตรหรูอยู่ชั้นบนสุดของตึกถึงยี่สิบสี่ชั้น ตอนนี้มันหยุดมองผมสองคนก่อนจะรีบปิดประตูลงทันที

“เกิดเรื่องเชี่ยอะไรกันมึงสองคน” ไอ้ธีมมันถามและผมก็ปล่อยคอเสื้อไอ้ภาคิน

“ไม่มีอะไร มึงกลับมาเมื่อไหร่” ผมพูดก่อนจะถามไอ้ธีมกลับ ไอ้ธีมมองหน้าไอ้ภาคิน

“พึ่งจะมาถึงว่ะและนี่ก็ได้ยินเด็กๆ มันบอกมึงมีเรื่อง เรื่องอะไรกันวะ” ไอ้ธีมมันยืนเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงมองหน้าผม

“เฮียครับ มีอิเมลจากโรงแรมที่จะเปิดใหม่ที่ตรงอโศกครับเฮีย เขาอยากให้เฮียเข้าไปคุยเกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์กับเขาวันนี้ตอนบ่ายสามโมงครับเฮีย” น้องที่มาช่วยงานผม ผมยกนาฬิกาโรเล็กซ์รุ่นใหม่ล่าสุด เรือนนี้ที่พ่อผมซื้อให้วันเกิด ซื้อให้ก็ใส่ ผมคิดแค่นี้ ของแพง รุ่นที่นักแข่งรถชื่นชอบแต่แพงหูฉี่ ผมเหลือบมองเวลาตอนนี้บ่ายสองกว่าๆ แล้ว

“ไปคุยงานกับกู แล้วคอยคุยกัน “ผมบอกไอ้ธีม มันก็พยักหน้าผมรีบขึ้นห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที ผมหันไปเห็นเมย์นั่งอ่านหนังสือเกี่ยวกับการบริหารธุรกิจอยู่ และเขาก็ไม่ทันได้สังเกตว่าผมเข้ามาตอนไหนและรีบเปลี่ยนเสื้อผ้า

“เมย์” ผมกระซิบเขาก็สะดุ้งตกใจ

“พี่จะไปติดต่อเรื่องงานนะ พี่จะรีบกลับ”

“ครับ ถึงยังไงผมก็ออกไปไหนไม่ได้อยู่แล้ว”

“ถ้าหิวพี่ให้น้องเขาข้าวมาส่งให้นะครับ” ผมพูดบอกเมย์ เขาหันมามองหน้า

“ไม่ต้องหรอกครับ ผมเห็นในตู้เย็นพอจะมีอะไรทานได้ผมก็ทานอันนั่นแหละครับ” เขาพูดโดยไม่ได้หันมามองหน้าผม

“โอเค ถ้าอย่างนั้นพี่ไปนะครับ”

“เชิญครับ” มันสั้นและห้วนมาก ผมก็เดินออกทันที ก็แน่ละผมทำกับเขาขนาดนั้น เป็นใครก็แค้นฝังหุ่นเป็นธรรมดาผมก็เดินออกและตรงไปยังชั้นล่างสุด ผมเห็นมันยืนรอกันที่รถคันหรูนำเข้า BMW I8

“ไปรถกูว่ะ “ไอ้ธีมพูดผมพยักหน้าและเข้าไปนั่งด้านหลังไอ้ภาคินมันก็ไปนั่งข้างไอ้ธีม เพราะว่าผมต้องอ่านรายละเอียดในรถเพื่อจะได้ตอบโจทย์ลูกค้าถูก ผมเปิดดูแต่ในหัวผมกลับมีแต่ใบหน้าของเมย์ จนกระทั่งถึงตำแหน่งที่ตั้งโรงแรมที่ติดต่อให้ผมเขียนโปรแกรมและติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์พร้อมกับเขียนเว็บไซต์ให้ด้วย

//อยู่ไหนกันว่ะ// ไอ้เปรมดิ์มันโทรหาผม
//มาคุยงานว่ะ อาจจะได้ลุยงานกันคืนนี้ว่ะ มึงอยู่ป่ะ//
//เออ งั้นกูเอาแฟนไปหาอะไรใกล้ๆ กินก่อนว่ะ//
//ซื้อของไปใส่ตู้เย็นให้กูหน่อย นม น้ำผลไม้ ผลไม้อะไรก็ได้ //
//โอ๊ย!! ห่วงเมียเหรอครับมึงครับ//
// สัส!! ไอ้คินมันอยู่กับกู// อันนี้ผมพูดแบบลอดไรฟัน ที่จริงมันไม่ได้ยินหรอกแต่แค่หันมาเหล่ตามองเฉยๆ
//ฉิบหายแล้ว!! //
//แค่นี้น่ะ กูฝากดูน้องเมย์ให้ด้วยว่ะ//
//ครับบอส! นอกจากดูแลระบบคอมพิวเตอร์ งานดูแลเมียบอสก็ต้องมาเหรอครับ //ไอ้เปรมดิ์พูดผมก็รีบกดวางสายก่อนที่ไอ้คนข้างๆ ผมจะของขึ้นมากไปกว่านี้

พวกผมสามคนพากันเดินเข้าไปด้านใน โรงแรมหรูระดับห้าดาว แต่ว่ายังไม่เปิดคาดว่าน่าจะเปิดอีกสองเดือนข้างหน้า ผมสามคนยืนมอง สักพักก็เห็นผู้หญิงแต่งตัวเปรี้ยวเดินมาหาผมสามคน ชุดแซกสั้นมากและเสื้อคลุมตัวสั้นรองเท้าสนเข็มเดินมาแบบมาดมั่นมาก

“สวัสดีค่ะ ดิฉันเป็นเลขาคุณปฐวีย์ “ผมก็ต้องขมวดคิ้วชื่อคุ้นๆ น่ะ ชื่อปฐวีย์ แต่ผมไม่มายด์เพราะว่าลูกค้า

“สวัสดีครับผม คุณเลขาคนสวย อันที่จริงบริษัทผมก็รับเลขานะครับ” ไอ้คนที่ออกตัวก่อนก็มีแต่ไอ้ธีมนี้แหละ ไอ้เจ้าชู้ชนิดที่ตบตีกันมัวไปหมดคือมันเป็นไบไง มันได้ทั้งผู้หญิงและชาย น้องเขาก็ยืนมองและแอบยิ้มเอียงอาย แน่ละไอ้ธีมมันหล่อแต่งตัวเนี๊ยบตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า

“ไม่ลองมาส่งใบสมัครบริษัทพวกผมดูบ้าง ทำงานสบายดูแลเอา…. ใจใส่พี่อย่างเดียว…เรื่องอื่นพี่จัดให้หมด” ผมสองคนกับไอ้ภาคินหันมามองหน้ากันและยักไหล่พร้อมกัน ส่ายหัวเล็กน้อย

“งั้นพาผมไปเลยครับผมจะได้คุยเรื่องงานเพราะว่าผมก็จะเริ่มเขียนโปรแกรมให้เลย คืนนี้ครับ” ผมพูดตัดบทไอ้ธีมมันสะบัดหันมามองผมพร้อมกับทำนิ้วเฉือดคอให้ผมดู ผมหันไปมองหน้ามัน มันใช่เวลามาหยอดเขาไหม

“ไอ้หน้าม่อเอ๊ย!!”

“บ้านพี่อยู่หน้ามอนะครับมันเลยเรียกพี่ว่าหน้าม่อ เอ๊ย! หน้ามอ…. นิสัยจริงไม่มีนะครับ…” ไอ้ภาคินหันไปดึงเนกไทมันให้เดินออก ตามพวกผมเข้าไปและคุณเลขาก็เดินแทรกไปนำก่อนผายมือว่าไปทางไหน จนกระทั่งไปเจอ…..

“ถ้าอย่างนั้นน้องปริมก็กลับไปรอพี่ก่อนครับ”

“ทำไมพี่วีร์ต้องนัดมาคุยงานตอนบ่ายๆ แบบนี้ด้วยละคะ”

“งานต้องมาก่อนน่ะครับน้องปริม พี่ขอโทษนะครับ”

“ขอโทษนะคะท่านประธาน ตอนนี้บริษัท Friendgroup พร้อมเข้าห้องประชุมแล้วค่ะ”

“สวัสดีครับคุณปฐวีร์” ผมยกมือไหว้ และผมก็ต้องตกใจ ผู้หญิงที่หันมามองผม พี่ปริม

//ซวยฉิบหาย! // ไอ้ภาคินมันกระซิบกับผม ส่วนพี่ปริมเธอยิ้มให้ผมทันที แต่ห่างตานี้จิกไปมองภาคิน ก่อนจะเบ้ปากและมองบนใส่ ส่วนไอ้ธีมมันก็ยิ้มให้ปกติ แปลกมันไม่กล้าม่อใส่พี่ปริมเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ

“สวัสดีครับ เรียกพี่ว่าวีร์ก็ได้นะครับ เดี๋ยวผมขอตัวไปคุยธุระสักสิบนาทีนะครับ คุณเข้าไปรอในห้องประชุมเล็กกันได้เลยครับ” ผมยืนมองหล่อแบบนี้นี่เอง ดูสุภาพ สุขุมและเนียบแบบดูแพงอ่ะ ไม่แปลกใจทำไมเมย์ถึงได้ชอบ แล้วผมละลุยขนาดนี้ ดิบด้วยเถื่อนด้วย สงสัยจะสู้ไม่ไหว

“ไปเถอะว่ะ ซวยฉิบหายต้องมาเจออีชะนีนี้อีก” ไอ้ภาคินพูด

“กูเข้าห้องน้ำก่อนว่ะ” ผมพูดและเดินเลี่ยงไปเข้าห้องน้ำ ส่วนไอ้ธีมแม่งก็พยายามให้กลับไปแจกขนมจีบเลขาฯ เขาจริงๆ ผมทำธุระส่วนตัวเสร็จก็รีบออกมาแต่ต้องผงะตกใจ

“พี่ปริม” ผมเรียกพี่ปริม และมองว่านี้มันห้องน้ำชาย

“หมับ” เธอตรงเข้ามาหาผมอย่างกับอดกระหายแต่ว่าผมดันเธอออก ไม่ใช่แค่ดันผลักออกเลยดีกว่า และจัดแต่งเนกไท้ให้เข้าที

“อะไรกันตั้น”

“ผมบอกพี่แล้วไงว่า ผมไม่อยากกลับไปเล่นเกมสวาทกับพี่แล้ว พอแล้วโอเคน่ะ”

“อย่าบอกนะว่าไอ้เด็กนั้นน่ะ ตั้นเอามันไปไว้ที่ไหน นี่พี่ให้คนไปส่องที่บ้านมันมา มันไม่ได้เข้าบ้าน มันอยู่ไหน” ผมสะบัดหน้าไปมองพี่ปริม

“พี่ทำอย่างนั้นทำไม”

“ตั้นก็รู้จักพี่ดีนิว่าพี่เป็นคนยังไง”

“แต่ว่า คืนนี้พี่อยากได้แบบถึงใจอ่ะตั้น”

“หมับ” แต่ไม่ใช่ผมที่จับข้อมือเธอ เป็นภาคิน

“ชะนี ผัวที่มึงอยากได้นะอยู่ข้างนอกนั้น สามีแห่งชาติมึงนั้นน่ะ และนี่พวกกูมาคุยงาน” ไอ้ภาคินมันพูดและไอ้ธีมมันยืนกอดอก

“กูไปรอที่ห้องประชุม งานนี้ไม่ถนัดว่ะ จิกกัดชะนี” ไอ้ธีมมันรีบชิ้งทันที

“เสือกอะไรเนี่ยะ ผัวเมียจะคุยกัน”

“แล้วจะให้ผัวใหม่มึงได้ยินด้วยไหมล่ะ กูจะได้ส่งคลิปเสียงแม่งตอนนี้” ไอ้ภาคินมันพูด

“อื้ยยย! ฝากไว้ก่อนเถอะ!”

“ตั้นก็ด้วย อย่าให้พี่รู้นะว่าเด็กนั้นมันมายุ่งกับตั้นของพี่ พี่ไม่ยอมหรอกนะ พี่จะเล่นมันให้หนักเลย คอยดูพี่ซิ”

“ผู้หญิงเชี่ยอะไรวะไม่มียางอายเลย ห้องน้ำชายแท้ๆ “ไอ้ภาคินพูดผมยักไหล่ ว่าพี่ปริมแกแคร์อะไรที่ไหนละ ผมแตะแขนมันเพื่อจะได้คุยงานและกลับบริษัทกันทันที แต่ที่ผมนั่งคิดไปด้วย คือเมย์ ยังไงผมก็ปล่อยเมย์กลับไปไม่ได้

TBC...
ฝากเรื่องใหม่ไว้ด้วยนะคะ ฝากเม้นได้นะคะ ถ้ามีคำหยาบมากเกินไปคนแต่งขออภัยด้วยนะคะ

หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก EP.5 ผมคงปล่อยให้เขากลับไปไม่ได้
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 11-11-2020 23:20:08
อีรุงตุงนัง งานจะเริ่มหรือจะร่วง   :a5: พี่ตั้นคะเรียกเขาว่าเมีย พร้อมจะดูแลเขาแล้วหรอคะ หืม ทั้งศึกนอกศึกใน เคลียร์ให้ดี ปกป้องคนที่ตัวเองเรียกว่าเมียให้ได้นะคะ หึหึ อิอิ สนุกดีค่ะ คำผิดประปราย รอตอนต่อไปเลยค่ะ ตามๆ  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก EP.5 ผมคงปล่อยให้เขากลับไปไม่ได้
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 12-11-2020 08:47:13
อีรุงตุงนัง งานจะเริ่มหรือจะร่วง   :a5: พี่ตั้นคะเรียกเขาว่าเมีย พร้อมจะดูแลเขาแล้วหรอคะ หืม ทั้งศึกนอกศึกใน เคลียร์ให้ดี ปกป้องคนที่ตัวเองเรียกว่าเมียให้ได้นะคะ หึหึ อิอิ สนุกดีค่ะ คำผิดประปราย รอตอนต่อไปเลยค่ะ ตามๆ  :pig4: :pig4: :pig4:

ขอบคุณค่ะ ตอนนี้มาแก้คำผิดให้ก่อนแล้วค่ะ เพิ่งจะหาแอฟสำหรับช่วยตรวจทานคำผิดได้ค่ะ จะพยายามมีให้น้อยลงที่สุดค่ะ
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก EP.5 ผมคงปล่อยให้เขากลับไปไม่ได้
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 12-11-2020 14:10:10
ทำไมยิ่งอ่านเราก็ยิ่งชอบพี่ตั้นนะ แม้ว่าเปิดตัวมาจะ เร็ววววไปหน่อย
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก EP.6 พี่คงแย่จริงๆว่ะเมย์(รีไรท์)
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 14-11-2020 23:10:03
   
EP.6 พี่คงแย่ๆจริงว่ะเมย์ (รีไรท์)


   Part’s รชานนท์ ผมใช้เวลาคุยงานกันเร็วมาก เรียกว่ารีบคุยกันแบบมืออาชีพที่เพื่อจะรีบชิ่งหนีแบบมืออาชีพเช่นกัน  ก็เพราะพี่ปริมแกนั่งมองผม จ้องมองเหมือนจะกระโดดข้ามโต๊ะมางาบผมแย่แล้ว นางไม่แคร์สายตาพี่คู่หมั้นแกเอาซะเลยที่หันไปมองเธอทีหนึ่งและหันมาชำเลืองตามองผมอีกที แต่โชคดีที่พี่เขามีธุระด่วนและหลังจากคุยเสร็จผมเห็นเป็นจังหวะที่ดี ที่พวกผมพอจะชิ่งหนีกันได้ พวกผมก็รีบพากันวิ่งไปขึ้นรถโดยไม่ได้ร่ำลาอย่างเป็นทางการ ไอ้ธีมมันก็รีบขับมาส่งผมก่อนจะรีบออกรถไปพร้อมกับไอ้ภาคิน และมันสองคนนี้มันว่าจะไปทำธุระกันต่อด้วย มันจะมาเข้าบริษัทอีกทีพรุ่งนี้ ผมเห็นรถพวกเพื่อนผมอีกสี่คนจอดอยู่แล้ว คืนนี้คงได้ทำงานกันยันสว่างแน่ๆ  ธีมกับภาคิน ทำหน้าที่คุยติดต่อกับลูกค้าซะเป็นส่วนใหญ่ มันสองคนเก่งการตลาด ไอ้ภาคินนะจบปริญญาโทการตลาดมาโดยตรง ส่วนผมนั่งประจำออฟฟิศคอยแก้ปัญหากับเพื่อนและน้องๆ ที่มาขอทำงานกับพวกผม เพื่อหาประสบการณ์กัน (ผมสนิทกับอาจารย์ภาคเขาเลยอนุญาตให้น้องที่ต้องการหารายได้เสริมมาทำได้ เหมือนกับเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยและได้ค่าขนมด้วย)

“เฮียหวัดดีครับ” ผมเข้ามาก็เจอเด็กหน้าตาแบบตี๋ๆ ขาวๆ นั่งอยู่

“ไอ้เฟย์ไง มันมาเรียนงานเขียนโปรแกรมกับกูอีก “ไอ้กอล์ฟมันตอบ ผมพยักหน้า ไอ้กอล์ฟมันเซียนเลยแหละเรื่องการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ มันมีพรสวรรด์ด้านนี้มันเลยเลือกมาเรียนวิศวคอมพิวเตอร์

“ไอ้สามตัวนั้นมันแอบไปหลบมุมคุยกับแฟนมัน “ผมพยักหน้าและรีบเดินเข้าไปในออฟฟิศ ผมเหลือบไปเห็นมือถือของเมย์ ที่ตกอยู่ในรถของผม ผมก็หยิบขึ้นมาดู ลองกดเปิดดูมันไม่ติดน่าจะแบทหมด ผมเลยเดินออกมา

“มีใครมีสายชาร์จโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้กันไหมวะ ขอเฮียยื่มหน่อย “ผมโชว์ พวกไอ้สามคนนั้น ไอ้เปรมดิ์ ไอ้ทีน และไอ้อาร์ต

“ผมมีครับ” มีคนยกมือขึั้น ทำเอาไอ้สามคนนั้นหันไปมองพร้อมกัน ผมก็แอบแปลกใจเพราะว่าเป็นรุ่นที่ไม่นิยมในหมู่วัยรุ่นแต่ใช้โทรเข้าโทรออกเล่นเน็ตได้แค่นั้น ธุรกรรมอย่างอื่นไม่น่าจะได้ แล้วทำไมเมย์เลือกใช้รุ่นนี้ ทำไมไม่ซื้อพวกยี่ห้อที่เขาฮิทกัน

“ผมมีสองเครื่องอ่ะครับ เอาไว้โทรและเล่นเน็ต” เฟย์มันยกมือตอบผมก่อนจะหยิบสายชาร์จมาให้ผมและผมก็เอาเข้าไปชาร์จ สักพักหน้าจอปรากฏขึ้น มีหลายสิบเลยทีเดียว และมีข้อความเข้า

// พี่เมย์โทรหาวิวด้วย แม่ป่วยแม่ไม่สบายพี่เมย์ //

//พี่เมย์ แม่ต้องผ่าตัด วิวไม่รู้จะไปหาเงินที่ไหน สองแสนนะพี่เมย์// อันนี้ซีเรียสแล้วผม

เมย์= พี่ขอโทษนะ พี่มีเรื่องนิดหน่อยนะวิว ว่าแต่แม่เป็นอะไรครับวิว
ผมส่งข้อความไปหาคนที่ชื่อวิว ไม่รู้ว่าแฟนหรือเปล่า
วิว = แม่เป็นเส้นเลือดหัวใจตีบเฉียบพลันพี่เมย์ หมอรออยู่ถ้าเราไม่มีเงินเขาจะรีเฟอร์ไปที่อื่น ถ้ามีเขาจะผ่าตัดบายพาสให้เลยแต่ตอนนี้วิวและแม่ไม่มีเงินเลยพี่เมย์
วิว= พี่เมย์ช่วยแม่ด้วยนะ อันที่จริงแม่ไม่อยากให้วิวบอกพี่เมย์นะ แม่ไม่อยากให้พี่เดือดร้อนมาหาเงินอีก
เมย์=เอาเลขบัญชีมาพี่โอนให้เลย และไปบอกหมอว่าพร้อมผ่าตัดเลย

      ผมส่งข้อความไปบอกคนที่ส่งข้อความหาเจ้าของเครื่อง ผมไม่รู้ว่าทำไมผมเชื่อแต่ผมคิดว่าผมควรจะทำอะไรสักอย่างไม่ใช่ปล่อยให้มันผ่านไปและเสียใจทีหลัง

วิว=วิวขอบคุณนะคะพี่เมย์ วิวรักพี่เมย์เหมือนพี่ชายแท้ของวิวนะคะ ถ้าวิวเรียนจบพยาบาลวิวจะคืนให้นะพี่เมย์
เมย์=เอาเลขที่บัญชีมาให้พี่ก่อนวิวพี่จะได้โอนให้ ตอนนี้
วิว = TKB
Acc 123457xx
BSB 5678xxx
นางสาววิลาวรรณ์ ใจซื่อตรง
 
   ขณะที่ผมกำลังรีบจะกดโอนเงินให้แต่ทำไมนามสกุลคนละนามสกุลกับเมย์  ผมชะงักไว้ก่อน ผมหันไปหยิบมือถือมากดเบอร์โทรในโทรศัพท์ของเมย์

//สวัสดีค่ะ//
// สวัสดีครับ พี่เป็นแฟนพี่เมย์นะครับ น้องใช่คนที่ส่งข้อความมาให้เมย์ช่วยหรือเปล่าครับ เมย์เขาติดธุระนะครับเขาให้พี่โอนเงินให้นะครับ//
//เป็นแฟนพี่เมย์เหรอคะ? วิวไม่เคยได้ยินพี่เมย์พูดเรื่องแฟนเลยนะคะ//
//อ้อเมย์เขาคงยังไม่กล้าบอกตอนนี้นะครับ เออเข้าเรื่องดีกว่าตกลงเราเป็นน้องสาวเมย์เหรอครับ//
// ใช่ค่ะ วิวเป็นน้องสาวค่ะ พี่เมย์เขาเป็นลูกบุญธรรมแม่ปิ่นแม่ของวิวนะคะ//
//อ้อครับ แล้วพ่อแม่พี่เมย์ละครับ พี่ขอโทษจริงที่พี่ถามนะครับ//
//พี่เมย์ไม่ได้บอกเหรอคะ ว่าพ่อแม่พี่เมย์เขาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตตั้งแต่พี่เมย์อายุได้ห้าขวบนะคะ วิวรู้แค่นี้นะคะ//
//ขอบคุณนะวิว … เออ พี่โอนไปแล้วนะครับ สองแสนห้าหมื่นบาทนะครับ // ผมบอกวิว (ผมโอนไปเผื่อค่าห้องพักด้วย)
//พี่ชื่ออะไรคะ//
//พี่ตั้นครับ//
// พี่ตั้น อันที่จริงแม่ไม่ให้วิวบอกพี่เมย์อ่ะ คือแม่ไม่อยากให้พี่เมย์เขาต้องมาเดือดร้อนหาเงินเหมือนทุกครั้ง แต่วิวไม่รู้ว่าพี่เมย์เขาได้เงินมาจากใครนะคะ คือว่าเยอะมากแล้ว วิวเกรงใจพี่เมย์ ทั้งที่พี่เมย์เขาไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของแม่ปิ่นนะคะ //
//พี่เชื่อว่าเมย์เขามีความกตัญญูครับวิว และนี้พี่เต็มใจช่วยโอเคนะครับ เอาไว้พี่เมย์กลับมาแล้วพี่ให้พี่เมย์เขาโทรหานะครับวิว”
//พี่เมย์เขาไม่ได้เอาโทรศัพท์ไปด้วยนะครับ //
//พี่ขอโทษนะครับที่พี่ละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวแบบนี้//
//ไม่เป็นไรหรอกค่ะแฟนกัน เออ พี่คือคนที่ยื่นมือเข้ามาช่วยพี่เมย์เรื่องเงินตลอดเลยใช่ไหมคะ// ผมก็ต้องเงียบ
//พวกเราขอบคุณพี่มากนะคะ พี่ใจดีจังค่ะ //
//ถ้าอย่างนั้นแค่นี้ก่อนนะครับ พี่ต้องทำงานก่อนนะครับ บายครับวิว// ผมพูดและกดวางสาย ผมมองหน้าจอมือถือโทรศัพท์รุ่นเก่าๆของเมย์ แสดงว่าเขาไม่ใช่คนที่อยู่สุขสบายเหมือนผม เหมือนพี่ปริม และแม่บุญธรรมเขาก็ป่วย ว่าเขาน่าจะเป็นเสาหลักให้ครอบครัวด้วย เพราะน้องเขาบอกถ้าเขาเรียนจบเขาคงมีโอกาสได้ใช้คืนเมย์ ผมก็เลือกที่จะกดโทรหาเพื่อนผมไอ้ธีม

// ไอ้ธีม มึงอยู่ไหนวะ// ผมส่งข้อความหาไอ้ธีมเพื่อนผม
//พาสาวที่กูเพิ่งเจอบนเครื่องมากินอาหารญี่ปุ่นว่ะ มีอะไรวะ//
//ซื้อไอโฟนรุ่นใหม่ให้กูหน่อยหนึ่งเครื่อง//
//จะเปลี่ยนมือถือเหรอครับเฮีย//
//กูจะซื้อให้...//
//เอาใจเด็ก ระวังนะมึง ถ้าไอ้เด็กโข่งของมึงรู้นี้แม่งออฟฟิศแตก//
//อย่าบอกดิว่ะ สัส! และแค่นี้น่ะ //

   ผมกดวางสายจากไอ้ธีม ผมหยิบมือถือมาดู ทำยังไงให้เมย์รับมือถือเครื่องใหม่ที่ผมจะซื้อให้ นั่นซิ เครื่องนี้ต้องพังแบบเปิดไม่ติดซิน่ะ ผมเป็นช่างคอมฯ ไปโดยปริยายคือตอนเรียนไม่ได้เรียนแค่ระบบคอมพิวเตอร์นะแต่พอเจอปัญหามันต้องแก้ไขซ่อมเอง เรียกว่าถอดประกอบกันได้เลย ดังนั้นมือถือก็พอได้อยู่แล้วที่จะทำให้มันไม่ติดได้เหมือนกัน

RRrrrrrrr เบอร์ที่ผมคุ้นเคยแต่ผมไม่เคยจะโทรหาตั้งแต่ผมรู้ความลับบางอย่างของพี่อิศเรศ เลขาฯ ของพ่อผมเอง พี่เขาแก่กว่าผม ห้าปี พี่อิศเรศดูแลผมตอนที่ผมกลับมาจากอเมริกาใหม่ๆ ด้วย
//ว่าไงครับพี่เรศ//
// คุณพ่อจะคุยด้วยครับคุณตั้น//
// ทำไมพ่อไม่โทรหาผมเองละครับพี่//
//ก็คุณตั้นไม่รับสายจากท่านและยังไม่โทรกลับอีกนะซิครับ//
//โอเคครับพี่เรศ//
//ถ้าอย่างนั้นรอสายพี่สักครูนะครับคุณตั้น พี่จะไปเรียนคุณท่าน//
ผมเองไม่เคยโทรหาพ่อก่อนเลย คงด้วยวัยที่ไม่ได้ห่างกันมาก,มั้ง พ่อผมเพิ่งจะ 46ปีเอง แต่เป็นพ่อเลี้ยงที่เขาใหญ่ที่ใครก็เกรงขามเด็กๆ ที่ทำงานที่นี่ยังไม่เคยมีใครเคยเห็นหน้าพ่อผมนอกจากเพื่อนสนิททั้งหมดหกคนของผม มันยังไม่อยากจะเชื่อผมเลย
//ตั้น//เสียงที่ผมไม่ได้ยินทุกวัน นานๆ ทีก็ว่าได้ นันคือเสียงของคุณธรรพ์ณธรพ่อของผมที่ยังหนุ่มเพราะว่าเขาพล้าดมีอะไรกับแม่ผมตอนที่ยังวัยรุ่น อายุแค่สิบแปดเองและพ่อผมก็ต้องทำหน้าที่ดูแลไร่และอสังหาริมทรัพย์นับร้อยล้านต่อจากคุณปู่ผมตั้งแต่อายุยี่สิบสามปี เพราะว่าคุณปู่ของผมประสบอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก ส่วนผมเองก็ย้ายไปอยู่อเมริกากับแม่ไปเรียนที่นั่น แต่พ่อผมส่งเงินให้ใช้ตลอด ผมเลยไม่ค่อยมีความผูกพันกับพ่อผมเท่าไหร่ และพอแม่ผมเสียเขาก็เรียกผมกลับมา …..ฟู่!!! เสียงพรูลมหายใจออกมาก่อนจะเอ่ยปากทักทายบิดาตัวเอง
//ว่าไงครับ คุณธรรพ์ณธร//
//อย่ากวนฉันตั้น //
//ครับคุณพ่อ พอใจไหมครับ//
//ทำไมไม่กลับมาบ้านบ้าง//
//ไม่อยากไปเจออะไรที่มันอุจาดสายตา คุณ..พ่อ! ก็น่าจะรู้ดี//
//ฉันจะทำบุญครบรอบวันเสียชีวิตแม่แก มาด้วยนะ ทำที่เขาใหญ่นี่//
//อืมม ผมจะไป//
//แกควรจะมาดูกิจการที่บ้านบ้างได้แล้ว สักวันหนึ่งแกก็ต้องดูแลมัน ตั้น อย่าให้เหมือนฉันที่ต้องมาดูแลทั้งที่ไม่พร้อมมันไม่ใช่ง่ายๆ นะตั้น! //
//ตอนนี้ผมยังไม่อยากไปผมรู้แค่นี้ //
//มึงมันดื้อเหมือนใครวะ ฉันอยากรู้…. ตื้ดๆๆๆ // และพ่อก็กดวางสายไปผมก็ต้องพ่นลมหายใจออกมาอีกครั้ง

   ผมหันไปมองภาพที่พวกผมถ่ายรูปหมู่ ในวันที่เรียบจบพร้อมกัน อันที่จริงไอ้ทีนมันเกือบจะไม่จบ ครอบครัวไอ้ทีนมันทำธุรกิจแด่มาเจอพิษเศรษฐกิจฟองสบู่ทำให้ต้องล้มละลาย ผมเองก็ช่วยมันจนมันเรียนจบ พวกผมสัญญากันตั้งแต่วันที่ได้เป็นเพื่อนกันในรั้วมหาวิทยาลัยแล้วว่าจะต้องเรียนจบพร้อม ๆ กัน จนพวกมันไปมีงานทำมีประสบการณ์พวกผมก็ยังติดต่อกันอยู่ และได้ตัดสินใจมาเปิดบริษัทร่วมกันหลังจากที่ผมเรียนจนจบปริญญาโทNBA และตอนนี้ผมกำลังเรียนไฟแนนท์ออนไลน์อยู่
Rrrrr เบอร์ที่ไม่คุ้นเคยโทรมาหาผม
//สวัสดีครับผมรชานนท์//
// สวัสดีครับคุณตั้น นี่พี่ปฐวีย์นะครับ//
//สวัสดีครับพี่ปฐวีย์ //
// พี่อยากให้เราเอาระบบที่จะเขียนให้พี่มาให้พี่ดูอีกทีนะได้ไหมครับ อาทิตย์หน้าก็ได้ครับ แต่มาหาพี่ที่โรงแรมXXXX // ผมก็ต้องขมวดคิ้ว นั้นโรงแรมที่ผมให้พวกไอ้เปรมดิ์ ไปเอาตัวเมย์มานี่หว่า ผมคงต้องถามไอ้เปรมดิ์ก่อนว่ามีใครเห็นมันไหมตอนที่ไปพาตัวน้องเขามานะ
//พี่ไม่อยากไปใช่สถานที่โรงแรมใหม่นะครับเพราะว่ายังไม่เสร็จเรียบร้อยดี และไม่สะดวกสำหรับน้องๆ นะครับ //ปฐวีย์พูด
//ไม่สะดวกเหรอครับคุณตั้น// พี่ปฐวีย์ถามผมคงเห็นว่าผมใช่เวลาคิดตัดสินใจนานไปหน่อย
//เออ.... สะดวกครับพี่ ถ้าไม่เป็นการรบกวนแขกที่ไปพักมากจนเกินไปนะครับ//
//พี่มีห้องสำหรับประชุมโดยเฉพาะนะครับคุณตั้น ส่วนตัวแน่นอน//
//ถ้าอย่างนั้นได้ครับ//
//พี่ให้เลขาพี่ติดต่อคุณตั้นอีกทีนะครับ แต่ทำไมเบอร์ที่ให้พี่เอาไว้มันเป็นเบอร์คุณภาคินนะครับ//
//อ้อ เขามีหน้าที่ติดต่อและพูดคุยกับลูกค้านะครับ เพื่อนผมเองครับ//
//ตกลงพี่ติดต่อเขาหรือติดต่อเราล่ะ//
//ได้ทั้งหมดแหละครับพี่วีร์ ผมเปิดบริษัทในนามเพื่อนดังนั้นเพื่อนๆ ทุกคนของผมคือหุ้นส่วนครับ//
//ได้ครับ ถ้าอย่างนั้นให้ผมจะให้เลขาผมติดต่อประสานงานอีกทีน่ะครับ ขอบคุณครับคุณตั้น บายครับ// แต่ถ้าให้เลขาฯ ติดต่อไอ้ธีมก็คงเสร็จมันแน่ๆ


   หลังจากที่ผมจบการสนทนากับพี่ปฐวีร์ ซีอีโอหนุ่มอายุยังน้อยแต่ก็แก่กว่าผมแหละ หน้าตาดี หุ่นดี เป็นถึงทายาทเพียงคนเดียวของเศรษฐีอันดับต้นๆ เป็นใครจะไม่อยากได้ แต่ผมเริ่มหวงตัวเล็กของผมแล้วซิ หรือว่าเราชอบเขาว่ะ พอคิดถึงตัวเล็ก ผมก็คิดว่าว่าจะแอบขึ้นไปหาตัวเล็กหน่อยดีกว่า ไปดูให้แน่ใจว่าทานอะไรแล้วจะดีกว่า และคืนนี้คงได้ทำงานกันทั้งคืนนี้แน่ๆ
ตื้ดๆ โทรศัพท์สั่นสะท้านอยู่บนโต๊ะทำงาน ผมก้มลงไปมองดู

วิว//พี่ตั้นค่ะ ช่วงนี้คุณหมอไม่อยากให้แม่เครียด พี่อย่าเพิ่งบอกพี่เมย์ได้ไหมค่ะ รอสักสองสามวันก่อน เพราะถ้าพี่เมย์มาเห็นแม่ตอนนี้พี่แม่ก็จะกังวลและเครียดค่ะ แต่คุณหมอบอกว่าแม่ปลอดภัยแล้วค่ะ วิวขอบคุณพี่ตั้นมากนะคะ //
ตั้น//ครับวิวพี่จะยังไม่บอกเมย์นะครับ ถ้าแม่ของวิวถามหาเมย์ก็บอกว่าเมย์เขาไปอบรมแล้วกันนะครับ”
ตั้น /// พี่จะหาทางไม่ให้เมย์ติดต่อแม่ช่วงนี้น่ะแต่ว่าวิวก็คงต้องเป็นคนบอกเมย์เอง เมื่อวิวพร้อมนะครับเพราะว่าเมย์เขาคิดถึงแม่ปิ่นของเขานะครับน้องวิว//
วิว//วิวทราบค่ะพี่ตั้น ขอบคุณอีกครั้งนะคะ //

“เดี๋ยวกูมานะกูจะไปเอาของที่ห้องและนี้รายละเอียดงานพวกมึงทำกันไปก่อนน่ะ นี้จะสั่งอะไรมาทานกันก็สั่งเลยน่ะ “ผมบอกพวกเพื่อนผม

“แม้จะขึ้นไป…กับเด็กก็บอกมา อ้างว่าไปเอาของ ไอ้หื่น!!” ไอ้เปรมดิ์มันแซวผม

   ตื้ดๆ เสียงกดรหัสห้องพักตัวเอง ผมเปิดประตูเข้าไป สิ่งแรกมองหาคนตัวเล็กว่าอยู่ที่ไหน ผมเดินตรงไปหาเขาที่มุมอ่านหนังสือของผม แต่ไม่มี หรือว่าอยู่ในห้องนอน พอผมเดินกลับไปก็ไม่เจอ ในห้องน้ำก็ไม่มี ทำไมผมเริ่มใจคอไม่ดีอีกแล้ว ผมเดินออกมาจากห้องนอน ผมเหลือบไปเห็นประตูกระจกบานเลื่อนตรงระเบียงมันเปิดแง้มอยู่ หรือว่าออกไปดูต้นกระบองเพชร (แคคตัส) ที่ผมปลูกเอาไว้

“เมย์!” ผมเดินออกไปเรียกหาเมย์  “เหวอ!!” เมย์เขายืนอยู่ที่ขอบระเบียงคอนโดของผม เหมือนกับว่าเขากำลังจะกระโดดดิ่งพสุธาลงไป
 
“หมับ” ผมก็รีบเข้าไป และคว้าร่างนั้นเอาไว้ได้ทัน เมย์หันมามองหน้าผมด้วยสีหน้าตกใจ ผมนี้อยากจะจับตีก้นดังๆ สักสองสามป๊าป! แต่ตอนนี้ผมจับคนตัวเล็กแบกขึ้นบ่าเข้าไปด้านในก่อน และไม่ลืมที่จะปิดประตูลงกลอน

“ตุ๊บ” ผมโยนคนร่างเล็กนั้นลงที่โซฟาด้วยความโมโห

“ทำบ้าอะไรนะห๊ะเมย์!”

“ผม…ทำอะไรอ่ะ” สีหน้าที่มองผมน้ำตาปริมๆ “ฟู่” ผมต้องพ่นลมออกมายาวๆ เพื่อให้ผมได้ใจเย็นลง

“ก็พี่เห็นอยู่ ว่าเรากำลังจะกระโดดตึกไง ชีวิตเมย์มันมีค่าน่ะไม่ใช่ไม่มี และทำแบบนี้ มันคุ้มแล้วเหรอ หาเมย์!!” ผมถามเมย์ พร้อมกับพยายามสูดลมหายใจเข้าออกเพื่อนผ่อนอารมณ์โกรธตัวเองไปด้วย

“ผมไม่ได้จะกระโดด ผมแค่จะหยิบที่ครอบกันฝนต้นแคคตัสนั้นต่างหาก” เมย์ตอบผมเสียงอ่อยๆ “แต่มันหล่นลงไปแล้ว” ผมก็ต้องทำหน้าเหวอ ที่ดันตะคอกเสียงดังใส่ไปแล้ว

“ผมไม่ทำหรอก แบบนั้นน่ะเพราะว่าแม่ปิ่นคงเสียใจ” เมย์พูดเบาๆ ผมต้องเอามือกุมขมับตัวเอง

“พี่ขอโทษที่พี่เสียงดังใส่ พี่ตกใจน่ะ” ผมรีบขอโทษเมย์

“นี่เมย์ได้ทานอะไรหรือยัง”

“มีน้องผู้หญิงเอาขึ้นมาให้ผมแล้วครับ “เมย์ตอบผมด้วยน้ำเสียงเรียบๆ เหมือนเดิม ผมค่อยย่อตัวลงมองใบหน้าหวานๆ นั้น ผมผ่านผู้หญิงมามากมาย แต่ละคนก็สวยสะดุดตาผมจริงผมถึงจะจีบ แต่ทว่าคนนี้ไม่สวย หน้าตาหวานๆ เป็นหนุ่มน้อย หน้าอกก็ไม่มี แต่ตัวเล็กขาวๆ ปากก็นิดจมูกก็หน่อย เขาทำให้ผมไม่อยากละสายตาถ้ายิ้มเพิ่มมาอีกสักหน่อย อ้อนๆ สักนิดก็คงจะดี

“จะทำอะไรน่ะ” คนที่นั่งกับถอยหลังออกตัวสั่นขึ้นมาทันที เพราะผมทำท่าจะจูบเขา แต่ยังกลัวผมมากขนาดนี้อยู่เลย
“เมย์” ผมเรียกชื่อเขา

“ผมคิดถึงแม่ผม ผมอยากกลับบ้านแล้ว” เมย์พูดและขยับออกเขาไม่มองหน้าผม

“พี่…”

“กริ้งๆๆๆๆ “เสียงกดกริ่งรัวที่หน้าห้องผม ผมว่าไม่น่าจะใช่เพื่อนของผมแน่ๆ ใครกันน่ะ ผมรีบลุกไปเปิดดูมอนิเตอร์ ตาแมวสำหรับดูผู้มาเยือน

“พี่ปริม!!” ผมดูแล้วไม่ได้มาคนเดียว มากับเพื่อนๆ ผม ที่พยายามมาห้ามปรามพี่ปริม

กริ้งๆๆๆๆๆๆๆๆ นางก็กระหน่ำกดซะจน

“ใครอ่ะ” เมย์เดินมาถามผม

“เออ…”

“เมีย…เหรอ” เมย์ถามผม

"เมียยืนอยู่นี่” ผมชี้ไปที่คนตรงหน้านั้นคือเมย์

“และที่กดกระหน่ำอยู่นี้ละ กิ๊กหรือไง” เขาถามผมกลับ

“คู่นอน” ผมพูดและยืนเอามือเท้าซะเอว

“แสดงว่ามั่วน่าดู นี้เรียกว่าซวยซ้ำซวยซ้อนของผมใช่ไหม” เมย์หันมาพูดกับผม

“พี่ป้องกันตัวเองดีเมย์ “ผมหันมาพูดด้วยสีหน้าจริงจังกับเมย์

“และพี่ก็เลิกแล้วด้วย”

“เพราะอะไร” เมย์ถามผม

“มีเมียแล้ว” ผมพูดและหันมามองตัวเล็ก

กริ้งๆๆๆๆๆๆๆ ยังกระหน่ำกดกริงอีกผมเลยต้องกดเปิดไมล์

“พี่ปริมเป็นอะไร”

“เปิดประตูมาเดี๋ยวนี้นะตั้น นี้ถือดียังไงเอาไอ้เด็กบ้านั้นมาอยู่ในห้องนี้ ทั้งที่พี่ยังไม่เคยได้ขึ้นมาเลย ตั้น!! เปิดเดี๋ยวนี้!!!!” ผมหันมามองหน้าเมย์ เขาก็ยืนเหงื่อแตกหน้าซีดขึ้นมาทันที

“เขามาทำไมอ่ะ “เมย์เขาถามผมเสียงสั่นๆ

“เรื่องมันยาวเอาไว้พี่เล่าให้ฟังทีหลัง เข้าไปแอบในห้องนอนก่อนนะเมย์”

“เขาจะมาทำร้ายผมเหรอ”

“พี่ไม่ให้เขาทำร้ายเมย์เด็ดขาด เชื่อพี่ไหม” ผมพูดและเมย์ก็เดินเข้าไปในห้องนอนผม ผมพยักหน้าว่าปิดประตูด้วย

“กึก” ผมเปิดประตู

“ผลัก!” พี่ปริมผลักผมทันทีและสอดส่ายสายตามองไปรอบ จนไปหยุดที่ห้องนอนผม

“หมับ” ผมคว้าแขนพี่ปริมเอาไว้ พี่ปริมจะตรงไปที่ห้องนอนของผมแน่ๆ

“นี้ตั้นเอามันขึ้นมานอนมาอยู่ห้องนี้ด้วยเหรอ แล้วทำไมพี่ไม่มีสิทธิ์” "

“พี่ไม่ใช่แฟนผม”

“แต่พี่”

“เราตกลงกันแล้วว่าคู่นอน นอนแล้วจบ ต่อให้พี่จะไฮโซแค่ไหนก็ตาม”

“พี่เพิ่งจะรู้ว่าตั้นเป็นคนทำมันเหรอ ทำไม ไม่ให้เพื่อนทำ นี่อย่าบอกนะว่าติดใจมันอีกคนนะ พี่จะจัดการ พี่ไม่ปล่อยมันไว้เด็ดขาด”

"ไอ้เด็กนี้มันก็ไม่ต่างจากพี่หรอกตั้น ออกมาเดี๋ยวนี้ ไอ้เด็กบ้า!!!! "ผมก็ต้องเรียกว่าอุ้มร่างที่ไม่รู้อะไรเข้าสิงออกไปก่อน จนพ้นประตูไปและหันมาพยักหน้ากับเพื่อนผมว่าให้ปิดประตูทันที โชคดีที่นางไม่ได้พกสมุนพ่อเธอมาด้วย

“หยุดบ้าได้แล้วพี่ปริม!!”

“อายคนอื่นเขาบ้าง!! “มีคนเปิดประตูมามองผมกันหมด แต่ผมรู้ว่าพี่ปริมเขาไม่แคร์หรอก

“เอาเด็กบ้านั้นออกมาเดี๋ยวนี้นะตั้น นี่ประชดเพราะว่าพี่ไปกับพี่ปฐวีย์เหรอคะ”

“อึก!! ๆ ” เสียงพวกไอ้เปรมดิ์มันปิดปากหัวเราะกัน ที่พี่ปริมเขาคิดเองเออเองอีก

“ผมไม่ได้ประชด " "และผมยอมรับว่าที่ทำนะ เพราะว่าพี่ขอให้ผมทำ และตอนแรกผมที่ตกลงทำเพราะว่า” ผมทำท่าจะพูด

“ผมอยากให้พี่ไปจากผมซะทีไงเลยทำ! “ผมพูด พี่ปริมมองหน้าผมนิ่ง

“แต่ตอนนี้ ผมอยากดูแลเขา ดังนั้นตอนนี้เขาคือคนของผม ถ้าพี่ปริมเข้ามายุ่งกับเมย์ อย่าหาว่าผมไม่เตือนนะ” ผมพูด สายตาผมนะจริงจังมากแค่ไหน

“ชะนี ลงไปร้องแรกแหกกระเชอที่อื่นได้แล้วมั้ง “เสียงที่ทำให้พี่ปริมหันไปมองและพวกผมเช่นกัน ภาคิน มันมากับไอ้ธีม

“ไอ้กอล์ฟมันโทรมาบอกพวกกูว่ามีคนเมายามาหามึงว่ะ” ไอ้ธีมยืนกอดอกมองผมกับพี่ปริม แต่ไปหยุดชะงักที่พี่ปริม

“นี่ลงทุนหนีสามีแห่งชาติตัวเองมาเลยเหรอ “ไอ้ภาคิน

“ไอ้ตุ๊ด!”

“หมับ” ไอ้ธีมมันคว้าไอ้ภาคินแทบจะไม่ทัน

“อย่าหาเรื่องใส่ตัวพี่ปริม คราวก่อนผมห้ามได้แต่คราวนี้ผมคงห้ามมันไม่ได้นะแล้วนะ ถ้าพี่ด่ามันอีกน่ะ” ผมพูดกับพี่ปริม พี่เขาคงรู้ดีว่าไอ้ภาคินมันเป็นยังไง ก็โดนไปแล้วไง

“ก็ได้ แต่พี่ไม่ยอมให้ตั้นกับไอ้เด็กนั้นน่ะ ถึงยังไงพี่ก็หวงตั้นที่สุด ตั้นคงรู้จักพี่ดี “พี่ปริมพูดก่อนจะเดินหลังออก สายตาที่ประสานกับภาคิน ผมหันมายกมือขอโทษเพื่อนบ้านแต่ละคน

“ลงไปคุยกันข้างล่างเถอะว่ะ “ไอ้เปรมดิ์มันบอกผม ผมพยักหน้า แต่ว่าผมคงต้องเดินเข้าไปในห้องก่อน ผมตรงไปที่ห้องนอน

   ก๊อก ก๊อก ก๊อก ผมเคาะประตูห้องนอนที่ผมดันเมย์เขาไปแอบและให้เขาล๊อกประตูผมเคาะหลายทีเมย์ก็ไม่ยอมเปิดให้ผม

“เมย์พี่เองครับ” ผมตะโกนเบาๆ

“ทำไมชีวิตผมต้องมาเจออะไรแย่ๆ แบบนี้ด้วย ออกไป ออกไปเลย!!” แสดงว่าเขานั่งอยู่หลังประตู

“เมย์ฟังพี่ก่อน”

“ไม่! ไม่! กูไม่ฟัง! มึงเอากูมาเจอเรื่องแย่ๆ ทำไม ไปให้พ้น!!” ผมก็ต้องถอยหลังออก มายืนเอามือเท้าเอว

"ทำไมกูต้องมาเจอคนแย่ๆ อย่างมึงว่ะ ฮือๆ "

“พี่คงแย่จริง ๆ ว่ะเมย์” ผมพูดแค่นั้นก่อนจะเดินออกไปจากห้องและคงปล่อยให้เมย์อยู่แบบนั้นเงียบๆ สักพัก แต่ถึงยังไงผมก็ต้องเร่งมือทำงานของคุณปฐวีร์ให้เสร็จก่อน ผมเองก็คงต้องหลบหน้าเมย์ไปสักสองสามวัน เพราะน้องสาวของเมย์ก็ยังไม่อยากจะให้เมย์รู้ว่าแม่ปิ่นของเขาเข้ารับการผ่านตัดบายพาสหัวใจอยู่ตอนนี้ มือถือก็ต้องเก็บเอาไว้ก่อนแล้วกัน ส่วนโทรศัพท์ ผมกดล๊อคเอาไว้แล้วว่าให้เขาโทรเบอร์ภายในได้อย่างเดียว โทรออกไม่ได้ และยิ่งเขารู้เรื่องแม่บุญธรรมอีก เขาจะยิ่งแย่มากไปกว่านี้ ผมคงต้องรอให้เขาจัดการกับอารมณ์ตัวเองให้ได้ซะก่อน และนั่นแหละเขาถึงจะพร้อมรับรู้มัน ผมเคยผ่านมาแล้ว ผมรู้ดี

TBC...
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก EP.6 พี่คงแย่จริงๆว่ะเมย์
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 14-11-2020 23:33:28
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก EP.7 สองทางเลือกอยู่หรือไป(รีไรท์)
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 15-11-2020 15:37:27
EP.7 สองทางเลือกอยู่หรือไป(รีไรท์)
   
       Part's เมธานินท์ ผมเหมือนถูกกักขังไร้อิสรภาพแต่ว่าผมกับได้นั่งคิดนอนคิด ทบทวนหลายสิ่งหลายอย่าง จะว่าไปเหมือนผมไม่ได้อยู่ลำบากอะไรเลย ตอนเช้าตื่นมามีอาหารเช้ามารอ พอตอนสายๆ ก็นั่งๆ นอนๆ ดูทีวีบ้างแต่ส่วนใหญ่ผมเอาเวลาไปนั่งอ่านหนังสือของพี่เขาซะมากกว่า ผมเป็นคนชอบอ่าน ผมเองอยากเรียนปริญญาโท ผมก็ไม่กล้าลงเรียนเพราะว่าผมไม่อยากรบกวนแม่ปิ่น ยิ่งมีน้องๆอีกสามคนที่ต้องเรียนต่ออีกละ บ่อยครั้งที่ผมเห็นแฟนแม่ปิ่นเมาและอาละวาดที่ต้องมาเลี้ยงผมอีกคนที่ไม่ใช่ลูกแท้ๆ ตั้งแต่พ่อแม่จริงๆ ผมเสียไป ผมก็ไม่เคยกล้าขอเงินแม่ปิ่นพยายามหางานทำพิเศษตลอดและช่วงหลังแม่ปิ่นสุขภาพไม่ค่อยดีผมก็เลยหางานเพิ่มและช่วยส่งน้องเรียน

   ผมก็คิดว่าถ้าผมเรียนจบผมจะทำงานช่วยแม่ปิ่นส่งน้องๆ เรียนแต่นี่ผมดันมาซวยเจอ เรื่องที่เลวร้ายอะไรแบบนี้ และนี้เขายังให้ผมอยู่กับเขา ไม่รู้ว่าเพราะอะไร จะรับผิดชอบอย่างนั้นเหรอ ผมเองยังไม่ได้รักเขาเลย จะว่าไปผมเองก็ไม่ได้เห็นเขามาหลายวันแล้วนะ มีแต่อาหารมาให้ เช้า กลางวันและเย็น เปิดตู้เย็นมาก็มีนม น้ำผลไม้และผลไม้อยู่ในตู้เย็นไม่ขาด มันแปลกมากเขาไปไหนของเขานะ ผมคิดไปคิดมาก็หลับไปจนกระทั่ง

“ปึก” แขนผมเองที่พาดไปโดนบางสิ่งที่ไม่แข็งและไม่นิ่มจนเกินไป นั้นคือแผ่นอกชายชาตรี ผมลืมตาโพลง มองไปรอบๆ จนหยุดที่นาฬิกาตั้งโต๊ะ นี้เจ็ดโมงเช้าแล้วเหรอ และผมหันกลับมามองมีคนมานอนกอดอกอยู่ข้างๆผม เขาหลับสนิท ผมก็จะดึงแขนกลับแต่คนที่นอนข้างๆผมเขาค่อยๆหันหน้ามามองผม นี่ผมไม่เจอเขามาสามวันได้ หลังจากเกิดเรื่องที่พี่ปริมมาอาละวาดวันนั้น

“ตื่นแล้วเหรอ” คำถามแรกของคนที่ดูเพลียจากการอดนอน

“มาตอนไหนนะ” ผมถามเขาด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย

“ตีสามกว่าแล้ว “พี่เขาตอบด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูแล้วคงเพลียจริงๆ ผมเองก็ไม่ใช่คนใจร้าย หรือเรียกว่าใจร้ายไม่ลงจริงๆที่จะด่าเขาต่อ

“ทำอะไรให้พี่กินหน่อยซิพี่หิวอ่ะ” ผมก็ต้องขมวดคิ้ว

“เร็วซิ ลุกไปทำให้หน่อยนะครับ เฮียโคตรหิวเลย “คนตัวโตทำน้ำเสียงอ้อนผม พร้อมกับพลิกมานอนตะแคงมองผม รอยยิ้มบางๆ นั้นมันดูรู้เลยว่าเขาเพลียมากจริงๆ ผมก็ต้องลุกขึ้นเข้าไปล้างหน้าแปรงฟันซะก่อน นี้เขาเตรียมของใช้ส่วนตัวไว้ให้ผมหมดเสื้อผ้าก็ยังไปหาซื้อไซ้สำหรับผมมาไว้ในตู้อีก มันก็มีแว้ปหนึ่งนะที่ใจอ่อน แต่ว่าผมจะอยู่แบบนี้ในฐานะอะไรละ เอาว่ะไปทำอาหารให้คนตัวโตมันทานก่อน

   ผมเดินออกมาก็เห็นคนตัวโตหลับต่อ ผมเหลือบมองไปที่โต๊ะที่มีลิ้นชักข้างเตียงนอนฝั่งของผม มีถุงซิบล๊อกใส่มือถือของผมอยู่ ผมลืมไปเลยว่าจะถามไอ้พี่นั้น ผมก็หยิบมาแกะออกมากดเปิดเครื่อง และมือถือเครื่องนี้ผมซื้อเอง อันที่จริงพี่ปฐวีย์เขาจะซื้อไอโฟนให้ผม แต่ผมปฏิเสธและผมก็เลือกที่จะใช้แค่สมาร์ตโฟนธรรมดา ผมกดเปิดเท่าไหร่ก็เปิดไม่ติด สงสัยพังแต่พังได้ยังไงวะ ช่างแม่งเพราะว่าชีวิตของเมย์คงไม่มีอะไรจะซวยไปกว่านี้อีกแล้ว ผมก็เปิดตู้เย็น หยิบของที่มีออกมากองเอาไว้

“ยังไม่เป็นอะไรกันเลย แม่งสั่งแหละ” ผมบ่นกับตัวเองและจัดการหันไปเปิดสมุดทำอาหารเช้าแบบง่ายๆ ผมไปเปิดเจอไข่ดาวไส้กรอก มีพอดีเลย ทำอันนี้แล้วกันง่ายๆ ผมยืนทำไปด้วยและคิดไปด้วยต่างๆ นานา ว่าผมมาทำอะไรที่นี่

“หมับ!” จู่ๆ ก็มีคนเอามือมาปิดตาผมจากด้านหลัง ไม่ต้องถามหรอกว่าใคร ผมยืนนิ่ง นับหนึ่งถึงสิบ

“เล่นบ้าอะไรเนี่ยะ” ผมถามที่ปิดตาผม (อายุก็ตั้งเท่าไหร่เข้าไปแล้ว)

“ก็คู่รักเขามักจะทำแบบนี้กันเวลาจะให้ของขวัญ” พี่เขาพูดทำหน้าเจียมเจี้ยม ผมนี้เลิกคิ้วมอง ประมาณว่าใครวะคู่รักมึงอ่ะ และไอ้คนตัวโตนี้มันจะทำหน้าตาเหมือนเด็กโดนดุทำไมว่ะ ผมหันไปเหล่มองของที่ไอ้คนตัวโตเอามาจ่อตรงหน้าผมด้วยมืออีกข้าง นั้นคือโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดแบรนด์เนมแอปเปิลถูกกัด ผมไม่เคยซื้อใช้เลยในชีวิต ถามว่าเคยอยากได้ไหมเคยคิดแต่นี้เขาให้ผมทำไม

“ไม่เอา” และผลักออก

“เอาไปซิ มือถือมันฟัง พี่ซื้อให้” เขาพูดผมหันมามองหน้า และตักอาหารในกระทะลงจานพร้อมกับเดินไปวางไว้ที่โต๊ะ พี่เขาก็เดินไปหยิบกล้องน้ำส้มคั้นออกมาพร้อมรินใส่แก้ว ไว้สองแก้ว

“ผมควรจะไปจากที่นี่ได้หรือยัง ผมมีภาระ ผมจะมาอยู่แบบนี้ไม่ได้นะ และผมกับคุณก็ไม่ได้เป็นอะไรกัน ต่อให้เรื่อง”

“รับมือถือเครื่องนี้ไปก่อน” พี่เขาบอกผมและส่งกล่องมือถือนั้นให้ผมรับไปให้ได้

“และพี่จะคุยกับเราตอนนี้ว่าทำไมพี่ไม่ให้เราไป” พี่เขาพูด

“เอาละ พี่จะให้เราอยู่ที่นี่และมีเงินเดือนให้ สามหมื่นบาท ต่อเดือน เยอะกว่าไปทำงานเป็นรีเซฟชั้นอีกว่าไหมล่ะ” พี่เขาพูด ผมต้องขมวดคิ้ว มันบ้าหรือเปล่าให้ผมอยู่กับมันโดยให้เงินเดือนผมตั้งสามหมื่นเลยนะ

“เงินเดือนสามหมื่นคืออะไร อยู่แบบไหน”

“เป็นแฟนพี่” พี่เขาพูด

“ไม่ต้องทำอะไรมาก ก็ทำอาหารให้พี่ทาน ดูแลห้องพักให้พี่ และถ้าเบื่อลงไปช่วยงานพี่ที่ออฟฟิศ ในฐานะเมียบอส” พี่เขาพูด

“แต่ผม…. ผม…”

“หึ?”

“ก็จะให้ผมอยู่เป็นแฟนคุณ ทั้งที่ผมเองก็ยังไม่ได้รักคุณนี้น่ะ จะรักหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย!” ผมพูดประโยคนี้ทำเอาคนที่ยืนฟังถึงกับออกอาการเหมือนหมาหง๋อย ผมเองไม่อยากจะเชื่อเลยว่าไอ้คนที่วันนั้นมันกระทำการอันป่าเถื่อนใส่ผมนะ แต่พอมาตอนนี้พอผมเอ็ดมันนี้มันทำหน้าเหมือนเด็กโดนดุเลย (แต่ยังไงก็จะไม่ใจอ่อน)

“ก็คือว่าถ้าให้ผมอยู่แล้วเกิดวันหนึ่งผมเจอคนที่ผมรักขึ้นมาละ” ผมถามพี่เขากลับ

“พี่ยินดีให้เราไปโดยไม่มีคำคัดค้าน แต่ตอนนี้ อยู่ในฐานะนะแฟนพี่”

“แล้วเรื่องอย่างว่าละ ผมเอง”

“พี่จะไม่ทำถ้าเมย์ไม่ต้องการ” พี่เขาพูดก่อนจะคว้าโทรศัพท์เครื่องเก่าของผมไปและแกะเอาซิมการ์ดออกมาแถมยังใส่เข้าไปให้อีก และส่งมาให้ผม ผมเงยหน้าขึ้นมอง

“คุณทำแบบนี้ทำไม หรือคุณแค่ต้องการรับผิดชอบที่คุณทำกับผมอย่างนั้นเหรอ” ผมถาม

“ยอมรับว่าใช่ด้วย” พี่เขาตอบ

“หรือมันอาจจะมีมากกว่าพี่ยังตอบไม่ได้ ตอนนี้ทานก่อนได้ป่ะ พี่โคตรหิวเลย ตั้งแต่เมื่อวานตอนเที่ยงแล้ว กินแต่กาแฟกับขนมปัง “พี่เขาพูดก่อนจะเดินไปนั่งลงและหยิบจานอาหารเช้าที่ผมวางไว้มาทาน

“อืมม …อร่อยดีนะ” พี่เขาพูด

“ประชดหรือเปล่า ไม่ได้ใส่อะไรพิเศษเลยและก็แค่เอาลงทอดธรรมดาเอง”

“คงเพราะว่าคนทำใส่ใจมั้ง พี่ว่าแค่นี้มันก็อร่อย และพี่ว่ามันอร่อยเหมือน….” พี่เขาพูดและทำท่าคิด

“อร่อยเหมือนคนทำ” พี่เขาพูดทำไมผมต้องหน้าร้อนผ่านขึ้นมาทันทีด้วย

“รู้ได้ยังไงว่าคนทำอร่อย” ผมก้มหน้าก้มตาพูด

“ก็พี่กินมาแล้ว…. “พี่เขาหันมาทางผมและโน้มตัวมากระซิบกับผมไม่ดังแต่มันก้องในหูผม “ยืนยันเลยว่าอร่อย!” พี่เขาพูดก่อนจะลุกขึ้นเดินไปเอาจานใส่ไว้ในอ่าง

“เดี๋ยวผมทำเองดีกว่าคุณไปทำงานเลยก็ได้นะครับ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ พี่เขาหันมาพยักหน้าก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องนอน ผมก็จัดการนั่งทานอาหาร คือแบบยังแอบคิดน่ะมีแบบนี้ด้วยเหรอว่ะ ที่ให้เงินเดือนสามหมื่นในตำแหน่งแฟน

“นี่เป็นรหัสเข้าห้องพี่ ไม่มีใครรู้นะเมย์นอกจากเพื่อนสนิทของพี่แค่หกคนเท่านั้นและตอนนี้มีแค่เมย์ “พี่เขาหยิบกระดาษที่จดเอาไว้ส่งมาให้ผม

“เวลามีใครมากดกริ่งหรือเคาะประตู ดูที่มอนิเตอร์ก่อนนะถ้าเมย์ไม่แน่ใจ หรือไม่รู้จักอย่าเปิดให้เขาเข้ามาเด็ดขาด โทรหาพี่ก่อน” พี่เขาบอกผม

“ตอนเที่ยงทำอาหารไปให้พี่ด้วยก็ได้นะ ถ้าเมย์เบื่อลงไปดูห้องทำงานของพี่”

“คุณ….” ผมเรียกพี่เขา “หึ?” “คุณไว้ใจผมได้ยังไง ไม่คิดว่าผมจะหนีเหรอ”

“พี่ว่าเมย์ไม่หนีหรอกพี่เชื่อ” พี่เขาพูดก่อนจะยกนาฬิกายี่ห้อเดียวกับมือถือของเขาขึ้นมาดู

“พี่ต้องลงไปแล้ว”

“ถ้าเมย์จะเดินออกไปเพราะไม่อยากอยู่ พี่ก็ห้ามไม่ได้ ให้เมย์เลือกแล้วกันนะ” พี่ตั้นพูดทิ้งไว้แค่นั้น ก่อนจะเปิดประตูและเดินออกไป ผมก็ต้องพ่นลมหายใจออกมายาวๆ ผมเองก็ไม่รู้จักเขา เขาคือใคร แล้วผมจะรักเขาไหม ถ้าให้อยู่ในฐานะแฟนเขา ทั้งที่เรายังไม่ได้ศึกษากันและกันเลย ผมว่านี้มันบ้าชัดๆ ผมรีบหยิบมือถือมากดเพื่อจะโทรหาแม่ปิ่นก่อน

//ฮัลโหล พี่เมย์// น้องสาวผมที่อายุอ่อนกว่าผมสามปีกำลังเรียนพยาบาลอยู่ ชื่อวิว วิวเป็นลูกคนโตของแม่ปิ่น
//วิวแม่ปิ่นละ//
// แม่ปิ่นตอนนี้อยู่โรงพยาบาลค่ะพี่เมย์//
//อะไรนะ แม่ปิ่นเป็นอะไรนะวิว///
//แม่ปิ่นนะเป็นเส้นเลือดหัวใจตีบเฉียบพลัน หมอบอกต้องผ่าตัดบายพาสหัวใจด่วน//
//แล้วทำไมพึ่งจะบอกพี่ละวิว แม่เป็นไงบ้าง ฮืกๆๆ //
//เมย์ส่งข้อความไปบอกพี่เมย์ก่อนแล้วค่ะ แต่แฟนพี่เขาบอกว่าพี่ไม่ได้เอาโทรศัพท์ไปและแฟนพี่ที่ชื่อพี่ตั้นนะเขาก็รีบโอนเงินมาให้เลยนะ แม่ได้ผ่าตัดวันนั้นเลยพี่เมย์// ผมต้องอ้าปากค้าง เขาโอนเงินให้ทั้งที่เขายังไม่รู้จักครอบครัวผมดีพอเลย แค่น้องสาวบอกว่าแม่ผมป่วยต้องการเงินรักษาด่วน
//พี่ตั้นเขาโอนไปเท่าไหร่วิว//
/สองแสนห้าหมื่นบาทค่ะพี่เมย์ วิวก็ไม่รู้ว่าเงินพี่หรือว่าเงินแฟนพี่นะ แต่มันมีค่ากับชีวิตแม่ของวิวมากนะพี่เมย์//
//และนี่แม่ผ่าตัดแล้วพี่เมย์ แม่ปลอดภัยแล้วพี่เมย์ วิวขอบคุณนะพี่เมย์// ผมก็ต้องอึ้ง พูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ
//ถ้าแม่ไม่ได้เงินพี่เมย์ก็คงต้องส่งไปโรงพยาบาลรัฐและไม่รู้ว่าจะได้ผ่าตัดเลยไหมแต่นี่พอพี่โอนเงินมาให้แม่ได้ผ่าเลย นี่อยู่โรงพยาบาลเอกชนเลยนะพี่เมย์ //
//แค่นี้ก่อนนะคะพี่เมย์ พอดีคุณหมอจะเข้าตรวจแล้วนะ”
//พี่เมย์ อันที่จริงแม่ไม่ให้วิวบอกพี่เมย์นะ แม่ไม่อยากให้พี่เมย์//
//ต่อให้แม่ปิ่นไม่ใช่แม่แท้ๆ ของพี่แต่แม่ปิ่นดูแลพี่มาวิว พี่ต้องตอบแทนซิวิว//
//พี่ก็ทำแล้วไง วิวต้องขอบคุณพี่เมย์ พี่เหมือนให้ชีวิตใหม่แม่ของวิวอีกครั้ง ฮือๆ //
//แค่นี้ก่อนนะพี่เมย์ วิวเชื่อว่าแม่ปิ่นรักพี่เมย์ไม่แพ้พวกเรา บายค่ะพี่เมย์// ผมกดวางสาย และหันไปมองมือถือนั้นแปลว่าเขาโกหก เรื่องมือถือผมที่เขาเปิดไม่ติด ผมนังทานแต่ทานได้น้อย เขาไม่บอกผมเสียด้วยซ้ำว่าเขาโอนเงินไปให้น้องสาวผมรักษาแม่ปิ่น

   ผมจัดการทำความสะอาดห้องพัก เก็บที่นอน ซักเสื้อผ้า รดน้ำต้นไม้ ต้นกระบองเพชร (แคคตัส) เขาปลูกเอาไว้หลายต้นมาก มันน่ารักกระจุ๋มกระจิ๋มแอบคิดในใจไม่น่าเชื่อเลยว่าคนอย่างนายนั้นจะมีโมเม้นน่ารักแบบนี้ด้วย แต่จะว่าไปเขาก็จัดบ้านได้ทันสมัยดีน่ะ
และผมก็ทำอาหารกลางวัน ผมไม่รู้จะทำอะไรดีเลยทำมาม่าผัดขี้เมา ทำแบบที่ผมชอบแล้วกัน กินได้ก็กิน กินไม่ได้ก็แค่โยนทิ้งก็แค่นั้น และผมก็ตัดสินใจเดินออกมาจากห้องพัก ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงพอดิบพอดี

   อันที่จริง ตอนนี้ผมก็มีโอกาสหนีแล้วไง ถ้าผมเลือกจะลงไปชั้นหนึ่งและวิ่งออกไป โบกรถแท็กซี่ซักคันไปบ้านแม่ปิ่นหรือไม่ก็พักบ้านเพื่อนที่เคยเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันมันก็ได้ และเขาก็คงไม่ตามผมกลับมาหรอกผมคิดว่า ผมอยู่ในลิฟต์โดยที่ผมยังไม่ได้กดเลือกชั้นที่จะลงแต่ลิฟต์ก็เลื่อนลงน่าจะมีคนเรียกใช้จากชั้นล่างสุด ผมควรจะอยู่หรือไป (แต่ว่าเขาช่วยแม่บุญธรรมผมเอาไว้) (แล้วถ้าผมเลือกที่จะอยู่เป็นแฟนเขาละ ผมจะรักเขาได้เหรอ) (และถ้าวันที่ผมรักเขาไปแล้วล่ะ แล้วเขารู้ว่าผมเคยทำอะไรมาเขาจะรับผมได้ไหม)

TBC...

หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก EP.7 ทางเลือกจะอยู่หรือจะไป
เริ่มหัวข้อโดย: fc_fic ที่ 15-11-2020 16:12:51
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก EP.7 ทางเลือกจะอยู่หรือจะไป
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 15-11-2020 20:53:48
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก EP.8 ผมกลายเป็นอาซอ(รีไรท์)
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 15-11-2020 21:04:15
    EP.8 ผมกลายเป็นอาซอ(รีไรท์)     


             Part’s เมธานินท์ อันที่จริง ตอนนี้ผมก็มีโอกาสหนีแล้วไง ถ้าผมเลือกจะลงไปชั้นหนึ่งและวิ่งออกไป โบกรถแท็กซี่ซักคันไปบ้านแม่ปิ่นหรือไม่ก็พักบ้านเพื่อนที่เคยเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันมันก็ได้และเขาก็คงไม่ตามผมกลับมาหรอกผมคิดว่าแต่ พอผมเหลือบมองลิฟต์มันลงมาถึงชั้นที่เก้าแล้วผมยังไม่ได้กดเลือกชั้นที่จะลง ตอนนี้ผมกำลังสับสนจนสุดท้ายผมก็ ต้องเลือก

“ตื้ด!” ผมเลือกกดชั้นที่ 8 และประตูลิฟต์ก็เปิดออก ชั้นนี้เงียบมาก มีป้ายติดเอาไว้ว่าเป็นสถานที่ส่วนบุคคล ห้ามบุคคลภายนอกเข้า ผม
ออกมายืนแบบงงๆ ผมเห็นป้ายบอกว่าไปออฟฟิศ สำนักงานบริษัทเขียนและออกแบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ Friends Group

   ก๊อก ก๊อก ก๊อก ผมเคาะประตูห้องที่บอกว่าสำนักงาน ก่อนจะหันไปมองห้องด้านหลังเหมือนห้องพักทั่วไป

“สวัสดีครับ” ผมหันมามองคนที่เดินมาเปิดประตู เขามองผมเหมือนจะรู้จักผมแต่ผมไม่รู้จักเขา

“เออ ผม ผม”

“มาหาเฮียตั้นเหรอครับ มาส่งข้าวส่งน้ำซะด้วย เชิญครับ เฮียแกรออยู่ ป่านนิ้วหิวตาลายแล้วมั้งครับ” พี่ที่นั่งอยู่เขาพูดหน้าตาออกแนวตี๋ๆชัดเจน ผมก็เดินเข้ามา และสิ่งที่ทำให้ผมอึ้งจนก้าวขาไปต่อไม่เป็น เพราะว่ามีสายตาไม่รู้กี่คู่หันมามองผมเป็นตาเดียวกันหมด ในห้องนี้มีคอมพิวเตอร์หลายเครื่องเลย และมีคนนั่งทำงาน มีทั้งชุดนักศึกษา แต่ส่วนใหญ่ เป็นเสื้อช็อปกันทั้งนั้น ผมพอจะเดาเลยว่า เป็นเด็กวิศวะแน่นอน มีอีกสามคนที่สวมเสื้อเชิ้ตกางเกงยีนหันมามองผมเช่นกัน และทุกสายมองผมจ้องมาทางผมกันแบบนี้ผมจะก้าวเท้าต่อไปได้ยังไง ผมหยุดยืนถือจานมาม่าผัดเอาไว้ วิ่งหันหลังกลับไปดีไหมว่ะเมย์ และที่ผมอึ้งมากคือสิ่งที่ผมคิดกับสิ่งที่ผมเห็นมันต่างกันโดยสิ้นเชิง

(ก็แน่ล่ะภาพในหัวผมก่อนจะเข้ามาในห้องนี้ ผมคิดว่าคงต้องมีคนนั่งทำงานในออฟฟิศสำนักงานทั่วไป ใส่เสื้อเชิ้ต กางเกงสแล็ค ถ้าผู้หญิงก็สวมชุดทำงาน กระโปรง หรือกางเกงที่สุภาพแต่นี่เหมือนผมหลุดไปยืนอยู่ในตึกอุตสาหกรรม)

1 นาที ผ่านไป......
2 นาที ผ่านไป....
3 นาที กำลังจะผ่านไป........ (ผมคิดว่าถ้านาทีที่สี่นี่ผมควรจะเป็นฝ่ายวิ่งออกไปแทน)

“อ้าว! ตกใจกันทำไมละครับ ยกมือไหว้อาซ้อซิมึง นี่แฟนเฮียตั้นเขา!”

“หวัดดีครับอาซ้อ” “หวัดดีค่ะ อาซ้อ” ทุกคนที่นั่งอยู่พากันยกมือไหว้ผมกันทุกคน ผมก็ยกมือรับไหว้ทั้งจานข้าวนั่นแหละครับด้วยอาการตกใจไม่แพ้กัน ผมหันกลับมามองคนที่แนะนำตัวให้ผม ผมไปเป็นอาซ้อตอนไหนไม่ทราบ

“เออ แล้วกูสามคนละว่ะต้องไหว้น้องเขาไหมวะ” อีกสามคนที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่ ถามพี่คนที่ยืนอยู่ข้างๆ ผม เขาหันมายิ้มให้ผม

“มึงสามคนไม่ต้องไหว้ครับ” พี่คนที่บอกให้น้องเขาไหว้ผมหันไปบอกอีกสามคนที่ดูแล้วน่าจะรุ่นพี่แถมไม่ได้ใส่เสื้อช็อปทำงานเหมือนคนอื่นสวมเสื้อเชิ้ตกางเกงยีนแบบสบายๆ “ค่อยยังชั่วหน่อย” อีกคนที่นั่งเอาแขนพาดเก้าอี้อยู่หน้าคอมพูด

“แต่มึงสามคนไปเอาพานพร้อมกับธูปเทียนแพรมากราบขอขมาน้องเขาแทนครับมึงครับ” พี่คนนั้นพูดผมก็สะบัดหน้าไปมองหน้าเขาเอามาทำไม

“เว้ย!!” อีกสามคนร้องอุทานออกมาพร้อมกัน

“น้องเขาจะให้พวกกูกราบหรือเขาจะถีบยอดหน้าพวกกูเอาละครับ” พี่อีกคนพูด

“ไอ้สามตัวนี่แหละครับมันคือคนร้าย พี่ช่วยชี้ตัวคนร้ายนะครับ วันนั้นน้องคงจำไม่ได้เนอะ! พี่จำมันได้ จำได้ดีเลย ไอ้คนนั้นมันเป็นคนขับ “ผมหันมามอง นั้นแปลว่าสามคนนี้ใช่ไหมที่ไปลักพาผมมานะ

“ไอ้คนที่ยืนข้างๆ น้องนั้นนะครับ มันโป๊ะยาสลบครับผม ไอ้นี่แหละเชี่ยที่สุด!” ผมสะบัดหน้าหันกลับมามองคนข้างๆ ผม “อู้ย!!!” พี่เขาสะดุ้งก่อนจะยกมือขึ้นเกาหัวตัวเอง

“พี่ไม่ได้อยากทำน่ะ ไอ้เฮีย! ในห้องนะมันสั่งพี่ครับ จริงๆ พี่เป็นคนดีครับผม จริ้ง!!!” ผมก็มองหน้า ใช่เหรอ? เสียงสูงแบบนี้พี่น่าจะรู้ตัวเองบ้างแหละมั้งว่าเป็นคนดีจริงหรือเปล่า แต่มันก็ผ่านไปแล้ว โวยวายไปความบริสุทธิ์ผมก็ไม่ได้คืนมาอยู่ดี

“ไอ้สนทีน!!!” พี่เขาแอบหันไปยกนิ้วกลางให้เพื่อนเขา

“เฮียตั้น!! แฟนเอาข้าวมาส่งครับผม!!” พี่เขาตะโกนบอกพี่ตั้นให้ผม

“เข้ามาในห้องเลย” เสียงตะโกนแบบทุ้มๆ นุ่มๆ ดังออกมา คนที่ตะโกนถามให้ก็หมุนเก้าอี้มาผายมือให้ผมเดินเข้าไป ห้องที่ถูกกั้นแยกไว้ต่างหาก ผมเดินเข้าไปก็เห็นผู้ชายที่นั่งทำงานดูท่าจะยุ่งวุ่นวายน่าดู มีคอมพิวเตอร์สองเครื่องติดกัน และมีโน้ตบุ้คเครื่องบางเฉียบวางอยู่ด้านหลัง แฟ้มเอกสารมากมาย ผมเดินไปหยุดอยู่ด้านข้าง

“นึกว่าจะให้พี่อดข้าวเที่ยงซะอีก” พี่เขาหันมาพูดกับผม

“ไม่คิดว่าผมจะวิ่งลงไปเรียกแท็กซี่และไปจากคุณหรือไง” ผมถามเขา

“ก็พี่ให้ทางเลือกไงครับ แล้วคำตอบเราว่าไงล่ะ” พี่เขาหันมาถามผม ก่อนจะหมุนเก้าอี้มามองผมเต็มๆ กอดอกพร้อมส่งยิ้มผมยอมรับว่าถ้าเขาไม่ใช่คนที่กระทำแบบนั้นกับผม คงได้ตกหลุมรักบ้างละ แต่ผมต้องใจแข็ง

“ก็คุณ” ผมพูด

“เรียกพี่ไม่ได้เหรอครับ พี่ชื่อตั้นครับน้องเมย์ หรือว่าจะเรียกพี่ว่าเฮียก็ได้นะครับ”

“พี่โอนเงินให้น้องสาวผมเอาไปรักษาแม่ผมเหรอครับ…พี่ตั้น?”

“เออ…. ใช่ครับ และพี่ก็เอามือถือเรามาชาร์จและมันเปิดเครื่องพอดีก็มีข้อความเข้ามาและไม่ได้รับสายเยอะมาก พี่เลยส่งข้อความคุยก่อนและเขาบอกว่าแม่ปิ่นเราต้องการผ่าตัดบายพาสด่วน”พี่ตั้นพูด

“พี่ทำแบบนั้นทำไมครับ พี่ไม่รู้จักผมเลย พี่รู้ได้ยังไงว่านั้นจะไม่ใช่เรื่องโกหก เขาอาจจะเป็นนกต่อของผมก็ได้”

“ถ้าใช่พี่ต้องยอมรับแต่พี่จะเสียใจมากกว่าถ้าพี่ปฏิเสธไปทั้งที่พี่ช่วยได้และพี่เชื่อว่าเมย์จะเสียใจมากกว่าพี่อีก เพราะพี่เองก็เคยเสียแม่พี่ไปเมย์” พี่ตั้นพูด ผมเพิ่งจะทราบว่าแม่เขาเสียไปแล้ว

“ผม…”

“เงินเดือนล่วงหน้าของเมย์” พี่เขาชิ่งพูดซะก่อน

“คราวนี้รับข้อเสนอพี่หรือยังครับ”

“ผม…คงไม่มีตัวเลือกอื่นแล้วมั้งครับบอส!”

“ห้ามเรียกบอส ให้เรียกพี่ตั้นหรือเฮียตั้น หรือที่รัก แค่นี้น่ะ ห้ามเรียกบอส” พี่เขาหันมาสั่งผม ผมแอบหันไปทำปากมุบมิบ

“นินทาเดี๋ยวจับทำโทษเลย ทำแบบที่แฟนเขาทำกัน จับหอมแก้มโชว์เด็กๆ ที่ทำงานเลยดีไหม” พี่ตั้นพูดโดยไม่ได้หันมามองหน้าผมมีแค่เหลือบตามามองผมแว๊ปหนี่งแค่นั้น ผมเลยต้องยืนหลุบตามองพื้นแทนเดี๋ยวโดนทำโทษอายตายเลย

“ว่าแต่ทำอะไรมาให้พี่ทานครับ ดูน่าทานจัง หอมด้วย เห็นแล้วท้องร้องเลย” พี่ตั้นเขาพูด ผมวางจานลงตรงที่วางบนโต๊ะทำงาน

“เอาเก้าอี้มานั่งใกล้ๆ พี่ซิครับ” พี่ตั้นเขาพูด ผมก็หันหลังไปมองหาเก้าอี้แต่ผมก็ต้อง ชะงักตกใจ ก็ห้องทำงานพี่เขาเป็นกระจกใส มีคนคนมายืนส่อง เน้นว่าส่อง เอามือป้องกันเป็นแถวเพื่อดูผมกับพี่ตั้นเหรอ แต่จู่ๆทุกคนก็พลุบหายไปในทันที พอผมหันกลับมามอง เพราะไอ้พี่ตั้นมันนี้เอง พี่เขาส่งนิ้วกลางไปให้และผมก็ลากเก้าอี้มานั่ง

“ป้อนพี่หน่อยซิ พี่ยุ่งอ่ะ งานพี่เร่ง แต่พี่ก็หิว” พี่ตั้นพูด

“แล้วทำไมไม่นั่งทานให้ดีดีละ ทานไปทำงานไปด้วย มันดีตรงไหนละ งานยุ่งนะเข้าใจแต่สุขภาพมันไม่สำคัญหรือไง” ผมถามขึ้น พี่เขาหันมามองหน้าผมอ้าปากค้าง

“เออ ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ” ผมรีบพูด ปากไว้ไปไหมผมนี่

“แม้เมียเป็นห่วง ดีใจต่างหาก” พี่เขาพูดพร้อมกับหันมายิ้มให้ผมและหันมาจับลากเก้าอี้ที่ผมนั่งให้เลื่อนเข้าไปใกล้พี่เขาอีกจนเบียด

“ป้อนหน่อยซิ พี่อยากให้ป้อน” พี่เขาพูดและยืนใบหน้าหล่อๆ มาใกล้ชิดผม

“ป้อนหน่อย” พี่ตั้นพูดและจับมือผมไปจับช้อนผมก็คงต้องจำใจป้อนแหละ คนตัวโต โตซะเปล่าจริงๆ

“อืมม อร่อย เปิดร้านอาหารเลยไหม” พี่ตั้นพูด ผมหันมา “ประชดก็พูดมา” ผมพูด

“อ้า” อ้าปากรอด้วยผมก็ป้อนอีก

“เมย์ทานหรือยัง”

“ผม… ผม…”

“แทนตัวเองว่าเมย์ได้ไหม พี่ว่ามันน่ารักดี” พี่ตั้นพูด ผมหันมามอง

“ก็เรายังไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น” ผมพูด

“เออ โอเค” ผมหันไปเห็นสีหน้าคนตัวโต เหมือนกับว่ามันเสียใจ

“ตกลงทานมาหรือยังครับ”

“ผมยังไม่หิวเลยยัง”

“หมับ!” และจู่ๆ พี่เขาก็ตักอาหารใส่ช้อนที่แย่งผมไปถือเอาไว้ก็มาจ่อที่ริมฝีปากผม

“พี่ป้อนไง เราผลัดกัน ถ้าไม่กินนี้แปลว่าเราใส่อะไรที่หวังจะฆ่าพี่ลงไปแน่ๆ” พี่ตั้นพูดเขาเลิกคิ้วสูง

“ไม่ได้ใส่ ผมไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้นน่ะ” ผมพูด พี่เขาเลิกคิ้วมองผม ผมจำใจต้องอ้าปากงับและค่อยๆ เคี้ยวช้าๆ แต่จะว่าไป ไม่มีรสชาติอะไรเลย

“ไม่อร่อยเลยอ่ะ ผมว่าพี่ไปสั่งอาหารแทนดีกว่า” ผมพูดและทำท่าจะแย่งจานคืนมา

“หมับ” พี่เขาคว้าเอาไว้ “อาหารคนในบ้านทำให้ต้องอร่อยอยู่แล้วเพราะคนในบ้านนะคือคนสำคัญและมันไม่ได้อร่อยจากเครื่องปรุงรสแต่มันอร่อยเพราะว่าตั้งใจทำให้ต่างหาก” พี่ตั้นพูด ผมก็มองเขาแอบว่าอึ้งได้อีก ฝ่ามือนั้นก็โอบเอวผมเข้าไปหาเขาเรื่อย ๆ แต่ครั้งนี้ผมกับไม่ต่อต้านหรือตัวสั่นเหมือนที่ผ่านมา

“ตั้น….” เสียงใครสักคนเรียกพี่ตั้น จนผมก็ต้องหันไปมองพร้อมกับพี่ตั้น ผมจำได้ดีคนที่ขึ้นไปบนห้องพี่ตั้น เหมือนกับว่าเขาไม่พอใจเรื่องผม

“มีอะไรคิน” พี่ตั้นถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

“นี้ต้องลงมา ป้อนกันถึงที่นี่เลยเหรอ”

“แฟนกัน ก็ลงมาดูแลเป็นเรื่องธรรมดา มึงไปไหนกันมากับไอ้ธีมล่ะ”

“กูไปหาอะไรทานกันมาและไอ้ธีมมันก็แวะซื้อกาแฟมาเลี้ยงน้องๆ”

“กูก็ซื้ออาหารกลางวันมาให้มึงแต่มึงคง”

“มีแล้ววะ”

“เออ” น้ำเสียงไม่ค่อยพอใจก่อนจะหันหลังและพี่คนนั้นก็เดินออกไปทันที เขาไม่หันมามองผมสักนิดแม้กระทั่งหางตาก็ไม่มี ผมหันมามองพี่ตั้น

“อย่าไปถือสามันเลยไอ้ภาคินน่ะ มันเป็นเพื่อนที่พี่รัก และเพื่อนคนแรกที่พี่มีตอนที่พี่ย้ายมาจากอเมริกา “พี่ตั้นพูด

“ถ้าอย่างนั้นผมไม่กวนพี่ดีกว่าผมขึ้นไปบนห้องดีกว่าครับพี่ตั้น “ผมพูดและรีบลุก

“จะไปแล้วเหรอ”

“ครับ เพราะว่าดูแล้วพี่คงยุ่ง”

“เอาไว้คุยกันหลังจากพี่เลิกงานจะดีกว่า “ผมและรีบลุกขึ้นแต่พี่ตั้นเดินออกมาพร้อมกับผมที่ด้านนอก พี่คนที่ออกมาจากห้องเมื่อสักครู่นั่งอยู่เขาหันมามองหน้าผม และเบือนหน้าหนีทันที

“แป๊ะๆ” เสียงปรบมือจากพี่คนที่เดินไปเปิดประตูให้ผม “ฟังเฮียตั้นมีเรื่องแจ้งวันนี้ สำหรับคนที่มาและคนที่ไม่มาก็ฝากไปบอกกันเองด้วยนะ…เชิญครับเฮีย”

“ปึก! กาแฟมาแล้วว่ะ เฮียเขาใจดีให้พี่ซื้อมาเลี้ยง” ทันใดนั้นก็มีคนเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับถุงกาแฟ ที่หิ้วมาหลายแก้วเลย และมีคนหิ้วมาส่งมันด้วย ก่อนจะเดินออกไป ไอ้ธีมมันหันมามองหน้าผมและมันก็ต้องชะงักที่เมย์

“เออ…เดี๋ยวนะ ไอ้บอสครับ คนข้างๆ มึงใครครับนั้น”

“นั่งลงครับไอ้หุ้นส่วน ท่านประธานใหญ่จะกล่าวโอวาท” ไอ้เปรมดิ์มันพูดผมหันเห็นพี่ตั้นแกแอบส่งนิ้วกลางให้เพื่อนอีกแล้ว

“เอาละวันนี้เฮียจะบอกว่า เฮียมีแฟนแล้วนะ ชื่อพี่เมย์ “พี่เขาพูดดูท่าเด็กๆ ทำงานที่นี้จะเชื่อฟังพี่ตั้นกันมากเรียกว่าให้ความเคารพเลยทีเดียว

“วี้ดวิ้ว” “อาซ้อ!!” ผมหันมามองพี่ตั้น ว่าผมไม่ใช่อาซ้อ (เมียเฮียก็ต้องเรียกอาซอ) พี่เขาหันมากระซิบ (แต่ผมไม่ใช่ผู้หญิง!!) ผมพูดลอดไรฟันขาวๆ ของผมกับพี่ตั้น(ยอมรับเถอะเพราะว่าน้องเขาเรียกพี่ว่าเฮียแล้วเมย์จะเหลือเหรอ ก็ต้องอาซ้อ)พี่ตั้นก้มลงกระซิบกับผม ผมก็เหลือกตาขึ้นบน

“คนนี้น่ะหรือครับที่มึง…. หมับ!” ขณะที่พี่คนที่มาทีหลังสุดกำลังพูดก็มีคนที่นั่งใกล้ที่สุดปิดปากไว้ซะก่อน

“และต่อไปมีอะไร คนที่ตัดสินใจแทนเฮียได้คือพี่เมย์น่ะ ถ้าพวกพี่ๆ ในนี้ไม่อยู่ มีอะไรโทรไปถามพี่เมย์แต่พี่เมย์จะลงมานั่งช่วยเฮียทำงานบ้าง แต่ไม่ตลอดเวลา เพราะว่า…”

“หน้าที่หลักพี่เมย์คือดูแลเฮีย” อันนี้พี่ตั้นเขาหันมามองผม ผมก็หันหนี ไม่รู้เขินหรือเปล่าน่ะ ถามตัวเอง

“อะไรวะ มึงให้น้องเขา” มีคนลุกขึ้นยืนทำท่าจะค้านแต่มีคนมากระฉากออกไปซะก่อน ผมหันมามองพี่ตั้น

“ตอนเย็นพี่ขึ้นไปคุยน่ะ ล๊อคห้องด้วยนะ พี่ไปถึงแล้วจะกดกริ่งเรียกเอง” พี่ตั้นกระซิบบอกผม ผมก็มองว่าผมไม่เข้าใจอ่ะเกิดอะไรขึ้น

“เดี๋ยวพี่เคลียร์งานแล้วพี่จะขึ้นไป “พี่ตั้นพูดพร้อมกับดันผมออกและเดินออกมากับผมทันที เขาเดินมาส่งผมจนถึงลิฟต์ ทันทีที่ลิฟต์เปิดผมก็เดินเข้าไปอย่างงงๆ งงตัวเอง ผมหันมามองพี่ตั้นก่อนที่ประตูลิฟต์จะปิดลงช้าๆ มันเหมือนภาพสโลโมชั่น รอยยิ้มพี่เขามันกลับทำให้ภาพวันนั้นค่อยๆเลือนหายไป

“ปึก” ผมกดปุ่มเพื่อให้ลิฟต์เปิด และสิ่งที่ผมเห็นคือพี่ตั้นยังคงยืนอยู่ที่เดิม เขามองผมด้วยสีหน้าตกใจและแปลกใจทำไมผมยังกดให้ลิฟต์เปิดอีก

“พี่จะขึ้นไปทานอาหารเย็นกับผมหรือเปล่าครับ ผมจะได้รอพี่” ผมถามพี่ตั้นด้วยน้ำเสียงเนิบๆ

“ครับ พี่จะเลิกเร็วนะวันนี้ เมียชวนทานข้าว” พี่ตั้นพูดพร้อมกับเกาที่ท้ายถอย ผมกับทำปากยู่เลย" แม้เมียชวนทานข้าว" ฟังแล้วเขินชะมัด เขินทั้งที่ยังไม่เป็นอะไรกันเลยนี่น่ะผม เป็นเอามาก และที่บอกเขาไปว่าไม่รู้ว่าผมจะรักเขาไหม สงสัยว่าอาจจะรักมั้ง (คิดดังๆในใจ)
******
   Part รชานนท์ ผมเดินกลับมาพร้อมรอยยิ้มที่เปื้อนขึ้นบนใบหน้า ก็คนตัวเล็กเขาถามผมว่าผมจะกลับไปทานอาหารเย็นกับเขาไหม ถ้าไปเขาจะรอผม ไม่ยิ้มดีใจได้ยังไงละ ผมเดินกลับมาจะช่วยกันตรวจทานงานอีกรอบและจะได้ทำไปพรีเซนต์ให้กับเจ้าของโรงแรมดัง

“ไอ้ภาคินกับไอ้ธีมละวะ” ผมถามอาร์ม มันนั่งเอามือเท้าคางอยู่ ตอนนี้เด็กๆ กลับไปกันหมดแล้ว เหลือแต่พวกเพื่อนๆ ผม

“ไอ้ธีมมันคงพาไปแรดที่ไหนนะ แก้เฮิร์ท “ไอ้อาร์มพูดพร้อมกับเหลือกตาขึ้นมามองผมว่าผมน่ะคือตัวต้นเหตุที่ทำให้มันเฮิร์ท กวนผมได้อีกไอ้นี่ แต่ผมเลือกที่จะกลับเข้าไปนั่งทำงานของผมต่อจะได้เสร็จเร็วๆ ส่วนพวกไอ้เปรมดิ์มันก็ทำส่วนของพวกมันไป ผมนั่งทำไปได้สักพัก

"เฮีย พวกผมกลับกันก่อนนะครับ พรุ่งนี้ผมมีสอบกัน และผมจะมาอีกทีวันที่เฮียบอกให้ไปช่วยงานโรงแรมนะครับเฮีย"เด็กที่มาทำงานกับผม ผมหันไปพยักหน้า

" เงินเข้าแล้วนะครับเฮีย ขอบคุณครับ" เด็กที่มาทำงานกับผม

"เฮียหนูไปก่อนนะคะ หวัดดีค่ะเฮีย" คนนี้ออกทอมๆ ผมพยักหน้า เด็กที่มาทำงานผมจะสั่งห้ามพวกเพื่อนๆผม กระทำการไม่ดีกับน้องๆ มันเด็ดขาด พวกมันก็รับปากเพราะมารู้ทีหลังว่าน้องมันเป็นดี้ครับแถมมันยังต่อยผู้ชายปากแตกมาแล้วพวกเพื่อนผมเลยไม่กล้าแม้แต่จะแซวเลย ฮาๆ ผมนั่งทำงานต่อจนสักพักก็ออกมาเห็นพวกเพื่อนๆ ผม มันกำลังตั้งวงเหล้ากันอีกแล้ว

“ไหนพวกมึงบอกจะกลับบ้านกันกินเหล้าแล้วขับมึงจะซวยเอา” ผมออกมาพูดเตือนด้วยความหวงใย ผมห้ามปรามพวกมันตลอดเรื่องนี้ ผมไม่อยากให้พวกมันเกิดอุบัติเหตุ

“กูกินกันคนละแก้วสองแก้ว ไม่ให้เมาหรอกน่ะ “ไอ้เปรมดิ์พูด แต่ก็จริงนะ ขวดนี้เปิดมานานมันยังไม่หมดเลย นับว่าพวกมันยังฟังผมบ้าง แต่ถ้าไปผับนี้ ผมไม่กล้าดื่มเยอะปล่อยพวกมันดื่มกันหนักๆไป ผมจะได้พากับกลับบ้านอย่างปลอดภัย ผมก็นั่งเปิดคอมไอ้ทีนดู ไอ้ทีนมันชงให้ผมแก้วหนึ่ง

“ตัวช่วยคืนนี้เพื่อแบบว่าจะได้…. อื้มมมม” ไอ้ทีนพูด ผมหันไปยกนิ้วกลางให้แต่ก็รับแก้วเหล้ามากระดกดื่มนิดๆ

“ไอ้กอล์ฟละวะ” ผมถามเพราะว่าไม่เห็นมันในห้อง

“อ้อนเมียมันอยู่หลังบ้าน” ไอ้ทีนพูด หลังบ้านนี้คือตรงที่มีระเบียง ผมพยักหน้า

“ปึก” เสียงประตูห้องทำงานเปิดออก ผมหันไปมองกัน คนที่เปิดเข้ามาคือเด็กหนุ่มหน้าตาตี๋ๆ ผมพอจำได้ว่าเด็กคนนี้เป็นเพื่อนกับไอ้ปอมแต่ไอ้ปอมมันบอกผมว่ามาไม่ได้หลายวันมีสอบแต่นี้น้องมันมา หรือว่ามันไม่รู้กันแน่ พวกผมหันไปมองด้วยความสงสัย

“น้องมาหาใครอ่ะครับ เขากลับกันไปหมดแล้ว” ไอ้เปรมดิ์มันถาม

“เออ ผมมา …หา…. หา…. หา”น้องมันพูดพร้อมกับกวาดสายตามองไปรอบๆห้องทั้งที่เก้าอี้ทุกตัวว่าวเปล่าหมดแล้ว

“ไม่ต้องหาแล้ว หาอยู่นั่นแหละ กลับไปนึกมาก่อนแล้วพรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ ว่ามึงจะหาอะไร” ไอ้อาร์มมันชิ่งพูดตัดหน้าน้องทันที

“ผมมาหา พี่…กอล์ฟ!” มันไม่พูดเปล่ามันชี้ไปด้วย คนที่เดินเข้ามาพอดี

“พล้วด!!” ไอ้เปรมดิ์กับไอ้ทีนที่กำลังกระดกแก้วเหล้ามันพ่นออกมาทันที

“อ้าวเฟย์มาแล้วเหรอ นั่งลงดิ “ไอ้กอล์ฟมันบอกให้น้องมันนั่งข้างๆ เครื่องคอมที่มันใช้ทำงาน ผมก็เฉยๆ เห็นมันมาคลุกด้วยกันบ่อย

“เดี๋ยวน่ะ ไอ้น้อง นี้มึงมาหาไอ้กอล์ฟมันเหรอวะวันนี้” ไอ้เปรมดิ์

“ใช่ครับพี่ พอดีผมกำลังทำโปรเจ็คโปรแกรมประยุกต์ส่งอาจารย์ปรมัธ มันยากนะครับผมเลยต้องให้พี่กอล์ฟช่วยนะครับ” น้องเขาตอบมา ผมพยักหน้าพวกไอ้เปรมดิ์มันก็พยักหน้า ผมทำท่าจะลุกไปดูงานต่อในห้อง

“เฮ้ย!” ไอ้เปรมดิ์มันร้องทักก่อนจะหันมามองไอ้กอล์ฟ ไอ้กอล์ฟมันก็เลิกคิ้วแต่มันก็หันไปลากเก้าอี้มาให้เฟย์นั่งลง น้องก็ว่าง่ายก่อนจะวางกระเป๋าเป้ไว้ด้านข้าง

“มีอะไรวะไอ้เปรมดิ์” ไอ้อาร์มถามไอ้เปรมด์ที่หันไปมองคุ่นั้นอยู่นั่นแหละ

“มึงว่าไอ้ตี๋นี้มันคิดอะไรกับไอ้กอล์ฟไหมวะ “ไอ้เปรมดิ์มันถามแบบกระซิบกับพวกผม ผมหันมามองหน้ามัน ผมส่ายหน้า

“และไอ้กอล์ฟนี้มันก็แอบคิดอะไรกับไอ้ตี๋ด้วยหรือเปล่า” ไอ้เปรมดิ์มันพูดกลับอีก

“มันมาคลุกกับไอ้กอล์ฟและมาช่วงเย็นๆ ค่ำๆ แบบนี้ แถมมาค้างกับไอ้กอล์ฟอีก” ไอ้เปรมดิ์พูด ผมก็ทำท่าคิดและก็สั่นหัว มีเด็กค้างที่นี้เยอะแยะไป บางทีห้องไม่พอก็ไปค้างห้องไอ้กอล์ฟเพราะว่าแฟนไม่อยู่

“มันจะคิดอะไรไอ้กอล์ฟมันมีเมีย มึงก็คิดเรื่องของชาวบ้านเขามากไป” ไอ้ทีนพูดผมหันมาแตะมือว่ะ

“มึงชมว่ากูเสือกเรื่องของชาวบ้านใช่ไหมครับไอ้สนทีนครับ!” ไอ้เปรมดิ์หันมาถามไอ้ทีนทันที

“ก็มันบอกอยู่ว่าให้ไอ้กอล์ฟช่วย น้องมันก็คงเห็นว่าไอ้กอล์ฟมันเก่งเรื่องการเขียนโปรแกรม “ผมพูดและทำท่าจะเดินเข้าไปในออฟฟิศ

“น้องมาค่ำๆ แบบนี้กลับบ้านไงวะ ให้พวกพี่รอเปล่ากลับพร้อมกันจะได้ไปส่ง” ไอ้ทีนมันถาม

“ไม่เป็นไรครับ ผมเตรียมเสื้อผ้ามาค้างเลยครับ พรุ่งนี้ผมมีเรียนบ่าย” น้องเขาหันมาตอบ

“อู้ยย!!!” ไอ้เปรมดิ์กับไอ้อาร์มมันร้องออกมาพร้อมกัน

“ร้องทำไมว่ะมึง” ไอ้กอล์ฟมันหันมาถาม

“เตรียมพร้อมขนาดนี้ มึงวางแผนมาเลยไหมครับไอ้หน้าตี๋” ไอ้เปรมดิ์พูด และทำท่าจะลุก

“กลับแล้วเหรอมึง” ผมถามไอ้เปรมดิ์   มันหันมามองผมที่ยืนยิ้มที่มุมปาก มันคงเข้าใจว่าผมประชดมันอยู่ประมาณว่าไม่อยู่เสือกเรื่องชาวบ้านต่อเหรอประมาณนี้

“เอกลับแล้ว!" ไอ้เปรมดิ์มันตอบผม "กูรีบกลับว่าที่ศรีภรรยา เลิกเรียนแล้วต้องรีบไปรับครับ ก่อนน้องนางจะมีโชว์ภาคเจ้าแม่กาลี ใส่กู “ไอ้เปรมดิ์พูด

” ไปก่อนเลยกูกลับพร้อมกับไอ้ทีนว่ะ วันนี้ไม่รีบอยู่คนเดียว”

“ไม่นอนนี้ว่ะไอ้อาร์ม”

“ไม่เอาดีกว่าว่ะ กลับหอกูมั้ง รกแล้วเนี่ยะ! วันก่อนเมียมาบ่นฉิบหาย จะกลายเป็นหมีกินผึ้งอยู่แล้ว” ไอ้อาร์มพูด ผมก็เดินเข้าห้องทำงานต่อดีกว่าที่ผมจะต้องนำไปพรีเซนต์ให้พี่ปฐวีร์ดูก่อนเพื่อว่าต้องมีแก้ไข และผมก็จะได้ขึ้นห้องพักเร็วกว่าทุกวัน วันนี้ว่าที่แล้วกันเพราะเหมือนกับว่าผมต้องเริ่มขอความรักน้องเขาใหม่ หรือเรียกง่ายว่าขอเป็นแฟนกันใหม่ ว่าที่คุณภรรยารอทานข้าวเย็นกับผม

   ผมนั่งดูจากรูปถ่ายของพี่ปฐวีร์ พี่เขาดูดีมากจริง ๆ ดูมีเสน่ห์ผมว่าทั้งเพศตรงข้ามและเพศข้างเดียวกัน แต่สิ่งที่ทำให้ผมคิดนั้นคือ คำพูดของวิว ที่ผ่านมาใครช่วยเรื่องเงินกับเมย์มาตลอดพี่ปฐวีร์เหรอ แล้วเขาช่วยเพื่ออะไรถ้าไม่หวังสิ่งตอบแทนหรือว่าเขากับเมย์จะ แค่คิดทำไมผมถึงได้กำมัดแน่นได้ขนาดนี้ ผมหึงแล้วใช่ไหม ปกติไม่เคยหึงใครเลย มีแต่คนมาหึงผมกันทั้งนั้น

TBC
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก EP.8 ผมกลายเป็นอาซ้อเพราะว่าเป็นแฟนเฮีย(ตั้น)
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 15-11-2020 21:55:00
 :hao5:
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก EP.9 EP.9 พี่คงสู้เขาไม่ได้(รีไรท์)
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 16-11-2020 08:08:32
EP.9 พี่คงสู้เขาไม่ได้(รีไรท์)

                Part's รชานนท์ ผมมีนัดคุยเรื่องโปรแกรมที่ผมเขียนให้กับพี่ปฐวีย์ แต่ภาวนาขออย่าให้เจอพี่ปริมเลย และวันนี้ผมไปกันครบชุดเลย แต่ที่ออฟฟิศผมจะน้องๆ ที่เรียนมาอยู่ทำงานแทนและแฟนของเปรมดิ์ก็จะมาช่วยด้วย วันนี้วันพิเศษ ก็ได้ไปคุยกับผู้บริหารโรงแรมเองก็ต้องแต่งแบบจัดเต็มไปหน่อย ใส่สูทผูกไทค์ ปกติไม่เคยผูกเลยจริงๆ นอกจากออกงานใหญ่ คือต้องใหญ่จริงๆ แต่ว่าตอนนี้ผมกำลังหงุดหงิด ยิ่งผูกก็ยิ่งหงุดหงิด

“พี่ตั้น ทำอะไรอยู่นะครับ” ผมหันมามองคนตัวเล็กที่ยืนมองผมอยู่

“ผูกเนกไทค์ไงครับ พี่นี่เกลียดเวลาผูกไทค์ที่สุด “ผมพูดโดยไม่ได้หันไปมองตัวเล็ก ผมยอมรับว่าเวลาไปออกงานและพี่ปริมมานอนกับผมเขาจะเป็นคนผูกให้ผมตลอด

“ไหนขอผมดูหน่อยได้ไหมครับ” เมย์เดินมาหาผม ผมก็หันไปหาเมย์ ไปยืนตรงหน้าเขา เมย์เขาปลดเนกไทผมและจัดการคล้องให้ผมใหม่อีกครั้ง ผมยืนมองใบหน้าหวานๆของเมย์ที่ไม่มีเครื่องสำอางใดๆ แต่ว่ามันหาได้ทำให้ผมอยากจะละสายตา ยิ่งมองจ้องนานแค่ไหน ก็ยิ่งห้ามใจตัวเองไม่ได้ แต่ผมบอกเขาไว้แล้วว่าถ้าเมย์ไม่ให้ผมก็จะไม่ทำ ต้องฝืนกลืนน้ำลายตัวเองลงคอไป

“หมับ” เมย์ผูกเสร็จพอดี และจัดแต่งให้ผมเรียบร้อย เรียกว่าดูดีทีเดียว

“ผูกเป็นด้วยเหรอครับ” ผมถาม

“มีคนสอนผมผูกครับผมเลยจำเขามาอีกที” เมย์พูด ผมก็มองดูท่าจะผู้ชายมั้ง ที่สอนมา แม้ผมเองก็ผ่านมาเยอะแยะผู้หญิงนะ

“ทานอาหารก่อนไหมครับ พี่ตั้น” เมย์ถามผม ผมพยักหน้า และหันไปเช็กเนกไทของตัวเองมันสวยและดูเรียบร้อย

“เมย์” เรียกเมย์เอาไว้เขาหันมามองหน้าผม

“ฟ้อด!!” เสียงหอมแก้มจากผมอย่างรีบร้อนและรีบเดินออก

“รางวัลครับ” ผมพูดแต่คนที่ยืนอยู่เอามือลูปแก้มตัวเองไปมาไม่รู้ว่าเมย์เขาเขินหรือว่าโกรธผมกันแน่ ก่อนจะเดินกลับมาจัดการอาหารเช้าให้ผม มีไข่ดาวสองฟอง ผักสลัดและอะโวคาโด เสิร์ฟพร้อมกับกาแฟเขาใช้นมอัลมอนด์ด้วย (แม่ผมชอบให้ผมชงกาแฟใส่นมอัลมอนด์ให้ทุกครั้ง)

“วันนี้เมย์ลงไปนั่งโต๊ะทำงานพี่ก็ได้น่ะ เพราะพวกพี่ไปกันหมดเผื่อว่ามีอะไรเมย์จะได้แก้ไขแทนพวกพี่ได้”

“พี่ไว้ใจผมขนาดนั้นเลยเหรอ ผมเองยังไม่เคยทำงานในออฟฟิศมาก่อนเลยน่ะครับ “เมย์พูดกับผม

“พี่เชื่อว่าเมย์ทำได้ มีอะไรโทรหาพี่ซิ” ผมพูดกับเมย์ เมย์เขาก็พยักหน้ากับผมเบาๆ

“กลับมาแล้วพี่จะพาไปเยี่ยมแม่น่ะเมย์ “ผมพูดบอกเมย์ เมย์มองผมก่อนจะยิ้มตาหยีมาให้ผม

เปรมดิ์// ไอ้บอสครับ มึงลงมาได้หรือยังพวกกูพร้อมมากและโคตรอึดอัดเลย ทำไมต้องแต่งสูทผูกไทด้วยว่ะ มึงดูอากาศเมืองไทยบางนะครับ สัส! // ไอ้เปรมดิ์มันส่งข้อความมาตามผมและบ่นผมด้วย ผมก็ลุกขึ้น

“พี่ไปก่อนนะเมย์ “ผมพูดและทำท่าจะอยากจะหอมแก้ม แต่ผมก็

“ฟ้อด!” มีคนหอมแก้มผมแทน

“ก็ให้รางวัลล่วงหน้าที่ยอมจะพาผมไปเยี่ยมแม่ปิ่นวันนี้ไง” เมย์พูดพร้อมกับอาการหน้าแดงเพราะว่าเขินผม ผมก็เอามือลูบแก้ม บอกตรงๆแถมยังไม่เชื่อเหมือนฝันไปเลยแต่มันคือเรื่องจริง “ก็ได้อยู่นะเหตุผลนี่น่ะ หึๆ"ผมพูดพร้อมกับอมยิ้มเล็กน้อย ผมเดินออกมาจากห้อง ผมไม่ต้องใส่รหัสล๊อคแล้ว นี้เป็นอาทิตย์ที่สองแล้วที่เมย์อยู่กับผมและผมคิดว่าจะพาเมย์ไปเยี่ยมแม่ปิ่น แม่บุญธรรมของเขาซะหน่อยเขาบ่นว่าคิดถึงแต่เขาไม่กล้าไปเอง เขากลัวแม่ปิ่นจะว่าเขา

“คุณบอสครับ กว่าจะลงมาได้ครับ ล่ำลาเมียรักอยู่เหรอครับ ไปทำงานครับ ไปแล้วกลับไม่ได้ไปแล้วค้างคืนนะมึงครับ” ไอ้เปรมด์มันถามผม ผมลงมายืนมองพวกมันแล้วผมเองก็อดขำไม่ได้

“นี้เป็นครั้งที่สองในรอบปีที่ได้สวมสูทผูกเนกไทค์ขนาดนี้ นี้พาพวกกูไปคุยกับใครเนี่ยะ ประธานาธิบดีหรือไงครับ ไอ้คุณบอส!” ไอ้กอล์ฟมันบ่นผมอีกคน

“ก็ไปคุยกับท่านประธาน โรงแรมหรูห้าดาวด้วย ให้เกียรติสถานที่เขาหน่อย บ่นจริงๆ เลยพวกมึง” ผมพูดและ รถเก๋งคันหรูสองคนวิ่งเข้ามาจอด ผมคุยกันแล้วว่าจะไปสามคัน มีรถเก๋ง ที่พ่อผมซื้อให้อีกเช่นกัน Mercedes-Benz AMG GT ไม่ค่อยได้ใช้เพราะปกติใช้แต่รถกระบะโฟว์วิลตลอด รถของได้ธีมวันนี้มันเอา Porsche 911 Targa ลูกรักมันไป และรถของภาคิน Mercedes-Benz AMG มันใช่รุ่นเดียวกับผม วันนี้พวกผมตั้งใจว่าเราจะไปกันอย่างหรูและดูแพง

“ไอ้เปรมดิ์มากับกู” ผมบอกมันพวกนั้นก็แยกย้ายกันขึ้นรถไป ผมนัดพี่เขาเอาไว้สิบโมง กว่าจะขับรถไปถึงก็คงเหลือเวลาพอสมควรที่จะเตรียมตัวพรีเซนต์งานกัน

“ไอ้ตั้น วันนี้กูให้โบว์แฟนกูมาอยู่เป็นเพื่อนเมย์นะ มึงให้เมย์ลงมานั่งโต๊ะทำงานมึงหรือเปล่าวะ” ไอ้เปรมดิ์มันถามผม

“เออ กูบอกเมย์ไปเมื่อเช้าว่ะ”

“ตกลงมึงชอบเขาจริงๆ เหรอวะ”

“กูว่ากูรักเขาว่ะ ตอนแรกกูคิดว่ากูรู้สึกผิดแต่ตอนนี้กูรู้สึกรัก”

“แต่เขาอาจจะไม่รักกูว่ะ กูไม่รู้ว่าเขากับพี่ปฐวีย์มีความสัมพันธ์กันแค่ไหนด้วยวะ ดูแล้วพี่ปฐวีย์น่าจะมีบุญคุณกับเขาด้วย “ผมพูดไอ้เปรมดิ์มันแตะไหล่ผมเบาๆ

“กูก็ว่ามึงรักเขาว่ะ เพราะว่าสิ่งที่มึงทำให้เขานะมึงไม่เคยทำให้ใครแม้แต่พี่ปริมที่มึงเคยรักเขา”

“กูไม่ได้รักพี่ปริมหรอกกูแค่โหยหา แต่มันกับไม่ใช่ สิ่งที่กูต้องการ ส่วนพี่ปริมก็แค่ต้องการเรื่องอย่างว่า แต่ถ้าคนที่อยากได้มาเป็นหน้าตาของแกทางสังคมนะ คุณปฐวีย์ “ผมพูด "มึงเสียใจเหรอวะ กูว่าไม่น่าจะใช่ว่ะ เรื่องอิเจ้น่ะ" ไอ้เปรมดิ์มันพูด ผมหันไปมองหน้ามัน ผมควรเสียใจหรือไง อย่างเจ้น่ะไม่ใช่ที่ผมอยากหยุดด้วยแน่นอน เอาจริง พี่ปริมเขาไม่เคยรู้หลายเรื่องเกี่ยวกับตัวผม ผมเองก็ไม่จำเป็นต้องบอก ว่าผมคือใครลูกของใคร เขารู้แค่ว่าผมเป็นคนที่เปิดบริษัทเล็กๆ อยู่กับเพื่อนๆ แค่นี้แต่ว่าผมมีมากกว่านั้น

   ตอนนี้ผมขับรถเข้ามาถึงโรงแรมหรูตามที่เลขาฯ จองพี่ปฐวีย์บอกผมเอาไว้ ก่อนที่ผมจะนำรถเข้าที่จอดผมต้องและบัตรก่อนเขาถึงจะให้บัตรไปแตะเพื่อเปิดประตูก่อนนำรถเข้าไปจอด ผมรอจนพร้อมก็พากันเดินเข้าไป ผมมาด้วยเสื้อสูทสีน้ำเงินเนกไทค์สีบอร์นเงิน สวมแว่นตาเรแบรนด์ เดินขึ้นไปที่ร๊อบบี้เพื่อติดต่อรีเซฟชั่นก่อน

“พวกมึงนั่งรอก่อนแล้วกันว่ะ กูไปถามเอง” ผมบอกพวกนั้นมันก็นั่งกันเท่เชียวราวกับว่ามันมาพักที่นี่อย่างนั้นแหละ ส่งซิกให้สาวๆ กันใหญ่ โดยเฉพาะไอ้ธีม

“สวัสดีค่ะ” พนักงานรีเซฟชั้นหันมาถามผมด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวานและใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เธอเป็นสวยแต่ว่าผมกลับไม่ได้รู้สึกอะไรตอบมากมาย

“ผมมารอพบท่านประธานโรงแรมนี้นะครับ คุณปฐวีร์ครับ พวกเราทำการนัดไว้แล้วครับ”

“รอสักครูนะคะ “รีเซฟชั่นตอบผมก่อนจะหยิบโทรศัพท์มาติดต่อให้ผม

“หล่ออ่ะ” ผมได้ยินก็ต้องเกาหัวเล็กน้อยแอบเขินเฉยๆ

“ขอโทษนะคะ เดี๋ยวเลขาฯ คุณปฐวีร์จะลงมานะคะ รบกวนนั่งรอสักครูค่ะ” ผมหันหลังไปหยิบโทรศัพท์มาจะส่งข้อความถามเมย์สักหน่อยว่าเป็นอย่างไรบ้าง

“นี่เธอ เมื่อเช้าคุณปฐวีร์มาถามหาเมย์อีกแล้วละ นี้นางก็หายไปเกือบจะสองอาทิตย์แล้วนะ” ผมชะงักเท้าไว้ทันทีแต่ทำเนียนหันไปอ่านโปรแกรมทัวร์แทนเพื่อรอฟังว่าเขาจะพูดถึงเมย์ว่ายังไง

“ก็เล่นใครไม่เล่น ไปกุ๊กกิ้กกับคุณปฐวีร์ คู่หมั้นนี้ดุจะตาย”

“เขาโดนเก็บเหรอ”

“สงสัยโดยจับไป…. เป็นเมียใครแล้วหรือเปล่าก็ไม่รู้อ่ะแก คิก คิก คิก สมน้ำหน้าอ่ะ “ผมหันมามองสองสาวที่นินทากันสนุกปาก หน้าตาดีแต่พอได้ยินแบบนี้ผมว่าหมดราคาครับ

“น่าเสียดายน่ะแก แต่ไม่มายด์ไม่ใช่ชายแท้ ดูก็รู้ “เขาไม่ได้พูดแบบว่ารู้สึกเห็นใจเมย์สียิด แถมยังหัวเราะต่อกระซิกกันอีกเชิงสมน้ำหน้ามากกว่า เยี่ยม! ผมคิดในใจ แตก็ฝืนยิ้มให้ก่อนจะเลือกเดินกลับออกไปหาเพื่อนๆ ผมดีกว่า

“เป็นห่าอะไรมาว่ะ สาวๆ ไม่ให้เบอร์มึงเหรอครับ” ไอ้อาร์มมันถามผมก่อนชะโงกไปโบกมือกับสาว ผมหันไปมอง สาวๆนั้นก็โบกมือกลับมาทันทีน่ะ " เดี๋ยวมึงก็เจอเข่าเมียลอยมาปะทะหรอก ไม่เข็ด ไอ้ประเภทเห็นสาวไม่ได้ โบกมือเป็นนางสาวไทยทักแฟนคลับเลยนะมึง" ไอ้ภาคินหันมาทักไอ้อาร์ม มันรีบหดมือลงทันที พ่อตามันเปิดค่ายมวยไง

“ที่หลังให้กูไปขอ นี่ได้เลย” ไอ้เปรมดิ์รีบพูดทันที

“เบอร์รองเท้านะมึงได้แน่ๆ” ไอ้กอล์ฟไม่รอช้า

“ก็ดีดิ จะได้ซื้อรองเท้าให้เขาเป็นการตอบแทน…. เฮ้ย!!” พวกมันแซวกันไป ไอ้ภาคินมันหันมามองหน้าผมแบบจริงจัง

“เป็นอะไรไปวะ มึงไอ้ตั้น “ไอ้ภาคินมันถามผม ไอ้ธีมมันหันมาหยักคิ้วให้ผมอย่าโกหกมันอีก

“กูได้ยินเขาพูดถึงเมย์ไม่ดีว่ะ พูดให้เมย์ดูแย่กว่าเดิม ทั้งที่ควรจะเป็นห่วงเป็นใยเพื่อนที่ทำงานหายไปทั้งคนนะมึง “ผมพูดไม่ดังมาก ไอ้ภาคินหันมามองหน้าผม

“เมย์เคยทำงานที่นี่และคืนนั้นกูให้ไอ้พวกนี้มาพาเมย์ไปจากที่นี้แหละ” ผมพูด

“เด็กคนนี้แม่งมีอิทธิพลกับมึงขนาดนี้เลยเหรอว่ะตั้น ปกติมึงไม่” ไอ้ธีมถามผมด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

“กูยอมรับ แต่…” จังหวะนั้น

“ขอโทษนะคะ ใช่บริษัทเฟรนด์กรุปที่นัดคุณปฐวีร์เอาไหว้หรือเปล่าคะ” เลขาฯ ของพี่ปฐวีร์ถามพวกเปรมดิ์ที่นั่งเล่นมือถือมันอยู่ก่อนจะหันมาเจอผมสามคน

“ของโทษทีนะคะ ไม่ทันเห็นคุณสามคน “คนเดิมเดินเข้ามาหาพวก ก่อนจะมองไปรอบและไปสะดุดที่ไอ้ธีม ยิ้มแบบไม่ธรรมดาแบบนี้ ผมหันไปมองไอ้ธีม มันหยักคิ้วให้ผม

“เชิญห้องประชุมเลยดีกว่าค่ะ “เลขาฯ พี่ปฐวีย์บอกพวกผม ผมยักไหล่ให้เพื่อนๆ มันก็ลุกขึ้นกันหมดแม้พอผู้หญิงมาตามนี้นอบน้อมกันน่าดูพวกไอ้เปรมดิ์ ไอ้อาร์ม ไอ้ทีนอีกคน ส่วนไอ้ธีมก็ไม่กระดี๊กระด๊าเหมือนตอนแรกเท่าไหร่แล้วนั้นแปลว่า

“ไอ้ตั้น” ไอ้ภาคินมันเรียกผม ผมหันไปมอง

“ไอ้ธีมมันซั่มเลขาฯ พี่แกไปแล้วว่ะ “ไอ้ภาคินมันบอกผม

“ไอ้…. เชี่ยเอ๊ย!” ผมด่ามันเบาๆ นึกเอาไว้แล้วเชียว แต่มันหาได้สำนึกไม่ หันมาทำนิ้วแร๊ฟโยะให้ผมดู ผมเดินตามเลขาฯ เข้าไป

“คุณปฐวีร์กำลังเดินลงมานะคะ เตรียมอุปกรณ์ก่อนได้เลยค่ะ” เลขาฯ พี่ปฐวีย์พูดก่อนจะเดินออกจากห้องไป โดยมีไอ้ธีมส่งจูบตามหลัง และพวกผมก็เตรียมโน้ตบุ๊คประจำตัวกันขึ้นมา และจัดการเซตไวไฟ พร้อมกับเตรียมพร้อมแชร์สกีน ผมเดินไปตั้งค่าโน้ตบุ๊คเพื่อพวกผมจะได้แชร์สกีนไปที่เครื่องของพี่เขา เพราะโน้ตบุ๊คที่เขาวางเอาไว้อันนี้น่าจะเป็นของพี่ปฐวีย์ใช้ และเดินกลับมานั่งรอ ผมให้ไอ้ภาคินมันนั่งคนแรกและผมตามมาด้วยไอ้ธีม ไอ้กอล์ฟ ไอ้ทีนและเปรมดิ์มันนั่งด้วยกัน ส่วนไอ้อาร์มมันทำหน้าที่บันทึกการสนทนา มันคือผู้คุมกล้องวีดิโอ

“สวัสดีครับ” ผมเงยหน้าคนที่เดินเข้ามาอย่างสง่าผ่าเผย (แอบคิดในใจว่าแล้วไงว่ะ) ถ้าไม่ใช่คนที่เมย์มีความรู้สึกพิเศษผมคงเฉยๆ แต่นี่เหมือนจะเป็นคู่อริกันเข้าไปทุกที

“สวัสดีครับพี่ปฐวีร์” พวกผมยกมือไหว้พร้อมกัน ผมเองก็ไม่รู้ว่าพี่เขาแก่กว่าพวกผมกี่ปี

“สวัสดีครับ วันก่อนมากันแค่สามคน เออวันนี้มาเพิ่มเป็นเจ็ดคนเลยเหรอครับ นี่คือ...”

“ทีมงานของผมและทุกคนคือเจ้าของเพราะเราหุ้นส่วนกันครับพี่” ผมตอบแทนเพื่อนๆ

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ดูแล้วยังหนุ่มๆ ไม่น่าเชื่อเลยนะครับ ไฟแรงกันจริงๆ”

“พี่ก็ยังหนุ่มน่ะครับ” ไอ้ธีม

“ก็สามสิบกว่าแล้วแหละครับ “ผมพยักหน้าพร้อมกัน

“เอาละ ขอแทนตัวเองว่าพี่แล้วกันนะครับ เออ พี่ดูที่คุณตั้นส่งอิเมลมาให้เลขาพี่ดูแล้วนะครับ พี่ว่ามันโอเคมากแต่พี่คิดว่าเว็บไซต์พี่จะเพิ่มประวัติของพี่ลงไปด้วย”

“ได้ครับถ้าพี่จะเพิ่ม เดี๋ยวผมให้เปรมดิ์เพื่อนผมเขาทำให้ครับพี่ เขารับผิดชอบทำเว็บไซต์ให้อยู่นะตอนนี้ครับ” ผมพูด พี่ปฐวีร์ก็หันไปพยักหน้ากับเลขาฯ ของพี่เขา ก่อนที่จะเดินนำกระดาษมาส่งให้พวกผมคนละชุด และพวกผมก็หยิบขึ้นมาพลิกดูและพอผมดูไล่อ่านก็ต้องหันมามองหน้าพร้อมกันหมดและพวกมันยังหันมามองหน้าผมกันอีก ส่วนไอ้ธีมนะมันมองข้อมูลในกระดาษก่อนจะกันไปมองหน้าพี่ปฐวีร์สลับกันไปมา

“มีอะไรผิดพลาดหรือเปล่าครับ” พี่ปฐวีย์ถามพวกผมทันที

“ไม่มีครับ!!!!” ผมตอบพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ส่วนผมเองก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ โปรไฟล์ดีเว้อมากตั้งแต่เรียนประถมก็สาธิตชื่อดัง มัธยมก็ไปเรียนที่ Oxford academy แถมยังเข้ามหาวิทยาลัยOxford สาขาบริหารธุรกิจ จบมายังมาต่อมหาวิทยาลัยนิด้า ปริญญาโทและยังเพิ่งจะจบปริญญาเอกอีกที่สถาบันนิดา เกาท้ายถอยเลยครับผม และยิ่งอ่านลงไปที่กิจกรรมที่โรงเรีบนและมหาวิทยาลัย ตลอดที่เป็นนักเรียนนักศึกษาทำกิจกรรมตลอด ชั้นประถมยังเป็นแฟนต้ายุวทูต พอเข้ามัธยม เล่นรักบี้ บร้าๆ กิจกรรมพี่แกเยอะมาก เป็นตัวเก็งมาตลอด เล่นเอาผมเองเริ่มขยับเนกไทให้หลวมหน่อยๆ เริ่มร้อนทันทีแอร์เย็นก็ไม่ได้ช่วยอะไรตั้นเลย ผมพ่นลมออกมาเบาๆ พวกเพื่อนผมมันคงรู้มันแอบมองผมเป็นระยะๆ

“พี่ว่าเราคงอยากจะปรึกษางานกันก่อน ถ้าอย่างนั้นพี่ขอไปจัดการธุระของพี่สักครู่นะครับ เดี๋ยวพี่กลับมาครับ” พี่ปฐวีย์พูดและเดินออกไปจากห้องไป ผมหันมามองหน้ากันแบบจริงจัง

“กูถามหน่อยดิ นี่คู่หมั้นอีเจ้ปริมเหรอวะ “ไอ้ธีมคนแรกปริปากพูด

“ก็ใช่ไง ก็เจ้มันเคยบอกว่าชื่อนี้และนามสกุลก็ตามนี้ด้วย” ไอ้ทีนมันยกกระดาษขึ้นมาให้ผมดูกัน ผมโบกมือช่างมันเถอะ

“นี้อีเจ้มันไปหาผู้ชายโปรไฟล์ดีขนาดนี้มาจากไหนวะ กูละเชื่อเลย “ไอ้ธีมพูด

“กูว่าพี่เขาโปรไฟล์ดีเลิศขนาดนี้มึงเอาน้องเมย์มาคืนพี่เขาเถอะไอ้ตั้น!” ไอ้เปรมดิ์มันบอกผม ผมหันไปหยิบปากกาปาใส่มันทันที

“อ้าว! แล้วกูไม่ดีตรงไหนวะ” ผมถามไอ้เปรมดิ์

“มึงไปว่ามัน อีเจ้ยังทิ้งมันไม่ลงเลย มันเอาดี…นี่แหละโปรไฟล์ไอ้ตั้นมัน “ไอ้ธีม ผมหันมาอยากจะโบกมันด้วยหลังมือ นั้นมันไม่ใช่ของผม ของมันนั่นแหละ

“โปรไฟล์เอวดีใช่ป่ะ” ไอ้เปรมดิ์อีกคน โปรไฟล์ผมเสียก็เพราะไอ้พวกนี้แหละผมว่าน่ะ

“มึงว่าไงวะ ไอ้คิน” ผมหันไปถามมัน ไอ้ภาคินมันก้มลงมองกระดาษในมือและเคาะปากไปด้วยโดยไม่ได้พูดอะไร พี่ปฐวีร์ก็เดินกลับเขาก็เดินเข้ามาพอดีเลยมองพวกผมและยิ้มๆ กัน

“คุยกันสนุกน่าดูนะครับ เป็นเพื่อนกันมาก่อนเหรอครับ” พี่ปฐวีย์พูดพร้อมกับมองพวกผมยิ้มๆ และมาหยุดที่ไอ้ภาคินที่นั่งนิ่งๆ อ่านรายละเอียดพี่เขาไม่พูดไม่จาเลยมัน ไอ้นี่ผมสะกิดมันก็เงยหน้าขึ้นมองพี่ปฐวีย์ก่อนจะยิ้มอ่อนๆ กลับไป

“ใช่ครับ ผมเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน คณะเดียวกันแต่พอจบต่างคนต่างไปหาประสบการณ์และถึงได้มาเปิดบริษัทด้วยกันนี่แหละครับ” ผมตอบ

“เพื่อนพี่พอจบก็ต่างคนต่างไปมีครอบครัวกันหมด บางคนก็หายไปเลย ติดต่อกันไม่ได้ มีเพื่อนก็น้อยเถมเวลาไม่เคยตรงกันสักทีจะเจอกันก็วันเลี้ยงรุ่นแต่ พวกเรานี่โชคดีนะพี่นี่อิจฉาเลย”

“ว่าแต่พวกเราคิดว่าไงครับ” พี่ปฐวีร์ถาม

“ผมว่าถ้าจะลงโปรไฟล์พี่เยอะขนาดนี้ คนอ่านคงหลับก่อนจะตัดสินใจเลือกโรงแรมห้าดาวของพี่” ไอ้ภาคินพูดทำให้พวกผมหันไปมองมันกันหมด “เฮ้ย!!!” ไอ้เปรมดิ์ร้องด้วยความตกใจ ส่วนผมรีบแตะเท้ามัน เรามาเขียนโปรแกรมและทำเว็บไซต์ให้เขาพอไม่ต้องไปคัดค้านเขา

“รายละเอียดพี่เยอะไปเหรอครับ เออ น้องชื่อ?”

“ภาคินครับ ผมจบปริญญาโทด้านการตลาดจากมหาวิทยาลัยXXX ที่เมลเบิร์นครับ”

“ผมเข้าใจว่าพี่น่ะ ว่าพี่โคตรเก่งเลย ดูจากที่พี่เรียนมาแต่ละที่ ถ้าไม่หัวกะทิ ก็คงไม่ได้เข้าและเงินก็ต้องดี แต่...” อันนี้แหละครับทุกสายตาพวกผมมองที่ไอ้ภาคินกันหมด

(อย่านะมึง! อย่าปากหมาพางานหาย!!)

“ถ้าพี่ต้องการจะสื่อ พี่ลงรูปที่ถ่ายกับเพื่อนที่โรงเรียนมหาลัยมีรายละเอียดสั้นๆ ผมแนะนำเน้นหนักไปทางรูปแบบการให้บริการ ที่น่าจะทำให้แขกมั่นใจว่าเขาจะได้รับการดูแลช่วงที่จะมาพัก”

“ยิ่งโดยเฉพาะ รีเซฟชั่น นินทาจนแขกได้ยิน ต่อให้เขาไม่ได้นินทาลูกค้าแค่นินทาพนักงานกันเองก็เถอะ คนที่ได้ยินก็เถอะ มันทำให้รู้เลยว่า…. โลคลาส!!!”

(เน้น! ๆ) ไอ้อาร์ม เล่นเอาผมหันไปมองมันทำหน้าที่ถ่ายทำอยู่ (โทษทีว่ะ) มันหันมาพูดกับพวกผม พอผมหันกลับมาพร้อมกันก็เจอสายตาพี่เขาอีก “อู้ยยย!!!” พวกร้องออกมาพร้อมก้นสะดุ้งด้วย ส่วนผมพี่เขานิ่งอึ้งมากจนกลืนน้ำลายลงคอเลยดีกว่า

“มีแบบนี้ในโรงแรมพี่ด้วยเหรอครับ” พี่เขาเอียงคอมองภาคินแต่เขายังยิ้มที่มุมปาก

“เพื่อนผมมันได้ยินมา ว่าพี่เป็นผู้บริหารไปถามหาพนักงานเขาก็พูดกันสนุกปากดีน่ะครับ” ภาคินพูดและหันมามองหน้าผมแว๊ปหนึ่ง

“โอเค พี่ก็ว่าไม่เหมาะ พี่จะไปจัดการให้นะครับ น้องภาคิน”

“ส่วนเรื่องประวัติการศึกษา พี่จะให้เลขาฯ ร่างให้พี่ใหม่นะครับ เอาเนื้อหาให้กระชับกว่านี่นะครับ”

“และพี่คิดว่า….”

(เขาคิดว่าจะเปลี่ยนบริษัททำเปล่าว่ะมึง) ไอ้ธีมมันกระซิบกับผม ทุกคนแม้กระทั่งผมเองก็รอลุ้นจากปากพี่เขาว่าจะ เปลี่ยน...หรือไม่เปลี่ยน

“พี่เห็นด้วยกับคุณภาคินนะ" พี่ปฐวีร์พูด “ฟู่!!"พวกผมยกเว้นไอ้ภาคิน

(รอดตาย!!!!) พากันเอามือกุมหน้าอกกันเป็นแถวเพื่อนๆ  " นี่คุณจบการตลาดมาด้วยใช่ไหมครับ  น่าเสียดายมากน่ะ พี่ก็อยากได้การตลาดเก่งๆ มาช่วยพี่อยู่น่ะ” พี่ปฐวีย์พูดหันไปพูดกับภาคิน พวกผมหันไปมองไอ้ภาคิน ผมขยับตาตอบพี่เขาหน่อย

 "ใช่ครับผมไปต่อปริญญาโทการตลาดที่ออสเตรเลียมา" ภาคินพูดก่อนจะหันมามองหน้าผม เพราะว่าผมคือต้นเหตุให้มันไป "ได้ครับถ้าอย่างนั้นพี่จะรับเอาเรื่องที่นักการตลอดติงพี่มาไปปรับปรุงนะครับ ขอบคุณมากครับ"พี่ปฐวีร์พูด

     ผมหันมามองไอ้ภาคิน จะว่าไป มันไม่ได้เกลียดเมย์หรอกนะผมว่า และพวกผมก็เริ่มพรีเซนต์โปรแกรมที่ใช่สำหรับเก็บข้อมูลของแขก ถึงระบบคอมพิวเตอร์ การนำระบบการทำบัญชีมาลง ไอ้ธีมมันไปเรียนบัญชีมาเพิ่มด้วย พ่อมันสั่ง มันเลยกลับไปเรียนมาใหม่ แถมด้วยการติดตั้งไวไฟให้พี่เขาด้วยอันนี้พิเศษเด็กๆ ของพวกผมทำได้ให้ค่าขนมมันไป

“เอาตามนี้แล้วกันนะครับ พี่ไม่ผิดหวังที่ได้บริษัทน้องมารับงานนี้ เออ ว่าแต่ ไม่ร้อนกันเหรอครับ พี่นี้ยังไม่อยากใส่เลยครับสูท ถ้าไม่จำเป็น”

“ร้อนมากพี่ นี้ครั้งที่สองในรอบปีนี้ครับ “ไอ้กอล์ฟ

“รอบหน้ามาแบบเสื้อเชิ้ตกางเกงยีนพี่ก็ว่าโอเคอยู่น่ะ พี่ไม่เรื่องมากนะครับ เพราะพี่ดูแต่ละคน คงอึดอัดกันน่าดู หึ หึ” พี่ปฐวีร์พูด มันทำการปลดเนกไทกันหมด แต่ผมไม่ครับ เมย์ผูกให้ไม่อยากปลดออก

“อ้าวมึงไม่ร้อนเหรอวะ” ไอ้ธีมมันหันมาถามผม ผมสั่นหัวแต่จริงๆผมน่ะเป็นคนขี้ร้อนกว่าพวกมันอีกแต่ไม่อยากแก้เนกไทเมียผูกมาให้ อยากเก็บไปให้เมียดู

“กูเดาว่าเมียมึงผูกให้ว่ะ ฮาๆ “ไอ้เปรมดิ์พูดผมสะบัดหน้าไปมองหน้ามันดีนะที่มันไม่ได้เอ่ยชื่อเมย์ เพราะว่ามันดันลืมไปว่าพี่ปฐวีร์เขานั่งอยู่ มันหันไปยกมือไหว้ขอโทษพี่เขา พี่เขาก็ยกมือไม่เป็นไร

“เมื่อก่อนพี่ก็มีคนผูกให้นะครับ น่ารักซะด้วย “พี่ปฐวีร์พูดก่อนจะลุกขึ้นยืน อย่าบอกนะว่าคนเดียวกับผมหรือเปล่าว่ะ ผมแอบคิดในใจ

“ถ้าอย่างนั้นพวกผมขอตัวกลับกันก่อนนะครับ ผมมีงานเขียนโปรแกรมที่อื่นด้วยนะครับพี่” ผมพูด ก่อนจะพากันลุกขึ้น ไอ้ภาคินมันก็ลุกตาม

“น้องภาคินครับ รับงานฟรีแลนด์ไหมครับ” ผมหันมามองคนที่ถาม

“ผมคิดว่าทำกับเพื่อนๆ ผมก็พอมีพอกินแล้วครับ ไม่อยากทำเยอะ” ภาคินมันตอบด้วยน้ำเสียงที่นิ่งที่สุด

“พี่ว่าน้องทำเล่นๆ ก็พอมีพอกินไปถึงชาติหน้าเพราะว่าดูจากครอบครัวน้อง เจ้าของกิจการส่งออกอาหารทะเลรายใหญ่ขนาดนี้ ไม่ธรรมดา นี้งานพาร์ทไทม์เหรอครับ” พี่ปฐวีร์ถามไอ้ภาคินมันสะบัดหน้าไปมอง พี่เขาหมุนโน้ตบุ๊คมาให้มันดู พี่เขาเข้าไปเช็กมาด้วยครับว่าครอบครัวมันคือใคร ไอ้ภาคินมันแค่มองแว๊ปหนึ่งก่อนจะเลื่อนเก้าอี้เก็บพร้อมกับยักไหล่แบบไม่ยินดียินร้ายอะไร

“สงสัยคงเป็นเพราะว่ามันดันไปปากดีใส่เขาไง สมน้ำหน้า” ไอ้เปรมดิ์พูดกระซิบ และพวก ผมพากันยกมือไหว้ และไอ้อาร์มมันเก็บอุปกรณ์หมดแล้ว และพากันเดินออก ผมเดินล่าหน่อยรอไอ้ภาคิน

“คิน” ผมเรียกมัน

“ว่า?” ภาคินหันมาถามผมทันที

“ขอบใจว่ะ เรื่องที่มึงพูดกับพี่เขาน่ะ เรื่องเมย์ใช่ไหมวะ” ผมถามไอ้ภาคิน มันมองหน้าผม มันไม่ตอบ

“กูคือเพื่อนตายมึงนะคิน กูว่าคำนี้มันดีกว่าคนรักว่ะ “ผมบอกมันมองหน้าผมก่อนจะพยักหน้าเหมือนไปอย่างนั้นแต่มันก็ทำให้ผมยิ้ม

“หมับ” ผมกอดคอมัน

“พวกกูจะไปหาอะไรกินกันว่ะ มึงละว่ะ ตั้น” ไอ้ธีมมันถามผม

“กูจะกลับไปคอนโด กูนัดกับเมย์เอาไว้ว่าจะพาเขาไปเยี่ยมแม่” ผมพูดพวกมันหันมาขมวดคิ้วมองกันเป็นแถว

“ไปเปิดตัวเหรอครับไอ้ลูกเขย” ไอ้ทีนมันถามผม

“แม่เขาป่วยผ่าตัดบายพาสหัวใจเมื่ออาทิตย์ก่อนกูก็เพิ่งจะบอกเมย์ เมื่อไม่กี่วันนี้เอง”

“มึงรู้ก่อนเขาอีกเหรอวะ” ไอ้ภาคินมันถามผม

“ก็วันนั้นกูเอามือถือเขามาชาร์จแล้วน้องสาวเขาโทรเข้าเครื่อง “ผมพูดไอ้ภาคินมันมองหน้าผม

“เอาเป็นว่ากูมีธุระแล้วกัน เจอกันที่ออฟฟิศพรุ่งนี้ก็ได้ เพื่อว่าพวกมึงอยากจะไปปลดปล่อยกันบ้าง” ผมพูด

“แล้วมึงไม่ไปเหรอว่ะ” ไอ้อาร์มมันถามผม

“เออนั้นดิ ปกติมึงไม่ พล้าด!” ไอ้ธีมพูด

“กูขอบายว่ะ ไม่มีอารมณ์เที่ยวว่ะคืนนี้ ขอโทษจริงๆว่ะ” ผมพูดขอโทษพวกเพื่อนๆ

“งั้นกูกลับไปกับไอ้ตั้นนะมึง”

“ทำไมว่ะ “ไอ้เปรมดิ์มันถาม

“คือว่า ไอ้เฟย์มันมีเรียนบ่ายยันสองทุ่มน่ะ กูว่าจะไปส่งมันไปเรียนและกู….” พวกผมหันไปมองหน้ามัน

“มีเรื่องจะคุยกับอาจารย์ภาคว่ะ ลูกพี่ลูกน้องกูอ่ะ มันอยากจะสอบเข้าแต่มันกลัวไม่ติดไง”

“เหรอ!!!”

“อะไรของมึงเนี่ยะ ไอ้กอล์ฟ”

“ไม่มีอะไร ไปตั้นกูรีบด้วยน้องมันรอ” อ้าวผมหันมามองแม่งเร่งผมด้วยนะ ผมก็โบกมือพวกมันและพากันขึ้นรถเก๋งผมขับรถออกไปทันที ผมเองก็ไม่อยากยุ่งเรื่องส่วนตัวดังนั้นผมคิดว่าถ้าวันที่มันพร้อมมันคงจะบอกพวกผมเองนั่นแหละ

   ไอ้กอล์ฟน่ะมันเป็นลูกชายคนสุดท้อง มีพี่น้องทั้งหมดสี่คน เป็นผู้ชายทั้งหมด ที่บ้านทำธุรกิจส่งออกไม้พาเลทส่งออกแต่มันดันเลือกเรียนวิศวคอมพิวเตอร์ มันรักการเขียนโปรแกรม แถมวันๆ มันก็คลุกอยู่ที่ออฟฟิศผมไม่ไปไหน มันเบื่อไปฟังพ่อแม่มันบ่นแต่ก็กลับบ้านบ้าง มีแฟนเป็นอาจารย์ระดับมหาวิทยาลัยตอนนี้ไปสอนอยู่ที่มหา'ลัยชื่อดังที่เชียงใหม่

“แฟนมึงสบายดีไหมวะ” ผมถามไอ้กอล์ฟ

“เขาสบายดีว่ะ แต่ยุ่งๆ ว่ะช่วงนี้ เขากำลังเรียนต่อปริญญาเอกที่เชียงใหม่เลยว่ะ”

"เฮ้ย! อย่างนั้นก็”

“คงรอให้จบปริญญาเอกถึงจะย้ายกลับมากรุงเทพว่ะ หรืออาจจะไม่เลยก็ได้” ไอ้กอล์ฟมันพูด

“มึงมีปัญหากับแฟนเหรอว่ะ”

“ไม่เชิงว่ะ เขาไม่ค่อยได้คุยกับกูว่ะ ก็แค่เหลืออาทิตย์ละวันได้”

“น้อยไปว่ะสำหรับคนเป็นแฟน” ผมพูดทันที

“อืมช่างมันเถอะ กูก็ยุ่งว่ะ “ไอ้กอล์ฟมันพูดผมพยักหน้าและไม่ได้ถามอะไรต่อ เลยรีบขับเพราะว่าจะได้พาเมย์ไปหาอะไรทานกันด้วยตอนเที่ยงก่อนดีกว่า

TBC...
ไม่รู้ว่าเราแต่งออกมาโอเคไหม แต่มียอดอ่านเพิ่มก็ดีใจค่ะ

หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก EP.9 พี่คงสู้เขาไม่ได้
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 16-11-2020 09:27:11
 :z2:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก EP.9 พี่คงสู้เขาไม่ได้
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 16-11-2020 10:59:02
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก EP.9 พี่คงสู้เขาไม่ได้
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 16-11-2020 11:59:59
โถพี่ตั้นอย่าน้อยใจไปเลย เมย์เขากำลังรู้สึกดีๆกับพี่แล้ว อีกไม่นานก็รัก พี่ตั้นเป็นผู้ชายที่แมนอะ กล้าทำกล้ายอมรับผิด และพร้อมจะปรับปรุงตัวแก้ไขให้ดีขึ้น หนักแน่นมั่นคง พูดจริงทำจริงไม่เลาะแหละ คนอย่างนี้ละมี่จะดูแลเมย์ได้ อย่างคุณปฐวีย์นั้นไม่ได้ครึ่งเลยแค่มีความชอบเมย์แต่ก็ไม่ได้จะปกป้องอะไรเมย์เลย แล้วเมย์ก็เห็นว่าเขาคอยช่วยเหลือก็แค่หลงไปกับความดี มันไม่ใช่ความรักหรอก ปริมนี่บ้ามาก นางจะไม่ได้ใครสักคน ปฐวีย์กับภาคินนี้ยังไง ทำให้จิ้นนะเนี้ย 5555 เพื่อนๆร่วมงานก็แซะแขวะกันตลกฮาดีอ่ะ ขำตลอด สนุกดีค่ะ รอตอนต่อไปเลย ระวังอย่าให้คำผิดเยอะเพราะมันจะเสียอรรถรสในการอ่านจริงๆ 5555  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก EP.9.1 ตั้นเยี่ยมว่าที่แม่ยาย(รีไรท์)
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 17-11-2020 07:22:31
   EP.10 ตั้นเยี่ยมว่าที่แม่ยาย(รีไรท์)

           Part's เมธานนท์ ผมเตรียมตัวรอที่จะไปเยี่ยมแม่ปิ่น ถึงไม่ใช่แม่แท้ๆของผมก็ตามแต่เขาก็มีบุญคุณเลี้ยงดูผมมาแทนพ่อกับแม่ที่เสียไปตั้งแต่ผมอายุได้ห้าขวบ ผมเองก็ไม่รู้ว่าผมใจอ่อนไปแล้วหรือเปล่า ใจ่อนให้กับพี่ตั้นหรือว่านี้ผมกำลังมีใจให้เขากันแน่ และถ้าวันหนึ่งเขารู้ละว่าผมเคยเป็น ….

“กึก!” จู่ๆเสียงประตูก็ถูกเปิดเข้าโดยพี่ตั้น ผมหันไปมองเขาเสื้อสูทที่เขาสวมตอนไป เนกไทยังอยู่เหมือนเดิม

“เตรียมตัวแล้วเหรอเมย์” พี่ตั้นถามผม

“ครับ…. พี่ตั้น” ผมพูดผมบอกเขา ผมรีบหันไปช่วยปลดเนกไทออก พี่ตั้นมองหน้าผม

“นึกว่าจะเรียกพี่ว่า…คุณซะอีก “พี่ตั้นพูดพร้อมกับยิ้มให้ผม ผมเงยหน้าขึ้นมองหน้าพี่ตั้น พี่เขาแตะที่หัวผมเหมือนเด็กๆเลยก่อนจะหันไปถอดเสื้อสูทออกและเริ่มปลดกระดุมเสื้อผ้าพร้อมกับเดินตรงเข้าไปในน้องนอน อันที่จริงผมเตรียมเอาไว้แล้วแหละไม่รู้ว่าถูกใจไหม เสื้อยืดกับกางเกงยีน สักพักพี่เขาก็ออกมาด้วยเสื้อผ้าที่ผมเตรียมไว้ให้นั่นแหละ ผมยืนอมยิ้มอยู่แต่ก็ไม่กล้าแสดงออกมาเดี๋ยวจะรู่ว่าผมดีใจ

“เตรียมเอาไว้ให้พี่เหรอ อย่างนี้พี่ควรจะให้”

“แนะ!” ผมหันมาทำหน้าดุใส่คนที่ตั้งท่าจะมาหอมผมท่าเดียวเลย

“นิดหน่อยก็ไม่ได้เหรอ แฟนเขาทำกัน”

“รอให้ผมยอมเป็นแฟนจริงๆ ก่อนไม่ใช่แฟนที่พี่จ้าง” ผมพูดก่อนจะทำปากยู่เดินออกไปยืนรอพี่ตั้นที่ด้านหน้า พี่ตั้นเดินตามผมออกมาและลงไปยังชั้นล่างสุด เขาพาผมไปที่จอดรถ รถกระบะChevrolet Silverado รุ่นใหม่ล่าสุด คันนี้ผมรู้สึกคุ้นเคยเหมือนเคยนั่งมาก่อน

“ขึ้นรถซิครับ” พี่ตั้นหันมาบอกผมพร้อมกับเปิดประตูให้ผมเข้าไปนั่ง ก่อนที่พี่ตั้นจะขึ้นมาทำหน้าที่คนขับ ผมนั่งเงียบไปตลอดทาง ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงได้ตื่นเต้นและกลัวไปพร้อมๆ กันที่จะได้เจอแม่บุญธรรม

“เดี๋ยวพี่แวะซื้อกระเช้าเยี่ยมคนไข้ก่อนนะครับ เมย์”

“ไม่ต้องหรอกมั้งพี่ตั้น พี่ก็ให้”

“ไปมือเปล่าน่าเกลียดและพี่ก็ว่าจะหาอะไรทานกันก่อนด้วยครับ พี่หิว “พี่ตั้นพูดก่อนจะนำรถเข้าไปจอด เป็นศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง เป็นแบบวิลล่ามีซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านอาหาร ผมหันไปมองพี่ตั้น นี่ผมต้องไปนั่งทานข้าวก่อนด้วยเหรอ

“ถ้าพี่หิวจนทนไม่ไหว พี่อาจจะกินคนข้างๆ พี่แทนนะครับ เพราะว่าเขาอร่อยกว่าอาหารในร้านหรูๆ ซะอีก” พี่ตั้นพูดพร้อมกับหันมาทำท่ากัดปาก มันหื่นและเซ็กซี่ แต่ว่าผมก็ยังไม่อยากโดนกินในนี้ ผมจึงรีบเปิดประตูพรวดออกไปยืนด้านนอกอย่างเร็ว คนที่ออกมาที่หลังสุดหัวเราะชอบใจผมใหญ่เลย พี่เขาก็พาผมไปนั่งทานอาหารที่ร้านหรู เป็นร้านสเต๊ก ผมก็ทานได้นิดหน่อย ไม่ได้ชอบสไตล์นี้เลยและพี่เขาก็พาผมไปหาซื้อกระเช้าเยี่ยมแม่ปิ่น พี่เขาเลือกกระเช้าเยี่ยม รังนกราคาแพง

“แพงแบบนี้แม่ผมจะรับเหรอพี่ตั้น” ผมถามคนที่หิ้วกระเช้าเดินตามผมออกมาจนถึงรถ

“รับซิครับและนี่พี่เต็มใจ…” พี่ตั้นพูด

“มอบให้คุณแม่ยายที่เคารพ” อันนี้แหละที่ทำให้ผมชะงักเท้าที่ก่อนขึ้นรถและหันมากอดอกมองพี่ตั้น คิดอีกทีขึ้นรถจะดีกว่าเหนื่อยเถียงด้วยแล้ว

พี่เขาก็ขับรถออกไปทันที ผมก็โชว์โลเคชั่นที่วิวน้องสาวผม ส่งมาให้ผมให้พี่ตั้นดู พี่เขาขับรถไปไม่นานก็ถึงโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ผมพากันเดินขึ้นไปยังชั้นผู้ป่วยโรคหัวใจและตรงไปยังหมายเลขห้องที่วิวบอกผมเอาไว้

   ก๊อก ก๊อก ก๊อก ผมเคาะประตูห้องพักก่อน คนที่เดินมาเปิดคือวิว น้องสาวผมเอง วิวก็โผเข้ากอดผมทันที ผมนะรักวิวเหมือนน้องสาวแท้ๆ ของผม

“พี่เมย์ วิวคิดถึงพี่เมย์” วิวพูด

“แม่ละวิว” ผมถามหาแม่ปิ่นทันที

“แม่เพิ่งจะหลับไปน่ะ” วิวบอกผมก่อนจะหันมามองคนที่ถือกระเช้าของเยี่ยม เขายิ้มรอการแนะนำตัวจากผม

“วิวนี้พี่ตั้น” ผมหันไปแนะนำพี่ตั้น

“แฟนพี่เมย์เหรอ หล่อจังเลยค่ะ” วิวพูด ดูคนตัวโตของผมมันเขินบ้างซิ ผมหันไปมองเขินเป็นกับเขาด้วยหรือไง

“พี่เข้าไปหาแม่น่ะ “ผมพูดและเดินตามวิวเข้าไปด้านใน เห็นน้องชายคู่แฝดที่อายุห่างจากวิว สามปี ชื่อขิมกับขิง

“ไอ้ขิม ไอ้ขิง” วิวเรียกสองหนุ่มเงยหน้าจากหนังสือการ์ตูนมองผมกับอีกคน

“พี่เมย์” ขิงกับขิงเรียกชื่อผมออกมาพร้อมกัน

“หวัดดีพี่ตั้นด้วยดิ “วิวหันไปบอกน้องชาย

“หวัดดีครับพี่” ขิมกับขิงยกมือไหว้พร้อมกันเขามองผมกับพี่ตั้นสลับกันไปมาด้วยความงง

"พี่ตั้นนี้ขิมกับขิงครับน้องชายฝาแฝดของผมกับวิว"ผมแนะน้องชายฝาแฝดกับพี่ตั้น พี่คั้นพยักหน้าทักทาย

“นี่ครับวิว” พี่ตั้นส่งกระเช้าของเยี่ยมให้วิวรับไปวางไว้ ผมเดินมามองแม่ปิ่นที่กำลังหลับอยู่ ด้วยสายตาที่เป็นห่วง แม่ปิ่นดูผอมลงไปอีกแล้ว

“แม่ไม่ค่อยทานอะไรเลยพี่เมย์ ทานได้น้อย” วิวพูดผมนั่งลงข้างๆ พร้อมกับกุมมือแม่ปิ่นเอาไว้

“แม่ปิ่น “ผมเรียกชื่อเบาๆ

“เมย์เหรอ มาทำไมละลูก” แม่ปิ่นลืมตาขึ้นมองผม

“แม่ไม่สบาย เมย์ต้องมาซิครับ เมย์ขอโทษ เมย์ดูแลแม่ปิ่นไม่ดีเลย” ผมพูด

“ไม่เอาน่ะเมย์ ไม่กี่วันแม่ก็ออกจากโรงพยาบาลแล้วนะ” แม่ปิ่นบอกผม

“นั้นใครละที่มากับเรานะ ใช่คุณ….” แม่ปิ่นเอ่ยถามผม คงคิดว่าเป็นคนที่เคยช่วยเรื่องค่ารักษาพยาบาลแม่เมื่อสองปีทีแล้วหรือเปล่า แต่จริงๆแล้วไม่ใช่คนเดียวกัน

“ไม่ใช่ครับแม่ นี่พี่ตั้นครับ พี่คนนี้คือคนที่โอนเงินให้วิวครับแม่” ผมแนะนำพี่ตั้นยกมือไหว้แม่ของผม

“คนนี้เหรอเมย์ “แม่พูดพร้อมกับพยายามจะลุกเพื่อจะขอบคุณพี่ตั้น

“คุณแม่ครับ ไม่เป็นไรครับคุณแม่ “พี่ตั้นยกมือแตะแขนแม่ผมเพื่อไม่ให้แม่ผมฝืนลุกขึ้นมานั่ง

“พี่เขาเป็นแฟนพี่เมย์ค่ะแม่” วิวบอกแม่ปิ่น

“แม่เมย์ขอโทษนะ “ผมพูดและกอดแม่ปิ่น ขอโทษที่ผมต้องเป็นแบบนี้

“เมย์เป็นอะไรแม่ก็รักลูก “แม่ปิ่นบอกผม พร้อมกับเอามือลูบหัวผมเบาๆ น้ำตาของผมล้นเอ่ออยู่ที่ขอบตาของผมแต่ผมต้องฝืนไม่ให้มันไหล่ออกมา ผมฝืนยิ้มให้แม่ปิ่น ผมหันไปมองมีกระเช้าใบใหญ่และมีป้ายบอกว่าใครส่งมาให้ “คุณปฐวีย์ “เขารู้ด้วยเหรอว่าแม่ผมป่วย ผมหันไปมองหน้าวิวและขยิบตาถึงกระเช้านั้น วิวพยักหน้าว่าใช่

“พี่ตั้น ผมขอพาวิวลงไปซื้อของด้านล่างได้ไหมครับ เอาไว้ให้แม่และน้องๆนะครับ “ผมบอกพี่ตั้น พี่เขาก็พยักหน้า

“พี่เมย์ ผมขอเงินเติมเกมหน่อยดิ “ขิมอ้อนผมจะเล่นเกมในมือถือแต่ผมก็ใจอ่อนให้น้องทุกที ถึงแม่ปิ่นจะหันไปทำหน้าดุใส่ไอ้ขิมก็ตาม ผมเข้าใจเด็กวัยรุ่น

“เล่นเกมอะไรล่ะเรา” พี่ตั้นถามขิง

“เกมspiritwish ครับพี่” ขิงตอบพี่ตั้น ก่อนจะรีบหันไปโชว์เกมส์ในมือถือ ไอโฟนรุ่นเมื่อสองปีที่แล้ว ผมยอมรับว่าผมไม่ได้ซื้อใช้แต่ซื้อให้น้องแทน แม่ปิ่นบ่นผมตอนนั้นเพราะว่าผมต้องทำงานเก็บเงินซื้อตั้งสองเครื่อง

“เฮ้ย! พี่ก็เคยเล่นว่ะ สะสมไอเทมไว้โคตรเยอะเลย เติมเงินไว้ก็เยอะ แต่ตอนนี้พี่ไม่มีเวลาเล่นแล้ว เดี๋ยวพี่ยกให้หมดเลย” พี่ตั้นพูดผมหันไปมอง น้องชายฝาแฝดมันรีบขยับไปเอาใจพี่ตั้นทันทีนะ เห็นแก่เกมจริง ๆ

“แล้วพี่จะไม่เล่นแล้วเหรอ” ขิมมันถามพี่ตั้น

“พี่เลิกแล้วแหละเพราะว่าพี่ มีอย่างอื่นให้ทำสนุกกว่าเกมอีก” พี่ต้นพูดพร้อมกับเหลือบตาขึ้นมองผม เขาหยักคิ้วแบบนี้ ผมต้องรีบหันมาค้อน น้องชายผมยังไม่สิบแปดปีเลย ทะลึ่งจริงๆพี่ตั้นนิ ผมก็ก็หันไปพยักพยักหน้าชวนน้องวิวออกไปซื้อของดีกว่าแต่ใจจริงอยากจะคุยเรื่องกระเช้าผลไม้นั้นด้วย

“พี่เมย์ “วิวเรียกชื่อผม หลังจากที่ปิดประตูลง

“พี่ปฐวีย์เขามาที่นี่เหรอ” ผมถามวิว

“ใช่พี่เมย์ เขารู้จากป้าข้างบ้านเราน่ะ ว่าแม่ปิ่นเข้าโรงพยาบาลและเขาก็ตรงมาที่นี่มาสอบถามว่าแม่อยู่ห้องไหน เขามาถามหาพี่ด้วยนะพี่เมย์ เขาบอกว่าจู่ๆ พี่ก็หายไปไม่ไปทำงานที่โรงแรมของพ่อเขา” วิวบอกผม ผมหันมามองหน้าวิวด้วยความกังวลใจ

“เขาไม่ได้ถามต่อหน้าแม่หรอกพี่เมย์และวิวบอกเขาไปว่าพี่ได้งานใหม่ แต่พี่เกรงใจไม่กล้าบอกเขาน่ะ “วิวโกหกให้ผม “ฟู่!” ผมต้องพ่นลมหายใจออกมา

“นี่เขาก็ถามว่าเราต้องการความช่วยเหลือไหม เรื่องค่ารักษาพยาบาล แต่วิวบอกว่าพี่เมย์มีแล้วแต่ไม่ได้บอกนะว่าแฟนพี่ให้มา” วิวพูดผมก็พยักหน้า

“พี่ไม่อยากรบกวนเขาแล้ววิว” ผมหันมาบอกวิว

“พี่เจอคนที่พี่รักแล้วใช่ไหมพี่เมย์” วิวหยุดถามผมก่อนจะหันมามองหน้าผม

“เออ” ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าเขารักผมหรือว่าเขารุ้สึกผิดกับผมกันแน่

“พี่คนนี้ใช่ไหมพี่เมย์”

“คือว่า วิว ถ้าวันหนึ่งเขารู้ว่าพี่” ผมพูดกับวิว

“ทำไมละ เขาจะรังเกียจพี่เหรอ วิวขอโทษนะเพราะวิวเอง” วิวรีบจับมือผมขึ้นมากุมเอาไว้

“ไม่ใช่ความผิดของวิวหรอก “ผมพูดและเอามือลูบหัววิวเบาๆ

“วิวดูออกน่ะว่าเขารักพี่อ่ะพี่เมย์” ผมหันมามองวิว จังหวะนั้นผมก็เดินผ่านตู้เอทีเอ็ม ผมหันมามองวิว ผมก็เดินตรงเข้าไป ผมหยิบบัตรเอทีเอ็มขึ้นมา อันที่จริงก่อนล่าสุดผมให้แม่ไปแล้วไปจ่ายค่าเทอมน้องๆ ตอนนั้นเหลือไว้แค่พันกว่าบาทให้พอผมใช้จนถึงสิ้นเดือน ผมสอดบัตรเข้าไปในเครื่องและกดรหัส ผลปราฏกว่ามีเงินจำนวนห้าหมื่นบาทโอนเข้ามา สามหมื่นบาทเข้ามาก่อนและอีกสองหมื่นเข้ามาเมื่อเช้านี้ ผมยืนอึ้งตกใจอยู่พักหนึ่งก่อนจะหันมามองหน้าวิว
มีอะไรหรือเปล่าพี่เมย์" วิวถามผม  ผมหันมามองวิวก่อนจะกดออกมาหนึ่งหมื่นห้าพันบาทเพื่อว่าวิวจะต้องใช้อะไร ผมก็หันไปส่งเงินนั้นให้วิว วิวก้มลงมองเงินจำนวนนั้น

  "พี่เมย์เก็บเอาไว้เถอะพี่ตั้นเพิ่งจะโอนมามันยังเหลืออยู่เลยน่ะ" วิวบอกผม ผมก็จับมือวิวและส่งเงินนั้นให้วิวถือเอาไว้ 

"เพื่อว่าน้องๆอยากได้อะไรที่จำเป็น โดยเฉพาะวิวและถ้าเป็นไปได้ ไม่ต้องทำงานพิเศษแล้วน่ะ ตั้งใจเรียนนะวิว พี่จะช่วยงานพี่ตั้นและส่งน้องพี่เรียนให้จบเอง"ผมพูด วิวหันมากอดคอผม ผมรู้สึกเปียดชื้นที่ตรงบ่าของผม วิวร้องไห้ ผมก็ลูบหัวน้องสาวที่ไม่ใช่น้องแท้ๆเบาๆด้วยความรัก เราผ่านเรื่องแย่มาด้วยกันและมันก็ทำให้เรารักกันมากขึ้น

ผมเข้าไปเลือกซื้อของให้แม่ก่อนพากันเดินกลับขึ้นห้องพักคนไข้ ผมเข้าไปก็เห็นสามหนุ่มเขาสุมหัวแถบจะชนกัน พี่ตั้นกำลังช่วยน้องแฝดผมเล่นเกมส์นี่เอง

“พี่โคตรเก่งเลยอ่ะพี่ตั้น ผมนะงมอยู่ตั้งนานไม่ผ่านซะที “ขิงมันพูดชมพี่ตั้น พี่ตั้นเงยหน้ามามองผม ผมเอาของที่ซื้อมาให้แม่วางเอาไว้

“ว่างๆ ไปหาพี่ดิ พี่สอน เทคนิคพี่เยอะและพี่มีเพื่อนๆ มันเก่งกันทุกคนเรื่องพวกนี้น่ะ เซียนเลยดีกว่า” พี่ตั้นพูด ชมตัวเองก็เป็น ผมแอบคิดในใจ

“เมย์ไม่น่าจะต้องซื้อมาเลยลูก” แม่ปิ่นมองสิ่งที่ผมซื้อมาฝาก เป็นของพี่แม่ปิ่นชอบทั้งนั้นแต่แม่เลือกที่จะเก็บเงินไว้ให้พวกผมเรียนก่อนจะซื้อของที่ตัวเองขอบทาน

“แม่ปิ่นจะได้เอาไว้ทาน แม่ดูผอมไปนะ เมย์อยากให้แม่ทานเยอะๆ “ผมพูดและกอดแม่ปิ่นเอาไว้ แม่ปิ่นเอามือลูบหัวผมเบาๆ

“เมย์กลับเถอะลูก เกรงใจพี่เขา ดูพี่เขาเหนื่อยๆ ให้พี่เขาไปพักเถอะนะเมย์ “แม่ปิ่นพูดพร้อมกับผมหันไปมองพี่ตั้น

“เมย์มาหาแม่อีกได้ไหมครับ”

“เอาไว้ให้แม่ออกจากโรงพยาบาลก่อนดีกว่าเมย์ “แม่ปิ่นบอกผม

“คุณแม่จะออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่เหรอครับ” พี่ตั้นถาม

“น่าจะอีกสองสามวันค่ะพี่ตั้น”

“ให้พี่พามาอีกก็ได้นี่ครับ เมย์”

“อย่าเลยค่ะคุณตั้น”

“เมย์ แม่รักเมย์นะ ทำอย่างที่เมย์พูด “น้ำตาผมซึมออกมาทันที แอบปาดมันทิ้ง แม่ปิ่นอยากให้เมย์ออกไปและไม่อยากให้ผมกลับไปอีก แต่ผมทิ้งแม่บุญธรรมคนที่ดูแลผมคนนี้ไม่ได้

“แม่กับน้อง ๆ อยู่กันได้ นะเมย์”

“แม่!!” พี่ตั้นหันมามองผม ผมรู้ว่าเขาไม่เข้าใจหรอกว่าเกิดอะไรขึ้นและผมเองก็ไม่กล้าที่จะบอกเขา

“คุณตั้นพาเมย์กลับไปเถอะค่ะ “แม่หันไปบอกพี่ตั้นทันที

“พาเมย์กลับไปเถอะค่ะ แม่อยากพักผ่อนนะคะ” แม่หันไปบอกพี่ตั้น วิวก็ยืนมองผม วิวพยักหน้าให้ผมกลับไปก่อน เพราะว่าถ้าแม่ปิ่นพูดมาแบบนี้คงทำอะไรไม่ได้ พี่ตั้นลุกมาจับแขนผมและพยักหน้ากับ ผมก็ต้องลุกขึ้นและจำใจเดินออกไปจากห้องผู้ป่วย ผมเดินเงียบๆ โดยไม่พูดอะไร พี่ตั้นก็ไม่ได้ถามอะไรผมเลยจนกระทั่งกลับมาถึงคอนโด

“เมย์”

“เมย์”

“หมับ” ผมรู้สึกตัวอีกที ก็มีคนจับแขนผมเอาไว้ ผมหันไปมองว่ามีอะไร

“เป็นอะไรทำไมเดินเหม่อๆ”

“ผม.เออ… มะ….ไม่มีอะไรครับ” ผมพูดกับพี่ตั้น พี่ตั้นพยักหน้าเบาๆ

“เมย์พี่จะเข้าไปเช็กงานก่อนนะ”

“ได้ครับพี่ตั้น ผมขึ้นไปทำอาหารรอแล้วกันนะครับ” ผมพูดแค่นั้น พี่ตั้นหันมามองผมแต่ก็ไม่ได้ถามอะไร จนกระทั่งลิฟต์เปิดออกพี่เขาก็เดินออกไป ระหว่างที่ผมกำลังยืนรอให้ลิฟต์ขึ้นไป น้ำตาผมไหลผมก็คอยๆ ปาดมันทิ้งก่อนที่ลิฟต์เปิดไปที่ชั้นที่สิบสอง ผมก็รีบเดินออกเข้าห้องเตรียมทำอาหารเย็น ผมก็ทำไม่เป็นหรอกแต่ผมก็ต้ังใจทำเหมือนที่แม่ผมเคยบอก แม่จริงๆ อันนี้คือคำพูดที่ผมจำได้ติดหู ถ้าเราตั้งใจทำให้ไม่ต้องดีที่สุดคนที่รับเขาก็มีความสุขแล้ว วันเกิดพ่อผม ผมอยากช่วยแม่ทำเค้กและนั้นคือครั้งสุดท้าย

TBC...


หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก EP.10 เยี่ยมแม่ของเมย์
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 17-11-2020 08:41:36
 :-[
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก EP.10 เยี่ยมแม่ของเมย์
เริ่มหัวข้อโดย: Pe_no ที่ 17-11-2020 09:59:32
ติดตามนะคะ  :mew2:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก EP.10 เยี่ยมแม่ของเมย์
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 17-11-2020 16:13:35
เมย์กับวิวมีลับลมคมในอะไรกัน แล้วไอ้รงค์อีก ท่าจะอีรุงตุงนังนะเห้ย 5555 พี่ตั้นเข้าทางน้องทางแม่เลยนะ แบบนี้ผ่านฉลุย 55 แต่ละคนปมเยอะจริง จะเป็นกันยังไงบ้างละเนี้ย สนุกกกกกก อ่านเพลินดี ขยันอัพด้วย 555 ขอบคุณนะคะ รอตอนต่อไปเลย
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก EP.10 ปมในใจของพี่ตั้น(รีไรท์)
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 17-11-2020 19:36:09
EP.10 ปมในใจของพี่ตั้น(รีไรท์)

   Part's รชานนท์ วันนี้ผมรู้สึกใจลอยผิดปกติ มีเรื่องให้ผมคิดมากมาย เรื่องแรกก็คือเรื่องของคุณปฐวีร์ที่ดูดีดูแพงคนนั้น เป็นถึงท่านประธานทั้งที่อายุยังน้อย เป็นทายาทเศรษฐีอันดับต้นๆ และเขายังดูเป็นผู้ชายที่อบอุ่น แถมผมยังรู้สึกว่าเขามีบุญคุณอะไรกับเมย์อยู่ ผมเองก็ไม่กล้าถามเมย์ตรง ๆ และเขาก็น่าจะรักเมย์ ไม่อย่างนั้นคงไม่ไปดูแลครอบครัวของเมย์ขนาดนี้ ก็ตอนที่เมย์ลงไปซื้อของ ผมขอน้องชายเมย์ออกมานั่งคุยด้านนอก น้องชายเมย์เขาบอกว่าคุณปฐวีร์ คอยมารับมาส่งเมย์และยังยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือครอบครัวของเขาและเมย์ตลอด เมื่อสองปีที่แล้วแม่ของเมย์ของเข้าโรงพยาบาลกระทันหันและเขาก็ยื่นมือเข้ามาช่วยเรื่องค่ารักษาให้เมย์จนแม่ปิ่นหายเป็นปกติกลับไปทำงานได้

   ผมควรจะปล่อยให้เมย์ไปเจอคนที่ดีใช่ไหม แต่พี่เขาจะแต่งงานกับพี่ปริมถ้าปล่อยเมย์ไป เจอเขา พี่ปริมก็คงไม่ยอม แต่ถ้าผมกักขังเขาไว้ แล้วเขาไม่ได้รักผม มันจะเหมือนตายทั้งเป็นหรือเปล่า แถมพี่ปริม ไม่ยอมปล่อยผมอีก และนี้ยังไม่รวมถึงปัญหาที่บ้านผมอีก …ผมคิดถูกไหมที่ดึงรั้งเขาเอาไว้แบบนี้ และถ้าวันหนึ่ง เขาเกิดเลือกคนที่มีบุญคุณขึ้นมาล่ะ .

“พี่ตั้น “เสียงเล็กๆ เรียกชื่อผม ผมหันมามองหน้าเมย์ว่าเรียกผมทำไม

“วันนี้เมย์ทำอาหารไม่อร่อยเหรอครับ ผมเห็นพี่เขี่ยข้าวไปมาอยู่พักหนึ่งแล้วนะครับ”

“พี่เหรอ?” ผมถามเมย์กลับหน้าตาเฉย

“ใช่ครับ พี่ตั้นพี่ไม่สบายหรือเปล่าครับ ผมเห็นพี่เงียบมากเลยวันนี้” เมย์ถามผม

“เออพี่…. สงสัยพี่จะเพลียๆ นะครับวันนี้ “ผมพูดตัดบทและรวบช้อนและส้อมเอาไว้ด้วยกัน เมย์มองลงที่จานของผม อาหารแทบจะ ไม่ได้ร่อยหรอลงไปเลย

“พี่เลยไม่ค่อยหิวนะเมย์”

“งั้นผมเก็บล้างเลยนะครับ ส่วนพี่จะไปเข้านอนก่อนก็ได้นะ ผมว่าจะอ่านหนังสือต่อ อีกสักหน่อยครับ” เมย์พูด ผมพยักหน้าก่อนจะลุกขึ้น ผมหันหลังกลับไปมองเมย์แว้ปหนึ่ง เมย์เขาเป็นแม่บ้าน ที่ดีทีเดียว ผมอดที่อมยิ้มให้เขาไม่ได้ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอน ที่จริงผมก็ยังไม่ง่วงนอนเลย

   ผมนั่งๆ นอนๆ ดูหนังบ้าง ดูทีวีบ้าง เวลาผ่านไปเกือบห้าทุ่ม ก็ยังนอนไม่หลับ จู่ ๆ ประตูห้องนอน ก็ถูกเปิดเข้ามา ผมรีบทิ้งตัวลงนอนแกล้งทำเป็นหลับ ผมกับเมย์เรานอนเตียงเดียวกันทุกวัน ถามว่าผม จะไม่มีอารมณ์เลยเป็นไปไม่ได้แต่ผมต้องข่มความรู้สึกตัวเอง ถ้าไม่ได้ก็ต้องช่วยตัวเองในห้องน้ำ ผมไม่ใช่ประอิฐพระปูนครับ

   ผมรับรู้ได้ว่าที่นอนด้านหลังผมมันยุบตัวลง ผมนอนนิ่งรอสักพัก จนทุกอย่างเงียบนั้นแปลว่า คนข้างๆ ผมหลับแล้วซิน่ะ ผมค่อยๆ ดันตัวเองขึ้นและลุกออกไปช้าๆ ผมนอนไม่หลับ ถ้าเป็นเมื่อก่อน ผมจะเข้าไปนอนกอดแม่ลลิลภัทร์ของผมแล้ว แต่พอไม่มีแม่ผม บุหรีคือทางเลือกที่ผมจำใจต้องใช้

   ผมเดินไปเปิดตู้แขวนในครัว  ที่ผมแอบซ่อนซองบุหรี่ อาไว้ในนั้นหนึ่งห่อและไฟแช็ก ผมจะสูบก็ต่อเมื่อผมรู้สึกเครียดจริงๆหรือไม่สบายใจ (แต่ถ้าอยู่ตามสถานบันเทิงผมสูบอยู่กับเพื่อนๆ แต่ไม่ถึงกับติดน่ะแต่พอเห็นเพื่อนสูบแล้วมันก็อยากสูบ และอย่างมากก็แค่หนึ่งมวนหรือสองมวนแค่นั้น)

   ผมเดินออกไปที่ตรงระเบียงของคอนโด ผมเปิดไฟดวงเล็กๆเอาไว้  ก่อนจะจุดบุหรี่ขึ้นมาหนึ่งมวน ผมยืนสูบบุหรี่ พร้อมกับหันไปเหลียวมามองต้นกระบองเพชรที่ผมปลูกเอาไว้ ช่วงนี้มีคนช่วยผมดูแล ต้นไม้เหล่านี้เลยไม่แห้งเหี่ยวเฉาตาย

“ฟู่!!!” เสียงพ่นควันออกมายาวๆ ขึ้นไปบนอากาศ ผมหลับตาพริ้ม นิ้วก็คีบบุหรี่อยู่

“หมับ” จู่ๆ ก็มีคนมาดึงบุหรี่ออกจากนิ้วมือผมไป ผมหันไปมอง คนนั้นคือตัวเล็กนั้นเองที่มาแย่งบุหรี่ไปจากมือของผม

“เมย์!”

“นอนไม่หลับแต่ดันมาสูบบุหรี่ มันช่วยหรือจะยิ่งทำให้แย่ลง” เมย์ถามผม

“พี่มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าพี่ตั้น” เมย์ถามผม

“หมับ!” ผมใช้ฝ่ามือแตะที่หัวเมย์เบาๆ “ไม่มีครับ พี่แค่นอนไม่หลับ “ผมพูดและหลุบตาลง มองพื้นไม่กล้าสบตาเมย์โดยตรง ผมรู้สึกผิด

“นมอุ่นๆ ไหมครับ ตอนที่ผมนอนไม่หลับ ผมคิดถึงพ่อกับแม่ แม่ปิ่นก็จะทำนมอุ่นให้ผมดื่ม หลับสบายดีน่ะ” เมย์พูดก่อนจะเดินกลับเข้าไป เขาเอาบุหรี่ผมติดมือเข้าไปด้วยอีก แต่ผมต้องยืนเกาที่ท้ายถอยด้วยอาการเขินๆ ผมนี่หวนคิดไปถึงแม่ของผม เพราะสิ่งที่เขาห้ามนั้นมันไม่ดีกับตัวผมเหมือนที่เมย์ทำอยู่ตอนนี้

“อ่ะ” ผมรู้สึกถึงความอุ่นที่มาแตะที่แก้มผม ผมหันไปรับแก้วเซรามิกมาถือเอาไว้ ผมก้มลงมอง นมอุ่นที่เมย์ทำมาให้ผมดื่ม ผมสูดความหอมที่โชยขึ้นมาตามควัน

“ผมเห็นมีน้ำผึ้งอยู่ด้วยเลยใส่ไปนิดนึงครับ” เมย์พูดบอกผม ก่อนจะมายืนเคียงข้างๆ ผม เหมอมองออกไปด้านนอก

“คืนนี้ดาวสวยจัง “เมย์พูดพร้อมกันหลับตาพริ้มก่อนจะหันมายิ้มอ่อนๆให้ผม ผมก็ดื่มน้ำนมอุ่นในแก้ว ปกติดื่มแต่เหล้าไม่ผสมก็เพียวๆแต่นี้นมอุ่นๆ จะว่าไปรสชาติก็ดีเหมือนกันน่ะ ผมก้มลงมองแก้ว เมย์ยิ้มให้ผมอีกครั้ง ยิ้มแบบลืมตัวปกติจะยิ้มบ้างไม่ยิ้มบ้างแต่รอยยิ้มมันออกมาจากภายในลึกๆของเมย์จริงๆ จริงๆเขาเป็นแค่เด็กที่ใสซื่อน่ารักไม่ได้ร้ายกาจเหมือนที่พี่ปริมพูดเลยสักนิด

“วิวบอกพี่ว่าพ่อแม่ของเมย์เสียไปตั้งแต่เมย์เพิ่งจะห้าขวบเหรอครับ” ผมถามเมย์

“ใช่ครับ ผมเองก็ไม่รู้หรอกในตอนนั้น ผมยังเด็กมาก รู้แค่ว่าพ่อกับแม่ไม่กลับมาอีก ผมเฝ้าถาม แม่ปิ่น แม่ปิ่นก็บอกว่าพ่อกับแม่ไปอยู่บนท้องฟ้า” เมย์พูดก่อนจะแหงนหน้าขึ้นมองดาวบนฟ้า

“ผมจำได้ว่ามีผู้หญิงสวมเครื่องแบบ เขาจะมาพาผมไปอยู่ด้วย วันนั้นผมร้องไห้หนักมากผม ไม่ยอมไปกับเขา ผมจะอยู่กับแม่ปิ่น ผมเชื่อว่าพ่อกับแม่ของผมจะกลับมา ผมร้องจนเขาไม่กล้า ที่จะเข้ามาแตะตัวผมและแม่ปิ่นก็ขอร้องเอาผมไว้ “ผมหันมามองคนตัวเล็ก

“พอผมโตขึ้นมาผมถึงได้รู้ความจริงว่า พ่อแม่ผมน่ะ ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนเลย มีกันสองคน และพอเกิดเรื่องผมเลยไม่มีใครรับดูแลต่อ มีแค่แม่ปิ่นที่เข้ามารับจ้างดูแลผม และนั้นกรมประชาสงเคราะห์ เขากำลังจะมารับผมไปด้วยซ้ำแต่แม่ปิ่นยืนยันไม่ให้ผมไป “เมย์พูด

“ผมจึงรักแม่ปิ่น แม่บุญธรรมของผมมากเหมือนพ่อแม่แท้ๆ ของผมเลยครับ” ผมใช้ฝ่ามือ ของผมลูบหัวเมย์เบาๆ

“พี่ตั้นผมถามอะไรพี่สักอย่างได้หรือเปล่าครับ”

“ได้ซิครับ”

“ทำไมพี่ชอบปลูกต้นกระบองเพชรจิ๋วแบบนี้ละครับ “เมย์ถามถึงต้นกระบองเพชร ผมก็กระดกนมอุ่นๆ จนหมดแก้ว ผมหันมามองเมย์

“ยอมรับน่ะว่า มันไม่ค่อยเข้ากับหน้าโหดๆ ของพี่เท่าไหร่ “เมย์พูดผมสะบัดหน้าหันไปมองหน้าเมย์ ว่าพูดตรงไปไหม หน้าโหดแต่อยู่ในโหมดคิกขุก็เป็นน่ะ แอบคิดในใจ

“เรานั่งลงคุยกันไหมครับเพราะว่าเรื่องมันยาว” ผมถามเมย์ ผมหันไปมองด้านหลัง และพยักพเยิดให้ไปนั่งตรงนั้นกันดีกว่า เมย์ชี้นิ้วห้ามผม ก่อนที่เขาจะหายเข้าไปและออกมาพร้อมกับ ผ้าหนึ่งผื่น

“พื้นมันเย็นนะครับ” เมย์พูด และเขาก็ปูผ้าลง ผมกับเมย์ก็นั่งลงหลังพิงประตูบานเลื่อน เมย์หันมามองหน้าผมแววตาที่แสดงว่าเขาพร้อมจะรับฟังเรื่องของผม ผมเองไม่เคยเล่าให้ใครฟังเลย แม้กระทั่งเพื่อนสนิทของผม

“ที่พี่ชอบปลูกเพราะว่าพี่คิดถึงแม่พี่ แม่พี่ชอบปลูกต้นกระบองเพชร หรือแคคตัสมาก แม่พี่ปลูกและตกแต่งใส่กระถางเป็นชุดๆเลยนะ แม่พี่นะจัดสวยมาก และพอเวลาเพื่อนๆ ของแม่พี่ขึ้นบ้านใหม่แม่พี่ก็เอาไปเป็นของฝาก เป็นของขวัญ ไม่ใช่แค่ขึ้นบ้านใหม่ ในทุกโอกาสจนเพื่อนแม่พี่เขารักแม่พี่มากเช่นกัน”

“พี่อยู่กับแม่พี่ที่อเมริกา พี่ย้ายไปอยู่นั้นตั้งแต่พี่ยังเด็กมากไม่รู้ว่าอายุเท่าไหร่แต่พี่จำเรื่องตอนเด็กๆ แทบจะไม่ได้เลย ไม่ได้เลยจริง “ผมพูด เมย์ถึงกับขมวดคิ้วมองหน้าผมว่าทำไม

“ดังนั้นพี่เลยเข้าใจไปว่าพี่น่ะน่าจะโตที่อเมริกาเลย แต่แม่นมพี่ ที่อยู่ที่เขาใหญ่เขาบอกว่าเขาเคยเลี้ยงพี่จนอายุห้าขวบพี่ถึงได้ไปอยู่ที่อเมริกา “ผมพูด มันเหมือนผมเสียความทรงจำไปช่วงหนึ่ง

“ไม่อยากเชื่อใช่ไหม” ผมหันไปถามเมย์ เขาก็ส่ายหัวเบาๆ “พี่ก็ไม่อยากจะเชื่อนะเมย์ แต่ว่าพี่พยายามนึกเท่าไหร่ พี่ก็นึกมันไม่ออกอ่ะเมย์” ผมพูด

“อืม…. เพราะว่าขนาดเมย์อายุห้าขวบยังพอจำได้บ้างเลยพี่ตั้น เมย์จำภาพบ้านของเมย์ได้ มีบ่อปลาคาร์ฟ พ่อทำไว้ให้เมย์ และเวลาพ่อกับแม่อยู่บ้าน พ่อของเมย์ก็มักจะชวนมาส่องกล้องดูดาวอยู่เป็นประจำ “เมย์หันมาพูดกับผม แววตาเขามีความสุข แต่ภาพวัยเด็กของผมนี่มันไม่มีเลย

“ดังนั้นพี่ก็เรียนที่อเมริกาตั้งแต่เด็กเลยเหรอพี่ตั้น” เมย์ถามผม

“ใช่ครับ ทำไมเหรอครับ” ผมถามเมย์ ที่ทำหน้า “ไม่อยากจะเชื่อเหรอว่าพี่โตเมืองนอกนะ” ผมถามเมย์ขำๆ

“นิดนึงน่ะ ก็พี่ดูเกรียนๆ เหมือนพวกพี่เปรมดิ์อ่ะ ผมเลยคิดว่าพี่เกิดและโตที่นี่”

“ก็ส่วนใหญ่ที่ผมเห็นเด็กฝรั่งเขาจะลุยๆ มากกว่า” เมย์พูด

“พี่ก็ไม่เป็นหรอก มาเป็นตอนคบพวกมันนี้แหละ “ผมพูดและขำตัวเองไปด้วย

“แหมโทษเพื่อนเลยน่ะ เป็นเองหรือเปล่า” เมย์หันมาพูดแกล้มหยอกกับผม ผมต้องหันไปเอานิ้วบี้จมูกเล็กๆ จะว่าไปมันดูน่ารักดีที่เมย์เป็นแบบนี้

“อย่าบี๋ดิมีน้อยๆ อยู่” เมย์พูดและจับมือผมออก “เล่าเรื่องของแม่พี่ต่อดิผมอยากฟัง” เมย์บอกผม

“ตอนนั้นพี่ก็เหมือนวัยรุ่นทั่วไปพี่ไม่ได้มานั่งสนใจต้นไม้อะไรแบบนี้หรอกนะเมย์เพราะว่าพอวันหยุดพี่ก็อะไรทำกับเพื่อนๆ ไปเล่นสเก็ตบอร์ด บาสเกตบอล อะไรแบบนี้”

“จนกระทั่ง แม่พี่เริ่มป่วยและพี่ถึงได้รู้ว่าแม่พี่เป็นลูคีเมียหรือมะเร็งในเม็ดเลือด ระยะที่4นั่นแหละ พี่ถึงได้เริ่มช่วยแม่พี่ปลูกดูแลพวกต้นกระบองเพชรที่คุณนายลลิลภัทร์เขาชอบ” ผมหันไปมองเมย์ เขาเลิกคิ้วสูงเพราะผมบอกเขาว่าผมชอบเรียกแม่ผมว่าคุณนายลลิลภัทร์

“พี่ชอบเรียกแม่พี่ว่าคุณนายลลิลภัทร์ แต่จะเฉพาะตอนที่แม่ใช้พี่ทำโน้นทำนี้น่ะ เช่น ครับคุณนายลลิลภัทร์ หึ หึ” ผมพูดและขำตัวเอง ส่วนคนตัวเล็กผมตั้งใจฟังเหมือนผมกำลังเล่านิทานเลย

“พี่ต้องคอยไปหาสายพันธุ์ที่คุณนายลลิลภัทร์เขายังไม่มี ถ้าหามาได้น่ะ แม่พี่ดีใจมากแต่พี่ก็มีความสุขนะที่เห็นแม่มีรอยยิ้มและยิ่งพอวันหยุดพี่ก็ต้องคอยขับรถพาแม่พี่ตระเวนหาซื้อด้วยกัน”

“ตอนนั้นพี่เพิ่งจะอายุ15ย่างสิบหก พี่เพิ่งจะสอบlearner’ s permit มันเป็น ใบขับขี่ตัว L และแม่พี่ก็ต้องนั่งข้างๆ พี่ไปด้วยนะ เขายังไม่อนุญาตให้พี่ขับเองคนเดียว เพราะว่าแม่ของพี่น่ะ มีใบขับขี่ตลอดชีพแล้ว”

“และช่วงนั้นพี่ก็เริ่มห่างจากเพื่อนๆ ช่วงที่ร่างกายแม่พี่เริ่มทรุดหนักลงพี่ต้องการใช้เวลาอยู่กับแม่ให้มากๆ และให้นานที่สุด” ผมรู้สึกว่าเมย์เขากุมมือผมไว้ แม้จะไม่พูดอะไรเลยแต่ว่ามันให้ความรู้สึกที่ดีมากสำหรับผม

“พี่ขับรถพาแม่ไปทุกทีที่คุณนายลลิลภัทร์ของพี่อยากจะไป ที่ไหนที่เป็นความสุขของแม่ พี่ก็ขับพาไปทุกทีแหละ “ผมเล่าให้คนตัวเล็กฟัง คนตัวเล็กเริ่มเอาหัวมาพิงที่หัวไหล่ของผม เงยหน้าขึ้นมามองผมตาแป๋ว

“พี่ยังดีกว่าผมน่ะ ผมเองยังเด็ก ผมไม่เคยรู้เลยว่าพ่อแม่ผมชอบอะไรและอ้อมกอดสุดท้าย ผมเองก็ยังไม่รู้เลยมันเกิดขึ้นตอนไหน” คนตัวเล็กพูดเสียงสั่นๆ ผมเอามือลูบหัวเขาเบาๆ

“จนแม่พี่เริ่มแย่ลง ทั้งที่แม่พี่ก็ได้รับยาอย่างดีที่ค่อนข้างแพง แพงมาก แต่มันก็ไม่สามารถ ที่จะยื้อชีวิตแม่พี่ได้ พี่จำได้วันนั้น แม่เพิ่งจะกลับมาจากโรงพยาบาล แม่ขอออกมาเอง หมอบอกพี่แล้วแหละ ว่าแม่พี่อยู่ในช่วง Dieing นั้นคือภาวะใกล้จะเสียชีวิต หมอให้พี่ทำใจแต่พี่ยอมรับว่าพี่ทำใจไม่ได้”

“หลังจากกลับมาอยู่บ้านได้สองสามวัน วันนั้นแม่พี่ขอไปนั่งอยู่ในมุมที่แม่พี่ชอบและแม่พี่ก็หลับ ตอนแรกพี่ก็คิดว่าแม่พี่ คงแค่หลับไปแต่พอพี่กลับมาดูอีกทีแม่พี่ก็เสียแล้ว”

“วันนั้นเป็นวันที่น้ำตาลูกผู้ชายของพี่ไหลเยอะ.... ที่สุด”

“แล้วพ่อของพี่ละพี่ตั้น” เมย์ถามผม ผมต้องกลืนน้ำลายลงคอเอื้อกใหญ่

“พ่อพี่เขาอยู่ที่ไทย เขาไม่แม้แต่จะไปเยี่ยมแม่พี่เลยตั้งแต่แม่พี่ป่วย ทั้งที่พี่โทรบอกเขานะว่าแม่พี่กำลังจะเสีย หมอให้กลับไปอยู่บ้านพ่อพี่ก็ยังไม่บินไปดูเลย” ผมเผลอกำหมัดแต่ก็มีคนแตะให้ผมคลายมันออก นั้นคือเมย์ ผมหันมามองหน้าเขา มันเย็นขึ้นมาหน่อยนะอารมณ์ผมน่ะ

“พี่คิดว่าเขาแค่ทำหน้าที่ส่งเงินให้แม่กับพี่ใช้แค่นั้น ขนาดงานฝังศพแม่พี่เขาก็ไม่ไป มีแค่พี่และเพื่อนสนิทของแม่พี่ ผู้หญิงที่ที่แต่งงานและมีครอบครัวที่นั่น แม่พี่นะเขาอยู่ในสมาคมช่วยเหลือผู้หญิงที่ถูกทำร้ายร่างกายด้วยน่ะก่อนที่แม่พี่จะป่วยน่ะ”

“เงินที่พ่อพี่เขาส่งให้มากมายแค่ไหนมันก็ไม่สำคัญอะไรกับพี่ เพราะมันช่วยให้แม่พี่อยู่ต่อไม่ได้ และนี่ถึงทำให้พี่ ไม่อยากไปเจอหน้าเขา แม้กระทั่งทุกวันนี้ถ้าไม่มีเหตุจำเป็นจริงๆ พี่ก็ไม่ไปหาเขา”

“ตอนแรกพี่ก็ตั้งใจจะไม่กลับมาไทย จะอยู่ที่นั่นแต่พ่อพี่ส่งคนไปรับพี่กลับมา พี่ก็ยังไม่ไป หาเขานะอยู่พักหนึ่ง พ่อพี่อยู่ที่เขาใหญ่เขามีฟาร์ม มีรีสอร์ต อสังหาริมทรัพย์มากมายที่นั่น แต่พี่ไม่แคร์”

“พี่มาใช้ชีวิตที่กรุงเทพและเรียนต่อที่นี่ พ่อพี่ส่งผู้ชายคนหนึ่งมา ดูแลพี่ คนนั้น ชื่อพี่อิศเรศ พี่รู้แค่ว่าเขาคือเลขาฯ และคนสนิทของพ่อพี่”

“เขามาดูแลพี่ทุกอย่าง พี่รู้ว่าเขาเป็นเด็กที่พ่อพี่รับมาอุปการะและส่งเสียให้เขาเรียนจบและกลับมาช่วยดูแลพ่อพี่ และพี่คนนี้แหละที่ดูแลฟื้นฟูจิตใจพี่หลังจากพี่เสียแม่พี่ไป”

“จนพี่เริ่มรู้ใจตัวเองว่าพี่มีความรู้สึกกับเพศเดียวกันและเขา…” ตอนนี้ผมรู้สึกหนักๆ ที่หัวไหล่ของผม ผมก้มลงมองคนตัวเล็ก เขาหลับซะแล้ว

“ตกลงมากล่อมพี่นอนหรือให้พี่กล่อมนายนอนกันแน่ ตัวเล็กเอ๊ย! “ผมพูดกับคนที่ หลับสนิท ผมก็ต้องค่อยๆ ใช้แขนประคองคนตัวเล็ก และใช้อีกแขนช้อนร่างนั้นเพื่อผมอุ้ม คนตัวเล็กกลับ เข้าไปด้านในตอนนี้เป็นเวลาตีหนึ่งกว่าแล้ว

“ขอบคุณนะครับที่นั่งฟังพี่ พี่ไม่เคยเล่าให้ฟังมาก่อนเลยน่ะ “ผมพูดกับ คนที่นอนหลับสนิท

“นายทำให้พี่คิดถึงแม่ รู้ไหมเวลาที่พี่นอนไม่หลับ พี่จะไปกอดแม่พี่ มันอบอุ่นที่สุด และนี่ ก็เลยทำให้พี่ โหยหาแต่ผู้หญิงที่แก่กว่าพี่มาตลอด แต่ทำไมพี่รู้สึกว่ามันยังไม่เติมเต็มให้พี่ เหมือนผู้ชาย คนนั้น “ผมพูดเหมือนบ่นอยู่คนเดียวก็คนที่ผมบ่นให้ฟังหลับอยู่ และนี่ผมก็ยังไม่ง่วง ผมว่าจะเดินไปเปิด ดูงาน ในคอมพิวเตอร์ที่ห้องทำงานผมดีกว่า

“หมับ” ผมรู้ว่ามีมือมาคว้าแขนของผมเอาไว้ ผมหันมามอง คนตัวเล็กนั้นเองตาก็หลับอยู่น่ะ

“กอดผมก็ได้นะ ตอนที่ผมนอนไม่หลับ แม่ปิ่นก็กอดผม มันทำให้ผมรู้สึกปลอดภัย” ผมอดอมยิ้มไม่ได้ และผมก็ถอยหลังมาลงนอนข้างๆ ตัวเล็กของผม ผมสอดแขนเข้าไปโอบร่างคนตัวเล็ก

“ให้กอดได้อย่างเดียวน่ะ ห้ามทำอย่างอื่น” เสียงคนตัวเล็กพูดทั้งที่ตายังหลับอยู่

“หอมได้ไหม” ผมกระซิบที่ข้างใบหูของเมย์ ผมรู้สึกว่าเมย์พยักหน้าเบาๆ

“ฟ้อด!” ผมก็ฝังจมูกลงที่ลำคองามระหงนั้น

“จูบได้ป่ะ” ผมกระซิบถามเบาๆ

“ได้คืบก็จะเอาศอกเดี๋ยวให้ไปนอนในห้องทำงานเลยนิ”

“หึ หึ” ผมต้องหัวเราะในลำคอ พร้อมกระชับอ้อมกอดในแน่นกระชับขึ้น ปลายจมูกโด่งรั้นของผมมันซุกอยู่ที่ซอกคอขาวๆ กลิ่นสบู่ที่ผมซื้อมาไว้ใช้ในห้องน้ำ ยังคงติดตัวคนตัวเล็กอยู่ ผมยิ่งโอบกอดร่างบางๆ ให้กระชับเข้าหาตัวผมเหมือนกลัวว่าเขาจะหายไป เหมือนคนที่ผมรักมากพอกัน เขาเลือกที่จะไปจากผม เพียงเพราะคำว่า” เขาเป็นผู้มีพระคุณ มีบุญคุณกับพี่ ดังนั้นพี่ต้องเลือกเขาครับคุณตั้น” นั้นคือเขาเลือกทิ้งผมไป

TBC...

หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก EP.11 ปมในใจของพี่ตั้น
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 17-11-2020 19:46:24
 :pighaun:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก EP.11 ปมในใจของพี่ตั้น
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 17-11-2020 23:35:20
อ๋อพี่ตั้นก็เลยกลัวว่าเมย์จะเลือกความมีบุญคุณก่อนความรักนั่นคือกลัวว่าเมย์จะเลือกคุณวีย์ใช่ไหมเพราะเคยประสบมาแล้ว ตอนนี้ก็เข้าใจพี่ตั้นนะว่ามันเพิ่งเริ่มถ้าไม่คิดว่าจะชนะได้ใจมาก็อยากถอย แต่ว่านะเมย์เขาโอเคที่จะอยู่ตรงนี้พี่ก็ลุยหน้าไปเล้ยยย 555 ต่างคนต่างแคร์กันมากขึ้นแล้ว  :katai2-1:  :-[ รอตอนต่อไปจะเป็นไงอีก  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก EP.11 ปมในใจของพี่ตั้น
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 18-11-2020 12:20:17
 :impress2: :-[
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก EP.12 ผมสับสน (รีไรท์)
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 19-11-2020 07:06:04

EP.11 ผมสับสน (รีไรท์)

   Part's ภาคิน ผมขับรถกลับมาที่ออฟฟิศ ผมไม่ได้เข้ามาสองสามวันแล้ว บอกตรงๆ ว่าผมทนเห็นแบบนั้นไม่ได้และผมคิดว่าถึงเวลาที่ผมควรจะถอนตัวเองออกจากกลุ่มซะที ไอ้ตั้นมันเจอคนที่มันรักแล้ว แล้วผมจะทนอยู่ให้มันเจ็บทำไม ผมเป็นเพื่อนคนแรกของมัน แต่ดันไม่ใช่คนที่ได้ใจมัน ผมได้แต่แอบรักมัน แถมผมยังเคยมีอะไรกับมันอีก มันสารภาพว่าวันนั้นมันเมาและมันก็เสียใจที่มันเสียคนที่มันรักไปให้พ่อมัน ผมเลยต้องหนีไปเรียนต่อเมืองนอกหลังจากจบปริญญาตรีพร้อมพวกเพื่อนๆ คณะวิศวคอมพิวเตอร์ผมยังตามไปเรียนกลับมันเลย  พอกลับมาผมก็หนีมันไม่พ้น มาตกลงเปิดบริษัทด้วยกัน เป็นเพื่อนรักกัน แต่ในความจริงผมก็ยังรักมันมาเหมือนเดิม แต่มันก็ไม่เคยมองผมเกินไปจากเพื่อน ถึงมันจะบอกว่าคือเพื่อนที่มันรักมากแต่มันไม่ใช่รักที่ผมต้องการ และมันอาจจะจริงอย่างที่ไอ้ธีมมันเคยร้องเพลงหนึ่งให้ผมฟัง "ถ้าเขาจะรักยืนเฉยๆเขาก็รัก"

“สวัสดีครับพี่ภาคิน”

“สวัสดีค่ะพี่ภาคิน”

“สวัสดีว่ะ “ผมทักทายน้องๆ ที่มหาลัยที่นั่งทำงานกันอีกวันนี้ มีหลายเจ้าเลยที่ว่าจ้างพวกผมทำเว็บไซต์ให้ ดังนั้นเจ็ดคนน่ะไม่พอแน่นอนในจะงานนอกบริษัทใหญ่ๆ อีก

“ดีว่ะ” ผมหันไปมองไอ้กอล์ฟและเด็กที่ยืนข้างหลังมัน หน้าตี๋ๆ ขาวๆ “หวัดดีครับพี่ภาคิน” ผมยกมือรับไหว้

“พวกไอ้ตั้นละวะ” ผมถามไอ้กอล์ฟ

“มันไปแก้ระบบคอมให้คุณหมอบัวชมพู ที่คลินิกสัตวแพทย์ ระบบเขามีปัญหาไอ้ตั้นมันไปกับไอ้ธีม “ไอ้กอล์ฟพูด หมอบัวชมพูก็เด็กเก่าไอ้ธีมมันอีกคนแต่เห็นว่ามีเภสัชกรหนุ่มใหญ่มาขอแต่งงานไปแล้ว

“ส่วนไอ้เปรมด์ไอ้ทีนและไอ้อาร์ม มันไปลงโปรแกรมให้เพื่อนของอาจารย์นิรุจน์” ไอ้กอล์ฟบอกผม ผมพยักหน้า ผมรีบมาเลยไม่ได้โทรถามใคร ผมเพิ่งจะกลับมาจากไปดูโรงงานกับพ่อผม ผมเหลือบไปเห็นอิเมลที่วางอยู่ที่โต๊ะทำงานไอ้เปรมด์

“เออ เลขาฯ คุณปฐวีย์ส่งอิเมลมาให้ เขาไม่ได้ต้องการให้ลงประวัติอะไรของเขาในเว๊ปไซต์โรงแรมเขา ที่เขาให้ดูวันนั้นน่ะ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะมึงไปแขวะเขาเอาไว้หรือเปล่า” ไอ้กอล์ฟพูด ผมแค่ยักไหล่จะได้ไหมล่ะ

“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวกูมาว่ะคิน กูจะไปส่งน้องมันเข้าเรียนก่อน” ไอ้กอล์ฟพูด

“ไม่เห็นพวกไอ้ปอมมาเลย มันไปไหนกัน งานการไม่มาทำ “ผมหันไปถามไอ้เฟย์

“มันมีเรื่องกับโรงเรียนxxxx นะพี่ มันเลยโดนภาคทัณฑ์ครับพี่คิน” ผมพยักหน้า จะจบอยู่แล้วมาหาเรื่องอะไรตอนนี้

“งั้นผมไปก่อนนะครับพี่ สวัสดีครับพี่ภาคิน” เด็กคนนั้นมันยกมือไหว้ผม ผมก็หยิบมาดู ผมว่ามันเป็นอย่างที่ผมคิดแหละ ผมหยิบมือถือของผมมาและกดโทรไปที่ห้องทำงานของพี่ปฐวีร์ทันที

//สวัสดีค่ะ //เลขาฯ พี่ปฐวีร์รับสาย
//ขอเรียนสายคุณปฐวีร์หน่อยครับ บอกเขาว่าผมภาคินจะพูดสายด้วยครับ มีเรื่องด่วน”
//ได้ค่ะ กรุณารอสายสักครูนะคะ// ผมถือสายรออยู่สัก10 นาที
//ขอโทษที่ให้ถือสายรอนะคะคุณภาคิน คุณปฐวีร์ติดประชุมอยู่นะคะ แต่คุณปฐวีร์บอกว่า ถ้าคุณภาคินจะคุยเรื่องงานรบกวนมาคุยที่ออฟฟิศนะคะ อีกสามสิบนาทีก็ประชุมเสร็จแล้วค่ะ คุณปฐวีร์ไม่ชอบคุยงานผ่านทางโทรศัพท์นะคะ// ผมต้องพ่นลมหายใจ เบื่อจริงๆเลย พวกอีโก้สูงเนี่ย แต่ผมอยากคุยก็เลย
//ได้ครับ ผมจะเข้าไปเลยครับ เดี๋ยวนี้!// ผมพูดและกดวางสาย ผมหันมามองน้องๆ ที่นั่งทำงานอยู่

“ถ้าเฮียตั้นมันกลับมาก่อน ฝากบอกด้วยว่าพี่ไปคุยธุระกับคุณปฐวีย์น่ะ” ผมบอกรุ่นน้องที่นั่งทำงานกันอยู่ หันมาแร๊พโยะกันเป็นแถว

“และนี่อยู่กันได้น่ะ ถ้าหิวโทรสั่งอะไรมากินกันละ จะเคเอฟซีหรือพิซซ่าเลือกเอา” ผมพูดและเอาเงินวางไว้สองพันบาท

“ขอบคุณครับพี่ภาคิน ใจดีโคตรๆ” ผมเดินออกมาจากห้องทำงานทันที นี้เขาต้องการอะไรของเขาว่ะ คุณปฐวีร์ ผมเดินลงมาและรีบเข้าไปในรถคันหรูของผม ขับออกไปอย่างรวดเร็ว ผมตรงดิ่งไปที่โรงแรมหรูระดับห้าดาว ที่เป็นของพ่อพี่ปฐวีร์ ทันทีที่ผมเดินเข้าไปในโรงแรมหรู

“สวัสดีค่ะคุณภาคิน” ผู้หญิงที่เป็นเลขาฯ พี่ปฐวีร์ยืนรอผมอยู่แล้ว

“คุณปฐวีร์รอคุณภาคินอยู่ด้านในแล้วค่ะ ที่ห้องรับรองด้านนี้ค่ะ” เธอบอกผมว่ารออยู่แล้ว ก่อนจะผายมือให้ผมนำเธอไป เธอก็เดินตามผม จนไปหยุดที่ห้อง รับรองสำหรับแขก VIP

“เชิญค่ะ” เธอเปิดประตูให้ผมและผายมือให้ผมเข้าไปด้านใน

“ขอบคุณครับ” ผมหันไปบอกเธอก่อนที่ประตูจะปิดลง สายตาผมมองไปเห็นผู้ชายที่นั่งรอผมอยู่เขาใช้นิ้วเรียวๆเคาะโต๊ะเป็นจังหวะ ผมเดินเข้าไปหยุดมอง หนุ่มใหญ่วัยกลัดมันก็ช้อนสายตาขึ้นมามองผม ผมยืนเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงที่เข้ารูป ฟิตหน่อยๆ ผมยืนมองคนตรงหน้านิ่งโดยยังไม่เอ่ยปากพูดอะไร

“แสดงว่าเรื่องด่วนใช่ไหมครับ น้องภาคิน “ผมเหลือบมองเวลาที่ข้อมือผมมาก่อนเวลาพี่แกยังอุตส่าห์มานั่งรอผมก่อนได้อีก

“พี่มารอก่อนเวลาสิบนาที” ปฐวีร์พูดก่อนจะช้อนตาขึ้นมามองผม ผมเดาว่าเขากำลังอ่านความคิดผมออยู่และมันก็ถูกซะด้วย เพราะว่าผมแปลกใจ มาก่อนเวลาแต่กลับมาเจอเขานั่งรอผมอยู่

“ผมแค่จะมาถามพี่ว่า ทำไมพี่เปลี่ยนใจไม่ลงประวัติที่พี่อุตส่าห์ให้เลขาฯ คนสวยของพี่ไปเรียบเรียงมาซะยาวเหยียด เพื่อลงในเว็บไซต์ของพี่ซะล่ะครับ” ผมเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าพี่เขาอีก

“พี่คิดเอาไว้แล้วเชียวว่าน้องภาคินต้องมาด้วยเรื่องนี้ นั่งก่อนซิครับ ตอนนี้มันเป็นชั่วโมงพักเบรกของพี่น่ะครับ “ผมก็มอง แล้วจะให้ผมรีบมาทำไมว "แล้วทำไมพี่ไม่บอกผมตั้งแต่แรกล่ะครับ ผมจะได้เผื่อเวลาให้นั่งทานอะไรก่อน เพราะว่าถ้าผมพูดไปแล้วพี่อาจจะทานอะไรไม่ลงก็ได้น่ะครับ "ผมพูด

“จะให้ดีทานกาแฟเป็นเพื่อนพี่หน่อยซิ” พี่ปฐวีร์พูด

“ผมไม่ได้รีบขับรถมาเพื่อนั่งทานกาแฟแต่ผมรีบมาเพื่อต้องการคำคอบที่แท้จริง” ผมบอกคนตรงหน้า

“ผมแค่จะมาถามว่าพี่ทำแบบนี้ทำไม พี่ต้องการอะไร ผู้หญิงไร้สมองก็ได้ไปแล้วหรืออยากจะได้เมย์ ก็บอกมาเลยไอ้ตั้นมันลูกผู้ชายพอ เพราะว่าพี่เองก็มีดีขนาดนี้ ไม่ต้องสรรหากระดิกนิ้วใครก็มาแต่อาจจะไม่ทุกคน” ผมพูด คนนั่งเอามือประสานกันช้อนตาขึ้นมามองผม มุมปากกระตุกขึ้นเป็นรอยยิ้ม

“นั่งก่อนซิครับ มาถึงก็มาใส่พี่เป็นชุดแบบนี้ นั่งทานอะไรให้ใจเย็นๆ ก่อนดีกว่าไหม พี่ว่าภาคินมีหลายเรื่องที่อยากจะถามพี่” พี่ปฐวีร์พูด ผมหันไปมองทางอื่น และเลขาฯ ของพี่ปฐวีร์ก็เข้ามาพร้อมกับคนที่ถือถาด มีกาแฟ ขนมเข้ามาวางลงบนโต๊ะ

“ถ้าคุณปริมมา บอกให้เธอไปรอผมบนห้องทำงานนะครับ บอกเขาว่าผมมีแขกคนสำคัญ “พี่ปฐวีร์พูดก่อนจะปรายตามามองผมแว๊ปหนึ่ง

“ถ้าเธอถามว่าคุณวีร์จะให้เธอรอนานแค่ไหนละคะ” เลขาฯ ของพี่ปฐวีย์

“บอกไม่ทราบ ถ้าเธอรอได้ก็รอ ถ้าเธอรอไม่ได้ก็ให้เธอกลับไปก่อนและไม่ต้องมาหาผมตอนเย็นด้วยผมมีนัดแล้ว” พี่ปฐวีร์บอกเลขาฯ เธอแค่พยักหน้ารับคำสั่ง ก่อนที่ทุกคนจะออกไปเหลือไว้แค่ผมกับพี่ปฐวีร์

“นั่งก่อนซิครับ ภาคิน ทานกาแฟกับพี่ก่อน “ผมนั่งลงตรงข้ามพี่ปฐวีร์ พี่เขาก็หยิบถ้วยกาแฟ ขึ้นมาจิ๊บ ก่อนจะช้อนตาขึ้นมามองผมแอบอมยิ้มเล็กน้อย

“นี่ภาคินโมโหแทนตั้นเขาขนาดนี้เลยเหรอครับ” คนตรงหน้าผมถามผม

“พี่ทำแบบนั้นทำไม...ปึก!! " ผมถามพี่ปฐวีย์ก่อนจะก่อนจะใช้ฝ่ามือกระแทกลงที่บนโต๊ะ

“พี่ทำอะไรเหรอครับ ภาคิน” ผมนี้ต้องสูดลมหายใจเข้ายาวๆ พยายามระงับอารมณ์ตัวเอง ก็คนตรงหน้าผมแกล้งทำเป็นไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรอยู่

“พี่แค่อยากให้ตั้นมันรู้ว่าพี่เหนือกว่ามันไง!!” ผมพูด

“ไม่น่าเชื่อเลยน่ะ ตั้นเขามีเพื่อนที่เก่งดูเกมออกสมกับเป็นนักการตลาดที่พี่อยากได้” ผมหันไปมองเกี่ยวกันไหม

“ว่าแต่ เมย์เขาสบายดีไหมครับ” พี่ปฐวีร์เงยหน้าถามผม ผมก็ต้องหัวเราะในลำคอและหันไปมองทางอื่น

“สบายดีเพราะว่าตั้นมันดูแลอย่างดี “ผมพูด

“ดีจนปริมเขาหัวเสียและสั่นเป็นเจ้าเข้าเลยเพราะว่าเขาไม่เคยได้ที่ตั้นทำกับเมย์” พี่ปฐวีย์พูด เขารู้ทุกอย่าง

“แต่พี่ได้ยินแบบนี้ พี่ก็สบายใจได้ว่าเขาอยู่ในที่ปลอดภัย” พี่ปฐวีร์พูด

“พี่รู้ว่าเมย์อยู่ไหน ทำไมพี่ไม่ไปหาเมย์และพาเขาออกล่ะ หรือว่าพี่ไม่กล้า” ผมถามพี่ปฐวีร์

“พี่ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นหรอกภาคิน " มุมปากกระตุกขึ้นเป็นรอยยิ้มพร้อมกับคำพูดนิ่งๆ

“พี่จะรอให้เมย์เขากลับมาหาพี่เองเพราะว่าพี่ก็พร้อมสำหรับเขาเสมอ ถ้าเขาต้องการ “พี่ปฐวีร์พูดโดยไม่ได้สนใจสายตาของผมเลยสักนิด มีแค่ช้อนตาขึ้นมามองแค่นั้น

“ถ้าเป็นแบบนั้นจริง เขาก็เหมือนที่ปริมทำกับตั้น!” ผมได้ฟังก็ถึงกับกำหมัดแน่น

“พี่แม่งโคตรเลวเลยว่ะ” ผมพูดและลุกขึ้น

“รักเขามากขนาดนั้นเลยเหรอครับ ภาคิน “พี่ปฐวีร์ถามผมน้ำเสียงที่นิ่งมาก ผมหันหลังกลับไปมองหน้าพี่เขาทันที

“ถึงได้โกรธแทนเขามากขนาดนี้ ขนาดที่ว่าจะต่อยหน้าพี่เลยก็ได้ “พี่ปฐวีย์พูด พร้อมกับวางแก้วกาแฟลงและเอามือมาประสานกันเอนหลังพิงพนักเก้าอี้

“เมย์เขาเป็นเด็กน่ารัก เป็นเด็กดี พี่ถึงได้ช่วยเขาหลายเรื่อง เมย์เขาเป็นเด็กที่กตัญญู ใครมีบุญคุณกับเขา เขาก็จะตอบแทน โดยที่พี่ไม่จำเป็นต้องทวงถาม ดังนั้น ภาคินคงรู้คำตอบนะว่า เมย์จะทำกับคนที่มีบุญคุณกับเขาอย่างพี่ได้ลงคอเชียวหรือ”

   ผมได้ยินแบบนั้นแล้วก็เดินออกทันทีเช่นกัน ผมเดินออกมาก็เห็นผู้หญิงร่านสวาทอย่างปริมที่เดินมากับการ์ดสองสามคน เธอไม่ได้หันมามองผมแต่ว่าเลขาฯ พี่ปฐวีร์เดินไปคุยกับเธอ แค่นั้นเธอก็สะบัดก้นออกอย่างหัวเสีย ผมจะแคร์เธอทำไม วันนี้ไม่อยากจะมานั่งทะเลาะกับชะนีไร้สมอง ผมเลยเลือกเดินไปอีกทาง นับว่าโชคดีที่ผมเลือกจอดรถขึ้นไปอีกชั้นหนึ่งจะได้ไม่ต้องพากันไปโรงพักต่อ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
   Part's เมธานินท์ ผมออกมากับแฟนพี่เปรมดิ์ มากับสาวๆ เขาชวนผมมาเดินห้างใกล้ๆ พี่ตั้นก็ยอมให้ผมมา ใช่ผมคงไม่อยากหนีเขาไปอีกแล้ว หรือว่านี้ผมมีใจให้เขาแล้วจริงๆ ผมก็คอยโทรหาวิวน้องสาวผม วิวบอกว่ารอหมอว่าจะให้แม่กลับไปพักฟื้นที่บ้านได้หรือยัง ผมก็ว่าจะส่งเงินให้เพิ่มแต่วิวบอกว่าคราวก่อนพี่ตั้นโอนไปเผื่อจากค่าผ่าตัดหลายหมื่นบาทเลย และผมเองก็ไม่ได้เอาเงินในบัญชีที่พี่ตั้นใส่เอาไว้สามหมื่นมาใช้ เพื่อวันหนึ่งที่เขารู้ความจริง ผมจะได้คืนเงินทั้งหมดให้เขา

“พี่เมย์ พี่น่ะโชคดีมากเลยน่ะที่ได้พี่ตั้นเป็นแฟน นางพวกนี้แอบชอบแอบมองมาตั้งนานยังไม่ได้แอ้มเลยอ่ะ “โบว์แฟนพี่เปรมดิ์พูด ผมหันมามองเพื่อนๆ โบว์ที่ทำหน้าสลดเป็นแถว มีมะนาว และก้อย

“เออ ว่าแต่ช่วงนี้ไม่เห็นพี่ปริมมาเลยน่ะ พี่ปริมเขารู้เรื่องพี่เมย์แล้วหรือเปล่าวะ” เพื่อนโบว์ที่ชื่อก้อยถามผม ผมหันไปมองพร้อมกับส่ายหัวเบาๆ

“พี่เจอยังอ่ะ เจ้ปริมอะไรนี่น่ะ โคตรน่ากลัวเลย แต่โบว์เชื่อว่าพี่ตั้นเขาปกป้องพี่เต็มที่แน่ๆ”

“พี่ปริมนี้เขาเป็นอะไรกับพี่ตั้นเหรอ พี่ไม่รู้อ่ะ” ผมพูด

“พี่ปริมเขาเป็น คู่อย่างว่าอ่ะ พี่เปรมดิ์บอกโบว์มาน่ะ และพี่ปริมเขาเป็นคนเที่ยวและเป็นลูกคนมีอิทธิพล เมื่อก่อนพี่ตั้น ชอบเที่ยวกันทุกอาทิตย์ มีเรื่องราวกันมาก็บ่อย และก็ทำให้เจอพี่ปริม ตอนแรกพี่ตั้นเขาก็คงชอบ พี่ปริมมั้ง”

“ส่วนพี่ปริมนี่ก็มีคนที่เขาต้องแต่งงานด้วยและพี่ปริมก็เลือกเขาคนนั้น แต่ก็แวะมาหาความสุขกับพี่ตั้นบ่อยๆ ก่อนหน้านี้น่ะ แต่มาหลังๆ ไม่ค่อยเห็นแล้วน่ะ หรือว่าพี่ตั้น บอกเลิกไปแล้วซะก็ไม่รู้”

“พี่แกชอบแสดงท่าทีเหมือน…หมาหวงก้าง”

“เมื่อก่อนตอนพี่ตั้นอยู่มหาวิทยาลัย ไม่ธรรมดาน่ะ มีสาวๆ มาให้แกมากมายแต่แปลกน่ะ มีแต่อายุเยอะกว่าพี่แกทั้งนั้น พวกเราเด็กเกินเลยหมดสิทธิ์”

“แต่พอมาเจอพี่ปริม หายไปหมด”

“ก็แน่ละ พี่ปริมแกลูกใคร แกจัดการหมดไม่เหลือ เพราะว่าพ่อแกใหญ่ไง” ก้อยพูด

“ตกลงพี่ปริมนี้เป็นแฟนพี่ตั้นหรือเปล่าอ่ะ” ผมถาม

“ไม่ใช่หรอก มีคนหนึ่งในแก๊งที่ไม่ยอมให้พี่ตั้นเป็นแฟนกับพี่ปริม “โบว์พูดขึ้น ผมหันไปมองว่าใครเหรอ

“พี่ภาคิน!” ทั้งสามคนพูดออกมาพร้อมกัน ผมพยักหน้าว่าทำไมเขาไม่ค่อยชอบหน้าผมเอาซะเลย

“ถ้าไม่ได้พี่ภาคินน่ะ พี่ตั้นคงเสร็จยายเจ้ปริมไปนานแล้วแหละ” โบว์พูด

“พี่ภาคินน่ะชอบพี่ตั้นมาตั้งแต่สมัยมัธยมปลายแล้ว พี่ภาคินกับพี่ธีม เป็นเพื่อนพี่ตั้น ตั้งแต่พี่เขาย้ายมาจากอเมริกา ส่วนพวกพี่เปรมดิ์นี้มาเจอกันตอนเรียนมหาวิทยาลัย”

“พี่ตั้นน่ะดีมากกกกก เป็นเพื่อนที่พวกพี่ๆเขารักมากจริงๆ พี่ทีนนะเกือบเรียนมหาวิทยาลัยไม่จบเพราะว่าที่บ้านมีปัญหา พี่ตั้นก็ช่วยมาจนจบมาพร้อมกัน และเขาก็สัญญากันว่า เรียนจบต่างไปหาประสบการณ์และกลับมาเปิดบริษัทด้วยกัน และเขาก็ทำกันจริงๆ”

“แล้วแบบนี้พี่ปริมเขาไม่….”

“ไม่กล้ามาอาละวาดที่นี่แน่นอนเพราะว่า นางกลัวพี่ภาคิน นางเคยโดนพี่ภาคินตบแล้วน่ะ เลือดกบปากเลยอ่ะ ดันด่าพี่ภาคิน ด่าแรงมาก จนพี่ภาคินหมดความอดทน และดีที่พี่ตั้นมาห้ามและอุ้มนางออกไป”

“แต่ตอนนี้ โบว์ว่าพี่ตั้นเขารักพี่น่ะพี่เมย์ เท่าที่พี่เปรมดิ์เล่าให้ฟัง หลายอย่างน่ะ ห้องนอนพี่ตั้นไม่เคยมีสาวคนไหนได้ขึ้นไป แม้กระทั่งพี่ปริมเองก็เถอะ”

“ชั้นออฟฟิศ เป็นชั้นที่มีห้องพักให้คนที่อยู่ทำงานดึกๆ และกลับไปไม่ได้ และพวกเพื่อนๆ พี่ภาคินแต่จะมีห้องพิเศษอยู่ห้องหนึ่ง พี่ตั้นเอาไว้นอนกับสาวๆ เวลาพามา แต่ไม่มีใครได้สิทธิ์ขึ้นห้องนอนของพี่ตั้นสักคนแม้กระทั่ง…พี่ปริม!”

“มีพี่คนเดียวคนเดียวเลยน่ะพี่เมย์ และนอกนั้นก็เพื่อนๆ ของพี่แต่ส่วนใหญ่ก็แทบจะไม่ขึ้นไปถ้าไม่มีเรื่องด่วนกับพี่ตั้น”

“ส่วนโบว์ ก็มีวันนั้นแหละวันเดียว ครั้งแรกเลยที่โบว์เอาของขึ้นไปให้พี่น่ะ เป็นบุญตาว่ะ ห้องหรูมากอ่ะ” โบว์พูด

“พี่รู้ไหมว่าพี่ตั้นเป็นห่วงพี่มาก ไปไหนทำอะไรจะฝากเพื่อนๆดูแลพี่ วันก่อนจะยังให้โบว์มานั่งเป็นเพื่อนพี่เลยที่พี่เขาไปคุยเรื่องงานน่ะ”

“พี่เขาทำอะไรคิดถึงพี่ก่อนเลยอ่ะ อิจฉาเลย” โบว์พูด จู่ๆมุมปากผมก็กระตุกเป็นรอยยิ้มซะอย่างนั้นแหละ จนน้องๆหันมามองและยิ้มให้ผมอีก

“คือพี่ “ผมเองก็กระอักกระอ่วนใจไม่รู้จะพูดยังไง

“พี่เมย์พวกเราต้องกลับแล้วอ่ะ เอาไว้มาเม้ามอยส์กันใหม่น่ะ ชอบ อยากเม้าพวกพี่เขาๆ มันน่ารักดี “เพื่อนของโบว์พูด นี้เขาคุยกับผมจนผมนี้เป็นเพื่อนสาวไปแล้วเหรอ ผมเองก็เหลือบมองข้อความในแอปพลิเคชัน

เฮียตั้น// (อันนี้เขาตั้งให้ในมือถือผม) เมย์ วันนี้ไม่ต้องทำอาหารนะครับ เฮียจะพาไปทานที่ร้านหมูกระทะรุ่นพี่ของพี่กัน จะพาไปเปิดตัวมีแฟนน่ารัก //พี่ตั้นส่งข้อความ ส่งมาแบบนี้ไม่เขินให้มันรู้ไปซิเมย์ เวลาพิมพ์พี่แกใช่คำว่าเฮีย
เมย์ // พี่จะเลิกกี่โมงครับ//
เฮียตั้น// ก็น่าจะประมาณ ห้าโมงครับ //
เมย์//ได้ครับ ถ้าอย่างนั้นผมเตรียมตัวรอแล้วกัน//
เฮียตั้น// รอเฮียก็ได้น่ะ เฮียไปแต่งตัวให้ ///
เมย์ //หื่นนนนน//
เฮียตั้น//งั้นรออาบน้ำพร้อมเฮียเลยนะ อาบเองไม่ค่อยสะอาด //
เมย์//ผมจะรีบกลับแล้วและสิ่งแรกที่ผมจะทำคือ อาบน้ำก่อนเลย ผมกลัวพี่นี่แหละ! //ผมส่งข้อความตอบไป แต่ก็แอบหัวเราะชอบใจ จนสาวๆ มองและพากันมุบมิบๆ

   ผมเดินออกมาและพากันนั่งรถที่เพื่อนของโบว์เขาขับมารับและพาผมไปส่งที่คอนโด ผมว่าจะเข้าไปที่ออฟฟิศ ผมซื้อขนมไปฝากน้องๆ ที่ทำงานให้กับพี่ตั้น ก็ตอนนี้ผมได้ตำแหน่งอาซ้อไปโดยปริยายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

“อาซ้อหวัดดีครับ” เด็กของพี่ตั้นที่มานั่งทำงานหันมายกมือไหว้ผม ตอนนี้ก็บ่ายสองเข้าไปแล้ว

“พี่ซื้อขนมมาฝาก” ผมบอกก่อนจะวางถุงขนมเอาไว้

“ขอบคุณครับอาซ้อ เฮียก็ใจดีอาซ้อก็ใจดี”

“จะดีอีกนิดเลิกเรียกพี่ว่าอาซ้อได้ไหม พี่ไม่ใช่ผู้หญิงซะหน่อย” ผมพูด

“แฟนเฮียก็ต้องเรียกอาซ้อ” ทุกคนตอบพร้อมกัน ผมคงเลี่ยงไม่ได้จริงๆคงต้องปล่อยให้เรียกไปก่อนแล้วกัน

“ใครก็อยากเป็นน่ะพี่เมย์ พี่นะโชคดี” คนนี้ชื่อเฟิร์น แต่ออกทอมๆ

“แล้วทำไมอยู่กันตามลำพังล่ะ พี่ภาคินล่ะ” ผมถาม

“พี่เขาออกไปคุยธุระกับใครน่ะ ชื่อคุณปฐวีย์น่ะครับพี่เมย์”

“ปึก” ผมตกใจทำของหล่นทันที พี่ภาคินไปคุยกับพี่ปฐวีร์เหรอ จะคุยเรื่องอะไรล่ะ ขออย่าให้เป็นเรื่องของผมเลยน่ะ วันแรกๆ ผมนี่อยากให้พี่ปฐวีย์รู้ว่าผมอยู่ที่ไหน แต่ทำมันวันนี้ผมถึงไม่อยากไปจากที่นี้เลย น้องๆหันมามองหน้าผมก่อนจะลุกมาช่วยกันเก็บขนมที่ร่วงหล่นลงไป

“พี่เป็นอะไรหรือเปล่าพี่เมย์” เฟิร์นถามผม

“ไม่เป็นไรครับ งั้นพี่ขึ้นห้องก่อนน่ะ มีอะไรโทรหาพี่แล้วกันน่ะครับ” ผมพูดและเดินออกจากออฟฟิศ

“กูแม่งไม่อยากจะเชื่อเลยว่ะไอ้ธีม กูว่าแล้วเชียว ว่ามันแปลกๆ แล้วมึงก็ซั่มเลขาฯ แทนที่จะถามข่าวอะไรมาไม่ได้เรื่องเลยมึงน่ะ แค่นี้น่ะ กูลืมของไงเลยเข้ามาเอา วันนี้กูไปไม่ได้ว่ะ ใจก็อยากไป แค่นี้แหละ ไม่ได้หลบใครไอ้สัส!” ผมก็ต้องสะดุ้งเพราะว่าเจอพี่ภาคิน เขาเดินคุยโทรศัพท์มา พอเขาเห็นผมก็หยุดชะงัก

“แค่นี้น่ะ” พี่ภาคินกดวางสาย เขามองหน้าผม

“พี่ภาคินสวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้ พี่เขารับไหว้ผมและเหมือนจะมีบางอย่างอยากจะพูดกับผม แต่ผมคิดว่าเดินเลี่ยงไปจะดีกว่า

“เมย์กำลังเล่นอะไรอยู่” จู่ๆ พี่เขาก็ถามผม

“พี่ถามว่าเมย์กำลังเล่นอะไรอยู่! กับไอ้ตั้นมัน!!” อันนี้ผมสะดุ้ง

“ผมไม่ได้…เล่นอะไรนี่ครับพี่ภาคิน” ผมพูด

“พี่ไปหาพี่ปฐวีร์มา เขาบอกว่าเขามีบุญคุณอะไรกับเมย์ แต่พี่ไม่สนใจน่ะ พี่สนแค่ ถ้าเมย์ไม่ได้จะอยู่กับมัน และคิดว่าจะกลับไปทดแทนบุญคุณอะไรของเมย์กับเขาก็เชิญ แต่เมย์ควรจะปล่อยตั้นมันไป อย่าทำให้มันรักเมย์จนมันโงหัวไม่ขึ้นแบบนี้!” ผมเงยหน้ามองพี่ภาคิน

“ผม....”

“ออกไปไม่ได้เหรอ? ไม่น่าจะใช่ ก็แค่เปิดประตูเดินออกไปมันก็จบ!! "  เพราะว่าไอ้ผู้ชายคนนั้นมันก็นั่งรอเราอยู่แล้ว แค่รอให้เรากลับไปหามัน มันบอกพี่มาแบบนี้! “พี่ภาคินพูด น้ำเสียงเขาโมโหมาก จนผมเองก็ไม่กล้าที่จะปริปากพูดอะไรตอนนี้

“ปึก!!” และพี่ภาคินก็เปิดประตูเข้าไปในออฟฟิศ ผมได้แต่ยืนน้ำตาซึมจนกระทั่งมันไหล่ออกมา ผมรีบปาดมันทิ้งและเดินกลับขึ้นไปบนห้องพักของพี่ตั้นทันที

ตื้ด!!! เสียงโทรศัพท์ผมสั่น ข้อความเข้ามาในแอปพลิเคชัน ที่ผมใช้คุยกับพี่ตั้น

   เฮียตั้น// ตัวเล็ก…เฮียไปช้าหน่อยน่ะ… แต่ไม่ต้องห่วง เฮียไปแล้วจะรีบทำเวลา…อาบน้ำประแป้งรอเฮียบนเตียงเลยน่ะ// ผมถึงกับหัวเราะมาทั้งน้ำตา “เฮียหื่น” ผมสบถออกมาเบาๆ กับตัวเอง

   ผมหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมา ผมดึงรูปถ่ายครอบครัวผมถ่ายที่บ้านหลังนั้น มันเป็นสมบัติชิ้นเดียวที่ผมเหลืออยู่ เพราะไอ้เฮียรงค์คนเดียวแต่ว่ามันก็เข้าไปชดใช้ในคุกอยู่ ถ้ามันออกมามันคงได้ฆ่าผมแน่ๆ

   “ถ้าเมย์อยากได้คืน ก็รับข้อเสนอพี่ซิ พี่พร้อมจะดูแลเมย์ แต่พี่ไม่ใช่คนที่ชอบบังคับจิตใจ อยากได้แบบเต็มใจ” พี่ปฐวีร์เคยบอกผมเอาไว้ ตอนนี้ผมสับสน ผมควรทำอย่างไรดี

   "อย่าทิ้งพี่ไปเหมือนผู้ชายคนนั้นได้ไหมเมย์ พี่รักเมย์ พี่รักเมย์แล้วจริงๆ"
“ผมก็ว่าผมรักพี่แล้วเหมือนกันพี่ตั้น!!” ผมพลิกรูปด้านหลังดูมันมีลายมือที่เขียนเอาไว้ โดยแม่ปิ่น
   [ถ้าเมย์พร้อมก็ไปหาเขาได้น่ะเมย์ ถึงยังไง พ่อแม่ของเมย์เขาไม่ได้อยู่ไกลจากเมย์ อยู่ในหัวใจเมย์ตลอดไป เชื่อแม่น่ะลูก]
   
   ผมเลือกที่จะเดินลงมาจากห้องของพี่ตั้น ผมคิดว่าผมพร้อมแล้วที่จะไป พบพวกเขาที่นั่น ผมเดินลงไปที่ชั้นล่างสุด เดินออกไปจากคอนโด ผมก็เจอรถแท็กซี่คันหนี่ง คนขับอายุก็เยอะหน่อยๆ มีคนลงมาจากรถเขายิ้มให้ผม ก่อนจะรีบเดินขึ้นไป

“ครับพี่กอล์ฟ ผมมาถึงแล้ว ไม่เอาอ่ะ จริงดิพี่อยู่ในห้อง ผมรีบขึ้นไปน่ะ ก็เพิ่งจะมาถึง เลิกปุ๊ปก็วิ่งลงมาเลย ไอ้ปอมมันก็ถามแล้วเนี่ยะ! “ผมหันไปมองคงไม่ใช่คนเดียวกันหรอกมั้ง

“ไปไหมคุณ” ผมสะดุ้งก่อนจะหันไป

“ไป ครับ “ผมพูดก่อนจะเข้าไปนั่ง ในรถคันนั้น

“ไปไหนละไอ้หนุ่ม”

“ไป ... ไปตามที่อยู่นี้ครับ” ผมพูดและส่งรูปถ่ายพลิกด้านหลังให้เขาดู

“ไกลน่ะไอ้หนุ่ม แบบนี้ต้องราคาเหมาแล้วล่ะไอ้หนุ่ม”

“เท่าไหร่ผมก็จ่ายครับลุง ช่วยพาผมไปที ผมขอร้องนะครับ” ผมพูด

“เออๆ โชคดีนะที่มีลูกค้าที่พัทยาโทรมาบอกให้ไปรับหน่อย เอางั้นขึ้นมาเลยไอ้หนุ่ม”

“ขอบคุณครับลุง”

“ราคาเหมาน่ะ จะได้ไปกัน” และลุงเขาก็ออกรถทันที ผมหันไปมองคอนโดของพี่ตั้น ก่อนจะลับตาหายไป ผมสับสนครับพี่ตั้น ผมสับสน คงมีแค่เขาเท่านั้นที่ช่วยผมได้ ผมไม่เคยไปหาเขาเลย ผมกลัวจะร้องไห้ ผมกลัวว่าเขาทั้งคู่จะรู้ว่าผมอ่อนแอ ที่ต้องอยู่บนโลกนี่โดยลำพังไม่มีพ่อแม่เหมือนคนอื่นเขา

TBC...


หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก EP.12 สับสน
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 19-11-2020 07:40:19
 :m31: :fire:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก EP.12 สับสน
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 19-11-2020 15:11:10
เออ สับสนงวยงงและสงสัยหลายอย่างเลย รอเมย์ไปคลี่ปม 55 น้องๆช่วยอวยเฮียกันใหญ่ เฮียดีบริวารก็ดีอะนะ 55 ก็ชอบภาคินนะที่เป็นห่วงเพื่อนดี แต่ก็อย่าให้มากไปละกัน หมั่นไส้ไอ้คุณวีย์ว่ะ อยากให้หลงใครสักคนแล้วเขาไม่เล่นด้วยง่ายๆ จะได้เข้าใจสักที 555 รอตอนต่อไปเลยค่ะ  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก EP.12 ภาคิน (ผมใจร้ายไม่ลงจริงๆ)(รีไรท์)
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 20-11-2020 10:59:00
EP.12 ภาคิน (ผมใจร้ายไม่ลงจริงๆ)(รีไรท์)

                    Part's รชานนท์ พอผมเสร็จงานก็รีบขับรถกลับมาพร้อมกับไอ้ธีมทันที ก็จะรีบไปดูซิว่าเมย์อาบน้ำรอหรือยัง ช่วงนี้ก็เริ่มจะมีหยอดกันบ้าง มันทำให้ผมมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง และช่วงนี้พี่ปริมก็เงียบๆไปหรือเจ๊แกจะคิดได้ก็ไม่รู้ซิน่ะแอบเข้าข้างตัวเอง ผมเองก็ยิ่งไม่อยากไปทำให้นางกลับมาหาผมมาทำลายความเชื่อมั่นที่่น้องเมย์เริ่มมีให้ผมถึงแม้จะยังไม่ทั้งหมดก็เถอะ และตอนนี้ผมว่าผมเจอคนที่ผมว่าใช่แล้ว ผมอยากมีแค่เมย์คนเดียว ผมยอมรับว่าผมรักเขา รักเขาแล้วจริงๆ ทำไมก็ไม่รู้มันบอกไม่ถูกแต่มันทำให้ผมยิ่มได้ทุกครั้งที่อยู่ใกล้

“ไอ้ตั้นครับ มึงกลัวเมียมึงหนีเหรอครับ” ไอ้ธีมพูด

“ทำไมวะ” ผมหันมาถามไอ้ธีม และเห็นมันยื่นมือขึ้นไปจับที่ตรงเหนือศีรษะมันขนาดนั้น ผมยอมรับว่าผมขับเร็วครับ ก็จะรีบไปดูซิว่าตัวเล็กอาบน้ำประแป้งรอเฮียตั้นหรือยัง

“รู้อย่างนี้กูเอารถกูไปดีกว่า” ไอ้ธีมพูด

“หึ หึ” ผมหัวเราะมันในลำคอ ก่อนจะค่อยๆผ่อนความเร็วลง

“ไอ้ภาคินละว่ะ “ผมหันไปถามไอ้ธีม

“นี่กูไม่เห็นมันเข้าบริษัทมาสองสามวันแล้วมันไปไหนของมัน มึงรู้ไหม” ผมถามไอ้ธีม

“ไอ้ตั้น ไอ้คินมันจะออกไปทำธุรกิจกับพ่อมันเต็มตัวแล้วว่ะ” ไอ้ธีมพูด ผมหันมามองหน้ามัน ไอ้ภาคินไม่เคยบอกผมเลยน่ะ

“มึงให้มันไปเถอะ มันเจ็บ มันทำใจไม่รักมึงไม่ได้หรอกว่ะไอ้ตั้น “ไอ้ธีมพูด ผมถึงกับต้องผ่อนความเร็วลง

“ทำไมมันต้องรักกูแบบคนรักด้วยว่ะ” ผมพูดโดยไม่ได้มองคนข้างๆ

“เรื่องบางเรื่องแม่งบังคับได้เหรอวะและมันก็เจ็บมาตั้งแต่พี่อิศเรศแล้วมึง” ผมหันมามองไอ้ธีม ผมเลี้ยงรถเข้ามายังที่สำหรับจอดพวกผมโดยเฉพาะ มันจะแยกกันกับคนที่มาพักที่คอนโดของผม

“มึงไปไหนกันหรือเปล่ววะวันนี้ ถ้าไม่ไปก็ไปร้านเฮียตั้มด้วยกันดิ เฮียตั้มแกบอกแกอยากเจอพวกเราแบบครบๆว่ะ ” ผมพูดหันไปถามไอ้ธีมผม

“กูมีนัดว่ะ กูอุตส่าห์ไปหยอดไว้ตอนไปดริ้งกับไอ้คินมัน ขอไปเปิดซิงก่อน” ไอ้ธีมพูด ผมปรายตาไปมองไอ้ธีม

“มึงนี้แม่งก็ขยันเปิดจริงๆ เปิดทิ้งเปิดขว้างด้วย” ผมหันมาบ่นไอ้ธีมมัน

“แต่กูก็ยังมีมารยาทนะครับไอ้ตั้นครับ จีบเขาก่อน เล่นด้วยแล้วค่อยเอา แต่มึงแม่งเอาเขาก่อนแล้วค่อยมาจีบทีหลังแบบนี้ มันเสียมารยาท “ไอ้ธีมพูด ผมหันไปคว้ากล่องกระดาษทิชชูปาใส่มันเลยก่อนจะเปิดประตูรถออกมาและตามมาด้วยไอ้ธีม

“ว่าแต่อีเจ้มึงนะเงียบไปน่ะ อีเจ้ปริมมึงนะ “ไอ้ธีมมันพูดก่อนจะปิดประตูรถกระบะผม ผมสะบัดหน้าไปมองคนที่เดินอ้อมมายืนรอผม

“เขาเงียบก็ดีแล้ว ช่วงนี้กูกับเมย์กำลัง” ผมพูดก่อนจะเดินเข้าคอนโด เดินไปพร้อมกับไอ้ธีม

“ปลูกต้นรัก แต่ระวังอิเจ้มันมาหักต้นรักมึงซะล่ะ” ผมหันไปมองหน้าไอ้ปากดี มาแช่งความรักของผมกับน้องเมย์ นิ้วกลางเถอะครับเป็นรางวัล

“ยิ่งเงียบๆ อยู่ด้วยไม่รู้ไปแอบซุ่มทำเซอร์ไพรส์ให้มึงหรือเปล่า” ไอ้ธีมพูด และนี่ก็ทำให้ผมคิดเลยจริงด้วยซิ มันผิดวิสัยคนแรงอย่างเจ้ปริม แต่ผมก็ไม่อยากให้เขามายุ่งกับเมย์เหมือนที่เขาทำกับคนอื่น เพราะว่าผมอยากหยุดที่เมย์แล้วไง

“แล้วไอ้คินล่ะมันไปไหนไหม” ผมหันไปถามหาไอ้ภาคินกับไอ้ธีม

“มันบอกว่าพ่อมันจะบวงสรวงบริษัทและฉลองยอดส่งออกทะลุเป้า ป๊าและม๊าเลยสั่งให้มันไปชลบุรีด่วน” ไอ้ธีมบอกผม ระหว่างที่ผมกำลังยืนรอลิฟต์อยู่และว่าจะตรงไปยังออฟฟิศก่อนเพื่อว่าเมย์อยู่ที่นั่น เพราะว่าผมก็โทรเข้ามือถือเมย์ไม่รับสาย

Rrrrrrr โทรศัพท์ผมดังขึ้นเบอร์ไอ้อาร์ม เพื่อนผม วันนี้มีสองที่เลยแยกกันไป

//ว่าไงว่ะอาร์ม//

//มึงนัดเฮียตั้มแกไว้กี่โมง//

//เฮียตั้มบอกว่าตามใจว่ะ วันนี้เฮียว่างว่ะและเฮียมีข่าวดีจะบอกด้วย เฮียบอกให้ไปให้ครบๆ หน่อย// ผมบอกไอ้อาร์ม

// พวกกูว่าจะไปอาบน้ำที่คอนโดเลยว่ะ//

// เสร็จหรือยังว่ะมึง//

// กำลังจะกลับแล้ว เจอกันว่ะ // ผมกดวางสายจากไอ้อาร์ม ก็มาหยุดที่หน้าห้องทำงานพวกผมพอดี

ผมเปิดประตูเข้าไปก็เห็นพวกน้องมันนั่งทำงานกันอยู่บางคนก็กำลังจะกลับแล้ว ผมไม่อยากจะชวนพวกน้องๆ ไปในวันธรรมดาแต่ถ้าวันหยุดก็ได้อยู่ แต่ว่าดูแล้วเมย์ไม่ได้อยู่ในห้องด้วย

“พี่เมย์ล่ะ” ผมถามเด็กๆที่นั่งทำงานให้พวกผมอยู่

“อาซ้อเขากลับขึ้นบนห้องตั้งนานแล้วครับเฮีย ตั้งแต่บ่ายสองแล้วครับ”เด็กที่มาทำงานกับผมบอกผม ผมพยักหน้า

“พี่กอล์ฟล่ะ” ผมหาไอ้กอล์ฟทันที

“เห็นไอ้เฟย์มันมาหาน่ะพี่กอล์ฟน่ะและพี่กอล์ฟก็ออกไปกับเฟย์ยังไม่เข้ามาเลยพี่” ผมพยักหน้าอีกครั้ง

“แล้วมันออกไปไหนกันวะ” ไอ้ธีมถามกลับทันที

“ไปที่ห้องพี่เขานะคงมีเรื่องปรึกษาปัญหา…ระบบโปรแกรมนะพี่” หนึ่งในนั้นบอกผม ผมก็หันมามองไอ้ธีมที่ยืนขมวดคิ้วอยู่ เป็นพวกชอบคิดเล็กคิดน้อยเหมือนไอ้เปรมดิ์อีกคนแล้ว

“กูว่าไอ้คู่นี้แม่งมีอะไรแล้วมึง โปรแกรมเชี่ยอะไรวะ ต้องไปปรึกษากันสองต่อสองมึงครับ” ไอ้ธีมพูด ผมส่ายหัวว่าไม่หรอก

“มึงไปเลยไหมวะ” ผมถามไอ้ธีม

“กูนั่งรอแป๊บหนึ่งว่ะ มึงจะขึ้นไปดูเมย์ใช่ไหม”ธีมบอกผม

“เออว่ะ “ผมพูดและรีบเดินขึ้นไปบนห้อง หรือว่าแอบหลับน่ะ ไม่รับสายเฮียเลย ขึ้นไปจะทำโทษหอมซะหลายฟ้อดเลยคอยดู ตอนนี้เมย์ให้ผมหอมได้บ้างแล้ว จะว่าไปเหมือนตอนนี้ผมกับเมย์กำลังเริ่มจีบกันใหม่

“ตื้ด ตื้ด ตื้ด” ผมกดรหัสล๊อกห้องผมเมย์ไม่ได้ล๊อกประตูด้านใน พอผมเข้ามาก็มองไปรอบ เห็นมือถือวางอยู่บนโต๊ะหรือว่าอยู่ในห้องนอน ผมรีบเข้าไปก็ไม่เจอตัวเล็ก เดินไปที่มุมอ่านหนังสือก็ไม่มี ออกมานอกระเบียงก็ไม่มีอีก เริ่มใจคอไม่ค่อยจะดีแล้วผมน่ะ น้องๆ บอกผมว่าเมย์นะกลับเข้าตั้งแต่บ่ายสองแล้วนี่มันเกือบจะห้าโมงครึ่งแล้ว แต่ว่าเมย์ไปไหน ผมรีบเดินกลับลงที่ออฟฟิศอีกครั้ง ผมเจอไอ้กอล์ฟมันยืนอยู่กับไอ้ธีมที่หน้าห้องทำงานและเฟย์เด็กที่มาคลุกคลีอยู่กับไอ้กอล์ฟอีกคน

“มีอะไรกันหรือเปล่า ทำไมหน้าตามึงสองคนเหมือนแบกโลกไว้ทั้งใบแบบนี้” ผมถามทันที

“เฟย์บอกว่าตอนมันลงจากแท็กซี่ มันส่วนกับเมย์ว่ะ แต่มันไม่แน่ใจพอมันหันมาอีกทีรถคันนั้นก็ออกไปแล้วว่ะ” ไอ้ธีมพูด

“ใช่เมย์แน่เหรอวะ” ผมถามย้ำอีกที

“เออว่ะ สงสัยเขาไปจากมึงแล้วว่ะ” ไอ้ธีมพูดผมแทบจะทรุดลงกับพื้นเลย แต่ว่าผมกับนึกถึงวิวขึ้นมาได้ ผมรีบหยิบมือถือมากดโทรหาวิว น้องสาวของเมย์ก่อนเลยเพื่อว่าเมย์จะไปหาเขา

//ค่ะพี่ตั้น//

// วิว เมย์ไปหาวิวหรือเปล่าครับ//

//ไม่ได้มานี่ค่ะพี่ตั้นและแม่สั่งพี่เมย์เอาไว้ว่าไม่จำเป็นอย่าเข้ามาด้วยนี่ค่ะพี่ตั้น ” ผมก็ต้องขมวดคิ้วเป็นโบว์อีกรอบ  ทำไมล่ะ?

// และนี่วิวเพิ่งจะพาแม่กลับมาจากโรงพยาบาลค่ะพี่ตั้น วิวว่าจะโทรบอกอยู่พอดีเลย//

//เมย์เขาขึ้นรถแท็กซี่ออกไปนะครับวิว พี่ไม่รู้ว่าเมย์ไปไหน//

//เฮ้ย!! พี่เมย์ ไม่อยู่กับพี่ตั้นแล้วเหรอ ทำไมล่ะพี่ตั้น //

//พี่ไม่รู้วิว ถ้าเมย์อยากจะไปจากพี่ทำไมเมย์ไม่บอกพี่ละ พี่จะไม่รั้งถ้าเขาไม่อยากอยู่แต่พี่อยากให้แน่ใจว่าเมย์เขา ปลอดภัย//

//วิวว่าพี่เมย์ไม่น่าจะทำแบบนั้นน่ะพี่ตั้น พี่เขารักพี่ตั้นน่ะ แต่.. วิวขอโทษน่ะวิวบอกพี่ไม่ได้จริงๆ แต่พี่เมย์รักพี่ตั้น วิวเชื่ออย่างนั้น //

//แล้วนี่เมย์เขาไปไหนล่ะ วิวรู้ไหม บอกพี่หน่อยพี่จะไปตามหาเมย์//

//ที่วิวคิดน่ะพี่ตั้น มีสองที่ที่พี่เมย์จะไป คือหนึ่งบ้านพ่อแม่ของพี่เมย์เขา แต่ตอนนี้มีคนซื้อไปแล้ว พี่เมย์เขาพยายามจะเอามันคืน ถ้าไม่ใช่ที่นั่นก็…//

//ก็อะไรวิว//

//คุณปฐวีย์ แต่พี่เมย์เขาไม่อยากกลับไปแล้วน่ะพี่ตั้น อย่างที่วิวบอก พี่เมย์เขารักพี่ แต่พี่ปฐวีร์ก็ มีบุญคุณ///ผมต้องพ่นลมหายใจออกมายาวๆ

//เยอะเหรอ บุญคุณระหว่างพี่ปฐวีย์กับเมย์น่ะวิว //ผมถามวิว

//มากพอสมควรค่ะพี่ตั้น วิวพูดได้แค่นี้ ฮึก ๆ “วิวก็ร้องไห้ ผมนิ่งอึ้งไปทันที //ส่วนหนึ่งมาจากวิว ฮืกๆ //วิวพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออีก

// โอเควิว ส่งที่อยู่บ้านของเมย์มาให้พี่ พี่จะไปที่นั่นก่อน ถ้าไม่เจอ พี่จะไปหาคุณปฐวีร์//

// วิวเชื่อว่าพี่เมย์ไม่ไปหาคุณปฐวีร์แน่นอน พี่เมย์เขา เลือกพี่ตั้น วิวเชื่ออย่างนั้นพี่ตั้น// ผมกดวางสายพวกไอ้เปรมด์ มันเดินเข้ามาก็มองหน้าผมกันหมด

“เกิดอะไรขึ้นวะ ทำหน้ายังกับเมียหาย” ไอ้เปรมดิ์ ผมสะบัดหน้าไปมองมัน

“ไอ้เชี่ย! มาถึงก็ปล่อยหมัดฮุกเข้าหน้ามันเต็มๆ เลยครับไอ้เปรมดิ์ครับ” ไอ้ธีมพูด

“อ้าวฉิบหายแล้วกู!!” ไอ้เปรมดิ์มันก็ตกใจไม่แพ้กัน

“เมียมึงหายจริงๆ อ่ะ” ไอ้ทีนถามผม

“กูจะไปหาเมย์” ผมพูด

“ที่ไหนวะ!!” พวกเพื่อนผมถามผมพร้อมๆ กันโดยมิได้นัดหมาย

“ที่บ้าน วิวกำลังส่งที่อยู่มาให้ “ผมพูดและกดดูข้อความที่วิวส่งมาให้ผม เป็นที่อยู่บ้านของเมย์ ที่เมืองทองธานี มันค่อนข้างไกลแต่จะให้ไปหาพี่ปฐวีร์ก่อนอย่างนั้นเหรอ ผมเชื่อที่วิวพูดกับผม แล้วทำไมเมย์ไม่บอกผมตรงๆล่ะ เรื่องบ้านที่วิวบอกว่าอยากได้คืน ถ้าบอกกับผม ผมจะได้ช่วย ตัวเล็กน่ะตัวเล็ก

*******

Part'sภาคิน ผมยอมรับว่าผมพูดกับเมย์เพราะความโมโหและอิจฉา ที่เมย์ได้ความรักจากคนที่ผมรอมาตั้งแต่หลายปี แถมผมกับมันก็มีอะไรกับมันไปแล้ว แต่มันกลับรักผมไปไม่ได้แต่กับเมย์ มันเลือกรับผิดชอบเมย์ ผมดูมันออกแต่ผมก็เหมือนหลอกตัวเอง นั้นคือมันรักเมย์ไปแล้ว ตอนนี้ผมกำลังขับรถมุ่งหน้าไปยังชลบุรี ครอบครัวผมมีโรงงานขนาดใหญ่อยู่ที่นั่นด้วย ฝนก็ตกพรำๆ ตลอดทาง

Rrrr ผมเหลือบไปมองมือถือที่แปะห้อยเอาไว้ก่อนจะกดรับสายผ่านบลูทูธ เห็นเป็นชื่อไอ้ธีม

//ว่าไง” ผมถามคนปลายสาย//

//มึงอยู่ไหนแล้ว//

//กำลังจะไปชลบุรีไงว่ะ กูบอกมึงแล้วไงว่าพ่อกูให้ไป//

//นี้ไอ้ตั้นมันขับรถตามหาเมย์เหมือนคนบ้าเลยว่ะ//

//เกิดอะไรขึ้นว่ะไอ้ธีม// ผมถามไอ้ธีม

//เมย์หายออกไป// ผมตกใจจน //F**k!! // ผมสบุถออกมา อย่าบอกน่ะว่าเป็นเพราะที่ผมพูดวันนี้น่ะ เมย์เลยออกไป แต่ว่าไปไหนล่ะหรือว่าเขาไปหาพี่ปฐวีร์ ถ้าเป็นแบบนั้นผมคงวนรถกลับทันทีเพื่อไปดูไอ้ตั้นมัน

//มึงให้ไอ้ตั้นไปตามหาที่พี่ปฐวีร์หรือยัง//

//เลขาฯ คุณปฐวีย์บอกว่า คุณปฐวีย์มีงานพบปะสังสรรค์เพื่อนที่เรียนมหาวิทยาลัยว่ะ มหา'ลัยที่พี่เขาจบปริญญาเอกมา กูคิดว่าเมย์ไม่น่าจะไปนั่งกินเลี้ยงกับเขาหรอกมึง! // อ้าว! ไอ้เวรเอ๊ย!

//คนละสถาบันเดี๋ยวตีกัน// ไอ้ธีม มันใช่เวลาเล่นไหมไอ้เชี่ยธีม!! อยู่ใกล้นี่จะตบกระบาลมันสักที

//มึงอยู่ไหนแล้วเนี่ยะ//

//ตอนนี้ก็จะเข้าบางปะกงแล้วว่ะ//

//งั้นไปต่อเถอะมึงพวกกูดูไอ้ตั้นเอง ถึงแล้วโทรบอกด้วยนะมึง พวกกูเป็นห่วงมึงเหมือนกันว่ะไอ้คิน//

//เออ …ใจว่ะ //ผมกดวางสายจากไอ้ธีม

ใจหนึ่งผมก็เป็นห่วงไอ้ตั้นมัน ผมขับรถไปแบบสองจิตสองใจว่าจะกลับรถกลับกรุงเทพดีไหม ผมเลยเปลี่ยนเลนถนนขับแบบชิดเลนซ้ายสุด กลับ หรือ ไม่กลับ ผมก็หยิบมือถือมากดโทรไปที่เบอร์พี่ปฐวีร์ ผมมีเบอร์เขาเพราะว่าเขาโทรมาเข้าเครื่องผมวันก่อนถามเรื่องการตลาดอะไรนี่แหละระหว่างที่ผมรอสาย สายตาผมเหลือบไปมองที่พักผู้โดยสารที่รอรถประจำทาง ผมเห็นผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ แสงไฟในนั้นมันทำให้ผมเห็นได้ชัดเจน เมย์!!

//สวัสดีครับภาคิน// เสียงปลายสายกดรับสายผม แต่ผมไม่จำเป็นต้องคุยกับเขาตอนนี้แล้ว ผมเลือกที่จะกดวางสายขณะที่ผมจอดห่างออกไป เกือบห้าร้อยเมตร ผมเลือกที่จะไม่ถอยหลังกลับก็ได้น่ะ และคงไม่มีใครรู้ว่าเมย์อยู่นี้ แต่เขามาทำไมผมไม่รู้ ไกลขนาดนี้และมันมืดขนาดนี้เลยน่ะ

“ปื้ด!!!!” ผมใส่เกียร์ถอยหลังยาวมาจอดที่ตรงป้ายรถเมย์ ผมเลื่อนกระจกลง มองคนที่นั่งหนาวสั่นอยู่ ผมถึงกับต้องพรูลมหายใจออกมายาวๆ ถ้าเขาไปจากตั้น ผมก็แค่หมดคู่แข่ง แต่ผมก็ต้องเลือกปลดเข็มขัดและ

“เมย์!!” ผมเรียกชื่อเขา เขาเงยหน้าขึ้นมาด้วยความตกใจ

“เมย์! มาขึ้นรถ”

“เมย์!! พี่บอกให้มาขึ้นรถ!!” ผมตะคอกเสียงดัง เมย์ลุกขึ้นและเดินมาที่รถของผม สภาพเปียกโชกไปทั้งตัว

“ผมตัวเปียกน่ะครับพี่ภาคิน” เมย์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ ด้วยความเกรงใจพร้อมกับมองมาในรถคันหรูของผม

“ขึ้นมาเถอะนะเมย์!” ผมทำหน้าดุ เมย์ถึงได้เปิดประตูก่อนจะก้าวเท้าขึ้นมานั่งข้างๆ ผม ผมเหลือบมองกระจกเห็นว่ามีรถตามมาน่าจะเข้าจอดผมก็รีบเปิดไฟเลี้ยวออกรถทันทีเช่นกัน

“เฮ้อ!!” ผมพ่นลมหายใจออกมาอีกครั้ง

“พี่ลำบากใจขนาดนั้นเลยเหรอครับ “เมย์ถามผมก่อนจะหันมามองหน้าผม สายตาที่มองตรงไปยังถนนใหญ่

“พี่เกลียดผมขนาดนั้นเลยเหรอครับพี่ภาคิน” เมย์ถามผม ผมหันมามองคนที่ก้มหน้าลง น้ำใสๆ มันหยดลงที่ตรงหลังมือซี้ดๆ นั้น ร่างกายที่สั่นสะท้านเพราะเขาคงนั่งอยู่ตรงนี้ตั้งแต่ฝนตกหนักแน่ๆ

“เมย์ พี่ไม่ได้เกลียดเมย์แต่พี่โคตรอิจฉาว่ะ ที่ตั้นมันรักเมย์มาก พี่ไม่เคยรู้สึกอะไรเท่านี้เลย แม้ว่าพี่เห็นมันเอาใครต่อใคร พี่ก็ยังเฉยๆ ว่ะ แต่กับเมย์ มันไม่ใช่ไง “ผมพูดโดยไม่ได้หันไปมองหน้าเมย์

“ผมไม่เข้าใจว่าทำไม ทั้งที่ชีวิตผมไม่มีอะไรเลยให้ใครอิจฉา ผมขาดไปหมดเลย แม้กระทั่งพ่อแม่ ญาติพี่น้อง ก็ไม่มี “ผมหันมามองเมย์

“ไปไหนมาเนี่ยะ!” ผมถามเมย์ ก่อนจะหันไปมองเมย์แว๊ปหนึ่ง

“ผมจะไปหาพ่อกับแม่ผม” เมย์บอกผม

“ที่ไหน” ผมถามเมย์

“แม่เราเพิ่งจะผ่าตัดบายพาสหัวใจไม่ใช่เหรอเมย์”

“คนนั้นคือแม่บุญธรรมผมครับ พ่อแม่จริงๆ ของผมเสียไปนานแล้วครับตั้งแต่ผมอายุได้ ห้าขวบ” น้ำเสียงของเขาบ่งบอกว่าเขาเหมือนตัวคนเดียวบนโลกนี่ ผมก็เลยต้องเอามือกุมขมับตัวเองและมองไปมองรถ ผมไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย

“พ่อแม่ผมน่ะเขาอยู่ที่สุสานวัดพระคริสต์ ผมอยากไปหาเขา ตอนนี้ผม รู้สึกไม่เหลือใคร “เมย์พูด

“ตั้นละ ทำไมยังพูดว่าไม่เหลือใครอีกล่ะ “ผมถามโดยไม่ได้มองหน้าคนข้างๆ

“พี่อาจจะพูดถูก ผมเองยังไม่รู้เลยว่าผมดีพอสำหรับพี่เขาไม่ ดีพอที่ผมจะอยู่กับเขาไหม”

“เมย์ พี่ขอโทษว่ะที่พี่พูดเมื่อตอนบ่าย พี่แค่ไม่อยากให้ตั้นมันผิดหวังว่ะ แต่พี่..พี่พูดแรงไปว่ะเมย์” ผมพูดเมย์หันมามองหน้าผม และพยักหน้าเบาๆ

“พี่คิดว่าเราจะไปหาพี่ปฐวีร์ซะอีก”

“ผม….”

“นายไม่อยากไปหาเขา เพราะนายรักตั้นเหรอ “ผมพูด เมย์ก้มหน้าลงเขาบีบมือตัวเองไว้ ร่างกายที่สั่นเหมือนลูกนกตกน้ำนั้น

“ตั้นมันรักเราว่ะ พี่ดูออก เพราะครั้งนี้มันไม่เหมือนทุกครั้ง พี่คิดว่าเราคงมาแทนคนที่ตั้นมันรักมากพอกัน แต่เขาก็ไปจากไอ้ตั้นมัน และนั้นพี่ก็เคยคิดว่าพี่น่าจะแทนเขาได้เหมือนกันตั้งแต่วันที่เขาทิ้งตั้นไป แต่ที่ไหนได้ พี่ไม่เคยที่จะแทนเขาได้เลย ไม่ได้เลยว่ะเมย์ พี่เลย… ช่างมันเถอะ!” ผมพูดกับเมย์ ผมเหลือบไปเห็นปั๊มน้ำมัน ก็หักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าไปในทันที เมย์หันมามองหน้าผมทันที เขาคงคิดซิน่ะว่าผมคงจะส่งเขาแค่นี้

TBC...

หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก EP.13 ผมรู้แค่ว่าพี่ใจดีครับพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 20-11-2020 15:30:49
 :hao5:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก EP.13 ผมรู้แค่ว่าพี่ใจดีครับพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 20-11-2020 21:42:33
ยังดีที่มาเจอ  ได้ปรับความเข้าใจกันอีก ก็ดีแล้ว  o13
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤ EP.12.1 ผมขอโทษ(รีไรท์)
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 20-11-2020 21:48:24
 
EP.12.1 ผมขอโทษ(รีไรท์)
[/font][/size][/color]

         Part'sภาคิน  ผมขับรถเลี้ยวเข้าไปที่ปั๊มน้ำมัน ผมขับรถไปจอดที่ตรงห้องน้ำ เมย์มองหน้าผม ผมก็ปลดเข็มขัดก่อนจะเดินลงไป เปิดท้ายรถของผมและเปิดเอาเสื้อผ้าในกระเป๋าเดินทาง ผมเลือกเขาเสื้อยืดที่ตัวเล็กที่สุด แต่ก็ยังหลวมสำหรับเมย์อยู่ดีและกางเกงขาสั้นออกมา ผมเดินมาเปิดประตูฝังที่เมย์นั่ง

“พี่จะส่งผมตรงนี้เหรอครับ” เมย์เงยหน้าขึ้นถามผม ผมแววตาเด็กน้อย

“ถ้าส่งตรงนี้กลับถูกไหมล่ะ”

“ไม่รู้ครับ “เมย์พูด

“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ  หนาวขนาดนี้ กว่าพี่จะขับไปส่งที่คอนโด ปอดบวมพอดี” ผมบอกเมย์และส่งเสื้อผ้าให้เมย์ ผมยักไหล่ ให้เขาไปเปลี่ยนในห้องน้ำ เมย์เขาพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะรับเสื้อผ้าใบถือไว้ ผมหยิบมือถือมากดโทรหาไอ้ธีม

// ไอ้ตั้นละว่ะ///

// แย่ว่ะ มันเฮิร์ทน่าดู กูไม่เคยเห็นมันเป็นแบบนี้เลยว่ะ เออ มีตอนที่พี่อิศเรศทิ้งมันไปแค่นั้นแต่นี่ กูไม่อยากพูดว่ะ “ไอ้ธีมพูด ผมก็ต้องเอาหน้าซบลงที่แขนผม เจ็บว่ะ บอกตรงๆ เลย

//แค่นี้ก่อนว่ะมึง// ไอ้ธีมมันพูดและวางสายไปผมเลยยังไม่ทันไ้ด้บอกเลยว่าเมย์อยู่กับผม  ผมหันไปมองเมย์ เปลี่ยนชุดออกมาแล้ว เมย์มองผม พร้อมกับเสื้อผ้าที่เปียกฝนนั้น

“ถือกลับมาทำไมน่ะ ไม่ทิ้งไปละ “ผมถาม

“ผมไม่อยากทิ้งอ่ะครับ เสื้อผ้าพวกนี้พี่ตั้นซื้อมาไว้ให้ผมใส่” ผมพยักหน้าก่อนจะเดินไปหาดูถุงใส่ของ และผมก็เอามาให้เมย์ใส่มันลงไป จะว่าไปก็ทำให้ผมยิ้มบางๆ ออกมาไม่ได้

ตื้ดๆ // ภาคิน ครับ มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ พี่เป็นห่วง// ผมอ่านข้อความก็ถึงกับต้อง “หึ?” ข้อความจากพี่ปฐวีย์ และจู่ๆ พี่เขาก็โทรมาหาผม

//ภาคิน มีอะไรให้พี่ช่วยหรือเปล่า บอกพี่ได้น่ะครับ// พี่ปฐวีย์ถามผม

//ไม่มีอะไรครับพี่ ผมโทรผิด//

// แม้พี่ก็หลงดีใจ รีบหลบออกมาโทรหา แต่ถ้ามี พี่ยินดีนะครับ ที่จะเป็นผู้ฟังที่ดี//

// ขอบคุณครับแต่เพื่อนผมเยอะ มีคนฟังเยอะแล้วด้วย ผมคงไม่รบกวนพี่ เพราะว่าผมเองก็ไม่อยากไปสร้างสงครามประสาทกับชะนีของพี่ โอเคน่ะครับ ตรู้ด! // ผมรีบชิ้งกดวางสายซะก่อน และยักไหล่ให้เมย์ขึ้นรถ ผมขับไปที่ช่อง Drive thru ผมก็สั่งซื้อฮอทช๊อกโกแลต และกาแฟร้อน ผมเองก็ต้องชับรถกลับไปทั้งที่ออกมาไกลแล้วก็ตาม ผมส่งแก้วฮอทช๊อกโกแลตให้เมย์ และขับรถมุ่งตรงกลับเข้ากรุงเทพ

//แม่ ผมมีธุระด่วนอ่ะแม่ ผมไปพรุ่งนี้น่ะ” ผมโทรอ้อนแม่ผมก่อนเลย

// แล้วจะมาทันไหมล่ะเรานะ และนี่พ่อก็จะบ่นเอาอีก เรานี้จริงๆ เลย // คุณหญิงแม่ของผม

//นะแม่นะ ช่วยผมหน่อย //

// เอาๆ น่าเบื่อจริงๆ เรื่องอ้อนนี้ละที่หนึ่งเชียว พรุ่งนี้ก็มาให้ทันน่ะ แค่นี้น่ะ แม่จะขึ้นไปคุยกับพ่อเขาก่อน //

//รักแม่ที่สุดครับ บายครับ/// ผมกดวางสายก่อนจะหันมามองเมย์ที่นั่งมองผม

“ขอบคุณนะครับพี่ภาคิน” เมย์พูด ผมหันมามองเมย์แว๊ปหนึ่ง

“พี่ก็ไม่ใช่คนโลกสวยน่ะเมย์แต่แบบนี้ พี่ก็”

“แต่พี่ใจดี ผมรู้แค่นั้น “เมย์ชิ้งพูดซะก่อน

“พี่รักพี่ตั้นมากเหรอครับ “จู่ๆ คนที่นั่งข้างๆ ผมก็ถามผม ผมหันไปมองเขาแว๊ปหนึ่งก่อนจะหันมามองถนนต่อ

“พี่รักตั้นมาก แอบรักมันตั้งแต่ที่ได้เป็นเพื่อนกับมันแล้ว ตั้นมันย้ายมาเรียนม.5 ที่โรงเรียนเดียวกับพี่”

“ตอนนั้นมันเข้ากับเพื่อนแทบจะไม่ได้เลย และมาเจอการเรียนระบบที่ต่างกันและยิ่งภาษาด้วย ตั้นมันพูดภาษาไทยได้ก็จริงแต่ว่า การอ่านมันแย่มาก แย่แบบว่าไม่น่าจะรอด และมันเกือบจะยอมแพ้และคิดจะหนีกลับไปอยู่อเมริกาเหมือนเดิม”

“คือมันเปิดหนังสือเรียนมานี่  มันนั่งร้องไห้เลยเพราะว่ามันอยู่เมืองนอกตั้งแต่เด็ก พี่กับไอ้ธีมนี่ก็ช่วยมัน แต่สุดท้ายมีพี่คนหนึ่งที่พ่อมันส่งมาดูแลมัน เขามาช่วยมันติวช่วยมันสอน และอีกอย่างหนึ่ง พี่เขาเข้ามาฟื้นฟูจิตใจมัน และเขาทำให้มันดีขึ้น “เมย์หันมามองผม

“พี่อิศเรศเหรอครับ”

“อืมม พี่คนนี้แหละคือคนที่ ได้หัวใจมันไป มันรักพี่อิศเรศมาก “คนข้างๆ ผมพยักหน้าเบาๆ ผมแค่หันไปปรายตามองแค่นั้น

“ตั้นมันเล่าเรื่องพี่อิสเรศให้ฟังแล้วเหรอ” ผมถามเมย์

“เปล่าครับ แต่ผมได้ยินเมื่อสองวันก่อน เขาคงไม่คิดว่าผมจะได้ยินเพราะเขาคิดว่าผมหลับ แต่จริงผมได้ยินทั้งหมดที่เขาพูด “เมย์พูดกับผม

“พี่อิศเรศมาดูแลมันและมาทำให้มันรักแต่สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะกลับไปอยู่เคียงข้างพ่อของตั้น ในฐานะคนรัก”

“พี่ก็รู้แค่นี้แหละ และตอนนั้นสภาพไอ้ตั้นมันแย่มาก ตอนนั้นเรียนมหา'ลัยแล้ว ปีสองแล้วด้วย พวกพี่ช่วยกันจนสภาพจิตใจมันดีขึ้น หลังจากนั้น มันก็เอาผู้หญิงไม่ซ้ำกันเลย”

“พี่ก็ทนดูแบบนั้นมาตลอดเหรอ”

“ใช่ ทำยังไงได้ “ผมพูดก่อนจะหันไปมองเมย์ ตอนนี้ผมเข้ามาที่เขตกรุงเทพแล้วด้วย

“แต่พี่รู้นิว่ามันแค่เอาเพื่อทดแทนความเหงา และมันก็ไม่ได้ทิ้งพวกพี่ไปไหนต้อให้มีผู้หญิงมาหามันพอเสร็จอย่างว่ามันก็กลับมาหาพวกพี่เหมือนเดิม "  " แต่ว่าพอเมย์เข้ามาพี่รู้สึกเต็มๆ เลยว่า เมย์เป็นมากกว่าพวกผู้หญิงพวกนั้นว่ะ”

“พี่อิจฉาเมย์มากบอกตรงๆ แต่พี่ก็ไม่อยากเห็นตั้นมันเสียใจอีก เมย์เข้าใจพี่ไหม”

“ผมเข้าใจครับ”

“ถ้าเมย์รักมันจริงๆ พี่ขอละ อย่าทำให้ตั้นมันเสียใจ”

“เห็นมันแบบนี้ เวลามันเจอเรื่องสะเทือนใจ มันโคตรอ่อนแอเลย รู้ไหมเมย์”

“สัญญากับพี่น่ะ “ผมพูด กับเมย์

“ทำไมพี่พูดแบบนั้นละ”

“พี่ว่า จะถอนตัวจากบริษัทเร็วๆ นี้ พี่ยอมรับว่าพี่ทนอยู่ตรงนี้ไม่ได้ เมย์ “ผมพูดเมย์หันมามองหน้าผม

“ผมยังไม่อยากให้พี่ไปเลยอ่ะพี่ภาคิน “เมย์พูดผมหันมามอง พร้อมกับคิ้งที่ยกสูงขึ้น จนเป็นรูปคันธนู

“ถ้าพี่อยู่ตรงนี้ ผมรู้สึกว่าผมปลอดภัยจากพี่ปริม”

“พี่เชื่อว่าตั้นมันปกป้องเราได้เมย์”

“แต่ผมก็”

“ถ้าพี่เป็นนาย พี่คงดีใจมากกว่าไหมจะได้ไม่ต้องมีคนมาแขวะนายไง”

“ก็พี่เป็นเพื่อนรักของพี่ตั้น ผมดูออกว่าพี่ตั้นรักพี่มากพอกันและผมเชื่อว่ามิตรภาพของพี่สองมันจะยังคงอยู่ไม่มีวันเลิกรา เหมือนคนรัก พอเลิกรักกันก็ต่างคนต่างไป “เมย์พูด

“ผมไม่เคยมีเพื่อนแท้เลยน่ะ เพื่อนที่มี พอเขารู้ว่าผมเป็นอะไรก็หายไปหมด คำว่าเพื่อนแท้ที่คบโดยไม่สนใจว่าเราเป็นอะไรน่ะ มันมีเหรอ มีจริงหรือเปล่า”

“แค่คำว่าเพื่อนแท้ผมยังไม่ค่อยแน่ใจเลย จนมาเจอพี่ตั้นนี้แหละ ที่รักพวกพี่ พี่จะทิ้งพี่ตั้นไปได้ลงคอเลยเหรอพี่ภาคิน” เมย์พูด ผมหันมามองหน้าเมย์ ผมชะงักไปหลายนาที ก่อนจะหันมามองถนนต่อ ผมขับรถมาเรื่อยๆ จนใกล้จะถึงคอนโดของตั้นมันแล้วด้วย

“ผมว่าพี่ภาคินทิ้งพี่ตั้นไม่ลงหรอกจริงไหมครับ “เมย์ถามผมขณะที่ผมกำลังนำรถเข้ามาจอด ผมเห็นรถเพื่อนๆ ผมจอดอยู่ ดูแล้วน่าจะเพิ่งกลับเข้ามากันด้วย

“รู้ไหมว่า ไอ้ตั้นมันขับรถหาเราอย่างกับคนบ้าเลยนะ นั้นแปลว่ามันรักเรามากเมย์”

“ผม ผม “เมย์เงยหน้ามองผม

“พี่ยอมแล้วว่ะ เมย์ “ผมพูดแค่นั้น ผมปลดล๊อคประตูให้เมย์เดินออกไป

******
          เมธานินท์ ผมก้าวเท้าลงจากรถพี่ภาคิน ผมเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าพี่เขาจะจอดรับผมจากข้างทาง ผมเองก็ไม่ได้ปหาพ่อแม่ผมหรอก ก็ลุงคนชับรถแกมัวแต่คุยโทรศัพท์เพลินเลยลืมเลี้ยวและไปยิงยาวที่ไหนก็ไม่รู้ แกบอกว่าจะรีบไปรับแขก ที่เป็นผู้หญิงไทยที่แกรู้จักและเขามาพักกับแฟนต่างชาติ เขาให้เงินดีกว่าผม ลุงแกเลยขอร้องให้ผมลงไปหารถคันอื่น ฝนก็กระหน่ำตกลงมาอีก เล่นเอาผมเปียกเป็นลูกหมาไปเลย ดีที่ได้พี่ภาคินแถมเอาเสื้อให้ผมเปลี่ยนอีกต่างหาก

“เมย์!!!” เสียงคนเรียกชื่อผมอยู่ด้านหลัง ผมหันไปมองพี่ตั้น เขามองผมและวิ่งตรงลงมากอดผมจนผมแทบจะหายใจไม่ออก

“พี่ตั้น เมย์ขอโทษ” ผมพูดเสียงผมสั่นๆ ผมรู้สึกผิดที่ตอนนั้นผม ไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดีกว่านี้

“ไปไหนมาเมย์ พี่ไปตามหาเราทั่วเลย พี่ไปทุกทีที่วิวบอกพี่ว่าเมย์อาจจะไป”

“เมย์แค่จะไปหาพ่อกับแม่ เมย์คิดถึงพ่อกับแม่ ฮือๆ” ผมพูดน้ำตาผมไหล เพื่อนๆ พี่ตั้นเดินลงมา ดูแต่ละคนก็คงวุ่นวายช่วยพี่ตั้นหาผมแน่ๆ เลย และคนที่ลงจากรถมาก็คือพี่ภาคิน

“ไอ้คิน มึงพาเมย์ไปไหนมา” พี่ตั้นหันไปขึ้นเสียงถามพี่ภาคิน และเหมือนจะตรงไปหาพี่ภาคินอีก ทำท่าจะต่อยพี่ภาคินด้วย ผมรีบตรงไปกอดรั้งพี่ตั้นเอาไว้ พี่ภาคินก็ไม่ยอมพูดอะไรหรืออธิบายอะไรเลย ผมรู้ว่าเขาเสียใจ

“อย่าพี่ตั้น พี่ภาคินเขารับผมมา เพราะว่าผมนั่งอยู่ที่ศาลา ผมกลับไม่ถูก ผมโดนลุงคนขับรถแทกซี่ทิ้งไว้ที่นั่น “ผมพูดพี่ตั้นหันมามองผม

“พี่ตั้นอย่าโกรธพี่ภาคินเลยน่ะ “ผมพูด พี่ภาคินไม่ได้พูดอะไรนอกจากเดินกลับขึ้นรถไปและขับออกไปทันที พี่ธีมมองผมก่อนจะพยักหน้ากับพี่ตั้น นั้นแปลว่าเขาจะตามไปดูพี่ภาคินเอง

“เอาละ พวกกูขออนุญาตพาร่างโทรมๆ ราวกับซอมบี้ไปนอนนะครับ คุณคู่รักครับ เหล้าก็ไม่ได้กิน หญิงก็ไม่ได้ไปแล “พี่เปรมดิ์พูด

“แต่ก็ยังดีที่พาพวกกูไปขับรถรับลมเล่นมารอบกรุงเทพเลย  ศรีวิไลที่แท้ทรู” พี่เปรมดิ์พูดผมมองพี่ตั้น พี่ตั้นพยักหน้าว่าใช่ ผมหันไปยกมือไหว้ขอโทษพวกพี่ๆ เขาก่อนที่พวกพี่ๆ เขาจะหันหลังพากันเดินกลับขึ้นไป คงนอนที่นี้กันหมดน่ะผมว่า

“เมย์ อย่าทำแบบนี้อีกน่ะ พี่ใจหาย พี่กลัว”

“ผมขอโทษนะพี่ตั้น ผมเองก็ใจหาย ผมกลัวจะไม่ได้กลับมาหาพี่อีกเหมือนกัน “ผมพูดและกอดคนตรงหน้า

“ขึ้นห้องเถอะ ทำไมตัวเย็นแบบนี้ละ”

“ผมนั่งตากฝนอยู่ เพราะว่าฝนตกหนักและไม่มีรถคันไหนแวะรับผมเลย ผมนั่งอยู่แบบนั้นจนกระทั่ง พี่ภาคินผ่านไปนี้แหละ “ผมพูด

“ขึ้นห้องเลย น่าทำโทษไหม และนี่จะไปไหนทำไมไม่บอกพี่ละเมย์ พี่จะได้พาไป รู้ไหมว่าพี่เป็นห่วงเรามากแค่ไหน”

“ผมบังเอิญไปเห็นรูปที่ถ่ายพ่อกับแม่ จู่ๆ ผมก็นึกอยากไปอ่ะพี่ตั้น”

“พี่แวะไปดู เราที่บ้าน บ้านที่เป็นของพ่อแม่เมย์มา” พี่ตั้นพูดผมหันไปมองพี่ตั้น

“วิวบอกพี่แล้วแหละว่าบ้านหลังนั้นถูกคนซื้อต่อไปแล้ว และเราอยากได้คืน ทำไมไม่บอกพี่ละ พี่จะได้ช่วย” ผมมองพี่ตั้น

“ไม่เอาอ่ะ เมย์ไม่อยากได้หรอกน่ะพี่ตั้น “ผมรีบปฏิเสธเสียงสั่น ถ้าผมจะได้บ้านหลังนั้นและผมอาจจะเสียพี่ตั้นไปล่ะ ผมไม่เอาดีกว่า

“มีอะไร บ้านหลังนั้นดูสวยดีน่ะ พี่เห็นพี่ก็ชอบน่ะ เมย์อยากได้คืนพี่จะลองถามคนที่เขาซื้อดูว่าเขาจะขายเท่าไหร่ ดูแล้วยังไม่มีใครเขาไปอยู่เลย”

“ไม่เอา ผมไม่เอาพี่ นะพี่ตั้น ผมไม่อยากได้แล้ว มัน เออ มันเก่าแล้ว” ผมรีบพูด พี่ตั้นมองหน้าผมเหมือนกับว่าเขามีคำถาม

“เอาไว้ดูบ้านหลังใหม่จะดีกว่า ถ้าพี่อยากมีบ้านสักหลังกับผม นะครับ “ผมบอกพี่ตั้น พี่ตั้นหรี่ตามองผม ผมก็รีบหลุบตาลง แอบช้อนตาขึ้นมอง พี่ตั้นเขาก็พยักหน้าเบาๆ แค่นั้นโดยไม่ได้ถามอะไรต่ออีก

   ลิฟต์มาถึงพอดีผมกับพี่ตั้นพากันเข้าไปในลิฟต์ มีสายตาที่แปลกใจของพี่ตั้นเหลือบตามองผมเป็นระยะ ก่อนจะใช้ฝ่ามือนั้น ลูบผมเส้นเล็กๆ ของผมเบาๆ ผมโผเข้ากอดพี่ตั้น มันเป็นครั้งแรกที่ผมทำแบบนี้กับเขา ในเวลาที่ผมอ่อนแอแบบนี้

“ถ้าพี่รู้ความจริงของผมพี่จะรักผมอีกไหมพี่ตั้น” ผมถามคนที่กอดผมอยู่ในลิฟต์ ตอนนี้คงดึกมากแล้วไม่ค่อยจะมีคนเข้ามาใช้ลิฟต์

“พี่ว่าพี่รักเราไปแล้วถอนตัวยังไงดีละ ต่อให้ร้ายแรงแค่ไหนก็คง เลิกรักไม่ลงแล้ว” พี่ตั้นพูดและมองหน้าผม ฝ่ามือพี่ตั้นดันประคองใบหน้าผมเอาไว้

“ให้พี่ได้หรือยังละครับ…คืนนี้ “พี่ตั้นถามผม ผมว่าผมเข้าใจความหมายของมันดี

“ฮะ ฮัดเช้ย!!” ผมจามออกมาเสียงดัง สงสัยว่างานผมจะเข้านั้นคือผมคงเป็นหวัดแน่ๆ เลย

“ดูท่าจะไม่ได้แน่น่ะคืนนี้” พี่ตั้นพูดพร้อมกับส่ายหน้าไปมา ก่อนจะล้วงมือลงไปหยิบผ้าเช็ดหน้าส่งมาให้ผม

“สงสัยผมจะเป็นหวัดอ่ะพี่ตั้น….ฮะ..ฮัดเช้ย!”

“ชัดเลยเนี๊ยะ! ขึ้นไปถึงกินยาเลยน่ะ ถ้าดื้อน่ะจะจับตีก้นให้ “พี่ตั้นพูดแต่มันทำให้ผมต้องยิ้มตาหยีให้พี่ตั้น นี่ผมแอบรักเฮียแกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้น่ะ พี่ตั้นเขาโอบเอวผม ผมเงยขึ้นไปมองพี่ตั้น

“งั้นขอจูบมัดจำไว้ก่อนได้ไหมครับ ….อื้มมมมมม “พี่ตั้นถามผมพร้อมกับประกบริมฝีปากทาบทับลงมาโดยไม่ทันให้ผมได้ตั้งตัว ผมเบิ่งตากว้างด้วยอาการตกใจ แต่ก็ค่อยๆผ่อนลง มือของผมค่อยๆเลื่อนขึ้นไปจากเอวที่ผมกอดเอาไว้เมื่อสักครู่ จนไปหยุดที่รอบคอของพี่ตั้น  ผมเองก็ ไม่รู้ว่าเนิ่นนานแค่ไหนที่เราสองคนจูบกันในลิฟต์นั้น ทันทีที่พี่ตั้นถอนริมฝีปากออก ผมหันมาก็เห็นมือถือพี่ตั้นเขาจ่อ นั่นแปลว่าเขาถ่ายรูปผมกับเขาด้วยเช่นกัน และเหมือนกับว่าพี่แกพิมพ์หยุกหยิกๆอะไรสักอย่าง ก่อนจะส่งมาให้ผมดู

“จะดีเหรอ เดี๋ยวสาวๆ พี่ พี่ก็มาเล่นงานผมเอาหรอก”

“สาวๆ ไม่มีแล้ว เพราะว่าแต่ละคน พี่ทำข้อตกลงก่อนพามาหาความสุข ว่าถ้าพี่เจอคนที่พี่รัก นั้นคือทุกอย่างที่ผ่านก็ต้องจบ พี่เลือกแล้ว ตัวเล็กของเฮีย” ผมยิ้มดีใจ เฮียเขาโพสต์รูปที่จูบผมลงอินสตาแกรม

เฮีย ❤ ตัวเล็ก (นั้นคือผม)

   RRR โทรศัพท์ของพี่ตั้นดังขึ้นขณะที่ผมสองกำลังเดินเข้าไปในห้องพัก พี่ตั้นก้กดรับสาย แถมยังทำนิ้วให้ผมรอก่อน ผมว่าจะรีบเข้าไปอาบน้ำซะหน่อย รู้สึกหนาวๆ
“ครับเฮียตั้ม เจอแล้วเฮีย แน่ละเฮียก็เมียของผมน่ารัก หายไปนี้ร้องไห้ตายเลย” ผมหันมามองและทำปากรูปตัวโอ ไปบอกเขาแบบนั่นผมเขิน

“อาบน้ำกัน” เฮียพูดให้ผมอ่านปาก ผมสะบัดหน้าไปมองเอาจริงๆ เหรอ

“ครับเฮียตั้ม ยังไงผมจะรีบพาไปแนะนำตัว แค่นี้ก่อนนะเฮียเมียเรียกอาบน้ำ โอเคๆ ยินดีด้วยเฮีย ได้ได้เดี๋ยวจะตามไปติดๆ ครับเฮีย สวัสดีครับ” พี่ตั้น รีบตามผมเข้าห้องน้ำไปแบบติด

“เฮียบอกแล้วไงว่า อาบน้ำให้ “ผมสองคนอาบน้ำด้วยกัน เหมือนจะเขินแรกๆ แต่ก็แค่อาบน้ำจริงๆ เพราะผมเหมือนจะเป็นไข้  พี่ตั้นก็หายาให้ผมทาน และยังโทรไปบอกวิวว่าผมไม่ได้ไปไหนแค่อยากไปหาพ่อแม่ผมที่สุสานแต่ก็ไม่ได้ไป ก็ลุงดันมัวแต่คุยโทรศัพท์และลืมเลี้ยวออก จนวิ่งเลยไปไกลเลยแถมแกบอกว่าคนที่ให้ไปรับลูกค้าประจำ ผมเลยต้องยอมลงมานั่งรอและนั้นก็ทำให้ผมรู้ว่าพี่ภาคินเขาไม่ได้เกลียดผม
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
มาอีกตอน เพราะไม่อยากค้างคาตอนหน้าคุ่พี่ภาคินใครกันน่ะ คิดว่าพอจะเดาได้แล้วแหละ 

*** blove ปมเริ่มเผยออกมาบ้างแล้วค่ะ มาลุ้นกันว่าเมย์จะตัดสินใจยังไง เพราะบ้านของเมย์อาจจะทำให้เมย์เสียตั้นไปก็ได้  :3123:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤ EP.14 ผมขอโทษ
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 20-11-2020 22:17:46
 :-[ :impress2:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤ EP.14 ผมขอโทษ
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 21-11-2020 18:23:33
 :impress2: :-[
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤ EP.15 (ภาคินVS พี่ปฐวีย์)
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 21-11-2020 19:40:11
       ภาคิน ผมรีบขับรถออกมาอย่างรวดเร็ว ยิ่งเห็นไอ้ตั้นมันรักมันหวงกันมากแค่ไหนก็ยิ่งเจ็บมากเท่านั้น แล้วผมจะทนยืนทำไมว่ะ ผมขับมาที่ผับที่มาประจำเป็นผับไฮโซ มีพรมแดงรอรับแถมยังมีแต่คนหน้าตาดีมาเที่ยว แต่ผมน่ะไม่ได้ไปหาใครในค่ำคืนนี้แน่ๆ

“หมับ “มีคนเดินตามหลังมาและจับแขนผม ไม่ต้องเดามากหรอกว่าเขาคนนั้นคือใคร

“แม้ทีอย่างนี้ไม่ชวน แรดคนเดียวได้ยังไงวะ” ไอ้ธีม ผมหันไปมองหน้ามัน

“แต่สุดท้ายกูก็กลับคนเดียวอยู่ดี” ผมหันหลังมามองหน้ามัน “พอมึงเจอหลุมที่มึงจะปักเสาหลักสั้นของมึง มึงก็ทิ้งกู “ผมพูด

“ถ้าของสั้นก็ไม่มีใครยาวแล้วมึง” ไอ้ธีมมันพูด

“และมันจะต่างอะไรถ้ากูจะมาคนเดียวว่ะ” ผมพูดก่อนจะสะบัดแขนให้มันหยุด แต่ก็แอบยิ้มเพราะว่าไอ้ธีมเป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยทิ้งผม แต่มันเสียอย่างเดียวเอาหญิงมานับไม่ถ้วนและมันก็หายหัวก่อนเพื่อน

“สวัสดีครับคุณภาคิน คุณธีม โต๊ะเดิมไหมครับ” พี่ชายไอ้ธีมมันเปิดผับหรูนี้ เมื่อก่อนไม่นานมานี้เอง นั้นคือก่อนที่เมย์จะมา  ไอ้ตั้นมันยังมากับผมอยู่   แต่ว่าจะมีพี่ปริมมาด้วยทุกครั้ง ผมเข้ามาถึงเพลงก็กำลังขึ้นเลย เพลงที่ผมฟังประจำเจ็บทุกครั้งที่ได้ยิน “ความเงียบที่ดังที่สุด” ผมนั่งลงส่วนไอ้ธีมมันสั่งเหล้ามาลงที่โต๊ะที่ผมนั่งกัน ผับนี้ค่อนข้างหรูอยู่สูงสุดจนมองเห็นวิวทั่วกรุงเทพ

“เต็มที่ว่ะ “ไอ้ธีมบอกผม

“ผสมไหมครับ” พนักงานที่นำจอนนี่วอคเกอร์บลูเรเบลก็มาเสิร์ฟที่โต๊ะผม

“ไม่ผสมครับ” ผมบอกไอ้ธีมหันมามองผม

“แรง!”

“ครับผม” ถ้าเขาเอาแบบไม่ผสมเขาจะเทน้ำเย็นไว้ให้ผมด้วย

“ของพี่ผสมครับ พี่ไม่รีบเหมือนไอ้เชี้ยนี้มัน เพราะว่าพี่ยังต้องส่องสาวๆ ครับผม” ไอ้ธีมพูด และโยกไปตามเพลงที่มาเบาๆ คลอๆ

“ไอ้คิน เพลงนี้เลยกูให้มึงว่ะ” ผมหันไปมองเพลงห่าอะไรของมันไม่เคยฟัง “จังหวะขึ้นก็ไม่รู้จักแล้ว”

“ไม่รู้จัก” ผมบอกพร้อมกับกระดกใส่ไปหมดแก้ว

“เห้ย! อย่ารีบดิว่ะ เดี๋ยวก็เหมาคอพับ กูอดได้เด็กกลับบ้าน” ไอ้ธีมพูดจะห้ามผม ผมก็สะบัดและหันไปรินเหล้าใส่แก้วเองไม่รอเด็กมาทำให้
https://youtu.be/x8CeZ0GEUa4 (https://youtu.be/x8CeZ0GEUa4)  ถ้าเขาจะรัก(ยืนเฉยๆเขาก็รัก)
ถ้าเขาจะรักยืนเฉยเฉยเขาก็รัก
ถ้าเขาจะรักไม่ต้องทักเขาก็ทัก
เจ็บพอแล้วก็พักดีกว่า
อย่าไปเสียน้ำตาอีกเลย
ถ้าเขาจะรักยืนเฉยเฉยเขาก็รัก
ถ้าเขาจะรักไม่ต้องทักเขาก็ทัก
เหนื่อยพอแล้วก็พักดีกว่า
อย่าไปวิ่งตามคนที่เขา
ไม่เคยรักเรา

   ผมหันไปมองคนที่ยืนร้องเพลงให้ผมฟัง ไอ้ธีม และมันก็ทำให้ผมต้องหันหน้าหนีไปมองทางอื่นแทน ไอ้เวรเอ๊ย! มันยิ่งทำให้ผมเจ็บไอ้สัสธีม แอบด่าแต่ก็หันมาเห็นมันเต้น น่ารักตายเลยไอ้บ้าเอ๊ย! ไอ้ธีมมันเป็นเพื่อนกับผมมาตั้งแต่ม.4 ก่อนเจอไอ้ตั้นที่เพิ่งจะย้ายมาทีหลัง

“พี่ธีม” มีเด็กมาทักมัน เป็นสาวสวยสามคน หน้าตาน่ารัก แน่ละไอ้ธีมดูหล่อแบบที่สาวๆ ชอบ มันหล่อแบบกะล่อน แต่สาวก็ยังชอบมองมันอยู่ดี

“น้องแวนด้า มากับเพื่อนเหรอครับ”

“ค่ะ ว่าแต่พี่เถอะมากับใครคะ” น้องคนสวยชี้มาทางผม

“เพื่อนพี่ครับ มันกำลังเฮิร์ธ”

“อกหักเหรอ” ผมหันมามองหน้าน้องแบบเต็มๆ ก่อนจะวางแก้วเหล้าลง “ปึก!”

“ตรงไปจร๊า!!” ไอ้ธีมรีบสะกิดน้องเขา

“พี่แกไม่ธรรมดา อย่าไปสะกิดพี่เขา พี่เขามีองค์ และถ้าองค์ลงนี้ ฝ่ามืออรหันต์สะบัดเลยนะหนูน่ะ” ผมพยักพเยิดว่าพาออกไปก่อนเลย ไอ้ธีมมันรีบลากน้องนางทั้งสามออกไปทันที ผมนั่งดื่มกระดกเพียวๆ ไม่รู้กี่แก้ว ผมก็มองมือถือ หน้าจอที่ตั้งค่าไว้กลุ่มเพื่อนๆ ที่ถ่ายรูปด้วยกัน ผมอยู่ตรงกลางกับไอ้ตั้น กอดคอกันในวันที่เรียนจบ ผมก็ยิ่งกระดกดื่ม


********

               ผมกำลังอยู่ในรถลีมูซีนคันหรู วันนี้ผมไปงานเลี้ยงก็ผมเพิ่งจะจบปริญญาเอกมาหมาดๆ วันก่อน ภาคินเขามาหาผม เขามาถามว่าทำไมผมถึงได้แสดงตัวเองว่าผมมีอะไร ผมยอมรับว่าต้องการให้ตั้นรู้  แต่ว่ามันจะมีประโยชน์อะไรถ้าเมย์เขาเลือกที่จะไม่กลับมาหาผม  ผมยอมรับว่าผมชอบเด็กคนนี้มาก ตั้งแต่ผมได้เข้าเป็นอาจารย์สอนมหาวิทยาลัยของเมย์ และผมก็พยายามช่วยเหลือเขามาตลอด เมย์เป็นเด็กน่ารัก เรียนเก่ง จนได้เกียรตินิยมอันดับที่สองแต่ เรื่องฉาวของผมกับเขาก็เกิดขึ้น และนั้นก็ทำให้ผมยอมลาออกเพื่อให้เมย์ได้เรียนจนจบ

           แต่มันไม่หยุดแค่นั้น ผมก็ยังให้การช่วยเหลือเขาหลังจากเรียนจบ  แต่นี้จู่ๆเขาก็หายไป ผมรู้ว่าเขาไปอยู่ทีไหน ตั้นคือคนที่ปริมคู่หมั้นที่ผมจำเป็นต้องหมั้นกับเธอ คั่วอยู่ ผมอยากรู้ว่าเขาเป็นคนยังไงผมเลยติดต่อให้เขามาดูแลระบบคอมพิวเตอร์ให้โรงแรมผมซะเลย แต่ว่ามันกลับทำให้ผม
Rrrrr สายเข้าในมือถือของผม ผมก็รีบกดรับสาย ทำไมผมถึงสนใจคนนี้ ที่ไม่เหมือนทุกคนที่ผมพบเจอและแตกต่างจากเมย์โดยสิ้นเชิง ทันทีที่ผมกดรับสาย เสียงดังของเพลงและผู้คนทำให้ผมต้องยกมือถือออกห่าง เดาได้ทันทีที่ว่าคนโทรหาผมอยู่ในผับที่ใดสักแห่ง

“ภาคิน” ผมกรอกเสียงเรียกชื่อไปในมือถือของผม

“เอามาอีกขวดดิว่ะ” เสียงพูดคุยแทรกเข้ามาหรือไม่เขาก็แค่กดผิดแต่ว่า ผมก็ยังรอฟัง

“พี่ภาคินครับ ผมว่าพี่พอเถอะพี่เมาแล้วแหละนี้ผมเห็นพี่อยู่คนเดียวด้วยเนี๊ยะ พี่ธีมไปไหนเนี๊ยะ”

“เรื่องของกู แม่งทิ้งกูไปหมด ไม่รู้แม่งจะสัญญาหาเหี้ยอะไรวะว่าจะอยู่ด้วยกัน ไอ้สัส!” เสียงด่าทอดังมาในมือถือผม ผมก็กดดูแต่ว่ามันไม่สามารถบอกได้ว่าเขาอยู่ที่ไหน

“ภาคิน ภาคิน” ผมเรียกคนปลายสายด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง ผมหันไปส่งสัญญาณให้เขาหาที่จอดให้ผมหน่อย

“สวัสดีครับ” เสียงเด็กผู้ชายรับสาย

“น้องครับ เจ้าของเครื่องละครับ เขาอยู่ที่ไหน พี่เป็นแฟนเขา พี่จะไปรับเขาเดี๋ยวนี้” จริงๆ แล้วไม่ใช่ถ้าไม่บอกอย่างนั้นน้องเขาคงไม่บอกผมว่าภาคินอยู่ที่ไหน

“อยู่ที่ผับXXXX ตรง ทองหล่อครับ”

“ได้ครับแค่นี้น่ะครับ เออ พี่รบกวนเฝ้าน้องเขาให้พี่ที นะ พี่มีค่าตอบแทน” ผมพูดสายก่อนจะหันมาบอกคนขับรถและว่าให้ขับไปที่ไหน ทันทีที่รถเก๋งคันหรูผมขับมาถึง ผมก็ก้าวเท้าลงจากรถ คนสนิทผมสองคนก็เดินลงมาจากรถอีกคัน

“ไปตามหาคุณภาคินให้ผมหน่อยครับ” ผมหันไปบอกเขาวสองคนก่อนจะเดินตามขึ้นไป สองคนนั้นจะไปหาข้อมูลให้ผมว่าภาคินอยู่ที่ไหน เพราะว่าที่นี่เป็นตึกสูงตระหง่านฟ้าขนาดนี้

“อยู่ชั้นบนครับคุณปฐวีย์และผับนี้เป็นผับของพี่ชายคุณธีมเพื่อนของคุณภาคินครับ” ผมพยักหน้าและเดินตามคนสนิทของผมขึ้นไปยังชั้นที่บอกว่าเป็นสถานบันเทิง ผมยอมรับว่าไม่เคยมาสถานที่แบบนี้เลย

“คุณปฐวีย์รอด้านนอกไหมครับผมสองคนไปตามหาคุณภาคินเองครับ”

“ฉันเข้าไปดีกว่า เขาคงไม่ยอมมากับนายสองคนง่ายๆ หรอก” ผมพูดและอมยิ้มเล็ก ๆ ก่อนจะเดินแทรกผู้คนเข้าไป จนถึงโต๊ะที่มีคนยืนดูแลเขาอยู่สองสามคน และคนของผมก็เข้าไป ผมยืนมองหนุ่มที่กำลังฟุบคาโต๊ะ และมองขวดเหล้าที่หมดเกลี้ยงอย่าบอกน่ะดื่มคนเดียวเลยนะ

“พี่เขาเล่นไปแบบเพียวๆ เลยครับ “ผมพยักหน้าและเขาไปสะกิดภาคิน

“ภาคินพี่พากลับบ้านนะครับ”

“ไม่กูจะกลับเอง อย่ามายุ่ง “ผมหันไปพยักหน้ากับคนสนิทว่าให้พาคุณภาคินออก

“เขามากับใครเหรอครับ” ผมถามคนที่ยืนดูแลอยู่

“มากับคุณธีมครับ แต่ดูท่าคงได้สาวไปแล้วนะครับ”

“ถ้าเขากลับมาก็บอกว่ามีคนพาคุณภาคินกลับแล้วนะครับ” ผมบอกและหันไปพยักหน้าให้คนสนิทของผมจ่ายค่าตอบแทนที่อยู่เฝ้าภาคินให้ผม คนสนิทผมก็พยุงร่างของภาคินแบบทุลักทุเล เพราะว่าเมาไม่ยอมให้พากลับ จนลงมาถึงชั้นล่างสุดและจะพาขึ้นรถกลับแต่

“กู จา ปาย รถ กู!  กูมายปายรถคนอื่นนน” เขาไม่ยอมขึ้นรถของผม ไม่ยอมท่าเดียวเลยจนผมหันไปมองพนักงานที่ดูแล ดูแล้วเขาคงรู้จักกัน

“เอารถคุณภาคินมาผมจะขับไปเอง “ผมหันไปบอกคนที่ดูแลรถของผับ

“ผมเป็นประธานกรุ๊ปของเครือโรงแรมชื่อดัง ผมคงไม่เอารถและคนไปทำมิดีมิร้ายหรอกครับและผมก็รู้จักคุณภาคินดี “ผมพูด และคนที่ทำหน้าที่ดูแลก็หันไปพยักหน้ากับลูกน้องเขา ไม่นานรถคันหรูของภาคินก็ถูกนำออกมา ผมหันไปรับกุญแจจากคนดูแลรถของแขกที่มาใช้บริการ

“คุณปฐวีย์จะขับเองเลยเหรอครับ”

“ครับผมขับได้ รถรุ่นนี้ผมขับที่อังกฤษบ่อย “ผมหันไปบอกและร่างของภาคินก็ถูกนำเข้าไปในรถ ด้านข้างคนขับส่วนผมก็ทำหน้าที่คนขับให้หนุ่มเมรีขี้เมา ดูท่าจะดื่มไปหนักพอสมควร ระหว่างที่ผมกำลังสนใจกับถนน จู่ๆภาคินก็ลุกขึ้นมานั่งมองซ้ายมองขวา ผมก็ส่งยิ้มให้เขา

“อึก! “เสียงเหมือนกำลังขย้อนบางสิ่ง และทำท่าเหมือนจะ

“ภาคิน!” ผมเรียกชื่อเขาแต่ไม่ทันแล้ว  “อ๊วก!!” มันพุงมาทางผมเต็มๆ 

“เยี่ยม! “ผมแตะเศษอาหารที่ภาคินมอบให้ผม มันอยู่ที่เสื้อสูทราคาแพง ผมว่ากลิ่นแบบนี้ คนที่ทำหน้าที่ซักให้ผมคงต้องกลั่นใจกันหน่อยละ

“อ๊วก!!”

“ภาคิน” ผมหันไปเอามือลูบหลังเขา ตอนนี้ภาคินอาเจียนไปรอบๆที่นั่งตัวเอง ก่อนจะยกมือตอบผมว่าเขาโอเค โชคดีที่บ้านพักของผมไม่ไกลมากจากผับที่ผมไปรับตัวภาคินมา  แม่บ้านทำความสะอาดคงจะงานหนักหน่อยล่ะ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

   ภาคิน หนังตาที่หนักอึ้ง ปวดหัวมาก ผมจำไม่ได้ภาพมันเบลอๆ ไปหมด ภาพสุดท้ายมีแต่แสงสี ก็ผมอยู่ในผับที่ผมไปประจำ และครั้งนี้ผมก็เมาเละไม่เป็นท่า แต่หลังจากนั้นล่ะ นั้นซิผมอยู่ไหน ผมค่อยพาร่างกายที่ย่ำแย่ของผมให้ลุกขึ้น ผมนั่งปรือตาอยู่บนที่นอน ห้องนอนที่ไม่คุ้นเคย ไม่ใช่บ้านผม ผมมีบ้านเป็นของตัวเองพ่อผมซื้อให้ ผมชอบความเป็นส่วนตัวสูงแต่ห้องนี้ไม่ใช่แน่นอนมันตกแต่งคนละสไตล์กันเลย ดูคลาสสิคมากกว่าแต่ดูแพง  และยิ่งไม่ใข่ห้องไอ้ธีมแน่นอน

Rrrrr เสียงมือถือผมดังขึ้น ผมหันไปมองหาอยู่สักพัก จนเสียงเรียกเข้าเงียบไป และRrrrr ดังขึ้นมาอีกครั้งผมหันไปเจอพอดี มันเสียบอยู่บนกล่องนาฬิกา บอกเวลาว่าตอนนี้ เก้าโมงเช้าแล้ว ฉิบหายแล้วภาคิน เพราะว่าวันนี้บวงสรวงบริษัทพ่อผม ผมรีบกระโดดไปคว้ามือถือผมและกดรับสายทันที

“ไอ้ภาคิน!! “ไอ้ธีม

“ไอ้สัสธีม มึงหายหัวไปไหน”

“มึงนั่นแหละครับ กูบอกว่าไปหาของวางแป๊บหนึ่ง พอกูกลับมามึงหาย แต่เด็กที่นั่นบอกว่ามีคนมาพามึงไป ใครวะ”

“กูไม่รู้ว่ะ แต่ว่ากูอยู่ไหนวะ”

“อ้าว!! ถ้าอย่างนั้นแชร์โลเคชั่นมา” ไอ้ธีมบอกผม

“เออ “ไอ้ธีมมันบอกผม ผมก็เข้าไปกดแชร์โลเคชั่น จะว่าไปห้องนี้ก็ตกแต่งแบบดูหรู ดูแพง ยังกับโรมที่ราคาแพงๆ ในลาสเวกัสเลย ใครกันน่ะ เป็นคนพาผมมา

“ไอ้เชี้ย!!!” ไอ้ธีมมันตะโกนดังลอดมือถือผมออกมา

“เชี่ยอะไร กูอยู่ไหน” ผมถามไอ้คนปลายสาย

“อีเจ้เอามึงตายแน่งานนี้”

“อีเจ้ไหน”

“อีเจ้ปริมไงมึง  มึงไปด่าอีเจ้มันและยังตบมันอีกด้วย แถมตอนนี้มึงยังจะ….”

“อย่าน้ำเยอะได้ไหมบอกูมาว่ากูอยู่ไหน”

“มึงอยู่บ้านพี่….”

“คุณปฐวีย์ค่ะโต๊ะอาหารพร้อมแล้วค่ะ ได้ค่ะ “ผมได้ยินชื่อนี้คุ้นๆมากและประตูห้องผมก็ถูกเปิดเข้ามา พร้อมกับ ผู้ชายที่สวมเสื้อเชิ้ตหรูดูมีสไตล์ เนกไทที่ถูกผูกไว้อย่างเรียบร้อย เขาเดินเข้ามาในห้องนอนที่ผมนั่งอยู่บนเตียง ภาพเบลอๆ เมื่อคืนมันย้อนกลับมาผู้ชายคนนี้แหละที่เขาไปเรียกผมและบอกว่าจะพาผมกลับ

“ไม่ต้องบอกกูแล้ว ไอ้เชี้ย มึงช้าว่ะ “ผมพูดและกดวางสาย ผมมองพี่ปฐวีย์ แบบว่ามีคำถาม

“พอดีเมื่อคืนมีคนเมาโทรหาพี่นะครับ กินเยอะขนาดนี้ควรจะหาคนไปด้วยนะครับ”

“หรือถ้าอยากให้พี่ไปก็บอกพี่ดีดี ไม่ต้องมาทำเสียงอ้อดอ่อนพี่แบบนี้ มันน่ารัก” ผมก็ต้อง “ห๊ะ!” ผมชี้ตัวเอง ผมนี่น่ะทำแบบนั้น

“พี่โทรบอกพ่อแม่ของภาคินแล้วน่ะว่า เราค้างบ้านพี่เมื่อคืนหนักไปหน่อยแต่ลูกชายเขาปลอดภัยดี” พี่ปฐวีย์

“พี่มาถือวิสาสะอะไรโทรไปที่บ้านผม”

“ในฐานะ ที่พี่มีวัยวุฒิมากกว่าไงครับ”

“เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว และพี่ว่าจะไปส่งเราที่บ้านที่ชลบุรีด้วย พี่ต้องไปทำธุระที่นั่นด้วย โรงแรมใหม่ของพี่กำลังจะสร้างที่นั่นด้วย” พี่ปฐวีย์พูด ผมก็เบ้ปากและมองบน แล้วไง

“รถของภาคิน พี่ก็ให้คนล้างทำความสะอาดให้หมดแล้วครับ “ผมหันไปมอง

“ล้างทำไม บ้านผมมีคนล้างอยู่แล้ว”

“หึ หึ” คนที่ได้ยินหัวเราะในลำคอ

“ไม่ล้างไม่ได้หรอกครับ ภาคิน เราอาเจียนใส่รถไว้ขนาดนั้น “พี่ปฐวีย์พูด ผมก็ต้องเอามือกุมขมับ รถหรูลูกรักของผมและหวงแหนมากแค่ไหน คือแบบว่าใครเมามากห้ามขึ้นรถผมแต่นี่ผมทำซะเอง

“ไม่ใช่แค่รถนะครับ “พี่ปฐวีย์ยังเดินมานั่งลงข้างๆ ผม

“อาเจียนใส่พี่อีกต่างหาก ครั้งแรกเลยนะ ไม่เคยมีใครทำแบบนี้กับพี่มาก่อนเลย เราคือคนแรก “พี่ปฐวีย์พูดแต่เขากับยิ้มที่มุมปาก ผมทำท่าจะลุกจากเตียง

“ผมต้องไปแล้วครับ ขอบคุณเรื่องเมื่อคืน” ผมพูด

“ชุดนอนก็ของพี่น่ะ “ผมก้มลงมอง

“ไม่ต้องห่วงหรอก ผมถอดคืนให้แน่นอน” ผมพูดและทำท่าจะหันหลังออกแต่ก็ต้องหันหลังกลับมาใหม่

“แต่…ใครเปลี่ยนชุดให้ผม” ผมถามพี่ปฐวีย์

“พี่ครับ” พี่เขาเปลี่ยนชุดให้ผม

“ดูซิ นี่ยังทำรอยกุหลาบไว้ที่รอบคอพี่ไปหมด ตอนแรกวันนี้ว่าจะสวมชุดลำลองเสื้อยืดสวมทับเสื้อสูทแต่มันปิดไม่มิดนะครับ มีหวังโดนแซว “พี่ปฐวีย์พูดแถมยังเปิดให้ผมดูด้วย เป็นรอยจูบแบบดูดดื่มเลยจะดีกว่า ผมหันไปหยิบเสื้อผ้าที่คนใช้ของพี่เขามาวางเอาไว้ให้แล้ว และวิ่งเข้าห้องน้ำไปเลย “เชี้ยเอ๊ย! ไอ้ธีมมึงตัวเดียวเลย”

ผมลงมานั่งที่ห้องอาหารหรูมีโต๊ะตัวยาวแต่มีคนนั่งที่ตรงหัวโต๊ะแค่คนเดียว อาหารบนโต๊ะมีมากมาย ส่วนใหญ่เป็นแนวอาหารฝรั่งซะมากกว่า ผมนั่งลงข้างๆ กับพี่ปฐวีย์ เขาแค่ปรายตามองผม

“พี่ว่าภาคินควรจะทานอะไรที่เบาๆ ท้องไว้หน่อยนะ พี่สั่งแม่บ้านทำข้าวต้มเอาไว้ให้” พี่ปฐวีย์พูด แม่บ้านก็ยกชามข้าวต้มมาให้ผม ข้าวต้มทรงเครื่อง

“รักเขามากมันก็ดีอยู่น่ะ แต่รักจนทำร้ายตัวเอง พี่ว่ามันไม่ใช่น่ะภาคิน” พี่ปฐวีย์พูด ผมก็ก้มหน้าก้มตาทานข้าวต้มไปเงียบๆ

“พี่เคยรักใครสักคนไหม แบบว่ารักมากแต่มันก็ยังไม่พอให้เขารักเราตอบนะพี่” จู่ๆ ผมก็ถามขึ้น

“พี่ก็รักใครสักคน ไม่ได้ถึงกับรักมากจนลืมมองตัวเอง แต่ก็รักและพร้อมจะมอบสิ่งดีดีให้เขา แม้เขาจะไม่ได้รักพี่ตอบ พี่ทำให้เขาขนาดที่ว่ายอมลงทุนเอาชีวิตพี่ไปเพื่อให้เขาได้สิ่งที่เขาต้องการ แต่”

“ถ้าเขาเจอคนที่เขารัก พี่ก็พร้อมจะให้เขาไปนะ”

“ครอบครองแค่กายจะได้ประโยชน์อะไร ถ้าใจเขาให้คนอื่น” ผมหันมามองพี่ปฐวีย์

“คุณปฐวีย์ค่ะ คุณภาสกร ขอเรียนสายด้วยค่ะ” ผมหันไปมอง นันพ่อผมน่ะนั้น พี่ปฐวีย์หันมายิ้มมุมปากให้ผมก่อนจะหันไปรับสาย ผมก้มลงมองมือถือ ทำไมพ่อไม่โทรเข้ามือถือผม

“สวัสดีครับ ภาคินอยู่กับผมครับ น้องโอเคแล้วครับ ไม่เป็นไรครับ ไม่รบกวน ผมจะออกกันไปแล้วครับ น่าจะทันครับ ไม่นี้ครับ ไม่ดื้อนี้ครับ ครับผม ได้ครับ ผมจะดูแลแล้วกัน ไม่ต้องเกรงใจครับ สวัสดีครับ” พี่ภาคิน ผมแอบเบ้ปากและมองบ่น

“นินทาพี่เหรอครับ นี่พี่อุตส่าห์โกหกคุณพ่อน้องให้น่ะครับ ว่าเราไม่ดื้อกับพี่ แต่จริงๆ ดื้อมาก” พี่เขาพูด ผมก็พ่นลมหายใจออกมายาวๆ และก้มลงทานต่อจนเสร็จ และจะได้ไปหาพ่อแม่ผม ไปถึงนี้คงโดนบ่นหูชา พี่ชายอีกสี่คนก็คงไม่ได้ช่วยอะไรเหมือนเดิม พ่ออยากให้ผมถอนตัวจากเพื่อนๆ ผมและมาทำกิจการเต็มตัว ผมคิวว่าอาจจะถึงเวลาแล้วก็ได้
*****


ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ
ขอบคุณคุณ Nattie69 มาเป็นกำลังใจตลอดเลย  :pig4:
ตอนหน้า เจ้ปริมจะมาแล้วน่ะ มีเซอไพรส์ให้พี่ตั้นด้วย วันอาทิตย์ดึกๆหน่อยนะมาลงให้นะคะ

หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤ EP.15 (ภาคินVS พี่ปฐวีย์)
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 21-11-2020 20:51:07
 :serius2: :z10:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤ EP.15 (ภาคินVS พี่ปฐวีย์)
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 21-11-2020 21:07:35
โอ๊ยยยต่อไปภาคินจะเป็นฝ่ายถูกล่ารักจากเมื่อก่อนที่วิ่งตามรัก คุณวีย์เอาจริงแน่อ่ะ  :-[ 55555 เมย์กลับมามีอะไรก็คุยกันซะนะ ว่าแต่อะไรอ่าาาคู่คุณพ่อ+อิศเรศนี่ อาร๊ายย ขอเป็นตอนพิเศษ4,5ตอนจบได้ไหม ชอบรุ่นใหญ่ กรี๊ด 55555555 สนุกมาก รอตอนต่อไปเลยค่ะ  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤ EP.15 (ภาคินVS พี่ปฐวีย์)
เริ่มหัวข้อโดย: Tanthai23 ที่ 22-11-2020 03:18:30
เชียร์คู่พี่ปฐวีย์กับภาคิน  ภาคินแรงได้อีก  :mc4:
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤ EP.15 (VS พี่เฮียตั้น VS เมย์) เฮียตั้นโดนวางยา(ครึ้งแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 22-11-2020 03:57:20
      รชานนท์ ตอนนี้เป็นเวลาเกือบเก้าโมงครึ้งผมมีนัดกับเพื่อนๆ ไปลงโปรแกรมที่โรงแรมใหม่ของพี่ปฐวีย์ วันนี้ผมต้องไปก่อน พวกไอ้เปรมดิ์ ไอ้ทีน ไอ้อาร์มและไอ้กอล์ฟมันจะตามผมไปทีหลัง ผมส่งพวกนั้นไปช่วยกันแก้ โปรแกรมของโรงพยาบาลก่อน เป็นโรงพยาบาลเล็ก ๆ พวกผมรับงานกันไม่เยอะเพราะว่าต้องมีบริการหลังจากนั้นด้วยถ้ารับเยอะมีปัญหามาจะแก้กันไม่ทัน

“เฮีย” ผมอมยิ้มเพราะว่าตัวเล็กเปลี่ยนมาเรียกผมว่าเฮียตามเด็ก ๆ ที่มาทำงานกับผมแล้ว ผมหันมามองเมย์

“ว่าไงครับเมียครับ” ผมหันไปถาม ถึงแม้ว่าผมกับเมย์ยังไม่ได้มีอะไรกันอีก (วันก่อนเมย์ไม่สบายเป็นหวัดผมเลยไม่กล้าทำร้ายเมีย) กะว่าคืนนี้เอาแน่ๆ

“ทำอะไรของเฮียเนี๊ยะ!   ทำไมผูกเป็นปมแบบนี้ละเนกไทน่ะ” เมย์เดินมาถึงก็บ่นผมทันทีและทำการแก้ให้ผมด้วย (วันนี้ไม่สวมสูทแต่ใส่เสื้อเชิ้ตผูกเนกไทซะหน่อยเพื่อว่าพี่ปฐวีย์เข้า จะได้ดูดีหน่อยและพวกเพื่อนผมก็ผูกกันด้วยวันนี้)

“ตัวเล็ก ไปเขาใหญ่กับเฮียน่ะ เฮียจะไปทำบุญครบรอบให้แม่” ผมบอกตัวเล็ก

“อืมม” ตัวเล็กพยักหน้าเบาๆ ผมอยากพาเมย์ไปเปิดตัวอย่างเป็นทางการ และที่ผมต้องไปเพราะว่าครบรอบวันเสียชีวิตแม่ของผม และที่สำคัญผมไม่ได้เข้าไปที่นั่นมาสองสามปีแล้วด้วย ตั้งแต่เปิดบริษัทกับเพื่อนๆ

“วันนี้จะกลับมาทานอาหารเที่ยงกับผมหรือเปล่าอ่ะ” คนตัวเล็กทำหน้าตาอ้อนผม

“อยากให้มาหรือเปล่า แต่ว่าถ้าเฮียมาแล้ว ต้องมีของหวานน่ะ” ผมยืนแอ่นอกให้ตัวเล็กจัดการเนกไทผมแอบชำเลืองตามองตัวเล็กจะว่าไงล่ะของหวานเฮียน่ะ

“เฮ้ย เอาจริงดิ “คนตัวเล็ก เงยหน้าขึ้นมาผม ก่อนจะก้มลงทำแก้มป่องน่ารักเชียว

“ก่อนนอนไม่ได้เหรอ? “คนตัวเล็กทำทีต่อรองกับผม ทำเอาผมอมยิ้มในความน่ารัก

“ก็ได้ งั้นตอนเที่ยงเฮียมาทานข้าวด้วย จะแอบหนีไอ้พวกนั้นมาหาเมียแล้วกัน” ผมพูดเมย์ยิ้มตาหยี ให้ผม ก่อนจะหันไปหยิบผ้าเช็ดหน้าในลิ้นชักที่ถูกพับเอาไว้เรียบร้อยมาส่งให้ผม เอาไว้ซับเหงื่อ ผมต้องรีบไปจัดการลงให้เสร็จเรียบร้อยซะก่อน พี่ปฐวีย์บอกว่าจะเปิดโรงแรมหรูอย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้ และจะมีดารามาเปิดงานด้วยหลายคน ทุกอย่างต้องพร้อมก่อน

Rrrrr
//ไอ้อาเหี้ยครับ//ผมกดรับสายจากไอ้เปรมดิ์ เพื่อนของผม

//แม้ไอ้เหี้ย! เรียกกูซะ กูอาเฮียครับ ไม่ใช่อาเหี้ย// (ไม่ต้องตกใจเพื่อนกันสนิทกันเกินไปก็จะเป็นเช่นนี้ นี่ขนาดผมนี้บอสพวกมันนะครับ) (ตั้งแต่ผมได้คบพวกมันมา ภาษาไทยพวกนี้ผมแข็งแรงขึ้นเยอะ ด่าชัดขึ้นเยอะ ฮาๆ)

//ไอ้อาเฮียครับ! มึงจะออกไปกี่โมง พวกกูใกล้จะเสร็จแล้ว จะได้ไปหามึงเลย เมียก็ง่องแง่งร้องจะกินชาบู!!” ไอ้เปรมดิพูด
//จะได้รีบไปทำและรีบกลับ ให้พวกกูกลับไปเอาใจเมียมั้งเถอะ ก่อนที่เมียกูจะมีผัวใหม่ครับไอ้บอส!! //

//เออ… งั้นกูไปรอที่โรงแรมพี่ปฐวีย์เลยนะ กูจะได้ลงไปบ้างก่อนพวกมึงจะไปถึง และจะไม่ต้องทำอะไรเยอะ “ผมบอกไอ้พวกนั้น (ผมลืมบอกไปว่าเมย์รู้แล้วว่าผมดูแลระบบโปรแกรมให้พี่ปฐวียกแต่เมย์ก็ไม่ได้พูดอะไร เมย์บอกว่าเขากับคุณปฐวีย์แค่คนเคยมีพระคุณแค่นั้น ผมว่าวันที่เขาพร้อมเขาจะบอกผมเอง)

“ฟ๊อด! เฮียไปน่ะ อยู่ห้องดีดีน่ะ เจอกันตอนเที่ยง เฮียรักตัวเล็กน่ะ” ผมพูดกับคนที่เตี้ยกว่าผม ผมสูง 177 เซนติเมตร ส่วนคนตัวเล็กนี้สูง 160 เซนติเมตร

ผมรีบเดินลงไปชั้นข้างล่าง ผมขับรถออกไป ตรงไปที่โรงแรมใหม่จองพี่ปฐวีย์ ผมจะไปลงโปรแกรมที่ผมเขียนให้พี่เขา จะมีพนักงานคอมพิวเตอร์ของพี่ปฐวีย์มาดูงานกับผมด้วย แต่ถ้าโปรแกรมมีปัญหาผมต้องไปแก้ไขให้เขาเอง เพราะว่าโปรแกรมนี่พวกผมเขียนกันขึ้นมาดังนั้นจะรู้วิธีแก้มากกว่า

ผมโทรหาภาคิน ช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นหน้ามันเลย ใจหายยังไงก็ไม่รู้ แต่ผมก็รู้ว่าวันหนึ่งทุกคนต้องออกไปมีชีวิตของตัวเอง ผมเองก็เช่นกัน (และตอนนี้ผมคิดว่าผมเจอแล้วเมย์นี่แหละที่ผมอยากออกไปใช้ชีวิตด้วย)

//อยู่ไหนวะภาคิน//
//กำลังจะกลับ กูอยู่กับไอ้ธีม มันไปช่วยกูแก้ระบบคอมพิวเตอร์บริษัทพ่อกูไง //
// เออ เข้ามาหากูด้วยนะ กูไม่ได้เห็นหน้ามึงมาหลายวันแล้ว//
//เหรอ!!!! //
//ไอ้คินอย่าทำแบบนี้ดิว่ะ กู///
//กูรู้แล้ว ว่ามึงรักกูแค่เพื่อน ย้ำทำเหี้ยอะไรวะ เดี๋ยวเจอกันที่ออฟฟิศ แค่นี้น่ะมึง บาย!// ผมนั่งอมยิ้มอยู่หลังพวงมาลัย ได้ยินมันด่าแบบนี้แสดงว่ามันโอเคแล้ว

ผมกดวางสายไอ้ภาคินก็รีบนำรถเข้าจอดที่จอดรถ โรงแรมเรียกว่าทุกอย่างพร้อมเปิดแล้วภายในอีกสามอาทิตย์ โปรแกรมที่ผมเขียนให้พี่เขามันก็โอเคแล้ว ผมหยิบเอากระเป๋าเอกสารที่มีโน๊ตบุ๊ค ไอแพต ของผมเดินขึ้นไปยังชั้น ที่มีห้องควบคุมระบบคอมพิวเตอร์ก่อน วันก่อนเข้ามาก็ยังไม่สวยเท่านี้ จะว่าไปพี่เขาก็เก่งน่ะ ผมเป็นแขกก็อยากจะเข้าพัก พี่แต่งแบบธรรมชาติมากในใจกลางกรุงเทพแบบนี้

Rrrr เฮียครับรับสายผมหน่อย!! (เสียงเรียกเข้าตั้งเอง) รีบกดรับทันที ถ้าเมียโทรรับไวภายในสามวินาที ถ้าเพื่อนก็สามนาทีขึ้นไปค่อยรับ
//ครับตัวเล็ก//
//เฮีย ผมจะออกไปซื้อของเพิ่มนะครับ//
//ไปยังไงตัวเล็ก //
//เฟย์เขาอยู่นี้นะครับ เฟย์ขับรถพี่กอล์ฟพาผมไปได้ครับ//
//โอเคครับเมีย//
//ยังไม่เป็นเมียซะหน่อย ขี้ตู่//
//คืนนี้เฮียจัดให้เลย//
// โห่! ทำกับข้าวก็เหนื่อยแล้วนะเฮีย//
//ไม่ได้ อันนี้งานหลักที่ต้องปรนนิบัติสามี //
//ใจร้ายอ่ะ! //
//ยอมใจร้าย! //
//ไม่คุยด้วยแล้วจะไปแล้ว อย่าลืมมาทานข้าวกับผมนะ ผมรอ//
//ได้ครับ เมียสั่งขนาดนี้ไม่ลืมครับ ว่าแต่ตัวเล็กถึงแล้วส่งข้อความหาเฮียด้วยนะ เฮียเป็นห่วง//
// เฮีย…//
//หึ? //
//เฮีย ผมรักเฮียน่ะ//
//พูดแบบนี้เฮียว่าเฮียไม่ทำแล้วงาน//
//อ้าว? //
//หันหลังกลับบ้านดีกว่า //
//เฮ้ย!! รู้อย่างนี้ไม่บอกก็ดีอ่ะ ไปทำงานเลย!! //
//เฮียรักตัวเล็กน่ะ รักมากแล้วด้วย เจอกันตอนเที่ยงนะครับ //
//บายครับ//

ผมรีบเข้าไปในห้องควบคุมระบบคอมพิวเตอร์ ผมเห็นมีคอมพิวเตอร์วางอยู่ มีชั้นเอกสารเรียบร้อยและด้านในกั้นห้องกระจกเอาไว้ มีคอมพิวเตอร์เมนหลักที่ผมต้องลงโปรแกรมอยู่ในห้องนั้น ผมเดินเข้าไปทันที พี่ทำงานในห้องกระจกสองคนหันมามองผม ที่เปิดประตูเข้าไป

“สวัสดีครับพี่”

“สวัสดีครับ ไม่ต้องเรียกพี่ก็ได้ครับ อายุน่าจะเท่าๆ กัน ผมชื่อเต้ครับ นี้น้องเอ็มครับน้องคนนี้เป็นน้องจบใหม่ครับ “คนที่ชื่อเต้แนะนำตัวและอีกคน

“เดี๋ยวผมลงโปรแกรมให้ก่อนเลยนะครับ ส่วนเพื่อนผมกำลังจะมาครับ”

“ได้เลยครับ เมื่อวานผมกับเอ็มและมีน้อง ๆ ที่ทำงานอีกสาขามาช่วยกันติดตั้งคอมพิวเตอร์ไว้หมดแล้วครับ เช็กการทำงานไวไฟแล้วด้วยครับ” พี่เขาพูดผมก็จัดการ เอาโน๊ตบุ๊คผมออกมาและทำการลงโปรแกรม

ทีน// ไอ้ตั้นอีกสามสิบนาทีพวกกูไปว่ะ แก้ไวรัสแป๊บว่ะ // ไอ้ทีนเพื่อนผมมันส่งข้อความมาบอกผม
ไทตั้น// (ชื่อเล่นเต็มๆ ของผม) เออๆ แต่อย่าช้าน่ะ เมียนัดทานข้าวเที่ยง//
ทีน//ไอ้คนรักเมีย!!! //
ไทตั้น// ไม่ได้เมียกูยืนหนึ่ง//
ทีน//กิ๊กมึงละครับ//
ไทตั้น //ไม่มี!!!! //
ไทตั้น// แค่นี้น่ะ รีบมาด้วย งานนี้เสร็จ จะพาไปเลี้ยงที่ร้านหมูกระทะเฮียตั้ม//
ทีน//เฮียตั้มแกจะเลี้ยงพวกกูไม่ใช่เหรอ ไอ้เนียน!! ///
ไทตั้น // กูเลี้ยงเหล้าไง เฮียแกไม่เลี้ยงเหล้า//
ทีน//ค่อยดูดีขึ้นมาหน่อย พวกไอ้เปรมดิ์เซย์เยส//

ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูกระจก พร้อมกับขวดน้ำมาวางไว้ ให้ ผมหันไปมองน้องที่ชื่อเอ็มนั้นเอง

“พี่เขาให้เอาน้ำมาให้ครับ เดี๋ยวผมกับพี่เต้ ไปเช็กคอมพิวเตอร์ที่ออฟฟิศใหญ่ก่อนนะครับ เห็นพี่เขาบอกว่ามีปัญหานะครับพี่

“ได้ครับ “ผมพยักหน้าและทำงานผมต่อจะว่าไปคุยเยอะคอแห้งเหมือนกัน ผมก็หันไปเปิดขวดน้ำและกระดกดื่มทันทีอย่างกระหาย และหันไปจัดการทำงานต่อ เวลาผ่านไปได้สักเกือบยี่สิบนาที จู่ๆ ผมก็รู้สึกร้อน  เริ่มรู้สึกคอแห้ง หันมาเจอน้ำที่เหลือก็เลยก็กระดกเข้าไปเกือบหมด คราวนี้เหงื่อเริ่มไหลซึมออกมาตามหน้าผาก ในกายผมก็เริ่มร้อนรุ่มขึ้นมากะทันหัน จนผมนั่งอยู่นิ่งๆ ไม่ได้ ผมลุกขึ้น ปลดเนกไทออก ผมหันไปมองขวดน้ำ อาการแบบนี้มันแปลกๆ ผมก้มลงมองที่เป้าตัวเอง มันเริ่มตุงขึ้นมา เริ่มปวดหนึบ อาการเหมือนผมต้องการมีเพศสัมพันธ์ ใช่แล้วผมโดนยาปลุกเซ็กส์

“ปึก” เสียงประตูที่ถูกเปิดเข้ามา พี่ปริม เธอสวมชุดแซกสั้นลายดอกกุหลาบแดง เสื้อที่โชว์ให้เห็นเนินอกขาวๆ กำลังสาวเท้าเข้ามาหาผม ผมก็หันหน้าหันหลัง และก้าวถอยหลังไปทีละก้าว กายผมก็ร้อนเหลือเกินร้อนจนอยากจะกระชากเสื้อผ้าตัวเองออกไปให้หมด

“พี่ปริม”

“เป็นไงตั้น ร้อนไหม ยาเริ่มออกฤทธิ์แล้วซิน่ะ” พี่ปริมเป็นคนวางยาอย่างนั้นเหรอ

“พี่ทำแบบนี้ทำไมพี่ปริม ผมบอกพี่ปริมแล้วว่า เรื่องของผมกับพี่มันจบแล้ว”

“พี่ไม่ยอมเสียตั้นให้ใคร ตั้นต้องเป็นของพี่คนเดียว”

“แต่พี่จะแต่งงาน”

“ก็แค่แต่ง แต่เรื่องบนเตียง ต้องเป็นตั้น กับพี่เท่านั้น” พี่ปริมพูดพร้อมกับเดินมาหาผม กายผมก็ร้อนรุ่มจนเกือบจะควบคุมตัวเองไม่ได้ เหงื่อแตกผลักๆ จนต้องปลดกระดุมเม็ดบนออกและตามมาอีกสองสามเม็ด

“ปกติตั้นจะกระโจนเข้าหาพี่เลยไม่ใช่เหรอ “พี่ปริมถามผม ทำท่ายั่วยวนผมโดยการลูบไล้ไปตามลำตัวของเขาเอง ผมก็ยิ่งถอยหลังหนี

“ไม่ได้พี่ปริม ผมมีคนที่ผมรักแล้ว”

“นี่ตั้นจะบอกพี่ว่าตั้นรักไอ้เด็กนั้นอย่างนั้นเหรอ”

“ใช่ผมรักเขาแล้วพี่ปริม ผมขอละ พี่ปริม ผมไม่เคยคิดจะชอบพี่ผมแค่”

“ไม่ได้ ตั้นต้องมีแค่พี่!!”

“ปีก “พี่ปริมดันอกผมอย่างแรง จนร่างของผมล่วงลงไปนั่งที่เก้าอี้ด้านหลัง และพี่ปริมก็ไม่รอช้าขึ้นมานั่งคร่อมผมทันที หน้าอกอวบๆ นั้น อยู่ตรงหน้าผม แกนกายในกางเกงก็แข็งจนรู้สึกปวด มือผมต้องกำพนักเก้าอี้ตรงที่วางแขนแน่นเพื่อฝืนตัวเอง ผมจะไม่ทำแบบนั้นอีก ผมมีตัวเล็กแล้ว

“เอื้อก” ผมกลืนน้ำลายลงคอเสียงดัง

“อยากใช่ไหมล่ะตั้น จัดเลย พี่อยากได้แบบเร่าร้อนเหมือนที่ต้นเคยให้พี่ “พี่ปริมพูดพร้อมกับ แหวกคอเสื้อที่แหวกลึกอยู่แล้วให้เห็นหน้าอกนั้นชัดๆ

“ไม่! ไม่! ผมไม่ทำ!” ผมส่ายหน้าไปมา พยายามหนี “ฟู่”

“หมับ” พี่ปริมใช้ฝ่ามือจับใบหน้าของผมให้อยู่นิ่งๆ ริมฝีปากแดงฉานนั้นมันน่ากลัวมากกว่าน่าจูบสำหรับผมตอนนี้

“อืมม” พี่ปริมประกบริมฝีปากของผมและบดขยี่อย่างเมามัน ผมเองก็ขืนแต่ก็ขืนได้ไม่นานต้องเผลอจูบพี่ปริมตอบกลับ ใจของผมอยากจะขัดแต่ร่างกายและความต้องการมันก็ไม่ยอมฟังคำสั่ง ปากผมสองคนที่ทำหน้าที่ดูดดื่ม ลิ้นที่ถูกสอดเข้ามามันพัลวันอยู่ในปากผม แถมมือผมกับจับเข้าที่สะโพกของพี่ปริมโดยไม่รู้ตัว และกดมันลง พี่ปริมก็โยกเบาๆ คลึงส่วนที่แข็งปังของผม

“ไม่! ไม่!  พี่ปริม ผมทำไม่ได้ พี่พอเถอะ อ้าห์ “ผมพยายามห้ามพี่ปริมทันทีที่ปากผมเป็นอิสระแต่ก็ต้องครางออกมาอีกครั้งเมื่อพี่ปริมกำลังไซ้ลงที่ตามแผ่นอกผม

“พี่ปริมจับมือผมไปเคล้าคลึงที่หน้าอกเธอ มือผมสั่นไปหมดด้วยฤทธิ์ของยา พี่ปริมเริ่มปลดเข็มขัดผม ผมก็เริ่มซุกไซ้ที่หน้าอกขาวๆ นั้น อย่างหื่นกระหาย ผมเริ่มควบคุมตัวไม่ได้ความอยากต้องมันมากจนสติผมเริ่มหลุด แกนกายผมเริ่มโผ่พ้นออกมาจากกางเกงสแลกนั้น พี่ปริมกำลังกำมันอย่างพอดีมือและรูดเบาๆ เธอลุกขึ้นและดึงรูดกางเกงตัวจิ๋วที่ซ้อนอยู่ภายในลงมาและขึ้นมาคร่อมตัวผมอีกครั้ง ในหัวผมก็ตีกันไปหมด “มีทั้งภาพตัวเล็กของผม “ “และภาพพี่ปริมตรงหน้า แค่ผมกระหน่ำทำแบบนั้น มันก็จบ! และผมก็ไม่ต้องมาทนทรมารแบบนี้ “พี่ปริมก็กำลังพยายามที่จะให้ผมสอดสิ่งนั้นเข้าไปในกายของเธอให้ได้ ใช่ผมก็เคยๆ กันมาก่อน
*******
มาลงก่อนครึ้งแรกนะคะ จะตามมาอีกทีคืนนี้ ขอบคุณกำลังใจด้วยค่ะ
ปล.คุณblove ของพ่อกับพี่อิศเรศมาแน่ๆค่ะ คิดว่าคงจะมาตอนพิเศษเหมือนกันค่ะ  :3123:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤ EP.15 (VS พี่เฮียตั้น VS เมย์) เฮียตั้นโดนวางยา(ครึ้งแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 22-11-2020 05:17:24
 :oo1:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤ EP.15 (VS พี่เฮียตั้น VS เมย์) เฮียตั้นโดนวางยา(ครึ้งแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 22-11-2020 16:53:12
55555555 เออถ้างั้นก็อย่ามีเมียเลยนะเฮียตั้น มันก็คือๆกันนะว่าไหม 555555
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤ EP.15 (VS พี่เฮียตั้น VS เมย์)เฮียตั้นโดนวางยา(ครึ้งหลัง)
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 22-11-2020 17:13:55
   
              //เฮีย รับสายผมด้วย// เสียงเรียกเข้าที่ผมตั้งเอาไว้ ดังขึ้น เมย์!! ผมเริ่มได้สติ พี่ปริมมองหน้าผมไม่รู้เธอตกใจหรือว่าเธอกำลังโมโห พี่ปริมหันไปมองมือถือผมและทำท่าจะคว้า แต่ว่าผมรีบผลักดันตัวพี่ปริมกระเด็นออกไปซะก่อน “ตุ๊บ!! ” ร่างพี่ปริมลงไปกองกับพื้น จังหวะนันผมก็รีบคว้ามือถือของผม ผมไม่รอช้าวิ่งออกไปพร้อมกับปิดประตู ผมต้องหยุดเธอไว้ก่อนที่ผมจะกระเจิงไปกว่านี้ ยาที่อยู่ในกายผมก็เริ่มออกฤทธิ์ ผมหันไปดันโต๊ะที่อยู่ด้านนอกมากั้นประตูเอาไว้อีกที

“ฟู่!!” ลมหายใจที่พรูออกมาถี่ๆ

“ปึกๆๆ” พี่ปริมพยายามดันเปิดประตูแต่เธอก็เปิดไม่ออก เธอโมโหผมมากพร้อมกับใช้แขนทุบกระจกให้ผมเปิด ผมส่ายหัวไปมา เธอกำลังใช้โทรศัพท์ของเธอคงโทรหาคนของเธอ และผมก็รีบแต่งตัวแบบลวกๆ ก่อนจะรีบเพ่นออกจากห้องนั้น มองหาทางหนีไฟ และผมเองก็ปล่อยให้พี่ปริมเขาโวยวายอยู่ในห้องกระจกนั้นตามลำพัง

              ผมรีบวิ่งออกไปทันที ผมต้องออกจากที่นี่ให้ได้ซะก่อนตอนนี้ ตอนนี้ภายในกายผม กำลังร้อนรุ่มดังมีกองเพลิงมาสุมอยู่รอบกายผม แต่ผมก็ต้องวิ่งลงไปทางบันไดหนีไฟ วิ่งลงไปให้เร็วที่สุด

“เหี้ยเอ๊ย!” แต่ว่ารถผมมันจอดอยู่ด้านหน้านะซิ ผมคิดในใจไม่เอาแล้วรถช่างแม่งก่อน ไปก่อน ผมเห็นมีรถแทกซี่เข้ามาส่งคนและผมก็วิ่งแทรกเข้าไปในรถแทกซี่นั้นทันที

“พี่ ออกรถให้ผมหน่อย” ผมพูดด้วยอาการหอบเหนื่อย ตอนนี้การทำงานของหัวใจเริ่มหนักขึ้น พร้อมกับพ่นลมหายใจเพื่อผ่อนอารมณ์ในกายผม ที่ตอนนี้มันกำลังพุ้งพร่านรอเวลาระเบิด แต่ผมก็ต้องข่มเอาไว้ตลอด

“พี่ผมขอละ ออกรถ จากตรงนี้ก่อนพี่ เอาเท่าไหร่ผมให้พี่” ผมบอก พี่เขามองหน้าผม ผมเห็นสมุนพี่ปริมวิ่งลงมาถึงและกำลังมองหาผมอยู่

“พี่ผมขอร้องละ!!”

“โอเค” พี่เขาตอบผม พี่คงเห็นพวกที่สวมสูทสีดำกำลังมองไปทั่วแต่นั้นคงเดาได้ว่ากำลังหาผม

“บรึ้น!!!!!” เสียงเร่งเครื่องยนต์และพุ้งทยานออกไป ผมก็นั่งแผ่อยู่ที่เบาะหลัง พร้อมกับลมหายใจที่พรูออกมาติดๆ กัน พอรถแทกซี่ขับออกมาจนพ้นเขตโรงแรม ออกไปยังถนนใหญ่ ผมยกมือขึ้นปาดเหงื่อที่แตกผลักออกมาตามหน้าผาก ผมเป็นคนผมหนาตอนนี้ก็เปียกโซกไปด้วยเหงื่อ ร้อนในอกจนอยากจะกระชากเสื้อเชิ้ตออกแต่ก็ทำไม่ได้เพราะว่าพี่คนขับแทกซี่คงได้แจ้งข้อหาอนาจารผมแน่ๆ ทำได้ปลดกระดุมเพิ่มอีกสักเม็ด

“น้องจะไปไหนครับ ดูท่าน้อง จะแย่ ไปโดนอะไรมาน่ะ” พี่คนขับถามผมพร้อมกับมองผมผ่านกระจกมองหลังเป็นระยะๆ

“ไปคอนโด ให้ผมหน่อยพี่ ซี้ดส์” ผมพูดและยื่นมือไปส่งนามบัตรผมให้พี่เขา พี่เขาหันมารับไปก่อนร้องตกใจกับอาการของผม

“เฮ้ย!!”

“ไปโดนอะไรมาน้อง!”

“ผมโดนยามาพี่”

“โด่ไม่รู้ล้มเหรอน้อง ตุงน่ากลัวเชียวเป้ามึงน่ะ” ผมก้มลงมอง ก่อนจะค่อยๆ เอื้อมไปหยิบนิตยสารที่พี่เขามีไว้บริการผู้โดยสารมาปกปิดไว้หน่อย มันอุจาดตาไป

“ไม่รู้อ่ะพี่ แต่พี่รีบขับหน่อย ผมจะไม่ไหวแล้ว “ผมพูดพร้อมกับกัดปากตัวเอง ผมหันไปหยิบมือถือที่วางอยู่ข้างๆ ลำตัวผม มือผมก็สั่น

“ดูท่าจะแย่ว่ะ และคอนโดน้องนี้ก็ยี่สิบนาทีเลยนะ งั้นรอพี่แป๊บ” พี่เขาบอกผมพร้อมกับขับรถไปแวะหน้าร้านขายของชำ ผมก็หยิบมือถือมากดหาตัวเล็กผมก่อน

//เฮีย// เสียงน่ารักกดรับสายผมทันที

//เมย์….อยู่ไหน// ผมพยายามทำน้ำเสียงให้ปกติแต่มันก็ยาก

//เฮียเป็นอะไรหรือเปล่าทำไมน้ำเสียงเฮียเป็นแบบนั้นล่ะ//

//เมย์อยู่ไหนครับ //

//อยู่คอนโดแล้วครับ//

//พี่กำลังจะกลับ เมย์ลงมาพาพี่ขึ้นห้องทีน่ะ//

//พี่เป็นอะไรอ่ะ พี่ไม่สบายเหรอ พี่ตั้น!//น้ำเสียงที่บ่งบอกว่าเมย์ตกใจมากและกังวล มันทำให้ผมยิ้มดีใจ ที่เมย์เป็นห่วงผมมาก

//พี่ไม่เป็นอะไรครับ พี่แค่โดน เออ" ผมคิดว่าไม่ควรจะบอกตอนนี้จะดีกว่ากลัวเมย์จะตกใจกันไปไหญ่ " เดี๋ยวค่อยคุยกันครับที่รัก แค่นี้ก่อนนะครับ อีกราวๆ ยี่สิบนาทีนะครับตัวเล็ก ลงมาหาพี่น่ะ ซี้ดส์!! // ผมกดวางสายและพี่คนขับแทกซี่ก็เข้ามาพร้อมกับ น้ำเปล่าสองขวด ดูแล้วน่าจะเย็นจัดเลย และถุงน้ำแข็ง

“ดื่มน้ำไปเลยไอ้น้อง และน้ำแข็งนี้โป๊ะไปตามหน้าตาเลยไอ้น้อง พอช่วยได้ พี่เคยเจอผู้หญิงโดนยามาแบบน้อง พี่ก็ให้เขาทำแบบนี้ก็พอจะช่วยได้บ้างว่ะ  และพี่เป็นสุภาพบุรุษ ไม่ทำคนโดนยา" แต่ถ้าน้องคนไหนให้ท่าพี่มาพี่ก็จัดให้ครับ ถ้าน้องเขาเต็มใจ” ผมก็ต้องสะดุ้งตรงนี้แหละแต่ก็ต้องขอบคุณพี่เขา ผมก็รับน้ำมาเปิดกระดกดื่ม ค่อยดีขึ้นมาหน่อยและถุงน้ำแข็งโป๊ะตามหน้าตามตาไปด้วย ค่อยมีสติขึ้นมาหน่อยผม

“รัดเข็มขัดให้แน่นๆ เลยน้อง”

“พี่จะซิ้งไปส่งผมเลยเหรอ” ผมถามพี่เขา

“จะซิ้งได้ไง ลูกเมียรออยู่ ซิ้งไป โดนใบสั่งซิน้องเอ๊ย!”

“แต่ที่ให้มึงรัดแน่นๆ น่ะ กูกลัวมึงไม่ไหว กระโดดมาหูกูนี่แหละครับ กูช่วยมึงไม่ได้ แต่ไปส่งมึงได้ อย่างเดียว” ผมเลยโบกมือไปเถอะพี่

“รีบไปเถอะพี่ ผมอยาก…”

“อยาก…?”

“อยากกลับบ้านพี่เร็วดิพี่ ได้โปรดไปแบบไม่ต้องกดมิเตอร์เลยพี่ ผมให้สองพันเลยจริงๆ ไม่ต้องคิดมาก”

“งั้นพี่จัดให้!”

“บรื้น!!”

“มีเมียไหมมึง ถ้ามี ไม่รู้จะสนุกหรือว่านั่งร้องไห้แทนล่ะงานนี้”

“และใครเขาเอายาปลุกไอ้นั่นมึงกินว่ะ หรือลองเอง”

“ผู้หญิงนะพี่”

“อ้าว แล้วมึงหนีเขามาทำไมละครับ ก็จัดไปให้เขาสักดอกก็จบแล้วไอ้น้อง”

“เขาไม่ใช่เมียผมพี่!”

“เคยแต่ผมเลิกแล้ว ผมรักเมียจริงๆ ที่อยู่ที่บ้านพี่! ผมเลยไม่ยอมทำ” ผมพูด พี่เขายกนิ้วโป้งให้ผม

// กอล์ฟ บอกพวกนั้นด้วยว่าให้ไปลงโปรแกรมต่อให้กูทีว่ะ กูกลับบ้าน กูงานเข้า แล้วค่อยคุยกันว่ะ ขอโทษจริงๆ ว่ะ // ผมส่งข้อความบอกเพื่อนผม นั่งแผ่หลาหมดสภาพ น้องในกางเกงก็ตุงจนจะแตก พี่แกเห็นก็รีบขับเข้าซอกซอยเพื่อไปทางลัดจนกระทั่งมาถึง ผมเห็นเมย์ยืนรอผมแบบกระวนกระวายใจอยู่ด้านหน้าคอนโด เดินวนไปมา ผมหยิบเงินให้พี่เขาไปสองพันห้าร้อยบาท

“ขอบคุณนะพี่ที่ช่วยผม ไม่อย่างนั้นผมเสียใจไปตลอดชีวิตแน่ๆ  และที่สำคัญเมียผมคงเสียใจมากด้วยเหมือนกัน “ผมพูดแค่นั้นก็ลงจากรถไปเดินไปหาเมย์ในสภาพที่แย่พอสมควร เมย์ตรงเข้ามารับร่างผมแบบทุลักทุเล เมย์กอดผมแน่น ผมสัมผัสได้ว่าเสื้อผมเปียกชื้นไปด้วยน้ำตาของคนที่กอดผมไว้แน่น ผมก็กอดเมย์ตอบ

“พี่เป็นอะไร ไปโรงพยาบาลไหม ฮึก” เมย์ถามผม เขาเงยนห้าขึ้นใช้มือปาดเหลือที่แตกผลักๆ ตามใบหน้าของผม

“ไม่เป็นไรเมย์แค่พาพี่ขึ้นห้องก่อนนะ พี่โอเค” ผมพูดกับเมย์และเมย์ก็พยุงร่างผมเข้าไปในลิฟต์ ผมก็พยายามระงับความต้องการตัวเองไปด้วย ผมหันมามองหน้าเมย์ ไม่ได้น่ะผมจะทำแบบนั้นไม่ได้ แค่เพราะฤทธิ์ของยากับเมย์ไม่ได้

“พี่เป็นอะไรบอกเมย์ซิ “ช่วงนี้เขาน่ารักกับผมมาก ใช้แทนตัวเองว่าเมย์

“พี่โดนยามา พี่ปริมเขาวางยาพี่ พี่ก็เกือบจะมีอะไรกับเขาแล้วเมย์แต่ เมย์โทรหาพี่พอดี ทำให้พี่พอมีสติขึ้นมาบ้าง …ซี้ดส์” ผมพูดกับเมย์ เมย์มีสีหน้าตกใจ

" พี่แค่เกือบเมย์ แต่พี่ไม่ได้มีอะไรกับเขา เพราะว่า พี่จะไม่ทำแบบนั้นแล้ว พี่จะมีแค่เมย์คนเดียว พี่ต้้งใจเอาไว้แล้ว ว่าพี่จะหยุดแค่ที่เมย์ " ผมพูด เมย์มองหน้าผมพร้อมรอยยิ้มที่เปื้อนขึ้นบนใบหน้า เขาปาดน้ำตาที่ไหลซึม

ทันทีที่ลิฟต์ถึงชั้นของผม ผมก็รีบออกไปและตรงเข้าไปในห้อง ไปยังห้องน้ำทันที กายผมร้อนเหมือนไฟมาซุ่ม ผมตรงไปที่ห้องน้ำก่อนเลย เปิดก๊อกน้ำเฉพาะน้ำเย็น ถอดเสื้อผ้าออกจนหมด และเข้าไปยืนแช่อยู่ในนั้น เมย์ยืนมองผมจากด้านนอก สีหน้าเขาดูกังวลและเป็นห่วงผมมาก

“เมย์ “ผมเรียกเมย์ โดยไม่ได้หันหลังไปมองไม่กล้ากลัวอดใจตัวเองไม่ได้

“พี่ไหวไหม ให้เมย์ช่วยไหม”

“ไม่ดีกว่า พี่ไม่อยากทำแบบนั้นเพราะว่าพี่โดน…เออ…ยานะครับเมย์ …”

“แต่ว่า”

“พี่โอเคเมย์ ขอพี่อยู่แบบนี้สักพักน่ะเมย์” ผมพูด เมย์เดินออกไปจากห้องน้ำปล่อยให้ผมยืนอยู่ใต้ฝักบัวแบบนั้น ผมเองก็ไม่รู้ว่าผมโดนตัวไหนไปแต่นี้จะหนึ่งชั่วโมงแล้วมันก็ยังไม่ลงเลย แกนกายผมก็พองจนจะระเบิด ผมพยายามใช้มือทำไปด้วย

“ปึก” ประตูตู้อาบน้ำผมเปิดออกโดยเมย์ เมย์เดินเข้ามาหาผม เขาเข้ามากอดผมจากด้านหลัง ผมเลยต้องพลิกตัวกลับและกอดเมย์ตอบเช่นกัน ผมมองใบหน้าที่มีสายน้ำไหลรินลงมาอยากจะกระโจนเข้าหาเขา แต่เมย์ค่อยๆ เลื่อนตัวเองลงช้าๆ และไปหยุดที่ตรงความเป็นชายของผม

“เมย์ช่วยน่ะ ไม่อย่างนั้นพี่แย่แน่ๆ “เมย์พูดและครอบปากลงตรงนั้นของผม ผมต้องยืนหลังพิงกำแพงและปลดปล่อยอารมณ์ที่พุ้งพร่าน ปล่อยไปตามแรงที่เมย์กำลังปรนเปรอผมด้วยลิ้นเล็กๆ นั้น ผมก้มลงมองเป็นระยะๆ เมย์ทำแบบเคาะๆ เขินๆ แต่เขาก็พยายามจะช่วยผม สะโพกผมก็โยกไปมา

“อ้าห์ เมย์ พี่ เสียว อืมม อ้าห์ “ผมก็ปล่อยให้เมย์จัดการจนน้ำสีขาวขุ่นพุ้งกระชูดออกมาเมย์จัดการเลียจนหมดนั่นแหละผมถึงค่อยเบาขึ้นมาหน่อยผม ผมก้มลงไปดึงเมย์ขึ้นมากอดไว้ กอดไว้แบบนั้น เราสองคนกอดกันภายใต้สายน้ำที่ราดรดลงมาจากฝักบัว

“ขอบคุณนะครับที่พี่ยังครองสติตัวเองกลับมาหาเมย์” เมย์พูดกับผม ผมซบหน้าลงที่บ่าคนตรงหน้า

“พวกพี่ๆ เขาโทรมากันใหญ่เลย เมย์บอกพี่ๆ เขาไป ว่าพี่โดนพี่ปริมวางยา “เมย์ดันตัวเองออกและบอกผม ว่าเพื่อนๆ ผมรู้เรื่องแล้ว ผมพยักหน้า

“ไหวป่ะเนี๊ยะ” เมย์ถามผม น้ำเสียงปนขำผมเล็กน้อย

“เด็กน้อยเอ๊ย” ผมเอามือลูบหัวเมย์ที่เปียกโซก

“พี่โอเคเมย์ ขอบคุณนะครับ ที่ช่วยพี่ไม่งั้นพี่คง ตายคาที่ “ผมพูดปนหัวเราะ

“งั้นเมย์เตรียมทำกับข้าวน่ะ วันนี้กะว่าจะทำหลายอย่างเลย อยากลองทำให้พี่ทาน” เมย์บอกผม ผมพยักหน้า เมย์ เดินออกไปหยิบผ้าเช็ดตัวส่งมาให้ผม เขาก็ถอดเสื้อผ้าออกในห้องน้ำก่อนจะเดินออกไป ผมออกมาจากห้องน้ำแม้จะยังไม่ค่อยสงบเท่าไหร่แต่ก็ดีขึ้นมากกว่าตอนแรก เมย์เตรียมเสื้อผ้าเอาไว้ให้ผม หลังจากสวมเสื้อผ้าเสร็จผมก็ล้มตัวลงนอน ตอนนี้เพิ่งจะสิบเอ็ดโมงเอง ผมนอนหนุนหมอน เคลิ้มๆ เหมือนจะหลับ

“เสร็จแล้วผมมาปลุกนะครับ เฮีย ผมรักเฮียนะครับ” ผมพยักหน้าตอบกึ่งหลับกึ่งตื่น”

ผมเผลอนอนหลับไปนานแค่ไหนไม่รู้ จู่ๆ ก็มีมือเล็กๆ มาสะกิดผมเบาๆ ผมค่อยลืมตาขึ้นมามองไปรอบๆ ห้อง มีผู้คนมายืนอยู่ล้อมรอบเตียงนอนของผม นั้นก็คือเพื่อนๆ ผม ไอ้เปรมดิ์ ไอ้ทีน ไอ้อาร์มและไอ้กอล์ฟ มันก้มมองผมกันหมด

“ไหนน้องเมย์เขาบอกว่ามึงโดนยาปลุกเซ็กส์มาไหงว่ะ ทำไมนอนสลบราวกับโดนยานอนหลับเยี่ยงนี้” ไอ้เปรมดิ์มันถามผม

“หรือว่ายาปลุกก็ช่วยมึงไม่ได้ว่ะ ไอ้ตั้น” ไอ้ทีน มันก้มลงมามองผมแบบติดมาก ผมเลยเอามือดันหน้ามันออก

“คิก คิก คิก “คนที่ปิดปากขำผมคือคนตัวเล็ก ก่อนจะเดินออกไป ผมค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งแบบงัวเงีย

“งานเป็นไงบ้างว่ะมึง” ผมถามพวกมัน

“เรียบร้อยแล้ว ลงเสร็จแล้วว่ะ พวกกูไปลุยไม่ถึงสองชั่วโมง”

“และนี่มึงไปทำอีท่าไหนให้เจ้แกวางยามึงว่ะ”

“กูไม่รู้ กูดื่มน้ำที่คนที่ทำงานที่นั่น เขาเอามาให้กูในห้องควบคุม ที่ต้องลงโปรแกรม”

“อาการเป็นไงว่ะมึง” ไอ้อาร์มมันถามผม

“ก็ร้อนวูบวาบ และกูก็ เกือบจะควบคุมตัวเองไม่ได้ คืออยู่ๆ ก็อยากมีเซ็กส์โดยไม่มีเหตุผล และเจ้มันก็เข้ามา กูเองก็เกือบจะ….อืมมม” ผมพูดและโมโหตัวเองไปด้วย

“แล้วทำไมมึงไม่จัดให้เจ้มันไปสักดอกละมึง สนองแกสักหน่อย แกคงหาที่ลงไม่ได้ “ไอ้ทีน ผมหันไปยกนิ้วกลางส่งให้มัน

“กูไม่อยากทำ “ผมพูด พวกมันถึงกับ “ห๊ะ!” พร้อมกันหมดทุกคน

“กูเคยอยากทำแต่ตอนนี้ กูไม่อยากทำ กู… “ผมพูดและชี้ไปข้างนอกห้อง “อ้อ!!” พวกมันร้องออกมาพร้อมกัน

“สำนึกรักเมียคนเดียวขึ้นมาทันที ที่เมื่อก่อนละฟันไม่ยั้ง” ไอ้เปรมดิ์

“อีเจ้นี้ก็หื่นไม่เกรงใจสถานที่เขาเลย " ไอ้ทีน

“อย่าว่าแต่ความเกรงใจเลยมึงครับ ยางอายก็ไม่มี เล่นชวนไอ้ตั้นไปเล่นโป้ง โป้งฉึ้งในห้องกระจกแบบนั้น มันสามร้อยหกสิบองศาไปไหมครับ “ไอ้เปรมดิ์

“แถมโรงแรมเขายังไม่ทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเลยนะครับมึงครับ และมึงก็เกือบได้เป็นข่าวฉาวในโรงแรมร้อยล้านแล้วมึงครับ ไอ้ตั้น”

“คราวนี้แหละมึง คนได้รู้จักบริษัท Friendgroupกันไปทั่ว” ไอ้ทีนพูด ผมหันไปยกนิ้วกลางให้เรียงตัว

“แต่กูว่าที่อีเจ้มันวางยามึงนะ เจ้มันอยากจจะบอกอะไรมึงหรือเปล่าไอ้ตั้น แบบว่าเจ้มันบอกมึงตรงๆ ไม่ได้อ่ะ” ไอ้อาร์มพูด

“ก็อีเจกับมึงมีอะไรกันมาตั้งหลายหนแล้ว จะมีเหตุผลอะไรว่ะที่ต้องวางยาปลุกน้องมึงขึ้นมาแบบนั้น ถ้า….”

“?????” ไม่ใช่แค่ผม ทุกคนหันไปมองไอ้อาร์มกันหมด

“เจ้ปริมแกอาจจะบอกมึงว่า ที่ผ่านมาน่ะ น้องมึงไม่ค่อยสู้” ผมสะบัดหน้าไปมองไอ้เพื่อนเวร

“เชี้ย! ใช่เลย!” ไอ้สามตัวมันก็สมทบทันที

“ไอ้อาร์ม พวกกูคิดไม่ได้ว่ะแบบนี้” ไอ้เปรมดิ์มันหันไปชี่ไอ้อาร์ม “แป๊ะ” แปะมือกันด้วย ผมนี้กุมขมับตัวเอง (ผมเพิ่งจะรู้ว่าที่ผ่านมาผมก็คบเพื่อนผิดมาตลอด ฮาๆ)

“ไม่อย่างนั่นอีเจมันจะลงทุนไปหาของดีมาให้มึงเหรอว่ะ” ไอ้อาร์ม ยังอีก ยังไม่หยุดอีก!!

“ปึก! ปึก! ปึก! และปึก! ” ผมปาหมอนใส่พวกมัน

“ตัวเล็ก) )) )) )) )”

“ครับเฮีย” เมย์ขานพร้อมกับเดินเข้ามาหาผมในห้องทันที ก่อนจะหันไปมองไอ้สี่ตัวที่ยืนรวมกันอยู่

“ส่งแขก!!” ผมบอกเมย์

“ทำไมละครับเฮีย” เมย์หันมาถาม และหันไปมองไอ้สี่คนอีกคร้้ง

“มันไม่ได้มาเยี่ยมเฮีย มันมาซ้ำเฮีย” ผมชี้ตัวผู้ต้องหา ฟ้องเมีย

“กูเพิ่งได้รับคำเชิญจากน้องเมย์ว่า ให้อยู่ทานข้าวเที่ยง น้องเขาชวนพวกกูแล้วไม่อยู่ไม่ได้ พวกกูเป็นคนมีมารยาท ไปครับเมย์พี่ช่วยจัดโต๊ะ” ไอ้เปรมดิ์ ผมหันมามองเมย์จริงเหรอ เมย์พยักหน้าว่าจริง และพวกมันก็พากันเดินออกจากห้องอีก

“เมย์จร๊าเมย์ทำอะไรกิน น่ากินทั้งนั้นเลย” ผมค่อยๆ พาร่างตัวเองลุกขึ้นเดินออกไปนอกห้องนอน สิ่งที่ผมเห็นพวกไอ้เปรมดิ์ ไอ้อาร์ม ไอ้ทีนและไอ้กอล์ฟ มันกำลังช่วยเมย์จัดโต๊ะ อาหารเยอะแย่ไปหมด เมย์หันมามองหน้าผม เมย์ทำเปาะเปี๊ยะทอด ผัดเปรี้ยวหวาน ผัดพริกขิงหมู ต้มจืดฟักกระดูกหมูอ่อน (ผมไม่เคยรู้จักฟักแฟงมาก่อน ตั้งแต่ที่อยู่เมืองนอกแล้ว พอย้ายมาอยู่ไทย ผมเคยไปถามแม่ค้าที่โรงอาหาร พอเขาบอกผมนี่โกรธมากผมเดินหน้าบูดกลับมาบอกพวกมันว่าแม่ค้าด่าผมครับ   ผมก็นึกว่าเขาด่าผมว่า F**k แต่เพื่อนมันอธิบายให้ผมฟังอีกทีโล่งอกไป)
“ทำเยอะไปไหมเนี๊ยะ” ผมถามเมย์

“เฟิร์นเขาขึ้นมาช่วยผมทำอยู่พักหนึ่งนะครับตอนที่พี่ตั้นหลับอยู่ “เมย์บอกผม ผมพยักหน้า เฟิร์น์คือเด็กที่เรียนสายวิศวคอมพิวเตอร์และมาทำงานกับผมด้วย ขยัน

“นี่ผมก็แบ่งให้น้องๆ เขาทานกันบ้างแล้วนะครับเฮีย” เมย์บอกผม ส่วนพวกแขก (ไม่รับเชิญ) ก็จัดการนั่งและทานไม่เกรงใจเจ้าภาพอย่างผมเลย เมย์นั่งข้างๆ ผม ตักกับข้าวใส่จานให้ผม ผัดเปรี้ยวหวาน ผมมองหน้าเมย์
“ผมเห็นพี่เหน็บกระดาษไว้ที่หนังสือทำอาหาร หน้าผัดเปรี้ยวหวาน พี่คงชอบ” เมย์พูด

“แม่พี่ชอบทำให้พี่ทานครับ แม่พี่ทำอร่อยมากแต่พี่ เคยลองทำน่ะ แต่ไม่ได้เรื่อง” ผมพูดก่อนจะตักอาหารขึ้น

“อืมม อร่อยอ่ะ ทำให้พี่กินอีกน่ะ” ผมพูดบอกเมย์ เมย์พยักหน้า โดยมีสายตาพวกอิจฉามองมาและพากันซุบซิบๆ
-------------------------------------------------------------
แชทกลุ่ม Friendgroup
ธีม// เหี้ยแล้วองลง!!!!
เปรมดิ์// องใครจะลงว่ะ?
ธีม//องไอ้เพื่อนรักหักดั้งชะนีมึงนี่ไง มันไปจะขวิดชะนีแทนไอ้ตั้น
เปรมดิ์// แม่มันโกรธที่ลูกตั้นมันโดนชะนีรังแก//
กอล์ฟ// แล้วนี้จะไปขวิดกันที่ไหนวะเนี๊ยะ///
ธีม//โรงแรมหรู วิวร้อยล้าน คู่อริไอ้ตั้นมันไง
ธีม// แล้วนี่พวกมึงอยู่ไหนกันว่ะ
กอล์ฟ // อยู่ห้องไอ้ตั้นมัน กูมาดูใจ เอ๊ย! ดูสภาพมัน และตอนนี้กำลังกินข้าวฝีมือน้องเมย์
ธีม// เลิกกินแล้วมาช่วยกูก่อน
ทีน// ไม่ละครับกินก่อนแล้วค่อยไป อาหารน่ากินขนาดนี้ ทิ้งไม่ลงครับมึงครับ
ธีม//ถ้ารอให้กินเสร็จก็ไม่ต้องมาหรอกมึง อีเจ้ตายก่อน กูเองก็ไม่กล้าห้ามกลัวลูกหลง หน้ากูแพงสัส!
อาร์ม// พวกกูกะว่า ไปถึงก็ยืนไว้อาลัยอีเจ้เลยไงมึง
เปรมดิ์// อาหารดีขนาดนี้ มึงให้กูทิ้งเหรอครับ ไม่มีทางครับมึงครับ //
(ส่งรูปถ่ายพี่ตั้นกำลังสวีทกับน้องเมย์ตักอาหารให้กันและกัน)
ธีม//คู่นี้เขาโดยยาเสน่ห์ หรือยาปลุกเซ็กส์กันแน่ว่ะ//
ทีน //เออ มึงไปถึง เจออีเจ้ ตั้นฝากบอกขอบคุณสำหรับยา แต่รอบหน้าตั้นขอม้ากระทืบโลงครับผม//
เปรมดิ์//ท่าจะให้ดีควรจะเป็นอึดทน ยาวและนานเถอะว่ะ //
ไทตั้น// Fu** you กูไม่เอาอะไรทั้งนั้น//
ธีม// กูละเชื่อเลยอีกเจ้มันวางยาปลุกไอ้จ้อนมึง อันที่จริงเจ้แกขอมึงดีดี มึงก็น่าจะให้เขาอยู่นะ เพราะที่ผ่านมาก็เอาเขานับไม่ถ้วน//
ไทตั้น// ไอ้สัสธีม!!”
เปรมดิ์// อีเจ้มั้นอยากบอกให้ไอ้ตั้นมันรู้ตัวว่า น้องมันไม่แข็งและไม่มีแรงไงมึง//
ธีม// อ้าวเหี้ยแล้ว! ไอ้โปรไฟล์เอวดีของมันล่ะว่ะ
อาร์ม// พับเก็บไปเถอะครับมึงครับ น้องไม่สู้เอวดีก็เท่านั้น
ไทตั้น//กูจะไม่จ่ายโบนัสปีนี้ ยกเลิก!!! และเงินเดือนพวกมึงอีกสามเดือนกูค่อยทำ!
ธีม//แค่นี้ก่อนนะ ถึงที่หมายไอ้ภาคินมันแล้ว กูว่าเละงานนี้
เปรมดิ์// เจ้แกแอทมิทที่โรงพยาบาลอะไรบอกด้วยนะมึง
ทีน// ทำไมว่ะ ไอ้ตั้นมันจะส่งกระเช้าไปเยี่ยมเจ้แกเหรอว่ะ
ไทตั้น// จ้างให้กูก็ไม่ไป!!
ภาคิน// ไม่ต้องไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล รอไปสวดเลยพวกมึง!!
Off line!!! (หายหมดทุกคน)

----------------------------------------------------------------------------------------------------
 :pig4: :pig4:
ตอนหน้า เจ้ปริมจะปะทะภาคิน คู่ต่อสู่ที่ดูสูสีกว่าน้องเมย์ที่น่ารักน่าถนอม
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤ EP.15 (VS พี่เฮียตั้น VS เมย์)เฮียตั้นโดนวางยา(ครึ้งหลัง)
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 22-11-2020 17:44:15
 :pighaun:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤ EP.15 (VS พี่เฮียตั้น VS เมย์)เฮียตั้นโดนวางยา(ครึ้งหลัง)
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 23-11-2020 16:03:01
เห้อ นึกว่าจะไม่รอด 555555 ต่อไปต้องระวังตัวมากกว่า เธอทำได้ทุกอย่าง  :z6: รอตอนต่อปาย  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤ EP.15 (VS พี่เฮียตั้น VS เมย์)เฮียตั้นโดนวางยา(ครึ้งหลัง)
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 24-11-2020 06:02:16
 :hao6: :hao6:
รอคู่พี่ปฐวีย์กับภาคินน่ะ  :katai2-1:
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤ EP.1ุ6 (พี่ปฐวีย์ VS ภาคินVSปริม)
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 24-11-2020 06:39:36
ภาคิน ผมกำลังขับรถไปออฟฟิศ แต่ได้รับข้อความจากเพื่อนๆ ว่าไอ้ตั้นงานเข้า ผมก็พยายามโทรหาตั้นมัน เมย์เป็นคนรับสายแทนเมย์บอกผมว่าต้นโดนวางยา ผมถามว่ายาอะไร เมย์บอกยาปลุกเซ็กส์ และคนที่วางก็คือ นางชะนีปริม มันได้เห็นดีกับผมแน่ ให้ ไอ้ธีมจอดรถทันที และโทรไปหาพี่ปฐวีย์ พี่เขาบอกว่ารอปริมมาทานอาหารอยู่ ผมเลยบอกไปว่าได้เดี๋ยวเจอกัน และเปลี่ยนมาเป็นผมขับเอง แน่นอนเหยียบมาแบบไม่สนใบสั่งเลย จนกระทั่งมาถึงโรงแรมหรู ผมจอดทันทีโดยไม่สนว่ารถผมขวางอะไรอยู่



“คุณครับจอดตรงนี้ไม่ได้ครับ”



“ผมจะจอด แต่ถ้าใครแตะรถผม มีเรื่อง!!!”



“คิน มึงจอดรถตรงนี้ไม่ได้!!! ไอ้เชี้ยคินเสือกเอากุญแจไปด้วยอีก!” เสียงตะโกนตามหลังผมมาแต่ผมไม่ฟังเดินสับเท้าเข้าไปอย่างเร็ว ไม่สนใครหน้าไหน ไอ้ธีมวิ่งตามผมเข้าไปติด



“ไม่ทราบว่าคุณปฐวีย์ นั่งทานอาหารที่ไหนครับ!” ผมถามผู้หญิงที่สวมชุดพนักงานต้อนรับอยู่ เธอยืนอยู่ให้บริการแขกที่มาพักอยู่ เธอหันมามองผมด้วยสีหน้าตกใจแต่ก็ชี้ออกไปตรงทางเดิน ผมรีบเดินตามไปทางที่เธอชี้นิ้วออกไป ผมเดินไปอย่างรวดเร็วและตรงดิ่งไปที่ห้องรับรองก่อนจะรีบผลักประตูเข้าไปทันที สิ่งที่ผมเห็นคือปริมเธอนั่งอยู่ ตรงข้ามกับพี่ปฐวีย์



“คุณวีย์ค่ะ” เลขาฯ พี่ปฐวีย์เรียกเขา พี่เขาก็เงยหน้าขึ้นมามองผม เลขาฯ ที่ยืนถือถาดที่มีแก้วไวน์รอเสิรฟพี่ปฐวีย์อยู่ ผมก็ตรงไปคว้าแก้วไวน์ทันทีและทำท่าจะสาดไปที่นางปริม “หมับ!” แต่ว่ามีคนมาคว้าเอาไว้ ผมคิดว่าน่าจะเป็นพี่ปฐวีย์แต่ไม่ใช้ ไอ้คนนั้นมันคือเพื่อนผมไอ้ธีม



“มึงจะทำอะไรไอ้คิน มึงจะเอาแก้วไวน์ไปสาดเขาไม่ได้!”



“ทำไมกูจะสาดไม่ได้!”



“มึงดูขวดไวน์ " มันชี้ให้ผมหันไปดูขวดที่ว่างอยู่ ผมหันกลับมาทำท่าจะแต่ว่ามันยังยึดเอาไว้ "ยี่ห้อนี้แพงเว้อ พ่อกูซื้อมา สองแสนกว่าบาท “ไอ้ธีมมันดึงแก้วผมไปคืนพี่ปฐวีย์



“น้ำเปล่าพอมึง” ไอ้ธีมชี้มาบอกผมโดยไม่มองหน้าผม "ได้" ผมพูด พร้อมกับคว้าอาหารตรงหน้าผมนี้แหละสาดเข้าไป เธอคงคิดไม่ถึงซิน่ะ



“กรี้ดดดด” เสียงกรีดร้องดังลั่นไปทั่วห้อง



“ฉิบหายแล้ว! กูบอกเอาน้ำเปล่าพอไง! “ไอ้ธีมมันร้อง ผมหันมามองพี่ปฐวีย์ เขาวางแก้วไวน์ลงและมองผมด้วยแววตาที่งวยงง ก่อนจะมองผมกับพี่ปริมสลับกันไปมา



“สตู!!” ไอ้ธีม



“ก็ใช่ไง มันนี่แหละศัตรูของกูตอนนี้” ผมพูด ปริมยืนมองชุดสวยๆ ที่มีแต่คราบอาหารที่ผมสาดใส่เธอไป เธอชี้หน้าผมทำท่าจะอ้าปากด่าผม ผมชี้หน้าเธอกลับ อย่าได้คิดลองด่าสวนกลับมา เธอรู้จักผมดี



“ไม่ใช่กูหมายถึงที่มึงสาดไปน่ะ สตูเนื้ออาหารเที่ยงของพี่ปฐวีย์เขา  มึงเอาสาดอีเจ้ไปทำไม?”



“นี่แกเป็นบ้าอะไรของแกไอ้ตุ๊ด นี่มึงมาสาดกูทำไม” พี่ปริมถามผม ก่อนจะหันไปมองพี่ปฐวีย์ว่าจะทำยังไงแต่เขาแค่มองผม



“ยังมีหน้ามาถามอีก ทำไม ร่านมากหรือไง ตุบ ๆ ๆ ” ตามด้วยขนมปังที่เตรียมเอาไว้ ใส่ตะกร้าสวยงามแต่ตอนนี้มันกระเด็นไปอยู่ที่อีเจ้ปริมหมดแล้ว ผมหันไปมองบนโต๊ะ ว่าถาดต่อไปจะเอาอะไรดี แต่มันไม่มีของที่ถูกใจผมเลย



“คราวหน้ารบกวนสั่งผัดสะตอไว้ให้ด้วยนะครับพี่ปฐวีย์” ผมหันมาบอกพี่ปฐวีย์ “ฮือส์” พี่ปฐวีย์เลิกคิ้วสูง



“คุณปฐวีย์ไม่ทานสะตอค่ะ กลิ่นแรง” เลขาฯ พี่ปฐวีย์ตอบ



“แล้วนางชะนีนี้ล่ะ มันก็สตอเหมือนกัน ทำไมกินได้ล่ะ” ผมชี้ไปที่พี่ปริม



“เฮ้ย!!” ไอ้ธีม “นี่แกว่าใครสตอ ไอ้ภาคิน! “พี่ปริมลุกพรวดพร้อมออกมาพร้อมกับทำท่าจะง้างมือขึ้นจะตบผม แต่ผมคว้าถาดที่วางอยู่ตรงหน้าขึ้นมาทันที ง้างรอเหมือนกัน อีเจ้มันมองมือตัวเองกับถาดที่ผมถืออยู่ ถึงกับต้องลดมือลง



“อยากโล๊ะหน้าใหม่ไหมล่ะ ค่าปรับห้าร้อยบาทกูจ่ายมาเยอะแล้ว และรอบนี้จะส่งไปให้หมอมันเลาะเอาทุกอย่างออก"



"เพราะดูแล้วคงยัดเอาไว้นานแล้วมันกำลังเสื่อมสภาพ แต่รอบนี้คงได้เอาอย่างอื่นใส่ไปแทน” ผมพูด เจ้ปริมมองซ้ายมองขวา ไม่มีใครหน้าไหนกล้าเข้ามาช่วยนางเลยไง



“โดยเฉพาะดั้งจมูกมึงนี้น่ะรอบหน้าคงต้องกระดูกหมาแทน” ผมพูด “ฮึกๆ” ผมหันไปมองคนที่ปิดปากขำและหันไปมองทางอื่น นี้ยังมีหน้ามาขำอีกเหรอ พี่ปฐวีย์



“กรี้ดดดด อีตุ๊ด แกกล้าดียังไง แกรู้ไหมว่าพ่อฉันเป็นใคร แกอยากลองดีกับฉันใช่ไหม” พี่ปริมเธอกำหมัด จนสั่นไปทั้งตัว



“กูสนเหรอ ถ้ากูสนนี้คงไม่ถ่อมาหามึงหรอก อีพี่ปริม และพ่อก็แค่พวกอิทธิพลมืด กลัวอะไรวะ” ผมพูด



“ได้กูจะเรียกพ่อกูมา “พี่ปริมกำลังจะหยิบมือถือขึ้นมากดเพื่อโทรออก



“ปริม” คราวนี้พี่ปฐวีย์เรียกพี่ปริมไว้ “หยุดก่อนปริม” พี่ปฐวีย์ที่นั่งนิ่งเพิ่งจะยกมือห้ามปราม



“เดี๋ยวน่ะ รบกวนอธิบายให้พี่เข้าใจก่อนได้ไหมครับภาคิน ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ภาคินถึงได้โมโหปริมเขาขนาดนี้” พี่ปฐวีย์ยกมือห้ามผมกับพี่ปริม



“มันเกิดอะไรขึ้นครับภาคิน ใจเย็นๆ ก่อน”



“พี่ครับ มันเล่นอาหารพี่ไปจะครึ้งโต๊ะแล้ว นี่พี่พึ่งจะมาบอกให้มันใจเย็นๆ เหรอครับ” ไอ้ธีม พูดผมหันไปมอง แทบจะไม่เหลืออะไรไว้ให้พี่เขาแล้ว และอันที่จริงผมก็กำลังจะหยิบอาหารจานต่อไป ก็ต้องตัดสินใจวางมันลง เหลือให้สักอย่างแล้วกัน



“ภาคิน” พี่ปฐวีย์เรียกผมอีกครั้ง ผมหันไปมองพี่ปฐวีย์ ก่อนจะกลั้นใจหันไปบอกพี่ปฐวีย์ว่า



“วันนี้ไอ้ตั้นมันไปลงโปรแกรมโรงแรมเปิดใหม่ของพี่ แต่นางชะนีนี้ มันเอายาใส่น้ำให้ตั้นมันดื่ม มันร่านมากไง”



“นิ!! แก่….” พี่ปริมทำท่าจะเถียงผม แต่พี่ปฐวีย์ ชี้ให้พี่ปริมหยุด



“พาคุณปริมออกไปก่อน”



“แต่ว่าปริม” พี่ปริม



“เชิญครับปริม ถ้าปริมไม่ออกไป พี่ก็จะออกไปเอง แล้วคราวนี้ก็เรื่องของปริมแล้วน่ะครับ พี่ช่วยปริมได้แค่นี้ ว่าไงครับ “พี่ปฐวีย์พูด เลขาฯ ของพี่ปฐวีย์เดินไปพาปริมที่เนื้อตัวเต็มไปด้วย อาหารที่ผมสาดใส่เธอไป ชุดสวยๆ ลายดอกกุหลาบแดงนั้น



“ลายดอกกุหลาบนี้มันไม่ได้เข้ากับพี่เท่าไหร่หรอกน่ะพี่ปริม “ผมพูด เธอหันขวับมามองผม



“แล้วดอกอะไรวะถึงจะเข้ากับเจ้มัน เอ๊ย! เจ้ปริมเขา” ไอ้ธีมมันถามผม ผมยืนกอดอกและหันมามองหน้าไอ้ธีมก่อนจะหันไปมองพี่ปริมที่ยืนรอฟังผมอยู่



“ดอกที่มันสีออกทองๆ ”



“อ้อ! ดอกทองไง…เฮ้ย! เจ้ผมไม่ตั้งใจน่ะเจ้น่ะ” ไอ้ธีมมันพูด ผมยืนยิ้ม กูไม่ได้ด่ามึง ไอ้ธีมมันด่ามึง และพี่พี่ปริมก็หันขวับไปมองไอ้ธีมทันที ไอ้นี่ก็ยกมือไหว้ขอโทษอีกเจ้มันอีก  (กูไม่น่าหลวมตัวไปชงมุขกับมึงเลยไอ้เชี้ย!) ไอ้ธีมกระซิบกับผม



“แร๊งส์!!! “เลขาฯ ของพี่ปฐวีย์พูด “อุ้ย!! ขอโทษค่ะคุณปฐวีย์”



“อ้ายยยย!!! มึงอยากลองดีกับกูหนักใช่ไหมไอ้ภาคิน!!”



“ออกไปเดี๋ยวนื้ ปริม!” อันนี้แหละที่ทำให้นางชะงักเหมือนโดนกดปุ่มสต๊อป และนางก็ต้องจำใจออกไปแต่โดยดี ผมหันมามองพี่ปฐวีย์ที่ยังคงนั่งอยู่ โดยไม่ได้ลุกออกมาเลย เขามองหน้าผมเหมือนไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น



“ผมไม่อยากรู้เหตุผลว่าพี่จะเอาผู้หญิงคนนี้ทำไมเพราะว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการ แต่พี่ควรจะหยุดความบ้าของนาง ใช่เมื่อก่อนไอ้ตั้นมันเคยกับปริม แต่มันหยุดแล้ว ดังนั้นพี่ควรจะหยุดคนของพี่ซะด้วย”



“อย่าให้ผมเห็นผู้หญิงคนนี้ทำกับเพื่อนผมอีก เจอหนักกว่านี้แน่และผมก็ไม่สนว่าเธอลูกใครด้วย”



“และผมก็ไม่สนว่านางจะเป็นอะไรกับพี่ ผมสนแค่ อย่ามายุ่งกับเพื่อนผม เข้าใจตรงกันนะพี่ปฐวีย์” ผมพูดก่อนหันไปพยักพเยิดให้ไอ้ธีมออกไปจากที่นี้ดีกว่า ผมเดินออกมายืนสงบสติอารมณ์ตัวเองที่หน้าห้องรับรองของพี่ปฐวีย์



“มึงแม่ง สุดยอดเลยว่ะคิน กูนับถือมึงเลยว่ะ” ไอ้ธีมมันยืนมองผม ผมเงยหน้ามองมัน



“หมับ!” มันกอดผมขณะที่ผมกำลังระงับอารมณ์ตัวเอง ว่าให้พอแค่นี้ ผมยืนเอามือล้วงกระเป๋าอยู่ ผมพยักหน้ากับไอ้ธีมว่าผมโอเคแล้ว



“กลับกันเถอะว่ะ” ผมบอกไอ้ธีม



“ไปไหนต่อว่ะที่นี่ ไปหาไอ้ตั้นไหมว่ะ” ไอ้ธีมมันถามผม ขณะที่ผมหมุนตัวเดินออก



“คงไม่ต้องมั้ง เมียมันอยู่และมันโดนไปขนาดนั้นมันคง ….” ผมพูด ต่อให้ผมจะยอมมันกับเมย์แต่ผมก็คงทนเห็นไม่ได้



“เออ กูถามอะไรอย่างดิว่ะ ตกลงพี่ปฐวีย์แกคือคู่หมั้นอีเจ้แน่เหรอว่ะ”



“ทำไมว่ะ” ผมหันไปมองไอ้คนที่ถามผม



“ก็ตอนที่มึงเข้าไปยำอีเจ้ พี่เขาไม่มีลุกขึ้นมาปกป้องอีเจ้เลย มีแต่นั่งมอง แลดูพี่แกใจเย็นยิ่งกว่าน้ำแข็ง และเกือบจะปล่อยให้อีเจ้มันตายอย่างสงบศพสีชมพูเพราะมึงนี่แหละครับ” ไอ้ธีมมันพูด ผมเองก็แค่ยักไหล่ ไม่ใช่เรื่องของผม



“แคร์เหรอว่ะ “ผมพูดและเดินมาที่ด้านหน้าโรงแรม รถของผมก็จอดเหมือนเดิม โดยมีพนักงานโบกให้รถที่เข้ามาเป็นฝ่ายหลบรถเก๋งคันหรูของผมเอง ทันทีที่ไอ้ธีมขึ้นรถผมก็ขับออกไปทันที เบิร์นซะจนกลิ่นยางไหม้คคละคลุ้งไปทั่ว จนเข้ามาภายในตัวอีกด้วย

-------------------------------

ผมนั่งสงบนิ่งดูปริมโดนภาคินเอาอาหารที่ถูกจัดไว้บนโต๊ะ สาดใส่เธออยู่พักหนึ่ง ผมยอมรับว่าผมดูใจร้ายที่ไม่เข้าไปห้ามปรามแต่นี่เธอทำตัวเธอเอง ส่วนภาคิน หนุ่มเลือดร้อนก็ร้อนซะจน เพื่อนเขาเองก็ห้ามไม่อยู่ แต่ว่ามันกลับทำให้ผมนั่ง ใช้นิ้วเรียวๆ เคาะโต๊ะเป็นจังหวะดูเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ทำไมเขาถึงได้ทำให้ผมสนใจเขาซะเหลือเกินน่ะ ตอนนี้ภาคินเดินออกไปแล้วแถมยังทิ้งไว้ได้น่ากลัว ไม่ใช่ผมแต่ควรจะเป็นปริมซะมากกว่าถ้าเธอยังดื้อรั้นที่จะไปยุ่งกับตั้นอีก นั้นแปลว่าเธอหาเรื่องใส่ตัวเอง



“ยิ้มแบบนี้ แสดงว่า” เลขาฯ คนสวยของผมพูด



“เขาน่าสนใจ อยู่นะ “ผมพูดก่อนดึงผ้ากันเปื้อนขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะอาหาร



“ดิฉันก็คิดว่าคุณปฐวีย์คงสนใจในตัวเขาแน่ๆ เพราะดูจากที่คุณปฐวีย์อมยิ้มออกมาขนาดนั้น” เลขาฯ ของผมพูด



“แล้วเรื่องคุณปริมล่ะคะจะเอายังไงดีคะ “เลขาฯ ผมถามขึ้น



“โทรบอกให้เขาเช็กกล้องวงจรปิดทุกตัว และเก็บภาพเอาไว้ให้ผม ผมจะเอามาเป็นหลักฐาน”



“แค่เธอเข้าไปที่นั่น ผมก็ว่าผิดแล้วน่ะ และยิ่งไปทำตัวน่าเกลียดแบบนี้ด้วย ก็ยิ่งผิดเข้าไปใหญ่”



“แต่มันไม่เพียงพอที่จะทำให้ผมฟ้องถอนหมั้นโดยที่ผมจะได้บ้านของเมย์ คืน ถ้าผมขอถอนหมั้นก่อน” ผมพูดก่อนจะลุกขึ้น ผมเดินไปตามที่เลขาฯ ของผมนำไป เพื่อไปดูปริม ผมเดินหยุดที่หน้าห้องพักแขกวีไอพี



“แต่มันก็เพียงพอที่คุณปฐวีย์จะถอนหมั้นเธอโดยไม่เสียอะไรเลยนะคะแต่ยกเว้นบ้านหลังนั้น”



“นั้นไงผมถึงต้องรอก่อน แต่สิ่งที่เธอทำมันเกือบจะทำให้ผมหมดความอดทนเข้าไปทุกวัน” ผมพูดก่อนจะให้คนของผมเปิดประตูเข้าไป ปริมยืนอยู่เธอคงเดือดโมโหน่าดู



“พี่ทำแบบนี้ได้ยังไง พี่ทนให้ไอ้บ้านั้นมันมาทำร้ายปริมแบบนี้” ปริมหันมาตะคอกเสียงดังใส่ผม



“เธอทำตัวเอง” ผมพูด เธอสะบัดหน้ามามองผม เธอกำหมัดแน่น ด้วยความโกรธ



“เธอกล้าดียังไงถึงได้ไปทำเรื่องน่าอับอายแบบนั้นที่โรงแรมของผมแบบนั้น ปริม”



“พี่คงไม่รู้ว่าปริมกับตั้นเขา”



“รู้ ผมรู้ทุกอย่าง แต่ผมไม่แคร์ว่าคุณจะไปนอนกับใครที่ไหน มันเรื่องของคุณ”



“แต่ผมจะเตือนคุณอีกอย่าง อย่าทำให้ผมหมดความอดทน ผมอาจจะถอนหมั้นคุณแบบฟ้าผ่าเลยก็ได้นะปริม”



“พี่ไม่กล้าหรอกพี่ปฐวีย์ เพราะบ้านอีเด็กนั้นมันคือเดิมพันอยู่ตอนนี้ พี่อยากได้มันคืนให้เด็กนั้นไม่ใช่เหรอคะ”



“แต่ถ้าถอนหมั้น ปริมก็จะได้บ้านและปริมก็จะไปเอาตั้นคืนมา จากเด็กบ้านั้น”



“แต่เด็กนั้นมันคง ไม่เอาพี่หรอกมั้งค่ะ เพราะว่ามันเสียบ้านที่มันรักหนักหนา “ผมถึงกับต้องยืนกำมือแน่น



“พี่รักมันมากไม่ใช่เหรอคะ รักมากขนาดมากต้องลาออกจากการเป็นอาจารย์เพราะว่ามัน” ผมยืนกำมัดแน่น ถ้าคนตรงหน้าไม่ใช่ผู้หญิงคนโดนไปแล้ว



“แล้วไงพอไปโดนของคนอื่นเขาติดใจจนไม่กลับมาหาพี่เลย หึ หึ” ผมหันมามองหน้าเธอ ผมอยากจะ



“อย่าค่ะคุณปฐวีย์ “เลขาฯ ของผมจับแขนผมเอาไว้เพื่อห้ามผม



“คุณปฐวีย์ค่ะ คุณพ่อของคุณปริมมาค่ะ “เลขาฯ ของผมบอกผม สักพักประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามา พ่อของปริมมองหน้าผมและมองหน้าปริมตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า



“ใครมันทำกับลูกสาวผมแบบนี้คุณปฐวีย์!!!”



“และนี้คุณดูลูกสาวผมยังไง มีคนมาทำร้ายเธอโดยไม่คิดจะปกป้อง”



“ถ้าลูกสาวของคุณทำตัวถูกต้องผมก็จะปกป้องอยู่นะครับแต่นี่เธอทำตัวได้น่าเกลียดที่สุด!!!”



“พฤติกรรมแบบนี้ มันเป็นเรื่องปกติของผู้หญิงเขาทำกันหรือครับ?” ผมถามพ่อของเธอกลับ



“ลูกสาวผมไปทำอะไร คุณปฐวีย์”



“เธอกล้าขนาดที่วางยาผู้ชายเพื่อจะ ทำอะไรที่น่าเกลียด ในโรงแรมใหม่ของผม คุณคิดว่าผมควรจะปกป้องเธอในฐานะอะไรดี คุณดิเรก!! “ผมหันไปมองหน้าพ่อของปริม



“คู่หมั้นรึ ผมก็กระดากปากที่จะพูดมันออกมา ผมไม่เคยเจอะเคยเจอผู้หญิงอะไรแบบนี้ คุณควรจะอบรมเรื่องพวกนี้กับเธอให้มากๆ ซะก่อนจะให้เธอไปมีครอบครัว เพราะว่านี้มันแสดงให้เห็นว่าเธอยังไม่พร้อม!!” ผมพูดพร้อมกับพยายามสูดลมหายใจเพื่อลดลั่นความโกรธลง ผมได้แต่ยืนกำมัดอยู่ในกระเป๋ากางเกง

คุณดิเรก เขาก็หันมามองหน้าลูกสาวที่ยืนหน้าถอดสี ผมรู้ว่าเธอกลัวพ่อที่สุด จะว่าไปเหมือนจะทำให้ผมเห็นใจถ้าเธอไม่ทำตัวเหมือนไม่เคยแคร์ความเดือดร้อนคนอื่นเขาแบบนี้



“ใคร มันเป็นใคร!!” พ่อของปริมหันไปถามลูกสาว เธอไม่กล้าตอบพ่อของเธอ ได้แต่ก้มหน้าลง



“ไอ้ ที่เปิดบริษัทเฮงซวยอะไรนั้นนะเหรอ ….เพี๊ยะ!” เสียงฝ่ามือกระทบที่ใบหน้าของปริม



“นังลูกไม่รักดี!!”



“เพี๊ยะ!”



“ผมว่าคุณพาลูกสาวคุณกลับไปก่อนเถอะครับ ผมมีประชุมต่อ”



“และช่วยดูแลลูกสาวคุณหน่อยนะครับ เพราะว่าเธอทำให้ผมเหลืออดขึ้นมา ผมมีสิทธิ์จะถอนหมั้นเธอได้ทุกเมื่อ และข้อตกลงทุกอย่างเป็นอันยุติ “ผมพูดก่อนจะเดินออกโดยไม่ได้หันไปมองหน้าเธอสักนิด



“อันที่จริงถ้าคุณปฐวีย์จะถอนหมั้นเธอก็ได้นะคะ เรื่องวุ่นวายพวกนี้มันจะได้จบและเธอ” เลขาฯ เดินตามผมมาติด ผมรู้ว่าเธอก็เห็นความวุ่นวายของผมตั้งแต่ผมได้ตกลงหมั้นกับเธอ



“รออีกสักหน่อยดีกว่า ว่าแต่ตอนนี้หลักฐานที่เธอทำตัวเหลวแหลกน่ะเยอะพอสมควรหรือยังละครับ”



“ได้มาพอสมควรแล้วค่ะ”



“ผมรอจะคุยกับเมย์ก่อน เพราะว่าผมยืนมือเข้าไปช่วยเขาแล้ว ผมก็ยังคงจะทำต่อ ถ้าเขาต้องการ “ผมพูดแค่นั้นและเดินกลับเข้าห้องทำงานผมทันที วันนี้พ่อแม่ผมจะบินมาจากต่างประเทศด้วย ผมจะไม่ทำสีหน้ากังวลใจไปให้พ่อแม่ผมถามแน่นอน

--------------------------

ปริม เธอนั่งอยู่ในรถคันหรู พ่อเธอคือนักการเมืองที่มีชื่อเสียง มีหน้ามีตา แต่จู่ๆ ก็มีใครก็ไม่รู้เอาบ้านมาจำนอง บ้านมันก็ไม่ได้น่าสนใจอะไรหนักหนา แต่มันดันมาเป็นบ้านที่พี่ฐวีย์พยายามมาขอซื้อต่อพ่อของเธอ แต่พ่อของเธอดันคิดแผนใหญ่กว่านั้นหลังจากที่ทราบว่าคุณปวีย์คือใคร ลูกชายคนเดียวของเจ้าของโรงแรมชื่อดัง หลักทรัพย์เป็นหมื่นล้านบาท และนี้คือสาเหตุที่บ้านถูกนำมาเป็นข้อต่อรองให้เขาหมั้นหมายกับเธอ



ปริม เป็นผู้หญิงที่สวย หนุ่มคนไหนก็ต้องหลงใหลเธอ แม้กระทั่งตั้น ที่หลงเธอในครั้งแรกที่เจอ เธอเองก็ไม่คิดถึงขั้นรักแค่สนุกเพราะว่าเรื่องบนเตียงตั้นไม่ธรรมดา เขาตอบสนองเธอได้ดี และพ่อเธอเองก็ได้จับผู้ชายที่หล่อรวยมาให้เธอพร้อมกัน เธอควรจะเลือกตามที่พ่อบอกแต่ เธอกับรู้สึกรักตั้นหวงตั้นขึ้นมา แต่เธอเองกลับเป็นคนขอร้องตั้นให้ช่วยกำจัดเมย์ให้ออกไปให้พ้นทางเธอซะก่อน และเธอก็ไม่คิดว่าตั้นจะเป็นคนทำซะเอง เธอไม่เคยคิดว่าตั้นจะทำแบบนั้นกับผู้ชายเอง เธอเสียใจโกรธตัวเอง ตอนนี้เธอไม่ต้องการเสียตั้น เธอไม่อยากเสียเขาไป เธอต้องทำให้ตั้นกลับมาหาเธอให้ได้



“อย่าให้ฉันเห็นแกทำตัวน่าเกลียดแบบนี้อีกน่ะ เข้าใจไหม” พ่อของเธอพูดและทำท่าจะง่างมือตบเธอแต่ ก็ชะงัก



“ทำไมค่ะพ่อ ถ้าคุณปฐวีย์เขาถอนหมั้น มันก็จบ ปริมจะไปเอาคนที่ปริมรักคืน ปริมรักตั้น ปริมไม่อยากแต่งกับคนซื่อบื่อ อย่างคุณปฐวีย์อะไรนี้แล้ว”



“ไอ้เวรนั้นอ่ะน่ะ มีอะไรดี”



“แล้วทำไมพ่ออยากให้ปริมแต่งกับคุณปฐวีย์ทั้งที่เขา”



“แต่เขามีอะไรดีกว่า ธูรกิจมากมาย ลูกคนเดียว มึงหาได้อีกไหมแบบนี้น่ะ อย่าทำให้กูต้องทำในสิ่งที่กูไม่อยากทำ มึงเป็นลูก ตอบแทนกูแค่นั้น” พ่อของปริมลงจากรถไป ปล่อยให้เธอลงมายืนร้องไห้ โดยมีแม่ที่ไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้เลย เข้ามาปลอบโยน เธอกำมัดแน่น เพราะแกคนเดียวไอ้เด็กบ้า คอยดูนะฉันจะจัดการกับแก เอาให้แกไม่มีที่ยืนเลย



“ส่งคนจับตาดูนังเมย์มัน ถ้าวันไหนมันออกมาคนเดียว จัดการมันให้ด้วย “ปริมโทรบอกคนที่เธอเคยให้เงินช่วยเหลือ มันเป็นเพื่อนกับไอ้รงค์ ไอ้คนที่เธอสั่งให้เอาเมย์ไปขายให้เสียคนหนึ่งแต่พี่ปฐวีย์ดันไปช่วยมันออกมาซะนี่



“ตอนนี้ต้องรอครับคุณปริม ไอ้รงค์มันเพิ่งติดคุกไป พวกผมยังทำอะไรไม่ได้ ถ้าทำขึ้นมาคงตามไอ้รงค์มันไปแน่ๆ”



“กลัวอะไร ในเมื่อพ่อฉันใหญ่”



“แต่คุกมันใหญ่กว่านี้คุณ”



“แต่ถ้าผมหาโอกาสได้ผมจะบอกคุณปริมอีกทีแล้วกัน ผมเองก็อยากได้เด็กนั้นอยู่น่ะ มันขาวน่าเอาดี”



“รีบๆ หน่อยน่ะ แค่นี้ละ” ปริมเธอกดวางสายก่อนจะเดินหันหลังเข้าบ้าน



“ปริม แม่ว่าพอเถอะลูก”



“หนูไม่หยุด ถ้าหนูไม่ได้ อีเด็กนั้นก็ไม่ได้และหนูจะเอามันให้เหมือนตกนรกทั้งเป็น” ปริมพูดกับแม่ของเธอ ที่ยืนฟังการสนทนากับคนในสาย เธอเดินหันหลังขึ้นบ้าน แถมผับพี่ชายไอ้ธีม มันก็ไม่ยอมให้เธอเข้าไปอีก เพราะว่าเธอไปตบหน้าแฟนพี่ชายไอ้ธีมมัน มันเลยสั่งห้ามเธอเข้า มันยิ่งทำให้เธอเดือดดาดยิ่งหนัก

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนหน้า พระเอกนายเอกเขาจะ จุด จุด จุด กัน 
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤ EP.1ุ6 (พี่ปฐวีย์ VS ภาคินVSปริม)
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 24-11-2020 09:45:48
 :hao6:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤ EP.1ุ6 (พี่ปฐวีย์ VS ภาคินVSปริม)
เริ่มหัวข้อโดย: Tanthai23 ที่ 24-11-2020 19:27:52
มาปูเสื้อรอ :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤ EP.1ุ6 (พี่ตั้นVSเมย์)พี่ขอได้ไหมครับคืนนี้NC18+
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 24-11-2020 21:21:56
   หลังจากที่พวกเพื่อนผมพากันกลับไปผมก็นั่งๆ นอนๆ มีเมย์มานั่งอ่านหนังสือข้างๆ ผมและดูแลผมไปด้วย ผมยอมรับว่ายังมืนๆ งงๆ เพราะว่ายาที่พี่ปริมใช้กับผมมันค่อนข้างแรง แต่ดีที่ผมตั้งสติไม่ทำแบบนั้นไป อันที่จริงก็เกือบทำแล้ว และพอผมกลับมาที่ห้องผมกลับไม่อยากทำแบบนั้นกับเมย์ คือถ้าผมทำไปเพราะฤทธิ์ยา มันไม่ได้มาจากความรู้สึกจริงๆ ของผม แต่ว่าเมย์เขากับเข้ามาช่วยผม โดยการใช้ปากเล็กๆ น่ารักนั้น ทำไมเมย์ถึงได้น่ารักแบบนี้น่ะ นี่ผมนอนตะแคงกอดอก มองคนที่หลับอยู่ข้างๆ ผม

“ปึก” เมย์พลิกตัวมานอนตะแคงหันหน้ามาหาผม ยิ่งทำให้ผมหายใจแรงขึ้น

“นอนไม่หลับอีกแล้วเหรอครับ เฮีย” เมย์ลืมตาขึ้นถามผม

“คือเออ” ผมยังคงกอดอกมองคนที่นอนอยู่

“ครับ?” เมย์

“เมย์พี่ …” ผมอยากจะขอเมย์ เมย์ก็มองผมตาแป๋ว ริมฝีปากผมขยับเข้าหากัน ยิ่งเห็นริมฝีปากของเมย์แล้วผมเหมือนจะอดใจไม่อยู่ ผมค่อยๆ ใช้แขนของผมสอดเข้าไปรวบเอวของเมย์เข้ามาหาผม สายตาเมย์ที่มองผมตลอด

“ปึก “ร่างเล็กเข้ามาปะทะกับร่างของผมที่นอนตะแคงอยู่ ลมหายใจของเมย์กระทบอยู่ที่แผ่นอกของผม เสียงหัวใจของเมย์เต้นแรงมาก จนหมือนจะทะลุออกมาอยู่ข้างนอก ผมค่อยๆ ใช้ฝ่ามือประคองใบหน้าของเมย์เอาไว้ ริมฝีปากของผมค่อยๆ แตะริมฝีปากเม้มแบบค่อยๆเบาๆ เหมือนการหยอกเย้า เมย์เผยอริมฝีปากรับ ผมเริ่มกดลงหนักขึ้นและบดขยี่หนักหน่วงขึ้น มือของเมย์ค่อยๆ เลื่อนไปโอบไหล่ผมเอาไว้เพื่อโอบตัวของผมให้เขาหาอีก ลิ้นนุ่มๆ เริ่มสอดใส่เข้าไปด้านในเพื่อควานหาความหวานด้านใน ขาของผมค่อยๆ สอดเข้าไปอยู่ระหว่างขาเมย์และเริ่มสีกันเบาๆ การจูบของเมย์ดูเกร็งๆ มันยิ่งทำให้ผมกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ นั้นแปลว่าเขาไม่ได้ช่ำชองในเรื่องแบบนี้ อย่างที่ผมเคยคิดเอาไว้

“อ้าห์ “เมย์ครางออกมาเบาๆ เมื่อนิ้วมือเรียวๆ ของผมสอดเข้าไปด้านในเสื้อยืดสีขาวที่เมยใส่นอนประจำ นิ้วเรียวๆ ของผมกำลังเขี่ยตุ่มเล็กๆ ตอนนี้มันแข็งสู้นิ้วผมน่าดู เมย์ยิ่งหายใจถี่ขึ้น

“พี่ขอได้ไหมครับ” ผมกระซิบกับเมย์

“ทำไมไม่ขอตั้งแต่เมื่อตอนกลางวันละครับ ถ้าพี่ขอเมย์ตอนนั้นเมย์ก็ให้น่ะ เมย์ใจไม่ดีเลยที่เห็นพี่เป็นแบบนั้น” เมย์กระซิบถามผมและน้ำเสียงของเขาบอกได้ว่าเขาเป็นห่วงผมมากแค่ไหน

“คือพี่ ไม่อยากทำแบบนั้นเพราะว่าพี่โดนยา มันให้ความรู้สึกไม่เหมือนกัน และพี่อาจจะกระทำรุนแรงโดยไม่รู้ตัวเพราะพี่ควบมันไม่ได้ พี่แค่กลัวทำเมย์เจ็บอีก เหมือนวันแรกนั้น “ผมพูดและเมย์ก็ใช้ฝ่ามือแตะที่ใบหน้าผม

“แต่กว่าจะข่มอารมณ์ความต้องการของตัวเองได้ก็เกือบตายเหมือนกันน่ะ “ผมพูดกับเมย์

“ผมเชื่อว่าพี่จะไม่ทำให้ผมเจ็บอีก เรามาทำด้วยกันไหมครับ เมย์ว่าเมย์พร้อมแล้ว” เมย์พูดกับผม ผมค่อยพลิกเมย์ลงไปนอนราบและผมก็ลุกไปทาบทับเมย์แต่ไม่ทิ้งน้ำหนักลงทั้งตัว ผมถอดเสื้อยืดผมออก ผมชอบใส่เสื้อยืดนิ่มๆ นอนมากกว่า ผมโน้มตัวเองลงไปหาเมย์ เมย์มองมาที่รอยสักสี ที่ผมสักเอาไว้ที่อกด้านขวา เป็นรูปดอกกุหลาบเขียนเอาไว้ว่า” Love Mum” ผมแอบไปสักมาตั้งแต่เข้าเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว เมย์ใช้นิ้วมือเรียวสัมผัสอย่างเบามือ

“ผมชอบรอยสักเฮียจัง”

“พี่จะสักอีกที่ต้นแขนพี่ดีไหมครับ สำหรับเมย์” ผมพูด

“ผมว่าสักไว้ตรง ….หมับ” เมย์พูดและจับแกนกายผมที่ยังอยู่ภายในกางเกงแพรตัวนิ่มๆ ขาสั้น ผมก้มลงมองมือของเมย์ กุมไว้เป็นตัวประกันเลยน่ะ ให้สักตรงนี้เลยเหรอ (เจ็บตายเลยผมว่า)

“จะได้ไม่มีใครมาแย้งไปจากผม”

“ไม่ต้องหรอกครับ พี่ไม่ให้ใครมาแย้งแล้ว ต่อไปจะใส่กุญแจเลย อืมมม เอาไว้ให้เมย์คนเดียว” ผมพูดและซุกไซ้คนที่นอนอยู่เบื้องล่าง ปลายนิ้วเรียวของผมเขี่ยชายเสื้อของคนตัวเล็กให้ถลกขึ้นไปจนเผยให้เห็นผิวที่เรียบเรียนและขาวราวกับหยวกกล้วยนั้น เมย์ยังคงมองผมตาแป๋ว ผมค่อยเลื่อนตัวเองลงไปที่หน้าท้องแบนๆ จุบเบาๆ แค่นั้นก็ทำให้คนที่นอนสะดุ้ง ผมยิ่งขบเม้มเบาๆ ผมรับรู้ได้ว่าเมย์เริ่มแอ่นขึ้นและก็ลง นิ้วมือผมก็ลูบคลำติ่งเล็กสองจุดที่แข็งชูชัน

“อะ อ้าห์ เฮีย ผะ ผม เสียว” เมย์ร้องครางออกมา ผมก็เลื่อนลงไปเรื่อยๆ จนถึงขอบกางเกงที่เมย์ใส่นอน ผมค่อยๆ ใช้มือถึงขอบลงไปจนเผยให้เห็นเนินที่มีขนอ่อนๆ ไม่มากเหมือนผม ผมจัดการเม้มปากกับสิ่งนั้น

“อ้าห์” เมย์ร้องครางและแอ่นตัวขึ้น “อื้มมมม “ก่อนจะแอ่นลงอีกครั้งและครางออกมาเบาๆ มือที่จับของกางเกงก็รูดกางเกงขาสั้นของเมย์ลงไปเรื่อยๆ จนเผยให้เห็นน้องหนู น้องหนูจริงๆ เล็กน่ารักกระจุ๋มกระจิ๋มเชียว ผมยอมรับว่าวันนั้นไม่ได้มอง เพราะหลับหูหลับตาทำให้เสร็จๆ ไป

“เล็กน่ารักเนอะ” ผมเงยหน้าขึ้นไปแซวเมย์ เมย์กระดกหัวขึ้นมองผม ทำตาเหลือกขึ้นมองบน

“ล้อเล่น” ผมพูดและก้มลงปรนเปรอภรรยาต่อ ปกติตั้นเคยทำให้ผู้หญิงแต่วันนี้กลายมาเป็นผู้ชาย (กับพี่อิศเรศ พี่อิศเรศเป็นฝ่ายปรนเปรอให้ผมมากกว่าแต่แปลกที่ผมกับพี่อิสเรศยังไม่เคยมีอะไรกันเกินเลยไปกว่าการสอดใส่)

“อ้าห์ “มือของเมย์กุมหัวผมเอาไว้ ผมก็ค่อยๆ ใช้ปากครอบส่วนหัวเล็กๆ นั้น กลิ่นสบู่หอมๆ มันแตะปลายจมูกของผม

“อ้าห์! “เสียงครางลากยาวและแอ่นร่างขึ้น “กรื้ดดดดด!” กรงเล็บที่จิกผ้าปูที่นอน ผมรับรู้ได้ว่าส่วนนั้นของเมย์กะตุ๊ก ก่อนที่ของเหลวจะพุ้งออกมา ผมก็มองและกำลังจะทำความสะอาดให้แต่ว่า

“ไม่เอา พี่ตั้น ไม่เอามัน” เมย์พยายามดันหน้าผมออก

“ทำไมละครับ วันนี้เมย์ยังจัดการให้พี่ซะสะอาดเรี่ยมเลย ขอพี่ทำให้บ้างนะครับ แม้ว่าจะไม่เคยก็ตาม” ผมบอกคนตัวเล็กและค่อยๆ ใช่ลิ้นเลีย รสชาติแปลกๆ ผมก็จัดการจนหมดเกลี้ยง ผมค่อยเลื่อนตัวเองขึ้นมามองคนที่นอนราบ

“ขอพี่บ้างนะครับคนดี” ผมพูดบอกเมย์

“พี่สัญญาว่าพี่จะทำอย่างทะนุถนอมที่สุด”

“จริงนะ ผมยังกลัววันนั้น”

“พี่ขอโทษ แต่วันนี้พี่จะทำให้เมย์ลืมภาพความบ้าของพี่วันนั้น นะครับคนดี” ผมพูดพร้อมกับก้มลงจูบเมย์ อย่างหนักหน่วงและเร่าร้อน และเริ่มลากยาวลงที่ลำคอขาวเนียนนั้น มือผมก็ถลกเสื้อยืดจองเมย์ขึ้นมาและถอดมันออกไปเมย์รีบเอาแขนมาหนีบปิดสองจุดนั้นทันที

“ปิดทำไมละตัวเล็ก” ผมถามเมย์ และจับแขนออก และค่อยๆ ก้มลงใช้ปากดูดดุนสองจุดนั้น ปกติจะเป็นอกตูมๆ จนแทบจะอุดจมูกผมตายแต่อันนี้แบน แต่มันกแปลก อันนี้กลับปลุกเร้าอารมณ์ผมยิ่งหนัก ผมค่อยๆ ใช้ลิ้นตวัดเล้าโลม และคนที่โดนสัมผัสก็สะดุ้ง พร้อมกับพยายามบิดตัว ผมจับแขนเขาไว้ด้านข้างๆ ปลายลิ้นจองผมฉกเลียเล่นกับสองจุดนั้นสลับไปมาจน

“พี่ตั้น อย่าแกล้งผมซิ ผมเสียวววว” เมย์พูดด้วยเสียงกระเซ้า

“แต่พี่ไม่มีเจลนะซิ “ผมพูดขึ้น เมย์กระดกหัวขึ้นมองผม

“เออ พี่ตั้น ผม “เมย์ทำท่าจะพูดแต่ก็ก้มหน้าลงเหมือนจะเขิน

“ผมซื้อมาเอาไว้ในตู้อ่ะ ตู้ที่ในห้องน้ำ พี่ตั้น” เมย์พูดพร้อมกับก้มหน้าลงด้วยอาการเขิน

“ห้ามแซวน่ะว่าทำไมผมซื้อมา ไม่งั้นจะให้ไปใช้มือทำเองในห้องเลย” คนที่มุดหน้าหนีผม พูดบอกผมแบบนั้นแล้วผมจะกล้าแซวเหรอครับ เดียวแทนที่จะได้สุขสมเลยต้องไปช่วยตัวเองจริงๆ ในห้องน้ำ ผมรีบวิ่งเข้าไปเปิดตู้ ก็เห็นหลอดเจล สำหรับกิจกรรมอย่างว่า ผมรีบกลับมานั่งคุกเข่าลง ค่อยๆ บีบเจลลงที่นิ้วมือผม และค่อยจับขาเมย์ตั้งขึ้น และค่อยๆ สอดใส่นิ้วเข้าไป เพื่อลดอาการบาดเจ็บหากผมจะทำแท่งร้อนผมใส่ไปเลย

“อืมมม” เมย์ครางออกมาเบาๆ พร้อมกับผ่อนลมหายใจออกมาด้วย แค่นิ้วยังรู้สึกได้ว่ามันคับแน่นและตอดนิ้วผมจนรู้สึกตุบๆ ไม่อยากจะคิดถึงส่วนนั้น และตามมาด้วยนิ้วที่สอง ผมคิดว่าสองนิ้วคงเพียงพอดูจากสีหน้าเมย์ที่เหยเก ไม่อยากแกล้งตัวเล็ก ผมเริ่มละเลงเจลลงที่ช่องทางรักของเมย์ ผมยังใช้นิ้วสร้างความคุ้นเคยอยู่

“อ้าห์ พี่ตั้น ผม อ้าห์ ผมเสียว “เมย์ครางออกมาจนผมเริ่มฟังไม่ได้ศัพท์ ร่างกายที่บิดไปมาจนผมต้องจับต้นขาเมย์เอาไว้

“พี่จะใส่แล้วน่ะ เมย์ “ผมบอกเมย์ เขาก็หยุดดิ้น ผมรับรู้ได้ว่าเมย์กำลังกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ ผมค่อยใช้แท่งร้อนของผมที่ไม่ได้สวมถุงละเลงเจลลงไป ก็ในห้องนี้ไม่มีถุง ก็เพราะว่าถุงผมเอาไว้ที่ห้องสำหรับพาหญิงมาร่วมรัก ผมเองก็ไม่เคยมั่วกับใครโดยไม่ใช้ถุงแต่นี้เมย์คือคนแรกของผม ที่จะปล่อยแบบสดๆ กับพี่ปริมผมยิ่งไม่เคยพลาดที่ไม่ใส่ถุงเช่นกันแต่วันนี้ผมก็เกือบไปแล้วเหมือนกัน คิดแล้วก็เสียวขึ้นมาทันที ไม่ได้มีอารมณ์เสียวกับเจ้น่ะแต่เสียงว่างานผมจะเข้า

“อ้าห์ “เมย์ครางเมื่อตรงส่วนปลายของผมสัมผัสเบาๆ เพื่อสร้างความคุ้นเคยให้กับบริเวณปากทาง หูรูดตรงนี้มันค่อนข้างบอบบาง ผมต้องระวังให้มาก ทันทีที่ผมรู้สึกว่าเมย์พร้อมและช่องทางรักก็พร้อม ผมก็ยกขาเมย์ขึ้นพาดที่ไหล่ผม ผมคุกเข่าลงและค่อยจ่อสิ่งนั้นเข้าไปช้าๆ

“เมย์ ดันเข้ามาหาพี่เมย์จะได้ไม่เจ็บน่ะ “ผมบอกเมย์ พร้อมกับจับสะโพกเมย์เพื่อให้เขาเป็นฝ่ายกดสะโพกเข้าหาผมไม่ใช่ให้ผมทิ่มแท่งเข้าไปเมย์จะเจ็บ (อันนี้ผมไปหาอ่านในเน็ตมา ประสบการณ์แรกมันสอนให้ผมรู้ว่านั้นคือสิ่งที่ผิดพลาด) เมย์ค่อยทำตามที่ผมบอก น้องน่ารักมาก จนส่วนหัวเข้าไปและผมก็ต้องหยุดก่อน สีหน้าเมย์บอกได้ว่าเจ็บ ผมต้องรอให้เมย์ดีขึ้นก่อนและค่อยจัดการดันไป เมย์เกร็งช่องทางรักเป็นจังหวะจนผมรับรู้ได้

“ฟู่” ผมเองที่พ่นลมหายใจออกมาเป็นจังหวะเช่นเดียวกันเพราะว่ามันคับแน่น แน่นกว่าตอนที่ผมมีอะไรกับผู้หญิงซะอีก มันแน่นมาก จนบีบรัดแท่งร้อนของผม

“อ้าห์ เมย์ มันแน่น ตอดรัดของพี่”

“อ้าห์พี่ตั้น ผมอึดอัดอ่ะ อ้าห์ “เมย์ก็ครางออกมา พอผมหยุดเมย์ก็จับแขนผมขยับให้ผมดันต่อไปจนมิด กว่าจะถึงเล่นเอาผม พ่นลมออกมาไม่รู้กี่รอ เมย์มองหน้าผมที่ปล่อยให้ส่วนนั้นค้างอยู่ ผมเสียริมฝีปากก่อนจะค่อยๆขยับช้าๆ เนิบๆ ผมสองคนไปแบบช้าๆ แต่ว่ามันกับรู้สึกฟิน จนผมต้องหลับตาพริ้ม ไม่เหมือนตอนที่ผมมีอะไรกับผู้หญิง กระหน่ำไม่ยังไม่ถึงสองนาทีก็เรียบร้อยแต่นี่ผมต้องค่อยๆ เป็นไปเนิบๆ ช้าๆ นุ่มนวล ขยับสะโพกแบบเป็นจังหวะให้เข้ากับเมย์

“อ้าห์ พี่ตั้น อ้าห์ “เมย์เริ่มมีเสียงครางดังขึ้น ผมก็หลับตาพร้อมกับเลียริมฝีปากตัวเอง ไม่ต้องมีกระจกมองตัวเองก็รู่ว่าผมกำลังมีความสุข ผมรู้สึกว่าเมย์กำลังเร่งผมอยู่ ผมว่าวันนี้ใช้แค่ท่าเบสิกไปก่อน ผมค่อยๆ เร่งจังหวะเร็วขึ้นแต่ก็ไม่รุนแรง ผมหยุดพักเมื่อเมย์บีบแขนผมและหันไปหยิบเจลมาเติมไปอีกหน่อยและค่อยๆ ขยับๆ อีกครั้ง และครั้งนี้มันก็ดีขึ้น

“อ้าห์ อะ อ้าห์ ซี้ดส์ โอ้วววว” เสียงผมเองที่ขยับเร็วขึ้นมาจนร่างของเมย์ ขยับขึ้นลง ผมสอดมือผมไปจับมือเมย์กุมเอาไว้ ทั้งสองข้าง

“ปึกๆ ๆ ๆ “เสียงกระแทกของเนื้ออ่อนที่กระทบ

“อาห์ เมย์ เฮียไม่ไหวแล้ว เฮียปล่อยเลยนะครับตัวเล็ก “ผมพูดพร้อมกับการกะตุ๊กของร่างกายและแท่งร้อนที่เกร็งจนรู้สึกได้พร้อมกับความอุ่นที่ไหล่ย้อนออกมาสัมผัสกับโคนขาอ่อนของผม ผมปล่อยให้ค้างนิ่งจน ก่อนจะถอนแกนกายผมออกจากตัวเมย์ ผมก้มลงจูบก่อน

“ขอบคุณนะครับ ตัวเล็กของเฮีย “ผมพูด “จ๊วบ” จูบลงที่ริมฝีปากบางๆ นั้น พร้อมกับค่อยถอนสิ่งนั้นออกอย่างทะนุถนอมที่สุด เพราะว่าทั้งเข้าและออกก็ควรจะนิ่มนวลเหมือนกัน ผมจ้องมองใบหน้าที่มีเหงื่อซึมของเมย์

“ขอบคุณนะครับเฮีย ที่ถนอมผม”

“เฮียไม่กล้าทำร้ายเมียแน่นอนเฮียสัญญา “ผมพูด

“ว่าแต่จะมีรอบสองไหมครับ”

“เฮีย เยอะ ไว้วันอื่นบางเถอะ “คนตัวเล็กรีบค้านทันที ผมก็พาตัวเล็กเข้าไปในห้องน้ำ และจัดการทำความสะอาดเพื่อจะได้กลับมานอนกอดกัน คนตัวเล็กนอนเอาศีรษะมาอยู่ที่แผ่นอกของผม

“ตัวเล็ก เฮียถามอะไรหน่อยได้ไหมครับ”

“ครับ”

“ตัวเล็ก เออ เคย มีอะไรกับคนอื่นไหมนอกจากเฮียวันนั้นน่ะ” ผมถามด้วยน้ำเสียงที่กล้าๆ กลัวๆ กลัวเมย์เสียใจและโกรธ แต่ผมว่าผมรับรู้ได้ว่าเมย์ไม่ช่ำชองเรื่องแบบนี้ เหมือนไม่มีประสบการณ์

“เอาจริงๆ ไม่เคยครับ แต่แค่เกือบ แต่ผมไม่ได้เต็มใจ อะ “ผมก็มองเมย์

“หมายถึงกับพี่หรือเปล่า วันนั้นที่ไม่เต็มใจ” ผมถามเมย์

“ไม่ใช่กับพี่ มันก่อนพี่ คือว่าเมย์ เมย์”

“ยังไม่พร้อมจะบอกพี่ไม่เป็นไร แต่พี่ดูแล้วเมย์เหมือนไม่เคยเลยอ่ะ พี่รู้สึก ดีใจแปลกๆ” ผมพูด ก่อนจะใช้มือสัมผัสกับใบหน้าของเมย์

“แต่พี่ยอมรับว่าพี่ผ่านมาเยอะ และทุกคนเป็นผู้หญิงทั้งหมด” ผมพูด เมย์มองหน้าผมก่อนจะก้มหน้าลง

“เฮียเป็น คนแรกของผมวันนั้นน่ะ “เมย์บอกผม ผมต้องอมยิ้ม พร้อมกับก้มลงกอดเมย์ และจูบเมย์เบาๆ

“แต่ว่าผมจะดีพอที่จะอยู่เป็นคนของพี่หรือเปล่านะซิ พี่ตั้น” เมย์ถามผม ผมชมวดเข้าหากัน

“เมย์ดีพอสำหรับพี่ ช่วงที่เมย์มาอยู่กับพี่ พี่รู้สึกว่าเหมือนแม่พี่มาอยู่กับพี่ยังไงก็ไม่รู้ เมย์ดูแลพี่ทุกอย่างขนาดนี้ พี่ไม่รักเมย์แล้วพี่จะไปรักใคร “ผมพูด คนตัวเล็กสวมกอดผมเอาหน้ามาซุกไว้ที่แผ่นอกของผม

“พี่คิดว่าแม่ ส่งเมย์มาให้พี่ซะด้วยซ้ำไป “ผมพูดและกอดกระชับร่างนั้นเอาไว้ เอามือลูบหัวเมย์เบาๆ

“วันนั้นเมย์โชคดีที่เป็นพี่เอง ถ้าเป็นคนอื่นเมย์ไม่รู้เหมือนกันว่าสภาพเมย์จะเป็นยังไง พี่ตั้น” เมย์พูด ผมก็หวนไปคิดถึง ตอนนั้น พี่ปริมพูดว่าเขาหาคนทำให้แต่เพื่อนไอ้คนนั้นมันดันติดคุกซะก่อนมันเลยไม่กล้า คนที่พี่ปริมจ้างเลยรีบปฏิเสธว่าไม่รับ และเขาก็มาขอร้องผม เพราะว่าถ้าจ้างคนอื่นกลัวเรื่องจะไปเข้าหูแฟนเขา และที่ผมตัดสินใจทำให้ นางบอกว่านางจะไปแต่งงานแล้วและเรื่องของผมกับเขาก็คงจบ แล้วทำไมผมจะไม่รีบทำล่ะ ก็อยากให้มันจบ ผมจะได้ไปหาใครสักคนและหยุดซะทีแต่นี่อะไรนางจะกลับมาเล่นเกมสวาทกับผมอีก สงสารตัวเล็กของเฮีย แต่เฮียสัญญาว่าจะดูแลตัวเล็ก ปกป้องตัวเล็กของเฮีย

******

์ฝากไว้อีกตอนนะคะ ไม่รู้NC  พอได้ไหม 
ตอนหน้าแขกพิเศษของพี่ตั้นจะมาเยี่ยมเยียน
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤ EP.1ุ6 (พี่ตั้นVSเมย์)พี่ขอได้ไหมครับคืนนี้NC18+
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 24-11-2020 21:34:09
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤ EP.1ุ6 (พี่ตั้นVSเมย์)พี่ขอได้ไหมครับคืนนี้NC18+
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 24-11-2020 21:41:40
 :oo1: :jul1: :pighaun: :impress2: :-[ :o8:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤ EP.1ุ6 (พี่ตั้นVSเมย์)พี่ขอได้ไหมครับคืนนี้NC18+
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 25-11-2020 00:40:07
 :pighaun:
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤ EP.1ุ6 (พี่ตั้นVSเมย์)เจอกันจนได้
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 25-11-2020 20:48:20
   เมธานินท์ หลังจากที่ผมกับพี่ตั้น เราเป็นของกันและกันอย่างเป็นทางการ ผมก็ลงมาช่วยพี่ตั้นทุกวันและตอนนี้พี่ตั้นก็จะให้ผมเรียนปริญญาโทออนไลน์อีก เขาเห็นผมขยันเอาหนังสือของเขาทุกวัน ผมบอกว่าผมอยากเรียนปริญญาโทต่อ พี่ตั้นเขาเลยรีบสนับสนุนผม พี่ตั้นอยากให้ผมเรียน เพื่อว่าผมจะได้มาช่วยงานพี่ตั้นได้เต็มที่ ผมรู้สึกแปลกใจทำไมชีวิตผมเจอแต่คนดีดี อย่างพี่ปฐวีย์ที่ดีจนน่าน่าใจหายแต่ผมก็ทำให้เขาเดือดร้อนไม่รู้กี่ครั้ง และครั้งล่าสุดทำให้พี่เขาต้องออกจากการเป็นอาจารย์ ที่มหาวิทยาลัยอีก ผมก็รู้ว่าบุญคุณเขาชาตินี้ผมจะใช้หมดไหม แต่บุญคุณกับหัวใจ ผมเลือกอันหลัง

“ตัวเล็กไม่มานั่งทำในห้องเฮียละ” ผมหันไปมองพี่ตั้น

“ไม่เอาดีกว่าผมเห็นเฮียยุ่งอ่ะ ผมนั่งนี้ดีกว่าเครื่องคอมฯ ว่างเยอะแยะ เฮียต้องการสมาธิด้วยผมไม่อยากกวน” ผมหันไปบอกพี่ตั้น พี่ตั้นเขาก็พยักหน้า ก่อนจะหันหน้าเข้าหาหน้าจอคอมพิวเตอร์ เข้าไปดูว่าผมจะเรียนปริญญาโทสาขาอะไรดี

“อาซ้อหวัดดีค่ะ” น้องคนนี้เขามาทำงานกับพี่ตั้น เขาเป็นเด็กน่ารักดีแต่ออกทอมๆ ไปหน่อย ไม่มีใครกล้าจีบ ผมก็ไม่รู้ทำไม

“มาแต่เช้าเลยครับ เฟิร์น”

“พอดีช่วงบ่ายหนูมีนัดนะคะ หนูเลยมาทำตอนเช้าแทน”

“นัดหนุ่มเหรอครับ”

“สาวค่ะ พี่เมย์!” น้องเขาบอกผม ผมก็ขมวดคิ้ว

“หนูไม่ชอบผู้ชาย หนูชอบผู้หญิงค่ะ พี่ๆ เขาก็รู้กันค่ะ”

“อ้อ! โอเค” ผมพยักหน้าเบาๆ เข้าใจแล้วละว่าทำไม บรรดาเสือสิงห์กระทิงแต่ไม่มีแรด อย่างเพื่อนๆ ของพี่ตั้นถึงไม่กล้าจีบน้องเขาสักคน

“เฮียละพี่เมย์”

“ทำงานอยู่ด้านในครับ และพี่เห็นเฮียเขายุ่งๆ เลยไม่อยากกวนขอนั่งข้างนอกนี้ดีกว่า”

“ค่ะพี่เมย์ นั่งเป็นเพื่อนเฟิร์นแล้วกันเนอะ” เฟิร์นพูด (พอผมลงช่วยเฮีย ก็เลยสนิทกับเด็กๆ ของเฮียไปโดยปริยาย)

“อาซ้อ หวัดดีครับ” และคนอื่นก็เข้ามา ยกมือไหว้ผมเหมือนเช่นทุกวัน วันนี้พี่ตั้นบอกกับผมว่าจะชวนผมไปหาแม่ ทั้งที่แม่บอกว่าไม่อยากให้ผมไปที่นั่น ตั้งแต่แม่ให้ผมย้ายออกไปก็เพราะว่าผมทำให้ไอ้รงค์มันติดคุกไปเมื่อสามเดือนก่อน แม่จะนัดผมไปเจอกันที่ร้านอาหารซะมากกว่า พี่ตั้นยังบอกผมอีกว่าที่ช่วย พี่ตั้นเขาจะเอาเกมไปให้น้องชายฝาแฝดผมเพราะว่าพี่แกไม่เล่นแล้ว จะเล่นได้ยังไงเวลานอนยังไม่ค่อยมี (ที่ไม่มีก็เพราะว่าชอบชวนเล่นผมจ้ำจี้ทุกคืน เฮียหื่น)

“หวัดดีครับเฮีย” ผมได้ยินเสียงทักทายน่าจะเป็นพี่ๆ เพื่อนๆ ของพี่ตั้น วันนี้คงเขาออฟฟิศกัน จะว่าไปผมแทบจะไม่ค่อยเห็นหน้าพี่ภาคินเลย ผมกลัวเขาจะทำอย่างที่เขาบอกกับผมว่าเขาจะถอนตัวจากกลุ่ม

“ไอ้กอล์ฟมันยังไม่เข้ามาอีกเหรอว่ะ ไอ้เน่”

“พี่กอล์ฟไปส่งไอ้เฟย์ครับ”

“เห็นไหม กูไม่เห็นรถไอ้กอล์ฟจอดอยู่ กูก็เดาออกแล้วมึง ว่ามันไปส่งไอ้ตี๋” พี่เปรมดิ์

“ไอ้ตอแหล มึงพี่งจะถามน้องๆ มัน” พี่ทีน

“และนี่ไอ้ภาคินมันไม่มาเหรอว่ะไอ้ธีม” พี่อาร์ม

“ไม่รู้ตั้งแต่วันที่ไปเล่นอีเจ้ กูก็ไม่เจอมันว่ะ” พี่ธีม แต่แปลกพี่ธีมปกติจะมาพร้อมกับพี่ภาคิน

“ดีน่ะที่ส่งไอ้ภาคินไปเล่นกับอีเจ้ แต่ถ้าส่งน้องเมย์ไป นี้ตายสถานเดียวเลย อีเจ้เล่นตาย” ผมก็ยืดตัวขึ้น ก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ออกมา

“เว๊ย!!” พวกพี่ๆ เขาร้องออกมาพร้อมๆ กันทันทีที่หันมาเจอผมนั่งอยู่ ผมหันไปมองพวกพี่ๆ ทำแก้มป่องด้วย

“ทำไมพวกมึงไม่บอกพวกกูว่ะว่าอาซ้อมึงนั่งอยู่นี้” พี่เปรมด์หันไปถามน้องๆ

“ฮาๆ “พวกนั้นหัวเราะชอบใจกันใหญ่

“มึงนี้แม่งก็นินทาระยะเผาขนเลยครับ” พี่อาร์มพูดส่วนพี่ธีมชี้ไปที่ในห้อง ผมพยักหน้าว่าพี่ตั้นนั่งทำงานอยู่

“เมย์ความหมายของพี่ก็คือ เมย์น่ารักน่าถนอม อย่าไปต่อกรกับอีเจ้มัน อีเจ้มันบ้า เมย์ไม่ใช่คู่ต่อสู้อีกเจ้มันหรอกต้องไอ้ภาคินนี้สูสีกันดี มันตบกันมาแล้ว “พี่เปรมดิ์กระซิบกับผม

“ยุคนี้สมัยนี้ ที่เขาบอกว่าผู้หญิงผู้สิทธิเท่าเทียมกันก็เพราะอย่างนี้ใช่ไหมว่ะ “พี่ทีนพูด

“ว่าแต่น้องเมย์ทำอะไรครับเนี๊ยะ “พี่ทีนถามผม

“พี่ตั้นให้ผมดูว่าจะเรียนปริญญาโทอะไรต่อนะครับ “ผมพูด

“เห็นไหมครับน้องเมย์ คบกับไอ้เฮียตั้นทุกวันก็จะเป็นวันครู “พี่ธีมรีบกระซิบกระซาบทันที

“กูได้ยินครับมึงครับ!!!” เฮียแกตะโกนออกมาจากห้องทำงานทันที พี่ธีมเลิกคิ้วสูงได้ยินได้ยังไงผมเลยโชว์แอร์พอดที่ผมเสียบเอาไว้หนึ่งข้าง ส่วนอีกข้างนะอยู่ที่เฮียตั้นเขา แน่ละเฮียแกเลยได้ยินเสียงรอบๆ จากมือถือผมด้วย

“แต่พี่ว่าน้องเมย์ลองเปลี่ยนมาคบกับพี่ธีมดูดีกว่าไหม แล้วน้องเมย์จะรู้ว่า....” พี่ธีมตั้งใจแกล้งพี่ตั้นแน่ๆ เพราะว่าเขากรอกเสียงใกล้ๆ กับโทรศัพท์ของผม

“แล้วจะรู้ว่าทุกวันจะเป็นวันเช็งเม้งไง” พี่ตั้นเดินออกมาพูด และกอดอกพิงขอบประตูอยู่ ผมหันไปมองพร้อมกับแลบลิ้นใส่

“รู้ว่าเป็นวาเลนไทม์ทุกวันครับมึงครับ ถ้าเป็นแฟนพี่ธีม มีดอกกุหลาบจะมาทุกวัน “พี่ธีมหันมาบอกผม ผมหันไปมองพี่ตั้น จริงอ่ะ พี่ตั้นส่ายหัวว่าไม่จริง

“เมื่อเช้าใครมาส่งมึงครับ น้องผมทองนะครับ” พี่ทีนถามพี่ธีม

“พอดีพี่เจอน้องเขายืนงงอยู่ในดงลาเวนเดอร์ที่หน้าผับ เหมือนจะกลับไม่ถูก ธีมใจดีเห็นแบบนี้เข้าช่วยเหลือทันที ครับน้องเมย์ครับ “พี่ธีมพูด

“พี่ไม่ใช่แค่หน้าตาหล่อ ในพี่ก็หล่อนะครับ “พี่ธีมพูด แต่คนละคนส่ายหัวและหันหน้าเข้าหาคอมพิวเตอร์ กันหมด

“มันอิจฉาพี่ครับเมย์” พี่ธีมพูด

“ตัวเล็ก เฮียว่าเข้าไปนั่งในห้องกับเฮียดีกว่า เฮียนั่งคนเดียวเหงา” พี่ตั้นพี่ตั้นพูดก่อนจะยักไหล่เรียกผมเข้าไป ผมก็ยิ้มให้พี่ธีม

“อย่าหน้าตาหล่ออย่างเดียว ทำงานทำการด้วย ตอบลูกค้าให้กูด้วยครับคุณมึง” พี่ตั้นบอกพี่ธีม

“พี่ว่าความรักของน้องเมย์กำลังจะกลายเป็นวันเด็กแห่งชาติเข้าไปทุกวัน รู้สึกว่าเด็กโข่งนี้มันอ้อนน่าดู” พี่เปรมดิ์แซวผมอีกคน และผมก็ต้องลุกขึ้นตามพี่ตั้นเข้าไ้ปนั่งข้างๆ พี่ตั้น พี่เขาวางโน๊ตบุ๊คเอาไว้ด้านข้าง ให้ผมใช้ ะให้นั่งเบียดกันอีก แต่ผมก็ต้องเข้าไปนั่งเฮียแกนั่นแหละ

“ปึด” ดึงลากเก้าอี้ให้เข้าไปเบียดพี่ตั้นเข้าไปอีกน่ะ

“กลางวันจะทำอะไรให้เฮียกินตัวเล็ก”

“เฮียจะกินอะไรละครับ”

“อยากกิน…เมย์อ่ะ ได้หรือเปล่า ไม่ต้องเหนื่อยทำเยอะ แค่ …..” ไม่พูดเปล่าดึงร่างผมเข้าไปทำท่าจะปลดกระดุมกางเกงผมอีกน่ะ

“เพี๊ยะ!” ผมรีบตีมือพี่ตั้น “อิ้ววว” พี่ตั้นสะบัดเพราะว่าผมตีแรงพอสมควร

“หื่นมากไปแล้วเฮียนี่ ผมว่าเฮียควรจะไปหายาลดน่ะ”

“อ้าว น้องเฮียมันสู้ก็ดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ถ้าวันไหนไม่สู้ขึ้นมา จะนั่งร้องไห้นะ “ผมเลิกคิ้วสูงผมนี้น่ะ

“ผมว่าจะเลี้ยงฉลองเลยแหละและถึงวันนั้นน่ะ เพราะว่าเอียยิ่งหื่นผมยิ่งเหนื่อย “ผมพูด

“ก็เมย์เหมือนอาหารหลัก เฮียอยากกินวันละสามเวลา ให้เฮียกินหน่อยหิว” พี่ตั้นพูด และยังทำหน้าออดอ้อนใส่ผมอีกน่ะ และพี่ตั้นก็ดึงรั้งเอวผมเข้าไปหาเขา ริมฝีปากพี่ตั้นเพยอส่วนผมก็ขยับริมฝีปากรออีกคน ปกติเมย์ไม่เป็นแบบนี้เลยน่ะ หื่นตามสามีแน่ๆ เลย ฮาๆ

“ขอขัดจัวหวะสักครู่นะครับ!!” ผมก็แค่ดันหน้าพี่ตั้นเอาไว้แต่พี่ตั้นยังรั้งเอวผมเอาไว้ไม่ยอมปล่อย และคนที่มาขัดก็ไม่ใช่ใครอื่น พี่เปรมดิ์นั้นเอง

“มีอะไรไอ้เปรมดิ์ กูจะจู๋จี๋กับเมีย!”

“พักไว้ก่อน ตอนนี้มึงมีแขกพิเศษ” พี่เปรมดิ์พูดเชิงกระซิบ

“ใครว่ะ” พี่ตั้นถามพี่เปรมดิ์ หน้าพี่เปรมดิ์บอกได้ว่านิ่งมากแสดงว่าไม่ได้ล้อเล่น และน่าจะเป็นเรื่องซีเรียสซะด้วย

“พ่อมึงมาว่ะตั้น “ผมหันมามองหน้าพี่ตั้นทันทีด้วยอาการตกใจ (ผมเองไม่เคยเจอพ่อพี่ตั้นมาก่อนไง) พี่ตั้นก็ตกใจไม่แพ้กัน

“อยู่ไหนว่ะ” พี่ตั้นาถมพี่เปรมดิ์

“หน้าประตู น่าจะเข้ามาแล้ว” พี่เปรมดิ์พูด ผมก็ดันตัวเองออกมา และพี่ตั้นก็พยักหน้าให้พี่เปรมดิ์ ผมกำลังจะลุกขึ้นเช่นกัน พี่ตั้นพยักหน้าให้พี่เปรมดิ์ พี่เขาก็ก้าวถอยหลังออกไป ผมก็ทำท่าจะออกเช่นกัน

“เมย์ จะไปไหน” พี่ตั้นดึงแขนผมเอาไว้

“ก็พ่อพี่มานี่ครับ” ผมหันมาบอกพี่ตั้น

“ก็ใช่ไงครับ แล้วเมย์จะไปไหนล่ะ เมย์ก็เป็นแฟนพี่ นั่งตรงนี้แหละครับ” พี่ตั้นพูด ผมเงยหน้าขึ้นมามอง คนที่มายืนอยู่หน้าประตู รูปร่างสูงไม่ผอมไม่อ้วนและไม่ล่ำ หุ่นสมสวนอยู่ในเกณฑ์ที่ว่าว่าหุ่นดี แต่ที่ทำให้ผมต้องหันกลับมามองพี่ตั้นก่อนจะหันกลับไปมองคนที่ยืนอีกครั้ง ไม่น่าเชื่อว่าเขาสองคนเหมือนกันราวกับฝาแฝด แต่ด้วยวัยที่ต่างกัน ถ้าบอกว่าเป็นพี่ชายก็เชื่อสนิทเช่นกัน เขาดูไม่แก่เลยสักนิด แต่งตัวก็ดี ท่าทางการวางตัวทีดูนิ่งสุขุม ผมรีบยกมือไหว้ แต่พี่ตั้นกับแสดงท่าที่เฉยๆ

“ฟู่” แถมยังพ่นลมหายใจออกมาอีก ผมหันไปพยักหน้าว่านั้นพ่อพี่น่ะ

“พ่อหวัดดีครับ” พ่อของพี่ตั้นยกมือรับไหว้ผมสองคน พ่อของพี่ตั้นเขามายืนเอามือไขว้หลังมองไปรอบๆ ห้องทำงานของพี่ตั้น ก่อนจะกลับมาหยุดที่พี่ตั้น

“ยุ่งมากเหรอ” พ่อของพี่ตั้นเอ่ยถามขึ้น

“ก็ต้องยุ่งเป็นธรรมดา ว่าแต่คุณ…. พ่อ มาทำไมครับ” น้ำเสียงที่ดูห่างเหินกันมากจนน่าใจหาย

“พอดีฉันมาธุระเลยแวะมาดู และจะแวะมาเตือนแกเรื่องทำบุญให้แม่แกด้วย ตั้น “พ่อของพี่ตั้นพูด

“และจะมาคุยธุระสำคัญนิดหน่อย” พ่อของพี่ตั้นพูดผมก็ลุกขึ้นทันที นั้นคือผมเข้าใจดีว่าเขาหมายถึงต้องการคุยกับพี่ตั้นเป็นการส่วนตัว พี่ตั้นคว้าข้อมือผมเอาไว้อีกครั้ง

“พ่อครับ นี่เมย์ แฟนผมเองครับ” พี่ตั้นบอกพ่อของเขาว่าผมเป็นแฟนพี่เขา พ่อเขามองผม แต่จะว่าไปเขาก็ยิ้มดูอบอุ่น

“รู้แล้วล่ะ ว่านายมีแฟนใหม่” พ่อเขารู้แล้วผมหันมามองพี่ตั้น พี่เขาบอกพ่อไปแล้วเหรอ พี่ตั้นส่ายหัวไปมากับผม

“พี่ตั้น เมย์ว่าพ่อพี่เขามีเรื่องสำคัญจะคุยกับพี่น่ะ ผมรอด้านนอกจะดีกว่า” ผมพูด ก่อนจะลุกเดินออกไป พ่อของพี่ตั้นเขายิ้มให้กับผม ก่อนจะขยับเก้าอี้มานั่งไขว้ห้างลงตรงข้ามกับพี่ตั้น ผมเดินออกพร้อมกับปิดประตูลงเบาๆ ผมออกมายืนด้านนอก ผมก็เห็นผู้ชายคนหนึ่ง เขาสูงกว่าผม ผิวขาวจมูกโด่ง หันมามองผมพร้อมรอยยิ้มที่ดูมีเสน่ห์ ผมยอมรับว่าผู้ชายคนนี้ดูดีมากทีเดียว

“สวัสดีครับ น้องเมย์” พี่เขาทักผมก่อนทันทีและยังรู้อีกว่าผมชื่ออะไร ทั้งที่ยังไม่ทันได้แนะนำตัวเลย

“สวัสดีครับ” ผมทักทาย

“พี่ชื่ออิศเรศครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับน้องเมย์ “ผมก็ต้องตาโต พี่คนนี้นี้เอง เขาดูหล่อ แต่งตัวเรียบร้อย ดูสุขุมแต่แฝงความนุ่มนวลเอาไว้ รอยยิ้มที่ดูมีเสน่ห์นัน ผมไม่แปลกใจถ้าพี่ตั้นจะเคยรักพี่คนนี้

“สวัสดีครับพี่อิศเรศ” ผมยกมือไหว้พี่อิศเรศอีกครั้ง พี่เขาส่งยิ้มให้ผม ผมยอมรับว่ารอยยิ้มของเขามันทำให้หลายคนละลายได้

“เจอกันจนได้นะครับ ตัวจริงน้องเมย์น่ารักกว่าในรูปที่พี่เห็นอีกน่ะครับ” พี่เขาพูดชมผมด้วย ผมผงกหัวเบาๆ ก่อนเดินไปหาที่นั่ง เพราะว่าตอนนี้บรรยากาศภายในห้องนี่เงียบมาก อย่างกับไม่มีใครอยู่เลย ทุกคนก้มหน้าก้มตาทำงานกันไม่เว้นแม้แต่พี่ๆ ที่ไม่พูดไม่จากันเลยอ่ะ ผมหันไปมองรอบ พี่อิศเรศมองทุกคนเหมือนผมเช่นกัน และแอบอมยิ้มเหมือนจะขำซะมากกว่า

“เงียบกันทำไมล่ะ” ผมกระซิบกับเฟิร์น

“เกรงใจมั้งค่ะพี่เมย์” เฟิร์นตอบผมมาเบาๆ ผมพยักหน้า

“ตามสบายเถอะครับ พ่อคุณตั้นเขาเป็นคนใจดีนะครับ ไม่เห็นต้องเกร็งกันเลย” พี่อิศเรศพูด “หึ หึ” และยังขำพวกผมน้อง ๆ และพี่ๆ ที่นั่งกันเงียบ

Rrrr เสียงโทรศัพท์พี่อิศเรศดังขึ้น เพราะความเงียบในห้อง ทำให้ดังมากกว่าปกติ ทั้งที่เป็นแค่ริงโทนธรรมดา

“สวัสดีครับ ใช่ครับผมอิศเรศ เป็น เลขาฯ คุณธรรณธรครับ คุณท่านมาทำธุระให้ลูกชายคุณท่านครับ ผมจะสอบถามท่านอีกทีนะครับ ได้ครับ ผมจะแจ้งท่านก่อนนะครับ ขอบคุณครับ” พี่อิศเรศ วางสาย ไม่นานประตูก็ถูกเปิดออก พ่อของพี่ตั้นออกมายืนมองทุกคน ก่อนจะหันไปพยักหน้ากับพี่อิศเรศ พี่อิศเรศก็กระซิบคุยอะไรกับพ่อของพี่ตั้น สายตาที่มองกันมันก็บ่งบอกได้ว่า มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง แม้จะวัยที่ต่างกันมาก

“เรากลับกันเลยแล้วกัน” พ่อของพี่ตั้นพูดกับพี่อิศเรศ

“คุณท่านไหวหรือเปล่าครับ ถ้าจะเดินทางกลับวันนี้เลยนะครับ”

“ทำไมละ ไม่ได้ขับรถเองซะหน่อย ในเมื่อเสร็จธุระแล้ว ก็กลับกันเถอะเรศ “พ่อของพี่ตั้นพูดก่อนจะหันหลังเดินออก พี่ตั้นออกมายืนเอามือล้วงกระเป๋าอยู่ มองพี่อิศเรศแว๊ปหนึ่ง พี่อิศเรศเขาก็ส่งยิ้มให้แต่พี่ตั้นกับไม่ยิ้มตอบ น่าจริงๆ เลย

“เมย์” พี่ตั้นเรียกผม พี่เปรมดิ์หันมาดันผมเข้าไปหาพี่ตั้น ผมเองก็ค่อยๆ เดินเข้าไปช้าๆ จนพี่ตั้นก้าวขามาดึงแขนผมเข้าหาและโอบเอวผมเอาไว้

“พี่เรศ ผมว่าจะแนะนำ นี่เมย์ แฟนของผมครับ” พี่ตั้นพูด พี่อิศเรศหันมามองผม

“เมื่อกี่พี่ทักทายน้องเมย์ไปแล้วครับ คุณตั้น น้องน่ารักมากนะครับ พี่ยินดีด้วยนะครับ”

“จะรักกันนานไหมละ เห็นคบแต่คน ไม่นานก็เลิก” พ่อของพี่ตั้นพูดโดยไม่ได้หันกลับมามอง ผมแหงนหน้ามองพี่ตั้น

“คนนี้คือคนสุดท้ายของผม ผมจะคบเขาให้นานที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้”

“ก็ดี พาไปด้วยละวันทำบุญน่ะ “พ่อพี่ตั้นหันมาพูดก่อนจะเดินออกไป พี่อิศเรศหันรมาพงกศีรษะให้ผม ส่วนพี่ตั้นก้มลงมองผม

“เดี๋ยวขึ้นไปเตรียมตัวและไปหาแม่ของเมย์กันเลยนะครับ “พี่ตั้นพูด ผมก็พยักหน้า เบาๆ พ่อของพี่ตั้นและพี่อิศเรศเดินออกไปแล้ว

“ฟู่!!!” แต่ละคนพ่นลมหายใจออกมาพร้อมๆ กัน

“วันนี้แม่เลี้ยงมึงไม่มาด้วยว่ะ” พี่ธีมถามพี่ตั้น ผมหันมามอง มีแม่เลี้ยงด้วยเหรอ พี่ตันได้แต่ยักไหล่ว่าไม่รู้

“คนที่ชอบแต่งตัวแพ๊คคู่มากับหมาตัวโปรดเขานะเหรอว่ะ” พี่ทีนพูด

“เห็นไอ้เปรมดิ์มันถามอยู่ว่าห้องเสื้อไหนเขาจัดมาให้เป็นแพ็คเกจขนาดนั้น มันจะพาเมียมันไปซื้อบ้าง” พี่อาร์มพูด

“ไม่ล่ะครับ ต้องลำบากพาไปซื้อลูกหมาอีก เพราะถ้าไปซื้อชุดเขาแล้วแถมมาใครละใส่ละไอ้เชี้ย” พี่เปรมดิ์ แต่ผมหันไปมองพี่ตั้นเลิกคิ้วสูง พี่ตั้นหัวเราะในลำคอก่อนจะยักไหล่ว่าไม่แคร์ ผมก็ทำปากยู่ ก่อนจะเดินตามหลังพี่ตั้นเข้ามาในห้องทำงาน พี่ตั้นกำลังเก็บเอกสารบนโต๊ะ สีหน้าเหมือนมีเรื่องไม่สบายใจ

“พี่ตั้นมีอะไรหรือเปล่า” ผมถามพี่ตั้น

“เออ ไม่มีครับ ตัวเล็ก”

“พี่ตั้น!!”

“คือ มันก็มี “พี่ตั้นทำท่าอึกอีกที่จะพูด

“เมย์พ่อพี่เขารู้เรื่องพี่กับเมย์แล้ว พี่ไม่ได้บอกเขาเลยน่ะ แต่ช่างมันเถอะ เพราะยังไงพี่ก็เลือกเมย์” พี่ตั้นพูดขึ้น ผมว่าไม่ใช่เรื่องนี้หรอกที่พี่ตั้นกังวลอยู่

“หมับ” ผมเข้าไปกอดพี่ตั้นจากด้านหลัง พี่ตั้นเอามือเท้าโต๊ะ “ฟู่!!” เสียงพี่ตั้นพรูลมหายใจออกมา นั้นแปลว่าคงเป็นเรื่องที่หนักพอสมควร

“พี่ตั้น พี่ไว้ใจผมไหม” ผมถามพี่ตั้น

“พ่อพี่เขาบอกว่าเขาจะขายบ้านแม่พี่ที่อเมริกา เพราะว่าเขาไม่ต้องการให้พี่กลับ แต่พี่ไม่อยากให้พ่อขาย ไม่แน่พี่อาจจะกลับไปอยู่ที่นั้น “พี่ตั้นพูด “ฟู่” พร้อมกับพ่นลมหายใจออกมายาวๆ อีกครั้งก่อนจะพลิกตัวมากลับมาหาผม ผมก็กอดพี่ตั้นเอาไว้ ซบใบหน้ากับแผ่นอกอุ่นนั้น พี่ตั้นกอดผมตอบ เรากอดกันอยู่หลานนาที

“มีคนมาขอซื้อในราคาค่อนข้างสูง เป็นเงินไทยก็ราว ๆ หกสิบล้านแต่พี่อยากจะเก็บบ้านหลังนั้นเอาไว้ “พี่ตั้นพูด ผมเงยหน้าขึ้นไปมอง 

“แล้วถ้าพี่จะไปอยู่ที่นั้น พวกเพื่อนๆ พี่ละครับ พี่ภาคินอีกล่ะ และ ผมล่ะ” ผมถามพี่ตั้น

“พี่ไม่ทิ้งเมย์ พี่จะชวนเมย์ไปอยู่ด้วย พี่อยากใช้ชีวิตที่เมืองนอกอ่ะช่วงบั้นปลายของพี่ เมย์ไปกับพี่ไหม” พี่ตั้นถามผม ผมเองก็รักคนนี้แล้วแต่ว่า

“เมย์เป็นห่วงแม่ปิ่นน่ะพี่ตั้น” ผมพูด

“พี่เข้าใจ แต่เรายังมีเวลาเหลือพอจะตัดสินได้ ส่วนเรื่องบ้านพ่อพี่จะขายเร็วๆ นี้แหละ”พี่ตั้นพูด   น้ำเสียงของเขาบ่งบอกว่าพี่เขาเศร้ามากแค่ไหนผมก็ทำได้แค่กอดพี่ตั้นเอาไว้  พี่ตั้นเคยบอกว่าไม่ได้เอารูปแม่ติดมาเลยตอนนั้นรีบมากและพี่ตั้นก็คิดว่าคงอยู่ไม่ได้หรอกที่นี้  แต่พออยู่ ๆไป เจอพี่ภาคินพี่ธีมและพี่อิศเรศที่มาช่วยดูแล ทำให้พี่เขาลุกขึ้นมาสู้อีกครั้ง และนี่ก็ทำให้ผมคิดถึงบ้านของผมเช่นกันผมอยากได้คืนแต่การที่จะได้คืนมันต้องแลกกับของรักของผมอีก ผมคงเลือกที่จะปล่อยมันไป


“ขึ้นไปเตรียมตัวกันดีกว่าจะได้ไปหาแม่ของเมย์กัน “พี่ตั้นบอกผมพร้อมกับเอามือมาลูบหัวผมเบาๆ

******
ตอนหน้าความลับของเมย์ พี่ตั้นจะตัดสินใจว่ายังไง ขอบคุณคอมเม้นนะคะ

หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤ EP.1ุ6 (พี่ตั้นVSเมย์)เจอกันจนได้
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 25-11-2020 21:40:30
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤ EP.1ุ6 (พี่ตั้นVSเมย์)เจอกันจนได้
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 26-11-2020 06:30:41
 :เฮ้อ: :กอด1:
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤ EP.1ุ6 (พี่ตั้นVSเมย์)ผมเลือกเมย์
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 26-11-2020 06:34:39
      รชานนท์ ผมบอกเมย์เอาไว้แล้วว่าจะพามาหาแม่ของเขา เมย์เขาคิดถึงแต่แปลกน่ะ แม่ของเมย์ไม่อยากให้เขาเข้าไป แต่ผมบอกเมย์ว่าผมจะเอาเกมส์เพลย์เสตชั่นของ Xbox รุ่นใหม่ล่าสุดไปให้ด้วย  ผมไม่ได้เล่น เพื่อว่าน้องชายฝาแฝดของเมย์เขาอยากจะเล่น และเซอไพรส์พอผมดันมาหาผม มาคุยเรื่องทำบุญวันครบรอบวันเสียชีวิตแม่ผมและยังคุยเรื่องบ้านที่อเมริกาว่าจะเอายังไง บ้านยังอยู่ ตอนแรกผมคิดว่าพ่อชายไปซะแล้ว ผมเลยบอกเขาไปว่าตามใจเขา แต่พ่อบอกผมแปลก มีอะไรให้เขาช่วยให้บอกตรงๆ แต่ผมน่ะไม่อยากให้เขาช่วยอะไรผมทั้งนั้น  ผมเลยปฏิเสธหมด ต่อให้ผมมีเงินในบัญชีที่เขาโอนให้ผมเก็บไว้ ไม่เยอะหรอก แค่สิบกว่าล้านบาท ผมจึงมีเงินมาลงทุนทำธุรกิจ แต่นันมันเงินส่วนที่มีผมควรจะได้ ผมรู้แค่นั้น

   “พี่ตั้นจอดตรงนี้แหละและต้องเดินไปตามเขื่อนนะพี่ตั้น” เมย์บอกผม ตอนนี้ผมนำรถกระบะของผมมาจอดที่ลานวัดด้านแห่งหนึ่ง ด้านหลังติดเขือนคลองระบายน้ำ

    “ผมหันไปหยิบของที่เมย์บอกว่าแม่ปิ่นชอบ ผมบอกให้ซื้อไปฝาก และของฝากพวกน้องๆ คราวก่อนผมก็ได้พูดคุยกับขิงและขิม รู้สึกคุยกันถูกคอ น่าจะเป็นเพราะว่าผมไม่มีน้องชายมาก่อน นี้ผมก็เอาเกมส์เพลย์ที่ผมไม่ได้เล่นแล้ว Xbox มาให้ ช่วงนี้งานเยอะ พอว่างก็จะใช้เวลาอยู่กับเมย์เขามากขึ้น รู้สึกเหมือนผมกับเมย์กำลังตกหลุมรักกันใหม่

   “เดินไปไกลไหมเมย์”

   “ทำไมเหรอ เฮียไม่ชอบเดินไกลๆเหรอ ถ้าออย่างนั้นเฮียไม่ต้องเข้าไปก็ได้น่ะ” ตัวเล็กหันมาบอกผม

   “ก็ถ้าไกล เฮียจะได้อุ้มเมย์ไปไง”

   “ไม่เอาอ่ะ อายคนอื่นเขา “ เมย์พูดและเดินนำหน้าผมทำแก้มป่องน่ารักเขียว ผมเดินไปตามแนวเขื่อน น้ำในลองก็น่าจะเป็นาน้ำที่ระบายออกมา มันก็สกปรกแต่ไม่ถึงกับเรียกว่าน้ำเน่าซะทีเดียว ผมเองไม่เคยมาเดินแบบนี้เลยน่ะ เมย์หันหลังมามองผมและแอบหัวเราะผมอีก

   “เฮ้ยน้องเมย์ว่ะ “ผมได้ยินเสียงคนเรียกเมย์ ฟังจากน้ำเสียงแล้วน่าจะ เป็นพวกนักเลงมากกว่า ผมรีบเดินให้ทันเมย์ และ

   “หมับ”ผมคว้าข้อมือเมย์เอาไว้

   “รีบไปกันเถอะพี่ตั้น” เมย์หันมาบอกผม สีหน้าเขาดูกังวล

   “น้องเมย์! หายไปอยู่ที่ไหน แล้ววันนี้มากับใครเหรอ “ คนที่แซวเมย์สวมเสื้อแขนกุดกางเกงยีนเก่าๆ รองเท้าผ้าใบขาดๆ พวกผมว่าลุยๆก็ไม่ขนาดนี้เลย และมีเพื่อนออกมายืนอีกสองคน มันคาบเหมือนไม้จิ้มฟันมาด้วย

   “ไปเถอะครับพี่ตั้น” เมย์ดึงแขนผมและพยายามให้ผมรีบเดินออก

   “วันนี้มากับเศรษฐีคนใหม่เหรอครับน้องเมย์  พวกพี่ต้องมีเงินเยอะแค่ไหนน่ะ ถึงจะได้นอนกับน้องเมย์คนน่ารัก “ อันนี้ผมมว่าไม่ใช่แล้ว ผมหยุด เมย์ไม่กล้าหันมามองผม

   “เมย์ถือกระเป๋าพี่ไว้ครับ” ผมบอกเมย์ ผมหันไปมองหน้าไอ้คนที่ออมายืน

   “เมื่อกี่มึงว่าอะไรน่ะ” ผมหันไปถาม แต่เมย์เดินมาดึงแขนผม ส่ายหัวไม่ให้ผมเดินเข้าไปหาเรื่องพวกมัน

   “กูถามเมย์ว่าจะเอาเงินเท่าไหร่ พวกกูถึงได้ เอามัน ทำไม มึงจ่ายเยอะหรือไง “

   “ใครเขาก็รู้กันทั้งนั้นว่าไอ้นี้มันเป็นเด็กไซด์ไลน์ มึงนอนกับมันมึงจ่ายมันไหมล่ะ”

   “ผลัก!” หมัดตรงจากผม

   “พี่ตั้น อย่า! ไม่เอา อย่าไปยุ่งกับมัน “ เมย์ออกมาห้ามผม

   “ก็มันว่าเมย์” ผมหันมาพูดกับเมย์ ไอ้คนที่ผมต่อยลงไปน่ะถึงกับลงไปกองกับพื้น พวกเพื่อนๆมันก็ทำท่าจะเข้ามาใส่กับผมเช่นกัน ผมก็ไม่กลัว เมื่อก่อนเรียนวิศวตีกันเป็นเรื่องปกติ (ผมยอมรับว่าตอนเรียนที่อเมริกาไม่เคยเจออะไรแบบนี้แต่มันก็ทำให้ชีวิตรู้จักคำว่าสู้คนดี )

   “มึงอยากลองดีใช่ไหม” เพื่อนของไอ้คนที่ผมต่อยมันลงไปลุกขึ้นมา มันสามคนผมคนเดียวแต่ก็สู้ว่ะ ผมคิดในใจ

   “ตำรวจมา!!”มีคนตะโกน ไอ้สามคนนั้นมันก็หันมามองหน้ากัน ก่อนจะหันมาชี้หน้าผมและยักไหล่พากันเดินออกไป ผมหันมามองหน้าเมย์ เมย์ยืนกำมัดแน่น ผมเดินไปสวมกอดเมย์ ผมว่าเขาคงเจออะไรที่แย่ๆมาเยอะ ผมมองคนที่วิ่งมา คนที่บอกว่าตำรวจมาน่ะคือขิมและขิงนันเอง

   “พี่ตั้นหวัดดีครับ” ผมพยักหน้า รับไหว้น้องชายคู่แฝดของเมย์

   “พี่เมย์ เป็นอะไรหรือเปล่า” ขิมถามเมย์ ผมก็แตะแขนเมย์

   “ไม่เป็นไร แม่อยู่ในบ้านใช่ไหมขิม ขิง “ เมย์หันไปถามน้องๆ

   “ใช่ครับพี่ แม่ยังไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ นี้พี่วิวก็กำลังกลับ พี่วิวไปทำงานโรงงานกับป้าสมใจน่ะ”

   “ไปทำไมละ”เมย์ถามน้องชาย ผมพยักหน้าว่าเข้าไปคุยกันในบ้านจะดีกว่า ผมเดินจับมือเมย์ไปด้วย เมย์ก็บีบมือผมไว้เช่นกัน พวกผมเดินมาหยุดที่บ้านสองชั้นค่อนข้างเก่า ผมหันมามองเมย์ ผมยิ้มให้ผมไม่แคร์หรอกว่าบ้านเมย์จะเป็นแบบไหน   แต่ผมก็เสียดายบ้าน  บ้านที่ผมไปตามหาเมย์หลังนั้นมันใหญ่ พื้นที่ก็กว้างมาก ที่เมย์คงอยากได้คืนแต่เขาเกรงใจผมแน่ๆ   ถ้าผมได้ซื้อคืนมาแม่และน้องๆเมย์คงไปอยู่ที่สบายกว่านี้ ผมต้องรู้ก่อนว่าบ้านอยู่กับใครและผมจะไปคุยกับเขาได้ถูก

   “แม่ พี่เมย์กับพี่ตั้นมา” ผมตามเมย์เข้าไปในบ้านก็เห็นผู้หญิงที่นั่งๆอยู่ที่โซฟากลางเก่ากลางใหม่ ผมยกมือไหว้ในทันที

   “เมย์ มาทำไมนะลูก”

   “แม่ พี่ตั้นเขาอยากมาเยี่ยมนะครับ”เมย์พูดก่อนจะรีบเข้าไปกอดแม่ปิ่น ผมหันมามองน้องชายฝาแฝดของเมย์

   “พี่เอาเกมส์เพลย์มาให้ พี่ไม่ได้เล่นแล้ว “ผมส่งกระเป๋าที่ผมใส่เอาไว้ให้เขาไป พอขิมกับขิเปิดดดูก็ทำตาโตทันที

   “รุ่นใหม่เลยอ่ะพี่ตั้น พี่ให้ผมสองคนจริงๆอ่ะ”

   “เออ จริงเอาไปดิ พี่เก็บไว้ก็ไม่ได้เล่น” พี่ตั้นพูด

   “ขิม ขิง อย่ามัวแต่เล่นเกมส์นะ อ่านหนังสือบ้าง”

   “อ่าน แต่เสียดายไม่มีใครช่วยติว ตั้งแต่พี่เมย์ไม่ได้กลับมาบ้าน”  น้องชายของเมย์พูด

   “เมย์เขาเรียนเก่งค่ะ จับน้องติวตลอด สองคนนี้เขาอยากเรียนวิศวะแต่”

   “เรียนดิ พี่ช่วย” ผมพูด เมย์หันมามองหน้าผม

   “อยากเข้าที่ไหนละ”

   “ผมอยากสอบเข้าXXX”

   “พี่จบมาจาที่นี่น่ะ “ผมพูดขิมและขิงมองหน้ากัน

   “แต่ผมสองคนเรียนไม่เก่งอ่ะพี่ ไม่มีเงินไปเรียนติวด้วย”

   “เฮ้ย พี่ไม่ได้เรียนติวเลยนะ อ่านหนังสืออย่างเดียวเลย พี่เพื่อนช่วยด้วย และพี่นะ แย่กว่าเราอีก พี่ย้ายมากจากอเมริกาตอน ม.5. อ่านภาษาไทยแย่มาก แต่พี่ก็ผ่านมาได้ว่ะ และสอบติดด้วย “ ผมพูด เมย์หันมามองหน้าผม

   “มีอะไรให้พี่ช่วยบอกได้เลย “

   “พี่จบสาขาอะไรครับ”

   “พี่จบวิศวคอมพิวเตอร์ว่ะ”

   “นั้นแหละที่ผมสองคนอยากเรียนอ่ะพี่”

   “ว่างๆไปหาพี่ให้พี่มารับก็ได้น่ะ เพื่อนๆพี่ก็เก่งคอมพิวเตอร์กันทุกคน เขียนโปรแกรม ทำเว็ปไซต์ “ ผมพูด

   “เกรงใจคุณตั้น”

   “ไม่ต้องเรียกผมว่าคุณหรอกครับแม่ “ ผมพูด

   “แล้วนี้วิวละแม่ ทำไมวิวไปทำงานละแม่ “

   “วิวมันไม่อยากให้เมย์ส่งเงินมาเยอะแยะแค่นี้แม่กับน้องๆ “

   “ให้วิวเขาเรียนอย่างเดียวดีกว่าครับ ผมกับเมย์ช่วยได้ ตอนนี้เมย์เขาก็ช่วยงานผมที่บริษัทอยู่  ให้น้องวิวเขาเรียนอย่างเดียว ไม่ต้องออกไปทำงานหรอกนะครับ “ ผมพูด เมย์หันมามองหน้าผมอีกครั้ง ผมหันไปจับมือเมย์

   “พี่ตั้น พี่คุยกับแม่ไปก่อนนะ ผมจะขึ้นไปดูห้องนอนแม่ปิ่น ผมว่าจะไปทำความสะอาดให้แม่” เมย์หันมาบอกผม พยักหน้า

   “พี่เมย์ ผมกับไอ้ขิมออกไปรับพี่วิวก่อนนะ พี่วิวบอกว่ามาถึงแล้ว” น้องชายฝาแฝดของเมย์ขอออกไปรับร้องพี่สาวของเขา ผมก็นั่งลงไม่ไกลจากแม่บุญธรรมของเมย์   

   “คุณตั้นค่ะ “ผมหันมามองเมย์ของเมย์

   “คุณคิดยังไงถึงได้คบกับเมย์ค่ะ ทั้งที่เมย์เป็นผู้ชาย “

   “ผม เออ ผม “แม่บุญธรรมของเมย์มองหน้าผม

   “ผมยอมรับว่าผมเริ่มต้นกับเมย์ไม่ค่อยดีและผมก็อยากรับผิดชอบแต่ว่าตอนนี้ ผมรักเมย์ครับ “

   “ความรักแบบนี้มันจะมั่นคงเหรอคะ คุณแน่ใจแล้วเหรอคะ ครอบครัวคุณตั้นละคะ “ แม่ของเมย์ถามผม

   “แม่ขอโทษนะคะ แม่รักและเป็นห่วงน้องเมย์ค่ะ ถึงเมย์จะไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่แม่ก็รักมากค่ะ ตั้งแต่ ดอกเตอร์มธุรินและดอกเตอร์ธนิน เสียชิวิตไป เมย์ก็ไม่มีใครที่จะดูแล “ผมก็ต้องอึ้ง

   “คุณแม่ครับ พ่อกับแม่ของเมย์เขาเป็นถึงดอกเตอร์เลยเหรอครับ”

   “ใช่ค่ะ ท่านมีหน้าที่การงานดี เรียนจบสูงเท่าที่แม่ทราบนะคะ พอดีแม่รู้จักกับคนที่เขาเป็นแม่บ้านให้คุณเขานะคะ และคุณเขาต้องการคนไปช่วยดูน้องเมย์ช่วงที่คุณเขาเดินทางไปต่างประเทศ แม่ก็จะไปค้างและดูแลน้องเมย์ ทำอาหารให้ทาน ดูแลงานบ้านค่ะ ส่วนมากดอกเตอร์เขาก็จะไปต่างประเทศครั้งละ ไม่เกินสิบวันก็กลับค่ะ “

   “ตอนนั้นแม่ต้องการเงินมาเลี้ยง เจ้าขิมเจ้าขิงก็เพิ่งจะคลอดด้วย แต่แม่ฝาก ยายของสองคนนี้ได้ ตอนนี้ยายเขาเสียไปได้สี่ปีแล้วค่ะ โรคคนชรา” ผมพยักหน้า

   “ครอบครัวผมไม่มีปัญหาเรื่องนี้ครับแม่ สบายใจได้ ถ้ามีผมก็เลือกเมย์ครับ “
   
   “และถ้าเป็นไปได้ แม่ไม่อยากให้คุณตั้นพาเมย์เข้ามา เมย์อยากให้เมย์ไปอยู่ในที่ดีดี ถ้าวันนั้นแม่ไม่ดึงเมย์เข้ามาอยู่กับแม่ เมย์อาจจะไม่ต้องมาเจอเรื่องแย่ๆแบบนี้ ฮือ”

   “คุณแม่บอกผมซิครับ ผมจะได้ช่วยเมย์  ผมเห็นเขา”ผมพูด

   “ใครเขาก็คิดด่าเมย์มันเป็น ..แต่เมย์ไม่ได้เป็น ก็เพราะว่าตอนที่เมย์เรียน เขามีอาจารย์มาคอยช่วยเหลือเมย์เขาเรียนเก่ง  อาจารย์คนนั้น ชื่อปฐวีย์”ผมต้องผงะ

   “ ชื่อปฐวีย์”

   “ค่ะ ชื่อคุณปฐวีย์   เขามาตามรับตามส่งและเวลาเมย์มีเรื่องเดือดร้อนเงินเขาก็ยื่นมือมาช่วย ทั้งที่เมย์ก็พยายามหางานเล็กๆน้อยทำ มีงานอะไรเมย์ทำหมดแหละค่ะ ร้านสะดวกซื้อ ร้านไอศรีมก็ไปทำและร้านอาหารในโรงแรมชื่อดังของคุณปฐวีย์  หลายอย่างค่ะ แม่นี้เกรงใจ ที่เมย์ต้องมาช่วยแม่ส่งน้องๆเรียน  “


   “แต่มาถึงคราวซวย แม่น่ะได้แฟนเฮงซวยตอนแรกมันก็เหมือนจะช่วยดี แต่มันดันคิดชั่ว มันจะเอาวิวไปขายเพื่อเอาเงินไปเล่นกันพนัน  เมย์ไม่ยอมเมย์เลย ไปทำแทน “ผมก็ต้องตกใจ นี้ใช่ไหมที่เมย์บอกผม ว่าถ้าผมรู้ว่าเขาเป็นอะไร

   “แต่โชคมันยังดีค่ะ คนที่ซื้อเมย์ไป เขาเป็นเพื่อนกับคุณปฐวีย์ คุณปฐวีย์เลยเป็นพาเมย์กลับมาบ้าน แต่ไอ้รงค์มันไม่ได้ทำแค่ครั้งเดียว มันร้อนเงิน มันไปเป็นหนีเป็นสินมาเป็นล้านๆ  และมันก็ยังชั่วอีก มันแอบเอาเอกสาร บ้านที่ควรจะเป็นของเมย์ไปจำนอง อันนี้แม่ไม่เคยรู้มาก่อนเลย จนบ้านกำลังถูกยืดค่ะ ตอนแรกไอ้รงค์มันเอาเงินเขาแค่สิบล้าน แต่ว่าตอนนี้มันขึ้นเป็นสามสิบล้านไปแล้ว เมย์อยากได้มันคืน ฮือๆ “

   “ผมเห็นบ้านแล้ว น่าอยู่มากครับ” ผมพูดแต่ธุรกิจของผมเงินสามสิบล้านมันคงมี แต่ถ้าผมโทรขอพ่อผม ผมคงได้แต่ผมไม่อยากให้เขาช่วยผม สงสัยต้องให้พ่อขายบ้านที่อเมริกา บ้านแม่ของผม และนั้นแหละผมคงจะช่วยเมย์ได้ แต่

   “คุณปฐวีย์นี้เขามีพระคุณกับเมย์มากเหรอครับคุณแม่”

   “มากค่ะ แต่คุณปฐวีย์ก็มาเดือดร้อนเพราะเมย์อีกครั้ง  มีคนเอาคลิปเมย์กับคุณปฐวีย์ไปปล่อยที่มหาวิทยาลัย คุณปฐวีย์ขอลาออกแทน เพื่อไม่ให้เมย์ถูกไล่ออก เพราะว่าเมย์จะเรียนจบแล้ว และเมย์เขาเรียนเก่ง เขาควรจะได้เกียรตินิยมอันดับสอง พอมีเรื่องนี้ทางมหาลัยเลย ขอคัดชื่อเมย์ออกพฤติกรรมไม่เหมาะสม และนี้ก็ทำให้เมย์ไปสมัครงานที่ไหนไม่ได้อีก คุณปฐวีย์ก็ให้เมย์ไปทำงานที่โรงแรมเขาแทน  “ 

   “แต่คุณปฐวีย์เขากำลังจะแต่งงานนะครับคุณแม่”

   “ ค่ะเมย์เขาก็บอกแม่เมื่อไม่นานมานี้ค่ะ “

   “แล้วเรื่องบ้านละครับแม่ ที่วิวบอกผมว่าเมย์พยายามเอาบ้านคืน คืนจากใครครับ”

   “ตอนนี้บ้านอยู่กับผู้มีอิทธิพลทางการเมืองค่ะ เขาชื่ออะไรแม่จำไม่ได้ค่ะ ”

   “แม่ปิ่นครับ พัดลมในห้องแม่เสียเหรอครับ” เมย์เดินลงมาพอดีเลย  ผมหันไปมองเมย์ เมย์ก็มองหน้าผม

   “พี่เมย์” วิวเดินเข้ามาพอดี วิ่งไปกอดเมย์ก่อนทันที

   “ทำไมเราไปทำงาน พี่ไม่ให้ไปทำงานแล้วนะวิว ไหนจะเรียนอีกล่ะ เรียนพยาบาลไม่ใช่ง่ายๆเลยนะ “

   “คือว่า”

   “วิว เรียนอย่างเดียวพอนะครับต่อไปนี้ เพราะว่าเมย์เขาทำงานกับพี่แล้ว “ ผมหันไปบอกวิว  วิวมองหน้าเมย์

   “พี่ให้วิวตั้งใจเรียนอย่างเดียวพอนะ พี่ไม่อยากให้ไปทำงานและเรียนไปด้วย “

   “พี่อยากให้วิวตั้งใจและเรียนพยาบาลให้จบ พี่รอวันที่น้องสาวพี่รับปริญญา” เมย์พูด วิวกอดเมย์  ผมเห็นแบบนี้แล้ว ผมดีใจแทนวิว ที่มีพี่ชายแบบเมย์ที่รักน้อง ถึงแม้จะไม่ใช่พี่ชายแท้ๆก็ตาม และยังทำเพื่อน้องมากมายขนาดนี้ พวกผมก็นั่งคุยกัน  วิวเขาเป็นคนน่ารักมาก และยังไม่มีแฟนด้วย  วิวเขาไม่อยากดึงใครมาเป็นภาระตอนนี้ 

   “พี่ไปน่ะ ขิม ขิง ดูแลพี่วิวแทนพี่ด้วยน่ะ “ เมย์หันไปบอกน้องชายฝาแฝด  ขิมกับขิงยกมือไหว้ผมและเมย์

   “ปัก ปัก” ผมตบไหล่สองหนุ่มฝาแฝด

   “ว่างๆ ไปหาพี่ได้น่ะขิม ขิง มีอะไรให้พี่ช่วยบอกน่ะ พี่ไม่มีน้องชายว่ะ อยากมี” ผมพูด

   “ยินดีพี่ “ ขิมพูดบอกผม ผมกับเมย์ข้นรถและขับออกไป  ผมหันไปกุมมือเมย์ เอาไว้ เมย์ หันมามองผมพร้อมกับรอยยิ้ม

   “เมย์ พี่อยากช่วยเมย์ พี่ว่าเมย์เจอเรื่องร้ายๆมาเยอะเกินไป เมย์แบกมันคนเดียวไม่ได้หรอกน่ะ ให้พี่ช่วยนะ “ ผมพูด เมย์หันมามองหน้าผม เมย์ก้มลง ผมรุ้ว่า เมย์ร้องไห้ น้ำตามันหยุดลงที่ตรงหลังมือ จังหวะที่รถติดไฟแดง ผมก็หันไปใช้ริ้วโป้งปาดน้ำตาที่แก้มนั้นเบาๆ

   “พี่ไม่สนว่าเมย์เคยเป็นอะไร พี่แคร์แค่ปัจจุบัน เมย์คือคนของพี่ “

   “ขอบคุณนะครับ พี่ตั้น “ เมย์พูดพร้อมกับโอบกอดไหล่ผม เอาหัวมาพิงที่หัวไหล่ ผมก็ออกรถขณะที่ไฟเขียวปรากฏขึ้น

   “เมย์ไม่ได้อยากทำแบบนั้น แต่ว่า วันนั้นถ้าเมย์ไม่ไป คนที่ต้องทำคือวิว ไอ้รงค์มันบังคับวิวไป “

   “ไอ้รงค์มันไปไหนแล้วล่ะเมย์”

   “มันติดคุก เมย์ทำให้มันติดคุกเพื่อปกป้องน้องผม มันคงแค้นมากถ้ามันออกมาจากคุกอ่ะพี่ตั้น ผมเองก็ไม่อยากทำให้พี่ตั้นเดือดร้อนอีกคนเหมือน คุณปฐวีย์ “ เมย์พูด

   “ผมทำให้พี่ปฐวีย์เดือดร้อนมาไม่รู้กี่ครั้ง  บูญคุณนี้ผมจะใช้หมดในชาตินี้หรือเปล่า”

   “แล้วเมย์จะทนแทนบุญคุณเขายังไง “ผมถามเมย์

   “เมย์ไม่รู้ แต่ว่าเมย์ “

   “เมย์รู้ไหมว่าพี่อิศเรสนะคือคนที่พี่รัก เป็นผู้ชายคนแรกที่พี่รัก พี่อิศเรศลงมาช่วยดูแลพี่ตอนที่พี่มาอยู่ที่นี้ใหม่ๆ เขาช่วยสอนพี่สนพี่อ่านภาษาไทยได้ และพี่ก็แย่จากการที่พี่เสียแม่ไปอีก “

   “เขาฟื้นฟูจิตใจพี่ จนพี่คิดว่าเขามาเพื่อพี่แต่สุดท้ายแล้วเขาเลือกกลับไปหาพ่อพี่  เขาเลือกกลับไปยืนเคียงข้างพ่อพี่ในฐานะคนรัก พี่คิดว่าเพราะพ่อพี่มีบุญคุณกับเขา” ผมพูด เมย์บีบมือผมไว้แน่น

   “พี่กลัวเมย์ “

   “ผมจะเห็นบุญคุณสำคัญกว่าหัวใจเหรอ “เมย์ถามผม

   “พี่กลัวมาก “ ผมพูดและมองออกไปข้างหน้า

   “แต่ถ้าเมย์จะไปเพราะใจตัวเองไม่ใช่บุญคุณแน่นอน “เมย์พูดก่อนจะเงยหน้ามองผม

   “กินอะไรดีล่ะวันนี้ “ผมเปลี่ยนเรื่องคุยกับเมย์ซะเฉยๆ

   “พี่เห็นมีร้านสเตกเปิดใหม่ วันก่อนที่พี่มาคุยเรื่องงานกับเจ้าของร้านยา ที่พี่จะมาลงโปรแกรมให้ ไปลองทานกันไหมเมย์” ผมถามเมย์ที่กอดแขนผมเอาหัวซุกอยู่ เงยหน้ามองผมพยักหน้าเหมือนเด็กน้อย น่ารักจริงๆ 

   ผมกับเมย์ขับรถมาถึงที่ร้านที่ผมบอก คนเยอะพอสมควร ผมเดินเข้าไปในร้าน วันนี้ วันนี้ผมชะเง้อมองมีผู้หญิงคนหนึ่งเขามองผมและบอกผมว่าวันนั้นยังไม่เปิด จะเปิดเร็วๆนี้ ผมก็เลยพยักหน้า เขาหันมามองเจอผมก็ เดินมาส่งยิ้มหวานให้ผมทันที

   “พี่นั้นเอง มาคนเดียวเหรอค่ะ”

   “ไม่ได้มาคนเดียวครับ มากับ  แฟนครับ” ผมพูด เธอหน้าสลดลงทันที ก่อนจะหันมาเจอเมย์ เธอก็ต้องตกใจเหมือนเธอจะรู้จักเมย์

   “พี่เมย์ สวัสดีค่ะ “

   “สวัสดีครับ น้องมิ้น “ 

   “ไม่เจอกันเลยอ่ะ พี่มีนอยู่ด้านหลังน่ะ  มิ้นเรียกให้น่ะ” ผมหันมามองหน้าเมย์

   “เพื่อนตั้งแต่สมัยเรียนของผมนะครับจบมาก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย ผมก็ไม่รู้ว่าเขามาเปิดร้านสเต็กที่นี้” เมย์พูด ผมพนักหน้า ผมเข้าไปหาโต๊ะที่ว่างๆนั่ง เมย์นั่งเอามือประสานกันเหมือนกับว่าเขากังวล จนผมต้องเอื้อมไปแกะมือเมย์ออก

   “เมย์ มีอะไรหรือเปล่า”

   “คือเมย์”

   “เมย์” ผุ้ชายคนหนึ่งเดินออกมาและเรียกเมย์

   “มีน” เมย์เรียกคนนั้นว่ามีน  “มีนนี้พี่ตั้น” เมย์แนะนำผมกับมีน มีนยกมือไหว้ผม

   “พี่ตั้นเขาเป็น  แฟนเมย์ว่ะมีน”

   “อ้าว แล้วคุณปฐวีย์ละว่ะ”

   “เขาไม่ใช่แฟนกู “

   “พี่ ผมขอโทษนะพี่ “น้องเขายกมือไหว้ขอโทษผม ก่อนจะนั่งลงข้างๆเมย์และหันมามองผมก่อนหันกลับไปมองเมย์

   “สั่งอะไรทานก่อนไหมค่ะ พี่เมย์และพี่ “

   “พี่ตั้นครับ”

   “ผมเอาสเต้กโคขุนคับ เอาแบบ rare ครับ ผักสลัด และเอาสเตกปลาแซลมอนให้เมย์นะครับและก็ผักสลัดเหมือนกันครับ “ผมสั่งอาหารให้เมย์ทันที เมย์หันมามองหน้าผม

   “พี่เมย์ไม่ชอบทานเนื้อน่ะครับ” ผมหันไปบอกน้องผู้หญิง เขาก็พยักหน้าก่อนจะเดินออกไป

   “พูดเถอะมีน เฮียเขาควรจะรู้ว่ะ “ เมย์พูด

   “ คือตั้งแต่เกิดเรื่องก็ไม่ได้ติดต่อเมย์เลย เราขอโทษว่ะ กูแม่งแค้นแทนมึงว่ะ มึงน่าจะทำเรื่องให้เขาตรวจสอบ “ มีนพูด ผมก็เลิกคิ้วสูงเกิดอะไรขึ้นเหรอ

   “กูไม่อยากทำให้พี่ปฐวีย์ดูแย่ไปกว่านี้ว่ะ ยิ่งตอนนี้พี่เขาเป็นเจ้าโรงแรมนะมึง”

   “ก็สิ่งที่มึงควรจะได้เพราะว่ามึงตั้งใจเรียนมากเลยนะโว้ย” ผมหันมามองหน้าเมย์

   “พอดีว่ามีคนเอาคลิปเมย์ไปปล่อยที่เพจมหาวิทยาลัยนะครับพี่ ที่จริงเมย์มันควรจะได้เกียรตินิยมอันดับสองแต่เพราะเรื่องนี้ มันเลยโดนปลด ผมโคตรสงสารมันเลย “  มีนเป็นคนพูดแทน ผมพยักหน้าเบาๆ

   “มันร้านแรงขนาดนั้นเลยเหรอเมย์ คลิปน่ะ”

   “นี่ครับพี่ “ น้องเขาส่งมือถือให้ผม และผมก็รับมาเปิดดูคลิป  มันเป็นคลิปเหมือนกับว่าเมย์กำลังทำอะไรกับใครสักคนในรถเก๋งคันหรู ผมดูจนจบคนที่เดินลงมาจากรถนั้นคือเมย์ เมย์สวมเสื้อคลุมเสื้อสูทดูก็รู้ว่าของพี่ปฐวีย์ “
   
    “ทุกคนคิดว่าเมย์มันเอาตัวไปแลกเกรด แต่ผมเชื่อเพื่อนผมพี่ เมย์มันไม่จำเป็นหรอก เพราะว่าเมย์มันเป็นคนเรียนเก่งและตั้งใจ ” ผมดูคลิปนั้นและหันไปมองเมย์

   “วันนั้นไอ้รงค์มันพาผมไป หาคนหนึ่งเพื่อนจะให้ผมไป มีอะไรกับเขา แต่ว่าเขารู้จักพี่ปฐวีย์ พี่ปฐวีย์เลยยอมจ่ายเงิน จำนวน สามหมื่นบาทค่าตัวผมคืนนั้น “ผมก็ต้องทำตาโต สามหมื่นเลยเหรอในคืนเดียว

   “ เพราะว่าผม ไม่เคย เออ มีอะไรกับใครมาก่อน และพี่ปฐวีย์เขาพาผมกลับ ก็ชุดที่มันให้ผมใส่มันดูเหมือนนายโชว์อ่ะตั้น พี่ปฐวีย์เลยให้ผมสวมเสื้อสูทเขา “ เมย์พูด

   “แต่ผมไม่คิดว่าจะมีคนเอาคลิปนี้ไปปล่อย ผมตั้งใจเรียนมาตลอดอ่ะ “น้ำใสมันหยุดลง

   “นี่มึงติดต่อมหา’ลัยหรือยัง ใกล้วันรับปริญญาแล้วน่ะเราจะได้ถ่ายรูปด้วยกันเมย์”

   “อาจารย์บอกไว้ว่าไม่รับก็ได้แต่จะให้ลงเหตุผลว่าทำไมไม่สามารถมารับได้ กูยังมีหน้าไปรับเหรอว่ะมีน “ เมย์พูด ผมหันมามองหน้าเมย์

   “ไปรับเถอะ รู้ไหมว่ามันคือวันสำคัญ ตอนที่พี่รับพี่ก็อยากให้คนที่ยืนข้างๆพี่คือแม่พี่ แต่พี่ทำไม่ได้ ตอนนี้เมย์มีครอบครัวแม้จะไม่ใช่ครอบครัวที่แท้จริง และพี่ก็อยากเห็นเมย์สวมชุดนั้นน่ะ” ผมพูด

   “แต่ว่าคลิปนี้มันถูกส่งไปและมีคนแชร์เยอะมากเลยน่ะพี่ตั้น ผมไม่กล้า ที่จะก้าวเท้าเข้าไปในนั้นอีก “

   “ไปกับพี่ไง พี่เชื่อว่าเมย์ไม่ได้ทำ “ผมพูด

   “ถ้าจะไปนัดกันว่ะ เราไปพร้อมๆกัน ไอ้บรีสมันก็จะกลับมาจากออสเตรเลีย เพื่อมารับปริญญาเหมือนกัน” เพื่อนเมย์พูด

   “ขอคิดดูก่อนได้ไหมว่ะ แล้วจะให้คำตอบน่ะ” เมย์ตอบ ผมพยักหน้ากับเมย์

   “เออ เมย์ โทรหากูน่ะ กูต้องไปแล้วว่ะ อาม๊ากูจะกลับบ้าน “

   “พี่ตั้น ผมฝากดูเพื่อนผมด้วยนะ ไอ้นี้มันนิสัยดี “

   “เบอร์โทรกูมึงยังมีใช่ไหมว่ะ โทรหากู มึงหายไปกูโคตรเป็นห่วงมึงเลยว่ะ แล้วคุยกัน” น้องมีนพูด ผมหันมามองเมย์ ผมเอื้อมมือไปแตะที่หัวเบาๆ

   “ขอโทษนะคะ อาหารได้แล้วค่ะ “ น้องสาวของมีนเดินมาเอาอาหารมาเสริฟผมกับมีน แต่เขาก็ยังยืนอยู่ ผมหันไปมองและยิ้มๆ เหมือนน้องเขาจะขออะไรสักอย่าง

   “มีอะไรหรือเปล่ามิ้น “เมย์เป็นฝ่ายถาม

   “คือ  พี่เมย์ ขอมิ้น เออ ถ่ายคลิปพี่คู่กันได้ป่ะ เอาแบบสวีทอ่ะ มิ้นเป็นแอดมิ้น คลับคนรักนิยายวายอ่ะ นะ นะ “ ผมหันมามองเมย์ ผมเองไม่เข้าใจเท่าไหร่

   “ น้องเขาขอถ่ายคลิปเราสองอ่ะพี่ น้องเขาอยากไปลงคลับนิยายวายอ่ะพี่ตั้น “ เมย์กระซิบกับผม ผมหันไปพยักหน้าได้ดิ เมย์สะบัดหน้าไปมองน้องเขา

   “เอาอย่างนี้ พี่ทำเป็นว่ากำลังหันปลาซาวมอนให้พี่เมย์ สายตาแบบมองว่า พี่รักเขามาก “ผมก็ขมวดคิ้ว น้องเขาพูดไปและเอามือประสานกันเหมือนกำลังดูหนังรักโรแมนติก ผมก็ทำตามที่น้องเขาบอกนะ เมย์มองผมมียิ้มเอียงอาย มันน่ารักซะจนผมเลือกที่จอมองเมย์มากกว่า ขณะที่กำลังหันปลาแซลมอนให้เมย์

   “อ้ายยย!!!!!”จู่ๆน้องเขาก็กรี้ดจนทุกคันในร้านหันมามองน้องเขาและผมสองคนกันหมด เมย์รีบสงสัญญาณว่าให้พอได้แล้วคนมอง “แฮะๆ ขอโทษค่ะ “ น้องมิ้นเขาหันไปขอโทษทุกคนในร้าน ก่อนจะหันมาโบกมือให้ผมสองคนได้ทานกันต่อ ผมก็ดูแลเทคแคร์เมย์แบบนี้อยู่แล้ว เป็นปกติ แต่รอบนี้สายตาหลายคู่หันมามองผมสองคน จนเมย์ไม่กล้าทานต่อ ทำแก้มป่องใส่ผมอีกน่ะ คนตัวเล็กของเฮีย
-----------------------------------------------------------------
ตอนหน้าเฮียตั้นจะพาเมย์ไปเปิดตัวที่บ้านพ่อของเขาอย่างเป็นทางการค่ะ
เฮียรักน้องขนาดนี้ น้องคงไม่ทำให้เฮียเสียใจน่ะ .....
ขอบคุณคอมเม้นให้กำลังใจค่ะ  :-[ :3123:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤ EP.1ุ6 (พี่ตั้นVSเมย์)ผมเลือกเมย์
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 26-11-2020 19:32:55
 :impress2: :-[ :o8:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤ EP.1ุ6 (พี่ตั้นVSเมย์)ผมเลือกเมย์
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 26-11-2020 21:14:13
ปัญหาชีวิตเยอะดีเว้ย แต่เป็นปัญหาที่คนอื่นสร้างให้ทุกเรื่อง เอวัง~~ :เฮ้อ: :เฮ้อ: 555555 ค่อยๆว่ากันไป

 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤ EP.1ุ6 (พี่ตั้นVSเมย์)ผมเลือกเมย์
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 27-11-2020 04:45:27
 :a5: :กอด1:
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤ EP.1ุ7 (พี่ตั้นVSเมย์) พาเมย์ไปเปิดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 27-11-2020 07:50:45
รชานนท์
              วันนี้ผมจะพาตัวเล็กไปบ้านพ่อผมที่เขาใหญ่ ไปทำบุญครบรอบวันเสียชีวิตแม่ของผม ผมกะว่าไปถึงก็จะกลับเลย ไม่อยากอยู่ค้างคืน ผมจึงเลือกที่จะออกแต่เช้าตรู่ ผมไปพร้อมกับเมย์ ผมยืนแต่งตัวรอเมย์อยู่ นี้เปลี่ยนมาหลายชุดแล้วน่ะ ยังไม่ได้ชุดที่ถูกใจซะที ผมเองก็สวมกางเกงยีนกินนี้สีดำ สวมเสื้อยืดพอดีตัวแขนสามส่วน ใส่เจลที่ผมแบบปัดไปด้านข้าง เป็นสไตล์การแต่งตัวที่ไม่คุ้นเคยกันในชีวิตประจำวัน น้อยมากที่ผมจะแต่งแบบนี้ เปิดกล่องหยิบต่างหูมาสวมใส่ เวลาทำงานจะไม่ใส่ต่างหู แต่จะใส่เวลาไปบ้านพ่อผม ทั้งหมดนี้คือประชดพ่อผมเอง เมย์เปิดประตูออกมาจากห้องน้ำ

(https://uppic.cc/d/mHtyV8AbA-Q9pGxIKKcNr)สไตล์การแต่งตัวของพี่ตั้น (https://uppic.cc/v/mHtyV8AbA-Q9pGxIKKcNr)
“กึก” เสียงของหล่นจากมือเมย์ ผมหันไปเอี้ยวตัวมองเมย์ขณะที่กำลังสวมต่างหูอยู่ เมย์ ที่ยืนอึ้งกับการแต่งตัวของผมวันนี้

“เป็นอะไรตัวเล็ก” ผมถามเมย์

“นี้เฮียแต่งตัวแบบนี้ด้วยเหรอ” ตัวเล็กถามผม

“เมื่อก่อนเฮียแต่งแบบนี้แหละ แต่เวลาทำงานมันแต่งไม่ได้ไง” ผมหันไปบอกเมย์ เมย์เข้ามาช่วยผมใส่ต่างหู

“เจาะหูหรือเปล่า ตัวเล็ก” ผมถามเมย์ เมย์ส่ายหัว

“เอาไว้เฮียพาไปเจาะ มันน่ารักดี “ผมพูดและหยิบต่างหูที่จิ๋วหนีบแบบแม่เหล็ก ไม้กางเขนสีดำมีโซ่คล้องสีดำต่อกับต่างหูหนีบอีกอันเอาไว้หรีบที่ตรงปีกหูนั้นเอง
        ผมหยิบมาหนีบติดที่หูให้เมย์ เมย์สวมกางเกงยีนสกินนี่เหมือนกันสวมเสื้อยืดพอดีตัวสีขาวและสวมเสื้อยีนทับ รองเท้าบูต ตอนนี้เป็นเวลาตีห้ากว่าๆ ผมออกกันแต่เช้ามืด และผมคิดว่าไปถึงทำบุญเลี้ยงพระเพลและก็จะกลับเลย ผมเองไม่ได้ไปมาสามสี่ปีได้แล้ว(https://uppic.cc/d/3uoVsr3JE1dtI-jqgOMxL)การแต่งตัวของเมย์ (https://uppic.cc/v/3uoVsr3JE1dtI-jqgOMxL)

ผมขับรถเก๋งคันหรูที่พ่อผมซื้อให้ ราคาเป็นสิบล้าน คันนี้ไม่เคยพาสาวคนไหนนั่งเลย มีหนุ่มข้างๆ ผมนี้แหละที่ได้นั่งคนแรก (ที่เป็นหวานใจแต่เพื่อนผมเคยนั่งกันแล้วแต่ไม่บ่อยผมไม่ค่อยชอบเอาไปทำงานด้วย ขอบแบบลุยๆ มากกว่า) เมย์เข้าไปนั่งในรถของผม ตื่นตานิดหนึ่ง เขาอาจจะไม่เชื่อว่าผมจะมีรถหรูแบบนี้เอาไว้ขับด้วย ผมหันมามองเมย์ ก่อนจะขับรถออกมา

“พี่ไม่ได้ไปมาหลายปีแล้วเมย์”

“แล้วพอครบรอบวันเสียชีวิตแม่พี่ พี่ไปไหนเหรอ” เมย์ถามผม

“ไปหาแม่พี่ที่อเมริกา ไปที่หลุมศพแม่พี่ พ่อพี่เขาไม่ให้พาศพแม่พี่กลับมาไทย” เมย์กุมมือผมและบีบมันเบาๆ

“ผมก็ไม่รู้ว่าพ่อแม่ผม เขาเอาศพไว้ที่ไหนแต่มีหลุมศพอยู่ที่โบสถ์คริส “เมย์พูด ผมหันไปลูบหัวเมย์เบาๆ

“ผมไม่เห็นรูปถ่ายแม่พี่เลยน่ะ พี่ตั้น” เมย์หันบอกผม ผมก็ยิ้มและพยักหน้าไปที่ในลิ้นที่เก็บของในรถของผม

“ในกระเป๋าสตางค์พี่ครับ มีรูปแม่พี่อยู่” ผมบอกเมย์ เมย์พยักหน้าก่อนจะเปิดมันออกมาและหยิบกระเป๋าสตางค์ของผมาเปิดดู และค้นหาจนเจอ เขาก็หยิบออกมา เมย์หันมามองผม

 "ผมอยากจะบอกว่าตอนวัยรุ่น พี่ตั้นหล่อมาก มีเหล็กดันฟันด้วย แต่แม่พี่เขาคงเริ่มป่วยแล้วมีผ้าโพกศีรษะอยู่"รูปนี้ ดูผมถ่ายแบบใกล้ชิดแม่มากโอบไหล่ กัน

“ทำไมมองพี่สลับกับรูปขนาดนั้นละตัวเล็ก พี่ดูไม่เหมือนคนในรูปหรือไง” ผมถามเมย์ เขาพยักหน้าเล็กน้อย

“คือแบบว่าในรูป พี่ใส่เหล็กดัดฟันอ่ะ พี่หล่อแบบ ไม่เหมือนตอนนี้ ตอนนี้หล่อแบบลุยๆ อ่ะ” เมย์พูด ผมเบียงสายตามามองเมย์แว๊ปหนึ่งก่อน

“ตอนแรกพี่ไม่อยากใส่หรอก แต่หมอที่โน่นเขาบอกว่าฟันพี่มีปัญหาควรจะใส่ แม่พี่ก็เชื่อหมอ คุณนายลลิลภัทร์เขากลัวว่าพี่จะฟันไม่สวยไง “ผมพูด

“ตอนแรกพี่ใส่แบบ Head gear “ผมพูด ทำให้คนข้างๆ ถึงกับทำหน้างง

“เคยดูหนังการ์ตูนเรื่อง นี่โมป่ะ ที่เด็กผู้หญิงใส่อ่ะ พี่ใส่อันนั่นแหละ ตอนนั้นอายุสิบสามปี แต่พี่ใส่เฉพาะตอนนอนและอยู่ที่บ้านน่ะของพี่ใส่หลังทานอาหารเย็น ไม่ใส่ออกนอกบ้าน พี่รำคาญอ่ะ แม่เลยพาไปเปลี่ยนเป็นแบบนี้ในรูป” ผมพูดและชี้ให้เมย์ดู

“พี่ไม่มีรูป ไม่กล้าถ่ายมันตลก อย่าไปหาดูเลย “ผมพูดและปนหัวเราะกับคนข้างๆ เมย์เขายังมองรูปผมและหันมามองผมอีก
“ตอนนั้นหัวบันไดบ้านไม่แห้งเลยน่ะ คุณนายลลิลภัทร์แซวพี่ตลอด สาวเยอะมากจนพี่มีเรื่องผู้หญิงมาติดพัน ฝรั่งถ้าเขาชอบเขาก็เข้าหาเลย แต่ก็มีบ้างที่พี่จีบนั้นคือพี่ต้องสนใจจริงๆ แต่พอมาช่วงที่แม่พี่ป่วยพี่ก็ไม่ได้ติดต่อเขา ปานนี้คงมีครอบครัวไปแล้วแหละ” ผมพูดกับเมย์ และยังเปิดดูบัตรพวกบัตรนักศึกษา บัตรประชาชนก็มี ดูรูปต่างๆ จนกระทั่ง ไปหยุดที่รูปหนึ่ง ผมว่าแล้ว ผมไม่ได้เอาออก นั้นคือรูปผมกับพี่อิศเรศ รูปที่ผมถ่ายที่ตู้ถ่ายสติกเกอร์ ผมยอมรับว่ามันแนบชิดเหมือนคนรักทั่วไป เมย์หยิบออกมาดูก่อนจะเก็บใส่ลงไป

“หมับ” ผมหยิบกระเป๋าสตางค์นั้นมาจากเมย์ และผมก็หยิบรูปผมกับพี่อิศเรสออก

“เฮียเอาออกทำไมล่ะ”

“พี่ว่าเมย์ก็ต้องรู้สึก เอามันออกเถอะ พี่เจอคนที่ รักพี่แล้ว “ผมบอกเมย์และเก็บมันใส่ที่เก็บของไป เมย์มองผมก่อนจะนั่งเอนมาเอาศีรษะ มาพิงที่หัวไหล่ผม ผมขับรถไปทางด่วนอุดรรัตยา ผมขับไปก็กุมมือคนตัวเล็กไปด้วย มีจับมาหอมบ้างเป็นระยะ จนกระทั่งผมขับมาถึงเกือบเก้าโมงกว่า

“หิวไหมครับ เราจะได้แวะหาอะไรทานก่อน”

“ก็ได้ครับ “เมย์บอกผม ผมหันไปลูบหัวเมย์เบาๆ และผมก็นำรถเข้าจอดในคาเฟ่หนึ่ง หาอะไรทานกันทันที เป็นคาฟ่เล็กๆ แต่ว่าตกแต่งได้น่ารัก ผมก็สั่งกาแฟกับขนมปังมาทานกัน แก้วกาแฟเขาแต่งด้วยรูปหัวใจผมเลยต้อง ถ่ายรูปไปลงไอจีกันหน่อย

“เมย์!!!” ผมเสียงเมย์เสียงดัง เขาเลยตกใจรีบหันมามองผม เขาคงคิดว่าผมจะเอ็ดที่เขาเล่นมือถือไม่ยอมทานซะที และพอเมย์หันมาก็ได้จังหวะพอดิบพอดี ผมรีบจุ๊บปากเมย์และกดถ่ายรูปไว้ในทันที ก่อนที่จะจะรีบอัพรูปลงไอจีของผม

จะนาน ไม่นาน ไม่รู้ แต่ถ้าวันนี้ยังมีกันอยู่ จะดูแลให้ดีที่สุด
มัดหมี่/ (แฟนไอ้ทีน) น่าร๊ากอ่ะ อยากเจอแล้ว เฮีย!
[/size][/color]
https://youtu.be/ShZ978fBl6Y] ผมเปิดฟังเพลง You are the reason (https://youtu.be/ShZ978fBl6Y)

และผมก็ออกเดินทางต่อ  ตอนนี้มีคนให้จับมือไปด้วยกันตลอดทาง มีคนคอยป้อนน้ำป้อนขนมด้วย และผมก็ขับมาจนถึงทางเข้า พื้นที่กว้างมากและคนข้างผมเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ แต่มือผมกับเขายังจับกันอยู่ ผมเข้าผ่านประตูทางเข้าเข้าไปด้านใน ขับรถจนถึงเรือนที่พัก ผมสูดหายใจออกมายาวๆ ผมเหลือบไปมองมีเรือนอยู่สามเรือน เรือนใหญ่สุดคือเรือนของพ่อผม เรือนทางด้านซ้ายมือคือเรือนของแม่ผม และเรือนที่สาม คือเรือนของเมียน้อยพ่อผม ผู้หญิงคนนี้พ่อเอาเข้ามาพร้อมลูกติด แต่ลูกนี้พ่อผมเอามาทีหลังไม่กี่ปีนี้เอง ส่วนแม่เลี้ยงนี้ทำให้แม่ผมต้องออกจากบ้านไป บอกตรงๆ ว่าผมเองก็ไม่รู้ว่าเขามาอยู่ในฐานะอะไร ทั้งที่พี่อิศเรศก็พักเรือนใหญ่กับพ่อผม ในฐานะคนรัก

“เมย์ “ผมสะกิดเรียกเมย์ “เมย์” ผมเรียกเมย์อีกครั้ง ดูท่าจะไม่ตื่น “ปึก” ผมปลดเข็มขัดและเอี้ยวตัวไป หยอกเย้ากับริมฝีปากบางๆ นั้นเล่น เมย์ก็เคลิ้มตอบสนองผมกลับ

“พี่ก็ชอบเมย์แบบนี้ อืมมม เราขึ้นเรือนของแม่พี่เลยไหม ไม่เข้าไปร่วมพิธีกับเขาแล้ว พาเมียเข้าห้อนนอนดีกว่า “ผมพูดและมันทำให้คนที่นอนอยู่เบื้องล่าง ลืมตาโพลง ก่อนจะดันผมออก ผมต้องถอยกลับมาอยู่ฝั่งคนขับเหมือนเดิม มองคนตัวเล็กน่ารักของผม ลุกพรวดมองไปรอบๆ

“ถึงแล้วเหรอเฮีย” เมย์ถามผมพร้อมกับบิดขี้เกียจไปด้วย ผมพยักหน้า

“ผมหลับไปตอนไหนอ่ะ เฮี่ยเฮียทำไมไม่ปลุกผมให้ตื่นมานั่งเป็นเพื่อนพี่ละ ห้าว!! ”

“พร้อมหรือยังครับตัวเล็ก” ผมถามตัวเล็ก เขาก็มองหน้าผม ผมบีบมือเขาไว้ ผมว่าเขารู้ เมย์บีบมือผมกระชับก่อนจะพยักหน้า ผมก็ปลดล๊อกประตูพร้อมกับก้าวเท้าออกมาไป พร้อม ๆ กันกับเมย์

“คุณตั้น” แม่บ้านที่นี่ยังจำผมได้ดี ดูแล้วกำลังวุ่นวายขนสำหรับอาหารขึ้นไปเรือนที่พ่อผมใช่ใช้เป็นสถานที่ทำพิธี แม่นมที่บอกว่าเคยดูแลผม ตั้งแต่ผมอายุได้สามเดือน มีคนบอกว่าแม่ผมป่วยจนเลี้ยงผมไม่ได้ ผมเองก็คงจำความไม่ได้อยู่ดี เล็กเกินไป

“คุณตั้นของนม “แม่นมจิต เขาตรงเข้ามากอดผมทันที

“คุณตั้นของนม ยิ่งโตก็ยิ่งเหมือนคุณท่านนะคะ” แม่นมพูด (แต่ในใจผมค้านตลอดไม่อยากเหมือนพ่อ) ก่อนจะหันไปมองคนข้างๆ ผม เขาก็ยิ้มให้ผม

“นมจิต นี้ เมย์ แฟนผม” ผมพูด นมจิตหันไปมองเมย์ด้วยอาการตกใจ แต่ก็เปลี่ยนจากกอดผมเข้าไป จับตัวเมย์มาและเอามือลูบหน้าตาอย่างเอ็นดูแทน

“เธอน่ารักจริง ๆ ด้วยค่ะ อย่างที่คุณเรศบอกนมไว้เลย ว่าคุณตั้นมีคนรักและดูแลดีอยู่ที่กรุงเทพ” ผมหันไปมองเมย์ก่อน

“คุณตั้นค่ะ คุณท่านบอกว่าถ้าคุณมาถึงให้ขึ้นไปบนตึกเลยค่ะ คนใช้ที่บ้านผมเดินลงมาบอกผม ผมพยักหน้าและพาเมย์เดินไปบนตึกทันที วันนี้คงมีแค่คนในบ้าน ผมเดินไปยังห้องโถงใหญ่ที่ถูกจัดเอาไว้ พรสงฆ์มาพร้อมกัน ผมเห็นพี่อิศเรศที่อยู่ข้างๆ พ่อผม ผมก็หันมาจับมือเมย์เดินเข้าไปพร้อมกับผม

“ลูกตั้น! ” แม่เลี้ยง ที่กำลังยืนอุ้มหมาพันธุ์ชิวาวา สวมชุดลายเดียวกับคนอุ้ม เมย์หันไปมอง นางเรียกผมคงหวังจะให้ผมยกมือไหว้ละซิ ฝันไปเถอะ ผมเดินผ่านไปหน้าตาเฉยๆ นางก็อ้าปากค้างไป และลูกสาววัยกระเตาะแต่แก่แดดแก่ลมที่สุด นางเดินออกเข้า

“พี่ตั้นขา” ผมหันมามอง นางกำลังปรี่เข้ามา ผมไม่เคยญาติดีกับสองแม่ลูกนี่เลยแต่ไม่เคยสำนึกเลยสักนิด ผมหันขวับมามองหน้าเธอ เมย์สะกิดผม

“พี่ตั้นขา เมญ่า คิดถึงค่ะ”

“ขอบใจ “ผมพูดแค่นั้นก็หันไปจับมือเมย์

“เดี๋ยวค่ะ ไอ้นี่ใครเหรอคะ” นางถามว่าเมย์คือใคร

“เมียพี่ทำไมเหรอ เธอมีปัญหาอย่างนั้นเหรอ “ผมหันไปตอบและถามลูกสาวแม่เลี้ยงผม นางยืนอ้าปากค้าง ผมรู้ท่ว่านางจ้องจะงาบผมเช่นกัน อายุยังไม่สิบห้าเลย เพราะว่าพ่อผมกำลังจะเชิญสองคนแม่ลูกที่ไม่มีประโยชน์นี้ออกไปจากบ้านเร็วๆ นี้

“อะไรกันน่ะ “ผมไม่สนใจ ผมดึงลากเมย์เข้าไปด้านในทันที จนเข้าไปถึงชั้นในสุดก็เห็นว่าพ่อผมนั่งอยู่ เมย์ยกมือไหว้พ่อผมก่อน และหันมาดึงแขนผมจนเรียกว่ากะตุ๊กเลยก็ว่าได้

“อะไรเมย์ “ผมถามเมย์

“ไหว้พ่อพี่ด้วยซิพี่ตั้น” เมย์บอกผมแถมยังทำหน้าดุใส่ผมอีกน่ะ เลยต้องยอมทำตามเมียสั่ง ผมหันไปยกมือไหว้พ่อผม พ่อผมสะบัดหน้ามามองอย่างไม่เชื่อสายตา พี่อิศเรศเกือบหลุดขำผมกับพ่อ ใช่พ่อลูกที่ปากกับใจไม่ตรงกัน ผมนั่งลงโดยมีเมย์นั่งอยู่เคียงข้างผมตลอด จนพิธีผ่านไปเรียบร้อย อาหารแต่ละอย่างผมยอมรับว่าเป็นของที่แม่ผมชอบแต่มันจะมีประโยชน์อะไรที่พ่อจะมาทำให้แม่ผมตอนนี้ มันไม่ได้ทำให้ผมหายโกรธเขาได้

“พี่พาไปบ้านแม่พี่น่ะ “ผมบอกตัวเล็กก่อนจะดึงแขนตัวเล็กให้ลุกขึ้น ตอนนี้พ่อผมคงมีธุระผมเลยยังไม่เข้าไปหา อันที่จริงผมก็ไม่มีอะไรจะคุยกับพ่อเท่าไหร่ เพราะทุกครั้งที่ผมมองหน้าเขา ผมเจ็บใจทุกครั้ง คำถามที่มันค้างคาในใจ แม่ผมทำอะไรผิด พ่อถึงได้ใจร้ายกับแม่ผมหนัก ต่อให้มันผ่านมากี่ปี ที่แม่ผมเสียชีวิตไป ผมก็ยังค้างคาในใจอยู่ดี จะให้ผมให้อภัยมันคงจะยาก ต่อให้คนตรงหน้าคือให้ชีวิตผมก็ตาม
---------------------------------------------------
ขอบคุณกำลังใจนะคะ ขอกอดคนอ่าน :กอด1:
มาสั้นหน่อยนะคะ เพราะว่าตอนนี้ยาว(มาก) เลยขอลงสามช่วง
ตอนหน้าเมย์จะได้รู้อะไรบ้างอย่างว่าทำไมพี่ตั้นจำภาพตอนเด็กๆไม่ได้เลยแต่ปริศนาของแม่พี่ตั้นซิ?
ฝากไว้ด้วยนะคะ (ไม่ดราม่าไปใชไ่หมคะ )
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤ EP.1ุ7 (พี่ตั้นVSเมย์) พาเมย์ไปเปิดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 27-11-2020 09:25:43
 :angry2: :serius2:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤ EP.1ุ7 (พี่ตั้นVSเมย์) พาเมย์ไปเปิดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: Tanthai23 ที่ 27-11-2020 12:21:46
คุณพ่อพี่ตั้นทำไมใจร้ายจัง  :hao5:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤ EP.1ุ7 (พี่ตั้นVSเมย์) พาเมย์ไปเปิดตัว
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 27-11-2020 12:51:30
 :กอด1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.1ุ7 (พี่ตั้นVSเมย์)ปมลึกๆในใจพี่ตั้น
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 27-11-2020 13:58:31
(https://www.i-pic.info/i/rsN85666.jpg) (https://www.i-pic.info/i/rsN85666)

       
                   เมธานินร์ ผมค่อยขยับแขนที่พาดตัวผมเอาไว้อยู่ออกอย่างเบามือที่สุด คนตัวโตนอนหลับอยุ่นี่บอกว่าพามาดูบ้านแม่ยังไม่ได้สำรวจเลย พอมาถึงเตียงนอนได้ชวนผมเล่นจ้ำจี้ทันที ได้ผลคนข้างๆ ผมหลับผล็อยไปซะเฉยๆ หลังจากเสร็จกิจ ผมพลิกมามองคนที่หลับสนิท พี่ตั้น ผู้ชายที่ผมเคยบอกว่าผมจะรักได้หรือเปล่ายังไม่รู้ ตอนนี่ต้องเปลี่ยนใหม่เป็น ผมจะเลิกรักผู้ชายคนนี้ได้หรือเปล่ายังไม่รู้เลย ผมหันมองไปรอบๆ ห้อง นึกแปลกใจ ภายในห้องไม่มีรูปแม่ของพี่ตั้นเลย มีแต่รูปภาพของพี่ตั้น แต่ว่าตอนโตแล้วทั้งนั้น ตอนเด็กก็ไม่มีเลย มีแค่รูปตอนที่พี่ตั้นเขาเข้ารับปริญญากับเพื่อนๆ รูปใหญ่ ที่อยู่ในห้องนอน ผมลุกมาสวมเสื้อผ้า ส่วนพี่ตั้นนะ ผมปล่อยให้เขานอนแก้ผ้าไปก่อนแล้วกัน คนอะไรก็ไม่รู้ ช่วงนี้ไม่อายกันแล้วเนี๊ยะ! กลางคืนก็ใส่แค่บ๊อกเซอร์อย่างเดียวนอน ก่อนจะออกจากห้องไปผมไม่ลืมที่จะล๊อกประตูให้เพื่อว่าแม่บ้านขึ้นมาเขาอาจจะตกใจเอา ฮาๆ คิดเยอะผมน่ะ

“สวัสดีค่ะ คุณเมย์ “แม่บ้านที่ นี้เขาเรียกผม ขณะที่ผมเดินลงมายังชั้นล่าง ที่นี่เงียบสงบมากจนผมแอบหลงรักบรรยากาศที่นี่ ก็รายล้อมไปด้วยป่าเขาลำเนาไพรขนาดนี้ เสียงน้ำตกก็มี

“สวัสดีครับ”

“คุณตั้นละคะ”

“เฮีย เขาหลับนะครับ” ผมหันไปพูดกับแม่บ้าน เขาถึงกับขมวดคิ้ว ผมก็ลืมไปว่าพี่ตั้นบอกอย่าเรียกเฮีย เพราะว่าทีนี้ไม่รู้

“พี่ตั้นหลับนะครับ”

“อ้อคุณตั้นนั้นเอง นึกว่าใคร หิวไหมคะคุณเมย์ เหมียวหาอะไรให้ทานคะ”

“นิดหน่อยอ่ะครับ” ผมพูดด้วยความเกรงใจ

“ไปนั่งตรงโน้นดีกว่าค่ะ แม่นมจิตก็อยู่ตรงโน้นค่ะ เหมียวไปดูขนมอะไรให้ทานค่ะ ชาเขียวไหมคะ ชาที่คุณท่านปลุกนี้เป็นที่ต้องการของตลาดโลกด้วยนะคะ” พี่เหมียวพูด ผมก็เดินตามไป แม่นมของพี่ตั้นเห็นผมเดินไปหาก็ตรงเข้ามาต้อนรับผมทันที

“เชิญนั่งเลยค่ะคุณเมย์”

“ขอบคุณครับ คุณนมจิต” ผมพูดก่อนจะนั่ง และพี่เหมียวก็เอาพวกขนม และน้ำผลไม้มาให้ผมทาน ผมมองไปรอบ ๆ ผมนี่ชอบที่นี่จังเลย ผมไม่อยากอยู่กรุงเทพเลยจริง ๆ บ้านในฝันของผมคือต่างจังหวัดแบบนี้

“ชอบทีนี้เหรอคะคุณเมย์”

“คุณนมจิตไม่ต้องเรียกผมว่าคุณเมย์หรอกครับ เรียกเมย์เฉยๆ นะครับ “ผมหันไปบอกแม่นมจิต

“ผมชอบทีนี้จังเลย”

“ถ้าชอบชวนคุณตั้นมาบ่อย ๆ ซิคะ นี้เธอไม่มาตั้งสามปีกว่า นมน่ะคิดถึงค่ะ และคุณท่านก็คิดถึงนะคะ “ผมหันไปมองตรงที่ว่าคุณท่านคิดถึงนี้แหละ

“คุณท่านกับคุณตั้น นี้ถอดกันมาเป๊ะมาก เหมือนกันทุกอย่าง แถมปากกับใจไม่ตรงกัน ไม่ค่อยจะแสดงออก”

“แต่กับผมพี่ตั้นเขาโอเคนะครับ รักก็แสดงว่ารัก โกรธก็ไม่ค่อยเห็น คือพี่ตั้นเขาคงยอมผมเพราะว่าผมเด็กกว่านะครับ” ผมพูด

“แต่ว่าพี่ตั้นเขาบอกผมว่าเขาจำภาพตอนเด็ก ๆ ไม่ได้เลย นมจิตเลี้ยงพี่ตั้นมาเหรอครับ”

“ใช่ค่ะ นมเลี้ยงคุณตั้นตั้งแต่สามเดือนค่ะ คือตอนนั้นคุณแม่คุณตั้นเขาป่วย เลยถูกส่งไปรักษาตัวค่ะ”

“คุณแม่พี่ตั้นคือคุณลลิลภัทร์เหรอครับ ป้ารู้จักแม่พี่ตั้นด้วยเหรอครับ” ผมถามพร้อมกับหันหน้ามามองนมจิต แต่ทำไมทุกคนมองหน้ากันแบบกระอักกระอ่วนใจกันยังไงก็ไม่รู้

“เรื่องคุณตั้นนะ นมพอจะเล่าให้ฟังได้นะคะ แต่นมขอเรื่องคุณลลิลภัทร์นะคะคุณเมย์”

“คุณท่านสั่งไว้ห้ามเอ่ยถึงเรื่องคุณลลิลภัทร์เด็ดขาดค่ะ นะคะคุณเมย์” ผมพยักหน้า

“ที่จริงผมแค่อยากรู้ว่าแม่ของพี่ตั้น เขาเป็นคนยังไงนะครับ ผมเองเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่ยังเล็ก อายุห้าขวบเอง จำภาพของพ่อแม่แทบจะไม่ได้แต่รู้ว่าผมมีความสุขมาก แต่ภาพมันไม่ชัดเจน เพราะว่าผมยังเด็กเกินกว่าจะจดจำมันได้ทั้งหมด” ผมพูด

“คุณลลิลภัทร์เธอเป็นผู้หญิงที่สวยทีเดียวค่ะ เธอเป็นรองนางงามเลยนะคะ “ผมก็ต้องอ้าปากค้าง

“เธอสวยมากจริงๆ ค่ะ กิริยามารยาทก็สวยงาม แต่ว่า “นมจิตพูดและก็เงียบไป

“ไม่เป็นไรครับนมจิต ผมแค่อย่างรู้แค่นี้แหละครับ “ผมพูด

“ผมแค่แปลกใจว่าทำไมพี่ตั้นจำภาพตอนเด็กๆ ไม่ได้ และพี่เขาเลยคิดว่าพ่อไม่รักเขาหรือเปล่านะครับนมจิต “ผมพูด

“ใครบอกว่าไม่รักละครั้ง รักค่ะ ตอนเด็กๆ คุณตั้นติดคุณทันจะตายไป เห็นคุณท่านมีคุณตั้นตั้งแต่อายุยังน้อยก็เถอะค่ะ ป้านี่จำได้นะคะ ตอนที่คุณลลิลภัทร์เธอต้องไปรักษาตัวนะคะ”

“คุณท่านดูแลเองนะคะ นมก็แค่ช่วยบ้าง น่ารักเชียว เป็นพ่อลูกอ่อนอายุก็ยังน้อยแต่ภาพถ่ายน่ะไม่มีเลยค่ะ ตอนนั้นก็ไม่คิดว่าจะมีวันที่คุณตั้นจะจำคุณท่านไม่ได้นะคะ”

“ตอนคุณตั้นอายุสองขวบก็ซนจนเดินไปที่ตรงธารน้ำไหล ไม่มีใครเห็น ว่าคุณตั้นนะตกลงไปตอนไหน โชคดีที่คุณท่านเขาธรรพ์ณธรเดินหา เขาเห็นรองเท้าคุณตั้นนะคะ และคุณท่านตกใจมากเรียกคนมาตามกันใหญ่เลย ป้านะคิดว่าเอาแล้ว คุณตั้นคงจมน้ำแน่ๆ”

“ไม่ได้จมค่ะ ลอยไปตามน้ำไป และไปเกาะ เออ มันเป็นเหมือนเถาวัลย์นะคะมันห้อยลงมา อยู่ตรงกลางแม่น้ำเลยค่ะ ทำท่าจะหลุดแหล่ไม่หลุดแหล่”

“คุณท่านก็ว่ายน้ำทวนกระแสไปเอาคุณตั้นเข้ามานะคะ น้ำก็เชี่ยวมากค่ะ อันตรายมากแต่คุณท่านห่วงลูกมากกว่าค่ะ นั้นก็แปลว่าคุณท่านรักซิคะคุณเมย์” ผมก็อมยิ้มแทน พี่ตั้นเลย

“แค่มีช่วงที่คุณท่านยุ่ง และคุณลลิลภัทร์ เธอหายดีแล้ว เลยกลับมาเลี้ยงคุณตั้นต่อค่ะ จนอายุห้าขวบ คุณลลิลภัทร์เธอขอย้ายไปอยู่ต่างประเทศค่ะ และไม่ประสงค์จะกลับมาอีก”

“และนั้นแม่เกศมณีอะไรนี้ก็เข้ามาอยู่ พร้อมกับลูกสาว” คนใช้อีกคน นั้นคงเป็นคนที่บอกว่าเป็นแม่เลี้ยงของพี่ตั้นซิน่ะ

“ดีที่บ้านหลังนี้พ่อของคุณธรรพ์ณธรได้ยกให้คุณลลิลภัทร์แล้วตั้งแต่เธอก้าวเข้ามาอยู่ที่นี้ “คนใช้อีกตนพูดและชี้ไปหลังที่ผมกับพี่ตั้นขึ้นไปพัก

“แต่ต่อมาคุณตั้นประสบอุบัติเหตุค่ะเธอตกต้นไม้ค่ะ ครั้งนี้ร้ายแรงมากเกือบเสียคุณตั้นไปจริงๆ ศีรษะกระทบกระเทือนอย่างแรง แต่พอคุณตั้นหาย คุณตั้นจำคุณท่านไม่ได้ค่ะ จำได้แค่คุณลลิลภัทร์ และร้องหาคุณลลิลภัทร์ อย่างเดียวเลย คุณท่านคงเห็นว่าคุณตั้นดูท่าจะแย่ คุณท่านตัดสินใจให้คุณลลิลภัทร์เอาคุณตั้นไปอยู่เมืองนอกค่ะ”

“คุณท่านเสียใจมากและไม่นาน คุณพ่อคุณธรรพ์ณธรก็ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตอีก เลยไปกันใหญ่ค่ะ พาลโกรธไปหมด”

“รูปถ่ายก็เก็บลงหมดค่ะ ท่านคงคิดว่าคุณตั้นคงไม่กลับมาหาท่านแล้ว เก็บหมด ยิ่งรูปคุณลลิลภัทร์ด้วยยิ่งไม่มีเลยค่ะ ทั้งที่คุณลลิลภัทร์เป็นถึง… หมับ” มีคนมาปิดปากพี่เขาไว้ซะก่อน

“เดี๋ยวตกงานกันหมดหรอกมึง”

“คุณเมย์! “ผมก็ต้องสะดุ้ง มีคนมาเรียกผม

“มีอะไรล่ะเป้ย” นมจิตหันไปถามคนใช้ในบ้านอีกคนที่เดินมาหน้าตาตื่นเชียว

“คุณตั้นซิเดินหาคุณเมย์ใหญ่เลยค่ะ ไปหาเธอเถอะค่ะ ดูเธอเป็นห่วงคุณเมย์มากค่ะ”

“อ้าวตายแล้วคุณเมย์ไปหาคุณตั้นก่อน ตื่นมาคงตกใจนะคะ” ผมก็ต้องรีบลุกเดินออกไป มีความสงสัยแต่ก็ไม่กล้าถาม แม่ของพี่ตั้นเขาเป็นใครกันแน่ในบ้านหลังนี้ แต่ตอนนี้ผมรีบเดินเข้าไปเห็นพี่ตั้นยืนเท้าเอวมองไปรอบ ๆ สงสัยเมย์จะงานเข้าแน่ๆ พอผมเดินไปหยุดที่ด้านหลัง

“หายไปไหนมาเมย์ พี่นี้ตกใจหมด” พี่ตั้นทำเสียงดุผมทันทีที่หันหลังมาเจอผมยืนอยู่

“พอดีพี่เหมียวเขาเห็นผมเลยชวนไปหาขนมให้ทานด้านโน้นนะครับ พี่ตั้น” ผมพูด พี่ตั้นโบกมือให้คนงานไปทำงานต่อ ก่อนจะเดินมาประชิดตัวผม

“เปี๊ยะ!” เสียงดีดนิ้วที่ตรงปลายจมูกของผม

“ไปไหนแล้วทำไมไม่ปลุกพี่ละ” พี่ตั้นถามผม

“ผมเห็นพี่ง่วงอ่ะ ผมเลยปล่อยให้พี่นอน”

“ก็แน่ล่ะ เล่นกล่อมซะน้ำหมดขนาดนั้น ไม่เพลียได้ไงล่ะ “พี่ตั้นพูด ทำให้ผมต้องหันไปรอบ ๆ เดี๋ยวคนงานได้ยินอายเขา เฮียจอมหื่น

“ไปขึ้นบ้าน พี่มีอะไรให้ดู นี่พี่พามาเพื่อสิ่งนี้เลยนะ ถ้าไม่ได้ทำนี้เหมือนมาไม่ถึงบ้านแม่พี่น่ะ เมย์” พี่ตั้นพูด ผมก็ต้องยู่ปากแต่ก็เดินตาม พี่ตั้นหันมามองผมคงเดินช้าไป พี่ตั้นก็เลย…..

“หมับ” จับเอวผมลอยขึ้นและยกลำตัวผมพาดไว้บ่าทันที

“พี่ตั้นปล่อยผมลงนะพี่ตั้น” ผมตะโกนโหวกเหวกแต่ไม่เป็นผล พี่ตั้นยังแบกผมขึ้นไปบนบ้าน ไปยังชั้นบนสุดแน่ๆ ระหว่างนั้นก็เดินผ่านคนใช้ เขาก็เหลียวมามองผมเป็นระยะและ

“หึ หึ” พร้อมกับหัวเราะ ไม่นานพี่ตั้นก็พาร่างผมมายังห้องนอนเหมือนเดิม

“ตุบ!” พี่ตั้นทิ้งผมลงบนที่นอน และคลานขึ้นมาคร่อมผมไว้ จับข้อมือผมและขึงไว้ด้านข้าง

“อืมม” พี่ตั้นก้มลงบดขยี่ริมฝีปากผมอย่างเร่าร้อน ผมรับรู้ได้ว่ากระดุมกางเกงขาสั้นผมถูกปลด กระดุมเสื้อก็กำลังโดนปลดไล่ขึ้นมา กายผมก็บิดไปมา พี่ตั้นฝังรอยจูบไปทั่วเรือนร่างผมขนาดนั้น

“จ๊วบ!!!” พี่ตั้นดูดลงที่ลำคอผมเสียงดัง จนผมรู้สึกสยิวและเสียงซ่าน ผมต้องแอ่นอกลอยขึ้นตามทันที ผมว่าคงได้มีรอยไอวดเพื่อนๆ และน้องๆ ในออฟฟิศพี่ตั้นแน่ๆ พรุ่งนี้ พี่ตั้นหรี่ตามองผมที่นอนหายใจหอบ มันเสียงซ่านเหลือเกิน

“หึ หึ” คนที่ใช้แขนดันที่นอนไว้ มองผมและหัวเราะชอบใจในลำคอ ก่อนจะลุกขึ้นยืนและถอดเสื้อยืดออกพร้อมกับกางเกง ออกทั้งหมดเลย ผมขมวดคิ้วมอง จะทำอีกเหรอและดูแล้วพี่แกไม่ได้สวมกางเกงยางยืดลงไปด้วย

“เฮ้ยพี่ลงไปโดยไม่ใส่กางเกงในเหรอ” ผมถามพี่ตั้น

“ก็รีบอ่ะ ตื่นมาไม่เจอเราและคิดว่าไม่สวมจะดีกว่าเพราะว่าเดี๋ยวก็ต้องถอดออก” พี่ตั้นพูด

“พี่ตั้นอ่ะ นี้เหรอที่บอกผมว่าถ้าไม่ทำสิ่งนี้มาไม่ถึงบ้านพี่น่ะ ไอ้พี่หื่น” ผมรีบคว้าหมอนปาใส่พี่ตั้น นั่งทำแก้มป่อง เส้อผ้าก็ถูกปลดกระดุมออกไปหมดเหลือแต่ถอดออกเท่านั้นกางเกงก็แค่ดึงออกก็หลุดหมดแล้ว พี่ตั้นหันไปหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำมาส่งให้ผมและพี่ตั้นสวมใส่มัน

“จะถอดเองหรือให้พี่ถอดให้ล่ะ ถ้าพี่ถอดเองคงไม่ได้ออกไปเห็นวิวข้างนอกน่ะ “พี่ตั้นพูด ผมจะรอช้าทำไมกลัวไม่ได้ออกไป รีบคว้าเสื้อคลุมเข้าห้องน้ำไปทันที

“ถอดให้หมดเลยน่ะตัวเล็ก “พี่ตั้นตะโกนบอกผม เลยต้องถอดจนหมดและสวมเสื้อคลุมทับ ผมออกมาก็เห็นบานประตูเปิดกว้าง ผมเดินออกไปเป็นระเบียงที่มองเห็นวิวเนินเขา มองไปจะเห็นเป็นรีสอร์ตของพ่อพี่ตั้น ผมเห็นพี่ตั้นยืนหันหลังอยู่ และด้านข้างๆ มีอ่างน้ำวนอยู่

“แช่น้ำกันครับตัวเล็ก” พี่ตั้นพูดพร้อมกับ ปลดเชือกที่คาดเอวอยู่และเสื้อคลุมก็ลงไปกองที่พื้น เผยให้เห็นก้นที่กระชับ มวลกล้ามเนื้อ ผมเห็นพี่เขาเล่นเวทด้วยเห็นแบบนี้พี่แกวิดพื้นวันละสองร้อย เห็นหุ่นพี่แกทีไรแอบกลืนน้ำลายลงคอทุกที นี่แค่หันหลังน่ะ ไม่ได้หันมาให้ผมดูด้านหน้าเต็มๆ พี่ตั้นก้าวเท้าลงไปในอ่างและนั่งลงเอาแขนพวดที่ขอบอ่างน้ำวน

“อ้าวรออะไรละครับตัวเล็กมาซิครับ “พี่ตั้นเรียกผม ผมเดินมาและชะเง้อมองไปรอบๆ มันโล่งไหม ไม่วะทีเดียวแต่มองเห็นไร่ชาแต่ไกลๆ นึกในใจจะดีเหรอให้แก้ผ้าลงไปแบบนี้

“เมย์ ยืนมองอะไรน่ะ”

“ไม่เอาอ่ะ พี่แช่ไปคนเดียวแล้วกัน”

“เมย์ พี่อุตส่าห์ เปิดน้ำรอไว้ อยากจะโรแมนติกกับเมียบ้าง “พี่ตั้นทำหน้าอ้อนผมอีก

“ก็ผมกลัวคนแอบมอง”

“ถ้าเมย์รีบถอดและก้าวขาลงมาก็ไม่มีใครมอง มัวแต่ยืนมองคนเก็บชาเขาเห็นเขา คราวนี้มองกันพรึบเลยน่ะ” พี่ตันพูดแล้วผมจะรออะไรล่ะ รีบปลดเชือกที่คาดและก้าวพรวดลงไปในอ่างน้ำทันที

“หึ หึ” พี่ตั้นหัวเราะผมในลำคอ ผมก็ทำปากยู่ “จุ๊บ” พี่ตั้นจุ๊บที่ปากผมก่อนจะหันไปเปิดปุ่มทำน้ำวนและน้ำเริ่มมีฟอง ตอนนี้ผมนั่งคร่อมตัวพี่ตั้นอยู่ ฝ่ามือพี่ตั้นก็จับสะโพกผมอยู่ ริมฝีปากทีขยับเขยื้อนรอให้ผมเอนตัวลงไปแนบชิดเพื่อจะจูบผม ร่างกายกับใจของผมที่ไม่สัมพันธ์กัน ผมเหมือนจะขัดขืนเพราะเกรงว่าใครจะมาเห็น แต่ใจผมก็อยากได้รสจูบนั้นของพี่ตั้น จนสุดท้าย

“อืมม” ใจของผมชนะแล้ว ผมโน้มตัวไปจูบพี่ตั้น และหยอกเย้ากันไปมาลิ้นนุ่มที่สอดใสเข้ามาในปากผม ชอนไชไปทั่วทุกซอกทุกมุม

“พี่ตั้นขา เมญ่าเอาวิสกี้มาให้ อ้ายยยยย กรี้ดดดด!!!!” ผมก็ต้องเอาใบหน้าซบที่แอบที่ศอกคอพี่ตั้น ใครวะ แอบคิดในใจไม่กล้าหันไปมอง

“นี่เธอเป็นบ้าอะไรของเธอ และมาทำไมเรือนฉันนี้”

“ก็แม่บ้านบอกว่าพี่จะดื่มวิสกี้เมญ่าเลยเอามาให้นะคะ แล้วไอ้นั่นมันลงไปอยู่กับพี่ได้ยังไงคะ”

“ก็เขาเป็นเมียฉัน และเอาวางไว้นั่นแหละ "

"นี่เธอแต่งตัวบ้าอะไรของเธอน่ะ รีบๆ ลงไปเลย” พี่ตั้นพูดไม่ดีเอาซะเลย ผมไม่เคยเห็นพี่ตั้นไม่สุภาพแบบนี้มาก่อนเลย ผมแอบช้อนสายตาขึ้นมองพี่ตั้น พี่ตั้นใช้นิ้วชี้คาดปากไว้ “ชู!!” ผมพยักหน้า

“อือ อื้ม!” เธอดูกระฟัดกระเฟียด ผมค่อยๆ หันไปมองเธอ เธอสวมเสื้อคลุมมามันบางมากดูจากชุด ที่สวมมามันเป็นชุดว่ายน้ำเอวเว้าสูงมากจริงๆ จนผมเองก็หน้าแดงอายขึ้นมาเลย

“อายุยังไม่สิบห้าเลยนะ “พี่ตั้นกระซิบกับผม

“เมญ่า เธอขึ้นมาทำไมที่นี่” เสียงใครสักคนดุผู้หญิงคนนั้น

“ก็ขึ้นมาหาพี่ชาย ทำไมเหรอ ยังไงเมญ่าก็เป็นน้อง”

“เมญ่า ฉันเป็นลูกคนเดียวเท่าที่จำความได้ เธอโผ่มาจากไหนฉันยังไม่รู้เลย” ผมพูด เธอถึงกับสะบัดหน้ามามองผม

“ลงไปซะ ไม่ใช่ที่ที่เธอจะมา อยู่ในส่วนของเธอ และเธอจะแต่งตัวแบบนี้ เห็นแกคุณท่านบ้างนะเมญ่า “พี่อิศเรศพูด

“ลงไปซะ อย่าให้ผมต้องรายงานคุณท่านในความไม่เหมาะสมของคุณ “พี่อิสเรศพูดอีกครั้ง ทำให้เธอต้องลงไปทันที พี่อิศเรศ น้ำถาดวิสกี้มาวางไว้ไม่ใกล้และไม่ไกล พี่เขายืนอยู่แต่ผมไม่กล้าหันไปมองเต็มๆ อายขึ้นมาทันที (ผมโป้อยู่นี่ครับ)

“พี่ละครับ มาทำไม” พี่ตั้นถามพี่อิศเรศ

“พี่จะมาบอกว่า คุณตั้นควรจะไปหาคุณพ่อนะครับ ท่านรอคุณอยู่”

“ผมเพลียน่ะเมียชวนเล่นจ้ำจี้ และนี้เมียอยากแช่น้ำชมวิว สามร้อยหกสิบอกศา “พี่ตั้นพูดและมองหน้าผม

“วิวสวยดีนะครับ แต่หลังจากชมวิวแล้ว รบกวนคุณตั้นและคุณเมย์ไปหาคุณพ่อคุณหน่อยนะครับ ผมขอล่ะ” พี่อิศเรศพูดก่อนจะหันหลังเดินออก

“จะให้พี่ล๊อกประตูให้เลยไหมครับ จะได้ไม่มีใครมารบกวนคุณตั้น”

“จะขอบคุณมากครับพี่ และผมจะไปหาเลยไหม ผมขอดูก่อนนะครับ ว่าเมย์จะชวนผมไปเล่นต่อที่เตียงไหม” พี่ตั้นพูดผมยิ่งหน้าร้อนผ่าว รู้สึกอายมากเลย พี่ต้นพูดไปได้ยังไง

“คุณตั้นอยู่ทานอาหารเย็นก่อนนะครับ คุณท่านสั่งแม่ครัวทำอาหารที่คุณตั้นชอบเอาไว้”

“ผมขอคุยกับเมย์ก่อนแล้วกันนะครับ ตอนนี้ผมว่าพี่ลงไปเถอะผมอยากจะสวีทกับแฟนผม”

“ครับคุณตั้น” พี่อิศเรศพูดแค่นั้นก่อนจะเดินหายออกไป

“พี่ตั้นนี้ไม่น่ารักเลยอ่ะ”

“พี่ยอมรับว่าพี่ไม่น่ารัก แต่”

“ผมไม่แช่น้ำแล้วน่ะไปแล้ว” ผมทำท่าจะลุก

“ลุกทำไม ตอนนี้คนเก็บชาเขากำลัง ถยอยพาเดินออกเดี๋ยวเขาก็เห็นหมดหรอกเมย์”

“เฮ้ย!!! จ๋อม!” ผมร้องตกใจและรีบทรุดตัวลงมานั่งหมอบที่อกพี่ตั้นต่อ

“เมย์ จูบพี่ซิ พี่อยากให้เมย์จูบพี่” พี่ตั้นอ้อนผมและรวบเอวผมเข้าไปหา ผมก็ใช้ฝ่ามือผมประคองใบหน้าพี่ตั้น ผมสัมผัสได้ว่าเขาแข็งนอกอ่อนในจริงๆ อย่างที่พี่ภาคินบอกกับผมเอาไว้ ผมก็ประกบริมฝีปากผมจูบพี่ตั้น ไม่รู้ว่าเราจูบกันบ่อยแค่ไหน ก็จากที่ผมทำแบบเคาะๆ เขินๆ และในตอนนี่เรียกว่าจะเข้าชั้นมือโปรอยู่แล้ว

------------------------------------------------------------------------------------------------

เดี๋ยวมาลงอีกตอนนะคะ

ตอนหน้าเมย์อยากให้พี่ตั้นได้คุยกับพี่อิศเรศ
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.1ุ7 (พี่ตั้นVSเมย์)ปมลึกๆในใจพี่ตั้น
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 27-11-2020 16:10:52
 :haun4: :pighaun:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.1ุ7 (พี่ตั้นVSเมย์)ปมลึกๆในใจพี่ตั้น
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 28-11-2020 02:04:12
คุณพ่อเองก็รักพี่ตั้นมากนะ ตอนที่ส่งไปอยู่ตปท.ก็คงทำใจไม่น้อยก็มันจำเป็นเพราะพี่ตั้นจำพ่อไม่ได้เลย และก็ร้องหาแม่อย่างเดียว แล้วทำไมถึงไปอยู่ตปท.แบบไม่กลับมา คุณท่านมีผู้หญิงคนนี้และลูกสาวกันตอนไหน เพราะมีบ้านน้อยหรอ แม่พี่ตั้นเลยไม่อยากกลับมา หรือแม่พี่ตั้นเองก็มีปมอะไร เดาไปเรื่อย 55555 หวานกันตลอดเลยนะพอเป็นกันแล้ว  :-[  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.1ุ7.2 (พี่ตั้นVSเมย์)สิ่งที่คาใจ
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 28-11-2020 07:18:17
   
(https://www.i-pic.info/i/rsN85666.jpg) (https://www.i-pic.info/i/rsN85666)

           รชานนท์ ผมกับเมย์แค่แช่น้ำด้วยกันและผมก็ดื่มวิสกี้เข้าไปหน่อย ผมไม่อยู่รอทานอาหารเย็นแน่นอน ผมจะขับรถกลับเลย ผมแต่งตัวแล้วผมกับเมย์เอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนด้วย ตอนนี้เป็นเวลาหกโมงกระเป๋ารึ้ง ท้องฟ้าสลั่วๆ ผมว่าจะกลับเลยจะดีกว่า ไม่อยากขึ้นไปกวนใจพ่อผมกับแฟนเขา

“กลับเลยเหรอพี่ตั้น”

“พรุ่งนี้พี่มีงานครับตัวเล็ก” ผมไม่อยากทำให้ตัวเล็กกังวลเรื่องสถานะพ่อและลูกของผม เพราะถึงผมไม่ไปคนอื่นก็ไปทำแทนผมได้

“แต่ว่ามันมืดแล้วน่ะพี่จะโอเคเหรอถ้าพี่จะขับรถตอนกลางคืนแบบนี้” เมย์ถามผม

“เมย์คอยเรียกพี่ซิถ้าพี่เผลอหลับใน”

“เฮ้ย! พี่ตั้น มันอันตรายผมกลัว เพราะว่าคนที่เจ็บไม่ใช่แค่ผมน่ะพี่ด้วย” เมย์พูด

“พี่ล้อเล่นน่ะ พี่โอเค พี่รู้ตัวเองดีครับว่าพี่ไหวไหม เมย์”

“พรุ่งนี้พี่จะลงทะเบียนเรียนปริญญาโทออนไลน์ให้เรานะ “ผมบอกเมย์ เขาหันมายิ้มให้ผม

“เมย์ พี่ได้รับคำเชิญจากคุณปฐวีย์ให้ไปร่วมงานวันเปิดโรงแรมใหม่นะครับ เขาระบุให้พี่ชวนเมย์ไปด้วย” ผมหันมาบอกเมย์ เมย์หันมามองหน้าผม ก่อนจะนิ่งไปสักครู่

“ไปได้ไหมครับเมย์” ผมถามเมย์

“เออ ได้ครับ ถ้าพี่คิดว่าเมย์ควรจะไป” เมย์ถามผม ผมได้รับข้อความหลายวันแล้วแต่ผมไม่กล้าเอ่ยปากชวนเมย์ ผมแอบกลัวเมย์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณปฐวีย์มาก่อนผมก็ตาม ผมหันไปสวมนาฬิกาข้อมือและใส่ต่างหูกลับเข้าไปเหมือนเดิม

   ผมเห็นเมย์ไปยืนอยู่ตรงผ้าม่านเหมือนกำลังมองอะไรอยู่ ผมว่าเมย์เห็นอะไรบางอย่างเข้าแน่ๆ ผมจึงเดินเข้าไปดูและสิ่งที่เมย์กำลังเห็นมันคือสิ่งที่น่าเกลียดที่สุด เพราะเหตุนี้ผมถึงไม่อยากมา ผู้หญิงที่พ่อผมเอามาอยู่ในบ้านและเชิญแม่ผมออก และผมก็รับรู้ได้ว่าแม่ผมเจ็บปวดแค่ไหน ผู้หญิงชั้นต่ำ ที่เอาแม้กระทั่งกับคนสวนกำลังเริงสวาทกัน

“พรึบ” ผมใช่มือปิดตาของเมย์ และปิดผ้าม่านลงทันที

“จะดูทำไมเสียสายตา น่าขยะแขยง” ผมพูดและดึงแขนเมย์ให้ออกไปเพราะว่าผมจะกลับเลยในทันที ผมสะพายกระเป๋าอาดิแดส ผมถือลงมาที่รถที่ผมจอดอยู่ ผมเห็นผู้ชายสองคนยืนอยู่ หนี่งในนั้นคือพ่อผมเองและพี่อิศเรศ ยืนคุยกันอยู่ (พ่อผมยังไม่ห้าสิบ ส่วนพี่อิศเรศแก่กว่าผมห้าปี พ่อผมน่ะแค่46 ปีย่าง47 ผม28 ปี พี่อิศเรศตอนนี้ก็ 33 ปีพอดี)

“พี่แน่ใจเหรอว่าพ่อพี่น่ะ อายุ46 ปี ผมว่าถ้า35 ปีผมก็เชื่อ” ผมหันมามองตัวเล็ก พี่หึงครับ

“อะไรกันเฮียนี้”

“อะฮึม” ผมเป็นคนทำเสียงทำลายความสุขของคนสองคนที่กำลังยืนคุยกันเรื่องงาน พ่อผมหันมามองผม

“เห็นเรศบอกว่าเราไม่ยอมอยู่ทานข้าวด้วย จะกลับอย่างนั้นรึ” คุณธรรพ์ณธรถามผม ผมหันไปมองตัวเล็ก และหันกลับมามองคนที่ยืนข้างๆ พ่อผม พ่อหันไปเหล่ตามองที่พี่อิศเรศ

“ใช่ผมจะกลับเลย ผมมีงานพรุ่งนี้” ผมพูดก่อนจะเดินไปเอากระเป๋าใส่รถ พ่อผมดึงเสื้อพี่อิศเรศมากระซิบบางอย่าง ก่อนที่พี่อิศเรศจะเดินออกไป

“ทำไมถึงไม่อยู่ค้างคืนสักคืนก่อน แล้วพรุ่งนี้ค่อยกลับกันละ ตอนเช้าก็ยังดี กว่าจะไปถึงมันก็จะดึกมากเลยน่ะต้้น “พ่อเดินเข้ามาหาผม ผมหันมามองหน้าพ่อผม ผมยอมรับว่าบางครั้งก็เหมือนมองตัวเองผ่านกระจกสะท้อน

“ผมจะกลับ โอเคน่ะ”

“ตั้น พ่ออยากให้นายเลิกหยิ่งจองหองซะทีได้มั้ย  “พ่อเขาถามผม

“ผมไปหยิ่งจองหองกับคุณตรงไหนเหรอครับ  คุณธรรพ์ณธร” ผมถามพ่อผมกลับ

“ตั้น!!” เสียงเรียกชื่อผมที่ลอดไรฟันนั้น มันทำให้มุมปากผมกระตุกขึ้นมาเป็นรอยยิ้มที่มุมปากของผม

“พี่ตั้น” เมย์เข้ามาดึงแขนผม

“จะกลับก็กลับ ฉันไม่ห้ามแล้ว “พ่อผมเดินหันหลังออกทันทีเช่นกัน ผมก็พยักหน้าให้เมย์ขึ้นรถจะได้ออก และผมก็รีบขึ้นไป และขับออกไปอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องบอกว่ารีบแค่ไหนรีบมากจนประตูเปิดแทบไม่ทัน ผมก็พุ้งทยานออกไปในทันที เมย์ยังตกใจเลยกลัวจะไม่พ้น จนผมขับออกมาพ้นประตูแบบเฉียดฉิว

“เมย์ หิวไหมถ้าไม่หิวพี่จะยิงยาวเลยจะได้ถึงกรุงเทพก่อนเที่ยงคืน “ผมหันไปถามเมย์ เมย์พยักหน้าว่าเขาโอเค ผมก็ขับออกมาได้สักพัก ผมหันไปเหล่มองกระจกมองหลัง มีรถแล่นตามออกมา สองสามคัน ผมก็ค่อยเปิดไฟเข้าข้างทาง ผมรู้ว่ารถของบ้านพ่อผมนั้นเอง

“พี่ตั้นมีอะไรหรือเปล่านะครับ” เมย์ถามผม

“มีรถตามเรามานะเมย์”

“ห๊ะ!” เมย์ร้องเสียงหลง ผมนับรถเข้าจอดเรียบร้อย รถคันแรกขับนำไปก่อนและอีกคันก็เข้าจอดข้างหน้าผมไปหน่อย ส่วนอีกคันจอดประกบด้านหลัง ผมเห็นคนที่เดินลงมาคือพี่อิศเรศ เขาเดินมาที่รถของผม ผมเปิดกระจกโดยไม่มองหน้าพี่อิศเรศ

“พี่ขับตามรถผมทำไม” ผมถาม

“คำสั่งคุณพ่อคุณครับคุณตั้น ให้ตามคุณจนกว่าจะถึงกรุงเทพ พวกผมมากันสามคันครับคุณตั้น “

“ผมว่าไม่…”ผมพูดโดยไม่ได้มองหน้าพี่อิศเรศ

“จำเป็นครับ จะให้คุณตั้นค้างคืนคุณตั้นก็ไม่ยอม จะให้จอดพักคุณตั้นคงไม่เอาแน่ๆ และจะให้พวกผมไปส่งคุณยิ่งไม่ยอมใหญ่ วิธีนี้แหละที่ดีที่สุด ขับตามคุณไป “พี่อิศเรศพูดเสียงแข็งใส่ผม มุมปากผมกระตุกขึ้นมาเป็นรอยยิ้ม และพี่อิศเรศก็เดินกลับไปที่รถของเขาทันที ผมก็ต้องเร่งเครื่องออกมาก่อน เมย์หันมาจับมือผมกุมไว้ เพื่อให้ผมใจเย็นลงและมันก็ได้ผลซะด้วย

“พ่อรักพี่น่ะ พี่ตั้น ผมดูออก” เมย์พูด ผมพยักหน้าไปอย่างนั้น ก่อนจะขับรถยิงยาวไปเรื่อย เมย์ก็นั่งกุมมือผม และดูซีรีส์หนังจีนไปด้วย ผมหันมาเหล่มอง ซีรีส์วายนี้เอง ผมขับมาได้สักสองชั่วโมงได้ รถที่มาดูแลผมก็กะพริบไฟให้ผมเข้าจอด ผมก็หันมามองเมย์ และผมก็ต้องนำรถเข้าจอดอีกครั้ง พี่อิศเรศอีกแล้ว ผมจำต้องเลื่อนกระจกลง

“พี่อยากให้คุณตั้น หยุดพักเพราะว่าคุณตั้นขับมานี้เกือบจะสองชั่วโมงกว่าแล้ว ควรพักสายตาบ้าง”

“เดี๋ยวก็ถึงแล้วอีกสองชั่วโมงเอง “ผมพูดพร้อมกับชักสีหน้ารำคาญใส่พี่อิศเรศ

“ไม่ห่วงตัวเองก็ห่วงคนข้างๆ บ้างนะครับ คุณตั้น “ผมหันมาเหล่มองเมย์ เขาก็ยิ้มๆ ให้ผม

“ผมเริ่มหิวแล้วอ่ะพี่ตั้น” เมย์พูดอ่อนผม ผมก็ต้องพยักหน้า

“แวะปั๊มด้านหน้านะครับ ค่อนข้างใหญ่หน่อยมีของกินให้เลือกนะครับ  “พี่อิศเรศพูดพร้อมกับส่งยิ้มให้เมย์ ผมขับตามเข้ามาจอด รถคนของพ่อผม การ์ดที่สวมชุดสีดำ ยืนอยู่ ผมออกมาจากรถเขาก็พงกศีรษะให้ผมกันทุกคน พี่อิศเรศคุยโทรศัพท์อยู่

“ผมรีบกลับดีกว่าครับ ไม่เอาอ่ะครับ ผมเป็นห่วงคุณท่านนะครับ ได้ครับ ผมจะระมัดระวังครับผม ครับผมรักคุณท่านครับ” ผมลงมายืนพร้อมกับตัวเล็ก

“เข้าไปทานอะไรกันก่อนไหมครับ” พี่อิศเรศถามคนที่มาด้วย เขาก็พยักหน้ากัน ก่อนจะแยกย้ายกันออกไป ผมกุมมือตัวเล็ก ผมหันมามองผู้ชายที่ผมเคย เคยรักเขามาก พี่อิศเรศ

“เราไปหาอะไรทานกันนะครับ” พี่อิศเรศพูด

“ทำไมต้องเป็นเรา”

“พี่ตั้น !! “ตัวเล็กทำน้ำเสียงดุผม ผมก้มลงมอง “ดุพี่ทำไมตัวเล็ก” ผมถาม

“ก็พี่ไม่น่ารักเลย ถ้าพี่ดื้อน่ะ ผมก็จะไม่ไปไหน นั่งหิวอยู่ในรถนี้แหละ!”

“โอ๊ย! ยอมแล้วไปกินก็ไปกันหมดนี้แหละ” ผมพูดแค่ไม่กล้าทำหน้าดุตัวเล็ก

“หึ หึ” พี่อิศเรศหัวเราะผมสองคนในลำคอ “เมื่อก่อนพี่ยังดุคุณตั้นไม่ได้แบบน้องเมย์เลยนะครับ “พี่อิศเรศพูด ก่อนจะเดินนำมผสองคนเข้าไป ผมเดินจับมือเมย์ไปด้วย ผมมองผู้ชายที่เดินตรงหน้าผม มือนั้นผมเคยจับมาก่อน

   Rrrrr เสียงมือถือพี่อิศเรศดังขึ้น “ครับ ผมกำลังพาคุณตั้นและคุณเมย์ไปหาอะไรทานครับ ก็อย่างที่ท่านคิดไว้นั่นแหละครับ เออ ผมเอาไว้ในตู้นะครับ อยู่ที่เดิมครับ ไม่ได้ขยับไปไหนจริงๆ ครับ แน่ใจครับ นี้หงุดหงิดผมไม่อยู่หรือว่าหาของไม่เจอกันแน่ครับ”

“ครับ ขอโทษครับ งั้นแค่นี้ก่อนนะครับ ผมรับทราบครับจะรีบโทรกลับทันที ครับ บายครับ” พี่อิศเรศกันมามองหน้าผมกับเมย์

“คุณเมย์จะทานอะไรดีครับ”

“เออ ผม ไม่รู้เหมือนกัน “เมย์พูดพร้อมกับหันมามองหน้าผม

“เอาที่คุณเมย์ขอบซิครับ พี่ว่าคุณตั้นน่าจะชอบด้วย” พี่อิศเรศพูด

“ข้าวต้มปลาแล้วกันเมย์ชอบ” ผมพูดก่อนจะพาเมย์เดินเข้าไปในร้าน ตอนนี้เกือบจะสองทุ่มกว่าแล้ว ผมเข้าไปนั่งทานกับเมย์และพี่อิศเรศ นั่งเงียบๆ โดยไม่พูดไม่จาอะไรกันเลย จนกระทั่ง

“ผมขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะครับ “เมย์กับเป็นฝ่ายขอตัวเดินไปห้องน้ำ พูดเสร็จก็รีบลุงไปทันที ตอนนี้เหลือแค่ผมกับพี่อิศเรศ ผมยอมรับว่าตั้งแต่ที่ขอเลือกไปอยู่กับพ่อผม ผมก็ไม่คุยกับพี่เรศอีกเลย จนตอนนี้ ผมไม่รู้ว่าผมควรจะพูดอะไรกับเขาดี ทั้งที่ผมควรจะจบมันได้แล้ว

“ตั้น พี่ยินดีด้วยนะที่ตั้นเจอคนที่ตั้นรักและรักตั้น “พี่อิศเรศพูด ผมเงยหน้ามองพี่อิศเรศ นี้เหรอที่เขาจะพูดกับผมตอนนี้

“ปึก”ผมลุกพรวดขึ้นทันที

“หมับ” พี่เขาคว้าข้อมือของผมเอาไว้ขณะที่ผมกำลังจะเดินออกมาจากโต๊ะ

“อย่าทำแบบนี้ซิตั้น พี่ขอโทษที่”

“ที่มาทำให้ผมรักงั้นเหรอ มาทำทำไม มาทำแบบนั้นกับผมทำไม!!” ผมพูดตะคอกเสียงดังใส่พี่อิศเรศ

“เพราะว่าคุณท่านต้องการให้คุณตั้น อยู่ทีนี้ คุณท่านต้องการคุณตั้นและตอนนั้นคุณตั้นก็ต้องการใครสักคนช่วย คุณกำลังแย่ พี่ถึงได้ขอคุณท่านไป ดูแลคุณในฐานะ… พี่ชาย”

“พ่อเขาจะมาต้องการผมทำไม ในเมื่อตอนที่แม่ผมพ่อก็ไม่ได้ไปดูใจเลย เขาเอาแต่นั่ง กกคุณอยู่ไง ถึงไม่ยอมสละเวลาสักนาที!“

“คุณตั้น คุณพ่อคุณเขามีเหตุจำเป็นที่เดินทางไป ไม่ได้ “

“ช่างมันเถอะผมไม่แคร์ รวมทั้งคุณด้วย คุณอิศเรศ”

“ตั้น! จะไม่แคร์พี่ พี่ไม่ว่า แต่ควรจะแคร์คุณท่าน ท่านรักคุณมาก ต่อให้ท่านจะ ไม่ตั้งใจมีคุณแต่ท่านรักคุณ คุณเป็นสายเลือดของท่านนะตั้น ส่วนผมขอโทษที่ทำในสิ่งคุณตั้นต้องการไม่ได้เพราะว่าผม รักคุณท่าน “

“ฟู่!! พี่น่าจะรู้ใจตัวเองนานแล้วแต่ทำไมไม่พูดแบบนี้ตั้งแต่แรก!!”

“คือพี่ “

“ถ้าพี่จะไม่รักผมแบบคนรักไม่ว่า มันก็ไม่ผิด เพราะว่าหัวใจใครก็บังคับไม่ได้ แต่ที่แย่ไปกว่านั้นทำไมคนที่พี่รักต้องเป็นพ่อผม!!!”

“แม่งโคตรแย่เลยตอนนั้นสำหรับผม  แต่มันไม่ใช่เพราะว่าพี่ไปรักเขาแค่นั้น มันดูทุเรศ! ที่พ่อลูกมารักคน คนเดียวกัน!!!  “ผมพูดและเดินออก ทันทีไปนั่งในรถผมหยิบมือถือขึ้นมากดส่งข้อความหาคนตัวเล็ก

// ตัวเล็กพี่ไปรอในรถนะครับ // ผมเปิดประตูรถเข้าไปนั่งเงียบๆ ผมหยิบรูปถ่ายสติกเกอร์ออกมา และผมก็ฉีกมันทิ้ง ผมมารู้สึกแย่อะไรตอนนี้ว่ะ ผมแอบด่าตัวเองในใจ

“ปีก” คนที่เดินมาเปิดประตูนั่งข้างๆ ผมก็คือตัวเล็ก เขามองผม ผมใช้ข้อศอกเท้าขอบกระตรงกระจกเลื่อน ผมค่อยๆ หันมามองหน้าเมย์ เมย์ยังคงมองหน้าผมโดยไม่เอ่ยอะไร

“เมย์ตั้งใจใช่ไหม “ผมถามเมย์

“พี่ควรจะได้คุยกัน ไม่ใช่เพื่อปรับความเข้าใจแต่ผมอยากให้พี่เห็นใจพี่อิศเรศ อย่างน้อยเขาก็ดูแลพี่จนพี่ดีขึ้น ไม่ใช่เหรอครับ” เมย์พูด

“ชีวิตคนเรามันสั้น ดังนั้นพี่ควรจะเก็บเอาความทรงจำดีดีเอาไว้ดีกว่าไหมครับ “เมย์พูด ผมกำมัดแน่น เมย์ก้มลงเก็บภาพที่ผมฉีกมาปะติดปะต่อกันอีกครั้ง

“ดูรอยยิ้มพี่ตอนนั้นซิ พี่มีความสุขน่ะครับ ทำไมพี่ไม่เก็บความสุขตรงนั้นเอาไว้ “เมย์พูด ผมหันมามองเด็กน้อยข้างๆ ผม อันที่จริงเขาไม่น้อยหรอกจะยี่สิบสองแล้ว แต่ห่างจากผมหลายปี ก็เจ็ดปีได้

“ไม่หึงเฮียเหรอตัวเล็ก” ผมถามตัวเล็ก

“ผมควรจะหึงทุกคนไปเหรอ มันก็ต้องมีข้อยกเว้นกันบ้าง อย่างพี่กับภาคินผมยังไม่หึงเลย ส่วนพี่อิศเรศ น่ะผมอยากให้เป็นความทรงจำทีดีสำหรับพี่น่ะพี่ตั้น “เมย์พูด ก่อนจะเก็บภาพนั้นใส่กระเป๋าสตางค์ผมกลับไป

“ออกรถเถอะครับพวกพี่ๆ เขารออยู่ “เมย์บอกผม ผมพยักหน้าเบาๆ พอผมสตาร์ทรถ รถคันแรกที่วิ่งนำก็ออกไปก่อน และตามด้วยรถที่มีพี่อิศเรศนั่ง และรถคันหลังสุด เขาขับไปส่งผมจนถึงคอนโดของผมของผม ตัวเล็กที่ทำท่าจะง่วงแต่ก็ฝืนไม่ยอมนอนเพราะว่ากลัวผมหลับคาพวงมาลัย ผมยอมรับว่าตาปรือๆแล้วคือว่ามันง่วงเต็มที ตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะห้าทุ่ม

“ขึ้นห้องเลยน่ะ วันนี้งดทำการบ้าน พี่โคตรง่วงเลยตัวเล็ก” ผมพูดแต่ทำเอาคนข้่างๆแก้มป่องเป็นปลาปักเป้า

“ขนาดนี้พี่ยังขอทำผมอีก พี่ก็หื่นเกินไปแล้วพี่ตั้น เพราะว่าผมก็ง้วง ...หาว!!“ตัวเล็กพูดพร้อมกับอ้าปากหาวโชว์ผมในทันที  ผมนำรถเข้าไปจอด ผมเห็นรถคนของพ่อผมเข้ามาจอดแค่คันเดียว คนที่พี่อิศเรศนั่งมาด้วย พี่เขานั่งหลังมีคนขับสองคน เขาเปิดกระจกมองผม ส่วนผมก็หันหลังขึ้นไปและลากแขนตัวเล็กขึ้นไปด้วยโดยไม่ร่ำลาหรือขอบคุณผมเดินจนใกล้ถึงด้านหน้าลิฟต์

“ผมลืมของนะเฮีย” ตัวเล็กพูดพร้อมกับสะบัดมือผมและหันหลังเดินออกไปอย่างเร็ว ผมเอากระเป๋าวางไว้ก่อน ผมคิดว่าตัวเล็กไม่ได้ลืมของหรอก ผมเดินหันหลังกลับออกไปทีหลัง ผมเห็นตัวเล็กคุยกับพี่อิศเรศอยู่ เลยเดินไปแอบฟังตรงมุมเสา เห็นตัวเล็กกำลังเดินหลังกลับแสดงว่าคุยกันเสร็จแล้ว แต่

“คุณเมย์ครับ” พี่อิศเรศเรียกเมย์เอาไว้ เขาออกมายืนด้านนอกตัวรถ เมย์หันหลังกลับไปหาเขาอีก ผมเองก็แอบอยู่ไม่ไกลมากนัก มันใกล้พอจะได้ยินการสนทนา

“จริงๆ พี่ยอมรับนะครับว่าพี่รักคุณตั้นเหมือนกัน  “ผมใจเต้นแรงขึ้นมาทันที

“แต่พี่ชั่งใจแล้ว พี่รักคุณท่านมากกว่า เพราะว่าคุณท่านได้พาพี่ออกมาจากนรกนั้นได้และส่งเสียให้พี่เรียน พี่ไม่เหลือใครแล้วนอกจากคุณท่าน และพี่ก็เลือกคณท่าน เพราะว่าส่วนหนึ่งมาจากหัวใจพี่ด้วย

 "พี่รักผู้ชายสองคนพร้อมกันไม่ได้ ดังนั้นพี่จึงควรจะเลือกปล่อยคุณตั้นให้คุณตั้นได้ไปเจอคนที่รักเขาได้ดีกว่าพี่ ตอนนี้พี่ว่าคุณตั้น เจอแล้วครับ คนนั้นคือน้องเมย์ พี่ฝากน้องเมย์ดูแลคุณตั้นด้วยนะครับ”

“พี่นั้นเลือกแล้วครับว่า พี่จะอยู่เคียงข้างคุณท่าน จนกว่าพี่จะหมดลมหายใจ “พี่อิศเรศพูดก่อนจะก้าวเท้าขึ้นรถและคนขับรถก็ออกรถไป ผมยืนกุมหัวใจ นี้แหละที่ผมคิดว่า ผมติดค้างอยู่มันหลุดไปแล้ว นั้นคือเขา ไปเพราะหัวใจของเขาจริงๆ

“หมับ” ผมคว้าเอาตัวเล็กเอาไว้

“เฮีย” คนตัวเล็กตกใจร้องเรียกผมเสียงหลงทันที

“โกหกเฮียเหรอ” ผมถามตัวเล็ก

“ก็ถ้าบอกว่าจะมาคุยกับพี่อิศเรศ เฮียจะให้ไหมล่ะ”

“ไม่!”

“ไม่ทันแล้ว ผมคุยแล้ว “ตัวเล็กพูด

“เล่นแบบนี้กับเฮียใช่ไหม” ผมถามตัวเล็ก

“แบร๋ๆๆ” ยังแล้ปลิ้นใส่ผมอีก ผมถลกแขนเสื้อและพร้อมกับยกร่างคนตัวเล็กลอยขึ้น มาพาดไว้บนบ่าผมนี้แหละ ตัวเล็กก็ดิ้นแต่ไม่พรรณนาผมหรอกน่ะ ผมเดินไปหยิบกระเป๋าอาดิแดสหิ้วพร้อมกับกดลิฟต์รอ และคนตัวเล็กเลิกดิ้นแล้ว

“ไม่ดิ้นแล้วเหรอตัวเล็ก”

“ไม่แล้วขี้เกียจ อยากทำอะไรก็ทำเลย!!” ผมเหลือบขึ้นบนมองคนที่ผมแบกเอาไว้ จากเงาสะท้อนบนหัวผม ทำให้ผมอมยิ้มเล็กๆ ให้กับตัวเล็ก ตอนนี้ เขาเอามือเท้าค้างกับหัวไหล่ผมอยู่ทำหน้าบึ้งด้วย น่ารักชะมัด

“ป๊าป!” ผมตีเข้าที่ก้นกลมๆเล็กๆนั้น

“อิ้ววว” คนตัวเล็กร้องออกมาดังพอสมควร ก่อนจะหันมามองผมและทำแก้มป่องใส่ผม จังหวะนั้นลิฟต์กำลังเปิด และผมก็ต้องผง่ะเพราะว่า มีคนอยู่ในลิฟต์ รู้ไหมว่าใคร ไอ้กอล์ฟ มันกำลังซัดกันนัวเนียเลย กอดจูบกับเฟย์ ผมมองซ้ายมองขวา จนมันหันมาเจอผมเท่านั้นแหละได้สติ

"เห้ย!!" ไอ้กอล์ฟมันร้องออกมาเสียงหลงก่อนที่ทั้งคู่จะผละออกจากกันในทันที

“ไม่เข้าไปละเฮีย ผมง่วงนอนแล้วจะได้รีบเข้าห้อง และนอน!!” เมย์พูด และผมก็ค่อยๆ วางเมย์ลงยืนก่อน พอเมย์หันหลังกลับไปเจอคนในลิฟต์ เมย์หันมามองหน้าผมก่อนจะหันไปกลับไปมองไอ้กอล์ฟและเฟย์สลับกันไปมา ผมดันเมย์เข้าไปด้านในก่อนที่ประตูลิฟต์จะปิดลง

“ขึ้นไหมว่ะ” ไอ้กอล์ฟถามผม ผมพยักหน้าพร้อมกับยืนเอามือข้างหนึ่งเท้าเอวและอีกข้างก็ใช้ข้อศอกยันที่จับในตัวลิฟต์เอาไว้  และผมก็ยืนนิ่งไม่ได้ถามอะไรมันน่ะ มันก็นิ่งไม่กล้าพูดอะไรเช่นกัน

“ผมขอโทษนะพี่กอล์ฟ ผมคงลืมกดชั้นน่ะ” เฟย์กระซิบกับไอ้กอล์ฟ

“ตั้น คือว่ากู” ไอ้กอล์ฟมันเลยเป็นฝ่ายเริ่มก่อนแต่ผมยกมือห้าม ไม่ได้โกรธอะไรมันหรอก

“เอาเป็นว่าเมื่อมึงพร้อมแล้วกันว่ะ “ผมพูดตัดบทผมหันไปมองหน้ามัน เพราะว่ายังไงมันก็เพื่อนผม

“ส่วนพวกนั้นมึงต้องบอกมันเองว่ะ มันเพื่อนกันมึงเข้าใจป่ะว่ะ “ผมถามไอ้กอล์ฟ มันพยักหน้า

“แต่แม่งเล่นในลิฟต์เลย ไอ้สัส กูยังไม่กล้าเลย มันมีกล่องวงจรปิด” ผมพูดและชี้ขึ้นไปเหนือศีรษะ กล่องวงจรปิดพ่อผมมันทันสมัย ดูไม่ค่อยเหมือนเท่าไหร่

“ไอ้เชี้ย นั้นกล้องวงจรปิดเหรอว่ะ” ผมสะบัดหน้าไปมองไอ้กอล์ฟ

“มึงคิดว่านี่มันคือติ่งในลิฟต์หรือไง พรุ่งนี้คนเช็กกล้องคงได้ เปิดรีเพล์ไม่รู้กี่รอบ หึ หึ “ผมพูดและหัวเราะขำมัน เมย์นี้ก็เอาศอกกระทุ้งที่พุงของผมเบาๆ จนกระทั่งลิฟต์มาถึงชั้นที่แปด

“ไปนอนเถอะว่ะ พรุ่งนี้มีงานนะโว้ย!! อย่าหนักล่ะ”

“ไม่หนักน้องมันมีเรียนเช้าและสอบเก็บคะแนน” ไอ้กอล์ฟพูดก่อนจะดันเฟย์เดินออกไปเฟย์ยกมือไหว้ผมก่อนออกไป ผมพยักหน้ารับไหว้แทน เมย์เงยหน้ามองผมเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง

“พี่เห็นมันมาพักหนึ่งแล้วแหละ แต่พี่ไม่ได้สักถามอะไรน่ะ พี่ว่าคงยังไม่พร้อมและเมื่อมันพร้อมมันก็จะบอกเอง “ผมหันไปบอกเมย์พร้อมรอยยิ้ม เมย์เขาก็เข้ามากอดผม ผมก็โอบเมย์กลับ  หันไปหอมหน้าผากด้วย

 "คราวนี้พี่รู้แล้วใช่ไหมครับว่า พี่อิศเรศเขาไม่ได้ไปแค่เพราะคำว่าบุญคุณเขาไปเพราะว่าหัวใจต่างหาก " เมย์พูด ผมก็พยักหน้าเบาๆ ผมโอบไหล่เมย์เราเดินออกจากลิฟต์พร้อมกัน

   คืนนี้ของดNC เพราะว่าเฮียตั้นตาปรือมากแล้ว ง่วงครับ เอาไว้คราวหน้าแล้วกันนะครับท่านผู้ชม

******

อ่านคอมเม้นแล้วก็อมยิ้ม ตอนหน้าจะยิ้มมากขึ้น(คนแต่งยังยิ้มเลย)
ตอนหน้าคุณพ่อจะมานะคะ คุณพ่อกับพี่อิศเรศค่ะ

หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.1ุ7.2 (พี่ตั้นVSเมย์)สิ่งที่คาใจ
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 28-11-2020 10:35:42
 :pighaun:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.1ุ7.2 (พี่ตั้นVSเมย์)สิ่งที่คาใจ
เริ่มหัวข้อโดย: Tanthai23 ที่ 28-11-2020 17:07:51
 :pighaun: :haun4:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.1ุ7.2 (พี่ตั้นVSเมย์)สิ่งที่คาใจ
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 28-11-2020 22:34:23
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.1ุ7.2 ( ธรรพ์ณธรVSอิศเรศ)คนปากกับใจไม่ตรงกันของพ่อ nc18+
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 28-11-2020 23:13:50
            อิศเรศ ผมนั่งครุ่นคิดถึงเรื่องราวเก่าๆขณะที่ผมนั่งอยู่ภายในรถฟอร์จูนเนอร์สีดำ  ผมนั่งอยู่ที่เบาะหลัง ภาพเด็กผู้ชายที่อายุห่างจากผมแค่ห้าปี เขานั่งซึมเศร้าเพราะว่าชีวิตที่ต้องผ่านการเสียใจอย่างหนักแถมยังต้องมาอยู่ในที่ที่ไม่คุ้นเคย เขาย้ายมาจากอเมริกาด่วนและเข้าเรียนโรงเรียนที่กรุงเทพ คุณตั้นไม่เคยเรียนภาษาไทยมาก่อน พูดได้แต่อ่านออกเขียนไม่ถึงขนาดเก่ง ได้แค่คำง่ายๆที่คุณลลิลภัทร์สอนมาแค่นั้น และนั้นก็ทำให้ผมต้องลงไปดูคุณตั้น เป็นระยะเวลาถึงสีปีกว่าแม้จะไปๆมาๆเพื่อไปดูคุณท่านด้วยในช่วงปิดเทอมแต่ผมก็กลับไปพร้อมกับคุณตั้น
 
       น้องตั้นครับ อ่านให้พี่ฟังก่อน พี่จะได้แน่ใจว่าน้องตั้น เข้าใจ คุณตั้นต้องใช้ในการสอบเข้านะครับ ถ้าคุณตั้นไม่เข้าใจพี่คิดว่าจะสอบเข้าไม่ได้นะครับ  ]
 
            [ก็ไม่มีสมาธิอ่ะ พี่เรศ] แววตาอ้อนวอน มันทำให้ผมต้องกุมขมับ
 
            [น่ะพี่เรศ] เขาอ้อนวอนผมต้องการจะ จูบผม รสจูบที่ผมเคยสอนเขา เพราะว่าคุณท่านก็สอนผมมาอีกที ความสัมพันธ์ที่ลับๆของผมกับคุณท่านในตอนนั้น
 
            [พี่ให้แล้วตั้นต้องอ่านน่ะ ] ผมบอกตั้น ตอนนั้นเขาเป็นเด็กน้อยของผมที่น่ารัก
 
            [ครับที่รัก] ทันทีที่ตั้นพูดเขาก็ประกบปากผมจูบอย่างดูดดื่ม นิ้วมือก็ล้วงเข้าไปในเสื้อยืดที่พอดีตัวของผม ผมก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูน ผมจูบตั้นตอบ มันรู้สึกดีแต่คนละแบบกับเวลาที่ผมจูบกับคุณท่าน พ่อของคุณตั้น อันนั้นมันนุ่มนวลและอ่อนหวาน  ไม่นานสองร่างก็เปลี่ยนจากนั่งเป็นลงไปนอนเสียดสีกันบนพื้นพรม ตั้นเริ่มซุกไซ้ที่ลำคอของผม มือไม้ก็ลูบคล่ำไปทั่ว จนไปหยุดที่ความเป็นชายของผมอีกทีและทำท่าจะปลดกางเกงผมออก
 
            [ตั้น ตั้น พอ พี่ทำแบบนั้นไม่ได้]  ผมรีบห้ามปรามเขาในตอนนั้น ผมจะให้มันเกินเลยไปกว่านี้ไม่ได้
 
            [ทำไมละแฟนกัน พี่เรศ]
 
            [พี่ขอละ]
 
            [แต่ผมมีอารมณ์นิ]
 
            [ ฟู่!! โอเคพี่จะทำให้เรา และหลังจากเสร็จแล้วอ่านหนังสือ พี่ซีเรียสนะครับตั้น] และทุกครั้งผมทำให้เขามีความสุข มันไม่ใช่แค่ครั้งเดียว มันเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ถามว่าพ่อของตั้นรู้เรื่องนี้เขารู้แต่พ่อของตั้นเขาก็ยอมเพราะว่า
 
            “ก็นั้นลูกชายฉัน ถ้ามันทำให้เขาดีขึ้น ฉันก็ต้องยอม แต่ จะยอมตลอดไปไม่ได้น่ะ เรศ”[/b]

 
            รถที่ผมขับตามคุณตั้นไปจนถึงกรุงเทพและตีกลับมาในทันทีที่เห็นว่าคุณตั้นและคุณเมย์ถึงที่พักอย่างปลอดภัย ผมก้าวเท้าลงจากรถ ตอนนี้เป็นเวลา ตีสองครึ้ง ผมหันไปมองคนขับรถ
 
            “ไปนอนพักซะนะครับ แล้วพรุ่งนี้เปลี่ยนชุดขับพาคุณท่านไปดูงานน่ะ ผมไม่อยากให้พวกคุณไปในสภาพที่ไม่พร้อม อยากให้พักให้เต็มที ขอบคุณมากนะครับ” ผมบอกพวกเขาก็พงกศีรษะก่อนจะนำรถไปเข้าจอดและไปเข้าที่พัก
 
            ผมเดินขึ้นเรือนใหญ่ในทันที ผมเหลือบไปมองบ้านหลังทางด้านซ้ายมือที่เป็นบ้านของคุณลลิลภัทร์ บ้านที่พ่อของคุณธรรพ์ณธรมอบให้เธอในวันที่เธอเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ และบ้านอีกหลังทางด้านขวา เป็นบ้านแม่ของคุณธรรพ์ณธร เธออยู่มาก่อนและกลับตัดสินใจฆ่าตัวตายตอนที่คุณท่านอายุได้สิบสิบแปดปี ผมรู้ว่าภาพนั้นมันเลวร้ายเกินกว่าที่จะลืมมันได้และมันก็เลวร้ายเกินกว่าจะให้อภัย และบ้านหลังนี้ไม่ค่อยมีใครกล้าขึ้นไป แต่คุณพ่อของคุณตั้นกลับให้สองแม่ลูกนั้นอยู่ เธอก็ต้องอยู่แหละ คงไปไหนไม่ได้ เช่นกัน
 
            “คุณอิศเรศ” แม่บ้านที่มาอยู่รอเปิดประตูให้ผม
 
            “คุณท่านเข้านอนตอนกี่โมงครับ”
 
            “เห็นคุณท่านเงียบๆไปก็ประมาณ สี่ทุ่มนะคะ”
 
            “รู้สึกว่าจะหัวเสียหาอะไรไม่เจอก็ไม่รู้ค่ะ แก้วไม่กล้าขึ้นไปกลัวจะหงุดหงิดหนักกว่าเดิมค่ะ เลยรอให้ท่านสงบไปเอง” คนใช้บอกผม ผมก็ยิ้มจางๆพร้อมพยักหน้า
 
            “ขอบคุณครับ ไปนอนเถอะ” ผมพูดก่อนจะก้าวเท้าเดินขึ้นไปบนเรือนใหญ่ ที่ผมกับคุณท่านพักที่นี้ ผมเดินตรงไปยังห้องนอน ผมเปิดประตูเข้าไปอย่างเบาที่สุด ถ้าคุณท่านหลับแล้วผมก็ว่าจะไปนอนพักอีกห้องหนึ่ง
 
            “หึ” ผมต้องยิ้มที่มุมปาก ผู้ชายที่หลับไหลอยู่ พ่อลูกนี้เขาถอดแบบกันเหมือนกันทุกอย่างจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาที่ละหม้ายคล้ายกัน จนจะเรียกว่าแฝดก็ว่าได้ เสียแต่ว่าทรงผมที่สีเริ่มเปลี่ยนไป เหมือนกันชนิดที่ว่าทุกกิริยาบท มันทำให้ผมแยกแยะไม่ออกในช่วงแรกว่าผมมีใจให้ใครกันแน่พ่อหรือลูกแต่
 
            “หมับ” จังหวะที่ผมกำลังหันหลังออกก็มีคนมาคว้าข้อมือผมและดึงผมเข้าไปหา จนผมถลาลงไปทาบทับร่างคนที่นอนลืมตาอยู่
 
            “เออ ผมนึกว่าคุณท่านหลับอยู่ “ ผมพูด คุณธรรพ์ณธรมองไปรอบๆห้องและหันมามองหน้าผม ผมรู้ว่าถ้าอยู่ในห้องนอนผมต้องเปลี่ยนสถานะ
 
            “ผมคิดว่าคุณสามีหลับอยู่นะครับ”
 
            “หึ หึ” คุณธรรพ์ณธรหัวเราะผมในลำคอ ก่อนจะพลิกตัวผมให้ลงไปนอนราบและคนด้านข้างผมก็ลุกขึ้นนั่ง หันมาทางผม แขนที่เหยียดยันอยู่ข้างลำตัวผม สายตาที่จับจ้องมองผม มันดูอบอุ่น ตั้งแต่วันแรกที่ผมเจอเขา ผมจำได้ว่าผมนั่งสั่นเทา ผมหนีการตามล่าของพวกค้ามนุษย์ข้ามชาติมาแอบอยู่ที่ไร่ของเขา ผู้ชายคนนี้ที่ยื่นมือมาเรียกผมให้ออกมาจากพุ่มไม้ เนื้อตัวที่เต็มไปด้วยบาดแผลจากการโดยกิ่งหนามทิ่มตำ และเขาคนนี้ก็คือคนที่ให้ชีวิตใหม่กับผมพร้อมกับชื่อนี้ อิศเรศ
 
            “ตั้นเขาว่าไงที่เราขับตามเขาไปแบบนั้น”
 
            “ก็ หัวเสียแต่ก็ยอมเพราะว่าน้องเมย์ครับ”ผมพูดพร้อมกับใช้นิ้วมือเขี่ยที่คางนั้น มันมีหนวดขึ้นมาไรๆ
 
            “ตอนเช้าจัดการให้ด้วย เพราะว่ามีคุยเรื่องโครงการใหม่ ผมไม่อยากให้เขาเป็นว่าผมดูแก่” คุณธรรพ์ณธรบอกผม นั้นหมายถึงให้ผมโกนหนวดให้เขาด้วยนั้นเอง
 
            “คำสั่งเหรอครับ”
 
            “หน้าที่ที่ภรรยาที่พึงกระทำ”
 
            “ผมลืมไปนะครับ” ผมพูดปนหัวเราะ
 
            “ลืมเหรอ ต้องให้ทบทวนไหม”
 
            “ดึกไปนะครับตีสองกว่าแล้ว”
 
            “ก็อยากกลับมาช้านิ หึ” ร่างที่กำยำนั้น ในวัยจะห้าสิบแต่ดูมีพละกำลังราวกับม้าหนุ่ม โน้มตัวลงมา จุมพิตที่เร่าร้อนและนุ่มนวลผสมผสานกันไป จนร่างของผมดิ้นไปมาอยู่ไม่สุข ลิ้นนุ่มแต่ดุดันด้วยพละกำลังสอดใสเข้ามาในโพลงช่องปากของผม แถมยังตวัดควานไปทั่ว
 
            “อื้มมม” เสียงครางของผมทำให้คนที่รุกล้ำได้ใจเวลาผ่านไปสักพักถึงได้หยุดให้ผมได้หายใจเอาอากาศเข้าปอด
 
            “ขอผมอาบน้ำก่อนได้ไหมครับ เพราะว่าผมนั่งรถไปกลับก็ราวๆแปดชั่วโมงได้ ผมเหนียวตัวมากเลยนะครับ คุณสามี” ผมพูดก่อนจะใช้ข้อศอกยันตัวเองขึ้น
 
            “นี่ถ้าไม่ตื่นมาดู จะหนีไปนอนอีกห้องใช่ไหม” เดาถูกเสมอ
 
            “ไม่ได้หนี แต่ถ้าคุณสามีหลับแล้วผมก็ไม่อยากปลุก กลัวจะนอนไม่เต็มทีและถ้าตื่นขึ้นมาจะกลับไปนอนต่อได้ไหมละครับ “ ผมพูดก่อนจะค่อยๆลุกขึ้น ผมมองคนที่สวมกางเกงแพรพร้อมกับเสื้อยืดตัวบางสีขาว
 
            “เร็วๆนะ และมากล่อมด้วยไม่งั้นกลับไปนอนไม่ได้น่ะ” คนพูดทำให้ผมคนที่ได้ฟังถึงกับหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันที นี่แหละที่บอกว่าพ่อลูกเขาถอดกันมาเป็นยังไง ขนาดเขาทั้งคู่ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกันเลยนะ ถ้าอยู่ด้วยกันทุกวันไม่รู้จะขนาดไหน ผมลุกขึ้นไปก็เตรียมตัวเข้าห้องน้ำจัดการรีบอาบน้ำชำระร่างกาย ก็คนที่ตื่นขึ้นมาคงยังนั่งรอผมอยู่ พอท่านอายุเยอะขึ้นถึงจะดูแข็งแรงราวกับโคถึกแต่ด้วยวัย ตื่นมาก็หลับต่อยาก
 
            “หมับ” ผมหยิบไอแพตที่ท่านเอามาเปิดดูงาน
 
            “ทำไมไม่อ่านหนังสือที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายละครับ จะได้นอนหลับต่ออีกสักหน่อย” ผมพูดกับที่กึ่งนั่งกึงนอน เขามองผมพร้อมมุมปากที่กระตุกขึ้นเป็นรอยยิ้ม พ่อลูกนี้เขาเหมือนกันอีกอย่างถ้าบอกอย่าทำก็ทำ เพื่อให้โดนดุและนั้นแสดงให้เห็นว่ามีคนหวงใยเขา สายตาทีหลุบลงที่นอนข้างๆ เพื่อให้ผมนั่งลง ทันที่ผมทรุดลงนั่ง คนที่รอคอยผมอยู่ก็เอี้ยวตัวมาประกบริมฝีปากพร้อมกับดันหลังผมให้นอนราบลงอย่างทะนุถนอม รอยยิ้มที่ดูอบอุ่น ส่งผ่านมาที่ผม
 
            “อันที่จริงไม่น่าจะใส่ออกมาหรอกนะเสื้อผ้าน่ะ”
 
            “แล้วคุณสามีจะให้ผมเดินโป้ออกมาจากห้องน้ำเหรอครับ”
 
            “ทำได้ไหมล่ะ”
           
            “ไม่ได้ครับ ต่อให้ไม่มีใครอยู่ในห้องนี้นอกจากคุณสามีผมก็ไม่กล้าทำหรอกครับ “ ผมพูด แต่ทำให้คนที่พลิกตัวมาคร่อมร่างผมไว้ กระหยิ่มยิ้มย่อง พร้อมกดริมฝีปากลงจูบผมอย่างหนักหน่าวง ริมฝีปากนั้นถูกลากยาวลงมาที่ลำคอขาวๆของ ชายเสื้อถูกเลิกขึ้นมาจนเห็นแผ่นอกที่มีสองจุดนั้น ผมรู้สึกเปียกชื้นที่จากการที่ปลายลิ้นนุ่มนั้นตวัดเล่นไปมา ทั้งขบและเม้มเล่น หยอกเย้าจนผมเองก็เกือบจะทนไม่ไหว คนที่คร่อมร่างของผมเอาไว้ก็ใช้มือกระตุกปมกางเกงแพรของผมและรูดมันออกไป จนหลุดติดมือไป ผมเองก็ไม่ได้สวมกางเกงยืด
 
            “เตรียมพร้อมใช่ไหม” คนที่ยิ้มอย่างพึงพอใจถามผม
           
            “ก็คุณสามีบอกผมว่า รอให้ผมมากล่อมนอน แล้วผมจะใส่หลายชั้นทำไม คุณยิ่งขี้หงุดหงิดอยู่นี้ครับ”ผมพูดตอบ คนที่คร่อมร่างผมอยู่ก็ลุกขึ้นและกระตุกปมกางเกงแพรให้คลายออก กางเกงหลุดล่วงลงไปเผยให้เห็นความเป็นชายที่ไม่ธรรมดา แน่นอนด้วยวัยที่มากขึ้น ก็ต้องปลุกเร้ากันหน่อย ผมลุกขึ้นและนั่งย่องให้ตรงกับเป้าหมาย ผมกระขยับเข้าไปหาพร้อมกับใช้ปากกับสิ่งนั้นเพื่อปลุกให้มันหึกเหิมพร้อมจะทำลายประตูสวาทของผมใช่เวลาปลุกความเป็นชายอยู่ไม่นานคนที่ยืนอยู่คงรับรู้ถึงความพร้อม เขาดันผมออกพร้อมกับโน้มลงมาจูบผมร่างผมค่อยเอนตัวลงนอนราบอีกครั้ง ขาของผมถูกจับให้ตั้งขึ้น รู้สึกเย็นว๊าบที่ช่องทางรักของผม นิ้วมือที่กำลังละเลงเจลหล่อลื่น กำลังควานไปทั่วเพื่อสร้างความคุ้นเคย ผมสัมผัสถึงหน้าท้องที่มีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆมาสัมผัสกับหน้าแข้งของผม คนที่อยู่ตรงระหว่างขาของผมก้สอดใส่สิ่งนั้นเข้ามาในกายของผมอย่างช้าๆ
 
            “อ้าห์ อื้มมม อื้มมมมม ซี้ดดด” เสียงครางของผมและคนที่กำลังโยกบั้นท้าย
 
            “ปัก ปัก ปัก “ใช่เวลาไม่นานแต่ว่ามันก็สุขสมมากพอที่จะทำให้ผมเสร็จไปพร้อมๆกัน 
 
            “อืมมม” เกมรักของผมสองคนจบลงที่จูบอันดูดดื่ม
 
            “คราวนี่นอนได้แล้วนะครับ ผมอยากให้คุณสามีของผมนอนให้เต็มที “ผมพูดก่อนจะลุกขึ้นไปผมเองก็ต้องเป็นคนเช็ดทำความสะอาดให้ คุณสามีของผมก่อน ที่จะจัดการตัวเอง หน้าที่ภรรยาที่พึงกระทำ และกลับมาขึ้นเตียงนอน ผมล้มตัวลงนอนกอดผู้ชายคนนี้ มันอบอุ่นซะยิ่งกว่าอ้อมกอดไหนๆ
 
            “เออ คนงานมารายงานผมอีกแล้วนะครับว่า คุณเกศเธอทำตัวไม่เหมาะสมอีกแล้วนะครับ”
 
            “และเมื่อวานตอนบ่าย คุณเมญ่าก็พยายามขึ้นไปหาคุณตั้นอีกแล้ว”
 
            “ฉันจะจัดการเอง “ คำพูดที่ดุดันและอ้อมกอดที่กอดกระชับร่างของผมเอาหา พร้อมกับฝ่ามือที่ลูบหัวผมเบาๆ
 
            “ฟ๊อด นอนได้แล้ว เหนื่อยเดินทางไม่ใช่เหรอ เรศ”
 
            “ครับ คุณท่านก็นอนได้แล้วน่ะครับ ผมรักคุณท่านนะครับ “
 
            “ฉันก็รักนายน่ะ ถึงจะเคยจะยกนายให้ลูกชายฉันก็ตาม”
 
            “ผมว่าเขาเจอคนที่รักเขาแล้วแหละครับ เลิกคิดเรื่องนั้นได้แล้ว ผมมอบกายให้ขนาดนี้แล้วนะครับ”
 
            “อืมม ฟ๊อด!!”
 
           
             เช้าของวันใหม่ ผมลงมานั่งทานอาหารกับคุณทานเหมือนเช่นทุกวัน วันนี้ผมสั่งให้แม่บ้านทำ egg benedict เสริฟพร้อมผักสลัดออแกนิกส์และอะโวคาโด ให้คุณท่านทาน  ทันทีที่ท่านเดินลงมาก็นั่งลงและมองหน้าผม
 
            “ผมว่าท่านควรจะทานไข่เป็นอาหารเช้าเพื่อเพิ่มโปรตีนและอะโวคาโด ไขมันดีเข้าสู่ร่างกาย “  ผมพูดก่อนจะนั่งลงข้างๆท่าน หนังสือพิมพ์ถูกจัดวางไว้ด้านข้างพร้อมกาแฟบดจากไร่ของท่านเอง มันหอมลมุล
           
            “หลบซิจะมายืนขวางฉันอยู่ได้” เสียงเกศมณีเดินเข้ามาในห้องอาหาร ซึ่งปกติเธอจะไม่มีสิทธิ์เดินเข้ามาถ้าคุณท่านไม่เรียกแต่ก็ไม่เรียกมาเลยสักครั้ง
 
            “วันนี้คุณธรรพ์ณธรเรียกเกศมาเหรอคะ หรือจะให้เกศมานั่งร่วมโต๊ะอาหารเช้าค่ะวันนี้”
 
            “ฉันเคยเรียกเธอมานั่งเสนอหน้าที่นี้เหรอ”
 
            “แล้วเรียกเกศมามีอะไรเหรอคะ”
 
            “จะเรียกเธอมาเตือนเป็นครั้งสุดท้าย ถึงเรื่องที่เธอทำในบ้านของฉัน มันน่ารังเกลียดและน่าขยะแขยง แต่ฉันไม่แคร์น่ะ ที่เธอจะไปนอนกับใครมั่วกับใครอีก “
 
            “แค่ครั้งนั้นที่เธอท้องไม่มีพ่อ ถ้าไม่ติดว่าพ่อฉันสั่งเอาไว้ให้เก็บเธอเอาไว้ เธอคงกระเด็นไปนานแล้ว เกศมณี”
 
            “บอกลูกสาวเธอด้วยนะว่า ห้ามขึ้นไปบนเรือนคุณลลิลภัทรอีก ไม่อย่างนั้น ฉันก็จะให้หลอนไปอยู่ที่อื่น”
 
            “อย่านะคะ ฮือๆอย่าไล่เราสองคนแม่ลูกไปเลยนะคะ”
 
            “งั้นก็ทำตัวดีดี ถ้าเธอยังแบมือขอเงินฉันใช้อยู่ ทางทีดีควรจะให้ลูกสาวเธอตั้งใจเรียน ไม่ใช่ตั้งตาหาสามี เพื่อว่าวันหนี่งเธอสองคนแม่ลูกอาจจะไม่ได้อยู่ที่นี้ ถ้าลูกชายฉันเขาพร้อมจะกลับมาดูแลกิจการของฉันแทน”
 
            “ออกไปได้แล้ว”
 
            บรรยากาศอาหารเช้าก็เหมือนเช่นทุกวัน ท่านก็ดื่มกาแฟ อ่านหนังสือพิมพ์ ส่วนผมก็ทานอาหารไปด้วยและดูตารางงานของท่านไปด้วย ผมทำหน้าที่เลขาฯ และคนที่ดูแลท่านอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด
 
            “อย่าลืมทานอาหารเสริมนะครับ “ผมบอกคนที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ก่อนจะลุกไปตรวจสอบดูคนขับรถเพื่อจะได้ออกไปดูงานแม้จะไม่ไกลมากแต่เพื่อความปลอดภัย คนขับก็ต้องพร้อมสภาพรถก็ต้องพร้อม ผมค่อนข้างใส่ใจทุกอย่างเพื่อความปลอดภัยของท่าน ผมเดินกลับเข้ามาด้านในอีกครั้ง แต่ไม่พบร่างคนที่นั่งอยู่แล้ว
 
            “ท่านคงเดินไปที่ด้านหลังอีกแล้วนะคะ คุณอิศเรศ” แม่บ้านบอกผม ผมพยักหน้า ความทรงจำที่เลวร้าย ไม่ว่าจะผ่านไปสักกี่สิบปี มันก็ยังคงอยู่ในใจลึกๆของผู้ชายที่ใกล้จะเลยวัยกลางคนเข้าไปทุกที ผมเดินมาหยุดที่ด้านหลังคนที่ยืนกอดอกมองต้นไม้ ที่มีอายุยาวนานกว่าสี่สิบปี คุณท่านปลุกมันด้วยมือของท่านเองเมื่อยังวัยเยาว์ มันดูเก่าแก่ทำท่าจะล้มลงมาได้ทุกเมื่อ แต่ว่าคุณท่านพยายามยื้อมันเอาไว้ โดยการใช้ไม้ค้ำยันเพื่อรักษามันไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ ต้นไม้ที่ต้องยืนตากแดดตากฝน ฝ่าลมพายุไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ แต่ถ้าไม่ใช่สิ่งสำคัญมันคงล้มลงไปแล้ว
 
            “เวลามันผ่านมานานมากแล้วนะครับ “
 
            “ใช่ นานมาก ตั้งแต่ตั้นยังไม่เกิด แต่มันยังติดตาฉันอยู่ ถึงทุกวันนี้”
 
            “และฉันก็ไม่อาจจะให้อภัยเธอได้ลลิลภัทร์ ต่อให้ผู้หญิงคนนั้นจะไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้วก็ตาม”
 
            “แต่คุณตั้นเธอไม่รู้เรื่องด้วยนะครับ”
 
            “แต่มันก็ทิ่มต่ำหัวใจฉันจนเป็นแผลฉกรรจ์ไม่แพ้กัน “
 
            “แต่คุณก็รักคุณตั้น เพราะว่าเขาคือเลือดเนื้อของคุณ” ผมพูดทำให้คนตรงหน้าผมที่ยืนเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงสแลคเข้ารูปมองไปที่ต้นไม้ต้นนั้น
 
            “ว่าแต่เรื่องบ้านเด็กคนนั้นว่าไง”  จู่ๆท่านก็เปลี่ยนเรื่องซะเฉยๆ
 
            “บ้านคุณเมย์เหรอครับ ผมส่งคนเข้าไปคุยกับคุณดิเรกแล้ว เขาบอกว่าเขายังตัดสินใจอะไรไม่ได้ บ้านหลังนั้นคือสินสมรสระหว่างคุณปฐวีย์และลูกสาวเขา ดูท่าแล้ว คงถูกถอนหมั้นเร็วๆนี้แหละครับ”
 
            “ตกลงเขาต้องการเท่าไหร่”
 
            “สามสิบล้านบาทครับ”
 
            “ถ้าคุณจะซื้อก็ทำได้แต่ คุณท่านต้องการได้ยินคำขอความช่วยเหลือจากคุณตั้นใช่ไหมครับ”
 
            “ชาตินี้มันจะพูดไหมล่ะ”
 
            “ผมเดาว่าไม่” ผมพูดพร้อมรอยยิ้ม
 
            “บ้านหลังนั้นเป็นยังไง ได้เห็นหรือยัง”
 
            “เป็นบ้านทรงทันสมัยตอนนี้ผ่านไปเกือบสิบห้าปี เพราะว่าตอนที่ดอกเตอร์เสียชีวิตไปเขาเพิ่งจะย้ายเข้าไปอยู่ครับและหลังจากท่านเสียชีวิต บ้านหลังนี้อยู่ในชั้นศาสอยู่หลายปีมากครับ จนกระทั้งมาตกอยู่ในมือของคุณดิเรก ผมว่าเขาน่าจะใช้แผนสกปรกได้มันมา”
 
            “จ้างคนสืบ”
 
            “ครับท่าน”
 
            “ผมได้ยินมาบ้านหลังนี้มีห้องใต้ดินด้วยครับ และของทุกอย่างของเจ้าของบ้านถูกเก็บไว้ที่นั้น ผมเดาว่าน่าจะเป็นพวกรูปถ่ายพ่อแม่ของคุณเมย์นะครับ”
 
            “ถึงยังไงเราก็เข้าไปเอามันออกมาไม่ได้ จนกว่าจะได้บ้านมาซะก่อนถูกต้องไหม”คุณทานหันมามองหน้าผม ผมพยักหน้าว่าใช่
 
            “ผมจะพยายามดำเนินการให้เร็วที่สุด”
 
            “ถ้ายังงั้นฉันก็รอไอ้ลูกชายฉันมันขอก่อนแล้วกัน “
 
            “นี่เราพร้อมจะไปกันหรือยัง” ท่านหันมาถามผม พร้อมกลับรอยยิ้มและนิ้วเรียวๆที่ตวัดผมที่ปรกหน้าผากของผม
 
            “คิดว่าควรจะออกเดินทางได้แล้วครับ ผมไม่อยากให้เราไปถึงแดดร้อนมาก คุณจะหงุดหงิดคุยงานกันไม่สะดวกนะครับ “ ร่างตรงหน้าผมหันมาพยักหน้าก่อนจะเดินแทรกกลับเข้าไปด้านใน นี้แหละน่ะ ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริงๆ
           

หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.1ุ7.2 ( ธรรพ์ณธรVSอิศเรศ)คนปากกับใจไม่ตรงกันของพ่อ
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 28-11-2020 23:38:29
 :oo1:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.1ุ7.2 ( ธรรพ์ณธรVSอิศเรศ)คนปากกับใจไม่ตรงกันของพ่อ
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 29-11-2020 13:25:29
คู่ใหญ่นี้มันกร๊าวใจดีแท้โว้ยยยยย 555555 อ๋อผู้หญิงและลูกสาวบ้านนั้นคือคนของพ่อ แล้วแม่ของพี่ตั้นนี่ยังไงดูเหมือนจะร้ายลึกนะ 55555 ถ้าได้บ้านคืนมาก็ถือเป็นเรือนหอของพี่ตั้นกับเมย์เลยละกัน ใจนึงก็ไม่อยากให้เอาคืน สร้างใหม่บรรยากาศใหม่น่าจะดีกว่าแต่พวกของก็ขอคืน ดูเหมือนว่าปัญหาจะเกิดจากบ้านหลังนี้เองอะนะ ดูทรง 5555555  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.1ุ8( เฮียตั้นVSเมย์)เปิดตัวกับเฮียตั้ม
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 29-11-2020 17:18:12
       รชานนท์ เย็นนี้พวกผมเลิกงานก็ตรงไปที่ร้านหมูกระทะ เฮียตั้ม เฮียแกเป็นรุ่นพี่พวกผม และเป็นปู่รหัสของผมและเป็นคนที่เลือกผมขึ้นเป็นพี่ว๊าก ทั้งที่ผมไม่เคยอยากเป็น ไม่รู้จักคำว่าโซตัส ไม่เชื่อเรื่องโซตัส แต่พอได้มาเป็นพี่ว๊าก การทำงานของผมจึงเป็นระบบโซตัสไปโดยปริยาย คือเคารพรุ่นพี่ ดูจากเวลาเจอกันน้องๆ ยกมือไหว้กันหมด เฮียตั้มที่บ้านมีกิจการแต่ว่าเฮียเขาอยากเปิดร้านหมูกระทะ เฮียแกเปิดมาได้ ห้าปีแล้ว ตั้งแต่เฮียแกแต่งงานกับเจ้น้ำหวานไปได้สามปีกว่าแล้ว และเฮียบอกว่ามีข่าวดี ส่วนผมก็บอกเฮียว่าผมก็มีข่าวดีเช่นกัน



         วันนี้ผมเอารถเก๋งคันหรูมาขับอีกแล้ว และแต่ละคนก็มีรถที่ตัวเองชอบกันทั้งนั้น มันนั่งได้สองคน ผมขับรถไปด้วยและกุมมือตัวเล็กไปด้วย เมย์หันมามองผมเป็นระยะๆ



“พี่ไม่เคยพาใครมาที่ร้านเฮียตั้มเลยเหรอ” ตัวเล็กหันมาถามผม



“ไม่เคยครับ เพราะเฮียน่ะเขาบอกว่าพี่จะมีแฟนและพามาแนะนำตัว ขอให้เป็นแฟนจริงๆ พี่เลยไม่เคยพาเด็กที่มีคิดว่าแค่นอนด้วย ไปหาเฮียสักคน แม้กระทั่งพี่ปริม” ผมบอกตัวเล็ก ตัวเล็กมองผมก้อนจะหลุบตาลง      ผมนำรถของผมเข้าไปจอดที่จอดรถ ผมมาถึงก็ประมาณสามทุ่มกว่าๆ เฮียบอกว่าวันนี้แจ้งกับลูกค้าประจำเอาไว้แล้ว บอกว่าร้านจะปิดเร็ว ดังนั้นตอนนี้ก็จะมีแค่พวกผมที่มาทานกัน เฮียแกใจดีปิดร้านเลี้ยงพวกผมเลย ผมหิ้วเหล้ามาขวดเดียว คือว่ากินกันไม่เกินหนี่งขวดแต่พวกผมากันเยอะขนาดนี้ไม่เมาแน่นอน



“มาแล้วครับ กรีนเรเบล “ไอ้เปรมดิ์ มันเอารถมันมา วันนี้เรียกได้ว่ามาพร้อมกันหมดแฟนพวกมัน โบว์แฟนของเปรมดิ์ เคยเจอเมย์แล้ว เจอบ่อยด้วยเพราะว่ามหาวิทยาลัยโบว์อยู่ไม่ไกลจากที่ทำงานพวกผม



“สวัดคีค่ะพี่เมย์ “โบว์ยกมือไหว้เมย์ โบว์ก็เป็นรุ่นน้องพวกผมแหละกำลังจะจบจากที่เดียวกัน โบว์เรียนเอกการตลาด อยู่ปีที่สองเด็กที่สุดในบรรดาแฟนพวกเพื่อนๆ ผมตอนนี้



“สวัสดีค่ะพี่เมย์ใช่ไหมคะ” คนนี้แฟนไอ้ทีน อวบอั๋นสุดๆ ก็น้ำหนักน้องเขาเข้าไปจะแปดสิบกิโลกรัมอยู่แล้ว แต่น้องเขาน่ารัก น้องเรียนอยู่ปีที่นิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยแถวๆศาลายาปีที่สามแล้ว



“เมย์นี้น้องข้าวต้มมัด” ผมหันไปแนะนำให้เมย์รู้จัก เมย์สะบัดหน้าไปมองน้องเขาและน้องเขาก็สะบัดหน้ามามองผมเช่นกัน



“เฮ้ย! เฮีย หนูชื่อมัดหมี่ ไม่ใช่ข้าวต้มมัด”



“โอ๊ย!” ผมโดนเมย์บิดที่นมอย่างแรง



“ไปว่าน้องเขา เฮียนี่” เมย์หันขวับมาว่าผมทันที



“พี่ก็เห็นมาเป็นป้องๆ พี่ก็นึกว่าใช่” ผมพูดปนหัวเราะ



“ไอ้เฮียครับ มึงช่างกล้าเรียกเมียกูว่าข้าวต้มมัด เมียกูแค่เหมือนครับ “ไอ้ทีน มันดินมาถึงก็กำปั้นทักทายเหมือนปกติ



“พี่ทีน ดูดิเฮียแซวหนูอ่ะ แซวแรงเชียว”



“ก็บอกว่าให้ลดได้แล้ว”



“ลดน้ำหนักเหรอ”



“ลดของกินครับ เมียครับ ลดลงไปบ้าง เค้กนี้ก็สั่งจัง มีรสใหม่นี้วิ่งใส่ไม่ยั้ง พอกินเสร็จแล้วบ่นว่าจะอ้วน แล้วเป็นไงอ้วนเลย ดูรูปแล้วตกใจใครขโมยเมียคนเก่ากูไปว่ะ “ไอ้ทีนมันบ่นเมียมัน แต่มันรักมากผมรู้



“และไอ้เฮียนี้ก็ชมเมียกูซะน่ารักเชียวน่ะ เหมือนข้าวต้มมัด” ไอ้ทีนมันพูดและทำท่าจะดึงขนจมูกผม ดีที่คว้ามือมันไว้ได้ทัน



      ผมหันไปเห็นไอ้อาร์มมันก็มากับแฟนมัน แฟนมันเป็นคนใต้ สวยตาคมผมยาว ชื่อเบนซ์ คนนี้สวยจริง ๆ แต่ของเพื่อน ต่อให้สวยแค่ไหนก็ไม่ยุ่ง เบนซ์เรียนอยู่ปีที่สี่ตอนนี้ฝึกงานอยู่ เบนซ์เรียนมหาวิทยาลัยแถวคลองเตยสาขาการเงินการธนาคาร เบนซ์เป็นเพื่อนของเด็กที่มาทำงาน น้องเขาได้ยินมาว่าแก้งพวกผมที่เป็นชุดพี่ว๊ากที่หล่อที่สุดเลยอยากมาดู แต่สุดท้ายก็พ่ายให้กับไอ้อาร์มไป ทั้งที่ไอ้อาร์มเจ้าชู้ติดอันดับสองของกลุ่ม อันดับหนึ่งคือไอ้ธีมอันดับสามคือผม ยอมรับแต่โดยดีแต่ตอนนี้ (เลิกแล้ว) และที่ผมไม่จีบเบนซ์เพราะว่าที่ผ่านมาผมเล่นแต่คนอายุเยอะกว่าผมทั้งนั้น และต่อให้สวยแค่ไหนถ้าเคมีไม่ใช่ผมก็คือไม่ใช่



“สวัสดีค่ะเฮีย ไหนล่ะอาซ้อ เบนซ์อยากเห็น “ผมหันไปชี้ให้ดู



“อุ้ย! น่ารักอ่ะ น่ารักแบบนี้นี่เอง พี่อาร์มไม่ยอมพาเบนซ์ไปดูซะที “เมย์ตกใจรับไหว้แทบไม่ทัน



“ชื่ออะไรนะคะ”



“ชื่อพี่เมย์ครับเบนซ์ “ผมบอกเบนซ์ เมย์ก็ส่งยิ้มให้



“น่าร๊ากเนอะ ชื่อก็น่ารัก หมับ!” น้องเบนซ์ควงแขนเมย์ทันทีและทำท่าจะลากเมย์ผมไปอีก



“เดี๋ยว! เบนซ์! เออคนนี้ของพี่นะครับ พี่หวง ไอ้หน้าม้อมันงอนแล้วนั้นน่ะ” ผมรีบดึงแขนเมียผมเอาไว้ ชี้ไปที่ไอ้อาร์ม ว่าให้ไปควงคนนั้นครับ



“ยื่มหน่อยก็ไม่ได้ เฮียอ่ะ”



“แล้วไอ้นั่นละครับ” ไอ้ทีนหันไปชี้ไอ้อาร์ม



“เบื่อแล้ว”



“สงสารมันไปง้อมันหน่อย เดี๋ยวมันน้อยใจวิ่งออกถนนไปน่ะครับน้องเบนซ์” ไอ้เปรมดิ์พูด



“กูก็กำลังตั้งท่าจะวิ่งเหมือนกันแต่… วิ่งไปหาเมียใหม่ฟังโน้น แม้คาราโอเกะกำลังเปิดเลย เมื่อกี้ขับผ่านเห็นเบอร์ห้าเลยว่ะ ขาวหมวยอวบระยะต้นๆ ” ไอ้อาร์ม ผมหันไปยักไหล่มันปากดี พวกมันยักไหล่กลับมาเห็นด้วย



“เบอร์ห้า นี่รุ่นประหยัดไฟเลยดิมึง” ไอ้เปรมด์พูดผมหันไป “แป๊ะ” มือกับมันอีกคน



“ลองก้าวขาออกไปดิ มึงน่วมแน่ ไอ้พี่อาร์ม!” เมียไอ้อาร์มที่บ้านเป็นค่ายมวยครับผม ดังนั้นมวยไทยน้องเขาต้องมี



“เมียจร๊า เมื่อกี้ผัวล้อเล่น”



“เป็นไงละ สองมือประกบ จบที่ท่าเบญจางคประดิษฐ์ “ไอ้เปรมดิ์พูด ไอ้อาร์มมันยกมือไหว้ขอโทษเมียแทบจะไม่ทัน



“ไม่เบญจางได้ไง เดี๋ยวเมียกูได้จัดเข่าลอยมาให้กู โดนไปนี่สลบน่ะครับมึงครับ “ไอ้อาร์มพูด



“ไอ้กอล์ฟมาแล้วว่ะ” ผมหันไปดู มันมาคนเดียว ช่วงนี้มันเงียบๆ ผมเองก็ว่าจะถามอยู่ว่าตกลงมันเคลียร์ไม่ลงตัวหรือไง ก็แฟนมันก็มีอยู่ และมีไอ้น้องเฟย์อีกคน



“เห้ย! สงสารมันว่ะ มันคิดถึงแฟนมันใช่ไหมว่ะ “ไอ้ทีนมันพูด



“ก็แน่ละ ไกลกันขนาดนี้ ถ้ามันตัดสินใจไปเป็นอาจารย์ตอนที่เขาเรียกตัว มันก็ได้อยู่ใกล้แฟนมันแล้ว “ไอ้อาร์มพูด ผมก็อยากถามมันเหมือนกัน ถ้าตอนนั้นมันอยากจะไปผมก็จะไม่ห้าม แต่ไอ้กอล์ฟมันเก่ง เรียกว่ามือขวาของผมเลยก็ว่าได้



“สวัสดีค่ะพี่กอล์ฟ” บรรดาสาวๆ “สวัสดีครับพี่กอล์ฟ” เมย์ ยกมือไหว้



“เป็นอะไรวะ แพรไม่กลับเหรอว่ะ วันหยุดยาวแบบนี้” ไอ้เปรมดิ์มันถาม



“ไม่ว่ะ เขามีนัดกับเพื่อน เพื่อนๆ ที่กรุงเทพขึ้นไปเที่ยวเชียงใหม่ว่ะ” ไอ้กอล์ฟมันพูด เมย์หันมามองหน้าผมเหมือนเมย์จะพูดหรือถามอะไรผมสักอย่าง ผมก็ถลึงตามอง ว่ามีอะไร และเมย์ก็เลือกที่จะส่ายหัวว่าไม่มีอะไร



“ไอ้ธีมมันส่งข้อความมาว่ากำลังออกมากับไอ้ภาคิน ตอนนี้รถติดยาวเลย” ไอ้อาร์มพูด ผมพยักพเยิดว่า เข้าไปหาเฮียตั้มกันก่อน ผมพากันเดินเข้าไปด้านใน เฮียแกแต่งร้านได้ดูธรรมชาติมาก และรอบ ๆ นอกนี่ยกขึ้นหมดแล้วเหลือแต่ตรงกลางแสดงว่าเฮียแกจัดสถานที่เอาไว้ต้อนรับพวกผม



“เฮียตั้ม หวัดดีครับ” พวกผมยกมือไหว้เฮียตั้มกันหมดทุกคน ผมเดินไปก็กอดเฮียเลย ผมรักเฮียเหมือนพี่ชายแท้ๆ ตอนที่ผมเสียใจเรื่องพี่อิศเรศ ก็ได้เฮียตั้มนี้แหละที่สอนผม ให้ผมตั้งสติ แม้กระทั่งการที่พวกผมออกมาเปิดบริษัท ก็ได้เฮียนี้แหละ เพราะว่าเฮียแกก็มีธุรกิจครอบครัวแต่แกอยากลองทำในสิ่งที่แกชอบก่อน



“เฮียตั้ม นี้ครับ แฟนผม ชื่อเมย์ครับ” ผมหันไปดึงแขนเมย์ออกมา เมย์รีบยกมือไหว้เฮียตั้ม



“ไงว่ะมึง ไอ้ตั้น ช่วงนี้ดูมีความสุขนะมึงน่ะ “เฮียตั้มแซวผม เฮียมองผมพร้อมกับ “ปักๆๆ” ที่ไหล่รัวๆ



“ชายได้ชาย เขาว่าเหนือชาย มึงคิดถูกแล้ว “ผมกอดอกพยักหน้า ขอเบ่งหน่อย เมียกำลังหันไปคุยกับสาวๆ



“ทำไมอ่ะเฮีย”



“กูได้หญิงมาไง อาซ้อน้ำหวานมึงนะ ตั้งแต่แต่งงานมากูนี่อยู่แทบเท้าอาซ้อมึงตลอด”



“เฮีย! ไอ้ตั้นมันก็ไม่ต่างจากเฮียหรอก” ไอ้เปรมด์ อันเบรกผมหัวทิ่มเลย ไอ้เปรมดิ์ผมหันไปดึงขนจมูกมันทันที



“เมย์ไอ้ตั้นมันบอกว่า…หมับ” มันจะหันไปฟ้องเมียผมอีก ผมก็รีบเอามือปิดปากไอ้ทีน เดี๋ยวงานเข้า ไอ้นี่ เมย์หันมามองหน้าผมแว๊ปหนึ่ง ก่อนจะหันมาชี้นิ้ว เห็นตัวเล็กๆ แบบนี้เฮียเกรงใจจ๊า



“ที่แท้มันก็ฝังตัวอยู่สมาคมเกียมัว “เฮียตั้มพูด หมดเลยตั้นเอ๊ย!!



“เอาๆ นั่ง ๆ” เฮียตั้มพูด ผมหันไปควักมือเรียกเมย์มานั่งใกล้ๆ ผม เมย์เดินมานั่งลง ผมก็นั่งโอบไหล่เมย์ สาวๆ พากันมุบมิบและหัวเราะกัน เมย์ทำท่าจะจับออก ผมก็ยิ่งโอบกระชับเข้ามา จนเมย์หันมามองและเลิกดิ้นไปเอง ยอมให้ผมโอบไหล่เขาแต่โดยดี



“ไอ้ภาคินกับไอ้ธีมยังไม่มาเหรอว่ะ” เฮียถามพวกผม



“มันกำลังเยียบมาเลยเฮีย” ไอ้อาร์มพูด



“เฮียวันนี้มีอะไรจะบอกพวกผมเหรอเฮีย” ไอ้เปรมดิ์มันถามเฮีย



“เอาเลยเหรอมึง” เฮียตั้มถามพวกผม



“เอาเลยเฮียบอกมาเถอะ ท้องอืดมาหลายวันแล้ว “ไอ้ทีนพูด



“เอาละ บอกเลยก็ได้” เฮียลุกขึ้นยืน ผมหันไปหยักคิ้วให้เมย์ ผมรู้แล้วแต่ยังไม่ได้บอกเพื่อนๆ ให้เอียบอกเองจะดีกว่า



“เฮียเรียกมาวันนี้เพราะว่า เฮียจะบอกว่าเมียของเฮีย…”



“เมียเฮียกำลังจะแต่งงานใหม่เหรอเฮีย” ไอ้อาร์ม มันตะโกน ไอ้เปรมดิ์ชี้มาที่อาร์มถูกต้องนะครับ



“ใช่ไง เฮียเลยเรียกพวกเรามาฉลอง ความโสด …เฮ้ยไม่ใช่!!”



“พวกมึงไม่ต้องเอาพวกหมู เห็ด เป็ดไก่มาลงให้พวกมันแล้ว เอาเข้าไปเก็บในครัวเลย และส่งแขกให้กูด้วย “เฮียหันไปบอกเด็กๆ ในร้าน ที่มาเติมพวกเนื้อสำหรับหมูกระทะ แถมยังใจน้อยทำท่าเดินออกอีก



“เฮีย ล้อเล่น ไม่เอาน่ะ เฮียกลับมาๆ”



“ไอ้พวกนี้”



“ตกลงข่าวดีอะไรเฮีย”



“พร้อมน่ะ ที่เฮียจะบอกว่า อาซ้อน้ำหวานพวกมึงนะ ท้องแล้วว่ะ”



“เฮ้ย!! ดีใจด้วยเฮีย” ทุกคน



“ว่าแต่ ท้องกับใครอ่ะเฮีย” ไอ้ทีนมันถาม (ได้กวนบาทามาก)



“เฮ้ย ตอนเมียบอกท้อง กูดีใจว่ะจนแต่กูก็ลืมถามไปว่ะ  ทำให้เฮียคิดน่ะเนี๊ยะ“เฮียตั้ม



“ปึ้ด!!” โดนไปหนึ่งทีโดยไอ้เปรมดิ์



“กินนอนกับเฮีย จะท้องกับใคร ก็ท้องกับเฮียดิไอ้นี่”



“ดีใจด้วยนะเฮีย” ผมพูด



“มึงตามกูไม่ทันแน่นอนไอ้ตั้น”



“คืนนี้กลับไปทำกันเลยนะเมย์” ผมหันมาบอกเมย์ เมย์สะบัดหน้ามามองและทำท่าจะหยิกผมด้วย จังหวะนั้น แฟนเฮียมาพอดีเลย แฟนเฮียโคตรสวยเลย ดาวมหาวิทยาลัยด้วย แถมยังจบบัญชีอีกต่างหาก ผมรวบมือเมย์เอาไว้ก่อน



“สวัสดีครับอาซ้อ!!!!” พวกผมยกมือไหว้แฟนเฮียกันหมดทุกคน แฟนเฮียเขาอายุเท่ากัน จบปีเดียวกันและเฮียเขาตามจีบมาตั้งแต่ปีหนึ่งเลย กว่าเจ้แกจะใจอ่อน เล่นไปเกือบปีสีและเจ้ก็ไปทำงานบริษัท เงินเดือนสูงแต่สุดท้ายเจ้กับเฮียก็เลือกที่จะแต่งงานกัน เจ้น้ำหวานลาออกและมาเปิดร้านหมูกระทะกับเฮียตั้มแทน



“อาซ้อดีใจด้วยนะครับ “ผมหันไปบอกพี่น้ำหวาน



“ไม่ต้องดีใจเลยตั้น ยังไงลูกพี่นะ ออกมาก็หน้าเหมือนตั้นอยู่แล้ว”



“เฮ้ย!! เจ้ เล่นแรงน่ะเจ้น่ะ” ผมเองผมตกใจ



“กูก็หาอยู่ว่าใครทำเมียกูท้อง”



“บอกเขาไปเถอะตั้น”



“ไม่เอาเจ้ ไม่เล่น ผมเพิ่งมีคดีมา เดี๋ยวเมียผมงอน” ผมพูดและหันไปชี้ที่เมย์ ที่นั่งข้างๆ ผม



“แม้เจ้ล้อเล่น ว่าแต่คนนี้แฟนตั้นเหรอ ตกลงเปิดตัวแล้วใช่ไหม น่ารักน่ะ น่าจับเชียว น่าแตะด้วย”



“นี้ๆ อันนี้น่ะเขาเรียกลวนลามน้องมันแล้วเธอ “เฮียตั้นรีบมาจับมือแฟนตัวเอง ที่กำลังแตะหรือลวนลามแฟนผมกันแน่ เพราะว่ามันกำลังจะไปถึงไหนๆ



“เฮีย ไอ้สองตัวนั้นมันมาแล้ว” ผมหันไปมองไอ้ธีมกับไอ้ภาคิน มันเดินเข้ามา เมยและสาวก็หันไปยกมือไหว้กัน



“หวัดดีครับเฮีย” ไอ้ธีม



“หวัดดีเฮีย” ไอ้ภาคิน



“มึงสองตัวแมงพลาดเลย นี่เฮียเขามีข่าวดี อาซ้อท้องแล้วมึง” ไอ้เปรมดิ์บอก



“ฮ่ะ อาซ้อแกท้องได้ไงว่ะ แกเพิ่งแปลงเพศมา”



“ไอ้ธีม!!! กูมีลูกมด “เจ้น้ำหวาน



“หมับ อย่า! อย่าขึ้นกับมัน แม้นี้ก็ท้องอยู่ถนอมลูกหน่อยเธอ!” เฮียตั้มรีบคว้าเจ้น้ำหวานเอาไว้ก่อน



“ล้อเล่นนะเจ้ ดีใจด้วย “ไอ้ธีมมันปากหมานประจำกลุ่มผม



“ดีใจด้วยเจ้” ไอ้ภาคินมันพูด ก่อนจะนั่งลง ตรงข้ามกับผมและเมย์ มันยักคิ้วให้ผมและยิ้มทักทายเมย์ เมย์ยกมือไหว้ภาคินและไอ้ธีม



“เอาละ ก่อนจะเริ่มเปิด เฮียมีข่าวดีแล้วเฮียก็มีข่าวร้ายว่ะ” เฮียตั้มออกมายืนพูดและโอบกระชับ พี่น้ำหวาน



“เฮ้ย! เฮียอะไรอ่ะ” ไอ้ทีนพูด



“เฮียจะ ขายกิจการร้านหมูกระทะว่ะ เฮียต้องไปช่วยที่บ้านทำธุรกิจแล้วว่ะ”



“อ้าวเฮีย พอพวกผมมากินฟรีแค่นี้เฮียปิดร้านหนีเลยเหรอ” ไอ้เปรมดิ์



“แน่ละ พวกมึงกินยังกับยัดครับผม ดีที่เฮียไม่เลี้ยงเหล้า เพราะว่าให้เหล้าเท่ากับแช่งว่ะ”



“จริงๆ ดิเฮีย ขายทำไมอ่ะ ที่นี้เป็นที่พวกเรามาสุมหัว มีความสุขเหมือนสมัยเรียน” ไอ้ธีมพูด



“เอาล่ะ จริงๆ เพราะว่าเฮียอยากให้อาซ้อพวกมึงนะพักว่ะ ตั้งแต่เปิดร้านหมูกระทะมา ซ้อเขาทำงานเยอะ ออกไปตลาด ช่วยเฮียเตรียมของ เยอะแยะว่ะ เฮียสงสารและยิ่งท้องแบบนี้แล้วด้วย เลย ปิดดีกว่าไปทำงานที่บ้าน งานสบายๆ แต่”



“ถ้าพวกมึงอยากกินไปกินบ้านเฮียว่ะ เฮียจัดให้ สูตรเฮียตั้ม “เฮียตั้มพูด พวกผมยกนิ้วให้



“เงินก็สำคัญ  แต่คนข้างๆเฮียนี่สำคัญกว่าว่ะ จริงไหมจ๊ะเมียจร๊า “เฮียพูด “ฟ๊อด!!!” เสียงหอมแก้มดังสนั่นจนพวกผม “วี้ดวิว!!! “พวกผมพากันโห่ แซว



“เอาๆ ตามสบายกันเลย” เฮียพูด เด็กๆ ในร้านเฮียก็พากันเอาเตามาลง กระทะมาลงให้พวกผม



“พี่เมย์ มานั่งนี่ดิ ให้พวกผู้ชายเขาเมากัน เรามานั่งเมาส์มอยกันดีกว่า” มัดหมี่พูดผมหันไปมองเมย์



“อ้าวไม่ใช่ผู้ชายเหรอ “ผมหันไปถามเมย์ คนถูกถามหันมาเหลือกตาขึ้นบนมองผม



“อ้าวฉิบหายแล้ว นอนกันทุกคืนไม่รู้เหรอครับ ว่าน้องเขาเพศอะไร” ไอ้ธีมพูด ผมหยิบอะไรใกล้ๆ มือปาใส่ไอ้ธีม



“พี่มัดหมี่ พี่เมย์เขาก็ผู้ชายนะ” โบว์หันไปพูดปนหัวเราะ



“ผู้ชายแต่ผู้ชายเหลือน้อย มาเถอะมานี้ พี่เมย์ มาเม้าส์กัน” มัดหมี่เรียกผมพยักหน้าไปเถอะแต่ก่อนที่เมย์จะลุกไป ผมถอดเสื้อสูทที่ผมสวมมาด้วย ส่งให้เมย์



“ใส่คลุมเอาไว้ น้ำค้างลง เดียวเมียเฮียไม่สบาย” ผมบอกเมย์ เมย์หันมารับไปสวมไว้อย่างว่าง่ายและเฮียตั้มก็มานั่งคุยกับพวกผม ผมเรียกไอ้ภาคินมานั่งข้างเดียวไอ้ธีมไอ้ภาคินมันก็ลุกมานั่ง พวกผมไม่ได้มาหาเฮียแกหลายเดือนแล้ว ปกติจะมากันเดือนละครั้ง และครั้งล่าสุดที่ผมมาก็นั่งไม่นาน เพราะว่า เจ้ปริมมาโหวกเหวกโวยวาย ผมต้องออกไปห้ามเธอและพาเธอออกไป ผมสัญญากับเฮียแล้วว่า ถ้าไม่ใช่แฟนที่ผมจะจริงจังด้วยไม่พามาหาเฮียแกเด็ดขาด

      เมธานินท์ ผมเดินมานั่งกับสาวๆ แฟนพวกพี่ๆ เขา โบว์ผมรู้จักโบว์ไปที่ออฟฟิศบ่อย และวันนี้ก็ได้เห็นแฟนพี่ทีน ชื่อมัดหมี่ เขาหน้าสวย อวบอั๋นดี และนิสัยน่ารัก และอีกคนเบนซ์สาวใต้สวยมากตาคมกริบผมชอบมองสาวใต้ ผมว่าเขามีเสน่ห์แถมที่บ้านมีค่ายสอนต่อยมวยไทย โบว์นี่เขามาอยู่เป็นเพื่อนผมบ่อยเพราะพี่ตั้นเป็นห่วงผม (คงกลัวพี่ปริมมาเล่นงานผม)



“พี่เมย์ กินเลย ไม่ต้องอายพวกเรา “มัดหมี่พูด



“พี่เมย์เขาไม่ได้อายมึงหรอกมัดหมี่ เขากลัวแย้งมึงกินไม่ทัน” เบนซ์พูดแซวมัดหมี่



“กินนิดเดียวเองพี่เบนซ์” ผมก็ต้องแอบขำ เพราะว่าชีวิตผมไม่มีความสุขกับเพื่อนๆ แบบนี้มาพักหนึ่งแล้ว ปีหนึ่งนะใช่พอปีสองเพื่อนเริ่มหาย ตั้งแต่พี่ปฐวีย์เข้ามาเป็นอาจารย์ และตอนนั้นผมก็เริ่มหางานทำหลังเลิกเรียนทุกวันด้วย



“สงสารพี่กอล์ฟอ่ะ แฟนไปทำงานไกลอ่ะ ที่เชียงใหม่ แกคงคิดถึงแฟน ดูซิเงียบเชียว” โบว์พูด ผมสะบัดหน้าไปมองอีกที ผมไม่เคยรู้เลยว่าพี่กอล์ฟมีแฟน ผมคิดว่าไม่มีซะอีกถึงได้ทำแบบนั้นได้ ผมหันกลับมามองสาว เลิกคิ้วสูงว่าจริงเหรอ



“แฟนพี่เขาเป็นอาจารย์อยู่ที่มหาวิทยาลัยที่เชียงใหม่เลยน่ะ พี่กอล์ฟนี้เขาก็เรียกตัวไป พี่กอล์ฟเขาเก่งพี่เมย์เรื่องการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ แต่พี่กอล์ฟเขาติดพวกพี่ตั้นเลยไม่ยอมไป” มัดหมี่พูด ผมพยักหน้า มัดหมี่นี้ก็อ่อนกว่าผมปีหนึ่ง ส่วนเบนซ์คุยไปคุยมาปีเดียวกันเลย ผมเรียนเร็วไปหนึ่งปี



“พี่ๆ หวัดดีครับ” เสียงที่ทำให้พวกผมหันไปมองกันหมด เฟย์ เขาเข้ามายืน



“แกร้งๆๆๆ” เสียงอุปกรณ์ตกลวงจากมือกันทุกคน เฟย์ถึงกับยืนมองพวกผมหน้าเจื่อนๆ



“ผมขอโทษครับ พอดี ผมเพิ่งเลิกเรียนภาคค่ำนะครับพี่ๆ “เฟย์พูด ผมหันไปมองพี่ตั้น ผมว่าพี่ตั้นก็รู้แต่พี่ตั้นก็ไม่ได้พูดกับเพื่อนๆ พี่เขา ว่าพี่กอล์ฟกับเฟย์นะเป็นอะไรกันตอนนี้



“เฟย์มานั่งดิ” พี่กอล์ฟเรียก



“กูชวนน้องมันมาด้วย ได้ไหมว่ะ” พี่กอล์ฟพูด



“มาขนาดนี้แล้วครับมึงครับ และมึงจะยืนหาห่าอะไรมานั่งครับ ไอ้ตี๋!!” พี่เปรมดิ์พูด สาวๆ ชะเง้อคอมองกันเป็นแถว เฟย์ยกมือไหว้ผม ก่อนจะนั่งลงและหันมาโบกไม้โบกมือให้สาวๆ



“พี่เมย์คิดเหมือนหนูป่ะ ไอ้เฟย์นี้มันแปลกๆ กับพี่กอล์ฟป่ะ” โบว์กระซิบกับผม ผมแค่ยิ้มๆ และนั่งทานกันต่อ ผมเห็นพี่กอล์ฟ คีบนั้นคีบนี้ให้เฟย์



“คนนี้เขาคือใครอ่ะ” มัดหมี่ถามผมทันที



“ใครเหรอเมย์” เบนซ์อีกคน



“เป็นเด็กที่มาช่วยงานพี่ตั้นน่ะ น้องเขาเพิ่งจะมาเวลาไล่ๆ กับเมย์นี่แหละ” ผมหันไปพูดเบาๆ



“ไงสาวๆ ของเจ้” พี่น้ำหวานแฟนเฮียตั้มเดินมานั่งกับพวกผม ผมเงยหน้ามอง ผมไม่ใช่สาวๆ ครับเจ้



“อุ้ย! หนุ่มเหลือน้อย “เจ้ชมผม



“ยินดีด้วยน่ะเจ้ ขอให้เจ้สุขภาพแข็งแรงทั้งเจ้และน้องในท้องนะคะ” มัดหมี่หันไปบอกพี่น้ำหวาน พี่น้ำหวานหันมายิ้มให้ผม ผมหันไปมองพวกพี่ๆ เขาคุยกันสนุกสนาน



“ตั้นมันเป็นไงบ้าง ในความรู้สึกของเราเมย์” พี่น้ำหวานถามผม



“คือ” ผมเลิกคิ้วสูงยังไม่เข้าใจ



“ตั้นน่ะมันเป็นคนยังไงในความคิดของเรานะเมย์ เราถึงได้ รักมัน” เจ้น้ำหวานถามผม



“ตอนแรกผมก็ไม่คิดว่าจะ รักคนนี้หรอกครับ พี่น้ำหวาน” ผมพูดก่อนจะหันไปมองพี่ตั้น กำลังมีความสุขคุยกันหยอกเล่นกันกับเพื่อนๆ และพี่ตั้ม พี่ภาคินกับพี่ตั้นไม่ได้คุยกันแบบนี้มาพักหนึ่งแล้ว ผมกลับไม่รู้สึกหึงเลยถึงจะรู้ว่าพี่ภาคินเคยรักพี่ตั้นมาก่อน



“เจ้ก็เหมือนกัน ไม่คิดว่าจะเอาไอ้เฮียตั้มมันหรอก ปากมันไม่ค่อยดี แถมมันยังเกรียนและเรื่องผู้หญิงก็ไม่เป็นรองใคร ก็ตัวพ่อของแก้ง” พี่น้ำหวานพูด



“ทั้งแก้งเลยแหละเรื่องพวกนี้ตัวพ่อเลย โดยเฉพาะไอ้พี่ทีนน่ะ ไม่เบานะพี่เมย์ หนูนี่รักๆ เลิกๆ กับไอ้พี่ทีนมาไม่รู้กี่ครั้ง” มัดหมี่พูด



“แต่ทุกครั้งไอ้พี่ทีนมันง้อมึงก็หาย “เบนซ์พูด มัดหมี่หันมายิ้มแฮะๆ



“ตั้นมันเป็นน้องในสายรหัสของเฮียเขาน่ะ เฮียตั้มเป็นปู่รหัสของตั้นเขาอีกที” ผมหันไปมองพยักหน้าแบบจริงเหรอ



“และตั้นนี้เป็นน้องรักเฮียตั้มเลยนะ”



“แก้งนี้น่ะ ตอนเรียนปีหนึ่ง มันหนีประชุมน้องทุกครั้ง โดยเฉพาะตั้น ตั้นไม่เชื่อระบบโซตัส ไม่เชื่อในการเคารพรุ่นพี่ จนเฮียน่ะ ไปดักและขอให้พวกนี้เข้า เฮียบอกให้ลองก่อน ตอนนั้นเฮียตั้มเป็นเฮดว๊าก”



“เฮียบอกว่าถ้าไม่ดี อย่างที่ตั้นมันพูด เฮียจะทำเรื่องขออธิการว่าไม่ต้องมีแล้วระบบนี้ และพอตั้นและพวกเพื่อนเข้า เฮียแกก็ทำให้ ตั้นมันเปลี่ยนใจ แถมเฮียยังบังคับให้ตั้น เป็นเฮดว๊ากตอนที่ตั้นมันอยู่ปีสาม”



“ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเฮียตั้นเคยเป็นเฮดว๊าก” ผมหันไปพูดกับพี่น้ำหวาน



“ใช่ไม่มีใครเชื่อเลยพี่เมย์ พี่ตั้นน่ะดูหนุ่มนวลเป็นผู้ชายอบอุ่นอ่ะ “โบว์พูด



“ใช่เบนซ์น่ะ เคยแอบขอบน่ะพี่ตั้นน่ะ แต่ทำไมถึงได้อีพี่อาร์มซะก็ไม่รู้ “เบนซ์พูด



“แก้งนี้น่ะ ไม่ธรรมดาน่ะ แต่ถ้ารักใครแล้วรักจริง ส่วนตั้นน่ะ เขาเคยสัญญากับเฮียตั้มว่า ถ้าเจอคนที่ตั้นเขาคิดว่าใช่แล้วเขาถึงจะพามาหาเฮียน่ะ นี้เขาพาเมย์มา เจ้คิดว่าตั้นเขาหยุดที่เมย์แล้วแหละ”



“จริงพี่เมย์ โบว์คอนเฟิร์ม ขนาดเจ้ปริมมาโวยวายที่หน้าร้าน เฮียไม่ให้เขาเข้ามา เฮียตั้นออกไปและพาเจ้ปริมแกไปเลย ไม่ยอมพาเข้ามาด้วย “โบว์พูด



“เจ้ไม่เคยเห็นหรอกแต่รู้กิตติศัพท์นางอยู่” เจ้น้ำหวานพูด



“เมย์เรียนจบอะไรมาเหรอ”



“ผมเรียนจบ เอกภาษาอังกฤษมาครับ”



“เรียนจบมาดีเลยน่ะ น่าเสียดาย เหมือนเจ้ เจ้จบบัญชีเรียนมาหัวผุ แต่สุดท้ายเจ้เลือกมาอยู่กับเฮียตั้ม”



“ที่จริงพี่มีทางเลือกเยอะแยะเมย์ จะไม่เลือกอาเฮียมันก็ได้น่ะ เจ้ไปทำงานบริษัทใหญ่โต และมีหน้าที่การงานดี เจ้ทำจนเกือบจะได้เป็นหัวหน้าแผนกบัญชีแล้ว แถมลูกเจ้าของก็จีบเจ้อีก”



“เกือบจะได้เป็นคุณนายแล้ว”



“แต่ไอ้เฮียตั้มซิ ทำให้เจ้เลือกแต่งงานด้วย ทั้งที่ปากก็ไม่หวาน แต่งตัวเซอๆ ติดดินมาก ยิ่งเวลาอยู่กับเพื่อนๆ นี้อย่างที่เห็นนี้แหละ แต่เจ้ก็เลือกแต่งงานกับคนนี้” ผมหันมามองเจ้น้ำหวาน



“และเจ้ก็ได้เห็นว่า ผู้ชายคนนี้ คือผู้นำครอบครัวตัวจริง เป็นสามีที่ดีและเป็นผู้ฟังที่ดี เป็นเพื่อนที่ดีเวลาเจ้เจอปัญหา เป็นคู่ชีวิตที่ดีที่คอยประคับประคองดูแลกันและกัน บางครั้งก็มีกระทบกระทั่งกันบ้างแต่เฮียก็ยอมเป็นคนผิดก่อนเสมอ”



“ถ้าให้เจ้เลือกอีกทีเจ้ก็เลือกผู้ชายคนนี้แหละ “ผมหันมามองเจ้ เจ้เหมือนจะบอกอะไรผม



“ตั้นน่ะมันโทรมาปรึกษาเฮียบ่อยหลายเรื่อง หนึ่งในนั้นคือเรื่องเรานะเมย์ เฮียก็ให้คำสอนไปเยอะ “ผมมองเจ้น้ำหวาน



“เจ้ว่าเมย์รู้คำตอบในใจตัวเองนานแล้วแหละใช่มั้ย” พี่น้ำหวานพูด และกุมมือผมเอาไว้



“ผู้ชายที่เพอร์เฟค ไม่ใช่ผู้ชายที่ดีพร้อมไปซะทุกอย่างมันก็ต้องมีขาดบ้าง เกินมาบ้าง แต่ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเติมเต็มกันยังไงให้เต็มและพอดี เพื่อจะได้ประคองกันไปได้ให้ตลอดรอดฝั่ง “เจ้น้ำหวานพูด



TBC

.................................................................................

blove คนแต่งก็ชอบบทคุณพ่อนะคะ :hao3: จะมาแทรกบ้างค่ะ เพราะว่าปมหลายอย่างของตั้นก็อยู่ที่่พ่อค่ะ

ขอบคุณคอมเม้นที่น่ารัก :pig4:

ตอนหน้าน้องเมย์จะหื่นกับพี่ต้นด้วยน่ะ
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.1ุ8( เฮียตั้นVSเมย์)เปิดตัวกับเฮียตั้ม
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 29-11-2020 18:20:58
 :pighaun: :haun4:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.1ุ8( เฮียตั้นVSเมย์)เปิดตัวกับเฮียตั้ม
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 30-11-2020 17:02:58
 :pig4: : :pig4:pig4:
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.1ุ8.1( เฮียตั้นVSเมย์)ยินดีกับคู่ใหม่ NC 18+
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 01-12-2020 20:05:03

               ผมหันไปเห็นพี่ตั้นเขานั่งคุยกับพี่ๆ โดยเฉพาะกับพี่ภาคินและพี่ธีมเขาเป็นเพื่อนชุดแรกของพี่ตันเลยและพอ เห็นแล้วก็มีความสุขดี ผมยังอยากให้เขาอยู่ด้วยกันแบบนี้ และนี่แหละผมถึงไม่เคยหึงเคยห่วงพี่ตั้นกับพี่ภาคินเลย และยิ่งกับพี่อิศเรศผมก็ไม่รู้สึกน่ะ ไม่ใช่ไม่รักแต่มันต้องหึงแบบมีเหตุมีผลป่ะ ผมเห็นพี่ตั้นสนิทกับพี่ภาคินและพี่ธีม มากกว่าคนอื่นๆ อาจจะเป็นเพราะว่าพี่สองคนนี้เขาเข้ามาในช่วงที่พี่ตั้นกำลังแย่ แล้วผมจะไปบอกให้เขาเลิกคบกันได้ยังไง

 

“เฮียตั้ม ผมอยากร้องเพลงอ่ะ” พี่ทีนลุกขึ้นบอกเฮียตั้ม

 

“ไปเอาไมล์มาดิว่ะและไปเปิดเครื่องคาราโอเกะเอา” เฮียตั้มพูด ผมเห็นพี่ๆ เขาพยักพเยิดกัน แสดงว่ามีแผนอะไรแน่ๆ เลย เฮียตั้นหันมาควักมือเรียกผมไปนั่งด้วย แต่ผมชี้ไปทางน้องๆ เฮียตั้นก็ยังควักมือเรียกผมอีก จริงๆ ก็ไม่ได้ไกลกันมากเลย และผมก็ลุกขึ้นจะลากเก้าอี้จะได้ไปนั้งกับเฮียแก

 

“หมับ …ตุ๊บ “พี่ตั้นดึงรั้งเอวคอดของผมให้ไปนั่งบนตักพี่เขาแทน ผมเอี้ยวตัวหันไปมองพี่ตั้นว่าจะค้านแต่ว่า สายตาคู่นั้นเลยทำให้ผมใจอ่อน ผมเลยยอมนั่งแต่โดยดี

 

“เดี๋ยวเฮียมาว่ะ ไปดูเด็กหลังร้านก่อนว่าจะให้เลิกงานก่อนเลย ตามสบายกันเลยน่ะ” เฮียตั้มบอกก่อนจะลุกออกไป

 

“ดื่มป่ะ” พี่ตั้นส่งแก้วเหล้าที่ถือมาให้ผม ผมเองไม่ค่อยอยากดื่ม เลยต้องดื่มแบบจำใจ ก็พี่ตั้นยื่นมาให้ผมแล้ว

 

“ชิมเฉยๆ “พี่ตั้นพูด ผมก็ผมก็รับมาจิบ “อื้มมมม” ตาปิดเลยผม ขมมาก

 

“เข้มไปเหรอ หึ หึ” พี่ตั้นพูดและยังหัวเราะผมด้วย “ขมมากเลยเฮีย” ผมหันไปตอบหน้าตายังเหยเกอยู่เลย

 

“ไอ้คินมันชงให้” พี่ตั้นพูด พี่ภาคินหันมามองหน้าผม

 

“ก็มึงชอบรสนี้อยู่แล้ว ให้เมย์มันกินเบาๆ เดี๋ยวกูชงให้ใหม่ สงสารมัน” พี่ภาคินพูด ผมเห็นพี่ทีนเดินมาพร้อมไมล์ และดนตรีก็มา สาวๆ ก็เริ่มลุกขึ้นโยกตามจังหวะเพลงออกแนวแร๊พ พี่ตั้นหันไปพยักพเยิดกับพี่ภาคิน และพี่ธีม ผมแหงนหน้าขึ้นมองพี่ตั้น

 

“เดี๋ยวก็รู้” พี่ตั้น กระซิบที่ข้างหูผม เล่นเอาผมสยิวขนลุก

 

“เพลงนี้ขอร้องให้เพื่อนรักของผม เปรมดิ์ครับมึงช่วยกูร้องด้วยครับ” พี่ทีน

 

“แล้วกูละครับ” พี่อาร์มถาม

 

“มึงเอาท่อนแร๊พไป” พี่ทีนพูด ก่อนจะเดินมายืนที่ด้านข้างๆ พี่กอล์ฟที่นั่งยกเท้าพาดไว้บนหัวเข่าและกดดูโทรศัพท์ไปด้วยกับเฟย์ ผมว่ามันแปลก ผมแหงนมองเฮียตั้นอีกครั้ง จนดนตรีเริ่มมาอีกครั้งเมื่อกี้แค่ลองเครื่อง

แฟนใหม่หน้าตาคุ้นๆ (https://www.youtube.com/watch?=9KXZgpwtnwg)

 

 “แฟนใหม่คุณหน้าคุ้นคุ้นเหมือนคนที่คุณบอกว่าไม่มีอะไร”  พี่ทีนร้องเพลงพร้อมกับชี้พี่กอล์ฟและชี้ไปที่เฟย์ พี่กอล์ฟถึงกับทำหน้าเหวอ

 

“ยังจำได้ดีว่าในตอนนั้นเธอบอกกับฉันว่าจงเชื่อใจ  “พี่ทีนชี้ตัวเอง ผมต้องปิดปากขำ

 

“ยืนยันว่าแค่เพื่อนกัน จะโกหกฉันไปเพื่ออะไร สุดท้ายแล้วเป็นไง แฟนใหม่มึงหน้าคุ้นจัง….”

 

พอพี่ทีนร้อง (พี่ทีนเสียงดีจริงๆ เหมือนต้นฉบับร้อง) เฟย์ก็หมุดหน้าหนี ผมว่าเฟย์เขาเข้าใจความหมายดี ผมหันไปมองพี่ตั้นปิดปากขำกับพี่ภาคิน และเอามือมาลูบหัวผม ถ้าเป็นเฟย์นี้มีวิ่งออกไปบ้างล่ะอายตายเลย

 

“แฟนใหม่เธอนี่ดูโคตรจะคุ้นเลย เหมือนกับคนที่เธอบอกไม่มีอะไรตอนนู่นเลย บ้างก็บอกเพื่อน บ้างก็บอกคนคุ้นเคย แต่พอเลิกกับฉันละคบกันฉันแทบทรุดเลย ไหนบอกว่าฉันคิดมากไป บอกกับฉันว่าอย่างี่เง่าได้ไหม ทำเป็นยืนยันไม่เชื่อให้ฉันลองพิสูจน์ เฉลยตอนท้ายกลายเป็นฉันที่คิดถูกท่อนนี้พี่เปรมดิ้ร้อง มีชี้พี่กอล์ฟด้วย และท่อนแร๊ฟพี่อาร์มคนร่วมแจมและน้องมัดหมี่อีกคนมาช่วยร้องท่อนผู้หญิงใหญ่ ผมหันมามองพี่ตั้น

 

 

“พี่รู้มาสักพักหนึ่งแล้วแหละ พี่ว่าเมย์คงเคยเห็นมั้ง” พี่ตั้นกระซิบกับผม

 

“เคยเห็นเมย์ตกใจและรีบปิดประตูทันที” ผมพูดพี่ตั้นเลิกคิ้วมองผม

 

“ก็วันที่เมย์ลงไปเอาที่ชาร์จอ่ะพี่ตั้น เมย์เห็นเขาจูบกันอยู่” ผมกระซิบกับพี่ตั้น ตอนนี้เรียกว่ากำลังคาดคั้นความจริงด้วยเพลงจนะ

 

“พอแล้ว! ” พี่กอล์ฟ เป็นฝ่ายทนไม่ไหว

 

“ถ้าให้พองั้นมึงก็สารภาพมา ไม่อย่างงั้นพวกกูจะร้องกันอีกรอบ เอาให้ไอ้ข้างๆ มึงมุดหนีไปเลย” พี่ทีนพูด

 

“เออ พอ พอ กู… “พี่กอล์ฟ

 

“กูอะไร” พี่เปรมดิ์ถามออกไมล์ เด็กๆ ในร้านเฮียตั้มก็ออกมายืนมองกันเกือบหมดคงคิดว่ามีอะไรสนุกๆ ทำกันแน่ๆ

 

“พูด!!” พี่เปรมดิ์ส่งไมล์ไปให้พี่กอล์ฟ

 

“ไม่เอาไมล์ “พี่กอล์ฟพูดและปัดไมล์ออก ก่อนจะหันมา จับเฟย์ นั่งลง น้องเขินจนนั่งไม่ติดแล้วอ่ะ ผมนี้สงสารเลยอ่ะ

 

“ช้าเดี๋ยวให้ออกไมล์เลย” พี่ทีนพูดอีกคน เร่งพี่กอล์ฟ

 

“เออ กู กู เลิกกับแพรเขามาได้สองอาทิตย์กว่าแล้วว่ะ” พี่กอล์ฟรีบพูด

 

“อ้าว!! มึงเลิกกับเขาก่อนหรือเขาเลิกกับมึงก่อนว่ะ” พี่ธีมชิ้งถามก่อน

 

“เลิกพร้อมกัน คือว่าแพรเขาบอกกูแล้ว ว่าเขากำลังดูใจกับอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย แต่ตอนนั้นกูยังทำใจไม่ได้ แพรเขาก็ยังไม่แน่ใจ กูเลยให้เขาแค่ลองคบไปก่อน ถ้าใช่กูก็พร้อมจะให้เขาไป” พี่กอล์ฟพูด

 

“พ่อพระแท้ว่ะเพื่อนกู “พี่อาร์มพูด “ถ้าเป็นกรูน่ะแฟนมาขอแบบนี้กูคง…” พี่อาร์มกำลังจะพูดต่อแต่พอหันมาเจอสายตาเบนซ์และมือที่จับส้อมมาถือเอาไว้พร้อมจะมอบสองทีแปดรู้ให้แน่ๆ “ไม่ให้เธอไป จะเสียอะไรแค่ไหนยังไงก็ยอม…” เบนซ์เลยเก็บส้อมลง

 

“เปลี่ยนแผ่นแทบไม่ทันนะไอ้เชี้ย!” พี่ธีมพูด

 

“แล้วมึงก็ให้แพรเขาไปเหรอว่ะ ไม่เสียดายเหรอว่ะที่คบกันมานานนะมึงนะ พวกกูนี่ช่วยมึงจีบมาตั้งแต่เรียนปีสาม” พี่ทีนพูด ผมก็รับนิ้วเลย พี่เขาจบมาหกปีก็เจ็ดปีพอดีเลยอ่ะ เจ็ดปีอาถรรภ์หรือเปล่าผมแอบคิดในใจ

 

“คือว่ากู “

 

“หลังๆ มานี่กูรู้สึกว่าแพรกับกูมีอะไรหลายๆ อย่างที่สวนทางกัน” พี่กอล์ฟพูด “กูรู้สึกว่ากูกับแพรเราเข้ากันไม่ได้ว่ะ” พี่กอล์ฟพูด

 

“ไอ้ทีนครับ กูขอเพลงเราเข้ากันไม่ได้สักเพลงดิครับ” พี่เปรมดิ์หันไปบอกพี่ทีน พูดไปพร้อมกับส่ายหัวไปด้วย

 

“คบกันมาแปดปี มึงยังเข้ากันไม่ได้อีกเหรอว่ะ” พี่อาร์มถามพี่กอล์ฟ

 

“มันก็เข้าได้บ้างไม่ได้บ้าง “พี่กอล์ฟพูด “โว้ย!” พวกพี่เปรมดิ์เป็นฝ่ายร้องออกมา

 

“เออ กูยอมรับว่า เรื่องนั้นด้วย….เราเข้ากันไม่ได้ว่ะ จริงๆ ” พี่กอล์ฟพูด

 

“That’ s really bad!” พี่ธีมพูด

 

“แพรเขา ไม่ได้ชอบผู้ชายว่ะ เขาเพิ่งรู้ตัว “

 

“เฮ้ยย!!! “สาวๆ ยังพากันตกใจ

 

“แพรเขาเป็นสายเลสเหรอครับมึงครับ!!!” พี่เปรมดิ์ พี่กอล์ฟเขาพยักหน้า

 

“จริงดิพี่กอล์ฟ ตอนไปเที่ยวอ่ะหนูยังนอนห้องเดียวกับพี่แพรเลยน่ะ” เบนซ์พูดด้วยความตกใจ

 

“อ้าวพี่เบนซ์แล้วพี่แพรเขาลวนลามพี่ไหมอ่ะ แบบแตะนิดแตะหน่อยอะไรแบบนี้อ่ะ” มัดหมี่หันไปถาม เบนซ์ส่ายหน้ากับทุกคน

 

“ยังดีทีแพรมันยังรู้จักเลือก” พี่อาร์ม “ปื้ด! “เบนซ์เลยดึงขนจมูกพี่อาร์มไป

 

“มึงจำได้ไหมว่ะ ใครเป็นคนบอกไอ้กอล์ฟว่าผู้หญิงคนนี้น่ารักดี เหมาะกับมัน กูช่วยจีบ” พี่ทีนพูดขึ้นและทุกคนหันมามองเฮียตั้นกันหมดเลย ผมก็แหงนหน้ามองเช่นกัน เฮียแกเกาหัวแบบนี้ใช่เลยแหละ

 

“ไอ้เชี้ยนี่ไง ไอ้ตั้นนี้แหละครับ ถ้าให้กูจีบซะตั้งแต่ทีแรก เขาหันหลังให้สายเลสไปนานแล้วเนี๊ยะ” พี่ธีมพูด

 

“แต่หันหน้าเข้าวัดบวชชีแทน เพราะหนีมึงนี่แหละครับ ไอ้ธีม” พี่ตั้นพูด ผมหันมา” แป๊ะ” แตะมือกับพี่ตั้น คิดตรงกันเลย (พี่ธีมเจ้าชู้จะตายพาผู้หญิงมาไม่ซ้ำหน้าเลยที่ออฟฟิศน่ะ)

 

“ช่วยกันทำมาหากินน่าดู นะครับคุณผัวเมียครับ” พี่ธีมแซว

 

“ตกลงเขาเลิกกับมึงเพราะว่าเขามีแฟนใหม่” พี่ภาคินถามพี่กอล์ฟ

 

“ไม่เชิงว่ะ แต่แฟนใหม่เขาก็เป็นผู้หญิงว่ะ กูเลยคิดว่าควรจะให้เขาไปป่ะว่ะ” พี่กอล์ฟพูด

 

“งั้นก็..กูก็ขอมอบเพลงให้ปลอบใจมึง ไมล์มา …. ไปเถอะทั้งคู่ไปสู่ประตูสวรรดิ์…น้ำสังข์….. “พี่เปรมดิ์

 

“พอ พอ นั่งๆ ดูหน้าเพื่อนมันซึ้งจนน้ำตาไหลพราก” พี่ธีมหันไปบอกพี่เปรมดิ์

 

“พอแล้วไอ้เชี้ย สงสารเพื่อนมั้ง พวกมึงก็ลุมมันจัง เขาให้ปลอบไม่ใช่ซ้ำมัน” พี่ตั้นหันไปเอ็ดพวกเพื่อนๆ แต่เอ็ดแบบขำๆ

 

“พวกเชี้ยนี้แม่งแผนกซ้ำและเติม” พี่ภาคินพูดอีกคน

 

“เอา ๆ จบ ๆ เรื่องน้องแพร งั้นมาถามเรื่องน้องเฟย์ ยังไงวะ มึงแม่งก็ปิดพวกกู” พี่ธีมพูด พี่กอล์ฟหันไปมองเฟย์ ก่อนจะหันมา

 

“ให้กูพูดอีกเหรอว่ะ” พี่กอล์ฟ “หรือมึงจะออกไมล์” พีเปรมดิ์ พี่กอล์ฟรีบโบกมือไม่เอา

 

“กูรู้สึกดีกับเฟย์ว่ะ เพราะว่าเวลากูอยู่กับเขา รู้สึกเราเข้ากันได้ดี “พี่กอล์ฟก่อนจะหันไปมองเฟย์แต่สายตาพวกพี่เขามัน เหมือนกับเป็นเครื่องหมายคำถามว่า

 

“กับแพรมึงบอกเข้าไม่ได้แต่กับไอ้เฟย์มึงบอกเข้าได้ดี เฮ้ย! นี้มึงเป็นเกย์มาก่อนไหมว่ะ” พี่ทีนพูดพร้อมกับทำท่าขนลุกขนพอง

 

“เวลาเลิกงานดึกๆ ไอ้ทีนมันไม่กล้านอนคนเดียวในห้อง มันก็ไปขอนอนกับไอ้พี่กอล์ฟ มันคงจะนึก “พี่ตั้นกระซิบกับผม ผมพยักหน้า

 

“เสียวเลยดิ” ผมเผลอพูดกับพี่ตั้น

 

[แต่พี่ว่าของพี่เสียวกว่า ถ้าอยู่กับตัวเล็ก] พี่ตั้นกระซิบแบบแนบชิ้นที่หูผม เสียงมันกระเซ่ามาก ผมรู้สึกใบหน้าร้อนผาว ไม่รู้เขินอายหรือแอลกอฮอล์ที่ผมช่วยพี่ตั้นดื่ม

 

“กูไม่รู้ แต่ตอนนี้กูรู้สึกดีกับเฟย์ว่ะ แบบว่ากูเป็นตัวของตัวเองว่ะ มึงเข้าใจกูไหมว่ะ” พี่กอล์ฟพูดขึ้นมา

 

“ไม่!!!” พวกไอ้เปรมดิ์ ไอ้ทีนและไอ้อาร์ม ร้องออกมาพร้อมกัน

 

“มึงเล่นเปลี่ยนไปขนาดนี้กูจะไปเข้าใจมึงได้ยังไงล่ะ ไอ้เชี้ย!!” พี่เปรมดิ์พูด

 

“และตกลงไอ้คนข้างๆ มึงเป็นอะไรกับมึงกันแน่ กูรอนานแล้ว กูอยากรู้แค่นี้” พี่เปรมดิ์ลุกขึ้นพูด

 

“กูค้างมาก ไอ้เชี้ยพวกนี้บอกกูคิดมากไป บอกมา อย่าเยอะไอ้กอล์ฟครับ” พี่เปรมดิ์เอาไมล์ไปจ่อที่พี่กอล์ฟ

 

“คนข้างๆ มึงเขาเป็นอะไรกับมึงครับ” พี่เปรมดิ์ดึงไมล์กลับมาใหม่

 

“เร็ว!!!”

 

“เออ เป็น เมียกู!” พี่กอล์ฟลุกขึ้นตอบ

 

“ก็แค่นี้ไอ้เชี้ย อุบอิบอยู่ได้ “พี่เปรมดิ์พูด “ยินดีกับคู่เกย์อีกหนึ่งคู่ ก็ขอให้ครองคู่รักกันไปนานๆ นะมึง ถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร” พี่เปรมดิ์พูดออกไมล์ “แป๊ะๆ” เสียงปรบมือรอบๆ คนมาทำงานกับเฮียตั้ม

 

“ไหน ๆ เจ้าบ่าวก็ขึ้นมากล่าวไปแล้ว เชิญเจ้าสาวขึ้นมากล่าวอะไรสักนิดกับแขก ที่มาเป็นสักขีพยาธิ” พี่ธีมพูด

 

“พยาน!!” พร้อมเพรียงกันมาก

 

“อ้อสักขีพยาน เชิญน้องเฟย์ ลุกๆ “พี่ธีม

 

“ไม่พูดได้ไหมอ่ะพี่ ผมเขินอ่ะ “เฟย์พูด

 

“เออ ไอ้น้องเฟย์ครับ มึงก้าวข้ามคำว่าเขินไปนานแล้วครับ ตั้งแต่มึงเตรียมเสื้อผ้ามาค้างกับไอ้พี่กอล์ฟมันขนาดนั้นนะครับ มึงยังจะเขินพวกพี่อีกเหรอครับ” พี่เปรมดิ์พูด

 

“โชคดีนะที่ผมไม่โดนเหมือนเฟย์อ่ะพี่ตั้น ดูดิ เป็นผมนี้หนีกลับบ้านเลยนะ” ผมกระซิบกับพี่ตั้น

 

“พี่ขอไว้ว่าอย่าแกล้งเมย์” พี่ตั้นกระซิบกับผม ผมเงยหน้าขึ้นมองเฮียตั้น “จริงอ่ะ” ผมถามกลับ ทำท่าประมาณว่าค่อยยังชั่วหน่อย

 

“ไม่จริง” พี่ตั้นผมทำให้ผมสะบัดหน้าไปมอง “อาจจะยังไม่ถึงคิวมั้งครับ” พี่ตั้นพูดกับผมยักคิ้วสองที่ติด ผมส่ายหัวไม่เอาอ่ะ “ไม่เอาอ่ะ” ผมพูดทำปากยู่

 

“เร็วๆ ให้น้องเฟย์พูดหน่อย มาพบรักพี่กอล์ฟได้ยังไง “พี่อาร์มเร่งเฟย์

 

“ผมเออ ผม คือ เออ ก่อนอื่นเฟย์ขอโทษพี่ๆ นะครับ แทนพี่กอล์ฟ คือผม จริงๆ ผมแอบชอบพี่กอล์ฟตั้งแต่ตอนที่เห็นพี่เขาไปคุยกับอาจารย์ภาค นะครับ “

 

“ที่จริงผมกับพี่ปอมเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันนะครับ ผมเรียนอยู่ปีสองครับ และผมก็ไม่ได้เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน”

 

“แต่ว่าผมเคยเห็นว่าพี่กอล์ฟสนิทกับพี่ปอมผมเลยไปบอกพี่ปอมว่าผม ผม ชอบพี่กอล์ฟ พี่ปอมเลยแนะนำผมเข้ามา ทำงานกับพี่ตั้นนะครับ” พวกพี่ๆ เขาพยักหน้าพร้อมกันหมด

 

“ผมขอโทษนะครับเฮีย” เฟย์หันมายกมือไหว้ขอโทษพี่ตั้น พี่ตั้นยกมือว่าไม่เป็นไร

 

“แผนสูงนะไอ้ตี๋ แม้อยากมีสามี แห่งชาติซะด้วย”

 

“เฟย์มึงบอกพวกพี่มาหน่อยดิ น้องเป็นใครมาจากไหน เล่ามาสั้นๆ พวกพี่ๆ อยากรู้จัก” พี่ภาคินบอกกับเฟย์

 

“เร็วๆ พี่ภาคินเขาอุตส่าอยากรู้จัก” พี่ธีม

 

“เออ คือผม ผมชื่อเฟย์ครับ ผมเรียนอยู่ปีสองคณะวิศวกรรม ผมเป็นลูกคนเดียวขอพ่อแม่ครับ”

 

“ฉิบหายแล้ว ด้วนเลยดิมึง ตระกูลมึงนะครับ” พี่เปรมดิ์พูด

 

“เพื่อนมึงก็ด้วนครับ” ไอ้กอล์ฟมันชี้มาที่ผม พี่ตั้นรีบส่งนิ้วกลางไปทันที

 

“พ่อแม่ผมเขามีร้านอาหารอยู่ที่อังกฤษครับและครอบครัวผมทำธุรกิจอยู่ที่อังกฤษ ผมเลยอยู่คนเดียวที่ไทยครับ” เฟย์บอกพวกผม ก่อนจะหันมามองหน้าไอ้กอล์ฟ

 

“เอาล่ะ พอแล้ว รับน้องเลยดีไหมมึงเนี๊ย” พี่ทีนพูดก่อนจะหันไปหยิบขวดเหล้า

 

“ไม่ได้ น้องมันมีทำกิจกรรมพรุ่งนี้ ไว้วันอื่น” พี่กอล์ฟรีบออกมาปกป้องทันที ผมก็นั่งมองจะว่าไปดูพี่กอล์ฟเขามีความสุขที่เฟย์อยู่ด้วยน่ะ ผมสังเกตเห็นมาพักหนึ่งแล้ว

 

ตอนนี้พวกสาวๆ ก็เริ่มจะอิ่มกันแล้ว และพากันไปนั่งอิงแอบ กับแฟนตัวเอง ส่วนพี่กอล์ฟกับเฟย์คงไม่ต้องปกปิดแล้วดูหวานกัน แซงหน้าผมกับพี่ต้นแล้ว ตอนนี้ผมนั่งอยู่ตรงระหว่างขาของพี่ตั้น มีช่วยพี่ตั้นจิบเหล้านิดๆ หน่อยๆ กลัวพี่ตั้นเมา พวกพี่เขาก็เริ่มสูบบุหรี่กัน

 

“เมย์” พี่ตั้นกระซิบกับผมที่ข้างหู

 

“ครับ”

 

“ขอพี่สูบบุหรี่ได้ไหมครับ พี่เห็นเพื่อนสูบอ่ะ พี่อยากสูบอ่ะแต่เมย์เคยขอพี่ไว้ไม่ให้พี่สูบ “

 

“แค่มวนเดียวพอน่ะ “ผมทำเสียงดุใส่พี่ตัน พี่ตั้นพยักหน้า ก็พี่ตั้นสัญญาแล้วว่าจะไม่สูบอีก

 

“ไอ้คิน เอามาตัวหนึ่งดิ”

 

“มึงขอเมียยัง” พี่ภาคินถามพี่ตั้น พี่ตั้นพยักหน้า “เอามาเร็วๆ เดี๋ยวเมียกูเปลี่ยนใจ” พี่ตั้นเร่งพี่ภาคินและจัดการอัดบุหรี่เข้าไปแต่ดีที่เขาพ่นไปทางอื่น

 

“แค๊กๆ “จู่ๆ ผมก็ไอออกมา พยายามกลั้นแล้ว ผมเห็นพี่ตั้นเขารีบบี่มวนบุหรี่ที่เหลืออีกครึ้ง ผมก็หันไปมองตาม

 

“ทำไมอ่ะเหลืออีกตั้งครึ้งหนึ่ง”

 

“สงสารเมีย” พี่ตั้นพูด “หึ หึ” พร้อมกับหัวเราะในลำคอ ผมก็แอบยิ้มดีใจ ตอนนี้สาวๆ พากันไปร้องคาราโอเกะกับแฟนตัวเองกัน เหลือแค่ผมกับพี่ตั้นที่นั่งอยู่กับพี่ภาคิน พี่ธีมเขากำลังชงเหล้าให้พี่ตั้นใหม่ ผมเองก็กดมือถือเล่นไปด้วย กำลังติดเกมพี่ตั้นสอนให้เล่น

 

“กูกลับก่อนว่ะ อยู่นานเดี๋ยวกูเมาขับรถกลับไม่ได้ว่ะ “พี่ภาคินพูดก่อนละลุกขึ้น พี่ธีมส่งแก้วเหล้าใหม่มาให้พี่ตั้นถือเอาไว้

 

“งั้นกูกลับด้วยว่ะ “พี่ธีมอีกคน

 

“พี่กลับนะเมย์ อย่าให้มันดื่มเยอะละไอ้นี่น่ะ มันมีประวัติเมาแล้วขับนะ ระวังมันด้วย” พี่ภาคินพูดผมหันมามองพี่ตั้น พี่ตั้นแกยิ้ม ผมรีบแย้งแก้วเหล้ามาทันที พี่ตั้นมองหน้าผมบอกว่าเพื่อนเพิ่งจะชงมาให้ เสียดาย

 

“อึก อึก อึก” ผมกระดกรวดเดียวยาวๆ หมดแก้วไปเลย ขมมากแต่ไม่อยากให้พี่ตั้นเมาแล้วขับอ่ะ พี่ตั้นมองผมอ้าปากหวอเลย พี่ภาคินกับพี่ พี่ธีมก็ทำหน้าเหวอไปตามระเบียบ

 

“เวรแล้วกู!” พี่ธีมร้องเสียงหลงที่เห็นผมกระดกเหล้าเข้าไปแบบนั้น

 

“ใส่ไปตั้งครึ้งแก้ว”

 

“โซดาเหรอ” ผมหันไปถามพี่ธีม

 

“เหล้าครับเพียวๆ ผสมน้ำนิดเดียว มันละครับงานนี้” ผมถึงว่ามันขมมากผมนี้ทำท่าจะขย้อนก็ไม่ทันลงไปหมดแล้ว

 

“กูสองคนไปแล้ว่ะ ดูท่ามึงจะงานเข้า” พี่ภาคินพูด

 

“มึงไปหลอกเมย์ทำไมว่ะไอ้เชี้ยคิน” พี่ตั้นพูด

 

“อ้าว ไม่จริงเหรอ “ผมถามเสียงอ่อยๆ

 

“ไม่จริงหรอก หึ หึ” พี่ภาคินพูดปนหัวเราะ แป๊บเดียวได้เรื่องเลย หน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันทีแสดงว่าพี่เขาชงเข้มมากจริงๆ

 

“ไหวไหมเมย์” พี่ตั้นถามผม ผมหันมามองหน้า โบกมือเบาๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าไหวไหม แต่มึนๆ แล้วผมน่ะ

 

“หมับ” พี่ตั้นจับผมให้ลุกขึ้นก่อนจะหมุนตัวผมให้หันหน้ามาหาพี่ตั้น และพี่แกก็จับเอวผมให้เข้าไปนั่งคร่อมพี่ตั้นแทน พี่ตั้นกอดผมเอาไว้

 

“ไม่เอาเดี๋ยวคนมอง” พี่ตั้นกอดผมเอาไว้เหมือนเด็กน้อยเลย เอามือลูบหลังด้วย

 

“มองก็มองดิ ก็เมย์แฟนพี่ อืมม” แถมยังซุกไซ้ที่ซอกคอผมด้วย

 

“กินทำไมเนี๊ยะ พี่ว่าจะเท่ทิ้งอยู่ พี่เห็นมันแกล้งพี่แล้ว มันเอาใส่ไปตั้งครึ้งแก้วขนาดนั้น” พี่ตั้นพูด แต่ว่าผมเอาค้างพาดไว้ที่ไหล่พี่ตั้นแล้ว ผมพาดไว้แบบนั้น มือพี่ตั้นก็ลูบหลังผมเบาๆ

 

“เมย์ พี่รักเมย์น่ะ อยู่กับพี่น่ะครับ พี่กลัวว่าถ้าเมย์ไปเจอคุณปฐวีย์แล้วเมย์จะใจอ่อนทิ้งพี่ไป” ผมได้ยินเสียงคนกระซิบข้างหูผม ผมก็ยิ่งโอบกระชับคนที่กอดผมอยู่

 

“ไม่ไปอ่ะ จ้างให้ก็ไม่ไป อย่าไล่เมย์ไปไหนน่ะ “ผมพูดเหมือนคนที่มีสติแค่ครึ้งเดียวประมาณนั้น ผมกอดพี่ตั้น เอาค้างเกยไว้ที่หัวไหล่ ไม่รู้ว่าเหมาหลับไปตอนไหน ผมคงเมาเหล้าและเหมือนเด็กน้อย

 

*******

ผมล่ำลาเฮียตั้มและอาซ้อน้ำหวานและพากันกลับบ้านพร้อมกับเมย์ ในสภาพที่เมาปั่วเปี๊ยะน่ารักเชียว ก็ไอ้ธีมมันแกล้งผมเลยใส่เหล้าไปครั้งแก้วและเมย์ช่วยผมจิ๊บไปอีกก่อนหน้านี้พอเจอของเข้มเมย์ก็เมาคออ่อนไปเลย แอบสงสารเมียเหมือนกัน ผมอุ้มเมย์ออกมาจากรถไม่อยากจะปลุก ไอ้กอล์ฟมันก็กลับมานอนคอนโดของผมเหมือนเดิมและมาพร้อมกับเฟย์ ในฐานะคนรักของมัน

 

“ใจว่ะตั้น”

 

“กูว่าเพื่อนกันบอกเองดีกว่าว่ะกอล์ฟ “ผมพูด

 

“พรุ่งนี้ไปไหนไหมว่ะ” ผมถามไอ้กอล์ฟ

 

“กูจะกลับบ้านว่ะ จะพาเฟย์ไปไหว้พ่อแม่กูว่ะ”

 

“เฮ้ยเปิดตัวเลยเหรอว่ะ”

 

“เออ แต่แม่กูรู้เรื่องแล้วว่ะ เหลือแต่พ่อว่ะ ยังไงก็ก็เลือกคนที่กูรักว่ะ” ไอ้กอล์ฟพูด ผมพยักหน้า

 

“บายว่ะ” พอลิฟต์มาถึงชั้นที่แปด และเฟย์ก็ยกมือไหว้ผมก่อนจะออกไปจากลิฟต์ คนที่ผมอุ้มก็หลับตรพริ้ม ผมอุ้มๆ อยู่เหมือนเมย์เขาขยับ และค่อยๆ ลืมตาขึ้น คงมึนๆ น่าสงสารมากเลยเมียผม

 

“เฮีย อุ้มผมทำไม ทำไมไม่ปลุกผมล่ะ” เมย์ถามผมด้วยน้ำเสียงที่งัวเงียสุด รู้สึกเสียงเมียจะไม่เหมือนเดิม

 

“เห็นเมียเดินไม่เหมือนเดิมเลยอุ้มดีกว่า หึ หึ “ผมพูดปนหัวเราะ เมย์หรี่ตามองผม พร้อมกับซบใบหน้าลที่แผ่นอกของผม ผมอุ้มเมย์มาจนถึงห้องพักของผม เปิดประตูเข้าไปก็เอาตัวเล็กไปวางไว้บนเตียงนอนก่อน จะเดินไปหาดูยาพาราเซตามอล ให้เมย์ทาน โชคดีนะพรุ่งนี้วันหยุดผมไม่ได้ทำงาน จะได้ดูแลเมียได้ พอผมเดินกลับมาก็ต้อง อุบ๊ะ! เมียผมถอดเสื้อผ้าเหลือแต่กางเกงยางยืด

 

“เฮียร้อนอ่ะ” ตัวเล็กบอกผม ผมรีบเอาแก้วน้ำวางที่โต๊ะหัวเตียงและขึ้นไปบนเตียงนอนพร้อมกับเอาหลังมืออังที่หน้าผากตัวเล็ก ตัวก็ไม่ร้อนน่ะ

 

“หมับ “ผมอยู่ในท่าคุกเข่าเมย์ก็เลยเอามือจับน้องหนูของตั้นซะเต็มมือเลย

 

“ตัวเล็กทำอะไรเฮียน่ะ” ผมถามตัวเล็ก ปกติไม่เป็นแบบนี้น่ะ

 

“ก็จับของเล่นไง ของเล่นผมน่ะ”

 

“เมาแล้วเปลี่ยนไปเยอะน่ะเมียน่ะ” ผมพูด

 

“เอามา มาเล่นกาน” พูดพร้อมกับเสียงยานๆ

 

“ห๊ะ!!” ไม่ตกใจได้ยังไงก็คนตัวเล็กชี้ที่เป้ากางเกงผม ว่าให้เอาออกมา  ออกมาเล่นกัน

 

“เร็วๆ ซิเฮีย ผมอยากเล่น” เอานั้น ไม่พูดเปล่า” ตุบ!!” ผลักร่างไปนอน และคนตัวเล็กก็ใช้มือปลดกระดุมกางเกงยีนผม เมย์รูดปืดเดียว กระดุมถูกปลดออกหมดแพง มันเกิดขึ้นเร็วมากไม่ทันตั้งตัวหรือว่าผมงงกับเมย์อยู่ก็ไม่รู้

 

“เมย์เดียว เฮียว่า” ไม่ทันแล้วครับผม เมียรูดเอาหนอนของผมออกมาและใช้มือรูดพร้อมกับใช้ปากครอบทันที ผมไม่ทันได้ดันหัวเมย์ออก เล่นเอาตั้นสยิวมาก เลยปล่อยให้เมียทำไป ไม่กล้าขัดขืนเลย

 

“โอ้วว ซี้ด เมย์ เฮียเสียว “ผมร้องครางออกมาและพร้อมกับเด้งเอวขึ้นลงตามจังหวะการดูดของเมย์ จนกระทั่ง เมย์ลุกออกไปและถอดกางเกงปราการด้านสุดท้ายออก เมย์ขึ้นมาอย่างรวดเร็วอีกครั้งเรียกว่ากระโจนใส่ผมจะดีกว่า และตรงมานั่งยองๆ ลงที่ตำแหน่งหนอนยักษ์ของผม มันตั้งฉากรออยู่พักหนึ่งแล้ว

 

“เมย์เดี๋ยว!!” ผมร้องห้ามเพราะว่าต้องใช้เจลก่อนซิ ผมรีบเปิดลิ้นชักแทบจะไม่ทันเปิดหลอดเจลออกมาและใช้นิ้วป้ายที่ช่องทางรักของเมย์ก่อนและป้ายที่แท่งร้อนของผมไว้ด้วย เมย์รีบหย่อนช่องทางรักของเขาให้ตรงและดันลงมา ช้าๆ ช้าๆ จนกระทั่งมิด

 

“ซี้ดดด” ผมครางเสียงลากยาวด้วยความเสียวซ่าน และเมย์ก็ขย่มทันทีที่ช่องทางรักของเมย์คุ้นเคย ผมก็จับเอวเมย์เอาไว้ได้วย เมย์โยกแบบขึ้นก็สุดลงก็สุด และมันก็ดังสนั่นห้องไปทั่ว

 

“โอ้ว เมย์ ซี้ด พี่เสียวเมย์”

 

“ชอบไหมล่ะเฮีย อ้าห์ ซี้ด” หน้าตาที่บ่งบอกว่าเมย์อยู่ในห่วงอารมณ์ไหน หลับตาพริ้มด้วย เสียริมฝีปาก มันปลุกเร้าอารมณ์ผมยิ่งหนัก ทำให้ผมต้องเด้งสวนไปด้วย และคนที่สวนลงมาก็ขย่มไม่เกรงใจกันเลย

 

“ก็ชอบน่ะเมย์ ซี้ด แต่เฮียเกรงว่ามันจะหัก “ผมพูดและ “หมับ!” จับเอวเมย์เอาไว้ก่อน ให้หยุดนิ่ง เมย์ลืมตาพร้อมกับก้มลงมองหน้าผม เหมือนจะขัดใจ เวรเลยผม เลยต้องปล่อยเมียให้ขย่มไปตามอารมณ์นางก่อน ไม่กล้าขัดอีกเลย

 

“อ้าห์ ซี้ด อ้าห์ เมย์ “ผมเกร็งร่างและส่วนนั้นก็กระตุก ผมรับรู้ได้ว่าน้ำอุ่นๆ ร้อนๆ ไหลย้อนออกมาอาบโคนขาอ่อนของเมย์ วันนี้เมย์เร่าร้อนที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมา นี้ตั้นโดนเมียข่มขืนเหรอครับวันนี้ ผมกระดกศีษระขึ้นมองคนที่นอนลงแผ่หมดเรี้ยวแรงอยู่ข้างๆ หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจ

 

“เมย์ เมย์ เมย์” ผมเรียกเมย์แต่ว่าเขาหลับปุ๋ยไปแล้ว นี่เสร็จสับก็หลับทันทีเหรอครับ แถมเนื้อตัวเลอะเทอะขนาดนี้ ผมก็ต้องเป็นคนเช็ดทำความสะอาดและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เมียก่อน แล้วค่อยทำความสะอาดตัวเองก่อนจะกลับมานอนกอดตัวเล็ก

 

“เมาแล้วเมย์น่ารักน่ะ แต่เฮียว่า งดแตะต้องแอลกอฮอล์จะดีกว่า ฟ๊อด!” ผมพูดกับคนที่หลับปุ๋ยไม่รู้เรื่อง พรุ่งนี้คงไม่ตื่นมาเม้งแตกใส่เฮียน่ะตัวเล็ก

----------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณคอมเม้นนะคะ ขอบคุณที่ติดตามด้วยนะคะ ฝากไว้เป็นกำลังใจให้คนแต่งด้วยนะคะ  :3123: :3123:
ตอนหน้าถ้าเมย์เลือกเลือกได้อีกครั้งเมย์จะเลือก ?เพราะว่าตอนหน้าเมย์จะไปเจอพี่ปฐวีย์ แม้จะเอายังไงน่ะ (แอบสงสารพี่ตั้น)
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.1ุ8.1( เฮียตั้นVSเมย์)ยินดีกับคู่ใหม่ NC 18+
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 01-12-2020 20:53:18
 :oo1:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.1ุ8.1( เฮียตั้นVSเมย์)ยินดีกับคู่ใหม่ NC 18+
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 01-12-2020 21:36:30
เมาแล้วมันคึก  :oo1: 555 ว่าแล้วคู่กอล์ฟคิดอยู่ว่าเหมาะกับเฟย์มากกว่านะ เห็นรังสีบางอย่างนานแล้ว ในที่สุดก็ยอมรับสักที 5555 สนุกๆ  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.1ุ8.1( เฮียตั้นVSเมย์)ยินดีกับคู่ใหม่ NC 18+
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 01-12-2020 23:44:13
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.1ุ9( เฮียตั้นVSเมย์)ถ้าเลือกได้อีกครั้งล่ะ เมย์จะเลือก?
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 02-12-2020 19:38:13
                    เมธานินท์ วันนี้พี่ตั้นบอกว่าจะพาเมย์ไปงานเปิดโรงแรมใหม่ของพี่ปฐวีย์ ผมไม่ได้แจอพี่เขามาเกือบจะสองเดือนแล้ว ผมรู้สึกตื่นเต้นยังไงก็ไม่รู้ พี่ตั้นพาผมไปซื้อเสื้อสูท พี่ตั้นบอกผมว่าเราไม่ใช่แขกคนสำคัญคงไม่ต้องหรู ผมเองก็เห็นด้วยสวมแค่สูททับกางเกงยีนแค่นั้น วันนี้พี่ตั้นยังบอกอีกว่าจะพาไปเที่ยวผับของพี่ชายพี่ธีมด้วยกัน  ผมเองไม่เคยเข้าผับเลยจริงๆ อายุก็ปาเข้าไปยี่สิบเอ็ดแล้ว  ผับนี้เป็นผับประจำของพี่ๆเขา แต่พี่ตั้นเขาไม่ได้ไปมาจะสองเดือนแล้ว ตั้งแต่ผมมาอยู่ด้วย ก็แน่นอนพี่เขาเลิกงานขึ้นห้อง ช่วยผมทำอาหาร เก็บล้างทุกอย่างเขารู้ว่างานบ้านมันเหนื่อย ผมแอบยิ้มมีสุขทุกครั้ง และนี้ทำให้ผมคิดถึงคำพูดของพี่น้ำหวานที่บอกว่าถ้าให้เลือกอีกครั้งพี่น้ำหวานก็จะยังเลือกเฮียตั้ม และถ้าผมได้เลือกอีกครั้งล่ะ ผมก็จะเลือก .......
 "ฟ้อด!! "เสียงหอมแก้มผมดังมาก ผมรีบเอามือลูบแก้มผมเบาๆ "พี่เห็นจ้องมองความหล่อพี่นานแล้วเลยหอมซะเลย" พี่ตั้นพูด ผมทำปากยู่ใส่คนตรงหน้า



“เฮีย โอนเงินไปให้วิวเหรอครับ”จู่ๆผมก็ถามเฮียตั้น



“ใช่ครับ” เฮียตั้นตอบผม ขณะที่ผมกำลังจัดคอเสื้อให้อยู่



“แต่ในโทรศัพท์ผม มีแจ้งเตือนว่าเงินเข้าบัญชีผมอีกสามหมื่น เฮีย ถ้าเฮียโอนให้น้องผมแล้วเฮียไม่ต้องให้ผมแล้วน่ะ “ผมพูดทำหน้าดุใส่เฮีย



“ทำไมละในเมื่อ”



“ตอนนี้เฮียยังคิดว่าผมเป็นแฟนจ้างอยู่เหรอ ไม่ใช่แฟนจริงๆ ของเฮียเหรอ” ผมถามเฮียตั้น



“ที่เข้าบัญชีของเมย์นะคือเงินของพี่ ที่จะได้รับจากการทำงานพี่ไม่ได้รับเงินเข้าบัญชีพี่แล้ว เข้าบัญชีเมียคนเดียวเลย” เฮียตั้นพูด



“ไม่เอาเฮียทำงานเหนื่อย”



“เมียเหนื่อยกว่า ไหนจะดูแลบ้าน ดูแลเฮีย ทำอาหาร แถมยังทำให้เด็ก ๆ ที่มาทำงานกับพี่ทานกันอีก เหนื่อยขนาดนี้สามหมื่นก็น้อยไป “เฮียตั้นพูด



“แม่พี่เคยพูดเสมอ ก่อนจะไปดูแลคนอื่นควรจะดูแลคนในบ้านให้ดีซะก่อนที่จะออกไปดูแลคนข้างนอก เมย์คือคนในบ้านที่พี่ต้องดูแลและเป็นพิเศษของพี่ เรื่องแค่มันเบสิคครับ” เฮียตั้นพูดอีก



“ไปกันได้หรือยังครับ” เฮียตั้นถามผม ผมพยักหน้าว่าผมพร้อมแล้ว และผมสองคนก็เดินลงไปชั้นที่แปดก่อน เฮียตั้นจะไปหาเพื่อนๆ ก่อน



“เออ วันนี้เจอกันที่ผับพี่ธันเลยนะ” เฮียตั้นเปิดประตูไปบอกเพื่อนๆ และน้องๆ เฮียบอกว่าวันนี้น้องขอไปเที่ยวด้วย



“รับทราบ” พวกน้องๆ และเพื่อนๆ เฮียเขาแร๊พโย๊ะตอบออกมาพร้อมกันเพราะว่าแต่ละคนกำลังสวมหูฟังกัน ผมเดินลงมาที่ลานจอดรถ เฮียเอารถหรูของเฮียไปแทน และมันก็นั่งได้สองคน เฮียเปิดให้ผมเข้าไปนั่งก่อน ผมมองแววของผู้ชายคนนี้มันช่างอบอุ่น และพี่ตั้นก็เข้ามานั่งทำหน้าที่คนขับรถ ตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะหกโมงครึ้ง



“เมย์ไปเที่ยวไหนกันดีวันหยุดยาวปีใหม่นี้ “เฮียถามผม



“ไปเที่ยวบ้านเฮียซิ “ผมรีบหันมาบอก พี่ตั้นขมวดคิ้วเป็นปมทันที ก็คุณนมจิตเคยบอกว่าให้ผมชวนพี่ตั้นไปเที่ยวที่บ้านพ่อพี่ตั้นบ้าง



“ทำไมล่ะ แล้วปกติเฮียไปไหนกันอ่ะ” ผมถามเฮียตั้นกลับ



“พี่เหรอ เมาหัวราน้ำ เที่ยวผับตั้งแต่วันที่ส่งท้ายปีเก่าจนเลยปีใหม่ พวกพี่เมาแบบจำไม่ได้ว่ากลับมายังไง” เฮียตั้นพูด ผมหันมามองพี่ขนาดนั้นเลยเหรอ



“แล้วเมย์ล่ะ” เฮียตั้นถามผมกลับบ้าง



“ผมไม่ได้ไปไหน ผมทำงานพิเศษ ยิ่งวันเทศกาลไม่ได้ไปน่ะครับต้องอยู่ และที่สำคัญผมไม่รู้จะไปไหนก็นัดแม่ปิ่นออกมาหาอะไรทานกันสักวันหนึ่ง “ผมพูดบอกพี่ตั้น



“อยากไปเที่ยวที่บ้านพี่เหรอ” พี่ตั้นถามน้ำเสียงดูกังวล



“อยากไปครับ” ผมหันไปตอบพี่ตั้น



“เอาอย่างนี้ไหม ชวนน้องๆ เมย์ไปด้วย เราไปกันทั้งหมด” พี่ตั้นหันมาบอกผม ผมหันไปมองหน้า



“จะดีเหรอ “ผมถามพี่ตั้นด้วยความเกรงใจ



“ดีซิครับ นะครับ”



“ผมคิดว่าพ่อพี่ตั้นก็อยากให้พี่ไปบ่อยๆ เหมือนกัน งั้นเราไปกันน่ะ “ผมพูด พี่ตั้นหันมามองหน้าผม ผมรู้ว่าเขาคิดหนักเรื่องนี้



“น่ะครับพี่ตั้น” ผมพูดและจับมือพี่ตั้นเอาไว้



“อันที่จริงพี่แพลนจะไปหาแม่พี่น่ะที่อเมริกา พี่ว่าจะไปเอาพวกรูปภาพของแม่กลับมาให้หมด” พี่ตั้นพูด



“ดีจัง ของผมนะยังอยู่ที่บ้านเก่าหมดเลย และผมก็เข้าไปเอาออกมาไม่ได้ ผมรู้แค่ว่าเขาเก็บไว้ที่ห้องใต้ดินทั้งหมด” ผมพูด ผมพยายามขอพ่อคุณปริมแล้วเขาก็ไม่ยอมให้ผมเข้าไป



“เมย์ยังไม่ได้บอกพี่เลยว่าใครคือคนที่ซื้อบ้านเมย์ไป เพื่อว่าพี่จะเข้าไปคุยกับเขาได้”



“เออ เมย์ไม่แน่ใจตอนนี้ ขอเมย์ถาม คุณปฐวีย์ก่อนได้ไหมอ่ะครับ”



“ทำไมละเมย์”



“พี่ตั้น คุณปฐวีย์เขา แต่งงานเพื่อบ้านของเมย์ครับ” ผมพูดบอกพี่ตั้น และพอพี่ตั้นได้ยินก็ถึงกับต้องสบัดหน้าหันมามองหน้าผม  ด้วยสีหน้าที่ตกใจมากพอสมควร ผมเองก็กังวลว่าเขาจะคิดว่าพี่ปฐวีย์มีบุญคุณกับผมจนผมจะเลือกเขา



"อย่าบอกพี่น่ะว่าบ้านของเมย์อยู่กับคุณปฐวีย์น่ะ” พี่ตั้นถามผม



“ผมไม่แน่ใจนะครับพี่ตั้น” ผมตอบ



“แล้วนี่เขาก็เอาบ้านมาต่อรองกับเมย์หรือเปล่า” พี่ตั้นถามผมอีกครั้งเขาหันมามองหน้าผม



“ไม่ใช่ครับ พี่ปฐวีย์เป็นคนเข้าไปคุยกับพ่อของคู่หมั้นเขา เพราะบ้านผมอยู่กับเขา และนั้นก็กลายเป็นว่าเขาเอาบ้านมาเป็นข้อต่อรองกับพี่ปฐวีย์ ถ้าพี่ปฐวีย์แต่งงานกับลูกสาวเขา บ้านจะตกเป็นของพี่ปฐวีย์ มันยังก้ำกึ่งอยู่ว่าเป็นของใคร ผมไม่รู้ข้อตกกันเพราะว่าผมไม่ได้เข้าไปคุยกับเขาเอง ผมทราบมาจากพี่ปฐวีย์แค่นี้อ่ะพี่ตั้น ผมรู้สึกผิดที่ทำให้คุณปฐวีย์เดือดร้อนขนาดนี้”



“คู่หมั้นเขาก็คือพี่ปริม ดังนั้นบ้านก็อยู่ที่พี่ปริมถูกไหมตัวเล็ก” พี่ตั้นหันมาถามผม นี่แหละที่ผมกลัวที่สุด ผมหลับตาปี๋ไม่อยากคิดถ้าพี่ตั้นจะเป็นคนเข้าไปทวงเอง ผมกลัวว่า



“ใช่ครับ” ผมตอบเสียงที่เบามากและมองหน้าพี่ตั้น พี่เขาดูมีสีหน้ากังวลขึ้นมาทันที ผมจับแขนพี่ตั้น



“ผมไม่อยากได้แล้วแหละ ผมไม่อยากทำให้พี่ปฐวีย์เดือดร้อนอีก เขายอมทำเพื่อเมย์มากขนาดนี้ คือ เป็นบุญคุณที่ยิ่งใหญ่มากพี่ตั้น “ผมพูดกับพี่ตั้น
       ตอนนี้พี่ตั้นนำรถเข้ามาในสถานที่จัดเอาไว้ให้แขกที่มาฉลองงานเปิดตัวโรงแรมหรูเข้าจอด ตอนเช้าเขาทำพิธีทางสงฆ์ ผมกับพี่ตั้นไม่ได้สำคัญขนาดนั้นเลยมาแค่ฉลองตอนเย็นพอ และนี่ก็คนเยอะมาก แต่ละคนล้วนแต่แต่งตัวดีๆ กันทั้งนั้น ผมคลำเสื้อสูท เออ ผมลืมเอามือถือมาด้วย เลยไม่ได้ถ่ายรูปหล่อๆของผมกับพี่ตั้นเลย ผมดันใส่ไว้ในลิ้นชักในรถเก๋งคันหรูของพี่ตั้นซะนี่และกระเป๋าสตางค์อีกด้วย แต่ก็ไม่ต้องใช้สักหน่อย



“เมย์ “พี่ตั้นแตะเอวผม ก่อนจะหันมากระซิบกับผมว่า “อย่าแตะเหล้า แตะไวน์น่ะเมย์น่ะ”



“ทำไมอ่ะ” ผมหันไปถามพี่ตั้นแววตาไร้เดียงสา



“เฮียไม่อยากโดนเมียข่มขืนอีก” พูดแบบนี้แก้มผมแดงระเรื่อขั้นมาทันที (เฮียบอกผมข่มขืนเฮียไปวันที่ไปกินหมูกระทะและผมช่วยเฮียดื่มเหล้าจนหมดแก้วและนั้นผมก็จำอะไรแทบจะไม่ค่อยได้)



“พอแล้ว ผมอาย” ผมพูดกระซิบกลับกับพี่ตั้น ผมสองคนเดินแหวกผู้คนเข้าไปในงาน ไปหาที่ยืน ตอนนี้ค๊อกเทลฟู้ดส์เริ่มทยอยกันออกมาเสิร์ฟ



“น้ำพั้นซ์ได้ไหมอ่ะพี่ตั้น” ผมถามพี่ตั้น คนที่ยืนเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่หันมามองผม และพนักงานเสริ์ฟก็กำลังจะเดินเข้ามาพอดี ผมก็ว่าจะขอมาชิ้มสักแก้ว พี่ตั้นหันไปรับแก้วมาถือไว้ซะก่อนและชิ้มก่อนผมอีก พร้อมกับทำท่าคุ้นคิดหรี่ตาข้างหนี่ง ผมก็ทำหน้าเหมือนรอผู้ปกครองอนุญาต



“ได้ครับพี่ชิมแล้ว แอลกอฮอล์ไม่มากแต่อย่าเยอะน่ะครับ เมาแน่ๆ ” พี่ตั้นบอกผมก่อนจะส่งมาให้ผมรับไปจิบเบาๆ ส่วนพี่ตั้นเขาหันไปรับแก้ว แก้วเชมเปญมาดื่มแบบจิ๊บๆ ผมยืนกันไม่ใกล้ อยู่ห่างๆ มีคนคอยถ่ายรูปและพี่ปฐวีย์ก็อยู่ในนั้น ผมเห็นพ่อกับแม่ของพี่ปฐวีย์ด้วยแต่ไกลๆ และมีพี่ปริม เธอสวยมากวันนี้ เธอยืนคู่กับพี่ปฐวีย์ในฐานะคู่หมั้นเธอสวมราตรียาวแหวกอกลึกมากแต่มันกลับยิ่งทำให้เธอดูสวยสะดุดตาคนทั้งงานผมกันมามองพี่ตั้นที่ยืนเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงหนึ่งข้างและอีกข้างก็ถือแก้วจิบแชมเปญไปด้วย



“พี่ปริมเขาสวยดีน่ะครับพี่ตั้น” ผมหันมาพูดกับพี่ตั้น พี่เขาหันมามองหน้าผม



“พี่ปริมเขาเป็นคนสวย พี่ยอมรับ พี่สะดุดตาเธอตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน ในผับพี่ธัน เธอสวยสะดุดตาชนิดที่พี่ต้องเดินเข้าไปจีบและเธอก็ตอบสนองพี่ในวันแรกที่คุยกัน “พี่ตั้นพูด



“แต่พี่ปริมเขาไม่อยากผูกมัดเขาพูดเลยพี่ก็โอเค สนุกสนานกันไป แถมเท่ด้วยได้สาวสวยที่ใครก็จ้องมอง พี่ยอมรับพอพี่ได้พี่ปริม หนุ่มๆ ต่างพากันเขม็นพี่กันทุกคน “พี่ตั้นพูดก่อนจะยกแก้วแชมเปญขึ้นมาดื่มและมองไปบนเวที



“แต่ พี่ปริมกับทำให้พี่รู้สึกอึดอัด ปากบอกว่าไม่จริงจังแต่ระราน คนที่พี่คุยด้วยและก็ซั้มกัน นางอาละวาดไปหมดแม้กระทั่งแฟนเพื่อนพี่นางยังเขม่นเลย พวกโบว์ มัดหมี่ เบนซ์ ยกเว้นแพร” ผมหันไปมองพี่ตั้นทำไมล่ะ



“แพรเขาไม่ค่อยได้ออกไปเที่ยวไหนกับกอล์ฟพร้อมพวกพี่ไง และพี่ยอมรับว่าคู่นอนของพี่เยอะพอสมควร และส่วนใหญ่ได้มาจากผับทั้งนั้น และแต่ละคนก็มีงานการทำดีดี” พี่ตั้นพูด ผมได้ยิน ผมเองกับเป็นฝ่ายหลุบตาลง



“แต่ตอนนี้พี่ เจอแล้วเมย์ คนที่พี่อยากจะฝากหัวใจเอาไว้ “พี่ตั้นหันมามองหน้าผมสายคู่นั้นมันบ่งบอกว่าเขาจริงจังแค่ไหน



“เมย์เป็นแฟนคนแรกที่อายุน้อยที่สุดของพี่ ขนาดตอนที่พี่เรียนอเมริกา แฟนพี่ก็รุ่นเดียวกันทั้งนั้น อายุน้อยกว่าไม่มีน่ะ”



“ก็แน่ละ ผมเกิดหลังพี่ตั้งหลายปี”



“นี่ว่าพี่แก่เหรอ”



“ก็พี่พูดเองน่ะ” ผมพูดและหันไปเหล่ตามองคนข้างๆ ผมแอบยิ้มเล็กน้อย



“แก่แต่ ชอบทำตัวเหมือนเด็ก อ่ะ “ผมหันไปหาพี่ต้นเอียงคอนิดหน่อย "หมับ"ผมรีบจับมือพี่ตั้นเอาไว้ได้ชอบบีบจมุกอันน้อยนิดของผมจัง  ผมเหลือบมองไปบนเวที ตอนนี้พี่ปฐวีย์หายลงไปจากเวทีแล้ว ผมหันไปเห็นดาราหลายคนเลยที่มาร่วมงานฉลองโรงแรมใหม่ของพี่ปฐวีย์ ครอบครัวพี่ปฐวีย์เขาค่อนข้างจะเป็นที่รู้จักในกลุ่มไฮโซ



“เราเดินไปยืนกันตรงโน้นดีกว่าเมย์” พี่ตั้นหันมากระซิบพูดกับผม ก่อนจะจูงมือผมออกไป ผ่านผู้คนมากมายที่มาเป็นแขกรับเชิญ อาหารวันนี้ก็เป็นแบบค๊อกเทลฟู้ด คืออาหารเล็กๆ น้อยที่เขานำมาเสิร์ฟกัน



“ตั้น” เสียงอ่อนหวานเรียกชื่อพี่ตั้น ผมกับพี่ตั้นหันไปมอง คนที่สวมชุดราตรียาว แต่งหน้าทาปากสีแดงสดเด่นมาแต่ไกล ไม่ใช่ใคร คนนั้นคือพี่ปริม



“ตั้น เห็นพี่ปฐวีย์บอกพี่ว่าตั้นจะมา” พี่ปริมพูดพร้อมกับช้อนสายตามองตั้น ราวกับเจอของเฝ้ารอมานาน ผมบีบมือพี่ตั้นเอาไว้ อันนี้แหละที่ผมหึงแล้วน่ะ พี่ตั้นก้มลงมองมือผม



“ครับผมมา พร้อมกับเมย์ “พี่ตั้นพูดและกระชับเอวผมเข้าไปหา เธอถึงได้หันมามองผม



“อีเด็กนี้นะเหรอ” พี่ปริมพูดและไม่พูดเปล่าเธอยกกระเป๋าที่ห้อมล้อมไปด้วยเพชรเพื่อจะกว้าดผมแต่



“หมับ” พี่ตั้นคว้าข้อมือพี่ปริมเอาไว้ซะก่อน “ปีก” พร้อมกับผลักพี่ปริมออกจนเธอเกือบจะเซ่ล้มแต่ไม่ล้ม



“จะทำอะไรนะพี่ปริม” พี่ตั้นถามพี่ปริม พี่ปริมหันมามองหน้าพี่ตั้น



“นี้ปกป้องมันเหรอตั้น!” พี่ปริมถาม



“ก็เขาเป็นแฟนผมอ่ะพี่ปริม!”



“ไม่จริง! พี่ต่างหาก”



“พี่ปริม พี่จะบ้าเหรอ พี่จะแต่งงานแล้วน่ะ พี่จะเป็นแฟนได้ยังไง และผมเองก็ไม่เคยบอกว่าพี่คือแฟน”



“พี่จะไม่แต่งงาน และตั้นก็ต้องกลับมาหาพี่แต่รอบนี้ตั้นต้องเป็นแฟนพี่!”



“พอเถอะ ไปเมย์เราไปหาพี่ปฐวีย์และจะได้กลับกัน” พี่ตั้นพูดตัดบทและพยายามดึงผมออกไปจากตรงนั้น



“หมับ” พี่ปริมเข้ามาดึงแขนพี่ตั้นกระฉากให้ออกจากผม แต่พี่ตั้นเขาขืนตัวเอาไว้



“พี่ปริมปล่อยผม ผมมากับแฟน พี่เห็นไหม!”



“พี่นี้ต่างหากแฟนตั้น!!”



เอ๊ะ! พี่ปริมผมบอกให้ปล่อยไง” พี่ตั้นพยายามสะบัดอีกแขนออกจากพี่ปริมและอีกแขนก็จับมือผมไว้ด้วย คนก็หันมามองกันบ้างแล้ว



“ออกไปจากตั้นของฉันเดี๋ยวนี้น่ะไอ้เด็กเมื่อวานซืน “พอพี่ปริมดึงพี่ตั้นไม่ได้ ก็เปลี่ยนมาดึงแขนผม เธอพยายามมาดึงผมออกแทนแต่พี่ตั้นกอดรั้งผมเอาไว้



“พี่ปริม!! ผมบอกให้พอไง” พี่ตั้นร้องห้ามแต่เธอไม่ฟัง



“หยุดน่ะปริม!” เสียงที่ทำให้พี่ปริมต้องปล่อยแขนผมและพี่ตั้นก็ดึงผมเข้าไปกอดแทน ผมหันไปมองพี่ปฐวีย์ พี่ปฐวีย์เดินมาหยุดตรงหน้าผมกับพี่ตั้นและพี่ปริม แต่พี่ปริมปรี่เข้ามาจับแขนพี่ตั้นอีกข้างอย่างไม่ยอมลดละ พี่ตั้นก็เลยสะบัดอย่างแรงจนหลุดไปและถึงผมถอยออกมา



“เฮ้อ! นี่คุณปริม คุณไม่ได้ยินที่ผมพูดเหรอว่าให้หยุด!!” พี่ปฐวีย์ขึ้นเสียงอีกครั้ง



“ผมบอกคุณแล้วใช่ไหมว่าวันนี้เป็นวันสำคัญของผม อย่าทำเรื่อง ที่มันน่าเกลียดแบบนี้ “พี่ปฐวีย์หันไปต่อว่าพี่ปริม



“ก็นี่ไงคะ มันยืนอยู่นี้คนที่พี่อยากได้ ไม่เอาไปล่ะคะ ปริมจะได้เอาคนของปริมออก” พี่ปริมพูด พี่ปฐวีย์มองหน้าผมกับพี่ตั้น ผมก็ค่อยแกะมือพี่ตั้นออกเช่นกัน



“สวัสดีครับพี่ปฐวีย์” ผมยกมือไหว้ พี่ตั้นก็ยกมือไหว้พี่ปฐวีย์เช่นกัน



“พ่อคุณเรียกหาอยู่นะคุณปริม” พี่ปฐวีย์พูด



“แต่”



“เขาต้องการให้คุณเข้าไปหาเขาตอนนื้!!”



“ส่วนผมมีเรื่องจะคุยกับคุณตั้นและเมย์” พี่ปฐวีย์หันไปบอกพี่ปริม เธอสะบัดหน้าไปอย่างไม่เต็มใจหนัก เธอหันมามองผมก่อนด้วยสายตาอาฆาตแค้นใส่ผม พี่ปฐวีย์หันมามองผมด้วยสายที่อบอุ่นเหมือนเคย แต่ผมไม่กล้าสบตาพี่เขาเลย ผมขาดการติดต่อพี่เขาไปเลยตั้งแต่วันที่พี่ตั้นให้คนมาจับตัวผมจนถึงวันนี้ ทั้งที่ผมจำเบอร์โทรพี่เขาได้ดีแต่ผมเลือกจะเงียบ



“ไปหาที่นั่งคุยกันไหมตั้น เมย์” พี่ปฐวีย์ถามผมกับพี่ตั้น พี่ตั้นหันมามองหน้าผม ผมบีบมือพี่ตั้นไว้แน่น





“ได้ครับ “พี่ตั้นเป็นคนตอบแทนผม พี่ปฐวีย์หันไปมองหาเลขาฯ ของพี่เขาและกระซิบกันอยู่แป๊บหนึ่งก่อนจะเดินกลับมาหาผมสองคนและผายมือให้ไปหาที่สำหรับคุยกัน ผมเดินตามหลังไป โดยมีตั้นที่มองผมตลอด จนมาถึงห้องหนึ่ง



“ผมว่าผมให้พี่คุยกันดีกว่าครับ ดูแล้วน่าจะเป็นธุระส่วนตัวของพี่กับเมย์ “พี่ตั้นพูด ผมหันมามองพี่ตั้น พี่เขายิ้มให้ผมพร้อมกับพยักหน้าให้ผมว่าเขาโอเค พี่ตั้นตัดสินใจเดินออกไป ตอนนี้เหลือแค่ผมกับพี่ปฐวีย์



“ไง ไม่เจอกันนานเลยนะ ดูผอมไปหรือเปล่าเมย์” พี่ปฐวีย์ถามผม ผมเงยหน้าขึ้นมองผู้มีพระคุณของผมที่ รับเรื่องเดือดร้อนแทนผมมาไม่รู้กี่ครั้งและเข้าช่วยผมในสถานการณ์ที่เหลวร้ายก็หลายหน น้ำตาผมไหลมาเอ่อเกือบล้นที่ตรงขอบ ผมทรุดตัวลงก้มลงกราบพี่ปฐวีย์ทันที



“พี่วีย์ผมขอโทษทุกเรื่อง ฮือๆ”



“เมย์ไม่เอาน่ะ ลุกขึ้น ลุกมาคุยกับพี่ดีดี “พี่ปฐวีย์ก้มลงจับไหล่ผมไว้และเขาก็จับตัวผมให้ลุกขึ้น มายืนก่อนจะดันตัวผมไปหาที่นั่ง พี่ปฐวีย์ส่งผ้าเช็ดหน้ามาให้ผมสับน้ำตา



“สบายดีไหมเมย์ “พี่ปฐวีย์ถามผม



“ผมสบายดีครับพี่วีย์”



“ตั้นเขาดูแลเราดีไหม” พี่ปฐวีย์ถามผม แหละนั้นก็แปลว่าเขารู้ว่าผมอยู่ไหน แต่ทำไมเขาไม่ออกตามหาผมล่ะ



“พี่รู้เหรอครับว่าผมอยู่กับ”



“ใช่ครับ แต่พี่ไม่อยากดึงเราเข้ามาอยู่ในวังวนคนพวกนี้อีก” พี่ปฐวีย์พูด “ฟู่” พร้อมกับพ่นลมหายใจออกมายาวๆ



“ผมขอโทษนะครับพี่วีย์ เรื่องทั้งหมด”



“พี่ถามหน่อย ว่าเราจะเอายังไงกับบ้านของเมย์”



“พี่วีย์” ผมไม่อยากได้บ้านแล้ว ผมไม่อยากให้ใครมาเดือดร้อนเพราะว่าผมอีก ผมกลัวว่าเขาจะเอาเรื่องบ้านมาต่อรองกับผมอีกและ”



“เรากลัวว่าจะเป็นตั้นใช่ไหม” พี่ปฐวีย์ถามผม ผมพยักหน้า น้ำใสๆ เริ่มไหลรินลงมาอาบแก้มของผมอีกครั้ง คราวนี้พี่ปฐวีย์เป็นคนใช้นิ้วเรียวๆ ปาดแก้มของผมแทนผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นของเขาที่ผมถือเอาไว้



“ตอนนี้เมย์เจอคนที่เมย์รักแล้วใช่ไหมครับ”



“ผมขอโทษครับพี่ปฐวีย์ ผมขอโทษ”



“พี่เข้าใจแล้วเมย์ ดังนั้นพี่จะขอยุติเรื่องบ้านเมย์ไว้แค่นี้ เมย์เข้าใจพี่ไหมครับ”



“ผมเข้าใจครับพี่ปฐวีย์ “ผมพูดพี่ปฐวีย์เข้ามาสวมกอดผม ผมก็กอดพี่ปฐวีย์กลับ อ้อมกอดนี้อบอุ่นสำหรับผมเสมอแต่ไม่ใช่ในแบบคนรัก ฝ่ามือที่ลูบหัวของผมอย่างผู้มีเมตตา



“พี่คิดว่าเมย์เจอคนที่เมย์รักแล้วและพี่ก็เชื่อว่าเขาดูแลเมย์ ดูจากที่พี่ติดต่อให้เขามาเดินระบบคอมพิวเตอร์โรงแรมของพี่ พี่อยากรู้ว่าเขาจะดูแลเราได้ดีแค่ไหน พี่ว่าเขาใช้ได้ทีเดียว” ปฐวีย์พูดพร้อมรอยยิ้มที่ดูอบอุ่นนั้น



“ไปหาเขาเถอะเมย์ พี่รู้ว่าเรื่องหัวใจใครก็ขอกันไม่ได้ถ้าคนนั้นไม่ได้มีใจ ไปหาคนที่หัวใจเมย์ต้องการ มีเรื่องเดือดร้อนอะไรมาหาพี่ได้เสมอน่ะเมย์ พี่พร้อมจะเป็นพี่ชายที่ดี ของเมย์” พี่ปฐวีย์พูด ผมก็โผเข้ากอดพี่ปฐวีย์อีกครั้ง



******

            รชานนท์ ผมเดินกลับมาว่าจะถามว่าเมย์จะกลับหรือยัง แต่สิ่งที่ผมเห็นคือเมย์เขากอดกันกับพี่ปฐวีย์ ผมเดาได้แล้วว่าใจเขาเลือกอะไร ผมควรจะดีใจที่ได้มาส่งเขาถึงมือคนที่เขารัก ผมเดินออกมาจากงานพร้อมกับโทรหาเพื่อนๆ ผมทันที ผมเองก็ทนอยู่ตรงนั้นไม่ได้เหมือนกัน ตอนนี้เพื่อนๆ ผมและแฟนเพื่อน ก็ไปรอกันที่ผับพี่ธันพี่ชายไอ้ธีมมันเรียบร้อยแล้ว



ผมก็ขับรถออกมาเลย ผมไม่กล้าเดินกลับเขาไปหาเมย์อีก ผมกลัวว่าผมเองจะทนไม่ได้ พอมาถึงก็ตรงไปยังโต๊ะประจำโซนเดิมๆ ของพวกผม ทุกคนหันมามองผมกันหมด เหมือนจะถามว่าเมย์ล่ะ ผมไม่ได้พูดอะไร ผมหยิบน้ำแข็งใส่แก้วและรินเหล้า บลูเรเบลใส่ไปทันที



“มาแบบจัดหนัก เรื่องมันเศร้าขอเหล้าเข้มๆ แบบนี้” ไอ้ธีมมันพูดและมองผมทีกระดกเหล้าดื่ม



“เกิด อะไรขึ้นว่ะ"ไอ้ธีมมันถามผม



“กู ส่งเขาให้คน ที่ดีพร้อมแล้วไง” ผมพูดและกระดกแก้วเหล้าติดๆ จนภาคินเดินเข้ามา มันมองหน้าผม เหมือนมันจะถามอะไรมผมสักอย่าง และจังหวะนั่นโทรศัพท์ผมดังขึ้น เบอร์พี่ปริม



“ว่าไงครับพี่ปริม" อยู่ดีดีผมก็กดสายเธอง่ายๆ ซะอย่างนั้น ไอ้ภาคินมันยิ่งขมวดคิ้วมองผม เพื่อนๆ แต่ละคนก็พากันส่ายหัวให้ผม



“ตั้นฮือๆ ตั้น ฮือๆ " เธอโทรพร้อมกับร้องห่มร้องไห้ แต่ว่าเสียงเพลงมันดัง ผมเลยยกมือขอตัวออกไปคุยด้านอก ผมไม่ได้คุยกับพี่ปริมมาเกือบสองเดือนได้แล้วเหมือนกัน



“ครับพี่ปริม พี่เป็นอะไรครับ" ผมถามคนปลายสาย



“ตั้นฮือๆ พี่ปฐวีย์เขาถอนหมั้นพี่ เขาเลือกเด็กนั้น ฮือๆ เขาทิ้งพี่ ตั้น ฮือๆ " ผมถึงกับต้อง “พ่นลมหายใจออกมายาว มันเจ็บจนจุกที่ได้ยินว่าเมย์เลือกเขา ดังนั้นเขาเลยถอนหมั้นพี่ปริม



“แล้วพี่จะให้ผมช่วยอะไรล่ะพี่ปริม” ผมถามคนปลายสายกลับในทันที



“ตั้นฮือๆ พี่ไม่เหลือใครแล้ว เหลือแค่ตั้น พี่ว่าพี่รักตั้น เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมน่ะตั้น ตั้นอยู่ไหนพี่ไปหา นะตั้น" พี่ปริมพูด จะว่าไปชีวิตผมก็คงกลับสู่วังวนเดิมๆ อีกแล้ว





“ตั้นเด็กนั้นมันเห็นแกบ้านมันดีกว่าตั้นน่ะ ตั้น มันไม่ได้รักต้นน่ะ ดูพี่ซิพี่ยังไม่เห็นแก่ความหล่อความรวยของพี่ปฐวีย์เลยน่ะตั้น “พี่ปริมพูด



“แต่ผมไม่อยาก”



“ตั้นขอพี่ไปรื้อฟื้นก่อนได้ไหม พี่ว่าไม่มีใครรู้ใจตั้นไปกว่าพี่หรอกน่ะ อย่างน้อยก็เห็นแก่ว่าพี่เคยดูแลตั้นมาก่อนช่วงที่ตั้นรู้สึกแย่ๆ จำได้ไหม ตอนนี้พี่ก็รู้สึกแย่เหมือนกัน น่ะตั้น” พี่ปริมอ้อนผม



‘ก็ตามข้อตกลงเหมือนเดิมน่ะ พี่ปริม คือแค่…"



“ได้ซิตั้นพี่ไปหาเลยน่ะ คืนนี้ขอจัดหนักๆ น่ะ แบบถึงใจพี่ตั้นเคยให้" ผมกลั้นใจตอบไป” ก็มาแล้วกันแค่นี้นะพี่ ผมอยู่ผับพี่ธัน เจอกันข้างในเลย” ผมบอกคนปลายสายไป พี่ปริมรีบวางสายและก็คงจะรีบมา ผมหันมาเจอไอ้ภาคินมันยืนฟังผมอยู่



“มึงจะกลับไปหาดี่ปริมเหรอว่ะ ไหนมึงรักเมย์มันไง"



“พี่ปฐวีย์เขาถอนหมั้นพี่ปริมแล้วนั่นแปลว่าคำตอบคือ เมย์เลือกเขาไหมว่ะ”



“กูก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ชอบหรือไง" ผมเดินสวนไอ้ภาคิน



“พี่ปริมเขาจะมากูคงกลับไปกับพี่ปริมก่อนว่ะ วันนี้ พรุ่งนี้วันหยุดด้วย" ผมพูดและเดินกลับเข้าไปด้านในและผมก็กระดกดื่มถี่ๆ พวกนั้นมองหน้ากันโดยไม่กล้าถามอะไรผมสักคำ สาวก็สะกิดและพากันเดินไปหาที่เต้นโยกกัน เพื่อนผมก็ส่ายหัวและเดินออกไปเหลือไว้แค่ผมคนเดียว
------------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณนะคะ คอมเม้นน่ารักแบบนี้มีกำลังใจมาลงบ่อยๆค่ะ :pig4:
ตอนนี้คงไม่ปวดใจกันนะคะ
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.1ุ9( เฮียตั้นVSเมย์)ถ้าเลือกได้อีกครั้งล่ะ เมย์จะเลือก?
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 02-12-2020 19:52:17
 :serius2: :angry2:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.1ุ9( เฮียตั้นVSเมย์)ถ้าเลือกได้อีกครั้งล่ะ เมย์จะเลือก?
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 02-12-2020 22:42:23
อะไร คิดเองเออเอง แล้วยังจะกลับไปโง่อีก โถ่ว้อยย ป๊อดชิบ :angry2:  :m16: :m31: :fire: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.1ุ9( เฮียตั้นVSเมย์)ถ้าเลือกได้อีกครั้งล่ะ เมย์จะเลือก?
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 03-12-2020 11:56:36
รำคาญนังปริม :ling1:
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.20(เฮียตั้นVSเมย์)ผมจะไปทวงของผมคืน (ครึ้งแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 03-12-2020 13:57:42
             เมธานินท์ ผมคุยกับพี่ปฐวีย์ ถึงเรื่องบ้านผมบอกแล้วว่าผมไม่เอาแล้ว ผมกลัวเหลือเกิน กล้วว่าผมจะได้มาและเสียพี่ตั้นไปเพราะว่าบ้านยังอยู่กับพี่ปริม และผมบอกพี่ปฐวีย์ให้ปล่อยมันไปเถอะ พี่ฐวีย์พูดเหมือนเขาก็เจอคนที่พี่เขารักแล้วแต่ใครนั้นผมก็ไม่กล้าถาม ผมเดินออกมาตามหาเฮียตั้นแต่ก็ไม่เจอ ผมล้วงกระเป๋าจะหยิบมือถือก็ไม่ได้เอามาอยู่ในรถพี่ตั้นอีกทำยังไงดีล่ะ ผมมองซ้ายมองขวา ไปไหนของเขาน่ะ ผมเดินวนหาพี่ตั้นไปรอบงาน ส่วนพี่ปฐวีย์เดินกลับเข้าไปคุยกับเลขาฯ คงเป็นเลือกที่จะยกเลิกหมั้นพี่ปริมแน่ๆ ผมเดินวนอยู่พักใหญ่ก็หาไม่เจอ เฮียน่ะเฮีย ไปอยู่ตรงไหนเนี๊ยะ



“ฮัลโหล ฉันจะไปที่ผับ The Bro ที่รัชดาฯ ฉันจะไปหาผัวฉัน ตั้นไง ก็ฉันเพิ่งจะโทรไปเขาบอกนะซิ วันนี้แหละฉันจะได้เขาคืนมาจากเด็กนั้น ฉันแคร์เหรอที่คุณปฐวีย์ถอนหมั้นฉันนนะ ดีใจซะด้วยบ้านก็ได้และจะไปเอาตั้นคืนมาด้วยและตั้นก็เป็นคนบอกให้ฉันไปหาเขาได้เลยตอนนี้ ร้องห่มร้องไห้นิดนึงตั้นก็เห็นใจฉันแล้ว งั้นแค่นี้น่ะแกฉันรีบ “ผมแอบได้ยินพี่ปริมเดินคุยโทรศัพท์ผ่านผมไป หรือว่าพี่ตันคิดว่าผมจะกลับไปหาพี่ปฐวีย์ และนี้ก็ทิ้งผมไปหาพี่ๆ ที่ผับ ชื่อผับ the bro ที่รัชดาฯ ไม่ได้น่ะผมต้องไปเอาของผมคืน ผมจะไม่ยอมอ่อนแอให้เขาอยู่เหนือผมอีกพี่ปริม ตอนพี่ปฐวีย์ผมก็หนีเขาหัวซุกหัวซุน



“พี่ครับ ไปผับตรงรัชดา” ผมควักมือเรียกรถแทกซี่



“ไม่ได้น้องรถติดและพี่ต้องไปส่งรถ “รถแทกซี่ปฏิเสธผม เอาไงดี กลัวไปไม่ทันพี่ปริมผมเสียเขาไปแน่ๆ พี่ตั้น



“พี่ครับ พี่ครับ ผมไปผับ the bro ตรงรัชดาได้ไหมครับผมขอร้อง” ผมพูดขอร้องแทกซี่ที่ผมเรียก แต่ละคันบอกปฏิเสธผมหมดเลย



“ไม่ไปหรอกน้อง รถติดไม่คุ้ม” และผมเรียกไม่รู้กี่คันก็ไม่มีใครไปให้ผมเลย ผมกำลังจะยืนร้องไห้ ผมคงเสียเขาไปให้พี่ปริมจริงๆ แน่ๆ เฮียผมรักเฮียอ่ะ ฮือๆ ผมยืนมองรถแท็กซี่ที่เข้ามาและบางคันก็มีคนวิ่งส่วนผมไปขึ้น แต่ทำไมพอผมบอกจะไปไหนเขาปฏิเสธผมทันทีเลย



“น้อง!” มีคนมาเรียกผมเสียงดัง



“น้องใช่แฟนคนที่โดนยาโด่ไม่รู้ล้มหรือเปล่า พี่จำได้ “พี่คนนั้นเขามองหน้าผม ผมก็งง



“วันนั้นพี่เอาผู้ชายคนหนึ่งเขาโดนยาปลุกเซ็กส์ที่ตรงคอนโด พี่เห็นเราลงมารับเขาไปน่ะ พี่จำเราได้น่ะ “ผมก็ลำดับความก่อนเลย ใช่ซิวันนั้นพี่ตั้นนั่งรถแทกซี่กลับเพราะว่าเขาโดนพี่ปริมวางยา



“ใช่ครับ เออ พี่ผมจะไปหาแฟนผมน่ะ ที่รัชดา ผับชื่อ the bro พี่ช่วยผมหน่อยได้ไหม ถ้าผมไปไม่ทัน ผมเสียเขาไปแน่ๆ ฮือๆ”



“ร้องไห้เป็นเด็กเลย เอางี่พี่ช่วย ขึ้นรถเลย “พี่เขาบอกผม ผมหันไปมองรถแทกซี่ ผมตรงเข้าไปนั่งข้างคนขับทันที ปาดน้ำหูน้ำตา พี่เขาออกรถและหันมามองผมเป็นระยะๆ





“ทะเลาะกันเหรอน้อง แต่วันนันเขาก็รักน้องมากน่ะ ถึงได้ขืนตัวเองไม่มีอะไรกับคนที่วางยาเขาน่ะ” พี่คนขับรถแทกซี่บอกผม



“ไม่ได้ทะเลาะกันแต่เข้าใจผิดกันนิดหน่อยและ ตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นน่ะพี่ เขากำลังะจะไปหาแฟนผม อีกแล้ว ผมกลัวไปไม่ทัน ผมกลัวว่าเขาอาจจะ ฮือๆๆ”



“โอเค โอเค พี่มีทางลัด พี่พาไป” พี่เขาพูดและรีบเลี้ยวเข้าซอยทันที ผมหันมามองพี่เขา แน่น่ะไม่เอาผมไปขายน่ะ



“วันนั้นน่ะ แฟนน้องเขาให้พี่ไปสองพันห้าร้อยบาท เชื่อไหมว่าโคตรมีค่ากับพี่เลย กลับไปถึงบ้าน ลูกพี่ไม่สบาย ไข้ขึ้นสูง ปราฏกว่าเป็นไข้เลือดออก มีตั้งพาลูกไปนอนโรงพยาบาล พี่อยากไปขอบคุณเขาแต่พี่ไปไม่เคยเจอเขาเลย “พี่คนขับรถแทกซี่บอกผม พี่ขับแบบฉวัดเฉวียงมากผมแค่ภาวนาขอให้ไปให้ทันก็พอ





“พี่ครับผมขอยืมโทรศัพท์หน่อยได้ไหมครับ ผมขอโทรหาแฟนผมหน่อยน่ะครับ” ผมบอกพี่เขา พี่เขาก็ส่งโทรศัพท์มาให้ผม ผมกดเบอร์โทรหาเฮียตั้น ติดแต่พี่เขาไม่ยอมรับ อย่าบอกน่ะว่าเบอร์แปลกไม่ยอมรับน่ะ หรือว่าพี่ปริมไปถึงแล้ว ไม่น่ะ ผมก็กดเบอร์ออฟฟิศดู เพื่อว่าจะมีคนอยู่เวรวันนี้ ที่ออฟฟิศพี่ตั้นต้องมีคนอยู่รอรับเรื่องถ้ามีที่ไหนมีระบบคอมพิวเตอร์ขัดข้อง พี่เขาจะได้ไปแก้ไขได้ถ้าด่วนจริงๆ



// ฮัลโหล//



// พี่เมย์น่ะ//ผมไม่รู้ว่าใครรับสายเหมือนกัน



// อาซ้อ ว่าไงครับ//



// มีเบอร์พี่ภาคินไหม พี่ขอหน่อย ด่วนน่ะ//



//ได้ครับอาซ้อ//



“พี่ครับผมขอปากกาหน่อยได้ไหมครับ” ผมถามพี่คนขับ พี่เขาก็หยิบปากกาส่งมาให้ผม



// นี้ครับอาซ้อ 04566454XXX //



//ใจนะ ตรูดดด// ผมรีบกดวางสายและกดโทรหาพี่ภาคินทันที ก่อนจะกดโทรไปผมส่งข้อความไปหาก่อน [พี่ภาคินเมย์จะโทรหาพี่น่ะเบอร์นี้รับสายผมหน่อย นะครับ]



// เมย์ ว่าไง//



// พี่ตั้นละพี่ภาคิน ฮือๆๆ //



//เฮ้ย! เมย์ใจเย็นๆ มีอะไรค่อยๆ พูด //พี่ภาคินถามผมด้วยน้ำเสียงที่ตกใจแต่ว่าเสียงดังเพลงมันดังมากดังมาจากมือถือพี่ภาคิน



//ถือสายรอพี่แป๊บ//



//ผมเกรงใจพี่คนขับรถนะพี่ภาคิน กลัวเงินในโทรศัพท์พี่เขาหมดนะครับ//



//พี่โทรกลับเมย์// พี่ภาคินพูดก่อนจะวางสายไปและผมก็รออย่างใจจดใจจ่อรอสายพี่ภาคิน มือไม้สั่นไปหมดผมกลัวเหลือเกิน กลัวเสียพี่ตั้นไป คราวนี้ผมคงไม่ได้เขาคืนแน่ๆ



Rrrrr มือถือดังขึ้นและผมก็กดรับสายในทันที เสียงไม่ดังมากแล้ว



// เมย์อยู่ไหน//



//ผมอยู่ในรถพี่ภาคิน ผมกำลังจะไปหาพี่ตั้น พี่เขาทิ้งผมไว้กับพี่ปฐวีย์ ฮือๆ ทำไมเขาไม่เชื่อใจผมว่าผมไม่ได้เลือกบุญคุณมากกว่าหัวใจของผม ฮือๆ //



//โอเคเมย์ใจเย็นๆ น่ะ ใกล้ถึงหรือยัง//



//ผมกลัวพี่ปริม เขากำลังจะไปหาพี่ตั้นพี่ภาคิน//



//พี่ได้ยินอยู่น่ะว่านางชะนีนี้จะมา แต่พี่ปริมพี่จัดการเอง เรานะรีบมาน่ะ พี่จะให้คนไปรอรับเมย์ขึ้นมาหาตั้นมัน//



//พี่ภาคิน ผมไม่มีเงินติดตัวเลยอ่ะ ที่ผมจะจ่ายค่ารถแทกซี่นะครับ พี่ภาคิน เพราะว่ากระเป๋าสตางค์ผมกับโทรศัพท์อยู่ในรถเฮียหมดเลย //



//พี่จัดการให้เมย์ ให้เด็กเอาเงินไปรอส่วนพี่จะรอดักพี่ปริมเอง แค่นี้น่ะ //



--------------------------------------------------------------------------------------------------

     รชานนท์ ผมยืนดื่มเหล้าไปหลายแก้ว ออกอาการมึนๆ และสูบบุหรี่ด้วยพ่นควันคุ้งไปหมด ผมรอพี่ปริม เขาโทรมาบอกผมว่าคุณปฐวีย์เลือกที่จะถอนหมั้นเธอแล้ว นั้นแปลว่าเมย์เลือกเขาแล้วไง ผมควรจะดีใจใช่ไหมว่ะ ตั้น ผมหันมามองมือถือของผม แบทจะหมดเต็มทีแต่ว่ามีเบอร์แปลกๆ โทรเขามาหลายครั้งมาก



พี่ปริม//ตั้นพี่ใกล้ถึงแล้วน่ะ รอพี่นะคะคนดี พี่มีรางวัลให้เล่นน่ะวันนี้ของดี// ผมเหลือบมองข้อความในมือถือของผม ใช่บางครั้งผมก็เล่นยากับพี่ปริมแต่ก๋ไม่ติดเพราะว่าผมไม่เล่นบ่อยด้วย (แต่ว่าไม่ใช่ยาปลุกเซ็กส์แบบที่พี่ปริมแกใช้กับผมวันนั้น มันเป็นยาแค่ทำให้ผม มีความสุขเพื่อหลอกตัวเองเฉยๆ) แต่มันแปลกผมกับเมย์เรามีความสุขกันอย่างเป็นธรรมชาติ มันความสุขจนบอกไม่ถูก ผมเอามือประสานกันภาพผมกับเมย์เรามีสัมพันสวาทกัน มันเคลิ้มมาก แต่ว่าเขาเลือกคุณปฐวีย์ไปแล้ว



“ตั้น เปลี่ยนโต๊ะก่อนว่ะ” ไอ้ธีมมันเดินมาหาผม พวกเพื่อนๆ ผมเดินไปเต้นกับแฟนมันกันหมดแล้ว



“ทำไมว่ะ” ผมถามไอ้ธีม



“เออ น่ะ”



“กูนัดพี่ปริมเอาไว้”



“เชื่อกู “ไอ้ธีมมันพูดและหยิบของทุกอย่างบนโต๊ะ ผมก็เดินตามมันไปแบบมึน มึน ผมเหลือบมองโทรศัพท์ผม มันสั้นๆ พี่ปริมแน่ๆ แต่ไอ้ธีมมันแย้งไปถือให้ผม



“” ไปก่อนดิว่ะ” ไอ้ธีมเรียกว่าลากผมออกไปเลยจะดีกว่าพาผมไปอีกห้องหนึ่ง แบบส่วนตัว และเพลงมันก็เนิบๆ ช้าๆ ออกแนวอินดี้



“กูไม่ชอบห้องนี้ กูชอบเพลงมันส์ๆ” ผมทำท่าจะเดินออก “ปึก” ไอ้ธีมมันกระฉากผมกลับมา



“อยู่ห้องนี้เชื่อกู” ไอ้ธีมมันพูดทำน้ำเสียงดุใส่ผม ไม่บ่อยเลยที่คนกะล่อนอย่างมันจะทำแบบนี้กับผม





“มึงอยู่ที่นี้ตรงนี้ ไม่อย่างนั้นมึงจะเสียใจถ้าไม่เชื่อกู” ไอ้ธีมพูด ผมหันมามองหน้ามันแบบไม่เข้าใจ ผมก็ต้องเดินไปหาที่นั่งเป็นโต๊ะกลมๆ และมันก็วางแก้วเหล้าให้ผม ส่วนมือถือผมไอ้ธีมก็ดันเสือกถือติดมือไปอีก แล้วพี่ปริมเขาจะโทรหาผมยังไง แต่ไม่มายด์ ผมว่าเจ้แกมีความสามารถ ผมก็กระดกเหล้าเข้าไปอีก





******



       เมธานินท์ ไม่ถึงครึ้งชั่วโมง รถแทกซี่ก็มาส่งผมที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่ง ที่มีผับอยู่ชั้นบนสุดสูงเสียดฟ้าและมองเห็นวิวทั่วกรุงเทพ ผมออกมาจากรถแทกซี่ พอผมลงมาได้ก็มองหาว่าใครจะเอาเงินมาจ่ายค่ารถแทกซีให้ผม  ตามที่พี่ภาคินบอกกับผมเอาไว้ แต่มองแล้วก็ยังหาไม่เจอเลย



“พี่รอแป๊บหนึ่งนะครับพี่”



“ทำไมเหรอน้อง”



“คือผมนะลืมกระเป๋าสตางค์เอาไว้ที่แฟนผมนะครับและมือถือผมด้วย “ผมบอกพี่คนขับรถ



“ไม่เป็นไรไอ้น้อง พี่เต็มใจมาส่งเราว่ะ”



“ไม่ได้พี่ พี่เสียค่าน้ำมันมา”



“เอาไว้พี่ไปทวงที่คอนโดว่ะ จะไปขอบคุณแฟนเราด้วย ไปน่ะ โชคดี” พี่เขาพูดและออกรถในทันที ผมหันซ้ายแลขวา ผมเห็นมีเสียงเอะอะโหวกเหวกโวยวายอยู่ตรงทางเข้า ผมจำได้ดี นั้นมันเสียงพี่ปริมเขาเข้ามาถึงแล้ว มีรถออกมาจอดเกะกะขวางทางรถของพี่ปริมอยู่ ไม่ให้นางเข้า



“พี่เมย์” โบว์วิ่งมาแตะที่ต้นแขนของผม 



“เร็วพี่ พี่ธีมเขากันพี่ตั้นไปรออีกห้องหนึ่งแล้ว รีบไปน่ะ “โบว์บอกผม และลากแขนผมไป ส่วนพี่ปริมก็เดินหน้ามุ่ยลงมา ผมกับโบว์รีบวิ่งไปที่ลิฟต์ และกดลิฟต์กันแบบรัวๆ เลย แต่ลิฟต์ยังอยู่ที่ชั้นที่สิบกว่าอยู่เลย





“โง่จริงก็เอารถออกไปจอดข้างนอกก่อนซิถ้ามันเข้าไม่ได้น่ะ มีสมองไว้แค่กั้นหู เดี๋ยวกูก็ให้พ่อกูไล่ออกให้หมดเลย!!! “เสียงพี่ปริมตามมาติดๆ ลิฟต์กำลังลงมา ตอนนี้อยู่ที่ชั้นที่ห้า ผมก็ภาวนาะขอให้ลิฟต์มาถึงก่อนพี่ปริมเถอะ ได้โปรด!! โบว์ก็บีบมือผมไว้ด้วย



“เราต้องทันพี่เมย์” โบว์หันมาพูดกับผม



“คุณปริมคนสวย”



“ไม่มีเวลาคุย”



“คุยกับผมแป๊บหนึ่งนะคุณปริม วันนี้จะมาผับผมทั้งที ทำไมไม่โทรบอกผมล่วงหน้าละครับ ผมจะได้หาพรมเช็ดเท้าไปรอรับ เอ๊ย พรมแดงไปรอรับหน้าประตู”



“ก็บอกไม่มีเวลาไงออกไป ขวางอยู่ได้ นี้เป็นบ้าอะไร เมียมีงทิ้งหรือไง ”



“ตึ้ง” เสียงลิฟต์มาพอดีเลย ผมกับโบว์รีบวิ่งเข้าไปในลิฟต์



“ปึกๆๆๆ” โบว์กดปิดลิฟต์อย่ารัวมากเหมือนไม่กลัวว่ามันจะพัง ผมเห็นพี่ปริมพยายามเดินหนีใครสักคนที่กำลังดึงรั้งเธอไว้อย่างหัวเสีย แต่เขาก็ไม่ยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ จนกระทั่งลิฟต์ปิดลง



“เฮ้อ!! หัวใจหนูจะวายพี่เมย์!!” ผมก็กุมหัวใจตัวเองเหมือนกัน



“รู้ไหมคนที่พยายามดึงรั้งอีเจ้ไว้นะใครรู้ไหมพี่”



“ใครเหรอ” ผมหันไปถามโบว์



“พี่ธีย์ พี่ชายของพี่ธีม ” ผมพยักหน้าคงเป็นเจ้าของผับซิน่ะตอนนี้ลิฟต์กำลังขึ้นไป แต่ดันมาหยุดรับคนอีกสองสามชั้น มือผมประสานกันไว้ ขออย่าให้พี่ปริมไปถึงก่อนเลย ผมได้แต่ลุ้นจนกระทั่ง มาถึงชั้นที่โบว์บอกผมว่าเป็นชั้นของผับพี่ธัน ผมกับโบว์เดินออกมาจากลิฟต์ทันทีที่ลิฟต์เปิดได้แค่ครึ้งเดียว คือผมกลัวจะไม่ทัน และทันใดนั้น ลิฟต์อีกข้างก็มาถึง และนั้นพี่ปริมเดินออกมาเธอเปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้วเป็นแซกสั้นมากรัดรูป สั้นมากคลุมก้นเธอมาหน่อยเท่านั้นเอง เธอหันซ้ายแลขวา โบว์จับผมหันหลัง เพื่อไม่ให้พี่ปริมเห็น

TBC.....Soon!!!
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.20(เฮียตั้นVSเมย์)ผมจะไปทวงของผมคืน (ครึ้งแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 03-12-2020 15:08:31
 :hao7: :angry2:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.20(เฮียตั้นVSเมย์)ผมจะไปทวงของผมคืน (ครึ้งแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 03-12-2020 17:17:05
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.20(เฮียตั้นVSเมย์)ผมจะไปทวงของผมคืน (ครึ้งแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 03-12-2020 20:11:04
 :hao7:
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.20(เฮียตั้นVSเมย์)เลือกใหม่อีกกี่ครั้งผมก็จะเลือกคนนี้
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 03-12-2020 20:11:31
                    เมธานินท์ ผมกับโบว์เดินออกมาจากลิฟต์ทันทีที่ลิฟต์เปิดได้แค่ครึ้งเดียว คือผมกลัวจะไม่ทัน และทันใดนั้น ลิฟต์อีกข้างก็มาถึง และนั้นพี่ปริมเดินออกมาเธอเปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้วเป็นแซกสั้นมากรัดรูป สั้นมากคลุมก้นเธอมาหน่อยเท่านั้นเอง เธอหันซ้ายแลขวา โบว์จับผมหันหลัง เพื่อไม่ให้พี่ปริมเห็น

“เจ้ปริม หวัดดีครับ”

“ตั้นอยู่ไหน!!” เสียงที่ทรงพลังของพี่ปริม ผมหันมามองหน้าโบว์เอาไงดี

“เออ เจ้ใจเย็นๆ”

“ฉันถามว่าตั้นอยู่ไหน!!”

“ก็อยู่ห้องเดิมไง มันชอบเพลงมันๆ เจ้ก็รู้ดังนั้นโซนเพลงอินดี้ไม่ต้องไปดูหรอกมันไม่เคยโผ่หัวไป “ผมหันมามองหน้าโบว์ จังหวะนั้นมีคนกลุ่มคนเดินผ่านมาพอดี โบว์ดึงแขนผมออกวิ่งแทรกเข้าไปรวมกับกลุ่มนั้นจนไปอยู่ตรงกลาง เขาก็มองผมสองคนแต่ก็ไม่ว่าอะไรคงเข้าใจสถานการณ์ดี จนผ่านพ้นไป โบว์ก็ดึงผมออกและวิ่งแยกไปอีกทาง โบว์วิ่งลากผมไปจนไปถึงโซนหนึ่ง มันเป็นเพลงแนวแบบ สบายๆ ผมหันมามองหน้าน้องโบว์

“หนูรักพี่เมย์น่ะ หนูว่าพี่เมย์เหมาะกับพี่ต้นมากกว่ายายเจ้นั้น โชคดีน่ะ อาซ้อของโบว์” โบว์บอกผม ผมพยักหน้าก่อนที่ ผมเดินเข้าไปในด้านใน เดินไปเรื่อยจนสุดห้องนี้เป็นห้องยาว มีโต๊ะนั่งดื่มและฟังเพลงเป็นมุมของคนรักซะมากกว่า ผมก็เห็นผู้ชายคนที่ผมตามหา เขาถอดเสื้อสูทออกแล้วเหลือแค่เสื้อยืดพอดีตัวแต่ผมก็ยังจำเขาได้ดี เฮียต้นที่ยืนกระดกดื่มเหล้าอยู่ ผมเดินไปเรื่อยๆ จนมาหยุดที่ด้านหลัง และ

“หมับ” ผมกอดพี่ตั้นจากด้านหลัง

“เฮียทิ้งผมทำไม ฮือๆ” น้ำในตาผมมันพรั่งพรูออกมาจนรู้สึกเปียกชื้นที่เสื้อคนที่ผมยืนกอดเขาอยู่ พี่ตั้นกับนิ่งไม่ได้ขยับเขยื้อนไปไหนเขาปล่อยให้ผมกอดอยู่แบบนั้นหลายนาที

“เมย์ มาทำไม ไหนเมย์” พี่ตั้นถามผม

“ผมเลือกหัวใจตัวเอง ผมรักเฮีย ผมไม่อยากได้แล้วอ่ะ บ้านนั้นน่ะ ผมไม่อยากเสียเฮียไป อย่าทิ้งผมฮือๆ “ผมพูดไปก็ร้องไห้ไปด้วย

“ไหนเฮียบอกจะไม่ทิ้งผมไง ฮือๆ ตอนนี้ผมรักเฮียไปแล้วน่ะ ฮือๆ”

“ฟู่” เสียงคนที่ผมกอดอยู่เขาพ่นลมหายใจออกมายาวๆ

“ไหนเฮียบอกว่าให้ผมอยู่กับเฮียไง ฮือๆ” ผมพูดทั้งน้ำตา

“แน่ใจน่ะ ว่าเลือกเฮียน่ะ” เฮียตั้นถามโดยไม่ได้หันมามองหน้าผม

“ฮึกๆ” ผมพยักหน้ากับแผ่นหลังนั้น

“คราวนี้เฮียไม่ปล่อยให้ไปแล้วน่ะเมย์ ถ้าเลือกเฮียน่ะ” พี่ตั้นพูดก่อนจะหมุนตัวเองมาหาผม เฮียตั้นจับไหล่ผมไว้ ผมเงยหน้าขึ้นมองน้ำตาก็หนองใบหน้า ผมรู้สึกว่ามีนิ้วมือมาปาดน้ำตาผมจนเหือดแห้งไป ภาพเฮียตั้นมันชัดเจนมากขึ้นผมก็โผเข้ากอดทันที และพี่ตั้นก็กอดผม พี่ตั้นใช้ฝ่ามือประคองใบหน้าผมขึ้นมาและกดริมฝีปากไม่หนาไม่บาง ลงมาทาบทับที่ริมฝีปากบางๆของผม และผมเองก็เผยอปากรอรับอย่างไม่เขินอายเหมือนเช่นทุกครั้ง  ไม่รู้ว่านานแค่ไหนพี่ตั้นถึงได้ถอนริมฝีปากของเขาออก

“อย่าทิ้งผมอีกน่ะ ฮึกๆ”

“โอ๋ๆเฮียขอโทษ ก็เฮียเห็นเรากอดคุณปฐวีย์เฮียก็คิดว่าเมย์คงจะ…เลือกเขานะซิแถมพี่ปฐวีย์ก็ถอนหมั้นเจ้ปริมทันทีอีก เฮีย…. “พี่ตั้นพูดพร้อมกับกอดผม ฝ่ามือหนาๆ นั้นลูบหัวผมไปด้วย

“ผมกอดเขาก็ไม่ได้กอดอย่างคนรักซะหน่อย ฮึก ๆ” ผมยอมรับว่าผมคงเหมือนเด็กน้อย ณะ ตอนนี้

“ไม่ร้องนะตัวเล็ก เฮียขอโทษ เฮียแค่ กลัวมากไป กลัวเสียเมย์มากไป” พี่ตั้นพูด พร้อมกับกระชับผมเข้าไปกอด

“เฮียแค่ทนอยู่ตรงนั้นไม่ได้ เพราะว่าถ้าครั้งนี้เฮียต้องเสียเหมือนพี่อิศเรศเฮียคงแย่มาก ตัวเล็ก “พี่ตั้นพูดและกอดผมเอาไว้ ครั้งนี้มันแน่นจนผมรู้ถึงการเต้นของหัวใจของเฮียที่แรงมากผมเองก็พอๆ กัน

“ผมไปไหนไม่ได้นะเฮีย เพราะว่า “พี่ตั้นมองหน้าผม

“หัวใจผมอยู่ที่เฮีย และผมก็เลือกหัวใจผม เหมือนที่พี่อิศเรศเลือกหัวใจตัวเองเหมือนกัน และต่อให้ผมเลือกใหม่อีกกี่ครั้งผมก็ยังเลือก…” ผมพูดพร้อมกับ “ผู้ชายคนนี้ “ผมชี้ที่พี่ตั้น

“พอแล้ว เฮียไม่ยอมให้ตัวเล็กไปไหนแล้ว อยากไปก็ไม่ยอมแล้วคราวนี้ อื้อมมม” พี่ตั้นจูบผม ผมก็ยกแขนขึ้นโอบรอบคอพี่ตั้น ลิ้นนุ่มๆ ถูกสอดแทรกเข้าไปภายในช่องปากนั้น เพื่อควานหาความหวานที่มีรสชาติขมๆ ปะปนอยู่ ก็เหมือนความรักของผมกับเฮีย มีหวานบ้างๆ ขมบ้างแค่ผมกับเขาจะไม่ปล่อยมือกัน


“ตั้น!!” เสียงที่ทำให้ผมสะดุ้ง คนนั้นคือพี่ปริม เขาเข้ามายืนอยู่ด้านหลังผมสองคน

“นี่อะไรกัน ไหนตั้นบอกให้พี่มาหาไง แล้วไอ้เด็กนี้ล่ะ ตั้นออกมาจากเด็กบ้านี้น่ะ” พี่ปริมชี้มาที่ผม

“หมับ” แต่พี่ตั้นดันผมไปไว้ด้านหลังเขาแทน

“พี่ปริม ผม เออ ผมขอโทษ ตอนแรกผม .. “พี่ตั้นทำท่าจะพูด พี่ปริมมองหน้าผม เธอกำหมัดแน่น

“ไม่รู้ล่ะ ตั้นต้องไปกับพี่!!”

“พี่ปริม!!”

“ทำไมละตั้น พี่เป็นอิสระแล้วน่ะ ตั้นพี่พร้อมจะเป็นแฟนของตั้น ที่ผ่านมาพี่แค่ต้องยอมทำเพื่อพ่อจริงๆ แล้วพี่รักตั้นน่ะ พี่รักตั้นได้ดีกว่าไอ้เด็กนี้” พี่ปริมพูดและชี้มาที่ผม

“ผม เออ ผม ขอโทษครับพี่ปริม ตอนนี้ผม ผมมีเมียแล้ว เมย์เขาเป็นเมียผม ตอนนี้”

“แล้วพี่ล่ะ! ก็เมียตั้นน่ะ มาก่อนมันด้วย” พี่ปริมพูด

“พี่ปริม ผมมีมาก่อนพี่ตั้งหลายคนน่ะ พี่ไม่ใช่คนแรกของผม และที่ผมกับพี่คุยกันแค่ความสนุกแค่คู่ขา อย่างที่เราคุยกัน”


“แต่ตอนนี้ผมกับเมย์ มันคือ คู่ชีวิต ผมเลือกเมย์แล้วและเมย์ก็เลือกผมพี่ปริม “พี่ตั้นพูด

“ผมขอโทษพี่ปริม ผมผิดเอง แต่ตอนนี้ผมรักเมย์”

“พี่รักตั้นแล้วน่ะ พี่ยอมที่จะทำให้คุณปฐวีย์เขาโกรธและขอถอนหมั้นพี่ พี่ยอมให้พ่อพี่เสียหน้า เพื่อมารักกับตั้นอีกครั้ง! ทำไมตั้นทำกับพี่แบบนี้!”

“ที่ผ่านมาผมไม่ได้รักพี่ และอันที่จริงผมคบกับผู้หญิงแค่ เรื่องอย่างว่า เพราะว่าผมชอบผู้ชายมาตั้งนานแล้ว พี่ปริม” พี่ตั้นพูด

“พี่ไม่ยอม! พี่ไม่ยอม!”

“ไอ้เด็กนี่ใช่ไหม พี่จะเล่นงานมัน “พี่ปริมจะเข้ามาทำร้ายผมแต่พี่ตั้นเอาตัวกันผมไว้แบบกอดผม พี่ปริมก็ยิ่งโมโหมากขึ้น แต่เธอก็พยายามจะตีผมด้วยกระเป๋าถือที่เป็นเหมือนกล่องเหล็กแต่พี่ตั้นก็ใช้แขนปกป้องผม

“หยุด! “เสียงที่ทำให้พี่ปริมหยุดชะงัก จนต้องหันกลับไปมอง คนนั้นคือพี่ชายของไอ้ธีม เขาเดินเข้ามาหยุดมองผมกับพี่ปริม

“หยุดอาละวาดในผับของผมได้แล้ว คุณปริม!!”

“นี้คุณเป็นบ้าอะไรของคุณน่ะ คุณเมายามาหรือไง”

“คุณปริมผมเตือนคุณหลายครั้งแล้วน่ะ ว่าห้ามมารบกวนแขกของผม เขาต้องการความสงบแม้จะในสถานบันเทิงแบบนี้ก็ตาม”

“ก็ฉันมาตามผัวฉัน”

“อายปากนิดหนึ่งน่ะชะนี “ภาคินพูดพี่ปริมหันไปมองพี่ภาคิน “เขาไม่ใช่ผัวเธอแล้ว” พี่ภาคินพูดอีก

“อ้อผัวเก่า และในตอนนี้ เขามีเมียใหม่แล้ว” คนที่เดินข้ามาคือพี่ภาคิน

“ฉันมาก่อนไอ้เด็กบ้านี้ มึงเองก็อยากได้ตั้นมัน มึงอย่ามาทำปากดีเลย ทำไมกูจะไม่รู้” พี่ปริมพูด พี่ภาคินกำหมัดและคงจะเข้าใส่แต่พี่อีกคนยกมือห้ามพี่ภาคินเอาไว้

““มันไม่สำคัญหรอก มันสำคัญที่ว่าไอ้ตั้นเลือกใคร ถ้าให้ไอ้ตั้นมันต้องมานั่งเรียงลำดับคนมาก่อนมาหลัง เพื่อยกตำแหน่งเมียของมันให้น่ะ มึงก็ไม่ได้อยู่ดี พี่ปริม เพราะว่ามึงนะคู่นอนลำดับที่หนึ่งร้อย” พี่ภาคิน ผมเงยหน้าขึ้นมองเฮีย เฮ้ย! พี่ตั้นยิ้มเจือนๆ มาให้ผม

“บัตรคิวลำดับที่ร้อยเลยเหรอมึง” พี่ที่เข้ามาห้ามหันไปถามพี่ภาคิน พี่ภาคินยักคิ้วให้

“หาผัวใหม่เถอะง่ายกว่า” พี่ชายพี่ธีมพูด


“ไอ้…” พี่ปริมทำท่าจะด่า ก่อนจะหันไปมองรอบ ผมก็นึกสงสารนางอยู่น่ะ นางกำลังโดนลุม


“อย่าได้คิดอยากลองกับพวกกูพี่ปริม ตอนนี้มึงอยู่คนเดียว “พี่ภิคนพูด พี่ปริมมองไปรอบๆ ประตูทุกด้านปิดหมดแล้ว พวก พี่ธีม พี่เปรมดิ์ พี่ทีน พี่กอล์ฟและพี่อาร์ม พวกสาวๆ และเฟย์ก็เดินเข้ามาเช่นกัน

“เอาไง มึงจะเดินสวยๆ ลงไปหรือว่ามึงจะให้ลูกน้องมึงมาหิ้วปีกลงไปเจ้ปริม” พี่ภาคินถาม

“กูยืนหันหลังนี่คือไม่เห็นอะไรนะโว้ย งดเป็นพยาน” พี่คนที่เป็นเจ้าของผับพูด

“ไอ้….กูไม่อยากเสียเวลากับมึง “พี่ปริมพูดก่อนจะหันมาคว้าและดึงแขนพี่ตั้น

“ไม่ ตั้น ต้องไปกับพี่!! วันนี้พี่มาแล้วพี่ต้องพาตั้นไปกับพี่!!” พี่ตั้นก็พยายามสะบัดนางให้ออก ผมรู้ว่าพี่ตั้น เองก็คงดื่มไปหลายแก้วอยู่ผมเลยต้อง

“ปึก” ผมเป็นฝ่ายกระฉากพี่ปริมออกแทนและ “เพี๊ยะ!” ผมฟาดฝ่ามือลงที่แก้มของเธอ

“ว้าว! “เสียงร้องว้าวพร้อมเพรียงกัน พี่ภาคินมองผมเขายกนิ้วโป้งให้ผม ผมเองควรจะออกมาปกป้องของที่ผมรักบ้าง เพราะว่าที่ผ่านผมก็ยอมไปหมด

“อีเมย์ นี่มึงกล้าตบกูเหรอ มึงรู้ไหมกูลูกใคร กูลูกคนที่กำโฉนดบ้านมึงอยู่” พี่ปริมพูด

“ผมไม่เอาแล้วบ้านน่ะ คุณอยากได้ก็เอาไปเลย แต่ผมไม่ยอมเสียพี่ตั้นไป “ผมพูด ตั้นเขาดึงผมเข้าไปกอดเหมือนจะห้ามผม “อย่าไปตบเขาตัวเล็ก เจ็บมือ” พี่ตั้นกระซิบกับผม

“ได้ วันนี้มึงได้เจอดีกับกูแน่ “พี่ปริมจะเข้ามาใส่ผมแต่ว่า

“ลองซิพี่ปริม!!” สาวๆ เดินมาขวางพร้อมกับง้างมือกันเป็นแถว ทำเอาพวกพี่เปรมดิ์ พี่ทีน พี่อาร์มหันมามองหน้ากัน

“พี่เมย์ไม่ต้อง!  เพราะถึงยังไงพี่เมย์ก็เป็นผู้ชาย มันน่าเกลียด ตบกับผู้หญิงด้วยกันนี่ มาซิ ที่ผ่านมาที่กูไม่ทำน่ะเพราะว่ากูเห็นแก่พี่ตั้น แต่วันนี้ มึงเจอมวยไทยพ่อกูแน่” เบนซ์พูด พี่ปริมลุกขึ้นมาได้ ก็ต้องหันไปมองซ้ายมองขวา

“วันนี้ขอเมียสวมบทนางร้ายคุณกิ๊ก สุวัจนีย์หนึ่งวันนะคะผัวขา  ซึ้งปกติไม่ทำ ปกติเป็นแอฟ ทักษอรค่ะ”

“แอฟเปลี่ยนไป ปกติไม่ใช่ไซ้นี่นะ ” พี่ทีนพูดและหันมามองมัดหมี่

“ถูกกักตัวช่วงโควิด19 น้ำหนักแอฟเลยขึ้น ” มัดหมี่พูด

“ไอ้เฟย์ออกมา เขาเอาแต่สาวๆ มึง” พี่เปรมดิ์เรียกเฟย์ที่มายืนกางมือรอเข้าแถวเรียวกับสาวๆ

“หนูก็สาวค่ะพี่เปรมดิ์ อันที่จริงหนูก็แอ๊บค่ะ แต่แอ๊บแมนค่ะ” เฟย์หันไปตอบพี่เปรมดิ์ “แป๊ะ แป๊ะ แป๊ะ” แตะมือกับสาวๆ

“โอ้พระเจ้าช่วย ใครก็ได้ช่วยเอากล้วยน้องไปทอดทีเถอะ” พี่ธีมพูด แต่คนฟังอย่างเฟย์ถึงกับหนีบขา

“ยังทำจิมิค่ะพี่ คุณพ่อยังไม่อนุญาตค่ะ  ขอเก็บเอาไว้ก่อน” เฟย์พูด

“ฉิบหายแล้วกูตกลงเมียมึงเป็นอะไรไอ้กอล์ฟ!!” พี่ทีน

“เมียกูเป็น กะเทยว่ะ ฮาๆ “พี่กอล์ฟพูดก่อนจะหันหัวเราะเพื่อนๆ ที่ยืนทำหน้าเหวอกันหมด

“เดี๋ยวขอฉันติดกิ๊ฟนิดนึงน่ะเธอ จะได้ตบแบบสวยๆ อ่ะ” เฟย์พูดพร้อมกรี้ดนิ้วงามๆ ติดกิ๊บที่หัว

“เติมปากหน่อยไหมอ่ะเฟย์ ปากซี้ด เพื่อว่ามีใครกำลังถ่ายคลิปตอนตบเจ้เขา เราจะได้สวยตอนอยู่บนยูทูป” โบว์ส่งลิปสติกให้และเฟย์ก็ไปทาปาก ทำปากจู๋ด้วย และสาวๆ ก็หันมาตั้งท่ารอ พี่ปริมค่อยๆ ถอยหลังออก กลืนน้ำลายลงคอด้วย

“เอ้าเจ้! ไม่เข้าไปละ น้องเขาพร้อมมาก เหมือนรอตบลูกวอลเลย์บอลหน้าเน็ตเลยเจ้! ฝ่ามือเรียงกันเป็นตับขนาดนี้” พี่อาร์มหันไปถามพี่ปริม

“เข้าไปให้พวกมันตบกูเหรอ ไอ้เชี้ย!” พี่ปริมหันไปด่าพี่อาร์ม

“เอายังไงครับพี่ปริม จะลงไปดีดีไหมครับ ถึงยังไงผมก็ยังเห็นแก่ว่าพี่ปริมเคยเป็นลูกค้าชั่นดีของผมแต่ถ้าพี่ปริมยังดึงดันจะมีเรื่อง ผมจะได้ให้ใครไปเลียก รปภ..มาพาพี่ลงไปแทน” พี่อีกคนผมจำได้เขาคือคนที่พยายามคุยกับพี่ปริมตอนที่อยู่ที่ชั้นล่าง

“ไอ้ธีม เรียกรปภ ให้กูทีดิว่ะ แล้วบอกเขาว่ามีคนเมาแล้วเสียสติอาละวาดมากลากลงไปทีดิว่ะ”

“เอางั้นเลยเหรอเฮีย” พี่ธีมถามพี่ชายตัวเอง

“ไม่ต้อง!! กูเดินลงไปเองได้” พี่ปริมพูด ก่อนจะหันมามองผมกับพี่ตั้น

“ตั้นจะต้องเสียใจที่ทำกับพี่แบบนี้ และเด็กนั้นมึงจะต้องเจอกูอีกเยอะ ไอ้เด็กบ้า”

“พวกมึงคอยดูพ่อกูจะมาจัดการพวกมึงแน่!!” พี่ตั้นกอดผมเอาไว้ และลูบหัวผมเบาๆ พี่ภาคินหันไปยกมือไหว้ขอบคุณพี่ชายพี่ธีมสองคนที่ยืนอยู่นี้

“กูเตือนมึงตั้งแต่แรกแล้วว่าอย่าไปยุ่งกับอีเจ้ปริมไอ้ตั้น เป็นไงล่ะ น่ากลัวฉิบหาย แม่งสวยแต่รูปจูบไม่หอมก็อีเจ้ปริมนี้แหละ”

“ดีนะที่กูห้ามเมียกูไม่ให้ลงมาอีกคน ไม่งั้น อีเจ้ปริมได้ถูกลากลงไปแน่ๆ” พี่ชายพี่ธีมพูด ก่อนจะเดินออกไปกัน

“ขอบใจว่ะพวกมึง” พี่ตั้นพูดขอบใจเพื่อนๆ

“เรารักอาซ้อน่ะ พี่ตั้น “มัดหมี่พูด

“เออ ต่อไปมึงคงต้องดูแลเมย์ให้มากขึ้นว่ะ นางนี้คงเริ่มออกฤทธิ์ได้แล้วว่ะ ที่ผ่านมันคงเกรงกลัวพี่ฐวีย์อยู่ “พี่ภาคินพูด ก่อนจะเดินหันหลังออกไป ผมหันมามองหน้าพี่ตั้น ผมกอดพี่ตั้นเอาไว้ ดูท่าพี่ตันจะมึนๆ

“ไหวไหมพี่ตั้น” ผมกระซิบถามพี่ตั้น พี่ตั้นพยักหน้าตอบผม

“จะอยู่ห้องนี้หรือว่าจะไปห้องโน้นว่ะมึง” พี่ธีมหันมาถาม พร้อมกับส่งมือถือมาให้พี่ตั้น ผมก็มองมิหน้าล่ะผมโทรหาพี่ตั้นไม่ติดเลย

“พี่เก็บเอาไว้เพื่อว่าอิเจ้มันจะโทรrมาถามหาตั้นน่ะ “พี่ธีมพูด พี่ตั้นโบกมือว่าไม่ไป พี่ธีมพยักหน้าก่อนจะเดินออกไปแทน ตอนนี้เหลือแค่ผมกับพี่ตั้นสองคน

“แล้วทำไมเมย์ไม่โทรหาพี่ล่ะ” พี่ตั้นถามผม

“ผมลืมเอาไว้ในรถพี่ตั้นอ่ะ ลืมกระเป๋าสตางค์ด้วย “ผมพูด พี่ตั้นทำสีหน้าตกใจ

“แล้วเมย์มายังไงครับ” พี่ตั้นถามผม ผมช้อนตาขึ้นมองพี่ตั้นก่อน

“พี่จำคนที่ขับรถแทกซี่ไปส่งพี่วันที่พี่เมย์วางยาพี่ได้ไหมครับ พอดีผมเจอเขาอ่ะ และถ้าไม่ได้เขาผมเสียพี่ไปให้พี่ปริมแน่ๆ เพราะว่าไม่มีรถแทกซี่คันไหนอยากมาให้ผมเลย ผมยืนร้องไห้เลยอ่ะพี่ตั้น” ผมพูด

“โธ่เอ๊ยเมย์” พี่ตั้นพูดพร้อมกับเอามือลูบหัวผม ผมก็กอดพี่ตั้น ตอนนี้เพลงรักกำลังถูกเปิดอีกครั้ง เขาหยุดไปสักครูช่วงที่มีเรื่องกัน เพลง All of me

“พี่ดื่มไปเยอะเหรอพี่ตั้น” ผมกระซิบถาม

“อืมม พี่ดื่มแบบเพรียวๆเลยอ่ะเมย์” พี่ตั้นบอกผม ฟังจากน้ำเสียงของพี่เขาบ่งบอกได้ว่าพี่เขาเมาแล้วแหละแต่ดีที่ยังพยายามเรียกสติตัวเอง

“น้ำเย็นว่ะ จะได้ดีขึ้น แม่งเล่นกระดกเพรียวๆ ไม่เกรงใจพวกกูเลย เหล้าหมดขวดอดแดกเลยกู” พี่เปรมดิ์เดินเอาน้ำเย็นจัดมาให้ ผมก็รับมาส่งให้พี่ตั้น

“ใจว่ะ” พี่ตั้นพูด ผมหันไปยิ้มให้พี่เปรมด์

“คนรักที่ดีมันต้องเกื้อหนุนกันว่ะ ทำให้มึงดีขึ้นไม่ใช่ทำให้มึงดิ่งลง แบบที่เจ้ปริมมันเคยทำกับมึงไอ้ตั้น มึงรู้ดี “ผมหันมามองหน้าพี่ต้น พี่ตั้นหันไปพยักหน้าตอบพี่เปรมดิ์ และหันมารับแก้วน้ำไปดื่ม

“จะกลับแล้วบอกพวกกูว่ะจะไปส่ง “พี่เปรมดิ์พูด พี่ตั้นกระดกแก้วน้ำเปล่าดื่มอย่างต่อเนื่อง

“เมย์รู้ไหมว่าทำไมพวกเพื่อนๆ พี่ไม่อยากให้พี่ไปยุ่งกับพี่ปริม”

“หึ” ผมส่ายหัว

“เวลาพี่ไปหาพี่ปริม พี่อัพยา” ผมก็ต้องสะบัดหน้ามามองพี่ตั้น

“แล้วยาปลุกเซ็กส์ที่พี่โดนไปวันนั้นล่ะ”

“ไม่ใช่ คนละอย่างกัน ยาที่พี่อัพแค่ทำให้พี่เคลิ้มๆ เหมือนอยู่ในโลกที่แปลกๆ มีความสุขแบบแปลกๆ แต่ไม่ใช่ต้องการมีเซ็กส์ แต่ที่ทำเพราะว่าก็น่ะ ผู้ชายพออยู่กับผู้หญิงสองต่อสองก็ต้องมีอารมณ์บ้าง” พี่ตั้นพูด ผมพยักหน้าแบบเข้าใจ "ยาปลุกเซ้กส์น่ะครั้งนั้นครั้งแรกในชีวิตพี่เลยน่ะ โคตรไม่ประทับใจเลย" พี่ตั้นพูด

“พี่ขอโทษนะเมย์ ที่พี่ไม่เคยบอกเรื่องนี้กับเมย์  แต่มันแค่ความสุขที่หลอกลวงไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง เหมือนเวลาที่พี่อยู่กับเมย์ พี่ไม่แปลกใจเลยน่ะว่าทำไมพี่รักเมย์ เพราะว่าเมย์ทำให้พบความสุขที่มีอยู่จริงจาก “พี่ตั้นพูด มันทำให้ผมยิ้มให้คนตรงหน้า “คนตรงหน้าพี่” พี่ตั้นพูด ผมปาดน้ำตาเลยอ่ะมันซึ้งอ่ะ


“สัญญากับผมน่ะพี่ตั้น ว่าจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับมันอีก ทำเพื่อผมน่ะ” ผมพูด

“พี่สัญญา” พี่ตั้นพูดและกอดผม ผมก็กอดพี่ตั้นตอบ

“พี่หาอะไรอ่ะพี่ตั้น” ผมถามพี่ตั้น พี่เขาหันซ้ายหันขวาและล้วงกระเป๋าด้วย

“พี่ไม่ได้เอาเสื้อสูทออกมาจากรถอะเมย์” พี่ตั้นพูด

“พี่หนาวเหรอ เอาเสื้อผมสวมทับไปก่อนก็ได้น่ะ พี่จะได้อุ่น” “ผมพูดและถอดเสื้อสูทผมออกไปคลุมให้พี่ตั้น พี่แกคงใส่ไม่ได้หรอกเพราะว่ามันไซ้มินิ แต่พอจะคลุมไหล่ได้บ้าง

*******
 :pig4: :pig4: :pig4:
ว่าจะลง NC ไปด้วยแต่ขอเอาไว้พรุ่งนี้จะดีกว่า ขอบคุณกำลังใจให้คนแต่งนะคะ อยู่ด้วยกันไปจนจบเลยนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.20(เฮียตั้นVSเมย์)เลือกใหม่อีกกี่ครั้งผมก็จะเลือกคนนี้
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 03-12-2020 21:05:37
 :haun :pighaun:4:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.20(เฮียตั้นVSเมย์)เลือกใหม่อีกกี่ครั้งผมก็จะเลือกคนนี้
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 03-12-2020 21:32:07
เมย์ทำไมบ่อน้ำตาตื้นจัง อะไรก็ร้องไห้ มันควรจะโกรธมากกว่าไหม ไหนว่ารักนักหนา แต่ไม่เห็นทำอะไรเพื่อรักเลย เอาจริงๆ ป๊อดมาก และมันเป็นการดูถูกความรักด้วย  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.21(เฮียตั้นVSเมย์) Will you marry ?
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 05-12-2020 20:59:00
                รชานนท์ ผมยอมรับน่ะว่าผมกลัวที่จะเสียเมย์ไป เหมือนตอนที่ผมเสียพี่อิศเรศไปแต่ใจผมก็คิดว่าควรจะให้เขาอยู่กับคนที่ดีพร้อมดีกว่าไหมแต่สุดท้ายตัวเล็กก็เลือกที่จะกลับมาหาผม ร้องไห้ขี้มูกโป่งมาขนาดนี้ เฮียจะใจแข็งได้ยังไง และโชคดีที่ผมไม่ไปกับพี่ปริมซะก่อน ทั้งที่บอกให้เขามาหาผมแล้วน่ะ ถ้าผมไปกับเขา ในสภาพแบบนี้ ผมคงได้มีอะไรกับเขาอีก ผมโอบเอวตัวเล็กพิงอยู่ในลิฟต์ กอล์ฟมันขับรถผมพาผมกลับมาส่วนรถมันเองมันให้แฟนมันขับตามมา จะว่าไปวันนี้มันแต่งตัวแปลกๆ เอาอะไรไปติดผมฟุ้งฟริ้งก็ไม่รู้ หรือว่าผมคงเมามากจนตาลาย ผมดื่มไปแบบเพรียวๆ เลย



“ให้กูขึ้นไปส่งมึงก่อนไหมว่ะ ตั้น เพื่อว่ามึงฟุบไปเมย์เขาลากมึงเข้าห้องไม่ไหวนะโว๊ย!!” ไอ้กอล์ฟเพื่อนผม ผมโบกมือว่าผมยังพอเดินได้อยู่แค่ไม่เหมือนเดิม



“ไปนอนเถอะมึง พรุ่งนี้วันหยุดน่ะ ไม่ต้องเข้าไปนั่งทำงาน” ผมบอก



“ใจน่ะมึงที่ยังจำได้ว่ามันคือวันหยุดสุดสัปดาห์”



“ถ้าอยางนั้นแค่นี้น่ะ เมย์ด้วย เออ มีอะไรโทรหาพี่ได้เลยน่ะ ตลอดเวลา บายวะ”



“ขอบใจนะเฟย์” เมย์พูดขอบใจเฟย์



“ไม่เป็นไรค่ะ พี่เมย์ “เฟย์พูด ผมก็หรี่ตามอง ก่อนที่เฟย์จะเดินออกไป และประตูลิฟต์ก็ปิดลง



“เมื่อกี้พี่ได้ยินผิดไปป่ะ เฟย์มันพูดค่ะด้วยน่ะเมย์”



“เออ พี่คง เมามั้งครับเลยได้ยินผิดไป คิก คิก คิก” คนตัวเล็กพูดและหัวเราะผม



“เออ พี่ก็ว่างั้นแหละ “ผมพูดก่อนจะรวบเอวเมย์เข้ามากอดและทำท่าจะจูบ



“พี่ตั้น ไม่เอาดิ ไหนบอกว่าในนี้มีกล้องวงจรปิดไง ทำไมทำซะเองล่ะ “เมย์พูดพร้อมกับชี้ขึ้นไปกล่องสีขาวๆ ด้านบนศีรษะผม



“รอไปทำที่ห้องน่ะ” ผมกระซิบกับคนที่ยืนอยู่ จนกระทั่งลิฟต์มาถึงชั้นที่ผมพักอยู่ ตอนนี้มันจะตีสองแล้ว แน่นอนเงียบมาก เมย์เป็นคนเปิดประตูให้ผม ผมหันมามองเมย์ ผมรู้สึกอยากจะกอดเมย์อยากจะ จนกระทั่ง เมย์พาผมเข้าไปด้านใน ผมเดินแบบมึนๆเข้าไปในห้องนอนก่อน ส่วนคงทำธุระส่วนตัว ผมยืนครุ่นคิด ผมเคยไม่ดื่มจนเมาขนาดนี้เลย มีแค่ครั้งที่พี่อิศเรศเลือกที่จะทิ้งผมไปครั้งนั้นแหละ 



“ปีก” เสียงประตูห้องน้ำถูกปิดลง ตัวเล็กเดินมาก็มายืนมองผมที่ยังยืนอยู่  ผมหันไปมองตัวเล็กตาเหยิ้มๆ  เมย์มองหน้าผมก่อนจะหันมาคล้องคอผม ผมก็ดันร่างตัวเล็กขึ้นให้อยู่ในท่าหนีบเอวผมเอาไว้ เมย์จูบผมอย่างเร่าร้อน ผมก็จูบสนองเมย์กลับอย่างเร่าร้อนเช่นกัน เราสองคนแลกลิ้นกันพัลวัล เมย์เริ่มเก่งขึ้นจนผมเริ่มอยากจะใช้ท่ายากกับเมย์ได้บ้าง





“คืนนี้พี่ขอท่ายากนะครับ” ผมกระซิบกับเมย์ เมย์มองหน้าผมคงแอบกลัวละซิ ผมค่อยๆ วางเมย์ลงช้าๆบนเตียงนอนอย่างเบาเมือที่สุด ผมถอดเสื้อผ้าผมออกจนเกือบหมดเหลือไว้แค่ปราการสุดท่าย ส่วนเมย์ก็ถอดของตัวเองรอผมระห่างที่ผมเดินไปหยิบเจลมาวางไว้ใกล้ตัว ผมขึ้นไปครอมร่างเมย์เอาไว้ ประกบปากจูบ ทั้งจูบทั้งขบทั้งเม้ม และริมฝีปากนั้นซุกไซ้ลงมาตามศอกคอไล่ลงไปที่แผ่นอกของเมย์ ค่อยๆ เลื่อนตัวลงไปหยอกเย้ากับสองจุดสี่ชมพูดระเรื่อ





“อ้าห์พี่ตั้น ซี้ด เมย์ “เมย์ดิ้นสายไปมา ผมก็ค่อยเลื่อนลงมาจนถึงหน้าท้องน้อย ขบและเม้มเล่นจนคนที่นอนเบื้องล่าง วันนี้ผมเร่าร้อนกว่าทุกครั้ง ลีลาการเล้าโลมเลยหนักหน่วงจนคนเบื้องล่างของผมดิ้นส่ายไปมาอยู่ไม่สุข ผมถอยหลังออกมายืนที่ปลายเตียง เมย์มองผมก่อนจะมานั่งอยู่ในท่าคุกเข่าและจับหนอนยักษ์ของผมมาโลมเลียอย่างเมามัน ผมก็ยืนเด่งสู้ ในกายตอนนี้มันมีแอลกอฮอล์ มันก็ยิ่งเพิ่มอารมณ์ในกายผมให้พลุ้งพล่านไปทั่ว



ทันทีที่ผมรู้สึกได้ที่ผมค่อยๆ ดันเมย์ ผมส่งยิ้มด้วยแววตาเหยิมๆ ให้เมย์พร้อมกับจับร่างเมย์พลิกไปอยู่ในท่าคุกเข่า เตรียมพร้อมที่ผมจะเล่นท่าดอกกี้กัน ผมหันไปหยิบเจลมาก่อน ก่อนจะบรรเลงเพลงรักของผมกับเมย์ ต้องเบิกทางก่อนทุกครั้ง



“อ้าห์ เฮีย “เมย์ครางออกมาทันทีนิ้วของผมล่วงล้ำเข้าไปในช่องทางรักนั้นของเมย์อย่างถนอม ช้าๆ และค่อยๆ เพิ่มจำนวนขึ้น



“ฮ้าห์ เฮีย ผมไหวแล้ว อยากได้แล้ว ให้ผมซะทีซิ” คนที่อยู่ในท่าพร้อมเหลียวหลังมามองผม ผมก็ยิ้มอย่างพึงพอใจก่อนจะจับสะโพกเมย์มาผมยืนที่ขอบเตียง ค่อยดันสิ่งนั้นสอดแทรกเข้าไปในกายของเมย์ช้าๆ ระหว่างทางก็คอยาถามเมย์ตลอดว่าเขาโอเคไหม เจ็บไหม ผมว่ามันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน พอเมย์บอกว่าโอเคก็ดำเนินต่อจนกระทั่ง



“ปัก ปัก ปัก “เสียงเนื้ออ่อนกระทบเนื้ออ่อนของผมกับเมย์ ไม่นานร่างผมก็กระตุกและคนตรงหน้าก็เกร็งเช่นกัน ผมกับเมย์สำเร็จไปพร้อมๆ กัน ผมค่อยๆ ถอนแกนกายออกมาช้าๆ และขึ้นไปนอนข้างๆ เมย์ ที่ทิ้งตัวเองลงนอน ผมค่อยดึงผ้าปูที่นอนมาคลุมร่างผมกับเมย์ครึ้งท่อน อยากนอนคุยกับเมย์



“ขอบคุณนะครับ ที่กลับมาหาพี่” ผมบอกเมย์



“เฮียสัญญาน่ะว่าจะไม่ไล่เมย์อีก ผมไม่ได้รักใครง่ายๆ น่ะ ผมกลัวการถูกทอดทิ้ง “แววตาคู่นั้นดูเหมือนเด็กน้อยของผม ผมพยักหน้า



“เฮียก็กลัวมาก เฮียยอมรับว่าภาพวันที่พี่อิศเรศเดินจากพี่ไปและเขาบอกพี่ว่าเขาเลือกใคร มันเจ็บที่สุดเมย์ แต่พี่ก็ขอโทษเกือบทำให้ความรักของเมย์ที่มีต่อพี่ศูนย์เปล่า พี่มันแย่ว่ะเมย์” ผมพูด เมย์พลิกร่างเขามากอดผมเอาไว้



“อย่าพูดอย่างนี้ดิพี่ตั้น พี่ไม่ได้แย่หรอก มันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนนะผมว่า แต่เราสามารถที่จะเรียนรุ้กันได้อีกเยอะไม่ใช่เหรอ” เมย์บอกผม



“แต่ผมกลัวพี่ปริมอ่ะพี่ตั้น ผมกลัวว่าพี่ตั้นจะใจอ่อนกับเขาอีกอ่ะ ถ้าเขาพยายามจะเข้ามาหาพี่อีก ยิ่งตอนนี้เขาไม่ได้เป็นคู่หมั้นของพี่ปฐวีญ์แล้วน่ะ”



“พี่ขอโทษเรื่องคืนนี้ พี่เออ มันเหมือนคนไร้สติเข้าใจป่ะ พี่เลย ให้เขามาหาพี่ เอาจริงๆ พี่กับพี่ปริม ไม่ได้รักกันหรอกและทุกครั้ง ที่พี่จะสนุกกับเขาและพี่ก็อัพยาแต่พี่ไม่ติดน่ะเมย์” ผมพูด เมย์มองหน้าผม



“รังเกียจพี่ไหม คือมันเป็นความสุขจอมปลอมอ่ะพี่ยอมรับ และนี้พวกเพื่อนๆ พี่มันไม่อยากให้พี่ไปหาพี่ปริม เห็นพวกมันแบบนี้ไม่เล่นกันน่ะ” ผมพูด



“พี่เลิกยุ่งกับมันครับ พวกยาเสพติดนะครับ ขอได้ไหมเพื่อเมย์” เมย์บอกผม ผมพยักหน้า



“สัญญา ว่าพี่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับมันอีก พี่มีความสุขแล้ว ไม่ต้องไปหาตัวช่วยแล้ว มีแค่เมย์พอ” ผมพูด



“อยู่กับเมย์น่ะ สัญญา” เมย์พูดพร้อมกับชูนิ้วก้อยขึ้นมาให้ผมดู เขาพยักหน้า ผมก็พอจะเข้าใจได้ว่าให้ทำอะไร ผมเกี่ยวก้อยกับนิ้วเรียวๆ นั้น



“สัญญาว่าจะไม่ทิ้งเมย์ไป อย่าทิ้งเมย์แบบวันนี้อีกน่ะ”



“อื้มมมม “ผมจูบเมย์ “Never and ever do again I promise!”



“เออ เมย์เห็นเสื้อสูทพี่ไหม เมย์เอามันออกมาจากรถให้พี่หรือเปล่าครับ” ผมถามเมย์



“ครับ เมย์หยิบติดมือมาด้วย และเมย์ก็แขวนเอาไว้แล้วนะครับ เมย์ว่าจะส่งซักให้  มีอะไรเหรอครับพี่ตั้น” เมย์ถามผม ผมส่งยิ้มให้เมย์ก่อนจะพาร่างตัวเอง ลุกขึ้น ร่างที่ไม่มีอะไรปิดบังเลย ผมหันไปหยิบผ้าขนมาพันกายเอาไว้ก่อนแบบหมิ่นๆ แและตรงไปยังห้องตู้เสื้อผ้า ผมเห็นมีเสื้อสูทแขวนเอาไว้ ผมล้วงมือเข้าไปหยิบเอากล่องกำมะหยี่ออกมา ผมเดินกลับมาเห็นเมย์ยังนอนอยู่บนเตียงมีผ้าปูที่นอนคลุมอยู่ครึ้งตัว



“เมย์ “ผมเรียกเมย์ก่อนจะขึ้นไปนั่งข้างๆ เมย์ ผมตั้งใจเอาไว้ว่าจะขอเมย์แต่งงานหลังจากไปงานพี่ปฐวีย์ แต่ว่าดันมีเรื่องซะก่อน แหละตั้งใจว่าจะขอเมย์ที่ผับซะด้วยซ้ำ ขอตอนนี้ก็จะทันอยู่ ผมเดินมาพร้อมกับเปิดกล่องรูปสี่เหลี่ยมๆ มีผ้ากำมะหยี่สีแดงหุ้ม เมย์มองด้วยแววตาแปลกใจและตกใจ ผมเปิดมันออก



“พี่จะขอที่โลเคชั่นมันดีกว่านี้แต่พี่ดันไม่ได้เอาเสื้อสูทขึ้นไปและพี่ก็ไม่คิดว่าเมย์จะกลับมาหาพี่อีกครั้ง พี่ขอที่นี้ก็ได้เนอะ”



“Will you marry me? ผมถามเมย์ เขาก็ยกมือขึ้นปิดปาก



“พี่ว่าพี่พร้อมแล้วแหละจะสามสิบแล้ว ควรจะมีเมียเป็นตัวตนซะที” ผมพูดไปก็ขำตัวเองไปด้วย



“ว่าไงครับ แต่งงานกับพี่ไหม” ผมพูดคนตรงหน้าผมยิ้มก่อนจะยื่นมือข้างซ้ายมาให้ผมนั้นคือคำตอบว่าใช่แน่นอน



“หมับ “ผมจับมือเมย์ข้างซ้ายและบรรจงสวม มันใส่ได้พอดีเลย ผมยอมรับว่าแอบวัดเอาไว้ตอนเมย์หลับวันที่เมย์เมาไม่รู้เรื่อง



“จะว่าไปความรักขอบผมกับพี่เริ่มจากบนเตียงไม่ใช่เหรอครับและมันก็โอเคอยู่น่ะถ้าพี่จะขอผมแต่งงานบนเตียงแบบนี้  “เมย์พูดผมเลิกคิ้วสูง ทะลึ้งหรือเปล่า





“ก็วันแรกไง แม้ว่าจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่แต่ว่า มันก็ทำให้ผมกับพี่ได้รู้จักกันและพี่ก็เปลี่ยนใจผม ที่ตอนแรกผมบอกว่าผมจะรักพีได้ไหมยังไม่รู้เลย ตอนนี้ผมรักพี่ได้หมดใจแล้วอ่ะ “เมย์พูดผมต้องก้มหน้าลงก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าของเมย์ ผมใช้ฝ่ามือเพื่อประคองใบหน้าหวานๆ นั้นและบรรจงจูบลงที่หน้าผากเมย์อย่า “จ๊วบ!!”



“ขอบคุณนะครับที่เมย์ทำให้พี่รู้ว่าหัวใจขอบเมย์มันสำคัญกว่าคำว่าบุญคุณของผู้มีพระคุณ”



“ขอบคุณที่ทำให้พี่อยากรักผู้ชายอีกครั้ง และขอเป็นแค่ตัวเล็กของเฮียคนนี้คนเดียว เท่านั้น”



“Forever and ever “เมย์พูด ผมพยักหน้า “Always in my heart my boy”



“ไปเช็ดล้างตัวเถอะพี่ตั้น แต่อย่าเพิ่งอาบน้ำน่ะ เขาบอกว่าคนเมาไม่ควรอาบน้ำนะครับ” เมย์บอกผม ผมสองคนลุกไปทำความสะอาดตอนนี้เป็นเวลาตีสามยังไม่ได้ล้มตัวลงนอนกันเลย พอเสร็จกิจทุกอย่างเมย์น่ารักมากเก็บทุกอย่างเข้าที่ก่อนที่จะเดินตามผมเข้าไปนอนด้วยกัน เขาเหมือนแม่ผมมาก ผมยอมรับว่าแม่ค่อนข้างเป็นระเบียบ เป็นผู้หญิงต้นแบบ แต่ทำไมกับพ่อผมถึงได้ไม่เคยแสดงความรักกับแม่ผมเลย คนที่ดีพร้อมขนาดนี้แต่กับไปเลือกผู้หญิงชั้นต่ำนั้นเข้ามาอยู่แทนแม่ผม และเป็นไงผมได้ยินมาว่านางไปเริงสวาทกับใครก็ไม่รู้ถึงได้ตั้งท้องมา ตอนนั้นผมอยู่เมืองนอกแล้วแต่ผมไม่สนใจหรอก ผมยังมีความคิดที่จะไปอยู่เมืองนอกกับเมย์สองคนอยู่ดี และยิ่งเมย์บอกว่าไม่ต้องการบ้านอีกผมว่าผมควรจะไปหาทำเลดีดีสร้างบ้านที่นั่น ทำธุรกิจเล็กอยู่ด้วยสองคนที่นั่น แต่ว่าตอนนี้ผมมต้องดูแลคนนี้ให้ดีที่สุดซะก่อน



“ฟ๊อด!!!” ผมสวมกอดเมย์จากด้านหล้ง คนตัวเล็กคงเหนื่อยมากเลยหลับสนิทแต่ก็ปล่อยให้ผมกอดเขา เอาคางเกยที่หัวไหล่นั้น

*****

เมธานินท์ ผมตื่นมาก่อนเฮียตั้น ผมก็รีบทำอาหารเช้าที่เบาๆ ไว้ให้เฮียก่อนเลย ตื่นมาจะได้ทาน นี้จะตื่นกี่โมงก็ไม่รู้ ตอนนี้เกือบจะสิบโมงแล้วด้วย เมื่อคืนเฮียเขาเมาผมรู้เลย แต่ก็ไม่ได้เมาแบบคนขาดสติ มีบ้างไม่มีบ้าง ตื่นมาจะจำได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ว่าเฮียแกเขาขอผมแต่งงานไปแล้วน่ะ เมื่อคืนน่ะ ผมก้มลงมองแหวนหมั้นที่เฮียสวมให้ เมื่อคืน ผมยอมรับว่าผมร้องไห้เหมือนเด็กน้อย เพราะว่าผมกลัวการสูญเสียที่สุด เฮียทำให้ผมไว้ใจ ทำให้ผมรักและเกือบจะเสียเขาไปแบบนั้น



“เมย์” ผมได้ยินเสียงคนงัวเงียเรียกผม คงตื่นแล้วแหละ ผมเดินถือแก้วที่ชงrebocca เม็ดฟูเข้าไปด้วย พี่ภาคินส่งข้อความมาหาผม บอกว่าให้ชงให้พี่ตั้นทานด้วย พี่ภาคินเขาดีขนาดนี้ ผมจะไปห้ามเขาได้ยังไง



“เมย์” คนนอนคว่ำหน้าเริ่มอยู่กับหมอนทำน้ำเสียงออดอ้อน คงปวดหัวแน่ๆ เลย



“ว่าไงครับเฮีย”



“กี่โมงแล้วครับ”



“ก็เกือบสิบโมงแล้วครับ พี่โอเคไหมอ่ะ ปวดหัวไหมครับ”



“อืมม....แต่ไม่มากครับ “พี่ตั้นพูดก่อนจะตะแคงใบหน้ามามองผมที่นั่งอยู่ข้างๆ ก้มลงมองพี่เขาอยู่



“พี่กลับมายังไงครับเมย์” พี่ตั้นถามผม ผมก็เลิกคิ้ว เอาแล้วไง จำอะไรได้บ้างไหมเนี๊ยะ



“พี่กอล์ฟขับรถพี่มาไงครับ แล้วพี่จำอะไรไม่ได้เลยเหรอ” ผมพูดและถามพี่ตั้น พี่เขากระดกศีรษะขึ้นมองผม และยิ้ม



“จำได้แต่ว่าท่าดอกกี้เมื่อคืนฟินดี” พี่ตั้นพูดพร้อมกับหรี่ตาขึ้นมองผมข้างหนึ่ง



“โอ้ยยยย!!!” ร้องลั่นเลย ผมหยิกเข้าที่ราวนมและทำท่าจะลุกหนี



“หมับ” มีคนดึงรั่งผมลงไปและขึ้นมาคร่อมผมเอาไว้ สองแขนถึงจับชึงไว้ข้างลำตัว คนตัวโตก้มลงบดขยี่ริมฝีปากผม ทันทีแขนผมวางแนบลงกับที่นอนนั้นแปลว่าผมได้จะขัดขืนเขา พี่ตั้นก็ปล่อยให้เป็นอิสระ ผมใช้แขนโอบกอดรอบคอพี่ตั้นไว้ ปากก็ดูดดื่มกัน พี่ตั้นถอนริมฝีปากออกเขาจับแขนข้างซ้ายผมลงมา มือพี่ตั้นลูบไล้ไปตามแขนจนไปหยุดที่มือของผม จู่ๆ ก็หยิบมาพลิกดู ที่หลังมือ ผมอ้มยิ้ม ก็ผมสวมแหวนที่เขาสวมให้ผมอยู่เมื่อคืน



“เฮ้ย!!! แอบไปแต่งงานกับใครมา” พี่ตั้นถามผมเสียงหลง ผมนี้ควรจะดีใจใช่ไหม แล้วเมื่อคืนขอผมได้ยังไงไม่มีสติหรือไง



“โอ๊ยยยย!!” อันนี้เจ็บจริงแน่ๆ ผมกัดที่หัวไหล่พี่ตั้นและ “ตุบ!!” ผลักคนที่เอามือกุมหัวไหลลงไปนอนด้านข้างหน้าตาเหยเก ด้วยความเจ็บของฟันผมนี่แหละ



“จำไม่ได้ใช่ไหม ดีเลยผมถอดแล้ว ตอนนี้ไม่มีแฟน ไม่มีคู่หมั้นโสดสนิท “ผมพูดและลุกขึ้นเดินออกเลยดีกว่าคนอะไรก็ไม่รู้



“หมับ!” มีคนวิ่งตามผมมา กอดผมจากด้านหลังและยังยกตัวผมขึ้นลอยเลย



“ปล่อยผมเลย ไอ้เฮีย”



“พอเมียเฮียงอน นี้เรียกเฮียซะเพราะเชียวน่ะ"



"เฮียล้อเล่น จำได้ ว่าขอใครบ้างคนแต่งงาน ไปอยู่เมื่อคืน นี่งอนเฮี่ยเหรอ” พี่ตั้นถามผม ผมแอบแลบลิ้นใส่ คนที่ยืนกอดผมอยู่ด้านหลัง



“วันนี้ไม่ไปไหนน่ะ อยากอยู่กับเมย์ทั้งวันเลย แต่ว่าอาทิตย์หน้างานเฮียแน่นมากเลย ต้องไปนอกสถานที่เอง” พี่ตั้นพูดผมหันมามอง



“ผมอยากช่วยเฮียอ่ะ”



“เออ เฮีย ขิมกับขิงจะปิดเทอมให้มาช่วยเฮียไหม จะได้หัดน้องชายผมทำงานบ้าง “ผมหันไปพูดกับพี่ตั้น



“ก็ได้น่ะ พี่ให้ค่าขนม”



“สองคนนั้นดีใจตายเลย” ผมพูด



“เฮียไปอาบน้ำก่อนดีกว่านะครับ เพราะว่าเฮียไม่ได้อาบน้ำตั้งแต่กลับมาแล้วน่ะ เหม็นอ่ะ” ผมพูดพร้อมกับเอานิ้วคีบจมูกตัวเองแกล้งเฮีย เฮียแกรีบด้มดมตัวเอง



“ผมล้อเล่นไปอาบน้ำและจะได้ทานอะไร เออ ก่อนอาบน้ำดื่มที่ผมวางไว้ตรงหัวเตียงก่อนนะเฮียจะได้ดีขึ้น” ผมพูด



“เมย์จะไปรดน้ำต้นไม้ที่ระเบียงนะครับ” ผมพูดพี่ตั้นพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะเดินกลับเข้าไป จะว่าไปมันก็น่ารักดีน่ะ “ถ้าเลือกได้อีกครั้ง ผมก็เลือกผู้ชายคนนี้” คำพูดที่มันอยู่ในใจผม ขอบคุณนะ อุบัติเหตุวันนั้นทำให้ผมได้รู้จักเฮีย ถ้าไม่อย่างนั้น ผมจะได้โคจนมาเจอเขาเหรอ ในผับยิ่งไม่มีโอกาสแน่นอน



“ก๊อกๆ” เสียงเคาะกำแพงด้านข้างๆ ดังขึ้นขณะที่ผมกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ ผมหันไปเห็นฝรั่งเลยครับ กำลังชะโงกหน้ามองผม หล่ออ่ะ เขาชะโงกหัวมามองผม



“Good morning”



“Good morning , How are you?” ภาษาอังกฤษผมได้อยู่



“I’ m fine thank you . How’ s about you?”



“I’ m pretty good thank you .



“ผมเห็นคุณรดน้ำต้นไม้ทุกวันเลย อยากจะทักแต่ไม่กล้า”



“โอเค เออ คุณ?”



“ผมเพิ่งย้ายมาพักที่นี้ได้สองอาทิตย์แล้ว ผมเป็นครูสอนอยู่โรงเรียนอินเตอร์แถวๆ นี้”



“เยี่ยม!!”



“ชื่ออะไรครับ ผมชื่อสตีเฟ่น ผมมาจากอเมริกาครับ”



“ชื่อเมย์ครับ”



“ว้าว ชื่อน่ารักดี ยินดีที่ได้รู้จักครับ เมย์” คนทักทายผมไม่พูดเปล่า ปืนเพื่อจะได้โน้มตัวมาหาผมและยื่นมือมาขอช็คแฮนด์กับผมอีกด้วย ผมก็ตามมารยาท เลยเดินไปเช็กแฮนด์กลับ



“ตัวเล็ก ทานอะไรกันเลยไหม” พี่ตั้นก็ออกมาพอดีเลย เขามองผมที่กำลังเช็กแฮนกับเพื่อนบ้านสลับกันไปมา ก่อนจะเดินชะโงกมองคนที่มีความพยายามชะโงกมาจากอีกฝั่งโดยไม่กลัวว่าจะตกลงไปสักนิด



“ใครอ่ะ” เอ่ยปากถามพร้อมกับชี้นิ้วแหลมไปยังคนที่ผมจับมือด้วย



“เพื่อนบ้านไงครับ” ผมตอบแทนก่อนจะดึงมือตัวเองกลับมา



“ฮ่ะ?” ทำไมต้องแปลกใจด้วย อยู่คอนโดแบบนี้ก็มีเพื่อนบ้านเป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรือไง



“ฮัลโหล!” คนที่มองผมอยู่ก็โบกมือทักทายพี่ตั้น



“มึงเป็นใคร?” ไปถามเขาไม่สุภาพอีก ผมหันมามองเฮียตั้น คนที่ได้ยินก็ทำหน้างงซิครับ



“เขาถามว่าคุณเป็นใครนะครับ” ผมพูดให้ไหมจะได้สุภาพขึ้นมาหน่อย แอบหันมาเหล่ตาคนตัวโตที่ยืนกอดอกมอง สร่างเมาแล้วหรือไง ผมแอบคิดในใจ



“ผมเพื่อนบ้านคุณไงครับ”



“ไม่อยากมีเพื่อนบ้าน เพื่อนมีเยอะแล้ว เมย์เข้าบ้านเลย” เฮียตั้นพูดภาษาอังกฤษใส่คนนั้น แถมไม่พูดเปล่าดันเอวผมกลับเข้าด้านในด้วยน่ะ



“เออ ยินดีที่รู้จักน่ะครับ เมย์” เพื่อนบ้านผมตะโกนตามมา



“กูไม่ยินดี!!” พี่ตั้นพูดภาษาไทยกลับไป และส่งนิ้วกลางให้เขาอีกด้วยก่อนจะเลื่อนประตูกระจกปิด ผมก็ยืนทำแก้มป่องรอไปซิ ไอ้คนตัวโต



“อะไรเนี๊ยะ!” ผมถามคนที่ยืนทำหน้า



“ขอแต่งงานเมื่อคืน นี้แอบไปจับมือถือแขนไอ้ตาน้ำข้าวซะแล้ว” พี่ตั้นพูด



“ผมไม่ได้จับมือถือแขนเขานะ ผมจับมือแบบว่าทักทายแบบ สากลต่างหาก” ผมพูดก่อนจะทำแก้มป่องอีกครั้งหันหลัง



“หมับ!!” มีคนมากอดเอวผมและยกตัวผมลอยเลย พาตรงไปทันทีเข้าห้องนอน ประตูถูกเท้าเขี่ยให้ปิดลงไม่ต้องถามน่ะว่าเมย์จะโดนอะไร่ ฮาๆ เฮียจอมหื่นขี้หึงแต่เมย์ก็ยังรักเฮียอยู่ดี ทีมเด็กเฮีย!!



ผมนั่งเอามือเท้าคางมองเฮียตั้น ที่ให้ผมนั่งเฉยๆ เฮียจัดการทำสปาเกตตีคาโบนาร่าเอง เป็นอาหารกลางวัน เพราะว่าผมงอนไม่ทำแล้วอาหารกลางวันน่ะ แถมได้กินอาหารเช้าและอาหารกลางวันพร้อมกันไปเลยอีก และที่งอนคือโดนเฮียกดไปอีกแล้ว



“ฮาๆ ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะเมีย”



“งอน!!”



“เฮียป้อนป่ะ” ไม่พูดเปล่าเอาส้อมหมุนเส้นสปาเก็ตตี่ส่งมาให้ผม



“ชิมซิ สูตรนี้แม่พี่ชอบทำให้พี่ทานน่ะ พี่ว่าพี่คงพอจะได้ฝีมือแม่พี่มาบ้างแหละไม่มากก็น้อย “เฮียตั้นพูด ผมก็อ้าปากงับ อืมมันก็อร่อยดีน่ะ ผมก็เลื่อนจานมานั่งทานกันต่อ



“เมย์ โทรหามีนหรือยังครับ เรื่อง ไปติดต่อรับปริญญาน่ะ”



“เฮียว่าเมย์ควรจะไปใช่ไหมครับ” เมย์ถามผม



“เฮียว่าเมย์ควรจะไปน่ะ และวันถ่ายรูป เฮียจะไปด้วย เพื่อนๆ เฮีย และครอบครัวเมย์ ทุกคนรักเมย์นะครับ”



“แต่เพื่อนๆ เฮียเขาไม่รู้เรื่องของเมย์”



“เขารู้ พี่เป็นคนเล่าให้เพื่อนฟัง พี่ขอโทษนะเมย์ แต่ว่าพวกนั้นเห็นใจเมย์น่ะ เหมือนกับเฮียน่ะ อันที่จริงเมย์ควรจะให้เขาตรวจสอบที่มาที่ไปอีกครั้ง ว่าคนที่ทำนี้ทำเพื่อจุดประสงค์อะไร และคนที่ให้คำตอบได้กระจ่างคือพี่ปฐวีย์”



“ไม่เอาอ่ะเฮีย ผมว่าไม่จำเป็นสำหรับผมแล้ว ผมไม่ต้องไปหางานอื่นทำแล้ว ทำอยู่กับเฮียนี้แหละ ได้ไหมอ่ะ”



“ให้ทำกับเฮียตลอดชีวิตเลย ห้ามลาออก” พี่ตั้นพูด



“ถึงเฮียจะไล่ ผมก็ไม่ออก “ผมลอยหน้าลอยตา กับคนที่นั่งลงข้างๆ ผม และทานสปาเกตตีฝีมือพี่เขาเอง



“เมย์ ที่เฮียขอเมย์แต่งงานน่ะ เมย์คิดว่าเมย์อยากจะไปจัดงานที่ไหนดี แต่ใจพี่ก็อยากไปจัดที่อเมริกา เมืองที่แม่กับพี่อยู่ และหลุมฝังศพแม่พี่อยู่ที่นั่น เมย์ว่าไงครับ” พี่ตั้นถามผม ผมเงยหน้ามองพี่ตั้น คนที่รอฟังคำตอบอยู่



“เมย์ให้พี่ตั้นเลือก เพราะว่ามันไม่สำคัญว่าเมย์อยากเลือกไปที่ไหน แต่มันสำคัญว่าเมย์ไปกับใครมากกว่า ดังนันทุกที่ที่มีพี่ไป นั้นคือที่เมย์อยากไป “ผมพูดคำนี้ พี่ตั้นถึงกับหมุนเก้าอี้ผมหันไปหาเขาและประกบปากจูบผมทั้งที่ปากผมยังเลอะซอสพาสต้าอยู่เลย

******

มาฝากไว้ให้หวานๆ ชื่นใจหลังจากกินมาม่ามา มากอดคนอ่าน

คนแต่งจะมาต่ออีกทีนะคะ วันจันทร์ อย่าเพิ่งทิ้งกันไปไหนนะคะ ตอนหน้า ต้องหาแฟนให้พี่ภาคินด่วน!!
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.21(เฮียตั้นVSเมย์) Will you marry ?
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 05-12-2020 21:16:05
 :oo1:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.21(เฮียตั้นVSเมย์) Will you marry ?
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 05-12-2020 22:03:17
อะไร เพิ่งเกือบจะไปกับนางปริมอยู่แมบๆ มาขอแต่งงานแหละ เมย์ก็ตกลงง่ายเกิ๊น มันเร็วไปไหมอ่ะที่จะคุยเรื่องนี้ ไปฝึกให้เป็นผู้เป็นคนก่อนทั้งสองคนเลย หมายถึงดูใจกันมากกว่านี้ก่อน เพราะยังดูอ่อนไหวอยู่เลย อะไรอุปสรรคมากระทบนิด นี่กระเจิงอ่ะ ใจไม่มั่นคง เห๊อะๆ  :เฮ้อ: :เฮ้อ: บทจะหวานก็เขินดีอะนะ ปรับความเข้าใจกันก็ดี  :กอด1: :-[  รอตอนต่อไปจ้า :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.21(เฮียตั้นVSเมย์) Will you marry ?
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 06-12-2020 08:24:31
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.21(เฮียตั้นVSเมย์) Will you marry ?
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 06-12-2020 20:48:21
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.22 (พี่ปฐวีย์VSภาคิน) รางวัลที่อยากได้คือภาคินNC18+
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 07-12-2020 20:12:18
             ภาคิน ผมนั่งจิบเหล้าอยู่กับเพื่อนๆ ที่พากันเต้นรำทำเพลง ตอนนี้เหล้าใกล้หมดแล้ว เพราะไอ้ตั้น มันดันกระดกเพรียวไปเกือบหมดขวด มันดันมีเรื่องผิดใจกับเมย์ อันที่จริงผมควรดีใจซะด้วยซ้ำแต่ผมทำไม่ได้ ก็ผมเห็นไอ้ตั้นมันมีความสุขกับเมย์ขนาดนั้น และเมย์น่ะทำให้มันไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ถึงมันจะไม่ติดก็เถอะ ก็อีเจ้น่ะพ่อเขาหนุนแก๊งค้ายาเสพติดอยู่ และวันนี้มันก็เกือบจะกลับไปหาอีเจ้อีก ดีที่เมย์โทรมาหาผม พวกผมเลยช่วย แสดงว่าพวกนั้นมันคงคิดเหมือนผม ถ้าตั้นมันเจอคนที่ดีแล้วก็ควรช่วยมันไหมว่ะ


“ช่วยเขาแล้ว ก็มานั่งเศร้าเอง “ไอ้ธีมมันเดินมา พร้อมกับสาวสวย ผมเห็นส่งยิ้มให้มันอยู่พักใหญ่ ผมมองน้องคนงามข้างๆ มัน


"น้องแก้มบุ๋มค่ะ” ผมพยักหน้า


“กูโอเคมึงไปเต้นกับเพื่อนมึงเถอะว่ะ และกูว่าจะกลับก่อน กูไม่อยากเมาแล้วขับว่ะ” ผมพูดตอนนี้แค่มึน ยังพอขับรถกลับได้ ไอ้ธีมมันพยักหน้า ผมเหลือบมองมือถือมีข้อความจากพี่ปฐวีย์หลายวันก่อน


“ภาคิน พี่จะเปิดโรงแรมใหม่พี่ช่วยตั้นกับเมย์มา ถ้าภาคินจะมาพี่ก็จะดีใจมากนะครับ พี่อยากเห็นภาคินในงานวันเปิดโรงแรมที่พี่ตั้งใจสร้าง

พี่ไออุ่น


“ลงชื่อไออุ่นทำไมว่ะ ชื่อนี้คุ้นๆ ว่ะ แต่ช่างแม่ง” ผมพูดกับมือถือก่อนจะวางลงมันลง ผมเลื่อนอ่านข้อความที่พี่เขาส่งมาคุย มาถาม ผมแทบจะไม่ได้ตอบแต่ก็อ่าน


//ผมอยู่ในรถพี่ภาคิน ผมกำลังจะไปหาพี่ตั้น พี่เขาทิ้งผมไว้กับพี่ปฐวีย์ ฮือๆ ทำไมเขาไม่เชื่อใจผมว่าผมไม่ได้เลือกบุญคุณมากกว่าหัวใจของผม ฮือๆ // คำพูดของเมย์มันวนเวียนอยู่ในหัวของผม ที่ผมไม่ไปเพราะว่าการที่พี่ปฐวีย์ให้ไอ้ตั้นมั้นพาเมย์ไปงานนั้นก็แปลว่าเขาต้องการให้มันพาเมย์ไปคืนเขา (เป็นใครก็คิดว่ะ ไอ้ตั้นมันก็คิดเหมือนที่ผมคิดแหละ


“ปึก” ผมลุกขึ้นพร้อมกับหหยิบมือถือผมติดตัวไปด้วยทันที


******


              ปฐวีย์ ผมนั่งอยู่ในห้องรับรองคนเดียวตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืน งานเลิกแล้ว เจ้าหน้าที่กำลังช่วยกันเก็บทำความสะอาด พ่อกับแม่ผมก็กลับไปบ้านแล้วตั้งแต่ผมขึ้นไปกล่าวเปิดงานอย่างเป็นทางการต่อหน้าแขกผู้มีเกียรติ มีดารามากมายมางานของผมแต่ไม่มีใครสักคนที่ผมสะดุดตา นี่ผมยังนั่งรอเพื่ออะไร คนที่ผมอยากให้มาก็ไปเที่ยวกับเพื่อนๆของเขาแล้วแล้ว ผมได้ยินมาว่า ปริมจะไปทวงตั้นคืนที่ผับพี่ชายของธีม ผมเองได้ประกาศถอนหมั้นต่อหน้าพ่อแม่ผมและพ่อแม่ของปริม อย่างเป็นทางการไปแล้ว ส่วนเหตุผลนะผมบอกว่าทนายผมจะส่งรายละเอียดไปให้และมันก็น่าจะเพียงพอที่จะไม่เสียอะไรแม้แต่สตางค์เดียวแต่เรื่องบ้านผมไม่ได้แน่นอนเพราะว่าที่ตกลงกันคือแต่งงานเรียบร้อยแล้ว


“คุณวีย์ค่ะ ดึกแล้วนะคะยังไม่กลับอีกเหรอคะ” เลขาของผมเดินเข้ามาถามผม


“คุณกลับก่อนเลยครับ วรัญญา ผมจะนั่งสักพักค่อยกลับ”


“รอคนที่คุณวีย์อยากให้มาเหรอคะ “เลขาคนสวยของผมที่รู้ใจไปหมด ผมพยักหน้าเบาๆ


“แต่เขาคงไม่มา คุณเพิ่งจะบอกว่าเขาอยู่กับเพื่อนของเขาที่ผับ” ผมพูดก่อนจะใช่นิ้วเรียวๆ เคาะโต๊ะเป็นจังหวะ เหลือบมองเวลานี่มันเที่ยงคืนแล้วน่ะ ถ้ากินจนเมาแบบวันนั้น แต่ก็มีเพื่อนไปหลายคน แต่คิดอีกทีถ้าเขาไปมีเรื่องกับปริมล่ะ ยิ่งใจร้อนอยู่ด้วย


“บอกคนขับรถให้ผมหน่อยว่าผมจะกลับแล้วครับ คุณวรัญญา” ผมบอกเลขาของผม


“ค่ะ” วรัญญารับคำสั่งของผม ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ผมก็ลุกขั้นทำท่าจะเดินออกเช่นกัน ผมควรจะแวะไปดูเขาเหรอ


“ปึก” เสียงประตูเปิดเข้ามาโดยเลขาคนสวยของผม “คุณปฐวีย์ค่ะ มีคนมาแสดงความยินดีนะคะ ช้าไปหรือเปล่าคะตอนนี้” เลขาคนสวยผมพูดพร้อมกับรอยยิ้ม ผมก็ครุ่นคิดว่าใครเหรอ อย่าบอกน่ะว่ามาหาผมตอนนี้น่ะ มันทำให้รอยยิ้มที่ผมรอคอยปรากฏขึ้นในทันทีบนใบหน้าหล่อๆ ของผม


“ก็ได้อยู่น่ะ เพราะว่าเขาคือคนที่ผมรออยู่” ผมพูด ก่อนที่เลขาของผมจะถอยหลังออก คนที่ก้าวเท้าเข้าในห้องรับรองของผมนั้นคือ ภาคิน เลขาคนสวยของผมปิดประตูลงอย่างเบาที่สุด ผมก็ต้องทิ้งตัวนั่งลงทันที ไขว้ห่างมองคนที่ผมรอคอยเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าผม


“พี่นึกว่าจะไม่หาพี่ซะแล้ว “ผมพูดพร้อมกับยกมือขึ้นมาประสานกัน สายตาเพ็งมองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าผม เขาสวมเสื้อสูททับเสื้อยืดพอดีตัวกางเกงยีนทรงทันสมัย รองเท้าผ้าใบน้ำเงินยี่ห้อDCรูปทรงทันสมัยดูน่าจะลายใหม่ล่าสุด สีเข้มขับกับกางเกงยีนทรงสกินนี่


“ตอนแรกผมคิดว่าผมไม่จำเป็นต้องมาเพราะว่าการที่พี่เชิญตั้นและให้มันพาเมียมันมานั้น ก็แปลว่าพี่อยากให้มันเอาเมย์มาคืน” คนตรงหน้าพูดโดยไม่มองหน้าผม


“พี่ยอมรับว่าพี่อยากให้ตั้นพาเมย์มาเจอหน้าพี่แต่พี่แค่ต้องการ” ผมพูดภาคินหันมามองหน้าผม


“คำตอบเรื่องบ้านของเมย์ และพี่ก็ได้คำตอบแล้วว่าเขาไม่ต้องการมัน เพราะว่าเขารักตั้นเขาอยากอยู่กับตั้น พี่ควรให้เขามีสิทธิ์เลือกคนที่เขาอยากจะฝากหัวใจไม่ใช่เหรอ “


“แต่พี่มีบุญคุณ”


“มันคนละส่วนกัน หัวใจกับบุญคุณ มันทดแทนกันไม่ได้หรอกนะครับภาคิน หัวใจถ้าเขาไม่มอบให้เราก็บังคับขอเขาไม่ได้ ส่วนบุญคุณ ไม่จำเป็นต้องตอบแทนด้วยการฝืนใจมารัก มันไม่ใช่การช่วยแต่มันก็การเพิ่มความทุกข์ ให้คนนั้นเปล่าๆ “ผมพูด


“พ่อพระดีน่ะ “ภาคินยืนเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงมองผม


“ว่าแต่ภาคินมาแสดงความยินดีกับพี่ไม่เห็นมีของขวัญมาให้พี่เลยละครับ นี่พี่รอของจากเราอยู่น่ะ “ผมถามคนตรงหน้าผม


“ผมก็ไม่คิดจะมาเลยไม่ได้ทันได้เตรียม พี่อยากได้อะไรละครับ ผมจะได้จัดหามาให้พี่ถูก สาวๆ ผมก็มีเอเจ้นดีน่ะ เด็กเอ็นสวยๆ เยอะ ถ้าพี่อยากได้ผมจัดให้ จ่ายให้ด้วย “ภาคินหยิบมือถือขึ้นมาทำท่าโทรออกให้ผม


“พี่ไม่ชอบอ้อมค้อมน่ะครับ เพราะว่าพี่อายุจะใกล้หลักสี่แล้ว สามสิบห้ากว่าๆ “ผมพูดภาคินมองหน้าผม

“พี่อยากได้… “

“ภาคินเป็นของขวัญของพี่” ผมยิ้มที่มุมปาก

“ไม่ใช่ในฐานะที่พี่เปิดโรงแรมใหม่น่ะครับ ในฐานะที่พี่ถอนหมั้นปริมได้แล้ว นั้นแปลว่าพี่โสดสนิท” ผมพูด คนทื่ยืนมองผม มุมปากที่กระตุกขึ้นเป็นรอยยิ้มแบบนั้นมันเดาค่อนข้างยากอยู่น่ะ

“พี่ยอมรับน่ะที่พี่อยากให้เมย์มาหาพี่เพราะว่าถ้าพี่ยังคาเรื่องเมย์ภาคินก็คงยังไม่สบายใจ ถ้าพี่จะเดินหน้าจีบ เพราะว่าพี่สนใจในตัวภาคิน รู้สึกว่าใช่คนที่พี่ ตามหา” ผมพูดภาคินหันไปมองทางอื่นก่อนจะเก็บมือถือลงใส่กระเป๋าสูท

“ผมอายุไม่เยอะน่ะ แต่ผมเป็นคนที่ไม่ชอบรออะไรนานๆ งั้นผมคงจะไม่”

“เล่นตัว!”

“หมับ”

“อื้ม” มันรวดเร็วมากจนผมตั้งตัวแทบจะไม่ทัน คนที่ยืนอยู่ก็เดินมานั่งคร่อมผมทันทีและประกบปากจูบผม มือผมก็จับสะโพกภาคินเอาไว้ ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนแต่ว่ารสจูบมันร้อนแรงนั้นมันทำให้ผมไม่อยากจะถอนริมฝีปากแต่ก็ต้องพักก่อน ไม่อย่างนั้นผมเองอาจจะขาดอากาศหายใจตาย


“พี่แน่ใจแล้วเหรอครับ ที่บอกว่าต้องการผมเป็นของขวัญ ผมไม่ธรรมดานะครับ” ภาคินพูด ผมพยักหน้าว่าใช่ผมแน่ใจตัวเองแล้ว และตอนนี้สติสัมปชัญญะผมก็อยู่ครบ

“พี่รู้ว่าภาคินไม่ธรรมดามาพักหนึ่งแล้ว ตั้งแต่วันที่เลขาพี่เขาไป เที่ยวผับกับธีมแล้วแหละ” ผมพูด

“พี่ร้ายว่ะ เล่นลงทุนส่งเลขาพี่ไปให้ไอ้ธีมมันซั่มนี้น่ะ”

“เลขาพี่มีดีกว่านั้นอีก เพราะว่าเขารู้ใจพี่ว่าพี่ชอบแบบไหน “

“หึ”

“สาบานได้เขาแค่เลขา คุณวรัญญาเธอเป็นสาวสวยที่เก่งและฉลาด ส่วนพี่เองไม่ชอบเป็นสมภารกินไก่วัดซะด้วย “ผมพูดกับภาคิน ผมค่อยๆ ใช้นิ้วมือเรียวๆ ของผมแตะที่ริมฝีปากนั้นเบาๆ มันไม่หนาหรือบางกำลังดี

“มาหาพี่ดึกแบบนี้ ค้างกับพี่น่ะ ได้ไหมครับ” ผมพูดบอกภาคิน

“ผมว่าพี่น่าจะรู้คำตอบอยู่แล้ว ว่าผมจะให้พี่ไหม “ภาคินพูด

“ถ้าพี่จะบอกว่า โรงแรมนี้พี่มีห้องสำหรับคู่รักน่ะ พี่น่ะตั้งใจเอาไว้โรงแรมนี้น่าจะไปได้สวยสำหรับใช้จัดงานแต่งงานด้วย “ผมพูด ภาคินเลิกคิ้วสูง

“คือว่าพี่กำลังจะชวนผมไปดูหรือว่าชวนผมไปลองใช้ดูละครับ”


“ดูอย่างเดียวจะรู้ได้ยังไงล่ะว่ามันดีหรือไม่ดี ลองใช้ดีกว่า” ผมพูดก่อนจะหันไปหยิบโทรศัพท์มือถือของผมมากดหาเลขาคนสวยของผม


//ค่ะ คุณปฐวีย์//


//คุณวรัญญาครับ ผมว่าจะลองใช้ห้องสวีทรูมดูนะครับ ที่มีอ่างสปาน้ำวน พร้อมวิวที่สามารถมองเห็นบรรยากาศรอบกรุงเทพได้ ผมจะพาคนพิเศษของขึ้นไปพักครับ// ผมเลขาคนสวยของผม


// ได้ค่ะคุณปฐวีย์ วรัญญาจัดให้ค่ะ พร้อมไวน์ด้วยนะคะ”


//ดีเลยครับ ผมดื่มได้เพราะว่าผมคงเมาไม่ขับอยู่แล้ว และฝากโทรบอกคุณพ่อคุณแม่ผมด้วยนะครับว่าผมจะค้างที่โรงแรมผมเลย ฝากบอกท่านด้วยนะครับว่า นักการตลาดเขาแนะนำมาว่าให้ผมลองก่อนถึงจะบอกกับลูกค้าได้ว่าดีหรือไม่ดี ขอบคุณนะครับคุณวรัญญา//
         
             ผมพูดก่อนจะวางสายไป มองคนที่นั่งคร่อมผมพูด ผมจับมือภาคินมาบีบคลึงเบาๆ ภาคินเป็นคนที่นิ้วมือเรียวยาว แม้จะไม่ได้สวยงามเหมือนสติแต่ถ้าเทียบกับผู้ชายถือว่าอ่อนช้อยเกินกว่ามือชายแท้ๆ


“ขึ้นห้องพักพี่กันน่ะครับคนดี “ผมพูดบอกภาคิน ภาคินก็ถอยหลังลุกขึ้นยืน ผมหันไปหยิบโทรศัพท์มือถือตัวเองที่วางลงเมื่อสักครู่ ก่อนจะเดินโอบเอวภาคินไปพร้อมกัน


*****

             ภาคิน หลังจากที่ผมนั่งครุ่นคิดถึงเรื่องพี่ปฐวีย์ ผมเองก็ไม่ได้ไร้เดียงสาที่จะดูไม่ออกว่าพี่ปฐวีย์ เขาคิดยังไงกับผม แต่ตอนแรกคือผมไม่แน่ใจว่าเขาต้องการใครกันแน่ เมย์หรือว่าผม แต่ตอนนี้มัน ชัดเจนมากขึ้นแล้วว่าเขาต้องการผม ผมเดินขึ้นมายังห้องพักคู่รักแบบวีไอพี ทันทีที่ผมเปิดประตูเข้าไป บรรยากาศภายในห้องมีกลิ่นอโรมา ทุกอย่างถูกจัดเอาไว้อย่างหรู ห้องนี้เหมาะมากสำหรับคู่รัก แน่ละถ้าพี่เขาบอกว่าน่าจะไปได้ดีสำหรับคู่แต่งงาน ผมว่าห้องสวีทนี้เหมาะมาก ผมยืนหมุดดูไปรอบๆ ก่อนจะหันมาเจอพี่ปฐวีย์ที่ยืนมองผม พี่ปฐวีย์ถอดเสื้อสูทออกก่อนจะพาดไว้ที่เก้าอี้ เนกไทถูกปลดและรูดออกผมก็ถอดเสื้อสูทของผมออกเช่นกัน เหลือไว้แค่เสื้อยืด ผมเป็นคนไม่ชอบน้ำเยอะ คือไม่ชอบลีลาเยอะนั้นเอง


             ผมกับพี่ปฐวีย์โผเข้าหากัน ปากก็จูบเหมือนคนหืดกระหาย มือผมก็ปลดหัวเข็มขัดกางเกงขอสแลคปลดกระดุมพร้อมกับรูดซิปลงชายเสื้อถูกดึงออกมา เสื้อยืดของผมถูกถอดออกไปทางศีรษะอย่างว่าง่าย กางเกงยีนก็ถูกปลดกระดุมแบบกระตุกเดียวหลุดหมดทั้งแพง

“แสดงว่าชำนาญเรื่องการถอด” ผมแซวพี่ปฐวีย์

“ก็ยอมรับว่าพี่ก็พอตัวแต่ต้องเต็มใจกับพี่ “

“พี่ว่าผมเต็มใจหรือขัดขืนล่ะ” ผมถามพี่ปฐวีย์

“อืมม” พี่ปฐวีย์ไม่พูดพล้ามทำเพลง เขาก็ดันผมเดินถอยหลังไปเรื่อย ๆ จนถึงที่นอน แผ่นหลังผมสัมผัสความนุ่มของที่นอนโรงแรมหรู มันนิ่มจนเหมือนร่างผมลอยอยู่บนก้อนเมฆ พี่ปฐวีย์เริ่มซุกไซ้ไปตามลำคอของผมและไล่ลงมาที่แผ่นอก ลิ้นนุ่มๆ ค่อยๆ ลากลงมาผ่านกล้ามเนื้อช่วงอกไปสู่ หน้าท้อง ทำให้ผมถึงกับสยิวพร้อมกับแอ่นกายขึ้นมาสู้ลิ้นนั้น

“อ้าห์ พี่วีย์ ซี้ด” ผมเสียวซ่านจนต้องครางออกมาไม่ดังมาก มือก็จิกที่ผมพี่ปฐวีย์

“อ้าห์ อื้อม” ผมถึงกับไม่สุข ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเรื่องบนตียงของผู้ชายคนนี้จะไม่ธรรมดาจริงๆ ไม่เหมือนโปรไฟล์ ที่เคยมาให้ผมดู ตอนน้นผมเดาว่าคงแทบจะไม่มีประสบการณ์รักเลยก็ว่าได้แต่นี่กลับ

“อ้าห์” ผมต้องแอ่นขึ้นอีกครั้งเมื่อ ริมฝีปากพี่ปฐวีย์ กำลังเม้บขบกัดที่เนินเนื้ออ่อนที่อยู่เหนือขอบกางเกงในของผม มือที่เสยผมของพี่ปฐวีย์ ทั้มกุมและคลาย อยู่แบบนั้น ผมกำลังเม้มริมฝีปากรอลุ้นว่าเมื่อไหร่พี่ปฐวีย์จะเลื่อนลงไปตรงความเป็นชายของผมสักที

“ภาคิน “น้ำเสียงที่ฟังดูอบอุ่นของพี่ปฐวีย์ เอ่ยเรียกชื่อผม พร้อมกับดันตัวขึ้นมาเผชิญหน้ากับผม คนที่นอนดิ้นส่ายไปมา

“ว่าไงครับพี่วีย์ “ผมถามพี่วีย์ด้วยเสียงที่บ่งบอกว่าผมอ่อนลงมากจนเกือบจะเรียกว่าออดอ้อน

“ก่อนที่พี่จะทำตรงนั้นให้ พี่ต้องถามเราก่อนน่ะว่า” พี่ปฐวีย์พูด

“คบกับพี่ได้ไหมครับ ในฐานะแฟนของพี่ “พี่ปฐวีย์ขอผมเป็นแฟน ผมก็ยิ้ม

“มาขนาดนี้แล้ว ก็คงไม่รอดแล้วผมน่ะ “ผมพูด

“หมับ” พี่ปฐวีย์หอมหน้าผากของผม “ตอนนี้พี่ขอเป็นแฟนแต่หลังจากนี้ พี่จะขอเป็นเมียพี่น่ะ “ผมก็ต้อง “หึ” จะอ้าปากถามแต่พี่เขาก็ดันตัวเองลงไปและเอาปากครอบส่วนสงวนของผมวะก่อน ภาคิน อ่อนระทวยอีกครั้ง กับการปรนเปรอของพี่ปฐวีย์

“จะให้ผมเป็นอะไรก็ยอม …ซี้ดด ….ผมไม่ไหว ซี้ดด อ้าห์ แล้วพี่วีย์ อ้าห์ “ผมดิ้นส่ายไปมา เด้งขึ้นเด้งลง เรียกว่าเพิ่งจะเข้าใจอาการอยู่ไม่สุข และมันก็ทำให้ผมนึกคิดถึงการมีเซ็กซ์ครั้งแรกของผมกับภาคิน มันสุขแม่งอยู่คนเดียวเลย ขย่มผมเสร็จก็หลับเลย แต่ว่าอันนี้แม่งโคตรจะสุขสมเลย ไม่นาน ร่างกายผมก็กะตุ๊กและน้ำสีขาวขุ่นก็พุ้งกระฉูดออกมา จนผมรับรู้ได้ ความเปียกชื้นเริ่มเข้ามา พี่ปฐวีย์ใช้ลิ้นโลมเลียจนหมดเกลี้ยง

             ผมนอนมองพี่ปฐวีย์ พี่เขาขึ้นมานอนข้างๆ ผม พี่ปฐวีย์ถอดปราการสุดท้ายออกไปแล้ว ผมก็พลิกมาจับแท่งร้อนพี่ปฐวีย์ พร้อมกับใช้ปากทำให้ ผมยอมรับว่าผมไม่เคยใช้ปากทำให้ใครเลย นี้คือคนแรก ถามว่าไม่มีใครเลยเป็นไปไม่ได้ เด็กทีผมหามาปรนเปรอจะต้องผ่านการตรวจสอบและเป็นคนที่น่าเชื่อถือได้ ผมหมดไปเยอะเหมือนกันกับเรื่องพวกนี้ แต่ผมเริ่มเบื่อไง เวลาอยากได้เงินก็โทรมาขอมามอบความสุขกับผม อ้อดอ่อนกับผม ผมเลิกพฤติกรรมแบบนี้ไปได้เกือบครึ้งปีแล้ว

“อ้าห์ ภาคิน พี่…พี่…” พี่ปฐวีย์ทำท่าจะพูดพร้อมกับหลับตาพริ้ม

“อยากจะส่งเสียงให้รู้ว่าพี่รู้สึกยังไงก็ทำเถอะพี่ ผมว่าบางที่มันอาจจะทำให้บทรักเตียงของพี่มีสีสันนะครับ” ผมพูดกับพี่ภาคิน ส่วนผมก็ก้มลงบรรจงใช้ลิ้นของผมต่อ

“อ้าห์ ที่รัก ซี้ด พี่เสียว และพี่ก็ชอบ อื้มมมม ทำเก่งแบบนี้ ซี้ด พี่ขอไม่ไปไหนแล้ว ซี้ด พี่ว่า”

“หึ” ผมส่งเสียงรอดแท่งร้อนของพี่ออกไป

“แต่งงานกับพี่เถอะ” ผมถึงกับค้าง

“อีอ่าอะไออ่ะ” ผมก็ยังเต็มปาก

“แต่งงานกับพี่เถอะ!!” พี่ปฐวีย์ถามผมดังๆ และชัดถ้อยชัดคำมาก

“แต่งไหมครับ”

“พี่วีย์ทำไมพี่ขอผมแต่งงานได้ เสียเซลฟ์มาก ขอตอนที่ผมกำลังโมคพี่อยู่นี้น่ะ” ผมถอนปากออกมาและมองหน้าพี่ปฐวีย์

“ก็มัน เออ ได้ฟิวพอดี ทำให้พี่ก่อน นะคนดี” ผมควรจะกลับไปทำให้ต่อดีไหมอ่ะ

“ไม่เอาน่ะ ที่รัก “พี่ปฐวีย์พูดปนหัวเราะก่อนจะบอกให้ผมกลับไปทำให้เขาต่อ ผมก็ทั้งดูดและเลียจนพี่ปฐวีย์เริ่มจะทนไม่ได้ไหว อาจจะด้วยวัย พี่เขาก็ดันผมให้ลงไปนอนราบ และพี่ปฐวีย์ขึ้นมาคร่อมร่างผมไว้ เขายกขาผมขึ้นมาตั้งฉาก ก่อนจะหันไปหยิบเอาเจลหล่อลื่นมาทาลงที่นิ้วมือและสอดใส่เข้าไปในช่องทางรักของผม

“อ้าห์” ผมก็ต้องกระดกก้นขึ้นตามมันคับแน่นจน

“ฮ้าห์!  พี่วีย์ “ผมเรียกชื่อพี่ปฐวีย์ลากยาวเลย มันเสียวแค่สองนิ้วเองน่ะ

“พี่ขอน่ะครับที่รัก “

“ขอทำลายประตูผมเหรอครับ” ผมกระดกหัวมองพี่ปฐวีย์

“ขอให้ภาคินเป็นเมียพี่ครับ” พี่ปฐวีย์พูด ผมก็ต้องวางศีรษะลงราบกับที่นอน เออ ภาคิน ในวันเดียวเป็นหลายสถานะเลย ขอคบ ขอเป็นแฟน และยังมาขอแต่งงาน ยังไม่ทันรับปาก ขอเป็นเมียทันที

“อ้าห์” ผมก็ครางเสียงกระเซ่าอีกครั้งเมื่อช่องทางรักของผมกำลังจะมีบางสิ่งรุกล้ำเข้าไป เข้าไปช้า ๆ ช้าๆ ช้าๆ และ

“อื้มมม” ผมร้องครางอีกครั้งเมื่อแท่งร้อนของพี่ปฐวีย์เข้าไปพักอยู่ภายในกายผม พี่ปฐวีย์หยุดอยู่นิ่งมากจนผมเริ่มขยับเข้าหานั้นแปลว่าผมพร้อมมากแล้ว และพี่ปฐวีย์ก็เริ่มโยก เด้งสวนเข้าออกในกายผม เอวดีใช่เล่นน่ะพี่ปฐวีย์ ผมก็หลับตาพริ้ม พี่ปฐวีย์ก็เด้งเข้าออกจนเริ่มเร็วขึ้นและหนักหน่วงขึ้น ไม่นานผมกับพี่ปฐวีย์ก็เสร็จสบอารมณ์มหายและพากันไปล้างตัวก่อนจะกลับมานอนคุยกันบนเตียง พี่ปฐวีย์เขาเปิดผ้าม่าน ผมมองออกไปเห็นวิวกรุงเทพ แน่นอนไม่ได้เอาเสื้อผ้ามาก็ต้องสวมเสื้อคลุมแทน พี่ปฐวีย์รินไวน์ใส่แก้วมาให้ผมแก้วหนึ่งและของพี่เขาหนึ่งแก้ว

“ฉลอง” พี่ปฐวีย์พูด ผมก็รับมาจิ๊บ ผมเคยดื่มบ้าง พ่อกับแม่ผมดื่มไวน์กันแต่ผมน่ะคอเหล้าเหมือนพวกเพื่อนผม

“รสชาติดีน่ะ พ่อผมชอบดื่มไวน์จากอิตาลี ส่วนผมน่ะไม่ใช่คอไวน์ ส่วนใหญ่จะคอ จอนนี่วอร์คเกอร์มากกว่า “ผมพูด

“ยี่ห้อนี้ก็ขวดเดียวกับที่ภาคินเกือบจะสาดใส่ปริมเขาน่ะ” พี่ปฐวีย์พูด

“โชคดีน่ะที่ไอ้ธีมมันห้ามผม เสียดายไวน์” ผมพูด

“หึ หึ” พี่ปฐวีย์หัวเราะผม

“หมับ” พี่ปฐวีย์โอบเอวผมขณะที่ผมกำลังดื่มไวน์อยู่ ผมหันมามองพี่เขา พี่ปฐวีย์ ก็ประกบปากผม มือพี่เขากึคว้าแก้วไวน์ไปจากมือผม ผมรับรู้ได้ถึงความหวานของเหลวที่เรียกว่าไวน์ ที่ถูกส่งเข้าไปในปากของผม และวิ่งพล่านไปทั่วในปากผมเพราะลิ้นที่ตวัดไปรอบๆ นั้นของพี่ปฐวีย์ จนพึงพอใจ มันทำให้ผมรู้สึกผู้ชายคนนี้ ไม่ใช่ผู้ชายที่ดูจืดชืด เลยสักนิด

“สงสัยว่าผมควรจะเลิกดื่มเหล้าแหละหันมาดื่มไวน์แทน” ผมพูด

“ให้พี่เป็นให้เป็นคนป้อนให้ด้วยแต่พี่ชอบป้อนด้วยปาก” พี่ปฐวีย์พูด ผมเอนหัวไปพิงไหล่พี่ปฐวีย์ มองวิวกรุงเทพ

“โรงแรมของพี่วิวสวยดีจัง ผมแล้วที่พวกเพื่อนๆ ผม มันเรียกโรงแรมของพี่ว่า โรงแรมวิวร้อยล้าน” ผมพูด

“ที่ดินตรงนี้แพงมากน่ะภาคิน พี่พูดเลย และทำเลก็ดีมาก จนพ่อของปริมเขาถึงได้เสนอลูกสาวของเขามาเป็นคู่หมั้นพี่”

“แล้วพี่ไปหมั้นกับอีเจ้ เอ๊ย พี่ปริมทำไมอ่ะพี่ พี่ชอบพี่ปริมเหรอ” ผมถามพี่ปฐวีย์ พี่เขาก้มลงมองหน้าผม

“ถ้าพี่บอกเรา ภาคินจะมองว่าพี่นี้ งี่เง่าไหม ที่พี่ยอมหมั้นกับพี่ปริมเพียงเพราะบ้านของเมย์เขา “พี่ปฐวีย์พูด

“เมย์มีบ้านเหรอครับ”

“ใช่บ้านหลังนั้นพ่อแม่ของเขาสร้างเอาไว้ มันค่อนข้างถนัดสมัยในตอนนั้น แต่ว่าตอนนี้ มันเป็นทำเลทอง อยู่ในเมืองทองและเป็นแหล่งธุรกิจด้วย ตอนนี้มันมีมูลค่า สามสิบล้านบาท “พี่ปฐวีย์พูด ผมเองก็เฉยๆ น่ะ ถ้าผมอยากได้ พ่อผมควักตักจ่ายได้สบาย

“แต่ว่า เขาไม่ยอมขาย บ้านหลังนี้มีที่มาที่ไปแบบไม่โปร่งใส พี่เองก็หาหลักฐานมาไม่ได้ และพอพี่ไปคุยกับเขา เขากับยื่นขอเสนอ ให้พี่รับหมั้นลูกสาวเขาและถ้าพี่แต่งงานบ้านก็จะตกเป็นของพี่ ผมรู้ว่าเขาต้องการอะไรที่มากกว่าบ้าน พี่น่ะรัดกุมไว้หมอแล้ว ถ้าพี่รออีกสักหน่อยกึคงจะได้บ้าน เพราะว่า ปริมเธอทำตัวได้ไม่น่าเชื่อว่าเธอคือลูกสาวของนักการเมืองชื่อดัง” พี่ปฐวีย์พูด ผมพยักหน้า

“แต่เมย์เขาบอกว่าไม่ต้องการแล้ว และเขาก็คงกลัวเรื่องปริมจะเอาบ้านมาต่อรองกับตั้น “พี่ปฐวีย์พูด

“ผมโคตรขยะแขยงผู้หญิงคนนี้เลยพี่วีย์”

“คิน ปริมเขาอาจจะน่าส่งสารก็ได้น่ะ ทุกอย่างที่เธอต้องทำเพื่อพ่อเธอจะได้มีเงินมีทองทั้งนั้น เขาแค่เป็นคนโลภมากจนไม่แคร์ ลูกไม่แคร์เมีย “พี่ปฐวีย์พูด

“ถ้าแคร์เขามากทำไม ถอนหมั้นเขาซะละ “ผมพูดและทำท่าจะลุกขึ้น แต่ว่า “หมับ” มีคนดึงรั้งผมไว้ซะก่อน

“หึงเหรอ ถ้าใช่พี่ดีใจน่ะ” พี่ปฐวีย์พูด

“ดีใจที่ผมหึงน่ะ “ผมถามพี่ปฐวีย์

“ถ้าหึงก็แปลว่ามีใจให้พี่แล้วไง รักถึงได้รู้สึกหึง “พี่ปฐวีย์พูด ผมก็ต้องหันหน้าหนี่พี่เขาทันที ไม่เคยอายก็ต้องอายละวันนั้

“รู้ไหมว่าทำไมพี่ให้ตั้นพาเมย์มาหาพี่ เพราะว่าพี่รอให้เมย์มาหาเองไม่ได้หรอก พี่อยากให้มันเคลียร์ไปเลย และนั้นพี่จะได้ค้นหาหัวใจคนที่ผมต้องการได้ และพี่ก็ได้แล้ว หัวใจภาคินนี้ไง คนที่พี่คิดว่าพี่ตามหามานาน แต่ไม่เจอสักที ฟ๊อด!!!” ผมก็ต้องกลับมากอดผู้ชายคนนี้อีกครั้ง

******

มาลงครึ้งแรกให้ก่อนนะคะ ครึ้งหลังจะมาพรุ่งนี้ คู่ต่อสู้ที่สูสีเขาจะปะทะกันอีกแล้ว ฝากอยู่เป็นกำลังใจให้คนแต่งก่อนนะคะ
ขอบคุณทุกคอมเม้นให้กำลังใจนะคะ  พี่ตั้นกับน้องเมย์ยังมีบททดสอบต่อไปอีกนะคะ อย่าเพิ่งหนีกันไปไหนนะคะคนอ่านที่น่ารัก  :pig4:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.22 (พี่ปฐวีย์VSภาคิน) รางวัลที่อยากได้คือภาคินNC18+
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 07-12-2020 20:50:26
 :oo1:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.22 (พี่ปฐวีย์VSภาคิน) รางวัลที่อยากได้คือภาคินNC18+
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 08-12-2020 00:39:03
ร้อนแรงเร่าร้อนเว่อร์คู่นี้ป็นงานกันดี  :oo1: :jul1: 5555 ฟินไปอีกคู่  :-[ 
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.22 (พี่ปฐวีย์VSภาคิน) รางวัลที่อยากได้คือภาคินNC18+
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 08-12-2020 12:30:07
ชอบปฐวีเราะ
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.22.1 (พี่ปฐวีย์VSภาคิน)ใครคือพี่ไออุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 08-12-2020 14:39:51
       ปฐวีย์ ตื่นเช้ามาก็เจอคนที่ผมรู้สึกว่าผมค้นหาเขามานาน ใครก็คงคิดว่าผมต้องชอบผู้หญิงที่สวย เรียบร้อย วาจาน่ารักอ่อนหวานแต่จริงๆแล้ว ผมชอบผู้ชายมานานแล้ว ตอนแรกผมก็ชอบเมย์น่ะ แต่พอไปนานๆ เข้า ผมคิดว่าผมอาจจะแค่สงสารเขาที่ชีวิตของเขาเจอแต่เรื่องร้ายๆ มา จนถึงขนาดยอมไปแต่งงานกับผู้หญิงอะไรก็ไม่รู้ คิดแล้วก็ต้องส่ายหัว

   ตอนนี้ผมมานั่งรอดูเอกสารที่เลขาฯคนสวยของผมฝากพนักงานเอาไว้ให้ผม เป็นเอกสารทั้งหมดปึกใหญ่พอสมควร และมันก็เพียงพอที่ผมจะให้ทนายจัดการเรื่องถอนหมั้นปริม โดยที่พ่อเธอไม่กล้าที่จะเรียกร้องอะไรจากผมได้เลย เพราะว่ามันผิดข้อตกลงของการหมั้นหมายทุกข้อแต่ยกเว้นเรื่องบ้านเท่านั้น

“พี่ปฐวีย์ ผมกลับเลยน่ะ เมื่อคืนก็ไม่ได้กลับไปบ้าน ป่านนี้แม่ผมคงโทรไปถามเพื่อนๆ ผมกันหมดแล้ว” ภาคินบอกผมน้ำเสียงที่ดูไม่แข็งกร่าวเหมือนทุกครั้ง เหมือนเด็กออดอ่อนผู้ใหญ่ จนผมต้องเงยหน้ามองภาคิน ผมมานั่งดูเอกสารทั้งหดมในห้องเล็กๆสำหรับประชุมเล็กๆหรือการสนทนาที่เป็นส่วนตัว ผมก็ว่าจะกลับเข้าบ้านเหมือนกัน แต่จะว่าไปตอนนี้มันใกล้จะเวลาอาหารเที่ยงแล้วด้วยผมพลิกข้อมือดูนาฬิกาข้อมือราคาแพง  ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองหนุ่มหล่อตรงหน้าอีกครั้ง 

“น่าจะอยู่ทานอาหารกลางวันกับพี่ก่อนน่ะ “ ผมพูดพร้อมกับดันตัวเองไปพิงพนักเก้าอี้

“ไม่เอาอ่ะ เอาไว้ตอนเย็นค่อยไปหาพี่แล้วกัน “ภาคินพูด ก่อนจะหันหลังเดินออก

“ก็ได้ครับ “ผมบอกภาคินว่าว่าจะชวนไปทานอาหารที่บ้านพ่อกับแม่ผมอยู่บ้าน ผมจะพาไปเปิดตัวกับพ่อแม่ผมแล้วเช่นกัน ผมบอกพ่อแม่ของผมไปแล้วว่า ท่านได้ลูกสะใภ้คนใหม่แล้วในช่วงข้ามคืนและพ่อผมบอกว่ารู้จักครอบครัวภาคินดีซะด้วย

“ผมไปก่อนนะพี่วีย์ เจอกันตอนเย็นน่ะ” ภาคินเหลียวหลังหันมาบอกผมและโบกมือ

“ที่รัก” ผมเรียกภาคินเอาไว้สะก่อนพร้อมกับจะหมุนเก้าอี้มามองตามหนุ่มน้อยของผมที่ใจคอจะทิ้งให้ผมทานอาหารกลางวันคนเดียวได้ลงคอ ภาคินชะงักเท้าก่อนจะก้าวออกไปและาหันกลับมามองผม ผมชี้แก้มตัวเอง

“เป็นที่รักของพี่แล้ว เปลี่ยนจากไหว้มาเป็นหอมแก้มพี่แทนนะครับก่อนจะไป” ผมพูด ภาคินหันมาเหลือกตาขึ้นบนก่อนจะจะเดินกลับมาและโน้มตัวลง

“ฟ๊อด!!”

“พอใจไหมครับ ที่รัก” แต่ว่าอันนี้ยิ่งพอใจกว่า ภาคินเดินหันหลังออกไปทันที

      ผมก็นั่งดูเอกสารที่เลขาฯผมทำมาให้พร้อมที่จะมอบให้ทนายที่ดูแลครอบครัวผมมาช้านาน เพื่อนำไปใช้ในการถอนหมั้นปริม และผมก็จะไม่ต้องชดใช้อะไรทั้งสิ้นรวมถึงเขาและผม แต่ยกเว้นเรื่องบ้านเงินก็ไม่สามารถที่จะได้มาให้เมย์เช่นกัน ถ้าเขาเลือกที่จะเอาเงินตั้งแต่แรกผมคงควักจ่ายไปแล้ว แต่ตอนนี้ผมกับเมย์เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว(ไม่เคยจะดีกว่า) และเขาก็เลือกที่จะไปรักกับคนที่เขารัก ดังนั้นผมคงไม่สามารถที่จะเจียดเงินถึงสามสิบล้านไปซื้อบ้านหลังนั้นได้ ผมเหลือบมองกุญแจรถของภาคิน ที่วางอยู่ตอนที่เขาก้มลงหอมแก้มผมและเจ้าของก็เดินออกไป แอบอมยิ้มตั้งใจลืมหรือเปล่าน่ะผมคิดว่ามารอบนี้คงจะให้อยู่ทานอาหารเที่ยงด้วยเลย



“ปึก” เสียงประตูถูกผลักเข้ามา ผมก็ก้มหน้าก้มตา เลยถามไปว่า “ลืมอะไรเหรอครับที่รัก” ผมถามก่อนจะเงยหน้าขั้นมอง ปรากฏว่าคนที่เดินเข้ามาไม่ใช่ภาคินแต่เป็น ปริม ผมก็วางปากกาลง และมองผู้หญิงคนที่เดินเข้าหยุดมองผม

“อุ้ย! ลืมอะไรเหรอครับที่รัก แสดงว่าพี่เองนั่นแหละที่ผิดกฎเรื่องหมั้นกับปริม มีแฟนใหม่ทันทีหรือมีมานานแล้วกันแน่” ปริมพูดพร้อมกับยืนกอดอกมองมาที่ผม

“ผมว่าเราไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้วน่ะคุณปริม เชิญออกไปครับ ผมจะทำงาน” ผมพูด

“แต่ปริมคิดว่าเราควรจะมี” ปริมพูด

“มีอะไรอีกเหรอครับคุณปริม” ผมถามพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองหน้าคนที่ยืนอยู่ เธอเป็นผู้หญิงสวยเหมือนจะดูแพงแต่หาคุณค่าและราคาไม่ได้ และทั้งหมดนี้มันก็มาจากความโลภของพ่อเธอ

“มีค่ะ ทำไมพี่ปล่อยให้ไอ้เด็กบ้านั้นมันไปหาคนของปริม”

“ถ้าเขาเป็นคนของปริมจริง เขาก็คงจะปฏิเสธเมย์แต่นี้เขาไม่ใช่ไงปริม ผมว่ายังไม่สายน่ะปริมที่ปริมจะทำตัวเองให้มีค่ามากกว่านี้” ผมพูด เธอมองหน้าผมแววตาเธอเจ็บแค้นมาก

“แต่ถ้าพี่ไม่ปล่อยมันไปปริมก็น่าจะได้คืนแล้ว”

“ผมไม่อยากเสียเวลามาอธิบายเรื่องพวกนี้น่ะ เพราะว่าปริมก็คงไม่เปิดใจรับฟัง เธอยังตาบอดอยู่ ปริม” ผมพูดก่อนจะหันไปเก็บรวบรวมเอกสารทุกอย่าง

“จนมองไม่เห็นอะไรคือเรื่องจริง” ผมพูดเธอยืนกำหมัดแน่น

“พ่อให้ปริมมา คุยกับพี่ใหม่ พ่อเขาอยากให้พี่ ยังคงหมั้นกับปริม “

“ปริมพี่ส่งทนายไปคุยกับพ่อของปริมเร็วๆ นี้ และพี่ขอยุติเอง พี่”

“ทำไมล่ะค่ะ พี่เสียใจเรื่องเด็กนั้นเหรอคะ”

“ไม่ใช่ครับปริม ผมไม่ได้งมงายเหมือนคุณปริมนี้ครับและ ผมมีแฟนแล้ว มีคนที่ผมรักแล้วครับคุณปริม “

“ส่วนเมย์เขาเลือกตั้นและพี่เดาจากที่เธอมายืนสั่นเป็นเจ้าเข้า อยู่ตรงนี้ ตั้นก็คงเลือกเมย์ ถูกต้องไหม “ผมพูดพร้อมกับปรายตามองเธอแบบเอื่อมระอาเต็มที และสิ่งที่ผมพูดมันก็คงจี้ใจดำเธออยู่มิใช่น้อย (ผมอาจจะเป็นผู้ชายปากร้าย ผมยอมรับแต่ไม่ทุกคน)

“เร็วเนอะ ใครละคะ”  เธอลอยหน้าลอยตาถามผม

“เขาคือคนที่ปริมไม่อยากรู้จักแน่นอน เพราะว่าเขาเคย ทำให้ปริมต้องกลับไปทำจมูกมาใหม่จำได้ไหมคะ”


“ดังนั้นปริมออกไปก่อนเถอะค่ะ ผมก็ขึ้นไปจัดการเอกสารส่วนตัวและกลับบ้าน แฟนพี่เขาจะมาทานข้าวกับพ่อแม่พี่ค่ะ” ผมพูด

“ได้ปริมจะทำให้พี่ต้องชดใช้เงินให้พ่อปริม “เธอไม่พูดเปล่าเธอกำลังเดินก้าวเท้าเข้ามาหาผม อย่าบอกน่ะว่าเธอจะทำเรื่องน่าเกลียดกับผมน่ะ

*****
             ภาคิน ผมเดินไปถึงรถแล้วกำลังจะเปิดประตูรถแต่ดันลืมกุญแจไว้ที่โต๊ะพี่ปฐวีย์ มัวแต่เขินอยู่ไง ผมก็รีบเดินกลับมาหาพี่ปฐวีย์ใหม่อีกครั้งจนได้ และมีหวังเขาคงคิดว่าผมตั้งใจและคงจะหาเรื่องให้ผมอยู่ต่อจนเที่ยง ไม่เอาอ่ะ ผมแอบคิดในใจ ระหว่างที่ผมกำลังเดินกลับไป ผมก็ไม่ลืมหยิบมือถือขั้นมาเพื่อกดโทรหาไอ้ธีม

// ว่าไงว่ะ มึง นี้มึงอยู่ไหนเนี๊ยะ”

// ทำไมว่ะ//

//แชร์โลเคชั่นมาเลย เพราะว่าแม่มึงน่ะโทรมาปลุกกูเนี๊ยะว่ามึงอยู่ไหน//


//ไม่แชร์// ผมพูดแชร์ไปมันก็รู้น่ะซิว่าผมมาเปิดโรงแรมใหม่ของพี่ปฐวีย์นอน

//แม้ แม้ ปากก็ว่าเขา ติเขาแต่สุดท้ายก็ไปนอนกับเขาไอ้เวร อยากลองโรงแรมหรูวิวร้อยล้านก็บอกมาดิ ชิ้งหนีเพื่อน //

// มึงรู้ได้ยังไง//

//เลขาพี่เขาอยู่กับกูว่ะ //

//ไอ้เชี้ย แล้วน้องแก้มบุ๋มมึงล่ะ//

//ผัวน้องเขามาสัส!! ดีที่กูชิ้งทัน ไม่เทพทำไม่ได้นะมึง // ชมตัวเองได้หน้าด้านสุดๆ ไอ้ธีมเพื่อนผม

//แค่นี้น่ะ ไอ้กะล่อนเอ๊ย// ผมรีบกดวางสายก่อนจะเดินมาที่ประตูผมคิดว่าพี่ปฐวีย์คงยังไม่กลับขึ้นไปแน่ๆ เพราะว่าผมเพิ่งจะออกไปไม่ถึงยี่สิบนาทีเอง ผมเห็นแม่บ้านกำลังเข็นรถเข็นอุปกรณ์ทำความสะอาดกำลังจะผ่านไป ผมจับที่จับประตูพร้อมกับบิดเพื่อดึงออกมาแต่สิ่งที่ผมเห็นคือเจ้ปริมกับพี่ปฐวีย์ ผมรีบปิดประตูลง (ไม่ต้องคิดว่าผมจะวิ่งออกไปนั่งร้องไห้ในรถเพราะว่ากุญแจก็ลืมไปที่พี่ปฐวีย์ จะให้หนีไปเรียกแทกซี่ไม่ใช่ผมแน่นอน)

“ขอโทษนะครับ อันนี้ใช้ฉีดทำอะไรน่ะครับ”

“สวัสดีค่ะคุณ เออ เป็นแขกที่นี้เหรอคะ”

“ใช่ครับ รบกวนบอกผมหน่อยว่าเอาไว้ฉีดอะไรครับนี้ “ผมหยิบสเปรย์ฉีดอะไรสักอย่างมันเขียนเอาไว้ว่า “Kill 99% Germ”

“อันนี้เหรอคะ คุณจะเอาไปทำอะไรเหรอคะ”

“จะขอไปฉีดสิ่งสกปรกที่ห้องรับรองคุณปฐวีย์สักหน่อยน่ะครับ”

“กลิ่นมันแรงมากค่ะ ปกติใช้ฉีดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำค่ะ “

“อ้อ งั้นผมยื่มก่อน”

“เดี๋ยวค่ะคุณ!!! ” ผมพูดและหยิบมาติดมือมาทันที เดี๋ยวเจอกันพี่ปริม ผมเปิดประตูเข้าไปอีกครั้ง ผมก็นางปริมมัน เดินเข้าหาพี่ปฐวีย์ พี่เขามองผม ผมก็จุ๊ปาก ก่อนจะเดินย่องเข้าไปแบบเงียบๆ

“ปริมเองก็ไม่อยากทำหรอกค่ะ แค่คำสั่งพ่อของปริม อย่างน้อยพี่ก็ต้องจ่ายค่าเสียหายให้ปริม ให้มันมากพอ”

“เดี๋ยวกูจ่ายให้พี่ปริม” ผมพูดและกระฉากนางออก กระเด็นไปข้างหลัง

“ตุบ! “ร่างบางๆ นั้นกระเด็นไปกองอยู่ที่พื้นทันที นางหันมามองผมด้วยสีหน้าที่ตกใจ

“อะไรของมึงอีกเนี๊ยะ ไอ้ภาคิน มึงมายุ่งอะไรกับกูอีก นี้กูมาหาคู่หมั้นกู” พี่ปริมพูด ผมหันมาเลิกคิ้วมองพี่ปฐวีย์ พี่เขาสั่นหัวว่าไม่ใช่

“เขาถอนหมั้นมึงแล้วพี่ปริม ความจำเสื่อมเหรอ เมย์มันตบเข้าให้ทีเดียว ความจำกระเด็นไปเลยเหรอ” ผมพูด พี่ปฐวีย์หันมามองผมอย่างไม่อยากจะเชื่อที่ผมพูด ว่าเมย์จะกล้าตบนางชะนีนี้

“ปริมครับ พี่กำลังจะบอกอยู่ว่าแฟนใหม่พี่น่ะ คือ ภาคินครับ” พี่ปฐวีย์พูด นางถึงกับถลึงตาใส่ผมทันที

“ไอ้นี้นี่น่ะ แฟนพี่!!! “พี่ปริมพูดและหันมาแสดงอาการตกใจ

“ใช่กูนี่แหละพี่ปริม คราวนี้แหละ กูคงได้สู้รบตบมือกับเจ้สนุกล่ะ เพราะว่าผมน่ะไม่ใช่เมย์” ผมพูดก่อนจะเดินก้าวเท้าไปหาเธอ แต่เธอกับถอยหลังหนี

“กูอยากจะกลับมาหาตายเลยแหละ จืดชืดจะตายมึงอยากได้ก็เอาไปเถอะ “พี่ปริมพูด พี่ปฐวีย์หันมามองผม

“ดีเลย ฉันจะไปเอาของฉันคืน ตั้นและก็ไม่ต้องไปเสนอหน้าทำเป็นหมาหวงก้างกับฉันล่ะ ส่วนเมย์มันน่ะไม่กล้ากับฉันหรอก คงได้แต่นั่งร้องไห้ขี้มูกโป้ง แต่คนอย่างฉันน่ะมันเป็นพวก…”

“ด้านได้อายอด” ผมพูดต่อท้ายให้ทันที

“ก็ใช่ไงกู …อ้ายยย ไอ้ ไอ้ ไอ้ตุ๊ด มึงด่ากูเหรอ” พี่ปริมถึงกับเดือดเป็นกิ่งกือโดนน้ำร้อนทันที ส่วนพี่ปฐวีย์ก็เอาแต่หัวเราะในลำคอ

“ไอ้ตุ๊ด!! ” ผมต้องพ่นลมหายใจออกมาเพื่อพยายามระงับความโกรธ ไม่อย่างนั้นฝ่ามือผมคงได้เอาขวดน้ำยาฉีดนี้ฟาดชะนีเข้าบ้างล่ะ

“พี่ปฐวียีครับ ผมว่าจะเข้ามาถามพี่ว่าน้ำยาฉีดยี่ห้อนี้ มันใช้ดีเหรอครับ”

“พี่ไม่แน่ใจน่ะ เพราะว่าพนักงานทำความสะอาดน่ะ พี่จ้างบริษัทนอกเข้ามาน่ะครับ เมียครับ” พี่ปฐวีย์พูด พี่ปริมได้ยินถึงกับเบ้ปาก

“ผมเห็นมันเขียนเอาไว้ว่าใช้กำจัด พวกแบคทีเรีย พวกเชื้อโรค แล้วมันสามารถกำจัดเชื่อบ้าได้ไหมครับ” ผมพูด ก่อนจะหันมามองหน้าพี่ปริม

“แกมองหน้าฉันแบบนี้ คืออะไร “

“ก็เจ้น่ะ มีเชื้อบ้าไง” ผมพูด “ฟิต ฟิต ฟิต “ผมฉีดสเปรย์ใส่เธอทันที และผมก็ต้องก้าวถอยหลัง เออ เหม็นจริงๆ ด้วย ส่วนคนที่ถูกฉีดใส่นี้ก็หันส่ายหันขวา

“กรี้ดดดด” เสียงกรี้ดราวกับโดยอะไรสักอย่างที่ทำให้นางถึงกับดิ้นพล่านไปเลย

“ไอ้ …”

“ด้ากูอีกที ขวดนี้ฟาดหน้ามึงแน่ และกูจะได้ไม่ต้องฉีดให้เมื่อยมือกูด้วย” ผมพูด

“พี่ปฐวีย์ พี่ ปล่อยให้ไอ้…. นี้มันทำกับปริมแบบนี้ไม่ได้นะคะ ไม่อย่างนั้นพ่อปริมไม่ยอมแน่ พี่ควรจะ”

“แล้วจะให้พี่ทำยังไงล่ะครับ ปริมด่า เมียพี่เอง และพี่ก็เป็นคนเกรงใจเมีย ให้เมียตัดสินเอาเลย พี่มีเวลามากพอจะนั่งดู” พี่ปฐวีย์พูดพร้อมกับเอามือเท้าค้าง มองผมกับพี่ปริมสลับกันไปมา ส่วนพี่ปริมเองก็ถอยหลังก่อนจะหันมามองผมกับขวดน้ำยาทำความสะอาด

“ดูท่าเชื้อบ้าจะเยอะไปน่ะ เจ้น่ะ ขวดนี้ก็เอาไม่อยู่ ไปหายาฉีดเถอะ ยาสำหรับพิษสุนัขบ้าน่ะ” ผมพูด

“กรี้ดดด ไอ้… ภาคิน คอยดูน่ะกูได้ตั้นคืนมาเมื่อไหร่มึงคนแรกเลยที่กูจะให้ตั้นตัดออกไปจากชีวิต อ้ายยย!!!! ”

“ยังอีก เดี๋ยวฉีดให้หมดขวดเลย” ผมพูดและทำท่าจะฉีดเพิ่ม

“แหละนี่แกเอาอะไรมาฉีดฉันเนี๊ยะ เหม็นฉิบหาย”

“เมื่อกี้ถามคนทำความสะอาดเขาบอกเอาไว้ฉีด สุขภัณฑ์ที่เรียกว่าสวม และมันเข้ากับพี่ปริม”

“กูไม่ใช่สวม!! ”

“เคยได้ยินคำพังเพยไหมครับพี่วีย์ ที่บอกว่า มีลูกสาวก็เหมือนมี ….”

“อ้อ สวมอยู่หน้าบ้านนะเหรอ “พี่ปฐวีย์ตอบ ผมหันมามองพี่ปริม เธอถึงกับกำหมัดแน่น (แน่นอนคำนี้เธอโดนพ่อเธอพูดใส่หน้ามาไม่รู้กี่ครั้ง “มีลูกสาวก็เหมือนมีสวมอยู่หน้าบ้าน”

“อันที่จริงยุกต์นี้ไม่มีใครเป็นแบบคำพังเพยนี้กันแล้วน่ะ ทำไมเจ้ยังใช้อยู่อีกล่ะ กลับไปทำตัวดีดีดีกว่าไหม คนเขาไม่รัก มึงจะดันทุรังทำไมว่ะ กูอยากรู้ และจะว่ามึงไม่มีปัญญาหาเหรอ ไม่ซิ มีเยอะแยะไป “

“เรื่องของกู “เจ้ปริมพูดก่อนจะเดินออกไป

“ปริม พี่หวังว่าปริมจะไม่มาทำเรื่องวุ่นวายในโรงแรมของพี่อีก เพราะว่าเรื่องของปริมกับพี่มันจบแล้ว หลักฐานที่ปริมทำตัวเองมันเพียงพอแล้วที่พี่จะถอนหมั้น “พี่ปฐวีย์พูดก่อนจะลุกขึ้นมายืนข้างๆ ผม

“และพี่ก็มีแฟนแล้ว ถ้าปริมยังมาหาเรื่องใส่ตัวพี่ก็คงห้ามอะไรภาคินไม่ได้ พี่เกรงใจเมีย “

“กลัวเมียดีกว่ามั้ง”

“คงจะใช่น่ะ” พี่ปฐวีย์พูด

“อยากจะมาหาตายเลย ถ้าพ่อไม่บังคับให้ปริมมา แต่ต่อไปปริมก็คงไม่ขอมาล่ะ เชิญกับตามสบายเลยน่ะ “พี่ปริมพูดไว้แค่นั้นก่อนจะเดินออกไป ผมหันมามองพี่ปฐวีย์ที่ลุกขึ้นมายืนมองผม และแบมือขอกุญแจรถของผมด้วย

“อยู่ในกระเป๋ากางเกง” พี่เขาหันมาให้ผมล้วงลงไปเอง ผมก็ต้องเอามือนะล้วงลงไป

“หมับ” ผมจับเข้ากับบางสิ่งที่ยาวๆ “อันนี้กุญแจรถส่วนตัวพี่น่ะครับ เอาไว้ขับกันสองคน เอาออกไปขับท้องถนนไม่ได้เดี๋ยวโดนข้อหาอนาจารภาคิน” พี่ปฐวีย์พูด เล่นมุขตลกอีกน่ะ

“หมับ” มือพี่ปฐวีย์จับมือผมเอาไว้ ไม่ให้ควานหากุญแจต่อ “กลับมาแล้วรอทานอาหารกลางวันกับพี่เลย พี่นัดทนายคุยเรื่องพี่ปริมเอาไว้แล้วค่อยกลับบ้านพร้อมกัน” พี่ปฐวีย์พูด ก่อนจะโอบเอวผม นี้คือมัดมือฉกให้ผมอยู่ต่อเลยใช่ไหม ร้ายจริง ๆ แต่ก็ต้องยอมแหละ ผมบอกกับพี่ปฐวีย์ว่ายังไม่อยากแต่งน่ะ จะรีบไปไหน ลูกก็มีให้ไม่ได้ ว่าจะอยู่แบบนี้ไปก่อนแต่เป็นแฟนน่ะคงต้องยอมแล้วมั้ง
****

   ปริม เธอเดินหัวเสียออกมาจากห้องที่พี่ปฐวีย์นั่งอยู่แถมเธอยังได้รับเซอไพรส์ว่า ภาคินเป็นแฟนพี่ฐวีย์ แม้จะมีคำถามว่าไปเป็นตอนไหน เธอว่าจะเอามาต่อรองให้พี่ปฐวีย์ดึงนางเมย์กลับมาแต่นี้ เธอคงไม่กล้าไปตอแยแน่ๆ ก๋คนที่ทำให้เธอ เกรงกลัวดันมาอยู่ ณะ จุดที่เธอควรจะได้แต่เธอไม่แคร์ ระหว่างที่เธอกำลังเดินผ่านกลุ่มของคนงานทำความสะอาดที่กำลังคุยเรื่องงานกัน เธอก็ก้มลงมองชุดแซกสั้นเข้ารูปแต่ว่าตอนนี้กลิ่นน้ำยาที่ภาคินฉีดมันเริ่มคลุ้งไปหมด กลบกลิ่นน้ำหอมยี่ห้อดังขวาหนึ่งราคาเกือบหมื่นบาทก็ช่วยอะไรเธอไม่ได้


“นี้ เอาน้ำยามาฉีดไว้แถวนี้หรือเปล่า ทำไมกลิ่นมันคลุงแถวนี้ล่ะ บอกว่าอย่ามาฉีดไง กลิ่นแรงมากเลยเนี๊ยะ! แขกมาได้กลิ่นเข้าเขาจะคอมเพลนเอาน่ะ”

“หนูไม่ได้ฉีดอะไรเลยนะคะ แต่ว่ากลิ่นน่ะเหมือนจะเพิ่งมา กลิ่นมีมาจาก “คนที่อยู่ใกล้เธอที่สุดหันมามองปริม เธอหันขวับไป อยากจะกรี้ดแต่ก็ ต้องระงับมันเอาไว้ และรีบเดินกึ่งวิ่งท่ามกลางสายตาของพนักงานทำความสะอาดต่างพากันมองตามเธอไป เธอวิ่งมาจนถึงด้านนอก เธอเห็นรถคันสีดำ รถประจำที่เธอนั่งมีคนสนิมของพ่อเธอ เป็นคนขับรถ เธอเดินมาถึงก็

“เปิดประตูรถ” เธอออกคำสั่งทันที ประถูกเปิดออกอย่างรวดเร็วและเธอก็ก้าวเท้าขึ้นไปนั่งพร้อมกับดมกลิ่นตามตัวเธอ เหม็นมาก

“เร่งแอร์ให้ด้วยฉันร้อน!! ” ปริมออกคำสั่งคนทำหน้าที่คนขับรถ ก็ทำตามคำสังเธอ เปิดแอร์ในระดับสูงสุด และสิ่งที่ทำให้คนขับรถหันมามองหน้ากันนั้นคือกลิ่น

“อ้าว!! มองหน้ากันอยู่ได้ออกรถซิ! “ปริมแผดเสียงออกคำสั่งอีกครั้ง

“คุณปริมเปลี่ยนน้ำหอมเหรอครับ” คนขับรถถามเธอด้วยสีหน้าที่กลัวจะถูกลูกสาวของนายด่ากลับ

“เปลี่ยนบ้าอะไรล่ะ “

“คือกลิ่นมัน”

“ก็ไอ้บ้า โว้ย!! มันดันเอาอะไรก็ไม่รู้มาฉีดใส่ฉันเนี๊ยะ ออกรถไม่ต้องถามมาก”

“ผมก็ว่าแล้วมันไม่น่าจะใช้กลิ่นน้ำหอมมันเหมือนกลิ่น น้ำยา เออ น้ำยา”

“น้ำยาอะไร!!” ปริมตะคอกเสี่ยงดังถามกลับ

“น้ำยาที่เมียผมเอาไว้ฉีดห้องสวมน่ะครับ” เท่านั้นแหละ

“กรี้ดดด ห้ามพูดถึงสวม ไม่ว่าอะไรก็ตามที่มันอยู่ในสวม!! ”

“ออกรถซิ ฉันก็เหม็นเหมือนกันน่ะ” ปริมพูดพร้อมกับก้มลงดมกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ เธอก็ต้องทำหน้าตาเหยเกขึ้นมาทันที

“กรี้ดดดด!!!! ” เสียงกรี้ดลั่นรถอีกครั้ง

“ตอนเด็กๆ คุณปริมแกเผลอกลืนนกหวีดลงไปหรือไงว่ะมึง ร้องกรี้ดมาทีนี้แก้วหูจะแตก” คนที่นั่งข้างๆ คนขับรถ

“แล้วนี่เราจะต้องทนดมกลิ่นไปถึงบ้านไหมว่ะ” คนขับรถกับคนนั่งข้างๆ หันมามองหน้ากัน ปริมต้องเอาผ้าเช็ดหน้ามาปิดจมูก เพื่อลดกลิ่นที่คละคลุ้งไปรอบๆ ตัวเธอ รถเธอแล่นมาได้สักพักขณะที่กำลังจอดติดไฟแดง

“คุณปริมครับกลิ่นมันแรงมากเลยนะครับ ผมว่าเราเปิดกระจกก่อนไหมครับให้กลิ่นมันได้ถ่ายเทออกไปบ้างนะครับ” คนขับรถยื่นขอ้เสนอให้ปริม เธอมองไปรอบๆ มีรถมอเตอร์ไซ้ที่จอดรอติดไฟแดง ล้อมรอบไปหมด ถ้าเปิดกระจกไป นี้พวกมันคงได้หัวเราะเธอกันแน่ๆ กลิ่นมันเหมือนนั่งอยู่ในห้องน้ำตลอดเวลาแบบนี้

“เปิดไปพวกนี้มันก็รู้ซิ อย่าเปิดเด็กขาดเลยน่ะ ถ้าไม่ ฉันจะไล่ออก”

“แล้วจะให้ผมสองคนดมไปจนถึงบ้านคุณปริมเหรอครับ”

“เออ!! ” แค่นั้นสองหนุ่มก็ต้องอดทนอดกลั้นไปจนถึงบ้านของปริม และทันทีที่รถคันสีดำเข้าไปจอด ประตูถูกเปิดออกราวกับใช้เท้าถีบแต่ละคนลงมาพร้อมกับอาเจียนและกลิ่นที่คลุ้งไปทั่วในรถก็เริ่มออกมาสู่ภายนอกรถ

“อ้วก!! ” ปริม

“เกิดอะไรขึ้น นี้แก เป็นอะไรน่ะ อย่าบอกฉันนะว่าแก ท้องน่ะปริม “ผู้เป็นพ่อของเธอเดินออกมาพอดี พอเห็นอาการลูกสาวแบบนั้น

“หนูนี้น่ะ จะท้อง พ่อไม่ต้องกลัวหรอก เพราะจากที่พ่อเลี้ยงดูปริมมา สภาพมันเป็นยังไงนั่นแหละที่ทำให้ปริมเองไม่อยาก มีลูก!! ”

“แล้วนี่ แกไปขอโทษคุณปฐวีย์หรือยัง “

“พ่อยังจะให้ไปขอโทษอีกเหรอ ไอ้นั่นน่ะมันมีเมียไปแล้ว”

“ฮ่ะ อะไรน่ะ มึงมันโง่จริงๆ กูน่าจะเอาขี้เทายัดปากตั้งแต่เกิด“

“ที่จริงพ่อก็ควรจะทำแบบนั้นน่ะ เพราะว่าปริมจะ ได้ไม่ต้องมาเจอเรื่องเฮงซวยแบบนี้ไง และปริมจะไม่ไปหาคุณปฐวีย์อีกเป็นอันเด็ดขาด “ปริมพูด เธอทำท่าจะหันหลังเพื่อเดินขึ้นบ้าน ท่ามกลางสายตาผู้เป็นแม่ที่ทำได้แค่มองเธอ

“ทำไม คราวนี้ไม่ไปสู้รบตบมือเข้าละ ที่กับไอ้เด็กเวรนั้นและไอ้เจ้าของบริษัทเฮ็งซวยนั้นล่ะกล้าหนัก” พ่อเธอพูดทำให้ปริมต้องชะงักเท้า

“กูบอกว่าให้มึงเอาเขามาทำผัวและส่วนเรื่องจะไปเล็กๆน้อยกับคู่มึง กูก็จะไม่ว่า แค่นี้มึงทำให้กูไม่ได้หรือปริม” พ่อของเธอพูด

“จ้างให้ปริมก็ไม่ไป เพราะว่าไอ้คนที่พี่ปฐวีย์เอาไปทำเมียน่ะ มันเคยฟาดดั้งปริมหักมาแล้วไง เลือดกบปากมาแล้วด้วย พ่อจำไม่ได้หรือไง “ปริมพูด

“นี้ไอ้ปฐวีย์มันเอาผู้ชายทำเมียเหรอ!! ”

“ใช่ ถ้าพ่ออยากได้หนักอยากได้หนาน่ะ คราวนี้ถ้าพ่อยังอยากได้คุณปฐวีย์อะไรนี้อยู่ละก่อ ไปเอาเองเลยเพราะว่าพ่อน่ะผู้ชายเหมือนกัน! ไปเอาเองเลย!!!”

“และปริมยกมือยอมแพ้! กับไอ้คุณปฐวีย์อะไรนี้แล้วด้วย ปริมจะไปเอาคนที่ปริมรักคืน “

“อีปริมมมม” เสียงเรียกชื่อเธอตามหลังมาแต่เธอหาได้แค่ไหม รีบเดินขึ้นห้องพร้อมกับตรงไปเข้าห้องน้ำ เธอคงจะต้องใช้เวลาชำระล้างกลิ่นน้ำยาบ้าๆ นี้อยู่หลายรอบทีเดียว

******

       ภาคิน สุดท้ายผมก็อยู่กับพี่ปฐวีย์อีกเต็มวันจนกระทั่งพี่เขาพามาทานอาหารเย็นที่บ้าน แปลกเนอะแม่ผมหรือพ่อผมก็ไม่โทรมาหาผมเลยทั้งวัน ไม่โทรมาบ่นเลยสักคำ แต่ก็ช่าง คืนนี้คงไม่ขอนอนค้างแน่นอน เพราะว่าการเป็นแฟนกันมันต้องมีช่องว่างให้กันบ้าง

“เชิญครับที่รัก” พี่ฐวีย์เป็นคนขับรถผมกลับมาบ้านของพี่เขา มันก็รู้สึกแปลกน่ะ มีคนรักขับรถให้ด้วย แถมยังนั่งกุมมือผมตลอดทางเล่นแบบนี้ ภาคินที่เขินแทบจะไม่เป็นเขินเป็นเลยคราวนี้ แต่ระหว่างที่ยืนอยู่ ผมเหลือบไปมองรถที่มาจอดอยู่หลายคันที่บ้านพี่ปฐวีย์ มันคุ้นตาผมมาก เหมือนจะเป็นรถพ่อแม่ผม รถพี่ชายผมอีก ผมหันกลับมามองหน้าพี่ปฐวีย์

“พ่อแม่พี่เขาเชิญพ่อแม่เรามาทานอาหารด้วยกันนะครับ”

“เฮ้ย! ทำไมอ่ะ”

“พี่เป็นคนเข้าตามตรอกออกตามประตูครับภาคิน พี่พาเรามานอนกับพี่แบบนั้นแล้ว และพี่เป็นคนจริงจังครับ และลูกผู้ชายพอที่จะกล้ารับผิดชอบดูแลคนที่ยอมให้พี่ขนาดนั้น ในฐานะคู่รักคู่ชีวิตของพี่”

“มันเร็วไปพี่ปฐวีย์” ผมพูดและทำท่าจะเดินออกไปเข้ารถขับกลับบ้านผมดีกว่า

“ภาคิน!!” นั้นไงแม่ผมเดินมาเรียกชื่อผม แล้วผมจะกล้าก้าวเท้าไปต่อได้อย่างไร นั้นไงคุณหญิงแม่ของผมเดินปรี่มาอย่างเร็ว หูชาแน่ๆ ผม

“สวัสดีครับ คุณแม่”

“สวัสดีค่ะ ไออุ่น แม้โตเป็นหนุ่มแล้วจำไม่ได้เลยลูก และนี่พ่อตัวดี ไปเมาหัวราน้ำมาอีกแล้วใช่ไหม” ผมถึงกับหันมามองหน้าแม่ผม ตอนที่เรียกพี่ปฐวีย์ว่าไออุ่น ผมชี้พี่กลับ

“พี่ไออุ่นไง เมื่อก่อนบ้านเรานะ มาสังสรรค์บ้านพ่อแม่พี่เขาบ่อยๆ พ่อเขากับพ่อพี่ไออุ่นน่ะ อยู่ชมรมตีกอล์ฟด้วยกัน มาตั้งแต่หนุ่มๆแล้ว ไป ไป เข้าบ้าน พี่ๆ เราก็มานั้น “ผมหันมามองพี่เขาแบบไม่น่าเชื่อ

“พี่ก็ไม่เคยรู้น่ะ จนพ่อแม่พี่เขาคุ้นๆ นามสกุลน่ะ และพอพ่อแม่ของพี่และพ่อแม่เราได้พูดคุยกัน ถึงได้รู้ว่าเป็นเพื่อนกันมาก่อน “พี่ปฐวีย์พูด

“พี่ไม่เคยเชื่อเลยนะว่าโลกกลมๆ ใบหนี้จะเหวี่ยงคนที่เคยเจอกัน ให้กลับมาพบกันได้อีกในตอนนี้ หรือเรียกอีกอย่างน่ะว่าโลกกลมพรหมลิขิต”

“ที่เหวี่ยงเอาเด็กน้อยที่เคยวิ่งตามพี่มาหาพี่อีกครั้ง” พี่ปฐวีย์พูด ผมก็ชี้ตัวผมเองนี้น่ะเด็กน้อยที่วิ่งตามพี่เขา น่ะผมสั่นหัวไปมาว่าไม่จริงมั้ง จำผิดคนแล้ว

“แล้วพี่ชื่อไออุ่นเหรอ” ผมถามพี่ปฐวีย์กลับด้วยน้ำเสียงที่ไม่อยากจะเชื่อ

“ใช่ครับ ชื่อเล่นพี่แต่ พี่จะให้พนักงานในโรงแรมเรียกพี่ว่าคุณไออุ่น มันดูไม่น่าเชื่อถือ เลยให้เรียกว่าคุณวีย์ก็พอ”

“แต่ถ้าภาคินจะเรียกพี่ว่าไออุ่น พี่ยินดีน่ะครับ เพราะว่าภาคินคือคนพิเศษของพี่ “พี่ปฐวีย์พูดก่อนจะเอามือมาโอบเอวผมเข้าบ้าน ผมก็สะบัดออกก่อน พี่เขามองหน้าผมทำไมล่ะ

“พี่…”

“หึ” พี่ปฐวีย์

“พี่ไออุ่น ผมอายพี่ชายผมอ่ะ “ผมพูด “หึ หึ โอเค เอาไว้ก่อน เข้าบ้านครับ ที่รัก” พี่ปฐวีย์พูด ผมเดินเข้ามาด้านใน วันก่อนมาพักนี้จำไม่ค่อยได้แต่ภายในบ้านตกแหล่งได้ดูคลาสสิคมาก พ่อผมกับพ่อพี่ปฐวีย์ ก็คุยกันออกรถออกชาติเหมือนเพื่อนเก่าแก่ที่มาเจอกันอีกครั้ง ส่วนพี่ชายคนโตของผมพี่ภาคิไนย์ และพี่คนที่สองพี่ภาคย์ และคนที่สามพี่ภูมิ ส่วนคนที่สี่คงไม่ได้มา พี่ภีมปภพ ผมก็นั่ง ก่อนจะหันไปมองหน้าพี่ๆ ผมทั้งหมด พี่คนโตหันมาหยักคิ้วให้ผม พี่คนที่สามทำนิ้วเฉือดคอให้ผมดู ประมาณว่าผมงานผมเข้า

“สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้พ่อแม่พี่ปฐวีย์

“คนนี้หรือเปล่าคนเล็กนายน่ะ ที่เมื่อก่อนมาวิ่งเล่นที่บ้าน” พ่อพี่ปฐวีย์ถามพ่อผม ก่อนจะชี้มาที่ผม ผมก็ต้องเลิกคิ้วสูงผมนี้น่ะ เคยมาวิ่งเล่นที่นี้ด้วย

“ใช่แล้วค่ะ คนนี้แหละ เมื่อก่อนมายังแค่สามสี่ขวบเองค่ะ”

“ตอนนั้นมายังเด็กอยู่เลย วิ่งตามพี่ไออุ่นเขาน่ะ ไม่มีเพื่อนเล่น พี่ๆ เล่นเกมกันหมด วิ่งร้องเรียกพี่ไออุ่น พี่ไออุ่นเมาเล่นกับผมหน่อยอยู่เลย ดูซิ ตัวโตแล้ว และนี่กลับมาเจอกันยังไงล่ะ” แม่พี่ปฐวีย์พูด ผมเองก็ต้องเกาหัว พี่ปฐวีย์หันมามองหน้าผม

“คืนนี้มีงเตรียมนั่งสารภาพบาปกับแม่เลยน่ะ ถึงเที่ยงคืนน่ะมึงน่ะ “ไอ้พี่ภาคย์พูด ผมหันไปจะหยิกให้ พี่ชายที่สอง พี่ชายคนแรกจะแต่งงานแล้วปีนี้แหละส่วนคนที่สองก็กำลังจะขอ และคนที่สามไม่รู้ว่าจะไปต่อไหม เพราะว่ารักๆ เลิกๆ พี่คนที่สามผมเจ้าชู้มาก และคนที่สี่อีกคนยังไม่มีท่าทีว่าจะมีแฟนเลยสักคน ผมก็ต้องนั่งฟังพ่อแม่ผมกับพ่อแม่พี่ปฐวีย์รื้อฟื้นเรื่องเก่าๆ ผมเองเคยเจอพี่ปฐวีย์มาก่อน ยี่สิบสี่ปีได้ ใครจะไปจำได้ จะว่าไปชื่อเล่นว่าพี่ไออุ่นมันก็เข้ากับความอบอุ่นของพี่เขาเหมือนกัน เราก็คุยกันไปทุกเรื่องแม้กระทั่งเรื่องของผมกับพี่ไออุ่น พ่อแม่ก็อยากให้ทำแบบถูกต้องตามประเพณีแต่ผมบอกว่ารอให้พี่ชายแต่งก่อนแล้วกัน ส่วนผมเองขอดูใจพี่เขาต่ออีกหน่อย และนี้พี่ปฐวีย์ยังขอพ่อแม่ผมว่าอยากให้ผมมาช่วยเรื่องการตลาดที่โรงแรมเต็มตัวอีก พ่อผมก็อนุญาตทันที พี่ไออุ่นเขาบอกว่าถ้ายังไม่อยากทิ้งเพื่อนก็ทำกับเพื่อนด้วยก็ได้ แต่ผมเองกับคิดว่าผมควรจะปล่อยมือไอ้แล้ว ผมยื้อมานานเกินไปแล้ว ผมว่าตั้นมันมีคนที่ใจมันต้องการแล้ว ผมเองก็คงอยู่ในฐานะเพื่อน เพื่อนกันตลอดไปอย่างที่ไอ้ตั้นมันเคยบอกผมไว้

*****
วันนี้มาฝากไว้อีกตอนนะคะ กำลังใจเห็นแล้วต้องยิ้ม วันนี้มาแค่ตอนเดียวก่อนค่ะ อยู่เป็นกำลังใจต่อนะคะจนจบเลย
ตอนหน้าเจ้ปริมแกยังไม่หยุดน่ะ (แอบสงสารเหมือนกันดันมาเจอแก๊งนี้โธ่เจ้ปริมคนสวย ฮาๆ )

หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.22.1 (พี่ปฐวีย์VSภาคิน)ใครคือพี่ไออุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 08-12-2020 14:56:59
 :-[ :impress2:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.22.1 (พี่ปฐวีย์VSภาคิน)ใครคือพี่ไออุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 08-12-2020 19:43:08
พี่ไออุ่น  เหรอออ
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.22.1 (พี่ปฐวีย์VSภาคิน)ใครคือพี่ไออุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 08-12-2020 20:52:59
 :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.22.1 (พี่ปฐวีย์VSภาคิน)ใครคือพี่ไออุ่น
เริ่มหัวข้อโดย: Tanthai23 ที่ 09-12-2020 07:00:46
 :sad4: :o8: :-[ :impress2:
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.23 (เฮียตั้นVSเมย์)เจ้ผู้ไม่ยอมแพ้ใคร 1
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 11-12-2020 18:43:13
        เมธานินท์   วันนี้พี่ตั้นไม่อยู่บอกว่าจะไปแก้งานที่คลินิกไม่ไกลมากไปกับพี่ๆ ไปกันเกือบทั้งหมด เพราะโปรแกรมที่ให้ลงค่อนข้างซับซ้อน พี่ธีมกับพี่ภาคินไม่ได้ไป จะว่าไปผมก็ไม่ได้เจอพี่ภาคินมาหลายวันแล้ว ผมยังไม่ได้ขอบคุณเรื่องที่ช่วยผมกับพี่ตั้นเลยและถ้าวันนั้นถ้าผมไม่ได้พี่ๆ ผมคงเสียพี่ตั้นไปจริงๆ ผมนี่โชคดีมากแค่ไหน ที่มาเจอคนรอบข้างดีขนาดนี้ แต่ก็ยังโชคร้ายที่ต้องมาเจอคู่ต่อสู้อย่างพี่ปริม ผมกลัวว่าถ้าผมปะทะกับเธอขึ้นมา คนที่เดือดร้อนคือน้องๆ ผม โดยเฉพาะวิว ผมเลยเรื่องที่จะเลี่ยงและยอม เพราะว่าไอ้รงค์ก็คือสมุนของเธอคนหนึ่งเช่นกัน คิดแล้วก็ต้องถอนหายใจทุกที

      วันนี้พี่ตั้นเลยฝากให้สาวๆ มาอยู่เป็นเพื่อนผม และไหน ไหนก็มากันครบ โบว์และเพื่อน เบนซ์ และมัดหมี่ เลยพากันขับรถไปหาซื้อของกินกัน ก็ไม่พ้นร้านที่สาวชอบกัน ร้านส้มตำ น่าเสียดายเฟย์บอกที่มหาวิทยาลัยมีกิจกรรมเลยมาไม่ได้ เพราะว่าเฟย์เป็นพี่ปีสองต้องดูแลเทคแคร์น้องปีหนึ่ง

“พี่เมย์ ส้มตำร้านนี้อร่อยไหมพี่ เอาไว้ไปทานอีกน่ะ “โบว์หันมาบอกผม ขณะที่เพื่อนสาวของโบว์นำรถเข้ามาจอด โบว์ขับรถพี่เปรมดิ์ไป ผมเองก็ยังไม่กล้าขับรถพี่ตั้นหรอก แพงทั้งนั้นใครจะกล้าแต่พี่ตั้นบอกกับผมว่า  ผมต้องหัดขับรถแล้วน่ะ

“โอ๊ยจะไปทานส้มตำหรือทานลูกคนขายว่ะ” เพื่อนโบว์ที่ชื่อก้อยพูด ผมว่าน่าจะใช้แล้วแหละ เห็นส่งมุขจีบกันแต่ผมรู้ว่าเล่นๆ แต่คิดอีกทีเหมือนจะจีบให้เพื่อนก้อยซะมากกว่า ก้อยเป็นผู้หญิงที่รูปร่างค่อนข้างไปทางอ้วน อ้วนกว่ามัดหมี่อีก มัดหมี่ยังแค่อวบๆ แต่ก้อยเขามีความสวยในตัวของเขาเอง

“เห็นเล็งซะน้องมันเขินหรือน้องมันกลัวก็ไม่รู้” มัดหมี่ เดินลงมาจากรถของพี่อาร์ม เบนซ์ขับไปกับมัดหมี่

“พี่มัดหมี่อ่ะ “โบว์หันมาทำหยิ้มตาหยี

“แต่ก็นิดนึงนะ ก็มันทำให้มีชีวิตชีวา แต่ต่อหน้าพี่เปรมดิ์หนูไม่กล้านะ คงด้วยวัยที่ต่างกันและให้เกียรติน่ะ” โบว์พูด ผมก็พยักหน้าเบาๆ ระหว่างที่ผมกำลังจะเดินเข้าไปในคอนโดผมเดินเข้าทางด้านหลังกันไม่ได้เข้าด้านหน้าเพราะว่าที่สำหรับจอดรถคนที่ทำงานกับพี่ตันอยู่ด้านหลังของคอนโดเขาแยกกัน นะระหว่างที่กำจะเดินเข้า

ตัวเล็ก// เฮียเสร็จหรือยังครับ วันนี้เรามีนัดดูหนังกันน่ะเฮีย//

ไทตั้น//ไม่ลืมเมียจ๋าของเฮีย นี่เฮียกำลังขับรถกลับกัน อีกสิบห้านาทีได้ เฮียเร่งพวกทาสสุดๆ เลยเพื่อเมีย//
เปรมดิ์// เมียจ๋ามาเต็มๆ //

ไทตั้น//เมียจ๋า นี้มันแชทกลุ่ม!! //

ตัวเล็ก//เฮ้ยผมส่งผิดอะเฮีย!! //

พี่ทีน//เร่งกูหน้าดู ที่แท้ทรูคือจะพาเมียไปดูหนัง ไอ้บอส!! //

อาร์ม//เร่งยังกะว่าเมียใกล้จะคลอดแล้ว โธ่! ไอ้เชี้ย!! //

ไทตั้น // มันรู้หมดเลยตัวเล็ก //

พี่กอล์ฟ// ไปดูโรงไหนจะไปดักรอ ไม่ขอนั่งใกล้ก็ได้น่ะ แต่ค่าตั๋วออกให้ด้วย สองใบ จะไปรับเมียแล้วเนี๊ยะ //

ไทตั้น// มารยาทนิดนึงครับไอ้กอล์ฟครับ กูจะไปดูหนังรักครับ ไม่พกเพื่อน และงานบริษัทเข้าห้ามไปไหนครับไอ้กอล์ฟ เมื่อวานมึงพาแฟนไปแรดมาแล้วอยู่ออฟฟิศไปเลย คืนนี้ด้วย //

พี่อาร์ม//นี้กอล์ฟมันจะไปรับเมียมัน ให้มันประจำการในออฟฟิศคืนนี้ คงเป็นได้มากกว่าออฟฟิศละครับคืนนี้//

พี่ไทตั้น //แค่ออฟฟิศ ห้ามทำอย่างอื่นน่ะไอ้กอล์ฟกูมีห้องนอนให้ไปใช้ห้องนอน หัดเกรงใจคอมพิวเตอร์กูมั้ง//


      ผมอ่านข้อความไปด้วยก็แอบหัวเราะคิกคักไปด้วย สาวก็แอบมาดูผมคุยกับเฮียและเพื่อนๆ เฮียกันอีก ผมเดินมาจนถึงหน้าประตูออฟฟิศ จังหวะนั้นเองพวกผมก็เหลือบไปเห็นสมุนของพี่ปริมที่ยืนอยู่ ผมคิดว่าไม่อยากมีเรื่องจะดีกว่า ก็ผมจะรับปริญญาแล้วถ้ามีเรื่องอีกรอบนี้ผมคงไม่ได้รับและต้องไปรับเอง รูปกับเพื่อนก็ไม่ได้ถ่าย โดยเฉพาะกับคนสำคัญของผม ครอบครัวผมและพี่ตั้น ผมหันมามองหน้ากัน และจังหวะนั้นพี่ปริมก็เดินออกมาจากห้องทำงานพอดีเลย

“เฮ้ย!!  พี่ปริมนี้หว่า มาทำไมว่ะ” โบว์พูดพร้อมชี้นิ้วไป นางหันมาเห็นผมก็รีบเดินปรี่ตรงมาหาผมในทันที

“ฉันบอกแกแล้วใช่ไหมว่าตั้นเป็นของฉัน”

“เพี๊ยะ!” เข้าที่ใบหน้าผมเต็มๆ จนสะบัดและมือถือของผมก็ร่วงหล่นตกลงพื้น พี่ปริมมองหน้าผม ก่อนจะก้มลงมองมือถือของผม ที่ตอนนี้มันกลับมาสู้หน้าจอที่มีรูปพี่ตั้นจูบกับผมในลิฟต์

“ปึก!!” รองเท้าสนเข็มเจาะลงไปตรงกลางจนหน้าจอแตก

“เฮ้ย เจ้ เจ้ทำแบบนี้มันเกินไปน่ะ” มัดหมี่พูด พี่ปริมหัดขวับไปที่มัดหมี่ แต่ดีที่เบนซ์ดึงแขนมัดหมี่เอาไว้ คือพวกผมก็ไม่อยากมีเรื่องกับพี่ปริม คนขวางโลกที่พวกน้องๆ เขาเรียกกัน

“นี่เจ้ เป็นบ้าอะไรอีกล่ะ มาทำเมย์มันทำไม “เบนซ์ถามพี่ปริม

“เสือกอะไรด้วย ไม่ใช่เรื่องของพวกมึง ทำไมเป็นทาสมันเหรอ “พี่ปริมพูดก่อนจะหันมาชี้หน้าทุกคน

“พี่เมย์เขาเป็นแฟนของพี่ตั้น ดังนั้นนี้มันก็เรื่องของพวกหนูเหมือนกัน เพราะว่าพวกเราเคารพพี่เมย์ เหมือนกับเป็นอาซ้อของพวกเราไม่เหมือนเจ้หรอกที่พวกไม่เคยให้ความเคารพสักนิด” โบว์พูด ทุกคนก็พยักหน้า ทำให้พี่ปริมยิ่งโกรธมากขึ้น

“อย่าเข้ามาทำร้ายพี่เมย์น่ะ ไม่อย่างนั้นน่ะ พวกเราจะฟ้องเฮียตั้น” เพื่อนของโบว์พูด

“คิดว่าฉันกลัวพวกหล่อนหรือไงล่ะ” พี่ปริมพูดก่อนจะหันไปพยักหน้ากับคนของเขา

“หมับ” สมุนของคุณปริมก็เข้ามาขวางไม่ให้ใครเข้ามาอยู่ใกล้ผม แต่ผมน่ะเป็นห่วง กล้วคนของพี่ปริมจะทำร้ายเหมือนกัน

“อย่าทำพวกน้องๆ เขานะครับคุณปริม ผมขอล่ะ เขาไม่เกี่ยว” ผมพูดขอร้อง

“กูไม่ทำมันหรอกแค่จับไว้เฉยๆ “พี่ปริมพูดและหันมาหาผม

“เพี๊ยะ! เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!” สามทีซ้อน

“อย่าทำพี่เมย์น่ะ อีเจ้บ้า อีเจ้โรคจิต พี่เมย์เขาไม่ใช่แค่แฟนเฮียแล้วน่ะ เฮียเขาจะแต่งงานกับพี่เมย์แล้วด้วย” โบว์พูดทำให้พี่ปริมหันไปมองหน้าโบว์และหันมามองหน้าผมอีกที

“จะแต่งกันใช่ไหม งั้นได้ อยากรู้หนักว่าหน้ามึงแหกแล้วจะแต่งกับมึงอีกไหม “พี่ปริมถอดรองเท้าสนเข็มออกมาถือและง้างรองเท้าส้นแหล่มขึ้นมาและทำท่าจะฝาดมาที่ผม ผมก็หลับตาปี๋ แต่จู่ๆ มือถือเธอก็ดังขึ้น มีสายเรียกเข้า

“อะไรน่ะ เออ แค่นี้แหละ” พี่ปริมกดวางสายและพยักหน้ากับคนของเขาให้ปล่อยพวกโบว์เป็นอิสระ โบว์ตรงมาหาผม

“ออกไป ไปแอบที่ไหนก็ไป ไม่ต้องโผ่หัวมา เข้าใจไหม” พี่ปริมบอกคนของเขาให้ออกไปหน้าตาเฉย ขนาดนั้นของนางยังทำหน้างง พร้อมกับส่ายหัวไปมาและพากันเดินออกไป

“พี่เมย์เจ็บไหม” โบว์ถามผม วิ่งเข้ามาถามผมทันที ทุกคนด้วยมากันผมไม่ให้พี่ปริมเข้ามาทำร้ายผมได้อีก

“เดี๋ยวก็รู้ว่า ว่าใครจะชนะ” พี่ปริมพูดก่อนจะ “เพี้ยะ! เพี้ยะ!” เสียงตบหน้าแต่ไม่ใช่ผมที่โดนตบ พี่ปริมเขาตบหน้าตัวเอง และพยายามทำร้ายตัวเอง

“เฮ้ย! อีเจ้มันผีเข้าหรือไง น่ะ “เพื่อนของโบว์ผมเองก็ตกใจ ดูเขาทำร้ายตัวเองซะหัวยุ่งไปหมด และลงไปนั่งกองกับพื้น สภาพที่เละเหมือนพวกผมลุมเขาเลย

“อีเจ้นี้มันดูละครหลังข่าวมาแน่ๆ เลยว่ะ แล้วนี่มันจะทำทำไมว่ะ “เบนซ์พูด พวกได้แต่ยืนเกาะกลุ่มมองกัน เจ้ทีทำร้ายร่างกายตัวเองไม่เลิก จนสะบักสะบอม

****

      รชานนท์ ผมขับรถกระบะคู่ใจไปกับไอ้เปรมดิ์ ส่วนไอ้กอล์ฟมันขอไปรับเฟย์แฟนมันก่อน ผมเองก็ต้องช๊อกซิครับรออะไร ที่รู้ว่าแฟนไอ้กอล์ฟน้องเฟย์น่ะ เป็นกะเทยครับ ออกไปทางเพื่อนสาวของบรรดาแฟนๆ พวกไอ้ทีน ไอ้เปรมดิ์ และไอ้อาร์ม เมย์ผมยังแมนกว่าเลยน่ะ

      และอีกอย่างช่วงนี้ผมไม่เจอไอ้ภาคินเข้ามาที่ออฟฟิศ ผมโทรหามันเหมือนกันมันบอกยุ่งๆ งานที่บริษัทพ่อมัน และภาคินมันบอกว่ากับผมแล้วว่ามันจะวางมือเร็วๆ นี้ ถามว่าใจหายไหม ใจหายครับ แต่ผมเองก็ควรจะปล่อยมันไปได้แล้วมั้ง ผมสัญญากันไว้ว่าความเป็นเพื่อนจะยังคงอยู่ ส่วนไอ้ธีมนี้ ช่วงนี้สาวตรึมเลยไม่ค่อยได้เห็นหน้ามันอีกคน และไอ้สองคนนี้ก็ไม่ขอรับส่วนแบ่งเยอะเอาแค่สามสิบเปอร์เซ็นต์ เท่านั้น และมันสองคนก็มีเหลือกินเหลือใช้อยู่แล้วด้วย ถามว่าแต่ละคนก็ไม่ได้ลำบากเลย ครอบครัวมีธุรกิจกันทุกคน

“กูไม่อยากจะคิดเลยว่ะ ถ้ามันต้องมีวันที่พวกเราต้องแยกไปมีชีวิตของตัวเองว่ะ “ไอ้เปรมดิ์มันพูดขึ้น ผมเองก็ไม่เคยคิดถึงตรงนี้เพราะว่าผมไม่อยากออกไปจากตรงนี้ ต่อให้พ่อผมจะพร่ำบอกกับผมบ่อยแค่ไหนว่า ผมคือทายาทคนเดียวของเขาก็ตาม

“กูก็ไม่อยากจะคิดว่ะเปรมดิ์ ทุกวันนี้ชีวิตกูก็มีพวกมึงนี้แหละว่ะ และตอนนี้มีเมย์เข้ามาอีกคน กูไม่อยากขาดอะไรไปเลยว่ะ แต่ว่าทุกคนต้องมีวันที่ต้องมีครอบครัวเป็นของตัวเอง”

“มึงยังจะมีความคิดที่จะไปอยู่เมืองนอกอีกไหมว่ะ อย่างที่มึงเคยบอกพวกกูเอาไว้ว่ะ ตั้น”

“ยังมีความคิดนั้นอยู่ว่ะ แต่เมย์เขาเป็นห่วงแม่และน้องๆ เขาว่ะและพ่อกู เขาก็จะขายบ้านแม่กูแล้วด้วย เขาไม่อยากให้กูกลับไปว่ะ “ผมพูด

“ทั้งผุู้หญิงคนนั้น เขาไม่ใช่แม่แท้ๆ เป็นแม่บุญธรรมน่ะเหรอว่ะ เมย์เขาเป็นห่วงขนาดนี้เลยเหรอว่ะ” เปรมดิ์มันถามผม พยักหน้าว่าใช่

“เมย์รักน้องสาวและน้องชายเขามากด้วยว่ะ รักจนลงทุนทำเรื่องไม่ได้ จนกระทั่งออกมาเป็นคลิปที่ทำให้เมย์ถูกปลดจากเกียรตินิยมอันดับสองได้ “ผมพูดไอ้เปรมดิ์มันพยักหน้า ตอนนี้ผมเลี้ยวรถเข้ามาในคอนโดขอบผมแล้ว

“ไอ้ตั้น นั้นพวกเจ้ปริมว่ะ” ไอ้เปรมดิ์พูดว่าพวกเจ้ปริม ตัวเล็กผมไม่รู้ว่ากลับมาถึงหรือยัง จากที่พิมพ์คุยและตัวเล็กก็ออฟไลน์ไป ผมนี้เป็นห่วงขึ้นมาในทันที ผมก็รีบนำรถกระบะเข้าจอดสักที่ตรงหน้าคอนโด ผมรีบก้าวเท้าลงมาคนที่ยืนอยู่ก็กำลังจะโทรศัพท์ ผมพอจะจำได้ดีว่าคนพวกนี้คือคนของพ่อพี่ปริม จังหวะนั้น

“เฮียแย่แล้ว! เจ้ปริมกำลังทำร้ายพี่เมย์เลย” เฟิร์นวิ่งลงมาหาผม ผมหันไปมองไอ้เปรมดิ์ ผมก็รีบวิ่งขึ้นไปทันที ผมวิ่งตามเฟิร์นไปแสดงว่าไปด้านในสุดเลยใกล้จะถึงตัวลิฟต์ เพราะพวกผมจะจอดรถไว้ที่จอดรถกันหมด ผมวิ่งไปถึงก็เจอกลุ่มสาวๆ ที่ยืนเกาะกันเป็นก้อนพร้อมกับเมย์ ผมมองจุดที่สาวๆ หันไปมองพร้อมกัน นันคือพี่ปริม ที่นั่งอยู่กับพื้น ในสภาพที่บ่งบอกได้ว่าเขาโดนทำร้าย แต่ว่าเฟิร์นวิ่งไปบอกผมว่าเมย์โดนรุมทำร้ายน่ะ

“หนูไม่เห็นเหตุการณ์น่ะเฮียเพราะว่าหนูรีบวิ่งไปดักรอเฮียก่อนอ่ะ แต่ว่าตอนนี้ สงสัยคดีจะพลิกน่ะเฮีย” เฟิร์นบอกหันมาผม

“เกิดอะไรขึ้น” ไอ้เปรมดิ์มันถามแฟนมัน โบว์

“ก็อีเจ้มาตบพี่เมย์และจู่ก็ตบตัวเอง อ่ะเฮีย” โบว์พูด ผมกับไอ้เปรมดิ์สะบัดหน้าไปมองสาวๆ และหันไปมองคนที่นั่งเอามือกุมหน้าตัวเอง แก้มนี้แดงไปด้วยรอยตบ

“กูนี้น่ะตบตัวเอง กูไม่บ้าขนาดนั้นหรอก พวกมึงนั่นแหละที่รุมตบกู" พี่ปริมพูด


  "ฮือๆ ตั้นพี่โดนรุมตบอ่ะ ฮือๆ ดูซิ ไอ้นี่น่ะมันตบพี่ ทั้งที่พี่เป็นผู้หญิงมันเป็นผู้ชายน่ะตั้น มันสมควรแล้วเหรอ ฮือๆ” พี่ปริมพูดไปร้องไห้ไปด้วย และชี้ไปที่เมย์

"แน่ใจแล้วเหรอโบว์ ไม่มีคนบ้า! ที่ไหนตบตัวเองหรอกน่ะ ต้องบ้ามาก! ด้วยน่ะโบว์น่ะ" ไอ้เปรมดิ์ถามโบว์แฟนมัน แต่มันเน้นคำว่าบ้าได้ชัดเจนมาก จนเจ้ปริมสะบัดหน้ามามองมันหลายรอบ

"จริงไหมเจ้" ไอ้เปรมดิ์หันไปถามเจ้


“ก็.. ก็...ก็ใช่นะซิ ใครจะบ้า....ตบตัวเอง" พี่ปริมพูด ผมว่ามันมีพีรุจน่ะ ไอ้เปรมดิ์มันพยักพเยิดกับผม

"โอ้ยเจ็บเนี๊ยะ ดูซิ เป็นรอยนิ้วมือด้วย  นี่ถ้าตั้นไม่จัดการให้พี่ พี่จะโทรบอกพ่อพี่และพ่อพี่คงโทรหา ลุงพี่ที่เป็นผู้กำกับมาจัดการ “พี่ปริมพูดผมก็ต้องเอามือกุมขมับนี่มันอะไรกันกับผู้หญิงคนนี้ ผมหันมามองหน้าเมย์ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นและบรรดาเมียเพื่อนๆ ผมอีก

“พี่จะโทรบอกพ่อพี่เดี๋ยวนี้”

“เดี๋ยวพี่ปริม “ผมรีบยกมือร้องห้ามพี่ปริมเอาไว้ก่อน

“เมย์เกิดอะไรขึ้น เมย์ไม่ได้ทำเขาใช่ไหม” ผมถามเมย์ เมย์เงยหน้ามองผม และสั่นศีรษะว่าไม่ได้ทำ

“ตั้นมันทำร้ายพี่น่ะ พ่อพี่ต้องโกรธมากแน่ๆ ฮือๆ ตั้น ประคองพี่หน่อยซิพี่ลุกไม่ได้ค่ะ พี่โดนทั้งตบและต่อย เจ็บไปหมดเลยค่ะ ตั้น” พี่ปริมเรียกผม เมย์หันมามองหน้าผม แต่ผมก็ไม่อยากให้พี่ปริมบอกเรื่องนี้กับพ่อของเขา ถ้าเป็นเช่นนั้นพ่อของพี่ปริมก็คงไม่ยอมและเรื่องคนไปกันใหญ่อีก คงได้ไปขึ้นโรงพักแน่ๆ และมันอาจจะมีผลกับเมย์ตอนนี้เมย์ไปทำเรื่องขอรับปริญญาแล้วด้วย

“เฮีย... ผมไม่ได้ทำร้ายเขาน่ะมีแต่เขาทำผมอ่ะ” เมย์เอ่ยปากพูด ผมพยักหน้าว่าผมเชื่อเมย์

“ตั้น ฮือๆ เจ็บเหลือเกิน พวกมันรุมตบพี่คนเดียวเลย พี่อุตส่าห์ว่าจะขึ้นมาคุยกันแบบลูกผุ้หญิง ไม่เอาการ์ดขึ้นมาสักคนแต่นี่นางเมย์มันดันให้ ฮือๆ เพื่อนมันรุมตบพี่ ฮือๆ “แต่ผมก็ไม่เห็นการ์ดของพี่ปริมอยู่บนนี้เลยน่ะ

“ตอแหลว่ะ” เบนซ์แฟนของไอ้อาร์มพูด ผมหันมามองหน้าไอ้เปรมดิ์ว่าไง มันเป็นนักวิเคราะห์

“ยากเลยว่ะ เพราะว่าอีเจ้แกตีบทแตกขนาดนื้ สภาพนี้ก็ไม่ต่างจากโดนฟัดมา ส่วนนั้นก็เมียมึงเมียกู เอาไงดีว่ะ โทรหาท่านเปาบุ้นจินเถอะมึง” ผมหันมามองหน้ามัน ไอ้เชี้ยมั้นไม่ใช่เวลาเล่นไหม และผมเองไม่เคยดูหนังจีนจะรู้ไหมใครที่มันพูดถึง?

“ทำหน้าแบบนี้ ไม่รู้จักละซิ”ไอ้เปรมดิ์พูด  "เออ กูไม่รู้จัก "ผมพูดก้อนจะหันมามองเจ้ปริมที่ร้องโอดครวญว่าเจ็บหนักหน้า ผมไม่ได้มองด้วยความเป็นห่วงเป็นใยมากไปกว่าเมย์ของผมแน่แต่ที่มองคือ

“แต่กูกลัวงานจะเข้าเมย์ ถ้าพ่อของพี่ปริมเอาเรื่องเมย์ขึ้นมาล่ะ และตอนนี้เมย์กำลังจะเข้ารับปริญญาอีก ถ้าเมย์มีเรื่องอีกคงไม่ได้รับแน่ๆ ” ผมกระซิบกลับไอ้เปรมดิ์

“โอ๊ย! ตั้น พี่เจ็บค่ะ”

“เจ็บขนาดนี้ โทรให้พี่ปอมารับไปเถอะเฮีย” โบว์หันมาบอกผม ผมถึงกับขมวดคิ้วเป็นโบว์ ปอไหนวะ

“กูไม่เคยมีแฟนชื่อปอ มีแต่ชื่อตั้น” พี่ปริมพูดก่อนจะหันมาหาผม ผมก็ต้องกุมขมับและพอหันไปเจอหน้าเมียอีกและยิ่งหันมาเจอหน้าไอ้เปรมดิ์ “เว๊ย!!” ร้องออกมาพร้อมกันอีก

“เดี๋ยวก็ได้มี แต่เป็นพี่ปอเต็กตึ้งน่ะ ถ้าไม่มีใครโทรนี่จะโทรเอง “โบว์พูด พร้อมกับจะหยิบมือถือขึ้นมาโทร แต่ไอ้เปรมดิ์มันห้ามเมียมันซะก่อน

“อย่าให้ถึงมือพี่ปอเต็กตึงเลยโบว์ พี่ว่ากรมปศุสัตว์เถอะ เขาจะได้เอายาสลบมาด้วย” ไอ้เปรมดิ์ผมสะบัดหน้ามามองหน้ามันอย่าไปทำให้อีเจ้มันคลั้ง และผมเองก็ว่าจะเข้าไปหาเมย์ ไปดูว่าเมย์เจ็บตรงไหนบ้าง แต่ผมเลยต้องชะงักเท้าเอาไว้ก่อน

“โอ๊ย!! เจ็บ ทำไมพ่อไม่รับสายพี่น่ะ “พี่ปริมทำท่าจะโทร แต่ครั้งนี้ผมว่าจะไม่ห้าม ถ้ามีเรื่องขึ้นมาก็คงต้องเลยตามเลย ถ้าผมจะต้องมีปัญหาพ่อของพี่ปริมก็คงต้องยอมเพื่อปกป้องเมย์ เมย์ทำสีหน้ารู้สึกผิด ผมยืนเอามือเท้าเอวมองพี่ปริมที่กำลังจะกดไล่เบอร์เพื่อจะโทรหาพ่อของเธอ และตรงนี้ก็มีแต่พวกแฟนเพื่อนผมทั้งนั้น ซึ่งแต่ละคนก็ไม่ลงรอยกับพี่ปริมอยู่แล้ว น้ำหนักเลยไม่มากพอถ้าจะบอกว่าพี่ปริมเป็นคนมาทำร้ายเมย์ก่อนและกล่องวงจรปิดก็มาไม่ถึงแน่ๆ ตรงมุมนี้ นางเข้าใจเลือกเหมือนกันน่ะ คนเดินผ่านยิ่งไม่มีใหญ่เลย มันเป็นทางเดินไปที่จอดรถจองพวกผมเท่านั้น คนที่พักที่นี้เขาจะจอดกันด้านหน้ากันทั้งหมด จึงไม่มีคนเดินผ่านตรงนี้เท่าไหร่ นอกจากพวกผมที่ไปที่ลานจอดรถด้านหล้งเท่านั่น

“She’s lying!!” เสียงใครสักคนดังมาจากด้านหลังของผม พวกผมถึงกับต้องหันไปตามเสียง คนที่เดินเข้ามาทางพวกผม หน้าตาคุ้นๆ เหมือนเคยเห็นที่ไหนก่อน เป็นฝรั่งจ๋าซะด้วย เขาเดินข้ามาพร้อมกับเดินมาหยุดยืนและเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงขาสั้นหนึ่งข้าง พร้อมกับชี้นิ้วไปที่พี่ปริมทันที

TBC.....
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.23 (เฮียตั้นVSเมย์)เจ้ปริมผู้ไม่ยอมแพ้ใคร 1
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 11-12-2020 19:43:52
 :pighaun:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.23 (เฮียตั้นVSเมย์)เจ้ปริมผู้ไม่ยอมแพ้ใคร 1
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 11-12-2020 20:39:21
 :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.23 (เฮียตั้นVSเมย์)เจ้ปริมผู้ไม่ยอมแพ้ใคร 2
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 11-12-2020 21:26:34
“หล่อนโกหก!” ผมหันไปมองคนที่มาบอกว่าพี่ปริมโกหกอีกครั้ง ผมเดาว่าเขาเป็นคนอเมริกัน เพราะว่าสำเนียงการพูดของเขา มันออกไปทางอเมริกันชัดเจนมาก ผมฟังได้อยู่แล้วเพราะว่าผมนะโตมาจากที่นั่น ส่วนคนอื่นยังยืนงงกันอยู่เลย แต่ยกเว้นเมย์น่ะผมว่าเขาเข้าใจ ส่วนพี่ปริมนื้ก็ยืนทำหน้าแบบว่าเดายากเลยว่านางจะเข้าใจไหม

“ทำไมคุณคิดว่าผู้หญิงคนนี้โกหก? ผมถามคนที่มาใหม่ทันที ด้วยภาษาอังกฤษ

“ไอเห็นเหตุการณ์อยู่ตรงมุมโน้น จังหวะที่ประตูลิฟต์มันเปิดออกมาพอดีไง และไอก็ได้ยินเสียงดังเหมือนมีเรื่อง ไอก็เลือกเดินออกมาดูและไอก็เห็นว่าผู้หญิงคนนี้ตบ น้องผู้ชายคนนี้” ผมพยักหน้าก่อนจะหันไปมองพี่ปริม เธอทำร้ายคนของผม ปริมลุกขึ้นยืนมองผมกับคนที่บอกเล่าเห็นเหตุการณ์สลับกันไปมา

“มึงเป็นใคร!!” พี่ปริมถามคนมาคุยกับผมอยู่เป็นภาษาไทย แน่นอนเขาก็ต้องไม่เข้าใจพร้อมกับชี้ตัวเองด้วย

“แน่ล่ะ ขนาดภาษาไทยธรรมดา เขายังไม่เข้าใจเลย เจอพ่อขุนรามเข้าไปอีก ไม่งงก็เทพแล้วแหละไอ้ฝรั่งนี่น่ะ” ไอ้เปรดมิ์พูด ผมหันไปเหล่มัน มันยกมือขอโทษผมอีก

“แล้วนี่คุณเป็นใคร “ผมคนที่ยืนข้างๆ กลับ เขาหันไปมองหน้าเมย์ก่อนจะหันมาตอบผมว่า

“ไม่สําคัญหรอกไอคือใคร แต่ว่าไอเห็นทุกอย่าง ไอเห็นสิ่งที่เธอทํากับเด็กน่ารักคนนี้” มันไม่พูดเปล่ามันชี้ไปที่เมย์ มันทำให้ผมคิด ผมเริ่มจำได้แล้ว ไอ้คนนี้คือคนที่อยู่ข้างห้องผมเองที่มันยื่นมือมาขอเช็กแฮนด์ตัวเล็กของผม

“เฮ้ย มึง!!” ผมทำท่าจะขึ้นจับคอเสื้อมันแล้ว ดีที่ไอ้เปรมดิ์มันคว้ามผมไว้ได้ทัน คนที่ชี้เมย์มันก็หดนิ้วมันกลับตกใจไม่แพ้กัน

“ไอ้เฮียครับใจเย็นๆ ฟังเขาก่อนซิไอ้เชี้ย! เขาคือพยานปากเอกของเรา แหละถ้ามึงอัดเขาแล้วใครเล่าจะมาช่วยมึงครับ มึงจะเอาไหมพยานน่ะ ” ไอ้เปรมดิ์มันกระซิบกับผมให้ผมใจเย็นก่อน เออ จริงว่ะ ผมเลยต้องจัดคอเสื้อให้ใหม่ เมย์เหลือกตามองผมแว๊ปหนึ่ง

“เออ ไอขอโทษ ที่ไอไม่เคยรู้ว่าเขาเป็นแฟนของคุณโอเค? “ผมเลยจำใจโบกมือให้มันไป จะได้เล่าเหตุการณ์ต่อ

“ไอยืนดูสักพักหนึ่งแล้วและผู้หญิงคนนี้ก็ตบหน้า เออ คุณเมย์แต่เขาก็ไม่ได้โต้ตอบเธอกลับเลยสักนิดและเธอตะโกนใส่หน้าเขา และเธอก็พยายามจะใช้รองเท้าของเธอตีเด็กที่น่ารักอีกครั้งแต่เธอก็ชะงัก….” ผมหันไปมองหน้าพี่ปริม เธอหันรีหันขวาง

“กูเดาว่าอีเจ้มันแปลไม่ออกว่ะ” ไอ้เปรมดิ์มันกระซิบกับผม ผมแค่ชำเลืองตาไปมองแค่นั้น ก่อนจะหันมามองเมย์ เมย์พยักหน้าเบาๆ ว่าที่เขาพูดมันถูกต้องทั้งหมด ผมถึงกับพยักหน้าตาม ผมเองก็ไม่อยากมีเรื่องกับพ่อของพี่ปริมมากหนัก ผมต้องยืนสงบอารมณ์ตัวเองก่อนเช่นกัน ผมถ้าผมทำอะไรรุนแรงไป คราวนี้เรื่องใหญ่แน่ๆ และผลกระทบเพื่อนผมคงโดนเต็มก็บริษัทพวกผมนี้แหละ

“ไอ้ตั้น ตกลงไอ้ฝรังดองนี้มันพูดว่าอะไรวะ” ไอ้เปรมดิ์มันกระซิบถามผม อีกที

“เอาไว้กูแปลรวดเดียวเลยแล้วกัน” ผมกระซิบตอบก่อนจะหันมาประจันหน้ากับพี่ปริม

“ตั้น ไอ้นี้มันพูดว่าอะไรอ่ะ “พี่ปริมถามผมเช่นกัน “อ้าวก็เห็นยืนนิ่งอยู่ตั้งนานผมก็นึกว่าเจ้ฟังรู้เรื่อง” ไอ้เปรมด์พูด ผมหันไปปรายตามองหน้ามัน มันก็แปลไม่ออก

“ก็เล่นพูดเร็วขนาดนี้กูจะฟังทันได้ไง ภาษาอังกฤษเด็กๆ แต่ต้อง สโล ...สโล!”

“ฟังไม่ทันหรือแปลไม่ออกก็บอกมาเถอะ” เบนซ์ยืนกอดอก “อีนี้!!” พี่ปริมทำท่าจะยกมือฟาดเบนซ์แต่ พอเขาหันมาเจอสายตาผมก็รีบ “โอ๊ย เจ็บอ่ะ” พี่ปริมที่พยายามกลับไปเสแสร้งอีกครั้ง จนสาวๆ แต่ละคนพากันเหลือกตามองบนกันเป็นแถว ผมเลยเลือกที่จะหันมาเอาความจริงจากคนที่บอกว่าเขาเห็นเหตุการณ์อีกครั้ง ผู้ชายคนนั้นหันไปมองพี่ปริมเป็นระยะๆ

“เล่าต่อเลยครับได้โปรด" ผมหันไปบอกคนที่ยืน เพื่อให้เขาเล่าเหตุการณ์ให้ผมฟังต่อ โดยไม่หันไปสนใจพี่ปริมที่แสดงอาการว่าเจ็บหนักหนา

“และต่อมาไอก็เห็นว่า ผู้หญิงคนนี้ เธอตบหน้าตัวเองด้วยมือของเธอเอง และพยายามทําร้ายตัวเอง เอาหัวโขกกับประตู ต่อยท้องตัวเอง จิกผมตัวเอง “ผมกับไอ้เปรมดิ์นี้หันไปมองเจ้ปริมพร้อมกันและก็ต้องส่ายหัวพร้อมๆ กัน คนที่เล่าเหตุการณ์ไม่ได้เล่าธรรมดามีท่าทางประกอบชัดมาก เจ้ปริมยืนนิ่งกลืนน้ำลายคงคอทันที

“โอ้!! ทำไปได้!!” ไอ้เปรมดิ์ “มึงแปลออกแล้วเหรอว่ะ” ผมกระซิบถามไอ้เปรมดิ์กลับ” ไม่หรอก กูเดาจากท่าที่มันเอามาประกอบ แม่งชัดเจนกว่าคำพูดขนาดนี้ เด็กอนุบาลก็ดูรู้ ว่าอีเจ้มันซ้อมตัวเอง!” ไอ้เปรมดิ์มันพูด พอคนที่เห็นเหตุการณ์พูดจบว่า เขาเห็นพี่ปริมทำอะไรบ้าง

“Are you crazy?!!! “เขาหันไปแบมือถามพี่ปริม และเธอก็รีบชี้หน้าตัวเอง “มึงด่ากูเหรอ?” พร้อมกับถามคนตรงหน้า คนยืนเล่าเหตุการณ์ให้พวกผมฟังทันที

“เยส!!! มึงนั่นแหละ” สาวๆ ประสานเสียงพร้อมกัน

“นี่พวกแก ลงทุนไปจ้างไอ้ฝรั่งนี้มาเป็นพยานหลอกๆ ตั้นไอ้นี่น่ะมันนกต่อพวกนี้แน่ๆ ฮือๆ พี่ไม่ได้รับความยุติธรรม “พี่ปริมพูดและทำท่าจะร้องไห้ ส่วนคนที่มาเป็นพยานก็ชี้ไปที่พี่ปริม ทำไมเธอร้องไห้ ผมค่อยๆ หันไปมองพี่ปริม ขนาดนี้แล้วนางยังดันทุรังแสดงต่ออีก

“ตั้น!!” พี่ปริมเรียกผม แต่ผมหันหน้าหนี (ผมเหมือนพ่อผมอยู่อย่างหนึ่งน่ะ ไม่ชอบผู้หญิงใช้มารยาเป็นที่ตั้ง แต่ก่อนพี่ปริมแกไม่ใช่แบบนี้เลย)

“พอได้แล้วพี่ปริม! เลิกเสแสร้งแกล้งทำได้แล้ว นี้ขนาดมีคนมาบอกว่าเขาเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง ที่พี่ทำกับเมย์ แฟนผม พี่ยังจะพยายามโกหกผมอีกเหรอพี่ปริม!! “ผมตะคอกใส่หน้าพี่ปริม ก่อนที่ผมจะควักมือเรียกเมย์ให้เข้ามาหาผม เมย์ก็เดินเข้ามา และกอดผม ผมเอามือลูบหัวเบาๆ โดยไม่สนใจสายตาทุกคู่ที่มอง โดยเฉพาะพี่ปริม

“ตั้น!!”

“พอได้แล้ว พี่ปริม พี่มาทำแบบนี้กับคนของผมได้ยังไง!!!” ผมหันไปต่อว่าเธอและกอดเมย์เอาไว้ พี่ปริมมองหน้าผมกับเมย์สลับกันไปมา เธอกำลังจะพูดแต่

“ผมมีคลิปวิดีโอน่ะถ้าคุณต้องการจะดู ผมยืนถ่ายอยู่ ผมว่ามันต้องมีอะไรแปลกแน่ๆ ผมเลยตัดสินใจถ่ายวิดิโอเอาไว้”

“ผมขอไม่ดูแล้วกัน ขอบคุณนะครับ คุณเพื่อนบ้าน” ผมหันไปพูดกับเพื่อนบ้านของผม

“ออกไปจากที่นี้ซะพี่ปริม และไม่ต้องกลับมาเหยียบอีก ไม่ต้องมายุ่งวุ่นวายกับผมและเมียผมอีก “ผมหันไปพูดกับพี่ปริม ผมจะไม่ยอมให้เธอมาใช่มารยาทำร้ายเมย์ได้อีก

“ตั้น! พี่บอกตั้นแล้วใช่ไหมว่าตั้นคือคนของพี่”

“ผมไม่ใช่คนของพี่ ผมมีความคิด มีการตัดสินใจเองได้ว่าผมเลือกใคร ตอนนี้ผมเลือกเมย์ และผมก็ขอเมย์เขาแต่งงานแล้วพี่ปริม “ผมบอกพี่ปริมและโชว์นิ้วมือข้างซ้ายของเมย์ให้พี่ปริมดู เธอกำมัดแน่น

“พ่อผมรับรู้เรื่องเมย์ แต่กับพี่ผมไม่เคยบอก เพราะว่า พี่ไม่เคยเป็นอะไรกันกับผม มันแค่ คู่นอน นอนแล้วก็จบ อันที่จริงผมก็ไม่อยากพูดคำนี้ พี่ก็เสียหาย กลับไปเถอะพี่ปริมเราไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้ว มันจบแล้ว” ผมพูดพี่ปริม พี่ปริมมองผมเธอกำมัดแน่น

“ออกไปซะพี่ปริม ผมขอล่ะ อย่าให้ผมต้องทำอะไรที่หนักไปกว่านี้ “ผมกอดเมย์โดยไม่มองหน้าพี่ปริม

“พี่รู้ไหมว่าผมเคยมีคดี ตบผู้หญิงคนหนึ่ง ผมทำร้ายร่างกายคนที่ผมเคยรัก ตอนนั้นผมอยู่ปีหนึ่งเองมันเกิดก่อนที่ผมจะเจอพี่ซิน่ะ และพ่อผมต้องอุดเงินเป็นล้านๆ เพื่อยุติคดีความ ไม่ต้องให้ผมบอกน่ะหนักแค่ไหน”

“และผมไม่อยากทำแบบนั้นอีก แต่ถ้าพี่ยังเข้ามายุ่งกับคนที่ผมรัก ผมก็จะปกป้อง โดยไม่สนว่าพี่คือใคร ผู้หญิงหรือผู้ชาย พ่อพี่ใหญ่แค่ไหน ถ้าพี่ไม่หยุด!! “ผมหันไปบอกพี่ปริม ไอ้เปรมดิ์มันรู้ดี พวกมันห้ามผมไม่ทัน ตอนนั้นพี่อิศเรศยังอยู่ดูแลผมและเรียกว่ายังคบกันในฐานะคนรัก พอเหตุการณ์วันนั้นพี่อิศเรศเริ่มมาหาผมน้อยลง ตามคำสั่งของพ่อผม ที่ผมรู้มา

“ได้ตั้น พี่นี่แหละที่จะทำให้ตั้น คลานกลับไปหาพี่ให้ได้ คอยดู!” พี่ปริมพูดก่อนจะคว้ากระเป๋าขึ้นมาถือ

“ถ้าพี่คิดว่าสิ่งที่พี่ทำมันคุ้มค่ากับสายตาคนหลายๆ คน ที่มองว่าพี่เป็นคนบ้า ก็เชิญนะ ผมไม่อยากห้ามแล้ว แต่ผมจะทำหน้าที่ปกป้องคนรักของผมเอง พี่ออกไปเถอะ “ผมพูดก่อนจะหันมามองหน้าเมย์ ที่มุมปากมีรอยถูกตบจริงๆ ด้วย

“ครั้งนี้ผมจะปล่อยพี่ไปพี่ปริมแต่ถ้าพี่กล้ามาอีก ผมไม่ยืนนิ่งๆ แบบนี้แล้วน่ะ ผมพูดเลย” พูดออกมาทุกคนเงียบกันหมด

“ได้!! ตั้นบีบพี่เองน่ะ พี่อยากจะรู้ว่าระหว่างตั้นกับบ้านมัน มันจะเลือกอันไหน” พี่ปริมพูด ผมหันมามอง

“บ้านมันอยู่กับพี่แล้ว เพราะว่าพี่ปฐวีย์ผิดสัญญาหมั้น”

“ผมเป็นคนเลือกให้พี่ปฐวีย์ปล่อยมันไปเองครับพี่ปริม “เมย์เป็นคนพูด

“ผมว่าพี่ออกไปวะเถอะพี่ปริม และอย่ามาวุ่นวายกับผมและเมย์อีก ไม่อย่างนั้น พี่อาจจะเห็นในมุมที่พี่ไม่อยากเห็นจากผม” ผมพูด

“ก็ได้ตั้น แล้วเราจะได้เห็นดีกัน นังเมย์!! ฉันจะคอยดูซิว่าแกจะทนเห็นบ้านแกถูกทุบได้ไหมและของของแก  ฉันก็จะเอาออกมาเผาให้หมดเลยคอยดูซิ” พี่ปริมพูดทิ้งท้่ายเอาไว้ก่อนจะสะบัดหน้า เดินแทรกพวกสาวๆ ออกไป เธอหันมามองผมกับเมย์ ผมเอามือลูบหัวเมย์เบาๆ เมย์เงยหน้ามองหน้าผม เขาพยักหน้าว่าเขาโอเค ผมคิดว่าคงจะต้องปรึกษาหารือกันแต่ว่าคนที่ช่วยผมได้ก็ไม่แวะมาออฟฟิศเลย ภาคิน

“โคล้ม!!” จู่ๆ ก็มีเสียงน้ำสาด ผมกลับไปมองที่ต้นเสียง พี่ปริมทื่ยืนนิ่ง โดยมีคนที่ยืนคว่ำกระป๋องบนหัวเธอ จนเกือบจะครอบหัวเธอ แบะพื้นรอบๆ ก็เอ่อหนองไปด้วยน้ำ ผมก็ต้องกุมขมับเพราะว่าพี่ปริมเขากำลังจะกลับแล้ว และแบบนี้เจ้แกจะกลับไหมล่ะ

“โคล้ม” จุ่ๆ ก็มีเสียงน้ำสาด ผมกลับไปมองที่ต้นเสียง พี่ปริมทื่ยืนนิ่ง โดยมีคนที่ยืนคว่ำกระป๋องบนหัวเธอ จนเกือบจะครอบหัวเธออยู่แล้วและพื้นรอบๆ ก็เอ่อหนองไปด้วยน้ำ ผมก็ต้องกุมขมับเพราะว่าเจ้ปริมแกกำลังจะกลับแล้ว และมาเจอแบบนี้เจ้แกจะยอมกลับไหม

เฮ้ย!!” สาวร้องอุทานออกมาพร้อมกัน รวมถึงไอ้อาร์มที่มาถึงพอดี และไอ้คนที่กระทำการอันอุกอาจนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่นมันคือไอ้ทีนเพื่อนของผมเอง ใครไปบอกให้มันหามาทำครับ ผมแอบคิดในใจ

“งานนี้จบไม่สวยแน่ๆ ว่ะ” ไอ้เปรมดิ์ ผมหันมา

“กรี้ดดดดด” ส่วนพี่ปริมที่ยืนอึ้งอยู่พักหนึ่ง เมื่อเธอได้สติก็ส่งเสียงกรีดร้องจนทุกคนต้องเอานิ้วอุดหู

“เป็นอะไรไปเจ้” ไอ้ทีนมันถามเจ้ปริมกลับอีก

“กูซิควรจะถามมึงมากกว่า มึงเป็นบ้าอะไร?”

“และนี่มึงเอาอะไรมาสาดกู!!” พี่ปริมตะคอกถามไอ้ทีน เพราะว่ามันคงโกหกเจ้แกไม่ได้หรอกเล่นถือกระป๋องจ่ออยู่แล้วนั้น

“น้ำมนต์ ก็มีคนบอกว่ามีผู้หญิงผีเข้าหลุดมา อาการหนัก เลยไปขอมาจากวัดข้างๆ หลวงพ่อถามว่า หนักไหม ผมตอบไปว่าหนัก ท่านเลยให้มาหนึ่งกระป๋อง เพิ่งจะทำพิธีสดๆ ร้อนๆ มีเทียนลอยด้วยเจ้” ไอ้ทีนมันพูด พวกผมก็เห็นมันขาวไปหมดบนหัวพี่ปริม

“รู้สึกยังไงเจ้ ร้อนไหม” พี่ทีนถามพี่ปริม เธอยืนกำหมัดแน่น

“ร้อนเชี้ยอะไรละ กูเปียกขนาดนี้!!” พี่ปริม

“น้ำมนต์ยังเอาเจ้แกไม่อยู่ กูว่าเจ้มันควรจะไปขอรับยาเถอะว่ะ” ไอ้เปรมดิ์

“แหละนี่ มึงไปเอาน้ำมนต์ที่ไหนก็ไม่รู้มาสาดกูอีก มึงรู้ไหมว่าชุดกูซื้อมาเท่าไหร่!! “พี่ปริมตะคอกไอ้ทีน และหันกลับมามองหน้าทุกคน

“อ้าวผมจะไปรู้ได้ไงล่ะเจ้ เจ้ไม่ใช่เมียผมนิ “ไอ้ทีนมันพูด แต่ผมน่ะสะบัดหน้าไปมองไอ้ทีน แอบส่งนิ้วกลางเดี๋ยวเจ้แกย้อนมาหาผม

“แต่หนูรู้ค่ะว่าชุดเจ้แกเท่าไหร่” ทุกคนหันมามองหน้าน้องคนที่พูดกันหมดแม้กระทั่งพี่ปริมเอง

“รู้เพราะว่า ว่านี่ก็ไปซื้อมาเหมือนกัน” จู่ๆ เพื่อนของโบว์ก็พูดขึ้น

“ลายเดียวกัน”

“เฮ้ย!!” ไอ้เปรมดิ์

“แบบเดียวกันแถมยังสีเดียวกันด้วย แต่คนละไซ้ หนูใหญ่กว่า” พวกไอ้ทีน ไอ้เปรมดิ์ มันก็เอามือทาบอก เหมือนกับว่าโล่งอกไปตรงที่น้องบอกว่าไซ้ใหญ่กว่านี้แหละ

“แน่ละ เจ้ปริมแกหุ่นดีเสลนเดอร์ขนาดนี้ ไซ้มินิด้วย ส่วนน้องน่ะ น้องธิดาช้างดีดีนี้เอง ถ้าซื้อมาไซ้เดียวกันนี้น่ะ พี่ไม่อยากคิดว่าตอนสวมมันลงไป ใครจะกลั้นใจตายก่อนกันชุดหรือคนใส่” ไอ้อาร์มมันพูด

“ไอ้พี่อาร์ม!!!” เบนซ์

“เวรแล้วกู ยืนผิดฝั่ง ขอโทษนะเจ้น่ะ ผมว่าผมลงความเห็นผิดฝั่ง ผมขอไปฝั่งเมียผมน่ะเจ้ ผมลา” ไอ้อาร์มรียยกมือไหว้เจ้ปริม เมียมันก็รอบิดหูอยู่ด้วย

“ตกลงมึงซึ้อมาเท่าไหร่ก้อย บอกพี่เขาไป จะได้จ่ายเงินเจ้ปริมมันไปและแถมด้วย อีกห้าร้อยถ้ามันไม่ยอม” ไอ้เปรมดิ์มันสะบัดหน้าไปมองหน้าโบว์ทันที ที่ได้ยินว่าแถมอีกห้าร้อยบาท

“แต่ว่าห้าร้อยนี้คือค่าปรับน่ะ ขอไปจ่ายที่โรงพักน่ะแลกกับตบสักคนละที เพราะตอนที่มึงตบตัวเองน่ะ มันเบาไป อีเจ้!” มัดหมี่พูด

“ซื้อมา สองร้อยห้าสิบบาท”

“หึ หึ “เสียงหัวเราะในลำคอพี่ปริม “มึงซื้อมาตัวเดียวซิท่า กูซื้อมาสามตัว สองร้อยบาท” เจ้ปริมพูด

“ที่ไหนว่ะเจ้!!” ไอ้เปรมดิ์

“โบเบ้ “เจ้ปริม ก่อนจะสะบัดหน้ามามอง นางคงลืมตัว

“เออ เดี๋ยวน่ะ อีเจ้ เสื้อผ้าที่หรูของคุณเจ้ นี่มาจากโบเบ้เหรอ” ไอ้ทีนถามพี่ปริม

“เออ เออ “ทุกสายตามองที่เจ้ปริมกันหมด “ก็มันใกล้บ้านกู!!!”

“บ้านเจ้อยู่สะพานควาย” พี่เปรมดิ์พูด ผมหันไปมองหน้ามัน

“ก็กูจะผ่านทำไมล่ะ” ทุกคนมองหน้าเจ้ปริม พร้อมกับมองทุกอย่างที่เจ้แกถือ

“กูว่าเจ้แกไปสอยมาจากโบ้เบ้ทั้งหมดตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ไม่ต้องไปถึงพาราก้อนหรอกครับมึง” ไอ้อาร์มพูด ผมหันมาปรายตามองหน้ามัน

“ตกลงจะเอาค่าชุดไหมเจ้ผมจ่ายเอง สองร้อยห้าสิบ “ไอ้ทีนมันกำท่าจะจ่าย

“ไม่ กูไม่อยากได้หรอก เก็บไปเลี้ยงเมียมึงโน้นแดกจนอ้วน”

“เฮ๊ย! พี่ทีนอีเจ้มันว่าหนูอ้วน”มัดหมี่

“ทีหลังก็ทำตัวให้ผอมซิ เจ้เขาจะได้ด่าว่าอีผอมแทน”ไอ้ทีน

“ผ่าม!!” ไอ้เปรมดิ์กับไอ้อาร์มอุทานออกมาพร้อมกัน

“กูว่ามึงก็ผิดฝั่งไอ้ทีน และก็หลบไป! ดูซิ นี้เชี้ยอะไรเนี๊ยะมาเลอะเทอะชุดกูหมด น้ำมนต์บ้าอะไรก็ไม่รู้ ฝากไว้ก่อนเถอะมึง “พี่ปริมหันมามองทุกคนด้วยสายตาอาฆาต

“คอยดูน่ะตั้น พี่จะทำให้ตั้นทิ้งมันและไปหาพี่” พี่ปริมหันมาบอกผมกับเมย์ ผมหันไปมองบรรดาเพื่อนๆ ผม นี้มึงช่วยหรือซ้ำผมกันแน่ว่ะ

“ยังจะฝากอีเหรอเจ้” ไอ้ทีน หันไปถามพี่ปริม

“เจ้ยังจะมาอีกเหรอ ผมว่าตอนขับกลับไปนี้แวะรับยาด้วยเจ้น่ะ”

“ยาพองมึงดิ “นั้นเจ้ปริมหันมายกนิ้วกลางให้

“เจ้!!”

“อะไร”

“ผิดทางเจ้ รถเจ้จอดด้านหน้า ส่วนทางนั้นน่ะมันไปด้านหลัง เจ้ออกไปนี่เจอที่พักพิงสุดท้ายของเจ้เลยนะ… พระเมรุ!!” พอได้ยินเช่นนั้นเจ้รีบหันหลังเดินไปอีกทางทันที ผมหันมามองหน้าไอ้ทีน

“มีด้วยเหรอว่ะ กูไม่เห็นรู้เลย” ผมถาม

“กูหรอกอีเจ้มัน” ไอ้ทีน ผมยืนมองเจ้ปริมที่เดินออกไปทางด้านหน้า ผมคิดว่านี้อาจจะแค่เริ่มต้นก็เองมั้ง ผมก็โบกมือว่าให้พากันขึ้นออฟฟิศเถอะ และผมคงต้องบอกให้คนทำความสะอาดมาเช็ดน้ำที่ไอ้ทีนมันสาดเจ้ปริมเอาไว้อีก ผมจับมือเมย์ และ ผมเดาว่างานนี้เจ้ไม่ยอมจบง่ายๆ แน่ ผมหันมามองฝรั่งเพื่อนบ้าน ที่ยืนดูด้วยความงง คงไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้น ก่อนจะกางมือขึ้น ขอใครสักคนอธิบาย ผมเลยไม่อยากอธิบายด้วยผมว่าเมย์รู้สึกแย่ๆ เหมือนกัน

“Thank you so much”

“ผมยินดีครับ ผม และ คุณชื่อ?”

“ไทตั้น ยินดีที่รู้จัก”

“คุณชื่อเหมือนเพื่อนผมน่ะ แต่คงน่าจะใช่เพราะว่าคุณพูดภาษาไทยได้ งั้นผมไปก่อนนะครับ บายครับ” คุณเพื่อนบ้านของผมพูดก่อนจะเดินอกไปในทันที ผมก็ว่าหน้ามันคุ้นๆ น่ะ แต่นึกไม่ออก ผมพากันเดินไปที่ลิฟต์ เมย์เงียบไม่ได้พูดอะไรผมว่าเมย์คงคิดถึงเรื่องบ้าน ผมหันมาเอามือแตะหัวเมย์เบาๆ

“มึงไปเอาน้ำมนต์มาจากวัดไหนวะ ถ้าจะไม่ค่อยขรัง ดูอีเจ้ไม่รู้สึก” จู่ๆ ไอ้เปรมดิ์มันก็ถามไอ้ทีนถึงน้ำที่มีนเอามาสาดเจ้ ผมหันมามองหน้ามันเช่นกัน

“จากวัดกู กูทำเอง ข้างตึกนี่แหละ กูเห็นใครลองน้ำใส่กะละมังเอาไว้เลยตักมา จุดเทียนเวียนวนสองสามรอบ “ไอ้ทีนพูด

“กระป๋องสีฟ้าๆ ไหมว่ะ “ไอ้เปรมดิ์มันถามไอ้ทีน

“ก็ใช่ไง มันมีน้ำอยู่แล้ว”

“ไอ้เชี้ย กูเห็นเด็กมันยืนยิงกระต่ายลงไป กูยังด่าเด็กมันอยู่เลย แม่งเล่นฉี่ลงไปจนหยดสุดท้าย” ไอ้เปรมดิ์มันพูด ผมสะบัดหน้าไปมอง ส่วนสาวๆ น่ะทำท่าขนลุกกันเป็นแถว เมย์เงยหน้ามองหน้าผม ผมต้องกุมขมับตัวเอง

“กูว่างานนี้เจ้ปริมแค้นฝังหุ่นแน่ๆ มึง” ผมก็หันไปมองไอ้ทีน ถ้าเจ้ปริมแกมามันรับผิดชอบเลยน่ะ ผมเดินออกมาจากลิฟต์ก่อนและตรงไปที่ห้องทำงานของผมทันที มีสาวเดินเม้าส์มอยเจ้ปริมไปตลอดทาง

“เมย์เป็นไงบ้าง “ผมก้มลงถามเมย์ ก่อนนจะค่อยๆ ใช้นิ้วแตะที่มุมปากเมย์เบาๆ

“โอ้ยย” เมย์ร้องออกมาทันทีที่ผมใช้นิ้วแตะที่มุมปากของเมย์

“สงสารพี่เมย์มากเลยเฮีย พี่เมย์โดยกระทำอยู่คนเดียวเลย พวกหนูอยากเข้าไปช่วยแต่อีเจ้มันเอาคนมาจับตัวพวกหนูไว้นะเฮีย” โบว์พูด ผมหันมามองหน้าเพื่อนๆ ของผม

“มึงก็ต้องพาเมย์ไปกับมึงดิว่ะ เวลาออกไปทำงานข้างนอก และอันที่จริงถ้าไม่ใช่งานยากเย็นอะไรพวกกูก็ทำกันเองได้ว่ะ มึงทำงานในออฟฟิศไปไอ้บอส!! “พี่ทีนพูด

“กูก็ไม่คิดว่าเจ้แกจะใจกล้าบุกมาทำร้ายกันขนาดนี้นี่หว่า “ผมพูด พร้อมกับเอามือลูบเมย์เบาๆ ก่อนจะพยักหน้าบอกเมย์ว่าเข้าไปในห้องทำงานผมดีกว่าผมจะทำแผลให้ก่อน

“ปึก “เสียงประตูถูกเปิดเข้ามาด้วยความรีบร้อน

“เอี้ยด!” เสียงเบรกมาแต่ไกล พี่ธีมนั้นเองไปถืออะไรมาก็ไม่รู้เหมือนถังน้ำ

“อีเจ้ไปไหนละว่ะ” ไอ้ธีม

“มึงเอาอะไรมาว่ะ” ไอ้เปรมดิ์ถามที่มันถือมาด้วย

“น้ำมนต์ไง มีคนบอกอีเจ้ผีเข้าให้กูไปหาอะไรมาปราบ น้ำมนต์วัดหัวลำโพงเลย กูตั้งใจมากไปตักมาถังหนึ่ง ไปไหนแล้วว่ะ” ไอ้ธีมพูด

“และกูนี้กลับรถโคตรไกลเลยเพื่อสิ่งนี้ “ไอ้ธีมพูด

“โดนน้ำมนต์วัดกูไปแล้วครับ” และทุกคนก็เดินเข้ากันหมด

“วัดอะไรวะ วัดกู “ไอ้ธีม

“วัดกูนี้ทำเอง ทำน้ำมนต์น่ะ “ไอ้ทีนมัน

“แถมเด็กน้อยมันใส่ของดีมันลงไปด้วย มันฉีลงไปในน้ำให้อีเจ้อีกกูว่า ขลังกว่าของมึงอีกไอ้ธีมครับ” ผมดันร่างเมย์เข้าห้องทำงานส่วนตัวของผมทันที

“เฮียทายาให้น่ะครับคนดี” ผมบอกเมย์ เมย์นั่งลงที่ตรงเก้าอี้ ในห้องทำงานของผม ผมเปิดตู้ยาที่มีเอาไว้ในสำนักงาน ก่อนจะหยิบเอาที่เป็นหลอดยาทาฟกช้ำมา ผมนั่งลงที่เก้าอี้และหันมาลากเก้าอี้ที่เมย์นั่งอยู่เข้ามาชน ผมค่อยจับใบหน้าเมย์อย่างระมัดระวัง ก่อนจะบรรจงแตะยาและทาเบาๆ

“โอ๊ยะ โอ้ยย เฮีย เจ็บอ่ะ เบาๆ หน่อย “เมย์ร้องเจ็บ

“เฮียผมถามหน่อยซิ เรื่องจริงเหรอที่เฮียบอกพี่ปริมไปน่ะว่าเฮียมีคดีทำร้ายผู้หญิงน่ะ” เมย์ถามผม ผมก็หลุบตาลง

“จริง เขาเป็นลูกคุณหนูเหมือนกัน มาชอบเฮีย แต่เฮียมีพี่อิศเรศอยู่ นางก็รู้นางพยายามเข้าหาพี่แต่พี่ไม่เล่นด้วย นางก็เลยโมโห และนางก็มาดักทำร้ายพี่อิศเรศ ตอนนั้นพี่โกรธมาจนควบคุมตัวเองไม่อยู่นะเมย์  พี่รู้ว่าพี่ไม่ควรทำนะเมย์ แต่ พี่ก็ทำและผู้หญิงคนนั้นก็หายหน้าหายตาไปเลย คงไปอยู่ที่อื่นแล้วมั้ง “ผมพูด เมย์มองหน้าผม

“พ่อพี่เป็นคนอุดเงินเรื่องคดีเพราะว่าพี่เพิ่งจะเข้ามหาวิทยาลัยเองเมย์”

“เมย์จะพยายามไม่ให้เขาทำร้ายเมย์น่ะ เมย์ไม่อยากให้พี่ตั้นทำแบบนั้นอีก เมย์สัญญาจะดูแลตัวเอง ถ้าเมย์หลบได้เมย์จะหลบ ไม่ใช่กลัวเขาแต่เมย์ไม่อยากให้พี่ตั้นเดือดร้อน”

“นะครับ “เมย์พูดพร้อมกับโผมากอดผม ผมก็กอดเมย์ตอบ

“ขึ้นไปอาบน้ำดีกว่าจะได้ไปดูหนังกัน” ผมบอกเมย์ เมย์ก็ยิ้มให้ผม

“ถ้าพี่ต้องทำเพื่อปกป้องเมย์ พี่ก็คงต้องทำเมย์” ผมพูด ก่อนจะหันไปเก็บกล่องยาเข้าตู้ เพื่อจะได้พากันขึ้นห้องอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและพาเมย์ไปทานข้าวด้วย ผมเดินออกมา ทุกคนหันมามองเมย์ด้วยสายตาที่เห็นใจกันหมด

“ปึก” เสียงประตูเปิดเข้ามาอย่างเร็ว

“ใครทำร้ายพี่เมย์ของเฟย์”

“เว้ยยย” เสียงพวกเพื่อนผมร้องด้วยความตกใจ ผมกับเมย์มองหน้ากัน ก็เฟย์มันแต่งสาวแตกขั้นทุกวัน มีกิ๊บติดผม ทำไฮไลผมมาบ้าง มันดูฟรุ้งฟริ้ง และไอ้กอล์ฟมันก็เดินเข้ามา มันพยักหน้าถามผม ผมพยักหน้าตอบมันก็คงรู้คำตอบว่าไม่มีอะไรร้ายแร้ง

“ไอ้กอล์ฟ มึงช่วยบอกเฟย์เมียรักมึงว่าให้กลับไปแอบแมนเหมือนเดิมเถอะว่ะ กูตกใจ อะไรมันติดหัวมันว่ะ ฟรุ้งฟริ้งไปไหมมึงครับ”

“เมียกูนี้ผู้หญิงแท้เห็นมึงแต่งแบบนี้ มันอายเลยมึง “ไอ้อาร์ม

“อะไรกัน นี้ธรรมดาแล้วน่ะ”

“ธรรมดาของมึงแต่แปลกประหลาดของพวกกูครับ น้องเฟย์ครับ “ไอ้ทีนอีกคน

“ไอ้ธีมครับ เมื่อกี้น้ำมนต์มึงอยู่ไหนวะ เอามาให้น้องเฟย์ดื่มสักแก้วสองแก้วเพื่อว่ากะเทยที่สิ่งอยู่จะเบาๆ ลงบ้าง “อาร์ม

“พี่อาร์มค่ะ กะเทยน่ะมันติดตัวหนูมาตั้งแต่เกิดค่ะ ไม่ได้เพิ่งมาสิงค่ะ โดนน้ำมนต์เข้าไปจะได้หาย”

“เออๆ เฮียกับพี่เมย์จะไปดูหนัง กินข้าวกัน คงไม่เข้ามาแล้วน่ะ วันนี้น้องๆ จะกลับกันเลยก็ได้น่ะ เพราะว่าวันนี้ก็ไม่มีอะไรแล้ว จะได้กลับไปอ่านหนังสือกัน ใกล้สอบแล้วนิ “ผมพูดบอกน้องๆ น้องเขาก็พยักหน้า พร้อมกับเก็บข้าวของจะกลับบ้าน

“พี่เมย์ ดูหนังให้สนุกน่ะ ไม่ต้องไปคิดเรื่องอีเจ้แล้วน่ะ ต่อไปโบว์จะมาอยู่เป็นเพื่อน”

“แต่ช่วงนี้เบนซ์ต้องฝึกงานอ่ะ ถ้าเบนซ์ว่างจะมาอยู่ด้วยนะ” เบนซ์อีกคน

“เอาไว้มัดหมี่สอบก่อนน่ะ จะพาไปกิน”

“กินอีกแล้ว อีเจ้มันพึ่งด่าอยู่ ว่าแดกจนอ้วน “ไอ้ทีน

“ไม่กินก็ได้ แต่จะมาอยู่เป็นเพื่อนพี่เมย์” เมียไอ้ทีนรีบพูด

“พวกมึงก็ไม่ต้องอยู่กันดึกหรอกว่ะ เมียพวกมึงมากันแบบนี้ พาไปเที่ยวบ้างมึง งานน่ะไม่ค่อยรีบว่ะช่วงนี้ “ผมพูดก่อนจะพยักหน้ากับเมย์ ผมจองรอบหนังเอาไว้แล้วกลัวจะไม่ทัน

“ไปครับเมีย ไปกินชาบูกัน วันนี้บอสให้พี่กลับเร็วได้ แต่เมียพี่ก็เกือบได้ไปกินโอเลี้ยงกับข้าวผัดที่โรงพักเพื่อประชาชนอยู่แล้วเชียว” ไอ้เปรมดิ์พูด

“ปกติมึงก็กลับเร็วอยู่แล้วไอ้เปรมดิ์ครับ” ผมรีบพูด มันสะบัดหน้ามามองหน้าผม ขยิบตาด้วย

“อ้าวถ้ากลับเร็วทำไมถึงห้องมืดอ่ะ” โบว์ถาม

“ไอ้บอสครับ เมื่อกี้กูน่าจะให้อีเจ้มันลากมึงได้วย ไอ้เชี้ยปากมึงเหรอครับ” ไอ้เปรมดิ์

“กูไปน่ะ วันนี้เลิกเร็วเดี๋ยวพาเมียไปหาซื้อชุดสวยที่โบ้เบ้มาใส่แข่งกับเจ้ครับ สวยและถูกไปครับเมียวันนี้ผัวเปย์เต็มที่”

“ไม่ชอบซ้ำทางใคร จะไปพาราก้อน “เบนซ์พูด

“อู้ยยย!! จะไปพาราก้อน เงินเดือนยังไม่ออก ไปยูเนี่ยนมอล์แล้วกันหรูขึ้นมาหน่อย” ไอ้อาร์มพูด

“กูพาเมียไปหาครอสลดน้ำหนักก่อนว่ะ โดยอีเจ้มันด่าเอา อายแทนเลยกู” ไอ้ทีน

“ไอ้พี่ทีนเขาให้เจ็บแทน ไม่ใช่อายแทนเมีย “น้องมัดหมี่ และผมโบกมือว่าตามสบายก่อนจะเดินออกไปกับเมย์ ไอ้กอล์ฟมันหันมามองผม ยิ้มๆ

“เออ กูดูเอง ถ้ามีปัญหาเดี๋ยวกูทำเอง “กอล์ฟบอกผม ปกติผมจะอยู่ทำจนดึกแต่พอมีเมย์มาอยู่ด้วยเลิกงานตามเวลาเป๊ะ


“มึงจะเอาอะไรไหมว่ะกอล์ฟ กูซื้อมาฝาก”

“ไม่เอาว่ะ วันนี้เฟย์เขาจะกินซูชิว่ะ เลยว่าจะสั่งแก๊ปฟู้ดมาส่งว่ะ ตามสบายเลยมึง พาเมย์ไปปลอบใจหน่อย” ไอ้กอล์ฟพูด เดินโอบเอวเมย์ออกไป ผมเห็นเมย์เงียบไม่ได้พูดอะอะไรอีกเลย ผมเดาว่าเมย์คงคิดเรื่องที่พี่ปริมเอามาขู่เรื่องบ้านแน่ๆ ผมควรจะจัดการเรื่องบ้านซะก่อน

TBC......

   ตอนหน้า พี่ตั้นต้องขอร้องใครสักคนช่วยเขาแล้วแหละที่นี้
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.23 (เฮียตั้นVSเมย์)เจ้ปริมผู้ไม่ยอมแพ้ใคร 2
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 11-12-2020 21:43:14
 :laugh: :m20:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.23 (เฮียตั้นVSเมย์)เจ้ปริมผู้ไม่ยอมแพ้ใคร 2
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 11-12-2020 22:45:04
ยัยปริม  :m20: :pigha2: :pigha2: พี่ตั้นงานนี้ต้องยอมก้มหัวแล้วละ เพื่อบ้านเมย์ อิอิ  :katai5: 
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.23 (เฮียตั้นVSเมย์)เจ้ปริมผู้ไม่ยอมแพ้ใคร 2
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 12-12-2020 07:15:29
 :laugh: :laugh:แอบสงสารเจ้ปริมอยู่น่ะ
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.23 (เฮียตั้นVSเมย์)เจ้ปริมผู้ไม่ยอมแพ้ใคร 2
เริ่มหัวข้อโดย: sompong ที่ 12-12-2020 10:05:50
ปริมนางคงเก๋็บกด มากน่าสงสาร
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.23 (เฮียตั้นVSเมย์)เจ้ปริมผู้ไม่ยอมแพ้ใคร 2
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 12-12-2020 19:17:02
 :impress2: :impress2:
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.24 (เฮียตั้นVSเมย์)ผมก็ต้องเอ่ยปากขอความช่วยเหลือ
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 12-12-2020 20:06:17
ผมเห็นเมย์เงียบไม่ได้พูดอะไรอีกเลยตลอดจนผมกับเดินขึ้นไปถึงชั้นที่ผมพักอยู่ ผมเดาว่าเมย์คงคิดเรื่องที่พี่ปริมเอามาขู่เรื่องบ้านแน่ๆ ผมควรจะจัดการเรื่องบ้านซะก่อน ที่เจ้ปริมจะเอามาต่อรองอะไรกับเมย์มากไปกว่านี้ แค่วันนี้ผมก็รู้สึกแย่ ถ้าตอนนั้นผมเชื่อพี่ธันว่าไม่ควรไปยุ่งกับเจ้ปริมมันคงไม่เป็นแบบนี้ เพราะตอนแรกก็คุยกันตกลงกันดีน่ะแต่ทำไมตอนนี้นางอยากได้ผมขึ้นมา ผมนั่งลงที่โต๊ะในห้องครัว ที่สำหรับทานอาหารเช้ากัน เมย์เทน้ำเปล่ามาให้ผมหนึ่งแก้ว

“เมย์ ไปอาบน้ำก่อนนะครับที่รัก “ผมบอกเมย์ เมย์หันมาพยักหน้าตอบผม ก่อนจะเดินเข้าห้องนอนไป ผมก็ต้องหยิบมือถือขั้นมา ผมต้องกลั้นใจก่อนจะกดเบอร์โทร หาพี่อิศเรศ

“สวัสดีครับน้องตั้น”

“ผมขอคุยกับพ่อหน่อยได้ไหมครับพี่เรศ”

ได้ซิครับ ท่านรอคุณอยู่”

“ขอบคุณครับ” ผมพูด ผมถือส่ายรอแป๊บหนึ่ง

“ว่าไงตั้น” เสียงของพ่อผม มีคนบอกหลายคนว่าเสียงพ่อผมกับผมเหมือนกันจนแยกไม่ออก

“พ่อผม เออ ผม อยากจะ” ผมพูด  “ให้ช่วย พูดมาซิ ตั้น”แต่พ่อผมพูดขึ้นมาซะก่อนเหมือนกับว่าเขารออยู่แล้ว

“คือว่าผมอยากจะช่วยเมย์เขา ”

“ซื้อบ้านคืนมา” และนี่ก็ต้องทำให้ผม ใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้ม ถ้าพ่อผมรู้ขนาดนี้นั้นแปละว่าเขาต้องให้คนคอยจับตาผมอีกแล้ว

“พ่อรู้ได้ยังไงอ่ะ” ผมถามพ่อผมกลับในทันที

“รู้แล้วกัน รู้มากกว่านั้นด้วยตั้น และนี้ท่าจะให้พ่อซื้อให้เมย์ มีเหตุผลอื่นอีกไหมละตั้น  เพราะว่าการที่จะซื้อบ้านให้มันน่าจะเหตุผลที่สมควร” พ่อผมถามผม ผมเดาว่าเหมือนพ่อจะแค่อยากได้ยินคำยืนยันจากปากผมเท่านั้นเรื่องผมกับเมย์

“ผมขอเมย์แต่งงานแล้วครับพ่อ”ผมพูด

“แน่ใจแล้วเหรอว่าคนที่นายรักคือคนนี้จริงๆ” พ่อถามผม

“ผมแน่ใจพ่อ เมย์คือคนที่ผมรัก ผมยอมรับว่าผมอาจจะไม่ดีพร้อม ผมทำให้พ่อเดือดร้อนไม่รู้กี่ครั้ง แต่ครั้งนี้ผม….”

“ได้จะซื้อให้แต่ขอข้อแลกเปลี่ยนนะตั้น เราต้องมาช่วยฉันดูแลกิจการอสังหาริมทรัพย์ที่เขาใหญ่ ฉันกำลังมีโครงการใหม่ สำหรับเรากำลังก่อสร้างอยู่ ฉันต้องการให้เรามาดูแลตั้น”

“แล้วบริษัทผมละพ่อ”

“ให้เพื่อนทำต่อไปเลย”

“คือ….” หมดคำพูดเลยผม อย่างนี้เขาเรียกว่ามัดมือชกไหมว่ะ ผมแอบคิดในใจ บังคับให้ผมกลับไปอยู่ที่นั้น

“ให้เวลาไม่เกินปีนี้น่ะตั้น เคลียร์ทุกอย่าง และเตรียมตัวพาเมย์กลับมาอยู่เขาใหญ่ ถ้าพาเมย์มาอยู่ที่นี่ ผู้หญิงที่แกดันไปหลับไปนอนด้วยเข้าจะได้ไม่กล้า เข้าใจที่ฉันพูดไหมตั้น “พ่อผมพูด

“นี่พ่อให้คนตามติดผมตลอดเลยเหรอพ่อถึงได้รู้เรื่องทุกอย่าง!”

“ถ้าไม่ตามติดมันคงจะแย่ไปกว่านี้แล้วแหละตั้น ทำตามที่พ่อบอก “พ่อผมพูดก่อนจะวางสายไปทันที  ผมได้แต่ยืนเอามือประสานกัน ผมหันมาก็เจอแววตาของเมย์ที่ยืนมองผมอยู่ ผมยอมรับว่าผมใจหายที่ต้องทิ้งเพื่อนๆ ไป รูปถ่ายตอนรับปริญญานั้น ภาคิน ไอ้ธีม ผมสามคนตั้งใจสอบให้ติดที่เดียวกันและพอมาเจอไอ้ทีน ไอ้เปรมดิ์ ไอ้อาร์มและไอ้กอล์ฟ มาเป็นเพื่อนกันอีก เป็นพี่ว๊ากด้วยกันและช่วยเหลือกันจนเรียนจบมาพร้อมกัน และตั้งใจจะทำบริษัทด้วยกันแต่สุดท้ายผมกลับต้องเป็นฝ่ายทิ้งพวกมันไป

“พี่ไม่อยากทิ้งเพื่อนพี่ไปใช่ไหมครับ “เมย์ถามผม “หมับ”  ผมก็ดึงเมย์เข้ามากอด เมย์ก็กอดผมตอบ

“แต่พีก็ไม่อยากเสียเมย์ไป ถ้านี้คือสิ่งที่พี่จะทำเพื่อปกป้องคนที่พี่รัก” ผมพูดกระซิบกับเมย์

“พี่จะไม่มีวันเสียผมไป ผมเชื่ออย่างนั้น “เมย์เงยหน้าขึ้นตอบผม

“อาบน้ำกันไหมครับ”จู่ๆเมย์ก็ถามผมขึ้น มุมปากผมถูกกะตุ๊กขึ้นจนเป็นรอบยิ้มทันที

“จะดีเหรอ เดี๋ยวไปไม่ทันรอบหนังน่ะพี่จองไว้แล้ว”ผมพูด

“ก็แค่อาบน้ำ”คนที่ผมผมกอดอยู่ดันตัวเองให้คลายออกพร้อมกับทำปากยู่ ใส่ผม

“พี่คิดว่าพี่อาจจะทำมากกว่าอาบน้ำ” ผมพูด พร้อมกับปัดผมที่ปกหน้าผากนั้นอย่างเอ็นดู

“พี่เป็นผู้ชายที่ได้คีบแล้วจะเอาศอกตลอดเลย งั้นเมย์อาบคนเดียวก็ได้” เมย์พูดและรีบเดินกลับเข้าห้องไปทันที และผมก็ไม่รอช้า ที่ออกมาแบบนี้แสดงว่ามาชวนผมแล้วผมจะรออะไรล่ะ ก็รีบตามตัวเล็กเข้าไปติดๆ ประตูก็ไม่ล๊อกแบบนี้ แสดงว่าเมียเชื่อเชิญอยุ่เหมือนกัน ผมเปิดประตูเข้าไปพร้อมกับรีบถอดเสื้อผ้าออกอย่างรวดเร็ว และตามเมย์เข้าไปติดๆในตู้อาบน้ำ ทำได้แค่อาบน้ำจริงๆเพราะว่าเวลาจำกัด


*****
   เจ้ปริมคนสวย เธอเดินหัวเสียออกมาพร้อมกับสภาพที่ดูไม่ได้ คนเดินผ่านไปก็หันมามองและซุบซิบกันใหญ่ บางคนก็พอเดินผ่านเธอก็เอามือปัดจมูกและหันมามองเธอด้วยสีหน้าแปลกเหมือนเธอมี เธอเองก็เริ่มจะได้กลิ่น เหม็นๆ มาจากเสื้อผ้าชุดแซกเข้ารูปเหมือนกัน กลิ่นมันฉุนๆ และทันทีที่เธอเดินออกมาด้านหน้า สิ่งที่ทำให้เธอต้องหัวเสียมากขึ้น นั้นคือ เหล่าบรรดาสมุนของเธอ นั่งเล่นหมากรุกกันหน้าตาเฉย

“เฮ้ยย!!” และเมื่อหันมาเห็นปริม ที่สภาพยัยเยินมาก

“คุณปริม ทำไมเป็นแบบนี้ละครับ เมื่อกี้ก่อนคุณปริมจะไล่พวกผมลงมา คุณซ้อมเขาแต่ทำไมตอนนี้คุณโดนเขาฟัดมาละครับ”

“ช่างมันเถอะกลับบ้าน พวกมึงก็ดีดี้ ทิ้งกูลงมาเล่นหมากฮอท เปิดประตูรถซิ จะได้ขึ้น! “ปริมเธอไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับคนของพ่อเธออีก เหนื่อยกับพวกนี้นแล้ว เธอรีบเปิดประตูเข้าไปนั่ง ที่เบาะหลังและตามมาด้วยขับรถชุดเดิมทัตทีที่ประตูเป็นลง กลิ่นทึ่คละคลุ้งจากเสื้อผ้าของเธอ ก็กระจายไปทั่วภายในรถ ปริมถึงกับต้องก้มลงดม

“นี้ไอ้ทีนมีนน้ำมนต์วัดไหนมาสาดเนี๊ยะ น้ำมนต์ค้างปีหรือไง “ปริมพูด ส่วนคนขับรถมองหน้ากันเลิกลัก ก่อนจะหันมามองหน้าของปริม

“คุณหนูครับ กลิ่นแบบนี้ผม ผมว่าไม่ใช้น้ำมนต์หรอกครับ”

“แล้วน้ำอะไรล่ะ”

“กลิ่นมันฉุนมากครับ ผมพูดเลย ผมว่ามันคือน้ำ ปัสสาวะครับ”

“กรี้ดดดด” เสียงกรี้ดลั่นรถอีกครั้ง

“ออกรถซิ ฉันจได้รีบกลับบ้าน อึ้ยยยย ไอ้ ไอ้ ทีนนนน กูจะถอนตอมึงออกเลย”

“ช้าทำไมล่ะออกรถซิ!!”

“คอยดูน่ะ จะกลับมาเอาคืนให้สาสมเลย”

“ยังจะมาอีกเหรอครับคุณปริม เมื่อวันก่อนก็น้ำยาฉีดห้องน้ำ เหม็นคลุ้งจนคุณพ่อคุณปริมยอมลงไปนั่งรถแทกซี่ต่อ และมารอบนี้เจอน้ำปัสสาวะด้วย เป็นผมน่ะครับ ผมไม่มาเหยียบอีกเป็นครั้งที่สองแน่นอนครับ ถ้าจำเป็นต้องผ่าน ผมเลือกย้ายไปอยู่ที่อื่นไกลๆ เลยล่ะครับ”


“คนอย่างอีปริม เป็นคนไม่ยอมใคร เรื่องแค่นี้…” ปริมทำท่าจะพูดแต่ว่ากลิ่นรอบตัวเธอนี่มันคละคลุ้งไปหมด

“แต่จะว่าไปเหม็นมากเลย มีอะไรฉีดไหมเนี๊ยะ! ฉีดให้หน่อยซิ จะอ้วกแล้วเนี๊ยะ” ปริมพูด พอเธอเงยหน้าขึ้นมาก็ต้องตกใจ คนขับรถสวมหน้ากากสำหรับป้องกันสารเคมีเรียบร้อย

“อะไรน่ะ”

“หน้ากากครับคุณหนู เส้นนี้รถติดมาก ผมสองคนทนไม่ไหวหรอกครับ ขอใส่หน้ากากแล้วกันน่ะครับ ส่วนคุณหนูก็ดมไปเถอะครับ”

“กรี้ดดดดด” เสียงกรี้ดลั่นรถอีกครั้งแต่คนขับก็ทำเป็นไม่ได้ยิน และปริมเธอก็ต้องนั่งทนดมกลิ่นไม่พึงประสงค์ไปจนถึงบ้าน ทันทีที่รถแล่นเข้ามาจอดเธอก็ต้องกระโดดลงจากรถและวิ่งแจ้นขึ้นไปบนบ้าน เพื่อตรงไปยังห้องน้ำ ครั้งที่สองแล้วที่เธอต้องขัดสีฉวีวันนานขึ้นอีกไม่ใช่เพื่อผิวพรรณแต่เพราะว่ากลิ่นที่มันติดตัวเธอมานี้แหละ เธอใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนานเกือบชั่วโมง เมื่อเธอออกมาก็ต้องพบว่าพ่อของเธอเข้ามารอเธออยู่ห้องนอน

“พ่อเข้ามามีอะไรเหรอคะ” เธอถามพ่อของเธอ

“มึงไปไหนมาะ ปริม”

“ไปหาผัวเก่ามา แต่ดัน ซวยชะมัด “เธอพูดแต่ก็ต้องกำมัดแน่น ด้วยความแค้น

“กูจะหาผัวรวยให้มึงใหม่ คราวนี้อย่าพลาดเหมือนไอ้ปฐวีย์อีกน่ะ” ทันทีที่พ่อเธอพูดจบ ปริมหันขวับมามองพ่อเธอทันที


“ไม่เอาแล้วน่ะพ่อ ทำไมล่ะ ในเมื่อเราก็มีเงินมีทองมากพออยู่แล้ว ทำไมต้องให้หนูไปทนอยู่กับคนที่หนูไม่รักด้วย หนูไม่เอาหรอกน่ะ แค่คุณปฐวีย์ก็ อี้ อึดอัดจะตายไป เรือ่งว่าทำเป็นหรือเปล่าก็ไม่รู้ ”

“ทำไมนะเหรอ ก็ถ้ามึงสองคนแม่ลูกยังไม่มีปัญหาหาเงินเอง มีแต่แบมือขอเงินกูน่ะ มึงก็ทำตามที่กูบอก เข้าใจไหมปริม!!”

   ก๊อก ก๊อก ก๊อก” เสียงคนเคาะประตูห้องนอนของปริม และคนที่เปิดประตูเข้ามาก็คือคนสนิทของพ่อเธอ เขาคงรู้ดีว่าอยู่ในห้องนอนของปริม คุณดิเรกปรายตามามองบุตรสาวแค่นั้น ก่อนจะหันไปมองคนสนิทว่ามีเรื่องด่วนอะไร

“คุณดิเรกครับ มีคนมาขอพบท่านครับ ตอนนี้ และรออยู่ที่ห้องรับแขกครับ”

“ใคร???”

“เขาบอกว่าเขาชื่อคุณธรรพ์ณธรนะครับ และจะมาคุยเรื่องบ้านที่ไอ้รงค์มันเอามาจำนองไว้นะครับ เขาจะมาขอซื้อต่อในราคาที่คุณเคยให้กับคุณปฐวีย์น่ะครับ”

“เขาเป็นใคร คุณธรรพ์ณธร และนายมีข้อมูลไหม ”คุณดิเรกหันไปถามคนสนิท

“ผมพอจะทราบว่าเขาคือ พ่อเลี้ยงที่อายุน้อย ดูแล้วไม่น่าจะเกินห้าซะด้วยซ้ำ แต่มีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่นับไม่ถ้วนแถวเขาใหญ่ เป็นที่รู้จักและเกรงขาม มาตั้งแต่สมัยคุณพ่อเขานะครับ”

“นี่พ่อจะเอาบ้านนางเมย์ไปขายเหรอ พ่อขายไม่ได้น่ะ ปริมจะเอามาเป็นข้อต่อรองเอาผัวปริมคืน”

“ก็มึงมันโง่ไง ดังนั้น ขายไปซะอย่างน้อย กำขี้ดีกว่ากำตด และถ้าไอ้รงค์มันออกมาจะไม่ได้อะไรเลย รีบขายไปซะ” พ่อของปริมพูดก่อนจะก้าวเท้าลงออกไปจากห้องนอนของเธอเพื่อไปพบกับผู้ที่ต้องการซื้อบ้านของเมย์

*****
      ธรรพ์ณธร พ่อเลี้ยงที่อายุน้อยที่สุดแห่งไร่ ศิริเมธานนท์ ผมเดินทางมากรุงเทพตั้งแต่เมื่อวานแล้ว มาคุยกับทนายเรื่องบ้านของเมย์ ทนายบอกถ้าใช้กฎหมายเข้าช่วยก็คงใช้เวลาสืบค้นนานเลยกว่าจะได้คืน ขนาดตอนที่พ่อกับแม่ของเมย์เสียยังใช้เวลาเกือบสิบปี ผมจึงเลือกที่จะเข้าไปคุยกับคนที่ถือโฉนดที่ดินกับบ้านก่อน นั้นคือ คุณดิเรก เป็นนักการเมืองที่ไม่ค่อยใสสะอาดเท่าไหร่ มีแต่ใช้อิทธิพลในทางไม่ค่อยดี และเป็นคนโลภมาก มีบุตรสาวหนึ่งคน ผมรู้ว่าเธอเป็นอะไรกับตั้น แต่ไม่ใช่แฟน มันยิ่งทำให้ผมกระตุกยิ้มที่มุมปาก ด้วยความสมแพช ผมเกลียดผู้หญิงประเภทนี้ที่สุด ผมเคยคิดว่าถ้าตั้นเลือกผู้หญิงคนนี้  ผมก็คงไม่ขอต้อนรับกลับเข้าเขาใหญ่แน่นอน แต่พอตั้นพาเมย์ไป ผมรู้สึกว่าเด็กคนนี้มีอะไรที่จะทำให้ตั้น ไม่ไปยุ่งกับสิ่งที่ไม่ดี ผมรู้ว่าตั้นยุ่งกับผู้หญิงคนนี้และมียาเสพติดเข้ามาข้องเกี่ยวด้วย ต่อให้แม่ของตั้น เป็นเหมือนมีดกรีดกลางใจผม ทุกครั้งที่ผมได้ยินชื่อเธอก็ตามแต่ตั้นคือเลือดเนื้อของผม ภาพวัยเด็กที่ผมได้อุ้มชูมันก็ยังอยู่ในใจผม ส่วนตั้นเองก็คงจะจำมันไม่ได้ตลอดไป

   “มาแล้วครับคุณท่าน” คนสนิทชองผม ที่ดูแลผมและ รู้ใจผมไปซะทุกอย่าง จนเรียกว่าก้าวข้ามคำว่าคู่รักไปแล้ว ผมเงยหน้าขึ้นมองเขาก่อน จะหันไปมองคนที่เดินลงมาจากบันไดบ้านชั้นที่สอง เขาชื่อคุณดิเรก พ่อของผู้หญิงที่พยายามใช้มารยากับลูกชายผม พ่อที่โลภมากอยากได้เงินคนอื่นจนมองข้ามความถูกต้อง

   “สวัสดีครับคุณธรรพ์ณธร ถูกต้องไหมครับ”

   “ใช่ครับ  นี่คือคุณธรรพ์ณธร ส่วนผม อิศเรศเลขาฯของท่านครับ” อิศเรศเป็นคนแนะนำทั้งผมและเขา

   “เป็นเลขาฯ แล้วผมควรจะคุยกับคุณหรือว่าเขาล่ะ” คุณดิเรกพูด ผมหันไปมองอิศเรศ

   “เขาคือเลขาฯที่จัดการทุกอย่างแทนผมได้ ตามอำนาจที่ผมได้มอบหมาย ดังนั้นเขามีสิทธิ์ที่จะคุยหรือตัดสินใจแทนผมได้ ทุกอย่าง ดังนั้นก็ไม่ต่างกัน” ผมพูดกันจะหันมองคนที่ยืนอยู่  ผู้ชายวัยกลางคนนั่งลงบนโซฟา ของภายในบ้านดูมีค่ามีราคาแต่มันได้มาแบบไม่ชอบธรรม ทำไมผมจะไม่รู้

   “เข้าเรื่องเลยนะครับ คุณธรรพ์ณธรต้องการจะขอซื้อบ้านของดอกเตอร์มธุรินและดอกเตอร์ธนิน  ที่มีคนนำมาจำนองไว้กับคุณดิเรก คุณท่านต้องการขอซื้อคืนในราตาสามสิบล้านบาทถ้วน ตกลงคุณจะขายหรือไม่ครับ” อิศเรศเอ่ยถามแทนผม

   “คุณรู้ข้อมูลบ้านนี้ได้ยังไง “ดิเรกถามก่อนจะปรายตามองผมสองคน

   “ผมรู้มากกว่านั้น แต่ผมต้องการที่จะซื้อมันคืนให้ลูกชายผม เป็นของขวัญ ที่เขาขอแฟนเขาแต่งงาน และแฟนของเขาก็คือลูกเจ้าของบ้านคนเดิม “

   “คุณเป็นใคร”

   “ไม่สำคัญว่าผมเป็นใคร ผมรู้ทุกเรื่องของคุณ แม้กระทั้งว่าคุณได้บ้านนี้มาได้ยังไง ถ้าผมจะทำให้คุณไม่ได้เงินเลยสักบาทผมก็ทำได้น่ะ และคุณก็ต้องคืนบ้านให้กับลูกเจ้าของเขา แต่ว่าผมเลือกที่จะเข้ามายื่นเงินก้อนโตให้เพื่อแลกกับ….”

   “ให้ลูกสาวคุณเลิกยุ่งกับลูกชายผม”

   “ลุกสาวผมไปยุ่งกับลูกชายคุณตอนไหน คุณจะบ้าเหรอ”คุณดิเรกพูดโวยวายขึ้นทันที  ผมหันไปขอรูปถ่ายตอนที่ สาวเขายังคงคบกับลูกชายผม ตอนนั้นกำลังออกจากผับ ด้วยอาการมึนเมา รูปมันถ่ายชัดเจนมาก

   “ใช่ลูกสาวคุณไหม” ผมถามคนที่ถือรูปสองสามใบในมือ

   “ใช่ลูกสาวผมเอง” คุณดิเรกตอบ “ไอ้คนนี้มัน คนที่เปิดบริษัท อะไรก็ไม่รู้ “ผมหันมามองอิศเรศ เขาแค่ยักไหล่ให้ผมแค่นั้น
   
   “ลูกชายผมคือคนทีเปิดบริษัทติดตั้งไมโครซอร์ฟที่ลูกสาวคุณไปวุ่นวายอยู่นี้ไง ลูกชายผมก็คือ… “

   “ตั้นเหรอคะ” เสียงที่ทำให้ผมต้องหันไปมองผู้หญิงที่เดินลงมา จากบ้าน เธออาจจะยืนดักฟังอยู่แล้ว

   “แก ฉันจำได้แก ที่มาหาตั้น “ เธอชี้นิ้วมาที่อิศเรศ ผมหันไปหันอิศเรศ

   “ก็วันนั้นคุณตั้นมีเรื่องและต้องขึ้นโรงพักไงครับ ผมไปแทนคุณท่านและเจอผู้หญิงคนนี้เข้า เธอยืนเอะอ่ะโวยวายราวกับคนไร้สติ ” อิศเรศพูด ผมพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะหันมามองเธอ

   “นี่แกมีหน้ามาด่าฉันเหรอ ในบ้านฉันด้วย”

   “รบกวนสอนมารยาทลูกคุณนิดนึงนะคุณดิเรก” ผมแค่ปรายตาหันไปมองแค่นั้น

   “ปริม ออกไป พ่อจะคุยธุระ ไม่เกียวกับแก ”

   “ไม่ค่ะ ปริมจะอยู่ เพราะว่าถ้าเรื่องตั้นมันก็เรื่องของปริม “

   “ ตกลงตั้นคือลูกคุณใช่ไหมค่ะก็ดีเลย มาก็ดี ฉันนี้น่ะ เมียตั้น ลูกสะไภ้คุณไง”

   “ขอโทษน่ะ ตั้นมันบอกฉันว่ามันจะแต่งงานกับผู้ชายที่ชื่อเมย์ และมันต้องการบ้านเป็น ของขวัญวันแต่งงาน แต่ตั้นไม่เคยพูดถึงคุณเลยน่ะ”

   แต่ผมรู้เองว่าคุณกับตั้นน่ะ อยู่ในสถานะไหนกัน ที่ไม่ได้เรียกว่าแฟน เพราะถ้าเป็นแฟนเขาคงพาคุณไปบ้านผมตอนที่ทำบุญให้แม่เขาแล้วแต่นี้เขาพาเมย์ไป และบอกกับทุกคนในบ้านผมว่าเมย์คือแฟนเขา  “ผมพูดโดยไม่ได้หันไปมองหน้าเธอ ผมคิดว่าเธอคงโมโหและมันก็ถูกซะด้วย

   “และผมทราบอีกว่า ตั้นมันก็มีเยอะแยะที่ผ่านมา แต่ว่า ณ ตอนนี้ตั้นเขาบอกกับผมว่า เขาหยุดแล้วที่คนนี้ เขาถึงได้ขอเมย์แต่งงาน” ผมพูด

   “เธอเองไม่ใช่เหรอที่ส่งเมย์ไปหาเขาเอง “ผมหันไปถามเธอ เธอมองหน้าผม

   “โทษตัวเองเถอะน่ะ ไม่ต้องโทษใคร และเธอควรจะจะยอมรับตามกติกาว่าเขาเลือกใคร “ผมพูดก่อนจะปรายตามามองสองพ่อลูก ที่ยืนมองหน้า คนพ่อคงคิดไม่ถึงว่าตั้นจะมีดีกว่าที่เขาคิดไว้ซะอีก แต่ว่ามันสายไปแล้ว ผมดักไว้หมดแล้วถ้าเขายึกยักนั้นคือเขาอาจะต้องเสียบ้านและที่ดินฟรีๆ เผลอจะซวยด้วยซ้ำถ้ายังจะเอาอะไรมาต่อรองกับผม ผมส่งคนไปคุยกับคนที่เอาบ้านมาจำนองแล้ว ต่อให้ไอ้คนนั้นมันอยู่ในคุกก็ตาม  แค่ใช้เงินก็ได้ความลับมาหมดแล้ว ว่าทุกขั้นตอนการพิจารณาคดีเขาใช้เงินอุดทั้งนั้น   

   “แต่หนูมาก่อนไอ้เด็กนั้น”

   “แหละคุณคิดว่าผมควรจะให้คุณเข้าไปอยู่ในบ้านผมหรือไง คุณทำอะไรกับลูกผมบ้าง ไม่มีผู้หญิงปกติทีไหนเขาทำกันแบบนี้ “

   “นี่คุณพูดเรื่องอะไรกันน่ะ”  พ่อของปริมหันมามองผมกับลูกสาวของเขา

   “ลูกสาวคุณเขาใช้ยาเสพติด จากพวกที่คุณหนุนหลังอยู่ กับคุณตั้น ” อิศเรศพูด

   “อีปริม! มึงหาเรื่องให้กูชัดๆ อีลูกไม่รักดี” พ่อของเธอหันไปตะหวาดใส่หน้าลูกสาว ผมหันมามองอิศเรศ

   “ผมจะเตือนเป็นครั้งสุดท้าย ห้ามลูกคุณซะ และหลังจากได้บ้านแล้ว ตั้นเขาจะแต่งงานกับเมย์ ทันที” ผมพูด

   “เรื่องอื่นๆผมจะให้ทนายผมจัดการโดยเร็วที่สุด ดังนั้นคุณมีเวลาตัดสินใจแค่ไม่เกินสิ้นเดือนนี้  ผมมาแค่นี้ ผมหมดธุระ ดังนั้นผมขอตัวเลยแล้วกัน   “

   “ถ้าลูกคุณไม่หยุดวุ่นวายกับลูกผมกับคนรักของเขา คุณอาจจะไม่ได้อะไรเลยแต่อาจจะต้องเสียแทน เลือกเอาแล้วกันน่ะคุณดิเรกว่าจะเอาอย่างไหน”  ผมพูดก่อนจะหันไปพยักหน้ากับอิศเรศ และลุกขึ้นทันที ผมเดินออกมาจากบ้านหลังนั้นโดนไม่ได้หันหลังกลับไปมอง คนของผมยื่นอยู่ด้านนอกกันหมด ระหว่างที่อิศเรศกำลังเปิดประตูรถให้ผมเข้าไปก่อน

   “หยุดน่ะ คุณมาตัดสินแบบนี้ไม่ได้น่ะ ฉันต่างหากที่ควรจะได้ตั้น ไม่ใช่อีเด็กบ้านั้น ต่อให้คุณเป็นพ่อฉันก็ไม่สนน่ะ เพราะว่าตอนที่ตัน เขาอัพยาเขาพูดว่า เขาไม่มีวันให้อภัยคนที่ขึ้นชื่อว่าพ่อของเขา คุณทำให้แม่เขาเสียใจ ดังนั้นฉันไม่แคร์หรอกที่คุณจะไม่ชอบฉัน ”

   “ผมก็ไม่แคร์เหมือนกันว่าเธอได้ยินอะไรมา ตอนที่เขาไม่มีสติ แต่ว่าที่ผมรู้ตอนนี้ ตั้นเขาไม่ได้เลือกเธอ เขาบอกกับผมว่าเขาเลือกเมย์ และเขาเป็นคนมาขอร้องให้ผมช่วยเรื่องบ้านเมย์ นั้นคือคำตอบสุดท้ายแล้ว ว่าเขาไม่ได้เลือกคุณปริม “ ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่เอือมระอากับผู้หญิงคนนนี้เต็มที

   “ส่วนเหตุผลว่าทำไมเขาไม่เลือกคุณ แต่ที่ผมรู้ คุณคือผู้หญิงที่ไร้ยางอายที่สุด ผมเกลียดผู้หญิงที่ชอบใช้มารยาสาไถ บ้านเขาใหญ่ของผม ไม่ตอนรับผู้หญิงประเภทนี้ “


   “อีกอย่างน่ะ ผมต้องขอบคุณ ที่ทำให้ผมมีข้อเสนอที่ทำให้ตั้น กลับไปอยู่ดูแลกิจการที่บ้านของผมพร้อมกับเมย์“ผมพูดและทำท่าจะก้าวเท้าขึ้นรถแต่

   “ฉันจะทำให้เขาไม่กลับไป “ ผมกึงกับต้องชักเท้ากลับออกมา มองหน้าเธอ

   “ทำไมคุณไม่ไปทำตัวเองให้ดูมีค่ามากกว่านี้ล่ะ ผู้หญิงอย่างคุณ ไม่จำเป็นที่ต้องมานั่งไล่จับผู้ชายเพื่อความอยู่รอดหรอก จริงไหมครับ” ผมพูดโดยไม่ได้มองหน้าเธอ

   “เลิกยุ่งกับตั้นซะ และกลับไปทำตัวเธอให้มีค่าและเธอจะได้เจอคนที่เขารักเธอจริง เธอรู้ไหมว่าสิ่งที่เธอทำอยู่น่ะมันเหมือนการไล่จับอากาศแต่สุดท้ายเธอไม่ได้อะไรเลย เสียเวลาเปล่าๆ  “

   “แต่หนูรักตั้นเขา หนูรักเขาจริงๆนะคะ หนูไม่เชื่อว่าอีเด็กนั้นมันจะได้แทนทีหนูได้ ”

   “ถ้ารักจริงเธอจะกล้าใช้ยาเสพติดกับเขาเหรอ เธอแค่เห็นแกความสนุก อายุจะเธอก็สามสิบเข้าไปแล้วน่ะปริม เธอไม่เห็นเหรอว่าแม่ของเธอน่ะอยู่โดยที่ไม่มีปากไม่มีเสียง เพราะว่าเขาไม่รู้จะออกไปจากบ้านนี้ได้ยังไงและอยู่ยังไงถ้าไม่มีพ่อเธอคอยให้เงินใช้ไปวันวัน  พ่อเธอเองยังคิดกับเธอเหมือนกันเลย เลยพยายามส่งเธอไปหาคนที่เขามีเงินมาเลี้ยงเธอไง “ผมพูด เธอมองหน้าผม น้ำตาเธอรินไหล ผมรู้ว่ามันดูใจร้ายไป แต่ผมก็ต้องพูด

   “ถ้าผมจะให้ตั้นเขาเลือกเธอก็ได้น่ะ แต่เขาไม่ได้รักเธอ หัวใจมันบังคับกันไม่ได้ แต่ถ้าเธอทำให้เขาต้องเลือกเธอเพราะความจำเป็น คนที่ต้องตกนรกทั้งเป็นน่ะคือเธอ อยากได้แบบนั้นหรือไง  ” ผมหันมามองหน้า เธอนิ่งเงียบไม่มีคำพูดใดๆ อิศเรศก็พยักหน้าให้ผมขึ้น ผมก็ก้าวเท้าเข้าไปอยู่ในรถ โดยมีอิศเรศก้าวตามเข้าไปนั่งข้างๆผมทันที   และประตูรถปิดลงโดยการ์ดของผมเอง ผมไมได้หันไปมองเธออีกเลย จนรถขับออกมาพ้นประตูบ้าน

   “ตรงไปโรงแรมเลยไหมครับ คุณท่าน” อิศเรศถามผม ผมันมามองก่อนจะยิ้มอ่อนไปให้

   “นี่ชวนเข้าโรงแรมเหรอ” ผมหันไปถามคนที่นั่งเคียงข้างผม เขาหันมาแอบค้อนผม

   “แม้คุณท่านน่ะ ก็เห็นบอกว่าอยากจะลองพักโรงแรมเปิดใหม่ ผมก็จัดการให้แล้วไงครับ ห้องสวีทด้วยนะครับ เห็นโปรโมชั่นดีซะด้วย ผมทราบมาว่าเว๊ปไซต์ของโรงแรมนี้ คุณตั้นและเพื่อนๆเขาเป็นคนทำด้วยนะครับ “ อิศเรศพูด ผมแค่ปรายตาไปมองแอบยิ้มเล็กน้อยที่มุมปาก

   “ตกลงอันไหนดีกันแน่ โรงแรมดีหรือว่าเว๊ปไซต์เขาดีล่ะ “ผมหันมาถามคนข้างๆ

   “น่าจะเป็นทั้งสองอย่างครับ เลยอยากลอง “

   “เห็นว่ามีอ่างน้ำสปาในห้องนอนเลยนะครับ แถมวิวดีเห็นกรุงเทพโดยรอบด้วย น่าไปลองดูนะครับ”คนข้างๆผมกระซิบกับผม


   “งั้นก็ไปเลยซิรออะไรล่ะ “ ผมพูดก่อนจะหันมามองคนข้างๆ พูดมาขนาดนี้ถ้าบอกไม่ไปนี้คงได้งอนกันบ้างล่ะ  คนข้างๆผมคลี่ยิ้มให้ผมก่อนจะก้มหน้าก้มตาอยู่กับไอแพตรุ่นใหม่ ดูท่าจะวุ่นวายกับการเลือกหาที่พักให้ผมกับคนขับรถด้วย  พักผ่อนให้เต็มที่และจะได้เดินทางกลับเขาใหญ่กันพรุ่งนี้

    ผมนั่งเงียบๆคิดไปถึง ผู้หญิงที่ผมไม่ได้รัก แต่ผมก็ต้องรับผิดชอบเขาเพราะว่า ผมทำให้เขาท้องจนผมได้ตั้นมาเป็นลูกชายผม และนั้นก็คือการชดใช้สิ่งที่เขาทำกับแม่ผม ถึงตอนนี้เธอจะจากโลกนี้ไปอย่างสงบ ถามว่าผมใจร้ายมากขนาดนั้นเลยเหรอที่จะไม่ได้ไปดูดำดูดีเธอขณะที่เธอนอนป่วย ไม่ใช่ ผมไปทุกครั้งที่เธอต้องเข้ารับคีโมแต่ว่าตั้นเขาไปโรงเรียนเขาจึงเคยไม่รู้และผมเองก็ไม่เคยบอกเขา ส่วนลลิลภัทร์เธออาจจะไม่เคยบอกตั้น   ผมเองก็เป็นคนโทรคุยกับคุณหมอที่ดูแลเธอทุกขั้นตอน ขนาดว่าผมเลือกหมอเก่งๆ ค่ายาแสนแพงผมหมดไปกับการรักษาลลิลภัทร์ไปเป็นสิบๆล้านผมยังไม่เสียดายเลย ทั้งที่หมอที่เป็นเจ้าของไข้เธอบอกกับผมแล้วว่า ร่างกายเธอไม่ตอบสนองฝืนไปก็เสียเงินเปล่าๆ แต่ผมก็ยังบอกหมอว่าให้ทำต่อไป แต่สุดท้ายมันก็ยื้อชีวิตลลิลภัทร์ไว้ไม่ได้อยู่ดี ถึงผมจะเกลียดเธอมากแค่ไหน แต่เธอก็ทำให้ผมมีทายาท ตั้น คือทายาทคนเดียวที่ผมมี ผมบอกกับลลิลภัทร์เอาไว้ครื้งล่าสุดที่ผมไปหาเธอว่า ผมสัญญาจะดูแลเขาแทนเธอให้ดีที่สุด
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.24 (เฮียตั้นVSเมย์)ผมก็ต้องเอ่ยปากขอความช่วยเหลือ
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 12-12-2020 22:06:39
 :hao5:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.24 (เฮียตั้นVSเมย์)ผมก็ต้องเอ่ยปากขอความช่วยเหลือ
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 12-12-2020 22:19:46
 o13 o13 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.24 (เฮียตั้นVSเมย์)ผมก็ต้องเอ่ยปากขอความช่วยเหลือ
เริ่มหัวข้อโดย: Tanthai23 ที่ 13-12-2020 13:55:20
 :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.24 (เฮียตั้นVSเมย์)ผมก็ต้องเอ่ยปากขอความช่วยเหลือ
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 14-12-2020 22:18:34
 :sad4: :o12:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.24 (เฮียตั้นVSเมย์)ผมก็ต้องเอ่ยปากขอความช่วยเหลือ
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 15-12-2020 01:05:08
อ๋อออออ อดีตอัน :mew4: พี่ตั้นก็ช่วยงานพ่อได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เมย์ก็ช่วยบริหารงาน แบ่งเบาภาระซึ่งกันและกัน มันดีออก อิอิ ปริมฉันเหน่ยกับเธอละเกิน 555 รอตอนต่อไป  :pig4:
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.24 (เฮียตั้นVSเมย์) วุ่นวายในใจพี่ตั้น
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 17-12-2020 20:06:15
   รชานนท์  ผมพาเมย์มาดูหนัง แม้จะเป็นหนังรักโรแมนติกก็ตามแต่ว่าผมรับรู้ได้ว่าเมย์เงียบ ผมเองก็ไม่สบายใจเลย ที่เมย์เป็นแบบนี้ ผมอยากได้บ้านเมย์คืนมาให้เร็วที่สุด เพื่อว่าพี่ปริมจะได้ไม่มีอะไรมาทำร้ายจิตใจเมย์ได้อีก แต่ว่าผมเองต้องกลับไปอยู่ที่เขาใหญ่และทิ้งเพื่อนๆผมไป ถามว่าเลือกยากไหม มันก็ยากน่ะ ส่วนตัวผมเองก็ผิดที่ไปยุ่งกับพี่ปริม ทั้งที่มีคนเตือนผมหลายคนแล้ว แม้กระทั้งพี่อิศเรศก็ด้วย ผมยอมรับว่ามีเรื่องยาเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง ผมหันมามองเมย์ ที่นั่งดูหนัง เงียบๆ ไม่มีปฏิกิริยาอาการอะไรกับหนังรักสักนิด ผมเลยเดาได้ยากว่าเขาคิดอะไรอยู่ณะตอนนี้ มันก็เลยทำให้ผมนั่งเงียบๆเช่นกัน ผมนั่งคิดไปต่าง ๆนานา จนกระทั้ง

   “พี่ตั้นครับ” ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อมีมือมาแตะที่แขนผม

   “หนังจบแล้วครับ “ ผมเงยหน้ามองที่หน้าจอ

   “พี่คิดอะไรอยู่เหรอครับ ผมสังเกตว่าพี่ไไม่ได้ดูหนังเลยนะครับ ” เมย์ถามผม 

   “ไม่มีอะไรนะครับ พี่แค่เพลียๆนะครับ”

   “แล้วชวนผมมาทำไมอ่ะครับ  แทนที่จะได้ไปนอนพัก เฮียนี้” คนพูดทำปากยู่ใส่ผมอีกแล้ว คิดในใจอย่าทำแบบนี้ได้ไหมมันยั่วเฮีย

   “ก็อยากจะมีโมเม้นแบบที่คนรักเขาทำกันบ้าง พี่ไม่เคยเข้าโรงหนังกับใครเลยน่ะ เมย์คือคนที่…”

   “สอง “เมย์ตอบผม

   “ใช่ครับ คนแรกคือพี่อิศเรศ และเมย์คือคน…สุดท้าย จะไม่มีคนที่สามแน่นอน” ผมพูดกับเมย์ เมย์หันมามองผม ตอนนี้คนกำลังทะยอยเดินออกกันกันแล้ว ผมเลยรีบดึงรั้งเมย์เข้ามาและจูบเมย์

   “สัญญาน่ะครับว่าผมจะเป็นผู้ชายอีกคนของพี่ที่พี่จะรัก ผมยอมให้พี่รักพี่อิศเรศได้อีกคน “

   “พี่เลิกรักเขาแล้ว ไปรักได้ไงของพ่อเดี๋ยวก็โดนเตะหรอก  “ผมพูด

   “ตั้งแต่มีเมย์  พี่เองก็ไม่เคยฝันถึงพี่อิศเรศเลย ในหัวพี่มีแต่เมย์ พี่คงไม่ได้รักเขาแล้ว” ผมพูด ก่อนจะจับมือเมย์ให้ลุกขึ้นและเดินออกไปตามทางเดิน เมย์จับกระชับมือผมไว้เช่นกัน ระหว่างที่ผมกำลังเดินออกมา มือถือถือผมสั่นพอดี เบอร์วิว ผมหันไปมองเมย์ ก่อนจะรับสายวิว

   //พี่ตั้น พี่เมย์ล่ะคะ วิวพยายามโทรหาพี่เมย์แต่พี่เมย์ปิดเครื่องนะคะ” วิวถามผม ผมหันมามองเมย์

   //เมย์ มือถือเมย์ล่ะ// ผมถามเมย์ เมย์มองหน้าผม ก่อนจะล้วงเอามันออกมา ส่งให้ผม หน้าจอมันแตก จนเรียกว่าทะลุก ผมดูแล้วมันจะมาจากของแหลม ผมเงยหน้าขึ้นมองเมย์อีกครั้ง อย่าบอกน่ะว่าฝีมือพี่ปริมน่ะ

   “เมย์คุยกับวิวก่อนน่ะ “ผมส่งมือถือผมให้เมย์ เมย์รับไปถือไว้และผมก็รับมือถือเมย์มาเช่นกัน เมย์คุยกับวิว ก่อนจะกดวางสายและส่งมือถือคืนมาให้ผม

   “ใครทำมือถือเมย์แตกครับ” ผมถามเมย์

   “คือ เออ พี่ปริม ครับ”

   “ทำไมเมย์ไม่บอกพี่เลยที่พี่ปริมยังอยู่”

   “ก็ผมไม่อยากให้ พี่ดูไม่ดีนี้ครับ ที่ต้องไปสู้รบปรบมือกับผู้หญิง ส่วนพี่ปริมเขา จริงๆเขา ผมว่าเขาน่าสงสารน่ะพี่ตั้น เขาอาจจะแย่กว่าผมอีก “ผมก็ต้องเลิกคิ้วสูงแย่ตรงไหนมีกินมีใช้ มีเงินซื้อยามาเสพติดนี้น่ะ

   “ช่างมันเถอะ แค่มือถือ ถ้าพี่จะซื้อเครื่องใหม่ให้ผม ผมขอเอาแบบธรรมดาพอน่ะ ไม่ต้องยี่ห้อเดิม ผมขอล่ะ “เมย์บอกผม

   “ทำไมล่ะ เมย์”

   “เพราะว่าผมไม่อยากให้พี่ต้องเสียเงินซื้อสิ่งที่ไม่จำเป็นนี่ครับ”

   “ ก็ได้พี่จะซื้อมือถือธรรมดาแต่พี่จะให้เราใช้เครื่องพี่และพี่ใช้เครื่องที่เมย์บอก โอเคน่ะ” ผมพูดพอเมย์ได้ยินเช่นนั้นก็ทำแก้มป่องทันที และผมก็จุงมือเมย์เดินออกไป ว่าจะไปดูร้านไอโฟนและดูเครื่องใหม่ให้เมย์เลยจะดีกว่า ผมเหลือบมองเวลาตอนนี้ก็เกือบจะสองทุ่มแล้วด้วย

   Rrrrr  สายเรียกเขาจากภาคิน ผมกดรับสายทันที เพราะว่าแทบจะไม่ได้คุยกันเลยมีแค่เรื่องงานไม่เกินยี่สิบนาที ยังไม่ทันได้อ้าปากถามเรื่องส่วนตัวมันชิ้งวางทุกที 

   “ฮัลโหล ว่าไงว่ะมึง” ผมถามคนปลายสาย

   “อยู่ไหนว่ะตั้น” ไอ้ภาคินมันถามผม ผมมหันไปมองเมย์”พี่ภ่าคิน”ผมพูดให้เมย์อ่านปาก เมย์พยักหน้า

   “กูพาเมียมาดูหนังว่ะ “ ผมบอกภาคิน 

   “เหรอ ทีกูชวนไม่ยอมไป อ้างนั้นอ้างนี้ “

   “กูขอโทษ “

   “เออ ๆช่างแม่งเถอะ กูจะโทรมาบอกว่ากูเจอพ่อมึงว่ะ เขามากับพี่อิศเรศและมาพักที่โรงแรมพี่ปฐวีย์ โรงแรมเปิดใหม่พี่เขาว่ะ” ไอ้ภาคินบอกผม  มันทำให้ผมคิดว่า ทำพ่อไม่บอกผมว่าเขาอยู่ที่กรุงเทพนี้ตอนนี้ 

   “จริงดิ กูเพิ่งจะคุยกับพ่อก่อนจะพาเมย์มาดูหนังและพ่อไม่เห็นบอกอะไรเลยว่ะ “ ผมพูด

   “แต่พ่อกูคงจะอยากเปลี่ยนบรรยากาศกับแฟนเขาแล้วมั้งว่ะ” ผมพูด

   “ว่าแต่มึงบอกว่าเห็นพ่อกูที่โรงแรมคุณปฐวีย์ มึงไปทำอะไรที่นั้นว่ะ ภาคิน” ผมหยุดเดินและถามไอ้ภาคิน

   “เออ กู  “ไอ้ภาคิน

   “บอกกูมาเลยไอ้ภาคิน และช่วงนี้มึงก็ไม่ค่อยเข้ามาที่ออฟฟิศอีก ยังไง “

   “กู ก็แค่”

   “บอกเลย ว่ายังไง หรือจะให้กูไปหา ตอนนี้อยู่ไหนเนี๊ยะ”

   “เออ กูบอกแล้วไอ้เชี้ย กูกับพี่ปฐวีย์กำลังคบกันอยู่”

   “ไอ้เชี้ย! “

   “กูไม่ได้เป็นมือที่สามและทำอีเจ้มันโดนปลดกลางอากาศ ถูกถอนหมั้นน่ะมึง แต่รู้สึกดีน่ะอาจจะช่วงที่พี่ปฐวีย์ยังไม่ถอนหมั้น แต่คบจริงๆ น่ะหลังจากนั้น ไอ้ตั้น” มันพูดอธิบายกุกๆกักๆ

   “เออๆ  กูว่าพี่เขาโอเคเลยว่ะ กูดีใจน่ะที่มึง เจอคนที่เขาดูแลมึงได้ดีว่ะ “

   “ดีใจที่เขาไม่อยู่เป็นคู่ต่อสู่มึงก็บอกมา”ไอ้ภาคินพูด แม้มันตรงดีแท้ สมแล้วที่เป็นภาคิน

   “รู้ทันกูอีก”  ผมพูด

   “กูเห็นพ่อมึงว่ะเขาอยู่ที่โรงแรมนี่ว่ะ”ไอ้ภาคินบอกผม ผมเหลือบไปมองเวลา

   “เดี๋ยวกูไปหาพ่อกูดีกว่าว่ะ กูมึเรื่องจะคุยกับเขา”ผมพูด ก่อนจะหันมาดึงมือตัวเล็กเอาไว้ ทำนิ้วว่ารอผมก่อน
   
   “จะมาเลยเหรอว่ะ”

   “ใช่ว่ะกูอยู่ไม่ไกล คงประมาณยี่สิบนาทีถึง”

   “โอเค เจอกันว่ะ กูยังไม่กลับ รอพี่ปฐวีย์ เพราะว่าเขามีแขกคนสำคัญมาพัก “

   “ตกลงนี้ไปเป็นนายหญิงให้เขาเลยหรือไง”

   “นายหญิงบ้านพองมึงดิ กูผู้ชาย เขาแค่ให้กูมาช่วยเรื่องการตลาดและพ่อกูก็ดันอนุญาติ “ไอ้ภาคินมันพูด

   “และห้ามแซว พอแล้ว ที่กับมึงกูยังบไม่แซวเลยน่ะ ไอ้สัส” ภาคินพูด ปนหัวเราะ

   “โอเค กูไม่แซวแล้ว แค่นี้น่ะ เดี๋ยวเจอกัน บายว่ะ”ผมพูด ก่อนจะหันมามองเมย์ เขายืนมองผมตาแป๋ว

   “พ่อพี่มาน่ะเมย์ ไปหาพ่อพี่กันที่โรงแรมพี่ปฐวีย์กัน “ผมบอกเมย์ เมย์ยิ้มตาหยีให้ผม

   “พี่อิศเรศมาด้วยไหมครับ” แต่ทำถามที่ทำให้ผมเบรกจนหัวทิ่ม

   “ทำไมถามหาพี่อิศเรศเลยล่ะ “ผมถามเมย์

   “ก็แค่ถาม ทำไมต้องทำหน้าดุด้วยเล่า” เมย์พูดและหลุบตาลงมองพื้น

   “ถ้ามีพ่อพี่ไม่มีพี่อิศเรศเป็นไปไม่ได้  อิมพอสซิเบิล!  นั้นแปลว่าเขามาด้วยกันอยู่แล้ว  ไปครับ เพราะว่าพี่จะไปเซอไพรส์พ่อพี่ด้วย เร็วนะครับ แต่ว่าโทรศัพท์เอาไว้มาซื้อให้พรุ่งนี้แล้วกัน”  ผมพูดและจูงมือเมย์ เดินไปชั้นที่เป็นลานจอดรถ และขึ้นรถคันหรูของผมและรีบขับออกมาทันทีเช่นกัน  ผมอยากรู้ว่าพ่อผมจะเอายังไง ผมเองก็ร้อนใจเรื่องเมย์ ผมเบื่อเล่นสงครามประสาทกับเจ้ปริมแล้วเหมือนกัน เพราะผมอดสงสารตัวเล็กของผมไม่ได้  เจอพี่ปริมกับเรื่องพี่ปฐวีย์มายังไม่ทันไรมาเจอพี่ปริมกับเรื่องของผมอีก ผมขับรถไปพร้อมกับเอามือลูบหัวเมย์ไปด้วยตลอดทาง 

   ทันทีที่ผมขับมาถึงโรงแรมพี่ปฐวีย์ ผมก็ส่งรถคันหรูผมให้พนักงานนำเข้าไปจอด โรงแรมนี้ไม่ได้ให้บริการแค่ห้องพักแต่มีห้องอาหารหรูไว้บริการเช่นกัน  ผมกับเมย์เข้าไปถึงก็เดินตรงไปที่ล๊อบบี้ ผมเห็นภาคินนั่งอยู่กับพี่ปฐวีย์ เอาไหล่ไปสะกิดเมย์ เมย์หันไปมองตามผม ก็ต้องหันกลับมาหาผมอีกครั้ง เพราะว่าทั้งคู่ดูนั่งใกล้ชิดกันขนาดนี้ ถ้าบอกไม่ใช่คนรักน่ะไม่มีใครเชื่อเด็ดขาด

   “พี่ภาคินกับพี่ปฐวีย์เขา” เมย์เงยหน้าขึ้นถามผมพร้อมกับชี้ไปที่คู่รักคู่ใหม่ที่ดูท่าจะ ข้าวใหม่ปลามัน อิงแอบกันขนาดนั้น

   “หึงเหรอ”

   “เฮียนี่ ผมจะไปหึงเขาทำไมล่ะ ผมมีคู่หมั้นแล้ว” คนตัวเล็กพูด

   “ดีดี ถ้าลืมบ่อยเฮียจับทบทวนให้และทบทวนกันตรงนี้ด้วย ในโรงแรมหรูเลยเหรอและคราวนี้ได้เป็นข่าวฉาวด้วยกันแถมโปรโมทบริษัทพี่ไปในตัวไม่ต้องจ้างบริษัทโฆษณา ” ผมกระซิบกับตัวเล็ก เขาก็ทำปากยู่ใส่ผม ผมพากันเดินเข้าไปหยุด

   “อะแฮม “ ผมเริ่มใช่เสียงทำลายความเงียบซะก่อน ทั้งคู่เงยหน้าจากมือถือ หันมามองผมสองคน ไอ้ภาคินมันก็ดันตัวเองขยับออกมาหน่อยคงเกรงใจผมกับเมย์

   “อ้าว! ภาคิน ไม่เห็นบอกพี่เลยว่าเพื่อนจะมา” พี่ปฐวีย์หันไปถามภาคิน

   “ก็ผมบอกพีไออุ่นว่าให้รอแป๊ปหนึ่งไง แต่ไม่ได้บอกว่าใครมาแค่นั้นเอง”ภาคินพูดแถมยังเรียกพี่เขาว่าไออุ่น เมย์แอบยิ้มเหมือนเขาจะรู้อะไรสักอย่าง แต่ผมไม่มายด์ อาจจะนิกเนมเอาไว้เรียกกันสองคนก็ได้

   “พี่วีย์ครับ ผมมาหาพ่อผมครับ ท่านมาพักที่โรงแรมพี่นะครับ” ผมพูด


   “หึ?” พี่ปฐวีย์ทำสีหน้าไม่แน่ใจ


   “ผมเห็นพ่อของตั้นเขาเดินอยู่ในนี้น่ะครับ น่าจะเข้าไปในห้องอาหารแล้วด้วยนะครับ ” ภาคินพูด พี่ปฐวีย์หันไปมองภาคินก่อนจะหันมามองผมและเมย์ แต่พี่เขาไม่เคยเจอพ่อผม แน่นอนเขาจะรู้ไหมว่าใคร

   “น่าจะบอกพี่นะตั้นว่าพ่อเราจะมาพักที่นี้  พี่จะได้ให้ส่วนลด ว่าแต่คนไหนล่ะตั้น” พี่ปฐวีย์ถามผม
   
   “ไม่เป็นไรหรอกครับพี่ พ่อผมจ่ายได้สบายอยู่แล้ว เออ ถ้าอย่างนั้นผมสองคนไม่กวนพี่กับ เพื่อนผมเลยนะครับ “ ผมพูดก่อนจะชะเง้อมองมัน ไอ้ภาคินมันแอบส่งนิ้วกลางให้ผม อย่าแซวมัน

   “ถ้าอย่างนั้นกลับเลยไหมครับพี่ไออุ่น พี่น่าจะเหนื่อยแล้ว วันนี้พี่ก็วุ่นวายกับแขกคนสำคัญทั้งวันแล้วนะครับ”

   “ดีเลย พี่อยากกลับไปพักแล้วครับ เออ  งั้นพี่กลับก่อนน่ะตั้น  ถ้ามีอะไรบอกเลขาฯพี่ได้น่ะ เขาจัดการแทนพี่ได้ ส่วนพี่คงจะ รีบกลับไปแช่น้ำในอ่างสปาให้สบายๆซักหน่อย หาคนลงไปถูหลังให้ด้วย ” พี่ปฐวีย์พูดพร้อมกับปรายตามองคนที่นั่งอยู่ ภาคินมันก็ทำตาปลับเปลือกใส่ ผมว่ามันนี้แหละคนถูหลังให้พี่เขา

   “กลับไปนี้อาบน้ำอีกรอบน่ะ พี่อยากมีคนถูหลัง”ผมหันไปกระซิบกับเมย์ที่ยืนมองพี่ปฐวียืกับภาคิน คงแปลกใจเหมือนผมแต่พอได้ยินผมพูดเท่านั้นแหละหันมามองผมทำท่าจะหยิกผมด้วย

   “เออ คุณหุ้นส่วนครับ พรุ่งนี้เข้าบริษัทนิดนึงน่ะ กูมีประชุมด่วนกับเพื่อนๆ และห้ามชิ้งหนีน่ะมึง ถ้าไม่อยากโดนแบบไอ้กอล์ฟ ” ผมพูดก่อนจะลากแขนเมย์ไปกับผม ไอ้ภาคินหันมาโชว์นิ้งกลางใส่ผมอีกทีทันทีเช่นกัน

*******   
ตอนหน้าพ่อลูกเขาจะไปคุยกัน พ่อลูกจอมดื้อ ขอบคุณคอมเม้นให้กำลังใจคนแต่งค่ะ  ช้วงนี้คนแต่งวุ่นวายกับคริสมาสอาจจะไม่ได้มาลงทุกวันนะคะ  คนอ่านอย่าเพิ่งหนีหายไปไหนนะคะ 
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.24 (เฮียตั้นVSเมย์) วุ่นวายในใจพี่ตั้น
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 17-12-2020 20:45:35
 :pighaun: :haun4:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.24 (เฮียตั้นVSเมย์) วุ่นวายในใจพี่ตั้น
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 17-12-2020 21:22:11
 :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.24 (เฮียตั้นVSเมย์) วุ่นวายในใจพี่ตั้น
เริ่มหัวข้อโดย: Tanthai23 ที่ 18-12-2020 09:46:25
 :เฮ้อ: :กอด1:
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.25 คู่ใครจะร้อนแรงกว่ากัน NC 18+
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 19-12-2020 14:31:24
   ธรรพ์ณธร สุดท้ายผมกับตั้นก็คุยกันได้ไม่นานจริงๆ และตั้นก็พาเมย์กลับไปในทันทีเช่นกัน เขาโมโหผมแค่เพราะว่าผมไม่ตอบคำถามเขา ว่าแม่เขาทำอะไรผิด ผมได้แต่ยืน

“ฟู่” พ่นลมหายใจออกมาจากปลายจมูกโด่งรั้นของผม ตอนนี้ผมกับอิศเรศพากันขึ้นมาที่ห้องพัก ผมเปลี่ยนเป็นสวมเสื้อคลุมอาบน้ำ ในห้องพักที่อิศเรศเลือกมีอ่างสปาน้ำวน ผมเปิดผ้าม่านเพื่อชมวิวรอบกรุงเทพ โรงแรมนี้จัดได้ตั้งอยู่ในย่านธุรกืจ  ทำเลดี วิวก็ดีมองเห็นกรุงเทพโดยรอบและเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องราตรี แต่คงจะต้องกระเป๋าหนักหน่อยถ้าจะพักที่นี้ และที่ดินตรงนี้ก็แพงมากแน่นอนที่คนโลภมากอย่างนายดิเรก อยากจะยกให้ลูกสาวเพื่อมาเป็นดองกับตระกูลนี้ แต่ผมเองก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะใจกล้ารับหมั้นผู้หญิงคนนั้นเพียงเพราะว่า เพื่อบ้านของเมย์ในราคาแค่สามสิบล้านบาท มันน่าจะมีมากกว่านั้นไหม แต่มันก็คงไม่สำคัญแล้วเพราะว่าเขาก็ถอนหมั้นเธอไปแล้ว  และนี้ต้องมาคอยระวังนางจะกลับมาตั้นด้วยวิธีสกปรกอีก แต่ผมเชื่อว่าเขาเชื่อเมย์ และผมก็เห็นว่าเด็กคนนั้นน่าจะเอาตั้นอยู่

“คุณธรรพ์ณธร!” เสียงที่เรียกชื่อผมดังมาจากด้านหลัง น้ำเสียงที่บ่งบอกได้ว่าเขากำลังไม่พอใจผม ถึงได้เรียกชื่อซะเต็มยศขนาดนี้ เพราะปกติจะเรียกคุณท่าน หรือถ้าอยู่กันตามลำพังก็จะเป็นสามี ผมค่อยๆ หันไปมอง คนที่ยืนเพ้งเล็งมองมาที่นิ้วมือที่คีบแก้วบรั่นดีเอาไว้ด้วย

“ผมบอกคุณเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วน่ะ ว่าอย่าดื่มบรันดีหรือวิสกี้ ไวน์ได้นิดหน่อยน่ะครับ คุณนี้ดื้อมากกว่าคุณตั้นซะอีก “คนที่ยืนสวมเสื้อคลุมอยู่เดินตรงมาหาผมพร้อมกับคว้าแก้วไปจากมือผมแต่ผมยื้อเอาไว้

“แค่แก้วเดียว” ผมพูด สายตาผมมองคนที่ตรงหน้า ก่อนจะไปชำเลืองตามองน้ำในอ่างน้ำวน

“อันที่จริง ที่ไร่เราก็มีน่ะ ทำไมคุณภรรยาไม่ชวนลงไปแช่ที่นั่น แต่ดันมาชวนแช่ที่โรงแรมหรูแบบนี้ล่ะ” ผมถามคนตรงหน้าที่ยืนหน้าแดงก่ำ

“แถมวิวทิวทัศน์มองไปก็มีแต่ตึกสูงๆ มองไปก็มีแสงไฟนีออนส่องไปทั่วกรุง หึ” ผมพูดก่อนจะหันไปมองคนที่ยืนอยู่

“แม้ก็อ่างน้ำวนที่ไร่คุณสามี เล่นเอาไปตั้งไว้ที่ตรงกลางแจ้งขนาดนั้น ผมจะกล้าได้อย่างไรละครับ ถึงคุณสามีผมจะบอกว่าไม่มีใครกล้ามองแต่ต้นไม้ก็มี อายนะครับ ภูเขาก็ล้อมรอบอีก” ผมยอมรับว่าผมเอาไปตั้งไว้ที่ระเบียงเหมือนที่บ้านพักของลลิลภัทร์ และมันก็เห็นวิว 360องศา มองไปเห็นวิวภูเขา เห็นไร่ชา แต่ว่าคนนี้กลับไม่กล้าออกไปแช่กับผมสักครั้ง

“ถ้าอย่างนั้นกลับไปจะให้คนยกเข้าไปตั้งด้านในแล้วกัน คราวนี้ห้ามมีข้ออ้างน่ะ “ผมพูดก่อนจะกระดกบรั่นดีไปจนหมดแก้ว พร้อมกับส่งแก้วเปล่าให้คนที่ยืนตรงหน้าถือเอาไว้ ก่อนจะหันหลังและกระตุกเชือกที่คาดเอวเอาไว้ให้หลุด เสื้อคลุมก็หลุดร่วงลงไปกองกับพื้น พร้อมกับก้าวเท้าลงไปในอ่างน้ำวนนั้น ผมชำเลืองตามองคนที่ยืนมองผมผ่านกระจกตรงหน้า เขายืนมองผมจากด้านหลัง

“ลงมาซิครับคุณภรรยา เห็นบอกว่าโรงแรมเขาดี ดีเพราะว่าอ่างนี้หรือเปล่า “ผมหันกลับไปพร้อมกับรอยยิ้มและ ผมก็แบมือเรียกคนที่ยืนทำหน้าแดงอยู่ ตอนนี้ผมยืนโดยไม่มีเสื้อผ้าอาภรณ์ใดๆ ปกปิด แกนกายที่กำยำ ซีกแพคที่ได้มาจากการเล่นฟิตเน็ตมันทำให้คนที่ยืนอยู่ มองตาคางไปหลายวิ จนผมต้อง “หมับ” คว้าร่างนั้นเข้ามาใกล้

“คุณท่าน! “คนที่ยืนร้องเรียกผมเสียงหลง

“จะให้อุ้มหรือว่าจะเดินลงมาเองดีล่ะ เลือกเอาน่ะว่าต้องการแบบไหน” คนที่ถูกถามถึงบหน้าแดงทันที ก่อนจะค่อยๆ ดึงเชือกที่คาดเอวไว้ออก ฝ่ามือหนาของผมก็จับเสื้อคลุมนั้น ถอดออกไปทางหัวไหล่ และปล่อยให้ร่วงลงไปกองกับพื้น เผยให้เห็นถึงผิวพรรณที่ดูเรียบเนียนจนน่าลูบไล้ ไม่น่าเชื่อเลยว่าเด็กหนุ่มที่เข้ามาแอบอยู่ในไร่ของผมวันนั้น ที่ดูมอมแมม มีแผลเต็มตัว จากการถูกทำร้ายและการหลบหนีมาและผมก็รับเขาเข้ามาดูแล ภาพเขาในวันนี้เขาเป็นชายหนุ่มที่ดูมีเสน่ห์ ไม่ใช่แค่ผมเท่านั้น ก็กับตั้นลูกชายผมเองเขาก็คงรู้สึกเช่นเดียวกันกับผม แต่เขาคนนี้เลือกผม ไม่ใช่เพราะว่าผมมีบุญคุณแต่เขาเลือกเพราะว่าเขารักผมมากกว่าแต่ถ้าเขาจะเลือกตั้น ผมก็ยินดีนะ แต่อิศเรศบอกผมว่าเขาเลือกผมจากหัวใจของเขา

“ว่าไงครับ “ผมถามคนตรงหน้าอีกครั้ง เขาก็ก้าวเท้าลงมาช้าๆ ผมก็ค่อยย่อตัวลงนั่งในอ่างน้ำวนนั้น อ่างที่ไม่ใหญ่และไม่เล็กจนเกินไป ผมกางมือให้เขาจับเพื่อย่อตัวลงนั่งเช่นกัน

“หมับ” สองมือประสานกันและคนที่ก้าวเท้าลงมาทีหลังก็ย่อตัวลงนั่งคร่อมร่างผมเอาไว้ ในท่านั่งย่องๆ มันทำให้ผมต้องกระหยิ่มยิ้มย่อง ผมก็จับมือเอาสองมือนั้นขึ้นมาครองรอบคอ

“ที่อย่างนี้ทำเป็นเขินอาย ที่ชวนนอนโรงแรมไม่เห็นเขินเลยน่ะ” ผมพูดแซวคนตรงหน้า เขาก็โผเข้ามากอด ริมฝีปากบางๆ นั้นขยับรอการจุมพิตจากผม ริมฝีหนาๆ ของผมประกบจูบหยอกเย้าเล่น ฝ่ามือเรียวดุจดังมือหญิงสาวลูบไล้ไปมาแผ่นอกชายชาตรี มือผมลูบไล้แผ่นหลังที่เรียบเนียน ไม่แพ้สตรีใด ต่อให้ผมไม่เคยสัมผัสก็ตาม มีแค่ผู้หญิงคนนั้นคนเดียวแต่มันไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกอะไรเลย ทำแค่เพราะว่าผมต้องการแก้แค้นแค่นั้น

“แค่อาบน้ำน่ะ ไม่อยากทำในนี้ “ผมกระซิบบางคนที่นั่งคร่อมร่างผมเอาไว้ เขาก็ยิ้มพร้อมกับเทสบู่เหลวมาถูกไปตามแผ่นอกผม อย่างเบามือ ดูจากการลูบไล้นี่มันยั่วยวนหนุ่มที่สูงวัยอย่างผมมิใช่น้อย มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกฮึกเหิมเหมือนได้กลับมาเป็นหนุ่มอีกครั้ง

“เวลาอยู่กับตั้น ทำแบบนี้ไหม” จู่ๆ ผมก็ถามอิศเรศขึ้นมา น้ำเสียงแอบหึง

“ผมบอกคุณสามีแล้วไงล่ะครับ ผมยอมให้แค่ภายนอก ไม่เหมือนคุณที่ผมยอมให้ทั้งกายและใจ แค่นี้ยังไม่เพียงพออีกเหรอครับ “คนที่นั่งลูบไล้ผมไปมา ช้อนตาขึ้นมามองผมก่อนจะหลุบตาลงและทำการควักน้ำมาราดรดกายผม

“หันหลังซิครับ ผมจะได้ถูหลังให้ “คนที่นั่งอยู่สั่งผม ผมก็ต้องเปลี่ยนท่านั่งเป็นนั่งหันหลังให้แทนและหันไปมองลอดช่องผ้าม่าน มองวิวกรุงเทพ เมืองหลวงศรีวิลัย ที่มีแต่แสงสีเสียง ตั้นเลยไม่อยากกลับไปที่ไร่ ไปอยู่ที่นั่น

“คิดอะไรอยู่ครับ ” คนที่ถูหลังให้ผมอยู่กระซิบกับผมเบาๆ

“คิดว่าทำไมตั้นถึงไม่ยอมกลับไปอยู่ที่ไร่กับฉัน”

“หนึ่งก็คือเพื่อน สองก็คง”

“ฉันอย่างนั้นหรือ อิศเรศ”

“ครับ คุณตั้นเขาเฝ้าถามผมเสมอว่า แม่เขาผิดอะไร ทำไมคุณไม่บอกเขาไปล่ะครับ ความจริงน่ะครับ”

“มันจะทำให้เขาเจ็บปวดเปล่าๆ ถ้าเขารู้ ปล่อยเอาไว้แบบนี้แหละเรศ “ผมหันมาตอบอิศเรศ ก่อนจะหมุนตัวมาพร้อมกับดึงร่างบางๆ มากอดกระชับและจูบอย่างเร่าร้อน

“ไปต่อกันที่เตียงน่ะ “ผมพูดคนที่กำลังล้างตัวอยู่พร้อมกับปรายตามองผมก่อนจะค่อยๆๆๆลุกขึ้นไปคว้าผ้าเช็ดตัวมาซับน้ำที่ตัวเองก่อนจะก้าวเท้าออกไป ผมก็ลุกขึ้นตามและก้าวเท้าออกไปเช่นกัน ผมยืนให้อิศเรศ เช็ดตัวให้ผม

“คราวนี้สะอาดหมดแล้ว คงรู้ใช่ไหมว่าต้องทำยังไงต่อ” ผมถามคนที่กำลังเช็ดตัวผมให้แห้ง เขาก็เงยหน้าขั้นมองผม รอยยิ้มที่ปรากฎนั้นคือคำตอบว่าเขารู้ดี ผมเดินไปนั่งที่บนเตียงนอนค่อยๆ ถอยหลังไปให้พอมีที่สำหรับอีกคนที่จะตามมาคุกเข่าลงเพื่อจัดการปลุกเร้าความเป็นชายให้กลับมาซู่ซ่าอีกครั้ง ริมฝีปากเล็กที่ชำนาญการนั้น ผมยอมรับว่าผมมีอะไรกับเขาเมื่อเขาอายุ สิบแปดปีบริบูรณ์ ผมได้เอ่ยปากขอเขาเอาไว้ ว่าผมต้องการหลับนอนกับเขา เพราะว่าผมไม่ได้ชอบผู้หญิงมาตั้งนานแล้วและนี่จึงทำให้พ่อผมกับผมไม่เคยลงรอยกัน คุยกันก็ทะเลาะกันเหมือนเช่นผมกับตั้นไม่มีผิดเพี้ยน แต่เหตุผลของผมนั้นพ่อไม่ยอมรับที่ผมเป็นเกย์ แต่เกย์คนนี้ก็ทำให้ผู้หญิงที่พ่อผมรักเป็นหนักหนาท้องมาแล้ว

“อยากเล่นคาวบอยไหม “ผมเอามือลูบหัวคนที่ใช้ลิ้นปลุกเร้าความเป็นชายผมอยู่ มันกำลังชูชันจนรู้สึกได้ว่าพร้อมรบแล้ว เขาเงยหน้าขึ้นมองผม ก่อนจะส่งยิ้มอ่อนๆ มาให้ผม และผมก็ค่อยเอนกายลงนอนราบลง คนที่นั่งคุกเข่าอยู่ก็ดันตัวเอง มานั่งย่องๆ คร่อมผมอยู่ มือที่ประสานกันระหว่างผมกับคนที่อยู่ด้านบน ผมแบมือไปรับเจลหล่อลื่นมาเทใส่นิ้วและทำการ สวนเข้าไปที่ช่องทางรักก่อน เพื่อสร้างความคุ้นเคย จนคนที่นั่งยองๆอยู่ แสดงอาการว่าต้องการมากกว่านั้น ผมจึงจับสะโพกให้ตรงยังแท่งร้อนของผมและคนที่นั่งยองๆ ก็ค่อยๆ ก้นสะโพกลงมาช้าๆ ใบหน้าหยเกนั้นบ่งบอกได้ว่ามันคับแน่นไม่แพ้ในทั้งแรก และค่อยลงทิ้งตัวลงมาช้าๆ เนิบๆ เล่นเอาคนสูงวัยอย่างผมหายใจไม่ทั่วท้องกันเลยทีเดียว มันหย่อนลงมาอย่างต่อเนื่องจนสุด และหยุดสักพัก ไม่นานเมื่อความรู้สึกที่อึดอัดเริ่มเปลี่ยนมาเป็นความรู้สึกเสียวซ่านแทน คนที่คุมเกมอยู่ก็เริ่มขยับขึ้นลง จากช้าและเร็วขึ้น ไม่นานก็

"อ้าห์ อะ อ้าห์ โฮ้วว "เสียงร้องครางดังออกมา ไม่นานทุกอย่างก็เกร็งและกะตุ๊ก น้ำสีขาวขุ่นพุ้งอยู่ภายในกายนั้น คนที่คุมเกมอยู่ รีบหันคว้ากระดาษทิชชูมาซับส่วนที่ไหล่ย้อนออกมาซะก่อนที่จะถอนตัวเองออกช้าๆ ผมก็นอนให้คนที่กำลังเช็ดทำความสะอาดจัดการคราบน้ำกามออกจนหมดสิ้น ก่อนที่เขาจะกลับมาหา

“หมับ” ผมรีบคว้าร่างนั้นเอาไว้และดึงรั้งให้นอนลงข้างๆ ตรงหน้า

“ไม่ให้ผมสวมเสื้อผ้าก่อนเหรอครับ”

“นอนแบบนี้แหละ อยากกอดแบบไม่มีอะไรมาขวางเลย ได้ไหม”

“หึ ไม่ดีกว่ามั้งครับ ผม”

“อายอะไรอีกล่ะ นอนแบบนี้แหละ “ผมพูดกับคนที่นอนมองผม แววตาไร้เดียงสา เขายังเป็นเด็กน้อยของผมตลอดเวลา ไม่ว่าตอนนี้จะอายุเท่าไหร่แล้วก็ตาม

“เรศ” ผมเรียกชื่อเขา

“ฉันว่าจะ ให้สิทธิ์ ภรรยากับเรา” ผมพูดและอิศเรศก็หันมามองหน้าผมด้วยสีหน้ากังวลขึ้นมาทันที

“ผมว่า”

“มันถึงเวลาแล้วเรศ เธอควรได้สิทธิ์นันและฉันจะเชิญผู้หญิงคนนั้นออกแต่จะให้เงินและที่อยู่ให้เขาออกไปพร้อมกับลูกสาวของเขาซะทีเพราะว่ามันถึงเวลาแล้ว” ผมพูด ก่อนจะขมวดค้วมองคนที่ผมกอดเขาเอาไว้

“ผมไม่ได้กังวลเรื่องนั้นหรอกครับ แต่ผมกังวลเรื่องคุณตั้น เขายังแคลงใจเรื่องแม่ของเขาและยิ่งผมกับคุณแบบนี้ด้วย มันยิ่งทำให้เขา”

“ฉันเลือกแล้วเรศ และเราก็เลือกแล้วไม่ใช่หรือ ว่าจะอยู่กับฉัน “ผมถามคนที่นอนใช้นิ้วเขี่ยตามไรขนที่แผ่นอกของผมเบาๆ

“ครับ ผมเลือกแล้ว เลือกที่จะอยู่กับคุณท่านไปจนกว่าผมจะหมดลมหายใจ”

“ดังนั้น เธอคือภรรยาของฉัน ฉันจะจัดการเรื่องเอกสารและติดต่อทนายเพื่อให้เขาจัดการให้ รวมทั้งเรื่องจดทะเบียนคู่สมรสด้วย “ผมพูดบอกคนที่นอนตะแคงมองผม เด็กหนุ่มที่อายุห่างจากผมแถมรุ่นราวคราวลูกผมเลยก็ว่าได้ แก่กว่าตั้นแค่ห้าปีเอง

“เคยรู้สึกอายไหมที่มีแฟนแก่” ผมถามอิศเรศ

“ถามผม คุณไม่แก่เลยนะครับ พละกำลังเหมือนโคถึก ซะด้วยซ้ำ ดังนั้น ไม่เคยรู้สึกอายเลยนะครับ และผมก็ชอบแบบนี้ อาจจะเป็นเพราะว่าผมชอบผู้ชายที่ดูอบอุ่น แบบคุณท่านไงครับ”

“อื้มมมม” มันเป็นคำตอบที่น่าพึงพอใจจนผมต้องก้มลงไปจูบคนเบื้องล่างอย่างเร่าร้อนอีกครั้ง

******

   รชานนท์ ผมขับรถกลับมาจากที่ไปนั่งให้ใจของผมสงบลงก่อน ผมชวนเมย์ไปนั่งเล่นทีท่าพระอาทิตย์ ไปนั่งดูเรือสำราญที่ผ่านไปมา ผมเองก็เคยไม่กล้านั่ง ผมรู้สึกกลัวแม่น้ำ กลัวที่ลึกๆ ถามว่าไปทะเลได้ไหมไปแต่จะไม่ล่องเรือไปกลางทะเลเด็ดขาด ผมรู้สึกกลัว การจมน้ำ น่าจะเป็นเพราะว่าตอนเด็กๆ ผมตกน้ำบ่อยมั้ง อันที่จริงก็จำไม่ได้หรอก แม่นมเคยเล่าให้ผมฟัง ว่าผมตกลงไปและพ่อผมไปช่วยผมเข้ามา แต่ผมกลับไม่รู้สึกผูกพันอะไรกับพ่อผมเลยสักนิด มันเหมือนกับว่ามันหายไปจากใจผม

“ตัวเล็ก อาบน้ำกันไหม พี่รู้สึกเหนียวตัวยังไงก็ไม่รู้”

“ก็แน่ล่ะเราไปนั่งตรงริมแม่น้ำแบบนั้น ผมก็รู้สึกน่ะ” ตัวเล็กพูดขณะที่กำลังถอดพวกเครื่องประดับออก ผมเดินเข้าไปช่วยตัวเล็กถอดเช่นกันพวกแหวน พวกนาฬิกาออก จะว่าไปชวนตัวเล็กเล่นอะไรในห้องน้ำดีกว่า ตัวเล็กเดินไปหยิบชุดนอนก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป เมย์หันมามองผมก่อนจะก้าวพ้นเข้าห้องแอบกัดปากนิดนึง นั้นไงเมียเชื้อเชิญ ผมก็รีบถอดเสื้อผ้าออกจนหมดเรียกได้ว่าเดินโท่งๆ ตามเมย์เข้าห้องน้ำไปเช่นเดียวกัน เมย์แค่หันมามองผมก่อนจะก้าวเข้าห้องน้ำไปก่อน

“หมับ” ผมเข้าไปกอดเมย์จากด้านหลัง เมย์เปิดก๊อกน้ำ สายน้ำที่ราดรดลงมา

“ตามมาถูหลังให้เมีย” ผมกระซิบ เมย์แค่เหลียวมามองผมก่อนจะหันกลับไป ผมปล่อยให้สายน้ำราดรดที่ศีรษะของผม เมย์หันกลับพร้อมกับบีบยาสระผมใส่ฝ่ามือเล็กๆ นั้นและละเลงลงบนเส้นผมหนาๆ ผมเป็นคนที่ผมเส้นใหญ่และหนา ต้องขยันเข้าร้านตัดผมและต้องเป็นร้านประจำอีกต่างหาก ผมยืนนิ่งปล่อยให้เมย์เป็นคนสระผมให้ผม  เนื่องจากเมย์ตัวเล็กกว่าผม ผมเลยต้องย่อตัวลงและก้มหัวลงมาหน่อย ผมยืนใช้มือเท้ากำแพงจนเมย์สระผมให้ผมเรียบร้อย ผมเงยหน้าขึ้นมองคนที่ยืนสระผมตัวเองเช่นกัน

“ขอบคุณนะครับ” ผมกระซิบ ก่อนจะโอบตัวเมย์มากอด สายน้ำที่ราดรดตั้งแต่ศีรษะลงมามันทำให้คนตรงหน้าผมดูเซ็กซี ฟองจากยาสระผม ผมยืนมองเมย์ จนเขาล้างผมเสร็จ และเมย์ก็บีบครีมอาบน้ำใส่ฟองน้ำ ก่อนจะไล่ถูไปตามตัวผม มันเหมือนเมย์กำลังยั่วผมอยู่น่ะ

“ยั่วเฮียหรือเปล่า” ผมถามเมย์ เมย์ไม่พูดได้แต่ช้อนตาขึ้นมองผม ฟองน้ำที่มีสบูเหลวถูวนไปมาตามแผ่นอกของผมและไล่ลงไปตามหน้าท้อง ช่วงนี้ผมตื่นมาโหนบาร์ทุกวัน มีเมียเด็กกว่าต้องฟิตกันหน่อย ตอนนี้ฟองน้ำนั้นเริ่มต่ำลงไปเรื่อยๆ

“แกล้งยั่วเฮียใช่ไหมครับที่รัก" ถามคนที่ยิ้มที่มุมปาก และฟองน้ำมันต่ำลงไปขนถึงส่วนสงวนของผม ถ้ายั่วกันขนาดนี้ ตั้นคงจะไม่ทนเช่นกัน ผมดันเมย์ไปติดกำแพง เอื้อมมือไปกดปิดน้ำก่อนสบู่ที่เกาะตามลำตัวของผมเรียกว่าพองเลยจะดีกว่า ผมใช้มือดันกำแพงไว้ข้างลำตัวของเมย์ ริมฝีปากเมย์เผยอรอรับการจูบของผม ผมก็ไม่รอช้าประกบปากจูบ แบบนุ่มนวล ค่อยๆ เล็มจากริมฝีปากบนและลงมาที่ริมฝีปากล่าง เม้มเล่นบ้าง ก่อนจะครอบจูบริมฝีปากบ้างๆ นั้นมย์ก็จูบผมตอบ กายของผมเริ่มเบียดเสียดที่ร่างกายของเมย์ หน้าท้องของผมสองคนก็เสียดสีกัน ริมปากผมเริ่มซุกไซ้ลงมาที่ซอกคอและไล่ลงมาเรื่อยๆ จนถึงสองจุดเล็กๆ ที่แข็งขึ้นเป็นไต ยิ่งใช้ลิ้นตวัดเลียหยอกเล่นก็ยิ่งแข็งและแอนขึ้น

   ผมยอมรับว่าที่ผ่านมาเจอแต่อกตูม และแต่ละคน ก็สัมผัสได้เลยว่า ไม่ใช่ธรรมชาติให้มาสักคน มีบ้างเหมือนกันที่ไม่ได้ทำ ส่วนพี่ปริมน่ะ ทำหมดทั้งตัวเท่าที่ผมรู้ หน้าอกเธอก็ทำมา จับไปไร้ความรู้สึก ไม่เหมือนกับอกแบนๆแบบนี้เลย เล่นเอาผมไม่อยากหยุด ผมค่อยเลื่อนตัวเองลงไปหาหน้าท้องแบนๆ นั้น พรมจูบลงไป ผมเดาว่าเมย์คงหายใจไม่ทั่วท้อง เมย์เกร็งหน้าท้องเป็นครั้งคราว ผมค่อยเลื่อนลงไปจนถึงเมย์น้อยๆ

     (ที่ผ่านมาก็ไม่เคยทำให้ใครมาก่อนเลย แม้กระทั่งกับผู้หญิงก็ไม่เคยทำ ยิ่งผู้ชายผมก็ยังไม่เคยทำให้มาก่อน ทั้งที่ผมก็เป็นแฟนกับพี่อิศเรศอยู่ตั้งหลายปียังไม่เคยทำให้ และเมย์นี่ก็คือคนแรกเลยที่ผมยอมทำให้ขนาดนี้ )
     ผมค่อยๆ ครอบปากกับเมย์น้อย ที่ดูน่ารักกระจุ๋มกระจิ๋ม เมย์ก็เริ่มโยกเบาๆ ยิ่งทำก็ยิ่งเมามัน จนกระทั่งร่างของเมย์เริ่มกระตุกและน้ำสีขาวขุ่นก็พุ้งกระจายออกมา หลบแทบไม่ทันน่ะผม เห็นตัวเล็กๆ แบบนีพุ้งออกมาราวกับน้ำจากก๊อก ผมเงยหน้าขึ้นมองเมย์


“ตาเฮียบ้างแล้วน่ะเมีย” ผมพูดก่อนจะค่อยๆ ดันตัวเองขึ้นมามองเมย์ ผมก็ยืนเปิดก๊อกน้ำอีกครั้ง เมย์ยืนมองผมกัดปากเซ็กซี่ก่อนจะบีบสบู่ใส่ฟองน้ำและถูตัวเองให้ทั่วเพื่อเพิ่มฟองสบู ผมถูกไปทุกส่วน พอเห็นว่าฟองหนาพอสมควรแล้ว ผมก็ปิดน้ำและโผเข้าไปกอดเมย ร่างกายผมเสียดสีกัน

“อ้าห์ “เมย์เริ่มคราวออกมาเบา ๆ ผมก็ดันเมย์ไปติดกับกำแพงพร้อมกับใช้ฝ่ามือจับเอวเมย์และยกขึ้นผมดันเมย์ไว้กับกำแพง เมย์มองหน้าผมตาแป๋วเลย

“พี่จะทำเบาๆ ครับ “ผมกระซิบบอกเมย์ เมย์ใช้แขนโอบรอบคอผมเอาไว้ ผมจับโคนขาเมย์ให้กางออกเพื่อให้สอดใส่แท่งร้อนของผมให้ตรงกับช่องทางรักของเมย์ ไม่มีเจลในห้องน้ำแต่สบู่ที่ผมใช้ถูตัว  ก็น่าจะช่วยให้เกมรักของผมสองคนไม่สะดุด ผมค่อยสอดใส่เข้าไปที่ช่องทางรักของเมย์ช้าๆ และดันเข้าไปเบาๆ

“อ้าห์ พี่ตั้น “เมย์ครางเรียกชื่อผม ผมเห็นมือของเมย์ข้างหนึ่งไปแปะไว้ที่กระจกตู้อาบน้ำ ผมก็โยกสวนเข้าออก

“เฮีย อ้าห์ อื้มม ซี้ด” มีแต่เสียงเมย์ที่ครางเพราะว่าผมมุ่งมั่นโยกอย่างเดียว และต้องทำกิจกรรมนี้อย่างระมัดระวัง เพราะถ้าผิดท่าขึ้นมานี้ได้รับบาดเจ็บเลยน่ะ และถ้าบาดเจ็บจนต้องไปโรงพยาบาลขึ้นมาและเหตุผลที่ต้องบอกหมออาจจะทำให้ผมโดนแก๊งของผม ที่ปากหมานเป็นหลัก พวกมันอาจจะทำให้ผมต้องแทรกแผ่นดินหนีไปเลยก็ได้ แค่คิดก็กลัว ดังนั้นอย่าพลาดจะดีกว่า ฮาๆ

“โอ้ววว โอ้วว อืมมม ซี้ด พี่ตั้น “ดีน่ะที่เป็นในห้องน้ำเมียครางน่าดู จนผมเองก็เริ่มจะทนไม่ไหว ร่างกายเริ่มกระตุก แท่งร้อนก็กระตุกตามเช่นกันและ

“ปึก” เสียงเด้งสวนเข้าไปรอบนี้ผมต้องค้างเอาไว้ เพราะว่าน้ำสีขาวขุ่นกำลังพวยพุ้งออกมา

“อ้าห์!!” เสียงครางลากยาวจากปากผม “ฟู่!” พร้อมกลับพ่นลมหายใจออกมาจากจมูกโด่งๆ ของผม น้ำสีขาวขุ่นไหลย้อนลงไปที่โคนขาอ่อนของเมย์และไหล่ลงที่โคนขาอ่อนของผมเช่นกัน เมย์ก้มลงจูบผม ผมก็จูบเมย์ตอบ ยิ่งนับวันเมย์ก็ยิ่งเร่าร้อน ผมยอมรับเลยว่า พี่ปริมก็สู้ไม่ได้ ผมว่าพี่ปริมแกเซ็กจัดแล้วน่ะแต่ไม่ตอบสนองผมได้ถึงใจเหมือนเมย์เลยสักนิด

“ทำไมมองผมแบบนี้ล่ะเฮีย” เมย์ถามผม

“ขอบคุณน่ะครับ เมย์ทำให้พี่มีความสุขอ่ะครับ”

“จริงอ่ะ” เมย์ถามผมด้วยน้ำเสียงที่แปลกใจ

“จริงครับ มีความสุขมากกว่าทุกคนที่ผ่านมา พี่พึ่งจะรู้น่ะว่าที่ผ่านมาเฮียนี่เลือกเดินทางผิดมาตลอด” ผมพูดปนหัวเราะ ก่อนจะค่อยๆถอนแกนกายผมออกและค่อยๆ ปล่อยเมย์ลงมายืนจนทรงตัวได้ และจูบเมย์อีกครั้ง

“ผมไม่เคยอยู่ในห้องน้ำนานขนาดนี้เลยน่ะเนี๊ยะ นี้ครั้งแรกเลยจริงๆ “เมย์พูดปนหัวเราะ และผมสองคนก็ช่วยกันทำความสะอาดร่างกายอีกครั้ง ก่อนจะพากันออกมาจากห้องน้ำ ผมสวมแค่บอกเซอร์ ตั้งแต่มีเมย์มาอยู่ด้วย ผมสวมแค่นี้ ไม่สวมเสื้อนอน อยากให้เมย์กอดอกอุ่นๆ ของผม

“เมียจ๋าเอานมอุ่นๆ ไหมครับ เฮียทำให้ครับ” ผมถามเมย์

“ขอบคุณครับที่รัก” เมย์บอกผม “ที่รักอย่าลืมเช็ดผมให้แห้งๆ ด้วยน่ะครับ เพราะว่าเวลาที่รักนอนแล้วผมเปียกมันก็จะทำให้หมอนที่รักเปียกไปด้วย และมันจะชื้นไม่ดีน่ะครับ” เมย์บอกผม ผมก็คว้าผ้าขนหนูมาซับน้ำที่หัวผมไปด้วยผมเดินออกมาที่ด้านนอก ส่วนเมย์เขากำลังจัดที่นอนอยู่ และพอผมเดินออกมาก่อน

“เว้ยยย!!” ร้องเสียงหลง ให้กับแขกที่ไม่ได้รับเชิญมันมานั่งรอกับเฟย์ ตอนไหนวะ ไอ้กอล์ฟครับ มันหันมามองหน้าผม นั้งดูทีวีกันราวกับบ้านของตัวเอง

“กูมาได้สักพักหนึ่งแล้ว กดกริ่งแล้วไม่มีใครตอบเลยเปิดประตูเข้ามา และได้ยินเสียงเปิดน้ำคงอาบน้ำกันเลยไม่เรียกอ่ะรอ… และก็รอ รอ จน หนึ่งชั่วโมงพอดี” ไอ้กอล์ฟมันพูด ผมก็มองหน้ามันว่ามารอทำไมที่ห้องผมแบบนี่

“กูจะมาบอกว่างานมีปัญหา ให้มึงพากันไปแก้ระบบ ที่โรงพยาบาลว่ะ พรุ่งนี้ด่วน “ไอ้กอล์ฟบอกผม

“เฮีย ร้องทำไมอ่ะ มีอะไรเหรอครับ” เมย์รีบเดินออกมาพร้อมกับผ้าเช็ดผมที่เปียกจากการสระออกมาด้วย แน่นอนมันก็แสดงให้เห็นแล้วว่าผมสองคนเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จกัน

“อ้าวพี่กอล์ฟ เฟย์ มาตอนไหนอ่ะ” เมย์ถามขึ้น

“พี่มา เมื่อ ประมาณหนึ่งชั่วโมงที่แล้วครับ นั่งดูละครหลังข่าวจบไปหลายตอนแล้วครับแต่พี่มาไม่กล้าเรียกเห็นอาบน้ำกันอยู่ “ไอ้กอล์ฟมันพูด เมย์หันมามองหน้าผม ผมก็ยิ้มแหยๆ

“อาบน้ำกันนานเนอะ” เฟย์อีกคน

“โปรโมชั่นใช้น้ำฟรีเหรอ” ไอ้กอล์ฟมันแซวผมสองคน

“เรื่องของกู” ผมตอบมันไปแอบเขินไปด้วยก่อนจะเดินไปนั่งลงและดูเอกสารที่มันปริ้นซ์มาให้ผมดู เมย์ก็เดินไปทำนมอุ่นแทนผม

“พรุ่งนี้เมย์ต้องไปมหา’ลัยว่ะ กูไม่อยากให้เมย์ไปคนเดียวเลยว่ะ “ผมพูด แต่งานก็สำคัญ

“พรุ่งนี้มีสามที่เลยว่ะตั้น ต้องแก้ให้เสร็จว่ะ “ไอ้กอล์ฟพูด พอดีเมย์เดินมารพร้อมกับนมอุ่นๆ ไอ้กอล์ฟมันมองแก้วนมและหันมามองหน้าผม

“เปลี่ยนสไตล์แล้วเหรอ ปกติน้ำเมาเท่านั้นที่จะทำให้มึงหลับสบาย แต่นี่เปลี่ยนมาเป็นน้ำนมแทน” ไอ้กอล์ฟมันพูด ผมอยากจะหาอะไรปาใส่มันแต่ไม่มีเมย์เก็บเอาที่เข้าทางไปหมด

“คุยเรื่องอะไรกันอยู่เหรอครับ “เมย์ถามผมกับไอ้กอล์ฟ

“พรุ่งนี้พี่มีงานน่ะครับ แต่พี่ก็เป็นห่วงเมย์ ที่จะให้เมย์ไปมหา’ ลัยคนเดียว” ผมพูดเมย์หันมามองหน้าผมและกอล์ฟ

“พรุ่งนี้ผมมีเรียนเช้าและวิชาเดียวครับ มีอีกทีตอนเย็นเลยครับ พี่ตั้นให้ผมไปเป็นเพื่อนพี่เมย์ไหมครับ” เฟย์พูดขึ้น ผมหันมามองหน้าเมย์

“ผมแค่ไปทำเรื่องก่อนนะครับพี่ตั้น ไม่นานหรอกเพราะว่าผมเคลียร์ทุกอย่างหมดแล้ว แค่ทำเรื่องและเขาก็จะนัดวันซ้อมรับแค่นั้นเองนะครับ” เมย์พูด

“ให้เฟย์ไปเป็นเพื่อนแล้วกันน่ะเมย์ พี่เป็นห่วงเรานะ พี่ไม่อยากให้ไปคนเดียว “ผมหันไปบอกเมย์ เมย์ก็พยักหน้าตอบผม

“โอเคถ้าอย่างนัน เฟย์มารับเมย์แล้วกันน่ะ”

“ขอบใจน่ะเฟย์ “ผมหันไปขอบใจเฟย์

“ไม่เป็นไรครับ เฮีย ผมน่ะรักพี่เมย์เหมือนพี่….” ผมก็เลิกคิ้วมอง

“พี่ชาย “ค่อยยังชัวผมหน่อย นึกว่าบอกว่าเมย์ผมเป็นพี่สาว

“ถ้าอย่างนั้นกูไปนอนน่ะ ดึกมากแล้ว ยังไม่ได้อาบน้ำเลย และถ้าอาบน้ำอีก คง ได้นอนประมาณเที่ยงคืนพอดี” นั้นไงยังไม่หยุดอีกยังแซวผมอีก ผมหันไปมองเวลาตอนนี้มันแค่สี่ทุ่มครึ้งเอง มันจะอาบนานเกินผมสองคนไปแล้ว

“แบบว่าไม่ต้องใช้ยากูอึดทนนานว่ะ” ไอ้กอล์ฟพูด แม้คนข้างๆ เอียงอายน่าดู

“เหรอ แซวกูตลอดนะพวกมึงน่ะ เดี๋ยวกูให้เฝ้าออฟฟิศอีกคืนเลยพรุ่งนี้น่ะ แซวกู” ผมพูด

“ไม่ได้น่ะ พรุ่งนี้จะพาเฟย์ไปเที่ยว ให้ไอ้พวกนั้นมาอยู่มั้งเลย” ผมพยักหน้าก่อนจะไปเปิดประตูส่งแขกกลับห้องมัน ผมหันมามองเมย์ ก่อนจะเดินกลับมากระดกดื่มนมอุ่นๆ ที่ผสมน้ำผึ้งที่เมย์ทำให้ผมดื่ม เมย์ก็เช็ดซับน้ำที่เส้นผมให้ผมจนแห้ง เส้นผมของผมเส้นใหญ่และหนา เมื่อก่อนขี้เกียจแม่ต้องคอยเช็ดให้ผมตลอด ผมหันมามองเมย์ก่อนจะเปลี่ยนเป็นผมนอนหนุนตักเมย์ เมย์ก็เอามือลูบหัวผมเบาๆ มันเหมือนตอนที่แม่ผมยังอยู่ ผมชอบนอนหนุนตักแม่ผมและให้แม่เอามือลูบหัวผมเล่นจนผมหลับบ้าง หรือบางที่ก็แค่เคลิ้มและแม่ถึงจะไล่ผมไปนอน ผมค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองเมย์ที่ก้มมองผม ทำไมผมถึงได้เห็นเป็นใบหน้าของแม่ผม แม่ลลิลภัทร์ซ้อนเข้ามา ผมค่อยพลิกมานอนหงายมองพร้อมกับยกมือขึ้นแตะใบหน้านั้นเบาๆ

“มัม” ผมเรียกคนที่ผมแตะ

“พี่ต้น นี้เมย์”นั่นแหละผมถึงได้สติ คนที่ผมแตะคือเมย์

“เออ เมย์พี่ขอโทษ

“พี่คิดถึงแม่เหรอครับ” เมย์ถามผม ผมพยักหน้าว่าใช่ เพราะว่าวันนี้เอ่ยถามเรื่องแม่กับพ่อผมไป ผมถึงได้คิดถึงแม่ผมขึ้นมา

“พี่อยากบินที่นั้น เพื่อไปเอารูปเอาของทุกอย่างของแม่พี่กลับมา “ผมพูดกับเมย์

“งั้นเราก็ไปกันซิครับ พ่อพี่ยังไม่ได้ขายไม่ใช่เหรอครับ” เมย์บอกผม

“ไปตอนวันคริสต์มาสไหมครับและช่วงปีใหม่เราค่อยไปหาพ่อพี่กัน “เมย์บอกผม

“ถ้าผมไปกับพี่ ผมก็ต้องขอวีซ่าด้วยใช่ไหมครับ “เมย์ถามผม ผมพยักหน้าว่าใช่แต่ผมไม่ต้องเพราะว่าผมถือสองสัญชาติอยู่น่ะตอนนี้ แม่ผมได้สัญชาติอเมริกันนานแล้วก่อนจะมาอยู่กับพ่อผม

“ยื่นขอวีซ่านะไม่นานหรอกครับเมย์ เดี๋ยวพี่จัดการเอง พี่ให้พี่อิศเรศเขาจัดการให้ และหลังจากนั้นเราก็ไปฮันนี้มูนกันด้วยน่ะ”ผมพูด

“ผมยังไม่เคยไปอเมริกามาก่อนเลยอ่ะพี่ตั้น”

“นี่ไงครับไปกับพี่ เดี๋ยวพี่พาไปเที่ยวครับ “ผมบอกเมย์ แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว นี่ผมจะได้พาเมย์ไปหาแม่ลลิลภัทร์ของผมด้วยซิน่ะ แม่ต้องชอบแน่ๆ เพราะว่าเมย์มีอะไรหลายๆ อย่างที่เหมือนแม่ของผม ผมใช้ฝ่ามือผมลูบไล้ใบหน้าของเมย์เบาๆ

“พี่คิดว่าแม่พี่ส่งเมย์มาให้พี่” ผมบอกเมย์ เมย์ก็ยิ้ม

“แม่ปริมนะซิ ส่งผมมาให้พี่น่ะ” เมย์พูด เบรกซะตั้นหัวทิ่มเลย

“ยอมรับว่าแม่ปริม แต่ตอนนี้ตั้นมีแม่เมย์คนเดียวจริงๆ ไม่ไปหาแม่คนไหนแล้ว “ผมพูดออดอ้อนเมย์ เขาก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ๋ให้ผม ผมนอนหนุนตักคุยกันกะหนุงกะหนิงคุยกันทุกเรื่อง ไม่ว่าเรื่องเรียนที่อเมริกาของผมและเรื่องเพื่อนๆ ของผมที่อเมริกา ว่าผมมีเพื่อนคนหนึ่ง มันอ้วนมากและโดนบลูลี่บ่อยๆ จนผมทนไม่ไหว เลยช่วยมันและผมก็มีเรื่องชกต่อยกับคนที่บลูลี่เพื่อนผมคนนั้นจนผมเองก็เกือบโดนไล่ออก และนั้นทำให้ผมได้เห็นหน้าพ่อผมครั้งแรกตั้งแต่ย้ายไปอเมริกา และเพื่อนผมคนนี้ยังมีกรุปเลือดเดียวกับผมอีกน่ะ RH- และเพื่อนคนนี้มันเกิดอุบัติเหตุ ผมเลยเป็นคนที่บริจาคเลือดให้เพื่อนคนนี้อีก ตั้งแต่พอแม่ผมป่วยผมก็ไม่ได้คุยกับเพื่อนผมคนนั้นอีก และก่อนที่ผมจะย้ายมาที่นี้ผมได้ยินพวกเพื่อนๆคนอื่นอบกผมว่า เพื่อนคนนั้นต้องย้ายบ้านไปอีกเมืองตามพ่อแม่ก็เลยขาดการติดต่อไปเลยและผมก็จำชื่อมันไม่ได้อีกด้วย จำได้แต่ว่ามีกรุปเลือดเดียวกับผมแค่นั้นเอง


หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.25 คู่ใครจะร้อนแรงกว่ากัน NC 18+
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 19-12-2020 15:18:20
 :ling1:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.25 คู่ใครจะร้อนแรงกว่ากัน NC 18+
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 19-12-2020 15:36:09
คู่ใหญ่นี่แบบ  :oo1: :pighaun: 5555 คู่หลักก็หวานไม่ยอมกัน  :-[ รอกันตอนต่อไปเลย จะยังไงบ้าง  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.25 คู่ใครจะร้อนแรงกว่ากัน NC 18+
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 19-12-2020 19:46:54
 :-[ :z1: :pighaun:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.25 คู่ใครจะร้อนแรงกว่ากัน NC 18+
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 23-12-2020 11:29:26
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.26 (เฮียตั้นXเมย์) ได้เจออีกครั้งคนที่เคยช่วยผม
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 23-12-2020 14:06:45
         รชานนท์   ผมนั่งทานอาหารเช้ากับเมย์เหมือนเช่นทุกวัน ช่วงนี้ความรักของผมกับเมย์ค้อนข้างหวานชื่นเหมือนคู่รักข้าวใหม่ปลามัน ผมเดินไปหยิบกล่องที่เป็นสร้อยคอที่แม่ผมให้เอาไว้ มันมีจี๋ที่บ่งบอกว่าผมคือใครเพราะว่ามีนามสกุลของปู่ผมอยู่ที่จี้นั้น แต่ผมไม่ได้ถามแม่ผมน่ะว่าใครให้มา พ่อผมหรือเปล่า แต่ก่อนที่แม่ผมจะทรดหนักแม่ให้เก็บสิ่งนี้เอาไว้ แม่บอกว่าให้ผมสวมให้กับคนที่ผมจะใช้ชีวิตคู่ด้วย ผมเลือกแล้วครับแม่นั้นคือ เมธานินท์

“เมย์ “ผมเรียกเมย์ วันนี้เมย์จะไปมหาวิทยาลัย ไปกับเฟย์ และไปนัดเจอเพื่อนๆ ของเขาที่นั้น

“ครับเฮีย” เมย์หันมามองผม ผมหยิบสร้อยออกมาจากกล่อง ก่อนจะสวมใส่ที่คอของเมย์ และติดตะขอให้จากด้านหลัง เมย์ยืนนิ่ง ก่อนจะหันมาหาผม

“อะไรเหรอครับเฮีย และนี้สร้อยพี่ให้ผมทำไมอ่ะครับ วันสำคัญอะไรเหอครับ จะว่าวันเกิดผมก็ยังไม่ถึงสักหน่อย จะว่ามันคริสต์มาสก็อีกตั้งเดือนหนึ่งแนะ ปีใหม่ยิ่งไม่ใช่ใหญ่เลย” เมย์พูดถามผม

“นี้จะไม่ให้เฮียพูดบ้างเลยใช่ไหมเนี๊ยะเรานะ พูดไปหมดเลย “ผมพูดปนขำคนตรงหน้า ทำปากยู่ น่ารักเชียวจนผมเองก็อดใจไม่ไหว้

“ก็ ผม …. “เมย์พูดแต่ว่าผมประกบริมฝีปากหนาๆ ได้รูปจูบและดันตัวเมย์ขึ้นไปอยู่บนซิงค์น้ำ รสจูบที่เร่าร้อนเริ่มไล่ลงมาเรื่อยๆ จนถึงคอเรียวยาว

“เฮีย …” เมย์เอ่ยปากเรียกชื่อผม “ตกลงเฮียให้เมย์ทำไมอ่ะครับสร้อยเส้นนี้” เมย์ถามผมก้อนจะก้มลงมองที่สร้อยและพลิกดูที่จี้ที่ห้อยเอาไว้ด้วย เขากำลังอ่านตัวหนังสือเล็กๆ นั้น

“สร้อยเส้นนี้แม่พี่… เออ….ให้พี่ไว้น่ะครับ” ผมพูดก่อนจะหลุบตาลง

“อ้าว! งั้นพี่ก็ไม่สมควรจะเอามาให้ผมนะครับพี่ตั้น” เมย์เงยหน้าขึ้นมองผมและทำท่าจะถอดออกแต่ผมรีบจับมันเอาไว้ก่อน

“เมย์ฟังพี่ก่อน แม่พี่น่ะบอกว่าให้พี่สวมให้กับคนที่พี่มอบหัวใจให้ และคนนั้นคือคนที่พี่เลือกแล้วว่าจะเป็นคนสุดท้ายที่จะอยู่กับพี่ไปตลอด พี่เลือกเมย์” ผมพูดบอกเมย์ เมย์มองหน้าผมก่อจะ

“หมับ” เมย์เข้ามาสวมกอดผม ผมก็กอดเมย์และหอมที่หน้าผากของเมย์

“เฮียสัญญาน่ะว่าจะอยู่กับเมย์ไปตลอดเลย ห้ามไล่เมย์ไปไหนน่ะเฮีย” เมย์พูดพร้อมกับใบหน้าที่ซบลงที่แผ่นอกของผม

“ตกลงไม่อยากไปจากเฮียแล้วใช่ไหมครับ” ผมถามเมย์ ผมจำได้เมย์เคยบอกว่าถ้าเขาเจอคนที่เขารักล่ะ

“ทำไมถามเมย์แบบนี้ล่ะ” เมย์ดันอกผมออกพร้อมกับเงยหน้ามองผมก่อนจะหลุบตาลงทันที

“ก็เมย์เคยบอกเฮียว่า ถ้าพี่ให้เมย์อยู่เป็นแฟนและวันหนึ่งเมย์เจอคนที่เมย์รักล่ะ แล้วเฮียก็บอกว่าเฮียยินดีให้ไปจำได้ไหมครับ “ผมถามเมย์

“ก็ตอนนั้น ผมยังโกรธเฮียนิแต่ตอนนี้ ไม่ไปไหนแล้วน่ะ เพราะว่าเมย์รักเฮียไปแล้วอ่ะ” มุมปากของผมกระตุกขึ้นเป็นรอยยิ้ม

“เฮียก็รักเมย์แล้วหมดหัวใจเลย “ผมพูดกับเมย์

“ลงไปรอเฟย์ด้านล่างด้วยกันน่ะเมย์” ผมพูดบอกเมย์ เมย์พยักหน้าก่อนจะหันไปกดเปิดเครื่องล่างจาน ผมก็เดินเข้าไปสวมนาฬิกา และแหวนหมั้นของผม จะว่าไปผมเองก็ยังไม่มีปาร์ตี่ฉลองงานหมั้นให้เมย์เลยน่ะ แต่แค่คิดถึงงานแต่งของผมกับเมย์ ผมก็อดยืนยิ้มเหมือนคนฝันกลางวันไม่ได้แล้ว ผมต้องไปคุยกับพ่อเรื่องงานแต่งของผมกับเมย์

“ไปถึงแล้วโทรบอกเฮียด้วยน่ะเมย์ เอียเป็นห่วง” ผมหันมาบอกเมย์ขณะที่กำลังก้าวเท้าเข้าไปในลิฟต์ และจู่ๆ ลิฟต์ก็เปิดออก โดยมีสองหนุ่มต่างชาติเดินตามเข้ามา ผมจำได้หนึ่งในนั้นคือเพื่อนบ้าน แต่ว่าวันนี้มันมีเพื่อนมาด้วย

“ไฮ “มันทักทายผมและเมย์แต่ผมยืนนิ่ง ส่วนเมย์ยกมือทักทาย ไอ้คนที่ทักมันกึงเห็นว่าผมไม่ค่อยชอบหน้ามันเท่าไหร่เลยลดมือลงและหันไปยิ้มกับเพื่อนมันแทน

“ฮาวอาร์ยู เมย์”

“แอมฟายแธงกิว แอน ยู?” ผมหันมาเหล่ตามองตัวเล็ก

“ผม สาบายดี ครับ” มันพยายามพูดไทยด้วย

“กวนตีน” ผมพูดมัน ทั้งคู่หันมามองหน้าผมแบบ ไม่เข้าใจ

“What did you say?” มันยังถามผมอีก ผมก็หันไปบอกว่า “กวนตีน!” ผมพูดเน้นๆ และยิ้ม

“โอ๊ยยย” อันนี้ผมร้องแต่ไม่ดังพยายามกลั้นกลัวเสียฟอร์มต่อหน้าไอ้สองคนนี้ ก็เมียเล่นหยิกผมเข้า “หยิกพี่ทำไม” ผมหันไปกระซิบถามเมย์

“พี่แม่งไม่น่ารักเลย “เมย์กระซิบบอกผม

“จะให้พี่ทนได้ไง มันกำลังจะจีบเมียพี่อยู่ พี่ไม่ใช่พ่อพระนี้ครับ เมีย” ผมกระซิบกลับแต่ไอ้สองคนนี้มันก็มองหน้าผมกับเมย์สลับกันไปมาและค่อยถอยหลังไปอยู่อีกมุมหนึ่งของลิฟต์ ผมก็ยืนถลกแขนเสื้อรอ และ

“วอท เดอะ ฟั๊ก อาร์ ยู ดู อิ่ง?” มันคงคิดว่าผมจะต่อยมันแน่ๆ

“กูจะกดลิฟต์ข้างหลังมึง บังอยู่ได้” ผมพูดและกดเลขชั้นที่ผมจะลง มัวแต่มองหน้ากวนๆ ของมันสองคนอยู่ไงเลยไม่ได้กด ผมพูดทำหน้าเข้มจนมันไปยืนอยู่ที่มุม ผมเองก็อดกลั้นหัวเราะไอ้สองคนนี้ไม่ได้ จนกระทั่งลิฟต์เปิดออกที่ชั้นออฟฟิศของผม ผมหันมาดึงแขนเมย์ให้ออกไปทันที และประตูลิฟต์ก็ปิดลงช้า ๆ โดยมีไอ้เวรรนั้นโบกไม้โบกมือให้เมย์ตามหลัง

“ห้ามส่งยิ้ม ห้ามพูดคำหวานใส่ไอ้สองตัวนี้ ไม่อย่างนั้นเฮียจะทำโทษ “ผมพูด ตัวเล็กเหลือกตาขึ้นบนและเบ้ปากใส่ผมด้วย

“ก็เฮียกลัวว่าถ้าเจอคนที่ดีกว่าเฮียแล้วเมย์จะไปจากเฮียอ่ะ ทีรัก เขาหึง อ่ะ” ผมพูดและเดินคนที่เดินจั้มๆ ไม่ยอมรอผมพร้อมกับเปิดประตูเข้าไปในออฟฟิศ ผมเห็นเด็กมารอกันแล้วคนที่มาเปิดก่อนก็คือไอ้กอล์ฟ มันคงไปส่งเฟย์ที่มหาวิทยาลัยก่อน

“เฮียสวัสดีครับ อาซ้อ สวัสดีครับ” เด็ก ๆ ที่มาทำงานให้ผม ยกมอืไหว้ผมกับเมย์เหมือนเช่นทุกวัน

“พี่กอล์ฟยังไม่เข้ามาเหรอ” ผมถามทุกคน

“พี่กอล์ฟเข้ามาพักหนึ่งแล้วครับ และบอกว่าจะไปรับไอ้เฟย์นะครับเฮีย” ผมพยักหน้า

“เมย์เข้าไปนั่งในห้องทำงานพี่ก่อนนะ “ผมพูดพร้อมกับโอบเอวเมย์เข้าไป

“วี้ดวิว” เสียงแซวจากพวกเด็ก ๆ ผมพาเมย์เข้าไปในห้องทำงานของผมและเปิดคอมพิวเตอร์ทันที ผมลงทะเบียนเรียนให้เมย์แล้วผมลงบัญชีให้เมย์ เมย์ก็หันไปจะดึงเก้าอี้มานั่งใกล้ๆ ผมแต่ว่าผม

“หมับ” ผมดึงรั้งเอวบาง ๆ นั้นเข้ามาและให้เขานั่งตัวเดียวกับผมและให้เขานั่งตัวผมจับเมย์ให้นั่งลงบนตักของผม และกดเข้าไปดูหน้าเว๊ปของสถานบันที่ผมลงทะเบียนเรียนให้เมย์ ผมสองคนกดไล่ดูไปเรื่อย ๆ ว่าต้องเรียนวันไหน วิชาอะไรบ้าง ระหว่างที่ผมกำลังไล่ดู ผมรู้สึกว่ามีสายตาคนแอบมองผมอยู่แต่ผมก็แกล้งทำเป็นไม่สนใจ และ

“ฟ๊อด” หอมแก้มเสียงดังเลย ทำเอาคนถูกหอม เอามือขึ้นมาลูบแก้มตัวเองเบาๆ

“เห็นมองเฮียอยู่ เฮียรู้ว่าเฮียหล่อมาก และนี้ก็ให้รางวัลคนแอบมอง” ผมพูดพร้อมกับชำเลืองมองคนทำแก้มป่องน่ารัก

“WTF!” ผมกับเมย์หันไปมองคนที่เปิดประตูเข้ามาแบบไม่เคาะเลย มันนั่นแหละ ไอ้ธีม

“ทำอะไรกันน่ะ” มันยังมีหน้ามาถามผมกับเมย์อีกน่ะ

“ก็แค่นั่งดูคอมพิวเตอร์ด้วยกัน มึงนั่นแหละเข้ามาทำไมไม่เคาะประตูก่อนว่ะ ไอ้ไม่มีมารยาท!!” ผมพูดและด่ามันกลับทันที

“นี่กูกลายเป็นหุ้นส่วนที่ไม่มีมารยาทไปแล้วเหรอครับมึงครับ” ไอ้ธีมมันพูดและเอามือกุมหน้าอกตัวเอง

“เมื่อก่อนไม่เห็นต้องเคาะเลยเดี๋ยวนี้ต้องเคาะแล้วเหรอครับ ไอ้บอส!”

“ตอนนี้ช่วยเคาะนิดนึงนะครับมึงครับ “ผมพูดและเมย์หันไปยิ้มให้ไอ้ธีม

“เฟย์มาแล้วอ่ะ เห็นถามหาพี่สาวอยู่” ไอ้ธีมพูด

“เฮ้ยพี่ธีม! ผมเป็นพี่ชายต่างหาก” ผมหันไปหยิบกล่องเปล่าปาใส่ไอ้ธีมทันที

“ผัวเมียช่วยกันน่ะดูน่ะ ทำไมตอนอีเจ้มาไม่ช่วยกันแบบนีล่ะครับ แม้กอดกันกลมและเข้ามุมทันที “ไอ้ธีมมันพูด

“เฮียถ้าอย่างนันผมรีบไปเลยน่ะผมจะได้รีบกลับ” เมย์บอกผม ผมพยักหน้า ผมก็ลุกขึ้น พี่ตั้นก็ลุกขึ้นตามผม

“วันนี้มึงไปกับกูน่ะไอ้ธีม” ผมหันไปบอกพี่ธีม ไอ้ธีมก็พยักหน้า

“ไปที่ไหนน่ะวันนี้น่ะ” ไอ้ธีมถามผม

“โรงพยาบาลไงที่ตลิ่งชันอ่ะ “ผมพูด

“อ้อ กูจำได้แล้ว ที่มีเด็กเก่ามึงไปซั้มไว้ เขาเป็นพยาบาลอยู่ที่นั้น ที่วันนั้นน่ะเขามาเที่ยวที่ผับเพราะว่าอกหักรักคุดตุ๊ดแย่งผัวไป มึงเลยพาเขาไปซั้มปลอบใจเขาแทน ใช่ไหมว่ะ?” ไอ้ธีมพูด ผมสะบัดหน้าไปมองหน้ามันและพอหันมาเจอหน้าเมีย ผมก็ต้องเอามือแตะที่หน้าผากดตัวเอง ไอ้เวรธีม!!!

“นั้นมันอดีตไปแล้วไอ้เชี้ยธีม และพี่เขาก็แต่งงานไปแล้ว “ผมพูดและหันมามองเมย์ เดินจั้มอ้าวออกไปเลย ผมหันมาอยากจะ

“โทษทีว่ะ ช่วงนี้เมโมรีกูจำแต่อดีตว่ะ”

“แต่อดีตที่ดีดีกูก็มีทำไมมึงไม่จำว่ะ ไอ้สัสธีม! เมียกูงอนเลยเนี๊ยะไอ้เชี้ย!” ผมพูดและเดินสับเท้าตามเมย์ ออกมาก็เจอพวกไอ้เพื่อนๆ ผม วันนี้มันก็สวมเสื้อเชิ้ตเหมือนกับผมแต่งตัวดูมีความน่าเชื่อถือหน่อย ซึ้งปกติใส่กางเกงยีนเสื้อเชิ้ตกัน

“เมย์”

“ผมไปเลยนะครับ พี่ตั้น” เมย์หันมาพูดไม่เรียกเฮียแล้วแบบนี้แสดงว่างานเข้า พวกเพื่อนๆ ผมหันมามองหน้ากันหมด เหมือนมีคำถาม

“เฟย์ ไปเลยไหมพี่” เมย์ไม่หันมามองหน้าผมแต่ะหันไปเรียกเฟย์แทน

“แป๊ปหนึ่งนะเฟย์ขอพี่เคลียร์กับอาซ้อก่อน  “ผมพูดและดึงแขนเมย์ออกไปที่หน้าห้องก่อน

“เมย์ พี่ เออ พี่กับพี่แบม ที่เป็นพยาบาลน่ะเราแค่ มีอะไรกันครั้งเดียวและพี่ไม่ได้ติดต่อเขาอีกเลย พี่ก็รู้มาว่าเขากำลังจะแต่งงานกับแฟนจริงๆ ของเขาแล้ว เขากลับไปคืนดีกันแล้วหลังจากคืนนั้น”

“และที่สำคัญพี่มีอะไรกับเขาโดยไม่ได้รักไม่ชอบกัน เมย์ “ผมพูดและมองหน้าเมย์

“เมย์ เชื่อใจพี่น่ะ พี่หยุดแล้ว พี่มีแค่เมย์คนเดียว จริงๆ” ผมพูด กับเมย์ เมย์เงยหน้ามองผมก่อนจะ

“พี่เลือกเมย์ แค่เมย์คนเดียวเท่านั้น” ผมพูด

“ผมขอโทษอ่ะ ผมแค่ กลัว ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมพี่กลัวผมหายไป ผมเองก็กลัวพี่ จะ”

“ไม่มีครับ แน่นอน พี่รักเมย์คนเดียว และพี่มีเจ้าของแล้ว “ผมพูดพร้อมกับชูแหวนที่ผมสวมเอาไว้ที่นิ้วมือของผมให้เมย์ดู เมย์ก็ยิ้ม

“เมย์ไปแล้วน่ะ และวันนี้พี่อยากกินอะไรอ่ะ ผมจะได้แวะซื้อเข้ามาทำ” เมย์เงยหน้ามองผม

“พี่ทานทุกอย่างที่เมย์ทำครับ และพี่รู้สึกว่าช่วงนี้พี่เจริญอาหารดีน่ะ พี่ทานได้แทบจะทุกอย่างแล้ว ทั้งที่พี่เป็นคนเลือกทานมาก” ผมบอกเมย์ เมย์เงยหน้าขึ้นมองผมและยิ้ม

“พี่ตั้น ผมอยากไปหาแม่ปิ่นอีกได้ไหมครับ”

“ได้ซิครับ เราไปหาแม่ปิ่นกัน ขอพี่ตามเคลียร์งานก่อนเพราะว่า เราจะไปเที่ยวหาแม่พี่ที่อเมริกาดังนั้นไปหาแม่ปิ่นก่อนไปด้วยดีไหมครับ” ผมบอกเมย์พยักหน้าและเข้ามากอดผม เฟย์เปิดประตูออกมาพร้อมกับไอ้กอล์ฟ

“เฟย์ดูพี่เมย์ให้พี่ด้วยน่ะ ขอบคุณครับ” ผมหันจไปบอกเฟย์ เฟย์ก็พยักหน้า

“เฟย์เขาจะนั่งแทกซี่ไปกับเมย์นะ เพราะว่าแถวนั้นรถเยอะเฟย์มันกลัวไม่กล้าขับน่ะ “ไอ้กอล์ฟมันบอกผม ผมพยักหน้า และทั้งคู่ก็เดินคุยกันลงไป ผมก็ยักไหล่ให้ไอ้กอล์ฟกลับเข้าห้องไปด้วยกัน

“งานเข้าเหรอมึง ไอ้ธีมมันพูดว่ามันดันหลุดพูดเรื่องเด็กที่มึงเคยนอนด้วยอ่ะ”

“ไม่ใช่เด็กเขาแก่กว่ากูตั้งห้าปี”

“กูลืมไปมึงชอบกินของที่บ่มนาน ยิ่งแก่ยิ่งดี” ไอ้กอล์ฟมันพูด

“คู่นอนน่ะไม่ใช่ไวน์ไอ้สัส! จะได้ยิ่งบ่มนานยิ่งเร้าใจ “ไอ้เปรมดิ์หันมาเอาเลยน่ะมึงะน่ะ มีช่องไม่ได้เลยน่ะไอ้พวกนี้ และก็ส่งนิ้วกลางให้เป็นรางวัลก่อนจะเดินเข้ามานั่งเพื่อจะได้วางแผนว่าใครจะไปกับใคร แต่ก่อนจะวางแผนขอโบกไอ้ธีมสักทีไอ้ตัววางกับดัก

“งานเข้านะมึงครับ อย่างนี้แหละ ชอบซั้มกับสาวๆ วัยทำงานไง สุดท้ายๆ ก็ไปเจอกันที่ทำงานอยู่ดี สู้พวกกูไม่ได้...” ไอ้อาร์มมันพูด

“วัยเรียนเลยไง เพราะมึงคงไม่ย้อนไปเรียนกันแล้วแหละแก่ซะขนาดนี้ ” นั้นไงคนที่คุณก็รู้ว่าใคร มาถึงพอดี นั้นคือภาคิน มันเปิดประตูเข้ามาก็เล่นไอ้พวกนี้แทนผมเลยไง

“แม้แม่ไอ้ตั้นมา และมาเพื่อช่วยลูกตั้นเลยว่างั้น ว่าแต่หายไปไหนมาครับมึงครับเพิ่งจะโผ่หัวมานี้ “ไอ้ธีมมันถามถึงทันที ผมหันไปมองหน้าไอ้ภาคิน

“วันนี้ว่างเปล่า ไปกับกูและไอ้ธีมกัน ไปแก้ระบบที่โรงพยาบาลกัน” ผมหันไปชวนไอ้ภาคิน

“อืม” ไอ้ภาคินพูด

“ไอ้กอล์ฟมึงไปกับไอ้ทีนว่ะ อันนี้ไม่เยอะ ส่วนไอ้เปรมดิ์ มึงไปกับอาร์มว่ะ” ผมหันไปบอกพวกมัน พวกมันก็พยักหน้า

“ว่าแต่ทำไมโรงแรมพี่ปฐวีย์แม่งระบบไม่มีปัญหามั้งว่ะ จะได้ไปอีกรอบ อยากไปดู” ไอ้เปรมดิ์

“ไปดูอะไร” ไอ้ทีนมันถามไอ้เปรมดิ์

“ไปดูวิว เห็นบอกว่าวิวสวย วิวน่ามอง”

“มึงก็ชวนแฟนไปดิ ห้องสวีทอ่ะ เปิดดูวิวกรุงเทพเลย แต่จ่ายหนักหน่อยน่ะมึง” ไอ้ภาคินพูด

“ไม่มีเปอร์เซนส่วนลดให้บ้างเหรอในฐานนะเพื่อนแฟนเจ้าของน่ะ” ไอ้อาร์มมันถาม

“มึงอยากได้ก็ไปถามหากับพี่ไออุ่นเขาดิว่ะ” ไอ้ภิคนพูด ผมหันไปมอง นี้แหละที่ผมลืมว่าจะถามอยู่

“ใครวะไออุ่น กูว่าจะถามตั้งแต่วันนั้นแล้วที่โรงแรมน่ะแต่เห็นมึงรีบ และพี่เขาอยากไปแช่น้ำให้มึงถูหลังเลยไม่ได้ถาม” ผมพูด ไอ้ภาคินมันสะบัดหน้ามามองผม และทำท่าจะโบกหัวผมด้วย และมีสายตามองมาที่มันกันหมด

“ไอ้เชี้ยตั้น! “ไอ้ภาคิน

“อ้อที่ไม่เข้าบริษัทเลยเพราะว่ายุ่งแบบนี้เหรอครับมึงครับ ทำหน้าทีถูหลัง มึงนี้เด็ดกว่าเจ้ปริมอีก  “ไอ้ธีมพูด

“อย่าไปแซวมันพอแล้ว  ตกลงใครวะพี่ไออุ่น” ผมเงยหน้าถามไอ้ภาคิน

“เออ พี่ปฐวีย์เขาชื่อเล่นว่าไออุ่นว่ะ” ไอ้ภาคินพูด

“ห๊ะ!!” น้องออกมาพร้อมกันหมดเลย ไม่อยากจะเชื่อ

“พี่เขาชื่อเล่นว่าไออุ่นเหรอว่ะ “ไอ้กอล์ฟถาม

“แล้วไปอยู่กันยังไงวะ มึงกับพี่เขาน่ะ ยิ่งกว่ามีพระอาทิตย์สองดวงอีกนะมึง” ไอ้กอล์ฟ พวกผมหันไปมองหน้ามันอีก

“พี่เขาชื่อไออุ่น ส่วนไอ้นี้น่ะไอร้อนเลยแหละมึง” ผมเงยหน้ามองหน้ามัน

“ผลัก” เน้นๆ จากไอ้ไอร้อน ไอ้ภาคินนี้แหละ

“ไอ๊ย ไอ้เชี้ย เห็นไหมล่ะ พูดแค่นี้หัวร้อนเลย” ไอ้กอล์ฟ

“เล่นไม่ดูหน้าไงมึงน่ะ กูยังไม่กล้าเลย มันมีความเป็นแม่ สมน้ำหน้ามึง” ไอ้เปรมดิ์

“มึงอยากโดนไหมไอ้เปรมดิ์” ไอ้ภาคิน พูด

“ไม่จ๊า” ไอ้เปรมดิ์รีบเชียวน่ะมึง

ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้น ผมพยักพยิดให้ใครสักคนเดินไปเปิดประตู เป็นน้องที่มาทำงานให้ผมนี้แหละ

“พี่ครับบุคคลในเครื่องแบบมาพี่”

“ฉิบหายแล้วกู มาทำไมว่ะ “ไอ้เปรมดิ์

“ตำรวจเหรอมึง เมื่อเช้ากูหรือเปล่าว่ะ กูรีบไปส่งภรรเมียเพราะว่ามันจะสายและชีวิตกูอาจจะสายไปด้วยถ้ากูไปส่งเมียช้า กูเลยตัดสินใจผ่าไฟแดงเพื่อรักษาชีวิตตัวเอง” ไอ้อาร์มมันพูด ทุกคนมีสติกเกอร์บริษัทติดรถกันทุกคนเพื่อใช้ในการเข้ามาจอดที่จอดรถส่วนบุคคล

“ใครวะ และเครื่องแบบอะไรของมึง” ไอ้ธีมมันถาม

“แท็กซี่พี่” เด็กที่มันเดินไปเปิดหันมาบอกพวกผม

“กวนแล้วมึง แล้วเขามาทำไม” ไอ้ทีนมันถามน้องที่ยืนอยู่

“พี่มาทำไมอ่ะ มาหาพี่ตั้นเหรอ “มันหันไปคุยกับเขา

“เขาบอกว่ามาหาพี่ตั้นอ่ะ” ผมหันบอกผม พวกผมก็หันมามองหน้ากัน ตั้งแต่เกิดมาแทบจะไม่เคยนั่งแทกซี่เลย เพราะว่าพวกผมมีรถขับรถเองตลอด เมาก็ขับกลับกันเองทุกครั้งด้วย

“ให้เขาเข้ามาดิ” ผมบอกและเด็กที่เดินไปเปิดประตูก็เปิดให้คนที่มหาผมเข้ามา และคนที่เข้ามาก็มีเครื่องแบบจริงๆ ด้วย แต่เป็นเครื่องแบบแทกซี่ เขามองไปรอบห้องก่อนจะมาหยุดที่ผม

“น้องนั้นเองพี่ตามหาอยู่พี่อยากจะบอกว่า” พี่เขาชี้มาที่ผมว่าตามหาผมอยู่ ผมก็ชี้ตัวเองซิครับ ตามหาผมทำไม?

“มันค้างค่ารถพี่เหรอ?” ไอ้ทีน ผมหันไปมองกูไม่เคยนั่งแทกซี่ ถ้าพี่แกพูดเช่นนั้นก็แสกเมอร์แล้วสัส!

“ใช่ครับน้อง” พวกผมหันมามองหน้าพี่เขา

“เฮ้ย! หน้าอย่างมึงเบี้ยวค่ารถแทกซี่ ไม่เลวนะมึงน่ะ” ไอ้ธีมพูด “แต่เลวมาก!!” ดูมันต่อแบบนี้ผมควรกระทืบมันก่อนจะหันไปเอาความจริงจากพี่แทกซี่ไหมล่ะ

“มึงไปนั่งตอนไหนวะ มึงเคยนั่งแทกซี่ด้วยเหรอว่ะ หรือว่าอยากเปลี่ยนบรรยากาศ” ไอ้ภาคิน มันยังไม่เชื่อผมเลย

“พี่ ผมไม่เคยนั่งแทกซี่น่ะ พี่ผิดคนหรือเปล่า” ผมรีบหันไปถามพี่คนขับแทกซี่

“นั้นไงโกหกแล้ว น้องนั่งรถแทกซี่พี่ วันนั้น น่ะ วันที่ เออ น้อง โดนอะไรน่ะ วางยาน่ะ” พี่เขาพูดผมก็ขมวดคิ้วเป็นปมอีกครั้ง

“จำได้แล้ว วันนั้นไง วันที่อีเจ้ปริมมันวางยามึงอ่ะ” ไอ้อาร์มมันชี้มาที่ผม มันหลายอาทิตย์แล้วน่ะ

“วันที่มึงโดนยาโด่ไม่รู้ล้มอ่ะ” ไอ้ทีนอีกคน

“ไม่ใช่ไอ้เชี้ย มันไม่ใช่ยาโด่ไม่รู้ล้ม อันนั้นกูลองแล้วมันคนละเรื่องกันกับที่เจ้ปริมให้กูกิน” ผมหันไปพูดไอ้โด่ไม่รู้ล้มของพวกมันก็คือไวอาก้า ผมลองใช้แล้ว พวกมันหันมามองผมกันหมด และผมเองก็ไม่เคยบอกพวกมันด้วย ฉิบหายแล้วผม ไอ้โด่ไม่รู้ล้มน่ะมันแค่แข็งอย่างเดียวแต่วันนั้นน่ะ มันเออ มันเหมือนยาเสียสาวที่ใครพูดกัน

“มึงลองมาด้วยเหรอว่ะ ตอนไหนและกับใครวะ” ไอ้เปรมดิ์ถามผม ถ้าบอกไปนี้ความลับถึงหูเมียผมอีก ไม่เอาว่ะ

“สาวกอีเจ้เลยดิมึง สั่งเว๊ปเดียวกันเปล่ามึงน่ะ” ไอ้ทีน ผมหันไปหยิบปากกาและพุ้งไปหามันทันที ดีที่มันรับทัน

“กูเคยแล้วกัน และอย่าถามเลยว่ากับใคร แค่นี้น่ะ “ผมพูดและรีบหันออก

“แค่นี้น่ะ! พูดยังกับจะวางสายโทรศัพท์น่ะไอ้เชี้ย” ไอ้เปรมดิ์ ผมหันมามองพี่แท็กซี่ว่ายังไงมาทำไม

“ตกลงพี่มาทำไมครับ”

“วันนั้นน่ะ น้องให้พี่มาสองพันห้า ค่ารถครับ” ตาโตเลยซิครับผม ให้ไปได้ยังไงวะสองพันห้าร้อยบาท

“มึงจ่ายค่าแทกซี่สองพันห้าร้อยบาท นั่งจากไหนเนี๊ยะ พัทยาเหรอ” ไอ้กอล์ฟมันพูด

“ผมนี่น่ะ เออ แล้วผมไปนั่งรถพี่ที่ไหน จากไหนอ่ะพี่”

“ก็จากโรงแรมที่น้องโดนสาววางยามาน่ะ และมาที่นี้แหละ”

“สองพันห้าร้อยบาทจากอโศกมาที่นี้ อิมพอสซิเบิ้ล!” ไอ้ธีมถาม

“น้องเขาเป็นคนให้นะครับ และพี่ว่าจะมา”

“ปกติพวกมึงนั่งกันคนล่ะเท่าไหร่ว่ะ จากอโศก ใกล้กับบ้านเมียมึงอ่ะ ไอ้ทีน” ผมหันไปถามไอ้ทีน มันเคยนั่งมาเพราะว่ารถมันเสีย

“ร้อยห้าสิบก็หรูแล้ว อันนี้ช้าระดับนับยอดหญ้าได้ เพราะรถติดมาก และถ้าขึ้นทางด่วนอีกก็ห้าสิบห้าเอา” ไอ้ทีนพูดผมก็จดหยิกๆ บวกลบคูณหารและเขียนใส่กระดาษ ก่อนจะส่งให้พี่เขาไปดู

“อะไรเหรอครับน้อง” พี่เขาถามผมกลับทันที

“ถอนผมมาไงพี่ ที่ผมให้พี่ไปสองพันห้าร้อยบาท หักค่ามิเตอร์ ผมให้พี่สองร้อยเลยใจปั้มมาก และค่าทางด่วนอีกหกสิบบาท บาทห้าบาทผมให้ติปพี่เพราะว่าท่างด่วนมันห้าสิบห้า พี่ก็ถอนผมมา สองพันสองร้อยสี่สิบบาทถ้วนพี่ เอาอย่างนี้ผมเอาแค่สองพันสองร้อยบาทพอเห็นไหมพี่ผมใจดี” ผมพูด พี่เขามองหน้าผมเหมือนจะร้องไห้

“แล้วกูมาทำไมว่ะเนี๊ยะ! มาให้มันทวงตังคืนซะงั้นน่ะ ” และพี่แกก็แอบหันไปบ่นด้านหลังคนเดียว พวกผมก็แอบมองว่าไงครับ พี่แกหันมาเห็นก็สะดุ้งเฮือก

“ทอนเขาไปซิพี่ไหนๆ พี่ก็มาแล้ว ค่าเหล้าพวกผมพอดีเลยคืนนี้” ไอ้เปรมดิ์พูด

“พี่แค่มาขอบคุณครับ ไม่ได้มาเอาเงินคืนอ่ะน้อง เงินก็ใช้หมดแล้วด้วย “พี่เขายืนเกาหัวแกรกๆ เลยที่นี้

“พี่ผมล้อเล่นน่ะ เมียผมบอกหมดแล้วว่าพี่เอาเงินไปรักษาลูกหมดแล้ว ว่าแต่พี่มาทำไมอ่ะ” ผมถามพี่เขากลับ แกล้งพี่เขาอยู่ตั้งนาน

“มาขอบคุณ อยากจะมาขอบคุณหลายครั้งแล้ว แต่ดักรอไม่ค่อยเจอและนี่เจอน้องเขาข้างล่าง น้องเขาเลยบอกให้ขึ้นมาหาที่นี้ “พี่คนขับแทกซี่พูด

“แล้วนี่พี่พักแถวไหนครับ” ผมถามพี่เขา

“ก็เลยอยากตรงนี้ไปหน่อย พี่พักอพาร์ทเม้นกับแฟนและลูกน่ะ”

“เอาอย่างนี้พี่ มีเบอร์ไหม ให้ผมมาเพื่อว่าผมต้องวางบิล บางทีงานยุ่งผมก็ไม่อยากขับรถไปเพื่อแค่เอาบิลไปส่ง ไอ้จะให้พวกผมจ้างเมสเซนเจอร์เพิ่ม ก็ไม่คุ้มกันอ่ะเพราะว่าไม่ได้มีส่งเอกสารทุกวัน ผมจะได้โทรตามพี่มาแทน ให้ค่ารถกันไป ว่าไงพี่” ผมถามพี่เขา

“ได้ๆ นี่เลยนามบัตร” พี่เขารีบควักนามบัตรส่งมาให้ผมทันที

“เจ๋งน่ะพี่น่ะ แท็กซี่มีนามบัตร”

“และเพื่อพวกนี้มันเมาจะได้ฝากไปรับมันกลับด้วย” ผมพูด พี่เขาพยักน่าดีใจจะได้งานเพิ่มว่างั้น ผมเหลือบมองเวลาที่นาฬิกาแอปเปิลรุ่นใหม่ล่าสุด

“พวกผมเป็นประเภทเมาไม่ขับแต่มึงต้องกลับถึงบ้าน เพราะว่าเมียพวกผมสายโหดครับพี่” ไอ้อาร์มพูด

“พี่พวกผมต้องไปแล้วมีงานกัน ขอบคุณนะพี่วันนั้นน่ะที่ช่วยผม ขอบคุณจริงๆ พี่ “ผมพูดและพากันลุกขึ้นจะได้ไปทำงานกัน พวกผมหันไปหยิบอุปกรณ์ที่ต้องพกพาไปด้วย ก่อนจะหันมาตบไหล่พี่เขา เป็นการขอบคุณที่ช่วยผมวันนั้นและวันนั้นก็สำคัญกับผมจริงๆ ถ้าผมพลาดไปผมคงไม่ได้เมย์มาเป็นคนรักของผมในวันนี้
************
ขอโทษทีน่ะ ช่วงนี้ตนแต่งวุ่นวายกับคริสมาส แต่หลังจากคริสมาสจะมาลงให้รัวๆนะคะ แต่จะพยายามมาลงเอาไว้สักตอนสองตอนก่อนปีใหม่   Merry Christmas กันทุกคนนะคะ มีความสุขมากนะคะ ขอบคุณยอดวิว และคอมเม้นค่ะ เป็นกำลังใจให้คนแต่งมากจริงๆค่ะ 

หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.26 (เฮียตั้นXเมย์) ได้เจออีกครั้งคนที่เคยช่วยผม
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 23-12-2020 21:43:06
ได้งานไปอีกเลยแท๊กซี่ ป๋าตั้นสายเปย์ 55555
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.26 (เฮียตั้นXเมย์) ได้เจออีกครั้งคนที่เคยช่วยผม
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 24-12-2020 07:09:58
 o13 o13
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.27 (เฮียตั้นXเมย์) เฟย์โดนทำร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 29-12-2020 19:46:33
       เมธานินท์ วันนี้ผมมากับเฟย์มาที่มหาวิทยาลัยตัวเอง ผมเดินตรงเข้าไปเพื่อติดต่อทำเรื่องขอเข้ารับปริญญาบัตร ผมถ่ายรูปใส่ชุดครุยเรียบร้อยแล้ว ผมยืนมองแอบเสียดายสี่ปีที่ผมทุ่มเทเพื่อให้ได้เกรดเฉลี่ยดีดีและผมก็กำลังจะได้เข้ารับเกียรตินิยมอันดับสองแต่ต้องมาจบลงเพราะว่าคืนนั้น แต่ถ้าผมไม่ทำ น้องผมก็คงยิ่งกว่าผมอีก

“เมย์” มีคนเรียกผมและวิ่งเข้ามาผม “หมับ” เขาสวมกอดผมโดยที่ผมยังไม่ทันได้ตั้งตัว แรงกอดทำให้ผมรู้ว่าเขาคิดถึงผมมากแค่ไหน ผมก้มลงมองคนที่เข้ามากอดผม คนนั้นก็คือ บรีส เพื่อนที่เข้ามาทักทายและพูดคุยกับผมคนแรกวันที่มารายงานตัวตอนเรียนปีหนึ่งและเป็นเพื่อนที่คอยปกป้องผม ตั้งแต่เกิดเรื่อง เพราะว่ามีคนเอาเรื่องผมไปคุยกันสนุกปากจนผมเองแทบจะไม่กล้าเข้าไปในนั่งในห้องเรียนเลยก็ว่าได้ และหลังจากจบผมก็ไม่ได้เจอบรีสอีกเลย

“บรีส มึงมาตั้งแต่เมื่อไหร่” ผมถามบรีส

“กูกลับมาได้สักพักแล้วว่ะ ไปอยู่ที่โน่นคิดถึงพวกมึงว่ะ “ไอ้บรีสพูด

“กูนึกว่ามึงจะย้ายไปอยู่ที่ออสเตรเลียถาวรกับแม่มึงซะแล้ว”

“กูอยากกลับไทยแล้วว่ะ แต่ถ้ากลับมาต้องหางานทำด้วย กูอยู่โน่น กูทำงานอะไรรู้ป่ะมึง” บรีสพูดด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยดี

“ทำอะไรล่ะ” ผมถามบรีส

“ทำความสะอาดไง แบกเครื่องดูดฝุ่นหลังจะหักเอา งานอื่นอยากจะทำต้องไปเรียนเอาใบประกอบมาก่อน แค่เรียนสีปีจบจากนี้หัวก็จะผุอยู่แล้ว แต่ว่าพอไปถึงที่โน่นน่ะ ใบปริญญากูเหมือนกระดาษเปล่าเลยว่ะ” ไอ้บรีสบ่นผมยาวเลย ไอ้บรีสมันน่ารัก ตัวขาวๆ แม่เป็นคนเหนือแต่ว่ามันเลือกที่จะอยู่กรุงเทพกับพี่สาวมัน สวนแม่ของบรีส หลังจากที่พ่อเสียไปได้หลายปีก็พบรักกับชาวต่างชาติและแต่งงานกันก่อนจะย้ายไปอยู่ไปตั้งแต่ก่อนที่บรีสจะเรียนจบ

“ไงว่ะ แม้คิดถึงกันน่าดูนะมึงน่ะ” ไอ้มีนอีกคน ผมสามคนสนิทกันมาก ผมสามคนกอดกันเพลินจนลืมไปเลยว่าเฟย์ยืนอยู่

“มีน บรีส นี้น้องเฟย์ “ผมหันไปแนะนำเฟย์ให้เพื่อนๆ ผมรู้จัก

“น้องเขามาเป็นเพื่อนอ่ะ พี่ตั้นเขาไม่อยากให้กูไปไหนมาไหนคนเดียวช่วงนี้”

“มึงอย่าบอกน่ะว่าชะนีรังควานมึงอีกน่ะ “ไอ้มีนถามผมทันที ผมพยักหน้าเบาๆ

“มึงนี่แม่ง ดวงมึงมีแต่ชะนีรังควานว่ะ” ไอ้มีนมันพูด

“เขาไปกรอกเอกสารกันว่ะ “ไอ้บรีสหันมาอบกผม ผมพยักหน้า

“พี่เมย์ผมนั่งตรงโต๊ะนั้นก็ได้ครับ ผมจะได้หาที่คุยกับพี่กอล์ฟไปด้วยนะครับ” เฟย์บอกผม ผมพยักหน้าก่อนจะเดินไปกับบรีสและมีน ระหว่างที่กำลังยืนรอขอรับเอกสาร วันนี้มีคนมายื่นเรื่องเยอะเหมือนกันคงจะอยากจะลงรอบเดียวกัน

“เมย์” มีเสียงเล็กเรียกชื่อผม และผมก็หันไปมองตามเสียงนั้น คนที่เรียกผมเคยเป็นเพื่อนในกลุ่มผมเหมือนกันแต่หลังจากที่เกิดเรื่องก็แทบจะไม่ค่อยทักทายผมเลย จนกระทั่งตอนนี้

“สวัสดีนุช” ผมทักทายเธอกลับทันที

“ดีว่ะนุช “บรีสมันก็ทักทายแบบขอไปที ส่วนมีนมันก็แค่ยิ้มให้นุช เธอแต่งตัวดีสงสัยจะทำงานแล้วแน่ๆ

“มาได้ไงอ่ะ เมย์ นายยังเข้ารับปริญญาไอ้อีกเหรอ” นุชถามผมทันที

“ทำไมว่ะ ทำไมเมย์มันจะรับไม่ได้ว่ะนุช” บรีสถามนุชกลับทันที

“ก็เรื่องคลิปนั้นน่ะ “นุชพูด

“มันก็แค่คลิปป่ะวะ กูเชื่อว่าเมย์มันไม่ได้ทำและอาจารย์เขาก็บอกว่ามันรับได้แต่แค่ไม่ได้เกียรตินิยมอันดับสองแค่นั้นเอง “ไอ้มีนพูด

“เหรออืมม แต่ก็ดีใจด้วยน่ะที่เราจะได้รับพร้อมกัน” นุชหันมาพูดกับผมพร้อมกับส่งยิ้มมาให้ แต่ทำไมเพื่อนผมสองคนมันถึงได้เบ้ปากออกมาพร้อมกันเลยก็ไม่รู้ นุชยังเข้ามากอดผมเหมือนเดิม

“แล้วตอนนี้ทำงานที่ไหนเหรอเมย์”

“เราทำงานอยู่กับแฟนเราน่ะ “ผมพูด นุชชักสีหน้าทันทีแต่ก็กลับมาเป็นปกติ

“คุณปฐวีย์นะเหรอ”

“ไม่ใช่นุช” ผมพูดเท่านั้นแหละเธอยิ้มออกมาทันที

“ดีใจเหรอเก็บอาการนิดนึงน่ะ” บรีสพูด ผมหันมามองเพื่อนรัก

“แม้ใครก็รู้ว่าเมย์กับอาจารย์ปฐวีย์น่ะ ไปทำอะไรกัน เอ๊ย มีอะไรที่พิเศษกันน่ะ เราขอโทษน่ะ ก็ตอนนั้นคนพูดกันหนาหูมากอ่ะ มันเลยทำให้นุชคิดว่าเมย์ทำแบบนั้นจริง” “นุชพูด

“เมย์ไปหาที่นั้งกันเถอะว่ะกรอกเอกสารและจะได้มายื่น กูอยากกลับแล้วว่ะ กลิ่นไม่ค่อยจะดี ไปเถอะ” บรีสพูด และดึงลากผมออกไปจากนุชทันที รวมทั้งมีนอีกคน ผมก็ไม่เข้าใจเลย ทั้งที่เมื่อก่อนนุชก็คือเพื่อนพวกผมเช่นกัน นุชได้แต่ยืนมองผมม จนกระทั่งผมพ้นออกมา

“มึงไม่รู้อะไร อีนุชนี่แหละที่เอาเรื่องมึงไปพูดประจานไปทั่วเมย์ ” บรีสมันพูดและมองหน้าผม

“เออ กูลืมไปว่ะ มึงไม่ได้มาเรียนอยู่พักหนึ่งแต่ดีน่ะที่เป็นช่วงสอบเสร็จแล้ว มึงเลยไม่รู้เรื่องและมึงก็เข้าไปทำงานกับพี่ปฐวีย์แล้วด้วย” ไอ้บรีสมันพูด

“แล้วเขาทำทำไมว่ะ ทั้งที่เราเป็นเพื่อนกันน่ะบรีส “ผมพูดก่อนจะหันมามองหน้าไอ้มีน

“อีนุชมันชอบคุณปฐวีย์ ตอนเรียนมันก็แข่งจะทำคะแนนวิชาที่คุณปฐวีย์สอน แต่มึงน่ะเก่งกว่ามัน และมันก็เข้าใจว่าคุณปฐวีย์หนุนมึงอีก พวกกูดูมันออก “มีนพูด ผมก็มองหาเฟย์ แต่ไม่เห็นแล้วไม่รู้ไปอยู่ที่ไหนสงสัยจะไปหาซื้ออะไรมาทานแน่ๆ ผมก็พากันนั่งลง

ตื้ด //เฮียตั้น//
เฮียตั้น// ตัวเล็กเป็นไงบ้าง //
ตัวเล็ก (ของเฮีย) // ผมกำลังรอยื่นเอกสารครับเฮีย//
เฮียตั้น// จะเสร็จกี่โมงเมียจ๋า แต่เฮียคงอีกยาวเลย ปัญหาเยอะ คงแก้กันอีกยาวเลย//
ตัวเล็ก (ของเฮีย) // แน่น่ะเฮีย ไม่ใช่ เจอคู่ขาเก่าแล้ว// ผมจำได้ว่าที่เฮียไปทำวันนี้เป็นโรงพยาบาลและพี่ธีมพูดอีกว่าเฮียแกไปซั้มพยาบาลที่นั่นเอาไว้หนึ่งคน
เฮียตั้น// เมียจ๋า ไม่มีแล้วและพี่เขาไม่ได้ทำงานที่นี้แล้วสบายใจได้เลย
ตัวเล็ก (ของเฮีย) // ถ้าอย่างนั้นก็แล้วไปครับ
ตัวเล็ก (ของเฮีย) // ผมว่าจะไปหาซื้อของมาแต่งต้นคริสต์มาสอ่ะเฮีย ก่อนที่เราจะไปเที่ยวกัน
เฮียตั้น// ให้เฟย์ไปเป็นเพื่อนน่ะเมย์ อย่าไปคนเดียวน่ะ เฮียเป็นห่วง
เฮียตั้น // เมย์แค่นี้ก่อนน่ะ เฮียรักเมย์น่ะ รักมากด้วย
ตัวเล็ก (ของเฮีย) // ผมก็รักเฮียมากด้วยครับ เฮียทำงานเถอะครับ เจอกันที่บ้านน่ะครับ
ตัวเล็ก (ของเฮีย) // เฮียรีบกลับน่ะ ผมอยากแช่น้ำในอ่างกับเฮียอีกอ่ะ (ผมพิมพ์ไปก็เขินไปด้วย เฮียไปสั่งอ่างอาบน้ำมาลงเพิ่มเอาไว้แช่กันสองคน
เฮียตั้น// เล่นแบบนี้เฮียอยากกลับไปเปิดน้ำรอเลยตัวเล็ก
ตัวเล็ก// เฮียจอมหื่น ทำงานต่อได้แล้ว แค่นี้นะครับ บายครับ


       ผมก็คุยกับพี่ตั้น ผมแอบเห็นสายตาไอ้เพื่อนซี้สองคนผมมันมองผมแอบมุบมิบกันใหญ่เลย และผมก็นั่งกรอกเอกสารคำขอ ผมกรอกข้อความแต่ทำไมในหัวผมกับคิดไปถึงเรื่องที่พี่ธีมพูด และที่ผมกังวลใจผมกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบที่พี่ปริมพยายามทำกับพี่ตั้นอีกยังไงก็ไม่รู้

“พี่เมย์” เฟย์เดินกลับมาพอดีพร้อมขนมเล็กๆ น้อยๆ ก่อนจะนั่งลง ผมก็รีบกรอกและจะได้รีบกลับ

“พี่เมย์ ผมว่าจะชวนพี่เมย์ไปหาพี่ตั้นที่ทำงานไหมครับ” เฟย์ถามผม ผมหันไปมองเฟย์

“และผมจะขับรถพี่กอล์ฟกลับครับพี่เมย์ “เฟย์บอกผม

“ไปกับน้องมันเถอะว่ะ และว่างๆ ออกมาหาอะไรทานกันพวกกูบ้างนะเมย์ “บรีสพูด ผมหันไปพยักหน้ากับมีนและบรีส ผมก็พากันเอาเอกสารไปยื่นและรอฟังข่าวว่าจะนัดเข้ามาซ้อมใหญ่วันไหนและวันนั้นก็จะเข้ามาถ่ายรูปกัน แค่คิดผมก็รู้สึกตื่นเต้นซะแล้ว เพราะว่าที่คนที่จะมาถ่ายรูปกับผมอีกคนก็คือพี่ตั้น ผมต้องขอบคุณโชคชะตาที่ทำให้ผมได้เจอพี่เขา ถึงแม้ว่าจะเริ่มไม่สวยเอาซะเลยแต่ว่าตอนนี้ เขาคือผู้ชายคนเดียวที่ผมอยากจะใช้ชีวิตทั้งชีวิตของผมกับเขา ถ้าให้ผมเลือกใหม่กี่ครั้งผมก็ยังเลือกเฮียตั้น

“เมย์ไปก่อนน่ะ” มีนพูดและบรีสอีกคน พวกผมก็แยกกัน ก่อนจะเดินออกมาผมก็เดินมาเจอนุช เพื่อนผมอีกคน เธอหันมามองผมก่อนจะเดินเข้ามาแต่ว่า เฟย์กลับออกมายืนขวางเอาไว้ ทำท่าที่แมนมาก

“เฟย์เพื่อนพี่ครับ”

“นี้ใครเหรอ แฟนหรือว่ากิ๊กล่ะเมย์”

“เป็นอะไรก็ได้ที่จะคอยกันพี่เมย์จากชะนีที่มีหมาเน่าตายในปาก ให้อยู่ห่างๆ จากพี่เมย์” เฟย์พูดก่อนจะหันไปมองนุช ส่วนผมก็มองเมย์และนุชที่ประสานสายตากัน เพื่อนของนุชที่เพิ่งจะมาก็เข้ามาดึงแขนนุชออกไป ผมก็เลยต้องดึงเฟย์ออกมาและพากันเดินออกซะก่อน

“มีอะไรเฟย์ ทำไมไปพูดแบบนั้นล่ะ “ผมถามเฟย์

“ก็พอดีผมน่ะกำลังจะเดินไปเข้าห้องน้ำ แต่ผมเจอพี่คนนี้ยืนคุยกับเพื่อนๆ เขา ตอนแรกผมก็ไม่สนใจหรอกน่ะพี่เมย์ เพราะว่าผมไม่รู้จักนาง แต่ว่า ผมได้ยินนางเอ่ยชื่อพี่เมย์ เท่านั้นแหละ ผมก็หยุดฟังและทำทีว่าผมโทรศัพท์คุยกับพี่กอล์ฟ” เฟย์พูดผมหันมามองหน้าเฟย์

“นางพูดว่า อุตส่าห์ไปหาภาพเด็ดมาได้เพื่อจะเอามาทำให้พี่เมย์ไม่สามารถเข้ารับปริญญาได้และทำให้พี่อับอายคนในมหา’ลัย ผมได้ยินเรื่องพี่เมย์มาจากพี่กอล์ฟอ่ะ ผมได้ยินแบบนี้แล้วอยากจะ”

“ตบแม่งเลยอ่ะ” อันนี้แต๋วแตกไปน่ะเฟย์ ผมรีบจับแขนเฟย์ก่อนจะหันไปมองรอบๆ ด้าน

“อุ้ยย ขอโทษครับพี่เมย์ แบบว่าผมอินน่ะ” เฟย์พูด

“ตกลงทุกอย่างเป็นเพราะเพื่อนพี่เองเหรอ พี่เสียใจว่ะเฟย์ นุชเคยเป็นเพื่อนในกลุ่มของพี่แต่มาช่วงหลังๆ ตั้งแต่พี่ปฐวีย์เข้ามาเป็นอาจารย์พี่ก็เริ่มสนิทกับพี่ปฐวีย์และจริงๆ ที่พี่สนิมกับพี่ปฐวีย์ก็เพราะว่า... “ผมพูดขณะที่ผมกับเฟย์กำลังยืนรอรถแทกซื่เพื่อจะไปหาพี่ตั้นที่โรงพยาบาลที่พี่ตั้นทำงานอยู่ แอบไปจะได้รู้ว่าไปกุกกิ้กกับใครหรือเปล่า แต่ระหว่างที่ผมคิดและทำท่าจะพูดกับเฟย์ ก็หันไปเจอกลุ่มนักเรียนนักศึกษาที่ยืนเล็งพวกผมจากอีกฝั่ง

“เฮ้ย! ไอ้นี้มันเพื่อนไอ้ปอม ไอ้เด็กที่เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยที่มีเรื่องกับพวกเราวันก่อนนี้หว่า” ผมหันไปมองกลุ่มเด็กที่สวมเสื้อไหนวะป เกือบสิบคน เขาพูดคุยกันก่อนจะหันมามองเฟย์และผม ผมสวมเสื้อเชิ้ตนักศึกษาแต่ว่าเฟย์น่ะสวมเสื้อช็อปของสถาบันที่พวกนั้นพูดถึง พวกนั้นเริ่มหันมามองผมสองคน เฟย์รีบ “หมับ” จับข้อมือผมทันที

“พี่เมย์ สงสัยงานจะเข้า” เฟย์พูด ผมก็พยักหน้าเบาๆ เฟย์ค่อยๆ กระตุกมือผมและผมกับเมย์ก็เริ่มเปลี่ยนทิศทางคือหันหลังเดินออกทันที พวกนั้นก็เริ่มเดินเข้ามาหาผมสองคน

“พี่เมย์วิ่ง!” เฟย์บอกผมและกระตุกข้อมือผม ผมก็วิ่งตามเฟย์ทันที เฟย์พาผมวิ่งเข้าออกซอกซอยเพื่อหนีพวกที่วิ่งตาม ผมเองไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนเลย นี้ครั้งแรกของผมจริงๆ

“แม่งเอ๊ยไอ้ปอมคนเดียวเลยอ่ะพี่เมย์” เฟย์พูดและวิ่งลากแขนผมไป มือถือผมก็สั่น เฮียตั้นแน่ๆ เลย จะมัวมากดรับก็ไม่ได้พวกนั้นวิ่งตามพวกผมไม่ยอมหยุด ผมวิ่งไปจนเข้าไปในซอย เฟย์ก็พยายามถ่วงเวลาเพื่อผมจะได้วิ่งออกไปหารถแทกซี่ได้ โดยการพยายามผลักของที่มีให้ล้มและขวางพวกนั้น แต่ว่าตอนนี้ วิ่งมาถึงทางแยก พวกนั้นก็ตามมาติดๆ

“พี่เมย์ไปหลบตรงนั้นก่อนน่ะ ไม่ต้องออกมาน่ะ เชื่อผมน่ะพี่เมย์” เฟย์พูด และดันผมเข้าไปแอบตรงมุมที่เป็นรถเข็นขายของที่ที่ตอนนนี้มีผ้าคลุมไว้เพราะว่าไม่ได้เปิด

“เฮ้ย กูอยู่นี้” เฟย์เขาลงทุนเอาตัวเองเป็นเป้าล่อและวิ่งไปอีกที พวกนั้นก็วิ่งผ่านผมไป ตัวผมสั่นไปหมด

“เฮ้ย มึงหนีไม่พ้นแล้ว ไอ้สัส วันนั้นเพื่อนมึงปากดีกับพวกกู วันนี้วิ่งหางจุกตูดเลย แล้วอีกคนไปไหนวะ แม่งเอ๊ย เออ กระทืบไอ้นี่ก่อนเลยว่ะ”

“ผัว ผลัก ผั๊วะ “ผมก็หลับตาปรี่เลย น้ำตาผมไหล ผมไม่อยากคิดเลยว่าเฟย์จะโดนอะไรบ้าง และจู่ๆ มือถือผมก็ดังขึ้นอีกรอบ เฮียตั้น ผมรีบกดรับสายทันที

//ตัวเล็ก //

//เฮีย เฮีย ฮึก ฮึก //
//เมย์เป็นอะไรน่ะ เมย์// พี่ตั้นตกใจมากที่ได้ยินเสียงของผม

//เฟย์อ่ะเฮีย ใครก็ไม่รู้ มาทำร้ายอ่ะเฮีย ฮือ” ผมร้องไห้ ผมไม่ได้ยินเสียงคนทุบตีกันแล้ว

//ตอนนี้เมย์อยู่ไหน// เฮียถามผมเสียงดังและร้อนรน

//ผมอยู่” ผมกำลังจะบอกเฮีย แต่ว่า

“นี้ไงมันอยู่นี้ไงอีกคนน่ะ สงสัยแม่งโทรบอกเพื่อนมันแน่เลยว่ะ “พวกนั้นมันเดินมาที่ผม

“ผลั๊วะ” เสียงไม้ฟาดลงมาที่ผม มันลงมาที่ใบหน้าผม ผมรับรู้ได้ถึงกลิ่นสนิมในปาก ปากผมแตก ผมเงยหน้ามองพวกมัน โทรศัพท์ผมกระเด็นไป และเสียงของเฮียตั้นยังดังอยู่ พวกมันก็ก้มลงมองมือถือผมแน่นอนมันมีรูปเฮียตั้นอยู่ที่หน้าจอ

“ฉิบหายแล้วมึง!! “ผมได้พยายามถอยหลังออกแต่ดูแล้วพวกนั้นตกใจที่เห็นรูปเฮียตั้นที่มือถือผม พากันหันมามองหน้ากันเลิกลัก ก่อนจะหันมามองหน้าผมอีกที มันเหมือนจะเดินมาหาผมและผมก็ยกมือแขนขึ้นป้องกันตัวเอง

“เฮ้ย ทำอะไรกันน่ะ เดี๋ยวกูแจ้งตำรวจเลย มาพังรถกูอีกแล้วเหรอพวกมึง” ผมได้ยินเสียงผู้หญิงตะโกนโหวกเหวกโวยวาย และพวกนี้ก็พากันวิ่งหนีออกไป ผมรีบลุกขั้นและคว้ามือถือ ของผมที่ร่วงอยู่บนพื้นขึ้นมา ผมก็วิ่งตรงไปดูเฟย์ทันทีซึ่งไม่น่าจะไกลจากที่เขาให้ผมแอบอยู่ ผมเห็นเฟย์นอนหมอบอยู่กับพื้น

“เฟย์ เฟย์ เฟย์ “ผมพยายามเรียกเขาแต่ดูท่าเขาจะเจ็บหนักพอสมควร เห็นไม้ที่กองอยู่รอบๆ

“อ้าวมีคนโดนทำร้ายรึ” ป้าคนตะโกนโหวกเหวกโวยวายลงมาเห็นเข้าและคนที่อยู่รอบๆ ก็ลงมา

“เพื่อนน้องโดนทำร้ายเหรอ งั้นพี่โทรเรียกรถพยาบาลให้น่ะ” พี่เขาพูดและกดโทรศัพท์ให้ ผมรู้สึกว่าเฟย์พยายามจับมือผม

“พี่เมย์เป็นอะไรไหม” น้ำตาผมไหลอีกครั้ง เจ็บขนาดนี้ยังมาห่วงผมอีกน่ะ เฟย์

“ไม่เป็นเฟย์ เฟย์ เขากำลังเรียกรถพยาบาลมาน่ะ” ไม่นานก็มีรถตู้มาจอดและมีเจ้าหน้าที่ลงมาผมก็ต้องถอยหลังให้เขาเข้าไปปฐมพยาบาลเฟย์ก่อน

“สงสัยจะหัก พาส่งโรงพยาบาลใกล้ๆ นี้ก่อนเลย” ผมได้ยินเขาพูดกัน

“ขอโทษนะครับ ผมเป็นคนที่มากับน้องเขาครับ”

“อ้าวเหรอ! น้องน่าจะแขนหักครับ ถ้าอย่างนั้นนำส่งโรงพยาบาลเลยนะครับ คุณจะติดรถไปด้วยไหม” คนที่เป็นเจ้าหน้าที่หันมาถามผมทันที ผมพยักหน้าตอบรับและเขาก็พาร่างเฟย์ขึ้นไปบนรถผมก็ขึ้นไปนั่งเช่นกัน ระหว่างทางพี่ตั้นก็โทรมาหาผมอีก

//เมย์ เมย์อยู่ไหน พี่กำลังพากันออกมาแล้ว แล้วนื้เกิดอะไรขึ้นเมย์//
//ผมไม่รู้อ่ะเฮียผมได้ยินแค่ว่าพวกนั้นรู้จักปอมอ่ะเฮียและนั้นผมสองคนก็วิ่งหนีเลยแต่เฟย์ให้ผมหลบและเขาก็เจ็บอยู่คนเดียวเฮีย ฮือๆ” น้ำตาผมไหล

//โอเคเมย์ อย่าโทษตัวเองน่ะครับ ตอนนี้เมย์อยู่ไหนแล้วครับ

// ผมอยู่บนรถตู้ของกู้ภัย เขากำลังจะพาเฟย์ไปโรงพยาบาลนะพี่ตั้น//

//โรงพยาบาลอะไรบอกพี่ด้วยน่ะ พี่จะโทรบอกกอล์ฟมัน และนี่มันทำอะไรเฟย์หรือเปล่า

// เออ คือ เออ เปล่า ครับ” ผมเลือกที่จะโกหกเพราะว่าถ้าบอกไป พี่ตั้นต้องหัวร้อนแน่ๆ แค่เรื่องเฟย์ก็แย่แล้วนะผมว่า

//พี่ตั้นครับตอนนี้รถเลี้ยวเข้ามาที่โรงพยาบาลXXX แล้วครับ”

“โอเคงั้นพี่ไปหาที่นั้นน่ะ แค่นี้ก่อนน่ะเมย์พี่จะคุยกับกอล์ฟก่อนและรีบไปหาเราเลยตอนนี้” พี่ตั้นบอกผมก่อนจะกดวางสายไป ผมก็หันมามองเฟย์ที่นอนมองผม

“เฟย์ พี่ขอโทษน่ะ” ผมพูดแค่นั้นแหละจับมือเฟย์เอาไว้ เฟย์มองผมพร้อมกับฝืนยิ้มมาให้ผม

“ผม.... ต่าง.... หาก”

“ไม่ต้องพูดแล้ว ถึงโรงพยาบาลแล้วนะและพี่กอล์ฟกำลังมา” ผมพูดบอกเฟย์ แค่นี้เขาก็ยิ้มดีใจ ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ก็เข้ามาผมก็รีบก้าวเท้าวลงจากรถก่อนเพื่อเขาจะได้ให้เขาเข็นนำเฟย์ลงมาจากรถและถูกนำเข้าไปด้านในห้องฉุกเฉินทันที ผมได้แต่ยืนรออยู่หน้าห้องไม่สามารถเข้าไปด้านในได้ ผมภาวนาขออย่าให้เฟย์เป็นอะไรมากเลยน่ะ ผมยืนอยู่ไม่นาน ผมก็หันไปเห็นพี่ตั้นที่วิ่งมาพร้อมกับเพื่อน พี่ธีม และพี่ภาคิน ผมหันไปมองพี่ตั้น พี่เขาตรงเข้ามาถึงก็

“หมับ” กอดผมก่อนเลย กอดแบบแน่นมาก ผมก็กอดพี่ตั้นตอบ ผมรับรู้ได้ว่าตรงอกเสื้อพี่ตั้นเปียกชื้นไปด้วยน้ำตาของผม ฝ่ามือหนาๆ กำลังลูบเส้นผมของผมอยู่ เพื่อปลอบโยน

“เฟย์อยู่ไหน” พี่กอล์ฟที่ตามมาทีหลังพร้อมกับพี่เปรมดิ์ พี่ทีนและพี่อาร์มอีกคน เบนซ์ก็มาด้วย ก็เอ่ยถามถึงเฟย์ทันที ดูสีหน้าพี่กอล์ฟกังวลมาก ผมก็ดันดัวเองออกจากอกของพี่ตั้นก่อน

“เฟย์อยู่ในห้องฉุกเฉินครับพี่กอล์ฟ ผมไม่รู้ว่าเฟย์เป็นยังไงบ้าง แต่ที่เขาบอกก่อนจะนำส่งตัวมา เขาบอกว่าน่าจะหัก แต่ผมไม่รู้ว่าอะไรน่ะครับต้องรอให้เขาออกมาก่อน” ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เบนซ์เข้ามาแตะแขนผมและกอดผม

“โทรหาไอ้ปอมดิ ถามมันดิว่าใครที่มันไปมีเรื่องอ่ะ” พี่ตั้นพูดด้วยสีหน้าที่นิ่งมากจนผมรู้สึกกลัวว่าพี่ตั้นจะทำอะไร ผมสอดมือเข้าไปจับฝ่ามือหนาๆ นั้นและบีม ส่วนพี่กอล์ฟยืนกระวนกระวายอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน ดูแล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้นี้พี่กอล์ฟเขารักเฟย์มากเลยน่ะ พี่อาร์มกำลังโทรหาพวกปอม ก่อนจะหลบไปคุย พี่ตั้นหันมามองหน้าผม ผมก็ต้องรีบก้มหน้าลง

“ทำไมโกหกเฮียล่ะว่าไม่ได้โดนอะไร ดูซินี้ ปากแตกเลยเมย์” เฮียทำเสียงดุใส่ผมทันที ผมพยักหน้าว่าผมโกหกจริง ถ้าผมบอกไปเฮียคงได้รีบมาด่วนกว่านี้แน่ๆ เฮียใช้นิ้วมือแต่ที่มุมปากของผม

“โอ๊ย” ผมร้องออกมาเบาๆ

“ขอโทษนะคะใครเป็นญาติของนายพีรณัฐ  พิทักคุณากรกุล” พยาบาลคนหนึ่งออกมาถามหาญาติของเฟย์ พี่กอล์ฟยกมือก่อนคนแรก พี่เขาหันมามองและมาหยุดที่ผมกับพี่ตั้น

“ตั้น” เสียงที่เรียกพี่ตั้น พี่เขาก็ขมวดคิ้วพร้อมกับผม ผมก็เงยหน้าขึ้นมองพี่ตั้น อย่าบอกน่ะว่าพี่มีคู่นอนอีกแล้วน่ะ

“พี่แบม” พ่อพี่ตั้นเรียกชื่อพยาบาลผมก็พยักหน้าเบา ก่อนจะพยายามดันตัวเองออกจากอ้อมกอดแต่ว่าพี่ตั้นไม่ยอมปล่อย พี่แบมมองผมกับพี่ตั้น

“ผมเข้าไปดูแฟนผมได้หรือยังครับ” พี่กอล์ฟถามคุณพยาบาล

“เชิญค่ะ น้องอยู่เตียงด้านในสุดค่ะ” คุณพยาบาลพูดและทุกคนก็เดินเข้าไป พี่ภาคินหันมาทำนิ้วเฉือดคอใส่พี่ตั้นทันที แต่พี่ตั้นแอบส่งนิ้วกลางไปให้ พี่พยาบาลเดินมามองผมกับพี่ตั้น

“สบายดีไหมตั้น”

“สบาบดีครับ พี่แบม เออ พี่แบมนี้แฟนผมนะครับ ชื่อเมย์” พี่ตั้นแนะนำผมกับพี่แบม

“แม้กอดกันกลมขนาดนี้ พี่ดูไม่ออกมั้งตั้น”


“ผมไม่คิดว่าจะเจอพี่อีก”

“พี่ก็ไม่คิดเหมือนกันค่ะ ว่าแต่ ผู้หญิงที่ชื่อปริมล่ะ เลิกกันแล้วเหรอ”

“พี่รู้จักพี่ปริมได้ยังไงพี่แบม”

“ตอนแรกพี่ก็ว่าจะติดต่อเราน่ะ พี่คิดว่า ความสัมพันธ์ของเราน่าจะมากกว่าคืนนั้นแต่ว่าผู้หญิงคนนี้เขาไปอาละวาดพี่ที่โรงพยาบาล ไปด่าทอพี่ต่างๆนาๆ  จนพี่ทนไม่ไหว เลยย้ายมาทำที่นี้แทน” พี่แบมพูด

“ผมขอโทษนะครับพี่แบม”

“ไม่เป็นไรหรอก ว่าแต่คนนี้ล่ะ แฟนตัวจริงนะ”

“พี่แบมครับ ผมขอโทษน่ะครับ คือว่า ผมไม่ได้รู้สึกอะไรพิเศษกับพี่ตั้งแต่แรก และผมก็ทำเพราะสันดานผู้ชายอ่ะพี่พี่จะด่าผมก็ได้นะเรื่องคืนนั้นน่ะ  แต่ผมขอโทษจริงๆ ” พี่ตั้นรีบพูดเหมือนพี่เขารู้สึกผิดที่เผลอไปมีอะไรกับพี่เขาทั้งที่พี่เขาเพิ่งเลิกกับแฟน

“เอาเถอะเรื่องมันผ่านไปแล้ว”

“และพี่ปริมน่ะไม่ใช่แฟนผมน่ะพี่”

“เขาก็เหมือนพี่ใช่ไหมคือตั้นไม่ได้จริงๆจังแต่ปริมเขาอยากได้ตั้นและไม่ยอมหยุดซะด้วยใช่ไหมล่ะ”พี่แบมถามพี่ตั้น

“ผมยอมรับครับ” พี่ต้นพยักหน้าก่อนจะก้มมองผม

“แล้วเขาไม่อาละวาดกับน้องคนนี้เหรอ”

“ขนาดพี่เขายังทำเลยพี่แบม แล้วเมย์น่ะไม่รอดหรอกครับ นี้ผมก็ต้องคอยตามดูแล ผมก็ทำอะไรมากไม่ได้เพราะว่า พี่ปริมเขาเป็นผู้หญิงอ่ะพี่แบม”

“นางนี้สุดยอดจริงๆ น่ะ พี่ว่า “พี่แบมพูดผมก็หลุบตาลง

“ไม่ต้องคิดมากนะคะ พี่กับตั้นน่ะเราไม่ได้มีอะไรเกินเลยไปกว่าพี่น้องแล้ว และตอนนี้พี่แต่งงานแล้วค่ะ “พี่แบมพูดผมก็พยักหน้าเบาๆ

“แต่งงานแล้วเหรอพี่ ดีใจด้วยนะครับ” พี่ตั้นรีบพูด

“ทีอย่างนี้ดีใจเชียวน่ะ และใครจะไปรอพ่อคุณล่ะ หายหัวไปเลยขนาดนั้น” พี่แบมพูดปนหัวเราะ

“เรายังเป็นเพื่อนกันได้น่ะพี่แบม มีอะไรให้ผมช่วยก็บอกผมน่ะครับ “พี่ตั้นพูดก่อนจะส่งนามบัตรไปให้ ผมเพิ่งจะเห็นนามบัตรใหม่ของพี่ตั้น [ตั้นและเมย์] ผมก็อดอมยิ้มไม่ได้

“เข้าไปดูเพื่อนเถอะค่ะ พอดีพี่จะลงเวรแล้วด้วย รักกันนานๆ นะคะ ตั้น “พี่แบมพูดก่อนจะหันมาส่งยิ้มให้ผมและเขาก็เดินออกไป ผมเห็นมีผู้ชายแต่งตัวดีและดูท่าจะทำงานในโรงพยาบาลนี่เช่นกันดูตากเครื่องแบบ เขาเดินเคียงคู่ไปด้วยกัน พี่ตั้นหันมามองหน้าผม

“คราวนี้สบายใจแล้วซิ”

“พี่น่ะโชคดีน่ะที่พี่เขาไม่เหมือนพี่ปริม เพราะว่าถ้ามีอีกผมนี้สละเรือเลยน่ะ ปล่อยพี่ลอยไปคนเดียว” ผมพูดและดันเฮียแกออก เดินทำแก้มป่องเข้าไปด้านในทันที และเฮียก็วิ่งตามผมเข้าไปติดๆ
TBC.....
---------------------------------------------------------------------------------------
         คนแต่งต้องขอโทษจริงๆนะคะ ที่เข้ามาช้าไปหน่อย ยุ่งอยู่กับคริสต์มาสค่ะ และต่อไปก็ยุ่งกับปีใหม่อีก จะมาอีกทีหลังปีใหม่เลยนะคะ เก็บมาม่าชามโตโตไว้หลังปีใหม่่แล้วกันเนอะ

Happy New Year นะคะทุกคน ขออวยพรให้ทุกคนมีแต่ความสุข สมหวังในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ ..ทั้งบ้านที่อบอุ่น ครอบครัวที่น่ารัก และเพื่อนร่วมงานที่ดี สวัสดีปีใหม่ทุก ๆ ท่านค่ะ

เจอกันอีกทีหลังปีใหม่เลยนะคะ อย่าเพิ่งทิ้งคนแต่งไปไหนกันน่ะ
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.27 (เฮียตั้นXเมย์) เฟย์โดนทำร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 29-12-2020 22:22:45
 :เฮ้อ: :mew1:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.27 (เฮียตั้นXเมย์) เฟย์โดนทำร้าย
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 30-12-2020 23:59:11
 :z6: :z6:
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.27 (เฮียตั้นXเมย์) เอาคืนให้เฟย์ P1
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 07-01-2021 06:39:01
รชานนท์ ตอนนี้ผมเดินตามเมย์เข้าไปในห้องฉุกเฉิน เพื่อเข้าไปดูเฟย์ ดูท่าเมียจะงอนผมนิดๆ ก็ดันโลกกลมเจอพี่แบมเข้าจนได้ ผู้หญิงที่ผมคุยกันในผับและชวนไปมีอะไรกันเลย แต่ไม่ได้พาไปที่คอนโด ผมไปเปิดโรงแรมนอนกัน พี่แบมเป็นผู้หญิงที่สวย ตัวเล็กๆ ขาวๆ แถมยังเป็นพยาบาลวิชาชีพอีกต่างหาก ตอนแรกผมก็ว่าจะลองคบต่อแต่ว่าผมก็ติดต่อพี่เขาไม่ได้และช่วงนั้นงานผมก็เริ่มยุ่งอีก แต่ดีที่การมาเจอกันอีกครั้งพี่เขาไม่เหมือนพี่ปริม เพราะว่าผมมีเมย์แล้วและพี่แบมก็เข้าใจผม แต่ว่าพี่เขาก็บอกอยู่แล้วว่าเขาแต่งงานไปแล้ว ค่อยยังชั่วหน่อยหายใจหายคอไม่สะดวกเลย ผมเองก็ไม่อยากทำให้เมย์เสียใจเพราะว่าอดีตของผมที่ทำอะไรลงไปโดยไม่ได้คิดหน้าคิดหลัง

“ไงว่ะมึง งานเข้าไหม” ไอ้ภาคินหันมาถามผม

“เกือบครับพี่ภาคิน” เมย์ตอบไอ้ภาคิน

“เมย์อ่ะ พี่แบมเขาก็บอกอยู่ว่าพี่กับเขามันจบไปแล้ว “ผมพูดเมย์หันมาค้อนผม

“เหลืออีกที่น่ะ “ไอ้เปรมดิ์มันจู่ๆ ก็พูดขึ้นมา ผมหันไปมองพร้อมกับเมย์

“ที่ไหนอีกว่ะ” ไอ้อาร์มมันถามไอ้เปรมดิ์ให้ผม

“ครูอนุบาลอ่ะ จำได้ไหมว่ะ ที่ไปเที่ยวผับกับเพื่อนแล้วมึงเกิดไปชนเขาเข้าอ่ะ แม้ไม่รู้แกล้งชนหรือตั้งใจแต่สุดท้ายหายกันออกไปเลย ทิ้งเพื่อนทันที” ไอ้เปรมดิ์ ผมเองอยากจะ…..อื้มมมม เพื่อนกันมันควรช่วยกันปิดไม่ใช่ช่วยกันเปิดแบบนี้! ผมหันไปมองเมย์ ที่แค่ชำเลืองตามามองผมก่อนจะตวัดไปมองทางอื่น

“ยังไงก็ไม่มีทางไปเจอเพราะว่ากูไม่มีลูกและกูไม่เคยรับงานโรงเรียนมาก่อน และที่สำคัญ กูกับพี่เขาก็แค่คุยกันยามที่พี่เขาเหงาแค่นั้นเอง “ผมพูดก่อนจะหันมามองเมย์ ที่ยืนกอดอกอยู่ “มันก็จบไปแล้ว “ผมหันไปบอกไอ้เปรมดิ์ เมย์แค่หันมาชำเลืองตามองผมอีกที ก่อนจะหันกลับไปยืนกอดอก ดูท่าจะนำหนึ่งถึงสิบอยู่ รอเมียนับให้เสร็จก่อนแล้วค่อยงอแล้วกัน

“เออ ที่มึงบอกว่า โด่ไม่รู้ล้มหรือไวอากร้าน่ะ มึงสั่งกับพี่แบมเขาหรือเปล่าว่ะ มึงถึงได้เคยลอง” ไอ้ทีน ผมสะบัดหน้าไปมองมัน ไอ้เชี้ย พูดทำไม เมย์หันขวับมามองผมเต็มๆ เลยครับ ก่อนจะหันไปมองไอ้ทีนให้คนยิ่งคำถาม

“มึงไม่เคยเล่าให้เมย์ฟังเหรอว่ะ” ไอ้ธีมถามผม ผมแอบคิดในใจ ผมควรจะเลิกคบมันเลยดีไหม ผมหันไปยิ้มแหยๆ ให้เมย์ เมย์หันกลับไปอีกคราวนี้ผมว่าคงนับถึงร้อยแน่ๆ

“พลึบ” ผ้าม่านปิดรอบเตียงคนไข้ถูกเปิดออก ผมเห็นไอ้กอล์ฟมันกุมมือเฟย์เอาไว้ ผมเห็นสภาพเฟย์แล้ว ก็หันมามองหน้ากันนี่มันทำขนาดนี้เลยเหรอ ปากแตก คิ้วแตกจนต้องเย็บ แขนหักด้วย มีรอยเขียวช้ำตามใบหน้า ผมเดินไปอยู่รอบๆ เตียงคนไข้กันหมด เมย์จับมือเฟย์ ผมเห็นได้ว่าน้ำใสๆ มันเอ่อออกมาที่ขอบตา เมย์คงสงสารเฟย์ไม่แพ้กันกับพวกผม ไอ้กอล์ฟมันนิ่งจนผมนี้แอบกลัวมันจะทำอะไรขึ้นมา

“กอล์ฟ” ผมจับไหล่มัน

“ไอ้สัส! กูต้องรู้ให้ได้ว่าใคร แม่งทำเมียกูแบบนี้” ไอ้กอล์ฟ พวกผมถึงกับยืนกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอทันที

“เฮียสวัสดีครับ” ผมหันไปมองคนที่เข้ามาในห้องฉุกเฉิน คือพวกไอ้ปอม พวกมันยกมือไหว้ผมก่อนจะเดินมาดูเฟย์

“เฮ้ย มันทำมึงขนาดนี้เลยเหรอว่ะเฟย์” ไอ้ปอมถาม พวกผมมองหน้ากันก่อนจะหยักไหล่ให้ไอ้ปอมออกไปคุยด้านนอก ผมส่งสายตาว่าให้เมย์อยู่กับเฟย์ก่อน ผมเดินออกไปกันเงียบๆ ไอ้กอล์ฟ มันก้มลงหอมที่หน้าผากเฟย์ก่อนจะเดินตามพวกผมออกมาเช่นกัน เดินไปหามุมที่ไม่มีผู้คนพลุกพล่าน

“มึงไปมีเรื่องกับใครมาไอ้ปอม” ผมหันมาถามไอ้ปอม มันเป็นคนของพวกผมก็จริงแต่ถ้ามันผิด ผมก็จะไม่ช่วยแต่ถ้ามันไม่ใช่พวกผมถึงจะเข้าไปปกป้องพวกมันกัน

“เฮีย พวกผมมีเรื่องกับเด็กวิศวะมหาวิทยาลัยXXXX แต่ว่าตอนนั้นมันพูดจาลามปามที่น้องผู้ที่ไปกับพวกผม มันพูดทะลึ่งไม่ให้เกียรติน้องๆเขานะครับเฮีย ผมเลยต้องปกป้องน้องเขาครับเฮีย และ”

“พวกผมก็โดนทำทัณฑ์บนไปแล้วน่ะเฮีย พวกมันก็โดนเหมือนกันและเรื่องก็ควรจะจบแล้ว” ไอ้ปอมพูด ผมหันมามองหน้ากัน

“มันเป็นใคร “ไอ้ทีนถามพวกไอ้ปอม

“แหล่งกบดานมันอยู่ที่ท่าพระครับพี่ และพี่ที่หนุนมันอยู่ก็เคยเรียนที่มหาวิทยาลัยที่เดียวกับมันด้วยครับเฮีย” ไอ้เพื่อนไอ้ปอมมันบอกพวกผม

“เฮีย มันอยู่นี้กันเฮีย นี้เฟสบุ๊กเพื่อนมันเพิ่งจะโพสต์ “เพื่อนไอ้ปอมอีกคนยื่นโทรศัพท์มาให้พวกผมดู ผมรู้จักใกล้กับมหาวิทยาลัยที่พวกผมมีเรื่องกันประจำเหมือนกัน แต่พวกผมเคยช่วยคนหนึ่งที่โดนอีกสถาบันรุมทำร้ายและมันก็กะว่าจะเอาถึงตายเลย มันรุมกระทืบจนสลบและมัดมือมัดเท้าจะจับถ่วงน้ำโชคดีทีพวกผมผ่านไปเลยเข้าไปช่วยไว้และนั้นก็ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป เลิกตีกัน หันมาเป็นเพื่อนกัน แต่ว่าตอนนี้ผมคงต้องไปสั่งสอนมันสักหน่อย ผมหันมามองหน้ากันก่อนจะพยักว่าพร้อมไหม และพวกผมเข้าใจกันดีว่าจะทำอะไร ผมเดินกลับเข้าไปด้านใน พร้อมไอ้กอล์ฟ พวกนั้นก็ออกไปเตรียมอุปกรณ์ที่ผมต้องเอาไปด้วย

“เมย์” ผมเดินเข้ามากระซิบเรียกเมย์

“เมย์อยู่กับเฟย์ก่อนน่ะ พี่จะไป ทำธุระกัน ไม่นานครับ เดี๋ยวพี่มารับ พวกไอ้ปอมจะอยู่เป็นเพื่อนด้วยนะครับ” ผมบอกเมย์ส่วนไอ้กอล์ฟมันก็กระซิบอะไรกับเฟย์สักอย่าง พร้อมกับหอมแก้มเฟย์ ผมยักไหล่ว่าไปได้แล้วจะได้รีบกลับมาและเพื่อว่าพวกมันชิ้งหนีอีก ระหว่างที่ผมกำลังจะเดินหันหลังออก พยาบาลก็เดินเข้ามาพร้อมจะเคลื่อนย้ายเฟย์ไปห้องพักคนไข้ แต่จังหวะนั้น เฟย์ดึงแขนไอ้กอล์ฟเอาไว้และกระฉากเข้าไปพร้อมกับจูบแบบดูดดื่ม ผมก็ต้องถลึงตามอง เมย์อีกคนทำเป็นหันไปมองทางอื่น แต่สายตาที่จับจ้องพร้อมอ้าปากหวอ พี่พยาบาลและบุรุษพยาบาล เวรเปลอีกล่ะ

“ผัวข้ากลับมาเร็วๆ น่ะ” โอ้วมายก๊อซ!

“อุ้ย!!” เหล่าพยาบาลร้องออกมาพร้อมกัน เมย์หันมาชำเลืองตามองผม ผมก็สงสายตาเอาแบบนั้นบ้างไหม เมย์ส่ายหัวทันทีว่าไม่เอา ผมก็ต้องหันไปพยักหน้ากับไอ้กอล์ฟว่าไปได้แล้ว และผมสองคนก็เดินออกมาพร้อมกัน ผมหันไปมองมัน

“กูบอกเฟย์ว่าไปแก้งานด่วนและจะรีบกลับมา เพราะว่าทิ้งงานกันมาดูเฟย์กันหมด “ไอ้กอล์ฟมันพูดและพวกผมก็เดินออกมาพร้อมกัน มาที่ลานจอดรถ พวกผมรอกันอยู่แล้ว พร้อมไม้เบสบอลกันทุกคน ของผมอยู่ในรถแล้ว วันนี้ผมขับรถกระบะคู่ใจไปทำงาน

“ไม่ต้องเอาไปหลายคันว่ะ แค่สองคันก็พอ “บอกพวกมัน มันก็พยักหน้ากัน พากันถลกแขนเสื้อเชิ้ตรอเลย กะว่าไปถึงลุยเลยและกลับ ผมก็พากันขึ้นรถ

“กูขับเองว่ะกูรู้มันอยู่ที่ไหน” ไอ้กอล์ฟมันบอกผม ผมพยักหน้า ผมให้มันมาขับรถผม ส่วนไอ้เปรมดิ์ ไอ้ทีน ไอ้อาร์ม มันไปคันเดียวกัน ไอ้ธีมและไอ้ภาคินมาคันเดียวกับพวกผม ไอ้กอล์ฟมันก็ขับแบบแซงซ้ายแซงขวาจนพวกผมหันมามองหน้า ไอ้ธีมมันมองหน้าผมและขยิบตา ว่าถ้าปล่อยให้มันซิ้งแบบนี้ งานจะเข้าพวกผมเอาไม่ชนคันอื่นก็โดนตำรวจซิวไปซะก่อน ผมเลย

“กอล์ฟ เบาหน่อยมึง” ผมแตะแขนไอ้กอล์ฟ เท่านั้นแหละมันก็ผ่อนลงทันที

“ฟู่!” พวกผมก็พากันพ่นลมหายใจออกมาจากจมุกโด่งๆ กัน และไม่นานรถก็แล่นมาจนถึงจุดหมายที่พวกผมตั้งใจกันเอาไว้ เป็นตึกแถวสองชั้นครึ้ง และมีรถมอเตอร์ไซค์จอดอยู่หลายคันเลย

“สาวกเวสป้าเหรอว่ะ” ไอ้อาร์มมันพูดขึ้น ผมพวกหันมามองหน้ากันและถือเอาไม้เบสบอลมาด้วยกันคนละอัน ก่อนจะหันมายิ้มและตรงไปที่รถพวกมัน ไอ้ทีนไปชะเง้อคอมองก่อนว่าไม่ผิดหลังแน่ๆ

“มันนั่งก๊งเหล้ากันอยู่ว่ะ” ไอ้ทีนพูด ผมพยักหน้าพร้อมกันและ พากันเดินไปที่รถเวสป้าพวกมันและง้างไม้เบสบอส


“ผลั๊ว ๆ ๆๆ โคล้ม!” เสียงฟาดไม้เบสบอสลงที่รถพวกนั้นอย่างไม่ปรานี เสียงดังสนั่นหวั่นไหว จนพวกนั้นต้องวิ่งกรูกันออกมาดูและมองพวกผมกัน

“ไอ้เชี้ย!! มึงทำเชี้ยอะไรกับรถพวกกู ไอ้สัส!!” มีคนตะโกนด่าพวกผม ผมหันไปมองหน้าพวกมัน เท่านั้นแหละ พอมันเห็นหน้าตาพวกผมที่ชัดเจนถึงกับถอยหลังกรูกันเลยทีเดียว พวกผมหันไปมองหน้ามัน บ้างก็ยกไม้เบสบอลขึ้นพาดไว้ที่หัวไหล่ ผมเดินไปหยุดที่ตรงหน้า พร้อมไอ้กอล์ฟ

“พี่ มาตีรถพวกผมทำไมอ่ะครับ” สุภาพขึ้นมากะทันหัน

“มึงไปทำเชี้ยอะไรเอาไว้ล่ะ ห๊ะ!!! “ผมถามพวกมัน มันหันมามองหน้ากัน

“มึงรู้ไหมพวกกูใคร” ไอ้ธีมมันเดินเข้ามาถาม พวกมันหันไปมองกันและกัน

“รู้พี่ “พวกมันพูด ผมพยักหน้าพร้อมกัน

“แล้วมึงกระทืบคนของพวกกูทำไม!!” ไอ้กอล์ฟมันตะคอกถามพวกนั้น

“พี่ผมไม่รู้ว่าเป็นคนของพวกพี่ ผมรู้แค่ว่ามันเป็นเพื่อนของไอ้ปอมอ่ะพี่ มันมีเรื่องกับพวกผมก่อนนะพี่” หนึ่งในนั้นมันตอบผมเสียงสั่นๆ

“โคล้ม” ไอ้กอล์ฟมันฟาดไม้เบสบอลลงที่กระถางต้นไม้ใกล้ๆ อย่างแรง จนพวกมันกระโดดไปยืนรวมกันเป็นก้อน

“มึงรู้ไหมว่าคนที่มึงทำร้ายน่ะ แฟนกู!!”

“และที่สำคัญ มันเป็นรุ่นน้องไอ้ปอมไม่ใช่เพื่อนไอ้ปอม และที่สำคัญอีก แฟนกูไม่เคยมีเรื่องกับพวกมึง ไอ้สัส!!” ไอ้กอล์ฟมันชี้หน้าพวกนั้นด้วยไม้เบสบอล ผมเห็นว่าไอ้กอล์ฟของขึ้นเกินไปแล้ว ผมเลยเดินไปจับแขนมัน สั่นหัวว่าพวกผมแค่มาสั่งสอนไม่ได้มาเล่นมันตรงๆ

“พวกผมไม่รู้พี่ พี่พวกผมขอโทษ” พวกมันคุกเข่าลงยกมือไหว้พวกผมกัน

“อ้อ กูถามอีกอย่างใครเป็นคนตบหน้าเมียกู “ผมนึกขึ้นมาได้ ผมจะขอสัดสักทีพอ พวกมันหันมามองหน้ากัน

“เมียกูอ่ะ ที่สวมชุดนักศึกษาไม่ได้ใส่เสื้อช็อปอ่ะ ตอนกูโทรหาเมียกู กูได้ยินเสียงพวกมึงอยู่แต่กูไม่รู้ว่าใครทำ” ผมพูดพวกมันกับมองหน้ากันเลิกลักไม่ยอมตอบ

“กูถามว่าใคร!!!” ผมตะเบ็งเสียงถามอีกครั้งและมองหน้าพวกมันเรียงตัว พวกมันหันมากระซิบกระซาบกัน (กูบอกแล้วว่าอย่าทำไอ้นั่นมัน) ผมได้ยินพวกมันเถียงกัน

“ว่าไง!!!” ผมถาม

“ไอ้เจพี่ แต่ว่ามันกลับไปแล้วอ่ะ ตอนแรกพวกผมก็บอกว่าให้พอแล้ว พวกผมตั้งใจที่ไอ้คนที่มีเรื่องกับผมแค่นั้น แต่ไอ้เจมัน ดันไม่ฟังพวกผมอ่ะพี่ “หนึ่งในนั้นรีบพูดสารภาพ และจู่ๆ ก็มีรถกระบะขับมาจอดเปิดไฟสูงใส่พวกผม และสองสามคนเดินลงมาจากรถ

“เฮ้ย พวกมึงมามีเรื่องอะไรกับพวกมัน “ผมได้ยินน้ำเสียงที่คุ้นหูพวกผม พอผมหันไปมอง

“เฮ้ย พวกมึง เป็นไงมาไงว่ะนี้ และนี้มึงถือไม้เบสบอลกันทำไมว่ะ “ใช่พี่โก้จริงๆ ด้วยที่พวกผมเคยช่วยเอาไว้ ผมหันมายกมือไหว้กันทุกคน เพราะยังไงพี่เขาก็แก่กว่าพวกผมปีหรือสองปีนี้แหละ

“พี่โก้สวัสดีครับพี่” พวกผมยกมือไหว้พี่เขา ถึงคนละสถาบันแต่ก็เคารพอย่างรุ่นพี่พวกผมเช่นกัน

“มึงอย่าบอกน่ะว่ามามีเรื่องกับไอ้เด็กพวกนี้น่ะ เฮ้ย มันไม่มีอะไรหรอกมันแค่เด็ก” พี่โก้พูด

“พี่โก้ มันซ้อมแฟนผมอ่ะ แฟนผมแขนหัก ปากแตก คิ้วแตกและที่สำคัญ แฟนผมไม่เคยมีเรื่องกับพวกมัน มันแค่เห็นว่าเรียนสถาบันเดียวกับคนที่มันมีเรื่องมาก่อน” ไอ้กอล์ฟพูด พี่เขาหันไปมองหน้าพวกที่นั่งอยู่

“มึงทำจริงไหม!!” พี่โก้หันไปถามพวกมัน

“คือพวกผม เคยเห็นมันเดินอยู่ด้วยกันกับคนที่พวกผมมีเรื่องนะครับเฮียโก้” หนึ่งในนั้นบอกพี่โก้

“พวกนี้มันเป็นเด็กของพี่เหรอครับ” ผมหันไปถามพี่โก้

“ใช่ว่ะตั้น แต่ถ้าพวกมันผิด กูก็ไม่เข้าข้างว่ะ ตั้น “พี่โก้พูด

“เฮียโก้ พวกผมผิดไปแล้วพี่”

“พวกไอ้ปอมมันบอกว่ามันก็โดนทัณฑ์บนไปแล้ว พวกมึงก็โดนไม่ใช่เหรอว่ะ แล้วทำไมไม่จบว่ะ ห๊ะ! “ไอ้เปรมดิ์มันถาม

“เอาอย่างนี้แล้วกัน พวกกูดัดนิสัยมันเอง พวกกูขอโทษแทนพวกมันว่ะ มันคงเลือดร้อนไปหน่อย “พี่โก้พูด

“ส่วนแฟนมึงน่ะให้พวกกูรับผิดชอบค่ารักษาไหมว่ะ” พี่โก้ถามไอ้กอล์ฟ

“ไม่เป็นไรพี่ น้องเขาทำงานกับพวกผม ผมรับผิดชอบเองพี่” ผมหันไปบอกพี่โก้

“แล้วเรื่องรถไอ้พวกนี้ล่ะว่ะ” ไอ้ภาคินมันถามถึงรถที่พวกผมกระหน่ำตีจนพังยับเยินไปทุกคัน

“ไม่ต้องหรอกพวกมึง ถือว่าเป็นบทเรียนให้พวกมันแล้วกัน ไปซ่อมกันเอง” พี่โก้พูด

“เข้าใจไหมพวกมึง!!!” พี่โก้หันไปถามพวกเด็กนั้น พวกมันก็พยักหน้าก่อนจะหันมามองหน้ากันเอง

“ถ้าอย่างนั้นพวกผมลานะพี่ ขอบคุณพี่” ผมพูดและหันหลังจะเดินออกแต่ว่า

“พี่โก้ มีคนหนึ่งน่ะ ตบหน้าเมียผม เมียผมไม่ได้เรียนทีเดียวกับเด็กที่โดนทำร้าย แต่ก็ซวยไปด้วย โชคดีที่มีคนเห็นเหตุการณ์ร้องห้ามเอาไว้ก่อน ไม่อย่างนั้นแฟนผมเจ็บหนักและผมคงเอามันถึงตายแน่! “ผมพูดพี่เขาก็หันไปมองพวกที่นั่งอีกครั้ง

“ไอ้เจเป็นคนทำครับเฮียโก้ ผมห้ามมันแล้วว่าอย่าไปทำพี่เขาแต่ไอ้เจมันไม่ฟังอ่ะ มันคิดว่าเป็นแฟนไอ้คนที่พวกผมซ้อมเลยเล่นไปด้วยเลยอ่ะครับ” ผมสะบัดหน้าไปมองคนที่พูด พอมันเห็นหน้าผมเท่านั้นมันรีบหดหัวทันที

“กูรู้จักมันดีไอ้ตั้น กูเล่นมันเอง “พี่โก้พูด ผมยกมือไหว้ขอบคุณก่อนจะพากันขึ้นรถ ขากลับนี้ผมขับเอง พวกผมไม่ได้พูดอะไรกันมาจนถึงที่โรงพยาบาล ผมกดโทรออกหาเมย์ ทันที

TBC.....
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.27 (เฮียตั้นXเมย์) เอาคืนให้เฟย์ (NC18+) P2
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 07-01-2021 06:41:07
// ครับเฮีย// น้ำเสียงที่บ่งบอกว่าพล่อยหลับไปแล้วระหว่างที่รอผม

//ตัวเล็กเฮียมารับแล้วครับ เฟย์ล่ะ อยู่ห้องไหน//

// เฟย์อยู่ห้องพิเศษนะครับเฮีย ห้อง851 ครับพี่ตั้น แต่ตอนนี้เฟย์หลับแล้วครับ// เมย์บอกผม

// โอเคงั้นเฮียขึ้นไปรับเลยน่ะและไปส่งไอ้กอล์ฟมันด้วย มันจะอยู่เฝ้าเองน่ะเมย์//

// ได้ครับเฮีย// ผมกดวางสายก่อนจะหันมา

“มึงจะอยู่เฝ้าเมียมึงใช่ไหมว่ะ กอล์ฟ” ผมถามไอ้กอล์ฟ ไอ้กอล์ฟมันก็พยักหน้า

“แต่งานที่กูไปยังไม่เสร็จเลยว่ะ “ไอ้กอล์ฟบอกผม

“ไม่เป็นไรกูไปทำเองว่ะ พรุ่งนี้มึงอยู่เฝ้าเมียถึงแล้วกัน” ผมบอกมัน และหันมามองพวกเพื่อนๆ ผม

“แม้อนุมัติหยุดให้ทันทีเลยน่ะ “ไอ้เปรมดิ์มันแซว

“ก็เฟย์เขาปกป้องเมียกู ไอ้เชี้ย” ผมไม่วายต้องได้ด่ามันจนได้

“ถ้าอย่างนั้นพวกกูกลับกันเลยน่ะมึง และจะไปทำงานต่อให้เสร็จด้วย เสร็จแล้วจะชวนศรีภรรยามาเยี่ยมนะมึง “ไอ้ทีนมันหันมาบอกไอ้กอล์ฟ

“เออ กลับกันดีดีนะมึง ส่งข้อความบอกกูด้วย บอกในกลุ่มแชทน่ะมึง จะได้รู้ว่าพวกมึงถึงบ้านกันทุกคน “ผมบอกพวกมัน

“พวกกูนี้ควรจะดึงมึงเข้าไปอยู่ในกลุ่มสมาคมเมียรักพวกกูว่ะ ไอ้บอสครับ จะได้รายงานทีเดียวเลย พิมพ์หลายที่เมื่อยมือสัส” ผมหันชำเลืองตามอง

“แค่ตำแหน่งบอสที่กูเป็นแค่นี้กูก็อยากจะ อื้มมมม พวกมึงวันล่ะสามเวลา “ผมพูดและกำหมัดอยากจะตีเข่าพวกมันวันล่ะสามเวลา ไอ้ภาคินหันมาส่ายหัวมันคงคิดเหมือนผม แต่เอาเข้าจริงๆ ก็ทิ้งพวกมันไม่ลงจริงๆ ไอ้ภาคนมันตบไหล่ผมก่อนจะเดินออกไปพร้อมพวกไอ้เปรมดิ์ ไอ้ภาคิน ไอ้ธีมต้องไปเอารถที่จอดไว้ที่คอนโดผมก่อน ผมเดินกลับขึ้นไปชั้นที่เมย์ส่งข้อความบอกผม

“ขอบใจว่ะตั้น “กอล์ฟมันหันมาบอกผม

“แฟนเพื่อนก็เหมือนคนในครอบครัวเปล่าว่ะ เพราะว่าเราอยู่ด้วยกันแบบครอบครัวว่ะ ช่วยเหลือกัน และกูต้องขอบใจเฟย์ ไม่อย่างนั้นเมย์คงโดนหนักพอพอกับเฟย์ว่ะ “ผมพูดก่อนจะตบไหล่มันเบาๆ

“จะให้กูเอาอะไรมาให้บอกน่ะมึง กูจะได้เอามาให้มึงที่นี่ก่อน พรุ่งนี้กูจะเอาเมย์ไปเป็นเพื่อนกู ไปแก้งานต่อของมึงอ่ะ “ผมบอกไอ้กอล์ฟ กอล์ฟมันพยักหน้าก่อนจะค่อยๆ บิดลูกบิดเข้าไป ผมก็เรียกเมย์ออกมา เพราะว่าเฟย์หลับแล้ว เมย์เดินออกมาที่ตรงประตู

“พยาบาลเพิ่งจะให้เฟย์ทานยาแก้ปวดไปนะครับพี่กอล์ฟ คงหลับยาวถึงเช้าเลย “เมย์พูด

“ครับ ขอบคุณนะครับเมย์”

“ไม่เป็นไรครับ ผมรักเฟย์เหมือนน้องชายผมคนหนึ่งเหมือนกันครับ” เมย์บอกกอล์ฟ

“พี่กอล์ฟครับ เฟย์เขาให้ผมซื้อบะหมี่ซีพีที่เซเว่นมาให้น่ะครับ ห้องนี้มีไมโครเวฟด้วยพี่อุ่นเอาได้เลยนะครับ เฟย์บอกว่าพี่ชอบทาน” เมย์บอกกอล์ฟ กอล์ฟมันก็ยิ้มดีใจก่อนจะพยักหน้าและปิดประตูลงเบาๆ ผมหันมามองเมย์ เมย์กอดผมและผมสองคนก็เดินลงมาจากห้องพักคนไข้ จนมาถึงที่ผมจอดรถเอาไว้ ไฟสลัวๆ ผมหันมามองเมย์ที่ยืนอยู่ยังไม่ขึ้นรถ

“มีอะไรเหรอเมย์”

“หมับ” เมย์กอดผมแน่น

“พี่ไปทำอะไรพวกนั้นมา ผมเป็นห่วงพี่อ่ะ ฮือๆ อย่าทำแบบนี้อีกได้ไหม ผมกลัว ผมเห็นมันทำร้ายเฟย์แล้วผมกลัวอ่ะ ผมกลัวว่ามันจะไม่หยุด ผม…”

“เมย์ พี่แค่ไปสั่งสอนพวกมัน พวกพี่ไม่ได้ไปทำอะไรพวกมันมากหรอกน่ะ และโชคดีพี่ที่พวกมันไปอยู่กับเขาเหมือนกับเฮียที่ดูแลน้องน่ะ”

“เฮียรู้จักเขาเพราะว่าเฮียและเพื่อนๆ เคยช่วยเขามาก่อนแม้จะคนล่ะสถานบันก็ตาม “ผมจับใบหน้าของเมย์เอาไว้ น้ำตานั้นทำให้ผมยิ้มดีใจที่เขาเป็นห่วงผมเหลือเกิน

“น้องเขาก็ขอโทษพวกพี่แล้วและพี่คิดว่ามันก็จบแล้ว” ผมพูดกับเมย์พร้อมกับใช้นิ้วโป้งปาดน้ำตาของเมย์ จนแห้งเหือดไปหมด

“กลับบ้านเถอะครับที่รัก” ผมพูดก่อนจะเปิดประตูให้เมย์ ผมก็เข้าไปทำหน้าที่คนขับรถและพาเมย์กลับไปที่คอนโดของผม ผมกุมมือเมย์เอาไว้แน่น ผมหันมามองหน้าเมย์

“เมย์พี่ลืมบอกข่าวดี วีซ่าเมย์ผ่านแล้วน่ะ เราไปวันที่ยี่สิบสามเลยน่ะเมย์ เพราะว่าบินนานเลยเกือบสิบเก้าชั่วโมงมีพักที่ลอสเองเจลลิสก่อนสามชั่วโมงแล้วค่อยต่อเครื่องไปซานฟานซิสโก” ผมหันไปบอกเมย์ เมย์ยิ้มดีใจใหญ่เลย ก่อนจะหันมาพยักหน้ากับผม ผมก็บีบมือเมย์ไว้แน่น

“แม่พี่ต้องดีใจแน่ๆ เลยเมย์ ที่พี่ได้พาคนที่พี่อยากจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยไปจนแก่ ไปหาแม่พี่ “ผมพูดเมย์พยักหน้าและเอาหัวมาซบลงที่หัวไหล่ผมเบา ผมก็เอามือลูบหัวเมย์ไปด้วยจนผมขับมาถึงที่จอดรถและนำรถเข้าจอดตามเดิมพร้อมกับพาเมย์กลับขึ้นห้องระหว่างที่ผมกำลังเดิน ผมสังเกตเห็นเมย์หันไปมองที่ด้านนอกคอนโด

“มีอะไรเหรอเมย์”

“ผมเห็นเหมือนมีคนขับรถมอเตอร์ไซค์มาจอดดูนะครับพี่ตั้น”

“จริงดิ พรุ่งนี้พี่จะให้คนดูแลเขาเปิดกล้องวงจรปิดดูแล้วกัน เพราะว่าอาจจะเป็นพวกชอบมาฉกชิงวิ่งราวน่ะ “ผมหันไปบอกเมย์ และพากันเดินเข้าไปในลิฟต์ ผมก็กุมมือเมย์ไว้ตลอดจนถึงห้องพักผม เมย์หันมามองหน้าผม หลังจากที่ปิดประตูลง ผมก็รวบเอวเมย์มากอดและจูบอย่างดูดดื่ม เมย์ก็ตอบสนองผมอย่างดี ลิ่นหนาๆ นุ่มๆ สอดเข้าไปด้านในไปควานหาความหวาน แต่จู่ๆ เมย์ก็หยุดหน้าตาเฉยๆ และดันหน้าอกผมออกทันที

“มีอะไรเหรอครับเมียจ๋า” ผมถามเมย์

“พี่เคยใช้ยา ไวอาก้ากับใครอ่ะ “เมย์ถามผม ผมก็ต้องยกมือขึ้นเก่าหัว

“กับเด็กๆ คู่นอนพี่เหรอ” เมย์ถามผม ผมมองหน้าเมย์

“ทำไมเมย์อยากรู้ล่ะ”

“เมย์ไม่สมควรรู้ใช่ไหมอ่ะ งั้นไม่เป็นไรครับ ผมไปอาบน้ำดีกว่า จะได้เข้านอน “เมย์พูดก่อนจะเดินเข้าห้องนอนไป ผมก็ตามไปแต่ว่าไม่เจอเมย์แล้ว ผมได้ยินเสียงน้ำไหล่ อยู่ในห้องน้ำ ผมก็ถอดเสื้อผ้าถอดทุกอย่างเข้าไปในห้องน้ำและตรงเข้าไปที่ตู้อาบน้ำ ผมเห็นเมย์ยืนอยู่ ผมจึงเข้าไปสวมกอดเมย์จากด้านหลัง ใช้ปลายจมูกซุกไซ้ที่ศอกขอชาวๆ นั้น

“เมย์โกรธพี่เหรอครับ”

“ผม เออ ผม”

“โอเค พี่ยอมรับว่าพี่เคยใช้ แต่ไม่ใช่กับคู่นอนของพี่หรอก พี่เคยใช้กับ…. “เมย์เงยหน้าขึ้นมามองผม จ้องมองเพื่อรอคำตอบ

“พี่เคยใช้กับเมย์อ่ะ “ผมพูดด้วยเสียงที่เบาที่สุด เมย์รีบมองหน้าผม

“ห๊ะ! ตอนไหนอ่ะ” เมย์ถามผม

“วันแรกอ่ะ ใครจะไป จู่ๆ ก็ขึ้นชกเลยล่ะ ตอนนั้นพี่จำเป็นต้องทำอ่ะ พี่ก็เลย เออ ไปหาซื้อมากเพื่อนพี่ชายของพี่ธีมอีกทีหนึ่งน่ะ “ผมพูด เมย์รีบหันหลังให้ผมทันที

“หมับ” ผมกอดเมย์จากด้านหลังอีกครั้ง

“และครั้งนั้นครั้งเดียวที่พี่ใช้” ผมบอกเมย์

“และยิ่งตอนนี้ยิ่งไม่ต้องใช้แล้ว” ผมกระซิบบอกเมย์ที่กกหูของเมย์

“มาแล้วเนี๊ยะ!!” ผมพูดเพราะว่าน้องของผมมันแข็งขึ้นมาแล้ว ที่ได้กอดเมย์ และเมย์ก็พลิกตัวเองหันมาหาผมเขาดันผมให้หลังไปชิดกระจก ตรงข้าม ผมก็มองว่าวันนี้เมียมาไม้ไหนเนี๊ยะ เมย์มองผมและยิ้มให้ผม พร้อมกับพรมจุบไปตามลำคอ ไล่ลงไปตามแผ่นอกและลงไปที่หน้าท้องแน่นๆ สาดน้ำที่ราดรดกำลังชะล้างสบู่ออกไปจนหมด

“อื้มมม” ผมครางออกมาทันทีพร้อมกับหลับตาพริ้ม เมื่อเมย์พรมจูบไล่ลงไปจนถึงใต้เข็มขัด แต่จู่ๆ เมย์ก็หยุด

“ไม่เอาอ่ะ ทำในห้องนอนดีกว่า เพราะว่าพี่บอกผมว่าไม่เคยพาใครมาดังนั้น มันจะเป็นของผมแค่คนเดียวใช่ไหมครับ “เมย์พูดผมพยักหน้า และผมสองคนก็รีบพากันล้างตัวและเช็ดตัวให้แห้งเมย์ไม่ลืมที่จะเช็ดผมบนศีรษะผมให้แห้งก่อน

ผมเดินไปหาของเล่นใส่แก้วน้ำมา เมย์ที่นอนรออยู่บนเตียงเปิดเพลงรักเพราะๆ และเมย์ก็หันมามองแก้วที่ผมถือเข้ามาด้วย ในนั้นมีก้อนน้ำแข็งอยู่ ผมวางไว้ที่โต๊ะหัวเตียง ก่อนจะค่อยๆ คลานเข่าเข้าไปหาเมย์ เมย์ยิ้มให้ผม มันดูปลุกเร้าอารมณ์ผมมาก มันต่างกับผู้หญิงที่ผ่านมาของผมทุกคน แต่

“อืมมม” ผมจูบเมย์อย่างดูดดื่ม “เมย์ จะว่าไปพี่เหลืออีกเม็ดอ่ะ ใช้คืนนี้ได้ไหมครับ “ผมถามเมย์ ก่อนจะพยักพเยิดที่ลิ้นชัก เมย์หันมามองหน้าผม คือถ้าเมย์บอกว่าไม่ผมก็จะไม่ใช่แต่จะเก็บเอาไว้เวลาอื่นเพื่อว่าเราอยากจะสนุกกัน

“ก็ใช้ไปเลยก็ได้น่ะ เดี๋ยวยาจะหมดอายุซะก่อน” เมย์พูด ผมก็ขยับไปเปิดลิ้นชักดึงเม็ดยาที่ตัดเอาไว้เหลืออยู่หนึ่งเม็ด ผมแกะออกมา ผมหยิบมาและส่งให้เมย์

“ป้อนพี่ซิครับ” ผมพูดก่อนจะให้เมย์เป็นคนคาบมันเอาไว้และผมก็ใช้ปากประกบจูบเมย์ และเมย์ดันส่งเม็ดยาเข้ามาในปากของผม ลิ้นนุ่มๆ นั้นก็ควานหาความหวานของผมในปาก ปากผมก็จูบกันพัลวัลและไม่นานเม็ดยาก็ไหลลื่นลงไปในคอของผม แต่ปากเรายังคงทำหน้าที่ดูดกลืนความหวานของกันและกัน และระหว่างที่รอยาออกฤทธิ์ คงประมาณยี่สิบนาที ผมก็หันไปหยิบน้ำแข็งมาหนึ่งก่อน เมย์มองตามมือของผม ผมหยิบน้ำแช็งใส่ปากผมอมเอาไว้ ผมก้มลงใช้ก้อนน้ำแข็งอยู่ในปากผท ละเลงไปตามฐานรอบจุดเล็กๆบนหน้าอกแบนๆ ของเมย์สะดุ้งแต่ก็ไม่ได้จับมือผมออกแต่อย่างใด ผมเริ่มใช้ก้อนน้ำแข็งวนไปมารอบสองจุด เมย์ถึงกับหลับตาพริ้ม ผมเริ่มวนมาอีกฝั่งเมย์ก็สะดุ้งอีก

“อ่าห์ เฮีย ซี้ด” เสียงเมย์ ทำให้ผมยิ้มอย่างพอใจ ผมเริ่มถูไล่ลงมาที่หน้าท้องของเมย์ ผมรับรู้ได้ว่าเมย์กำลังเกร็งหน้าท้องอยู่ ก้อนน้ำแข็งในปากก็เริ่มละลายผมเลยดันตัวเองขึ้นก่อนที่ก้อนน้ำแข็งจะสลายหมดไปในปากของผม ผมประกบปากจูบเมย์ เมย์ก็รู้งานสอดลิ้นเข้ามาควานหาก้อนน้ำแข็งที่เหลือจนหมด

“เมย์ ของพี่แข็งแล้วอ่ะ สงสัยยาออกฤทธิ์แล้วครับ”

“จริงอ่ะ แม้ถ้าผมทิ้งที่กลางทางแบบนี้ล่ะ “เมย์พูดและท่าคิด

“ไม่เอาน่ะเมย์ พี่ตายแน่ๆ นะครับให้พี่ระบายน่ะที่รัก ฟ๊อด!!” ผมพูดและเมย์ก็ดันผมลงเมย์ขึ้นมาคร่อมร่างผมเอาไว้พร้อมกับหันไปหยิบก้อนน้ำแข็งมาอมเอาไว้และเมย์ก็เริ่มทำอย่างทีผมทำให้ไม่มีผิดเพี้ยน ผมถึงกับต้องนอนหลับตาพริ้ม มือก็จิกลงที่ผ้าปูที่นอน ผมยอมรับว่ายาก็มีส่วนให้ผมเริ่มมีอารมณ์ไปตามที่เมย์เล้าโลม แต่ว่ามันควบคุมได้ คือถ้าไม่อยากก็ไม่ต้องทำแต่คงจะแข็งปังไปสองชั่วโมง แต่ผมคงปวดระบมตายก่อนแน่ๆ

“ซี้ดดดด” เสียงลากยาวออกมาจากปากของผมเพราะว่าเมย์บรรจงก้อนน้ำแข็งลงไปที่แท่งร้อนของผม มันเสียงจนผมต้องแอ่นขึ้น ความเย็นของก้อนน้ำแข็งและฤทธิ์ของยา

“เมย์ ซี้ดดด พี่ โอ้ววว “ผมเริ่มกระสับกระส่ายไปมา เมย์ก็ยิ่งปลุกเร้าผมหนักขึ้น จนผมเองก็ทนไม่ได้ พลิกตัวเมย์ลงนอนราบแฃะผมรีบนั่งคุกเข้าตรงระหว่างขาของเมย์ พร้อมกับบีบหลอดเจลใส่แท่งร้อนของผมทันที

“เฮีย ซื้อมาเพิ่มได้แล้วหมดแล้วเนี๊ยะ! หลอดสุดท้ายแล้ว "เมย์บอกผม ผมสะบัดหน้ามา วันก่อนเมียซื้อตั้งห้าหลอด ผมก็หยิบมาดู

“ใช้เปลืองเนอะ” ผมพูด

“มันมาจากความหื่นของเฮียล้วนๆ เลย”

“ความหื่นเป็นเหตุสังเกตได้ “เมย์พูด “หึ หึ อันนี้เกรียนตามเพื่อนเฮียแล้วเนี๊ยะ” ผมพูดและหัวเราะในลำคอ ก่อนจะค่อยๆใช้นิ้วเบิกทางก่อนเมย์ก็สะดุ้ง พร้อมกับเสียงซี้ดปาก ผมเริ่มเพิ่มจำนวนขึ้นจนช่องทางรักของเมย์เริ่มคุ้นเคย ผมก็สอดใส่แท่งร้อนเข้าไป บทรักอันเร่าร้อนก็เริ่มขึ้น ลีลารักมากมายที่ผมต้องงัดออกมาใช้ มีทั้งท่าใหม่ท่าเก่าทำวนไป แถมโลเคชั่นก็เปลี่ยนไปมา จากบนเตียง เริ่มลามไปที่โต๊ะ ลงมาที่พื้น เพราะฤทธิ์ไวอาก้าตัวเดียวเลย ทำให้บทรักของผมทั้งเร่าร้อนและยาวนาน ลามไปจนถึงโซฟาด้านนอกและไปจบลงที่ห้องที่เมย์อ่านหนังสือ

“อืมม” เมย์ถึงหลับเลยไม่ได้สลบแต่หลับปุ๋ยเลย ผมต้องอุ้มเมย์กลับห้องนอน

“เฮีย ไม่เอาแล้วน่ะ ยาอะไรของเฮียเนี๊ยะ ผมโคตรเหนื่อยเลยอ่ะ”

“ไม่ชอบเหรอครับ หึ หึ”

“ทำยังกับว่าผมกับเฮียไม่ได้มีอะไรกันสักสองสามปีอย่างนั้นแหละ”

“อย่าให้นานถึงสองสามปีเลยน่ะ แค่สองสามอาทิตย์เฮียก็คงทนไม่ได้แล้วเมย์” ผมกระซิบกับคนที่คุยกับผมโดยที่ตาก็ปิดอยู่ ผมวางเมย์ลงเบาๆ และเช็ดทำความสะอาดให้ด้วย สวมเสื้อผ้าชุดนอนที่เมย์ใส่ประจำ ส่วนผมเองก็จัดการเช็ดความสะอาดตัวเองก่อนจะล้มลงนอนด้านข้างเมย์ และโอบกอดเมย์เอาไว้แน่นๆ

“เฮีย เฮียเคยคิดไหมว่าอนาคตเฮียอยากมีลูก” จู่ๆ เมย์ถามผม

“ถามเฮียแบบนี้ทำไมล่ะตัวเล็ก” ผมถามเมย์

“ใครก็อยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบกันทุกคนน่ะเฮีย”

“แต่ผมให้เฮียตรงนั้นไม่ได้น่ะ “เมย์พูด พร้อมกับซบหน้าลงที่อกผม ผมเอามือลูบหัวเมย์เบาๆ

“เอาตรงๆ น่ะเมย์ เฮียไม่เคยคิดถึงเรื่องมีลูกเลย ตั้งแต่เฮียเกิดมา เฮียจำได้แค่ว่าเฮียอยู่กับแม่ตลอด ดังนั้นภาพความรักระหว่างพ่อกับเฮีย มันเหมือนไม่เคยมีอยู่ในหัวเฮียมาก่อน ดังนั้นเรื่องลูกเฮียไม่เคยคิดและไม่คิดด้วย”

“เฮียถึงได้ป้องกันตัวเองดีที่สุดที่จะมีอะไรกับใคร” ผมพูด

“เมย์ล่ะ คิดว่าไง” ผมถามเมย์กลับ

“ผมเหรอ ผมไม่รู้เหมือนกัน ว่าผมจะทำหน้าที่พ่อให้เขาได้ดีไหม เพราะว่าพ่อแม่ผมเสียไปตั้งแต่ผมยังเด็ก ยังเอาแต่ใจงอแง เลยยังไม่เข้าใจความรักของพ่อกับแม่มากหนัก “เมย์พูด

“แต่พี่เชื่อว่าเมย์จะทำหน้าที่ได้ดีแต่พี่คงไม่ไหวล่ะ”

“ที่พี่คิดน่ะ ตั้งแต่พี่มีเมย์ พี่อยากอยู่กับเมย์เหมือนที่พ่อกับพี่เรศเขาอยู่ด้วยกันแบบนั้นไปจนแก่เลย เมย์ว่าไงครับ” ผมถามเมย์ เมย์ไม่ตอบผมแต่กอดผมแน่นพร้อมกับใบหน้าที่ซุกลงที่อกแน่นๆ ของผม ผมเดาว่านั้นคือคำตอบของเมย์แล้วว่า เขาคิดอย่างที่ผมคิดเช่นกัน ผมหันไปปิดไฟหัวเตียงก่อนจะกอดคนที่เอาหัวมาหนุนหัวไหล่ผมเพื่อกระชับเมย์เข้ามากอด ผมยอมรับว่าผู้หญิงที่ผมมีอะไรด้วย พอมีก็จบและส่วนใหญ่ผมก็ขอตัวกลับเลย ถ้ามานอนที่คอนโดผม ผมก็จะหาเรื่องออกไปทำงานต่อนางก็จะกลับบ้านเลยหรือบางก็อยู่ค้างแต่ผมแอบไปนอนห้องผมชั้นบน ลงมาอีกทีก็หายกลับไปแล้ว เป็นแบบนี้มาทุกครั้ง ดังนั้นอ้อมกอดนี้ของผมกับเมย์จึงไม่เคยมีใครได้มาก่อน ผมกอดเมย์เหมือนกับว่าผมอยากรักษามันเอาไว้ให้นานที่สุด เหมือนตอนที่ผมกอดแม่ลลิลภัทร์ หลังตากที่ผมทราบจากหมอว่าแม่อยู่ได้ไม่นาน

*********

ขอโทษจริงๆ หายไปกับปาร์ตี้ปีใหม่ค่ะ ช่วงนี้ดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะคุณนักอ่านทุกคน อยู่บ้านอ่านนิยายกันอย่าลืมให้กำลังใจ
คนแต่งกันด้วยนะคะ   :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.27 (เฮียตั้นXเมย์) เอาคืนให้เฟย์ P1และP2
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 07-01-2021 07:00:15
 :z1: :pighaun: :haun4:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.27 (เฮียตั้นXเมย์) เอาคืนให้เฟย์ P1และP2
เริ่มหัวข้อโดย: Tanthai23 ที่ 13-01-2021 09:53:48
 :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.27 (เฮียตั้นXเมย์) เอาคืนให้เฟย์ P1และP2
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 13-01-2021 13:47:03
 :impress2: :-[ :o8:
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.28 (เฮียตั้นXเมย์) เมย์รู้สึกเป็นห่วงพี่ตั้น
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 25-01-2021 17:26:19
เมธานินท์ ผมกับตั้นจองตั๋วเครื่องบินแล้วว่าจะบินไปวันที่ 20 ธันวาคมและจะไปอยู่ที่นั่นจนถึงปีใหม่เลยแล้วค่อยกลับมาฉลองปีใหม่ที่บ้านไร่ของพี่ตั้นกัน ผมตื่นมาก็ทำอาหารเช้าไว้ให้พี่ตั้น วันนี้พี่ตั้นมีไปลงโปรแกรมให้กับสถานเสริมความงามที่หนึ่ง แถมวันนี้มีหลายที่ซะด้วย พี่ตั้นเลยต้องไปเอง ส่วนผมน้องสาวจะมาหาผม ผมจะพาน้องสาวไปดูบ้านเช่าหลังใหม่ เพื่อว่าไอ้รงค์ออกมาก็ให้มันอยู่หลังนั้นไปและให้มันเลิกยุ่งกับแม่ปิ่นของผม พี่ตั้นบอกว่าจะจ่ายค่าเช่าให้ และผมก็รอให้พ่อของพี่ตั้นดำเนินการเรื่องบ้านให้ผมอยู่ด้วย ผมเองก็เกรงใจเพราะว่าเงินที่ต้องซื้อบ้านผมคืนมันเยอะมาก



“หมับ” ผมสะดุ้งสุดตัวทันที ขณะที่ผมกำลังรดน้ำต้นแคคตัสให้พี่ตั้นอยู่ที่ระเบียง



“พี่ตั้นนี่มันที่ตรงระเบียงและมันก็โล่งขนาดนี้ อายสายตาคนอื่นบ้างเถอะ” ผมพูดและพยายามแกะมือพี่ตั้นออก



“อายทำไมมีเมียน่ารักก็ต้องอยากกอดให้โลกรู้พี่รักเมย์มากแค่ไหน ฟ้อด!!!” พี่ตั้นพูด ไม่พูดเปล่าหอมแก้มผมเสียงดังมาก และระหว่างนั้นประห้องพักข้างๆ ถูกเลื่อนเปิด คนที่เปิดออกมาก็คือเพื่อนบ้านของผม เขาออกมาเห็นพี่ตั้นที่กอดผมอยู่ก็ตกใจ ยกมือทักทายผมแต่ไม่กล้ายกมือทักทายพี่ตั้น ที่ยืนกอดผมทำหน้าโหด เป็นผู้ปกครองมากกว่าจะเป็นแฟนซะอีก ผมหันมาชำเลืองตามอง



“พี่ตั้นไปอาบน้ำจะได้ไปทำงาน “ผมรีบปลดมือที่เหมือนปลาหมึกของพี่ตั้นออกและดันพี่ตั้นให้เข้าไปด้านใน เขาจะได้ไปอาบน้ำ ผมเองก็จะได้เตรียมจัดโต๊ะเสิร์ฟอาหารเช้าวันนี้ผมทำข้าวโอ๊ตต้มหมูสับ เพราะผมทานอาหารทะเลไม่ได้ เลยต้องกินแบบเน้นหมู ไก่ แต่เนื้อไม่ค่อยชอบทานอาจจะเป็นเพราะว่าแม่บุญธรรมผมไม่ทานเนื้อด้วย



“พี่ตั้น ทำไมช่วงนี้เมย์ไม่เห็นพี่ภาคินเข้ามาเลยอ่ะครับ” ผมถามพี่ตั้น



“พี่ภาคินเขาไม่ต้องเข้าแล้ว พี่เขาจะถอนตัวแล้วอ่ะเมย์ เพราะว่า” ผมหันไปมอง เพราะผมอีกหรือเปล่า



“พี่เขาไปเป็นอาซ้อใหญ่ให้พี่ปฐวีย์ไปแล้วเมย์” พี่ตั้นพูด ผมก็ลืมไป



“แล้วนี่เขาก็ไปพากันไปเที่ยวยุโรปด้วยกัน “พี่ตั้นพูด ผมพยักหน้า



“ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวเราก็ตามไปเมย์ “พี่ตั้นพูด ผมหันไปหยิบวิตามินรวมและใส่ถ้วนมาให้พี่ตั้น พี่ตั้นเงยหน้ามองผม



“พี่ไม่ได้ป่วยอ่ะเมย์” พี่ตั้นพูด



“ผมไม่ได้ว่าพี่ป่วยแต่นี้มันคือวิตามินรวม ผมเห็นพี่พักผ่อนน้อยช่วงนื้ ทานเอาไว้หน่อยน่ะครับ “ผมพูดพี่ตั้นยิ้มก่อนจะรับไปและทานทันที



“เมย์ตกลงงานแต่งเราเอาไงดี “พี่ตั้น หันมาถามผม



“ผมว่าเอาไว้เรามาคุยกันตอนไปเที่ยวปีใหม่ เพราะว่าเราจะไปบ้านพี่กันและผมก็คิดว่าเราควรไปคุยพร้อมๆ กันนะครับ” ผมพูด พี่ตั้นทำท่าคิด



“ก็ได้ครับ” พี่ตั้นพูด ผมก็หันไปเก็บล้างทุกอย่างพี่ตั้นก็ทำงานของเขาในไอแพตเหมือนปกติ ดูซิ บางที่ก็ต้องทานไปทำงานไปแล้วแบบนี้จะไม่ให้ผมเป็นห่วงได้ยังไง



“วันนี้พี่ไปที่ไหนน่ะครับพี่ตั้น” ผมถามพี่ตั้นอีกที



“วันนี้พี่ไปที่ศูนย์ความงามอยู่ตรง พหลโยธินนะครับ” พี่ตั้นหันมาบอกผม



“เพื่อว่าผมจะไปหาพี่อ่ะ” ผมพูดก่อนจะเดินมาทำหน้าออดอ้อนพี่ตั้น พี่เขาก็เลื่อนเก้าอี้ออกมาผมก็ขึ้นไปนั่งคร่อมพี่ตั้น



“เอาอย่างนี้ไหม พี่ตั้งค่า fine iphone ให้ พี่ไปไหน เราจะได้หาพี่ถูก”



“จะดีเหรอเพื่อแอบไป”



“ก็นี่ไงจะไปดึงหูพี่กลับมาถูก” พี่ตั้นพูดปนหัวเราะกับผม ผมรู้ว่าเขาหยุดแล้วนั้นคือหยุด และพี่ตั้นก็เอาโทรศัพท์ผมไปตั้งค่าให้ก่อนจะส่งกลับมาให้ผม ผมเหลือบไปมองเวลา ผมว่าวิวน่าจะใกล้ถึงแล้ว



“แต่ตอนนี้พี่ว่าพี่หลงไปไหนไม่ได้แล้วเพราะว่าพี่หลงเมย์หัวปักหัวปำไปแล้ว “พี่ตั้นพูดพร้อมกับเข้ามากอดผมจากด้านหลัง แถมยังซุกไซ้ที่ซอกคอผมด้วย



“ผมต้องลงไปรอวิวแล้วพี่ตั้น” ผมหันไปบอกพี่ตั้น



“ไปเลยครับ พี่ก็จะลงไปด้วยครับ พี่ว่าจะไปคุยงานกันก่อนแล้วค่อยแยกย้ายและสั่งงานน้องๆ ด้วย “พี่ตั้นบอกผม ผมหันมามองพี่ตั้น ก่อนจะจัดแต่งเสื้อผ้าให้พี่ตั้น วันทำงานพี่ตั้นจะไม่ใส่ต่างหูแต่ถ้าไปไหนด้วยกันพี่ตั้นจะใส่ต่างหูและผมก็ชอบผู้ชายใส่ต่างหูเช่นกัน ผมยืนมองพี่ตั้นเอาทุกอย่างใส่กระเป๋า พี่ตั้นเงยหน้าขึ้นมามองเห็นว่าผมมองเขาอยู่ ก็เลย



“ฟ๊อด!” หอมแก้มผมโดยที่ผมไม่ทันได้ตั้งตัว ผมก็ทำหน้าเขินไปตามระเบียบ ผมเดินลงมาที่ออฟฟิศกัน พี่ตั้นเปิดประตูเข้าไปน้องๆ ก็มานั่งทำงานกันแล้ว แต่ล่ะคนหันมายกมือไหว้ผมกับพี่ตั้นเหมือนเช่นทุกวัน ผมเห็นพี่ๆ เขานั่งจับกลุ่มดูคลิปวิดีโอกัน ก่อนจะหันมาเห็นผมสองคนเดินลงมา



“ทำอะไรกันว่ะพวกมึงดูคลิปโป้กันเหรอว่ะ” พี่ตั้นถาม  แต่ล่ะคนก็หันมามองหน้าผมและหันไปมองที่หน้าจอ



“มีคนเอาคลิปเมย์ไปลงในเว็บดังว่ะ” พี่เปรมด์หันมาบอกพี่ตั้น พี่ตั้น วางของและรีบเดินไปดู



“กูเคยเห็นแล้วว่ะ มันเป็นคลิปที่มีคนเอาไปปล่อยในเว็บมหา’ลัยที่เมย์จบมาและนี้แหละที่ทำให้เมย์ไม่ได้ เกียรตินิยมอันดับสอง “พี่ตั้นพูดก่อนจะหันมามองหน้าผม



“พี่ว่างานนี้ต้องคุยกับพี่ปฐวีย์ให้เขาออกมาพูดบ้างน่ะเมย์ ว่าเรื่องคืนนั้นมันยังไง เขาควรจะออกมาแก้ให้เมย์ได้แล้ว ไม่ใช่แต่เงียบแบบนี้ ถ้าเขากลัวชื่อเสียงเขาฝ่ายเดียวพี่ก็ไม่เห็นด้วยน่ะเมย์” พี่ตั้นพูด ก่อนจะเดินมาหาผม



“กูก็เชื่อว่าเมย์ไม่ได้ทำอย่างที่มันโพสต์ลงไว้หรอกว่ะ “พี่อาร์มหันมาพูด ผมยิ้มให้เป็นการขอบคุณ



“ตกลงมึงไปที่ใหม่ใช่ไหมว่ะ กูว่าไอ้เจ้าของนี้แม่งหน้าตาคุ้นๆ ว่ะ” พี่ธีมหันมาบอกพี่ตั้น



“เขาบอกว่าเขารู้จักพี่ปฐวีย์และพี่เขาก็แนะนำมาว่ะ “พี่ตั้นบอกพี่ๆ และจังหวะนั้นผมหันไปเห็นพี่ทีนเดินเข้ามาพอดี



“ไอ้ทีน มาแล้วเหรอมึง แล้วหน้ามึงไปโดนตีนใครมาว่ะ” พี่ธีมหันไปแซวพี่ทีน พี่ทีนนั่งลงก่อนจะมองหน้าพวกผม



“ก็มีคนแนะนำเมนูลดน้ำหนักให้เมียกูไป หัวไช้เท้าพันกุ้ง” ผมได้ยินว่ามัดหมี่อยากลดน้ำหนัก วันนั้นเลยนั่งดุเมนูลดน้ำหนักกัน สงสัยมัดหมี่ลองทำอันนี้แน่ๆ เลย



“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับรอยบนหน้ามึงมาว่ะ “พี่เปรมดิ์ถาม ผมก็ว่างั้นแหละ



“รอยบนหน้ามึงนี้มันคล้ายๆ กับเท้าว่ะ” พี่ตั้นพูดพร้อมกับชี้ไปที่หน้าพี่ทีน พี่ทีนหันมองค้อนขวับเลย



“ก็ระหว่างที่เมียกูน่ะ กำลังใช้หัวไช้เท้าพันกุ้งอย่างที่ยูทูปเขาบอกน่ะ โทรศัพท์กูดังขึ้น และมันช่วงที่กูช่วยเมียรักอยู่ มือกูเลอะครับ เมียเลยกดรับแทนไป”



“เชี้ย! เด็กเก่า ไม่อยากเล่าซ้ำ ดันโทรมาหากู โทรมาถึง มันไม่ถามก่อนเลยใครรับ มันอ้อนจัดหนัก พอเมียกูวางสายเท่านั้นแหละ มันไม่ใช้หัวไช้เท้า คราวนี้มันใช้เท้า” พี่ทีนพูด



“พันกุ้งเหรอ!!!” พี่เปรมดิ์



“รูดหน้ากูนี่ไงครับ เป็นรอยมาขนาดนี้” พี่ทีนพูด ผมหันมามองหน้าพี่ตั้น พี่ตั้นทำทีหันไปมองทางอื่นกลบเกลื่อนแทน แม้แก๊งนี้ ผมมองว่าพี่เขาจะมีแบบนี้มาไหมเนี๊ยะ   "ตกลงมัดหมี่มึงนี้เมียหรือเแม่  " พี่อาร์มถามพี่ทีน  "กูว่ามันสมัครผิดตำแหน่งว่ะ กูว่ามันมาเป็นแม่กูมากกว่าดุฉิบหาย" พี่ทีนบ่นมัดหมี่ผมหันไปมองตั้น หลับหลังเพื่อนทำซ่าตลอด



“Rrrrr” โทรศัพท์มือถือผมดัง สายเรียกเข้าจากน้องสาวคนสวยของผม น้องวิว



“วิว อยู่ไหนแล้ว”



“วิวอยู่หน้าห้องทำงานพี่ตั้นแล้วพี่เมย์” วิวบอกผม ผมก็ลุกและเดินไปที่ประตู ผมก็เปิดประตูให้วิวเข้ามา



“อ้าววิว” พี่ตั้นทักวิว “พี่ตั้นสวัสดีค่ะวิวยกมือไหว้พี่ตั้น และทั้งห้องเหมือนตกอยู่ในภวังค์ ทุกคนเงียบกันหมดและมองไปที่วิวคนเดียวเลย พี่ๆ นี้พากันตาค้างทันที พี่ธีมนี้สะกิดพี่ตั้นทันที



“วิว นี้น้องๆ ที่มาทำงานกับพี่ตั้นน่ะ” ผมบอกวิว “น้องๆ ครับนี้วิว น้องสาวพี่ครับ” ผมแนะนำทุกคนผงกหัวเหมือนเขินๆ และผมก็มองพี่ที่ลุกขึ้นยืนตกแต่งเสื้อตัวเองกันหมด พี่ตั้นหันไปชำเลืองตามองเพื่อนเขาแต่ล่ะคน ก่อนจะส่ายหัวไปมา ผมก็เลิกคิ้วสูง



“พี่พร้อมมากครับ ให้พี่แนะนำโปรไฟว์พี่ก่อนไหมครับเมย์” พี่ทีนรีบคนแรกเลยน่ะ ผมหันไปมอง



“รอบนี้มึงอาจจะไม่ได้โดนแค่เมียใช้เท้า แต่กูว่ามีดเคียงที่เมียมึงใช้ประกอบอาหารนะครับ มันจะมาด้วยไอ้ทีน ครับ” พี่เปรมดิ์รีบเบรกพี่ทีนนทันที



“มึงเล่นเมียกูมาขุ่กูเหรอครับไอ้เปรมดิ์ครับ” พี่ทีน



“กลัวไหมล่ะ” พี่เปรมดิ์ถามพี่ทีน



“กลัวดิ “พี่ทีนนั่งลงทันที



“พี่ๆ ครับ นี่น้องสาวผมครับ น้องวิว” ผมพูด



“นั้นพี่เปรมดิ์ พี่ทีน พี่อาร์ม และ” ผมกำลังจะหันไปแนะนำพี่ธีมแต่พี่แก หันมาอยางกับฉากพระเอกหันมามองนางเอง



“วิวดี วิวสวย วิวร้อยล้าน ก็วิวคนนี้แหละครับ “พี่ธีมพู



“พี่ชื่อธีมครับ ธีมก็คือภาพพื้นหลัง วิวก็คล้ายๆ กับธีม พี่ว่าเรา น่าจะไปกันได้ดี” พี่ธีมพูด พี่ๆ ทุกคนหันไปมองพี่ธีมกันหมด



“และแม่พี่นี่ตั้งชื่อพี่ว่าธีม นี้เพื่อมาคู่กับน้องวิวแน่ๆ ครับ” พี่ธีม ผมหันไปเหล่ตามองพี่ตั้น เพื่อนพี่อ่ะ



“ไม่ด้าน!” พี่เปรมดิ์พูด “ยังไม่ด้านอีเหรอมันออกตัวขนาดนี้” พี่อาร์มหันไปถามพี่เปรมดิ์



“ไม่ด้านทำไม่ได้ไงมึง ช่างกล้าพูดว่าน้องเขาเกิดมาเพื่อมึงน่ะครับ “พี่เปรมดิ์พูด ก่อนจะหันมามองน้องวิว



“เขาเกิดมาเพื่อผู้ชายทุกคนครับ วิวดี วิวนี้พี่ชอบมาก ชอบมองครับ” พี่เปรมดิ์ ส่วนพี่ตั้นน่ะเหลือกตาขึ้นบน วิวก็หันมามองหน้าผม "แม้วิวดูลองหันไปมองหน้าประตูเปรมดิ์ เมียมึงมา" พี่ทีนพูด พี่เปรมดิ์รีบลุกพรวดมองไปที่ประตูทันที  "ไอ้เชี้ยอย่าเอ๊ยถึง เดี๋ยวมา" พี่เปรดมิ์พูด



“มีแฟนแล้วทั้งนั้นแหละ” ผมกระซิบกับวิวก็ยิ้มๆ



“จะไปกันเลยหรือเปล่าล่ะเมย์ วิว” พี่ตั้นถามผมกับเมย์



“ไปไหนกันเหรอครับ” พี่ธีมรีบถามทันทีเลย



“มึงจะไปด้วยหรือไงครับ งานครับมึง ไอ้ภาคินมันไม่มาแล้ว คนขาดอยู่ มึงต้องไปทำที่ค้างไว้ให้ไอ้กอล์ฟมันจำไม่ได้หรือไง” พี่ตั้นหันไปเบรกพี่ธีมทันที



“แม้จะจีบน้องวิวเขา แล้วน้องคนเมื่อเช้าล่ะครับ “พี่อาร์มถามพี่ธีม



“น้องคนเมื่อเช้า เขาทิ้งกูไปแล้วครับ” พี่ธีมรีบหันไปบอกพี่อาร์มทันที “ตอนนี้พี่เป็นคนอกหัก อยากได้วิวดีดีมาช่วยปลอบใจ” พี่ธีมหันมาตีหน้าเศร้าทันที



“ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จนะมึงน่ะ แถมด้วยโหมดชายอกหัก รักคุด ตุ๊ดเมิน ไหนมึง บอกว่าความรักมึงกับเขากำลังค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปไง” พี่ทีนหันไปถามพี่ธีม



“ก็ใช่ไง ตอนนี้กูก็ค่อยๆ “พี่ธีมพูด ผมหันมาพยักพเยิดกับพี่ตั้น ผมก็เห็นบ่อยน่ะเวลาลงไปซื้อของน่ะ มาแต่ล่ะคนไม่ซ้ำหน้าเลย บางวันมาสามเวลา สามคนเลยก็ว่าได้ แต่เขาจัดการเวลาดีน่ะ ไม่มีมาเจอกันสักที



“ค่อยๆ หายไปจากชีวิตเขาไง ” พี่ตั้นพูด พี่ธีมหันมาเหล่ตามองค้อนพี่ตั้นทันที ผมหันไปแปะมือด้วยเห็นด้วย



“มันเป็นอดีตครับน้องวิว ตอนนี้ คนที่ใช่สำหรับพี่ พี่ว่าน้องวิวร้อยล้านของพี่นี่แหละครับ ใช่เลย โดนใจพี่เลย “พี่ธีมพูด ผมหันมามองวิว



“มันควงเขามาเมื่อวาน วันนี้เรียกอดีตแล้วเหรอว่ะ แล้วคนเดือนที่แล้ว เรียกอะไรวะ” พี่อาร์ม



“นั้นชาติที่แล้ว” พี่เปรมดิ์พูด “เคยเป็นคู่กันเมื่อชาติที่แล้ว” พี่เปรมดิ์พูด



“เมย์ เอาบัตรพี่ไปเลยเพื่อว่าถ้าเมย์ชอบจะได้ทำการมัดจำเลย “พี่ตั้นเรียกผมให้ตามเข้าไปในห้องทำงาน ผมก็แตะแขนวิวและเดินตามพี่ตั้นเข้าไปในออฟฟิศ



“ปึก” ผมได้ยินเสียง วิวเขาเดินถอยหลังไปชนกับ ใบเฟิร์นที่นั่งอยู่ เฟิร์นหันมามองวิว และวิวก็ขอโทษ ผมเห็นสายตาเขามองกัน ผมว่าสงสัยงานนี้วิวจะเจอคนที่วิวชอบแล้วแหละแต่เฟิร์นน่ะผมไม่แน่ใจว่ามีแฟนหรือยัง



“พี่ตั้น “ผมเรียกพี่ต้น พี่ตั้นหันมามองหน้าผม



“มีอะไรครับตัวเล็ก” พี่ตั้นมองผมก่อนจะส่งบัตรเครดิตมาให้ผม



“ผม”



“เอาไปเถอะ อันนี้เงินส่วนตัวพี่”



“พี่ไม่ไปดูกับผมก่อนเหรอว่าจะเลือกดีไหม เกิดผมเลือกมาแล้ว ”



“เมียพี่ชอบแบบไหนพี่ก็ชอบแบบนั้น และพี่เคารพในการติดใจของเมียครับ” พี่ตั้นพูด ผมก็รับบัตรมาถือไว้



“พี่ตั้นกลับเร็วๆ น่ะ วันนี้ผมจะ ceasar salad ให้ทาน ผมปลูกผักสลัดเอาไว้ ออแกนิกส์ด้วย” ผมบอกพี่ตั้น พี่ตั้นพยักหน้าผมก็หันหลังทำท่าจะเดินออก



“หมับ” พี่ตั้นคว้าข้อมือผมเอาไว้ ผมหันมามองพี่ตั้น



“ยังไม่ได้หอมแก้มพี่เลยน่ะ “พี่ตั้นพูดทวงผม ผมก็มองและก็ “ฟ๊อด!!” ผมหอมแก้มพี่ตั้น



“อีกข้างด้วยซิครับ หอมข้างเดียว เดี๋ยวพี่เดินเอียง” มีแบบนี้ด้วยเหรอผมแอบคิดในใจแต่ก็



“ฟ๊อด!!” ผมหอมแก้มพี่ต้นอีกข้าง



“พอยังคับ” ผมถามพี่ตั้น “หึ!!” พี่ตั้นสั่นหัวว่าไม่พอ



“เก็บไว้ให้ผมหอมตอนเย็นบ้างนะครับ เฮีย” ผมพูดก่อนจะเดินออกไปออกไป พี่ตั้น กำลังเตรียมตัวจะไป ผมเดินออกมาก็เห็นวิวนั่งอยู่ ผมพยักหน้า เห็นวิวนั่งตัวลีบเชียวแสดงว่าโดนพวกพี่ๆ เขาแจกขนมจีบอยู่แน่ ๆ โดยเฉพาะพี่ธีม ผมรู้ว่าพี่แกโสด แต่ผมรู้อีกอย่างว่าพี่ธีมน่ะไม่ใช่สเปคของน้องสาวผมหรอก



“ไปกันเลยไหมวิว” ผมถามผม



“ค่ะพี่เมย์” วิวตอบผม ก่อนจะหันไปยิ้มให้ใบเฟิร์น



“น้องวิว แวะมาอีกไหมครับ พี่จะได้รอ”



“รอทำไมอ่ะมึง ปกติเลิกงานปุ๊บมึงก็ชิ้งกลับไม่ใช่เหรอ ไม่เค้ย ไม่เคยจะแวะมาออฟฟิศ ก่อนกลับนะครับ ไอ้คุณธีม” พี่อาร์มพูด ผมก็ขมวดคิ้วนั้นซิ



“ก็วันนี้อยากมาทำไมว่ะ มารอวิว วิวร้อยล้านของพี่ วันนี้พี่ว่างครับ ทานข้าวหรือว่าจะดูหนังดี พี่ธีมจัดให้ได้หมด เพราะว่าพี่”



“ได้หมด ถ้าสดซิง!!” อันนี้พี่เปรมดิ์ผมกับวิวสะบัดหน้าไปมองพร้อมพี่ธีมอีกคน



“ถ้าสดชื่น!! ไอ้เชี้ยเปรมดิ์!! หยาบคายครับเปรมดิ์ครับ “พี่ธีมหันไปว่าพี่เปรมดิ์ทันที



“เดี๋ยวนี้ผมพูดความจริงพี่ธีมเรียกหยาบคายเลยเหรอครับ” พี่เปรมดิ์ ผมแอบหันไปพยักพยิดกับวิวว่าไปกันดีกว่าไหม



“อย่าไปนานนะครับ พี่เป็นห่วงและก็หวง เดินระวังด้วยก็ดีน่ะครับ อาจจะสะดุดหัวใจพี่ “พี่ธีมไม่พูดเปล่าทำนิ้ว ไอเลฟยู ส่งมาให้วิวด้วย



“พี่นี้เลิกคุยทั้งอำเภอเพื่อนน้องวิวคนเดียวเลยน่ะครับ” พี่ธีมยังไม่หยุดอีก



“แต่เบอร์มันนะแจกไปหมดแล้วทั่วประเทศครับ เหนือใต้ออกตก ไม่เว้นแม้ตะวันออกเฉียงเหนือเฉียงใต้ ตอนนี้กำลังข้ามแม่น้ำโขงไปฝั่งลาว “พี่เปรมดิ์พูด พี่ธีมหันไปมอง



“เปรมดิ์ครับ เพื่อนธีมขอครับ”



“มึงจะขออะไรกูเหรอครับ”



“หุบปากครับมึงครับ”



“อย่าไปเชื่อมัน ไอ้นี้มันอิจฉาพี่ มันทำไมได้ มันมีเมีย” พี่ธีมพูด และชี้ไปที่พี่เปรมดิ์



“ไม่หยาบ”



“ดี” พี่ธีม



“หยาบคายมาก “พี่เปรมดิ์พูดผมก็ดันวิวออกขืนอยู่นานคงอีกยาวเลย ผมพาเมย์เดินลงมาชั้นล่าง เมย์หันมามองหน้าผม



“พี่เมย์นี่โชคดีจังนะคะ วิวนี้อิจฉาเลย”



“อิจฉาพี่เรื่องอะไรล่ะวิว” ผมถามวิว ก่อนจะโบกรถแท็กซี่ ผมหันมามองวิว



“พี่มีคนที่รักพี่มากขนาดนี้ พี่เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้วน่ะ พี่รู้ตัวไหม” วิวพูด ผมก็มองวิว



“พี่ก็รักวิว ถึงวิวจะไม่ใช่น้องแท้ๆ ของพี่ แต่พี่ก็รักวิวมาก “ผมพูด จังหวะนั้นรถแท็กซี่เข้ามาจอดพอดี ผมหันไปเห็นรถมอเตอร์ไซค์ ขับออกมาจากจอดรถพวกพี่ๆ เขา เขาสวมผ้าปิดหน้าก่อนจะขับออกไปอย่างรวดเร็ว



“พี่เมย์มีอะไรหรือเปล่า “วิวถามผม ผมก็รู้สึกว่ามันคุ้นๆ เหมือนผมเคยเห็นคืนนั้นที่มาอยู่ที่ด้านหน้า



“ขึ้นรถเถอะวิว” ผมบอกวิว และผมสองคนก็ก้าวเท้าเข้าไปในรถ วิว บอกคนขับว่าเราจะไปที่ไหนกันแต่ผมหยิบมือถือขึ้นมาโทรหาพี่ตั้นก่อน



//ว่าไงตัวเล็ก//



// พี่จะออกหรือยังครับพี่ตั้น//



//กำลังจะออกแล้วครับ มีอะไรครับตัวเล็ก//



// พี่ตั้นผมเห็นคนที่ผมบอกว่ามาจอดรถมอเตอร์ไซค์คืนก่อนอ่ะ มันมาอีกแล้วครับและเพิ่งจะขับออกมาจากที่พวกพี่ๆ เขาจอดรถกันด้วย//



//จริงดิเมย์ พวกพี่กำลังจะลงไปครับ //



// เมย์อยู่ไหนครับ//



// ผมออกมาแล้วครับ ผมนั่งแท็กซี่กันแล้วพี่ตั้น //



//โอเค อย่ากลับมืดหนักน่ะครับเมย์ พี่เป็นห่วง//



//ครับเฮีย ผมก็เป็นห่วงเฮียยังไงก็ไม่รู้วันนี้น่ะ// ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูกังวล



//ไม่มีอะไรครับ พี่ไปทำงานก็รีบกลับ จะมาทานอาหารเพื่อสุขภาพกับเมีย//



// กลับมาเร็วๆ ช่วยผมทำด้วยก็ดีน่ะ //



//ถ้าให้พี่ช่วย เมย์ต้องมีรางวัลให้พี่น่ะครับ สักสองดอก..///



(ไม่หื่น) เสียงพี่ๆ เขาแซวข้าง พี่เปรมดิ์แน่ๆ เลย เฮียตั้นน่ะเฮียตั้น)



(ยังอีกเหรอ) ยังหันไปถามเพื่อนอีก ผมว่าหื่นแล้ว



//พี่เปรมดิ์ฝากบอกว่า ยังไม่พอให้พี่ขอสักสามแล้วกัน// พี่ตั้นบอกกับผม



// งั้นผมทำเองดีกว่าพี่นั่งเฉยๆ ไปเลย// ผมพูด แม้ทำอาหารให้ทานแล้วต้องมาเหนื่อยเรื่องบนเตียงอีกนี้ขอมาตั้งสาม



(เมียบอกว่าคืนนี้ให้นอนเฉยๆ ว่ะ เมียทำให้เอง) ผมตาโตเลย ผมไม่ได้พูดอย่างนั้นเลยน่ะ



//เฮีย!! // ผมกรอกเสียงใส่โทรศัพท์



//ไม่คุยด้วยแล้ว ไปทำงานได้แล้วและรีบกลับด้วยน่ะ ผมรักเฮีย//



//เฮียรักตัวเล็กน่ะ รักมาด้วย// พูดแบบนี้ผมก็ต้องก้มหน้าลง เขินมาก และกดวางสายไป วิวมองผม ยิ้มๆ




“วิวไม่เห็นพี่เมย์ยิ้มมีความสุขแบบนี้นานแล้วน่ะ” วิวแซวผม



“วิว พี่ตั้นเขาจะชวนไป เที่ยวบ้านพี่ตั้นน่ะ ปีใหม่ ไปกันน่ะ”



“ที่ไหนเหรอพี่เมย์” วิวถามผม



“เขาใหญ่น่ะ พี่ไปมาแล้ว น่าอยู่มาก และพ่อของพี่ตั้นก็ใจดีมาก” ผมพูดกับวิว



“แสดงว่าพี่ตั้นเขาจริงจังกับพี่มากน่ะ ถึงได้พาพี่ไปหาพ่อเขาแล้วเขาพาพี่ไปในฐานะ” วิวพูดและถามผม



“พี่ตั้นเขาบอกทุกว่าพี่เป็นแฟนเขา” ผมบอกวิว



“วิวดีใจด้วยจริงๆ น่ะพี่เมย์ พี่เมย์รู้ไหมความรักแบบนี้มันยากน่ะ น้อยคนที่จะยอมเปิดเผยน่ะ และพี่ตั้นเขาให้พี่ได้แบบนี้ รักษาไว้ให้ดีดีเลยน่ะพี่เมย์ และไม่ว่าจะมีอะไรมาทำให้ความรักของพี่กับพี่ตั้นให้สั่นคอน พี่ก็ต้องแกร่งน่ะ ปกป้องมันไว้กับพี่ให้ดี” วิวบอกผม ผมพยักหน้าว่าผมจะไม่อ่อนแอ ไม่ยอมใครเหมือนที่ผ่านมาอีก

*******

            คนแต่งต้องขอโทษจริงๆ ช่วงนี้ยุ่งมากจริงๆ เพราะตอนนี้คนแต่งกำลังอ่านหนังสือสอบ Cityzenship ของออสเตรเลีย และยังต้องเตรียมตัวทำใบขับขี่ของออสเตรเลียอีก แง้ๆ

            ถ้าทุกอย่างผ่านแล้วจะมาอัพให้รัวๆ นะคะ มาแค่นี้ก่อนคงไม่ค้างนะคะ รักคนอ่าน อย่าเพิ่งหนีกันไปไหนนะคะ
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.28 (เฮียตั้นXเมย์) เมย์รู้สึกเป็นห่วงพี่ตั้น
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 26-01-2021 07:38:01
 :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.28 (เฮียตั้นXเมย์) เมย์รู้สึกเป็นห่วงพี่ตั้น
เริ่มหัวข้อโดย: Tanthai23 ที่ 27-01-2021 06:08:14
เหมือนจะมีมาม่าเลย  :hao5:
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.29(เฮียตั้นXเมย์) เฮียอย่าทิ้งผมไป(ครึ้งแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 28-01-2021 09:44:14
รชานนท์ ผมเดินลงมากับพวกเพื่อนผม พากันเดินไปที่จอดรถ ที่ตรงนี้จะมีแต่พวกผมเท่านั้นที่จะเข้ามาจอดได้แต่เมื่อสักพัก เมย์โทรหาผม เมย์บอกผมว่ามีคนขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกไป ผมเลยรีบบอกพวกเพื่อนๆ ผมให้ลงมาดู พวกเพื่อนๆ ผมก็เช็กทุกอย่างแต่ก็ไม่มีอะไรที่ผิดปกติแต่อย่างใด ผมหันมามองหน้ากัน



“มันคงจะเข้ามาแต่มันคงทำอะไรไม่ได้ว่ะ “ไอ้เปรมดิ์พูด ผมพยักหน้า แต่ว่าตรงนี้ก็มีกล้องวงจรปิดอยู่น่ะ



“กูกลับมาแล้วจะไปเปิดดูกล้องวงจรปิดว่ะ” ผมพูด



“มึงแน่ใจเหรอว่าจะไปคนเดียว” ไอ้ทีนมันถามผม



“เออ ไปได้ไม่มีอะไรหรอกน่ะ พวกมึงจะได้เคลียร์งานที่ค้างกัน นี่จะได้หยุดยาวกันไง พาแฟนไปเที่ยวกันบ้าง” ผมบอกพวกเพื่อนๆ ผม พวกมันก็พยักหน้า



“มีอะไรโทรหาพวกกูเลยน่ะตั้น” ไอ้ธีมมันบอกผม เห็นมันกะล่อนแบบนี้มันห่วงผมเหมือนกันน่ะ ปกติมันจะไปกับผมตลอดแต่ว่าวันนี้มันต้องไปดูให้คุณหมอสัตวแพทย์ อดีตแฟนเก่ามัน คนนี้แฟนเก่ามันจริงๆ แต่ดันมาเลิกกันเพราะความเจ้าชู้ของมันนี่แหละ ผมพยักหน้าก่อนจะเดินขึ้นรถไป



// ตั้น พ่อพี่ปริมเขายังไม่ยอมเซนต์บ้านเมย์ให้เลย เขาตุกติกอะไรก็ไม่รู้// พี่อิศเรศส่งข้อความมาหาผม ผมกำมัดแน่น ทุบที่พวงมาลัย

//เขาต้องการเงินเพิ่มหรือเปล่าพี่เรศ//

// ไม่ใช่น่ะ เหมือนกับว่าลูกสาวเขาไม่ยอมให้ขายน่ะตั้น//

[พี่ปริม!!] ผมสบถชื่อนี้ขึ้นมาทันที ผมควรจะทำยังไงกับผู้หญิงคนนี้ดีน่ะ อย่าบอกน่ะว่าจะเอาบ้านมาต่อรองกับผมเรื่องให้ผมกลับไปหาเขาน่ะ ผมรีบกดเบอร์โทรแต่ไม่โทรออก เพราะว่าผมไม่อยากฟังน้ำเสียงผู้หญิงคนนี้อีก



// ถ้าพี่ปริมไม่ยอมให้พ่อพี่ขายบ้านของเมย์ให้พ่อผม ผมไม่ว่าน่ะ ขอผมกับเมย์เข้าไปขอของที่อยู่ในบ้านนั้นคืนนะครับพี่ปริม เอาแค่รูปพ่อกับแม่ของเมย์เขา และผมจะไปซื้อบ้านที่สวยกว่าหลังนั้นให้เมย์ // ผมส่งข้อความไปหาพี่ปริม ผมลบแล้วแต่เบอร์ผมจำได้ดี



//ทำไมตั้นรักมันมากเหรอ//



// ใช่ผมรักเมย์มาก พี่ไม่เข้าใจหรอก พี่ไม่เคยรักใครพี่มีแต่ความใคร่//ผมส่งข้อความกลับไปหาพี่ปริม



//ที่ผ่านมาตั้นไม่รู้เลยใช่ไหมว่าพี่รักตั้น///



//แล้วคนรักเขาทำกันแบบนี้เหรอพี่ปริม ผมว่าไม่ใช่หรอกพี่ปริม เพราะว่าคนรักกันเขาไม่ทำให้อีกคนดิ่งลงเหวอย่างที่พี่ทำกับผมที่ผ่านมา คนรักเขาชวนกันไปอัพยาเหรอ พี่ก็มีความสุขเพราะพี่อัพยาไปวัน วัน และผมขอล่ะผมมีคนที่ผมรักจริงๆ แล้ว ผมยอมรับว่าผมไม่เคยรู้สึกรักพี่ตั้งแต่แรก //ผมส่งข้อความหาพี่ปริมอีกครั้ง วางมือถือผมลง ผมกำลังจะสตาร์ทเครื่องยนต์ ผมเหลือบมองเวลา



//เมย์ ถ้าเมย์เจอบ้านหลังไหนที่เมย์ชอบ เมย์เลือกเลยน่ะ ขอรายละเอียดเขามาเลย พรุ่งนี้เฮียจะไปวางมัดจำให้ เพราะพี่คิดว่าเราซื้อบ้านหลังใหม่ดีกว่าครับแม่// ผมส่งข้อความหาเมย์



Rrrrr เมย์โทรกลับมาหาผมทันที ที่ข้อความผมถูกส่งออกไป ผมก็รีบกดรับสายเมย์ก่อน

“เกิดอะไรขึ้นครับพี่ตั้น” เมย์ถามผมทันที ที่ผมกดรับสาย

“เมย์ พี่ขอโทษ พี่ปริมเขาไม่ยอมขายบ้านหลังนั้น พี่กลัวว่า”

“งั้นเมย์ไม่เอาน่ะพี่ตั้น เพราะว่าเมย์กลัวมากเช่นกัน กลัวพี่ปริมจะมาต่อรองเหมือนที่พี่ปริมทำกับพี่ปฐวีย์ ผมไม่อยากเสียเฮียไป ผมรักเฮีย “เมย์พูด ผมมองไปนอกรถ

“พี่ก็ไม่อยากเสียเมย์ไปครับ”

“จะว่าไปบ้านที่เมย์มาดู มันก็โอเคดีน่ะ ราคาถูกกว่าบ้านพ่อแม่เมย์อีก และบ้านหลังนั้นก็จะเป็นความทรงจำที่ดีของเมย์ตลอดไป เมย์ว่าเมย์พอแล้วพี่ตั้น “เมย์พูด ผมหลุบตาลงมองพื้น ผมเจ็บใจที่ผมทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้

“แค่นี้ก่อนนะครับเฮีย พี่คนที่เขาดูแลโครงการ เขาเดินมาแล้วครับ ผมจะคุยกับเขาดูน่ะครับและผมจะโทรหาเฮียอีกที “เมย์บอกผม

“ครับที่รัก ได้เรื่องยังไงโทรหาพี่น่ะ ถ้าจะให้ไปช่วยดูให้ พี่จะได้รีบทำงานของพี่และไปหาเมย์ที่นั่น” ผมบอกเมย์

“ครับพี่ตั้น พี่ตั้น ผมรักพี่ตั้นน่ะ ผมไม่อยากได้บ้านหลังใหญ่โต ผมอยากได้บ้านที่มีพี่อยู่ด้วย อันที่จริงผมชอบคอนโดพี่น่ะ ผมว่าเราอยู่แบบนั้นก็ดีแล้ว แต่ผมอยากให้แม่ปิ่นกับน้องๆ อยู่แบบสบายบ้างแค่นั้นเอง” เมย์พูด

“ก็ซื้อซิเลยซิครับไม่ต้องรอแล้ว ดูและเลือกเลย ว่าเมย์ชอบหลังไหน ส่วนเรื่องของในบ้านเก่า พี่จะพยายามไปคุยกับพ่อของพี่ปริมเอง พี่ปริมน่ะพี่ว่าเราคุยกับเขาไม่รู้เรื่องหรอก เขาแค่อยากเอาชนะเมย์ “ผมบอกเมย์

“ผมรู้ครับพี่ตั้นว่าเขาอยากเอาชนะผม”

“ดังนั้นครั้งนี้ผมจะไม่ยอมเขาอีกแล้ว ผมจะสู้ เพราะว่าผมรักเฮีย ผมไม่ยอมให้เขามาแย้งเฮียไปได้อีก” ผมยิ้ม

“พี่ก็จะไม่ยอมให้เขาเข้ามาแทรกกลางระหว่างพี่กับเมย์ได้อีก พี่สัญญา” ผมพูด

“ไปทำงานได้แล้วและถ้าเสร็จเร็ว ผมจะชวนพี่ไปทานอาหารร้านไอ้มีนมันอีก “เมย์บอกผม

“ได้ครับ แค่นี้ก่อนน่ะที่รัก “ผมพูดก่อนจะวางสาย



ผมกดปุ่มสตาร์ทพร้อมกับดึงเบรกมือลง ผมก็รีบขับรถออกไปทันที อย่างรวดเร็ว ผมตั้งจีพีอาร์เอสว่าผมจะไปที่ไหน ผมก็ขับรถออกมา ผมกดโทรออกหาเปรมดิ์ เพื่อนผม ผมเปิดสปีกเกอร์ ผมกดรับสายโทรออกจากหน้าจอมอนิเตอร์ในรถกระบะของผมได้เลย



//ว่าไงครับบอส กูมาทำงานกันแล้ว โทรเช็กเหรอครับมึง//

//กูจะบอกว่า ทำงานเสร็จเร็วกูจะพาไปกินสเต๊ก//

// แม้บอสชวนกินหรู ปกติหมูกระทะ เฮียตั้ม//

//ก็เฮียแกปิดไปแล้วนี่หว่า อย่าลืมน่ะ โทรบอกคนอื่นๆ ด้วย เลิกแล้วมาเจอกันที่ออฟฟิศ และบอกแฟนมึงมาด้วย //

//เลี้ยงเนื่องจากอะไรวะ//

// เลี้ยงก่อนที่กูกับเมย์จะไป//ผมพูด

//อย่าพูดแบบนี้ดิว่ะ ใจไม่ดีว่ะ “ไอ้เปรมดิ์มันพูด

//อะไร ไปเที่ยวแล้วก็กลับไอ้บ้า//ผมพูด

//ม้ากูไม่ให้พูดเลยน่ะแบบนี้เหมือนสั่งลาไอ้เชี้ย!” ไอ้เปรมดิ์มันพูด ผมก็เป็นคนหัวสมัยใหม่อยู่แล้ว

//นี้มึงอยู่ไหนแล้วว่ะ//

//ถึงสี่แยกข้างหน้ากูก็จะขึ้นสะพานลอยและข้ามไปอีกสามซอยก็ถึงแล้วว่ะ// ผมบอกไอ้เปรมดิ์//

//งั้นแค่นี้น่ะมึง อย่าลืมโทรบอกทุกคนน่ะให้มาด้วย บายว่ะ// ผมพูดพร้อมกับวางสาย



ผมเหลือบเวลา ผมมาก่อนเวลาสิบนาที จะว่าไปเจ้าของก็หน้าคุ้นๆ น่ะ ผมเคยเห็นเขาที่ไหนไม่รู้ น่าจะเป็นที่ผับ ผมเปิดลิ้นชักเล็กๆ มีนามบัตรและแผนที่คลินิกที่ผมเคยไปรับพี่ปริม วันนั้นพี่ปริมบอกว่าพ่อเธอจะใช้รถเธอเลยกลับไม่ได้ เธอใช่บริการความงามที่นั่นแต่ว่านานแล้ว ผมหยิบมาดู ผมเห็นชื่อ ชื่อเดียวกันเลย ฉิบหายแล้วผม!! เอาไงดีว่ะ จะไม่ไปดีไหม ผมไม่รู้ว่าพี่ปริมเขาวางแผนอะไรไว้หรือเปล่านะซิ ผมลังเลผมว่าผมควรจะหาที่จอดรถก่อน ผมคิดว่าเลยแยกไฟแดงไปดีกว่า ระหว่างที่ผมกำลังจะถึงแยกไฟแดง มันเป็นไฟเหลืองพอดี ผมต้องเตรียมตัวเบรกแยกนี้รถเยอะด้วย ผมคิดว่ารอนาน ผมจะใช้เวลานี้โทรเช็กที่ผมจะไปก่อน



ผมก็ต้องตกใจเพราะว่าผมเหยียบเบรกแล้วแต่ว่ามันไม่หยุด ผมก็เหยียบซ้ำไปอีก ก็ไม่ได้ผล ยิ่งเยียบก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเครื่องก็เหมือนจะยิ่งเร่งขึ้น ผมเริ่มตกใจเพราะว่ารถกำลังจะถึงแยกไฟแดง แถมยังมีรถมอเตอร์จอดอยู่ด้วย ผมเริ่มปรับเกียร์จากดีลงมาเพื่อให้ความเร็วลดลงเองแต่ว่าถ้าผมดึงเบรกมือรถอาจจะหมุนติ้ว ผมเห็นรถมอเตอร์ไซค์ทั้งเลยที่จอดรอไฟแดง บางคันก็มีเด็กอยู่ และมีรถเหมือนนักเรียนอีก ผมก็ไม่รู้ว่ามีนักเรียนไหม ผมเลยเลือกที่จะ ใช่ฝ่ามือกระแทกแตร๋ดังๆ ยาวๆ



“ปี้นนนน!!!!!!!!!! ” ผมบีบแตรดังลั่น เพื่อให้เขาหลบและรถผมก็พุ่งฝ่าไฟแดงออกไป สิ่งที่ผมกำลังปะทะคือรถกระบะที่ออกมาพอดี



“โคล้มมมมม!!!!” เสียงดังสนั่น พร้อมกับแอร์แบกที่และรถผมก็ลอยขึ้น ผมรู้ได้ว่ารถผมตีลังกาข้ามอะไรบางอย่าง



“โคล้มมม!!!!” อีกครั้ง ผมไม่รู้ว่าผมกระแทกไปแรงแค่ไหน มันไม่เจ็บแต่ว่ามันมึน ผมค่อยลืมตาขึ้นเลือดไหลผ่านลงมา ผมรู้สึกชา จนเกือบไร้ความรู้สึก รู้สึกหายใจติดขัด ผมสะลึมสะลือ ไม่รู้นานแค่ไหน แต่ในหัวผมมีแต่ภาพเมื่อสักครู่ ภาพมันย้อนเข้ามาตลอด จนผมเองก็สับสนว่าผมกำลังฝันอยู่หรือว่านี้คือเรื่องจริง



//เฮียครับรับสายผมด้วย// เสียงเรียกเข้า ตัวเล็กโทรหาผม ผมอยากรับแต่ผมขยับไม่ได้เลย



//เฮียครับรับสายผมด้วย//



“เมย์ เฮียรักเมย์น่ะ // ผมรู้ว่าโลกของผมกำลังมืดลงไปทุกที ผมเริ่มควบคุมสติตัวเองไม่ได้ ทั้งที่ผมพยายามฝืน ผมรู้ว่ามีคนกำลังพยายามเปิดประตูรถของผม [ต้องใช้ที่ตัดเหล็กปิดไม่ได้เลย คนเจ็บอยู่ด้านในฝั่งคนขับ] ผมได้ยินเสียงพูดคุยกันแต่ผมลืมตาไม่ขึ้น ตอนนี้ร่างกายเริ่มเจ็บปวดจากการกระแทก เพราะว่ารถผมหมุนอยู่กางอาการหลายรอบก่อนจะลงมาสู่พื้น พร้อมแรงกระแทกที่ทำให้ผมเกือบน๊อกเอาท์

“เมย์ พี่รักเมย์น่ะ เมย์ รอพี่กลับบ้านน่ะ “เสียงเหมือนผมบ่นพึมพำกับตัวเอง เลือดสีแดงฉานเริ่มไหล่มากขึ้นเรื่อยๆ ผมไม่รู้ว่าผมได้รับบาดเจ็บตรงไหนบ้างเพราะว่ากระจกก็แตกละเอียด เลือดไหล่ทะลักมาขนาดนี้ แถมผมเป็นคนที่กรุปเลือดที่หายาก Rh-Negative แต่ผมก็ยังเคยช่วยชีวิตเพื่อนคนหนึ่งตอนแรกก็ไม่สนิทกัน แต่พอผมเดินเข้าไปบริจาคเลือดให้เพื่อนคนนั้น เพราะว่าเขาประสบอุบัติเหตุต้องการเลือดด่วนและพอผมก็ได้มาเป็นเพื่อนกันจนกระทั่งแม่ผมป่วย และนั้นผมเริ่มห่างๆ เพื่อน พอมารู้อีกที เพื่อนผมคนนี้ ย้ายตามพ่อแม่ไปซะแล้ว เพื่อนคนนั้นของผมเขาอยู่ที่อเมริกา ผมรู้สึกมีคนนำร่างผมออกมาด้วยความทุลักทุเล และร่างผมก็ถูกวางลง พร้อมกับมีบางสิ่งมาล๊อกผมไว้หมดทั้งตัวไปถึงศีรษะ



“คุณรชานนท์ คุณรชานนท์ คุณได้ยินไหมคะ คุณรชานนท์” ผมเดาได้ว่าเขาเห็นข้อมุลผมจากใบขับขี่



“กดดูเบอร์โทรล่าสุดและโทรแจ้ง” ผมได้ยินแต่ผมลืมตาไม่ขึ้น ความเจ็บปวดเริ่มเข้ามา ผมพยายามยามขยับเท้าแล้วแต่ไม่สามารถขยับได้



*******



เมธานินท์ ผมพยายายามโทรหาพี่ตั้น ว่าจะวิดีโอคอล เพื่อนว่าพี่ตั้นจะเห็นบ้านที่ผมมาดู บ้านน่ารักกำลังดี มีสี่ห้องนอน ห้องน้ำในตัวทุกห้อง แบบบ้านสองชั้น ผมเองก็ลังเลจะตัดสินใจแทนก็ไม่ดีกว่าเลยขอเอกสารเขามาดูและจะชวนพี่ตั้นมาดูอีกที ผมเลือกที่จะทิ้งบ้านพ่อแม่ เพราะว่าผมไม่อยากให้พ่อพี่ตั้นจ่ายเงินในราคาสามสิบล้านเพื่อบ้านหลังนั้น มันทั้งเก่าและอาจจะซ่อมแซมเยอะแต่สิ่งที่แพงเป็นเพราะที่ดินตรงนั้น ทำเลที่ดีในอนาคต ที่ผมต้องการได้คืนมากที่สุดมันอยู่ในห้องใต้ดินนั้น รูปภาพของสะสมของผมเวลาที่พ่อแม่ไปต่างประเทศ ผมมักจะได้มาเสมอ แค่คิดน้ำตามันก็พานจะไหลออกมา



“กลับกันเถอะวิว “ผมบอกวิว ขณะที่ผมกำลังยืนรอ ผมกำลังจะเช็กว่าพี่ตั้นอยู่ไหน จู่ๆ ก็มีสายเรียกเข้าดังเข้ามา เป็นเบอร์ของโบว์แฟนพี่เปรมดิ์



“ว่าไงโบว์” ผมถามโบว์



“พี่เมย์ “น้ำเสียงที่ฟังดูไม่ดีเลย



“โบว์เป็นอะไรไปครับ “ผมถามโบว์



“พี่เมย์ ตั้งใจฟังดีดีน่ะและอย่าเพิ่งตกใจ “โบว์พูด ผมก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ นี้อย่าบอกน่ะว่าพี่ตั้นงานเข้าตอนไปทำงานอีกแล้วเหรอ



“มีอะไรครับโบว์ บอกพี่มาเถอะ” ผมถามโบว์ น้ำเสียงโบว์น่ะตกใจมากกว่าผมตอนนี้ซะอีก



“เฮียตั้น รถคว่ำอ่ะพี่เมย์ ฮือๆ” ผมแทบล้มทั้งยืน พี่ตั้นรถคว่ำ พี่ตั้นรถคว่ำ



“ปึก” มือถือผมร่วงหลุดมือแต่คนที่มารับมือถือผมไว้ได้คือวิว วิวรีบยกมือถือขึ้นไปแนบหู



“นี้วิวค่ะ พี่โบว์เหรอคะ ที่ไหนคะ ได้ค่ะ วิวจะพาพี่เมย์ไปเดี๋ยวนี้ค่ะ หนักไหม ได้ค่ะ ค่ะ เจอกันค่ะ” วิวเป็นคนคุยโทรศัพท์แทนผม ผมหันไปมองวิว น้ำตาผมไหลพรูออกมาทันที วิวโผเข้ามากอดผม



“วิวเชื่อว่าพี่ตั้นไม่เป็นอะไรพี่เมญ์ พี่เมย์เชื่อวิวน่ะ “วิวพูด ก่อนจะรีบลงไปโบกรถแท็กซี่ และเพื่อสอบถามก่อนจะหันมาพยักหน้ากับผมและเราสองคนก็เข้าไปนั่งที่เบาะหลัง ผมใจคอไม่ดีเลย ผมกำมือแน่นมาก จนเล็บจิกที่อุ้งมือแต่ผมก็ยังไม่หยุด น้ำตาเริ่มไหลมาคลอๆ



“พี่เมย์ “วิวเรียกผม



Rrrrr เบอร์มือถือของผมดังขึ้น เบอร์พี่อิศเรศ ผมรีบกดรับสายบทันที



“พี่เรศ พี่เรศ พี่ตั้นเขา ฮือๆ “ผมปล่อยโฮไม่อายคนขับแท็กซี่เลย



“เมย์ พี่กับคุณท่านทราบเรื่องแล้วครับ คุณท่านตกใจมากครับเมย์ นี่พี่กับคุณท่านกำลังจะไปหาคุณตั้นตอนนี้เลย น้องเมย์อยู่กับตั้นหรือยัง” พี่อิศเรศถามผม



“ผมออกมาดูบ้าน พี่ตั้นให้มาดูบ้านให้แม่อยู่ก่อน ฮือๆ ผมกำลังจะไปพี่เรศ ฮือๆ”



“โอเค เจอกันน่ะเมย์ พี่เชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองคุณตั้นครับ “พี่อิศเรศพูด ตอนนี้รถกำลังแล่นไปตามทาง ผมรู้สึกร้อนใจอย่างบอกไม่ถูก ไฟแดงก็มากมาย ใจผมนี้อยากจะให้ถึงโรงพยาบาลที่เขาเอาพี่ตั้นไปส่งเร็วๆ เร็วที่สุดเลยได้ยิ่งดี ทำไมคนที่ผมรักต้องมาประสบกับอุบัติเหตุแบบนี้ พ่อกับแม่ผมก็เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ พี่ตั้น พี่อย่างทิ้งผมไปน่ะพี่ตั้น ผมขอร้อง พี่ตั้นอยู่กับผมก่อนน่ะ ถ้าผมเสียพี่ไปอีกคน ผมคงอยู่ไม่ได้ ผมอยู่ไม่ได้ ฮือๆ ผมไม่ไหวแล้วพี่ตั้น



“พี่เมย” " วิวสะกิดผม ผมก็รีบก้าวเท้าลงจากรถแท็กซี่ วิวหันไปจ่ายค่ารถ ส่วนผมก็มองหาทางเข้าและผมก็เห็นพี่กอล์ฟ กับเฟย์ กำลังจะเดินเข้าไป ผมหันมาดึงแขนวิว และวิ่งตามเข้าไปเพื่อให้ทัน



“พี่กอล์ฟ เฟย์” ผมเรียกเขาทั้งคู่เอาไว้ สีหน้าพี่กอล์ฟ ไม่ดีเลย



“พี่กอล์ฟ” ผมมองหน้าพี่กอล์ฟ



“ไอ้ทีนมันโทรบอกพี่ และตอนนี้ทุกคนอยู่ที่นี้กันหมดแล้ว เมย์” พี่กอล์ฟพูด น้ำตาผมยิ่งไหล



“หมับ” เฟย์เข้ามากอดผม



“เฟย์เชื่อว่า เฮียไม่เป็นอะไรพี่เมย์” เฟย์พูดและเอามือลูบหลังผมเบาๆ



“เข้าไปกันเถอะครับเมย์ พี่ยังไม่รู้อะไรมาก อย่าพึ่งคิดมากไปน่ะเมย์” พี่กอล์ฟแตะไหล่ผม ผมพยักหน้าและหันมาจับมือน้องสาวผม ผมเดินรีบเดินไป ผมเห็นกลุ่มหนึ่งยืนอยู่ ไม่ใช่ใคร พี่เปรมดิ์ พี่ทีน พี่อาณ์มและบรรดาสาวๆ ที่ยืนจับมือกัน ผมเดินไปหาทุกคน ผมมองแต่ล่ะคน สีหน้าแต่ล่ะไม่ดีเลย



“เฮียเป็นยังไงครับ บอกผมซิ” ผมถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ



“หมับ” สามสาวเข้ามากอดผม ผมรับรู้ได้ว่าแต่ล่ะคนร้องไห้



“เฮียหนักมากเลยพี่เมย์ ฮือๆ “มัดหมี่พูดกับผม พอผมได้ยินเช่นนั้นขาผมแทบจะไม่มีแรง ผมทรุดลง



“พี่เมย์!!” ทุกคนร้องเรียกผม และพยุงผมไปนั่ง มือไม้ผมสั่นไป สั่นจนควบคุมมันไม่ได้ ทำไมต้องเป็นแบบนี้



“ทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะ แล้วเฮียไปถูกชนที่ไหนพี่เปรมดิ์” ผมหันไปถามพี่เปรมดิ์



“มีคนเห็นเหตุการณ์เขาบอกเจ้าหน้าที่มาอีกทีน่ะว่า ตั้นน่ะวิ่งมาไม่เร็วมากจนถึงแยกไฟแดง ซึ่งมันต้องแตะเบรกแล้วแต่ว่า มันกลับบีบแตรดังสนั่นทำให้ทุกคนหันมาและคงรู้ว่ามีเรื่องแน่ๆ เพราะตอนนั้นมีรถมอเตอร์ไซค์ที่จอดรออยู่ เขาก็รีบหลบทันที”



“และรถไอ้ตั้นมันก็ออกไปที่แยกไฟแดง ช่องที่ไฟเขียวก็ขับออกมาชนกับรถตั้นเต็มๆ “พี่เปรมดิ์เล่าด้วยความลำบาก



“และรถไอ้ตั้นมันก็พลิกหงายลอย พี่เดาว่ามันหน้าจะดึงเบรกมือก่อน” พี่เปรมดิ์พูดก่อนจะหันมามองหน้า



“และรถไอ้ตั้นก็ร่วงลงมาคว่ำอยู่ “พี่เปรมดิ์พูด พร้อมกับหันมามองผม “พี่มาทราบเรื่องก็ตอนที่มีคนโทรหาพี่ เขาเป็นเจ้าหน้าที่ เพราะว่าสายพี่คือสายสุดท้ายที่คุยกับตั้น “พี่เปรมดิ์พูด น้ำตาพี่เปรมดิ์ไหล่แต่พี่เขาก็ปาดมันทิ้ง



“อีกอย่างน่ะ ตลอดทางที่เขาพามันมาส่งโรงพยาบาล มันเรียกหาแต่เมย์น่ะ มันบอกว่ามันรักเมย์ มันพูดว่าให้เมย์รอมันกลับบ้าน “พี่เปรมดิ์หันมาบอกผม เท่านั้นแหละ ผมก็



“ฮือๆ ฮือๆ พี่ตั้น ฮือๆ พี่ให้ผมรอพี่กลับบ้านแล้วทำไมพี่มาเจ็บแบบนี้ ฮือๆ พี่ตั้น ฮือๆ “ผมร้องไห้ปล่อยโฮออกมาดังๆ อย่างไม่อายสายตาใคร พี่เปรมดิ์หันมาเอามือลูบหัวผม



“ธีม” ผมหันไปมองพี่ธีมและเด็กที่ทำงานให้กับเฮีย รวมทั้งใบเฟิร์นด้วย แต่ละคนหน้าตาตื่นมาด้วยกันทั้งนั้น



“ตั้นล่ะว่ะ มันเป็นไงบ้างว่ะ นี่กูก็โทรบอกไอ้ภาคิน มันก็จะบินกลับมาคืนนี้เลย” พี่ธีมพูด พี่ธีมมองหน้าแต่ล่ะคน แต่ไม่มีใครให้คำตอบพี่ธีมสักคน



“กูถามไอ้ตั้นล่ะไอ้เชี้ย!!” พี่ธีมตะคอกเสียงดังถามพี่ๆ ทุกคน แต่ล่ะคนก้มหน้าลงกันหมด พี่ธีมเดินไปชะเง้อมองที่กระจก ผมก็เดินตามไป ผมเห็นเหมือนด้านในกำลังวุ่นวายกันมาก ผมยืนกอดอกมองน้ำตาก็ยิ่งไหลริน



“พี่ควรจะไปกับมันเหมือนทุกที “พี่ธีมพูด เหมือนรู้สึกผิด



“พี่ควรจะติดรถไปกับมัน เหมือนทุกที โว๊ย!!” ผมไม่เคยเห็นพี่ธีมที่ปกติทำตัวเฮฮา เหมือนเป็นผู้ชายกะล่อนไปวัน วัน แต่ว่าวันนี้พี่ธีมดูจริงจังจนผมแอบกลัว และมันทำให้ผมรู้ว่าพี่ธีมรักพี่ตั้นมากจริงๆ



“พี่ธีม พี่อย่าโทษตัวเองเลย “ผมหันมาจับแขนพี่ธีม



“กูว่าไม่ใช่อุบัติเหตุว่ะ” พี่อาร์มเดินมาพูดกับผมสองคน



“มึงหมายความว่ายังไงวะ ไอ้อาร์ม” พี่ธีมหันไปถามพี่อาร์ม



“ถ้าเป็นอุบัติเหตุ ตั้นมันคงไม่บีบแตรให้รถที่ขวางรอไฟแดงหลบหรอกว่ะ กูว่าต้องมีอะไรสักอย่าง รถมันมีปัญหาอะไรสักอย่าง ตอนนี้รอตำรวจตรวจสอบอยู่ว่ะ และคันที่มันพุ่งออกไปชนกก็หนักแถมยังมีเด็กอีก แต่เด็กน่ะ ไม่น่าจะหนัก” พี่อาร์มพูด ผมหันไปมองพี่อาร์มจริงเหรอ มันทำให้ผมคิดทบทวนเมื่อเช้า แต่ว่าผมเห็นผมแค่เดาเอา ผมคิดว่าให้ตำรวจมาให้ข้อมูลก่อนจะดีกว่า



“ปึก” เสียงประตูเปิดออกมาโดยพยาบาล



“พี่ครับ แฟนผมเป็นยังไงบ้างครับ” ผมถามพี่พยาบาล



“คนที่รถคว่ำมาใช่ไหมคะ ที่ชื่อรชานนท์ “พี่เขาถามผม ผมพยักหน้า ทุกคนเดินมารอฟังข่าวกันหมด



“เออ เขาต้องได้รับการผ่าตัดด่วนค่ะ แต่ติดปัญหาที่ว่า เลือดของคนไข้เป็นกรุปพิเศษ Rh-Negative คนไข้เสียเลือดมากจริงๆ ค่ะ ตอนนี้รอหมอลงมาว่าจะทำยังไงก่อน ถ้าคนไข้ไม่มีเลือด พี่คิดว่า เขาอาจจะเสียชีวิตค่ะ” ผมแทบทรุดอีกครั้ง



“เราขอไปที่สภากาชาดแล้วนะคะ เขากำลังให้ดีเจ คลื่นวิทยุเพื่อประชาชน ช่วยประกาศขอความช่วยเหลือ คนที่มีกรุปเลือดนี้ให้แล้วค่ะ “พี่พยาบาลพูด



“แต่มีน้อยมากค่ะ หนึ่งพันคนจะมีสักสามคน ที่มีเลือดกรุปนี้” พี่พยาบาลพูด ผมกุมหน้าอกตัวเอง มันปวดใจที่สุด ทำไมผมไม่มีเลือดกรุปนี้ผมจะรีบให้พี่ทันทีพี่ต้น ทำไม ฮือๆ ผมร้องไห้



“อ้อ! คุณหมอมาแล้วค่ะ พี่ขอเข้าไปก่อนนะคะ “พี่พยาบาลพูด ผมหันมามองคนที่พยุงผมไว้



“น้องค่ะ พี่ขอเอกสารเกี่ยวกับคนไข้ได้ไหมคะ ประกันชีวิต หรือเอกสารที่เกี่ยวข้องว่าเขาใช้สิทธิ์อะไรยังไงได้ นะคะ “พี่พยาบาลพูด ผมหันมามองหน้าพี่ๆ



“ผมต้องไปเอาที่ห้องนะครับพี่” ผมพูด



“พี่ขับพาไปเมย์” พี่กอล์ฟพูด ผมหันมามองวิว



“พี่อยากให้วิวกลับบ้าน ไปอยู่กับแม่น่ะวิว “ผมหันไปบอกน้องสาวผม วิวทำท่าจะค้าน แต่ผมจับแขนวิว



“บ้านพี่วิวอยู่ตรงไหนคะพี่เมย์ “ใบเฟิร์นถามผม



“อยู่แถว สำโรงครับ”



“บ้านใบเฟิร์นอยู่แยกบางนาค่ะ ใบเฟิร์นไปส่งได้ค่ะ “ใบเฟิร์นพูด ผมพยักหน้า และพาพี่กอล์ฟเดินออกไปทันที เฟย์ก็ตามไปด้วยอีกคน เฟย์กุมมือผมไว้แน่นมาก ภาพความหวานของผมกับพี่ตั้นมันผุดขึ้นมาตลอด ผมเดินมาจนถึงรถพี่กอล์ฟ ผมเห็นคุณตำรวจกำลังเดินเข้าไป แต่ว่าผมต้องรีบไปเอาเอกสาร เดี๋ยวค่อยมาฟังพี่เล่าให้ฟังแล้วกัน

TBC......

มาแค่นี้ก่อนนะคะ คนแต่งก็ยุ่งมากช่วงนี้ พยายามมาลงให้น่ะ อย่าเพิ่งหนีหายคนแต่งไปไหนนะคะ อยู่เป็นกำลังใจกันก่อนค่ะ
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.29(เฮียตั้นXเมย์) เฮียอย่าทิ้งผมไป(ครึ้งแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 29-01-2021 21:37:42
 :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.29(เฮียตั้นXเมย์) เฮียอย่าทิ้งผมไป(ครึ้งแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 30-01-2021 17:01:56
 :ling3: :o12:
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.29.1(เฮียตั้นXเมย์) เฮียอย่าทิ้งผมไป(ครึ้งหลัง)
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 03-02-2021 18:07:55
เมธานินท์ ผม พี่กอล์ฟและเฟย์ พากันเดินออกไปทันทีเพื่อจะไปเอาเอกสารของพี่ตั้นมาให้เจ้าหน้าที่ตามที่เขาขอ เฟย์กุมมือผมไว้แน่นมาก ตอนนี้ผมได้แต่ภาวนาขอให้เกิดปาฏิหาริย์ขึ้นผมเคยขอตอนพ่อแม่ผม ผมอยากให้เขากลับมาแต่นั้นมันเป็นคำขอของเด็กห้าขวบและมันไม่มีวันเป็นจริง เพราะว่าพ่อกับแม่ผมเสียชีวิตไปแล้ว แต่ครั้งนี้ผมอยากจะขออีกครั้งผมไม่อยากเสียคนที่ผมรักสุดหัวใจไป ระหว่างที่พวกผมผมกำลังจะเดินที่พี่กอล์ฟจอดรถเอาไว้ ผมหันมาเห็น ผมเห็นคุณตำรวจสองนายกำลังเดินสวนข้าไป แต่ตอนนี้ผมต้องผมต้องรีบไปเอาเอกสารก่อน เดี๋ยวผมค่อยมาฟังพี่ๆ เขาเล่าให้ฟังที่หลังแล้วกัน

“พี่กอล์ฟ เมื่อเช้าผมเห็น มีคนขับรถมอเตอร์ออกมาจากที่จอดรถด้วยครับ” ผมบอกพี่กอล์ฟ ขณะที่พี่กอล์ฟกำลังสตาร์ตรถ พี่กลับปรับกระจกมองหลังมามองผม

“ใครเหรอเมย์” พี่กอล์ฟถามผม “ผมไม่รู้ครับพี่กอล์ฟ แต่ผมเคยเห็นเขาขับรถมาจอดมองที่ด้านหน้าก่อนหน้านี้สองสามวันครับ” ผมพูด พี่กอล์ฟมองผมจากกระจกมองหลัง

“การที่ไอ้ตั้นมันดึงเบรกมือกะทันหัน นั้นแปลว่ารถมันเบรกไม่ได้ พี่คิดอย่างนั้นน่ะ” พี่กอล์ฟพูด ก่อนจะออกรถทันทีเช่นกัน

“พี่กอล์ฟ พี่กำลังจะบอกว่าไอ้คนนั้นมันคือต้นเหตุของอุบัติเหตุใช่ไหมครับ” เฟย์หันไปมองพี่กอล์ฟทันที

“ยังครับเราไม่มีหลักฐาน เพราะว่ามันอาจจะสุดวิสัยเบรกแตกเอง เราต้องรอตำรวจตรวจสอบก่อนจะดีกว่าครับ” พี่กอล์ฟพูด ขณะที่กำลังขับรถไปที่คอนโดของผมกับพี่ตั้น ผมนั่งนิ่งเงียบไม่พูดอะไรต่อ ไม่นานรถก็มาจอดที่หน้าคอนโด ผมก็รีบลงจากรถทันที ตามมาด้วยพี่กอล์ฟและเฟย์

“เมย์ พี่จะไปให้พี่ที่ดูแลกล้องวงจรปิด เขาเปิดดูย้อนหลังน่ะ ว่าแต่กี่โมงครับจำได้ไหมเมย์” พี่กอล์ฟถามผม ผมก็หยิบมือถือขึ้นมาเพราะว่าหลังจากที่ผมคุยกับเฮีย ก็น่าจะ แปดโมงเช้า

“ประมาณเก้าโมงครึ้งแล้วครับ” ผมบอกพี่กอล์ฟ พี่กอล์ฟพยักหน้าก่อนจะหันไปเรียกเฟย์พี่เขาเดินแยกไปทางห้องควบคุม ผมก็รีบวิ่งไปกดลิฟต์ ผมรีบไปยังชั้นที่พัก ผมกดรหัสห้องพัก รีบเข้าไปหยิบเอกสารทุกอย่าง พี่ตั้นมีประกันอุบัติเหตุมากมาย และผมก็เห็นบัตรประจำตัวที่บอกว่าพี่เขามีกรุ๊ปเลือดพิเศษ ผมได้ยินพี่พยาบาลพูดแล้วผมก็น้ำตาไหล เขาบอกว่าเลือดกรุ๊ปนี้หนึ่งพันคนมีสามคนเองและถ้าไม่ได้ผมคงเสียเฮียไปแน่ๆ ก่อนจะออกจากห้อง ผมหันไปเห็นรูปถ่ายคู่ที่พี่ตั้นใส่กรอบเอาไว้ น้ำตาผมไหลริน ผมเห็นรูปเล็ก รูปแม่ของพี่ตั้น

“แม่ครับ ผมขอให้มีปาฏิหาริย์ได้ไหมครับ ขอให้มีคนบริจาคเลือดให้พี่ตั้นได้ไหมครับ ผมไม่อยากเสียพี่ตั้นไป “ผมหยิบรูปนั้นขึ้นมากอดไว้ ผมร้องไห้ก่อนจะวางรูปนั้นลง และหันหลังเดินออก

“ปึก” กรอบรูปนั้นร่วงลงมาบนพื้นที่ปูพรมไว้ ผมหันไปมอง หรือว่า แม่เขาก็อยากไปดูลูกเขากันด้วย ผมจึงเลือกเดินกลับมาหยิบกรอบรูปนั้นขึ้นมา

“แม่ลลิลภัทร์ครับ แม่ต้องช่วยพี่ตั้นด้วยนะครับ” ผมพูดพร้อมกับรีบเดินออกจากห้องทันที ผมปาดน้ำตาไปด้วย ผมเดินมายืนรอลิฟต์ จังหวะนั้น สตีเฟ่นเพื่อนบ้านของผมเขาเดินลากกระเป๋าออกมาพอดีพร้อมกับเพื่อนซี้ของเขาด้วย ผมหันหน้าไปทางอื่นพร้อมกับปาดน้ำตาทิ้ง

“ไฮ…” สตีเฟ่น กำลังจะทักผม แต่พอเขาเห็นว่าผมร้องไห้อยู่ เขาเลยได้แต่ยกมือค้าง หันไปมองหน้าเพื่อนของเขา จังหวะที่ลิฟต์มาถึงพอดีผมก็พยักหน้าก่อนจะรีบเดินเข้าไปในลิฟต์ สตีเฟ่นและเพื่อนเขาก็ตามเข้าไปเงียบ

“อาร์ยูโอเค เมย์” สตีเฟ่น ถามผม ผมหันไปมองหน้าเขา

“ไม่ครับ แฟนผมประสบอุบัติเหตุหนัก เขากำลังจะตาย ฮือๆ “ผมยืนปาดน้ำตาร้องไห้

“เขาเป็นหนักเหรอเมย์ ใช่คนที่ทำหน้าดุ ดุ นั้นหรือเปล่า” สตีเฟ่นถามผม ผมพยักหน้า

“ใช่ ตอนนี้เขาต้องเลือดด่วน เขาเสียเลือดมาก ฮือๆ ผมไม่อยากเสียเขาไป” ผมพูดไปร้องไห้ไปด้วย

“ปึก” ผมทำรูปพี่ตั้นกับแม่ของพี่ตั้นหล่น และคนที่เก็บให้ก็คือเพื่อนของสตีเฟ่น

“เฮ้!! นี่มันไทตั้น นิ ที่เราเคยเรียนด้วยกันมัธยมปลายไง สตีเฟ่น “เพื่อนของสตีเฟ่น หันมาบอกเขา ผมก็หันไปมอง สตีเฟ่น รีบหันไปหยิบรูปมาดู

“ใช่จริงๆ ด้วย เขาเป็นเพื่อนผม ผมมาไทยเพื่อมาตามหาเขา “สตีเฟ่น พูดก่อนจะเงยหน้ามองหน้าผม ผมก็มองหน้าเขา

“ผมเคยเรียนโรงเรียนมัธยมเดียวกับเขาก่อนที่จะย้าย ตอนนั้นแม่เขาป่วย ผมก็เลยไม่มีเวลาบอกเขา และพอผมกลับมาเที่ยวบ้านปู่ย่า ก็ไม่เจอเขาแล้ว”

“อย่าบอกน่ะเขาคือคนเดียวกัน ไทตั้นกับแฟนของเมย์ ถ้าใช่นี้เขาเปลี่ยนไปมากเลยน่ะครับ” สตีเฟ่นถามผม ผมพยักหน้าว่าใช่ แปลกตอนนี้ผมกลับไม่มีอารมณ์ตกใจกับเรื่องนี่สักนิด

“เขาก็คือคนเดียวกันสตีเฟ่น” ผมพูด สติเฟ่นหันไปมองหน้าเพื่อนเขา

“ที่คุณบอกว่าเขาต้องการเลือดด่วนเพราะว่า” สติเว่นถามผม

“เพราะว่าเลือดเขาหายากใช่ไหมครับ”

“ใช่ครับ” ผมหันไปมองสตีเฟ่น

“กรุปเลือกของเขา RH Negative “ผมมองหน้าเขารู้ได้อย่างไร ผมยังไม่ได้บอกเขาเลย

“ผมนี่แหละ เลือดกรุ๊ปเดียวกับเขา และเขาเคยช่วยผมเอาไว้ เขาเดินเข้าไปบริจาคเลือดเขาให้ผมก่อนที่เราจะมาเป็นเพื่อนกัน ตอนนั้นผมประสบอุบัติเหตุค่อนข้างหนัก เลือดกรุ๊ปนี้ที่โน่นไม่ค่อยหายากแต่ว่าต้องรอนาน ไทตั้นเขาเดินไปบริจาคให้ผม ผมถึงได้มีชีวิตอยู่ถึงตอนนี้ “สตีเฟ่น พูดพร้อมกับชี้ เขาติดสัญญาลักษณ์ไว้ที่เสื้อของเขาด้วย เป็นสัญญาลักษณ์ RH- /NEG

“จริงเหรอครับ สตีเฟ่น คุณไม่ได้ล้อผมเล่นน่ะครับ “ผมหันมาคว้ามือสตีเฟ่น แววตาที่บ่งบอกว่าผมเจอปาฏิหาริย์

“เฮ้ย! แต่เราจะบินกลับแล้วนี่” เพื่อนของสตีเฟ่น สะกิดสตีเฟ่น

“โทรยกเลิกก่อนโจเซฟ ไอต้องช่วยเขา เพราะว่าเขาเคยช่วยไอเอาไว้ครั้ง “สตีเฟ่น หันไปบบอกเพื่อนของเขา

“เขาอยู่ที่ไหนครับตอนนี้” สตีเฟ่นถามผม

“โรงพยาบาลครับ” ตอนนี้ลิฟต์ลงมาถึงชั้นล่างเรียบร้อยแล้ว ผมเห็นพี่กอล์ฟเดินออกมาพร้อมกับเฟย์พอดี พี่กอล์ฟถือกระดาษ A4 มาหนึ่งใบ พี่กอล์ฟหันมามองคนที่มากับผมด้วย

“พี่กอล์ฟเราต้องรีบไปที่โรงพยาบาลตอนนี้ นี้เพื่อนพี่ตั้นเขา “ผมพูด พี่กอล์ฟสะบัดหน้ามามองแสตีเฟ่นละโจเซฟ

“เพื่อนที่เรียนที่อเมริกานะครับแต่เขาจำพี่ตั้นไม่ได้ จนได้เห็นรูปนี้” ผมพูดและส่งรูปที่พี่ต้นถ่ายกับแม่เขา

“พี่ไม่เคยเห็นรูปนี้มาก่อนเลยเมย์” พี่กอล์ฟพูด

“เขามีเลือดกร๊ปเดียวกับพี่ตั้นพี่กอล์ฟ เรามีความหวังแล้ว” ผมรีบบอก พี่กอล์ฟ หันมามองและพยักหน้า พวกผมก็ไม่รอช้ารีบไปที่รถพี่กอล์ฟทันที พี่กอล์ฟ ยกกระเป๋าเดินทางของสตีเฟ่น และเพื่อนของเขาใส่ไว้ท้ายรถ พี่กอล์ฟเข้าไปขับเฟย์มานั่งกับผม เพื่อนของสตีเฟ่น ไปนั่งพี่กอล์ฟ

“ฮัลโหล พี่ธีม” ผมกดโทรหาพี่ธีมทันที

“ว่าไงเมย์ตอน ตอนนี้ตั้นกำลังแย่ เขาบอกต้องผ่าตัดด่วน” พี่ธีมพูด

“เมย์เจอคนที่มีกรุ๊ปเลือดเดียวกับพี่ตั้นแล้วพี่ธีมและผมกำลังจะพาเขาไปพี่ธีม” ผมพูดไปผมก็กลั้นน้ำตาไปด้วย อันนี้ผมดีใจ เฟย์กุมมือผมเอาไว้ ไม่นานรถก็มาถึงโรงพยาบาล ผมรีบพาสตีเฟ่น กับเพื่อนของเขาเข้าไปด้านในก่อน ผมวิ่งไปที่หน้าห้องฉุกเฉิน ผมเห็นหมอพยาบาลกำลังออกมาคุยกันด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

“พี่ครับ คนนี้เขามีเลือดกรุ๊ปเดียวกับคนไข้ครับ และคนไข้เคยบริจาคเลือดให้เขามาก่อนนะครับ” ผมบอกพี่พยาบาล และสตีเฟ่นก็ยื่นเอกสารประจำตัวให้หมอดู

“งั้นเชิญเลยครับและผมจะได้เตรียมห้องผ่าตัดเลย น่าจะเพียงพอกับการผ่าตัดก่อน ตอนนี้ทางโรงพยาบาลได้โทรไปกลุ่มคนที่มีเลือดกรุปนี้โดยตรง มีคนเข้ามาบริจาคแล้วหนึ่งคนและกำลังตามมาอีกสองคน ผมจะขอดูการผ่าตัดคนไข้คืนนี้ก่อน ถ้าคนใครไม่มีเลือดออกภายใน คิดว่าน่าจะเพียงพอ “คุณหมอพูด ผมหันมามองสตีเฟ่น ผมโผไปกอดเขา

“ขอบคุณ ขอบคุณ คุณรู้ไหมว่ามันมีค่ามากแค่ไหน “

“He’ s mean a lot to me!! ” ผมพูดกับสตีเฟ่น

“I quite understand how you feel, May. “สตีเฟ่น พูดก่อนจะตามพยาบาลไปทันที โจเซฟเพื่อนของสตีเฟ่น เขาหันมองผม ผมยิ้มให้เขา ผมหันมาเห็นพี่ๆ กำลังคุยกัน ผมผายมือให้โจเซฟนั่งลงก่อน

“ใครวะ แม่งไม่เห็นหน้าว่ะ แสดงว่ามันรู้มุมกล้อง “พี่ทีนพูด ผมเดินมาดู พี่กอล์ฟปริ้นรูปมาดูกัน

“นี้แหละ ที่ผมเห็นเมื่อเช้าพี่” ผมรีบพูด

“เฟย์บอกว่า นี้หัวเข็มขัด เหมือนสถาบันที่ มันทำร้ายเฟย์กับเมย์อ่ะ” พี่กอล์ฟพูด ทุกคนหันมามองหน้ากันหมด และพี่อาร์มก็ส่งถุงพาสสติกซิบล็อกมาให้ผมดู

“สายเบรก ถูกตัด” พี่อาร์มพูด ผมนี้กำหมัดแน่น ทำไมต้องทำกันขนาดนี้เลยอ่ะนี่มันฆ่ากันชัดๆ เลยอ่ะ เด็กๆ ที่เคยทำงานกับเฮียก็มากันอีกชุด พวกของปอม ทุกคนยกมือไหว้พี่ๆ และผมด้วย

“เฮียล่ะพี่ เฮียเป็นไงบ้าง “ปอมถามหาพี่ตั้นทันที

“หนักว่ะ เออ ไอ้ปอม มึงดูรูปที่ไอ้กอล์ฟ ไอ้นี่มันขับรถเข้ามาตอนเช้า มันเข้ามาที่พวกพี่จอดรถเอาไว้ว่ะ “พี่เปรมดิ์บอกปอม และปอมก็เอาไปดู ดูทุกรูปที่พี่กอล์ฟปริ้นมา ดูไปเรื่อยๆ

“หัวเข็มขัดนี้มันพวกที่มีเรื่องกับผมก่อนจะไปทำร้ายไอ้เฟย์นี้พี่ แต่ว่าพวกนั้นมันคุยกับพวกผมดีแล้วน่ะ พี่ที่ดูแลมันอ่ะที่ชื่อพี่โก้ เขารู้จักพวกพี่ดี พี่เขาให้พวกมันมาคุยกับพวกผม และก็เข้าใจกันดีแล้วแต่ ..” ปอมพูดก่อนจะหยุดที่ภาพหนึ่ง ภาพที่คนขับหันไปเหลียวหลังมองอะไรก็ไม่รู้และมันก็เห็นต้นคอของเขา

“เฮ้ยย พี่นี่มันไอ้เจนี่พี่”

“ไอ้เจไหนวะ” พี่อาร์มถามปอม

“ไอ้เจคนที่ตบหน้าพี่เมย์อ่ะ ผมจำมันได้ มันมีรอยสักที่คอพี่ “

“ไอ้นี่มันเด็กพี่โก้ด้วยใช่ไหมวะ” พี่ธีมถาม ปอมพยักหน้า

“งั้นไปหาพี่โก้กันว่ะ” พี่ธีมพูดด้วยสีหน้าซีเรียส พวกพี่เขาลุกขึ้น

“พี่ผมได้ยินมาว่ามันแตกหักกับพี่โก้ไปแล้วพี่ มันโกรธพี่โก้ต่อว่ามันและยังสั่งห้ามมันเข้าไปที่บ้านเขาอีก “ปอมพูด

“ก็วันนั้นที่เราไปฟาดรถพวกมันอ่ะแต่ไอ้เวรนี้มันอยู่ และพี่โก้บอกจะจัดการให้ “พี่อาร์มพูด

“บ้านมันอยู่สะพานควายพี่ เพื่อนมันบอกผมอีกน่ะพี่ ว่าตอนนี้มันติดยาอยู่ “

“งั้นไปหาตัวมันว่ะ กูอยากรู้มันทำไม หาตัวแม่งก่อนค่อยส่งตำรวจ” พี่เปรมดิ์พูด

“โบว์ มัดหมี่ เบนซ์ และเฟย์ อยู่กับพี่เมย์ที่นี้น่ะ “พี่ทีนหันไปบอกแฟนสาวพวกพี่ๆ เขา

“พวกผมไปด้วยพี่ ผมไปตามตัวมันด้วย” ปอมพูด

“มึงพึ่งมีเรื่องกับมันมาไม่ใช่เหรอว่ะ เดี๋ยวก็โดนอีกหรอก” พี่ทีนหันไปพูดกับปอม ปอมโดนภาคทัณฑ์เลยไม่ได้มาทำงานกับพี่ตั้นช่วงนี้ ผมเลยไม่ได้เห็นพวกปอมในออฟฟิศมาพักหนึ่ง

“โดนก็โดนดิพี่ เพราะว่ามันทำพี่ที่พวกผมเคารพเจ็บแบบนี้ ผมไม่อยู่เฉยๆ แน่” ปอมพูด ผมที่ดีใจแทนพี่ตั้นที่สุด และพวกพี่ๆ เขาก็กำลังจะหันหลังออก ผมหันไปเห็นพี่ปริม เธอเดินมากับผู้ชาย ที่ดูก็รู้ว่าไม่แท้ ออกไปทางเพื่อนสาวมากกว่า

“เร็วๆ ซิ กูจะไปดูผัวกู “พี่ปริมเรียกพี่ตั้แบบนั้น

“นี้มาทำไมกันน่ะ “เบนซ์หันไปถามพี่ปริม

“ตั้นของฉันอยู่ไหน” พี่ปริมถามขึ้นและมองหน้าพวกผมทุกคน

“ใครโทรบอกชะนีปีศาจนี้มาว่ะ” เฟย์ถามขึ้น

“ก็วันนี้ตั้นจะไปลงโปรแกรมให้เพื่อนฉัน แต่ดันไปไม่ถึง พวกแกนี้ก็ไม่โทรบอกฉันเลยน่ะว่า ผัวฉันรถคว่ำ” พี่ปริมพูด ทุกคนหันมามองหน้ากัน

“โทรบอกไปบ้างแล้วน่ะ” พี่ธีมพูด ผมหันมามองพี่ธีมเป็นคนโทรบอกพี่ปริมเหรอ

“โทรบ้าอะไรกูไม่เห็นได้รับสายอะไรเลย “พี่ปริมพูด

“แต่บังเอิญเจ้เป็นเมียไอ้ตั้นคนที่ร้อยไง วงเงินเต็มพอดีเลยโทรออกไม่ได้ “พี่ธีมหันไปตอบเจ้ปริม

“ปากดีนะมึงน่ะไอ้ธีม “เจ้ปริมพูดและยืนเท้าเอว

“อย่าเล่นกับผมวันนี้เจ้ เพราะว่ามันไม่เหมือนทุกวัน ผมเตือน” สีหน้าพี่ธีมดูจริงจัง เหมือนจะเข้าไปเล่นพี่ปริมจริงๆ และพี่ทีนก็รีบดึงแขนพี่ธีมออก

“อย่าไปกัดกับอีเจ้มัน เดี๋ยวมึงก็ต้องฉีดยาพิษสุนัขบ้าเพิ่มหรอกมึง” พี่เปรมดิ์กระซิบ ส่วนพี่ปริมน่ะสะบัดหน้ามามองก่อนจะหันมาเบ้ปากใส่ผม และพยักพเยิดบอกคนที่มาด้วย เขาก็เบ้ปากใส่ผมทันที

“และที่ไม่โทรเพราะว่าใครก็รู้ว่าตอนนี้ใครยืนหนึ่งสำหรับพี่ตั้น พี่เมย์ต่างหาก” เบนซ์พูดพร้อมกับกอดอกมองพี่ปริม

“พวกกูไปแล้วกัน มึงอยู่นี้ไอ้กอล์ฟ เพื่อว่า มีคนอยากโดนกระทีบ มึงจะได้จัดการได้ เพราะถ้าให้สาวๆ อาจจะเจ็บมือซะเปล่า”

“กระเบื้องลอนคู่ที่ว่าหนาจนได้มาตรฐานมอก. ยังต้องชิดซ้าย หนาไม่เท่ากับหน้าสวยๆ ของเจ้เขา อันนี้รุ่น มอก บังคับ เพราะว่าหน้าเจ้นี่น่าจะผ่านการรับรองมาแล้วว่าหนาและด้านจริง” พี่เปรมดิ์พูด สองหนุ่มที่อยู่ด้านหลังเจ้เริ่มจะคอยๆ ถอยหลังออกทีล่ะก้าว ส่วนเจ้ปริมก็รีบยกมือจับหน้าตัวเอง ก่อนจะหันมามองพี่เปรมดิ์ เจ้ปริมชี้ตัวเอง

“มึงด่ากูเหรอ ไอ้เปรมดิ์!! ” เจ้ปริมถามพี่เปรมดิ์

“ผมชมครับ ว่าเจ้หน้าหนา ก็เจ้เล่นพอกหน้ามาซะหนาขนาดนี้ ดูท่าทางแล้วเจ้นี้น่าจะ รุ่นสีทนได้ เปลี่ยนชื่อเถอะเจ้ เปลี่ยนเป็นสมสี”

“ไอ้เชี้ยเปรมดิ์!! หน้ากูไม่ใช่วัสดุก่อสร้างที่ต้องไปผ่าน มอก. หน้ากูนี้พอกมาด้วยเครื่องสำอาง ที่ผ่านการรับรองจาก อย.ย๊ะ!! ” พี่ปริมพูด

“เจ้ อย. แปลว่าอะไรอ่ะ “เพื่อนเจ้สะกิดเจ้ปริม

“กูรู้แต่อย. แค่นี้” เจ้ปริมหันไปกระซิบกับเพื่อน

“อ่ะ งงอีก ไม่รู้จักซิท่า มึงคงซื้อแต่ของตามตลาดนัดที่ไม่มีอย..ให้เมียมึงใช้ล่ะซิท่า เลยไม่รู้จัก” พี่ปริมยืนกอดอก

“อุ้ยตายแล้ว! ไม่ทันได้มอง มายืนเสลอกับเขาด้วยเหรอ มาประกาศให้โลกรู้เหรอว่าแกน่ะเมีย เมียเขาใช้กับผู้หญิง ไม่ใช่ใช่กับผู้ชายอย่างมึง “อันนี้พี่ปริมหันมามองผมเต็มๆนั่นแหละว่าเขาว่าผม

“อีเจ้ มึงด่ากูสองคนด้วยป่ะเนี๊ยะ” สองคนด้านหลังเจ้ เจ้หันไปมอง สะดิ้งนิดนึง “กูยกเว้นมึงสองคน” เจ้ปริมกระซิบ ผมนี้ยืนเหลือกตามองบน แค่เรื่องพี่ตั้นก็หนักหนาพอแล้วสำหรับผม นี่ยังมาเจอสงครามประสาทกับเจ้ปริมอีก

“อีเจ้ มึงกลับไปเถอะไป พี่ตั้นเขาเลิกกับเจ้ ไม่ซิ เขาไม่เอาเจ้ เขาเลือกพี่เมย์ หันเคารพการตัดสินใจคนเลือกบ้างดิ หรือเรียกง่าย ว่าช่วยยอมรับความจริงจะดีกว่า” โบว์พูด

“เลือกอะไรด้วย ไปคุมผัวมึงโน้น ไม่ต้องมายุ่งเรื่องผัวเมียเขา” เจ้ปริมพูด ทำเอาโบว์ง้างมือทำท่าจะเข้าไปตบ ผมเลยจับแขนโบว์เอาไว้เพราะว่านี้มันในโรงพยาบาล

“อย่าโบว์ อย่าไปกางมือตบเขาแบบนั้น” พี่เปรมดิ์หันมาห้ามโบว์

“รองเท้าดีกว่า มือน่ะสู้หน้าเจ้แกไม่ได้ “พี่เปรมดิ์พูด “วันนี้ใส่คู่ใหม่มาไม่ใช่เหรอ เห็นว่ามันกัด รองเท้าไม่รักดี ใช้ตบอีเจ้ได้ มันเข้ากันดี” พี่เปรมดิไม่ได้ห้ามเลยสักนิด เจ้ปริมถึงกับถอยหลังทันที โบว์ก็ทำท่าจะถอดรองเท้ามาถือ

“อย่าน่ะมึงน่ะ กูเรียกตำรวจน่ะ” เจ้ปริมพูด

“อย่าซ่ากับพวกผมอีก วันนี้ไม่มีอารมณ์แต่ถ้าเจ้ไม่ฟังน่ะ ผมว่าเตียงข้างๆ ไอ้ตั้นน่ะ ของเจ้แน่ๆ ทางที่ดีกลับไปเถอะเจ้” พี่ธีมหันมาพูดกับเจ้ปริมพี่เปรมดิ์เลยผงกหัวว่าให้ทุกคนไปดีกว่า เพื่อนเจ้ปริมก็มาดึงแขนพี่ปริมให้ถอยออกจากพวกผม

“ไปกันเถอะว่ะ เดี๋ยวไอ้เวรนั้นมันหนี ข่าวไอ้ตั้นมันเริ่มออกแล้ว กูเห็นช่องน้อยสีน่ะ “พี่อาร์มหันมาบอกพวกพื่ๆ ผมพยักหน้าว่าพวกผมอยู่ได้ ผมพยักหน้ากับพี่ธีมว่าพวกผมโอเค เจ้ปริมคงไม่กล้าทำอะไรในโรงพยาบาลหรอก ทุกคนหันหลังจะเดินออก

“เดี๋ยวน่ะ ผมจำได้ว่าไอ้เจน่ะ มันเคย เป็นเด็กที่อยู่ที่บ้านเจ้ปริมนิ ผมเห็นอยู่” จู่ๆ ปอมก็พูดขึ้น

“ไอ้เจบ้าบอที่ไหน “เจ้ปริมหันขวับมาทันที

“ไอ้เด็กคนมันอาจจะเป็นคนทำให้ไอ้ตั้นมันเจ็บหนักขนาดนี้ไง กูว่ามีคนจ้างมันมาแล้วแหละ “พี่ธีมพูด

“กูไม่รู้จักเจเจอบ้าอะไร ไม่มี! ” พี่ปริมพูดอ้ำๆ อึ้งๆ พร้อมกับสีหน้าที่เหมือนตกใจด้วย

“ไปตามมันมาก่อน แล้วค่อยหาความจริง ถ้ามันทำงานให้ใครก็จะได้สาวถึงคนบงการเลย “พี่ธีมพูดก่อนจะพากันออกไปจริงๆ คราวนี้

“ไอ้เจไหนอีกล่ะอีเจ้”

“มีอยู่คนหนึ่ง มันมาคลุกกับการ์ดพ่อกูไง และมันก็มาอัพยา” พี่ปริมแอบกระซิบ

“เจ้จ้างมันเหรอ “พวกนั้นกระซิบกันกับเจ้ปริม “กูไม่ได้จ้างมัน กูจ้างแต่พวกมึงนี่แหละ แม่งเอ่ยเลยไม่ได้ผัวคืนเลย อุตส่าห์จัดห้องไว้รอแล้วเชียว” เจ้ปริมพูดกับพวกที่มาด้วย นั้นแสดงว่าถ้าพี่ตั้นไม่เกิดอุบัติเหตุ เจ้ปริมคงวางแผนทำอะไรพี่ตั้นแน่ๆ เจ้ปริมหันปรายตามองผมก่อนจะถอยออกไปยืนกับเพื่อน (สาวในร่างผู้ชายของเจ้แก) ส่วนสาวๆแฟนของพี่ๆก็ยืนประกบผม คงกลัวอีเจ้ปริมนี้จะมาทำอะไรผมซิน่ะ แต่ถ้าเจ้แกกล้า วันนี้เมย์ไม่ยอมยืนนิ่งๆแน่
TBC......
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.29.1(เฮียตั้นXเมย์) เฮียอย่าทิ้งผมไป(ครึ้งหลัง)
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 05-02-2021 11:01:22
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.29.1(เฮียตั้นXเมย์) เฮียอย่าทิ้งผมไป(ครึ้งหลัง)
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 05-02-2021 20:57:27
เจ้ปริมแกแรงดีไม่มีตกเว้ย 555 :serius2: :angry2:
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.30 (เฮียตั้นXเมย์) ความจริงที่เจ็บปวด
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 05-02-2021 21:10:19
Part's เมธานินท์ ผมไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับเจ้ปริม พวกผมพยักหน้าและพากันไปหาที่นั่ง เพื่อนของสตีเฟ่น ก็มองผมก่อนจะยิ้มให้เจ้ปริม และเพื่อนๆ ของเจ้ปริมที่โบกไม้โบกมือให้ โจเซฟ และแน่นอนเจ้ปริมน่ะเป็นสาวสวยใครก็แอบหลงเสน่ห์กันทั้งนัน ไม่แปลกถ้าพี่ตั้นจะเคยจีบพี่ปริม พวกผมนั่งรอกันเกือบสี่ชั่วโมงได้ ตอนนี้ก็เที่ยงคืนแล้วด้วย

“โอ๊ยเจ้ มึงจะนั่งรออะไรเนี๊ยะ! นานอ่ะเจ้ ฉันว่าเราพากันกลับบ้านก่อนเถอะแล้วพรุ่งนี้เจ้ก็ค่อยมาใหม่แต่งหน้าสวยมาดู อยู่รอดึกขนาดนี้หน้าโทรม” เพื่อนเจ้ปริมพูด ผมหันชำเลืองตามอง

“กูต้องอยู่ เพราะถ้าตั้นตื่นมาจะได้เห็นหน้าฉันคนแรก” พี่ปริมพูด

“ถามไอ้ตั้นมันยังเจ้ มันอยากเห็นหน้าใครก่อน “พี่กอล์ฟพูดลอยโดยไม่ได้ระบุ เฟย์หันมาแบมือผมก็นึกว่าจะตีแขนพี่กอล์ฟ แต่กับแปะมือกัน

“สวัสดีค่ะ รบกวนญาติคุณรชานนท์ค่ะ “พี่พยาบาลเดินมาทางพวกผม ผมก็รีบก้าวเท้าออกไปแต่มีคน ก้าวเท้ามาประกบกับผม จนทำให้พยาบาลมองผมกับพี่ปริมสลับกันไปมา

“คนไหนคะ” พยาบาลถามพร้อมกับมองหน้าผมกับเจ้ปริมสลับกันไปมา “ผมครับ” “ฉันค่ะ …” ผมกับคุณปริมตอบพร้อมกัน ผมหันมามองหน้าเธอ

“ฉันเป็นเมียค่ะ” พี่ปริมพูด และยิ้มให้ผม

“เขาเป็นเมียแล้วคุณล่ะคะ เป็นอะไรกับคนไข้คะ”

“ผมเป็น…” ผมทำท่าจะพูด แต่ผมควรจะบอกไหมว่าผมก็เป็นเมียพี่ตั้นเหมือนกัน

“ผมตัดสินให้เองครับ เพราะว่าผมเป็นพ่อของคนไข้” เสียงที่ดังมาจากด้านหลังของผม และทุกคนก็หันไปยกมือไหว้กันหมด พ่อของพี่ตั้นนั้นเอง ผมก็ยกมือไหว้ ส่วนพี่ปริมน่ะยกมือไหว้พร้อมกับย่อตัวลง “สวัสดีค่ะคุณพ่อ” พี่ปริมพูดจาเพราะจนภาพเมื่อสักครู่หายไปหมดสิ้น พ่อพี่ตั้นแค่หันชำเลืองตามอง ผมหันไปยกมือไหว้พี่อิสเรศอีกคน

“ตั้งแต่รู้จักสันดานอีเจ้มา กูไม่เคย!!! เห็นอีเจ้ปริมแกไหว้ใครได้งดงามขนาดนี้มาก่อนเลย” ขนาดเพื่อนพี่เขายังแอบนินทา

“ลูกชายผมเขายังไม่ได้แต่งงาน นั้นแปลว่ายังไม่มีเมียที่ถูกต้องนะครับคุณพยาบาล “พ่อของพี่ตั้นพูดก่อนจะปรายตาไปมองพี่ปริม

“แต่มีเมียอุปโลกน์ อยู่นะคะคุณพ่อ” มัดหมี่พูด พี่ปริมหันขวับมาแต่ว่าพ่อพี่ตั้นเขาอยู่ตรงนี้ไงเลยไม่กล้าแสดงกิริยาอาการอะไรมาก

“แต่ว่าลูกผมมีคู่หมั้นที่กำลังจะแต่งงานกัน เท่าที่ผมทราบและรับรู้มาตลอด คนนั้นก็คือ”

“เมธานินท์” พ่อพี่ตั้นพูด พี่ปริมสะบัดหน้ามามองพ่อพี่ตั้น

“แต่” พี่ปริมทำท่าจะค้าน

“เขามีสิทธิ์ทุกอย่างที่จะทำธุรกรรมแทนผมหรือตั้นได้ “พ่อพี่ตั้นพูด

“อิศเรศ เอาหนังสือที่ตั้นเขียนเอาไว้ เรื่องขอวีซ่าให้เมย์ไปอเมริกากับเขา ในจดหมายนั้นระบุชัดเจนว่าเมย์เป็นคู่หมั้นของเขา” พ่อพี่ตั้นหันไปขอเอกสารกับพี่อิศเรศ และพ่อของพี่ตั้นก็ส่งให้พยาบาลดู

“ดิฉันก็ได้ยินคนไข้เพ้อหาแต่คนที่ชื่อเมย์ตลอดเลยค่ะ น้องใช่ไหมคะ” พี่พยาบาลถามผม ผมพยักหน้าพี่ปริมมองผมเขากำหมัดทั้งสองข้าง

“ตอนนี้คนไข้อยู่ในห้องไอซียูนะคะ ทางเราจะให้คนที่ใกล้ชิดก่อนเข้าไปดูนะคะ คนอื่น รบกวนรอก่อนแล้วกันนะคะ คนไข้อาการยังทรงๆ อยู่นะคะ เลือดที่น้องมาบริจาคให้อาจจะไม่พอเพราะคนไข้เสียเลือดมากค่ะ” พี่พยาบาลพูด ผมเห็นสตีเฟ่นลงมาแล้ว

“พ่อครับ นี้เพื่อนพี่ตั้นครับ เขาเป็นคนให้เลือดกับตั้นครับ เพราะว่าเขากรุ๊ปเลือดเดียวกันและเขามากจากอเมริกาด้วยครับ” ผมหันไปบอกพ่อของพี่ตั้น พ่อของพี่ตั้นหันไป เช็กแฮนด์ ทักทาย

“ขอบใจมากน่ะ” พ่อพี่ตั้นพูดขอบคุณสตีเฟ่น สตีเฟ่นก็หันมายิ้มให้ผมและพ่อพี่ตั้น

“เจ้ ฉันว่าเรากลับกันก่อนเถอะ ดูเจ้น่ะ”

“ทำไม” เจ้ปริม

“เหมือนเป็นส่วนเกินเลยว่ะ” เพื่อนของเจ้ปริม

“อีนี่นิ กูจะอยู่ กูก็เมียเหมือนกัน เอากันมานานกว่าไอ้ตุ๊ดนั้นอีก” พี่ปริมพูด พ่อพี่ตั้นแค่ปรายตาไปมอง ก่อนจะเดินมาจับแขนผม

“เมย์ขึ้นไปกับพ่อ” พ่อพี่ตั้นพูดกับผม ชวนผมขึ้นไป คงไปดูพี่ตั้น

“คนอื่นๆ ก็รออยู่ที่นี้ก่อนแล้วกัน เรศด้วย” พ่อพี่ตั้นพูด

“ทำไมปริมไม่ได้ขึ้นไปด้วยละคะ ไม่ยุติธรรมนี่ค่ะ” พี่ปริมรีบทักท้วงทันที

“เอาตรงๆ น่ะ ผมไม่เคยรับรู้ความสัมผัสของคุณและลูกผม แต่ผมมารับรู้ทุกอย่างของเมย์และตั้น และตั้นเขาพาเมย์ไปเปิดตัวที่บ้านไร่ของผมแล้ว ทุกคนรับรู้หมดแล้วว่าตั้นมีแฟนชื่อเมย์ แต่ไม่มีใครเคยได้ยินชื่อคุณ” พ่อพี่ตั้นพูด

“อิศเรศเขามีเรื่องจะคุยกับคุณเกี่ยวกับโฉนดบ้านของเมย์” พ่อพี่ตั้นพูดโดยไม่หันไปมองพี่ปริมสักนิด

“จัดการคุยให้เรียบร้อยน่ะเรศ” พ่อหันกระซิบบอกพี่อิศเรศ “ครับคุณท่าน” พี่อิศเรศรับคำ ก่อนจะหันไปผายมือให้พี่ปริมเดินไปหาที่คุยกัน และเดินตามพยาบาลขึ้นไป เขาพาผมกับพ่อพี่ตั้นไปยังชั้นที่พักของคนไข้ไอซียู

“รบกวนเปลี่ยนเป็นใส่เสื้อคลุมปลอดเชื้อและสวมหน้ากากด้วยนะคะ “คุณพยาบาลบอกผม ผมพยักหน้าก่อนจะเอื้อมไปหยิบมาให้พ่อพี่ต้นก่อน ผมสังเกตเห็นอาการถอนหายใจของพ่อพี่ตั้น แสดงว่าท่านกังวลกับสิ่งที่กำลังจะเห็น ไม่มีพ่อแม่คนไหนหรอกที่จะทนเห็นลูกตัวเองต้องเจ็บปวด ผมเองเป็นแฟนยังทนไม่ได้เลย ผมเดินตามพ่อของพี่ตั้นเข้าไป เดินไปจนถึงห้องที่พี่ตั้นเพิ่งออกจากห้องผ่าตัดมา ผมเห็นมีหมอยืนอยู่กับพยาบาล คุณหมอหันมาเจอพ่อพี่ตั้น คุณหมอก็ยกมือไหว้ เหมือนรู้จักกันมาก่อน

“น้องเป็นไงบ้าง หมอโอม” พ่อพี่ตั้นถามคุณหมอตรงหน้า

“ผมขอคุยด้านนอกแล้วกันน่ะครับ ผมรอท่านกับน้องเขาด้านนอกดีกว่าครับ” หมอที่ดูแลพี่ตั้นพูดก่อนจะเดินออกไปกับพยาบาล ตอนนี้เหลือแค่ผมกับพ่อของพี่ตั้น พ่อของพี่ตั้นเดินมามองพี่ตั้น พี่ตั้นมีท่อช่วยหายใจ มีการผ่าตัดที่ช่องอกแสดงว่าพี่ตั้นบาดเจ็บที่ช่องอกด้วยและมีผ้าพันรอบเอว เหมือนจะที่หลังด้วย ผมยิ่งเห็นแบบนี้ผมใจหาย ผมมองพ่อพี่ตั้น เขาเดินไปก่อนใช้ฝ่ามือลูบที่หัวพี่ตั้น

“ลลิลภัทร์ ฉันขอโทษที่ดูแลลูกไม่ดีพอ” พ่อของพี่ตั้นพูด ผมเข้ามายืนใกล้ๆ สีหน้าและแววตาที่บ่งบอกว่าพ่อพี่ตั้นเสียใจมากแค่ไหน

“ผมอยากให้พี่ตั้นเห็นภาพนี้จัง ภาพที่พ่อแสดงว่าพ่อรักเขามากขนาดไหน “ผมพูด

“แต่ผมว่าพี่ตั้นเขาแค่อยากรู้ว่าทำไมพ่อถึงได้ไม่รักแม่ของเขา “ผมพูด ก่อนจะกุมมือพี่ตั้นเอาไว้ พี่ตั้นยังคงหลับสนิท น่าจะเป็นเพราะฤทธิ์ยา

“พี่ตั้นแค่อยากรู้ว่าแม่ของพี่ตั้น เขาทำอะไรผิดนะครับ “ผมพูด

“ฟู่!!”

“ลลิลภัทร์ไม่ได้ทำอะไรผิดหรอกแต่เธอแค่เข้า มาผิดและที่ผิดเวลา ก็เท่านั้น” พ่อพี่ตั้นพูด ขณะที่เขาใช้มือลูบผมหนาๆ นั้น

“ลลิลภัทร์ไม่ได้เข้ามาอยู่ในบ้านฉันในฐานะคนรักของฉัน แต่ลลิลภันทร์เธอเข้ามาอยู่ในฐานะ..”

“แม่เลี้ยงฉัน” ผมต้องหันไปมองพ่อของพี่ตั้น สายตาเขามองพี่ตั้น ก่อนจะหันมามองหน้าผม

“ฉันรู้ตัวว่าฉันเป็นเกย์ ตั้งแต่ขึ้นมัธยมแล้ว ส่วนพ่อฉันก็เจ้าชู้ มักมาก มีผู้หญิงไปทั่ว พ่อฉันทำให้แม่ฉันเสียใจมานับครั้งไม่ถ้วน”

“พ่อฉันได้สร้างบ้านเพิ่มอีกหนึ่งหลัง หลังที่เป็นของคุณลลิลภันทร์ และนั้นพ่อฉันเริ่มเอ่ยปากบอกแม่ฉันว่าเขาจะพาผู้หญิงเข้ามาอีกหนึ่งคน มาอยู่ในฐานะภรรยาของพ่อฉัน แม่ฉันรู้เข้า ท่านไม่ยอม”

“ท่านให้พ่อผมหาเศษหาเลยได้แต่ห้ามพาเข้าบ้าน แต่กับลลิลภันทร์ พ่อฉันพานางไปไหนต่อไหน และสุดท้ายพ่อฉันยืนยันจะพาลลิลภัทร์เข้าบ้านให้ได้ ในฐานะภรรยาคนหนึ่ง แม่ฉันยืนยันไม่ขออยู่ร่วมกับภรรยาน้อยเด็ดขาด”

“และนั้นพ่อฉันจึงขอให้แม้ฉันออกไปแทน แม่ฉันเสียใจมาก ส่วนฉัน ได้ถูกส่งตัวไปเรียนที่โรงเรียนประจำ พ่อให้แม่ฉันออกไปแต่ตัว ห้ามพาฉันไปด้วย “พ่อของพี่ตั้นพูด ก่อนจะหันมามองหน้า

“และวันที่ฉันสอบติดมหาวิทยาลัย ฉันกำลังจะไปหาแม่ฉันและมันก็เป็นวันเดียวกับที่ลลิลภัทร์เธอย้ายเขาไปอยู่ที่นั่นเช่นกัน”
“และยังเป็นวันที่ สะเทือนใจฉันมากที่สุด”

“เป็นวันที่แม่ฉันตัดสินใจ ฆ่าตัวตาย ใต้ต้นไม้ที่อยู่หลังบ้านเรือนใหญ่ แม่ฉันผูกคอตายที่นั้นและคนที่ไปพบคนแรกคือฉัน มันติดตาฉันอยู่จนถึงทุกวันนี้ “ผมหันมามองหน้าพ่อของพี่ตั้น

“ฉันโกรธและเกลียดเธอมาก “พ่อพี่ต้นพูด

“แล้วพี่ตั้นเขา” ผมถามขึ้น

“ลูกฉัน เพราะว่าฉัน ข่มขืนเขา ในคืนที่พ่อฉันไม่อยู่”

“พอเธอตั้งครรภ์ มันกลับทำให้ฉันรู้ว่าพ่อฉันเคยประสบอุบัติเหตุจนไม่สามารถมีลูกได้อีก เขาจึงมีแค่ฉันคนเดียวที่เป็นลูกชายของเขา และดังนั้น เด็กที่เกิดกับลลิลภัทร์ก็คือลูกฉัน นั้นคือตั้น “พ่อของพี่ตั้นหันมามองหน้าผม

“พ่อฉันเลยยกลลิลภัทร์ให้ฉันทันที “พ่อของพี่ตั้นพูดก่อนจะหันกลับไป เขาเอามือลูบหัวพี่ตั้นเบาๆ

“ฉันต้องทนเห็นหน้าเธอ อยู่ในบ้านหลังเดียวหลังคาเดียวกัน จนกระทั่ง ตั้นเกิด และลลิลภัทร์ก็ป่วยด้วยโรคซึมเศร้า พ่อฉันเลยส่งเธอไปรักษา ตอนนั้นพ่อฉันก็ต้องการตั้น เพราะเขารู้ว่าฉันเป็นแบบนี้ ไม่มีวันมีทายาทแน่นอน”

“ถามว่าฉันรักตั้นไหม ฉันรัก ถึงเขาจะเกิดมาโดยที่ฉันไม่เต็มใจแต่ฉันรัก แต่วันที่เขาร้องไห้ตามลลิลภัทร์ไป ฉันก็ต้องยอมให้เขาไป ฉันรู้ว่าเด็กต้องการแม่ ฉันจึงจำยอมส่งลลิลภัทร์ไปอยู่ที่อเมริกาตามที่เธอต้องการพร้อมกับตั้น “พ่อของพี่ตั้นพูดก่อนจะหันมามองหน้าผม

“ทำไมพ่อไม่บอกความจริงกับพี่ตั้นล่ะครับ “ผมถามพ่อพี่ตั้น

“ฉันก็ไม่อยากให้ตั้นมองว่าลลิลภัทร์ไม่ดี”

“แต่มันทำให้เขามองพ่อไม่ดีแทน “ผมพูด

“สักวันเขาก็จะเข้าใจฉันเองน่ะเมย์ “พ่อของพี่ตั้นพูด

“ขอออกไปคุยกับหมอโอมน่ะ อยู่กับต้นก่อนก็ได้น่ะ เพื่อว่าตอนนี้เขาต้องการเรา เมย์” พ่อของพี่ตั้นบอกผม ก่อนจะเดินออกไป ผมยืนมองร่างที่นอนโดยมีเครื่องช่วยหายใจอยู่ พี่ตั้นเจ็บหนัก ปอดฉีก มีแผลตามเนื้อตามตัว ศีรษะกระทบกระเทือน และที่หนักที่สุดเป็นที่หลัง ผมนั่งลงข้างๆ ผมใช้มือผมสอดเข้าไปที่มือพี่ตั้น

“เฮีย อย่าทิ้งผมไปน่ะเฮีย ผมไม่เคยรักใครเท่านี้เลยจริงๆ เฮีย เฮียทำให้ผมรักแล้วอย่าทิ้งผมไว้แบบนี้ ฮือๆ ผมทนไม่ได้ ผมไม่อยากเสียคนที่ผมรักอีก ผมไม่อยาก ฮือๆ “ผมร้องไห้ กับคนที่นอนไม่รู้สึกอะไร เหมือนเขาไม่รับรู้ ผมซบหน้าลงที่ตรงข้างๆ เตียงพี่ตั้น น้ำตาผมไหล ผมร้องไห้อย่างหนักอีกครั้ง ครั้งแรกคือพ่อแม่ผมเสียและครั้งคือพี่ตั้นคนที่ผมรักมากที่สุดเช่นกัน

“หงึก” ผมรู้สึกนิ้วพี่ตั้นขยับ ผมรีบเงยหน้าขึ้น ผมเพ้งมองอีกทีแต่ทุกอย่างก็นิ่งสงบ พี่ตั้นก็ยังนอนเหมือนคนไม่รับรู้เหมือนเดิม เครื่องช่วยหายใจก็ยังทำงานเหมือนเดิม ผมเห็นแบบนี้แล้วสงสารพี่ตั้นมาก

“เมย์ เขาต้องการให้ตั้นพักผ่อน เราออกไปก่อนเถอะ” พ่อของพี่ตั้นเดินเข้ามาเรียกผม ผมพยักหน้า ผมหันไปมองพี่ตั้นอีกครั้ง

“ผมรักพี่ตั้นนะครับ พี่ขอผมแต่งงานแล้ว กลับมาเป็นเจ้าบ่าวผมน่ะ “ผมหันไปพูด ผมรีบเดินออกมา ผมเห็นหมอที่กำลังคุยพยาบาลอยู่ ก่อนจะเดินตามพ่อของพี่ตั้นออกมาคุยด้านนอกด้วยกัน

“หมอโอม ฉันฝากดูน้องด้วยนะครับ”

“ผมยินดีครับ คุณท่าน ผมยินดีที่จะดูแลน้องให้ถึงที่สุดครับ “คุณหมอพูด

“หมอโอมเขาเป็นลูกคนงานในไร่ฉันและเป็นเพื่อนกับอิศเรศ และฉันก็ได้ส่งให้เขาเรียนจนจบหมอและตอนนี้เขาก็แต่งงานกับหมอที่เป็นลูกเจ้าของโรงพยาบาลนี้ และตอนนี้ก็ขึ้นแทนเป็นผู้บริหารโรงพยาบาลเต็มตัวแล้ว แถมอายุยังน้อยและเก่งซะด้วย “พ่อของพี่ตั้นพูด ผมหันมามองพี่หมอตรงหน้า

“คุณท่านก็ชมผมเกินไปครับ และทุกอย่างที่เกิดในชีวิตผมก็มาจากพระคุณท่านทั้งนั้น” พี่หมอโอมพูด

“และไม่ต้องห่วงน่ะครับ คุณท่าน ผมจะดูแลน้องตันอย่างดี “พี่หมอโอมพูด

“หมอโอม นี้เมย์น่ะ คู่หมั้นของตั้นเขา” พ่อของพี่ตั้นบอกพี่หมอโอม

“ยินดีที่รู้จักนะครับน้องเมย์”

“ผมขอเฝ้าพี่ตั้นได้ไหมครับ ผมขอนั่งอยู่ที่นี้ได้ไหมครับ ผมไม่อยากกลับไปบ้านด้วยความกังวลแบบนี้ กลัว เพราะว่าผมคงคิดไปต่างๆ นานา แต่ถ้าผมอยู่ตรงนี้ ผมยังเห็นว่าพี่ตั้น ไม่เป็นอะไร น่ะครับ” ผมพูดกับพี่หมอโอม

“เรามีห้องรับรองอยู่ตรงโน้นน่ะครับ ญาติคนไข้นั่งรอที่นั่นได้ครับ เดี๋ยวพี่จะให้เขากันไว้ให้เราเลย จะได้นอนพักผ่อนได้นะครับ” พี่หมอโอมบอกผม ผมพยักหน้า ผมหันมามองพ่อพี่ตั้น

“ดูแลตัวเองด้วยน่ะเมย์ อย่าล้มไปอีกคน เข้าใจไหมและถ้าเมย์มีอะไรโทรหาฉันได้ตลอด ฉันกับอิศเรศจะพักโรงแรมแถวๆ นี้” พ่อพี่ตั้นพูด ก่อนจะเดินออกไป ผมเดินตามพี่โอมไป ห้องสำหรับนั่งรอ ผมอยากอยู่ตรงนี้เหมือนผมได้อยู่ใกล้ๆ กับพี่ตั้น จะให้ผมกลับไปห้อง ผมก็นอนไม่หลับอยู่ดีผมเลือกที่จะอยู่ที่นี้
TBC.....

หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.30 (เฮียตั้นXเมย์) ความจริงที่เจ็บปวด
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 09-02-2021 10:14:26
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.30 (เฮียตั้นXเมย์) ความจริงที่เจ็บปวด
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 10-02-2021 15:57:01
 :mew6:
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.31 พ่อของตั้นยื่นข้อเสนอให้พี่ปริม
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 11-02-2021 18:22:59
           

                       ธรรพ์ณธร เดินลงมาจากชั้นผู้ป่วยวิกฤติ คือชั้นผู้ป่วยไอซียู และเป็นชั้นเดียวกับห้องผ่าตัด เพราะว่าตั้นประสบอุบัติเหตุ รถคว่ำที่กลางแยกไฟแดง คนเห็นเหตุการณ์บอกว่าตั้นขับมาและเหมือนกับว่าเขาเบรกไม่ได้ ผมเองก็ยังไม่รู้เหตุการณ์ทุกอย่างดี ผมได้คุยกับหมอโอม เป็นเด็กที่โตมาในไร่ของผม ครอบครัวเขาทำงานให้ผมมานานและยังเป็นเพื่อนกับอิศเรศ พ่อแม่ของหมอโอมเสียไปนานแล้วก่อนจะเข้าเรียนแพทย์ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และผมก็ได้ส่งเสียให้เขาได้เรียนแพทย์ เพราะผมเห็นว่าเขาเรียนเก่ง ผมส่งจนหมอโอมเรียนจบแพทย์สาขาที่ต่างประเทศและเขาก็ได้แต่งงานมีครอบครัวกับหมอด้วยกันแถมเป็นลูกสาวเจ้าของโรงพยาบาลที่นำตั้นมาหมอโอมเขาเป็นหมอหมอผ่าตัด เขาเองก็รู้จักตั้นเพราะเขาเข้ามาอยู่ก่อนตั้นเกิดไม่นาน ตอนนี้ผมคงต้องฝากความหวังไว้ที่หมอโอม ผมเดินลงมาถึงชั้นล่าง ก็เดินไปหาอิศเรศก่อน



“ทำไมฉันต้องยอมด้วย ในเมื่อฉันก็เป็นเมียตั้น ฉันเชื่อว่าตั้นก็มีใจให้ฉัน ทำไมฉันต้องยอมถอยให้เด็กเมย์นั้น “ผมเดินลงมาถึงก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย ผมเห็นกอล์ฟเพื่อนของตั้นและแฟนของเพื่อนๆ ตั้น พากันยืนมองคนที่โวยวายอยู่ ด้วยความเอือมระอา ผมเดาว่าอิศเรศคงคุยกับนางไม่รู้เรื่องเป็นแน่ ผมจึงต้องเดินเข้าไป



“เธอต้องการอะไร ปริม” ผมถามผู้หญิงคนนั้น เธอหันขวับมามองผม 



“ตั้นค่ะ ปริมต้องการตั้น “ปริมพูด มันทำให้รอยยิ้มผมกระตุกขั้นเป็นรอยยิ้ม ผมรู้สึกสมเพชเธอเหลือเกิน ผมหันไปมองเพื่อนอีกสองคนที่ยืนมองหน้ากัน



“เธอยังไม่รู้อีเหรอว่าตั้นเขาเลือกใคร”



“ตั้นอาจจะเสียใจที่ตอนนั้นปริมต้องเลือกพี่ปฐวีย์ค่ะ แต่ตอนนี้ปริมพร้อมจะกลับมามาหาตั้นค่ะ” ปริมพูด



“ถ้าตั้นเขารักเธอ เขาเลือกเธอไปนานแล้วปริม ตั้งแต่ปฐวีย์ถอนมันเธอแล้วแต่นี่เขา “ผมพูด ก่อนจะหันมามองหน้าอิศเรศ



“ก็นางเมย์มันไม่ยอมปล่อยตั้นนี่ค่ะ และวันนั้นตั้นก็โทรให้ปริมไปหาแต่ จู่ๆ เมย์มันก็โผ่ไป “ปริมพูด



“เออ คุณพ่อครับ ผมได้ยินเจ้ปริมแกโทรไปอ้อนไอ้ตั้นน่ะครับ ไม่ใช่ไอ้ตั้นมันโทรไปหาและตั้นมันก็บอกเจ้ว่า ให้กลับมาได้แต่เหมือนเดิมน่ะ” เพื่อนของตั้นพูด



“นั้นไงค่ะ เห็นค่ะว่าตั้นน่ะให้ปริมกลับไปหาเขาและ”



“เซ็กส์โซน เหมือนเดิม แต่มันได้สติ มันเลยเลือก เลิฟโซน นั้นคือเมย์” ผมหันมาชำเลืองมองปริม ผมสั่นหัวอย่างเอือมระอาเหมือนกับอิศเรศ



“ไอ้กอล์ฟ!! มึง” ปริมทำท่าจะชี้หน้าด่าเพื่อนของตั้น แต่ผมยืนเอามือล้วงกระเป๋ามองเธออยู่ เธอเลยหันมายิ้มแหยๆ



“กอล์ฟ พูดไม่เพราะค่ะ” ปริม



“เอาล่ะ ฉันไม่อยากต่อล้อต่อเถียงเรื่องพวกนี้กับเธอน่ะ เพราะว่านี้ไม่ใช่ประเด็นที่ฉันอิศเรศคุย แต่ฉันอยากจะให้เธอ เซนต์ขายบ้านนั้นซะ พ่อเธอบอกว่าบ้านนี้เขายกให้เธอ เพราะว่าตอนนั้นเขาต้องการใช้เธอมาเป็นข้อต่อรองกับคุณปฐวีย์” ผมพูด ปริมแค่หันมาปรายตามองผม



“แต่มันจบไปแล้วนี่ค่ะ คุณพ่อ เรื่องคุณปฐวีย์อะไรนี่นะคะ” ปริมพูด



“เธอไม่จำเป็นต้องเก็บมันเอาไว้ แค่เธอขายบ้านคืนเมย์เขาไปซะฉันพร้อมจะซื้อคืน ตามราคาที่พ่อเธอต้องการ” ผมพูด



“ปริมจะขายหรือไม่ขาย ปริมจะคุยกับตั้นก่อน แล้วปริมจะบอกนะคะว่าขายหรือไม่ขาย ขึ้นอยู่กับความพอใจค่ะ” ปริมพูด ผมก็ต้องถอนหายใจออกมายาวๆ ก่อนจะหันไปมองเธอ



“นี้เธอต้องการเขามากขนาดนี้เลยเหรอปริม โดยไม่สนใจว่า สถานะตอนนี้ของเขาเป็นยังไง เขามีคู่หมั้นแล้วปริม” ผมพูด เธอหันมามองหน้าผม



“ “ปริมมาก่อนมัน ถึงจะเป็นปริมเองที่เอาตั้นไปประเคนให้มันก็ตามแต่ว่าความเป็นจริงปริมมาก่อน ดังนั้นตั้นคือของปริมไม่ใช่ของเมย์มัน”



“ตั้นเขารักเมย์ ไปแล้วปริม เธอควรจะยอมรับความจริง”



“เธอจะทนอยู่กับคนที่เขาไม่รักได้เหรอ” ผมพูดและปริมก็หันมามองหน้าผม



“เธอไม่เห็นแม่ของเธอเหรอ แม่เธอต้องทนอยู่กับพ่อเธอ ต้องข่มขืน แถมพ่อเธอไม่เคยให้เกียรติแม่เธอเลยสักนิด “ผมพูด เธอถึงกับมองหน้าผมนิ่ง



“เธอไม่แปลกใจบ้างเหรอว่าทำไมแม่เธอถึงตกอยู่ในสภาพแบบนี้” ผมถามปริมกลับเธอทำหน้าตาเลิกลัก



“ฉันรู้ทุกอย่างภายในบ้านเธอ แม้กระทั่งพ่อเธอเอง ตอนนี้ถูกตรวจสอบอยู่ เพราะว่าเขาเป็นคนให้การสนับสนุนพ่อค้ายาเสพติดอยู่”



“บ้านนั้นน่ะ ถ้าฉันจะไม่ซื้อก็ได้น่ะ เพราะว่าตั้นเขาก็บอกกับฉันแล้วว่า เขาจะไม่เอาแล้ว เขาไม่อยากเสียเมย์ไป” ผมพูดปริมหันมามองหน้าผม เธอกำมือแน่น



“แต่ที่ฉันอยากจะซื้อ ฉันจะให้เธอสามสิบล้านและพาแม่เธอไปตั้งตัวทำตัวเองให้มีค่ามากกว่านี้ “ผมพูด



“ก่อนที่เธอจะไม่เหลืออะไรเลย เหลือแต่ตัว เพราะว่าพ่อเธอคงโดนหนัก หลายข้อหา ฉ่อโกง ใช้งบหลวง และไม่ต่างอะไรกับคนค้ายาเสพติดซะเอง เพราะเขารู้และให้การสนับสนุน คนค้ายาเสพติด “ผมพูด ปริมมองผม ส่วนเพื่อนสองคนของเธอก็เริ่มถอยห่าง



“แถมลูกน้องก็เอายามาเสพ ลูกสาวยังเสพเลย และฉันรู้อีกว่าเธอใช้ยากับตั้น เพราะเธอรู้ว่าตั้นเคยใช้ยาเสพติดมาก่อน นี้หรือคนรักกันเขาทำกันน่ะปริม!!!” ผมพูด เธอดึงกลับนิ่งอึ้งพูดอะไรไม่ออก



“เธออย่าหาว่าฉันใจร้ายเลยน่ะปริม ที่ตัดสินแบบนี้ เธอไม่คู่ควรกับตั้นเขา และฉันเข้าใจความรู้สึกดีที่ต้องทนอยู่กับผู้หญิงที่ตัวเองไม่รัก มันเป็นยังไง”



“ฉันให้เธอเลือกว่าเธอในขณะที่เธอยังมีตัวเลือก ว่าจะเอายังไง”



“เงินหรือว่าอยากอยู่อย่างตกนรกทั้งเป็น” ผมพูด เธอมองหน้าผม กลืนน้ำลายลงคอ



“ถ้าเธอคิดว่าเธอไม่มีหนทางไป เธอยังจะฝืน ฉันก็เลี้ยงเธอได้น่ะ เลี้ยงผู้หญิงอย่างเธออีกสักคนจะเป็นไรไปเพราะว่า ฉันยังเลี้ยงสองแม่ลูกที่พ่อฉันยกให้ฉันดูแลต่อได้เลยทั้งที่ฉันก็ไม่อยากได้ เพราะว่านางก็ไม่มีปัญญาไปไหนเช่นเธอ จะไปอยู่ด้วยกันก็กับเขาก็ได้น่ะ จะได้ตั้งสมาคมเดียวกัน” ผมพูด ก่อนจะหันหลังมาหาอิศเรศ อิศเรศมองหน้าผม ใช่ผมพูดแรง แต่ผมต้องพูด



“เลือกเอาน่ะ” ผมพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้น ผมเดินไปหาเพื่อนๆ ของตั้นผ



“วันนี้กลับไปนอนก่อนเถอะน่ะ พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ การผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดี แต่รอดูว่าตั้นฟื้นขึ้นมาจะเป็นยังไงเพราะว่าเขาได้รับบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง ค่อนข้างหนักและอาจจะ ไร้ความรู้สึกไปเลย รอดูพรุ่งนี้” ผมพูด ปริมยืนนิ่ง เขาได้ยินที่ผมบอกทุกคน แต่ล่ะคนสีหน้าตกใจ



“แล้วพวกที่เหลือหายไปไหนกัน” ผมถาม



“เมย์เขาเห็นคนขับรถเข้าไปและพวกผมคิดว่ามันคือต้นเหตุที่ทำให้ตั้นประสบอุบัติเหตุครับพ่อ” กอล์ฟตอบผม



“ตอนนี้เรารู้แล้วว่าใครเลยไปตามตัวน่ะครับ”



“ได้เรื่องยังไงบอกพ่อน่ะ พ่อจัดการเอง” ผมพูดก่อนจะหันมามองอิศเรศ



“เรากลับกันเถอะ “ผมพูด



“แล้วนางเมย์มันอยู่ไหน ถ้ามันเฝ้าตั้นได้ ฉันก็ได้สิทธิ์นั้น” ปริมพูด



“ไม่ใช่เรื่องของเธอ ส่วนเธอก็กลับไปคิดสิ่งที่ฉันบอกกับเธอ แล้วค่อยมาให้คำตอบฉัน “ผมพูดก่อนจะหันหลังเดินออก



“อย่าให้ฉันต้องพูดหลายรอบ ฉันไม่ใช่คนชอบพูดอะไรซ้ำซาก” ผมพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนจะรีบเดินออกไปพร้อมกับอิศเรศ อิศเรศโทรบอกคนขับรถว่าผมจะกลับแล้ว ส่วนคนอื่นก็เดินตามออกมา เพื่อนของปริมก็ดึงลากปริมออกมาโดยที่ที่เธอไม่เต็มใจหนัก



“แม้ผมนี้ยืนพูดอยู่กับเธอตั้งนาน นางหัวชนฝ่าไม่ยอมท่าเดียว เถียงผมฉอดๆ เลย แต่พ่อท่านมานี้ ยืนอึ้งพูดไม่ออกเลย แต่จะว่าไปคุณท่านนี้ผู้ชายปากร้ายเหมือนกันน่ะ” อิศเรศพูดพร้อมกับแอบค้อนผม ผมก็แค่ยิ้มที่มุมปากเท่านั้น ผมยอมรับว่าผมเกลียดผู้หญิงประเภทนี้ที่สุด เพราะว่าพ่อผมทำกับแม่ผมไว้และผมก็เห็นมาจนวันที่พ่อผมจากไปด้วยอุบัติเหตุ และพ่อผมยังไปขอผู้หญิง ที่ไม่มีสมองคนนั้นมาเป็นภรรยาให้ผมแทนลลิลภัทร์ แต่ว่าผมก็รับมาน่ะแต่ไม่เคยแม่แต่อยากจะแตะต้องเธอสักนิด



“พ่อครับสวัสดีครับ” “พ่อค่ะสวัสดีค่ะ” ผมหันมายกมือรับไหว้กอล์ฟและแฟนของเพื่อนๆ ตั้น รถฟอร์จูนเนอร์สีดำ ก็ขับมาจอด คนขับรถลงมาเปิดประตูให้ผมขึ้นไปนั่งก่อน



“ถ้าไปไม่หมดให้รถพี่อีกคันไปส่งน่ะ รถพวกพี่มากันสามคันครับ” อิศเรศหันไปบอก ก่อนจะโทรบอกคนขับรถอีกคันให้ไปส่งแต่ล่ะคนกลับบ้าน นั่งนิ่งเงียบจนกระทั่ง ที่นั่งด้านข้างผมมีคนตามเข้ามานั่ง ผมหันไปมองอิศเรศ



“คุณตั้นอาการหนักเหรอครับ คุณท่าน” อิศเรศถามผม ผมหันไปมองสายตาที่ดูเป็นห่วงเป็นใย ผมรู้ว่าเขาก็มีใจให้ตั้นเหมือนกันแต่ว่า เขายืนยันว่าเขาเลือกผมและนี่ก็คือประเด็นรองที่ทำให้ตั้นยิ่งสร้างกำแพงใส่ผมสูงขึ้น



“เรายังพอมีหวังน่ะ เพราะว่าพรุ่งนี้เขาจะให้หมอที่เก่งเรื่องระบบประสาทและเป็นอาจารย์หมอของหมอโอมเขามาดูให้น่ะเรศอาจจะผ่าตัดอีกรอบ หมอโอมบอกมา “ผมหันไปบอกอิศเรศ



“แล้วเรื่องที่คุณท่านพูดว่า”



“ยังไม่รู้ รอดูพรุ่งนี้น่ะเรศ” ผมบอกกับอิศเรศ อิศเรศกุมมือผมเอาไว้



“ผมว่าตอนนี้คุณท่านควรจะปล่อยวางเรื่องคุณลลิลภัทร์ได้แล้วนะครับ “อิศเรศบอกผม ผมพยักหน้าว่าผมคงต้องปล่อยวาง เลิกอาฆาตแค้นเธอได้แล้ว ผมนั่งนิ่งเงียบไปตลอดทาง จนถึงโรงแรมที่อิศเรศจองเอาไว้ให้ผมเข้าพักกับเขา อิศเรศเขาก็จองห้องพักไว้ให้คนขับรถเช่นกัน



****



ปริม เธอก้าวเท้าลงจากรถเก๋ง ที่เพื่อนสาวในร่างหนุ่มมาส่งเธอ เธอเจ็บใจหนักที่มีคนมาทำให้แผนที่เธอจะได้ตั้นคืนต้องพังลง แต่ว่าตั้นต้องมาเจ็บหนัก หากเป็นจริงอย่างที่พวกนั้นว่าเธอคงเล่นไอ้เด็กที่มาคลุกอยู่บ้านเธอหนักแน่ๆ เธอหันมามองหน้าเพื่อนเธอ



“อดได้ผัวคืนเลยเนอะเจ้”



“กูยังไม่อด กูต้องได้เขาคืน”



“เจ้ ฉันถามจริงๆ เถอะน่ะ เจ้ไปหลงอะไรหนักหนา ดูเจ้ซิ สวยขนาดนี้ หาได้เยอะแยะ เอาสามสิบล้านดีกว่าไหม” เพื่อนหนุ่มของเธอที่เพิ่งจะเปิดศูนย์ความงามสาขาใหม่บอกเธอ



“มึงกำลังจะขาดทุนกันใช่ไหม” ปริมหันมาถามสองคนที่มาเกาะเงินเพื่อนำไปลงทุนเปิดคลินิกความ ย้ายมาไม่รู้กี่ที่ก็ยังขาดทุนเหมือนเดิม



“แม้ของแบบนี้มันยากน่ะเจ้น่ะ และเราต้องหาเครืองมือใหม่ๆ ทันสมัยมาลงนี้เจ้ “เพราะเหตุนี้ไงสองคนนี้ถึงได้ร่วมมือกับเธอ โดยการขอให้บริษัทของตั้นมาติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ให้แต่เธอวางแผนการมากกว่านั้น



“แกต้องการเท่าไหร่ ฉันจะขอพ่อเอง เพราะว่าฉันจะเก็บบ้านไว้ต่อรองกับตั้น เขาต้องยอมฉันแน่ๆ “ปริมพูด ก่อนจะสะบัดก้นเดินเข้าบ้านไป เธอเห็นรถของพ่อเธอจอดอยู่ เธอไม่ได้เจอพ่อเธอมาเกือบอาทิตย์ ได้แล้ว วันนี้กลับบ้านได้ แต่ก็ดีเธอว่าจะให้พ่อเธอโอนเงินให้เธอเพิ่มสักสิบล้าน



“แล้วนี่ลูกสาวเธอมันไปไหน” ปริมยังไม่ทันได้ก้าวผ่านประตูบ้าน เธอก็ได้ยินเสียงพ่อของเธอตะคอกถามผู้เป็นแม่ แม่เธอเป็นผู้หญิงที่อยู่ในบ้านนี้แต่ไม่มีสิทธิ์มีปากมีเสียงอะไรทั้งนั้น มันทำให้เธอนึกถึงคำพูดของธรรพ์ณธร



“ฉันรู้ เขารีบออกไปแต่เช้า” แม่ของเธอตอบพ่อของเธอ



“เธออยู่บ้านภาษาอะไร เคยรู้อะไรบ้างไหม ห๊ะ!”



“ฉันจะไปรู้อะไรฉันก็อยู่แต่บ้าน ดูแลบ้าน ทำอาหารให้คุณ”



“ก็ใช้ไง เธอมันมีสมองเอาไว้ทำได้แค่นี้ ดูซิ นี้กูต้องหาเงินมาปรนเปรอมึงสองคนแม่ลูก และกูดันซวย มีคนตรวจสอบกูขึ้นมาอีก กูอยากรู้หนักว่าถ้าไม่มีกูมึงสองคนจะแดกอะไรกัน แถมมีลูกสาวก็เหมือนมีสวมอยู่หน้าบ้าน วัน วัน มันก็ตลอนไปหาแต่ผัว แต่ถ้ามันหาผัวดีๆ รวยๆ ได้กูจะไม่ว่าเลย “และนั้นทำให้เธอต้องชะงักเท้า นั้นแปลว่าพ่อของตั้นรู้เรื่องภายในบ้านมากกว่าเธอซะอีก ที่อยู่ที่นี้ใช้ชีวิตไปวันวัน



“พ่อ เกิดอะไรขึ้น” เธอก้าวเท้าเข้ามาก็ถามผู้เป็นพ่อของเธอทันที



“ไปไหนมา” ดิลกหันมาถามบุตรสาวทันที



“ไปเยี่ยมแฟนหนูมาค่ะ เขาประสบอุบัติเหตุรถชนค่ะพ่อ”



“ไอ้ตั้นเหรอ มันคนเดียวหรือว่ากับไอ้เด็กนั้นด้วย แล้วเป็นไง ตายไหม” พ่อเธอถามเธอ



“พ่ออย่าบอกน่ะว่านี่เป็นฝีมือของพ่อน่ะ “ปริมถามพ่อของเธอทันที



“ถ้าใช่มึงจะทำไม กูบอกแล้วว่ากูจะหาผู้ชายดีดีให้มึง และที่กูทำเพราะว่าพ่อมัน ทำให้ดูถูกตรวจสอบ แม้กระทั่งบ้านเด็กนั้น มันก็อาจจะทำให้กูโดนฟ้องกลับ และทั้งหมดนี้มันมาจากความโง่ของมึง”



“พ่ออย่ามาพาพาลว่าปริมน่ะ”



“ก็ถ้ามึงแต่งงานกับปฐวีย์ และไม่ปล่อยให้เขามาถอนหมั้นมึงได้น่ะ ทุกอย่างมันก็จะไปตามที่กูวางไว้ แต่กูพังไม่เป็นท่า เพราะว่ามึงสองแม่ลูก”



“พ่อ!!” ปริม เธอมองหน้าพ่อเธอ “นี้พ่อเห็นแกเงินมากกว่าความสุขของปริมเหรอ ให้ปริมไปทนอยู่กับคนที่ปริมไม่รักได้ยังไง และที่สำคัญ คุณปฐวีย์อะไรนี้ เขาก็ ไม่ได้ชอบผู้หญิงอย่างปริม”



“แล้วความสุขของมึงน่ะ มันแดกเข้าไปได้ไหม แถมไอ้คนที่มึงไปเกาะแกะด้วยน่ะ พ่อมันดันสนิทกับคนใหญ่คนโต ตอนนี้กูโดนตรวจสอบแล้ว สมใจมึงไหมปริม!!” พ่อของเธอหันมาพูด



“ถ้ามันรวยจริง สามสิบล้านมันคงจ่ายให้กูแล้วแต่นี้มันดันหาคนมาขุดเรื่องบ้านไอ้เด็กนั้น แถมมันขุดไปถึงคนที่กูอุดเงินเขาไว้ให้พลิกคดีให้กู และนี่มึงยังมี่หน้าไปเอามันอีกเหรอ อีลูกไม่รักดี "



“พ่อจะไปโทษใครได้ ทั้งหมดนี้พ่อทำเองน่ะ”



“นี้มึงโทษกูเหรอปริม เดี๋ยวบัด!!” พ่อเธอทำท่าจะตบหน้าเธอแต่ว่าแม่ของเธอรีบเข้ามากอดปริมเอาไว้เพื่อห้ามปรามไม่ให้พ่อเธอทำร้ายเธอ พ่อเธอมองหน้าแม่ของเธอ



“ถ้าคืนนั้นกูไม่ทำแม่มึงท้องและกูต้องมาติดกับผู้หญิงโง่ๆ อย่างแม่มึงป่านนี้กูคงไปถึงไหนแล้วอีปริม แถมมีลูกก็ไม่ได้อย่างใจ!!”



“และมึงนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับแม่มึงสักนิด ถ้ากูไม่หาผัวรวยๆ ให้มึง มึงจะอยู่ได้ไหม ไม่ได้หรอก “พ่อของเธอพูดก่อนจะเดินสับเท้าออกไปทันที พ่อของเธอกระซิบกับคนที่ติดตามพ่อเธอก่อนจะรีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว นั้นก็แปลว่าพอมีเรื่องแน่ๆ  ส่วนปริมได้แต่ยืนนิ่ง นึกถึงคำพูดของ ธรรพ์ณธรพ่อของผู้ชายที่เธอรักหรือว่าหลงกันแน่ ถามเธอว่าเธอไม่แปลกใจกับสถานะที่แม่เธอเป็นอยู่บ้างหรือ  ใช่เธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเธอเกิดมาเพราะว่าความผิดพลาดของคนสองคนอย่างนั้นหรือ น้ำตารินไหลแม่ของเธอกอดเธอไว้ เอามือลูบหัวเธอ



“ปริม ฮึก ถ้าไม่ติดแก แม่คงไม่มาทนอยู่แบบนี้หรอก เพราะแม่ทิ้งแกไม่ได้ปริม ฮือๆ”



“คอยดูน่ะ คอยดูน่ะ หนูต้องได้ผัวหนูคืน ผัวหนูครอบครัวเขาก็รวย ดูแลเราได้อยู่แล้วแม่”



“แล้วเขารักเราหรือเปล่า ถ้าเขาไม่ได้รักไม่ได้ชอบเรา อย่าเลย แม่รู้ว่า มันมีแต่นรก ไม่มีหรอกน่ะวันแห่งความรักน่ะ ถ้าคนเขาไม่ได้รักเรา คิดว่าทนอยู่กับเขาแล้วสักวันเขาจะรักน่ะ มันเป็นไปไม่ได้หรอกน่ะปริม”



“แกไม่เห็นแม่เหรอปริม” แม่ของเธอ ถามเธอ



“ปริมเชื่อว่าปริมทำให้เขารักปริมได้ เพราะว่าปริมไม่ใช่แม่” ปริมพูดก่อนจะรีบวิ่งขึ้นห้องนอนตัวเองไป ทันที ถึงเธอจะรู้ความจริงว่าตั้นไม่ได้รักเธออย่างคนรัก เธอรู้ว่าเขามีคนที่เขารักอยู่แล้วแต่ในตอนนั้นมันไม่ใช่เมย์ และเธอก็คิดว่าเธอจะทำให้เขาลืมคนนั้น แต่ทำไมสุดท้าย เมย์ที่มาทีหลัง กลับได้หัวใจเขาไป ทำไม ทำไม ฮือๆ

******



"color:#4472c4;">Part’ s "color:#4472c4;">เมธานินท์"color:#4472c4;"> ผมนั่งๆ นอนๆ ดูทีวีแต่ก็ดูไม่รู้เรื่อง ผมเลยเดินออกมา ผมเดินผ่านมาที่ห้องที่พี่ตั้นนอนอยู่ในนั้น ขณะที่ผมกำลังเดินหันหลังออก ผมเห็นพยาบาลดูวุ่นวาย วิ่งเข้าวิ่งออกจากห้องไอซียู และสักพักก็มีหมอวิ่งตามเข้าไป ผมนี้ยืนมองใจคอไม่ดีเลย ไอ้ครั้นผมจะเดินเข้าไปถามก็ไม่กล้าเพราะดูแล้วถ้าจะยุ่งจริงๆ ผมชะเง้ออยู่หน้าห้อง ผมภาวนาขออย่าให้เป็นพี่ตั้นเลยน่ะ เฮียอย่าเพิ่งทิ้งไป ผมยืนชะเง้อมองอยู่แต่ที่หน้าประตู



“ปึก” ผมชนกับอะไรบางอย่าง “ตุ๊บ” สิ่งที่ผมชนก็หล่นลงไปที่พื้น ผมก้มลงมอง เด็กน้อยหน้าตาน่ารัก นั่งกะพริบตามองผม ทำตาปริบๆ ผมเห็นมีผ้าปิดแผลที่หน้าผาก ผมก็รีบย่อตัวลง ประคองเด็กน้อยให้ลุกขึ้นทันที



“พี่ขอโทษนะครับ” ผมบอกเด็กน้อย ก่อนจะมองซ้ายมองขวา ว่าพ่อแม่เด็กอยู่ไหน ทำไมปล่อยน้องมาอยู่แบบนี้ คนเดียวล่ะ



“หนูมากับใครครับ” ผมถาม ดูแล้วน่ะจะสองขวบเกือบสามขวบได้



“มัม “เด็กน้อยบอกผมว่ามากับแม่



“แล้วแม่อยู่ไหนครับ” ผมถามเด็กน้อย



“อึ” เด็กน้อยชี้ไปในห้องนั้น ผมก็มองตาม แล้วทิ้งลูกไว้ตรงนี้ทำไมกันน่ะ



“มั้มมี้ แด้ดดี้” เด็กน้อยบอกผมว่าแม่กับพ่อเขาอยู่ในนั้น เด็กน้อยเอียงคอมองผม ผมก็พยายามมองหาว่าใครพอจะคุยกับผมได้ ผมจะได้บอกเขาว่าแม่เด็กอาจจะลืมน้องไว้ตรงนี้



“แม่หนูชื่ออะไรครับ” ผมถามเด็ก



“มัม!” เด็กน้อยตอบผม ผมเกาหัวเล็กน้อย ผมนึกถึงตอนที่ผมทำงานอยู่ที่โรงแรมของพี่ปฐวีย์ มีเด็กฝรั่งเดินหลงอยู่ในโรงแรม ผมก็ถามชื่อพ่อแม่ เขาก็บอกผม ว่ามัมแอนแด้ด ผมนี้ก็ไม่รู้จะพาไปหาที่ไหน จนกระทั่งพ่อแม่เด็กเดินมาโวยวายลูกหายนั่นแหละแต่นี่



“พี่จะช่วยหนูยังไงล่ะ “ผมถามเด็กน้อย



“มัม มัม มัม” เด็กน้อยชี้ไปที่ประตู ผมก็รีบเดินไปส่องกระจกมอง แต่ก็ไม่มีใครน่ะ



“มัม มัม มัม” เด็กน้อยกางมือจะให้เขาออกมาอุ้มแต่ว่าในนี้ไม่มีใครเลย ผมเริ่มขนลุกผมมองซ้ายมองขวาจนกระทั่งมีพยาบาลเดินออกมา



“พี่ครับ ผมว่าแม่น้องเขาคงลืมน้องไว้ข้างนอกน่ะครับ” ผมบอกพยาบาล แต่พอพยาบาลหันไปมองตามมือผมที่ชี้ พยาบาลถึงกับตกใจ ยกมือทาบอก



“ตายแล้วมาได้ยังไงงเนี๊ยะ!! “พยาบาลพูดขึ้น



“น้องเขาบอกว่ามากับแม่เขานะครับ” ผมพูด



“เป็นไปไม่ได้ค่ะ” พยาบาลพูดกับผม “คุณใช้ญาติคนไข้ที่รถชนสี่แยกไฟแดงไหมคะ และเขานอนอยู่ในห้องไอซียู คนไข้หมอโอมนะคะ” ผมรีบพยักหน้า



“เด็กนี้เป็นลูกของคู่กรณีที่ออกมาชนนะคะแต่เด็กแค่หัวแตก และนี่พ่อแม่น้องเสียค่ะ เมื่อสักสิบนาทีนี้เองค่ะ” ผมก็ต้องผงะ





“แล้วน้องเขามายังไงล่ะครับ”



“นั้นซิ ห้องเด็กน่ะอยู่ชั้นบนค่ะ” พยาบาลพูด



“หนูมายังไงคะลูก”



“มัม” เด็กตอบแต่นี้ ผมก็พยักหน้าว่าน้องก็บอกผมแบบนี้



“เดี๋ยวพี่พาไปส่งห้องเด็กเองค่ะ ไม่แน่พรุ่งนี้ กรมประชาสงเคราะห์คงมารับค่ะ เพราะว่าเราติดต่อญาติพ่อแม่น้องไม่ได้เลย พ่อเขาไม่ใช่คนไทยค่ะ แต่เป็นลูกครึ้งค่ะไทยออสเตรเลีย และเราก็หาเบอร์ติดต่อเบอร์ติดต่อทานโน่นไม่ได้เลยค่ะ ต้องรอให้ตำรวจประสานงานกับทางสถานทูตค่ะ “ผมก้มลงมองเด็กน้อยที่ทำท่าจะร้องไห้



“แหง๋ๆๆๆ” อยู่ดีดีก็ร้องไห้ออกมาเสียงดังมาก มันทำให้ผมนึกถึงตอนนั้น ตอนที่ผมเพิ่งจะเสียพ่อแม่และผมก็เพิ่งจะห้าขวบ ผมก็ร้องไห้อย่างหนักเพราะว่าไม่อยากไปอยู่กับคนอื่น ผมย่อตัวลง



“ไปกับพี่เขานะครับ พี่เสียใจด้วยน่ะ และพี่ตั้นก็คงเสียใจมากถ้าเขารู้ น่ะครับคนดี” ผมพูดก่อนจะถอยหลังออกให้พี่พยาบาลพาไปแต่เด็กน้อย เดินมาเกาะขาผม ไม่ยอมไป



“ไปค่ะลูก ได้เวลานอนแล้วน่ะ ว่าแต่พยาบาลไม่รู้หรือไงว่าเด็กหายลงมาน่าจริงๆ”



“ไม่!!” เด็กน้อยตะคอกใส่พยาบาล



“ไปครับ พี่พากลับห้องนะคะ ไม่ดื้อน่ะ”



“ไม่ ไม่ ไม่ ฮือๆ “เด็กสะบัดมือนางพยาบาลออกตลอดและชี้ไปที่ในห้องนั้น



“เอาอย่างนี้ไหมครับ ให้เขาอยู่กับผมก่อน พอเขาหลับแล้วค่อยพาเขาไปห้องของเขานะครับ” ผมบอกพยาบาล



“ก็ได้ค่ะ พี่จะบอกพยาบาลห้องเด็กเอาไว้นะคะ ตอนนี้พี่ต้องลงไปทำเรื่องก่อน ต้องเอาศพพ่อแม่เด็กไปไว้ห้องเก็บศพก่อนนะคะ “พยาบาลพูด



“น่าส่งสารเนอะ แต่มันคืออุบัติเหตุไม่มีใครรู้ล่วงหน้า” พี่พยาบาลพูด ผมก้มลงมองเด็กน้อยที่ยืนเกาะขาผมแน่น ผมเองก็ค่อยโล่งอกไปหน่อย คนที่เขาวุ่นวายไม่ใช่พี่ตั้น มันก็ปวดหัวใจผมน่ะที่ต้องมาเป็นพ่อแม่เด็กน้อยคนนี้แทน ผมเองเคยไปเป็นพี่เลี้ยงเด็กที่โรงแรมของพี่ปฐวีย์มาบ้าง ผมเองก็ชอบเด็กแต่ผมไม่กล้าไปเป็นครู ผมกลัวเวลาที่ผมต้องเห็นพ่อแม่มารับลูกแล้วผมนึกถึงพ่อแม่เหมือนกันแต่นี่ เด็กคนนี้ต้องมาเสียพ่อแม่ไปกะทันหันยังเด็กน้อยเกินไปด้วยซ้ำ ผมพาเด็กน้อยมานั่งในห้องรับรองแทน



“เราชื่ออะไรน่ะ” อุ้มน้องนั่งบนโซฟา ผมย่อตัวลงถามเด็กน้อย



“แอนดรูว์” น้องเขาบอกผม ผมพยักหน้าก่อนจะเอามือลูบหัวเบาๆ ในห้องรับรองสามารถมองเห็นเงาคนเดินผ่านไปมากได้ พอแอนดรูว์หันไปมองก็โผเข้ามากอดผมตัวสั่น พร้อมกับหลับตาปรี๋



“แอนดรูว์ ไม่มีอะไรครับ”



“กลัว” แอนดรูว์พูดและยังกอดผมแน่นไม่ยอมปล่อย ผมก็เลยต้องขึ้นไปนั่งและแอนดรูว์ก็ขึ้นมานั่งคร่อมบนตักของผมและยังเอาหน้าซุกที่อกผม เขาใช้นิ้วโป้งดูด แอนดรูว์ช้อนตาขึ้นมามองผมเป็นระยะๆ ผมก้มลงมองแอนดรูว์ด้วยสายตาที่แฝงความเจ็บปวด เขายังเด็กเกินไปที่จะมาเจอการสูญเสียแบบนี้



ก๊อก ก๊อก ก๊อก มีคนเดินมาเคาะประตูห้อง พร้อมกับเปิดเข้ามา เป็นพยาบาลและผู้ช่วย ดูจากชุดผู้ชายลายน่ารักนั้นแปลว่าเขามาจากแผนกเด็ก คงจะมารับแอนดรูว์กลับไป



“ขอโทษนะคะ มารับน้องค่ะ น้องน่าจะง่วงแล้วนะคะ” พี่พยาบาลพูดและพากันเดินเข้ามา แอนดรูว์หันไปเห็นก็ลุกขั้นและกอดคอผมแน่นมาก ผมรู้สึกแปลกใจทั้งที่ผมเพิ่งเจอเขาแค่ไม่ถึงสองชั่วโมงเลยแต่นี่เขากับไม่อยากไปจากผม



“แอนดรูว์ค่ะ”



“ไม่ โน ไม่ ไม่ ไป อยู่ พี่” แอนดรูว์ไม่ยอมไปจากผมท่าเดียวเลย แถมพูดไทยป่นอังกฤษตีกันยุ่งไปหมด ผมก็เงยหน้าขึ้นมองพยาบาล และผู้ช่วยพยาบาลว่าเอายังไงดี



“ไม่ อือ ไม่ ฮือ “ยิ่งร้องไห้เข้าไปใหญ่เลย



“น้องจะโอเคไหมครับ ถ้าให้น้องนอนในห้องนี้กับผม หรือว่าน้องต้อง…”



“น้องไม่ได้เป็นอะไรมากแล้วนะคะ รอแค่กรมประชาสงเคราะห์มารับตัวน้องไปค่ะ “พี่พยาบาลพูด ผมก็ก้มลงมองแอนดรูว์ มันช่างเหมือนตอนผมร้องและเกาะขาแม่ปิ่นเอาไว้แน่น ผมไม่อยากไปอยู่ที่นั่น และตอนนี้ผมเริ่มเข้าใจแอนดรูว์แล้ว



“งั้นให้เขาอยู่กับผมก่อนแล้วกันน่ะครับ เพราะว่าผมอยู่รอแฟนผมน่ะครับและนี่พี่หมอโอมเขาให้ผมมารอเฝ้าแฟนผมที่นี้ได้นะครับ” ผมพูดกับพยาบาล เขาก็พยักหน้าเบาๆ พยาบาลมองน้องแอนดรูว์ ตอนนี้กอดคอผมไม่ยอมปล่อยเลย และดูท่าจะไม่ยอมด้วย



“ก็ได้ค่ะ ตอนเช้าพี่มารับแล้วกันนะคะ หรือถ้าน้องจะให้พี่ลงมารับก่อน ฝากบอกพยาบาลห้องไอซียูโทรตามพี่ได้ตลอดนะคะ พี่ชื่อพี่อ้อยค่ะ “พี่พยาบาลพูดก่อนจะหันหลังออกไป พอประตูปิด หนุ่มน้อยเงยหน้ามองผม ก่อนจะซบหน้าลงใหม่อีกครั้ง ผมเริ่มเห็นว่าเขาหลับแล้วผมเลยวางลงที่โซฟายาวอีกครั้ง และผมเองที่เป็นคนกั้นไม่ให้แอนดรูว์ตก นี้ผมรู้สึกผิดแทนพี่ตั้นหรือว่าผมรู้สึกเข้าใจเด็กคนนี้ที่ต้องเสียพ่อแม่ไป เหมือนเช่นผมกันแน่ ผมไม่รู้ว่าผมผล่อยหลับไปตอนไหน



“หงึก หงึก “มีคนมาสะกิดผม ผมหันไปสะลึมสะลือเป็นผู้หญิงผมยาว แต่งตัวด้วยเดรสสีขาว เธอมายืนมองผมแอนดรูว์ ผมหันไปมอง และจู่ๆ เธอก็ร้องไห้



“คุณเป็นแม่เขาหรือเปล่าครับ”



“อืมม” เขาแค่พยักหน้าแต่ก็ยังร้องไห้



“แอนดรูว์” ผมกำลังจะเรียกเด็กน้อยให้ตื่นแต่คนที่ยืนมองผมส่ายหน้า



“ฝาก ลูก ฉัน ด้วย” ผมไม่ได้ยินเสียงแต่ผมอ่านปากเธอ และจู่ๆ เธอก็เดินหันหลังออก ผมก็รีบหันตามและทำท่าจะยื่นมือไปเรียกเขาเอาไว้



“เฮือก!!” ผมสะดุ้งเฮือกใหญ่ ผมหันซ้ายหันขวาและมองเด็กน้อยที่หลับใหล อยู่ด้านใน ผมหันไปมองด้านที่ผมเห็นผู้หญิงคนนั้น แต่ว่าไม่มีแล้ว เหงื่อผมแตกผลักๆ เลย นี้ผมฝันไปใช่ไหม ผมค่อยทิ้งตัวลงนอนข้างแอนดรูว์อีกครั้ง หรือว่าเขามาบอกผมให้ผมดูแลลูกเขา เขาไม่อยากให้เขาส่งเด็กคนนี้ไปที่บ้านเด็กกำพร้า แล้วผมจะดูแลเด็กคนนี้ยังไง ผมหวนไปนึกถึงแม่ปิ่น แม่ปิ่นยังดูแลผมมาได้ แล้วทำไมผมจะดูแลเขาไม่ได้ พี่ตั้นก็คงเห็นด้วยถ้าผมจะขอดูแลเขาต่อจากนี้ ผมจะทำเรื่องได้เหรอ ตอนผมนั้นแม่ปิ่นยังโดนเข้ามาตรวจสอบหลายรอบเลย เขากลัวว่าแม่ปิ่นจะเลี้ยงผมไม่ดี แต่ระหว่างผมอยู่กับแม่ปิ่นที่มอบความรักให้ผมไม่ต่างจากพ่อแม่แท้ๆ กับผมต้องไปอยู่กรมประชาสงเคราะห์ ที่อาจจะดูแลไม่ทั่วถึง คือให้ความรักความอบอุ่นไม่เท่ากับแม่ปิ่น ผมเลือกที่จะอยู่อย่างลำบากดีกว่า



“พี่จะลองดูน่ะ ถ้าพี่ทำให้เขาเห็นว่าพี่ดูแลเราได้ แอนดรูว์”

TBC .......
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.31 พ่อของตั้นยื่นข้อเสนอให้พี่ปริม
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 11-02-2021 22:15:28
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.32 พี่ตั้นฟื้นแล้ว(ครึ้งแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 17-02-2021 13:16:09
อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.32 พี่ตั้นฟื้นแล้ว(ครึ้งแรก)

      เมธานินท์ ผมตื่นขึ้นมาก็รีบอุ้มน้องแอนดรูว์ไปคืนที่ห้องเด็กทันที ก่อนจะรีบกลับมาดูพี่ตั้น แต่พยาบาลบอกกับผมว่าคุณหมอเฉพาะทางที่เป็นอาจารย์แพทย์ของพี่โอม และเขาก็เป็นหมอเกี่ยวกับระบบประสาทโดยตรง เขาได้เดินทางมาเพื่อทำการผ่าตัดให้พี่ตั้นอีกครั้งตั้งแต่ตอนเช้ามืดแล้วเขาว่าจะเข้าไปเรียกผมแต่เห็นว่าผมนอนหลับอยู่เลยไม่ได้เรียก คาดว่าอีกสักประมาณสิบเอ็ดโมง ก็น่าจะเข้าเยียมได้ ผมก็รีบกลับไปยังคอนโด เพื่อไปอาบน้ำแต่งตัว ผมนั่งรถแทกซี่กลับไปที่คอนโดเอง และระหว่างที่ผมกำลังจะออกจากห้อง

“เมย์” ผมหันไปมองสตีเฟ่น นี่เขายังอยู่ที่ไทยหรือนี่

“ครับ ผมยังอยู่ พอดีว่า เมื่อวานเพื่อนของไทตั้น เขาไปคุยกับเจ้าหน้าที่ เรื่องที่ผมคืนห้องแต่เขาแต่ว่ายังไม่ครบกำหนด และเขาบอกสาเหตุว่าทำไมผมต้องกลับมาพักที่นี้ เขาเก็เลยให้ผมอยู่ต่ออีกจนถึงสิ้นเดือนนะครับ” สตีเฟ่นบอกผม

“คุณจะอยู่นานแค่ไหนครับ” ผมถามสตีเฟ่น

“ผมจะอยู่เจอเพื่อนผมก่อน ว่าแต่เขาเป็นยังไงบ้างครับ”

“เมื่อคืนผมเข้าไปดูเขาแค่แป๊บเดียวครับสตีเฟ่น ตอนเช้าพยาบาลก็บอกกับผมว่าพี่ตั้นเข้าห้องผ่าตัดแต่ตอนเช้ามืดเลยกับอาจารย์หมอนะครับ เป็นแพทย์เฉพาะทาง” ผมบอกสตีเฟ่น

“ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวไปก่อนน่ะครับ “ผมบอกสตีเฟ่น

“ผมจะโทรบอกคุณสตีเฟ่นดีไหมครับ ว่าเขาให้เข้าเยี่ยมได้หรือยัง “ผมหันมาบอกสตรีเฟ่น สตีเฟ่นก็พยักหน้าก่อนจะส่งมือถือของเขามาให้ผมกดเบอร์โทรผมลงไป ผมก็โบกมือลาพร้อมกับรีบเดินลงไปชั้นล่างสุด ผมยังไม่ได้คุยกับวิวเลย ผมไม่อยากให้แม่เป็นกังวลแทนผม จังหวะที่ผมลงมาก็เจอพี่กอล์ฟ พี่กอล์ฟมายืนรอผมแล้ว

“พี่กอล์ฟ “ผมเรียกพี่กอล์ฟ

“พี่ว่าจะขึ้นไปเรียกเราแต่พี่คิดว่าเมย์น่าจะใกล้ลงมาแล้ว” พี่กอล์ฟบอกผม

“เฟย์เขาต้องไปเรียนน่ะครับ ขาดมาหลายวันแล้ว” พี่กอล์ฟบอกผม ผมพยักหน้า อันที่จริงผมว่าจะไปก่อนเวลาด้วยซ้ำ เพราะว่าผมจะแวะไปหาแอนดรูว์ก่อน เมื่อคืนนอนกอดกันกลมเลย ผมก็เดินตามพี่กอล์ฟไป ระหว่างที่เดินไปที่รถพี่กอล์ฟก็กดรับสาย ผมเองก็เหลือบมองมือถือผม เงียบไปน่ะ เฮีย

“เมย์ พี่จะไปส่งเมย์ก่อนน่ะ เฟย์เขาลืมชีทเอาไว้น่ะเขาต้องใช้ วันนี้น่ะครับ” พี่กอล์ฟบอกผม ผมพยักหน้าว่าได้

“แล้วพี่จะรีบกลับมาน่ะครับ “พี่กอล์ฟบอกผม ผมนั่งนิ่งคิดถึงผู้หญิงที่มาหาผมเมื่อคืน เขาบอกว่าฝากลูกเขากับผม ผมคิดเรื่องตัวเองมากไปหรือเปล่าเลยทำให้ผมถึงกับเก็บไปฝันเป็นตุเป็นตะไป จนกระทั่งรถแล่นมาถึงโรงพยาบาล ผมก็ลงจากรถก่อน ผมเหลือบมองเวลา เพิ่งจะสิบโมงเอง ผมก็รีบเดินขึ้นไปที่แผนกเด็กทันที ระหว่างที่ผมเข้าไปในลิฟต์ ระหว่างที่ลิฟต์กำลังจะปิด ผมเห็นคนที่มากับเจ้ปริมเดินอยู่ แต่ว่าลิฟต์ปิดพอดีเลย ผมเองก็ไม่อยากสนใจไม่อยากเอามาคิดมาก แค่เรื่องพี่ตั้นก็มากพอแล้วสำหรับผม ผมมาถึงแผนกเด็กและผมก็เดินไปที่เคาเตอร์พยาบาลทันที

“สวัสดีค่ะ มาติดต่อเรื่องอะไรคะ”

“สวัสดีครับ ผมเป็น เออ ผม เป็นแฟนพี่คนที่ขับรถชนครอบครัวที่กลางสีแยกน่ะครับ และน้องที่ได้รับบาดเจ็บน่ะครับ เขาอยู่ที่นี้ น้องชื่อแอนดรูว์นะครับ” ผมบอกพยาบาล พบาบาลทำหน้าครุ่นคิดนิดหนึ่งก่อนจะ

“แอนดรูว์ อ้อค่ะ แล้วคุณจะมาเยี่ยมน้องเหรอคะ” พยาบาลถามผม ผมพยักหน้า

“มีเจ้าหน้าที่จากกรมประชาสงเคราะห์มารับตัวน้องไปแล้วค่ะ เพราะว่าทางเราไม่สามารถติดต่อญาติพ่อแม่เด็กได้เลยค่ะ “ผมตกใจมาก

“อ้าว!! น้องนั้นเอง พึ่งจะมาเหรอคะ นี้แอนดรูว์เขาไปแล้วค่ะ น่าจะคลาดกันไม่กี่สิบนาทีเองค่ะ “ผมทำหน้าเศร้าลงทันที ผมไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้

“คือว่าพวกมีคนไข้เด็กเยอะค่ะ เลยจะมาดูแลตลอดก็ไม่ได้ และ” ผมหันไปเห็นพี่พยาบาลที่เดินลงตามแต่แอนดรูว์ไม่ยอมกลับขึ้นมา ผมจำได้ดี

“แอนดรูว์ร้องไห้หนักมา ร้องหาเรานะคะ “ผมก็ใจแป้วเลย ผมรู้สึกปวดใจ ภาพวันวานที่ผมร้องไห้และกอดขาแม่ปิ่นเอาไว้

“พี่ครับ ผมขอเบอร์ติดต่อคนที่พาน้องไปได้ไหมครับ “ผมถามพี่พยาบาล เขาก็มองหน้ากัน

“นะครับผมขอร้อง ผมคิดว่าผม จะขอรับน้องมาดูแลนะครับ “ผมบอกพี่พยาบาล พี่เขาก็ หันไปหยิบเอกสารในแฟ้มมาให้ผม เป็นเบอร์กรมประชาสงเคราะห์ มีชื่อและเบอร์โทรเจ้าหน้าที่ ผมก็รับมาถือไว้

“ดู่ท่าทางน้องจะชอบเราน่ะ” พี่พยาบาลพูด จังหวะนั้น โทรศัพท์ผมดังขึ้น ผมกลัวว่าจะรบกวนคนไข้คนอื่น ผมเลยรีบเดินออกมา ผมเห็นว่าเป็นเบอร์พี่อาร์ม แต่ว่าลิฟต์เปิดพอดีและเขาก็รอผมอยู่ด้วย ผมเลยรีบเดินเข้าไปก่อน ไอ้ผมจะรับสายในลิฟต์ก็เกรงใจ คนอยู่หลายคน เลยรอให้ลงมาถึงชั้นล่างก่อน

“ฮัลโหล พี่อาร์ม” ผมโทรกลับหาพี่อาร์ม

“เมย์อยู่ไหนแล้ว” พี่อาร์มถามผมทันที

“ผมอยู่ในโรงพยาบาลครับ พี่อาร์ม ผมเพิ่งจะไปดูเด็กที่พ่อแม่เขาขับรถออกมาชนกับพี่ตั้นน่ะครับ พี่อาร์ม” ผมบอกพี่อาร์ม

“ตั้น ฟื้นแล้วน่ะเมย์” พี่อาร์มบอกผมว่าพี่ตั้นฟื้นแล้ว

“ตอนนี้กำลังจะเข็นขึ้นไปที่ห้องพักพิเศษ นี้ตื่นมาอย่างสะลึมสะลือก็ถามหาเราเลยน่ะเมย์”

“ผมจะรีบขึ้นไปตอนนี้เลยนะครับ” ผมบอกพี่อาร์ม

“พี่ตั้นย้ายไปอยู่ห้องหมายเลขอะไรครับ พี่อาร์ม” ผมดีใจที่สุด

“ห้องเบอร์ 8709 นะครับ”

“เดี๋ยวผมรีบขึ้นไปเลยนะครับ” ผมรีบบอกพี่อาร์ม พี่ตั้นเขาชอบดื่มน้ำแร่ ผมก็เลยเดินไปหาซื้อน้ำแร่ดีกว่า ระหว่างที่ผมกำลังเดินผ่านจะไปทางเชื่อมที่จะออกไปซูเปอร์มาเก็ตด้านข้างๆ ได้

“ปึก” จู่ๆ ก็มีคนเอาถุงผ้ามาครอบหัวผม พร้อมกับมีผ้ามาปิดปากผมไว้ ผมถูกรวบขาไว้ด้วยกัน

“อืมมมม อืมมมม อืมม “ผมร้องแต่ก็ร้องไม่ออก

“ตุบ” ร่างผมถูกโยนเข้าไปในไหนก็ไม่รู้ ทั้งเจ็บและจุก ก็ก้นผมกระแทกพื้นขนาดนั้นและเสียงประตูก็ถูกปิดลง ผมดดึงถุงที่ครอบหัวผมออก ผมนั่งอยู่ในห้องเล็กๆ แคบๆ มีแต่ไม้กวาด ไม้ถูก ผมก็รีบลุกขึ้นพยายามดันประตูแต่ว่าดันไม่ออก

“เรียบร้อยแล้วไปหาผัวเธอได้” ผมได้ยินเสียงดังคนคุยกันดังมาจากด้านนอก

“ปึก ปึก ปึก “ผมรีบดันตัวเองขึ้นและใช้กำปั้นทุบประตู “เปิดน่ะ คุณเป็นใคร ทำกับผมแบบนี้ทำไม เปิดน่ะ บอกให้เปิดไง” ผมพูด และพยายามเขย่าประตู ผมก็หยิบมือถือมาจะกดโทรออกแต่ว่าไม่มีสัญญาณเลย ผมก็ยืนชะเง้อ ผมมาอยู่ในจุดอับสัญญาณเหรอ ผมก็พยายามส่องหาสัญญาณ ผมยืนมืออยู่พักหนึ่ง ผมเห็นมีขีดหนึ่ง ผมก็เลยกดโทรออกแต่ว่าความไวของมือผมกดเลยไปถึงเบอร์พี่ภาคิน แต่ว่าฝากข้อความเสียง

“พี่ภาคิน ช่วยผมด้วย ผมถูกขังอยู่ในห้องเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดอ่ะพี่ภาคิน ตรูด ๆ” และสัญญาณก็ถูกตัดไป แถมแบทเตอรี่ก็อ่อนอีก ผมทรุดตัวลงนั่ง ผมได้แต่ภาวนาขอให้มีคนเดินมาเปิดประตู

****

รชานนท์ ผมค่อยลืมตาขึ้น หนังตาที่หนักอึ้ง จนแทบจะลืมไม่ไหว แต่ผมก็ต้องฝืน ผมจำอะไรไม่ได้เลย ว่าเกิดอะไรขึ้น ผมหลับไปได้ยังไงก็ยังไม่รู้ แต่ในความฝันของผม มันเป็นภาพวัยเด็กที่หายไปของผม ผมเห็นเขาคนนั้น พ่อผมเอง ผมร้องไห้ร้องตามพ่อผม ผมรูกสึกเจ็บที่คอผมมาก กลืนน้ำลายลำบากมาก รู้สึกเหมือนชาๆ แต่ก็พยายามจะกลืนน้ำลายลงคอ

“ตั้น” เสียงที่เรียกชื่อผมคนแรก คือ ไอ้ทีน เพื่อนผม

“ตั้น!! “และอีกเสียงที่ดังมาพร้อมกับประตูเปิดออก ผมไม่ได้ยินเสียงเขามานานมากแล้วน่ะ ผมจำได้ดีพี่ปริม พร้อมกับผู้ชายที่ไม่เต็มร้อยอีกสองคน ผมเองยังนอนนิ่งอยู่ เจ็บระบบไปหมด ผมหันไปมองไอ้ทีน ไอ้ทีนมันอ่านสายตาผมออก ผมอยากถามหาคนที่ผมอยากเจอมากที่สุด

“กูไปโทรหาให้เมย์ให้น่ะ” ทีนพูดก่อนจะชำเลืองมองเจ้ปริมที่เดินมายืนที่ข้างเตียงผม ระหว่างที่ไอ้ทีนเปิดประตูไอ้เปรมดิ์ ไอ้อาร์มมันก็มาพอดี มันเข้ามาถึงก็มองคนที่มาเยี่ยมผมก่อน

“นี้เจ้เอาสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาเยี่ยมไอ้ตั้นมันด้วยเหรอครับ” ไอ้เปรมดิ์มันถาม ผมขยับไม่ได้เลยหันไปมองหน้ามันด้วยสายตา

“สิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไรของมึงเปรมดิ์” เจ้ปริมถามไอ้เปรมดิ์

“ก็นี้ไง มีผ้าสามสีผูกติดมาด้วย สงสัยว่าจะเป็นกล้วยตานี ปลายหวีเหี่ยวซะด้วย “ไอ้เปรมดิ์มันชี้ไปที่คนที่มากับพี่ปริม พอพูดประโยคนี้ทั้งคู่ถึงกับหนีบส่วนน้ั้นทันทีและจับผ้าที่พันคอมาด้วย

“นี้ อันนี้มันผ้าพันคอ ฟูลคัลเลอร์ ผ้าสามสีบ้านแกซิ ฉันสองคนไม่ใช่เสาร์เอกเสาร์โทน่ะ”

“นี่ก็กำลังจะมองหา” ไอ้อาร์ม

“หาอะไรว่ะ” ไอ้เปรมดิ์

“หาธูปมาจุดไหว้พอดีเลย แม้แถมยืนอยู่กลางห้องอีกต่างหาก” ไอ้อาร์ม ผมหันไปมองมันสองคน อยากจะร้องห้ามแต่ก็เจ็บคอ

“เดี๋ยวก็สั่งหัวหมามาเซ่นซะเลยนี่” ไอ้เปรมดิ์

“หัวหมู!!!”

“เจ้!!!”

“ออกไปก่อน” เจ้ปริมพูด ไอ้เปรมดิ์กับไอ้อาร์มหันมามองหน้ากัน

“ออกไปซิ! ยืนเซออยู่ได้ นายหญิงเขาสั่งน่ะ นี่คนขับรถใช่ไหมเจ้” ไอ้เปรมดิ์ถึงกับชี้หน้าตัวเอง

“มึงสองตัวนั่นแหละออกไปก่อน” เจ้ปริมหันไปบอกสองคนที่มากับเจ้ปริม ทั้งคู่ถึงกับสะบัดหน้ามามองเจ้ปริมทันที

“อ้าวเจ้!!”

“ออกไปก่อน ฉันจะอยู่ดูแล ผัวที่รักของฉัน” เจ้ปริมก็เดินมามองผม ส่วนสองคนนั้นก็หันมามองหน้าไอ้เปรมดิ์ และอาร์ม

“มองหน้าเดี๋ยวปัดเต๊ะไข่แตกเลย” ไอ้อาร์ม

“อ้าย!!”

“กูว่าไข่มันฝ่อไปตั้งนานแล้วเตะไปก็เสียตีนเปล่า” ไอ้เปรมดิ์พูด ก่อนจะเดินมาหาผมเช่นกัน

“ตั้น เจ้รู้ข่าวเจ้รีบมา มานั่งเฝ้าตั้งแต่เมื่อวาน อดหลับอดนอน ขอบตาคล้ำดำปรี่เลย ตั้น” เจ้ปริมพูด

“เอาดินหม้อทางมาเองหรือเปล่า แม้ทำซะเหมือนจริงเชียว”

“ของจริง เพราะว่ากูนี่เป็นห่วงตั้นมาก และอีกอย่างน่ะ “เจ้ปริมพูด

“บ้านกูใช้เตาแก๊ส ไม่ได้ใช้เต่าถ่าน “พี่ปริมพูด ผมหันไปมองเปรมดิ์ กำลังจะอ้าปาก อย่างน้อยให้มันอ่านปากก็ยังดี

“ตั้น มองหน้าเจ้ซิ” เจ้ปริมก็ใช้มือประคองหน้าผมไปมองหน้าเขา

“ตั้น มึงจะพูดกับกูใช่ไหม มึงมองหน้ากูดิ” ไอ้เปรมดิ์มันก็จับหน้าผมพลิกไปมองหน้ามัน ผมก็อ้าปาก

“ตั้น มองเจ้ดีกว่า เจ้เห็นตั้นเจ็บแบบนี้เจ้เจ็บกว่าอีก” เจ้ปริมก็พลิกหน้าผมไปหาเขา

“ไอ้ตั้น มึงมองหน้ากู ตกลงมึงจะถามหา “ไอ้เปรมดิ์

“เอ๊ะ!! ไอ้เปรมดิ์ กูเป็นเมียตั้น เขาต้องมองหน้ากูซิ มองหน้ามึงทำเชี้ยอะไร เอาหน้าด้านๆ มึงออกไป”

“ก็ตั้นมันจะคุยกับผมอ่ะเจ้ ผมเพื่อนรักมันเหมือนกัน มองกูเถอะ” ไอ้เปรมดิ์

“พอ.... เถอะ... คอ.. เคล็ดแล้ว ...หลังก็เจ็บ ...จะให้ปวดคออีกเหรอ “ผมเลยต้องกลั้นใจส่งเสียงห้ามก่อน

“ถ้าไม่หยุดนี่จะกดเรียกพยาบาลมาลากออกไปแล้วน่ะ” ไอ้อาร์มไม่พูดเปล่า มันทำท่าจะกดปุ่มเรียกด้วย

“เจ้มาทำไมอ่ะครับ “ผมถามเจ้ปริม

“มาดูแลตั้นไง ในฐานะ…”

“พี่ปริม ผมมีเมย์แล้ว และผมก็รักเมย์ พี่ปริมพอเถอะนะครับ ผมกับเมย์เหนื่อยแล้วพี่ปริม “ผมพูด พี่ปริมมองหน้าผม

“พี่ก็รักตั้นน่ะ รักไม่แพ้ไปกว่าเมย์ด้วย ทำไมตั้นไม่ให้โอกาสพี่ได้แก้ตัวบ้าง พี่รู้ว่าที่ผ่านมาพี่เป็นแฟนที่ไม่ดี”

“ผมกับพี่เราไม่ได้คบกันในฐานะแฟนไม่ใช่เหรอครับ “ผมพูด

“ปึก!!!” เสียงประตูถูกดันเข้ามา และคนที่ผมไม่ได้เจอเขามาหลายอาทิตย์ ก็เข้ามาพร้อมกับ กวาดสายตาไปมองรอบห้องจนมาหยุดที่พี่ปริม และคนนั้นก็คือภาคิน

TBC.....
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.32 พี่ตั้นฟื้นแล้ว(ครึ้งแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 17-02-2021 15:11:43
 :m16:  เจ้ปริม
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.32 พี่ตั้นฟื้นแล้ว(ครึ้งแรก)
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 17-02-2021 19:05:29
 :mew2: :mew2:
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.32 พี่ตั้นฟื้นแล้ว(ครึ้งหลัง)
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 18-02-2021 06:26:22
อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.32 พี่ตั้นฟื้นแล้ว(ครึ้งหลัง)

“ปึก!!!” เสียงประตูถูกดันเข้ามา และคนที่ผมไม่ได้เจอเขามาหลายอาทิตย์ ก็เข้ามาพร้อมกับ กวาดสายตาไปมองรอบห้องจนมาหยุดที่พี่ปริม และคนนั้นก็คือภาคิน

“ไอ้ภาคิน มึงมาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่ว่ะ” ไอ้เปรมดิ์มันถาม

“มาถึงเมื่อวานแต่ว่ากูว่ามันดึกไป “ภาคินพูด

“อีเจ้! มึงนี้มันเชี้ยมากจริงๆ น่ะ “ภาคินมันเดินเข้ามาและชี้หน้าด่าเจ้ปริม

“มึงเป็นบ้าอะไรเนี๊ยะ มาถึงก็มาด่ากูเลย ไอ้ภาคิน”

“มึงทำอะไรเมย์ “ภาคินถาม ผมค่อยๆ หันไปมองเจ้ปริม เธอหันซ้ายหันขวา

“ทำอะไร กูไม่ได้ทำนิ “เจ้ปริมพูด

“มึงขังเมย์มันเอาไว้ในห้องเก็บอุปกรณ์ความสะอาดไง” ไอ้ภาคินพูด ผมค่อยๆ หันไปมองเจ้ปริม

“กูไม่ได้ทำ”

“ไอ้สองตัวหน้าห้องมันสารภาพแล้วว่ามันทำ”

“อ้าวก็ไปตบมันดิ” เจ้ปริมพูด

“กูตบไปแล้วก่อนที่มันจะพูดว่ามึงสั่งไง และมันก็บอกว่าให้กูมาตบคนสั่งต่อได้เลย” ไอ้ภาคินพูดและทำท่าจะเดินเข้ามาหาเจ้ปริม

“ตั้น ช่วยเมียด้วย เมียไม่รู้เรื่อง สองคนนั้นคง เห็นว่าเจ้น่าเสียเปรียบ เลยแค่ อาจจะแค่หยอกเล่นๆ”

“มึงใส่กุญแจขังเมย์มันไว้ในนั้นเลยน่ะอีเจ้!! นี่เขาเรียกว่าหยอกเล่นเหรออีเจ้!”

“ตั้น!!” สายตาที่อ้อนวอนผม

“พี่ปริม ผมขอล่ะ พี่กลับไปเถอะนะครับ และถ้าเป็นไปได้ พี่อย่ามาหาผมอีก ผมไม่อยากให้พี่ปริมมาทำร้ายคู่หมั้นผมอีก ผมขอล่ะ “ผมพูด โดยไม่ได้หันไปมองหน้าพี่ปริม

“ผมเลือกเมย์ เพราะหัวใจผมพี่ปริม “ผมพูด พี่ปริมถอยหลังออกไปยืน ห่างจากผมนิดหนึ่ง

“เมย์ล่ะ “ผมหันไปถามหาเมย์

“ปึก “เสียงไอ้ทีนมันเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับเมย์ เมย์หันมามองเจ้ปริมที่มายืนข้างๆ ผม ผมหันไปยิ้มให้เมย์

“จะยืนอยู่ทำไมล่ะ ออกไปซิ หรือต้องให้ไปตามคนทำพิธีล้างป่าช้ามาเชิญมึงออกไป เจ้ปริม “เจ้ปริมสะบัดหน้าไปมองภาคิน ส่วนเมย์น่ะเดินมาเขาก็มองผม เมย์จับมือผมบีบเบาๆ

“ตั้น พี่น่ะรักตั้น ไม่แพ้มัน แต่ทำไมตั้นเลือกมัน ฮือๆ ทั้งที่เวลาที่ตั้นแย่ พี่ก็อยู่ข้างตั้น ทั้งที่พ่อพี่ห้ามไม่ให้เลือกตั้น พี่ก็ฝืนคำสั่งพ่อตลอด ทำไมล่ะตั้น และอย่างนี่มันก็ไม่ยุติธรรมสำหรับพี่ พี่ก็เมียตั้นน่ะ ”

“ผม ขอโทษครับพี่ปริม ผมไม่ควรจะปล่อยให้เจ้มาไกลขนาดนี้ ผมไม่เคยรักเจ้แบบคนรัก”

“ได้ เจ้จะไป “เจ้ปริมพูดก่อนจะเดินหันหลังออกไป

“บอกพ่อตั้นได้เลยน่ะว่า เจ้ไม่ขายบ้านหลังนั้นคืนให้เด็ดขาด “พี่ปริมพูดก่อนจะหันมามองหน้าเมย์

“และฉันยังมีคลิปเด็ด คลิปที่แกเต้นเพราะว่าแกอัพยาเข้าไปด้วยน่ะ เมย์ “พี่ปริมพูด

“อันที่มีคนเอาไปปล่อยน่ะมันเด็กๆ และเพื่อนแกนั่นแหละที่เป็นคนมาขอซื้อและเอาไปปล่อยเมย์ แถมวันก่อนมันก็มาหาฉันอีกน่ะ มันขอเอาตัวเด็ด นี่แกคงไปทำอะไรให้เพื่อนแกแค้นมากซิท่าและฉันก็ ตัดสินแล้วว่าจะให้มัน”

“เตรียมฉลองยอดวิวได้เลย” พี่ปริมพูด ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ผมได้แต่มองเมย์ ผมทำอะไรไม่ได้อีก ผมเป็นแบบนีั้ผมจะปกป้องเมย์ได้ยังไง

“อ้อ! ตอนแรกฉันก็ไม่อยากทำแบบนี้น่ะหรอกน่ะเมย์ ถ้าฉันอยากทำลายแกจริงๆ ฉันคงขายให้เพื่อนแกไปนานแล้ว”

“แต่นี้แกทำให้ฉันเสียคนรัก ก็โทษตัวเองแล้วกัน”

“และแกคงได้มีแต่คนมองหน้าแกตอนขึ้นไปรับปริญญาแน่ๆ “พี่ปริมพูดก่อนจะเดินออกไป

“อีเจ้!!”

“อย่าไอ้ภาคิน กูว่ามึงยิ่งไปทำให้อิเจ้มันโกรธคนที่โดนหนักน่ะเมย์ว่ะ” ไอ้ทีนมันพูด และดึงแขนภาคินเอาไว้ เมย์ยืนก้มหน้าลง ผมมองเมย์ ทุกคนหันมามองหน้ากันและพากันออกไป เหลือแค่ผมกับเมย์

“ฮึก ฮึก เมย์ขอโทษ ที่เมย์บอกความจริงกับพี่ไม่หมด ฮือๆ”

“นี้ใช่ไหม คือสาเหตุที่ทำให้พี่ปฐวีย์ เขาเลือกที่จะเงียบ ไม่ออกมาโต้แย้งอะไรเลย เพราะว่าเมย์”

“ผมไม่รู้ว่าวันนั้นผมทำอะไรลงไปบ้าง ผมไม่รู้ตัวอ่ะพี่ตั้น ฮือๆ” เมย์ก้มลงกอดผมที่แผ่นอก ผมค่อยยกแขนขึ้น ลูบหัวเมย์เบาๆ

“และนี้คือเหตุผลหลักที่ทำให้พี่ปฐวีย์ต้องยอมหมั้นกับพี่ปริมใช่ไหมเมย์”

“ใช่ พ่อของพี่ปริมเขาอยากได้พี่ปฐวีย์ เขาเลยใช้เมย์เป็นตัวล่อ ให้พี่ปฐวีย์เข้าไป เมย์ไม่รู้ ว่ามันจะทำให้พี่ปฐวีย์เดือดร้อนขนาดนั้น ฮือๆ”

“และตอนนี้ผมกำลังทำให้พี่เดือดร้อน”

“พี่ต่างหากที่ทำให้ทุกอย่างมันแย่ลงเมย์ พี่ขอโทษ” ผมพูดกับเมย์ น้ำตาผมไหล แผ่นอกผมก็เปียกชื้นไปด้วยน้ำตาของเมย์

“ปึก “เสียงประตูถูกเปิดเข้ามาอีกครั้ง คราวนี้เป็นคุณหมอ ผมเพ้งมองทำไมเขาหน้าตาคุ้นๆ และพ่อผมเอง มากับพี่อิศเรศ ผมสะกิดเรียกเมย์ เมย์ค่อยกระดกหัวขึ้นและปาดน้ำทิ้งซะก่อน เมย์ยืดตัวขึ้นพร้อมกับหันไปยกมือไหว้ทุกคนที่เข้ามา

“ไงเมย์ เมื่อคืนเป็นไงบ้าง เห็นพยาบาลบอกว่ามีเด็กร้องลงมาอยู่กับเรา” คุณหมอถามเมย์ ผมหันไปมองเมย์

“เมื่อคืนเมย์ อยู่ที่ห้องรับรอง ให้ญาติคนไข้รอนะครับ เพราะว่าเขาไม่อนุญาตให้มีคนเฝ้าพี่ในห้องคนไข้ไอซียู” เมย์พูด และนี้ถึงได้ทำให้ผมรู้ว่าเจ้ปริมเขาโกหกผม

“เป็นไงตั้น”

“ผม” ผมทำท่าจะพูดแต่ว่าผมรู้สึกเจ็บในลำคอ

“อย่าเพิ่งใช้เสียงมากน่ะ เพราะว่า ทางเราได้ใส่ท่อช่วยหายใจให้ตัั้งแต่เข้ารับการผ่าตัดและดูอาการสักพักใหญ่ พอเห็นว่าหายใจได้เองก็เลยถอดออก มันก็จะเจ็บระบบในลำคอหน่อย สักสองสามวันก็จะดีขึ้น”

“ตั้น นี้พี่หมอโอม เขาเป็นลูกคนงานในไร่เราน่ะ เราน่าจะเคยเจอเขาบ้างน่ะ ตอนที่มาเที่ยวไทยน่ะ” พ่อผมพูด ผมก็หันไปมองพี่หมอ พี่เขาหยิบแว่นตาสวม


“และเขาก็เป็นเพื่อนกับอิศเรศด้วย เขารุ่นเดียวกัน” พ่อผมพูด

“เออ ผมก็ว่าหน้าคุ้นๆ ครับ” ที่ผมคุ้นๆ ไม่ใช้ผมเจอเขาที่ไร่ แต่ผมเจอเขาที่กรุงเทพนี้แหละ ตอนนั้นผมกับพี่อิศเรศ ตอนนั้นผมกับพี่อิศเรศ เริ่มมีความสัมพันธุเกือบข้ามขั้นไปถึงการเป็นคนรักแต่ผมน่ะรักพี่อิศเรศไปแล้วในตอนนั้น แต่ช่างมันเถอะมันจบไปแล้ว และพี่หมอโอมนี้ก็ทำให้ผมต่อยหน้าเขาไป เพราะว่าผมหึงหวงพี่อิศเรศ

“พี่ไปทำเลซิกมาน่ะครับ เลยไม่ต้องใส่แว่นตลอดเวลาแล้ว “พี่หมอโอมพูด

“แล้วพี่…”

“พี่เป็นหมอที่นี้ครับ พี่แต่งงานกับแฟนพี่ที่เป็นหมอเหมือนกัน และพ่อของแฟนพี่เขาก็เป็นเจ้าของโรงพยาบาลนี้ “พี่โอมพูด

“ตอนที่ตั้นเกิดเหตุน่ะ พี่กำลังนั่งรถมาทำงานกับแฟนพี่ และพี่ได้ยินว่ามีอุบัติเหตุค่อนข้างหนักที่ตรงสี่แยก พี่เลยลงจากรถไป และรีบเข้าไปประถมพยาบาล แต่พี่ยังไม่เห็นเราน่ะ เพราะว่าเรายังติดอยู่ในรถ ต้องรอให้เขาเอาเครื่องมาตัด รถพังยับเยินมาก พี่ก็ช่วยปฐมพยาบาลคู่กรณีของเราน่ะ เขาก็แย่และหนักพอพอกับเราเพราะว่าเขามาประสานกับเราด้านหน้าเลย “พี่หมอโอมพูด ผมไม่ทันได้เห็น เพราะผมดึงเบรกมือซะก่อนรถผมเลยหมุนติ้วและผมก็รู้ว่าชนและหลังจากนั้นรถผมก็ตีลังกาผมจำได้แค่นั้น

“และพอเขาเอาตั้นออกมา พี่ถึงได้รู้ว่า คือเรา พี่เลยบอกให้เจ้าหน้าที่ พาเรามาโรงพยาบาลของพี่ เพราะถ้าไม่อย่างนั้น เขาคงไปส่งรัฐบาลก่อน” พี่หมอโอมพูด

“พี่หมอโอมเขาก็เป็นคนโทรบอกพี่ครับตั้น” พี่อิศเรศพูด พี่อิศเรศหันไปยิ้มให้พี่หมอโอม

“พี่โอม ผมขอบคุณน่ะครับ” ผมพยายามยกมือไหว้

“ไม่เป็นไรตั้น ยิ่งตั้นเป็นลูกชายผู้มีพระคุณของพี่ขนาดนี้ พี่เต็มใจ แม้ว่าพี่เองก็ไม่อยากเข้าห้องผ่าตัดเพื่อเป็นหมอผ่าตัดให้คนในครอบครัวตัวเอง และนายก็เล่นเอาพี่เครียดมากเลยรู้ไหม เพราะว่านี้คือการผ่าตัดใหญ่ที่สุดและกดดันพี่ที่สุด “พี่หมอโอมพูด ผมก็รู้สึกผิดไปทันที

“แต่ทุกอย่างก็ผ่านมาได้ด้วยดีน่ะ เพราะว่าเพื่อนเราที่มีเลือดกรุ๊ปเดียวกับเราน่ะเขาอยู่ที่นี้ เขามาบริจาคเลือดให้เรา” พี่หมอโอมพูด ผมหันไปมองเมย์

“เดี๋ยวเมย์บอกทีหลังน่ะ “เมย์กระซิบกับผม ผมพยักหน้า

“และวันนี้อย่าฟื้นทำอะไรมากน่ะตั้น เพราะว่าเราเพิ่งจะออกมาจากห้องผ่าตัดรอบสอง อาจารย์หมอของพี่เขามาผ่าตัดให้เรา เราได้รับบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังน่ะ” พี่หมอโอมพูด ผมก็ต้องตกใจ มิน่าล่ะผมรู้สึกแข็งๆ ขยับเขยื้อนไม่ได้เลย

“ผม …”

“อย่าเพิ่งคิดมาก รอดูสักวันสองวันก่อนน่ะ เพราะว่าวันนี้อาจจะยังไม่เข้าที่เลยยังไม่รู้สึก “พี่หมอโอมพูด ผมก็พยักหน้าเบาๆ

“พี่อาจจะให้ยาที่ทำให้เราง่วงนอนหน่อยน่ะ พี่อยากให้เราพักผ่อนเยอะๆ ก่อนสักสองสามวัน “พี่หมอโอมพูด ก่อนจะหันไปคุยกับพ่อผมต่อ พี่อิศเรศเดินมาข้างๆ ผม

“เมย์ พี่ได้ยินมาว่าเด็กคู่กรณีตั้น เขามาหาเมย์เหรอ”

“ครับพี่เรศ ผมสงสารน้องมากเลย”

“น้องไปไหนแล้ว”

“น้องถูกส่งตัวไปที่บ้านเด็กกำพร้าแล้วน่ะครับ เพราะว่าทางนี้ไม่สามารถติดต่อญาติพ่อแม่น้องได้เลย ส่วนพ่อของน้องเขาไม่ใช่คนไทยแต่เป็นลูกครึ้ง ไทยออสเตรเลียน่ะครับ เขาไม่ได้ถือสัญชาติไทยด้วย” เมย์พูด

“โอเค “พี่อิศเรศพูดแค่นั้น ก่อนจะเดินไปหาพ่อผม

“พักผ่อนน่ะตั้น พี่จะให้พยาบาลเอายามาให้ ทุกหกชั่วโมงน่ะ มันเป็นยากแก้ปวดอย่างแรงน่ะ “พี่หมอโอมพูดก่อนจะโบกมือให้ผม และเดินออกไปกับพ่อผมและพี่อิศเรศ ผมหันมามองหน้าเมย์ เมย์ ใช้ฝ่ามือลูบใบหน้าผมเบาๆ

“พี่จำ เพื่อนบ้านเราได้ไหมครับ สตีเฟ่นน่ะครับ เขาเป็นคนบริจาคเลือดให้พี่ “ผมก็ต้องตกใจไอ้คนนั้นนั่นน่ะ

“เขาบอกว่าเขาเคยเป็นเพื่อนพี่มาก่อน”

“ไม่จริงมั้ง”

“จริงครับ วันนั้นผมรีบไปเอาเอกสารทุกอย่างของพี่ที่ห้อง และพอผมเจอเขา ผมน่ะหยิบเอารูปทีพี่ถ่ายกับแม่ลลิลภัทร์มาด้วย” เมย์พูด ก่อนจะส่งรูปที่ผมสแกนและปริ้นมาจากรูปในกระเป๋าสตางค์ของผม ผมใส่กรอบเอาไว้ข้างๆ รูปผมกับเมย์

“พอสตีเฟ่นเห็นรูปนี้ เขาก็บอกว่าพี่คือเพื่อนเขาและพี่ยังเคย บริจาคเลือดให้เขาด้วย ก่อนจะมาเป็นเพื่อนกัน เพราะว่าพี่มีกรุ๊ปเลือดเดียวกับเขา” ผมก็พยายามนึก แต่ผมนึกใบหน้าคนนั้นไม่ได้แล้ว

“จริงดิ พี่จำหน้าคนนั้นไม่ได้ แต่พี่จำเรื่องราวของพี่กับเพื่อนพี่คนนั้นได้น่ะเมย์”

“เอาไว้ให้พี่แข็งแรงก่อน เขาจะมาเยี่ยมพี่ เพราะว่าเขามาเมืองไทยเพื่อมาหาพี่ และนี่เขาจะกลับแล้วอ่ะครับ เขามาเป็นครูสอนแค่หกเดือน เขาบอกว่าจะกลับไปและทำวีซ่าเพื่อจะมาเป็นครูประจำที่นี้เลย เขาชอบประเทศไทย และยิ่งเขารู้ว่าเพื่อนที่เขาอยากเจออยู่ที่นี้ด้วยแล้ว เขาก็อยากมาเจอพี่มากน่ะพี่ตั้น” เมย์พูดให้ผมฟัง

“ขอโทษนะคะ ขอขัดความหวานนิดนึงน่ะ เอายามาให้ค่ะ ทานยาก่อนนะคะ “พี่พยาบาลพูด

“ผมรู้สึกไม่ค่อยสบายตัวเลยนะครับ ผมขอไปอาบน้ำได้ไหมครับ” ผมถามพยาบาล

“จะไปอาบยังไงคะคนไข้ คุณเพิ่งจะผ่าตัดหลังมานะคะ เช็ดตัวเอาดีกว่าไหมคะ” พี่พยาบาลพูดก่อนจะส่งยิ้มมาให้ผม ผมก็ลืมไปเลย

“ให้คุณคู่หมั้นเช็ดให้แล้วกันนะคะ พี่ไปเตรียมกะละมังและผ้ามาให้ค่ะ” พี่พยาบาลพูด ผมหันมามองเมย์ เมย์หันไปพยักหน้ากับพยาบาล

“ยิ้มแบบนี้อยากดูของพี่ล่ะซิ” ผมพูดแซว

“พี่ตั้นอ่ะ ก็ดูทุกทีอยู่แล้วนิ “เมย์พูดพร้อมกับแก้มที่แดงระเรื่อขึ้นมาทันที ไม่นานพยาบาลก็เอากะละมังและผ้ามาให้เมย์ เมย์เข้าไปจัดการเตรียมน้ำและผ้ากับพี่พยาบาล ผมนอนนิ่ง

“ผมต้องไปเรียนรู้ทำอีกหลายอย่างเลยใช่ไหมครับพี่”

“ใช่ค่ะ คุณหมอโอมบอกพี่เอาไว้แล้วค่ะ เพราะว่า ช่วงนี้คงต้องดูแลกันแบบนี้ไปก่อน งานหนักหน่อยน่ะเราน่ะ”

“ผมไม่คิดว่าการดูแลคนที่ผมรักมันจะหนักหรอกครับพี่”


“รู้ไหมว่า คนรักกันน่ะแตกหักเพราะว่าเรื่องแบบนี้มาหลายคนแล้ว ดังนั้น เราต้องเข้มแข็งน่ะรู้ไหม และการดูแลแบบนี้ อาจจะต้องทำไปตลอดทั้งชีวิตก็ได้น่ะ”

“ผมเลือกแล้วครับ ผมให้พี่เขาไปแล้วทั้งชีวิตของผม ผมยินดีและเต็มใจที่อยู่ดูแลคนรักของผมแบบนี้ไปตลอดจนกว่าผมจะหมดลมหายใจ” ผมได้แอบได้ยินพยาบาลคุยกับเมย์ นั้นแปลว่า ผมอาจจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้วใช่ไหม และคนที่ต้องมาติดอยู่กับผมคือเมย์ อย่างนั้นเหรอ สักพักเมย์ก็ออกมาพร้อมกับกะละมังและผ้าขนหนู พี่พยาบาลก็รูปปิดผ้าม่านให้ผม

“น้องเมย์ก็เช็ดตามใบหน้านะคะ แขนตรงอกนี้ก็อย่าให้โดนผ้าพันแผลนะคะ” พยาบาลหันไปบอกเมย์ก่อนจะเดินออกไป เมย์ก็ค่อยๆ ดึงทีคลุมผมเอาไว้ตั้งแต่เอวลงไป เมย์ยืนนิ่งอึ้งผมก็มองหน้าเมย์แต่ก็ไม่กล้ากระดกหัวผมมองดู

“เออน้องเมย์ค่ะ พี่ลืมบอกไปว่าคนไข้ยังไม่ได้ใส่กางเกงนะคะ น้องเมย์เปิดมาอาจจะตกใจนิดนึงนะคะ เดี๋ยวพี่จะไปเอากางเกงมาวางไว้ด้านนอกให้นะคะ” พี่พยาบาลกระซิบกับเมย์ผ่านผ้าม่านสีฟ้าๆ นั้น ขนาดเขาไม่ได้ใส่กางเกงให้ผม ผมยังไม่รู้สึกอะไรเลย ผมหันมามองเมย์ ที่บิดผ้ามาหมาดๆ ก่อนจะบรรจงเช็ดทำความสะอาดให้ผม ตามที่พยาบาลบอกเมย์

“เมย์ เลือกบ้านไว้หรือยังครับ” ผมถามเมย์ขณะที่เมย์กำลังค่อยๆ เช็ดทำความสะอาด

“เมย์ยกเลิกไปแล้วครับ เมื่อเช้านี้ และมีคนรอซื้อต่อจากเมย์แล้ว เขาคงขายไปแล้วน่ะครับ “เมย์พูด

“ผมคุยกับแม่ปิ่นแล้ว บ้านหลังนั้นเรายังอยู่ได้ และยิ่งพี่ตั้นเป็นแบบนี้ ผมยิ่งไม่อยากได้บ้านใหม่ตอนนี้แน่นอน ผมรอได้ครับ” เมย์พูด ผมก็มองหน้าเมย์ แล้วเมื่อไหร่ล่ะ ในเมื่อพยาบาลก็พูดว่าอาจจะต้องดูแลกันแบบนี้ไปตลอดทั้งชีวิต พอเมย์เช็ดตัวให้ผมเรียบร้อยแล้วเมย์ก็เดินออกไปและกลับเข้ามาพร้อมกางเกง เมย์ค่อยๆ สวมกางเกงให้ผม ค่อนข้างลำบาก เพราะว่าผมขยับตัวช่วยเขาไม่ได้เลย และตอนนี้หนังตาผมเริ่มจะปิดเพราะฤทธิ์ เมย์กำลังจัดให้ผมนอนหลับ

“น้องเมย์ค่ะ”

“พี่อ้อย มีอะไรครับ”

“น้องเมย์ ไปที่บ้านเด็กกำพร้าที่เราส่งน้องแอนดรูว์ไปให้พี่หน่อยได้ไหมคะ”

“มีอะไรครับ”

“น้องแอนดรูว์ร้องไห้ ไม่ยอมทานอะไรเลยค่ะ พี่ว่าต้องให้น้องเมย์ไปดูเขาหน่อยแล้วค่ะ นะคะ สงสารน้อง”

“ได้ครับ เดี๋ยวผมไปบอกให้พี่ๆ ที่อยู่หน้าห้อง เข้ามาอยู่เป็นเพื่อนแฟนผมก่อนนะครับพี่อ้อย”

“ขอบคุณนะคะ “ หนังตาของผมก็หนักมากเหมือนมีใครเอาก้อนหินมาถ่วงเอาไว้ ทำให้ผมไม่อาจจะฝืนลืมตาได้ ถึงตาผมจะปิดแต่หูผมได้ยินทุกรอบตัวของผม มีคนเข้ามาคุยกับเมย์ มันทำให้ผมคิดว่า แล้วใครกันน่ะแอนดรูว์ แล้วทำไมเมย์ต้องไปดูเขาด้วยว่ะ มันเป็นใคร ชื่อก็บอกว่าฝรั่งไม่ใช่คนไทย

TBC.....
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.32 พี่ตั้นฟื้นแล้ว(ครึ้งหลัง)
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 19-02-2021 20:35:15
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.32 พี่ตั้นฟื้นแล้ว(ครึ้งหลัง)
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 21-02-2021 07:43:47
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.33 ความจริงที่เจ็บปวด
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 13-03-2021 20:54:38
Part's เมธานินท์ ผมไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับเจ้ปริม พวกผมพยักหน้าและพากันไปหาที่นั่ง เพื่อนของสตีเฟ่น ก็มองผมก่อนจะยิ้มให้เจ้ปริม และเพื่อนๆ ของเจ้ปริมที่โบกไม้โบกมือให้ โจเซฟ และแน่นอนเจ้ปริมน่ะเป็นสาวสวยใครก็แอบหลงเสน่ห์กันทั้งนัน ไม่แปลกถ้าพี่ตั้นจะเคยจีบพี่ปริม พวกผมนั่งรอกันเกือบสี่ชั่วโมงได้ ตอนนี้ก็เที่ยงคืนแล้วด้วย

“โอ๊ยเจ้ มึงจะนั่งรออะไรเนี๊ยะ! นานอ่ะเจ้ ฉันว่าเราพากันกลับบ้านก่อนเถอะแล้วพรุ่งนี้เจ้ก็ค่อยมาใหม่แต่งหน้าสวยมาดู อยู่รอดึกขนาดนี้หน้าโทรม” เพื่อนเจ้ปริมพูด ผมหันชำเลืองตามอง

“กูต้องอยู่ เพราะถ้าตั้นตื่นมาจะได้เห็นหน้าฉันคนแรก” พี่ปริมพูด

“ถามไอ้ตั้นมันยังเจ้ มันอยากเห็นหน้าใครก่อน “พี่กอล์ฟพูดลอยโดยไม่ได้ระบุ เฟย์หันมาแบมือผมก็นึกว่าจะตีแขนพี่กอล์ฟ แต่กับแปะมือกัน

“สวัสดีค่ะ รบกวนญาติคุณรชานนท์ค่ะ “พี่พยาบาลเดินมาทางพวกผม ผมก็รีบก้าวเท้าออกไปแต่มีคน ก้าวเท้ามาประกบกับผม จนทำให้พยาบาลมองผมกับพี่ปริมสลับกันไปมา

“คนไหนคะ” พยาบาลถามพร้อมกับมองหน้าผมกับเจ้ปริมสลับกันไปมา “ผมครับ” “ฉันค่ะ …” ผมกับคุณปริมตอบพร้อมกัน ผมหันมามองหน้าเธอ

“ฉันเป็นเมียค่ะ” พี่ปริมพูด และยิ้มให้ผม

“เขาเป็นเมียแล้วคุณล่ะค่ะ เป็นอะไรกับคนไข้คะ”

“ผมเป็น…” ผมทำท่าจะพูด แต่ผมควรจะบอกไหมว่าผมก็เป็นเมียพี่ตั้นเหมือนกัน

“ผมตัดสินให้เองครับ เพราะว่าผมเป็นพ่อของคนไข้” เสียงที่ดังมาจากด้านหลังของผม และทุกคนก็หันไปยกมือไหว้กันหมด พ่อของพี่ตั้นนั้นเอง ผมก็ยกมือไหว้ ส่วนพี่ปริมน่ะยกมือไหว้พร้อมกับย่อตัวลง “สวัสดีค่ะคุณพ่อ” พี่ปริมพูดจาเพราะจนภาพเมื่อสักครู่หายไปหมดสิ้น พ่อพี่ตั้นแค่หันชำเลืองตามอง ผมหันไปยกมือไหว้พี่อิสเรศอีกคน

“ตั้งแต่รู้จักสันดานอีเจ้มา กูไม่เคย!!! เห็นอีเจ้ปริมแกไหว้ใครได้งดงามขนาดนี้มาก่อนเลย” ขนาดเพื่อนพี่เขายังแอบนินทา

“ลูกชายผมเขายังไม่ได้แต่งงาน นั้นแปลว่ายังไม่มีเมียที่ถูกต้องนะครับคุณพยาบาล “พ่อของพี่ตั้นพูดก่อนจะปรายตาไปมองพี่ปริม

“แต่มีเมียอุปโลกน์ อยู่นะคะคุณพ่อ” มัดหมี่พูด พี่ปริมหันขวับมาแต่ว่าพ่อพี่ตั้นเขาอยู่ตรงนี้ไงเลยไม่กล้าแสดงกิริยาอาการอะไรมาก

“แต่ว่าลูกผมมีคู่หมั้นที่กำลังจะแต่งงานกัน เท่าที่ผมทราบและรับรู้มาตลอด คนนั้นก็คือ”

“เมธานินท์” พ่อพี่ตั้นพูด พี่ปริมสะบัดหน้ามามองพ่อพี่ตั้น

“แต่” พี่ปริมทำท่าจะค้าน

“เขามีสิทธิ์ทุกอย่างที่จะทำธุรกรรมแทนผมหรือตั้นได้ “พ่อพี่ตั้นพูด

“อิศเรศ เอาหนังสือที่ตั้นเขียนเอาไว้ เรื่องขอวีซ่าให้เมย์ไปอเมริกากับเขา ในจดหมายนั้นระบุชัดเจนว่าเมย์เป็นคู่หมั้นของเขา” พ่อพี่ตั้นหันไปขอเอกสารกับพี่อิศเรศ และพ่อของพี่ตั้นก็ส่งให้พยาบาลดู

“ดิฉันก็ได้ยินคนไข้เพ้อหาแต่คนที่ชื่อเมย์ตลอดเลยค่ะ น้องใช่ไหมคะ” พี่พยาบาลถามผม ผมพยักหน้าพี่ปริมมองผมเขากำหมัดทั้งสองข้าง

“ตอนนี้คนไข้อยู่ในห้องไอซียูนะคะ ทางเราจะให้คนที่ใกล้ชิดก่อนเข้าไปดูนะคะ คนอื่น รบกวนรอก่อนแล้วกันนะคะ คนไข้อาการยังทรงๆ อยู่นะคะ เลือดที่น้องมาบริจาคให้อาจจะไม่พอเพราะคนไข้เสียเลือดมากค่ะ” พี่พยาบาลพูด ผมเห็นสตีเฟ่นลงมาแล้ว

“พ่อครับ นี้เพื่อนพี่ตั้นครับ เขาเป็นคนให้เลือดกับตั้นครับ เพราะว่าเขากรุ๊ปเลือดเดียวกันและเขามากจากอเมริกาด้วยครับ” ผมหันไปบอกพ่อของพี่ตั้น พ่อของพี่ตั้นหันไป เช็กแฮนด์ ทักทาย

“ขอบใจมากน่ะ” พ่อพี่ตั้นพูดขอบคุณสตีเฟ่น สตีเฟ่นก็หันมายิ้มให้ผมและพ่อพี่ตั้น

“เจ้ ฉันว่าเรากลับกันก่อนเถอะ ดูเจ้น่ะ”

“ทำไม” เจ้ปริม

“เหมือนเป็นส่วนเกินเลยว่ะ” เพื่อนของเจ้ปริม

“อีนี่นิ กูจะอยู่ กูก็เมียเหมือนกัน เอากันมานานกว่าไอ้ตุ๊ดนั้นอีก” พี่ปริมพูด พ่อพี่ตั้นแค่ปรายตาไปมอง ก่อนจะเดินมาจับแขนผม

“เมย์ขึ้นไปกับพ่อ” พ่อพี่ตั้นพูดกับผม ชวนผมขึ้นไป คงไปดูพี่ตั้น

“คนอื่นๆ ก็รออยู่ที่นี้ก่อนแล้วกัน เรศด้วย” พ่อพี่ตั้นพูด

“ทำไมปริมไม่ได้ขึ้นไปด้วยละคะ ไม่ยุติธรรมนี่ค่ะ” พี่ปริมรีบทักท้วงทันที

“เอาตรงๆ น่ะ ผมไม่เคยรับรู้ความสัมผัสของคุณและลูกผม แต่ผมมารับรู้ทุกอย่างของเมย์และตั้น และตั้นเขาพาเมย์ไปเปิดตัวที่บ้านไร่ของผมแล้ว ทุกคนรับรู้หมดแล้วว่าตั้นมีแฟนชื่อเมย์ แต่ไม่มีใครเคยได้ยินชื่อคุณ” พ่อพี่ตั้นพูด

“อิศเรศเขามีเรื่องจะคุยกับคุณเกี่ยวกับโฉนดบ้านของเมย์” พ่อพี่ตั้นพูดโดยไม่หันไปมองพี่ปริมสักนิด

“จัดการคุยให้เรียบร้อยน่ะเรศ” พ่อหันกระซิบบอกพี่อิศเรศ “ครับคุณท่าน” พี่อิศเรศรับคำ ก่อนจะหันไปผายมือให้พี่ปริมเดินไปหาที่คุยกัน และเดินตามพยาบาลขึ้นไป เขาพาผมกับพ่อพี่ตั้นไปยังชั้นที่พักของคนไข้ไอซียู

“รบกวนเปลี่ยนเป็นใส่เสื้อคลุมปลอดเชื้อและสวมหน้ากากด้วยนะคะ “คุณพยาบาลบอกผม ผมพยักหน้าก่อนจะเอื้อมไปหยิบมาให้พ่อพี่ต้นก่อน ผมสังเกตเห็นอาการถอนหายใจของพ่อพี่ตั้น แสดงว่าท่านกังวลกับสิ่งที่กำลังจะเห็น ไม่มีพ่อแม่คนไหนหรอกที่จะทนเห็นลูกตัวเองต้องเจ็บปวด ผมเองเป็นแฟนยังทนไม่ได้เลย ผมเดินตามพ่อของพี่ตั้นเข้าไป เดินไปจนถึงห้องที่พี่ตั้นเพิ่งออกจากห้องผ่าตัดมา ผมเห็นมีหมอยืนอยู่กับพยาบาล คุณหมอหันมาเจอพ่อพี่ตั้น คุณหมอก็ยกมือไหว้ เหมือนรู้จักกันมาก่อน

“น้องเป็นไงบ้าง หมอโอม” พ่อพี่ตั้นถามคุณหมอตรงหน้า

“ผมขอคุยด้านนอกแล้วกันน่ะครับ ผมรอท่านกับน้องเขาด้านนอกดีกว่าครับ” หมอที่ดูแลพี่ตั้นพูดก่อนจะเดินออกไปกับพยาบาล ตอนนี้เหลือแค่ผมกับพ่อของพี่ตั้น พ่อของพี่ตั้นเดินมามองพี่ตั้น พี่ตั้นมีท่อช่วยหายใจ มีการผ่าตัดที่ช่องอกแสดงว่าพี่ตั้นบาดเจ็บที่ช่องอกด้วยและมีผ้าพันรอบเอว เหมือนจะที่หลังด้วย ผมยิ่งเห็นแบบนี้ผมใจหาย ผมมองพ่อพี่ตั้น เขาเดินไปก่อนใช้ฝ่ามือลูบที่หัวพี่ตั้น

“ลลิลภัทร์ ฉันขอโทษที่ดูแลลูกไม่ดีพอ” พ่อของพี่ตั้นพูด ผมเข้ามายืนใกล้ๆ สีหน้าและแววตาที่บ่งบอกว่าพ่อพี่ตั้นเสียใจมากแค่ไหน

“ผมอยากให้พี่ตั้นเห็นภาพนี้จัง ภาพที่พ่อแสดงว่าพ่อรักเขามากขนาดไหน “ผมพูด

“แต่ผมว่าพี่ตั้นเขาแค่อยากรู้ว่าทำไมพ่อถึงได้ไม่รักแม่ของเขา “ผมพูด ก่อนจะกุมมือพี่ตั้นเอาไว้ พี่ตั้นยังคงหลับสนิท น่าจะเป็นเพราะฤทธิ์ยา

“พี่ตั้นแค่อยากรู้ว่าแม่ของพี่ตั้น เขาทำอะไรผิดนะครับ “ผมพูด

“ฟู่!!”

“ลลิลภัทร์ไม่ได้ทำอะไรผิดหรอกแต่เธอแค่เข้า มาผิดและที่ผิดเวลา ก็เท่านั้น” พ่อพี่ตั้นพูด ขณะที่เขาใช้มือลูบผมหนาๆ นั้น

“ลลิลภัทร์ไม่ได้เข้ามาอยู่ในบ้านฉันในฐานะคนรักของฉัน แต่ลลิลภันทร์เธอเข้ามาอยู่ในฐานะ..”

“แม่เลี้ยงฉัน” ผมต้องหันไปมองพ่อของพี่ตั้น สายตาเขามองพี่ตั้น ก่อนจะหันมามองหน้าผม

“ฉันรู้ตัวว่าฉันเป็นเกย์ ตั้งแต่ขึ้นมัธยมแล้ว ส่วนพ่อฉันก็เจ้าชู้ มักมาก มีผู้หญิงไปทั่ว พ่อฉันทำให้แม่ฉันเสียใจมานับครั้งไม่ถ้วน”

“พ่อฉันได้สร้างบ้านเพิ่มอีกหนึ่งหลัง หลังที่เป็นของคุณลลิลภันทร์ และนั้นพ่อฉันเริ่มเอ่ยปากบอกแม่ฉันว่าเขาจะพาผู้หญิงเข้ามาอีกหนึ่งคน มาอยู่ในฐานะภรรยาของพ่อฉัน แม่ฉันรู้เข้า ท่านไม่ยอม”

“ท่านให้พ่อผมหาเศษหาเลยได้แต่ห้ามพาเข้าบ้าน แต่กับลลิลภันทร์ พ่อฉันพานางไปไหนต่อไหน และสุดท้ายพ่อฉันยืนยันจะพาลลิลภัทร์เข้าบ้านให้ได้ ในฐานะภรรยาคนหนึ่ง แม่ฉันยืนยันไม่ขออยู่ร่วมกับภรรยาน้อยเด็ดขาด”

“และนั้นพ่อฉันจึงขอให้แม้ฉันออกไปแทน แม่ฉันเสียใจมาก ส่วนฉัน ได้ถูกส่งตัวไปเรียนที่โรงเรียนประจำ พ่อให้แม่ฉันออกไปแต่ตัว ห้ามพาฉันไปด้วย “พ่อของพี่ตั้นพูด ก่อนจะหันมามองหน้า

“และวันที่ฉันสอบติดมหาวิทยาลัย ฉันกำลังจะไปหาแม่ฉันและมันก็เป็นวันเดียวกับที่ลลิลภัทร์เธอย้ายเขาไปอยู่ที่นั่นเช่นกัน”
“และยังเป็นวันที่ สะเทือนใจฉันมากที่สุด”

“เป็นวันที่แม่ฉันตัดสินใจ ฆ่าตัวตาย ใต้ต้นไม้ที่อยู่หลังบ้านเรือนใหญ่ แม่ฉันผูกคอตายที่นั้นและคนที่ไปพบคนแรกคือฉัน มันติดตาฉันอยู่จนถึงทุกวันนี้ “ผมหันมามองหน้าพ่อของพี่ตั้น

“ฉันโกรธและเกลียดเธอมาก “พ่อพี่ต้นพูด

“แล้วพี่ตั้นเขา” ผมถามขึ้น

“ลูกฉัน เพราะว่าฉัน ข่มขืนเขา ในคืนที่พ่อฉันไม่อยู่”

“พอเธอตั้งครรภ์ มันกลับทำให้ฉันรู้ว่าพ่อฉันเคยประสบอุบัติเหตุจนไม่สามารถมีลูกได้อีก เขาจึงมีแค่ฉันคนเดียวที่เป็นลูกชายของเขา และดังนั้น เด็กที่เกิดกับลลิลภัทร์ก็คือลูกฉัน นั้นคือตั้น “พ่อของพี่ตั้นหันมามองหน้าผม

“พ่อฉันเลยยกลลิลภัทร์ให้ฉันทันที “พ่อของพี่ตั้นพูดก่อนจะหันกลับไป เขาเอามือลูบหัวพี่ตั้นเบาๆ

“ฉันต้องทนเห็นหน้าเธอ อยู่ในบ้านหลังเดียวหลังคาเดียวกัน จนกระทั่ง ตั้นเกิด และลลิลภัทร์ก็ป่วยด้วยโรคซึมเศร้า พ่อฉันเลยส่งเธอไปรักษา ตอนนั้นพ่อฉันก็ต้องการตั้น เพราะเขารู้ว่าฉันเป็นแบบนี้ ไม่มีวันมีทายาทแน่นอน”

“ถามว่าฉันรักตั้นไหม ฉันรัก ถึงเขาจะเกิดมาโดยที่ฉันไม่เต็มใจแต่ฉันรัก แต่วันที่เขาร้องไห้ตาม ลลิลภัทร์ไป ฉันก็ต้องยอมให้เขาไป ฉันรู้ว่าเด็กต้องการแม่ ฉันจึงจำยอมส่งลลิลภัทร์ไปอยู่ที่อเมริกาตามที่เธอต้องการพร้อมกับตั้น “พ่อของพี่ตั้นพูดก่อนจะหันมามองหน้าผม

“ทำไมพ่อไม่บอกความจริงกับพี่ตั้นล่ะครับ “ผมถามพ่อพี่ตั้น

“ฉันก็ไม่อยากให้ตั้นมองว่าลลิลภัทร์ไม่ดี”

“แต่มันทำให้เขามองพ่อไม่ดีแทน “ผมพูด

“สักวันเขาก็จะเข้าใจฉันเองน่ะเมย์ “พ่อของพี่ตั้นพูด

“ขอออกไปคุยกับหมอโอมน่ะ อยู่กับต้นก่อนก็ได้น่ะ เพื่อว่าตอนนี้เขาต้องการเรา เมย์” พ่อของพี่ตั้นบอกผม ก่อนจะเดินออกไป ผมยืนมองร่างที่นอนโดยมีเครื่องช่วยหายใจอยู่ พี่ตั้นเจ็บหนัก ปอดฉีก มีแผลตามเนื้อตามตัว ศีรษะกระทบกระเทือน และที่หนักที่สุดเป็นที่หลัง ผมนั่งลงข้างๆ ผมใช้มือผมสอดเข้าไปที่มือพี่ตั้น

“เฮีย อย่าทิ้งผมไปน่ะเฮีย ผมไม่เคยรักใครเท่านี้เลยจริงๆ เฮีย เฮียทำให้ผมรักแล้วอย่าทิ้งผมไว้แบบนี้ ฮือๆ ผมทนไม่ได้ ผมไม่อยากเสียคนที่ผมรักอีก ผมไม่อยาก ฮือๆ “ผมร้องไห้ กับคนที่นอนไม่รู้สึกอะไร เหมือนเขาไม่รับรู้ ผมซบหน้าลงที่ตรงข้างๆ เตียงพี่ตั้น น้ำตาผมไหล ผมร้องไห้อย่างหนักอีกครั้ง ครั้งแรกคือพ่อแม่ผมเสียและครั้งนี้คือพี่ตั้นคนที่ผมรักมากที่สุดเช่นกัน

“หงึก” ผมรู้สึกนิ้วพี่ตั้นขยับ ผมรีบเงยหน้าขึ้น เมื่อผมพยายามเพ้งมองอีกทีแต่ทุกอย่างก็นิ่งสงบ พี่ตั้นก็ยังนอนเหมือนคนไม่รับรู้เหมือนเดิม เครื่องช่วยหายใจก็ยังทำงานเหมือนเดิม ผมเห็นแบบนี้แล้วสงสารพี่ตั้นมาก

“เมย์ เขาต้องการให้ตั้นพักผ่อน เราออกไปก่อนเถอะ” พ่อของพี่ตั้นเดินเข้ามาเรียกผม ผมพยักหน้า ผมหันไปมองพี่ตั้นอีกครั้ง

“ผมรักพี่ตั้นนะครับ พี่ขอผมแต่งงานแล้ว กลับมาเป็นเจ้าบ่าวผมน่ะ “ผมหันไปพูด ผมรีบเดินออกมา ผมเห็นหมอที่กำลังคุยพยาบาลอยู่ ก่อนจะเดินตามพ่อของพี่ตั้นออกมาคุยด้านนอกด้วยกัน

“หมอโอม ฉันฝากดูน้องด้วยนะครับ”

“ผมยินดีครับ คุณท่าน ผมยินดีที่จะดูแลน้องให้ถึงที่สุดครับ “คุณหมอพูด

“หมอโอมเขาเป็นลูกคนงานในไร่ฉันและเป็นเพื่อนกับอิศเรศ และฉันก็ได้ส่งให้เขาเรียนจนจบหมอและตอนนี้เขาก็แต่งงานกับหมอที่เป็นลูกเจ้าของโรงพยาบาลนี้ เป็นเจ้าของโรงพยาบาลที่อายุยังน้อยและเก่ง “พ่อของพี่ตั้นพูด ผมหันมามองพี่หมอตรงหน้า

“คุณท่านก็ชมผมเกินไปครับ และทุกอย่างที่เกิดในชีวิตผมก็มาจากพระคุณท่านทั้งนั้น” พี่หมอโอมพูด

“และไม่ต้องห่วงน่ะครับ คุณท่าน ผมจะดูแลน้องตันอย่างดี “พี่หมอโอมพูด

“หมอโอม นี้เมย์น่ะ คู่หมั้นของตั้นเขา” พ่อของพี่ตั้นบอกพี่หมอโอม

“ยินดีที่รู้จักนะครับน้องเมย์”

“ผมขอเฝ้าพี่ตั้นได้ไหมครับ ผมขอนั่งอยู่ที่นี้ได้ไหมครับ ผมไม่อยากกลับไปบ้านด้วยความกังวลแบบนี้ กลัว เพราะว่าผมคงคิดไปต่างๆ นานา แต่ถ้าผมอยู่ตรงนี้ ผมยังเห็นว่าพี่ตั้น ไม่เป็นอะไร น่ะครับ” ผมพูดกับพี่หมอโอม

“เรามีห้องรับรองอยู่ตรงโน้นน่ะครับ ญาติคนไข้นั่งรอที่นั่นได้ครับ เดี๋ยวพี่จะให้เขากันไว้ให้เราเลย จะได้นอนพักผ่อนได้นะครับ” พี่หมอโอมบอกผม ผมพยักหน้า ผมหันมามองพ่อพี่ตั้น

“ดูแลตัวเองด้วยน่ะเมย์ อย่าล้มไปอีกคน เข้าใจไหมและถ้าเมย์มีอะไรโทรหาฉันได้ตลอด ฉันกับอิศเรศจะพักโรงแรมแถวๆ นี้” พ่อพี่ตั้นพูด ก่อนจะเดินออกไป ผมเดินตามพี่โอมไป ห้องสำหรับนั่งรอ ผมอยากอยู่ตรงนี้เหมือนผมได้อยู่ใกล้ๆ กับพี่ตั้น จะให้ผมกลับไปห้อง ผมก็นอนไม่หลับอยู่ดีผมเลือกที่จะอยู่ที่นี้

TBC.....

หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.33 ความจริงที่เจ็บปวด
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 27-06-2021 20:17:07
 :mew3: :mew3: :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.33 ความจริงที่เจ็บปวด
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 27-06-2021 20:33:24
 :sad11: :monkeysad:
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.34 ยื่นข้อเสนอให้ปริม
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 27-06-2021 20:52:31
 อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤EP.34 ยื่นขอเสนอให้ปริม

    Part's ธรรพ์ณธร เดินลงมาจากชั้นผู้ป่วยวิกฤติ คือชั้นผู้ป่วยไอซียู และเป็นชั้นเดียวกับห้องผ่าตัด ผมรู้ว่าตั้นประสบอุบัติเหตุ รถคว่ำที่กลางแยกไฟแดง คนเห็นเหตุการณ์บอกว่าตั้นขับมาและเหมือนกับว่าเขาเบรกไม่ได้ ผมเองก็ยังไม่รู้เหตุการณ์ทุกอย่างดี ผมได้คุยกับหมอโอม เป็นเด็กที่โตมาในไร่ของผม ครอบครัวเขาทำงานให้ผมมานานและยังเป็นเพื่อนกับอิศเรศ พ่อแม่ของหมอโอมเสียไปนานแล้วก่อนจะเข้าเรียนแพทย์ พ่อของเขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และผมก็ได้ส่งเสียให้เขาได้เรียนแพทย์จนจบ เพราะผมเห็นว่าเขาเรียนเก่งและตั้งใจอยากจะเป็นหมอ ผมส่งเขาไปเรียนที่ต่างประเทศและพอเขากลับมาเขาก็ได้แต่งงานมีครอบครัว กับหมอด้วยกันแถมเป็นลูกสาวเจ้าของโรงพยาบาลที่นำตั้นรักษา หมอโอมเขาเป็นหมอหมอผ่าตัด เขาเองก็รู้จักตั้นเพราะเขาเข้ามาอยู่ก่อนตั้นเกิดไม่นาน ตอนนี้ผมคงต้องฝากความหวังไว้ที่หมอโอม ผมเดินลงมาถึงชั้นล่าง ก็เดินไปหาอิศเรศก่อน

“ทำไมฉันต้องยอมด้วย ในเมื่อฉันก็เป็นเมียตั้น ฉันเชื่อว่าตั้นก็มีใจให้ฉัน ทำไมฉันต้องยอมถอยให้เด็กเมย์นั้น “ผมเดินลงมาถึงก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย ผมเห็นกอล์ฟเพื่อนของตั้นและแฟนของเพื่อนๆ ตั้น พากันยืนมองคนที่โวยวายอยู่ ด้วยความเอือมระอา ผมเดาว่าอิศเรศคงคุยกับนางไม่รู้เรื่องเป็นแน่ ผมจึงต้องเดินเข้าไป

“เธอต้องการอะไร ปริม” ผมถามผู้หญิงคนนั้น เธอหันขวับมามองผม

“ตั้นค่ะ ปริมต้องการตั้นเท่านั้น “ปริมพูด มันทำให้รอยยิ้มผมกระตุกขั้นเป็นรอยยิ้ม ผมรู้สึกสมเพชเธอเหลือเกิน ผมหันไปมองเพื่อนอีกสองคนที่ยืนมองหน้ากัน

“เธอนี่มันดึงดันน่าดูน่ะปริม นี่ดูไม่ออกหรือกว่าแกล้งกันแน่ ที่จะไม่รู้ว่าตั้นเขาเขาเลือกใคร” ผมถามผู้หญิงตรงหน้า

“ตั้นอาจจะเสียใจที่ตอนนั้นปริมต้องเลือกพี่ปฐวีย์ค่ะ แต่ตอนนี้ปริมพร้อมจะกลับมามาหาตั้นค่ะ” ปริมหันมาพูดกับผม

“ถ้าตั้นเขารักเธอจริง เขาเลือกเธอกลับมาหาเขานานแล้วปริม ตั้งแต่ปฐวีย์ถอนมันเธอแล้วแต่นี่เขาไม่ เพราะว่าเขารู้แล้วว่าใจเขาต้องการอะไร “ผมพูด ก่อนจะหันมามองหน้าอิศเรศ

“ก็นางเมย์มันไม่ยอมปล่อยตั้นนี่ค่ะ และวันนั้นตั้นก็โทรให้ปริมไปหาแต่ จู่ๆ เมย์มันก็โผ่หัวไป ตั้นก็แค่สับสนหรืออาจจะโดนยาเสน่ห์ก็เป็นได้นะคะ “ปริมพูด มันทำให้มุมปากผมกระตุกเป็นรอยยิ้ม ยิ้มในเชิงสมเพชเธอ สมเพชในความสิ้นคิดของเธอ

“เออ คุณพ่อครับ ผมได้ยินเจ้ปริมแกโทรไปอ้อนไอ้ตั้นน่ะครับ ไม่ใช่ไอ้ตั้นมันโทรไปหาและตั้นมันก็บอกเจ้ว่า ให้กลับมาได้แต่เหมือนเดิมนะครับ” เพื่อนของตั้นพูด

“นั้นไงคะ เห็นไหมค่ะ ว่าตั้นน่ะให้ปริมกลับไปหาเขาและ...” ปริมพูด ผมหันมามองหน้าเธอ ผมรู้เรื่องของเธอกับตั้นละเอียดผมมีนักสืบตามติดอยู่ ว่าเธอกับตั้นแค่คู่นอนกัน

“เซ็กส์โซน เหมือนเดิม แต่มันได้สติ มันเลยเลือก เลิฟโซน นั้นคือน้องเมย์ครับคุณพ่อ” เพื่อนของตั้นพูด ผมหันมาชำเลืองมองปริม ส่วนปริมเธอก็สะบัดหน้าไปมองหน้าคนพูด ผมสั่นหัวอย่างเอือมระอาเหมือนกับอิศเรศ

“ไอ้กอล์ฟ!! มึง” ปริมทำท่าจะชี้หน้าด่าเพื่อนของตั้น แต่ผมยืนเอามือล้วงกระเป๋ามองเธออยู่ เธอเลยหันมายิ้มแหยๆ

“กอล์ฟ พูดไม่เพราะค่ะ ไม่ใช่เซ็กส์โซนค่ะ แฟนค่ะน้องกอล์ฟ!!” ปริม

“เอาล่ะ ฉันไม่อยากต่อล้อต่อเถียงเรื่องพวกนี้กับเธอน่ะ เพราะว่านี้ไม่ใช่ประเด็นที่ฉันกับอิศเรศจะมาเสียเวลาคุย แต่ฉันอยากจะให้เธอ เซนต์ขายบ้านนั้นซะ พ่อเธอบอกว่าบ้านนี้เขายกให้เธอ เพราะว่าในตอนนั้นเขาต้องการใช้เธอมาเป็นข้อต่อรองกับคุณปฐวีย์” ผมพูด ปริมแค่หันมาปรายตามองผม

“แต่มันจบไปแล้วนี่ค่ะ คุณพ่อ เรื่องคุณปฐวีย์อะไรนี่นะคะ” ปริมพูด

“เธอไม่จำเป็นต้องเก็บมันเอาไว้ แค่เธอขายบ้านคืนเมย์เขาไปซะฉันพร้อมจะซื้อคืน ตามราคาที่พ่อเธอต้องการ” ผมพูดก่อนจะปรายตามามองหน้าเธอ ปริมไม่ใช่ผู้หญิงเก่งในการหาเงินแต่ใช่เงินเก่ง พอได้ยินจำนวนเงินเธอก็ตาวาวแต่เธอก็ยังเสียดายตั้นผมรู้ดี

“ปริมจะขายหรือไม่ขาย ปริมจะคุยกับตั้นก่อน แล้วปริมจะบอกนะคะว่าขายหรือไม่ขาย ขึ้นอยู่กับความพอใจค่ะ” ปริมพูด ผมก็ต้องถอนหายใจออกมายาวๆ ก่อนจะหันไปมองเธอ

“นี้เธอต้องการเขามากขนาดนี้เลยเหรอปริม โดยไม่สนใจว่า สถานะตอนนี้ของเขาเป็นยังไง เขามีคู่หมั้นแล้วปริม” ผมพูด เธอหันมามองหน้าผม

“ปริมมาก่อนมัน ถึงจะเป็นปริมเองที่เอาตั้นไปประเคนให้มันก็ตามแต่ว่าความเป็นจริงปริมมาก่อน ดังนั้นตั้นคือของปริมไม่ใช่ของเมย์มัน”

“ตั้นเขารักเมย์ ไปแล้วปริม เธอควรจะยอมรับความจริง” ผมยืนเอามือล่วงกระเป๋ากางเกงโดยไม่ได้หันไปมองหน้าเธอ ผมพยายามสูดลมหายใจเข้า ผมไม่ชอบผู้หญิงประเภทนี้เอาซะเลยจริงๆ

“เธอจะทนอยู่กับคนที่เขาไม่รักได้เหรอ” ผมพูดและปริม เธอก็หันมามองหน้าผม

“เธอไม่เห็นแม่ของเธอเหรอ แม่เธอต้องทนอยู่กับพ่อเธอ ต้องทนข่มขื่นแค่ไหน ต้องกินน้ำใต้ศอกไม่รู้เท่าไหร่ แถมพ่อเธอไม่เคยให้เกียรติแม่เธอเลยสักนิด “ผมพูด เธอถึงกับมองหน้าผมนิ่ง

“เธอไม่แปลกใจบ้างเหรอว่าทำไมแม่เธอถึงตกอยู่ในสภาพแบบนี้” ผมถามปริมกลับเธอทำหน้าตาเลิกลัก

“ฉันรู้ทุกอย่างภายในบ้านเธอ แม้กระทั่งพ่อเธอเอง ตอนนี้ถูกตรวจสอบอยู่ เพราะว่าเขาเป็นคนให้การสนับสนุนพ่อค้ายาเสพติดอยู่” ผมพูด

“บ้านนั้นน่ะ ถ้าฉันจะไม่ซื้อก็ได้น่ะ เพราะว่าตั้นเขาก็บอกกับฉันแล้วว่า เขาจะไม่เอาแล้ว เขาไม่อยากเสียเมย์ไป” ผมพูดปริมหันมามองหน้าผม เธอกำมือแน่น

“แต่ที่ฉันอยากจะซื้อ ฉันจะให้เธอสามสิบล้านและพาแม่เธอไปตั้งตัวทำตัวเองให้มีค่ามากกว่านี้ “ผมพูด

“ก่อนที่เธอจะไม่เหลืออะไรเลย เหลือแต่ตัว เพราะว่าพ่อเธอคงโดนหนัก หลายข้อหา ฉ้อโกง ใช้งบหลวง และไม่ต่างอะไรกับคนค้ายาเสพติดซะเอง เพราะเขารู้และให้การสนับสนุน คนค้ายาเสพติด “ผมพูด ปริมมองหน่าผม ส่วนเพื่อนสองคนของเธอก็เริ่มถอยห่างออกไปเรื่อยๆ

“แถมลูกน้องก็เอายามาเสพ ลูกสาวยังเสพเลย และฉันรู้อีกว่าเธอใช้ยากับตั้น เพราะเธอรู้ว่าตั้นเคยใช้ยาเสพติดมาก่อน นี้หรือคนรักกันเขาทำกันน่ะปริม!!!” ผมพูด เธอดึงกลับนิ่งอึ้งพูดอะไรไม่ออก เธอก้าวเท้าถอยหลังออกไป สายตาของผมมันบอกให้เธอรู้ว่าผมรู้สึกยังไงที่มีคนมาทำแบบนี้กับลูกผม

“เธออย่าหาว่าฉันใจร้ายเลยน่ะปริม ที่ตัดสินให้เธอแบบนี้ เธอไม่คู่ควรกับตั้นเขา และฉันเข้าใจความรู้สึกดีที่ต้องทนอยู่กับผู้หญิงที่ตัวเองไม่รัก มันเป็นยังไง”

“ฉันให้เธอได้เลือกในขณะที่เธอยังมีตัวเลือก ว่าจะเอายังไง” ผมมองหน้าเธอ

“เงินหรือว่าอยากอยู่อย่างตกนรกทั้งเป็น” ผมพูด เธอมองหน้าผม กลืนน้ำลายลงคอ

“ถ้าเธอคิดว่าเธอไม่มีหนทางไป เธอยังจะฝืน ฉันก็เลี้ยงเธอได้น่ะ เลี้ยงผู้หญิงอย่างเธออีกสักคนจะเป็นไรไปเพราะว่า ฉันยังเลี้ยงสองแม่ลูกที่พ่อฉันยกให้ฉันดูแลต่อได้ ทั้งที่ฉันก็ไม่อยากได้ เพราะว่านางก็ไม่มีปัญญาไปไหนเช่นเธอ จะไปอยู่ด้วยกันก็กับเขาก็ได้น่ะ จะได้ตั้งสมาคมเดียวกัน ” ผมพูด ก่อนจะหันหลังมาหาอิศเรศ อิศเรศมองหน้าผม ใช่ผมพูดแรง แต่ผมต้องพูด

“เลือกเอาน่ะ ว่าจะเอายังไง ปริม!” ผมพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้น ผมเดินไปหาเพื่อนๆ ของตั้นผ

“วันนี้กลับไปนอนก่อนเถอะน่ะ พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ การผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดี แต่รอดูว่าตั้นฟื้นขึ้นมาจะเป็นยังไงเพราะว่าเขาได้รับบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง ค่อนข้างหนักและอาจจะ ไร้ความรู้สึกไปเลย รอดูพรุ่งนี้” ผมพูด ปริมยืนนิ่ง เขาได้ยินที่ผมบอกทุกคน แต่ล่ะคนสีหน้าตกใจ

“แล้วพวกที่เหลือหายไปไหนกัน” ผมถาม

“เมย์เขาเห็นคนขับรถเข้าไปและพวกผมคิดว่ามันคือต้นเหตุที่ทำให้ตั้นประสบอุบัติเหตุครับพ่อ” กอล์ฟตอบผม

“ตอนนี้เรารู้แล้วว่าใครเลยไปตามตัวน่ะครับ”

“ได้เรื่องยังไงบอกพ่อน่ะ พ่อจัดการเอง” ผมพูดก่อนจะหันมามองอิศเรศ

“เรากลับกันเถอะ “ผมพูด

“แล้วนางเมย์มันอยู่ไหน ถ้ามันเฝ้าตั้นได้ ฉันก็ได้สิทธิ์นั้น” ปริมพูด

“ไม่ใช่เรื่องของเธอ ส่วนเธอก็กลับไปคิดสิ่งที่ฉันบอกกับเธอ แล้วค่อยมาให้คำตอบฉัน “ผมพูดก่อนจะหันหลังเดินออก

“อย่าให้ฉันต้องพูดหลายรอบ ฉันไม่ใช่คนชอบพูดอะไรซ้ำซาก” ผมพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนจะรีบเดินออกไปพร้อมกับอิศเรศ อิศเรศโทรบอกคนขับรถว่าผมจะกลับแล้ว ส่วนคนอื่นก็เดินตามออกมา เพื่อนของปริมก็ดึงลากปริมออกมาโดยที่ที่เธอไม่เต็มใจหนัก

“ผมนี่ยืนพูดอยู่กับเธอตั้งนาน นางหัวชนฝ่าไม่ยอมท่าเดียว เถียงผมฉอดๆ เลย แต่พ่อท่านมานี้ ยืนอึ้งพูดไม่ออกเลย แต่จะว่าไปคุณท่านนี้ผู้ชายปากร้ายเหมือนกันนะครับ” อิศเรศพูดพร้อมกับแอบค้อนผม ผมก็แค่ยิ้มที่มุมปากเท่านั้น ผมยอมรับว่าผมเกลียดผู้หญิงประเภทนี้ที่สุด เพราะว่าพ่อผมทำกับแม่ผมไว้และผมก็เห็นมาจนวันที่พ่อผมจากไปด้วยอุบัติเหตุ และพ่อผมยังไปขอผู้หญิง ที่ไม่มีสมองคนนั้นมาเป็นภรรยาให้ผมแทนลลิลภัทร์ เพราะเขารู้ว่าผมเป็นเกย์   แต่ว่าผมก็รับมาน่ะแต่ไม่เคยแม่แต่อยากจะแตะต้องเธอสักนิด

“พ่อครับสวัสดีครับ” “พ่อค่ะสวัสดีค่ะ” ผมหันมายกมือรับไหว้กอล์ฟและแฟนของเพื่อนๆ ตั้น รถฟอร์จูนเนอร์สีดำ ก็ขับมาจอด คนขับรถลงมาเปิดประตูให้ผมขึ้นไปนั่งก่อน

“ถ้าไปไม่หมดให้รถพี่อีกคันไปส่งน่ะ รถพวกพี่มากันสามคันนะครับ” อิศเรศหันไปบอกเพื่อนๆของตั้น ก่อนจะโทรบอกคนขับรถอีกคันให้ไปส่งแต่ล่ะคนกลับบ้าน นั่งนิ่งเงียบจนกระทั่ง ที่นั่งด้านข้างผมมีคนตามเข้ามานั่ง ผมหันไปมองอิศเรศ

“คุณตั้นอาการหนักเหรอครับ คุณท่าน” อิศเรศถามผม ผมหันไปมองสายตาที่ดูเป็นห่วงเป็นใย ผมรู้ว่าเขาก็มีใจให้ตั้นเหมือนกันแต่ว่า เขายืนยันว่าเขาเลือกผมและนี่ก็คือประเด็นรองที่ทำให้ตั้นยิ่งสร้างกำแพงใส่ผมสูงขึ้น

“เรายังพอมีหวังน่ะ เพราะว่าพรุ่งนี้เขาจะให้หมอที่เก่งเรื่องระบบประสาทและเป็นอาจารย์หมอของหมอโอมเขามาดูให้น่ะเรศอาจจะผ่าตัดอีกรอบ หมอโอมบอกมา “ผมหันไปบอกอิศเรศ

“แล้วเรื่องที่คุณท่านพูดว่า”

“ยังไม่รู้ รอดูพรุ่งนี้น่ะเรศ” ผมบอกกับอิศเรศ อิศเรศกุมมือผมเอาไว้

“ผมว่าตอนนี้คุณท่านควรจะปล่อยวางเรื่องคุณลลิลภัทร์ได้แล้วนะครับ “อิศเรศบอกผม ผมพยักหน้าว่าผมคงต้องปล่อยวาง เลิกอาฆาตแค้นเธอได้แล้ว ผมนั่งนิ่งเงียบไปตลอดทาง จนถึงโรงแรมที่อิศเรศจองเอาไว้ให้ผมเข้าพักกับเขา อิศเรศเขาก็จองห้องพักไว้ให้คนขับรถเช่นกัน

TBC...
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤ EP.34 ยื่นข้อเสนอให้ปริม
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 13-07-2021 18:57:18
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤ (แจ้งขอรีไรท์นิยายค่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 16-07-2021 12:04:31
คนแต่งขอรีไรท์ตั้งแต่ต้นเลยนะคะ (แอบหวังว่าจะมีคนอ่านเพิ่มขึ้นอีกค่ะ)  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤แจ้งขอรีไรท์นิยายค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Tanthai23 ที่ 18-07-2021 05:55:13
 :3123:
หัวข้อ: Re: อุบัติ(เหตุ)จนได้รัก❤แจ้งขอรีไรท์นิยายค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Alessa ที่ 06-01-2022 16:14:01
ขอโทษทีนะคะที่ไรท์หายไปนานเลย แต่จริงๆนิยายก็แต่งเกือบจบแล้ว แต่ดูแล้วไม่ค่อยมีผู้ติดตามเท่าไหร่ ไรท์ควรจะลบและรีไรท์ใหม่ดีไหมคะ   :3123: :pig4: